6.firewall นั้นคือกำแพงขวางใจเธอ
“คลิปบิ๊กไบค์ถูกตัดหน้า รอดมาได้เพราะชุดเซฟตี้”
วันนี้หน่วยข่าวไม่กรองอย่างพี่เอกก็ยังทำหน้าที่ตามเดิม มากไปกว่าเดิมก็ตรงที่ทุกคนในห้องให้ความสนใจกับข่าวและคลิปที่ว่า
“ไอ้พัชนี่”
พี่เดี่ยวว่าอย่างตกใจเมื่อเห็นคลิปจากกล้องหน้ารถจากโซเชียลเน็ตเวิร์คที่แชร์กันเป็นหมื่น
ในคลิปวิดีโอความยาวหนึ่งนาทีครึ่งนั้นเริ่มต้นจากมุมข้างหลังของบิ๊กไบค์คันใหญ่แต่มีพาซวยเป็นคนขับ ตอนแรกก็ขับมาดีๆด้วยความเร็วต่ำเพราะรถบนถนนค่อนข้างเยอะก่อนจะจอดติดไฟแดงที่สี่แยกใหญ่ไม่ถึงนาทีเมื่อไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวทุกคนก็เร่งเครื่องเตรียมทะยานและระหว่างกำลังจะข้ามแยกนั้นก็มีพี่วินมอเตอร์ไซค์แทรกมาจากไหนไม่รู้ เบียดปาดพาซวยที่ซวยสมชื่อของพี่ๆไปทำให้ต้องหักหลบ ผลก็คือพาโชคล้มแฉลบม้วนหน้าสองรอบไปที่ถนนฝั่งตรงข้าม ดีที่ไม่มีรถสวน แต่นั่นก็น่าจะทำให้รถที่ติดอยู่แล้วติดไปอีกเป็นชั่วโมง
“ดีนะที่ไอ้ซวยแม่งไม่เป็นอะไรมาก”
“ถ้าซวยแม่งไม่ใส่ชุดหนังสองแสนของมันนี่กูว่าปางตาย”
“เออ ถ้าไม่ไปหามันมากูไม่เชื่อเลยว่ามันแค่กระดูกร้าว”
พี่เอกกับพี่เดี่ยววิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานาๆและทั้งหมดอยู่ในสายตาพี่ยักษ์
“เลิกเรียกว่าไอ้ซวยเถอะ พัชมันก็มีชื่อ”
สงสัยลูกพี่จะผีเข้า พี่เอกกับพี่เดี่ยวมองหน้าพี่ยูที่เคยเป็นแกนนำเรียกพาโชคว่าพาซวยอย่างไม่เข้าใจแกสักเท่าไหร่
“ต้องเรียกว่าอะไรดีคะพี่ยู”
น้องเจนที่ฟังมานานถามหัวหน้าที่พักนี้รู้สึกจะเยอะเป็นพิเศษ
“ที่รักมั้งเจน”
หัวหน้าตอบด้วยความรำคาญแต่เจนคิดจริง
“แล้วน้องพักฟื้นแบบนี้บริษัทจ่ายยังไงคะ”
เจนที่กำลังยุ่งอยู่กับการรีทัชแขนคนออกจากรูปวิวทะเลถามลูกพี่
“70%”
เจนพยักหน้ารับ สิ่งนึงที่บริษัทนี้เหนือกว่าหลายๆบริษัทเห็นจะเป็นเรื่องสวัสดิการถือว่าใช้ได้ มีประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันการตาย มีวันพักร้อนให้เกือบ 60 วัน มีโบนัสทุกหกเดือน ยังดีกว่าหลายบริษัทที่มีประกันสังคมทำฟันได้ปีละไม่กี่ร้อย เจนอยากจะบอกว่าถอนฟันทีก็ปาไปสองพันห้าแล้ว
“เจน adobe* เครื่องเจนเวอร์ชันอะไร”
“เป็น cc พี่บอล”
“เครื่องไอ้พัชล่ะ”
“เดี๋ยวกูดูให้”
หัวหน้าที่เดินผ่านมาพอดีอาสาเปิดเครื่องไอ้พาโชคให้ก่อนจะนั่งลงเคาะแป้นทำอะไรสักอย่าง
“cs6”
“ผมไปประชุมกับดีไซน์เนอร์ชั้น 12 มาเขาคุยกันว่าจะเปลี่ยนไปใช้ cc ให้หมดแล้วพี่”
“ต่างกันยังไงวะ”
พี่เอกที่ปกติใช้ photoshop เพื่อตัดรูปเล็กๆน้อยๆ ไอ้เครื่องมือล้านแปดนั่นอย่าหวังว่าพี่แกจะใช้เป็น รู้สึกไม่เข้าใจกับที่พี่บอลพูด
“ปกติ adobe มันขาย software ขาดเป็นเวอร์ชัน cs1 2 3 อะไรของมัน พอขายขาดแล้วเวลาลูกค้าเจอบัคมันก็แก้ยากที่สำคัญคือไอ้พวกลูกค้านี่ตัวดี ซื้อคนเดียวแต่แผ่นก็อปเป็นล้าน เขาก็เลยออกตัวใหม่มาคือ creative cloud อารมณ์แบบเช่าออนไลน์พี่ จ่ายต่อเดือนต่อเครื่องแต่ได้ใช้รุ่นใหม่ตลอด แก้บัคให้ตลอด ราคาเช่าก็ไม่แพง”
“อ่อ”
พี่เอกขานรับ แต่ก่อนที่จะมีใครได้ถามอะไรต่อหัวหน้าก็เรียกร้องความสนใจจากน้องๆด้วยการเปิดประเด็นใหม่
“พัชแม่งล็อกอินเฟสบุ๊คค้างไว้ว่ะ”
และแล้วความสนุกก็เริ่มขึ้น...
‘ผมชอบจูบ ผมชอบจับ ผมหื่นครับ’
‘ระหว่างนมผู้หญิงกับนมผู้ชายผมชอบนมวัวครับ’
‘ทำยังไงถ้ารักหัวหน้าตัวเอง ปล.หัวหน้าผมเป็นผู้ชายครับ’
‘อยากเปลี่ยนชื่อเป็นไอ จะได้พูดได้ว่า อะ...ไอเลิฟยู’
ไม่ต้องบอกว่าสองสเตตัสหลังนั่นมาจากเจน
‘ผมคนจริงครับโพสแล้วไม่ลบ ถ้าลบผมขอแช่งให้ตัวเองเป็นสังคัง’
“จังไรเหี้ยๆ”
พี่เอกพูดขึ้นก่อนจะนั่งขำกันจะเป็นจะตายอย่างกับเด็กวัยสิบขวบที่กำลังรุมแกล้งเพื่อน พาซวยจามอยู่สองสามครั้งก่อนจะเหลือบมองมือถือที่สั่นเป็นเจ้าเข้า ทั้งรู้สึกประหลาดใจกับการแจ้งเตือนเฟสบุ๊คที่ถี่เหลือเกินทั้งๆที่ปกติเอาไว้ตามข่าว ไม่ก็ตามเพจที่ตัวเองชอบไม่เคยโพสอะไรให้เพื่อนมาคอมเมนต์ขนาดนี้เลย
“เฮ้ยยยยยย พี่แม่งเล่นกูแล้ว”
พาโชคบ่นก่อนจะส่งสติกเกอร์หมาหงอยเข้าไปในกลุ่มไลน์ของที่ทำงานซึ่งดูเงียบเหงามาตั้งแต่เมื่อเช้า จะบอกว่าไลน์กรุ๊ปนี้ไม่ได้เอาไว้ทำงานเหมือนของคนอื่นแต่เอาไว้ลงอะไรไร้สาระอย่างเช่นของกินที่ไหนอร่อยกับโปรตั๋วเครื่องบินถูกต่างหาก รอไม่นานนักหัวหน้าก็ส่งข้อความกลับมา
‘อย่ามาส่งสติกเกอร์เล่นพาโชค นี่เวลาทำงานของพวกพี่’
พัชกรอกตาอย่างเซ็งจิต มันปล่อยให้ทามไลน์ของตัวเองบันเทิงต่อไปโดยไม่ได้ไปแตะต้องหรือแก้ตัวใดๆ ปล่อยให้เขาสนุกกันให้พอ เดี๋ยวคงสงบกันเอง
นี่เป็นอีกตัวอย่างของพวกไม่มีจิตสำนึกในสังคมทั้งเป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด พาโชคถอนหายใจพร้อมกับขำพวกพี่ๆ ก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์ทำโปรเจคแอปพลิเคชั่นรวมรูปแมวที่ทำไว้เล่นๆเมื่อปีที่แล้วขึ้นมาทำต่อ งานอดิเรกของคนทั่วไปหลังจากการทำงานอาจจะเป็นการท่องเที่ยว ดื่ม สังสรรค์แต่งานอดิเรกของดีเวลลอปเปอร์ร้อยละ 99.99 คือการมีโปรเจคอะไรสักอย่างเป็นของตัวเองแล้วใช้เวลาอยู่หน้าจอแบบเดิม แม่พาโชคเคยเรียกว่าไม่ใช่งานอดิเรกแต่เป็นพวกหมกมุ่นและไม่มีสังคม
“You have a new email”
พาโชคอ่านออกเสียงพร้อมกับกดเข้าไปยังกล่องอีเมลของตัวเอง เพราะอยู่กับเทคโนโลยีมันถึงรู้มากกว่าคนอื่นว่าอันไหนคืออีเมลขยะ อันไหนเป็นอีเมลโฆษณาชวนเชื่อ อันไหนเป็นอีเมลอัตโนมัติหรืออันไหนส่งจากคนจริงๆ อาทิตย์ที่ผ่านมาพัชได้รับคลิปแปลกๆจากอีเมลที่ไม่รู้จักอยู่วันละหลายครั้ง ที่บอกว่าแปลกก็เพราะมันส่งเข้ามาในอีเมลบริษัทไม่ใช่อีเมลส่วนตัวแต่อย่างใด
“กูไปเผลอสมัครเว็บโป๊ที่ไหนจริงๆป่ะวะ”
พัชบ่นกับตัวเองก่อนจะลบอีเมลนั้นทิ้ง พร้อมกับอยากรู้ว่าอีเมลต้นทางที่ส่งมานั้นมาจากไหน วิธีการหาต้นทางนั้นก็แค่ค้นหา ip address ของเครื่องต้นทางซึ่งวิธีก็มีดาษดื่นตามอินเตอร์เน็ตขึ้นอยู่กับว่าใช้อีเมลของอะไร หรือใช้คอมพิวเตอร์ปฏิบัติการอะไร ซึ่งไม่ยากเท่าไหร่ถ้าเทียบกับการใช้มือซ้ายบังคับเมาส์ให้ตรงทางของพาโชคที่พอจะเข้าใจหมออยู่บ้างว่าทำไมไม่ให้ใช้มือขวาที่แขนร้าวทำงาน เพราะเคยรั้นเล่นเกมส์อยู่สองชั่วโมงปรากฏว่าคืนนั้นปวดกระดูกจนแทบอยากจะตัดแขนทิ้ง
“Singapore”
พาโชคโพล่งเมื่อเห็นผลลัพธ์ของสิ่งที่ตัวเองได้มา พัชผู้มีความรู้ทางเทคโนโลยีแต่ไม่ได้เก่งกาจเรื่อง hacking อะไรแต่อย่างใดกุมขมับ เพราะส่วนมาก internet provider(ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต) ของไทยกับมีต้นทางอยู่ที่สิงคโปร์อยู่แล้ว จะเป็นแบบนั้นก็ไม่แปลก
“เรื่องแบบนี้ต้องถามลูกพี่”
พอพูดถึงลูกพี่ก็นึกขึ้นมาได้อีกว่าทำไมแต่ละคลิปที่ในอีเมลตั้งใจส่งมาผู้ชายในนั้นถึงได้รูปร่างหน้าตาคล้ายกับพี่ยูนัก
‘วันนี้อยากกินอะไร’
ก่อนที่พาโชคจะดำดิ่งไปสู่ความมืดดำของโลก hacker ที่เอาจริงๆแล้วไม่ได้มีความสามารถด้านนั้นเลย พี่ธามก็ทักมาในแชท และถ้าพี่ธามถามแบบนี้ต้องจัดให้หนัก
‘ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ข้าวมันไก่ปากซอย น้ำเต้าหู้และขนมปังสังขยา’
พัชพิมพ์ไปก็หิวไป ไม่ทันไรคนที่ถามก็ส่งสติกเกอร์แมวหงอยมาให้อย่างไม่เหมาะกับความกวนตีนของเจ้าตัวแต่อย่างใด
‘ถ้าจะขนาดนั้นมาซื้อเองไหมพัช’
พาโชคขำให้กับการประชดประชันของพี่ธามก่อนจะปิดอีเมลลงและหันไปสนใจกับแอปพลิเคชันแมวเหมียวต่อ ทำไปเกือบสองชั่วโมงในระหว่างที่กำลังมีสมาธิกับการคิดอัลกอลิทึมการให้อาหารแมวก็มีใครบางคนมายืนซ้อนอยู่ข้างหลัง
“ทำอะไรพัช”
“เอ้ยย”
พาโชคตกใจจนเกือบจะปาเมาส์ทิ้งเมื่อคนที่อยู่ข้างหลังก้มลงมากระซิบใส่หู
“พี่ยู อะไรของพี่วะ”
“สายตาสั้นแขนเจ๊งแล้วยังไม่เจียมอีก”
คนเป็นลูกพี่บอกพลางขยับคอมพิวเตอร์พกพาออกไปให้ไกลจากคนที่นั่งจ้องจอแบบไม่สวมแว่นอยู่ แขนขวาที่เข้าเฝือกอยู่ของไอ้พัชทำให้มันไม่กล้าบ่นอะไรลูกพี่มาก
“ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ข้าวมันไก่ปากซอย น้ำเต้าหู้และขนมปังสังขยา ครบนะพัช”
มันเหล่ตามองลูกพี่ที่วันนี้มาแปลก
“ไอ้ธามมันมาไม่ได้ ติดประชุมด่วนเลยฝากพี่มา”
พาโชคพยักหน้ารับพร้อมกับรีบเบือนหน้าหนีเมื่ออีกคนโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกโด่งนั้นเกือนจะทิ่มหน้ามัน
“อะไร พอไม่เมาแล้วกลัวเหรอ”
เขาเย้าเพราะรู้ว่าถ้าพัชเมาแล้วยื่นหน้าเข้าไปหาแล้วละก็ไม่หันหน้าหนีหรอก ดีไม่ดีเดี๋ยวน้องมันโน้มคอลงไปจูบเอง
“ผมเปล่า”
พี่ยูมองคนปฏิเสธที่เสหลบตาไปด้วย
“งานยุ่งไหมพี่”
คนโตกว่ามองน้องที่กำลังพยายามถือข้าวของที่เขาซื้อมาให้ด้วยมือข้างเดียวด้วยความทุลักทุเล เขาเดินเข้าไปช่วยพร้อมกับเดินนำเข้าไปในครัว
“เรื่อยๆ งานส่วนของพัชก็กระจายให้ outsource ไป แต่โค้ดมันก็กลับมาเละพอตัว”
พาโชคเบ้หน้า
“อย่าบอกนะว่าผมต้องกลับไปแก้”
“อืม”
ว่าด้วยเรื่องแก้โค้ดของคนอื่นเป็นที่รู้กันดีในหมู่ดีเวลลอปเปอร์อยู่แล้วว่าถ้าจะให้ไปไล่โค้ดคนอื่นสู้เอามาเขียนใหม่ยังง่ายกว่า เพราะฉะนั้นพี่ยูถึงย้ำนักย้ำหนากับโครงสร้างการเขียนโค้ดที่ต้องยึดถือตามระบบ โดยเฉพาะคนที่ทำงานโปรเจคเดียวกันแล้วละก็ทุกอย่างต้องไปในแนวทางเดียวกัน ทุกคนต้องสามารถอ่านโค้ดของกันและกันรู้เรื่อง เน้นแยกย่อยการทำงานให้ชัดเจน สะอาดเป็นระเบียบแต่ทำงานไร้บัค และเรื่องสำคัญที่สุดคือนำกลับมาแก้ไขได้ง่ายและสามารถ re-use ได้อย่างกับขยะพลาสติคเลยทีเดียว
“เห็นธามบอกชอบกินข้าวมันไก่”
ลูกพี่เทข้าวมันไก่ใส่ในจานให้ลูกน้องที่กำลังยืนกินขนมปังสังขยาอยู่
“ผมก็ชอบทุกอย่างแหละ”
มันว่าพร้อมกับเคี้ยวหงุบหงับ
“ชอบพี่ด้วยไหม”
ไอ้พัชกลืนขนมปังนุ่มนิ่มลงไปในคออย่างยากลำบาก
“พี่กินเสร็จแล้วก็กลับไป”
ศศินหัวเราะเพราะเขายังไม่ได้กินอะไรเลยก็ถูกไล่กลับเสียแล้ว พอเห็นหน้าแดงๆแต่เจ้าตัวขมวดคิ้วแน่นขนาดนั้นเขาจึงไม่ได้แหย่ต่อเพราะกลัวจะถูกเอาเฝือกทุบหัวเอา วันนี้พวกเขานั่งกินข้าวกันไปดูซีรียส์สืบสวนสอบสวนในทีวีไปด้วย
จริงอยู่ว่าพี่ยูเองค่อนข้างเจ้าชู้แต่เขาก็มีกฏให้ตัวเองเหมือนกันว่าห้ามยุ่งกับคนใกล้ เขากล้าพูดได้เต็มปากว่าเรื่องระหว่างเขากับพัชเป็นแค่อุบัติเหตุแต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้พยายามทำให้มันเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก บางทีอาจจะเป็นเรื่องของเซกส์ที่เข้ากันดีก็ได้ ในระหว่างที่เขากำลังสับสน เขาก็กำลังสงสัยว่าพัชกำลังคิดอะไรอยู่เช่นกัน
“วันนี้เหนื่อย ขอนอนนี่ได้ไหม”
พี่ยูถามหลังจากกินข้าวเสร็จแทบจะทันที
“ไม่”
และอีกคนก็ตอบทันทีเช่นเดียวกัน
“พี่เหนื่อยไม่ได้นอนมาคืนนึงแล้ว”
คนเป็นพี่บอกด้วยท่าทางจริงจังซึ่งพาโชคก็สังเกตมาตั้งแต่ที่เขามาถึงแล้วว่าลูกพี่ดูเหนื่อยกว่าปกติ
“ไหนบอกงานไม่ยุ่ง”
คนป่วยว่าพลางเดินเก็บโต๊ะที่เต็มไปด้วยจานใช้แล้วกับขยะ
“ยุ่งเรื่องอื่น”
ลูกพี่ว่าพลางบิดขี้เกียจ คนเจ็บที่บัดนี้กลับมาแข็งแรงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วยกเว้นถอดเฝือกที่แขนหันมองคนที่เดินไปนั่งตรงโซฟาพร้อมกับบอก
“นอนโซฟา”
“ไม่เอา ปวดหลังจะตาย ใช่ว่าเราไม่เคยนอนด้วยกัน”
แม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เรื่องแบบนี้บางทีก็ไม่ใช่เรื่องที่เอามาพูดได้โดยไม่เขิน พาโชคเลี่ยงที่จะต่อล้อต่อเถียง มันเดินมานั่งที่โซฟาตัวเดียวกันกับลูกพี่และกดเปลี่ยนจอทีวีเป็นโหมดเล่นเกมส์แทนทั้งๆที่มีแขนเดียว
“พี่เหนื่อยจริงๆนะพัช”
คนที่บอกว่าพลางทอดตัวลงนอนบนตักของน้อง พาโชคที่ทำอะไรไม่ถูกมองข้ามกิริยาแบบนั้นไปและเริ่มถามสิ่งที่ตัวเองอยากจะรู้มาสักพักแล้ว
“ผมถามได้ไหม”
เขาหลับตาคล้ายกับอนุญาต
“คลิปที่ผมเห็นพี่เป็นคนถ่ายเองใช่ไหม คนในคลิปเขาเรียกชื่อพี่”
ศศินไม่ตอบ...
พาโชคมองรอยยิ้มที่มุมปากของคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนตัก จำได้ว่าตอนที่เจอลูกพี่ครั้งแรกในวันสัมภาษณ์งานมันอดไม่ได้ที่จะอิจฉารูปร่างหน้าตาของเขา โดยเฉพาะช่วงคิ้วและตาเรียวที่เห็นจะเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นที่สุดของพี่ยู
“ก้มลงมาจะบอก”
เจ้าของบ้านขมวดคิ้วแน่นก่อนจะก้มลงไปเงี่ยหูฟังแต่เปล่าเลยพี่ยูลืมตายิ้มกว้างก่อนจะยกหัวขึ้นมาจุ๊บปากอีกคนเบาๆแล้วนอนลงไปตามเดิม
“พูดมากนะพาโชค”
แขกของบ้านว่าก่อนจะหลับตาลงเช่นเดิม
“พี่ของีบครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวกลับ ปลุกด้วยนะครับ”
พัชถอนหายใจยาวเพราะดูก็รู้ว่าเขาไม่อยากให้รู้ และเกลียดตัวเองที่นั่งนิ่งหน้าแดงอยู่แบบนั้น
***
“อาจารย์ที่ม.พี่ชวนไปบรรยายเรื่องการใช้เทคโนโลยีให้ถูกวิธี พัชสนไหม”
เย็นวันนี้พี่ธามหิ้วบะหมี่ต้มยำมาให้ถึงที่บ้านพร้อมกับถามคำถามที่คิดว่าจะถามมาสักพักแล้วแต่ลืม
“ใช้ยังไงให้ผิดนี่ง่ายกว่าพี่”
ลูกพี่ฝั่งเทสเตอร์ขำ
“พูดหมือนพวกห้องเดฟ”
พาโชคเลิกคิ้วมองพี่ธาม เพราะรู้ดีว่าคนในห้องนั้นนิสัยเป็นยังไง
“ผมไม่ชอบการไปพูดต่อหน้าคนเยอะๆว่ะ”
มันแบ่งรับแบ่งสู้
“พี่จ้างเป็นบุฟเฟต์ชาบูน้ำดำ”
“ชาบูสามรอบถ้วน”
พัชรี่ตามองพร้อมกับต่อรอง
“ครับๆ ได้ครับ”
และเมื่อได้คำตอบแล้วก็ยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจจนอีกคนเผลอยิ้มตาม
“เนื้อหานี่ยังไงดีพี่ธาม มันกว้างนะ”
“พี่อยากเล่นเรื่อง social network”
“อือ เดี๋ยวงั้นผมรีเสิร์ชดู”
เอาจริงๆแม้จะดูเป็นหัวข้อดาษดื่นแต่สำหรับพาโชคการไปเล่าเรื่องน่าเบื่อและรู้อยู่แล้วให้คนหมู่มากฟังนั้นยากพอสมควร ต้องคิดว่าจะทำยังไงให้เขาสนใจ
“เดี๋ยวพี่ช่วยหาข้อมูล”
คนที่กำลังคิดอะไรเยอะแยะในหัวพยักหน้า
“ใส่สูทแต่งตัวหล่อด้วยนะพัช”
มันเบ้หน้า
“ผมล่ะเกลียดจริงๆ”
ธามหัวเราะทั้งๆที่ตัวเขาเองเห็นว่าพัชมันใส่สูทแล้วออกจะดูดี
“เออ เมื่อวานไอ้ยูเอาข้าวมาส่งถึงมือไหม”
คนเป็นพี่เปลี่ยนเรื่องพร้อมกับหยิบจอยเกมส์ขึ้นมาอย่างถือวิสาสะ
“มานั่งกินด้วยพี่ นอนอีกต่างหาก”
คนตอบว่าไปตามความจริงส่วนแขกนั่นขมวดคิ้วยุ่งทั้งนั่งนิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่นาน
“พัช รู้ใช่ไหมว่ายูมันมีเรื่องผู้หญิงเยอะ”
“ครับ?”
พาโชคตกใจกับคำถามกึ่งบอกเล่า
“อย่าไปถือสามันนะ”
พาโชคไม่เข้าใจว่าคนที่มองจอเพื่อเลือกเกมส์ถึงได้พูดถึงเรื่องของเพื่อนตัวเอง
“อ่า...ครับ”
เรื่องผู้หญิงกับพี่ยูเป็นข่าวลือตั้งแต่พัชมันเข้ามาทำงานใหม่ๆ แรกๆมันก็ไม่เชื่อหรอกจนกระทั่งเกิดกับตัวเอง
“มันเจ้าชู้โดยสันดาน”
พัชไม่รู้ว่าที่พูดหมายความว่ายังไง แต่ก็นั่งฟังต่อไป
“พี่ไม่อยากให้คนมองมันไม่ดี เพราะยังไงเรื่องส่วนตัวของมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน มันทำงานดีพัชก็น่าจะรู้”
อันนี้พัชรู้แต่ที่พี่ธามไม่รู้น่าจะเป็นความสัมพันธ์พิลึกกึกกือของมันกับลูกพี่ต่างหาก
“ที่พี่พูดคือกลับไปม.คราวนี้ พี่จะชี้ให้ดูว่าใครเคยกิ๊กไอ้ยูบ้าง ที่กลับมารวมโปรเจคศิษย์เก่านี่ล่อไปเกินครึ่ง”
พัชหัวเราะก่อนจะว่าพี่ธาม
“เผาเพื่อนนี่หว่า”
“กันท่าไว้ไง”
ธามหัวเราะบ้าง ซึ่งพาโชคก็หัวเราะตามไปกับเขาด้วยทั้งๆที่รู้สึกแปลกๆกับประโยคข้างต้นอยู่หน่อย พัชเริ่มรู้สึกแปลกๆกับทั้งพี่ธามและหัวหน้า เพราะช่วงนี้สองคนนี้แวะเข้ามาหาที่บ้านมันเกือบทุกวัน จะบอกว่าเพราะพาโชคป่วยอย่างเดียวก็คงไม่ใช่
“ไปฟิตเนสไหมพัช”
“อะไรของพี่ธามวะเนี่ย”
มันว่าไปด้วยหัวเราะไปด้วยเพราะไอ้คนที่มาเกาะที่บ้านชวนคุยนั่นนี่ไปเรื่อยแถมยังเปลี่ยนหัวข้อไม่บอกกันอีก
“เขาบอกถ้าชวนคนได้เขาจะลดค่าสมาชิกให้พี่ครึ่งปี”
“แล้วผมจ่ายเต็ม?”
พัชกรอกตาให้กับฟิตเนสที่ขยันออกโปรโมชั่นล่อลวงคนเหลือเกิน
“เอางี้ พี่มีข้อเสนอพัชไปฟิตเนสกับพี่ พัชออกเงินเองครึ่งปีแล้วพี่จะช่วยออกอีกครึ่งปีนะ”
“แล้วพี่จะได้กำไรตรงไหน”
พี่ธามที่โง่คำนวนอยู่หน่อย ทำหน้าแบบเออว่ะก่อนจะบอกออกมาต่อ
“ไม่เป็นไร พี่หาเพื่อนเล่น”
พัชขำเสียงดังก่อนจะตอบรับง่ายๆ
“ไปก็ได้ แต่รอให้แขนหายสนิทก่อนนะ”
“เย้”
พัชยิ้มให้กับอากัปกิริยาแบบเด็กๆของพี่ธาม ทั้งๆที่มีคำถามในหัวว่าทำไมเขาต้องแวะมาเกือบทุกวัน ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันหยุดแต่ก็ไม่ได้ถาม
***
“พี่ยู enable firewall* ให้ผมหน่อย ผม remote* ไม่ได้”
ใช่ว่าพาโชคที่แขนเดี้ยงจะได้อยู่บ้านเฉยๆไปวันๆเมื่ออยู่ดีๆลูกค้าอยากได้ source file ที่พาโชคทำไว้แต่ไม่มีใครหาเจอเพราะพาโชคนั้นเก็บไฟล์ทุกอย่างด้วยการตั้งชื่อ folder ระดับเทพ เช่น abc เป็นต้น และเรื่องนี้เองเป็นเรื่องที่ถูกด่าเป็นประจำ พอไม่มีใครหาเจอและเจ้าตัวก็จำไม่ได้เลยต้อง remote เข้าเครื่องที่ทำงานแล้วนั่งหาเอง
“นี่ผมเก็บไว้ไหนวะ”
เขาว่ากันว่าพวกทำงานหน้าจอมักจะมีสกิลการพูดคนเดียวติดตัวแทบจะทุกคน
“อื้อหือ ต้องหาเวลาจัดระเบียบเครื่องแล้ว”
พัชบ่น
“พี่รู้แล้วว่าทำไมเครื่องพัชช้า”
และคนที่อยู่ในสายก็บ่นเหมือนกัน
“แล้วอันเดิมที่ให้ลูกค้าไปมันใช้ไม่ได้เหรอครับ”
“ก็พัชลืมเอา hidden file* โคลนลงไปในโปรเจคไง”
หัวหน้าว่าเสียงเหนื่อย
“อ้าว ฉิบหาย ผมลง OS ใหม่เลยลืมตั้งค่า”
“ตลอดเลยพัช”
“ทำไมพี่ยูไม่ด่าผมวะ อย่างน้อยจะได้รู้สึกผิดน้อยลงบ้าง”
พาโชคพูดพร้อมกับขำ ทั้งๆที่แต่ก่อนคงด่าแบบ เพราะมึงไม่รอบคอบไงไอ้ซวย พัชได้ยินเสียงถอนหายใจมากจากปลายสาย
“ถ้าพี่ว่าพัชเดี๋ยวพี่ก็รู้สึกผิด”
ทำไมแต่ก่อนไม่เห็นจะรู้สึกผิดวะ พาโชคยิ้มให้กับการบ่นของลูกพี่
“พี่ยูฝากปิด firewall ให้ผมหน่อยนะครับ”
มันบอกเมื่อก็อปปี้ไฟล์ต้นฉบับและตั้งค่าเครื่องได้แล้ว ลูกพี่ครางอือออรับด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ก่อนจะรีบวางสายไป
“firewall เหรอ? เดี๋ยวพี่เปิดให้ แค่นี้ก่อนนะพัช”
บางทีหัวหน้าคงกำลังคิดออก ว่าทำไมพาโชคถึงได้อีเมล์คลิปแปลกๆทุกวันผ่านทางอีเมล์บริษัท
firewall - ระบบรักษาความปลอดภัยของเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ให้ถูกโจมตีจากผู้ไม่หวังดีหรือการสื่อสารที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ในปัจจุบัน Firewall มีทั้งอุปกรณ์ที่เป็น Hardware และ Software
remote - การเข้าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องจากอีกเครื่อง
clone - การก้อปปี้โค้ดทั้งชุดจาก server ลงมาที่ local
adobe - ชื่อของบริษัท software e.g. photoshop, dreamweaver