[จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)  (อ่าน 502132 ครั้ง)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
หมอกมีเผลอลืมตัวตอบแบบหยอกเย้าด้วย

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
แล้วแบบนี้จะลงกันง่ายไหมน๊

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
โอ้ยยยทำไมมมมมโหดร้าย
แต่หมอกคงเสียใจมากอะ เลยเปนแบบนี้

ออฟไลน์ nuch-p

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :mew2:รอนะคะ สนุกกกก :mew1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เมฆต้องพยายามให้มากๆนะ
เพราะรอยแผลที่เมฆสร้างให้หมอก
มันกว้างและลึกมากนะ
กว่าหมอกจะหายกลัวคงต้องใช้เวลา

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ฮือออออ หายไปนานนนนนน
อยากอ่านต่ออีกกกก

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
ทิวทัศน์ที่เห็นจากโรงแรมธารานั้นงดงามเสียจนมธุวันอยากจะหยุดยืนมองภาพหาดทรายสีขาวและท้องทะเลสีมรกตสะท้อนประกายจากแสงอาทิตย์ระยิบระยับบนผิวน้ำคล้ายอัญมณีเลอค่าตลอดวัน




“ทะเลที่นี่สีสวยดีเหมือนกันนะ” ธีรเชษฐ์เปรยขึ้นเมื่อเห็นสายตาของเลขาหนุ่มไม่ยอมละจากภาพตรงหน้า เช่นเดียวกับร่างเล็กข้างกายที่ตาโตเป็นประกายราวกับไข่ห่านทองคำ




“ครับ สวยเกือบที่สุดที่ผมเคยเห็น” เมฆาตอบรับคำพูดของบิดา




“หืม? แล้วที่ไหนล่ะสวยสุด?” ธีรเชษฐ์ถามลูกชายอย่างใคร่รู้ เมฆาไม่ตอบ แต่ดวงตาคมที่สบกับดวงตาสีเทาอมฟ้าของมธุวันสื่อความหมายได้ชัดเจน




ร่างโปร่งเบือนหน้าหนีสายตาหวานเชื่อมของอดีตคนรักอย่างทำตัวไม่ถูกแล้วรีบตรงไปยังเคาท์เตอร์เพื่อเช็คอินเข้าโรงแรม





“เป็นอะไรไปครับคุณหมอก? ทำไมทำหน้าแบบนั้น?”




มธุวันไปหาคนที่ส่งบัตรเชิญมาให้พวกเขาซึ่งเดินตรงมาหาเลขาหนุ่มพร้อมกับเหล่าบอดี้การ์ดบอยแบนด์วงเดิมประกบรอบทิศ มธุวันเพิ่งเคยเห็นทั้งทีมอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้ ปกติชายในชุดสูทที่คอยเดินตามนิโคไลมักจะมีไม่เกินสามคน แต่นี่เรียกได้ว่าแทบจะมาเป็นขบวนรบ มธุวันเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในโรงแรมขึ้นมาเสียแล้ว




“ไม่ต้องตกใจไปหรอกครับคุณหมอก ผมแค่พาลูกน้องมาพักผ่อน” นิโคไลยิ้ม “ถ้าไม่คลายเครียดซะบ้างร่างกายจะแย่เอา แค่นี้หน้าตาเจ้าพวกนี้ก็แก่กว่าอายุไปโขแล้ว”




“ใจดีจังเลยนะครับ”




มธุวันตอบเสียงเรียบ ไม่เชื่อคำโกหกของคนตรงหน้าแม้แต่วินาทีเดียว มีอย่างที่ไหนมาพักผ่อนที่ชายหาดใส่สูทดำผูกไทค์พร้อมแว่นกันแดดกับหูฟังสื่อสารอย่างกับจะมาถ่ายหนังสายลับแบบนี้




“ขอโทษที่ให้รอนะคะ นี่คีย์การ์ดสำหรับห้องสวีทหนึ่งห้อง แล้วก็ห้องConnecting roomสองห้องนะคะ...”




“ห้องอะไรนะครับ?”




มธุวันหันขวับกลับมาหาพนักงานต้อนรับที่ผงะถอยไปครึ่งก้าวกับแววตาเย็นเยียบของเขา แต่หญิงสาวยังคงความเป็นมืออาชีพไว้อย่างสมบูรณ์แบบ




“Connecting room ค่ะ เป็นห้องที่ผู้เข้าพักสามารถเปิดประตูเชื่อมถึงกันได้”





เขารู้ดีถึงความหมายของประเภทห้อง แต่ที่มธุวันไม่เข้าใจคือทำไมเขากับเมฆาถึงต้องได้นอนห้องเชื่อมติดกันแบบนี้ด้วย!
ถึงจะรู้ว่ามันไม่สามารถเปิดจากฝั่งใดฝั่งหนึ่งเพียงฝั่งเดียวได้ แต่มธุวันก็รู้ว่าตราบใดที่ห้องสามารถเชื่อมถึงกัน เมฆาก็จะสามารถหาเรื่องเปิดประตูบานนั้นได้อยู่ดี




“มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับคุณหมอก?” นิโคไลถาม มธุวันส่ายหน้า





“ไม่มีอะไรครับ ผมขอตัวเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนนะครับ”




“ถ้ายังไง เชิญทุกคนไปทานมื้อค่ำกับผมที่ห้องอาหารคืนนี้ด้วยนะครับ ผมอยากจะเลี้ยงขอบคุณที่อุตส่าห์ยอมมาคุยงานกับผมตั้งไกล...” ชายหนุ่มชาวต่างชาติว่า “...ผมแค่อยากหาเรื่องเที่ยว เลยทำทุกคนลำบากกันหมดเลย”




“ผมจะเรียนท่านประธานให้ครับ” ร่างโปร่งตอบก่อนจะเอ่ยขอตัวแล้วเดินกลับไปหาเมฆาที่ยืนเฝ้ากระเป๋า ส่วนอีกสองคนที่มาด้วยไปยืนชมทะเลชิดผนังกระจกใสของโรงแรมแล้ว จะให้ถูกคงต้องบอกว่ามีนากำลังตื่นตาตื่นใจกับทะเล ส่วนธีรเชษฐ์นั้นกำลังยืนคุมไม่ให้ริ้นไรแถวนี้เขามาเกาะแกะเด็กของตัวเองเสียมากกว่า




“คุยอะไรกัน?”





แม้น้ำเสียงของอีกฝ่ายจะไม่ได้ตะคอกถาม แต่คิ้วเข้มที่ขมวดมุ่นบ่งบอกได้ว่าเมฆาไม่พอใจกับการเห็นมธุวันพูดคุยกับนิโคไลตามลำพัง




“คุณนิโคไลเชิญพวกเราไปทานมื้อค่ำที่ห้องอาหารของโรงแรมครับ” มธุวันตอบเสียงเรียบ ไม่ใส่ใจกับท่าทีหงุดหงิดใจของคนตรงหน้า “คีย์การ์ดครับคุณเมฆา”




“หมอก โกรธอะไรเมฆ...”




“ตอนนี้เป็นเวลางาน ผมไม่จำเป็นจะต้องเรียกคุณเป็นอย่างอื่น” มธุวันเอ่ยขัด “อย่าเรียกร้องมากนัก สิ่งที่ผมทำให้คุณไม่ใช่เพราะความจำเป็น”




ร่างโปร่งทิ้งท้าย ปล่อยให้เมฆาเฝ้ากระเป๋าต่อแล้วเดินไปตามให้เจ้านายของตนและเด็กหนุ่มข้างกายขึ้นไปดูห้องพัก











“เฮ้อ...”




หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว มธุวันตัดสินใจออกไปเดินเล่นที่ริมชายตามลำพังเพื่ิอฆ่าเวลาก่อนถึงมื้ออาหารค่ำ ไม่อยากอยู่ใกล้ชิดกับคนที่พักอยู่ห้องข้างๆเกินความจำเป็นแม้จะมีกำแพงกั้นอยู่ก็ตาม




ภาพของดวงตะวันที่กำลังลาลับขอบฟ้าสาดแสงกระทบกับผิวน้ำทะเลเป็นประกายสีส้มแดงทำให้ความเครียดที่สะสมอยู่ในอกของร่างโปร่งทุเลาลงบ้างแม้จะไม่มากนัก มธุวันเหม่อมองท้องฟ้าสีแดง ปล่อยให้ลมทะเลพัดพาเอาความคิดฟุ้งซ่านในหัวออกไป




“วิวออกจะโรแมนติกขนาดนี้ ออกมายืนมองคนเดียวไม่เหงาเหรอครับ?”




มธุวันหันขวับได้ด้านหลังของตัวเองทันทีที่ได้ยินเสียงคนที่เขาไม่คิดว่าจะมาอยู่ที่นี่ วรินทร์ในชุดคลุมกำมะหยี่ยาวสีเข้มยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร เส้นผมสีรัตติกาลยาวถึงหลังปลิวตามสายลมเอื่อยแต่กลับไม่ได้ทำให้เครื่องหน้างดงามดูด้อยลงไปเลย



“คุณวรินทร์...”




“บอกให้เรียกรินไงครับคุณหมอก”




นายแบบหนุ่มยกมือขึ้นทัดเส้นผมที่ปลิวสยายไว้หลังหูพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน แม้มธุวันจะคิดว่าดวงตาสีม่วงสดหม่นหมองกว่าทุกครั้งที่เขาเห็นก็ตาม




“คุณรินมาทำอะไรที่นี่เหรอครับ?” เลขาหนุ่มถาม




“มาถ่ายแบบครับ แล้วก็มาเดินแบบสำหรับงานพรุ่งนี้”




วรินทร์พยักเพยิดไปทางกองถ่ายที่กำลังเก็บสถานที่อยู่ไม่ไกล ถึงแม้งานแฟชั่นโชว์พรุ่งนี้จะเป็นคอลเล็คชั่นชุดเจ้าสาว แต่มธุวันจะไม่แปลกใจสักหากเขาเห็นวรินทร์ในชุดกระโปรงยาวปักลูกไม้เดินอยู่บนแคทวอล์กในวันพรุ่งนี้




ทันใดนั้น มธุวันพลันนึกขึ้นได้ถึงอดีตของนายแบบหนุ่มกับเจ้านายเฮงซวยของเขา และตระหนักได้ว่าการที่ธีรเชษฐ์พามีนามาเปิดตัวในแหล่งรวมกิ๊กเก่าจากทั่วโลกแบบนี้ไม่ต่างกับการแปะเป้านิ่งไว้บนหัวของมีนาชัดๆ




“ทำหน้าแบบนี้...พี่เชษฐ์คงพาใครมาด้วยใช่มั้ยครับ?”วรินทร์ถามขึ้นราวกับรู้ทันความคิดของเขา “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ...เรื่องของผมกับเขามันจบไปแล้ว คนอย่างผมไม่จำเป็นต้องระรานคนที่เขาไม่ต้องการผมแล้ว”




อื้อหือ...แบบนี้ใช่มั้ยที่เขาเรียกว่าสวยเลือกได้




“แต่กับคนอื่น...ผมไม่รับประกันนะครับ” วรินทร์เสริมด้วยรอยยิ้มมุมปาก มธุวันถอนหายใจออกมาเฮ​ือกใหญ่อย่างอ่อนอกอ่อนใจ




“ครับ ผมพอจะทราบ”




“ลำบากแย่เลยนะครับคุณหมอก” นายแบบหนุ่มเอ่ยอย่างเห็นอกเห็นใจ มธุวันยังคงไม่เข้าใจว่าคนที่ทั้งหน้าตาดี ฉลาด และมีจิตใจดีงามอย่างวรินทร์ไปติดกับดักเจ้านายของเขาได้อย่างไร




“ผมชินแล้วล่ะครับ” เลขาหนุ่มตอบ วรินทร์ยิ้มขำ




“คุณหมอกครับ ถ้าไม่รังเกียจ รบกวนเดินเล่นเป็นเพื่อนผมหน่อยจะได้มั้ยครับ?”




“ได้สิครับ”




มธุวันรับปากแทบจะในทันที มีอะไรบางอย่างในแววตาของนายแบบชื่อดังที่เขารู้สึกว่าแปลกประหลาดไปจากครั้งก่อนๆที่พบกัน และนั่นทำให้เขาไม่อยากปล่อยให้อีกฝ่ายเดินเลียบชายหาดตามลำพัง





“คุณหมอก...เคยคิดจะลาออกจากงานบ้างมั้ยครับ?”




วรินทร์ถามขึ้นหลังจากที่พวกเขาเดินเลียบหาดทรายสีขาวในความเงียบมาได้หนึ่ง มธุวันขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจกับคำถามนั้น แต่ก็ตอบไปตามความเป็นจริง





“ตอนแรกๆก็เคยคิดครับ แต่พออยู่ไปนานๆเข้าก็รู้สึกทิ้งบริษัทไม่ลง”




เขาเรียนจบบัญชีมาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง สายงานของเลขานุการนั้นแม้จะไม่ได้ไกลห่างจากสิ่งที่เขาเรียนมาสุดขอบโลก แต่ก็ยากจะเรียกได้ว่าเป็นสายอาชีพที่ตรงกับสิ่งที่เขาคิดอยากจะทำ




ในตอนนั้น เขาเคยถามตัวเองอยู่หลายครั้งว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นมันคุ้มกับการได้อยู่ใกล้กับเมฆาในแบบของเขา ได้มีส่วนช่วยดูแลบริษัทที่เมฆารักถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่รับรู้การมีตัวตนอยู่ของเขาจริงหรือ




และทุกครั้ง เขาจะได้คำตอบเดิมๆกลับมาเสมอ




เขาไม่รู้...




เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นมันดีต่อใครหรือไม่ เขาไม่รู้ว่าความยึดติดที่เขาไม่เคยอยากจะยอมรับนั้นส่งผลต่อความเจ็บปวดที่ไม่เคยจางหายไปเพียงไร แต่สิ่งที่เขารู้มีเพียงแค่เขาไม่อยากเดินจากไป




“งั้นเหรอครับ...” วรินทร์พึมพำ ดวงตาสีม่วงสดเหม่อลอยราวกับกำลังพูดอยู่กับตัวเอง




“คุณริน...กำลังคิดจะลาออกเหรอครับ?”




มธุวันย้อนถามอย่างสงสัย ขณะนี้นายแบบหนุ่มกำลังอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของอาชีพของตน และดูเหมือนว่าร่างโปร่งจะกลายเป็นดาวค้างฟ้าส่องสกาวอยู่ยนนภาอันกว้างใหญ่ได้อย่างไม่ยากเย็นหากยังคงอยู่ในวงการต่อไป




วรินทร์หลับตาลง ก่อนจะพยักหน้า




“ครับ ผมคิดว่าจะลาออกจากวงการเร็วๆนี้”




“เอ๊ะ? ทำไมล่ะครับ” เลขาหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ




“แค่รู้สึกเหนื่อยๆน่ะครับ” ชายหนุ่มผมยาวยิ้มอย่างอ่อนเพลีย “ผมแค่...อยากทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง”




เขาเคยได้ยินว่าตารางของพวกดารานายแบบในวงการบันเทิงนั้นแน่นเอี้ยดเสียจนแทบไม่มีเวลาได้หายใจ มธุวันอดรู้สึกเห็นใจวรินทร์ไม่ได้ ถ้าเขาต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำขนาดนั้นแล้วยังต้องดูแลตัวเองให้ดูไร้ที่ติอย่างวรินทร์ เขาคงลาออกไปนานแล้ว




“ค่อยๆคิดนะครับคุณริน การตัดสินใจพวกนี้เราจะเอาอารมณ์เป็นหลักไม่ได้....” มธุวันแนะนำ ก่อนจะสะดุ้งกับเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ในโทรศัพท์ของตัวเองที่ดังขึ้นขัดจังหวะ เลขาหนุ่มหยิบเจ้าเครื่องมือสื่อสารของตัวเองออกมาปิดเสียงแล้วเอ่ยอย่างขอโทษขอโพย “ขอโทษนะครับ พอดีผมมีนัดทานอาหารค่ำกับลูกค้า ผมคงต้องขอตัวก่อน”




“ครับ ผมก็กำลังจะกลับไปที่ห้องพอดี” วรินทร์เอ่ยอย่างไม่ถือสา




ทันทีที่ลับร่างของมธุวัน วิทยุสื่อสารในหูของนายแบบหนุ่มก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงของทาริน




“ริน ตำแหน่งของนายอยู่ใกล้กับดวงดาวที่สุดใช่มั้ย? เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆถึงมีคลื่นรบกวนแทรกขึ้นมา?”




“อยู่ที่ชายทะเล สัญญาณขัดข้องเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรหรอก” วรินทร์ก้มมองเครื่องส่งสัญญาณรบกวนขนาดเล็กที่เพิ่งถูกปิดไปในมือของตน “ทุกอย่างเรียบร้อยดี”




“รับทราบ” ทารินตอบรับก่อนที่สัญญาณจะตัดไป




วรินทร์ยกมือขึ้นจับที่จี้ของสร้อยคอหยกบนลำคอขาวเนียนของตนด้วยความเคยชิน ดวงตาสีม่วงสดเหม่อมองเงาของนกที่โผบินไปในท้องฟ้าอย่างอิสระเสรีไปจนลับสายตา




ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี...เขาได้แต่หวังว่าอย่างนั้น










มธุวันมาถึงก่อนเวลานัดสิบห้านาที แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมาช้ากว่าประธานบริษัทกับมีนา และรองประธานที่ยืนรอเขาอยู่หน้าร้านอยู่ดี โชคดีของเลขาหนุ่มที่นิโคไลยังคงไม่มาถึง




ร่างโปร่งเอ่ยขอโทษขอโพยตามมารยาทที่ทำให้ทุกคนต้องรอ ธีรเชษฐ์เพียงแต่พยักหน้าให้เขาอย่างขอไปที ในตอนนั้นเองที่มธุวันสังเกตว่าสีหน้าของเจ้านายถมึงทึงเหมือนไปกินรังแตนที่ไหนมา ส่วนเด็กหนุ่มร่างเล็กข้างกายก็ยืนตัวสั่นก้มหน้าก้มตาราวกับรู้ชะตากรรมของตัวเองหลังจากนี้




เกิดเรื่องอะไรตอนเขาไม่อยู่รึเปล่านะ?




มธุวันกลอกตาอย่างเหนื่อยใจกับความวุ่นวายไม่ได้หยุดได้หย่อน พลันสายตาเหลือบไปเห็นเมฆาที่ยืนมองเขามาตั้งแต่เลขาหนุ่มก้าวออกมาจากลิฟต์ สายตาที่มองเขาเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนเสียจนมธุวันต้องหลุบตามองที่เนคไทค์ของร่างสูงเพื่อหลบสายตา เขารับมือกับเมฆาที่เกลียดเขาได้ แต่เขารับมือกับเมฆที่มักจะรู้จุดอ่อนทุกจุดของเขาเสมอไม่ได้จริงๆ
หากไม่ตั้งสติดีๆมีหวังคงได้เผลอตกหลุมพรางของร่างสูงอีกครั้งเป็นแน่




“คุณเมฆา เนคไทค์เบี้ยวครับ”




เลขาหนุ่มทักเมื่อสังเกตเห็นเนคไทค์สีดำปักลายดาวสีเงินจุดเล็กทำให้ดูเรียบหรูแม้ว่าเนคไทค์เส้นที่จะมีราคาไม่แพงเหมือนดังของแบรนด์เนมที่อีกฝ่ายใช้




ถามว่าเขารู้ได้ยังไงงั้นเหรอ?




เพราะมธุวันเป็นคนซื้อเนคไทค์เส้นนี้ให้อีกฝ่ายในวันที่เมฆาต้องรับผิดชอบโปรเจ็กต์เล็กๆที่บิดามอบหมายให้ทำเป็นครั้งแรกทั้งที่ยังเป็นเพียงนักศึกษามหาวิทยาลัยเท่านั้น




“จัดให้หน่อยสิ...”




รองประธานหนุ่มยิ้มละมุน ขยับก้าวเข้ามาใกล้คนที่ตั้งรับไม่ทันจนมธุวันแทบจะถอยหลังหนี แต่คนมีฟอร์มยังคงยืนอยู่กับที่อย่างมั่นคง



“ไม่มีมือเหรอครับ?”




“เมฆทำไม่สวยเหมือนหมอกนี่”



มธุวันสะอึกกับเสียงทุ้มที่ออดอ้อนด้วยระดับเสียงที่ตั้งใจให้เขาได้ยินเพียงคนเดียว ภาพของเมฆาที่ชอบอ้อนให้เขาผูกเนคไทค์ให้ขณะที่เจ้าตัวโอบเอวเขาไว้หลวมๆ ส่งยิ้มให้ร่างโปร่งด้วยแววตารักใคร่ และจบท้ายด้วยจุมพิตที่ริมฝีปากเบาๆเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ปรากฏในหัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภาพความสุขที่แม้จะอยากลืมเท่าไหร่แต่กลับฝังลึกลงในจิตใจมากขึ้นเท่านั้นทำให้มธุวันรู้สึกถึงความร้อนบริเวณขอบตา แต่เลขาหนุ่มฝืนน้ำตากลับลงไปได้อย่างทันท่วงที ก่อนจะก้าวเข้ามาประชิดร่างของรองประธานร่างสูงแล้วก้มหน้าก้มตาขยับเนคไทค์ของชายหนุ่มให้เข้าที่ ส่วนหนึ่งเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นความหวั่นไหวในแววตาของตัวเองในตอนนี้




“อ้าว มาเร็วกันจังเลยนะครับทุกคน ขอโทษนะครับที่ให้รอ ผมจองโต๊ะไว้แล้ว เชิญเลยครับ”




นิโคไลที่เพิ่งมาถึงเอ่ยพร้อมรอยยิ้มกว้าง แม้จำนวนผู้ติดตามของชายหนุ่มจะยังคงจำนวนเท่าเดิม แต่มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ติดตามนิโคไลและพวกเขาทั้งสี่เข้าไปในภัตราคาร




“อ้าว หมอก!”




เมื่อเดินเข้ามาในร้าน สิ่งแรกที่มธุวันเห็นคือโต๊ะริมหน้าต่างขนาดเล็กที่ถูกจับจองโดยญาวิกาและคู่หมั้น หญิงสาวโบกมือให้เขาอย่างตื่นเต้น พวกเขานัดเจอกันวันพรุ่งนี้เนื่องจากมธุวันโทรไปบอกอีกฝ่ายว่าต้องไปทานอาหารค่ำกับลูกค้า ไม่คิดเลยว่าญาวิกาจะมาทานมื้อค่ำที่ภัตราคารนี้เช่นกัน




มธุวันโบกมือตอบเล็กๆพร้อมรอยยิ้มจางพยักหน้าทักทายโรเบิร์ตพอเป็นพิธีแล้วเดินต่อไป แต่นิโคไลกลับเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน




“จะไม่แนะนำผมให้รู้จักกับคุณผู้หญิงแสนสวยคนนี้หน่อยเหรอครับคุณหมอก”




“อุ๊ย พูดจาดีอ่ะ” คนบ้ายอบิดไปมาอย่างขวยเขินเมื่อเจอออร่าความหล่อของคนชม มธุวันสังเกตว่าโรเบิร์ตมีสีหน้ามึนตึงขึ้นมาทันที ซึ่งคงไม่แปลกเท่าไหร่ในเมื่อคู่หมั้นของชายหนุ่มเล่นอายม้วนจนจะกลายเป็นเค้กโรลอยู่แล้ว




“คุณนิโคไล นี่ญาวิกา เพื่อนของผม แล้วก็คุณโรเบิร์ต คู่หมั้นของเธอครับ”




“สวัสดีค่ะคุณนิโคไล” ญาวิกายิ้มให้ชายหนุ่มผมบลอนด์อย่างเป็นมิตรตามประสาคนอัธยาศัยดี ซึ่งชายหนุ่มก็ยิ้มตอบด้วยแววตากรุ้มกริ่ม ไม่ได้สนใจคู่หมั้นของหญิงสาวที่นั่งหัวโด่อยู่เลยแม้แต่น้อย มธุวันเห็นท่าไม่ดีจึงเอ่ยขอตัวกับเพื่อนสนิท แล้วเดินตามบริกรไปที่โต๊ะของพวกตนต่อ




มธุวันนั่งลงระหว่างเมฆากับนิโคไล เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาเป็นผู้ติดต่องานกับชายหนุ่มโดยตรง และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขารู้ว่าถึงอย่างไรเมฆาก็จะต้องหาเรื่องนั่งข้างเขาให้ได้อยู่ดี




“สั่งได้เต็มที่เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ” นิโคไลว่า




มธุวันรับเมนูมาจากบริกรแล้วพลิกดูรายการอาหารที่เต็มไปด้วยซีฟู้ดจัดเต็มสมกับเป็นโรงแรมติดชายทะเล เลขาหนุ่มหันไปหาพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกล บริกรหนุ่มรีบเดินมาหาเขาอย่างรู้งานแล้วก้มลงฟังคำขอที่มธุวันกระซิบบอกพร้อมพยักหน้ารับคำด้วยรอยยิ้มจากจิตใจบริการแล้วเดินจากไป



“มีอะไรรึเปล่าครับคุณหมอก?” หนุ่มอิตาลีถามด้วยความสงสัยกับท่าทางของร่างโปร่ง




“ไม่มีอะไรครับ” เลขาหนุ่มตอบปัด เมื่อคนถูกถามไม่อยากตอบคำถามนิโคไลก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ มธุวันคิดว่าเรื่องจะจบไปแล้ว แต่มือที่แตะลงบนต้นขาของเขาพร้อมเสียงทุ้มของคนที่โน้มตัวมากระซิบข้างหูทำให้ร่างโปร่งรู้ว่าตนคิดผิด




“ขอบคุณครับหมอก”




“ผมไม่ได้ทำอะไร” มธุวันกระซิบตอบเสียงห้วน



“หมอกไม่ได้บอกให้พ่อครัวระวังเรื่องกุ้งปนมากับอาหารเหรอ?” แม้จะเป็นประโยคคำถาม แต่ดวงตาวาววับราวกับเด็กได้ของเล่นนั้นเป็นหลักฐานชั้นดีว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการคำตอบ




มธุวันแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของอดีตคนรัก หันไปสนใจนิโคไลที่ชวนทุกคนในโต๊ะคุยเรื่องสัพเพเหระทำำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงพอสมควร แม้กระทั่งมีนาที่ดูตื่นๆเป็นพิเศษยังเริ่มยิ้มออกเมื่อชายหนุ่มชาวต่างชาติชวนคุย แต่ถูกคนที่นั่งข้างๆรวบเข้ามาใกล้ตัวด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์




“…ว่าแต่ คุณคนสวยคนนั้นเป็นเพื่อนกับคุณหมอกมานานแล้วเหรอครับ?” นิโคไลถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แม้จะประหลาดใจ แต่มธุวันก็พยักหน้า




“ครับ เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย”




“สวยมากเลยนะครับ คู่หมั้นก็หล่อมาก ลูกที่กำลังจะเกิดคงหน้าตาดีแน่ๆ”




มธุวันแทบจะสำลักน้ำที่ยกขึ้นจิบออกทางจมูก ร่างโปร่งถามชายหนุ่มผมบลอนด์ด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ



“คุณนิโคไลรู้ได้ยังไงครับ?”




“ก็มาเดทภัตราคารหรูขนาดนี้ จากการแต่งหน้า เสื้อผ้า กระเป๋าที่เข้าชุดกัน ดูก็รู้ว่าสนใจด้านแฟชั่น แต่กลับใส่รองเท้าไม่มีส้นทั้งที่เป็นสาวน้อยตัวเล็กๆ” นิโคไลยิ้ม “ทั้งที่ตัวเล็กแต่กลับใส่ชุดที่พรางหน้าท้อง อาหารที่สั่งก็ยังมีแต่อาหารจืดๆ แถมยังดื่มน้ำเปล่าทั้งที่คู่หมั้นตัวเองดื่มไวน์ชั้นดี ผมก็แค่เดาเอาจากการสังเกตน่ะครับ” 




เจอกันเพียงแค่ไม่กี่วินาทีนิโคไลยังสามารถมองญาวิกาได้ทะลุปรุโปร่งขนาดนี้ มธุวันอดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะรู้เรื่องของเขาขนาดไหน




นิโคไลยกแก้วไวน์ของตนขึ้นด้วยรอยยิ้มมุมปากพร้อมกับพยักหน้าแสดงความยินดีให้โต๊ะของญาวิกาที่อยู่ถัดจากพวกเขาไปไกลพอสมควร มธุวันหันกลับไปมองตามสายตาของชายหนุ่ม พบว่าโรเบิร์ตกำลังจ้องเขม็งมาที่นิโคไลด้วยสีหน้าขุ่นมัว




อา...คงจะยังโกรธเรื่องที่นิโคไลไปเล่นหูเล่นตากับคู่หมั้นของตัวเองสินะ




มธุวันได้ต่หวังว่าโรเบิร์ตจะไม่ใช่พวกอารมณ์ร้อนที่ใช้กำลังตัดสินปัญหา เพราะเขารู้ว่าหากชายหนุ่มมีเรื่องกับมาเฟียอิตาลีที่มีลูกน้องประกบรอบทิศตอนนี้ ญาวิกาคงได้เป็นแม่หม้ายลูกติดแน่



--------------------------

ยาวอยู่นะตอนนี้55555
คิดถึงทุกคนเบยฮ้าพพพพ
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ Blackbone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ศึกทั้งสองตระกูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว โรงแรมนี้รึป่าวที่ระเบิดแล้วมีข่าวว่ารินทร์ตาย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โรเบิร์ต คงไม่ใข่อยู่ในตระกูลที่เป็นศัครูกับนิโคไลนะ

เนื้อเรื่องเริ่มงวดเข้าแล้ว   :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ใกล้เปิดศึกแล้วสินะ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ที่โรงแรมระเบิดคือเกิดศึกจาก 2 ตระกูลแน่เลย แล้วที่วรินทร์แกล้งตายต้องเป็น 1 ในแผนอ่ะ

เนื้อเรื่องเข้มข้นมาก อยากรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ไม่พออออออ
เอาอีกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
วุ่นไปหมดเลย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จะทำอะไรก็ทำตามสบาย เว้นเด็ก(มีน)และสตรีมีครรภ์ไว้ด้วยแล้วกันนะ  :ling3:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เริ่มเข้มข้นขึ้นแล้ว.  :katai2-1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ยาวมากค่ะ ปลื้มมากเลย 555

ใกล้แล้วสินะ ที่จะระเบิดเป็นดวงดาว
ไม่รู้งานนี้ใครจะพลาดก่อนใคร

คุณเกศราลึกลับมากค่ะ
ว้าววว เมฆเป็นทายาทมาเฟียนะ
มาเจอกับหมอก ทายาทเหมือนกัส

แต่ไม่น่าห่วงจากฝั่งนิค แต่น่าห่วงจากฝั่งกาวิโน่

โรเบิร์ตตั้งใจไหม หรือจริงจัง


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
เอาแล้วสิ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
        ศึกกำลังจะมาใช่ไหมค่ะเพราะสองตระกูลใหญ่มาเจอกันและเดี๋ยวงานนี้จะมีระเบิดและรินแกล้งตาย

รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
อ่านตามทันแล้ววว ลุ้นทุกตอน

ออฟไลน์ pp_song

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
สนุกมากๆๆๆ ชอบตอน now มากๆเลย
มาต่อเร็วๆนะคะ :L2:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เป็นแผนโรเบิตเหรอ ให้ได้ไกล้ชิดหมอกเพื่อลงมือโดยเอายาหยีมาเป็นสะพาน
แต่ท้องแล้วนะ สงสารล่วงหน้าเลย แต่ไม่รู้จะสงสารใครมากกว่ากันดี

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ใกล้ถึงโรงแรมระเบิดแล้วสินะ เดาทางต่อไปไม่ถูกเลยค่ะ :katai1:

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
 
หลังจากจบมื้ออาหารที่นิโคไลเป็นเจ้ามือ ธีรเชษฐ์ก็ขอตัวกลับห้องพร้อมกับมีนาที่มีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก มธุวันกำลังจะเอ่ยขอตัวเช่นกันเมื่อนิโคไลเอ่ยขึ้น



“คุณหมอก ไปดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยได้มั้ยครับ?”




“ครับ?” มธุวันมองหน้าอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ




“ผมแค่อยากมีเพื่อนคุย ที่เลาจน์ตรงหน้าล็อบบี้นี่แหละครับ นะครับคุณหมอก” หนุ่มอิตาลีอ้อนด้วยน้ำเสียงที่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลอะไร มธุวันถึงรู้สึกใจอ่อนขึ้นมาเสียอย่างนั้น




“ผมไปด้วยครับ” จู่ๆเมฆาก็โพล่งขึ้นมาก่อนที่มธุวันจะได้ตอบ “ไปกันหลายๆคน จะได้ไม่เหงา”




“นั่นสินะครับ” นิโคไลยิ้มรับ ไม่ได้มีสีหน้าไม่พอใจกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญสักนิด




มธุวันยังคงไม่เข้าใจว่าตัวเองมานั่งอยู่บนโซฟาตัวนุ่มที่เลาจน์เครื่องดื่มซึ่งตั้งอยู่หน้าล็อบบี้โรงแรมโดยมีเมฆานั่งอยู่ข้างๆและนิโคไลนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้อย่างไร แถมยังมีคอกเทลสีฟ้าสดใสในมือเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากอีกต่างหาก




“เล่าเรื่องครอบครัวคุณหมอกให้ผมฟังหน่อยสิครับ” นิโคไลกระดกเครื่องดื่มสีอำพันที่แม้แต่คนคอแข็งอย่างมธุวันยังต้องนิ่วหน้าอย่างรู้สึกบาดคอแทน




“ทำไมคุณนิโคไลถึงอยากรู้เรื่องครอบครัวของผมล่ะครับ?”




“เพราะผมคิดว่าใครก็ตามที่เลี้ยงดูคุณหมอกคงจะทำหน้าที่ได้ดีมาก คุณหมอกถึงเติบโตมาเป็นคนที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบขนาดนี้”




คำชมอย่างจริงใจของชายหนุ่มผมบลอนด์เรียกรอยยิ้มจางๆที่มุมปากของมธุวันเมื่อคิดถึงป้าและยายที่เลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนตนมาแม้จะเหนื่อยยากลำบากเพียงใด




“ผมเป็นเด็กกำพร้า คุณป้าพาผมมาอยู่ด้วยหลังจากสถานสงเคราะห์ปิดตัว ผมอยู่กับป้ากับยาย แล้วก็น้องชายอีกคนที่เป็นลูกของป้าครับ ป้ากับยายไม่ได้มีฐานะทางการเงินที่ดี แต่พวกท่านก็ส่งเสียผมจนเรียนจบ...”



นั่นน่าจะเป็นประโยคที่ยาวที่สุดที่มธุวันเคยพูดกับนิโคไลหากไม่นับเรื่องงาน คนฟังพยักหน้าตามทุกคำพูดของเขา แววตาของชายหนุ่มที่มองมาที่เขาแฝงด้วยประกายบางอย่างที่มธุวันไม่มั่นใจว่าคืออะไร




“แล้วคุณหมอก...มีความสุขมั้ยครับ?”




“ครับ” นั่นเป็นคำถามที่ง่ายที่สุดที่มธุวันเคยได้รับ ร่างโปร่งตอบพร้อมรอยยิ้มมั่นใจ “ผมมีความสุขมาก”



เลขาหนุ่มรู้สึกถึงมือของเมฆาที่แตะโดนหลังมือของเขาบนโซฟา แต่มธุวันเลือกที่จะไม่ใส่ใจแขกไม่ได้รับเชิญข้างๆซึ่งนั่งฟังพวกเขาพูดคุยกันโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา




“นิโคไล!”




เจ้าของชื่อสะดุ้ง การได้เห็นชายหนุ่มที่ดูเหมือนไม่เกรงกลัวสิ่งใดบนโลกสะดุ้งแบบนั้นทำให้มธุวันเผลอสะดุ้งตาม เขาและเมฆาหันไปทางต้นเสียงในชุดสูทผูกไทค์ที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงมาทางพวกเขาจากหน้าประตูโรงแรม บอดี้การ์ดของนิโคไลไม่คิดแม้แต่จะห้ามเมื่อหมอคเชนทร์ก้าวผ่านพวกเขาไปยังบอสของตระกูลที่นั่งอยู่กับแขกทั้งสอง



“อาคราม/คุณหมอ”




มธุวันและเมฆาอุทานออกมาพร้อมกัน แต่คเชนทร์ดูเหมือนจะไม่ได้รับรู้การมีอยู่ของพวกเขา ร่างสูงขยับแว่นของตัวเองให้เข้าที่แล้วก้มลงสำรวจหาบาดแผลบนร่างของนิโคไล ซึ่งมาเฟียหนุ่มดูจะอึ้งเกินกว่าจะออกปากห้าม




“นี่เล่นบ้าอะไรของคุณเนี่ย?!”




อาจารย์แพทย์ที่ไม่ได้ขึ้นเสียงกับใครตะคอกใส่ชายหนุ่มผมบลอนด์ มธุวันกับเมฆาหันมามองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์ ตัดสินใจสังเกตการอยู่เงียบๆที่โซฟาของพวกตน



“เล่นอะไรครับ?ผมไม่เข้าใจ?” นิโคไลเอ่ยด้วยสีหน้าสับสนจากใจจริง คเชนทร์กอดอกอย่างหงุดหงิด



“ลูกน้องคุณโทรมาหาผม บอกว่าคุณถูกยิงอาการสาหัส แต่ไม่ยอมไปโรงพยาบาลอีกแล้ว”อาจารย์แพทย์ว่า “แถมยังรู้ด้วยว่าผมมีสัมนาอยู่ที่จังหวัดข้างๆ เลยโทรเรียกผมมาดูอาการ”




นิโคไลตวัดสายตาไปยังลูกน้องทั้งสองที่ส่ายหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน ร่างสูงกัดฟันกรอด แววตาของนิโคไลเปลี่ยนจากสับสนเป็นดุร้ายราวกับสัตว์ป่าที่กำลังบาดเจ็บ อารมณ์ที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังฝ่าเท้าของอีกฝ่ายทำให้มธุวันอดรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาไม่ได้ เขาไม่เคยเห็นนิโคไลในมุมแบบนี้มาก่อน




ดูเหมือนว่าคเชนทร์ก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน ดูจากการที่ชายหนุ่มอายุมากกว่าผงะเล็กน้อยเมื่อดวงตาสีมรกตตวัดกลับมาหาตน




“คุณหมอก คุณเมฆา เชิญตามสบายนะครับ ผมขอตัวก่อน”




เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มทั้งสองได้แต่กระพริบตาปริบๆมองนิโคไลคว้าข้อมือของคเชนทร์แล้วดึงให้อีกฝ่ายเดินตามตัวเองไปโดยที่ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร




“หมอกจะขึ้นห้องเลยมั้ย?”




เมฆาหันมาถามร่างโปร่งข้างกาย มธุวันยกคอกเทลสีหวานขึ้นกระดกรวดเดียวหมดแล้ววางลงบนโต๊ะ




“อือ”



แม้สำหรับคนภายนอก คำตอบนั้นอาจจะดูห้วนสั้น ไปจนถึงขั้นไม่มีสัมมาคารวะหากคิดถึงว่าเมฆามีตำแหน่งสูงกว่ามธุวันแค่ไหน แต่เมฆากลับความกว้างออกมาเมื่อได้ยินคำตอบที่เป็นกันเองมากกว่าท่าทีห่างเหินที่อีกฝ่ายมีให้เขาตลอดทั้งวัน




ทั้งสองกลับไปที่ห้องโดยมีลูกน้องสองคนของนิโคไลเดินตามมาส่งจนถึงหน้าห้อง มธุวันเพียงพยักหน้าให้เมื่อได้ยินเมฆา
เอ่ยราตรีสวัสดิ์แล้วเปิดประตูเข้าห้องไปโดยไม่คิดจะสนใจต่อบทสนทนากับอดีตคนรัก




ร่างโปร่งทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มหลังใหญ่อย่างเหนื่อยล้า เขาไม่เคยคิดว่าเรื่องทั้งหมดจะบานปลายมาถึงขนาดนี้




หากเลือกได้ มธุวันจะขอย้อนเวลากลับไปแล้วเลือกที่จะเดินออกไปจากชีวิตเมฆาโดยไม่คิดจะหันหลังกลับมา ลืมทุกสิ่งทุก
อย่างที่พวกเขาผ่านร่วมกันมาอย่างที่เมฆาขอไว้ในวันสุดท้ายที่ชายหนุ่มยังเป็นคนรักของเขา ดีกว่าที่จะต้องมาสับสนกับความอ่อนโยนและสายตาที่มองเขาเหมือนเขาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของอีกฝ่าย แล้วมาระลึกได้ว่าครั้งก่อนนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาจบลงเช่นไรแบบนี้




แกร๊ก...



เลขาหนุ่มเด้งตัวขึ้นจากเตียงทันทีเมื่อได้ยินเสียงประตูเชื่อมของฝั่งห้องเมฆาเปิดออก แม้ว่าการจะเปิดประตูเชื่อมได้นั้นจะต้องเปิดประตูทั้งฝั่งห้องของเมฆาและห้องของเขา แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้มธุวันลดกำแพงป้องกันตัวลง




“ทำอะไรน่ะ?!”




ร่างที่อยู่อีกฝั่งของประตูเงียบไปครู่หนึ่งหลังจากได้ยินคำถาม ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เจ้าของฉายาปีศาจน้ำแข็งหัวใจสั่นไหว




“เมฆแค่อยากอยู่ใกล้หมอก...อีกซักนิดก็ยังดี”




มธุวันเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ ร่างโปรร่งลุกจากเตียงไปรื้อกระเป๋าเอาเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวของตัวเองออกมาเพื่อเตรียมอาบน้ำนอน เมฆาไม่ได้เอ่ยอะไรไปมากกว่านั้น แต่ถึงแม้จะไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากอีกฝั่งของประตู มธุวันกลับรู้ได้ว่าชายหนุ่มร่างสูงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตูเชื่อมบานนั้นไม่ขยับไปไหน









โครม!เพล้ง!




มธุวันนอนหลับสนิทใต้ผ้าห่มผืนหนาเมื่อเสียงสิ่งของขนาดใหญ่ตกกระแทกพื้นดังลั่นปลุกเข้าให้สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ร่างโปร่งไม่ต้องใช้เวลาคิดก็รู้ว่าต้นเสียงมาจากห้องของเมฆา มธุวันกระโดดแผล็วลงจากเตียงอย่างร้อนรน ทุบประตูเชื่อมเสียง
ดังพร้อมกับเรียกชื่อของอดีตคนรัก




“เมฆ?! เกิดอะไรขึ้น?!”



ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากคนในห้อง มธุวันรีบเปิดประตูเชื่อมฝั่งของตัวเองออกทันที โชคดีของเขาที่ประตูฝั่งของเมฆายังคงเปิดอ้ากว้าง ทำให้เขาสามารถเข้าไปในห้องของอีกฝ่ายได้




สิ่งแรกที่มธุวันเห็นคือโคมไฟขนาดใหญ่ที่ถูกปัดตกลงมาแตกเป็นเสี่ยงบนพื้น ดวงตาสีเทาอมฟ้าละจากซากโคมไฟมาที่ร่างที่เขากำลังมองหา เมฆานอนอยู่บนพื้นข้างเตียงของตน เข่าทั้งสองข้างขยับเข้ามาชิดแนบอก มือทั้งสองข้างหัวขึ้นกุมศีรษะราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดในไม่ช้า เหงื่อกาฬผุดพรายเต็มใบหน้าและร่างท่อนบนที่เปลือยเปล่า มธุวันที่เพิ่งได้สติจากความตกใจรีบพุ่งเข้าไปหาเมฆาอย่างรวดเร็ว



“เมฆ เมฆได้ยินหมอกมั้ย?!”



“อึ่ก...”




เมฆาหลับตาแน่น กัดฟันกรอดเพื่อข่มความเจ็บปวดแล้วพยักหน้าให้คนที่ทรุดตัวนั่งลงข้างๆ มธุวันแตะหลังมือลงบนหน้าผากของอีกฝ่าย พบว่าอุณหภูมิร่างกายของเมฆาร้อนกว่าที่ควรจะเป็นอยู่มาก



“เดี๋ยวหมอกพาไปหาหมอนะ ทำใจดีๆไว้” มธุวันเอื้อมมือควานหาาโทรศัพท์ของโรงแรมเพื่อติดต่อพนักงานด้านล่างให้เรียกรถให้พวกเขา แต่เมฆาส่ายหน้า



“ไม่…ยา…”




“เมฆมียาเหรอ? อยู่ไหน?” มธุวันรีบถาม คนเจ็บพยายามตอบคำถามของเขา แต่เสียงทุ้มฟังไม่ได้ศัพท์ทำให้ร่างโปร่งต้องก้มลงไปชิดจนใบหูแทบจะแนบกับริมฝีปากแห้งผาก



“…คอม...”




“กระเป๋าคอม? รอก่อนนะเมฆ”




มธุวันรีบเอี้ยวตัวไปคว้ากระเป๋าคอมพิวเตอร์ที่ร่างสูงวางไว้ข้างตู้ลิ้นชักแล้วเปิดซิปนอกสุดออก มธุวันกวาดตาอ่านวิธีการทานอย่างรวดเร็วแล้วบิเอายาเม็ดเล็กสองเม็ดออกมาจากซอง ช้อนศีรษะของอีกฝ่ายให้ขึ้นมานอนบนตัก บีบขากรรไกรของคนที่กัดฟันกรอดอย่างทรมานให้เผยอออกแล้ววางยาลงบนลิ้นของร่างสูง เมฆากลืนยาลงไปอย่างยากลำบากขณะที่มธุวันหันรีหันขวางจนพบขวดน้ำตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียง




“เมฆ กินน้ำตามนะ จะได้ไล่ยาลง”




แม้จะพยายามบีบขากรรไกรล่างของคนเจ็บอย่างที่ทำเมื่อครู่ เมฆาที่ถูกแรงบีบภายในกระโหลกโจมตีอีกระลอกกัดฟันแน่น ด้วยความร้อนใจ มธุวันจึงตัดสินใจดื่มน้ำจากขวดแล้วก้มลงป้อนน้ำให้กับอีกฝ่ายด้วยริมฝีปากของตัวเอง




“ลุกไหวมั้ยเมฆ... เดี๋ยวหมอกพาขึ้นเตียงนะ หนึ่ง..สอง...”




มธุวันพยุงร่างสูงใหญ่ให้กลับขึ้นไปบนเตียงอย่างทุลักทุเล แม้เมฆาจะยังคงแสดงสีหน้าเจ็บปวด แต่ชายหนุ่มก็ยังดูดีขึ้นกว่าสภาพที่มธุวันมาเจอเล็กน้อย




ร่างโปร่งเปิดตู้เย็นเล็กที่มีน้ำเย็นขวดแช่ไว้แล้วเทมันลงบนผ้าขนหนูผืนเล็กที่เมฆาพาดไว้บนพนักเก้าอี้ ก่อนจะค่อยๆวางมันลงบนหน้าผากของคนป่วย




“ทนหน่อยนะเมฆ เดี๋ยวยาก็ออกฤทธิ์แล้ว”




พยาบาลจำเป็นให้กำลังใจด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นิ้วเรียวไล้ผ่านเส้นผมสีดำสนิทอย่างปลอบประโลม เขารู้สึกว่าท่าที่แข็งเกร็งของเมฆาค่อยๆผ่อนคลายลง มธุวันค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงเพื่อน้ำผ้าขนหนูไปชุบน้ำอีกรอบ แต่กลับถูกคว้าตัวไว้โดยคนป่วยที่มีสีหน้าเหมือนเด็กน้อยที่กำลังจะถูกทิ้ง




“ไม่..ไม่ไปได้มั้ย...”




“หมอกแค่จะเอาผ้าไปชุบน้ำ...”




วงแขนแข็งแรงที่แม้ในตอนนี้จะสั่นเทาโอบรัดเอวของเขาไว้แน่นขึ้น ไม่สนใจคำอธิบายของมธุวันเลยสักนิด




“เมฆขอโทษ...อย่าไปได้มั้ย...”




“ครับ หมอกไม่ไปไหนแล้ว”




มธุวันใจอ่อน ยอมเอนตัวลงนอนข้างร่างสูงที่ยังคงกัดฟันกรอดอย่างทรมาน  แขนเรียวโอบร่างของอดีตคนรักไว้ด้วยหวังว่า
จะสามารถบรรเทาความเจ็บปวดให้อีกฝ่ายเพียงสักนิด




“...เมฆเป็นได้แค่ภาระให้หมอก...เมฆขอโทษ....”




เมฆาพึมพำเสียงแผ่วอย่างอ่อนแรงด้วยพิษไข้ คนฟังรู้สึกเจ็บแปลบในอกกับคำขอโทษของคนป่วย สีหน้าของร่างสูงเริ่มผ่อนคลายลงพร้อมกับลมหายใจที่สม่ำเสมอ มธุวันยิ้ม แววตาที่มักจะแข็งกร้าวเย็นชาอยู่เสมออ่อนลง เลขาหนุ่มประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากชื้นเหงื่อของคนป่วยเบาๆอย่างรักใคร่ ในชั่วขณะนั้น มธุวันรู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็กหนุ่มคนที่ตนกลบฝังไปพร้อมกับเมฆาคนเก่าอีกครั้ง




เป็นความอ่อนแอเพียงชั่ววูบ...ที่เขาเลือกจะมองผ่านมันไปในค่ำคืนนี้




“ฝันดีนะเมฆ”







---------------

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
งานสัปดาห์หนังสือเริ่มแล้ว หากใครยังมิได้สอยน้องแว่นไปไว้กอดในอ้อมอกอ้อมใจ เชิญที่บูธสนพ. Hermit books ได้นะคะ แอบกระซิบว่าของมีจำนวนจำกัดเน้อ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
อยากรู้เรื่องราวก่อนการบอกเลิกมากๆเลย

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
น่าสงสารนะค่ะคนนึงลืมคนนึงจำความรู้สึกเลยไม่เท่ากัน
คนนึงมีเหตุผลที่จะต้องเลิกเพราะรักมากเลยยอมตัดใจ
แต่อีกคนรักมากเเต่โดนบอกเลิกไม่รู่ว่าทำไมถึงต้องเลิก
ต่างคนต่างไม่มีความสุข
ต้องรอเรื่องในอดีตเฉลยซินะค่ะ
เชื่อได้เลยว่าเมฆก็เจ็บไม่แพ้กันที่ต้องเลิกกับหมอกอาจต้องทำเพื่อกันหมอกออกจากตัวเอง
ไม่งั้นหมอกจะเจออันตรายได้
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2018 06:31:00 โดย เป็ดอนุบาล »

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เฮ้ออ สงสารทั้งคู่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด