Spacial : Days left
60 days left
คนแปลกหน้าตัวสูงเข้ามายืนอยู่ในออฟฟิศใหม่ที่เชียงใหม่เป็นที่แปลกตาของพนักงาน ก่อนจะแชทไปหาบอสใหญ่ของที่นี่ เมื่อเห็นว่าไม่ได้นั่งอยู่ในห้องที่ควรอยู่
‘อยู่ไหน’
ไม่นานนักคนที่เช็คมือถือแทบจะตลอดเวลาอย่างคุณเนมก็ตอบกลับมา
‘เนมอยู่ออฟฟิศเชียงใหม่ไงครับ’
คนที่ไล่ถามทุกคนในออฟฟิศแล้วว่าวันนี้คุณเนมไม่เข้าได้แต่ขมวดคิ้ว
‘ไม่มี อู้ไปไหน’
เขาถาม อีกฝั่งขึ้นมาอ่านแล้วในทันที ไม่นานนักก็ส่งโลเคชั่นมาให้
‘Narikan N. send you a location’
***
คนที่พึ่งมาถึงเดินวนอยู่ในคาเฟ่แถบชานเมืองจนเห็นว่าบอสใหญ่กำลังนั่งทำงานอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ถึงได้เดินเข้าไปหา
“นึกว่ากลับไปแล้ว"
เนมเอ่ยทัก เพราะเมื่อวานพี่เอกพึ่งบินมาสัมภาษณ์คนที่จะเข้าทำงานทีมเชียงใหม่ เนมคิดว่าวันนี้คงจะกลับกรุงเทพไปแล้ว
“อยู่พักร้อนต่อ"
อีกคนบอกก่อนจะนั่งลงตรงข้าม ceo ที่ยังไม่ละมือออกจากแป้นแล็ปทอป
“ปีนี้ได้พักร้อนกี่วันนะครับ"
“56”
“max แล้วนี่”
“อืม"
คนเป็นพี่ตอบก่อนจะนั่งมองหน้าตายุ่งยากของอีกคนที่กำลังจ้องหน้าจออย่างเอาเป็นเอาตาย ช่วงนี้ได้ยินข่าวว่ายุ่งมาก อย่างที่มานั่งอยู่ที่คาเฟ่ก็เพราะพึ่งคุยกับลูกค้าที่นัดไว้เสร็จ
“ที่นี่เหลือหาคนอีกกี่ตำแหน่ง"
พี่เอกถามเมื่อเห็นว่าออฟฟิศยังไม่เรียบร้อยสักเท่าไหร่ ทั้งเรื่องคนและอุปกรณ์สำนักงาน
“ดีไซน์เนอร์สองคน”
คนที่กำลังตั้งใจทำงานตอบ อีกคนจึงปล่อยให้ทำงานก่อนจะเดินไปสั่งเครื่องดื่มเมื่อเห็นว่ากาแฟดำของอีกคนหมดไปแล้ว พี่เอกเดินเข้ามาในร้านสั่งน้ำผลไม้ปั่นให้บอสพร้อมกับกาแฟของตัวเอง ใช้เวลาค่อนข้างนานเพราะลูกค้าค่อนข้างเยอะ แต่พอเดินออกมาเจ้านายก็ยังนั่งทำงานอยู่ท่าเดิม
“บอสจะกลับกรุงเทพเมื่อไหร่"
พี่ยื่นสมูทตี้ให้บอสแล้วนั่งลงข้างกันมองรายละเอียดงานในจอที่เป็นใบเสนอราคาของโปรเจคใหม่
“ไม่รู้เหมือนกัน แล้วพี่เอกกลับวันไหน ให้เนมไปส่งไหม"
พี่เอกส่ายหน้าก่อนจะตอบ
“ลาทั้ง 60 วัน"
“เฮ้ย!"
คนที่เมื่อครู่ยังก้มหน้าทำงานอยู่ร้องเสียงดังแล้วเงยหน้ามองคนข้างกัน พี่มันขำก่อนจะตอบ
“จริงๆก็เหมือนลามาทำงานนอกสถานที่"
เนมขมวดคิ้วแล้วก้มหน้าลงทำงานเหมือนเดิม
“แล้วจะไปเที่ยวไหนบ้าง"
“ไม่ไปไหน อยู่นี่"
น้องที่มีตำแหน่งสูงกว่าเงยหน้ามองอีกครั้งก่อนจะพับแล็บท็อปของตัวเองลง
“พี่เห็นเงินในคลังแล้วนะ"
พี่เอกบอกเพราะเมื่อวานมีโอกาสได้เจอกับพี่มาร์คและพี่ปูซึ่งเป็นคนถือหุ้นส่วนที่เหลือ เขาคุยกันนิดหน่อยถึงเรื่องประชุมบอร์ดบริหารที่ใกล้มาถึงและรวมไปถึงเรื่องเงินที่โตขึ้นมาตามรายได้ คนที่ไม่ได้สนใจมันมาตั้งแต่ลงทุนไปแปลกใจกับจำนวนเงินพอสมควร
“ครับ ถ้าจะใช้ก็เอาออกไปเลยนะ เดี๋ยวเนมจะแจ้งทางบัญชีให้"
เจ้าของเงินตัวจริงส่ายหัวก่อนจะดูดอเมริกาโน่เย็นรสขมอมเปรี้ยวลงคอ
“ของเนม"
“จะเป็นของเนมได้ไง"
คนพูดขมวดคิ้วแน่น
“เนมเป็นคนทำงานก็ต้องเป็นของเนม"
พี่เอกบอก น้องถอนหายใจก่อนจะเก็บของเข้ากระเป๋าตัวเอง
“เอาคืนไปเถอะ แล้วก็ไปแบบที่พี่เอกอยากไป"
พี่เอกมองหน้าคนเป็นน้องให้เต็มตาแล้วค่อยบอก
“ถ้าเป็นตอนนี้คงอยากตามเนมไปเรื่อยๆ"
57 days left
“พี่เอก วันนี้ไปออฟฟิศกับผมป่าว”
พาโชคเดินมาเคาะประตูห้องของแขกในตอนเกือบสิบโมงเช้า ที่จริงพี่เอกกะจะไปเช่าโรงแรมแต่บ้านหัวหน้าว่างอยู่หลายห้องถึงได้มาอาศัยพาโชค อย่างน้อยก็มีเพื่อนคุย
“ไปดิ กูพร้อมแล้วเนี่ย”
แขกตอบพร้อมกับเปิดประตูออกมาด้วยชุดและกระเป๋าที่พร้อมไปทำงาน
“โหพี่ ผมนี่นึกว่าพี่เอกย้ายมาทีมเชียงใหม่”
น้องมันแซว พี่เดินตามเด็กเจ้าของบ้านมาขึ้นรถ
“คุณเนมคงให้กูย้ายอ่ะ"
“ไปกวนตีนคุณเขาไว้เยอะไง”
พี่เอกขำ ก่อนจะถาม
“มึงสนิทกับคุณเนมป่ะวะ"
พาโชคที่กำลังเลี้ยวรถออกถนนใหญ่ทำหน้ายุ่งๆตามประสา ก่อนจะตอบ
“นอกจากขโมยกินข้าวผม ก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกับคุณเขาหรอก"
“เขาเอ็นดูมึงนะ”
พี่เอกบอกพร้อมกับยิ้ม
“คุณเนมแกดีกับทุกคนแหละ จนผมสงสัยนะว่าเคยโกรธหรือเปล่า ผมนี่อยากเฟรนลี่แบบคุณเนมบ้าง”
คนที่นั่งอยู่ข้างคนขับถอนหายใจก่อนจะบอก
“อย่าเลย ให้มีคนเดียวเถอะ”
พาโชคมองรุ่นพี่ที่ทำงานที่ไม่รู้คิดอะไรอยู่ถึงใช้วันลาไปกับการเข้าไปที่ออฟฟิศ แทนที่จะเอาเวลาไปนอนพักผ่อนชดเชยเวลาที่อดหลับอดนอนมานาน
“ผมเห็นคุณเนมแกแขวะๆก็มีแต่พี่เอกนั่นแหละ”
คนโดนว่ายักไหล่พร้อมกับตอบพาโชคมัน
“กูก็สมควรโดน”
โชคมองพี่ใหญ่ที่หน้าตาดูเศร้าแปลกๆ
“แล้วพี่เอกจะอยู่อีกกี่วัน”
“สองเดือน”
“ห๊ะ! ลาออกเหรอพี่”
พาโชคทำตาโต
“ลาพักร้อน ที่เกินมาก็ลาไม่เอาเงินเดือนไงมึง”
คนที่กำลังขับรถมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชียงใหม่บ่นอุบ
“ผมแม่งอยากรวยเหมือนพี่”
พี่เอกเลิกคิ้วมองรุ่นน้องที่ขับ bmw ของหัวหน้าแล้วว่า
“คนเลี้ยงมึงก็มี ลาออกหัวหน้าเลี้ยงได้”
พาโชคส่ายหัวเป็นพัลวัน
“ถ้าโดนทิ้งเมื่อไหร่ผมก็ตายดิพี่”
พี่เอกเป็นอีกคนที่ทุกวันนี้ยังไม่ปักใจเชื่อว่าพาโชคกับหัวหน้านั้นคบกัน
“ถามจริงนะพาโชค คิดว่าจะไปกันได้ไกลไหมวะ”
ที่ถามก็เพราะคิดถึงตัวเองในตอนที่อายุเท่าพาโชค ตอนนั้นพี่เอกพึ่งเรียนจบ ยังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงกับชีวิต ยิ่งกับเรื่องรักด้วยนั้นยิ่งแย่ ตอนแรกพาโชคว่าจะตบมุขแต่หน้าพี่เอกดูจริงจังเกินไปเลยตอบแบบที่คิดมาตลอด
“ไม่คิดอะไรขนาดนั้นหรอกครับ อยู่ไปเรื่อยๆก็พอแล้ว เดือนหน้าพี่มันอาจจะอยากเลิกกับผมก็ได้ แต่วันนี้รถกับบ้านพี่ยูก็ยังเป็นของผมอยู่”
พี่เอกขำกับความจริงของพาโชค
“กูยอมมึงจริงๆ”
52 days left
“นี่พี่เอกกะจะมานั่งทำงานแบบนี้ทุกวันเหรอวะ ไปไหนบ้างยัง”
ธามถามพี่เอกจนจนเกือบจะเที่ยงคืนแล้วยังนั่งทำงานอยู่เหมือนเดิม ทั้งๆที่ในออฟฟิศกำลังกินเลี้ยงกันสนุกสนาน
“กูไม่รู้จะไปไหน”
“ถาม Google ไงพี่”
พี่เอกถอนหายใจกับความกวนตีนของคนเมาก่อนจะปัดมือไล่
“มึงไปกินเหล้าเถอะธาม ช่างกู”
วันนี้ถือเป็นวันเลี้ยงฉลองครั้งแรกของออฟฟิศเชียงใหม่ ทุกคนที่ยังไม่รู้จักกันมากนักดูสนิทกันขึ้นทันทีหลังจากเหล้าเข้าปาก พี่เอกที่ไม่ดื่มสักอึกวนรถไปส่งธามที่เมาจนคอพับแล้วค่อยแวะกลับมาบ้านหัวหน้ายู พรุ่งนี้พาโชคน่าจะโดนพ่อคนที่สองสวดยับเพราะพี่เอกรายงานความประพฤติไปเรียบร้อย เวลาเมาพัชกับจะเรื้อนพอๆกับเนมที่น่าโมโหเหมือนเดิม
“ทำอะไรไม่เคยดูตัวเองเลย”
พี่เอกแบกบอสใหญ่เข้ามาในห้องนอนของตัวเองที่พี่ยูให้ใช้เพราะไม่รู้จะพาคุณเนมกลับไปที่คอนโดที่เช่าไว้ยังไง
“หนักฉิบหายเลย กินเข้าไปเหอะเบียร์ ตัวเป็นหมูแล้ว”
คนที่ถูกเขาทั้งแบกทั้งลากพยายามปรืตามอง พอเห็นว่าเป็นใครก็กอดไว้
“พี่เอก”
พี่เอกว่างน้องลงบนเตียงกว้างก่อนจะโถมตัวลงไปคร่อมไว้เพราะอีกคนไม่ยอมปล่อยมือที่กอดเอวเขาไว้ออก
“พี่เอง จำไม่ได้เหรออ้วน”
คนตัวสูงที่แบกน้องก้มลงกดจูบที่แก้มน้องหนักๆอย่างหมั่นเขี้ยว เรื่องดื้อกับเนมนี่เป็นของคู่กันมาตั้งแต่เด็กแล้ว
“ตื่นมาแล้วจำให้ได้นะว่าทำอะไร”
พี่เอกก้มลงจูบคนด้านล่างเมื่อมือร้อนของอีกคนลูบวนที่หลังเขาข้างนึงส่วนอีกข้างพยายามล้วงเข้าไปในกางเกงยีนส์รัดรูปที่พี่เอกสวมอยู่ พี่ได้แต่หวังว่าครั้งนี้อยากให้เนมตื่นมาแล้วจำได้บ้าง
50 days left
เนมตื่นมาในตอนเกือบบ่ายเพราะปวดไปทั้งตัว จำไม่ได้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แค่ว่าคนที่มาส่งคือพี่เอก เพราะพี่เอกเป็นคนเดียวที่ไม่เมา แต่พอลืมตาขึ้นมาแล้วถึงรู้ว่าไม่ได้อยู่ที่ห้องตัวเองไม่พอยังเปลือยอีก
“เหี้ย”
คนที่กำลังนอนอยู่ดีๆก็โดนผลักออกถามคนที่พึ่งตื่น
“ใครเหี้ย”
พี่เอกมองหน้าคุณเนมที่ตอนนี้ตาโตเหมือนไข่ห่าน
“อ้วน อย่าดัน เดี๋ยวพี่ตกเตียง”
คนเป็นพี่ว่าก่อนจะดึงมืออีกคนออกจากอกตัวเองแล้วดึงเจ้านายเข้ามากอด
“ทำอะไร”
คุณเนมที่ยังดูตกใจพยายามแกะมืออีกคนออกแต่ก็ไม่เป็นผล ได้แต่เสียงบ่นมาเป็นคำตอบของสถานการณ์พิลึกนี้
“ขี้เมาไง จำอะไรไม่เคยได้หรอก”
46 days left
“คุณเนมไปไหน”
วันนี้พี่เอกเข้ามาที่ออฟฟิศตอนบ่ายแต่ไม่เห็นบอสนั่งอยู่ที่เดิมถามเด็กใหม่
“ไปกรุงเทพครับ เห็นว่ากลับบ้านด้วย ไปดูทีมที่สยามด้วย”
42 days left
“กลับมาเชียงใหม่เมื่อไหร่”
พี่เอกที่พึ่งเข้ามาถึงออฟฟิศแชทไปถามอีกคนเมื่อเห็นว่าห้องกระจกของบอสยังไม่มีคนอยู่ เขาถอนหายใจหนักก่อนจะนั่งลงทำงานที่โต๊ะตัวเดิม พร้อมกับคำถามที่ถามตัวเองมาหลายวันแล้วว่าเนมเนมอยู่ได้ยังไง อยู่แบบต้องรอคนๆนึงที่ไม่รู้เขาจะหันกลับมาเมื่อไหร่ ทำไมกับเขาที่แค่รอจะเจอหน้าน้องทุกวันถึงได้รู้สึกทรมานนัก
40 days left
บอสใหญ่กลับมาจากกรุงเทพด้วยท่าทางเพลียน่าดูเพราะมาถึงตั้งแต่เช้ามืดและเข้ามาออฟฟิศต่อเลย
“ไม่มีของฝากนะ เดี๋ยวเนมสั่งกาแฟให้นะ ใครอยากได้อะไรบ้าง”
พี่เอกมองเนมคนใจดีแบบที่พาโชคบอก เนมใจดีกับทุกคน...ใจดีกับแม้กระทั่งคนใจร้ายแบบพี่เอก
“พี่เอกเอาอะไร”
บอสเดินมาจดเมนูกาแฟของคาเฟ่ชื่อดัง
“อเมริกาโน่เย็น”
คุณเนมพยักหน้าก่อนจะจดออเดอร์ลงในโทรศัพท์มือถือของตัวเอง
“ของพี่เอกไม่ใส่น้ำตาลนะ พาโชคล่ะ”
พาโชคเงยหน้าจากคอมพิวเตอร์พร้อมกับตอบเจ้านาย
“มอคค่าครับ”
เอกมองบอสที่จ้องหน้าพาโชคแบบงงๆ
“ตกลงจะค่าหรือครับ”
พอพูดเสร็จก็ขำเองพร้อมกับโดนพาโชคโวยวายใส่
“คุณเนม นี่มุขเหรอครับ”
เจ้านายหัวเราะร่าก่อนจะเดินเข้าไปมองหน้าลูกน้องใกล้ๆเพราะอยากแกล้ง
“ยูริไม่อยู่นี่น่ารักนะเรา”
เอกยิ้มพลางคิดว่าถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้น ถ้าพ่อแม่เราไม่ได้แต่งงานกันเนมจะโตมาแบบไหน จะเป็นเด็กร่าเริงมากกว่านี้ไหม จะน่ารักแค่ไหน พอคิดได้แบบนั้นถึงฉุกคิดได้ว่าการที่ตัวเองทำร้ายน้องนั้นไม่ต่างจากการทำลายชีวิตของอีกคนเลย
***
“ครับ?”
เจ้าของคอนโดขนาดหนึ่งห้องนอนเปิดประตูห้องมาเจอกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญในตอนดึก เนมมองหน้าแขกก่อนจะมองถุงเครื่องดื่มในมือ
“พี่หาเพื่อนดื่ม”
พี่เอกว่า เนมตอนไม่เมาจะเป็นคุณเนมที่มีความรับผิดชอบแบบที่เขาอยากให้เป็น แต่ว่าเมานั้นน้อง้วนก็ยังเป็นน้องอ้วนวันยังค่ำ
“จริงๆพี่มีเรื่องอยากคุยด้วย”
เนมมองคนที่ผ่านมาไม่เห็นอยากจะคุยอะไรเลยแถมเอาแต่หนี ในตอนนี้เนมไม่อยากเข้าใจอะไรแล้ว ไม่ใช่เพราะด้านชาหรือเลิกรักพี่มันแล้ว แต่เป็นเพราะเนมรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่คิดจะดื้อดึงอะไรอีก อย่างน้อยเราก็ยังได้เจอหน้ากันบ้าง ยังได้ทำงานด้วยกัน...สำหรับเนมแค่นี้ก็พอแล้ว
“สัญญาเช่ากี่เดือน”
คนที่เดินเข้ามาในห้องขนาดเกือบ 40 ตรม.ถามเจ้าของห้อง
“เนมซื้อไว้”
เจ้าของห้องตอบก่อนจะนั่งลงตรงโซฟาหน้าทีวีที่ฉายหนังสยองขวัญอยู่
“มาอยู่แป้ปเดียวทำไมต้องซื้อไว้”
คนเป็นพี่ถามก่อนจะนั่งลงข้างกัน เบียร์กระป๋องแรกถูกเปิดขึ้นพร้อมกับคำตอบที่ไม่อยากได้ยิน
“แล้วพี่เอกจะอยากรู้ทำไม"
เอกพอรู้ว่าน้องเริ่มถอยห่างมาได้หลายปีแล้ว ตอนแรกเขาคิดว่าน้องคงจะไปตามทางของน้องแล้ว แต่เขาพึ่งได้คำตอบว่าเนมแค่เว้นระยะห่างออกไปแบบที่ควรเป็น เขาดีใจนะที่น้องคิดได้แต่แปลกดีที่ในที่สุดแล้วพวกเขาก็ยังเก็บกันและกันไว้ในใวงโคจรเหมือนเดิม เนมไม่เคยคนใหม่...และเขาก็เช่นกัน
“ไม่น่ารักเลย"
พี่มันบอก พลางคิดถึงเด็กชายเนมวันนั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะอ้อนแล้วพูดไม่หยุด พี่เอกครับ เนมอย่างนั้นอย่างนี้
“เนมไม่เคยน่ารักในสายตาพี่อยู่แล้วแหละ ถ้าจะมาเพื่อหาเรื่องก็กลับไป"
แต่คนที่ทำให้เด็กน่ารักคนนั้นเป็นแบบนี้ก็เป็นตัวเขาเอง พี่เอกยิ้มให้กับตัวเอง
“ไล่เหรออ้วน"
“เลิกเรียกแบบนี้ทีได้ไหม"
ดูเหมือนเจ้าของห้องจะเริ่มโมโหแล้ว เอกมองกระป๋องเบียร์ในมือน้องที่ถูกบีบจนบู้บี้เพราะหมดไปแล้ว
“ก็อ้วนจริง นิ่มไปทั้งตัว"
“พี่เอก!”
คนที่ถูกตวาดหัวเราะ
“กอดไม่มิดแล้ว"
พี่เอกยื่นเบียร์กระป๋องใหม่ให้ น้องรับไปทั้งๆที่ยังบ่นอยู่
“เป็นบ้าอะไรเนี่ย อยู่ดีๆก็พูดมาก”
“เก็บกดไงอ้วน"
คนเป็นพี่พูดตามความจริง
“ไปอ้วนบนหัวพี่เหรอ"
พี่เอกยักคิ้วให้น้องก่อนจะตอบ
“อ้วนบนตัวพี่ หลังจะหักเอา"
คนโดนว่าขมวดคิ้วแน่นเมื่อคนข้างกันเอนตัวนอนลงบนหน้าขาของเนม
“เป็นบ้าอะไร"
เอกยิ้มก่อนจะตอบ
“จะให้พี่เป็นอะไรก็ได้ แค่อ้วนไม่ร้องไห้อีกก็พอ”
35 days left
พี่เอกเก็บของลงกระเป๋าในบ่ายวันหนึ่งก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปบอกบอสในห้องกระจก
“คุณเนม ผมกลับกรุงเทพแป้ปนะ เดี๋ยวมา"
“จริงๆพี่ไม่มาก็ไม่มีใครว่าอะไรนะพี่เอก"
ธามว่า แต่ได้สายตาพิฆาตกลับมาแทน เจ้านายที่ได้ยินว่าพี่เอกจะไปกรุงเทพเดินเอาเอกสารบางส่วนมาให้พร้อมกับถาม
“งานเข้าเหรอครับ ให้เนมไปส่งไหม"
พี่เอกยิ้มแต่ส่ายหน้าเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร
“ทำงานเถอะ พี่เรียกแท็กซี่แล้ว"
32 days left
“เชียงใหม่เป็นยังไงบ้างลูก"
พี่เอกที่ไม่ได้กลับบ้านเกือบสามเดือนนั่งลงที่โต๊ะกินข้าวที่พ่อกับแม่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ก็อากาศดีครับ"
ลูกชายคนโตตอบก่อนจะตักข้าวเข้าปาก
“เงินที่เข้ามาในบัญชีพ่อคือเงินเอกใช่ไหม"
เจ้าของเงินพยักหน้ารับ ก่อนจะเคี้ยวข้าวในปากให้หมด
“ผมคืน...ผมทำให้ไม่ได้จริงๆ”
พี่เอกตอบเสียงสั่น แม่กับพ่อมองหน้ากันเพราะคุยเรื่องนี้กันมาสักพักแล้ว เรื่องมันเกิดขึ้นสิบกว่าปีก่อน พวกเขาเจอลูกนอนเปลือยกอดกันในช่วงที่แต่งงานได้ไม่ถึงปี แม่ร้องไห้กับพ่ออยู่หลายวันเพราะอยากให้ลูกมีชีวิตที่ปกติ ทั้งสังคมสมัยนั้นยังไม่ยอมรับ พวกเขาเป็นเหมือนพ่อแม่ทั่วไปที่ลงทุนเลือกชีวิตให้ลูกโดยไม่ถามลูกสักคำ ในตอนนั้นคนโตกว่าอย่างพี่เอกถูกเรียกคุย เอกไม่ปริปากตอบอะไรสักคำ จนกระทั่งพ่อบอกให้ออกไปจากบ้านซะ
“เอามา 5ล้านแล้วผมจะไป”
นั่นคือสิ่งที่เด็กวัย 20 ปีหมาดๆประชด เอกคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางหามาให้ได้ แต่เขาคิดผิด….
เมื่อสุดท้ายแม่ของเนมยื่นบัญชีเงิน 5ล้านบ้านมาให้พร้อมกับน้ำตาที่ไหลเป็นสาย เนมรักแม่มากนั่นคือสิ่งที่พี่เอกรู้
“เอกลูก”
พี่ชายเงยหน้ามองคุณแม่ที่เรียกชื่อเขา
“บอกเจ้าเนมกลับมาบ้านด้วยนะ แม่ไม่ได้เจอลูกสองคนพร้อมกันนานแล้ว”
ลูกชายคนโตมองพ่อกับแม่แล้วตอบรับ
“ครับ”
เขารู้ว่าพ่อกับแม่เลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องของพี่กับน้องตรงๆเพราะยังรับไม่ได้ แต่แค่นี้ก็ถือว่าใจกว้างมากพอแล้ว
30 days left
“ของฝากจากกรุงเทพ”
คนที่พึ่งกลับมาจากเชียงใหม่วางชีสเค้กก่อนใหญ่ไว้ที่โถงกลางสองอันก่อนจะหิ้วติดมือมาอีกอัน
“ผีเข้าพี่เอก”
พาโชคว่า เพราะแต่ก่อนพี่แกไปเที่ยวถึงอเมริกายังไม่มีอะไรมาฝากเลย
“มึงไม่ต้องเอา”
“เอาดิพี่!”
คนเห็นแก่กินแบบพาโชครีบบอก ธามมองเค้กในมือกับสายตารุ่นพี่ที่มองเข้าไปในห้องบอสรีบบอก
“วันนี้น่าจะเข้าสายครับ เมื่อวานเละมาก”
พี่เอกขมวดคิ้วแน่นก่อนจะบ่นแล้วนั่งลงทำงานที่โต๊ะข้างๆพาโชคเหมือนเคย
“เสียการเสียงาน”
“ให้พักบ้างเถอะครับ ผมเห็นคุณเนมทำงานแล้วเหนื่อยแทน”
***
“ทำไมไม่กลับไปกับพาโชค”
เจ้านายถามคนที่เนียนกระโดดขึ้นรถมาจนถึงห้องเนมไม่ยอมกลับไปบ้านไปกับพาโชคเหมือนเคย
“เดี๋ยวไอ้ยูมา ไม่อยากไปอยู่เกะกะเขา”
พี่เอกบอก
“แต่อยู่เกะกะเนม”
เจ้าของห้องว่าพร้อมกับยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มแล้วเอาอีกขวดให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญ
“พี่นอนโซฟาก็ได้”
อีกคนว่า เนมถอนหายใจก่อนจะผลุบหายเข้าไปในครัวเล็กๆแล้วออกมาพร้อมป๊อปคอร์นไมโครเวฟหอมๆ
“ไอ้ต่อเป็นไงบ้าง ได้ติดต่อบ้างไหม”
อยู่ดีๆพี่เอกก็ถามขึ้นมา เนมนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน
“สบายดี ลูกสาวสองแล้ว เนมพึ่งไปเยี่ยมมาเมื่อปีที่แล้ว”
“คิดถึงมันนะ”
เอกบอกพร้อมกับล้วงป๊อปคอร์นร้อนๆมากิน อันที่จริงตอนเรียนจบเคยเดินไปขอบคุณต่อที่ช่วยดูน้องไห้มาตลอดไปแล้ว ตอนนั้นต่อตอบมาว่าไม่ได้ดูแลให้ ก็แค่หมั่นไส้เขาที่คอยทำตัวเหมือนหมาหวงก้าง
“ที่บ้านเปิดร้านขายส่ง กิจการน่าจะดีอยู่”
เนมบอก ปีที่แล้วไปเที่ยวบ้านพี่ต่ออยูสองวันและเพราะไปหาพี่ต่อถึงได้รู้วีรกรรมถ้ำมองของพี่เอกสมัยก่อน มีถึงขนาดปีนเข้าห้องเนมตอนกลางคืนเพื่อเช็คว่าเนมเมามากหรือเปล่าด้วย เนมรู้...เพราะแบบนี้ถึงเกลียดไม่ลงสักที
“แล้วเนมล่ะ”
เนมที่อยู่ดีๆถูกถามหันไปมองหน้าพี่มัน
“หือ?”
“เนมสบายดีไหม”
29 days left
“พี่บัญชีโทรมาบอกว่าพี่เอกเอาเงินออกไปเหรอครับ”
เนมถามคนที่ยังทำเนียนขอมาค้างที่ห้อง จริงๆพี่บัญชีแจ้งมาตั้งหลายวันแล้วแต่เพราะงานเยอะเลยหลงๆลืมๆว่าจะถามแต่ก็ไม่ได้ถามสักที
“พี่คืนให้พ่อกับแม่ไปแล้ว”
“ครับ?”
พี่เอกมองแก้มขาวๆก่อนจะบอก
“นอกนั้นเป็นของเนมนะ”
เจ้าของห้องส่ายหน้า
“ไม่จำเป็นหรอก ไม่ใช่เงินเนม”
เอกเห็นว่าถ้าคุยกันเรื่องนี้ต่อคงเถียงกันไม่จบถึงได้เปลี่ยนเรื่องเสีย
“เนมอยากได้คนช่วยงานไหม เนมจะได้สบาย”
“ทำไมเนมจะต้องสบาย”
คนที่ทำงานหนักมาสิบกว่าปีถาม
“พี่อยากทำอะไรให้เนมบ้าง”
และพอได้รับคำตอบถึงได้บอกคนที่มาห้องคนอื่นแต่ทำตัวเหมือนบ้านตัวเอง
“ถ้าอยากช่วย เริ่มจากเก็บของตัวเองให้เป็นที่ก่อนเลย”
เนมบอกพร้อมกับมองถุงเท้าที่ถอดวางไว้ไม่เป็นที่ พี่เอกหน้าจ๋อยลงก่อนจะตอบน้อง
“อ่า ครับ”
26 days left
“บอสไปไหน”
พี่เอกถามเด็กใหม่ในออฟฟิศที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว
“ไปประชุมกับลูกค้าแถวแม่ริมครับ”
คนที่วันนี้เข้ามาออฟฟิศสายเพราะเมื่อคืนมัวแต่คุยงานขมวดคิ้วแน่นก่อนจะถาม
“ไปกับใคร”
“คนเดียวครับ”
พี่เอกหันไปขอบใจเด็กคนที่ตอบก่อนจะเดินลัดเข้าไปอีกห้องที่เอาไว้สำหรับพักผ่อน และพึ่งนึกได้ว่าในขณะที่ตัวเขาเคยชินกับการมีเนมอยู่ข้างๆเนมก็คงเคยชินกับการไม่มีเขาเช่นกัน
24 days left
“พี่เอกมานั่งในห้องเนมดีกว่าไหม”
เนมออกมาเรียกคนที่นั่งทำงานหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ข้างนอกแล้วทำบรรยากาศออฟฟิศรวนไปหมด อีกอย่างก็คงเป็นความผิดเนมที่ตอนเมาคราวที่แล้วเผลอหลุดปากเรื่องพี่เอกไปว่าเป็นคนถือหุ้นรายใหญ่สุดของบริษัท เพราะมีน้องหลายคนถามว่าพี่คนที่นั่งหน้านิ่งๆแถวพาโชคทำงานตำแหน่งอะไร ทำเอาตอนนี้พี่เอกขยับตัวทำอะไรพนักงานก็หลอนไปหมด
“หืม?”
คนที่พึ่งเงยหน้าจากจอแล็ปท็อปตัวมองหน้าบอส
“นั่งข้างนอกเด็กเขากลัว”
เนมว่า ซึ่งพี่เอกไม่ได้ถามอะไรต่อแต่ลุกขึ้นเก็บของไปพลางบ่นไปพลาง
“คุณเนมไม่เห็นกลัวผมบ้าง”
และสุดท้ายแล้วก็เดินเข้าไปในห้องกระจกตามบอส
“ตามติดเป็นเงาเลย”
พาโชคเป็นอีกคนที่ไม่เกรงใจอำนาจมืดเพราะอยู่กับพี่เอกมานาน
“ไม่สังเกตเหรอพัช สองคนนั้น”
ธามเองก็เหมือนกัน ตอนนี้คนสองคนเริ่มขยับเก้าอี้เข้ามาหากันเพื่อนินทาเจ้านายกับผู้ถือหุ้น
“พี่น้องกันไม่ใช่เหรอพี่ธาม”
ธามยักคิ้วก่อนจะตอบ
“คนละพ่อคนละแม่”
“เอ้ยยย”
พาโชคที่เคยพี่เจนเปรยเรื่องพี่เอกตอนเมาๆ ทำตาโต และยิ่งตาโตขึ้นไปอีกเมื่อเห็นใครบางคนตรงโถงทางเดิน
“ออฟฟิศนี้เขาไม่ทำงานกันเหรอ”
พ่อมา...พ่อทูนหัวด้วย เห็นบอกจะมาถึงบ่ายแต่พาโชคไม่ได้คิดว่าจะโผล่มาหาถึงที่ทำงาน
“งานที่กรุงเทพไม่มีเหรอหัวหน้า”
ธามเอ่ยทักเพื่อนที่มาได้เวลา
“เอางานมาให้ที่นี่โดยเฉพาะเลยหัวหน้า”
ตอนนี้พาโชคไม่สนใจเรื่องคุณเนมแล้วเพราะเริ่มปวดหัวกับหัวหน้าสองคนนี้แทน