“จะวาเลนไทน์แล้วเนอะ...”
หลังจากค่ำคืนอันเร่าร้อนที่ทำให้เมฆาต้องนอนหมดแรงจากการโดนรีดพลังงานจนหมดตัว จู่ๆร่างเปลือยเปล่าที่นอนคว่ำอ่านหนังสืออยู่ข้างเขาโดยไม่สนใจจะลุกไปอาบน้ำใส่เสื้อผ้าเหมือนอย่างตอนที่เริ่มคบกันใหม่ๆก็เปรยขึ้น เมฆายกศีรษะขึ้นจากหมอนของตนอย่างประหลาดใจ ร้อยวันพันปีคนรักของเขาไม่เคยสนใจวันพิเศษอะไรกับใครเขา ทำไมอยู่ๆถึงได้เปิดประเด็นนี้ขึ้นมา
“ก็ใกล้แล้วนะ หมอกอยากได้อะไรรึเปล่า?”ร่างสูงลองถามหยั่งเชิง แอบรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยกับความเป็นไปได้ที่มธุวันจะยอมอ้อนขอของขวัญวันพิเศษจากเขาบ้างแล้ว
“เอ่อ...ก็ไม่เชิงอยากได้หรอก อยากบอกไว้ก่อนมากกว่า”
มธุวันตอบด้วยสีหน้าเคอะเขิน พลิกตัวกลับขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง ผ้าห่มของร่างโปร่งไหลลงไปกองที่พื้นตั้งแต่ตอนที่พวกเขาใช้เตียงเป็นลานกิจกรรมเข้าจังหวะก่อนหน้านี้แล้ว แต่ภายใต้แสงไฟสว่าง ร่างเปลือยเปล่ายังคงมีร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของกระจายราวกับกลีบกุหลาบที่ถูกโปรยลงบนพื้นหิมะสีขาว ยังไม่รวมถึงของเหลวสีขุ่นที่ไหลลงมาตามต้นขาด้านในของมธุวันที่ทำให้คนหมดแรงก่อนหน้านี้ถึงกับกลืนน้ำลายฝืดคอ
“อะ..อะไรเหรอ?”
“หมอกอยากสัก”
“ฮะ?”
คำพูดที่เมฆาไม่คิดว่าจะหลุดออกมาจากปากของคนรักทำให้ร่างสูงนิ่งไปชั่วขณะ มธุวันก้มมองมือตัวเองอย่างประหม่า
“หมอกคิดไว้ซักพักแล้วล่ะ ว่าอยากสัก แต่หมอกอยากถามความเห็นเมฆก่อน...”
“ไม่” คำปฏิเสธหลุดรอดริมฝีปากของเมฆาแทบจะในทันที มธุวันขมวดคิ้ว
“ทำไมล่ะ? อย่าบอกนะว่าเมฆไม่ชอบคนมีรอยสัก เพราะไม่อย่างนั้นเมฆคงเลิกเป็นเพื่อนกับวินไปนานแล้ว”
“เมฆไม่ได้ไม่ชอบรอยสัก...” ร่างสูงพึมพำตอบเสียงเบา “เมฆแค่ไม่อยากให้ใครมาจับตัวหมอก”
มธุวันจ้องคนที่สารภาพด้วยสีหน้าอับอาย ก่อนจะหลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“สมเป็นเมฆจริงๆ”
“แล้ว...หมอกจะสักอะไร? สักตรงไหน?”
เมฆาเปลี่ยนเรื่อง มธุวันเม้มริมฝีปากอย่างชั่งใจ ก่อนจะชี้ลงบนโคนขาด้านใน จุดที่เมฆาชอบฝากรอยไว้ทุกครั้งที่ไล่จุมพิตขึ้นมาตามเรียวขาขาว
“หมอกอยากสักชื่อเมฆ..ตรงนี้”
ทุกครั้งที่เมฆาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสามารถยั่วยวนเขาให้หัวปักหัวปำได้มากกว่านี้อีกแล้ว มธุวันก็ยังคงสรรหาวิธีที่ทำให้เขาเสน่หาเสียจนไม่อาจละสายตาจะอีกฝ่ายแม้แต่วินาทีเดียวได้
“ชื่อ...ชื่อเมฆ?”
“อื้อ...ตัวคันจิที่แปลว่าเมฆ”
มธุวันยิ้ม เขารู้ว่าคนอื่นอาจมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระที่จะประทับชื่อของใครสักคนลงบนผิวของตัวเองอย่างถาวร เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน วันนี้เขากับเมฆาอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว
แต่หากจะให้พูดตามตรง มธุวันมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองที่ไม่มีเมฆาอยู่เคียงข้าง และในความสัมพันธ์ที่ไม่อาจบอกใครได้ในตอนนี้ มธุวันเพียงแค่อยากได้เครื่องยืนยันว่าทุกสิ่งระหว่างพวกเขาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริิง
“เอาจริงเหรอ...” เมฆาเอ่ยเสียงอ่อย แค่ความคิดที่ว่าจะมีใครได้สัมผัสผิวกายเนียนนุ่มบริเวณนั้นนอกจากเขาก็เพียงพอที่จะทำให้ร่างสูงของขึ้น แต่เมฆารู้ดีจากแววตาของคนรักว่าอีกฝ่ายตัดสินใจไปแล้ว “งั้น...ให้เมฆสักให้ได้มั้ย?”
“เอ๊ะ เมฆสักเป็นด้วยเหรอ?” มธุวันเอ่ยอย่างประหลาดใจ นี่คนรักของเขาทำอะไรไม่เป็นบ้างเนี่ย
“อือ เคยไปเรียนที่ร้านไอ้วิน ตอนนั้นเบื่อๆ” ร่างสูงไหวไหล่ “อาจจะต้องลองซ้อมมือกันไว้ก่อนซักอาทิตย์ แต่หลังจากนั้นก็น่าจะโอเคแล้ว”
“เอาสิ” มธุวันยิ้มให้คนรัก มือเรียวประคองใบหน้าของอีกฝ่ายให้สบตากับตน รอยยิ้มหวานยั่วเย้าที่ทำให้คนมองแทบน้ำลายหก “เมฆจะได้เป็นคนเขียนชื่อเมฆบนตัวหมอก ว่าหมอกเป็นของเมฆคนเดียว...”
“แล้วไม่กลัวเมฆเถลไถลบ้างเหรอ?” ร่างสูงเลิกคิ้ว ทว่าคนรักของเขาเพียงแค่หัวเราะเบาๆด้วยสีหน้าของผู้ชนะ
“แค่หมอกคนเดียวเมฆยังสลบคาเตียงทุกวัน จะเอาเวลาที่ไหนไปเถลไถลครับ? หืม?”
ใช่แล้ว...ที่เมฆาไม่จำเป็นต้องใช้รอยสักเพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของตัวเองของมธุวัน เพราะถึงอย่างไรเสีย ร่างสูงก็ไม่มีทางหลุดรอดไปจากเงื้อมมือของคนรักไปได้
อีกอย่าง ใช่ว่าเขาจะอยากหลุดรอดออกไปเสียเมื่อไหร่
หลังจากวันนั้นเมฆก็แทบจะใช้เวลาว่างกินนอนอยู่ที่ร้านสักของนาวินทร์โดยมีเพื่อนสนิทปละคนรักผลัดกันมาให้กำลังใจ ถึงแม้ส่วนใหญ่แล้วนาวินทร์จะมานั่งแซวความทุ่มเทของเขาเสียมากกว่า
“กูล่ะนับถือความหลงเมียของมึงจริงๆไอ้เมฆ”
เด็กหนุ่มเจ้าของรอยสักเต็มตัวเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะหลังจากเมฆาสักลูกค้าคนสุดท้ายของวันเสร็จ ช่างสักจำเป็นไม่ได้ถือคำพูดของเพื่อนเป็นคำดูถูกแต่อย่างใด ดูเหมือนจะภูมิใจกับตำแหน่งที่ได้รับเสียด้วยซ้ำ
“งั้นหมอกเข้าไปได้แล้วสิ”
มธุวันเปิดประตูเข้ามาในห้องสักหลังร้าน ถึงแม้เขาจะมาให้กำลังใจร่างสูงอยู่บ่อยครั้ง แต่เมฆาไม่ค่อยให้เขาอยู่ดูเท่าไหร่ บอกว่ารู้สึกประหม่าหากมีมธุวันอยู่ด้วย
“หมอกเอาแบบมาแล้วใช่มั้ย?” เมฆาปล่อยให้คนรักขึ้นไปนั่งบนเตียงสัก ถึงแม้จะตกลงกันไว้แล้ว แต่เขาก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้
“อื้อ”
“ไอ้วิน ออกไปรอข้างนอก” เมฆาหันมาสั่งเพื่อนเสียงเข้ม นาวินทร์ที่รู้ดีถึงความขี้หวงของเพื่อนยอมล่าถอยออกไปรอข้างนอกแต่โดยดี
หลังจากที่มีธุวันถอดกางเกงออก ช่างสักจำเป็นก็แยกขาเรียวออกจากกันโดยมีร่างของตนคั่นกลาง แม้เขาจะทำแบบนี้กับมธุวันนับครั้งไม่ถ้วนในกิจกรรมที่ถูกเนื้อต้องตัวกันมากกว่านี้หลายเท่า แต่เมฆากลับรู้สึกไม่ต่างจากครั้งแรกที่เขาได้จับเรียวขาเนียนของอีกฝ่ายแยกออกจากกันเลยสักนิด
“คิดลามกอะไรอยู่?” ร่างโปร่งยิ้มอย่างรู้ทัน
“เมฆไม่ได้คิดอะไรซักหน่อย หมอกอย่าโยนความผิดให้เมฆสิ”
เมฆาช้อนตามองคนรักด้วยแววตาใสซื่อที่สุดเท่าที่ตนจะแสร้งทำออกมาได้ ซึ่งเขารู้ดีว่าคนรักไม่หลงกลเขาสักนิด
“เอาสิเมฆ จะไปกินข้าวกับวินกันต่อไม่ใช่เหรอ?” มธุวันเร่งคนรัก วันนี้เป็นวันเกิดของนาวินทร์ เขาสัญญาแล้วว่าจะไปฉลองวันเกิดที่ผับซึ่งเจ้าของร้านสักนี้ถือหุ้นอยู่มากกว่าครึ่ง เมฆายิ้มมุมปาก
“ให้เอาตรงนี้เลยเหรอ? เดี๋ยวไอ้วินได้ยินนะ”
“พอเลย เลิกถ่วงเวลาได้แล้วน่า” ร่างโปร่งเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ ปล่อยให้คนรักหันไปเตรียมอุปกรณ์และพิจารณาร่างแบบลงบนผิวกายเนียนนุ่ม
สลักชื่อของตนไว้บนผิวกายของคนรักไปจนกว่าร่างนี้จะเสื่อมสลาย
นาวินทร์บอกเขาไว้ว่าบรรยากาศของร้านเป็นแนวร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องโกหก แต่รู้สึกว่าสัดส่วนของผับนั้นจะมีน้ำหนักมากกว่าสัดส่วนของร้านอาหารอยู่พอตัว
“ทางนี้”
นาวินทร์นำทางเพื่อนทั้งสองไปยังโซนวีไอพีที่เป็นบูธโซฟาสีแดงสดเข้ากับแสงไฟสีเหลืองนวลสลัวเหมาะแก่การทำเรื่องส่วนตัวจนมธุวันอดย่นจมูกอย่างไม่ชอบใจไม่ได้ สมกับที่เป็นร้านของเพลย์บอยตัวพ่ออย่างนาวินทร์ ถึงแม้เขาจะไม่เคยเห็นอีกฝ่ายควงใครมาหา แต่กิตติศัพท์ของอีกฝ่ายนั้นต่อให้เมฆาไม่บอกเขา บทสนทนาของคนรักกับเพื่อนสนิทก็บอกมธุวันได้ดีว่านาวินทร์นั้นเปลี่ยนคู่ควงบ่อยเพียงใด
โชคดีที่คนของเขาไม่ได้มีนิสัยแบบนั้น
“สั่งเลย เต็มที่ คืนนี้กูเลี้ยง เมาก็มีห้องให้นอน” นาวินทร์ยุเต็มทีี่ ถึงแม้จะรู้ว่าเมฆาไม่มีทางดื่มจนเมาแล้วเอาตัวเองไปเป็นภาระของมธุวัน
“เอาเบียร์สดมาแก้วนึงพอ”
ดังคาด เมฆาสั่งเครื่องดื่มมึนเมาพอเป็นพิธีไม่ให้เสียน้ำใจเพื่อน ก่อนจะเริ่มสั่งของโปรดของมธุวันในเมนูอย่างคล่องแคล่ว ส่วนมธุวันสั่งเพียงแค่นมช็อกโกแลต แม้นาวินทร์จะคะยั้นคะยอให้ลองค็อกเทลขึ้นชื่อของทางร้านที่ผสมแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อย แต่ร่างโปร่งเพียงแค่ส่ายหน้าปฏิเสธยิ้มๆแต่หนักแน่น
“ให้เราสร่างซักคนนึงเถอะ เมากันหมดเดี๋ยวได้นอนกองกันตรงนี้พอดี”
“อย่าใจร้ายนักเลย...มาสนุกกับพี่ดีกว่าน้า....” เสียงที่ดังขึ้นแม้เสียงดนตรีรอบข้างจะบรรเลงจังหวะเมามันส์ให้คนบนฟลอร์วาดลวดลายกันเรียกความสนใจของมธุวันไป ดวงตาสีเทาอมฟ้าเบิกกว้างก่อนที่ร่างโปร่งจะผุดลุกจากที่นั่งเมื่อเห็นว่าฝ่ายที่กำลังโดนคนเมาฉุดกระชากอยู่ที่ฟลอร์นั้นเป็นเด็กชายร่างเล็กในชุดนักเรียนที่ไม่สมควรมาอยู่ในสถานที่แบบนี้
มธุวันย่างสามขุมเข้าใกล้ชายหนุ่มที่ลูบไล้ร่างขงเด็กน้อยที่ทั้งร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ทั้งดิ้นหนีอย่างไม่ยอมแพ้ถึงแม้จะสู้แรงของคนตัวใหญ่ไม่ได้ แต่ร่างสูงใหญ่ของคนรักก้าวผ่านเขาไป ก่อนจะประเคนหมัดลุ่นๆใส่คนเมาลงไปนอนนับดาวกับพื้น
ร่างเล็กที่ถูกช่วยไว้เงยหน้าขึ้นอย่างดีใจ ทว่ารอยยิ้มของเด็กชายหายไปจากใบหน้าอย่างรวดเร็ว มธุวันคิดว่าอีกฝ่ายคงคาดหวังว่าคนที่จะมาช่วยเป็นใครอีกคนที่ไม่ใช่พวกเขา
เมฆาซัดหมัดซ้ำใส่หน้าคนที่ร่วงไปแล้วอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แล้วหันกลับมาทางเด็กชายที่ยังยืนตัวแข็งด้วยความหวาดกลัว ดวงตาคมสีควันบุหรี่พิจารณาหารอยแผลตามร่างของอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนว่าร่างเล็กจะเข้าใจผิดว่าเมฆากำลังคิดอะไรไม่ดีถึงได้ตัวสั่นขึ้นมาแบบนั้น
“เป็นอะไรรึเปล่า”
มธุวันถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง คลายความตึงเครียดจากใบหน้าของเด็กชายออกไปได้มาก ร่างเล็กในชุดนักเรียนยกมือไหว้พวกเขาทั้งคู่ด้วยสีหน้าซาบซึ้งใจ
“ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผมไว้”
“มากับใครเนี่ย ทำไมถึงได้อยู่คนเดียวในที่แบบนี้ล่ะ?”ร่างโปร่งถามอย่างเป็นห่วง
“ผม…มากับพี่...” เด็กชายตอบอ้อมแอ้ม “เขาไปกับ...เพื่อน”
“โห ลำบากแย่เลย แถวนี้ก็มีแต่คนเมา นี่ มานั่งกับพวกพี่ก่อนมั้ย อยู่โตะข้างๆนี่เอง ถ้าพี่ชายมาค่อยกลับมา”
มธุวันเสนอ เขาไม่อยากปล่อยให้เด็กชายอยู่ในดงนักล่าแบบนี้คนเดียวโดยที่ไม่มีใครดูแล พี่ชายของอีกฝ่ายก็จริงๆเลย นึกอย่างไรถึงได้พาเด็กตัวแค่นี้มาทิ้งไว้ในที่แบบนี้
“งั้น รบกวนด้วยนะครับ” เด็กชายยกมือไหว้อีกครั้งอย่างเกรงใจ ท่าทีเกร็งๆของอีกฝ่ายทำให้มธุวันนึกสงสารขึ้นมา เด็กคนนี้อายุน้อยกว่าน้องชายของเขาเสียอีก ร่างโปร่งแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
“พี่ชื่อหมอก นี่พี่เมฆ น้องชื่ออะไรเหรอ?”
“เหนือฟ้าครับ”
เด็กชายแนะนำตัวด้วยท่าทีขัดเขิน มธุวันพยักหน้ายิ้มๆ นำทางเหนือฟ้าที่เดินตามพวกเขาไปยังโต๊ะวีไอพีที่อยู่ด้านหลังอย่างว่าง่าย
“วิน จัดการด้วย” เมฆาเอ่ยขึ้น มธุวันรู้ดีว่าหมายถึงร่างที่ยังคงนอนกองอยู่บนพื้นตรงที่พวกเขาทิ้งไว้
“เออๆ กองมันไว้ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวให้เด็กหิ้วไปทิ้ง” นาวินทร์เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ ยกแล้วเหล้ากระดกเข้าปาก ร่างสูงเหลือบมองเด็กน้อยที่หลบอยู่ด้านหลังของมธุวันด้วยแววตาสนใจ “นั่งเลยครับน้อง สั่งอะไรก็ได้ พี่เลี้ยงเอง ถือเป็นการไถ่โทษที่ผับของพี่มีคนแบบนี้เข้ามา”
เหนือฟ้าพยักหน้า แต่ก็ไม่ยอมสั่งอะไรเสียทีทำให้นาวินทร์จัดการสั่งอาหารทานเล่นและน้ำอัดลมมาให้เด็กชายรองท้องแก้หิว
“น้องเหนือเรียนม.ไหนแล้วเนี่ย เข้ามาในที่แบบนี้เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่จะดุหรือเปล่า?”มธุวันถามด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกับที่เขาใช้เวลาที่แดนดินหนีเที่ยวกับเพื่อนๆ เด็กชายหน้าเสีย อึกอักไม่กล้าตอบเขา
“คือ..”
“เอาน่าๆ อย่าดุน่าเลยหมอก ไว้ฉันจะกำชับเรื่องตรวจบัตรให้เข้มกว่านี้ วันนี้วันเกิดฉันนะ ผ่อนคลายหน่อยสิ”
นาวินทร์ออกโรงปกป้องเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆ โอบไหล่บางอย่างสนิทสนม มธุวันหรี่ตามองอีกฝ่ายเป็นเชิงเตือน แต่ท่าทีเป็นกันเองของนาวินทร์ดูเหมือนจะทำให้เด็กชายผ่อนคลายลง
“เอ่อ สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่วิน” เหนือฟ้าหันไปพูดกับเจ้าของผับ
“โอ้ ขอบใจๆ เด็กดีจริงๆ”นาวินทร์หัวเราะชอบใจ
มธุวันและนาวินทร์ชวนเด็กชายคุยไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องจิปาถะ ดินฟ้าอากาศ การเรียน แม้กระทั่งเรื่องชีวิตคู่ของเขาและเมฆา การได้เล่าเรื่องของพวกเขาให้คนอื่นฟังนอกจากนาวินทร์ทำให้มธุวันอารมณ์ดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ทว่าระหว่างที่เขาคุยกันอยู่นั้น ร่างเล็กก็ถูกกระชากจากแขนของนาวินทร์โอบไหล่อยู่เซถลาไปซบกับอกแกร่งของเด็กหนุ่มร่างสูงที่จ้องพวกเขาด้วยแววตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“มาทำอะไรตรงนี้!”
“เฮ้ย!”
ทั้งสามลุกขึ้นทันที แต่เหนือฟ้ารีบเอ่ยปรามทุกคนด้วยสีหน้าร้อนรน
“ไม่…ไม่เป็นไรครับ นี่พี่ชายผม”
“หึ พี่ชาย?” คนที่ถูกเรียกว่าพี่แยกเขี้ยวอย่างไม่สบอารมณ์ “ได้...อยากได้พี่ชายใช่มั้ย?”
ร่างเล็กถูกลากออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาทั้งสามตั้งท่าจะเดินตามมาด้วยความเป็นห่วง แต่เหนือฟ้ากลับส่ายหน้าพรืดอย่างอ้อนวอน ขอร้องให้พวกเขาปล่อยตนไปกับคนที่ดูอย่างไรก็ไม่มีทางหวังดีกับร่างเล็กได้ มธุวันมีสีหน้าเป็นกังวล แต่แววตาของเหนือฟ้ายามเหลือบมองไปที่ร่างของคนที่ฉุดกระชากเขาออกไปทำให้มธุนจับร่างของเมฆาไว้ไม่ให้เดินตามออกมา
“ปล่อยเขาไปเถอะเมฆ”
“แต่…” มธุวันส่ายหน้า เมฆาที่กำลังจะเถียงสงบปากสงบคำลงแต่โดยดี ทิ้งตัวกลับลงไปนั่งอย่างไม่สบอารมณ์
“ให้ตายสิ แบบนี้ต้องไปเฉ่งพวกเด็กคุมประตูซักหน่อยแล้ว ตรวจบัตรประสาอะไรวะปล่อยให้เด็กนักเรียนเข้ามาได้”นาวินทร์พ่นลมหายใจ ลุกออกไปจากที่นั่งด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ มธุวันขยับชิดร่างสูง เอนพิงแผงอกแกร่งของคนที่เงียบไป
“เป็นอะไรรึเปล่า?”
“เด็กคนนั้น...อายุน่าจะพอๆกับน้ำอุ่น”
“น้องน้ำอุ่น...น้องคนรองของเมฆน่ะเหรอ?” มธุวันนึกถึงเด็กชายหน้าสวยในชุดกระโปรงสีหวาน
“เมฆไม่ค่อยสนิทกับน้องเท่าไหร่...หลังจากออกมาอยู่หอก็เจอหน้ากันแทบจะนับครั้งได้...” ร่างสูงยอมรับ ไม่บ่อยนักที่อีกฝ่ายจะยอมเล่าเรื่องของครอบครัวตัวเองโดยที่มธุวันไม่ต้องถาม “ถ้ามีใครมารังแกอุ่นแบบนั้น...เมฆ...เมฆไม่รู้ว่าเมฆจะช่วยอะไรน้องได้...”
“น้องชายเมฆ คนที่เรียนยิงปืน ฟันดาบ มวยไทย ยูโด ไอคิโด้ แล้วก็คาราเต้น่ะนะ?”
มธุวันถามอย่างเคลือบแคลงใจ จากประวัติของสามพี่น้องตระกูลทรัพย์ดำรงที่เมฆาเล่าให้ฟัง เขาว่าคนที่จะถูกรังแกน่าจะเป็นฝ่ายที่เข้ามาหาเรื่องเด็กหนุ่มเสียมากกว่า
“การทำร้ายใครซักคน บางครั้งมันก็ไม่ได้มาในรูปแบบของการทำร้ายร่างกายอย่างเดียวหรอกนะ”
ดวงตาสีควันบุหรี่ทอดมองไปยังแสงสลัวเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอย จากคำบอกเล่าของเมฆา การที่ธารธาราถูกยายของตัวเองบังคับให้ใส่ชุดผู้หญิงและไว้ผมยาวเพื่อสะเดาะเคราะห์ให้มารดา นอกจากจะเป็นฝืนใจเด็กหนุ่มแล้ว ยังน่าจะทำให้ธารธาราตกเป็นเป้าของการกลั่นแกล้งจากเด็กวัยเดียวกัน เมื่อบิดาและมารดาไม่ทำอะไรกับเรื่องนั้น เด็กอย่างเมฆาจะพูดอะไรก็คงทำไม่ได้
“ถ้าน้องน้ำอุ่นเข้มแข็งเหมือนเมฆ หมอกว่าน้องจะต้องผ่านมันไปได้แน่ๆ” มธุวันกุมมือคนรัก บีบมือใหญ่เบาๆเป็นการให้กำลังใจ ก่อนจะหันไปมองรอบกาย “วินช้าจัง หายไปไหนแล้วเนี่ย”
“ไปตามกันมั้ย?” เมฆาเสนอ ก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทหายไปนานแล้วจริงๆ
ทั้งสองเดินไปตามทางออกซึ่งต้องผ่านผู้คนจำนวนมากที่นัวเนียกันอย่างไม่อายฟ้าอายดิน เมฆาโอบไหล่ร่างโปร่งไว้แน่น ไม่ยอมให้ใครได้ ‘บังเอิญ’มาชนคนรักได้
“อ๊ะ นั่นไง”
มธุวันชี้ไปยังซอกหนึ่งของผับที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก นาวินทร์ยืนอยู่กับผู้ชายสองคนที่ขนาดตัวพอๆกับร่างสูง แต่ก่อนที่มธุวันจะได้เรียก เด็กหนุ่มเจ้าของรอยสักเต็มตัวก็ดึงหนึ่งในสองคนนั้นเข้ามาซุกไซร้ซอกคอ มืออีกข้างกระตุกคอเสื้อของชายอีกคนเข้ามาใกล้
“อ๋า….”
“ไปกันเถอะ น่าจะอีกนาน” เมฆาเอ่ยปนหัวเราะในลำคอ ยกมือคนปิดตาคนรักไม่ให้เห็นภาพอุจาดตา ดึงมธุวันให้กลับไปรอเจ้าของวันเกิดที่โซฟาเช่นเดิม
ทั้งสองไม่ได้รู้เลยว่า นาวินทร์ที่ดึงร่างสูงของชายแปลกหน้าที่ทำลับๆล่อๆตามเขามาตั้งแต่ร้านสักเข้ามาแนบชิดทันทีที่เห็นมธุวันเมื่อครู่ผละออกจากอีกฝ่าย แล้วจับศีรษะของชายสองคนที่ยังอึ้งค้างอยู่โขกกระอย่างแรกจนลงไปนอนนับดาวกับพื้น ร่างสูงลากคอเสื้อของคนทั้งคู่ให้เข้าไปในมุมอับสายตามากขึ้นแล้วบีบคอของชายคนหนึ่งไว้ ขาข้างหนึ่งเหยียบคอหอยของชายอีกคนอย่างไร้ความปราณี
“ใครส่งพวกแกมา”
“หึ…กูไม่...อุ๊ก!” คนปากดีถูกกระทืบซ้ำอีกรอบจนกระอักเลือด หากมีเวลามากกว่านี้เขาคงจะเค้นเอาข้อมูลออกมาจากพูกลูกกระจ๊อกพวกนี้ด้วยตัวเอง
แต่ตอนนี้ความปลอดภัยของมธุวันต้องมาก่อน
“ทาริน” เด็กหนุ่มติดต่อกับเพื่อนร่วมทีมที่แสตนด์บายรอไม่ห่างมาตั้งแต่พวกเขาอยู่ที่ร้านสัก “มาเก็บพวกมันไปด้วย”
“รับทราบ”
เสียงทุ้มตอบกลับมา นาวินทร์ถอนหายใจ เรื่องการสืบหามือดีที่เล่นงานเมฆายังไม่ไปถึงไหน ก็มีภัยคุกคามมาให้เขากังวลใจเพิ่มอีก
จะรายงานบอสขี้หวงน้องชายของเขาว่ายังไงดีล่ะเนี่ย
“พวกกาวิโน่กำลังส่งคนตามคนของตระกูลเหลียนทุกคนที่อายุใกล้เคียงกับมิคาเอล” เกศราพึมพำขณะไล่อ่านข้อมูลที่เธอแอบลักลอบผ่านไฟล์ข้อมูลที่สายของเธอในตระกูลอัลฟอนโซ่รายงานมา “พวกนั้นคงคิดว่าคุณหนูมิคาเอลอยู่กับเงาของตัวเอง แต่เกศออกมาจากตระกูลก่อนที่เมฆจะเกิด คิดว่าพวกที่ถูกจับได้วันนี้คงตามนาวินทร์ไป...”
“เข้านอนเถอะค่ะคุณผู้หญิง คืนนี้คงไม่ได้อะไรมากไปกว่านี้แล้วล่ะค่ะ” ป้าแต้วเอ่ยกับนายหญิงของบ้านที่ยังคงง่วนอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งที่เลยเวลานอนของตัวเองมานาน เกศราถอนหายใจ นวดขมับที่ปวดตุบของตัวเองด้วยมือที่ซูบผอมทั้งสองข้าง
“เดี๋ยวเกศขอปิดคอมก่อนค่ะ”
ทว่าก่อนที่เกศราจะได้กดปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ หน้าต่างที่เธอไม่ได้เปิดไว้ก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอเสียก่อน
“…!!”
ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง มือที่ซูบผอมไร้เรี่ยวแรงสั่นระริกอย่างห้ามไม่อยู่
บนหน้าจอปรากฏเพียงถ้อยคำสั้นๆ แม้จะดูไม่สลักสำคัญสำหรับคนอื่นที่ได้อ่าน แต่สำหรับเกศรา ตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัวและรูปดอก Bleeding Heart สีแดงสดที่แนบมานั้นทำให้หญิงสาวเย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง
‘Found you, my love.
- I’
เจอคุณแล้ว ที่รักของผมคนที่เคยพร่ำบอกว่ารักเธอจนแทบขาดใจ
ศิษย์ที่เธอถ่ายทอดความรู้ทุกอย่างให้โดยไม่นึกหวงแหน
หนอนบ่อนไส้ที่นำความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดมาสู่ตระกูลอัลฟอนโซ่และตระกูลเหลียน เพียงเพราะเธอไม่อาจรับความรักจากเขาได้
ไอแซค-------
มาเซอร์ไพร์สดึกแบบยาวๆ
อาจจะวาร์ปๆหายๆเช่นนี้แล สอบบบบบบ 55555 สอบใหญ่มากด้วยค่า ฮรืออออ
แต่จะมี เล่นของสูงอายุ ที่จะอัพให้เรื่อยๆเพราะพอจะมีสำรองไว้บ้างนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามเน้ออออออ
น้องแว่นลงที่ตามร้านนายอินทร์ บีทูเอส แล้วนะคะ ใครอยากเก็บน้องแว่นไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเชิญได้เลยนะคะ