พิมพ์หน้านี้ - พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: vampire_rose ที่ 11-04-2017 17:06:54

หัวข้อ: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 11-04-2017 17:06:54
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ


ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432


รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0


...

สวัสดีค่าาา ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในอ้อมกอดของทุกคนด้วยน๊า ^^

เกริ่นนำ


เคยเห็นแต่พวก’หมอ’ มาตามจีบ ‘วิศวะ’ ออกจะบ่อย

เห็น ‘วิศวะ’ ไปตามจีบ ‘หมอ’ ออกจะบ่อย

ฮิตไรนักหนา..

แต่ก็ไม่คิดว่าวันนี้จะได้มาเจอกับตัว จู่ ๆ ไอ้ว่าที่หมอปี 1 หน้าตาหล่อ ดูสะอาดเหมือนไม่มีผิดภัย

แต่ที่ไหนได้...อันตรายกว่าวิศวะอีก!!

และมันจะมายุ่งอะไรกับชีวิตผมก็ไม่รู้

แถมมันยังรู้ชื่อเล่นที่ผมไม่เคยบอกใครอีก!!!!!

“มันเป็นใคร ทำไมรู้เรื่องผม!!”

หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ (เกริ่นตัวละคร)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 11-04-2017 17:10:21
“หมู”

คณะแพทย์ศาสตร์ ปี 1

สูง 188 ผิวไม่ขาวไม่ดำ ผมดำสนิท แววตาคมเข้ม
ยิ้มเก่ง อัธยาศัยดี อัจฉริยะ


“ศิลา”

หรืออีกชื่อที่ครอบครัวเรียก “หมวยเล็ก”
คณะวิศวะ ปี 2

ผู้ชายสูง ผิวขาว หุ่นบาง หน้าสวย
อะไรก็ได้ง่าย ๆ เป็นคนชิว ๆ ไม่ถือตัว
พยายามทำตัวให้เถื่อนมากเข้าไว้



“โทษนะครับ แถวนี้มีคนชื่อพี่...หมวยเล็ก ไหม”


นั่นคือประโยคแรกที่มันเดินก้าวดุ่ม ๆ เข้ามาคณะของผม
และใครจะรู้ว่าแค่ประโยคเดียว มันคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง
ที่ทำให้ผมผูกพันกับมันตลอดกาล....
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 1|
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 11-04-2017 17:19:43
ตอนที่ 1



          มหาวิทยาลัย YY



            [ P: ศิลา ]



            ...วิศวะขึ้นชื่อว่าเป็นคณะที่โหด! หลายคนบอกมาแบบนั้นแหละ นั่นแหละที่ผมชอบเพราะมันเถื่อนดี! แต่กว่าผมจะได้มายืนอยู่ในคณะนี้ในฐานะพี่ปี 2 ก็ยากลำบากเหมือกันกว่าจะขอป๊ามาเรียนที่นี่ได้



            ซึ่งผมเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเรียนรอดมาถึงปี 2 ...แต่ก็รอดมาแล้วล่ะวะ



            ผมไม่ชอบเวลาคนอื่นมองว่าผมดูอ่อนแอ! ด้วยความที่เป็นคนสูง ผิวขาว หุ่นบาง สูง 174



            แล้วก็เออ...หน้าสวย พวกมันพากันตั้งฉายาผมมาแบบนั้น แทบจะเป็นดาวของคณะวิศวะไปแล้ว แต่ผมไล่กระโดดเตะปากไอ้ที่มันพล่ามว่าผมสวยเกือบหมด มันเลยพากันขยาดและไม่ล้อผมอีก ล้อเล่นน่าครับ ไม่ได้ทำอะไรโหดขนาดนั้นนน...แค่ด่าพวกมันเกือบหูชาก็เท่านั้น


            ชีวิตของผมควรจะปกติสุขดีครับ...หมายถึงแค่ตอนนี้น่ะนะโดยที่ผมไม่รู้เลยว่า ชีวิตของผมมันกำลังจะเปลี่ยนไป...เพราะไอ้เด็กบ้าคนหนึ่ง

           


            วันนี้เป็นวันที่เริ่มเปิดมหาวิทยาลัยพวกเด็กปีหนึ่งพากันทยอยเข้ามาทำกิจกรรมตามที่แต่ละคณะจะจัดสรรเวลา มันก็จะมีไอ้พวกที่ชอบมาส่องเด็กใหม่ส่งเสียงวี้ดวิ้วตามประสา พวกมันจะคิดไหมว่าน้อง ๆ จะกลัว ไปส่งสายตาใส่ขนาดนั้น


            “ไอ้ศิลา ไปห้องน้ำนานชิบ” เสียงของไอ้เสาเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมของผมดังขึ้น ฟังไม่ผิดหรอกครับ มันชื่อเสา ไอ้นี่มันสูงมากยังกับเสาไฟฟ้า แถมสูงหล่อเข้ม มีตำแหน่งเป็นรองเดือนปีก่อนด้วย แต่มันไม่โสด มีแฟนแล้ว แถมแฟนมันเป็นดาวแพทย์อีก สวย หุ่นเพรียวมาก!


            ผมมองไอ้พวกเพื่อนที่นั่งประชุมกันอยู่อีกหลายคน ก็ประชุมพวกเรื่องรอเตรียมรับน้องนี่แหละ ว่าใครจะเป็นพี่ว๊ากบ้าง


            “ปีนี้มึงจะรับหน้าที่อะไร พี่พยาบาลมะ เหมาะกับมึงดี” ไอ้นนท์เพื่อนอีกคนของผมพูดขึ้น


            “เดี๋ยวปากมึงจะได้แตก” ผมยกเท้าเตรียมถีบ มันเลยรีบยกมือห้าม


            “ไอ้สาด กูล้อเล่น”


            “หรือมึงจะสายว๊าก” ไอ้เสาเสนอบ้าง ดูแต่ละอย่างที่พวกมันเสนอ...ไม่เหมาะอะไรกับผมสักอย่าง


            ทางที่ดีผมอยากอยู่เฉย ๆ


            “กูว่าแม่งว๊ากไม่ได้หรอกมัน น้องปีหนึ่งได้มานั่งจ้องหน้ามันชัวร์”


            “โว้ย อะไรของพวกมึงวะ กูขออยู่ฝ่ายพวกน้ำกับของกินให้น้อง ๆ ก็ได้ มึงกับมึงอยู่กับกู” ผมชี้ไปที่เสากับนนท์ มันก็ไม่ได้คัดค้านอะไรอยู่แล้ว ฝ่ายนี้สบายสุด ผมรู้ว่าไอ้พวกนี้มันขี้เกียจครับ...(ผมก็ขี้เกียจ ฮ่า!)


            “กูเจอน้องคนหนึ่งแจ่มชิบ อยากจะเดินเข้าไปขอเบอร์ ตัวเล็ก ๆ น่าทนุถนอมมาก” ไอ้นนท์พูดพลางทำท่าเพ้อ ผมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เคี้ยวขนมตุ้ย ๆ


            “ให้มันน้อย ๆ หน่อยมึง น้องกุ๊กไปไหนแล้ว?” แฟนคนล่าสุดของไอ้นนท์มัน


            “เลิกแล้ว”


            “เชี่ย!” ผมด่า


            “เหี้ย!” ไอ้เสาเลยช่วยด่าต่อ นนท์มันกรอกตาใส่พวกผมนิดหน่อย


            “จ๊ะ ด่ากูมาเลย เพื่อนเอาให้เต็มที่!”


            “ทำไมได้เลิกวะ ก็เห็นดูรักกันน่าจะนาน”


            “ไม่รู้ว่ะ กูว่าเหมือนมีบางอย่างไม่ใช่” มันว่าพึมพำ


            “กูเห็นมึงพูดอย่างนี้ทุกคนไอ้สัสนนท์” เสาด่าอย่างไม่ได้จริงจัง พวกมันตบหัวกันเชิงหยอก ผมเลยหัวเราะ


            ก่อนทุกสายตาจะหยุดกึกแล้วหันไปมองผู้ที่เดินเข้ามาภายในตึกคณะวิศวะ


            เชรด...ผู้ชายสูงชะลูด 188 ผิวไม่ขาวไม่ดำ ผมดำสนิท แววตาคมเข้ม หน้าหล่อคม หน้าเหมือนซื่อ ๆ มันใส่ป้ายชื่อมาด้วย เดาไม่ยากน่าจะเป็นปี 1 แถมยังเป็นป้ายชื่อของคณะแพทย์!!...


            แล้วมันมาทำไรที่คณะวิศวะไม่ทราบ ไอ้น้องเอ็งมาผิดคณะแล้วเฟ้ย...


            แต่ประโยคแรกที่มันถามออกมาทำเอาผมหันขวับไปสบตากับมันที่มองพอดิบพอดี


            “โทษนะครับ แถวนี้มีคนชื่อพี่...หมวยเล็ก ไหม”


            ถามแค่นั้นทุกอย่างเงียบกริบ...


            เห้ย....ชื่อนี้เป็นชื่อที่ผมไม่เคยเอ่ยถึงมากที่สุด!!


            “ก๊าก! ไอ้น้องมาผิดคณะป่าว มาหาแฟนเหรอ นี่คณะวิศวะนะเว้ย ไอ้เชี่ยไหนมันจะชื่อหมวยเล็กได้วะ” ประธานคณะวิศวะมันหัวเราะกับเพื่อนเหมือนขำมาก

            ...ไอ้เชี่ยที่พวกมึงว่า ก็กูนี่แหละครับที่ชื่อ ‘หมวยเล็ก’ มันเป็นชื่อที่ป๊ามักเรียกผมเสมอเวลาอยู่บ้าน เนื่องด้วยผมมีพี่ชายสองคน ปกติจะเรียกว่า เฮียใหญ่ เฮียกลาง และผมเป็นลูกคนสุดท้อง ป๊าดันอยากได้ลูกสาวสักคน แต่ผมกลับเป็นผู้ชาย ด้วยความที่ผมดันเกินมาตัวเล็ก ๆ หน้าตาจิ้มลิ้ม...(ตอนเด็กน่ารักจริง ๆ นะ) ป๊าเลยเปรียบเสมือนผมเป็นลูกสาวของบ้าน รักทนุถนอมมาก! นั่นก็เลยเป็นที่มาของชื่อเล่นอีกชื่อของผม...หมวยเล็ก


            แต่ไอ้นี่มันเป็นใครฟะ...หรือมันอาจจะไม่ได้มาพูดถึงผมก็ได้ แต่ในคณะเรามันก็มีผู้หญิงไม่เยอะนะเฟ้ย!


            เริ่มร้อนตัว...


            “น้องมาผิดคณะรึเปล่าวะ” ไอ้เสาถาม แม้มันจะรู้ว่าจริง ๆ อีกชื่อของผมคือหมวยเล็ก เพราะไอ้นี่เป็นเพื่อนผมตั้งแต่เรียนมัธยมมันเลยรู้ และไอ้นนท์เพิ่งมารู้ตอนอยู่ปี 1


            สายตาคมกริบจ้องมาที่ผม...


            “ผมว่าผมมาถูกนะครับ....” มันจ้องผมตาไม่กระพริบ “หรือผมอาจจะมาผิด...”


            อะไรของมันวะ กวนชิบบบบ...


            “จ้องหน้ากูทำไม?” ด้วยความที่ทนไม่ได้จากการที่มันมายืนจ้องหน้าผม


            “จ้องไม่ได้เหรอครับ” ไอ้สูงโย่งตรงหน้า ควรจะใช้คำนี้เพราะมันน่าจะสูงกว่าไอ้เสาด้วยซ้ำ


            “ไม่ได้”

            “พี่ชื่ออะไรอ่ะ...” จู่ ๆ มันก็ถาม แล้วประเด็นไม่ใช่อะไรคือมันถามผมคนเดียว ในคณะที่ทุกคนในคณะมองกันเป็นตาเดียว

            “ทำไมกูจะต้องตอบมึงด้วย?” โวะ มันประสาทรึเปล่า

            “เพราะผมอยากรู้”

            “กูไม่ให้มึงรู้” คนตรงหน้ากระตุกยิ้ม...น่าจะตั้งชื่อยิ้มนี่ว่า ยิ้มหล่อ...มีลักยิ้มด้วย


            “ผมชื่อ หมู นะครับ จำชื่อผมไว้ด้วยนะ” เมื่อเห็นผมไม่บอกชื่อมันก็พ่นชื่อออกมาเองซะงั้น


            “หา?”


            “อยู่ปี 1 คณะแพทย์ศาสตร์”


            “มึงบอก..”


            “หอพักอยู่ XXX” เดี๋ยว! นั่นมันหอตรงข้ามกูนี่...


            “ทำไม...”


            “บายครับ หมวยเล็ก” เขาโน้มมากระซิบผมเหมือนให้ได้ยินกันสองคน ก่อนจะหมุนตัวออกไป ท่ามกลางความต้องการ(เผือก) ของพวกที่นั่งเรียงกันอยู่



            “เชี่ย...” ผมสบถ มันเป็นใครวะ!!



            หมูไหน หมูแผ่น หมูกรอบ หรือหมูย่าง...ไม่ใช่ละ ผมค่อนข้างจำคนได้แม่น ว่าผมไม่เคยรู้จักเขามาก่อนแน่ ๆ!!


            “โห..ใครวะ ดูเหมือนจะรู้จักฉายาสุดคาวาอิของมึงด้วย” เสาถามเบา ๆ แล้วกดแชทกับแฟนไปด้วย


            “เดี๋ยวกูจะได้เตะปากมึงก่อน...กูไม่รู้ มันเป็นใครวะ”


            “มึงไม่รู้แล้วพวกกูจะไปรู้ไหม”


            “มันต้องการอะไรจากกูวะ” ผมหันไปถาม ก่อนจะได้รับคำตอบจากนนท์ที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์อยู่ ปกติไอ้นี่มันจะไปกับแฟนล่ะครับ แต่นี่มันเลิกแล้วมันเลยว่าง


            “อาจจะมาจีบมึงก็ได้” ผมหันขวับ


            “พูดเรื่องห่านอะไร”


            “กูบอกว่าน้องมันอาจจะมาจีบมึงก็ได้ เดี๋ยวนี้ไม่เห็นเหรอหมอเขาฮิตจีบวิศวะจะตายไป” ผมขมวดคิ้ว ก็พอจะได้ยินเรื่องแบบนี้มาเหมือนกัน เห็นมีรูปตามเพจก็มี


            แต่เฮ้ย!...มันไม่ใช่ประเด็นไหมล่ะ จู่ ๆ เจอคนที่(คาดว่า) น่าจะรู้จักชื่อเล่นที่ผมแสนน่ารักที่ป๊าให้มาแต่มันก็เป็นอะไรที่ผู้หญิงโคตร ๆ ถ้าเกิดมีใครรู้...โดนล้อยันลูกบวชแน่ ๆ !


            ไอ้นั่นมันเป็นใครมาบอกชื่อพร้อมที่อยู่ กะจะให้ผมตามไปกระทืบมันได้ถูกที่ใช่ไหม


            “เออน่า มึงก็อย่าเพิ่งไปคิดมากเลย น้องมันก็คงอยากรู้จักแหละ” ขอบคุณคุณเพื่อนที่ปลอบใจมากเลยยยยยยย... ไม่ได้ช่วยให้กูดีขึ้นสักนิด


            “เออไม่คิด” ผมตัดบท แม้ว่าภายในใจจะยังคิดอยู่ก็เถอะ

 

            |เริ่มสัปดาห์ของการพบปะรุ่นพี่|


            “ทำไมมึงไม่ไปเองวะ!!” ผมตะโกนด่าไอ้เสาที่กำลังยกมือไหว้อ้อนผม


            “กูนัดจีไว้อ่า...ผิดนัดโดนด่าแน่ ๆ”


            “ไอ้เพื่อนเลว มึงจะไปดูหนังกับแฟนแล้วทำไมไม่พากันไปดูน้องวะ” ผมด่ามันอีก เพราะไอ้นี่มันจะหนีไปดูหนังแฟนดาวของมันแหละครับ และก็ต้องเดือดร้อนผมให้ไปดูน้อง ๆ ของคณะเราไปแข่งดาวเดือน และก็ไปแข่งกีฬา ผมรับหน้าที่ไปดูน้องที่จะคัดนักกีฬา


            “โอ๊ย มึงก็ดูแลบาสช่วยกูป่ะวะ นะนะนะ เดี๋ยวกูช่วยสืบเรื่องไอ้หมูกรอบของมึงให้ก็ได้”


            “มันไม่ใช่น้องหมูกรอบของกูโว้ย! เออ จะไปก็ไปรำคาญมึงจริง ๆ แล้วไอ้นนท์หายหูไปไหนของมันตั้งแต่บ่าย ๆ แล้ว” ผมสบถพร้อมกับขยี้หัวของตัวเอง


            ไอ้หมูกรอบ...อย่าให้กูรู้นะว่ามันเป็นใคร จะได้เห็นดีกันแน่ ๆ!



            @โรงยิม


            “พี่สวัสดีครับ” หนึ่งในน้องคณะของผมที่เพิ่งจะเจอกันไม่กี่ครั้งยกมือไหว้ผม พวกมันไม่ค่อยกลัวผมหรอกครับเพราะผมไม่ใช่พี่ว๊าก   


            “ดี ๆ พวกมึงจะเล่นบาสกันใช่ไหม?” ผมนับจำนวนคนดู สายตาก็เหลือบไปเห็นข้างมุมสนามที่มีคณะแพทย์อยู่ แถมอิเจ้ที่กำลังชี้แจงอยู่ดันมองมาที่ผม


            “เอ้า เด็ก ๆ สวัสดีพี่ปี 2 คณะวิศวะสุดหล่อหน่อยเร็ว...” ขอบคุณเจ้มากที่มองว่าผมหล่อ

           
           อยากจะหมอบกราบ...สงสัยกำลังคัดพวกดาวเดือนอยู่ล่ะมั้ง


            “สวัสดีค่ะ/ครับพี่ปี 2 คณะวิศวะสุดหล่อออ...” น้องแกก็ซื่อสัตย์ดีพูดตามกันทุกคำอย่างพร้อมเพรียง นึกถึงตอนตัวเองผ่านมาก็ตลกชะมัด สภาพตอนปี 1    ผมปวกเปียกกว่านี้มาก...(ยังมีแย่กว่านี้ด้วยใช่ไหม) ผมยกมือรับพอเป็นพิธี


            ยังไม่ทันจะหันไปคุยกับพวกรุ่นน้องตัวเองผมก็ชะงักกึก กับเสียงกรี๊ดของคณะอื่นที่อยู่รอบ ๆ แบบว่าในโรงยิมช่วงนี้คณะไหนจะเข้ามาใช้ก็ได้ สาว ๆ เลยได้โอกาสมาส่องหนุ่มคณะอื่นด้วย


            และต้นเหตุเสียงกรี๊ดก็มาจาก...ไอ้หมูกรอบ (ตั้งฉายาให้แล้ว) มันกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามา ใบหน้าที่มีเหงื่อไหลลงมา ทำให้มันเอามือเสยผมประดุจถ่ายโฆษณา...ที่บ้านกินไรเป็นอาหารวะ ท่าจะหล่อระเบิดขนาดนั้น ถ้าลงเดือนด้วย ผมว่าคณะอื่นมีดับอ่ะ...


            “กรี๊ดดด แก...ฉันไม่คิดว่าจะได้มาเข้าที่เดียวกันกับหมูเลยอ่ะ...เขินตัวจะแตก”

            “จริง...ดูดีมากเลยอ่ะ เขินนน”


            “เขาฉลาด โปรไฟล์ดี บ้านรวย ลูกชายคนเดียวอีก!”


            และอีกหลายเสียงจากหลายคณะที่มันกระเด็นเข้าหูผม


            “ทำไมมาสายคะ น้องหมู...แบบนี้ต้องโดนทำโทษนะเนี่ย มาเป็นตัวแทนประกวดเดือนมหาวิทยาลัยซะดี ๆ” ยัยเจ้นั่นประกาศใส่โทรโข่งจนได้ยินก้องทั้งโรงยิม


            เหมือนต้องการข่มคณะอื่นเลยแฮะ...ผมมองหน้าคณะผมแต่ละคนที่...เถื่อนพอสมควร สาว ๆ สมัยนี้ชอบหน้าตาขาวใส คม ๆ เหมือนอยากไอ้หมูกรอบเนี่ยนะ


            ไม่รู้ทำไมทั้ง ๆ ที่อยู่ไกล ผมกลับรู้สึกแววตาของเขาที่มองมาทางผม เหมือนทุกคนในคณะอื่นรอบ ๆ จะลุ้นให้ไอ้นี่ลงประกวด พากันมองประดุจเป็นคณะตัวเอง


            “ถ้าพี่ว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่ผมไม่อยากให้คาดหวังกับผมมากนักนะ” ปากมันพูดแบบนั้นแต่ดันขยิบตาโปรยเสน่ห์ให้สาว


            โอ้โห...ไอ้นี่ไม่เบา


            ผมกอดอกมองเด็กในคณะที่นั่งทำตาปริบ ๆ มองสาว ๆ ที่พากันมองแต่หมู


            “คณะเราใครเป็นเดือนวะ” ผมถามรุ่นน้องเพราะไม่ได้สนใจเรื่องที่เลือกเดือนคณะตัวเองเหมือนกัน แต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบเสียงโทรโข่งจากฝั่งมุมของคณะแพทย์ศาสตร์ก็เรียกความสนใจของผมซะก่อน


            “พี่วิศวะปี 2 ตรงนั้นน่ะครับ...” ไอ้คนที่ถือโทรโข่งพูดอยู่ป่าว ๆ ไม่ใช่ใคร แต่เป็นไอ้คนที่ทำให้เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มอยู่นี่ไงล่ะ


            ผมที่กอดอกอยู่มองงง...มองซ้ายมองขวา...มีกูเป็นปี 2 คณะวิศวะอยู่ตรงนี้คนเดียวนี่หว่า


            มันจะเรียกทำไมมมมมมม....


            ทุกคนเงียบกริบเหมือนรอฟัง...


            ผมมองมันนิ่ง ๆ เก็บอาการสุด ๆ....เชี่ย มันจะพูดอะไร ถ้าพูดว่าหมวยเล็กออกมา ผมจะแก้ตัวยังไง



            “เห็นเขาว่าวิศวะหน้าโหด...ทำไมผมเห็นคนน่ารักล่ะครับ”

         

             ประโยคเดียวจบ...



            จบด้วยเสียงกรี๊ดดังสนั่นของสาว ๆ .....แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับ...



            ....มันไม่ได้พูดถึงผม มันพูดถึงใครไม่รู้ ที่แน่ ๆ ไม่ใช่ผม!!....ผมมั่นใจ


            แล้วทำไมวันนี้ผมต้องมายืนเป็นรุ่นพี่คณะวิศวะคนเดียวด้วยยยยย...



...

ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ ^^

ร่วมมาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวฟิน ๆ กันเถอะะะ เยิฟ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 1|
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-04-2017 19:39:13
 น้องหมู รู้จัก พี่หมวยเล็กมาก่อนแน่เลย
แต่พี่หมวยเล็กคงจำน้องหมูตอนนั้น ที่ต่างจากตอนนี้ไม่ได้
น้องหมูกรอบ รุกพี่หมวยเล็กน่าดู
“เห็นเขาว่าวิศวะหน้าโหด...ทำไมผมเห็นคนน่ารักล่ะครับ”
รอตอนใหม่  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

สูงชะลู่ ------ ชะลูด
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 1|
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-04-2017 20:06:03
แหม หมวยเล็กจ๊ะ ที่ว่าตัวเองไม่น่ารักน่ะ เป็นเพราะที่จริงแล้วหน้าสวยสินะจ๊ะ (หัวเราะ)
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 1|
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 11-04-2017 21:55:51
หมวยเล็กของน้องหมู อิอิ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 2|
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 12-04-2017 17:58:28
ตอนที่ 2



            [พาร์ตของศิลา]



            “ว่ะฮ่า ๆ !! เห็นเขาว่าวิศวะหน้าโหด...ทำไมผมเห็นคนน่ารักล่ะครับ” ไอ้เสาพูดล้อประโยคที่ผมได้ยินมาเมื่อวานอีกครั้ง



            “ถ้ามึงยังไม่หยุดหัวเราะกูจะเอาถังน้ำแข็งฟาดมึง!”



            “มึงยกให้ไหวก่อนเถอะ ก๊าก กูว่าน้องมันชักจะยังไง ๆ แล้วนะ ชมมึงว่าน่ารักเนี่ย”



            หลังจากไอ้หมูนั่นพูดคำนั้นออกมาผมก็เดินหนีออกมาจากโรงยิมทันที ผมไม่ได้หนีมันนะ! ผมแค่ทำธุระของตัวเองเสร็จแล้วก็เลยเดินหนีออกมา...(เหรอวะ)



            “เพราะพวกมึงแหละ เออไอ้นนท์เมื่อวานมึงหายไปไหนมาวะ ทิ้งกู” ผมกับเสามองไอ้นนท์ที่เอามือเท้าคางเหมือนเพ้อ ไอ้นี่มันเลิกกับแฟนแล้วถึงกับเอ๋อเลยเหรอ



            “ไอ้สัดนนท์!” ไอ้เสาจัดการเรียกสติเข้าให้



            “ไรของมึงวะ” มันโวยเชียวครับ



            “มึงแหละนั่งเหม่อ ไอ้ศิลาพูดกับมึง”



            “พอดีมีธุระพาแม่ไปธนาคาร ลืมบอกพวกมึงรีบ” มันบอกแค่นั้น





            “นิ่ง!!” ผมถึงกับสะดุ้งกับเสียงไอ้ถั่วดำที่เป็นเฮทว๊ากของวิศวะปีนี้ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมมันชื่อถั่วดำ....มันเป็นกระเทยครับ แบบแต๋วมาก แต่มันแมนกว่าพวกผมมากนะ ก็คิดดูละกันว่ามันมาเรียนวิศวะอ่ะ



            “กูสะดุ้งไปถึงขั้วหัวใจ ถั่วดำแข็งแกร่งมากว่ะ” ไอ้เสาทำท่าทำทาง



            “นั่นเมียเก็บมึงไม่ใช่เหรอ”



            “ไอ้ห่า ขนลุกโว้ย กูไม่ชอบผู้ชาย กูมีจีของกูอยู่แล้ว” ไอ้เสาพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ ผมหัวเราะ ส่วนไอ้นนท์เล่นเกมในโทรศัพท์อย่างไม่สนใจชาวบ้านชาวช่อง





            พวกผมเหมือนทำตัวไร้ประโยชน์ แต่จริง ๆ ไม่ใช่ครับ ก็อยู่ฝ่ายเสิร์ฟน้ำก็รอแต่เสิร์ฟน้ำไง ระหว่างนี้พวกผมก็จับเข่าคุยกันเรื่อง(ไร้)สาระทั้งนั้น ส่วนพวกนั้นก็ปล่อยให้ว๊ากน้องต่อไป



            “อ้อ กูไปสืบ ๆ เรื่องน้องหมูกรอบของมึงมาละ”





            “ไม่ใช่ของกูเดี๋ยวฟาดด้วยแข้งหรอก...” ผมไม่ได้อยากรู้หรอกนะ “ว่ามาสิ แล้วมึงไปรู้มาจากไหนวะ”



            “แหม ทำเหมือนไม่อยากรู้แต่รีบถามเชียว”



            “กวนตีน มึงอย่าลีลา”





            “กูก็ได้ข่าวจากพวกแฟนคลับทั้งหลายแหล่ของไอ้น้องหมอหมูกรอบนั่นแหละ จบจากสหศึกษาอินเตอร์ มีแต่พวกรวย เพอร์เฟคเรียนอยู่นั่น น้องสอบเข้าแพทย์ติดด้วยคะแนนลำดับต้น ๆ เลยเว้ย”





            โห..หล่อ รวย แถมยังฉลาดอีก นั่นคนหรือเครื่องจักรกล



            “แล้วมึงจำได้ไหมว่า เคยรู้จักน้องมันรึเปล่า?” ไอ้เสาถามขึ้นหลังจากที่เล่าไปด้วย



            “ไม่ว่ะ กูว่ากูไม่เคยรู้จักมันนะ...” เพราะถ้ารู้จักผมก็ต้องจำได้สิ ผมไม่เห็นจะรู้สึกว่าเคยเจอเขามาก่อนสักกะนิด



            “เหรอ ถ้าไม่รู้จักก็ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก” ไอ้นนท์พูดเสริม เออว่ะ...ไอ้นี่พูดง่าย



            แล้วเวลามันมาพูดกรอกหูกูว่า หมวยเล็กเล่า!! ...คาใจที่สุด



            “จะบอกว่าน้องมันเสน่ห์แรงมากนะ สาว ๆ ต่อคิวเป็นขบวนรถไฟ” เสาพูดพลางหยิบขนมมาแกะกิน อ้าวไอ้รุ่นพี่ไร้จิตสำนึก นั่นมันขนมน้องปี 1 โว้ย...แต่ผมก็หยิบมากินด้วยเมื่อมันยื่นมาให้ผมกิน



            “ช่างหัวมัน ไม่เกี่ยวกับกูเรื่องสาว ๆ ของมัน” ที่ผมอยากรู้ก็แค่เรื่องที่มันกล้าเรียกว่า หมวยเล็กกับผมก็เท่านั้นแหละ



            “หรือมึงอาจจะคิดมากไปก็ได้นะ บางทีมันอาจจะตาดีเห็นมึงขาว ๆ ตัวบาง ๆ”



            “ถ้ามึงยังพูดต่อจะเอาขวดน้ำปาหน้าจริง ๆ นะ!” ผมเตรียมจับขวดน้ำ ไอ้เสาเลยไปหลบหลังนนท์ที่นั่งหัวเราะคลิปตลกในโทรศัพท์ เพื่อนผมแต่ละคนแม่งเหมือนไม่เต็มบาท...



            “งั้นมึงก็เข้าไปถามน้องมันตัวต่อตัวเลยดิ ง่าย ๆ” เสาเสนอขึ้น เหมือนจะเป็นความคิดที่ดีแต่บอกเลยครับว่า มันไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่นอน!....



            ก็ตั้งแต่ไอ้คำว่าน่ารักกลางโรงยิมเมื่อวานละ...





            |กลางสนามกีฬาใหญ่|

            แดดร้อน ๆ ของช่วงประมาณบ่ายโมงเป็นอะไรที่ร้อนสุดขั้วมาก แต่พวกน้องปี 1 คณะต่าง ๆ ก็ยังต้องมานั่งรวมกันเป็นแบบคลาสเชียร์ใหญ่ แอบสงสารแฮะ...แต่ตอนปี 1 พวกผมก็เคยผ่านมาเหมือนกัน บอกเลยว่าร้อนก็ร้อนแถมยังต้องมาฟังพี่ว๊ากตะโกนใส่อีก



            “ศิลา! เราฝากกล่องพยาบาลไว้หน่อยสิ อาจารย์เรียกให้เราเอาเอกสารเรื่องรับน้องไปให้แกเซ็นด่วน” ยัยหัวหน้าประจำชั้นปี 2 ของพวกผมยัดกล่องพยาบาลใส่มือของผม



            ยังไม่ทันจะตอบรับอะไรเธอก็วิ่งหนีหายไป ผมเหลือบสายตามองหน้าไอ้เสากับไอ้นนท์ที่แม่งยืนอยู่คุมเชิงน้องเป็นพี่ว๊ากหน้าดุ อยู่อีกมุมหนึ่งนู่น





            แล้วกูจะต้องมาถือกล่องพยาบาลทำเปี๊ยกอะไรอยู่ตรงนี้...อย่าเพิ่งมีคนเป็นลมตอนนี้เลยนะ



            ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้สายตาของผมดันมองไปสบตากับ...เจ้าของดวงตาคมกริบที่จ้องผมเมื่อวาน



            แม้มันจะทำหน้านิ่งนั่งระเบียบเชียร์อยู่ แต่แววตามันแม่ง...เหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลา



            คณะแพทย์ดันมานั่งอยู่ใกล้คณะวิศวะ เป็นไปได้ยังไง....



            ระหว่างที่จ้องกับดวงตาคมผมก็สะดุ้งเสียงถั่วดำว๊ากขึ้น





            “พี่พยาบาล!!” อ๋อ มันเรียกพี่พยาบาล...ผมก็ยืนเฉยและรู้สึกว่าทุกสายตาเหลือบมาหาผม



            เหลือบมาทำไมวะ... ไอ้เสาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามผมชี้ให้ผมดูที่มือตัวเอง



            โอ๊ะ...กล่องพยาบาลอยู่กับกูครับ...



            “น้องขอยา! พี่พยาบาลทำหน้าที่ด้วย!!”  ไอ้ถั่วดำว๊ากผมอีกรอบ ผมยิ้มแหย่ ๆ เชี่ยยย...กูไม่รู้จักยา



            ผมเดินไปหาน้องคณะตัวเองที่ยกมืออยู่ด้านหลัง



            “มึงเป็นไร” ผมนั่งยองลงข้างน้องมัน



            “ปวดหัวครับ” น้องมันตอบ



            แต่ผมกลับรู้สึกว่ามีสายตามองมาที่ผม หมูมันมองแวบหนึ่งก่อนจะหันไปหาหน้าคลาส



            เดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอกมึง..



            “พี่ยาผมล่ะ” น้องมันเรียกผมอีกรอบ ผมเลยค้นยาในกล่องดู...อันไหนวะ น่าจะอันนี้ ผมยื่นให้



            “พี่...มันยาแก้ปวดประจำเดือน ผมขอพาราเซตามอล” มันบอกชื่อยาเต็มเรียกเสียงหัวเราะจากไอ้พวกเพื่อนปีเดียวกับผมขำเบา ๆ



            ใครใช้ให้เอายาแก้ปวดประจำเดือนมาใส่ไว้ล่ะวะ!!..โวะ ผมหยิบพาราให้ไอ้น้องที่ปวดหัวพลางปิดกล่อง พยาบาลก็ไม่ใช่ดันต้องมาทำ





            “เฮ้ย น้องเดือนมึงไหวไหมหน้าซีด ๆ นะ” เสียงของพี่ปี 2 ที่ดูแลน้องคณะแพทย์พูดขึ้น



            ทุกคนดูให้ความสนใจมากก็เพราะคำว่า ‘น้องเดือน’ จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ไอ้หมูกรอบ มันหน้าซีด ๆ จริงด้วยแฮะ



            “ผมขอยาดมก็พอครับ” เสียงเข้มตอบ และทุกสายตาก็เหลือบมาที่ผม



            อะไรกับกูอีกแล้ว...


            “กูว่าให้น้องแกเข้าไปพักในร่มเหอะ เดี๋ยวต้องไปประกวดเดือนมหาลัยอีก” ไอ้พวกปี 2 อีกคนพูด


            “ไอ้ศิลา...” พวกมันกวักมือเรียกผม แถมเรียกชื่อผมชัดเจน...หมูเงยหน้ามองผม





            “เดี๋ยวน้องลุกไปกับพี่ศิลาก็แล้วกัน มึงดูแลน้องด้วยละกัน พยาบาลคณะกูไปดูแลน้องผู้หญิงที่เป็นลมละ” มันสั่งความไม่ได้ถามผมสักคำ


            แต่ถามว่าผมปฏิเสธได้ไหม กล่องพยาบาลคามืออยู่ก็คงไม่มีทางเลือกที่จะต้องพาไอ้หมูนี่ไปพักที่ข้างสนามเย็น ๆ เสากับนนท์ส่งสายตาล้อผมใหญ่





            “ไม่พยุงผมเหรอ” ผมกำลังจะพามันเดินไปที่นั่งข้างสนามก็ต้องเลิกคิ้วกับรอยยิ้มมุมปากที่ปรากฏออกมา



            “มึงไม่ได้เป็นไรจะพยุงทำไม?” เราเดินมานั่งลงตรงข้างสนามไกลจากที่ว๊ากพอสมควร ผมกำลังค้นกล่องหาสำลีและแอมโมเนียอยู่



            “พี่ศิลา...” ผมชะงักกับเสียงที่ดังขึ้น พอเงยหน้าก็ชะงักกับเขาที่แกล้งยื่นหน้าเข้ามา


            ผมเอาสำลีไปแปะหน้าเขาด้วยความตกใจ ทำให้มันร้องออกมา



            “โอ๊ยพี่ แสบตา” เขาทำท่าเอามือปิดตาไว้....แย่แล้ว ไปทำร้ายร่างกายเดือนคณะเขากูจะโดนยำไหม



            “ไหน ๆ กูดูหน่อย โดนตาเหรอวะ เอามือออกไปดิ!” ผมดันมือของหมูที่ปิดหน้าไว้และดูตาของเขาชัด ๆ ว่าแดงไหม....ไม่แดง แววตาคมกริบจ้องมองผมไม่กระพริบ



            พร้อมกับรอยยิ้มกวน...ไอ้เชี่ย! มันหลอกผม



            “สนุกเหรอมึง!”



            “เปล่า มันแสบจริง ๆ เมื่อกี้” เขาแถหน้าด้าน ๆ “ก็หายเจ็บตอนพี่มาส่องดูให้เมื่อกี้แหละ...”



            “ตาหวาน ๆ ของพี่ช่วยได้เยอะ” ผมหันขวับ



            “ตาหวานอะไรของมึง ประสาทป่ะ”  เขายกยิ้ม



            “ผมบอกว่า พี่ศิลาตาหวาน”



            “อยากโดนลูกเตะกูมากใช่ไหม ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ!” ผมเริ่มขึ้น จะถามมันให้รู้เรื่องไปเลยดีไหม!



            “ก็ผมพูดความจริง” หมูนั่งขัดสมาธิเอายาไปดมพลาง ๆ ดูไม่ได้เกรงกลัวผมสักนิด



            นี่ผมอยู่คณะวิศวะนะเว้ย คณะที่มีแต่คนเกรงขาม...เถื่อนด้วยนะ...



            ถามมันดีไหมวะ....ถ้าถามก็จบแล้ว! สรุปถาม



            “ที่มึงเรียกกูว่า....”



            “หมวยเล็ก” เขาหันมาตอบเหมือนรู้ว่าผมจะถาม “ทำไมเหรอครับ มันเป็นชื่อของพี่เหรอ”



            “บ้า!...ไม่ใช่ชื่อกู” ผมปฏิเสธ แต่แอบเห็นแววตาหมองลงของไอ้หมูนิดหนึ่งแฮะ...



            “แล้วมึงมาถามหาคนชื่อนี้ทำไม แถมยังมาพูดชื่อนี้กับกู กูก็เลยสงสัยไง” ผมถามแถ ๆ หมูหัวเราะในลำคอ ผมว่าไอ้นี่ทำอะไรรู้สึกมันจะดูดีไปหมดแอบอิจฉา





            “พอดีเป็นชื่อของคนที่ผมอยากจะเจอ ผมรู้แค่ว่าอยู่มหาวิทยาลัยนี้ก็เลยมาตามหาตามคณะนั้นคณะนี้ดู....”





            “พอผมเห็นพี่ก็ดันนึกถึง เจ้าของชื่อนี้ขึ้นมาน่ะครับ...เหมือนมากจริง ๆ” ผมชะงักกับเขาที่หันหน้ามาจ้องหน้าผมอีกครั้ง



            “หน้าสวย แก้มอมชมพู ริมฝีปากเรียวเล็ก...นั่นแหละครับ หมวยเล็กของผม



            เชี่ย...นั่นมันคุณสมบัติของผู้หญิงชัด ๆ



            แสดงว่าหมวยเล็กของมันคงไม่ได้หมายถึงผม เฮ้อ...นี่ก็ร้อนตัวไปก่อน ตกอกตกใจหมด



            “ยังไงมึงก็หาเขาให้เจอละกัน” ผมอวยพรอย่างคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับผม หมูทำหน้าขรึมและจู่ ๆ ก็ลุกขึ้น



            “มึงจะไปไหน?” ผมมองงง ๆ



            “จะกลับไปนั่งรับน้องกับเพื่อนครับ” เขาบอก



            “อ้าวเฮ้ย จะบ้าเหรอ ก็เขาบอกให้มึงพัก เดี๋ยว ๆ” ไอ้หมูเดินก้าวฉับไปข้างหน้าเร็วมาก หรือขามันยาวเลยก้าวไว...สรุปขากูสั้นครับ



            “ศิลา! กล่องพยาบาลล่ะ” แม่หัวหน้าห้องของผมกลับมาแล้ว และผมก็ไม่ทันได้เรียกหมูที่เดินกลับไปนั่งให้พี่ว๊ากกลางแดนต่อ


            อะไรของมันฟะ ไม่ชอบอยู่ร่ม ๆ ชอบตากแดด ดูหน้าซีดลงด้วย...ปล่อยมันไปเหอะ ไม่เห็นจะมีอะไรเกี่ยวกับผมเล๊ย!



            ……..

            ………



            “มึงคุยกับน้องเขารึยังวะ น้องว่าไง” หลังจากเลิกคลาสใหญ่ พวกผมก็พากันเก็บข้าวเก็บของมาไว้ที่คณะตัวเอง



            “คุยแล้ว น้องมันบอกว่าเป็นชื่อของคนที่น้องอยากเจอ ไม่เกี่ยวกับกูเว้ย” ผมพูดอย่างอารมณ์ดี แต่ไอ้เสากับไอ้นนท์ทำท่าเหมือนไม่เชื่อ



            “มึงชื่อที่น้องมันพูดเหรอว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมึง น้องพูดเหรอ”



            อะไรของพวกมัน....



            “ไม่ได้พูดแต่กูตีความเป็น”



            “จ๊ะ ฉลาดมาก....แต่ดูท่าทางเหมือนน้องเขาอยากจะรู้จักมึงมากกว่านะกูว่า” จู่ ๆ ไอ้เสาก็พูดขึ้นแล้วส่งสายตาให้ผมมองไปที่หน้าคณะตัวเอง



            หมูยืนอยู่หน้าคณะเด่นเป็นสง่าเชียว มันมาทำอะไรที่นี่? หมูก้าวดุ่ม ๆ เข้ามาหาพวกผมที่ยืนอยู่



            “สงสัยจะมาหาหมวยเล็กอีกวะ” ไอ้เสาล้อกันกับไอ้นนท์ ไอ้พวกเพื่อนขี้ล้อ



            “พี่ศิลา จะกลับหอรึยังครับ” หา???  พวกผมถึงกับอ้าปากค้าง ครั้งนี้มันเรียกชื่อเต็มของผมชัดเจน



            แต่ที่อึ้งคือประโยคคำถามที่ถามต่างหาก!


            “จะกลับหรือไม่กลับมันเกี่ยวอะไรกับมึง”


            “เกี่ยวครับ ผมขอไปรอเพื่อนอยู่หอพี่ก่อนได้ไหม” ห๊ะ...ห๊ะ...!


            “คือว่าผมลืมคีย์การ์ดไว้กับเพื่อนอ่ะ มันไปดื่มสังสรรค์ก็เลยไม่มีกุญแจเข้าห้อง” หมูพูดออกมาต่อ



            ...นั่นมันปัญหาของมึง ไม่ใช่ของกู...



            “กูก็ยังไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับกูตรงไหน ใช่ไหม” ผมหันไปขอความเห็นจากไอ้เสาและไอ้นนท์ที่พากันมองเหมือนพิจารณาหมูอยู่ ก่อนจะกระตุกยิ้มให้ผม


            มันเป็นยิ้มที่ทะแม่ง ๆ ชะมัด


            “กูว่าน้องก็น่าสงสารนะมึง” ไอ้เสาเสนอ ไอ้เพื่อนชั่วววว....



            “จริง อยู่มหาลัยเดียวกันก็ต้องช่วยเหลือกันดิวะ” ไอ้นนท์สมทบ พวกฟายยยย.....


            หมูยิ้มเหมือนพอใจกับสิ่งที่เพื่อนผมพูดมาก


            “งั้นมึงก็ไปหอไอ้พวกนี้ละกัน อยากช่วยนักนี่” ผมโยนให้พวกมัน แต่ก็ได้รับเสียงปฏิเสธทันควัน


            “อ้าว ก็น้องมันขอไปรอห้องมึง อีกอย่างหอมึงอยู่ตรงข้ามน้องนี่” ไอ้เสาโยนกลับมาให้ผมเหมือนเดิม ไอ้เพื่อนไม่รักดี...ผมบอกพวกมันเองแหละว่าน้องมันบอกว่าอยู่หอตรงข้ามผม


            เหมือนเป็นการเปิดทางให้หมูหาข้ออ้างขึ้นมาอีก



            “นั่นไงครับ หอพี่ศิลาอยู่ใกล้หอผมที่สุดไง...ผมเลยมาขอไปรอแป๊ปเดียว” เขาอ้างพร้อมทำตาปริบ ๆ



            “พี่จะให้ผมนั่งรออยู่ข้างถนนแล้วโดนยุงกัดเหรอครับ” ทำเสียงน่าสงสารไปด้วย...โถ่วววว..กูไม่สงสารมึงงงงง!!



            ...จะไม่สงสารเด็ดขาด...เกลียดความเป็นคนดีของตัวเองจัง (ทนสายตาอ้อนไม่ไหวก็ว่ามาเถอะ)



            “เออ!! ก็ได้วะ วุ่นวายแม่ง กูคิดค่ารอด้วย มันใช่กงการอะไรของกูไหม” ผมว่าอย่างหงุดหงิด



            “งั้นเดี๋ยวผมไปรอที่รถนะ กลับพร้อมกันนี่แหละ” หมูพูดกระตือรือร้นพร้อมกับขยิบตาให้ผม ไอ้เสากับไอ้นนท์ก็ยิ้มล้อ



            “กูว่าน้องมันสนใจมึงชัวร์” << ไอ้เสา



            “น้องมันก็โคตรหน้าตาดีอ่ะ รู้จักไว้ก็ไม่เสียหาย” << ไอ้นนท์ 


            นี่พวกมึงดูรักกูกันจังงงงงง....และพวกมันสองคนก็กลับหอของมันที่คนละทางกับผม โดยไม่สนใจใยดีว่าผมจะกลับกับไอ้หมูกรอบนี่ได้รึเปล่า


            นี่มันอะไรฟะ!!




            |หอ A|

            ระหว่างทางที่นั่งรถมาด้วยกันกับหมู ผมกับเขาก็ไม่ได้คุยกันเลยแม้แต่นิดเดียว ดีแล้วล่ะที่ไม่คุย เพราะไม่มีอะไรจะคุยอยู่แล้ว แต่ผมก็รู้สึกว่าเขาแอบมองผมเป็นระยะ ๆ....



            ผมเดินเข้ามาในหอโดยที่มีไอ้หมูกรอบเดินตามหลังติด ๆ ปกติผมจะให้ไอ้นนท์มาส่งครับ หรือไม่ก็กลับแท็กซี่เอง ป๊าไม่อนุญาตให้ผมขับรถด้วยความเป็นห่วงและไม่ไว้ใจให้ผมขับ


            ยังไม่ทันจะไขกุญแจเข้าห้องผมก็หันไปถามเขาก่อน



            “เพื่อนมึงบอกว่าจะเอาคีย์การ์ดมาให้ตอนไหน” สาว ๆ ที่พากันเดินผ่านมาถึงกับตะลึงหมูที่อยู่ในสภาพเสื้อนักศึกษาลุ่ย ๆ ผมว่ามันนั่งตากแดดมาทั้งวันน่าจะเหนียวตัวน่าดู


            “ก็ประมาณ 3-4 ทุ่มอ่ะครับ” เขาบอก ผมดูนาฬิกาที่มันเพิ่งจะทุ่มเอง! “พี่จะออกไปอีกไหม”


            “ก็ไม่...” ไม่แน่ใจต่างหาก..


            “แล้วคิดรึยังจะกินข้าวอะไรเย็นนี้” หมูยังซักถามต่อ


            “ยัง” ผมตอบแล้วไขเปิดประตูห้อง หมูเดินเข้ามาตามผมอย่างสงบเสงี่ยม ป๊าเป็นคนหาหอให้ผมอยู่เองครับ เพราะป๊าจะดูทุกอย่างตั้งแต่ยามรักษาความปลอดภัย ยันแม่บ้าน ห้องนี้ก็ใหญ่พอสมควรสำหรับคนเดียว กว้าง สบาย โล่ง ไม่อึดอัด


            “งั้นเราออกไปหาไรกินไหมพี่ กว่าเพื่อนผมจะเอาคีย์การ์ดมาให้” มันเสนอ ก็ความคิดดีแฮะ ผมจะได้ไม่ต้องให้ไอ้นี่อยู่ในห้องผมนาน ๆ ด้วย



            “เอางั้นก็ได้ แต่กูขออาบน้ำก่อนละกัน” ผมว่า ชี้ให้เขาไปนั่งรอที่ปลายเตียง ส่วนผมก็กำลังจะถอดเสื้อตามความเคยชินก็ชะงักเมื่อสบตากับแววตาคมในกระจกที่สะท้อนออกมา


            หมูมันกำลังมองผมถอดเสื้อตาไม่กระพริบ...ไอ้ห่านนนน.... ผมรีบเอาเสื้อลงแล้วคว้าเช็ดตัวเดินหนีเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ใช่สิ...วิ่งเลยต่างหาก


            สายตากรุ่มกริ่มของมันรู้สึกไม่ชอบมาพากลชะมัด...



            “ไม่ต้องรีบก็ได้นะครับ ผมรอพี่ศิลาได้...” เขาตะโกนไล่หลังมา



            ใครรีบ...!! กูแค่จะมาอาบน้ำไปกินข้าวเร็ว ๆ....หิวไงหิวววว....




..................................................................................................
หวังว่าน้องหมูจะเข้าไปอยู่ในใจของคนอ่านเเล้วนะคะ >< :L1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 2|
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 13-04-2017 01:53:49
 o13
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 2|
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 13-04-2017 07:31:47
 :hao3: น่ารักดีค่ะ....รอตอนต่อไป ขอยาวๆและบ่อบๆนะค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 3| (13/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 13-04-2017 17:26:16
ตอนที่ 3



            [พาร์ตของศิลา]



            “พี่ศิลาครับ อันนี้มะ”



            “พี่ศิลาครับ อันนี้ด้วยไหม”



            “พี่ศิลา...”



            “โว้ย!...เรียกชื่อกูทำไมนักหนาวะ” ผมตบโต๊ะอาหารทำเอาพนักงานที่กำลังเสิร์ฟอยู่โต๊ะอื่นสะดุ้ง ก็ไอ้คนตรงหน้าพี่ศิลา ศิลาอยู่นั่นแหละ โว้ย...กูรู้ว่ากูชื่อศิลา



            หมูหัวเราะยิ้มร่าเหมือนสนุก กูรุ่นพี่มึงนะครับ...ไอ้ฟาย



            “ก็อาหารมันน่ากินทุกอย่าง เลยอยากให้พี่บำรุงไง”



            “บำรุงทำไม”



            “ก็พี่ตัวเล็กไม่รู้เหรอ จิ้มลิ้มมากเลย...หมวยเล็ก” เขาพูดคำหลังเบา ๆ แต่ผมได้ยินนะเว้ย!!



            “อย่ามาเรียกกูงั้นนะ ไม่งั้นก็จะลุกออกจากร้านจริง ๆ ด้วย” เขาเลยยกมือห้ามผมไว้ก่อน



            “ล้อเล่นครับ ล้อเล่น...ไม่เรียกแล้ว” ทำไมผมต้องมาต่อร้องต่อเถียงกับไอ้หมูกรอบนี่ด้วยไม่เข้าใจ



            “นี่ไอ้หมูกรอบ...” ผมเผลอเรียกชื่อที่ตั้งฉายาให้เขา “เออ หมู”



            “ไม่!..” เขาตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น(?) “พี่เรียกผมว่าหมูกรอบก็ได้...น่ารักดี”



            ห๊ะ....



            “ฉายาที่อยากตั้งให้ผมใช่ไหม เรียกเลย” เขาดูจะชอบมันมากราวกับว่า มันเพราะมาก ไอ้หมูกรอบเนี่ยนะ เป็นชื่อที่ทำให้อยากกินหมูกรอบราดซอสน้ำหมูแดงไปด้วย...อร่อยแน่ ๆ



            “ถ้ากูอยากเรียกจะเรียกเอง” ผมทำฟอร์ม หมูทำหน้าหง่อยลงนิด ๆ ก่อนจะถามผม



            “ว่าแต่พี่มีอะไรจะพูดเหรอครับ?”



            “ลืมแล้ว” อันนี้ผมลืมจริง ๆ ไม่ได้กวนมันแต่อย่างใด...มัวแต่มองหน้ามันแหละ



            “อ้าว...กวนจังครับ ทำไมลืมง่ายจัง” เขาทำตาปริบ ๆ



            “ลืมแล้วก็คือลืม! อย่ามาถามกูเซ้าซี้ได้มะ” ผมส่งสายตาดุให้มันก็เลยเลิกถาม



            ร้านที่หมูพาผมมา (มันรีเควสเอง) เป็นร้านอาหารตามสั่งข้างทางที่มีคนเข้ามากินเยอะเหมือนกันอยู่ไม่ห่างจากหอของผมมากนัก เพิ่งเคยเข้าครั้งแรกนี่แหละ แต่ผมรู้สึกเกร็งมาก...ก็เพราะว่าสายตาของผู้หญิงที่นั่งกินข้าวกันโต๊ะอื่นมองมารวมที่โต๊ะของผม



            ...พวกเธอไม่ได้มองผมนะครับ แต่มองไอ้หมูกรอบตรงข้ามผมต่างหาก



            หมูพับแขนเสื้อนักศึกษาขึ้นไปเกือบถึงข้อแขนเผยให้เห็นเส้นเลือดที่สาว ๆ พากันชอบกรี๊ด ดูเหมือนมันจะรู้ด้วยว่าคนรอบข้างมองมัน มีการโปรยยิ้มให้สาว ๆ อีก



            เหอะ..คิดว่ามันหล่อมากนักรึไงวะ..หมั่นไส้



            “มองหน้าผมทำไมครับ?” ผมไม่ได้มองมันนนน...



            “กูไม่ได้มอง กูมองรถที่วิ่งตามถนนต่างหาก” ไอ้หมูกำลังจะพูดต่อแต่อาหารก็มาเสิร์ฟซะก่อน



            ผมมองอาหารตรงหน้าอย่างน้ำลายไหล โอ๊ยมันน่ากินทุกอย่างเลยแฮะ...แต่ที่น่าแปลกใจมากก็คือ



            ...ทำไมมันมีแต่ของโปรดผมทั้งนั้น....ไอ้หมูมันเป็นคนสั่งหมดเลยนี่



            “ถูกใจทุกเมนูเลยใช่มะ” เสียงเข้มของหมูดังขึ้นพร้อมกับตะเกียบที่คีบหมูกรอบมาให้ผม



            “ชอบ หมูกรอบ ไหมครับ” มันเน้น ผมกำลังจะตอบก็ชะงัก



            “กูไม่ชอบ มันมีไขมัน!” ผมหันไปสนใจตักอย่างอื่นกินแทน ผมเคี้ยวอาหารตุ้ย ๆ ด้วยความหิวโดยไม่สนใจว่าไอ้คนตรงหน้ามันจะมองหรือทำหน้ายังไงอยู่



            ไอ้เชี่ยนี่ก็จ้อง...และก็ยิ้ม...จ้อง...และก็ยิ้ม....



            กว่าจะกินข้าวอิ่ม! ผมเกือบจะเป็นบ้ากับสายตาที่ไอ้หมูมันมอง ไม่ทราบว่ามันจะมองอะไรกันนักกันหนา แต่ด้วยความที่ขี้เกียจมีเรื่องกับเขาแบบสุด ๆ เลยเลือกที่จะไม่พูด



            “เดี๋ยวแชร์กันจ่าย” ผมควานหากระเป๋าเงินของตัวเอง แต่หมูก็วางแบงค์พันจ่ายบิลไปเฉยเลย



            “ไม่เป็นไรพี่ ผมเลี้ยง” ผมเลิกคิ้ว



            “ไม่ต้อง จะมาเลี้ยงกูทำไมวะ คนละครึ่ง” ผมไม่ยอม จู่ ๆ จะมาเลี้ยงผมทำไมไม่ทราบไม่ได้รู้จักสนิทอะไรกันซะหน่อย



            “ก็เป็นค่าที่พี่บอกว่าให้ผมรอกับพี่ไง” หมูอ้าง



            “มึงไม่เห็นจะอยู่ห้องกูถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ” ผมยืนกรานให้มันรับเงินที่ผมยื่นให้ “เอาไปสิวะ”



            “ผมไม่เอาครับ ก็พี่ยอมมากินข้าวกับผมไง..หรือไม่ก็เอาไว้เลี้ยงผมคืนมื้ออื่นก็ได้” เขาดีดนิ้วเหมือนคิดอะไรออก



            แล้วกูจะมากินกับมึงอีกครั้งทำไมไม่ทราบบบ...!!



            ยังไม่ทันจะเถียงอะไรกับมันจบ เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นซะก่อน



            +ป๊า+ เหยด...ป๊าโทรมา!!



            “เดี๋ยวกูไปคุยโทรศัพท์แป๊ป มึงก็รอเงินทอนมึงละกัน” ผมรีบลุกเดินออกไปนอกร้านทันที พร้อมกับกดรับเบอร์ที่กำลังโทรเข้า



            (“ อาหมวยเล็ก!! ทำไมรับช้าอย่างนี้หา”) ผมรับสายป๊าก็พูดกลับมา อ๊าก...หูผม แถมชื่อประจำตัวผมก็มาเต็ม ๆ



            “ก็ควานหาโทรศัพท์อยู่ไงครับป๊า”



            (“อยู่ไหน กินข้าวรึยัง หืม?”) ป๊าของผมมักจะโทรมาถามข่าวคราวแบบนี้เป็นประจำแหละครับ ก็บอกแล้วว่าป๊าหวงผมยังกับลูกสาว นี่กว่าจะขอมาเรียนคณะวิศวะแสนเถื่อนนี่ก็อ้อนวอนขอสุด ๆ ได้เฮียใหญ่กับเฮียกลางช่วยอีกแรง โฮะ ๆ



            “กินแล้วครับป๊า เพิ่งกินนี่แหละ”



            (“ก็ดีแล้ว ดูแลตัวเองด้วยล่ะ ป๊ากับม๊าคิดถึงหมวยเล็กมาก ๆ...(ป๊าก็ปล่อย ๆ  หมวยไปบ้างเหอะ มันโตแล้วนะเว้ยป๊า)...ไอ้เฮียใหญ่หุบปากไปเลย ป๊าจะปล่อยหมวยเล็กได้ไง..”) ผมได้ยินเสียงเฮียใหญ่พูดขำ ๆ ก็หลุดขำไปด้วย



            คิดถึงบรรยากาศที่บ้านมาก ๆ เลยแฮะ ผมไม่ได้กลับบ้านมาสักพักแล้วล่ะครับ ก็ขึ้นปี 2 มามันก็ต้องรับผิดชอบเรื่องรับน้องด้วย เลยได้มาอยู่ที่หอตั้งแต่มหาวิทยาลัยยังไม่ไปเปิดเทอมเลยด้วยซ้ำ



            (“หมวยเล็กไปนอนเถอะ เดี๋ยวป๊าก็จะนอนแล้ว”) ป๊าบอกกลับมา



            “ครับป๊า หมวยเล็กรักป๊านะ รักม๊าด้วย” ผมบอกกลับอย่างลืมตัวว่าตัวเองอยู่ข้างนอก พอวางสายไปก็ต้องสะดุ้งโหย่งกับเสียงเข้มที่ดังขึ้นด้านหลัง



            “พี่ศิลา..” ผมหันหน้าไปปะทะใบหน้าหล่อคมที่โน้มตัวมาหาผมที่เตี้ยกว่านิดเดียว...(จริง ๆ เตี้ยกว่ามากอยู่)



            “ไอ้เชี่ยหมู!!” ผมผงะ หมูหัวเราะพอใจ



            “ฮ่า ๆ ผมชอบฉายาหมูกรอบ มากกว่าเชี่ยหมูนะครับ” เขายิ้มต่อปากต่อคำกับผม



            “มึงมายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ถามเหมือนร้อนตัว...



            หมูกดรีโมทเปิดรถเหลือบมองผมด้วยสายตากวนตีนสุด ๆ



            “อยากให้ผมมายืนอยู่ตรงนี้ตอนไหนล่ะครับ?”



            “กูไม่พูดกับมึงละ!! แม่ง...กวน” ผมสบถเดินจ้ำอ้าวขึ้นรถไป หมูก็เดินขึ้นรถแล้วพาผมกลับมาที่หออย่างความปลอดภัย



            เกือบกระทืบไอ้หมูกรอบนี่ในรถซะแล้ว...เหอะ โทษฐานกล้าต่อปากต่อคำกับรุ่นพี่



            | หอ A |



            ผมลงจากรถก่อนจะมองไอ้หมูที่เปิดกระจกรถยิ้มแฉ่งอยู่ เห็นเมื่อกี้ก่อนมาถึงหอผมเพื่อนมันโทรบอกแล้วล่ะครับ ว่าเพื่อนมันกลับมาละ ดี! จะได้ไม่ต้องมาเป็นภาระของผม...จริง ๆ ไม่ได้เป็นภาระเลยสักนิด แถมมันยังมาเลี้ยงข้าวผมอีก เป็นเหตุการณ์งง ๆ แต่ก็เอาเถอะได้กินของโปรดจนอิ่มท้องก็โอเค



            “เจอกันพรุ่งนี้ที่มหาลัยนะครับ พี่ศิลา”



            “กูไม่อยากเจอมึงอ่ะ บาย” ผมบอกพร้อมยกมือบ๊ายบายและหันหลังเดินกลับไปหอของตัวเอง



            โดยที่ไม่รู้ว่าหมูมองจนผมเข้าไปในหอแล้วถึงจะยอมขับรถกลับไปหอตัวเองที่ฝั่งตรงข้าม



            ............

            ...........



            เสียงสั่งระเบียบเชียร์ตั้งแต่เช้าของถั่วดำดังขึ้นอย่างไม่มีผ่อนแรง กำลังสงสัยว่ามันไปเอากำลังจากไหนมา แถมยังไม่หลุดขำด้วยนะ แต่ถ้าหลังเลิกคลาสไม่เห็นหน้าน้อง ๆ ปี 1 ถั่วดำกรี๊ดสนั่นมากครับ ผมก็ยังคงรับหน้าที่เดิมคือเด็กเสิร์ฟน้ำกับไอ้พวกเสากับนนท์นี่แหละ



            “มึงเสร็จน้องยัง” นั่นคือคำถามแรกของไอ้พวกเพื่อนชั่วที่โยนผมไปให้ไอ้หมู ถามได้น่าเอาปืนลูกซองมายิงมาก



            ผมเอามือฟาดพวกมันไปคนละทีด้วยความหมั่นไส้และคันไม้คันมือ



            “เสร็จเชี่ยอะไรวะ! กูไปกินข้าวกับมันเฉย ๆ คิดอะไรบ้าอะไรของพวกมึง” 



            “แหม มีกินข้าวด้วยเว้ย...ก้าวหน้า” ไอ้เสาหันไปหัวเราะคิกคักกับไอ้นนท์ที่นั่งเล่นเกมเหมือนเดิม ไอ้นี่ก็กะจะเล่นแต่เกมทั้งวัน



            มาก้าวนงก้าวหน้าบ้าไร...ไม่เห็นจะเกี่ยวกับไอ้เด็กนั่นสักนิด



            “เออ! ไอ้ศิลามึงไปห้องซ้อมดาวเดือนกับกูด้วยนะวันนี้” จู่ ๆ ไอ้เสาก็พูดขึ้น



            มันเกี่ยวอะไรกับกูอีกครับ...พวกนี้ชอบโยนแต่งานมาให้ผมตลอด!



            “กูไม่ไป”



            “เอ๋า ไม่อยากไปดูน้องหมูกรอบของมึงหน่อยเหรอ ป่ะ ๆ อย่าลืมว่าตอนประกวดครั้งก่อนมึงก็ไปช่วยดูแลเหมือนกัน” เสาทำตาปริบ ๆ



            “กูจะฟ้องเจ้นิ่มถ้ามึงไม่ไป ว่ามึงแม่งไม่มีน้ำใจจะช่วยเหลือกองประกวดเล๊ย...” มันแกล้งบ่น



            “เออ ๆ! ไปก็ไป มึงแหละแม่งไม่เคยจะทำหน้าที่เป็นรองเดือนที่ดี ได้มาได้ยังไงวะตำแหน่งนี้”



            “กรรมการเมากาวแหละกูว่า” ไอ้นนท์จากที่เงียบมานานก็พูดว่าไอ้เสาด้วย เสาเลยเอามือไปกอดคอนนท์แล้วทำท่าบีบ



            เป็นอะไรที่ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยอีกเลยก็คือ กองประกวดดาวเดือน...ถ้าจะถามว่าผมไปเกี่ยวอะไรด้วยกับพวกดาวเดือนทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้เป็น คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ จะเล่าสั้น ๆ แบบกระชับใจความสำคัญ ผมดันเป็นเพื่อนกับไอ้เสา (รองเดือนมหาวิทยาลัย) เพื่อนสนิทของผมเองแหละ มันก็บังคับให้ผมไปเป็นเพื่อนมันด้วย และเจ้นิ่มที่ไอ้เสากล่าวถึงไว้เมื่อกี้ ดันมาต้องตาต้องใจในใบหน้าของผม (เจ้แกชมว่ามันขาว สวย เนียน) เจ้แกกะจะดันผมให้เป็น ดาววิศวะ แทนดาวที่ประกวดอยู่ตอนนั้นด้วยซ้ำ....ด้วยความที่เจ้นิ่มถูกชะตากับผม ก็เลยได้ช่วยงานอยู่แถว ๆ กองนั่นแหละ และงานที่ผมช่วยก็คือ...เติมหน้าให้เดือนคณะนั่นคณะนี้บ้าง



            แต่ที่มันพีคไปกว่านั้นคือ...ผมดันได้ไปสอนรำให้กับดาวของคณะครุศาสตร์ด้วยน่ะสิก็เลยมีชื่อเสียงในพวกกองประกวดดาวเดือนซะงั้น....รู้เรื่องนี้ก็เหยียบไว้ให้มิดเลยนะครับ เพราะมีไม่กี่คนในกองหรอกที่รู้  คนนอกไม่รู้



            ถามว่าทำไมคนอย่างผมรำเป็น ก็ป๊าส่งผมไปเรียนมาไงครับ...เรียนตามแบบฉบับหญิงไทยเป๊ะ..ยังมีอีกหลายวิชาที่ป๊าส่งผมไปเรียนมา แต่ผมไม่บอกทุกคนหรอกครับว่าไปเรียนอะไรมาบ้าง...





            เวลาประมาณ 15:00 น.



            @ห้องซ้อมดาวเดือน



            ผมโดยเพื่อนทรยศครั้งที่ 2  ไอ้เพื่อนชั่วววว...พวกมันทิ้งผมให้มาที่กองคนเดียวอีกแล้ว! ตอนแรกไอ้เสาเดินมาด้วยกับผม แต่จู่ ๆ มันดันบอกว่า แม่มันโทรตามตัวไปทำธุระให้ด่วน โอ๊ย ผมว่าผมควรจะได้ตำแหน่งรองเดือนแทนไอ้เสาอ่ะ! ถ้าจะให้ผมมาทำงานอยู่ในกองประกวดขนาดนี้!



            เสามันเดินมาพร้อมผมก่อนจะขอตัวออกไป ผมที่เดินเข้ามาในห้องแล้วแถมพวกน้อง ๆ ดาวเดือนที่ถูกคัดเลือกไว้ยังมองมาที่ผมกันพรึบ จะแอบย่องออกไปก็ไม่ทันซะละ



            “อ๊ายยย!! นี่มันนางฟ้าของบ่าววว...น้องศิลา” เจ้นิ่มอยู่ปี 4 แล้วล่ะครับ คณะบริหารธุรกิจเป็นประธานใหญ่ในการดูแลกองประกวดดาวเดือน เจ้แกวิ่งเข้ามากอดผมไว้หมับ



            ‘นางฟ้าของบ่าว’ ทำเอาผมขนลุกซู่ มีคำดีกว่านี้ไหมวะ....แต่ก็ไม่กล้าขัดเจ้แกเพราะดูจากแข้งแล้ว ผมไม่น่ารอด



            “สวัสดีเจ้...เออ หายใจไม่ออก” ผมดันเจ้ออกนิด ๆ



            “แหม ไม่เจอกันตั้งนานตั้งแต่การประกวดจบยังสวยเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ!” ....หล่อครับหล่อ.....



            “จริง ๆ ก็ไม่ได้อยากมา” ผมพึมพำ เจ้แกหันขวับมา “อ้อ ก็กะจะมาช่วย ๆ เจ้ดูน้องนี่แหละครับ แวะมาดูเด็กคณะตัวเองด้วย” ผมว่า เจ้นิ่มก็ยิ้มกว้างมาให้ผม และจับไหล่ของผมให้ไปยืนอยู่ต่อหน้าน้องดาวเดือนที่ทำตาปริบ ๆ เหมือนกำลังพากันแต่งหน้า



            สงสัยจะไปถ่ายรูปโปรไฟล์การประกวด



            “เอ้า เด็ก ๆ ทักทายพี่ศิลา ปี 2 คณะวิศวะหน่อยเร็วววว...พี่เขาถือเป็นดาวของกองประกวดเชียวนะ”



            ทั้ง ๆ ที่ก็มีอยู่หลายคณะที่นั่งเรียงกันอยู่แต่คนที่ผมมองเห็นชัดที่สุดคือ หมู มันนั่งอยู่หลังสุดแต่กลับเด่นกว่าคนอื่นชะมัด สงสัยเพราะมันตัวสูง...



            ไอ้พวกรุ่นน้องพากันทำตาโตเหมือนฟังเรื่องตื่นเต้น....กูจะบ้ากับฉายาดาวของกองประกวด หมูที่นั่งทำหน้านิ่งแต่แววตากลับยิ้มเหมือนอยากจะหัวเราะ ผมรู้!  ผมดูมันออก ว่าแต่ผมจะไปดูมันทำไมฟะ!



            หลังจากแนะนำฉายาอันหน้าอายของผมเสร็จทุกคนก็เริ่มทำงานกัน ผมเดินไปหาไอ้รุ่นน้องเดือนคณะของผม มันหน้าเถื่อน ๆ หน่อย หล่อผิวเข้มชายไทยแท้มาก



            “มึงชื่ออะไรนะ กูจำไม่ได้” ผมถามรุ่นน้องตัวเองแต่สิ่งที่ได้ยินกลับมากลับไม่ใช่คำตอบที่ผมต้องการ



            “หมูครับ” เสียงตอบมาจากไอ้เดือนคณะแพทย์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คณะผม



            “กูถามน้องกู” ผมมองเสื้อผ้าหน้าผมของหมูที่ยังไม่ได้ทำอะไรมาก แต่กลับเหมือนนายแบบพร้อมเดินแฟชั่นวีคในชุดนักศึกษามาก



            นี่มึงจะไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นเขาได้แจ้งเกิดเลยเหรอ....



            “ผมชื่อโชครับ” รุ่นน้องผมตอบพร้อมกับหัวเราะไอ้หมู “อยากพูดกับพี่ศิลาคณะกูก็บอก”



            “ใช่ อยากคุยกับพี่ศิลามาก...พี่เขามีเบอร์ปะวะ” หมูถามไอ้โชกลับ ราวกับว่าผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ เดี๋ยว...อย่าบอกว่าไอ้สองคนนี่มันเป็นเพื่อนกันนะ!



            “ถามเองดีไหมวะ พี่เขาก็ยืนอยู่ตรงนี้” ยัง...มันยังไม่หยุดเล่นกันอีก



            “พวกมึงสองคนเล่นกันพอยัง”  ผมมองด้วยสายตานิ่ง ๆ ไม่รู้มันดุไหม เก๊กไว้ก่อน โชเลยลุกหนีไปก่อนเพราะต้องไปถ่ายโปรไฟล์คิวต่อไป



            หมูเงยหน้ามองผมด้วยรอยยิ้มโปรยเสน่ห์ที่สาวหลายคนเห็นแล้วอาจจะกรี๊ดจนคอแหบคอแห้งไปเลยก็ได้ แต่ผมก็แค่มองนิ่ง ๆ



            “ผมพูดจริงนะ” จู่ ๆ มันก็พูดขึ้นหลังจากที่เราจ้องกันอย่างไม่ยอมแพ้



            “พูดอะไรจริง”



            “เบอร์น่ะ...” เขาลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวไปถ่ายโปรไฟล์ต่อจากคณะที่ถ่ายเสร็จ



            “ผมอยากได้เบอร์พี่ศิลาจริง ๆ เดี๋ยวกลับมาขอนะ” มันเอาไหล่มาสะกิดผมนิด ๆ ก่อนจะเดินผ่านผมไป ...ขะ..ขอเบอร์บ้าบอไรวะ!! ไม่ให้โว้ย



            ถามจริงว่าวันนี้ผมมานั่งทำอะไรอยู่ในกองประกวด ไม่ได้ทำอะไรสักอย่างนอกจากนั่งเถียงกับไอ้หมูที่กลับมานั่งเก้าอี้ของมันปุ๊ปของทวงขอเบอร์ผมอยู่นั่นแหละ



            “ให้ไม่ได้เหรอ” เสียงตื้อจากคนข้าง ๆ ทำเอาผมเริ่มรำคาญ



            “ศูนย์” ผมตอบออกไป มันเลิกคิ้ว “ก็มึงบอกขอเบอร์ไง กูให้ตัวเดียวคือเลข 0 นอกนั้นไปหาเอง”



            “โหย จะซุ่มยังไงให้เจอ หมดเป็นแสนก็ไม่เจอ...ให้หน่อยนะสิบหลัก นะ” หมูทำตาปริบ ๆ มันคิดว่ามันน่ารักเหรอ....



            แล้วกูจำเป็นต้องให้เหรอออออออ....!



            “เอ้า! เด็ก ๆ วันนี้ถือว่าพวกหนูได้ให้ความร่วมมือดีมากกกก...ปรบมือให้ตัวเองค๊า!!...” เจ้นิ่มปรบมือเสียงดังเรียกความสนใจของหมูให้หันไปสนใจแทนที่จะมาตื้อขอเบอร์กับผม



            “แล้วก็มีเรื่องอยากจะแจ้งน้องดาวเดือนทุกคนว่า ให้ไปเตรียมคิดการแสดงตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยนะจ๊ะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยซ้อมกัน...คิดไว้แล้วไปหาซ้อม ๆ ได้เลยนะจ๊ะ สำหรับวันนี้ก็พอแค่นี้จ้า!” เจ้นิ่มร่ายยาวมาเป็นกิโลจนผมเกือบจะหลับ



            แรงสะกิดเสื้อจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมองไอ้คนที่สะกิด...เพื่อนเล่นเหรอวะ



            “พี่ศิลา...”  เสียงที่ไอ้หมูเรียกผมมันชวนขนลุกชะมัด มันเป็นน้ำเสียงทุ้ม ๆ ฟังดูอ่อนโยนแปลก ๆ



            “อะไรของมึง สะกิดกูแบบนี้เพื่อนเล่นเหรอ”



            “นี่ถ้าไม่เกรงใจผมกะจะกอดเลย” ผมลุกขึ้นพรึบ หมูเลยหลุดหัวเราะพร้อมกับลุกขึ้นตามผม



            “ผมแค่จะถามพี่ว่า มีการแสดงอะไรแนะนำผมไหม”



            ตอนนี้คนในกองประกวดทยอยกันกลับกันเกือบหมดแล้ว อ้าวเฮ้ย...อย่ามาทิ้งกูไว้กับไอ้นี่เซ่



            “ไม่มี” ผมตอบทันควัน



            “เอ๊ะ สองคนนี้ทำไมดูสนิทกันจัง” เจ้นิ่มที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องแต่งตัวคนสุดท้ายมองพวกผมด้วยสายตาแปลกใจและส่งสายตาวิ้ง ๆ ให้ไอ้หมูด้วย



            “ผมว่าจะให้พี่ศิลาแนะนำการแสดงให้น่ะครับ...แต่เหมือนพี่เขาไม่อยากช่วยเลย” หมูทำเสียงให้น่าสงสารเหมือนผมใจร้ายมาก ....ตอแหลลล



            และผมก็ต้องตาโตกับความคิดของเจ้นิ่ม



            “ทำไมไม่ช่วยน้องล่ะคะ น้องศิลาก็รำเก่งนี่...พี่ว่าถ้าน้องหมูใช้การรำแบบตัวพระเอกเป็นการแสดง สาวก็น่าจะกรี๊ดเยอะนะ รักษาวัฒนธรรมไทย”



            เฮือก...ไปบอกไอ้หมูมันทำไมเล่าเจ้!!



            “พี่ศิลารำเป็นด้วยเหรอครับเนี่ย!” หมูตาลุกวาวประดุจเห็นของที่ตื่นตาตื่นใจ



            เออ กูรำเป็น กูเก่ง...แต่เรื่องอะไรจะไปยอมรับล่ะครับ



            “ไม่ / ใช่จ๊ะ” ผมตอบพร้อมกับเจ้นิ่มที่ตอบพร้อมกัน



            “เจ้มีหลักฐานนะ!” ผมเริ่มหน้าซีดเมื่อเห็นโทรศัพท์ไอโฟนพลัสเครื่องใหญ่ของเจ้นิ่มผู้ไม่ยอมแพ้ เปิดหาคลิปของผมอยู่



            อย่าว่าถ่ายเก็บไว้ด้วย!! ตอนไหนฟะ...



            หมูเองก็ตั้งใจดูสิ่งที่เจ้แกบอกจะโชว์ ส่วนผมเองก็ตั้งใจดูเหมือนกันว่ามันคลิปตอนไหนวะ!



            ผมมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเบิกตากว้าง....กับคนที่อยู่ในจอโทรศัพท์มันคือผม! เป็นตอนที่ซ้อมให้น้องดาวดู ผมใส่จงกระเบนสีแดงแบบนางรำ มืออ่อนช้อยอรชร ร่ายรำมือไม้อ่อนในเพลงลาวดวงเดือน  ผิวขาวรึว่าไฟนีออนมาเอง ช่วงนั้นผมค่อนข้างขาวมากเพราะเพิ่งเข้ามาที่มหาลัยใหม่ ๆ แถมยังผอมกว่านี้ด้วย ตัวเล็กมาก หลังจากปีสองมาเริ่มตากแดดเลยผิวไม่ขาวมาก...แต่ก็ขาวอยู่ดี (อะไรของมึงครับศิลา)





            หมูดูคลิปที่ผมรำและมองอึ้ง ๆ เหมือนมันไม่อยากจะเชื่อ....กูเองก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกัน พอมองสายตายิ้มประจำตัวของมันก็รู้เลยว่าผมต้องได้สอนมันแน่



            เชี่ยแล้ว...ผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมรำได้ก็มันเหมือนผู้หญิงน่ะสิ!!....แถมจะให้ไปสอนคนอย่างไอ้หมูกรอบรำเนี่ยนะ!! บ้าไปแล้ว



            ...ผมจะไม่สอนมันเด็ดขาดโว้ย!!...ยื่นคำขาด การแสดงอันอื่นก็มีจะมารำทำไมมมม...แก้เสื้อโชว์ซิคแพคแร็บบีบอยก็ทำไปเซ่!!.....




...

ขอพื้นที่ให้น้องหมูของเราด้วยค่าา 555555 ><  :L1:
ฝากน้องหมูไว้ในอ้อมกอดด้วยน๊าาา
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 3|
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 13-04-2017 18:23:03
5555

ปล. ห้อยท้ายวันที่ลงนิยายหลังชื่อตอน ด้วยจะดีมากเลยค่ะ คือ ตามอ่านไม่ถูก ถ้าลงวันที่ลงจะได้เห็นว่าอัพแล้ว
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 3|
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 13-04-2017 21:20:11
มาupเร็วมาก...นักเขียนน่ารักมากมาย...ขอบคุณมากค่ะ....ขอแบบเร็วๆและยาวๆอย่างต่อเนื่องนะค่ะเพราะเรื่องน่ารักน่าอ่านน่าติดตามมากมาย :mew1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 3|
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 13-04-2017 21:41:41
 :oo1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 3|
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 14-04-2017 01:43:10
น้องหมูสู้ๆ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 3|
เริ่มหัวข้อโดย: ΩPRESTOΩ ที่ 14-04-2017 08:08:49


ชูป้ายไฟ เชียร์หมูกรอบ
 :110011:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 3|
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 14-04-2017 08:49:40
หิวเลย อยากกินกะเพราหมูกรอบเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 3|
เริ่มหัวข้อโดย: naezapril ที่ 14-04-2017 17:18:34
สอนน้องเขารำหน่อยยย
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 4| (14/4/60) #ตอนต้น
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 14-04-2017 19:49:07
ตอนที่ 4



            [พาร์ตของศิลา]



            ไม่ก็คือไม่!....ไม่รอดหรอกไอ้ศิลาเอ๊ย...


            นี่มันเรื่องบ้าบออะไรของผม ใช่ธุระของผมไหม? ก็ไม่!...แต่ถามว่าผมปฏิเสธไอ้หมูได้ไหม ผมเพิ่งรู้ว่าเห็นมันหน้าหล่อใสใสแต่ร้ายกาจมาก!! มันกล้าขู่ผมและตั้งเงื่อนไขกับผม


            “ถ้าพี่ยอมช่วยผมคิดการแสดง...ผมจะไม่เอาเรื่องที่พี่รำได้ไปบอกใครแน่นอน”



            คิดว่าเรื่องแค่นี้มันจะขู่ผมได้เหรอ!!...เออ มึงขู่ได้ T.T ก็ผมไม่อยากให้ใครรู้


            เรื่องนี้เจ้นิ่มก็มีส่วนรู้เห็น ดูเหมือนจะชอบอกชอบใจไอ้หมูมาก ผมว่ามันควรจะเอาตำแหน่งไปเล๊ย ไม่ต้องประกงประกวดมันละ! แถมเจ้ยังมาประจานคลิปต่อหน้าไอ้หมูอีก


            หลังจากที่มันขู่ผมเสร็จก็บังคับเอาเบอร์จากผมให้ได้ แต่ถามว่าผมจะยอมให้เบอร์มันครบทุกตัวเหรอ เหอะ ๆ ไม่มีวันครับ...ผมให้มันเดาอีก 3 ตัว โฮะ ๆ ผมเชื่อว่าคืนนี้ยังไงมันก็หายังไม่เจอแน่ ๆ!!




            @หอA



            ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงพลางคิดเรื่องการแสดงให้กับหมู แต่ไม่ใช่ว่าผมใส่ใจมันนะ! เพราะไม่อยากสอนรำมันนั่นแหละครับ เลยต้องพยายามคิดหาการแสดงอันอื่น ว่าแต่มันทำอะไรได้บ้างผมจะไปรู้ไหม



            เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นทำให้ผมกระเด้งตัวอย่างตกใจ แต่พอเห็นชื่อ +ไอ้เสา+ ก็ไม่ได้รีบรับ      รึว่าจะเป็นไอ้หมูซะอีก เอ๊ะ...แล้วผมจะไปนึกว่ามันโทรมาทำไมวะ!



            “ไง ไอ้เพื่อนชั่วมึงทิ้งกู!” ผมรับสายพร้อมด่าไม่จริงจัง



            (“โหย กูพาแม่มาทำธุระ อ้อ กูเจอน้องหมูกรอบของมึงด้วย”) เหมือนไอ้เสามันจะติดเรียกว่าน้องหมูกรอบของผมไปซะละ เบื่อจะเถียง



            “เจอที่ไหน”



            (“ฮั่นแน่ ถามกลับเร็วเชียว”) ผมกำลังจะด่ามันก็ตะโกนกลับมาก่อน



            (“กูรู้ว่ามึงกำลังจะอ้าปากด่า แต่หยุดไว้ก่อน ให้กูได้เล่าก่อนกูคันปาก”)



            มึงไปกินหมามุ่ยมาเหรอทำไมคันปาก?..(มุขนี้ผ่านไปเถอะครับ)



            “เออ จะเล่าก็เล่ามา” ผมนั่งขัดสมาธิพร้อมฟังมาก



            (“กูเห็นน้องมันมากับผู้หญิงว่ะ สวยมากด้วย”) แล้วไงมันเกี่ยวอะไรกับผม?...



            “แล้วไง”



            (“อ้าว นี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”) ไอ้เสาถามสะกิด จะให้ผมรู้สึกอะไร? ไอ้หมูนั่นจะไปไหนกับใครก็ไปสิ ไปเลย!!



            “จะให้กูรู้สึกอะไร” ผมว่า ก่อนจะชะงักกับสิ่งที่ไอ้เสาถามต่อ



            (“มึงจะช่วยน้องมันซ้อมการแสดงเหรอวะ เห็นน้องมันบอกเพราะมันเห็นกูพอดี”)



            “มันบอกมึงเหรอ”



            (“เออ บอกว่าจะให้มึงคิดการแสดงให้ มันบอกไม่รู้จะแสดงอะไร”) ไอ้เสาว่า ดี...ที่ไอ้หมูมันรักษาคำพูดที่ไม่ได้บอกใคร



            “ใช่”



            (“โหย...ไรวะ รู้จักกันไม่กี่วันห่วงใยกันเหลือเกิน เพื่อนกูใกล้จะสละโสดยังวะ ต้องไปบอกไอ้สัดนนท์ซะแล้ว”)



            “กวนส้น” ผมด่ามันปลายสายก็หัวเราะเหมือนคนบ้าตามประสามันก่อนจะวางสายไป



            ผมกดดูเวลาที่ตอนนี้ประมาณ 21:00 น. แล้วล่ะครับ เริ่มง่วงชะมัด ผมวางโทรศัพท์คว่ำลงบนเตียง แต่ยังไม่ทันจะได้ลุกไปอาบน้ำโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นก่อน ผมรับสายเลยโดยไม่ได้ดูว่าใครโทรมาแต่คิดว่าน่าเป็นไอ้เสาโทรมาอีก



            “ว่าไงไอ้เสา มึงจะชวนกูไปไหนเหรอ” ผมถามรึว่ามันลืมบอกอะไรแต่ก็ต้องชะงักกับเสียงเข้มที่ดังกลับมา



            (“เมื่อกี้สายไม่ว่าง คุยกับคนอื่นอยู่เหรอครับ พี่ศิลา”) เสียงไอ้เดือนแพทย์ชัด ๆ!!



            ผมเอาโทรศัพท์ออกจากหูมองเบอร์แปลกที่โทรเข้า...มันซุ่มเบอร์ผมเจอได้ยังไง! จำได้ว่ามันเพิ่งแยกกับผมตอนประมาณทุ่มกว่า ๆ ...คือมันมาส่งผมน่ะครับหลังจากที่มันพาผมไปกินข้าว..(ไหนบอกจะไปไม่กินด้วยกันอีกรอบไง) ก็บังเอิญกลับมาด้วยกันก็เลยแวะกินให้จบ ๆ ไป....แต่มื้อนี้ผมแชร์กันจ่ายกับมันนะ!!



            แลดูภูมิใจมาก...



            (“ทำไมเงียบครับ ผมพูดด้วยนะ”) เสียงหมูดังกลับมาอีกครั้ง ทุ้มมากก้องสุด ๆ



            “เออ เพื่อนกูโทรมา...แล้วมึงโทรมาทำไมไม่ทราบ”



            (“โทรไม่ได้เหรอ”) ไม่ได้โว้ย....



            “แล้วจะโทรมาทำไมล่ะ นี่มึงซุ่มเบอร์เหรอ” ผมถามด้วยความอยากรู้ ผมเว้นไว้ให้มันตั้งสามตัว!



            (“ไม่บอกครับ รู้แค่ว่าเจอเบอร์พี่ก็พอแล้ว...พี่ศิลาอย่าคุยกับผู้ชายคนอื่นสิ”) จู่ ๆ มันก็บอก...นั่นมันเพื่อนกูไหมล่ะ



            “ทำไมกูจะต้องฟังมึงด้วย เกี่ยวไรกับมึง” ผมพูดต่อ จากที่จะลุกไปอาบน้ำก็ทิ้งตัวนอนลงที่เตียงของตัวเองเหมือนเดิม



            (“แน่นอนว่าทุกอย่างมันก็ต้องมีเหตุผลในตัวของมันอยู่แล้วล่ะครับ”) มันพล่ามอะไรวะ...



            ผมไม่เข้าใจ ศัพท์แพทย์เหรอ?



            “มึงพูดอะ....” ผมยังถามไม่ทันจะจบปลายสายก็แทรกมาก่อน



            (“บอกกับผมมาก่อนว่าจะไม่คุยกับผู้ชายคนอื่นก่อนนอน...”)



            “ทำไมกูต้อง”



            (“ขอแค่นี้ไม่ได้เหรอครับ แค่อย่าคุยก่อนจะนอน”) หมูย้ำมาตามสาย อะไรของมันนนน...



            ขี้เกียจเถียงกับมัน..



            “เออ ๆ วุ่นวายชะมัด รู้แล้ว” ผมตอบส่ง ๆ ไป



            (“รู้ว่าอะไรครับ?”) อ้าว ไอ้นี่...



            “ไม่ให้คุยโทรศัพท์กับผู้ชายคนอื่นก่อนนอน” ผมตอบอย่างจำใจและก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจะต้องมาตอบอะไรแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ผมตัดสายเขาไปเลยก็ได้ แต่ผมกลับไม่ทำ ก็มันไม่มีมารยาทไงก็เลยไม่ได้ตัดสาย



            ปลายสายมันเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สดใสกว่าเมื่อกี้ ผมชักจะกลัวไอ้หมูขึ้นมาละ มันสติดีอยู่รึเปล่าฟะ



            (“ดีมากครับ...แล้วนี่พี่อาบน้ำรึยัง”)



            “ยัง”



            (“พรุ่งนี้วันเสาร์พี่มีกิจกรรมที่คณะไหม?”) ผมคิดอยู่สักพัก พรุ่งนี้ดูเหมือนจะไม่มีแฮะ เพราะจะเป็นช่วงเปิดประชุมคลาสเชียร์ใหญ่ก็เลยให้น้อง ๆ ปี 1 ได้พักเสาร์อาทิตย์ ไม่ใช่ว่ารุ่นพี่อย่างพวกผมจะนัดน้องมาทุกวันซะเมื่อไหร่ มันก็ต้องมีเวลาไปพักผ่อนกับบ้างสิครับ



            “ก็ไม่มี” จริง ๆ ผมไม่เห็นจะต้องตอบมันก็ได้...แต่ก็ตอบมันไปแล้ว



            (“งั้นพรุ่งนี้ผมจะไปรับพี่นะครับ ฝันดีครับพี่ศิลา อย่าลืมไปอาบน้ำล่ะ”) หมูพูดรวบรัดและตัดสายผมทิ้งไปทันที ผมยังไม่พูดอะไรมันก็เออออห่อหมกเองหมด!!



            “ไอ้สัด เดี๋ยว...”



            มันบอกพรุ่งนี้จะมารับ....มารับไหนของมึงงงงงง...ไม่ไปครับ ผมจะถือว่าตัวเองไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดออกมา





            + วันต่อมา +



            ผมกำลังนั่งเช็ดผมตัวเองให้มันแห้งอยู่เพลิน ๆ ดูโทรทัศน์ไปด้วยกับวันพักผ่อนของผม เฮ้....ก่อนเสียงออดหน้าห้องของผมจะดังขึ้น ใครมันมาแต่เช้า...จริง ๆ ไม่เช้าละ ก็มันเก้าโมงกว่าแล้วนี่ครับ



            ผมเปิดประตูและปิดมันลงปัง! เมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่หน้าห้อง...! ไอ้หมูยืนยิ้มแป้นในชุดปกติที่โคตรเหมือนจะไปเดินแฟชั่นโชว์



            “พี่ศิลา เปิดประตูออกมาครับ ผมมารับพี่ไปข้างนอกด้วยกัน” เสียงเข้มเรียก



            “กูไม่ไปโว้ย ใครเขาบอกว่าจะไปกับมึง!” ผมว่ากลับผ่านประตู



            “ก็ผมบอกแล้วไงว่าจะมารับ จะได้ไปช่วยกันคิดการแสดงไง...ออกมาเดี๋ยวนี้ครับ” มันเรียกแกมบังคับ ใช่เรื่องที่ผมจะต้องช่วยคิดไหม...ถ้าไม่ไปรับปากมันไว้แล้วอ่ะนะ ทำไมผมต้องหางานให้ตัวเองเพิ่มอยู่เรื่อยเลยวะ



            คนดีไงครับ ศรีสังคม โฮะ ๆ....



            แล้วถามว่าคนอย่างผมจะออกมากับไอ้หมูไหม...เออครับ ผมออกมากับมันจนได้ ก็รำคาญมันอ่ะ มันเล่นเคาะ ๆ จนประตูของผมจะพัง เดี๋ยวยามก็ได้ขึ้นมาดูกันพอดีว่าไอ้นี่มายืนเคาะอะไรอยู่หน้าห้องผมอยู่ได้



            และที่ผมอยากจะบ้ากับมันก็คือ...ไอ้หมูขับพาผมมาที่ห้างซะงั้น ผมยอมไปไหนมาไหนกับมันง่ายไปรึเปล่าวะ ยังสงสัยตัวเอง 



            “พากูมานี่ทำไม ไหนบอกจะคุยเรื่องการแสดงวะ” ผมถามขณะที่ลงมาจากรถ หมูเดินอ้อมมาอีกฝั่งมาหาผมที่ยืนกอดอกอยู่ หมูยกนาฬิกาขึ้นดูตาของมันโตนิด ๆ



            “จะ 10 โมงครึ่งแล้ว ป่ะพี่ศิลารีบเข้าไปเหอะ” ไม่บอกเปล่าแต่กลับจูงมือ!..ไม่ใช่สิ มันลากมือผมไปเลยครับ



            เฮ้ยยยย ไอ้เชี่ย กูไม่ใช่สาวน้อยนะ



            “เข้าไปไหนวะ! ปล่อยมือกูเดี๋ยวนี้นะ!” ผมจะบิดมือออกแต่ทว่ามือหนา ๆ ของหมู ที่เพิ่งสังเกตว่าใหญ่กว่ามือของผมอีก กุมมือผมแน่นกว่าเดิม



            “ไปดูหนังครับ”



            “ห๊ะ...? หนังไรของมึง” ผมถึงกับขมวดคิ้ว



            “ซื้อตั๋วแล้ว เรื่องนี้สนุก” หมูยิ้มภูมิใจนำเสนอ อ๋อ หนังเรื่องนี้มันสนุก...ผมว่ามันไม่ใช่ประเด็นละ



            “กูไม่ชอบดูหนัง! ไอ้เชี่ยหมู! ปล่อย!” เสียงเด็ดขาดของผมดังหน้าโรงหนังพอดีเป๊ะ หมูยอมปล่อยมือออกจากผมปั๊ป คนหันมามองเราตาปริบ ๆ



            “ดูหน่อยนะ ผมอยากดูหนังกับพี่” มันอ้อนผมราวกับว่ากำลังง้อแฟน ทำเอาคนรอบข้างแอบเหลือบตามองด้วยความอยากรู้เต็มที่ ก็ไอ้คนที่มันกำลังอ้อนผมอยู่ตรงหน้า โคตรหล่อในสายตาของสาวน้อยสาวใหญ่ที่ยืนรอเข้าไปดูหนังน่ะสิ!



            “มึงก็ไปหาผู้หญิงคนอื่นมาดูด้วยสิ ถ้าจะชวนกูมาดู กูขอกลับไปนอน” ผมหาอะไรอ้างขึ้นมาและปากก็ดันพูดไปถึงเรื่องที่ไอ้เสาเล่ามาเมื่อวาน หมูเลิกคิ้วนิดหน่อย



            “ได้ไงครับ ผมจะชวนแค่พี่ศิลา” หมูเว้นจังหวะพร้อมกับมองหน้าผมตรง ๆ “คนที่ผมอยากดูด้วยก็มีแค่พี่....” ผมกำลังรู้สึกว่าสายตาหลายคู่เริ่มจับจ้องมาที่เราสองคน



            “ไหนบอกจะคิดการแสดงวะ!”



            “ทิ้งการแสดงไว้ก่อนเหอะ อยากมาพักผ่อนบ้าง นะนะ ดูหนัง” โอ้โห...กะทิ้งงานเต็ม ๆ สรุปมันหลอกผมให้ออกมาโดยใช้ข้ออ้างการแสดง ไอ้เชี่ยหมู! ...แต่กูก็เชื่อมันและออกมากับมันจนได้ละนะ



            “ก็บอกว่ากูไม่ชอบดูหนัง” ในโรงหนังมันมืดอ่ะ...ผมไม่ชอบ



            “ผมเลี้ยงหมดเลยเอ้า!” มันทำท่าใจป้ำ “ป๊อปคอน 1 ถัง โค้กอีก 1” คิดจะเอาของกินมาล่อคนอย่างศิลา คิดดีแล้วใช่ไหม!!



            “เออ! ดูก็ดู” ผมบอกเรียกรอยยิ้มกว้างของหมู “แต่กูบอกไว้ก่อนนะว่า แค่เสียดายตั๋วหนังที่มึงซื้อมาก็เท่านั้น เปลืองเงิน!”



            หมูไม่ได้พูดอะไรตอบแค่เอาแต่ยิ้มคนเดียวเหมือนพวกคนบ้า มันเดินไปซื้อพวกป๊อปคอนกับโค้กตามที่มันบอก 1 ชุด เอามาให้ผม เรื่องที่มันเลือกดูคือโฉมงามกับเจ้าชายอสูร....บอกทีว่ามันเลือกเรื่องเอง





            เมื่อถึงเวลาดูหนังทุกคนทยอยกันเดินเข้าไปในโรงหนัง ผมมองประตูทางเข้าอย่างทำใจนิด ๆ ...ก็ผมไม่ค่อยได้เข้าโรงหนังบ่อยนัก ด้วยเหตุผลที่ไม่ชอบเวลาเขาปิดไฟ มันเป็นโหวง ๆ ไม่ชิน



            “กลัวความมืดของโรงหนังเหรอ” มันอ่านใจผมเหรอ! ผมเงยหน้ามองหน้าหมูและมองมือหนาที่แบแล้วยื่นมาให้ผม



            “อะไร”



            “จับไว้ไงครับ พี่จะได้รู้ว่ามีผมอยู่ตรงนี้เสมอ” เชี่ยยย....มุขนี้เอาไปใช้กับสาวได้นะ แต่เอามาใช้กับผมไม่ได้



            “ไร้สาระ! ใครกลัวความมืดของโรงหนังกันวะ” ผมสะบัดหน้าหนีเดินก้าวดุ่ม ๆ เข้าไปในโรงหนังที่ปิดไฟแล้วเหลือแค่ไฟตรงเก้าอี้...ชิบหายจริง ๆ จากที่ก้าวเร็วก็กลายเป็นก้าวช้า



            ไม่น่าอวดเก่งเลยว่ะ ผมมองไม่เห็น....



            จู่ ๆ มือหนาก็เอื้อมมาจับมือของผมไว้จากด้านหลัง แรงสัมผัสจากมือของไอ้หมูกุมผมไว้เบา ๆ กำลังว่าจะหันไปด่ามันแต่ก็ต้องเงียบเพราะอยู่ในโรงหนัง



            “ตามผมมานี่ ที่นั่งเราอยู่ตรงนั้น” เขาพูดเสียงกระซิบ และโค้งของทางไปกับพวกที่นั่งที่นั่งอยู่ก่อนเราแล้ว เมื่อเรานั่งลงที่นั่งแล้วก็ยังมีไอ้หน้าด้านที่จับมือผมไว้เนียน ๆ



            “ปล่อยมือกูได้แล้ว ไอ้หมู” ผมกระซิบเบา ๆ แม้จะมืดแต่ผมก็ยังเห็นรอยยิ้มขี้เล่นของมันอยู่ดี



            “ว่าจะแอบจับเนียน ๆ พี่ศิลารู้ทันจนได้” ผมชักมือตัวเองกลับด้วยความรู้สึกสปาร์คที่มือแปลก ๆ



            พวกผมหยุดพูดกับเมื่อหนังเริ่มฉาย...ผมยื่นถังป๊อปคอนให้ไอ้คนข้าง ๆ กินด้วย หมูเหลือบสายตามามองแต่ไม่หยิบ สิ่งที่มันทำคืออ้าปาก...หาวเหรอ แต่เปล่าครับที่มันอ้าปากก็เพราะ



            “ป้อนหน่อย”



            “.......”



            “นะ...” มันเรื่องอะไรของกูต้องมาป้อนมันนนนนน....ด่าเสียงดังก็ไม่ได้



            “เรื่องมาก” ผมหยิบป๊อปคอนยัดใส่ปากไอ้หมูไป มันก็เคี้ยวเหมือนพอใจมากกกกก ผมแทบอยากจะปาทั้งถังใส่หน้ามันไปเลย เดี๋ยวจะโดนดีไม่ใช่น้อย....





... มีต่อข้างล่าง
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 4| (14/04/60) #ต่อจากด้านบน
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 14-04-2017 19:50:52
ต่อจากข้างบน......

 

        ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงกว่าหนังจะจบ สนุกดีครับภาพสวยแสงสีดี แถมยังโรแมนติกอีกด้วยอ่ะ...ผมแอบซึ้งน้ำตาซึมด้วยล่ะ ผมกับหมูเดินออกมาจากโรงหนังพร้อมกับสาว ๆ ที่พากันเดินออกมาโรงหนังโรงเดียวกัน พวกเธอมองไอ้หมูตาเป็นมัน กำลังสงสัยว่าทำไมไม่มีผู้หญิงมองผมบ้างฟะ...



             Rrrr



            เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นทำให้ผมหยิบออกมารับเมื่อเห็นว่าเป็นไอ้เสาโทรมา และก็เป็นจังหวะที่หมูหันมาพูดกับผมพอดี



            (“ไอ้สัด กว่ากูจะโทรติด มึงอยู่ไหนวะ...”)



            “พี่ศิลาอยากกิน...” เสียงของหมูดังเข้าไปในสายพอดี



            (“เชรดดดด....มึงอยู่กับน้องหมูกรอบเหรอ โวะ โทษ ๆ กูมาขัดจังหวะป่ะ วิศวะเรากำลังจะสั่นคลอนรึเปล่าวะ หมอมาแรงงง...”) ไอ้เสาพูดแซว



            วิศวะสั่นคลอนเชี่ยไรครับ...



            “ไอ้สัดเสาอย่าพูดจากวนส้น เออกูอยู่กับน้องมัน มึงมีไร” ผมถามกลับและก็ต้องงงกับหมูที่ทำหน้าบึ้งขึ้นมาซะงั้น เมื่อกี้ก็เห็นยิ้มอยู่นี่หว่า



            แถมมันยังเดินหันหลังหนีผมอีก อ้าว ๆ ...



            (“กูว่าจะมายืมชีทมึงไปลอกหน่อย แต่มาละมึงไม่อยู่เดี๋ยวกูไปยืมไอ้นนท์ก็ได้สัด เที่ยวให้สนุกเถอะ หึหึ”)



            “เออ ๆ เค เฮ้ย ไอ้หมูมึงจะเดินไปไหนวะ...งั้นกูแค่นี้นะ เชี่ยมันเดินหนีกูไปไหนแล้วไม่รู้” ผมตะโกนเรียกแผ่นหลังสูงที่เดินห่างออกไป อารมณ์ไหนของมันอีกละเนี่ย ทำเอาไอ้เสาที่อยู่ในสายหัวเราะลั่น



            (“ฮ่า ๆ! ตามไปเลยมึง กูว่าน้องมันงอนที่มึงไม่สนใจแหง ๆ รับโทรศัพท์กูเนี่ย...โชคดี อย่าลืมพามานั่งกินเหล้ากับพวกกูอย่างเป็นทางการด้วยนะ พวกกูจะอวยพร”)



            “อวยพรเชี่ยไร เพ้อเจ้อละ เออ ๆ บาย” ผมวางสายพร้อมกับมองหาไอ้หมูกรอบที่เดินหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้



            “ไปไหนของมันวะ!” ผมเดินไปตามทางที่คาดว่าหมูจะเดินไป มองซ้ายก็แล้ว มองขวาก็แล้วแต่ก็ไม่เห็น ก่อนผมจะหมุนตัวหันหลังกลับไปปะทะกับแผงอกของคนที่ผมกำลังหาอยู่พอดี



            เฮ้ย...มันมายืนข้างหลังตั้งแต่ตอนไหน



            “ไอ้หมูกรอบ ไปไหน...มา?”



            “ผมอยู่ในสายตาพี่ศิลาด้วยเหรอครับ?” จึก...คำถามแนวไหนของมัน ผมเงยหน้ามองแววตาเข้มที่จ้องมองผมอยู่เหมือกัน



            “ก็อยู่ไง มึงก็ยืนอยู่กูตรงหน้ากูอยู่เนี่ย” ผมตอบ หมูยกยิ้มและเค้นหัวเราะในลำคอ



            “นั่นสินะครับ...คุยกับเพื่อนพี่เสร็จแล้วเหรอ ถึงได้มาหาผมได้”



            “เออ คุยเสร็จละ”



            “พี่นี่สนิทกับผู้ชายจังเนอะ” ก็กูเป็นผู้ชายครับ ก็ต้องสนิทกับผู้ชายดิ...ถามแปลก ๆ



            “ผมไม่ชอบให้พี่สนิทกับผู้ชายคนอื่น” คราวนี้มันพึมพำจนผมไม่ได้ยิน ผมเลิกคิ้วขึ้นมองใบหน้าหล่อที่เหมือนคิ้วจะขมวดคิ้วเป็นปมอยู่แล้ว



            “มึงพูดว่าอะไรนะ...แล้วนี่จะทำคิ้วเป็นปมหาอะไร” จึก ๆ ผมเอามือไปจิ้มตรงคิ้วของหมู



            “มึงจะถามกูว่าอยากกินอะไรใช่ไหม งั้นลงไปหาไรกินกัน” ผมชวนทำให้หมูหลุดยิ้มออกมา



            ...ค่อยสมกับเป็นมันหน่อย รอยยิ้มที่ดูเหมือนไม่ได้คิดอะไรมาก...



            “ครับ! พี่อยากกินอะไรล่ะ” ดูไอ้หมูจะสดใสขึ้นมาทันทีทันใด หรือที่มันทำหน้าตึง ๆ เมื่อกี้เพราะมันหิว



            “พิซซ่ามะ กูไม่ได้กินนานละ เดี๋ยวเลี้ยงพิซซ่า”



            “พี่ศิลาจะเลี้ยงได้ไง...”



            “ถ้าไม่ให้กูเลี้ยงก็ไม่ต้องมากินกับกู” ผมเด็ดขาด...จริง ๆ ไอ้หมูเลี้ยงทั้งหนังทั้งป๊อปคอนแล้วไง ก็เลี้ยงมันคืนบ้าง รุ่นพี่ที่ดีครับ...เลี้ยงรุ่นน้อง



            หมูทำหน้าลังเล ทั้งอยากกินแต่ก็ไม่อยากให้ผมเลี้ยง...แต่ในที่สุดหมูก็ยอมพยักหน้าตกลง



            “แต่พวกสปาเก็ตตี้ผมเลี้ยงนะ พี่เลี้ยงแค่พิซซ่า” ยังมีการตั้งเงื่อนไขกับกูอีกจนได้นะครับ....



            “เออ ๆ ตามนั้นแหละ ไปเหอะ กูหิวจนจะกินป้ายพิซซ่าตรงนี้ได้อยู่ละ” ผมว่าพร้อมกับลูบท้องของตัวเอง แต่การกระทำแค่นั้นของผมกลับทำให้ไอ้หมูพูดคำนี้ออกมา



            “ฮ่า ๆ! พี่น่ารักว่ะ” เริ่มสงสัยว่ามันจะเรียนหมอไหวไหม...ท่าทางสมองมันจะไม่ไหวแล้วนะนั่น



            “ไอ้เชี่ยหมู” ผมทำเสียงดุแต่ก็ไม่ได้ทำให้ไอ้หมูหยุดหัวเราะเลย...มันบ้าครับทุกคน มันบ้า!



            ..............

            ..............



            บอกเลยว่าอิ่มมาก! เป็นวันหยุดที่ใช้คุ้มมาก ดูหนังแถมยังกินเกือบทั้งวันด้วย นี่พวกผมตระเวนกินของอยู่ในห้างจนถึงเวลาหนึ่งทุ่มอ่ะ คิดดู ห้างต้องให้ค่าโฆษณาพวกผมมาเดี๋ยวนี้



            ระหว่างที่กำลังจะกลับไปที่ลานจอดรถ ผมก็ดันไปเจอกับไอ้หน้าจรวดคู่อริเก่าของรุ่นน้องพวกผมที่เคยไปตีกันแบบว่าศึกลูกผู้ชายไรงี้ครับ โลกเรามันกลมเนอะ ผมลืมไปจะแปลกอะไรถ้าจะบังเอิญมาเจอกัน แต่ผมเป็นพวกประเภทที่ไม่ค่อยอยากยุ่งหรือมีเรื่องกับใคร แต่ถ้ามันมาหาเรื่องผมก่อนผมก็ไม่ยอมเหมือนกันครับ! และดูท่าทางไอ้หน้าจรวดจะเห็นผมละ (ตั้งฉายาให้มันเพราะมันหน้ายาวมาก) ผมจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นนะตอนแรกถ้ามันไม่ได้มาแกล้งเดินชนไอ้หมูแล้วพูดหาเรื่อง



            ปึ่ก



            “เฮ้ย...ไอ้น้องเดินชนกูแล้วทำไมไม่ขอโทษวะ” ไอ้หน้าจรวดผลักไหล่ของไอ้หมู อ้าวไอ้นี่วอนตีนซะแล้ว หมูมันก็เหมือนจะรู้ว่าไอ้พวกนี้จงใจหาเรื่อง



            “ขอโทษครับ” หมูตอบเสียงเรียบและกำลังจะพาผมเดินหนี แต่ไอ้พวกนี้ก็จ้องจะหาเรื่องให้ได้ ผมกำหมัดแน่นด้วยความใจเย็น...(กำลังเย็น)



            “ไรวะ! แค่คำขอโทษเองเหรอ...รุ่นพี่! มึงแม่งไม่สอนเหรอวะ ว่าต้องยกมือไหว้” ไอ้หน้าจรวดเริ่มพาดพิงมาถึงผม



            “กูไม่ได้อยากมีเรื่องกับพวกมึงวันนี้” ผมตอบแค่นั้นและกำลังจะพาไอ้หมูเดินหนี แต่ร่างสูงที่ยืนข้างผมกลับมองไอ้พวกนั้นเหมือนไม่กลัว



            เป็นกูกูกลัวนะเฮ้ย...ไอ้หมูกรอบมาได้แล้วโว้ยยย....



            “ไอ้เด็กอ่อนมึงมองหน้ากูทำไม? อยากมีเรื่อง?” มึงแหละไอ้หน้าจรวดหาเรื่องพวกผมชะมัด ผมดึงชายเสื้อของหมูที่ยืนประจันหน้ากับไอ้หน้าจรวด



            “เปล่าครับ...แต่ที่บอกว่าให้ยกมือไหว้เวลาขอโทษอ่ะ ผมจะทำเฉพาะกับคนที่น่าเคารพเท่านั้นแหละครับ” เสียงเรียบ ๆ กล่าวออกมาจากปากหมู แต่มันก็เป็นคำที่ทำให้ไอ้หน้าจรวดฟิวส์ขาดทันที



            เชรด...ไอ้หมูมันพูดได้คมมาก แต่ผมว่าอีกไม่กี่วิมันจะวอนหมัดที่ไอ้จรวดง้างขึ้น และผมก็เชื่อว่าไอ้หมูไม่ทันระวังแน่ ๆ



            “ปากดีนะมึง!!” ไอ้จรวดมันพูด



            เชี่ย....



            เชี่ยยยยย ไม่ได้โว้ย หน้ามึงต้องประกวดเดือนนะไอ้หมูกรอบ!!



            ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมวิ่งเข้าไปกันหมัดของไอ้จรวดที่ปล่อยออกมาใส่หมู และหมัดหนัก ๆ ของไอ้จรวดก็ต่อยลงที่หน้าของผม



            พลั่ก!!



            “อัก!...” เหี้ยย!! เจ็บโคตร ผมเซนิด ๆ ส่วนไอ้หมูยืนอึ้งมันอึ้งมาก...แต่ผมว่ามันดูตกใจมากกว่า โอ๊ยปากผมมีกลิ่นคาวเลือดมาเต็ม....มือหรือตีนวะ!! เจ็บ



            “พี่ศิลา!!!!” ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อเสียงรปภ. ก็เป่านกหวีดมาแต่ไกลผมเลยรีบคว้าแขนไอ้หมูวิ่งกลับไปที่รถของมัน



            “มานี่เร็ว!” ผมจับมือมันและวิ่ง รู้สึกชาหน้าโคตร ๆ แต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรมาก(เหรอ...)



             ผมเองก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผมออกตัวรับแทนเขาแบบนั้น ก็หน้าของไอ้นี่สำคัญนี่ มันต้องประกวดเดือนมหาวิทยาลัยอีก จะมีรอยได้ยังไง...ผมกับหมูวิ่งกลับมาที่รถของมันก็แทบหอบ แต่ยังไม่ทันจะหายจากอาการหอบที่วิ่งมาเหนื่อย ๆ ก็ต้องตกใจเมื่อไอ้หมูดันผมติดกับรถ



            “เชี่ย ไรของมึงไอ้หมู....”  แต่เมื่อผมมองแววตาตื่นตกใจพร้อมกับมือสั่นของมัน ผมก็เหวอไปเหมือนกัน



            “เจ็บ...” มันพูดออกมาคำเดียว



            “ห๊ะ...?” และผมก็ต้องสะดุ้งอีกรอบ



            “เจ็บ!!!...พี่ศิลาเจ็บ เจ็บ เจ็บ เจ็บเพราะผม!!!” เฮือก....ดูมันเหมือนช็อกเลยอ่ะ เป็นไรวะ



            “ใจเย็น ๆ ได้ไหมวะ กูไม่ได้เจ็บมาก” ผมบอกช้า ๆ แต่ก็เริ่มแสบหน่อยแล้วล่ะ ปากกูแตกเลยครับ



            “พี่ปกป้องผมทำไม...ทำไมไม่ให้ผมโดนต่อย ผมปากเสียเอง!”



            “หน้ามึงจะเป็นเดือนนะไอ้หมู จะมีรอยได้ไงวะ อีกอย่างพวกนั้นมันพวกคู่อริคณะกูนี่แหละ มันจ้องจะหาเรื่องอยู่ละ ไม่เกี่ยวกับมึงหรอก” ผมบอกตามความจริง แต่ก็ต้องตัวแข็งทื่อเมื่อจู่ ๆ มือหนาเอื้อมมาแตะมุมปากที่แตกของผม



            “พี่เจ็บ...เลือดออกด้วย เพราะผม...เพราะผม” มันยังโทษตัวเองอยู่นั่นแหละ “ทำไมต้องเอาตัวมาบังผมด้วย” เออ..นั่นสิ กูเองก็สงสัยเหมือนกันว่า เอาตัวไปบังมันทำไม....เพราะมันเป็นรุ่นน้องไง....



            ผมมองหมูที่เอาแต่มองหน้าผมด้วยความที่รู้สึกผิดมากทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่คนที่ต่อยผมด้วยซ้ำ และก็ไม่ใช่คนที่โดนต่อย แต่มันทำหน้าราวกับเจ็บปวดมากกว่าผมอีก...



            “โถ่วเว้ย!!” หมูสบถออกมาทำให้ผมสะดุ้งอีกรอบ



            ปึ่ก ปึ่ก ปึ่ก!! “ผมทำให้พี่เจ็บตัว” ไอ้หมูปล่อยหมัดรัวใส่รถของตัวเองที่มันเอามาค้ำกั้นผมไว้   ผมตาโต ไอ้โง่!!....ไปต่อยรถเดี๋ยวมือมึงจะเจ็บนะเว้ย ผมรีบคว้าไอ้คนที่เริ่มจะบ้า



            “ไอ้เชี่ย! รถมันเจ็บนะเว้ย...” ผมคว้ามือของมันมาดูแต่ปากกลับสวนทางกัน ดูท่าทางมันเริ่มไม่ฟังกะจะต่อยรถท่าเดียว



            “ช่างมัน! ซื้อใหม่ได้” โห...ไอ้รวยยยย มือมึงจะเจ็บไงโว้ยยย



            “ไอ้หมู หยุด” ผมรั้งมือมันที่จะปล่อยไปต่อยเหมือนระบายอีก



            “ไอ้เชี่ยหมู หยุด...”



            “ไอ้หมูกรอบ...หยุดนะ...” ชื่อสุดท้ายผมเอ่ยเหนื่อย ๆ คือแบบว่าแหกปากจนเจ็บปากแล้ว และชื่อสุดท้ายก็ทำให้ไอ้หมูหยุดได้จริง ๆ ...เหมือนใจเย็นลงด้วย แต่มันก็ทำหน้าเศร้าอยู่ดี



            “มึงจะเป็นหมอใช่มะ...งั้นก็ทำแผลให้กูหน่อยละกัน” ผมบอก หมูพยักหน้าช้า ๆ...มึงกวนตีนกูหน่อยก็ได้...ทำตัวไม่ถูกเว้ย เห็นหน้าเศร้า ๆ แล้วไปไหนไม่เป็นเลยครับ



            “ครับ งั้นไปหอผมนะ”



            “ทำไมต้องไปหอมึงวะ”



            “หอผมมีกล่องพยาบาลไง” ผมขมวดคิ้ว...ห้องกูก็มีกล่องพยาบาลโว้ย



            “ไปที่หอกูก็ได้...” ไม่อยากไปหอมันอ่ะ ดูอันตราย หมูคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย...ดูบรรยากาศจะดีกว่าเมื่อกี้มาก



            “ไม่เอาครับ หอผมของครบครันกว่า สะดวกกว่า กว้างกว่าห้องพี่มากด้วย” มันอวด...



            “เกี่ยวตรงไหนวะ กูไม่...” นิ้วชี้ของร่างสูงแตะที่ริมฝีปากของผม ชะงักกึกเลยครับ



            “อย่าครับ พี่ศิลาห้ามมาเถียงหมอ...” หมูยกยิ้ม และอยากจะบ้าตายกับประโยคต่อมา



            “เป็นคนไข้ของหมอห้ามดื้อนะครับ” ได้ทีแล้วเล่นใหญ่มาก ไอ้อารมณ์เศร้า ๆ หายไปไหนหมดแล้ววะเมื่อกี้!!



            กูแค่ปากแตกเฉย ๆ เว้ยยยยย....จริง ๆ ไม่ต้องทำแผลด้วยซ้ำ.....รู้สึกอยากเอาหัวโขกรถ ไม่น่าไปเปิดโอกาสให้มันมาทำแผลเลย.....ผมคิดผิดใช่ไหมครับทุกคน....ไอ้หมูมันจะยิ้มอะไรนักหนา โว้ย!!



...
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ^^ ฝากหมูกรอบกับพี่ศิลาไว้ด้วยยยย เยิฟ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 4| (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ΩPRESTOΩ ที่ 14-04-2017 20:11:36

ไม่ต้องเชียร์แล้วมั้งค่ะน้องหมูกรอบเนี่ย
ดูพี่หมวยเล็กจะไปไหนไม่รอดแล้วละ  5555

 :katai3:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 4| (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 14-04-2017 21:11:51
ว๊ายยยยย หมวยเล็กจะเข้าห้องผู้ชายยยย :hao6:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 4| (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: iaum ที่ 14-04-2017 21:13:17
รอพี่หมวยเล็กสอนน้องหมูรำเด้อ  o13
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 4| (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 14-04-2017 22:42:02
 :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 4| (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 14-04-2017 23:40:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 4| (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: oiruop ที่ 15-04-2017 00:11:51
น่ารักจังงงงงงงงงง

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 4| (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 15-04-2017 03:11:31
 :serius2:



สงสารรรรร
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 4| (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 15-04-2017 09:57:25
น้องหมูกรอบ
ดูแลพี่หมวยเล็กด้วยนะ

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 5| (15/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 15-04-2017 16:37:33
ตอนที่ 5



            [พาร์ตของศิลา]





          | หอ B |



            ผมมองห้องของหมูที่กว้างมากอย่างที่มันบอกจริง ๆ หอพักที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของผมก็หรูไม่แพ้กับหอของผมเลย แถมยังเหมือนมีแต่พวกรวย ๆ อยู่กันที่นี่ด้วยแฮะ สีห้องเป็นโทนน้ำเงินเข้ม ส่วนมากของใช้ก็จะเป็นสีนี้โทนนี้ไปหมดเลย หมูที่เดินตามเข้ามาก็เดินนำไปห้องนอนของมัน



            “มานี่สิครับพี่ศิลา ผมจะทำแผลให้” ผมส่ายหน้าและเลือกที่นั่งตรงโซฟาห้องรับแขก



            เรื่องอะไรผมจะต้องเข้าไปในห้องนอนของมันด้วย....



            “มานั่งทำแผลตรงนี้ก็ได้” ผมบอก หมูหัวเราะเล็กน้อย



            “กลัวผมทำอะไรเหรอครับ?” ใครกลัวมึงงงงง ไอ้หมูกรอบ....มึงน่ากลัวตรงไหน



            เขาเดินถือกล่องพยาบาลเล็ก ๆ ออกมาด้วยพร้อมกับนั่งลงข้างผม



            “กลัวอะไร? มึงจะทำอะไรได้” ผมไหวไหล่และชะงักเมื่อเขาเอามือมาค้ำโซฟาไว้ทำให้หน้าของมันจะชิดผมอยู่แล้ว!



            “ผมทำได้หลายอย่างนะครับ พี่ศิลา...”



            “ไอ้เชี่ย! ยื่นหน้าเข้ามาทำไมวะ” ผมดันหน้าของหมูออก เขาเลยหัวเราะออกมาอีก



            “ผมไม่ทำอะไรหรอกน่า...ถ้าจะทำผมทำไปนานแล้ว” มันพึมพำอะไรกับกล่องพยาบาลครับ?...



            ผมไม่ได้ยินที่เขาพูดอีกละ



            “เบา ๆ นะมึง” ผมบอกดักไว้เมื่อเห็นเขาเอาสำลีมาซับเลือดตรงปากของผม



            “จะทำเบา ๆ ที่สุดเลยล่ะครับ...ไม่ต้องกลัวนะ” หมูบอกอย่างละมุน...แต่ผมว่ามันไม่ได้หมายถึงเรื่องแผลแน่ ๆ ก็ดูสายตาที่มันมองผมสิ! ผมเป็นผู้ชายแท้ ๆ แต่กลับมามองด้วยสายตาเจ้าชู้กรุ่มกริ่ม



            ไปกรุ่มกริ่มใส่สาว ๆ ของมึงนู่นนน....ไอ้ขายหม้อ



            ผมนั่งเผชิญหน้ากับเขาที่นั่งหันหน้ามาหาผมที่นั่งขัดสมาธิอยู่ มือหนาค่อย ๆ บรรจงซับแผลมุมปากของผมอย่างเบามือ....มืออ่อนโยนมากแฮะ สมแล้วที่จะเรียนหมอ...



            “เคลิ้มเหรอ” จู่ ๆ เสียงเข้มก็พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก



            “เคลิ้มเชี่ยอะไรของมึงวะ...” ผมหันหน้าหนีและรู้สึกว่าห้องเริ่มตกอยู่ในความเงียบ ชวนคุยอะไรดีวะ อย่าเงียบดิ...กูไม่ชอบ ก่อนผมจะนึกออกแล้วหันไปหาหมูที่กำลังก้มหน้าลงมาปิดกล่องพยาบาลพอดี



            มันก้มมาใกล้ผมมากกก....



            ริมฝีปากของผมแตะเบา ๆ ที่หน้าผากของหมูทันที....เชี่ยอีกแล้ว



            “ไอ้เชี่ย! มึงก้มมาทำไมวะ!!” ผมโวยวายขึ้นมาแก้ต่างตัวเอง หมูหลุดยิ้มออกมา



            “ก็พี่ศิลาจะหันหน้ามาทำไมล่ะ ผมก็เก็บของอยู่ดี ๆ...โดนพี่จุ๊บหน้าผากเลยแฮะ” ยังมีหน้ามาย้ำให้ฟังอีก!!



            “พูดมาก!” ผมดุมันเลยยอมเงียบ “เออ เรื่องการแสดงอ่ะ...มึงคิดว่าจะรำไหวไหม” ผมถาม หมูทำตาลุกวาวอย่างตื่นเต้น



            “พี่ศิลาจะสอนเหรอครับ??...จริงอ่ะ!” ถ้าไม่สอนแล้วกูจะตกลงทำเบื้อกอะไรวะ.....



            “ก็จะสอน ถ้ามึงคิดจะเอาการแสดงนี้จริง ๆ บอกเลยว่ามันไม่ง่ายนะเว้ย...”



            “ผมเองก็คิดว่ารำนี่น่าสนใจอย่างที่เจ้นิ่มแนะนำแหละครับ ก็เลยกะว่าจะเอาอันนี้...ถ้าพี่สอน  ผมจะตั้งใจซ้อมทุกคาบที่เข้าเรียนกับพี่ศิลาเลย...” หมูโน้มหน้าเข้ามาใกล้เหมือนเด็กน้อยซน ๆ



            “ตกลงพี่จะสอนจริงใช่ไหม” เกลียด...ไอ้ความยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาใกล้



            “เออ ก็กูตกลงกับมึงไว้แล้วนี่” ผมว่า “เดี๋ยวกูกลับไปห้องกูก่อนดีกว่า” ผมมองนาฬิกาในห้องที่บอกเวลา มันจะสองทุ่มแล้วนี่....



            ผมจะลุกขึ้นยืนแต่มือหนากลับคว้ามือของผมไว้ซะก่อน



            “พี่ศิลานอนนี่ก็ได้นะ มันเริ่มดึกแล้วไม่เหนื่อยเหรอ” ผมขมวดคิ้ว หอผมอยู่ตรงข้ามมันเองนะ จะมาเหนื่อยไรของมันวะ



            “กูไม่เหนื่อย หออยู่แค่นี้เอง” ผมจะบิดข้อมือออกแต่ดูหมูไม่ยอม



            “งั้นเดี๋ยวผมไปส่ง แต่ให้ผมไปอาบน้ำก่อนแป๊ปหนึ่ง” ทำไมผมจะต้องรอให้ไอ้นี่ไปส่งด้วย



            “ทำไมต้องไปส่งกู กูกลับเองได้”



            “ไม่เอา มันเริ่มดึกอันตราย” เฮ้ย...กูเป็นผู้ชายนะ ใครจะมาทำอันตรายกู....ไอ้หมูนี่มันเริ่มบ้าแล้วแหง ๆ



            “เออ ๆ ก็ได้ รีบไปอาบน้ำสิมึง” แต่ด้วยความที่ขี้เกียจเถียงไปมากับมันก็เลยต้องจำใจรอ ผมไล่ไอ้หมูที่ยิ้มพอใจไปอาบน้ำซะ ผมมองมันที่เดินยิ้มร่าเริงเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง



            ...จะมาห่วงอะไรนักหนาวะ หอผมก็อยู่ตรงข้ามเนี่ย....แต่ที่บ้ากว่าน่าจะเป็นผมที่บ้าจี้นั่งรอให้มันไปส่ง เหอะ ๆ ผมที่นั่งรออยู่โซฟา จู่ ๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นอัลบั้มที่อยู่ตรงโต๊ะแก้วตรงโซฟา





            ชื่อของอัลบั้มทำให้ผมสะดุดตามาก...#หมวยเล็กของหมู ผมมองลังเลนิด ๆ ...



            คำว่า หมวยเล็กของหมู ทำเอาผมสะอึกเล็กน้อย...นี่คือหมวยเล็กคนที่ไอ้หมูมันบอกว่าอยากเจอสินะ ผมเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะสะดุ้งเมื่อหมูที่ผมคิดว่าเข้าไปอาบน้ำแล้วเดินออกมาชุดเดิม    เขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นสิ่งที่ผมถืออยู่



            พรึบ! อัลบั้มที่อยู่ในมือของผมกลับไปอยู่มือของหมูเรียบร้อย มันดึงไปรวดเร็วมาก...ท่าทางมันหวงอัลบั้มอันนี้มาก...



            หมูชะงักเล็กน้อยเมื่อผมเงยหน้ามองเขา



            “ขอโทษทีกูไม่ได้ตั้งใจจะหยิบของมึงมาดู” ผมบอกด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจแปลก ๆ “กูจะกลับหอละ มึงไปต้องไปส่งกูหรอก” ผมยืนขึ้นทำท่าจะเดินออกไป



            “พี่ศิลา ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดึงอัลบั้มมาจากพี่แต่มัน...”



            “ถ้ามันสำคัญนัก มึงก็เก็บไว้ดี ๆ สิวะ! กูกลับเองได้ไม่ต้องมายุ่งกับกู!” ผมสั่งเด็ดขาดและเดินออกไปจากห้องของหมูทันที โดยที่ไม่ได้หันหลังกลับไปดูว่ามันจะตามผมมารึเปล่า



            มันจะตามผมมาทำไมล่ะ...



            ผมกลับมาที่ห้องก็ทิ้งตัวนอนลงที่นอนแสนนุ่มของตัวเอง พลางข่มตาลงไม่ถึง 5 นาที โทรศัพท์ของผมก็แจ้งเตือนมาว่ามีไลน์เข้า ใครวะ...ผมเลื่อนดูเฟรนที่ผมไม่ได้เป็นเพื่อนและเหมือนจะเพิ่งแอดผมเข้ามาด้วย



            + หมูกรอบ + : ฝันดีนะครับ พี่ศิลา ห่มผ้าด้วยนะคืนนี้เขาว่าอากาศจะหนาว ©



            ผมกดอ่านข้อความ...อ่านแล้ว อ่านซ้ำอีกรอบ...



            “ไอ้นี่แม่งบ้า...” ถึงปากจะด่าออกไปแบบนั้นแต่ผมกลับไม่รู้เลยว่าตัวเองเผลอยิ้มออกมา...



            .................

            ................



            @คณะวิศวะ



            วันนี้ผมมาคณะเพื่อมารับหน้าที่ดูน้อง รู้สึกว่าถั่วดำจะนัดน้องปี 1 มาซ้อมเพลงอะไรของมันก็ไม่รู้เลยทำให้ผมต้องแหกขี้ตามาตั้งแต่เช้า 8:30 ก็ถือว่าเช้าสำหรับผมมากอ่ะ ส่วนไอ้หมูคณะมันก็เรียกมาซ้อมเหมือนกันครับ ถามว่าผมรู้ได้ไง...ก็มันโทรมาบอกเมื่อเช้าอ่ะ ผมไม่ได้อยากจะรู้สักนิด!



            ผมเดินมาโต๊ะประจำของตัวเองก็เจอไอ้เสาที่ดูแปลก ๆ ...ทำไมมันดูเพลีย ๆ แบบนั้นวะ



            “ไอ้เสา...ไอ้เสา ไอ้สัดเสา!!” ผมโบกมือไปมาหน้ามัน ไอ้เสาก็เอาแต่เหม่อนี่เรียกหลายรอบละ กว่ามันจะได้ยินก็ตอนที่ผมเรียกเสียงดังครั้งสุดท้าย



            “อะไรวะ...เสียงดังชิบ” มันพูดเอื่อย ๆ ผมนั่งลงตรงข้ามด้วยความรู้สึกสงสัย



            “มึงแหละ เป็นเชี่ยไรฮะ ดูเหม่อ ๆ หน้าซีดมากอ่ะมึง” ไอ้เสาเอามือจับหน้ามัน ผมรู้สึกไปเองไหมว่าไอ้เสามันกำลังทำหน้าเครียดเล็กน้อย



            “แล้วนี่มึงเห็นไอ้สัดนนท์มะ” ผมถามแต่ไอ้เสากลับสะดุ้ง...?



            “กูไม่รู้” เสาตอบทันควัน อะไรของมันครับ ปกติเห็นตัวติดกับไอ้นนท์มากไปไหนมาไหนผมก็เห็นพวกมันไปด้วยกันตลอดนะ แถมมันจะมาพร้อมกันด้วย



            “เออ ไอ้ศิลา กูเลิกกับจีแล้วนะ” จู่ ๆ ไอ้เสาก็พูดขึ้น ผมตาโตกับสิ่งที่มันพูด ก็จี ที่เป็นดาวแพทย์ที่กำลังคบกันรักหวานจ๋าอยู่นี่หว่า!?



            “เฮ้ย ตอนไหนวะ ทำไมเลิก? ก็เห็นรักกันอยู่ดี ๆ”



            “ก็เลิกเมื่อเช้า...มึงกูขออะไรหน่อยได้ไหมวะ” เพิ่งเคยเห็นไอ้เสามันทำหน้าเครียดมากแบบนี้เป็นครั้งแรก ปกติมันจะเป็นพวกฮา ๆ ไงครับ กวนตีนคนอื่นไปทั่วตามประสามัน แต่สีหน้ามันตอนนี้บ่งบอกว่าคิดมากจริง ๆ



            “ว่ามา จะขออะไรวะ”



            “อย่าบอกเรื่องที่กูเลิกกับแฟนให้ไอ้นนท์รู้...แค่นี้แหละที่จะขอ” ผมประโยคของไอ้เสาด้วยความงงและเอ๋อ....รึว่ามันจะขออะไรซะอีก ห้ามบอกไอ้นนท์เนี่ยนะ



            จริง ๆ ก็อยากจะถามว่าทำไม แต่ดูจากสีหน้าเหม่อ ๆ ของไอ้เสาแล้ว ผมเลือกที่จะยังไม่ถามมันดีกว่า เดี๋ยวตอนมันอยากเล่าก็คงเล่าเองแหละ



            “จะว่าไปมึงก็ไปเอาชีทกับไอ้นนท์เมื่อวานมาไม่ใช่เหรอ” ดูเหมือนไอ้เสาจะสะดุ้งอีกรอบ



            “ก็ไปเอามาลอกแล้ว....มึงแหละ เป็นไงกับน้องหมูกรอบ...เออ เพิ่งเห็น หน้ามึงไปโดนไรมาวะ” เสามองหน้าผมและพิจารณาเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าหน้าผมมีรอยช้ำ



            ก่อนผมจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ไอ้เสาฟัง



            “ไอ้เหี้ย!! มันกล้าต่อยมึงเหรอ กูว่าต้องเจอหน่อยแล้วล่ะ” ไอ้เสาทำท่าขึ้นผมรีบยกมือห้าม สภาพมึงจะไม่ไหวอยู่แล้วไอ้เสาเอ๊ย มันจะรู้ไหมว่าหน้ามันซีดมาก



            “ใจเย็นเถอะมึง กูว่าอย่าไปสนใจมันเลย...ช่างมันเถอะ ว่าแต่มึงเหอะไหวไหมเนี่ย หน้าแม่งซีดได้อีก” ผมทักไอ้เสาที่ทำท่าเหมือนจะหลับให้ได้



            “อ้าว ไอ้สัดนนท์มาจนได้นะมึง” ผมเหลือบไปเห็นไอ้นนท์เดินมาแต่ไกลพร้อมกับถุงเซเว่น ไอ้เสาเงียบลงทันที



            ฟุบ! ถุงเซเว่นถูกวางลงตรงหน้าของไอ้เสา ผมเหลือบมองเพื่อนสองคนของตัวเองอย่างงง ๆ พวกมึงสองคนไม่ได้ทะเลาะอะไรกันใช่ไหมเนี่ย ปกติไอ้เสาจะชอบไปกอดคอของไอ้นนท์ตามประสามัน แต่นี่ไอ้เสาเงียบกริบ



            “กูกินข้าวมาเมื่อเช้าแล้ว” เสียงของเสาตอบเรียบ ๆ ก่อนไอ้เสาจะลุกขึ้นและเซนิด ๆ



            “เฮ้ย ๆ ไอ้สัดมึงไหวนะ” ผมร้องจะเข้าไปช่วย ไอ้นนท์ที่ยืนอยู่ใกล้ก็เหมือนจะคว้าตัวไอ้เสาไว้เหมือนกัน



            “กูไหว กูว่าจะกลับไปนอนซะหน่อย เดี๋ยวกูแวะไปหาแฟนก่อนละกัน” ไอ้เสามันบอกพร้อมกับมองตาผมอย่างรู้กัน ....อ๋อ ลืมไปมันห้ามผมบอกไอ้นนท์ว่ามันเลิกกับแฟนแล้ว



            ผมมองไอ้เสาที่เดินหนีไปแล้ว ส่วนคนที่ยังยืนอยู่ตรงนี้คือไอ้นนท์ที่ยืนทำหน้านิ่งขรึม พวกมึงสองคนเป็นเชี่ยอะไรกันนนนน....บอกกูทีเซ่



            “ของกินที่ซื้อมาฝากไอ้เสานี่ทำไง?” ผมชี้ ไอ้นนท์ก็ยักไหล่



            “ถ้ามึงจะกินก็เอาไปเถอะ” ผมเหลือบมองในถุงที่มีแต่ของโปรดของไอ้เสาทั้งหมด เหมือนไอ้นนท์ตั้งใจจะซื้อมาให้เสาโดยเฉพาะเลยแฮะ...ผมเลยจับยัดใส่มือไอ้นนท์



            “เอาไปให้คนที่มึงตั้งใจจะซื้อให้เถอะ...อ้าว มึงจะไปไหนวะ” ไอ้นนท์รับไว้และหมุนตัวเดินออกไป



            “ไปหาดูสาวสวย ๆ แถวม.เรานี่แหละ เผื่อเจอสวยอึ้ม” ไอ้นนท์ว่าเรียบ ๆ แกมเจ้าชู้แต่เหมือนประชดยังไงชอบกล อ้าว...แล้วทำไมเหลือผมอยู่เป็นพี่ฝ่ายดูแลน้ำเล่า ไอ้เพื่อนชั่วมันทิ้งผมครั้งที่ 3 แล้ว!!!





            เวลา 16:00น.



            ผมเก็บของเข้าไปไว้ในห้องชมรมก่อนจะออกมาเจอไอ้หมูกรอบที่ยืนพิงต้นไม้อยู่ ราวกับนายแบบกำลังโพสท่า     
 หมั่นไส้...จำเป็นต้องดูดีไรขนาดนั้นวะ สาเหตุที่มันมายืนรอผมก็เพราะจะให้ผมไปซ้อมรำให้ครับ ดูท่าทางขยันจังเลยเนอะ!



            “เลิกแล้วเหรอ” ผมถามมันขึ้น เห็นว่าเพิ่งเลิกจากคณะตัวเองมาแถมยังวิ่งมาอีก มันจะอยากรีบซ้อมอะไรเบอร์นนั้น



            “ยังครับ...ผมยังไม่ได้คบกับพี่เลยจะเลิกได้ไง” ผมเงยหน้ามองหมูที่ดูจะชอบอกชอบใจกับการปล่อยมุขเน่า ๆ ของมันออกมา แนะนำให้ไปเล่นกับสาวที่เขากรี๊ดมึงนะครับ..



            กูไม่กรี๊ด...



            “กวนส้นคนอื่นจริงมึงนิ แล้วนี่จะไปซ้อมที่ไหน” ผมทำเป็นมองข้าม ๆ ไอ้มุขแป๊กที่มันพยายามจะพูด หมูก็แอบทำหน้าหง่อยนิดหน่อยแต่ก็ยังยิ้มอยู่ดี



            “ห้องผมไหม” วนไปห้องมันอีกละ...



            “ทำไมต้องห้องมึง?”



            “ก็ห้องผมกว้าง พื้นที่ก็มี หรือพี่จะเถียง?” ก็ถูกอย่างที่มันพูดมาครับ ห้องของไอ้หมูมันกว้างแถมมีพื้นที่เยอะอีก แต่แม่ง...ผมรู้สึกไม่อยากไปหอของไอ้หมูเลย แต่ถามว่าเลี่ยงได้ไหม...



            “เออ ๆ ก็ได้ ตามนั้นแหละ” ผมพยักหน้าตกลงเอื่อย ๆ แต่ยังไม่ทันจะเดินไปที่รถเสียงเล็กหวานตามฉบับแอ๊บแบ๊วก็เรียกชื่อของไอ้หมู



            “หมู!...” ผมกับไอ้หมูหันไปมองหญิงสาวตัวเล็กแต่ส่วนเว้าส่วนโค้งไม่เล็กสักนิด...เหอะ ๆ



            “อ้าว ชมพู่...ว่าไง” เธอยื่นขนมให้กับไอ้หมูแล้วยกมือไหว้ผมที่เป็นรุ่นพี่ สงสัยปี 1 เหมือนกันกับไอ้หมูกรอบ แถมดูท่าทางสนิทด้วย ก็ดูแขนที่เธอยื่นมาเกาะแกะหมูสิ...



            “ซื้อมาฝากจ๊ะ...เจ้านี้เป็นเจ้าที่หมูชอบไปทานกับครอบครัวไง เราเห็นแล้วคิดถึงหมู คิดถึงตอนที่เราไปกินด้วยกัน...” รู้สึกว่าเธอจะเน้น ๆ คำว่ากินด้วยกันมาทางผมแฮะ...ผมคิดไปเองรึเปล่าวะ ว่าเธอมองผมเหมือนไม่ชอบ(?)



            “โหย จริงด้วย ไม่เห็นต้องลำบากเลย...แต่ก็ขอบคุณนะ!” หมูยิ้มกว้างให้กับของกิน ผมมองอย่างหมั่นไส้...ไอ้เห็นแก่กินเอ๊ย (ไปว่าน้องเขาทำไมล่ะไอ้ศิลาเอ๊ย)



            “กูไปรอที่รถละกันนะ” ผมพูดขึ้นก่อนจะเดินหันหลังไปจากไอ้หมูที่ยืนคุยอยู่กับสาวน้อยชมพู่คุคิ(ตั้งฉายาให้คนอื่นอีกแล้ว)





          |หอ B|



            เมื่อมาถึงหอพักไอ้หมูผมก็เดินก้าวดุ่ม ๆ เข้าไป ราวกับว่าตัวเองอยู่หอพักนี้ซะงั้น หมูก็วิ่งตามผมเข้ามาติด ๆ และพยายามพูดกับผมมาตลอดทาง แต่ผมก็ไม่ได้พูดกับมัน



            “พี่ศิลา พี่ศิลาเป็นอะไรไปครับ ทำไมไม่ยอมพูดกับผม?” เสียงที่ดังตามหลังเหมือนง้องอนทำเอาคนอื่นที่เดินผ่านมองด้วยความอยากเผือกสุด ๆ



            หมูไขกุญแจห้องเปิดประตูให้ผมเดินเข้าไปในห้องที่ผมเพิ่งจะมาเมื่อวานนี้เอง...



            “ผมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจรึเปล่า....” ไอ้หมูยังคงจ้อไม่หยุด ผมเลยยกมือสต็อปมัน ถามว่าผมเป็นอะไรเหรอ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร! หงุดหงิด...แค่รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาก็เท่านั้น



            “เปล่า มึงเอาโน้ตบุ๊คมาเปิดดูเพลงรำหน่อย” ผมบอกอย่างเป็นงานเป็นการ รีบซ้อมรีบเสร็จไป  หมูเมื่อเห็นว่าผมยอมพูดก็ยิ้มออกมา...ยิ้มทำไมวะ 



            “นี่ครับ...” โน้ตบุ๊คเครื่องบาง ๆ ของมันถูกยื่นมาให้ผม “พี่ศิลากินขนมไหมครับ” ไอ้หมูยื่นขนมที่สาวน้อยชมพู่ให้มายื่นให้ผม



            “กูไม่กิน ไม่ชอบขนมอันนี้” ผมตอบกลับ หมูเลยกระตุกยิ้มและไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ ไอ้หมูเดินหายเข้าไปในห้องครัวเอาขนมไปเก็บไว้ ส่วนผมก็ค้นดูยูทูปการรำไป หมูเดินกลับออกมาพร้อมกับแก้วชาเขียวร้อน ๆ กลิ่นมันหอมมาก...ผมชอบชาเขียวมาก แถมกลิ่นหอมนี้ยังกลิ่นคล้ายกับยี่ห้อที่ป๊าชอบซื้อมาชงให้ผมกินบ่อย ๆ



            “อันนี้พี่น่าจะชอบแน่ ๆ” ชาเขียวถูกยื่นมาตรงหน้าผม “ชาเขียวสำหรับพี่ศิลาครับ” มันยื่นมาอีกเมื่อเห็นผมไม่ยอมรับ ผมรับมาก่อนจะดมดู...หอมสุด ๆ ผมจิบดูก่อนจะวางมันลง



            หมูคุกเข่าลงนั่งตรงพรมใกล้กับโซฟาที่ผมนั่งอยู่ เออ มึงเป็นเจ้าของห้องนะ ไปนั่งพื้นทำเบื้อกอะไรตรงนั้นฟะ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรเมื่อมันมองมาที่หน้าของโน้ตบุ้ค



            “พี่ค้นเจอยังว่าจะเอาเพลงไหนสอนผม?”



            “กูว่าจะให้เอาเพลงนี้แหละ...ท่าน่าจะง่าย สำหรับมึงอ่ะนะ” ผมชี้แล้วหันไปหาไอ้หมูที่นั่งอยู่



            “มึงมีพื้นฐานการรำมาไหม เผื่อกูจะข้ามอะไรที่มึงได้แล้ว จะได้ไม่ต้องสอน” ผมถาม หมูก็ทำท่าคิด



            “เคยเรียนนาฏศิลป์ตอนมัธยมนะ ตั้งวงเป็น....แค่นั้นแหละครับที่จำได้” เดี๋ยวนะ...จำได้อยู่แค่นี้เนี่ยนะไอ้บ้า เหมือนผมหางานหนักมาให้ตัวเองชะมัด ขนาดกว่าผมจะรำเป็นก็หัดตั้งนานแหนะ ป๊าจับผมไปส่งโรงเรียนสอนรำเกือบเป็นเดือน



            “แล้วพวกท่าตั้งจีบ มึงจีบเป็นไหม?” ผมเลื่อน ๆ เซฟเพลงไว้และถามไปด้วย



            แต่ก็ต้องชะงักกับประโยคตอบกลับ...



            “จีบเป็นครับ...ก็กำลังจีบอยู่เนี่ย” ผมเงยหน้าจากจอไปมองหน้าของหมูที่เอามือค้ำกั้นไว้ที่โซฟาอยู่ข้างหน้าผม เหมือนปิดทางไม่ให้ผมออกไปไหน เชี่ยอะไรของมึงอีกเนี่ย.....



            “ไหนจีบของมึง?” ผมมองมือมันที่ไม่ได้ตั้งวงจีบสักนิด หมูยกยิ้มแล้วเอามือมาปิดจอโน้ตบุ้ค



            “ไอ้สัดมึงปิดจอทำไม...” ผมโวยเพราะกำลังดูยูทูปอยู่ แต่แววตาคมตรงหน้าที่จ้องผมอยู่ทำให้ผมจ้องคืน



            “มองตาผมสิ แล้วพี่จะรู้ว่าผมกำลัง จีบพี่ศิลาอยู่นะ....” จึก...จีบพี่ศิลาอยู่นะ...ประโยคเสียงทุ้มฟังละมุน ถ้าสาวมาได้ยินคงไม่ต้องหลับต้องนอนกันล่ะครับ กรี๊ดลั่นแน่ ๆ ยิ่งสีหน้าแววตาของไอ้หมูอีก



            ....พีคมาก...



            “พูดเชี่ยอะไร...” ผมทำหน้านิ่ง ๆ



            แต่ในใจกำลังคิดว่า...มันจะพูดอะไรต่อ อะไรของมัน!!!!! มึงทำให้กูแอบกลัวนะเฮ้ย...



            “พูดว่าจีบครับ และผมก็จะไม่ปล่อยให้พี่หนีออกจากห้องผมไปไหนด้วยคืนนี้...เราจะมาเริ่มซ้อมรำกันนะครับ” ผมกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก...



            บอกทีว่ามันพูดเพื่อต้องการจะแกล้งผม...แต่แววตาจริงจังทำเอาผมนิ่งไป จีบบ้าบออะไรของมันวะ กูวิศวะ เถื่อน ๆ นะเว้ย....(ตรงไหนของมึงเถื่อนครับไอ้ศิลา)  ผมว่าผมทำตัวเถื่อนแล้วนะ!



            ...วิศวะเรากำลังสั่นคลอนรึเปล่าวะ...คำพูดของไอ้เสาแว่วเข้ามาในความคิดผม แม่ง...หรือว่าจะเป็นอย่างที่ไอ้เสาพูด...กำลังสั่น....



            ใช่ สั่น.... หมายถึงโทรศัพท์บนโต๊ะของไอ้หมูที่สั่นอยู่ต่างหาก!!



            ครืด ครืด...เสียงโทรศัพท์ของหมูที่ดังขึ้นทำให้มันละสายตาไปแต่พอมันเห็นเบอร์ก็รีบคว้า แต่ผมก็บังเอิญเห็นแวบ ๆ ...เบอร์แม่งคุ้นมาก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร รู้สึกขอบคุณเบอร์นั้นด้วยซ้ำที่โทรมาขัดจังหวะผมกับไอ้หมู มันเดินหายไปคุยโทรศัพท์ในห้องของมัน



            เดี๋ยว....ขัดจังหวะอะไรของมึงครับศิลา! ไม่ได้จะทำอะไรกับไอ้หมูกรอบนั่นซะหน่อย.....



            พอคิดถึงคำพูดของไอ้หมูเมื่อกี้แล้ว เชี่ยจริงจัง....คืนนี้ผมจะหนีกลับห้องตัวเองยังไงวะ....



            มันพูดจริงหรือแกล้งอำผมเล่น...คิดจะเล่นกับคณะวิศวะไม่ใช่เรื่องง่ายนะเว้ย...วิศวะเถื่อนนะ...


            ...เเต่ไม่เป็นไรครับ ถ้ามันเข้าใกล้ผมในระยะประชิดเมื่อไหร่ ก็เตรียมตัวเจอตีนผมกระทืบได้เลย เพราะอีกวิชาที่ป๊าให้ผมไปเรียนมาก็คือ...มวยไทยครับ โฮะ ๆ ...มันได้ก้านคอเคล็ดเเน่ ๆ ไม่ต้องไปเป็นเดือนเเม่งละ ถ้าเข้ามาใกล้ผมอีก (คิดจะทำร้ายเขาซะเเล้ว)



..........................................

 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ เยิฟ ๆ  เดี๋ยวจะได้เห็นพี่ศิลาสอนน้องหมูรำเเล้วล่ะค่ะ 55555  :L1: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 5| (15/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 15-04-2017 17:17:01
เห้ยยยย หมวยเล็กหวั่นไหวเร็วมาก 5ตอนเองลูกกกก เล่นตัวไปก๊อนนนนน
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 5| (15/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 15-04-2017 19:47:37
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 5| (15/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 15-04-2017 22:51:57
 o13 o13 o13

ชวนติดตามต่อ  ความลับความสัมพันธ์ของหมูกรอบกับหมวยเล็ก
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 5| (15/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 15-04-2017 23:03:50
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 5| (15/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-04-2017 23:49:29
ป๊า สุดยอด  :mew1:
เรียกลูกชายคนสุดท้องว่าหมวยเล็ก
ตามหน้าตา ลักษณะรูปร่าง
แถมส่งไปเรียนรำไทย
และมวยไทย เพื่อไว้ป้องกันตัวเอง  :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 6| (16/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 16-04-2017 17:08:16
ตอนที่ 6



            [พาร์ตของศิลา]



            “แข็งชิบ!! ทำให้ตั้ง ๆ ไม่ได้รึไง!” ผมขึ้นเสียงดุจนไอ้หมูที่ยืนตั้งวงเพื่อขึ้นท่ารำอยู่สะดุ้ง...ผมยืนอยู่บนโซฟาพร้อมกับไม้กวาดหันด้ามไปหาไอ้หมู บอกให้ทำมือตั้งวงดี ๆ มาเกือบจะชั่วโมงแล้ว ยืนนิ่ง ๆ ยังทำไม่ได้เลย วุ้ย จะรอดไหมการแสดงเดือนของมัน



            หลังจากที่เขาคุยโทรศัพท์เสร็จ ผมก็พาหมูไหว้ครูก่อนจะเริ่มสอนรำ จะบอกว่ามันมือแข็งมากกกก! แต่จะโทษมันก็ไม่ได้หรอกครับ ก็ผู้ชายที่ไหนมันจะรำอ่อนช้อยล่ะ...ก็กูไงครับ...ยกเว้นไว้หนึ่งกรณี



            “ทำไมพี่ศิลาดุจังครับ...แล้วจะถือไม้กวาดไว้ทำไม ฟาดมามันเจ็บหนักอยู่นะ” ผมชี้ด้ามไม้กวาดไปแตะ ๆ ไหล่ของเขา



            “ถ้ามึงทำไม่ดีกูฟาดแน่ ๆ!” หมูยิ้มแห้ง ๆ เหอะ...เจอผมดุหน่อยมันทำหน้าจ๋อยลงไปเลยครับ      ผมจะบอกว่าผมลืมเรื่องที่มันพูดก่อนหน้านี้ไปหมดละ...(จริงเหรอ)



            ถามว่าทำไมเขาไม่กล้ามายุ่งย่ามกับผมงั้นเหรอ...ก็ผมสั่งให้ไอ้หมูอยู่ห่าง ๆ จากตีนผมไว้น่ะสิครับ พูดให้ถูกก็คือ อย่ามาเข้าใกล้ผมเกินสองก้าว ไม่งั้นผมจะไม่พูดกับมันอีกและจะไม่มาสอนมัน



            ...ทีมันยังขู่เรื่องการรำกับผมได้ แล้วทำไมผมจะขู่มันคืนไม่ได้...



            “พี่ศิลา...” หมูทำท่าจะเดินเข้ามาหาผมก็ชะงักและก้าวถอยหลังไปอีก



            “ทำไมต้องห่างกันสองก้าวด้วย...ขอก้าวเดียวได้ไหม” มันต่อรอง มึงก็ตั้งรำของมึงไปสิวะ!



            “ไม่ ตั้งวงดี ๆ กูว่ามือมึงนี่มันท่าทางจะดัดยากนะ” ผมทำท่าคิดจะทำยังไงให้มือมันอ่อนดีนะ ก่อนผมจะนึกออกด้วยสมองอันชาญฉลาดของผม



            “กูว่าใช้น้ำอุ่นช่วยน่าจะดัดง่าย ไอ้หมูมึงไปเอาน้ำอุ่นใส่อ่างมาไป”



            “พี่จะชวนผมอาบน้ำเหรอ” น้ำเสียงดี๊ด๊าของมันคืออะไร



            “พ่อง...กูจะเอามาให้มึงแช่มือ สัด! ไปเอามา” ผมด่า เขาเลยหัวเราะเหมือนดีใจที่ผมด่า...โรคจิตดี ๆ นี่เอง



            หมูหายเข้าไปในห้องน้ำซักพักก่อนจะออกมาพร้อมกับกะละมังน้ำอุ่น มันวางลงตรงโต๊ะแก้วที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างโซฟา



            “เอามือมึงมาจุ่มสิ” ผมบอกมันที่ยืนมองงง ๆ ผมเลยคว้ามือของมันมาใส่น้ำ



            “พี่...”



            “อะไร?”



            “พี่จับมือผม...” หมูยิ้มกว้าง...เชี่ย กูจับมือมันจริงด้วย...



            “กูจับมึงได้ แต่มึงห้ามมาจับกู” ผมตอบเสียงเรียบแบบไม่แคร์ ไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น



            “โหย...งั้นพี่ก็ต้องจับบ่อย ๆ นะ ผมอนุญาต” จะไปจำมึงบ่อยให้มันได้ไรขึ้นมาวะ.....



            “พูดมากกูจะเอาไม้กวาดฟาดมึงนะ....ที่เอามือมึงมาใส่น้ำอุ่นเพราะจะได้อ่อน ๆ มึงก็ลองดัด ๆ มือในน้ำอุ่นดูนะ มันช่วยได้เยอะอยู่” ผมบอกพลางเอามือของผมไปดัดมือของหมูที่อยู่ในน้ำ โดยที่ไม่รู้ว่าสายตาคมจ้องผมอยู่ใกล้ ๆ



            “พี่ศิลา...คือว่า...”



            Rrrr เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นทำให้ผมไม่ได้ฟังที่ไอ้หมูกำลังจะพูดออกมาเพราะเสียงโทรศัพท์ดังขัดขึ้นมาซะก่อน



            +ไอ้เสา+ ผมมองเวลาประมาณ 20:30 น.  ผมกดรับสาย



            (“มึง ออกมาดื่มเป็นเพื่อนกูหน่อย”) ไอ้หมูเอามือตัวเองแช่น้ำแล้วดัด ๆ ตามที่ผมบอก มันยิ้มให้ผมไปด้วย ผมฟังเสียงไอ้เสาที่ดูเครียด ๆ ก็ตั้งแต่เมื่อตอนเช้าแล้วนี่หว่า



            “มึงหายหน้าซีดแล้วเหรอสัด...มึงอยู่ไหน”



            (“ร้านโฮะ”) มันบอกชื่อร้านเหล้าประจำของพวกผม ถือว่ามันไปกินตั้งแต่หัววันมากนะ

            (“กูรอหน้าหอมึง ลงมาสัด”) ไอ้เสาบอกอีก หา...มันมาอยู่หน้าหอผม



            “เออ ๆ เดี๋ยวกูออกไป” ผมวางสาย ส่วนไอ้หมูดูจะสนอกสนใจกับการดัดมือมากจนไม่ได้ฟังโทรศัพท์ของผมละมั้ง



            “ใครโทรมาเหรอ?” หมูเงยหน้าขึ้นถาม



            “เพื่อนกู พอดีกูจะไปธุระซะหน่อย ไว้ค่อยซ้อมต่อก็แล้วกันวันนี้กูต้องกลับละ” ผมบอก หมูจะคว้ามือของผมก็หยุดมือไว้....คำสั่งของผมได้ผลดีแฮะ



            “กลับเองได้รึเปล่าครับ?” ปากถามผมอย่างนี้แต่หน้ามันพร้อมจะไปส่งผมมาก



            “ได้สิวะ” ผมสะพายกระเป๋าของตัวเอง “มึงจะทำอะไรต่อล่ะวันนี้” ผมถาม หมูเอาผ้ามาเช็ด ๆ มือของตัวเองออก



            “ก็ว่าจะนอนแล้วล่ะครับ...พรุ่งนี้ที่คณะเรียกไปแต่เช้าอ่ะ” มันว่า



            “เออ ๆ ก็รีบเข้านอนละกันมึง”



            “ห่วงผมเหรอ” น้ำเสียงขี้เล่นตามสไตล์มัน “ฝันดีนะครับ พี่ศิลา...เดี๋ยวผมส่งข้อความไปบอกอีกรอบ” มันโบกมือให้ผมนิด ๆ ผมเลยยักไหล่ชิว



            ผมลงมาข้างล่างก็เห็นรถของไอ้เสาจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมเลยวิ่งไปหามันที่รถโดยที่ไม่ทันเห็นว่าหมูเองก็วิ่งตามลงมาเหมือนกัน แต่หมูก็ไม่ได้เรียกผมไว้เพราะผมขึ้นรถมากับไอ้เสาแล้ว...





          @ร้านโฮะ



            “ไอ้เหี้ยเสา มึงจะสั่งมาอาบเหรอวะ!” ผมยกมือห้ามพนักงานที่จะยกเครื่องดื่มที่ไอ้เสาสั่งมา ตั้งแต่เข้าร้านมามันก็เอาแต่กระดกกินเรียบ เชี่ย...อดอยากมาจากไหนของมัน



            “เออ! กูกะมาอาบเต็มที่ มึงก็กินสิวะ เอ้าชนนนนน...” ไอ้เสายัดแก้วใส่มือของผม เพลงในผับที่เปิดดังกระหึ่มไปหมด แปลกที่ไม่ยักจะเห็นไอ้นนท์



            “แล้วไอ้สัดนนท์ไปไหนวะ”



            “ไม่รู้!!! จะไปไหนก็ช่างแม่งมันสิวะ” จึก...พวกมึงเป็นเหี้ยไรกันครับ...ผมมองไอ้รองเดือนที่ตอนนี้หน้าแม่งแดงไปหมดละ ไอ้เสามันหล่อนะครับ หล่อเข้มแต่มันก็เป็นคนที่เอาแต่ใจคนหนึ่งเลยล่ะ บ้านมันรวย ลูกคนเดียว ก็เลยถูกเลี้ยงมาแบบตามใจนิดหนึ่ง เวลามันเสียใจมันก็จะระบายออกมาแบบนี้แหละ  ผมเป็นเพื่อนมันมาตั้งนานก็เลยรู้...เพียงแต่ครั้งนี้ ผมไม่รู้ว่ามันเสียใจที่เลิกกับแฟนสาวของมันหรือเรื่องอะไรกันแน่



            “แล้วมึงเหอะ ไปหอน้องมันมาเหรอวะ...แหม ๆ ก้าวหน้าอีกขั้นเหรอมึง” ไอ้เสากระตุกยิ้มตาเริ่มเยิ้ม มึงเริ่มเพ้อเจ้อแล้วครับเพื่อน



            ผมก็นั่งดื่มฟังไอ้เสามันแซวสาวไปเรื่อย จนสายตาของไอ้เสาไปเห็นใครไม่รู้แต่ผมเห็นมันกำแก้วแน่นขึ้น ผมเลยมองตามจนไปเจอ...เชี่ย ไอ้สัดนนท์นี่หว่า...มันกำลังนัวเนียกับสาวอกสุดสะบึ้ม กำลังจะก้มจูบซอกคอกันเชียว มันก็เป็นเรื่องปกติของไอ้นนท์มันแหละครับ



            “เหี้ยยย! เหี้ยจริง” ไอ้เสากระแทกแก้วลงโต๊ะจนมันแตกคามือ เฮ้ย...



            “ไอ้สัด มือมึง...” เลือดที่ไหลออกจากมือของไอ้เสาทำให้ผมรีบจับมือของมันมาดู



            แต่ไอ้สัดนนท์ก็เดินมาจากตรงเคาท์เตอร์ที่ยืนอยู่เมื่อกี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือ มันคว้ามือไอ้เสา



            “ลุกมากับกู”



            “เหี้ยยย!!! อย่ามาจับกู” ไอ้เสาร้องขึ้นมาเหมือนมันจะเมา เมามาก ๆ แต่ไอ้เสามันเป็นผู้ชายสูงโปร่งครับ ส่วนไอ้นนท์มันตัวสูงทึบ (ขอเปรียบเทียบให้เห็นภาพตามฉบับศิลา) แบบว่าไอ้นนท์มันเล่นกีฬาบาสไรงี้ด้วยไง กล้ามมันก็เยอะกว่า กระชากทีเดียวไอ้เสาปลิวไปหามันเลย



            “เฮ้ย ๆ พวกมึงเป็นไรกันวะ...มีอะไรที่ยังไม่ได้บอกกูใช่ไหม” ผมเข้าไปเคลียร์ไอ้สองคนที่จ้องตากันเหมือนจะกระโดดเตะกันอย่างงั้นแหละ



            “ถามไอ้สัดเสาสิ! เป็นอะไรทำไมไม่บอกกู” ไอ้สัดนนท์เริ่มเปิดปาก ไอ้เสาจะสะบัดมือที่มีเลือดของมันออกแต่นนท์บีบไว้แน่น



            “กูไม่ได้เป็นอะไร! ปล่อยสิวะ ไปหาสาวของมึงนู่น ดื่มต่อเหอะไอ้ศิลา” ผมมองหน้าไอ้เสา นี่มันยังจะดื่มต่ออีก



            “ มึงไปเอาเอกสารที่ห้องกูวันนั้นใช่ไหม วันที่กูเมา...” ไอ้นนท์พูดขึ้นมาบ้าง ผมมองหน้ามันสองคนสลับไปมา...สรุปใจความสำคัญให้กูฟังที ต้องการจะเผือกเต็มที่



            “ใช่ ทำไม? กูไปเอาเอกสารแล้วก็ออกมาเลย” ไอ้เสาทำหน้ากวนตีนตามประสามัน



            “เหรอ...บังเอิญจังเนอะเพราะว่ากูดันรู้สึกว่า กูโอบกอดใครสักคนไว้คืนนั้น” หือ...โอกกอดใครสักคน ผมหันไปมองหน้าไอ้เสาที่ซีดเผือก....เฮ้ย ๆ....



            “หึ อาจจะเป็นสาว ๆ ของมึงที่หิ้วกลับมารึเปล่า...” ไอ้เสาพูดจบ หญิงสาวที่ไอ้สัดนนท์นัวเนียด้วยก็เดินมาเกาะแขนของไอ้นนท์ ....น้องครับ มาผิดสถานการณ์แล้ว



            “พี่นนท์คะ ช้าจังเลย...รอไม่ไหวแล้วนะ” ไอ้เสาสะบัดมือออกจากไอ้นนท์ทันที



            “เหี้ย!...ไปเหอะไอ้ศิลากูหมดอารมณ์จะกินเหล้าแล้ว” ผมยังไม่ทันจะพูดอะไรก็โดนไอ้เสาลากออกไป แต่เดี๋ยว...ทำไมผมเหมือนแผ่นหลังคุ้น ๆ วะ แปลกไหมที่ผมคิดว่าเป็นแผ่นหลังของไอ้หมู....



            ผมโดนลากมาหลังร้านเหล้าก่อนจะชะงักเมื่อไอ้เสามันยกมือมากกอดผม มันกอดแบบเพื่อนกอดกันน่ะครับ ผมว่าไอ้เสาอาการหนักแล้วนะ



            “มึงเป็นไรวะ...เล่าให้กูฟังได้นะเว้ย”



            “กูกอดมึงแล้ว กู....” มันเว้นวรรค “กูไม่รู้สึกอะไรเลยว่ะ....แต่ทำไมกับมัน....” ด้วยความที่ผมเป็นคนฉลาด(ชอบเผือก) ผมว่า ‘มัน’ ของไอ้เสาคือไอ้นนท์แน่ ๆ



            “กูจะทำยังไงวะ...กูคิดว่ากูไม่เหมือนเดิม กูว่ามันไม่ควรเกิดขึ้นกับกูด้วยซ้ำ” ไอ้เสาเสียงเริ่มสั่น  มันกอดคอผมไว้แน่น ผมเลยตบไหล่มันปุ ๆ เพื่อปลอบ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อผมโดนดึงให้ห่างจากไอ้เสาที่กำลังเมา



            “พี่ศิลา นี่ธุระของพี่เหรอครับ!” ไอ้เชี่ยหมู...มันผลักไอ้เสาชิดกำแพงและเงื้อมือจะต่อย ผมเลยรีบจับไว้



            “จะทำเชี่ยอะไรวะ!! นั่นเพื่อนกู” หมูดูเหมือนจะชะงักไปเหมือนกันเพราะขาดสติไปชั่วครู่ และไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนของศิลา



            “ก็พี่เขามากอดพี่!...” ผมชักจะเริ่มโมโหกับมันแล้วนะ...



            “กอดกูแล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึงไม่ทราบ” ผมถามและสายตาก็เหลือบไปเห็นน้องชมพู่ที่เอาขนมมาให้ไอ้หมู เหอะ...ไหนมึงบอกจะนอน สัด! มาเสนอหน้าอะไรอยู่ที่นี่!



            “ก็ผมไม่ชอบ...บอกแล้วไงครับ” หมูเสียงอ่อนลงพร้อมกับมองผมด้วยแววตาที่มันเหมือนมีความหมาย



            แต่ผมไม่อยากรับรู้!



            “ไม่ชอบก็เรื่องของมึง! กูจะทำอะไรก็เรื่องของกูไหม ไม่เห็นว่ามีอะไรจะต้องเกี่ยวกับมึง!” ผมเริ่มด่าออกไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าหงุดหงิดอะไร ก็ความรู้สึกตอนนี้มันหงุดหงิดขึ้นมาแล้วอ่ะ



            “ทำไมพี่ศิลาพูดแบบนี้ล่ะ ผมเป็นห่วงพี่นะ...”



            “เฮ้ย ๆ มึงอย่าทะเลาะกันสิวะ” ไอ้เสาที่โดนผลักเข้ากำแพงไปเมื่อกี้โบกไม้โบกมือห้ามพวกผมที่ยืนทำหน้าจริงจังใส่กัน



            “กูไม่ได้ทะเลาะ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่กูต้องไปทะเลาะกับคนที่ไม่เกี่ยวอะไรกับกูเลย!” ผมพูดใส่ทำให้หมูชะงัก



            “ทำไมครับ ผมมันน่ารำคาญขนาดนั้นเลยเหรอ ผมก็ทำชัดเจนแล้วนิว่าผมจะจี...” ไม่ต้องรอให้มันพูดจบผมก็สวนกลับไป



            “เออ! กูรำคาญ! เลิกมายุ่งกับกูได้แล้ว ต่อไปนี้ไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก!!”



            “พี่ศิลา...” หมูดูช็อกไปทันที



            “แล้วเรื่องการแสดงมึงก็จัดการเอาเองก็แล้วกัน!! กูจะไม่ช่วยอะไรมึงแล้ว อยากจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับใครก็เชิญ กูไม่แคร์!” ผมพูดออกมายาว ๆ หมูไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับมา...เพียงแค่ส่งยิ้มเศร้า ๆ ให้ผมพร้อมกับประโยคสุดท้ายก่อนที่มันจะเดินออกไปจากร้าน



            “ผมจะไม่มาให้พี่ศิลาเห็นอีกก็ได้ครับถ้าพี่ต้องการแบบนั้น...”


             “แต่ขออย่างเดียว...อย่าเกลียดผมเลยนะ...”



            .................

            ................



            @คณะวิศวะ



            ผมเอามือเท้าคางมองถั่วดำว๊ากน้องตามปกติ ส่วนไอ้นนท์ก็นั่งฟังเพลงอยู่ตรงข้ามผม นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้วล่ะครับ...ที่ผมไม่ได้เจอไอ้หมูเลย ยอมรับว่าตอนที่ร้านเหล้าผมก็เผลอพูดกับมันแรงไปเหมือนกัน เพิ่งจะมาสำนึกได้ก็ตอนวันต่อมา...ซึ่งก็พูดใส่มันไปแล้ว ก็ตอนนั้นผมโมโหมันนี่....ว่าแต่โมโหไรมันวะตอนนั้น...และไอ้หมูมันก็หายหน้าหายตาไปจากผมจริง ๆ



            ผมเหลือบไปเห็นไอ้เสาที่ใส่ชุดนักศึกษาเต็มยศ ทรงผมถูกเช็ตอย่างดี มันไปดูน้อง ๆ ดาวเดือนมาน่ะครับ มันหล่อเชียวแต่ผมเริ่มมองว่าไอ้เสามันเจ้าสำอางแล้วล่ะ ไอ้เสาทิ้งตัวนั่งลงข้างผม



            “ไงมึง นั่งหงอยเชียวนะ...คิดถึงใครอยู่ป่ะ” พอนั่งปั๊ปไอ้เสาก็หันมากวนตีนผมทันที มันเหลือบมองไอ้นนท์ที่เอาหูฟังออกมองหน้าของเสา



            “แปลกที่เห็นมึงมาอยู่คณะตอนเช้า คิดว่าจะมั่วอยู่กับสาวซะอีก” นั่นไงครับ...ไอ้เสากวนตีนไปเรื่อย



            “เมื่อคืนกูก็หนักพอแล้ว เอาจนอิ่มแล้ว” ไอ้สัดนนท์ก็พูดประชดกลับมา ผมได้ยินไอ้เสาหายใจฮึดฮัดนิด ๆ แต่ผมว่าบรรยากาศระหว่างพวกมันเหมือนจะดีขึ้นหน่อย ๆ ปะวะ...แต่ผมว่าไม่น่าจะดีซะทีเดียว เพราะมันจะกระโดดเตะกันอยู่แล้วนี่ย



            “เหอะ ระวังเหอะมึง จะทำเด็กมันท้อง เหี้ยจริง” ไอ้เสาเบ้ปากใส่พร้อมกับหยิบชาไข่มุกที่มันฝากผมซื้อไปกิน ประกาศ ๆ รองดาวเดือนมันเป็นพวกชอบกินชานมไข่มุกเป็นชีวิตจิตใจนะครับ



            “กูใส่ถุงทุกครั้งที่ทำ...อ้อ...แต่มีคนหนึ่งว่ะที่น่าจะเสี่ยงท้องเพราะกูไม่ใส่...คืนที่กูเมา” แล้วพวกมึงสองคนจะมาพูดตรงนี้ทำซากอะไรครับ กลางสาธารณะนะเฮ้ย เด็กปี 1 ก็พากันนั่งกันเต็มอยู่ไม่ห่างมาก



            พรวด! ไข่มุกที่ไอ้เสากำลังดูดอยู่พุ่งมาใส่หน้าผมที่นั่งข้างมันเต็ม ๆ เชี่ยยย...



            “แค่ก ๆ กูขอโทษไอ้ศิลา ไอ้สัดนนท์มึงหุบปากไปเลย! กูล่ะสงสารน้องคนที่มึงไปทำไว้จริง ๆ เลยแม่ง ไอ้เหี้ย” ไอ้เสาบ่นให้แล้วเอาผ้ามาเช็ดหน้าผม ไอ้นนท์มองแล้วยักไหล่เหมือนเบื่อที่จะพูดอะไรต่อ



            “เบื่อพวกไม่ยอมรับความจริงชิบ” เสียงนนท์บ่นพึมพำ แต่ไอ้เสาน่าจะไม่ได้ยินครับเพราะมันมัวแต่เช็ดหน้าให้ผมอยู่ น้ำลายมันเต็ม ๆ หน้าผมเลย...



            ผมมองหน้าไอ้เสาที่แก้มอมชมพูหน่อย ๆ อยากจะขำ ใบหน้าหล่อใสของมันกำลังมีความอมชมพู ...ผมอยากจะบอกให้ไอ้สองนี้ไปเคลียร์กันให้จบ ๆ มาก ทุกวันนี้ไอ้เสาตามติดผมมาก เพราะมันไม่ยอมไปไหนมาไหนกับไอ้นนท์เลย เป็นสองวันที่ผมมีไอ้เสาไปไหนมาไหนด้วย....และไอ้หมูที่หายไปจากสายตาของผม...



            “อ้อ ไอ้ศิลา...น้องหมูกรอบของมึงอ่ะ” ผมเลิกคิ้วมองไอ้เสาที่ดูดชานมของมันต่อ



            “ทำไม”



            “เรื่องการแสดงน้องมันบอกจะรำเหมือนเดิมว่ะ...” ผมบอกให้ไอ้เสาไปสืบมาเองแหละว่า ไอ้หมูมันยังเอาการแสดงเหมือนเดิมไหม...มันยังเอาเหมือนเดิม



            “มึงกังวลล่ะสิ...ทำไมไม่ไปหาน้องมันล่ะ”



            “ทำไมกูจะต้องไปหาวะ” ก็กูไล่น้องเขาเองนี่.....



            “ตอนนั้นกูว่ามึงเมาแหละ ถึงพูดแบบนั้น น้องมันเองก็คงไม่ได้ตั้งใจจะผลักกูหรอก” เสาว่าออกมา



            “ใครผลักมึงนะ!!” ไอ้สัดนนท์ตะโกนขึ้นมาเสียงดังจนรุ่นน้องที่นั่งเข้าคลาสมาหันมาพรึบ เออ..ไอ้สัดนนท์ครับ เก็บอาการนิดหนึ่งเนอะ



            “เรื่องของกูกับศิลา อย่าเผือก” ไอ้เสาด่าไปหนึ่งดอก ไอ้นนท์ทำท่าจะพูดต่อแต่ก็ไม่พูดแล้วหันไปเล่นเกมต่อ



            “มึงก็เห็นน้องมันตามมึงมาตั้งหลายวันนี่ ไปดูน้องมันหน่อยไหมล่ะ รู้สึกจะซ้อมเดือนอยู่จนมืดเลยนะ” ผมทำท่าคิด ถ้าจะแวะไปดูเฉย ๆ ก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง อีกอย่างผมเองก็เป็นคนบอกว่าจะสอนเขารำ อย่างน้อยก็ไปแสดงความรับผิดชอบซะหน่อย...แค่นั้นจริง ๆ



            ............

            ............



            “ทำไมมึงไม่เข้าไปดูข้างในวะ” ไอ้เสาสะกิดผมที่ยืนหลบอยู่แถว ๆ หลังต้นไม้กับมัน ผมมากับไอ้เสาสองคน ส่วนไอ้นนท์ก็กลับหอมันไปเรียบร้อย ไอ้นี่ไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นหรอกครับ (เหมือนจะด่าตัวเองว่าชอบเผือก)



            “มึงหุบปากไปเลย” ผมบอกและมองเข้าไปในโรงยิมรู้สึกเหมือนคนอื่นจะทยอยกันเดินกลับไปแล้ว แต่ไอ้หมูเหมือนจะยังไม่กลับแฮะ ใบหน้าหล่อคมดูซูบ ๆ ยังไงไม่รู้ อารมณ์คล้ายคนไม่ได้นอน



            “น้องแม่งขอบตาคล้ำเชียว สงสัยนอนไม่หลับคิดถึงรุ่นพี่คนไหนอยู่ก็ไม่รู้...” ไอ้เสากระซิบกวนตีนอยู่ข้างผม เออ..กูรู้แล้วว่ามันคิดมากเพราะกู...แต่จะใช้เรื่องของผมจริงเหรอ มันอาจจะคิดเรื่องอื่นก็ได้



            สักพักก็มีเสียงผู้หญิงเดินเข้ามาหาไอ้หมูที่กำลังยืนดูโทรศัพท์ของมันอยู่ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไหนไกล ก็น้องชมพู่นั่นไง..ด้วยความที่พวกผมแอบฟังอยู่เงียบ ๆ เลยได้ยินเสียงชัดเจน ไอ้เสาเองก็เงี่ยหูมาฟังด้วย



            “หมูจะกลับรึยัง เราว่าจะขอติดรถไปด้วย” เธอเอ่ยขอ ดูก็รู้ว่าอ่อยชัด ๆ  หมูเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ของมันที่กำลังกดค้างไว้



            “ชมพู่กลับกับคนอื่นได้ไหม คือเราต้องซ้อมการแสดงต่อน่ะ”



            “งั้นชมพู่ขออยู่เป็นเพื่อน...” เธอจะอาสาแต่ยังไม่ทันพูดจบก็เจอเสียงเข้มของหมูพูดขัดซะก่อน



            “กลับไปเถอะ! ขอเราอยู่คนเดียวนะ วันนี้ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใคร” มันเป็นน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิดมาก



            “หูย...น้องหมูมีมุมโหดกับเขาด้วยวะ...เด็ดขาดใช้ได้” ไอ้เสากระซิบกระซาบอยู่ข้างหูผมและมันก็เกาะไหล่ผมไปด้วย คิดบ้างไหมว่าตัวมันหนักเนี่ย! ดูเหมือนน้องชมพู่คุคินั่นจะอารมณ์ไม่จอยนิด ๆ เธอเลยยอมเดินออกไปอย่างอารมณ์เสีย



            จู่ ๆ โทรศัพท์ของไอ้เสาก็สั่น พอมันหยิบมาดู ผมก็เหลือบมองด้วย แม่ไอ้เสาไลน์มาบอกว่าให้ไปโอนค่าเครื่องสำอางให้หน่อย



            “แม่กูทำไมขยันซื้อเครื่องสำอางจังวะ ไอ้ศิลากูขอออกไปโอนเงินให้แม่กูก่อนนะ” ไอ้เสาบอก  ผมเลยรีบคว้ามือมันไว้ อ้าวไอ้นี่จะทิ้งกูเฉย...



            “อย่าเพิ่งทิ้งกูสิวะ กูไปด้วย”



            “ไปเหี้ยอะไร มึงก็เข้าไปหาน้องเขาดิ ไป ๆ สัด กูรีบ” มันดันหลังของผมให้ไปอยู่ที่ประตูโรงยิมแล้วมันก็วิ่งหนีผมไปซะงั้น ไอ้เพื่อนชั่ววววว...พามาด้วยกันแต่ดันทิ้งผมไว้นี่คนเดียว กับไอ้หมูที่ยืนอยู่ในโรงยิมอีก....



            หมูที่ยืนหันหลังให้ผมอยู่กำลังกดโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนผมจะชะงักกับประโยคที่มันพูดออกมาคนเดียว



            “พี่ศิลาผมคิดถึงพี่จัง...” เป็นจังหวะเดียวกันกับไลน์ของผมดังขึ้น



            ติ้ง ติ้ง! เชี่ยยย...ลืมปิดเสียง ผมจะหยิบออกมาปิดเสียง หมูก็หันขวับมาอย่างรวดเร็วและตาโต....มันทำตาโตมาก



            “พี่ศิลา...” หมูพูดไม่ดังมากเหมือนกำลังอึ้ง...ก็ผมเป็นคนไล่มันเองแท้ ๆ แต่กลับมาเสนอหน้าอยู่แถวนี้



            “ไง...พอดีกูมาทิ้งขยะแถวนี้น่ะ...” ผมทักทายพร้อมมองไปที่ถังขยะที่อยู่แถว ๆ ต้นไม้



            ...กูแก้ตัวได้น้ำขุ่น ๆ มาก...



            หมูยิ้มนิดหน่อย แม่ง...ขัดใจกับรอยยิ้มนี้แปลก ๆ แฮะ



            “มึงยังไม่กลับเหรอ” ผมถาม หมูที่เงียบไม่พูด เอาแต่มองหน้าของผมอยู่นั่นแหละ



            “ครับ พอดีจะซ้อมการแสดงต่อน่ะ...พี่ศิลาจะกลับแล้วใช่ไหมครับ...มีใครไปส่งรึยัง” คำถามห่วงใยตามประสาของไอ้หมูถูกถามไถ่ออกมา



            “ก็มี....” โกหกคำโต ไอ้เชี่ยเสาทิ้งผมไปแล้ว ผมยังไม่มีใครไปส่ง...โฮก หมูพยักหน้ารับรู้



            “ครับ งั้นก็อย่าลืมหาอะไรกินด้วยนะ” ถามแต่ผม มึงล่ะกินรึยังไอ้เดือนแพทย์....



            ผมพยักหน้าก่อนจะเดินหันหลังก้าวเท้าออกไปจากโรงยิม พอหันกลับไปมองก็เห็นไอ้หมูยืนพิงประตูโรงยิมพร้อมกับยิ้มบาง ๆ มองผมอยู่...มึงจะมายืนมองและยิ้มแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย....กูด่ามึงไปตั้งเยอะ



            ผมเดินออกมาเรื่อย ๆ พลางคิดไปว่าจะกลับยังไงวะ...จะกลับโดยทิ้งน้องมันไว้คนเดียวแบบนี้เหรอ ผมมองป้ายเซเว่นที่อยู่หน้ามหาวิทยาลัย ก็แค่ซื้ออะไรไปให้มันกินซะหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่หว่า



            ...แค่ซื้อให้น้องมหาลัยเดียวกัน...



            ผมใช้เวลาไม่นานกับการเลือกของกินในเซเว่นและเดินกลับมาทางโรงยิม ไม่ให้มันฟรี ๆ หรอก เดี๋ยวไปเก็บเงินกับไอ้หมูมันทีหลัง ผมเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มันมืดครึ้มมาก ฟ้าแลบด้วยว่ะ..



            “ทำไมเหมือนฝนจะตกเลยวะ...” ผมเลยรีบวิ่งกลับไปที่โรงยิมทันที หวังว่าไอ้หมูมันจะยังไม่กลับนะ ไม่งั้นผมได้ติดอยู่โรงยิมทั้งคืนแน่ ๆ



            ...ยิ่งเป็นคนที่ไม่ชอบบรรยากาศเวลาที่ฝนตก ลมแรง ๆ อะไรแบบนี้อยู่...




...
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ  :L1: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 6| (16/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-04-2017 18:49:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 6| (16/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 16-04-2017 20:00:31
หวังว่าน้องหมูกรอบจะยังไม่กลับไปนะ

 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 6| (16/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 16-04-2017 22:06:55
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 6| (16/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 17-04-2017 00:54:56
แอร๊ยยย น่ารักกันจังเลยค่ะหนุ่มๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 6| (16/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 17-04-2017 02:29:27
 :serius2:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 6| (16/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 17-04-2017 03:03:49
น่ารักมาาากๆ  ละมุนเชียว :-[
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 7| (17/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 17-04-2017 17:39:18
ตอนที่ 7


            [พาร์ตของศิลา]


            ผมเดินมาหยุดที่ประตูหน้าโรงยิมอีกครั้ง ผมมองเข้าไปก็เจอไอ้หมูกำลังเปิดยูทูปที่ผมโหลดค้างไว้ในโน้ตบุ้คมัน คาดว่ามันจำชื่อมาและโหลดลงโทรศัพท์ตัวเอง ผมยืนมองท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ของมันก็แอบขำเบา ๆ แต่อาจจะไม่เบาก็ได้เพราะเสียงหัวเราะของผมทำให้ไอ้หมูหันมามองอึ้งอีกรอบ



            “พี่ศิลา..? ยังไม่กลับเหรอครับ” เชี่ย...กูจะทำหน้ายังไงดี ผมเดินเข้าไปในโรงยิมและยื่นถุงเซเว่นให้



            “กูซื้อมาฝาก เดี๋ยวจะหาว่ากูเป็นรุ่นพี่ใจร้าย...” ไอ้หมูยังคงอึ้ง มันดูอึ้งมาก...ผมเลยดันถุงให้มันอีก จนหมูรับไปถือไว้ยิ้ม ๆ มันยิ้มแล้วแฮะ



            “ขอบคุณครับ...ผมคิดว่าพี่จะกลับกับพี่เสาซะอีก” หมูพึมพำออกมาแต่คราวนี้ผมได้ยินนะ!



            “ทำไมรู้ว่ากูจะกลับไอ้เสา” ผมถาม หมูที่กำลังเปิดถุงเซ่เว่นดูก็เผลอตอบออกมาตามตรงอย่างลืมตัว



            “ผมไปแอบดูพี่ที่คณะมาน่ะครับ...เออ คือไม่ใช่...แบบว่า” มันแอบไปดูผม...ตอนไหนวะ ไอ้หมูรีบยกมือปฏิเสธ ไม่ทันละกูได้ยินแล้วเว้ย...



            “ไอ้เสามันไปทำธุระของมันแล้ว กูไม่ได้จะกลับกับมัน” ผมบอก เรียกรอยยิ้มจาง ๆ ของไอ้หมูได้ทันที จะยิ้มก็ไม่ยิ้มเต็มปาก...ขัดใจจริง ๆ



            “งั้นให้ผมไปส่งไหม...” มันมองผมตาปริบ ๆ “เป็นค่าตอบแทนของอาหารที่ซื้อมาฝากก็ได้” หมูเลือกหาข้ออ้างขึ้นมา ผมมองก่อนจะพยักหน้า



            “เออ เอางั้นก็ได้...แล้วนี่มึงซ้อมไปถึงไหนแล้ว” ผมถามความคืบหน้าและชะงักเมื่อหมูพูดขึ้น



            “พี่ศิลา...ผมขอโทษนะ วันนั้นที่ร้านเหล้า ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่รำคาญ....ผม” น้ำเสียงสำนึกผิดทำให้ผมขมวดคิ้ว จริง ๆ มันก็ไม่ใช่ความผิดของไอ้หมูซะทีเดียวนะ...ผมโมโหเอง พาลใส่มันเอง...



            ...แต่มันกลับมาขอโทษผมด้วยใบหน้าเศร้า ๆ ...



            “เออ ช่างมันเหอะ วันนั้นกูอาจจะเมาด้วยแหละเลยพูดอะไรพาล ๆ ...มึงก็ลืม ๆ ไปเหอะ”



            “แปลว่าพี่ไม่ได้ห้ามผมไม่ให้ไปหาพี่แล้วใช่ไหม” หมูเสียงสดใสมากกว่าเมื่อกี้



            “เออ” ผมตอบและพยายามที่จะไม่มองหน้าของมันมากไปกว่านี้ “ตกลง มึงซ้อมถึงไหนแล้ว ตกลงจะเอารำอันนี้จริง ๆ ใช่ไหม” ผมถามย้ำ



            หมูพยักหน้าและวางถุงเซเว่นไว้บนกระเป๋าสะพายของมัน



            “ครับ ก็กะว่าอย่างนั้น นี่ผมก็ซ้อม ๆ อยู่...มันอาจจะยังดูท่าแปลก ๆ หน่อย” ไม่หน่อยหรอก...ท่ารำมึงแปลกมาก จากที่ผมยืนดูเมื่อกี้ มันทำเหมือนจะไปแร็บมากกว่ารำ ขืนปล่อยไว้สภาพนี้ การแสดงไอ้หมูได้เละแน่ ๆ แต่ผมว่าการตั้งมือมันก็โอเคขึ้นนะ มือก็ดูอ่อนกว่าตอนแรกที่ฝึกด้วย



            “เดี๋ยวกูสอนให้ก็แล้วกัน” ผมบอก เรียกความสนใจจากหมูให้หันมามองพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง...กว้างจริงจัง



            “พี่ศิลา! พี่บอกว่าจะสอนผม....สอนผม แสดงว่าพี่จะกลับมาสอน...” ไอ้หมูจะวิ่งเข้ามาใกล้ผม  ผมรีบยกมือห้ามอย่างรวดเร็ว อันตรายชิบ...



            “เข้ามาใกล้กู เจอตีน” เขาชะงักหยุดกึกยิ้มแห้ง ๆ ให้ผม



            “อ่า...ไม่ใกล้ครับ ไม่ใกล้ ห่างสองก้าว...” มันถอยหลังไปให้ห่างจากผม จนผมอดขำไม่ได้ที่เห็นไอ้หมูมันยืนเขามือแนบลำตัว



            “แต่ถ้าไม่ใกล้จะสอนยังไงล่ะ” ไอ้หมูหน้าตาดูสดใสชื่นบานขึ้นมาทันทีทันใด...มึงเป็นว่าที่หมอที่น่ากลัวมาก อย่าไปทำให้คนไข้ในอนาคตกลัวนะเว้ย



            “กูจะสอนยังไงมันก็เรื่องของกู ตกลงจะให้กูสอนไหม?”



            “สอนครับ!...ยังไงก็ได้ ผมยอมหมด...” ไอ้หมูยิ้ม “ผมพร้อมรับมือจากพี่ทุกอย่างแล้วครับ”



            ...รับหมัดกูสักหมัดไหม...ไอ้หน้าตาเศร้าเมื่อกี้แทบจะหายไปหมด กลายเป็นหน้าอารมณ์ดีเข้ามาแทน แต่แปลกที่ผมกลับรู้สึกสบายใจขึ้นมาที่เห็นรอยยิ้มของมันแทนที่จะเห็นหน้าเศร้า....





            เรื่องที่ผมสั่งไว้ว่าห้ามไอ้หมูเข้ามาใกล้ผมเกินสองก้าว เป็นเรื่องยากมาก! เพราะผมจะสอนรำไอ้หมูยังไงก็ในเมื่อเราก็ต้องอยู่ใกล้กันอยู่ดี!...สรุปผมก็ต้องเป็นคนยกเลิกกฎการอยู่ห่างไปโดยปริยาย ก็จะสอนมันได้ยังไงเล่าถ้าไม่เข้าไปดัดมือมัน



            “มึงแสดงเป็นพระเอก เพราะงั้นต้องมีความเข้มแข็งแฝงอยู่ แต่ไม่ใช่มือแข็งนะ มือของมึงต้องอ่อนช้อยตามจังหวะ มึงต้องทำให้คนดูเห็นว่า มึงเป็นตัวพระเอกที่เท่ สุขุม” ผมยืนอยู่ข้างหลังหมูที่ตั้งวงอยู่ ผมก็อธิบายไปด้วย เวลาผมสอนอะไรก็มักจะตั้งใจเสมอแหละครับ ส่วนไอ้หมูก็เอาแต่ยิ้ม...ยิ้ม...จนหน้ามันจะบานอยู่แล้ว



            “ถ้าผมได้เป็นพระเอกของพี่ศิลา...ผมเชื่อว่าผมจะเท่ที่สุด” อยากจะเตะสักป๊าป...กูไม่รู้สึกอะไรกับมุขที่มึงปล่อยมาหรอก ไอ้ขายหม้อ...



            “ถ้ามึงยังพูดมากอีก กูจะริบของกินมึงซะไอ้หมู” ผมขู่ แต่กลับได้เสียงหัวเราะพอใจจากหมูแทน



            ช่วยกลัวกูนิดหนึ่งก็ได้...



            ผมเปิดเพลงพร้อมกับมองไอ้หมูรำได้สักพัก ก็ส่ายหน้าเอือม ผมรู้ครับว่ามันฝึกกันไม่ได้ง่าย ๆ แต่อย่างน้อยมันก็น่าจะได้สักนิด แต่นี่เปิดเพลงแร็บมามันเข้ากับท่าไอ้หมูเลยอ่ะ รำเว้ยไม่ใช่เต้นแร็บโย่ว!



            “หยุด ๆ จะรอดไหมเนี่ยมึง!”



            “ก็พยายามเต็มที่แล้ว...สงสัยไม่มีตัวนางอยู่ข้างหน้าก็เลยรำยากมั้งครับ...” หมูอ้างและดูในคลิปที่มีตัวนางอยู่กับตัวพระด้วย...ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย



            “ไม่เกี่ยวสักหน่อย มึงแหละรำมั่ว”



            “เกี่ยวครับ..ลองซ้อมคู่ผมดูไหมล่ะ” ผมตาโตนิด ๆ ไม่โว้ย ไม่รำ!



            “ทำไมกูจะต้องรำ ยังไงตอนที่มึงประกวดมึงก็ต้องโชว์เดี่ยวอยู่แล้ว” ผมถอยห่างจากไอ้หมูที่เดินเข้ามาใกล้ผม เชี่ย...ไม่น่ายกเลิกกฎห้ามเข้าใกล้เลย เอามาใช้อีกได้ไหม



            “ก็ให้ผมได้จับทางถูกไง เผื่อมันจะดีขึ้น...นะ นะ นะ” ไอ้หมูเริ่มใช้ลูกอ้อน...  คิดว่าผมจะใจอ่อนเหรอ ลูกไม้อย่างนี้ใช้กับผมไม่ได้หรอก!!!



            “ไม่โว้ย”



            “รีบมาซ้อมดีกว่า เดี๋ยวผมจะพาไปกินอะไรอร่อย ๆ แล้วกลับหอไงครับ..ร้านข้าวหมูแดงพี่ศิลาต้องชอบแน่ ๆ”



            ...มีร้านข้าวหมูแดงด้วยว่ะ...หิว



            ผมเหลือบมองไอ้หมูที่ยิ้มอย่างรอคำตอบ เออ! ก็แค่อยากกลับหอเร็ว ๆ เท่านั้นแหละ แถมยังหิวข้าวอีก



            “เออ ๆ ก็ได้...วุ่นวายจริงมึงเนี่ย” ผมบ่น “ถ้ามึงรำไม่ดี กูจะเอาไม้หน้าสามมาฟาดมึงแน่ ๆ ไอ้หมู”



            “โหดจังเลยครับ...ผมกลัว” หน้าตามันไม่ได้กลัวผมสักนิด... หมูตั้งวงขึ้นเหมือนคลิป ผมถอนหายใจนิด ๆ เมื่อมองคลิปที่กำลังเปิดอยู่ ตัวนางดันต้องไปอยู่ด้านหน้าแถมยังอยู่ในอ้อมแขนของตัวพระเอกอีก



            “ขออนุญาตนะครับ” เสียงเข้มพูดใกล้หูของผม หมูเขยิบวงแขนมาอยู่ด้านหลังของผม เพิ่งสังเกตว่าแขนมันยาวกว่าผมมาก...ผมดูเลเวลลดลงไปทันที



            “พี่ศิลาตัวเล็กจัง”



            “ไอ้เชี่ยหมู! เพื่อนเล่นมึงเหรอ” ผมโวยแต่ก็ต้องชะงักกับใบหน้าหล่อเข้มที่อยู่ก้มลงมาฟังผมในวงแขนของมัน



            ...เป็นโมเมนต์ที่น่าขนลุกสุด ๆ !...



            เพลงที่ดังขึ้นทำให้ผมยกมือตั้งวงอีกชั้นภายใต้วงแขนของหมู รีบรำรีบเสร็จ ๆ ...แต่เพลงรำที่เริ่มช้า ๆ กับบรรยากาศลมพัดแผ่วเบา เสียงดนตรีที่กำลังขับกล่อม...ผมกับหมูเริ่มรำตามท่าไปตามจังหวะ...ไอ้หมูมันรำเข้าจังหวะด้วยแหละครับ ผมมองเขาที่ก้มลงมาใบหน้าของมันเฉียดแก้มของผมไปนิดเดียว



            ...เชี่ยยย...ใครมันเลือกเพลงนี้ให้ไอ้หมูว่ะ นี่มันเป็นบทเกี้ยวพระนางชัด ๆ (ก็มึงไงครับศิลาเลือกมาแบบไม่ได้ดู)



            น่าแปลกที่ไอ้หมูมันรำได้ดีกว่าเมื่อกี้จริง ๆ...มันเกี่ยวกับที่ผมซ้อมคู่กับมันจริงเหรอเนี่ย



            ผมพยายามรำและเว้นระยะห่างจากไอ้หมู และผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อมือหนาของหมูตวัดเอวของผมเข้าไปประชิด!



            “ไอ้เชี่ยหมู..มึงทำอะไร!” ผมจะโวยก็ชะงักกับใบหน้าหล่อที่ตั้งใจรำตามเพลงเป๊ะ ผมเหลือบมองคลิป เออว่ะ มันกำลังอยู่ในท่านี้...ท่าที่เกือบทำให้หัวใจคนวายได้



            “ผมรู้แล้วล่ะครับ ว่าทำไมพระรามถึงหวงนางสีดา...” จู่ ๆ มันก็พูดขึ้น ผมที่มองจอโทรศัพท์อยู่เลยหันมามองมันงง ๆ



            “หา?” มันจะมาพล่ามอะไรเกี่ยวกับวรรณคดีตอนนี้ “รู้ว่า?” ผมเลิกคิ้วและกำลังจะแกะมือที่มันเหนียวยังกับหนวดปลาหมึกของไอ้หมูออก



            “เพราะนางสีดา...สวยขนาดนี้จะไม่ให้หวงได้ยังไง...” สายตากับน้ำเสียงมันจงใจมอบให้ผมชัด ๆ



            ผมสบตากับมันที่ก้มลงมาใกล้ผมเรื่อย ๆ จนหยุดอยู่ใกล้แก้มของผม ผมเตรียมที่จะต่อยมันละนะ!



            “พี่ศิลา...คือผม” ผมกำลังจะง้างหมัดก็ชะงัก




            คลิก...แกรก เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมกับไอ้หมูผละออกจากกันพร้อมกับหันไปมองต้นเสียงพร้อมกัน เชี่ย...เสียงล็อคกรประตู! ผมรีบวิ่งไปจับประตูโรงยิมที่พวกผมปิดไว้เมื่อกี้ ปรากฏว่ามันเปิดไม่ออก!!



            “สงสัยยามล็อคจากด้านนอกแน่เลยครับ” เสียงหมูดูใจเย็นสุด ๆ



            “ได้ไงวะ” ผมทุบประตูแต่คาดว่าน่าจะไม่มีใครได้ยินซะแล้ว อะไรวะเนี่ยยยยย...ผมมองไอ้หมูที่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย เราถูกขังนะเว้ย...



            “กูรู้ละ เดี๋ยวโทรหาไอ้เสาให้มาเปิดให้” ผมดีดนิ้วอย่างนึกได้ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาแต่ไม่ทันจะโทร ไอ้หมูก็คว้าโทรศัพท์ของผมไปและทิ้งลงพื้น



            ตุบ! แกรบ...เหี้ยยย มันเหยียบซ้ำด้วย เละคาตีนไอ้หมูเรียบร้อย จู่ ๆ มาอารมณ์หาอะไรของมัน



            “ผมไม่ให้โทรหาพี่เสา” อ้าว...ไอ้เชี่ยยย...นั่นมันเพื่อนสนิทกูไหมล่ะ!



            “ไอ้เชี่ยหมู!! โทรศัพท์กู ป๊าเพิ่งซื้อให้กูนะเว้ย...” หมูทำหน้าบึ้งไม่ได้ฟังที่ผมด่าสักนิด พอจะอ้าปากด่ามันก็ไม่อยากจะพูดอีก ก็มันทำหน้าเศร้าเหมือนผมผิดทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนเหยียบโทรศัพท์ผมเละไปเมื่อกี้



            “เฮ้อ...กูไม่รู้ว่ามึงแม่งคิดอะไรอยู่ แต่กูจะบอกให้ชัดตรงนี้เลยนะว่า...ไอ้เสามันเป็นเพื่อนสนิทของกูและมันกับกูก็เป็นเพื่อนรักแบบบริสุทธิ์ใจ มันไม่ได้เหมือนมึงที่ไล่จีบกูอยู่แบบนี้ เข้าใจที่กูพูดไหมไอ้เชี่ยหมู?” ผมพล่ามอะไรไปเนี่ย



            “พี่ศิลา บอกว่าผมจีบพี่เหรอ...” ไอ้หมูถามออกมาอึ้ง ๆ ...คืออะไรของมันอีกครับ ผมล่ะงง



            “ก็มึง...เชี่ย มากอดกูทำไม!!” ผมถูกแรงดึงจากหมูที่ตัวหนากว่าผมให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของมัน



            “ไอ้เชี่ย!! กูต่อยมึงจริงนะ ต่อยจริงนะ!” ผมตะโกน หมูเลยรีบปล่อยผมออก



            “ขอโทษครับ...คือผมดีใจที่พี่ยอมรับว่า ผมจีบพี่อยู่” ไอ้นี่มันประสาทรึเปล่า ก่อนจะรักษาคนอื่น ผมว่าไอ้หมูน่าจะไปเช็คสภาพจิตของตัวเองบ้างก็ดีนะ ชักจะเพี้ยนขึ้นทุกวัน



            กะจะจีบผมให้ได้เลยใช่ไหม...ถามจริง ๆ วัน ๆ มันไม่มีใครคบรึไงวะ ถึงได้มีเวลามาวุ่นวายกับผม



            “เอาตรง ๆ ผมหึง...หึงเวลาพี่ใกล้ผู้ชายทุกคน” ไอ้หมูยอมรับออกมาตรง ๆ ก็ดีครับ ลูกผู้ชายดี!! มันใช่ซะที่ไหนเล่า....มึงจะมาหึงกูเวลาอยู่กับผู้ชายทำไมมมมม...กูก็ผู้ชายนะเว้ย



            “มึงมันไม่ปกติ รู้ตัวป่ะเนี่ย” ผมทำท่ากลัว



            “มึงจะเป็นหมอก็หัดใจเย็น ๆ หน่อยได้ไหมวะ” ผมว่าที่มันเหยียบโทรศัพท์ผมไป ก่อนจะชะงักกับประโยคต่อมาที่ผมไม่น่าจะคิดอะไรแต่มันก็น่าคิด...(อะไรของมึงอีกแล้วศิลา)



            “เรื่องอื่นผมใจเย็นครับ...แต่ถ้าเป็นเรื่องของพี่ศิลา ผมเย็นไม่ลง” หมูพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่นพร้อมกับหัวเราะออกมา ทำให้บรรยากาศไม่ตึงเครียดมาก



             แต่ผมกำลังจะเครียดเนื่องจากไฟที่มันกระพริบเหมือนจะดับ และลมที่เริ่มพัดแรง



            ...อย่าว่าฝนจะตกนะ...



            “เหมือนฝนจะตกเลยนะครับ” ไอ้หมูว่าขึ้นพร้อมกับเม็ดฝนที่เริ่มตกลงมา...ไอ้เชี่ยยยย พูดทำไมวะ



            “อ้าว ตกซะละ” มันพึมพำมองไปยังข้างนอกที่ฝนกำลังตกลงมา ผมมองก่อนจะไปหยิบโทรศัพท์ไอ้หมูมาโทรหาไอ้เสา



            “ผมขอโทษนะเรื่องโทรศัพท์เดี๋ยวผมซื้อให้ใหม่” ไอ้หมูเดินดุ่ม ๆ มาตามผมอย่างสำนึกผิดว่าตัวเองทำอะไรลงไป ดีเนอะ เหยียบของกูจนเละแล้วค่อยมาสำนึกได้ คิดได้ไงวะว่าผมกับไอ้เสามีซัมติง ขนลุกสัด



            “มึงนี่ก็ช่างคิดเนอะว่ากูกับไอ้เสาเนี่ยนะ จะมีซัมติงกัน”



            “ก็ผมไม่รู้นี่...เห็นพี่เขาอยู่กับพี่บ่อยแถมสนิทด้วย...” ไอ้หมูพูดเสียงเบา ๆ  งึมงำ ผมส่ายหน้าเอือมก่อนจะตาโตกับโทรศัพท์ของไอ้หมู...หน้าจอของมันเป็นรูปของผมเหมือนจะเป็นรูปแอบถ่าย...แถมมีตัวหนังสือคั่นไว้ตรงกลางด้วยว่า



            ...พี่ศิลาของผม... กูชักจะกลัวมึงจริง ๆ แล้วววว.....



            “พี่ศิลา..คือเรื่องหน้าจอเอาไว้ก่อน แบบว่าแบตผมเหลือ 0% แล้วล่ะครับ...” ไอ้หมูชะโงกหน้ามาดูแต่เมื่อมันพูดจบ  ไอ้โทรศัพท์แสนแพงไอโฟน6 พลัสก็ดับลงไปทันที สงสัยเพราะเปิดยูทูปซ้อมรำ



            อ้าวเชี่ยยยยย....มัวแต่ดูรูปตัวเองอยู่หน้าจอจนไม่ได้ดูแบต สรุปคือมันดับไปแล้ว ก็ไม่มีใครมีโทรศัพท์                 
 โว้ยยยยย.....แล้วจะออกไปจากโรงยิมยังไงฟะ!!!



            .................

            .................



            “พี่ศิลา...ผมขอไปนั่งใกล้พี่ได้ไหม” ผมที่นั่งพิงผนังอยู่เหลือบมองไอ้หมูที่นั่งอยู่ห่างจากผมพอสมควร มันถือข้าวกล่องเซเว่นที่ผมซื้อมาให้มัน สรุปผมกับไอ้หมูก็ติดอยู่ในโรงยิมที่แสนกว้างอยู่กันสองคนเงียบ ๆ และบรรยากาศฝนตกพร่ำ



            เริ่มหนาวแล้วด้วย...อย่าไปบอกใครนะครับว่า ผมเป็นคนขี้หนาวติดผ้าห่มมาก



            “ทำไมต้องมานั่งใกล้ อยู่คนละมุมไปสิวะ” ผมว่าและรู้สึกว่าท้องผมเริ่มร้องละ...



            “งั้นพี่เอาข้าวกล่องไปกินนะ ผมยังไม่หิว” มันยื่นข้าวกล่องที่ผมซื้อมาให้มันมาทางผม



            “ไม่เอา มึงกินไปสิ กูซื้อมาให้มึง”



            “ถ้าพี่อิ่ม ผมก็อิ่ม” ประโยคตื้อตามฉบับของไอ้หมูทำให้ผมชะงัก ทำไมเวลามันพูดแบบนี้ผมเป็นต้องยอม ๆ ทำตามที่มันขอตลอด..เพราะขี้เกียจฟังมันพูดใช่ไหมหรือยังไง...สุดท้ายผมก็ได้กินข้าวกล่องส่วนไอ้หมูกินแซนวิชที่ผมซื้อมาพร้อมกับข้าวกล่อง



            “มึงจะไปไหน?” หลังจากที่กินเสร็จไอ้หมูก็ลุกขึ้น เขายิ้มเล็กน้อย



            “เดี๋ยวจะไปหาดูว่ามีประตูทางออกอื่นอีกไหม...พี่ศิลาหนาวเหรอ ใส่เสื้อกันหนาวของผมก่อนก็ได้นะ” มันยื่นเสื้อกันหนาวมาให้ผมแต่เมื่อเห็นผมไม่รับเสื้อมา หมูก็เลยวางเสื้อมันลงไว้ข้าง ๆ ผม



            “ถ้าหนาวก็ใส่นะครับ ผมไม่อยากให้พี่เป็นหวัด” น้ำเสียงห่วงใยชัดเจน ผมมองมันที่เดินหายไปแถว ๆ หลังเบาะกระโดดสูง ๆ มันจะมีทางออกทางอื่นด้วยเหรอวะ ถ้าไม่ใช่ประตูด้านหน้า



            ผมที่นั่งอยู่คนเดียวก็ต้องรู้สึกใจหายวาบเมื่อจู่ ๆ ไฟที่กระพริบพร้อมฟ้าแลบข้างนอก ดับพรึบลง!! ชิบหาย....เฮือก...มืดไปหมด....ผมไม่ชอบ ยิ่งมีเสียงลมด้วย     ผมไม่ชอบ



            ไอ้เชี่ยหมูหายไปไหน?.... “ไอ้เชี่ย...” หมับ วงแขนแข็งแกร่งที่ผมสัมผัสได้ดึงเอวของผมเข้าไปหา แสงสว่างจากด้านนอกทำให้ผมเห็นหน้าของหมูชัดเจน...ใบหน้าที่มีแสงสว่างทำให้เห็นโครงหน้าหล่อชัดเจน



            “ผมอยู่นี่...อยู่กับพี่ศิลาเสมอนะครับ ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวไฟก็ติดแล้ว” ผมยืนแข็งทื่อสบตากับหมูที่มองเห็นผมชัดเจนในความมืดเช่นเดียวกัน ราวกับว่ามันรู้ว่าผมกำลังกลัว...พอจ้องแววตาคมของมันแบบนี้แล้ว ผมว่ามันรู้สึกคุ้นชะมัดตอนมองแบบนี้



            เสียงฝนซ่าที่ยังคงกระหน่ำตกลงมาบวกกับความเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของไอ้หมูที่ดังมาก...



            ใจมึงเต้นดังชะมัด...ไอ้หมูกรอบ ผมมองใบหน้าของมันที่ก้มลงมาใกล้ผม...ยื่นหน้ามาทำไมวะ



            “พี่ศิลา...ผมขอจูบพี่ได้ไหม” คำถามขอแต่กลับไม่รอฟังคำอนุญาตทำให้ผมเบิกตากว้าง!



            “ห๊ะ เหี้ย...” ริมฝีปากของไอ้หมูโน้มลงมาแนบชิดกับริมฝีปากของผมอย่างสโลโมชั่น แรงกดจูบลงมาทำให้ผมช็อก...ลิ้นของมันพยายามจะเปิดปากริมฝีปากของผมที่ปิดอยู่....สัมผัสโคตรอ่อนนุ่ม...



            พลั่ก!! ผมผลักไอ้หมูออกอย่างได้สติเป็นจังหวะที่ไฟติดพรึบขึ้น



            ผมมองหน้ามันที่อยู่ตรงหน้าเหมือนตอกย้ำว่าเมื่อกี้มันคือเรื่องจริง...ไอ้เชี่ยมันจูบผม! สัมผัสปากของมันยังคงอยู่....ผมเอามือถูปากของตัวเองทันที หมูที่มองอยู่ก็แอบทำหน้าเศร้าลงนิดหน่อย



            ผมหันหน้าหนีไปทางอื่นอย่างไม่รู้จะพูดอะไร ผมเลยคว้าเสื้อกันหนาวของไอ้หมูมาคลุมหน้าตัวเองแล้วนอนลงกับตรงเบาะสำหรับเล่นยิมนาสติก



            “พี่ศิลา...โกรธผมเหรอ” ถ้าโกรธกูกระทืบมึงนานแล้วไอ้ฟาย...จริง ๆ ก็อยากกระทืบแต่หน้ามันจะไปเป็นเดือนไง      ไม่อยากทำร้าย...



            “........”



            “ผมรั้งตัวเองไม่อยู่จริง ๆ” มันยังคงพูดต่อ และผมรู้สึกว่าไอ้หมูล้มตัวลงนอนตรงเบาะข้างผม



            “แต่ผมก็เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ฝืนใจพี่ ไว้ใจผมได้ครับ...” ผมที่เอาเสื้อของไอ้หมูคลุมหน้าตัวเองไว้อยู่ ไม่รู้เลยว่ามันทำหน้าแบบไหนอยู่ แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วค่อนข้างจริงจังน่าดู...กลิ่นหอมจากเสื้อที่เป็นกลิ่นน้ำหอมที่ไอ้หมูใช้ฟุ้งเข้าจมูกของผม



            ...เชี่ย หอมชะมัด ใช้กลิ่นไหนวะ กลิ่นเย็น ๆ ที่ผู้ชายใช้...แล้วผมจะไปดมทำบ้าอะไร



            ไอ้หมูหยุดพูดไป ผมรู้สึกว่ามันก็ยังนอนอยู่ข้างผมนี่แหละ



            “พี่ศิลา...พี่ชอบคนแบบไหนเหรอ” จู่ ๆ ไอ้หมูกรอบก็ถามขึ้นมาเหมือนที่หยุดพูดเพราะไปหาคำถามมาอยู่...มาถามคำถามนี้ทำไมฟะ



            “กูจำเป็นต้องตอบเหรอ” ผมถามกลับ มันก็เงียบ “สำหรับกูก็ไม่มีสเป็กหรอก ถ้าชอบก็คือชอบ หัวใจกูจะเลือกเอง” ผมตอบ จะว่าไปเสื้อไอ้หมูก็มีประโยชน์ขึ้นมาเหมือนกันแฮะ...ทั้งอุ่นแถมยังใช้บังหน้าผมได้อีก



            “ผมอยากเป็นคนที่หัวใจพี่เลือกนะ...” จึก...พูดเชี่ยแบบนี้อีกแล้ว...



            ผมไม่หลงคารมมันหรอก...



            “แล้วคนแบบไหนที่พี่ไม่ชอบ” ไอ้หมูยังคงถามต่อเหมือนอยากสร้างบรรยากาศไม่ให้ตึงเครียดและก็ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายลงมากด้วย



            แบบที่ผมไม่ชอบเหรอ...ผมแทบจะตอบได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องคิดเลย



            “กูไม่ชอบคนโกหก คนที่ไม่พูดความจริงกับกู คนหลอกลวง แล้วกูรู้เป็นคนสุดท้าย นั่นแหละที่กูเกลียดมาก”



            ผมตอบและขมวดคิ้วเมื่อไอ้หมูกรอบเงียบไปซะงั้น...มันหลับเหรอ ทำไมเงียบฟะ ผมเปิดเสื้อออกสบตากับแววตาคมที่มองมาที่ผมอยู่ ไอ้หมูมันนอนอยู่ข้างผมนี่เอง...แต่มันเว้นระยะห่างระหว่างผมไว้อยู่



            “ถ้าเกิดเขาต้องโกหกเพราะมีเหตุผลจำเป็น แต่ไม่ได้ตั้งใจจะโกหกหรือปิดบัง...พี่ศิลาจะโกรธคน ๆ นั้นไหม...” คำถามของมันทำให้ผมเลิกคิ้ว



            “ก็คงโกรธมั้ง เพราะถ้ามันตั้งใจปิดกู กูก็โกรธ” ผมว่าตามความจริงที่มันถามอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่แอบเห็นว่าไอ้หมูมันเหงื่อแตก....มึงร้อนเหรอ ฝนตกจนกูจะหนาวสั่นอยู่แล้ว มึงร้อนเหรอ?



            “แล้วจะโกรธนานไหมครับ...” ไอ้หมูยังถามต่อ



            “มึงจะถามทำไมวะ? ไม่รู้สิ กูอาจจะไม่คุยกับคน ๆ นั้นอีกเลยล่ะมั้ง เพราะกูไม่ชอบเหตุการณ์แบบนี้เอามาก ๆ ...” ผมเหลือบมองหมูที่หน้าซีดลง เป็นเชี่ยอะไรของมัน...ผมเอาเสื้อของไอ้หมูคลุมหน้าของตัวเองด้วยความง่วง



            “กูจะนอนละ ง่วง...แล้วถ้ามึงเขยิบเข้ามาใกล้กูอีกนิด ได้โดนลูกเตะกูแน่ ๆ ถ้าอยากมีหน้าหล่อ ๆ ไปประกวดเดือนก็อยู่ให้ห่างจากกู...” ผมบอกกล่าวเตือนไว้ก่อนแต่หมูก็ไม่ตอบอะไรกลับมา ช่างมัน...น่าจะได้ยินจนไม่กล้าเข้าใกล้ผมนั่นแหละ



            แปลกที่ผมกลับรู้สึกเชื่อใจไอ้หมู....ไม่นานนักผมก็หลับไปอย่างง่ายดายเพราะเป็นคนหลับง่ายอยู่แล้ว





            ...............



            “พี่ศิลา...หลับแล้วเหรอครับ”

            “เฮ้อ...ผมจะกล้าแตะต้องพี่ได้ยังไงกัน ถ้าแตะมีหวังเฮียใหญ่ลากผมไปซ้อมแทนกระสอบทรายแน่ ๆ...”

            “ฝันดีนะครับ พี่หมวยเล็กของผม...”








...

ขอบคุุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่าน^^

-/////-  ดีใจที่ชอบน้องหมูกับพี่ศิลานะคะ ^^ :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 7| (17/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Mylovelysunshine ที่ 17-04-2017 18:06:59
 :pig4: :pig4: สงสารน้องหมู
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 7| (17/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 17-04-2017 18:07:26
พี่หมวยเล็กเขินโหดตลอด ทำไมจำน้องหมูไม่ได้่ล่ะ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 7| (17/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 17-04-2017 21:46:16
หมูกรอบมีความรุกแรงเบอร์10
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 7| (17/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-04-2017 22:31:53
มีเรื่องไรปกปิดอ่ะ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 7| (17/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 17-04-2017 22:41:49
อาจรู้จักกันมาก่อนสมัยเด็กๆ

แต่หมวยเล็กจำไม่ได้

 o13 o13 o13

หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 7| (17/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 18-04-2017 00:36:22
 :katai2-1:


ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 18-04-2017 17:43:54
ตอนที่ 8


             [พาร์ตของศิลา]



            นับว่าไอ้หมูกรอบมีสัจจะในตัวเองสูงมาก มันไม่ได้เข้ามาใกล้ผมแม้แต่นิดเดียว พอตอนเช้ามาคนที่มาเปิดโรงยิมให้พวกผมเป็นคุณลุงภารโรงที่ล็อกเราไว้เมื่อคืนนั่นแหละครับ ไอ้หมูมาส่งผมที่หอและเป็นจังหวะเดียวกันที่ไอ้เสามารับผมที่หอพอดี ไอ้หมูยิ้มให้ผมและขอตัวกลับไปหอของตัวเอง ไม่ได้โวยวายที่เห็นไอ้เสาก็เพราะผมเล่าให้มันฟังแล้วว่าระหว่างไอ้เสากับผมไม่มีอะไรกัน...แล้วกูจะมาแคร์ทำไมถ้าไอ้หมูจะเข้าใจผิด



            | ร้านข้าวราดแกง |



            “น้องแม่งสุภาพบุรุษไปอีก มึงรอดมาได้ไงวะ” ไอ้เสาพูดกลางร้านข้าวแกงจนคนหันมามองตาปริบ ๆ หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จก่อนจะไปคณะที่นัดประชุมเชียร์ก็เลยแวะมากินข้าวเพิ่มพลังก่อน



            ผมเล่าเรื่องเมื่อวานให้ไอ้เสาฟัง...แต่ไม่ได้เล่าเรื่องโดนจูบนะ



            “ลองมันเข้ามาใกล้กูสิ แม่จะกระทืบให้เละ...แม่งเหยียบโทรศัพท์กูแตกอีก” ผมบ่นทำเอาไอ้เสาหัวเราะสะใจออกมา



            “ฮ่า ๆ! กูควรจะระวังตัวไหมเนี่ย ไอ้น้องหมูกรอบของมึงหึงจริงจังมากว่ะ กูอาจจะโดนดักตีได้สักวัน” ไอ้เสาว่าพลางมองเมนูข้าวราดแกง



            “ดักตีอะไร มันไม่ทำหรอกมันเป็นว่าที่หมอนะเว้ย” ผมว่าก่อนจะชะงักกับสายตาไอ้เสาที่มองล้อ



            “แหม มีการปกป้องแทนกันด้วย จ๊ะ ๆ ว่าที่เมียหมอ”



            “ไอ้ส้นตีน เดี๋ยวได้กินตีนกูไอ้สัด!” ผมว่า ไอ้เสาก็เลยหัวเราะออกมาอีก...ว่าที่เมียหมอเชี่ยอะไรเล่า เสาหันไปสั่งกับป้าที่มารับออร์เดอร์



            “เอาแกงจืดกับผัดวุ้นเส้นนะครับ ส่วนอีกจานเอาผัดพริกแกงกับผัดถั่วงอกครับ” ไอ้เสาสั่งไปสองจาน ผมเลยเลิกคิ้วขึ้น ไอ้แกงจืดผมพอจะรู้ว่าของไอ้เสาแน่ ๆ แต่ไอ้อีกจานที่เผ็ด ๆ ล่ะ



            “มึงสั่งไรเยอะ?” ผมถามก่อนจะร้องอ๋อเมื่อมองไปเห็นบุคคลที่สามที่เดินเข้ามาในร้าน ไอ้สัดนนท์เดินเข้ามาพร้อมกับชานมไข่มุก และสายตาของผู้หญิงในร้านที่มองเหล่กันเป็นแถบ ไอ้นี่ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากไอ้หมูกรอบเลยสักนิด...รู้ว่าสาวเหล่ก็ยิ้มตอบ



            “กูสั่งให้เหี้ย” ไอ้เสาพูดทีเล่นที่จริงและโดนไอ้นนท์ที่เดินมาจากด้านหลังเขกหัวเบา ๆ



            โป๊ก!




            “ไอ้สัด! ไรวะ” เสาโวยเมื่อเห็นไอ้นนท์นั่งลงข้างมัน....เอ๊ะ ๆ อะไรของพวกมันวะ แลดูบรรยากาศดีขึ้นนะ



            “ด่ากูเหี้ยทำไม อ่ะ ชานมไข่มุกที่มึงสั่ง แดกไรทั้งวี่ทั้งวันวะ อ้วนนะมึง”



            “เรื่องของกู อ้วนก็ตัวกู” ผมไม่เห็นว่าไอ้เสากินแล้วมันจะอ้วนเพิ่มตรงไหน?



            “เออ เดี๋ยวกูพาไปเบิร์น” ไอ้สัดนนท์ตอบเรียบ ๆ แต่ทำให้ผมที่กินน้ำอยู่แทบจะสำลัก สาว ๆ ที่มองไอ้นนท์อยู่ก็ทำตาเลิกลักด้วยความอยากรู้ ผู้หญิงบางโต๊ะทำหน้าฟิน



            “ไอ้ห่าสัดนนท์!”



            “เฮ้ย ๆ พอเลยพวกมึง ยังไม่เลิกทะเลาะกันอีกเหรอวะ”



            “กูไม่ได้ทะเลาะ”



            “กูก็ไม่ได้อยากทะเลาะกับเมียเหมือนกัน” ไอ้นนท์พึมพำแต่ผมกับไอ้เสาได้ยินชัดครับ ไอ้เสาทำท่าจะกระโดดถีบไอ้นนท์อยู่แล้วแต่ผมห้ามไว้ก่อน ไอ้นนท์นี่ก็ขยันพูดกวนตีนเพื่อนผมเหลือเกิน เสาเลยหยุดและทำเสียงฮึดฮัดส่วนไอ้สัดนนท์นี่ท่าจะโรคจิต มันยิ้มที่ไอ้เสาด่ามันเหี้ย ห่า ไรไปเรื่อย แต่ไอ้นนท์ก็ยิ้มรับ...หรือเพื่อนผมมันยอมรับว่าเหี้ยจริง..อ้าว ไม่ใช่



            “ไอ้ศิลา แล้วนี่ตกลงมึงกลับไปสอนน้องซ้อมรำเหมือนเดิมละเหรอ” ผมที่กำลังตักไข่เจียวเข้าปากก็เงยหน้ามองไอ้เสาที่ไปขโมยหมูในจานของไอ้นนท์เฉยเลย



            “ใช่ ก็กูบอกน้องมันไว้แล้ว จะปล่อยให้มันซ้อมเองก็สงสาร”



            “แค่สงสารเหรอ...” ไอ้เสาถามล้อ ใช่ก็แค่สงสาร...เหรอ(?) ใช่ดิ ก็น้องมันไม่มีคนซ้อมให้ ผมก็ต้องช่วยใช่ป่ะล่ะ



            “มึงคิดว่ามึงจะใจอ่อนให้น้องมันไหม ไอ้น้องหมูกรอบมันมาจีบมึงขนาดนี้” คำถามของไอ้เสาทำให้ผมที่กำลังกินข้าวอยู่หยุดชะงัก...



            ใจอ่อนเชี่ยไร....



            “ทำไมกูจะต้องใจอ่อน กูเป็นผู้ชายนะเว้ย มันก็ผู้ชาย”



            “มึงก็รู้ว่าความรักมันขึ้นอยู่กับจิตใจ” เชรด...คำคมจากไอ้เสาก็มา “ยิ้มห่าอะไรของมึงไอ้สัดนนท์” มันหันไปพาลใส่ไอ้นนท์เรียบร้อย ผมหลุดขำไอ้สองคนนี้พร้อมกับส่ายหน้าเอือม ตกลงพวกมึงสองคนเข้าใจกันรึยังวะเนี่ยยย...



            ระหว่างที่ผมกำลังหัวเราะก็ต้องหยุดเมื่อสายตาหันไปเห็นไอ้หมูกรอบเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับ...น้องชมพู่คุคิ เหมือนไอ้เสาจะเห็นเหมือนกัน ตอนแรกไอ้หมูมันไม่เห็นผมหรอกครับ ดูจากสภาพตาของมันแล้วเหมือนจะไม่ได้นอน...อย่าว่าเมื่อวานตอนที่อยู่ในโรงยิมมันไม่ได้นอนเลยนะ...



            คนที่เห็นผมดูเหมือนจะเป็นน้องชมพู่คุคิ (ฉายาที่ตั้งให้แล้ว) เธอเอามือคล้องแขนไอ้เดือนแพทย์อย่างออกหน้าออกตา จนผู้หญิงที่อยู่ในร้านทำหน้าหมั่นไส้...อันนี้เห็นพวกผู้หญิงทำใส่ชมพู่จริง ๆ นะ  หมูหันมามองเห็นผมก็ตาโตนิด ๆ ถามจริงมันมีสติไหมนั่น



            “พี่ศิลา...”



            “หมูเรานั่งข้างรุ่นพี่ของหมูก็ได้” เสียงหญิงสาวเจือแจ้ว เธอนั่งลงโต๊ะข้างผม ส่วนไอ้หมูนั่งฝั่งตรงข้าม มันมองเหมือนตัวเองกำลังทำผิด....เหอะ



            “พวกเราขอนั่งด้วยนะคะ” เธอว่า ผมเลยพยักหน้า



            “ตามสบาย..”



            “เมื่อวานโทรหาหมูไม่รับเลยอ่ะ...ขอโทษที่รบกวนตอนเช้านะ ตอนแรกเราจะมาเองแหละ ไม่น่าให้แม่เราโทรไปรบกวนให้หมูมาส่งเลย” ชมพู่พูดขึ้นกับหมูที่กำลังจะสั่งข้าวแต่สายตาไอ้หมูแม่ง...มองมาทางผมซะงั้น  ดูเหมือนชมพู่จะจงใจพูดให้ผมได้ยินชัดเจน ไอ้เสามองหน้าผมแล้วทำปากพะงาบ ๆ



            “หูย น้องจงใจพูดใส่มึงชัวร์” มันพูดแบบไม่ออกเสียง...มีเหตุผลอะไรที่น้องชมพู่สุดอึ๋มนี่จะมาพูดใส่ผมครับ (ตั้งฉายาให้คนอื่นอีกแล้ว)



            “ไม่เป็นไรหรอก ก็รถเสียไม่ใช่เหรอ ยังไงก็มาทางเดียวกัน....” หมูว่าเรียบ ๆ และเงยหน้ามองผม



            “พี่ศิลา...กินข้าวรึยังครับ” ถามทำไมวะ...ก็เห็นอยู่ว่ากูกินแล้ว



            “กินแล้ว” และกูก็บ้าจี้ตอบมัน...หมูยิ้มให้ผม



            “หมูเมนูนี้ของโปรดหมูเลย” ชมพู่ชี้เมนูให้หมูดู ผมเหลือบมองนิด ๆ ดูจะรู้ใจกันจังนะ



            ผมวางช้อนของตัวเองลงด้วยความรู้สึกอิ่มขึ้นมาซะงั้น ไอ้เสาเองก็ดูดไข่มุกของมันไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนไอ้นนท์ก็กระดกน้ำกิน บ่งบอกว่าอิ่มแล้ว เหมือนพวกมันจะรู้ว่าผมต้องการจะลุกออกจากตรงนี้



            “พวกพี่อิ่มกันแล้วเหรอครับ” ไอ้หมูถามขึ้นเมื่อเห็นผมเช็ดปากของตัวเอง แต่คนที่ตอบคำถามของหมูไม่ใช่ผมแต่เป็นไอ้เสาแทน เสาตบบ่าของไอ้หมูปุ ๆ



            “เออ อิ่มละ พวกกูมากินนานแล้ว มึงก็กินเข้าไปเยอะ ๆ ล่ะไอ้น้อง”



            “พี่ศิลา...วันนี้พี่อยู่ที่คณะทั้งวันไหม” ผมลุกขึ้นมองหน้าเขาที่ถามออกมา



            “ก็อยู่” ผมตอบแค่นั้น ก่อนจะเดินนำไอ้เสากับไอ้นนท์ออกไปรอที่รถ และไม่ได้รอฟังไอ้หมูที่ทำท่าเหมือนจะพูดต่อแต่ก็โดนน้องชมพู่เรียกให้มันสั่งข้าวซะก่อน



            เหอะ...กินข้าวไปเถอะมึงน่ะ...



            .............

            ............



            โคตรจะเซ็งเลยครับ...โทรศัพท์ผมก็ไม่มี ได้แต่นั่งเอามือเท้าคางมองถั่วดำประชุมน้อง ๆ เรื่องการจัดระเบียบการเคารพรุ่นพี่ ผมยังไม่ได้ไปบอกป๊าเลยว่าโทรศัพท์พัง...แล้วถ้าป๊าถามขึ้นมาล่ะว่าทำไมพัง  มีคนเหยียบครับป๊าไอ้ผู้ชายที่มันมาจีบผม....ขืนบอกแบบนั้นป๊าอาจจะช็อกและตามมาดูหน้าไอ้หมูก็ได้ คิดแล้วก็ขนลุกแทน....แถมถ้าผมบอกว่าตัวเองทำพังเองก็โดนดุแหง ๆ ก็เพิ่งไปถอยมาเอง



            “คิดถึงน้องหมูกรอบของมึงอยู่เหรอ เหม่อเชียว” ไอ้เสานั่งลงฝั่งตรงข้ามผม ส่วนไอ้นนท์ก็เดินตามหลังพร้อมกับกีตาร์ในมือของผม...นี่พวกมันหายไปไหนมาด้วยกันปะวะ



            “ทำไมกูจะต้องคิดถึง...” ผมตอบทันควัน ไอ้เสาจะล้อต่อแต่ก็หันไปด่าไอ้สัดนนท์ที่นั่งลงข้างมัน



            “ไอ้เชี่ย ไปนั่งที่อื่น นู่นไปนั่งฝั่งไอ้ศิลานู่น” ไอ้เสาไล่ ถามว่าไอ้นนท์ฟังเหรอ? ไม่ครับไอ้นนท์ไม่ได้ฟังที่ไอ้เสาพูดเลยสักนิด จนไอ้เสาได้ย้ายเปลี่ยนฝั่งมานั่งข้างผมแทน...เหอะ ๆ ไอ้พวกนี้แม่งทำอะไรสวนทางกับความคิดจริง ๆ



            “ระวังเหอะมึง เดี๋ยวจะโดนน้องชมพู่แย่งไปก่อนนะเว้ย” ไอ้เสาว่าพลางกดโทรศัพท์เล่นไปด้วย  ผมเหลือบไปเห็นไลน์ของจีที่ไอ้เสากำลังตอบอยู่



            “มึงยังคุยกับจีอยู่ด้วยเหรอ” ผมถามขึ้นและมันก็ทำให้ไอ้นนท์ที่นั่งดีดกีตาร์อยู่ตรงข้าม ลุกขึ้นพรึบ พวกผมสองคนสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อไอ้สัดนนท์เดินหนีออกไปจากตรงนี้เฉยเลย เชี่ย...กูพูดอะไรผิดไปรึเปล่าวะ



            “ก็คุยแหละ จีก็ยังเป็นเพื่อนกูนี่นา...แล้วไอ้เหี้ยนนท์เป็นไรของมันวะ?” ไอ้เสาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความไม่รู้จริง ๆ



            “ว่าแต่มึงแหละไอ้ศิลา ไม่ต้องมาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง” ไอ้เสาวกกลับมาเรื่องของผม “กูว่าน้องชมพู่ดูท่าทางจะทำตัวสนิทสนมกับน้องหมูกรอบของมึงมากเลยนะ”



            “จะสนิทก็สนิทไปสิ...ไม่เห็นจะเกี่ยวกับกูสักนิด” ผมบอกก่อนจะโดนไอ้เสาเอาไหล่มาสะกิด



            “น้องหมูกรอบมันมานู่นล่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นทันทีก็เจอหมูที่วิ่งมาหอบ ๆ ในสภาพชุดนักศึกษายับนิดหน่อย รู้สึกว่าตึกคณะมันกับตึกคณะของผมค่อนข้างห่างกันมากนะ



            วิ่งมาทำไมวะ อากาศก็ร้อน ๆ...



            “พี่ศิลา...ครับ แฮ่ก...” หายใจเข้าก่อนดีไหมไอ้หมูกรอบ “คือว่า...ผมเอาอันนี้...”



            “มึงควรจะกินน้ำก่อนนะ” ผมยื่นน้ำให้มันแก้วหนึ่ง ไอ้หมูยกมือไหว้ผมกับไอ้เสาและรับน้ำไปดื่มรวดเดียวหมด ผมมองถุงกระดาษมาให้ผมอย่างงง ๆ



            “ผมซื้อโทรศัพท์มาคืนพี่ครับ” ผมตาโตมองถุงโทรศัพท์ไอโฟน 6 พลัส เชี่ย...มันซื้อมาให้ผม ผมจะปฏิเสธแต่ก็ไม่ไวเท่าไอ้หมูที่ยัดใส่มือของผมเรียบร้อย



            “ต้องรับนะครับ เป็นเพราะผมเหยียบโทรศัพท์พี่แตกเอง....ให้ผมซื้อคืนนะ ไม่มีข้อโต้แย้ง”



            เออ...เล่นรวบรัดขนาดนี้ กูจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะ... ไอ้เสาที่นั่งอยู่ข้างผมหัวเราะในลำคอ



            “ทีหลังก็อย่าไปเหยียบโทรศัพท์เพราะหึงอีกล่ะ” ไอ้เสาว่าล้อทำเอาผมหันไปมองมันตาขวาง



            “ไอ้สัด!” ผมด่า



            “ฮ่า ๆ ครับ...ขอโทษนะพี่ที่ผมไปหึงพี่กับพี่ศิลา” ไอ้หมูมันดันไปคุยตอบกับไอ้เสาอีก เหมือนประมาณว่ามันเจอพวกของมัน เดี๋ยววว....มึงเป็นเพื่อนกูไม่ใช่เหรอไอ้สัดเสา!!



            “แล้วมึงวิ่งมาจากคณะมึงเหรอ?” ผมถามไอ้หมูที่กำลังคุยเรื่องผมกับไอ้เสาเพลินเชียว



            “ครับ ผมอยู่ในช่วงพักพอดี...เดี๋ยวก็เปิดเทอมแล้ว น่าจะยุ่งกว่าเดิมแน่เลย”



            “แล้วไง?”



            “เวลาเจอพี่ก็จะน้อยลงด้วยไงครับ” อ้วกกกก...เสียงไอ้เสาครับ มันทำท่าเลี่ยนเดี๋ยวผมก็ยกเท้าถีบมันเปรี้ยงไปนู่น



            “โอ๊ย ไอ้น้องเอ็งปล่อยมุขได้เสี่ยวมาก...เดี๋ยวเพื่อนกูมันก็กร่อนกันหมดพอดี”



            “ไอ้สัด เงียบ ๆ ไปเลย” ผมด่าไอ้เสา “มึงก็เหมือนกันไอ้หมูรีบกลับไปคณะมึงได้แล้ว จะหมดเวลาพักแล้วนี่ เดี๋ยวก็ถูกทำโทษหรอก” ผมหันไปบอกไอ้หมู ไม่รู้คณะแพทย์มันโหดไหมแต่น่าจะไม่โหดมากหรอก แต่ยังไงถ้าไปสายก็ต้องถูกทำโทษอยู่ดีแหละ มันจะหมดเวลาพักแล้วจะมายืนเสนอหน้าอะไรแถวนี้



            “ห่วงผมเหรอ” ห่วงพ่องดิ....



            “.........”



            “ดีใจจัง” ดีใจห่าไร....หมูอมยิ้ม



            “รีบไปได้แล้วไอ้หมูกรอบ” ผมไล่ มายืนยิ้มให้ผมอยู่ได้ โว้ย



            “เย็นนี้รอกลับพร้อมผมนะ จะพาไปกินข้าวหมูแดง” หมูถามขึ้นอย่างรอคำตอบ     
   

            “ทำไมกูจะต้องไป...”



            “นะ นะครับ อยากพาพี่ไปจริง ๆ” เวลาเจอลูกอ้อนมันแบบนี้ผมก็ต้องยอมมันทุกที เพราะรำคาญขี้เกียจเถียงไง...



            “เออ ๆ”



            “จริงนะ..” มันยิ้มกว้าง



            “เออ ถ้ามึงพูดอีกรอบกูจะเปลี่ยนใจ” หมูยิ้มรับและโบกมือบ๊ายบายผมก่อนจะวิ่งกลับคณะของมันไป



            ....ไอ้นี่แม่งบ้า....



            “แหม ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ได้ต่างไปจากน้องมันเล๊ยไอ้ศิลา...” ไอ้เสาทักขึ้นพร้อมกับเอานิ้วมาจิ้มหน้าของผม จึก ๆ...



            “กูไม่ได้ยิ้ม” ผมไม่ได้ยิ้มซะหน่อย...หรือจริง ๆ กูยิ้มวะ...



            “เย็นนี้มึงมีคนมารับแล้วสิน๊า...หึหึ น้องมันก็หน้าตาดี นิสัยโอนะเว้ย ไม่ได้เลวร้ายอะไร” ไม่ทราบว่าไอ้หมูไปติดสินบนมึงไว้รึไงวะ อวยอะไรเบอร์นั้น ผมส่ายหน้าเอือมและหยิบซิมของตัวเองออกมาใส่ในเครื่องใหม่ที่ไอ้หมูเพิ่งซื้อมาให้



            พอผมเปิดเครื่องปุ๊ปสายเรียกเข้าที่ผมไม่ได้รับก็เพียบ...เชี่ย สายของป๊าทั้งนั้น เฮือก...



            “โห ป๊าโทรหาหมวยเล็กกี่สายวะ” ไอ้เสาชะโงกหน้ามาดู



            “กูโดนป๊าด่าเละแน่ ๆ”



            “ป๊าไม่ด่าหรอก เห็นยอมมึงที่สุดในบ้านแล้วนะกูว่า” ก็จริงอย่างที่ไอ้เสาพูดครับ...ในบรรดาเฮียใหญ่ เฮียกลาง ป๊าก็ยอมผมมากที่สุด เพราะป๊าว่าผมหน้าเหมือนม๊า เป็นหมวยเล็กเลยมักจะไม่ค่อยโดนดุเท่าเฮียใหญ่กับเฮียกลาง



            “งั้นเดียวกูไปโทรหาป๊าก่อนก็แล้วกัน” ผมว่าและขอตัวไปเดินคุยโทรศัพท์ให้ไกลจากพวกน้อง ๆ ปี 1 ที่นั่งเรียงรายอยู่ไม่ห่างมากนัก





            .............

            .............



            ผมบอกป๊าว่าแบตหมดและก็หลับไปเลยด้วยความเหนื่อย ป๊าเลยไม่ได้ดุอะไรผม แต่ก็กำชับมาอย่างดีว่าห้ามทำให้ป๊าเป็นห่วงอีก วันนี้ทั้งวันผมก็มีหน้าที่ดูแลเสิร์ฟน้ำน้อง ๆ กับไอ้เสากันอยู่สองคน       ไอ้นนท์ก็ไปแบกน้ำแข็งมาใส่ถังให้น้อง    พอตกเย็นมาทุกคนก็ทยอยกันกลับ ไอ้นนท์หายหัวไปไหนก็ไม่รู้ครับ  ส่วนไอ้เสาก็ขอตัวไปโอนเงินค่าเครื่องสำอางให้แม่ เห็นว่าเดี๋ยวมันกลับมา



            ส่วนผมน่ะเหรอ...ก็ยืนรอไอ้หมูกรอบอยู่หน้าคณะของตัวเองนี่แหละ...ตอนแรกจะกลับกับไอ้เสาแต่มันแม่งไม่ยอมให้ผมกลับด้วย บอกว่าให้รอไอ้หมูมารับ ผมยกนาฬิกาดูเวลาที่มันจะ 16:00 น. แล้ว



         + ไอ้หมูกรอบ +



            ผมมองเบอร์ที่ขึ้นอยู่ กำลังงงว่าตัวเองไปเมมตอนไหนวะ...หรือมันจะเป็นคนเมมเอง



            “ไง”



            (“พี่ศิลา...คือว่าพี่อยู่ไหนครับ // หมูเรากลับเองก็ได้นะ เดี๋ยวเราบอกคุณแม่เราว่าหมูไม่ว่าง”) เสียงของชมพู่แทรกเข้ามาทำให้ผมแอบชะงัก



            “อยู่หน้าคณะ...”



            (“คือว่าเดี๋ยวผมไปรับพี่ไปส่งหอนะ แต่วันนี้เราคงไปกินข้าวหมูแดงไม่ได้ ไว้ไปด้วยกัน....”)



            “มึงจะไปส่งน้องเขาก็ไปเถอะ กูจะกลับกับไอ้เสา” ผมตอบแทรกไอ้หมูที่กำลังพูดอยู่ ผมว่าผมไม่ค่อยชอบการคุยโทรศัพท์แบบนี้นะ เพราะมันแม่งไม่เห็นหน้ากันไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำหน้าตาแบบไหน...



            (“แต่ผมบอกพี่ไว้แล้วว่าผมจะไปรับพี่...”)



            “ไม่ต้องห่วงกูหรอก ไปส่งผู้หญิงเหอะ กูเป็นผู้ชายกลับเองได้” ผมบอกตามความจริงแต่ใจกลับรู้สึกแปลก...ทำไมต้องรู้สึกโหวงเหวงวะ



            (“แต่...”)



            “ไว้ค่อยมารับกูไปกินข้าวหมูแดงวันหลัง มึงไปส่งน้องเขาเหอะ แค่นี้นะ” ผมพูดรัวพร้อมกับตัดสายจากหมูทันที



            แม้มันจะโทรกลับมาอีกผมเลือกที่จะไม่รับ...เป็นเชี่ยอะไรของมึงครับศิลา ผมเลือกที่จะเดินกลับเองและไม่ได้โทรหาไอ้เสา ลองกลับเองบ้างก็น่าสนใจดีเหมือนกัน ผมบอกกับตัวเอง....



            ...............

            ..............

            “มึงไม่ได้ไปส่งไอ้ศิลาเหรอ เสา” นนท์ที่กลับมาจากไปทำธุระถามเสาที่เพิ่งขับรถกลับมาคณะเหมือนกัน



           “เห็นว่าไอ้ศิลาจะกลับกับไอ้หมูกรอบนี่?”



            “ทำไมกูเห็นน้องหมูขับรถออกไปกับผู้หญิงล่ะ...”



             “พี่เสา!! พี่นนท์” ไอ้รุ่นน้องคณะวิศวะวิ่งหอบมา “แย่แล้วพี่ ไอ้พวกคู่อริเก่าของคณะเรากำลังจะรุมพี่ศิลาอยู่ทางหน้าเซเว่นอ่ะพี่”



               “เหี้ยยยย...ไอ้สัดนนท์ไปกับกูเร็ว!!!” เสารีบลากนนท์ให้วิ่งตามไปด้วยทันที....





            ......................

            .......................



            [พาร์ตของศิลา]



            นอกจากผมจะอารมณ์เสียนิด ๆ จากไอ้หมูกรอบที่ไม่ได้พาผมไปกินข้าวหมูแดงที่มันบอกจะพาไปกินแล้ว ดันโลกกลมมาเจอกับไอ้หน้าจรวดที่เคยหาเรื่องกับไอ้หมูตอนไปห้างอีก...ถ้ามีมันคนเดียวผมสู้ได้ครับ แต่ไอ้หมาหมู่ที่ขนมา 10 คน เชี่ย....ต่อให้กูเก่งมวยแค่ไหน เข้ามา 10 คน ผมจะสู้ไหวได้ยังไง



            พลั่ก!!



            อึก...ผมโดนลูกเตะจากไอ้หน้าจรวดที่สะบักสะบอมไม่ต่างจากผม เหี้ยยย เวลาจะโทรหาไอ้เสากับไอ้นนท์ยังไม่มีเลย จุกชะมัด แม่งปัญญาอ่อนจริง ๆ พวกชอบรุมคนอื่น...ผมไม่เข้าใจว่ามันแค้นพวกรุ่นน้องอะไรผมนักหนา ผมเก็บไอ้พวกที่เข้ามาเกือบ 9 คนเรียบ แต่ร่างกายของผมก็เริ่มจะหนักอึ้งแล้วเหมือนกัน ลูกเตะของไอ้หน้าจรวดแม่งหนักชิบ หมัดมันก็หนักเหมือนกัน



            ผมเผลอนิดเดียวก็โดนมันถีบจนล้ม...ไอ้สัดหมาหมู่! ผมล้มลงกับพื้นพยายามกัดฟันจะลุกขึ้น  ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นไม้ที่ไอ้หน้าจรวดหยิบมาจะฟาดมาที่ผม กลับมีมือหนามารับไว้พร้อมกับถีบไอ้หน้าจรวดออกจนล้มกับพื้น



            พลั่ก!!



            “ใครใช้ให้มึงมาแตะต้องพี่ศิลา!!!” เฮือก...คนที่อยู่ตรงหน้าของผมคือไอ้หมู....มันมาได้ยังไง มันต้องไปส่งน้องชมพู่ไม่ใช่รึไง..?



            ตุบ! ตุบ! พลั่ก!!



            “กูถามว่ามึงแตะต้องพี่ศิลาทำไม!!!” หมัดหนัก ๆ ของไอ้หมูกระหน่ำต่อยลงไอ้หน้าจรวดเหมือนสติแตก ไอ้เชี่ย...หยุดนะเว้ยไอ้หมู สักพักไอ้นนท์กับไอ้เสาและรุ่นน้องของผมก็วิ่งเข้ามา



            “ไอ้ศิลาเป็นไงบ้างวะ” ไอ้เสาเข้ามาพยุงผม



            “ไปจับไอ้หมูกรอบไว้ หยุดมัน มันต่อยจนมือมันจะช้ำแล้ว หยุดมัน...” ผมบอกด้วยความเจ็บปากสุด ๆ ดูเหมือนไอ้หมูจะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ขนาดไอ้นนท์กับไอ้เสาบอกพอแล้วมันก็ยังจะกระหน่ำต่อยไอ้หน้าจรวดที่เริ่มไม่มีทางสู้แล้ว



            ผมลุกขึ้นก่อนจะใช้มือของตัวเองกอดแขนของไอ้หมูที่กำลังจะง้างต่อยไอ้หน้าจรวด



            “สัด พอแล้วไอ้หมูกรอบ...กูไม่เป็นไรแล้ว...มือมึงจะเจ็บ.....” ไอ้หมูหยุดต่อยและหันมาทำตาโตใส่ผม...ตาโตทำไมวะ ผมว่าโลกของผมมันหมุน ๆ ยังไงไม่รู้....ผมหิวข้าวชะมัด



            “ผมไม่น่าปล่อยพี่กลับคนเดียวเลย ความผิดของผม..” มันพูดออกมา ไม่ใช่ความผิดของมึงซะหน่อย ความผิดไอ้พวกที่จะหาเรื่องต่างหาก....



            “พี่ศิลา!!....” ผมจำได้ว่าได้ยินเสียงไอ้หมูตะโกนพร้อมกับร่างของผมที่ไร้เรี่ยวแรง......





            .......................

            ......................



            ศิลาที่จู่ ๆ ก็เป็นลมไปแต่หมูรับไว้ได้ทัน แต่ร่างอันเบาหวิวของศิลากลับลอยขึ้นเมื่อมีผู้ชายร่างสูงคิ้วดกดำแววตาเข้มประดุจเหยี่ยวอุ้มศิลาแทนหมู ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นอึ้งไปตาม ๆ กัน....



            “เฮียใหญ่....มาที่นี่ได้ยังไงครับ” หมูหน้าซีดมองผู้ชายน่าเกรงขามตรงหน้า



              “มึงกล้ามากนะ ที่ทำให้หมวยเล็ก ศูนย์กลางของตระกูลกูเจ็บตัว ไหนมึงบอกจะดูแล!!!”

             ....เสียงเย็นเฉียบบ่งบอกอารมณ์ของคนพูด….



             “มึงกับกูมีเรื่องต้องคุยกันแล้วล่ะ ไอ้หมู....”







................... +++++++++++++++++++++++++


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ  >< :L1: :pig4:  :กอด1: :กอด1:
ฝากให้กำลังใจน้องหมูด้วยยยย    ดีใจที่มีคนชอบนิยายเรื่องนี้นะคะ   :L1: :กอด1: กอดดด
เดี๋ยวจะได้รู้กันเเล้วล่ะค่ะ ว่าน้องหมูไปพูดอะไรกับเฮียใหญ่บ้างงงง 
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-04-2017 18:44:09
คนช่างตื้อไม่ว่าเพศไหนก็น่ารำคาญ
แต่ที่น่ารำคาญกว่าคือ คนที่สุภาพเกิ้นจนตัวเองเดือดร้อน
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 18-04-2017 19:09:36
ลำคานไอ้เหั้นหมูและ ปากบอกจีบ ศิลา แต่ไปกับอีชมพู่ ลำคาน ขอให้พี่ศิลา สั่งให้มันเลิกยุ่งสักที่ ไม่เด็ดขาดเลน ลำคาน ลำคาน อ่านแล้วลำคาน
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-04-2017 20:26:37
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 18-04-2017 20:33:50
เฮียยยยยยยยย มาเท่มากโลยยยยยยยย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 18-04-2017 22:05:13
ตายละหมู...พี่ใหญ่เขาออกมา(อย่างเท่ :o8: )แล้วจากหมูกรอบจะเป็นหมูแผ่นไหมละทีนี้
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 18-04-2017 22:57:37
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: SHmnex ที่ 18-04-2017 23:18:16
 :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 19-04-2017 00:04:02
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 19-04-2017 01:41:56
คือมันดีนะ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-04-2017 02:08:24
น้องหมูแย่แน่เลย เฮียใหญ่มาแล้ว มาตอนที่หมวยเล็กถูกทำร้ายร่างกายอีกด้วย
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 19-04-2017 08:23:48
 :serius2:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: fyfh34 ที่ 19-04-2017 11:06:00
สนุกดีค่ะ จะตอยติดตามนะคะ

ว่าแต่คู่เสา นนท์ นี่น่าสนใจดี อย่างไงคนเขียนอย่าลืมมาเขียนของคู่นี้ให้หน่อยนะคะ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 19-04-2017 12:27:27
หมูจะไปอะไรกับชะนีนั่นนักหนา
ดูก็รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร

รำคาญพวกผู้ชายที่ไม่เด็ดขาดกับเรื่องแบบนี้จริง ๆ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 8| (18/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 19-04-2017 15:35:46
หูยยยย ชอบนิยายฟีลนี้ รุกเด็กกว่าแล้วรัก ฝ่ายรับมากๆ เนี่ย ปลื้มมมม
อยากรู้แล้วว่าน้องหมูปิดบังอะไรไว้. ติดตามๆๆๆ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 9| (19/04/60) อัพ :) @มีต่อด้านล่าง
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 19-04-2017 17:55:06
ตอนที่ 9



            [พาร์ตของหมู]



            ...ผมเป็นผู้ชายที่รักจริงครับ...รักแล้วก็คือรักเลย...



            พี่ศิลาถูกพากลับไปที่ห้องโดยมีพี่เสากับพี่นนท์เฝ้าอยู่ พี่ศิลามีแค่รอยช้ำและที่สลบไปก็เพราะหิวข้าว ส่วนผมตอนนี้กำลังยืนอยู่ในห้องสีดำ...น้องไม่ใช่เดอะเฟคสำหรับพี่ค่ะ...ไม่ใช่แล้วครับ ยังจะมาเล่นมุขอีก (ก็ผมรู้สึกว่ามันเครียดอ่า) ผมยืนเผชิญหน้ากับแววตาคมตรงหน้าที่ไม่มีใครกล้ายุ่งย่ามด้วย พี่ชายทั้งสองคนของพี่หมวยเล็กนั่นเองครับ



            ‘เฮียใหญ่’ กับ ‘เฮียกลาง’



            “ยังดีที่หมวยเล็กไม่ได้มีแผลเลือดออกอะไร ไม่งั้นมึงจะโดนเละกว่านี้แน่ ๆ ไอ้หมู” เสียงเข้มของเฮียใหญ่ที่เป็นแชมป์มวยเก่าพูดขึ้นพร้อมกับมองผมที่ยืนอยู่ตรงหน้า รู้สึกดีใจที่เฮียใหญ่ไม่ได้ฟาดหมัดหนักมาใส่ผม



            “แต่สำหรับกูแค่มีรอยก็ไม่ได้!” เสียงเข้มที่ดูอารมณ์ร้อนตามสไตล์ของเฮียกลางดังขึ้นพร้อมกับกระบอกปืนสั้นที่จ่อมาที่หน้าผากของผม (เฮียกลางเก่งยิงปืนครับ) ดูสิพี่ชายของพี่ศิลาแต่ละคนทำเอาผมแทบจะหัวใจวาย ผมควรจะสะดุ้ง...ครับ   ผมก็กลัวถ้าเป็นเมื่อก่อนแต่เพราะพี่หมวยเล็กทำให้ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น



            “ใจเย็นกลาง” เฮียใหญ่พูดเสียงเข้มเรียบ ๆ แต่แววตาดุดันของเฮียกลางกำลังจ้องผมนิ่ง



            ปืนที่จ่ออยู่ตรงหน้าผากของผมไม่ได้ทำให้จิตใจของผมหวั่นไหว..เพราะถ้าหวั่นแค่นี้ ผมจะปกป้องพี่หมวยเล็กได้ยังไง นั่นแหละคือสิ่งที่เฮียใหญ่สอนผมมา



            “ถ้ามึงดูแลหมวยเล็กไม่ได้ ก็ไม่ต้องมายุ่งกับหมวยเล็กอีก” เฮียกลางพูดเสียงเรียบ



            ผมมองด้วยแววตามุ่งมั่นทำให้เฮียใหญ่ที่กอดอกดูอยู่ยกยิ้ม



            “ผมยังยืนยันคำเดิมครับ ว่าผม...รักพี่หมวยเล็กจริง ๆ และพร้อมจะให้ทุกอย่างเพื่อพี่หมวยเล็ก” น้ำเสียงจริงจังไม่มีล้อเล่นทำให้เฮียกลางยิ้มมุมปาก เฮียกลางลดปืนลง ผมรู้ครับว่านั่นปืนจริงและรู้ว่าเฮียแกพร้อมจะยิงผมทุกเมื่อ ถ้าหมวยเล็กของพวกเขาเจ็บ แต่เวลาเฮียขู่แบบนี้เกือบทำผมฉี่จะราด...



            “เห็นมึงพูดหนักแน่นแบบนี้ก็ดี...แต่ถ้ามีเรื่องให้หมวยเล็กเจ็บตัวแบบนี้อีก...แล้วมึงดูแลไม่ได้ รู้นะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมึง ไอ้หมูย่าง...” ผมชอบชื่อหมูกรอบของพี่ศิลามากกว่าแฮะ...หมูย่างดูเกรียมไป... เฮียกลางพูดก่อนจะเดินออกไปจากห้อง รู้สึกว่าเฮียกลางจะเป็นคนออกไปเคลียร์กับไอ้พวกหน้าจรวดให้ไม่กล้ามายุ่งกับพี่ศิลาอีก ตอนนี้เหลือแค่ผมกับเฮียใหญ่ ความกดดันของผมยังไม่หมดใช่ไหมครับ



            “มึงก็รู้ว่ากลางมันเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว มันก็หยอกมึงไปงั้นแหละ” เอาปืนมาจ่อนี่เรียกหยอกเหรอครับ...พี่ชายของว่าที่เมียผมโหดทุกคน



            “เรื่องนี้ไม่ได้บอกถึงหูป๊าและกูเชื่อว่าหมวยเล็กก็คงไม่อยากให้ป๊ารู้ด้วย มึงก็ไม่ต้องบอกว่ากูกับกลางมาหาหมวยเล็ก เพราะถ้าป๊ารู้ว่าหมวยเล็กมีรอยช้ำ มึงไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเห็นหน้าหมวยเล็กอีก”



            “ครับ...ผมทราบดี” ผมพยักหน้า เฮียใหญ่มองผมก่อนจะถอนหายใจ



            “แล้วนี่มึงทำไมไม่บอกความจริงกับหมวยเล็ก สารภาพรักรึยัง มัวทำอะไรโง่ ๆ อยู่?” ผมยิ้มแห้ง ๆ ...ถ้าคำว่ารักมันพูดง่ายเวลาอยู่ต่อหน้าพี่ศิลา ผมก็บอกไปแล้วสิครับ แต่พอเจอหน้าหวาน ๆ ทีไร ใจผมแม่งสั่นแปดจุดเจ็ดริกเตอร์ทุกที ผมมันป๊อดทุกทีที่อยู่ต่อหน้าพี่ศิลา...



            “ไอ้ป๊อดเอ๊ย! กูจะบอกมึงให้นะว่าน้องกูไม่ชอบคนโกหก รีบบอกไปเหอะว่ามึงเป็นใคร เพราะแม้แต่กูก็จะช่วยมึงไม่ได้ ไอ้หมวยเล็กเวลาโกรธใครมันเอาจริงนะ” เฮียใหญ่เตือนสิ่งที่ผมรู้ดี ก็พี่ศิลาเพิ่งบอกมาเมื่อวานนี่เองว่าเกลียดคนโกหก ถ้าหลอกพี่เขา...



            “ก็ตอนแรกผมอยากเข้าหาพี่เขา...ในฐานะที่เป็นไอ้หมูที่แข็งแกร่งแล้วนี่ครับ” ผมบอกออกไปตรง ๆ ทำให้เฮียใหญ่เลิกคิ้วขึ้น เฮียใหญ่เอามือมาตบที่ไหล่ของผม...ผมกดดันมาก เฮียใหญ่ของว่าที่เมียของผมเชียวนะครับ



            “ไอ้หมูกูจะบอกอะไรมึงให้นะ น้องกูมันไม่ได้มองคนที่ภายนอก...ทำไมมึงไม่บอกมันไปว่ามึงหลงรักมันตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่บอกมันไปล่ะว่า...จากไอ้หมูที่เคยอ่อนแอ เปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งเพราะหมวยเล็ก ....ทำไมมึงจะคว้าใจน้องกูไม่ได้ ใจกล้าหน่อยสิวะ กูให้โอกาสมึงแล้วนะ ทำให้น้องกูมันเห็นสิว่า มึงรักมันแค่ไหน ...ถ้ามึงยังช้ากูจะไม่ให้มึงยุ่งกับ   หมวยเล็กอีกนะ ไอ้หมู” เฮียใหญ่พูดรัว ๆ ออกมาก่อนจะตบบ่าของผมอีกครั้งและเดินออกไปจากห้อง...



            ผมยังได้ไปต่อ...ความรักของผมยังคงดำเนินต่อ ผมคงต้องทำอะไรให้มันชัดเจนมากกว่านี้แล้วสิ!



            พอพูดถึงหลงรักพี่ศิลาตั้งแต่ตอนไหน...ทำเอาผมนึกไปถึงตอนที่เข้ามาหาเฮียใหญ่ครั้งแรกเลยล่ะครับ ตอนที่ผมมาฝึกเรียนมวยและเหมือนเฮียใหญ่จะรู้ว่าผมแอบมองหมวยเล็ก น้องชายคนเล็กของตระกูลดังบ่อย ๆ (ผมไม่ใช่โรคจิตนะ แอบมองเฉย ๆ...นั่นเรียกว่าโรคจิตครับไอ้หมู)





            |ย้อนไปตอนที่อยู่ที่ค่ายมวย|



            “ถ้ามึงล้มกูได้ กูจะให้โอกาสมึงจีบน้องกู เอาไหม” นั่นคือคำที่เฮียใหญ่บอกผม โอกาสมาแล้ว! ทำไมคนอย่างผมจะไม่รีบคว้า แต่บอกเลยครับว่า...โคตรเลวร้าย ให้ผมที่ตอนนั้นยังไม่ได้แข็งแกร่งหรือมีทักษะอะไร...ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายเท่าไหร่ วัน ๆ ก็เรียนแต่พิเศษ (ที่มาสมัครเรียนมวยเพราะแอบตามพี่ศิลามา) แถมคนที่ผมกำลังจะประลองด้วยคือ พี่ชายคนโตของพี่หมวยเล็ก...แชมป์ระดับจังหวัด แถมกำลังจะแข่งระดับประเทศ...น็อคเป็นน็อคสู้เพื่อรักเว้ย!



            พลั่ก!! ตุบ ตุบ ตุบ.
..กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง บอกเลยว่าเฮียใหญ่เอาจริงสุด ๆ หมัดแต่ละหมัดที่ปล่อยออกมาโคตรหนัก ...ผมคิดว่าผมจะตายแน่ ๆ



            “มึงแพ้แล้วไอ้สัดเอ๊ย” เฮียใหญ่ว่าและจะหยุด แต่ผมเอื้อมไปจับขาของเฮียไว้



            “ไม่ครับ..เฮีย ผมยังไม่แพ้” ผมพยายามจะลุกทั้ง ๆ ที่เลือดเต็มปาก เฮียใหญ่เลยนั่งยอง ๆ มองผม



            “มึงยังจะต่อยกับกูอีกเหรอ สภาพนวมขนาดนี้?”



            “ครับ! ยังไงผมก็ต้องยืนอยู่ข้างพี่หมวยเล็กให้ได้...เพราะงั้นผมยังไม่ยอมแพ้” ผมบอกด้วยความมุ่งมั่นและไม่รู้ว่าประโยคที่ผมพูดไปนั่นทำให้เฮียใหญ่กระตุกยิ้มพอใจ



            “กูชักจะถูกชะตากับไอ้ว่าที่น้องเขยโง่แต่รักจริงซะแล้วสิ...”



            ....และนั่นก็คือประโยคที่ทำให้ผมได้ไฟเขียวจากพี่ชายคนโตของบ้านและพี่ชายคนรอง...



            ...ทีนี้ก็เหลือแต่พี่หมวยเล็กเท่านั้นแหละครับ...แต่สภาพของผมตอนนี้นวมมาก เฮียใหญ่ให้คนมาทำแผลให้ผมโดยตอนนี้ผมมีแต่ผ้าพันแผลเต็มหน้าเหลือไว้แต่ตรงตา...ช้ำในไปหมด แต่เฮียใหญ่ไม่ได้ต่อยอะไรที่ถูกที่สำคัญของผม เหมือนแกจะรู้ ใบหน้าหล่อของผมมีเพียงรอยช้ำแต่คนพันก็พันซะหมดหน้าเชียวครับ



            กลับบ้านไปแม่ของผมอาจจะกรี๊ดตกใจก็ได้...แต่ก็ถือว่าคุ้มถ้าหากผมจะได้เข้าไปหาพี่หมวยเล็กของตระกูลนี้ที่กำลังอยู่ปี 1 คณะวิศวะ ผมแอบมองพี่เขามาตั้งหลายปีตั้งแต่ตอนเล็ก ๆ ที่เจอกันที่สวนสาธารณะ พี่เขาใส่ชุดมีกระโปรงเหมือนผู้หญิงเลยแต่ผมรู้ว่าพี่เขาเป็นผู้ชายแถมยังยิ้มหวานให้ผมที่นั่งรอแม่อยู่คนเดียวอีกและผมก็ได้ยินป๊าเรียกชื่อพี่เขา...นั่นแหละครับคือครั้งแรกที่ผมเจอ พี่หมวยเล็ก...หลังจากนั้นผมก็แอบมองพี่เขาห่าง ๆ...แล้วรู้อะไรไหมครับว่าที่ผมอยากเรียนหมอก็เพราะมีพี่ศิลาเนี่ยแหละเป็นแรงบันดาลใจ...ไว้จะเล่าต่อในโอกาสหน้าละกัน (รอรู้พร้อมกับพี่ศิลาตอนที่ผมจีบพี่เขาติดแล้ว)



            ผมนั่งอยู่เก้าอี้แถวทางเข้าสนามมวยด้วยความเจ็บกรามชะมัด...กำลังคิดว่าจะหาข้ออ้างกับแม่ยังไงดี ก็ต้องตาโตกระพริบตาปริบ ๆ เมื่อร่างบางผิวขาวเนียนอยู่ในชุดกางเกงกีฬาขาสั้นขาบานหน่อย     วิ่งเข้ามาพร้อมกระเป๋าสะพายข้าง ผมหน้าที่ยาว ๆ ถูกยางมัดรวบเป็นจุกเล็ก ๆ



            เชรด...พี่ศิลาตัวเป็น ๆ ในระยะใกล้เลนส์สายตาของผม...เชี่ย บอกทีว่านี่ผู้ชายคณะวิศวะ....เห็นขาพี่ศิลาแล้วตัณหาเกิดขึ้นมาทันที โคตรน่า...น่ารักครับ...พี่ศิลากำลังจะวิ่งเข้าไปในสนามมวย คาดว่าน่าจะมาหาพี่ชายของตัวเองแหละ ไม่คิดว่าจะได้เจอ...ใจสั่นเหี้ย ๆ ไอ้หมูมึงหายใจเข้าลึก ๆ.....



            พี่ศิลาชะงักกึกมองผมที่นั่งมีผ้าพันแผลปิดหน้าปิดหน้า...เฮ้อ รู้สึกดีที่มีผ้าปิดหน้าไว้ ก็ยังไม่พร้อมจะเจอหน้าพี่เขาตรง ๆ นี่ ต้องเอาแบบแต่งตัวหล่อ ๆ ก่อน



            “เชี่ย...หึ ในสนามมวยมีมัมมี่ด้วย...มึงไปต่อยกับใครมาวะ โหดเชี่ย ๆ” ...พระเจ้า....พี่ศิลาพูดกับผม  อยากจะกระโดดเต้นท่าดึงดาวสักสองสามที...(มึงใจเย็น ๆ นะครับไอ้หมู)



            “เออ...คือ” จะบอกยังไงดีว่า เฮียใหญ่ของพี่แหละต่อยกับผมมา...



            “เจ็บมากไหมวะ กูไม่เคยเห็นมึง เด็กใหม่เหรอ ใส่ชุดนักเรียนด้วยเนี่ยนะ?” พี่ศิลามองผมอย่างสำรวจ พี่ครับ...สายตาของพี่กำลังทำให้ผมละลาย...แววตาหวานที่จ้องผมอยู่ทำเอาใจผมเริ่มเต้นแรง...



         ...ก็คนที่ผมชอบมาตลอดกำลังคุยกับผม...



            มือเรียวจะยื่นมาแตะหน้าผากผม ผมเลยชะงักออก...ตกใจครับ มือสวยชะมัด...มองระยะใกล้สวยหมดทุกอย่าง ได้แต่เคยมองระยะไกลพอมองใกล้ ๆ จิตใจแม่งฟุ้งซ่าน



            “ท่าทางจะโดนต่อยหนัก พันแผลหมดจนเหลือแค่ตาเนี่ยนะ...ตามึงคมชะมัดว่ะ” พี่ศิลาว่าพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าของตัวเอง อยากจะบอกพี่ศิลาเหมือนกันว่าพี่ตาหวานมาก...แต่อาจจะโดนต่อยกลับมาก็ได้ บ้านนี้ท่าทางจะหมัดหนักทั้งบ้าน....ผมไม่เสี่ยงดีกว่า



            “แบมือมา” ผมทำหน้าเอ๋อ “เอ๋า! ยื่นมือออกมาดิวะ” พี่ศิลาดุขึ้น ผมเลยรีบแบมืองง ๆ



            ก่อนจะมองท็อฟฟี่ช็อกโก้ในมือที่ถูกวางลงโดยพี่ศิลาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง...เหมือนกับตอนเด็กที่เจอพี่เขาไม่มีผิด พี่เขาก็เอาท็อฟฟี่ให้ผมแบบนี้แหละ



            “ยังไงมึงก็สู้ ๆ ละกันนะ สักวันมึงจะต้องเข้มแข็งได้เหมือนนักมวยคนอื่น สู้ ๆ!” พี่ศิลาบอกแค่นั้นและเดินหายเข้าไปหาพี่ชายของตัวเองในสนามมวยด้านใน



            ทิ้งให้ผมมองท็อฟฟี่ช็อกโก้ในมือตัวเองอย่างอึ้ง ๆ ...แม้จะเป็นคำพูดที่ไม่ได้ดูมีอะไรมาก...แต่สำหรับผมบอกเลยครับว่า มันคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ให้ผมสู้ต่อ....รอผมก่อนนะครับพี่ศิลา ผมจะไปหาพี่เอง



            และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้โอกาสเข้าไปหาพี่หมวยเล็กของผม ผมตัดสินใจจะไปสารภาพรักกับพี่ศิลาแล้วล่ะครับ! เอาวะ เป็นไงเป็นกัน!....ถ้าผมยังทำอะไรโง่ ๆ ไม่พูดไปสักที ผมอาจจะไม่มีโอกาสเข้าใกล้พี่ศิลาอีกก็ได้....



            .....................

            .....................

            .....................


             มีต่อด้านล่างค่ะ
......................
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 9| (19/04/60) อัพ :) #ต่อจากด้านบน
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 19-04-2017 17:57:40
ต่อจากด้านบน......




            [พาร์ตของศิลา]




            ผมลืมตาขึ้นในห้องของผม ผมลุกขึ้นนั่งโดยมีไอ้เสาเข้ามาพยุงช่วย แอบปวดตามตัวนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรมาก เพราะผมไม่ใช่คนที่อ่อนแอแบบนั้นซะหน่อย...ที่สลบไปเพราะหิวจัด



            “ตื่นแล้วเหรอวะ ไอ้เชี่ยกูตกใจหมด...เป็นไงปวดหัวไหม” ไอ้เสาถามขึ้นมาทันที ผมบิดตัวนิดหน่อยเพื่อไล่ความปวดเคล็ด ๆ ผมส่ายหน้า



            “ไอ้หมูล่ะ” นั่นคือคำถามแรกของผม...ก็ผมเห็นมันคนสุดท้าย ผมเองก็แปลกใจอยู่ที่เอ่ยถึงชื่อมันคนแรก



            “แหม ถ้าไอ้หมูกรอบมันมาได้ยินคงจะดีใจที่มึงเอ่ยชื่อมันเป็นคนแรก” ไอ้เสาล้อ



            “ไอ้สัด...กูก็ถามดู เห็นมันต่อยไอ้หน้าจรวดจนนวม” ผมว่า ไอ้เสากับไอ้นนท์มองหน้ากัน



            “มีอะไรรึเปล่าวะ” ผมถามพวกมันที่ทำหน้าเลิกลักใส่กัน...อะไรของพวกมึง



            “น้องหมูกรอบมันไปซื้อข้าว / มันกลับหอ” เสียงไอ้เสาตอบพร้อมกันกับไอ้นนท์ที่ตอบมาเหมือนกัน แต่แม่ง...มันสองคนตอบคนทิศคนละทาง



            “อะไรของพวกมึงสองคนตกลงน้องมันไปไหน?”



            “จริง ๆ มันไม่ได้บอกพวกกูอ่ะ” ไอ้เสายอมรับออกมา แปลกไหมที่ผมรู้สึกกังวลว่า...กลัวไอ้หมูมันจะคิดมากว่าเป็นความผิดของมันที่ไม่มารับผมแล้วเจอคู่อริเก่า



            นี่ผมกลายเป็นคนคิดมากแทนคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...ไม่ใช่หรอก ผมว่าผมคิดมากอาจจะเป็นเพราะมันเป็นเรื่องของไอ้หมูก็ได้...เชี่ยยย มึงคิดอะไรอยู่ครับศิลา



            “ป๊าไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม?” ผมถามขึ้น



            “ไม่ พวกกูรู้ว่ามึงคงไม่อยากให้ป๊ารู้ก็เลยไม่มีใครบอก” ไอ้เสาว่า จริงครับ...ผมไม่อยากให้ป๊าเป็นห่วงผม แค่นี้ผมก็เสี่ยงที่จะไม่ได้เรียนวิศวะอยู่แล้ว นี่ถ้าไม่มีไอ้เสาเพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยมมาเรียนด้วยก็คงไม่ได้มาเรียนคณะนี้



            “กูไม่เป็นอะไรมากหรอก แผลก็ไม่ได้มีอะไร พวกมึงกลับไปพักผ่อนเหอะ ไปหากินข้าวกินปลาไป” ผมบอกไอ้เสากับไอ้นนท์ที่ยืนมองผมอยู่เหมือนมาเฝ้า



            “จะให้พวกกูกลับได้ไงวะ แล้วใครจะดูแลมึง มึงแหละสัดยังไม่ได้กินไรเลย” ไอ้เสาเอามือเท้าเอว เสียงโทรศัพท์ของไอ้เสาดังขึ้น มันเอามาดูก่อนจะมองหน้าผม



            “มึงอยากกินอะไรไหมล่ะ พวกกูจะซื้อมาให้” เสาถามอีกรอบ จริง ๆ...อยากกินข้าวหมูแดงอ่า....



            “ไม่ล่ะ กูมีข้าวในตู้เย็นอยู่ พวกมึงกลับเหอะพรุ่งนี้เจอกัน” ผมยืนยัน ไอ้เสากับไอ้นนท์ก็เลยพยักหน้าเข้าใจ



            “เออ ๆ ถ้ามึงว่างั้นก็เอาตามนี้ ยังไงช่วงนี้อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว อย่างน้อยก็ต้องไปกับกู หรือไม่ก็ไอ้นนท์ ....หรือไม่ก็ไอ้หมูกรอบ ห้ามไปไหนคนเดียวนะ เข้าใจป่ะ” ไอ้เสาว่ายาว ๆ ออกมา ผมยิ้ม



            “เออ ทราบแล้วไอ้สัดเสา” ไอ้เสากับไอ้นนท์เดินออกจากห้องไปพร้อมกัน



            เสียงประตูที่ปิดลงทำให้ผมถอนหายใจเบา ๆ มองกระจกตรงหน้า ก็เห็นรอยช้ำที่มุมปากนิดหน่อย ผมเหลือบมองโทรศัพท์ของตัวเองที่ไม่ได้รับสายจากไอ้หมูตั้ง 10 สาย...เชี่ย มันโทรมาเยอะขนาดนี้เลยเหรอ สงสัยตอนที่กำลังต่อยกับพวกนั้นแหง ๆ ที่มันกระหน่ำโทรมา ผมมองเบอร์ตรงหน้าและกำลังจะเลื่อนมือกดโทรออกหามัน...แต่ก็ชะงักและโยนโทรศัพท์ลงเตียงเหมือนเดิม



            กูเป็นอะไรวะ...ตื่นมาคนที่นึกถึงก็เป็นไอ้เชี่ยหมูกรอบ...หรือผมจะอารมณ์เสียที่มันไม่พาผมไปกินข้าวก็เลยแบบว่านึกถึงมันคนแรก...



            ติ๊งต๊อง เสียงกริ่งหน้าห้องของผมดังขึ้น ทำให้ผมลุกขึ้นไปเปิดโดยที่ไม่ได้ดูช่องประตูเล็ก รึว่าแต่เป็นพวกไอ้เสากับไอ้นนท์ลืมของ



            “พวกมึงลืมอะ...ไอ้หมูกรอบ??” ผมเงยหน้าขึ้นก็เจอหมูที่ยืนถือถุงข้าวอยู่...อึ้ง ผมอึ้งครับ ไม่คิดว่าจะเป็นมันมายืนอยู่หน้าห้องของผม หมูยิ้มพร้อมกับชูถุงข้าว



            “ผมซื้อข้าวหมูแดง กับบะหมี่หมูแดงมาฝากครับ...ไม่รู้ว่าพี่อยากกินอันไหนก็เลยซื้อมาสองอัน” ไอ้หมูยื่นมาให้ผม ผมรับมาดูมันซื้อมาเยอะมาก ผมเหลือบมองมือของไอ้หมูที่ช้ำด้วย...ต่อยแรงขนาดไหนกันวะ จนมือของตัวเองช้ำ มันยื่นของอีกถุงมาให้ผมด้วย เยอะแยะไปหมด...



            “อะไร” ผมถามถึงถุงกระดาษสีน้ำตาลอีกใบ



            “เอาไว้เป็นของกินเล่นครับ พี่ศิลาน่าจะชอบ” ไอ้หมูยิ้ม “ทานเยอะ ๆ นะครับ” เขาบอกและกำลังจะหมุนตัวเดินออกไป เดี๋ยว...แปลกที่มันไม่วอแวกับผม เห็นมันทำท่าแบบนี้แล้วผมรู้สึกกังวลยังไงไม่รู้สิ



            “เดี๋ยวไอ้หมู”



            “ครับ?” หมูหันมาเลิกคิ้วให้ก่อนจะตาโต



            “มึงซื้อมาตั้งเยอะกูกินไม่หมดหรอกนะ มาช่วยกูกินเลย เชี่ย...ยิ้มทำไมวะ” ผมพูดยังไม่ทันจะจบไอ้หมูก็ยิ้มกว้างออกมา เห็นยิ้มของมันแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อยแฮะ...อย่างน้อยก็ดูเหมือนมันไม่เครียด



            “ก็พี่ศิลากำลังชวนผมกินข้าว...” มันเกาแก้มตัวเองนิด ๆ “ดีจังที่ซื้อมาเยอะ”



            “พูดมาก จะกินไม่กิน”



            “กินสิครับ! มาผมช่วยถือนะ มันร้อน” ไอ้หมูมาหิ้วถุงข้าวแทนผมและเปิดประตูห้องของผมให้ผมเดินเข้าไปก่อน ทำตัวประดุจนี่เป็นห้องมันเอง...เหอะ ๆ ไอ้นี่แม่งอารมณ์เปลี่ยนเร็วชิบ แต่เห็นมันอารมณ์ดีผมก็พลอยอารมณ์ดีไปด้วย...ผมว่าผมเริ่มจะเป็นประสาทแล้ว



            ผมนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารส่วนจานชามทั้งหมด ไอ้หมูเสนอตัวว่าจะหาเอง ผมเอามือเท้าคางมองมันที่เปิดข้าวใส่จานให้ผมอยู่...ดูทุ่มเทดีเนอะ



            “อย่าจ้องผมสิครับ ผมเขิน” หมูกระตุกยิ้มขี้เล่นตามประสามัน ผมว่ามันอ่ะไม่เขินหรอก...แต่คนที่เขินน่าจะเป็นผมที่โดนมองคืน...เชี่ย กูจะเขินทำบ้าอะไร คิดไรของกูครับศิลา....



            “พี่ไม่เจ็บตรงไหนมากใช่ไหม ผมขอโท...”



            “ถ้ามึงพูดเรื่องนี้อีกกูจะจับมึงโยนออกไปนอกห้อง” ผมพูดทำให้หมูหุบปากทันที “มันไม่ใช่ความผิดมึงหรอก มันเป็นจังหวะไอ้พวกหาเรื่องมันพอดี เพราะงั้นไม่ต้องมาขอโทษกูให้เรื่องมันจบ ๆ ไป”



            หมูเลื่อนข้าวหมูแดงมาให้ผมตรงหน้าพร้อมกับบะหมี่หมูแดง...มันจะขนซื้อมาทำไมเยอะแยะเนี่ย เห็นผมเป็นพวกกินเยอะเหรอ...แต่จริง ๆ ก็กินเยอะนะ



            “ว่าแต่ทำไมมึงถึงมาหากูได้ ไหนว่าไปส่งน้องชมพู่ของมึง?” ผมถามก่อนจะชะงักกับคำตอบ



            “ชมพู่ไม่ใช่ของผมครับ คนที่จะเป็นของผมได้ คือพี่ศิลาเท่านั้น...” จึก...มันพูดเชี่ยแบบนี้อีกแล้ว



            แล้วทำไมปากของผมต้องยิ้มฟะ...หยอดจนผมจะกร่อนหมดแล้ว



            “คือผมไม่ได้ไปส่งชมพู่ครับ ผมให้เธอกลับกับเพื่อนของเธอเอง...ผมโทรหาพี่แล้วพี่ไม่รับ รู้ไหมว่าผมเป็นห่วงพี่มาก พี่ศิลา...อย่าไปไหนคนเดียวอีกนะ” ผมมองมือของมันที่เอื้อมมากุมมือของผมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ พูดเหมือนผมอ่อนแอมาก ผมก็ปกป้องตัวเองได้...แต่แปลกที่ผมเลือกที่จะไม่สะบัดมือของมันออก



            มือหนาของไอ้หมูมันใหญ่กว่ามือของผมมาก...เพิ่งจะสังเกตเห็นอีกแล้ว แถมทำไมมันอบอุ่นแบบนี้นะ...ผมชักมือกลับเหมือนได้สติทำให้หมูยอมยกมือออกจากผม



            “มึงก็คิดมาก กูเป็นผู้ชายนะเว้ย ก็เห็นอยู่ว่ากูสู้พวกมันได้...” ผมบอกแต่แววตาเข้มที่มองอย่างเป็นห่วงจริง ๆ ทำให้ผมถอนหายใจ



            “เออ กูรู้ละ จะไม่ไปไหนคนเดียว” หมูยิ้มออกมาและพยักหน้าเหมือนดีใจที่ผมยอมฟังมัน...



            แล้วกูจะฟังมันทำไมวะ...



            “ผมอยากพูดชัด ๆ กับพี่ศิลาว่า ชมพู่เป็นแค่เพื่อนโรงเรียนเดียวกันกับผม ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับผมแม้แต่นิดเดียว ที่ผมไปส่งเธอก็เพราะแม่ของเธอบอกมาน่ะครับ...ผมไม่อยากให้พี่ศิลาเข้าใจผิด ผมผิดเองแหละที่ไม่ปฏิเสธเธอให้ชัดเจน ต่อไปนี้พอแล้วครับ ยังไงพี่ศิลาก็คือคนที่สำคัญที่สุดของผม” ผมที่นั่งฟัง...ภายในใจกับรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด...ไอ้นี่แม่งอธิบายจริงจังจนผมขนลุก



            “เออรู้แล้ว มา ๆ กินเหอะ เดี๋ยวก็เย็นกันหมดพอดี ว่าแต่มึงจะกินไร” ผมละสายตาจากไอ้หมูแล้วมามองอาหารตรงหน้า ข้าวหมูแดง เย้ ๆ 



            “พี่เลือกก่อนเลยครับ ผมกินอะไรก็ได้”



            “มึงเลือกก่อน มึงซื้อมา”



            “ไม่ครับผมให้พี่ก่อน” เออเจริญล่ะครับ...เถียงกันไปกันมา สรุปแม่งไม่ต้องกินทั้งสองคนเลยไหม



            “เออ งั้นกูเอาข้าวหมูแดงละกัน มึงเอาบะหมี่ไป” สุดท้ายผมก็ต้องเป็นคนออกคำสั่งกับไอ้คนที่มันนั่งยิ้มเอาแต่มองผมตาปริบ ๆ ผมตักข้าวหมูแดงกินด้วยความอร่อย...รสชาติร้านดีมันดีจริงอ่ะ!



            “อร่อยไหมครับ?” ไอ้หมูที่คีบเส้นบะหมี่กินถามผมขึ้น...จริง ๆ บะหมี่ก็น่ากินอ่า..



            “อร่อย” ผมว่า “มึง เส้นบะหมี่อร่อยป่ะ ชิมหน่อยดิ” ไอ้หมูไม่ลังเลที่จะเลื่อนชามมันมาให้ผม  ผมเลยหยิบตะเกียบจากมือของมันมาอย่างไม่ได้คิดอะไร และตักเส้นกิน โห เส้นนุ่มมาก ร้านนี้ใช้ได้ทุกอย่างเลยอ่ะ! ผมเคี้ยวตุ้ย ๆ เวลากินผมมักจะกินแบบไม่ค่อยสนใจแบบนี้แหละ ประมาณว่าของกินอยู่ตรงหน้าผมก็จะกินมันอย่างมีความสุข ผมเงยหน้ามองหมูที่มองอึ้งและหน้าแดง...มันหน้าแดงทำไม?



            “เป็นอะไรของมึง?”



            “พี่ศิลากินตะเกียบอันเดียวกับผม...” หา? ผมเลิกคิ้วมองตะเกียบในมือของตัวเองก่อนจะปล่อยมันคืนชามไอ้หมู เมื่อมันพูดประโยคต่อมา



            “เหมือนผมกับพี่จูบกันทางอ้อมเลย” จูบทางอ้อมเชี่ยไรไอ้หมูกรอบ....



            “ไอ้เชี่ยหมู นี่ความคิดมึงเหรอไอ้เชี่ย” ผมด่าไม่จริงจังเรียกเสียงหัวเราะจากคนตรงหน้าได้ทันที



            “ฮ่า ๆ! ผมสบายใจจังที่เห็นพี่ด่าผมแบบนี้” อ้าว ไอ้นี่แม่งโรคจิตได้อีก ชอบให้คนด่า....



            ผมกินข้าวของตัวเองต่ออย่างไม่สนใจสายตาเข้มที่มองผมไปด้วยกินไปด้วย ระวังบะหมี่จะติดคอนะไอ้หมูกรอบ...พอกินเสร็จอิ่ม ผมก็เอื้อมไปหยิบถุงกระดาษสีน้ำตาลอีกใบที่ไอ้หมูมันเอาให้ผม



            “แล้วอันนี้อะไรวะ” ผมถามและค้นดู ก่อนจะมองสิ่งที่อยู่ในถุงอย่างแปลกใจ “เฮ้ย ท็อฟฟี่ช็อกโก้ แม่งไม่เห็นมันนานแล้วนะเนี่ย” ผมหยิบกล่องท็อฟฟี่ช็อกโก้ที่ผมชอบกินออกมาวางบนโต๊ะ มันเป็นก้อนสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ คล้ายน้ำตาลก้อน แต่มันเป็นช็อกโก้เหนียวหนึบเคี้ยวนุ่มอร่อยเพลิน (ให้ค่าโฆษณาผมด้วยนะครับ)



            “มึงไปหาซื้อจากไหนวะ กูไม่ได้กินมาสักพักละ” ผมหยิบออกมาดูหนึ่งชิ้น



            “ซื้อจากที่ไหนไม่สำคัญหรอกครับ...แค่รู้ว่ามันเป็นของที่พีศิลาชอบ ผมก็หามาให้พี่ได้..” ไอ้หมูพูดทำให้ผมที่กำลังหลี่ตาข้างหนึ่งมองท็อฟฟี่ตรงหน้า มองหมูอย่างสงสัย



            “มึงรู้ได้ไงว่ากูชอบ?...” มันชะงัก



            “พี่ศิลาครับ...พี่เคยให้ท็อฟฟี่อันนี้กับใครไหม” มันไม่ได้ตอบคำถามผม แต่กลับถามมาอีกแต่ดูเหมือนไอ้หมูมันจะกลืนน้ำลายฝืน ๆ ทำหน้าเหงื่อตก



            “เคย ก็ให้หลายคนอ่ะ ทำไม?” ผมตอบกลับตามความจริง เพราะผมมักจะพกท็อฟฟี่อันนี้เป็นประจำก็ชอบเอาไปแจกพี่ชายผมเป็นประจำ...



            “ให้ที่สนามมวยอ่ะ” ไอ้หมูพูดต่อผมเลยนึกตามพร้อมกับมองแววตาเข้มตรงหน้า...เอ๊ะ เดี๋ยว ทำไมไอ้หมูรู้จักสนามมวย!! แล้วรู้ได้ยังไงว่าผมเคยไปสนามมวย...



            ผมวางท็อฟฟี่ลงกล่องพร้อมกับทุบโต๊ะทำเอาไอ้หมูที่นั่งตรงหน้าแอบสะดุ้ง



            “มึงรู้ได้ยังไงว่ากูเคยไปสนามมวย...” ผมถาม หมูสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ



            “บอกก่อนได้ไหมว่าถ้าเล่าแล้ว...จะไม่โกรธ” มีมาตั้งเงื่อนไขกับผมเหรอ ไอ้เชี่ยหมู...บอกเลยว่ามาถามแบบนี้มันต้องมีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอกผมแน่ ๆ



            “กูจะโกรธมึงแน่นอน!” ผมตอบ ไอ้หมูสะดุ้งเฮือกอีกรอบ “ถ้ามึงไม่บอกกูตอนนี้กูจะโกรธมึงจริง ๆ”



            “...............”



            “พูดมาสิวะ” ผมมองมันที่ทำหน้าตื่นเต้นสุด ๆ จะพูดอะไรของมึงไม่ทราบ



            “พี่ศิลาครับ คือว่า...”



            “ว่า?” ผมรอฟังมันก็ทำท่าอ้ำอึ้ง อ้าวไอ้สัด กูก็ลุ้นจะฟังอยู่นะเฟ้ย



            “...............” ลีลามาก มันลีลา ผมอยากจะกระโดดถีบ ก่อนจะตาโตกับสิ่งที่ออกมาจากปากของไอ้หมู



            “ผมรักพี่ศิลาครับ รักมานานแล้วด้วย...และไม่คิดจะเปลี่ยนใจจากพี่หมวยเล็กตรงหน้าด้วย”



            “ผมคิดถึงพี่ทุกคืน ไม่ว่าจะทำอะไรก็คิดถึงเสมอ...แอบตามพี่ไปสนามมวย ขอแค่เห็นหน้าพี่ก็น่าจะพอใจ แต่ผมรับรู้ว่า ยิ่งใกล้...ความรู้สึกของผมก็ยิ่งมาก ยิ่งอยากครอบครอง....”



            ผมที่กำลังจะกินน้ำก็ชะงักอึ้งแดกไป คำที่มันสารภาตรง ๆ แบบปุ๊ปปั๊ปทำเอาผมอึ้งแล้ว



            แต่คำว่าหมวยเล็กที่มันใช้ทำให้ผมเงิบไปอีก คำว่า มานานแล้วก็เหมือนกัน เงิบ....และคำสุดท้ายยิ่งอยากครอบครอง!! เหี้ยยยยยยยยยยย....ผมไม่ได้ใสซื่อนะโว้ย รู้นะว่ามันหมายถึงอะไร (หมายถึงอะไร?)



         ...กูจะทำหน้ายังไงใส่มันล่ะครับคราวนี้ ต่อยมันสักหมัดดีไหม แก้อาการเงิบ...





.............................+++++++++++++++++++
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ที่ตามอ่านเรื่องนี้นะคะ เยิฟฟฟ ไรท์เองก็ขัดใจกับชะนีในเรื่องที่มาเกาะเเกะน้องหมูเหมือนกันค่ะ 555 เดี๋ยวจะให้พี่ศิลาเป็นคนจัดการเองงงง ^^
 :กอด1: :กอด1: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 9| (19/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-04-2017 18:17:24
พูดความจริงไปเลย หมูย่าง เอ๊ย.....หมูกรอบ
อ้ำอึ้ง ไม่พูดซักที ก็เหมือนโกหก ล่ะนะ
เรื่องชมพู่ ก็เหมือนกัน ปฏิเสธให้ชัดเจน
ชมพู่ ให่แม่พูดให้หมูรับส่งตัวเอง
เพื่อให้หมูเกรงใจผู้ใหญ่ ไม่น่ารัก ขี้โกงนี่ ใช้เล่ห์กล กับหมู
แต่พออ่านถึงตอนข้าวหมูแดง บะหมี่หมูแดง
คนอ่านหิวติดหมัดขึ้นมาเลย
หมูซื้อที่ร้านไหน จะตามไปซื้อบ้าง
หมวยเล็กยังว่าอร่อยเลย  อยากกิน  :ling1: :ling1: :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 9| (19/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 19-04-2017 19:00:42
โอ้ยยยยน ลุ้นนนนน อยากอ่านต่อล้าวววววว
น้องหมูย่างรีบสารภาพได้แล้ววว อยากรู้ปฏิกิริยาหมวยเล็ก
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 9| (19/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 19-04-2017 19:37:34
ถ้ายังป๊อด ได้เป็นหมูย่างจริงๆแน่
 :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 9| (19/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 19-04-2017 21:59:03
เรื่องยังไม่กระจ่าง

ติดตามกันต่อไป
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 9| (19/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 20-04-2017 16:01:45
แววกลัวเมียมาแต่ไกลน้องหมู
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 10| (20/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 20-04-2017 18:35:47
ตอนที่ 10



                  [พาร์ตของศิลา]



            ทุกอย่างเงียบกริบ...ผมมองหน้าไอ้หมูที่สารภาพออกมาหน้ามันแดงไปหมดจนถึงหู บ่งบอกว่ามันค่อนข้างรวบรวมความกล้ามากเหมือนกัน บอกเลยว่า...เงิบมาก ผมนั่งมองหน้าของมันสักพักก็เหมือนจะจำแววตาคม ๆ คู่นี้ขึ้นมาได้ลาง ๆ พอพูดถึงขึ้นมาก็ทำให้นึกย้อนไป...



            “อย่าบอกนะว่าคนที่นั่งอยู่หน้าสนามมวยตอนนั้นคือ มึง?” หมูตาโตและพยักหน้ารวดเร็วราวกับดีใจมากที่ผมจำได้...จริง ๆ กูจำไม่ได้ต่างหาก...แต่แววตาแพรวพราวของเขาที่มันสะท้อนออกมา ผมจำได้นะ



            ...แววตามุ่งมั่น มัมมี่ที่นั่งอยู่หน้าสนามมวย ฮ่า ๆ! ผมพอจะจำได้ว่า อวยพรให้มันสู้ ๆ ด้วย...อยากจะบอกว่าสภาพของผมตอนนั้น แม่งเป็นอามวยเล็กมาก ทั้งขาว ทั้งตัวเล็ก...เป็นสภาพของผมที่ไม่ค่อยอยากจะจำเท่าไหร่ (ก็ผมอยากเข้มแข็งนี่ครับ ก็ผมเป็นผู้ชาย เลยไม่ค่อยชอบเห็นรูปลักษณ์ของตัวเองที่มันขาว ๆ ตัวเล็ก) อุตส่าห์จะเป็นเล่นฟิตกล้ามกับเฮียใหญ่ที่ค่ายมวย แต่ฟิตเท่าไหร่ กล้ามผมก็ไม่ขึ้นสักนิด



            “กูถามจริงเหอะ อะไรทำให้มึงเลือกที่จะ...ตกหลุมรักกูแบบนี้ กูไม่เห็นว่าตัวเองจะมีอะไรที่มันน่าดึงดูดตรงไหน?” หรือจริง ๆ ...กูมีอะไรน่าดึงดูดวะ



            หมูเหมือนคลายอาการเกร็งนิดหน่อย ที่เห็นผมพูดดี ๆ กับมัน ผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำขนาดไม่ฟังเหตุผลคนซะหน่อย ถ้ามันอยากอธิบายผมก็จะฟังมันอยู่นี่ไง



            “ก็อาจจะเป็นอย่างที่พี่ศิลาเคยบอกว่า...ถ้าหัวใจมันเลือกแล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมล่ะครับ ผมเลือกที่จะรักพี่แล้ว....เพราะงั้นมันก็แปลว่ารัก” เชรด...พอได้พูดออกมาแล้วดูเหมือนไอ้หมูจะพูดคล่องเชียวนะ



            ไอ้อาการอายของมึงไปไหนแล้ว!!



            “งั้นที่มึงมาหากูที่คณะ แล้วมาถามหาหมวยเล็ก...ก็คือกูเหรอ?” ผมถามทั้ง ๆ ที่พอจะรู้คำตอบ  ถ้าไม่ใช่มึงแล้วจะใครล่ะครับไอ้ศิลา...



            “ใช่ครับ” เชี่ย...งั้นที่มันบอกว่าหน้าสวย ริมฝีปากเล็ก...กูเหรอ กูไม่ได้หน้าสวยนะ!...(ยอมรับความจริงเถอะครับไอ้ศิลา)



            “.........”



            “พี่ไม่โกรธผมใช่ไหม” มันถามอ้ำอึ้ง ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจมัน แค่มันสารภาพรักกับผม แล้วผมจะไปโกรธมันทำไม เดี๋ยว...หรือจริง ๆ ผมต้องโกรธ ผู้ชายมาสารภาพรักนะเว้ย!...



            แปลกมากที่ผมกลับไม่รู้สึกตกใจมาก...ก็แค่เงิบ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจความรู้สึกของไอ้หมู



            “...........”



            “พี่ศิลา....” ไอ้หมูทำเสียงเศร้าขึ้นมาทันที หน้าตาเหมือนหมูย่างกรอบเกรียมเชียว...



            “มึงยังยืนยันที่จะจีบกูต่อใช่ไหม?” ผมถามหลังจากที่เงียบมานาน หมูทำหน้าตาเลิกลักและรีบพยักหน้า ไอ้เชี่ยนี่....ทำตัวปกติเป็นไหม



            “แน่นอนครับ!”



            “ไม่ว่ายังไงมึงก็จะจีบกูให้ติดใช่ไหม?”



            “แน่นอนครับ!”



            “มึงคิดดีแล้วใช่ไหม”



            “แน่นอนครับ!!” ไอ้หมูรับปากอย่างหนักแน่น ผมพิงเก้าอี้มองไอ้ผู้ชายตรงหน้า ผู้ชายที่เป็นถึงเดือนแพทย์ แต่มันไม่ได้นิสัยใสซื่อกลับเจ้าเล่ห์ ขี้ตื้อ แถมยังมาสารภาพกับผมว่า แอบมองผมมานานแล้ว



            ผู้ชายตรงหน้าเป็นผู้ชายทั้งแท่ง...เหมือนกับผม



            “ถ้ามึงอยากจีบก็จีบไปละกัน” ผมบอกเรียกความสนใจของหมูให้หันมามองตาโตเท่าไข่ห่าน ไอ้เชี่ยนี่ก็ทำหน้าโอเวอร์ตลอด



            “พี่ศิลาพี่พูดว่า...ให้ผมจีบพี่ต่อเหรอ”



            “เออ” ผมบอกและก็เพิ่งรู้สึกตัวว่า...กูพูดเชี่ยอะไรออกไป ไอ้ศิลาครับมึงพูดอะไรเนี่ยยยยยย....



            “จริง ๆ ผมก็จีบพี่มาสักพักแล้วนะครับ ทำไมพี่ไม่ยอมคบสักที” จีบพ่อง...กูยังเห็นมึงไปกับน้องชมพู่อยู่เลยไอ้สัด...(เริ่มพาล)



            “ลีลาการจีบมึงห่วยเอง ช่วยไม่ได้” คำตอบของผมเรียกเสียงหัวเราะของหมูเบา ๆ



            “อาจจะจริงที่พี่ว่า” เปล่า...ลีลาการจีบมึงโออยู่...แต่ไม่โอตรงไปกับผู้หญิงคนอื่นนี่แหละ ฟาย...



            “พี่ศิลาเหมือนด่าผมในใจเลย” เออ กูด่า..



            “ทำไมพี่ถึงให้ผมจีบต่อ แสดงว่าพี่ใจอ่อนกับผมแล้วใช่ไหมครับ” น้ำเสียงดีใจกรุ่มกริ่ม



            “เปล่า กูรำคาญ ขี้เกียจพูด” ผมตอบออกไปแบบว่า...ปากหมาสุด หมูชะงักนิดหน่อยแต่ก็ยังยิ้ม  นี่ถือเป็นข้อดี      ของมันรึเปล่านะ ที่ไม่ว่าอะไรก็จะยิ้ม



            “มีเรื่องจะพูดกับกูแค่นี้ใช่ไหม?” ผมถาม ไอ้หมูก็พยักหน้า ผมเลยโยนท็อฟฟี่ให้มันกิน ไอ้หมูก็เอาไปแกะกินเงียบ ๆ ราวกับรู้ว่าผมไม่ต้องการจะพูดอะไรต่อกับมัน



            ผมกับมันนั่งกินท็อฟฟี่อย่างเงียบ ๆ....เหมือนต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง



            “พี่ศิลาพรุ่งนี้อยากมาหาพี่ที่คณะแต่ว่า...ผมมีซ้อมดาวเดือน”  หลังจากที่เงียบไปสักพักมันก็พูดขึ้น ผมเคี้ยวขนมตุ้ย ๆ ก็มองหน้ามัน



            “มึงใกล้จะแข่งแล้วนี่ แข่งวันไหนนะ?”



            “มีเดินแบบโชว์รอบแรก มะรืนครับ” มันบอก ก็ใกล้แล้วนี่หว่า “พี่จะไปดูผมไหม”



            “ไป ไอ้เสาน่าจะลากไปด้วย” ผมบอก



            “ถ้าพี่เสาไม่ลากไปด้วย พี่คิดจะไปเชียร์ผมไหม”



            “กูก็ไปดูน้องคณะกูอยู่ไง” ผมว่าพลางแกะขนมกิน มันไม่อ้วนหรอกครับ...แค่ลงพุง ฮ่า ๆ!



            “ต้องไปดูผมสิ...นะ นะ อยากได้เสียงเชียร์จากพี่ศิลา” ทำเป็นเด็กอนุบาลไปได้ สาวเชียร์มึงออกจะเยอะ กรี๊ดทีหอประชุมแทบแตก...จะให้กูไปกรี๊ดด้วยเหรอ(?)



            “นะครับ” ไอ้นี่ตื้อได้น่ารำคาญมาก...แต่ผมก็แพ้ทางลูกอ้อนเชี่ย ๆ แบบนี้ตลอด



            “เออ ๆ วุ่นวายตลอดมึงนิ กลับหอมึงไปได้แล้วไป ดึกแล้ว” ผมมองนาฬิกาและไล่ไอ้หมูที่ทำเนียนจะไม่กลับห้องมัน อย่าได้ใจให้มันมาก...กูให้โอกาสมึงจีบต่อไม่ได้ให้โอกาสมึงมาทำหน้าทะเล้น



            “กะจะแอบเนียนซะหน่อย ฮ่า ๆ อย่าทำหน้าโหดสิครับ...พี่ก็รู้ว่าพี่ศิลาหน้าไม่โหด” ไอ้นี่เดี๋ยวปั๊ดจับหัวโขกผนังหรอก!! ไอ้หมูยิ้มและช่วยเก็บพวกจานชามไปไว้ให้ในครัว ตอนแรกมันจะล้างด้วย ผมก็เลยไล่มันกลับไปซะ หาข้ออ้างตลอด....ไอ้นี่แม่งบ้า....



            ..................

            ..................





            |วันเดินโชว์ตัว ก่อนการประกวดจริง 1 วัน|



            “ใครว้า บอกกูว่าแม่งไม่อยากมาหรอก...แต่ลากกูมาเองเชียว” ไอ้เสาที่อยู่ในชุดนักศึกษาเต็มยศพร้อมหน้าที่ถูกแต่งนิด ๆ รู้สึกว่าแก้มไอ้เสาชมพูอ่อนเชียวครับ มันยืนเท้าเอวมองผมล้อ ๆ



            “ไอ้สัดเสาพูดมาก”



            “ถามจริง นี่มึงกับน้องยังไม่คบกันอีกเหรอวะ?” ผมมายืนอยู่แถวหน้าหอประชุมที่กำลังจะมีการเดินโชว์ตัวเพื่อที่จะเข้าสู่งานจริงวันพรุ่งนี้ อ้อ...ลืมบอกไปครับว่า การแสดงของไอ้หมูอ่ะ มันบอกว่ามันขอซ้อมเองไม่ต้องให้ผมไปช่วยแล้ว เห็นมันบอกอยากเซอร์ไพร์...ผมหวังว่ามันจะไม่ไปทำให้ตัวเองขายหน้าพรุ่งนี้หรอกนะ...



            “ยัง...”



            “เอ๋า กูเห็นมึงกับน้องความสัมพันธ์ดีขึ้นนะ ทำไมยังไม่คบอีก?” ไอ้เสาว่าเหมือนพวกทำตัวเป็นพ่อสื่อชักนำ ดูมึงจะส่งเสริมให้กูได้กับผู้ชายจังนะ!



            “ทำไมมึงดูส่งเสริม อยากให้กูได้กับมันนักเหรอ”



            “มึงรู้ตัวรึเปล่าว่า มึงดูเป็นตัวเองมากกว่าเดิม เวลาอยู่กับไอ้น้องหมู” ผมที่มองเข้าไปตรงประตูของหอประชุมก็ชะงัก...เป็นตัวของตัวเองเหรอ? ผมเงยหน้ามองไอ้เสาที่ยิ้มให้ผม



            “มึงหมายความว่าไง เป็นตัวของตัวเอง”



            “ก็ปกติมึงอ่ะ ชอบทำเป็นเถื่อน ทั้งที่แม่งไม่ได้เถื่อนอะไรกับเขาเล๊ย” พูดว่าผมแต่ไอ้เสามันก็ไม่ได้ดูตัวเองเล๊ย...บอกเลยนะครับว่า ไอ้เสาตอนนี้ออร่าดึงดูดผู้ชายมาก หึหึ...ผมว่าไอ้สัดนนท์ใกล้จะมีงานเข้าแล้วล่ะ เพราะผมเริ่มรู้สึกว่าเวลาไปไหนมาไหนกับไอ้เสา ผู้ชายมันหันมามองด้วย ฮ่า! ท่าทางมันจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ



            “แต่เวลามึงอยู่กับไอ้น้องหมู มึงได้เป็นตัวของตัวเองดีว่ะ อย่างน้อยก็สบายใจใช่ไหมล่ะที่ได้อยู่กับน้องมัน” ไอ้เสาพูดพล่ามเหมือนให้ผมคิด...สบายใจเหรอ ตอนที่อยู่กับมันก็เอาแต่พูดจาด่ามัน...แต่ทุกครั้งที่ด่ามันก็เอาแต่ยิ้มตอบกลับมา



            ...จนผมคิดว่าไอ้นี่บ้า...ยอมให้ผมด่าอยู่ได้ แถมไล่ก็ไม่ไป



            เสียงกรี๊ดในหอประชุมทำให้ผมกับไอ้เสาโผล่หน้าไปดู พวกผมเลือกที่จะอยู่แถว ๆ ข้างหลังก็มองเห็นบนเวทีชัดเจนเหมือนกัน ส่วนสาว ๆ พากันอยู่ข้างหน้ากันและกรี๊ดชนิดว่าหอประชุมจะแตก แต่ละคณะก็มีแต่คนหน้าตาดี ๆ ทั้งนั้น แต่ที่ดูจะเด่นกว่าเพื่อนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...ครับ ไอ้หมู เดือนแพทย์นั่นแหละ แค่มันเดินออกมาส่งยิ้มมุมปาก สาวก็ร้องกรี๊ดจนแทบจะแดดิ้น



            แต่ที่พีคกว่านั้นคือ ไอ้หมูสายตายาวขนาดนั้นเหรอ ถึงได้เห็นผมยืนอยู่แถวไกล ๆ มันยกมือโบกให้ผม ทำเอาสาว ๆ หันมามองกันพรึบ...เชี่ย กูไม่อยากโดนผู้หญิงของมึงทั้งหลายรุมนะครับเฮ้ย



            “โห ต้องการประกาศชัด ๆ ว่าไอ้หมูมันสนใจมึง ฮ่า! น้องเด็ดขาดว่ะ ชอบ ๆ” ไอ้เพื่อนของผมนี่ก็ดูจะเป็นฝ่ายสนับสนุนดีมาก



            “กูจะโดนแฟนคลับมันรุมน่ะสิไม่ว่า กูจะออกไปข้างนอกละ” ผมบอก แต่ไอ้เสาคว้ามือของผมไว้ก่อน



            “อ้าว ๆ อย่าทิ้งกูสิ”



            “เสา นนท์ซื้อชานมไข่มุกมาให้” ยังไม่ทันจะอ้าปาก ไอ้สัดนนท์ที่ดูจะเทคแคร์ดูแลไอ้เสาอย่างดี เดินมาพร้อมกับชานมไข่มุกเจ้าโปรดของไอ้เสา



            “ไอ้สัด! ใครให้มึงมาวะ” ไอ้เสาหันไปด่าแต่มือมันอ่ะรับชานมไข่มุกมาดูดจ๊วบ ๆ แล้ว ว่าแต่กูไม่ยอมรับไอ้หมู มึงเองก็ไม่ได้ต่างหรอกครับ...อ้าว แล้วกูจะโยงเรื่องตัวเองไปใส่ไอ้เชี่ยหมูกรอบทำไมเนี่ย



            “มึงมาก็ดีไอ้นนท์ เมื่อกี้มีผู้ชายมองไอ้เสาด้วย”



            “อะไรนะ! จริงเหรอเสา มันเป็นใคร?” ไอ้สัดนนท์ทำหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันทีทันใด



            “ไอ้เชี่ยศิลา! อะไรของมึงไอ้เหี้ยนนท์! ผู้ชายเชี่ยไรจะมามองกู อย่าบ้าจี้ไปหน่อยเลย” ไอ้เสาหันมาด่าผมก่อนจะไปประจันหน้ากับไอ้นนท์ ก็มันอยากพูดกวนผมดีนัก หึหึ แอบแกล้งมันนิดหน่อย



            ผมเดินหนีจากเสียงกรี๊ดที่ดังกระหึ่มทั่วหอประชุมออกมาข้างนอก เฮ้อ ค่อยหายใจโล่งหน่อย อยู่ในนั้นค่อนข้างอึดอัดมาก ปกติผมเองก็ไม่ค่อยชอบที่ที่มันมีคนเยอะ ๆ อยู่แล้ว นี่ถ้าไม่ได้มาดูไอ้หมูอย่างหวังว่าผมจะเข้าไปเลย...อ้าว เชี่ย ผมไม่ได้จะมาดูไอ้หมูกรอบซะหน่อย...เถียงกับตัวเองให้ได้อะไรขึ้นมาวะ ระหว่างที่ผมกำลังยืนพึมพำอยู่กับตัวองผมก็แอบได้ยินเสียงของผู้หญิงสองคนคุยกัน ด้วยความอยากรู้ (เผือกแหละ ง่าย ๆ) จริง ๆ จะไม่อยากรู้ แต่น้ำเสียงของเธอเหมือนกับน้องชมพู่เด๊ะ...ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมผมจำได้ ก็ผมเคยได้ยินทางโทรศัพท์ตอนเธอพูดแทรกไอ้หมูยังไงล่ะ



            ผมเดินไปตรงแถวเสาที่บังตัวผมมิด ผมเหลือบมองน้องชมพู่ที่อยู่ในชุดนักศึกษาฟิตมาก กับเพื่อนสาวของเธออีกคนหนึ่ง ทำท่าลับ ๆ ล่อ ๆ น่าสงสัยมาก จากความรู้สึกของผมอ่ะนะ



            “นี่ แกเอาจริงเหรอย่ะ ชมพู่ ทำแบบนี้ไม่คิดว่าหมูจะเป็นอะไรเหรอ พรุ่งนี้เขาประกวดดาวเดือนนะ” เพื่อนสาวของเธอพูด



            “ก็ใช่น่ะสิ ไม่เป็นไรหรอก ยานั่นก็แค่ช่วยให้มีอารมณ์ ขืนชักช้ากว่านี้ก็ไม่มีโอกาสกันพอดี หมูยิ่งไปติดพันอยู่กับพี่วิศวะคนนั้นแจอยู่ ฉันไม่ยอมหรอก!” ผมที่แอบฟังอยู่ก็ได้ยินชัดเจน



          ...เชี่ย ยามีอารมณ์เชี่ยไรวะ ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ??



            “แล้วแกแน่ใจได้ยังไงย่ะ ว่าหมูเขาจะกินยาที่เธอใส่ แล้วเธอจะแน่ใจได้ยังไงว่าหมูเขาจะมาติดกับเธอ ฉันว่าเธอทำแบบนี้มันแรดไปนะย่ะ” เพื่อนของน้องชมพู่ว่าเตือนสติ แต่ถามว่าเจ้าหล่อนฟังไหม?



            “ฉันเอาไปแอบใส่ในแก้วน้ำดาวเดือนที่เป็นชื่อของหมูเรียบร้อย แล้วฉันก็จะเข้าไปหาหมูเอง เขาจะได้ออกมากับฉันยังไงล่ะ เขาต้องทนไม่ได้แน่ ๆ ฉันสวยรึยัง” ผมได้ยินก็ตาโต เมื่อกี้น้องชมพู่บอกว่า ใส่ในแก้วน้ำไอ้หมูเหรอ เชี่ย...มึงอยู่ในอันตรายซะละ เล่นจับกันแบบนี้เลยเหรอวะ



            ผมไม่คิดอะไรทั้งนั้นตอนนี้ ขาของผมวิ่งไปที่ห้องพักของพวกดาวเดือนทันที ทำไมผู้หญิงต้องอยากได้มึงขนาดนี้วะ...มึงแม่ง...ไม่เห็นจะดีอะไร ทำไมผู้หญิงต้องแย่งวะ!! ผมบ่นในใจไปตลอดทาง สองเท้าก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องพัก ผมเปิดประตูเข้าไปทุกคนมองกันพรึบ



            “พี่นางฟ้าสวัสดีครับ” ไอ้พวกรุ่นน้องดาวเดือนเรียกผมตามฉายาที่เจ้นิ่มตั้งให้ แต่ผมไม่มีเวลาจะสนใจ



            “ไอ้หมูอยู่ไหน” ผมถามหาคนที่ผมอยากเจอ



            “เห็นถือแก้วน้ำแล้วเดินไปทางนู่นค่ะ” น้องดาวแพทย์ปี 1 เพื่อนของไอ้หมูชี้ไปอีกห้อง ผมเลยรีบวิ่งเข้าไป ประตูที่เปิดออกเรียกความสนใจของไอ้หมูที่อยู่ในช่วงพักเพื่อที่จะขึ้นเดินโชว์ตัวอีกรอบ หมูหันมามองผมอึ้ง ๆ ในมือของมันถือแก้วน้ำอยู่



            “พี่ศิลา? มาหาผมเหรอครับ” ไอ้หมูยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น...ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับมึง!



            “ใช่ กูมาหามึง” ผมตอบ ทำเอาพวกเดือนที่อยู่ในห้องเดินออกไปเหมือนอยากให้ผมอยู่กับไอ้หมูกันตามสบาย แต่ไอ้คนตรงหน้าผมทำหน้าตาอึ้งสุด ๆ



            “ว้าว พี่กำลังทำให้ผมอึ้งนะเนี่ย...” ผมหายใจหอบนิดหน่อยเนื่องจากวิ่งมาไกลเหมือนกัน ไอ้หมูกำลังจะยกน้ำขึ้นดื่ม ผมตาโตและรีบดึงมาจากมือของมัน



            “กูหิว เอามานี่” ไอ้หมูเองก็ไม่ได้ขัดใจผม เขายอมให้ผมแต่โดยดี ผมเผลอดูดน้ำในแก้วจนหมด หมดจริง ๆ....พลางนึกขึ้นได้ว่า...น้องชมพู่ใส่ยาไว้นี่หว่า...



            ชิบหายแล้ว....ไอ้ศิลา ผมกินยาปลุกอารมณ์ เหี้ยยยยย....กูลืมไปเลยยยย ดูดกินไปหมดแล้ว



            “หิวน้ำอีกเหรอครับ?” ไอ้หมูเลิกคิ้วขึ้นมองผมที่ทำคิ้วขมวด



            “เปล่า” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ก็ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรนี่หว่า....หรือยาจะไม่มีผลกับผมวะ ถ้างั้นก็ดีเลยแค่ไอ้หมูไม่กินก็ดีแล้ว



            “มึงไปกินน้ำแก้วอื่นก็แล้วกัน กูกินของมึงหมดละ” ผมบอก หมูยิ้ม



            “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่หิวอยู่แล้ว พี่ศิลากินเถอะ...” หมูจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่ “พี่รู้ไหมว่าตอนที่ผมเห็นพี่ ผมโคตรดีใจเลยอ่ะ” มันดูดีใจมากจริง ๆ



            “เออ...มึงจะต้องขึ้นเวทีอีกรอบใช่ไหม ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน” ผมพูดจบเสียงประกาศเรียกรวมก็ดังขึ้น ไอ้หมูยื่นหน้ามาใกล้ผม เชี่ย...ตกใจหมด



            “เดี๋ยวเย็นนี้รอกลับพร้อมผมนะ จะพาไปกินอะไรอร่อย ๆ นะครับ รอผมนะ...” มันทำหน้าอ้อน        คิดว่ามึงน่ารักมากเหรอ....



            “เออ ๆ รู้แล้ว ไปได้แล้ว” ผมไล่ หมูยิ้มกว้างและเดินออกไปจากห้องนี้ ผมถอนหายใจเล็กน้อยมองแก้วในมือที่ไม่เห็นจะมีปฏิกิริยาไรสักนิด





            ผมยืนรอไอ้หมูอยู่หน้าหอประชุม ส่วนไอ้เสากับไอ้นนท์ก็ขอตัวกลับไปก่อนผมแล้ว ตอนแรกไอ้เสาจะมาอยู่เป็นเพื่อนผมครับ แต่ไอ้สัดนนท์ทำท่าเหมือนไปกินรังแตนมายังงั้นแหละ ไอ้เสาเลยต้องรีบพากลับเดี๋ยวจะไปต่อยกับใครเขาได้ ผมที่ยืนรออยู่ก็เห็นน้องชมพู่เดินมาด้วยความมาดมั่น น้องเดินผ่านผมไปแต่เห็นเหมือนสายตาของเธอเหลือบมองผมนิดหนึ่ง ผมมองเธอที่เดินเข้าไปหาหมูที่กำลังเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวที่เปิดประตูไว้ เธอเอามือไปลูบไล้แขนของไอ้หมู



            ...เดี๋ยวกูจะเอาไม้หน้าสามไปฟาด...ฟาดใครดี ระหว่างไอ้หมูกรอบ กับน้องชมพู่ ฮ่า ๆ ล้อเล่นน่า ผมไม่ใช่คนโหดซะหน่อย...แต่ก็ไม่แน่ถ้าเธอยังเกาะแกะแขนของไอ้หมูอยู่ ดูเหมือนเธอจะทำหน้าตาแปลกใจหน่อย ๆ ที่ไอ้หมูเหมือนไม่รู้สึกอะไรและสะบัดมือน้องชมพู่ออก



            ...ก็แหงล่ะคนที่กินยานั่นคือผมนี่ ไม่ใช่ไอ้หมู คิดจะจับเดือนแพทย์คิดง่ายเกินไปแล้วน้อง...



            ผมมองดูอยู่ก็แอบขำ พอเห็นไอ้หมูกำลังจะเดินออกมา ผมเลยหมุนตัวจะวิ่งออกไปรอแถวหน้าคณะ เดี๋ยวมันจะได้ใจว่าผมมารอมัน แต่ก็ไม่ทันระวังชนกับน้องปี 1 ผู้ชายที่เดินมาพอดี



            ปึ่ก



            “ขอโทษครับพี่” น้องมันยกมือไหว้ ผมเลยโบกมือพลางว่าไม่เป็นไร แต่จู่ ๆ ผมก็รู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนร่างกายกำลังจะละลายขึ้นมาซะงั้น....เชี่ย



            “พี่เป็นอะไรรึเปล่าครับ” ไอ้น้องมันถามอีกรอบเมื่อเห็นผมจับที่ใจของตัวเองที่มันรู้สึกสั่นขึ้นมา



            ....อย่าว่ายากำลังแสดงอาการนะ....เหี้ยแล้วครับ ไอ้ศิลา น้องคนที่เดินชนผมกำลังจะมาแตะผมแต่มือของมันก็โดนกันโดยมือหนาซะก่อน



            ผมสะดุ้งเมื่อมือหนาอีกข้างของไอ้หมูคว้าเอวของผมไว้ประชิดตัวของมัน ทำให้ผมหันหน้าไปชนกับไหล่ของไอ้หมูพอดีเป๊ะ...คราวนี้ร่างกายของผมร้อนกว่าเดิมอีก....



            “พี่ศิลาเป็นอะไรครับ ทำไมหน้าแดงขนาดนี้?” ผมกำลังจะตอบก็สบตากับแววตาเข้ม และเสียงของน้องชมพู่ที่เดินตามมามองผมอึ้ง ๆ



            “หมู หมูไม่ได้กินน้ำเหรอ” เธอถามเหมือนปล่อยไก่ชัด ๆ หมูหันไปมองด้วยแววตาดุ



            “ชมพู่ว่าอะไรนะ ฉันไม่ได้กินน้ำ ทำไม?...” ดูเหมือนไอ้หมูจะไม่ได้โง่แฮะคราวนี้...ผมจะดันตัวของตัวเองออกจากไอ้หมูเพราะ ผมรู้สึกว่าผมร้อน...แถมผมยังได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวของไอ้หมูที่มันเหมือนกระตุ้นยังไงก็ไม่รู้ เชี่ยมาก....



            “เราบอกชมพู่ชัด ๆ ไปแล้วนะ ว่าคนที่เรารักคือพี่ศิลาเท่านั้น!” ระหว่างที่ผมกำลังรู้สึกลมหายใจร้อนก็ต้องเบิกตากว้างกับประโยคชัดเจน ที่ทำเอาคนที่อยู่บริเวณนั้นมองอึ้ง บางคนก็ปิดปากกรี๊ด



            ...เหี้ยยยย กูกรี๊ดด้วยได้ไหม...มึงมาสารภาพอะไรตรงนี้วะ...ไอ้หมูกรอบ น้องชมพู่ก็อึ้งไปและดูไม่พอใจมากด้วย



            และนั่นยังไม่ถึงช่วงพีคเพราะสิ่งที่ทำให้เหล่ากระเทยและสาว ๆ ที่น่าจะชื่นชอบเรื่องพวกนี้กรี๊ดกันยกใหญ่ เมื่อร่างของผมถูกไอ้หมูอุ้มลอยอย่างง่ายดายในท่าอุ้มเจ้าหญิง....เชรด ไอ้หมูกรอบบบบ มึงทำอะไรของมึงงงงงงงง.......



            กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด แก!!!! เดือนแพทย์กับนางฟ้าประจำกองประกวดแหละ เสียงพวกนี้เป็นเสียงของเจ้นิ่มที่เป็นแกนนำ...เออ เจ้เชียร์ออกนอกหน้ามาก



            “ไอ้เชี่ยหมูปล่อยกูลง...ทำอะไร....วะ” ผมด่าแต่ก็ชะงักกับแผงอกที่มันเด่นชัดแม้จะอยู่ภายใต้เสื้อนักศึกษาของไอ้หมู มันเป็นเพราะยาใช่ไหม....ทำไมกูถึงมองว่ามันโคตรหล่อเลย เท่ด้วย....



            “ไม่ครับ ผมจะไม่ปล่อยพี่เด็ดขาด”



            หมูไม่ได้สนใจคนที่มองเราอยู่ทั้งนั้น เขาอุ้มผมมาที่รถราวกับรู้ว่าน้องชมพู่ทำอะไรลงไป แอบรู้สึกดีที่ไอ้หมูมันไม่โง่...แต่ตอนนี้คนที่กำลังจะแย่ก็คือผมครับ...แม่ง ร้อนไปหมดทั้งกายแล้ว ต้องทำยังไงถึงจะหาย หมูจับผมเข้าไปนั่งในรถดี ๆ ก่อนเขาจะมาขึ้นฝั่งคนขับ



            “เดี๋ยวผมจะพาพี่ไปส่งหอนะ เป็นยังไงบ้างครับ ผมไม่คิดว่าชมพู่จะกล้าใช้ยาแบบนี้” หมูจะเอื้อมมือมาแตะผมก็ชะงัก กลิ่นน้ำหอมในรถแม่ง...กวนใจผมมาก กลิ่นมันเป็นกลิ่นเดียวกับเสื้อของไอ้หมูตอนนั้นที่อยู่ในโรงยิม



            “แล้วนี่พี่รู้ได้ยังไงว่าเธอใส่ยาให้ผม”



            “กูได้ยินพอดี” ไอ้หมูยิ้มเหมือนดีใจที่ผมสนใจเรื่องของมัน...กูบอกว่าได้ยินพอดี ไม่ได้สนใจเว้ย...



            “ผมว่าพี่เอาผ้าเย็นเช็ดหน้าก่อนดีไหมครับ” ไอ้หมูเอื้อมมือไปเบาะด้านหลังทำให้ตัวของมันใกล้กับผมมาก ผมสูดกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของไอ้หมู...กลิ่นมันกวนใจผมมาก....ผมว่าอยู่แบบนี้แม่งอันตราย



            ผมดันไอ้หมูที่กำลังควานหาผ้าออก ก่อนผมจะข้ามไปนั่งเบาะด้านหลังแทน



            “กูจะไปนอนด้านหลัง” ผมนอนลงเบาะหลังและพูดประโยคที่ทำให้ไอ้หมูหันมามองงง ๆ



            “ไอ้เชี่ยหมู กูขอเสื้อนักศึกษามึงได้ไหม กูจะเอามาปิดหน้า”



            “ครับ? เสื้อนักศึกษา” มันชี้เสื้อที่มันใส่อยู่ ผมก็ไม่รู้ว่าผมแม่งพูดอะไรออกไป เริ่มรู้สึกว่ามันมั่วไปหมดแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ ผมรู้แค่ว่าตอนนี้อยากได้กลิ่นของไอ้หมูใกล้ ๆ



            “เออ ถอดมาสิวะ” ไอ้หมูทำหน้าเอ๋อแดกไปเรียบร้อยแถมมันยังหูแดงอีก



            “ครับ ๆ” ไอ้หมูถอดเนคไททิ้งไว้ข้างเบาะและถอดเสื้อนักศึกษาเหลือเพียงแค่กางเกงโชว์ซิกแพคอยู่ เออ...แม่งไอ้หุ่นดี มันยื่นเสื้อมาให้ผมด้วยอาการเหวอปนเขินตามสไตล์มัน



            ผมรับมาปิดหน้าตัวเองไว้เหมือนต้องการให้ทุกอย่างสงบ...แต่ผมว่ามันเชี่ยมาก ไหงยิ่งได้กลิ่นใจยิ่งสั่นวะ แต่เสื้อไอ้หมูมันหอมจริง ๆ แหละ...



            “ผมจะพาพี่กลับไปส่งหอนะครับ พี่ศิลา ถ้าไม่ไหวบอกผมนะ” มึงจะช่วยกูเหรอ...ไอ้สัด อย่าฝันว่าจะได้แตะต้องกู...



            “เออ” ผมตอบกลับเรียบ ๆ ไอ้หมูก็สตาร์ทรถขับกลับไปที่หอของผม



            “กลิ่นของผมช่วยพี่ได้เหรอ” มึงมีหน้าที่ขับรถก็ขับไปสิวะ...ถามมาก



            “ไม่ได้”



            “อ้าว แล้วเอาไปปิดหน้าไว้ทำไมครับ ฮ่า ๆ น่ารักว่ะ” ไอ้หมูหัวเราะเหมือนไม่ต้องการให้ผมคิดฟุ้งซ่านตามยาที่กำลังออกฤทธิ์ เออ..ความคิดดีใช้ได้



            แต่สติของผมเริ่มจะหลุด ๆ ลอย ๆ ซะแล้ว มันเริ่มจะอึดอัดบริเวณส่วนล่าง เหี้ยยยย... นี่กำลังคิดว่าถ้าไอ้หมูกินน้ำเข้าไป แม่ง...เสร็จน้องชมพู่แน่ ๆ! ดีจริง ๆ ที่ผมเป็นคนกิน...ผมกำลังทำเพื่อไอ้หมูเหรอ ปกป้องมันเนี่ยนะ...ศิลามึงใกล้บ้าแล้วนะครับ



            “กูชอบนะ” ผมพูดแผ่วเบาแต่ทำเอาไอ้หมูที่ขับรถอยู่ถึงกับเบรกกะทันหัน ผมรู้สึกง่วงชิบ...



            “ว่าอะไรนะครับ!?”



            “ชอบกลิ่นน้ำหอมมึง มันหอมดี....” ผมพูดแค่นั้นก่อนผมจะเผลอหลับไปซะงั้น....ยาบ้าบอไรวะ เดี๋ยวร้อนวูบวาบ เดี๋ยวง่วง...เออ ดี ๆ ให้กูนอนไปแล้วก็ค่อยตื่นมาพรุ่งนี้เช้าละกัน ยาหมดฤทธิ์พอดี....







                     “พี่ศิลา...พี่ศิลา...อ้าว หลับแล้วเหรอครับ....”

                    “กอดเสื้อของผมไว้แบบนั้น พี่กำลังยั่วผมอยู่รู้รึเปล่า.....”

                    “เดี๋ยวสักพักพี่ก็ตื่นขึ้นมาอีกครับ แล้วตอนนั้นผมจะอยู่ข้าง ๆ พี่ศิลาเอง...”






................................................+++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารักกกก ^^ เห็นคนชอบน้องหมูกับพี่ศิลาก็ปลื้มเเละดีใจมากเลยค่าาาา

จากใจไรท์   LOVE YOU จุ๊บ   :L1: :pig4: :pig4:

#เห็นคนอ่านบอกเห็นพี่ศิลากินข้าวหมูเเดงเเล้ว หิว  ตอนเเต่งไปไรท์หิวไปเหมือนกันค่ะ555555 // คิดถึงร้านที่เคยไปกิน ข้าวหมูเเดงกับบะหมี่หมูเเดง อร่อยจริง ๆ ค่ะ  :กอด1: :L1:  #ที่พี่ศิลาหลับไปก็เพราะได้กลิ่นหอมจากเสื้อของหมูเพื่อให้ช่วยผ่อนคลายค่ะ เเต่ไม่รู้จะช่วยหรือจะกระตุ้นกันเเน่ 555555555
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 10| (20/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-04-2017 19:42:38
ว่าและ ชมพู่ไม่ใส แต่ชี เล่นไสย
คราวนี้หมูเลยประกาศชัดๆไปเลย
ว่าชอบพี่ศิลา เท่านั้น แอร๊ยยยย ฟินนนนน สิ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 10| (20/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 20-04-2017 20:01:36
จัดการนางมารร้ายนั่นด้วยนะหมูกรอบ
เอาให้หนัก
ไม่งั้นไม่ยอม

ชั่วจริง ๆ

 :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 10| (20/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-04-2017 20:17:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 10| (20/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 20-04-2017 20:51:55
อ้าว ยาปลุกทำไมกินละง่วง  :ruready
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 10| (20/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 20-04-2017 22:41:16
 :mc4: :กอด1: :pig4:

ยกป้ายไฟเชียร์น้องหมูกรอบ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 10| (20/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 20-04-2017 22:58:41
 :mew3:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 10| (20/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 20-04-2017 23:46:33
มาต่อเร็วๆนะค่ะชอบมากๆเลยสนุกๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 10| (20/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 21-04-2017 00:28:52
 :z3:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 11| (21/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 21-04-2017 16:54:21
ตอนที่ 11



             [พาร์ตของศิลา]



            ร้อน...ผมร้อนวูบวาบไปหมด โคตรจะไม่สบายตัว ก่อนผมจะสัมผัสได้ถึงอะไรเย็น ๆ ที่สัมผัสโดนหน้าผากของผม ทำให้ผมบรือตามองคนที่อยู่ตรงหน้า...



            “พี่ศิลา เป็นยังไงบ้างครับ? รู้สึกดีขึ้นไหม” ผมจะบอกว่า...ผมปวดตรงส่วนล่างไปหมด มันอึดอัด



            เชี่ย...แม่ง ผมค่อย ๆ ลุกนั่งพิงผนังเตียง หายใจหอบ...



            “กี่ทุ่มแล้ว มึงกลับไปเถอะไป พรุ่งนี้มีประกวดดาวเดือนนะ” ผมไล่ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า หมูจะยื่นผ้ามาเช็ดหน้าของผม ผมเลยรีบปัดมือหนาตรงหน้าออกอย่างไม่ได้ตั้งใจ...ก็พอมันโดนผมนิดเดียว ผมก็รู้สึกอยากปลดปล่อย....ยานี้แม่งร้ายชิบหาย



            เพี๊ยะ!! ผมชะงักเช่นเดียวกันกับหมู



            “กูขอโทษ...แต่มึงช่วยออกไปก่อนได้ไหม มึงก็รู้ว่ากูโดนยาอยู่” ผมไล่อีกรอบ ก่อนจะเบิกกว้างเมื่อไอ้หมูขึ้นมาบนเตียงของผม           



            “พอแล้วครับ พี่ศิลา ไม่ต้องทนแล้ว ผมจะช่วยเอง” ผมตาโตเพราะไอ้หมูกำลังจะเลื่อนมือมาสัมผัสกางเกงของผม ไอ้เชี่ย...ไม่



            “อย่านะเว้ย!! ไอ้เชี่ยหมู ปล่อยกูไว้เดี๋ยวก็หายเอง!!”



            “เชื่อผมนะ ผมไม่ทำอะไรนอกจากใช้มือ” ไอ้หมูจับขอบกางเกงผมไว้...เป็นสถานการณ์ที่อันตรายสำหรับผมมาก!!....เอาแล้วไอ้ศิลาเอ๊ย...หาเรื่องใส่ตัวเองแท้ ๆ



            “นะครับ ใช้แค่มือ” ถึงมันจะบอกแบบนั้น...ความรู้สึกอายก็กระหน่ำเข้ามาหาผม



            “ไม่...ยะ...อย่า ไอ้หมูกูโกรธมึงจริง ๆ นะ!!” ผมพยายามดันแผงอกตรงหน้าของไอ้หมูที่ใส่เสื้อนักศึกษาของมันแล้ว...แต่เสือกไม่ติดกระดุมเสื้อ มือของผมสัมผัสโดนหัวใจของไอ้หมูที่เต้นรัวอย่างบ้าคลั่งบ่งบอกว่ามันก็...ตื่นเต้นเหมือนผม...ตื่นเต้นเชี่ยไรครับไอ้ศิลา....กูแค่โดนยาไม่ได้รู้สึกอะไรซะหน่อย



            “จะโกรธผมก็ได้ครับ...แต่ผมจะไม่ยอมให้พี่ทรมานแบบนี้” ไอ้หมูรูดซิบลงอย่างไม่รอ ผมตัดสินใจจะยกเท้าถีบก็ชะงักกับแววตาเข้มที่จ้อง...อยากถีบมาก แต่ก็กลัวตัวของมันจะช้ำ กลัวมันจะไปประกวดดาวเดือนไม่ได้....คิดเชี่ยอะไรในหัวมากมายจนมันมึนไปหมด ผมใกล้เป็นบ้าแล้วครับ ใกล้แล้ว...



            “ถ้าพี่จะถีบก็ควรจะถีบตอนนี้นะครับ...” หมูเลื่อนมือมาปลดกางเกงของผมลง เผยให้เห็นบ็อกเซอร์ตัวจิ๋ว...เออ มึงจะบรรยายละเอียดทำไมวะศิลา....ทันทีที่มันสัมผัสบริเวณตรงส่วนนั้นของผม



            เหี้ย...เสียวมาก



            “อะ...อย่า กูบอกว่าไม่...อื้อ” โคตรจะรู้สึกดีเลยครับ....ผมกำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังสั่นระริก                               
   โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย....ความกระดากอายกำลังเกิดขึ้นกับผม



            “อ๊ะ!!..” ผมเอามือปิดปากตัวเองที่เผลอส่งเสียงสยิวกิ้วอะไรของกูออกมา...เชี่ย เชี่ยยยยย....หมูเลื่อนมือมาขยับเบา ๆ คลายความปวดให้ผม เห็นหน้ามันใสซื่อแบบนี้แม่งร้ายชิบหาย...ทำไมมันดูชำนาญจังวะ รู้สึกดีชะมัด....



            “อา...เดี๋ยว ไอ้เชี่ยหมู...หยุดนะเว้ย!! ไม่เอาปล่อยกู” ผมสะดุ้งโหย่งเพราะไอ้หมูกำลังจะใช้ปาก... ไอ้เหี้ยไหนบอกว่าแค่มือ!!!



            “หยุด อา...หยุด”



            “ผมจะช่วยทุกทางให้พี่สบายตัว แต่ผมจะไม่ทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้แน่นอนครับ” ไอ้หมูพูดอย่างลูกผู้ชาย...ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นไอ้เชี่ย...



            “กูเป็นผู้ชายนะเว้ย!! มึงไม่รังเกียจ...”



            “ผมจะรังเกียจสิ่งที่เป็นของผู้ชายที่ผมรัก...ทำไมล่ะครับ” ผมนิ่งไปทันทีกับประโยคตรง ๆ ของไอ้หมูที่มักชอบพูดประจำ และผมก็มักจะไม่สนใจด่ามันกลับ...แต่แปลกที่ตอนนี้ใจของผมมันดันเต้นโครมครามขึ้นมาซะได้



            “จะหลับตาก็ได้นะครับ ถ้าไม่อยากเห็นผมทำให้” เสียงเข้มที่ดังเข้าโสตประสาทพร้อมกับความรู้สึกเสียวพุ่งพล่าน ผมหลับตาปี๋และเผลอใช้มือไปกำผมของไอ้หมูไว้ด้วย



            ผมรู้สึกว่าตัวเองอยากจะปลดปล่อยให้ได้....ไอ้เชี่ยหมูแม่ง!!!!....เก่งมาก เก่งที่ทำให้ผมรู้สึกดีขนาดนี้ ราวกับหัวสมองของผมถูกล้างและเคลิ้มไปตามแรงสัมผัสของไอ้หมูที่กดริมฝีปากของมันครอบครองผมช้า ๆ.....



            นี่เหรอความรู้สึกเวลาผู้ชายช่วยกันสัมผัส...มันรู้สึกดีมากจริง ๆ ผมว่าผมต้องใกล้บ้าแล้วแน่ ๆ...



            สติของผมที่ล่องลอยอยู่แล้ว ล่องลอยอย่างสมบูรณ์ ผมจำได้ว่าตัวเองเสร็จไปสองรอบ...ต่อหน้าไอ้เชี่ยหมูด้วย และผมก็หลับไปทันทีด้วยความไม่รู้เรื่อง...และมึนกับฤทธิ์ยาที่เริ่มหมดทำให้หลับไปอย่างง่ายดาย....



            .................

            .................





            ติ้ด ติ้ด ติ้ด... เสียงนาฬิกาปลุกดังเข้ามาในโสตประสาทผม ทำให้ผมที่นอนคว่ำหน้าอยู่เอื้อมมือไปปิด



            “ง่วงชิบ...” ผมพลิกตัวนอนหงายก่อนจะเอามือกุมหัวตัวเองเหมือนความทรงจำมันขาด ๆ หาย ๆ  กูกลับมาอยู่ห้องได้ไงวะ...ชุดนอนของผมที่ใส่อยู่ทำให้ผมเริ่มตระหนักและจำได้ชัดเจนว่า....



            เกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อวาน!!!....เหี้ยยยย....ผมมองรอบตัวก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของไอ้หมู แต่ผมก็เหลือบไปเห็นโน้ตใบเล็กที่ถูกเขียนด้วยลายมือของไอ้หมู ผมเลยหยิบมาดู



            [ ผมต้องไปกองประกวดดาวเดือนตั้งแต่เช้า ผมเลยออกไปก่อนนะครับ โจ๊กอยู่บนโต๊ะผมเทใส่ชามให้แล้ว เย็นนี้มาดูตอนผมแสดงด้วยนะครับ

                                                                                                    |หมูรักพี่ศิลา|                           ]





            ผมอ่านข้อความก็หน้าร้อนวูบกับคำที่มันวงเล็บไว้ท้ายสุดอย่างหน้าไม่อาย...  |หมูรักพี่ศิลา| ไอ้เชี่ยหมูใช้ซะคล่องปากเชียวนะ ทีก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะกล้าพูด....



            ผมรู้ว่าเมื่อวานไม่ได้มีอะไรเกิดเลยไปมากกว่าการสัมผัส...ไอ้หมูช่วยทำให้ผมรู้สึกสบายตัวขึ้นแค่สัมผัส....แต่แค่ทำแค่นั้นผมก็ไม่รู้จะไปสู้หน้ามันยังไงแล้ว โอ๊ย....ตอนเจอหน้ามันผมจะไปปั้นหน้ามันใส่ยังไงล่ะ แกล้งทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นดีไหม ปล่อยผ่านไป....



            สัมผัสของมันผมยังรู้สึกอยู่เลย....โว้ยยยยย!!!!...กวนใจกูชะมัด!



            ผมดึงผมของตัวเองด้วยความหงุดหงิด...หรือว่าเขินกันแน่วะ โว้ยยยยย...



            “ไอ้เหี้ยศิลา! มึงจะนอนเอาโล่เหรอวะ” เสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงโวยวายของไอ้เสาทำให้ผมหลุดจากภวังค์ที่กำลังคิดถึงไอ้หมู...เปล่า!! กูไม่ได้คิดถึงมันซะหน่อย...



            ผมเดินไปเปิดประตูก็เจอไอ้เสาที่อยู่ในเสื้อนักศึกษาพร้อมสายสะพายรองเดือนเต็มยศ



            “อ้าว? มึงยังไม่อาบน้ำอีกเหรอ ไอ้หมูฝากกูมาดูมึง น้องมันดูเป็นห่วงเป็นใยมึงดีชิบหาย” ไอ้เสาดันหลังผมเข้าไปในห้องและทิ้งตัวลงโซฟา



            “ไอ้หมูบอกให้มึงมาดูกูเหรอ?”



            “เออ มันเห็นกูตอนเข้าไปกองประกวดแหละ นี่ถ้ามันไม่แต่งหน้าอยู่ มันคงจะมาหามึงถึงหออ่ะ”



            “เอ้า สัดไปอาบน้ำสิวะ! เดี๋ยวจะได้ไปมหาวิทยาลัยพร้อมกูเลย” ไอ้เสาไล่ ผมก็เลยเดินเอ๋อ ๆ ไปที่ห้องน้ำ แสดงว่า...ไอ้หมูมันไม่ได้เล่าอะไรให้เพื่อนผมฟังใช่ไหม...



            ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่ถึง 5 นาที (พอดีเป็นคนสะอาดเลยอาบน้ำเร็ว แฮะ ๆ) ผมใส่ชุดนักศึกษาผูกไทเรียบร้อยก็มานั่งลงตรงโต๊ะอาหารที่ไอ้หมูมันเตรียมโจ๊กไว้ ไอ้เสาก็นั่งเลื่อน ๆ โทรศัพท์ของมันไป สักพักมันก็เงยหน้ามองผมเหมือนอยากจะพูดอะไร



            “มีอะไร?” ผมถาม ไอ้เสาเลยยื่นโทรศัพท์มันให้ผมดู



            “มึงกับน้องหมูดังละนะ” หือ? ดังเชี่ยไรวะ....ผมเอามาดูก็เห็นรูปภาพของไอ้หมูที่อุ้มผมในท่าเจ้าหญิงท่ามกลางประชาชีเกือบแสนคน (เวอร์) ก็นับว่าค่อนมหาลัยเลยก็ว่าได้....เชรด ใครถ่ายวะ แต่แคปชั่นที่บ่งบอกว่าใครเป็นคนลงก็ชัดเจนมากเมื่ออ่านมันแล้ว ‘เดือนแพทย์กับนางฟ้าประจำกองประกวด’ นี่มันพวกเจ้นิ่มชัด ๆ



            แถมผมยังดูยอดไลค์ที่พุ่งถล่มถลายไปถึงสามหมื่นกว่า...ผมไม่กล้าที่จะเลื่อนดูคอมเมนต์ต่าง ๆ นานา ก็เลยยื่นคืนให้ไอ้เสามัน มันกระตุกยิ้มล้อ



            “มึงไม่รอดจากน้องแน่ ๆ กูว่า ฮ่า ๆ! เตรียมรับมือน้องมันดี ๆ เหอะไอ้ศิลา” นี่มึงไม่คิดจะช่วยเพื่อนสักนิดใช่ไหม....ไอ้เพื่อนชั่วววว....โยนเพื่อนให้ผู้ชายได้ไงวะ แถมยังเด็กกว่าอีก



            “เหอะ ที่ไม่รอดอ่ะ มันต่างหาก ถ้าป๊ากูรู้จะไม่บ้านแตกเหรอวะ” ผมพึมพำพลางเขี่ยโจ๊กในชามมากิน แต่คำพูดของผมก็เรียกความสนใจจากไอ้เสา



            “เชรดดดด....นี่มึงพูดว่ารู้หูป๊า! แสดงว่ามึงก็คิดเรื่องของน้องแล้วใช่ไหม วะฮ่า!” ไอ้เสาทำท่าตื่นเต้นขึ้นมาทันที ผมเลยชะงัก...เออว่ะ เมื่อกี้ผมบอกว่าถ้าป๊ารู้เรื่อง...



            ตอนแรกผมก็ไม่เคยคิดหรอกไอ้เรื่องที่ไอ้หมูมาตามจีบผม แถมยังตื้อจนน่ารำคาญ..(รำคาญจริงรึเปล่า) โดนผมด่ายังไงไล่ยังไงก็ไม่ไป....เรื่องเมื่อวานมันกำลังทำให้ความคิดของผมสับสนเหมือนเรียบเรียงไม่ได้



            “กูว่าป๊ามึงน่าจะรับได้ เพราะมึงเป็นหมวยเล็ก” ไอ้เสาให้กำลังใจ...กูไม่ได้คิดจะพาไอ้หมูไปแนะนำตัวกับป๊าซะหน่อย!



            “มึงอย่ามามโนแทนป๊ากูได้มะ” ผมว่าและเลิกให้ไอ้เสาพูด แต่กลับกลายเป็นผมเองที่นั่งคิดคนเดียวเงียบ ๆ



            ...ถ้าหากผมจะคบกับไอ้หมู...ก็แค่สมมตินะ!! ผมก็ไม่รู้ว่าจะรอดด่านป๊ากับเฮียใหญ่แล้วก็เฮียกลางไปรึเปล่า....ไอ้หมูน่าจะไม่ไหวแน่ ๆ...เหี้ยยยยยยยย....กูคิดอะไรอยู่ ไม่ ๆ ไม่ใช่



            ผมสะบัดความคิดของตัวเองด้วยความหงุดหงิดทันที....



            ..........................

            ........................



            บ่าย 4 โมงเย็น



            ผมเดินวนเวียนอยู่แถว ๆ หลังเวทีด้วยความไม่กล้าสู้หน้าของไอ้หมู...จริง ๆ ผมมาตั้งนานแล้วแต่ไม่กล้าเข้าไป เชี่ยศิลามึงกลายเป็นคนป๊อดตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ....ผมเม้มปากตัวเองนิด ๆ ก็ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไงใส่มันดี ทั้ง ๆ ที่ด่ามันไปเยอะ ไล่มันก็บ่อย แต่กลับยอมให้มันทำเรื่องเมื่อคืน เขินเชี่ย ๆ!



            ไอ้เสามันหายไปสแตนบายหลังเวทีแล้วล่ะครับ ผมมองหลังเวทีสักพักก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไป ไอ้หมูที่ยืนเด่นเป็นสง่าออร่าจับ...คือแบบว่า เชี่ย.....โคตรพ่อโคตรแม่ของความหล่อ....ขอใช้คำนี้ ไอ้หมูอยู่ในชุดตัวพระเอกที่ถูกประดับตกแต่งด้วยเพชรแพรวพราว ผมดำตัดกับใบหน้าคมเข้มของมันมาก ชุดก็ทำให้มันดูเด่นมากกว่าเดิม ผมเชื่อว่าวันนี้หอประชุมได้แตกแน่ ๆ ถ้าไอ้หมูมันออกไปโชว์....ตื่นเต้นแทนมันจัง เหมือนไอ้หมูจะประสาทไวมากเพราะมันหันขวับมามองผมอึ้ง ๆ



            ...ทำไมมันชอบทำหน้าอึ้งเวลาเห็นผมวะ...



            “พี่ศิลา!” พวกคนอื่นหันมาหาผมหมดเมื่อไอ้หมูในชุดหล่อเดินก้าวดุ่ม ๆ มาหาผมด้วยท่าทางดีใจออกนอกหน้าจนเจ้นิ่มที่เติมแป้งให้เดือนอยู่ยิ้มกรุ่มกริ่ม แถมคนอื่นก็พากันยิ้มเขิน



            คือเชี่ยอะไร.....



            “จะเรียกอะไรเสียงดังวะ” ผมว่าเรียบ ๆ แต่สายตาไม่รู้จะเอาไปมองที่ไหนดี มองหน้าไอ้หมูก็ไม่อยากสบตา...มองชุดก็แม่งเท่อีก...มองตีนมัน เดี๋ยวจะหาว่ากวนตีนมันอีกล่ะ....



            “มองหน้าผมสิครับ ขอกำลังใจหน่อย” เสียงเข้มดังระยะใกล้ทำให้ผมผงะ...เหมือนผมเริ่มเสียศูนย์



            “นู่น คนรอให้กำลังใจมึงเยอะแยะ” ผมส่งสายตาไปทางข้างนอกเหล่าแฟนคลับพวกดาวเดือนรอกรี๊ดกันเต็มที่ หมูกระตุกยิ้ม



            “ก็กำลังใจจากคนตรงหน้ามันสำคัญ...” คำพูดเชี่ยทำให้คนหวั่นไหวมากี่คนแล้วไอ้สัด “ทำหน้าเหมือนด่าผมอีกละ ฮ่า ๆ...” ทำไมผมต้องแพ้ไอ้ลูกอ้อนบ้าบอของมันทุกทีวะ...



            “สู้ ๆ ละกัน”



            “ครับ? >0< อีกทีได้ไหม” ไอ้หมูที่หัวเราะอยู่ก็หยุดชะงักและเอียงหูมาใกล้ผม “เสียงดนตรีมันดัง  พี่ศิลาว่าอะไรนะ” ไอ้นี่....น่ากระโดดถีบชะมัด



            “กูบอกว่าสู้ ๆ ละกัน” ผมพูดเสียงเบาแต่ไอ้หมูก็ยิ้มกว้าง ผมว่ามันต้องได้ยินแล้วรอบแรกแต่แกล้งผมชัวร์!



            “อย่าละสายตาจากผมนะครับ เพราะการแสดงนี้...ผมอยากให้พี่ดูมัน มองมาที่ผมด้วยนะ ห้ามละสายตานะ!!” ไอ้หมูย้ำอีกครั้งก่อนมันจะวิ่งไปรอตรงที่ปล่อยตัว ไอ้นี่มันประสาทแหง ๆ ....



            การแสดงของไอ้หมูมันจะมีอะไรพิเศษใส่ไข่ขนาดไหนกัน...เหอะ ถ้าทำขายหน้าผมจะแอบหัวเราะเลยคอยดู...ผมเดินออกมาจากหลังเวทีและมานั่งอยู่ใกล้แถว ๆ เจ้นิ่ม โดนพวกเจ้แกกวักมือเรียกมาแหละ



            “นี่เตรียมไปซื้อดอกกุหลาบรึยังจ๊ะ น้องศิลา...” เจ้นิ่มสะกิดผมยิก ๆ ระหว่างที่การแสดงของคณะอื่นเริ่ม ผมมองพวกแฟนคลับที่พากันถือดอกกุหลาบแบบว่า เหมามาทั้งฟาร์มเลยเหรอ...คือว่า มันเยอะมาก!!



            “ซื้อทำไมครับเจ้?”



            “เอ้า! แฟนประกวดทั้งทีทำไมไม่มีล่ะจ๊ะ โถ่วถัง...น้องหมูของพี่จะไม่น้อยใจเหรอ” คำว่าแฟนของเจ้ที่บอกออกมาทำเอาผมเกือบหงายหลักตกเก้าอี้.....ผมยังไม่ได้คบกับมันซะหน่อย!!



            “ไม่ใช่ซะหน่อยเจ้”



            “แหม ๆ บอกไว้เลยนะ ถ้าไม่รีบแสดงความเป็นเจ้าของ โดนชะนีคาบไปจริง ๆ นะคะ บอกเลยว่ายืนรอต่อแถวเป็นขบวนรถไฟ...” เจ้นิ่มแอบกระซิบกับผม ทำให้ผมแอบชะงักไป...ก็จริงครับ คนที่สนใจไอ้หมูมีเยอะมากพอสมควร แถมยังสนใจแบบอยากได้มาเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอีก!



            ผมไม่ได้ตอบอะไรพวกเจ้เพราะพวกเจ้แกพากันกรี๊ดหนุ่ม ๆ เดือนที่อยู่กลางเวทีซะแล้ว ไอ้เดือนคณะของผมมันโชว์การเล่นกีตาร์เรียกคะแนนจากสาว ๆ ที่ชอบการเถื่อนได้เต็มที่ เออ...ดี ๆ ช่วยเป็นชื่อเสียงให้คณะวิศวะด้วยนะไอ้น้องเดือนวิศวะ และก็มาถึงการแสดงของไอ้หมู....ทันทีที่มันเดินออกมาในชุดตัวพระเอกก็เรียกเสียงกรี๊ดจนหอประชุมจะแตกได้กระหึ่มไปทั่ว รอยยิ้มมุมปากกับสายตาของมันที่กำลังมองหน้าใครสักคน...และมันก็มาหยุดอยู่ที่ผม...ไอ้เชี่ยมองไปทางอื่นสิวะ....



            “โอ๊ยยย อยากโดนน้องหมูจ้องบ้าง” เจ้กระเทยที่นั่งข้างผมเอามือทาบอกของตัวเอง เพลงดนตรีไทยเดิมที่ไอ้หมูใช้ซ้อมกับผมดังขึ้น ผมมองท่ารำของมันอึ้ง ๆ ...มันรำไม่ค่อมจังหวะรำถูกเป๊ะ



            “กรี๊ดดดดดด บทเกี้ยวพระนางด้วยค่า!! อยากไปเป็นนางเคียงคู่กับพระราม!!”



            “รักความเป็นไทยสุด ๆ นี่แหละว่าที่สามีในอนาคต” และอีกหลายเสียงที่ตะโกนสลับไปมาพร้อมกับเสียงกรี๊ดดังกระหึ่ม....ผมมองมันอย่างละสายตาไม่ได้อย่างที่ไอ้หมูมันบอกจริง ๆ ทำไมมันรำได้ดีขนาดนี้วะ ทั้ง ๆ ที่ตอนฝึกก็ไม่ได้ขนาดนี้นี่.....เพลงที่จบลงหมูก็โค้งตัวขอบคุณและจับไมค์ไว้ในมือ



            “ขอบคุณสำหรับเสียงปรบมือนะครับ...แต่ผมยังมีอะไรเล็ก ๆ ที่ผมอยากจะถือโอกาสมอบมันให้กับคนสำคัญของผม” เสียงทุ้มดังละมุนเรียกสายตาทุกคนให้มองไปบนเวที....มันจะพูดอะไรวะ ผมมองสายตาของมันที่มองมาที่ผม แววตาที่จริงจังมาก



            “ผมอยากขอพูดเหตุผลที่ผมอยากมาเรียนหมอครับ...จากใจจริงเลยนะครับ เพราะ...” ทุกคนที่อยู่ด้านล่างก็เงียบกริบโดยอัตโนมัติอย่างรอฟัง ผมเองก็รอฟังเหมือนกัน...



            “การเป็นหมอ คือการช่วยชีวิตคน...เพราะผมอยากดูแลชีวิตของคนที่ผมรักที่สุดด้วยตัวของผมเอง ผมเลยเลือกที่จะเรียนหมอ....และเขาคนนั้นก็เป็นเหมือนแรงผลักดันให้ผมเข้มแข็งและขยันเรียนสอบเข้าที่นี่ด้วยคะแนนติดอันดับต้น ๆ” ทุกคนที่ฟังอยู่อึ้งไปตาม ๆ กันกับน้ำเสียงมุ่งมั่นที่เต็มไปด้วยความจริงจังที่ผมเองก็สัมผัสได้ ก่อนผมจะเบิกตากว้างเมื่อประโยคต่อไปถูกพูดขึ้น



            “พี่ศิลาครับ...” มันเรียกผมทำไม... “ผมอยากจะบอกพี่ว่า....คบกับหมอมันดีนะ....” อึ้งและเอ๋อแดก....



            “ถ้าผมได้เป็นเดือนมหาวิทยาลัยพี่ช่วยยิ้มหวาน ๆ ให้ผมดูหน่อยนะ ขอบคุณครับ”



            อ้าว เหี้ยยยย...เกี่ยวอะไรกับยิ้มหวานกูเล่า....เหมือนมันพูดมั่นใจราวกับตัวเองจะได้เป็น ไอ้มั่นหน้า!!



            กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เสียงกรี๊ดทะลุหอประชุมดังขึ้นเมื่อหมูโค้งขอบคุณ  ส่วนผมก็เงิบไปอีกรอบ....คนเป็นหลายพันนะเว้ย...แล้วดูสิ่งที่ไอ้หมูมันพูด ผมรู้สึกว่าหน้าของผมร้อนผ่าวขึ้นมา คราวนี้ร้อนจริง ๆ ไม่มีแก้ตัว....     กูอายคนโว้ย ทำอะไรไม่ถูกด้วย ได้แต่นั่งอยู่เก้าอี้ของตัวเองเงียบ ๆ ผมเหลือบมองไอ้เสาที่อยู่ข้างเวทีโบกไม้โบกมือยกนิ้วเยี่ยมใส่ไอ้หมู...ไอ้เพื่อนเวร ช่วยย้ำกูจังงงงง.....





            ....และผลการตัดสินก็ออกมา ถามว่าใครล่ะครับที่คว้าตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยไป ก็จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ ‘ไอ้หมู เดือนแพทย์ ควบด้วยตำแหน่งใหม่คือ เดือนมหาวิทยาลัย’ ที่กวาดคะแนนจากรรมการและสาว ๆ ไปเพียบ แถมดอกกุหลาบยังถือจนจะไม่ไหว ส่วนคนที่ได้รองเดือนก็เป็นคณะวิศวะไอ้โชที่ยังรักษาตำแหน่งเดียวกันกับไอ้เสาไว้ได้ รองเดือน ไม่มีใครคัดค้านอะไรที่ไอ้หมูได้ตำแหน่งเพราะ หน้าตาของมัน โปรไฟล์ของมันก็เหมาะที่จะเป็นเดือนมหาลัยแหละถูกต้องที่สุด...หมูตอนรับสายสะพายมันเอาแต่ยิ้มกว้างและมองมาที่ผม ผมว่าผมเสี่ยงโดนแฟนคลับไอ้หมูกระทืบชะมัด กูกลัวนะเฮ้ย ผู้หญิงรุมกระทืบกูขึ้นมามึงจะรับผิดชอบไหมมมมม......



            .....................

            .....................



            หลังจากจบงานประกวดผมออกมารับโทรศัพท์ของป๊าที่โทรมาสักพักและป๊าก็วางสายไป ผมทำท่าครุ่นคิดนิดหน่อย ก่อนไอ้หมูจะกึ่งวิ่งกึ่งเดินถือถุงขนมกับดอกกุหลาบมาเพียบ บอกเลยว่ามันหล่อออร่ากระจายมาก จะว่าไปไอ้เสาแม่งหายหัวไปไหนของมันวะครับ



            “พี่ศิลา รอนานไหมครับ” ใครรอมึงวะ...กูออกมาโทรศัพท์ต่างหาก ผมไม่ได้ตอบแต่เดินไปทางที่จอดรถ หมูก็ยิ้มและเดินตาม



            “ได้ฟังแล้วใช่ไหมว่า ทำไมผมถึงอยากมาเรียนหมอ” ไอ้หมูพูดพลางเอาพวกของใส่หลังรถ เขาปิดลงแล้วหันหน้ามาหาผม ผมมองสายสะพายที่มันเข้ากับไอ้หมูจริง ๆ แหละ



            “ก็ได้ยิน หูไม่ได้ตึงซะหน่อย ดีใจด้วยละกัน” ผมตอบ แต่รอยยิ้มของไอ้หมูตรงหน้ามันช่างขัดหูขัดตามาก...! ก็มันเหมือนมีออร่าวิ้ง ๆ มันเดินเข้ามาหาผมที่ยืนพิงรถอยู่



            “อะไร”



            “ขอรอยยิ้มหวาน ๆ ด้วยครับ มาทวง” ผมเลิกคิ้ว...เออว่ะ มันบอกว่าอยากได้รอยยิ้มของผมนี่....จู่ ๆ มาบอกให้ยิ้มให้ดูมันก็เหวอแปลก ๆ สิ....ใครจะยิ้มออกวะ



            หมูเหลือบสายตาเหมือนมองว่ามีใครอยู่แถวนี้ไหม มองแบบนั้นทำไมวะ...ผมสะดุ้งเมื่อไอ้หมูเอาแขนข้างหนึ่งขึ้นมาบังกันผมไว้พร้อมกับใบหน้าคมที่ก้มมาใกล้ผม



            “มึงทำเชี่ย...” กว่าจะรู้ริมฝีปากหนาก็ก้มลงมาประกบกับริมฝีปากของผมซะแล้ว จูบเบา ๆ แต่เกือบดึงสติของผมให้หลุดได้ง่าย ๆ ผมผลักมันออก หมูยกยิ้ม



            ไหนมึงบอกขอยิ้มหวาน ๆ จากกู....นี่มันจูบชัด ๆ ไอ้เชี่ยหมูกรอบบบบ.....มันผละออกจากผมเหมือนรู้ว่ากำลังจะโดนกำปั้นจากผม



            “ก็กลัวว่าพี่ศิลาจะไม่อยากยิ้ม เลยขอเปลี่ยนเป็นจูบแทน หวานเหมือนกัน” มันพูดขี้เล่นแต่ผมถึงกับเหวอ...ไอ้เชี่ยยยยย



            ปึ่ก! ผมชกไหล่มันไปหนึ่งที...แต่แม่งไอ้หมูดันยิ้มพอใจ ไอ้เหี้ยกลัวกูสักนิดบ้างก็ได้



            “พี่ศิลา พี่เป็นกาวเหรอ” ผมเลิกคิ้วกับไอ้หมูที่ยังคงเอามือกั้นผมไว้ระหว่างรถ เออ...หวังว่าจะไม่มีใครเดินผ่านมาแถวนี้นะครับ ท่านี้แม่งทำให้คนอื่นเขาพากันคิดไปไกลแล้ว (คิดอะไรเหรอ)



            “กาวอะไรของมึง”



            “ก็ทำไมผมถึงได้ติดพี่ขนาดนี้ล่ะ...”
เชรด...ไอ้เดือนมหาลัยมันติ๊งต๊องงงงงงง...เอาตำแหน่งมันคืนไปได้เลยครับบบบ มุขเชี่ยไรของมัน....



            แต่ปากของผมมันกลับหลุดยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้....ไอ้ศิลาครับมึงหลุดยิ้มแล้ว....



            “มุขเชี่ยมาก....” เชี่ยจนผมเขินได้ ไอ้หมูลุคเสื้อนักศึกษาเต็มยศมันไม่ดีต่อใจของผมเลย....ไม่ดีเลยจริง ๆ  หมูยิ้มทะเล้นอยู่ตรงหน้าผมและไม่มีท่าทีว่าจะเอาหน้าออกไปไกล ๆ ผมเลย



            เมื่อกี้ป๊าของผมโทรมาหาผมครับ ว่าพรุ่งนี้ให้กลับบ้านไปหาหน่อย ผมเองก็กำลังว่างด้วยจนกว่าจะเปิดเทอมอาทิตย์หน้า....ผมมองไอ้คนตรงหน้านิ่ง ๆ



            “ไอ้เชี่ยหมู”



            “ครับผม” มันจะทำเสียงหวานอ้อนทำไมวะ...



            “ว่างไหมพรุ่งนี้”



            “สำหรับพี่ศิลาผมว่างตลอด 24 ชั่วโมง” ไอ้ขายหม้อ...



            “พรุ่งนี้ไปบ้านกลับกูหน่อย”



            “ครับ ห๊ะ!!...อะไรนะครับ” ไอ้หมูทำตาโตเท่าไข่ห่าน...เวอร์ตลอดกาล       



            “พรุ่งนี้กูจะกลับบ้านไปหาป๊า ไปกับกูหน่อย.....” ผมมองไอ้หมูที่ทำท่าค้างไปและเปลี่ยนเป็นเหงื่อตก แต่มันก็พยักหน้าตกลงกับผม....มึงกลัวป๊ากูเหรอ?? ทำไมต้องเหงื่อตกขนาดนั้น





..................................................................+++++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^ :L1: :กอด1: :กอด1: :pig4:

+++ ขอพักเบรกให้น้องหมูได้หายใจ เตรียมตัวเจอกับป๊าของพี่ศิลาก่อนนะคะ ^________^ +++

>>>  ตอนต่อไปจะเอานนท์กับเสา เข้ามาโชว์ความกวนน่ารัก ๆ  ก่อนที่จะกลับมาคู่หลักที่กำลังจะเจองานใหญ่ (หมูจะไปเจอป๊าของว่าที่เมียในอนาคตละค่ะ ไม่รู้ว่าจะงานนี้หมูกรอบ จะเป็นหมูเเผ่นไหม55555) <<<

​## ส่วนตอนต่อไป ใครรอหวีดคู่นนท์เสาก็เตรียมตัวดี ๆ ไว้เลยค่าาา ^^
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 11| (21/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 21-04-2017 17:31:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 11| (21/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-04-2017 17:45:06
หมูกรอบ หมวยเล็ก  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 11| (21/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-04-2017 17:57:34
พาไปเปิดตัวว่างั้น?
น้องหมูจะรอดกลับมาไหมเนี่ย หมวยเล็กอย่าไปแกล้งน้องสิครับ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 11| (21/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 22-04-2017 01:08:13
 :impress2:



โอ้ยยยยยยยย อิจ !!!
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 11| (21/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 22-04-2017 07:21:33
สู้ๆฮะ น้งหมูกรอบ ^^
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 11| (21/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 22-04-2017 09:31:43
หมวยเล็กจะพาไปเปิดตัวกับพ่อหรือ???? :3123: :3123:


 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 11| (21/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 22-04-2017 17:02:30
กรีดดดดดดจะพาไปเจอพ่อแล้วววววว...มาต่อเร็วๆอีกนะค่ะ :heaven
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 12| (22/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 22-04-2017 18:54:33
ตอนที่ 12



             [พาร์ตของเสา]   


            ความรักระหว่างผู้ชายก็ไม่ใช่เรื่องน่าเสียหายอะไร ผมชินแล้วกับการเห็นพวกคู่รักชายรักชายแบบนี้ เดี๋ยวนี้ยุคสมัยเริ่มยอมรับกันมากขึ้น แต่ก็ไม่คิดหรอกครับว่าวันหนึ่งมันจะเกิดขึ้นกับตัวของผมเอง....



            ผมเป็นรองเดือนของมหาวิทยาลัย ที่ไม่รู้ว่าได้มาได้ยังไง เหอะ ๆ จริง ๆ คนที่จะลงประกวดตอนแรกไม่ใช่ผมครับ แต่เป็นไอ้สัดนนท์...แต่เพราะไอ้นี่มันดันไปมีเรื่องกับเดือนคณะเกษตร หน้าตาไอ้นนท์มันไปกวนส้นตีนของเขาก่อนแถมมันยังเป็นคนที่ไม่ยอมใครอีก พอมีเรื่องต่อยกันก็เลยต้องมีการเปลี่ยนตัวเดือนที่เพิ่งคัดเลือกไป พูดแล้วก็อยากจะขำดัง ๆ เลยกลายเป็นผมแทนที่ไปเป็นตัวแทนเดือนคณะวิศวะแล้วผมก็คว้าตำแหน่งรองเดือนมหาลัยมาครอง โฮะ ๆ....ผมหล่อล่ะสิ



            ผม ไอ้ศิลา และไอ้สัดนนท์เป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกัน ส่วนมากพวกผมก็ไปด้วยกันนี่แหละครับ แต่หอผมจะใกล้กับหอของไอ้นนท์มากกว่าก็เลยไปเล่นแถวหอมันบ่อย แต่ไอ้นี่ชอบหิ้วผู้หญิงกลับมาด้วย พักหลัง ๆ ผมก็เลยไม่ได้เข้าไปหามันที่หอสักเท่าไหร่ และก็มาตอนนี้อีกที่ไอ้ศิลามันดันมีเด็กปี 1 คณะแพทย์มาตามต้อย ๆ เห็นละขำหน้าไอ้ศิลามากตอนที่น้องมันเดินเข้ามาบอกว่า มาหาหมวยเล็ก ฮ่า ๆ



            อย่าเอาไปบอกมันนะว่าผมแอบนินทามัน...



            ผมใช้ชีวิตอยู่อย่างอิสระชิว ๆ ไปวัน ๆ....



            แต่ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งชีวิตของผมจะเปลี่ยนไป...ถ้าวันนั้นผมไม่นึกขยันอยากอ่านหนังสือเรียนขึ้นมา ถ้าไม่นึกบ้าโทรไปหาไอ้ศิลาแล้วมันไม่อยู่จนต้องไปเอาชีทที่ห้องไอ้นนท์ เรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น...แต่จะโทษใครได้ ในเมื่อเวลาและจังหวะมันลงตัวราวกับถูกกำหนดไว้แล้ว...



            ...จุดเริ่มต้นที่กำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตของผม...



            ..........

            ..........



            เนื่องจากความว่างสุด ๆ ของผม จึงทำให้นึกอารมณ์ขยันจะทำการบ้านในชีทขึ้นมา ยังไม่ทันจะเปิดเทอมอาจารย์ก็สั่งมาไว้ล่วงหน้าแล้วล่ะครับ พวกคณะวิศวะอย่างเรา ๆ ก็ขยันตั้งใจเรียนนะครับ โฮะ ๆ ผมโทรหาไอ้ศิลาหลายรอบแต่ก็ไม่ติดสักที...ไอ้นี่มันหายหัวไปไหนวะ หรือจะอยู่กับน้องหมู หึหึ ยังไม่ทันที่ผมจะโทรอีกรอบโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น



            +จี+ เธอเป็นดาวแพทย์แถมยังเป็นดาวมหาลัยอีก แฟนของผมเองล่ะครับ...แต่ถ้าจะให้พูดให้ถูกคือ แฟนปลอม ๆ สงสัยกันใช่ไหมล่ะครับ...



            “ไงจ๊ะ คนสวยของเสา”



            (“ฉันกลัวนะย่ะ...เสา ฉันว่าเราเลิกแสดงละครแบบนี้ดีไหม”) จี เป็นลูกพี่ลูกน้องห่าง ๆ ของผมเองแหละครับ พอดีมีช่วงที่เธอประกวดดาวเดือนถูกโรคจิตมารังควาน ผมเลยประกาศว่าคบกับจีเพื่อปกป้องเธอ ถามว่าผมชอบจีไหม...ชอบนะ   เธอเป็นคนที่สวยนิสัยดี แถมยังคอยดูแลผมอีก เธอแอบชอบไอ้เดือนคณะเกษตรที่ไอ้สัดนนท์ไปมีเรื่องด้วยนั่นเหละครับ



            “เลิกได้ไง เดี๋ยวเธอก็โดนโรคจิตรังควาน...แล้วนี่ไอ้เดือนนั่นมันไม่คุยกับเธอเลยเหรอ”



            (“คุยอะไรล่ะ...เขาไม่เคยจะเห็นฉันด้วยซ้ำมั้ง...นี่เสา คุณแม่ฉันชวนทานข้าวด้วยนะ เฮ้อ...แม่คงคิดว่าเรารักกันมาก ๆ แน่เลยอ่ะ ฉันไม่อยากให้นายเข้ามาอยู่ในการจับคู่ของครอบครัวฉันเลย...แค่นี้นายก็ช่วยปกป้องฉันมาก ๆ แล้ว”) จีว่ายาว ๆ ผมเลยหัวเราะ



            “ยังไม่ถึงเวลาที่ควรจะเลิกกันเลย...อย่าเพิ่งคิดมากเลยน่า งั้นฉันวางสายก่อนนะพอดีจะขับรถไปเอาชีทซะหน่อย” ผมบอกอย่างนึกขึ้นได้เมื่อมองนาฬิกาของตัวเอง



            (“อืม ขับรถดี ๆ นะ บาย”) เธอวางสายไป ก็อย่างที่บอกไปแหละครับ...ผมกับจีเป็นคนรู้จักกันและผมก็เป็นแฟนกับเธอเพียงเพราะไม่อยากให้ไอ้พวกโรคจิตมาตามจี ซึ่งเรื่องนี้เองไม่มีใครล่วงรู้นอกจากผมกับจีเท่านั้น





            ผมกดสายไปหาไอ้ศิลาอีกครั้ง ก่อนจะรู้ว่ามันอยู่กับไอ้น้องหมู โอ๊ย...ผมไปซื้อหวยตอนนี้ทันไหม ถ้าจะเดาแม่นขนาดนี้ ผมเลยต้องขับรถมาที่หอของไอ้สัดนนท์ที่อยู่ไม่ห่างจากผมมากนัก ผมบอกไอ้ศิลาว่าจะมาเอาชีทกับไอ้นนท์แทน



            ผมเดินขึ้นไปหอสุดหรู ผมเข้าหอนี้ได้สบาย ๆ เพราะแต่ก่อนมาบ่อยก็มาปลุกไอ้นนท์ไปเรียนทุกเช้าแหละครับ ก็มันเล่นกกสาวซะดึก กว่าจะตื่นมาเรียนได้...เป็นภาระผมสุด ๆ บางทีมาก็เจอผู้หญิงนอนที่ห้องมันอยู่ก็มี เสียสายตาสุขภาพจิตสุด ๆ ...ไอ้เจ้าชู้เข้าสันดาน ขอนินทามันสักหน่อย แล้วนี่ก็เห็นว่าเพิ่งเลิกกับน้องกุ๊ก ผมว่ามันน่าจะดูรักน้องคนนี้นะเพราะเห็นเหมือนจะรักกันนาน แต่ไหงมาเลิกกันซะงั้น แถมมันยังดูซึมกับการเลิกครั้งนี้อีกด้วย สงสัยจะรักน้องมันจริงล่ะมั้ง...อันนี้ผมก็ไม่รู้



            นินทามาซะนาน! และผมก็มาหยุดอยู่หน้าห้องมัน ผมกดกริ่งหน้าห้องอยู่สองสามครั้ง ไร้เสียงตอบรับจากไอ้สัดนนท์...ผมเลยล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเองหยิบคีย์การ์ดสำรองของไอ้นนท์ออกมา (ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผมมี  ก็มันแหละครับชอบตื่นสาย เลยเป็นภาระของผมต้องมาปลุก มันเลยให้ไว้นานแล้ว)



            “ไอ้สัดนนท์?...” ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องที่มันมืด...อย่าบอกว่ามันนอนแล้ว นอนไวไปป่ะ?



            ผมเดินเข้าไปในห้องนอนของเขาก็เจอมันนอนคว่ำหน้าอยู่ ผมเอามือจิ้มหลังมัน จึก ๆ....มันยังหายใจอยู่ใช่ไหมวะ



            “ไอ้เชี่ยนนท์...” ผมเรียกอีก



            “หือ?...” มันรับรู้เสียงเรียกของผมละ “ใคร...”



            “กูเอง” ผมตอบและรู้สึกว่าได้กลิ่นเหล้าหึ่งมาจากไอ้นนท์ “มึงไปดื่มมาเหรอ เชี่ยเหม็นเหล้าชิบ”



            ผมเอามือปิดจมูก “กูมาเอาชีทไปลอก...มึงเก็บไว้ไหนวะ” ผมว่าพลางค้นแถวโต๊ะเขียนหนังสือของไอ้นนท์ โดยที่ไม่รู้ว่านนท์เหลือบมองด้วยความเมา



            “มึงเก็บโต๊ะได้สถุนมาก สัด....อยู่ไหนวะ...” ผมยังคงรื้อ “เจอแล้ว!....เหี้ยอะไร!!” ผมหยิบชีทมาวางบนโต๊ะก่อนจะตกใจเมื่อจู่ ๆ ไอ้นนท์ก็มายืนอยู่ข้างหลังผมและกอดผมไว้จากด้านหลัง



            ประโยคที่ไอ้นนท์พูดออกมาทำให้ผมเบิกตากว้าง



            “อย่าทิ้งนนท์ไปนะ...กลิ่นหอมเหมือนชานมไข่มุกเลย” ห๊ะ..กูคนครับไม่ใช่ชาไข่มุก หอมเหมือนชานมไข่มุก พ่อง.....อย่าบอกนะว่ามันคิดว่าผมเป็นแฟนเก่ามัน ไอ้เชี่ย กูไม่ได้ตัวเล็กขนาดที่มึงจะจำผิดนะเว้ย (จริง ๆ มึงตัวผมผอมโปร่งมากไอ้เสา)



            “ไอ้สัดนนท์ปล่อยกู! กูเสาเว้ย” ผมดันมันออกอย่างแรงจนไอ้นนท์เซออก มันมองหน้าผมด้วยความเมา กูว่ามันเริ่มจะบรรยากาศทะแม่ง ๆ แล้ว



            ผมกำลังจะหมุนตัวหนี ไม่เอาชีทแม่งแล้ว...แต่ทว่าก็ช้ากว่าไอ้คนร่างกายกำยำที่เต็มไปด้วยกล้ามจากการเล่นฟิตเนส





            พรึบ! ตุบ! ผมโดนกระชากแขนและโดนเหวี่ยงลงเตียง...ย้ำว่า เหวี่ยง





            “ไอ้เหี้ย!! มึงจะทำอะไรไอ้สัดนนท์! กูเพื่อนมึงนะ” ผมโวยพร้อมกับใช้เท้าถีบไอ้คนตรงหน้าที่ก้าวขึ้นมาบนเตียง ....เหี้ยยยยยยย กูขยับไม่ได้เลย



            ดูจากแอลกอฮอล์ที่อยู่ในตัวของไอ้นนท์แล้ว ไม่น่าจะมีสติ...ผมว่ามันกำลังนึกถึงแฟนเก่าจนเห็นภาพหลอนแล้วล่ะมั้ง





            “กูเสานะ! ไอ้สัดฟังกู...ปล่อยนะเว้ย!!” ผมสะดุ้งเมื่อถูกมือหนากระชากเสื้อช็อปที่ใส่อยู่ กระดุมเสื้อกู.....หยุดนะเว้ย





            “เสา...” ไอ้นนท์เรียกชื่อของผม “เสา...” เรียกแล้วก็ได้สติสิวะ แต่เปล่าเลยไอ้นนท์ไม่มีสติและไม่รู้ว่าพูดคำว่าอะไรออกมาด้วยซ้ำ





            “เออ กูเสามึงปล่อยกู....ไอ้สัดดดดด....ฮะ!!....” ผมเบิกตากว้างแทนที่มันจะหยุดยุ่งย่ามกับเสื้อผ้าผม บัดนี้มันกลับกระชากเสื้อผ้าทุกชิ้นออกจากตัวของผมอย่างง่ายดาย



            ผมเป็นผู้ชายสูงโปร่งที่ไม่ได้มีแรงมากมายอะไร แล้วจะเอาอะไรไปผลักคนตรงหน้าที่สูงและหนาทึบกว่าผมมาก



            ผมมองอย่างไม่เชื่อสายตาของตัวเองเมื่อริมฝีปากหนาของคนที่เป็นเพื่อนสนิทของผมที่ไปไหนมาไหนด้วยกันกำลังจูบบดขยี้ริมฝีปากของผมที่กำลังสั่นระริกขึ้นมา ผมพยายามจะดิ้นออกแต่เขาก็ขบกัดริมฝีปากของผมไว้ ผมกัดปากจนปากของผมเลือดออกแต่ร่างสูงก็ไม่ยอมถอนจูบออก กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ฟุ้งเต็มปากของผม



            “อ๊ะ!!...” ผมสะดุ้งเฮือก...กับร่างกายของไอ้นนท์ตรงหน้าที่ปรากฏต่อสายตาของผม



            ไม่ใช่แค่ตัวของมันที่ใหญ่และหนากว่าผม...แต่ตรงไอ้นนท์น้อยของมัน....ก็ใหญ่กว่าผมมาก



            ชิบหายแล้ว...เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!





            ผมรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น...และผมก็เริ่มรู้สึกว่ามันรู้สึกดีมากกับสัมผัสตรงหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ เหมือนผมกำลังเมาไปพร้อมกับมันเลยแฮะ...ไอ้นนท์เลื่อนกายเข้ามาหาผมช้า ๆ มันกำลังโอบกอดผมภายใต้ร่างของมัน ทุกอย่างกำลังเริ่มปะทุคละคลุ้งไปด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความต้องการความปรารถนา ร้อนแรงจนไม่อาจลืม



            แปลกที่ผมไม่รังเกียจไอ้นนท์แต่กลับรู้สึกเจ็บปวดหัวใจราวกับจะแตกสลายตรงนี้ซะให้ได้...มันเมาและผมเชื่อว่ามันจำไม่ได้ จำไม่ได้ว่ามันกอดใคร เพราะมัน...เอ่ยชื่อที่ไม่ใช่ชื่อของผม แต่กลับเป็นชื่อของผู้หญิงคนล่าสุดที่มันเพิ่งเลิก....เหอะ กูทำไมไม่ต่อต้านมันวะ....แค่ไอ้นนท์กอดผมไว้ด้วยสองมือของมันกลับทำให้ผู้ชายแมนอย่างผมไขว่เขว



            มันเป็นเรื่องเหี้ย ๆ ที่หัวใจของผมโง่เอง....ผมเกลียดคนเจ้าชู้ ไม่รักจริง....



            ....แต่ผมกลับยอมให้คนแบบนั้นทำเรื่องอย่างว่ากับผมไปแล้ว.....



            ไอ้เสา...มึงมันง่ายชะมัดเลย...ผมบ่นให้ตัวเองในใจ...





            .........

            ........



            ผมดันตัวเองลุกขึ้นมองไอ้นนท์ที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ มันหลับลึกครับ ยิ่งถ้าเมาแล้วมันไม่ตื่นง่าย ๆ หรอก กว่าจะตื่นก็วันพรุ่งนี้นู่น...ผมมองผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่ รอยเลือดที่เปื้อนอยู่ทำเอาผมสะอึก...เชี่ยยย T_T แสบแปล๊บขึ้นมาทันที ผมก้าวลงจากเตียงเบา ๆ มองนาฬิกาที่มันตี 2 แล้ว ผมจะลุกขึ้นก็ต้องล้มลงข้างเตียง ความเจ็บปวดรวดร้าวเกิดขึ้น....ไอ้ห่าสัดนนท์!           ไอ้เหี้ย...เอวกู...ฮือออ...



            ผมกัดฟันคว้าเสื้อผ้ามาใส่อย่างลวก ๆ และคว้าชีทที่วางอยู่บนโต๊ะของไอ้นนท์ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องโดยที่ลืมดูว่าตัวเองลืมนาฬิกาไว้ตรงที่นอนของไอ้นนท์



            ....ก็แค่เมา แล้วเผลอมีอะไรกันมันก็ไม่เห็นมีอะไรต้องจำ ก็แค่ทำเป็นลืม ๆ ไปซะ....



            ผมบอกตัวเองในระหว่างที่เดินออกมาจากหอของไอ้นนท์ ผมบอกกับตัวเองไว้แล้วว่า ‘จะลืม’



            แต่ผมกลับไม่รู้เลยว่า...ชีวิตของผมต่อจากนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว.....



            ไม่เหมือนเดิม.....



            ..............

            ..............



            ผมตัดสินใจเลิกกับจีแล้วนะครับ น่าแปลกที่เธอเป็นคนมาขอเลิกเองและดันเป็นจังหวะที่ผมกำลังอยู่ในช่วงอ่อนแออยู่ด้วย....นี่มันปัญหาอะไรจะรุมเร้าขนาดนี้วะ จะว่าผมผูกพันกับจีไหมก็ผูกพันนะ คนมันอยู่ดูแลกันมาเกือบปีนิครับ ผมคบกับจีตั้งแต่ปี 1 ตอนเป็นดาวเดือนเหละ...เฮ้อ ถึงจะรู้ว่าเป็นการคบแบบมีเงื่อนไข แต่ยังไงจีก็คือเพื่อนผู้หญิงที่น่ารักที่สุดของผม เลิกกันก็แอบใจหายเหมือนกัน



            ผมลากไอ้ศิลาออกไปร้านโฮะร้านเหล้าประจำเพื่อดื่ม...แต่โลกแม่งดันกลมเจอกับไอ้ห่านนท์ได้  มันกำลังนัวเนียกับสาวเชียว...โคตรเหี้ย บอกเลยว่าผมรู้สึกไม่อยากมอง...ไม่อยากมอง....จนกำแก้วแตกคามือ เหอะ แก้วร้านนี้บางชิบ (ก็มึงกำเองนะครับไอ้เสา) แถมไอ้ศิลาดันไปทะเลาะกับน้องหมูว่าที่ผัวมันอีก ไม่รู้น้องมันโผล่มาจากไหน แต่ดันมาเจอตอนที่ผมดึงไอ้ศิลามากอดพอดี มันก็เลยเข้าใจผิด



            ....ผมเหี้ยใช่ไหม...ยอมผู้ชายไม่พอ ยังมาทำให้เพื่อนตัวเองทะเลาะกับว่าที่ผัวอีก



            เฮ้อ...ผมไปส่งไอ้ศิลาที่หอ มันทำหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดที่ไล่น้องหมูไป ผมว่ามันเมาด้วยแหละนะ บวกกับเห็นน้องผู้หญิงที่มาเกาะแกะไอ้น้องหมู คงทำให้อารมณ์ขึ้นชั่ววูบ ต่างคนต่างเถียง...อันนี้จากการเดาของผมอ่ะนะครับ (ในฐานะคนชอบเผือก โฮะ ๆ)



            ผมกลับมาหอของตัวเองด้วยความเหนื่อย...และยังแสบ ๆ ช่วงล่างชะมัด แต่เดาว่าอีกไม่กี่วันก็คงหายล่ะมั้งนะ ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะมองถุงเซเว่นที่ไอ้สัดนนท์มันซื้อมาฝากคราวก่อน ผมเห็นมันแขวนอยู่หน้าห้องผม...แสดงว่ามันมาที่หอของผมใช่ไหม



            ของทุกอย่างในถุงเซเว่นเป็นของกินที่ผมชอบทั้งหมด...แต่จะบอกว่าสิ่งที่หายไปของผมคือ นาฬิกาเรือนแพงที่แม่ซื้อให้ผม ผมดันลืมไว้ที่ห้องของไอ้นนท์ซะได้ แถมผมยังไม่กล้าไปถามเอาคืนตอนนี้ด้วย มันก็ไม่เห็นจะพูดอะไร...หรือผมลืมไว้ที่อื่นวะ



            ผมจะทิ้งตัวลงนอนก็สะดุ้งกับเสียงกดกริ่งหน้าห้อง (?) ใครมาวะ...ผมเดินไปส่องดูก่อนจะผงะออกจากประตู ก็คนที่อยู่หน้าห้องของผมคือ...ไอ้สัดนนท์!...มันไม่ได้ไปไหนกับสาวของมันต่อเหรอ



            “ไอ้สัดเสาอยู่ในห้องใช่ไหม” มันถามข้ามประตูเข้ามา “เปิดประตูให้กู”



            “ทำไมกูต้องเปิด ยามวิกาลแล้วเว้ย คนจะนอน”



            “ปกติกูก็เข้าห้องมึงบ่อย เปิด” ก็ตอนนี้มันไม่ปกติ....



            “วันนี้กูจะนอน..มีเชี่ยอะไรว่ามา” ผมยังยืนยันและแอบส่องไอ้นนท์ที่ยืนอยู่หน้าห้อง...เห็นหน้ามันแล้วแม่ง....ไม่สบอารมณ์กับตัวเอง



            “มือมึง...” ผมเงียหูฟัง...ทำไมพวกมึงไม่เปิดประตูคุยกันครับ...พวกห้องข้าง ๆ คงอยากจะตะโกนด่าพวกผมแบบนี้ กูจะไม่ยอมให้มันเข้ามาในห้องกูเด็ดขาด!



            “........”



            “เจ็บมากไหม กำแก้วหาอะไร” กำเพราะเห็นเหี้ย....เหอะ



            “ไม่เจ็บ มึงกลับไป ๆ จะมาพูดแค่นี้ใช่ไหม?”



            “มึงรู้ไหมว่าทำไมกูเลิกกับกุ๊ก” จู่ ๆ ไอ้นนท์ก็พูดขึ้น...กุ๊กก็แฟนคนล่าสุดที่มันเลิก...ที่มึงเรียกชื่อเขาแล้วพูดว่า กุ๊กนนท์ขอโทษนะ....เชี่ย กูจะไปจำทำไมวะ



            “ไม่รู้และก็ไม่อยากจะรู้”



            “แต่กูอยากบอก” โอเค กูพร้อมจะเสือก....ผมตะแคงหูฟังสิ่งที่ไอ้นนท์จะพูด ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมเลิก ทั้ง ๆ ที่ดูจะคบได้นานแท้



            “กูไม่รู้สึกอะไรกับเขา...” เหี้ย....มันแม่งเลว “นกเขากูไม่ขัน และไม่ได้รู้สึกอะไร กุ๊กเลยเลิกกับกู”



            ประโยคต่อมาทำให้ผมชะงักกึก... ฮ่า ๆ ไอ้สัดนนท์เสื่อมสมรรถภาพไปแล้ว...แต่เดี๋ยว...ทำไมมันใส่ผมไม่ยั้ง นั่นเรียกว่าไม่ขันเหรอ ไอ้ฟายยยย...เกือบทำกูน็อค....และผมก็ชะงักอีกรอบ





            “จนกระทั่งวันที่กูเมา....คนนั้นคือมึงใช่ไหม คนที่ทำให้กูรู้สึกได้มากขนาดนั้น



            นี่มันวันอะไรของกู....และไอ้นนท์จะมายืนพล่ามอะไรหน้าห้องของผมมมมมม



            “อะไร กูไปเอาชีทแล้วก็กลับ” นิ่งไว้เสา นิ่งไว้...



            “เหรอ แล้วผ้าปูที่มีเลือดล่ะ” ผมส่องดูหน้าไอ้นนท์ที่ยืนอยู่หน้าห้อง คำพูดของมันทำเอาคนที่เดินผ่านมองด้วยความสนใจ



            “แล้วกระดุมเสื้อช็อปของมึงที่หลุดอยู่หนึ่งเม็ดในห้องกูล่ะ” ไอ้นี่...อธิบายละเอียดยิบ



            “กระดุมคนอื่นรึเปล่า? อย่ามามั่วกับกูไอ้สัด” ผมว่า



            “ร่างกายมึงโอเครึเปล่า ทำไมไปกินเหล้าเยอะขนาดนั้นวะ” ไอ้สัดนนท์เหมือนไม่ได้ฟังคำที่ผมปฏิเสธสักนิด กลับถามอันอื่นมาแทน ไอ้ฟายยยย...



            “กูไม่ได้เป็นอะไร” ผมเหมือนได้ยินเสียงมันถอนหายใจ



            “เอาเถอะ กูซื้อชานมไข่มุกมาฝากอยู่หน้าห้อง มาเอาไปกินด้วย” เดี๋ยวนะครับ...ชานมไข่มุกตอนนี้? ผมเหลือบมองเวลาที่มันจะ 4 ทุ่มแล้ว เชรด...มันไปซื้อมาจากไหนวะ



            “เอามาทำไม”



            “มาเอาไปกินกูวางไว้ตรงนี้ กูกลับละ” ไอ้นนท์ว่า ผมแอบส่องดูมันว่าไปจริงป่ะวะ



            “อ้อ นาฬิกาของมึง...ไปเอาเองที่ห้องกู ถ้าอยากได้มันคืน เวลาไหนก็ได้แล้วแต่มึงสะดวก”



               “กูรอมึงตลอดอยู่แล้ว...” ไอ้นนท์พูดแค่นั้นและเดินออกไปจากหน้าห้องของผม





            เชี่ย...นาฬิกาลืมไว้ห้องไอ้สัดนนท์จริงด้วย แล้วทีนี้ผมจะไปเอายังไงล่ะ ยิ่งเป็นนาฬิกาที่แม่ซื้อให้เป็นของขวัญอยู่ ผมเขย่งเท้ามองลอดช่องเล็กของประตู พอเห็นว่าไม่มีใครยืนอยู่ก็แง้มประตูออกไปดูก็เจอแก้วชานมไข่มุกกับกล่องยาเล็ก ๆ ผมหยิบมาส่องดูกล่องยา



            ...มีพวกยาแก้ปวด กับพวกพลาสเตอร์และอุปกรณ์ทำแผลชุดเล็กแบบพกพา...



            มันซื้อมาให้ผมเหรอ...ก็ซื้อมาให้มึงแหละไอ้เสาก็มึงถืออยู่ ผมจะมาเถียงกับตัวเองทำบ้าอะไร



            ผมหยิบชานมขึ้นมาแล้วยิ้มเมื่อได้กลิ่นหอม ๆ ของชา....



            ผมยิ้มเพราะเห็นชานมไข่มุก ใช่ครับ...ยิ้มเพราะเห็นชาไข่มุก ผมจัดการเอาชานมไข่มุกไปแช่ไว้ในตู้เย็น ผมถ้ากินเข้าไปตอนนี้ได้ไปตีกับเหล้าที่ผมเพิ่งไปอาบ...เอ๊ย ไปดื่มมาแน่ ๆ









........................................+++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^

55555555555บอกเลยว่า นนท์ก็ไม่ธรรมดาาาาา ความเถื่อนของคณะวิศวะเเบบว่าไม่ธรรมดา ><  #เอาคู่รองมาคั่นให้น้องหมูไปพักหายใจเตรียมตัวไปเจอป๊าของพี่ศิลาค่ะ 5555555  :pig4: :pig4: :L1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 12| (22/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-04-2017 19:34:12
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 12| (22/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 22-04-2017 20:14:48
 :pig4: :hao7:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 12| (22/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 22-04-2017 22:03:34
ฮือออ นกเขาไม่ขัน  :laugh: จะสงสารก็สงสาร จะขำก็ขำ แล้วคือมาขันกับเสาคืออาร๊ายยย
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 11| (21/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 22-04-2017 22:49:11
 :-[
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 12| (22/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 23-04-2017 06:47:24
 :z1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 12| (22/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 23-04-2017 08:41:55
ถึงกับไม่ขันเลยเหรอเสา ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 12| (22/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 23-04-2017 10:55:49
โอ้นนน ตายแล้ววว ชอบเรื่องนี้ ชอบความเปิดเผยของนังหมูกรอบมากกก หมวยเล็กยังไงก็ไม่รอดอะ
ส่วนนนท์เสา ฟินแท้ ตัดไปรอบเดียว นนท์ถึงกับไปมีอะไรกับ ชะนีไม่ได้ เสาต้องไม่ธรรมดาแน่นวล
รอติดตามต่อง้าบบ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 13| (23/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 23-04-2017 19:36:06
ตอนที่ 13



          [พาร์ตของเสา]



            @ห้างสรรพสินค้า



          สองวันผ่านไปผมไม่เห็นไอ้นนท์เสนอหน้ามาให้ผมเห็นเลยสักนิดจนกระทั่งวันนี้เจอมันมานั่งอยู่คณะนี่แหละ ส่วนไอ้น้องหมูของไอ้ศิลาที่หายหน้าหายตาไปเหมือนกัน...เพื่อนผมก็ทำหน้าหง่อยโดยที่มันไม่รู้ตัวสักนิด เดี๋ยวกามเทพเสาช่วยเอง โฮะ ๆ รักเพื่อนส่งเสริมเพื่อนให้มีคู่ครอง (เสาสายชงรู้จักไหมครับ)



            ผมพาไอ้ศิลาไปปล่อยไว้หน้าโรงยิมเรียบร้อย เหอะ ๆ ตอนแรกจะอยู่เป็นเพื่อนมันแต่แม่กลับไลน์มาบอกให้ผมไปโอนเงินให้ซะงั้น ผมเลยปล่อยเพื่อนรักของผมไว้กับไอ้น้องหมูเรียบร้อย หวังว่ามันสองคนจะเคลียร์กันได้นะ พรุ่งนี้จะรอดูว่าผลจะออกมาเป็นยังไงบ้าง ผมมองหมายเลขในโทรศัพท์ที่จะโอนเงินเดี๋ยวนี้ดูแม่จะขยันซื้อเครื่องสำอางชะมัด ไม่รู้ขนซื้อคอลเลคชั่นไรเยอะแยะ...แต่ก็คงเป็นความสุขของแม่แหละครับ ผมไม่ขัดหรอก มีหน้าที่มาโอนให้ก็ทำตามคำสั่งไป...



            ผมโอนก็ไลน์ไปบอกแม่ รู้สึกหิวขึ้นมาชะมัด...และก็ต้องขมวดคิ้วกับแม่ที่ตอบกลับมา



            +แม่+ : เสาจ๋า...



            เวลาแม่พิมพ์อย่างนี้มาทีไร ผมว่าต้องมีเรื่องอะไรมาใช้ผมอีกแหง



            +แม่+ : อยากได้ลิปคอลเลคชั่นใหม่สีนี้อ่า...แต่ไม่รู้มันเบอร์ไหน ไปหาดูให้แม่หน่อยนะ อยู่ห้างใช่ไหม แม่จะใช้ไปงานวันพรุ่งนี้อ่ะ หาให้แม่ด้วยนะจ๊ะ รักเสาที่สุดดด...



            นั่นไงครับ...แม่ใช้ผมจริงด้วย แถมใช้ไปซื้อลิป อยากจะบ้า...ปกติจะให้จีพามาซื้อ แต่นี่ผมมาคนเดียว...หนีไม่พ้นที่จะต้องเดินเข้าร้านเครื่องสำอางใช่ไหม...



            ผมตอบตกลงกลับไปให้แม่ก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อย ผมรู้สึกว่ามีหลายสายตาของสาว ๆ บ้างมองมาที่ผม อ๋อ...ลืมว่าผมใช้ชุดนักศึกษาเต็มยศแถมยังเซ็ตผมมาอีก ก็วันนี้ไปดูน้อง ๆ ดาวเดือนมาอ่ะครับ ผู้หญิงมองไม่เท่าไหร่หรอก...แต่เชี่ยกว่าคือ มีสายตาผู้ชายมาเหลือบมองผมด้วย...เหี้ยยย ปกติไม่มีผู้ชายมามองผมนะ แต่ทำไมวันนี้มีวะ



            ผมเลยรีบเดินหนีไปที่ร้านเครื่องสำอาง แต่ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปแขนของผมก็โดนคว้าไว้ ว่าจะหันไปด่าก็ชะงัก...    ไอ้สัดนนท์ ไหนว่ามันกลับหอไง?



            “มึงมาทำอะไรที่นี่ ไอ้นนท์ไหนว่ากลับหอ” ผมถามและสะบัดแขนออกจากเขา แต่คำตอบที่ผมได้รับทำเอาชะงัก



            “แอบตามมึงมาไง”



            “ห๊ะ?”



            “บอกว่าแอบตามมึงมา กูยังไม่ได้กลับหอ รอมึงกับไอ้ศิลาอยู่ แต่เห็นมึงขับออกมาคนเดียวเลยขับตามมาด้วย” มันสาธยาย...ไอ้เชี่ย ตามกูทำไมครับ...



            “มึงจะมาตามกูทำไม” ผมบอกพร้อมกับหมุนตัวเดินเข้าไปในร้านวัตสันตรงโซนขายเครื่องสำอาง



            “ก็อยากรู้ว่าเสามาทำอะไรที่นี่...” หือ...ผมมองไอ้นนท์ที่ใช้น้ำเสียงละมุนแปลก ๆ



            “กูมาโอนเงิน” ผมตอบพลางเปิดดูไลน์หาลิปสีที่แม่บอก ลำบากผมจริง ๆ จะไปรู้ไหมวะว่าอันไหน ไม่เคยใช้ลิปโว้ย...



            “จ้องหน้ากูทำไม กลับไปได้แล้ว เกะกะ”



            “มึงจะซื้อเครื่องสำอางเหรอ” เขาถาม ก็มีตาไหมครับไอ้สัดนนท์ ก็เห็นอยู่ว่าใช่....ผมไม่ได้ตอบแต่ก็ต้องเอามือเท้าเอวมองไอ้นนท์ที่ยืนขวางผมอยู่



            “งั้นกูจะรอกลับพร้อมมึงละกัน” เขาว่า



            “มึงจะอยู่รอใช่มะ...ดี งั้นกูยืมแขนหน่อย” ผมบอก ไอ้นนท์ทำท่างงเล็กน้อยแต่แปลกที่มันยอมยื่นแขนมาให้ผมง่าย ๆ ...หึหึ ผมเปิดลิปและลองลงแขนของไอ้นนท์



            “เฮ้ย อะไรวะเอามาลองแขน...มึงลองเหอะ ถ้าอยากจะลอง” ตอนแรกมันจะโวยวายแต่พอมันมองหน้าของผมปั๊ป     ไอ้นนท์ก็เงียบไปทันที



            “ต้องลองกี่สีเหรอ” ไอ้นนท์ถามขึ้นเมื่อเห็นผมลองลิปไปประมาณ 10 กว่าแท่งละ มันหยิบสีออกชมพูอ่อนมาเทียบกับริมฝีปากของผม...ไอ้เหี้ยจะเอามาเทียบทำไม



            “เข้ากับมึงเลยว่ะ สีนี้” จู่ ๆ ไอ้นี่ก็พูดขึ้นทำเอาพนักงานที่ยืนคุมเครื่องสำอางอยู่ไกล ๆ มองตาปริบ ๆ ส่วนพี่กระเทยอีกมุมก็เหมือนจะกรี๊ดไอ้นนท์



            “ดูสิแก...ฉันเขิน ผู้ชายหล่อเข้มกับผู้ชายสวย...” ไอ้ผู้ชายเข้มคงจะหนีไม่พ้นไอ้นนท์แต่เดี๋ยวนะครับ...หน้าสวย       มันไม่ใช่ผมเว้ย ผมหล่อ...เป็นรองเดือนเชียวนะ!! (ความขี้อวดนี้ท่านได้มาแต่ใด)



            ดูไอ้นนท์จะพอใจมากที่เจ้กระเทยพูด ไม่รู้ว่าพอใจที่เขาชมมันว่าหล่อหรือพอใจที่คนอื่นหาว่าผมสวย



            “ยิ้มห่าอะไรของมึงวะ” ผมด่ามันเข้าให้ แต่หน้าด้านอย่างมันไม่สะทกสะท้านหรอก...





            กว่าผมจะหาสีของลิปที่แม่ต้องการเจอก็ปาไปเกือบ 15 แท่งที่ลองใส่แขนของไอ้นนท์ เห็นแล้วอยากจะหัวเราะลิปที่ขีดเป็นทางเต็มแขนมันเลยล่ะครับ อยากถ่ายรูปเก็บไว้ล้อมันจริง ๆ



            ผมเอาลิปสีที่แม่ต้องการไปจ่ายเงินก่อนจะขมวดคิ้วกับไอ้ลิปสีชมพูอีกอันที่ไอ้นนท์เอามาคิดเงินด้วย แถมมันยังจ่ายเงินแบงค์พันรวมกับผมด้วย เหอะ...จะซื้อไปให้สาวของมึงล่ะสิ



            “อะไรของมึงกูจ่ายเอง” ผมว่า พนักงานที่คิดเงินอยู่เลยชะงัก



            “คิดไปเลยครับน้องจ่ายรวมกับของพี่นี่แหละ” ไอ้นนท์ไม่ได้ฟังผมสักนิด มันจ่ายเงินและยื่นถุงลิปให้ผม



            “เอาแค่ลิปของแม่กูมาก็พอ ส่วนอีกอันมึงเอาไป”



            “กูซื้อให้มึงหมด สีชมพูนั่นของมึง” สิ่งที่มันพูดออกมาทำให้เลิกคิ้ว...ซื้อให้ผม? เชี่ย นั่นมันลิปชมพูอ่อน กูเป็นผู้ชายครับ ไม่ทาลิป



            “กูไม่เอา”



            “จะเอาดี ๆ ไหม” มันถามย้ำ ผมยังคงไม่รับก่อนจะหันขวับไปฟังสิ่งที่มันพูด



            “อยากให้กูจูบโชว์ตรงนี้ก็เชิญ” ผมชะงักกับเสียงขู่ เหี้ย! มาขู่กูทำบ้าอะไร...คิดว่ากูกลัวเหรอ!!



            ...จูบพ่องไร....



            “มึงไม่กล้า...เอามานี่! กูเอาก็ได้ สัดนนท์เหี้ย!” ผมมองแววตาเข้มที่ดูจะทำจริงแน่ ๆ ผมเลยคว้าถุงมาและเดินหนีมันออกไปนอกร้าน ไอ้นนท์ก็เดินตามผมมาติด ๆ



            “จะไปไหนต่อเหรอ”



            “เรื่องของกู” ผมยังเดินดุ่ม ๆ หนี สาวแม่งก็ชายตามองไอ้นนท์กันเป็นแถบ มองผมด้วย แต่น่าจะมองไปที่ไอ้นนท์เป็นส่วนใหญ่



            หมั่นไส้และไม่สบอารมณ์อย่างแรง!



            “กินข้าวไหม ไหน ๆ ก็มาแล้ว” ไอ้นนท์ยังคงเดินตามมาติด ๆ ...จะเดินตามผมทำไม จะไปไหนก็ไปสิวะ! ไม่อยากพูดด้วย!!



            “กูไม่หิว” ผมตอบพร้อมกับท้องไม่รักดีที่ดัง โครก...กูหิวครับ...ไอ้นนท์กระตุกยิ้ม



            “ปากมึงบอกไม่ แต่ท้องมันโกหกไม่ได้หรอกนะ มาเหอะ กูเลี้ยงก็ได้” ไอ้นนท์ว่า คิดว่าผมจะสนใจของฟรีเหรอ      ทำเป็นอวดรวย...แต่มันก็ถือว่ารวยอยู่เหมือนกันครับ บ้านไอ้นนท์มันเปิดร้านทองหลายสาขาเชียวล่ะ ลูกคนรวยมีเงินระดับหรู



            “เออ ก็ได้ กูหิวเฉย ๆ หรอก” ผมกับไอ้นนท์เดินเข้ามาในร้านพิซซ่า ปกติผมเองก็มาทานข้าวด้วยกันกับไอ้นนท์บ่อยนะครับ...แต่ครั้งนี้มันดูแปลกกว่าทุกที ก็หลังจากที่เกิดเรื่องวันนั้นใครมันจะไปเหมือนเดิมได้วะ แต่ผมกับมันก็ยังไม่ได้คุยอะไรกันเรื่องนี้อีกเลย ผมว่าจะแกล้งลืม ๆ ไปซะ



            ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่ประโยคที่ไอ้นนท์เอ่ยต่อไปทำให้คนที่อยู่ในร้านพิซซ่าหันขวับมาหาพวกผม



            “ร่างกายของมึงตรงนั้นโอเครึยัง” ตรงนั้น...มันคิดได้หลายอย่างนะเว้ย! แล้วดูมันถามด้วยน้ำเสียงแบบเหมือนห่วงเมีย....เหี้ย เมียเชี่ยอะไรของมึงครับไอ้เสา...



            “กูหิว จะสั่งอาหาร” ผมเลี่ยงและรับเมนูมาจากพนักงานผู้ชายที่ยืนมองผมตาปริบ ๆ ผมเองก็ไม่ได้สนใจรอยยิ้มของพนักงานผู้ชายที่มองมาที่ผม



            “อะแฮ่ม ๆ!” ไอ้นนท์จู่ ๆ ก็ทำเสียงไอออกมาทำให้พนักงานที่มองหน้าผมอยู่สะดุ้ง ส่วนผมก็ขมวดคิ้ว



            “อะไรติดคอมึงไม่ทราบ? จะกินอะไรสั่งดิ” ผมบอกด้วยความรู้สึกหิว



            “มึงสั่งเลย รู้ใจกูไม่ใช่เหรอ” ผมเงยหน้ามองไอ้นนท์ที่มองพนักงานผู้ชายอยู่ หน้ามันเหมือนจะไปหาเรื่องเขาเลยแฮะ ไอ้นี่ กูจะมากินพิซซ่าไม่ได้พามึงมาตีกับใครนะเว้ย



            ผมชี้ ๆ เมนูที่ไอ้นนท์มันกินได้...จะว่าไปผมก็รู้นั่นแหละว่ามันชอบกินอะไรบ้าง ก็เป็นเพื่อนกันนี่...



            “เสา” ระหว่างที่ผมดื่มน้ำโค้กรอพิซซ่าถาดใหญ่มาเสิร์ฟไอ้นนท์ก็เรียกชื่อของผมด้วยน้ำเสียงละมุน



            ...กูขนลุก...จริง ๆ รู้สึกแปลกมากกว่า ทำไมต้องพูดละมุนวะ



            “อะไร...” ผมเหลือบมองโทรศัพท์ของมันที่เลื่อนมาตรงหน้าผม



            “กูลบเบอร์ผู้หญิงทุกคนออกหมดแล้ว” ประโยคที่ออกมาจากปากไอ้นนท์ทำเอาผมงง...มึงจะลบเบอร์ผู้หญิงแล้วมาเกี่ยวอะไรกับกู?...เอ๊ะ ว่าไงนะ ลบเบอร์ผู้หญิงออกหมดแล้ว (?)



            ผมมองในจอก็พบว่ามันจริง...แถมยังเหลือแค่เบอร์ผมที่อยู่บนสุด รองลงมาก็ไอ้ศิลา และก็ครอบครัวของมันอีกสองสามเบอร์...



            และที่พีคไปกว่านั้นคือ...การเมมเบอร์ชื่อของไอ้เหี้ยนนท์...มันเมมชื่อของผมว่า +เสาของนนท์+



            เหี้ยยย....ไอ้เหี้ยมันกล้าดียังไงเมมแบบนั้นวะ!



            “อย่าเพิ่งด่านะ กูอยากพูดให้ชัด ๆ ว่ะ” ไอ้นนท์ยกมือห้ามผมที่กำลังจะพ่นคำด่าใส่มัน



            “พูดอะไรชัด ๆ กูกับมึงไม่มีอะไรจะพูด” มึงหุบปากเดี๋ยวนี้ไอ้นนท์....



            “เสาก็รู้ความจริงอยู่แก่ใจนี่ ว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น” ผมชะงัก มันจะเอาเรื่องนี้มาพูดกลางที่คนเยอะ ๆ ทำไมวะ...ถึงแม้จะไม่มีใครรู้แต่ผมก็รู้ไง...เออ อย่างที่ไอ้นนท์มันพูดแหละ ผมรู้ความจริงอยู่แก่ใจ



            ...แต่กูไม่ยอมรับไงครับ ไอ้ฟาย!...



            “เกิดอะไร?” ผมไม่สนใจพลางเหลือบสายตาไปทางอื่นไม่มองสบตากับไอ้สัดนนท์ที่จ้องผมอย่างเอาจริงเอาจัง



            “มึงไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร กูเข้าใจว่าตอนนี้มึงยังช็อกกับเรื่องที่เกิดขึ้น...แต่สำหรับกู กูดีใจนะที่คืนนั้น คน ๆ นั้นคือ มึง...” ผมกำมือแน่น...



            “และกูก็อยากบอกให้มึงรู้ไว้ว่า คืนนั้นมันทำให้กูเข้าใจอะไรชัดเจนขึ้น และกระจ่างขึ้นว่าที่ผ่านมา กูรู้สึกยังไงกับมึง....”



            อยากจะหลบมุดโต๊ะหนีไปจากตรงนี้ซะให้ได้...ไอ้นนท์มันจะมาพูดเรื่องบ้าบอชวนให้ผมสติแตกทำไมตอนนี้ คนที่อยู่ใกล้เราพากันมองตาปริบ ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นในบทสนทนาที่ดูมีความหมายแฝงของไอ้นนท์





            ผมไม่ได้ตอบอะไรมัน ส่วนมันก็ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น...เรานั่งกินพิซซ่ากันเงียบ ๆ เหมือนต้องการจะคิดทบทวนอะไรไปด้วย ผมไม่รู้ว่าไอ้นนท์มันคิดอะไรไปด้วยรึเปล่า แต่สำหรับผม...ผมไม่คิดครับ เพราะกินอย่างเดียว (เป็นคนตะกละได้อีกไอ้เสาเอ๊ย) ก็ไม่อยากจะคิดให้มันปวดหัวตอนนี้ไง



            แทนที่มันจะลืม ๆ ไปซะ...พูดเหมือนง่ายแต่ทำยาก บอกตรง ๆ ว่าจริง ๆ ....ผมก็ยังไม่ลืมสัมผัสของมัน เหอะ น่าอายจริง ดันไปจดจำสัมผัสจากไอ้ห่านนท์มันซะได้...



            ผมด่ามันในใจปั๊ปไอ้นนท์ก็จามออกมาทันที ฮ่า ๆ! สมน้ำหน้า...และผมก็จามออกมาเหมือนกัน  ไอ้สัดนนท์ต้องนินทาผมอยู่ในใจแน่ ๆ ก็ดูมันยิ้มสิ!!





            ................

            .................





            หลังจากที่กินพิซซ่าจนอิ่มแปล้โดยที่เงินในกระเป๋าของผมอยู่ครบ โฮะ ๆ (ไอ้นนท์มันเลี้ยง) ผมกับมันกำลังจะเดินออกมาจากห้าง ผมเลยแยกกับไอ้นนท์ตรงนั้นแหละ ระหว่างที่ขับรถกลับมาหอของตัวเอง ผมก็เหลือบไปเห็นรถคุ้นตา...รถไอ้สัดนนท์! ผมจอดรถตรงหอของตัวเองก่อนจะเดินลงมาจากรถเตรียมจะว๊ากใส่ไอ้นนท์เต็มที่



            ผมมองมันที่ลงจากรถมาเหมือนกัน บรรยากาศเหมือนฝนกำลังจะตกชะมัด...



            “มึงตามกูมาทำไม?” ผมถามเรียบ ๆ



            “แค่อยากรู้ว่าเสาถึงหอแล้ว เป็นห่วง” ไอ้เชี่ย...



            “ทำไมต้องมาห่วง กลับไปได้แล้ว” ผมไล่อย่างสับสนเมื่อไอ้นนท์จู่ ๆ ก็ยื่นมือมาจับมือของผมไว้



            “ไอ้เหี้ยนนท์! ปล่อย”



            “เออ กูยอมรับว่ากูเหี้ย...แต่เหี้ยมันก็รักจริงเป็นนะ” ผมจะสะบัดมือออกก็เหวอไป



            พล่ามอะไรของมึงไอ้นนท์!



            “ก็เรื่องของมึงสิ”



            “เสา กูเอาจริงนะ”



            “ห๊ะ?”



            “เรื่องของมึงกูเอาจริงนะ” เชี่ย...กูว่าสถานการณ์มันแปลก ๆ แล้วล่ะ ลุงยามหน้าหอเริ่มมองพวกเราด้วยความสงสัย ผมเลยรีบลากไอ้นนท์เข้ามาในหอเพื่อขึ้นห้องผม มันก็ยอมให้ผมลากมาอย่างไม่โต้แย้งใดใด ผมว่าคงต้องเคลียร์กับไอ้นนท์แบบจริงจังสักทีแล้วล่ะ





            “เอาล่ะ...ตกลงมึงต้องการอะไรจากกูกันแน่!” ผมพามันเข้ามาในห้องของตัวเองเรียบร้อยและกอดอกยืนมองมันที่ยืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์ห้องครัว ยืนอยู่ตรงนั้นไปนั่นแหละ!



            “ก็เรื่องวันนั้น...” มันจะฝังใจกับคืนนั้นอะไรนักหนาวะ!...จริง ๆ กูก็ไม่ลืมเหมือนกัน เหี้ยจริง



            “ทำไม? เออคืนนั้นกูกับมึงเอากัน แล้วไง? ก็แค่มึงเมาจะคิดไรมาก ก็จบ ๆ ไปสิ” ผมยอมรับอย่างเหลืออด เริ่มรำคาญ...รำคาญใจของตัวเอง



            “กูจบไม่ได้..” ไอ้นนท์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เพราะเป็นเสา กูถึงจบไม่ได้...”



            ....เพราะเป็นกูแล้วทำไม....



            “มึงรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับกูบ้าง ตอนที่กูกอดมึงไปแล้ว” กูจะไปรู้ไหมล่ะ...ผมยืนฟังที่ไอ้นนท์พูดนิ่ง ๆ



            “มึงทำให้กูมองมึงเปลี่ยนไป มึงทำให้กูรู้ว่า...มึงมันแม่ง น่ารักโคตร ๆ” ไอ้นนท์เหมือนระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมา...คำว่า น่ารักโคตร ๆ ของมัน ทำไมผมต้องเหวอด้วย...



            “มึงว่ามันแปลกไหมที่กูชอบ เวลามึงด่ากู เสียงของมึงแม่ง...ทำให้กูมีความสุขมาก” ไอ้สัดนนท์โรคจิตได้อีก....



            ....กูก็ชอบด่ามึงนะ สะใจดี....(นี่ก็โรคจิตไม่ต่างกันครับไอ้เสา)



            “แปลก...” ผมตอบ ไอ้นนท์ก็ยิ้มออกมา ปกติก็เห็นยิ้มมันบ่อยจนชินนะ ยิ้มที่สาวพากันกรี๊ด พากันหลง ผมก็ไม่เห็นรู้สึกอะไรแต่ตอนนี้...ทำไมกูต้องมองยิ้มมันอึ้ง ๆ



            “กูเปลี่ยนแฟนบ่อย กูเจ้าชู้....กูรู้” เออ...ผมก็รู้ แม่ง...เปลี่ยนแฟนบ่อยกว่าเปลี่ยนกางเกงในอีกมันอ่ะ (เปรียบเทียบซะเห็นภาพ)



              “แต่กูก็จะหยุดทุกอย่าง...เพื่อมึง”



            “หา? อะไรนะ”



            “กูจะจีบมึง”



            “อ๋อ...ห๊ะ เหี้ย!!” ผมพยักหน้าก่อนจะตาโต “มึงว่าอะไรนะไอ้สัด!”



            “กูบอกว่าจะจีบมึง”



            “จีบเหี้ยไร! กูเพื่อนมึงนะ” ไม่นะเว้ย...อะไรของไอ้สัดนนท์มัน



            “เพื่อนกัน เอากันเหรอ” จึก...เหมือนโดนไม้หน้าสามฟาดหน้า...เออ กูพลาดเอง



            “ไอ้เหี้ย!! ออกไปจากห้องกู!” ผมผลักไอ้นนท์ที่ยืนอยู่ออกไปจากห้องโดนด่วน แต่มันก็คว้าข้อมือของผมเอาไว้...เชี่ยมาก ผมมีแรงสู้ไอ้เชี่ยนี่ไม่ได้



            “รับรู้แล้วนะว่ากูพูดอะไร”



            “กูไม่รับ ไม่รู้!!”  ผมบิดข้อมือของตัวเองออกจาการจับกุม “ปล่อยสิวะ”



            “กูเชื่อว่ามึงเองก็ไม่ลืมสัมผัสของกูเหมือนกัน” เหี้ยยยย!! ไปเอาความมั่นใจของมึงมาจากขุมไหน ผมชะงักกึกเมื่อใบหน้าคมก้มลงมาใกล้ผม



            “ไอ้ห่า!! ไอ้สัด ไอ้เหี้ย!!” ผมดิ้น



            “ด่าไปเหอะ กูยินดีให้มึงด่าได้เต็มที่”



            “เหี้ย!!”



            “เพราะต่อจากนี้กูจะทำให้มึงยอมเป็นเมียกูให้ได้”



            “เหี้ยยย!!” แรงบีบมือของมันแรงขึ้น



            “กูจะเลี้ยงมึงทุกอย่าง”



            “.......” ผมยังบิดข้อมือของผมออกจากมัน



            “กูจะซื้อชานมไข่มุกมาถวายมึงทุกวัน...” ไอ้สัด กูไม่ได้เห็นแก่กินอย่าเอามาล่อ!



            “........”



            “ไม่กินเหรอ ของฟรีนะ”



            “..........”



            “ร้านมิมิ ไข่มุกชาแท้ด้วย..” ร้านโปรดผมเลยว่ะ แก้วละตั้ง 50 บาท...แต่ผมก็ไปซื้อกินบ่อยอยู่ดี



            “ใส่ไข่มุกด้วย” ผมเผลอตอบ เหี้ย...ไอ้เสามึงจะแพ้ทางของกินไม่ได้นะเฟ้ย...



            “อือ ใส่ให้แบบพิเศษไปเลย” ไอ้นนท์ทำท่าใจป้ำ



            “...............”



            “ตกลงแล้วนะ” มันกระซิบ ผมมองงง ๆ ตกลงเชี่ยไร!



            “หา?”



            “ตกลงจะคบกัน” กูพูดตอนไหนฟายยยยยย....



            “คบเหี้ยไร! กูบอกจะกินแค่ชานมไข่มุก” ก็มึงพูดเองจะซื้อชานมให้กู!!



            “ก็คบกับเหี้ยได้กินชานมไข่มุกทุกวันนะ”



            “ไม่โว้ย!! ไอ้สัดนนท์ปล่อยกู” ผมดิ้นออกจากมันจนได้ อันที่จริงมันปล่อยต่างหาก



             “กูไม่คบกับมึงจบนะ อย่าวุ่นวายกับกู”



            “ไม่อ่ะ กูเหี้ยกูเลยไม่ฟัง...” อ้าวไอ้สัด...ด่าตัวเองก็เป็น



            “เรื่องของมึง”



            “เสา กูจะซื้อชานมไข่มุกมาฝากทุกวันนะ จนกว่ามึงจะใจอ่อนให้กู...” ไอ้นนท์พูดทิ้งท้ายไว้ด้วยรอยยิ้มกระชากใจสาว...กูไม่เห็นจะชอบมันสักนิด ไอ้รอยยิ้มที่แจกสาว ๆ ไปทั่ว!ผมยกเท้าจะถีบมันทีเล่นทีจริงเรียกเสียงหัวเราะจากไอ้นนท์ที่เดินออกไปจากห้องของผม





            ...กูจะไม่ใจอ่อนให้มึงหรอกไอ้สัดนนท์เอ๊ย ผมจะได้กินชานมไข่มุกฟรีทุกวัน โฮะ ๆ...กำไรผมเห็น ๆ



            ...มันจะเป็นกำไรของผม หรือของไอ้นนท์กันแน่วะ...อันนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจ





          [จบพาร์ตของเสา]







.....................................+++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^

#คู่นี้พอหอมปากหอมคอไปก่อน เดี๋ยวเอามาเเทรกความฟินต่อออ >> ตอนต่อไปจะกลับไปหาน้องหมูกับพ่ี่ศิลาเเล้วค่าา ^^

+++  ทำไมไรท์รู้สึกอย่างกินชานมไข่มุกขึ้นมาาาา 555555555555 เสามีชานมกินทุกวันเลยยยย  :pig4: :L1: :กอด1: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 13| (23/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ModSii ที่ 23-04-2017 19:51:11
 :mew1: น่ารักทั้ง 2 คู่เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 13| (23/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 23-04-2017 19:56:44
พาร์ตเสาน่ารักมากๆๆๆๆๆชอบๆๆแต่ในใจก็ยังมีนาย..หมูกับศิลาอยู่นะ5555
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 13| (23/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 23-04-2017 21:02:56
 :impress2:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 13| (23/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 23-04-2017 22:46:09
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 13| (23/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-04-2017 23:02:44
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 13| (23/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: wasu ที่ 23-04-2017 23:53:09
รักคู่นี้ น่ารักกกกกก
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 13| (23/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 24-04-2017 00:00:27
 o13 คู่นี้ก็น่าร้กค่ะ...ชอบ :mew1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 13| (23/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 24-04-2017 00:42:16
 :laugh:




มนต์รักชานมใข่มุก
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 13| (23/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-04-2017 13:24:45
 :L2: :pig4:


เสาน่ารักกก แบบไม่รู้ตัวดิ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 14| (24/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 24-04-2017 19:58:56
ตอนที่ 14



            [พาร์ตของศิลา]



            บรรยากาศบนรถเงียบโคตร ๆ ...ไอ้หมูมารับผมตั้งแต่เช้า นี่ผมว่าจะโทรบอกไอ้เสาซะหน่อยแต่แม่งปิดเครื่องหายไปไหนตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่รู้ ผมเลยโทรหาไอ้นนท์แทนก็เลยรู้ว่าไอ้เสาไข้ขึ้นครับ...นี่ก็กำลังงงว่าคนอย่างไอ้เสาเนี่ยนะเป็นไข้ ปกติเห็นมันตากฝนก็ไม่เห็นกระหม่อมมันจะบางขนาดนั้น แต่ก็คงไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมันมาก มันมีไอ้นนท์ดูแลอยู่ เหอะ ๆ ...เดี๋ยวผมจะเอาไว้ไปล้อไอ้เสา...โทษฐานชอบล้อผมกับไอ้หมูดีนัก (มีความพาลเพื่อน)



            หมูที่ขับรถไปสักพักก็เหลือบมามองผมเป็นระยะ ๆ ก่อนมันจะเปิดปากทำลายความเงียบ



            “พี่ศิลา เดี๋ยวเราแวะปั้มกันไหม ซื้อขนมมากิน” ไอ้หมูว่า ผมเลยไม่ได้คัดค้านอะไร มันเป็นเด็กน้อยรึไงครับ ถึงต้องมีขนมมากินตามทาง



            ผมกับไอ้หมูมาถึงปั้ม หมูมันก็เช็คลมยางของรถมัน ส่วนผมก็เข้าไปซื้อขนมในเซเว่น ผมออกมาพร้อมกับขนมถุงใหญ่...กูจะซื้อมาเยอะทำไมยังงงตัวเอง ประเด็นคือไม่รู้ว่าไอ้หมูมันชอบอะไรไง...เออ จะว่าไปผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันมากเลยแฮะ...แบบว่าคนรู้จักกันก็ต้องรู้ประวัติหน่อยใช่ไหมล่ะ...



            หมูเห็นผมเดินกลับมาก็ยิ้มและช่วยผมถือของขึ้นรถ ไอ้หมูขับรถต่อไปที่บ้านของผมที่อยู่ห่างออกไปสักหน่อย ก็ไม่ถือว่าไกลมากนัก...



            “นี่ ไอ้หมูกรอบ” ผมแกะเลย์มาเคี้ยวกินตุ้ย ๆ



            “ครับ?”



            “บ้านมึงทำกิจการอะไรเหรอ” ผมถาม ไอ้หมูยิ้มกว้างเหมือนดีใจที่ผมถาม ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมผมรู้ หน้าไอ้หมูมันแสดงออกมาทุกอย่างเลยล่ะ...ไอ้เชี่ย กูก็แค่ถามดูไม่ให้บรรยากาศมันเงียบ....



            “ดีใจจังที่พี่ถามเรื่องของผม...” ผมเหลือบตามองมันดุ ๆ ไอ้หมูก็หัวเราะ “แม่ของผมอยู่บ้านเป็นแม่บ้านรอผมกับพ่อกลับบ้านครับ พ่อของผมเป็นประธานธนาคาร YOU ครับ” ผมตาโต...เชรด ธนาคาร YOU ที่มีเงินคลังเยอะที่สุดติดอันดับที่สองน่ะเหรอ...ผมเพิ่งรู้ว่าไอ้หมูมันเป็นลูกเจ้าของธนาคารดัง!!



            “พี่ศิลาครับ ขนมจะหลุดจากมือแล้ว” ก็กำลังอึ้งอยู่...ผมหยิบมากินต่อ



            “สมแล้วล่ะ ดูจากหน้ามึงแล้ว น่าจะมาจากตระกูลดัง...” ผมว่า หมูยิ้ม



            “ครับ ที่ดังน่ะ มันเป็นของที่พ่อผมสร้างไว้...ถ้าพูดถึงตัวของผมตอนนี้ ก็ยังเป็นผู้ชายธรรมดาอยู่เลย” ไอ้ถ่อมตัว...   แต่ก็ยอมรับแหละครับว่า ไอ้หมูมันก็มีคุณสมบัติดีอยู่ในตัวหลายอย่าง ถึงแม้ผมจะเพิ่งรู้จักกับมันไม่นาน...ทั้งหน้าตาดี โปรไฟล์โอเค ฉลาด นิสัยก็ดี แถมบ้านรวยอีก จนมันคว้าตำแหน่งเดือนมหาลัยมายังไงล่ะ...



            “มึงบอกว่าแอบมองกูใช่ไหม แสดงว่ามึงก็คงรู้ว่าครอบครัวกูทำอะไร” ผมถาม ไอ้หมูก็เลยเหลือบมามองผมยิ้ม ๆ ...ยิ้มบ่อยไปไหมวะ หุบบ้างก็ได้หน้าจะบานหมดแล้วไอ้หมูกรอบ!



            “รู้ครับ ครอบครัวพี่ศิลาขายพวกของตกแต่งบ้านรายใหญ่ แถมส่งออกต่างประเทศด้วย พี่ศิลามีพี่ชายสองคน พี่ศิลาเป็นน้องชายคนเล็ก และเป็นหมวยเล็กประจำบ้าน” ไอ้หมูอธิบายละเอียดยิบ เชี่ย      ผมว่ามันรู้ดีกว่าผมรู้ตัวเองอีกอ่ะ...       รู้เยอะมาก



            “มึงรู้เยอะเนอะ” ผมว่า ก่อนจะได้ยินเสียงเบา ๆ จนผมไม่ได้ยิน ไอ้หมูที่เหมือนหลุดปากพูดออกมา



            “ก็ถามเฮียใหญ่มา...”



            “มึงว่าอะไรนะ?” ผมหันขวับไปหามันที่ทำท่าสะดุ้งเล็กน้อย



            “อ๋อ...เออ ก็ผมแอบมองพี่ศิลามาหลายปีไงครับ ก็เลยรู้เยอะ....” มันยิ้มแห้ง ๆ ให้ผม



            “ทำตัวเป็นโรคจิตดีนะมึงเนี่ย...” ผมพูดแค่นั้น ไอ้หมูก็ได้แต่ยิ้มแบบภูมิใจ...เออ คือ มึงยอมรับใช่ไหมว่ามึงเป็นโรคจิต...





            ผมกับไอ้หมูไม่ได้พูดอะไรกันมากจนพวกเรามาถึงบ้านของผมนี่แหละครับ ถือว่าไอ้หมูมันขับรถเร็วพอสมควร ผมมาถึงบ้านประมาณบ่ายโมง ไอ้หมูจอดรถหน้าบ้านของผม พวกเราลงไปจากรถ ไอ้หมูเปิดหลังรถของมันจะหยิบกระเป๋าของผม ผมเลยคว้าไว้



            “เดี๋ยวผมถือให้พี่ศิลาเอง..” ไอ้เชี่ยกูไม่ใช่ผู้หญิง ผมแย่งเป้มาหิ้วไว้เอง



            “ไม่ต้อง กูถือเองได้” ไอ้หมูทำท่าจะไม่ยอม นี่จะมายืนเถียงกันหน้าบ้านทำไมวะ....ก่อนเสียงเข้มจะเรียกความสนใจของผมกับไอ้หมู



            “เฮ้ย หมวยเล็กของเฮียยย....กลับมาละเหรอ ใครมาส่ง...ไอ้” ผมหันไปมองเฮียใหญ่ที่เดินออกมาแล้วชี้หน้าไอ้หมูอึ้ง ๆ ส่วนไอ้คนที่ยืนข้างผมก็ส่ายหน้ารัว...มึงจะส่ายหน้าทำไมไอ้หมู?



            “ออ เออ ไอ้...ไอ้นี่ใครหมวยเล็ก เฮียรึว่าเสาจะมาส่งซะอีก” เฮียใหญ่ทำหน้าเข้มถาม ปกติเวลาผมกลับบ้านถ้าป๊าไม่ไปรับเอง ไอ้เสาก็จะมาส่งครับ



            “อ๋อ ไอ้นี่รุ่นน้องผมอ่ะเฮียใหญ่ ส่วนไอ้เสามันไม่สบายเลยไม่ได้มาส่ง ป๊ากับม๊าล่ะ...” ผมถาม เฮียใหญ่ก็เข้ามาหิ้วเป้ช่วยผม...นั่นไงครับ ชอบคิดว่าผมแบกไม่ได้ ไอ้หมูยกมือไหว้เฮียของผม



            “เฮียใหญ่หมวยเล็กถือเองได้” ผมปฏิเสธเฮียเหมือนตอนไอ้หมูจะมาขอช่วยถือ แต่เฮียใหญ่ของผมเด็ดขาดแย่งกระเป๋าจากผมไปถือไว้เฉยเลย



            “ไม่ได้ เอามาเลยหมวยเล็กเข้าบ้านไปหาป๊าไป...มึงก็เดินตามเข้าไปละกัน” ผมมองไอ้หมูที่ทำหน้าเหงื่อตกนิดหน่อย เป็นอะไรของมันอีก ร้อนเหรอ? ผมพยักหน้าให้เฮียใหญ่และลากไอ้หมูที่ยืนเกร็งอยู่ต่อหน้าเฮียของผมเข้าไปในบ้าน



            “เวลาพี่ศิลาเรียกตัวเองว่า หมวยเล็กน่ารักจังครับ...” ไอ้หมูกระซิบทำให้ผมชะงัก...เออว่ะ ลืมตัว ปกติผมก็เรียกแทนตัวเองว่า หมวยเล็กแหละครับ เรียกตามที่คนในบ้านเรียกประจำ



            “อย่าพูดมาก” ผมดุ เดินก้าวเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ก็ได้ยินเสียงของม๊าที่ดังลอดออกมาจากห้องรับแขก



            “ป๊า ขนปืนออกมาทำไมเยอะแยะ” ไอ้หมูที่เดินตามผมมาสะดุ้งด้วยแหละ (?)



            “ก็แค่เอามาเช็ดไงม๊า...โอ๊ะ หมวยเล็กของป๊า!!” ผมที่อยู่หน้าประตูห้องรับแขกยิ้มรับ ป๊า..ผู้ชายหน้าคมผมยังดำสนิท คิ้วเข้มมองผมด้วยความดีใจและวิ่งเข้ามากอดผมไว้อย่างทนุถนอม



            “มาแล้วเหรอ แล้วนี่เหนื่อยไหม ? เมารถไหม หมวยเล็ก...เอ๊ะ มากับใคร?” ป๊าของผมพูดเสียงนุ่มกับผมก่อนจะหันไปทำเสียงเรียบใส่ไอ้หมูที่ยืนอยู่ข้างผม มันยกมือไหว้ป๊ากับม๊าที่มองตาปริบ ๆ อย่างสงสัย



            “นี่รุ่นน้องน่ะครับ มันมาส่งผม” ผมบอก ป๊าของผมยังคงจ้อง...ผมเกือบหลุดขำไอ้หมูที่ดูเหงื่อตก



            “ผม หมู ครับ...เป็นรุ่นน้องของพี่ศิลา” มันแนะนำตัว



            “หมวยเล็กมีรุ่นน้องหล่อขนาดนี้เลยเหรอคะเนี่ย” ม๊าของผมพูดอย่างตื่นเต้น



            “ป๊าไม่เห็นว่ามันจะหล่อตรงไหน” จึก...ฮ่า! ป๊าของผมพูดถูกใจจัง...ไอ้นี่เดือนมหาลัยเชียวนะป๊า ผมเหลือบมองหมูที่ยิ้มพิมพ์ใจตามสไตล์ของมัน ไอ้นี่ไม่ว่าอะไรมันก็จะยิ้มเสมอ....



            “อะไรกันป๊า เห็นไหม อุ๊ย...ยิ้มด้วย แถมมาส่งหมวยเล็กให้เราด้วย น่ารักจังจ๊ะ ขอบคุณมากนะ” ม๊าของผมยิ้ม ส่วนป๊าของผมจ้องไอ้หมูนิ่ง...



            และหันมามองผม



            “หมวยเล็กขึ้นไปบนห้องนอนก่อนไป ไปพักผ่อน” ป๊าบอกก่อนจะพูดกับไอ้หมู “ส่วนไอ้หมูนี่เดี๋ยวป๊าจะไปหาห้องรับแขกให้มันอยู่”



            “อ้าว ป๊าทำไมไม่ให้หมูนอนกับหมวยเล็กล่ะ” ม๊าของผมขัดขึ้น ก่อนผมกับป๊าจะพูดพร้อมกัน



            “ไม่ได้!!” ป๊าของผมเสียงเข้มเด็ดขาด



            “แยกห้องแหละดีแล้วม๊า” ผมก็แอบสะดุ้ง...ส่วนไอ้หมูที่ยืนอยู่ก็ยิ้มแห้ง



            “ผมนอนที่ไหนก็ได้ครับ....” ไปนอนที่โรงจอดรถดีไหมล่ะ...ผมประชดเฉย ๆ ฮ่า!





            ผมกับไอ้หมูเดินเข้ามาภายในห้องนอนของผม เนื่องจากม๊าบอกให้มันเข้ามารอในห้องของผมก่อน ระหว่างที่หาห้องรับแขกให้ไอ้หมูนอน หมูมองไปรอบห้องของผมอย่างสนใจ...กูคิดถูกหรือคิดผิดที่ให้มันตามเข้ามา....



            “ห้องพี่ศิลาเรียบร้อยจัง...” แน่นอนก็ผมเป็นคนเรียบร้อย โฮะ ๆ ผมมองมันที่มองเหมือนสนใจมาก....ไอ้นี่ อย่ามาทำหน้าโรคจิตให้ป๊ากูเห็นนะเว้ย...



            “เฮ้อ...” ผมหันไปมองมันที่ถอนหายใจ



            “ถอนหายใจทำไม”



            “ดูเหมือนป๊าพี่ศิลาจะหวงหมวยเล็กของบ้านมากเลยนะครับ...ผมจะเข้ากับป๊าพี่ได้ไหม อุตส่าห์ได้มาบ้านพี่ทั้งที...” ผมชะงักกึกกับแววตาของมันที่มองผมอย่างมีความหมาย...เชี่ย อย่ามามองกูแบบนี้!



            ไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด...มองไปเหอะ (เหรอครับไอ้ศิลา)



            “ป๊ากูก็ไม่ได้ดูใจร้ายกับมึงนี่” ผมว่าพลางนั่งลงตรงเตียงนอน ส่วนไอ้หมูมันก็นั่งลงที่พื้น...เออ สำรวมดีเนอะ รู้ว่าควรนั่งตรงไหนด้วย ฮ่า ๆ...



            “ไม่ใจร้าย...แต่ก็พร้อมจะไล่ผม ถ้ารู้ว่าผม...จะมาสู่ขอพี่ศิลาไง” ผมหันขวับไปมองมันที่เงยหน้าคุยกับผม รอยยิ้มมุมปากกวนของมัน ขัดหูขัดตาของผมมาก...ยิ่งคำพูดของมันด้วย!



            “สู่ขอเชี่ยไรของมึง” พล่ามเรื่องไร้สาระอีกแล้ว จีบกูยังไม่ทันจะติด ยังมีหน้าจะมาสู่ขอ...อ้าว แล้วกูจะมาคิดเรื่องสู่ขอกับมันทำไมวะ....ศิลาครับ สติอยู่ไหน



            “ผมว่าถ้าพูดกับป๊าพี่ ป๊าคงบอกว่าก้าว” ผมที่ได้ยินก็เลิกคิ้ว เก้า...? เก้าล้านบาทค่าสินสอด โฮะ ๆ ค่าตัวแพงดี (เดี๋ยว ๆ กูจะไปตีค่าตัวของตัวเองทำไมวะ)



            “ก้าวเข้ามาบ้านพี่อีก โดนยิง” ...แป๊ก ๆ มุขที่ถูกยิงออกมาสมควรที่จะโดนปืนของป๊าผมยิ่งมาก ! ไอ้เชี่ยหมูกรอบ...เดือนติ๊งต๊อง



            “เลิกพูดเรื่องนี้เหอะ เดี๋ยวมึงก็ได้โดนยิงจริง ๆ ไอ้เชี่ยหมู” ผมว่า จริง ๆ ก็กลัวคนจะมาได้ยินและคนที่จะโดนยำเละไม่ใช่ผม....แต่เป็นไอ้หมูกรอบต่างหาก ก็บ้านผมมีทั้งป๊า เฮียใหญ่ เฮียกลาง ผู้หวงน้องชายยิ่งกว่าอะไรดี



            หมูหัวเราะออกมาเหมือนชอบใจ พวกผมนั่งเล่นอยู่ในห้องสักพักม๊าก็มาตามพวกผมลงไปทานข้าวด้วยกัน ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งป๊า...ม๊า เฮียใหญ่ เฮียกลาง ผม...และที่เพิ่มมาคือ ไอ้หมูกรอบ



            คนที่ดูจะเกร็งที่สุดก็คงหนีไม่พ้นคนที่ไม่ใช่ครอบครัวของผม ไอ้หมูกรอบมันได้นั่งข้างเฮียกลางครับ มันนั่งอยู่ตรงข้ามผม หมูยิ้มให้ผมที่นั่งตรงข้ามมัน ก่อนไอ้หมูจะหยุดมองเมื่อเฮียใหญ่ที่นั่งข้างผมเอามือมาโอบไหล่ผมเข้าไปซบไหล่เฮียแกเหมือนตอนเด็กที่เฮียชอบทำ



            “คิดถึงหมวยเล็กชะมัดเลยว่ะ เป็นไงบ้างที่มหาลัย?”



            “ใหญ่อย่ากวนน้อง” ป๊าห้ามปราม “หมวยเล็กทานเยอะ ๆ นะลูก” ป๊าบอกต่อพลางเลื่อนจานอาหารที่แสนน่าอร่อยมาให้ผม



            “โหย ก็คิดถึงไอ้หมวยเล็กนี่....” เฮียใหญ่บ่น “มึงก็กินเยอะ ๆ ล่ะไอ้หมู ทำตัวตามสบาย....” เฮียใหญ่บอกแต่น้ำเสียงเฮียแบบว่า ไม่ได้สอดคล้องกับคำว่าทำตัวตามสบายสักนิด ผมเหลือบมองไอ้หมูที่ยิ้มให้ผมเล็ก ๆ ...แอบสงสารมันว่ะ พามันมาให้ลำบากใจรึเปล่านะ...



            ระหว่างที่ทุกคนกำลังทานอาหารกันอยู่ คนที่เงียบที่สุดดูจะเป็นไอ้หมูที่ตักข้าวทานอย่างเงียบ ๆ ป๊าที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ (ใหญ่ที่สุดในบ้าน) ถามขึ้นทำให้คนทั้งโต๊ะสนใจไปที่คนที่ถูกถาม



            “ว่าแต่ ไอ้หมู นายเป็นลูกเต้าเหล่าใครกัน มาจากไหนรู้จักหมวยเล็กได้ยังไง” ...เชี่ย ป๊าถามรัวมาก



            “ผมเป็นลูกชายของประธานธนาคาร YOU ครับ...รู้จักตอนอยู่ที่คณะครับ” ผมมองมันตอบเหมือนประมวลความคิดหนักมาก...เพราะถ้าพลาด โต๊ะอาหารนี้อาจกลายเป็นโต๊ะสงครามได้



            ...ผมจะมานั่งลุ้นกับไอ้หมูทำไมกันล่ะเนี่ย...



            “อยู่คณะวิศวะเหมือนหมวยเล็กเหรอ?” ป๊าถามต่อ ไอ้หมูที่ไม่ได้คิดอะไรก็ตอบทันที



            “เปล่าครับ ผมเรียนคณะแพทย์...”



            “แล้วมาเจอหมวยเล็กที่คณะได้ยังไง...” เชรด...ป๊าถามกลับอย่างรวดเร็ว ไอ้หมูก็ชะงักกึกไป เออ มึงอยู่คณะแพทย์แล้วมาเจอกูได้ยังไง....ผมรับรู้ว่ามันกำลังเริ่มเหงื่อตก



            ผมเลยพูดขึ้นแก้สถานการณ์นี้



            “ป๊า! ของหวานอันนั้น...ผมอยากกิน” ผมชี้ของหวานที่อยู่ข้างป๊าทำให้ป๊าเลิกสนใจไอ้หมูและหันมาหาผมแทน



            “โอ๊ะ ม๊าหมวยเล็กทำนั่นแหละ ทานไหม ป๊าตักให้”



            “ครับ ตักมาเยอะ ๆ นะ” ผมเหลือบมองไอ้หมูที่ยิ้มให้ผมเหมือนขอบคุณที่ช่วยมันให้รอดพ้นจากการซักถามของป๊าไปได้....และบทสนทนาสอบถามไอ้หมูก็จบลงเท่านั้น



            ผมกำลังจะเดินขึ้นห้องก็มองหาไอ้หมูที่หายไปไหนก็ไม่รู้ ห้องนอนมันเต็มหมดแล้วล่ะครับ ไอ้หมูก็เลยได้นอนที่โซฟาหน้าห้องของผม ผมเลยว่าจะให้มันไปเอาผ้าห่มในตู้ของผมมาห่ม และผมก็เจอไอ้หมูที่ยืนคุยกับเฮียใหญ่อยู่ ? ผมเดินเข้าไปใกล้ได้ยินอะไรไม่ชัดสักนิดเพราะทั้งสองคนหันมาหาผมที่เดินเข้าไปใกล้ซะก่อน



            “ไอ้หมูกูว่ามึงรนมาหากระสุนปืนของป๊าเร็วไปมะ....” พูดไรวะ ผมไม่ได้ยิน “อ้าว! หมวยเล็ก....” เฮียใหญ่หยุดพูดกับไอ้หมูหันมาหาผมแทน



            “ไอ้หมูกูหามึงตั้งนาน คุยอะไรกันอยู่เฮีย”



            “เปล๊า...พอดีกูก็ถาม ๆ ไอ้รุ่นน้องของหมวยเล็กเฉย ๆ ว่าตอนขับรถมามันติดไหม” เฮียใหญ่แถออกมา ผมเลยเลิกคิ้ว



            “เหรอครับ ? ....” เฮียใหญ่พยักหน้าก่อนจะขอตัวไปนอน ผมมองไอ้หมูที่กำลังยิ้มมุมปาก



            “ตามหาผมเหรอ”



            “เออ จะให้ไปเอาผ้าห่มที่ห้อง” ผมเดินนำมันไป ไอ้หมูก็เดินตามมาติด ๆ



            “คิดว่าจะชวนนอนด้วยกันที่ห้องซะอีก” มันพูดทีเล่นทีจริง



            “เตียงมันเล็กไหมล่ะ จะนอนยังไง” ผมตอบอย่างไม่ได้คิดอะไรแต่ประโยคที่ไอ้หมูตอบมา ทำให้ผมเริ่มคิด



            “แสดงว่าถ้าเตียงใหญ่...นอนด้วยได้เหรอ” เสียงเข้มที่ดังใกล้หูทำให้ผมมองหมูตาขวาง มันเลยหัวเราะและถอยออกไปห่างจากตัวผม ไอ้นี่...แม่ง ยังมีหน้ามาเล่นหูเล่นตากับผม เดี๋ยวก็เจอป๊าไล่ออกจากบ้าน....



            “เอาไปเลยมึงอ่ะ!” ผมโยนผ้าห่มให้มันพร้อมกับดันหลังมันให้ออกไปจากห้องนอนของผม ไอ้หมูทำท่าอิดออดแต่ก็ยอมออกไปจากห้องของผมแต่โดยดี ผมคว้าผ้าเช็ดตัวของตัวเองและเข้าไปในห้องน้ำพลางคิดว่า...ทำไมผมถึงพาไอ้หมูมาบ้านนะ ทั้ง ๆ ที่ผมให้ป๊ามารับก็ได้ แต่กลับเลือกที่จะให้หมูมาส่ง นี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่....อยากให้มันรู้จักครอบครัวของผมงั้นเหรอ...เชี่ยยย... กูไม่ได้คิดแบบนั้น ผมสะบัดหน้าของตัวเองก่อนจะรีบอาบน้ำ



            ใช้เวลาไม่นานมากนัก ผมก็อาบเสร็จและมานั่งตัวหอมฉุยอยู่บนเตียง ผมอยู่ในเสื้อยืดสีเทาที่ตัวใหญ่กว่าผมหน่อยเลยทำให้ผมดูตัวเล็กลงไปเลย กับกางเกงขาสั้นตัวโปรด ผมเอาแว่นมาใส่วงกลมที่วางอยู่หัวเตียงมาใส่แล้วเปิดโน๊ตบุ้คหาดูหนังเล่น



            ก๊อก ๆ



            “พี่ศิลา...หลับรึยังครับ?” เสียงเคาะประตูตามมาด้วยเสียงไอ้หมูทำให้ผมขมวดคิ้ว มันจะมาเคาะทำไม ผมก้าวลงจากเตียงแล้วไปเปิดประตู ไอ้หมูมองอึ้ง...มันดูอึ้งมาก ผมที่อยู่ในสภาพเสื้อตัวใหญ่กว่าตัวจนบังกางเกงขาสั้น กับแว่นกลมที่เข้ากับหน้าพอดีเป๊ะ...อาหมวยเล็กดี ๆ นี่เอง เชี่ย...กูจะบรรยายตัวเองให้ดูแบ๊วทำไม



            “โคตรน่ารัก...”
หมูพึมพำแต่ผมก็ได้ยิน ผมจะปิดประตูใส่มัน ไอ้หมูรีบเอาแขนมากั้นไว้ ไอ้นี่ เดี๋ยวประตูก็หนีบแขนหรอก



            “อะไรของมึง เคาะประตูทำไม”



            “อยากคุยด้วย ผมนอนไม่หลับอ่ะ...” มันทำตาปริบ ๆ นอนไม่หลับแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมไม่ทราบ! “นะ นะ ขอเข้าไปนั่งคุยกับพี่ศิลาแป๊ปเดียว”



            “กูไม่อยากคุยไง จะนอน”



            “พี่ศิลา....” มันอ้อน ไอ้เชี่ยหมู!....กูไม่ใจอ่อนหรอกนะกับไอ้ลูกอ้อนของมึงงงง....



            “ผมนอนไม่หลับจริง ๆ นะ เครียดเรื่องพี่ด้วย” ไอ้หมูทำหน้าเครียดจริง...เครียดเชี่ยไรของมันนักหนา....สุดท้ายผมก็ยอมเปิดประตูให้มันเข้ามาจนได้ ผมเดินหันหลังเดินเข้ามาในห้อง



            “มึงนี่มันวุ่นวายชิบ จะเครียดเรื่อง...เชี่ยหมู!!” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ ๆ ไอ้หมูกอดผมจากด้านหลัง คืออะไรของมันนนนนน....กอดกูทำไมมมมมมมมม.....



            “อย่าเพิ่งเสียงดังสิ ขอกอดกำลังใจนิดเดียว” ไอ้เชี่ยยยย...ผมจะดิ้นแต่แรงไอ้นี่ไม่รู้ไปเอามาจากไหนเยอะ (หรือจริง ๆ แรงของผมน้อย)



            “เพิ่งเคยเห็นพี่ศิลาตอนอาบน้ำเสร็จ แถมยังใส่แว่นน่ารัก ๆ แบบนี้อีก...สมแล้วที่เป็นหมวยเล็ก”



            “ไอ้เชี่ยหมูปล่อยกู เลิกเล่นได้แล้ว” ผมแกะมือมันออกแต่กลับถูกหันไปเผชิญหน้ากับไอ้หมูแทน



            เหี้ย...ตกใจนะเว้ย ใบหน้าหล่อคมที่อยู่ใกล้ผมทำให้ผมหน้าร้อนวูบวาบ... วูบวาบอะไรของมึงครับศิลา!!



            “ถามจริง ๆ นะครับ ตอบจริง ๆ ด้วย” เกลียดการถามคำถามแบบจริงจังชะมัด



            “ถามอะไร แล้วก็ช่วยปล่อยมือจากเอวกูด้วย” ผมพูดเสียงเข้ม...แต่แม่งไม่เข้มสักนิด หมูไม่คลายมือของมันออกแถมเลื่อนมาโอบเอวของไว้ด้วย...ไอ้เชี่ย...ปล่อยโว้ย ผมไม่กล้าตะโกนเพราะเดี๋ยวป๊ากับม๊าตื่นมากันพอดี



            “ไม่ครับ ไม่ปล่อย...” ไอ้หน้าด้าน...แล้วทำไมผมต้องยื่นอยู่นิ่ง ๆ ในอ้อมกอดของไอ้หมูกรอบด้วย ก็เพราะว่า...ถ้าผมขยับนิดเดียวแก้มของผมจะโดนปากของไอ้หมูทันที....เชี่ยมาก



            “รีบพูด” ผมเร่ง แววตาคมเข้มจ้องหน้าผมใกล้มากกกก....ผมที่ใส่แว่นก็เห็นหน้ามันชัดมากกก



            “เมื่อไหร่พี่ศิลาจะยอมคบกับผมสักที...” อ้าว...ไอ้นี่ มาถามอะไรตอนนี้วะ ถามผิดเวลาผิดที่มาก!



            “...............”



            “ผมรอได้นะ แต่บางทีผมก็อยากเรียกพี่ชัด ๆ ว่าแฟนบ้าง...อยากมีโมเมนต์ที่บอกว่า พี่ศิลาเป็นแฟนของผมไรงี้” เสียงทุ้มที่ดังใกล้หู...ทำให้ผมแทบจะเป็นบ้า มาพูดกรอกหูกูทำไมวะ!...คำว่าพี่ศิลาเป็นแฟนของผมของไอ้หมูเหมือนวนดังซ้ำในหูของผม ผมแม่ง...ใกล้บ้าเต็มทน (หรือจริง ๆ บ้าอยู่แล้ว)



            “เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ” ผมเลี่ยง ๆ จะตอบ...



            ก็ผมยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้นี่...รู้ว่าไอ้หมูมันจีบแต่ก็ยังไม่ได้คิดถึงเรื่อง ‘ตกลงคบ’ ผมก็เหวอเหมือนกันนะ จู่ ๆ ผู้ชายด้วยกันมาพูดแบบนี้!



            “แล้วเมื่อนั้น ตอนไหนล่ะ” ไอ้หมูมันจงใจจะกวนตีนผมใช่ไหม มันยกยิ้มพร้อมกับมือหนาที่กอดเอวของผมแน่นขึ้น บรรยากาศทะแม่ง ๆ ชิบ....



            “ตอนนั้นแหละ อย่าถามมากได้ไหมวะ!” ผมดันมันออกนิด ๆ อย่างเว้นระยะห่าง ไอ้หมูยิ้ม



            “ไม่กวนก็ได้...แต่บอกไว้เลยนะว่าผมจะรุกหนักกว่าเดิม ผมจะทำให้พี่ดิ้นไม่หลุดเลยล่ะ” มันประกาศขึ้นด้วยความมั่นใจ ไม่ทราบว่ามึงไปขนความมั่นใจมาจากไหนนนน....และระหว่างที่ไอ้หมูเอามือกอดเอวผมไว้ยังกับปลาหมึก



            ก็มีเสียงเหมือนเสียงขู่ดังขึ้นด้านหลัง...ผมซึ่งตัวเตี้ยกว่าไอ้หมูก็เลยไม่เห็นอะไรข้างหลังมัน



            “พี่ศิลา บ้านพี่เลี้ยงหมาน้อยด้วยเหรอ?” ผมเลิกคิ้ว หมาน้อยไรของมัน...



            “ทำไมผมได้ยินเหมือนเสียงอะไรขู่ข้างหลังผมล่ะ” พอไอ้หมูพูดจบเท่านั้นแหละ มันก็รีบปล่อยมือออกจากเอวของผมโดยอัตโนมัติเมื่อเสียงเข้มดังขึ้นด้านหลัง



            “บ้านหมวยเล็กไม่ได้เลี้ยงหมา เสียงขู่เมื่อกี้เสียงป๊าเอง....” ไอ้เชี่ยยย....คนที่ยืนเท้าเอวอยู่ด้านหลังไอ้หมูคือ ป๊าของผมเอง...เฮือก...ไอ้หมูทำหน้าอึ้ง จะสงสารก็สงสารจะขำก็จะขำ...โอ๊ย



            “แล้วนี่กอดเอวหมวยเล็กไว้ทำไม!!” และป๊าก็พูดในสิ่งที่ทำให้ผมตาโต เหี้ยแล้ว...ป๊าเห็น



            ไอ้หมูหน้าซีดไปเรียบร้อยหลักฐานชัดเจนแบบว่า เถียงไม่ได้



            “หมวยเล็กเข้านอนได้แล้ว ส่วนไอ้หมูตามป๊าไปที่โรงงานข้างล่าง” ป๊าใช้นิ้วชี้ไปที่ไอ้หมูกรอบ



            “ป๊าจะให้ไอ้หมูไปทำไม...ผมไปด้วย” ผมรีบถามด้วยความ(แอบห่วงนิดหน่อย)...จริง ๆ ด้วยความอยากเผือก



            เฮียใหญ่ที่เดินมาแบบไม่ได้รับเชิญก็เลิกคิ้วขึ้น ยังไม่ทันที่เฮียใหญ่จะพูดอะไร ป๊าก็หันไปสั่ง



            “มาก็ดีไอ้ใหญ่ คืนนี้นอนกับหมวยเล็กในห้องนี้ละกัน...”



            “อ้าว จะให้ผมมานอนเป็นเพื่อนหมวยเล็กทำไมอ่ะป๊า?”



            “มีคนมากระตุกหนวดเสือ สงสัยต้องทำให้มันหลาบจำซะหน่อย...” ป๊ามองไปที่ไอ้หมูที่เหลือบมองผมยิ้ม ๆ มึงยังมีหน้ามายิ้มอีกเหรอไอ้ฟายยยย....ส่วนเฮียใหญ่ก็ทำตาโตนิด ๆ ผมรู้สึกไปเองรึเปล่าว่าไอ้หมูกับเฮียใหญ่เหมือนจะรู้จักกัน...



            ป๊าเดินนำหน้าออกไป ผมมองไอ้หมูที่กำลังจะเดินตาม มันหันมามองหน้าผมแวบหนึ่ง



            “ผมจะรีบกลับมาหาพี่ศิลานะ” ไอ้เชี่ย...เฮียใหญ่ก็อยู่ด้วยนะเว้ย แต่เฮียผมไม่ยักจะทำหน้าแปลกใจ



            “เออ รีบกลับมา”  เอาชีวิตให้รอดกลับมาด้วยนะมึง...หมูกรอบจะกลายเป็นหมูย่างไหมวะ...คำตอบของผมเรียกรอยยิ้มดีใจมากเหมือนมันได้กำลังใจ...กูก็พูดไปงั้น...



            ผมมองมันที่เดินออกไปแล้ว จะเป็นไรไหมวะ อยากตามไปดูจัง ผมจะเดินตามแต่ก็โดนเฮียใหญ่ขวางไว้...เฮียแม่งก็ตัวใหญ่กว่าผมจนผมไม่กล้าต่อกร



            “ให้มันผ่านด่านของป๊าให้ได้ด้วยตัวของมันเอง ด่านที่สำคัญที่สุด” คำพูดของเฮียทำให้ผมตาโตอีกครั้ง



            “เฮียรู้เหรอ”



            “รู้สิ ไอ้รุ่นน้องของมึงดูออกง่ายจะตายไป” ก็พูดถูกครับ การกระทำของไอ้หมูดูง่ายมาก...เชี่ย งั้นป๊าก็น่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วสิ...เอาล่ะครับ ผมเริ่มกังวลเรื่องไอ้เชี่ยหมูนั่นขึ้นมาซะละ มันจะรอดความกดดันออกมาได้ไหม...นี่ผมกำลังห่วงมันอยู่เหรอ เปล่าซะหน่อย...ไม่ได้ห่วง



            “เฮียว่าไอ้หมูมันจะรอดไหม” ผมถามเสียงอึกอัก...ทำไมรู้สึกห่วงมันจังวะ หาเรื่องให้ตัวเองแท้ ๆ เลยไอ้เชี่ยหมูเข้ามาในห้องกูทำไม!



            “ไม่รู้สิ...ว่าแต่พรุ่งนี้หาซื้อหมูย่างมากินน่าจะอร่อยดีนะ” เฮียใหญ่พูดขึ้นกวน ๆ ผมเลยขมวดคิ้ว



            “เฮียใหญ่!! ผมไม่กินหมูย่าง!!” โอ๊ย...มึงต้องกลับมาสภาพเป็นไอ้หมูกรอบเหมือนเดิมนะเว้ย...



            แต่จริง ๆ ป๊าของผมไม่โหดหรอกครับ อย่ากลัวเลย....






..............................++++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจจากคนอ่านนะคะ  :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:  น้องหมูยังคงต้องสตรองต่อไปค่ะ 55555 ไหน ๆ ก็เข้ามาหาพ่อตาเเล้ว ก็ลุยขอพี่ศิลาไปเลยย 5555555
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 14| (24/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-04-2017 23:29:31
 :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 14| (24/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 25-04-2017 00:15:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 14| (24/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 25-04-2017 00:22:10
เป็นกำลังใจให้หมูกรอบ :กอด1:


 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 14| (24/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 25-04-2017 02:47:58
หมูกรอบ...สู้ๆๆนะ :call:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 14| (24/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 25-04-2017 02:56:49
 :laugh:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 14| (24/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 25-04-2017 08:07:45
หมูเอ๊ย แกจะรอดจากติงป๊าหมวยเล็กไหมเนี่ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 14| (24/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-04-2017 12:36:16
หมูกรอบ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 15| (25/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 25-04-2017 21:37:12
ตอนที่ 15



             [พาร์ตของหมู]



            เละแน่ ๆ ...คือความคิดของผมตอนนี้ระหว่างที่เดินตามป๊าของพี่ศิลาออกมา หมูกรอบจะกลายเป็นหมูแผ่นแล้วล่ะครับทุกคน....แต่เมื่อกี้ได้กำลังใจจากพี่ศิลามาแล้ว! ผมไม่กลัวหรอก (จริง ๆ กลัว) ก็ป๊าของผู้ชายที่ผมรักเชียวนะครับ...ทำให้เขาไม่ชอบขี้หน้าซะแล้วรึเปล่าวะไอ้หมู...เสี่ยงต่อการโดนป๊าของพี่ศิลากระทืบ แถมยังเสี่ยงโดนพี่ศิลาโกรธอีก...ก็เพราะผมยังบอกพี่เขาไม่หมดทุกอย่างนี่ว่า ผมรู้จักเฮียใหญ่กับเฮียกลางของพี่ศิลาด้วย....(ก็กะจะบอกแหละแต่เวลาไม่เอื้อ...มึงป๊อดเองครับไอ้หมู)



            ป๊าเดินมาที่โกดังใหญ่ที่อยู่ข้างบ้านของพี่ศิลานี่เอง เป็นโกดังเก็บสินค้าน่ะครับ...เออ ผมกำลังจะโดนซ้อมรึเปล่า   โทษฐานไปแตะต้องหมวยเล็กของบ้านนี้ ผมกำลังคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยก็สะดุ้งป๊าของพี่ศิลาที่หันมาเลิกคิ้วใส่ผม



            “ไม่ต้องมาทำเป็นกลัวขนาดนั้นก็ได้...ป๊าไม่ทำอะไรหรอกน่า ไอ้หมู” น้ำเสียงทุ้มทำให้ผมมองอึ้งกับรอยยิ้มอบอุ่นของป๊าพี่ศิลา และเงิบเข้าไปใหญ่อีกกับประโยคต่อมา เอ๋!!!



            “กว่าจะเข้ามาหาที่บ้านนี่ ก็นานซะจริงเชียวนะ แอบมองหมวยเล็กมากี่ปีแล้วล่ะ?”



            “ปะ...ป๊า รู้เหรอครับว่าผมแอบมองพี่ศิลา..” ผมกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกดดัน



            “หึ รู้สิ ไอ้ใหญ่มันแอบช่วยแกด้วยใช่ไหมล่ะ ฉันเป็นป๊าของไอ้ใหญ่กับไอ้กลางนะ ทำไมป๊าจะไม่รู้ว่าพวกมันสองคนทำอะไรกันอยู่...แต่บอกไว้ก่อนนะว่า ป๊าไม่ยกหมวยเล็กให้ง่าย ๆ!” ผมสะดุ้งอีกรอบ



            “จะทำยังไงให้ป๊ายอมยกพี่ศิลาให้ผมล่ะครับ” ผมถามแบบหน้าด้านสุด ๆ แอบเหลือบมองแล้วว่าป๊าไม่ได้ถือปืนมาด้วย รอด....



            “โวะ! ไอ้นี่...ไม่ได้กลัวฉันเลยรึไง ฮ่า ๆ มิน่าไอ้ใหญ่มันถึงดูสนับสนุนแกนัก” ผมกลัวครับ...แต่หน้าด้านมากกว่า แฮะ ๆ ผมจริงจังกับพี่ศิลานิครับ ไม่ว่ายังไงผมก็จะสู้ !



            “เออ...ป๊าครับ ผมจริงจังกับพี่ศิลามากนะครับ ถ้าผมจะขอจีบพี่ศิลาต่อ...” ใช้โอกาสที่ป๊ากำลังหัวเราะชอบใจอยู่ ขออนุญาตไปในตัว ผมต้องรีบขอ ๆ เข้าไว้จะได้ผ่านด่านป๊าของพี่ศิลา



            “ฮ่า ๆ แกจะจีบต่อก็จีบไปสิ อ้าว นี่ยังจีบอยู่เหรอ? แล้วเมื่อไหร่จะมีความคืบหน้าล่ะเนี่ย” ประโยคที่ป๊าพูดทำให้ผมอึ้งไปอีกรอบ ราวกับเหตุการณ์กลับตาลปัตร ป๊าไม่ได้ปิดกั้นผมกับพี่ศิลางั้นเหรอ



            “จะบอกให้นะ คิดจะจีบหมวยเล็ก ใช้มุขหวานอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ แกน่ะ...ต้องรู้จักรักษาระยะห่างบ้าง จะได้รู้ไงว่า หมวยเล็กคิดอะไรกับแกรึเปล่า” ป๊าแนะนำผมเหมือนเสียงสวรรค์มาโปรด....     ผมน้ำตาจะไหลปลื้มใจ ที่กำลังได้ฟังคำแนะนำจากป๊าของว่าที่เมียในอนาคต



            แล้วผมจะไปรักษาระยะห่างยังไงกันล่ะ....แบบว่า ห่างเหรอครับ พอดีผมโง่...เก่งเรื่องเรียนแต่โง่ดักดานเรื่องความรักนิดหน่อย แฮะ ๆ



            และผมก็ต้องสะดุ้งกับเสียงเข้มของป๊าพี่ศิลาที่ดังขึ้น



            “แต่!! ที่มากอดหมวยเล็กของป๊าถึงที่บ้านแบบนี้! ไม่ให้อภัย...ป๊าหวงหมวยเล็กของบ้านมากรู้ไหม...แต่ที่ไม่ได้คัดค้านเรื่องการจีบของแกก็เพราะ ป๊าจะให้หมวยเล็กเป็นคนตัดสินใจเอง เพราะป๊าจะเคารพการตัดสินใจของหมวยเล็กเขา ไม่ว่าใครจะเข้ามาก็ตามใจหมวยเล็กเสมอ...."



            “จริง ๆ ป๊าเองก็เลี้ยงหมวยเล็กมาเป็นแบบลูกสาวของบ้าน...ก็เลยแบบว่า อยากให้มีสามีเหมือนกัน ป๊าไฟเขียวนะ แต่เรื่องนี้จะเป็นยังไงต่อก็ขึ้นอยู่กับหมวยเล็กและแกแล้วไอ้หมู....”




            ผมที่ได้ฟังก็ตาโตเท่าไข่ห่าน...อยากจะกระโดดเต้นกลางอากาศสองสามที !! นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ป๊าของพี่ศิลาบอกว่า ไฟเขียวโว้ยยยยย ไฟเขียว.....จะมีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าป๊าของว่าที่เมียให้โอกาสลุยต่อ



            แต่บอกเลยครับว่า...ป๊าของพี่ศิลาก็แสบไม่ใช่เล่น การลงโทษที่ไปกอดหมวยเล็กของบ้านนี้คือ ป๊าให้ผมไปประกอบตู้ชั้นหนังสือสองสามชั้นที่จะเอาไปส่งลูกค้าให้เสร็จภายในคืนนี้ (ป๊าแกล้งผมชัด ๆ ) โฮก...ชั้นประกอบไม่ใช่ง่าย ๆ แต่ผมก็ไม่ท้อเพราะป๊าดันเสนอว่า



            “ถ้าประกอบชั้นเสร็จ ฉันอนุญาตให้ไปนอนห้องหมวยเล็กได้...” เชรด...เอาพี่ศิลามาล่อแบบนี้ผมก็สู้ตายสิครับ!! แต่ถามว่าพี่ศิลาจะให้ผมเข้าห้องไหม...ค่อยคิดอีกทีละกันเนอะ



            เอาเป็นว่าตอนนี้ผมกำลังตั้งหน้าตั้งหน้าประกอบตู้อย่างตั้งใจ...เจ็บมือชิบเลย ร้อนด้วย...พี่ศิลาครับหมูร้อนจัง (อยากไปอ้อนพี่ศิลาแบบนี้ ผมจะโดนลูกเตะของพี่ศิลาก่อนไหม...)





            .........................

            ..........................





            [พาร์ตของศิลา]



            ผมมองเฮียใหญ่ที่นอนกระดิกเท้าเล่นเกมอยู่บนเตียงผม ส่วนผมก็นั่งอยู่ข้างเฮีย ผมมองนาฬิกาที่มันจะ 4 ทุ่มกว่าแล้ว...ไอ้หมูยังไม่กลับมาเลยครับ คุยอะไรกันนานจัง



            “เฮียใหญ่ เฮียกลับไปนอนห้องเฮียก็ได้นะ ไม่ต้องมาเฝ้าหมวยเล็กหรอก” เฮียใหญ่เด้งตัวขึ้นนั่งปั๊ป



            “รอให้หมวยเล็กไล่ตั้งนาน โอเค เดี๋ยวเฮียกลับไปนอนห้องเฮียล่ะ” อ้าว...สรุปที่เฮียใหญ่ไม่ยอมไปคือรอผมไล่? เฮียยื่นมือมาขยี้ผมของผมเบา ๆ



            “เป็นห่วงไอ้หมูของหมวยเล็กล่ะสิ” ผมรู้สึกชะงักกึก...คำว่าไอ้หมูของหมวยเล็กเต็มสองหูของผม



            “บ้าเฮีย มันไม่ใช่ของผมซะหน่อย...”



            “รู้ไหมว่าเฮียอยากให้หมวยเล็กของเฮียเจอกับคนดี ๆ เฮียว่าไอ้หมูก็ไม่เลวร้ายอะไรนะ” ทำไมเฮียใหญ่ดูเชียร์ไอ้หมูจังครับ...ผมว่าเกือบทุกคนอ่ะจะพูดว่าไอ้หมูมันดี...จริง ๆ มันก็ดีแหละ ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่ามันนิสัยดีจริง



            “งั้นเฮียไปนอนก่อนละ! ส่วนหมวยเล็กก็นอนได้แล้วนะ” เฮียใหญ่บอกแค่นั้นและเดินหายออกไปจากห้องของผมทันที ผมมองตาม...เฮ้อ จะให้หลับได้ยังไงในเมื่อไอ้หมูมันยังไม่กลับมาเลย นี่ผมเป็นห่วงมันจริง ๆ ใช่ไหม....ผมมองเวลาอีกรอบก่อนจะตัดสินใจก้าวลงจากเตียงเพื่อที่จะลงไปดูไอ้หมูซะหน่อย



            ผมเปิดประตูก็ต้องตาโตนิด ๆ กับคนที่อยู่หน้าห้อง ไอ้หมูที่กำลังจะเคาะประตูห้องผมพอดี... ผมมองมันที่ตัวมีแต่เหงื่อเต็มไปหมด แถมมือยังเปื้อนด้วย....เอ๊ะ มือมันช้ำกับมีเลือดด้วยอ่ะ! รอยยิ้มพิมพ์ใจประจำตัวของไอ้หมูส่งมาให้ผม



            “คิดว่าพี่นอนแล้วซะอีก คือว่าผมขอใช้ห้องน้ำพี่อาบน้ำหน่อยได้ไหมครับ” มันขอ ผมเลยเปิดประตูให้มันเข้ามาและมองที่มือของมัน



            “ทำไมมือของมึงมีเลือด?” ผมถาม ไอ้หมูที่กำลังจะซ่อนมือของตัวเองก็ชะงัก...ไม่ทันหรอกมึง!  กูเห็นแล้ว...



            “ป๊าให้มึงไปทำอะไรมาไอ้หมูกรอบ”



            “เออ ป๊าให้ผมไปประกอบชั้นหนังสือน่ะครับ...โทษฐานที่กอดพี่ศิลา” มันบอก



            “ป๊าให้ทำชั้นเนี่ยนะ...มึงทำเป็นเหรอ”



            “ก็ทำจนเสร็จหมดแล้ว ประกอบถูกต้องเป็นชั้นสวย ๆ ด้วย” ไอ้หมูอวดท่าทางภูมิใจมาก...ผมมองมือของมันอีกครั้ง ทำไมรู้สึกไม่ดีเลยว่ะ...ที่เห็นมันเจ็บตัวแบบนี้



            “มึงจะไปอาบน้ำใช่ไหม ไปสิ อ่ะ ผ้าเช็ดตัว” ผมหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ในตู้ยื่นให้ไอ้หมูพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เฮียใหญ่เอามาฝากไว้ให้ มันยิ้มให้ผมก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ



            สงสัยเหมือนผมไหมว่า...ไอ้หมูมันเงียบ ๆ มันโดนป๊าดุมากกว่านี้รึเปล่าวะ แล้วมันไม่ยอมผมอะไรแบบนี้....นี่ผมกลายเป็นคนคิดมากจุกจิกไปตั้งแต่เมื่อไหร่...ผมเดินไปหยิบกล่องยาเล็ก ๆ และกระโดดขึ้นไปนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงพลางครุ่นคิดอะไรไปเรื่อย....





            จนไอ้หมูมันเดินออกมาจากห้องน้ำ มันเช็ด ๆ ผมของมันแล้วมองมาที่ผมที่นั่งกอดอกอยู่บนเตียง



            “ไอ้หมูมานี่ดิ” ผมเรียก ไอ้หมูหันมาด้วยความสนใจแบบอึ้ง ๆ อีกแล้ว....มันชอบทำหน้าตาแบบนี้ตลอด ก็ตลกดีนะครับ แต่ที่แปลกคือ...ไอ้หมูไม่ยอมเดินเข้ามาหาผมที่เรียกมัน อ้าว..ไรของมึงวะ



            “คือ ผมจะไปนอนแล้วล่ะครับ” มันบอกพร้อมกับทำท่าจะเดินหนีผม เดี๋ยว...ปกติผมเรียกขนาดนี้ไอ้นี่มันจะวิ่งเข้ามาเลยนะ...เป็นอะไรของมัน!



            ไม่มีใครกล้าเดินหนีผมนะ! ผมก้าวลงจากเตียงไปคว้าแขนไอ้หมูไว้แต่เหตุไฉน พรมเช็ดเท้าไม่รักดีที่วางอยู่ข้างเตียงบวกกับน้ำที่ไอ้หมูเหยียบออกมาจากห้องน้ำทำให้มันลื่น!! ...



            “ไอ้หมู อ๊ะ เหวอ” ผมลื่น ว๊ากกก....เหี้ยแล้ววววว



            “พี่ศิลา! ระวัง เหวอ” ไอ้หมูหันมาอย่างตกใจและจะรับร่างของผมไว้ แต่กลับกลายเป็นว่าเราทั้งสองคนล้มมาบนเตียงอย่างพอดิบพอดี



                ตุบ พรึบ...เสียงแรงยุบของเตียงนุ่มของผม...



            ผมเบิกตากว้างเมื่อไอ้หมูล้มลงมาทับอยู่บนตัวของผม กายแนบกายชิดติดมาก....เชี่ยยยย ไอ้หมูดูเหมือนมันจะค้างไปแล้ว มันก้มหน้าลงมาใกล้ผมเรื่อย ๆ ก่อนมันจะชะงักเพราะจมูกของมันชนกับแว่นกลม ๆ ที่ผมใส่อยู่



            แต่ผมก็ต้องหน้าร้อนวูบเพราะไอ้หมูที่กำลังจะดันตัวเองลุกขึ้น...ผมดันรู้สึกถึงไอ้หมูน้อย (ข้างล่างของมันอ่ะ!!) แม่ง....มันดันออกมานอกกางเกงมึงแล้วโว้ยยย...



            “ไอ้เชี่ยหมู!!” ผมด่าเสียงเบาเกรงว่าป๊าอาจจะตื่นมาลากคอไอ้หมูได้ มันเหมือนรู้ตัวเองเหมือนกันเลยรีบออกห่างจากผม ผมมองด้วยความไม่เชื่อสายตาของตัวเอง...ไอ้เชี่ยหมูกำลังมีอารมณ์ ไอ้เหี้ยยยย...



            “ขอโทษครับ...เดี๋ยวผมขอใช้ห้องน้ำหน่อยนะ” มันพูดแค่นั้นและเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมที่นอนอยู่ก็นิ่งไป...ไอ้หมูมันจริงจังกับผมขนาดนี้เลยเหรอ จริงจังจนมันคิดแบบนั้นกับผมเลยเหรอ...



            ผมลุกขึ้นนั่งมองไอ้หมูที่หายเข้าไปห้องน้ำสักพักละ ผมเห็นว่ามันเริ่มนานเลยเดินเข้าไปใกล้ห้องน้ำ เงียหูฟังนิดหน่อย...ด้วยความอยากรู้ว่ามันทำไรนานนักหนาวะ...และผมก็ต้องตัวแข็งทื่อกับสิ่งที่ได้ยินลอดออกมาเล็กน้อย



            เสียงครางต่ำ...



          “พี่ศิลา...” แถมยังมีชื่อของผมอยู่ในนั้นด้วย....ไอ้เหี้ย! ผมรีบวิ่งกลับไปที่เตียงด้วยความรู้สึกวุ่นวายใจ นี่ผมเป็นบ้าอะไรเนี่ย...เรื่องช่วยตัวเองหรืออะไรที่ผู้ชายทำกันมันก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ ...แต่ไม่รู้ทำไมพอเป็นไอ้หมูผมถึงได้สับสนแบบนี้ ยิ่งได้ยินชื่อของผม...ยิ่งยืนยันได้อย่างหนักแน่นว่า



            ‘ไอ้หมูมันจริงจังจริง ๆ ’



            ไอ้หมูเดินออกมาจากห้องน้ำก็ทำท่าชะงักผมอีกรอบ ราวกับเหตุการณ์เดจาวู



            “ยังไม่นอนอีกเหรอครับ?” มันถาม ผมเลยชี้ตรงเตียง



            “นั่งลง กูจะทายาที่มือให้” ไอ้หมูทำหน้าอึ้ง “นั่งลง! กูจะทายาให้” ผมย้ำ มันเลยรีบนั่งลงตรงเตียงของผม



            “เขยิบเข้ามาอีกได้ไหม กูขี้เกียจขยับ” ผมว่าไอ้หมูเลยขึ้นมานั่งขัดสมาธิตามคำสั่งของผม ผมเอามือของมันมาดูแผลที่เกิดจากการใช้พวกค้อนกับไขควงที่ต้องออกแรงกดไขน็อตแต่ละตัว



            มือของคนจะเป็นหมอทำไมไม่ดูแลดี ๆ วะ....ไอ้หมอโง่ (ด่าเขาในใจอีกแล้ว) ระหว่างที่ผมกำลังทายาแก้รอยช้ำให้มันอยู่ ไอ้หมูก็พูดขึ้น



            “พี่ศิลา...ขอโทษนะที่แบบว่า แสดงอาการหื่นออกมาให้พี่เห็น...” ไอ้ฟาย...พูดขึ้นมากูก็นึกถึงเสียงครางของมึงเมื่อกี้น่ะสิ!...อ้าวไอ้ศิลาครับไปคิดถึงทำไมมมมมม....



            “เลิกพูดได้แล้วช่างมัน” ผมบอกแต่กลับเห็นแววตาไหววูบของผู้ชายตรงหน้า



            “นั่นสินะครับ...ไม่เห็นจะมีอะไรเกี่ยวกับพี่ศิลานี่นา” น้ำเสียงเหมือนน้อยใจซะเต็มประดา...



            “ไอ้หมูกรอบ...” ผมมองมันที่เงยหน้าสบตากับผม แววตาไอ้หมูแม่ง...คมชะมัด มิน่าจ้องแต่ละทีสาว ๆ ละลายกันเป็นแถบ



            “ครับ?”



            “คืนนี้มึงจะนอนเตียงเดียวกับกูก็ได้นะ นอนโซฟามึงจะไม่สบายตัวเอา”



            “ครับ ผมยังไงก็ได้...ห๊ะ!!!อะไรนะครับ!!”



            “ชู่ว! เบา ๆ หน่อยสิวะ อยากโดนป๊ามากระชากคอเหรอ” ผมรีบเอามือปิดปากของไอ้หมูที่แหกปากซะลั่น หมูพยักหน้าหงึก ๆ และพูดเสียงเบาลงแต่รอยยิ้มของมันตรงหน้าทำให้ผมรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก



            “พี่ศิลาอย่ามาแกล้งยั่วผมแบบนี้นะ”



            “ยั่วบ้าบอไร กูให้มึงนอนเพราะเห็นว่าเดี๋ยวไม่สบายตัว กูเอาหมอนข้างกั้นไว้ มึงข้ามมาเจอตีนยันแน่ ๆ ! จะเหยียบให้มึงสูญพันธุ์ไปเลย!” ผมขู่พร้อมกับหยิบหมอนข้างมากั้นไว้ตรงกลางระหว่างผมกับไอ้หมู ผมถอดแว่นออกและทิ้งตัวลงนอน



            ไอ้หมูกระตุกยิ้มอารมณ์ดีคนละอารมณ์กับเมื่อกี้ไปเลย...หมออย่างไอ้หมูแม่งน่ากลัว...อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าอากาศ เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวขรึม...มันล้มตัวนอนลงข้างผมที่มีหมอนข้างกั้นอยู่



            จริง ๆ ผมไม่ควรจะตื่นเต้นหรืออะไร ปกติผมก็เคยนอนกับผู้ชายที่เป็นเพื่อนกันเวลามานอนบ้าน...แต่ครั้งนี้ผมกลับรู้สึกว่า ผมนอนไม่หลับเพราะคนข้าง ๆ ที่นอนอยู่ข้างผม มันทำให้ผมรู้สึกแตกต่างออกไป



            ไฟในห้องที่ถูกปิดลงเหลือเพียงแค่หัวเตียงให้พอสว่างเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัว บวกกับแสงพระจันทร์ทำให้ห้องนี้ดูไม่มืดสักเท่าไหร่ (บรรยากาศทะแม่ง ๆ อีกแล้ว) ผมมองเพดานห้องของตัวเองตาปริบ ๆ นอนสิวะศิลา....คิดอะไรอยู่ได้



            “พี่ศิลา..หลับรึยัง” เสียงไอ้หมูดังขึ้น



            “ยัง...”



            “ผมนอนไม่หลับอ่ะ..ตื่นเต้น” เหมือนกูเลยว่ะ...บ้า เปล่าซะหน่อย!



            “ตื่นเต้นบ้าไรของมึง”



            “ก็พี่ศิลานอนอยู่ข้าง ๆ ดีใจยังไงไม่รู้” ไอ้หมูพูดออกมา ผมเหลือบมองมันข้ามหมอนข้างก็พบว่า มันมองมาที่ผมอยู่...เชี่ยยย สบตากับไอ้หมูเต็ม ๆ



            “มองทำไม หันไปทางอื่นสิวะ!”



            “มองไม่ได้เหรอ ไม่ได้ข้ามไปฝั่งพี่ซะหน่อย” มันพูดกวน ๆ และไอ้นี่แม่งก็ไม่หยุดมองผมจริง ๆ



            ผมเลยเป็นฝ่ายนอนตะแคงข้างหันหน้าหนีมันเอง แต่คำพูดกวนบาทาก็ถูกพูดออกมาจากปากของไอ้หมู



            “หันก้นมายั่วผมทำไมล่ะครับนั่น”



            “ไอ้เชี่ยหมู!!!” ผมหันไปด่ามันก็ต้องลดเสียงลืมตัว...ไอ้เชี่ยนี่มาพูดถึงก้นผมทำไมเล่า....มันหัวเราะคิกคิกคนเดียวเหมือนพอใจมาก



            ผมพลิกตัวมานอนหงายเหมือนเดิม



            “นี่ไอ้หมูกรอบ...ป๊ากูพูดดุอะไรมึงรึเปล่า” ผมถามกลางความเงียบ...



            “อยากรู้เหรอ” ถ้ากูไม่อยากรู้ก็คงไม่ถามหรอกเฟ้ย...



            “ก็ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร...” ฟอร์มเยอะจริงครับไอ้ศิลา...กูอยากรู้บอกกูมา! ผมได้ยินเสียงไอ้หมูหัวเราะเบา ๆ



            “ครับ งั้นไม่บอก” นั่นไงมันกวนตีนผม! “ฮ่า ๆ พี่ทำหน้าเหมือนจะกระโดดมางับหัวผม บอกครับบอก”



            “ป๊าบอกว่าให้ผมเลิกยุ่งกับพี่ศิลาซะ...” คำตอบของมันทำให้ผมชะงักกึก....คำว่าเลิกยุ่ง มันทำเอาใจผมวูบแปลก ๆ



            “แล้วมึงจะทำยังไงต่อ....”



            “เลิกยุ่งกับพี่....” ผมหันไปมองหน้ามันที่มองเพดานนิง ๆ ...เชี่ย เลิกยุ่งง่ายจังไหนบอกว่ารักกูวะ    ยังไม่ทันจะอ้าปากด่า ไอ้หมูก็ตอบกลับมาก่อน แถมประโยคต่อมาเรียกรอยยิ้มของผมได้...



            “มันไม่ใช่ผมหรอกครับ เรื่องอะไรผมจะยอมให้พี่ศิลาหายไปจากผมล่ะ...”



            กูจะยิ้มทำไม...ยิ้มเพราะอะไร และก็ต้องหุบยิ้มกับประโยคต่อมา



            “จริง ๆ แล้วป๊าไม่ได้พูดหรอกที่ว่าให้เลิกยุ่งกับพี่อ่ะ”



            “อ้าวไอ้สัด...” เท้าของผมพร้อมจะลอยไปเตะมัน



            “ฮ่า ๆ นั่น ด่าผมเชียว...” ไอ้เชี่ย...กูเกือบปั่นป่วน!!ตกลงป๊าเรียกมึงไปคุยอะไรไหม! (อยากเผือกหนักมาก)



            “ป๊าไฟเขียวให้ผมแล้วนะ” ผมหันไปมองหน้ามันอีกอย่างไม่เชื่อ



            “หา?”



            “ป๊าของพี่ศิลาไฟเขียวให้ผมแล้ว...ที่เหลือก็แค่ไฟเขียวจากพี่ศิลานั่นแหละครับ” มันว่าอะไรนะ? ผมหันไปสบตากับร่างสูงที่นอนตะแคงหันมาหาผม



            ดีจริงที่เอาหมอนข้างกั้นไว้....



            “มึงล้อเล่นรึเปล่า ป๊าเนี่ยนะ? เอาเรื่องอะไรมาพูด”



            “จริงงงง...เพราะผมหล่อมั๊งป๊าเลยยอมไฟเขียว” ผมทำหน้าแหยง ๆ ไอ้เชี่ยมีความมั่นหน้ามาก     ได้ข่าวว่าป๊าเพิ่งด่ามึงว่าไม่หล่อนี่...



            “ตลก” ผมว่า มันก็หัวเราะ



            “อาจจะเป็นเพราะเห็นความจริงใจของผมที่ตามพี่มาหลายปีมั้ง..ความหน้าด้านของผม”



            “กูว่าไม่น่าเชื่อสุด ๆ...” ผมยังคงไม่ยอมเชื่อแม้จะพอรู้มาว่าป๊าเลี้ยงผมมาแบบลูกผู้หญิง...(แบบว่าอย่างที่เคยบอกตั้งแต่ต้น ๆ ว่าป๊าอยากให้ผมเป็นลูกผู้หญิงเลยเรียกผมว่าหมวยเล็ก และที่พีคไปกว่านั้นคือ อยากให้ผมมีสามี...นี่คือความประหลาดของป๊าผม...)



           “แล้วตอนนี้พี่ศิลาไฟเขียวให้ผมรึยังครับ” คำถามจี้จุดถูกถามมาตรง ๆ อ้าว...มันวนมาอีกแล้ว



            “ไม่...กูให้ไฟแดง” ผมตอบกลับ ไอ้หมูมันทำหน้าชะงัก



            “โห...อีกนานไหมกว่าจะเขียว” เสียงอ้อนตามฉบับของมันไม่ได้ทำให้ผมไขว่เขวหรอก



            “ก็รอสัญญาณไฟไปสิ”



            “ทำไมสัญญาณไฟเขียวของพี่นานจัง...น้ำมันผมจะไม่หมดก่อนเหรอ” หมดก็เติมสิไอ้ว่าที่หมอโง่...



            “อีกไม่นานหรอกเดี๋ยวมันก็เขียว...กูนอนแล้ว” ผมตอบกลับเสียงแผ่วเบาแต่ก็เรียกความตื่นเต้นของไอ้คนข้างผมได้ นี่ผมจะมานอนพูดเรื่องไฟเขียวกับไฟแดงทำไมล่ะเนี่ย....



            “พี่ศิลา...ผมจะรอนะ น้ำมันเต็มถังเลยพร้อมรอไฟเขียว!” ไอ้หมูพูดด้วยน้ำเสียงสดใสเป็นพิเศษ...มึงยังไม่หยุดพูดเรื่องไฟเขียวอีกเนอะ ไอ้บ้า....แล้วปากของผมจะยิ้มทำไมวะ...



            อีกไม่นานงั้นเหรอ....ผมเริ่มรู้สึกว่าผมคงจะให้ไฟเขียวกับไอ้หมูอีกไม่นานล่ะมั้ง...เชี่ย นี่กูคิดอะไรเป็นตุเป็นตะไปกับมันวะ....







            “หลับแล้วเหรอครับ....หมอนข้างเกะกะผมมากเลย....เอาออกนะ”

           “พี่ศิลา...คืนนี้ผมขอนอนกอดพี่ไว้ได้ไหม”

            “อื้อ...” เสียงตอบรับละเมอของพี่ศิลาดังขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเมื่อโดนอ้อมกอดของหมูที่สวมกอดเนียน ๆ

           “หวังว่าพรุ่งนี้ตื่นมาจะไม่โวยวายนะ....”หมูถีบหมอนข้างลงไปไว้ปลายเท้าเรียบร้อยและเขยิบเข้าไปนอนกอดพี่ศิลาไว้แทน...






...............................++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจจากคนอ่านค่าาา  :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 15| (25/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 25-04-2017 22:06:40
มอีกไม่นานหรอก ตอนนี้ดุเหมือนวว่าสัญญานไฟจะเริ่มแสดงแระ   อิอิ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 15| (25/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 25-04-2017 22:43:44
กรีดดดดดด...พี่ศิลาจะไฟเขียวให้หมูแล้วเย้เย้มาต่ออีกนะค่ะ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 15| (25/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 26-04-2017 11:07:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 16| (26/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 26-04-2017 17:34:15
ตอนที่ 16



             [พาร์ตของศิลา]




            ผมค่อย ๆ ลืมตาแต่ก็ต้องหลี่ตากับแสงแดดที่สาดส่องเข้ามา...ผ้าห่มของผมทำไมมันดูอุ่นจัง...เพราะเมื่อคืนผมรับรู้ว่าผ้าห่มผมอุ่นมาก ผมลืมตาขึ้นชัด ๆ ก่อนจะเบิกตากว้างกับใบหน้าหล่อคมที่นอนหลับอยู่ข้างผม!! ประเด็นใหญ่ไปกว่านั้นคือ ไอ้หมูมันนอนกอดผมไว้ เชี่ยย!!!....หมอนข้างไปอยู่ปลายเท้าของเราสองคนเรียบร้อย! มันกอดผมตั้งแต่ตอนไหนทำไมผมไม่รู้เรื่อง (ก็หลับสนิทซะขนาดนั้นไง)



            เท้าของผมทำงานโดนอัตโนมัติคือถีบไอ้หมูทันที...กว่าจะรู้ว่าตัวเองทำอะไร มันก็ไปนอนข้างเตียงร้องโอดครวญแล้ว...



            พลั่ก! ตุบ



            “โอ๊ย!! พี่ศิลา...” ไอ้หมูร้องเจ็บ เชี่ย...ลืมตัว ผมคลานไปดูไอ้หมูที่เอามือกุมท้องของตัวเอง ก่อนผมกับมันจะหันไปมองประตูที่ถูกเปิดเข้ามาโดย ป๊า เฮียใหญ่ เฮียกลาง และแม่....เชรด มาครบแก๊งค์



            “มีอะไรหมวยเล็ก...อ้าว ไอ้หมูไปนั่งทำไรตรงนั้น” เฮียใหญ่ถามไอ้หมูที่ลุกขึ้นนั่งยิ้มแห้งให้ทุกคนที่เข้ามาพร้อมหน้าพร้อมตา...ดีนะ ป๊าไม่เข้ามาเห็นผมถูกไอ้นี่กอด!



            “พอดีผมตกเตียงน่ะครับ...” ไอ้หมูบอกพลางยิ้มให้ผม ทุกคนมองหน้ากันตาปริบ ๆ



            “เดี๋ยวป๊าว่าจะชวนหมวยเล็ก กับไอ้หมูนี่ด้วย ไปทำบุญที่วัดประจำเมืองกัน เพราะจะเปิดเทอมแล้วนี่ กว่าจะได้กลับมาหาป๊าก็เทศกาลนู่น” ป๊าบอกกับผม พอบอกปั๊ปป๊าก็ดันหลังทุกคนให้ออกไปจากห้อง เหลือเพียงแค่ผมกับไอ้หมูที่นั่งกุมท้องอยู่ข้างเตียง...



            “มึงเจ็บมากไหม” ผมถามด้วยความแอบรู้สึกผิด (ถีบแรงเหมือนกันนะเมื่อกี้)



            “ไม่เจ็บครับ แค่จุก” มันทำหน้าเจ็บจริงอ่ะ มีรอยช้ำปะวะ...



            “กูดูหน่อยว่ามันช้ำไหม” ผมก้าวลงจากเตียงและทำท่าจะไปเปิดเสื้อของไอ้หมูดู มันชะงักนิดหน่อยเมื่อผมเปิดเสื้อแล้วเห็นซิกแพคตรงหน้า...ผมรีบปิดลงพรึบ



            “มีไหมครับ รอยช้ำ?” มันถามผมด้วยรอยยิ้มมุมปาก ไอ้เชี่ย...ยิ้มทำไมวะ “หรือเห็นแค่ซิกแพคของผม?” น้ำเสียงขี้เล่นประจำตัวของมันทำให้ผมลุกเดินหนีมัน



            “ไม่เห็นจะมีซิกแพคสักนิด!” เห็นแต่พุง!..โกหกครับ ซิกแพคมันเต็มตาผมเลย...



            “ผมก็อยากเห็นกล้ามของพี่ศิลาบ้างจัง ว่าจะขาวแค่ไหน”



            “ไอ้เชี่ยหมู!! ลามปามละมึง...” ผมหันขวับไปด่ามันที่นั่งหัวเราะอยู่ตรงพื้น ไอ้นี่แม่งบ้าได้ตลอดเวลาเลยวุ้ย !! ผมเดินหนีหายไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ผมได้ยินแต่เสียงไอ้หมูหัวเราะคิกคักเหมือนพอใจมาก ไม่รู้พอใจอะไรของมันนักหนา แล้วผมไปนอนอยู่ในอ้อมกอดของมันได้ยังไงวะ!!...ผมไม่ใช่คนนอนดิ้นนี่นา...





            @วัดประจำเมือง



            คนที่ดูจะตื่นเต้นดี๊ด๊าที่สุดก็ดูจะเป็นไอ้หมูนั่นแหละครับ ทำเหมือนไม่เคยเข้าวัดไปได้ ยิ้มอยู่นั่นแหละ วัดนี้เป็นวัดที่ใหญ่พอสมควรแถมยังมีบึงไว้สำหรับปล่อยปลา ให้อาหารปลาด้วย ป๊ามักจะพาผมเข้ามาไหว้พระทำบุญที่นี่เป็นประจำแหละครับ...ที่ป๊าพาไอ้หมูมาด้วยมันเป็นเครื่องยืนยันรึเปล่านะที่หมูมันพูดว่าป๊าไฟเขียว...



            ผมที่ยืนอยู่กับป๊าสองคนตรงลานกว้าง รอทุกคนที่กำลังไหว้พระอยู่ ผมเลยได้โอกาสถาม



            “ป๊า...”



            “จ๋า หมวยเล็ก” ป๊าหันมายิ้มให้ลูกสาวประจำบ้านอย่างผม (แบบว่าผมไม่อยากยอมรับก็คงต้องยอมรับว่าเป็นเหมือนลูกสาวของป๊าแหละนะ)



            “เรื่องไอ้หมูที่ป๊าไปคุยด้วยเมื่อวาน...” กลั้นใจถามสุด ๆ



            “หือ ไอ้หมูเหรอ มันบอกหมวยเล็กว่าไงล่ะ”



            “มันบอกว่า...ป๊าให้ไฟเขียวมัน ป๊ารู้เหรอว่ามันแบบว่ามาจีบผม...” ป๊ามองผมก่อนจะเอามือมาบีบแก้มของผม ราวกับผมเป็นเด็กสาวตัวน้อย (ผมโตแล้วนะป๊า! หล่อด้วย)



            “ใช่ ไอ้หมูมันก็บอกป๊ามาหมดแล้วแหละเมื่อวาน ว่ามันจะจีบหมวยเล็ก...” เชรด...ไอ้หมูคนจริง



            “ป๊ารับได้เหรอ...ทำไมยอมไฟเขียวให้มัน” ผมถามด้วยความอยากรู้จากปากของป๊าจริง ๆ



            “เอาจริง ๆ ป๊าชอบนะที่เห็นหมวยเล็กจะมีคนดูแล...” อ้าว ป๊า... “ไอ้หมูดูก็ไม่ใช่คนเลวร้าย แต่รู้ไหมอะไรที่ป๊าตระหนักมากที่สุด...ใจของหมวยเล็กไง ที่ป๊าใส่ใจที่สุด ถ้าหมวยเล็กเลือกใคร ป๊าก็รับได้หมด...เพราะหมวยเล็กเป็นหัวใจของทุกคนรู้รึเปล่า...” คำพูดของป๊าบอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและแฝงไปด้วยความรักมากมาย บ่งบอกว่าป๊ารักผมมากจริง ๆ....



            หลังจากได้ยินคำยืนยันจากป๊าก็เหมือนว่า ทุกอย่างตอนนี้กำลังขึ้นอยู่กับผม และทำให้ผมต้องมาคิดหนักอยู่ตอนนี้...เชี่ยยยย ปวดหัวขึ้นมาทันทีทันใด ใจของผมงั้นเหรอ ผมที่กำลังยืนอยู่แถวลานกว้างก็สะดุ้งเมื่อไอ้หมูเดินมายืนอยู่ด้านหน้าของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้





            “พี่ศิลา...ปล่อยปลาด้วยกันปะครับ” ปากชวนแต่มือมึงอ่ะ!! ยื่นมาจับมือของผมแล้ว ผมกำลังจะโวยวายแต่ก็ลืมว่าเราอยู่ในวัด แล้วนี่ทุกคนหายไปไหนกันหมดแล้ว?



            “คนอื่นไปไหน?”



            “เห็นไปปล่อยนกทางนู้นครับ ป่ะ พี่ศิลา ไปปล่อยปลากัน ผมอยากปล่อยกับพี่...” มันลากผมให้เดินตามมันไปตรงบึงตรงหน้าที่มีคนขายปลาอยู่ ไอ้หมูซื้อมาหนึ่งถุงใหญ่มาก มันเดินกลับมาหาผมที่ยืนรออยู่



            “พี่ศิลานี่ครับ” มันแกะออกและยื่นให้ผม ผมเลิกคิ้ว ไหนมึงบอกอยากปล่อยแล้วยื่นมาให้กูหมดทำไมล่ะนั่น



            “ปล่อยสิ”



            “ปล่อยด้วยกันสิครับ มาจับด้วยกัน นะ นะ” พวกสาว ๆ ที่พากันมายืนปล่อยปลาอธิษฐานขอให้ไม่โสดพากันมองผมกับไอ้เชี่ยหมูตาปริบ ๆ ผมเลยรีบไปจับถุงกับไอ้หมู แม่ง...พูดทีคนหันมามองเต็ม ก็ดูออร่าของมันสิ...ยังกับนายแบบ



            หมูยิ้มพร้อมกับเขยิบตัวมาใกล้ผมอย่างเนียน ๆ ...ในวัดนะมึงในวัด มือหนาเลื่อนมาจับมือของผมที่จับปากถุง ไอ้สัดเนียนเอาโล่....



            “มือมึง จำเป็นต้องมาจับมือกูมะ”



            “ขอจับหน่อยครับ” ก็มึงจับอยู่นี่ไง...ไอ้หมูกรอบ “พี่ศิลาอธิษฐานว่าอะไรอ่ะ” ผมกับมันกำลังยกถุงเทเหล่าปลาตัวน้อยลงไปในน้ำ



            “ใครเขาจะบอกกันวะ”



            “ผมขอให้พี่ศิลาใจอ่อนให้ผมเร็ว ๆ...” ไอ้หมูตอบอย่างอารมณ์ดี ไอ้เชี่ย...พูดบ้าอะไรออกมาอีก



            “ก็พี่ศิลาใจแข็ง เลยขอให้ใจอ่อน” มันบอกและเก็บถุงไปทิ้งขยะ ผมมองมันที่หันหลังให้ผม



            “รู้ได้ไงว่ากูใจแข็ง...” ผมพูดเสียงแผ่วเบาจนไอ้หมูไม่ได้ยิน มันหันขวับมาหาผม



            “พี่ศิลาว่าอะไรนะครับ?”



            “เปล่า...ไปหาทุกคนกันเหอะ” ผมบอกก่อนจะเดินนำหน้าไอ้หมู มันเดินมาตีคู่กับผมทำท่าเหมือนอยากพูดอะไรอีก



            “พี่ศิลา ผมมีเรื่องจะบอกอีกเรื่อง...แต่ต้องบอกผมก่อนว่าจะไม่โกรธ พี่อยู่ในวัดนะ โกรธไม่ได้...” ไอ้หมูรวบรัด มันจะบอกอะไรอีกวะ....แถมยังมาบังคับกูว่าห้ามโกรธ ไอ้ป๊อด...



            “บอกอะไร หัวหมอนะมึงมาพูดในวัด เออ ๆ กูไม่โกรธ ว่ามา” ผมรอฟัง ไอ้หมูเม้มปาก



            “คือว่า...ผมได้เฮียใหญ่กับเฮียกลางช่วยเปิดทางให้ผมเข้าหาพี่หมวยเล็กครับ...” ผมที่ได้ฟังก็...เฉย ๆ กูว่าแล้ว...มิน่า!! เฮียใหญ่ก็ดูเชียร์ไอ้เชี่ยหมูออกหน้าออกตา แทนที่จะหวงมากกว่านี้....ไรวะ



            สรุปมีผมไม่รู้อยู่คนเดียว!....เชี่ยยย อยากโกรธว่ะ...ผมมองหน้าไอ้หมูที่เริ่มซึม เหอะ แกล้งงอนได้ไหมวะ...แกล้งงอนอะไรของกู...



            “เหรอ มีจะบอกแค่นี้ใช่ไหม?” ผมถามเสียงเรียบพร้อมกับหมุนตัวจะเดินไปหาทุกคนที่รออยู่แถวหน้าวัด ไอ้หมูรีบเดินตามผม



            “พี่ศิลา..”



            “..........”



            “อย่าเงียบสิ ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดพี่นะ แค่พูดยังไม่หมด...”



            “...........” ผมยังคงเดินต่อ ไอ้หมูก็เดินตามติดจนมันเอื้อมมาจับมือของผมไว้



            “มีอะไรอีกไหม ที่มึงยังไม่บอกกู?” ผมถาม มันก็ส่ายหน้ายืนยัน



            “หมดแล้วครับ ผมไม่มีอะไรที่ปิดบังพี่อีกแล้ว...พี่อย่าโกรธผมนะ ผมทนไม่ได้”



            โป๊ก!! ผมเขกหัวของมันไม่แรงมากนัก...มันแม่งเริ่มพูดมาก ผมกลัวมันจะสติแตกซะก่อน



            “เลี้ยงข้าวหมูแดงกูด้วยตอนกลับไปมอแล้ว...ค่าที่ปิดบังกู” ผมบอก ทำให้ไอ้หมูยิ้มกว้าง บังเอิญนึกถึงข้าวหมูแดงขึ้นมา...ร้านที่ไอ้หมูซื้อมาให้มันอร่อยจริง ๆ นะครับทุกคน



            “ได้สิครับ! เลี้ยงตลอดชีวิตผมก็ทำได้...” ไอ้นี่...ได้คืบจะเอาศอกมาก



            “กูให้เลี้ยงแค่มื้อเดียว! ไปเลยมึง ป๊ากับทุกคนจะรอนาน อยากเป็นหมูย่างเหรอมึง” ผมด่าอีกรอบและเดินหนีไอ้หมูที่เดินตามผมต้อย ๆ ปากของผม...จะยิ้มทำไม จะบ้า.....



            การกลับบ้านมาครั้งนี้มีเรื่องบางอย่างที่แปลกไปจากเดิม...เพราะผมดันมีไอ้หมูอยู่ด้วยในวันหยุดก่อนเปิดเทอม ได้ใช้เวลากับครอบครัวโดยมีไอ้หมูมาเพิ่ม วันหยุดช่างผ่านไปเร็วซะจริง วันนี้ผมต้องกลับไปที่มอแล้วล่ะครับ วันจันทร์นี้ก็เปิดเทอมแล้วล่ะ รู้สึกคิดถึงทุกคนในบ้านขึ้นมาเลย...พอจะต้องกลับมอแล้ว



            ระหว่างที่ไอ้หมูกับเฮียใหญ่กำลังแบกเป้กับพวกขนมที่ป๊าขนไปให้ผมกินเก็บใส่รถ ม๊าก็เข้ามากอดผมไว้



            “ตั้งใจเรียนนะหมวยเล็ก ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วย..ม๊ารักหมวยเล็กนะ.... ป๊า! มายืนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทำไม” ม๊าหันไปว๊ากป๊า ฮ่า ๆ ก็ดูสิป๊าทำหน้าเหมือนไม่อยากให้ผมกลับมอ



            “ก็ป๊าไม่อยากให้หมวยเล็กกลับมอ...”



            “ป๊าอย่างอแงไปหน่อยเลย หมวยเล็กไปเรียนนะครับ” เฮียใหญ่ว่ากวน แทบจะโดนเท้าจากป๊าของผมอยู่แล้ว



            “ไอ้ใหญ่ไม่ต้องมาทำเก๊ก พอน้องไปอยู่มอก็มาบ่นคิดถึงทุกวัน” ป๊าด่าเรียกเสียงหัวเราะของทุกคนได้ทันที ผมเข้าไปกอดป๊าไว้



            “ไว้หมวยเล็กจะกลับมาบ่อย ๆ นะป๊า”



            “ฝากดูแลหมวยเล็กด้วยนะไอ้หมูย่าง” เฮียกลางว่ากับไอ้หมูที่พยักหน้าอย่างสำรวม ฮ่า ๆ ดูหน้าไอ้หมูดิ ยังกับลูกเขยกลัวเหล่าฝ่ายพ่อตา...อ้าว ไอ้ศิลาครับ ลูกเขยไรของมึงงงงง....



            “ไป ๆ เดี๋ยวถึงมอค่ำ กลับได้แล้ว” ป๊ามองนาฬิกา ผมยกมือบ๊ายบายทุกคนที่ยืนส่งผมขึ้นรถ ทำไมน้ำตามันเหมือนจะไหลเลยนะ...จริง ๆ ผมเองก็คิดถึงทุกคนมากเหมือนกันครับ แต่ก็รู้ว่าต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง





            ระหว่างที่อยู่บนรถ



            ผมนั่งมองข้างทางไปเรื่อย ๆ ส่วนไอ้หมูก็ตั้งใจขับรถ ผมกับมันไม่ได้พูดอะไรกันเลย มีเพียงแค่เสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ เท่านั้น...แถมเป็นเพลงพวกสถานะคนแอบรักด้วย ไอ้เชี่ยหมูฟังเพลงได้แบบ..ตรงกับตัวของมันเนอะ อากาศวันนี้เหมือนฝนจะตกชะมัด แอร์ในรถแม่งก็เริ่มหนาว...



            เหมือนไอ้หมูรู้ความคิดของผม เพราะมันยื่นมือมาลดแอร์ลง



            “อากาศหนาว ๆ นะครับ พี่ศิลาเอาเสื้อของผมไปห่มก่อนไหม” มันถามแต่ก็เอื้อมมือไปหยิบเสื้อมายื่นให้ผมซะละ ผมก็รับมาแบบไม่ให้เสียน้ำใจ...จริง ๆ กูหนาว



            “บ้านของพี่ศิลาอบอุ่นมากเลยนะครับ ไม่แปลกใจทำไมพี่ศิลาถึงน่ารักขนาดนี้...” ไอ้หมูขับรถไปด้วยพูดไปด้วย     
 ผมเหลือบมองรอยยิ้มของมัน...ไม่เบื่อที่จะยิ้มรึไงวะ



            ผมเอาเสื้อของมันมาห่ม กลิ่นน้ำหอมนี้อีกแล้ว...กลายเป็นว่าผมดันจำกลิ่นของไอ้หมูไปซะแล้ว



            “มึงก็ดูเข้ากับครอบครัวกูได้นี่” ผมว่าตามความจริง ก็ดูทุกคนจะรักและเอ็นดูไอ้หมูดีกันทั้งนั้น



            “ครับ ถ้าเข้าไม่ได้ผมก็ลำบากน่ะสิ จะจีบหมวยเล็กบ้านนี้นี่” มีโอกาสเมื่อไหร่มันก็หยอดผมตลอด ไอ้เชี่ย...ให้ได้พักหายใจบ้าง กะจะขายขนมจีบให้ผมทุกห้านาทีเลยรึไง...



            “อดทนดีเนอะมึงเนี่ย” ผมว่าพลางหันหน้าไปทางหน้าต่างข้างนอก เสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ ทำให้ผมรู้สึกง่วงขึ้นมา



            “มันไม่ใช่เพราะผมอดทนหรอกครับ...” ไอ้หมูตอบกลับเสียงทุ้ม “มันเป็นเพราะความรักต่างหาก ผมถึงยังอยู่ตรงนี้...” อื้อหือ...คมเชี่ย ๆ ... ผมหลับตาลงเหมือนต้องการจะหนี...หนีหน้าที่มันเริ่มร้อนขึ้นมาซะงั้น คำพูดตรง ๆ ของมันเริ่มจะกัดกร่อนจิตใจของผมซะแล้วเหรอ...



            ผมหลับไปตั้งแต่ไอ้หมูพ่นคำคม ๆ ออกมา จากนั้นผมก็หลับยาวจนมาถึงหอเลย เพราะมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงของไอ้หมูใกล้หู พอลืมตาขึ้นมาก็ต้องตาโตเมื่อเห็นหน้าไอ้หมูใกล้ ๆ มันเปิดประตูฝั่งผมและกำลังจะปลดเข็มขัดนิรภัยฝั่งผม เชี่ยยย....กูตกใจ



            “ไอ้เชี่ยหมู..ถอย” ผมไล่ หมูเลยยิ้มพร้อมกับปล่อยมือจากสายรัดเข็มขัดฝั่งผม



            “อ้าว ตื่นแล้วเหรอครับ ตอนแรกว่าจะอุ้มพี่ขึ้นไปบนห้อง” ดีจริงที่กูรู้สึกตัวตื่น... ผมลงมาจากรถจะไปหยิบกระเป๋าหลังรถ ไอ้หมูก็ทำท่าจะช่วยถือ



            “ไม่ต้อง มึงกลับหอไปเหอะไป เดี๋ยวกูถือเอง ขับรถมาเหนื่อย ๆ “ ผมไล่ แต่ถามว่าไอ้นี่เคยฟังผมไหม ไอ้เชี่ยกูรุ่นพี่มึงนะครับ...มันก็แม่งไม่เคยจะฟัง ถือขนมกับกระเป๋านำผมขึ้นไปบนห้องประดุจตัวเองเป็นเจ้าของห้อง เอาคีย์การ์ดกูไปเลยไหมล่ะ! ไอ้ฟายนี่....อย่าไปพูดให้มันได้ยินนะ ผมว่ามันเอาจริงอ่ะไอ้หมูเนี่ย ผมเดินตามมันที่เดินเหมือนว่าตัวเองอยู่หอนี้



            “ส่งแค่นี้แหละ กลับไปได้แล้ว” ผมเอากระเป๋าของตัวเองมาถือไว้ ไอ้หมูทำหน้าอิดออด



            “โห ไล่จัง...พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้วนะ” มันว่า



            “แล้วไง?”



            “เคยบอกพี่ศิลาไปแล้วนี่ครับ ว่า...เวลาเจอจะน้อยลง” เวลาเจอน้อยลง...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม



            “เออ แล้วไงทีนี้?” ผมถามคืนอย่างไม่ได้คิดอะไรแต่มันก็ทำให้ไอ้หมูนิ่งไปเล็กน้อย



            “พี่จะไม่คิดถึงบ้างเหรอ ถ้าไม่ได้เจอผมหลายวันไรงี้” ผมฟังก็ชะงัก...ไม่เห็นจะแคร์นี่



            “ก็ไม่ ไป ๆ กลับหอไปได้แล้วไอ้เชี่ยหมู” ผมไล่อีกรอบ ก่อนจะนิ่งเมื่อหมูดันผมติดประตู เชี่ยยย..หน้าห้องนะเว้ย!!



            “พี่ศิลานี่ปากแข็งจังเลยนะครับ....ทั้งที่มันก็นุ่มแท้ ๆ...” มายุ่งอะไรกับปากของกู!! “ปากกับใจไม่ตรงกันเอาซะเลยนะครับ....” เรื่องของกูไหมมมมม.....ปากของกู ใจก็ของกูโว้ย...



            “ถอยไปไอ้เชี่ย!...” ผมตาโตเมื่อไอ้หมูมันก้มหน้าเข้ามาใกล้ผม เฮ้ยยย...หน้าห้องนะ ริมฝีปากหนาตรงหน้าผมก้มลงมาประกบปากของผมแบบกดริมฝีปากบดขยี้  ไอ้เหี้ยยยย....จู่โจมกูอีกแล้ว ผมเหมือนได้ยินเสียงของคนที่กำลังเดินขึ้นบันไดมา ทำให้ผมผลักไอ้หมูออกอย่างลืมตัวพร้อมกับฝ่ามือที่ฟาดไปอย่างไม่ตั้งใจ



            เพี๊ยะ!! ...เฮือก ฟาดหน้ามันไปแล้ว...เชี่ย ไอ้หมูหันหน้าไปตามแรงตบ



            “เฮ้ย กูขอโทษ...ก็มึงแหละเชี่ย มาจูบกูทำไม...” ผมบอกและตัวแข็งทื่อกับสายตาคมที่หันมามองผม มันดันไหล่ของผมติดประตูอีกครั้ง น้ำเสียงเย็นเฉียบของมันทำให้ผมรู้สึกเย็นไปทั้งตัว...



            “พี่ศิลารู้ไหมว่าผมเป็นผู้ชาย...” กูรู้! กูก็ผู้ชายเว้ย.. “เป็นผู้ชายที่รักพี่มาก...ความอดทนมันมีขีดจำกัดนะครับ การหักห้ามใจความต้องการก็เหมือนกัน....” ไอ้หมูพูดทิ้งท้ายไว้แค่นี้ก่อนจะเดินหันหลังออกไปจากผม...ผมมองตามงง ๆ มันจะโกรธกูไหมวะ ที่ตบมันแบบไม่ได้ตั้งใจ...





            .....................

            ....................



            3 วันแล้วล่ะครับกับการเปิดเทอม...และก็เป็น 3 วันที่ไอ้หมูหายหน้าหายตาไปจากผมตั้งแต่วันที่เรากลับมาจากบ้าน และผมก็ตบมันไป...มันไม่โทรหรือโผล่หน้ามาให้ผมเห็นอีกเลย นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดอยู่ตอนนี้ บอกเลยว่าเพิ่งจะเปิดเทอมอาจารย์ก็ขยันสั่งงานประดุจว่าคิดถึงพวกผมมาก! ขนาดคณะวิศวะของผมยังงานเยอะขนาดนี้...คณะแพทย์ผมว่าคงเป็นสองเท่าล่ะมั้ง หรือว่าไอ้หมูมันจะเรียนหนัก



            “เฮ้อ...” ผมเอามือเท้าคางระหว่างอยู่คาบเรียนซึ่งกำลังจะหมดเวลาคาบเช้า ไอ้เสาที่นั่งข้างผมก็ว่าขึ้น



            “ไอ้ศิลา...ถอนหายใจรอบที่ร้อยแล้วไอ้สัดดด....” ผมมองมันที่นั่งดูดชานมไข่มุกที่แอบไว้ตรงใต้โต๊ะ โห...ไอ้เชี่ยนี่กินไปสองแก้วแล้ว ผมยอมใจไอ้นนท์ที่ซื้อมาให้ไอ้เสามันถึงสองแก้ว เอาใจกันอย่างแรง อ้อ ลืมบอกไปครับว่าไอ้เชี่ยสองตัวนี่มันคบกันแล้วนะ ผมมาเจอมันตอนวันเปิดเทอมถึงกับเอ๋อ ว่าแล้วว่าพวกมันแม่ง...ต้องมีซัมติงแน่ ๆ ฮ่า ๆ และผมก็เดาถูก ไอ้นนท์มันมาโม้ให้ผมฟังแหละครับ เห็นว่าคบกันตอนวันที่ไอ้เสาไม่สบายแหละ ผมก็เลยมีอะไรไปล้อไอ้เสาละ เอาชื่อไอ้นนท์มาล้อมันปั๊ปไอ้เสาก็ควันออกหูแบบน่ารักสไตล์มันทันที



            “แดกชานมมึงไปเหอะ มีผัวเปย์นี่ดีเนอะ” ผมล้อ ไอ้เสาหันขวับมาจะงับหัวผมอยู่แล้ว



            “ไอ้สัดศิลาเดี๋ยวกูจะเตะมึงออกไปนู่น เอ๊ะ...ไอ้เหี้ยนนท์! มานอนตักกูหาเชี่ยไร” นั่นไงครับ...ไอ้นนท์ที่นั่งอยู่ข้างไอ้เสาล้มตัวลงนอนตักไอ้เสาเฉยเลย โอ๊ย...พวกมึงงงง เกรงใจวิศวะคนอื่นที่มันนั่งมองตาปริบ ๆ ด้วย ฮ่า...     



            “กูขอหลับหน่อย ค่าชานมไง” ไอ้นนท์ก็ทำตัวหน้าด้านของมันไป



            “ไอ้เหี้ย...” ไอ้เสาด่าแค่นั้น แต่ก็ไม่ได้ไล่ไอ้นนท์ที่หลับไป เหอะ ๆ ไอ้เสาหันมามองผม



            “แล้วมึงเหอะ ทำไมกูไม่เห็นไอ้น้องหมูกรอบของมึงวะ นี่จะวันที่สามแล้วนะเว้ย” นี่แหละคือสาเหตุที่ผมถอนหายใจอยู่ตอนนี้ แม่ง...กูไม่ได้เจอหน้ามันมาตั้งสามวันแล้วนะเว้ย!!...(ไหนว่าไม่คิดถึงไง)



            “ไม่รู้เชี่ยมัน หายไปไหนไม่รู้” ผมตอบตามความจริง ไอ้เสาก็หัวเราะ



            “ทำไมไม่ลองไปหาน้องมันล่ะ มันอาจจะเรียนหนักก็ได้” เพิ่งปี 1 เอง...แต่ก็น่าจะเรียนหนักแหละนะผมว่า เป็นว่าที่หมอนี่...



            “แถมตึกเราแม่งไกลกันกับตึกแพทย์มาก คงไม่มีเวลาพักขนาดนั้น” ไอ้เสาพูดอย่างเดาเหตุการณ์ ผมมีเพื่อนเป็นนักสืบตั้งแต่เมื่อไหร่



            “กูก็ไม่ได้อยากเจอมันซะหน่อย...” ผมบอกทั้งที่จริง ๆ ..ก็อยากรู้ว่ามันทำอะไรอยู่วะ ไอ้เสาเลิกคิ้วล้อ



            “แหม...ไม่อยากเจอแต่นั่งถอนหายใจเหม่อลอย คิดถึงก็ไปหาดิวะ ฟอร์มไปทำไม” ผมเหลือบมองไอ้เสาที่พูด โห...มึงไม่ดูตัวเองเลยไอ้สัดเสา ฟอร์มไม่ต่างจากกู...



            “ไปตอนเที่ยงก็ได้นี่ บ่ายเราไม่มีเรียนเร็ว เรียกอีกทีบ่ายสาม มึงก็แวะไปหาน้องดูสิ” ไอ้เสาแนะนำเหมือนอยากจะโยนเพื่อนให้ผู้ชายมาก



            ผมนั่งคิดอยู่สักพัก...จะไปดีไหมวะ ก็แบบว่าผมจะหาเหตุผลอะไรไปหามันดีวะ จะไปหาเฉย ๆ มันก็เป็นเหวอ ๆ ไหมล่ะวะ ระหว่างที่ผมกำลังนั่งคิดการหาเหตุผลไปหาไอ้หมู เสียงอาจารย์บอกหมดเวลาก็ดังขึ้น เวลาเที่ยงเป๊ะ..หรือผมจะไม่ไปหามันดี



            ทั้งที่บอกแบบนั้นแต่ผมก็มา...ยืนอยู่หน้าคณะของไอ้หมูซะแล้ว คณะแพทย์ศาสตร์...ตึกขาวสะอาดมาก พวกเด็กว่าที่หมอทั้งหลายพากันใส่เสื้อกาวน์สีขาวสำหรับเรียนแล็ปมองผมตาปริบ ๆ ก็เพราะวันนี้ผมดันใส่เสื้อช็อปวิศวะมาน่ะสิ เด่นสง่าเชียวมายืนอยู่ในดงแพทย์ ตอนแรกว่าจะลากไอ้เสากับไอ้นนท์มาด้วย แม่ง....มันพากันไล่ผมมาคนเดียว ไอ้พวกฟายยย...ทิ้งกูอีกแล้ว



            “เออพี่ศิลาใช่ไหมคะ...” เสียงหวานใส ๆ ของผู้หญิงที่นั่งอยู่ม้าหินอ่อนกับผู้หญิงหลาย ๆ คนพูดขึ้น



            ผมพยักหน้า “มาหาหมูใช่ไหมคะ!! กรี๊ด....พวกหนูแบบว่าแอบกรี๊ดพี่กับหมูค่ะ” พวกเธอพากันกรี๊ดทั้งโต๊ะทำเอาทุกคนหันมามองพรึบ...กูอยากจะบ้า มายืนเอ๋ออยู่กลางตึกแพทย์ทำไม....



            “เออครับ...แล้วเห็นไอ้หมูไหม” ผมถาม พวกเธอเลยชี้ไปเหมือนอยากฟ้อง



            “นั่นค่ะ! มีชะนี เอ๊ย มีผู้หญิงเรียกหมูออกไปให้ขนมหรืออะไรไม่รู้....พวกหนูอยากขัดมากค่ะหมั่นไส้!” ผมมองตามไปตรงใต้ต้นไม้ก็เห็นไอ้หมูยืนอยู่กับผู้หญิงจากคณะไหนวะ...แต่งหน้าสวยเชียว น่าจะการโรงแรมดูจากชุด เธอกำลังยื่นถุงขนมให้กับไอ้หมูเลยครับ...โคตรเสน่ห์แรงไอ้เชี่ยหมู



            “ขอบคุณ” ผมหันไปกล่าวกับพวกเธอที่ชี้ให้ผมเห็นไอ้หมู ผมเลยเดินไปหามันจากทางด้านหลัง    เธอคนนั้นให้ขนมไอ้หมูแล้วก็เดินจากไป



            “ไอ้หมูกรอบ...” ผมเรียกมันจากทางด้านหลัง มันหันขวับมามองผมอย่างตกใจและดูจะแปลกใจมากด้วย เออ กูก็แปลกใจเหมือนกันที่ตัวเองมายืนอยู่ตรงนี้



            “พี่ศิลา...” เสียงเรียกชื่อผมที่มันชอบเรียกเป็นประจำ เสียงที่ผมไม่ได้ยินมา 3 วัน...ทำไมผมจะต้องรู้สึกดีใจด้วยวะ



            “มาที่นี่ได้ไงครับ?” มันถาม ด้วยความปากไวของผมก็เลยตอบแบบไม่ตรงกับใจจริง



            “มา...ดูบอลที่เตะอยู่เนี่ย” สายตาของผมหันไปตรงสนามหญ้าใหญ่ที่มีพวกผู้ชายมาเตะบอลอยู่ หมูเลิกคิ้วยกยิ้มฝืนนิด ๆ



            “อ๋อครับ...งั้นพี่ก็ดูให้สนุกนะ เดี๋ยวผมขอตัวไปกินข้าวก่อน” ไอ้หมูหมุนตัวเดินหันหลังให้ผมจะเดินเข้าไปทางโรงอาหารคณะแพทย์ เชี่ยยย...กูจะมาหามึงโว้ย ไอ้ศิลาทำไงดีวะ..และผมก็อยากจะมาขอโทษที่ตบหน้ามันด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจ



            แผ่นหลังสูงตรงหน้ากำลังเดินห่างจากผมไป...ผมรีบเดินจ้ำอ้าวตามไอ้หมูไป ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือดึงชายเสื้อนักศึกษาของไอ้หมู มันเดินเร็วมาก ตอนที่มันกำลังเดินเข้าโรงอาหารแพทย์พอดี ไอ้เชี่ย... ทุกคนที่อยู่ในโรงอาหารหันพรึบมาที่ผมทันที เด็กแพทย์ทั้งหลายแหล่กำลังมองตาปริบ ๆ กับวิศวะที่มายืนอยู่ที่นี่



            ไอ้หมูเองก็หันมามองผมอึ้ง ๆ เหมือนกัน ผมหายใจเข้าลึก ๆ



            “ที่จริงแล้ว กูตั้งใจจะมาหามึง...”



            “ห๊ะ...” หมูอ้าปากเหวอ...หน้ามันทำให้ผมอยากจะขำ...



             “มากินข้าวกับมึง...” รอยยิ้มไอ้หมูเหมือนปิดบังไม่ได้คลี่ยิ้มออกมา



            “พี่ศิลา!! จริงเหรอครับ!!” ไอ้เชี่ยหมูตะโกนออกมา...เบา ๆ ดิวะโว้ย



            “กูโกหกมั้งไอ้เชี่ย มาถึงนี่...” ผมว่ากับไอ้คนที่กำลังยิ้มอึ้ง ๆ ราวกับว่ามันเป็นเรื่องน่าดีใจมาก



            คิดดูละกันครับว่าคนที่มองอยู่จะคิดยังไง เมื่อเห็นรุ่นพี่วิศวะกำลังยืนจับชายเสื้อของไอ้รุ่นน้องแพทย์ที่ยิ้มจนหน้าบาน เพียงเพราะผมจะมากินข้าวด้วย...



            ...และผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าทำเรื่องบ้า ๆ ลงไปแล้ว ผมต้องเข้าไปกินข้าวในโรงอาหารแพทย์ทั้ง ๆ ที่ตัวเองใส่ช็อปวิศวะ...ไอ้เชี่ย....พร้อมกับสายตาประชาชีอีกเพียบ ช่วยด้วย...ผมไม่อยากกินแล้ว เปลี่ยนใจได้ไหม!!!.....ทุกคนช่วยศิลาด้วยยยย....



            แต่มือของไอ้หมูแม่ง..ลากผมเข้าไปในโรงอาหารแพทย์แล้ว.... T.T กูเถื่อนนะ ให้เกียรติเสื้อช็อปวิศวะกูด้วยยยยยย.....




.........................................++++++++
ขอบคุณขอบเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ นะคะ  :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 16| (26/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-04-2017 18:07:24
หมวยเล็ก ใจอ่อน ปากแข็ง
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 16| (26/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-04-2017 21:31:00
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 16| (26/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 26-04-2017 23:51:21
 :-[
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 16| (26/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-04-2017 15:17:25
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 16| (26/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 28-04-2017 10:58:26
ฟินแทนน้องหมู พี่พี่ศิลาใจอ่อนยวยยาบไปหมดแย้ววว
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 17| (28/04/60) อัพ :) #มีต่อข้างล่าง
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 28-04-2017 15:22:04
ตอนที่ 17



            [พาร์ตของศิลา]



            ผมอยู่ในสภาวะโรงอาหารแพทย์กำลังอยู่ในช่วงรถสิบล้อขนอ้อยมาลง...ก็ไอ้หมูน่ะสิจะใครล่ะ มันให้ผมนั่งรออยู่ที่โต๊ะคนเดียว เปล่าเปลี่ยวโดยมีสายตาพวกแพทย์มองตาปริบ ๆ ก็ไอ้หมูมันดันบอกว่าจะไปซื้อข้าวให้ผมเอง ไม่ให้ผมทำอะไรสักนิด ยิ่งเหมือนเป็นการใส่เชื้อไฟเรื่องข่าวลือตอนงานประกวดที่เพิ่งผ่านมา ทุกคนน่าจะจำได้ว่าไอ้หมูมันพูดชื่อผมกลางเวที...ไอ้เชี่ย ผมทำตัวไม่ถูก ผมได้แต่นั่งดูดน้ำหวานไปพลาง ๆ แก้เขิน



            ผมล่ะอยากจะรู้ว่า...ไอ้หมูมันไม่มีเพื่อนเหรอวะ ทำไมผมไม่เคยเห็นมันมากับเพื่อน ระหว่างที่คิดอยู่ผมก็เหลือบไปมองโต๊ะผู้ชายที่จัดว่าหน้าตาก็ดีอยู่ เรียบร้อยตามสไตล์เด็กแพทย์ยิ้มให้ผม



            “พี่สวัสดีครับ พวกผมเพื่อนไอ้หมูมันนะครับ” พวกมันยกมือไหว้กับเป็นตับ...ผมก็รับไหว้ ไรวะ ไอ้หมูเดินกลับมาพร้อมกับถ้วยก๋วยเตี๋ยว 2 ถ้วย มันวางลงแล้วหันไปหาเพื่อนมัน



            “คุยไรกับพี่ศิลาวะ...” น้ำเสียงไอ้หมูหาเรื่องมาก..เพื่อนมึงเขาไหว้กู



            “โหย หวง ๆ พวกกูก็ไหว้รุ่นพี่ไงวะ...” พวกเพื่อนไอ้หมูส่งสายตาล้อ...กูก็นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้นะเฮ้ย เกรงใจกูด้วย ไอ้หมูนั่งลงตรงข้ามผมและเลื่อนชามหนึ่งมาให้ผม



            “ก๋วยเตี๋ยวหมูแดง พิเศษ...แต่ไม่ใช่หมูพิเศษนะครับ” ผมเงยหน้ามองมัน อะไรของมัน “ที่พิเศษอ่ะ คือ ใส่ใจเป็นพิเศษครับ...” อ้วกกก...เสียงเพื่อนของไอ้หมูที่นั่งโต๊ะถัดไป



            “มุขนี้ไอ้หมูมันนอนคิดกี่วันวะ” ไอ้เพื่อนหนึ่งในกลุ่มมันแซวขึ้นมา จริง ๆ ก็อยากจะถามคำถามนี้กับไอ้หมูเหมือนกัน เลี่ยนชิบ...หยอดไม่ดูเวลาเล๊ย!



            “นี่ มึงจะไปนั่งกับเพื่อนก็ได้นะที่จริง” ผมว่า ไอ้หมูก็ส่ายหน้ารัว



            “ได้ไง ผมก็ต้องอยากนั่งกับพี่อยู่แล้ว...พี่ศิลารู้ไหมว่าผมดีใจมาก แบบกอไก่ ล้านตัว” ผมคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวขึ้นมากินและมองท่าทางดี๊ด๊าของไอ้หมู ดูท่าทางมันจะดีใจมาก...



            “กูจะมาบอกมึงว่า...ขอโทษที่วันนั้นตบหน้ามึงไป” ผมบอกจุดมุ่งหมายที่มาหามันข้อแรก ข้อที่สองไม่บอกหรอก...ว่าจริง ๆ คือผมอยากรู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง ไม่เห็นหน้าตั้ง...3 วัน เดี๋ยวไอ้หมูมันได้ใจ



            “ไม่เป็นไรครับ ก็ผมไปจูบพี่แบบบดขยี้ก่อนนี่นา”



            ...เงียบกริบ...ทุกคนหันพรึบมามองผมกับไอ้หมู เชี่ย...จูบบดขยี้ไรของมึงงงงง พูดดังหาอะไรวะ



            บอกเลยว่าการมากินข้าวที่โรงอาหารแพทย์วันนี้ทำให้ผมไม่อยากจะเสนอหน้ามากินอีก ผมนี่นั่งกินไปก้มหน้าไปไม่อยากจะซบตากับสายตาของสาว ๆ ที่เสนอตัวว่าเป็นแฟนคลับของผมกับไอ้หมู กรี๊ดดีใจกันยกใหญ่ด้วยความฟิน ส่วนไอ้หมูแม่งก็...ยิ้มจนเหมือนคนบ้าไปแล้ว



            ....................

            ....................





            “จริง ๆ มึงไม่ต้องเดินมาส่งกูก็ได้นะเว้ย...” ผมว่าขึ้นระหว่างที่กำลังจะเดินกลับไปตึกวิศวะของตัวเอง หลังจากที่เรากินก๋วยเตี๋ยวที่แสนหวาน (เพราะไอ้เชี่ยหมูแม่งหยอดผมทุก 5 นาที) จากก๋วยเตี๋ยวเค็ม ๆ กลายเป็นหวานซะงั้น หมูที่เดินตามผมต้อย ๆ ก็ไม่ยอมฟัง



            “ไม่เอา พี่เดินมาหาผมแล้ว ผมก็ต้องเดินมาส่งพี่บ้างสิครับ” ไอ้หมูเดินข้างผมเพื่อบังแดดให้ผมพอดี ผมเหลือบมันก่อนจะยิ้มนิด ๆ



            “เหนื่อยวิ่งกลับอาคารตัวเองก็อย่ามาโทษกูละกัน” ผมว่า บอกเลยนะครับว่าที่ไอ้หมู เดือนมหาลัยคนปัจจุบันเดินมาส่งผมเนี่ย ทำเอาสายตาประชาชีมองด้วยความตื่นเต้นสุด ๆ ที่เดือนมหาลัยเดินตามรุ่นพี่วิศวะมาต้อย ๆ จะให้คิดไงล่ะ...



            “มึงเรียนเป็นไงบ้างล่ะ” ผมถามระหว่างที่เดินไปตามทางเดินที่ห่างกันมากระหว่างสองตึก ทำไมไม่สร้างให้มันใกล้ ๆ กันหน่อยวะ...โวยวายเรื่องตึก



            “ก็โอเคอยู่ครับ ไม่ยากอะไร” มันตอบชิว...เออ ไอ้เก่ง ไม่ยากแล้วทำไมไม่ไปหากูวะ....อยากถามแต่ไม่กล้า



            “พี่ศิลาล่ะครับ เปิดเทอมงานเยอะไหม? ผมไม่ได้เจอตั้งสามแหนะ...คิดถึงผมไหม” หมูถามกลับบ้าง ผมก็ตอบไปอย่างลืมตัว



            “คิด...”



            “พี่ศิลา..อะไรนะครับ” ไอ้หมูหันขวับมาด้วยความตื่นเต้น จนผมสำนึกได้ว่าตัวเองหลุดปากอะไรไป เชี่ยยย....



            “คิดว่างานแม่งเยอะ...” ด้วยสมองอันชาญฉลาดผมก็แก้ตัวไป จริง ๆ ก็ไม่ได้อยากจะแก้ตัวแต่ปากมันติดแบบนี้...หรือผมจะเป็นอย่างที่ไอ้หมูว่าจริง ๆ ปากแข็ง... ไอ้หมูก็หุบยิ้มลงนิดหน่อย



            “อ๋อ...นั่นสินะครับ” และมันก็เงียบไป...ไม่ชอบเลยครับที่มันแบบว่าเงียบไปแบบนี้ ผมชอบที่มันพูดมาก พูดนั่นพูดนี่แบบไร้สาระ...ผมก็จะฟัง



            “ไอ้หมูกรอบ.”



            “พี่ศิลาครับ..” ไอ้หมูกับผมพูดขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อเราเดินมาใกล้ถึงอาคารแล้ว



            “พี่พูดก่อนเลยครับ” มันให้เกียรติรุ่นพี่ ผมมองหน้ามันที่จ้องผมตามประสามันเวลาชอบมองนั่นแหละ แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้...ผมถึงได้อยากให้มันมองหน้าผมแบบนี้



            “ขอบคุณที่เดินมาส่ง รีบกลับไปได้แล้ว เหงื่อมึงแตกหมดละ” ผมว่าให้มัน ก็ดูหน้าไอ้หมูตอนนี้สิมีแต่เหงื่อที่ไหลออก มันจะเอามือไปปาดเหงื่อผมเลยยกมือไปห้าม “เดี๋ยว ไอ้เชี่ย มือสกปรกปะ ไม่มีผ้าเช็ดหน้าเหรอ” ผมถาม ไอ้หมูก็ส่ายหน้า เป็นผู้ชายบ้าไรวะไม่หันพกผ้าเช็ดหน้า...



            “ไม่มีครับ ผมไม่เคยพก” ไอ้ว่าที่หมอซกมก...ทำไมไม่พกวะ



            “เดี๋ยวเอาผ้าของกูก่อนก็ได้” ผมว่าและล้วงลงไปในเสื้อของตัวเองหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่มีลายขอบสีชมพูแถมยังมีผีเสื้อสีฟ้าปักอยู่หัวมุมด้วย....คือแบบว่าป๊าส่งให้มาให้ผมเป็นแพ็คอ่ะครับ ผมพกติดตัวมาตั้งแต่เด็กแล้ว ก็เลยติด....(ป๊าบอกว่าให้หมวยเล็กพกผ้าเช็ดตัวด้วยนะ อย่าใช้กระดาษเช็ดชู่เดี๋ยวเป็นผื่น) ไอ้หมูเหลือบมองยิ้ม ๆ



            “ผ้าเช็ดหน้าน่ารักจัง...” นั่นไงครับ...ว่าแล้วว่ามันต้องทัก ผมยื่นให้มันแต่สิ่งที่ไอ้คนตัวสูงกว่าผมทำคือ....โน้มหน้าลงมาหาผม



            “เช็ดให้หน่อยสิ” ไอ้ขายหม้ออออ....!! ที่มันอยู่ในแดนวิศวะแล้วนะเว้ย ไอ้เด็กแพทย์ เชี่ย...กูไม่เช็ด!



            “นะนะนะ...นะ โอ๊ะ ๆ มันจะไหลเข้าตาแล้ว เหงื่ออ่ะ แสบจัง” ไอ้หมูอ้อนเลเวลที่เท่าไหร่ไม่ทราบ แต่ก็ทำให้วิศวะที่เดินผ่านทำตาลอกแลก ผมเลยจำเป็นต้องเช็ดให้มันด่วน ๆ เลย จะได้รีบไป



            “แล้วมึงมีอะไรจะพูดกับกูวะ” ผมเช็ดไปด้วยถามไปด้วย ไอ้หมูมองผมตาปริบ ๆ



            “แค่จะบอกว่า...คิดถึงนะ” มันบอกแค่นั้น ผมก็นิ่งไป....ก่อนจะสะดุ้งออกจากไอ้หมูเพราะเสียงแซวดังขึ้นด้านหลัง



            “โอ๊ย ๆ นี่ยังไงกันวะ เพื่อนกูมีเดือนมหาลัยเดินมาส่งถึงคณะ เกรงใจบ้างเว้ย” เสียงไอ้เสาดังอย่างกวนตีนคนสุด ๆ



            “พี่เสา พี่นนท์สวัสดีครับ” ไอ้หมูยิ้มแฉ่งไหว้รุ่นพี่อย่างอารมณ์ดี ผมหันไปมองไอ้เสากับไอ้นนท์ที่เดินมาทางผม



            “เออ ๆ สวัสดี ไงวะ มาส่งไอ้ศิลาถึงคณะกลัวมันโดนฉุดรึไง” ไอ้เสาว่าต่อ ไอ้นี่...เดี๋ยวผมจะล้อมันเรื่องไอ้นนท์คอยดู! ส่วนไอ้หมูแม่งก็ดันเล่นต่อปากต่อคำกับไอ้เสา



            “ครับ ก็พี่ศิลาน่ารักขนาดนี้ ผมจะไม่ห่วงได้ไง” คำว่าน่ารักเต็มหูของผมเลยครับ แถมมันยังก้มมาใกล้หูของผมอีก!! ไอ้เชี่ยยยย...ต่อหน้าคนนะเว้ย “ฮ่า ๆ! ผมไปก่อนนะ จะถึงเวลาเรียนแล้ว” ไอ้หมูเหมือนรู้ว่าผมกำลังจะด่ามันเลยรีบยกไม้ยกมือดูนาฬิกาและวิ่งหนีไปจากตรงนี้ทันที



            ไอ้เชี่ยหมู! อย่าให้ผมมีไม้หน้าสามแถวนี้นะ จะฟาดให้มันแมนไปเลย...โมโหจนหน้าแดงไปหมดแล้วครับ...(หรือเขินกันแน่วะ...ไอ้ศิลาครับ คิดไรของมึงงงงงงงงง)



            บอกเลยว่าคาบบ่ายที่เข้าเรียน ผมโดนไอ้เสาล้อเรื่องไอ้หมูทั้งคาบ....ไอ้เพื่อนชอบยุยงส่งเสริมให้เพื่อนได้กับผู้ชาย!



            ผมนั่งเรียนคาบบ่ายด้วยความร้อนระอุของอากาศ กว่าจะสี่โมงเย็นเกือบทำเอาพวกผมสลบเพราะสไลด์ความรู้ที่อาจารย์ตั้งใจมอบความรู้ให้พวกผมนั้น มันเยอะมาก....เยอะจนสมองพวกผมไม่รับแล้วล่ะครับ แถวอาจารย์ยังสั่งทำรายงานอีก เครื่องปริ้นของผมมันหมึกหมดอ่ะ ก็เลยว่าจะไปใช้เครื่องปริ้นห้องไอ้เสาซะหน่อย ผมเป็นพวกชอบทำงานส่งให้เสร็จก่อนกำหนดอ่ะครับ ไม่ชอบให้มันค้างคา



            “ไอ้ศิลา มึงจะไปใช้เครื่องปริ้นห้องกูใช่ไหม ดี ทำรายงานช่วยกูด้วย โฮะ ๆ” ไอ้สาจะสะพายกระเป๋าของตัวเองก็ถูกไอ้นนท์ดึงไปก่อน “ไอ้เหี้ยนนท์เอามา!”



            “เดี๋ยวถือให้” โอ้โห...ระบบการเซอร์วิสของไอ้นนท์ดีมาก เอาใจไอ้เสาสุดฤทธิ์ ฮ่า ๆ ดูหน้าไอ้เสาสิครับ พร้อมจะด่าไอ้นนท์ทั้งสวนสัตว์แล้ว



            “ขับรถไปก่อนพวกกูเลยไป!” ไอ้เสาไล่ ส่วนไอ้นนท์แม่งก็เหมือนคนบ้า โดนด่าแต่กลับยิ้มชอบใจ ถามจริง กลุ่มพวกผมมีใครปกติไหม....ผมไง! ผมปกติ



            “โอเค ไปรอหน้าหอเสานะ”       



            ผมกับไอ้เสากำลังจะเดินออกมาหน้าตึก แต่ไม่ทันจะเดินไปที่รถของไอ้เสาก็เจอ...คนที่คาดว่าน่าจะไม่ชอบผมที่สุด...น้องชมพู่ครับ เธอมายืนหยุดอยู่ตรงหน้าผม ที่แท้เธอเรียนอยู่คณะการโรงแรมนี่เองเพราะผ้าพันคอที่เธอใส่เหมือนกับผู้หญิงที่เคยมาให้ขนมไอ้หมู ไอ้เสายืนเอาตัวมาบังผมไว้...ซึ่งมึงก็ไม่ได้น่ากลัวเลยครับไอ้เสา...แต่มันก็ปกป้องและดูแลผมเสมอแหลนะ ซึ้งใจ...



            “หนูมีเรื่องจะคุยกับพี่ศิลาสองคนค่ะ” เธอบอกจุดประสงค์...คุยเรื่องอะไร?



            “ทำไมไม่คุยตรงนี้ครับ?” เหมือนไอ้เสารู้ว่าน้องมองผมแบบไม่เป็นมิตร สมแล้วที่เป็นเพื่อนของผมมานาน



            “อยากคุยกับพี่ศิลาสองคนค่ะ” น้องชมพู่ยืนยันคำเดิม ผมเลยแตะบ่าไอ้เสา



            “เดี๋ยวกูไปคุยกับน้องเขาเอง”



            “ไอ้ศิลา?...” ไอ้เสาหันมาขมวดคิ้วใส่ผม แต่ผมก็พยักหน้าให้มันเชิงว่าไม่เป็นไร...น้องชมพู่คงไม่มาทำอะไรผมหรอกครับ...แต่ก็แอบหวั่นเพราะผมดันไปทำแผนของเธอที่คิดจะจับไอ้หมูพังน่ะสิ



            ผมเดินตามน้องชมพู่ออกมาไกลจากไอ้เสาที่ยืนเฝ้าอยู่นิดเดียว



            “มีอะไรจะคุยกับพี่งั้นเหรอ?” เธอจิกสายตามาทางผม..เออ นี่ผมอยู่ในยุคที่โดนผู้หญิงมาจิกแล้วเหรอ เธอเอามือกอดอกหน้าอกที่มันล้นออกมา เด็กสมัยนี้ไม่มีเงินซื้อเสื้อตัวใหญ่ ๆ กันรึไงวะ....



            “หนูก็ขอพูดตรง ๆ เลยนะคะ หนูไม่ยอมรับที่หมูชอบพี่!...” ผมเลิกคิ้ว ไม่ยอมรับก็ไม่ต้องยอมรับสิครับน้อง...อยากจะตอบ แต่ผมก็นิ่งฟัง “หนูอยากมาบอกให้พี่เลิกยุ่งหมูซะ...” อ้าว...



            “พี่จะเก็บหมูไว้ทำไมคะ ดูพี่ก็ไม่ได้ชอบนี่ ทำไมไม่ไล่เขาเด็ดขาดไปเลย บอกไปสิคะว่าพี่ไม่ชอบเขา เขาจะได้ตัดใจจากพี่!! พี่ทำแบบนี้เหมือนจะหวงไว้คนเดียวเลยนะคะ ถ้าไม่เอาก็เอามาให้หนูสิคะ” เธอร่ายยาวมาเรื่อย ๆ ...ผมที่ฟังก็นิ่ง...คำว่า ถ้าไม่ชอบก็ไล่ไปให้เด็ดขาดสิ...



            จริงอยู่ครับที่พูดแบบนั้น ถ้าไม่ชอบก็แค่ไล่...แต่ผมไม่เคยไล่ไอ้หมู ไม่เคยตอนที่มันเข้าหา



            “หรือพี่เองก็ชอบไอ้หมูเหมือนกัน?” เธอยกยิ้มเยาะผมพร้อมกับสายตาที่บ่งบอกว่าไม่ชอบผมสุด ๆ



            “น้องมีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม?” ผมถาม เธอก็ทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจเมื่อเห็นว่าเธอขู่ผมไม่ได้ ก็ผมไม่จำเป็นต้องไปกลัวอะไรนี่...



            “บอกเลยนะคะ ว่าหนูจะไม่ยอมพี่!! ยังไงอกตูม ๆ ก็ต้องดีกว่าอกแบน ๆ อย่างพี่อยู่แล้ว ของจริงกับของปลอม ยังไงหมูก็ต้องเลือกถูก....!” เธอว่าแค่นั้นก่อนจะสะบัดผมของตัวเองแล้วเดินจากไป ทิ้งให้ผมมองตามงง ๆ และคิดตาม...มองอกตัวเองที่แบนจริง ๆ เฮ้ย...กูจะมามองอกตัวเองทำไมวะ



            “เชี่ย น้องแกดูแค้นมากว่ะ กูว่าแม่งหลงหน้าตาไอ้หมูขั้นรุนแรงเลยนะนั่น...ทำเหมือนจะมาตบมึงอย่างนั้นแหละ” ไอ้เสาเดินเข้ามาหาผม เหมือนมันจะได้ยินทุกประโยคของน้องชมพู่ ก็น้องเล่นพูดดังขนาดนั้นใครจะไม่ได้ยิน



            “ช่างเหอะ” ผมว่าก่อนจะสะดุ้งแล้วหันไปหาเสียงหอบเล็กน้อยเหมือนวิ่งมาของไอ้หมูที่เรียกชื่อผมพร้อมรอยยิ้ม



            “พี่ศิลา!! เฮ้อฟู่...คิดว่าจะมาไม่ทันพี่ซะแล้ว” มันหายใจหอบท่าทางจะวิ่งมาไกล เสื้อผ้านักศึกษาก็หลุดหมดแขนเสื้อก็พับขึ้น ไอ้หมูเสยผมนิด ๆ เชี่ยแม่ง...หล่อมาก



            “ไอ้หมูกรอบ มาทำอะไร?” ผมถามงง ๆ



            “ก็ว่าจะมารับพี่กลับหอไงครับ...จะกลับกับพี่เสาเหรอ?” มันถามเหมือนเด็กน้อย



            “เออ กูว่าจะไปทำงานที่หอไอ้เสา”



            “อ้าวทำไมไม่ทำที่หอพี่ล่ะครับ?” มันถามราวกับเด็กน้อยขี้สงสัย จนไอ้เสาที่ยืนข้างผมหลุดขำ



            “เครื่องปริ้นไอ้ศิลามันหมึกหมดอ่ะ ก็เลยว่าจะไปปริ้นห้องกู” ไอ้เสาตอบแทน ไอ้หมูก็เลยรีบเสนอตัว



            “โห หอพี่เสาตั้งไกล ทำไมไม่ไปทำห้องผมล่ะ ผมมีเครื่องปริ้นอิงค์เจ็ทเลยนะ ใกล้กว่าด้วย”



            “จริงดิ! งั้นก็ดีเลยไอ้ศิลา มึงจะได้ไม่ต้องไปไกลไง” อ้าว...ไอ้เพื่อนชั่วววว ยกเพื่อนให้ผู้ชายเฉยเลย ไอ้หมูก็ยิ้มเห็นด้วย พวกมึงงงงง ถามความคิดเห็นกูยัง!!



            “ไม่เอาไอ้เสากูจะไปทำงานห้องมึง” ผมประท้วง



            “ไปกับน้องมันเหอะ ทำเสร็จแล้วส่งไฟล์มาเป็นตัวอย่างให้กูด้วย เดี๋ยวกูกับไอ้นนท์จะดูตาม โฮะ ๆ ฝากด้วยนะ กูไปละเดี๋ยวไอ้เหี้ยนนท์โวยวายหน้าหอกูอีก” ไอ้เสาว่าแบบรวบรัดพร้อมตบบ่าผมปุ ๆ และวิ่งหนีผมไปเฉย....ไอ้เชี่ยยยยยย



            เหลือแค่ผมกับไอ้หมูที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่...กูหนีไม่ได้เลยใช่ไหม?



            “ไปกันครับ ไปหอผม” ดูหน้ามันยิ้มสิ...มึงช่วยเก็บอาการด้วยไอ้ฟายยยย....



            ถามว่าผมยอมไปหอไอ้หมูไหม?...ผมมีทางเลือกอื่นด้วยเหรอครับ เออ ไม่มี...สรุปผมก็โดนไอ้เพื่อนชั่วทิ้งให้ไปกับผู้ชายที่จ้องจะขายขนมจีบให้ผมทุกวัน ไอ้หมูมันแวะซื้อข้าวหมูแดงให้ผมกินตามที่ผมบอก มันดูใส่ใจดีเนอะ...ผมมาถึงหอไอ้หมู พวกผมก็พากันนั่งกินข้าวหมูแดงกันก่อนเพราะกองทัพมันต้องเดินด้วยท้องไงล่ะ





 ........มีต่อข้างล่าง
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 17| (28/04/60) อัพ :) #ต่อจากด้านบน
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 28-04-2017 15:23:15
...........ต่อจากด้านบน           



 
            หลังจากกินเสร็จไอ้หมูมันก็เก็บจานชามของมันเข้าไปในครัว ก่อนมันจะเดินหายไปก็ไปหยิบโน้ตบุ้คของมันวางไว้ตรงโต๊ะตรงโซฟาให้ผมซะก่อน



            “พี่ศิลาใช้โน้ตบุ้คผมตามสบายเลยนะครับ รหัสผ่านก็ชื่อพี่ศิลาแหละ” ไอ้หมูพูดไว้ทำให้ผมเลิกคิ้ว หา?...มันพูดจริงหรือพูดเล่นวะ ผมไปนั่งลงตรงพรมของโซฟาและเปิดโน้ตบุ้คของมัน รหัสผ่านล็อคเครื่องไว้ ผมเลยจัดการคีย์ชื่อของผมเข้าไป...ปรากฏว่าไอ้เชี่ยหมูพูดจริง ชื่อของผมคือรหัสผ่านของมัน ใครให้มึงใช้ชื่อกูวะ....ไอ้ฟาย คิดเงินนะเว้ยเอาชื่อของอื่นมาใช้



            ผมเอาเมาส์ที่วางอยู่บนโต๊ะมาเสียบแล้วเลื่อนเปิดเน็ต หวังว่าในโน้ตบุ้ตไอ้นี่จะไม่มีคลิปโป๊นะเว้ย..ผมมองหน้าจอที่เป็นหน้าจอพื้นฐานธรรมดา ส่วนพวกแอปที่อยู่หน้าจอก็ปกติทั่วไป...ผมไล่สายตาดูก็สะดุดกับอัลบั้มไฟล์อันหนึ่งที่เขียนชื่อไฟล์ว่า...’พี่ศิลาของหมู’ ไอ้เชี่ย....ไรวะ ผมเหลือบไปมองไอ้หมูที่ฮัมเพลงอารมณ์ดีล้างจานอยู่ในครัว ผมเลยคลิก ๆ กดเข้าไปดูก็เจอรูปของผมเต็มไปหมด คาดว่ามันน่าจะไปเซฟมาจากเฟสบุ๊คแถมยังตัดเอามาแต่ภาพของผม....ไอ้นี่โรคจิตสุด ไอ้ว่าที่หมอโรคจิต....



            “พี่ศิลา เปิดคอมได้รึยังครับ?” ไอ้หมูตะโกนออกมา ผมเลยรีบกดกากบาทออกไฟล์นี้



            “เออ เปิดได้แล้ว” ผมตอบกลับ



            “พี่จะปริ้นเลยรึเปล่า เครื่องปริ้นอยู่ตรงใต้โต๊ะตรงโซฟาที่พี่นั่งอยู่นั่นแหละครับ” มันบอกกลับมาอีก



            “เออ ๆ” ผมตอบรับ และก้มดูเครื่องปริ้นที่มันอยู่ข้างล่างจริง ๆ ผมจะเลื่อนออกมาดูก็สะดุดตากับถุงร้านยาที่วางอยู่ข้างเครื่องปริ้น ผมเลยหยิบออกมาดู



            ก่อนจะชะงัก...มันเป็นถุงร้านยา...แถมในนั้นมันคือ ถุงยาง 2 กล่อง กับเจลหล่อลื่น...เชี่ยยย! ทำไมมีของแบบนี้อยู่แถวนี้วะ ผมรีบยัดมันใส่ถุงและเก็บเข้าที่เดิมเมื่อได้ยินเสียงไอ้หมูเดินออกมาจากห้องครัว



            “เข้าเน็ตได้ไหมครับ?” ผมที่จับเมาส์แต่แม่ง...จิตใจกูไม่ได้อยู่กับจอแล้ว หมูนั่งลงข้างผมมองงง ๆ



            “ก็กำลังจะเข้านี่แหละ” ผมว่าพลางคลิกเน็ตดู ไอ้หมูเอนหลังพิงโซฟามองผมตาปริบ ๆ คือมึงจะมานั่งจ้องกูทำไมกันล่ะเนี่ย...ผมกดเข้าไปแล้วมันทำไมเข้าไม่ได้วะ ผมเลยหันไปหาไอ้หมู



            “มึง มันเล่นไม่ได้” ผมว่า มันก็ลุกขึ้นมาก่อนผมจะขมวดคิ้วกับความหน้าด้านของมันที่เอามือมาจับมือผมที่จับเมาส์อยู่ ผมจะเอาออกแต่มันก็กำไว้แล้วจับมือของผมคลิกไปด้วย ไอ้เชี่ยเนียน ๆ!!



            “ไอ้เชี่ยหมู อย่ามาเนียน...ปล่อย” ผมหยุดกึกกับมันที่หันหน้ามาใกล้ผม แววตาคมเข้มที่โดนมันจ้องบ่อย ๆ จนผมควรจะชินได้แล้ว...แต่เปล่าเลย ผมไม่เคยชินกับแววตาของผู้ชายตรงหน้าของผม



            “พี่ศิลา...คืนนี้ นอนห้องของผมนะ”



            “หา? ทำไมกูจะต้องนอนนี่” ผมว่าและจะเขยิบออกห่างก็สะดุ้งกับมือหนาที่เลื่อนมาโอบเอวของผมอย่างถือวิสาสะ!! ไอ้นี่...มึงจะหน้าด้านไปแล้วนะ



            “ไอ้เชี่ยหมูอย่ามายุ่งกับเอวกู...” ผมเอามืออีกข้างที่ไม่ได้จับเมาส์ดันหน้าของไอ้หมูให้ออกห่างจากผม มันหัวเราะออกมาเหมือนชอบใจ



            “ฮ่า ๆ ไม่กวนแล้ว...” มันยอมปล่อยมือออกจากเอวผม ผมก็เอามืออกจากเมาส์ที่มันจับอยู่ด้วย ไว้ใจไม่ได้เลยมึงเนี่ย!! หมูกดคลิก ๆ เปิดเน็ตให้ผมสักพักมันก็เล่นได้



            และผมก็ต้องขมวดคิ้วกับคำพูดของไอ้เดือนแพทย์ที่แสนเจ้าเล่ห์....



            “พี่ศิลา ตกลงคืนนี้นอนห้องผมนะ” มันยังไม่หยุด...มีเหตุผลจำเป็นอะไรที่ผมจะต้องมานอนห้องมันด้วย บ้า...ยังไงก็ไม่ยอมนอนเด็ดขาด



            “ไม่ ทำไมกูจะต้องมานอนหอมึง หอกูก็มี” หมูกระตุกยิ้ม



            “ก็พี่จะได้ทำงานไง ลุกไปลุกมาไม่เหนื่อยเหรอ พรุ่งนี้ผมก็ไปส่งพี่ตอนเช้าอยู่แล้ว”



            “กูไม่มีเรียนตอนเช้า” ผมบอกแต่ก็คิดผิด...กูจะไปบอกมันทำไมว่าไม่มีเรียนตอนเช้า ไอ้หมูแม่งยิ้มใหญ่เลย ยิ้มแบบมีเล่ห์นัยชะมัด



            “โอ้ ดีเลยครับ งั้นก็ยิ่งต้องนอนที่ห้องผม” ไอ้นี่...เกี่ยวไหมมมมม



            “กูบอกว่าไม่ก็ไม่ดิวะ กวน กูจะทำงาน”



            “งั้นเอาอย่างนี้ไหม ถ้าพี่ทำเสร็จภายในวันนี้ ผมให้พี่กลับห้อง แต่ถ้าพี่ทำรายงานไม่เสร็จก็นอนห้องผมครับ โอเคตกลงตามนี้..” ไอ้หมูพูดแบบรวบรัดจนผมเกือบฟังไม่ทัน ไอ้เชี่ยยยยยย....แบบว่ากูเป็นรุ่นพี่มึงนะมีสิทธิ์อะไรมาตั้งกรอบกับกู...ก็มึงมาใช้คอมกับเครื่องปริ้นเขาอ่ะไอ้ศิลา....เพราะไอ้เสาคนเดียวเลยดันทิ้งกูมากับไอ้หมูกรอบ (เริ่มพาลใส่เพื่อน)





            แล้วคือรายงานเกือบ 100 กว่าหน้า มันจะไปทำเสร็จวันนี้ได้ยังไงวะ!! พูดเป็นนิยายไปได้...มันไม่เสร็จแน่นอนวันนี้ และผมก็คงต้องนอนห้องของไอ้หมูนี่ตามข้อตกลงบ้าบอที่มันตั้งเอง นี่ผมมาทำงานหรือพาตัวเองเข้ามาสู่อันตรายกันแน่....



            “เออ!! กูจะทำให้มันเสร็จวันนี้แหละ” ผมว่า เหอะ...แต่ขอบอกไว้เลยว่าผมทำรายงานเร็ว รู้จักกูน้อยไปแล้วไอ้หมูกรอบบบบบบ...เดี๋ยวเจอการทำรายงานแบบขั้นเทพ หมูทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเล็กน้อยแต่ก็คลี่ยิ้มออกมา...ไอ้นี่ประสาทชิบหาย



            “เหรอครับ...งั้นก็สู้ ๆ นะ” ไอ้หมูชูสองนิ้วแล้วหันไปเปิดโทรทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าดูอยู่ข้างผม ส่วนผมน่ะเหรอก็ค้นหาเนื้อหาทำรายงานอย่างจริงจัง...คือกูต้องเสร็จวันนี้ครับ จะได้กลับห้องตัวเอง



            แต่ถามว่ามันจะเสร็จไหมในเมื่อ ผมดันเหลือบมองโทรทัศน์ที่ไอ้หมูมันเปิดรายการอาหารรีวิวน่าอร่อย ๆ ทั้งนั้นเลย ผมดูโดยไม่รู้ตัวและก้มลงมาทำงานต่อ ผมมองแบตที่มันกำลังจะหมด อ้าว ไอ้ฟายนี่ทำไมไม่ชาร์ตไว้วะ....ผมทำการเซฟไฟล์ไว้ก่อน เพิ่งทำได้ 20 กว่าหน้าเอง ยังไม่ได้จัดด้วย



            “ไอ้หมูกรอบ ขอที่ชาร์ตแบตหน่อย”



            “หายครับ” ผมหันขวับไปมองมันที่ดูโทรทัศน์อยู่ เฮ้ย...มันพูดว่าอะไรนะเมื่อกี้



            “อะไรนะ?”



            “คือมันหายไปไหนไม่รู้ สายชาร์ต ผมก็จำไม่ได้” มันยิ้ม...ยิ้มห่าอะไรของมันนนน....มันแกล้งผมใช่ไหม!! ไม่ได้นะเว้ย แบตหมดแล้วจะทำงานยังไง



            “ไอ้เชี่ยไปหาสิวะ”



            “ก็บอกว่ามันหายไงอ่ะ หาไม่เจอ” ไอ้หมูยิ้มแฉ่งเหมือนอารมณ์ดีมาก...



            “เอ๋า! แล้วกูจะทำงานต่อยังไงวะ มันใกล้จะหมด...” ผมโวยวายใส่เขาที่นั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ ทำไมวันนี้ไอ้หมูมันดูกวนตีนผมชะมัด!!!



            “มันหมดแล้ว...” มันชี้มาที่โน้ตบุ้คที่ดับ...ดับไปแล้ววววว...



             แปะ ๆ  มันปรบมือพอใจ....ไอ้เชี่ยกูอยากกระทืบมัน!!!



            “พี่ศิลาทำรายงานไม่เสร็จ...แต่พี่เตรียมเสร็จผมได้เลยครับ” ประโยคหลังเบา ๆ จนผมไม่ได้ยินทำให้ผมหันขวับไปมองมันดุ ๆ



            “มึงว่าเชี่ยอะไรนะไอ้หมู”



            “หือ? บอกว่าพี่ทำรายงานไม่เสร็จ ก็ต้องนอนห้องผมไงล่ะครับ เอาน่า เตียงผมกว้าง เสื้อผ้าครบครัน แอร์เย็น ฟรีอินเตอร์เน็ตให้พี่เล่นทั้งคืน” ไอ้หมูสาธยาย กูไม่ได้อยากฟังมึงสักนิดดดดดดด....



            ผมมองจอโน้ตบุ้คที่ดับไปอย่างหงุดหงิด! ยิ่งหันไปมองหน้าของหมูที่ยิ้มกว้างเหมือนดีใจมากมายอะไรของมันก็ไม่รู้....ผมควรมองหาอาวุธใกล้ตัวดีไหมนะ แถวนี้พอจะมีอะไรใช้ตีหัวของไอ้เดือนแพทย์นี่ได้บ้างวะ....เชี่ยมาก รอบห้องของไอ้หมูแม่งไม่มีอาวุธอยู่แถวนี้เลย!! (คนอ่านครับส่งอาวุธมาให้ผมทีครับ...ขอไม้หน้าสามนะ ส่งมาด่วน...พิกัดห้องไอ้หมู หมายเลขห้องXX มาลากไอ้หมูไปได้เลยครับ...วอหนึ่งวอสอง รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากผมด้วยยยยย....)



            “เดี๋ยวผมไปเตรียมเสื้อผ้าให้พี่ศิลา อาบน้ำดีกว่า พี่เรียนมาทั้งวันน่าจะเหนียวตัวแล้ว...” ไอ้หมูบอกและผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อมันใช้สองมือกอดเอวของผมไว้



            “ไอ้เชี่ยหมู!!” มันรีบปล่อยพร้อมกับยิ้มกวน



            “แค่จะวัดตัวดูว่าใส่เสื้อประมาณไหน จะได้หาเสื้อของผมที่เล็ก ๆ หน่อยให้ใส่เท่านั้นเอง” ไอ้เชี่ย!! วัดตัวอะไรของมึงงงงง....ใครเขาทำกันแบบนี้วะ



            ผมกำลังจะอ้าปากด่ามัน ไอ้หมูก็วิ่งหายเข้าไปในห้องนอนของมันเรียบร้อย ผมมองซ้ายมองขวาก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาโทรหาไอ้เสาโดยด่วน แต่ผมก็ต้องทำหน้าเซ็งสุดขีดเมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากเบอร์ไอ้สัดเสา



          ‘กรุณาฝากข้อความหลังเสียงสัญญาณค่ะ’



            “ไอ้สัดเสา ปิดเครื่องทำแป๊ะไรวะ!” ติ้ด! ผมตัดสาย โทรหาไอ้นนท์บ้างและก็ได้รับเสียงแบบเดียวกันกับเบอร์ไอ้เสา    เจริญแล้วววว....ไอ้เพื่อนชั่วทั้งสองคนปิดเครื่องพร้อมกันราวกับนัดกันมา



            “ไอ้สัดนนท์!! ปิดเครื่องทำเชี่ยไรวะ เมียมึงก็เหมือนกัน หายไปไหนของพวกมึงงงง!!!” ผมตัดสายแล้วหายใจหอบเพราะพูดรัวไปหน่อย เสียงของไอ้หมูที่หายเข้าไปในห้องของมันดังขึ้นทำเอาผมสะดุ้งนิด ๆ



            “พี่ศิลาครับ มาอาบน้ำเร็ว ผมเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้แล้ว...ผมอาบให้มะ” ไอ้เชี่ยยยยย ก้าวเข้ามาหากู กูถีบอ่ะเอาจริง ไม่อาบโว้ยยยยย....กูยังไม่อยากอาบ!



            “พี่ศิลา...” เสียงมันอ้อน...อ้อนไปกูก็ไม่สนเว้ย...(คนอ่านครับ T.T ไม้หน้าสามป้องกันตัวของผมล่ะ)   









.....................................................+++++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^

#น้องหมูจำเป็นต้องเจ้าเล่ห์เเบบนี้ไหมคะ5555555555   ห้องน้องหมูครบครันดีเน้อ  เตียงผมกว้าง เสื้อผ้าครบครัน แอร์เย็น ฟรีอินเตอร์เน็ตให้พี่เล่นทั้งคืน คุณสมบัติห้องของน้องหมูผ่านค่ะผ่าน55555555    :L2: :L1: :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 17| (28/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 28-04-2017 16:35:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 17| (28/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 28-04-2017 20:05:28
เด็กมันเตรียมการมาอย่างดี   งานนี้รอดยาก  5555
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 17| (28/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-04-2017 20:45:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 17| (28/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-04-2017 21:24:37
ทั้งขำ ทั้งหมั่นไส้หมู
เหอะ ระริกระรี้ เป็นปลากระดี่ได้น้ำ
ซ่อนที่ชาร์จโน้ตบุ้ค เพื่อให้หมูนอนห้องตัวเอง

ชมพู่  ไม่ยอมรับความจริง
ทั้งที่หมูประกาศว่าชอบใคร
ชมพู่ อย่าฝืนเลย ยังไงหมูเขาก็ไม่รักเธอ
อย่าข่มเขา โคขืนให้กลืนหญ้า

แค่นี้ก็น่าอาย เสียศักดิ์ศรีแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

     
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 17| (28/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 29-04-2017 08:43:52
พี่ศิลาเตรียมตัวโดนกมูกินแน่ๆ5555 :z13:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 17| (28/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 29-04-2017 09:11:14
เสร็จหมูกรอบแน่ หมวยเล็ก


 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 18 nc18+| (29/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 29-04-2017 15:42:03
ตอนที่ 18



             [พาร์ตของศิลา]



            ผมมองห้องน้ำกว้างของไอ้หมูอย่างสำรวจ ตอนนี้ผมอยู่ในห้องน้ำของมันครับ กว่าผมจะเข้ามาห้องน้ำได้ก็ดันไอ้หมูที่แกล้งเนียนจะเข้ามาด้วยอยู่นาน ไอ้เชี่ยนี่แม่งไว้ใจไม่ได้...ในเมื่อหนีไม่ได้ก็คงต้องนอนห้องมันไปแหละครับ ผมถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่า ผมมองขวดน้ำหอมที่คาดว่าจะเป็นของไอ้หมูที่วางอยู่ตรงอ่างล้างหน้า ผมเลยหยิบมาดม ๆ ดู



            หอมจัง...กลิ่นเดียวกับไอ้เชี่ยหมูเลยแฮะ ผมลองฉีดใส่ตรงข้อมือมาดมดู เออว่ะ...กลิ่นเดียวกันกับพวกเสื้อไอ้หมูเลยครับ ผมไม่ได้บอกว่าชอบกลิ่นของมันนะ ก็แค่แบบอยากรู้ว่าใช้ยี่ห้ออะไร...แล้วนี่กูจะมายืนเถียงคนเดียวทำไมวะ



            แต่ยังไม่ทันที่ผมจะอาบน้ำเสียงประตูที่เปิดเข้ามาทำให้ผมหันขวับไปด้วยความตกใจ ไอ้เหี้ยยยย!! ก็ผมล็อคประตูแล้วนี่ แต่ทำไมไอ้เชี่ยหมูมันถึงมายืนยิ้มในสภาพผ้าเช็ดตัวเอวต่ำอยู่ตรงนี้ เหี้ยยย....ผมปาสบู่ไปใส่มันทันทีพร้อมกับมองหาผ้าเช็ดตัวของผม ก็ผมโป๊อยู่....



            ฟิ้ววว! มันดันเสือกหลบได้ยังกับเดอะแมททริก...



            “ไอ้เหี้ย! เข้ามาทำไมวะ...ออกไป!!” ผมด่า ไอ้หมูก็หัวเราะและเดินเข้ามาหาผม ผ้าเช็ดตัวกูหายไปไหนวะ!!!....ผมเอามือกุมส่วนล่างของผมไว้...จริง ๆ ก็มีเหมือนกันกับมันแหละ แต่ผมกลับรู้สึกอายขึ้นมา ถึงมันจะเคยเห็นตอนมันช่วยผมครั้งก่อนก็เถอะ...



            “ก็จะอาบน้ำด้วยไงครับ จะได้ไม่เสียเวลา...”



            “เสียเวลาเชี่ยไร...เฮ้ย!! เดินเข้ามาทำไมวะ เหวอ...” ผมมองมันที่เดินจ้ำอ้าวมาหาผมก็สะดุ้งเมื่อผมถอยหลังด้วยความไม่ระวัง



            ผมลื่นนั่งก้นกระแทกพื้นไม่แรงมากนัก ไอ้หมูนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าของผม ไอ้เชี่ยยยย....มึงกำลังจะทำให้กูหัวใจวายในห้องน้ำ มันคิดอะไรของมันอยู่....ผมกลัวนะเว้ย



            “ไอ้หมู กูไม่เล่นแล้วนะ อย่ามาแกล้งกู” ผมดันมันที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม มือของผมถูกมันรวบไว้



            “ใครว่าผมแกล้งพี่? เอาจริงนะ”



            “ไอ้เชี่ยยยย เอาจริงอะไรของมึง” ผมหุบขาของตัวเองด้วยความรู้สึกทำอะไรไม่ถูก...ยิ่งหัวสมองดันไปคิดถึงถุงยางที่เจอเมื่อกี้ ผมยิ่งจะเป็นบ้า...นี่มึงอย่ามาคิดอะไรบ้า ๆ กับกูนะเว้ย....





            “พี่ศิลากลัวผมเหรอ...” เออ...กลัว! “พี่ศิลามองตาของผมสิครับ....พี่ศิลาเงยหน้า” ผมที่หลบสายตาจากซิกแพคกล้ามเป็นมัดเรียงสวย....กูรู้แล้วทำไมสาว ๆ กรี๊ดมันนักหนาจนแทบจะตบตีกันอยู่แล้ว เพราะมันหุ่นแซ่บขนาดนี้ไงล่ะ....ไอ้ศิลามึงคิดอะไรเนี่ยยยย แซ่บบ้าบอไร...



            “มึงจะเข้ามาทำไมวะ เดี๋ยวค่อยอาบต่อกู...” เฮือก...ไอ้หมูแม่งก้มหน้ามาใกล้ผม จนตอนนี้ผมถูกดันติดชิดกำแพง สภาพของผมที่เปลือยอยู่ เสียเปรียบไอ้หมูสุด ๆ แถมผมยังนึกถึงตอนที่มันมีอารมณ์เพราะผมอีก....ตอนนั้นแต่มันนอนทับผมยังเกิดอารมณ์ขนาดนั้น แล้วนี่มันเห็นผมแก้ผ้าเลยนะครับ!!



            ไอ้เหี้ยหมูกรอบ...กูจะฟ้องป๊า ฟ้องเฮียใหญ่ ฟ้องเฮียกลางนะเว้ย ถ้าทำอะไรกู....



            “ก็บอกแล้วว่าผมอยากอาบพร้อมพี่ แต่ผมรอไม่ไหวแล้วล่ะ ไม่ต้องอาบมันละครับ” ผมได้ยินเสียงกลืนน้ำลายอึก ๆ ของไอ้หมู พอผมสบตากับมันก็ชะงักกึก...มันมองผมด้วยแววตาปรารถนาที่สุด อ๊ากก....ก่อนที่ผมจะพูดอะไรผมก็ร้องเหวอออกมา



            “ไอ้เชี่ยหมู!! ปล่อยกูลงนะจะพากูไปไหนโว้ย” ผมโวยวายขึ้นมาเมื่อไอ้หมูอุ้มผมลอยขึ้น ไอ้เชี่ยยยยยยยยย คึกอะไรของมันขึ้นมา ผมเอามือกุมร่างกายของตัวเองไว้ พอเดินออกมาจากห้องน้ำผมถึงกับเย็นวูบเพราะแอร์ในห้องที่มันเปิดไว้...เย็นมาก



            ตุบ พรึบ... ชิบหายของไอ้ศิลามาแล้วล่ะครับ....ไอ้หมูทิ้งตัวของผมลงที่นอนนุ่มของมันอย่างแผ่วเบาพร้อมกับมันที่มาคร่อมผมไว้ ผมที่นอนตะแคงก็เบิกตากว้าง....



            “ไอ้หมู!! เป็นบ้าอะไรวะ...อย่านะเว้ย มึงจะทำแบบนี้ไม่ได้...” ผมพยายามกล่อมเพื่อหาทางเอาตัวรอด แต่แขนสองข้างที่กั้นผมไว้พร้อมกับคำพูดระบายของมันทำให้ผมนิ่งไป



            “ตอนแรก ผมก็อยากจะรอครับ...แต่พี่ศิลารู้ไหมว่าผมแม่ง...โคตรทรมาน ทรมานตรงที่ไม่รู้สถานะของตัวเอง...ผมอยากหวงพี่ หึงพี่ บอกทุกคนว่าผมคือแฟนของพี่!...เวลาสาว ๆ มาจีบผม ผมก็อยากจะบอกไปเต็มปาก ว่าผมมีพี่เป็นคนเดียวของผมแล้ว....แต่ผมกลับพูดไม่ได้ เพราะพี่ศิลายังไม่ยอมรับผม และผมก็ไม่รู้ว่าผมจะมีวันนั้นรึเปล่า อีกอย่างผมก็เปิดเทอมแล้ว เวลาไปหาพี่ก็น้อยลงไปด้วย เกิดคนอื่นมาชิงจีบพี่แข่งผมล่ะ ผมจะทำยังไง....” น้ำเสียงจริงจังเหมือนระบายทำให้ผมรู้ว่า ไอ้หมูมันเครียดมากเรื่องของผม...ผมมองแววตาของมันที่สบตากับผมอยู่ ใครจะบ้ามาจีบกูเหมือนมึงเล่า....



            “ผมกลัว...กลัวว่าพี่ศิลาจะหายไปจากผม มันเลยทำให้ผมอยากจะครอบครองพี่ไว้ให้เป็นของผมเท่านั้น ผมไม่อยากบังคับพี่...อยากรอพี่พร้อมแต่ผมรู้สึกว่าความอดทนของผมเริ่มหมด...ความรักของผมที่มีให้พี่มันเริ่มเยอะ...เยอะจนผมเริ่มคุมมันไม่ได้...พี่ศิลา...ผมอยากให้พี่เป็นของผมคนเดียว...” ผมที่ฟังอยู่ก็นิ่งไป...



            จากที่น้องชมพู่มาพูดกับผมวันนี้ก็ทำให้ผมคิดอะไรได้ว่า...ทำไมผมไม่ไล่ไอ้หมูไปล่ะ...หรือมันเป็นเพราะผมเองก็ไม่อยากให้มันไปจากผม หรือจริง ๆ แล้ว ผมอาจจะใจอ่อนให้ไอ้รุ่นน้องคนนี้ไปแล้วงั้นเหรอ...



            “มึงก็เลยจะปล้ำกูเนี่ยนะ...” ผมถือว่าใจกล้ามากที่กล้า...พูดต่อปากต่อคำกับคนที่กำลังจะปล้ำตัวเอง หมูหัวเราะพร้อมกับยิ้ม



            “พี่ศิลา...พี่นี่สมกับเป็นพี่จริง ๆ ก็ใช่ครับ ผมจะปล้ำพี่” ไอ้เชี่ย...กูถามแบบฮา ๆ ไอ้นี่ตอบตรงเชียว



            “คิดว่ากูจะยอมรึไง รู้ไหมว่ามัน...” ผมเหลือบมองผ้าเช็ดตัวสีขาวของไอ้หมูที่มันแบบว่า...หมูน้อยมึงชี้หน้ากูแล้วครับ เฮือก...ไอ้ศิลาคราวนี้ไม่รอดแหง ๆ



            “มันไม่ดี ผมรู้ ว่าถ้าฝืนใจพี่...ผมเองก็ไม่อยากทำ...” มันบอก นี่ตกลงมึงตั้งใจจะปล้ำกูป่าววะ เห็นคนอื่นเขากระชากลงเตียงเลยนะ...อ้าว ไอ้ศิลามึงก็จะไปยุน้องทำไมครับ....(ก็กูเห็นในหนังรักโรแมนติกตบจูบ...นี่มึงดูด้วยเหรอครับไอ้ศิลา)





            “แต่ผมก็ห้ามอารมณ์ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ...พี่ก็เห็นนี่...” ไอ้หมูบอกพลางรู้ตัวเองว่ามีอารมณ์ ดูท่าทางอึดอัดนะนั่น...



            “จริง ๆ อยากรอให้พี่เป็นแฟนของผมก่อน...” ผมมองไอ้หมูที่แบบว่าต้องการผมจริง ๆ ผมที่นอนตะแคงอยู่ก็ทำใจอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจนอนหงายไปประจันหน้ากับไอ้หมู...เอาวะ!! อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด (ถ้ามีปาปี้ก้า มึงไปเล่นที่อื่นนะครับไอ้ศิลา) ไอ้หมูผงะนิดหน่อยเมื่อเห็นผิวกายขาวเนียนตรงหน้าที่ขาวจริง ๆ ผมมองมันที่ดูอึ้งมาก แถมทำตาโตเท่าไข่ห่านอีก...



            ผมรู้ครับว่าผมค่อนข้างขาว เนียน ก็ป๊าเล่นซื้อนมกับพวกครีมทาผิวมาบำรุงผมตั้งแต่เล็กนี่ (ดูแลประดุจจะให้ผมไปประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ด)



            “มึงบอกว่าอยากได้กูเป็นแฟนนักใช่ไหม?” ผมถามเรียกความตื่นเต้นจากไอ้หมูที่คร่อมผมอยู่ และผมก็ต้องสะดุ้งกับตัวของไอ้หมู...และไอ้หมูน้อยที่แตะโดนผม



            เชี่ยย...วูบวาบมาก



            “อ๊ะ...ไอ้เชี่ยยย! ออกห่างจากกูก่อน ใจเย็นได้ไหมวะ” ผมใช้แขนดันไอ้หมูที่พยายามตั้งสติ แต่ผมเห็นมันสูดกลิ่นตรงข้อมือของผม ช่วยคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อนด้วยอย่าเพิ่งตะครุบกู....



            “พี่ฉีดน้ำหอมของผมเหรอ...พี่ศิลารู้ไหมว่า มันกระตุ้นผมเนี่ย...ผมอยากให้พี่เป็นแฟนผมมากกก” มันลากเสียงพร้อมกับมองตาแป๋ว มึงไม่ได้แบ๊วสักนิดไอ้หมูกรอบ...



            “พี่ศิลาเร็ว...” มันเร่ง “รีบตอบตกลงผมสิ...” ผมเม้มปากนิด ๆ เอาจริงเหรอวะ....



            “บอกกับกูก่อนว่ามึงจะไม่รังแกกู” ผมบอกทำให้หมูกระตุกยิ้ม ...ยิ้มแม่งไม่น่าไว้ใจ



            “ได้สิครับ ทุกอย่างที่พี่ศิลาต้องการหมูให้หมด...” มันเริ่มเปลี่ยนสรรพนามแทนตัว...เชี่ยยยย ใจผมเริ่มสั่น





            “เออ ๆ คบก็คบ..” ผมแกล้งพูดเหมือนไม่ใส่ใจมาก...แต่ภายในใจกูจะระเบิดอยู่แล้ว พูดเชี่ยไรออกไปเนี่ยยยยยย....



            “จริงนะครับ!! ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม โอ้เย้!! ผมเกือบจะปล้ำพี่ศิลาทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เป็นเฟนกันซะแล้ว....ทีนี้ก็ปล้ำได้ละ...” อ้าวไอ้สัด....เหมือนจะดีแต่ก็ไม่ดีเลยเว้ยยยย....พอมันได้คำตอบที่พอใจผมกลับเห็นว่าไอ้หมูกรอบ กลายเป็นไอ้หมูชั่วขึ้นมาทันที



            “มึง...จะทำจริงเหรอ คือเราเพิ่งคบกันเองนะ” ผมดันไอ้หมูที่จะก้มลงมาใกล้ซอกคอของผม   


            เฮือก...ร้อนวูบมาก



            “แต่ผมจีบพี่มานานแล้ว มองมาก็นาน....แถมยังรักมานานแล้วด้วย....เป็นของผมนะ” มันกระซิบ ก่อนมันจะดึงผ้าเช็ดตัวของผมมันออก และทุกอย่างของมันก็ปรากฏต่อหน้าผม



            โอ้ มาย ก็อต...บอกเลยว่าผู้ชายตรงหน้าของผม เดือนมหาลัยปีล่าสุด! แถมยังควบตำแหน่งเดือนแพทย์...สมแล้วครับที่ทุกคนพากันกรี๊ดมันแทบหอประชุมแตก หุ่นไอ้นี่แม่งเพอร์เฟคมาก....แถมไอ้หมูน้อยของมัน ผมว่า...ไม่ใช่หมูน้อยแล้วล่ะ...เฮือก!! (เด็กต่ำกว่า 18+ กรุณาปิดตาด้วยนะครับ)



            ผมรีบเขยิบตัวจะหนีทันที ไอ้เชี่ยยยย มึงจะเอาไอ้นั่นเข้ามาไม่ได้!!! แต่ถามว่าผมรอดจากมือหนาที่กดผมลงไว้ได้ไหม...ไม่ได้...



            ความลุ่มร้อนภายในกายของผมกำลังร้อนระอุขึ้น ไอ้หมูคงพอจะรับรู้ว่าผมกลัว...ก็แน่นอนสิครับว่าผมกลัว!! ก็ผมไม่เคย...



            “ผมจะไม่ทำให้พี่ศิลาเจ็บ...เชื่อใจผมนะ” เชื่อใจผมนะ...เป็นคำที่ผมได้ยินแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างประหลาด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมหายตื่นตระหนกกับไอ้หมูตรงหน้าผมได้เลย ผมเห็นมันเอื้อมไปหยิบเจลล่อลื่น ที่ผมเจอ มันเอามาไว้ข้างเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่วะ...



            “ไอ้เชี่ย มึงกามชิบ..” ผมด่าก่อนจะสะดุ้งเมื่อมือหนาเลื่อนไปสัมผัสวนแถวบริเวณช่องทางรัก สำหรับผู้ชายอย่างเรา...



            “อ๊ะ!!...” ผมเผลอร้องออกไปก็เอามือปิดปากของตัวเองไว้...โอ๊ย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น... ผมกำลังจะยอมให้ไอ้หมูมันทำเรื่องอย่างว่า.... หมูดึงมือของผมออกพร้อมกับซุกไซร้ซอกอคอขาวเนียนของผม



            “อย่ากลั้นสิครับ ให้ผมได้ฟังเสียงของพี่นะ...พี่ศิลา”



            “มึง...เชี่ย...อ๊ะ!! กูเจ็บ...” ผมรู้สึกแปล๊บปั่นปวนเมื่อนิ้วของไอ้หมูพยายามที่จะสร้างความคุ้นชินให้ผม เจลเย็น ๆ กำลังช่วยทำให้ผมเจ็บน้อยลง...



            แต่เปล่าเลยไอ้เชี่ย...มันแปลก ๆ ไม่ชอบเลย....แต่มีบางจุดที่มันสัมผัสก็ทำให้ผมเสียววูบได้อย่างง่ายดาย...ไอ้หมูแม่ง...เก่งชิบหาย พลอยทำให้ผมนึกถึงตอนที่มันสัมผัสผมวันนั้นเลยแฮะ....



            “พี่ศิลา...ผมขอนะไม่ไหวแล้ว...” หมูกระซิบเสียงกระเส่าพร้อมดึงนิ้วของเขาออกจากตัวผม และกำลังจะแทนที่ด้วยไอ้นั่นของเขา...!!



            เหี้ยยย...ผมยังไม่ได้เตรียมใจ



            “อ๊ะ เดี๋ยวไอ้หมู....อ๊า!!...อื้อออ....”



            สวบ...



            เจ็บ...



            ช่วยด้วยเจ็บมากกกกกกกกกก....แถมแน่นด้วย



            “ไอ้เชี่ยกูเจ็บ...อื้อออ อา...อย่าเพิ่งดิวะ อย่าขยับ” ผมโวยวายด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ไอ้หมูที่ดันแก่นกายของเขาเข้ามาทางช่องทางรักของผมทีเดียว ลึกมาก...


              “อะ อื้อออ อ๊า!! เชี่ย...อา” เสียงร้องของผมเผลอดังออกมา..


            “ขอโทษ แต่ผมเห็นพี่ศิลาแบบนี้แล้ว อดใจไม่ไหว...ผ่อนคลายหน่อยนะ” เสียงเข้มกล่อมข้างหูของผมอีกครั้ง


              “ชี๊ดดดด...พี่ศิลา”


            “อ๊ะ!!! อา แน่น...อื้ออออ...” ผมกำลังสติหลุดลอยไปกับความรู้สึกดีที่เริ่มเข้ามาปะปนกับความเจ็บ ไอ้หมูกำลังเขยิบเข้ามาหาผมช้า ๆ ตามจังหวะ บอกเลยครับว่ามัน...สุดยอด


             “ข้างในพี่....นุ่มมาก ฮึ่มมม ชี๊ดดดด...”



            “ไอ้เชี่ยพูดอีกมึงจะโดน อ๊า!! อ๊ะ อือออออ ไอ้เชี่ยอย่าแรงสิ!!! อ๊า!!!!” ปล่อยออกมาให้หมดเสียงที่กลั้นไว้...แรงขยับแนบชิดทำให้ผมปล่อยเสียงออกมาอย่างหยุดไม่ได้



            “พี่ศิลา...ฮึ่มมม...หวาน” เขาก้มลงมาไล่จูบพรมผมตามตัว ไล่ตั้งแต่ซอกคอ ไหปลาร้า ไหล่...ทุกอย่างทุกสัมผัสที่ไอ้หมูมันสัมผัส แทบจะละลายไปทุกส่วน ผมรู้สึกดีจนบอกไม่ถูก ไม่คิดว่ามันจะสุขสมอะไรกันขนาดนี้



            “อื้อออ อย่าทำรอยนะไอ้หมู...อา...กูไม่ไหวแล้ว...อื้อออ ใจเย็นหน่อย” ร่างกายของผมขยับไปตามแรงกระแทกไม่แรงหนักแต่มันกลับหนักหน่วงทุกครั้งที่เข้ามา ปากของมันก็ไม่ปล่อยให้ว่างก้มลงมาจูบปิดปากของผมอย่างแนบแน่น กดจูบริมฝีปากของผมจนสั่นระริกไปหมด  แรงสัมผัสทำให้ผมเคลิ้มล่องลอยไปในที่สุด...



            เออ..มึงมันเก่งไอ้หมู..



            ใครจะไปคิดว่าไอ้เดือนแพทย์หน้าตาใสหล่อ ๆ จะเป็นคนที่หื่น...ขนาดนี้ ไอ้เชี่ย มันเกือบจะทำรอบที่ 3 !! ถ้าผมไปยกเท้าขู่ว่าจะถีบมันก็ มันไม่ยอมผละจากผมแน่นอน...เหมือนคิดผิดที่ตกลงคบกับมัน ชีวิตของผมเริ่มจะไม่ปลอดภัยซะแล้วล่ะครับ...



            ..................

            ..................



            ผมนอนหลับอยู่บนเตียงหลังจากที่ผมเข้าไปอาบน้ำพร้อมไอ้หมู...แถมมันยังทำความสะอาดให้ผมอีก โอ๊ย...ไม่อยากจะนึกถึงก็ไอ้หมูแม่ง...เกือบทำผมเสร็จอีกรอบในห้องน้ำ ผมที่ยังไม่ทันจะหลับก็รู้สึกถึงแรงยุบของเตียงทำให้ผมลืมตามไอ้หมูที่ยิ้มแฉ่ง หน้าตามีออร่าสดชื่นสุด ๆ ...เออ มึงเป็นคนใส่มาไม่ยั้งนิ ไอ้ฟาย...ปวดเอวมาก เพิ่งรู้ว่ามันแสบขนาดนี้ T.T เลือดไหลปะวะไม่ได้ส่องดู ความรู้สึกแบบผมไอ้เสาแม่งน่าจะรู้สึกแบบเดียวกันตอนครั้งแรกแบบนี้ ไว้ไปถามมันดีกว่า....มียาทาไหม



            “หนาวไหมครับ แฟน จะปรับแอร์ให้” คำว่า แฟน แทบจะทำให้ผมเท้ากระตุกไปฟาดหน้ามัน...แต่ทำไมไม่ได้ครับ แค่ขยับก็ร้าวไปหมด....ไอ้กาม!! ขี้อวดดดด....



            “นั่น ด่าผมในใจใช่ไหม ฮ่า ๆ”



            “ไอ้เชี่ยหมูแม่ง...” ผมเอาผ้าห่มมาห่มตัวตามความเคยชิน ผมขี้หนาว...



            “ผมหล่อใช่ไหมล่ะ” หลงตัวเองเกินไปแล้วไอ้ฟาย...เออ มึงหล่อ มึงเก่ง...ทำให้กูรู้สึกดีขนาดนี้ เชี่ย ผมเสียประตูหลังให้ไอ้รุ่นน้องนี่ไปแล้วจริง ๆ งั้นเหรอ...(จริงครับไอ้ศิลา) ไอ้หมูนอนตะแคงข้างเอามือค้ำหัวมันไว้มองหน้าผมตาปริบ ๆ



            “นอนเชี่ย...มาจ้องหน้ากูทำไม” ผมว่าเบา ๆ เพราะเหนื่อยจะเถียงกับมันแล้ว เมื่อกี้ก็เหนื่อยมามากพอแล้ว             ผมที่นอนตะแคงข้างหันไปหามันก็เอาผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า แต่มือของไอ้หมูมาดึงลง



            “อยากเห็นหน้าพี่ศิลาใกล้ ๆ”



            “เมื่อกี้มึงยังใกล้ไม่พออีกรึไง?” ผมประชดและชะงัก เมื่อหมูหัวเราะลั่น



            “แซวตัวเองก็เป็นนะครับ...ใช่ เมื่อกี้ใกล้มาก...หอมมาก เย้ายวน โอ๊ย ตบทำไมเล่า” ไอ้หมูทำหน้าเคลิ้มไปถึงดาวอังคาร เออว่ะ...กูจะมาพูดให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ขึ้นมาทำไมวะ! ผมเอามือตบปากของมันไม่แรงนัก จริง ๆ คือเอาแตะปากของมันเฉย ๆ ทำเป็นร้องไอ้เชี่ยหมูเจ้าเล่ห์!



            “พี่ศิลารู้ไหมว่า ผมโคตรมีความสุขเลย” มันบอกอย่างภูมิอกภูมิใจ...เออ เห็นแล้วว่ามึงมีความสุข ก็ดูรอยยิ้มของมันสิ หน้าจะบานหมดแล้วไอ้ว่าที่หมอ...



            มือหนาของมันเลื่อนมาปัดผมที่ปิดหน้าของผมออกเบา ๆ กูเขินเชี่ย ๆ ...ก่อนผมจะหน้าร้อนวูบกับประโยคตรงจากมันที่ผมไม่เคยจะชินสักที



            “หมูรักพี่ศิลานะครับ”
ใจของผมกำลังพองโต...กูเขินจนไม่รู้จะตอบว่าอะไรแล้ว อย่ามามองหน้ากูตรง ๆ แบบนี้สิวะ...ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไงด้วย



            “รู้แล้ว...”



            “ทำไมพี่ไม่บอกผมบ้างล่ะ” มันขอ ผมมองมันดุ ๆ ไอ้หมูเลยมองตาปริบ ไม่โว้ย...กูไม่พูด



            “อะไรของมึง กูง่วง” ก็ผมเขินไง...พูดไม่ออกเข้าใจป่าว...อีกอย่างยังไม่แน่ใจด้วยกับความรู้สึกของผม



            “ไม่เป็นไรครับ ผมรอคำบอกรักจากพี่ศิลาได้เสมอ...แค่ตอนนี้พี่เป็นของผมแล้ว ผมก็ดีใจมากแล้วล่ะ” เขาก้มหน้าลงมาใกล้ผม “พี่ศิลาเป็นของผมคนเดียวเท่านั้นนะครับ...” ริมฝีปากหนาประกบริมฝีปากของผมแผ่วเบาเหมือนต้องการจะยืนยันและย้ำให้ผมรู้ว่า ‘ผมเป็นของมัน’ ไอ้หมูผละออกจากผมเพราะกลัวผมจะกระโดดเตะมันจริง ๆ ถ้ายังจูบนานกว่านี้



            ผมมองไอ้หมูที่เปลี่ยนท่าไปนอนหงายอยู่ข้างผม...ปากของผมก็แม่งยิ้มไม่หุบเลยล่ะครับ ผมมองมันนิ่ง ๆ ก่อนจะเอ่ยถาม



            “ไอ้หมูกรอบ..”



            “ครับ?” มันหันมายิ้มหวาน นี่ก็ยิ้มบ๊อยบ่อย...แต่ผมก็ชอบรอยยิ้มมันนะดูสดใสดีชะมัด



            “มึงเรียนหมอใช่ไหม...” มันพยักหน้าตั้งใจฟังผมมาก “แล้วมึงอยากเป็นหมออะไรคิดยัง”



            “ผมอยากเป็นหมอประจำตัวของพี่ศิลาครับ” ไอ้หมูตอบอย่างขี้เล่นและมันก็หัวเราะออกมาเมื่อเห็นผมทำคิ้วขมวด



            “ฮ่า ๆ ผมอยากเป็นหมอรักษาเด็กน้อยน่ะครับ...” มันตอบจริงจัง ผมที่นอนตะแคงก็มองหน้าของมันที่มองขึ้นไปบนเพดาน ผมว่ามันก็น่าจะดูใจดีกับเด็ก ๆ นะ เพราะไอ้หมูมันค่อนข้างสดใส



            “ผมฝันไว้นะว่า พอเรียนจบก็อยากเปิดคลินิกเด็กเป็นของตัวเอง” ผมยิ้มออกมานิด ๆ ไอ้หมูเหลือบมามองอึ้ง...ไอ้นี่ ไม่เคยเห็นกูยิ้มรึไงเล่า



            “มึงชอบเหรอ?” ผมถาม



            “ครับ ผมชอบ ผมอยากจะเป็นหมอรักษาเด็กที่หล่อและใจดีที่สุด” ผมได้ฟังก็หลุดหัวเราะเบา ๆ โอ๊ย ไอ้ขี้อวดความหล่อ...แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ล่ะนะว่าไอ้นี่มันหล่อจริง แถมผมยังเชื่อด้วยครับว่าเขาจะเป็นหมอที่ดีได้แน่ ๆ ...อะไรทำให้มึงมั่นใจขนาดนั้นครับไอ้ศิลา...



            “มึงต้องทำได้แน่กูเชื่อ...เล่าต่อสิว่ามึงจะทำอะไรในคลินิกบ้าง” พอได้ยินแบบนั้นหมูก็เริ่มเล่าสิ่งที่มันคิดไว้ ความฝันของมันกำลังถูกถ่ายทอดออกมาให้ผมฟัง มันเล่าไปเล่ามาผมเลยเลยจะขยับหมอนที่หนุนอยู่ให้เขยิบลงมาอีกก็เลยสอดมือเข้าไปใต้หมอน...มือของผมไปคว้าโดนอะไรบางอย่าง



            ...ถุงยางนี่หว่า...เออจะว่าไปเมื่อกี้ไอ้เชี่ยหมูไม่ได้ใช้ถุงยาง! ไอ้สัด...ดีนะกูไม่ใช่ผู้หญิง อ้าวแล้วนี่ผมจะไปคิดถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ทำไมเล่า..หมูเหลือบมามองก็กระตุกยิ้ม ผมเลยปาใส่มันซะเลย



            “ไอ้เชี่ยเอามาซ่อนไว้ใต้หมอนทำซากอะไรวะ” ผมโวยวาย



            “ฮ่า ๆ ก็ตอนแรกจะใช้...แต่ไม่ใช้น่าจะสัมผัสพี่ได้ชัดเจนกว่า”



            “ไอ้เชี่ยหมูกรอบอยากโดนย่างเหรอวะ!!...” ผมจะยกมือไปตีมันก็ต้องชะงักกับเอวที่ร้าวราน..



            “โอ๊ย..” ผมร้องพลางเอามือจับเอว ขยับไม่ได้เลยง่ะ แล้วพรุ่งนี้ผมจะไปมหาลัยไหวไหมล่ะเนี่ย ไอ้หมูเขยิบเข้ามามองอย่างเป็นห่วง



            “เจ็บเหรอครับ..” เออ! เจ็บ ดูมึงทำสิไอ้สัดใส่มาแบบไม่ยั้งสักนิด...



            “โอ๋ ๆ เดี๋ยวผมพาไปกินข้าวหมูแดงเจ้าโปรดพี่ก่อนไปเรียนตอนบ่ายเลยเอ้า!” มันทำท่าใจป้ำ ไอ้เชี่ยนิสัยเสียเอาของกินมาล่อได้ไงวะ...



            “กูรุ่นพี่มึงนะมาโอ๋ ๆ อะไรของมึง” ผมว่าไม่จริงจังแต่กลับชะงักกับคำที่มันตอบกลับ เหมือนผมแพ้มันตลอด



            “ก็ตอนนี้รุ่นพี่ตรงหน้าผม เป็นแฟนของผมนี่ครับ...” ชัดเจนเต็มสองหู...ไอ้เชี่ยเลิกพูดกรอกหูกูได้แล้ว  หมูยิ้มกว้างระริกระรี้...น่าถีบให้กระเด็น



            “อือ ๆ ปลุกกูด้วยละกันพรุ่งนี้...” ผมตอบรับเพราะขี้เกียจเถียงกับไอ้นี่ต่างหากล่ะครับ จะนอนแล้วเหนื่อย! เมื่อย!     ผมหลับตาลงพร้อมกับกอดผ้าห่มไว้ด้วยความขี้หนาวตามประสาผม แต่ผมกลับพบว่าคืนนี้ความอบอุ่นจากผู้ชายที่นอนข้างผมเขยิบมาดึงผมเข้าไปกอดไว้ มันช่างอบอุ่นยิ่งกว่าผ้าห่มซะอีก







            “พี่รู้ไหมว่า อนาคตที่ผมวาดไว้ มีพี่อยู่ในนั้นด้วย...”

            “อ้าว....พี่ศิลา...หลับไปซะละ ฝันดีนะครับพี่ศิลาของหมู...”







....................................+++++++++++++++++++++++++ๅๅๅๅๅ
ขอบคุณคอมเมนต์กับกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารักค่าา  :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 18 nc18+| (29/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 29-04-2017 17:54:08
โอ้ยยยยย....งานดี  555
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 18 nc18+| (29/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-04-2017 18:36:34
 :-[

 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 18 nc18+| (29/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 29-04-2017 21:22:08
เอ๊าาา ได้กันแบบงงๆไปอีก 55555
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 18 nc18+| (29/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 29-04-2017 21:48:58
 :-[ :o8: :haun4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 18 nc18+| (29/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 29-04-2017 23:42:10
เสร็จไอ้หมูกรอบ  :pighaun: :z1: :m25:



 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 18 nc18+| (29/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 29-04-2017 23:43:05
 :haun4:


สาแก่ใจ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 18 nc18+| (29/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 30-04-2017 10:51:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 18 nc18+| (29/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 30-04-2017 12:08:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 18 nc18+| (29/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-04-2017 16:36:20
หมวยเล็ก เสร็จหมูกรอบ ซะละ :hao6: :z1: :pighaun: :haun4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 18 nc18+| (29/04/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 30-04-2017 23:23:08
 :hao6: หมวยเล็กไม่รอดจนได้ หมูกรอบอร่อยไหมจ๊ะหมวยเล็ก อิอิ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 19| (01/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 01-05-2017 08:31:46
ตอนที่ 19



            [พาร์ตของศิลา]




            ปวดร่างกาย...นั่นคือความรู้สึกของผมเมื่อลืมตาขึ้นในห้องของไอ้หมู ตอกย้ำความจริงว่าเมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมเป็นของไอ้หมูไปแล้วแถมยังตกลงคบกับมันเป็นแฟนอีก...โอ๊ย อยากจะบ้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้แล้ว ในเมื่อคบกับมันไปแล้ว...แต่ที่ผมยังไม่แน่ใจคือ ตกลงผมคิดยังไงกับไอ้หมู...นี่มึงยังไม่รู้อีกเหรอครับไอ้ศิลา...ผมเถียงกับตัวเองอีกแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้แต่ผมไม่เคยคบกับผู้ชายนี่หว่า จริง ๆ ผมไม่เคยคบกับใครเลยด้วยซ้ำ...มันก็ต้องมีอาการเหวอบ้างแหละ ผมหวังว่าเวลาผ่านไปผมคงจะชินกับความรู้สึกพวกนี้ กับเข้าใจความรู้สึกพวกนี้ได้มากขึ้นล่ะมั้ง...



            ผมไม่ได้ลืมตาตื่นเพราะไอ้หมูมาปลุก ตอนผมลืมตาก็ไม่เห็นมันนอนอยู่บนเตียงซะแล้ว ที่ผมตื่นเพราะโทรศัพท์ของผมมันสั่นอยู่น่ะสิ...ผมตั้งสั่นไว้ก็พบว่าไอ้เสาโทรเข้ามาสามสาย ไอ้นนท์โทรมาสอง  ไอ้พวกฟายยยยย....เมื่อวานกูโทรหาเสือกปิดเครื่องแล้วอย่างนี้มาโทรตาม



            ด้วยความที่ไม่อยากจะลุกออกจากเตียงตอนนี้ ผมเลยกดโทรหาไอ้เสามันทั้ง ๆ ที่ยังนอนอยู่บนเตียง โทรไปปั๊ปมันก็รับสายทันที



            (“กูโทรหามึงตั้งสามสาย! ไอ้ศิลาอยู่ไหนวะ เป็นไงบ้าง...”) ผมชะงักกับคำถามของไอ้เสาที่ถามทะแม่ง ๆ



            “อะไรเป็นไงบ้าง...”



            (“อย่ามาทำเนียนสัด ไอ้น้องหมูกรอบของมึงบอกพวกกูหมดละ ว่าพวกมึง...จึก ๆ”) ผมแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้งถ้าไม่ติดว่าเพิ่งจะซื้อมาไม่นาน (เครื่องที่ไอ้หมูซื้อให้ใหม่นั่นแหละ) แล้วดูศัพท์ที่ไอ้เสาใช้ จึก ๆ เชี่ยอะไรของมันนนน...



            “ไอ้เชี่ย มันบอกมึงเหรอ” ผมสบถแต่ก็ไม่ได้คิดจะโกรธไอ้หมูมันนะ



            (“พอดีกูโทรหามึงไม่ติด เลยลองโทรหาไอ้น้องหมูดู มันก็เลยบอกว่ามันคบกับมึงแล้ว...ส่วนที่พวกกูรู้ว่าน้องกับมึงได้กัน อันนี้จากสมองอันชาญฉลาดของกูเอง โฮะ ๆ...”) ไอ้เสาหัวเราะพอใจ เออ...ไอ้เพื่อนฉลาด



            (“ฮ่า ๆ มาเรียนไหวไหมล่ะมึงน่ะ”) มันทำเสียงล้อผม



            “ไหว ๆ ไอ้สัดไม่ต้องมาทำเสียงล้อกูแบบนั้น เดี๋ยวกูจะสั่งไอ้นนท์แม่งจัดการมึง”



            (“อ้าวไอ้สัดศิลากูก็จะบอกให้น้องหมูจัดการมึงเหมือนกันแหละ! เฮ้ ไอ้เหี้ยนนท์ชานมกูล่ะ!!”) ไอ้เสาโวยวายออกมาก่อนจะขอวางสายจากผมไป มันบอกไว้เจอกันมหาลัยละกัน...ผมวางสายก่อนจะพลิกตัวนอนตะแคงหันไปทางหน้าต่างที่เห็นตึกรามบ้านช่องตรงหอของไอ้หมู ผมมองนาฬิกาที่เพิ่งจะแปดโมงกว่า เฮ้อ ยังมีเวลานอนอีกเยอะ...ยังไม่ทันที่ผมจะปิดตานอนอีกรอบเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้



            แรงยุบของเตียงทำให้ผมเหลือบไปมองไอ้หมู แต่ผมก็ต้องตัวแข็งทื่อเมื่อมันก้มลงมาหอมแก้มของผม ไอ้เชี่ย...มึงจะกล้าเกินไปแล้วนะครับ เกรงใจกูด้วยยยย....



            “ตื่นแล้วเหรอครับ”



            “อือ ไอ้คนฉวยโอกาส...” ผมด่ากลบความร้อนของหน้า หมูมันอยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อย เชี่ย...ออร่าเดือนมหาลัยกระจาย ผมเหลือบมองโจ๊กในมือของมันสองถุง มึง...ร้านโจ๊กแตกไหม ไอ้หมูเดินเข้าร้านผมว่ามีหวังสาวที่กินอยู่แถบจะสำลักกันเป็นแถบ...สำลักความหล่อ (แล้วกูจะมานั่งชมมันทำไมวะ...)



            “ก็ฉวยแค่กับแฟนแหละ”



            “ไอ้หมูกรอบ เลิกพูดกรอกหูกูสักที!” ผมด่าอย่างไม่จริงจังเรียกเสียงหัวเราะจากมันได้ทันที



            “ฮ่า ๆ ไม่กวนแล้ว ลุกไหวไหมครับ ว่าจะให้พี่ศิลามาทานโจ๊ก” ไอ้หมูโชว์กับข้าวที่ซื้อมา “หรือยังไม่หิว” จริง ๆ ผมก็หิวแหละ ลุกไปเลยละกัน



            “เออ กินเลย เดี๋ยวกูอาบน้ำก่อน...แล้วกูจะเอาเสื้อนักศึกษาที่ไหนใส่วะ” ผมจะลุกขึ้นก้าวลงจากเตียงก็เซวูบ...ไอ้เชี่ย เสียศูนย์ไปหมด



            หมับ..ไอ้หมูไวมาก คว้าเอวของผมไว้...ขอบคุณแต่มึงกำลังเอื้อมมือมาจับก้นกู!!



            “ไอ้เชี่ย ถ้ามึงไม่ปล่อยมือจากก้นกู กูจะเอาโจ๊กฟาดหน้ามึงนะ”



            “นี่ก็โหดตลอด...ผมเสี่ยงโดนพี่ทำร้ายร่างกายบ่อยจัง ฮ่า ๆ ยังเจ็บมากอยู่ไหม ให้ผมอุ้ม...” ผมดันไอ้หมูออกเล็กน้อยพร้อมกับยกมือเบรกมันที่กำลังพูดจ้อ ๆ



            “ก็เจ็บ มันก็แปลก ๆ แหละ ไอ้สัด...ให้กูมาพูดเรื่องนี้ทำไมวะ” ผมบ่นงุบงิบ



            “งั้นเดี๋ยวผมไปเอาเสื้อผ้าที่หอพี่มาให้ก็ได้ครับ พี่ศิลาเข้าไปอาบน้ำเหอะ” มันหยิบผ้าเช็ดตัวพร้อมกับดันหลังของผมเข้าไปในห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี



            ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นานมากนัก (ปกติก็อาบน้ำเร็ว แต่สะอาดนะ! โฮะ ๆ) แต่บอกเลยว่าอาบไปแสบไป...อยากจะร้องไห้ออกมา ปวดไม่พอแสบแปล๊บ ๆ อีก ไอ้หมูไปเอาเสื้อนักศึกษามาให้ผมเรียบร้อย ผมก็เลยใส่ชุดนี้ไว้เลย เวลาไปเรียนก็จะได้ออกไปเลย



            ผมกำลังนั่งกินโจ๊กที่ไอ้หมูมันซื้อมาโดยที่มันนั่งจ้องหน้าของผมไปพลาง ๆ...หมูไม่ได้จ้องผมธรรมดานะ แต่ไอ้สายตากรุ่มกริ่มที่มึงใช้อ่ะ!!!...รบกวนการกินมากจนผมทนไม่ได้ โจ๊กก็ร้อนหน้ากูก็ร้อน!



            “ไอ้หมูกรอบ เลิกจ้องหน้ากูสักที”



            “จ้องก็ไม่ได้เหรอ...” มันทำตาปริบ ๆ



            “ไม่ได้”



            “ฮ่า ๆ พี่ศิลาน่ารักจัง รู้ตัวรึเปล่า เฮ้อ...ผมดีใจจัง ดีใจจริง ๆ นะ” ไอ้หมูยังคงพูดเหมือนเพ้อละเมอ เออ กูรู้ว่าดีใจ...เพราะมันก็บอกกับผมตั้งหลายรอบแล้ว



            “ไม่มีใครมองว่ากูน่ารักหรอกไอ้เชี่ย นอกจากมึง” ผมว่าและชะงัก หมูกระตุกยิ้มตักกินโจ๊กในชามของมันไป กูจะไปยอมรับว่าน่ารักทำไม...



            “ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสิ ผมก็ไม่อยากให้ใครเห็นว่าพี่น่ารักเหมือนกัน...” ไอ้หมูมองมาที่ผม “เพราะพี่ศิลาเป็นของหมูคนเดียว...” ไอ้นี่ก็แม่ง...ย้ำสถานะอยู่นั่นแหละ



            รู้แล้วโว้ย...ว่ากูกับมึงเป็นแฟนกันแล้ว แต่ก็ทำตัวยังไม่ค่อยถูกเท่าไหร่แหละ...



            “มึงไม่มีเรียนตอนเช้ารึไง” ผมถามหลังจากที่เรากินข้าวกันเสร็จก็มานอนเล่นอยู่บนเตียงของไอ้หมู ส่วนมันก็นอนข้างผม แบบว่า...ใกล้มาก



            “ไม่มีครับ มีบ่ายเหมือนพี่แหละ” มันว่าพลางยื่นหน้ามาคลอเคลียแถวหลังของผม คือผมนอนคว่ำกดโทรศัพท์เล่นเกมอยู่ไง เออ...ดูเหมือนไอ้นี่พยายามจะเกาะแกะผมสุดฤทธิ์ชะมัด...



            “มึงช่วยออกไปห่าง ๆ กูได้ไหมวะ ร้อน” ผมไล่



            “ร้อนเดี๋ยวเพิ่มแอร์ครับ” ไอ้หมูตอบอย่างหน้าด้าน ไอ้เชี่ย....กูร้อนเพราะมึงมาอยู่ใกล้ ไม่ได้ร้อนเพราะอากาศ!! บอกเลยว่าไอ้หมูว่าที่หมอมันเจ้าเล่ห์ชะมัด...หน้าใสใสของมันขัดกับนิสัยลุคนี้มาก บอกเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ผมมองไอ้หมูกรอบ เป็นไอ้หมูชั่ว...



            “ฮัดชิ้ว!!” มันจาม วะฮ่า! ผมนินทามันเอง “พี่ศิลานินทาผมเหรอ” ไอ้หมูนอนตะแคงเอามือค้ำหัวมองหน้าผมอยู่นั่น ถามจริง...มึงเบื่อไหมเนี่ย



            “เออ...ไอ้หมูกรอบ กูถามอะไรหน่อยสิ” ผมนึกถึงน้องชมพู่ขึ้นมาได้น่ะครับก็เลย...มีข้อสงสัย



            “ครับ?”



            “น้องชมพู่...มึงได้คุยกับน้องเขาบ้างไหม” ไอ้หมูทำตาลุกวาวขึ้นมาทันทีทันใด อะไรของมึง



            “พี่หึงผมเหรอ!...ฮ่า ๆ อย่าทำหน้าดุใส่สิ...ไม่ได้คุยครับ ก็ตั้งแต่ตอนนั้นที่พี่โดนยาน่ะ ผมก็ไม่ได้คุยกับเธออีกเลย   แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะไปเอาเรื่องที่พี่โดนยาหรอกนะ ตอนแรกว่าจะไปเอาเรื่องแต่ยังไงซะ เขาก็เป็นผู้หญิงอ่ะ ไม่อยากไปทำให้ชื่อเสียงเขาเสียงหาย” หมูพูดออกมาอย่างสุภาพบุรุษจนผมรู้สึกได้



            “ทำไมจู่ ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ?” ก็เมื่อวานน้องมาหากูไง...ก็เลยถาม ผมไม่ได้พูดกับไอ้หมูหรอกและคิดว่าจะไม่บอกด้วย ไม่อยากให้มันมากังวลอ่ะ เพราะถ้าบอกผมว่าไอ้หมูมันจะคิดมากอีก มันชอบคิดเรื่องของผมจริงจังอยู่เรื่อย...



            “ก็ถามไปงั้น เห็นน้องชอบมาหามึงไง”



            “ฮั่นแน่...หึงก็บอกมาเถอะ” มันเอาตัวมันมาสะกิดผมเบา ๆ แล้วยิ้มกว้าง...ไอ้นี่แม่งโรคจิต ชอบให้คนอื่นหึง...เอ๊ะ เปล่า กูไม่ได้หึงอะไรซะหน่อย



            “เดี๋ยวเจอตีนกู ไอ้หมูกรอบ...”



            “เปลี่ยนเป็นจูบแทนได้ไหม ยินดีให้กระทำเลยเอ้า” ไอ้หมูยื่นหน้ายื่นตาเขามาใกล้ จนผมหลุดยิ้มนิด ๆ



            “ไอ้หน้าด้าน...”





            .....................

            ....................



            @ตึกคณะวิศวะ         

            “จริง ๆ มึงเดินไปตึกคณะมึงเลยก็ได้ไอ้หมู ไม่เห็นจะต้องเดินมาส่งกู ไปได้แล้ว” ผมหันไปไล่ไอ้คนที่มันเดินตามผมมาแทนที่จะไปคณะของตัวเอง หมูเดินมาส่งผมหน้าอาคารเรียกสายตาของผู้คนให้มองมาด้วยความสนใจ ถามว่าเพราะใคร....ก็ไอ้เชี่ยหมูเนี่ยสิ เอามือมาดึงแก้มของผม มึงช่วย...เกรงใจกูด้วย



            เขินนะเว้ย...เปล่าไม่ได้เขิน...เออ กูเขินก็ได้!



            “ไอ้หมูอย่ามาเล่นแก้มกู เพื่อนเล่นเหรอ”



            “แฟนต่างหาก” ผมชะงักกึกกับประโยคตอบกลับ โหย...ไอ้ขี้อวด! หมูยกมือดูนาฬิกาของตัวเอง



            “เวลาเดินเร็วชะมัด อยากอยู่ด้วยนาน ๆ” เวอร์สัด...ไม่เห็นอยากจะอยู่ด้วยสักนิด



            “รีบไปได้แล้วไอ้เชี่ย ลีลา เดี๋ยวก็โดนอาจารย์ทำโทษจนได้” หมูทำท่าไม่ยอมไปตามประสามัน ก่อนจะโน้มหน้าลงมาหาผม กูหัวใจจะวายเพราะมึง...



            “ร่างกายโอเคนะครับ...”



            “เออ”



            “แน่ใจนะ ผมห่วง” เสียงออดอ้อนทำเอาพวกวิศวะหน้าเถื่อนเหมือนผม (เหมือนมึงตรงไหนไอ้ศิลา) มองด้วยสายตาล้อสุด ๆ ผมว่าคนแม่งรู้หมดทั้งมหาลัยแล้วมั้ง! (เพิ่งจะรู้เหรอครับไอ้ศิลา...)



            “เออ ไม่เป็นไร ไหวอยู่”



            “แน่นะ...” มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก ช่วยคุยแบบคนปกติเขาคุยกันเป็นไหมวะ จะยื่นหน้ามาทำไมนักหนา!!! ผมเบี่ยงตัวออกจากไอ้หมู มันก็เจ็บเสียด ๆ อยู่แหละครับ แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไรขนาดนั้น (ยังไม่ได้คิดถึงตอนนั่งเรียน คงต้องนั่งเบา ๆ)



            “เชี่ยหมูอยู่ข้างนอกเว้ย อายบ้าง...” หมูหัวเราะพอใจและยอมถอยออกจากผม เมื่อได้ยินเสียงไอ้เพื่อนสนิทสองตัวของผมที่ตะโกนมาแต่ไกล



            “ไอ้สัดศิลา! อ้าว ไอ้น้องหมู...แหม ๆ มาส่งถึงตึกคณะเชียว หวานเยิ้ม” ไอ้เสาโบกมือมาแต่ไกลด้วยรอยยิ้มแลดูสดใส ก็ในมือมันแม่งมีชานมไข่มุกเจ้าโปรดมาด้วย ไอ้นนท์ก็เดินตามมาด้วย ผมว่ามีหวังไอ้นนท์ได้หมดตัวเพราะไอ้เสากินชานมไข่มุกแน่ ๆ ถ้าจะกินขนาดนี้



            “ไอ้สัด เรียกกูซะดัง กลัวคนไม่รู้ชื่อกูเหรอ” ผมด่าไอ้เสาที่ทำหน้าล้อผม



            “ไม่ต้องเรียกดังทุกคนก็เกือบจะรู้จักมึงค่อนมหาลัยแล้วล่ะเพื่อน เหอะ ๆ” เออ...จริงของมัน ก็ผมดันไปเป็นข่าวกับไอ้หมูไงล่ะ และนี่ยิ่งคบกับมันแล้วด้วย ผมว่าไอ้หมูมันก็คงจะไปให้คำตอบกับสาว ๆ ของมันตามที่มันอยากพูดแหละ...แล้วทำไมผมต้องรู้สึกดีใจเล็ก ๆ



            “งั้นเดี๋ยวผมไปเรียนก่อนนะครับพี่ศิลา” มึงควรไปนานแล้วไอ้หมูกรอบ “พี่เสาครับ ฝากดูแลพี่ศิลาด้วยนะ” ไอ้หมูฝากฝัง ไอ้สัด...กูไม่ได้เป็นอะไรก็แค่เจ็บก้นเอง



            ผมมองหมูที่ยิ้มละลายใจสาว ๆ มาให้ผมก่อนมันจะเดินไปตึกแพทย์ของมัน ส่วนผมก็ขึ้นไปบนอาคารเรียนกับพวกไอ้เสากับไอ้นนท์ ผมเลือกที่นั่งริมหน้าต่างด้วยความอยากรับลม ยังไม่ทันที่ผมจะนั่งไอ้เสาก็เอาเบาะรองนั่งออกมาจากกระเป๋าของมันเลื่อนมาให้ผม ผมเลิกคิ้ว



            “ไรวะ?”



            “นั่งดิ จะได้ไม่เจ็บก้นไง” โฮก...อยากจะบอกว่าไอ้เสาแม่งเป็นเพื่อนสนิทที่ดีมาก T.T ผมจะบอกว่าเมื่อกี้จะลองนั่งแล้วมันเจ็บเสียดจริง ๆ ผมนั่งลงเบาะนุ่มของมันทำให้บรรเทาอาการปวดได้นิดหน่อย



            “ขอบใจว่ะ...” ผมว่าเบา ๆ ไอ้พวกที่เรียนคลาสเดียวกันพากันทำหน้าตาอยากเผือกมาก แต่มันก็ไม่กล้ามาถามอะไร จริง ๆ ไม่ถามก็พอจะเดาออกแหละก็แม่งไอ้หมูเล่นทำตัวโจ่งแจ้งขนาดนี้



            “ฮ่า ๆ ไม่เป็นไร พอดีกูคนดี” ไอ้เสาทำหน้าตาภูมิใจในตัวเอง ผมจะบอกว่าผมมีเพื่อนเป็นบ้า



            “เป็นไงวะ ไอ้น้องหมูลีลาถึงใจมะ” ไอ้สัดนนท์ถามล้อผม ไอ้เพื่อนเวร...สนใจหน้าคลาสไปสิเว้ย    ไอ้เสาก็แม่งหันมาสนใจด้วย เอาเข้าไปผัวเมียคู่นี้



            “ท่าทางมึงจะเจ็บหนักสงสัยหลายรอบ” ไอ้เสากวนตีนผม...เออแม่งเกือบจะสามรอบเมื่อวาน กูเริ่มจะกลัวไอ้หมูขึ้นมาแล้วล่ะ เกิดมันคึกขึ้นมาอีกจับผมกดทำไงวะ ต้องหาอาวุธไปสู้กับมันแล้วครับ...



            “ไอ้สัดจะโดนตีนกู เลิกพูดได้แล้ว เรียนไปสิวะ” ผมเลี่ยงไม่ตอบ ไอ้นนท์เลยหันไปสนใจอาจารย์อย่างไม่กวน ส่วนไอ้เสาที่นั่งข้างผมก็แอบถามเบา ๆ ขึ้น



            “แล้วเรื่องน้องชมพู่ที่มาขู่มึง มึงได้บอกไอ้น้องหมูไหม?” มันถามเหมือนห่วงก็มันอยู่ฟังน้องชมพู่เมื่อวานกับผมนี่นา ผมส่ายหน้า



            “ไม่ได้บอกว่ะ และก็คิดว่าน่าจะไม่บอก”



            “ทำไมไม่บอกวะ กูว่าน้องดูท่าทางไม่ยอมจบง่าย ๆ นะเว้ย นี่กูเป็นห่วงมึง” ไอ้เสาว่า ผมยักไหล่ชิว



            “มึงคิดมากไปรึเปล่า น้องเขาไม่มายุ่งอะไรกับกูหรอก”



            “แหม ไอ้สัดมองโลกในแง่ดีจริง น้องมันหลงไอ้หมูนะเว้ย ถึงขั้นมาหาเรื่องมึงถึงหน้าคณะขนาดนี้ ไอ้น้องหมูของมึงก็ปฏิเสธชัดเจนไปแล้ว แต่น้องแกก็ดูจะจริงจังมาก แบบนี้มึงจะอันตรายนะ ถ้าไม่จัดการจริงจังไปเลย” อาชีพนักสืบค้นหาความจริงของไอ้เสาทำงานอีกแล้ว ไอ้นี่เล่ามาเป็นฉากให้ผมเห็นภาพตามชะมัด แต่น้องเป็นผู้หญิงคงไม่กล้ามาทำอะไรกับผมหรอกครับ อย่างมากก็คงมาขู่ให้ผมเลิกยุ่งกับไอ้หมู...(แต่น้องเขาเคยคิดจะวางยาไอ้หมูเชียวนะเว้ย...ก็น่าคิด)



            “ช่างเหอะ กูว่าน้องคงไม่มายุ่งกับกูแล้วแหละ” ผมว่า ไอ้เสามองแวบหนึ่งก่อนจะพยักหน้าตามใจผม พวกผมนั่งเรียนจดแลคเชอร์ตามอาจารย์ไปเรื่อย ไอ้เสากับไอ้นนท์มันถามถึงเรื่องรายงานด้วยแหละ ผมอยากจะบอกว่าเพราะไอ้รายงานนี่แหละ ทำให้แม่ง..เสร็จไอ้หมูจนได้ พวกมันก็พากันหัวเราะลั่นจนอาจารย์หน้าห้องส่งสายตาพิฆาตมาให้พวกผม





            ผมเอามือเท้าคางมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความเหม่อ อาจารย์ร่ายยาวมา 3 ชั่วโมงแล้ว...โทรศัพท์ที่สั่นอยู่บนโต๊ะทำให้ผมเหลือบตาไปมองไลน์ที่ทักมา +หมูกรอบ+ ชื่อไลน์ทำให้ผมหลุดยิ้มออกมาซะงั้น...ไอ้เสาที่นั่งข้างผมก็ล้อทันที ไอ้นี่หยุดล้อกูสักห้านาทีจะเป็นไรไหมวะ... 
 

            “แหนะ ผัวทักมา” ไอ้เชี่ยคำล้อมึงก็โจ่งแจ้งไป



            “ไอ้ฟาย...” ผมด่าแค่นั้นก่อนจะเลื่อนดูข้อความของมัน ไม่มีเรียนรึไงวะ แต่ประโยคของมันก็ทำให้ผมขมวดคิ้ว



            +หมูกรอบ+ : ทำไมนั่งเหม่อล่ะครับ ไม่สนใจฟังอาจารย์เลยนะ...



            มันรู้ได้ไงว่าผมเหม่อวะ...ยังไม่ทันที่ผมจะตอบข้อความอีกอันก็ถูกส่งมา



            +หมูกรอบ+ : ผมอยู่ข้างล่างอ่ะ มองลงมาสิ



            หา?...ผมชะโงกหน้าออกไปดูตรงหน้าต่างก็แอบตาโตนิดหน่อย เมื่อเห็นไอ้หมูยืนอยู่ใต้ร่มไม้หน้าตึกของผม โบกไม้โบกมือให้ผม มันมาทำอะไรที่นี่วะ?



            “เชี่ย ผัวมารอ งานดีอีกแล้วมึง...” ไอ้เสาสายเผือกชะโงกหน้ามามองตามผม ไอ้นี่ก็ชงมากชงจนผมได้กับไอ้หมูไปเรียบร้อย รักเพื่อนจังนะพวกมึงงงงงง....



            “มันมาทำไมวะ” ผมบ่นพลางพิมพ์ถามกลับในไลน์



            +ศิลาคนเถื่อน+
: มึงมานี่ได้ไง ไม่เรียนรึไงวะ



            +หมูกรอบ+ : ผมเลิกแล้วเลยมารอรับพี่... พี่ศิลาผมขอขำชื่อไลน์ได้ไหม ฮ่า ๆ จี้ว่ะ....



            ผมชะงักเหลือบมองไอ้หมูที่ยืนขำหนักมาอยู่ใต้ร่มไม้ข้างล่าง ไอ้เชี่ย...ก็กูไม่ได้เปลี่ยนนี่ (พอดีตั้งชื่อไว้ตั้งแต่ตอนที่เข้ามาเรียนที่นี่ปี 1 แหละ)



            +ศิลาคนเถื่อน+ : ไอ้สัด ก็กูยังไม่ได้เปลี่ยนไม่รู้จะเปลี่ยนว่าไร



            +หมกรอบ+ : เปลี่ยนเป็นหมวยเล็กสิครับ ชื่อนี้เหมาะกับพี่มากกว่าอีก



            ผมอ่านข้อความและมองมันที่ยืนยิ้มอยู่ข้างล่างด้วย...ไม่มีทางโว้ย ใครจะไปเปลี่ยนวะ..



            +หมูกรอบ+ : เลิกแล้วเดี๋ยววันนี้พาไปกินไอศกรีมซเวนเซ่นนะ ตั้งใจเรียนนะครับพี่ศิลา



            ผมมองข้อความอยู่สักพักก่อนจะทำบางอย่างกับไลน์ของตัวเอง...และส่งข้อความตอบกลับไอ้หมู



            +หมวยเล็ก+ : เออ กูตั้งใจเรียนอยู่แล้ว นั่งรอไปเหอะมึงน่ะ อีกนานกว่าอาจารย์จะปล่อย



            ผมกดตอบกลับไปแทบจะสะดุ้งกับข้อความที่ตอบกลับมาทันที มึงพิมพ์เร็วไปปะไอ้เชี่ย



            +หมูกรอบ+ : โอ๊ยใจจะลาย! พี่หมวยเล็กของหมู ต่อให้ยืนตากแดดผมก็ยอมรออออ...



            +หมวยเล็ก+ : ก็แค่อยากเปลี่ยนชื่อเฉย ๆ



            ผมพิมพ์ไปแต่ปากแม่ง...ยิ้มทำไมครับยิ้มทำไม โอ๊ย ไอ้ศิลามึงมันบ้า...



            +หมูกรอบ+ : รักพี่ศิลานะครับ จุ๊บ (หัวใจสี่ดวง)



            จุ๊บพ่อง...เขินเชี่ย ๆ ผมอ่านและโยนโทรศัพท์ทิ้งไปในกระเป๋าด้วยความเหวอขนาดหนัก ผมรู้สึกว่าแก้มของผมมันจะแตก



            “เชี่ย หน้ามึงแดงกว่าสีปากของอาจารย์อีกว่ะ ฮ่า ๆ” ไอ้เสาหันมาล้อ ผมเลยมองปากของอาจารย์ที่แดงฉ่ำมาก...เออ หน้ากูแดงกว่านั้นอีกเหรอ....



            ……………

            …………...



            ไอ้หมูกับผมมาที่ห้างหลังจากที่ผมเรียนเสร็จเกือบห้าโมงเย็น อาจารย์สอนได้คุ้มเวลาสุด ๆ ตอนแรกชวนไอ้เสากับไอ้นนท์มาด้วยแต่พวกนั้นบอกไม่อยากมาเป็นก้างผมกับไอ้หมู...ไอ้เชี่ยยุยงส่งเสริมเพื่อนมาก ผมรู้สึกว่าสายตาของเหล่าบรรดาสาว ๆ ที่เดินเล่นกันในห้างมองมาที่ผู้ชายสูงข้างผมที่พับแขนเสื้อขึ้นนิดหน่อย เสื้อก็เริ่มหลุดออกจากกางเกง จริง ๆ มันก็มานั่งรอผมตั้งแต่บ่ายสามกว่า ๆ นู่นละมั้ง คงจะร้อนเป็นธรรมดา



            “ผู้หญิงจ้องผม ผมไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่หรอกนะครับ แต่ถ้าพี่ศิลาจ้องเนี่ย...ผมเขิน” ไอ้หมูพูดขึ้นพร้อมกับเหลือบมามองผมที่จ้องมันอยู่...จ้องนานไปหน่อย



            “ไร กูไม่ได้จ้องมึงสักนิด” ผมปฏิเสธทั้ง ๆ ที่ก็มองจริง หมูยิ้มก่อนจะหุบยิ้มเมื่อมองเห็นคนที่เดินสวนมา โลกกลมดีเนอะครับ ที่ผมกับไอ้หมูดันมาเจอน้องชมพู่ที่นี่



            “หมูบังเอิญจังเลย ไม่คิดว่าจะได้เจอ...” เธอว่า หมูก็ทำหน้าขรึมลง



            “อืม” เชรด...ไอ้หมูเย็นชาสุดขั้ว น้องชมพู่หันมาจ้องผมเขม่งเลยครับ...น้องครับ พี่ไม่เกี่ยว หมูเลื่อนตัวมาบังผมไว้ข้างหลังอย่างปกป้อง



            “หมู ชมพู่ไม่เข้าใจทำไมจะต้องไปดูติดพี่เขานักหนาด้วย พี่เขาไม่สนใจหมูหรอกนะ” เธอพูดเหมือนยังไม่รู้เหตุการณ์อะไรระหว่างผมกับหมู



            “เราพูดชัดเจนไปแล้วนี่ ว่าเรารักแค่ใคร ชมพู่ก็น่าจะเข้าใจแล้ว” หมูพูดเสียงเข้มและทำท่าจะพาผมเดินหนีจากน้องชมพู่



            “ทำไมล่ะหมู! เราก็แอบรักหมูมาตั้งนานทำไมไม่มองเรา นั่นมันผู้ชายนะ” เธอชี้นิ้วมาที่ผม หมูเลยกำนิ้วชี้ของน้องชมพู่ไว้ทำให้เธอสะดุ้งนิด ๆ



            “อย่ามาพูดจาไม่ดีใส่พี่ศิลา ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ถ้าพูดดูถูกพี่ศิลาเมื่อไหร่ ไม่ว่าใครหน้าไหนฉันก็ไม่ยอม...” เสียงจริงจังของไอ้หมู ผมเลยรีบสะกิดมัน ไอ้หมูเลยปล่อยนิ้วของเธอ



            “กูหิวแล้ว ไปกินไอศกรีมเถอะ” ผมชวนเพราะไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย น้องชมพู่มองผมด้วยสายตาที่ไม่ชอบสุด ๆ



            “หมู นายก็แค่หลงพี่เขาเฉย ๆ! ยังไงพี่เขาก็เป็นผู้ชายนะ” น้องชมพู่ยังคงพูดต่อ ไอ้หมูหันหลังและโอบไหล่ของผมเข้าไปหาพร้อมกับพูดประโยคที่ทำให้คนฟังอย่างผมอึ้ง...คนที่ได้ยินก็อึ้งไปตาม ๆ กัน



            “ถ้าแค่หลง...คงไม่หลงมาถึงตอนนี้หรอก”



              “และที่ผมรักพี่ศิลา ก็ไม่ใช่เพราะว่าพี่เขาเป็นผู้ชาย แต่รักเพราะเป็นพี่ศิลาเท่านั้น...”



            ไอ้หมูพูดจบก็จูงมือของผมออกไปจากตรงนี้ ผมเหลือบมองน้องชมพู่ที่อยากจะกรี๊ดให้ลั่นห้างซะเดี๋ยวนี้เลย...ผมมองมือหนาที่กุมมือของผมอยู่ นี่เหรอ...ผู้ชายที่บอกว่ารักผมเท่านั้น....






...........................................++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านค่า  :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1: :กอด1: กอดดด
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 19| (01/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 01-05-2017 09:06:28
น้องหมูกรอบ นายแมนมาก
ดีใจแทนหมวยเล็ก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 19| (01/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 01-05-2017 09:53:38
ทำดีมากน้องหมู  :o8:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 19| (01/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 01-05-2017 11:41:21
จงจัดการขั้นเด็ดขาดได้แล้วนะหมู
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 19| (01/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 01-05-2017 14:01:29
เบื่อประโยคที่ว่าเป็นผู้หญิงคงไม่มีอะไรจริง -*-
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 20| (01/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 01-05-2017 17:31:30
ตอนที่ 20



             [พาร์ตของเสา]



            บอกเลยว่า...บรรยากาศในรถตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์อึมครึมสุด ๆ ...ก็ไอ้สัดนนท์น่ะสิทำหน้ายังกับไปกินรังแตนมา มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ที่ไอ้ศิลาแม่งทิ้งประโยคคล้ายระเบิดไว้ว่า มีผู้ชายมามองผม ไอ้นนท์ก็เป็นอาการอย่างที่เห็นนี่แหละ พวกผมออกมาจากมหาวิทยาลัยหลังงานเดินโชว์ตัวของไอ้พวกดาวเดือนเสร็จ ไอ้นนท์ก็ขับรถมาเรื่อย ๆ และไม่เปิดปากพูดกับผม เอาแต่ทำหน้าตาน่ากลัว...ไอ้เชี่ย เงียบแบบนี้กูก็กลัวเป็นนะ...ถามว่าผมต้องทำยังไงกับมันเหรอ เออ ก็ต้องง้อไง...ก็มันเป็นเพื่อนผมไงครับเลยต้องง้อ (เหรอครับไอ้เสา...) ก็ใช่น่ะสิ! เพื่อน....อ้อ จริงลืมบอกไปว่าไอ้สัดนนท์มันรู้แล้วนะครับว่าผมเลิกกับจี ถามว่ามันรู้ได้ไงก็ไอ้ศิลาแหละแม่งบอก...มันก็เลยเดินหน้าตามติดผมแบบเต็มกำลัง มันก็ไม่ได้ถามอะไรผมมากเรื่องจีหรอก แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องประเด็นสำคัญ...ที่สำคัญตอนนี้คือจะทำยังไงให้ไอ้หน้าบึ้งตรงหน้าเปิดปากพูด



            “ไอ้สัดนนท์...” ผมเรียกแต่มันไม่ยอมเปิดปากตอบผมสักนิด...อ้าว หยิ่งเหรอมึง!



            “ไอ้นนท์ มึงจะขับรถพากูไปไหน” ผมถามอีก แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ...ไอ้ฟายยยย...



            “กูหิว...” ผมพูดจากใจจริง คือตอนไปดูแลน้องทั้งวัน ผมได้กินแค่ชานมไข่มุกที่ไอ้นนท์มันซื้อมานั่นแหละ ข้าวยังไม่ได้แตะเลยด้วยซ้ำ และคำว่า ‘หิว’ สั้น ๆ จากผมก็เรียกความสนใจของไอ้นนท์ได้



            “เสาอยากกินอะไรล่ะ จะพาไปกิน” มันยอมพูดแล้ววะฮ่า! ผมยิ้มแต่ก็หุบยิ้มกับใบหน้าเรียบ ๆ ของไอ้สัดนนท์ ขัดหูขัดตาจริง ๆ เป็นอะไรก็พูดมาตรง ๆ สิวะ



            “กูถามจริง มึงเป็นอะไรถึงต้องเงียบแบบนี้? ถ้ามึงเป็นเพราะเรื่องที่ไอ้ศิลามันบอกว่ามีผู้ชายมามองกู กูจะบอกว่ามึงแม่งไร้สาระชิบ” ผมเปิดประเด็นแต่ก็ชะงักเมื่อไอ้นนท์ขับเข้าข้างทางพร้อมกับเบรกอย่างแรง



             เอี๊ยด....ไอ้เหี้ยหัวกูเกือบโขกกระจก



            “มึงเบรก...” ผมสะดุ้งเมื่อแขนของผมถูกดึงเข้าไปหาไอ้นนท์ที่เขยิบหน้าเข้ามาใกล้



            “เรื่องของเสา ไม่ใช่เรื่องไร้สาระสำหรับนนท์” เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูผมทำให้ผมตัวแข็งทื่อ... ไอ้สรรพนามที่ไอ้นนท์เริ่มใช้กับผมมันยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่...ก็ดูมันเรียกซะละมุนจนขนลุกไปหมด!



            “ไอ้ศิลามันพูดเล่นมึงก็คิดไปเอง...ปล่อยได้แล้วสัด” ผมดันมันออก ไอ้นนท์เอื้อมมือมาแตะแก้มของผม ปลายนิ้วของมันทำเอาผมสยิวกิ้ว....การกระทำอ่อนโยนเชี่ย ๆ



            “ไม่มีใครมองเสาจริง ๆ นะ...” ไอ้นนท์ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ผมเป็นผู้ชายนะครับมันจะมีผู้ชายมามองได้ยังไงกันเล่า ไอ้ศิลา...กูจะยุให้น้องหมูรีบจัดการมึงเลยคอยดู ดูสิกูเลยต้องมาวุ่นวายง้อไอ้นนท์...เอ๊ะ เปล่า! ผมไม่ได้จะง้อไอ้นนท์ซะหน่อย บ้าบอ....



            “เออ ไม่มี” ผมปัดมือของมันออกนิด ๆ คราวนี้ไอ้นนท์เลยยิ้มออกมาได้เหมือนเดิม “ไปหาอะไรกินเหอะ กูหิวมากกก..” ผมบอก มันก็พยักหน้าเข้าใจและขับรถออกไปอย่างอารมณ์ดีขึ้นมา สรุปว่าที่มันทำหน้าตึงมาตลอดทาง คือมันไม่พอใจที่ไอ้ศิลาบอกว่ามีผู้ชายมามองผม



            คิดแล้วขำ ทำยังกับว่ามันหึงผม...หึง...เชี่ย กูจะคิดทำไมล่ะเนี่ยยยยย ผมมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความรู้สึกที่หน้ามันร้อนแปลก ๆ ทั้งที่ในรถแอร์ก็เย็น สงสัยกูหิวจัดเกินไปก็เลย....หน้าร้อน ๆ

            ...........................

            ...........................



            |ร้านข้าวมันไก่|



            เมนูที่ผมเลือกที่จะกินวันนี้ก็คือ....ข้าวมันไก่...เจ้านี้เห็นว่าอร่อยมาก ไอ้นนท์ก็ยอมตามใจผมทุกอย่าง ดูท่าทางมันอยากจะเอาใจผมมาก ๆ ก็เอาเถอะครับ ได้กินของฟรีแถมอิ่มท้อง อยากเลี้ยงก็เลี้ยงไป เหอะ ๆ จะบอกว่าคนอย่างผมกินเยอะซะด้วยสิ...



            “มึงกินข้าวไร” ผมถามไอ้นนท์ที่เอาแต่มองหน้าผมอยู่นั่นแหละ สัดครับ...เก็บอาการมึงด้วย จ้องขนาดนั้นลากกูเข้าห้องไปเลยไหม!...ประชดครับ แต่อย่าไปพูดให้มันได้ยินนะ มีหวังแม่งทำจริงชัวร์ ไอ้นนท์มันอันตรายกว่าที่ทุกคนคิดนะครับ (ขอเตือนสาว ๆ ไว้เลย)



            “ข้าวไก่กรอบ” มันบอกทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ดูเมนูด้วยซ้ำ แต่ผมก็เดาว่ามันน่าจะกินอันนี้ก็มันชอบนี่..     ผมเป็นเพื่อนมันไงครับก็เลยรู้...มึงจะร้อนตัวทำไมครับไอ้เสา



            “เอาข้าวมันไก่ 2 จานครับ กับไก่กรอบจานหนึ่ง” ผมหันไปสั่ง ไอ้นนท์เลยเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มตามฉบับมัน



            “กินเยอะอ้วนนะ”



            “เรื่องของกู”



            “งั้นออกกำลังกายตอนกลางคืนด้วยกันเนอะ เสาก็จะได้ไม่อ้วนไง นนท์จะช่วย” โป๊ก! ผมเขกหัวของมันด้วยความหมั่นไส้อย่างแรง ไอ้เชี่ยยย....ใครใช้ให้มาพูดกลางร้านข้าวแบบนี้วะ



            “หน้าไม่อายจริง ๆ เลยมึงนิ” นนท์หัวเราะก่อนจะมีผู้หญิงเดินมาจากไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ คือเธอเดินตรงมาหาไอ้สัดนนท์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมซะละ



            “อ้าว นนท์ไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ บังเอิญจัง...” ถ้าผมจำไม่ผิดเธอเป็นเพื่อนของแฟนเก่าคนล่าสุดของไอ้นนท์นี่นา...


            “ไง มิน”



            “ได้คุยกับกุ๊กบ้างรึเปล่า?” ผมที่กำลังดูดน้ำอยู่ชะงักกึก...กุ๊กก็แฟนเก่าคนล่าสุดของไอ้นนท์ยังไงล่ะ นนท์เหลือบมามองผมนิด ๆ...มองหาเชี่ยอะไร...หงุดหงิด



            “ไม่ได้คุยอ่ะ”



            “รู้ไหมว่ากุ๊กยังคิดถึงนนท์อยู่นะ...ฉันคงพูดมากไปหน่อย ขอตัวนะ” เธอว่าแค่นั้นก่อนจะหันมายิ้มให้ผมด้วย ไอ้นนท์หันมาหาผมที่อาหารมาเสิร์ฟพอดี เราก็เลยไม่ได้พูดอะไรกันต่อเพราะเวลาผมกิน ผมจะตั้งใจกินมาก...ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนั้นแต่ผมกลับกำลังคิดอะไรอยู่ในหัวสมอง ไอ้นนท์เองก็ดูเหม่อ ๆ ไปเหมือนกัน



            เหอะ มันคงจะคิดถึงแฟนเก่าขึ้นมาล่ะสิ! (เริ่มพาลแล้วนะครับไอ้เสา...)



            หลังจากที่กินข้าวมันไก่จนอิ่มถึงสองจาน ถ้าไม่อิ่มก็แปลกมากแล้ว แต่ที่แปลกมากกว่าก็คือ ไอ้นนท์ที่ดูจะเงียบ ๆ  มันขับรถมาส่งผมที่หอ



            “ขอบคุณที่มาส่ง” ไอ้นนท์คลี่ยิ้มเล็กน้อย



            “ฝันดีนะเสา....” เสียงเข้มบอกอย่างละมุน ผมกำลังจะลงจากรถก็ชะงักเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเบอร์เรียกเข้าที่เป็นเบลอไม่มีชื่อ ไอ้นนท์เลยกดรับ...มันทำหน้าอึ้งและเอ่ยชื่อที่ผมไม่ค่อยอยากได้ยินมันสักเท่าไหร่ ยิ่งออกมาจากปากของนนท์ผมยิ่งไม่อยากฟัง



            “กุ๊ก...” ไอ้สัดนนท์หันมามองผม ผมก็เลยรีบลงจากรถ “เดี๋ยว เสา...” มันเรียกผมไว้ แต่แม่ง!! เสือกไม่ลงมาตามผม แล้วเรียกกูไว้ทำไมไอ้ฟายนนท์! ผมกำมือแน่นมองรถของไอ้นนท์ที่ขับออกไป



            พรุ่งนี้ผมต้องไปดูน้องดาวเดือนประกวดครับ...ผมควรจะขึ้นไปนอนพักผ่อน แต่เปล่าเลย ผมเลือกที่จะหยิบกุญแจรถของตัวเองออกมาแล้วขับมาตามรถของไอ้นนท์ไปติด ๆ ....ผมใกล้บ้าแล้วแน่ ๆ ไอ้เชี่ยเสามึงจะมาตามเขาแบบนี้ทำไมวะ!! กลับหอมึงไป....



            และผมก็ขับตามไอ้นนท์ที่ดูท่าทางจะไม่รู้ว่าผมตามมาด้วย มันมาที่ร้านโฮะ ร้านเหล้าประจำของพวกเรานี่...แม่ง ภาพไอ้สัดนนท์นัวเนียกับสาววันนั้นผมยังไม่ลืมเลย....มันมาทำเชี่ยอะไรที่นี่ ผมปลดเนคไทของมหาลัยออกก่อน ผมลงจากรถเดินจ้ำอ้าวตามไอ้นนท์เข้าไปในร้านโฮะที่กำลังเปิดเพลงดังกระหึ่ม  มันเหมือนมองหาใคร.....



            ผมเดินตามมันไปเงียบ ๆ ตัวของผมถึงกับชาวาบเมื่อเห็นคนที่ไอ้สัดนนท์มาขับรถมาหา...กุ๊กที่คาดว่าจะดื่มไปเยอะลุกขึ้นสวมกอดไอ้นนท์ไว้เมื่อเห็นมัน...เหี้ยยย...ไหนมึงบอกไม่ได้คิดอะไรกับเขา แล้วมึงมาหาเขาทำไม!! ....ผมชะงักกับความคิดของตัวเอง ฮะ ๆ อะไรของมึงไอ้เสา...มึงยังไม่ได้เป็นอะไรกับไอ้นนท์นี่



            ....ถ้าจะให้พูดตรง ๆ ผมกับไอ้นนท์ก็เป็นแค่เพื่อนกัน....



            ผมเลือกที่จะหันหลังหนีจากภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากมองโดยที่ไม่รู้ว่ากุ๊กคลายกอดจากไอ้นนท์และมองมาเห็นผมก็ชี้ให้ไอ้นนท์ดูทันที



            ผมเดินดุ่ม ๆ ออกมาตรงแถวที่นั่ง อยากเมา....พรุ่งนี้มีงานก็จริง ตั้งนาฬิกาปลุกก็ได้วะ คงจะตื่นทันอยู่หรอก ผมปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออกสองสามเม็ด เผยให้เห็นผิวขาวเนียน เหอะ...ไปอ่อยสาวแม่ง!



            ผมรู้สึกว่าทุกสายตากำลังมองมาที่ผม แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือ....เชี่ย มีผู้ชายมองผมเต็ม...เหี้ยแล้วพวกมันมองผมแบบลวนลามด้วย แบบว่า...ผมจะมาอ่อยผู้หญิงเว้ย ไม่ได้มาอ่อยผู้ชาย...



            มันเกิดอะไรขึ้นกันนนนนนน....



            “โทษนะครับ มาคนเดียวเหรอ” เสียงทุ้มไอ้ผู้ชายท่าทางแบดบอยเข้ามาทักผมด้วยท่าทีหว่านเสน่ห์ ไอ้สัดกูขนลุก....



            “อืม” ผมตอบแต่ก็ถอยห่างออกจากคนตรงหน้า



            “น่ารักจัง...คืนนี้ไปต่อไหม” สัดดด...ต่อไหนของมึงไม่ทราบ เดี๋ยวนี้เขาชวนกันโจ่งแจ้งแบบนี้แล้วเหรอ กูเริ่มกลัวแล้วนะเฮ้ย...ผมยิ่งเดินหนีมันก็เดินเข้ามาใกล้ ผมถอยหลังไปจนชนกับแผงอกที่รับรู้ได้ถึงซิกแพคแน่น ๆ และเสียงทุ้มที่ผมคุ้นเคยดี





            “ต่อพ่องดิ...ว่างนักใช่ไหมถึงมายุ่งกับเมียกู” ผมหันขวับไปมองไอ้สัดนนท์ที่เลื่อนมือมาโอบเอวผม ทำเอาคนในร้านฮือฮาไปตาม ๆ กัน ส่วนมากสาว ๆ ในนี้ก็กรี๊ดไอ้นนท์กันทั้งนั้น ส่วนพวกผู้ชายก็รู้กิติศัพท์ของหมัดไอ้นนท์ดี ไอ้ผู้ชายที่มายุ่งกับผมเมื่อกี้ก็ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว



            ไอ้สัดนนท์มันประกาศออกมาชัดเจนยิ่งกว่าคมชัดลึก...เมียเต็มปากเต็มคำ



            “ไอ้เหี้ย!!” ผมด่าแก้ความอายของคนที่มองมาและจะดิ้นออกจากวงแขนของไอ้นนท์



            “เออ ก็เหี้ย ผัวเสาแหละ มานี่เลย” ไอ้นนท์ลากผมออกมาตรงที่กุ๊กยืนยิ้มอยู่



            “ปล่อยกูนะ!...” ผมโวยวายแต่ถามว่าผมดิ้นจากวงแขนของมันได้ไหม? ไม่ได้เลยสักนิด



            “กุ๊ก เราฝากเสาหน่อยแป๊ปนึง เดี๋ยวไปบอกไอ้รุ่นน้องเอารถกลับไปหอให้ก่อน” จู่ ๆ ไอ้นนท์ดันผมให้กับกุ๊ก อ้าวเฮ้ย...จะพากูมาอยู่ตรงนี้ทำไมวะ!! เอารถอะไรกลับวะ...อยู่ตรงนี้แล้วกูทำตัวไม่ถูกโว้ย กับแฟนเก่าของมึง....



            “เสา...ขอโทษนะที่กอดนนท์เมื่อกี้ แต่ระหว่างนนท์กับเราไม่มีอะไรแล้ว....” ประโยคที่กุ๊กพูดทำให้ผมตาโตนิด ๆ “นนท์บอกกับกุ๊กแล้วล่ะ ว่านนท์เขารักเสา...จริง ๆ แล้วนนท์เขามีเสาอยู่ในใจมาตั้งนานแล้วนะ” ผมถึงกับเงิบ...อะไรนะ



            “เรื่องนี้กุ๊กว่า นนท์เองก็ไม่รู้ตัวหรอก...แต่รู้ไหมว่า เวลาที่นนท์นอนหลับตอนที่ไปทานข้าวกับเรา  เขาละเมอเป็นชื่อของเสานะ....แถมเวลาไปไหนกับกุ๊ก แล้วเห็นของที่เสาชอบ เขาก็มักจะพูดด้วยสีหน้ามีความสุข แม้นนท์จะคิดว่ามันเป็นความรู้สึกของเพื่อนสนิท แต่กุ๊กดูออกว่านนท์คิดยังไง กุ๊กเลยตัดสินใจเลิก แล้วนี่ยิ่งมารู้ว่า เสากับนนท์เป็นแฟนกัน ก็ยิ่งดีใจมาก...” ผมฟังความจริงที่ผมเองก็ไม่เคยรับรู้มาก่อนนิ่ง ๆ ...แต่เดี๋ยว ผมกับไอ้นนท์ยังไม่ได้เป็นแฟนกันซะหน่อย...ใจของผมกำลังเต้นผิดจังหวะอย่างบ้าคลั่ง



            ...ผมว่าผมต้องมีความผิดปกติของหัวใจแหง ๆ เพราะผมกำลังรู้สึกว่า ใจมันพองโต....



            สบายใจ โล่งใจที่ไอ้นนท์ไม่มีอะไรเกี่ยวกับแฟนเก่าอีกแล้ว ที่กุ๊กโทรมาก็โทรมาในฐานะเพื่อนเพื่อที่จะยินดี ทำไมผมต้องเผลอยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้...ไอ้เสามึงกินยาหน่อยไหม...ใกล้บ้าแล้ว



            “กลับกันเสา เรากลับก่อนนะกุ๊ก” ไอ้สัดนนท์โผล่มาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ แต่ตอนนี้มันยกมือโบกบ๊ายบายให้กับกุ๊กเรียบร้อยพร้อมกับลากผมออกมาข้างนอกร้าน



            “แอบตามนนท์มาเหรอ” มันถาม ผมก็ชะงัก...ใครตามวะ เปล่า...



            “คิดไปเองป่ะ กูแค่จะมาดื่ม” ผมสะบัดมือที่โดนจับกุมออก ไอ้นนท์มันก็เลิกคิ้วอย่างไม่เชื่อ



            “จริงเหรอ? ทั้ง ๆ ที่พรุ่งนี้มีภารกิจต้องไปดูแลน้องแต่เช้าเนี่ยนะ” มันคัดค้าน ผมมองหน้ามันก็สบถด้วยความหงุดหงิด...หรือจริง ๆ จนมุม



            “เออ!! กูขับรถตามมึงมาเองแหละไอ้ห่านนท์!!” ผมเดินไปที่รถแต่ก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อไอ้นนท์ผลักผมเบา ๆ ชิดติดกับรถ



            “ไอ้เหี้ย มึงทำอะไร...” ผมหยุดกับใบหน้าเข้มที่ก้มลงมาใกล้แก้มของผม “เอาหน้าของมึงออกไป” มันหยุดอยู่นิ่ง ๆ ...ทำอะไรของมึงงงงงงงงงงง....กูจะหัวใจวายยยยย



            “ถ้านนท์บอกจะจูบ จะยอมไหม” เสียงทุ้มที่ดังในระยะใกล้ชวนจั๊กจี้ชะมัด ผมมองหน้าของไอ้นนท์ที่เขยิบเข้ามาใกล้ผม ทำไมผมต้องยืนนิ่งล่ะ....



            “ไอ้สัดนนท์หยุด...มึงเมาเหรอ” ผมยกมือปิดปากของมันที่จะก้มลงมาจูบผมอยู่แล้ว แต่ก็ต้องร้อนวูบตรงมือเมื่อมันเลีย...ไอ้เชี่ย! ผมรีบชักมือกลับไอ้นนท์เลยหัวเราะ....ไอ้นี่แม่งอยากจะกระโดดถีบขาคู่!!



            “ใช่เมา...” ผมมองหน้ามัน “เมารัก” อยากจะอ้วก...ปล่อยมุขได้ไม่เข้ากับเบ้าหน้ามึงเลยครับ



            “กูจะกลับหอแล้ว ถอยไป” ผมบอกพลางควานหากุญแจและไอ้นนท์ก็คว้ากุญแจไปจากมือของผมซะงั้น



            “เดี๋ยวนนท์ไปส่ง”



            “อ้าว รถมึงล่ะ? กลับเองสิวะ” ผมจะเอาคืนแต่มันก็ชูสูงขึ้น...กวนประสาทกู!



            “นนท์ให้รุ่นน้องที่หอขับกลับละ คืนนี้นอนห้องเสาได้ไหม” ผมได้ยินก็ตาโต ใครจะยอมให้มึงเข้าห้องกูครับบบบ!! ฝันไปเหอะ



            “ไม่ กูจะขับรถเอง เอามากูจะไปส่งมึงที่หอ” ผมแบมือขอกุญแจคืน แต่ไอ้นนท์ไม่ยอมคืนง่าย ๆ



            “ไม่เอา ดึกแล้ว จะให้เสาขับกลับคนเดียวได้ไง” น้ำเสียงที่เป็นห่วงทำเอาผม...ขนลุก!



            “ปกติกูก็ขับกลับคนเดียว”



            “ไม่รู้ตัวบ้างเหรอ ว่าเสาน่ารักขนาดไหน...เสื้อแม่ง...จะปลดกระดุมทำไมวะ” ไอ้นนท์ไม่พูดเปล่าแต่มันทำท่าหงุดหงิดกับตัวเองและเอื้อมมือมาติดกระดุมเสื้อของผม...เออ เม็ดสุดท้ายตรงคอมันก็จะติดด้วย คือติดคอกูแล้วครับเชี่ย...



            “พอแล้ว เม็ดสุดท้ายก็หายใจไม่ออก”



            “จริง ๆ อยากต่อยปากไอ้นั่นชิบ” ผมมองไอ้นนท์ที่บ่นอุบอิบ... “ให้นนท์ไปส่งนะ” มันยังยืนยันคำเดิมจะไปส่งผมให้ได้ ไอ้ผมก็ขี้เกียจเถียงมันละ...



            “เออ ๆ รีบไปเหอะกูเริ่มง่วงแล้ว” คราวนี้ไอ้นนท์ยิ้มกว้างรีบเปิดประตูรถให้ผมทันที ผมก็ขึ้นไปบนรถพยายามไม่สนใจท่าทีของมันที่กำลังทำให้ใจของผม....ว้าวุ่น



            ...................   

            ..................



            |หอ|



            ไอ้นนท์ขับมาส่งผมที่หอก่อนมันจะส่งกุญแจรถคืนให้ผม ผมมองมันที่เดินตามมาส่งผมถึงหน้าหอ ไอ้นี่...จะห่วงอะไรขนาดนั้นวะ แต่แปลกที่ผมกลับรู้สึกดีใจซะงั้น ผมเห็นมันทำท่าจะเดินหันหลังกลับผมเลยเลิกคิ้ว



            “จะไปไหน?” ไอ้นนท์หันขวับมาเหมือนดีใจ...กูแค่ถามเฉย ๆ นะเว้ย



            “ก็กลับหอตัวเอง...เสาขึ้นไปนอนเหอะ ดึกแล้ว” ทำเป็นไล่...แต่สายตาของไอ้นนท์ที่มองผมมันแบบว่า สื่อความหมายว่าอยากค้างกับผม คิดว่าผม...จะใจอ่อนเหรอ เหอะ



            ....เออ กูใจอ่อน



            “พรุ่งนี้เช้ากูขี้เกียจขับรถ มึงจะนอนนี่ก็ได้ จะได้ขับรถให้กู” คำพูดของผมเรียกรอยยิ้มกว้างจากไอ้นนท์ได้ทันที



            “จริงเหรอ! เสาให้นนท์นอนด้วย...” มันจะเดินเข้ามาหาผม



            “หยุดตรงนั้นเลยมึง ใช่ ให้นอนตรงโซฟา ถ้ามึงมายุ่งย่ามอะไรกับกูแม้แต่ปลายเล็บกูจะเอาไม้หน้าสามฟาดหน้ามึงซะ!!” ผมขู่ นนท์ก็ยกมือยอมแพ้ผม



            “รู้แล้ว...ไม่ทำอะไรเสาหรอก เชื่อนนท์สิ” หน้าตาของมึงน่าเชื่อมาก...ฟายยย...



            ผมเดินลิ่ว ๆ ขึ้นไปบนห้องอย่างรู้สึกว่า ตัวเองคิดผิดรึเปล่าวะที่ปล่อยให้ไอ้นนท์ตามขึ้นมาบนห้อง เฮ้อ นี่กำลังคิดบ้าอะไรของมึงอยู่ครับไอ้เสา... ก็อย่าไปเกร็งสิวะ ก็แค่เพื่อนมาค้างที่หอด้วย....



            ผมเข้าไปอาบน้ำส่วนไอ้นนท์ก็นั่งเล่นรออยู่ตรงโซฟา ใช้เวลาไม่นานนักผมก็อาบน้ำเสร็จ ผมออกมาสภาพผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวตามปกติจนลืมว่าไอ้นนท์มันก็นั่งมองตาปริบ ๆ ...เชี่ย ผมรู้สึกเย็นวูบขึ้นมาซะงั้น ผมเหลือบไปมองไอ้นนท์ที่มองผมอยู่



            มองหาเชี่ยอะไร...



            “เอาผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำไป” ผมโยนให้มันก็รับไปยิ้ม ๆ ยิ้มห่าไรอีกกกกกก....ผมกำลังค้นเสื้อผ้าอยู่ก็สะดุ้งนิดหน่อย (นิดจริง ๆ นะ) เมื่อมือหนามากั้นไว้ตรงตู้เสื้อผ้าที่ผมยืนอยู่



            “รีบ ๆ ใส่เสื้อผ้านะ เดี๋ยวไม่สบาย...” เสียงเข้มที่กระซิบข้างหูเกือบทำผมเป็นบ้า



            “ไอ้เหี้ย!! ไปอาบน้ำ” ผมด่าเรียกเสียงหัวเราะชอบใจจากไอ้นนท์ได้ทันที....คนเชี่ยอะไรชอบโดนด่า



            ผมค้นเสื้อผ้าของไอ้นนท์ที่อยู่ห้องผมออกมาวางทิ้งไว้ให้มัน (ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมมีเสื้อผ้าไอ้นนท์อยู่ห้องผม ก็มันเคยมาเล่นห้องผมตอนที่เราจะสอบไฟนอลและค้างที่ห้องผมนี่...ก็มีเป็นธรรมดาแหละ)



            ผมใส่กางเกงขาสั้นที่ขามันบานหน่อยกับเสื้อยืดบาง ๆ สีขาว ก็มันสบายดี ผมเป็นคนร้อนง่ายครับก็เลยชอบใส่อะไรสบาย ๆ แบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ผมนอนเลื่อนโทรศัพท์อยู่ก็เหลือบมองไอ้คนที่ออกมาจากห้องน้ำ...ในสภาพผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวต่ำ....



            เชี่ยยย...ผมจะไปมองทำไม ผมพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าไปอีกทางอย่างไม่อยากจะมอง       


            “ทำไมยังไม่นอนอีก” เสียงไอ้นนท์ดังระยะใกล้พร้อมกับแรงยุบของเตียง มันเอามือมาค้ำที่เตียงของผมและชะโงกหน้ามามองผม ผมที่หันหน้ากลับไปก็ปะทะกับใบหน้าที่อยู่ใกล้จนสัมผัสลมหายใจได้



            “ออกไปห่าง ๆ กูไอ้สัด”



            “ด่ากูตลอด ฮ่า ๆ โอเคกูไม่แกล้งแล้ว....คือว่า หุบขาหน่อยได้มะ กูใจไม่ดี....มันขาวเกินไป” ประโยคหลังของไอ้นนท์ทำให้ผมรีบเอาขาที่ผมไขว้ไว้ชิว ๆ ลงทันที นนท์หัวเราะแล้วเอามือมาบีบจมูกของผม





            ไอ้เชี่ย...กูไม่ใช่ผู้หญิงงงงงง....มาบีบจมูกพ่อง (โวยวายอีกแล้วครับไอ้เสา)



            “กูจะนอนแล้ว! แค่เช็คอะไรเฉย ๆ” ผมว่าก่อนจะยกมือไล่ไอ้นนท์ไปไกล ๆ มันก็ไม่ได้คัดค้านอะไร ยอมเดินไปหยิบเสื้อผ้าไปใส่แล้วไปนอนตรงโซฟาด้านนอก ผมเลื่อนหมอนข้างมากอดไว้และก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเลื่อนดูไทม์ไลน์เฟสบุ๊ค ไอ้สเตตัสที่ไอ้เชี่ยนนนท์เพิ่งจะโพส 1 วินาทีที่ผ่านมา



            >> ฝันดีนะเสา อย่านอนดึกนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องดูแลน้องดาวเดือนแต่เช้าอีก (รูปหัวใจสีแดงอีกสามดวง) <<



            ปกติไอ้นนท์มันก็ไม่ค่อยจะโพสอะไรบนเฟสบุ๊คบ่อยนัก แต่แฟนคลับมันก็เพียบครับ ดูดิ!! เพิ่งโพสไปปาไป 500 กว่าไลค์พร้อมคอมเมนต์มากมายอย่างถล่มถลายยยยย....ไอ้เชี่ย..



            ผมเลื่อนดูเมนต์ที่ถูกเมนต์โดยเพื่อนของไอ้นนท์ สาว ๆ ของมันด้วย



            > ว้ายยยยย อะไรเนี่ยยย น้องนนท์ทำแบบนี้เจ้นิ่มอกหักนะคะ ทำไมเสาทำแบบนี้! กล้ามของน้องนนท์ที่เจ้เฝ้าฝันถึง



            ....เจ้นิ่มมาเมนต์แรก กล้ามของน้องนนท์ทำเอาผมขนลุก...ไอ้นนท์มันก็ขวัญใจเหล่าเก้งกระเทยเหมือนกันครับ



            > เสานี่รองเดือนมหาลัยป่ะ วันนี้เจอพี่แกตอนงานโชว์ตัวดาวเดือน พี่เขาตัวบางมาก



            ไอ้เหี้ย...กูก็ตัวบางมาแต่ไหนแต่ไรแล้วเฟ้ย!



          > อ้าว พี่เขาเลิกกับดาวแพทย์แล้วเหรอวะ เห็นไม่ค่อยไปไหนด้วยกันเลย



            เลิกแล้วไอ้ฟาย...ตกข่าวนะมึงเนี่ย...และผมก็เห็นไอ้พวกเพื่อนในคณะผมมาตอบเมนต์ไอ้นี่กันใหญ่ว่าเลิกแล้วเลิกชัวร์เลิกจริง....เออ ดีเนอะพวกมึง



            > เชรดดดดดด ไอ้นนท์!! นี่พวกมึงสองคนนนนน กูว่าแล้วววววววว ไอ้ฟายยย พวกกูว่าแล้ว



            ไอ้ประธานคณะวิศวะก็มา....เออ ว่าแล้วอะไรกันของพวกมึงงงงงง....



            > ผมว่าพี่เสารองเดือน เหมาะกับพี่นนท์นะ พี่เสาหน้าสวยตัวบางอีก



            ไอ้เชี่ยรุ่นน้องคณะไหนวะ...มึงเป็นใครวะ! บอกบ้านมากูจะตามไปกระทืบ ใครจ้างมันมาเมนต์ฟะ



            > โอ๊ยยย แน่จริงก็แท็กดิวะ ให้เขามาเห็นเลยยยย ไอ้สาดดดดดนนท์ ไทม์ไลน์จะแตกแล้ว



            เพื่อนในคณะอีกคน ดูพวกมึงจะสนุกกันเชียว..... ผมเลื่อนไปเรื่อย ๆ ก็เห็นไอ้ตัวการที่โพสเพิ่งจะตอบในสเตตัสของตัวเองเมื่อกี้....แม่ง เดี๋ยวกูก็เตะมึงออกจากห้องหรอก!



            >> อย่าแซวเยอะ เขินจนตั้งตัวไม่ทัน



            เหี้ยยยย....เขินจนตั้งตัวไม่ทันอะไรของมัน พ่อง!! มือของผมพิมพ์ตอบกลับไปในสเตตัสนี้ด้วยอย่างลืมตัวว่าตัวเองส่องอยู่ (เวลาจะส่อง กฎคือมือห้ามลั่น...กูลั่นไปแล้ว)



            >> พ่อง...



            ผมพิมพ์แค่นั้นก็เรียกยอดไลค์คอมเมนต์ของผมเพียบ และทุกคนก็มาหัวเราะสะใจไอ้นนท์กันใหญ่ ผมได้ยินเสียงไอ้นนท์ที่อยู่ด้านนอกหัวเราะเหมือนขำมาก



            “ไอ้เหี้ยนนท์!! นอน! พรุ่งนี้ปลุกกูแต่เช้าด้วย” ผมตะโกนด่ามันพร้อมกับโยนโทรศัพท์ลงเตียงแล้วข่มตานอน



            “ฮ่า ๆ...ฝันดีเสา เดี๋ยวพรุ่งนี้นนท์ไปปลุกถึงเตียงเลย” เสียงเข้มตอบกลับมาเสียงหวาน





            เอี่ยยยย.....แต่ปากของผมมันจะอมยิ้มทำไม....ไอ้เสา! มึงต้องมีสตินะครับ....เออ สติมีขายที่ไหนซื้อมาให้ผมหน่อย....



            ...บอกเลยว่าผมได้เถียงกับไอ้นนท์ไปอีกนานแน่ ๆ ....



            [จบพาร์ตของเสา]











....................................+++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจจากคนอ่านที่น่ารัก ^^

 >>  ตอนต่อไปเป็น [พาร์ตของนนท์] บ้างนะคะ >__<  ต่อคู่นนท์เสาอีกสักตอน ก่อนจะกลับไปหาคู่หลักที่กำลังเข้มข้นเลยยย <<

หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 20| (01/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 01-05-2017 19:40:21
มีความเผือกกับคู่นี้มาก  :hao7:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 20| (01/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 01-05-2017 19:54:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 20| (01/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-05-2017 20:56:14
 :hao7:

นนท์ชอบถูกด่า โรคจิตว่ะ

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 20| (01/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 01-05-2017 22:57:16
 :impress2:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 20| (01/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 02-05-2017 16:21:44
เสา หนูน่ารักอ่าาาาา อยากจิได้เสา
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 20| (01/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 02-05-2017 19:20:23
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 21| (02/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 02-05-2017 20:13:12
ตอนที่ 21



            [พาร์ตของนนท์]




            ผมมองร่างบางที่สลบด้วยฤทธิ์ยาแก้ไข้ที่กินเข้าไปอย่างอ่อนเพลีย ลมหายใจหอบเล็กน้อย ใบหน้าแดงระเรื่อ...เป็นภาพที่ผมไม่ชอบเอาซะเลย เสาไม่สบายครับ  ร้อยวันพันปีคนเป็นไข้ยากอย่างเขาถ้าเป็นขึ้นมาก็หนักหน่อย ผมเดาว่าเขาคงเหนื่อยจากการดูแลน้องดาวเดือนด้วยแหละ ผมเห็นเขาทำหน้าที่นี้ดีอย่างสุดความสามารถ หลังจากที่เมื่อวานเป็นการประกวดดาวเดือนของมหาลัยไป เสาก็วิ่งวุ่นแทบไม่ได้พักเลย...(ผมแอบไปดูเขามาอ่ะ ทั้ง ๆ ที่เขาห้ามผมไปดูเขา แต่ผมก็ไม่ฟังครับ)



            ความสัมพันธ์ของผมกับเขาเหมือนจะดี...แต่ก็ยังไม่มั่นคงเท่าไหร่ เพราะเสายังไม่ยอมตอบรับผมตรง ๆ หลังจากที่ผมรู้ว่าเสาเลิกกับจีไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมก็เข้าหาเสาแบบเปิดเผย (รู้มาจากไอ้ศิลาไปขู่มันมา) ถือว่าเป็นโชคดีของผมที่จะได้ตัวเสามาเป็นของผมคนเดียว ขอบคุณเธอที่ทิ้งเสาไปจริง ๆ แต่ผมก็ดูเหมือนเสาไม่ได้เสียใจอะไรมากมาย ผมไม่กล้าที่จะถามเรื่องนี้สักเท่าไหร่เดี๋ยวโดนด่า ทุกวันนี้ผมก็ได้แต่เอาชานมมาล่อเขาไปวัน ๆ แต่เวลาเขากินแล้วยิ้ม...ผมแม่งโคตรมีความสุขอิ่มอกอิ่มใจ



            ...เมียชอบกินชานมไข่มุกมากกกก....ยอมใจจริง ๆ นี่ไอ้ศิลาก็เพิ่งจะโทรมาหาผมว่ามันกลับบ้านโดยที่ให้ไอ้น้องหมูไปส่ง ฮ่า ๆ นี่ถ้าเสารู้มีหวังคงจะทำหน้าดีใจเพราะเห็นมันชอบเป็นกามเทพให้ไอ้สองคนนี้ดี...ผมแอบมองพฤติกรรมเสาอยู่เสมอแหละ ก็ผมรักของผมนี่...(พูดแบบเต็มปากเต็มคำไม่มีอาย)



            ระหว่างที่กำลังมองหน้าเสาเพลิน ๆ เสียงกดกริ่งของห้องเสาก็ดังขึ้น พอดีผมมาเฝ้าอยู่หอของเสาตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะครับ



            ผมเปิดประตูก็เจอว่าที่แม่ยายของผม แม่ของเสา!...และผมกำลังงงว่าแม่รู้ได้ยังไงว่าเสาเขาไม่สบายเพราะเห็นถุงโจ๊กที่แม่ซื้อมาด้วย



            “อ้าว นนท์ ก็อยู่เหรอลูก เสาเป็นยังไงบ้าง ไม่สบายใช่ไหม”



            “ใช่ครับ” ผมยกมือไหว้อย่างสุภาพ ต้องทำตัวแบบดูรักษาภาพพจน์เข้าไว้ เดี๋ยวไม่ผ่านตากรรมการจะยาก....แม่ของเสายิ้ม



            “เสามักจะชอบเป็นไข้เวลาทำงานหนัก ๆ ติดต่อกันหลายวันน่ะ...แม่รู้ว่าเขาเพิ่งจบงานประกวดดาวเดือนกันมาใช่ไหมล่ะ...แต่นี่เห็นมีนนท์อยู่ด้วยก็หายห่วงแล้วจ๊ะ ขอบใจมากนะ” ผมช่วยแม่ถือพวกโจ๊กเข้ามาในห้อง ...แม่ของเสาใจดีจังเลย



            “แม่ซื้อมาถุงเดียวเอง ไม่รู้ว่านนท์อยู่ด้วย” แม่ของเสานั่งลงข้างเตียงของเสาที่นอนหลับเหมือนเด็กน้อย



            “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมทานอย่างอื่นได้ครับ”



            “เสา...แม่มาหานะคะ” แม่ของเสาลูบหัวของร่างบางที่รู้สึกตัว



            “แม่...มาหาเสาเหรอ” เสียงอ้อนแม่ฟังแล้วขยี้หัวใจของผมมากกกก อยากโดนเสาอ้อนแบบนี้บ้างจังเลยครับ! โอ๊ย...แต่ผมว่าผมอาจจะเจอตีนของเสาก่อนก็ได้ โฮะ ๆ



            “จ๊ะ แม่ซื้อโจ๊กมาให้ เดี๋ยวแม่ก็จะกลับแล้วทานข้าวทานยาแล้วพักผ่อนนะคะ รักเสานะ” แม่จุ๊บหน้าผากของเสาตามความคุ้นเคยก่อนผมจะแอบหลุดขำแม่ที่พูดต่อ



            “เสา...ลิปสติกแม่ล่ะ ยังไม่เอาไปให้แม่เลยนะ”



            “แม่...มาทวงลิปสติกเหรอออ...รึว่าแต่มาหาลูก เชอะ” ไอ้เสาทำท่างอแง...แม่งน่ารัก!!! ผมที่ยืนดูอยู่ก็ยิ้ม เสาหันมามองผมด้วยสายตาดุ แต่โทษนะครับ...ดุแบบหน้าแดง ๆ เห็นแล้วน่า...(ใจเย็นครับไอ้นนท์แม่ของเสาก็นั่งอยู่ ห้ามกามใส่เสา!)



            “ไอ้นนท์หยิบให้แม่หน่อย วางอยู่ตรงโต๊ะ...” เขาบอก ผมเลยหันไปหยิบมายื่นให้แม่ของเสาที่ลุกขึ้นมารับลิปสติก แม่เลิกคิ้วขึ้น



            “เอ๊ะ ทำไมมีสีชมพูอ่อนด้วย”



            “แม่เอาไปเลย” << เสียงเสา



            “พอดีผมซื้อให้เสาน่ะครับ” และเสียงผมดังขึ้นพร้อมกัน แม่ของเสาเลยยิ้มออกมา



            “ว้าย ตานนท์! ตาถึงนะ สีนี้แม่ก็ว่าเหมาะกับเสา เอาไปจ๊ะของเสา แม่เอาแค่สีของแม่พอ” โฮะ ๆ แม่พูดถูกใจผมจังเลย ผมก็ว่าสีนี้เหมาะกับเสามาก...ไอ้คนที่นอนหายใจเหนื่อยบนเตียงทำหน้าบึ้งใส่ผม อ้าว...แล้วกัน เขาหันหน้าหนีจากผมเรียบร้อย



            แม่ของเสาตบบ่าผมเบา ๆ



            “ยังไงก็ฝากดูแลเสาด้วยนะ แม่กลับละ” แม่พูดจบก็เดินออกจากห้องไป ผมปิดประตูก็สะดุ้งกับหมอนข้างที่โดนปามาจากเสา



            “เฮ้ย โยนมาใส่นนท์ทำไมเนี่ย”



            “ไอ้สัดนนท์! ไม่รู้กูหงุดหงิด” หงุดหงิดหรือเขินผมกันแน่...ผมไม่ได้พูดแซวออกไปหรอก มีหวังแจกันข้างหัวเตียงอาจจะลอยมาโดนหัวของผมได้



            “สงสัยเสาหิวแน่เลย...ลุกมากินโจ๊กดีกว่าเนอะ” ผมรีบยิ้มหวานให้ เสาเหลือบมองด้วยความไม่สบอารมณ์ตามประสาเขาแหละครับ...เขาจะรู้ไหมว่าใบหน้าแดงเพราะพิษไข้ของเขาทำให้เขาดูน่ารักขึ้นมาก



            “เออ กูหิว ไปเอามาสิ” เขาไล่เมื่อเห็นผมยืนมองหน้าเขานานไปหน่อย





            ผมเดินเข้าไปหยิบชามเทโจ๊กที่แม่ของเสาซื้อมาหนึ่งถุง ผมเดินออกมานั่งลงข้างเตียงมองเสาที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง แบบว่า...เสื้อชุดนอนกระดุมกว้างมาก ผมไล่สายตาลงมาจากไหปลาร้าของเสาและไล่ลงมาจนจะเห็นหัวนมอยู่แล้ว ผมแอบกลืนน้ำลาย



                    ผลั้วะ!! เสาตบหัวของผมไม่แรงนักเหมือนหยอก...แต่จริง ๆ ผมว่าตบจริง (แต่แรงเสามีไม่เยอะ)



            “จ้องอะไรกูไอ้สัดนนท์! แค่ก ๆ..” เสียงไอของเขาผมไม่ชอบเอาซะเลย...ใจจะขาด



            “อย่าขึ้นเสียงสิ เดี๋ยวเจ็บคอ” ผมรีบหยิบน้ำมาให้เสาที่มองผมเคือง ๆ ...เหมือนเขาจะรู้ว่าผมแอบมองหัวนมเขา...    ไอ้นนท์มึงมันหื่น...



            “กูได้ยินเหมือนมึงคุยโทรศัพท์กับไอ้ศิลาเหรอ” เขารับน้ำไปดื่มพร้อมกับถามขึ้น ผมพยักหน้า



            “ใช่ เห็นว่าจะโทรหาเสาแหละ ไอ้ศิลาบอกโทรไม่ติด มันบอกว่ากลับบ้านไปพร้อมกับไอ้น้องหมูอ่ะ”



            “หา? จริงดิ!!...แค่ก ๆ ไอ้ศิลา หึ เดี๋ยวจะเอาไว้ล้อมันนนน...” ยังมีหน้าไปล้อคนอื่นอีกนะครับ...



            “กี่โมงแล้วอ่ะ...” เสาถามพลางคนโจ๊กในชามของตัวเอง



            “10 โมงแล้ว”



            “มึงกินไรยัง” ผมน้ำตาจะไหล...เสาถามผมว่ากินอะไรรึยัง



            “ยังเลย..”



            “ไอ้สัดนนท์ทำไมไม่ไปกินวะ” เขาว๊ากผมมาอีกรอบ แต่น้ำเสียง...แม่งยิ่งฟังยิ่งละมุน



            “นนท์ก็ดูแลเสาอยู่ไง...แค่เห็นเสาอิ่มนนท์ก็อิ่ม” ผมพูดหวานใส่และกำลังจะถอยหนีเพราะกลัวเสาจะฟาดเท้ามาใส่ผมซะก่อน...แต่เสากลับไม่ทำ ร่างบางตักกินโจ๊กเงียบ ๆ หน้าที่แดงอยู่แล้ว....ค่อย ๆ แดงขึ้น 
 

            พระเจ้า...เขากำลังเขินผมอยู่รึเปล่าวะ..ไอ้นนท์ครับ...แฮปปี้ไปสิครับ



            “จ้องหน้ากูทำไม”



            “ก็ทางนี้มันน่ามอง...” เสาทำตาดุใส่ผมตามสไตล์เขาแต่ผมกลับมองว่ามันโคตรจะน่ารักเลย บอกแล้วไงครับว่า     ผมมันโรคจิต....ยิ่งเสาด่าผมยิ่งชอบ ฮ่า ๆ!



            “กินช่วยหน่อยกูกินไม่หมด ไปเอาช้อนมาไป” จู่ ๆ เสาที่กินไปได้สักพักก็พูดขึ้นทำเอาผมที่นั่งอยู่ข้างเขามองด้วยความแปลกใจ...



            “ไปเอามาดิวะ” เขาย้ำอีกรอบ น้ำเสียงเริ่มหงุดหงิด (หรือเขินกันวะ..) ก็เสาชอบแสดงอาการแบบตรงข้ามแปลก ๆ ออกมาอ่ะ



            “กินช้อนเดียวกันไม่ได้เหรอ...นนท์ไม่ได้รังเกียจเสานะ” ผมขอ จริง ๆ เหมือนจูบทางอ้อมดี กูคิดอะไรของกูอยู่เนี่ยไอ้นนท์เอ๊ย... เสาส่ายหน้ารัวพร้อมคำตอบที่ทำให้ผม....หลงเขามากกว่าเดิม!





            “ไอ้สัดนนท์โง่...เดี๋ยวมึงก็ได้ติดไข้จากกูกันพอดี” เชรด...เมียเป็นห่วงผมด้วย ความมโนของผมมันเยอะจริง ๆ!



            ผมยิ้มกว้างจนเสาจะเอาชามคว่ำใส่หน้าของผมอยู่แล้ว โทษฐานที่ผมยิ้มออกหน้าออกหน้าเกินไป ผมรีบวิ่งเข้าไปเอาช้อนมาตักกินโจ๊กที่ไม่ได้อร่อยมากมาย...แต่สำหรับผม โจ๊กวันนี้คือโจ๊กเจ้าที่อร่อยและประทับใจมากสำหรับผม ก็คนที่กินอยู่ชามเดียวกันกับผมคือ ผู้ชายที่ผมหลงรักยังไงล่ะ...



            รู้อะไรไหมครับว่า...ไอ้สัมผัสที่ตราตรึงที่ใครหลายคนชอบบอกว่าไม่ลืมกัน ผมก็เพิ่งเข้าใจตอนที่เจอเสานี่แหละ...สำหรับผมคิดว่าครั้งเดียวไม่มีทางพอสำหรับผม...บอกเลยว่ากลิ่นกายเย้ายวนที่ผมสัมผัสคืนนั้น แม้ว่าผมจะเมา...แต่ผมรู้ว่าคนที่ผมกอดคือเสา...ผมรู้ครับ ร่างกายที่สัมผัสกันตอนนั้นทำให้ผมเข้าใจกระจ่างว่า ที่ผ่านมา ผมแม่งแอบมองเสาอยู่ห่าง ๆ



            อยากทนุถนอม อยากอยู่ใกล้....และอยากเป็นมากกว่าเพื่อน....



            ผมรีบตักโจ๊กกินต่อเพราะเจอสายตาดุของเสาเข้า...แฮะ ๆ มัวแต่จ้องหน้าเขาแล้วทำหน้าหื่นก็สมควรจะโดนจ้องแหละ เสาจ๋า...นนท์แอบคิดนิดเดียวเอง (นิดเดียวเหรอไอ้นนท์ พูดไปตั้งแต่ต้นยันจบ)





            ...เป็นมากเกินมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่คนรัก เธอให้เพียงสัมผัสแต่ไม่ให้หัวใจ ฉันไม่ควรรักเธอ  แต่เผลอให้เธอไปแล้วจนหมดใจ...



            เสียงเอ็มวีเพลงช่องที่เสาเปิดผ่านมันดังขึ้นแบบตรงใจของผมมาก...จึก ผมกำลังล้างจานอยู่ในครัวก็ชะงักกึก พวกผมกินข้าวเสร็จก็มีคนป่วยดื้อไม่ยอมนอนพักจะดูโทรศัพท์ซะงั้น เดี๋ยวผมก็จับตีก้นซะหรอก! ผมทำไม่ได้หรอกเพราะอาจเจอตีนของเสาเข้าให้ก่อน เสารีบเปิดช่องหนีไปทันทีและเปลี่ยนไปดูช่องการ์ตูนแทน ผมบอกให้เขากินยาแล้วนอนพัก...ผมเป็นห่วงร่างกายของเขานะครับ



            “เสา นอนได้แล้ว” ผมเดินออกมาจากห้องครัวมองเสาที่ตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ แต่ก็ยังนั่งขัดสมาธิทำเป็นถือรีโมทไว้ ผมเดาว่าฤทธิ์ยาแก้ไข้ที่กินเข้าไปกำลังทำงาน



            “นอนไร กูนอนมาจะทั้งวัน เบื่อ” เสาทำหน้ามุ่ย “ไอ้นนท์กูอยากกินชานมไข่มุก...” ผมเหลือบมองเขาที่มองมาที่ผม...เฮ้ย อย่ามามองด้วยสายตาหวานของคนเป็นไข้....คือมันทำให้ผมใจอ่อนได้ง่ายมาก โดยเฉพาะถ้าเป็นเสาขอ



            “ไม่ได้...” ผมใจแข็ง ก็ไม่อยากให้เขาไข้ขึ้น จะว่าไปเสาไม่ค่อยด่าผมมาก...เพราะเขาไม่มีแรงด่าครับ



            “แม่ง...กูอยากกิน! ไปซื้อให้หน่อย” ผมอยากทราบว่าไอ้ชานมไข่มุกมันใส่สารเสพติดปะวะ ทำไมเสาถึงได้ติดขนาดนี้...



            “ไม่ได้”



            “ไอ้สัดนนท์...กูกินได้”



            “ถ้าไข้ขึ้นล่ะ? ไม่ให้กิน” ผมยังต่อต้านกับท่าทีเริ่มงอแงของเสา ตอนเป็นไข้น่ารักงี้เลยเหรอ ผมหวั่นใจนะครับเนี่ย.....เสาทำหน้ามุ่ยลงอีกและทิ้งตัวนอนตะแคงหันหน้าหนีผมซะงั้น อ้าว เมียครับผัวหวงผัวผิดไหม....(เขายังไม่ได้ยอมรับมึงเลยนะครับไอ้นนท์ไปเรียกเขาเมียซะแล้ว)



            ผมนั่งลงบนเตียงเขาและสะกิดเบา ๆ



            “ไว้หายแล้ว นนท์จะซื้อให้กินสองแก้วเลย” ผมง้อ...ง้อทั้งที่เสาก็ไม่ได้งอน แต่ไม่รู้อ่ะ ผมอยากเอาใจเสา เขาเหลือบตามามองผมนิดหน่อย และยอมหันตัวมานอนหงาย...ผมที่เอามือค้ำตรงเตียงไว้ หน้าของผมอยู่ในระดับสายตาของเสาพอดี...เชี่ย ผมอยากจูบเสามากกกก....ปากตรงหน้าแดงฉ่ำดีจัง (ทำหน้าหื่นออกนอกหน้า)



            “ถ้ามึงทำสายตาแบบนี้กับกูอีกรอบกูจะไล่มึงออกจากห้องนะ ไอ้เหี้ยนนท์...” เสียงของเสาดังเบา ๆ เพราะเจ็บคอแต่น้ำเสียงด่าเล็ก ๆ ของเขาทำให้ผมหลุดยิ้ม



            “ไม่ได้ทำสายตาซะหน่อย” หรือจริง ๆ ผมทำ...(มึงทำครับไอ้นนท์)



            “เหรอ...ไอ้กาม” อ้าว...ได้ฉายาใหม่ซะงั้น เสาเอามือมาดันผมให้ห่างจากเขา ผมก็ยอมถอยออกแต่โดยดี เดี๋ยวเสาจะโวยวายเอาอีก



            “มึงไม่กลับห้องตัวเอง ไม่ต้องเฝ้ากูก็ได้กูไม่เป็นไร” เขาไล่ผม มีเหรอคนหน้าด้านอย่างผมจะไป ไม่มีทางหรอกครับ



            “ให้ทายว่ามึงคงไม่ไป ถึงจะไล่...” ยังไม่ทันที่ผมจะบอก เสาก็เป็นคนพูดขึ้นเอง...รู้ใจผัวจังงง...



            “ไอ้เหี้ยนนท์...” สนับสนุนให้ผมเป็นเหี้ยจัง...แต่ก็เอาเถอะครับ ได้เป็นเหี้ยของเสาผมก็ดีใจ



            “หือ?” ผมหันไปมองเขาอึ้ง ๆ ก็มือเรียวที่ยืนออกมาดึงชายเสื้อของผมมันโคตรจะดูอ้อน



            “มึง...จริงจังกับกูจริงเหรอวะ” เสียงหวานที่ถามออกมาทำเอาผมหัวใจสั่นแปดจุดเจ็ดริกเตอร์  เสาจะรู้ไหมว่าตัวเองน่ารักขึ้นมาก (จริง ๆ ก็น่ารักมาตลอด แต่หลัง ๆ มาคนเริ่มรู้ว่าเสาน่ารัก) แม่ง...ผมเริ่มหวงขึ้นมาแล้วว่ะ...



            “จริงจังสิ มาถามอะไรเอาป่านนี้?” ผมตอบพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนตะแคงข้างเสาที่ดันพลิกตัวตะแคงมาทางผมพอดี เป็นจังหวะบังเอิญที่โดนใจของผมมาก! เขาดูผงะเล็กน้อยคงไม่คิดว่าผมจะนอนลง



            “ไอ้สัด นอนลงทำไมวะ...อ๊ะ ไอ้เหี้ย นนท์...” เขาเสียงเบาลงเมื่อผมใจกล้าหน้าด้านสุด ๆ เอื้อมมือสอดเข้าไปใต้ตัวของเขา ผมกอดเอวเล็กของเสาเข้ามาประชิดตัวของผม มันดิ้นเล็กน้อยพอเป็นพิธี...จริง ๆ ผมว่ามันไม่มีแรงดิ้นออกจากผมมากกว่า



            “กอดทำไม ปล่อยดิ” มันพูดเสียงแผ่วเบาและพยายามใช้มือดันแผงซิกแพคของผมออก...ดันไปเถอะครับ ไม่ปล่อยหรอก



            “กอดเมียผิดไหม” ผมก้มลงไปถามใกล้หูของเสา หูเล็กตรงหน้าแดงระเรื่อขึ้นมา...



            “มึงมันหน้าด้าน กูยังไม่ทันจะตกลงคบกับมึงเลยไอ้ฟาย...” เสาว๊ากใส่ บอกเลยว่ามันไม่โหดสักนิด ถ้ามีพี่ว๊ากแบบเสามาว๊ากนะ ผมจะยอมไปเข้าคลาสตากแดดทุกวันอ่ะ...คนอะไร น่าฟัดชิบหาย



            “แล้วเมื่อไหร่จะตกลงล่ะ”



            “..............” เขาเงียบไปเลย



            “เสา กูรักมึงนะ” คำที่ผมเพิ่งพูดไปทำเอาเสาเงยหน้าขึ้นสบตากับผมทันที



            “เชี่ยไรของมึง!” มือเล็กทุบอกของผม ปึ่ก ปึ่ก ...คิดว่าผมเป็นกระสอบทรายเหรอ เจ็บนะ...ไม่เจ็บหรอกครับ เหมือนอะไรนุ่ม ๆ มาโดนแผงอกก็เท่านั้น





            “กูบอกว่ารักมึงไง” ผมย้ำอีกรอบ



            “ไอ้เชี่ย!! รู้แล้ว จะย้ำทำไม” คราวนี้คนถูกสารภาพถึงกับหน้าแดงก่ำ โอ๊ย...ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นไข้ผมจะกระชากเสื้อผ้าเสาออกให้หมดแม่ง...น่าฟัดดดดดด (นนท์ครับมึงควรไปทำใจให้สบายไกล ๆ เสา)



            “ก็บอกให้ชัด เผื่อไม่รู้ไง” ผมกระตุกยิ้มมองเสาที่เลิกดิ้นและนอนอยู่ในอ้อมกอดของผมนิ่ง ๆ กลิ่นแป้งเบบี้มายด์สีชมพูที่เสาชอบใช้ลอยเตะจมูกของผม อบอวล..ชวนอารมณ์ขึ้นมาก





            “..................” ผมก้มมองเขาที่ไม่พูดอะไรเลย...งะ โกรธเหรอ



            “โกรธที่พูดเหรอ ขอโทษนะ แต่นนท์คิดแบบนั้นกับเสาจริง ๆ เสาก็รู้ว่าทุกคนในมหาลัยรู้เกือบหมดแล้วว่านนท์กำลังหลงเสา”



            “ไอ้เชี่ย มึงแหละแม่งมาโพสตัสบอกฝันดีกูไรในตัสมึง!...คนแม่งแห่กันมาเมนต์เต็ม” เสาโวยวาย ฮ่า ๆ เหมือนเขาจะไม่รู้ว่าผมแอบโพสรูปเขาไปด้วยแถมแท็กด้วยคราวนี้...



            “เดี๋ยวนะ...ทำไมคนถึงรู้ว่ามึงหลงกู?!” นั่นไง...เสาฉลาดมาก “ไอ้เหี้ยนนท์!! มึงโพสอีกอะไรใช่ไหม แค่ก ๆ” พอเขาตะโกนปั๊ปก็ไอเจ็บคอขึ้นมาอีก ไอ้นนท์มึงแกล้งเมียแบบนี้ไม่ได้นะโว้ย...



            “ก็โพสรูป...” ผมสารภาพ แววตาคู่สวยจ้องผมไม่ละสายตา...ละลายครับ ผมจะละลาย



            “ไหน กูขอดูหน่อย” เสาแบมือของโทรศัพท์ของผม นั่นไงล่ะครับไอ้นนท์งานเข้ามึงแล้ว



            “นอนดีกว่าไหม” รีบเปลี่ยนเรื่องแต่ก็ชะงักกับเสียงดุ



            “เอามาไอ้เหี้ยนนท์!! ถ้าไม่เอามาก็ไม่ต้องมาคุยกับกู ไม่ต้องมากอด!” เขาขู่จริงจัง คิดว่าผมจะกลัวเมียเหรอ...เออครับ T^T เมียบอกว่าไม่ให้กอดผมรับไม่ได้....ผมรีบหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงยื่นให้เสาด้วยความเต็มใจ...



            เสารับไปกดเลื่อนออกเปิดดูเฟสบุ้คของผม หน้าไทม์ไลน์ของผม รูปที่เพิ่งโพสไปก็โชว์ขึ้นพร้อมคอมเมนต์ประชาชีในมหาลัยอีกเกือบครึ่งแสน...เวอร์ให้ดูอลังการนิดหนึ่ง เสาเริ่มขมวดคิ้ว เอาล่ะขอเตรียมคำอธิบายเขาก่อน รูปที่ผมโพสเป็นรูปเสายืนอยู่บนเวทีพร้อมสายสะพายรองเดือน ที่มาส่งมอบตำแหน่งให้น้องเดือนปีต่อไป ผมแอบถ่ายอยู่ข้างล่างครับ เขาไม่รู้ว่าผมมาดูเขาด้วยซ้ำ (มาแบบแอบ ๆ อยู่แบบเจ็บ ๆ อย่างคนไม่มีสถานะ ฮิ้ววว...เล่นเองก็เจ็บเอง) พร้อมกับแคปชั่นโดนใจลงไปด้วย



          ‘มาส่งกำลังใจให้รองเดือนปี 2 ทำหน้าที่อย่างตั้งใจ อย่าลืมกินข้าวด้วยนะ นนท์เป็นห่วง ปล. ชานมไข่มุกนนท์ซื้อมาฝากแล้วนะ (หัวใจสีแดงสามดวง) แอบมาเงียบ ๆ ไม่อยากให้เขารู้ตัว...’



            พอนึกแคปชั่นที่ตั้งลงไปก็นึกหมั่นไส้ตัวเองขึ้นมาเหมือนกันครับ ฮ่า ๆ! มีความอยากอ้อน แต่เสากลับไม่รู้ ก็เสาไม่สบายเลยไม่ได้เล่นไง ผมโพสเมื่อวานแหละ...



            พวกคอมเมนต์ก็มาจากพวกเพื่อน ๆ คณะเรา พวกเจ้นิ่มแก๊งค์กองประกวดที่รู้จักเสา กับพวกแฟนคลับที่รักคู่รักชายชาย กรี๊ดกันใหญ่ แถมยังแห่ให้กำลังใจผมกับเสาอีก



            เสาที่เปิดดูเมนต์เงียบ ๆ ก็ทำเอาผมอึดอัดกลัวเขาจะโกรธขึ้นมา ก็รู้ครับว่าเขาไม่ชอบให้โพสอะไรหวาน ๆ แบบนี้



            “ครั้งนี้มึงกล้าเนอะ” หลังจากที่เงียบไปนานร่างบางในอ้อมกอดของผมก็เอ่ยขึ้น



            “หือ”



            “กล้าแท็กรูปกูด้วย” ความจริงจุดประสงค์หลักของผมคือ จะกันพวกผู้ชายที่คิดจะมาจีบเสาต่างหาก ดูท่าเจ้าตัวจะยังไม่รู้ตัวอีกว่าตัวเองแสดงด้านน่ารักออกมาแล้ว ผมไปเลื่อนดูรูปประมวลผลประกวดดาวเดือนในเพจอ่ะครับ เจอรูปของเสาที่ช่างภาพถ่าย ผมก็เลยจะไปเซฟเอาไว้แต่ดันเลื่อนไปเจอเมนต์แปลก ๆ ....



            ....พี่เสาน่ารักมากเลยครับ อยากถ่ายรูปด้วยแต่ไม่กล้า... ฝันเอาว่ากูจะให้ถ่ายไอ้เชี่ยยย



            ...หน้าก็ใส เสียงก็หวานจับใจมากครับ พี่รองเดือนปี2.... เสียงหวานพ่อง....



            เอาไปสองตัวอย่างพอครับ นั่นแหละที่ผมเจอมีพวกผู้ชายมาเมนต์ ต่อมความหึงของผมก็ทำงานทันที ผมเลยจัดการ โพสรูปนั่นแสดงแบบประกาศไปเลย!!...และคนก็เริ่มรับรู้ทั่วมหาลัยว่า ผมหลงเสาอยู่ โฮะ ๆ



            “ตกลงเราจะเป็นแฟนกันได้ยังอ่ะ...” ผมถามอีกรอบ อย่าว่าเซ้าซี้เลย คือแบบว่าผมก็อยากให้เขายอมตกลงปลงใจกับผมสักที...



            “.................” แต่ดูจากอาการของเสาแล้วนั้น...น่าจะไม่ให้ผมเข้าใกล้คำว่าแฟน (ที่จริงเลยขั้นแฟนแล้วนะ หึหึ)



            “ถ้าเสายังไม่พร้อม..” ผมยังไม่ทันจะตอบจบก็เลิกคิ้วกับเสียงเล็กของเสาที่ตอบผม



            “เออ ๆ”



            “หือ? เอออะไรเหรอ” ผมไม่รู้ผมโง่... เสาทำหน้ามุ่ยอีกครั้งและดีดหน้าผากของผมเต็มแรง



            แปะ!



            “ไอ้โง่ เรื่องแค่นี้ก็คิดเองไม่ได้ กูก็ตอบเออ ๆ แล้วไง”



            “หือ” เขาทำท่าจะตีผมอีกรอบเลยรีบจับไว้



            “ก็มึงถามอะไรกูล่ะ ไอ้สัดเหี้ยนนท์!!” โอ้โห...ขนมาทั้งหมด สัดเหี้ยนนท์เต็มหน้าผม ผมชะงักกับที่เขาพูดเมื่อกี้ แบบว่าหัวผมประมวลช้านิดหนึ่ง ผมตาโต



            “........” เสาหลี่ตาลงอย่างไม่สบอารมณ์กับรอยยิ้มของผมที่ปรากฏออกมา



            “เสา!! งั้นก็หมายความว่า ที่ถามว่าตกลงเป็นแฟนกันไหมเสาตอบว่า”



            “ไอ้สัด...” เขาด่าผมกลับ



            “เย้!! ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมวะ กูได้เสาเป็นเมีย โอ๊ย...กูจุกนะเฮ้ย...เดี๋ยวสูญพันธุ์กันพอดี” ผมตะโกนด้วยความดีอกดีใจราวกับความฝัน จนสะดุ้งเมื่อเสาเอาเข่ามากระแทกนนท์น้อยของผมเต็ม ๆ



            “เออ ไอ้เชี่ยแม่ง...สูญพันธุ์ไปเลยเอาให้มันใช้งานไม่ได้ไปเลย จะตะโกนทำเชี่ยไรวะ” เสาบ่นทั้งที่หน้าแดงไปหมดแล้ว โว้ยยยย โคตรของโคตรน่ารักกกก.....



            “กูจะนอน ปล่อยได้แล้ว”



            “ไม่เอา ขอนอนกอดแฟนป้ายแดงหน่อยนะ..นะ” ผมอ้อน กำลังคิดว่าเสี่ยงโดนตีนเสาไหม... ขามองหน้าผมก่อนจะหลับตาลง เฮ้ย...ไม่โดนไล่ เชรด...



            “ติดหวัดจากกู อย่ามาโวยวายทีหลังละกัน จะนอนแล้วอย่ามากวนเข้าใจมะ” เสาสั่งแค่นั้นแต่กลับเหมือนเป็นสิ่งที่ผมต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แต่ผมรู้สึกจุกจังแฮะ...เข่าเล็ก ๆ ก็ทำให้จุกได้นะครับเนี่ย



            T.T เมียครับ นนท์น้อยมันยังต้องใช้งานสำหรับเราสองคนอีกเยอะนะ (ทำหน้าชั่วร้าย...)





            [จบพาร์ตของนนท์]









.............................+++++++++++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^  คู่นนท์เสามาเเบบหอมปากหอมคอออ  // เดี๋ยวจะพากลับไปลุยต่อกับคู่ของน้องหมูกับพี่ศิลาเเล้วค่าาา ไปดูกันว่าคู่นั้นคบกันเเล้วจะเป็นยังไงบ้าง  :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 21| (02/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-05-2017 20:58:59
 :-[ มาแบบกรุบกริบๆ น่ารัก
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 21| (02/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 02-05-2017 21:50:59
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 21| (02/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 02-05-2017 22:38:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 21| (02/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 02-05-2017 23:22:19
คนน่ารักมักจะไม่รู้ตัว 555
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 21| (02/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-05-2017 00:08:14
นึกว่าเสาจะเถื่อนกว่านี้ ที่แท้ก็น่าร้ากกกกกกกก  อย่างนี้นี่เอง   :hao7:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 21| (02/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 03-05-2017 08:47:54
นนท์เสาน่ารักมว๊ากกกก โอ๊ยฟินจิกหมอนจิกผ้าปู
นนท์โคตรเปิดเผยอ่าาาา
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 21| (02/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 03-05-2017 13:08:27
 o13...น่ารักน่าเอ็นดู....ชอบมากกกค่ะ :hao7:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 22| (03/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 03-05-2017 18:28:00
ตอนที่ 22



            [พาร์ตของศิลา]




            1 อาทิตย์แล้วกับการที่ผมมีไอ้หมูไปไหนมาไหนด้วยในฐานะแฟน ถามว่าความสัมพันธ์ของผมเป็นยังไงก็เหมือนเดิมแหละครับ ผมก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ไอ้หมูก็เดินตามผมต้อย ๆ เหมือนเดิม บอกเลยว่าไอ้หมูมันดูเปิดเผยมากเรื่องของผม ทำให้ผมเอามาคิดว่า ผมเองก็ยังไม่ได้ทำอะไรให้มันชัดเจนเลย...หมายถึงเรื่องความรู้สึกของผมอ่ะครับ...ผมมันก็มีนิสัยแบบนี้ด้วยไง ปากกับใจมันก็ไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ จะให้พูดอะไรหวาน ๆ ก็ไม่ใช่ผมปะวะ...



            เฮ้อ...ให้มันรอไปหน่อยก็แล้วกัน ขอเวลาผมทบทวนความรู้สึกของผมก่อน (นี่มึงยังต้องทบทวนอีกเหรอครับ ไอ้ศิลา) วันนี้ไอ้หมูมันก็มาส่งผมตามปกติหน้าคณะวิศวะ ทุกคนก็เริ่มชิน ๆ กับมันแล้วล่ะที่มาส่งทุกวัน แต่วันนี้มันไม่ได้มารับผมตอนเย็นครับ เห็นว่ามีสอบเก็บคะแนน ว่าที่หมอค่อนข้างเรียนหนักจริง ๆ แหละ เพราะผมเห็นไอ้หมูมันอ่านหนังสือเวลามันว่างตลอดเลย ผมไปนอนเล่นห้องมันก็เลยรู้ (แบบว่าไอ้หมูมันลากไปนอนเล่นห้องมันเฉย ๆ อ่ะครับ)  ผมเรียนตามปกติจนมาถึงตอนเที่ยง



            |โรงอาหารคณะวิศวะ|



            “ไอ้สัด เลิกเหม่อกินข้าวได้แล้ว” ไอ้เสาปรบมือเรียกผมที่คิดอะไรเพลินไปหน่อย ผมมองชามก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กที่มันยื่นมาให้ผม คิดถึงก๋วยเตี๋ยวหมูแดงที่ไอ้หมูซื้อมาให้เลยอ่ะ...



            “กูไม่ได้เหม่อซะหน่อยเว้ย”



            “แหม จ๊ะ ๆ คิดถึงไอ้น้องหมูล่ะสิ...เห็นมึงบอกว่าน้องมันไม่ว่างมารับมึงใช่ไหม” ไอ้เสาถามพลางคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ปาก ส่วนไอ้นนท์ดูเหมือนจะไปหาซื้อน้ำกินให้พวกผมอยู่       



            “เออ เห็นว่ามีสอบแหละ”



            “ดีเลย วันนี้ไปดื่มกับกูกับไอ้สัดนนท์ด้วยกัน ไม่ได้ไปด้วยกันนานแล้ว” ไอ้เสาชวน ก็จริงครับไม่ได้ไปกินนานแล้ว    ไปพักผ่อนสักหน่อยก็ดีเหมือนกันเพราะพรุ่งนี้พวกผมไม่มีเรียนด้วย



            “จัดไปตามนั้น” สักพักจะไอ้นนท์ก็เดินกลับมาพร้อมกับชานามไข่มุกของไอ้เสาและน้ำเปล่าของผม โอ้โห...เพื่อนกับเมีย ไอ้สัดนนท์แบ่งได้ชัดเจนมากครับ ฮ่า ๆ แอบแซวมัน



            ......................

            ......................





            ผมเก็บพวกชีทใส่กระเป๋าพลางเดินตามไอ้เสาลงมาจากตึก ไอ้นนท์ขับรถไปรอที่ร้านเรียบร้อย นี่ก็กำลังงงว่าพวกมึงสองคนทำไมไม่ขับรถมาด้วยกัน? เปลืองน้ำมันชิบ แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไรมันหรอก   ผมหยิบโทรศัพท์ออกมากดดูก็เห็นสายที่ไม่ได้รับ อ้าว...ลืมเปิดเสียงนี่หวา ไอ้หมูโทรมาครับเมื่อกี้นี้เอง



            “รีบโทรกลับหาผัวเถอะ ฮ่า ๆ เดี๋ยวน้องมันจะงอนเอานะเว้ย” ไอ้เสานี่ก็ล้อผมจัง ผมกดโทรออก ระหว่างที่เดินไปที่รถของไอ้เสา เสียงรอสายดังไม่นานไอ้หมูก็รับ



            (“ทำไมไม่รับสายผมเมื่อกี้”) น้ำเสียงเข้มถามกลับมาทันที



            “ไม่ได้ตั้งเสียงไว้ เพิ่งเลิกเรียนไง”



            (“หอมแก้มผมหนึ่งทีตอนเจอกันแล้วจะหายเคืองเรื่องที่รับสายไม่ทัน”) มันพูดขี้เล่นขึ้นมาแต่ผมว่ามันอยากให้ผมทำจริง...ไอ้เชี่ยแค่รับสายไม่ทันทำเป็นเคือง



            “ไอ้เชี่ยกูไม่หอมหรอก”



            (“ฮ่า ๆ ว่าแล้วว่าพี่ศิลาต้องด่า”) มันหัวเราะเหมือนอารมณ์ดีมาก ไอ้นี่...มันบ้า



            “มึงโทรมามีอะไรรึเปล่า?”



            (“แค่คิดถึง...”) จึก...คำตรง ๆ จากมันอีกแล้ว (“ จริง ๆ แล้วอยากจะถามว่าพี่ศิลาจะกลับหอรึยัง และก็จะโทรมาบอกว่า วันนี้ผมต้องอยู่ทำแล็ปดึกเลยอ่ะ...”)



            “อ๋อ สู้ ๆ ละกัน กูก็กำลังจะกลับ...อ้อ ไม่ใช่สิ กูจะไปร้านโฮะกับไอ้เสาไอ้นนท์อ่ะ”



            “มีรายงาน ๆ กันด้วย” ไอ้เสาที่เดินนำผมอยู่หันมาทำท่าล้อเลียน เดี๋ยวกูจะได้กระทืบเพื่อนตรงหน้าซะก่อน โว้ย...



            (“ไปร้านโฮะเหรอครับ...”) มันเงียบไป (“พี่ศิลาอย่าดื่มเยอะนะ ให้สองแก้วพอ”) ไอ้หมูพูดต่อมาทำให้ผมเลิกคิ้วขึ้น



            “หา?”



            (“บอกว่าห้ามดื่มเยอะ เป็นห่วง”)



            “เออ ๆ วุ่นวายชิบมึงนิ” ผมตอบรับไอ้หมูที่ทำเสียงเซ้าซี้



            (“ห้ามไปทำตาวิ้ง ๆ ใส่ผู้ชายคนอื่นนะรู้ไหม”) วิ้ง ๆ เชี่ยไรของมันนนน...ใครจะไปทำวะ กูไม่ใช่มึงนะครับที่จะไปทำสายตาวิ้งใส่สาว...เอ๊ะ แต่ไอ้หมูมันบอกว่าห้ามผมไปทำสายตาใส่ผู้ชาย ไอ้เชี่ยกูจะไปทำใส่ทำไมกันละนั่น



            “เออ เข้าใจแล้ว ไปทำแล็ปมึงไปไอ้เชี่ยหมูกรอบ” ผมไล่



            (“เดี๋ยวกลับไปเอากำลังใจที่ห้องพี่นะ”) เสียงทุ้มดังเจ้าเล่ห์ทำให้ผมด่าออกไปทันทีส่วนปลายสายก็แม่งหัวเราะเหมือนขำมาก



            “ไอ้สัด...กูจะล็อคห้องไว้”



            (“ปืนหน้าต่างเอาก็ได้ ฮ่า ๆ!!”) ไอ้โรคจิต....มันวางสายไปแล้วแต่ผมกลับดันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั่นแหละ โอ๊ย...ระบบการควบคุมอารมณ์ของผมจะพังเพราะไอ้หมูหมดแล้วแม่ง...



            “ไอ้น้องหมูนี่สุดยอดเนอะ ทำให้มึงมายิ้มคนเดียวได้เนี่ย” ผมกับไอ้เสาเดินมาถึงรถ ก็ชะงักกับผู้หญิงวัยกลางคนที่ใส่ชุดดูดีมาก เป็นผู้ดีสุด ๆ แถมแววตาของเธอยังคล้ายกับ...ไอ้หมูอีกด้วย



            “ขอโทษนะจ๊ะ...หนูชื่อศิลาใช่ไหม” ผมพยักหน้าพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ใหญ่พร้อมกับไอ้เสาที่ยกมือตาม ปกติป๊ามักจะสอนผมเสมอไม่ว่าจะเจอผู้ใหญ่คนไหน เรารู้จักหรือไม่ก็ตามเราก็ต้องเคารพเสมอ



            “แม่เป็นแม่ของหมูนะ...” ผู้หญิงตรงหน้าของผมรับไหว้และพูดขึ้นทำให้ผมกับไอ้เสาเหลือบมองหน้ากัน...ผู้หญิงตรงหน้าของผมคือ แม่ของหมู ผู้ชายที่ผมกำลังคบอยู่...



            “แม่อยากคุยอะไรกับศิลาหน่อย ได้ไหมจ๊ะ...” ผมมองหน้าแม่ของหมูที่ยิ้มบาง ๆ ให้ผมอยู่ ผมพยักหน้าตกลงก่อนจะเดินตามเธอไปคุยตรงใต้ต้นไม้ โดยมีไอ้เสายืนอยู่ห่าง ๆ ....



            .......................

            .......................



            [พาร์ตของหมู]



            จะมีอะไรมีความสุขไปกว่าการที่เราได้อยู่กับคนที่เราอยากอยู่ด้วยมาโดยตลอด...1 อาทิตย์แล้วล่ะครับ หลังจากที่พี่ศิลายอมตกลงปลงใจกับผม ผมนี่แทบอยากจะขนขันหมากไปสู่ของพี่ศิลาซะเลย! (ใจเย็น ๆ นะครับไอ้หมู) บอกเลยว่าโคตรมีความสุข ผมมองอะไรก็เป็นสีชมพูแทบจะหมดทุกอย่าง ความรักที่มีให้พี่ศิลามันล้นใจของผมจนห้ามไม่ไหวแล้ว...แม้พี่ศิลาจะยังไม่ยอมบอกความรู้สึกตรง ๆ ออกมา แต่ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อว่าผมคงจะได้ฟังมันเร็ว ๆ นี่แหละ...ผมรู้ว่าพี่ศิลาเป็นคนนิสัยยังไง ถ้าจะมาพูดอะไรหวาน ๆ สไตล์พี่เขาก็ไม่ใช่อยู่แล้ว ผมชอบที่พี่เขาด่าผมไปด้วยแบบนี้แหละ พี่หมวยเล็กที่แท้จริงของผม...



            เฮ้อ...ผมอยากจะบอกว่าทุกวันนี้เหมือนผมต้องคุมตัวเองหนักกว่าเมื่อก่อน เพราะได้ลิ้มลองครั้งหนึ่งแล้ว ย่อมอยากให้มีครั้งต่อ ๆ ไป ผมไม่อยากจะบอกเลยว่าผมหื่นขึ้นหลายเท่าเมื่อเจอพี่ศิลา คนอะไรก็ไม่รู้ขาวทุกสัดส่วน โอ๊ย...ซอกคอ ซอกขา...ละมุนนุ่มลึกจริง ๆ อย่าเพิ่งไปแจ้งตำรวจมาจับผมนะครับ แฮะ ๆ ก็พี่ศิลาน่ารักเกินห้ามใจจริง ๆ ถ้าเฮียใหญ่กับเฮียกลางรู้ว่าผมคิดแบบนี้กับหมวยเล็กของพวกเขา มีหวังปืนจ่อมาที่ผมแหง...



            แต่ผมเองก็เป็นสุภาพบุรุษพอน่าครับที่จะไม่ทำอะไรพี่ศิลาบุ่มบ่ามแบบนั้น ถ้าพี่เขาไม่เต็มใจผมก็ไม่ทำ...จริง ๆ วันนั้นก็เกือบปล้ำพี่ศิลาด้วยความทนไม่ไหวของผมไปซะละ ดีนะที่ได้คบกับพี่ศิลาเป็นแฟนซะก่อน โฮะ ๆ ...จะว่าไปเรื่องที่ผมคบกับพี่ศิลายังไม่ได้บอกกล่าวกับพ่อแม่ของผมเลยครับ คือผมเคยเกริ่นไว้ให้พวกท่านฟังอยู่นะว่า ผมแอบรักพี่ศิลาและตามพี่เขามาหลายปี พ่อกับแม่ก็พอจะรู้ว่าพี่ศิลาตอนนั้นไม่สนใจผม (ส่วนตอนนี้พี่ศิลาเป็นแฟนของผมแล้วครับบบ อวดดด) ยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่เลยแฮะว่าพี่ศิลายอมเป็นแฟนของผมแล้ว เพราะช่วงนี้ไม่ได้กลับบ้านใหญ่ด้วย อยากบอกต่อหน้ามากกว่าครับ กะจะพาพี่ศิลาไปเปิดตัวด้วยเลยด้วยซ้ำ ต้องรอถามพี่ศิลาก่อน ผมตามพี่เขามาหลายปีแบบทุ่มเทมากจนคนที่บ้านก็พอจะรู้ และชอบบอกให้ผมเลิกฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่จะได้ยืนเคียงข้างพี่ศิลาได้แล้ว พอมาวันนี้ผมกลับรู้สึกภูมิใจมาก ๆ ผมทำมันสำเร็จแล้ว พี่หมวยเล็กที่ผมแอบไปสมัครเข้าสนามมวยทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เล่นมวยไม่เป็น เวลาก็ไม่ค่อยมีเพราะต้องไปเรียนพิเศษ ผมก็ยังพยายามทำทุกทางที่จะเข้าใกล้พี่ศิลาสักนิด



            และวันที่รอคอยของผมก็มาถึง วันที่พี่ศิลายอมรับว่าผมเป็นแฟน ผมเชื่อว่าความดื้อรันและความรัก



            เฮ้อ...จะว่าไปวันนี้อดไปรับพี่ศิลาเลยครับ เพราะผมกำลังนั่งทำแล็ปอยู่นี่ไงล่ะ เห็นว่าพี่ศิลาไปดื่มกับพวกพี่เสากับพี่นนท์ด้วยแหละ แอบเป็นห่วงกลัวพี่ศิลาจะกินเยอะ....



            “ไอ้สัด แล็ปจะเสร็จไหมวันนี้นั่งเพ้อพบถึงรุ่นพี่มึงอยู่นั่น” ไอ้เพื่อนกลุ่มผมว๊ากกวนตีนผมขึ้น ผมเลยยักไหล่ทำแล็ปต่อให้เสร็จ เผื่อเสร็จเร็วจะได้แวบไปหาพี่ศิลา!



            ผมรู้สึกว่าอาจารย์ช่างดูสวยมากเป็นพิเศษ เพราะอาจารย์ปล่อยพวกผมก่อนเวลาเย้! ผมไม่รีรอที่จะคว้ากระเป๋าเป้ออกไปจากห้องเรียนทันที ไอ้พวกเพื่อนของผมก็แม่งล้อกันเสียงดัง หาว่าผมติดเมีย....ครับ ยอมรับติดจริง ๆ แต่เมียของผมสิ ไม่ยอมให้ผมติดเลย....



            ผมยกโทรศัพท์โทรหาพี่ศิลา ก่อนจะต้องขมวดคิ้วงงเมื่อพี่เขาตัดสายผม ? เอ๋...ผมลองโทรไปก็พบว่าโดนตัดสายอีก พอโทรอีกรอบแม่ง...ปิดเครื่องซะงั้น ผมรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา ก็เลยรีบโทรหาพี่เสาแทน



            (“เออ ไง”)



            “พี่เสา พี่ศิลาอยู่กับพี่ไหม...” ผมได้ยินเสียงเพลงดังกระหึ่มแสดงว่ายังอยู่ที่ร้านโฮะ แถมผมยังได้ยินเสียงของพี่ศิลาดังมาแว่ว ๆ ด้วย



            (“คุยกับใครไอ้สัดเสา...ถ้าไอ้หมูอย่ารับนะ”) อ้าว....ทำไมล่ะ เสียงพี่ศิลาดูเมา ๆ ยังไงไม่รู้



            (“เออ กูไม่ได้คุยหรอก...มึงมาเคลียร์เองดีกว่าไหมไอ้น้องหมู กูก็ไม่รู้มันเป็นไรไม่ยอมเปิดปากพูดกับกูเนี่ย”)  พี่เสาพูดกับพี่ศิลา ก่อนจะพูดกับผมเบา ๆ ผมยิ่งฟังขมวดคิ้ว ผมก็ไม่ได้ทำอะไรให้พี่ศิลาโกรธนี่นา ก็เห็นคุยดี ๆ ตอนไปหาเมื่อเย็น



            เจออะไรมารึเปล่า?...

            ผมไม่ชักช้ารีบวางสายจากพี่เสาและเดินไปที่รถของตัวเองเพื่อมุ่งหน้าไปร้านโฮะทันที....

            ..........................

            ..........................





            [พาร์ตของศิลา]



            “ไอ้สัดพอ ๆ ไอ้นนท์เอาขวดเหล้าออกมาไกล ๆ มันดิ” ไอ้เสาโวยวายแย่งแก้วในมือของผม หลังจากที่มาถึงร้านผมก็สั่งเหล้ามากินเกินสองแก้วที่ไอ้หมูสั่งกำชับไว้แล้ว...



            ไอ้หมู...



            “กูจะกินเว้ย เอามา เชี่ยไหนบอกจะพากันมาแดกไงวะ ชน ๆ” ผมจะเอาแก้วจากมือไอ้เสา มันก็ไม่ยอมให้



            “แดกไรวะ เรียกว่าอาบจะดีกว่า มึงจะเมาอยู่แล้วเนี่ย นี่มึงเป็นอะไรวะเอาแต่ดื่มไม่พูดไม่จา แล้วนี่แม่ของไอ้น้องหมูเรียกมึงไปคุยเรื่องอะไร ยังไม่ได้บอกกูเลยนะ” ผมชะงักกึก...



            ครับ...ก่อนที่เราจะมาที่นี่แม่ของหมูเรียกผมไปคุยด้วย...เรื่องที่ผมไม่อยากจะนึกถึงขึ้นมาตอนนี้เลย ผมแค่อยากดื่ม ดื่ม....ดื่มให้ลืม



            “ก็แค่ถามว่ารู้จักกับไอ้หมูเหรอ” ผมว่า ไอ้เสาหลี่ตามอง ลืมไปครับว่าไอ้นี่...มันเป็นนักสืบ หลอกมันไม่ได้



            “ไอ้สัดเห็นกูโง่เหรอ แม่เขาจะมาถามเรื่องแค่นี้ทำไม” ไอ้นนท์ที่นั่งอยู่ด้วยก็กอดขวดเหล้าไว้ตามคำสั่งของไอ้เสาที่กลัวผมเอาไปกินอีก...



            “...........”



            “ไอ้ศิลากูเพื่อนมึงนะเฮ้ย มีไรก็บอกมาสิวะ ทำแบบนี้พวกกูเป็นห่วง” ไอ้เสาบอกออกมาตามความจริง ผมเม้มปากนิด ๆ ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นผู้ชายที่อยู่ในชุดนักศึกษาเต็มยศเสื้อยังเหน็บอยู่ในกางเกงอยู่เลย ไอ้เชี่ยหมู...มันมาที่นี่ทำไม  ผมยังไม่พร้อมจะเจอมันตอนนี้ ยังไม่พร้อม....จะบอกสิ่งที่ผมต้องพูด



            ผมจะลุกหนีไอ้เสาก็รีบจับผมไว้



            “ไอ้ศิลามึงจะไปไหน”



            “พี่ศิลา” ไอ้หมูที่เดินมาถึงโต๊ะ ไอ้เสาเลยปล่อยมือของผม “ทำไมพี่ไม่รับสายของผม...” ผมหันหน้าหนีและเดินหนีออกไปนอกร้าน ไอ้หมูเลยรีบวิ่งตามมา



            “พี่ศิลา!! เป็นอะไรไปครับ ผมทำอะไรผิดเหรอ” มันดึงมือของผมไว้ ตอนนี้เราสองคนมายืนอยู่นอกร้านแล้ว



            “ผมผิดอะไรบอกผมสิ...” ไอ้หมูถามเสียงอ่อน ทำให้ผมรู้สึกเจ็บ...มึงไม่ได้ทำอะไรผิดเลยไอ้หมูไม่ผิด แต่คนที่ผิดคือผมเอง...ที่ไม่ยอมชัดเจน จนทำให้ทุกอย่างมันพังแบบนี้ไงล่ะ



            “มึงไม่ได้ผิดอะไร ปล่อย” ผมบิดข้อมือของผมออกจากการจับกุมของมัน แต่ร่างสูงตรงหน้าของผมไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ มันหันหน้าของผมไปเผชิญหน้ากับมันตรง ๆ



            เกลียดการเผชิญหน้ากับแววตาคมตรงหน้า...แววตาที่ผมเพิ่งรู้ว่ามันแม่งมีอิทธิพลกับผมมาก



            “ไม่จริง ทำไมพี่ดูเย็นชากับผมล่ะ ทั้งที่เราก็คุยกันดี ๆ เมื่อเย็น เมาเหรอครับ..” ไอ้หมูสันนิษฐาน ผมไม่ได้เมาครับ สติยังครบดีและรู้ว่ากำลังจะทำอะไรต่อไปด้วย



            “ไอ้หมูกรอบ...”



            “ครับ?”



            “เราเลิกกันเถอะ...” หมูที่ฟังอยู่ก็ทำหน้าตกใจ



            “อะไรนะครับพี่ศิลา อย่าล้อเล่นแบบนี้...ไม่เอานะพี่ อย่าแกล้งผม” ไอ้หมูเสียงสั่นขึ้นมาทันที



            “กูพูดจริง”



            “ไม่ครับ!! เรื่องอะไรผมจะยอมเลิกกับพี่ พี่ศิลาเกิดอะไรขึ้น ผมทำอะไรให้พี่ไม่ชอบเหรอ”



            “เปล่า” ผมพยายามจะไม่สบตาตรง ๆ กับมัน แต่ไอ้หมูก็ใช้สองมือบีบไหล่ของผมไว้ จนผมรู้สึกว่ามันเจ็บ แต่กลับเจ็บไม่สู้ใจของผมตอนนี้....



            “ผมไม่เลิก! ยังไงผมก็ไม่ยอมเลิกกับพี่ ผมไม่ยอมรับ ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่เลิก!!” ไอ้หมูดึงดันจริงจังไม่ยอมจริง ๆ ทำให้ผมชะงักและสะบัดตัวออกจากมัน



            “มึงคิดว่าผู้ชายจะรักกันได้นานรึไงวะ มึงจะไปเป็นหมอนะเว้ย” ผมเริ่มพูดออกมาเหมือนแอลกอฮอล์ทำให้ผมต้องการจะปลดปล่อยทุกอย่างออกมา หมูที่โดนผลักออกก็มองผมไม่ละสายตา



            “รักได้สิครับ ผมไม่เห็นจะแคร์ เรารักกันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่” ผมจะเดินหนี ไอ้หมูก็ดึงแขนของผมไว้



            “พี่ศิลา ผมไม่เลิกนะ ไม่เลิกเด็ดขาด!” ผมมองตาตรงหน้าด้วยหัวใจที่เริ่มสั่น...แต่ประโยคที่แม่ของหมูพูดกับผมไว้ทำให้ผมเลือกที่จะผลักไอ้หมูออกไปจากผมอีกครั้ง แม้ผมจะไม่อยากผละออกจากอ้อมกอดอุ่นของมันเลยด้วยซ้ำ





            ...เพราะหมูยังต้องมีอนาคตอีกไกล แม่ไม่อยากให้ลูกชายของแม่มาจมปลักอยู่กับอะไรที่มันเอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้ แม่เชื่อว่าศิลาเองก็อยากให้หมูได้เป็นหมอดัง ๆ ใช่ไหม ปล่อยหมูไปเถอะ แม่ไม่อยากเห็นลูกชายแม่ทรมานเพราะการแอบรักหนูอีกแล้ว....



            เพราะผมไม่ชัดเจนเองและพอมาคิดดูแล้ว ถ้ายิ่งคบต่อไป...ผมจะไม่ทำให้ไอ้หมูยิ่งจมปลักเหรอ   ไม่รู้สิครับ ผมอาจจะกลายเป็นคนคิดมากไปแล้วก็ได้ ใช่...ผมคิดมาก คิดเรื่องของไอ้หมูทั้งหมด คิดแต่เรื่องของมันคนเดียว....



            “กูอึดอัด” ผมพูดคำที่ไม่ได้ตั้งใจพร้อมดันไอ้หมูที่ชะงักไป ผมมองแววตาของหมูที่ดูเหมือนช็อก  ผมไม่อยากจะมองเลย ไม่อยากมองแววตาของมันแบบนี้



            “ผมทำให้พี่อึดอัดเหรอ....” มันพูดเสียงแผ่ว แต่คำของมันเหมือนกรีดใจของผม “ผมว่าพี่ศิลาคงเมาแน่ ๆ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันวันหลังก็ได้ครับ ผมจะกลับไปก่อน แล้วจะไปหาพี่พรุ่งนี้ ยังไงผมก็ไม่ยอมเลิกกับพี่เด็ดขาด ยังไงหมูก็ไม่เลิกกับพี่ศิลาครับ....” ไอ้หมูบอกแค่นั้นก่อนจะหมุนตัวเหมือนข่มอารมณ์ของตัวเองเดินหันหลังเดินห่างออกไปจากผม



            ผมมองแผ่นหลังกว้างของเขาที่เดินออกไปช้า ๆ น้ำตาของผมไหลออกมาโดยอัตโนมัติ อนาคตของมึงจะต้องเป็นหมอรักษาเด็กน้อยอย่างที่มึงฝันไว้ไง...มีครอบครัวน่ารัก ๆ ยิ่งผมคิดผมก็ยิ่งร้องไห้ ยิ่งรับรู้ว่าผมไม่อยากปล่อยไอ้หมูไป ในที่สุดผมก็รับรู้ความรู้สึกที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจของผม



            รู้ใจของตัวเองจนได้...



            “ไอ้ศิลา!” ไอ้เสาวิ่งออกมาหาก่อนจะตกใจเมื่อผมหันไปหามันพร้อมกับปล่อยโฮออกมา



            “ไอ้สัดเสา...ฮือ”



            “เชี่ย เป็นไรวะ ทำไมมึงร้องไห้ ไอ้น้องหมูไปไหนแล้ว?” นานมากแล้วนะครับที่ผมไม่ได้ร้องไห้ จำได้ว่าร้องตอนล่าสุดก็ตอนวัยเด็กตอนที่โดนเด็กผู้ชายแกล้งล้อ เพราะผมเหมือนผู้หญิง ตัวเล็ก ขาว ผมก็เลยอยากเข้มแข็ง...



            “กูบอกเลิกน้อง...” ผมบอกทั้งน้ำตา ตอนนี้ผมไม่สนแล้วว่าใครจะมองผมรึเปล่า ผมรู้แค่ว่าผมอยากจะพูดให้มันหมด



            “หา ว่าไงนะ?”



            “แต่น้องไม่เลิกกับกู...”



            “ห๊ะ...อะไรของมึงศิลา มึงเมาจนเลอะเทอะแล้ว” ไอ้เสาจับไหล่ของผมให้ตั้งสติ ผมมองมันที่ตกใจแทนผมมาก ๆ



            “ฮือออ...ไอ้เสา กูรักไอ้หมูกรอบว่ะ...กูรักมัน กูรู้แล้วว่ากูรักมันมาก....” ผมบอกออกไปไม่รู้ว่าไอ้เสามันฟังรู้เรื่องไหมเพราะมันปนกับเสียงร้องไห้



            “รู้ว่ารักแล้วก็บอกมันไปสิวะ น้องมันคงดีใจมาก มึงจะไปเลิกกับมันทำไม เดี๋ยวนะ....หรือมันเกี่ยวกับที่แม่น้องมาหาวันนี้” เหอะ...ไอ้เพื่อนของผมมันน่าจะไปทำอาชีพนักสืบนะครับ ท่าจะรุ่ง...



            “อือ ฮึก...ใช่ แม่ของไอ้หมูบอกว่า ถ้ากูรักไอ้หมูจริง กูต้องปล่อยมันไป...” ผมพูดออกมาและเริ่มรู้สึกมึนกับเหล้าที่กินเข้าไป



            “หา? มึงเข้าใจความหมายถูกไหมวะ แม่เขาเนี่ยนะจะบอกให้พวกมึงเลิกกัน” ไอ้เสาสันนิษฐานอย่างสงสัยแต่ผมก็ไม่ได้ฟังหรอกครับ เพราะหัวสมองของผมไม่รับอะไรนอกจากเรื่องของไอ้หมู



            “เพราะกูรักมันไงวะ...กูถึงต้องยอมเลิก...ฮึก..” ผมยังคงระบายออกมาเรื่อย ๆ “กูผิดเองที่ไม่ชัดเจนตั้งแต่แรก ไม่บอกมัน ก็กูมันปากแข็ง...ผิดเองฮือออ...กูรักไอ้หมู มึงกูรักมัน.....”



            “ไอ้ศิลาใจเย็น ๆ ก่อนเว้ย กูว่ามึงควรบอกไอ้หมูเรื่องแม่ของน้องมันนะ เลิกเก็บเงียบเถอะ มึงรู้ไหมว่าน้องมันก็รักมึงมากไม่ต่างจากมึงนะเว้ย” ไอ้เสาพยายามให้ผมตั้งสติ แต่ผมก็ร้องไห้เหมือนสติแตก และสักพักก็รู้สึกว่าโลกแม่ง...หมุนไปหมด ก่อนที่ผมจะรับรู้ว่าตัวเองฟุบหลับไป แต่ผมกลับรู้สึกว่าเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินเป็นเสียงของไอ้หมู...แค่นี้กูก็คิดถึงมึงซะแล้วเหรอ...



            “พี่ศิลา....”

            ..............

            .............





            [พาร์ตของหมู]



            ผมไม่ได้เดินหายไปจากพี่ศิลาหรอกครับ ตอนหันหลังน่ะก็แกล้งเดินจากไปก็เท่านั้นแต่ความจริงก็แอบอยู่แถวพุ่มไม้ พี่เสาเองก็เห็นผม....บอกตรง ๆ ว่าผมช็อกนะ ช็อกจริง ๆ ตอนที่พี่ศิลาบอกอย่างเลิก ผมเสียใจจริง แต่พอมาได้ยินคำระบายทุกอย่างที่ผมต้องการได้ยินมาตลอด



            ‘คำว่ารักจากปากของพี่ศิลา’ ทำให้ผมแทบหัวใจหยุดเต้น แต่มันจะดีกว่านี้มากถ้าพี่เขาพูดด้วยรอยยิ้มและมองหน้าผมตรง ๆ ผมที่แอบฟังอยู่ก็รับรู้แล้วว่าต้นเหตุมันมาจากไหน แม่ผมนี่เอง ผมเห็นพี่ศิลากำลังจะฟุบหลับไปก็โผล่พรวดมาจากต้นไม้ จนพี่เสาแกแอบสะดุ้ง...ผมออกจะหล่อนะพี่



            “พี่ศิลา...” ผมอุ้มร่างบางอันเบาหวิวที่หน้าแดงไปหมด เพราะกินแอลกอฮอล์เข้าไปด้วยบวกกับร้องไห้...แอบโทษตัวเองนิดหน่อยที่น้ำตาเหล่านี้มีสาเหตุมาจากผม



            “ได้ยินแล้วสินะที่ไอ้ศิลามันพูดเมื่อกี้ มึงจะเอาไงต่อล่ะ เพื่อนกูมันก็รู้ใจของตัวเองแล้ว” พี่เสาที่คอยเป็นกามเทพให้ผมกับพี่ศิลาบ่อย ถามขึ้น บอกเลยครับว่าพี่แกรักเพื่อนมาก แถมยังช่วยชงผมกับพี่ศิลาตลอด



            “ครับ...พี่เสา ผมฝากพี่ศิลาไว้กับพวกพี่ก่อนได้รึเปล่า อย่าเพิ่งบอกอะไรพี่ศิลาก็ได้ครับ ผมจะกลับไปที่บ้านวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์นี้...” ผมบอกพร้อมกับเดินอุ้มพี่ศิลาไปส่งที่รถของพี่เสา



            “แน่ใจนะว่ามึงจะไม่ให้กูบอกไอ้ศิลาว่า มึงได้ยินที่มันพูดทั้งหมด”



            “ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมจะไปเคลียร์ปัญหาของที่บ้านก่อน ผมว่ามันต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ ๆ เพราะแม่กับพ่อของผมก็รับรู้มาตลอดว่าผมรักพี่ศิลา...ผมจัดการเสร็จจะรีบกลับมาง้อพี่ศิลา...ระหว่างนี้พี่เสาก็ช่วยดูแลอย่าให้ใครมายุ่งกับแฟนผมนะ” ผมยิ้มเหมือนมีกำลังใจขึ้นเยอะ เพราะไอ้คำบอกรักจากพี่ศิลานั่นแหละทำให้ผมมีแรงสู้ต่อทุกเรื่อง...



            “เออ ๆ โชคดี เพราะไม่ว่ายังไงกูก็จะดูแลเพื่อนของกูให้ดีที่สุดอยู่แล้ว มึงก็รีบ ๆ กลับมาหาแฟนมึงล่ะไอ้น้องหมู อ้อ...บอกไว้ก่อนนะว่าไอ้ศิลาอ่ะ เวลามันรักอะไรแล้ว มันรักมากนะ แถมหวงมากอีก” พี่เสาว่ายิ้ม ๆ พลางหันไปมองพี่นนท์ที่เดินออกมาจากร้านโฮะ ผมเลยยกมือไหว้พี่สองคนก่อนจะเดินกลับมาที่รถ ผมว่าจะขอหยุดเรียนไปเลยดีกว่า อยากเคลียร์ปัญหาให้จบ ๆ



            ...บอกเลยนะครับว่า คนที่จะเป็นเมียของหมูได้ ต้องเป็นพี่ศิลาเท่านั้น....






........................++++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านค่าาาา   :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 22| (03/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 03-05-2017 18:36:07
 :monkeysad:..รีบไปเคลียด่วนเลยยย  :m15:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 22| (03/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 03-05-2017 18:39:11
นััังชะนีไปยุแหย่ะไรรึเปล่ากลับไปอยู่ป่าได้แล้ว :m16:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 22| (03/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Mylovelysunshine ที่ 03-05-2017 19:03:22
แอบคิดว่าเกี่ยวกับชมพู่หรือเปล่า  :pig4: :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 22| (03/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-05-2017 20:30:31
โหยยยย..อะไรยังไงกันตะเนี๊ย     อยยากรู้ต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 22| (03/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 03-05-2017 22:21:56
 :sad11: ขุ่นแม่ทำไมทำแบบนี้คะ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 22| (03/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 03-05-2017 23:20:01
 :katai1:


แม่รู้ได้ไง ใครบอก ?
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 22| (03/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-05-2017 23:55:11
อ้าว  ไหงเป็นงี้ล่ะ   :hao4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 22| (03/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 05-05-2017 07:22:07
นังชมพู่เน่ามั่ย งานนี้ น้องหมู รีบไปเคลียร์
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 22| (03/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 05-05-2017 13:40:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 23| (05/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 05-05-2017 15:29:58
ตอนที่ 23


                [พาร์ตของศิลา]




                ผมลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ห้องของไอ้เสา ผมรู้สึกเมาค้างสุด ๆ แถมยังปวดหัวชะมัด ผมได้ยินเหมือนเสียงไอ้เสากับไอ้นนท์มันพูดอะไรพึมพำอยู่ พอผมเดินออกไปตรงโต๊ะอาหารที่พวกมันอยู่มันก็เงียบ



                “ตื่นแล้วเหรอไอ้ศิลา ไปล้างหน้าไป มากินข้าว” ไอ้เสามันว่าขึ้น ผมมองหากระเป๋าของตัวเองพลางคิดถึงโทรศัพท์อย่างแรก...เปล่าหรอก ที่ผมคิดถึงไม่ใช่โทรศัพท์แต่เป็นไอ้หมูต่างหาก



                “เห็นโทรศัพท์กูไหม” ผมถาม ไอ้เสาเลยชี้ไปที่โซฟาตรงกระเป๋าผมวางอยู่ ผมเดินด้วยท่าทางงัวเงียไปหยิบโทรศัพท์มาเปิดดู...ก็เจอสายที่ผมไม่ได้รับจากไอ้หมู แต่มันเป็นสายของเมื่อวานก่อนที่เราจะทะเลาะกัน...สถานการณ์แบบนี้ระหว่างผมกับมันคงเรียกได้ว่าทะเลาะล่ะมั้ง...



                ผมเห็นว่าไม่มีสายโทรเข้าจากไอ้หมูก็ทำหน้าเศร้าลงโดยไม่รู้ตัว



                “ไอ้ศิลาไปล้างหน้าเร็ว โจ๊กเจ้านี้อร่อยนะเว้ย ใช่ไหมไอ้เหี้ยนนท์” ไอ้เสาลุกขึ้นมาดันหลังของผมไปล้างหน้าอาบน้ำ พลางถามความเห็นของไอ้นนท์ไปด้วย ผมรู้ครับว่า...มันไม่อยากให้ผมเศร้า เพราะเมื่อวานผมก็ร้องไห้ระบายใส่ไอ้เสาไปเยอะแล้ว



                หลังจากผมอาบน้ำทานข้าวเรียบร้อยก็นอนดูหนังเล่นอยู่ที่ห้องไอ้เสา เป็นวันหยุดไม่มีเรียนที่โคตรเงียบ...เงียบมาก ไอ้เสากับไอ้นนท์ที่นั่งดูผมอยู่ใกล้ ๆ ก็มองด้วยความเป็นห่วง



                “มึงก็อย่าเพิ่งไปคิดอะไรมากเลยไอ้ศิลา กูว่าเรื่องมันต้องดีกว่านี้แน่ ๆ” ไอ้เสาว่าตบบ่าของผมปุ ๆ ไปด้วย ผมคลี่ยิ้ม กดเลื่อนช่องไปเรื่อย



                “เออ..กูก็หวังว่างั้น...มึงว่าไอ้หมูมันจะไปหากูที่หอไหม...” ผมถามขึ้น ไอ้นนท์เลยตอบแต่ผมก็ยังไม่ทันได้ฟัง ไอ้เสาก็เอาศอกไปกระทุ้งท้องของไอ้นนท์ซะก่อน



                “มันกลับไป โอ๊ย...เสา ยะ...อยากกินชานมเหรอ” ผมมองพวกมันสองคน เป็นอะไรกัน??



                “เออ ไปซื้อมาให้กูเลยไป...มึงเอาด้วยไหมไอ้ศิลาชานมไข่มุก” ไอ้เสาถาม ผมเลยพยักหน้าอย่างไม่อยากคิดอะไรมากตอนนี้ บอกเลยว่าหัวของผมตอนนี้แม่ง...ยอมรับตรง ๆ ว่าคิดถึงไอ้หมู อยากรู้มันทำอะไรอยู่ อยู่ที่ไหน มันนี้มันน่าจะมีเรียนอยู่มั้ง...ก็วันนี้วันศุกร์



                “เอามาแก้วหนึ่งละกัน อยากรู้ว่ามันอร่อยไหม” ไอ้เสาหันไปไล่ไอ้นนท์เมื่อสั่งมันเสร็จแล้ว



                เวลาเหมือนผ่านไปช้ามากวันนี้ ผมนอนเล่นอยู่โซฟาส่วนไอ้เสากับไอ้นนท์ก็นั่งกินขนมอยู่โต๊ะ  พวกมันชวนผมแล้วล่ะ แต่พอดีผมกินชานมไข่มุกเข้าไปจนอิ่มมาก ผมมองโทรศัพท์ที่ไม่มีสายเรียกเข้าจากไอ้หมูเลย หรือมันจะโกรธผมไปแล้ว...จนมันไม่อยากเจอหน้าของผมอีก พอผมคิดแบบนั้นขึ้นมาก็ทำให้ใจของผมเจ็บแปล๊บ...



                ผมรักมันมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ รู้ตัวอีกทีไอ้รุ่นน้องที่คอยตามผมต้อย ๆ ก็เข้ามาอยู่ในใจของผมซะแล้ว อยากคุยกับไอ้หมูจังเลยครับ...ผมเริ่มเป็นเอามากแล้ว



                “ไอ้ศิลา กินขนมหน่อยไหมมึง” ผมลุกขึ้นไอ้นนท์เลยยื่นขนมมาให้ผม ผมยิ้มให้พวกมัน



                “พวกมึงกินเหอะ กูว่าจะกลับหอ” ผมว่า ไอ้เสาเลยลุกมาห้ามผม



                “หยุดเลยไอ้สัดศิลา จะกลับไปสภาพจิตใจแบบนี้เนี่ยนะ? กูไม่ปล่อยมึงไป เดี๋ยวมึงร้องไห้อีกไอ้สัด” ไอ้เสาพูดเหมือนรู้ดี ครับ...มันเป็นเพื่อนสนิทผมมานานแถมมันยังรู้ว่าผมเวลาร้องไห้ขึ้นมา หรือมีเรื่องเสียใจจะร้องหนักกว่าปกติ เพราะด้วยความที่อยากซ่อนความอ่อนแอไว้ พอเวลาแสดงด้านอ่อนแอออกมามันก็เลยเป็นแบบนี้



                “กูไม่อยากอยู่ขัดจังหวะพวกมึงสองคน มึงอยู่กันไปเหอะ” ผมว่า ที่จริงแล้ว...ผมเห็นคนที่เป็นแฟนกันก็ดันนึกถึงไอ้หมูขึ้นมาทุกที ยิ่งทำให้ผมเจ็บ



                “ไอ้ศิลา ขัดจังหวะอะไรของมึงวะ พวกกูเอากันจนเบื่อแล้ว มึงไม่ต้องคิดมากหรอก” ไอ้เสาว่าทำให้ไอ้นนท์ตาลุกวาว



                “เสาโกหกว่ะ ไม่เห็นนนท์จะได้เข้าใกล้เสาสักนิด” ผลั้วะ! ไอ้เสาตบหัวไอ้นนท์ไม่แรงมากนัก



                “ไอ้สัดกูเล่นมุขให้ไอ้ศิลามันขำ” ไอ้เสาว่า ทำให้ผมหลุดหัวเราะขำพวกมันสองคนจริง ๆ ไอ้นนท์มองผมก่อนจะแตะบ่าผมเบา ๆ



                “อย่างที่เสาว่าแหละ ยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนกันเว้ย มีไรไม่สบายใจก็ระบายกับพวกกูได้เสมอ เพื่อนไม่มีวันทิ้งกัน” ไอ้เสาเองก็ยิ้มให้ผม พวกนี่แม่งทำหน้าตาของผมซึม...ดีใจจังครับที่มีเพื่อนที่ดีขนาดนี้



                “ขอบคุณพวกมึงมาก ๆ นะ กูดีใจว่ะที่มีเพื่อนอย่างพวกมึง”



                “ไอ้สัดอย่าพากูซึ้ง...เหี้ยน้ำตากูจะไหล...” ไอ้เสาว่าตบบ่าของผมปุ ๆ



                “วันนี้พวกเรามาเล่นเกมแข่งรถกันดีกว่า! ไหน ๆ ก็อยู่ครบแก๊งค์แล้วเว้ย บอกเลยกูไม่อ้อมมือนะ   ไอ้เหี้ยนนท์ไปค้นเกมกับกู ส่วนมึงไปนั่งรอที่หน้าโทรทัศน์เลยไอ้ศิลา” ไอ้เสาเสนอขึ้นเหมือนต้องการให้ผมคลายเครียด ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินไปนั่งรอตามที่มันบอก ผมหวังว่ามันคงจะทำให้ผมผ่อนคลายลงได้บ้าง....





                2 วันเต็ม.
..แล้วล่ะครับที่ไอ้หมูหายไป ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มทนไม่ได้ ทำไมมันหายไปแบบนี้ล่ะ    หายเงียบไปเลยไม่โทรไม่ติดต่อหาผมสักนิด...ผมเองก็ไม่ได้กลับหอของตัวเองเลยเพราะไอ้เสาแม่งไม่ให้ผมออกจากห้องเลยด้วยซ้ำ มันกลัวว่าผมจะไปร้องไห้อีก ผมไม่ร้องแล้วล่ะครับมีแต่จะไปหาไอ้หมูเท่านั้นแหละตอนนี้ เพราะเมื่อเช้าผมตัดสินใจโทรหาไอ้หมูปรากฏว่ามันปิดเครื่อง!...ผมเพิ่งรู้ตอนนี้แหละว่า การที่คนที่เราห่วงอยู่ปิดเครื่อง มันทำให้รู้สึกกังวลใจมาก....งั้นไอ้หมูก็คงรู้สึกไม่ต่างไปจากผมแน่ ๆ ตอนที่ผมปิดเครื่องหนีมันแบบนั้น



                ผมมันแย่ใช่ไหมครับ...ทำให้คนที่เขารักตัวเองและคนที่ตัวเองรัก เจ็บ...



                “ไอ้ศิลามึงยังไม่ได้กินข้าวเลยนะเว้ย” ไอ้เสาเดินมาโวยวายกับผมที่นั่งอยู่โซฟา ใช่ครับ ผมไม่กินข้าว ผมไม่อยาก...ที่ผมอยากทำตอนนี้คือออกไปหาไอ้หมู ไปดูว่ามันหายไปไหน



                “ไอ้เสากูจะออกไปข้างนอก”



                “มึงจะออกไปไหน อยู่นี่แหละ” มันห้ามผมอีกแล้ว ผมเริ่มขมวดคิ้วสงสัยขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้นนท์แม่งก็ทำสายตาลอกแลก



                “พวกมึงมีอะไรปิดบังกูอยู่รึเปล่าวะ ทำไมกูออกจากห้องไม่ได้”



                “เปล่า...” ไอ้เสากับไอ้นนท์ตอบพร้อมกันราวกับเตรียมกันมาบ่งบอกเลยว่า มีอะไรปิดบังแน่!!



                “บอกกูมา...กูอยากไปหาไอ้หมูที่หอ ให้กูไปนะ” ผมบอกจุดประสงค์จริง ๆ ของตัวเอง บอกเลยว่าตอนนี้ผมไม่อยากจะกั๊กแล้ว ผมอยากเจอก็จะบอกว่าอยากเจอ...ไม่เอาอีกแล้วไอ้ความไม่ชัดเจนที่ทำให้หัวใจของผมเจ็บ ไอ้เสามันมองหน้าของผมสักพักเหมือนใจอ่อน (ไอ้เสามันเป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ)



                “เออ เฮ้อ...กูก็ใจอ่อนกับเพื่อนอย่างมึงตลอดแหละไอ้สัดศิลา กามเทพอย่างกูใจร้ายไม่ลง” มันว่า



                “ไอ้น้องหมูของมึงไม่อยู่หอหรอก เพราะมันกลับบ้านมันและมันก็สั่งให้กูดูแลแฟนของมันให้ดี ๆ อย่าให้ผู้ชายมายุ่ง” ผมได้ฟังก็ตาโต...อะไรนะกลับบ้าน?



                “มันกลับบ้านทำไม...”



                “น้องมันรู้เรื่องแม่ของน้องที่มาหามึงแล้ว...” ผมตาโตเข้าไปอีกเท่าไข่ห่านเลยคราวนี้...ติดความอลังการมาจากไอ้หมู....เดี๋ยวทำไมรู้วะ...เอ๊ะ



                “มันได้ยินที่มึงพูดทั้งหมดเพราะไอ้น้องหมูมันเดินหันหลังไปจากมึง...แต่มันไม่ได้กลับไปจริง ๆ มันแอบฟังมึงอยู่” ไอ้เสาคลายข้อสงสัยทำให้ผมแทบลมจับ...เชี่ยยย...งั้นไอ้หมูก็ได้ยินทั้งหมดสิ!



                “มันได้ยินหมดเลยเหรอ...” ผมกลืนน้ำลาย



                “เออ ตั้งแต่ต้นยันจบ...” เชี่ย...คำว่าตั้งแต่ต้นยันจบก็แสดงว่าไอ้หมูได้ยินความรู้สึกของผมแล้วทุกอย่าง แค่คิดผมก็รู้สึกเขินขึ้นมาแล้ว



                “มึงรู้แบบนี้แล้วจะเอาไงต่อล่ะ จะปฏิเสธอีกมะ” ไอ้เสาถาม ผมเลยส่ายหน้า...พอแล้วล่ะครับ ไอ้ความรู้สึกไม่ยอมรับ พอแล้ว ผมไม่อยากเสียไอ้หมูไปอีก



                “ในเมื่อไอ้หมูมันรู้แล้วก็ดี...กูจะไปตามมันที่บ้าน...กูจะไปหาแม่ของหมูและบอกว่า กูไม่เลิกกับไอ้หมู” ผมบอกออกไปอย่างแน่วแน่...นี่ความคิดของกูเองเหรอวะเนี่ย



                “ไอ้เชี่ยยยย แบบนี้หน่อยสิวะ! ไม่เสียแรงที่กูคอยเป็นกามเทพ บอกเลยนะ...กูเห็นน้องมันรักมึงมาก ทุ่มเทให้มึงก็มาก กูก็อยากให้เพื่อนของกูได้เจอคนที่ดี ๆ....” ไอ้เสาพูดอย่างพ่อพระ



                “เออ มึงเป็นกามเทพให้น้องกับกูสำเร็จแล้วล่ะ...แต่มึงต้องช่วยกูอีกเรื่อง”



                “ว่ามา”



                “พากูไปหาไอ้หมูที่บ้านที....”



                “หา? แล้วรู้เหรอวะว่าบ้านน้องอยู่ไหน” เออว่ะ...ผมไม่รู้ แต่ผมว่าผมมีตัวช่วยนะ



                “กูรู้ว่าจะถามใครได้.....” ผมบอก ไอ้เสากับไอ้นนท์ก็มองหน้ากันอย่างไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะไปหาที่อยู่ไอ้หมูกรอบมาจากไหน



                .................

                .................



                และผมก็มาถึงหน้าบ้านของไอ้หมูจนได้ ถามว่าได้ข้อมูลมาจากใคร...ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลหรอกครับ เฮียใหญ่ของผมเองนั่นแหละ ผมโทรไปถามเฮียใหญ่มาเพราะพอจะเดาได้เลยว่าเฮียแกต้องสอบถามพวกที่อยู่ของไอ้หมูไว้อยู่แล้ว ก็ไอ้หมูมันเคยบอกนี่ว่าเฮียมีส่วนช่วยให้ไอ้หมูเข้ามาจีบผม ผมก็เดาไม่ผิดจริง ๆ เฮียรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับประวัติไอ้หมู เฮียบอกผมว่าถ้ามันทำผมเสียใจเฮียจะได้ตามมากระทืบมันที่บ้านได้ถูก ฮ่า ๆ โหดจริงอะไรจริง



                ผมมองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า สมแล้วที่เป็นลูกประธานธนาคาร YOU ระบบรักษาความปลอดภัยเพียบ แล้วกูจะเข้าไปได้ยังไงวะเนี่ย...



                “มึงเข้าไปคนเดียวได้เหรอวะ”



                “เออได้ พวกมึงรอกูอยู่นี่แหละ” ผมว่าแล้วเปิดประตูลงจากรถ ไอ้เสามองอย่างห่วง ๆ แต่ผมก็ชูสองนิ้วให้มันว่าไม่เป็นไร ผมเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเล็ก ยังไม่ทันจะพูดอะไรประตูเล็กก็เปิดให้ผมซะงั้น



                “คุณศิลาใช่ไหมครับ?” พี่ยามท่าทางใจดีถามผมขึ้น ผมพยักหน้าหงึก ๆ ทำไมรู้ชื่อผมได้



                “คุณผู้หญิงบอกให้เข้ามาได้เลยครับ” คุณผู้หญิงที่ว่า...ใช่แม่ของหมูรึเปล่านะ ผมแอบเกร็งนิดหน่อยแฮะ ผมเดินเข้ามาในบริเวณบ้านที่มีสวนนั่งเล่นด้วย ผมเดินไปสักพักก็หยุดกับแม่ของหมูที่วิ่งออกมาทำตาโตเล็กน้อย



                ก่อนผมเองจะเป็นคนตกใจแทนเมื่อแม่ของหมูโค้งให้ผม



                “แม่ขอโทษจ๊ะหนูศิลา...”  ผมเลยยกมือไหว้แม่ของหมู



                “ครับ? ขอโทษผมเรื่องอะไรเหรอครับ?” ผมมองงง ๆ แม่ของหมูเข้ามาจับมือของผมไว้และพูดประโยคที่ทำให้ผมอึ้ง....กับสิ่งที่ได้ยิน



                “เรื่องที่แม่บอกว่าให้ศิลาเลิกกับหมูนั่นแหละ....แม่ไม่รู้ว่าศิลากับหมูรักกันแล้ว แม่รึว่าลูกชายของแม่ไปตามตื้อข่มขู่ศิลา แม่ก็เลยอยากให้หมูเลิกทำร้ายหัวใจของตัวเอง....” จริง ๆ ผมก็ทำร้ายหัวใจไอ้หมูเหมือนกัน เพราะความไม่ชัดเจน....



                “แม่ทำให้พวกหนูสองคนทะเลาะกันแม่ขอโทษจ๊ะ คือแม่ไม่รู้ว่าศิลาเองก็รักหมูเหมือนกัน.....”



                “ไม่เป็นไรครับ...หมายความว่า...คุณน้า” ผมเรียกด้วยความสุภาพ แม่ของหมูเลยส่ายหน้า



                “เรียกแม่สิคะ เรียกแม่ได้...” ผมรู้สึกว่าใจเต้นระริกด้วยความตื่นเต้น...แม่ของผู้ชายที่ผมรักกำลังบอกให้ผมเรียกว่าแม่ ผมรู้ครับว่าแม่ทุกคนก็อยากให้ลูกชายของตัวเองได้สิ่งที่ดีที่สุด และได้อยู่กับคนที่รักจริง ๆ



                “ครับแม่...หมายความว่าผมไม่ต้องเลิกกับหมูใช่ไหมครับ...” ผมถามด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน



                “ใช่ค่ะ ไม่ต้องเลิก...ถ้าพวกหนูเลิกกันแม่ต้องรู้สึกผิดไปตลอดแน่ ๆ...ขอโทษนะจ๊ะ แม่เคยเห็นหมูทำหน้าเศร้าเวลาคิดถึงศิลาแล้ว แม่ทำใจไม่ได้ก็เลยจะหาวิธีเด็ดขาดทำให้หมูตัดใจ...แต่ไม่คิดว่าลูกชายของแม่จะคว้าใจหมวยเล็กมาได้อย่างที่เขาพูดจริง ๆ...” ผมได้ยินแม่ของหมูพูดจบก็อึ้งอีกรอบ



                “แม่รู้จักชื่อ หมวยเล็กของผมด้วยเหรอครับ...”



                “รู้สิคะ ก็หมูเล่าให้ฟังตลอด...จนแม่รู้ไงว่าหมูแอบรักศิลามานาน แต่ที่แม่ทำไปเพราะอยากให้ลูกชายหลุดจากความทรมาน แม่ทำตัวเด๋อไม่รู้เรื่องเข้าไปหาหนูโดยที่ไม่ได้บอกเจ้าหมูก่อน ก็เลยเข้าใจผิดกันแบบนี้แหละ โอ๊ะ...ดีเลยที่ศิลามา คือว่า หมูเขาขังตัวเองประท้วงแม่มาสองวันแล้วค่ะ ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน แม่ไม่รู้จะทำยังไงนี่ก็กำลังจะออกไปหาศิลาเนี่ยแหละ แต่หนูก็มาที่นี่ก่อน” ผมฟังก็เลิกคิ้ว ไอ้เชี่ยหมูขังตัวเองประท้วง เดี๋ยวนะครับ มันเป็นเด็กรึยังไง



                “แม่บอกเขาแล้วนะว่า แม่เข้าใจผิดเรื่องศิลาและแม่เป็นคนบอกให้ศิลาเลิกกับหมูเอง แม่บอกว่าแม่ไม่ได้อยากให้ลูกสองคนเลิกกันแล้ว แต่หมูไม่ฟังเลย ดูเหมือนจะไม่ได้ยินด้วย”



                “ทำไมแม่ไม่เปิดประตูเข้าไปล่ะครับ?” ผมถามออกไป แม่เลยยิ้มแห้ง ๆ



                “คือว่า ระบบล็อคประตูมันล็อครหัสจากข้างใน...ศิลาก็เห็นใช่ไหมว่าบ้านของหมูเขา...เป็นลูกเจ้าของประธานธนาคาร ประตูก็เวอร์อย่างนี้แหละจ๊ะ...แม่เปิดไม่ได้ถ้าเขาไม่เปิดเอง แถมดูท่าทางหมูจะไม่ยอมฟังเสียงอะไรจากข้างนอกด้วย เหมือนจะอยู่แต่ตรงระเบียง พ่อเขาตะโกนเขาไปยังไม่สนใจเลย นี่พ่อศิลาก็งอนแม่ออกไปทำงานแล้ว...” โอ้โห...ผมเชื่อแล้วครับว่าบ้านของไอ้หมูมันรวยจริง แค่ประตูยังต้องแข็งแรงขนาดนี้เลยเหรอ ผมมองระเบียบที่แม่บอกว่าเป็นห้องของไอ้หมูอย่างใช้ความคิด...



                และผมก็คิดอะไรออก!



                “แม่ครับ ผมรู้แล้วว่าจะเรียกไอ้หมูยังไง...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมละกันครับ” ผมมองไปทางต้นไม้ที่อยู่แถวบริเวณระเบียงไอ้หมู แม่ของหมูก็มองตามอย่างเป็นห่วง



                “แน่ใจแล้วเหรอคะศิลา?”



                “แน่ใจครับ ไม่ต้องห่วงผมนะครับ ผมจะทำให้ลูกชายของแม่ออกมากินข้าวข้างนอกเอง...และผมก็จะพูดความจริงกับไอ้หมู ความรู้สึกชัดเจนของผม” ผมบอกแม่ของหมูก็มองตาปริบ ๆ พยักหน้าให้ผมยอมทำในสิ่งที่ผมคิด....



                แม้จะดูผาดโผนไปสักหน่อยแต่วัยเด็กของผมเวลาเล่นกับเฮียใหญ่และเฮียกลาง ผมก็จะปีนต้นไม้เล่นเป็นประจำ ถึงจะไม่ปีนมานานแล้วแต่ก็น่าจะยังปีนได้อยู่...กูจะทำตัวเป็นลิงละนะ ผมปีนขึ้นไปและทดสอบดูว่ามันแข็งแรงไหม ก็โอเคครับ... ไม่ตกแน่นอน ผมปีนขึ้นไปด้วยความเจ็บมือชะมัด ผมเหลือบเห็นไอ้หมูที่ยืนเอามือเท้าคางอยู่ตรงระเบียงพร้อมกับเบียร์ในมือ...ไอ้เชี่ยยยย มายืนกินเบียร์เป็นพระเอกเอ็มวีน้ำเน่าทำซากอะไรอยู่ตรงนี้วะ...รู้ไหมว่ากูรอมึงมาหากู!



                อยากด่ามาก...แต่ตอนนี้ผมเริ่มมีปัญหาแล้วเพราะกิ่งไม้ตรงนี้มันห่างจากระเบียงอยู่เหมือนกัน เอาแล้วครับไอ้ศิลา...ขากูเอื้อมไปไม่ถึงขอบระเบียง มือของผมก็เริ่มลื่นไปด้วยเหงื่อ....เชี่ยกูจะตกแล้ว



                “ไอ้หมูกรอบ...” ผมเรียก ไอ้หมูก็ทำท่าลอกแลกมองหาต้นเสียง... “ไอ้ง้าว! กูอยู่ทางนี้โว้ย บนต้นไม้”  ผมบอกมันก็เลยเงยหน้ามาทางต้นไม้ที่ผมกำลังห้อยต่องแต่งอยู่ มันตาโตเท่าไข่ห่านตามสไตล์มัน



                “พี่ศิลา!! มาที่นี่ได้ยังไงครับ แล้วทำไมไปปีนต้นไม้เล่า” เพราะมึงไง...ไอ้ฟาย!



                “กูมาหามึงไงวะ...แม่มึงบอกให้เปิดประตูก็ไม่เปิดไอ้เชี่ยหมู กูเลยต้องมาปีนอยู่นี่ไง” ผมด่าให้ มันก็เลิกคิ้วงง



                “พี่เจอแม่ของผมแล้วเหรอ...” เออ...ดีเนอะครับแทนที่มันจะช่วยรับผมไปก่อน คือผมกำลังจะตกแล้วไง!!



                “เออ คือค่อยคุยได้ไหม ช่วยกูก่อน...” ผมบอก ไอ้หมูก็เลยนึกขึ้นได้ มันทิ้งกระป๋องเบียร์ในมือและเดินเข้ามาชิดระเบียง กูจะข้ามไปไงวะ...ปล่อยมือไม่ได้



                “พี่ศิลาส่งมือมาให้ผมข้างหนึ่ง ผมจะรับพี่เอง” แปลกที่ผมดันเชื่อคำพูดของมันและไม่ลังเลที่จะยื่นมือไปให้ไอ้หมู...ผมเชื่อว่ามันจะรับผมได้ ผมเอื้อมมือข้างหนึ่งไปจับมือไอ้หมูไว้ มันก็เอาแขนของมันดึงแขนพร้อมกับเอาอีกแขนของมันโอบเอวของผมไว้...



                แรงดึงทำให้ผมกับไอ้หมูล้มไปตรงริมระเบียง



                “อ๊ะ เหวอ...”



                ตุบ...จุ๊บ..ผมล้มทับตัวของไอ้หมูและจุ๊บแก้มของมันเต็ม ๆ ไอ้เชี่ยล้มดี ๆ ไม่ได้รึไงวะ ทำไมต้องมาจุ๊บมันด้วย



                “จังหวะเหมาะชะมัด” หมูกระตุกยิ้ม...ยิ้มที่ผมยอมรับว่าชอบ ผมสะดุ้งเมื่อมือหนาของมันสองข้างเลื่อนมาโอบเอวของผมไว้



                “ไอ้เชี่ยหมูปล่อย...แม่มึงให้มาตามมึงไปกินข้าว” มันเลิกคิ้วขึ้น



                “ทำไมแม่ถึงให้พี่ศิลาเข้ามาตามผม...เอ๊ะ หรือว่าเรื่องที่แม่บอกว่าไม่ได้คัดค้านเรื่องของเราแล้ว  จะเป็นเรื่องจริง!” ไอ้หมูทำหน้าตาตื่น มันเพิ่งจะรู้ตัวจริง ๆ เหรอ แสดงว่ามันได้ยินที่แม่ของมันพูด



                “เออ แม่พูดความจริงทำไมไม่เชื่อวะ เด็กไม่รักดี” ผมด่าไม่จริงจังและพยายามจะดิ้นออกจากมือหรือคีมวะ ถ้าจะแน่นขนาดนี้



                “ผมไม่รักดีครับ แต่ผมรักพี่ศิลา....” จึก...พอเจอหน้าปั๊ปก็หยอดผมทันทีทันใด ผมมองแววตาคมเข้มที่จ้องผมลึกเข้ามาในดวงตากลมสวยของผม



                “พี่ศิลา...” เสียงละมุนฟังแล้วหัวใจพร้อมจะละลายลงทุกเมื่อ...ไอ้เชี่ยนี่มีอิทธิพลต่อหัวใจของไอ้ศิลาซะแล้วล่ะครับ



                “อะไร...”



                “พี่ศิลา...”



                “เชี่ย เรียกทำไม มีไรก็พูดสิ...” ผมมองคนที่ผมกำลังนอนอยู่ข้างผม เป็นท่าที่ล่อแหลมชะมัด แต่ผมก็ขยับตัวไม่ได้เลยเพราะมันกอดเอวผมไว้แน่น



                “ดีใจจังที่แม่ไม่ได้คัดค้านเราแล้ว ที่จริงกำลังเครียดเรื่องพี่เลยว่าจะทำยังไงดีให้แม่ยอมรับ แต่ก็ดีแล้วล่ะครับ...แม่ยอมรับเรื่องของเราแล้ว หรือว่าการประท้วงไม่กินข้าวของผมจะได้ผล ฮ่า ๆ” ไอ้หมูระบายออกมา ผมเหลือบมองกระป๋องเบียร์ที่ทิ้งเรียงรายอยู่เต็ม บ่งบอกว่ามันเครียดจริง...ผมต้องพูดคำนั้นนี่นา คำที่ผมอยากจะบอกกับมันตรง ๆ แต่พอเห็นหน้าของไอ้หมูแล้ว ผมกลับรู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ พูดไม่ถูกทุกที



                “มีอะไรจะบอกผมไหม..” ราวกับว่ามันรู้ความคิดของผม ผมมองหน้ามันที่เหมือนรอฟังผม ไอ้เสาบอกว่าไอ้หมูเองก็ได้ยินที่ผมพูดแล้วนี่...แต่เดาว่ามันคงอยากจะฟังจากปากผมชัด ๆ มากกว่า



                ท่าทีจริงจังของไอ้หมู...ผมต้องพูดจริงเหรอ เขินนะเฮ้ย...(จริงครับไอ้ศิลา เขินก็ต้องพูด...)



                “คือว่ากู....”



                “ครับ? ผมฟังอยู่” มันยิ้มแฉ่ง แบบว่าตั้งใจฟังมากไปรึเปล่า...ผมสูดลมหายใจเอาลึก ๆ



                “กู....มึง” ผมพูดเสียงแผ่วจนไอ้หมูมันเลิกคิ้ว เอียงหูมาฟังใกล้หน้าของผมอีก



                “อะไรนะครับ ผมไม่ได้ยิน” ไอ้เชี่ย...ผมว่ามันได้ยินแล้วแน่ ๆ แต่มันแกล้งผม!! ก็ดูหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ตรงหน้านี่สิ ผมเม้มปาก เออ...มึงชนะ ยกนี้มึงชนะ!



                “กูรักมึง...ไอ้หมูกรอบ” ผมพูดจบก็ดันตัวเองลุกขึ้นจากตัวมัน ไอ้หมูลุกขึ้นนั่งตามผม ผมกำลังปัดเสื้อผ้าที่มีใบไม้ด้วยใบหน้าที่กำลังร้อนวูบ ก็เซไปตามแรงดึงเข้าไปกอดของผู้ชายตรงหน้า



                กลิ่นน้ำหอมที่ผมคุ้นเคยลอยฟุ้ง



                “ไอ้เชี่ยปล่อย...” ผมชะงักกับใบหน้าหล่อที่ก้มลงมาตรงหน้า เสียงหัวใจที่ผมกำลังพิงอยู่ของมัน เต้นแรงมากกกกกก...ผมว่าก็น่าจะพอ ๆ กับเสียงหัวใจของผม รอยยิ้มของไอ้หมูที่คลี่ออกมาทำให้ผมอดที่จะยิ้มตามมันไม่ได้



                “พี่รู้ไหมว่าผม...โคตรดีใจสุด ๆ ใจเต้นแรงสุด ๆ” ผมอึ้งไปทันที เพราะผู้ชายที่กอดผมอยู่กำลังน้ำตาซึมเล็กน้อย “บ้าจัง...ผมร้องไห้เหมือนเด็กเลย ดีใจจัง ที่ในที่สุดผมก็ได้ใจของพี่มา...” มึงได้มันนานแล้วล่ะกูว่า...แค่กูไม่ยอมรับก็เท่านั้นเอง ผมเลื่อนมือไปแตะหน้าของไอ้หมูเบา ๆ



                “มึงมันเด็กชะมัด...ประท้วงไม่กินข้าว บ้ารึเปล่าวะ แล้วใครใช้ให้กินเบียร์วะ...” ผมบ่นแต่ไอ้หมูกลับยิ้มมีความสุขกับเสียงบ่นของผม ส่วนผมเองก็ไม่รู้เป็นอะไรถึงได้กลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่...หุบปากไม่ได้โว้ย



                ซึ้งอยู่ดี ๆ ...ผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อตัวเองลอยขึ้นเพราะไอ้หมูมันอุ้ม



                “ไอ้หมูทำอะไรของมึง?”



                “เมื่อกี้พี่ศิลาบอกว่าแม่ให้มาตามผมไปกินข้าวใช่ไหม?”



                “อือ ใช่” มันกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำไมไม่น่าไว้ใจเลยวะ...



                “งั้นผมขอเวลา 1 ชั่วโมง”



                “หา?”



                “ผมขอนอนกอดพี่ศิลาก่อน แล้วเดี๋ยวลงไปทานข้าวพร้อมกัน” ไอ้หมูบอกพร้อมกับเดินจ้ำอ้าวพาผมเข้ามาในห้องของมัน ผมดิ้นทันที



                “กอดอะไรของมึง!!...ไอ้เชี่ยหมูหยุดเลยนะ” มันทิ้งผมลงเตียง



                “ไม่หยุด หมูขอกอดพี่ศิลาหน่อยนะ...” ผมตาโตกับน้ำหนักที่ถาโถมมาใส่ผมทั้งหมด ตัวมึงไม่ใช่เบา ๆ นะเว้ย....ไอ้หมูที่ล้มตัวลงมานอนกอดผมไว้ราวกับว่าผมเป็นหมอนข้างของมัน



                “ผมไม่ได้นอนมาสองวันแล้ว มัวแต่คิดถึงพี่ศิลา ขอนอนกอดหน่อยนะ...นะ” ไอ้หมูหลับตาลงไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อยที่ง่วงนอน ผมเหลือบมองมันก็หลุดขำ...



                “ไอ้นี่แม่งบ้า...” ผมว่าแต่มือกลับเอื้อมไปจับเส้นผมของร่างสูงเล่น





                “ขอบคุณนะที่คิดเรื่องของกูจริงจังขนาดนี้...” ผมกระซิบแผ่วเบาข้างหูของไอ้หมู ไม่รู้มันจะได้ยินรึเปล่า...แต่น่าจะไม่ได้ยินหรอกเพราะมันหลับไปแล้ว...





...........................++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารักค่า ^^  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4: :-[
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 23| (05/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 05-05-2017 19:03:58
น่ารักกกกกกรืออ่านไปเขินไปอะ :ling1:มาต่ออีกนะ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 23| (05/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 05-05-2017 19:53:44
บ้านน้องหมูน่ารัก คุณพ่อมีงอนคุณแม่ด้วย 555  รู้เลยว่าหมูเหมือนใคร
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 23| (05/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 05-05-2017 20:00:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 23| (05/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 05-05-2017 20:17:42
ในที่สุด พี่หมวยเล็ก ก้อบอกรัก น้องหมู แล้ว อย่างนี้ต้องฉลองนะน้องหมู จัดหนักพี่หมวยเล็ก ไปเลย
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 23| (05/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 05-05-2017 20:54:00
น่าสงสาร กอดกันๆ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 23| (05/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 05-05-2017 22:49:05
 :laugh:



ชนะ !
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 23| (05/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 06-05-2017 12:43:56
 :-[
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 24| (06/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 06-05-2017 16:17:25
ตอนที่ 24



               [พาร์ตของศิลา]





                ผมกับไอ้หมูยังคบกันเหมือนเดิม หลังจากมีเรื่องที่ทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับมันเข้าใจกันมากขึ้น (รึเปล่านะ)     ผมรู้ใจของตัวเองว่ามีไอ้หมูอยู่ในหัวใจ...พูดไปแล้วก็แอบกระดากปากตัวเอง ก็ผมเป็นคนบอกเองนี่ ว่าตัวเองเป็นวิศวะสุดเถื่อน...(ทั้ง ๆ ที่มึงไม่ได้เถื่อนเลยครับไอ้ศิลา) สุดท้ายผมก็มาแพ้ทางไอ้รุ่นน้องว่าที่หมอจนได้ เหอะอยากจะขำตัวเอง ไอ้หมูมันใช้ความพยายามของมันทุกอย่างเพื่อพิชิตใจของผมและในที่สุดมันก็ทำสำเร็จจนได้ แลดูเรื่องราวมีความโรแมนติกมาก



                ผมกับมันต่างพูดได้เต็มปากแล้วล่ะครับว่า เราสองคนเป็นแฟนกัน...



                แต่ก็ใช่ว่าผมกับไอ้หมูจะหวานจ๋าจนมดขึ้นนะ ผมก็เป็นเหมือนเดิมแหละครับ ไอ้ศิลาที่เคยด่าไอ้หมูเป็นยังไงผมก็ยังเป็นเหมือนเดิม ก็ปกตินิสัยผมก็เป็นแบบนี้อ่ะ ก็วิศวะนี่หว่าเถื่อนหน่อยก็งี้...(นี่ยังไม่เลิกว่าตัวเองเถื่อนอีกเหรอครับไอ้ศิลา...)



                พ่อกับแม่ของไอ้หมูก็ยอมรับเรื่องของเราสองคนแล้วล่ะครับ แถมยังยุยงส่งเสริมอีก บอกตามตรงว่าก็รู้สึกสบายใจอยู่เหมือนกันที่พ่อกับแม่ของไอ้หมูรับได้เรื่องความรักครั้งนี้ ส่วนครอบครัวของผม ผมไม่ต้องบอกไอ้หมูก็โทรไปรายงานเฮียใหญ่เรียบร้อยว่าได้คบกับผม (แต่มันน่าจะไม่ได้บอกว่า...มันจับผมกดไปแล้ว มีหวังเฮียใหญ่ตามมาลากคอมันถึงมหาวิทยาลัยแน่ ๆ เอ๊ะ หรือเฮียรู้อยู่แล้ว..) ทำงานเป็นขบวนการมาก!...แล้วนี่ผมจะมานั่งละเมอเป็นสาวน้อยคิดถึงเรื่องราวความรักของตัวเองทำไมวะ!!...



                “ไอ้เหี้ยนนท์เป็นอะไรของมึงวะ ก็กูบอกว่าไม่มีอะไรไง” ผมที่นั่งหมุนปากกาเล่นระหว่างคาบเรียนที่อาจารย์ปล่อยให้ทำงานเองตามอัธยาศัย พวกผมเลยมานั่งอยู่แถวม้าหินอ่อนใต้ตึก ไอ้เสาที่เดินหายไปห้องน้ำก็จ้ำอ้าวมาคว้ามือไอ้นนท์ที่ทำหน้าบึ้งตึง...พวกมันเป็นอะไรกัน แต่ที่น่าแปลกใจคือ ไอ้นนท์สะบัดมือของไอ้เสาออก...เชี่ย ปกติไอ้นนท์ไม่เคยทำเลยนะเฮ้ย...



                “ก็ไม่ได้ว่าเป็นอะไร” ไอ้นนท์พูดเสียงเรียบทำเอาผมที่นั่งตรงข้ามไม่กล้าแซวอะไรพวกมัน  ไอ้นนท์นั่งลงตรงข้ามผม ส่วนไอ้เสามองสบตากับผมพลางถามว่าทำไงดีวะ แล้วผมจะไปรู้กับพวกมันไหมว่า งอนอะไรกัน?



                “ไอ้นนท์” เสามันเรียกอีกรอบ



                “ทำงาน เดี๋ยวไม่มีส่ง” ไอ้นนท์ตอบแค่นั้นและผมก็ไม่เห็นมันสองคนพูดกันอีกเลย เออ...ปกติไอ้นนท์ไม่เย็นชาใส่ไอ้เสาขนาดนี้นี่หว่า แสดงว่าไอ้นนท์มันต้องไปเจออะไรมาที่โกรธมากแหง...





                ออดบอกเวลาหมดคาบ พวกผมก็ทำงานที่อาจารย์สั่งเสร็จพอดี โอ้เย้...ผมรวบรวมไปส่งกับไอ้เสา ส่วนไอ้สัดนนท์บอกว่าขอตัวกลับก่อนเห็นว่าแม่มันเรียกไปทำธุระให้ ผมไม่รู้ว่าอันนี้มันหาข้ออ้างหนีไอ้เสารึเปล่า แต่ผมว่าใช่...



                “มึงทะเลาะไรกับไอ้นนท์วะ?” ระหว่างที่เดินมาส่งงานผมก็ถามไอ้เสาที่เดินเหงาหงอยคอตก



                “แม่ง! พูดแล้วขึ้น ไม่เคยจะฟังกูหรอกเวลากูอธิบาย” ผมสะดุ้งจู่ ๆ มันก็โวยขึ้นมาเหมือนสติจะแตก



                “เฮ้ย ๆ ใจเย็น เล่ามา”



                “มึงจำวันที่กูไปส่งมึงที่บ้านไอ้หมูได้ไหม” ผมพยักหน้า “เออ กูไปส่งมึงแล้วก็กลับ พอดีกูไปแวะกินข้าวกับไอ้นนท์มันซะหน่อย แล้วก็เจอพี่ปิงที่เคยเล่นบาสกับกูอ่ะ...” ผมนึกย้อนไปตอนมัธยม...อ้อ จำได้ละครับ พี่ปิงประธานชมรมบาสที่ชอบล้อไอ้เสาว่าน่ารัก แต่พี่แกกวนเฉย ๆ หรอกครับ ชอบตามกระแส ผมจำได้ตอนนั้นผมก็โดนแกแซว



                “นั่นแหละสัด พี่แกก็ชอบมาหยอกตามประสาแก พี่ปิงเข้ามาทักกูกอดคอทักทายและบอกว่ากูน่ารักสวยขึ้นน่ะเนี่ย....ต่อหน้าไอ้สัดนนท์” ผมได้ฟังก็ตาโตแบบว่า...ว้าว รู้แล้วว่าไอ้นนท์เป็นอะไร โฮะ ๆ



                “มันหึงมึง!” ผมว่า ไอ้เสาทำหน้าเซ็ง



                “เออหึง...แถมหึงของไอ้นนท์แม่งไม่ธรรมดาด้วย”



                “ทำไมไม่บอกว่าพี่แกชอบหยอกไม่ได้คิดไรล่ะ ไอ้นนท์น่าจะเข้าใจ” ผมทำท่าให้คำแนะนำ



                “ถ้ามันฟังกูกูจะไม่ว่าอะไรเล๊ย!! กูเดินตามมันไปห้องน้ำก็จะไปคุยเรื่องนี้แหละ ก็แม่งทำเงียบใส่กูตั้งแต่วันที่ไปส่งมึงง้อน้องหมูแล้ว พอจะไปง้อมันตอนไปห้องน้ำก็ดันมีผู้ชายมาขอเบอร์กูอีก....เชี่ย บรรยากาศเลวร้ายเข้าไปอีก ไอ้สัดนนท์ไม่ฟังกูแล้วแบบ...ไอ้เชี่ยกูโมโห!! ทำไมไม่ฟังกูวะ” ไอ้เสาขยี้ผมด้วยความหงุดหงิดสุด ๆ ผมมองเพื่อนของตัวเองก็ตบบ่าปุ ๆ



                “เอาน่าใจเย็น ๆ กูเชื่อว่าคนแบบไอ้นนท์งอนไม่นานหรอก...มั้ง”





                ผมกับไอ้เสาเดินไปส่งงานเรียบร้อยก็พากันมายืนรอไอ้หมูหน้าอาคาร มันโทรมาบอกผมแล้วล่ะว่าจะมาหาผมอีก 10 นาที ส่วนไอ้เสาก็จะกลับพร้อมพวกผมนี่แหละเพราะเมื่อเช้าไอ้เสามากับไอ้นนท์แต่ไอ้ตัวการที่งอนมันทิ้งเพื่อนผมไว้ซะงั้น ท่าทางจะหึงหนักน่าดู...เวลาไอ้หมูหึงจะหนักแบบนี้ไหมวะ (แอบคิด)



                “จริง ๆ กูนั่งแท็กซี่กลับเองได้นะ” ไอ้เสาว่า



                “ไอ้สัดได้ไง แท็กซี่อันตราย” ผมบอกห่วง ๆ ก็จริงอยู่ที่ไอ้เสามันเป็นผู้ชายแต่ผมว่าสภาพมันตอนนี้อ่ะ พร้อมจะโดนฉุดได้ทุกเมื่อ ดูดิหน้าใสเชียวแถมสวยหวานอีก (ว่าแต่เพื่อนไม่ดูตัวเองเลยนะครับไอ้ศิลา)



                “ไอ้ศิลากูผู้ชายเว้ย จะมาอันตรายอะไรวะ”



                “ไม่รู้แหละกลับพร้อมกู เดี๋ยวให้ไอ้หมูไปส่งมึงที่หอ” ไอ้เสาทำสายตาล้อ



                “แหม ๆ เดี๋ยวนี้มีคนขับรถส่วนตัว” ผมขออนุญาตเตะเพื่อนได้ไหม...สักพักไอ้หมูก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตามฉบับมัน มันยกมือไหว้ไอ้เสา แต่สิ่งที่มันทำกับผมคือ...หอมแก้ม



                “ไอ้เชี่ย! ลามปามนะมึง” ผมโวย



                “อะไรก็หอมแก้มแฟนไงครับ อีฟนิ่ง..” ไอ้หน้าด้าน... “พี่เสาจะกลับกับพวกผมด้วยใช่ไหมครับวันนี้ เชิญเลยครับ พี่กามเทพ” ไอ้หมูเรียกชื่อของไอ้เสาจนผมหลุดหัวเราะ เออ...ไอ้เสามันก็เป็นกามเทพจริงแหละ ชอบยุงยงส่งเสริมตลอด



                ระหว่างที่นั่งมาบนรถ ผมนั่งข้างไอ้หมู ส่วนไอ้เสามันนั่งอยู่ข้างหลังเหม่อ ๆ คนเดียว สักพักไอ้เสาก็พูดขึ้น



                “เดี๋ยวช่วยส่งกูตรงส่วนสาธารณะข้างหน้าได้ไหม อยากเดินเล่น”



                “อารมณ์ไหนของมึงไม่ทราบ เย็นแล้วนะ” ผมถามงง ๆ แต่ก็ได้รับคำยืนยันเดิม ผมก็เลยไม่ขัดอะไร ไอ้หมูก็เลยได้ขับรถมาส่งไอ้เสาที่สวนสาธารณะ ตอนแรกผมก็จะลงไปเดินเป็นเพื่อนมันแต่ไอ้เสาขออยู่คนเดียวพวกผมก็เลยไม่กล้าจะเถียงอะไรต่อ...เพราะผมรู้ว่าคำว่าขออยู่คนเดียวของไอ้เสาคืออยู่คนเดียวจริง ๆ เหมือนมันอยากคิดอะไรเงียบ ๆ ผมก็เลยเลือกที่จะปล่อยมันไว้และโทรหาไอ้คนที่เป็นตัวการแทน



                “พี่ศิลา จะปล่อยพี่เสาไปเดินคนเดียวจริงเหรอครับ” ไอ้หมูถามขึ้นเมื่อเห็นผมโทรศัพท์



                “เดี๋ยวกูโทรหาตัวการของเรื่องแป๊ป” ผมรอสายไม่นานก็มีคนรับ แถมมันรับสายอย่างตื่นตระหนกด้วยแฮะ...



                (“ไอ้ศิลา อยู่กับเสาไหม”) เออ ๆ ดีจริงมึงทิ้งเพื่อนกูแล้วหายไปทำธุระเฉยเลยเนี่ยนะ



                “เห็นเมื่อกี้ แต่ตอนนี้ไม่เห็นแล้ว” ผมตอบ ไอ้นนท์ถามกลับมาทันควัน



                (“อะไรนะ กูคิดว่าเสาจะรอกูอยู่นี่ซะอีก กูก็รีบกลับมาแล้วนะ แต่ก็ไม่เห็นเสาอยู่คณะ”)



                “ไอ้สัดนนท์รีบมาง้อไอ้เสาด่วนเลยเว้ย บอกตรง ๆ ว่ากูไม่เคยเห็นไอ้เสาทำหน้าเศร้าแบบนี้มาก่อน เพราะมึงเลย รีบมาหาเพื่อนกูด้วยที่สวนสาธารณะ XX” ผมบอกแค่นั้น ไอ้นนท์ก็ตัดสายไปจากผมทันที เฮ้อ หวังว่าไอ้สองคนนี้มันจะเคลียร์กันได้นะ



                “พี่เสากับพี่นนท์ทะเลากันเหรอครับ?” ไอ้หมูถามตาใสแบ๊ว จำเป็นต้องทำหน้าแบบนี้ด้วยเหรอ



                “อือ มันหึงกันนั่นแหละ แต่หึงรุนแรงชะมัด...” ผมบอกพลางเอื้อมมือไปปรับแอร์



                “พี่ศิลา...”



                “ว่า”



                “จะบอกว่า ผมเองก็ขี้หึงนะ มากด้วย” ผมหันไปมองไอ้หมูที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม ไอ้นี่...จ้องจะฉวยโอกาสตลอด แต่แปลกที่ผมกลับไม่ได้หนีเขา



                “เหรอ...”



                “อือ รับได้ไหม” มันเขยิบหน้าเข้ามาใกล้อีก...จนจมูกจะแตะกับผมอยู่แล้ว



                “ถ้ารับไม่ได้กูจะคบกับมึงทำด๋อยอะไรล่ะ...ไอ้เชี่ยหมูไม่เอา...” ผมดันมันที่ก้มหน้าลงมาจนผมรับรู้ถึงริมฝีปากของมันแล้ว จูบอ่อนโยนกำลังถูกถ่ายทอดออกมาจากปากของมัน กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ฟุ้งเต็มรถไปหมด...กลิ่นที่ผมจำได้ดีว่าเป็นกลิ่นมัน



                รสชาติจูบที่เหมือนตรึงใจ...แม้มันจะถอนจูบออกแล้วแต่ความรู้สึกก็ยังคงอยู่



                หน้าตาของไอ้หมูน่ากระโดดถีบขาคู่มาก...



                “ไอ้เชี่ยหมูกรอบ เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่นะมึง...”



                “ก็พี่ศิลาทำหน้าน่าจูบเองนี่นา...” หมูพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น จนผมคิดว่าแอร์ที่มันควรจะหนาวแต่เหตุไฉนมันดันรู้สึกร้อน...หน้าของผมต่างหากที่กำลังร้อน



                “มึงมันมโนไปเองเถอะ” ไอ้หมูหัวเราะพอใจ ก่อนจะเอื้อมมือมาหยิกแก้มของผม มันนี่เริ่มแตะต้องตัวของผมบ่อยแบบเนียน ๆ ตลอด แต่ผมก็ไม่ได้ขัดมัน...เออ เจริญแล้วครับไอ้ศิลา ปล่อยให้เขามาลวนลามเฉยเลย



                “เดี๋ยวไอ้นนท์ก็คงมาแหละ กูว่ามันคงคืนดีกัน”



                “พรุ่งนี้ผมว่าเดี๋ยวก็กลับมาหวานเหมือนเดิมแหละ” ไอ้หมูเสนอ ผมก็เห็นด้วย ก็ดูไอ้นนท์มันหลงไอ้เสาจะตายไปนี่นา



                “แล้วเราจะไปไหนต่อ กินข้าวเหรอ” ผมหันไปถามคนขับรถของผม (ของผมเต็มปากเต็มคำ เออน่า)



                “ผมมีการบ้านด้วยอ่ะ พี่ศิลาเราซื้อข้าวไปกินที่หอของผมได้ไหม” มันทำตาปริบ ๆ



                “เออ ก็ได้แต่กูจะกลับหอตัวเองนะ ตอนกินเสร็จแล้ว”



                “ไรอ่ะ ไม่ให้กลับ นอนกับหมูนะคืนนี้” สเต็ปการอ้อนไอ้นี่มาอีกแล้ว...



                “ไม่..” ผมตอบทันควัน ไอ้หมูทำจมูกย่น...แต่มันก็ยังดูหล่อออร่ากระจายอยู่ดี



                “นะ นะ ไม่ทำอะไรหรอก ด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเลย...ตั้งแต่อาทิตย์หน้าไปผมมีสอบย่อยเยอะเลยอ่ะ แค่อยากได้กอดกำลังใจจากพี่ศิลา นอนด้วยกันนะ...”



                ไอ้เชี่ยใช้ลูกอ้อนแบบนี้ตลอด...คิดว่าผมจะหลงกลมันเหรอ...ครับ มีครั้งไหนบ้างที่ผมไม่ใจอ่อนกับมัน



                “เออ ๆ ก็ได้ แต่ถ้ามึงทำไรกูมากกว่ากอดล่ะก็ โดนเชือดแน่ไอ้หมูกรอบ” ผมขู่ ไอ้หมูก็พยักหน้ารับแต่หน้ามันเหมือนอยากโดนผมเชือดมากเลย ไอ้ว่าที่หมอเจ้าเล่ห์เอ๊ย...







                [พาร์ตของหมู]



                ...ห่างแค่เพียงเอื้อมมือแต่มันคือแสนไกล... เพลงนี้ช่างเข้ากับผมมากที่สุด ผมกลืนน้ำลายสองสามอึกมองขาของพี่ศิลาที่นอนแผ่ยาวอยู่บนเตียง...เฮือก ไอ้หมูครับมึงไปทำหน้าหื่นที่อื่นไป๊!! ผมมองพี่ศิลาที่อาบน้ำเรียบร้อยใส่กางเกงขาสั้นจู๋...จริง ๆ ผมมโน มันก็แค่กางเกงขาสั้นธรรมดาที่เห็นขาขาวของพี่ศิลาที่ไม่ธรรมดาเอาซะเลย อยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่ผมกลับทำอะไรไม่ได้ หมูอยากจะบ้า...



                เนื่องด้วยผมมีสอบย่อยแล้วย่อยอีกตั้งแต่อาทิตย์นี้ไปยันอาทิตย์หน้า...นี่เพิ่งปี 1 ก็ยุ่งขนาดนี้  ไม่อยากจะคิดถึงปีต่อไปเลยแฮะ...แบบว่าผมฮือ...อยากกดพี่ศิลา เอาตรง ๆ ไม่แอ๊บ ใครจะไม่อยากสัมผัสคนที่เรารักล่ะครับ ถามแปลก ๆ (กูว่ามึงออกแนวหื่นมากกว่านะครับไอ้หมู) แต่เอาเถอะครับ แค่รู้ว่าพี่ศิลาจะเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น ผมก็...แฮปปี้สดชื่นพร้อมสู้กับข้อสอบแล้วล่ะ!



                หลังจากที่เมื่อกี้เรากินข้าวกันจนอิ่ม ได้กินข้าวหมูแดงร้านโปรดของพี่ศิลานั่นแหละครับ (เจ้าของร้านจนว่าจำหน้าพวกผมได้แล้ว) ผมที่นอนอ่านชีทอยู่ข้างพี่ศิลาที่กำลังกดโน้ตบุ้คของผมทำรายงานของพี่เขาอยู่อย่างมุ่งมั่น ผมที่ถือชีทไว้และเหลือบมองหน้าใส ขาว เนียนเพลินไปหน่อยจนโดนหมอนปามาใส่หน้า



                ฟุ่บ



                “ตกลงจะอ่านหนังสือหรือจะจ้องหน้ากู?” อุ้ย..พี่ศิลารู้สึกตัวด้วยว่าผมจ้อง ใครไม่รู้สึกตัวก็บ้าแล้วครับไอ้หมู



                “แฮะ ๆ ก็แอบมองนิดเดียวเอง”



                “นิดบ้าไร กูเห็นจ้องกูตาเป็นมันเชียว” ผมจะเขยิบเข้าไปใกล้พี่ศิลาซะหน่อยก็โดนร่างบางตรงหน้ายกมือห้ามไว้



                “อย่าเข้ามานะ ไปอาบน้ำก่อนเลยมึงอ่ะ...เหม็นเหงื่อ” ผมจะเข้าไปใกล้อีกก็ชะงักและดมกลิ่นตัวเอง เออจริง....เหม็นเหงื่อ ผมควรจะไปอาบให้เรียบร้อยเดี๋ยวพี่ศิลาจะไม่หอมผม



                “งั้นเดี๋ยวผมไปอาบน้ำแป๊ป เดี๋ยวมานะครับ พี่ศิลา” ผมทำท่าระริกระรี้คว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ นึกหมั่นไส้ของตัวเองเหมือนกันครับ ฮ่า ๆ จำเป็นต้องโอเวอร์ขนาดนี้ไหมล่ะ



                ผมอาบน้ำอยู่นานเนื่องจากอยากให้ตัวหอม ผมเดินออกมาก็เห็นพี่ศิลาเปลี่ยนท่าจากนอนคว่ำเป็นพิงผนังเตียง...โอ๊ย ยังกับเมียนั่งรอสามีขึ้นเตียง ผมมโนอีกแล้ว... ผมใส่ชุดนอนของตัวเองก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งข้างร่างบางที่เลื่อนดูเฟสบุ้คที่นาน ๆ ทีพี่ศิลาจะเล่นที ไม่ต้องถามหรอกว่ารู้ได้ยังไงเพราะ...ผมแอบไปส่องมาน่ะสิ



                “พี่ศิลาเล่นเฟสบุ้คเหรอ...” เขาเหลือบมามองผมนิด ๆ ก่อนจะพยักหน้า



                “อือ มึงเล่นไหม กูยังไม่มีมึงเป็นเพื่อนเลยนี่” เขาว่า...จริง ๆ ผมกดติดตามไปแล้วต่างหาก แต่พี่ศิลาไม่ยอมรับเพื่อนเลย



                “แอดไปตั้งนานแล้วครับ ได้แค่เป็นผู้ติดตามอ่า...ยังไม่ได้เป็นเพื่อนเลย” ผมว่าพลางทำตาปริบ ๆ ใส่พี่ศิลา เขาดันหน้าของผมตามประสาของเขาแต่ใบหน้าของพี่ศิลาสีแดงระเรื่อขึ้นมาด้วย หึหึ เขินผมอยู่แน่ ๆ เลย น่าฟัดจริง ๆ ผมเหลือบมองตรงคำขอเป็นเพื่อนของพี่ศิลาที่มันมียอดถึง 4000 คน เชี่ย...เซเลปมาก



                “มึงแอดมาใหม่ได้ไหม กูไม่เห็นอ่ะ...มันเยอะ” ผมใจเต้นตึกตักขึ้นมาที่เห็นพี่ศิลากำลังเลื่อนดูรายชื่อเพื่อนที่ขอมา....พี่เขาเลื่อนหาเฟสผม....จุดพุให้ผมที ฟินชะมัด



                “เดี๋ยวผมแอดไปใหม่” ผมบอก หลังจากที่เราแอดเพื่อนกันเสร็จสับ...พี่ศิลาก็ดูรายชื่อเพื่อนที่ขอมาต่อ ผมเองก็เหลือบตามองเหมือนกัน...แต่มันเยอะมาก ส่วนมากทำไมมันมีแต่ผู้ชายวะ...



                “โอ๊ย เยอะ กูไม่รับละ ปวดตา...” พี่ศิลาโวยขึ้น แล้วออกไปดูไทม์ไลน์ฟีดข่าวแทน ก็เห็นรูปของพี่เสาที่พี่นนท์โพส



                “ฮ่า ๆ กูเพิ่งเห็นแฮะ..เชี่ยแคปชั่นไอ้นนท์ใช้ได้” รูปนี้ผมเห็นนานแล้วล่ะครับ รูปที่พี่นนท์โพสตอนวันประกวดดาวเดือน แต่พี่ศิลาเพิ่งจะได้เล่นก็ดูขำมาก...ผมมองรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะตรงหน้าเงียบ ๆ น่ารักโคตร ๆ โดนใจจัง ๆ



                พี่ศิลาเลื่อนลงไปอีกก็เจอรูปของเพจมหาวิทยาลัยของเรา..มีรูปผมกับพี่ศิลาด้วยตอนที่ผมมาส่งพี่ศิลาที่ตึกคณะวิศวะ...ใครถ่ายวะเนี่ย เพิ่งเห็นเหมือนกัน



                “ใครถ่ายวะ” นั่นไงครับพี่ศิลาพึมพำแล้ว...นั่นสิใครถ่าย มารับเงินรางวัลจากผมไป ทำดีมาก ฮ่า ๆ ผมเห็นร่างบางกำลังเลื่อนดูคอมเมนต์ข้างล่าง ผมก็ดูด้วย...



                ส่วนมากก็เป็นคอมเมนต์จากเจ้นิ่ม ทุกงานเลยครับเจ้แกชงทุกรูปน่ารักมาก...ผมสะดุดตากับไอ้พวกคอมเมนต์ที่เริ่มเป็นเมนต์จากผู้ชายชมพี่ศิลาว่าน่ารัก....ผมชะงักกึก เชี่ย...พวกมันมองออกได้ยังไงว่าพี่ศิลาน่ารัก!!! ไม่ได้ดิวะ น่ารักแค่สำหรับผมก็พอ (ใจเย็นครับไอ้หมู)



                “มึงหายใจฟึดฟัดทำไม?” พี่ศิลาถามขึ้นและมองผมงง ๆ ผมหายใจแรงเหรอ...



                “พี่ศิลาผมขอดูเฟสพี่หน่อยได้ไหม...” ผมขอหน้าด้าน ๆ พี่ศิลามองผมแวบหนึ่งก่อนจะยกโน้ตบุ้คมาวางไว้ตรงตักของผม และพี่เขาก็ล้มตัวนอนลงข้างผม...อ้าว ให้ง่ายจัง คิดว่าจะโดนด่าซะอีก ดูท่าทางพี่ศิลาจะไม่หวงเฟสบุ้คเลยครับ



                “อือ ตามสบายกูจะนอนละ ง่วง” น้ำเสียงที่ฟังดูจะง่วงมากจริง ๆ “มึงก็อย่านอนดึกล่ะ อ่านหนังสือให้เสร็จแล้วรีบนอน” พี่ศิลาอย่าน่ารักแบบนี้สิครับ..หมูใจจะละลายอยู่แล้ว



                ผมก้มลงไปหอมแก้มของพี่ศิลาเบา ๆ พี่เขาก็ขัดขืนเล็กน้อยตามสไตล์คือด่า...แต่ก็ไม่ได้หลบ



                “ไอ้เชี่ยหมู นิสัยเสีย...” ปากของผมปะทะกับแก้มนุ่ม...หอม หอม... ผมเห็นเขาหลับตาลงด้วยหูที่แดงไปหมด น่ารักจังเลยพี่ศิลาของหมู....



                เมื่อความเงียบเข้ามาครอบงำ ผมก็นั่งอ่านชีทเรียนที่จะทดสอบพรุ่งนี้เงียบ ๆ ส่วนพี่ศิลาก็นอนหลับ ปุ๋ยอย่างสบายด้วยอุณหภูมิห้องที่แสนจะเย็นพอดี ผมเหลือบมองเวลาตรงโน้ตบุ้ตที่เปิดค้างไว้ที่เฟสของพี่ศิลา รูปประจำตัวของพี่เขาก็เป็นรูปที่ใช้ชุดนักศึกษานี่แหละครับ หน้าไม่ได้หันมามองกล้องเหมือนถ่ายมุมเผลอ อยากให้ดูเท่ แต่ทำไมผมถึงมองว่ามันน่ารักล่ะ...



                ผมเลื่อนดูไทม์ไลน์ที่ไม่มีการโพสอะไรเลยของพี่ศิลา แต่ถ้าจะโพสก็มีแค่พวกรูปอาหารอ่ะครับ   ผมยิ้มกับรูปในไทม์ไลน์ของพี่ศิลา ก่อนจะขมวดคิ้วกับข้อความที่เด้งขึ้นมา แถมผมยังเพิ่งสังเกตว่ากล่องข้อความของพี่ศิลามีข้อความเข้ามาเกือบ 300 กว่า...ผมลองเปิดตัวข้อความหลักดูก็เห็นพวกข้อความที่ส่งมาแม้ไม่ได้เปิดอ่านมัน....และมันทำให้ผมปรี๊ดมาก



                > พี่ศิลาชอบผู้ชายงั้นเหรอครับ...ผมว่าแล้ว พี่น่ารักมาก ๆ เลยล่ะ



                ....ไอ้เชี่ยนี่คือใครวะ!! พี่ศิลาชอบผู้ชายอย่างกูคนเดียวเว้ย!! (ไอ้หมูคนมั่นหน้า 2017)



                > รับแอดผมด้วยนะครับ ผมเห็นพี่หน้าใสมาก แถมยังน่ารักอีก เพื่อนพี่ที่ชื่อเสาก็น่ารักนะครับ



                อ้าว...มึงอยากเจอตีนของกูกับพี่นนท์ใช่ไหมมมม ผมจะแคปไปบอกพี่นนท์ด้วย!



                > ผมเห็นพี่ศิลาหลายครั้งแล้วครับ แต่ไม่กล้าขอถ่ายรูป ถ้าเจอผมขอเซลฟี่ได้ไหม



                ....ไม่ให้เซลฟี่โว้ย ไอ้หนวดปลาหมึกย่าง!!



                และอีกหลายข้อความที่ส่งมาบอกว่าขอให้พี่ศิลารับแอดหน่อย พร้อมกับคำชมที่ว่าแฟนของผมน่ารัก ผมพอจะรู้ครับว่าที่ทุกคนรู้จักพี่ศิลามากขึ้นขนาดนี้เป็นเพราะผมที่ประกาศเรียกชื่อพี่เขาตอนประกวดดาวเดือนทำให้เป็นจุดสนใจ แต่ตอนนี้แม่ง...เริ่มคิดผิด เพราะทุกคนดันรู้ว่าพี่ศิลาน่ารักซะแล้วสิ ไม่ใช่ว่าผมต้องไปเฝ้าแฟนของผมเช้า กลางวัน เย็นเหรอครับเนี่ย กันพวกหมาที่จ้องจะมาแทะโลมเมียคนอื่น (ไอ้หมูใจเย็น ๆ เนอะ อย่าเพิ่งมโนไปไกล)



                ผมรู้สึกดีชะมัดที่พี่ศิลาไม่ค่อยชอบเล่นเฟส ปกติเห็นเล่นแต่เกมและก็ตอบไลน์เท่านั้น ผมจัดการออฟไลน์ออกจากระบบบัญชีของพี่ศิลาให้เรียบร้อย อย่าหวังว่าพี่ศิลาจะรับแอดพวกมึงเลยยยยยย....ยิ้มอย่างผู้ชนะ ผมหันไปมองข้างกายของตัวเองอีกรอบก่อนจะก้มลงไปกระซิบเบา ๆ ข้างหูพี่ศิลา



                “พี่ศิลาครับ...หวังว่าจะไม่มีคนมายุ่งกับแฟนผมหรอกนะ เพราะผมหึงแรง...” ผมผงะนิด ๆ เมื่อพี่ศิลาดันลืมตาขึ้นมาเหม่อ ๆ ซะงั้น และใจของผมก็แทบจะวายมือมือเรียวสวยเอื้อมมาดึงเสื้อของผม



                “อ่านหนังสือเสร็จแล้วก็นอน...” หนังสือน่ะอ่านเสร็จแล้วครับ...แต่ใจของพี่ศิลาผมยังอ่านไม่หมดเลยนะ...หึหึ น่ารักจังโว้ย....











.............................................................++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^ เยิฟฟฟ  :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 24| (06/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 06-05-2017 17:02:02
นึกว่าหมู จะแอบตั้ง relationship ซะอีก :z1:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 24| (06/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-05-2017 18:17:04
หมูกรอบ หลงพี่ศิลาขนาดหนัก  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 24| (06/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-05-2017 19:16:39
อย่าหึงกันแรงจนต้องทะเลาะกันนะครับ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 24| (06/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 06-05-2017 19:18:34
นายเอกเรื่องนี้สายซึนแต่ฝ่ายพระเอกดูจะหึงแรงทุกคนทุกผู้ 555
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 24| (06/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 07-05-2017 01:17:00
น้ำเน่ายังเห็นเงาจันทร์ .... 5555 เพิ่งอ่านพี่ศิลาไปครั้งเดียวเองน้องหมู
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 24| (06/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 07-05-2017 07:27:38
 :impress2:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 25| (07/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 07-05-2017 17:46:58
ตอนที่ 25



            [พาร์ตของเสา]




                หึงบ้าบอ...!! หงุดหงิด โมโหฉุนไอ้นนท์! นี่คือความคิดของผมในขณะนี้ ก็มันแหละครับหึงอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้จะหึงไปทำไม ก็พอจะรู้อยู่หรอกว่ามันค่อนข้างไม่ชอบให้ผมโดนมองโดนแซว ยิ่งมาหลัง ๆ เริ่มมีคนมองผมจริง (อันนี้ไม่เชื่อแต่หลัง ๆ เริ่มรู้สึกว่ามีคนมองผมจริง) แต่ผมก็ไม่ได้สนใจพวกที่มองซะหน่อย ผมก็ยอมแค่ไอ้นนท์คนเดียวมันยังไม่รู้ตัวอีกรึไงวะ!...เอาแต่ทำหน้านิ่งใส่ผมไม่พูดไม่จา ก็รู้นี่ว่าผมไม่ชอบให้มันมีเหตุการณ์แบบนี้ เหอะ...



                ผมนั่งเล่นอยู่ที่สวนสาธารณะพลางคิดอะไรไปเรื่อย...เปล่าครับ คิดเรื่องไอ้นนท์ต่างหาก ผมไม่คิดว่าไอ้นนท์มันจะหึงอะไรขนาดนี้นะ แต่ก็ต้องยอมรับว่า มันหึงมาก...คือเรื่องราวคร่าว ๆ มันเป็นอย่างนี้ครับ ผมกับไอ้นนท์ไปทานข้าวด้วยกันเจอรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่าตอนมัธยม พวกพี่แกชอบล้อผมกับไอ้ศิลาว่าน่ารักให้สาววาย (เห็นเขาเรียกกันที่ชอบเห็นชายชายรักกัน) ภายในโรงเรียนกรี๊ดกันเล่น ๆ พอมาเจอก็ทักทายแบบไม่ธรรมดาคือ พี่แกเอาแขนมาโอบไหล่ของผมเข้าไปแล้วยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาใกล้ อันนี้ผมก็ตกใจเหมือนกันครับ เพราะไม่ทันได้ตั้งตัว...แถมไอ้นนท์ยังอยู่ตรงหน้าอีก ผมก็ยิ้มแห้ง ๆ ให้พี่แกไปด้วยความที่ไม่ได้พูดอะไรกับพี่แกและไม่ได้ปัดมือพี่แกออก ไอ้นนท์ก็เลยหึงและเป็นอย่างที่เห็น พอมาวันนี้ผมจะเดินไปง้อมันที่ห้องน้ำนั่นแหละ เห็นว่ามีโอกาสได้อยู่กันสองคนก็ดันไปจ๊ะเอ๋กับรุ่นน้องปี 1 ที่เดินมาขอเบอร์แบบไม่กลัวจะโดนตีนพิฆาตของไอ้นนท์เลย...เหตุการณ์ก็เลยค่อนข้างเลวร้ายไปกว่าเดิม คราวนี้ไอ้นนท์มันหน้าบึ้งโดยสมบูรณ์แถมมันยังกล้าทิ้งผมไปทำธุระอีก...

                ผมนั่งคิดมาซะยืดยาวก็มองนาฬิกาที่มัน 18:00 น. แล้ว ก็เริ่มมืดขึ้นมาหน่อยแต่คนก็ยังวิ่งออกกำลังกายเต็มสวนสุขภาพอยู่เลย เฮ้อ...โทรหาไอ้นนท์ดีไหมให้มันมารับ สุดท้ายผมก็อยากจะคุยกับมันอยู่ดีแหละ ไม่ว่ามันจะงอนผมหรือไม่ก็ตาม...ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาว่าจะกดโทรหาก็ชะงักกับแบตที่หมดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ฟะ...อ้าว แล้วจะกลับยังไง อย่าว่าผมจะได้กลับแท็กซี่นะเว้ย พอนึกถึงที่ไอ้ศิลามันบอกว่าแท็กซี่อันตรายก็รู้สึกกลัวขึ้นมา...ใครจะไม่กลัวบ้างครับ



                ระหว่างที่ผมกำลังคิดว่าจะกลับไงดี เสียงฝีเท้าพร้อมกับเสียงเข้มที่ผมคุ้นเคยและจำได้ดีก็ดังขึ้น ผมมองไอ้นนท์ที่เหงื่อเต็มเสื้อนักศึกษาบ่งบอกให้รู้ว่ามันวิ่งมาไกลพอสมควร นี่ผมคิดถึงมันจนละเมอเห็นภาพซ้อนใช่ไหม เปล่าครับ...ไอ้นนท์ตัวจริงเสียงจริง



                “เสา..แฮ่ก อยู่นี่เอง กลับหอกัน” ไอ้นนท์เปิดปากพูดกับผมแล้ว! แถมเรียกอ่อนโยนด้วย ผมมัวแต่เอ๋ออยู่มันเลยดึงมือของผมขึ้นให้ลุกตามแรงของมัน



                “ไอ้สัดนนท์มารับกูเหรอ ไหนมึงบอกว่าไปธุระ” ผมถามพลางเดินตามมันที่กุมมือของผมแน่น...



                “นนท์ทำธุระเสร็จแล้ว เลยรีบกลับไปที่คณะ...แต่เสาก็ออกมากับไอ้ศิลาแล้ว” มันว่า อ้าว..มันจะมารับผมกลับด้วยเหรอ



                “ทำไมไม่บอกล่ะว่าจะกลับมารับกู...”



                “ลืม..” ไอ้นนท์ตอบออกมาก่อนจะหมุนตัวมาหาผม “หึงจนลืมบอก...”



                “ไอ้...” ผมกำลังจะพูดก็โดนไอ้ผู้ชายร่างสูงตัวหนากว่าดึงเข้าไปกอดไว้ กลางสวนสาธารณะ เออดีเนอะมึง กอดกูกลมเชียว...แต่แปลกที่ผมไม่ได้ผลักไอ้นนท์ออก ผมกลับยกมือขึ้นกอดมันตอบ ดูท่าทางไอ้นนท์มันจะตาโตอย่างตกใจ....แค่กอดตอบเองตื่นเต้นไร (ควรจะตื่นเต้นครับไอ้เสาก็มึงไม่เคยทำ)



                “เสา นนท์ขอโทษ....” มันผละออกจากผม ผมมองผู้ชายตรงหน้าที่ทำหน้าเครียดเล็กน้อย นี่มึงหึงจริงจังขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย



                “ขอโทษเรื่องอะไร?”



                “ขอโทษที่ทำให้เสาต้องทำหน้าเศร้า” ใครทำหน้าเศร้า...ไม่มี๊!



                  “ขอโทษที่นนท์มันหึงไร้สาระ”



                    “ขอโทษ...” ผมเอามือปิดปากของไอ้นนท์ไว้ก่อนจะพูดในสิ่งที่ทำให้มันยิ้มกว้างออกมา



                “เรื่องของมึง ไม่ใช่เรื่องไร้สาระสำหรับกูไง...” ผมพูดคำพูดที่ไอ้นนท์มันเคยพูดกับผมไว้ ไม่รู้มันจะจำได้รึเปล่า แต่ผมว่ามันจำได้...เรื่องของมันไม่ใช่เรื่องไร้สาระสำหรับผม และเรื่องของผมก็ไม่ใช่เรื่องไร้สาระสำหรับมัน



                นี่ไงล่ะ...คำว่าแฟนกันมันก็ต้องใส่ใจกัน แม้จะมีทะเลาะบ้างแต่มันก็ช่วยให้เราเข้าใจกันมากขึ้นไม่ใช่ เหรอ....เชรด นี่กูคิดได้ขนาดนี้แล้วเหรอ



                “เสา...นนท์รักเสานะ รักมาก...” ผมชะงักกึกเปลี่ยนเป็นเหวอ...เมื่อเห็นเหล่าทุกคนที่กำลังวิ่งอยู่มองกันตาปริบ ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นมาก...เชี่ย ลืมว่าอยู่ข้างนอก พวกผมมายืนเล่นเอ็มวีง้อสาวอะไรแถวนี้...อาย ๆ โว้ย ผมดันหน้าไอ้นนท์ที่เริ่มก้มลงมาใกล้ผม



                “ไอ้เหี้ยนนท์ อย่าเว้ยอยู่ข้างนอก” ผมด่าเข้าให้ตามสไตล์ แต่มันกลับเรียกรอยยิ้มของไอ้คนตรงหน้าได้ทันที



                “นนท์สบายใจจังที่โดนเสาด่าแบบนี้...” เออ..แปลกเป็นคนดี ๆ ไม่ชอบชอบเป็นสัตว์? ปากของผมเองมันก็ดันยิ้ม...ยิ้มตามรอยยิ้มของไอ้นนท์ซะงั้น...



                สรุปพวกผมก็กลับมาดีกัน นี่ง้องอนกันราวกับเด็กอนุบาลถูกแย่งของกินไปได้ เหอะ ๆ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมรู้ว่า ไอ้นนท์มันก็ใส่ใจผมทุกอย่างแถมยังหวงผมหนักมาก มันเล่าให้ผมฟังด้วยว่ามันเห็นพวกคอมเมนต์ที่ผู้ชายมาคอมเมนต์ใต้รูปผม มันก็หึง ฮ่า ๆ ไอ้นนท์คนขี้หึง....





                |ห้างสรรพสินค้า|



                ไม่รู้ว่าไอ้นนท์มันเกิดอารมณ์ครึมอะไรของมันขึ้นมาถึงได้อยากจะทำอาหารให้ผมกินซะงั้น  ผมค่อนข้างแปลกใจอยู่หน่อย ๆ ว่าไอ้นนท์เนี่ยนะทำอาหารแต่ดูจากสไตล์มันแล้ว...น่าจะทำทุกอย่างเป็น แฮะ ๆ ปกติผมไม่ทำหรอกครับ วัน ๆ นั่งเล่นเกมอ่ะเวลาอยู่บ้าน (ไอ้ขี้เกียจเอ๊ย)



                “วันนี้ไปหอใครดี” มันถามระหว่างที่เลือกดูผัก ผมสังเกตว่ามีผู้หญิงมองเหลียวหลังตามไอ้นนท์ด้วย เหอะไอ้เชี่ยนี่ก็เสน่ห์แรงไม่แพ้กับผมหรอก...ต่างกันแค่ผมเริ่มมีผู้ชายมองเท่านั้นเอง มันไม่ได้น่าภูมิใจเลยสักนิดไอ้เสา....



                “อ้าว เป็นอะไรเสา ทำไมเงียบ” ผมผงะกับใบหน้าหล่อที่ก้มลงมาใกล้ผม กูตกใจหมด...



                “เปล่า...หอกูก็ได้” ผมว่า



                “งั้นกินหม้อไฟดีไหม เสาจะได้อุ่นท้องด้วย” ไอ้นนท์แบบว่าคำพูดมันละมุนมากจนผู้หญิงที่ยืนเลือกซื้อนมอยู่ก็หันมามองกันตาปริบ ๆ ผมพยักหน้าตกลงและเดินไปทางอื่น ไอ้นนท์มันก็หยิบของเดินตามผมมา ผมมองตู้ไอศกรีมที่มันน่ากินมาก! จะว่าไปผมยังไม่ได้กินชานมไข่มุกเลยว่ะวันนี้ มัวแต่งอนกันกับไอ้เชี่ยนนท์นี่แหละ



                “กินชานมไข่มุกไหมวันนี้ นนท์จะพาแวะ” ผมมองมันงง ๆ รู้ได้ไงว่าผมกำลังคิดถึงชานม ผมยังไม่ทันได้ตอบก็หันไปเห็นรูปไอศกรีมรส...ชานม!! เฮ้ย...มีด้วย



                “ไอ้เชี่ยนนท์! นั่น ชานม ชานม” ผมชี้ให้มันดูโปสเตอร์ตรงหน้าที่ติดหน้าตู้  มันเลิกคิ้วขึ้น



                “เขาทำออกมาล่อมึงแหง” มันว่าขำ ๆ ผมเลยเปิดตู้ดูปรากฏว่าไม่เห็นจะมีเลยอ่ะครับ ไรวะ หลอกให้อยากแล้วก็จากไป...



                “ไม่มีเหรอ” ไอ้นนท์เห็นผมเปิดตู้แช่ก็เดินเข้ามาดูด้วย ผมส่ายหน้าทำหน้ามุ่ยจนไอ้นนท์หัวเราะออกมา



                “เชี่ย อย่ามาหัวเราะสิวะ ก็อยากลองกิน...น่าจะอร่อย”



                “เออน่า มันคงหมดแหละ กินชานมไข่มุกไปก่อนก็ได้เดี๋ยวพาแวะซื้อ...” ก็อยากกินแบบไอศกรีมบ้างนี่หวา...ผมมองโปสเตอร์อีกครั้งแต่ก็คงต้องตัดใจเพราะรู้ว่ามันไม่มี โดยที่ผมไม่รู้ว่าไอ้นนท์มันมองโปสเตอร์ตรงหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะเดินตามผมที่เดินไปดูของอย่างอื่น





                ไอ้นนท์พาผมมาซื้อชานมร้านโปรดของผม ครั้งนี้ผมลงมาซื้อเองครับ ส่วนไอ้นนท์ก็ให้มันรอบนรถไปนั่นแหละ ผมลงมาเจ้าของร้านก็ยิ้มรับอย่างจำผมได้ ก็แหมผมเป็นลูกค้าประจำเชียวนะ มาทุกวัน แต่ช่วงหลัง ๆ ก็เป็นไอ้นนท์แหละที่มาซื้อให้



                “ชานมใส่ไข่มุกพิเศษใช่ไหมคะ พี่จำได้” พี่เจ้าของร้านทักทายผม ผมพยักหน้า



                “ใช่ครับ รู้ด้วย แฮะ ๆ” ผมนั่งตรงเก้าอี้สูงของร้านมองพี่เขาชงชานม กลิ่นหอม ๆ ของมันทำให้ผมรู้สึกสบายอกสบายใจชะมัด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงชอบขนาดนี้ ผมว่ามันอร่อยนะ ชอบก็คือชอบอ่ะ ไม่มีเหตุผล...(อะไรของมึงครับไอ้เสา)



                “วันนี้มาซื้อเองเหรอคะ ปกติพี่เห็นแฟนมาซื้อให้” ผมที่นั่งหมุนเก้าอี้อยู่ชะงักไปกับคำว่า แฟน ที่พี่แกบอกออกมา ห๊ะ...



                “อะไรนะครับ?”



                “ก็น้องผู้ชายหล่อ ๆ ไง ที่มาซื้อชานมให้ทุกวัน เขาบอกพี่น่ะว่าซื้อไปให้แฟน...” ไอ้เชี่ยนนท์มาโม้อะไรไว้บ้างวะเนี่ย...เดี๋ยวผมกลับเข้าไปในรถมันจะโดนดี



                “เห็นเขามาซื้อและย้ำพี่ตลอดว่า ชงอร่อย ๆ นะ ใส่ไข่มุกเยอะ ๆ เขาบอกว่าแฟนของเขาชอบไข่มุกมาก” พี่แกเล่าไปด้วยทำให้ผมที่นั่งฟังอยู่เผลอยิ้มออกมา เมื่อนึกตอนที่ไอ้นนท์มานั่งพูดจ้ออยู่แถวนี้ ผมรับแก้วชานมไข่มุกมาแล้วเดินกลับไปที่รถ



                ไอ้นนท์ที่กำลังเลื่อนหาเพลงฟังอยู่ก็หันมามองผมที่ขึ้นมาบนรถ แถมผมยังยื่นแก้วชานมไข่มุกไปตรงหน้าของมันอีก ใบหน้าคมกำลังเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ



                “หือ?”



                “กินไหม”



                “หา...”



                “กูถามว่ากินชานมไข่มุกไหม” นี่ผมต้องพูดเต็มประโยครึไงมันถึงจะรู้เรื่อง ไอ้นนท์มันเลยยิ้มเล็กน้อย แต่ผมว่ามันเป็นยิ้มที่ดูมีความสุขมาก



                “ไม่หรอก เสากินเถอะ นนท์ไม่แย่ง”



                “แต่กูอยากให้มึงกิน...ลองดู” ผมยื่นไปอีก ปกติก็ไม่ค่อยเห็นไอ้นนท์มันจะกินหรอกครับไอ้พวกของหวาน ๆ แบบนี้ แต่ผมก็อยากให้มันลองดู



                “ก็ได้...เห็นเสาชอบกิน มันอร่อยมากเหรอ”



                “ก็บอกให้ลองไง” ผมจับหลอดใส่ปากของมันที่โน้มลงมาดูด...บอกเลยว่าผมบริการมันมาก มันดูดอึก ๆ มันเคี้ยวไข่มุกหนึบ ๆ ผมมองไอ้นนท์มันเหมือนลุ้นว่ามันจะอร่อยไหม



                “เป็นไง...”



                “อร่อย...” ผมยิ้มก่อนจะหน้าร้อนวูบ “อร่อยเพราะเสาเป็นคนป้อน..”



                “ไอ้เชี่ยนนท์...ขับรถไปเลยไป กูเริ่มหิวแล้ว” ผมไล่ แต่ไอ้นนท์มันก็ทำเหมือนรู้ทันผมด้วยการพูดประโยคกวน ๆ ออกมา



                “หิวหรือเขิน?” จึก...มันรู้ว่าผมเขิน (ใครก็รู้ครับไอ้เสา)



                “หิว!!” ผมตอบอย่างหนักแน่นเรียกเสียงหัวเราะของไอ้นนท์แบบพอใจมากทันที ผมเลยก้มหน้าดูดชานมไข่มุกด้วยความหิว (เขินนั่นแหละ)



                ผมกับไอ้นนท์นั่งกินหม้อไฟกันสองกันด้วยความเอร็ดอร่อยเละอิ่มมาก! พอท้องอิ่มหนังตาก็เริ่มหย่อน แต่รายงานพวกผมยังไม่ทำเลยแฮะ...ว่าจะถามไอ้ศิลาว่าเสร็จยังก็ลืมไปเลย ผมอาบน้ำเรียบร้อย ส่วนไอ้นนท์ก็เดินเข้าไปอาบต่อ ไอ้นี่มันกะจะนอนห้องของผมชัวร์เลย ไล่ก็ไม่เคยจะกลับไปหอของตัวเองหรอกครับ มันหน้าด้าน...



                ผมเลื่อนโน้ตบุ้คจะมาเปิดทำงานซะหน่อย แต่เอาจริง ๆ...เล่นเกมมากกว่า ฮ่า ๆ



                “เสาทำไร” ไอ้นนท์ที่ออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นกีฬาสบาย ๆ ทำไมใจผมต้องเต้นด้วย           มันกระโดดมานอนคว่ำข้างผมแถมยังเขยิบตัวเข้ามาติดผมอีก...เออ คือเตียงมันก็กว้างนะ จะเขยิบมาชิดทำไมเล่า!!



                “ออกไปห่าง ๆ ไอ้เหี้ยนนท์”



                “ด่าอีกละ”



                “เออก็ด่าอ่ะ ทำไม?”



                “เปล่า...” ผมเหลือบไปมองไอ้นนท์ที่ยืนหน้ามาใกล้ผม “เสา นนท์อยากว่ะ”



                ผลั้วะ!! ผมเอามือฟาดมันทันที



                “โอ๊ย ฟังให้จบก่อนดิวะ” มันร้องโวยขึ้น  “อยากพามึงไปเปิดตัวกับพ่อแม่” ผมชะงัก แฮะ ๆ ก็รึว่าคำว่าอยากของไอ้นนท์มันจะหมายถึงเรื่องอื่น...(เรื่องไหนเหรอครับไอ้เสา)



                “คิดเรื่องอะไรอยู่ หืม?” มันทำหน้าล้อ! ก็ความผิดมันแหละใครใช้ให้พูดจาสองแง่สามง่ามกับกูล่ะ!



                “เปล่า!!” ผมว่าและปิดเกมลง หมดอารมณ์จะเล่น...หงุดหงิดอะไรของกูวะเนี่ย “นึกยังไงจะพากูไปเปิดตัว..”



                “อ้าว เสาเป็นแฟนนนท์ก็ต้องพาไปเจอพ่อกับแม่ มันก็ถูกแล้วไหมล่ะ..” ผมนอนพลิกตัวนอนหงาย มองไอ้นนท์ที่นอนคว่ำเอามือมาค้ำคางของมันไว้สองข้าง...คิดว่าแบ๊วมากไหม หน้าก็โคตรจะเถื่อนไอ้นนท์เอ๊ย...



                “จะไปตอนไหน?” ผมถามเรียกใบหน้าตื่นเต้นของร่างสูงได้ทันที



                “ก็...น่าจะรอเราสอบเสร็จหรือตอนว่างล่ะมั้ง คงยังไม่ใช่ตอนใกล้ ๆ นี่หรอก บอกไว้ก่อนเฉย ๆ”



                “อือ”



                “จะยอมไปกับนนท์เหรอ...” มันถาม ผมเหลือบมองมันที่ทำหน้าลุ้นได้อีก ผมรู้ครับว่าไอ้นนท์มันอยากให้ผมไป      ก็แหงล่ะ อย่างที่มันบอกว่าผมเป็นแฟนของมัน...พูดเองเขินเอง ยังไงก็ต้องไปทำความรู้จักกับพ่อกับแม่ไอ้นนท์อยู่แล้ว กูต้องเตรียมตัวอะไรยังไงบ้าง...แค่คิดก็แอบตื่นเต้นซะแล้ว



                “ก็ต้องไปสิ...อ๊ะ เฮ้ย ไอ้เหี้ยนนท์ปล่อย...” ผมพยักหน้าและสะดุ้งกับแรงกอดจากไอ้นนท์ มันซบหน้าของมันมาพักไว้ที่ซอกคอของผมพอดีเป๊ะ...ไม่รู้จงใจหรือจังหวะมันได้ ผมว่าน่าจะอย่างแรกมากกว่า



                “ชักอยากพาไปเจอเร็ว ๆ แล้วสิ พ่อกับแม่ของนนท์ใจดีมากนะ”



                “เหรอ”



                “อื้อ”



                “พ่อกับแม่มึงเขาจะชอบกูไหม?” ผมถามคำถามที่ไม่น่าเชื่อว่านั่นจะเป็นคำที่ออกมาจากปากคนอย่างผม ไอ้เสาเนี่ยนะจะพูด...แต่ก็พูดไปแล้ว ไอ้นนท์ใช้แขนดันตัวเขาออกจากผม แววตาที่ฉายแววตรงหน้าสะท้อนให้เห็นแววตาของไอ้นนท์ว่ามีแค่ผมอยู่ในนั้น



                “ชอบสิ พ่อกับแม่ต้องชอบเสาแน่นอน” มันบอกแบบมั่นใจมาก...



                “ดูมั่นใจดีเนอะ” ไอ้นนท์ทิ้งตัวนอนลงข้างผม ก่อนผมจะสัมผัสถึงความอบอุ่นจากฝ่ามือของมันที่เอื้อมมากุมมือของผมไว้



                “มั่นใจสิ...เพราะพ่อกับแม่พร้อมที่จะรักคนที่นนท์รักและเลือกแล้ว” เสียงทุ้มที่ดังใกล้ มันดังก้องไปทั่วทั้งหัวใจของผม...ผมหันไปสบตากับไอ้นนท์ที่หันหน้ามาหาผมเหมือนกัน ราวกับใจของผมกับมันตรงกัน



                ซึ่งมันก็ตรงกันจริง ๆ เพราะผมกับมันพลิกตัวนอนตะแคงพร้อมกัน ทำให้ผมที่นอนอยู่ต่ำกว่าไอ้นนท์อยู่ในระดับปากของร่างสูงพอดี เป็นผลให้...ปากของไอ้นนท์จูบตรงหน้าผากของผมพอดี...



                “มึงมั่นใจแล้วเหรอว่า เลือกกู” ผมถามเสียงแผ่วและได้ยินเสียงหัวใจของผู้ชายตรงหน้าที่เต้นแรงมากยังกับจังหวะแร็บ



                “ใช่ และนนท์ก็ไม่คิดจะเปลี่ยนใจด้วย รักเดียวใจเดียว มั่นคง...แค่เสาเท่านั้น...” ผมหลุดยิ้มออกมาเพราะคิดว่าไอ้นนท์มันคงไม่เห็น...แต่ผมกลับไม่เคยรู้เลยว่าทุกการกระทำของผม ไม่เคยหลุดออกจากสายตาของผู้ชายที่กำลังกอดผมไว้นี้เลย....





                ................

                ...............



                ผมตื่นเช้ามาก็นั่งเล่นเกมแต่เช้าด้วยความว่าง (รายงานมีแต่ไม่ทำครับ) เพราะวันนี้มีเรียนบ่ายครับ โทรไปหาไอ้ศิลามา ว่าจะถามว่ามันทำรายงานเสร็จยัง ผมก็เลยรู้ว่ามันอยู่กับไอ้น้องหมู หึหึ เพื่อนผมช่วงนี้ก็กำลังโดนแฟนของมันติดหนักมาก ปล่อยไปช่วงหวานแหววของมัน ในระหว่างที่ผมกำลังนั่งเล่นเกมกดอยู่หน้าโทรทัศน์ ไอ้นนท์ก็ทำตัวขยันหาเนื้อหารายงานซะงั้น...จริง ๆ ไอ้นนท์มันก็เป็นคนขยันนะ ผมเห็นมันทำชีทพวกการบ้านเสร็จจนหมด แบบไม่ชอบให้มันค้างคา ก็เหมือนตอนที่ผมมายืมชีทมันแหละ...พอพูดถึงก็ชวนให้นึกถึงครั้งแรกขึ้นมาซะได้...



                เกมขึ้นว่าโอเวอร์ทำให้ผมได้สติจากการใจลอย...



                “แพ้อีกแล้ว ไรวะ...” ผมโวย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเล่นแพ้เอง ฮ่า ๆ....ผมรู้สึกหิวอยากกินอะไรอีกแล้วอ่ะ รู้สึกช่วงนี้เจริญอาหารมากเลยครับ...ผมจะมีพุงไหม ว่าแล้วก็เปิดจิ้มพุงดู ก็ยังไม่มีนี่หว่า...



                “เปิดเสื้อทำไม” ผมรีบปิดเสื้อลงเมื่อเสียงทุ้มที่นั่งอยู่บนโซฟาเหลือบมองผม แหม...สายตามึงไว้ดีเนอะครับไอ้เชี่ยนนท์!!



                “สำรวจซิกแพค” ไหนซิกแพคของมึงงง...ไอ้เสา ผมก็แอบมีอยู่หน่อย ๆ น่า...



                “หึ ดูของนนท์ไหม มีเยอะนะซิกแพคลูบได้ คลำได้...” เสียงกวนปนขี้เล่นทำให้ผมขนลุก!!..(เขินต่างหาก) ไม่ได้เขินโว้ย...ยังไม่ทันจะด่ากลับไอ้นนท์ก็มีเสียงกริ่งหน้าห้อง ใครมาวะ? ผมจะไล่ไอ้คนตรงหน้าไปเปิดแต่มันกลับส่ายหน้าดักไว้



                “ห้องเสา ไปเปิดเองเลย” อ้าว...เดี๋ยวนี้กล้าบอกให้กูไปเปิดเองเหรอ!! ชิ...



                “เออ ก็ได้” ผมลุกขึ้นเดินจ้ำอ้าวไปตรงประตูห้องและไม่ได้ส่องว่าใครมา อาจจะเป็นไอ้ศิลาก็ได้มั้ง พอผมเปิดก็เจอพนักงานส่งไอศกรีมวอลล์ ? เอ๋....



                “ไอศกรีมที่สั่งไว้มาส่งแล้วครับ...” เขายื่นมาให้ผมทำให้ผมมองตาโต...ก็นี่มันไอศกรีมรสชานมที่ผมกับไอ้นนท์ไปดูมาเมื่อวานนี่!!!



                “เออใครสั่งครับ?” ผมถามทั้ง ๆ ที่เริ่มจะนึกได้



                “คุณพี่ผู้ชายครับ บอกว่าให้เอามาส่งให้ที่หอพักของแฟนพี่เขา ผมไปก่อนนะครับ ขอให้อร่อยกับไอศกรีมรสใหม่นะครับ” เขาโค้งตัวสุภาพและเดินหายไป ผมมองกล่องไอศกรีมในมือก็ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้...ไอ้นนท์นี่แม่งก็ไปพูดโม้ว่าผมเป็นแฟนมันไปกี่ที่แล้ววะ...



                จะประกาศให้คนทั้งโลกรู้เลยรึไงเล่า...ถ้ามันทำได้ผมว่ามันทำอ่ะ



                ผมเดินเข้ามาในห้องไอ้นนท์แม่งก็แกล้งทำหน้าเนียน ๆ แต่ผมรู้ว่ามันกำลังจะหลุดยิ้ม...



                “ไปสั่งตอนไหนวะ...” ผมนั่งลงตรงโซฟาแล้วเอาหลังพิงกับไอ้นนท์ที่นั่งหันหลังให้ผม ทำเป็นดูจอคอมแต่เชื่อสิว่าใจมันไม่ได้อยู่กับงานแล้ว



                “ชอบไหมล่ะ อยากกินไม่ใช่เหรอ” มันว่า...ผมดูกล่องไอศกรีมก่อนจะทำในสิ่งที่ไอ้นนท์ค้างไปเลย ถามว่าผมทำอะไรเหรอ? ผมเอามือไปโอบรอบคอมันจากด้านหลังพร้อมกับกระซิบสั้น ๆ ว่า



                “ไอ้นนท์ขอบคุณนะ” ผมปรับระดับเสียงให้หวานขึ้นเอาแบบทำลายล้างไอ้นนท์ไปเลย ฮ่า ๆ และมันก็เป็นจริง ๆ มันทำตาโต



                “เชี่ย...หัวใจกูวาย วาย วาย...ดาเมจเสาพุ่งมาปักลางใจ...” ผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมา คือไอ้นี่มันจะบรรยายเวอร์ไปไหนวะ...แต่ผมอาจจะเริ่มบ้าเพราะดันมองท่าทางบ้า ๆ ของไอ้นนท์แล้วยิ้มตาม...



                ก่อนไปเรียนคาบบ่ายของวันนี้ ผมได้กินไอศกรีมรสชานมที่มันอร่อยมากครับบบบ (อยากให้ทุกคนได้ลองกินกัน! รีวิวว่ามันอร่อยจริง ๆ) ส่วนไอ้นนท์ก็แม่งนั่งยิ้มอยู่อย่างนั้นเหมือนอารมณ์ค้าง....แฟนผมเป็นบ้าไปแล้ว...(เต็มปากเต็มคำเลยนะครับไอ้เสา แฟนน่ะ...)











.....................................................+++++++++++++++ๅๅๅๅๅๅๅ

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^

นนท์สายเปย์เมียค่ะ ใครไม่มีเงินกินขนมไปขอเฮียนนท์ได้นะคะ 5555555555   :กอด1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 25| (07/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 07-05-2017 21:12:41
คู่รักชานมนี่น่ารักมากกกก จะไปเปิดตัวกันแล้ว ชอบความจริงจังของนนท์
แถมเสาก็รู้ตัวแล้วว่าควรทำตัวอย่างไร น่ารักที่สุด
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 25| (07/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 07-05-2017 22:29:51
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 25| (07/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 07-05-2017 22:39:25
 :katai3:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 25| (07/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 08-05-2017 07:40:04
ดีกันแล้ว....เป็นแฟน ฉบับสมบูรณ์ ซะที
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 26| (08/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 08-05-2017 16:29:47
ตอนที่ 26


                         [พาร์ตของศิลา]




                1 อาทิตย์ของการเริ่มสอบย่อยแต่ละวิชาของไอ้หมูเริ่มขึ้น งานมันเยอะมากเลยล่ะครับ ทุกวันมันก็จะพาผมไปกินข้าวด้วยกันเหมือนเดิม และบางทีก็พาผมไปนอนห้องมันด้วย แต่สองสามวันมานี้ผมกลับกับไอ้เสาและนอนหอของตัวเอง เนื่องจากไอ้หมูมันไปติวกับเพื่อน ๆ ของมันที่จะสอบย่อย มันก็โทรมาหาผมทุกคืนแหละ บอกฝันดีอ้อนไปตามประสาไอ้หมูครับ เห็นว่าวันนี้มันก็มีทำแล็ปกับเพื่อนกลุ่มมันที่ไล่ชื่อให้ผมฟังมีใครบ้างวะ...ก็มีสปริงเกอร์ (ชื่อเก๋มาก) ฟิวส์ นิว จิ๋ว ที่ไอ้หมูไล่มาก็น่าจะมีแค่นี้ที่เป็นเพื่อนสนิทกลุ่มของมัน ผมก็แอบสงสัยอยู่ที่มันมาวิ่งตามผมต้อย ๆ ทำไมไม่ไปเล่นหรือดื่มกับเพื่อนก็ได้รับคำตอบที่ทำให้ผมชะงักค้างไป...เขินด้วยแหละ



                “พอดีผมติดเมียมากกว่าเพื่อนอ่ะ...พวกนั้นมันก็ส่งเสริมให้ผมมาอยู่กับพี่ศิลานี่แหละครับ..”



                คำพูดน่ากระโดดถีบมาก...จริง ๆ ก็เขิน ไอ้ศิลาครับ...มึงมาคิดเรื่องแบ๊ว ๆ ของความรักอยู่ทำไมวะเนี่ยยยยย...



                ส่วนคณะของผมก็ใช่ว่างานจะน้อยหน้าคณะแพทย์นะ คณะวิศวะก็กำลังเร่งสั่งงาน ไม่รู้อาจารย์จะคึกอะไรขึ้นมาถึงได้สั่งรายงานมาเพิ่ม เล่มที่เพิ่งทำไปเพิ่งจะเสร็จ นี่ก็มาสั่งใหม่อีกแล้ว เฮ้อ...



                “เฮ้อ....” ไอ้เสาที่นั่งตรงข้ามผมฟุบลงกับโต๊ะพร้อมกับถอนหายใจพร้อมผมเชียวครับ แต่ผมถอนในใจ ฮ่า ๆ  พวกผมมานั่งอยู่แถวใต้ตึกนี่แหละเย็นดี อาจารย์ปล่อยให้ไปศึกษาตามอัธยาศัยและคิดหัวข้อที่จะทำรายงานมา



                “เป็นไรวะไอ้เสา”



                “กูเพลียร่างกับรายงาน...เชรดโด้ อาจารย์สั่งมาเพิ่มอีกแล้ว” มันบ่น ๆ ก่อนจะมองหาใครสักคน รู้เลยว่ามันมองหาใคร “ไอ้เชี่ยนนท์ล่ะ?” นั่นไงครับ ฮ่า ๆ หนีไม่พ้นแฟนของมันหรอกกกก....



                “เห็นมันบอกออกไปซื้อของกินให้มึง” ผมบอก จะบอกว่าไอ้นนท์มันสายเปย์มาก เปย์ของกินให้ไอ้เสาแบบเต็มที่มากอ่ะ ไอ้เสาก็พยักหน้ารับรู้ พวกผมที่นั่งเปิดหนังสือหาหัวข้อรายงานแบบเป็นการเป็นงานอยู่ก็เงยหน้ามองถั่วดำที่ยิ้มกริ่มมาแต่ไกล พอดีอยู่ในช่วงเลิก ๆ รับน้องแบบโหดแล้วมันก็เลยยิ้มได้



                “อยู่นี่พอดีเลยทั้งสองคน อ้าว แล้วนนท์สามีฉันไปไหนแล้วย่ะ” ถั่วดำพูดเหมือนจะล้อไอ้เสาเลยครับ ฮ่า ๆ ไอ้เสาหลี่ตามอง “โอ๊ย พ่อรองเดือนหวงผัวววว....”



                “ถั่วดำ...” ไอ้เสาเรียกคำเดียว ถั่วดำก็หลุดหัวเราะก๊ากขึ้นมา ผมก็หลุดขำอ่ะเอาจริง



                “ฮ่า ๆ ไม่กล้าแย่งหรอกย่ะ...ศิลาก็เหมือนกัน! เอาน้องหมูไปเก็บไว้คนเดียวเลยนะ เอามาให้ลูบบ้าง” นั่นไงครับลามมาถึงผมแล้ว...ลูบไม่ได้หรอกครับ ผมหวง...หวงเชี่ยอะไรของมึงงงงง ไอ้ศิลาคิดไรวะ...



                “เอาล่ะ ๆ เลิกเล่นก็ได้ นี่! เอกสารกำหนดการไปค่ายอาสา” ถั่วดำวางกระดาษลงแป๊ะให้พวกผม มองดูก็พบว่ามันเป็นค่ายอาสาที่ไปช่วยโรงเรียนเด็กน้อยห่างไกล มันเป็นกิจกรรมบังคับของคณะแหละครับก็เลยต้องไป



                “ค่ายนี้คณะอื่นก็ไปได้นะจ๊ะ คิคิ” ถั่วดำพูดต่อและมองมาที่ผม...เกี่ยวอะไรกับผม เอ๋ คณะอื่นไปด้วยได้?  “มันเป็นแบบค่ายเปิด ถ้าจะมีเดือนมหาลัยไปด้วยเพิ่มสักคน กระเทยและชะนีหลายนางคงจะฟินกันน่าดู...” จุดประสงค์ของถั่วดำอยู่ตรงนี้สินะครับ ฮ่า! ถั่วดำเดินมาทิ้งกำหนดการแล้วก็เดินจากไป ไอ้เสาที่หยิบมาดูพลางมองหน้าผม



                “ดีเลย มึงก็ชวนไอ้น้องหมูของมึงไปด้วยดิ” มันเสนอ ก็อยากจะชวนอยู่นะ...แต่ไม่รู้ไอ้หมูมันว่างไหมน่ะสิ ช่วงนี้สอบมันเยอะด้วย จะว่าไปผมก็ไม่ได้เจอหน้ามันมาสองสามวันแล้ว...



                “แล้ววันนี้มึงจะกลับพร้อมกูมะ ไอ้นนท์มันจะชวนกูไปกินฮันนี่โทสต์” ไอ้เสาพูดพร้อมรอยยิ้ม เรื่องของกินมันสดใสหมดแหละครับไอ้นี่ กินเก่งมาก ดีนะที่ไอ้นนท์มันกระเป๋าหนักใจป๋าอยู่ เหอะ ๆ ไม่งั้นคงจับเพื่อนผมไม่ได้อยู่หมัดขนาดนี้ ผมคิดสักพักว่าจะไปกินกับพวกมันดีไหม....เพราะผมว่าจะไปหาไอ้หมูที่ตึกแพทย์มันซะหน่อย...อย่ามาแซวผมนะ! ก็แค่จะเดินไปดูมันบ้าง (ใครแซวมึงครับไอ้ศิลาร้อนตัว..)



                “กูว่าจะไปหาไอ้หมูตอนเย็นอ่ะ” ผมพูดแค่นั้นแหละ ไอ้เสาก็ยิ้มล้อออกมาเหมือนทุกที



                “ไอ้สัด ฝนพายุจะมาไหมวะเนี่ย มึงจะไปหาน้องมันเอง โอ๊ย ๆ ทำไมกูเขินจัง หรือกูจะเข้าไปอยู่ในลัทธิสาววายซะแล้ว” ไอ้เสาทำท่าเอามือมาจับใจตัวเอง ระริกระรี้มากครับ เพื่อนผมแม่งไม่ปกติเลยสักคน สักพักไอ้นนท์ก็เดินกลับมาพร้อมชานมไข่มุก...ผมควรเรียกพวกมันสองคนว่า คู่รักชานมไข่มุกไหม คือจะชอบอะไรเบอร์นั้น



                “ช้าว่ะ” ไอ้เสาด่า...แต่มือมันกลับไปเช็ดเหงื่อให้ไอ้นนท์ โอ๊ย...พวกมึงมดจะกัดกูแล้ว ไอ้นนท์วางชานมไขมุกให้เมียมัน ส่วนอีกแก้วน่าจะเป็นน้ำมะพร้าวปั่นแหละมั้งมันยื่นให้ผม ซึ้งไอ้เพื่อนรักที่ไม่ลืมกู



                “ของเสาอันนี้ อ่ะ ส่วนของมึง...น้องหมูฝากมา” ผมตาโตกับสิ่งที่ไอ้นนท์พูดมากับแก้วที่ผมกำลังจะดูด



                “ไอ้หมูฝากมา?”



                “เออ กูเจอน้องมันอยู่ตรงร้านพอดี เห็นว่าอาจารย์ใช้มันมาซื้อ มันก็เลยซื้อให้มึงและฝากกูมา” ผมยิ้มออกมานิด ๆ มองแก้วน้ำมะพร้าวปั่นเมื่อรู้ว่ามันเป็นของไอ้หมู



                “แหม...เอาอกเอาใจสุดฤทธิ์ เพื่อนกูก็ยิ้มแป้นน่ะสิเนี่ย” ไอ้เสาล้อ ผมเลยยกกำปั้นใส่มันหยอก ๆ พวกผมเลยหัวเราะกันยกโต๊ะ...พวกคนที่เดินผ่านคงว่าไอ้พวกนี้มันบ้ารึเปล่าวะ พากันนั่งหัวเราะ พวกผมไม่ได้เมากัญชาหรืออะไรนะ ฮ่า ๆ

 ....





                .......................

                ......................



                “กูว่าป้ายนี้น่าจะมีรูปมึงข้าง ๆ ไอ้น้องหมูด้วยนะ มันถึงจะโอเคว่ะ ฮ่า ๆ” ไอ้เสากำลังชี้ให้ผมดูป้ายโปรโมทมหาวิทยาลัยอันใหม่ที่มีรูปไอ้หมู ตั้งเด่นเป็นสง่า คือแบบว่า...มันหล่อมาก แล้วทำไมเขาไม่เอาคู่เดือนขึ้นด้วยวะเนี่ย คนที่ได้เดือนรู้สึกจะเป็นคณะครุศาสตร์นะครับ หน้าตาน่ารัก ๆ หน่อย สูงเพรียว แต่ป้ายตรงหน้าของผมตอนนี้มันมีแค่รูปไอ้หมูที่ยืนกระตุกยิ้มโปรยเสน่ห์ เรียกได้ว่าแค่ยิ้มก็ได้ใจสาวมาแล้ว หล่อจนต้องเซอ่ะ...เซใจไปหามัน (อ้วกกก...ผมคิดเองก็อ้วกเอง นี่ติดมุขมาจากไอ้หมูซะแล้วเหรอ)



                “ไอ้สัดจะเอารูปกูไปคู่กับน้องทำไม” ผมส่ายหน้าพลางเดินไปตามทางเดิน พอดีพวกผมเพิ่งลงมาจากตึกที่ไปเรียนมาล่าสุดน่ะครับ ก็เลยมาจ๊ะเอ๋กับรูปของไอ้หมูซะก่อน วันนี้ผมหมดวิชาที่จะเรียนแล้วล่ะ พอมองนาฬิกาของตัวเองก็พบว่ามัน 16:30 น. เวลาเดินไวมาก ผมทำหน้าเหม่อ ๆ คิดไรไปเรื่อยจนไอ้เสามันถาม



                “เป็นอะไรไปไอ้ศิลา?”



                “เสาดูข้างหน้า เดี๋ยวสะดุด” ไอ้นนท์จับไอ้เสาที่กำลังจะเดินไปชนป้ายชี้บอกชื่ออาคารอยู่แล้ว



                “เออ ดูอยู่...วุ้ย วุ่นจริงมึงเนี่ย..” ไอ้เสาหันไปทำหน้ามุ่ย ถึงมันจะด่าไอ้นนท์แบบนั้นแต่ผมว่าพวกมันก็ดูหวานกันมาก ๆ นะ ผมรู้สึกได้ว่าไอ้เสาเองก็รักไอ้นนท์เหมือนกัน ไม่ต่างจากที่ไอ้นนท์มันหลงมันรักไอ้เสาหรอก เห็นเพื่อนรักกันก็ดีใจครับ



                “มึงจะไปหาไอ้น้องหมูที่ตึกแพทย์ใช่ไหม?” ไอ้เสาปัดมือของร่างสูงที่ยืนขยี้หัวของมันอยู่ ไอ้พวกนี้หวานแบบไม่เกรงใจพวกเพื่อนวิศวะเล๊ย...



                “ก็ประมาณนั้นแหละ นี่พวกมึงจะไปกินฮันนี่โทสต์กันเลยไหม”



                “ใช่แล้วล่ะไอ้นนท์เลี้ยง!” เสาว่าแบบตื่นเต้น ผมว่าไอ้นี่เอาของกินมาล่อก็ไปแล้วอ่ะ



                “ใครบอกจะเลี้ยง?” ไอ้นนท์ไปแหย่ไม่เข้าเรื่องซะแล้ว ก็ไอ้เสาหันขวับไปมองทันที



                “ไม่เลี้ยงก็ไม่ไปกิน”



                “เฮ้ย..เลี้ยง นนท์เลี้ยง เลี้ยงหมดทุกยอย่างเลย” โถ่วไอ้นนท์คนกลัวเมียเอ๊ย เพื่อนผมยิ้มอย่างผู้ชนะ ไอ้เสามันยิ้มอารมณ์ดีมองผมที่มองพวกมันล้อ ๆ



                “ให้พวกกูเดินไปเป็นเพื่อนไหม?”



                “ไม่ต้องหรอก พวกมึงไปกินเถอะ ไว้กูจะไลน์ไปหาเรื่องหัวข้อรายงานนะ” ผมว่า ไอ้เสากับไอ้นนท์ก็เลยพยักหน้าตกลง จากนั้นพวกผมก็แยกย้ายกัน





                @ตึกแพทย์

                ผมเดินมาหยุดอยู่หน้าตึกของไอ้หมูพร้อมกับลูกชิ้นทอดร้อน ๆ ที่เพิ่งซื้อมา เมื่อกี้เดินผ่านมาเจอคุณลุงจอดขายอยู่ก็เลยซื้อมาฝากไอ้หมูด้วย ผมมาถึงหน้าอาคารโดยที่ไม่ได้บอกมันเลยด้วยซ้ำ ว่าแต่มันจะทำแล็ปเสร็จรึยังนะ ระหว่างที่ผมกำลังคิดว่าจะเข้าไปหาไอ้หมูข้างในอาคารดีไหม หรือจะนั่งรอมันหน้าบันไดแถวหน้าตึกดี ก็มีเสียงดังทักผมขึ้นซะก่อน



                “พี่ศิลารึเปล่าครับเนี่ย..” ผมหันไปเจอเพื่อนของไอ้หมู ผมจำหน้ามันได้ตอนที่ไปกินข้าวที่โรงอาหารแพทย์คราวก่อนก็เจอมันนั่งอยู่ในกลุ่มแพทย์ด้วย มันยกมือไหว้ผมในมือก็มีถุงน้ำจากเซเว่น



                “สวัสดีครับ ผมฟิวส์นะพี่ มาหาไอ้หมูเหรอครับ” ผมพยักหน้า “เข้าไปพร้อมผมไหมพี่ พวกผมพากันทำแล็ปอยู่ตรงโต๊ะใต้ตึกนี่แหละ” มันชวนผม ผมก็เลยเดินตามมันไป



                ผมมองแผ่นหลังของไอ้หมู แม้มันจะหันหลังอยู่แต่ผมก็รู้ว่าเป็นมัน...ใบหน้าของมันดูเหนื่อยเหมือนคนไม่ได้นอนอย่างเห็นได้ชัด...มึงจริงจังมากอ่ะ



                “ไอ้หมู ยอดยาหยีมึงมา” ผมชะงักกับการเรียกชื่อของเพื่อนไอ้หมูมาก ร่างสูงที่ผมตั้งใจมาหาหันขวับมาทางผมแล้วทำตาโตตามฉบับมัน...



                “พี่ศิลา!!!” ตะโกนดังมาก ทั้งที่กูก็อยู่ไม่ไกล... “มาหาผมเหรอครับ” น้ำเสียงดีใจออกมาทางคำพูดไอ้หมูหมด    จนเพื่อนมันมองล้อ...ผมไม่เคยจะชินกับสายตาล้อพวกนี้สักที เขิน...



                “ตะโกนทำไมวะ อยู่ใกล้ ๆ ...กูมากวนรึเปล่า” ผมถาม ไอ้หมูส่ายหน้ารัวพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง อยากจะบอกมันว่า..อย่าไปยิ้มให้ผู้หญิงแบบนี้นะเว้ย เขาจะหลงมึงเอา...



                “ไม่กวนเลย ไม่คิดว่าพี่จะมาหาผม...เดี๋ยวรอกลับด้วยกันนะ” ผมพยักหน้าและยื่นลูกชิ้นให้มัน



                “กูซื้อมาฝาก เอาไปแบ่งเพื่อนมึงกินด้วย ขอบคุณน้ำมะพร้าวปั่นเมื่อกลางวันด้วย”



                “ฮิ้ว...ทำไมกูไม่มียอดยาหยีมาส่งข้าวส่งน้ำแบบนี้บ้างวะ” เพื่อนไอ้หมูแซวขึ้นมาอีก ไอ้หมูเลยหันไปว๊ากเพื่อนมัน



                “เงียบ ๆ ไปเลย อย่าไปสนใจพวกมันเลยนะพี่ศิลา นั่งรอผมก่อนนะ” มันรับถุงลูกชิ้นจากผมไปแล้วจะพาผมไปนั่ง เออ...ไม่ต้องดูแลกูขนาดนั้นก็ได้มั้ง



                “ไม่เป็นไร มึงไปทำงานเหอะ...” ผมบอกและเป็นจังหวะที่โทรศัพท์ของผมดังขึ้นพอดี พอเอาออกมาดูก็เห็นว่าเป็นเบอร์เฮียใหญ่นี่หว่า...



                “เดี๋ยวกูออกไปคุยโทรศัพท์หน่อยละกัน” ผมว่า ไอ้หมูก็ไม่ได้คัดค้านอะไร ผมเดินออกมาแถวหน้าตึกแล้วกดรับสายที่โทรเข้า เฮียใหญ่โทรมาถามข่าวคราวผมเฉย ๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง มันก็เป็นปกติของครอบครัวผมแหละครับ สองสามวันก็จะโทรมาที ป๊าโทรบ้าง เฮียใหญ่โทรบ้าง หรือไม่ก็เป็นเฮียกลางกับม๊า สลับกันโทรมา แค่ผมได้ยินเสียงพวกเขาก็ช่วยให้หายคิดถึงขึ้นมาหน่อย คุยได้สักพักใหญ่ ๆ เฮียก็วางสายไป



                ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มันมืดแล้วจนเห็นพระจันทร์กำลังขึ้น...ผมที่เหม่ออยู่ก็สะดุ้งกับไอ้หมูเรียกผม ไอ้เชี่ย...โผล่มาจากไหนตกใจหมด



                “พี่ศิลา..” มันเดินมาจับแขนผมไว้ “ตกใจผมเหรอ ขอโทษครับ”



                “ก็เออ...มาแบบเงียบ ๆ ทำไมล่ะ” ไอ้หมูยิ้มก่อนจะมองซ้ายมองขวา แต่ตึกนี่น่าจะไม่ค่อยมีคนแล้วล่ะ ดูวังเวงยังไงไม่รู้ ถ้าผมมาคนเดียว...ผมวิ่งอ่ะ ฮ่า ๆ แล้วนี่มันจะมองซ้ายขวาทำไม



                “งานมึงเสร็จแล้วเหรอ...จะไปไหน” ผมถามเมื่อเห็นมันจูงมือผมไปตรงอาคารด้านในหน่อย



                “พี่ศิลามาทางนี้กับผมหน่อย”



                “อะไร...ของมึง” ผมถามและหยุดกึกเพราะตอนนี้ผมถูกไอ้หมูดันชิดติดผนัง...มือหนาของมันที่ยกมากั้นตัวผมไว้ กับแววตาเข้มของมันที่หล่อยิ่งกว่าโปสเตอร์ใหญ่ ๆ ที่เพิ่งเจอมาอีก



                “ไม่ได้เจอตั้งหลายวัน หมูคิดถึงจัง...อยากจูบ”



                “ไอ้เชี่ยหมูจะบ้าเหรอ อยู่ข้างนอก...” ผมดันไอ้หมูที่ทำท่าจะก้มหน้าเข้ามาใกล้ หมูกระตุกยิ้มที่แบบโปรยเสน่ห์ ช่วยด้วยไอ้นี่มันขายหม้ออีกแล้ว ผมมองหน้ามันอย่างช่วยไม่ได้ มึงชนะ...



                “นิดเดียว ไม่มีใครเห็นหรอก น่านะ...” ลูกอ้อนที่กูเกลียดของมันก็มา..เพราะผมแม่งแพ้ทุกที



                ไอ้ศิลา...มึงยอมให้น้องลวนลามอีกแล้ว....



                “เออ ๆ เร็วดิ” ผมเม้มปากแก้เขินมองใบหน้าคมที่ก้มลงมาในระยะประชิด ริมฝีปากหนาประกบลงริมฝีปากของผมเบา ๆ...แต่ผมกลับรู้สึกว่าไอ้เชี่ยยย....มันสอดลิ้นเข้ามา! ไหนบอกจูบนิดเดียว...



                ปลายลิ้นร้อนของไอ้หมูกำลังทำให้ผมเริ่มยืนไม่อยู่ มึงจูบเก่งเกินไปแล้ว! ไอ้หมูกรอบ... มันดันผมติดกับกำแพงแถมยังจูบลึก ดูดดื่มแบบไม่มีท่าทีปล่อย...ไอ้หมูชั่ว...หลอกผมว่าจูบนิดเดียว! มึงกำลังจะข่มขืนกูอยู่แล้ว เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังหมดลมหายใจ ผมก็ชกอกตรงหน้า ปึ่ก ปึ่ก...มันเลยยอมผละจากผม และยังมีหน้ามาเลียริมฝีปากกวนผมอีก!!



                “ไอ้เชี่ย...”



                “ครับ” ไอ้หมูยิ้ม ไม่ได้สำนึกเลยว่าผมด่า ไม่ได้กลัวผมเลยสักนิด...!



                “เชี่ยไหนบอกจูบนิดเดียว”



                “ก็นิดแล้ว..” นี่นิดสำหรับมึงเหรอไอ้ฟาย...ถ้าไม่นิดจะขนาดไหน ไม่อยากจะคิด...แต่จูบของไอ้หมูก็รู้สึกดีจริง ๆ แหละ ละมุนดี...(รีวิวจูบ...ไอ้ศิลาครับคิดอะไรของมึงอยู่เนี่ย...)



                “มึงไปทำงานต่อได้แล้วไป เดี๋ยวก็ไม่เสร็จ จะได้พากูกลับหอสักที” ผมยกมือไล่มัน หมูก็ยิ้มสดชื่นจนผมคิดว่าไอ้เดือนนี่เป็นโรคจิต..มันก็เป็นโรคจิตจริง ๆ แหละผมว่า



                “ครับ ๆ ได้กำลังใจในการทำงานละ...จูบของพี่ศิลาช่วยได้เยอะเลย” อยู่กับไอ้หมูทีไรผมเปลืองตัวตลอด...เปลืองมาก!! แต่ทำไมกูไม่ห้ามมันวะ...(เออ น่าคิดนะครับไอ้ศิลา)



                “ช่วยให้มึงเป็นบ้าน่ะสิ ไอ้เชี่ย...” ผมเดินหนีมันออกไปข้างนอก ส่วนไอ้หมูก็หัวเราะพอใจที่เห็นผมหน้าแดง...บ้า! ผมไม่ได้หน้าแดงโว้ย เขาเรียกว่าร้อน...ร้อนเชี่ยไรอากาศมันสบาย ๆ...





                ผมนั่งอยู่แถวหน้าตึกที่มีไฟของตึกสว่างไสว พลางนั่งกินลูกชิ้นทอดที่ตัวเองซื้อมา พอดีไอ้หมูมันเอามาแบ่งน่ะครับ ตอนแรกมันบอกให้ผมไปนั่งใกล้ ๆ มัน แต่ผมเกรงว่าถ้าเอาตัวเองไปนั่งเสนอหน้าอยู่ใกล้ไอ้เชี่ยหมู มันจะทำงานไม่เสร็จสักทีน่ะสิ! ไม่ได้หลงตัวเองหรืออะไรนะครับ...แต่ดูจากสภาพมันแล้ว เคยละสายตาจากผมซะที่ไหน ผมก็เลยออกมานั่งรอตรงม้านั่งหน้าตึกอย่างที่เห็น แถวนี้ดีอยู่ที่มันค่อนข้างโล่ง  ผมเลยกล้ามานั่งคนเดียว ผมเคี้ยวลูกชิ้นตุ้ย ๆ กดเกมเล่นไปด้วย



                สักพักไอ้เสาก็ไลน์มาถามเรื่องรายงาน โห...ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมันทำงานเร็วขนาดนี้ พอถามกลับก็ได้รับคำตอบมาว่า ไอ้นนท์มันพาทำ ฮ่า ๆ เออดีเนอะชวนกันทำรายงาน และไอ้เสาก็ถามมาด้วยว่าตกลงไอ้หมูจะไปค่ายด้วยรึเปล่า...เออว่ะ ยังไม่ได้ถามมันเลย เอาไว้ค่อยถามละกัน...ผมนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์ไปสักพักไอ้หมูก็เดินออกมาในสภาพเหนื่อยสุด ๆ รับรู้ได้เลยแฮะ...



                “พี่ศิลา รอนานไหม” ผมยกดูนาฬิกาที่กำลังจะสองทุ่ม ก็ไม่นานนะผมว่า เล่นเกมจบไปสองสามตาเอง



                “ก็ไม่..” ไอ้หมูนี่เหงื่อออกเต็มหน้าอีกแล้วครับ “อ่ะ เอาไปเช็ด...” ผมหยิบผ้าเช็ดหน้าประจำตัวให้มันเอาไปเช็ด มันยิ้มและรับไปเช็ดหน้า



                “พี่ศิลาอยากกินอะไรไหม หรือว่าอิ่มลูกชิ้นแล้ว?” ลูกชิ้นสามไม้มันยังไม่ทันถึงครึ่งท้องของผมเลยด้วยซ้ำ หมูที่มองหน้าผมอยู่ก็ยกยิ้มมุมปาก “ดูจากหน้าพี่ศิลาแล้วยังไม่อิ่มแน่ ๆ กินข้าวหมูแดงกันไหม ไปกินที่ร้านเลย” ไอ้หมูเสนอเมนูที่ผมโปรดปราน! จริง ๆ มันกลายเป็นเมนูโปรดของผมไปแล้ว



                “ไป! ตกลงตามนั้น...งานมึงเสร็จแล้วแน่นะ” ผมถามย้ำอีกรอบเพื่อความแน่ใจว่าไอ้เชี่ยหมูไม่ได้หนีออกมาก่อน หมูพยักหน้าทำหน้าน่าเชื่อถือ



                “ครับ เสร็จแล้วเรียบร้อย พร้อมพาแฟนไปกินข้าวแล้ว ป่ะ...” ถ้าปากมันพูดเฉย ๆ มันก็คงไม่ใช่ไอ้หมู มันจูงมือของผมให้เดินตามมันไป มันก็เอาแต่อมยิ้ม...ส่วนผมไม่ได้ยิ้มอะไรเลยนะ!





                |ร้านข้าวหมูแดง|

                พอมาถึงร้านไอ้หมูก็สั่งให้ผมเสร็จสับบ่งบอกว่าหิวมาก..ระหว่างที่ผมกับมันกำลังนั่งรอ ผมเลยถามมันขึ้น ไอ้หมูที่รินน้ำให้ผมอยู่ก็เงยหน้ายิ้มกรุ่มกริ่ม ไอ้เชี่ย...อยู่กลางร้านข้าวเว้ยอย่ามาทำสายตาแบบนี้



                “สอบย่อยมึงเป็นยังไงบ้าง” ผมถามไถ่ ก่อนจะได้รับคำตอบที่ทำให้โต๊ะข้าง ๆ เหลือบตามามอง  ผมจะบอกว่าไม่ชินกับเวลาที่มากินข้าวข้างนอกกับไอ้หมูสักที ก็ดูมันดิ...หล่อออร่ากระจายวิ้งซะขนาดนี้



                “ยากกว่าการทำข้อสอบ ก็คือนั่งหาคำตอบว่าจะเลิกรักพี่ศิลาได้ยังไง...” จึก...ไอ้เชี่ยกูขอสาระ...มุขบ้าบออะไรของมันเนี่ยยยยยยยยย....ผมยกน้ำขึ้นมาดื่ม ดื่มแก้เหวอ...(หรือเขิน)



                “มุข 5 บาท 10 บาทก็กล้าเล่นเนอะ ไอ้เชี่ยหมู” ผมส่ายหน้าเอือม มันก็หัวเราะตัวเอง เออสมควรหัวเราะ หมออะไรแม่ง...ติ๊งต๊อง แต่ก็น่ารักแหละนะ...อ้าว ไอ้ศิลาจะไปชมมันทำไม



                “ไม่ได้อยากได้ 5 บาท 10 บาทนี่...อยากได้จูบหวาน ๆ จากพี่ศิลามากกว่า” ผมที่กินน้ำอยู่เกือบสำลัก...ผมกับไอ้หมูคบกันเป็นแฟน มันก็ยังไม่เลิกที่จะหยอดผมทุกวัน ขายขนมจีบตลอด...แต่ผมก็ชอบกินขนมจีบนะ ผมหมายถึงของกินอ่ะครับของกิน...



                “ตลกละ” ผมด่า ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าจะถามไอ้หมูนี่หว่า “อ้อ ไอ้หมูกรอบ..”



                “ครับ?”



                “กูจะไปค่ายอาสานะ อีกสองวัน” ไอ้หมูที่กินน้ำอยู่ก็หยุดกินและตั้งใจฟัง



                “ไปของคณะเหรอครับ”



                “มันเป็นค่ายเปิดคณะอื่นก็ไปด้วยได้...” จริง ๆ อยากชวนมึงไปด้วย แต่ผมก็ไม่ได้พูดออกไป... หมูหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูปฏิทินก็ทำหน้าเสียดาย...



                “อยากไปด้วยจัง...แต่ดันมีแล็ปอ่า” มันบ่นงึมงำ ผมรู้ครับว่าไอ้หมูมันเรียนหนัก



                “มึงก็ทำแล็ปมึงไปแหละ กูไปแค่สองวันเดี๋ยวก็กลับ” ผมว่าแต่ภายในกลับรู้สึก...เหงาแปลก ๆ  ข้าวหมูแดงที่เราสั่งถูกเอามาเสิร์ฟ ทั้ง ๆ ที่ผมก็หิวนะ แต่ทำไมกลับรู้สึกไม่อยากกินเลย



                “พี่ศิลา”



                “อะไร?”



                “อยากไปด้วยนะ...ผมเป็นห่วงพี่” กูก็อยากให้มึงไป...ผมยิ้มนิด ๆ และยื่นช้อนกับส้อมให้มัน



                “เออน่า ก็มึงติดแล็ปนี่ ไม่ต้องห่วงหรอก กูไปกับพวกไอ้เสาไอ้นนท์อยู่” ผมบอก ไอ้หมูรับช้อนส้อมที่ผมยื่นให้ไป มันยังคงมองผมนิ่ง ๆ



                “แล้วเวลานั่งรถพี่จะนั่งกลับใครล่ะ...ผมไม่อยากให้พี่นั่งกับคนอื่น” มันบอกแบบกังวลจริง ๆ เออว่ะ...ผมยังไม่ทันได้คิดเลยไอ้หมูก็คิดไปถึงนู่นแล้ว ไอ้เสากับไอ้นนท์มันต้องนั่งด้วยกันอยู่แล้ว ส่วนผมก็น่าจะนั่งคนเดียวแหละมั้ง ถ้าไม่มีคนอื่นมานั่งด้วยอ่ะนะ



                “นั่งคนเดียวไง”



                “ไม่เหงาเหรอ...” เหงาสิวะ...ไอ้ฟาย จะมาถามทำไม แต่ก็รู้นิสัยของผมใช่ไหมล่ะ ผมหันไปสนใจข้าวหมูแดงในจานและรับรู้ถึงสายตาของผู้ชายที่นั่งตรงข้ามผม ไอ้หมูมันมองผมอยู่



                “ก็ไม่หรอก”



                “ทำไมไม่ไปวันอื่นอ่ะ คณะทำไมต้องจัดวันที่ผมติดแล็ป” มันโวยให้ทางคณะเรียบร้อย ก็กูจะไปรู้กับคณะไหมครับว่าจะจัดไปวันไหน ไอ้หมูเอามือเท้าคางมองผมตาปริบ ๆ



                “พี่ไปตั้งสองวันจะไม่คิดถึงผมเหรอ...” หมูถามขี้เล่นตามประสามันแต่มันคงไม่คิดว่าจะได้คำตอบแบบนี้จากผม



                “อือ ก็ต้องคิดสิ” ผมที่นั่งตักข้าวหมูแดงกินก็ตอบไปแบบตรง ๆ ทำเอาไอ้หมูตาโต



                “พี่บอกว่าคิด...”



                “เออ คิดถึงไง ถามทำไมวะ...ไอ้เชี่ย” ผมด่าแต่ผมว่าไม่ใช่คำด่าหรอก...มันเหมือนคำบ่นจากผมมากกว่า โดยที่ผมไม่รู้ตัวเองเลยด้วยซ้ำว่าทำหน้าเหงา ๆ ออกมา หมูที่นั่งตรงข้ามผมก็มองอย่างครุ่นคิด จนผมต้องเอาช้อนไปตีหน้าผากมัน



                โป๊ก!


                “เลิกจ้องหน้ากูสักที กินเหอะ กูไปคนเดียวได้เดี๋ยวก็กลับ สองวันเอง อ่ะ ๆ กูไม่กินแตงกวาเอาไป” ผมตักแตงกวาในจานของตัวเองไปใส่ให้ไอ้หมู มันก็เลยยิ้มและตักหมูกรอบมาในจานมันมาให้ผมแทน...



                “งั้นผมให้หมูกรอบแทนละกัน...แลกกับแตงกวาของพี่” ผมเลยยิ้มนิดหน่อย ก่อนจะกินข้าวของตัวเอง และผมก็ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่า ไอ้หมูกำลังมองใบหน้าของผมที่ทำหน้าน้อยใจอยู่อย่างไม่ละสายตา    (กูไม่ได้น้อยใจซะหน่อยเว้ย...ก็หน้าปกติ....ใช่ไหมวะ)










......................................................+++++++++++++++++ๅ

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^  :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 26| (08/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 08-05-2017 17:04:23
น้องหมูกรอบน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 26| (08/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 08-05-2017 17:29:46
เรียบร้อยน่ารักๆ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 26| (08/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 08-05-2017 20:10:11
 :-[
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 26| (08/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 08-05-2017 20:23:59
เหงา ต้อง เหงา แน่ๆ พี่ศิลา น้องหมู เอง ก้อคงอยู่ไม่ติด เช่นกัน ตามไปเลยน้องหมู
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 26| (08/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-05-2017 20:30:53
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 26| (08/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-05-2017 20:39:53
หมูกรอบ หมวยเล็ก  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 26| (08/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 08-05-2017 21:12:57
 :hao3:


ดีๆ ล่ะ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 26| (08/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 08-05-2017 23:20:51
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 27| (09/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 09-05-2017 18:38:55
ตอนที่ 27



                [พาร์ตของศิลา]




                วันออกเดินทางไปค่าย...



                สุดท้ายผมก็ไม่ได้คุยเรื่องค่ายอะไรต่อกับไอ้หมูตั้งแต่ที่คุยกันตอนร้านข้าว มันก็หายหน้าหายตาไปทำข้อสอบย่อยกับแล็ปของมันต่อ นี่ผมกลายเป็นคนที่เหงาง่ายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เฮ้อ...ไม่เอาสิวะศิลา ไปแค่สองวันเอง ไปค่ายไปทำประโยชน์นะเว้ย พวกที่คณะนัดกันตั้งแต่ตี 5 แหกขี้ตามาตั้งแต่เช้า ผมว่าจะโทรหาไอ้หมูแต่กลับพบว่ามัน...ปิดเครื่อง ผมก็เลยทิ้งข้อความทางไลน์ไว้ว่าจะออกเดินทางแล้ว นี่ผมกลายเป็นคนกังวลแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่...ก็ตั้งแต่ที่มีไอ้หมูในหัวใจไง...



                “เดี๋ยวกูนั่งข้างมึงเอง” ผมเดินขึ้นมาบนรถและเลือกนั่งติดหน้าต่าง และไอ้เสาก็นั่งลงข้างผม ส่วนไอ้นนท์ก็เดินไปนั่งที่นั่งด้านหลังพวกผม ผมเลิกคิ้ว



                “ไรของมึงไอ้สัดเสา ไปนั่งกับไอ้นนท์เหอะ” ผมว่า พอจะรู้นะว่าไอ้เสามันไม่อยากให้ผมนั่งคนเดียว แต่พวกมึงก็ควรจะนั่งด้วยกันนะเว้ย...เพราะผมรู้ว่าการได้นั่งกับคนที่เรารัก...มันดีที่สุด



                “ปล่อยไอ้นนท์ไป กูจะนั่งกับมึง! จบ”



                “อ้าวไอ้สัด ไม่ต้องห่วงกูหรอก กูนั่งคนเดียวได้...”



                “ให้เสานั่งข้างมึงแหละ รู้ไหมว่ามีรุ่นน้องวิศวะปี 1 หลายคน อยากมานั่งข้างมึงมาก ส่วนกูอ่ะไม่มีใครกล้ามานั่งด้วยอยู่แล้ว” ไอ้นนท์ว่าทำให้ผมเลิกคิ้ว หา...วิศวะไหนวะ อยากมานั่งกับผม?



                “เฮ้อ ไอ้ศิลาเอ๊ย มึงนี่ท่าทางจะไม่มองอะไรบ้างเล๊ย...มึงไม่รู้เหรอวะว่าพวกน้องปี 1 ผู้ชายพากันว่ามึงน่ารัก นี่ถ้าไอ้น้องหมูมึงมาได้ยิน กูว่ามีหวังระเบิดลงหลายลูกอ่ะ...ดีนะรถคันนี้แยกเฉพาะปี 2 มีถั่วดำคอยปกป้องอยู่...” ใช่ครับรถคันนี้มีพวกผมเป็นปี 2 กับถั่วดำอีกคน และนอกนั้นก็เป็นน้องผู้หญิงปี 1 ทั้งหมดมีคณะอื่นที่สมัครมาด้วย เหมือนพวกผมมาเป็นพวกดูแลน้อง (เอาแต่พวกอ่อน ๆ มาอยู่กับน้องผู้หญิง ส่วนไอ้ปี 2 พี่ว๊ากคนอื่นก็คุมผู้ชายอีกคัน)



                “นินทาฉันเหรอย่ะ!” ไอ้เสาสะดุ้งเมื่อถั่วดำเดินมา “ว้าย นนท์จ๋า ไม่มีเมียนั่งด้วยเหรอเนี่ย” ผมล่ะอยากจะขำถั่วดำที่ชอบหยอกไอ้เสาประจำ (จริง ๆ  ถั่วดำน่าจะไปเรียนคณะการโรงแรมมากกว่าแต่ที่มาเรียนวิศวะ เห็นบอกว่าพ่ออยากให้เรียนล่ะมั้งครับ ตอนเล่าประสบการณ์หน้าคลาส พอมาเรียนวิศวะก็เลยออกมาเป็นแนวนี้ ตัวเถื่อนแต่ใจแบ๊ว)



                “ฮ่า ๆ เมียนนท์อยู่ข้างหน้านี่เอง” ไอ้นนท์ตอบกลับแบบซื่อตรงในเมียสุดฤทธิ์ โอ๊ย....เกรงใจน้อง ๆ ผู้หญิงด้วยพวกฟายนี่....



                “แหมเบื่อจริงคู่นี้ อะไรก็มาแยกไม่ได้...ลุกย่ะเสา ไปนั่งกับผัวนู่น”



                “ไรวะ ถั่วดำ กูจะนั่งกับไอ้ศิลา..” ไอ้เสาว่าเมื่อเห็นถั่วดำบอกให้มันลุก ถั่วดำยิ้ม



                “ก็เพราะว่ามีคนจะมานั่งกับศิลาแล้วยังไงล่ะ” ผู้ชายที่เดินตามหลังมาคุ้นตาผมมาก เสื้อฮู้ดสีดำที่ใส่อยู่ทำให้ผมไม่เห็นหน้าชัดเพราะยืนอยู่ห่างจากตรงที่ผมนั่งไกลพอสมควร



                “เฮ้ย ๆ ถ้าเป็นผู้ชายยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย ใครวะ กูไม่ให้นั่งกับเพื่อนกู” ไอ้เสาปกป้องผมอย่างกล้าหาญ ขอบใจมึงจริง ๆ ...ว่าแต่จะไปมีใครมาทำอันตรายกูได้เล่า...



                แต่ทุกอย่างก็ต้องเงียบกริบลงเมื่อเจ้าของฮู้ดสีดำตรงหน้าเปิดฮู้ดออก เผยให้เห็นใบหน้าคมหล่อที่ผมคุ้นเคย....ไอ้เชี่ยหมู ผมเบิกตากว้างเช่นเดียวกับสาว ๆ ในรถที่รู้ว่า เดือนมหาลัยมาโผล่อยู่กลางรถบัส มันมาได้ไงครับ ก็ไหนบอกว่าทำแล็ปไง ไอ้หมูยิ้มตามสไตล์มัน



                “กรี๊ดดดดดด...” เสียงเด็กสาวปี 1 กรี๊ดพร้อมกันเหมือนนัดกันมา จนถั่วดำต้องยกมือเบรก เดี๋ยวคนขับรถจะไล่พวกผมลงจากรถไปซะก่อน



                “โอ๊ย ใจเย็น ๆ จ๊ะ เสียใจด้วยนะย่ะชะนีทั้งหลาย เพราะเดือนมหาลัยคนนี้...เขามาค่ายเพราะตามเมียของเขามาจ๊ะ นกจ๊ะนก ไม่ต้องหวีดร้องนอนวนไปค่ะ เก็บแรงไว้ไปหวีดเด็กหนุ่มแถวโรงเรียนมัธยมที่เรากำลังจะไปนู่น...” ถั่วดำปรบมือให้ทุกคนอยู่ในความสงบ และเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง



                ไอ้เสาก็ลุกออกจากที่นั่งข้างผมให้ไอ้หมูมานั่งแทน มันหันไปสวัสดีไอ้เสากับไอ้นนท์ที่นั่งข้างกันด้านหลัง พวกมันหัวเราะพวกผมแซว ๆ ผมมองหน้ามันก่อนจะหันหน้าหนี...เชี่ยก็กูทำตัวไม่ถูก ทั้งดีใจครับที่เจอมัน แต่ทำไมมันถึงมาได้ล่ะ ทำไมมันถึงไม่บอกผม...แถมยังปิดเครื่องอีก



                “พี่ศิลา...โกรธผมเหรอ” รถที่เริ่มออกวิ่งทำให้ทุกอย่างในรถเริ่มเงียบ...แต่ก็มีเสียงของไอ้หมูที่ดังเบา ๆ มือหนาของมันเอื้อมมาจับมือของผมไว้ ผมกำลังจะหันไปด่าก็ชะงัก...ถ้าด่าไปมีหวังคนในรถก็ได้ยินกันหมดพอดี



                “ไม่ได้โกรธ ปล่อยมือ..”



                “ขอโทษนะที่ผมปิดเครื่อง...ที่ไม่ได้ติดต่อพี่เพราะ...ผมตั้งใจทำแล็ปให้เสร็จหนึ่งวันเต็ม อดหลับอดนอนเพื่อที่จะได้มาทันขึ้นรถไปค่ายกับพี่ศิลา...” มันเล่าออกมาทำให้ผมหันไปมองอึ้ง อะไรนะมันบอกว่าอดหลับอดนอน ใบหน้าเหนื่อยล้าของไอ้หมูเป็นข้อพิสูจน์ว่ามันแม่ง...ไม่ได้นอนจริง ๆ ฝืนตัวเองทำไมวะ



                แววตาอ่อนโยนที่ไม่ต้องพูดอะไร ผมก็รับรู้...



                “ไอ้โง่...ฝืนตัวเองทำไม” ผมด่าเบา ๆ ตอนนี้ทุกคนเริ่มหลับไปแล้วล่ะครับ กว่าจะไปถึงค่ายพวกน้อง ๆ ก็พากันนอนพักเอาแรง ส่วนไอ้สองตัวข้างหลังก็หลับไปแล้วเหมือนกัน นอนซบไหล่กันเชียว



                “ไม่ได้ฝืนซะหน่อย...ทำด้วยความเต็มใจต่างหาก” หมูยิ้มบาง ๆ ผมยิ่งมองหน้ามันก็ยิ่งรู้สึกว่าไอ้หมูมันยอมทำเพื่อผมด้วยความตรง ๆ ของมันแบบนี้เสมอ และไอ้ความตรงสุดโต่งของมันนี่แหละยิ่งทำให้ผม...หลงรักมันมากขึ้น ผมคลี่ยิ้มออกมา ทำให้ไอ้หมูยิ้มกว้างกว่าเดิมเหมือนสบายใจที่เห็นผมยิ้มให้มัน



                “ขอบคุณนะ ที่มาค่ายกับกู” ผมบอกเสียงแผ่ว...เมื่อโดนใบหน้าคมจ้องตรง ๆ



                “ผมจะปล่อยแฟนของผม มาค่ายคนเดียวได้ยังไงล่ะ” มันว่าพลางยกมือปิดปากหาว...ท่าทางมันจะง่วงมาก ก็เห็นบอกไม่ได้นอน ผมพอจะรู้นะครับว่าแล็ปแต่ละครั้งที่ทำค่อนข้างละเอียดและใช้เวลานานพอสมควร ก็ผมเคยเห็นไอ้หมูมันนอนอ่านชีทตอนที่อยู่ด้วยกัน มันมักจะทำอะไรด้วยความเต็มที่เสมอ...



                ผมเชื่อว่ามันทำได้ดีด้วย...



                “มึงนอนเหอะ กว่าจะถึงโรงเรียนที่จะไปค่ายอาสาอีกไกล มึงน่าจะนอนได้หลายตื่น” ผมบอก   ไอ้หมูก็พยักหน้าเห็นด้วยเพราะตาของมันจะปิดอยู่แล้ว หมูหันมามองผมที่กำลังหาหูฟังมาเสียบฟังเพลง



                “ขอจับมือของพี่ไว้ได้ไหม” ปากขอแต่มือของมันก็เลื่อนมากุมมือของผมไว้แบบประสานมือ...กูเขินเป็นนะเว้ย... ผมอยากจะเอาออกแต่มือกลับไม่กล้าขยับเมื่อเห็นไอ้หมูปิดตาลงเหนื่อย ๆ ผมเหลือบมองขอบตาของมัน...ไอ้เชี่ยมึงเป็นเดือนนะ มาอดหลับอดนอนเดี๋ยวก็ไม่หล่อกันพอดี...ผมคิดในใจ



                มือของไอ้หมูที่กุมมือของผมไว้ มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน...ผมเผลอยิ้มออกมาพร้อมกับเพลงที่ตัวเองกำลังเปิดฟังไปเบา ๆ ก่อนผมเองจะเผลอหลับไปเหมือนกัน และผมก็ได้รับรู้อะไรอย่างหนึ่งขึ้นมาว่า...การได้นั่งกับคนที่เรารัก...มันอบอุ่นและมีความสุขอย่างที่ผมคิดจริงด้วย





                ...................

                ....................



                “พี่ศิลา...พี่ศิลา”  ผมลืมตาตามเสียงเรียก ก็เจอไอ้หมูที่เอาหูฟังของผมออกข้างหนึ่ง



                “ถึงแล้วเหรอ?” ผมถามด้วยความงัวเงีย ไอ้หมูส่ายหน้า



                “ยังครับ เขาแวะปั้ม พี่จะกินไรไหม ผมจะลงไปเซเว่น” ผมมองหน้าต่างก็พบว่าเราอยู่ปั้มน้ำมันจริงด้วย เหลือบไปมองด้านหลังก็เห็นไอ้เสานอนหลับปุ๋ย ส่วนไอ้นนท์หายลงไปข้างล่างแหง



                “ไม่ล่ะ มึงไปหาของกินของมึงเถอะ” ผมว่า ไอ้หมูมันก็ไม่ได้ถามอะไรเซ้าซี้ผม มันเดินลงไปจากรถ ผมก็แอบมองมันที่เดินลงไปพร้อมกับพวกเด็กผู้หญิงปี 1 ดูสาว ๆ จะชอบอกชอบใจมากที่มีเดือนมหาลัยมาอยู่ในรถให้สดชื่นแบบนี้ มันเสน่ห์แรงดีเนอะไอ้หมูเนี่ย...



                ผมที่นั่งเอามือเท้าคางมองตรงหน้าต่างไปเรื่อยสักพักพวกที่ลงไปซื้อของกินและเข้าห้องน้ำก็พากันขึ้นมาบนรถเหมือนเดิม ไอ้นนท์เดินขึ้นมาพร้อมกับขนมถุงใหญ่กับ...ชานมไข่มุก โอ้...ไอ้นี่ก็ขยันให้ไอ้เสาเสพชานมไข่มุกมาก ฮ่า ๆ แต่ยังไม่ทันที่ไอ้นนท์มันจะเดินมาถึงเบาะนั่งของตัวเองก็มีรุ่นน้องปี 1 ผู้หญิงขอถ่ายรูปเซลฟี่ซะก่อน...น่าจะเป็นคณะที่อื่นที่อยากมาค่ายอาสาด้วยแฮะ คณะไรไม่รู้แต่ก็หน้าตาน่ารักใช้ได้ ผมแอบมองไอ้เสาที่ยังคงหลับอยู่เลย ไอ้นนท์เดินผ่านที่นั่งของผม



                “เสน่ห์แรงนะมึง โฮะ ๆ” ผมล้อ ก่อนจะชะงักกับไอ้หมูที่เดินกลับขึ้นมา สาว ๆ มองมันตาเป็นมันเลยครับ ไอ้นนท์เลยกระตุกยิ้มกวนผม



                “ไอ้น้องหมูของมึงก็ไม่ต่างกับกูหร๊อก...โฮะ ๆ” โอเค...กูไม่ควรจะไปกวนคนอื่นสินะ ไอ้หมูกลับมาพร้อมกับซาลาเปาแรบบิทไส้ครีม ผมช๊อบชอบซาลาเปาอันนี้! ได้กลิ่นแล้วรู้เลย...ผมจมูกดีมาก มันนั่งลงข้างผมและยื่นมาให้ผม



                “ยื่นมาให้กูทำไม”



                “ของพี่ศิลาไงครับ ผมซื้อมาให้ร้อน ๆ เลย” น้ำเสียงพูดด้วยความใส่ใจ ผมรับมามองไอ้หมูที่เอามาม่าคัพมาซดกิน ดูท่าทางมันจะหิวมาก แต่ทำไมมันกินแล้วคล้ายพรีเซนเตอร์มาม่าเลยวะ...ดูดีเกินไปแล้ว



                “ขอบคุณ...แล้วนี่มึงมาค่าย เรื่องสอบกับพวกแล็ปไม่มีปัญหานะ” ผมถามพลางกินซาลาเปาตามมันไปด้วย



                “ไม่ครับ เคลียร์เสร็จหมดแล้ว ไม่กระทบอะไรแน่นอน” มันยืนยัน ผมก็พยักหน้ารับรู้และรถก็เริ่มเคลื่อนตัวออกจากปั้ม





                กว่าพวกเราจะมาถึงโรงเรียนที่จะมาทำค่ายอาสาก็ใช้เวลาเดินทางนานพอสมควร นั่งจนปวดก้นไปหมดแล้วเนี่ย โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนมัธยมที่ค่อนข้างใหญ่ครับ แต่ก็ขาดอะไรอยู่หลายอย่าง สีอาคารก็เริ่มที่จะซีดไปหมดแล้ว หรือต้องเรียกว่าไม่มีสีแล้วต่างหาก เด็กน้อยแถวนี้ก็พากันมองพวกผมที่ลงมาจากรถตาปริบ ๆ ว่าไอ้พวกรถบัสสองคันใหญ่ ๆ มาทำอะไรที่บ้านพวกมัน โรงเรียนนี้ไม่มีรั้วครับ ติดกับหมู่บ้านเลย แต่อากาศที่นี่สบายมากเลยล่ะ มีแดดนะแต่ไม่ร้อนมากนัก



                ผมกับพวกเพื่อนผู้ชายในคณะช่วยกันขนของที่จะนำมาบริจาคให้เด็ก ๆ กับพวกสีเป็นถังใหญ่ ๆ ที่จะเอามาทาอาคารลง ผมยังไม่ทันจะแบกน้ำลงไอ้หมูก็เข้ามายกไปซะก่อน



                “เดี๋ยวผมถือเอง พี่ศิลาไปถือกระติกน้ำก็ได้” มันบอกผมพลางส่งสายตาไปที่กระติกน้ำ แต่ถั่วดำก็หยิบไปซะก่อน



                “ฮ่า ๆ เอาไปย่ะศิลา กล่องพยาบาลยาแก้ปวดต่าง ๆ ถือเอาไปวางไว้ ส่วนพวกน้ำหนัก ๆ ให้ผู้ชายแข็ง...แรง ยกไป ใช่ไหมจ๊ะน้องหมู” ผมเห็นไอ้หมูมันสะดุ้งนิด ๆ เมื่อโดนถั่วดำจับก้น ฮ่า!...ตลกหน้ามันอ่ะ



                สรุปผมก็ได้ถือพวกกล่องพยาบาลลงมาวางไว้ที่กองกลาง พวกผมพากันแบ่งเรือนนอนกัน ไอ้หมูก็กระโดดมายืนติดกับผม บ่งบอกเจตนาชัดเจนว่าจะนอนข้างผมเท่านั้น...เออ คนเขารู้หมดแล้วล่ะไอ้เชี่ย ห้องที่ผมนอนก็เป็นห้องรวม มีถั่วดำเป็นแกนนำ รู้สึกอุ่นใจมากครับที่มีถั่วดำเป็นผู้ดูแลห้องที่พวกผมดูอยู่ แต่ไอ้หมูน่าจะไม่ปลอดภัย ฮ่า ๆ ไอ้เสาไอ้นนท์ก็นอนนี่ และก็มีพวกน้องผู้ชายวิศวะปี 1 อีกจำนวนหนึ่งที่นอนนี่ ส่วนมากจะเป็นพวกเรียบร้อย ส่วนพวกเกรียน ๆ ถูกแยกไปอยู่ห้องกับไอ้พวกเพื่อนผมสายโหด อีกห้องหนึ่ง



                พวกผมมาก็เริ่มกันทำงานกันเลยในตอนบ่าย นั่นคือทาสีตึกชั้นเดียวที่มันเริ่มซีด ให้มันกลายเป็นสีชมพูวิ้ง...คอนเซ็ปนี้ใครมันคิดก็ไม่รู้ เห็นว่าสนับสนุนว่ามันจะได้กลายเป็นโรงเรียนที่มีความรักสดใส...โอ้โห อยากเห็นหน้าคนคิดโปรเจคมาก ให้ทายครับว่าผมกับไอ้เสาอยู่แผนกไหน...หน้าอย่างพวกผมคงไม่ได้ไปตอกไม้ตามอาคารหรอก แม้ว่าอยากจะทำก็ไม่ได้ทำอยู่ดี! พวกผมสองคนอยู่ประจำที่อาคารนั่งทาสีกับพวกน้องผู้หญิงน่ะสิ...



                “ไอ้เชี่ยกูอยากไปตอกไม้บ้าง ทำไมต้องมาทาสีวะ” ไอ้เสาที่นั่งข้างผมบนพลางใช้แปรงสีขนาดใหญ่ละเลงสีชมพูลงไป ส่วนผมน่ะเหรอ...วาดรูปดอกไม้น่ะสิ ตรงที่พวกน้อง ๆ ทาเสร็จแล้ว ทุกคนพากันอึ้งกันมากที่ผมวาดรูปสวยขนาดนี้ แฮะ ๆ ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ พอดีผมเป็นคนชอบวาดรูปอยู่แล้วในสมัยเด็ก ป๊าก็เลยส่งเสริมให้ผมไปเรียนพิเศษด้านศิลปะอย่างเอาใจ แต่ผมก็รับรู้ว่า...ผมไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้นก็เลยไม่ได้คิดจะส่งเสริมตัวเองด้านนี้ ที่มาเรียนวิศวะก็อยากให้ตัวเองดูแข็งแกร่งและแข็งแรงนี่แหละ   จะได้ดูแลกิจการของป๊าช่วยเฮียใหญ่กับเฮียกลางได้....



                “โห..มึงยังวาดรูปสวยเหมือนเดิมเลยว่ะ” ไอ้เสาว่า



                “แล้วนี่ไอ้น้องหมูของมึง ไปอยู่กับพวกใช้กำลังเหรอ” ได้ข่าวว่าไอ้นนท์ก็ไปอยู่กับพวกใช้กำลังเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ ฮ่า ๆ ...พวกมันไปช่วยกันตอกไม้ซ่อมอาคารอยู่ทางนู่นนู้น



                “เออ มึงก็ทา ๆ ไป ไอ้เสา รีบทามันจะได้แห้ง กูจะวาดรูปให้เสร็จ”



                “พี่ศิลาวาดรูปน่ารักจังเลยค่ะ” รุ่นน้องผู้หญิงปีหนึ่งหันมาเห็นผมวาดรูปก็ร้องขึ้นด้วยความชอบจริง ๆ และหลังจากนั้นก็มีรุ่นน้องเข้ามาชมรูปวาดของผมเพียบ...



                ดีหน่อยที่มันมีหลังคายื่นออกมาเลยไม่ทำให้โดยแดดและไม่ร้อนจนเกินไป พวกน้องผู้หญิงพากับเก็บถังสีที่ทาเสร็จแล้ว ทยอยเดินไปล้างมือ ส่วนผมเหลือดอกไม้ช่อสุดท้ายเลยนั่งระบายต่อ ไอ้เสาก็ลุกขึ้นอย่างรีบ ๆ



                “ไอ้ศิลากูปวดฉี่ว่ะ เดี๋ยวกูมานะ ไปห้องน้ำก่อน” มันบอกแค่นั้นและวิ่งออกไปเลย ท่าทางจะปวดมากจริง ๆ ผมส่ายหน้าแล้วหันมาสนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของผมต่อ ก่อนจะสัมผัสถึงอะไรเย็น ๆ ที่มาแตะโดนแก้ม...แก้วน้ำหวานสีแดงที่ถูกยื่นมาโดยไอ้หมู มันทิ้งตัวนั่งลงติดกำแพงผมเลยรีบร้อง



                “ไอ้เชี่ย เสื้อจะเปื้อน” ผมรีบจับไว้ได้ทัน มันก็ทำหน้าเหวอเหมือนลืมว่ากำแพงมันเพิ่งทาสีชมพูพริ้ง



                “ผมลืมไปเลย ดีนะเนี่ยพี่ศิลาห้ามทัน ฮ่า ๆ” ไอ้หมูเปลี่ยนเขยิบตัวมานั่งหันหน้าเข้ากำแพงข้างผมแทน พร้อมกับยื่นแก้วน้ำในมือของมันมาให้ผม



                “น้ำเย็น ๆ ของพี่ศิลาครับ” ผมจะรับมาดื่มแต่มันก็ยกหนี อ้าว... “เดี๋ยวผมถือให้ มือพี่เปื้อนอยู่นี่นา”



                “เออ ขอบคุณ” ผมก้มดูดน้ำจากมือของไอ้หมูที่จับหลอดมาบริการผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม...ผมมองหน้ามันที่ออกแดงนิด ๆ เนื่องจากไปตากแดดมา ทำไมมันไม่ใส่เสื้อกันหนาวคลุมไว้วะ...



                “งานมึงเสร็จแล้วเหรอ ร้อนมะ” ผมถามแต่ดูจากเหงื่อของไอ้หมูแล้ว มันคงร้อนจริง



                “ก็ร้อนครับ แต่ก็สนุกดี ได้ทำประโยชน์” ไอ้หมูยิ้มและมองรูปที่ผมวาด “พี่ศิลา พี่วาดเหรอ? น่ารักจัง เหมือนคนวาดเลยอ่ะ” ผมที่วาดรูปอันสุดท้ายอยู่ชะงัก...กับรอยยิ้มกว้างทะเล้นที่มอบให้ผม มันกำลังเขยิบมาใกล้ผมอีกนิด ก่อนพวกเราจะสะดุ้ง



                “เฮ้ย! มานั่งสวีทอะไรแถวนี้วะ กูไปฉี่มาแป๊ปเดียว” ไอ้เสายืนเท้าเอวมองล้อพวกผมอยู่ มันเช็ดมือเปียก ๆ ของมันกับเสื้อ และนั่งยอง ๆ ลงข้างผม



                “เออ เห็นไอ้นนท์มะไอ้น้องหมู?” มันถามพลางเก็บพวกถังสี ไอ้หมูก็ส่ายหน้า



                “ไม่อ่ะครับ ผมตอกพวกไม้เสร็จก็ไม่เห็นพี่นนท์แล้วนะ” พอได้ยินคำตอบแบบนั้นไอ้เสาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ พวกผมช่วยกันเก็บกวาดของพวกอุปกรณ์ไปเก็บไว้ที่กองกลางให้เรียบร้อย



                หลังจากที่งานเสร็จก็เป็นเวลาการทำอาหารซึ่งพวกเราก็ได้รับความช่วยเหลือจากผู้อำนวยการโรงเรียนเอื้อเฟื้อสถานที่การทำอาหาร และสิ่งที่สร้างความฮือฮาก็คือ ไอ้นนท์ครับ มันไปเป็นคนทำอาหารช่วยกับพวกสาว ๆ ทำเอาสาวพากันกรี๊ดลั่น แถมดูมันจะเสน่ห์แรงพอ ๆ กับไอ้หมูด้วย สาวติดตรึม แต่คนที่ดูจะเริ่มอารมณ์เสียนิด ๆ ก็คงหนีไม่พ้นไอ้สัดเสา วะฮ่า...ดูมันทำหน้าดิครับ



                “มึงหึงไอ้สัดนนท์ล่ะสิ?” ผมนั่งลงม้านั่งข้างไอ้เสาที่มองในโรงครัวที่เต็มไปด้วยสาวล้อมหน้าล้อมหลังไอ้นนท์ มันเบ้ปากเล็กน้อย



                “ใครหึง แม่ง! เรื่องของมันดิ”



                “เหรอ ๆ”



                “ไอ้สัดศิลา...นู่น ไอ้น้องหมูของมึงก็ไม่ต่างกันหรอกกก...” ไอ้เสาหาเรื่องให้ผมหันไปมองไอ้หมูที่ไปยกถังน้ำใส่ที่กดน้ำ สาว ๆ ก็ยืนยิ้มหวานมองตาปริบ...เออ ขยันโปรยความหล่อเนอะพวกมึงนี่..



                “ก็มันเป็นเดือนมหาลัยนี่ จะมีคนชอบมันเยอะ ๆ ก็ไม่แปลกหรอก ไอ้สัด...” ผมว่าตามความจริง  ไอ้เสาก็ไม่ได้สนใจฟังผมหรอกครับ เพราะมันมองไอ้นนท์ที่ทำกับข้าวอยู่ โฮะ ๆ ผมว่าไอ้เสาได้สามีแห่งชาติแล้วล่ะ ไอ้นี่มันยิ่งชอบกินอยู่ ทำอาหารเป็นด้วย เลี้ยงไอ้เสาได้สบาย ๆ เลยล่ะครับ



                พอพวกเราทั้งหมดกินข้าวเสร็จก็พากันแยกย้ายไปพักผ่อนใครพักผ่อนมันตามอัธยาศัย บอกเลยว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก พวกผมเหมือนมาแป๊ปเดียวเอง แต่ก็ดีแล้วล่ะครับ ผมหยิบพวกผ้าเช็ดตัวเสื้อผ้าจะไปอาบห้องน้ำรวมพร้อมกับไอ้เสา แต่ยังไม่ทันที่พวกผมจะออกจากห้อง ไอ้หมูกับไอ้นนท์ก็วิ่งพรวดเข้ามา (พอดีพวกนี้มันไปช่วยพวกผู้หญิงเก็บพวกหม้อที่ทำกับข้าวมา)



                “พี่ศิลา จะไปอาบน้ำเหรอครับ ผมไปด้วย!” ไอ้หมูยึดผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าของผมไปถือไว้



                “เสา นนท์ไปอาบด้วย” ไอ้นนท์ก็พูดทำนองเดียวกันกับไอ้หมูเป๊ะ และพวกผมสองคนก็ตอบเสียงเดียวกัน



                “ไม่!!” ผมกับไอ้เสาตอบ แต่คนหน้าด้านสองคนตรงหน้าก็ไม่ได้ฟังพวกผมกันหรอกครับ สรุปผมกับไอ้เสาก็ได้แยกเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำกันคนละห้อง เพราะไอ้พวกนี้ไม่ให้พวกผมอาบห้องน้ำรวม อะไรของพวกมันก็ไม่รู้!! แถมยังมายืนคุมหน้าห้องน้ำราวกับว่าพวกผมเป็นผู้หญิง...บ้าบอจริง ๆ





                พอพวกผมอาบน้ำเสร็จก็ไม่มีแรงที่จะทำอะไรต่อ ผมล้มตัวลงนอนโดยมีไอ้หมูนอนข้างผม ส่วนไอ้เสาก็นอนข้างผมอีกข้างและมีไอ้นนท์นอนประกบ ดูพวกมันจะเงียบ ๆ กันแฮะ ด้วยความที่เราอยู่ในที่ไม่คุ้นเคยก็เลยค่อนข้างที่จะนอนไม่ค่อยสบายตัว ตอนนี้ภายในห้องไฟถูกปิดลงแล้ว แต่ถามว่าไอ้คนตรงหน้าผมมันนอนรึยัง...ไอ้เชี่ยหมูมันมองหน้าของผมอยู่ต่างหาก! ผมเห็นนะเว้ย



                “ไอ้เชี่ยนอนได้แล้ว” ผมกระซิบ หมูมันยกยิ้มนิด ๆ และเขยิบเข้ามาใกล้ผม อ้าว...ไอ้นี่ มึงจะเขยิบเข้ามาทำไม กูบอกให้นอน...



                “เขยิบมาทำ...”



                “อยากอยู่ใกล้ ๆ..” มันพูดสวนผมมา “พี่ศิลา...ขอนอนกอดนิดหนึ่งได้ไหม” ผมตาโตแต่จะโวยวายดังก็ไม่ได้เดี๋ยวคนอื่นได้ตื่นมากันพอดี มือหนาเลื่อนมาสัมผัสเอวของผมใต้ผ้าห่ม...ไอ้เชี่ยถ้ามึงมีอารมณ์หื่นกามขึ้นมากูจะทำยังไง!



                “อย่ากวนตีนไอ้หมู...คนก็นอนอยู่เต็มห้อง”



                “เราไม่ได้ทำอะไรเสียงดังซะหน่อย ก็แค่กอดเอง...” เสียงเข้มกระซิบขี้เล่น...โว้ย แบบว่ากูแค่... เขิน



                “ไม่ได้ อย่ามาใกล้กู ออกไป เกรงใจเพื่อนกูด้วย มันนอนข้างกูเนี่ย” ผมหาข้ออ้างผละออกจากไอ้หมูที่รั้งเอวของผมเข้าไปหา...กูเขินนน!! ออกไปจากกูไอ้เชี่ยยยย...ผมดันตัวเองออกพร้อมดิ้นขลุกขลัก



                “พี่เขาหลับแล้วหันไปดูสิ” ไอ้หมูว่า ผมเลยหันไปมองไอ้เสาที่เป็นคนหลับง่ายหลับเร็ว ยิ่งถ้ามันเหนื่อยยิ่งหลับไม่รู้เรื่อง เออจริงด้วยครับ...ไอ้เสามันหลับแถมท่าที่มันหลับคือนอนตะแคงหันหน้ามาหาผม และไอ้สัดนนท์ก็สวมกอดไอ้เสาจากด้านหลังแบบเนียน ๆ เดาว่าไอ้เสาไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ



                “เห็นมะ ใครก็อยากนอนกอดคนที่เรารักทั้งนั้น” ไอ้หมูหาแนวร่วมสนับสนุนความหน้าด้าน ผมหันกลับมามองหน้ามันที่ยิ้มแป้น ไอ้เชี่ยความเจ้าเล่ห์ของมึงทำไมมันเยอะขึ้นวะ...



                “............”



                “อ้อมกอดของคนรัก มันอุ่นนะ” มันยังคงพูดต่อ



                “กอดก็กอด ขี้เกียจะเถียงกับมึงละ กูจะนอน...” ผมยอม ยอมเพราะ...ขี้เกียจเถียงมันไง ง่วงแล้ว ผมเหลือบเห็นรอยยิ้มมุมปากของมันพร้อมกับมือหนาที่กระชับเอวของผมเข้าไปหา



                “น่ารักจัง หึหึ” ไอ้เชี่ยชักจะเอาใหญ่... “พี่ศิลา กลับจากค่ายเราไปเที่ยวทะเลกันไหม”



                “หา?” ผมเลิกคิ้ว



                “ไปทะเลกัน ไปแค่สองคน...”



                “ทำไมต้องไปแค่สองคนวะ ?”



                “ก็อยากไปเที่ยวกับพี่ศิลาที่เป็นแฟนของผมไง...นะ นะ” มันเริ่มอ้อนอีกแล้ว



                “ไม่ มึงว่างนักเหรอไง กูขี้เกียจ” ผมบอกปัดเพราะขี้เกียจไปจริง ๆ แต่ก็ต้องหน้าร้อนวูบกับใบหน้าคมที่เลื่อนเข้ามาใกล้ ไอ้ห่าน...จูบกูเลยไหม ถ้าจะใกล้ขนาดนี้!!



                “ก็ผมว่างสองวันไง ไปสองวันก็ได้ ก่อนที่ผมจะยุ่งกว่านี้...นะครับ ไปฮันนี่มูนกัน”



                “ไอ้เชี่ย ฮันนี่มูนไร”



                “ไปนะ...ไม่สนอ่ะ ยังไงก็จะลากพี่ไป ถ้าเลยช่วงสัปดาห์ที่จะถึงไป ผมก็เริ่มไม่ว่างแล้วด้วย....”



                “.............”



                “ให้แฟนไม่ได้เหรอ” มันเอาคำว่า แฟน มาขู่...คิดว่ากูจะรู้สึกอะไรเหรอไอ้ฟาย...



                เออ...รู้สึก รู้สึกว่าทำไมต้องไปใจอ่อนให้มันที่ชอบทำหน้าน่าสงสารตาปริบ ๆ



                “เออก็ได้ แต่มึงออกค่าใช้จ่ายหมดเลยนะ กูไม่อออก” ผมพูดกวนกลบเกลื่อนใบหน้าร้อนที่โดนไอ้หมูก้มลงมาหอมแก้มเนียน ๆ



                “ไอ้เชี่ย...เกรงใจคนที่นอนแล้วด้วย” ผมด่าเบา ๆ



                “พวกเขานอนหลับหมดแล้วล่ะ...” ไอ้หมูว่าก่อนผมจะรีบเอาผ้าห่มมาคลุมโปงเมื่อมีประโยคตอบกลับมาหลายเสียง





                “พวกกูยังไม่ได้นอน....” เสียงเพื่อนของผมหลายเสียงรวมถึงเสียงของถั่วดำก็ดังออกมา....



                เชรด...งั้นพวกมันก็ได้ยินหมดน่ะสิ...









........................++++++++++++++++++++++++ๅ

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจจากคนอ่านที่น่ารัก ^^

>__< พูดอะไรกัน ทุกคนในห้องเขาได้ยินหมดเเล้วค่า น้องหมู 55555  คนอ่านอย่างเราก็ได้ยินเหมือนกัน คริคริ  :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 27| (09/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-05-2017 23:20:54
 :hao7:

ศิลา ไม่ไหวจะเชิล

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 27| (09/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 10-05-2017 00:57:05
 :impress2:


อิจฉาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 27| (09/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 10-05-2017 04:48:04
555 พี่ศิลา ไปเที่ยวกะน่องมีน สองต่อสอง ไม่รอดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 28 nc18+| (11/05/60) อัพ :) มีต่อด้านล่าง
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 11-05-2017 16:44:39
ตอนที่ 28



             [พาร์ตของศิลา]




                หลังจากที่กลับมาจากค่ายอาสาได้ 2 วัน...



                ไอ้หมูลากผมมาทะเลบอกเลยว่าผมไม่อยากมา!!!...ซ่า เสียงคลื่นกระทบฝั่งทำให้ผมทำหน้ามุ่ยนิด ๆ หมูใช้เวลาขับรถไม่นานมากนัก เราก็มาถึงหาดที่อยู่นอกเมืองไม่ไกลนัก...ไอ้ศิลาครับ ไหนบอกไม่อยากมา...ก็ผมโดนมันลากมานี่นา! ตอนแรกก็ถามชวนพวกไอ้เสากับไอ้นนท์มาด้วยกัน แต่ไอ้นนท์ดันบอกปฏิเสธมา เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ เห็นว่าไอ้นนท์บอกจะพาไอ้เสากลับบ้านด้วย (ผมว่างานนี้คงมีการเปิดตัวกับครอบครัวของไอ้นนท์แหง โฮะ ๆ) แต่ดูเหมือนไอ้เสามันจะไม่ค่อยพูดค่อยจาตั้งแต่กลับมาจากค่ายแล้วล่ะครับ ไม่รู้ว่าพวกมันได้ทะเลาะหรือเคืองอะไรกันรึเปล่า แต่ผมว่าผมอาจจะคิดมากไป พวกมันอาจจะไม่ได้เป็นอะไรก็ได้



                ผมมองทะเลเบื้องหน้าที่สวยมาก ลมพัดเย็นสบาย จริง ๆ แล้วมาพักผ่อนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับ ผมเองก็ไม่ค่อยได้มานานแล้วล่ะ ตั้งแต่ขึ้นมหาวิทยาลัย ไอ้หมูโทรไปขอป๊าของผมเรียบร้อย มันนี่เคร่งครัดเรื่องทางบ้านของผมมากอ่ะ ทำยังกับว่าป๊าหวงผมมาก (ก็หวงมาก) หมูเปิดท้ายรถเอากระเป๋าเป้ผมก็เลยจะเดินไปช่วย มันรีบยกมือห้ามและคว้ากระเป๋าสองใบไปถือไว้



                “หยุดเลยครับ ผมถือให้” อีกละ...ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ ผมถือได้



                “เอามา กูถือช่วย” มันจะส่ายหน้า ผมก็เลยทำเสียงดุ “ถ้าไม่ให้กูช่วยถือกูโกรธจริงนะ!” พอมันได้ยินเสียงเด็ดขาดจากผม ไอ้หมูก็เลยยอมยื่นกระเป๋าของผมมาให้ผมถือเอง



                “ก็อยากบริการแฟนนี่นา กลัวพี่ศิลาหนัก...” หนักเชี่ยไร เสื้อหนึ่งชุด กางเกงในหนึ่งตัว (จะบรรยายทำไมล่ะครับเนี่ย...)



                “ไอ้หมูกรอบ กูไม่ใช่ผู้หญิงนะ ไม่ต้องมาบริการกูหรอก” ผมว่าแล้วเดินนำไปรีสอร์ทที่ไอ้หมูบอกว่ามันจองไว้แล้ว ร่างสูงเดินตามผมมาติด ๆ พร้อมกับกระตุกยิ้มอารมณ์ดี



                “ผมทำให้พี่เพราะพี่เป็นแฟนของผมต่างหากครับ” มันหยอดผมอีกแล้ว...ผมส่ายหน้าไม่สนใจตามประสาของผม แต่จริง ๆ...ไอ้เชี่ยโคตรเขิน (เดี๋ยวนี้เป็นอะไรไม่รู้เขินง่ายมาก)



                ตอนแรกผมก็เดินนำแหละครับ แต่ตอนเข้ามาในรีสอร์ทเลยให้ไอ้หมูเดินนำแทน ก็มันเป็นคนมาจองไว้นี่นา ก็ให้มันจัดการไป มันจัดการไปเช็คอินเอากุญแจกับพนักงานที่จองไว้ พนักงานผู้หญิงหันมายิ้มให้ผมแปลก ๆ เมื่อส่งกุญแจให้ไอ้หมูและผมก็ได้ยินที่เธอพูด



                “ขอให้สนุกกับโปรแกรมคู่รักนะคะ ห้องสวีทเตรียมพร้อมแล้วค่ะ” หา...? อะไรนะ หมูเดินกลับมาหาผมพร้อมกับรอยยิ้มกว้างอารมณ์ดีสุด ๆ ...เชี่ย ผมว่ามันเริ่มจะอันตรายแปลก ๆ



                “ปะครับ ห้องของเราพร้อมแล้ว ไปดูกันว่าพี่ชอบไหม” ไม่พูดเปล่า มือของมันก็เอื้อมมาจูงมือของผมไปด้วย ผมสะบัดออกแต่มันก็จับไว้แน่น ไอ้เชี่ยหมู...คนมองเต็มไปหมดแล้ววว!!



                พอมาถึงห้อง ผมก็พบว่ามันคือห้องสวีทที่คาดว่าน่าจะราคาสูงพอสมควร ไอ้หมูเลือกจองชั้น 2 เห็นวิวทะเลชัดเจน แถม...ห้องนี้ยังมีระเบียงยื่นออกไปข้างนอกและมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอีก ผมที่กำลังยืนดูสำรวจอะไรไปเรื่อยก็ต้องสะดุ้งกับวงแขนกว้างที่สวมกอดผมจากด้านหลัง



                “ไอ้หมูกรอบ! ปล่อยเลยนะเว้ย” ผมดิ้น ก็...มันจะมากอดผมทำไมกันเล่า



                “ไม่ครับ ไม่ปล่อย พี่ศิลาชอบไหม ห้องถูกใจพี่รึเปล่า” มันถามข้างหูของผม คือมันจะพูดดี ๆ ก็ได้นะ ทำไมจะต้องมากระซิบข้างหูงุงิ ๆ ด้วย! ผมแกะมือของมันออก หมูเลยยอมถอยห่างจากผม



                “กูนอนไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องที่นอน” ผมบอกและนั่งลงปลายเตียง หมูมันมองหน้าผมแวบหนึ่ง ก่อนจะชวนขึ้น



                “งั้นเดี๋ยวเราไปว่ายน้ำเล่นที่ชายหาดกันดีไหมครับ” ผมพยักหน้าทันที ก็มาทะเลก็ต้องมาเดินชายหาดเล่นน้ำอยู่แล้วไหมล่ะ! ผมกับไอ้หมูก็เลยสลับกันเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ



                |ชายหาด|


                ผมเดินมาที่หาดด้วยความเกร็ง ถามว่าเพราะใครเหรอ!! ก็จะใครที่ไหนไกลล่ะครับ ถ้าไม่ใช่ไอ้หมู เดือนมหาลัยที่ดันใส่แค่กางเกงขาสั้นมาเดินตามชายหาด ผมเห็นพวกสาวโสดหรือมีแฟนแล้วก็ตามถึงกับเหลียวหลังมองไอ้หมูกันทั้งนั้น ผมของมันที่เซ็ทมาให้ดูเท่ ๆ ทำให้มันออร่ากระจาย...เออ มึงจำเป็นต้องหล่อขนาดนี้เลยเหรอ? แค่มาเล่นน้ำนะเฮ้ย ส่วนผมก็ใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาสามส่วนธรรมดา ตอนแรกว่าจะใส่เสื้อกล้ามครับ แต่เถียงกับไอ้หมูอยู่นาน ก็มันไม่ยอมให้ผมใส่อ่ะ บอกว่าหวงเชี่ยไรของมันก็ไม่รู้! เหอะ แล้วทีมันยังใส่ได้เลย ไม่กลัวผมจะหวงบ้างรึไง...เอ๊ะ คิดอะไรของมึงครับไอ้ศิลา หวงไรล่ะ...



                “วันนี้คนเยอะนะครับ” ไอ้หมูว่าเดินตามผมมาติด ๆ ว่าขึ้นพลางมองไปรอบตัว ผู้หญิงอายุน้อยอายุเยอะมองไอ้เชี่ยหมูตาเป็นมันเลยครับ และก็ดูเหมือนมันก็จะรู้ตัวด้วยว่าพวกเขามองมัน



                “ก็วันนี้มันเป็นวันเสาร์ก็ต้องคนเยอะดิวะ...” ผมบอก และก็เห็นว่ากำลังมีสองสาวในชุดบิกินี่เสียวหลุดมาก เดินตรงเข้ามาหาผมกับไอ้หมู...ผมว่าพวกเธอจะมาอ่อยชัวร์ อ่อยไอ้หมูนะ ไม่ได้อ่อยผม...และผมก็เดาไม่ผิด



                “เออ ขอโทษทีนะคะ มากันแค่สองคนเหรอ” เธอถามขึ้น คงคิดว่าพวกผมเป็นเพื่อนกัน ไอ้หมูเหลือบมองผม...มองทำไมวะ บอกเขาไปดิว่ามึงมากับแฟน...(ไอ้ศิลาใจเย็น ๆ นะ)



                “ครับ มากันสองคน” หมูตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม ผมมองมันก่อนจะเดินหนีไปที่ทะเล โดยที่ไม่รู้ว่าไอ้หมูมันพูดอะไรต่อจากนั้นกับผู้หญิงสองคนนี้ รู้แค่ว่าผมแอบหงุดหงิดเล็ก ๆ ด้วยล่ะ...



                “คือ ผมมากับแฟนน่ะครับ ก็เลยมากันสองคน ขอตัวนะ” หมูตอบกลับผู้หญิงสองคนที่เข้ามาทัก



                ผมที่เดินดุ่ม ๆ ลงทะเลมาก็ถูกดึงแขนไว้ แรงซัดของน้ำทำให้ผมเซไปหาแผงอกที่อยู่ด้านหลัง เฮือก แน่นมาก แน่นทุกสัดส่วน (หมายถึงกล้ามของไอ้หมูอ่ะนะไม่ได้พูดถึงอย่างอื่น...ไม่มีใครคิดนะไอ้ศิลา)  ผมจะผละออกก็โดนไอ้หมูดึงแขนไว้อยู่อย่างนั้น



                “ไอ้เชี่ยหมูปล่อย...”



                “เดินหนีแฟนมาไม่ดีเลยนะครับ” มันมองผมด้วยรอยยิ้มขี้เล่นของมัน “ผมบอกพวกเธอแล้วว่าผมมากับแฟนของผม...ถ้าพี่ศิลาหวงพี่ก็น่าจะแสดงความเป็นเจ้าของของผมมากกว่านี้นะรู้ไหม” กูไม่รู้ เชี่ย..ทำไมกูจะต้องไปแสดงความเป็นเจ้าของวะ ผู้ชายนะเว้ย...ทำแบบนั้นมันจะไม่ดูแปลกเหรอ ผมมองหน้ามันอย่างไม่กล้าพูดอะไรออกไป



                “ทำไมกูจะต้องทำด้วย”



                “พี่ศิลาไม่หวงหมูเหรอครับ?” มันก้มลงมาใกล้ผมจนริมฝีปากของมันจะติดแก้มของผมอยู่แล้ว ไอ้เชี่ยหมูถอยไปห่าง ๆ โว้ย น้ำทะเลเค็ม ๆ มันก็เลยจะหวานกันก่อน ผมรู้สึกสะดุ้งเล็กน้อยกับมือหนาที่เลื่อนมากระชับเอวผมเข้าไปหาเขา น้ำที่กระเพื่อมทำให้เราสองคนตัวเปียกและใกล้กันมากกว่าเดิม



                “............” มันมองหน้าผมเหมือนรอฟัง ถามว่าผมหวงมันไหม...แน่นอนก็ต้องหวงสิ



                “ถึงพี่ศิลาจะไม่หวง...”



                “หวง”


                “ครับ?” มันเลิกคิ้วพร้อมกับยิ้มตื่นเต้น...ไอ้เชี่ยมึงเก็บอาการบ้างก็ได้



                “กูหวงมึงเหมือนกัน พอใจยัง! ไอ้เชี่ยหมู ปล่อยกูได้แล้ว จะไปเล่นน้ำโว้ย” ผมด่ามันและหลุดยิ้มออกมาตอนที่สะบัดตัวออกจากหมู



                “ผมก็หวงพี่ศิลาเหมือนกันนะ หวงมากกกกก...” ไอ้หมูมันตะโกนตามหลังของผมมา ผมเลยหันไปสาดน้ำใส่มันด้วยความหมั่นไส้ ก็หน้าตาไอ้นี่มันดูยิ้มชื่นบานมาก ผมยืนเล่นน้ำอยู่ใกล้ฝั่งไม่ลึกมากนักน้ำถึงตรงเอวของผม น้ำใสและเย็นสบายมาก ผมยิ้มกว้างออกมาด้วยความรู้สึกสนุกโดยที่ไม่รู้ว่าไอ้หมูที่ยืนมองอยู่ข้างหลังมองผมไม่คลาดสายตา แถมมันยังแอบถ่ายรูปเก็บไว้โพสลงไอจีอีกด้วย กว่าผมจะรู้มันก็ลงรูปพร้อมกับแฮชแท็กโดน ๆ ไปซะแล้ว โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ





                พวกผมสองคนเล่นน้ำกันเกือบทั้งวัน เอาแบบให้คุ้มไปเลย พอใกล้จะเย็นพวกผมเลยพากันขึ้นมาบนฝั่ง ดีนะครับที่ผมเป็นคนไม่ค่อยดำง่าย ตากแดดก็เลยไม่ได้ดำอะไรมาก ขนาดตอนไปรับน้องตากเกือบเดือน ผมยังไม่ดำลงเลยสักนิด ไอ้หมูหยิบรองเท้าที่วางอยู่หาดทรายมาวางให้ผมตรงหน้า เออ...คือกูหยิบเองได้ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรหรอกครับ ก็ใส่รองเท้าที่มันเอามาให้ หมูมันยิ้มนิด ๆ ไอ้เชี่ยยิ้มเชียว....



                “พี่ศิลา แถวนี้มีบาร์ที่เขาว่าดัง ๆ ด้วยนะ อยากไปไหม” มันชวนระหว่างที่เราเดินกลับมาที่ห้องเพื่ออาบน้ำล้างตัว  ผมรับผ้าเช็ดตัวจากไอ้หมูที่หยิบมาให้ผม บริการดีจริง ๆ



                “ก็น่าสนใจดี ไปก็ได้นะ กินข้าวก่อนแล้วค่อยไป” ผมว่า ไหน ๆ ก็มาเที่ยวแล้วก็ไปดูซะหน่อย หมูมันก็พยักหน้าตามใจผม ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็ออกมานั่งรออาหารที่เพิ่งโทรสั่งไป ส่วนไอ้หมูก็สลับเข้าไปอาบน้ำ พวกผมพากันกินข้าวด้วยกันจนอิ่ม ก่อนจะถึงเวลาที่เราจะออกไปท่องราตรี โอ้เย้! 





.............. มีต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 28 nc18+| (11/05/60) อัพ :) ต่อจากด้านบน
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 11-05-2017 16:46:13
 .......ต่อจากด้านบน

               
               
                    @ร้านAnimal


                ผมมองป้ายร้านอีกครั้ง...นี่เหรอร้านที่ว่าดังนักดังหนา ผมมองเข้าไปดูท่าจะจริงครับ คนเยอะคึกคักดีมาก ผมเห็นสาว ๆ ที่เดินเข้าไปในร้านมองไอ้หมูอึ้งมาก บางคนถึงกับกรี๊ด มันใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์ธรรมดา แต่มันก็แบบว่า...หล่อออร่ากระจาย หล่อแบบไม่กั๊ก...เอาเป็นว่ามันหล่อจบ แล้วนี่ผมจะมาชมมันในใจทำไมวะ...



                “ผู้หญิงมองเราเยอะจังครับ พี่ศิลา” ไอ้หมูกระซิบผม เหอะ พวกเขามองมึงต่างหาก! ก่อนผมจะหน้าร้อนวูบเมื่อหมูยื่นหน้าเข้ามาหาผมพร้อมกับประโยคที่ได้ยินแล้ว...บ้าบอชิบหาย



                “ผมควรจะเอาป้ายมาแขวนไว้ไหม ว่า มีเมียแล้วครับ” รอยยิ้มทะเล้นทำให้รุ่นพี่อย่างผมไปไม่เป็น



                “อยากทำก็ทำไปดิใครห้าม” ผมสวนกลับและเดินหนีเข้าไปในร้าน เรียกเสียงหัวเราะของไอ้หมูได้ทันที มันรีบวิ่งตามผมเข้ามา



                ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยแก้วสีสันสวยงาม แสงสีเสียงในร้านจัดว่าโอเคมาก ผมมองเพลงที่ดังกระหึ่มชวนเต้นมาก ไอ้หมูกับผมเลือกนั่งที่โต๊ะสบาย ๆ มุมกว้าง มันสั่งเครื่องดื่มมาให้ผมกินอย่างรู้ใจ (มันรู้ได้ไงวะ ว่าผมชอบกินอันนี้) เหมือนร่างสูงที่นั่งตรงข้ามผมจะรู้ว่าผมอยากถาม ไอ้หมูกระตุกยิ้ม



                “ข้อมูลของพี่ศิลา ผมแน่นนะครับ มี 100 คะแนน ผมเชื่อว่าผมก็ต้องทำได้ 100” มันตอบอย่างมั่นอกมั่นใจพร้อมกับยกแก้วกระดก เรียกสายตาของสาว ๆ ได้ทันที ยิ่งกว่านายแบบอีกครับ ผมหยิบแก้วมายกดื่มมองมันที่ยกยิ้มให้ผม เหอะ...มึงคิดว่าหล่อมากเหรอ เออ...โคตรหล่อเชี่ย...



                จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยรึเปล่านะที่ไอ้หมูกับผมมาดื่มด้วยกันแบบนี้ ผมยกแก้วดื่มอีกรอบจนหมด มองผู้ชายตรงหน้าของผมที่ดูอะไรไปเรื่อย มือของมันก็จับแก้วไว้ด้วยท่าทีชิว ๆ



                “น้อง อีกแก้วหน่อย” ผมยกมือบอกบ๋อยที่บริการอยู่ ไอ้หมูละสายตาจากตรงฟอลเต้นที่บรรดาสาว ๆ หนุ่ม ๆ       
ไปแดนซ์กระจายอย่างปลดปล่อย



                “พี่ศิลา กินเร็วจังครับ เดี๋ยวเมานะ” มันเตือน มึงรู้จักไอ้ศิลาคนเถื่อนคอแข็งแห่งปีน้อยไปซะแล้ว..(ไอ้ศิลาครับมึงไม่เคยได้ฉายาคอแข็ง อย่ามโน)



                “กูคอแข็ง” ผมว่าและรับแก้วที่ถูกนำมาเสิร์ฟมากระดกกินอีก หมูดึงแก้วออกจากมือผม



                “พอแล้ว เดี๋ยวเมาขึ้นมา ผมจะจับพี่ปล้ำนะ” ผมรู้สึกว่าแสงไฟกับเพลงมันทำให้ผมรู้สึกแบบว่าอยากเต้นชะมัด คำขู่ของไอ้หมูเมื่อกี้ทำให้ผมหัวเราะออกมา...เชี่ย กูจะหัวเราะทำไม เมาเหรอ...



                “เออ จะปล้ำก็ปล้ำไป...แต่เผอิญกูไม่เมา เสียใจด้วยนะไอ้เชี่ยหมูกรอบ” ผมบอกแล้วลุกขึ้นจากที่นั่งจะเดินไปแถวฟอลที่เขาพากันเต้นกันเมามันส์ หมูคว้ามือของผมไว้ทันที



                “พี่ศิลา เมาแล้วเห็นไหม จะไปไหน?”



                “ปล่อย! จะไปเต้นไงวะ ไปกับกูมะ” ผมไม่พูดเปล่าแต่ยังคงเดินต่อ ไอ้หมูก็เดินตามผมมาติด ๆ  ผมไม่ได้เมาซะหน่อยก็แค่อยากเต้น! ไม่ได้เต้นนานแล้ว แต่ผมอาจจะคิดผิดก็ได้..คือแม่ง ตรงนี้คนเยอะและเบียดกันมาก พอพวกผมเดินมาตรงฟอลเต้นพวกสาว ๆ ก็ถึงกับกรี๊ดแตกกันเป็นแถบ ก็เพราะไอ้หล่อที่มันเดินตามติดผมมาด้วยดันเอามือมาโอบเอวของผมเข้าไป



                “พี่ศิลา ถ้าจะเต้นก็เต้นใกล้ ๆ ผม..” มันพูด แต่เนื่องจากเสียงเพลงที่มันดัง ผมก็เลยไม่ได้ยิน



                “หา? มึงว่าอะไรนะ อีกที” ผมเขย่งเอาหูเข้าไปใกล้ไอ้หมู มันทำหน้าชะงักแปลกใจเล็กน้อยเหมือนไม่คิดว่าผมจะทำแบบนี้...ก็กูไม่ได้ยินไงเลยเขย่ง



                “เต้นได้ แต่ต้องเต้นใกล้ ๆ ผม...” มันกระซิบข้างหูผมชัดเจน ผมก็เลยส่ายหน้าดันมันออกไปห่างจากตัวของผม



                “ไม่โว้ย อึดอัดจะมาเต้นใกล้ ๆ กันได้ไงล่ะ” ผมดันไอ้หมูออกด้วยความมึนเล็กน้อย มึนเพราะกลิ่นน้ำหอมของคนที่ใส่เข้ามาเต้นแถวนี้ คือมึงอาบน้ำหอมมารึไงวะ



                “พี่ศิลา!..” ผมที่ถูกคนเบียดห่างออกจากหมู ก็เหลือบไปมองมันที่ทำหน้าตกใจที่ไม่เห็นผมอยู่ใกล้มัน อา...ก็ถูกเบียดห่างจากมันมาเมื่อกี้แหละ พวกมึงเต้นได้กวนมาก ถ้าเต้นนัวเนียแล้วเบียดคนอื่นขนาดนี้ เริ่มหมดอารมณ์ ผมกำลังจะหาทางออกจากวงเต้นนี้ มือหนาที่ผมคุ้นเคยก็ดึงมือของผมเข้าไปหาทำให้ผมเซไปซบกับแผงอกตรงหน้า



                กลิ่นน้ำหอมของไอ้หมูทำให้ผมรู้ทันทีว่าใครคือคนที่ดึงมือของผม...ผมเงยหน้ามองไอ้หมูที่ถอนหายใจเล็กน้อย



                “ตกใจหมดที่โดนคนเบียดห่างกัน ไม่เอาแล้วครับ กลับที่พักเถอะ” มันว่าแค่นั้นก็ลากผมออกไปจากร้านนี้เลย มันจ่ายเงินแบบไม่เอาเงินทอนด้วย อ้าว...มันเป็นเชี่ยอะไรขึ้นมาวะ



                “ไอ้หมูเป็นอะไร” ผมถามและรู้สึกมึนกับแอลกอฮอล์นิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับเมา สติยังอยู่ครบร้อย แต่ไอ้คนตรงหน้าของผมที่มันจูงมือผมเดินจ้ำอ้าวกลับที่พักนี่มันยังไง



                “ไอ้หมูกรอบ...” ผมเรียกอีกครั้งตอนที่เรามาถึงหน้าที่พักของเรา ผมสะดุ้งก็มันเล่นหยุดกะทันหันแล้วหันมาหาผม



                “ไม่เอาแล้ว ห้ามพี่เข้าร้านเหล้าอีก...รู้ไหมว่าตัวเล็กแบบนี้ถ้าโดนเบียดหายไป ผมจะทำยังไง” เสียงเข้มพูดกับผมเบา ๆ มันซบหน้าลงที่ไหล่ของผม...หา? เบียดหายไปอะไรของมันครับ บาร์ก็เล็ก ๆ จะหายได้ยังไง...แต่ผมก็ไม่ได้พูดกวนอะไรมันออกมา ราวกับผมรู้สึกว่าไอ้หมูมันดูตกใจของจริง



                “เออ...กูผิดเองแหละ ไม่คิดว่ามันจะคนเบียดกันขนาดนี้นี่หว่า..ก็แค่ว่าจะไปเต้น” ผมพูดพร้อมกับมองหน้ามันที่ยิ้มออกมาเล็กน้อย มันพยักหน้าหงึก ๆ ให้ผม



                ไอ้หมูจูงมือของผมขึ้นไปที่ห้องพัก ท่ามกลางสายตาของพนักงานของรีสอร์ท ผมว่าพวกเขาต้องคิดไปไกลถึงดาวอังคารแล้วแน่ ๆ เลยครับ ผมเดินเข้ามาในห้องก่อนจะหยุดกึกกับวงแขนกว้างของไอ้หมูที่สวมกอดผมจากด้านหลัง เมื่อเราเดินมาหยุดที่เตียง



                “ไอ้เชี่ยหมู มึงจะทำอะ..เฮ้ย” ผมจะถามแต่ก็เซล้มลงไปที่เตียงนุ่ม (แบบเด้งได้ด้วย) หมูมันเล่นโถมน้ำหนักของตัวมันที่หนักกว่าผมมาซะได้



                “ก็ผมบอกพี่แล้วว่า ถ้าพี่เมา ผมจะจับพี่ปล้ำ” หมูยกตัวขึ้นจากผมและใช้แขนสองข้างของมันกั้นระหว่างผมไว้ แววตาคมเข้มตรงหน้าทำให้ผมรู้ว่า ไอ้เชี่ยนี่มันพูดจริง อย่านะเว้ย!!....ถึงจะรู้ว่าผมเป็นแฟนกับมันแล้ว เรื่องอย่างว่า... จะทำบ่อย ๆ ก็คงไม่เสียหาย เชี่ย...ไอ้ศิลาครับมึงจะมาคิดทำบ่อย ๆ ทำไม! ดูรอยยิ้มของมันสิครับ!!! ไอ้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ กูไม่ยอมมมม....กูไม่อยากเจ็บอีกง่ะ (ครั้งแรกความเจ็บมันยังฝังใจ)



                “แต่กูไม่ได้เมาโว้ย!” ผมใช้มือดันซิกแพคตรงหน้าก็...ชะงัก หมูเลื่อนมือมาจับมือของผมไว้



                “พี่ศิลาห้ามผมไม่ได้หรอก” มันกระตุกยิ้ม เหมือนผมจะไม่มีทางรอดออกไปได้จริง ๆ หมายความต้องยอมจริง ๆ เหรอ...ผมมองหน้ามันอีกครั้งก่อนจะพูดอึกอัก



                “ไอ้เชี่ยหมู...มึงทำเบา ๆ ได้ไหม” ผมพูดเสียงเบาจนไอ้หมูไม่ได้ยิน มันเลยก้มลงมาใกล้ผมที่เริ่มหน้าแดงไปหมด โอ๊ย ทำไมกูจะต้องมาพูดอะไรแบบนี้วะ....กระดากปากสุด ๆ



                “ว่าอะไรนะครับ ผมไม่ได้ยิน” ไอ้ว่าที่หมอมันหูตึงรึไงวะ.. ผมเม้มปากนิด ๆ



                “กูบอกว่า...” มันรอฟังอย่างตั้งใจ ไอ้เชี่ย..ไม่ต้องตั้งใจฟังก็ได้ “ทำเบา ๆ ได้ไหม กูไม่อยากเจ็บ...”



                พอผมพูดจบปั๊ป ไอ้หมูมันก็ยิ้มออกมาและก้มลงมาหอมแก้มผม อ้าว...ไรของมึงเนี่ย!



                “ได้สิครับ...ครั้งนี้จะทำเบา ๆ ไม่ทำให้เจ็บเหมือนครั้งแรกแน่นอน ผมไปศึกษามาเพิ่มแล้ว” ผมฟังอยู่ก็หันขวับไปมองหน้ามันแบบตกใจนิด ๆ



                “ศึกษาเชี่ยไรมาเพิ่ม?” หมูชะงักแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ! ก็กูได้ยินมึงพูดเต็มสองรูหู ไอ้ฟายยย...



                “บอกมา!” หมูมองหน้าผมพร้อมกับยิ้มแห้ง ๆ ทำหน้าราวกับว่าตัวเองไปซ่อนอะไรไว้แล้วผมหาเจออะไรประมาณนี้



                “คือว่า...พวก Yaoi ของสาววายที่ชอบอ่านกันแหละ ก็ไปศึกษามาว่าส่วนไหนบ้างที่มันอ่อนไหวง่าย ทำให้รู้สึกฟินที่สุด...แล้วก็...” ผมรีบยกมือเบรกไอ้ว่าที่หมอ(กาม) ที่กำลังอธิบายระเอียดยิบ มันดูจริงจังเบอร์นี้เลยเหรอวะ ผมว่า...ผมไม่ปลอดภัยแบบสมบูรณ์แบบแล้วล่ะครับ!



                “ไอ้เชี่ย...มึงนี่มันหื่นว่ะ” ผมบ่น ก่อนจะหน้าร้อนวูบ (นิด ๆ)



                “แค่นี้สำหรับผมยังไม่เรียกว่าหื่นหรอกครับ...ผมยังมีให้พี่ศิลาอีกเยอะ” มันเลื่อนมือมาเลื่อนเสื้อของผมขึ้นอย่างมือไว...กูว่าไม่รอดแน่นอนคืนนี้



                “กูไม่อยากรู้ว่ามึงหื่นโว้ย อ๊ะ!!...ไอ้หมู อย่า” ผมสะท้านทันทีเมื่อนิ้วของไอ้หมูกำลังเกลี่ยวนตรงหัวนมสีชมพูเล็กของผม ไอ้เชี่ย...เสียวไปหมด มันไปศึกษามาเพิ่มจริงเหรอวะเนี่ย



                “พี่ศิลา...จ๊วบ” มันก้มลงมาจูบตามซอกคอของผมช้า ๆ ไม่รีบมาก ผมก็พยายามที่จะใช้มือดันร่างกายตรงหน้าที่ทิ้งน้ำหนักตัวลงมาที่ผม แต่มันกลับไม่ได้ผล ร่างกายของผมกับมันเริ่มสัมผัสกันแนบชิด เริ่มร้อน



                และตรงนั้นของไอ้หมูแม่ง...มันรู้สึกแล้ว ไอ้ฟายยย มึงอารมณ์ขึ้นง่ายมาก



                “อ๊ะ อื้อออ ไอ้เชี่ยหมู ปล่อยก่อน กูอยากอาบน้ำ” ผมดันร่างกายที่มันเริ่มเอนโอนไปตามมือหนาที่เอื้อมมือมาถอดเสื้อของผมทิ้งเฉยเลย ใบหน้าคมที่กำลังซุกไซร้ซอกคอของผมเหมือนกระหายกำลังทำให้ผมสติแตก



                “ไม่ปล่อยหรอก...มาถึงขนาดนี้แล้วนี่นา อืมมม พี่ศิลาหอมจัง ไม่ต้องอาบหรอก หมูรอไม่ไหว” เสียงเข้มกระซิบอ่อนโยนสุด ๆ (จากที่อ่อนโยนอยู่แล้ว มันอ่อนโยนกว่าเดิมอีก)



                “แต่กู อ๊ะ!! อา...ไอ้หมู ตรงนั้นมัน...” ผมรู้สึกเสียววาบมือไอ้หมูบีบเจลเย็นใส่ช่องทางรักของผม นิ้วที่สร้างความคุ้นชินและสัมผัสโดนจุดของผมกำลังทำให้ผมผ่อนคลาย



                เชี่ยยย....รู้สึกดีมาก ไอ้หมูมันเก่งอีกแล้ว... หมูกระตุกยิ้มเล็กน้อย ผมมองหน้ามันตรงหน้า ทำไมมันดูหล่อจัง หรือจริง ๆ ผมจะเมา...



                “รู้สึกดีใช่ไหมครับ พี่ศิลา ตรงไหน?” มันแกล้งถามทั้งที่ตัวเองรู้ น่ากระโดดถีบมาก!!       



                “ไอ้สัด..อ๊า!! อื้อออ อือออ พอแล้ว...” ร่างกายของกำลังบิดไปมาและผมกำลังรับรู้ว่าตัวเองก็มีอารมณ์แล้วเหมือนกัน ผมหน้าร้อนวูบเมื่อไอ้หมูจู่ ๆ ก็ดึงแขนของผมให้ลุกขึ้นไปนั่งคร่อมมันไว้



                เฮือก..แก่นกายที่ตั้งเด่นของมันสัมผัสโดนผมอย่างแผ่วเบา แต่ความรู้สึกตอนโดนกันไม่ใช่เล่น ๆ เลย สะท้านไปหมด...



                “ผมว่าวิวตรงนี้สวยมาก...” ไอ้หมูกระซิบ กวนตีน...ผมเอามือทุบไหล่ของมันด้วยความหมั่นไส้ เรียกเสียงหัวเราะจากมันได้ทันที



                “ไอ้หมูกรอบ มึงจะแกล้ง อา...อื้อออ อ๊า!!...”



                “ใครแกล้ง ไม่มี...” ไอ้หมูยิ้มก่อนจะดึงนิ้วออกจากผม และ...หยุด อ้าวเชี่ย...หยุดทำไมวะ อารมณ์ค้าง....ผมมองหน้ามันที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ มันแกล้งผมจริง ๆ ใช่ไหม



                “ยกตัวใส่เองได้ไหม..” นั่นไง...ไอ้เชี่ยหมูกรอบบบบบ!! ได้ทีแล้วเอาใหญ่! ผมเม้มปากนิด ๆ



                “อย่าให้กูมีไม้หน้าสามนะ กูจะเอามาฟาดมึงให้เละ ไอ้เชี่ย” ผมด่าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ หมูยิ้มพร้อมกับจับมือผมไปโอบรอบคอของมันไว้ โอ๊ยยยย....เขินสุด ๆ มือหนาเลื่อนมาประคองเอวของผมไว้



                “หึหึ งั้นตอนนี้ก็ให้ผมฟาดพี่ศิลาก่อนก็แล้วกันเนอะ ผมจะฟาดเบา ๆ” มันพูดกวนแต่พร้อมทำจริง



                “ไอ้เชี่ยหมูกรอบ...อ๊ะ...อื้อออ กูเจ็บนะ” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อยกตัวขึ้นตามที่มันบอกแล้ว และผมก็กำลังพยายามที่จะบดเบียดแก่นกายนั้นเข้าหาตัว ช่วยเหยียบเรื่องนี้ไว้เป็นความลับด้วย เชี่ยยย รู้ถึงไหนก็โดนล้อไปตลอดแน่ ๆ



                “พี่ศิลา มองหน้าหมู...รักนะ”



                “อ๊า!!! พูดเชี่ยอะไรวะ...อื้อออ ไอ้หมูมึงลึกไปแล้ว...”



                สวบ...



                เจ็บ....แต่ไม่ยักจะเจ็บเท่าครั้งแรก มันปนความรู้สึกดีไปด้วย ไม่ได้อึดอัดมาก...



                “อื้อออ...อ๊ะ อ๊ะ ฮะ...มึงจะขยับทำไมวะ ช้า ๆ อือออ ไอ้เชี่ย....”



                “ครับ เชี่ยก็ หมูของพี่ศิลานั่นแหละ จ๊วบ....อืมมมม ชี๊ดดดดด....” ร่างกายของผมไหวเอนไปตามแรงกระแทกที่ไม่เบาเลยสักนิด กูบอกว่าให้ทำเบา ๆ ไง!!



                “อ๊ะ..อ๊า อือออ ไอ้หมูอย่ากัดสิ อื้อออ ไอ้เชี่ย มึงทำรอยตรงคอ...ฮะ อา คนก็เห็นหมดสิ” ผมด่ามันพร้อมกับหายใจหอบ แต่ถามว่าไอ้คนตรงหน้าฟังผมไหม? ไม่ครับ...มันจับท้ายทอยของผมและประกบปากของมันแนบชิดสนิทผมทันที



                “อ๊า...อื้อออ...อืมมม” จูบรสหวานเหมือนลูกกวาดเลย.....



                “อืมมมม พี่ศิลา....รู้สึกดีมากเลยล่ะ ข้างในนุ่ม....หอม” ไอ้หมูมันบรรยาย มึงจะบรรยายทำไมเล่า!!....แต่สุดท้ายผมก็เคลิ้มไปกับแรงสัมผัสของไอ้หมูที่ลีลาดีจริง ๆ ผมกับมันปลดปล่อยออกมาเกือบจะพร้อม ๆ กัน ถึงจะบอกว่าหมูมันไปศึกษามาแล้ว พยายามทำให้ผมไม่เจ็บแล้ว แต่เปล่าเลยครับ...ไอ้เชี่ย สองรอบขนาดนี้ เอวของผมก็ระบมไปเหมือนกัน T.T เจ็บมากเหมือนเดิม ก็ดูมันกระแทกสิ!!



                “ไอ้หมูกูร้อน...” ผมบ่นให้ไอ้เชี่ยข้าง ๆ ที่มันนอนตะแคงข้างมากอดผมที่นอนตะแคงอยู่ หลังจากพวกเราเสร็จกิจกรรมรักแสนเร้าร้อน (ไอ้เชี่ยเร้าร้อนตรงไหน...โอเคยอมรับก็ได้ มันเร้าร้อน) ไอ้หมูก็อุ้มผมเข้าไปอาบน้ำ ผมโวยวายกับมันว่าเดินเองได้แต่มันก็ยืนยันท่าเดียวว่า! ไม่ให้ผมเดินเอง โอเคผมไม่เถียงกับมัน ยอมให้มันพาไปอาบน้ำแต่โดยดี และตอนนี้...มันก็มากอดผมไว้แนบชิดติดแจอยู่เนี่ย!!



                “ร้อนอะไร เปิดแอร์แรงมากขนาดนี้...” ไอ้หมูว่าก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มผม ฉวยโอกาสกูจริง ๆ!



                “เลิกกวนกูได้แล้ว..”



                “เขินผมใช่ไหม” มันถามยิ้ม ๆ ผมเหลือบมองหน้ามันที่ทำหน้าตา...รู้ทันกูแล้ว



                “ใครเขินวะ อย่ามามั่ว...” ผมเอามือมาปิดหน้าของตัวเองไม่ให้ไอ้หมูเห็นว่า กูหน้าแดงไปหมดแล้วเนี่ย!



                “เมื่อกี้ผมลีลาดีขึ้นไหม” จู่ ๆ คำถามกวนก็ถูกถามมาจากไอ้หมู....หา? คำถามบ้าไรของมันนนน



                “ไม่รู้” ผมหลับตาอย่างไม่อยากจะคุยต่อ หมูเองก็หัวเราะอารมณ์ดีซะเหลือเกิน มึงเมาน้ำทะเลเหรอไอ้ฟาย เหมือนไอ้หมูจะคิดว่าผมหลับแล้ว...แต่จริง ๆ ผมยังไม่ได้หลับ ผมได้ยินประโยคสุดท้ายก่อนที่ผมจะพยายามข่มตานอนด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว



                “ผมอยากเห็นพี่ศิลามายั่วผมบ้าง...จะเซ็กซี่ละลายใจจนสติกระเจิงขนาดไหนนะ...พี่ศิลา ฝันดีนะครับ จุ๊บ” ไอ้เชี่ยยยยยย!!! กูจะไม่มีทางยั่วมึงหรอก ฝันไปเหอะฝันไป....ผมจะไม่มีทางไปยั่วมันเด็ดขาด...













..................................+++++++++++++++++++++++++++ๅๅๅ
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^

ใครว่าน้ำทะเลมันเค็ม น้องหมูมาพิสูจน์เเล้วว่า มันหวาน 555555   :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 28 nc18+| (11/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 11-05-2017 20:40:52
555 รอบหน้าพี่ศิลา...จัดไป...ลีลายั่ว...น้องหมู
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 28 nc18+| (11/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 11-05-2017 21:33:56
รัเนแรงเวีอๆ 5555
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 28 nc18+| (11/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 12-05-2017 00:53:26
กรีดๆๆๆๆจะร้อนแรงอะไรเบอร์นี้ละ...แต่ก็ชอบนะ5555
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 28 nc18+| (11/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 13-05-2017 09:33:00
 :hao6:


ว้าววววว
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 28 nc18+| (11/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 13-05-2017 09:40:31
หวานกันไม่เกรงใจคนอ่านเลย   :-[
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 28 nc18+| (11/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-05-2017 12:43:07
หมูกรอบ หมวยเล็ก  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 29| (13/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 13-05-2017 17:07:23
ตอนที่ 29



                  [พาร์ตของเสา]



                ผมมองร้านทองตรงหน้าที่ใหญ่มาก แถมยังมีบ้านหลังอลังการอยู่ด้านหลังอีก...นามสกุลของไอ้นนท์ติดเป็นชื่อร้าน ครับ...นี่คือร้านและบ้านของไอ้นนท์นั่นเอง หลังจากที่ขับรถออกมาอีกทางของเมือง   เราก็มาถึงบ้านไอ้นนท์ ถามว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง...ก็เกร็งไงล่ะ เกร็งมากด้วย...นนท์ที่กดสวิสต์ล็อครถอยู่ก็เดินอ้อมมาหาผมที่ยืนมองห้างร้านทองที่มีคนเข้าพลุกพล่าน



                “ปะ เข้าไปในร้านกัน” มันชวน “เสา...ไม่ต้องห่วงนะ พ่อกับแม่นนท์ใจดี” ไอ้นนท์เอื้อมมือมากุมมือของผมไว้ ราวกับว่ามันรู้ว่าผมกังวล ใจดีกับมึง แต่พวกเขาอาจจะไม่ใจดีกับกูก็ได้นี่...ผมพยักหน้าและเดินตามไอ้นนท์เข้าไปในร้านทอง



                “เอ๊ะ ตานนท์! มาแล้วเหรอลูก...พาใครมาด้วยล่ะเนี่ย” ผู้หญิงวัยกลางคนดูดียิ้มแย้มแจ่มใสกำลังยิ้มแฉ่งให้ผม    ผมไม่เคยเจอหน้าของพ่อกับแม่ไอ้นนท์หรอกครับ นี่ก็เพิ่งครั้งแรกนี่แหละ ผมยกมือไหว้



                “ครับ นนท์กลับมาแล้ว....นี่เสา แฟนของนนท์ครับ” มันบอกแบบไม่ปิดบังและตรงสุด ๆ ผมเบิกตากว้างพร้อมกับทุกคนที่กำลังเลือกทองกันอยู่ในร้าน...เชี่ยยย ไอ้นนท์พูดแบบสายฟ้าแลบ มึงทำไมไม่บอกกูก่อนว่าจะพูด แม่ของนนท์มองหน้าผมอึ้งสักพัก ก่อนจะพูดขึ้น



                “นนท์พา...แฟนของลูกไปที่บ้านเราก่อนไป เดี๋ยวตอนเย็นค่อยเข้ามาหาแม่กับพ่อที่บ้านใหญ่” ไอ้นนท์มันพยักหน้ารับแล้วจูงมือของผมออกไปจากร้านทอง และเดินเข้าไปทางด้านข้างที่เป็นบ้านของมันแทน



                “ไอ้สัดนนท์! พูดอะไรออกมาวะ จู่ ๆ ทำไมไปบอกกลางร้านแบบนั้น” ระหว่างที่เดินมาตามทางเดินเข้าบ้านมัน ผมก็เริ่มบ่น...ก็ผมไม่อยากให้มันมีปัญหากับครอบครัวนี่ เผื่อพ่อกับแม่ของมันไม่ยอมรับล่ะ..ก็เหมือนอย่างตอนของไอ้ศิลา แต่โชคดีที่ครอบครัวของไอ้น้องหมูมันยอมรับไอ้ศิลา ส่วนครอบครัวของไอ้นนท์จะยอมรับเรื่องพวกนี้ได้จริงเหรอวะ...ผมทำไมรู้สึกกลัวขึ้นมา



                “นนท์พูดความจริงนี่ ก็นนท์บอกเสาแล้วว่า จะพามาเปิดตัว จะช้าจะเร็วก็เป็นความจริง” ไอ้นนท์พูดออกมาด้วยประโยคแมน ๆ ...มันดูรักผมมากเลย...จะว่าไป ผมเองก็ยังไม่เคยบอกคำนั้นให้มันได้ยินสักทีครับ...ก็มันแบบว่า...เออ เขินนั่นแหละ... ดูไอ้นนท์มันก็ไม่ได้อยากรู้สักเท่าไหร่ก็ไม่เห็นมันถาม...



                แต่ถึงไม่บอก...มันก็น่าจะรู้แล้วไม่ใช่รึไงวะ...ไม่งั้นผมจะคบกับมันทำไมเล่า



                ผมกับไอ้นนท์เดินเข้ามาภายในบริเวณบ้าน มันพาผมเดินไปอีกทางที่เป็นบ้านหลังเล็กสีขาว  ผมมองอย่างแปลกใจก็มันมีบ้านหลังใหญ่ที่เราเดินผ่านมาแล้วอีกหลังด้วย ไอ้นนท์ที่จูงมือผมราวกับว่ากลัวผมหาย มันหยุดเดินแล้วหันมาหาผมที่เดินตามมัน



                “พอดีบ้านนี้ เป็นบ้านของนนท์น่ะ...ส่วนนั้นบ้านใหญ่ พ่อกับแม่นนท์อยู่ที่นั่น” มันว่า ผมเลิกคิ้ว



                “สังคมรังเกียจเหรอมึงน่ะ ทำไมต้องแยกวงมาอยู่นี่” ผมถาม มันก็หัวเราะเบา ๆ เหมือนอารมณ์ดีมาก



                “คงงั้นมั้ง นนท์ชอบอยู่เงียบ ๆ คนเดียวมากกว่าก็เลยออกมาอยู่บ้านตรงนี้” ไอ้นนท์ไขประตูบ้านเข้าไป บ้านชั้นเดียวแต่กลับมีอุปกรณ์ทุกอย่างครบครัน แถมยังดูสะอาดมาก ห้องโทนสีน้ำเงินดูสบายตา เหมาะกับไอ้สัดนนท์ดีเหมือนกัน ผมมองรอบห้องอย่างสนใจ...(ก็ไม่เคยมานี่ ก็เลยดูสนใจเป็นธรรมดาแหละ)



                หมับ อ้อมกอดของผู้ชายเจ้าของบ้านนี้โอบรอบเอวผมจากด้านหลังแบบเนียน ๆ ไอ้เชี่ย...อย่ามาทำแบบนี้โว้ย...



                “ไอ้เหี้ยนนท์! ปล่อยเลย” ผมด่าขึ้นมาพร้อมกับดิ้นแต่มือไอ้นี่ยิ่งกว่าคีมอีก...



                “ด่าอีกแล้ว ฮ่า ๆ...” มันว่าแต่ก็ไม่ยอมปล่อยตัวของผมออกสักที ไอ้นนท์ซบหน้าลงที่ไหล่ของผม ผมเหลือบมองมันนิด ๆ



                “ปล่อยได้แล้ว...” ผมไล่



                “ไม่ปล่อย...ขอให้รู้ไว้นะเสา ว่านนท์จะไม่มีวันปล่อยเสาไป” ผมชะงักกับคำพูดจริงจังที่ออกมาจากปากไอ้นนท์...ผมถูกหมุนตัวให้ไปเผชิญหน้ากับใบหน้าคมเถื่อน ๆ ตรงหน้า ใบหน้าที่กระชากใจสาวมานักต่อนัก ไอ้ที่เคยเป็นเพลย์บอยตัวพ่อมาก่อน...แต่หลังจากที่มันคบกับผม มันก็ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่า ‘มันจะมีแค่ผมคนเดียว หยุดที่ผมคนเดียว’ และมันก็ทำได้จริง ๆ



                “กูก็ไม่ได้บอกสักคำนี่ ว่าจะหนีมึงไป” ผมตอบ เรียกรอยยิ้มจากไอ้นนท์ทันที มันเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผม ผมก็สบตากับมันนิ่ง...ไอ้เชี่ย ทำไมกูไม่หลบ



                “ถ้าไม่หลบ จะจูบนะ” เสียงเข้มทัก แต่ถึงผมไม่ยอมมันก็จูบอยู่ดีแหละ เพราะงั้นก็ยอม ๆ ไปเหอะ อ้าว...ไอ้เสาครับแบบนี้ก็ได้เหรอ ผมยกยิ้มแล้วทำในสิ่งที่ไอ้นนท์อึ้งไป เมื่อผมยกมือโอบรอบคอของมัน



                “ก็เอาสิ...”



                “ยั่ว..ต้องเจอจูบบดขยี้ของนนท์นะ” มันว่าแบบขี้เล่น พร้อมกับริมฝีปากที่โน้มลงมาจูบผมอย่างช้า ๆ





                “ไอ้สัดนนท์ กาม...” ผมด่าแค่นั้นก่อนที่ริมฝีปากของผมจะถูกปิดด้วยปากของไอ้นนท์ อย่างดูดดื่ม ปลายลิ้นร้อนกำลังเกี่ยวรัดลิ้นเล็กของผมที่สั่นระริก ไอ้นนท์แม่ง...จูบเก่งเกินไปแล้ว ไอ้เชี่ย ผมเริ่มจะเคลิ้มไปกับจูบรสหวาน (มันหวานจริง ๆ นะ) หัวสมองเริ่มคิดอะไรไม่ออกนอกจากมองแววตาคมตรงหน้าที่จ้องใบหน้าของผม ราวกับจะกลืนกินผมไปทั้งตัว เราสองคนผลัดกันจูบไปมา เสียงดังจุ๊บเป็นระยะ ก่อนเราจะเซล้มไปจบที่เตียงกันทั้งคู่....





                @17:00น



                “ไอ้สัดนนท์ตื่น...ตื่น!! อ๊ะ เฮ้..” ผมที่เปลี่ยนชุดแล้ว (พอดีไปอาบน้ำมาก็เลยได้เอาเสื้อไอ้นนท์ตัวใหญ่ ๆ มาใส่แทน ส่วนกางเกงก็ใส่ตัวเดิมของผม) ผมสะกิดไอ้นนท์ที่แม่งนอนหลับน้ำลายยืดอยู่ แถมจู่ ๆ มันก็ดึงผมเข้าไปในอ้อมกอดซะงั้น...เฮือก ร่างกายเปลือยเปล่าของมันทำให้ผมสะดุ้ง



                “กี่โมงแล้ว”



                “จะเย็นแล้วไอ้เชี่ย พ่อกับแม่นัดมึงไปที่บ้านใหญ่นะ!” ผมเตือนพลางดันตัวเองลุกขึ้น ไอ้นนท์ขยี้ผมของมันที่ยุ่ง ๆ มองผมยิ้ม ๆ มือของมันเอื้อมมาแตะริมฝีปากของผมอย่างขี้เล่น



                “เมื่อกี้สุด ๆ เลยว่ะ ชอบจัง” ไอ้เชี่ยยยยย...กูอยากจะถีบมันให้ตกเตียงไปเลย ผมปัดมือมันออก



                “พูดมากไอ้สัด ลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อไป” ผมดึงแขนมันให้ลุกขึ้น ตัวยังกะควายยังมีหน้ามาทำหน้าอ้อนผมอีก ไอ้นนท์ยอมลุกขึ้นนั่งและหยิบผ้าเช็ดตัวข้างเตียงมาพันรอบเอว ...ดีมากมึง กูไม่อยากจะเห็นอะไรที่มันน้อย ๆ ของมึง....(นั่นมันเรียกว่าน้อยเหรอไอ้เสา...มึงจะมาแซวตัวเองทำไมวะ)



                ไอ้นนท์เหลือบมามองผมแล้วยกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ มันนี่ขยันทำสายตาลวนลามผมชะมัด ไอ้หื่น!! ถึงจะด่ามันไปจริง ๆ เชื่อสิว่าไอ้นนท์มันต้องยิ้มรับแน่ ๆ ไอ้นี่มันโรคจิตของแท้เลยล่ะ



                “ปวดร่างกายมากไหม ขอโทษเมื่อกี้นนท์ไม่ได้ยั้งแรง...” มันเขยิบเข้ามาใกล้ผมที่เริ่มทำหน้าตึง มึงพูดมากูก็นึกตามสิวะ!! ผมยกกำปั้นใส่มัน มันก็เลยหัวเราะและวิ่งหนีเข้าไปอาบน้ำ



                “ไอ้ฟายนนท์!! ไปอาบน้ำเลยไป ก่อนที่กูจะกระทืบมึงเนี่ย”



                “โหดตลอดเลย เดี๋ยวจัดอีกรอบเลยนิ”



                “เอากำปั้นกูไปกินก่อนเหอะ ไอ้บ้าโรคจิต” ผมด่าไล่หลังไปตามเสียงหัวเราะอารมณ์ดีจนเหมือนคนบ้าของไอ้นนท์ ผมจับเอวของตัวเองที่ปวดตึบ ๆ อยู่ คาดว่าคืนนี้ก็คงจะเจ็บไม่หายแน่ ๆ แม่งใส่มาแบบไม่ยั้งจริง ๆ รุนแรงกับกูมากไอ้ฟายนนท์...แต่ผมก็ยอมมันซะงั้น.....





                |บ้านใหญ่|


                ตอนนี้ผมอยู่กลางโต๊ะอาหารแบบจีนที่เป็นวงกลม มีอาหารมากมายหลายอย่างน่ากินมาก ทั้ง ๆ ที่ผมเป็นคนชอบกินแท้ ๆ แต่กลับรู้สึกว่าอาหารตรงหน้าไม่ได้ทำให้ผมอยากกินขึ้นมา ก็เพราะผมกำลังโดนสายตาของ พ่อ แม่ และอาม่าของไอ้นนท์ที่มองผมตาปริบ ๆ ผมเกร็งมาก...ไอ้นนท์ก็พอจะรู้ว่าผมเกร็งมันก็เลยอยากจะสร้างบรรยากาศให้ดีกว่าเดิม



                “โห! อาหารน่ากินมาเลยนะครับ ฝีมือแม่ คิดถึงจัง...ดูสิเสา แม่นนท์ทำกระเพราะปลาอร่อยมากเลยนะ” ทุกคนก็ยังเงียบกริบในขณะที่ไอ้นนท์ทำท่าดี๊ด๊า...เออ กูว่ามึงไม่น่าจะพูดขึ้นมาเลย ฮ่า ๆ ในขณะที่ผมกำลังเกร็งอยู่ จู่ ๆ อาม่าที่นั่งอยู่ข้างผมก็คีบไก่มาให้ผม



                “อันนี้อร่อยนะ ลองทานได้อาหลานสะใภ้...” ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะชะงัก...เมื่อกี้อาม่าว่าอะไรนะครับ!!



                “อาม่าว่าอะไรนะครับ!” ไอ้นนท์แม่งตะโกนมาเลยล่ะครับ พ่อของนนท์เลยพูดขึ้นบ้างด้วยท่าทีสุขุม ต่างจากไอ้นนท์ที่กวนประสาทชิบ



                “นนท์เสียงดัง...”



                “อย่างที่อาม่าพูดนั่นแหละจ๊ะ...ก็นนท์บอกว่า เสาเป็นแฟนของลูกไม่ใช่เหรอ แม่ขอถามคำถามหนึ่งได้ไหม” แม่ของไอ้นนท์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนุ่ม ที่ทำให้ผมผ่อนคลายลงได้บ้าง...มือหนาของไอ้นนท์เลื่อนมากุมมือของผมไว้ใต้โต๊ะ ผมเหลือบมองมัน...ผมกับมันควรจะผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ด้วยกันใช่ไหมครับ



                “ได้สิครับ แม่ ถามนนท์มาได้เลย” มันทำท่ากระตือรือร้น ใจของผมตอนนี้มันเต้นเร็วมาก ตื่นเต้น แม่ของมันจะถามอะไรบ้าง



                “พวกแม่พอจะรู้เรื่องความรักสมัยนี้มันไม่ได้จำกัดเพศ แต่ลูกก็รู้ใช่ไหมว่า เมื่อรักแล้ว ก็กล้าที่จะยอมรับ ว่ารักของพวกลูกสองคนมันเปราะบางมาก...แต่บอกตรง ๆ นะจ๊ะว่า แม่ชอบหนูเสานะ รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่เจอหน้าเมื่อกี้แล้วล่ะ...” พอผมได้ยินก็หลุดยิ้มออกมานิด ๆ ก็เมื่อกี้แม่เขาบอกว่าชอบผมด้วย...



                “ขอบคุณครับ...” ผมตอบ



                “แม่พอจะรู้นิสัยลูกชายของแม่ว่าเพลย์บอยเจ้าชู้เปลี่ยนแฟนบ่อยแค่ไหน...” เชรด แม่พูดตรงมาก ใช่ครับ ไอ้เชี่ยนี่! มันเจ้าชู้



                “โหย แม่ นั่นมันอดีตไปแล้ว” ไอ้นนท์แอบโวยวายแล้วมองหน้าผมตาปริบ ๆ ไอ้สัดอย่ามาทำหน้าทำตากลางโต๊ะอาหารแบบนี้โว้ย



                “ก็รู้ไงจ๊ะว่าอดีต แม่ถึงดีใจไง...ที่นนท์คบอยู่กับหนูเสา เพราะแม่มองแล้ว ไอ้นนท์มันมีแววกลัวเมียแน่นอน โฮะ ๆ” พอถึงประโยคนี้เท่านั้นแหละครับ อาการเกร็งของผมก็หายไปหมด...ผมว่าผมพอจะรู้แล้วว่าไอ้นนท์มันได้นิสัยกวนประสาทเล็กน้อย และอารมณ์ดีไม่มีขีดจำกัดมาจากใคร



                “คุณลูก ๆ เขาจะกลัวคุณหมดแล้ว” พ่อของนนท์ขัดขึ้นทำให้ผมเกือบหลุดขำ แต่ไอ้นนท์มันขำเรียบร้อย ไอ้เส้นตื้นนนน....



                “จริงครับพ่อ นนท์เริ่มกลัว...ตกลงครอบครัวเรายอมรับที่ผมกับเสาคบกันแล้วใช่ไหมครับ?” ถามตรงไปก็โดนตอบตรงกลับมา



                “ใช่จ๊ะ พวกเรายอมรับ อ้อ อีกคำถามที่แม่อยากถามคือ....” แม่หันมามองผม “แม่มีลูกชายคนเดียว แม่รักตานนท์มาก...แม่เลยอยากจะถามตรง ๆ ว่า เสารักลูกชายแม่ไหม....” ผมตาโตกับคำถาม เชี่ยแล้วไงล่ะ...เจอคำถามนี้ไปผมถึงกับนิ่ง...ไอ้นนท์เห็นผมทำหน้านิ่งไปมันก็เลยรีบเบรกแม่ของมัน



                “เออ แม่ครับ ผมดีใจนะที่แม่ยอมรับเรื่องของพวกผม แต่เราทานข้าวกันดีไหม...” ผมเหลือบมองไอ้นนท์ที่กลัวว่าผมจะไม่ชอบใจ เพราะปกติเวลาที่มันถามผม ผมก็จะเลี่ยงตลอด ก็ผมพูดไม่ค่อยออกไง มันก็เขินแหละครับ คนอย่างผมมันก็นิสัยแบบนี้นี่แหละ



                แต่ถ้าถึงเวลาที่จำเป็นจริง ๆ เราก็ต้องพูดใช่ไหมล่ะ...ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ



                “ครับ ผมรักเขา” ผมตอบออกไป ทำให้ไอ้นนท์มันเบิกตากว้างมาก...และอ้าปากเหวอไปเลย ฮ่า ๆ ...เออว่ะ ผมก็พูดออกไปได้นี่นา...แม่กับพ่อและอาม่าก็ยิ้มรับเหมือนกับว่าพวกท่านต้องการคำตอบนี้จากผม เพื่อยืนยันว่า ลูกชายของพวกเขาจะไม่ถูกทิ้งไว้กลางทาง ฮ่า ๆ



                “ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวตระกูลร้านทองของเรานะจ๊ะ หนูเสา”



                “อาม่าก็ยินดีต้อนรับ” อาม่าพูดบ้าง ผมก็เลยยิ้มเหลือบมองไอ้นนท์ที่ค้างไปเรียบร้อย มันยิ้มออกมานิด ๆ แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันเป็นยิ้มที่มีความสุขมาก ทำไมผมถึงรู้สึกชอบรอยยิ้มของมันแบบนี้จังเลยนะ





                ผมกับครอบครัวของไอ้นนท์นั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาเต็มไปด้วยสีหัวเราะ บอกเลยครับว่าครอบครัวของมันอบอุ่นมาก มิน่า...ไอ้นนท์มันถึงเป็นผู้ชายที่อบอุ่นแบบนี้ หลังจากที่กินเสร็จแล้ว ผมก็เลยไปช่วยแม่ของไอ้นนท์ล้างจานครับ ส่วนไอ้นนท์หายไปคุยกับพ่อของมันตามประสาลูกชายที่นาน ๆ กลับมาบ้านทีแหละครับ



                “รู้ไหมว่า แม่ตกใจนะตอนแรก...” ระหว่างที่ล้างจาน แม่ของนนท์ก็พูดขึ้น “ไม่คิดว่านนท์จะหาผู้ชายหน้าสวยแบบนี้ได้ โฮะ ๆ” เริ่มสงสัยว่าแม่อยู่ลัทธิวายรึเปล่าครับเนี่ย...



                “ผมต้องหล่อสิครับ เป็นรองเดือนมหาลัยเชียวนะครับเนี่ย” ผมว่ายิ้ม ๆ



                “แม่ฝากนนท์ด้วยนะ แม่ไม่เคยเห็นเขายิ้มกว้าง ๆ แบบนี้มานานแล้ว เพราะนนท์ค่อนข้างที่จะเป็นคนเก็บตัว ชอบอยู่คนเดียว แต่ก็ออกไปเที่ยวเล่นตามประสาเขาเหมือนสนองสิ่งที่ขาดหายไป เพราะเขาเป็นลูกคนเดียว แม่เลยรู้ว่า ลึก ๆ นนท์เป็นคนขี้เหงา...” ผมคิดตาม ก็จริงครับ...ไอ้นนท์มันชอบอยู่คนเดียวเงียบ ๆ แถมยังชอบทำอะไรเหมือนคนขี้เหงาอีก...เหอะ ๆ ไอ้ขี้เหงาเอ๊ย



                “นินทาอะไรนนท์กันอยู่ครับ?” ผมหันไปมองร่างสูงที่ยืนพิงประตูมองผมยิ้ม ๆ มันมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?



                “ไม่ได้นินทาอะไรซะหน่อย เนอะ เสาไปพักเถอะจ๊ะ คืนนี้ตามสบายกันเลยนะ นนท์ดูแลเสาดี ๆ ด้วย” แม่ของนนท์สั่งให้ผมวางมือ ผมก็เลยล้างมือให้เรียบร้อย



                “นนท์ดูแลเสาดีอยู่แล้วล่ะ” ไอ้นนท์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม...เออ ๆ กูรู้แล้วว่ามึงดูแลดี เปย์ของกินให้กูไม่ยั้งจนจะอ้วนอยู่แล้วเนี่ย...





                ผมกับไอ้นนท์เดินกลับมาที่บ้านของมันตามทางเดิน แสงจันทร์สาดส่องมาทำให้ดูสว่างไสวทั้งที่มันมืด ผมเหลือบมองร่างสูงที่กุมมือของผมไว้แล้วไม่ได้พูดอะไรเลย มันเอาแต่อมยิ้ม...มึงเงียบกูทำตัวไม่ถูกชะมัด จะด่า...ก็ด่าไม่ได้ (นี่ก็จ้องจะด่าคนอื่นตลอด)



                “เมื่อไหร่จะเลิกยิ้มวะ” ผมที่ทนความเงียบไม่ไหวก็เปิดปากพูดออก ไอ้นนท์หันมามองผมและ...ยิ้ม อ้าวไอ้ฟายยย...กูทำตัวไม่ถูกเว้ย



                “หุบไม่ได้” มันตอบ ผมเลยเลิกคิ้วก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นนท์หุบยิ้มไม่ได้”



                “ฮ่า ๆ อะไรของมึงไอ้นนท์ มึงดีใจอะไรขนาดนั้นวะ...” ผมชะงักเมื่อเราเดินมาถึงหน้าบ้านไอ้นนท์ก็หมุนตัวมาหาผมเลย ผมที่เดินตามมาติด ๆ ก็หยุดกึก



                “ไม่หัวใจวายกลางวงข้าวก็ดีแค่ไหนแล้ว...ดีใจสิ รู้ไหมว่า...เสาทำให้นนท์รู้ว่า ความรักแม่ง...ไม่มีขีดจำกัด...เพราะนนท์รู้สึกว่านนท์รัก รักเสามากกกกกก...” ผมเอามือปิดปากของมันที่เริ่มพูดเสียงดัง เชี่ย อยู่ใกล้แค่นี้ตะโกนทำไมก็ไม่รู้



                “เวอร์ไอ้สัด พอแล้ว อย่าแหกปาก...” ผมบอกและปล่อยมือออกจากมัน ก่อนจะหน้าร้อนวูบ



                “ถ้าอยากให้หยุดพูด จูบปิดปากนนท์เลยเป็นไง” มันพูดขี้เล่น แต่ผมก็กระตุกยิ้ม...หึ ไอ้นนท์เอ๊ยไอ้นนท์ เจอกูหน่อยเป็นไง ผมเขย่งปลายเท้านิด ๆ พร้อมกับทำสิ่งที่ไอ้นนท์เกือบช็อคตายหน้าประตูบ้าน



                จุ๊บ... ริมฝีปากบางของผมจุ๊บปากของมันเบา ๆ



                “หยุดพูดสัด” ผมบอกแค่นั้นและวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน ไอ้เชี่ยยยยยยเสาครับ ทำอะไรลงไปวะเนี่ย...ไอ้นนท์มันวิ่งตามผมมาติด ๆ ผมกระโดดขึ้นเตียงกอดหมอนข้างไว้



                “เสาจ๋า...เอาอีก” เอาอีกอะไรของมันนนนน



                “เข้ามาอีกกูเตะมึงนะไอ้เชี่ยนนท์!!” ผมยกเท้าแต่ก็ต้องยกลงเพราะ...เจ็บช่วงล่างมาก ไอ้นนท์ขึ้นมานั่งบนเตียงตรงข้ามผมที่ถอยหลังไปชนขอบเตียงของมัน



                “อยากจูบอีก อยากได้จูบของเสาอีก” มันเรียกร้องเหมือนเด็กอนุบาล กูไม่ให้จูบโว้ย...



                “ไม่!!” ผมเขยิบหนีร่างสูงที่เขยิบเข้ามาหาผมเรื่อย ๆ “อย่านะเว้ยไอ้สัดนนท์ เมื่อกี้เราก็ทำกันไปแล้ว” ผมบอกตรง ๆ คือ...มันปวดไปหมดแล้วอ่า อีกรอบคงไม่ไหว ก่อนผมจะได้ยินเสียงหัวเราะพอใจของไอ้นนท์...เออ หัวเราะเข้าไปหัวเราะเข้าไป!



                “นนท์ไม่ทำแล้ว รู้ว่าเสาไม่ไหว...แม้ใจจริงจะอยากทำก็เถอะ” มันนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้าผม ผมก็เลยมองมันอย่างระแวง “ไม่ทำหรอกน่า เขยิบมาให้นนท์กอดหน่อย เสาเรามาเล่นเกมกันมะ ก่อนนอน”



                เกมเชี่ยไรของมัน...



                “เกมไร?”



                “เขยิบมานั่งใกล้นนท์ก่อนเร็ว วางหมอนข้างทิ้งด้วย มันฟาดนนท์ก็ไม่เจ็บหรอก” มันว่า ผมเลยโยนหมอนข้างไว้และเขยิบไปนั่งขัดสมาธิตรงหน้าไอ้นนท์



                “วุ่นวายจริงมึงเนี่ย ตกลงจะเล่นเกม..ไร” ผมมองมันที่ทำมือเตรียมจะเป่ายิงชุบ ผมเลยกระตุกยิ้ม วะฮ่า! ใครแพ้โดนทำโทษแน่ ๆ เกมนี้



                “กล้าเล่นไหม” มันกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ ยิ้มแบบนี้ทำไมวะ.. ผมยักไหล่ไม่ยอมแพ้ เพราะผมมันเซียนเป่ายิงชุบอยู่แล้ว! เป่าทีไรชนะ!



                “กล้า! มาเลย กูจะดีดหูมึงไอ้นนท์” ผมว่าเตรียมเป่ายิงชุบ พวกผมนับหนึ่งถึงสามก่อนจะลงสิ่งที่ตัวเองเลือก ปรากฏว่าผมชนะ!!       



                “วะฮ่า! เอาหูมาเลย เอาหูมาเลย” ผมดีใจ ไอ้นนท์ก็ยิ้มและเอียงหูมาให้ผม ผมดีดมันก็ร้องโอ๊ย ฮ่า ๆ สะใจจริง ๆ



                ครั้งที่ 2 ผมก็ชนะ! ดีดหน้าผากมันไปซะเลย โฮะ ๆ



                ครั้งที่ 3 ผมก็ยังครองแชมป์ บอกแล้วว่าเรื่องเป่ายิงชุบเสาไม่พลาด...



                แต่พอครั้งที่ 4 ...ไอ้เชี่ยยยย ผมเป่าแพ้ ผมมองหน้ามันที่ยิ้มกรุ่มกริ่ม...ผมโดดมันดีดหูกลับแรง ๆ แน่เลย เมื่อกี้ผมดีดมันไปซะแล้ว หูมันแดงเลยอ่ะ



                “เสาแพ้” มันย้ำ เออ..กูรู้แล้วเว้ย จะแก้แค้นก็จัดมา! ผมเอียงหูไปให้มัน



                “เออ รู้แล้วจะดีดก็....เหี้ยนนท์” ผมสะดุ้งเมื่อมันจับท้ายทอยของผมและประกบริมฝีปากหนาของมันลงแน่นกับริมฝีปากอ่อนนุ่มของผมกำลังถูกมันบดขยี้ แรงจูบทำให้ผมแทบสติหาย จูบหนัก ๆ จากมัน ทำให้ผมเริ่มเบลอ...เชี่ยนนท์มันเอาคืนแบบนี้เลยเหรอ...หูกูร้อนไปหมดแล้ว



                “จ๊วบ” มันถอนจูบออกเหมือนเต็มอิ่มมากกับการจูบผมเมื่อกี้ ผมรู้สึกว่าปากของผมมันฉ่ำ ๆ ยังไงก็ไม่รู้



                “ไอ้เชี่ย” ผมด่าแค่นั้น หมดคำจะด่า...เปล่าหรอก ผมเขิน (ก็จู่ ๆ โดนจูบนะเว้ย ก็เหวอ ๆ บ้างแหละ!...ไม่มีใครว่าอะไรมึงนะครับไอ้เสา)



                “หึ...มาเป่าอีกมา” ไอ้นนท์ว่า ผมก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนเป่าอีกรอบ หมายจะดีดหูไอ้นนท์แรง ๆ แต่ผลที่ได้คือ...ผมแพ้อีกแล้ว!!!! ไรวะ! คราวนี้ผมโดนหอมแก้มซ้าย เป่าอีกรอบผมก็แพ้!! ก็โดนมันหอมแก้มขวา



                เฮ้ย....ไรวะ!! ทำไมผมเป่าแพ้หมดเลย...



                “ไอ้นนท์มึงโกงกูใช่ไหม” เริ่มหาเรื่องเนื่องจากตัวเองแพ้บ่อย...นนท์เลิกคิ้วมองคนแพ้ขี้วีนซะแล้ว



                “นนท์ไปโกงเสาตอนไหน หืม?” ผมมองหน้ามันพร้อมกับหายใจฟึดฟัดเล็กน้อย



                “มาเป่าอีกรอบ!” ผมบอกอย่างไม่ยอมแพ้ ครั้งนี้ผมต้องเป็นเดอะวินเนอร์! ผมเป่า! และ...ผมก็แพ้!!



                ไอ้นนท์มันหัวเราะเบา ๆ ไม่เล่นแล้วโว้ย....มือหนาเลื่อนมาจับไหล่ของผมสองข้างไว้ เชี่ย...มันจะทำอะไรอีกวะคราวนี้ ผมเปลืองตัวมากกับเกมนี้ ผมหลับตาปี๋ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไร



                จนผมรู้สึกถึงริมฝีปากหนาที่ประทับลงตรงหน้าผากของผมเบา ๆ...ผมลืมตาอึ้ง กับประโยคที่ถูกเอ่ยออกมาด้วยอย่างจริงใจ



                “นนท์รักเสานะ รู้ว่าพูดบ่อย...แต่ก็อยากบอกให้เสาได้รู้ไว้ชัด ๆ ว่านนท์มีแค่เสาคนเดียวเท่านั้น...”



                ใจของผมมันไม่เคยที่จะเต้นเร็วขนาดนี้...คนที่ทำให้มันเต้นได้ขนาดนี้ ก็มีแค่ไอ้บ้าที่จูบหน้าผากผมอยู่นี่แหละ...  ไอ้สัดนนท์โรคจิตที่มันได้ใจของผมไปซะแล้ว



                ผมโน้มตัวไปซบกับอกกว้างตรงหน้า ไอ้นนท์ทำหน้าแปลกใจและแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มเมื่อผมเองก็พูดขึ้นบ้าง



                “เออ กูก็คิดเหมือนกันกับมึงนั่นแหละ....”



                “คิดอะไรเหมือนกันกับนนท์เหรอ” ไอ้เชี่ย..มันเล่นผมแล้ว มันก้มหน้าลงมาใกล้ผมที่ซบอยู่กับแผงอกของมัน...ถามทำไมวะ ไม่ตอบเว้ย



                “ก็คิดเองดิ”



                “ไม่เอาอ่ะ นนท์โง่” ...คนอะไรด่าตัวเองก็เป็น “บอกหน่อยสิ” มันขอ อย่าคิดว่าผมจะสนใจซะให้ยาก!!...ผมเอามือมาปิดหน้าของตัวเอง โว้ย! ทำไมวันนี้ผมต้องมาพูดอะไรที่มันหน้าอายหลายรอบด้วย  เสาสุดหล่อก็เขินเป็นนะ (ไอ้เสาครับ หล่อตรงไหนกันครับ)



                “กูก็รักมึงเหมือนกันไง ไอ้เชี่ยนนท์...” ผมตอบกลับเสียงแผ่ว แต่ผมเชื่อว่าไอ้นนท์มันได้ยินชัดเจน...เหมือนกับหัวใจของมันที่เต้นดังจนผมได้ยินชัดเจน...





                ...ความรักพิเศษดีนะครับ ทำให้ใจของคนเราเต้นแรงได้ด้วยล่ะ...













...................++++++++++++++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^

เพราะความรักคือสิ่งที่ทำให้โลกสดใสขึ้น มารักกันเยอะ ๆ นะคะ >______<   นนท์กับเสาเขาชวนทุกคนมารักกันค่ะ  >//<
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 29| (13/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 13-05-2017 18:38:35
Happy ไปอีกคู่
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 29| (13/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-05-2017 19:21:12
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 29| (13/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-05-2017 01:11:31
โอ๊ย ... หวานอ่ะ หวานจนอิจฉาเลยคู่ เสา - นนท์
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 30| (14/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 14-05-2017 16:55:27
ตอนที่ 30





                 [พาร์ตของหมู]




                ช่วงสอบปลายภาค...เป็นอะไรที่หนักมาก ผมแทบจะกินหนังสือเข้าไปอยู่แล้ว ระหว่างที่อยู่ในช่วงพักเบรกจากการลงแล็ปปฏิบัติ ผมนั่งนับนิ้วตัวเองจนเพื่อนที่อยู่กลุ่มด้วยกันแซวขึ้น



                “เราไม่สอบคำนวณนี่หว่า นับนิ้วหาเมียเหรอครับ ไอ้เดือนมหาลัย”



                “เออ ทบทวนแล็ปของมึงไปเลยไป” ผมไล่พวกมันที่หัวเราะแซว ผมไม่ได้เจอพี่ศิลามา 1 2 3 4 5 6 เฮือก...  พรุ่งนี้ก็วันที่ 7 ครบหนึ่งสัปดาห์เต็ม โฮก...ผมไม่ได้ไปรับพี่เขา แถมยังไม่ค่อยได้คุยโทรศัพท์กันด้วย เพราะผมก็ยุ่งอยู่กับการอ่านหนังสือ ส่วนพี่ศิลาเองก็มีสอบเหมือนกัน ต่างคนก็ต่างยุ่ง สรุปก็ไม่ได้คุยกันเลย...ผมก็เลยไม่กล้าโทรไปกวนสักเท่าไหร่   แต่จริง ๆ อยากโทรใจจะขาด...เฮ้อ ผมนั่งดื่มน้ำขวดเพื่อรอไปสอบแล็ปอีกรอบ ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมผมไม่เอาชีทมาทบทวน พอดีผมอ่านมาแล้วล่ะครับก็เลยไม่ชอบมาอ่านซ้ำ เดี๋ยวมันจะลืมและสับสน



                อ้อ...จริงสิ เมื่อสองวันก่อน ผมบังเอิญไปเจอชมพู่ แต่จะว่าบังเอิญก็คงไม่ใช่หรอกครับ เพราะผมว่าจะไปดักเจอเธอเองแหละ เพราะผมรู้สึกว่าเธอจะมายุ่งกับพี่ศิลา (คือจริง ๆ แม่ของผมก็แอบบอกมาครับว่า ชมพู่ไปบอกแม่ผม ว่าผมไปตามตื้อพี่ศิลายังงั้นอย่างงี้...ยุแยงนั่นเอง ก็อย่างที่บอกแม่คิดว่าผมไปตื้อพี่ศิลาจนน่ารำคาญ เลยอยากช่วยผมตัดใจจากพี่ศิลา) เหอะ...แต่จะบอกเลยว่าเธอยุไปก็ไม่ได้ผลหรอก ไอ้หมูไม่มีวันปล่อยพี่ศิลาไปเด็ดขาด!



                ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลางสังหรณ์ของผมแม่นรึเปล่า ผมดันไปเจอเธอเดินมากับหนุ่มหล่อไฮโซคณะเธอเข้าซะได้ ชมพู่เห็นผมดูจะตกใจมากที่เห็นผมมาเจอเธอกับผู้ชายคนอื่น...หึ เห็นไหมครับว่า เธอไม่ได้ชอบผมมากมาย ก็คงจะอยากได้ผมก็เพราะอยากเอาชนะ อะไรทำนองนั้น ผมก็เลยจัดการขู่เธอไปเรียบร้อยว่า อย่ามายุ่งกับพี่ศิลาและผมอีกเป็นอันขาด ไม่งั้นผมจะเอาเรื่องนี้ไปบอกแม่ของเธอ ซึ่งชมพู่ก็กลัวมาก...ผมรู้ครับว่าเธอไม่ค่อยลงรอยกับคุณแม่ของเธอเท่าไหร่ คือแบบว่า...แม่ของเธอไม่รู้ว่าเธอเป็นคนแบบนี้ จริง ๆ เธอก็เป็นคนดีแหละครับ แต่สภาพแวดล้อมที่เธอเจอก็เลยทำให้กลายเป็นคนแบบนี้ไปซะได้ สรุปแล้วชมพู่ก็จะไม่มายุ่งวุ่นวายกับผมอีก เพราะเธอเจอเป้าหมายใหม่ที่ดูจะถูกอกถูกใจของเธอเข้าซะแล้ว คนหล่ออย่างผมก็เลยโดนเธอเขี่ยทิ้งเรียบร้อย ฮ่า ๆ ....



                ผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่ศิลาเลยครับเพราะว่าไม่ได้เจอกันเลย อยากเจอจังเลยน๊า...กว่าผมจะสอบเสร็จก็อีก 2-3 วันนู่น ระหว่างที่ผมกำลังดื่มน้ำแก้ร้อนอยู่ โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของผมก็สั่น   ผมหยิบขึ้นมาดูก่อนจะแทบลุกเต้นบนโต๊ะ (เวอร์ไปแล้วครับไอ้หมู) ก็จะไม่ให้ผมเวอร์ได้ยังไง!! ในเมื่อเบอร์ที่โทรมาหาผมคือเบอร์พี่ศิลา ผมไม่รีรอกดรับอย่างรวดเร็ว...



                “พี่ศิลา...”



                (“กูโทรมากวนรึเปล่า?”) อือหื้อ...เสียงของพี่ศิลาฟังนุ่มละมุนใจของหมูมากกกกก



                (“เชี่ยหมู?...”) เสียงหวานดังอีกรอบ ผมเลยรีบตอบ



                “อ้อ ว่างครับว่าง ผมเพิ่งพักเบรกพอดี” ปลายสายหัวเราะกลับมาเล็กน้อย...ผมอยากเจอพี่ศิลาชะมัด อยากกอดอยากหอมแก้ม!...ใจเย็นนะไอ้หมูใจเย็น



                (“กูว่าจะโทรมาถามว่า มึงว่างไหมวันนี้ตอนเย็น...พวกไอ้เสากับไอ้นนท์ชวนมึงไปกินฮันนี่โทสต์ด้วย”)



                “วันเกิดพี่เสาหรือพี่นนท์ครับ?” ผมถามเพราะคิดว่าเป็นวันเกิดของใคร ก็มาชวนผมไปด้วยเนี่ย แต่คำตอบที่ผมได้รับทำให้ผมแทบจะทำโทรศัพท์หลุดมือ



                (“เปล่า พอดีมันเป็นกฎของกลุ่มกูว่า ใครมีแฟน ต้องพาไปแนะนำกับเพื่อนจริง ๆ จัง ๆ พวกมันก็เลยให้กูมาชวนมึง...”) คำว่าแฟนของพี่ศิลา มันกระแทกใจผมดังปัง...ได้กำลังใจในการสอบแล้วโว้ยไอ้หมู



                (“สรุปมึงว่างไหม กูจะได้บอกพวกมัน”)



                “ว่างครับ!” ผมตอบทันทีแบบไม่ต้องคิด ทั้ง ๆ ที่พรุ่งนี้มีสอบอีกแต่โชคดีที่ผมอ่านไว้ล่วงหน้า โฮะ ๆ ดีที่เมื่อวานตั้งหน้าตั้งตาอ่านแบบจริงจัง



                (“แน่ใจนะ ถ้ามึงสอบอยู่ก็ไม่เป็นไร...”)



                “ผมว่างชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นครับ อยากเจอพี่ศิลามากกกก...” ผมเข้าโหมดอ้อนแม้จะรู้ว่าพี่ศิลาก็คงจะไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่ แต่ผมก็ฟินที่พี่เขานิสัยแบบนี้แหละ พี่ศิลาที่ชอบทำหน้าน่ารักแบบไม่รู้ตัว หึหึ



                (“เวอร์จริงมึงนิ ก็ห่างไม่กี่วันเอง”) เสียงหวานตอบกลับมา ผมที่เอาแต่ยิ้มก็โดนพวกเพื่อนชั้นเรียนเดียวกันมองแปลก ๆ คงจะพากันนินทาว่าผมบ้าแหง ๆ



                “ไม่กี่วันอะไรครับ 5 วันแล้ว” ผมแกล้งพูดวันผิดจริง ๆ ต้อง 6 วันต่างหาก เสียงที่ตอบกลับมาทำให้ผมยิ้มกว้างเข้าไปอีก



                (“ 6 วันต่างหากไอ้เชี่ย เรียนจนสมองเบลอเหรอ..”) เชรด...พี่ศิลาก็นับวันเหมือนผม ดูเหมือนปลายสายจะชะงักไปเหมือนกันเหมือนรู้ว่าตัวเองก็เผลอพูด โอ๊ย พี่ศิลาของหมูน่ารักชะมัดดดดด....



                “พี่ศิลา”



                (“อะไร”)



                “ขอกำลังใจในการสอบหน่อยสิ” ผมลองอ้อน...



                (“จะเอาเชี่ยอะไรล่ะ ไม่มีหรอก”)



                “............” ผมลองเงียบ คุมเชิงนิดหนึ่ง และผมก็ต้องปิดปากยิ้มกับคำพูดเสียงหวานมากสำหรับผม ผมนี่จินตนาการหน้าของพี่ศิลาออกเลยอ่ะว่าต้องแดงระเรื่อแน่นอน



                (“คิดถึงนะ ไว้เจอกันตอนเย็นละกัน”) อือหื้ออออ....คำว่าคิดถึงนะ ของพี่ศิลาดาเมจแรงมาก  ใจหมูจะพังแล้ว ทำงานหนักมาก



                (“กูจะวางละ...”) พี่ศิลาทิ้งระเบิดใส่ใจผมเตรียมจะหนีเรียบร้อย



                “วางสายได้ แต่ห้ามวางใจของหมูทิ้งนะครับ...” ผมหยอดอย่างขี้เล่น



                (“เชี่ยยยย มุขไม่ได้ไปเรียนมาใหม่”) พี่ศิลาด่าพร้อมกับตัดสายไปด้วยความรวดเร็ว ทิ้งให้ผมมองโทรศัพท์แล้วหัวเราะคนเดียว...ยิ้มคนเดียวแบบหุบไม่ได้ จนไอ้สปริงเกอร์ ไอ้ฟิวส์ ไอ้นิว ไอ้จิ๋ว เดอะแก๊งค์ของผมที่นั่งท่องชีทกันอยู่มองมาที่ผมงง ๆ



                “กูว่าไอ้หมูแม่ง ท่าจะบ้าไปแล้ว นี่แค่ปี 1 นะ ถ้าปีต่อไปจะขนาดไหนวะ” พวกมันนินทาผมแบบโจ่งแจ้งให้ผมได้ยิน แต่ผมก็หุบยิ้มไม่ได้สักทีครับ คำว่าคิดถึงของพี่ศิลามันคาใจของผมอยู่ โอ๊ย กำลังใจในการสอบมาเต็ม สอบรอบนี้เอาคะแนนให้มันเต็มไปเลยนะครับไอ้หมู!! สู้ฮึบบบ...







                [พาร์ตของศิลา]



                ผมวางสายไปด้วยใบหน้าที่เริ่มร้อน เมื่อกี้กูพูดอะไรออกไปวะเนี่ยยยย.. ไอ้เสาที่นั่งตรงข้ามผม  ไม่ปล่อยโอกาสที่จะล้อผมให้ผ่านไป



                “คิดถึงนะ ไว้เจอกันตอนเย็นละกัน โอ๊ยยย...ดาเมจมึงรุนแรงชิบไอ้ศิลา ถามจริงน้องหมูมันยังมีชีวิตอยู่ไหมหลังจากที่ฟังคำนี้ของมึง ฮ่า ๆ” นั่นไงครับ ล้อเหมือนเดิมยังไงมันก็ล้อ มันนั่งดูดชานมเจ้าเดิมของมันไป



                “ไอ้สัดเสา เงียบไปเลย ก็มันขอกำลังใจไง...” ไอ้เสาหัวเราะผมและหันไปคุยกับไอ้นนท์ที่นั่งจดโน้ตข้อสอบอยู่    ผมไม่ได้เจอไอ้หมูมา 6 วันเต็ม โทรไปหามันเมื่อกี้บอกเลยว่า ใจเต้นแรงมาก (แถมยังทำใจอยู่นานกว่าจะโทรได้)...ถามว่าผมคิดถึงมันไหม เอาตรง ๆ เลยก็...คิดถึงนั่นแหละ เนื่องจากกฎของกลุ่มที่ว่าใครมีแฟนต้องพามาแนะนำเพื่อน (ไม่รู้ไอ้ตัวไหนมันตั้งกฎนี้ขึ้นมา) พวกผมก็เลยนัดกันจะไปกินฮันนี่โทสต์ ไอ้ของกินอันนี้ไม่ต้องถามนะครับว่าใครเป็นคนเสนอ มีอยู่คนเดียวแหละที่ชอบกินของกินประมาณนี้ ไอ้เสานั่นเองแหละ พวกผมเองก็ใกล้สอบเสร็จแล้วล่ะครับ เหลือแค่อีกหนึ่งวิชาเอง สอบที่ผ่านมาบอกเลยว่าโล่ง...สมองโล่งมาก ฮ่า ๆ  นี่พวกผมก็นั่งรอสอบภาคบ่ายอยู่นี่แหละ ผมเอาหนังสือมาอ่านผ่านตาอีกรอบเพื่อทบทวนความจำก่อนจะพร้อมสอบมาก!



                เวลา 16:30 น.



                พวกผมนั่งอยู่หน้าอาคารด้วยความเพลียกับข้อสอบร้อยกว่าข้อ ที่มานั่งอยู่นี่ก็เพราะรอไอ้หมูนั่นแหละ มันไลน์มาบอกผมว่าจะมารับผม ไอ้เสากับไอ้นนท์ก็เลยนั่งรออยู่ด้วยกัน เดี๋ยวจะได้ไปร้านคอฟฟี่พร้อมกันเลย



                “ไอ้เชี่ย กูว่าแล้ว! ข้อนี้กูว่าจะตอบอันนี้....” ไอ้เสาโวยขึ้นและชี้ข้อหนึ่งในหนังสือให้ผมดู “แม่ง...ข้อนี้กูกาแล้ว แต่ลบออก ม่ายยยยย....” เออ ๆ เหมือนยิ่งเปิดจะยิ่งผิด มึงก็ไม่ต้องเปิดจะดีกว่าไหม ไอ้นนท์ที่นั่งอยู่ข้างไอ้เสาก็เหลือบมองแฟนของมันยิ้ม ๆ



                “ยิ้มเหี้ยไรไอ้นนท์” ก๊าก...ไอ้นนท์โดนไอ้เสาโวยอีกแล้ว



                “มองหน้าเมียแล้วยิ้มนี่ผิด?” และมันก็ขยันกวนไอ้เสาเสมอ ผมเลยหัวเราะพวกมันสองคนที่เถียงกันทุกวัน (เถียงแบบน่ารักตามสไตล์ไอ้เสา) นี่กำลังคิดว่า...ความเถื่อนของวิศวะที่พวกเรามีหายไปไหนหมดวะ....มึงเคยเถื่อนเหรอครับไอ้ศิลา



                “ไอ้สัดนนท์!...” ระหว่างที่พวกนี้กำลังเถียงกันมุ้งมิ้งอยู่ เสียงฝีเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งของร่างสูงออร่าความหล่อยังจับอยู่เหมือนเดิม ยิ้มกว้างมาแต่ไกล...ไอ้หมูกรอบ ทำไมชอบวิ่งมาตลอดเลยวะ ทั้งที่เดินมาก็ได้....



                “แฮ่ก...รอนานไหมครับ อาจารย์เพิ่งปล่อย...” มันหายใจหอบตรงหน้าผม



                “ก็ไม่ จริง ๆ ไม่เห็นต้องวิ่งมาเลยนี่” ผมว่าก่อนจะได้รับคำตอบที่เรียกเสียงแซวจากเพื่อนของผม



                “ก็ผมอยากเจอพี่ศิลาเร็ว ๆ นี่....”



                “ฮิ้ววว...ก็น้องมันอยากเจอก็ต้องวิ่งมาเร็วสิวะ ฮ่า ๆ ไปกินฮันนี่โทสต์กันเถอะ พวกมึงขับตามพวกกูมาก็แล้วกัน” ไอ้เสาแซวปั๊ปก็ลากแขนไอ้นนท์ไปที่รถของมัน ส่วนผมก็ไปกับไอ้หมูครับ





                ระหว่างที่อยู่บนรถ



                ผมมองออกไปข้างทางในขณะที่ไอ้หมูมันก็ขับตามรถของไอ้นนท์ที่อยู่ข้างหน้า ผมเหลือบมองมันที่เหมือนอยากจะพูดกับผม แต่ก็ไม่พูด...ผมก็เลยพูดขึ้นก่อนมันซะเลย



                “มึงใกล้สอบเสร็จยังล่ะ” หมูยิ้มออกมาเล็กน้อย...แต่มันออกแนวดีใจมากกว่า



                “ก็เหลืออีก 3 วิชาครับ” โห...ตั้ง 3 วิชา “พี่ศิลาล่ะครับ สอบเสร็จหมดรึยัง?” มันถามกลับบ้าง



                “อือ ก็เหลืออีก 1 วิชา กับงานอีก 1 ชิ้น”  ผมเหลือบมองไอ้หมูที่อยู่ในชุดนักศึกษาแบบเต็มยศ ใบหน้าคมมีความเพลียเล็กน้อย บ่งบอกว่ามันก็ค่อนข้างอ่านหนังสือหนักเหมือนกัน...ผมจ้องหน้ามันเพลินไปหน่อยจนเจ้าตัวหันมาหาผมแวบหนึ่ง และกระตุกยิ้มมุมปาก



                “พี่ศิลา อย่าจ้องนาน ผมจะทนไม่ไหวซะก่อน” คำว่า ทนไม่ไหวของมัน ทำให้ผมละสายตาจากไอ้หมูทันที



                “ทนไม่ไหวอะไรของมึงไอ้เชี่ยหมู” ผมด่าตามสไตล์ของผมแต่หน้ามันกลับร้อนแบบแปลก ๆ ได้ยินเสียงของมันแบบนี้ทำไมผมรู้สึกดีใจจังวะ...บ้าบอจริง ไอ้หมูก็หัวเราะเล็กน้อยพร้อมกับอมยิ้ม...





                @ร้านเลิฟคอฟฟี่



                พวกผมขับมาจนถึงร้านน่ารัก ๆ ที่ไอ้เสามันคุยโม้มากว่าอร่อยสุด ๆ ทุกเมนู (นี่กำลังงงว่า ไอ้เสามันไปกินทุกเมนูมาจริงไหม..แต่ผมว่าท่าจะจริงสำหรับคนกินจุอย่างไอ้เสา ฮ่า!) ไอ้หมูเปิดประตูให้ผมเดินเข้าไป ทันทีที่พวกเราสองคนเดินเข้าไป สายตาของสาว ๆ ดูจะแตกตื่นกันมาก ในร้านมีพวกเด็กม.ปลาย กับสาวมหาลัยก็มองไอ้หมูกันเป็นจุดเดียว พวกผมเดินไปนั่งโต๊ะที่ไอ้เสากับไอ้นนท์มันนั่งรออยู่



                “เชี่ย กูว่าวันนี้ร้านอาจจะแตกก็ได้...” ไอ้เสาว่าล้อขึ้นทันทีที่ผมนั่งลง ส่วนไอ้หมูมันก็นั่งลงข้างผมนี่แหละครับ แถมมันยังโชว์พาวด้วยการแกะกระดุมเสื้อออกสองเม็ดบนคลายร้อน...เชี่ย คลายร้อนหรือจะทำให้ร้านนี้แตกวะ ดูดิ สาวมองมันเพียบ



                “สั่งเหอะ ไหน มึงมีเมนูไรแนะนำกูไอ้สัดเสา” ผมว่าพลางขอเมนู ส่วนไอ้นนท์กับไอ้หมูก็ไม่ได้ดูจะสนใจเมนูของหวานมากเท่าไหร่ แบบว่าสั่งไรมามันก็กินประมาณนี้ ไอ้เสาก็ดูเมนูกับไอ้นนท์ ส่วนไอ้หมูก็ดูเมนูกับผมครับ...ทำยังกับมาเดท โอ๊ย...บอกตรงว่าแอบเขิน ก็เพราะว่ามันอยู่ต่อหน้าสาธารณะไงเล่า



                “มึงจะกินไร? ไอ้เสาบอกว่าฮันนี่โทสต์อร่อย” ผมกางเมนูให้ไอ้คนข้างผมดูด้วย มันเขยิบมาใกล้ผมเนียน ๆ ผมจะเขยิบออกแต่แขนของมันก็ทำตีเนียนยื่นมาพาดไว้คล้ายกับโอบผม...ไอ้เชี่ยหมูทำไรวะ!



                “ใช่ ๆ ฮันนี่โทสต์อร่อยมากวันนั้นกูลองละ...” ไอ้เสามันสนับสนุนราวกับเป็นหุ้นส่วนร้าน



                “พี่ศิลากินไร หมูก็กินอันนั้นแหละ” มันพูดยิ้ม ๆ ผมมองก่อนจะชี้เมนูนี้ให้พนักงานที่มารอรับออร์เดอร์ ผมเอาฮันนี่โทสต์นี่แหละ ส่วนไอ้เสาที่กำลังเลือกอยู่ก็สั่งต่อ



                “เอาเค้กหน้านิ่มช็อกโกแลต กับโรตีใส่ไข่ นมและน้ำตาลครับ” มันสั่งแบบรัวจนไอ้นนท์เบรกขึ้น



                “ครั้งก่อนมาก็กินไม่หมด สั่งแบบนี้จะหมดเหรอ”



                “หมด! ก็กูอยากกินโรตีนี่...ทำไมกูสั่งไม่ได้งั้นสิ?” ไอ้เสาหันไปว๊าก (ออกแนวกวนมากกว่า) ไอ้สัดนนท์ก็ชะงักกึกไป เจอสายตาพิฆาตแบบหิวของเมียมันไป ฮ่า ๆ บอกเลยว่าไอ้นนท์จอด



                “เปล่า นนท์ไม่ได้ห้าม ก็แค่กลัวว่าจะกินไม่หมด”



                “กินไม่หมดมึงก็กินช่วยสิวะ ไอ้ศิลามึงสั่งอันเดียวเหรอ น้ำปั่นมะ” ไอ้เสาด่าแฟนมันเสร็จก็หันมาถามผมที่เพิ่งสั่งไปอย่างเดียว ผมเลยหันไปถามไอ้หมู



                “มึงเอาอะไรอีกไหม จะสั่งข้าวมากินเลยก็ได้นะ มันมีข้าวด้วย” ผมชี้ให้มันดูพวกข้าวตามสั่งก็มี  หมูมันก้มมาดูเล็กน้อยและพยักหน้าตกลง เหมือนมันจะหิวจริง ๆ พวกผมสั่งเสร็จก็ใช้เวลาไม่นานก็ได้เมนูที่สั่ง ฮันนี่โทสต์ตรงหน้าของผมมันดูน่ากินจริง ๆ แฮะ ส่วนไอ้เสาก็ดูจะชอบอกชอบใจกับโรตีที่มันสั่งมามาก (มันกินเยอะนะไอ้เสา แต่กำลังสงสัยว่าทำไมมันไม่อ้วนสักนิด หน้าก็เรียวเหมือนเดิม ผมจะไปแอบถามเคล็ดลับของมันอยู่ครับ ฮ่า ๆ)



                แต่ยังไม่ทันจะได้ลงมือกิน ไอ้เสาก็เอ่ยปากเปิดประเด็นขึ้นมาซะก่อน ประเด็นที่ทำให้ผมหน้าร้อนวูบ ส่วนไอ้หมูแม่ง...ยิ้มจนหน้าบาน



                “อ้อ ไอ้น้องหมู พวกกูขอยินดีต้อนรับอย่างเป็นทางการในฐานะที่มึงเป็นแฟนของเพื่อนกูนะ”



                “ไอ้สัดเสา พูดดังหาเชี่ยไร” ผมด่าให้ สาว ๆ ที่แอบเหลือบตามองไอ้หมูทำหน้าตื่นเต้นกันมาก เห็นทำหน้าแบบเสียดายด้วย



                “ขอบคุณครับ พี่เสา พี่นนท์ เต็มใจรับตำแหน่งนี้มากครับ” มันยังมีหน้ามาตอบกลับอีก ไอ้เสากับไอ้นนท์ก็ยิ้มล้ออยู่นั่นแหละ อยากจะถามจริง ๆ ว่าพวกมันยังไม่เหนื่อยที่ล้อผมอีกเหรอเนี่ยยยย....คือกูเขินโว้ย เข้าใจกันบ้างไหม



                การที่พวกผมมานั่งทานขนมด้วยกันที่ร้านนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งคุยเล่นกันจริง ๆ จัง ๆ ก็ถามสารทุกข์สุกดิบกันไป ส่วนมากจะเป็นคำถามที่ผมโดนแซะซะมากกว่า ไอ้สัดเสาแหละครับขยันหาคำถามที่มันชวนตีนกระตุกมาก





                หลังจากกินเสร็จพวกผมก็แยกย้ายกันกลับ บอกเลยว่ามื้อนี้อิ่มมาก! ของหวานร้านนี้อร่อยทุกอย่างเลยล่ะ        ผมชอบ ผมจะมาอีกแน่นอน พวกผมออกมาจากร้านประมาณ 19: 10 น. ไม่ดึกมากนัก ไอ้หมูขับรถมาส่งผมที่หอ ระหว่างที่ขับมาผมก็ชวนมันคุยไปเรื่อยแหละ ไม่อยากให้บรรยากาศในรถมันเงียบจนเกินไป แต่จริง ๆ ที่ผมถามมันเพราะมีจุดประสงค์ต่างหาก...



                “ไอ้หมูกรอบ มึงชอบอะไร” ผมถามออกไปแค่นั้น ก็เรียกความสนใจของคนที่กำลังขับรถอย่างมันให้เหลือบมองผมอย่างตื่นเต้น



                “ชอบพี่ศิลาไงครับ” จึก...กูว่าแล้วว่ามันต้องตอบแบบนี้ ผมทำหน้าเอือม



                “กูหมายถึง แบบว่า สิ่งของ แบบอยากได้อะไรไหม?” ต้องถามให้ชัดเจน ไอ้นี่มันชอบออกนอกประเด็นตลอด      ไอ้หมูหัวเราะนิด ๆ และทำหน้าคิด



                “ผมก็พูดจริง ๆ นะ ของที่ผมชอบก็มีแค่ พี่ศิลา อ่า...” เสียงเข้มอ้อนผมตามสไตล์มัน โอ๊ย แล้วจะรู้ไหมว่าตกลงมันอยากได้ของขวัญอะไร...แฮะ คือว่าอีกสามวันก็จะวันเกิดของไอ้หมูแล้วล่ะครับ ถามว่าผมรู้ได้ยังไงก็เพราะแอบไปเข้าเฟสบุ้คดู แล้วมันเตือนไว้ในกิจกรรม...ผมก็เลยรู้ แต่ดูเหมือนไอ้เชี่ยหมูจะจำไม่ได้มั้ง



                “รู้สึกดีนะเนี่ย ที่พี่ศิลากำลังใส่ใจผมอยู่” หมูว่าพร้อมกับรอยยิ้ม กูบอกเมื่อไหร่ว่าไม่ใส่ใจมึงวะ... มันกดเปิดเพลงรักเบา ๆ ...เออ เพิ่งสังเกตว่ามันเปลี่ยนเพลย์ลิสต์ในเครื่องเป็นเพลงรักหวานฉ่ำ เริ่มมาเพลงแรกก็ ‘ลูกอม’ เลยครับ เหมือนมันจะจงใจเปิดชัด ๆ



                “มึงจะบอกว่างานอดิเรกของมึง ก็คือชอบกูงั้นเหรอ?” ผมประชดแต่กลับได้รับคำตอบยืนยันว่า



                “ใช่ครับ งานอดิเรกของหมู ก็คือ พี่ศิลา นั่นแหละ..” หมดกัน..จบประเด็น สรุปการถามสิ่งที่ไอ้หมูชอบ ผมก็ไม่ได้ข้อมูลการซื้อของขวัญให้มันเลย หมูเองก็คุยจ้อเรื่องนู่นเรื่องนี้ให้ผมฟังตามประสามันแหละครับ จนกระทั่งเรามาถึงหอของผม หมูมันหันมามองหน้าผมตาปริบ ๆ



                “พี่ศิลา คืนนี้...นอนหอพี่ได้ไหม” ผมชะงักมองหน้ามันก่อนจะลังเล...จริง ๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก แต่คำว่า นอนของมัน ใช้ได้หลายความหมายมาก ก็ดูสายตาของไอ้เชี่ยหมูกรอบตรงหน้าสิ!!  กรุ่มกริ่มขนาดนี้จะให้ผมว่ายังไง



                “มึงไม่มีสอบรึไงล่ะ ไปนอนหอตัวเองไป” ผมบอกและทำท่าจะลงจากรถ แต่มือหนาก็คว้าแขนของผมไว้ อ้อน ๆ



                “มีครับ แต่พออยู่กับพี่ศิลาแล้ว...อยากอยู่ต่ออีกไม่อยากห่าง ผมไม่ทำอะไรหรอก...ถึงแม้จะอยากกอดมากก็เถอะ ถ้าพี่ไม่อนุญาต...” นั่นไง! ไอ้หมูมันบอกเจตนาเจ้าเล่ห์ออกมาแล้ว...แต่ผมมองแววตาของมันที่ปรารถนาผมจริง ๆ ไอ้เชี่ย ไอ้ว่าที่หมอ(กาม) มันทำหน้าตาอ้อนอีกแล้ว



                “เออ จะนอนห้องกูก็ได้...” ผมตอบส่ง ๆ และพูดประโยคที่ทำให้ไอ้หมูแทบจะดิ้น “ถ้ามึงคิดว่าไปสอบไหวพรุ่งนี้...กูอนุญาตให้ทำ แต่ห้ามเกินเที่ยงคืนเด็ดขาด” ผมพูดสิ่งที่ไม่คิดว่าคนอย่างไอ้ศิลาเนี่ยนะจะพูด....กูพูดไปแล้วครับ เปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหม...



                “พี่ศิลา!!! งั้นพี่ไปรอผมบนห้องได้เลย ผมเอารถไปจอดก่อนครับ” ผมลงมาจากรถ ไอ้หมูกระตุกยิ้มดีใจรีบขับรถไปหาที่จอดทันที เพิ่งรู้ว่าตัวเองแม่ง...หาเรื่องให้ตัวเองเจ็บตัวอีกซะละ แต่ผมเองก็...คิดถึงไอ้หมูเหมือนกัน คิดถึงความอบอุ่นของมัน ไม่ได้คิดถึงเรื่องอย่างว่านะครับ ได้โปรดอย่าเข้าใจศิลาผิด แต่ไอ้หมูมันก็จ้องจะงาบผมท่าเดียว...พรุ่งนี้ดีหน่อยที่ผมไม่มีสอบ งานที่จะส่งพรุ่งนี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว....



                ....................

                ....................



                เวลา 00:00 น.



                แอร์ที่ปรับอุณหภูมิต่ำ ๆ ทำให้ผมเริ่มหนาวและลืมตาขึ้นด้วยความเพลีย ผมมองตัวเองที่อยู่ในอ้อมกอดของไอ้หมูที่หลับอยู่...ผมขยับตัวนิดหน่อยก็ร้าวไปทั้งตัว ไอ้เชี่ยหมูมันทำแค่รอบเดียว แต่สำหรับผมหนักหนาสากันมาก ฮือ...เอวระบมอีกแล้วครับ ผมกับมันเพิ่งจะผละออกจากกันตอน 5 ทุ่ม และผมก็เผลอหลับไปพร้อมกับไอ้หมูทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้อาบน้ำล้างตัว ผมดันตัวเองลุกขึ้นพร้อมกับคราบเหนียวบ่งบอกหลักฐานว่าเมื่อกี้ไอ้หมูมันปล่อยอะไรมาบ้าง...เต็มผมไปหมด  ผมหน้าร้อนวูบ...ไอ้เชี่ยเอ๊ย มันทำให้ผมดูเป็นเมียของมันมากเข้าไปทุกที (ก็เป็นเมียไม่ใช่รึไงครับ ไอ้ศิลา) ผมจะขยับตัวออกก็สะดุ้งแขนที่โอบรั้งเอวของผมไว้



                “จะไปไหนครับ...” มันลืมตาขึ้นนิด ๆ



                “จะไปอาบน้ำ กูเหนียวตัว มึงนอนไปเหอะ” ผมบอก ไอ้หมูก็เลยยอมปล่อย แต่ผมก็หันกลับไปถามมันที่กำลังจะหลับตาซะก่อน “เออ พรุ่งนี้มึงต้องไปสอบกี่โมง กูจะได้ปลุก”



                “พี่ศิลาน่ารักจัง...” มันเหลือบมามองผมยิ้ม ๆ ...กูก็แค่ไม่อยากให้มึงตื่นสายเท่านั้นแหละไอ้ฟาย



                “ตกลงต้องตื่นกี่โมง”



                “สอบ 10 โมงครับ...รีบอาบแล้วรีบมานอนข้างผมนะ ไม่อยากห่างนาน” มันอ้อนผมอีกรอบ...ห่างไรก็ยังไม่ได้ลุกไปไหนเลยเนี่ย...ผมพยักหน้า



                “เออ ๆ รู้แล้ว ไอ้เด็กเอาแต่ใจเอ๊ย..” ผมว่า ไอ้หมูที่หลับตาลงก็กระตุกยิ้มพร้อมกับพูดประโยคที่ทำให้ผมหลุดยิ้ม



               “ไม่เอาแต่ใจหรอกครับ ผมจะเอาตัวของพี่ศิลาด้วย...หึหึ”



                “ไอ้หมอ (กาม)” ผมแอบด่าพึมพำ แต่ไอ้หมูก็ได้ยินชัดเจน ราวกับหูมีเซนเซอร์ตรวจจับการนินทา



                “ก็เป็นกับพี่ศิลาคนเดียวเท่านั้นแหละครับ”









.............................++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 30| (14/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 14-05-2017 23:11:54
โดนจนได้พี่ศิลา 555
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 30| (14/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 14-05-2017 23:31:55
โอยยยยยยยยยยยยๆๆๆๆ ฟินอะไรเบอร์นั่นค่า :ling1: :hao7:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 30| (14/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 15-05-2017 00:15:52
 :haun4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 30| (14/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 15-05-2017 11:48:29
อยากได้ NC ของเสานนท์บ้างอ่ะไรท์
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The End| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 15-05-2017 21:14:36
ตอนที่ 31



                 [พาร์ตของศิลา]



                ช่วงนี้นักศึกษาอย่างเราค่อนข้างจะแฮปปี้มาก! ก็เพราะว่าสอบเสร็จแล้วยังไงล่ะครับ เทอมหนึ่งผ่านไปได้อย่าง    ฉลุยแม้จะถลอกปอกเปิกกับรายงานที่ขนสั่งมา  แต่พวกผมสามหนุ่มคณะวิศวะก็ผ่านมันมาได้! วันนี้พวกผมมาเช็คงานว่าครบไหม   แต่จบเทอมหนึ่งก็ปิดแค่สัปดาห์เดียวเอง มันก็ถือว่าเยอะแล้วล่ะครับ ได้เวลาไปพักผ่อนบ้าง ส่วนไอ้หมูมันก็กำลังสอบวันสุดท้ายเลย พรุ่งนี้ก็เป็นวันเกิดของมันแล้ว ผมยังไม่มีอะไรให้มันเลยอ่ะ!!...ก็ว่าจะไปหาวันนี้กับไอ้เสานี่แหละจะลากมันไปด้วยกัน ผมก็แอบคิด ๆ ของขวัญไว้บ้างนิดหน่อย



                “วู้ว! งานครบแล้วโว้ยยย โปรยชีท!!” ไอ้เสาวิ่งกระโดดโลดเต้นมาแต่ไกล ส่วนไอ้นนท์ก็เดินตามหลังมองเมียมันยิ้ม ๆ ก็เพราะไอ้เสามันเล่นโปรยชีทข้อสอบเหมือนที่ในเน็ตเขาทำกัน ฮ่า ๆ ลำบากไอ้นนท์มันเดินเก็บให้อีก โอ๊ย ตลกคู่นี้



                “ไอ้สัดศิลา! วันนี้มึงจะชวนกูไปห้างชิมิ” ไอ้เสาดูจะชื่นอกชื่นใจมากที่รายงานวิชาอาจารย์มหาโหดมันผ่านแล้ว (พอดีมันลืมใส่บรรณานุกรมน่ะครับ ก็เลยได้แก้)



                “ใช่ กูว่าจะชวนไปหาซื้อของขวัญให้ไอ้หมูหน่อย” ผมบอก ไอ้เสาก็พยักหน้ายิ้มนิด ๆ



                “จะซื้อไรให้มันล่ะ คิดยัง? กูว่าตัวมึงอ่ะเหมาะสุด ฮ่า ๆ...” ไอ้เพื่อนชั่วยุยงส่งเสริมตลอด แผนกยุ ไอ้นนท์ที่เก็บชีทที่เมียมันโปรยเล่นเมื่อกี้จนหมดก็เดินกลับมาที่โต๊ะ ผมเห็นไอ้เสามันหลุดขำไอ้นนท์ด้วยล่ะ สรุปไอ้นี่มันแกล้งไอ้นนท์นั่นเอง



                “เดี๋ยวกูจะพาไอ้ศิลาไปห้าง มึงจะไปกับกูไหมไอ้นนท์?” มันก็ส่ายหน้า



                “เสาพาไอ้ศิลาไปเลือกเถอะ เดี๋ยวนนท์ไปทำกับข้าวรอที่หอเสาละกัน” โห...พ่อบ้านกลัวเมียมาก  มีกลับไปทำกับข้าวรอเมีย ไอ้เสาก็พยักหน้ารับรู้



                วันนี้ไอ้หมูกว่ามันจะสอบเสร็จก็เย็นนู่นแหละครับ ผมกำลังคิดว่าจะทำเซอร์ไพร์อะไรให้มันดี เพราะบอกเลยว่าเกิดมาผมยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน มันก็เป็นเขิน ๆ อยู่เหมือนกัน แต่...ผมก็อยากทำให้ไอ้หมูนะ มันคือแฟนคนแรกของผม และเป็นผู้ชายที่ผมรัก...ผมก็เลยอยากทำสิ่งดี ๆ ให้มัน





            @ห้างสรรพสินค้า



                ผมกับไอ้เสาเดินวนอยู่ตรงโซนขายของขวัญกิ๊ฟช็อป ก็มีของขวัญน่ารักหลายอย่างนะครับ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรให้ไอ้หมูมันดี ตอนนั้นถามมันไปแล้วก็ได้คำตอบว่าของที่มันชอบคือ ผม ...หรือผมต้องเอาตัวเองเป็นของขวัญจริง ๆ ...         ไอ้ศิลาคิดบ้าอะไรอยู่ครับ ผมมองตุ๊กตาตัวนุ่ม ๆ ซื้ออันนี้ไปน่าจะไม่เหมาะกับไอ้หมูหรอก ถ้าจะทำของแฮนด์เมคก็ทำไม่ทันแล้วล่ะ เพราะผมก็เพิ่งจะสอบเสร็จเวลาก็เลยไม่ได้เยอะขนาดนั้น



                “ตกลงจะเอาอะไรให้น้องวะ กูเห็นมึงจ้องของมาจะชั่วโมงละ” ไอ้เสามองนาฬิกาของมัน พลางจ้องพวกแก้วสวย ๆ ตรงหน้าผม



                “กูไม่รู้จะเอาไรให้มัน...แต่เรื่องเซอร์ไพร์อ่ะ กูคิดไว้แล้ว” ผมว่า เรื่องเซอร์ไพร์ไอ้หมูผมคิดไว้แล้วล่ะครับ แต่ของขวัญเป็นชิ้นเนี่ยสิยังไม่มีเลย ไอ้เสาทำหน้าตื่นเต้น



                “เชี่ย จริงดิ เซอร์ไพร์ไรวะ บอกกูหน่อย” มันทำหน้าระริกระรี้อยากรู้มาก ผมมองก่อนจะกระซิบข้างหูของไอ้เสา พอมันฟังก็ยิ้มล้อ



                “โอ๊ย ไอ้ศิลาเอ๊ย กูนี่อยากจะเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในแผนการเซอร์ไพร์ของมึงมาก ไอ้น้องหมูมันจะช็อคตายก่อนไหมเจอมึงเซอร์ไพร์เนี่ย ไอ้เชี่ยแค่คิดกูก็ฟินแล้ว” ไอ้เสาแกล้งทำหน้าเขิน ๆ เออ...เพื่อนผมแม่งโอเวอร์ตลอดกาล ระหว่างที่ผมกับมันกำลังคิดว่าจะเอาอะไรให้ไอ้หมูดี ผมก็เหลือบสายตาไปเห็นน้องชมพู่ที่เดินผ่านผม น้องแกทำหน้าตกใจกลัวผมมาก....อ้าว น้องเป็นอะไร



                “น้อง...” ผมจะเรียกแต่น้องแกกลับสะดุ้งกลัวและวิ่งหนีไปเลย เอ๋!? ไอ้เสาก็งงเหมือนกัน



                “น้องชมพู่เป็นไรวะ ทำไมต้องเจอหน้ามึงแล้วกลัวขนาดนั้น? ปล่อยรังสีเมียใส่น้องเขาเหรอไอ้ศิลา” ไอ้เสาพูดกวน ๆ ผมเลยหันไปส่ายหน้ากับมัน รังสีเมียเชี่ยอะไรของมัน ช่างสรรหาคำจริง ๆ



                “เปล่ากูยังไม่ได้ทำไร ทำไมน้องวิ่งหนีกูวะ?”



                “ฮ่า ๆ ช่างน้องแกเหอะ ดีแล้วไม่ใช่เหรอ มึงเถอะมาเลือกของขวัญ เดี๋ยวไอ้นนท์มันโวยกูอีกว่าหิวข้าว” ไอ้เสาว่า ผมก็เลยยิ้มล้อมันบ้าง วะฮ่า!



                “คิดถึงผัวซะแล้วเหรอวะ”



                “ไอ้สัดศิลา อยากโดนกูเตะใช่ไหม” มันว๊ากผมตามประสามัน พวกผมหัวเราะกันจนเจ้าของร้านมองว่าพวกนี่มันมายืนหัวเราะอะไรกันอยู่แถวนี้



                สรุปของที่ผมจะให้ไอ้หมูก็คือ...ไม่มี หาซื้อของไม่ได้เลยอ่าครับ ผมนี่เดินจนขาลากก็ไม่มีอะไรถูกใจสะดุดตาของผมสักนิด ผมคิดว่ามันน่าจะมีทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว...ผมเดินกับไอ้เสาจนเพลีย ก่อนผมจะหันไปเห็นเสื้อช็อปคณะที่ไอ้เสาใส่อยู่....สัญลักษณ์เกียร์ทำให้ผมนึกออก!!!



                “ไอ้เสา!!” ไอ้เสาที่ยืนมองขนมอยู่สะดุ้ง...มึงหิวแล้วใช่ไหมเนี่ยถึงได้จ้องของกิน



                “อะไรวะ?”



                “กูรู้แล้วว่า! กูจะให้ของขวัญอะไรกับไอ้หมูกรอบ” มันเลิกคิ้วให้ผมอย่างสงสัย



                “จะให้อะไร....” ผมกระตุกยิ้ม ทำไมผมไม่คิดได้ตั้งนานแล้วนะ จะได้ไม่ต้องมาเดินหาให้เมื่อย.....







                [พาร์ตของหมู]



                ผมเดินออกมาจากห้องสอบพร้อมกับเพื่อน ๆ อย่างปลดปล่อย เย้...ผมสอบเสร็จแล้วล่ะครับ วิชาสุดท้ายของผม  ผมมองนาฬิกาที่มัน 17:00 น. แล้ว พี่ศิลาส่งข้อความมาบอกผมว่าพี่แกจะไปเดินเล่นที่ห้างกับพี่เสา สองสามวันที่ผ่านมาผมเอาแต่อ่านควิชซ์ทดสอบอย่างจริงจัง เพราะ 3 วิชาสุดท้ายมันค่อนข้างยากหน่อย แต่ผมก็ได้กำลังใจด้วยการฟังเสียงพี่ศิลาบอกฝันดีทุกคืน (โทรไปกวนพี่เขาก่อนเองแหละครับ โฮะ ๆ) คิดถึงมากกกกก.... ช่วงสอบผมไม่ค่อยได้สนใจอะไรเท่าไหร่เลย เฟสบุ๊คก็ไม่ได้คิดจะสนใจ



                “ไอ้หมู มึงไปกินเหล้ากับพวกกูไหม สอบเสร็จไปฉลอง” ไอ้ฟิวส์เดินตามหลังมาพร้อมผมถามขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์มาเปิดดู จะว่าไปผมก็ไม่ได้ไปกับพวกนี้นานแล้วแฮะ...



                “เออ ๆ ไปก็ไป เดี๋ยวกูโทรบอกพี่ศิลาก่อนละกัน” ผมบอก ขอไปขออนุญาตเมียก่อนดีกว่า ที่จริงพี่ศิลาก็ไม่เคยห้ามที่ผมจะไปดื่มกับเพื่อนหรอกครับ แต่...ผมก็อยากบอกพี่เขาอยู่ดี



                “แหม ๆ ตามสบายเลยมึง โทรบอกยอดยาหยีของมึงให้เรียบร้อยแล้วเจอกันที่ร้าน” ไอ้ฟิวส์ว่าแค่นั้นแหละเดินไปพร้อมกับพวกเพื่อนเดอะแก็งค์ของผมที่เดินนำไป



                ผมเดินไปที่รถของตัวเองและกดเบอร์แฟนของผม ผมรอสายสักพักปลายสายก็รับ แต่ผมเหมือนได้ยินเสียงผู้ชายแทรกเข้ามาด้วย ?



                (“ไอ้หมูกรอบ?...หมวยเล็กตรงนี้จะเอาไว้ไหน”) ชื่อหมวยเล็กที่ดังลอดมาทำให้ผมพอจะจำได้ว่าเป็นเสียงของเฮียใหญ่...เชรด



                “พี่ศิลาอยู่ไหนครับ?”



                (“กูอยู่บ้าน..”) อ้าว...ผมว่าจะกลับไปหาพี่ศิลาที่หอซะหน่อย



                “กลับบ้านเหรอ?”



                (“อือ เฮียมารับ...มึงสอบเสร็จแล้วเหรอ”)



                “ครับ นี่ว่าจะไปดื่มกับเพื่อนซะหน่อย ก็เลยโทรมาหาพี่ศิลา...” ผมบอกแต่ปลายสายกลับเงียบไป...เอ๊ะ ผมพูดอะไรผิดรึเปล่า



                (“เหรอ...มึงจะไปดื่มกับเพื่อนใช่ไหม”) เสียงหวานไหววูบที่ดังกลับมาทำให้ผมรู้สึกแปลก ๆ



                (“งั้นก็อย่าดื่มเยอะ ขับรถดี ๆ นะ...กูวางละ”)



                “เดี๋ยวครับพี่ศิลา ผมพูดอะไรให้พี่โกรธรึเปล่า” ผมรีบถาม พี่ศิลาเงียบไปอีก ไอ้หมู...มึงทำอะไรผิดอีกปะวะ...



                (“เปล่ากูไม่ได้โกรธหรอก มึงก็ฉลองกับเพื่อนไปละกัน...”) พี่ศิลาพูดแค่นั้นแหละตัดสายไป ทิ้งให้ผมมองโทรศัพท์งง ๆ แต่ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ จนกระทั่งขับมาถึงร้านเหล้า



                ผมมองแก้วในมือที่ยังไม่ได้ดื่ม ผมยกดื่มนิดหน่อย สายตาของผมก็เหลือบมองแต่นาฬิกาตรงข้อมือ จนเพื่อนของผมมันทักขึ้น



                “เป็นไรมึงไอ้หมู ทำไมซึมวะ? หรือเมียงอน?” จะว่างอนไหมผมก็ไม่รู้แฮะ ผมส่ายหน้าก่อนจะเบิกตากว้างกับพวกมันที่พูดขึ้น



                “พรุ่งนี้กูกำลังจินตนาการว่ามึงจะได้อะไรจากยอดยาหยีเป็นของขวัญวันเกิดวะ กูว่าต้องน่ารักมาก ๆ อ่ะ” หา... วันเกิดเหรอ?



                “พวกมึงว่าวันเกิดเหรอ!” ผมรีบหยิบโทรศัพท์มาดูปฏิทิน



                “อ้าว ไอ้หมู นี่มึงลืมวันเกิดตัวเองเหรอวะ ไอ้บ้า....พรุ่งนี้ไง” นั่นไงครับ....ผมลืม!! ลืมวันเกิดของตัวเองซะสนิท และผมก็ชะงัก....กับโทรศัพท์ที่คุยกับพี่ศิลาเมื่อกี้ พี่เขาบอกว่าพี่เขากลับบ้านนี่!!



                ไม่ได้นะ มันเป็นวันเกิดปีแรกที่ผมได้คบกับพี่ศิลาเป็นแฟน ผมก็เลยอยากอยู่กับพี่เขาในวันเกิดคนแรก อย่างที่ผมฝันไว้ โอ๊ย ไอ้หมูเอ๊ยทำผิดพลาดอย่างแรง ผมมองเวลาและคำนวณในใจว่าจะขับไปบ้านพี่ศิลาทันไหม



                “พวกมึงกูขอตัวกลับนะ จะไปหาพี่ศิลาที่บ้าน” เดอะแก๊งค์ของผมก็พากันพยักหน้าอวยพรผมอย่างเข้าใจ ผมรีบวิ่งออกมาจากร้านเพื่อที่จะขับรถไปบ้านพี่ศิลาทันที ผมอยากอยู่กับพี่ศิลาในวันเกิดปีนี้ของผม!







                [พาร์ตของศิลา]



                หลังจากที่วางสายไปจากไอ้หมูผมก็นั่งอยู่เก้าอี้ตรงสนามมวยไม่ได้ลุกไปไหน...ผมเตรียมเซอร์ไพร์ไว้ให้ไอ้หมูครับ...ผมคิดว่าถ้ามันรู้ว่าผมกลับบ้านมันจะตามมาซะอีก แต่ท่าทางมันจะไม่มาหรอกเพราะมันไปดื่มกับเพื่อน ผมก็ไม่ได้น้อยใจอะไรหรอก...หรืออาจจะน้อยใจเล็ก ๆ แน่นอนว่า มันเป็นแฟนของผม ผมก็อยากจะอยู่กับมันอยู่แล้ว...เฮ้อ นี่ผมกลายเป็นพวกคิดมาก แถมขี้น้อยใจไปตั้งแต่เมื่อไหร่



                ถามว่าผมทำไมเลือกที่จะใช้สนามมวยที่เคยเจอไอ้หมูมาใช้เป็นที่เซอร์ไพร์ ก็เพราะว่ามันเคยเล่าให้ผมฟังว่า       มันได้โอกาสที่จะจีบผมมาจากเฮียใหญ่ที่นี่ แถมผมยังมาเจอมันจะ ๆ ที่นี่ด้วย มันก็เป็นเหมือนสถานที่ในความทรงจำนั่นแหละครับ สนามมวยอันนี้ป๊าของผมเป็นหุ้นส่วนด้วยน่ะครับ ก็เลยใช้สถานที่ได้ตามสบาย



                แต่...บางทีเซอร์ไพร์ของผมอาจจะไม่ได้เซอร์ไพร์ไอ้หมูก็ได้ ก็มันไม่ได้มาหาผมนี่นา...ผมมองเวลาที่มัน 00:00 น. แล้ว วันนี้คือวันใหม่ วันเกิดของไอ้เชี่ยหมูกรอบ...ผมชูเกียร์ของผมที่ผมเอามันมาด้วยขึ้นมอง



                “กูรักมึงมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ไอ้เชี่ยหมู....” ผมบ่น ก่อนจะเบิกตากว้างกับประตูที่ถูกเปิดเข้ามา



                ปัง!! เสียงหอบแฮ่กเหมือนวิ่งมาทำให้ผมยืนมองใบหน้าหล่อคมที่ผมเพิ่งคิดถึงไปหยก ๆ



                “ไอ้หมูกรอบ” มันดูจะอึ้งไปนิด ๆ คงเป็นเพราะชุดที่ผมใส่อยู่มันคล้าย ๆ กับตอนที่ผมวิ่งเข้ามาในสนามมวยตอนที่เจอไอ้หมู แถมผมของผมยังมัดจุกเล็ก ๆ ไว้อีก...ราวกับว่าเราย้อนไปตอนนั้นอีกครั้ง



                “พี่ศิลา...” มันมาที่นี่ได้ยัง!! มันเที่ยงคืนแล้วนี่ ไหนมันบอกว่า...มันไปดื่มกับเพื่อน แล้วมันรู้ได้ไงว่าผมอยู่นี่...



                หมับ อ้อมกอดของมันสวมกอดผมไว้ ผมยืนตัวแข็งทื่อใจเริ่มเต้นแรง...



                “ไอ้เชี่ยหมู ไหนมึงบอกว่าไปดื่ม...อย่าบอกนะว่ามึงขับรถมา ไอ้บ้า มันอันตราย....” ผมชะงักเมื่อมันผละออกจากผมแล้วเชยคางของผมขึ้น...ไอ้เชี่ย กูจะมาเซอร์ไพร์มึงนะ ไม่ใช่ให้มึงมาเซอร์ไพร์กูแบบนี้...



                “คิดถึง...ผมคิดถึงพี่ศิลา ขอโทษที่ผมลืมวันเกิดตัวเอง ผม...”  ผมใช้มือของผมสองข้างปิดปากของไอ้หมูเอาไว้ ทำไมมันจะต้องมาขอโทษผม...มันแคร์ผมมากเกินไปแล้ว แบบนี้ผมก็เขินสิ....แววตาคมเข้มตรงหน้าของผมทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่า....ไอ้หมูคือคนที่ได้ใจของผมไปหมดแล้ว



                “ให้กูพูดก่อนนะ...มึงมันเป็นรุ่นน้องที่โคตรเจ้าเล่ห์เลยรู้ตัวไหม” ผมปล่อยมือออกจากปากไอ้หมูที่ยิ้มมุมปาก



                “แถมครั้งแรกที่มึงมาหากูก็มาถามหาหมวยเล็ก...บอกเลยว่ากูจะกระโดดเตะปากมึงอยู่แล้ว...แต่เพราะประโยคนั้นมันทำให้กูกับมึง...มากันได้ถึงขนาดนั้น ความพยายามของมึงทำให้กูรู้ว่า....ความรักมันยิ่งใหญ่จริง ๆ กูรู้ว่าบางทีกูอาจจะไม่ใช่คนที่โรแมนติกอะไร...อ๊ะ...เชี่ยหมูอย่าเพิ่ง!” ผมสะดุ้งเมื่อมันเลื่อนมือมากระชับเอวของผมไว้ มันหัวเราะ ช่วยฟังกูพูดจริงจังด้วย....นี่คิดมาอย่างดีนะเว้ย!



                “กูไม่มีของขวัญแพง ๆ ให้มึง แต่กูมีอะไรเล็ก ๆ จะให้...” ผมดันตัวเองออกจากไอ้หมู ก่อนจะเดินไปจับผ้าสีดำที่ปิดอยู่ที่ผนัง ไอ้หมูเดินมาหยุดหน้าผนังและตั้งใจดูมาก หวังว่ามันจะชอบนะ...



                พรึบ!! ผมดึงผ้าลง...ก็เผยให้เห็นโพสต์อิทที่ผมนั่งติดเอง





                ...HAPPY BIRTHDAY MY BOYFRIEND…





                “แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ ไอ้หมูกรอบ...” ไอ้หมูมันมองตาโตเท่าไข่ห่านตามฉบับมัน ผมจับผ้าแน่นด้วยความเขินเชี่ยยยย....แต่รอยยิ้มกว้างของผู้ชายตรงหน้าก็ทำให้ใจของผมพองโตขึ้นมา



                “พี่ศิลา หัวใจของผมเต้นเร็วมาก....จะทะลุออกมาอยู่แล้ว...มายบอยเฟรนโดนใจหมูจัง” มันล้อ ผมเลยยิ้มนิด ๆ อย่างช่วยไม่ได้ อันนี้กูก็คิดตั้งนานนนนนน....



                “ก็มึง...เป็นแฟนกูไม่ใช่รึไงเล่า...” มันเดินเข้ามาหาผมและดึงแขนของผมเข้าไปใกล้มันที่ก้มหน้าเข้ามาใกล้ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ...ผมยกมือห้ามก่อนมันเลยชะงัก



                “ห้ามทำไม...” มันเริ่มทำหน้าอ้อน...ไอ้เชี่ยก็รีบร้อนตลอด กูยังให้ของมึงไม่หมดเลย...



                “มีอีกอย่างที่อยากให้” ผมเม้มปากนิด ๆ มันก็เลิกคิ้วตื่นเต้น



                “อะไรครับ?”



                “นี่....” ผมชูสร้อยเกียร์ของตัวเองที่ถือไว้ขึ้นตรงหน้า ไอ้หมูทำตาโตอีกรอบ...เออ โตเข้าไปทำตาโตเข้าไป



                “พี่ศิลา!! นี่เกียร์ของพี่นี่...”



                “เออ...กูให้มึงเก็บรักษามันไว้...” ผมยื่นให้มันด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงระเรื่อ มันยังคงทำหน้าอึ้งอยู่



                “เขาว่ากันว่า เกียร์ก็เหมือนหัวใจของวิศวะ....” ไอ้หมูเรียบเรียง



                “เออ”



                “แปลว่า! พี่ศิลากำลังยกหัวใจพี่ให้ผมเหรอ!” ไอ้นี่...ตะโกนอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่อยู่ใกล้กัน...เดี๋ยวชาวบ้านก็แตกตื่นกันพอดี...



                “จะเอาไม่เอาวะ” ผมแกล้ง ไอ้หมูเลยรีบคว้าไปสวมใส่ที่คอทันที ผมยิ้ม



                “เอาสิครับ เอา!” ผมมองสร้อยเกียร์ของผมที่มันแขวนอยู่ที่คอของไอ้หมู ผมจับตรงตราเกียร์ก่อนจะทำในสิ่งที่ร่างสูงมองอย่างไม่เชื่อ...



                ผมจูบตราที่มันห้อยลงมาระหว่างแผงอกของไอ้หมูพอดี...มือของผมแตะตรงหัวใจของมันอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ (เขินมากกว่า...) ใจไอ้หมูมันเต้นแรงมาก ผมเงยหน้าสบตามันที่กลืนน้ำลายอึก ๆ....ไอ้เชี่ยทำหน้าหื่นกามอีกแล้ว



                “ช่วยดูแลหัวใจของกูด้วยละกัน...” กูพูดไปแล้ว....



                “ครับ..ผมจะดูแลอย่างดี ไม่ปล่อยให้พี่ศิลาต้องเหงาเลยล่ะ....” มันยิ้มกว้างและรั้งเอวของผมเข้าไปหาตัวของมันอีกครั้ง ใบหน้าหล่อคมกำลังก้มลงมาหาผมอย่างขี้เล่น กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของไอ้หมูมันเริ่มลอยมาเตะจมูกของผมอีกครั้ง...



                “ขอบคุณนะครับสำหรับเซอร์ไพร์ ผมชอบมากกกก....”



                “ขอบคุณนะครับ ที่พี่ยอมยกใจให้ผมทั้งหมด....”



                “ขอบคุณนะครับ พี่ศิลาที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารักที่มั่นคงขนาดนี้.....”
  ผมฟังไอ้หมูมันพูดยาว ๆ ออกมา        เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูจนหน้าผมร้อนวูบไปหมด...เลิกพูดกรอกหูกูได้แล้วไอ้หมูกรอบ...



                “และขอบคุณครับ ที่พี่เป็นแรงบันดาลใจให้ผม ได้เปลี่ยนตัวเอง ได้สู้เพื่ออนาคตของเราสองคน...” ผมเงยหน้ามองมันอึ้ง ๆ กับคำว่า ‘อนาคตของเราสองคน’    ที่มันบ่งบอกความจริงจังของไอ้หมูมาก



                “หมูรักพี่ศิลานะครับ...” มันกระซิบจนผมเหวอ กับคำหวานมากมายที่มันพ่นออกมา



                “ไอ้เชี่ย..กูรู้แล้วว่ารัก...”



                “รู้แล้วก็จะบอกครับ เพราะผมไม่เบื่อที่จะพูด....” มันบอกยิ้ม ๆ จนผมหุบยิ้มไม่ได้ ผมยิ้มกว้างออกมา ไอ้หมูที่มองอยู่ก็ทำหน้าดีใจกับคำตอบเสียงเบาของผม



                “กูก็ไม่เบื่อที่จะฟังเหมือนกัน....” ผมเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าคมกำลังก้มลงมาใกล้ผมให้ระยะประชิด ผมเลือกที่จะหลับตาลงรับจูบอันแผ่วเบา ริมฝีปากหนาที่ประกบลงมาอย่างบรรจงกำลังรุกเร้าผมช้า ๆ กลิ่นหอมหวานของรสจูบของไอ้หมูกำลังทำให้ผมสั่นระริก จูบหนัก ๆ แต่อ่อนโยนของมันทำให้ผมแทบทรงตัวไม่อยู่ หมูประคองผมไว้ด้วยสองมือของมัน



                “อื้อออ...เชี่ยหมู พอ...” ผมใช้มือเล็กดันร่างสูงที่กำลังจะพาผมเลยเถิดไปไกล เหมือนมันจะรู้ตัวและยั้งตัวเองออกจากผมเหมือนกัน ผมหายใจหอบเล็กน้อยด้วยใบหน้าที่แดงก่ำไปหมด มือหนาเอื้อมมาสัมผัสแก้มของผม



                “พี่ศิลา...อยากจัง” มันพูดขี้เล่น แต่ถ้าผมอนุญาตเมื่อไหร่ ผมเชื่อว่ามันพร้อมจะทำจริง...กูว่ากูเข้าสู่อันตรายโดยสมบูรณ์แบบแล้วล่ะ



                “ไอ้ว่าที่หมอ (กาม)”  ผมด่าแต่ก็ไม่ได้ดิ้นออกจากวงแขนของไอ้หมูที่กอดเอวผมไว้หลวม ๆ มันยิ้มอารมณ์ดีตามประสามัน...จะว่าไป ผมไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากมันสักเท่าไหร่ แสดงว่ามันขับรถมาหาผมโดยที่ไม่ได้กินเยอะมาก ดีแล้วล่ะครับ ผมเป็นห่วง คนบ้าอะไรวะกินเหล้าแล้วขับรถมาไกล ๆ ดีนะไม่โดนตำรวจโบก



                “พี่ศิลา รู้ไหมว่า...คบหมอมันดีนะ” จู่ ๆ มันก็พูดขึ้น ทำให้ผมหน้ามองมันงง ๆ ผมจำได้ว่ามันเคยพูดตอนที่มันประกวดดาวเดือนนี่



                “เป็นหมอให้มันได้ก่อนเถอะมึง ค่อยมาพูด ไอ้ว่าที่หมอ”



                “ได้เป็นแน่นอนแหละครับ เพราะมีกำลังใจจากพี่ศิลาแล้ว...” มันพูดเหมือนว่าผมเป็นจุดศูนย์กลางของมัน หรือจริง ๆ ....ผมอาจจะเป็นจุดศูนย์กลางของไอ้หมูจริง ๆ ก็ได้



                “............” ผมไม่ได้ตอบมัน มันก็เลยก้มหน้าลงมาใกล้แก้มอมชมพูของผม (บรรยายผมแบ๊วทำไมเล่า!)



                “พี่ศิลาครับ...”



                “อะไร?”



                “รู้ไหมว่า...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ” มันพูดย้ำมาอีกรอบ...แต่การออกเสียงคำว่า มัน ตอนแรก กับ มันส์ ตอนที่สองมันต่างกัน ผมมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของมัน ผมก็ยิ้มนิด ๆ...ไอ้นี่แม่งอันตรายจริง ๆ



                “เออ มันดียังไงไม่ทราบ?” ผมก็ถามกลับแบบไม่สนใจ ทั้งที่ในใจสน...และคำตอบของมันก็ทำให้ผมหัวเราะเบา ๆ



                “ข้อแรกเลย ได้รักษาฟรี ดูแลใกล้ชิด...” ทำไมมันต้องทำหน้าหื่น....



                “ข้อสอง หัวใจของพี่จะได้รับการดูแลอย่างดี โดยหมอหมูผู้รักและบูชาเมีย...” กูว่าเริ่มจะไม่ใช่คุณสมบัติของหมอแล้ว ฮ่า ๆ



                “ข้อสาม หมอหมูลีลาดีมาก...” ไอ้เชี่ย..กูว่ามันนอกประเด็นไปดาวอังคารแล้ว



                “ไอ้เชี่ยกูว่ามึงมั่วแล้ว...” ผมหัวเราะและหันหน้าหนี...ก็โดนมันจ้องแบบนี้ ผมจะเป็นบ้า!



                “ไม่ได้มั่ว เห็นไหมข้อดีของการคบหมออย่างผมยังมีอีกเยอะครับ...รอพี่มาค้นหาอยู่นะ” มันทำหน้ากวนบวกกับขี้เล่น...ผมมองหน้ามันที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พอใจกับคำพูดของตัวเองมาก



                ผมยกมือของตัวเองกอดรอบคอของไอ้หมู มันทำหน้าอึ้งเล็กน้อยแต่ก็ยังยิ้มหน้าบานเหมือนเดิม



                “เออ กูว่าคบหมอมันก็ดีนั่นแหละ...”



                “พี่ศิลา...”



                “เพราะกูพิสูจน์มาแล้วว่า คบหมอมัน(ส์)ดีนะ...” ผมพูดกวนกลับจนไอ้หมูมันหัวเราะพอใจออกมาและดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น พร้อมกับประโยคกวนแต่พร้อมทำจริงของมัน



                “งั้นเราไปมันส์กันอีกรอบดีมะ..”





                “เชี่ยยย ลามปามไอ้หมูกรอบ....” ผมด่าแต่ปากกลับยิ้มให้ไอ้หมู มันก้มหน้าลงมาจนจมูกแตะกับจมูกของผม    เรายิ้มให้กันราวกับว่าโลกตอนนี้มันกลายเป็นสีชมพูซะงั้น....ให้มันวันหนึ่งก็แล้วกันครับ เนื่องในโอกาสวันเกิดของไอ้หมูมัน...ยอมหวานน่ารัก ๆ กับมันวันหนึ่ง... พวกผมพากันถ่ายรูปโพสต์อิทที่ผมทำ แถมไอ้เชี่ยหมูบอกจะไปโพสลงไอจีอีกด้วย...โอ๊ย ผมต้องโดนล้ออีกแน่เลย เตรียมตัวดูรูปผมกับแคปชั่นของไอ้หมูได้เลยครับ...ฮ่า ๆ



                ก็อย่างที่ไอ้หมูมันพูดแหละครับว่า คบหมอมัน(ส์)ดีนะ...เอ๊ย คบหมอมันดีนะ ดีเพราะมันเป็นคนที่ผมรักไปแล้วทั้งใจยังไงล่ะ....





THE END









...

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^

พอมาถึงตอนนี้เเล้วรุู้สึกคิดถึงมากกกก >____< บางคนตามมาตั้งเเต่ต้นเรื่องก็ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ ดีใจที่ชอบกัน

ที่อยากให้จบตอนนี้เพราะ ไรท์อยากให้มันเป็นนิยายฟีลกู้ดที่ตราตรึงอยู่ในใจของทุกคน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

+++++++++
#ไรท์ยังมีตอนพิเศษ ย้ำว่ามันพิเศษน่ารัก  (อาจมีหึงดราม่าเล็กน้อย) กับการใช้ชีวิตประจำของพวกเขาในวันต่อ ๆ ไป  ตอนพิเศษมีหลายตอนค่ะ กะจะจัดเต็ม ๆ มาเลยย55555   ทั้งคู่ของพี่ศฺิลากับน้องหมู เเละนนท์กับเสาาา  จัดเต็มเเน่นอนค่ะ อยากได้พิเศษเเบบไหนบ้างก็รีเควสกันมาได้ เผื่อไรท์มานั่งอ่านคอมเมนต์จะ

+++++เเละที่พิเศษไปกว่านั้น!! ไรท์กะจะทำ ตอนพิเศษมินิสเปเชี่ยวววว ตอนที่น้องหมูได้เป็นหมอเเล้ว ส่วนพี่ศิลาเองก็เรียนจบเเล้ว  >_______< กะจะทำเป็นเรื่องสั้นโชว์ความหวานของพวกเขาตอนที่โตเป็นผู้ใหญ่เเล้วค่ะ 

 :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-05-2017 22:03:57
 :L2: :pig4:

ชอบความหวาน
ขอบคุณคุณนักเขียน สำหรับเรื่องดีดี
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 15-05-2017 22:32:24
 :L2:



ขอบคุณคร้าบบบบบบบ ....


แต่งเรื่องราวดีๆ แบบนี้มาให้เสพกันบ่อยๆน่ะ


 :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: AutoAngels ที่ 16-05-2017 00:32:29
ของคุณนะเราชอบนิยายเรื่องนี่มากๆๆๆคือแบบอ่านไปเขินไป...แต่ยังจะรอติดตามตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 16-05-2017 03:11:09
น่ารัก.... :mew1: จะรอตอนพิเศษ นะค่ะ...ชอบบบบบค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 16-05-2017 17:02:24


คบหมอได้มากกว่าที่คิด

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-05-2017 19:41:05
นั่นซิ คบหมอมัน(ส์) ดีนะ  :o8:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 16-05-2017 22:38:48
เย้..... :katai2-1: พี่ศิลาให้เกียร์แทนใจกัน  น้องหมูเลยให้เข็มหมอ พี่ศิลากลับแทน  :hao4: :haun4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 16-05-2017 23:58:41
ไม่รู้คู่ไหนจะหวานมดขึ้นมากกว่ากันเลย

ขอบคุณไรท์ สำหรับเรื่องน่ารักๆ นี้นะคะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 17-05-2017 00:01:06
งื้อออออ ฟิน :hao7:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-05-2017 02:36:55
จบล้าววววววววว
ป.ล.รอตอนพิเศษสุดฟิน และตอนพิเศษยิ่งกว่าตอนที่ทำงานกันแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 01-06-2017 10:54:21
น่ารักทั้งสองคู่เลย อยากมีแฟนเป็นหมอบ้างอ่า ขอบคุณคนเขียนมากน้า
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-07-2017 06:08:12
เย้..... :katai2-1: พี่ศิลาให้เกียร์แทนใจกัน  น้องหมูเลยให้เข็มหมอ พี่ศิลากลับแทน  :hao4: :haun4:

เอ่อ.......พี่ศิลา คงไม่กลัวเข็มหมอหมู นะ
หมูกรอบ ศิลา  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์ ให้ความสุขคนอ่าน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 17-07-2017 16:28:17
 :impress2:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |มีข่าวสารเเวะมาเเจ้งค่ะ ^^| (21/07/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 21-07-2017 19:53:08
สวัสดีค่ะ ทุกคนนน ยังจำไรท์กันได้อยู่ใช่ไหม 5555  :กอด1:

วันนี้ไรท์มีข่าวเเวะมาเเจ้งนิดหน่อยนะคะ  :pig4:  ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคนอ่านที่น่ารักทุกคนเลยที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้ของไรท์   

เรื่อง “พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ”

เรื่องนี้กำลังจะได้ตีพิมพ์กับ ‘สำนักพิมพ์บ้านวายบุ๊ค’

สำหรับแฟนคลับของน้องหมู พี่ศิลา , นนท์ , เสา

ไม่อยากให้พลาดกับการเก็บเล่มของหนุ่ม ๆ ไว้ในครอบครอง



*** เพราะเรามีอะไรพิเศษสำหรับรอบจองเตรียมไว้ให้ทุกคนกรี๊ดค่ะ ><***

คาดว่าจะเปิดจอง เร็ว ๆ นี้

ไรท์จะอัพเดทข่าวเป็นระยะๆ ค่ะ ^^

เเละไรท์ก็ขอขอบคุณคนอ่านที่น่ารักอีกครั้งนะคะ ที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณที่เอ็นดูน้องหมู พี่ศิลา นนท์เสา ค่ะ ^^  :กอด1: :กอด1: :mew1: :mew1:


..............................................................................................

หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (15/05/60) อัพ :)
เริ่มหัวข้อโดย: Praykanok ที่ 21-07-2017 23:03:09
น่าร้ากกกกกกก
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (21/07/60) [มีข่าวสารมาเเจ้ง] :)
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 22-07-2017 00:31:54
ขอบคุณค่าาา  :mew1: สนุกค่ะ ชอบแนวนี้อยู่แล้ว เมะเด็ก โคอ่อนกินหญ้าแก่ 5555. น้องหมูเขาอ่อนเก่งจริง อยากเลี้ยงไว้สักคน  :hao7:  ต้องถามพี่หมวยเล็กว่ามีเคล็ดลับอะไร  :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (21/07/60) [มีข่าวสารมาเเจ้ง] :)
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 29-07-2017 16:30:54
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆน่ารักมากมาย
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (21/07/60) [มีข่าวสารมาเเจ้ง] :)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 29-07-2017 23:16:00
55555 คงมันส์จริงๆ ว่าที่หมอรุกตลอดเวลาขนาดนี้

ตลกดี น่ารักด้วย รั่วนิดๆ แอบมีเกรียนเบาๆ รวมๆแล้ว ดีค่ะ ไม่ดราม่าด้วย

หมูพยายามมาก ทุ่มเทมาก คุ้มเลยนะที่รอมาจนถึงวันนี้

หมวยเล็กก็ออกอาการมั่นใจในความหล่อเถื่อน แต่หาใช่ไม่ ตัวเองน่ารักมาก ทำเป็นเข้ม
แล้วตอนนี้ก็หลงหมูมาก ยอมหมูไปหมด ชอบทำดุกลบเขิน

เสาก็ตลก ชอบแกล้งนนท์ ได้ทีนะ
นนท์ก็ดีเวอร์ ตั้งแต่รู้ตัวว่ารักเสา นนท์อบอุ่นมาก ดูแลดีไปอีก

เรื่องน่ารักมากค่ะ ป่วนปนฮา ฟีลกู๊ดจริงๆค่ะ ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ

หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (21/07/60) [มีข่าวสารมาเเจ้ง] :)
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 22-09-2017 22:06:33
น่าร้ากกกกกกกกกกกกก :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (21/07/60) [มีข่าวสารมาเเจ้ง] :)
เริ่มหัวข้อโดย: Quasar77 ที่ 20-10-2017 15:04:15
คบหมอมัน(ส์)ดี จริงๆน่ะ 5555555
น่าร๊ากกกกกก
 :mew1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (21/07/60) [มีข่าวสารมาเเจ้ง] :)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 21-10-2017 06:15:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (21/07/60) [มีข่าวสารมาเเจ้ง] :)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 21-10-2017 13:50:28
สนุกมาก ๆ ครับ น่ารักทั้งสองคู่เลย



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (21/07/60) [มีข่าวสารมาเเจ้ง] :)
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 24-10-2017 23:37:04
อื้อหืออออ สวีทกันเบอร์ใหญ่
คนอ่านอิจฉาค่าาา
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (21/07/60) [มีข่าวสารมาเเจ้ง] :)
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 07-11-2017 23:02:33
ขอบคุณค่ะ  น่ารักมากๆๆๆเลย

รอตอนพิเศษนะคะ ❤❤
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนที่ 31 The end| (2/12/60) |เเวะมาเเจ้งค่า| ^^
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 02-12-2017 22:16:38
หายไปนานเลยยยย  :กอด1: มีความคิดถึงงงงงงง


วันนี้เเวะมาเเจ้งข่าวสารจากนิยายเรื่อง พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ ค่ะ

สำหรับใครที่สนใจหนังสือ สามารถหาซื้อได้เเล้วตามร้านนายอินทร์เเละ B2S นะคะ


ใครยังไม่มีไว้ในครอบครองอย่าลืมแวะไปอุ้มน้องหมูกับพี่ศิลากลับบ้านกันน๊า

หนังสือเป็นฉบับที่รีไรท์เรียบร้อยแล้วพร้อมตอนพิเศษอีกเพียบเเละตอนน้องหมูทำงานเเย้วด้วย

ไม่อยากให้พลาดความฟีลกู๊ดนี้จริงๆ ค่ะ อยากเก็บน้องไว้

       มามะๆ อ้อนแล้ววว มัน(ส์)ดีจริงๆน๊า >0< ่

เเละก็ขอขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดีๆจากคนอ่านทีี่น่ารักทุกคนน๊า  :กอด1: :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|
เริ่มหัวข้อโดย: vampire_rose ที่ 05-11-2018 20:38:51
Happy valentine
# มีความคิดถึงหนุ่มๆหนักมาก เลยเเวะเอามาฝากให้หายคิดถึง

# แฮปปี้วาเลนไทน์เดย์ ย้อนหลัง(2018)



[PART : หมู]

วันแห่งความรักผมมีให้คนรักทุกวัน ไม่จำเป็นต้องเป็นวันวาเลนไทน์ ผมก็พร้อมจะให้ของทุกอย่างกับพี่ศิลา...



แต่ว่าขอสารภาพตามตรงครับว่า ผมยังไม่ได้เตรียมของอะไรให้พี่เขาเลย โฮก งานมันเยอะจนไม่มีเวลาไปคิด แล้วนี่ผมไม่ได้เจอพี่ศิลามากี่วันแล้ววะ ผมนับนิ้วตัวเองดู พอดีพี่เขากลับบ้านอ่าครับ ผมไม่ได้กลับไปด้วย และไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาหอเมื่อไหร่



หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ ผมเดินออกมาในสภาพชุดนอนใส่แค่เพียงกางเกงไว้ ส่วนเสื้อทิ้งไว้ก่อนค่อยใส่ ผมเช็ดผมของตัวเองพลางมองแสงไฟจากตึกด้านนอก ความมืดบวกกับแสงไฟ ก่อนผมจะหันกลับมามองห้องที่มันว่างเปล่า ห้องที่ไม่มีพี่ศิลาอยู่ โคตรเหงาเลย



“คิดถึงพี่ศิลาชะมัดโว้ย...” ผมโวยวายก่อนโทรศัพท์ของผมจะสั่น และเป็นเบอร์ที่ผมคิดถึงทุกลมหายใจเข้าออก ผมรีบหยิบมารับ



(“รับเร็วดีนี่...”) เสียงหวานดังมาจากปลายสาย ฮือ พี่ศิลาของหมู



“คนของใจโทร.มา ผมก็ต้องรับเร็วสิครับ”



(“แหวะ...มึงกินข้าวยัง? ทำอะไรอยู่?”)



“คิดถึงพี่”



(“เอาดี ๆ ไอ้สัด กินข้าวยัง ไม่ใช่ว่าทำแล็ปจนไม่ได้กินข้าวกินปลาหรอกนะ”) น้ำเสียงด่าแต่แฝงไปด้วยความห่วง



“คิดถึงพี่จริง ๆ ผมกินแล้วครับ หมูแดงร้านเดิม แต่มันไม่อร่อยเท่าวันที่กินกับพี่” ผมโปรยความหวานจนอีกฝ่ายหัวเราะในลำคอ



(“มึงนี่มันพูดจาได้เลี่ยนตลอด เออ กูจะโทร.มาบอกมึงว่า กูจะนอนบ้านนะ”)



“ได้ครับ” ผมตอบรับก่อนชะงัก



“เดี๋ยวครับ หมายความว่าพรุ่งนี้ พี่จะอยู่ที่บ้านเหรอ...”



(“อือ กูคิดว่างั้นแหละ พรุ่งนี้มึงมีเรียนไหม”) เสียงหวานถามอ้อมแอ้ม ส่วนใจผมแทบจะเหม่อลอยไปเรียบร้อย เมื่อรู้ว่าพรุ่งนี้อาจไม่ได้อยู่กับพี่เขาในวันแห่งความรัก



“มีครับ คาบเช้าเลย” ผมตอบ ปลายสายเงียบไปสักพัก



(“ตั้งใจเรียนนะมึง นี่จะนอนยังวะ”) พี่เขาดูไม่ค่อยด่าผมเลย ทั้งที่ดีแล้ว ทำไมผมดูเหงาแปลก ๆ



หรือนี่ผมเป็นโรคจิตชอบให้พี่ศิลาด่าไปแล้ว



“ใกล้แล้วล่ะครับ พี่ล่ะจะนอนยัง”



(“นี่แหละ กลับมาอยู่บ้านต้องนอนเร็วหน่อย ป๊าเคร่งเรื่องนอนอย่างไรไม่ให้ตาบวม”) พี่เขาหัวเราะเล็กน้อย พี่จะรู้ไหมว่าหมูใจละลายทุกการกระทำ ทุกอิริยาบถที่พี่แสดงออกมา



“งั้นไปนอนกันครับ พี่จะได้ตาไม่บวม...” ผมชวนทั้งที่ยังไม่ได้อยากวาง อีกฝ่ายเงียบไปเหมือนกัน



(“มึงรีบๆ นอนนะ ฝันดีไอ้หมูกรอบ”) ผมยิ้ม



“ครับ ฝันดีครับพี่หมวยเล็ก” เสียงปลายสายตัดไป ผมทิ้งตัวลงนอนตรงที่นอนแล้วเปลี่ยนเป็นนอนตะแคงหันไปทางหมอนของพี่ศิลา ผมเลื่อนมือไปสัมผัสหมอนเบา ๆ ราวกับว่ากลิ่นกายของพี่ยังอยู่



เฮ้อ นี่ผมเพ้อเจ้อไปแล้วใช่ไหม อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะวันวาเลนไทน์แล้วครับ...อยากนอนกอดพี่เขาชะมัด



ก่อนผมจะหลับตาลงด้วยความเหงา...เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ผมกลับรู้สึกถึงแรงยุบของเตียงพร้อมกับกลิ่นหอมเหมือนช็อกโกแลต



“หมู ไอ้หมูกรอบ...” ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นก็พบกับใบหน้าหวาน รอยยิ้มที่ส่งมาทำให้ใจผมเต้นแรงโดยอัตโนมัติ



“พี่ศิลา หมูกำลังฝันอยู่ใช่ไหม พี่ยิ้ม” ร่างกายกับสัญชาติญาณของผมสั่งให้ผมพลิกตัวเองขึ้นไปคร่อมร่างบางไว้ ร่างบางยกมือขึ้นมาลูบหน้าผม



“สุขสันต์วันวาเลนไทนเดย์นะไอ้หมู มึงไม่ได้ฝัน นี่คือความจริง” เขาพูดไม่พอกลับเอามือหยิกแก้มจนผมรู้สึกเจ็บ



“โอ๊ย อย่าหยิกสิครับ แต่ยังไง ไหนพี่บอกนอนบ้าน?” ผมถามงง ๆ คนตรงหน้ากลั้นยิ้มแล้วหันหน้าหนี



คอตรงหน้า ขาวยั่วตายั่วใจหมูมาก



“กูจะแอบเซอร์ไพร์มึงไม่ได้รึไง ถ้าบอกมันก็ไม่ตื่นเต้นสิวะ” คนขี้แกล้งตัวเล็กกว่าตรงหน้ากำลังหัวเราะ



“นี่แกล้งผมเหรอ”



“เปล่าไม่ได้แกล้ง กูรู้น่า ว่ามึงอยากอยู่กับกูในวันวาเลนไทน์ ใช่ไหม” เขาถามทั้งที่รู้ทางคนอย่างผม



ผมเลื่อนมือไปจับมือร่างบางแบบประสาน มือนุ่มที่ผมคุ้นเคยดี ผมกระตุกยิ้มมองพี่ศิลาที่หลบตาผมเพราะเขินกับการจ้องผมของผม



“ใช่ครับ ผมอยากอยู่กับพี่ในคืนวันวาเลนไทน์” ผมก้มลงไปใกล้ซอกคอของเขา พี่เขาสะดุ้งนิด ๆ แต่ก็เม้มปากนิดหน่อยเหมือนตัดสินใจ และคำตอบจากปากเขาทำให้ผมยิ้มแบบหุบไม่ได้



“เออ อยากทำอะไรก็ทำ กูจะถือว่านี่เป็นของขวัญวาเลนไทน์ให้มึงละกัน” โอ้พระเจ้า...ดาเมจแรงมากทุกคน



“จริงเหรอครับ ผมทำได้เหรอ” ผมถามอึ้งอีกรอบ เผื่อพี่เขาพูดเล่น



“ไอ้สัด! มึงจะมาถามอะไรให้กูพูดหลายรอบวะ...จะทำก็รีบ อื้อออ อา มึงมือเย็นจัง กูหนาว...” เสียงหวานดังแผ่วเบา กับคนภายใต้ร่างผม ดูยังไงเขาก็น่ารักที่สุดสำหรับผม และผมหวงเขามากด้วย



“ไม่ต้องกลัวนะครับ อีกสักพักมันก็อุ่นแล้ว” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ของผมทำให้เขายิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่



น่ารักโคตร ๆ โว้ย



.........

........

ผมนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง เผลอหลับหลังจากเสร็จกิจกรรมคู่รัก ผมควานมือหาคนข้างกายกลับไม่พบ ผมเลยลืมตาขึ้นแล้วหันไปเห็นพี่เขานั่งอยู่ตรงโซฟาถัดไปจากเตียงตรงแถวหน้าต่างกระจกใส พี่ศิลาใส่เสื้อชุดนอนแขนยาวลายทางของผม ซึ่งมันตัวใหญ่สำหรับเขามาก จนเหมือนเป็นชุดเดรสไปแล้ว พี่เขานั่งยืดขาไม่เกรงใจคนมองอย่างผมเลย



ถ้าผมหัวใจวายเพราะเห็นขาอ่อนของเมีย ช่วยเตรียมออกซิเจนไว้ให้ผมด้วยนะครับ



“ไม่หนาวเหรอครับ ไปนั่งอยู่ตรงนั้น” ผมทักแล้วก้าวลงจากเตียงในสภาพกางเกงนอนขายาว เข้าคู่กับร่างบาง เขาใส่เสื้อ ส่วนผมใส่กางเกง เขาหันมามองผมพลางยกโกโก้ร้อนดื่ม



“ไม่เท่าไหร่ มึงตื่นขึ้นมาทำไม พรุ่งนี้ไปเรียนไม่ใช่เหรอวะ”



“พี่ไม่ได้นอนอยู่ด้วย ใครจะหลับลงล่ะ...ผมนั่งด้วยนะ” ผมขอ แต่ไม่ได้รอให้เขาอนุญาต ผมนั่งลงข้างหลังพี่ศิลาแล้วใช้โอบเอวร่างบางจากด้านหลังให้มานั่งบนตักผมแทน เขาเหลือบสายตาดุใส่ผม แต่ไม่ได้คัดค้านอะไร



“ปีนี้ขอโทษนะครับ ที่ไม่มีอะไรให้พี่” ผมว่าตามความจริง แต่ประโยคคำตอบจากร่างบางทำให้ผมยิ้ม



เขาเอนตัวมาพิงผมที่อยู่ด้านหลัง



“ไว้วาเลนไทน์ปีหน้า มึงก็ค่อยซื้อให้กูละกัน” ผมว่าประโยคนี้มันเหมือนบอกรักที่ไม่มีคำว่ารัก ยังไงยังงั้นเลย เพราะมันหมายถึง ไม่ว่ากี่ปี เราก็อยู่ฉลองวาเลนไทน์กันไปแบบนี้เรื่อย ๆ



“ได้สิครับ ผมจะจัดชุดใหญ่ให้เลย” ผมอวด เขาเอียงคอมามองผมก่อนจะหันหน้ามาหาผม



ลืมบอกพี่ศิลาว่า อย่าขยับบ่อยครับ พี่นั่งอยู่บนตักผม...แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้และขยับตัวไม่เกรงใจผมเลย



“เออ! กูซื้อของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้มึงด้วย นี่...” พี่ศิลาเอื้อมไปหยิบถุงจากร้านวัตสันมาเปิดดู ผมมองคนตัวเล็กกว่าที่นั่งอยู่บนตัก พอดูแบบนี้ พี่เขาจะรู้ปะวะว่าน่ารักมาก นี่พี่หมวยเล็กที่ชอบบอกว่าตัวเองเถื่อนเป็นประจำไงครับ เถื่อนตรงไหนไม่รู้ ที่มองอยู่นี่มีแต่คำว่าน่ารัก และโคตรน่ารัก!



แฟนใครวะ งานดีชะมัด (ชมแฟนตัวเองก็เป็น...)



“มึงอย่ามาจ้องกูด้วยสายตาหื่นกามขนาดนั้นได้มะ เดี๋ยวเอานิ้วจิ้มตาเลยนิ” โหดมาก โหดจนน่าจับกดอีกรอบ



“ไหนครับ ซื้ออะไรมาผม” ผมเหลือบมองซองในถุงเลยพูดอย่างขี้แกล้ง



“ถุงยางเหรอ?”



“ไอ้สัด เดี๋ยวกูถีบออกนอกห้อง” ผมขอถอนคำพูดที่บอกว่าพี่เขาไม่ด่าผม ไม่ด่าอะไรล่ะ ไอ้สัดเต็มหน้าเลย...



“โหย หยอกนิดเดียวเอง” พี่ศิลาทำหน้าเอือมกับการหยอกของผม เขาหยิบสิ่งที่ซื้อมาขึ้นมาโชว์ผม มันคือ ที่มาร์กหน้าลายหมีแพนด้าครับ



“นึกยังไงซื้อมาให้ พี่จะบอกว่าตาผมดำเหรอ?” ผมเลิกคิ้วมองเขาฉีกซองแผ่นมาร์กหน้าออกมา



“เหตุผลที่กูซื้อมาให้มึง ข้อ 1 คือ มึงเริ่มนอนดึกบ่อย พักผ่อนไม่เพียงพอ ครีมกูบอกให้ทาบำรุง ได้ทาไหม?” พี่ศิลาเริ่มบ่นยาว



“ข้อ 2 แผ่นนี้รีวิวดี พี่ออกศึกแนะนำกูมา เห็นมันทำให้หน้าเด้ง ใสกิ๊ง” ผมมองร่างบางบรรยายสรรพคุณ บอกตรงว่าไม่ได้บอกส่วนไหนหรอก นอกจากขาขาวที่อยู่บนตักผม อย่าไปบอกพี่ศิลานะครับ มีหวังโดนเตะออกนอกห้องแน่



“และข้อสุดท้าย คือ กูซื้อแล้วมันได้แสตมป์สะสมแลกกระเป๋าผ้า นี่! สวยใช่ไหม” ผมว่าเหตุผลคือข้อสุดท้ายมากกว่าที่พี่เขาซื้อมา แต่ผมก็ยิ้มพยักหน้าเข้าใจ เห็นแฟนยิ้ม หมูก็มีความสุขด้วยครับ



“พี่แกะออกมา จะเอามามาร์กหน้าผมเหรอ?”



“ใช่ ลองเลย เดี๋ยวกูแปะให้” เขายืดตัวขึ้น โอ้...พี่ศิลาทับตรงจุดนั้นของผมพอดี เข่าเล็กกดลงไปเล็กน้อย



“อึก พี่...” ดูเหมือนเขาจะยังไม่รู้ตัว พี่ศิลาแปะมาร์กแพนด้าให้ผมด้วยความอารมณ์ดีถึงกับชะงักและกระเด้งตัวออกจากผม เมื่อรู้สึก



“ไอ้หมู!” ผมรีบลุกขึ้นและจะพูด แต่ปากมันกลับขยับไม่ถนัดเนื่องจากมีที่มาร์กหน้า



“ใจ เย็น นะ ครับ พี่ ศิ ลา คือ ผม ห้าม ตัวเอง ยาก เวลาอยู่ใกล้พี่...” พอเห็นผมพูดประโยคช้า ๆ ร่างบางถึงกับหัวเราะกับท่าทีอย่างกลั้นไม่ได้ ผมลอกมาร์กออกจากหน้าตัวเอง



“เฮ้ย เอาออกทำไมวะ มันต้องมาร์ก...” เขาโวยก่อนจะหยุดเมื่อผมโน้มตัวลงไปจูบประกบปากเล็กตรงหน้า แววตากลมโตสบตากับผมนิ่ง มือเขาเตรียมผลักผมออกแน่ ๆ ผมเลยจะผละออก เพราะไม่อยากให้เขาโกรธ



ทว่า พอผมถอนจูบออก ร่างบางใช้แขนโอบรอบคอผมไว้ทำให้ผมที่กำลังจะลุกโน้มไปหาเขาที่คุกเข่าอยู่บนโซฟา เฮือก พี่ศิลากอดผม! แถมประโยคของเขาทำเอาผมสวมกอดเขาไว้แน่น



“ถ้ามึงเหนื่อยกับเรื่องเรียน กูไม่อยากให้มึงเก็บไว้คนเดียว มีอะไรก็บอกกูได้นะไอ้หมู...



“บอกให้แฟนของมึงฟังได้” เสียงหวานดังแผ่วแต่มันกลับดังก้องไปทั่วใจ ผมใช้สองมือประคองเอวเขาพร้อมกับลุกขึ้น พี่ศิลาก็ใช้มือจับไหล่ผมไว้เพื่อยึด



“ขอบคุณนะครับ ที่ทำให้วันนี้เป็นวันพิเศษ เหมือนในทุก ๆ วันของเรา หมูรักพี่นะครับ พี่หมวยเล็ก”



ถึงแม้ปีนี้ ผมจะไม่มีของขวัญอะไรให้พี่เขา แต่ปีหน้าและในอีกทุก ๆ ปีต่อจากนี้...

ผมจะมีเขาอยู่ฉลองวันวาเลนไทน์แบบนี้เรื่อยไป

สุขสันต์วันแห่งความรักนะครับทุกคน









=====================================****

เเฮปปี้วาเลนไทน์เดย์ย้อนหลังนะคะ <3 (2018)

จริงๆ ลงไว้ในบันทึกเพจ เลยเอามาลงไว้ในตอนนี้ด้วย

เผื่อใครยังไม่ได้ติดตามเพจน๊าา

​ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดีๆ ที่เป็นกำลังใจให้กันเสมอนะคะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|
เริ่มหัวข้อโดย: Piiiimsen ที่ 09-01-2019 11:35:24
แงงงง น่าร๊ากกก
 :z3:
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 15-01-2019 22:24:08
ชอบคู่นนท์กับเสามากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 27-07-2019 16:11:59
อ่านจบแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 11:52:53
 :pig4: