ตอนที่ 10 [พาร์ตของศิลา]
ทุกอย่างเงียบกริบ...ผมมองหน้าไอ้หมูที่สารภาพออกมาหน้ามันแดงไปหมดจนถึงหู บ่งบอกว่ามันค่อนข้างรวบรวมความกล้ามากเหมือนกัน บอกเลยว่า...เงิบมาก ผมนั่งมองหน้าของมันสักพักก็เหมือนจะจำแววตาคม ๆ คู่นี้ขึ้นมาได้ลาง ๆ พอพูดถึงขึ้นมาก็ทำให้นึกย้อนไป...
“อย่าบอกนะว่าคนที่นั่งอยู่หน้าสนามมวยตอนนั้นคือ มึง?” หมูตาโตและพยักหน้ารวดเร็วราวกับดีใจมากที่ผมจำได้...จริง ๆ กูจำไม่ได้ต่างหาก...แต่แววตาแพรวพราวของเขาที่มันสะท้อนออกมา ผมจำได้นะ
...แววตามุ่งมั่น มัมมี่ที่นั่งอยู่หน้าสนามมวย ฮ่า ๆ! ผมพอจะจำได้ว่า อวยพรให้มันสู้ ๆ ด้วย...อยากจะบอกว่าสภาพของผมตอนนั้น แม่งเป็นอามวยเล็กมาก ทั้งขาว ทั้งตัวเล็ก...เป็นสภาพของผมที่ไม่ค่อยอยากจะจำเท่าไหร่ (ก็ผมอยากเข้มแข็งนี่ครับ ก็ผมเป็นผู้ชาย เลยไม่ค่อยชอบเห็นรูปลักษณ์ของตัวเองที่มันขาว ๆ ตัวเล็ก) อุตส่าห์จะเป็นเล่นฟิตกล้ามกับเฮียใหญ่ที่ค่ายมวย แต่ฟิตเท่าไหร่ กล้ามผมก็ไม่ขึ้นสักนิด
“กูถามจริงเหอะ อะไรทำให้มึงเลือกที่จะ...ตกหลุมรักกูแบบนี้ กูไม่เห็นว่าตัวเองจะมีอะไรที่มันน่าดึงดูดตรงไหน?” หรือจริง ๆ ...กูมีอะไรน่าดึงดูดวะ
หมูเหมือนคลายอาการเกร็งนิดหน่อย ที่เห็นผมพูดดี ๆ กับมัน ผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำขนาดไม่ฟังเหตุผลคนซะหน่อย ถ้ามันอยากอธิบายผมก็จะฟังมันอยู่นี่ไง
“ก็อาจจะเป็นอย่างที่พี่ศิลาเคยบอกว่า...ถ้าหัวใจมันเลือกแล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมล่ะครับ ผมเลือกที่จะรักพี่แล้ว....เพราะงั้นมันก็แปลว่ารัก” เชรด...พอได้พูดออกมาแล้วดูเหมือนไอ้หมูจะพูดคล่องเชียวนะ
ไอ้อาการอายของมึงไปไหนแล้ว!!
“งั้นที่มึงมาหากูที่คณะ แล้วมาถามหาหมวยเล็ก...ก็คือกูเหรอ?” ผมถามทั้ง ๆ ที่พอจะรู้คำตอบ ถ้าไม่ใช่มึงแล้วจะใครล่ะครับไอ้ศิลา...
“ใช่ครับ” เชี่ย...งั้นที่มันบอกว่าหน้าสวย ริมฝีปากเล็ก...กูเหรอ กูไม่ได้หน้าสวยนะ!...(ยอมรับความจริงเถอะครับไอ้ศิลา)
“.........”
“พี่ไม่โกรธผมใช่ไหม” มันถามอ้ำอึ้ง ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจมัน แค่มันสารภาพรักกับผม แล้วผมจะไปโกรธมันทำไม เดี๋ยว...หรือจริง ๆ ผมต้องโกรธ ผู้ชายมาสารภาพรักนะเว้ย!...
แปลกมากที่ผมกลับไม่รู้สึกตกใจมาก...ก็แค่เงิบ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจความรู้สึกของไอ้หมู
“...........”
“พี่ศิลา....” ไอ้หมูทำเสียงเศร้าขึ้นมาทันที หน้าตาเหมือนหมูย่างกรอบเกรียมเชียว...
“มึงยังยืนยันที่จะจีบกูต่อใช่ไหม?” ผมถามหลังจากที่เงียบมานาน หมูทำหน้าตาเลิกลักและรีบพยักหน้า ไอ้เชี่ยนี่....ทำตัวปกติเป็นไหม
“แน่นอนครับ!”
“ไม่ว่ายังไงมึงก็จะจีบกูให้ติดใช่ไหม?”
“แน่นอนครับ!”
“มึงคิดดีแล้วใช่ไหม”
“แน่นอนครับ!!” ไอ้หมูรับปากอย่างหนักแน่น ผมพิงเก้าอี้มองไอ้ผู้ชายตรงหน้า ผู้ชายที่เป็นถึงเดือนแพทย์ แต่มันไม่ได้นิสัยใสซื่อกลับเจ้าเล่ห์ ขี้ตื้อ แถมยังมาสารภาพกับผมว่า แอบมองผมมานานแล้ว
ผู้ชายตรงหน้าเป็นผู้ชายทั้งแท่ง...เหมือนกับผม
“ถ้ามึงอยากจีบก็จีบไปละกัน” ผมบอกเรียกความสนใจของหมูให้หันมามองตาโตเท่าไข่ห่าน ไอ้เชี่ยนี่ก็ทำหน้าโอเวอร์ตลอด
“พี่ศิลาพี่พูดว่า...ให้ผมจีบพี่ต่อเหรอ”
“เออ” ผมบอกและก็เพิ่งรู้สึกตัวว่า...กูพูดเชี่ยอะไรออกไป ไอ้ศิลาครับมึงพูดอะไรเนี่ยยยยยย....
“จริง ๆ ผมก็จีบพี่มาสักพักแล้วนะครับ ทำไมพี่ไม่ยอมคบสักที” จีบพ่อง...กูยังเห็นมึงไปกับน้องชมพู่อยู่เลยไอ้สัด...(เริ่มพาล)
“ลีลาการจีบมึงห่วยเอง ช่วยไม่ได้” คำตอบของผมเรียกเสียงหัวเราะของหมูเบา ๆ
“อาจจะจริงที่พี่ว่า” เปล่า...ลีลาการจีบมึงโออยู่...แต่ไม่โอตรงไปกับผู้หญิงคนอื่นนี่แหละ ฟาย...
“พี่ศิลาเหมือนด่าผมในใจเลย” เออ กูด่า..
“ทำไมพี่ถึงให้ผมจีบต่อ แสดงว่าพี่ใจอ่อนกับผมแล้วใช่ไหมครับ” น้ำเสียงดีใจกรุ่มกริ่ม
“เปล่า กูรำคาญ ขี้เกียจพูด” ผมตอบออกไปแบบว่า...ปากหมาสุด หมูชะงักนิดหน่อยแต่ก็ยังยิ้ม นี่ถือเป็นข้อดี ของมันรึเปล่านะ ที่ไม่ว่าอะไรก็จะยิ้ม
“มีเรื่องจะพูดกับกูแค่นี้ใช่ไหม?” ผมถาม ไอ้หมูก็พยักหน้า ผมเลยโยนท็อฟฟี่ให้มันกิน ไอ้หมูก็เอาไปแกะกินเงียบ ๆ ราวกับรู้ว่าผมไม่ต้องการจะพูดอะไรต่อกับมัน
ผมกับมันนั่งกินท็อฟฟี่อย่างเงียบ ๆ....เหมือนต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง
“พี่ศิลาพรุ่งนี้อยากมาหาพี่ที่คณะแต่ว่า...ผมมีซ้อมดาวเดือน” หลังจากที่เงียบไปสักพักมันก็พูดขึ้น ผมเคี้ยวขนมตุ้ย ๆ ก็มองหน้ามัน
“มึงใกล้จะแข่งแล้วนี่ แข่งวันไหนนะ?”
“มีเดินแบบโชว์รอบแรก มะรืนครับ” มันบอก ก็ใกล้แล้วนี่หว่า “พี่จะไปดูผมไหม”
“ไป ไอ้เสาน่าจะลากไปด้วย” ผมบอก
“ถ้าพี่เสาไม่ลากไปด้วย พี่คิดจะไปเชียร์ผมไหม”
“กูก็ไปดูน้องคณะกูอยู่ไง” ผมว่าพลางแกะขนมกิน มันไม่อ้วนหรอกครับ...แค่ลงพุง ฮ่า ๆ!
“ต้องไปดูผมสิ...นะ นะ อยากได้เสียงเชียร์จากพี่ศิลา” ทำเป็นเด็กอนุบาลไปได้ สาวเชียร์มึงออกจะเยอะ กรี๊ดทีหอประชุมแทบแตก...จะให้กูไปกรี๊ดด้วยเหรอ(?)
“นะครับ” ไอ้นี่ตื้อได้น่ารำคาญมาก...แต่ผมก็แพ้ทางลูกอ้อนเชี่ย ๆ แบบนี้ตลอด
“เออ ๆ วุ่นวายตลอดมึงนิ กลับหอมึงไปได้แล้วไป ดึกแล้ว” ผมมองนาฬิกาและไล่ไอ้หมูที่ทำเนียนจะไม่กลับห้องมัน อย่าได้ใจให้มันมาก...กูให้โอกาสมึงจีบต่อไม่ได้ให้โอกาสมึงมาทำหน้าทะเล้น
“กะจะแอบเนียนซะหน่อย ฮ่า ๆ อย่าทำหน้าโหดสิครับ...พี่ก็รู้ว่าพี่ศิลาหน้าไม่โหด” ไอ้นี่เดี๋ยวปั๊ดจับหัวโขกผนังหรอก!! ไอ้หมูยิ้มและช่วยเก็บพวกจานชามไปไว้ให้ในครัว ตอนแรกมันจะล้างด้วย ผมก็เลยไล่มันกลับไปซะ หาข้ออ้างตลอด....ไอ้นี่แม่งบ้า....
..................
..................
|วันเดินโชว์ตัว ก่อนการประกวดจริง 1 วัน|
“ใครว้า บอกกูว่าแม่งไม่อยากมาหรอก...แต่ลากกูมาเองเชียว” ไอ้เสาที่อยู่ในชุดนักศึกษาเต็มยศพร้อมหน้าที่ถูกแต่งนิด ๆ รู้สึกว่าแก้มไอ้เสาชมพูอ่อนเชียวครับ มันยืนเท้าเอวมองผมล้อ ๆ
“ไอ้สัดเสาพูดมาก”
“ถามจริง นี่มึงกับน้องยังไม่คบกันอีกเหรอวะ?” ผมมายืนอยู่แถวหน้าหอประชุมที่กำลังจะมีการเดินโชว์ตัวเพื่อที่จะเข้าสู่งานจริงวันพรุ่งนี้ อ้อ...ลืมบอกไปครับว่า การแสดงของไอ้หมูอ่ะ มันบอกว่ามันขอซ้อมเองไม่ต้องให้ผมไปช่วยแล้ว เห็นมันบอกอยากเซอร์ไพร์...ผมหวังว่ามันจะไม่ไปทำให้ตัวเองขายหน้าพรุ่งนี้หรอกนะ...
“ยัง...”
“เอ๋า กูเห็นมึงกับน้องความสัมพันธ์ดีขึ้นนะ ทำไมยังไม่คบอีก?” ไอ้เสาว่าเหมือนพวกทำตัวเป็นพ่อสื่อชักนำ ดูมึงจะส่งเสริมให้กูได้กับผู้ชายจังนะ!
“ทำไมมึงดูส่งเสริม อยากให้กูได้กับมันนักเหรอ”
“มึงรู้ตัวรึเปล่าว่า มึงดูเป็นตัวเองมากกว่าเดิม เวลาอยู่กับไอ้น้องหมู” ผมที่มองเข้าไปตรงประตูของหอประชุมก็ชะงัก...เป็นตัวของตัวเองเหรอ? ผมเงยหน้ามองไอ้เสาที่ยิ้มให้ผม
“มึงหมายความว่าไง เป็นตัวของตัวเอง”
“ก็ปกติมึงอ่ะ ชอบทำเป็นเถื่อน ทั้งที่แม่งไม่ได้เถื่อนอะไรกับเขาเล๊ย” พูดว่าผมแต่ไอ้เสามันก็ไม่ได้ดูตัวเองเล๊ย...บอกเลยนะครับว่า ไอ้เสาตอนนี้ออร่าดึงดูดผู้ชายมาก หึหึ...ผมว่าไอ้สัดนนท์ใกล้จะมีงานเข้าแล้วล่ะ เพราะผมเริ่มรู้สึกว่าเวลาไปไหนมาไหนกับไอ้เสา ผู้ชายมันหันมามองด้วย ฮ่า! ท่าทางมันจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
“แต่เวลามึงอยู่กับไอ้น้องหมู มึงได้เป็นตัวของตัวเองดีว่ะ อย่างน้อยก็สบายใจใช่ไหมล่ะที่ได้อยู่กับน้องมัน” ไอ้เสาพูดพล่ามเหมือนให้ผมคิด...สบายใจเหรอ ตอนที่อยู่กับมันก็เอาแต่พูดจาด่ามัน...แต่ทุกครั้งที่ด่ามันก็เอาแต่ยิ้มตอบกลับมา
...จนผมคิดว่าไอ้นี่บ้า...ยอมให้ผมด่าอยู่ได้ แถมไล่ก็ไม่ไป
เสียงกรี๊ดในหอประชุมทำให้ผมกับไอ้เสาโผล่หน้าไปดู พวกผมเลือกที่จะอยู่แถว ๆ ข้างหลังก็มองเห็นบนเวทีชัดเจนเหมือนกัน ส่วนสาว ๆ พากันอยู่ข้างหน้ากันและกรี๊ดชนิดว่าหอประชุมจะแตก แต่ละคณะก็มีแต่คนหน้าตาดี ๆ ทั้งนั้น แต่ที่ดูจะเด่นกว่าเพื่อนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...ครับ ไอ้หมู เดือนแพทย์นั่นแหละ แค่มันเดินออกมาส่งยิ้มมุมปาก สาวก็ร้องกรี๊ดจนแทบจะแดดิ้น
แต่ที่พีคกว่านั้นคือ ไอ้หมูสายตายาวขนาดนั้นเหรอ ถึงได้เห็นผมยืนอยู่แถวไกล ๆ มันยกมือโบกให้ผม ทำเอาสาว ๆ หันมามองกันพรึบ...เชี่ย กูไม่อยากโดนผู้หญิงของมึงทั้งหลายรุมนะครับเฮ้ย
“โห ต้องการประกาศชัด ๆ ว่าไอ้หมูมันสนใจมึง ฮ่า! น้องเด็ดขาดว่ะ ชอบ ๆ” ไอ้เพื่อนของผมนี่ก็ดูจะเป็นฝ่ายสนับสนุนดีมาก
“กูจะโดนแฟนคลับมันรุมน่ะสิไม่ว่า กูจะออกไปข้างนอกละ” ผมบอก แต่ไอ้เสาคว้ามือของผมไว้ก่อน
“อ้าว ๆ อย่าทิ้งกูสิ”
“เสา นนท์ซื้อชานมไข่มุกมาให้” ยังไม่ทันจะอ้าปาก ไอ้สัดนนท์ที่ดูจะเทคแคร์ดูแลไอ้เสาอย่างดี เดินมาพร้อมกับชานมไข่มุกเจ้าโปรดของไอ้เสา
“ไอ้สัด! ใครให้มึงมาวะ” ไอ้เสาหันไปด่าแต่มือมันอ่ะรับชานมไข่มุกมาดูดจ๊วบ ๆ แล้ว ว่าแต่กูไม่ยอมรับไอ้หมู มึงเองก็ไม่ได้ต่างหรอกครับ...อ้าว แล้วกูจะโยงเรื่องตัวเองไปใส่ไอ้เชี่ยหมูกรอบทำไมเนี่ย
“มึงมาก็ดีไอ้นนท์ เมื่อกี้มีผู้ชายมองไอ้เสาด้วย”
“อะไรนะ! จริงเหรอเสา มันเป็นใคร?” ไอ้สัดนนท์ทำหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันทีทันใด
“ไอ้เชี่ยศิลา! อะไรของมึงไอ้เหี้ยนนท์! ผู้ชายเชี่ยไรจะมามองกู อย่าบ้าจี้ไปหน่อยเลย” ไอ้เสาหันมาด่าผมก่อนจะไปประจันหน้ากับไอ้นนท์ ก็มันอยากพูดกวนผมดีนัก หึหึ แอบแกล้งมันนิดหน่อย
ผมเดินหนีจากเสียงกรี๊ดที่ดังกระหึ่มทั่วหอประชุมออกมาข้างนอก เฮ้อ ค่อยหายใจโล่งหน่อย อยู่ในนั้นค่อนข้างอึดอัดมาก ปกติผมเองก็ไม่ค่อยชอบที่ที่มันมีคนเยอะ ๆ อยู่แล้ว นี่ถ้าไม่ได้มาดูไอ้หมูอย่างหวังว่าผมจะเข้าไปเลย...อ้าว เชี่ย ผมไม่ได้จะมาดูไอ้หมูกรอบซะหน่อย...เถียงกับตัวเองให้ได้อะไรขึ้นมาวะ ระหว่างที่ผมกำลังยืนพึมพำอยู่กับตัวองผมก็แอบได้ยินเสียงของผู้หญิงสองคนคุยกัน ด้วยความอยากรู้ (เผือกแหละ ง่าย ๆ) จริง ๆ จะไม่อยากรู้ แต่น้ำเสียงของเธอเหมือนกับน้องชมพู่เด๊ะ...ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมผมจำได้ ก็ผมเคยได้ยินทางโทรศัพท์ตอนเธอพูดแทรกไอ้หมูยังไงล่ะ
ผมเดินไปตรงแถวเสาที่บังตัวผมมิด ผมเหลือบมองน้องชมพู่ที่อยู่ในชุดนักศึกษาฟิตมาก กับเพื่อนสาวของเธออีกคนหนึ่ง ทำท่าลับ ๆ ล่อ ๆ น่าสงสัยมาก จากความรู้สึกของผมอ่ะนะ
“นี่ แกเอาจริงเหรอย่ะ ชมพู่ ทำแบบนี้ไม่คิดว่าหมูจะเป็นอะไรเหรอ พรุ่งนี้เขาประกวดดาวเดือนนะ” เพื่อนสาวของเธอพูด
“ก็ใช่น่ะสิ ไม่เป็นไรหรอก ยานั่นก็แค่ช่วยให้มีอารมณ์ ขืนชักช้ากว่านี้ก็ไม่มีโอกาสกันพอดี หมูยิ่งไปติดพันอยู่กับพี่วิศวะคนนั้นแจอยู่ ฉันไม่ยอมหรอก!” ผมที่แอบฟังอยู่ก็ได้ยินชัดเจน
...เชี่ย ยามีอารมณ์เชี่ยไรวะ ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ??
“แล้วแกแน่ใจได้ยังไงย่ะ ว่าหมูเขาจะกินยาที่เธอใส่ แล้วเธอจะแน่ใจได้ยังไงว่าหมูเขาจะมาติดกับเธอ ฉันว่าเธอทำแบบนี้มันแรดไปนะย่ะ” เพื่อนของน้องชมพู่ว่าเตือนสติ แต่ถามว่าเจ้าหล่อนฟังไหม?
“ฉันเอาไปแอบใส่ในแก้วน้ำดาวเดือนที่เป็นชื่อของหมูเรียบร้อย แล้วฉันก็จะเข้าไปหาหมูเอง เขาจะได้ออกมากับฉันยังไงล่ะ เขาต้องทนไม่ได้แน่ ๆ ฉันสวยรึยัง” ผมได้ยินก็ตาโต เมื่อกี้น้องชมพู่บอกว่า ใส่ในแก้วน้ำไอ้หมูเหรอ เชี่ย...มึงอยู่ในอันตรายซะละ เล่นจับกันแบบนี้เลยเหรอวะ
ผมไม่คิดอะไรทั้งนั้นตอนนี้ ขาของผมวิ่งไปที่ห้องพักของพวกดาวเดือนทันที ทำไมผู้หญิงต้องอยากได้มึงขนาดนี้วะ...มึงแม่ง...ไม่เห็นจะดีอะไร ทำไมผู้หญิงต้องแย่งวะ!! ผมบ่นในใจไปตลอดทาง สองเท้าก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องพัก ผมเปิดประตูเข้าไปทุกคนมองกันพรึบ
“พี่นางฟ้าสวัสดีครับ” ไอ้พวกรุ่นน้องดาวเดือนเรียกผมตามฉายาที่เจ้นิ่มตั้งให้ แต่ผมไม่มีเวลาจะสนใจ
“ไอ้หมูอยู่ไหน” ผมถามหาคนที่ผมอยากเจอ
“เห็นถือแก้วน้ำแล้วเดินไปทางนู่นค่ะ” น้องดาวแพทย์ปี 1 เพื่อนของไอ้หมูชี้ไปอีกห้อง ผมเลยรีบวิ่งเข้าไป ประตูที่เปิดออกเรียกความสนใจของไอ้หมูที่อยู่ในช่วงพักเพื่อที่จะขึ้นเดินโชว์ตัวอีกรอบ หมูหันมามองผมอึ้ง ๆ ในมือของมันถือแก้วน้ำอยู่
“พี่ศิลา? มาหาผมเหรอครับ” ไอ้หมูยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น...ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับมึง!
“ใช่ กูมาหามึง” ผมตอบ ทำเอาพวกเดือนที่อยู่ในห้องเดินออกไปเหมือนอยากให้ผมอยู่กับไอ้หมูกันตามสบาย แต่ไอ้คนตรงหน้าผมทำหน้าตาอึ้งสุด ๆ
“ว้าว พี่กำลังทำให้ผมอึ้งนะเนี่ย...” ผมหายใจหอบนิดหน่อยเนื่องจากวิ่งมาไกลเหมือนกัน ไอ้หมูกำลังจะยกน้ำขึ้นดื่ม ผมตาโตและรีบดึงมาจากมือของมัน
“กูหิว เอามานี่” ไอ้หมูเองก็ไม่ได้ขัดใจผม เขายอมให้ผมแต่โดยดี ผมเผลอดูดน้ำในแก้วจนหมด หมดจริง ๆ....พลางนึกขึ้นได้ว่า...น้องชมพู่ใส่ยาไว้นี่หว่า...
ชิบหายแล้ว....ไอ้ศิลา ผมกินยาปลุกอารมณ์ เหี้ยยยยย....กูลืมไปเลยยยย ดูดกินไปหมดแล้ว
“หิวน้ำอีกเหรอครับ?” ไอ้หมูเลิกคิ้วขึ้นมองผมที่ทำคิ้วขมวด
“เปล่า” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ก็ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรนี่หว่า....หรือยาจะไม่มีผลกับผมวะ ถ้างั้นก็ดีเลยแค่ไอ้หมูไม่กินก็ดีแล้ว
“มึงไปกินน้ำแก้วอื่นก็แล้วกัน กูกินของมึงหมดละ” ผมบอก หมูยิ้ม
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่หิวอยู่แล้ว พี่ศิลากินเถอะ...” หมูจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่ “พี่รู้ไหมว่าตอนที่ผมเห็นพี่ ผมโคตรดีใจเลยอ่ะ” มันดูดีใจมากจริง ๆ
“เออ...มึงจะต้องขึ้นเวทีอีกรอบใช่ไหม ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน” ผมพูดจบเสียงประกาศเรียกรวมก็ดังขึ้น ไอ้หมูยื่นหน้ามาใกล้ผม เชี่ย...ตกใจหมด
“เดี๋ยวเย็นนี้รอกลับพร้อมผมนะ จะพาไปกินอะไรอร่อย ๆ นะครับ รอผมนะ...” มันทำหน้าอ้อน คิดว่ามึงน่ารักมากเหรอ....
“เออ ๆ รู้แล้ว ไปได้แล้ว” ผมไล่ หมูยิ้มกว้างและเดินออกไปจากห้องนี้ ผมถอนหายใจเล็กน้อยมองแก้วในมือที่ไม่เห็นจะมีปฏิกิริยาไรสักนิด
ผมยืนรอไอ้หมูอยู่หน้าหอประชุม ส่วนไอ้เสากับไอ้นนท์ก็ขอตัวกลับไปก่อนผมแล้ว ตอนแรกไอ้เสาจะมาอยู่เป็นเพื่อนผมครับ แต่ไอ้สัดนนท์ทำท่าเหมือนไปกินรังแตนมายังงั้นแหละ ไอ้เสาเลยต้องรีบพากลับเดี๋ยวจะไปต่อยกับใครเขาได้ ผมที่ยืนรออยู่ก็เห็นน้องชมพู่เดินมาด้วยความมาดมั่น น้องเดินผ่านผมไปแต่เห็นเหมือนสายตาของเธอเหลือบมองผมนิดหนึ่ง ผมมองเธอที่เดินเข้าไปหาหมูที่กำลังเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวที่เปิดประตูไว้ เธอเอามือไปลูบไล้แขนของไอ้หมู
...เดี๋ยวกูจะเอาไม้หน้าสามไปฟาด...ฟาดใครดี ระหว่างไอ้หมูกรอบ กับน้องชมพู่ ฮ่า ๆ ล้อเล่นน่า ผมไม่ใช่คนโหดซะหน่อย...แต่ก็ไม่แน่ถ้าเธอยังเกาะแกะแขนของไอ้หมูอยู่ ดูเหมือนเธอจะทำหน้าตาแปลกใจหน่อย ๆ ที่ไอ้หมูเหมือนไม่รู้สึกอะไรและสะบัดมือน้องชมพู่ออก
...ก็แหงล่ะคนที่กินยานั่นคือผมนี่ ไม่ใช่ไอ้หมู คิดจะจับเดือนแพทย์คิดง่ายเกินไปแล้วน้อง...
ผมมองดูอยู่ก็แอบขำ พอเห็นไอ้หมูกำลังจะเดินออกมา ผมเลยหมุนตัวจะวิ่งออกไปรอแถวหน้าคณะ เดี๋ยวมันจะได้ใจว่าผมมารอมัน แต่ก็ไม่ทันระวังชนกับน้องปี 1 ผู้ชายที่เดินมาพอดี
ปึ่ก
“ขอโทษครับพี่” น้องมันยกมือไหว้ ผมเลยโบกมือพลางว่าไม่เป็นไร แต่จู่ ๆ ผมก็รู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนร่างกายกำลังจะละลายขึ้นมาซะงั้น....เชี่ย
“พี่เป็นอะไรรึเปล่าครับ” ไอ้น้องมันถามอีกรอบเมื่อเห็นผมจับที่ใจของตัวเองที่มันรู้สึกสั่นขึ้นมา
....อย่าว่ายากำลังแสดงอาการนะ....เหี้ยแล้วครับ ไอ้ศิลา น้องคนที่เดินชนผมกำลังจะมาแตะผมแต่มือของมันก็โดนกันโดยมือหนาซะก่อน
ผมสะดุ้งเมื่อมือหนาอีกข้างของไอ้หมูคว้าเอวของผมไว้ประชิดตัวของมัน ทำให้ผมหันหน้าไปชนกับไหล่ของไอ้หมูพอดีเป๊ะ...คราวนี้ร่างกายของผมร้อนกว่าเดิมอีก....
“พี่ศิลาเป็นอะไรครับ ทำไมหน้าแดงขนาดนี้?” ผมกำลังจะตอบก็สบตากับแววตาเข้ม และเสียงของน้องชมพู่ที่เดินตามมามองผมอึ้ง ๆ
“หมู หมูไม่ได้กินน้ำเหรอ” เธอถามเหมือนปล่อยไก่ชัด ๆ หมูหันไปมองด้วยแววตาดุ
“ชมพู่ว่าอะไรนะ ฉันไม่ได้กินน้ำ ทำไม?...” ดูเหมือนไอ้หมูจะไม่ได้โง่แฮะคราวนี้...ผมจะดันตัวของตัวเองออกจากไอ้หมูเพราะ ผมรู้สึกว่าผมร้อน...แถมผมยังได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวของไอ้หมูที่มันเหมือนกระตุ้นยังไงก็ไม่รู้ เชี่ยมาก....
“เราบอกชมพู่ชัด ๆ ไปแล้วนะ
ว่าคนที่เรารักคือพี่ศิลาเท่านั้น!” ระหว่างที่ผมกำลังรู้สึกลมหายใจร้อนก็ต้องเบิกตากว้างกับประโยคชัดเจน ที่ทำเอาคนที่อยู่บริเวณนั้นมองอึ้ง บางคนก็ปิดปากกรี๊ด
...เหี้ยยยย กูกรี๊ดด้วยได้ไหม...มึงมาสารภาพอะไรตรงนี้วะ...ไอ้หมูกรอบ น้องชมพู่ก็อึ้งไปและดูไม่พอใจมากด้วย
และนั่นยังไม่ถึงช่วงพีคเพราะสิ่งที่ทำให้เหล่ากระเทยและสาว ๆ ที่น่าจะชื่นชอบเรื่องพวกนี้กรี๊ดกันยกใหญ่ เมื่อร่างของผมถูกไอ้หมูอุ้มลอยอย่างง่ายดายในท่าอุ้มเจ้าหญิง....เชรด ไอ้หมูกรอบบบบ มึงทำอะไรของมึงงงงงงงง.......
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด แก!!!! เดือนแพทย์กับนางฟ้าประจำกองประกวดแหละ เสียงพวกนี้เป็นเสียงของเจ้นิ่มที่เป็นแกนนำ...เออ เจ้เชียร์ออกนอกหน้ามาก
“ไอ้เชี่ยหมูปล่อยกูลง...ทำอะไร....วะ” ผมด่าแต่ก็ชะงักกับแผงอกที่มันเด่นชัดแม้จะอยู่ภายใต้เสื้อนักศึกษาของไอ้หมู มันเป็นเพราะยาใช่ไหม....ทำไมกูถึงมองว่ามันโคตรหล่อเลย เท่ด้วย....
“ไม่ครับ ผมจะไม่ปล่อยพี่เด็ดขาด”
หมูไม่ได้สนใจคนที่มองเราอยู่ทั้งนั้น เขาอุ้มผมมาที่รถราวกับรู้ว่าน้องชมพู่ทำอะไรลงไป แอบรู้สึกดีที่ไอ้หมูมันไม่โง่...แต่ตอนนี้คนที่กำลังจะแย่ก็คือผมครับ...แม่ง ร้อนไปหมดทั้งกายแล้ว ต้องทำยังไงถึงจะหาย หมูจับผมเข้าไปนั่งในรถดี ๆ ก่อนเขาจะมาขึ้นฝั่งคนขับ
“เดี๋ยวผมจะพาพี่ไปส่งหอนะ เป็นยังไงบ้างครับ ผมไม่คิดว่าชมพู่จะกล้าใช้ยาแบบนี้” หมูจะเอื้อมมือมาแตะผมก็ชะงัก กลิ่นน้ำหอมในรถแม่ง...กวนใจผมมาก กลิ่นมันเป็นกลิ่นเดียวกับเสื้อของไอ้หมูตอนนั้นที่อยู่ในโรงยิม
“แล้วนี่พี่รู้ได้ยังไงว่าเธอใส่ยาให้ผม”
“กูได้ยินพอดี” ไอ้หมูยิ้มเหมือนดีใจที่ผมสนใจเรื่องของมัน...กูบอกว่าได้ยินพอดี ไม่ได้สนใจเว้ย...
“ผมว่าพี่เอาผ้าเย็นเช็ดหน้าก่อนดีไหมครับ” ไอ้หมูเอื้อมมือไปเบาะด้านหลังทำให้ตัวของมันใกล้กับผมมาก ผมสูดกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของไอ้หมู...กลิ่นมันกวนใจผมมาก....ผมว่าอยู่แบบนี้แม่งอันตราย
ผมดันไอ้หมูที่กำลังควานหาผ้าออก ก่อนผมจะข้ามไปนั่งเบาะด้านหลังแทน
“กูจะไปนอนด้านหลัง” ผมนอนลงเบาะหลังและพูดประโยคที่ทำให้ไอ้หมูหันมามองงง ๆ
“ไอ้เชี่ยหมู กูขอเสื้อนักศึกษามึงได้ไหม กูจะเอามาปิดหน้า”
“ครับ? เสื้อนักศึกษา” มันชี้เสื้อที่มันใส่อยู่ ผมก็ไม่รู้ว่าผมแม่งพูดอะไรออกไป เริ่มรู้สึกว่ามันมั่วไปหมดแล้ว แต่ก็ช่างเถอะ ผมรู้แค่ว่าตอนนี้อยากได้กลิ่นของไอ้หมูใกล้ ๆ
“เออ ถอดมาสิวะ” ไอ้หมูทำหน้าเอ๋อแดกไปเรียบร้อยแถมมันยังหูแดงอีก
“ครับ ๆ” ไอ้หมูถอดเนคไททิ้งไว้ข้างเบาะและถอดเสื้อนักศึกษาเหลือเพียงแค่กางเกงโชว์ซิกแพคอยู่ เออ...แม่งไอ้หุ่นดี มันยื่นเสื้อมาให้ผมด้วยอาการเหวอปนเขินตามสไตล์มัน
ผมรับมาปิดหน้าตัวเองไว้เหมือนต้องการให้ทุกอย่างสงบ...แต่ผมว่ามันเชี่ยมาก ไหงยิ่งได้กลิ่นใจยิ่งสั่นวะ แต่เสื้อไอ้หมูมันหอมจริง ๆ แหละ...
“ผมจะพาพี่กลับไปส่งหอนะครับ พี่ศิลา ถ้าไม่ไหวบอกผมนะ” มึงจะช่วยกูเหรอ...ไอ้สัด อย่าฝันว่าจะได้แตะต้องกู...
“เออ” ผมตอบกลับเรียบ ๆ ไอ้หมูก็สตาร์ทรถขับกลับไปที่หอของผม
“กลิ่นของผมช่วยพี่ได้เหรอ” มึงมีหน้าที่ขับรถก็ขับไปสิวะ...ถามมาก
“ไม่ได้”
“อ้าว แล้วเอาไปปิดหน้าไว้ทำไมครับ ฮ่า ๆ น่ารักว่ะ” ไอ้หมูหัวเราะเหมือนไม่ต้องการให้ผมคิดฟุ้งซ่านตามยาที่กำลังออกฤทธิ์ เออ..ความคิดดีใช้ได้
แต่สติของผมเริ่มจะหลุด ๆ ลอย ๆ ซะแล้ว มันเริ่มจะอึดอัดบริเวณส่วนล่าง เหี้ยยยย... นี่กำลังคิดว่าถ้าไอ้หมูกินน้ำเข้าไป แม่ง...เสร็จน้องชมพู่แน่ ๆ! ดีจริง ๆ ที่ผมเป็นคนกิน...ผมกำลังทำเพื่อไอ้หมูเหรอ ปกป้องมันเนี่ยนะ...ศิลามึงใกล้บ้าแล้วนะครับ
“กูชอบนะ” ผมพูดแผ่วเบาแต่ทำเอาไอ้หมูที่ขับรถอยู่ถึงกับเบรกกะทันหัน ผมรู้สึกง่วงชิบ...
“ว่าอะไรนะครับ!?”
“ชอบกลิ่นน้ำหอมมึง มันหอมดี....” ผมพูดแค่นั้นก่อนผมจะเผลอหลับไปซะงั้น....ยาบ้าบอไรวะ เดี๋ยวร้อนวูบวาบ เดี๋ยวง่วง...เออ ดี ๆ ให้กูนอนไปแล้วก็ค่อยตื่นมาพรุ่งนี้เช้าละกัน ยาหมดฤทธิ์พอดี....
“พี่ศิลา...พี่ศิลา...อ้าว หลับแล้วเหรอครับ....”
“กอดเสื้อของผมไว้แบบนั้น พี่กำลังยั่วผมอยู่รู้รึเปล่า.....”
“เดี๋ยวสักพักพี่ก็ตื่นขึ้นมาอีกครับ แล้วตอนนั้นผมจะอยู่ข้าง ๆ พี่ศิลาเอง...”
................................................+++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณคอมเมนต์เเละกำลังใจดี ๆ จากคนอ่านที่น่ารักกกก ^^ เห็นคนชอบน้องหมูกับพี่ศิลาก็ปลื้มเเละดีใจมากเลยค่าาาา
จากใจไรท์ LOVE YOU จุ๊บ

#เห็นคนอ่านบอกเห็นพี่ศิลากินข้าวหมูเเดงเเล้ว หิว ตอนเเต่งไปไรท์หิวไปเหมือนกันค่ะ555555 // คิดถึงร้านที่เคยไปกิน ข้าวหมูเเดงกับบะหมี่หมูเเดง อร่อยจริง ๆ ค่ะ

#ที่พี่ศิลาหลับไปก็เพราะได้กลิ่นหอมจากเสื้อของหมูเพื่อให้ช่วยผ่อนคลายค่ะ เเต่ไม่รู้จะช่วยหรือจะกระตุ้นกันเเน่ 555555555