พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พี่ครับ...คบหมอมัน(ส์)ดีนะ |ตอนพิเศษเนื่องในวัน happy valentine ของขวัญจากไรท์|  (อ่าน 89405 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Ryunosuke

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
เสา หนูน่ารักอ่าาาาา อยากจิได้เสา

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 21



            [พาร์ตของนนท์]




            ผมมองร่างบางที่สลบด้วยฤทธิ์ยาแก้ไข้ที่กินเข้าไปอย่างอ่อนเพลีย ลมหายใจหอบเล็กน้อย ใบหน้าแดงระเรื่อ...เป็นภาพที่ผมไม่ชอบเอาซะเลย เสาไม่สบายครับ  ร้อยวันพันปีคนเป็นไข้ยากอย่างเขาถ้าเป็นขึ้นมาก็หนักหน่อย ผมเดาว่าเขาคงเหนื่อยจากการดูแลน้องดาวเดือนด้วยแหละ ผมเห็นเขาทำหน้าที่นี้ดีอย่างสุดความสามารถ หลังจากที่เมื่อวานเป็นการประกวดดาวเดือนของมหาลัยไป เสาก็วิ่งวุ่นแทบไม่ได้พักเลย...(ผมแอบไปดูเขามาอ่ะ ทั้ง ๆ ที่เขาห้ามผมไปดูเขา แต่ผมก็ไม่ฟังครับ)



            ความสัมพันธ์ของผมกับเขาเหมือนจะดี...แต่ก็ยังไม่มั่นคงเท่าไหร่ เพราะเสายังไม่ยอมตอบรับผมตรง ๆ หลังจากที่ผมรู้ว่าเสาเลิกกับจีไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมก็เข้าหาเสาแบบเปิดเผย (รู้มาจากไอ้ศิลาไปขู่มันมา) ถือว่าเป็นโชคดีของผมที่จะได้ตัวเสามาเป็นของผมคนเดียว ขอบคุณเธอที่ทิ้งเสาไปจริง ๆ แต่ผมก็ดูเหมือนเสาไม่ได้เสียใจอะไรมากมาย ผมไม่กล้าที่จะถามเรื่องนี้สักเท่าไหร่เดี๋ยวโดนด่า ทุกวันนี้ผมก็ได้แต่เอาชานมมาล่อเขาไปวัน ๆ แต่เวลาเขากินแล้วยิ้ม...ผมแม่งโคตรมีความสุขอิ่มอกอิ่มใจ



            ...เมียชอบกินชานมไข่มุกมากกกก....ยอมใจจริง ๆ นี่ไอ้ศิลาก็เพิ่งจะโทรมาหาผมว่ามันกลับบ้านโดยที่ให้ไอ้น้องหมูไปส่ง ฮ่า ๆ นี่ถ้าเสารู้มีหวังคงจะทำหน้าดีใจเพราะเห็นมันชอบเป็นกามเทพให้ไอ้สองคนนี้ดี...ผมแอบมองพฤติกรรมเสาอยู่เสมอแหละ ก็ผมรักของผมนี่...(พูดแบบเต็มปากเต็มคำไม่มีอาย)



            ระหว่างที่กำลังมองหน้าเสาเพลิน ๆ เสียงกดกริ่งของห้องเสาก็ดังขึ้น พอดีผมมาเฝ้าอยู่หอของเสาตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะครับ



            ผมเปิดประตูก็เจอว่าที่แม่ยายของผม แม่ของเสา!...และผมกำลังงงว่าแม่รู้ได้ยังไงว่าเสาเขาไม่สบายเพราะเห็นถุงโจ๊กที่แม่ซื้อมาด้วย



            “อ้าว นนท์ ก็อยู่เหรอลูก เสาเป็นยังไงบ้าง ไม่สบายใช่ไหม”



            “ใช่ครับ” ผมยกมือไหว้อย่างสุภาพ ต้องทำตัวแบบดูรักษาภาพพจน์เข้าไว้ เดี๋ยวไม่ผ่านตากรรมการจะยาก....แม่ของเสายิ้ม



            “เสามักจะชอบเป็นไข้เวลาทำงานหนัก ๆ ติดต่อกันหลายวันน่ะ...แม่รู้ว่าเขาเพิ่งจบงานประกวดดาวเดือนกันมาใช่ไหมล่ะ...แต่นี่เห็นมีนนท์อยู่ด้วยก็หายห่วงแล้วจ๊ะ ขอบใจมากนะ” ผมช่วยแม่ถือพวกโจ๊กเข้ามาในห้อง ...แม่ของเสาใจดีจังเลย



            “แม่ซื้อมาถุงเดียวเอง ไม่รู้ว่านนท์อยู่ด้วย” แม่ของเสานั่งลงข้างเตียงของเสาที่นอนหลับเหมือนเด็กน้อย



            “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมทานอย่างอื่นได้ครับ”



            “เสา...แม่มาหานะคะ” แม่ของเสาลูบหัวของร่างบางที่รู้สึกตัว



            “แม่...มาหาเสาเหรอ” เสียงอ้อนแม่ฟังแล้วขยี้หัวใจของผมมากกกก อยากโดนเสาอ้อนแบบนี้บ้างจังเลยครับ! โอ๊ย...แต่ผมว่าผมอาจจะเจอตีนของเสาก่อนก็ได้ โฮะ ๆ



            “จ๊ะ แม่ซื้อโจ๊กมาให้ เดี๋ยวแม่ก็จะกลับแล้วทานข้าวทานยาแล้วพักผ่อนนะคะ รักเสานะ” แม่จุ๊บหน้าผากของเสาตามความคุ้นเคยก่อนผมจะแอบหลุดขำแม่ที่พูดต่อ



            “เสา...ลิปสติกแม่ล่ะ ยังไม่เอาไปให้แม่เลยนะ”



            “แม่...มาทวงลิปสติกเหรอออ...รึว่าแต่มาหาลูก เชอะ” ไอ้เสาทำท่างอแง...แม่งน่ารัก!!! ผมที่ยืนดูอยู่ก็ยิ้ม เสาหันมามองผมด้วยสายตาดุ แต่โทษนะครับ...ดุแบบหน้าแดง ๆ เห็นแล้วน่า...(ใจเย็นครับไอ้นนท์แม่ของเสาก็นั่งอยู่ ห้ามกามใส่เสา!)



            “ไอ้นนท์หยิบให้แม่หน่อย วางอยู่ตรงโต๊ะ...” เขาบอก ผมเลยหันไปหยิบมายื่นให้แม่ของเสาที่ลุกขึ้นมารับลิปสติก แม่เลิกคิ้วขึ้น



            “เอ๊ะ ทำไมมีสีชมพูอ่อนด้วย”



            “แม่เอาไปเลย” << เสียงเสา



            “พอดีผมซื้อให้เสาน่ะครับ” และเสียงผมดังขึ้นพร้อมกัน แม่ของเสาเลยยิ้มออกมา



            “ว้าย ตานนท์! ตาถึงนะ สีนี้แม่ก็ว่าเหมาะกับเสา เอาไปจ๊ะของเสา แม่เอาแค่สีของแม่พอ” โฮะ ๆ แม่พูดถูกใจผมจังเลย ผมก็ว่าสีนี้เหมาะกับเสามาก...ไอ้คนที่นอนหายใจเหนื่อยบนเตียงทำหน้าบึ้งใส่ผม อ้าว...แล้วกัน เขาหันหน้าหนีจากผมเรียบร้อย



            แม่ของเสาตบบ่าผมเบา ๆ



            “ยังไงก็ฝากดูแลเสาด้วยนะ แม่กลับละ” แม่พูดจบก็เดินออกจากห้องไป ผมปิดประตูก็สะดุ้งกับหมอนข้างที่โดนปามาจากเสา



            “เฮ้ย โยนมาใส่นนท์ทำไมเนี่ย”



            “ไอ้สัดนนท์! ไม่รู้กูหงุดหงิด” หงุดหงิดหรือเขินผมกันแน่...ผมไม่ได้พูดแซวออกไปหรอก มีหวังแจกันข้างหัวเตียงอาจจะลอยมาโดนหัวของผมได้



            “สงสัยเสาหิวแน่เลย...ลุกมากินโจ๊กดีกว่าเนอะ” ผมรีบยิ้มหวานให้ เสาเหลือบมองด้วยความไม่สบอารมณ์ตามประสาเขาแหละครับ...เขาจะรู้ไหมว่าใบหน้าแดงเพราะพิษไข้ของเขาทำให้เขาดูน่ารักขึ้นมาก



            “เออ กูหิว ไปเอามาสิ” เขาไล่เมื่อเห็นผมยืนมองหน้าเขานานไปหน่อย





            ผมเดินเข้าไปหยิบชามเทโจ๊กที่แม่ของเสาซื้อมาหนึ่งถุง ผมเดินออกมานั่งลงข้างเตียงมองเสาที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง แบบว่า...เสื้อชุดนอนกระดุมกว้างมาก ผมไล่สายตาลงมาจากไหปลาร้าของเสาและไล่ลงมาจนจะเห็นหัวนมอยู่แล้ว ผมแอบกลืนน้ำลาย



                    ผลั้วะ!! เสาตบหัวของผมไม่แรงนักเหมือนหยอก...แต่จริง ๆ ผมว่าตบจริง (แต่แรงเสามีไม่เยอะ)



            “จ้องอะไรกูไอ้สัดนนท์! แค่ก ๆ..” เสียงไอของเขาผมไม่ชอบเอาซะเลย...ใจจะขาด



            “อย่าขึ้นเสียงสิ เดี๋ยวเจ็บคอ” ผมรีบหยิบน้ำมาให้เสาที่มองผมเคือง ๆ ...เหมือนเขาจะรู้ว่าผมแอบมองหัวนมเขา...    ไอ้นนท์มึงมันหื่น...



            “กูได้ยินเหมือนมึงคุยโทรศัพท์กับไอ้ศิลาเหรอ” เขารับน้ำไปดื่มพร้อมกับถามขึ้น ผมพยักหน้า



            “ใช่ เห็นว่าจะโทรหาเสาแหละ ไอ้ศิลาบอกโทรไม่ติด มันบอกว่ากลับบ้านไปพร้อมกับไอ้น้องหมูอ่ะ”



            “หา? จริงดิ!!...แค่ก ๆ ไอ้ศิลา หึ เดี๋ยวจะเอาไว้ล้อมันนนน...” ยังมีหน้าไปล้อคนอื่นอีกนะครับ...



            “กี่โมงแล้วอ่ะ...” เสาถามพลางคนโจ๊กในชามของตัวเอง



            “10 โมงแล้ว”



            “มึงกินไรยัง” ผมน้ำตาจะไหล...เสาถามผมว่ากินอะไรรึยัง



            “ยังเลย..”



            “ไอ้สัดนนท์ทำไมไม่ไปกินวะ” เขาว๊ากผมมาอีกรอบ แต่น้ำเสียง...แม่งยิ่งฟังยิ่งละมุน



            “นนท์ก็ดูแลเสาอยู่ไง...แค่เห็นเสาอิ่มนนท์ก็อิ่ม” ผมพูดหวานใส่และกำลังจะถอยหนีเพราะกลัวเสาจะฟาดเท้ามาใส่ผมซะก่อน...แต่เสากลับไม่ทำ ร่างบางตักกินโจ๊กเงียบ ๆ หน้าที่แดงอยู่แล้ว....ค่อย ๆ แดงขึ้น 
 

            พระเจ้า...เขากำลังเขินผมอยู่รึเปล่าวะ..ไอ้นนท์ครับ...แฮปปี้ไปสิครับ



            “จ้องหน้ากูทำไม”



            “ก็ทางนี้มันน่ามอง...” เสาทำตาดุใส่ผมตามสไตล์เขาแต่ผมกลับมองว่ามันโคตรจะน่ารักเลย บอกแล้วไงครับว่า     ผมมันโรคจิต....ยิ่งเสาด่าผมยิ่งชอบ ฮ่า ๆ!



            “กินช่วยหน่อยกูกินไม่หมด ไปเอาช้อนมาไป” จู่ ๆ เสาที่กินไปได้สักพักก็พูดขึ้นทำเอาผมที่นั่งอยู่ข้างเขามองด้วยความแปลกใจ...



            “ไปเอามาดิวะ” เขาย้ำอีกรอบ น้ำเสียงเริ่มหงุดหงิด (หรือเขินกันวะ..) ก็เสาชอบแสดงอาการแบบตรงข้ามแปลก ๆ ออกมาอ่ะ



            “กินช้อนเดียวกันไม่ได้เหรอ...นนท์ไม่ได้รังเกียจเสานะ” ผมขอ จริง ๆ เหมือนจูบทางอ้อมดี กูคิดอะไรของกูอยู่เนี่ยไอ้นนท์เอ๊ย... เสาส่ายหน้ารัวพร้อมคำตอบที่ทำให้ผม....หลงเขามากกว่าเดิม!





            “ไอ้สัดนนท์โง่...เดี๋ยวมึงก็ได้ติดไข้จากกูกันพอดี” เชรด...เมียเป็นห่วงผมด้วย ความมโนของผมมันเยอะจริง ๆ!



            ผมยิ้มกว้างจนเสาจะเอาชามคว่ำใส่หน้าของผมอยู่แล้ว โทษฐานที่ผมยิ้มออกหน้าออกหน้าเกินไป ผมรีบวิ่งเข้าไปเอาช้อนมาตักกินโจ๊กที่ไม่ได้อร่อยมากมาย...แต่สำหรับผม โจ๊กวันนี้คือโจ๊กเจ้าที่อร่อยและประทับใจมากสำหรับผม ก็คนที่กินอยู่ชามเดียวกันกับผมคือ ผู้ชายที่ผมหลงรักยังไงล่ะ...



            รู้อะไรไหมครับว่า...ไอ้สัมผัสที่ตราตรึงที่ใครหลายคนชอบบอกว่าไม่ลืมกัน ผมก็เพิ่งเข้าใจตอนที่เจอเสานี่แหละ...สำหรับผมคิดว่าครั้งเดียวไม่มีทางพอสำหรับผม...บอกเลยว่ากลิ่นกายเย้ายวนที่ผมสัมผัสคืนนั้น แม้ว่าผมจะเมา...แต่ผมรู้ว่าคนที่ผมกอดคือเสา...ผมรู้ครับ ร่างกายที่สัมผัสกันตอนนั้นทำให้ผมเข้าใจกระจ่างว่า ที่ผ่านมา ผมแม่งแอบมองเสาอยู่ห่าง ๆ



            อยากทนุถนอม อยากอยู่ใกล้....และอยากเป็นมากกว่าเพื่อน....



            ผมรีบตักโจ๊กกินต่อเพราะเจอสายตาดุของเสาเข้า...แฮะ ๆ มัวแต่จ้องหน้าเขาแล้วทำหน้าหื่นก็สมควรจะโดนจ้องแหละ เสาจ๋า...นนท์แอบคิดนิดเดียวเอง (นิดเดียวเหรอไอ้นนท์ พูดไปตั้งแต่ต้นยันจบ)





            ...เป็นมากเกินมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่คนรัก เธอให้เพียงสัมผัสแต่ไม่ให้หัวใจ ฉันไม่ควรรักเธอ  แต่เผลอให้เธอไปแล้วจนหมดใจ...



            เสียงเอ็มวีเพลงช่องที่เสาเปิดผ่านมันดังขึ้นแบบตรงใจของผมมาก...จึก ผมกำลังล้างจานอยู่ในครัวก็ชะงักกึก พวกผมกินข้าวเสร็จก็มีคนป่วยดื้อไม่ยอมนอนพักจะดูโทรศัพท์ซะงั้น เดี๋ยวผมก็จับตีก้นซะหรอก! ผมทำไม่ได้หรอกเพราะอาจเจอตีนของเสาเข้าให้ก่อน เสารีบเปิดช่องหนีไปทันทีและเปลี่ยนไปดูช่องการ์ตูนแทน ผมบอกให้เขากินยาแล้วนอนพัก...ผมเป็นห่วงร่างกายของเขานะครับ



            “เสา นอนได้แล้ว” ผมเดินออกมาจากห้องครัวมองเสาที่ตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ แต่ก็ยังนั่งขัดสมาธิทำเป็นถือรีโมทไว้ ผมเดาว่าฤทธิ์ยาแก้ไข้ที่กินเข้าไปกำลังทำงาน



            “นอนไร กูนอนมาจะทั้งวัน เบื่อ” เสาทำหน้ามุ่ย “ไอ้นนท์กูอยากกินชานมไข่มุก...” ผมเหลือบมองเขาที่มองมาที่ผม...เฮ้ย อย่ามามองด้วยสายตาหวานของคนเป็นไข้....คือมันทำให้ผมใจอ่อนได้ง่ายมาก โดยเฉพาะถ้าเป็นเสาขอ



            “ไม่ได้...” ผมใจแข็ง ก็ไม่อยากให้เขาไข้ขึ้น จะว่าไปเสาไม่ค่อยด่าผมมาก...เพราะเขาไม่มีแรงด่าครับ



            “แม่ง...กูอยากกิน! ไปซื้อให้หน่อย” ผมอยากทราบว่าไอ้ชานมไข่มุกมันใส่สารเสพติดปะวะ ทำไมเสาถึงได้ติดขนาดนี้...



            “ไม่ได้”



            “ไอ้สัดนนท์...กูกินได้”



            “ถ้าไข้ขึ้นล่ะ? ไม่ให้กิน” ผมยังต่อต้านกับท่าทีเริ่มงอแงของเสา ตอนเป็นไข้น่ารักงี้เลยเหรอ ผมหวั่นใจนะครับเนี่ย.....เสาทำหน้ามุ่ยลงอีกและทิ้งตัวนอนตะแคงหันหน้าหนีผมซะงั้น อ้าว เมียครับผัวหวงผัวผิดไหม....(เขายังไม่ได้ยอมรับมึงเลยนะครับไอ้นนท์ไปเรียกเขาเมียซะแล้ว)



            ผมนั่งลงบนเตียงเขาและสะกิดเบา ๆ



            “ไว้หายแล้ว นนท์จะซื้อให้กินสองแก้วเลย” ผมง้อ...ง้อทั้งที่เสาก็ไม่ได้งอน แต่ไม่รู้อ่ะ ผมอยากเอาใจเสา เขาเหลือบตามามองผมนิดหน่อย และยอมหันตัวมานอนหงาย...ผมที่เอามือค้ำตรงเตียงไว้ หน้าของผมอยู่ในระดับสายตาของเสาพอดี...เชี่ย ผมอยากจูบเสามากกกก....ปากตรงหน้าแดงฉ่ำดีจัง (ทำหน้าหื่นออกนอกหน้า)



            “ถ้ามึงทำสายตาแบบนี้กับกูอีกรอบกูจะไล่มึงออกจากห้องนะ ไอ้เหี้ยนนท์...” เสียงของเสาดังเบา ๆ เพราะเจ็บคอแต่น้ำเสียงด่าเล็ก ๆ ของเขาทำให้ผมหลุดยิ้ม



            “ไม่ได้ทำสายตาซะหน่อย” หรือจริง ๆ ผมทำ...(มึงทำครับไอ้นนท์)



            “เหรอ...ไอ้กาม” อ้าว...ได้ฉายาใหม่ซะงั้น เสาเอามือมาดันผมให้ห่างจากเขา ผมก็ยอมถอยออกแต่โดยดี เดี๋ยวเสาจะโวยวายเอาอีก



            “มึงไม่กลับห้องตัวเอง ไม่ต้องเฝ้ากูก็ได้กูไม่เป็นไร” เขาไล่ผม มีเหรอคนหน้าด้านอย่างผมจะไป ไม่มีทางหรอกครับ



            “ให้ทายว่ามึงคงไม่ไป ถึงจะไล่...” ยังไม่ทันที่ผมจะบอก เสาก็เป็นคนพูดขึ้นเอง...รู้ใจผัวจังงง...



            “ไอ้เหี้ยนนท์...” สนับสนุนให้ผมเป็นเหี้ยจัง...แต่ก็เอาเถอะครับ ได้เป็นเหี้ยของเสาผมก็ดีใจ



            “หือ?” ผมหันไปมองเขาอึ้ง ๆ ก็มือเรียวที่ยืนออกมาดึงชายเสื้อของผมมันโคตรจะดูอ้อน



            “มึง...จริงจังกับกูจริงเหรอวะ” เสียงหวานที่ถามออกมาทำเอาผมหัวใจสั่นแปดจุดเจ็ดริกเตอร์  เสาจะรู้ไหมว่าตัวเองน่ารักขึ้นมาก (จริง ๆ ก็น่ารักมาตลอด แต่หลัง ๆ มาคนเริ่มรู้ว่าเสาน่ารัก) แม่ง...ผมเริ่มหวงขึ้นมาแล้วว่ะ...



            “จริงจังสิ มาถามอะไรเอาป่านนี้?” ผมตอบพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนตะแคงข้างเสาที่ดันพลิกตัวตะแคงมาทางผมพอดี เป็นจังหวะบังเอิญที่โดนใจของผมมาก! เขาดูผงะเล็กน้อยคงไม่คิดว่าผมจะนอนลง



            “ไอ้สัด นอนลงทำไมวะ...อ๊ะ ไอ้เหี้ย นนท์...” เขาเสียงเบาลงเมื่อผมใจกล้าหน้าด้านสุด ๆ เอื้อมมือสอดเข้าไปใต้ตัวของเขา ผมกอดเอวเล็กของเสาเข้ามาประชิดตัวของผม มันดิ้นเล็กน้อยพอเป็นพิธี...จริง ๆ ผมว่ามันไม่มีแรงดิ้นออกจากผมมากกว่า



            “กอดทำไม ปล่อยดิ” มันพูดเสียงแผ่วเบาและพยายามใช้มือดันแผงซิกแพคของผมออก...ดันไปเถอะครับ ไม่ปล่อยหรอก



            “กอดเมียผิดไหม” ผมก้มลงไปถามใกล้หูของเสา หูเล็กตรงหน้าแดงระเรื่อขึ้นมา...



            “มึงมันหน้าด้าน กูยังไม่ทันจะตกลงคบกับมึงเลยไอ้ฟาย...” เสาว๊ากใส่ บอกเลยว่ามันไม่โหดสักนิด ถ้ามีพี่ว๊ากแบบเสามาว๊ากนะ ผมจะยอมไปเข้าคลาสตากแดดทุกวันอ่ะ...คนอะไร น่าฟัดชิบหาย



            “แล้วเมื่อไหร่จะตกลงล่ะ”



            “..............” เขาเงียบไปเลย



            “เสา กูรักมึงนะ” คำที่ผมเพิ่งพูดไปทำเอาเสาเงยหน้าขึ้นสบตากับผมทันที



            “เชี่ยไรของมึง!” มือเล็กทุบอกของผม ปึ่ก ปึ่ก ...คิดว่าผมเป็นกระสอบทรายเหรอ เจ็บนะ...ไม่เจ็บหรอกครับ เหมือนอะไรนุ่ม ๆ มาโดนแผงอกก็เท่านั้น





            “กูบอกว่ารักมึงไง” ผมย้ำอีกรอบ



            “ไอ้เชี่ย!! รู้แล้ว จะย้ำทำไม” คราวนี้คนถูกสารภาพถึงกับหน้าแดงก่ำ โอ๊ย...ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นไข้ผมจะกระชากเสื้อผ้าเสาออกให้หมดแม่ง...น่าฟัดดดดดด (นนท์ครับมึงควรไปทำใจให้สบายไกล ๆ เสา)



            “ก็บอกให้ชัด เผื่อไม่รู้ไง” ผมกระตุกยิ้มมองเสาที่เลิกดิ้นและนอนอยู่ในอ้อมกอดของผมนิ่ง ๆ กลิ่นแป้งเบบี้มายด์สีชมพูที่เสาชอบใช้ลอยเตะจมูกของผม อบอวล..ชวนอารมณ์ขึ้นมาก





            “..................” ผมก้มมองเขาที่ไม่พูดอะไรเลย...งะ โกรธเหรอ



            “โกรธที่พูดเหรอ ขอโทษนะ แต่นนท์คิดแบบนั้นกับเสาจริง ๆ เสาก็รู้ว่าทุกคนในมหาลัยรู้เกือบหมดแล้วว่านนท์กำลังหลงเสา”



            “ไอ้เชี่ย มึงแหละแม่งมาโพสตัสบอกฝันดีกูไรในตัสมึง!...คนแม่งแห่กันมาเมนต์เต็ม” เสาโวยวาย ฮ่า ๆ เหมือนเขาจะไม่รู้ว่าผมแอบโพสรูปเขาไปด้วยแถมแท็กด้วยคราวนี้...



            “เดี๋ยวนะ...ทำไมคนถึงรู้ว่ามึงหลงกู?!” นั่นไง...เสาฉลาดมาก “ไอ้เหี้ยนนท์!! มึงโพสอีกอะไรใช่ไหม แค่ก ๆ” พอเขาตะโกนปั๊ปก็ไอเจ็บคอขึ้นมาอีก ไอ้นนท์มึงแกล้งเมียแบบนี้ไม่ได้นะโว้ย...



            “ก็โพสรูป...” ผมสารภาพ แววตาคู่สวยจ้องผมไม่ละสายตา...ละลายครับ ผมจะละลาย



            “ไหน กูขอดูหน่อย” เสาแบมือของโทรศัพท์ของผม นั่นไงล่ะครับไอ้นนท์งานเข้ามึงแล้ว



            “นอนดีกว่าไหม” รีบเปลี่ยนเรื่องแต่ก็ชะงักกับเสียงดุ



            “เอามาไอ้เหี้ยนนท์!! ถ้าไม่เอามาก็ไม่ต้องมาคุยกับกู ไม่ต้องมากอด!” เขาขู่จริงจัง คิดว่าผมจะกลัวเมียเหรอ...เออครับ T^T เมียบอกว่าไม่ให้กอดผมรับไม่ได้....ผมรีบหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงยื่นให้เสาด้วยความเต็มใจ...



            เสารับไปกดเลื่อนออกเปิดดูเฟสบุ้คของผม หน้าไทม์ไลน์ของผม รูปที่เพิ่งโพสไปก็โชว์ขึ้นพร้อมคอมเมนต์ประชาชีในมหาลัยอีกเกือบครึ่งแสน...เวอร์ให้ดูอลังการนิดหนึ่ง เสาเริ่มขมวดคิ้ว เอาล่ะขอเตรียมคำอธิบายเขาก่อน รูปที่ผมโพสเป็นรูปเสายืนอยู่บนเวทีพร้อมสายสะพายรองเดือน ที่มาส่งมอบตำแหน่งให้น้องเดือนปีต่อไป ผมแอบถ่ายอยู่ข้างล่างครับ เขาไม่รู้ว่าผมมาดูเขาด้วยซ้ำ (มาแบบแอบ ๆ อยู่แบบเจ็บ ๆ อย่างคนไม่มีสถานะ ฮิ้ววว...เล่นเองก็เจ็บเอง) พร้อมกับแคปชั่นโดนใจลงไปด้วย



          ‘มาส่งกำลังใจให้รองเดือนปี 2 ทำหน้าที่อย่างตั้งใจ อย่าลืมกินข้าวด้วยนะ นนท์เป็นห่วง ปล. ชานมไข่มุกนนท์ซื้อมาฝากแล้วนะ (หัวใจสีแดงสามดวง) แอบมาเงียบ ๆ ไม่อยากให้เขารู้ตัว...’



            พอนึกแคปชั่นที่ตั้งลงไปก็นึกหมั่นไส้ตัวเองขึ้นมาเหมือนกันครับ ฮ่า ๆ! มีความอยากอ้อน แต่เสากลับไม่รู้ ก็เสาไม่สบายเลยไม่ได้เล่นไง ผมโพสเมื่อวานแหละ...



            พวกคอมเมนต์ก็มาจากพวกเพื่อน ๆ คณะเรา พวกเจ้นิ่มแก๊งค์กองประกวดที่รู้จักเสา กับพวกแฟนคลับที่รักคู่รักชายชาย กรี๊ดกันใหญ่ แถมยังแห่ให้กำลังใจผมกับเสาอีก



            เสาที่เปิดดูเมนต์เงียบ ๆ ก็ทำเอาผมอึดอัดกลัวเขาจะโกรธขึ้นมา ก็รู้ครับว่าเขาไม่ชอบให้โพสอะไรหวาน ๆ แบบนี้



            “ครั้งนี้มึงกล้าเนอะ” หลังจากที่เงียบไปนานร่างบางในอ้อมกอดของผมก็เอ่ยขึ้น



            “หือ”



            “กล้าแท็กรูปกูด้วย” ความจริงจุดประสงค์หลักของผมคือ จะกันพวกผู้ชายที่คิดจะมาจีบเสาต่างหาก ดูท่าเจ้าตัวจะยังไม่รู้ตัวอีกว่าตัวเองแสดงด้านน่ารักออกมาแล้ว ผมไปเลื่อนดูรูปประมวลผลประกวดดาวเดือนในเพจอ่ะครับ เจอรูปของเสาที่ช่างภาพถ่าย ผมก็เลยจะไปเซฟเอาไว้แต่ดันเลื่อนไปเจอเมนต์แปลก ๆ ....



            ....พี่เสาน่ารักมากเลยครับ อยากถ่ายรูปด้วยแต่ไม่กล้า... ฝันเอาว่ากูจะให้ถ่ายไอ้เชี่ยยย



            ...หน้าก็ใส เสียงก็หวานจับใจมากครับ พี่รองเดือนปี2.... เสียงหวานพ่อง....



            เอาไปสองตัวอย่างพอครับ นั่นแหละที่ผมเจอมีพวกผู้ชายมาเมนต์ ต่อมความหึงของผมก็ทำงานทันที ผมเลยจัดการ โพสรูปนั่นแสดงแบบประกาศไปเลย!!...และคนก็เริ่มรับรู้ทั่วมหาลัยว่า ผมหลงเสาอยู่ โฮะ ๆ



            “ตกลงเราจะเป็นแฟนกันได้ยังอ่ะ...” ผมถามอีกรอบ อย่าว่าเซ้าซี้เลย คือแบบว่าผมก็อยากให้เขายอมตกลงปลงใจกับผมสักที...



            “.................” แต่ดูจากอาการของเสาแล้วนั้น...น่าจะไม่ให้ผมเข้าใกล้คำว่าแฟน (ที่จริงเลยขั้นแฟนแล้วนะ หึหึ)



            “ถ้าเสายังไม่พร้อม..” ผมยังไม่ทันจะตอบจบก็เลิกคิ้วกับเสียงเล็กของเสาที่ตอบผม



            “เออ ๆ”



            “หือ? เอออะไรเหรอ” ผมไม่รู้ผมโง่... เสาทำหน้ามุ่ยอีกครั้งและดีดหน้าผากของผมเต็มแรง



            แปะ!



            “ไอ้โง่ เรื่องแค่นี้ก็คิดเองไม่ได้ กูก็ตอบเออ ๆ แล้วไง”



            “หือ” เขาทำท่าจะตีผมอีกรอบเลยรีบจับไว้



            “ก็มึงถามอะไรกูล่ะ ไอ้สัดเหี้ยนนท์!!” โอ้โห...ขนมาทั้งหมด สัดเหี้ยนนท์เต็มหน้าผม ผมชะงักกับที่เขาพูดเมื่อกี้ แบบว่าหัวผมประมวลช้านิดหนึ่ง ผมตาโต



            “........” เสาหลี่ตาลงอย่างไม่สบอารมณ์กับรอยยิ้มของผมที่ปรากฏออกมา



            “เสา!! งั้นก็หมายความว่า ที่ถามว่าตกลงเป็นแฟนกันไหมเสาตอบว่า”



            “ไอ้สัด...” เขาด่าผมกลับ



            “เย้!! ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมวะ กูได้เสาเป็นเมีย โอ๊ย...กูจุกนะเฮ้ย...เดี๋ยวสูญพันธุ์กันพอดี” ผมตะโกนด้วยความดีอกดีใจราวกับความฝัน จนสะดุ้งเมื่อเสาเอาเข่ามากระแทกนนท์น้อยของผมเต็ม ๆ



            “เออ ไอ้เชี่ยแม่ง...สูญพันธุ์ไปเลยเอาให้มันใช้งานไม่ได้ไปเลย จะตะโกนทำเชี่ยไรวะ” เสาบ่นทั้งที่หน้าแดงไปหมดแล้ว โว้ยยยย โคตรของโคตรน่ารักกกก.....



            “กูจะนอน ปล่อยได้แล้ว”



            “ไม่เอา ขอนอนกอดแฟนป้ายแดงหน่อยนะ..นะ” ผมอ้อน กำลังคิดว่าเสี่ยงโดนตีนเสาไหม... ขามองหน้าผมก่อนจะหลับตาลง เฮ้ย...ไม่โดนไล่ เชรด...



            “ติดหวัดจากกู อย่ามาโวยวายทีหลังละกัน จะนอนแล้วอย่ามากวนเข้าใจมะ” เสาสั่งแค่นั้นแต่กลับเหมือนเป็นสิ่งที่ผมต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แต่ผมรู้สึกจุกจังแฮะ...เข่าเล็ก ๆ ก็ทำให้จุกได้นะครับเนี่ย



            T.T เมียครับ นนท์น้อยมันยังต้องใช้งานสำหรับเราสองคนอีกเยอะนะ (ทำหน้าชั่วร้าย...)





            [จบพาร์ตของนนท์]









.............................+++++++++++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^  คู่นนท์เสามาเเบบหอมปากหอมคอออ  // เดี๋ยวจะพากลับไปลุยต่อกับคู่ของน้องหมูกับพี่ศิลาเเล้วค่าาา ไปดูกันว่าคู่นั้นคบกันเเล้วจะเป็นยังไงบ้าง  :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :-[ มาแบบกรุบกริบๆ น่ารัก

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
คนน่ารักมักจะไม่รู้ตัว 555

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
นึกว่าเสาจะเถื่อนกว่านี้ ที่แท้ก็น่าร้ากกกกกกกก  อย่างนี้นี่เอง   :hao7:

ออฟไลน์ Ryunosuke

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
นนท์เสาน่ารักมว๊ากกกก โอ๊ยฟินจิกหมอนจิกผ้าปู
นนท์โคตรเปิดเผยอ่าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 o13...น่ารักน่าเอ็นดู....ชอบมากกกค่ะ :hao7:

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 22



            [พาร์ตของศิลา]




            1 อาทิตย์แล้วกับการที่ผมมีไอ้หมูไปไหนมาไหนด้วยในฐานะแฟน ถามว่าความสัมพันธ์ของผมเป็นยังไงก็เหมือนเดิมแหละครับ ผมก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ไอ้หมูก็เดินตามผมต้อย ๆ เหมือนเดิม บอกเลยว่าไอ้หมูมันดูเปิดเผยมากเรื่องของผม ทำให้ผมเอามาคิดว่า ผมเองก็ยังไม่ได้ทำอะไรให้มันชัดเจนเลย...หมายถึงเรื่องความรู้สึกของผมอ่ะครับ...ผมมันก็มีนิสัยแบบนี้ด้วยไง ปากกับใจมันก็ไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ จะให้พูดอะไรหวาน ๆ ก็ไม่ใช่ผมปะวะ...



            เฮ้อ...ให้มันรอไปหน่อยก็แล้วกัน ขอเวลาผมทบทวนความรู้สึกของผมก่อน (นี่มึงยังต้องทบทวนอีกเหรอครับ ไอ้ศิลา) วันนี้ไอ้หมูมันก็มาส่งผมตามปกติหน้าคณะวิศวะ ทุกคนก็เริ่มชิน ๆ กับมันแล้วล่ะที่มาส่งทุกวัน แต่วันนี้มันไม่ได้มารับผมตอนเย็นครับ เห็นว่ามีสอบเก็บคะแนน ว่าที่หมอค่อนข้างเรียนหนักจริง ๆ แหละ เพราะผมเห็นไอ้หมูมันอ่านหนังสือเวลามันว่างตลอดเลย ผมไปนอนเล่นห้องมันก็เลยรู้ (แบบว่าไอ้หมูมันลากไปนอนเล่นห้องมันเฉย ๆ อ่ะครับ)  ผมเรียนตามปกติจนมาถึงตอนเที่ยง



            |โรงอาหารคณะวิศวะ|



            “ไอ้สัด เลิกเหม่อกินข้าวได้แล้ว” ไอ้เสาปรบมือเรียกผมที่คิดอะไรเพลินไปหน่อย ผมมองชามก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กที่มันยื่นมาให้ผม คิดถึงก๋วยเตี๋ยวหมูแดงที่ไอ้หมูซื้อมาให้เลยอ่ะ...



            “กูไม่ได้เหม่อซะหน่อยเว้ย”



            “แหม จ๊ะ ๆ คิดถึงไอ้น้องหมูล่ะสิ...เห็นมึงบอกว่าน้องมันไม่ว่างมารับมึงใช่ไหม” ไอ้เสาถามพลางคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ปาก ส่วนไอ้นนท์ดูเหมือนจะไปหาซื้อน้ำกินให้พวกผมอยู่       



            “เออ เห็นว่ามีสอบแหละ”



            “ดีเลย วันนี้ไปดื่มกับกูกับไอ้สัดนนท์ด้วยกัน ไม่ได้ไปด้วยกันนานแล้ว” ไอ้เสาชวน ก็จริงครับไม่ได้ไปกินนานแล้ว    ไปพักผ่อนสักหน่อยก็ดีเหมือนกันเพราะพรุ่งนี้พวกผมไม่มีเรียนด้วย



            “จัดไปตามนั้น” สักพักจะไอ้นนท์ก็เดินกลับมาพร้อมกับชานามไข่มุกของไอ้เสาและน้ำเปล่าของผม โอ้โห...เพื่อนกับเมีย ไอ้สัดนนท์แบ่งได้ชัดเจนมากครับ ฮ่า ๆ แอบแซวมัน



            ......................

            ......................





            ผมเก็บพวกชีทใส่กระเป๋าพลางเดินตามไอ้เสาลงมาจากตึก ไอ้นนท์ขับรถไปรอที่ร้านเรียบร้อย นี่ก็กำลังงงว่าพวกมึงสองคนทำไมไม่ขับรถมาด้วยกัน? เปลืองน้ำมันชิบ แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไรมันหรอก   ผมหยิบโทรศัพท์ออกมากดดูก็เห็นสายที่ไม่ได้รับ อ้าว...ลืมเปิดเสียงนี่หวา ไอ้หมูโทรมาครับเมื่อกี้นี้เอง



            “รีบโทรกลับหาผัวเถอะ ฮ่า ๆ เดี๋ยวน้องมันจะงอนเอานะเว้ย” ไอ้เสานี่ก็ล้อผมจัง ผมกดโทรออก ระหว่างที่เดินไปที่รถของไอ้เสา เสียงรอสายดังไม่นานไอ้หมูก็รับ



            (“ทำไมไม่รับสายผมเมื่อกี้”) น้ำเสียงเข้มถามกลับมาทันที



            “ไม่ได้ตั้งเสียงไว้ เพิ่งเลิกเรียนไง”



            (“หอมแก้มผมหนึ่งทีตอนเจอกันแล้วจะหายเคืองเรื่องที่รับสายไม่ทัน”) มันพูดขี้เล่นขึ้นมาแต่ผมว่ามันอยากให้ผมทำจริง...ไอ้เชี่ยแค่รับสายไม่ทันทำเป็นเคือง



            “ไอ้เชี่ยกูไม่หอมหรอก”



            (“ฮ่า ๆ ว่าแล้วว่าพี่ศิลาต้องด่า”) มันหัวเราะเหมือนอารมณ์ดีมาก ไอ้นี่...มันบ้า



            “มึงโทรมามีอะไรรึเปล่า?”



            (“แค่คิดถึง...”) จึก...คำตรง ๆ จากมันอีกแล้ว (“ จริง ๆ แล้วอยากจะถามว่าพี่ศิลาจะกลับหอรึยัง และก็จะโทรมาบอกว่า วันนี้ผมต้องอยู่ทำแล็ปดึกเลยอ่ะ...”)



            “อ๋อ สู้ ๆ ละกัน กูก็กำลังจะกลับ...อ้อ ไม่ใช่สิ กูจะไปร้านโฮะกับไอ้เสาไอ้นนท์อ่ะ”



            “มีรายงาน ๆ กันด้วย” ไอ้เสาที่เดินนำผมอยู่หันมาทำท่าล้อเลียน เดี๋ยวกูจะได้กระทืบเพื่อนตรงหน้าซะก่อน โว้ย...



            (“ไปร้านโฮะเหรอครับ...”) มันเงียบไป (“พี่ศิลาอย่าดื่มเยอะนะ ให้สองแก้วพอ”) ไอ้หมูพูดต่อมาทำให้ผมเลิกคิ้วขึ้น



            “หา?”



            (“บอกว่าห้ามดื่มเยอะ เป็นห่วง”)



            “เออ ๆ วุ่นวายชิบมึงนิ” ผมตอบรับไอ้หมูที่ทำเสียงเซ้าซี้



            (“ห้ามไปทำตาวิ้ง ๆ ใส่ผู้ชายคนอื่นนะรู้ไหม”) วิ้ง ๆ เชี่ยไรของมันนนน...ใครจะไปทำวะ กูไม่ใช่มึงนะครับที่จะไปทำสายตาวิ้งใส่สาว...เอ๊ะ แต่ไอ้หมูมันบอกว่าห้ามผมไปทำสายตาใส่ผู้ชาย ไอ้เชี่ยกูจะไปทำใส่ทำไมกันละนั่น



            “เออ เข้าใจแล้ว ไปทำแล็ปมึงไปไอ้เชี่ยหมูกรอบ” ผมไล่



            (“เดี๋ยวกลับไปเอากำลังใจที่ห้องพี่นะ”) เสียงทุ้มดังเจ้าเล่ห์ทำให้ผมด่าออกไปทันทีส่วนปลายสายก็แม่งหัวเราะเหมือนขำมาก



            “ไอ้สัด...กูจะล็อคห้องไว้”



            (“ปืนหน้าต่างเอาก็ได้ ฮ่า ๆ!!”) ไอ้โรคจิต....มันวางสายไปแล้วแต่ผมกลับดันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั่นแหละ โอ๊ย...ระบบการควบคุมอารมณ์ของผมจะพังเพราะไอ้หมูหมดแล้วแม่ง...



            “ไอ้น้องหมูนี่สุดยอดเนอะ ทำให้มึงมายิ้มคนเดียวได้เนี่ย” ผมกับไอ้เสาเดินมาถึงรถ ก็ชะงักกับผู้หญิงวัยกลางคนที่ใส่ชุดดูดีมาก เป็นผู้ดีสุด ๆ แถมแววตาของเธอยังคล้ายกับ...ไอ้หมูอีกด้วย



            “ขอโทษนะจ๊ะ...หนูชื่อศิลาใช่ไหม” ผมพยักหน้าพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ใหญ่พร้อมกับไอ้เสาที่ยกมือตาม ปกติป๊ามักจะสอนผมเสมอไม่ว่าจะเจอผู้ใหญ่คนไหน เรารู้จักหรือไม่ก็ตามเราก็ต้องเคารพเสมอ



            “แม่เป็นแม่ของหมูนะ...” ผู้หญิงตรงหน้าของผมรับไหว้และพูดขึ้นทำให้ผมกับไอ้เสาเหลือบมองหน้ากัน...ผู้หญิงตรงหน้าของผมคือ แม่ของหมู ผู้ชายที่ผมกำลังคบอยู่...



            “แม่อยากคุยอะไรกับศิลาหน่อย ได้ไหมจ๊ะ...” ผมมองหน้าแม่ของหมูที่ยิ้มบาง ๆ ให้ผมอยู่ ผมพยักหน้าตกลงก่อนจะเดินตามเธอไปคุยตรงใต้ต้นไม้ โดยมีไอ้เสายืนอยู่ห่าง ๆ ....



            .......................

            .......................



            [พาร์ตของหมู]



            จะมีอะไรมีความสุขไปกว่าการที่เราได้อยู่กับคนที่เราอยากอยู่ด้วยมาโดยตลอด...1 อาทิตย์แล้วล่ะครับ หลังจากที่พี่ศิลายอมตกลงปลงใจกับผม ผมนี่แทบอยากจะขนขันหมากไปสู่ของพี่ศิลาซะเลย! (ใจเย็น ๆ นะครับไอ้หมู) บอกเลยว่าโคตรมีความสุข ผมมองอะไรก็เป็นสีชมพูแทบจะหมดทุกอย่าง ความรักที่มีให้พี่ศิลามันล้นใจของผมจนห้ามไม่ไหวแล้ว...แม้พี่ศิลาจะยังไม่ยอมบอกความรู้สึกตรง ๆ ออกมา แต่ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อว่าผมคงจะได้ฟังมันเร็ว ๆ นี่แหละ...ผมรู้ว่าพี่ศิลาเป็นคนนิสัยยังไง ถ้าจะมาพูดอะไรหวาน ๆ สไตล์พี่เขาก็ไม่ใช่อยู่แล้ว ผมชอบที่พี่เขาด่าผมไปด้วยแบบนี้แหละ พี่หมวยเล็กที่แท้จริงของผม...



            เฮ้อ...ผมอยากจะบอกว่าทุกวันนี้เหมือนผมต้องคุมตัวเองหนักกว่าเมื่อก่อน เพราะได้ลิ้มลองครั้งหนึ่งแล้ว ย่อมอยากให้มีครั้งต่อ ๆ ไป ผมไม่อยากจะบอกเลยว่าผมหื่นขึ้นหลายเท่าเมื่อเจอพี่ศิลา คนอะไรก็ไม่รู้ขาวทุกสัดส่วน โอ๊ย...ซอกคอ ซอกขา...ละมุนนุ่มลึกจริง ๆ อย่าเพิ่งไปแจ้งตำรวจมาจับผมนะครับ แฮะ ๆ ก็พี่ศิลาน่ารักเกินห้ามใจจริง ๆ ถ้าเฮียใหญ่กับเฮียกลางรู้ว่าผมคิดแบบนี้กับหมวยเล็กของพวกเขา มีหวังปืนจ่อมาที่ผมแหง...



            แต่ผมเองก็เป็นสุภาพบุรุษพอน่าครับที่จะไม่ทำอะไรพี่ศิลาบุ่มบ่ามแบบนั้น ถ้าพี่เขาไม่เต็มใจผมก็ไม่ทำ...จริง ๆ วันนั้นก็เกือบปล้ำพี่ศิลาด้วยความทนไม่ไหวของผมไปซะละ ดีนะที่ได้คบกับพี่ศิลาเป็นแฟนซะก่อน โฮะ ๆ ...จะว่าไปเรื่องที่ผมคบกับพี่ศิลายังไม่ได้บอกกล่าวกับพ่อแม่ของผมเลยครับ คือผมเคยเกริ่นไว้ให้พวกท่านฟังอยู่นะว่า ผมแอบรักพี่ศิลาและตามพี่เขามาหลายปี พ่อกับแม่ก็พอจะรู้ว่าพี่ศิลาตอนนั้นไม่สนใจผม (ส่วนตอนนี้พี่ศิลาเป็นแฟนของผมแล้วครับบบ อวดดด) ยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่เลยแฮะว่าพี่ศิลายอมเป็นแฟนของผมแล้ว เพราะช่วงนี้ไม่ได้กลับบ้านใหญ่ด้วย อยากบอกต่อหน้ามากกว่าครับ กะจะพาพี่ศิลาไปเปิดตัวด้วยเลยด้วยซ้ำ ต้องรอถามพี่ศิลาก่อน ผมตามพี่เขามาหลายปีแบบทุ่มเทมากจนคนที่บ้านก็พอจะรู้ และชอบบอกให้ผมเลิกฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่จะได้ยืนเคียงข้างพี่ศิลาได้แล้ว พอมาวันนี้ผมกลับรู้สึกภูมิใจมาก ๆ ผมทำมันสำเร็จแล้ว พี่หมวยเล็กที่ผมแอบไปสมัครเข้าสนามมวยทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เล่นมวยไม่เป็น เวลาก็ไม่ค่อยมีเพราะต้องไปเรียนพิเศษ ผมก็ยังพยายามทำทุกทางที่จะเข้าใกล้พี่ศิลาสักนิด



            และวันที่รอคอยของผมก็มาถึง วันที่พี่ศิลายอมรับว่าผมเป็นแฟน ผมเชื่อว่าความดื้อรันและความรัก



            เฮ้อ...จะว่าไปวันนี้อดไปรับพี่ศิลาเลยครับ เพราะผมกำลังนั่งทำแล็ปอยู่นี่ไงล่ะ เห็นว่าพี่ศิลาไปดื่มกับพวกพี่เสากับพี่นนท์ด้วยแหละ แอบเป็นห่วงกลัวพี่ศิลาจะกินเยอะ....



            “ไอ้สัด แล็ปจะเสร็จไหมวันนี้นั่งเพ้อพบถึงรุ่นพี่มึงอยู่นั่น” ไอ้เพื่อนกลุ่มผมว๊ากกวนตีนผมขึ้น ผมเลยยักไหล่ทำแล็ปต่อให้เสร็จ เผื่อเสร็จเร็วจะได้แวบไปหาพี่ศิลา!



            ผมรู้สึกว่าอาจารย์ช่างดูสวยมากเป็นพิเศษ เพราะอาจารย์ปล่อยพวกผมก่อนเวลาเย้! ผมไม่รีรอที่จะคว้ากระเป๋าเป้ออกไปจากห้องเรียนทันที ไอ้พวกเพื่อนของผมก็แม่งล้อกันเสียงดัง หาว่าผมติดเมีย....ครับ ยอมรับติดจริง ๆ แต่เมียของผมสิ ไม่ยอมให้ผมติดเลย....



            ผมยกโทรศัพท์โทรหาพี่ศิลา ก่อนจะต้องขมวดคิ้วงงเมื่อพี่เขาตัดสายผม ? เอ๋...ผมลองโทรไปก็พบว่าโดนตัดสายอีก พอโทรอีกรอบแม่ง...ปิดเครื่องซะงั้น ผมรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา ก็เลยรีบโทรหาพี่เสาแทน



            (“เออ ไง”)



            “พี่เสา พี่ศิลาอยู่กับพี่ไหม...” ผมได้ยินเสียงเพลงดังกระหึ่มแสดงว่ายังอยู่ที่ร้านโฮะ แถมผมยังได้ยินเสียงของพี่ศิลาดังมาแว่ว ๆ ด้วย



            (“คุยกับใครไอ้สัดเสา...ถ้าไอ้หมูอย่ารับนะ”) อ้าว....ทำไมล่ะ เสียงพี่ศิลาดูเมา ๆ ยังไงไม่รู้



            (“เออ กูไม่ได้คุยหรอก...มึงมาเคลียร์เองดีกว่าไหมไอ้น้องหมู กูก็ไม่รู้มันเป็นไรไม่ยอมเปิดปากพูดกับกูเนี่ย”)  พี่เสาพูดกับพี่ศิลา ก่อนจะพูดกับผมเบา ๆ ผมยิ่งฟังขมวดคิ้ว ผมก็ไม่ได้ทำอะไรให้พี่ศิลาโกรธนี่นา ก็เห็นคุยดี ๆ ตอนไปหาเมื่อเย็น



            เจออะไรมารึเปล่า?...

            ผมไม่ชักช้ารีบวางสายจากพี่เสาและเดินไปที่รถของตัวเองเพื่อมุ่งหน้าไปร้านโฮะทันที....

            ..........................

            ..........................





            [พาร์ตของศิลา]



            “ไอ้สัดพอ ๆ ไอ้นนท์เอาขวดเหล้าออกมาไกล ๆ มันดิ” ไอ้เสาโวยวายแย่งแก้วในมือของผม หลังจากที่มาถึงร้านผมก็สั่งเหล้ามากินเกินสองแก้วที่ไอ้หมูสั่งกำชับไว้แล้ว...



            ไอ้หมู...



            “กูจะกินเว้ย เอามา เชี่ยไหนบอกจะพากันมาแดกไงวะ ชน ๆ” ผมจะเอาแก้วจากมือไอ้เสา มันก็ไม่ยอมให้



            “แดกไรวะ เรียกว่าอาบจะดีกว่า มึงจะเมาอยู่แล้วเนี่ย นี่มึงเป็นอะไรวะเอาแต่ดื่มไม่พูดไม่จา แล้วนี่แม่ของไอ้น้องหมูเรียกมึงไปคุยเรื่องอะไร ยังไม่ได้บอกกูเลยนะ” ผมชะงักกึก...



            ครับ...ก่อนที่เราจะมาที่นี่แม่ของหมูเรียกผมไปคุยด้วย...เรื่องที่ผมไม่อยากจะนึกถึงขึ้นมาตอนนี้เลย ผมแค่อยากดื่ม ดื่ม....ดื่มให้ลืม



            “ก็แค่ถามว่ารู้จักกับไอ้หมูเหรอ” ผมว่า ไอ้เสาหลี่ตามอง ลืมไปครับว่าไอ้นี่...มันเป็นนักสืบ หลอกมันไม่ได้



            “ไอ้สัดเห็นกูโง่เหรอ แม่เขาจะมาถามเรื่องแค่นี้ทำไม” ไอ้นนท์ที่นั่งอยู่ด้วยก็กอดขวดเหล้าไว้ตามคำสั่งของไอ้เสาที่กลัวผมเอาไปกินอีก...



            “...........”



            “ไอ้ศิลากูเพื่อนมึงนะเฮ้ย มีไรก็บอกมาสิวะ ทำแบบนี้พวกกูเป็นห่วง” ไอ้เสาบอกออกมาตามความจริง ผมเม้มปากนิด ๆ ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นผู้ชายที่อยู่ในชุดนักศึกษาเต็มยศเสื้อยังเหน็บอยู่ในกางเกงอยู่เลย ไอ้เชี่ยหมู...มันมาที่นี่ทำไม  ผมยังไม่พร้อมจะเจอมันตอนนี้ ยังไม่พร้อม....จะบอกสิ่งที่ผมต้องพูด



            ผมจะลุกหนีไอ้เสาก็รีบจับผมไว้



            “ไอ้ศิลามึงจะไปไหน”



            “พี่ศิลา” ไอ้หมูที่เดินมาถึงโต๊ะ ไอ้เสาเลยปล่อยมือของผม “ทำไมพี่ไม่รับสายของผม...” ผมหันหน้าหนีและเดินหนีออกไปนอกร้าน ไอ้หมูเลยรีบวิ่งตามมา



            “พี่ศิลา!! เป็นอะไรไปครับ ผมทำอะไรผิดเหรอ” มันดึงมือของผมไว้ ตอนนี้เราสองคนมายืนอยู่นอกร้านแล้ว



            “ผมผิดอะไรบอกผมสิ...” ไอ้หมูถามเสียงอ่อน ทำให้ผมรู้สึกเจ็บ...มึงไม่ได้ทำอะไรผิดเลยไอ้หมูไม่ผิด แต่คนที่ผิดคือผมเอง...ที่ไม่ยอมชัดเจน จนทำให้ทุกอย่างมันพังแบบนี้ไงล่ะ



            “มึงไม่ได้ผิดอะไร ปล่อย” ผมบิดข้อมือของผมออกจากการจับกุมของมัน แต่ร่างสูงตรงหน้าของผมไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ มันหันหน้าของผมไปเผชิญหน้ากับมันตรง ๆ



            เกลียดการเผชิญหน้ากับแววตาคมตรงหน้า...แววตาที่ผมเพิ่งรู้ว่ามันแม่งมีอิทธิพลกับผมมาก



            “ไม่จริง ทำไมพี่ดูเย็นชากับผมล่ะ ทั้งที่เราก็คุยกันดี ๆ เมื่อเย็น เมาเหรอครับ..” ไอ้หมูสันนิษฐาน ผมไม่ได้เมาครับ สติยังครบดีและรู้ว่ากำลังจะทำอะไรต่อไปด้วย



            “ไอ้หมูกรอบ...”



            “ครับ?”



            “เราเลิกกันเถอะ...” หมูที่ฟังอยู่ก็ทำหน้าตกใจ



            “อะไรนะครับพี่ศิลา อย่าล้อเล่นแบบนี้...ไม่เอานะพี่ อย่าแกล้งผม” ไอ้หมูเสียงสั่นขึ้นมาทันที



            “กูพูดจริง”



            “ไม่ครับ!! เรื่องอะไรผมจะยอมเลิกกับพี่ พี่ศิลาเกิดอะไรขึ้น ผมทำอะไรให้พี่ไม่ชอบเหรอ”



            “เปล่า” ผมพยายามจะไม่สบตาตรง ๆ กับมัน แต่ไอ้หมูก็ใช้สองมือบีบไหล่ของผมไว้ จนผมรู้สึกว่ามันเจ็บ แต่กลับเจ็บไม่สู้ใจของผมตอนนี้....



            “ผมไม่เลิก! ยังไงผมก็ไม่ยอมเลิกกับพี่ ผมไม่ยอมรับ ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่เลิก!!” ไอ้หมูดึงดันจริงจังไม่ยอมจริง ๆ ทำให้ผมชะงักและสะบัดตัวออกจากมัน



            “มึงคิดว่าผู้ชายจะรักกันได้นานรึไงวะ มึงจะไปเป็นหมอนะเว้ย” ผมเริ่มพูดออกมาเหมือนแอลกอฮอล์ทำให้ผมต้องการจะปลดปล่อยทุกอย่างออกมา หมูที่โดนผลักออกก็มองผมไม่ละสายตา



            “รักได้สิครับ ผมไม่เห็นจะแคร์ เรารักกันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่” ผมจะเดินหนี ไอ้หมูก็ดึงแขนของผมไว้



            “พี่ศิลา ผมไม่เลิกนะ ไม่เลิกเด็ดขาด!” ผมมองตาตรงหน้าด้วยหัวใจที่เริ่มสั่น...แต่ประโยคที่แม่ของหมูพูดกับผมไว้ทำให้ผมเลือกที่จะผลักไอ้หมูออกไปจากผมอีกครั้ง แม้ผมจะไม่อยากผละออกจากอ้อมกอดอุ่นของมันเลยด้วยซ้ำ





            ...เพราะหมูยังต้องมีอนาคตอีกไกล แม่ไม่อยากให้ลูกชายของแม่มาจมปลักอยู่กับอะไรที่มันเอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้ แม่เชื่อว่าศิลาเองก็อยากให้หมูได้เป็นหมอดัง ๆ ใช่ไหม ปล่อยหมูไปเถอะ แม่ไม่อยากเห็นลูกชายแม่ทรมานเพราะการแอบรักหนูอีกแล้ว....



            เพราะผมไม่ชัดเจนเองและพอมาคิดดูแล้ว ถ้ายิ่งคบต่อไป...ผมจะไม่ทำให้ไอ้หมูยิ่งจมปลักเหรอ   ไม่รู้สิครับ ผมอาจจะกลายเป็นคนคิดมากไปแล้วก็ได้ ใช่...ผมคิดมาก คิดเรื่องของไอ้หมูทั้งหมด คิดแต่เรื่องของมันคนเดียว....



            “กูอึดอัด” ผมพูดคำที่ไม่ได้ตั้งใจพร้อมดันไอ้หมูที่ชะงักไป ผมมองแววตาของหมูที่ดูเหมือนช็อก  ผมไม่อยากจะมองเลย ไม่อยากมองแววตาของมันแบบนี้



            “ผมทำให้พี่อึดอัดเหรอ....” มันพูดเสียงแผ่ว แต่คำของมันเหมือนกรีดใจของผม “ผมว่าพี่ศิลาคงเมาแน่ ๆ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันวันหลังก็ได้ครับ ผมจะกลับไปก่อน แล้วจะไปหาพี่พรุ่งนี้ ยังไงผมก็ไม่ยอมเลิกกับพี่เด็ดขาด ยังไงหมูก็ไม่เลิกกับพี่ศิลาครับ....” ไอ้หมูบอกแค่นั้นก่อนจะหมุนตัวเหมือนข่มอารมณ์ของตัวเองเดินหันหลังเดินห่างออกไปจากผม



            ผมมองแผ่นหลังกว้างของเขาที่เดินออกไปช้า ๆ น้ำตาของผมไหลออกมาโดยอัตโนมัติ อนาคตของมึงจะต้องเป็นหมอรักษาเด็กน้อยอย่างที่มึงฝันไว้ไง...มีครอบครัวน่ารัก ๆ ยิ่งผมคิดผมก็ยิ่งร้องไห้ ยิ่งรับรู้ว่าผมไม่อยากปล่อยไอ้หมูไป ในที่สุดผมก็รับรู้ความรู้สึกที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจของผม



            รู้ใจของตัวเองจนได้...



            “ไอ้ศิลา!” ไอ้เสาวิ่งออกมาหาก่อนจะตกใจเมื่อผมหันไปหามันพร้อมกับปล่อยโฮออกมา



            “ไอ้สัดเสา...ฮือ”



            “เชี่ย เป็นไรวะ ทำไมมึงร้องไห้ ไอ้น้องหมูไปไหนแล้ว?” นานมากแล้วนะครับที่ผมไม่ได้ร้องไห้ จำได้ว่าร้องตอนล่าสุดก็ตอนวัยเด็กตอนที่โดนเด็กผู้ชายแกล้งล้อ เพราะผมเหมือนผู้หญิง ตัวเล็ก ขาว ผมก็เลยอยากเข้มแข็ง...



            “กูบอกเลิกน้อง...” ผมบอกทั้งน้ำตา ตอนนี้ผมไม่สนแล้วว่าใครจะมองผมรึเปล่า ผมรู้แค่ว่าผมอยากจะพูดให้มันหมด



            “หา ว่าไงนะ?”



            “แต่น้องไม่เลิกกับกู...”



            “ห๊ะ...อะไรของมึงศิลา มึงเมาจนเลอะเทอะแล้ว” ไอ้เสาจับไหล่ของผมให้ตั้งสติ ผมมองมันที่ตกใจแทนผมมาก ๆ



            “ฮือออ...ไอ้เสา กูรักไอ้หมูกรอบว่ะ...กูรักมัน กูรู้แล้วว่ากูรักมันมาก....” ผมบอกออกไปไม่รู้ว่าไอ้เสามันฟังรู้เรื่องไหมเพราะมันปนกับเสียงร้องไห้



            “รู้ว่ารักแล้วก็บอกมันไปสิวะ น้องมันคงดีใจมาก มึงจะไปเลิกกับมันทำไม เดี๋ยวนะ....หรือมันเกี่ยวกับที่แม่น้องมาหาวันนี้” เหอะ...ไอ้เพื่อนของผมมันน่าจะไปทำอาชีพนักสืบนะครับ ท่าจะรุ่ง...



            “อือ ฮึก...ใช่ แม่ของไอ้หมูบอกว่า ถ้ากูรักไอ้หมูจริง กูต้องปล่อยมันไป...” ผมพูดออกมาและเริ่มรู้สึกมึนกับเหล้าที่กินเข้าไป



            “หา? มึงเข้าใจความหมายถูกไหมวะ แม่เขาเนี่ยนะจะบอกให้พวกมึงเลิกกัน” ไอ้เสาสันนิษฐานอย่างสงสัยแต่ผมก็ไม่ได้ฟังหรอกครับ เพราะหัวสมองของผมไม่รับอะไรนอกจากเรื่องของไอ้หมู



            “เพราะกูรักมันไงวะ...กูถึงต้องยอมเลิก...ฮึก..” ผมยังคงระบายออกมาเรื่อย ๆ “กูผิดเองที่ไม่ชัดเจนตั้งแต่แรก ไม่บอกมัน ก็กูมันปากแข็ง...ผิดเองฮือออ...กูรักไอ้หมู มึงกูรักมัน.....”



            “ไอ้ศิลาใจเย็น ๆ ก่อนเว้ย กูว่ามึงควรบอกไอ้หมูเรื่องแม่ของน้องมันนะ เลิกเก็บเงียบเถอะ มึงรู้ไหมว่าน้องมันก็รักมึงมากไม่ต่างจากมึงนะเว้ย” ไอ้เสาพยายามให้ผมตั้งสติ แต่ผมก็ร้องไห้เหมือนสติแตก และสักพักก็รู้สึกว่าโลกแม่ง...หมุนไปหมด ก่อนที่ผมจะรับรู้ว่าตัวเองฟุบหลับไป แต่ผมกลับรู้สึกว่าเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินเป็นเสียงของไอ้หมู...แค่นี้กูก็คิดถึงมึงซะแล้วเหรอ...



            “พี่ศิลา....”

            ..............

            .............





            [พาร์ตของหมู]



            ผมไม่ได้เดินหายไปจากพี่ศิลาหรอกครับ ตอนหันหลังน่ะก็แกล้งเดินจากไปก็เท่านั้นแต่ความจริงก็แอบอยู่แถวพุ่มไม้ พี่เสาเองก็เห็นผม....บอกตรง ๆ ว่าผมช็อกนะ ช็อกจริง ๆ ตอนที่พี่ศิลาบอกอย่างเลิก ผมเสียใจจริง แต่พอมาได้ยินคำระบายทุกอย่างที่ผมต้องการได้ยินมาตลอด



            ‘คำว่ารักจากปากของพี่ศิลา’ ทำให้ผมแทบหัวใจหยุดเต้น แต่มันจะดีกว่านี้มากถ้าพี่เขาพูดด้วยรอยยิ้มและมองหน้าผมตรง ๆ ผมที่แอบฟังอยู่ก็รับรู้แล้วว่าต้นเหตุมันมาจากไหน แม่ผมนี่เอง ผมเห็นพี่ศิลากำลังจะฟุบหลับไปก็โผล่พรวดมาจากต้นไม้ จนพี่เสาแกแอบสะดุ้ง...ผมออกจะหล่อนะพี่



            “พี่ศิลา...” ผมอุ้มร่างบางอันเบาหวิวที่หน้าแดงไปหมด เพราะกินแอลกอฮอล์เข้าไปด้วยบวกกับร้องไห้...แอบโทษตัวเองนิดหน่อยที่น้ำตาเหล่านี้มีสาเหตุมาจากผม



            “ได้ยินแล้วสินะที่ไอ้ศิลามันพูดเมื่อกี้ มึงจะเอาไงต่อล่ะ เพื่อนกูมันก็รู้ใจของตัวเองแล้ว” พี่เสาที่คอยเป็นกามเทพให้ผมกับพี่ศิลาบ่อย ถามขึ้น บอกเลยครับว่าพี่แกรักเพื่อนมาก แถมยังช่วยชงผมกับพี่ศิลาตลอด



            “ครับ...พี่เสา ผมฝากพี่ศิลาไว้กับพวกพี่ก่อนได้รึเปล่า อย่าเพิ่งบอกอะไรพี่ศิลาก็ได้ครับ ผมจะกลับไปที่บ้านวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์นี้...” ผมบอกพร้อมกับเดินอุ้มพี่ศิลาไปส่งที่รถของพี่เสา



            “แน่ใจนะว่ามึงจะไม่ให้กูบอกไอ้ศิลาว่า มึงได้ยินที่มันพูดทั้งหมด”



            “ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมจะไปเคลียร์ปัญหาของที่บ้านก่อน ผมว่ามันต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ ๆ เพราะแม่กับพ่อของผมก็รับรู้มาตลอดว่าผมรักพี่ศิลา...ผมจัดการเสร็จจะรีบกลับมาง้อพี่ศิลา...ระหว่างนี้พี่เสาก็ช่วยดูแลอย่าให้ใครมายุ่งกับแฟนผมนะ” ผมยิ้มเหมือนมีกำลังใจขึ้นเยอะ เพราะไอ้คำบอกรักจากพี่ศิลานั่นแหละทำให้ผมมีแรงสู้ต่อทุกเรื่อง...



            “เออ ๆ โชคดี เพราะไม่ว่ายังไงกูก็จะดูแลเพื่อนของกูให้ดีที่สุดอยู่แล้ว มึงก็รีบ ๆ กลับมาหาแฟนมึงล่ะไอ้น้องหมู อ้อ...บอกไว้ก่อนนะว่าไอ้ศิลาอ่ะ เวลามันรักอะไรแล้ว มันรักมากนะ แถมหวงมากอีก” พี่เสาว่ายิ้ม ๆ พลางหันไปมองพี่นนท์ที่เดินออกมาจากร้านโฮะ ผมเลยยกมือไหว้พี่สองคนก่อนจะเดินกลับมาที่รถ ผมว่าจะขอหยุดเรียนไปเลยดีกว่า อยากเคลียร์ปัญหาให้จบ ๆ



            ...บอกเลยนะครับว่า คนที่จะเป็นเมียของหมูได้ ต้องเป็นพี่ศิลาเท่านั้น....






........................++++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านค่าาาา   :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :monkeysad:..รีบไปเคลียด่วนเลยยย  :m15:

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
นััังชะนีไปยุแหย่ะไรรึเปล่ากลับไปอยู่ป่าได้แล้ว :m16:

ออฟไลน์ Mylovelysunshine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แอบคิดว่าเกี่ยวกับชมพู่หรือเปล่า  :pig4: :pig4: :mew1:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
โหยยยย..อะไรยังไงกันตะเนี๊ย     อยยากรู้ต่อแล้ว

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
 :sad11: ขุ่นแม่ทำไมทำแบบนี้คะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai1:


แม่รู้ได้ไง ใครบอก ?

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อ้าว  ไหงเป็นงี้ล่ะ   :hao4:

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
นังชมพู่เน่ามั่ย งานนี้ น้องหมู รีบไปเคลียร์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 23


                [พาร์ตของศิลา]




                ผมลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ห้องของไอ้เสา ผมรู้สึกเมาค้างสุด ๆ แถมยังปวดหัวชะมัด ผมได้ยินเหมือนเสียงไอ้เสากับไอ้นนท์มันพูดอะไรพึมพำอยู่ พอผมเดินออกไปตรงโต๊ะอาหารที่พวกมันอยู่มันก็เงียบ



                “ตื่นแล้วเหรอไอ้ศิลา ไปล้างหน้าไป มากินข้าว” ไอ้เสามันว่าขึ้น ผมมองหากระเป๋าของตัวเองพลางคิดถึงโทรศัพท์อย่างแรก...เปล่าหรอก ที่ผมคิดถึงไม่ใช่โทรศัพท์แต่เป็นไอ้หมูต่างหาก



                “เห็นโทรศัพท์กูไหม” ผมถาม ไอ้เสาเลยชี้ไปที่โซฟาตรงกระเป๋าผมวางอยู่ ผมเดินด้วยท่าทางงัวเงียไปหยิบโทรศัพท์มาเปิดดู...ก็เจอสายที่ผมไม่ได้รับจากไอ้หมู แต่มันเป็นสายของเมื่อวานก่อนที่เราจะทะเลาะกัน...สถานการณ์แบบนี้ระหว่างผมกับมันคงเรียกได้ว่าทะเลาะล่ะมั้ง...



                ผมเห็นว่าไม่มีสายโทรเข้าจากไอ้หมูก็ทำหน้าเศร้าลงโดยไม่รู้ตัว



                “ไอ้ศิลาไปล้างหน้าเร็ว โจ๊กเจ้านี้อร่อยนะเว้ย ใช่ไหมไอ้เหี้ยนนท์” ไอ้เสาลุกขึ้นมาดันหลังของผมไปล้างหน้าอาบน้ำ พลางถามความเห็นของไอ้นนท์ไปด้วย ผมรู้ครับว่า...มันไม่อยากให้ผมเศร้า เพราะเมื่อวานผมก็ร้องไห้ระบายใส่ไอ้เสาไปเยอะแล้ว



                หลังจากผมอาบน้ำทานข้าวเรียบร้อยก็นอนดูหนังเล่นอยู่ที่ห้องไอ้เสา เป็นวันหยุดไม่มีเรียนที่โคตรเงียบ...เงียบมาก ไอ้เสากับไอ้นนท์ที่นั่งดูผมอยู่ใกล้ ๆ ก็มองด้วยความเป็นห่วง



                “มึงก็อย่าเพิ่งไปคิดอะไรมากเลยไอ้ศิลา กูว่าเรื่องมันต้องดีกว่านี้แน่ ๆ” ไอ้เสาว่าตบบ่าของผมปุ ๆ ไปด้วย ผมคลี่ยิ้ม กดเลื่อนช่องไปเรื่อย



                “เออ..กูก็หวังว่างั้น...มึงว่าไอ้หมูมันจะไปหากูที่หอไหม...” ผมถามขึ้น ไอ้นนท์เลยตอบแต่ผมก็ยังไม่ทันได้ฟัง ไอ้เสาก็เอาศอกไปกระทุ้งท้องของไอ้นนท์ซะก่อน



                “มันกลับไป โอ๊ย...เสา ยะ...อยากกินชานมเหรอ” ผมมองพวกมันสองคน เป็นอะไรกัน??



                “เออ ไปซื้อมาให้กูเลยไป...มึงเอาด้วยไหมไอ้ศิลาชานมไข่มุก” ไอ้เสาถาม ผมเลยพยักหน้าอย่างไม่อยากคิดอะไรมากตอนนี้ บอกเลยว่าหัวของผมตอนนี้แม่ง...ยอมรับตรง ๆ ว่าคิดถึงไอ้หมู อยากรู้มันทำอะไรอยู่ อยู่ที่ไหน มันนี้มันน่าจะมีเรียนอยู่มั้ง...ก็วันนี้วันศุกร์



                “เอามาแก้วหนึ่งละกัน อยากรู้ว่ามันอร่อยไหม” ไอ้เสาหันไปไล่ไอ้นนท์เมื่อสั่งมันเสร็จแล้ว



                เวลาเหมือนผ่านไปช้ามากวันนี้ ผมนอนเล่นอยู่โซฟาส่วนไอ้เสากับไอ้นนท์ก็นั่งกินขนมอยู่โต๊ะ  พวกมันชวนผมแล้วล่ะ แต่พอดีผมกินชานมไข่มุกเข้าไปจนอิ่มมาก ผมมองโทรศัพท์ที่ไม่มีสายเรียกเข้าจากไอ้หมูเลย หรือมันจะโกรธผมไปแล้ว...จนมันไม่อยากเจอหน้าของผมอีก พอผมคิดแบบนั้นขึ้นมาก็ทำให้ใจของผมเจ็บแปล๊บ...



                ผมรักมันมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ รู้ตัวอีกทีไอ้รุ่นน้องที่คอยตามผมต้อย ๆ ก็เข้ามาอยู่ในใจของผมซะแล้ว อยากคุยกับไอ้หมูจังเลยครับ...ผมเริ่มเป็นเอามากแล้ว



                “ไอ้ศิลา กินขนมหน่อยไหมมึง” ผมลุกขึ้นไอ้นนท์เลยยื่นขนมมาให้ผม ผมยิ้มให้พวกมัน



                “พวกมึงกินเหอะ กูว่าจะกลับหอ” ผมว่า ไอ้เสาเลยลุกมาห้ามผม



                “หยุดเลยไอ้สัดศิลา จะกลับไปสภาพจิตใจแบบนี้เนี่ยนะ? กูไม่ปล่อยมึงไป เดี๋ยวมึงร้องไห้อีกไอ้สัด” ไอ้เสาพูดเหมือนรู้ดี ครับ...มันเป็นเพื่อนสนิทผมมานานแถมมันยังรู้ว่าผมเวลาร้องไห้ขึ้นมา หรือมีเรื่องเสียใจจะร้องหนักกว่าปกติ เพราะด้วยความที่อยากซ่อนความอ่อนแอไว้ พอเวลาแสดงด้านอ่อนแอออกมามันก็เลยเป็นแบบนี้



                “กูไม่อยากอยู่ขัดจังหวะพวกมึงสองคน มึงอยู่กันไปเหอะ” ผมว่า ที่จริงแล้ว...ผมเห็นคนที่เป็นแฟนกันก็ดันนึกถึงไอ้หมูขึ้นมาทุกที ยิ่งทำให้ผมเจ็บ



                “ไอ้ศิลา ขัดจังหวะอะไรของมึงวะ พวกกูเอากันจนเบื่อแล้ว มึงไม่ต้องคิดมากหรอก” ไอ้เสาว่าทำให้ไอ้นนท์ตาลุกวาว



                “เสาโกหกว่ะ ไม่เห็นนนท์จะได้เข้าใกล้เสาสักนิด” ผลั้วะ! ไอ้เสาตบหัวไอ้นนท์ไม่แรงมากนัก



                “ไอ้สัดกูเล่นมุขให้ไอ้ศิลามันขำ” ไอ้เสาว่า ทำให้ผมหลุดหัวเราะขำพวกมันสองคนจริง ๆ ไอ้นนท์มองผมก่อนจะแตะบ่าผมเบา ๆ



                “อย่างที่เสาว่าแหละ ยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนกันเว้ย มีไรไม่สบายใจก็ระบายกับพวกกูได้เสมอ เพื่อนไม่มีวันทิ้งกัน” ไอ้เสาเองก็ยิ้มให้ผม พวกนี่แม่งทำหน้าตาของผมซึม...ดีใจจังครับที่มีเพื่อนที่ดีขนาดนี้



                “ขอบคุณพวกมึงมาก ๆ นะ กูดีใจว่ะที่มีเพื่อนอย่างพวกมึง”



                “ไอ้สัดอย่าพากูซึ้ง...เหี้ยน้ำตากูจะไหล...” ไอ้เสาว่าตบบ่าของผมปุ ๆ



                “วันนี้พวกเรามาเล่นเกมแข่งรถกันดีกว่า! ไหน ๆ ก็อยู่ครบแก๊งค์แล้วเว้ย บอกเลยกูไม่อ้อมมือนะ   ไอ้เหี้ยนนท์ไปค้นเกมกับกู ส่วนมึงไปนั่งรอที่หน้าโทรทัศน์เลยไอ้ศิลา” ไอ้เสาเสนอขึ้นเหมือนต้องการให้ผมคลายเครียด ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินไปนั่งรอตามที่มันบอก ผมหวังว่ามันคงจะทำให้ผมผ่อนคลายลงได้บ้าง....





                2 วันเต็ม.
..แล้วล่ะครับที่ไอ้หมูหายไป ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มทนไม่ได้ ทำไมมันหายไปแบบนี้ล่ะ    หายเงียบไปเลยไม่โทรไม่ติดต่อหาผมสักนิด...ผมเองก็ไม่ได้กลับหอของตัวเองเลยเพราะไอ้เสาแม่งไม่ให้ผมออกจากห้องเลยด้วยซ้ำ มันกลัวว่าผมจะไปร้องไห้อีก ผมไม่ร้องแล้วล่ะครับมีแต่จะไปหาไอ้หมูเท่านั้นแหละตอนนี้ เพราะเมื่อเช้าผมตัดสินใจโทรหาไอ้หมูปรากฏว่ามันปิดเครื่อง!...ผมเพิ่งรู้ตอนนี้แหละว่า การที่คนที่เราห่วงอยู่ปิดเครื่อง มันทำให้รู้สึกกังวลใจมาก....งั้นไอ้หมูก็คงรู้สึกไม่ต่างไปจากผมแน่ ๆ ตอนที่ผมปิดเครื่องหนีมันแบบนั้น



                ผมมันแย่ใช่ไหมครับ...ทำให้คนที่เขารักตัวเองและคนที่ตัวเองรัก เจ็บ...



                “ไอ้ศิลามึงยังไม่ได้กินข้าวเลยนะเว้ย” ไอ้เสาเดินมาโวยวายกับผมที่นั่งอยู่โซฟา ใช่ครับ ผมไม่กินข้าว ผมไม่อยาก...ที่ผมอยากทำตอนนี้คือออกไปหาไอ้หมู ไปดูว่ามันหายไปไหน



                “ไอ้เสากูจะออกไปข้างนอก”



                “มึงจะออกไปไหน อยู่นี่แหละ” มันห้ามผมอีกแล้ว ผมเริ่มขมวดคิ้วสงสัยขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้นนท์แม่งก็ทำสายตาลอกแลก



                “พวกมึงมีอะไรปิดบังกูอยู่รึเปล่าวะ ทำไมกูออกจากห้องไม่ได้”



                “เปล่า...” ไอ้เสากับไอ้นนท์ตอบพร้อมกันราวกับเตรียมกันมาบ่งบอกเลยว่า มีอะไรปิดบังแน่!!



                “บอกกูมา...กูอยากไปหาไอ้หมูที่หอ ให้กูไปนะ” ผมบอกจุดประสงค์จริง ๆ ของตัวเอง บอกเลยว่าตอนนี้ผมไม่อยากจะกั๊กแล้ว ผมอยากเจอก็จะบอกว่าอยากเจอ...ไม่เอาอีกแล้วไอ้ความไม่ชัดเจนที่ทำให้หัวใจของผมเจ็บ ไอ้เสามันมองหน้าของผมสักพักเหมือนใจอ่อน (ไอ้เสามันเป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ)



                “เออ เฮ้อ...กูก็ใจอ่อนกับเพื่อนอย่างมึงตลอดแหละไอ้สัดศิลา กามเทพอย่างกูใจร้ายไม่ลง” มันว่า



                “ไอ้น้องหมูของมึงไม่อยู่หอหรอก เพราะมันกลับบ้านมันและมันก็สั่งให้กูดูแลแฟนของมันให้ดี ๆ อย่าให้ผู้ชายมายุ่ง” ผมได้ฟังก็ตาโต...อะไรนะกลับบ้าน?



                “มันกลับบ้านทำไม...”



                “น้องมันรู้เรื่องแม่ของน้องที่มาหามึงแล้ว...” ผมตาโตเข้าไปอีกเท่าไข่ห่านเลยคราวนี้...ติดความอลังการมาจากไอ้หมู....เดี๋ยวทำไมรู้วะ...เอ๊ะ



                “มันได้ยินที่มึงพูดทั้งหมดเพราะไอ้น้องหมูมันเดินหันหลังไปจากมึง...แต่มันไม่ได้กลับไปจริง ๆ มันแอบฟังมึงอยู่” ไอ้เสาคลายข้อสงสัยทำให้ผมแทบลมจับ...เชี่ยยย...งั้นไอ้หมูก็ได้ยินทั้งหมดสิ!



                “มันได้ยินหมดเลยเหรอ...” ผมกลืนน้ำลาย



                “เออ ตั้งแต่ต้นยันจบ...” เชี่ย...คำว่าตั้งแต่ต้นยันจบก็แสดงว่าไอ้หมูได้ยินความรู้สึกของผมแล้วทุกอย่าง แค่คิดผมก็รู้สึกเขินขึ้นมาแล้ว



                “มึงรู้แบบนี้แล้วจะเอาไงต่อล่ะ จะปฏิเสธอีกมะ” ไอ้เสาถาม ผมเลยส่ายหน้า...พอแล้วล่ะครับ ไอ้ความรู้สึกไม่ยอมรับ พอแล้ว ผมไม่อยากเสียไอ้หมูไปอีก



                “ในเมื่อไอ้หมูมันรู้แล้วก็ดี...กูจะไปตามมันที่บ้าน...กูจะไปหาแม่ของหมูและบอกว่า กูไม่เลิกกับไอ้หมู” ผมบอกออกไปอย่างแน่วแน่...นี่ความคิดของกูเองเหรอวะเนี่ย



                “ไอ้เชี่ยยยย แบบนี้หน่อยสิวะ! ไม่เสียแรงที่กูคอยเป็นกามเทพ บอกเลยนะ...กูเห็นน้องมันรักมึงมาก ทุ่มเทให้มึงก็มาก กูก็อยากให้เพื่อนของกูได้เจอคนที่ดี ๆ....” ไอ้เสาพูดอย่างพ่อพระ



                “เออ มึงเป็นกามเทพให้น้องกับกูสำเร็จแล้วล่ะ...แต่มึงต้องช่วยกูอีกเรื่อง”



                “ว่ามา”



                “พากูไปหาไอ้หมูที่บ้านที....”



                “หา? แล้วรู้เหรอวะว่าบ้านน้องอยู่ไหน” เออว่ะ...ผมไม่รู้ แต่ผมว่าผมมีตัวช่วยนะ



                “กูรู้ว่าจะถามใครได้.....” ผมบอก ไอ้เสากับไอ้นนท์ก็มองหน้ากันอย่างไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะไปหาที่อยู่ไอ้หมูกรอบมาจากไหน



                .................

                .................



                และผมก็มาถึงหน้าบ้านของไอ้หมูจนได้ ถามว่าได้ข้อมูลมาจากใคร...ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลหรอกครับ เฮียใหญ่ของผมเองนั่นแหละ ผมโทรไปถามเฮียใหญ่มาเพราะพอจะเดาได้เลยว่าเฮียแกต้องสอบถามพวกที่อยู่ของไอ้หมูไว้อยู่แล้ว ก็ไอ้หมูมันเคยบอกนี่ว่าเฮียมีส่วนช่วยให้ไอ้หมูเข้ามาจีบผม ผมก็เดาไม่ผิดจริง ๆ เฮียรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับประวัติไอ้หมู เฮียบอกผมว่าถ้ามันทำผมเสียใจเฮียจะได้ตามมากระทืบมันที่บ้านได้ถูก ฮ่า ๆ โหดจริงอะไรจริง



                ผมมองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า สมแล้วที่เป็นลูกประธานธนาคาร YOU ระบบรักษาความปลอดภัยเพียบ แล้วกูจะเข้าไปได้ยังไงวะเนี่ย...



                “มึงเข้าไปคนเดียวได้เหรอวะ”



                “เออได้ พวกมึงรอกูอยู่นี่แหละ” ผมว่าแล้วเปิดประตูลงจากรถ ไอ้เสามองอย่างห่วง ๆ แต่ผมก็ชูสองนิ้วให้มันว่าไม่เป็นไร ผมเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเล็ก ยังไม่ทันจะพูดอะไรประตูเล็กก็เปิดให้ผมซะงั้น



                “คุณศิลาใช่ไหมครับ?” พี่ยามท่าทางใจดีถามผมขึ้น ผมพยักหน้าหงึก ๆ ทำไมรู้ชื่อผมได้



                “คุณผู้หญิงบอกให้เข้ามาได้เลยครับ” คุณผู้หญิงที่ว่า...ใช่แม่ของหมูรึเปล่านะ ผมแอบเกร็งนิดหน่อยแฮะ ผมเดินเข้ามาในบริเวณบ้านที่มีสวนนั่งเล่นด้วย ผมเดินไปสักพักก็หยุดกับแม่ของหมูที่วิ่งออกมาทำตาโตเล็กน้อย



                ก่อนผมเองจะเป็นคนตกใจแทนเมื่อแม่ของหมูโค้งให้ผม



                “แม่ขอโทษจ๊ะหนูศิลา...”  ผมเลยยกมือไหว้แม่ของหมู



                “ครับ? ขอโทษผมเรื่องอะไรเหรอครับ?” ผมมองงง ๆ แม่ของหมูเข้ามาจับมือของผมไว้และพูดประโยคที่ทำให้ผมอึ้ง....กับสิ่งที่ได้ยิน



                “เรื่องที่แม่บอกว่าให้ศิลาเลิกกับหมูนั่นแหละ....แม่ไม่รู้ว่าศิลากับหมูรักกันแล้ว แม่รึว่าลูกชายของแม่ไปตามตื้อข่มขู่ศิลา แม่ก็เลยอยากให้หมูเลิกทำร้ายหัวใจของตัวเอง....” จริง ๆ ผมก็ทำร้ายหัวใจไอ้หมูเหมือนกัน เพราะความไม่ชัดเจน....



                “แม่ทำให้พวกหนูสองคนทะเลาะกันแม่ขอโทษจ๊ะ คือแม่ไม่รู้ว่าศิลาเองก็รักหมูเหมือนกัน.....”



                “ไม่เป็นไรครับ...หมายความว่า...คุณน้า” ผมเรียกด้วยความสุภาพ แม่ของหมูเลยส่ายหน้า



                “เรียกแม่สิคะ เรียกแม่ได้...” ผมรู้สึกว่าใจเต้นระริกด้วยความตื่นเต้น...แม่ของผู้ชายที่ผมรักกำลังบอกให้ผมเรียกว่าแม่ ผมรู้ครับว่าแม่ทุกคนก็อยากให้ลูกชายของตัวเองได้สิ่งที่ดีที่สุด และได้อยู่กับคนที่รักจริง ๆ



                “ครับแม่...หมายความว่าผมไม่ต้องเลิกกับหมูใช่ไหมครับ...” ผมถามด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน



                “ใช่ค่ะ ไม่ต้องเลิก...ถ้าพวกหนูเลิกกันแม่ต้องรู้สึกผิดไปตลอดแน่ ๆ...ขอโทษนะจ๊ะ แม่เคยเห็นหมูทำหน้าเศร้าเวลาคิดถึงศิลาแล้ว แม่ทำใจไม่ได้ก็เลยจะหาวิธีเด็ดขาดทำให้หมูตัดใจ...แต่ไม่คิดว่าลูกชายของแม่จะคว้าใจหมวยเล็กมาได้อย่างที่เขาพูดจริง ๆ...” ผมได้ยินแม่ของหมูพูดจบก็อึ้งอีกรอบ



                “แม่รู้จักชื่อ หมวยเล็กของผมด้วยเหรอครับ...”



                “รู้สิคะ ก็หมูเล่าให้ฟังตลอด...จนแม่รู้ไงว่าหมูแอบรักศิลามานาน แต่ที่แม่ทำไปเพราะอยากให้ลูกชายหลุดจากความทรมาน แม่ทำตัวเด๋อไม่รู้เรื่องเข้าไปหาหนูโดยที่ไม่ได้บอกเจ้าหมูก่อน ก็เลยเข้าใจผิดกันแบบนี้แหละ โอ๊ะ...ดีเลยที่ศิลามา คือว่า หมูเขาขังตัวเองประท้วงแม่มาสองวันแล้วค่ะ ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน แม่ไม่รู้จะทำยังไงนี่ก็กำลังจะออกไปหาศิลาเนี่ยแหละ แต่หนูก็มาที่นี่ก่อน” ผมฟังก็เลิกคิ้ว ไอ้เชี่ยหมูขังตัวเองประท้วง เดี๋ยวนะครับ มันเป็นเด็กรึยังไง



                “แม่บอกเขาแล้วนะว่า แม่เข้าใจผิดเรื่องศิลาและแม่เป็นคนบอกให้ศิลาเลิกกับหมูเอง แม่บอกว่าแม่ไม่ได้อยากให้ลูกสองคนเลิกกันแล้ว แต่หมูไม่ฟังเลย ดูเหมือนจะไม่ได้ยินด้วย”



                “ทำไมแม่ไม่เปิดประตูเข้าไปล่ะครับ?” ผมถามออกไป แม่เลยยิ้มแห้ง ๆ



                “คือว่า ระบบล็อคประตูมันล็อครหัสจากข้างใน...ศิลาก็เห็นใช่ไหมว่าบ้านของหมูเขา...เป็นลูกเจ้าของประธานธนาคาร ประตูก็เวอร์อย่างนี้แหละจ๊ะ...แม่เปิดไม่ได้ถ้าเขาไม่เปิดเอง แถมดูท่าทางหมูจะไม่ยอมฟังเสียงอะไรจากข้างนอกด้วย เหมือนจะอยู่แต่ตรงระเบียง พ่อเขาตะโกนเขาไปยังไม่สนใจเลย นี่พ่อศิลาก็งอนแม่ออกไปทำงานแล้ว...” โอ้โห...ผมเชื่อแล้วครับว่าบ้านของไอ้หมูมันรวยจริง แค่ประตูยังต้องแข็งแรงขนาดนี้เลยเหรอ ผมมองระเบียบที่แม่บอกว่าเป็นห้องของไอ้หมูอย่างใช้ความคิด...



                และผมก็คิดอะไรออก!



                “แม่ครับ ผมรู้แล้วว่าจะเรียกไอ้หมูยังไง...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมละกันครับ” ผมมองไปทางต้นไม้ที่อยู่แถวบริเวณระเบียงไอ้หมู แม่ของหมูก็มองตามอย่างเป็นห่วง



                “แน่ใจแล้วเหรอคะศิลา?”



                “แน่ใจครับ ไม่ต้องห่วงผมนะครับ ผมจะทำให้ลูกชายของแม่ออกมากินข้าวข้างนอกเอง...และผมก็จะพูดความจริงกับไอ้หมู ความรู้สึกชัดเจนของผม” ผมบอกแม่ของหมูก็มองตาปริบ ๆ พยักหน้าให้ผมยอมทำในสิ่งที่ผมคิด....



                แม้จะดูผาดโผนไปสักหน่อยแต่วัยเด็กของผมเวลาเล่นกับเฮียใหญ่และเฮียกลาง ผมก็จะปีนต้นไม้เล่นเป็นประจำ ถึงจะไม่ปีนมานานแล้วแต่ก็น่าจะยังปีนได้อยู่...กูจะทำตัวเป็นลิงละนะ ผมปีนขึ้นไปและทดสอบดูว่ามันแข็งแรงไหม ก็โอเคครับ... ไม่ตกแน่นอน ผมปีนขึ้นไปด้วยความเจ็บมือชะมัด ผมเหลือบเห็นไอ้หมูที่ยืนเอามือเท้าคางอยู่ตรงระเบียงพร้อมกับเบียร์ในมือ...ไอ้เชี่ยยยย มายืนกินเบียร์เป็นพระเอกเอ็มวีน้ำเน่าทำซากอะไรอยู่ตรงนี้วะ...รู้ไหมว่ากูรอมึงมาหากู!



                อยากด่ามาก...แต่ตอนนี้ผมเริ่มมีปัญหาแล้วเพราะกิ่งไม้ตรงนี้มันห่างจากระเบียงอยู่เหมือนกัน เอาแล้วครับไอ้ศิลา...ขากูเอื้อมไปไม่ถึงขอบระเบียง มือของผมก็เริ่มลื่นไปด้วยเหงื่อ....เชี่ยกูจะตกแล้ว



                “ไอ้หมูกรอบ...” ผมเรียก ไอ้หมูก็ทำท่าลอกแลกมองหาต้นเสียง... “ไอ้ง้าว! กูอยู่ทางนี้โว้ย บนต้นไม้”  ผมบอกมันก็เลยเงยหน้ามาทางต้นไม้ที่ผมกำลังห้อยต่องแต่งอยู่ มันตาโตเท่าไข่ห่านตามสไตล์มัน



                “พี่ศิลา!! มาที่นี่ได้ยังไงครับ แล้วทำไมไปปีนต้นไม้เล่า” เพราะมึงไง...ไอ้ฟาย!



                “กูมาหามึงไงวะ...แม่มึงบอกให้เปิดประตูก็ไม่เปิดไอ้เชี่ยหมู กูเลยต้องมาปีนอยู่นี่ไง” ผมด่าให้ มันก็เลิกคิ้วงง



                “พี่เจอแม่ของผมแล้วเหรอ...” เออ...ดีเนอะครับแทนที่มันจะช่วยรับผมไปก่อน คือผมกำลังจะตกแล้วไง!!



                “เออ คือค่อยคุยได้ไหม ช่วยกูก่อน...” ผมบอก ไอ้หมูก็เลยนึกขึ้นได้ มันทิ้งกระป๋องเบียร์ในมือและเดินเข้ามาชิดระเบียง กูจะข้ามไปไงวะ...ปล่อยมือไม่ได้



                “พี่ศิลาส่งมือมาให้ผมข้างหนึ่ง ผมจะรับพี่เอง” แปลกที่ผมดันเชื่อคำพูดของมันและไม่ลังเลที่จะยื่นมือไปให้ไอ้หมู...ผมเชื่อว่ามันจะรับผมได้ ผมเอื้อมมือข้างหนึ่งไปจับมือไอ้หมูไว้ มันก็เอาแขนของมันดึงแขนพร้อมกับเอาอีกแขนของมันโอบเอวของผมไว้...



                แรงดึงทำให้ผมกับไอ้หมูล้มไปตรงริมระเบียง



                “อ๊ะ เหวอ...”



                ตุบ...จุ๊บ..ผมล้มทับตัวของไอ้หมูและจุ๊บแก้มของมันเต็ม ๆ ไอ้เชี่ยล้มดี ๆ ไม่ได้รึไงวะ ทำไมต้องมาจุ๊บมันด้วย



                “จังหวะเหมาะชะมัด” หมูกระตุกยิ้ม...ยิ้มที่ผมยอมรับว่าชอบ ผมสะดุ้งเมื่อมือหนาของมันสองข้างเลื่อนมาโอบเอวของผมไว้



                “ไอ้เชี่ยหมูปล่อย...แม่มึงให้มาตามมึงไปกินข้าว” มันเลิกคิ้วขึ้น



                “ทำไมแม่ถึงให้พี่ศิลาเข้ามาตามผม...เอ๊ะ หรือว่าเรื่องที่แม่บอกว่าไม่ได้คัดค้านเรื่องของเราแล้ว  จะเป็นเรื่องจริง!” ไอ้หมูทำหน้าตาตื่น มันเพิ่งจะรู้ตัวจริง ๆ เหรอ แสดงว่ามันได้ยินที่แม่ของมันพูด



                “เออ แม่พูดความจริงทำไมไม่เชื่อวะ เด็กไม่รักดี” ผมด่าไม่จริงจังและพยายามจะดิ้นออกจากมือหรือคีมวะ ถ้าจะแน่นขนาดนี้



                “ผมไม่รักดีครับ แต่ผมรักพี่ศิลา....” จึก...พอเจอหน้าปั๊ปก็หยอดผมทันทีทันใด ผมมองแววตาคมเข้มที่จ้องผมลึกเข้ามาในดวงตากลมสวยของผม



                “พี่ศิลา...” เสียงละมุนฟังแล้วหัวใจพร้อมจะละลายลงทุกเมื่อ...ไอ้เชี่ยนี่มีอิทธิพลต่อหัวใจของไอ้ศิลาซะแล้วล่ะครับ



                “อะไร...”



                “พี่ศิลา...”



                “เชี่ย เรียกทำไม มีไรก็พูดสิ...” ผมมองคนที่ผมกำลังนอนอยู่ข้างผม เป็นท่าที่ล่อแหลมชะมัด แต่ผมก็ขยับตัวไม่ได้เลยเพราะมันกอดเอวผมไว้แน่น



                “ดีใจจังที่แม่ไม่ได้คัดค้านเราแล้ว ที่จริงกำลังเครียดเรื่องพี่เลยว่าจะทำยังไงดีให้แม่ยอมรับ แต่ก็ดีแล้วล่ะครับ...แม่ยอมรับเรื่องของเราแล้ว หรือว่าการประท้วงไม่กินข้าวของผมจะได้ผล ฮ่า ๆ” ไอ้หมูระบายออกมา ผมเหลือบมองกระป๋องเบียร์ที่ทิ้งเรียงรายอยู่เต็ม บ่งบอกว่ามันเครียดจริง...ผมต้องพูดคำนั้นนี่นา คำที่ผมอยากจะบอกกับมันตรง ๆ แต่พอเห็นหน้าของไอ้หมูแล้ว ผมกลับรู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ พูดไม่ถูกทุกที



                “มีอะไรจะบอกผมไหม..” ราวกับว่ามันรู้ความคิดของผม ผมมองหน้ามันที่เหมือนรอฟังผม ไอ้เสาบอกว่าไอ้หมูเองก็ได้ยินที่ผมพูดแล้วนี่...แต่เดาว่ามันคงอยากจะฟังจากปากผมชัด ๆ มากกว่า



                ท่าทีจริงจังของไอ้หมู...ผมต้องพูดจริงเหรอ เขินนะเฮ้ย...(จริงครับไอ้ศิลา เขินก็ต้องพูด...)



                “คือว่ากู....”



                “ครับ? ผมฟังอยู่” มันยิ้มแฉ่ง แบบว่าตั้งใจฟังมากไปรึเปล่า...ผมสูดลมหายใจเอาลึก ๆ



                “กู....มึง” ผมพูดเสียงแผ่วจนไอ้หมูมันเลิกคิ้ว เอียงหูมาฟังใกล้หน้าของผมอีก



                “อะไรนะครับ ผมไม่ได้ยิน” ไอ้เชี่ย...ผมว่ามันได้ยินแล้วแน่ ๆ แต่มันแกล้งผม!! ก็ดูหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ตรงหน้านี่สิ ผมเม้มปาก เออ...มึงชนะ ยกนี้มึงชนะ!



                “กูรักมึง...ไอ้หมูกรอบ” ผมพูดจบก็ดันตัวเองลุกขึ้นจากตัวมัน ไอ้หมูลุกขึ้นนั่งตามผม ผมกำลังปัดเสื้อผ้าที่มีใบไม้ด้วยใบหน้าที่กำลังร้อนวูบ ก็เซไปตามแรงดึงเข้าไปกอดของผู้ชายตรงหน้า



                กลิ่นน้ำหอมที่ผมคุ้นเคยลอยฟุ้ง



                “ไอ้เชี่ยปล่อย...” ผมชะงักกับใบหน้าหล่อที่ก้มลงมาตรงหน้า เสียงหัวใจที่ผมกำลังพิงอยู่ของมัน เต้นแรงมากกกกกก...ผมว่าก็น่าจะพอ ๆ กับเสียงหัวใจของผม รอยยิ้มของไอ้หมูที่คลี่ออกมาทำให้ผมอดที่จะยิ้มตามมันไม่ได้



                “พี่รู้ไหมว่าผม...โคตรดีใจสุด ๆ ใจเต้นแรงสุด ๆ” ผมอึ้งไปทันที เพราะผู้ชายที่กอดผมอยู่กำลังน้ำตาซึมเล็กน้อย “บ้าจัง...ผมร้องไห้เหมือนเด็กเลย ดีใจจัง ที่ในที่สุดผมก็ได้ใจของพี่มา...” มึงได้มันนานแล้วล่ะกูว่า...แค่กูไม่ยอมรับก็เท่านั้นเอง ผมเลื่อนมือไปแตะหน้าของไอ้หมูเบา ๆ



                “มึงมันเด็กชะมัด...ประท้วงไม่กินข้าว บ้ารึเปล่าวะ แล้วใครใช้ให้กินเบียร์วะ...” ผมบ่นแต่ไอ้หมูกลับยิ้มมีความสุขกับเสียงบ่นของผม ส่วนผมเองก็ไม่รู้เป็นอะไรถึงได้กลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่...หุบปากไม่ได้โว้ย



                ซึ้งอยู่ดี ๆ ...ผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อตัวเองลอยขึ้นเพราะไอ้หมูมันอุ้ม



                “ไอ้หมูทำอะไรของมึง?”



                “เมื่อกี้พี่ศิลาบอกว่าแม่ให้มาตามผมไปกินข้าวใช่ไหม?”



                “อือ ใช่” มันกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำไมไม่น่าไว้ใจเลยวะ...



                “งั้นผมขอเวลา 1 ชั่วโมง”



                “หา?”



                “ผมขอนอนกอดพี่ศิลาก่อน แล้วเดี๋ยวลงไปทานข้าวพร้อมกัน” ไอ้หมูบอกพร้อมกับเดินจ้ำอ้าวพาผมเข้ามาในห้องของมัน ผมดิ้นทันที



                “กอดอะไรของมึง!!...ไอ้เชี่ยหมูหยุดเลยนะ” มันทิ้งผมลงเตียง



                “ไม่หยุด หมูขอกอดพี่ศิลาหน่อยนะ...” ผมตาโตกับน้ำหนักที่ถาโถมมาใส่ผมทั้งหมด ตัวมึงไม่ใช่เบา ๆ นะเว้ย....ไอ้หมูที่ล้มตัวลงมานอนกอดผมไว้ราวกับว่าผมเป็นหมอนข้างของมัน



                “ผมไม่ได้นอนมาสองวันแล้ว มัวแต่คิดถึงพี่ศิลา ขอนอนกอดหน่อยนะ...นะ” ไอ้หมูหลับตาลงไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อยที่ง่วงนอน ผมเหลือบมองมันก็หลุดขำ...



                “ไอ้นี่แม่งบ้า...” ผมว่าแต่มือกลับเอื้อมไปจับเส้นผมของร่างสูงเล่น





                “ขอบคุณนะที่คิดเรื่องของกูจริงจังขนาดนี้...” ผมกระซิบแผ่วเบาข้างหูของไอ้หมู ไม่รู้มันจะได้ยินรึเปล่า...แต่น่าจะไม่ได้ยินหรอกเพราะมันหลับไปแล้ว...





...........................++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารักค่า ^^  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4: :-[

ออฟไลน์ AutoAngels

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักกกกกกรืออ่านไปเขินไปอะ :ling1:มาต่ออีกนะ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
บ้านน้องหมูน่ารัก คุณพ่อมีงอนคุณแม่ด้วย 555  รู้เลยว่าหมูเหมือนใคร

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ในที่สุด พี่หมวยเล็ก ก้อบอกรัก น้องหมู แล้ว อย่างนี้ต้องฉลองนะน้องหมู จัดหนักพี่หมวยเล็ก ไปเลย

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
น่าสงสาร กอดกันๆ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ vampire_rose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
ตอนที่ 24



               [พาร์ตของศิลา]





                ผมกับไอ้หมูยังคบกันเหมือนเดิม หลังจากมีเรื่องที่ทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับมันเข้าใจกันมากขึ้น (รึเปล่านะ)     ผมรู้ใจของตัวเองว่ามีไอ้หมูอยู่ในหัวใจ...พูดไปแล้วก็แอบกระดากปากตัวเอง ก็ผมเป็นคนบอกเองนี่ ว่าตัวเองเป็นวิศวะสุดเถื่อน...(ทั้ง ๆ ที่มึงไม่ได้เถื่อนเลยครับไอ้ศิลา) สุดท้ายผมก็มาแพ้ทางไอ้รุ่นน้องว่าที่หมอจนได้ เหอะอยากจะขำตัวเอง ไอ้หมูมันใช้ความพยายามของมันทุกอย่างเพื่อพิชิตใจของผมและในที่สุดมันก็ทำสำเร็จจนได้ แลดูเรื่องราวมีความโรแมนติกมาก



                ผมกับมันต่างพูดได้เต็มปากแล้วล่ะครับว่า เราสองคนเป็นแฟนกัน...



                แต่ก็ใช่ว่าผมกับไอ้หมูจะหวานจ๋าจนมดขึ้นนะ ผมก็เป็นเหมือนเดิมแหละครับ ไอ้ศิลาที่เคยด่าไอ้หมูเป็นยังไงผมก็ยังเป็นเหมือนเดิม ก็ปกตินิสัยผมก็เป็นแบบนี้อ่ะ ก็วิศวะนี่หว่าเถื่อนหน่อยก็งี้...(นี่ยังไม่เลิกว่าตัวเองเถื่อนอีกเหรอครับไอ้ศิลา...)



                พ่อกับแม่ของไอ้หมูก็ยอมรับเรื่องของเราสองคนแล้วล่ะครับ แถมยังยุยงส่งเสริมอีก บอกตามตรงว่าก็รู้สึกสบายใจอยู่เหมือนกันที่พ่อกับแม่ของไอ้หมูรับได้เรื่องความรักครั้งนี้ ส่วนครอบครัวของผม ผมไม่ต้องบอกไอ้หมูก็โทรไปรายงานเฮียใหญ่เรียบร้อยว่าได้คบกับผม (แต่มันน่าจะไม่ได้บอกว่า...มันจับผมกดไปแล้ว มีหวังเฮียใหญ่ตามมาลากคอมันถึงมหาวิทยาลัยแน่ ๆ เอ๊ะ หรือเฮียรู้อยู่แล้ว..) ทำงานเป็นขบวนการมาก!...แล้วนี่ผมจะมานั่งละเมอเป็นสาวน้อยคิดถึงเรื่องราวความรักของตัวเองทำไมวะ!!...



                “ไอ้เหี้ยนนท์เป็นอะไรของมึงวะ ก็กูบอกว่าไม่มีอะไรไง” ผมที่นั่งหมุนปากกาเล่นระหว่างคาบเรียนที่อาจารย์ปล่อยให้ทำงานเองตามอัธยาศัย พวกผมเลยมานั่งอยู่แถวม้าหินอ่อนใต้ตึก ไอ้เสาที่เดินหายไปห้องน้ำก็จ้ำอ้าวมาคว้ามือไอ้นนท์ที่ทำหน้าบึ้งตึง...พวกมันเป็นอะไรกัน แต่ที่น่าแปลกใจคือ ไอ้นนท์สะบัดมือของไอ้เสาออก...เชี่ย ปกติไอ้นนท์ไม่เคยทำเลยนะเฮ้ย...



                “ก็ไม่ได้ว่าเป็นอะไร” ไอ้นนท์พูดเสียงเรียบทำเอาผมที่นั่งตรงข้ามไม่กล้าแซวอะไรพวกมัน  ไอ้นนท์นั่งลงตรงข้ามผม ส่วนไอ้เสามองสบตากับผมพลางถามว่าทำไงดีวะ แล้วผมจะไปรู้กับพวกมันไหมว่า งอนอะไรกัน?



                “ไอ้นนท์” เสามันเรียกอีกรอบ



                “ทำงาน เดี๋ยวไม่มีส่ง” ไอ้นนท์ตอบแค่นั้นและผมก็ไม่เห็นมันสองคนพูดกันอีกเลย เออ...ปกติไอ้นนท์ไม่เย็นชาใส่ไอ้เสาขนาดนี้นี่หว่า แสดงว่าไอ้นนท์มันต้องไปเจออะไรมาที่โกรธมากแหง...





                ออดบอกเวลาหมดคาบ พวกผมก็ทำงานที่อาจารย์สั่งเสร็จพอดี โอ้เย้...ผมรวบรวมไปส่งกับไอ้เสา ส่วนไอ้สัดนนท์บอกว่าขอตัวกลับก่อนเห็นว่าแม่มันเรียกไปทำธุระให้ ผมไม่รู้ว่าอันนี้มันหาข้ออ้างหนีไอ้เสารึเปล่า แต่ผมว่าใช่...



                “มึงทะเลาะไรกับไอ้นนท์วะ?” ระหว่างที่เดินมาส่งงานผมก็ถามไอ้เสาที่เดินเหงาหงอยคอตก



                “แม่ง! พูดแล้วขึ้น ไม่เคยจะฟังกูหรอกเวลากูอธิบาย” ผมสะดุ้งจู่ ๆ มันก็โวยขึ้นมาเหมือนสติจะแตก



                “เฮ้ย ๆ ใจเย็น เล่ามา”



                “มึงจำวันที่กูไปส่งมึงที่บ้านไอ้หมูได้ไหม” ผมพยักหน้า “เออ กูไปส่งมึงแล้วก็กลับ พอดีกูไปแวะกินข้าวกับไอ้นนท์มันซะหน่อย แล้วก็เจอพี่ปิงที่เคยเล่นบาสกับกูอ่ะ...” ผมนึกย้อนไปตอนมัธยม...อ้อ จำได้ละครับ พี่ปิงประธานชมรมบาสที่ชอบล้อไอ้เสาว่าน่ารัก แต่พี่แกกวนเฉย ๆ หรอกครับ ชอบตามกระแส ผมจำได้ตอนนั้นผมก็โดนแกแซว



                “นั่นแหละสัด พี่แกก็ชอบมาหยอกตามประสาแก พี่ปิงเข้ามาทักกูกอดคอทักทายและบอกว่ากูน่ารักสวยขึ้นน่ะเนี่ย....ต่อหน้าไอ้สัดนนท์” ผมได้ฟังก็ตาโตแบบว่า...ว้าว รู้แล้วว่าไอ้นนท์เป็นอะไร โฮะ ๆ



                “มันหึงมึง!” ผมว่า ไอ้เสาทำหน้าเซ็ง



                “เออหึง...แถมหึงของไอ้นนท์แม่งไม่ธรรมดาด้วย”



                “ทำไมไม่บอกว่าพี่แกชอบหยอกไม่ได้คิดไรล่ะ ไอ้นนท์น่าจะเข้าใจ” ผมทำท่าให้คำแนะนำ



                “ถ้ามันฟังกูกูจะไม่ว่าอะไรเล๊ย!! กูเดินตามมันไปห้องน้ำก็จะไปคุยเรื่องนี้แหละ ก็แม่งทำเงียบใส่กูตั้งแต่วันที่ไปส่งมึงง้อน้องหมูแล้ว พอจะไปง้อมันตอนไปห้องน้ำก็ดันมีผู้ชายมาขอเบอร์กูอีก....เชี่ย บรรยากาศเลวร้ายเข้าไปอีก ไอ้สัดนนท์ไม่ฟังกูแล้วแบบ...ไอ้เชี่ยกูโมโห!! ทำไมไม่ฟังกูวะ” ไอ้เสาขยี้ผมด้วยความหงุดหงิดสุด ๆ ผมมองเพื่อนของตัวเองก็ตบบ่าปุ ๆ



                “เอาน่าใจเย็น ๆ กูเชื่อว่าคนแบบไอ้นนท์งอนไม่นานหรอก...มั้ง”





                ผมกับไอ้เสาเดินไปส่งงานเรียบร้อยก็พากันมายืนรอไอ้หมูหน้าอาคาร มันโทรมาบอกผมแล้วล่ะว่าจะมาหาผมอีก 10 นาที ส่วนไอ้เสาก็จะกลับพร้อมพวกผมนี่แหละเพราะเมื่อเช้าไอ้เสามากับไอ้นนท์แต่ไอ้ตัวการที่งอนมันทิ้งเพื่อนผมไว้ซะงั้น ท่าทางจะหึงหนักน่าดู...เวลาไอ้หมูหึงจะหนักแบบนี้ไหมวะ (แอบคิด)



                “จริง ๆ กูนั่งแท็กซี่กลับเองได้นะ” ไอ้เสาว่า



                “ไอ้สัดได้ไง แท็กซี่อันตราย” ผมบอกห่วง ๆ ก็จริงอยู่ที่ไอ้เสามันเป็นผู้ชายแต่ผมว่าสภาพมันตอนนี้อ่ะ พร้อมจะโดนฉุดได้ทุกเมื่อ ดูดิหน้าใสเชียวแถมสวยหวานอีก (ว่าแต่เพื่อนไม่ดูตัวเองเลยนะครับไอ้ศิลา)



                “ไอ้ศิลากูผู้ชายเว้ย จะมาอันตรายอะไรวะ”



                “ไม่รู้แหละกลับพร้อมกู เดี๋ยวให้ไอ้หมูไปส่งมึงที่หอ” ไอ้เสาทำสายตาล้อ



                “แหม ๆ เดี๋ยวนี้มีคนขับรถส่วนตัว” ผมขออนุญาตเตะเพื่อนได้ไหม...สักพักไอ้หมูก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตามฉบับมัน มันยกมือไหว้ไอ้เสา แต่สิ่งที่มันทำกับผมคือ...หอมแก้ม



                “ไอ้เชี่ย! ลามปามนะมึง” ผมโวย



                “อะไรก็หอมแก้มแฟนไงครับ อีฟนิ่ง..” ไอ้หน้าด้าน... “พี่เสาจะกลับกับพวกผมด้วยใช่ไหมครับวันนี้ เชิญเลยครับ พี่กามเทพ” ไอ้หมูเรียกชื่อของไอ้เสาจนผมหลุดหัวเราะ เออ...ไอ้เสามันก็เป็นกามเทพจริงแหละ ชอบยุงยงส่งเสริมตลอด



                ระหว่างที่นั่งมาบนรถ ผมนั่งข้างไอ้หมู ส่วนไอ้เสามันนั่งอยู่ข้างหลังเหม่อ ๆ คนเดียว สักพักไอ้เสาก็พูดขึ้น



                “เดี๋ยวช่วยส่งกูตรงส่วนสาธารณะข้างหน้าได้ไหม อยากเดินเล่น”



                “อารมณ์ไหนของมึงไม่ทราบ เย็นแล้วนะ” ผมถามงง ๆ แต่ก็ได้รับคำยืนยันเดิม ผมก็เลยไม่ขัดอะไร ไอ้หมูก็เลยได้ขับรถมาส่งไอ้เสาที่สวนสาธารณะ ตอนแรกผมก็จะลงไปเดินเป็นเพื่อนมันแต่ไอ้เสาขออยู่คนเดียวพวกผมก็เลยไม่กล้าจะเถียงอะไรต่อ...เพราะผมรู้ว่าคำว่าขออยู่คนเดียวของไอ้เสาคืออยู่คนเดียวจริง ๆ เหมือนมันอยากคิดอะไรเงียบ ๆ ผมก็เลยเลือกที่จะปล่อยมันไว้และโทรหาไอ้คนที่เป็นตัวการแทน



                “พี่ศิลา จะปล่อยพี่เสาไปเดินคนเดียวจริงเหรอครับ” ไอ้หมูถามขึ้นเมื่อเห็นผมโทรศัพท์



                “เดี๋ยวกูโทรหาตัวการของเรื่องแป๊ป” ผมรอสายไม่นานก็มีคนรับ แถมมันรับสายอย่างตื่นตระหนกด้วยแฮะ...



                (“ไอ้ศิลา อยู่กับเสาไหม”) เออ ๆ ดีจริงมึงทิ้งเพื่อนกูแล้วหายไปทำธุระเฉยเลยเนี่ยนะ



                “เห็นเมื่อกี้ แต่ตอนนี้ไม่เห็นแล้ว” ผมตอบ ไอ้นนท์ถามกลับมาทันควัน



                (“อะไรนะ กูคิดว่าเสาจะรอกูอยู่นี่ซะอีก กูก็รีบกลับมาแล้วนะ แต่ก็ไม่เห็นเสาอยู่คณะ”)



                “ไอ้สัดนนท์รีบมาง้อไอ้เสาด่วนเลยเว้ย บอกตรง ๆ ว่ากูไม่เคยเห็นไอ้เสาทำหน้าเศร้าแบบนี้มาก่อน เพราะมึงเลย รีบมาหาเพื่อนกูด้วยที่สวนสาธารณะ XX” ผมบอกแค่นั้น ไอ้นนท์ก็ตัดสายไปจากผมทันที เฮ้อ หวังว่าไอ้สองคนนี้มันจะเคลียร์กันได้นะ



                “พี่เสากับพี่นนท์ทะเลากันเหรอครับ?” ไอ้หมูถามตาใสแบ๊ว จำเป็นต้องทำหน้าแบบนี้ด้วยเหรอ



                “อือ มันหึงกันนั่นแหละ แต่หึงรุนแรงชะมัด...” ผมบอกพลางเอื้อมมือไปปรับแอร์



                “พี่ศิลา...”



                “ว่า”



                “จะบอกว่า ผมเองก็ขี้หึงนะ มากด้วย” ผมหันไปมองไอ้หมูที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม ไอ้นี่...จ้องจะฉวยโอกาสตลอด แต่แปลกที่ผมกลับไม่ได้หนีเขา



                “เหรอ...”



                “อือ รับได้ไหม” มันเขยิบหน้าเข้ามาใกล้อีก...จนจมูกจะแตะกับผมอยู่แล้ว



                “ถ้ารับไม่ได้กูจะคบกับมึงทำด๋อยอะไรล่ะ...ไอ้เชี่ยหมูไม่เอา...” ผมดันมันที่ก้มหน้าลงมาจนผมรับรู้ถึงริมฝีปากของมันแล้ว จูบอ่อนโยนกำลังถูกถ่ายทอดออกมาจากปากของมัน กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ฟุ้งเต็มรถไปหมด...กลิ่นที่ผมจำได้ดีว่าเป็นกลิ่นมัน



                รสชาติจูบที่เหมือนตรึงใจ...แม้มันจะถอนจูบออกแล้วแต่ความรู้สึกก็ยังคงอยู่



                หน้าตาของไอ้หมูน่ากระโดดถีบขาคู่มาก...



                “ไอ้เชี่ยหมูกรอบ เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่นะมึง...”



                “ก็พี่ศิลาทำหน้าน่าจูบเองนี่นา...” หมูพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น จนผมคิดว่าแอร์ที่มันควรจะหนาวแต่เหตุไฉนมันดันรู้สึกร้อน...หน้าของผมต่างหากที่กำลังร้อน



                “มึงมันมโนไปเองเถอะ” ไอ้หมูหัวเราะพอใจ ก่อนจะเอื้อมมือมาหยิกแก้มของผม มันนี่เริ่มแตะต้องตัวของผมบ่อยแบบเนียน ๆ ตลอด แต่ผมก็ไม่ได้ขัดมัน...เออ เจริญแล้วครับไอ้ศิลา ปล่อยให้เขามาลวนลามเฉยเลย



                “เดี๋ยวไอ้นนท์ก็คงมาแหละ กูว่ามันคงคืนดีกัน”



                “พรุ่งนี้ผมว่าเดี๋ยวก็กลับมาหวานเหมือนเดิมแหละ” ไอ้หมูเสนอ ผมก็เห็นด้วย ก็ดูไอ้นนท์มันหลงไอ้เสาจะตายไปนี่นา



                “แล้วเราจะไปไหนต่อ กินข้าวเหรอ” ผมหันไปถามคนขับรถของผม (ของผมเต็มปากเต็มคำ เออน่า)



                “ผมมีการบ้านด้วยอ่ะ พี่ศิลาเราซื้อข้าวไปกินที่หอของผมได้ไหม” มันทำตาปริบ ๆ



                “เออ ก็ได้แต่กูจะกลับหอตัวเองนะ ตอนกินเสร็จแล้ว”



                “ไรอ่ะ ไม่ให้กลับ นอนกับหมูนะคืนนี้” สเต็ปการอ้อนไอ้นี่มาอีกแล้ว...



                “ไม่..” ผมตอบทันควัน ไอ้หมูทำจมูกย่น...แต่มันก็ยังดูหล่อออร่ากระจายอยู่ดี



                “นะ นะ ไม่ทำอะไรหรอก ด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเลย...ตั้งแต่อาทิตย์หน้าไปผมมีสอบย่อยเยอะเลยอ่ะ แค่อยากได้กอดกำลังใจจากพี่ศิลา นอนด้วยกันนะ...”



                ไอ้เชี่ยใช้ลูกอ้อนแบบนี้ตลอด...คิดว่าผมจะหลงกลมันเหรอ...ครับ มีครั้งไหนบ้างที่ผมไม่ใจอ่อนกับมัน



                “เออ ๆ ก็ได้ แต่ถ้ามึงทำไรกูมากกว่ากอดล่ะก็ โดนเชือดแน่ไอ้หมูกรอบ” ผมขู่ ไอ้หมูก็พยักหน้ารับแต่หน้ามันเหมือนอยากโดนผมเชือดมากเลย ไอ้ว่าที่หมอเจ้าเล่ห์เอ๊ย...







                [พาร์ตของหมู]



                ...ห่างแค่เพียงเอื้อมมือแต่มันคือแสนไกล... เพลงนี้ช่างเข้ากับผมมากที่สุด ผมกลืนน้ำลายสองสามอึกมองขาของพี่ศิลาที่นอนแผ่ยาวอยู่บนเตียง...เฮือก ไอ้หมูครับมึงไปทำหน้าหื่นที่อื่นไป๊!! ผมมองพี่ศิลาที่อาบน้ำเรียบร้อยใส่กางเกงขาสั้นจู๋...จริง ๆ ผมมโน มันก็แค่กางเกงขาสั้นธรรมดาที่เห็นขาขาวของพี่ศิลาที่ไม่ธรรมดาเอาซะเลย อยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่ผมกลับทำอะไรไม่ได้ หมูอยากจะบ้า...



                เนื่องด้วยผมมีสอบย่อยแล้วย่อยอีกตั้งแต่อาทิตย์นี้ไปยันอาทิตย์หน้า...นี่เพิ่งปี 1 ก็ยุ่งขนาดนี้  ไม่อยากจะคิดถึงปีต่อไปเลยแฮะ...แบบว่าผมฮือ...อยากกดพี่ศิลา เอาตรง ๆ ไม่แอ๊บ ใครจะไม่อยากสัมผัสคนที่เรารักล่ะครับ ถามแปลก ๆ (กูว่ามึงออกแนวหื่นมากกว่านะครับไอ้หมู) แต่เอาเถอะครับ แค่รู้ว่าพี่ศิลาจะเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น ผมก็...แฮปปี้สดชื่นพร้อมสู้กับข้อสอบแล้วล่ะ!



                หลังจากที่เมื่อกี้เรากินข้าวกันจนอิ่ม ได้กินข้าวหมูแดงร้านโปรดของพี่ศิลานั่นแหละครับ (เจ้าของร้านจนว่าจำหน้าพวกผมได้แล้ว) ผมที่นอนอ่านชีทอยู่ข้างพี่ศิลาที่กำลังกดโน้ตบุ้คของผมทำรายงานของพี่เขาอยู่อย่างมุ่งมั่น ผมที่ถือชีทไว้และเหลือบมองหน้าใส ขาว เนียนเพลินไปหน่อยจนโดนหมอนปามาใส่หน้า



                ฟุ่บ



                “ตกลงจะอ่านหนังสือหรือจะจ้องหน้ากู?” อุ้ย..พี่ศิลารู้สึกตัวด้วยว่าผมจ้อง ใครไม่รู้สึกตัวก็บ้าแล้วครับไอ้หมู



                “แฮะ ๆ ก็แอบมองนิดเดียวเอง”



                “นิดบ้าไร กูเห็นจ้องกูตาเป็นมันเชียว” ผมจะเขยิบเข้าไปใกล้พี่ศิลาซะหน่อยก็โดนร่างบางตรงหน้ายกมือห้ามไว้



                “อย่าเข้ามานะ ไปอาบน้ำก่อนเลยมึงอ่ะ...เหม็นเหงื่อ” ผมจะเข้าไปใกล้อีกก็ชะงักและดมกลิ่นตัวเอง เออจริง....เหม็นเหงื่อ ผมควรจะไปอาบให้เรียบร้อยเดี๋ยวพี่ศิลาจะไม่หอมผม



                “งั้นเดี๋ยวผมไปอาบน้ำแป๊ป เดี๋ยวมานะครับ พี่ศิลา” ผมทำท่าระริกระรี้คว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ นึกหมั่นไส้ของตัวเองเหมือนกันครับ ฮ่า ๆ จำเป็นต้องโอเวอร์ขนาดนี้ไหมล่ะ



                ผมอาบน้ำอยู่นานเนื่องจากอยากให้ตัวหอม ผมเดินออกมาก็เห็นพี่ศิลาเปลี่ยนท่าจากนอนคว่ำเป็นพิงผนังเตียง...โอ๊ย ยังกับเมียนั่งรอสามีขึ้นเตียง ผมมโนอีกแล้ว... ผมใส่ชุดนอนของตัวเองก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งข้างร่างบางที่เลื่อนดูเฟสบุ้คที่นาน ๆ ทีพี่ศิลาจะเล่นที ไม่ต้องถามหรอกว่ารู้ได้ยังไงเพราะ...ผมแอบไปส่องมาน่ะสิ



                “พี่ศิลาเล่นเฟสบุ้คเหรอ...” เขาเหลือบมามองผมนิด ๆ ก่อนจะพยักหน้า



                “อือ มึงเล่นไหม กูยังไม่มีมึงเป็นเพื่อนเลยนี่” เขาว่า...จริง ๆ ผมกดติดตามไปแล้วต่างหาก แต่พี่ศิลาไม่ยอมรับเพื่อนเลย



                “แอดไปตั้งนานแล้วครับ ได้แค่เป็นผู้ติดตามอ่า...ยังไม่ได้เป็นเพื่อนเลย” ผมว่าพลางทำตาปริบ ๆ ใส่พี่ศิลา เขาดันหน้าของผมตามประสาของเขาแต่ใบหน้าของพี่ศิลาสีแดงระเรื่อขึ้นมาด้วย หึหึ เขินผมอยู่แน่ ๆ เลย น่าฟัดจริง ๆ ผมเหลือบมองตรงคำขอเป็นเพื่อนของพี่ศิลาที่มันมียอดถึง 4000 คน เชี่ย...เซเลปมาก



                “มึงแอดมาใหม่ได้ไหม กูไม่เห็นอ่ะ...มันเยอะ” ผมใจเต้นตึกตักขึ้นมาที่เห็นพี่ศิลากำลังเลื่อนดูรายชื่อเพื่อนที่ขอมา....พี่เขาเลื่อนหาเฟสผม....จุดพุให้ผมที ฟินชะมัด



                “เดี๋ยวผมแอดไปใหม่” ผมบอก หลังจากที่เราแอดเพื่อนกันเสร็จสับ...พี่ศิลาก็ดูรายชื่อเพื่อนที่ขอมาต่อ ผมเองก็เหลือบตามองเหมือนกัน...แต่มันเยอะมาก ส่วนมากทำไมมันมีแต่ผู้ชายวะ...



                “โอ๊ย เยอะ กูไม่รับละ ปวดตา...” พี่ศิลาโวยขึ้น แล้วออกไปดูไทม์ไลน์ฟีดข่าวแทน ก็เห็นรูปของพี่เสาที่พี่นนท์โพส



                “ฮ่า ๆ กูเพิ่งเห็นแฮะ..เชี่ยแคปชั่นไอ้นนท์ใช้ได้” รูปนี้ผมเห็นนานแล้วล่ะครับ รูปที่พี่นนท์โพสตอนวันประกวดดาวเดือน แต่พี่ศิลาเพิ่งจะได้เล่นก็ดูขำมาก...ผมมองรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะตรงหน้าเงียบ ๆ น่ารักโคตร ๆ โดนใจจัง ๆ



                พี่ศิลาเลื่อนลงไปอีกก็เจอรูปของเพจมหาวิทยาลัยของเรา..มีรูปผมกับพี่ศิลาด้วยตอนที่ผมมาส่งพี่ศิลาที่ตึกคณะวิศวะ...ใครถ่ายวะเนี่ย เพิ่งเห็นเหมือนกัน



                “ใครถ่ายวะ” นั่นไงครับพี่ศิลาพึมพำแล้ว...นั่นสิใครถ่าย มารับเงินรางวัลจากผมไป ทำดีมาก ฮ่า ๆ ผมเห็นร่างบางกำลังเลื่อนดูคอมเมนต์ข้างล่าง ผมก็ดูด้วย...



                ส่วนมากก็เป็นคอมเมนต์จากเจ้นิ่ม ทุกงานเลยครับเจ้แกชงทุกรูปน่ารักมาก...ผมสะดุดตากับไอ้พวกคอมเมนต์ที่เริ่มเป็นเมนต์จากผู้ชายชมพี่ศิลาว่าน่ารัก....ผมชะงักกึก เชี่ย...พวกมันมองออกได้ยังไงว่าพี่ศิลาน่ารัก!!! ไม่ได้ดิวะ น่ารักแค่สำหรับผมก็พอ (ใจเย็นครับไอ้หมู)



                “มึงหายใจฟึดฟัดทำไม?” พี่ศิลาถามขึ้นและมองผมงง ๆ ผมหายใจแรงเหรอ...



                “พี่ศิลาผมขอดูเฟสพี่หน่อยได้ไหม...” ผมขอหน้าด้าน ๆ พี่ศิลามองผมแวบหนึ่งก่อนจะยกโน้ตบุ้คมาวางไว้ตรงตักของผม และพี่เขาก็ล้มตัวนอนลงข้างผม...อ้าว ให้ง่ายจัง คิดว่าจะโดนด่าซะอีก ดูท่าทางพี่ศิลาจะไม่หวงเฟสบุ้คเลยครับ



                “อือ ตามสบายกูจะนอนละ ง่วง” น้ำเสียงที่ฟังดูจะง่วงมากจริง ๆ “มึงก็อย่านอนดึกล่ะ อ่านหนังสือให้เสร็จแล้วรีบนอน” พี่ศิลาอย่าน่ารักแบบนี้สิครับ..หมูใจจะละลายอยู่แล้ว



                ผมก้มลงไปหอมแก้มของพี่ศิลาเบา ๆ พี่เขาก็ขัดขืนเล็กน้อยตามสไตล์คือด่า...แต่ก็ไม่ได้หลบ



                “ไอ้เชี่ยหมู นิสัยเสีย...” ปากของผมปะทะกับแก้มนุ่ม...หอม หอม... ผมเห็นเขาหลับตาลงด้วยหูที่แดงไปหมด น่ารักจังเลยพี่ศิลาของหมู....



                เมื่อความเงียบเข้ามาครอบงำ ผมก็นั่งอ่านชีทเรียนที่จะทดสอบพรุ่งนี้เงียบ ๆ ส่วนพี่ศิลาก็นอนหลับ ปุ๋ยอย่างสบายด้วยอุณหภูมิห้องที่แสนจะเย็นพอดี ผมเหลือบมองเวลาตรงโน้ตบุ้ตที่เปิดค้างไว้ที่เฟสของพี่ศิลา รูปประจำตัวของพี่เขาก็เป็นรูปที่ใช้ชุดนักศึกษานี่แหละครับ หน้าไม่ได้หันมามองกล้องเหมือนถ่ายมุมเผลอ อยากให้ดูเท่ แต่ทำไมผมถึงมองว่ามันน่ารักล่ะ...



                ผมเลื่อนดูไทม์ไลน์ที่ไม่มีการโพสอะไรเลยของพี่ศิลา แต่ถ้าจะโพสก็มีแค่พวกรูปอาหารอ่ะครับ   ผมยิ้มกับรูปในไทม์ไลน์ของพี่ศิลา ก่อนจะขมวดคิ้วกับข้อความที่เด้งขึ้นมา แถมผมยังเพิ่งสังเกตว่ากล่องข้อความของพี่ศิลามีข้อความเข้ามาเกือบ 300 กว่า...ผมลองเปิดตัวข้อความหลักดูก็เห็นพวกข้อความที่ส่งมาแม้ไม่ได้เปิดอ่านมัน....และมันทำให้ผมปรี๊ดมาก



                > พี่ศิลาชอบผู้ชายงั้นเหรอครับ...ผมว่าแล้ว พี่น่ารักมาก ๆ เลยล่ะ



                ....ไอ้เชี่ยนี่คือใครวะ!! พี่ศิลาชอบผู้ชายอย่างกูคนเดียวเว้ย!! (ไอ้หมูคนมั่นหน้า 2017)



                > รับแอดผมด้วยนะครับ ผมเห็นพี่หน้าใสมาก แถมยังน่ารักอีก เพื่อนพี่ที่ชื่อเสาก็น่ารักนะครับ



                อ้าว...มึงอยากเจอตีนของกูกับพี่นนท์ใช่ไหมมมม ผมจะแคปไปบอกพี่นนท์ด้วย!



                > ผมเห็นพี่ศิลาหลายครั้งแล้วครับ แต่ไม่กล้าขอถ่ายรูป ถ้าเจอผมขอเซลฟี่ได้ไหม



                ....ไม่ให้เซลฟี่โว้ย ไอ้หนวดปลาหมึกย่าง!!



                และอีกหลายข้อความที่ส่งมาบอกว่าขอให้พี่ศิลารับแอดหน่อย พร้อมกับคำชมที่ว่าแฟนของผมน่ารัก ผมพอจะรู้ครับว่าที่ทุกคนรู้จักพี่ศิลามากขึ้นขนาดนี้เป็นเพราะผมที่ประกาศเรียกชื่อพี่เขาตอนประกวดดาวเดือนทำให้เป็นจุดสนใจ แต่ตอนนี้แม่ง...เริ่มคิดผิด เพราะทุกคนดันรู้ว่าพี่ศิลาน่ารักซะแล้วสิ ไม่ใช่ว่าผมต้องไปเฝ้าแฟนของผมเช้า กลางวัน เย็นเหรอครับเนี่ย กันพวกหมาที่จ้องจะมาแทะโลมเมียคนอื่น (ไอ้หมูใจเย็น ๆ เนอะ อย่าเพิ่งมโนไปไกล)



                ผมรู้สึกดีชะมัดที่พี่ศิลาไม่ค่อยชอบเล่นเฟส ปกติเห็นเล่นแต่เกมและก็ตอบไลน์เท่านั้น ผมจัดการออฟไลน์ออกจากระบบบัญชีของพี่ศิลาให้เรียบร้อย อย่าหวังว่าพี่ศิลาจะรับแอดพวกมึงเลยยยยยย....ยิ้มอย่างผู้ชนะ ผมหันไปมองข้างกายของตัวเองอีกรอบก่อนจะก้มลงไปกระซิบเบา ๆ ข้างหูพี่ศิลา



                “พี่ศิลาครับ...หวังว่าจะไม่มีคนมายุ่งกับแฟนผมหรอกนะ เพราะผมหึงแรง...” ผมผงะนิด ๆ เมื่อพี่ศิลาดันลืมตาขึ้นมาเหม่อ ๆ ซะงั้น และใจของผมก็แทบจะวายมือมือเรียวสวยเอื้อมมาดึงเสื้อของผม



                “อ่านหนังสือเสร็จแล้วก็นอน...” หนังสือน่ะอ่านเสร็จแล้วครับ...แต่ใจของพี่ศิลาผมยังอ่านไม่หมดเลยนะ...หึหึ น่ารักจังโว้ย....











.............................................................++++++++++

ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารัก ^^ เยิฟฟฟ  :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด