ตอนที่ 29
[พาร์ตของเสา]
ผมมองร้านทองตรงหน้าที่ใหญ่มาก แถมยังมีบ้านหลังอลังการอยู่ด้านหลังอีก...นามสกุลของไอ้นนท์ติดเป็นชื่อร้าน ครับ...นี่คือร้านและบ้านของไอ้นนท์นั่นเอง หลังจากที่ขับรถออกมาอีกทางของเมือง เราก็มาถึงบ้านไอ้นนท์ ถามว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง...ก็เกร็งไงล่ะ เกร็งมากด้วย...นนท์ที่กดสวิสต์ล็อครถอยู่ก็เดินอ้อมมาหาผมที่ยืนมองห้างร้านทองที่มีคนเข้าพลุกพล่าน
“ปะ เข้าไปในร้านกัน” มันชวน “เสา...ไม่ต้องห่วงนะ พ่อกับแม่นนท์ใจดี” ไอ้นนท์เอื้อมมือมากุมมือของผมไว้ ราวกับว่ามันรู้ว่าผมกังวล ใจดีกับมึง แต่พวกเขาอาจจะไม่ใจดีกับกูก็ได้นี่...ผมพยักหน้าและเดินตามไอ้นนท์เข้าไปในร้านทอง
“เอ๊ะ ตานนท์! มาแล้วเหรอลูก...พาใครมาด้วยล่ะเนี่ย” ผู้หญิงวัยกลางคนดูดียิ้มแย้มแจ่มใสกำลังยิ้มแฉ่งให้ผม ผมไม่เคยเจอหน้าของพ่อกับแม่ไอ้นนท์หรอกครับ นี่ก็เพิ่งครั้งแรกนี่แหละ ผมยกมือไหว้
“ครับ นนท์กลับมาแล้ว....นี่เสา
แฟนของนนท์ครับ” มันบอกแบบไม่ปิดบังและตรงสุด ๆ ผมเบิกตากว้างพร้อมกับทุกคนที่กำลังเลือกทองกันอยู่ในร้าน...เชี่ยยย ไอ้นนท์พูดแบบสายฟ้าแลบ มึงทำไมไม่บอกกูก่อนว่าจะพูด แม่ของนนท์มองหน้าผมอึ้งสักพัก ก่อนจะพูดขึ้น
“นนท์พา...แฟนของลูกไปที่บ้านเราก่อนไป เดี๋ยวตอนเย็นค่อยเข้ามาหาแม่กับพ่อที่บ้านใหญ่” ไอ้นนท์มันพยักหน้ารับแล้วจูงมือของผมออกไปจากร้านทอง และเดินเข้าไปทางด้านข้างที่เป็นบ้านของมันแทน
“ไอ้สัดนนท์! พูดอะไรออกมาวะ จู่ ๆ ทำไมไปบอกกลางร้านแบบนั้น” ระหว่างที่เดินมาตามทางเดินเข้าบ้านมัน ผมก็เริ่มบ่น...ก็ผมไม่อยากให้มันมีปัญหากับครอบครัวนี่ เผื่อพ่อกับแม่ของมันไม่ยอมรับล่ะ..ก็เหมือนอย่างตอนของไอ้ศิลา แต่โชคดีที่ครอบครัวของไอ้น้องหมูมันยอมรับไอ้ศิลา ส่วนครอบครัวของไอ้นนท์จะยอมรับเรื่องพวกนี้ได้จริงเหรอวะ...ผมทำไมรู้สึกกลัวขึ้นมา
“นนท์พูดความจริงนี่ ก็นนท์บอกเสาแล้วว่า จะพามาเปิดตัว จะช้าจะเร็วก็เป็นความจริง” ไอ้นนท์พูดออกมาด้วยประโยคแมน ๆ ...มันดูรักผมมากเลย...จะว่าไป ผมเองก็ยังไม่เคยบอกคำนั้นให้มันได้ยินสักทีครับ...ก็มันแบบว่า...เออ เขินนั่นแหละ... ดูไอ้นนท์มันก็ไม่ได้อยากรู้สักเท่าไหร่ก็ไม่เห็นมันถาม...
แต่ถึงไม่บอก...มันก็น่าจะรู้แล้วไม่ใช่รึไงวะ...ไม่งั้นผมจะคบกับมันทำไมเล่า
ผมกับไอ้นนท์เดินเข้ามาภายในบริเวณบ้าน มันพาผมเดินไปอีกทางที่เป็นบ้านหลังเล็กสีขาว ผมมองอย่างแปลกใจก็มันมีบ้านหลังใหญ่ที่เราเดินผ่านมาแล้วอีกหลังด้วย ไอ้นนท์ที่จูงมือผมราวกับว่ากลัวผมหาย มันหยุดเดินแล้วหันมาหาผมที่เดินตามมัน
“พอดีบ้านนี้ เป็นบ้านของนนท์น่ะ...ส่วนนั้นบ้านใหญ่ พ่อกับแม่นนท์อยู่ที่นั่น” มันว่า ผมเลิกคิ้ว
“สังคมรังเกียจเหรอมึงน่ะ ทำไมต้องแยกวงมาอยู่นี่” ผมถาม มันก็หัวเราะเบา ๆ เหมือนอารมณ์ดีมาก
“คงงั้นมั้ง นนท์ชอบอยู่เงียบ ๆ คนเดียวมากกว่าก็เลยออกมาอยู่บ้านตรงนี้” ไอ้นนท์ไขประตูบ้านเข้าไป บ้านชั้นเดียวแต่กลับมีอุปกรณ์ทุกอย่างครบครัน แถมยังดูสะอาดมาก ห้องโทนสีน้ำเงินดูสบายตา เหมาะกับไอ้สัดนนท์ดีเหมือนกัน ผมมองรอบห้องอย่างสนใจ...(ก็ไม่เคยมานี่ ก็เลยดูสนใจเป็นธรรมดาแหละ)
หมับ อ้อมกอดของผู้ชายเจ้าของบ้านนี้โอบรอบเอวผมจากด้านหลังแบบเนียน ๆ ไอ้เชี่ย...อย่ามาทำแบบนี้โว้ย...
“ไอ้เหี้ยนนท์! ปล่อยเลย” ผมด่าขึ้นมาพร้อมกับดิ้นแต่มือไอ้นี่ยิ่งกว่าคีมอีก...
“ด่าอีกแล้ว ฮ่า ๆ...” มันว่าแต่ก็ไม่ยอมปล่อยตัวของผมออกสักที ไอ้นนท์ซบหน้าลงที่ไหล่ของผม ผมเหลือบมองมันนิด ๆ
“ปล่อยได้แล้ว...” ผมไล่
“ไม่ปล่อย...ขอให้รู้ไว้นะเสา ว่า
นนท์จะไม่มีวันปล่อยเสาไป” ผมชะงักกับคำพูดจริงจังที่ออกมาจากปากไอ้นนท์...ผมถูกหมุนตัวให้ไปเผชิญหน้ากับใบหน้าคมเถื่อน ๆ ตรงหน้า ใบหน้าที่กระชากใจสาวมานักต่อนัก ไอ้ที่เคยเป็นเพลย์บอยตัวพ่อมาก่อน...แต่หลังจากที่มันคบกับผม มันก็ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่า
‘มันจะมีแค่ผมคนเดียว หยุดที่ผมคนเดียว’ และมันก็ทำได้จริง ๆ
“กูก็ไม่ได้บอกสักคำนี่ ว่าจะหนีมึงไป” ผมตอบ เรียกรอยยิ้มจากไอ้นนท์ทันที มันเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผม ผมก็สบตากับมันนิ่ง...ไอ้เชี่ย ทำไมกูไม่หลบ
“ถ้าไม่หลบ จะจูบนะ” เสียงเข้มทัก แต่ถึงผมไม่ยอมมันก็จูบอยู่ดีแหละ เพราะงั้นก็ยอม ๆ ไปเหอะ อ้าว...ไอ้เสาครับแบบนี้ก็ได้เหรอ ผมยกยิ้มแล้วทำในสิ่งที่ไอ้นนท์อึ้งไป เมื่อผมยกมือโอบรอบคอของมัน
“ก็เอาสิ...”
“ยั่ว..ต้องเจอจูบบดขยี้ของนนท์นะ” มันว่าแบบขี้เล่น พร้อมกับริมฝีปากที่โน้มลงมาจูบผมอย่างช้า ๆ
“ไอ้สัดนนท์ กาม...” ผมด่าแค่นั้นก่อนที่ริมฝีปากของผมจะถูกปิดด้วยปากของไอ้นนท์ อย่างดูดดื่ม ปลายลิ้นร้อนกำลังเกี่ยวรัดลิ้นเล็กของผมที่สั่นระริก ไอ้นนท์แม่ง...จูบเก่งเกินไปแล้ว ไอ้เชี่ย ผมเริ่มจะเคลิ้มไปกับจูบรสหวาน (มันหวานจริง ๆ นะ) หัวสมองเริ่มคิดอะไรไม่ออกนอกจากมองแววตาคมตรงหน้าที่จ้องใบหน้าของผม ราวกับจะกลืนกินผมไปทั้งตัว เราสองคนผลัดกันจูบไปมา เสียงดังจุ๊บเป็นระยะ ก่อนเราจะเซล้มไปจบที่เตียงกันทั้งคู่....
@17:00น “ไอ้สัดนนท์ตื่น...ตื่น!! อ๊ะ เฮ้..” ผมที่เปลี่ยนชุดแล้ว (พอดีไปอาบน้ำมาก็เลยได้เอาเสื้อไอ้นนท์ตัวใหญ่ ๆ มาใส่แทน ส่วนกางเกงก็ใส่ตัวเดิมของผม) ผมสะกิดไอ้นนท์ที่แม่งนอนหลับน้ำลายยืดอยู่ แถมจู่ ๆ มันก็ดึงผมเข้าไปในอ้อมกอดซะงั้น...เฮือก ร่างกายเปลือยเปล่าของมันทำให้ผมสะดุ้ง
“กี่โมงแล้ว”
“จะเย็นแล้วไอ้เชี่ย พ่อกับแม่นัดมึงไปที่บ้านใหญ่นะ!” ผมเตือนพลางดันตัวเองลุกขึ้น ไอ้นนท์ขยี้ผมของมันที่ยุ่ง ๆ มองผมยิ้ม ๆ มือของมันเอื้อมมาแตะริมฝีปากของผมอย่างขี้เล่น
“เมื่อกี้สุด ๆ เลยว่ะ ชอบจัง” ไอ้เชี่ยยยยย...กูอยากจะถีบมันให้ตกเตียงไปเลย ผมปัดมือมันออก
“พูดมากไอ้สัด ลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อไป” ผมดึงแขนมันให้ลุกขึ้น ตัวยังกะควายยังมีหน้ามาทำหน้าอ้อนผมอีก ไอ้นนท์ยอมลุกขึ้นนั่งและหยิบผ้าเช็ดตัวข้างเตียงมาพันรอบเอว ...ดีมากมึง กูไม่อยากจะเห็นอะไรที่มันน้อย ๆ ของมึง....(นั่นมันเรียกว่าน้อยเหรอไอ้เสา...มึงจะมาแซวตัวเองทำไมวะ)
ไอ้นนท์เหลือบมามองผมแล้วยกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ มันนี่ขยันทำสายตาลวนลามผมชะมัด ไอ้หื่น!! ถึงจะด่ามันไปจริง ๆ เชื่อสิว่าไอ้นนท์มันต้องยิ้มรับแน่ ๆ ไอ้นี่มันโรคจิตของแท้เลยล่ะ
“ปวดร่างกายมากไหม ขอโทษเมื่อกี้นนท์ไม่ได้ยั้งแรง...” มันเขยิบเข้ามาใกล้ผมที่เริ่มทำหน้าตึง มึงพูดมากูก็นึกตามสิวะ!! ผมยกกำปั้นใส่มัน มันก็เลยหัวเราะและวิ่งหนีเข้าไปอาบน้ำ
“ไอ้ฟายนนท์!! ไปอาบน้ำเลยไป ก่อนที่กูจะกระทืบมึงเนี่ย”
“โหดตลอดเลย เดี๋ยวจัดอีกรอบเลยนิ”
“เอากำปั้นกูไปกินก่อนเหอะ ไอ้บ้าโรคจิต” ผมด่าไล่หลังไปตามเสียงหัวเราะอารมณ์ดีจนเหมือนคนบ้าของไอ้นนท์ ผมจับเอวของตัวเองที่ปวดตึบ ๆ อยู่ คาดว่าคืนนี้ก็คงจะเจ็บไม่หายแน่ ๆ แม่งใส่มาแบบไม่ยั้งจริง ๆ รุนแรงกับกูมากไอ้ฟายนนท์...แต่ผมก็ยอมมันซะงั้น.....
|บ้านใหญ่| ตอนนี้ผมอยู่กลางโต๊ะอาหารแบบจีนที่เป็นวงกลม มีอาหารมากมายหลายอย่างน่ากินมาก ทั้ง ๆ ที่ผมเป็นคนชอบกินแท้ ๆ แต่กลับรู้สึกว่าอาหารตรงหน้าไม่ได้ทำให้ผมอยากกินขึ้นมา ก็เพราะผมกำลังโดนสายตาของ พ่อ แม่ และอาม่าของไอ้นนท์ที่มองผมตาปริบ ๆ ผมเกร็งมาก...ไอ้นนท์ก็พอจะรู้ว่าผมเกร็งมันก็เลยอยากจะสร้างบรรยากาศให้ดีกว่าเดิม
“โห! อาหารน่ากินมาเลยนะครับ ฝีมือแม่ คิดถึงจัง...ดูสิเสา แม่นนท์ทำกระเพราะปลาอร่อยมากเลยนะ” ทุกคนก็ยังเงียบกริบในขณะที่ไอ้นนท์ทำท่าดี๊ด๊า...เออ กูว่ามึงไม่น่าจะพูดขึ้นมาเลย ฮ่า ๆ ในขณะที่ผมกำลังเกร็งอยู่ จู่ ๆ อาม่าที่นั่งอยู่ข้างผมก็คีบไก่มาให้ผม
“อันนี้อร่อยนะ ลองทานได้อาหลานสะใภ้...” ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะชะงัก...เมื่อกี้อาม่าว่าอะไรนะครับ!!
“อาม่าว่าอะไรนะครับ!” ไอ้นนท์แม่งตะโกนมาเลยล่ะครับ พ่อของนนท์เลยพูดขึ้นบ้างด้วยท่าทีสุขุม ต่างจากไอ้นนท์ที่กวนประสาทชิบ
“นนท์เสียงดัง...”
“อย่างที่อาม่าพูดนั่นแหละจ๊ะ...ก็นนท์บอกว่า เสาเป็นแฟนของลูกไม่ใช่เหรอ แม่ขอถามคำถามหนึ่งได้ไหม” แม่ของไอ้นนท์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนุ่ม ที่ทำให้ผมผ่อนคลายลงได้บ้าง...มือหนาของไอ้นนท์เลื่อนมากุมมือของผมไว้ใต้โต๊ะ ผมเหลือบมองมัน...ผมกับมันควรจะผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ด้วยกันใช่ไหมครับ
“ได้สิครับ แม่ ถามนนท์มาได้เลย” มันทำท่ากระตือรือร้น ใจของผมตอนนี้มันเต้นเร็วมาก ตื่นเต้น แม่ของมันจะถามอะไรบ้าง
“พวกแม่พอจะรู้เรื่องความรักสมัยนี้มันไม่ได้จำกัดเพศ แต่ลูกก็รู้ใช่ไหมว่า เมื่อรักแล้ว ก็กล้าที่จะยอมรับ ว่ารักของพวกลูกสองคนมันเปราะบางมาก...แต่บอกตรง ๆ นะจ๊ะว่า แม่ชอบหนูเสานะ รู้สึกถูกชะตาตั้งแต่เจอหน้าเมื่อกี้แล้วล่ะ...” พอผมได้ยินก็หลุดยิ้มออกมานิด ๆ ก็เมื่อกี้แม่เขาบอกว่าชอบผมด้วย...
“ขอบคุณครับ...” ผมตอบ
“แม่พอจะรู้นิสัยลูกชายของแม่ว่าเพลย์บอยเจ้าชู้เปลี่ยนแฟนบ่อยแค่ไหน...” เชรด แม่พูดตรงมาก ใช่ครับ ไอ้เชี่ยนี่! มันเจ้าชู้
“โหย แม่ นั่นมันอดีตไปแล้ว” ไอ้นนท์แอบโวยวายแล้วมองหน้าผมตาปริบ ๆ ไอ้สัดอย่ามาทำหน้าทำตากลางโต๊ะอาหารแบบนี้โว้ย
“ก็รู้ไงจ๊ะว่าอดีต แม่ถึงดีใจไง...ที่นนท์คบอยู่กับหนูเสา เพราะแม่มองแล้ว ไอ้นนท์มันมีแววกลัวเมียแน่นอน โฮะ ๆ” พอถึงประโยคนี้เท่านั้นแหละครับ อาการเกร็งของผมก็หายไปหมด...ผมว่าผมพอจะรู้แล้วว่าไอ้นนท์มันได้นิสัยกวนประสาทเล็กน้อย และอารมณ์ดีไม่มีขีดจำกัดมาจากใคร
“คุณลูก ๆ เขาจะกลัวคุณหมดแล้ว” พ่อของนนท์ขัดขึ้นทำให้ผมเกือบหลุดขำ แต่ไอ้นนท์มันขำเรียบร้อย ไอ้เส้นตื้นนนน....
“จริงครับพ่อ นนท์เริ่มกลัว...ตกลงครอบครัวเรายอมรับที่ผมกับเสาคบกันแล้วใช่ไหมครับ?” ถามตรงไปก็โดนตอบตรงกลับมา
“ใช่จ๊ะ พวกเรายอมรับ อ้อ อีกคำถามที่แม่อยากถามคือ....” แม่หันมามองผม “แม่มีลูกชายคนเดียว แม่รักตานนท์มาก...แม่เลยอยากจะถามตรง ๆ ว่า
เสารักลูกชายแม่ไหม....” ผมตาโตกับคำถาม เชี่ยแล้วไงล่ะ...เจอคำถามนี้ไปผมถึงกับนิ่ง...ไอ้นนท์เห็นผมทำหน้านิ่งไปมันก็เลยรีบเบรกแม่ของมัน
“เออ แม่ครับ ผมดีใจนะที่แม่ยอมรับเรื่องของพวกผม แต่เราทานข้าวกันดีไหม...” ผมเหลือบมองไอ้นนท์ที่กลัวว่าผมจะไม่ชอบใจ เพราะปกติเวลาที่มันถามผม ผมก็จะเลี่ยงตลอด ก็ผมพูดไม่ค่อยออกไง มันก็เขินแหละครับ คนอย่างผมมันก็นิสัยแบบนี้นี่แหละ
แต่ถ้าถึงเวลาที่จำเป็นจริง ๆ เราก็ต้องพูดใช่ไหมล่ะ...ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
“
ครับ ผมรักเขา” ผมตอบออกไป ทำให้ไอ้นนท์มันเบิกตากว้างมาก...และอ้าปากเหวอไปเลย ฮ่า ๆ ...เออว่ะ ผมก็พูดออกไปได้นี่นา...แม่กับพ่อและอาม่าก็ยิ้มรับเหมือนกับว่าพวกท่านต้องการคำตอบนี้จากผม เพื่อยืนยันว่า ลูกชายของพวกเขาจะไม่ถูกทิ้งไว้กลางทาง ฮ่า ๆ
“ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวตระกูลร้านทองของเรานะจ๊ะ หนูเสา”
“อาม่าก็ยินดีต้อนรับ” อาม่าพูดบ้าง ผมก็เลยยิ้มเหลือบมองไอ้นนท์ที่ค้างไปเรียบร้อย มันยิ้มออกมานิด ๆ แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันเป็นยิ้มที่มีความสุขมาก ทำไมผมถึงรู้สึกชอบรอยยิ้มของมันแบบนี้จังเลยนะ
ผมกับครอบครัวของไอ้นนท์นั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาเต็มไปด้วยสีหัวเราะ บอกเลยครับว่าครอบครัวของมันอบอุ่นมาก มิน่า...ไอ้นนท์มันถึงเป็นผู้ชายที่อบอุ่นแบบนี้ หลังจากที่กินเสร็จแล้ว ผมก็เลยไปช่วยแม่ของไอ้นนท์ล้างจานครับ ส่วนไอ้นนท์หายไปคุยกับพ่อของมันตามประสาลูกชายที่นาน ๆ กลับมาบ้านทีแหละครับ
“รู้ไหมว่า แม่ตกใจนะตอนแรก...” ระหว่างที่ล้างจาน แม่ของนนท์ก็พูดขึ้น “ไม่คิดว่านนท์จะหาผู้ชายหน้าสวยแบบนี้ได้ โฮะ ๆ” เริ่มสงสัยว่าแม่อยู่ลัทธิวายรึเปล่าครับเนี่ย...
“ผมต้องหล่อสิครับ เป็นรองเดือนมหาลัยเชียวนะครับเนี่ย” ผมว่ายิ้ม ๆ
“แม่ฝากนนท์ด้วยนะ แม่ไม่เคยเห็นเขายิ้มกว้าง ๆ แบบนี้มานานแล้ว เพราะนนท์ค่อนข้างที่จะเป็นคนเก็บตัว ชอบอยู่คนเดียว แต่ก็ออกไปเที่ยวเล่นตามประสาเขาเหมือนสนองสิ่งที่ขาดหายไป เพราะเขาเป็นลูกคนเดียว แม่เลยรู้ว่า ลึก ๆ นนท์เป็นคนขี้เหงา...” ผมคิดตาม ก็จริงครับ...ไอ้นนท์มันชอบอยู่คนเดียวเงียบ ๆ แถมยังชอบทำอะไรเหมือนคนขี้เหงาอีก...เหอะ ๆ ไอ้ขี้เหงาเอ๊ย
“นินทาอะไรนนท์กันอยู่ครับ?” ผมหันไปมองร่างสูงที่ยืนพิงประตูมองผมยิ้ม ๆ มันมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“ไม่ได้นินทาอะไรซะหน่อย เนอะ เสาไปพักเถอะจ๊ะ คืนนี้ตามสบายกันเลยนะ นนท์ดูแลเสาดี ๆ ด้วย” แม่ของนนท์สั่งให้ผมวางมือ ผมก็เลยล้างมือให้เรียบร้อย
“นนท์ดูแลเสาดีอยู่แล้วล่ะ” ไอ้นนท์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม...เออ ๆ กูรู้แล้วว่ามึงดูแลดี เปย์ของกินให้กูไม่ยั้งจนจะอ้วนอยู่แล้วเนี่ย...
ผมกับไอ้นนท์เดินกลับมาที่บ้านของมันตามทางเดิน แสงจันทร์สาดส่องมาทำให้ดูสว่างไสวทั้งที่มันมืด ผมเหลือบมองร่างสูงที่กุมมือของผมไว้แล้วไม่ได้พูดอะไรเลย มันเอาแต่อมยิ้ม...มึงเงียบกูทำตัวไม่ถูกชะมัด จะด่า...ก็ด่าไม่ได้ (นี่ก็จ้องจะด่าคนอื่นตลอด)
“เมื่อไหร่จะเลิกยิ้มวะ” ผมที่ทนความเงียบไม่ไหวก็เปิดปากพูดออก ไอ้นนท์หันมามองผมและ...ยิ้ม อ้าวไอ้ฟายยย...กูทำตัวไม่ถูกเว้ย
“หุบไม่ได้” มันตอบ ผมเลยเลิกคิ้วก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นนท์หุบยิ้มไม่ได้”
“ฮ่า ๆ อะไรของมึงไอ้นนท์ มึงดีใจอะไรขนาดนั้นวะ...” ผมชะงักเมื่อเราเดินมาถึงหน้าบ้านไอ้นนท์ก็หมุนตัวมาหาผมเลย ผมที่เดินตามมาติด ๆ ก็หยุดกึก
“ไม่หัวใจวายกลางวงข้าวก็ดีแค่ไหนแล้ว...ดีใจสิ รู้ไหมว่า...เสาทำให้นนท์รู้ว่า ความรักแม่ง...ไม่มีขีดจำกัด...เพราะนนท์รู้สึกว่านนท์รัก รักเสามากกกกกก...” ผมเอามือปิดปากของมันที่เริ่มพูดเสียงดัง เชี่ย อยู่ใกล้แค่นี้ตะโกนทำไมก็ไม่รู้
“เวอร์ไอ้สัด พอแล้ว อย่าแหกปาก...” ผมบอกและปล่อยมือออกจากมัน ก่อนจะหน้าร้อนวูบ
“ถ้าอยากให้หยุดพูด จูบปิดปากนนท์เลยเป็นไง” มันพูดขี้เล่น แต่ผมก็กระตุกยิ้ม...หึ ไอ้นนท์เอ๊ยไอ้นนท์ เจอกูหน่อยเป็นไง ผมเขย่งปลายเท้านิด ๆ พร้อมกับทำสิ่งที่ไอ้นนท์เกือบช็อคตายหน้าประตูบ้าน
จุ๊บ... ริมฝีปากบางของผมจุ๊บปากของมันเบา ๆ
“หยุดพูดสัด” ผมบอกแค่นั้นและวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน ไอ้เชี่ยยยยยยเสาครับ ทำอะไรลงไปวะเนี่ย...ไอ้นนท์มันวิ่งตามผมมาติด ๆ ผมกระโดดขึ้นเตียงกอดหมอนข้างไว้
“เสาจ๋า...เอาอีก” เอาอีกอะไรของมันนนนน
“เข้ามาอีกกูเตะมึงนะไอ้เชี่ยนนท์!!” ผมยกเท้าแต่ก็ต้องยกลงเพราะ...เจ็บช่วงล่างมาก ไอ้นนท์ขึ้นมานั่งบนเตียงตรงข้ามผมที่ถอยหลังไปชนขอบเตียงของมัน
“อยากจูบอีก อยากได้จูบของเสาอีก” มันเรียกร้องเหมือนเด็กอนุบาล กูไม่ให้จูบโว้ย...
“ไม่!!” ผมเขยิบหนีร่างสูงที่เขยิบเข้ามาหาผมเรื่อย ๆ “อย่านะเว้ยไอ้สัดนนท์ เมื่อกี้เราก็ทำกันไปแล้ว” ผมบอกตรง ๆ คือ...มันปวดไปหมดแล้วอ่า อีกรอบคงไม่ไหว ก่อนผมจะได้ยินเสียงหัวเราะพอใจของไอ้นนท์...เออ หัวเราะเข้าไปหัวเราะเข้าไป!
“นนท์ไม่ทำแล้ว รู้ว่าเสาไม่ไหว...แม้ใจจริงจะอยากทำก็เถอะ” มันนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้าผม ผมก็เลยมองมันอย่างระแวง “ไม่ทำหรอกน่า เขยิบมาให้นนท์กอดหน่อย เสาเรามาเล่นเกมกันมะ ก่อนนอน”
เกมเชี่ยไรของมัน...
“เกมไร?”
“เขยิบมานั่งใกล้นนท์ก่อนเร็ว วางหมอนข้างทิ้งด้วย มันฟาดนนท์ก็ไม่เจ็บหรอก” มันว่า ผมเลยโยนหมอนข้างไว้และเขยิบไปนั่งขัดสมาธิตรงหน้าไอ้นนท์
“วุ่นวายจริงมึงเนี่ย ตกลงจะเล่นเกม..ไร” ผมมองมันที่ทำมือเตรียมจะเป่ายิงชุบ ผมเลยกระตุกยิ้ม วะฮ่า! ใครแพ้โดนทำโทษแน่ ๆ เกมนี้
“กล้าเล่นไหม” มันกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ ยิ้มแบบนี้ทำไมวะ.. ผมยักไหล่ไม่ยอมแพ้ เพราะผมมันเซียนเป่ายิงชุบอยู่แล้ว! เป่าทีไรชนะ!
“กล้า! มาเลย กูจะดีดหูมึงไอ้นนท์” ผมว่าเตรียมเป่ายิงชุบ พวกผมนับหนึ่งถึงสามก่อนจะลงสิ่งที่ตัวเองเลือก ปรากฏว่าผมชนะ!!
“วะฮ่า! เอาหูมาเลย เอาหูมาเลย” ผมดีใจ ไอ้นนท์ก็ยิ้มและเอียงหูมาให้ผม ผมดีดมันก็ร้องโอ๊ย ฮ่า ๆ สะใจจริง ๆ
ครั้งที่ 2 ผมก็ชนะ! ดีดหน้าผากมันไปซะเลย โฮะ ๆ
ครั้งที่ 3 ผมก็ยังครองแชมป์ บอกแล้วว่าเรื่องเป่ายิงชุบเสาไม่พลาด...
แต่พอครั้งที่ 4 ...ไอ้เชี่ยยยย ผมเป่าแพ้ ผมมองหน้ามันที่ยิ้มกรุ่มกริ่ม...ผมโดดมันดีดหูกลับแรง ๆ แน่เลย เมื่อกี้ผมดีดมันไปซะแล้ว หูมันแดงเลยอ่ะ
“เสาแพ้” มันย้ำ เออ..กูรู้แล้วเว้ย จะแก้แค้นก็จัดมา! ผมเอียงหูไปให้มัน
“เออ รู้แล้วจะดีดก็....เหี้ยนนท์” ผมสะดุ้งเมื่อมันจับท้ายทอยของผมและประกบริมฝีปากหนาของมันลงแน่นกับริมฝีปากอ่อนนุ่มของผมกำลังถูกมันบดขยี้ แรงจูบทำให้ผมแทบสติหาย จูบหนัก ๆ จากมัน ทำให้ผมเริ่มเบลอ...เชี่ยนนท์มันเอาคืนแบบนี้เลยเหรอ...หูกูร้อนไปหมดแล้ว
“จ๊วบ” มันถอนจูบออกเหมือนเต็มอิ่มมากกับการจูบผมเมื่อกี้ ผมรู้สึกว่าปากของผมมันฉ่ำ ๆ ยังไงก็ไม่รู้
“ไอ้เชี่ย” ผมด่าแค่นั้น หมดคำจะด่า...เปล่าหรอก ผมเขิน (ก็จู่ ๆ โดนจูบนะเว้ย ก็เหวอ ๆ บ้างแหละ!...ไม่มีใครว่าอะไรมึงนะครับไอ้เสา)
“หึ...มาเป่าอีกมา” ไอ้นนท์ว่า ผมก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนเป่าอีกรอบ หมายจะดีดหูไอ้นนท์แรง ๆ แต่ผลที่ได้คือ...ผมแพ้อีกแล้ว!!!! ไรวะ! คราวนี้ผมโดนหอมแก้มซ้าย เป่าอีกรอบผมก็แพ้!! ก็โดนมันหอมแก้มขวา
เฮ้ย....ไรวะ!! ทำไมผมเป่าแพ้หมดเลย...
“ไอ้นนท์มึงโกงกูใช่ไหม” เริ่มหาเรื่องเนื่องจากตัวเองแพ้บ่อย...นนท์เลิกคิ้วมองคนแพ้ขี้วีนซะแล้ว
“นนท์ไปโกงเสาตอนไหน หืม?” ผมมองหน้ามันพร้อมกับหายใจฟึดฟัดเล็กน้อย
“มาเป่าอีกรอบ!” ผมบอกอย่างไม่ยอมแพ้ ครั้งนี้ผมต้องเป็นเดอะวินเนอร์! ผมเป่า! และ...ผมก็แพ้!!
ไอ้นนท์มันหัวเราะเบา ๆ ไม่เล่นแล้วโว้ย....มือหนาเลื่อนมาจับไหล่ของผมสองข้างไว้ เชี่ย...มันจะทำอะไรอีกวะคราวนี้ ผมเปลืองตัวมากกับเกมนี้ ผมหลับตาปี๋ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไร
จนผมรู้สึกถึงริมฝีปากหนาที่ประทับลงตรงหน้าผากของผมเบา ๆ...ผมลืมตาอึ้ง กับประโยคที่ถูกเอ่ยออกมาด้วยอย่างจริงใจ
“นนท์รักเสานะ รู้ว่าพูดบ่อย...แต่ก็อยากบอกให้เสาได้รู้ไว้ชัด ๆ ว่า
นนท์มีแค่เสาคนเดียวเท่านั้น...”
ใจของผมมันไม่เคยที่จะเต้นเร็วขนาดนี้...คนที่ทำให้มันเต้นได้ขนาดนี้ ก็มีแค่ไอ้บ้าที่จูบหน้าผากผมอยู่นี่แหละ... ไอ้สัดนนท์โรคจิตที่มันได้ใจของผมไปซะแล้ว
ผมโน้มตัวไปซบกับอกกว้างตรงหน้า ไอ้นนท์ทำหน้าแปลกใจและแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มเมื่อผมเองก็พูดขึ้นบ้าง
“เออ กูก็คิดเหมือนกันกับมึงนั่นแหละ....”
“คิดอะไรเหมือนกันกับนนท์เหรอ” ไอ้เชี่ย..มันเล่นผมแล้ว มันก้มหน้าลงมาใกล้ผมที่ซบอยู่กับแผงอกของมัน...ถามทำไมวะ ไม่ตอบเว้ย
“ก็คิดเองดิ”
“ไม่เอาอ่ะ นนท์โง่” ...คนอะไรด่าตัวเองก็เป็น “บอกหน่อยสิ” มันขอ อย่าคิดว่าผมจะสนใจซะให้ยาก!!...ผมเอามือมาปิดหน้าของตัวเอง โว้ย! ทำไมวันนี้ผมต้องมาพูดอะไรที่มันหน้าอายหลายรอบด้วย เสาสุดหล่อก็เขินเป็นนะ (ไอ้เสาครับ หล่อตรงไหนกันครับ)
“
กูก็รักมึงเหมือนกันไง ไอ้เชี่ยนนท์...” ผมตอบกลับเสียงแผ่ว แต่ผมเชื่อว่าไอ้นนท์มันได้ยินชัดเจน...เหมือนกับหัวใจของมันที่เต้นดังจนผมได้ยินชัดเจน...
...ความรักพิเศษดีนะครับ ทำให้ใจของคนเราเต้นแรงได้ด้วยล่ะ...
...................++++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^
เพราะความรักคือสิ่งที่ทำให้โลกสดใสขึ้น มารักกันเยอะ ๆ นะคะ >______< นนท์กับเสาเขาชวนทุกคนมารักกันค่ะ >//<
