ตอนที่ 7 [พาร์ตของศิลา]
ผมเดินมาหยุดที่ประตูหน้าโรงยิมอีกครั้ง ผมมองเข้าไปก็เจอไอ้หมูกำลังเปิดยูทูปที่ผมโหลดค้างไว้ในโน้ตบุ้คมัน คาดว่ามันจำชื่อมาและโหลดลงโทรศัพท์ตัวเอง ผมยืนมองท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ของมันก็แอบขำเบา ๆ แต่อาจจะไม่เบาก็ได้เพราะเสียงหัวเราะของผมทำให้ไอ้หมูหันมามองอึ้งอีกรอบ
“พี่ศิลา..? ยังไม่กลับเหรอครับ” เชี่ย...กูจะทำหน้ายังไงดี ผมเดินเข้าไปในโรงยิมและยื่นถุงเซเว่นให้
“กูซื้อมาฝาก เดี๋ยวจะหาว่ากูเป็นรุ่นพี่ใจร้าย...” ไอ้หมูยังคงอึ้ง มันดูอึ้งมาก...ผมเลยดันถุงให้มันอีก จนหมูรับไปถือไว้ยิ้ม ๆ มันยิ้มแล้วแฮะ
“ขอบคุณครับ...ผมคิดว่าพี่จะกลับกับพี่เสาซะอีก” หมูพึมพำออกมาแต่คราวนี้ผมได้ยินนะ!
“ทำไมรู้ว่ากูจะกลับไอ้เสา” ผมถาม หมูที่กำลังเปิดถุงเซ่เว่นดูก็เผลอตอบออกมาตามตรงอย่างลืมตัว
“ผมไปแอบดูพี่ที่คณะมาน่ะครับ...เออ คือไม่ใช่...แบบว่า” มันแอบไปดูผม...ตอนไหนวะ ไอ้หมูรีบยกมือปฏิเสธ ไม่ทันละกูได้ยินแล้วเว้ย...
“ไอ้เสามันไปทำธุระของมันแล้ว กูไม่ได้จะกลับกับมัน” ผมบอก เรียกรอยยิ้มจาง ๆ ของไอ้หมูได้ทันที จะยิ้มก็ไม่ยิ้มเต็มปาก...ขัดใจจริง ๆ
“งั้นให้ผมไปส่งไหม...” มันมองผมตาปริบ ๆ “เป็นค่าตอบแทนของอาหารที่ซื้อมาฝากก็ได้” หมูเลือกหาข้ออ้างขึ้นมา ผมมองก่อนจะพยักหน้า
“เออ เอางั้นก็ได้...แล้วนี่มึงซ้อมไปถึงไหนแล้ว” ผมถามความคืบหน้าและชะงักเมื่อหมูพูดขึ้น
“พี่ศิลา...ผมขอโทษนะ วันนั้นที่ร้านเหล้า ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่รำคาญ....ผม” น้ำเสียงสำนึกผิดทำให้ผมขมวดคิ้ว จริง ๆ มันก็ไม่ใช่ความผิดของไอ้หมูซะทีเดียวนะ...ผมโมโหเอง พาลใส่มันเอง...
...แต่มันกลับมาขอโทษผมด้วยใบหน้าเศร้า ๆ ...
“เออ ช่างมันเหอะ วันนั้นกูอาจจะเมาด้วยแหละเลยพูดอะไรพาล ๆ ...มึงก็ลืม ๆ ไปเหอะ”
“แปลว่าพี่ไม่ได้ห้ามผมไม่ให้ไปหาพี่แล้วใช่ไหม” หมูเสียงสดใสมากกว่าเมื่อกี้
“เออ” ผมตอบและพยายามที่จะไม่มองหน้าของมันมากไปกว่านี้ “ตกลง มึงซ้อมถึงไหนแล้ว ตกลงจะเอารำอันนี้จริง ๆ ใช่ไหม” ผมถามย้ำ
หมูพยักหน้าและวางถุงเซเว่นไว้บนกระเป๋าสะพายของมัน
“ครับ ก็กะว่าอย่างนั้น นี่ผมก็ซ้อม ๆ อยู่...มันอาจจะยังดูท่าแปลก ๆ หน่อย” ไม่หน่อยหรอก...ท่ารำมึงแปลกมาก จากที่ผมยืนดูเมื่อกี้ มันทำเหมือนจะไปแร็บมากกว่ารำ ขืนปล่อยไว้สภาพนี้ การแสดงไอ้หมูได้เละแน่ ๆ แต่ผมว่าการตั้งมือมันก็โอเคขึ้นนะ มือก็ดูอ่อนกว่าตอนแรกที่ฝึกด้วย
“เดี๋ยวกูสอนให้ก็แล้วกัน” ผมบอก เรียกความสนใจจากหมูให้หันมามองพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง...กว้างจริงจัง
“พี่ศิลา! พี่บอกว่าจะสอนผม....สอนผม แสดงว่าพี่จะกลับมาสอน...” ไอ้หมูจะวิ่งเข้ามาใกล้ผม ผมรีบยกมือห้ามอย่างรวดเร็ว อันตรายชิบ...
“เข้ามาใกล้กู เจอตีน” เขาชะงักหยุดกึกยิ้มแห้ง ๆ ให้ผม
“อ่า...ไม่ใกล้ครับ ไม่ใกล้ ห่างสองก้าว...” มันถอยหลังไปให้ห่างจากผม จนผมอดขำไม่ได้ที่เห็นไอ้หมูมันยืนเขามือแนบลำตัว
“แต่ถ้าไม่ใกล้จะสอนยังไงล่ะ” ไอ้หมูหน้าตาดูสดใสชื่นบานขึ้นมาทันทีทันใด...มึงเป็นว่าที่หมอที่น่ากลัวมาก อย่าไปทำให้คนไข้ในอนาคตกลัวนะเว้ย
“กูจะสอนยังไงมันก็เรื่องของกู ตกลงจะให้กูสอนไหม?”
“สอนครับ!...ยังไงก็ได้ ผมยอมหมด...” ไอ้หมูยิ้ม “ผมพร้อมรับมือจากพี่ทุกอย่างแล้วครับ”
...รับหมัดกูสักหมัดไหม...ไอ้หน้าตาเศร้าเมื่อกี้แทบจะหายไปหมด กลายเป็นหน้าอารมณ์ดีเข้ามาแทน แต่แปลกที่ผมกลับรู้สึกสบายใจขึ้นมาที่เห็นรอยยิ้มของมันแทนที่จะเห็นหน้าเศร้า....
เรื่องที่ผมสั่งไว้ว่าห้ามไอ้หมูเข้ามาใกล้ผมเกินสองก้าว เป็นเรื่องยากมาก! เพราะผมจะสอนรำไอ้หมูยังไงก็ในเมื่อเราก็ต้องอยู่ใกล้กันอยู่ดี!...สรุปผมก็ต้องเป็นคนยกเลิกกฎการอยู่ห่างไปโดยปริยาย ก็จะสอนมันได้ยังไงเล่าถ้าไม่เข้าไปดัดมือมัน
“มึงแสดงเป็นพระเอก เพราะงั้นต้องมีความเข้มแข็งแฝงอยู่ แต่ไม่ใช่มือแข็งนะ มือของมึงต้องอ่อนช้อยตามจังหวะ มึงต้องทำให้คนดูเห็นว่า มึงเป็นตัวพระเอกที่เท่ สุขุม” ผมยืนอยู่ข้างหลังหมูที่ตั้งวงอยู่ ผมก็อธิบายไปด้วย เวลาผมสอนอะไรก็มักจะตั้งใจเสมอแหละครับ ส่วนไอ้หมูก็เอาแต่ยิ้ม...ยิ้ม...จนหน้ามันจะบานอยู่แล้ว
“ถ้าผมได้เป็นพระเอกของพี่ศิลา...ผมเชื่อว่าผมจะเท่ที่สุด” อยากจะเตะสักป๊าป...กูไม่รู้สึกอะไรกับมุขที่มึงปล่อยมาหรอก ไอ้ขายหม้อ...
“ถ้ามึงยังพูดมากอีก กูจะริบของกินมึงซะไอ้หมู” ผมขู่ แต่กลับได้เสียงหัวเราะพอใจจากหมูแทน
ช่วยกลัวกูนิดหนึ่งก็ได้...
ผมเปิดเพลงพร้อมกับมองไอ้หมูรำได้สักพัก ก็ส่ายหน้าเอือม ผมรู้ครับว่ามันฝึกกันไม่ได้ง่าย ๆ แต่อย่างน้อยมันก็น่าจะได้สักนิด แต่นี่เปิดเพลงแร็บมามันเข้ากับท่าไอ้หมูเลยอ่ะ รำเว้ยไม่ใช่เต้นแร็บโย่ว!
“หยุด ๆ จะรอดไหมเนี่ยมึง!”
“ก็พยายามเต็มที่แล้ว...สงสัยไม่มีตัวนางอยู่ข้างหน้าก็เลยรำยากมั้งครับ...” หมูอ้างและดูในคลิปที่มีตัวนางอยู่กับตัวพระด้วย...ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย
“ไม่เกี่ยวสักหน่อย มึงแหละรำมั่ว”
“เกี่ยวครับ..ลองซ้อมคู่ผมดูไหมล่ะ” ผมตาโตนิด ๆ ไม่โว้ย ไม่รำ!
“ทำไมกูจะต้องรำ ยังไงตอนที่มึงประกวดมึงก็ต้องโชว์เดี่ยวอยู่แล้ว” ผมถอยห่างจากไอ้หมูที่เดินเข้ามาใกล้ผม เชี่ย...ไม่น่ายกเลิกกฎห้ามเข้าใกล้เลย เอามาใช้อีกได้ไหม
“ก็ให้ผมได้จับทางถูกไง เผื่อมันจะดีขึ้น...นะ นะ นะ” ไอ้หมูเริ่มใช้ลูกอ้อน... คิดว่าผมจะใจอ่อนเหรอ ลูกไม้อย่างนี้ใช้กับผมไม่ได้หรอก!!!
“ไม่โว้ย”
“รีบมาซ้อมดีกว่า เดี๋ยวผมจะพาไปกินอะไรอร่อย ๆ แล้วกลับหอไงครับ..ร้านข้าวหมูแดงพี่ศิลาต้องชอบแน่ ๆ”
...มีร้านข้าวหมูแดงด้วยว่ะ...หิว
ผมเหลือบมองไอ้หมูที่ยิ้มอย่างรอคำตอบ เออ! ก็แค่อยากกลับหอเร็ว ๆ เท่านั้นแหละ แถมยังหิวข้าวอีก
“เออ ๆ ก็ได้...วุ่นวายจริงมึงเนี่ย” ผมบ่น “ถ้ามึงรำไม่ดี กูจะเอาไม้หน้าสามมาฟาดมึงแน่ ๆ ไอ้หมู”
“โหดจังเลยครับ...ผมกลัว” หน้าตามันไม่ได้กลัวผมสักนิด... หมูตั้งวงขึ้นเหมือนคลิป ผมถอนหายใจนิด ๆ เมื่อมองคลิปที่กำลังเปิดอยู่ ตัวนางดันต้องไปอยู่ด้านหน้าแถมยังอยู่ในอ้อมแขนของตัวพระเอกอีก
“ขออนุญาตนะครับ” เสียงเข้มพูดใกล้หูของผม หมูเขยิบวงแขนมาอยู่ด้านหลังของผม เพิ่งสังเกตว่าแขนมันยาวกว่าผมมาก...ผมดูเลเวลลดลงไปทันที
“พี่ศิลาตัวเล็กจัง”
“ไอ้เชี่ยหมู! เพื่อนเล่นมึงเหรอ” ผมโวยแต่ก็ต้องชะงักกับใบหน้าหล่อเข้มที่อยู่ก้มลงมาฟังผมในวงแขนของมัน
...เป็นโมเมนต์ที่น่าขนลุกสุด ๆ !...
เพลงที่ดังขึ้นทำให้ผมยกมือตั้งวงอีกชั้นภายใต้วงแขนของหมู รีบรำรีบเสร็จ ๆ ...แต่เพลงรำที่เริ่มช้า ๆ กับบรรยากาศลมพัดแผ่วเบา เสียงดนตรีที่กำลังขับกล่อม...ผมกับหมูเริ่มรำตามท่าไปตามจังหวะ...ไอ้หมูมันรำเข้าจังหวะด้วยแหละครับ ผมมองเขาที่ก้มลงมาใบหน้าของมันเฉียดแก้มของผมไปนิดเดียว
...เชี่ยยย...ใครมันเลือกเพลงนี้ให้ไอ้หมูว่ะ นี่มันเป็นบทเกี้ยวพระนางชัด ๆ (ก็มึงไงครับศิลาเลือกมาแบบไม่ได้ดู)
น่าแปลกที่ไอ้หมูมันรำได้ดีกว่าเมื่อกี้จริง ๆ...มันเกี่ยวกับที่ผมซ้อมคู่กับมันจริงเหรอเนี่ย
ผมพยายามรำและเว้นระยะห่างจากไอ้หมู และผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อมือหนาของหมูตวัดเอวของผมเข้าไปประชิด!
“ไอ้เชี่ยหมู..มึงทำอะไร!” ผมจะโวยก็ชะงักกับใบหน้าหล่อที่ตั้งใจรำตามเพลงเป๊ะ ผมเหลือบมองคลิป เออว่ะ มันกำลังอยู่ในท่านี้...ท่าที่เกือบทำให้หัวใจคนวายได้
“ผมรู้แล้วล่ะครับ ว่าทำไมพระรามถึงหวงนางสีดา...” จู่ ๆ มันก็พูดขึ้น ผมที่มองจอโทรศัพท์อยู่เลยหันมามองมันงง ๆ
“หา?” มันจะมาพล่ามอะไรเกี่ยวกับวรรณคดีตอนนี้ “รู้ว่า?” ผมเลิกคิ้วและกำลังจะแกะมือที่มันเหนียวยังกับหนวดปลาหมึกของไอ้หมูออก
“เพราะนางสีดา...สวยขนาดนี้จะไม่ให้หวงได้ยังไง...” สายตากับน้ำเสียงมันจงใจมอบให้ผมชัด ๆ
ผมสบตากับมันที่ก้มลงมาใกล้ผมเรื่อย ๆ จนหยุดอยู่ใกล้แก้มของผม ผมเตรียมที่จะต่อยมันละนะ!
“พี่ศิลา...คือผม” ผมกำลังจะง้างหมัดก็ชะงัก
คลิก...แกรก เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผมกับไอ้หมูผละออกจากกันพร้อมกับหันไปมองต้นเสียงพร้อมกัน เชี่ย...เสียงล็อคกรประตู! ผมรีบวิ่งไปจับประตูโรงยิมที่พวกผมปิดไว้เมื่อกี้ ปรากฏว่ามันเปิดไม่ออก!!
“สงสัยยามล็อคจากด้านนอกแน่เลยครับ” เสียงหมูดูใจเย็นสุด ๆ
“ได้ไงวะ” ผมทุบประตูแต่คาดว่าน่าจะไม่มีใครได้ยินซะแล้ว อะไรวะเนี่ยยยยย...ผมมองไอ้หมูที่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย เราถูกขังนะเว้ย...
“กูรู้ละ เดี๋ยวโทรหาไอ้เสาให้มาเปิดให้” ผมดีดนิ้วอย่างนึกได้ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาแต่ไม่ทันจะโทร ไอ้หมูก็คว้าโทรศัพท์ของผมไปและทิ้งลงพื้น
ตุบ! แกรบ...เหี้ยยย มันเหยียบซ้ำด้วย เละคาตีนไอ้หมูเรียบร้อย จู่ ๆ มาอารมณ์หาอะไรของมัน
“ผมไม่ให้โทรหาพี่เสา” อ้าว...ไอ้เชี่ยยย...นั่นมันเพื่อนสนิทกูไหมล่ะ!
“ไอ้เชี่ยหมู!! โทรศัพท์กู ป๊าเพิ่งซื้อให้กูนะเว้ย...” หมูทำหน้าบึ้งไม่ได้ฟังที่ผมด่าสักนิด พอจะอ้าปากด่ามันก็ไม่อยากจะพูดอีก ก็มันทำหน้าเศร้าเหมือนผมผิดทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนเหยียบโทรศัพท์ผมเละไปเมื่อกี้
“เฮ้อ...กูไม่รู้ว่ามึงแม่งคิดอะไรอยู่ แต่กูจะบอกให้ชัดตรงนี้เลยนะว่า...ไอ้เสามันเป็นเพื่อนสนิทของกูและมันกับกูก็เป็นเพื่อนรักแบบบริสุทธิ์ใจ มันไม่ได้เหมือนมึงที่ไล่จีบกูอยู่แบบนี้ เข้าใจที่กูพูดไหมไอ้เชี่ยหมู?” ผมพล่ามอะไรไปเนี่ย
“พี่ศิลา บอกว่าผมจีบพี่เหรอ...” ไอ้หมูถามออกมาอึ้ง ๆ ...คืออะไรของมันอีกครับ ผมล่ะงง
“ก็มึง...เชี่ย มากอดกูทำไม!!” ผมถูกแรงดึงจากหมูที่ตัวหนากว่าผมให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของมัน
“ไอ้เชี่ย!! กูต่อยมึงจริงนะ ต่อยจริงนะ!” ผมตะโกน หมูเลยรีบปล่อยผมออก
“ขอโทษครับ...คือผมดีใจที่พี่ยอมรับว่า ผมจีบพี่อยู่” ไอ้นี่มันประสาทรึเปล่า ก่อนจะรักษาคนอื่น ผมว่าไอ้หมูน่าจะไปเช็คสภาพจิตของตัวเองบ้างก็ดีนะ ชักจะเพี้ยนขึ้นทุกวัน
กะจะจีบผมให้ได้เลยใช่ไหม...ถามจริง ๆ วัน ๆ มันไม่มีใครคบรึไงวะ ถึงได้มีเวลามาวุ่นวายกับผม
“เอาตรง ๆ ผมหึง...หึงเวลาพี่ใกล้ผู้ชายทุกคน” ไอ้หมูยอมรับออกมาตรง ๆ ก็ดีครับ ลูกผู้ชายดี!! มันใช่ซะที่ไหนเล่า....มึงจะมาหึงกูเวลาอยู่กับผู้ชายทำไมมมมม...กูก็ผู้ชายนะเว้ย
“มึงมันไม่ปกติ รู้ตัวป่ะเนี่ย” ผมทำท่ากลัว
“มึงจะเป็นหมอก็หัดใจเย็น ๆ หน่อยได้ไหมวะ” ผมว่าที่มันเหยียบโทรศัพท์ผมไป ก่อนจะชะงักกับประโยคต่อมาที่ผมไม่น่าจะคิดอะไรแต่มันก็น่าคิด...(อะไรของมึงอีกแล้วศิลา)
“
เรื่องอื่นผมใจเย็นครับ...แต่ถ้าเป็นเรื่องของพี่ศิลา ผมเย็นไม่ลง” หมูพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่นพร้อมกับหัวเราะออกมา ทำให้บรรยากาศไม่ตึงเครียดมาก
แต่ผมกำลังจะเครียดเนื่องจากไฟที่มันกระพริบเหมือนจะดับ และลมที่เริ่มพัดแรง
...อย่าว่าฝนจะตกนะ...
“เหมือนฝนจะตกเลยนะครับ” ไอ้หมูว่าขึ้นพร้อมกับเม็ดฝนที่เริ่มตกลงมา...ไอ้เชี่ยยยย พูดทำไมวะ
“อ้าว ตกซะละ” มันพึมพำมองไปยังข้างนอกที่ฝนกำลังตกลงมา ผมมองก่อนจะไปหยิบโทรศัพท์ไอ้หมูมาโทรหาไอ้เสา
“ผมขอโทษนะเรื่องโทรศัพท์เดี๋ยวผมซื้อให้ใหม่” ไอ้หมูเดินดุ่ม ๆ มาตามผมอย่างสำนึกผิดว่าตัวเองทำอะไรลงไป ดีเนอะ เหยียบของกูจนเละแล้วค่อยมาสำนึกได้ คิดได้ไงวะว่าผมกับไอ้เสามีซัมติง ขนลุกสัด
“มึงนี่ก็ช่างคิดเนอะว่ากูกับไอ้เสาเนี่ยนะ จะมีซัมติงกัน”
“ก็ผมไม่รู้นี่...เห็นพี่เขาอยู่กับพี่บ่อยแถมสนิทด้วย...” ไอ้หมูพูดเสียงเบา ๆ งึมงำ ผมส่ายหน้าเอือมก่อนจะตาโตกับโทรศัพท์ของไอ้หมู...หน้าจอของมันเป็นรูปของผมเหมือนจะเป็นรูปแอบถ่าย...แถมมีตัวหนังสือคั่นไว้ตรงกลางด้วยว่า
...พี่ศิลาของผม... กูชักจะกลัวมึงจริง ๆ แล้วววว.....
“พี่ศิลา..คือเรื่องหน้าจอเอาไว้ก่อน แบบว่าแบตผมเหลือ 0% แล้วล่ะครับ...” ไอ้หมูชะโงกหน้ามาดูแต่เมื่อมันพูดจบ ไอ้โทรศัพท์แสนแพงไอโฟน6 พลัสก็ดับลงไปทันที สงสัยเพราะเปิดยูทูปซ้อมรำ
อ้าวเชี่ยยยยย....มัวแต่ดูรูปตัวเองอยู่หน้าจอจนไม่ได้ดูแบต สรุปคือมันดับไปแล้ว ก็ไม่มีใครมีโทรศัพท์
โว้ยยยยย.....แล้วจะออกไปจากโรงยิมยังไงฟะ!!!
.................
.................
“พี่ศิลา...ผมขอไปนั่งใกล้พี่ได้ไหม” ผมที่นั่งพิงผนังอยู่เหลือบมองไอ้หมูที่นั่งอยู่ห่างจากผมพอสมควร มันถือข้าวกล่องเซเว่นที่ผมซื้อมาให้มัน สรุปผมกับไอ้หมูก็ติดอยู่ในโรงยิมที่แสนกว้างอยู่กันสองคนเงียบ ๆ และบรรยากาศฝนตกพร่ำ
เริ่มหนาวแล้วด้วย...อย่าไปบอกใครนะครับว่า ผมเป็นคนขี้หนาวติดผ้าห่มมาก
“ทำไมต้องมานั่งใกล้ อยู่คนละมุมไปสิวะ” ผมว่าและรู้สึกว่าท้องผมเริ่มร้องละ...
“งั้นพี่เอาข้าวกล่องไปกินนะ ผมยังไม่หิว” มันยื่นข้าวกล่องที่ผมซื้อมาให้มันมาทางผม
“ไม่เอา มึงกินไปสิ กูซื้อมาให้มึง”
“ถ้าพี่อิ่ม ผมก็อิ่ม” ประโยคตื้อตามฉบับของไอ้หมูทำให้ผมชะงัก ทำไมเวลามันพูดแบบนี้ผมเป็นต้องยอม ๆ ทำตามที่มันขอตลอด..เพราะขี้เกียจฟังมันพูดใช่ไหมหรือยังไง...สุดท้ายผมก็ได้กินข้าวกล่องส่วนไอ้หมูกินแซนวิชที่ผมซื้อมาพร้อมกับข้าวกล่อง
“มึงจะไปไหน?” หลังจากที่กินเสร็จไอ้หมูก็ลุกขึ้น เขายิ้มเล็กน้อย
“เดี๋ยวจะไปหาดูว่ามีประตูทางออกอื่นอีกไหม...พี่ศิลาหนาวเหรอ ใส่เสื้อกันหนาวของผมก่อนก็ได้นะ” มันยื่นเสื้อกันหนาวมาให้ผมแต่เมื่อเห็นผมไม่รับเสื้อมา หมูก็เลยวางเสื้อมันลงไว้ข้าง ๆ ผม
“ถ้าหนาวก็ใส่นะครับ ผมไม่อยากให้พี่เป็นหวัด” น้ำเสียงห่วงใยชัดเจน ผมมองมันที่เดินหายไปแถว ๆ หลังเบาะกระโดดสูง ๆ มันจะมีทางออกทางอื่นด้วยเหรอวะ ถ้าไม่ใช่ประตูด้านหน้า
ผมที่นั่งอยู่คนเดียวก็ต้องรู้สึกใจหายวาบเมื่อจู่ ๆ ไฟที่กระพริบพร้อมฟ้าแลบข้างนอก ดับพรึบลง!! ชิบหาย....เฮือก...มืดไปหมด....ผมไม่ชอบ ยิ่งมีเสียงลมด้วย ผมไม่ชอบ
ไอ้เชี่ยหมูหายไปไหน?.... “ไอ้เชี่ย...”
หมับ วงแขนแข็งแกร่งที่ผมสัมผัสได้ดึงเอวของผมเข้าไปหา แสงสว่างจากด้านนอกทำให้ผมเห็นหน้าของหมูชัดเจน...ใบหน้าที่มีแสงสว่างทำให้เห็นโครงหน้าหล่อชัดเจน
“ผมอยู่นี่...อยู่กับพี่ศิลาเสมอนะครับ ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวไฟก็ติดแล้ว” ผมยืนแข็งทื่อสบตากับหมูที่มองเห็นผมชัดเจนในความมืดเช่นเดียวกัน ราวกับว่ามันรู้ว่าผมกำลังกลัว...พอจ้องแววตาคมของมันแบบนี้แล้ว ผมว่ามันรู้สึกคุ้นชะมัดตอนมองแบบนี้
เสียงฝนซ่าที่ยังคงกระหน่ำตกลงมาบวกกับความเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของไอ้หมูที่ดังมาก...
ใจมึงเต้นดังชะมัด...ไอ้หมูกรอบ ผมมองใบหน้าของมันที่ก้มลงมาใกล้ผม...ยื่นหน้ามาทำไมวะ
“
พี่ศิลา...ผมขอจูบพี่ได้ไหม” คำถามขอแต่กลับไม่รอฟังคำอนุญาตทำให้ผมเบิกตากว้าง!
“ห๊ะ เหี้ย...” ริมฝีปากของไอ้หมูโน้มลงมาแนบชิดกับริมฝีปากของผมอย่างสโลโมชั่น แรงกดจูบลงมาทำให้ผมช็อก...ลิ้นของมันพยายามจะเปิดปากริมฝีปากของผมที่ปิดอยู่....สัมผัสโคตรอ่อนนุ่ม...
พลั่ก!! ผมผลักไอ้หมูออกอย่างได้สติเป็นจังหวะที่ไฟติดพรึบขึ้น
ผมมองหน้ามันที่อยู่ตรงหน้าเหมือนตอกย้ำว่าเมื่อกี้มันคือเรื่องจริง...ไอ้เชี่ยมันจูบผม! สัมผัสปากของมันยังคงอยู่....ผมเอามือถูปากของตัวเองทันที หมูที่มองอยู่ก็แอบทำหน้าเศร้าลงนิดหน่อย
ผมหันหน้าหนีไปทางอื่นอย่างไม่รู้จะพูดอะไร ผมเลยคว้าเสื้อกันหนาวของไอ้หมูมาคลุมหน้าตัวเองแล้วนอนลงกับตรงเบาะสำหรับเล่นยิมนาสติก
“พี่ศิลา...โกรธผมเหรอ” ถ้าโกรธกูกระทืบมึงนานแล้วไอ้ฟาย...จริง ๆ ก็อยากกระทืบแต่หน้ามันจะไปเป็นเดือนไง ไม่อยากทำร้าย...
“........”
“ผมรั้งตัวเองไม่อยู่จริง ๆ” มันยังคงพูดต่อ และผมรู้สึกว่าไอ้หมูล้มตัวลงนอนตรงเบาะข้างผม
“แต่ผมก็เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ฝืนใจพี่ ไว้ใจผมได้ครับ...” ผมที่เอาเสื้อของไอ้หมูคลุมหน้าตัวเองไว้อยู่ ไม่รู้เลยว่ามันทำหน้าแบบไหนอยู่ แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วค่อนข้างจริงจังน่าดู...กลิ่นหอมจากเสื้อที่เป็นกลิ่นน้ำหอมที่ไอ้หมูใช้ฟุ้งเข้าจมูกของผม
...เชี่ย หอมชะมัด ใช้กลิ่นไหนวะ กลิ่นเย็น ๆ ที่ผู้ชายใช้...แล้วผมจะไปดมทำบ้าอะไร
ไอ้หมูหยุดพูดไป ผมรู้สึกว่ามันก็ยังนอนอยู่ข้างผมนี่แหละ
“พี่ศิลา...พี่ชอบคนแบบไหนเหรอ” จู่ ๆ ไอ้หมูกรอบก็ถามขึ้นมาเหมือนที่หยุดพูดเพราะไปหาคำถามมาอยู่...มาถามคำถามนี้ทำไมฟะ
“กูจำเป็นต้องตอบเหรอ” ผมถามกลับ มันก็เงียบ “สำหรับกูก็ไม่มีสเป็กหรอก ถ้าชอบก็คือชอบ หัวใจกูจะเลือกเอง” ผมตอบ จะว่าไปเสื้อไอ้หมูก็มีประโยชน์ขึ้นมาเหมือนกันแฮะ...ทั้งอุ่นแถมยังใช้บังหน้าผมได้อีก
“
ผมอยากเป็นคนที่หัวใจพี่เลือกนะ...” จึก...พูดเชี่ยแบบนี้อีกแล้ว...
ผมไม่หลงคารมมันหรอก...
“แล้วคนแบบไหนที่พี่ไม่ชอบ” ไอ้หมูยังคงถามต่อเหมือนอยากสร้างบรรยากาศไม่ให้ตึงเครียดและก็ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายลงมากด้วย
แบบที่ผมไม่ชอบเหรอ...ผมแทบจะตอบได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องคิดเลย
“กูไม่ชอบคนโกหก คนที่ไม่พูดความจริงกับกู คนหลอกลวง แล้วกูรู้เป็นคนสุดท้าย นั่นแหละที่กูเกลียดมาก”
ผมตอบและขมวดคิ้วเมื่อไอ้หมูกรอบเงียบไปซะงั้น...มันหลับเหรอ ทำไมเงียบฟะ ผมเปิดเสื้อออกสบตากับแววตาคมที่มองมาที่ผมอยู่ ไอ้หมูมันนอนอยู่ข้างผมนี่เอง...แต่มันเว้นระยะห่างระหว่างผมไว้อยู่
“ถ้าเกิดเขาต้องโกหกเพราะมีเหตุผลจำเป็น แต่ไม่ได้ตั้งใจจะโกหกหรือปิดบัง...พี่ศิลาจะโกรธคน ๆ นั้นไหม...” คำถามของมันทำให้ผมเลิกคิ้ว
“ก็คงโกรธมั้ง เพราะถ้ามันตั้งใจปิดกู กูก็โกรธ” ผมว่าตามความจริงที่มันถามอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่แอบเห็นว่าไอ้หมูมันเหงื่อแตก....มึงร้อนเหรอ ฝนตกจนกูจะหนาวสั่นอยู่แล้ว มึงร้อนเหรอ?
“แล้วจะโกรธนานไหมครับ...” ไอ้หมูยังถามต่อ
“มึงจะถามทำไมวะ? ไม่รู้สิ กูอาจจะไม่คุยกับคน ๆ นั้นอีกเลยล่ะมั้ง เพราะกูไม่ชอบเหตุการณ์แบบนี้เอามาก ๆ ...” ผมเหลือบมองหมูที่หน้าซีดลง เป็นเชี่ยอะไรของมัน...ผมเอาเสื้อของไอ้หมูคลุมหน้าของตัวเองด้วยความง่วง
“กูจะนอนละ ง่วง...แล้วถ้ามึงเขยิบเข้ามาใกล้กูอีกนิด ได้โดนลูกเตะกูแน่ ๆ ถ้าอยากมีหน้าหล่อ ๆ ไปประกวดเดือนก็อยู่ให้ห่างจากกู...” ผมบอกกล่าวเตือนไว้ก่อนแต่หมูก็ไม่ตอบอะไรกลับมา ช่างมัน...น่าจะได้ยินจนไม่กล้าเข้าใกล้ผมนั่นแหละ
แปลกที่ผมกลับรู้สึกเชื่อใจไอ้หมู....ไม่นานนักผมก็หลับไปอย่างง่ายดายเพราะเป็นคนหลับง่ายอยู่แล้ว
...............
“พี่ศิลา...หลับแล้วเหรอครับ”
“เฮ้อ...ผมจะกล้าแตะต้องพี่ได้ยังไงกัน ถ้าแตะมีหวังเฮียใหญ่ลากผมไปซ้อมแทนกระสอบทรายแน่ ๆ...”
“ฝันดีนะครับ พี่หมวยเล็กของผม...”
...
ขอบคุุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่าน^^
-/////- ดีใจที่ชอบน้องหมูกับพี่ศิลานะคะ ^^
