8. Sorry, Unfortunately our love not found.
ช่วงนี้พาซวยนั้นซวยสมชื่อ เริ่มตั้งแต่คอมที่บ้านจอไหล จอยเกมส์ที่บ้านก็พัง งานไม่ราบรื่นเพราะลูกค้าสั่งแก้เสมือนรื้อให้ทำใหม่ ออกมาจากบ้านหมาก็เห่า อยากกินข้าวเหนียวหมูทอดเจียงฮายก็ไปไม่เคยทันป้าขายหมดก่อน รวมถึงปัญหาส่วนตัวอันมีหัวหน้าเป็นส่วนประกอบก็ยังไม่เคลียร์ เรียกได้ว่าชีวิตช่วงนี้ของพาโชคนั้นไม่ได้โชคดีเหมือนชื่อเลย
“ผัวฆ่าเมียโหดในคอนโดใจกลางเมืองเพราะแรงหึงหนุ่มข้างห้อง”
สำนักงานข่าวไม่กรองเริ่มต้นเช้าอันสดใสด้วยข่าวหดหู่ พาโชคผู้ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักอีรุงตุงนังขนาดนั้นหันไปถามพี่เอกผู้รับหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าวในวันนี้
“ตกลงเขาหึงเมียหรือหึงหนุ่มข้างห้องพี่”
“เออ...ผมนี่งงไปหมด”
พี่เดี่ยวแจมเพราะไม่เข้าใจกับการพาดหัวข่าวรวบรัดนั้น
“กูขออ่านใหม่”
แม้แต่คนอ่านก็ไม่แน่ใจ พี่เอกเงียบไปสักพักก่อนจะเล่าข่าวใหม่ในเช้าวันนี้
“นายกทุ่มโพเดี้ยมใส่นักข่าวเพราะนักถามเรื่องเศรษฐกิจที่ถดถอย”
“พอค่ะพี่เอก”
เจนบอกปัดคนอ่านข่าวที่ไม่ได้ให้สาระอะไรแก่พวกน้องๆเลย
“หรือจะเป็นข่าวนี้เจน รัฐบาลเตรียมประกาศสภาวะฉุกเฉินหญิงไทยผันตัวเป็นโสดมากขึ้น”
“ได้ผู้ชายไม่ดีก็โสดดีกว่าค่ะ”
คำตอบของผู้หญิงคนเดียวในห้องเรียกเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจจากหลายคน พัชลอบขำพวกพี่ๆที่กัดกันทุกวัน
“อันนี้แจ่มว่ะ จับกุมชายหื่นปีนถ่ายห้องน้ำหญิง”
“มึงใช่ไหมไอ้ซวย”
พี่เดี่ยวว่า พาโชคส่ายหน้าพัลวันแต่ยังไม่ทันจะได้โต้แย้งอะไรก็มีคนมาขัดจังหวะก่อน
“พัช กินข้าวยัง”
และตัวขัดจังหวะที่ว่านี้พักหลังๆมาบ่อยทั้งเช้าสายบ่ายเย็น ไม่รู้ติดบัคอะไรนักหนา เท่าที่เจนดูพี่ธามน่าจะติดบัคตรงหัวใจ สเตตัสบัคตอนนี้คงเป็นสีเหลืองๆพอรันผ่านไปได้แต่ในอนาคตอันใกล้อาจจะติดบัคใหญ่สีแดงเมื่อหัวหน้าที่นั่งอยู่ก่อนมองไปยังผู้มาใหม่พร้อมกับสายตาอำมหิต
“หัวหน้าฆ่าลูกน้องโหดเหตุหึงหนุ่มชั้นข้างบน”
เจนว่าติดตลก
“เจนนี่แหละคนแรกที่จะถูกฆ่า”
พี่เอกได้พูดแทนใจพี่ยักษ์ไปหมดทุกอย่างแล้วในวินาทีนี้ ถ้าเจนยังชงอยู่ก็อาจจะได้ตายจริงๆ พัชยิ้มขำก่อนจะตอบหัวหน้าฝั่งเทสเตอร์
“ยังเลยพี่ธาม”
“เอานี่มะ”
นั่นคือหมูทอดเจียงฮายในตำนานที่ขายอยู่ตรงหน้าตึกแต่ไม่มีใครสามารถซื้อทันเพราะแผนกนี้เข้างานสิบโมงแต่หมูทอดเจียงฮายที่อร่อยล้ำนั้นมักจะหมดไปตั้งแต่ก่อนแปดโมงเช้า พี่เอกเคยตั้งข้อสัญนิฐานว่าบางทีป้าแกคงทอดไม่ถึงสิบถุงต่อวัน
“เออเจน กูว่าอาจจะมีการฆ่ากันเกิดขึ้น”
อยู่ดีๆพี่เดี่ยวก็โพล่งขึ้นมาเมื่อเห็นว่าก่อนหน้าหมูทอดเจียงฮายนั้นมีข้าวเหนียวหมูฝอยวางอยู่ก่อนแล้ว และนั่นไม่ใช่ของใครที่ไหนนอกจากคนหน้ายักษ์ที่นั่งตัวใหญ่อยู่แถวนี้เอง เห็นบอกซื้อมาฝากพัชเพราะช่วงนี้พัชมันผอมลงอย่างเห็นได้ชัด
“ซวย เดี๋ยวพี่ช่วยกินนะ จะหมูฝอยรึหมูทอดกูกินได้หมด”
ระหว่างบรรยากาศกำลังมาคุพี่เอกที่ไม่เกรงกลัวอำนาจมืดใดๆพูดอย่างอารมณ์ดี ต่างจากพาโชคที่รู้สึกว่าวันนี้บรรยากาศในห้องวันนี้พิลึกพิลั่นไปหมดในความรู้สึก
“เน็ตหลุดเหรอวะ”
พี่บอลผู้ไม่สนหินสนแดดโพล่งขึ้นมาถูกเวลาพอดี เรียกได้ว่าช่วยได้มากอยู่ พาโชคหยิบหมูทอดเจียงฮายขึ้นมาเคี้ยวพร้อมกับหันไปยิ้มขอบคุณพี่ธามที่กำลังจะกลับแล้วหันมาช่วยพี่อีกคน
“ไม่นะพี่ผม download package ยังได้อยู่”
“แล้วทำไมมันขึ้น unfortunately love not found”
พอพี่บอลพูดจบพวกที่นั่งงงอยู่ก็ขำออกหน้าออกตาโดยเฉพาะเจน
“server not found ไหมพี่”
พาซวยบอกหน้ายุ่ง
“ของกูก็ error”
พาโชคเอี้ยวตัวไปดูจอพี่เดี่ยวก็เห็น error ตัวโตๆ
“เว็บอะไรพี่เดี่ยว”
คนถามถามเพราะอยากช่วยดู
“เว็บโป๊”
ส่วนคนตอบนั้นกวนตีน
“ไม่เล่นสักวันพี่”
“ทำไมวันนี้มึงดูจริงจังวะซวย”
พี่เดี่ยวขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องหน้าน้องเล็กในห้องไปด้วย ปกติแล้วแม้งานจะเยอะตาแตกแค่ไหนน้องซวยก็ไม่เคยอารมณ์เสีย ลองเล่นมุขไปเถอะส่งไปสิบมันเล่นร้อยเรียกได้ว่าตบมุขจนพี่ๆตามไม่ทัน แต่ช่วงหลังๆมานี่น้องกลับดูตึงผิดปกติ
“ผมเข้าได้นะ เครื่องพี่โดนบล็อครึเปล่า”
มันว่าพร้อมกับมองพี่บอลผู้พึ่งเปิดคอมแต่ต่อเน็ตไม่ได้กำลังรื้อสายแลนด์ตรงหลังโต๊ะ
“ไม่ได้โดนบล็อกอะไรหรอกกูลืมเสียบสายแลน”
ว่าแล้วก็หัวเราะแหะๆ
“นี่เกือบโทรไปไอทีซัพพอร์ตแล้ว”
พาโชคว่าพลางย่นคิ้ว เรื่องปวดสมองแบบนี้เจออยู่ทุกวันไม่ไอ้นั่นไอ้นี่พังก็ติดบัค บัคแม่งทุกอย่างบางวันติดบัคอันเดียวตั้งแต่เช้ายันเย็น มันถอนหายใจก่อนจะหันมาจอตัวเองแล้วเห็นว่า package ที่พึ่งดาว์นโหลดลงมาใช้ไม่ได้กับโปรเจคที่ทำอยู่
“วันเหี้ยอะไรเนี่ยยยยย”
พัชพึ่งเข้าใจวลีที่ว่า...วันบางวันก็ไม่ใช่ของเราจริงๆ...
***
“พี่เจนผมมีเรื่องจะถาม”
พัชโพล่งขึ้นมาในตอนที่ทุกคนกลับบ้านหมดแล้วเหลือแต่เจนที่กำลังงมอยู่กับแอปพลิเคชันเมนูอาหารที่ลูกค้าสั่งแก้ธีมสีทั้งหมดให้เป็นสีทองจากสีฟ้าแบบเดิมโดยอ้างว่าเปลี่ยนตามฮวงจุ้ย งานแบบนี้มีอยู่บ่อยแต่ก็ว่าอะไรไม่ได้เพราะความเชื่อกับคนไทยเป็นอะไรที่ตัดกันไม่ขาดจริงๆ
“คะหนู ว่ามา”
เจนที่ปากขยับแต่มือและตายังทำงานเป็นระวิงอยู่ขานรับน้อง
“พี่เจนเคยมีแฟนไหม”
“ดูถูกมากกกกกก”
เจนลากเสียงยาว
“ไม่ ผมหมายถึงพี่เจนเคยมีแฟนนิสัยแปลกๆไหม”
เจนที่ฟังน้องถามแต่คิดว่าไม่มีอะไรในตอนแรกวางเมาส์จากมือในที่สุด
“ยังไงวะ”
เธอขมวดคิ้วแบบงงในคำถาม
“เหมือนเมื่อเช้าที่พี่เอกว่าไง ที่หึงแฟนจนต้องตามฆ่าแล้วปีนถ่ายคลิป”
พาซวยผู้มั่วเอาข่าวสองข่าวมารวมกัน เจนยิ้มน้อยๆก่อนจะตอบแบบจริงจัง
“ถ้าอยากรู้ต้องเจอเองพัช พี่ไม่ได้ตอบแบบปัดๆนะ แต่คนเรามันโตมาต่างกันลักษณะนิสัยต่างกัน สังคมเอย อะไรเอยเพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าเขาจะรับอะไรที่มากระทบจิตใจได้เท่ากัน ดีไม่ดีอาจจะป่วยด้วยถึงฆ่าคนๆนึงได้หรือปีนถ่ายคลิปอะไรนั่นได้”
พัชทำหน้างง
“ใครจะไปรู้วะมึง ไอ้พวกถ่ายคลิปตัวเองกับแฟนลงในเน็ตยังแปลกกว่า”
เจนลามไปเรื่อยส่วนพาโชคมองหน้าเจนชั่วครู่ก่อนจะถามต่อ
“แปลกยังไงพี่”
“ไม่เชิงหรอก อาจจะเป็นเพราะรสนิยมทางเพศด้วยมั้ง”
เจนว่าก่อนจะยักไหล่แล้วเริ่มทำงานอีกครั้ง
“ถามแบบนี้คือกำลังมีความรักเหรอโชค รักแปลกๆเหรอ หรือใครหึงแล้วตามฆ่า”
“ใครจะมาหึงผม”
พัชบ่นพร้อมกับ comit code ชุดสุดท้ายแล้วไล่ปิดโปรแกรมที่ใช้งานอยู่
“หัวหน้า”
พัชชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะปิดเครื่องเมื่องานส่วนของตัวเองเสร็จแล้ว
“ก่อนจะหึงมาช่วยผมแก้งานก่อนไหม”
เจนเห็นสักพักแล้วว่ามีคนมายืนเป็นผีเฝ้าประตูยืนมองพาโชคอยู่นางถึงได้ชงแบบเอาเป็นเอาตาย
“ให้ช่วยไหมล่ะ”
คนที่ยืนอยู่หน้าประตูว่า ไอ้ซวยได้แต่สงสัยว่าทำไมคนๆนี้ชอบโผล่ไปโผล่มาเหมือนผี
“เจนนึกว่าพี่ยูกลับไปแล้วเห็นบอกพรุ่งนี้มีประชุมตอนเช้า”
เจนว่าพร้อมกับปิดเครื่องเตรียมตัวกลับบ้านบ้าง
“กลัวเด็กหิวตาย ลุกเดี๋ยวพี่พาไปกินข้าว”
ที่นี่เป็นแบบนี้เสมอ ถึงไม่มีโอทีให้แต่เวลาปิดงานดึกๆก็จะมีสารถีส่งข้าวส่งน้ำไปส่งบ้าน ส่วนมากจะเป็นคุณเนมหรือพี่มาร์คไม่ใช่พี่ยักษ์เช่นวันนี้
“เป็นเด็กนายมันดีแบบนี้”
เจนว่าพร้อมกับเดินไปตบไหล่น้องมัน พาซวยส่ายหน้าก่อนจะถาม
“หรือพี่เจนจะไม่กิน”
เจนกรอกตา
“กินสิคะ”
“ปิดไฟให้เรียบร้อยเดี๋ยวพี่ไปรอที่รถ”
ทั้งสองคนขานรับก่อนที่สาวคนเดียวในทีมจะหันมาถามพาโชค
“นี่เหรอโชค แฟนแปลกๆที่มึงว่า”
ไอ้พัชถอนหายใจยาวก่อนจะออกเดินตามหัวหน้าออกไป
***
“พี่พึ่งรู้ว่าพัชขับรถเป็น”
“เมาแล้วนอนไปเถอะ”
พัชพูดก่อนจะหันไปสนใจถนนข้างหน้าต่อ วันนี้หัวหน้าพาไปกินร้านข้าวต้มแถวออฟฟิศ พาโชคกับพี่เจนสั่งข้าวกินอย่างหิวโหย ส่วนพี่ยักษ์นั่นสั่งเบียร์มาสามขวด โปรแกรมเมอร์มักขี้เมานั่นคือสิ่งที่พาโชครู้เมื่อได้เข้ามาทำงานนี้จริงๆ
“บ้านเจนสวยดีนะ”
คนที่ถูกหาว่าเมาพูดถึงบ้านปูนเปลือยหลังของเจนจากที่ไปส่งเจนมา
“บ้านพัชก็สวย”
เขาพูดถึงบ้านสีขาวขนาดใหญ่ของพาโชค
“แล้วทำไมพี่ไม่ซื้อล่ะ”
พาโชคถามถึงคอนโดหนึ่งห้องนอนของลูกพี่ที่ราคาเท่าๆกับบ้านเดี่ยวชานเมือง
“มันกว้างไป”
“เหงาเหรอ”
คนเด็กกว่าถามพลางยิ้มเยาะ
“คงงั้น เพราะงั้นวันนี้ไปห้องพี่นะ”
คนเป็นพี่บอกพร้อมกับหลับตาลง ความสัมพันธ์แปลกๆนี้มันเริ่มมาสักพักและดูเหมือนว่าจะยังอยู่ต่อไปเรื่อยๆหากพวกเขาไม่หยุดมันลงเสียที บางทีอาจจะเป็นเพราะยังได้เจอกันทุกวันมันถึงจบไม่ลงก็ได้
“ก็ดี ผมมีอะไรจะให้ดู”
ศศินพึ่งสังเกตว่าพาโชคนั้นค่อยๆเปลี่ยนไปจากเดิมในมโนภาพของเขา แรกนั้นพัชเป็นเพียงเด็กที่น่ารักและขยันในสายตาเขาแต่บัดนี้กลับให้ความรู้สึกว่าพาโชคคนนั้นเปลี่ยนไปนิดหน่อย ยิ่งเฉพาะเมื่ออยู่กับเขาแค่สองคนแล้ว พัชค่อนข้างเงียบเชียบและเยือกเย็นต่างจากคนที่ร่าเริงแบบที่เคยเห็น บางทีอาจจะเป็นเพราะบริบทพวกเขานั้นเปลี่ยนไปจากเพียงหัวหน้าและลูกน้องกลายเป็นคนที่มีความสัมพันธ์กันทางกายก็ได้
“น้ำไหม”
คนเมาที่เดินเข้าบ้านตัวเองได้ช้ากว่าแขกมองเด็กคนที่กำลังเปิดตู้เย็นเขาอย่างถือวิสาสะและกระดกน้ำเย็นลงคอ เขามองคอที่กำลังกลืนน้ำลงไป มองลูกกระเดือกและมองต่ำลงไปยังไหปลาร้า
“ใจเย็นได้ไหม”
แขกขึ้นเสียงเมื่ออีกคนเดินดุ่มเข้ามาจับสะโพกแน่นทั้งสองมือก่อนจะก้มลงซุกใบหน้าที่ซอกคอขาว เขาขบกัดและจูบไปทั่ว
“พี่ขอนะ”
เจ้าของบ้านว่าพร้อมกับสอดมือเข้าไปในเสื้อสีขาวตัวบาง พาโชคถอนหายใจพร้อมกับวางขวดน้ำลงที่เคาเตอร์ข้างตัวก่อนจะใช้มือดันไหล่อีกคนออกอย่างแรงโดยไม่ได้ใส่ใจว่าจะเจ็บหรือไม่
“อะไร”
คนที่ถูกขัดจังหวะว่าพร้อมกับสีหน้าไม่พอใจเพราะแต่เดิมพาโชคไม่เคยทำกับเขาแบบนี้ จริงๆแล้วไม่มีใครที่กล้าทำกับเขาแบบนี้ด้วยซ้ำ
“ซ่อนกล้องไว้ตรงไหน”
ใบหน้าคมเบิกตาขึ้นพร้อมกับมองตาอีกคนที่ตอนนี้แดงก่ำด้วยความโกรธหรืออะไรก็ไม่ทราบได้
“พูดเรื่องอะไรพัช”
เจ้าของบ้านถามด้วยเสียงติดหงุดหงิด ในระหว่างที่ศศินไม่เคยเห็นบางมุมของพาโชค พัชก็ไม่เคยเห็นหัวหน้าตัวเองในมุมมองแบบนี้เช่นเดียวกัน
“ทำแบบนี้กับทุกคนใช่ไหม”
“พี่ทำอะไร”
ดูเหมือนว่าความไม่เข้าใจของคนทั้งคู่จะทำให้เรื่องราวต่างๆมันใหญ่ขึ้น พาโชคเริ่มกดเสียงต่ำและอีกคนก็เริ่มเสียงแข็ง
“ก็ที่ทำกับผมอยู่นี่ไง”
คนฟังเค้นหัวเราะก่อนจะพูดบ้าง
“พัชก็เต็มใจไม่ใช่รึไง”
นั่นเป็นสิ่งที่พาโชคไม่เคยพูดถึงเพราะตัวเองรู้อยู่แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะพอใจกับการที่อีกคนบอกออกมาแบบนี้ มันถอนหายใจยาวก่อนจะเปิดอะไรบางอย่างให้ดู แปลกเหมือนกันที่มันเลือกที่จะเซฟคลิปที่มีคนส่งมาให้แทนที่จะลบทิ้งเสียตามนิสัยอันไม่ใส่ใจอะไร
ครั้งแรกที่พาโชคเห็นคลิปของตัวเองนับย้อนไปประมาณสองเดือนที่แล้ว มันตกใจมากในตอนแรกแต่ก็เลือกที่จะไม่ทำอะไรและไม่บอกใครเลยตามวิสัย ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าสถานการณ์ณ.ตอนนี้ไม่ปกติ พัชกำลังถูกคุกคามจากใครสักคน พัชเฝ้าสังเกตทุกอย่างและทุกคนรอบตัว มันเริ่มพูดน้อยลงและเว้นระยะห่างจากทุกคนมากกว่าแต่ก่อนโดยที่พยายามทำให้ทุกอย่างนั้นเหมือนเดิม โดยที่ลืมสังเกตว่าร่างกายของตัวเองนั้นกำลังเครียดและเหนื่อยลงเรื่อยๆ มันเริ่มกินข้าวไม่ตรงเวลา ปวดหัวกับปวดท้องอยู่บ่อยๆแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย
“อะไร”
เสียงที่แข็งของเจ้าของบ้านเมื่อครู่อ่อนลงหน่อยเมื่อเห็นวีดีโอแสดงภาพบางอย่างที่ไม่ควรอัดเก็บไว้ นั่นเป็นครั้งแรกของเขากับพัชที่ห้องๆนี้ พวกเขาเมาแต่ก็ไม่ได้ลืมว่าความรู้สึกในตอนนั้นเป็นอย่างไร ศศินมองภาพที่เขากำลังจูบน้องอยู่ชั่วครู่ก่อนจะปิดมันทิ้ง
“ห้องนี้ใช่ไหม”
เขาถามแบบไม่ได้ต้องการคำตอบจากอีกคนก่อนจะหันไปมองรอบๆห้องที่ภายนอกไม่ได้ดูผิดปกติแต่ใด เจ้าของห้องสร่างเมาแทบจะทันที ศศินคืนโทรศัพท์ให้อีกคนก่อนจะเดินเข้าไปในพื้นที่ที่ถูกกั้นไว้เป็นห้องนอนภายในคอนโดขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ของตน เขาปีนโต๊ะวางทีวีที่หันหน้าเข้าเตียงก่อนจะรื้อทุกอย่างบนชั้นนั้นลงมา ส่วนใหญ่เป็นของตกแต่งอย่างเช่นกรอบรูปหรือกระถางดอกไม้ปลอม เขากวาดทุกอย่างลงมาบนพื้นแล้วแยกส่วนออกอย่างไม่ได้กลัวว่ามันจะพัง แต่โชคไม่ดีนัก...เขาไม่เจออะไรยกเว้นเศษซากของที่กระจัดกระจายอยู่เต็มห้องเพราะอารมณ์ฉุนเฉียวเมื่อครู่
“ไม่มีพาโชค ไม่เจอ”
เจ้าของห้องเงยหน้ามาสบตากับอีกคนที่ยืนมองอยู่ตั้งแต่แรก
“หมายความว่ายังไง”
พาโชคไม่เข้าใจ เพราะแต่เดิมแล้วพัชคิดว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะพี่ยูทั้งหมด และคนที่น่าจะเป็นคนทำก็น่าจะเป็นหัวหน้ามัน เพราะฉะนั้นแล้วทำไมคนที่ทำเรื่องข้างต้นถึงได้รื้อให้ห้องที่สะอาดเรียบร้อยจนรกและทำไมเขาคนนั้นถึงได้ดูตระหนกนัก
“เหี้ยอะไรอีกวะ”
ท้ายที่สุดเจ้าของห้องก็พูดกับตัวเองพร้อมกับลูบหน้าแรงๆ
“หันมาอธิบายให้ผมฟัง”
พาโชคบอกอีกคนที่นั่งมองออกไปยังระเบียงทั้งเอาแต่เงียบ พาโชคเป็นมนุษย์เนิร์ดที่อยู่กับชีวิตสงบสุขมาตลอด มันเคยมีความรักเคยอกหักเหมือนมนุษย์ทั่วไปแต่ไม่เคยมีเรื่องอะไรที่ทำให้รู้สึกวุ่นวายใจได้ขนาดนี้ พัชรู้ตัวเองดีว่าพักหลังๆที่ผ่านมามันกับพี่ยูเปลี่ยนไป และลึกๆก็รู้ว่าตัวเองกำลังดึงตัวเองเข้าไปสู่เรื่องบางอย่างที่จะทำให้กลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายเช่นเดิมได้ยาก
“มีคนเอากล้องมาติดในห้องพี่”
“ตลก”
พาโชคโพล่งออกไปทันทีเมื่ออีกคนพูดจบ พี่ยักษ์ลุกขึ้นแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง เขาใช้มือก่ายหน้าผากไว้อย่างกับว่ามันจะช่วยให้ความกังวลนั้นหมดไปทั้งๆที่มีสีหน้ากังวลอย่างชัดเจน
“เรื่องมันไม่ได้น่าฟังหรอกพัช”
พาโชคบอกไม่ได้ว่าความรู้สึกเหมือนลำไส้บิดเกลียวในท้องนั้นคืออะไร แต่ที่รู้ๆคือตอนนี้มันเจ็บ บางทีคงเป็นผลจากการกินข้าวไม่ตรงเวลา
“แต่พี่จะเล่า...เราก็เงียบฟังซะ”
นั่นไม่ใช่คำขอแต่เป็นการบังคับ...พาโชครู้ดี
“เรื่องพี่ไม่ใช่คนดีพัชก็น่าจะรู้”
ใครคนนั้นลุกขึ้นข้างเตียงแล้วเดินเข้ามาหา มือใหญ่หยิบแว่นจากออกจากใบหน้าของพาโชคก่อนจะดึงตัวแขกของบ้านลงไปที่เตียง พวกเขาสองคนนั่งอยู่ข้างกัน
“ตอนม.ปลายพี่คบกับเด็กผู้หญิงคนนึงต่างโรงเรียนแล้วพี่ถ่ายคลิปตอนที่เรามีอะไรกันไว้ คลิปที่พัชเห็นในทรัมป์ไดรฟ์”
พาโชคเหนื่อยจนกว่าจะพูดอะไรออกไป มันมองใบหน้าของอีกคนมองตาได้รูป มองคิ้วสีเข้ม มองจมูกโด่งและมองปากสีสดของใครอีกคน มองทั้งๆที่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง
“หลังจากเราก็เลิกกันคลิปนั้นก็หลุดออกไป น่าจะเป็นตอนเอามือถือไปซ่อมหรือไม่ก็แฟนใหม่พี่เอาไปปล่อย”
คนพูดว่าพลางแค่นยิ้ม พาโชคมองใบหน้าที่คุ้นตาแต่เหมือนไม่เคยได้รู้จักกันจริงๆเลย
“พี่ชายเขาเห็น เขาเป็นน้องเล็กของบ้านแล้วที่บ้านค่อนข้างเข้มงวด พี่ชายเขาไม่ไปแจ้งความแต่ลอบมาหาพี่เอง พี่ชายเขาทำร้ายพี่จนเข้าโรงพยาบาลไปสองรอบ”
คนเล่าบอกเสียงสั่น
“ตอนนั้นกระดูกซี่โครงหัก พี่ไม่ได้ตั้งใจ ตอนนั้นพี่เด็กมากจริงๆ”
ใบหน้าที่บึ้งตึงตอนแรกเหยียดยิ้ม
“พี่โดนรังควาญอยู่เกือบสามปี พอจบม.หกพี่ย้ายจากเชียงใหม่เข้ามาเรียนมหาลัยที่นี่ทุกอย่างถึงเงียบไป”
พาโชคมองนัยย์ตาแดงก่ำของคนที่เรียกติดปากว่าลูกพี่
“จนเมื่อเกือบหกเดือนที่แล้ว พี่เคยคุยกับแพมอยู่ช่วงนึงที่ต้องติดต่องาน เราเกือบมีอะไรกัน พี่...”
พาโชคสบตากับคนพูด ใครคนนั้นหลบตาลงก่อนจะเล่าต่อ
“แพมเขาเจอว่ามีคนเข้าไปติดกล้องในห้องนอนเขา พี่พาแพมไปแจ้งความแล้วพี่เจอพี่ชายของเนสอยู่ที่สน.”
พาโชครู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหายใจไม่ออก
“เขายิ้มทักพี่แล้วบอกว่าดีใจที่เจอกันอีกครั้ง...เนสคือแฟนเก่าคนนั้น คนที่อยู่ในคลิป”
พาโชคขมวดคิ้วแน่น มันไม่ใช่คนโง่แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีและในตอนนี้ก็ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมมันปวดท้องมากขนาดนี้
“พัช!!”
นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่มันได้ยินก่อนที่จะวูบไป
***
ศศินตกใจเมื่ออีกคนฟุบลงไปบนเตียง เขาสังเกตมาตั้งแต่หลายวันที่แล้วรู้สึกเหมือนพัชจะไม่ค่อยสบาย แต่ก็ได้แต่ดูอยู่ห่างๆเพราะน้องเองก็ยังดูร่าเริงเป็นปกติ และที่แวะเข้าไปตอนดึกวันนี้ก็เพราะเป็นห่วง
“พัช โอเคไหม”
คนที่ถูกเรียกชื่อมึนงงเล็กน้อย พาโชครู้สึกว่าตัวเบาหวิวไม่ได้ปวดหัวหรือปวดท้องเช่นเดิมแล้ว แต่แขนขากลับไม่ค่อยมีแรง ยูมองคนที่สีหน้าดีขึ้นมากกว่าเมื่อคืนแล้วเบาใจ จำได้ว่าตอนแบกพาโชคลงลิฟท์นั้นทุลักทุเลพอสมควรทีเดียว
“หมอบอกให้พักก่อนสัก3วัน”
พาซวยที่น่าจะซวยสมชื่อหันมองรอบข้างและก็พึ่งรู้ว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาลและตอนนี้น่าจะเป็นเวลาสายๆของอีกวัน มันมองหน้าหัวหน้าตัวเองพลางเรียบเรียงความคิดในหัว
“ดีนะที่เมื่อคืนพัชอยู่กับพี่”
คำพูดนั้นยืนยันได้ว่าสิ่งที่พาโชคได้ยินมาเมื่อคืนไม่ใช่ความฝันแต่อย่างใด
“ไม่ไปทำงาน?”
เสียงที่พาโชคพูดออกไปแหบราวกับไม่ใช่เสียงตัวเอง
“นี่ไงงาน”
อีกคนว่าพลางชี้ไปที่แล็ปท็อปของตัวเองบนโซฟา พาโชคไม่พูดอะไรต่อ มันค่อยๆดันตัวขึ้นโดยที่มีอีกคนช่วยพยุงแล้วเริ่มกินข้าวต้มรสอ่อนๆกับนมอีกกล่องจนหมดโดยไม่ต้องบังคับอะไร
“หมอบอกว่าพัชเครียดลงกระเพาะ กินข้าวไม่ตรงเวลา กินน้อยแล้วก็อาจจะนอนไม่พอร่างกายเลยเพลีย”
พาโชคพยักหน้าตอบรับแต่ก็ขี้เกียจจนกว่าจะพูดอะไรออกไป ต่างจากอีกคนที่ดูพูดมากผิดปกติ
“พัชพักผ่อนนะไม่ต้องคิดอะไรแล้วพี่จะจัดการเอง”
ใครคนนั้นบอกพร้อมกับรินน้ำเปล่าใส่แก้วให้
“พี่ลางานให้แล้วนะ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“ผมจะลาออก”
พาโชคบอกสิ่งที่คิดมาสักพักออกไปเพราะรู้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าระหว่างมันกับพี่ยูเป็นแค่เรื่องผิดพลาด มันไม่ควรมีรอบที่สองและไม่ควรเป็นอยู่แบบนี้ ส่วนเรื่องคลิปวิดีโอนั้นมันไม่รู้จริงว่าต้องทำยังไง ที่เขาส่งคลิปมานั่นคงเป็นการขู่ให้รู้ตัวหรืออะไรสักอย่าง เพื่อยุติความวุ่นวายของตัวมันเองที่ทั้งระแวง เครียดและไม่เป็นตัวของตัวเองอยู่นั้นก็ควรออกไปจากสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ซะ
“อะไรพัช”
คนที่จะเป็นอดีตหัวหน้าในไม่ช้าขมวดคิ้วแน่นและบีบแขนอีกคนไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว
“ผมจะลาออก”
คนพูดว่าก่อนจะหลุบตาลงไปมองมือของอีกคน ยูค่อยๆคลายมือออกจากไหล่น้อง
“ไม่ตลก”
เขาว่าเสียงสั่น จริงอยู่ว่าเขากับน้องมันเป็นแค่หัวหน้ากับลูกน้อง เขาอาจจะเห็นแก่ตัวที่ไม่อยากปล่อยให้น้องมันไปไหน แต่สิ่งที่เขารู้คือพัชไม่ได้ผิดสักนิด น้องไม่ควรเป็นคนที่ไป
“พี่ไม่ให้ออก”
เขาจับมือของอีกคนไว้หลวมๆพร้อมกับโน้มหน้าเข้าไปใกล้ มันอาจจะแปลกอยู่ไม่น้อยที่ทำแบบนี้เพราะนอกจากความสัมพันธ์แบบนั้นแล้วพวกเขาไม่ได้รู้จักกันมากกว่านั้น ไม่เคยไปเที่ยวด้วยกัน ไม่เคยใช้เวลาร่วมกันไม่เคยแม้แต่จะพูดคุยกันจริงๆจังๆ และก็ใช่...พวกเขาไม่เคยรักกัน...
“ถ้าเป็นเพราะเรื่องนั้นพี่สัญญา พี่จะไม่ใครมายุ่งกับพัชอีก”
เขาบอกก่อนใช้อีกมือจะลูบหัวอีกคนเบาๆ
“เรื่องคลิปนั่นหรืออีเมลพัชที่ถูกแฮ็คพี่จะจัดการเอง พี่รู้ว่าขอโทษมันไม่ได้ช่วยอะไร แต่พี่จะไม่ทำให้พัชลำบากใจ พี่จะจบมันเอง”
ศศินพูดสิ่งที่คิดไว้ตั้งแต่เมื่อเช้าออกไป เขาไม่อยากให้น้องมันมาเจออะไรแย่ๆแบบที่เขาเจอ อยากให้มันกลับไปใช้ชีวิตของตัวเองเหมือนเดิม ส่วนเรื่องต่างๆเขาจะจัดการให้มันถูกต้อง แต่กระนั้นมือที่กำลังจับมืออีกคนไว้กลับสั่น
“สงสัยเจนมา เจนบอกจะมาหาตอนเที่ยง”
เขาพูดถึงเสียงเคาะประตูด้านหน้าซึ่งไม่ใช่เจนแบบที่คิดแต่เป็นเพื่อนของเขาเอง
“กินอะไรกันยัง พี่ซื้อข้าวกับขนมมา”
เขามองธามที่ถือของพะรุงพะรังเข้ามา ก่อนจะบอกปัดแล้วถอยไปนั่งตรงโซฟาเพื่อเปิดคอมทำงานเช่นเดิม
“กินแล้วครับ”
คนที่นั่งก้มหน้าเมื่อครู่เงยหน้ามายิ้มอ่อนๆกับผู้มาใหม่ที่หอบขนมมาเพียบ
“งั้นกินเลย์ไหม พี่ซื้อมา”
พาโชคยิ้มก่อนจะตอบ
“หมอห้ามกินของที่มันย่อยยากๆ”
“เดี๋ยวพี่เคี้ยวป้อน”
พาโชคขำพี่ธามก่อนจะยื่นมือไปรับขนมปังหมูหยองมาถือไว้
“พึ่งกินยาไปอย่าพึ่งกินอะไรล่ะ”
พัชหันไปสบตากับคนชอบสั่งที่นั่งอยู่ตรงโซฟาก่อนจะกลับมาคุยกับพี่ธามเช่นเดิม
“พี่ธามโดดงานมาเหรอ”
“อภิสิทธิ์ของหัวหน้าไง ถ้าไม่เกรงใจจะหอบคอมมาทำงานแบบไอ้ยูมันแล้ว”
“พี่เกรงใจใครเป็นด้วยเหรอ”
พาโชคพูดถึงคนที่ชอบไปบ้านแล้วแย่งมันเล่นเกมส์อยู่บ่อยๆ
“พูดแบบนี้ต่อยกันไหมพัช”
คนที่พึ่งมาพูดพร้อมกับทำหน้าบึ้ง
“นี่คนป่วยพี่”
พัชแย้งคนมาเยี่ยมที่ท้ามันต่อย พี่ธามหัวเราะก่อนจะถามต่อ
“เออแล้วหมอให้ออกวันไหน ทำไมเข้าโรงบาลบ่อยวะพี่ว่าเบญเพสแน่เลยเดี๋ยวหาพระมาให้ห้อย”
พัชไม่รู้ว่าที่พี่แกถามนั้นอยากได้คำตอบไหม จึงไม่ได้ตอบอะไรแต่พี่ธามก็หาเรื่องมาคุยไม่จบไม่สิ้น
“มาๆไหนก็กินอะไรไม่ได้แล้ว เดี๋ยวพี่กินเผื่อ”
คนพูดว่าพลางแกะห่อขนมที่แบกมาแล้วกินเสียเอง พาโชคนั่งมองพี่ธามผู้ถือวิสาสะนั่งลงบนเตียงคนป่วยแถมกินขนมมันอีกต่างหาก
“พี่กลับไปดีกว่าไหมแบบนี้”
คนป่วยบอกแล้วถดตัวลงไปนอนตามเดิม ศศินมองคนสองคนที่ต่อล้อต่อเถียงกันอยู่ตรงหน้า เขามองมือของไอ้ธามที่เอาแต่คอยจับผมนุ่มๆของน้องมัน สุดท้ายแล้วก็มองตัวเองผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ยังไม่ได้เปิด ที่เขาบอกพัชว่าทุกอย่างกำลังจะจบลงมันจะง่ายดายแบบนั้นเลยหรือ...