Years ago 1/3
17 years ago“เหี้ยเอก เด็กมึงมาหา”
เด็กหนุ่มที่กำลังยืดเส้นยืดสายอยู่ข้างสนามบาสในโรงยิมเรียกเพื่อนที่กำลังวิ่งเลี้ยงลูกกลมๆในสนาม เอกหันมามองเพียงครู่เดียวก่อนจะทิ้งลูกบาสใน-มือทิ้งแล้ววิ่งออกมาข้างสนามโดยไม่สนใจเสียงตะโกนด่าตามหลังของเพื่อนแม้แต่น้อย
“ไหนบอกวันนี้มีเรียนพิเศษ”
เอกเอ่ยทักเด็กม.3 ที่ช่วงนี้กำลังง่วนกับการติวเข้าม.4
“โดดชั่วโมงเลข เนมอยากมาหาพี่เอก”
เด็กคนนั้นยิ้มกว้างโชว์ฟันสวยก่อนจะยื่นขวดน้ำเย็นให้
“โดดเรียน เดี๋ยวจะโดนแม่โกรธ”
คนเป็นพี่อยู่ 2 ปีว่าพร้อมกับกระดกน้ำ ที่แซวเพราะได้ยินน้องพูดถึงคุณแม่บ่อยว่างอนเก่ง
“โธ่ เนมง้อแป้ปเดียว ง้อง่ายกว่าพี่เอกอีก"
เนมว่าพร้อมกับทำหน้ายุ่ง พี่หัวเราะก่อนจะบอก
“งั้นรอแป้ปนะครับ พี่ไปหยิบกระเป๋าก่อน”
“ครับ”
เนมยิ้มกว้าง และแล้ววันนี้เอกก็โดดชมรมออกมาโดยไม่ได้บอกใคร แต่เพื่อนๆรู้อยู่แล้วว่าถ้าน้องเนมมายังไงเอกก็จะทิ้งทีมไปอย่างไม่ใยดี
“ลมแรงจัง เหมือนฝนจะตก”
เนมบอกพร้อมกับกระชับกระเป๋าเป้เข้าหาตัว ความจริงวันนี้มีเรียนพิเศษถึงสามทุ่มแต่เนมโดดออกมาตอนหกโมงเย็นแล้วรีบขึ้นรถเมล์กลับมาโรงเรียนที่อยู่ไม่ไกลกันนักเพราะรู้ว่าพี่เอกน่าจะยังเล่นบาสอยู่
“เร็วอ้วน”
คนเป็นพี่ว่าพร้อมกับดึงแขนน้องแล้วออกวิ่ง แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะจู่ๆฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ระยะทางจากโรงยิมถึงอีกตึกแม้จะอยู่ไม่ไกลกันนักแต่ก็ทำคนทั้งคู่เปียกโชก
“เปียกหมดเลยอ้วน”
คนเป็นพี่บอกพร้อมกับใช้มือปัดผมตัวเองที่มีน้ำหยดแล้วใช้อีกมือปัดผมให้น้อง
“ยังไงล่ะทีนี้”
เอกพึมพำก่อนจะมองซ้ายขวา ถ้ายามปกติคงเดินตามทางเดินลัดสนามฟุตบอลออกไป แต่วันนี้กลับวิ่งปรี่เข้ามาใต้ตึกเด็กประถมที่ไม่มีใครอยู่แล้ว เพราะพายุฝนทำให้เวลาหกโมงครึ่งมืดสนิท ไหนจะลมกรรโชกที่พัดจนต้นไม้ในโรงเรียนไหวจนน่ากลัว
“โรงเรียนตอนมืดๆนี่น่ากลัวอ่ะ”
คนเป็นน้องว่าก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ เอกมองซ้ายขวาก่อนจะเดินนำไปที่โถงบันไดขึ้นตึก อย่างน้อยตรงนั้นก็บังลมได้
“ไปตรงนั้นกัน”
เอกเดินนำน้องขึ้นไปบนบันไดก่อนจะนั่งลงตรงทางเลี้ยวขึ้นไปชั้นหนึ่ง เนมมองซ้ายขวาก่อนจะนั่งขัดสมาธิลงตรงข้ามกัน
“ดีนะ กระเป๋าไม่เปียก"
เนมว่าพร้อมกับเปิดเช็คของในกระเป๋าเป้นักเรียนที่ข้างในยังแห้งสนิท
“วิ่งกอดกระเป๋าไง แต่หลังชุ่มไปหมด”
พี่เอกที่วิ่งมาในท่าค้อมตัวบอกบ้างก่อนจะรื้อของในกระเป๋าตัวเอง
“มีขนม”
คนเป็นพี่ว่าพร้อมกับยื่นแท่งช็อคโกแล็ตให้อีกคน แต่เดิมเขาไม่ค่อยชอบกินของหวานเท่าไหร่ แต่เพราะเนมบอกว่าน้ำตาลทำให้สดชื่นถึงได้ซื้อติดกระเป๋าไว้ อีกเหตุผลก็คือเอาไว้เผื่อน้องหิว
“เนมกินข้าวมาแล้วนะ”
เด็กม.3 ว่า แต่ก็รับช็อคโกแลตจากอีกคนมาแกะเข้าปากอยู่ดี
“อ้วนเอ้ย”
พี่ว่าพร้อมกับมองคนที่กำลังเคี้ยวขนมแก้มป่อง อ้วนที่ว่าไม่ได้หมายถึงเนมอ้วน แต่เอาไว้เรียกแทนตัวเพราะแก้มเนมเยอะต่างหาก และอีกเหตุผลคือเป็นสรรพนามของคนเป็นแฟนกันที่ใครๆต่างก็มี
“เอมไอ้อ้วง”
คนที่ยังเคี้ยวขนมอยู่ชี้ให้ดูพุงที่แนบสนิทอยู่กับเสื้อสีขาวที่เปียกเพราะฝน เอกที่กะจะล้อน้องมองหน้าท้องขาวแล้วเบือนหน้าหนี
“สักวันก็จะอ้วน เพราะเนมกินเยอะแต่ไม่ออกกำลังกาย”
พี่ที่เป็นถึงนักบาสโรงเรียนชั้นม.5 บอก น้องที่กินขนมเสร็จแล้วดื่มน้ำตามก่อนจะนั่งทำหน้าหงิก เอกขำพร้อมกับรื้อเสื้อนักเรียนตัวเองในกระเป๋าให้น้อง
“หนาวไหมอ้วน”
พี่ถามเพราะเห็นน้องนั่งกอดเข่าตัวเองแล้ว เอกยื่นเสื้อตัวเองให้น้อง
“เปลี่ยนเสื้อเร็ว”
“แล้วพี่เอกล่ะ”
เนมถามพี่ที่สวมเสื้อบาสเก็ตบอลบางๆเพียงตัวเดียว
“พี่แข็งแรง”
เอกว่าพร้อมกับชี้กล้ามให้น้องดู เนมหัวเราะกับกล้ามแห้งๆของพี่มัน ถ้าเนมเล่นกีฬาคงจะบึกบึนกว่าพี่เอกอีก เพราะพี่เอกติดจะผอมถ้าเทียบกับส่วนสูง
“หนาวฉิบหาย”
น้องบ่นพร้อมกับค่อยๆดึงเสื้อนักเรียนของตัวเองที่เปียกชุ่มออกจากกางเกง เอกที่ตอนแรกไม่ได้สังเกตเริ่มมองคอขาวที่พ้นเนื้อผ้ามองมา มองตุ่มไตที่ชูชันทะลุเสื้อสีขาว มองลำตัวขาวโพลนอย่างย่ามใจ จนเมื่อน้องปลดกระดุมออกถึงได้หลบตาจากลำตัวขาวโพลนเพราะเขินเกินกว่าที่จะมอง แต่สายตากลับไล่มองที่ขาขาวเนียนไร้ขนแทน เนมใส่ถุงเท้าสั้น เลยเห็นข้อเท้าสวยรับกับขาที่มีกล้ามเนื้อแบบเด็กผู้ชาย ที่สำคัญคือน้องใส่กางเกงค่อนข้างสั้น กางเกงสีน้ำเงินสดที่ปกติสั้นอยู่แล้วพอเจ้าตัวนั่งชันเข่าถึงได้ร่นไปถึงขาอ่อนที่ขาวเนียนจนเผลอนึกไปว่าถ้าได้ลูบมันจะดีขนาดไหน
“พี่เอกเป็นอะไร”
คนเป็นน้องที่พึ่งติดกระดุมเสื้อตัวใหญ่หมดคุกเข่าโน้มตัวเข้ามาหาพี่ที่จู่ๆก็ยกขาขึ้นนั่งกอดขาตัวเองแล้วซุกหน้าลงกับเข่า เอกพยายามปรับลมหายใจตัวเองให้ช้าลงสวนทางกับหัวใจที่เต้นเร็วจนสูบฉีดเลือดไปทั่วทั้งตัว เขาตื่นตัวจนปวดหนึบไปหมด อาจจะเพราะเป็นเด็กหนุ่มที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่นทำให้ฮอร์โมนมันพุ่งพล่าน แต่กระนั้นก็ยกหัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองคนที่ขยับมาเสียใกล้จนได้กลิ่นโคโลญจ์ประจำตัว และเอกพึ่งรู้ว่าเขาตัดสินใจผิดเพราะเสื้อตัวใหญที่น้องสวมเมื่อเจ้าตัวก้มคอมันก็กว้างลึกมองไปถึงไหนต่อไหน
“ขยับไปนั่งดีๆอ้วน”
น้องหน้ามุ่ยพร้อมกับขยับตัวเองออกมานั่งขัดสมาธิเช่นเคย และก่อนที่จะบ่นอะไรก็เห็นว่ากางเกงบาสเก็ตบอลผ้ามันของพี่เอกที่เปียกแนบกับกับหน้าขาเรียวมีส่วนที่โป่งนูนออกมา เนมหันหน้าออกจากตัวพี่พร้อมกับแก้มที่แดงจัด
“จะตกอีกนานไหมเนี่ย”
คนเป็นน้องว่า ในขณะเดียวกันไฟตรงบันไดก็ดับพรึ่บพร้อมกับฟ้าที่แล่บขึ้นสว่างจ้า
“เอ้ย!”
คนเป็นน้องรีบโถมตัวเข้ามาหาพี่พร้อมกับเอาหมือปิดหูแล้วหลับตาปี๋
“อะไร กลัวเหรอหมู”
เอกว่าพร้อมกับหัวเราะเยาะ ยังพูดไม่ทันจะขาดคำฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงเสียงดังจนแสบแก้วหูไปหมด
“นั่นไง ว่าแล้ว”
เนมว่าพร้อมกับค่อยๆลืมตามองรอบข้างที่มืดลงกว่าเดิม เพราะไฟดับหมดแล้ว เสียงลมที่พัดตีกับต้นไม้ทำให้เนมขยับตัวเขาหาพี่มากขึ้น รู้ตัวอีกทีก็มุดตัวเข้าไปนั่งอยู่ตรงหว่างขาของอีกคน เนมเงยหน้ามองหน้าของอีกคนท่ามกลางความมืดสลัว พี่เอกก้มหน้าลงมาขโมยหอมแก้มใสฟอดใหญ่ เนมเบิกตากว้างเพราะตกใจก่อนจะหันตัวออกไปอีกทางแต่ใช้แผ่นหลังพิงหน้าอกอีกคนไว้
“ลมแรงเนอะ”
น้องที่เขินจนทำตัวไม่ถูกบ่นไปเรื่อย คนเป็นพี่สอดมือเข้ามาตรงเอวพร้อมกับดึงตัวน้องเข้าไปให้ชิดตัวจนไม่เหลือช่องว่างระหว่างคนทั้งคู่
“กอดหน่อยนะอ้วน”
เนมจับมือพี่ที่กอดตัวเองไว้พร้อมกับขานรับ
“อืม”
หลังของเนมที่แนบสนิทกับอกของพี่ทำให้เสื้อนักเรียนสีขาวที่แห้งสนิทเริ่มชื้นขึ้นเพราะเสื้อพี่เอกยังเปียกชุ่ม ที่สำคัญคือหัวใจของพี่เต้นเร็วจนรู้สึกได้
พวกเขาเจอกันครั้งแรกในห้องพยาบาลของโรงเรียนเมื่อสองเดือนที่แล้ว ตอนนั้นเนมข้อเท้าแพลงเพราะซนกระโดดลงบันไดแทนที่จะเดินเหมือนคนปกติ พี่เอกก็ขาพลิกเพราะวิ่งเตะขาเพื่อนในสนามบาส คนเดินไม่ได้ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงข้างๆกัน เนมนอนอ่านการ์ตูนพร้อมกับฟังเสียงเพลงของดังลอดผ่านวิทยุออกมา เนมได้ยินคนข้างๆฮึมฮัมถึงได้ทักทายไป เพราะเนมก็ชอบเพลงนั้นเหมือนกัน และก็พึ่
รู้ว่าพี่เองก็ชอบการ์ตูนเล่มที่เนมอ่านอยู่ หลังจากนั้นถึงได้แลกการ์ตูนกับเพลงกันมาเรื่อยๆ รักแรกที่สวยงามคงเป็นนิยามของคนทั้งคู่
“พี่เอก”
คนเด็กกว่าเรียกพี่ผู้มือเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข มือร้อนๆของพี่เอกลูบวนอยู่ที่หน้าท้องเนียนของน้อง ใบหน้าคมของเด็กหนุ่มซุกเข้าที่หลังคอของน้องก่อนจะกดจูบลงไปอย่าเผลอไผล
"พี่เอก"
เนมเรียกอีกรอบ
“ครับ?”
พี่ขานรับแต่ก็ยังไม่ย้ายปากกับมือไปไหน
“ของพี่”
คนเป็นน้องก้มหน้างุดลงกับอกตัวเองพร้อมกับจับมือปลาหมึกไว้แน่น ด้านหลังของเนมที่แนบสนิทไปกับทุกส่วนของพี่ทำให้รู้ว่ามีบางอย่างดันอยู่ตรงก้นกบของตัวเอง หน้าเนมร้อนไปหมดแต่ก็พยายามพูดเสียงนิ่งแต่กระนั้นก็เบาจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง
”ของพี่เอกโดนหลังเนม”
เอกที่เหมือนพึ่งได้สติขำแห้งก่อนจะดันตัวน้องออกพร้อมกับลุกขึ้นยืน คิดว่ายังไงก็ต้องเอาออก เพราะไม่อย่างนั้นน่าจะทรมาณไปอีกหลายชั่วโมง ดูจากฝนที่ดูท่าทางจะไม่หยุดตกเร็วๆนี้
“พี่ไปห้องน้ำแป้ป”
เขารีบออกเดินกะว่าจะขึ้นไปเข้าห้องน้ำชั้นสอง ที่น่าจะเปิดอยู่ก่อนที่มือข้างนึงจะถูกจับไว้ เอกหันไปมองคนแก้มแดงก่อนจะถาม
“อะไรอ้วน”
เนมก้มหน้างุดแต่ก็คว้ามือพี่ไว้ พยายามไม่มองตรงกางเกงของพี่ที่นูนเด่นแม้ตอนนี้จะมืดมากก็ตาม
“ไปด้วย”
เอกมองหน้าน้องก่อนจะแกล้งล้อ
“กลัวเหรอ”
น้องไม่ตอบแต่เดินตามมาจนถึงห้องน้ำของเด็กประถม พี่เอกลูบหัวน้องก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำให้เนมรอตรงอ่างล้างมือแต่เนมกลับไม่ฟัง ที่สุดแล้วก็มายืนอยู่ในห้องน้ำทั้งคู่ เอกล็อคลูกบิด ในตอนนี้มีแค่แสงสลัวๆที่ลอดมากับช่องระบายอากาศให้พอมองเห็น
“เนม”
คนเป็นพี่เรียกเสียงพร่าก่อนจะดึงอีกคนเข้ามากอด มือใหญ่สอดเข้าไปในเสื้อของตัวเองที่อยู่บนกายอีกคนแล้วลูบแผ่นหลังเนียนมือ
“อะ...อะไร”
คนเป็นน้องถามเสียงตะกุกตะกักแต่เลือกที่จะเบียดตัวเข้าหาพี่แทนที่จะดึงตัวออก
“รู้ไหมเข้ามาแล้วจะเจออะไร”
น้องก้มหน้างุดก่อนจะพยักหน้าเบาๆกับอกของอีกคน ถึงมองเห็นไม่ชัดแต่ก็รู้ว่าเนมคงกำลังหน้าแดงมาก
“เงยหน้าหน่อย พี่อยากจูบ”
พี่บอกพร้อมกับจับท้ายทอยน้องไว้เบา สิ่งที่ทิ้งไปตอนนี้คือการยับยั้งชั่งใจ ลืมไปสนิททั้งพายุข้างนอก ลืมไปแม้กระทั่งว่าตอนนี้อยู่ในห้องน้ำแคบๆมืดๆ เหลือไว้ก็แต่สัญชาติญาณเท่านั้น
“อื้อ พี่เอก”
เนมส่งเสียงเมื่อถูกสอดมือเข้าไปในกางเกงที่เปียกชุ่มของตัวเอง เอกถอนปากออกจากซอกคอของอีกคนแล้วบอกเสียงเบา
“ชู่ว เบานะครับ”
***
“เมื่อวานยังไง กูก็นึกว่ากลับไปแล้ว เห็นเดินออกมาจากตึกประถม”
เอกที่กำลังก้มวอร์มร่างกายอยู่ข้างสนามเงยหน้ามองเพื่อนสนิทก่อนจะตอบ
“ติดฝนไงสัด”
“ไอ้เหี้ยเอก มึงอย่าเนียน น้องเนมเสร็จมึงแล้วใช่ไหม”
เพื่อนเขาว่าพร้อมกับหัวเราะ อาจจะเพราะเป็นโรงเรียนชายล้วนความสัมพันธ์ของเอกกับเนมถึงไม่ใช่เรื่องใหม่
“เสร็จเหี้ยอะไร”
เอกตอบเพื่อนที่ดูท่าทางอยากจะแซวเต็มทน
“กูเห็นนะว่าน้องใส่เสื้อมึง”
เอกอมยิ้มก่อนลงสนามไปโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ
16 years ago“เนมมึงทิ้งกูไว้กับสมศรี ไอ้เหี้ย”
เนมที่กำลังนั่งกินขนมอยู่ในโรงอาหารแทบจะสำลักเพราะเพื่อนเดินมาตบหัวเข้า
“ไอ้ห่า กูเจ็บ”
เนมลูบหัวป้อยๆก่อนจะหัวเราะไปด้วย เพราะสัญญากับเพื่อนไว้ว่าจะทำข้อสอบชีวะให้ลอก เอาเข้าจริงๆดันหนีออกมาก่อนเพราะรีบมาหาพี่เอก ต๊ะมองหน้าคนขำอย่างเซ็งชีวิตก่อนจะหันไปมองรุ่นพี่ม.6 ที่นั่งหน้าโหดอยู่ใกล้ๆกัน
“โทษครับพี่”
เด็กม.4 รีบไหว้ขอโทษพี่เอกเพราะเผลอฟาดหัวแฟนเขาไปแรงทีเดียว ถ้าโดนกระทืบกลับก็คงจะไม่แปลกเท่าไหร่
“จริงๆกูทำไม่ได้อ่ะ เลยทิ้งดิ่งค.ควายแล้วออกมาแม่งเลย”
เนมบอกพร้อมกับขยับที่ให้เพื่อนนั่ง ต๊ะรื้อสมุดออกมาจากกระเป๋าจาคอปใบแบนแล้วกางลงบนโต๊ะไม้
“กูโน๊ตข้อสอบออกมาด้วย”
ต๊ะบอกพร้อมกับไล่อ่านลายมือหวัดของตัวเอง
“ได้ประโยชน์อะไรวะ คะแนนก็ไม่ได้เพิ่ม”
เนมบ่น แต่ถึงอย่างนั้นก็ก้มลงตั้งใจอ่านสิ่งที่เพื่อนจดมา
“เดี๋ยวพี่ไปซ้อมบาสนะ เนมติวกับเพื่อนไปก่อน”
เอกบอกพร้อมกับลุกขึ้นยืน เนมที่กำลังตั้งใจดูข้อสอบตอบโดยไม่เงยหน้ามองพี่มันด้วยซ้ำ
“ครับๆ สักห้าโมงเดี๋ยวขึ้นไปนะ”
เอกยิ้มพร้อมกับลูบหัวน้องเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ลืมมองหน้าเพื่อนสนิทน้องไว้ด้วย ถ้าพลั้งมือตบหัวเนมอีกคงต้องมีฟาดกลับบ้าง ต๊ะมองรุ่นพี่ตัวสูงที่เดินลับสายตาไปแล้วพร้อมกับลูบแขนตัวเองเบาๆเพราะกลัวจนขนลุก เขากับเนมเล่นกันแบบนี้เป็นประจำ แต่ไม่เคยพลั้งมือฟาดเพื่อนต่อหน้าพี่เอกแบบนี้
“กูเกือบโดนผัวมึงฆ่า”
เนมหัวเราะก่อนจะบอก
“กูจะฟ้องว่ามึงเรียกเขาว่าผัว คราวนี้พี่เอกจะได้ฆ่ามึงจริงๆ”
“ไอ้ห่า กูจะไม่ติวอังกฤษให้มึง”
เนมขำก่อนจะตอบ
“โทษๆ”
เนมกับต๊ะพึ่งมาสนิทกันตอนม.4 ที่สนิทกันเพราะเป็นเด็กเรียนดีทั้งคู่ แรกๆก็เหมือนเรียนแข่งกันแต่ช่วงหลังเริ่มสนิทกันก็เปลี่ยนเป็นมาติวให้กันแทน
“มึงมารอพี่เขาทุกวันเลยเหรอวะ”
ต๊ะถามเพื่อน เนมส่ายหัวก่อนจะตอบ
“ไม่ แล้วแต่วัน”
***
วันไหนที่เนมไม่มีเรียนพิเศษจะมาขลุกอยู่ที่บ้านของพี่สิทธ์เพื่อนสนิทของพี่เอกแทน บ้านพี่สิทธิ์เป็นตึกแถวเปิดให้เช่าห้อง และเอกก็ขอเช่าพี่สิทธิ์ไว้ห้องนึงเพราะแค่อยากอยู่กับน้อง เนมไม่เคยถามพี่ว่าทำแบบนี้ทำไม รู้แค่ว่าอยากอยู่พี่ แม้จะรู้ว่าที่แอบทำแบบนี้มันไม่ดี
“พี่เอกเตรียมตัวเอนท์ยัง”
เนมถามคนเป็นที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างกัน
“ยังเลยอ้วน ยุ่งแต่กับแข่งบาส”
คนเป็นพี่กอดเนมที่เปลือยทั้งตัวเข้าหาตัวเองแน่น
“เดี๋ยวก็สอบไม่ติด”
น้องบอกพร้อมกับหัวเราะ เอกมองคนยิ้มจนตาหยีแล้วเผลอยิ้มตาม
“เดี๋ยวจะโดนอีกรอบ”
น้องมันทำตาโตก่อนจะพูดเมื่อมือพี่เอกเริ่มเลี้อยมาที่ก้นของตัวเอง
“พี่เอกขาสั่นแล้วเหอะ”
น้องว่า คนพี่ทำตาโตบ้าง
“พี่ขาสั่นเพราะเหนื่อยจากบาส แต่อ้วนขาสั่นเพราะเสร็จ”
เนมอ้าปากเหวอทั้งหน้าแดง เพราะเถียงไม่ออก พี่ถึงได้เย้าอีกรอบพร้อมกับรอยยิ้มหวานเลี่ยน
“แตกไปกี่รอบ บอกสิอ้วน”
เนมก้มหน้างุด ตัวแดงๆของน้องทำเอาพี่มันก้มลงไปฟัดเพราะหมั่นเขี้ยว แต่ไม่ทันไรก็ผละออกเพราะน้องบอกให้พอ ไม่งั้นจะโกรธ ซึ่งเวลาเนมโกรธนี่น่ากลัวสุดๆ ง้อยากมากด้วย
“ประชุมผู้ปกครองพรุ่งนี้แม่จะมาไหม หรือจะเป็นคุณป้า”
พี่ถามพร้อมกับหยิบเสื้อที่ตกอยู่ปลายเตียงขึ้นมาสวมให้น้องพร้อมกับมองตัวขาวๆของเนมว่าตัวเองเผลอทำรอยไว้หรือเปล่า
“มาสิ พี่เอกจะได้เห็นว่าแม่เนมสวยมาก”
เจ้าตัวบอก
“แล้วพ่อพี่เอกมาไหม หรือจะไปจ้างพี่วินมอไซต์แถวบ้านมาอีก”
คนเป็นพี่ขำแทบสำลัก
“มาสิ เนมจะได้เห็นว่าพี่หล่อเหมือนใคร”
เนมกลอกตาไปมาท่าทางน่าฟัดอีกรอบ
“แหยะ”
“แหยะเหรอไอ้อ้วน”
เอกแกล้งดึงผ้าห่มที่คลุมท่อนล่างของน้องออก ทำเอาเนมโมโหหน้าแดงหูแดงไปหมด เอกยืนขำก่อนจะแต่งตัวให้อีกคนจนเรียบร้อยแล้วจับมือของอีกคนไว้แน่น
“จะสามทุ่มแล้ว เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
15 years agoได้เวลาหกโมงเย็นเนมรีบวิ่งมารับโทรศัพท์บ้านก่อนที่แม่จะได้บ่นว่าทำไมเพื่อนถึงโทรมาได้ทุกวี่ทุกวัน เป็นเพราะพี่เอกขึ้นปีหนึ่งแล้วถึงไม่ได้เจอกันทุกวันเหมือนเดิม ดีที่โทรศัพท์บ้านโทรครั้งละ 3 บาทถึงได้คุยกันบ่อยๆ
“อ้วน วันนี้ไปไหน”
เสียงจากอีกคนถามทันที่ที่รับสาย
“ไปกินข้าวกับแฟนแม่อ่ะ ตื่นเต้น พี่เอกไปไหน”
เนมบอกพร้อมกับส่องกระจกที่วางอยู่ข้างกัน หลังจากพ่อเสียตั้งแต่แม่ยังท้องจน 17 ปีเนมก็พึ่งเห็นแม่มีแฟน ท่าทางมีความสุขของแม่ทำเอาเนมมีความสุขตามไปด้วย เห็นว่าคุยกันมาจะปีแล้ว วันนี้ถึงฤกษ์ดีจะเปิดตัวสักที
“พี่เอกไปไหน ห้ามออกไปกินเหล้านะ”
เนมบ่นเพราะอาทิตย์ที่แล้วจับได้ว่าไปกินเหล้ากับรุ่นพี่ ช่วงนี้เนมงอนพี่เอกบ่อยเพราะพี่มีสังคมที่เยอะขึ้น ไปไหนมาไหนกับคนที่เนมไม่รู้จักอยู่บ่อย แล้วเนมก็พึ่งเริ่มกลัวว่าในที่สุดแล้วเราก็จะเลิกกันไปทั้งๆแบบนี้ วันนั้นไอ้ตัวเล็กงอแงจนเอกขำ
“อะไรอ้วน”
คนเป็นพี่หัวเราะคนคิดมากก่อนจะตอบ
“พี่นัดกินข้าวกับพ่อเหมือนกัน”
เอกบอกน้อง เอกสอบเข้าเรียนสาขาการกีฬาตามความฝันของตัวเอง และส่วนหนึ่งก็เพราะมหาวิทยาลัยที่เข้าอยู่ใกล้ๆกับบ้านเนม ถึงไม่ได้เจอกันทุกวันเหมือนเดิมก็ไม่ได้ไกลกันขนาดนั้น วันเสาร์อาทิตย์ก็พาน้องมานอนอ้วนอยู่ที่หอ สำหรับเอกแล้วพอก้าวเข้ารั้วมหาวิทยาลัย พอได้โตขึ้นอีกระดับเขาถึงพึ่งรู้ว่ารักของเขากับเนมไม่ไช่เรื่องที่ยอมรับได้เท่าไหร่ เขาที่ไม่เคยสนใจเรื่องเพศตอบคำถามเพื่อนแค่ว่าเนมเป็นน้อง เพราะไม่อยากให้ตัวเองหรือน้องเดือดร้อน แต่ถึงแบบนั้นก็ได้แต่วางแผนแบบเด็กๆอยู่เงียบๆว่าเรียนจบแล้วจะพาไอ้อ้วนไปอยู่ในที่ๆไม่มีใครรู้จัก
“งั้นเนมกลับถึงบ้านแล้วจะโทรมานะ”
เนมบอกหลังจากที่ได้ยินเสียงแม่เรียกจากหน้าบ้าน เอกยิ้มรับแม้น้องจะไม่เห็น
“ครับผม ถ้าพี่ถึงช้าฝากข้อความไว้นะ”
“ครับ”
เนมตอบพี่ ก่อนจะวางโทรศัพท์แล้ววิ่งออกไปหาแม่ที่แต่งตัวสวยแบบที่หาได้ยาก เนมล้อแม่จนแม่เขินแล้วโดนทุบไปหลายครั้ง โดยที่ไม่รู้เลยว่าการเป็นกินข้าวครั้งนี้จะทำให้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนไปตลอดการ
***
เนมนั่งมองพี่เอกที่บอกไว้ว่าวันนี้จะออกไปกินข้าวกับพ่อในภัตตาคารแห่งหนึ่งแถวย่านเมืองเก่า พี่เอกมองตรงมาแต่ไม่ทันไรก็หลบตาเมื่อคนเป็นพ่อเรียก
“พ่อยังไม่เคยบอก แต่นี่คุณฟ้า เจอกันตอนไปประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนเก่าเอก”
“อ่า ครับ”
เอกในวัย 19 ปี ตอบรับพร้อมกับไหว้ผู้หญิงสวยที่นั่งอยู่เยื้องกันอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะ”
ใครอีกคนยิ้มหวานพร้อมกับรับไหว้ด้วยท่าทางเรียบร้อย ก่อนจะแนะนำตัวเองกับเด็กหนุ่มข้างตัว
“น้าชื่อฟ้านะคะ ส่วนนี่น้องเนม เรียนโรงเรียนเดียวกับน้องเอก อยู่ม.5 แล้ว ไม่รู้เคยเจอกันหรือเปล่า”
“อ่อ ครับ”
เอกมองมือขาวของอีกคนที่กระพุ่มไหว้ตัวเองอย่างขัดเขิน เพราะมือนั้นแหละที่เขาชอบจับมาจูบ บรรยากาศวันนี้ดูอึดอัดมากกว่าที่จะผ่อนคลายหรือสบายๆแบบที่ทุกคนคิดไว้ เอกกับเนมยินดีที่พ่อกับแม่จะมีคนรักใหม่ ไม่ใช่เด็กที่จะงี่เง่าพอที่จะหวงพ่อกับแม่ไว้เพื่อแค่ความสุขของตัวเอง แต่ก็ไม่เคยฝันว่าจะมาเจอกันในตอนนี้
“น้องเนมไม่โอเคเหรอครับ”
คุณเอมพ่อของเอกถามพลางยิ้มแห้งเมื่อเห็นลูกชายของคุณฟ้าเงียบไปทั้งๆที่คุณฟ้าเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆว่าน้องเนมเป็นคนร่าเริง ขี้แกล้งแถมยังพูดมาก
“เปล่าครับ เนมงงๆ”
เนมตอบก่อนจะฝืนยิ้มให้ เพราะไม่อยากให้ใครไม่สบายใจ
“ทางนี้ก็พอกัน”
คุณเอมยิ้มพร้อมกับมองมาทางลูกชายที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา อาจจะเป็นความผิดของคนเป็นพ่อเองที่ไม่บอกก่อนว่าจะพาลูกมาเจออะไร แต่คุณเอมรู้ดีว่าเอกโตพอและเป็นคนมีเหตุผล
“เอกขึ้นปีหนึ่งแล้ว ยังไงรบกวนน้องเนมด้วยนะคะ ช่วงนี้ติดอ่านการ์ตูน ไม่รู้จะเอ็นท์ติดหรือเปล่า”
คุณฟ้าพยายามชวนอีกฝ่ายคุย เอกยิ้มน้อยๆก่อนจะตอบรับเสียงเบา อย่างที่คุณเอมเคยบอกว่าเอกค่อนข้างพูดน้อยแต่เป็นผู้ใหญ่เกินอายุ เนมที่ปกติกินทุกอย่างที่ขวางหน้ารู้สึกอาหารวันนี้ไม่อร่อยเอาเสียเลย และเท่าที่สังเกตุพี่เอกแทบจะไม่กินอะไรด้วยซ้ำ นัยย์ตาคมแต่หวานสวยของพี่มองมาทางเนมอยู่หลายครั้ง ถ้าเป็นปกติเนมคงวิ่งเข้าไปอ้อนแล้วแต่ตอนนี้ทำได้แค่มองแล้วตั้งใจกับอาหารตรงหน้าแม้จะไม่รู้รสก็ตามที
“ที่เรียกมาวันนี้คือเราคิดว่าจะแต่งงานกัน อยากให้ลูกๆมาเป็นพยาน มาเจอกัน”
คุณเอมโพล่งออกมาในตอนที่ทั้งโต๊ะเงียบ เอกมองใบหูแดงด้วยความเขินอายของพ่อที่เลี้ยงตัวเองมาคนเดียวอย่างดีตลอด 19 ปี ก่อนจะยิ้มให้แล้วถาม
“แต่งเมื่อไหร่ครับ”
“ปีหน้าจ้ะ”
คุณฟ้าตอบแทน เอกพยักหน้ารับก่อนจะสบตากับน้องแล้วยิ้มให้ แต่น้องกลับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
14 years ago“อ้วน ลุกเร็ว จะสามทุ่มแล้ว”
เอกจับไหล่เปลือยของอีกคนพร้อมกับเขย่าเบาๆก่อนที่ตัวเองจะลุกมาสวมเสื้อผ้า เพราะเดี๋ยวจะต้องไปส่งเนมก่อนที่แม่น้องจะกลับบ้าน
“ไม่กลับ บอกแม่ไว้แล้วว่านอนกับพี่เอก”
คนเป็นพี่เลิกคิ้วมอง หลังจากวันที่เจอกันพร้อมหน้านั้นเนมกับพี่ก็ยังทำตัวปกติ ยังไปมาหาสู่กันแบบเดิม มาเล่นที่หอของพี่เหมือนเดิม แต่ที่มากกว่านั้นคือเนมใช้สิทธิของคนที่จะเป็นครอบครัวเดียวกันในอนาคตบอกแม่ว่าจะให้พี่เอกติวข้อสอบให้เพื่อหาเรื่องเจอกันบ่อยกว่าเดิม แถมวันนี้ยังขอแม่ค้างกับพี่เอกหลังจากติวหนังสือ การรู้จักกันของพวกเขาเหมือนจะง่ายขึ้นแต่ไม่ใช่เลย คนทั้งคู่ต่างก็รู็ว่าพายุลูกเล็กๆกำลังก่อตัวขึ้น แต่เพราะอาจจะเป็นเด็ก ถึงได้วางเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไว้ แล้วทำในสิ่งที่อยากจะทำ
“งั้นก็ลุกมาอาบน้ำ นอนอืดเป็นหมู”
เอกบอกน้องที่แวะมาหาตั้งแต่เลิกเรียนตอนบ่ายสาม เอกปล่อยให้น้องทำการบ้านจนเสร็จก่อนจะลากน้องหมูแก้มนิ่มลงมาฟัดที่เตียง
“เนมไม่หมู”
เจ้าตัวว่าพร้อมกับบิดขี้เกียจ หน้าอกขาวๆที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาทำเอาคนเป็นพี่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ เอกที่ยืนมองน้องอยู่ตั้งแต่แรกยิ้มก่อนจะเอาตัวลงไปคร่อมอีกคนไว้อีกครั้ง
“ตรงไหนไม่หมู”
คนเป็นพี่พูดพร้อมกับดึงผ้าห่มออกใช้ทั้งสองมือบีบก้นกลมที่นุ่มนิ่มเหมือนแก้มของอีกคนก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางที่ยังลื่นอยู่จากการร่วมรักครั้งที่แล้ว พออีกคนเริ่มครางเสียงหวานถึงจับขาของน้องพาดบ่าดึงกางเกงตัวเองลงแล้วสอดสิ่งที่แข็งตัวขึ้นมาเข้าไปอีกครั้ง
“ขอเบิ้ลละกันนะอ้วน เป็นค่าหอพี่”
พี่เอกบอกคนที่มองตาเขียว ก่อนจะกระแทกตัวเข้าไปซ้ำๆเหมือนอยากจะเก็บทุกอย่างไว้ เพราะอีกแค่สองอาทิตย์ คนใต้ร่างกายก็จะกลายเป็นน้องชายที่ถูกต้องตามกฏหมายแล้ว พี่เอกยิ้มให้น้องอีกครั้ง คราวนี้น้องเอื้อมมือขึ้นมากอดคอพี่ไว้ พี่เอกก้มลงหอมแก้มน้องซ้ำๆอย่ากลัวว่าจะไม่ได้ทำอีก
***
งานแต่งงานของคุณเอมและคุณฟ้าผ่านไปได้ด้วยดีด้วยความยินดีของคนรอบตัว งานแต่งเล็กๆเชิญเฉพาะคนในครอบครัวและเพื่อนที่สนิทกัน วันนั้นพี่สิทธิ์เพื่อนสนิทของพี่เอกเดินเข้ามาทักทายเนมพร้อมกับตบไหล่น้องเบาๆ เนมยิ้มให้พี่เขาแบบรู้ความหมายก่อนที่ต่างคนจะต่างแยกย้ายกันเพื่อช่วยงาน
หลังจากงานแต่งเพียงไม่กี่วันก็ต้องย้ายเข้าบ้านหลังใหม่เป็นบ้านหลังใหญ่ที่คุณเอมตั้งใจซื้อเพื่อครอบครัว คุณเอมเลือกซื้อบ้านให้ใกล้กับโรงเรียนของน้องเนมและมหาวิทยาลัยของพี่เอกเพราะอยากให้เด็กๆอยู่บ้าน แม้ตัวเองจะต้องตื่นไปทำงานตั้งแต่ไก่โห่ ส่วนคุณฟ้าที่ทำงานเป็นเลขาในกระทรวงใหญ่ตั้งใจจะลาออกเพื่อออกมาทำงานที่บ้าน จะได้ตั้งใจดูแลทุกคนให้ดีแต่ถูกห้ามไว้ก่อนเพราะเนมอยากให้แม่ทำงานที่ชอบเหมือนเคย ในขณะที่คู่แต่งงานใหม่กำลังทำให้หลายๆอย่างในชีวิตง่ายสำหรับครอบครัวกลับกลายเป็นว่าทุกอย่างกลับยากขึ้นเรื่อยๆสำหรับคู่พี่น้องที่ยังปรับตัวไม่ได้กับสถานะนี้
“ให้ผมช่วยไหมครับ”
เอกถามน้าฟ้าที่กำลังปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ้าน น้าฟ้าเป็นผู้หญิงเก่งและหัวสมัยใหม่ถ้าเทียบกับผู้หญิงสมัยนี้ที่ส่วนมากเป็นแม่บ้าน เข้าใจว่าทำไมเนมถึงรักแม่มาก
“ขอบคุณค่ะน้องเอก ให้น้าเรียกว่าลูกได้ไหม”
คุณแม่ลูกหนึ่งถามเขินๆ เอกยิ้มก่อนจะตอบ
“ได้ครับ”
“เจ้าเนมเป็นไงบ้าง เห็นชอบไปกวนให้เอกติวให้บ่อยๆ”
“น้องหัวดีอยู่แล้วครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย แค่เฝ้าเนมอ่านหนังสือ”
พี่เอกตอบตามจริง บางทียังแอบคิดอยู่เลยว่าถ้าเด็กเรียนแบบเนมไม่ได้มาคบกับเอกหรือมีแฟน เนมคงกลายเป็นเด็กเนิร์ดไปแข่งโอลิมปิกโลกแล้ว เพราะเรียนเก่งจริงๆ
“หัวดีแต่ขี้เกียจ”
คุณแม่คนใหม่ของเอกว่าพร้อมกับหัวเราะ เอกหัวเราะตามเพราะบางทีเนมก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
“แล้วเอกเป็นไงบ้างลูก ได้ยินว่าเรียนกีฬา จบไปอยากทำอะไร”
“น่าจะเป็นครูครับ”
เอกตอบพร้อมกับยกต้นอ่อนของชมพู่วางลงในหลุมที่ขุดไว้แล้วแล้วมองบริเวณข้างบ้านที่กว้างเกือบไร่
“ปลูกสามวันยังไม่เสร็จเลยค่ะ”
คุณฟ้าว่า เพราะคุณเอมซื้อพื้นที่ไว้เยอะมากจริงๆ
“ได้ยินว่าพ่อของเอกซื้อบ้านไว้ให้หลานๆเลยนะ เผื่อเอกกับเนมมีภรรยามีลูก จะได้มีสวนกว้างๆไว้วิ่ง”
คุณแม่คนใหม่ยิ้มกว้าง เอกชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกลบดินลงบนหลุมต้นชมพู่ แล้วลุกขึ้นขุดดินใหม่อีกครั้งในบริเวณใกล้ๆกัน
“น้าอยากให้ช่วยดูน้องด้วยนะลูก เนมยังนิสัยเด็กอยู่เลย ทำอะไรไม่ค่อยคิดเท่าไหร่”
“ครับ”
พี่เอกรับคำ
“ผมจะดูแลให้ดี”
TBC.
_______________________________________
ไอดัง คุก คุก คุก