3.คนใส่แว่นเป็นคนหื่น
“ผลวิจัยบอกว่า 84% ของคนใส่แว่นเป็นคนหื่น”
พาโชคหันไปมองพี่เอกที่สร้างบทสนทนาขึ้นมาในยามเช้าทั้งๆที่พี่แกก็สวมแว่นเหมือนกัน
“บ้า กูออกจะใสๆ”
อย่าเรียกว่าใสเลย เรียกว่าปรมาจารย์น่าจะดีกว่า เว็บไหนดีเว็บไหนดังต้องถามพี่เอก
“พวกนี้แม่งดูหนังโป๊ตอนกลางคืนไง สายตาเสีย”
พี่เดี่ยวว่าแต่พาโชครีบแทรก
“ดูทุกตอนพี่ ไม่ใช่ตอนกลางคืนอย่างเดียว”
พาโชคเป็นคนเนิร์ด แต่ความซื่อกับมุมมืดของผู้ชายมันก็คนละเรื่อง เจนขำกับความจริงจังของไอ้ซวยก่อนจะบอกบ้าง
“ธรรมดาพี่ ยิ่งสั้นเยอะยิ่งหื่น”
ระหว่างที่พัชมันกำลังคิดว่าระหว่างมันกับพี่เอกใครสายตาสั้นกว่ากันพี่เอกก็โพล่งขึ้นมา
“งี้ในห้องนี้หัวหน้าแม่งหื่นสุด”
จะว่าไปที่ไม่เห็นหัวหน้าใส่แว่นไม่ใช่เขาสายตาปกตินะ แต่พาโชคเคยได้ยินว่าสั้นมากจนใส่ได้แต่คอนเทคเลนส์ต่างหาก เพราะไม่งั้นเลนส์แว่นจะหนามากหรือถ้าจะใช้เลนส์บางๆค่าตัดแว่นแต่ละปีก็คงแพงเกินไป พาโชคพาลคิดถึงวันที่มันถูกฟัดจนน่วม ทั้งอกทั้งคอนี่แดงไปหมด อย่าให้นับเลยว่าถูกดูดกับกัดไปกี่จุด เอาเป็นว่าตรงไหนไม่ผ่านมือกับปากหัวหน้านี่ไม่มี พี่ยักษ์อีโรติคขั้นสุด
“เออ กูไปอ่านเจอมาว่าเว็บในโลกนี้เป็นเว็บโป๊ 1 ส่วน 3 ของเว็บทั้งหมดเลยนะ”
พี่เอกที่น่าจะติดบัคอะไรสักอย่างถึงมาชวนน้องๆคุยพูดออกมาอีกเพื่อดึงสติพาโชคที่ดูท่าทางเข้าโหมดไปแล้ว
“เป็นศาสตร์ที่น่าสนใจ”
พี่บอลที่เงียบมานานบอกออกมาดูท่าทางสนใจแบบที่พูดจริงๆ
“พวกนี้มันทำเว็บเดียวแล้ว duplicate* ออกมาหลายๆ domainname* กูจะบอกว่าจริงแล้วเหมือนๆกันหมด”
พี่เอกผู้ใสๆแต่รู้จริงและมากประสบการณ์บอกน้องๆ
“โฆษณาเยอะด้วยพี่ พวกนี้ส่วนมากหาเงินจากการโฆษณาทั้งนั้น”
และแล้วเหล่ากรรมกรออฟฟิศก็วกเข้าไปเรื่องเทคโนโลยี
“ไอ้ซวยนี่น่าจะชอบแนว japanese”
ไม่ทันไรก็วนออกมาเรื่องหื่นๆอีกรอบ
“บ้าพี่บอล เห็นงี้ผมชอบฝรั่งหุ่นนางแบบนะ”
เจนส่ายหัวกับพวกผู้ชายที่เริ่มคุยกันลึกถึง catagories ของหนังโป๊ เจนยอมรับว่าแรกๆก็ตามมุขเขาไม่ค่อยทัน แต่อยู่ไปสักปีสองปีนี่คุยกับเขาได้แบบเลิกเขินไปเลย
“พี่เดี่ยวนี่แนว gangbang”
เจนที่นั่งขำอยู่เล่นกับเขาบ้าง
“เจนแม่นมาก”
พี่เดี่ยวหันไปยกนิ้วโป้งให้น้องมัน
“พี่เอกน่าจะ big boobs”
“เออ แม่นจริง”
พาโชคที่เห็นพี่เจนทายถูกรู้สึกยอมไม่ได้จึงบอกออกมาบ้าง
“พี่เจนน่าจะ big c*ck”
“ช่วยเห็นกูเป็นผู้หญิงได้ไหมพาโชค คุยกับผู้หญิงเรื่องหนังโป๊เนี่ยนะ
เจนว่าพร้อมกับขำ
“แล้วจริงไหมเจน”
พี่บอลถาม
“มึงถูกค่ะพาซวย”
พอบอกออกไปแบบนั้นก็นั่งขำกันจะเป็นจะตายทั้งห้อง เอาจริงๆแล้วต่างคนต่างรู้ว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องจริงไปเสียทั้งหมด ก็แค่เล่นกันตามประสาคนบ้าที่ไม่มีอะไรให้คุย
“แล้วหัวหน้าล่ะวะ”
จู่ๆพี่เดี่ยวก็ถามพัชขึ้นมาเพราะแกเห็นหัวหน้ายืนแอบฟังอยู่หน้าห้องสักพักแล้ว
“gay porn”
พอพาโชคตอบด้วยความมั่นใจ พี่ยักษ์ก็ผลักประตูเข้ามาพร้อมกับจ้องมาที่ลูกน้องผู้ปากพาซวย
“ลองไหมล่ะพาซวย”
พี่เขาฮากันจนสำลักแต่ไอ้พัชหน้าเจื่อนเมื่อสบตาโคตรดุของลูกพี่
“ไปได้ยังมีประชุม 10 โมง”
พัชพยักหน้าอย่างเนือยๆก่อนจะหยิบเสื้อสูทแล้วเดินตามลูกพี่ออกไปพร้อมกับหันมาถลึงตาใส่พวกพี่ๆที่แต่ละคนรู้แล้วว่าหัวหน้ามาแต่ไม่ยอมส่งสัญญาณบอกมันบ้างเลย
วันประชุมเป็นใหญ่วันที่พาโชคเกลียดที่สุดเพราะนอกจากจะหาข้อสรุปอะไรไม่ได้แล้วยังเสียเวลาทำการทำงานอีก ประชุมเฉพาะฝั่งไอทียังพอคุยกันรู้เรื่องแต่พอประชุมรวมกับฝ่ายอื่นทีไรปวดประสาทตลอด
“คุยอะไรในห้อง หัวเราะกันเสียงดัง”
ลูกพี่ถามพร้อมกับเสียบคอมพิวเตอร์เข้ากับโปรเจคเตอร์ หน้าที่ของชั้น 29-31ที่ทำงานเกี่ยวกับ technology อีกอย่างคือการเตรียมอุปกรณ์ก่อนการประชุม เพราะฉะนั้นแล้วการประชุมสิบโมงคือการเข้ามาเตรียมของในห้องประชุมตั้งแต่เก้าโมงเช้า เข้าทำนองว่าอะไรเสียบปลั๊กต้องเรียกไอที
“คุยเล่นเฉยๆครับ”
สิ่งที่พัชกำลังนึกอยู่ในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาคือนึกไม่ออกว่าแต่ก่อนมันกับหัวหน้าพูดคุยกันแบบไหน ปฏิบัติตัวกันอย่างไรเลยชิงสุภาพไปก่อน...ซึ่งนั่นถือว่าไม่ปกติเอาเสียเลย
“สรุปที่พัชให้มาพี่แก้นิดหน่อยนะ”
แต่สิ่งหนึ่งเลยที่พัชจำได้คือหัวหน้าไม่เคยแทนตัวเองว่าพี่และไม่เคยเรียกมันว่าพัชดีๆเลย พาโชคเงยหน้ามองหัวหน้าที่กำลังง่วนอยู่กับการรื้อสาย hdmi ที่พันกันเป็นงู
“อ่า ครับ”
จู่ๆห้องที่ยังพอมีเสียงพูดคุยเมื่อครู่ก็เงียบลง พาโชคหยิบสรุปการประชุมของฝั่งดีเวลอปเปอร์ขึ้นมาทวนทั้งๆที่ตั้งสติกับตัวหนังสือยึกยือข้างหน้าไม่ได้เลย พัชปล่อยให้หัวหน้าทำงานคนเดียวทั้งๆที่ปกติแล้วหัวหน้าต้องโขกสับมันสมกับฉายายักษ์
“เห็นธามบอกว่าพาไปตัดผมมาเหรอ”
“ครับ”
พัชตอบทั้งๆที่ไม่ละสายตาออกจากตัวหนังสือข้างหน้าที่ว่าด้วยรายละเอียดของ google analytics ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้กับการวิเคราะห์สถิติของเว็บไซต์ ที่หัวหน้าใช้มันไปสรุปมาก็เพราะต้องมาอธิบายให้คนอื่นเข้าใจว่ามันสำคัญยังไง ทำไมต้องใช้ มีผลกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่บริษัททำอยู่ยังไงบ้าง สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับพาโชคไม่ใช่การสรุปแต่เป็นการอธิบายให้คนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลยฟัง ยิ่งพูดภาษาคนไม่ค่อยจะรู้เรื่องด้วยนั้น การประชุมนี่จึงยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาอีก
“ไปเจอกันได้ไง”
ไม่รู้หัวหน้ามันจะติดใจอะไรนักหนากับการบังเอิญเจอกันของพัชกับหัวหน้าฝั่งเทสเตอร์ เพราะฉะนั้นพัชถึงเงยหน้าขึ้นมามองลูกพี่อย่างช่วยไม่ได้ซึ่งหัวหน้าเองมองมาอยู่ก่อนแล้ว
“บังเอิญเจอที่ห้าง วันนั้นจริงๆเจอพี่ยูกับสาวด้วย”
คนพูดว่าไปด้วยหัวเราะติดตลกไปด้วยแต่คนฟังกลับขมวดคิ้วแน่นก่อนจะถามออกมา
“แพมเหรอ?”
“ฝั่งกรรมกรมาเร็วเว้ย”
ก่อนที่จะได้ตอบอะไรเสียงตรงหน้าประตูก็ดังขึ้น พาโชคยกมือไหว้พี่ๆฝั่งเซลล์ที่ตีกันในการประชุมอยู่บ่อยๆ
“พูดมากเดี๋ยวก็ตัดเน็ตชั้นมึงเลย”
หัวหน้าโปรแกรมเมอร์พูดเหมือนมีอำนาจเต็มที่ทั้งๆที่ความจริงแล้วไม่ได้รู้เห็นและไม่ได้มีสิทธิ์เรื่องอินเตอร์เน็ตในบริษัทเลย ทั้งๆที่เน็ตเจ๊งทีก็ต้องโทรบ่นฝั่ง support บ่นจนเขาแทบจะบล็อกเน็ตชั้น 29 ทิ้งเพราะหมั่นไส้พี่ยักษ์มัน
น่าแปลกที่วันนี้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีใครตีกันให้เห็นและพาโชคก็ง่วงมากเพราะไม่มีดราม่าให้ดู ยังดีที่พอมีสาวให้นั่งมอง แต่มองนานก็ไม่ได้เพราะสาวคนที่ว่านั่นสาวของหัวหน้าก็ว่าอยู่ทำไมเขาหันมาฝั่งนี้บ่อย ตอนแรกคิดว่าเขามองตัวเอง พอขยับแว่นมองดีๆแล้วถึงนึกออกว่านั่นพี่แพมฝั่งการตลาดแฟนลูกพี่มัน
“ง่วงเหรอ?”
พัชเหลือบมองลูกพี่ที่กระซิบถามก่อนจะพยักหน้า
“หลับในไปก่อน”
นั่นเป็นห่วงหรือกวนตีน พัชบ่นในใจแต่ที่สุดแล้วก็อมยิ้มอยู่อย่างนั้น กว่าจะประชุมเสร็จก็ล่อไปบ่ายสาม ข้าวปลาก็ยังไม่ตกถึงท้อง พอพาโชคเดินออกมาจากห้องประชุมได้ก็หาวหวอด
“จดอะไรออกมาได้บ้างซวย”
หัวหน้าถามลูกน้องที่หน้าตาไม่รับแขก พาโชคยื่นกระดาษให้ลูกพี่ก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ยูมองรูปการ์ตูนยึกยือบนกระดาษแล้วหลุดขำ เท่าที่ยูสังเกตเด็กสมัยนี้มักจะมีลักษณะนิสัยคล้ายๆกันคือโลกส่วนตัวสูง ทำอะไรตามใจตัวเองแต่มักจะฉลาดเป็นกรดและทำงานเก่งถ้ารู้จักใช้งานให้ถูกวิธี ที่เขาชอบพาพัชมาประชุมด้วยไม่ใช่เพราะมีนัยยะสำคัญอะไรเลยแต่เป็นเพราะอยากให้พาโชครู้จักการเข้าสังคมจริงๆแบบคนอื่นบ้าง
“ไปกินข้าวโชค”
หัวหน้าที่มักจะเรียกชื่อลูกน้องตามอารมณ์อินดี้บอกพาโชคที่เดินเสยผมออกมาจากห้องน้ำ
“ไปกินไหน กูไปด้วย”
และแล้วแขกที่ไม่ได้รับเชิญก็โผล่มา ยูยอมรับว่าสนิทกับธามอยู่ไม่น้อยแต่เขารู้สึกว่าแต่ก่อนไม่ได้เจอกันบ่อยขนาดนี้ แต่ช่วงนี้รู้สึกว่าเหมือนธามป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆตัวเขา ยูกำลังจะพูดอะไรสักอย่างเสียงโทรศัพท์ตัวเองก็ดังขึ้นมาก่อน เขามองชื่อคนโทรเข้าก่อนจะบอกเพื่อนและลูกน้อง
“ซวยไปกินข้าวกับไอ้ธามนะ เดี๋ยวกูไปกินข้างนอก”
คนที่ถูกบอกทั้งคู่มองหน้ากัน พาโชคยักไหล่ก่อนจะเดินนำหัวหน้าฝั่งเทสเตอร์ลงไปชั้นด้านล่างซึ่งเป็นที่ตั้งของแคนทีนอย่างไม่พูดไม่จา
“เป็นอะไรพัช”
“โมโหหิวพี่”
“เอาแขนพี่ไปกินก่อน”
พาโชคที่บอกว่าโมโหเมื่อต้นหันมาหัวเราะกับรุ่นพี่ ก่อนจะมองแขนสีแทนของอีกคน พัชคิดว่าไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง คนเรามักจะมีความโรคจิตส่วนตัวอยู่คนละสองสามแบบ อย่างเรื่องสเปคคนที่ชอบ บางคนชอบมองคนที่หน้า ที่ตา ที่ขา บ้างที่นมส่วนพัชเป็นคนที่ชอบมองคนที่แขน ไหล่และอก พาโชคปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนนึงที่ยังสลัดเรื่องคืนนั้นระหว่างตัวเองกับหัวหน้าออกไปจากหัวไม่ได้หมด เพราะดันจำบริเวณอกกับแขนของพี่ยูได้ติดตาแม้จะเมา ยิ่งเวลามองพี่ยูนั่งข้างๆแล้วใช้มือใหญ่พิมพ์อะไรบางอย่างบนแป้นพิมพ์ยิ่งรู้สึกแปลก
“อยากกลับบ้านเนอะพี่”
อยู่ดีๆคนที่เงียบไปสักพักก็โพล่งขึ้นมา
“หือ”
“ประชุมแล้วง่วง อยากกลับบ้าน”
“หาเรื่องโดดเหรอพัช”
คนเป็นรุ่นพี่บอกพลางดันไหล่ของอีกคนเพื่อเข้าไปต่อแถวร้านข้าวที่ตอนนี้เหลือเปิดอยู่เพียงร้านเดียว
“พี่เคยได้ยินว่าเวลาที่แฟนเขาจับตัวกันมันมีระดับของมันนะ”
สิ่งที่พัชพึ่งรู้คือพี่ธามเป็นคนที่หาเรื่องนั่นเรื่องนี่มาคุยได้ไม่รู้เบื่อ ทั้งชอบสังเกตเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบที่มันไม่เคยทำและทำไม่ได้
“แตะไหล่แตะหลังนี่พึ่งคบ”
พี่แกว่าพลางแตะไหล่พาโชคที่ยืนอยู่ข้างหน้า
“แตะเอวนี่คือเป็นแฟนสักพักแล้ว”
พัชพยักหน้าหงึกหงักพลางมองมือของอีกคนที่แตะเบาๆตรงเอวตัวเอง
“ส่วนก้นนี่ได้กันแล้ว”
พอฟังเสร็จพาโชคก็ขำเพราะเหลือบไปเห็นมือของพี่ธามที่ไม่รู้จะวางไว้ไหน
“ชั้น 31 ก็หื่นกันเหรอพี่”
เอาจริงๆพาโชคสบายใจที่ต้องคุยกับพี่ธามมากกว่าแต่ก่อนเพราะพึ่งเข้าใจว่าทั้งตัวเองและเขาต่างเป็นพวกไม่ได้คิดอะไร ดูจากการที่ทะเลาะกันเรื่องงานมาสองปีเต็มในที่สุดแล้วก็กลายมาเป็นเพื่อนกัน
“ต้องไปฟังพวกฝั่ง data resources คุยกัน”
“ฝั่งนั้นมีแต่ผู้หญิงไม่ใช่เหรอ”
“อือ พี่เคยบังเอิญได้ฟังเขาคุยกันรอบนึง โหดกว่าผู้ชายคุยกันเยอะ”
พาโชคขำก่อนจะนึกถึงคำที่ใครสักคนบอกว่าคนสายตาสั้นเป็นคนหื่น
“พี่ธามสายตาสั้นไหม”
อีกคนที่ทำหน้าสงสัย
“ไม่ ทำไมวะ”
พัชขำก่อนจะส่ายหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
***
"ทำไม master* แอปสายการบินพังวะ”
น้อยนักที่เหล่ากรรมกรออฟฟิศจะทำงานด้วยความราบรื่นและน้อยนักที่จะทำงานโดยไร้ปัญหา สิ่งหนึ่งที่ทำในอาชีพนี้มีเสน่ห์ก็คือการแก้ปัญหา มีมาให้แก้ไม่รู้จบและส่วนใหญ่มักจะเป็นปัญหาใหม่ๆไม่เคยซ้ำ
“พังยังไงพี่”
พาโชคถามหัวหน้าที่จู่ๆก็โพล่งขึ้นมา เพราะคนที่ทำโปรเจคนี้มีแค่ 3 คนได้แก่พาโชคที่ทำ frontend* หัวหน้าที่จัดการ api* กับพี่เดี่ยวที่รับหน้าที่จัดการ backend*
“ใคร commit* ล่าสุด”
ลูกพี่หันมาถามคนซวยด้วยสายตาพิฆาต
“ผม commit แต่ไม่ได้ merge* นะพี่”
ลูกน้องที่ช่วงนี้สติไม่ค่อยอยู่กับตัวตอบเสียงหงอยทั้งๆที่ปกติถ้ามันไม่ได้ผิดนี่จะเถียงคอเป็นเอ็น
“ผม merge เองพี่ มัน conflict* เยอะ กำลังไล่แก้ให้อยู่พี่ใจเย็น”
พี่เดี่ยวที่พึ่งเดินกลับมาจากการกดน้ำและเห็นหัวหน้ากำลังจะกินหัวไอ้พัชมันรีบห้ามทัพ
“ทำกันอยู่สามคนจะตีกันละ”
พี่เอกที่นั่งฟังอยู่พูดไปขำไป
“แต่พาซวยแม่งชอบ merge ขยะเข้าโปรเจคจริง”
พี่เดี่ยวว่าก่อนจะเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม
“ช่วยกันรีวิวโค้ดก่อนนะ กูอยากให้มันคลีน”
หัวหน้าที่มีลโสแกน keep clean เหมือนป้าแม่บ้านบอกลูกน้องทุกคนเพราะนอกจากโค้ดต้องทำงานได้สมบูรณ์แบบไร้บัคแล้วนั้นจะต้องมีระเบียบตามแบบแผน ชัดเจน เป็นระบบและสะอาดตาด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการแก้ไขและปรับปรุงในอนาคต นี่เป็นหนึ่งเหตุผลที่พาโชคยังอยากทำงานอยู่ที่นี่ ในขณะที่บริษัททั่วไปใช้เทคโนโลยีรุ่นห้าหรือสิบปีที่แล้วในการเขียนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันแต่วิสัยทัศน์ของหัวหน้าที่นี่คือต้องก้าวให้ทันโลก
'อู้เหรอพัช'
พาโชคอ่านแชทของหัวหน้าฝั่งเทสเตอร์ที่วันนี้ยังไม่ได้เห็นหน้าเพราะได้ยินว่าฝั่งนั้นกำลังเทสเกมส์ที่ส่งมาจาก outsource* อย่างสนุกสนานบัคบานตะไท บางทีคงเทสไปสาปแช่งคนทำไป
'ผมคุยงานกับพี่มาร์คอยู่'
มันพิมพ์ตอบเขาไป บางทีคงเพราะจุดเขียวๆบนโปรแกรมแชทมั้งที่ทำให้พี่ธามทักมา
'แต่พี่อู้ว่ะ'
พัชนั่งอมยิ้มกับการอู้ของหัวหน้าชั้น 31
'พี่เป็นหัวหน้านะ 5555'
มันตอบกลับไปก่อนจะได้สติกเกอร์แมวหงอยมา
“ยิ้มไรซวย”
พี่เดี่ยวถามน้องเพราะเห็นว่าคุยงานเรื่องโปรเจคใหม่กับโปรเจคเมเนเจอร์อยู่แต่อมยิ้มเหมือนคนกำลังสนุก ทั้งๆที่ไม่มีใครคุยกับพี่มาร์คแล้วสนุกหรอก
“ขำพี่ธาม”
พาโชคชี้มือให้พี่เดี่ยวดูแชท ซึ่งห้องนั้นก็ไม่ได้ใหญ่นัก…คนที่เห็นดูจะไม่ได้มีแค่พี่เดี่ยวคนเดียว
“ยิ้มไรเจน”
พี่เอกถามน้องเจนบ้าง
“ขำพี่ยูค่ะ”
เจนบอกพร้อมกับหัวเราะหัวหน้าที่เพ่งจอไอ้ซวยจนตาแทบจะทะลุ
“มาขำอะไรพี่”
พี่แกบอกพร้อมกับหันไปทำงานหน้ายักษ์เช่นเดิม เจนมองสบตากับพี่เอกแล้วกรอกตาเบ้ปากสวยๆส่วนพี่เอกนั้นยังดูเหมือนไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น
***