ตอนที่ 14
[พาร์ตของศิลา]
บรรยากาศบนรถเงียบโคตร ๆ ...ไอ้หมูมารับผมตั้งแต่เช้า นี่ผมว่าจะโทรบอกไอ้เสาซะหน่อยแต่แม่งปิดเครื่องหายไปไหนตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่รู้ ผมเลยโทรหาไอ้นนท์แทนก็เลยรู้ว่าไอ้เสาไข้ขึ้นครับ...นี่ก็กำลังงงว่าคนอย่างไอ้เสาเนี่ยนะเป็นไข้ ปกติเห็นมันตากฝนก็ไม่เห็นกระหม่อมมันจะบางขนาดนั้น แต่ก็คงไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมันมาก มันมีไอ้นนท์ดูแลอยู่ เหอะ ๆ ...เดี๋ยวผมจะเอาไว้ไปล้อไอ้เสา...โทษฐานชอบล้อผมกับไอ้หมูดีนัก (มีความพาลเพื่อน)
หมูที่ขับรถไปสักพักก็เหลือบมามองผมเป็นระยะ ๆ ก่อนมันจะเปิดปากทำลายความเงียบ
“พี่ศิลา เดี๋ยวเราแวะปั้มกันไหม ซื้อขนมมากิน” ไอ้หมูว่า ผมเลยไม่ได้คัดค้านอะไร มันเป็นเด็กน้อยรึไงครับ ถึงต้องมีขนมมากินตามทาง
ผมกับไอ้หมูมาถึงปั้ม หมูมันก็เช็คลมยางของรถมัน ส่วนผมก็เข้าไปซื้อขนมในเซเว่น ผมออกมาพร้อมกับขนมถุงใหญ่...กูจะซื้อมาเยอะทำไมยังงงตัวเอง ประเด็นคือไม่รู้ว่าไอ้หมูมันชอบอะไรไง...เออ จะว่าไปผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันมากเลยแฮะ...แบบว่าคนรู้จักกันก็ต้องรู้ประวัติหน่อยใช่ไหมล่ะ...
หมูเห็นผมเดินกลับมาก็ยิ้มและช่วยผมถือของขึ้นรถ ไอ้หมูขับรถต่อไปที่บ้านของผมที่อยู่ห่างออกไปสักหน่อย ก็ไม่ถือว่าไกลมากนัก...
“นี่ ไอ้หมูกรอบ” ผมแกะเลย์มาเคี้ยวกินตุ้ย ๆ
“ครับ?”
“บ้านมึงทำกิจการอะไรเหรอ” ผมถาม ไอ้หมูยิ้มกว้างเหมือนดีใจที่ผมถาม ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมผมรู้ หน้าไอ้หมูมันแสดงออกมาทุกอย่างเลยล่ะ...ไอ้เชี่ย กูก็แค่ถามดูไม่ให้บรรยากาศมันเงียบ....
“ดีใจจังที่พี่ถามเรื่องของผม...” ผมเหลือบตามองมันดุ ๆ ไอ้หมูก็หัวเราะ “แม่ของผมอยู่บ้านเป็นแม่บ้านรอผมกับพ่อกลับบ้านครับ พ่อของผมเป็นประธานธนาคาร YOU ครับ” ผมตาโต...เชรด ธนาคาร YOU ที่มีเงินคลังเยอะที่สุดติดอันดับที่สองน่ะเหรอ...ผมเพิ่งรู้ว่าไอ้หมูมันเป็นลูกเจ้าของธนาคารดัง!!
“พี่ศิลาครับ ขนมจะหลุดจากมือแล้ว” ก็กำลังอึ้งอยู่...ผมหยิบมากินต่อ
“สมแล้วล่ะ ดูจากหน้ามึงแล้ว น่าจะมาจากตระกูลดัง...” ผมว่า หมูยิ้ม
“ครับ ที่ดังน่ะ มันเป็นของที่พ่อผมสร้างไว้...ถ้าพูดถึงตัวของผมตอนนี้ ก็ยังเป็นผู้ชายธรรมดาอยู่เลย” ไอ้ถ่อมตัว... แต่ก็ยอมรับแหละครับว่า ไอ้หมูมันก็มีคุณสมบัติดีอยู่ในตัวหลายอย่าง ถึงแม้ผมจะเพิ่งรู้จักกับมันไม่นาน...ทั้งหน้าตาดี โปรไฟล์โอเค ฉลาด นิสัยก็ดี แถมบ้านรวยอีก จนมันคว้าตำแหน่งเดือนมหาลัยมายังไงล่ะ...
“มึงบอกว่าแอบมองกูใช่ไหม แสดงว่ามึงก็คงรู้ว่าครอบครัวกูทำอะไร” ผมถาม ไอ้หมูก็เลยเหลือบมามองผมยิ้ม ๆ ...ยิ้มบ่อยไปไหมวะ หุบบ้างก็ได้หน้าจะบานหมดแล้วไอ้หมูกรอบ!
“รู้ครับ ครอบครัวพี่ศิลาขายพวกของตกแต่งบ้านรายใหญ่ แถมส่งออกต่างประเทศด้วย พี่ศิลามีพี่ชายสองคน พี่ศิลาเป็นน้องชายคนเล็ก และเป็นหมวยเล็กประจำบ้าน” ไอ้หมูอธิบายละเอียดยิบ เชี่ย ผมว่ามันรู้ดีกว่าผมรู้ตัวเองอีกอ่ะ... รู้เยอะมาก
“มึงรู้เยอะเนอะ” ผมว่า ก่อนจะได้ยินเสียงเบา ๆ จนผมไม่ได้ยิน ไอ้หมูที่เหมือนหลุดปากพูดออกมา
“ก็ถามเฮียใหญ่มา...”
“มึงว่าอะไรนะ?” ผมหันขวับไปหามันที่ทำท่าสะดุ้งเล็กน้อย
“อ๋อ...เออ ก็ผมแอบมองพี่ศิลามาหลายปีไงครับ ก็เลยรู้เยอะ....” มันยิ้มแห้ง ๆ ให้ผม
“ทำตัวเป็นโรคจิตดีนะมึงเนี่ย...” ผมพูดแค่นั้น ไอ้หมูก็ได้แต่ยิ้มแบบภูมิใจ...เออ คือ มึงยอมรับใช่ไหมว่ามึงเป็นโรคจิต...
ผมกับไอ้หมูไม่ได้พูดอะไรกันมากจนพวกเรามาถึงบ้านของผมนี่แหละครับ ถือว่าไอ้หมูมันขับรถเร็วพอสมควร ผมมาถึงบ้านประมาณบ่ายโมง ไอ้หมูจอดรถหน้าบ้านของผม พวกเราลงไปจากรถ ไอ้หมูเปิดหลังรถของมันจะหยิบกระเป๋าของผม ผมเลยคว้าไว้
“เดี๋ยวผมถือให้พี่ศิลาเอง..” ไอ้เชี่ยกูไม่ใช่ผู้หญิง ผมแย่งเป้มาหิ้วไว้เอง
“ไม่ต้อง กูถือเองได้” ไอ้หมูทำท่าจะไม่ยอม นี่จะมายืนเถียงกันหน้าบ้านทำไมวะ....ก่อนเสียงเข้มจะเรียกความสนใจของผมกับไอ้หมู
“เฮ้ย หมวยเล็กของเฮียยย....กลับมาละเหรอ ใครมาส่ง...ไอ้” ผมหันไปมองเฮียใหญ่ที่เดินออกมาแล้วชี้หน้าไอ้หมูอึ้ง ๆ ส่วนไอ้คนที่ยืนข้างผมก็ส่ายหน้ารัว...มึงจะส่ายหน้าทำไมไอ้หมู?
“ออ เออ ไอ้...ไอ้นี่ใครหมวยเล็ก เฮียรึว่าเสาจะมาส่งซะอีก” เฮียใหญ่ทำหน้าเข้มถาม ปกติเวลาผมกลับบ้านถ้าป๊าไม่ไปรับเอง ไอ้เสาก็จะมาส่งครับ
“อ๋อ ไอ้นี่รุ่นน้องผมอ่ะเฮียใหญ่ ส่วนไอ้เสามันไม่สบายเลยไม่ได้มาส่ง ป๊ากับม๊าล่ะ...” ผมถาม เฮียใหญ่ก็เข้ามาหิ้วเป้ช่วยผม...นั่นไงครับ ชอบคิดว่าผมแบกไม่ได้ ไอ้หมูยกมือไหว้เฮียของผม
“เฮียใหญ่หมวยเล็กถือเองได้” ผมปฏิเสธเฮียเหมือนตอนไอ้หมูจะมาขอช่วยถือ แต่เฮียใหญ่ของผมเด็ดขาดแย่งกระเป๋าจากผมไปถือไว้เฉยเลย
“ไม่ได้ เอามาเลยหมวยเล็กเข้าบ้านไปหาป๊าไป...มึงก็เดินตามเข้าไปละกัน” ผมมองไอ้หมูที่ทำหน้าเหงื่อตกนิดหน่อย เป็นอะไรของมันอีก ร้อนเหรอ? ผมพยักหน้าให้เฮียใหญ่และลากไอ้หมูที่ยืนเกร็งอยู่ต่อหน้าเฮียของผมเข้าไปในบ้าน
“เวลาพี่ศิลาเรียกตัวเองว่า หมวยเล็กน่ารักจังครับ...” ไอ้หมูกระซิบทำให้ผมชะงัก...เออว่ะ ลืมตัว ปกติผมก็เรียกแทนตัวเองว่า หมวยเล็กแหละครับ เรียกตามที่คนในบ้านเรียกประจำ
“อย่าพูดมาก” ผมดุ เดินก้าวเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ก็ได้ยินเสียงของม๊าที่ดังลอดออกมาจากห้องรับแขก
“ป๊า ขนปืนออกมาทำไมเยอะแยะ” ไอ้หมูที่เดินตามผมมาสะดุ้งด้วยแหละ (?)
“ก็แค่เอามาเช็ดไงม๊า...โอ๊ะ หมวยเล็กของป๊า!!” ผมที่อยู่หน้าประตูห้องรับแขกยิ้มรับ ป๊า..ผู้ชายหน้าคมผมยังดำสนิท คิ้วเข้มมองผมด้วยความดีใจและวิ่งเข้ามากอดผมไว้อย่างทนุถนอม
“มาแล้วเหรอ แล้วนี่เหนื่อยไหม ? เมารถไหม หมวยเล็ก...เอ๊ะ มากับใคร?” ป๊าของผมพูดเสียงนุ่มกับผมก่อนจะหันไปทำเสียงเรียบใส่ไอ้หมูที่ยืนอยู่ข้างผม มันยกมือไหว้ป๊ากับม๊าที่มองตาปริบ ๆ อย่างสงสัย
“นี่รุ่นน้องน่ะครับ มันมาส่งผม” ผมบอก ป๊าของผมยังคงจ้อง...ผมเกือบหลุดขำไอ้หมูที่ดูเหงื่อตก
“ผม หมู ครับ...เป็นรุ่นน้องของพี่ศิลา” มันแนะนำตัว
“หมวยเล็กมีรุ่นน้องหล่อขนาดนี้เลยเหรอคะเนี่ย” ม๊าของผมพูดอย่างตื่นเต้น
“ป๊าไม่เห็นว่ามันจะหล่อตรงไหน” จึก...ฮ่า! ป๊าของผมพูดถูกใจจัง...ไอ้นี่เดือนมหาลัยเชียวนะป๊า ผมเหลือบมองหมูที่ยิ้มพิมพ์ใจตามสไตล์ของมัน ไอ้นี่ไม่ว่าอะไรมันก็จะยิ้มเสมอ....
“อะไรกันป๊า เห็นไหม อุ๊ย...ยิ้มด้วย แถมมาส่งหมวยเล็กให้เราด้วย น่ารักจังจ๊ะ ขอบคุณมากนะ” ม๊าของผมยิ้ม ส่วนป๊าของผมจ้องไอ้หมูนิ่ง...
และหันมามองผม
“หมวยเล็กขึ้นไปบนห้องนอนก่อนไป ไปพักผ่อน” ป๊าบอกก่อนจะพูดกับไอ้หมู “ส่วนไอ้หมูนี่เดี๋ยวป๊าจะไปหาห้องรับแขกให้มันอยู่”
“อ้าว ป๊าทำไมไม่ให้หมูนอนกับหมวยเล็กล่ะ” ม๊าของผมขัดขึ้น ก่อนผมกับป๊าจะพูดพร้อมกัน
“ไม่ได้!!” ป๊าของผมเสียงเข้มเด็ดขาด
“แยกห้องแหละดีแล้วม๊า” ผมก็แอบสะดุ้ง...ส่วนไอ้หมูที่ยืนอยู่ก็ยิ้มแห้ง
“ผมนอนที่ไหนก็ได้ครับ....” ไปนอนที่โรงจอดรถดีไหมล่ะ...ผมประชดเฉย ๆ ฮ่า!
ผมกับไอ้หมูเดินเข้ามาภายในห้องนอนของผม เนื่องจากม๊าบอกให้มันเข้ามารอในห้องของผมก่อน ระหว่างที่หาห้องรับแขกให้ไอ้หมูนอน หมูมองไปรอบห้องของผมอย่างสนใจ...กูคิดถูกหรือคิดผิดที่ให้มันตามเข้ามา....
“ห้องพี่ศิลาเรียบร้อยจัง...” แน่นอนก็ผมเป็นคนเรียบร้อย โฮะ ๆ ผมมองมันที่มองเหมือนสนใจมาก....ไอ้นี่ อย่ามาทำหน้าโรคจิตให้ป๊ากูเห็นนะเว้ย...
“เฮ้อ...” ผมหันไปมองมันที่ถอนหายใจ
“ถอนหายใจทำไม”
“ดูเหมือนป๊าพี่ศิลาจะหวงหมวยเล็กของบ้านมากเลยนะครับ...ผมจะเข้ากับป๊าพี่ได้ไหม อุตส่าห์ได้มาบ้านพี่ทั้งที...” ผมชะงักกึกกับแววตาของมันที่มองผมอย่างมีความหมาย...เชี่ย อย่ามามองกูแบบนี้!
ไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด...มองไปเหอะ (เหรอครับไอ้ศิลา)
“ป๊ากูก็ไม่ได้ดูใจร้ายกับมึงนี่” ผมว่าพลางนั่งลงตรงเตียงนอน ส่วนไอ้หมูมันก็นั่งลงที่พื้น...เออ สำรวมดีเนอะ รู้ว่าควรนั่งตรงไหนด้วย ฮ่า ๆ...
“ไม่ใจร้าย...แต่ก็พร้อมจะไล่ผม ถ้ารู้ว่าผม...จะมาสู่ขอพี่ศิลาไง” ผมหันขวับไปมองมันที่เงยหน้าคุยกับผม รอยยิ้มมุมปากกวนของมัน ขัดหูขัดตาของผมมาก...ยิ่งคำพูดของมันด้วย!
“สู่ขอเชี่ยไรของมึง” พล่ามเรื่องไร้สาระอีกแล้ว จีบกูยังไม่ทันจะติด ยังมีหน้าจะมาสู่ขอ...อ้าว แล้วกูจะมาคิดเรื่องสู่ขอกับมันทำไมวะ....ศิลาครับ สติอยู่ไหน
“ผมว่าถ้าพูดกับป๊าพี่ ป๊าคงบอกว่าก้าว” ผมที่ได้ยินก็เลิกคิ้ว เก้า...? เก้าล้านบาทค่าสินสอด โฮะ ๆ ค่าตัวแพงดี (เดี๋ยว ๆ กูจะไปตีค่าตัวของตัวเองทำไมวะ)
“ก้าวเข้ามาบ้านพี่อีก โดนยิง” ...แป๊ก ๆ มุขที่ถูกยิงออกมาสมควรที่จะโดนปืนของป๊าผมยิ่งมาก ! ไอ้เชี่ยหมูกรอบ...เดือนติ๊งต๊อง
“เลิกพูดเรื่องนี้เหอะ เดี๋ยวมึงก็ได้โดนยิงจริง ๆ ไอ้เชี่ยหมู” ผมว่า จริง ๆ ก็กลัวคนจะมาได้ยินและคนที่จะโดนยำเละไม่ใช่ผม....แต่เป็นไอ้หมูกรอบต่างหาก ก็บ้านผมมีทั้งป๊า เฮียใหญ่ เฮียกลาง ผู้หวงน้องชายยิ่งกว่าอะไรดี
หมูหัวเราะออกมาเหมือนชอบใจ พวกผมนั่งเล่นอยู่ในห้องสักพักม๊าก็มาตามพวกผมลงไปทานข้าวด้วยกัน ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งป๊า...ม๊า เฮียใหญ่ เฮียกลาง ผม...และที่เพิ่มมาคือ ไอ้หมูกรอบ
คนที่ดูจะเกร็งที่สุดก็คงหนีไม่พ้นคนที่ไม่ใช่ครอบครัวของผม ไอ้หมูกรอบมันได้นั่งข้างเฮียกลางครับ มันนั่งอยู่ตรงข้ามผม หมูยิ้มให้ผมที่นั่งตรงข้ามมัน ก่อนไอ้หมูจะหยุดมองเมื่อเฮียใหญ่ที่นั่งข้างผมเอามือมาโอบไหล่ผมเข้าไปซบไหล่เฮียแกเหมือนตอนเด็กที่เฮียชอบทำ
“คิดถึงหมวยเล็กชะมัดเลยว่ะ เป็นไงบ้างที่มหาลัย?”
“ใหญ่อย่ากวนน้อง” ป๊าห้ามปราม “หมวยเล็กทานเยอะ ๆ นะลูก” ป๊าบอกต่อพลางเลื่อนจานอาหารที่แสนน่าอร่อยมาให้ผม
“โหย ก็คิดถึงไอ้หมวยเล็กนี่....” เฮียใหญ่บ่น “มึงก็กินเยอะ ๆ ล่ะไอ้หมู ทำตัวตามสบาย....” เฮียใหญ่บอกแต่น้ำเสียงเฮียแบบว่า ไม่ได้สอดคล้องกับคำว่าทำตัวตามสบายสักนิด ผมเหลือบมองไอ้หมูที่ยิ้มให้ผมเล็ก ๆ ...แอบสงสารมันว่ะ พามันมาให้ลำบากใจรึเปล่านะ...
ระหว่างที่ทุกคนกำลังทานอาหารกันอยู่ คนที่เงียบที่สุดดูจะเป็นไอ้หมูที่ตักข้าวทานอย่างเงียบ ๆ ป๊าที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ (ใหญ่ที่สุดในบ้าน) ถามขึ้นทำให้คนทั้งโต๊ะสนใจไปที่คนที่ถูกถาม
“ว่าแต่ ไอ้หมู นายเป็นลูกเต้าเหล่าใครกัน มาจากไหนรู้จักหมวยเล็กได้ยังไง” ...เชี่ย ป๊าถามรัวมาก
“ผมเป็นลูกชายของประธานธนาคาร YOU ครับ...รู้จักตอนอยู่ที่คณะครับ” ผมมองมันตอบเหมือนประมวลความคิดหนักมาก...เพราะถ้าพลาด โต๊ะอาหารนี้อาจกลายเป็นโต๊ะสงครามได้
...ผมจะมานั่งลุ้นกับไอ้หมูทำไมกันล่ะเนี่ย...
“อยู่คณะวิศวะเหมือนหมวยเล็กเหรอ?” ป๊าถามต่อ ไอ้หมูที่ไม่ได้คิดอะไรก็ตอบทันที
“เปล่าครับ ผมเรียนคณะแพทย์...”
“แล้วมาเจอหมวยเล็กที่คณะได้ยังไง...” เชรด...ป๊าถามกลับอย่างรวดเร็ว ไอ้หมูก็ชะงักกึกไป เออ มึงอยู่คณะแพทย์แล้วมาเจอกูได้ยังไง....ผมรับรู้ว่ามันกำลังเริ่มเหงื่อตก
ผมเลยพูดขึ้นแก้สถานการณ์นี้
“ป๊า! ของหวานอันนั้น...ผมอยากกิน” ผมชี้ของหวานที่อยู่ข้างป๊าทำให้ป๊าเลิกสนใจไอ้หมูและหันมาหาผมแทน
“โอ๊ะ ม๊าหมวยเล็กทำนั่นแหละ ทานไหม ป๊าตักให้”
“ครับ ตักมาเยอะ ๆ นะ” ผมเหลือบมองไอ้หมูที่ยิ้มให้ผมเหมือนขอบคุณที่ช่วยมันให้รอดพ้นจากการซักถามของป๊าไปได้....และบทสนทนาสอบถามไอ้หมูก็จบลงเท่านั้น
ผมกำลังจะเดินขึ้นห้องก็มองหาไอ้หมูที่หายไปไหนก็ไม่รู้ ห้องนอนมันเต็มหมดแล้วล่ะครับ ไอ้หมูก็เลยได้นอนที่โซฟาหน้าห้องของผม ผมเลยว่าจะให้มันไปเอาผ้าห่มในตู้ของผมมาห่ม และผมก็เจอไอ้หมูที่ยืนคุยกับเฮียใหญ่อยู่ ? ผมเดินเข้าไปใกล้ได้ยินอะไรไม่ชัดสักนิดเพราะทั้งสองคนหันมาหาผมที่เดินเข้าไปใกล้ซะก่อน
“ไอ้หมูกูว่ามึงรนมาหากระสุนปืนของป๊าเร็วไปมะ....” พูดไรวะ ผมไม่ได้ยิน “อ้าว! หมวยเล็ก....” เฮียใหญ่หยุดพูดกับไอ้หมูหันมาหาผมแทน
“ไอ้หมูกูหามึงตั้งนาน คุยอะไรกันอยู่เฮีย”
“เปล๊า...พอดีกูก็ถาม ๆ ไอ้รุ่นน้องของหมวยเล็กเฉย ๆ ว่าตอนขับรถมามันติดไหม” เฮียใหญ่แถออกมา ผมเลยเลิกคิ้ว
“เหรอครับ ? ....” เฮียใหญ่พยักหน้าก่อนจะขอตัวไปนอน ผมมองไอ้หมูที่กำลังยิ้มมุมปาก
“ตามหาผมเหรอ”
“เออ จะให้ไปเอาผ้าห่มที่ห้อง” ผมเดินนำมันไป ไอ้หมูก็เดินตามมาติด ๆ
“คิดว่าจะชวนนอนด้วยกันที่ห้องซะอีก” มันพูดทีเล่นทีจริง
“เตียงมันเล็กไหมล่ะ จะนอนยังไง” ผมตอบอย่างไม่ได้คิดอะไรแต่ประโยคที่ไอ้หมูตอบมา ทำให้ผมเริ่มคิด
“แสดงว่าถ้าเตียงใหญ่...นอนด้วยได้เหรอ” เสียงเข้มที่ดังใกล้หูทำให้ผมมองหมูตาขวาง มันเลยหัวเราะและถอยออกไปห่างจากตัวผม ไอ้นี่...แม่ง ยังมีหน้ามาเล่นหูเล่นตากับผม เดี๋ยวก็เจอป๊าไล่ออกจากบ้าน....
“เอาไปเลยมึงอ่ะ!” ผมโยนผ้าห่มให้มันพร้อมกับดันหลังมันให้ออกไปจากห้องนอนของผม ไอ้หมูทำท่าอิดออดแต่ก็ยอมออกไปจากห้องของผมแต่โดยดี ผมคว้าผ้าเช็ดตัวของตัวเองและเข้าไปในห้องน้ำพลางคิดว่า...ทำไมผมถึงพาไอ้หมูมาบ้านนะ ทั้ง ๆ ที่ผมให้ป๊ามารับก็ได้ แต่กลับเลือกที่จะให้หมูมาส่ง นี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่....อยากให้มันรู้จักครอบครัวของผมงั้นเหรอ...เชี่ยยย... กูไม่ได้คิดแบบนั้น ผมสะบัดหน้าของตัวเองก่อนจะรีบอาบน้ำ
ใช้เวลาไม่นานมากนัก ผมก็อาบเสร็จและมานั่งตัวหอมฉุยอยู่บนเตียง ผมอยู่ในเสื้อยืดสีเทาที่ตัวใหญ่กว่าผมหน่อยเลยทำให้ผมดูตัวเล็กลงไปเลย กับกางเกงขาสั้นตัวโปรด ผมเอาแว่นมาใส่วงกลมที่วางอยู่หัวเตียงมาใส่แล้วเปิดโน๊ตบุ้คหาดูหนังเล่น
ก๊อก ๆ
“พี่ศิลา...หลับรึยังครับ?” เสียงเคาะประตูตามมาด้วยเสียงไอ้หมูทำให้ผมขมวดคิ้ว มันจะมาเคาะทำไม ผมก้าวลงจากเตียงแล้วไปเปิดประตู ไอ้หมูมองอึ้ง...มันดูอึ้งมาก ผมที่อยู่ในสภาพเสื้อตัวใหญ่กว่าตัวจนบังกางเกงขาสั้น กับแว่นกลมที่เข้ากับหน้าพอดีเป๊ะ...อาหมวยเล็กดี ๆ นี่เอง เชี่ย...กูจะบรรยายตัวเองให้ดูแบ๊วทำไม
“โคตรน่ารัก...” หมูพึมพำแต่ผมก็ได้ยิน ผมจะปิดประตูใส่มัน ไอ้หมูรีบเอาแขนมากั้นไว้ ไอ้นี่ เดี๋ยวประตูก็หนีบแขนหรอก
“อะไรของมึง เคาะประตูทำไม”
“อยากคุยด้วย ผมนอนไม่หลับอ่ะ...” มันทำตาปริบ ๆ นอนไม่หลับแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมไม่ทราบ! “นะ นะ ขอเข้าไปนั่งคุยกับพี่ศิลาแป๊ปเดียว”
“กูไม่อยากคุยไง จะนอน”
“พี่ศิลา....” มันอ้อน ไอ้เชี่ยหมู!....กูไม่ใจอ่อนหรอกนะกับไอ้ลูกอ้อนของมึงงงง....
“ผมนอนไม่หลับจริง ๆ นะ เครียดเรื่องพี่ด้วย” ไอ้หมูทำหน้าเครียดจริง...เครียดเชี่ยไรของมันนักหนา....สุดท้ายผมก็ยอมเปิดประตูให้มันเข้ามาจนได้ ผมเดินหันหลังเดินเข้ามาในห้อง
“มึงนี่มันวุ่นวายชิบ จะเครียดเรื่อง...เชี่ยหมู!!” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ ๆ ไอ้หมูกอดผมจากด้านหลัง คืออะไรของมันนนนนน....กอดกูทำไมมมมมมมมม.....
“อย่าเพิ่งเสียงดังสิ ขอกอดกำลังใจนิดเดียว” ไอ้เชี่ยยยย...ผมจะดิ้นแต่แรงไอ้นี่ไม่รู้ไปเอามาจากไหนเยอะ (หรือจริง ๆ แรงของผมน้อย)
“เพิ่งเคยเห็นพี่ศิลาตอนอาบน้ำเสร็จ แถมยังใส่แว่นน่ารัก ๆ แบบนี้อีก...สมแล้วที่เป็นหมวยเล็ก”
“ไอ้เชี่ยหมูปล่อยกู เลิกเล่นได้แล้ว” ผมแกะมือมันออกแต่กลับถูกหันไปเผชิญหน้ากับไอ้หมูแทน
เหี้ย...ตกใจนะเว้ย ใบหน้าหล่อคมที่อยู่ใกล้ผมทำให้ผมหน้าร้อนวูบวาบ... วูบวาบอะไรของมึงครับศิลา!!
“ถามจริง ๆ นะครับ ตอบจริง ๆ ด้วย” เกลียดการถามคำถามแบบจริงจังชะมัด
“ถามอะไร แล้วก็ช่วยปล่อยมือจากเอวกูด้วย” ผมพูดเสียงเข้ม...แต่แม่งไม่เข้มสักนิด หมูไม่คลายมือของมันออกแถมเลื่อนมาโอบเอวของไว้ด้วย...ไอ้เชี่ย...ปล่อยโว้ย ผมไม่กล้าตะโกนเพราะเดี๋ยวป๊ากับม๊าตื่นมากันพอดี
“ไม่ครับ ไม่ปล่อย...” ไอ้หน้าด้าน...แล้วทำไมผมต้องยื่นอยู่นิ่ง ๆ ในอ้อมกอดของไอ้หมูกรอบด้วย ก็เพราะว่า...ถ้าผมขยับนิดเดียวแก้มของผมจะโดนปากของไอ้หมูทันที....เชี่ยมาก
“รีบพูด” ผมเร่ง แววตาคมเข้มจ้องหน้าผมใกล้มากกกก....ผมที่ใส่แว่นก็เห็นหน้ามันชัดมากกก
“เมื่อไหร่พี่ศิลาจะยอมคบกับผมสักที...” อ้าว...ไอ้นี่ มาถามอะไรตอนนี้วะ ถามผิดเวลาผิดที่มาก!
“...............”
“ผมรอได้นะ แต่บางทีผมก็อยากเรียกพี่ชัด ๆ ว่าแฟนบ้าง...อยากมีโมเมนต์ที่บอกว่า พี่ศิลาเป็นแฟนของผมไรงี้” เสียงทุ้มที่ดังใกล้หู...ทำให้ผมแทบจะเป็นบ้า มาพูดกรอกหูกูทำไมวะ!...คำว่าพี่ศิลาเป็นแฟนของผมของไอ้หมูเหมือนวนดังซ้ำในหูของผม ผมแม่ง...ใกล้บ้าเต็มทน (หรือจริง ๆ บ้าอยู่แล้ว)
“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ” ผมเลี่ยง ๆ จะตอบ...
ก็ผมยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้นี่...รู้ว่าไอ้หมูมันจีบแต่ก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่อง ‘ตกลงคบ’ ผมก็เหวอเหมือนกันนะ จู่ ๆ ผู้ชายด้วยกันมาพูดแบบนี้!
“แล้วเมื่อนั้น ตอนไหนล่ะ” ไอ้หมูมันจงใจจะกวนตีนผมใช่ไหม มันยกยิ้มพร้อมกับมือหนาที่กอดเอวของผมแน่นขึ้น บรรยากาศทะแม่ง ๆ ชิบ....
“ตอนนั้นแหละ อย่าถามมากได้ไหมวะ!” ผมดันมันออกนิด ๆ อย่างเว้นระยะห่าง ไอ้หมูยิ้ม
“ไม่กวนก็ได้...แต่บอกไว้เลยนะว่าผมจะรุกหนักกว่าเดิม ผมจะทำให้พี่ดิ้นไม่หลุดเลยล่ะ” มันประกาศขึ้นด้วยความมั่นใจ ไม่ทราบว่ามึงไปขนความมั่นใจมาจากไหนนนน....และระหว่างที่ไอ้หมูเอามือกอดเอวผมไว้ยังกับปลาหมึก
ก็มีเสียงเหมือนเสียงขู่ดังขึ้นด้านหลัง...ผมซึ่งตัวเตี้ยกว่าไอ้หมูก็เลยไม่เห็นอะไรข้างหลังมัน
“พี่ศิลา บ้านพี่เลี้ยงหมาน้อยด้วยเหรอ?” ผมเลิกคิ้ว หมาน้อยไรของมัน...
“ทำไมผมได้ยินเหมือนเสียงอะไรขู่ข้างหลังผมล่ะ” พอไอ้หมูพูดจบเท่านั้นแหละ มันก็รีบปล่อยมือออกจากเอวของผมโดยอัตโนมัติเมื่อเสียงเข้มดังขึ้นด้านหลัง
“บ้านหมวยเล็กไม่ได้เลี้ยงหมา เสียงขู่เมื่อกี้เสียงป๊าเอง....” ไอ้เชี่ยยย....คนที่ยืนเท้าเอวอยู่ด้านหลังไอ้หมูคือ ป๊าของผมเอง...เฮือก...ไอ้หมูทำหน้าอึ้ง จะสงสารก็สงสารจะขำก็จะขำ...โอ๊ย
“แล้วนี่กอดเอวหมวยเล็กไว้ทำไม!!” และป๊าก็พูดในสิ่งที่ทำให้ผมตาโต เหี้ยแล้ว...ป๊าเห็น
ไอ้หมูหน้าซีดไปเรียบร้อยหลักฐานชัดเจนแบบว่า เถียงไม่ได้
“หมวยเล็กเข้านอนได้แล้ว ส่วนไอ้หมูตามป๊าไปที่โรงงานข้างล่าง” ป๊าใช้นิ้วชี้ไปที่ไอ้หมูกรอบ
“ป๊าจะให้ไอ้หมูไปทำไม...ผมไปด้วย” ผมรีบถามด้วยความ(แอบห่วงนิดหน่อย)...จริง ๆ ด้วยความอยากเผือก
เฮียใหญ่ที่เดินมาแบบไม่ได้รับเชิญก็เลิกคิ้วขึ้น ยังไม่ทันที่เฮียใหญ่จะพูดอะไร ป๊าก็หันไปสั่ง
“มาก็ดีไอ้ใหญ่ คืนนี้นอนกับหมวยเล็กในห้องนี้ละกัน...”
“อ้าว จะให้ผมมานอนเป็นเพื่อนหมวยเล็กทำไมอ่ะป๊า?”
“มีคนมากระตุกหนวดเสือ สงสัยต้องทำให้มันหลาบจำซะหน่อย...” ป๊ามองไปที่ไอ้หมูที่เหลือบมองผมยิ้ม ๆ มึงยังมีหน้ามายิ้มอีกเหรอไอ้ฟายยยย....ส่วนเฮียใหญ่ก็ทำตาโตนิด ๆ ผมรู้สึกไปเองรึเปล่าว่าไอ้หมูกับเฮียใหญ่เหมือนจะรู้จักกัน...
ป๊าเดินนำหน้าออกไป ผมมองไอ้หมูที่กำลังจะเดินตาม มันหันมามองหน้าผมแวบหนึ่ง
“ผมจะรีบกลับมาหาพี่ศิลานะ” ไอ้เชี่ย...เฮียใหญ่ก็อยู่ด้วยนะเว้ย แต่เฮียผมไม่ยักจะทำหน้าแปลกใจ
“เออ รีบกลับมา” เอาชีวิตให้รอดกลับมาด้วยนะมึง...หมูกรอบจะกลายเป็นหมูย่างไหมวะ...คำตอบของผมเรียกรอยยิ้มดีใจมากเหมือนมันได้กำลังใจ...กูก็พูดไปงั้น...
ผมมองมันที่เดินออกไปแล้ว จะเป็นไรไหมวะ อยากตามไปดูจัง ผมจะเดินตามแต่ก็โดนเฮียใหญ่ขวางไว้...เฮียแม่งก็ตัวใหญ่กว่าผมจนผมไม่กล้าต่อกร
“ให้มันผ่านด่านของป๊าให้ได้ด้วยตัวของมันเอง ด่านที่สำคัญที่สุด” คำพูดของเฮียทำให้ผมตาโตอีกครั้ง
“เฮียรู้เหรอ”
“รู้สิ ไอ้รุ่นน้องของมึงดูออกง่ายจะตายไป” ก็พูดถูกครับ การกระทำของไอ้หมูดูง่ายมาก...เชี่ย งั้นป๊าก็น่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วสิ...เอาล่ะครับ ผมเริ่มกังวลเรื่องไอ้เชี่ยหมูนั่นขึ้นมาซะละ มันจะรอดความกดดันออกมาได้ไหม...นี่ผมกำลังห่วงมันอยู่เหรอ เปล่าซะหน่อย...ไม่ได้ห่วง
“เฮียว่าไอ้หมูมันจะรอดไหม” ผมถามเสียงอึกอัก...ทำไมรู้สึกห่วงมันจังวะ หาเรื่องให้ตัวเองแท้ ๆ เลยไอ้เชี่ยหมูเข้ามาในห้องกูทำไม!
“ไม่รู้สิ...ว่าแต่พรุ่งนี้หาซื้อหมูย่างมากินน่าจะอร่อยดีนะ” เฮียใหญ่พูดขึ้นกวน ๆ ผมเลยขมวดคิ้ว
“เฮียใหญ่!! ผมไม่กินหมูย่าง!!” โอ๊ย...มึงต้องกลับมาสภาพเป็นไอ้หมูกรอบเหมือนเดิมนะเว้ย...
แต่จริง ๆ ป๊าของผมไม่โหดหรอกครับ อย่ากลัวเลย....
..............................++++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจจากคนอ่านนะคะ
น้องหมูยังคงต้องสตรองต่อไปค่ะ 55555 ไหน ๆ ก็เข้ามาหาพ่อตาเเล้ว ก็ลุยขอพี่ศิลาไปเลยย 5555555