5th diagnosis: Myocardial Infarction || จะตัดใจ...หรือจะไปต่อ
หลังจากนั้นแว่นก็เลือกที่จะตัดใจ...
ซะที่ไหนล่ะ
ถ้ามันทำได้ง่ายขนาดนั้น เด็กหนุ่มคงทำไปนานแล้ว
เด็กหนุ่มเลือกที่จะติดตามข่าวสารผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์คไปซักระยะ ไม่ใช่แค่เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกเอะใจ แต่ร่างเล็กรู้สึกละอายใจกับสิ่งที่ทำลงไปด้วย
วันนี้มีแข่งยูโดภายในชมรมแต่แว่นบอกเพื่อนร่วมห้องไปว่าเขารู้สึกไม่สบาย ซึ่งดูน่าเชื่อถือพอสมควรจากสภาพการอดหลับอดนอนของเด็กหนุ่ม ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องของกวินภพทำให้แว่นไม่ค่อยได้พักผ่อนอย่างที่อยากทำ
นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาพลาดการแข่งขันของกวินภพ
แทนไทยที่อยู่ในชุดยูโดเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ ร่างสูงมองดูเพื่อนร่วมห้องที่นอนแผ่รังสีมืดหม่นอยู่บนเตียงอย่างไม่รู้จะช่วยอย่างไร
"แว่น..."
"หืม..." คนบนเตียงขานรับในลำคอ ไสลด์หน้าจอดูข่าวสารของชายหนุ่มไปเรื่อยๆ
"มีอะไรก็บอกกูได้นะ" แทนไทยที่ปกติไม่ใช่คนเซ้าซี้อยู่แล้วได้แต่บอกเพื่อนแบบนั้น
"รีบไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทันแข่ง" ร่างเล็กเปลี่ยนเรื่อง ไม่ยอมละสายตาจากหน้าจอ แทนไทยได้แต่ส่ายหัวอย่างจนปัญญา เขาอยากจะถามเพื่อนอยู่หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่แว่นไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องของตัวเอง อีกอย่าง แทนไทยคิดว่าอย่างน้อยเขาก็ควรจะได้รับความไว้วางใจจากอีกฝ่ายมากพอที่จะเล่าให้เขาฟังด้วยตัวเอง
เรื่องที่แว่นแอบชอบพี่ต้นกล้าอยู่...
แทนไทยอาจจะไม่ได้เก่งเรื่องอ่านใจคนมากที่สุด แต่เขาก็ไม่ได้โง่ที่สุดเช่นกัน
หลังจากวันที่อีกฝ่ายเดินออกมาจากร้านนมสด พฤติกรรมแปลกๆของแว่นที่มักจะโผล่ไปทุกที่ที่มีรุ่นพี่คณะบริหารอยู่และสายตาอาฆาตพยาบาทที่ชายหนุ่มร่างสูงส่งให้เขาราวกับเขาเผลอขับรถเหยียบเท้าเจ้าตัวก็ปะติดปะต่อกันอย่างลงตัว
แต่เขาควรจะเกลี้ยกล่อมยังไงให้เพื่อนรักเชื่อ ในเมื่อหากมองจากมองมุมมองของคนนอก ไอ้แว่นเพื่อนรักของเขาไม่ใช่คนที่คนปกติจะนึกถึงหากพูดถึงคนในสเป็กของเดือนมหาลัยปีสามที่แสนจะหล่อรวยเพอร์เฟ็กต์ซักเท่าไหร่
ขนาดเขารักมันปานจะกลืน แทนไทยยังไม่เข้าใจเลยว่าพี่ต้นกล้าชอบมันที่ตรงไหน
แต่ก็นะ ลางเนื้อชอบลางยา...
"งั้นกูไปละนะ"
"อือ"
แทนไทยเหลือบมองเพื่อนรักอย่างเป็นห่วงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ไม่รู้อะไรดลใจ หลังจากที่เพื่อนร่วมห้องเดินออกไป เด็กหนุ่มถึงได้กดเข้าแอพไลน์ที่เงียบเหงาพอสมควรนอกจากไลน์กลุ่มของคณะที่เด้งตลอดเวลาไม่ว่าจะกี่โมงกี่ยาม
เด็กแว่น: นี่
หมาน้อยธรรมดา:ครับ?
เด็กแว่น:คนที่คุณชอบ เขาเป็นคนยังไงเหรอ?
หมาน้อยธรรมดา: ทำไมจู่ๆถึงได้สนใจขึ้นมาล่ะครับ?
แว่นนึงคิด... นั่นสิ
เด็กแว่น:ผมแค่อยากรู้ ว่าคนที่มีค่าพอจะมีใครซักคนมารัก เขาเป็นคนแบบไหน
แค่อยากรู้...ว่าคนที่ถูกคนอื่นรักจะต้องมีคุณสมบัติเช่นไร
หมาน้อยธรรมดา: น่ารัก
ว่าแล้ว...แว่นยิ้มขื่น
ใครๆต่างก็ชอบของสวยงามทั้งนั้น เขาก็เริ่มชอบพี่ต้นกล้าจากความสมบูรณ์แบบของอีกฝ่ายไม่ใช่รึไง
เด็กหนุ่มไม่เข้าใจว่าตัวเองจะรู้สึกแย่ทำไมเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตอบแบบนั้น
หมาน้อยธรรมดา: แต่ผมไม่ได้พูดถึงหน้าตาหรอกนะครับ
แว่นเลิกคิ้ว ชันตัวขึ้นนั่งอย่างสนใจ
หมาน้อยธรรมดา: ผมชอบ เพราะสำหรับผม เขาเป็นคนที่น่ารักที่สุด
หมาน้อยธรรมดา: ผมเชื่อว่า ทุกคนเป็นคนที่น่ารักที่สุดสำหรับใครซักคน แค่อีกคนจะคิดว่าเราน่ารักที่สุดสำหรับเรามั้ย ก็แค่นั้น
คนอ่านอมยิ้มเล็กๆ นั่นสินะ...
เด็กแว่น: แล้วทำไม เขาถึงน่ารักที่สุดสำหรับคุณล่ะ?
หมาน้อยธรรมดา: คนคนนั้นเคยช่วยชีวิตผมไว้
"หือ? นี่มันพล็อตนิยายน้ำเน่ารึเปล่าเนี่ย?" เด็กหนุ่มยิ้มขำ
หมาน้อยธรรมดา: เรื่องจริงนะครับ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นเหตุผลหลักทำให้ผมชอบเขาหรอก
เด็กแว่น:อะไรของคุณเนี่ย อ่านใจผมได้รึไง
หมาน้อยธรรมดา: ครับ ผมเป็นยอดหมานุ๊ดดด
เด็กแว่น:....
หมาน้อยธรรมดา: ง่า ขำหน่อยจิ
เด็กแว่น:....
หมาน้อยธรรมดา:*สติ๊กเกอร์หมาสะบัดหน้างอนๆ*
หมาน้อยธรรมดา: ผมชอบรอยยิ้มของเขา ถึงเขาจะเคยยิ้มให้ผมแค่ครั้งเดียวก็เถอะ
แว่นนึกย้อนไปถึงภาพชายหนุ่มในชุดนักศึกษาที่นั่งยิ้มให้กับโทรศัพท์
เขาเข้าใจความรู้สึกดีเลยล่ะ
หมาน้อยธรรมดา:แล้วคุณล่ะครับ?
เด็กแว่น:หืม?
หมาน้อยธรรมดา: ไม่มีคนที่ชอบเหรอครับ?
แว่นลังเล เขายอมรับว่าเขารู้สึกว่าตัวเองคุยกับอีกฝ่ายได้มากกว่าที่คุยกับคนที่รู้จัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความรู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงเพื่อนในจินตนาการของเขาก็เป็นได้ แต่เด็กหนุ่มไม่มั่นใจ ว่าตนจะเชื่อใจคนคนนี้ได้มากแค่ไหน แม้สัญชาตญาณของเขาจะบอกว่าอีกฝ่ายไว้ใจได้ก็ตาม
เด็กแว่น:มี
อีกฝ่ายเว้นช่วงไปนานพอควรหลังจากอ่านข้อความ ก่อนจะตอบกลับมา
หมาน้อยธรรมดา: เป็นคนแบบไหนเหรอครับ?
เด็กแว่น: ไม่บอก คิดเอาเอง
เด็กหนุ่มกดปิดหน้าจอแล้วโยนโทรศัพท์ลงบนหัวเตียง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง แว่นนอนมองเพดานด้วยจิตใจที่ปลอดโปร่งขึ้นเล็กน้อยหลังจากได้แกล้งคนที่อยู่อีกฝั่งของบทสนทนา
ไม่ได้รับรู้เลยว่าคนที่อ่านข้อความกำลังเดินไปเดินมาเป็นหนูติดจั่นอยู่ในห้องแต่งตัวของชมรม
"ไอ้กล้า เสร็จยังวะ เอ้า ทำอะไรของมึงเนี่ย" เหนือฟ้าที่เดินเข้ามาตามเพื่อนทักเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินจงกรมรอบม้านั่งจนเขาเวียนหัวแทน
"มึง..." กวินภพหันมาหาเพื่อนรักที่มักจะมีคำตอบให้เขาในทุกๆเรื่อง "กู...ไม่รู้จะทำยังไงแล้วว่ะ"
"ฮะ?" เหนือฟ้าดันประตูปิดแล้วล็อคกลอนอย่างรู้งาน นี่เห็นมันซึมที่ทำน้องร้องไห้จนไม่เป็นอันทำอะไร ทำไมงานเข้าอีกแล้ววะ
"มีอะไรวะกล้า?"
"น้อง...มีคนที่ชอบแล้ว" ร่างสูงในชุดยูโดนั่งลงบนม้านั่ง ซุกหน้าลงบนฝ่ามืออย่างเคร่งเครียด
"อะไรนะ? มึงไปได้ยินมาจากไหน" เหนือฟ้าถามอย่างไม่เชื่อ เขาเห็นแววตาที่แว่นมองเพื่อนของเขา ไม่มีทางเลยที่เด็กหนุ่มจะมีคนที่ชอบอยู่แล้ว
"กูรู้ก็แล้วกัน" กวินภพตอบอย่างหงุดหงิด เหนือฟ้ายังคงมีสีหน้าไม่เชื่อ แต่ชายหนุ่มคิดว่านี่เป็นการดีที่เพื่อนรักจะได้ชัดเจนกับตัวเองเสียที
"แล้วมึงจะทำยังไง?"
"?" คนถูกถามหันไปมองเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างงุนงง
"ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้น มันอยู่ที่ตัวมึงแหละ ว่าจะทำอะไรต่อ" ชายหนุ่มผมทองเทศนา "น้องเขามีคนที่ชอบ แล้วไง? ในเมื่อตอนที่น้องเขาไม่มีใครในใจมึงก็ไม่เคยทำอะไรให้ชัดเจนป่ะวะ แล้วตอนนี้จะมาทำแตกตื่นเพื่อ?"
คนถูกด่านิ่งไป เมื่อเห็นฟันเฟืองในหัวเพื่อนกำลังเริ่มทำงาน เหนือฟ้าจัดการการสอนคนขี้กลัวไปอีกดอก
"วันนึงน้องก็ต้องมีแฟนป่ะวะ? มึงคิดเหรอว่ามึงเป็นคนเดียวบนโลกที่รู้สึกว่าน้องน่ารักน่ะ?" เหนือฟ้าตบไหล่เพื่อนให้กำลังใจ "มึงคิดเอาเองแล้วกัน ว่ามึงจะโอเคกับการเป็นหมาหวงก้าง อารมณ์เสียกับผู้ชายทุกคนที่เข้ามาในชีวิตน้อง หรือมึงจะทำทุกอย่างให้ตัวเองได้อยู่ในฐานะคนที่สามารถหวงน้องได้อย่างชอบธรรม มึงเลือกเลยกล้า เพราะกูก็ไม่รู้ว่าน้องจะโสดให้มึงหวงไปอีกนานแค่ไหน" เหนือฟ้าลุกขึ้นยืนเต็มความสูง "รีบออกไปได้แล้ว คนรอกันนานแล้ว"
กวินภพพยักหน้า ลุกขึ้นตามเพื่อนรัก ทั้งสองเดินออกมาจากห้องแต่งตัวโดยไม่มีใครพูดอะไร กวินภพมัวแต่จมอยู่ในห้วงความคิดของตนจึงไม่ทันสังเกตร่างของเด็กหนุ่มลูกครึ่งที่กระโดดเข้าไปหลบในหลืบข้างตู้กดน้ำติดประตูห้องอย่างทันท่วงที
แทนไทยถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ถูกจับได้
ไอ้แว่นเอ๊ย...ไปทำอีท่าไหนให้พี่เขาเข้าใจผิดไปขนาดนั้นวะ
"แว่น..."
"ไม่"
"แว่นจ๋า...."
"ไม่"
"แว่นยอดรักของแทน...."
"มึงดูปากกูนะ" ร่างเล็กชี้ที่ริมฝีปากของตัวเอง "ไม่"
"ฮืออออ นี่กูเพื่อนรักสุดสวาทขาดใจของมึงนะแว่น มึงจะไม่บอกกูจริงๆเหรอว่าพี่อุ่นนัดเลี้ยงที่ไหน" แทนไทยแทบจะลงไปกอดขาเพื่อนร่วมห้อง ร่างเล็กกลอกตามองบนอย่างระอากับความเล่นใหญ่รัชดาลัยของเด็กหนุ่มผมบลอนด์
"กูไปละ พี่นุ่นรออยู่หน้าหอนานแล้ว" แว่นมองความเรียบร้อยของตนในกระจก รอยคล้ำใต้ตาจากการนอนไม่หลับมาหลายคืนเห็นชัดเสียจนน่ากลัว เด็กหนุ่มเปิดกระเป๋าตรวจเช็คข้าวของ แล้วเดินออกจากห้องโดยไม่แคร์เสียงร้องโหยหวนที่ดังออกมาจากห้องของตน
จริงๆแว่นจะบอกแทนไทยก็ได้ว่าพี่น้ำอุ่นนัดเลี้ยงที่ไหน เขาเชื่อว่าปีสายรหัสปีสี่ของตนคงจะไม่รังเกียจหากมีเพื่อนร่วมโต๊ะเพื่อนขึ้นอีกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนๆนั้นเป็นไอ้แทน
แต่เมื่อเห็นทางรักที่โรยด้วยกลีบกุหลาบปูพรมแดงกลางแสงสปอร์ตไลท์ของเพื่อนกับปู่รหัส คนดีอย่างแว่นก็อดไม่ได้ที่จะเอาตัวเข้าไปเป็นขวากหนาม เป็นก้อนกรวดเล็กๆให้เรื่องรักของเพื่อนมีรสชาติ
พูดง่ายๆ...หมั่นไส้ว่ะ
"พี่นุ่น พี่พราว สัวสดีครับ" แว่นยกมือไหว้พี่นุ่น พี่รหัสของตนที่เป็นคนขับรถ และพี่พราว พี่ปีสามที่นั่งอยู่ข้างคนขับ
"จ้า ขึ้นรถเลย ร้านไกลจากมออยู่เหมือนกัน เดี๋ยวรถติด"
แว่นเปิดประตูรถฮอนด้าแจ๊ซสีแดงเข้าไปนั่งที่เบาะหลัง รถคันเล็กเคลื่อนตัวออกจากหอพักของเขาไปยังจุดหมายซึ่งเปลี่ยนจากร้านชาบูหน้ามหาวิทยาลัยเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างที่อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยประมาณครึ่งชั่วโมง โชคดีที่รถไม่ติดมากทำให้พวกเขาไปถึงจุดหมายอย่างรวดเร็ว
"โห ร้านใหญ่อ่ะ" พี่นุ่นตาโต
"รีบไปกันเถอะ พี่อุ่นบอกว่าถึงแล้ว" พราวที่เพิ่งวางสายจากน้ำอุ่นบอก ทั้งสามเดินเข้าไปในร้าน ทีแรกแว่นมองไม่เห็นร่างของเจ้ามือในวันนี้ที่นั่งอยู่ที่บูธใกล้ที่ตักอาหาร แต่เมื่อร่างโปร่งยืนขึ้นโบกมือให้พวกเขา เด็กหนุ่มถึงกับมองค้างไปชั่วขณะ
ชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อยืดคอวีสีฟ้าอ่อนแขนยาวเผยให้เห็นลำคอระหงส์ไปจนถึงกระดูกไหปลาร้า สร้อยคอสายคู่สีดำที่มีจี้เป็นไม้กางเขนสีเงินเรียบๆประดับอยู่ที่คอทำใหเดูไม่โล่งจนเกินไป กางเกงยีนส์ขายาวที่แม้จะไม่รัดจนน่าเกลียดแต่ก็แนบชิดติดกายพอสมควรทำให้ช่วงขาเรียวดูยาวขึ้นไปอีกเส้นผมสีน้ำตาลที่มักจะหวีเรียบร้อยเป็นระเบียบถูกจัดทรงให้ดูเปผ้นวัยรุ่นตามสมัยนิยม
"กรี๊ดดดด พี่อุ่นอปป้าที่สุดดดดด" สองสาวพากันประสานเสียง ดึงแว่นวิ่งไปหาพี่รหัสแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูปคู่กับชายหนุ่มเป็นการใหญ่ เด็กหนุ่มได้แต่มองกล้องเอ๋อๆขณะที่สองสาวรัวถ่ายเซลฟี่อย่างสนุกสนาน
"เช็คอินก่อน อิอิ" พี่นุ่นลงรูปภาพพร้อมกดเช็คอินแล้วแท็กพวกเขาทั้งหมดรวมทั้งพี่อุ่นที่ไม่มีโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างอื่นนอกจากเฟสบุ๊คที่สมัครทิ้งไว้ตามข่าวสารคณะ
"จะกินอะไรตักได้เลยนะ" น้ำอุ่นบอกเด็กๆที่พยักหน้าหงึกหงัก ไม่นานนัก โต๊ะของพวกเขาก็เต็มไปด้วยอาหารมากมายที่ครึ่งนึงเป็นของแว่น พี่ทั้งสามที่โดนน้องถล่มในวันเปิดสายรหัสไปแล้วได้แต่มองกองอาหารขนาดย่อม
"เห็นแว่นกินทีไรพี่อิจฉาทุกที" พี่พราวว่า "เอาไปเก็บไว้ไหนหมด"
"ว่าแต่น้องแว่น พี่พราวดูพี่อุ่นก่อนค่ะ" นุ่นแซวร่างโปร่งที่มีถาดอาหารเยอะพอสมควรแม้จะไม่เท่าแว่นก็ตาม
"อะไรกัน พี่กินน้อยแล้วนะวันนี้" น้ำอุ่นแย้งดร้อมรอยยิ้ม
พี่ทั้งสามปลัดกันถามเรื่องชีวิตของแว่นในรั้วมหาลัย ทั้งเรื่องการเรียน กิจกรรม และเรื่องทั่วไป แว่นก็ตอบได้บ้างไม่ได้บ้างอย่างคนไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมเท่าไหร่ พี่อาจจะมีหลุดพูดคุยเรื่องเนื้อหาบทเรียนที่แว่นยังไม่เข้าใจบ้าง แต่พี่น้ำอุ่นก็มักจะพยายามให้เด็กหนุ่มมีส่วนร่วมในบทสนาทนาเสมอ
"เดี๋ยวพี่ไปเอาเนื้อเพิ่ม..อ๊ะ"
พี่น้ำอุ่นลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนจะชนเข้ากับคนที่เดินผ่านมาอย่างจัง โชคดีที่อีกฝ่ายไหวตัวทันรวบเอวบางไว้ไม่ให้ล้มลงไป
"อ้าว พี่น้ำอุ่น สวัสดีครับ" แทนไทยทัก ยังคงไม่ปล่อยมือจากเอวของคนตัวเล็กกว่า
"สวัสดีครับน้องแทน มากับใครเหรอครับ?" คนอายุมากกว่าถามพร้อมรอยยิ้มประจำตัว ไม่ได้สนใจมือใหญ่ที่วางบนแผ่นหลังของตนแม้แต่น้อย
แว่นกระแอมกระไอ เพื่อนสนิทที่เพิ่งรู้สึกตัวรีบปล่อยมืออกจากเอวของรุ่นพี่ ยกมือลูบหลังคอแก้เก้อ น้ำอุ่นเพียงแต่ยิ้มให้เด็กหนุ่มแล้วถามอีกครั้ง
"ว่าไงครับ?"
"อ๋อ คืออยู่ๆผมก็อยากกินเนื้อย่าง แต่ไอ้แว่นมันมาเลี้ยงสาย เลยขับรถมากินคนเดียวน่ะครับ บังเอิญจังน่ะครับ" แทนไทยหัวเราะกลบเกลื่อน
"ถ้าอย่างนั้นมากินกับพวกพี่มั้ย" น้ำอุ่นเสนอ แทนไทยส่ายหน้าอย่างเกรงใจ
"อย่าเลยครับ ผมไม่อยากรบกวน"
"ไม่กวนหรอก มาเถอะ" น้ำอุ่นยังคงยืนยัน แทนไทยจึงพยักหน้าอย่างไม่กล้าเล่นตัวต่อ
"แต่ผมจ่ายเองนะครับ"
"ตามสบาย เลี้ยงพี่ด้วยก็ได้นะ" ชายหนุ่มพูดกึ่งเล่นกึ่งจริง "เดี๋ยวพี่ไปตักเนื้อเพิ่มก่อน นั่งข้างพี่ก็ได้ ที่ยังว่างอยู่"
ไม่รู้ทำไมแว่นถึงรู้สึกว่า 'ยังว่างอยู่' ของพี่น้ำอุ่นมีความหมายแอบแฝงมากกว่าที่เห็นนะ
"ครับผม"
แทนไทยนั่งลงด้วยสีหน้าระริกระรี้จนน่าเตะ แว่นมองเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยความหมั่นไส้
"มาได้ไงวะ" แว่นขมุบขมิบปากถาม
"พี่นุ่นแท็กเฟสมึง" แทนไทยขยับปากต่อด้วยสีหน้าเหนือกว่า
....เขาประมาทมันเกินไปสินะ
"น้องแทน ประกวดเดือนมหาลัยปีนี้นี่วันไหนนะ?" นุ่นชวนคุยจังหวะเดียวกับที่น้ำอุ่นเดินกลับมาพร้อมกับเนื้อสดหลายถาด
"จริงสิ น้องแทนเป็นเดือนคณะนี่เนอะ" ชายหนุ่มนั่งลงข้างร่างสูงที่ยังคงอยู่ในชุดนักศึกษาแล้ววางจานลงตรงหน้าแทนไทย "พี่ตักมาเผื่อ แทนทานได้ทุกอย่างมั้ย?"
"ได้ครับ ขอบคุณมากครับ" แทนไทยยิ้มกว้างจนแว่นนึกหมั่นไส้กับความดี๊ด๊าของเพื่อน
"แล้วตกลงแทนประกวดวันไหนเหรอ?" น้ำอุ่นถาม
"จันทร์หน้าครับ" เด็กหนุ่มรีบตอบ
"จันทร์หน้าพี่ว่างช่วงเย็นพอดีเลย ถ้าว่างๆจะไปเชียร์นะ"
"ครับ!"
ร่างสูงบริการหยิบจับปิ้งย่างอาหารให้คนอายุมากกว่าที่นั่งอยู่ข้างกายโดยไม่ยอมให้อีกฝ่ายต้องออกแรงซักนิด พี่น้ำอุ่นรีบจับข้อมือของคนที่คีบเนื้อใส่จานเขาอย่างต่อเนื่องพร้อมสีหน้าเหมือนพยายามกลั้นหัวเราะ
"พอแล้ว พี่ไม่ได้ตะกละขนาดนั้นซักหน่อย"
"ขะ...ขอโทษครับ"
แทนไทยรีบขอโทษขอโพย น้ำอุ่นคีบเนื้อย่างจิ้มลงในน้ำจิ้มแล้วยกขึ้นเป่าเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมาจ่อที่ริมฝีปากได้รูปของเด็กหนุ่ม
"..." คนอายุน้อยกว่าจ้องอาหารตรงหน้าราวกับมันเป็นเนื้อของสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก
"รับผิดชอบสิ" น้ำอุ่นว่า ดันเนื้อย่างชิดริมฝีปากของเด็กหนุ่มที่อ้าปากรับแต่โดยดี แทนไทยเคี้ยวตุ้ยๆทั้งที่ยังมองคนป้อนไม่วางตา
"อร๊ายยยย พี่อุ่นอ่ะ ทำงี้พี่ติณณ์ไม่หึงแย่เหรอคะ" พราวแหย่ แว่นขมวดคิ้วกับชื่อที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
"ก็อย่าให้รู้สิ" น้ำอุ่นตอบพร้อมรอยยิ้ม
"ใครเหรอครับ?" แทนไทยถามอย่างสังหรณ์ใจไม่ดี
"แฟนพี่อุ่นไงจ๊ะ" พี่พราวบอก "เดือนคณะปีสี่เชียวนะ แซ่บเว่อร์"
เดี๋ยวนะ...พี่อุ่นมีแฟนแล้ว???
แว่นลอบสังเกตสีหน้าเพื่อนที่หมองลงอย่างรวดเร็วด้วยความสงสาร ทว่าร่างโปร่งกลับหลุดหัวเราะออกมา สร้างความงุนงงให้กับเด็กหนุ่มทั้งสองเป็นอย่างมาก
"ไปแกล้งน้อง ดูสิ น้องตกใจหมด"
"เอ๊ะ? ตกลงว่ายังไงกันแน่ครับ?" แทนไทยถามอย่างงุนงง
"ติณณ์เป็นเพื่อนพี่น่ะ คนอื่นเขาแค่แซวกันไปอย่างนั้น" น้ำอุ่นอธิบาย แต่สองสาวดูจะไม่เชื่อง่ายๆ
"แล้วสร้อยแทนใจที่พี่อุ่นใส่ล่ะคะ?"
"รถมาสแตงที่พี่อุ่นขับด้วย"
เดี๋ยวๆๆๆ
สร้อยน่ะแว่นยังพอเข้าใจได้ว่าเป็นของที่เพื่อนซื้อให้กัน แต่รถนี่มัน....
"รถน่ะแค่เอามาขับเล่นเพราะติณณ์มันขโมยรถพี่ไปใช้ก่อนหน้านี้ ส่วนสร้อย..." น้ำอุ่นหยิบจี้รูปไม้กางเขนขึ้นมาหมุนเล่น "พี่แค่รู้สึกว่าพี่ใส่แล้วหล่อดี"
"อะไรอ่าพี่อุ่นนนนน น้องอุตส่าห์จิ้นนนนน" พี่นุ่นงอแง แว่นสะกิดพี่พราวแล้วกระซิบถามเบาๆ
"พี่ติณณ์นี่คนไหนเหรอครับ"
"คนนี้ๆ" พราวเปิดเพจคิวท์บอยของมหาวิทยาลัยในมือถือให้แว่นดู เด็กหนุ่มรับโทรศัพท์มา ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่พี่ๆกำลังพูดถึง
'ติณณ์ภพ ปีสี่ คณะแพทยศาสตร์'
โคตร-พ่อ-โคตร-แม่-หล่อ!!!
เขาไม่อยากเชื่อว่าจะมีวันที่ตัวเองเห็นนอื่นหล่อกว่าพี่ต้นกล้า ชายหนุ่มร่างสูงในชุดกาวน์ยาวที่ยืนถือคลิปบอร์ดอ่านอะไรบางอย่างอยู่มีผิวสีค่อนข้างเข้มแม้จะไม่เท่าพี่ต้นกล้า กล้ามเป็นมัดๆที่ยากจะอำพรางด้วยเสื้อผ้ากับใบหน้าคมคายที่ถูกทำให้ซอฟต์ลงด้วยแว่นไร้กรอบยิ่งทำให้อีกฝ่ายดูมีสเน่ห์น่าค้นหา ถ้าจะเปรียบคงเหมือนหมาป่าที่กำลังเฝ้ามองเหยื่อด้วสายตาที่ยากจะคาดเดา
เทียบกับเจ้าหมาโกลเด้นที่วิ่งเล่นชนข้าวของไปวันๆอย่างไอ้แทน ชายหนุ่มช่างเหนือกว่าหลายขุมนัก
"ถ้างั้น...พี่น้ำอุ่นยังโสดอยู่รึเปล่าครับ?"
แว่นเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนที่ถามคนที่แอบชอบเอาแบบดื้อๆทันที เช่นเดียวกับสองสาวที่หันขวับกลับมาหาแทนไทยด้วยสายตาแวววาว
น้ำอุ่นนิ่งคิดก่อนตอบ "ก็โสดนะ"
"อะไรๆๆๆๆ น้องแทนถามแบบนี้จะจีบพี่อุ่นเหรอจ๊ะ" พี่นุ่นแซว คนถูกดักทางใบหน้าขึ้นสีเรื่อ ด้วยความที่เป็นคนขาวทำให้ใบหูที่แดงก่ำเป็นที่สังเกตอย่างชัดเจน
"แล้ว..จีบได้มั้ยครับ"
น้ำอุ่นเอียงคออย่างน่ารัก รอยยิ้มที่มักจะประดับบนริมฝีปากกว้างขึ้นเล็กน้อยในสายตาของแว่น
"เอาสิ"
"กรี้ดดดดดดด"
เด็กหนุ่มกลัวเหลือเกินว่าพวกตนจะถูกเชิญออกจากร้านโทษฐานส่งเสียงดังรบกวนโต๊ะอื่น
เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้า เขาดีใจกับเพื่อนอยู่หรอกนะ แต่มันก็อดหงุดหงิดไม่ได้ที่เห็นความรักของเพื่อนราบรื่นเสียจนน่าตกใจ
คนหน้าตาดีมันก็ได้อะไรมาง่ายๆแบบนี้นั่นแหละ
แว่นพยายามสลัดความคิดพาลๆของตัวเองออกจากหัว ทำไมเขาถึงเป็นคนแบบนี้นะให้ตายสิ
เด็กหนุ่มลุกขึ้นเพื่อไปตักอาหารเพิ่ม แต่ต้องรีบทรุดกลับลงมานั่งทันทีเมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มที่ตนกำลังหลบหน้าและเพื่อนสนิทกำลังเดินเข้ามาในร้าน
นี่มันวันดวงซวยอะไรของเขาเนี่ย?!
---------
สอบเสร็จล้าวววววววว//แทบทรุดด้วยความดีใจ
ปิดเทอมสองวัน555555
ขอบคุณสำหรับทุกเม้นท์นะคะ ดีใจมากเลย><