-----(ครึ่งหลัง)-----
แว่นนั่งรอกวินภพอยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างกระวนกระวาย นาฬิกาที่อยู่หน้าห้องบอกเวลาตีหนึ่ง ชายหนุ่มเข้าไปในนั้นหลายชั่วโมงแล้ว เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่
“ญาติคุณกวินภพ รัตนประดิษฐ์ เชิญในห้องด้วยค่ะ” พยาบาลสาวเดินออกมาเรียก แว่นรีบเดินตามหญิงสาวเข้าไปในห้องทันที สิ่งแรกที่เห็นคือกวินภพที่นั่งเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียง ต้นแขนขวาถูกพันด้วยผ้าก๊อซอย่างหนาแน่น
“อ้าว น้องแว่นไม่ใช่เหรอ”
ความบังเอิญมีอยู่จริง กลายเป็นว่านายแพทย์ที่ประจำห้องฉุกเฉินในวันนี้เป็นพี่สายโคที่เขาเคยเจอหนึ่งครั้งวันเฉลยสายรหัส แว่นยกมือไหว้ชายหนุ่มตามมารยาท
“พี่เอ็มสวัสดีครับ”
“ดีเลย มาๆ พี่จะสอนวิธีทำความสะอาดแผลที่บ้านให้” พี่เอ็มกวักมือให้แว่นนั่งลง แล้วสอนวิธีการดูแลรักษาแผลขั้นพื้นฐานให้
“อีกอย่าง ช่วงนี้พี่ยังไม่อยากให้คนไข้ขยับแขนมากนะ เพราะที่เย็บไว้อาจจะปริ แว่นก็ช่วยดูด้วยแล้วกัน เพราะบางทีเวลาเผลอคนไข้ก็ชอบหยิบจับอะไรด้วยตัวเอง”
“เอ่อ...” เด็กหนุ่มพยายามจะบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ได้อาศัยอยู่กับกวินภพ แต่คุณหมอก็ยังคงพูดต่อ
“แล้วก็ อย่างบางเรื่องถ้าแว่น..อืม..เปลี่ยนท่าได้ ที่ไม่ต้องให้คนไข้ต้องใช้แขนรับน้ำหนักตัว..”
“พี่ครับ!” ร่างเล็กหน้าแดง “คือ ผมไม่ได้...”
“ตอนอาบน้ำก็อย่าให้โดนแผลนะ รับใบนัดกับยาด้านนอกนะ เดี๋ยวคืนสู้เหย้าเจอกัน” นายแพทย์หนุ่มตัดบทพร้อมรอยยิ้ม กวิภพที่ถูกพยาบาลสาวติดกระดุมเสื้อกลับให้เรียบร้อยแล้วก้าวลงจากเตียงอย่างระมัดระวัง นิ่วหน้าเล็กน้อยด้วยความเจ็บแปลบที่ต้นแขน
“พี่กล้าระวังครับ” แว่นรีบลุกไปช่วยชายหนุ่มลงจากเตียง เอ็มมองน้องปีหนึ่งตรงหน้าพร้อมรอยยิ้ม
“ดีแล้วล่ะที่รีบๆหาแฟนไว้ตั้งแต่ปีหนึ่ง ขึ้นปีสองไปก็หาได้แค่ในคณะละ"
“มะ..ไม่...”
“ขอบคุณครับหมอ” กวินภพเอ่ยขัดคำปฎิเสธของเด็กหนุ่ม “ไปกันเถอะแว่น”
“แต่...” แว่นหันรีหันขวางระหว่างอธบายให้คุณหมอหนุ่มเข้าใจกับเดินตามคนเจ็บไป
“การเงินเรียกชื่อพี่แล้ว” กวินภพไม่ฟัง เดินนำเด็กหนุ่มไปยังช่องจ่ายเงินและรับยา แว่นรีบก้าวขาตามชายหนุ่มไปเท่าที่ขาสั้นๆของเขาจะเอื้ออำนวย
“แล้ว พี่กล้าจะกลับยังไงครับ” แว่นถาม พวกเขาทั้งคู่ขึ้นรถตำรวจมาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย อีกทั้งชายหนุ่มไม่อยู่ในสภาพจะขับรถกลับ
“เดี๋ยวพี่ขึ้นแท็กซี่กลับ ว่าแต่แว่นเถอะ หอปิดแล้วไม่ใช่เหรอ คืนนี้ไปนอนกับพี่นะ”
“อย่าเลยครับ รบกวนเปล่าๆ” แว่นปฎิเสธ ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ กวินภพยกมือเรียกแท็กซี่ที่ขับวนขึ้นมาหน้าห้องฉุกเฉินด้วยแขนข้างที่เจ็บอย่างจงใจ ก่อนจะร้องออกมาเบาๆด้วยท่าทางเจ็บปวด “โอ๊ย!”
“พี่กล้า! หมอบอกไม่ให้พี่ใช้แขนไม่ใช่เหรอครับ” แว่นรีบเช็คผ้าพันแผล โชคดีที่ไม่มีเลือดไหลซึมออกมา
“ก็…พี่ลืมอ่ะ” คนเจ็บใช้มืออีกข้างเกาแก้มแก้เก้อ
“เจ็บมากมั้ยครับ แล้วอย่างนี้พี่จะอยู่ห้องยังไงคนเดียว มีใครมาอยู่กับพี่ได้มั้ยครับ” นี่น่าจะเป็นบทสนทนาที่ยาวที่สุดที่เด็กหนุ่มเคยพูดกับเขา กวินภพลอบอมยิ้มเล็กน้อย
ถ้ารู้ว่าจะเป็นนี้เขาเอามีดแทงตัวเองไปนานแล้ว
“ไม่มี แต่พี่อยู่คนเดียวจนชินเดียว ไม่เป็นระ...โอ๊ย!” ชายหนุ่มกุมต้นแขนด้วยสีหน้าสำออยเป็นที่สุด
แว่นกัดกระพุ้งแก้มตัวเองอย่างชั่งใจอยู่นาน มองคนที่บาดเจ็บเพราะเขาเป็นต้นเหตุ ก่อนจะเสนอสิ่งที่เขาไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าพูด
“เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะพี่ช่วยผมไว้ ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ผมขอไปอยู่ช่วยพี่จนกว่าจะหายได้มั้ยครับ”
“จริงเหรอ ขอบใจมากนะ ช่วยพี่ได้มากเลย” กวินภพรีบบอกก่อนที่เด็กหนุ่มจะเปลี่ยนใจ เมื่อตกลงกันได้แล้วเด็กหนุ่มจึงพาคนเจ็บเข้าไปนั่งในรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังคอนโดของชายหนุ่ม
“แล้วพรุ่งนี้พี่กล้าจะไปมหาลัยยังไงเหรอครับ” แว่นถามเมื่อพวกเขาเข้ามาในห้องที่เด็กหนุ่มนอนค้างคืนก่อนหน้านี้ กวินภพวางถุงยาลงบนโต๊ะทานข้าวแล้วหันมาตอบคำถามเด็กหนุ่ม
“เดี๋ยวให้พี่ชายพี่มารับ"
“อ๋อ…” แว่นเคยได้ยินว่ากวินภพมีพี่ชายหนึ่งคน แต่ตั้งแต่เริ่มเป็นสตอล์กเกอร์ตามอีกฝ่ายมา เขายังไม่เคยเห็นหน้าเลยซักครั้ง
“พี่กล้ามียาอะไรที่ต้องกินก่อนนอนมั้ยครับ”
“เอ่อ...มียาแก้ปวดแต่ว่าเขาให้กินหลังอาหาร” ชายหนุ่มรื้อค้นถุงยาด้วยมือข้างเดียวอย่างทุลักทุเล
“แล้วอาหารเย็นพี่กล้ากินไปตอนกี่โมงเหรอครับ?” เด็กหนุ่มถาม มือก็ตอกไข่ใส่ถ้วยเตรียมทำข้าวไข่เจียวให้อีกฝ่ายพอได้มีอะไรรองท้องกับยา
“….”
“ว่าไงครับ?” แว่นหันมาหาคนที่ไม่ยอมตอบคำถามเสียที กวินภพมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“ก็…เมื่อเช้า”
“เมื่อเช้า?” เด็กหนุ่มทวนคำเสียงสูง “เมื่อเช้าที่ผมทำขนมปังปิ้งให้พี่น่ะเหรอครับ?”
ชายหนุ่มพยักหน้าด้วยสีหน้าสำนึกผิดจนแว่นดุไม่ลง และรู้ดีว่าตนไม่มีสิทธิ์โกรธด้วย
เด็กหนุ่มวางจานอาหารลงตรงหน้าคนเจ็บที่ทำตาวาวกับอาหารสิ้นคิดราวกับว่ามันเป็นหูฉลามสูตรลับเฉพาะจากเมืองจีนอย่างไรอย่างนั้น
กวินภพใช้มือซ้ายตัดไข่เจียวให้ขาดออกจากกันอย่างทุลักทุเล แว่นเห็นดังนั้นจึงดึงจานกลับมาช่วยอีกฝ่ายตัดอาหารในจานจนพอดีคำ แล้วเลื่อนกลับไปตรงหน้าชายหนุ่ม
กวินภพพยายามใช้มือซ้ายตักอาหารอีกรอบ แต่อาหารในช้อนกลับไหลตกลงมาบนจานทุกครั้ง ชายหนุ่มเงยหน้ามองคนทำอาหารที่ยืนกอดอกดูเขาอยู่ด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ขอโทษนะ...พี่ไม่ถนัดจริงๆ”
“…ขอโทษนะครับ” แว่นดึงเก้าอี้อีกตัวไปนั่งข้างคนเจ็บแล้วดึงช้อนออกมาจากมือชายหนุ่มเพื่อตักอาหาร “อ้าปากครับ"
กวินภพทำตามอย่างว่าง่าย อ้าปากรับอาหารจากช้อนในมือของร่างเล็กแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ รอออาหารคำต่อไปตาแป๋วราวกับลูกนกที่รอแม่ป้อน แว่นไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพฤติกรรมแบบนี้ของอีกฝ่ายยิ่งทำให้เขาใจสั่นยิ่งกว่าเดิม อาจจะเป็นเพราะแว่นมีน้องชายอายุห่างกันห้าปีทำให้เขาชินกับการดูแลคนอื่น และรู้สึกว่าการกระทำของคนตรงหน้า...น่ารัก
“ทานยาได้แล้วครับ” เมื่ออาหารหมดจาน เด็กหนุ่มแกะยาออกจากซองแล้วนำไปจ่อที่ริมฝีปากของชายหนุ่ม ริมฝีปากได้ริมอ้า
รับยาเม็ดเล็กพร้อมกับปลายนิ้วของแว่นเข้าปาก เด็กหนุ่มชักมือออกอย่างตกใจ ใบหน้าขาวขึ้นสีเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่เมื่อนึกถึงสัมผัสอุ่นชื้นเพียงชั่ววินาทีเมื่อครู่
“เอ่อ..น้ำครับ” แว่นรีบเอาหลอดใส่แก้วน้ำให้อีกฝ่ายแล้วหยิบจานไปล้าง รู้สึกโชคดีที่กวินภพไม่ได้สังเกตว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่
“แว่น พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ” เจ้าของห้องว่าพลางขยับตัวลุกขึ้น
“พี่กล้าอาบเองได้เหรอครับ ฝักบัวมันเป็นแบบติดเพดานนี่ครับ” แว่นถาม
“อื้อ เดี๋ยวพี่อาบในอ่าง ช่วงนี้คงต้องงดสระผมไปก่อน” ชายหนุ่มใช้มือข้างที่ไม่บาดเจ็บเกาศีรษะอย่างเซ็งๆ
แว่นมีสีหน้าลังเลที่จะเสนอตัวเข้าไปช่วย เพราะเด็กหนุ่มไม่รู้จริงๆว่าตนจะทนสิ่งเร้ารอบกายได้อีกมากน้อยเพียงไร
กวินภพลอบสังเกตท่าทีของอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเกาหัวเเรงขึ้น
“โอ๊ยยยย คันจังเลย....”
“เอ่อ..ผมสระให้มั้ยครับ” แว่นถามด้วยความรู้สึกผิด
“จะดีเหรอ พี่ไม่อยากรบกวน” ปากว่าอย่างงั้นแต่มือที่เกาหัวอย่างแรงราวกับมีเห็บหมัดสร้างอาณาจักรอยู่ภายในทำให้แว่นยิ่งรู้สึกสงสารอีกฝ่ายเข้าไปใหญ่
“ครับ เดี๋ยวผมไปเตรียมของให้นะครับ” แว่นรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ ส่วนหนึ่งเพื่อกันไม่ให้ตัวเองเปลี่ยนใจ อีกส่วนเพื่อเตรียมใจให้พร้อมกับสิ่งที่จะเกิดต่อจากนี้
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าในระยะสั้นๆเขาจะพัฒนาจากพวกโรคจิตคอยตามอีกฝ่ายไปทุกที่มาสระผมให้ชายหนุ่มได้ โชคชะตาเล่นตลกอะไรกับเขาอยู่กันแน่
กวินภพเดินตามเข้ามาในห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กในมือ แว่นนั่งลงบนขอบอ่างอย่างระมัดระวังแล้วหันมาหาร่างสูง
“พี่กล้านอนลงมาเลยครับ”
คนเจ็บเลิกคิ้ว แต่ก็ยอมนั่งลงบนขอบอ่างน้ำจากุดซี่ขนาดใหญ่แล้วเอนตัวลงนอนบนตักของเด็กหนุ่มแต่โดยดี
“ขยับหัวขึ้นมาอีกนิด...โอเคครับ” ร่างเล็กเปิดฝักบัวของอ่างอาบน้ำเบาๆให้น้ำอุ่นไหลผ่านลงบนศีรษะของอีกฝ่าย มือเรียววางกันบนหน้าผากไม่ให้ละอองน้ำเข้าตาชายหนุ่ม
กวินภพหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขเมื่อมือเรียวนวดศีรษะเขาเบาๆ กลิ่นหอมของแชมพูผสานกับนิ้วโป้งที่นวดวนที่ขมับสร้างความผ่อนคลายให้ชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี
แว่นก้มมองใบหน้าคมที่ดูผ่อนคลายจากเวลาปกติอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากเล็กจุดยิ้มเบาบางเมื่อคิดว่าตนเป็นคนทำให้อีกฝ่ายมีความรู้สึกเช่นนั้น
“พี่กล้า เสร็จแล้วครับ” ร่างเล็กใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมให้อีกฝ่ายพอหมาด แล้วทำความสะอาดอ่างอาบน้ำอย่างคล่องเเคล่ว “เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จค่อยเป่าผมแล้วกันนะครับ”
“อื้ม ขอบใจนะ” กวินภพก้มลงมองเสื้อนักศึกษาที่ถูกติดกระดุมอย่างเรียบร้อยของตน “เอ่อ...”
แว่นเอื้อมมือไปปลดกระดุมให้อีกฝ่ายอย่างรู้งาน
หึ...มาเลยเจ้ากล้าม แกทำอะไรท่านแว่นคนนี้ไม่ได้แล้ว
ซะเมื่อไหร่...
คนที่ปลดกระดุมด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อยยังคงต้องตั้งสติไม่ให้เลือดกำเดาพุ่งออกมาจากจมูกเมื่อมัดกล้ามเป็นลอนปรากฎแก่สายตา การได้เห็นร่างกายของอีกฝ่ายบ่อยๆไม่ได้ทำให้ภูมิคุ้มกันของเด็กหนุ่มดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย
“เดี๋ยวผมไปรอข้างนอกนะครับ”
แว่นบอกเมื่อหมดหน้าที่แล้วเดินออกจากห้องน้ำไปโดยไม่รอคำตอบของคนเจ็บ กวินภพนั่งลงในอ่าง มองตามร่างเล็กไปพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก
“น้ำหยดทุกวันหินยังกร่อน....”
ภาพเหตุการณ์ในขณะนี้เหมือนกับเดจาวูของคืนก่อนหน้า ต่างกันตรงที่กวินภพนั่งอยู่บนพื้นระหว่างขาเรียวและแว่นในเสื้อบอลตัวยาวของเจ้าของห้องเป็นฝ่ายเป่าผมให้ชายหนุ่ม
“ถ้าไม่ได้แว่น พี่คงลำบากแย่” ร่างสูงที่อยู่ในกางเกงนอนขาสั้นเงยหน้าขึ้นบอกคนที่ช่วยทำทุกอย่างให้เขาตั้งแต่กลับมาในห้อง เพราะเป็นคนใจดีแบบนี้ไงเขาถึงได้ตัดใจไม่ลงเสียที
“ถ้าไม่ใช่เพราะผม พี่ก็ไม่ต้องมาลำบากแบบนี้หรอกครับ” แว่นตอบเสียงเรียบ มือเรียวสางผ่านเส้นผมนุ่มลื่นสีดำสนิทขณะเป่าให้เส้นผมแห้ง “ว่าแต่ ทำไมพี่ถึงไปอยู่ตรงนั้นได้ล่ะครับ”
ชายหนุ่มนึกไพล่กลับไปถึงเมื่อตอนเย็น ที่จู่ๆคลิปวีดีโอปริศนาก็ถูกส่งเข้ามาในไลน์เขาจากเด็กหนุ่มที่ชื่อ ‘แทนไทยไงจะใครล่ะ’
‘ส้มตำมะละกอส้มตำมะละกอส้มตำมะละกอส้มตำ~’
ร่างเล็กที่เต้นตามชาวบ้านอย่างงกๆเงิ่นๆดูไม่เข้าพวกเรียกรอยยิ้มจากร่างสูงได้เป็นอย่างดี แต่ที่เขาอยากรู้ คือแทนไทยส่งวีดีโอของเพื่อนสนิทมาให้เขาทำไม
แทนไทยไงจะใครล่ะ: ชอบก็รีบจีบนะพี่
แทนไทยไงจะใครล่ะ:รุ่นนี้ลิมิเต็ดอิดิชั่น
กวินภพผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยความตกใจ แทนไทยรู้?
ถ้าอย่างนั้น....
แทนไทยไงจะใครล่ะ:ไม่ต้องห่วง ไอ้แว่นมันไม่รู้หรอกครับ ผมเห็นว่าพี่ดูเป็นคนดีหรอกนะ เลยอยากช่วย
แทนไทยไงจะใครล่ะ:เดี๋ยวผมพามันไปกินข้าวต่อที่โรงคณะ จะตามมาก็ได้นะครับ
ร่างสูงพุ่งไปยังรถของตนก่อนที่สมองจะคิดถึงข้อแก้ตัวว่าทำไมตนถึงโผล่ไปที่โรงอาหารของคณะแพทย์ได้เสียอีก แต่เมื่อมาถึงที่มหาวิทยาลัย แทนไทยก็ส่งข้อความมา
แทนไทยไงจะใครล่ะ: พี่ๆ เปลี่ยนแผ่น รุ่นพี่เขาพามาเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวหน้ามอ
มาถึงนี่แล้วจะให้ทำยังไง....ตามไปสิครับ
แต่กวินภพก็ไม่รู้ว่าจะโผล่ไปทักทายยังไงไม่ให้ผิดสังเกต ยิ่งเด็กหนุ่มดูจะไม่พอใจเขาด้วยเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ด้วยเมื่อเช้านี้ ร่างสูงจึงตัดสินใจยืนรอเด็กหนุ่มทานเสร็จแล้วแกล้งทำเป็นบังเอิญเจอกัน
แต่แทนไทยดันส่งข้อความมาอีกครั้ง
แทนไทยไงจะใครล่ะ: ไอ้แว่นมันออกไปแล้วอ่ะพี่
กวินภพสังเกตเห็นร่างเล็กในชุดนักศึกษาทันทีที่อีกฝ่ายออกมาจากร้าน ชายหนุ่มขยับกายหลบเข้าไปในมุมมืดตามสัญชาตญาณ กวินภพเว้นระยะห่างพอสมควรขณะเดินตามเด็กหนุ่มที่เดินไปตามทางอย่างไร้จุดหมาย ยังคงไม่เข้าใจว่าตัวเองถ่อมาถึงที่นี่ทำไมทั้งที่รู้ว่ายังไงตนก็ไม่กล้าเดินเข้าไปหาร่างตรงหน้า
เดินเข้าไปทักสิวะไอ้กล้า
แค่คนรู้จักบังเอิญเจอกัน เรื่องปกติจะตาย
“กรี๊ดดดดดดด ขโมย!!!ช่วยด้วยค่าาาา!! ”
อืม....อย่างน้อยก็มีเรื่องให้ได้เข้าไปทักน้องแว่นล่ะนะ
“พี่กล้าครับ?” เด็กหนุ่มเรียกร่างสูงให้กลับมาสู่ปัจจุบัน
“เอ่อ..พี่ไปซื้อน้ำเต้าหู้น่ะ” ชายหนุ่มรีบตอบ “แต่เกิดเรื่องซะก่อนเลยไม่ได้ซื้อ”
“อ๋อ…” แว่นดูจะไม่ได้ติดใจอะไร ปิดเครื่องไดร์เป่าผมแล้วม้วนเก็บในลิ้นชักอย่างเป็นระเบียบแล้วลุกขึ้นจากเตียง
"ถ้างั้นผมออกไปนอนที่โซฟานะครับ"
"ก็ได้.." ชายหนุ่มยอมอย่างว่าง่ายผิดกับครั้งที่แล้ว "เวลาพี่ต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกพี่จะได้ไม่ต้องรบกวนแว่น..."
ฟันเฟืองในสมองเด็กหนุ่มเริ่มหมุนทำงาน แว่นชั่งน้ำหนักระหว่างการออกไปนอนข้างนอกกับการอยู่ช่วยอีกฝ่ายตอนกลางดึก กวินภพที่เห็นอีกฝ่ายเริ่มโอนอ่อนตามจับต้นแขนตัวด้วยสีหน้าเหมือนอดกลั้นความเจ็บปวด
"ถ้าพี่ปวดแผลกลางดึกแว่นจะได้ไม่ต้อง..."
"ผมว่าผมนอนในห้องดีกว่า" แว่นที่เริ่มคิดภาพตามอีกฝ่ายเปลี่ยนใจ ถ้าเขาอยู่ข้างนอกมันก็ลำบากในการช่วยอีกฝ่ายหยิบจับข้าวของจริงๆ "แต่ผมนอนบนพื้นนะครับ"
"เตียงพี่กว้างออก นอนด้วยกันนี่แหละ" ชายหนุ่มชวน ก่อนจะขมวดคิ้วเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก "หรือเมื่อคืนพี่กวนอะไรแว่น"
นั่นรึเปล่าที่ทำให้แว่นดูหงุดหงิดกว่าปกติเมื่อเช้า
"เปล่าครับ พี่กล้าไม่ได้ทำอะไร" เด็กหนุ่มปฎิเสธ ซึ่งก็เข้าทางโจรพอดี
"ถ้างั้นก็ไม่มีปัญหาเนอะ นอนกันดีกว่า " กวินภพรวบรัดตัดบทไม่เปิดช่องให้อีกฝ่ายเถียง ชายหนุ่มขยับตัวมานอนอีกฝั่ง ใช้มือข้างที่ไม่เจ็บตบที่ฟูก "พี่ง่วงแล้ว"
"ครับ" แว่นปิดไฟแล้วเดินกลับมาที่เตียงอย่างหมดแรงที่จะเถียง เขารู้สึกว่ายิ่งต่อรองกับอีกฝ่ายเขายิ่งเสียเปรียบ เด็กหนุ่มสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับร่างสูง ใกล้เสียจนเขารู้สึกถึงอุณหภูมิของร่างที่อยู่ข้างๆ
"ราตรีสวัสดิ์ครับพี่กล้า" แว่นกระซิบ ความเงียบในห้องทำให้เข้าได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองอย่างชัดเจน
"อือ ฝันดีนะแว่น" กวินภพกระซิบตอบพร้อมรอยยิ้มที่เด็กหนุ่มมองไม่เห็น
ทั้งสองไม่ได้รู้เลยว่าคนที่นอนอยู่ข้างตนบนเตียงนอนตาค้างไปจนเกือบเช้า....
--------------

พี่กล้า:ผมไม่ป๊อดแล้วนะครับ
หราาาาาาา//เบ้ปากมองบน