15th Diagnosis: Sensory Aphasia || ไม่เข้าใจ...
“นี่ๆ กูซื้อมาฝาก กินเยอะๆเลย” แทนไทยวางถุงจากมินิมาร์ทข้างๆโต๊ะหินอ่อนที่พวกเขานั่งลงกลางโต๊ะ ภายในบรรจุด้วยขนมขบเคี้ยวจำนวนมาก มีนพยักหน้าขอบคุณขณะที่แว่นแบมือตรงหน้าร่างสูง เด็กหนุ่มลูกครึ่งหยิบสแตมป์ส่งให้เพื่อนรักพร้อมเสียงหัวเราะ
"มึงนี่ ตกถังข้าวสารแล้วยังงกไม่เปลี่ยนเลยนะ"
"เขาเรียกรู้จักค่าของเงิน" เด็กหนุ่มตอบเสียงเรียบ ดวงตาสีน้ำตาลภายใต้กรอบแว่นเหลือบมองคนที่นั่งพิมพ์ข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ยี่ห้อผลไม้ถูกกัดรุ่นล่าสุดที่แว่นจำได้ว่าราคาหลักแสน ซึ่งขัดกับกระเป๋ากลางเก่ากลางใหม่ของเจ้าตัวเป็นอย่างมาก เด็กหนุ่มก้มลงมองแสตมป์ในมือ ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะฉีกแสตมป์ครึ่งแผงแล้วยื่นให้คนตัวเล็กกว่า
"..." มีนเงยหน้าขึ้นมองของในมือเขา กระพริบตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจ
"ขอบใจที่ให้คูปองนะ" แว่นบอก
"ไม่เป็นไรหรอก เราเต็มใจ" มีนรีบปฎิเสธ
"รับไปเถอะ ยังไงก็เพื่อนกัน" แว่นเป็นคนพูดไม่เก่ง แต่เขาค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองสามารถสื่อความหวังดีให้เพื่อนได้จากแสตมป์
"ขอบ...ขอบใจนะ" มีนยื่นมืออันสั่นเทามารับแสตมป์ของเขา กว่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างบางก็น้ำตาหยดเสียแล้ว
"เฮ้ย! เชี่ยแว่น มึงแกล้งไรเพื่อนเนี่ย" แทนไทยรีบโอบเพื่อนร่วมกลุ่มไว้ มือใหญ่ถูต้นแขนขาวขึ้นลงเชิงปลอบโยน
"อ้าว ทำไมกูผิดล่ะ" แว่นโวยวาย
"ก็มึงทำมีนร้องอ่ะ โอ๋ๆ" แทนไทยกอดเด็กหนุ่มโยกไปโยกมาเหมือนเก้าอี้โยกตัวใหญ่
"เปล่า..เรา...เราแค่ดีใจที่มีเพื่อน.." มีนพยายามควบคุมน้ำเสียงของตัวเองไม่ให้สั่นเครือ "ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ"
"เฮ้ย คิดมาก เราก็เพื่อนกันหมดนั่นแหละ" แทนไทยขยี้ผมคนขี้แยอย่างเอ็นดู ส่วนแว่นก็พยักหน้าสมทบหงึกหงัก
"ทำอะไรกันอยู่เหรอ" เสียงเนิบนาบดังขึ้นจากด้านหลัง น้ำอุ่นที่เดินมาจากทางไหนก็ไม่รู้เอียงคอถามพร้อมกับรอยยิ้ม มีนรับ
ผละออกจากอ้อมกอดของแทนไทยแล้วยกมือไหว้ชายหนุ่มอย่างหวาดกลัว
"สะ..สวัสดีครับ"
น้ำอุ่นเพียงแต่เหลือบมอง ไม่คิดจะรับไหว้เด็กหนุ่ม ร่างโปร่งเดินไปนั่งที่อีกข้างของแทนไทย
"กินขนมกินอยู่เหรอ?"
"ครับ พี่อุ่นกินมั้ย?" แทนไทยที่ไม่ได้รับรู้ถึงบรรยากาศมาคุหยิบซองขนมขึ้นมาฉีกให้
"ขอบใจนะ" คนสวยยิ้ม หยิบขนมชิ้นหนึ่งขึ้นมาแล้วนำไปจ่อที่ปากของเด็กหนุ่ม
"อ้าว พี่อุ่นไม่กินเหรอครับ?" แทนไทยถามงงๆ
"กิน แต่ให้แทนกินก่อน เดี๋ยวพี่กินแทนต่อ" คนหน้าเป็นยังคงยิ้มน่ารัก ขัดกับคำพูดสิบแปดบวกของตนเช่นเคย "แล้วนี่ทำอะไรกันอยู่เหรอ?"
"รายงานครับ เรื่องการค้าประเวณีในนักศึกษามหาวิทยาลัย พรีเซ้นต์วันศุกร์" แทนไทยตอบ
"เหรอ.." น้ำอุ่นพยักหน้า "มีนเป็นคนขึ้นพรีเซนต์เหรอ?"
เจ้าของชื่อสะดุ้งที่จู่ๆก็ถูกอีกฝ่ายพูดด้วย เด็กหนุ่มส่ายหน้าพรืดแทนคำตอบแล้วก้มหน้าพิมพ์งานต่อ
"เงียบขนาดนี้จะพรีเซนต์ได้ยังไงครับ ผมต่างหากที่พรี" แทนไทยอธิบาย นึกดีใจที่พี่อุ่นพูดกับเพื่อนของเขา
เราคงคิดมากไปเองว่าเขามีปัญหากันสินะ...
"เหรอ... นึกว่าจะขึ้นไปเป็นกรณีศึกษา"
ความเงียบปกคลุมรอบวงสนทนา แว่นที่พอจะเดาเรื่องได้แล้วมองมีนที่ก้มหน้างุดสลับกับน้ำอุ่นที่ทำหน้าเหมือนตัวเองไม่ได้พูดอะไรออกไป รู้สึกว่าตัวเองไม่ควรเอาตัวเองไปแทรกระหว่างบทสนทนา
แต่แทนไทยไม่คิดเช่นนั้น
"พี่อุ่นพูดว่าอะไรนะครับ?"
"พี่บอกว่า นึกว่าจะพรีเซนต์เรื่องกรณีศึกษา" น้ำอุ่นว่าเสียงใสซื่อ "รู้มั้ยวิชานี้เขาเน้นการนำเสนอตัวอย่างมากเลยนะ ถ้าเพิ่มเติมไปหน่อยพี่ว่าน่าจะช่วยดึงคะแนนได้ดีเลยล่ะ"
"อ๋อ.." เด็กหนุ่มลูกครึ่งพยักหน้า สงสัยเขาคงหูฝาดไปเอง
"เรา...ไปห้องน้ำก่อนนะ"
มีนลุกขึ้นจากที่นั่ง น้ำอุ่นหยิบขนมเข้าปากตัวเองแล้วถามแทนไทยหลังจากที่ร่างเล็กเดินออกไป
"คืนพรุ่งนี้พี่ว่างนะ...ไปห้องพี่มั้ย"
แว่นรีบก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อ ไม่อยากเป็นก้างขวางคอความหวานของคู่รักแห่งปี
"เอ่อ... ผมมีซ้อมพรีเซนต์ครับ" แทนไทยตอบ ยิ้มแห้งๆอย่างขอโทษขอโพย
เอ๊ะ?
มันนัดตอนไหนฟะ?
"อ้าวเหรอ แต่เมื่อคืนตอนพี่นัดแว่นเลี้ยง แว่นบอกว่าจะไปเที่ยวกับน้องกล้านี่?" น้ำอุ่นมีสีหน้างุนงง แต่แว่นกลับรู้สึกว่าพี่ปีสี่รู้ดีอยู่แล้วว่าแทนไทยกำลังโกหก
แต่โกหกทำไม...
"เอ่อ... อ๋อ คือผมซ้อมกับมีนสองคนน่ะครับเลยไม่ได้บอกแว่น พอดีมีนต้องกดสไลด์"
คำพูดเมื่อกี้เด็กอนุบาลยังรู้ว่าตอแหลออกมาสดๆ แต่น้ำอุ่นกลับไม่พูดอะไร ชายหนุ่มลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ที่ยังคงประดับอยู่บนใบหน้า
"ถึงเวลาเรียนพี่แล้ว ถ้าอย่างนั้นไว้เจอกันวันเสาร์นะ"
น้ำอุ่นเดินจากไปโดยไม่รอให้คนรักตอบรับอะไร แว่นเงยหน้าขึ้นจากหนังสือแกล้งทำเป็นอ่านเมื่อครู่ด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
"อะไรของมึงวะแทน ไปโกหกพี่เขาทำไม?"
"ก็...ก็กูตกใจอ่ะ" ร่างสูงมีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ "พี่เขาชวนกูไปที่ห้องตลอดเลย กูไม่รู้จะทำยังไง"
"อ้าว เขาชวนมึงไปที่ห้องก็เรื่องปกติป่ะวะ?"
แว่นถามงงๆ คนเป็นแฟนกันมันไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไรนี่นา
"มึงไม่เข้าใจ.." แทนไทยกุมศีรษะอย่างปวดหัว "แต่ละชุดที่พี่เขาใส่นอน แม่งโคตรรรรรบาง คือบางตัวกูรู้สึกว่าแค่หายใจรดก็
ขาดแล้ว แถมตอนพี่เขานอนอ่านหนังสือ คือกูก็เข้าใจนะว่าอยู่ห้องไรงี้ แต่คือบางทีท่านอนพี่อุ่นมันแบบ...."
ร่างสูงหน้าแดงก่ำ ไม่สามารถจบประโยคนั้นโดยไม่คิดถึงท่าทางล่อแหลมของคนรักระหว่างนอนอ่านหนังสือได้
"คือถ้ากูไปบ่อยๆกูคงควบคุมตัวเองไม่ได้แน่"
"ไอ้แทน...." แว่นไม่รู้จะสงสารพี่อุ่นหรือคนตรงหน้าดี "มึงไม่คิดบ้างเหรอ ว่าพี่เขาจงใจให้มึงเห็น?"
"จงใจ?" เด็กหนุ่มผมบลอนด์ทวนคำอย่างงุนงง "ทำไมพี่เขาต้องจงใจให้กู...โอ้..."
แว่นส่ายหัวกับสีหน้าบรรลุสัจธรรมของเพื่อน
"แล้วมึงก็หาว่ากูความรู้สึกช้า"
"ไอ้รู้น่ะมันก็พอจะเดาได้อยู่หรอก.." แทนไทยถอนหายใจ "แต่กูไม่รู้จะทำตัวยังไงว่ะ..."
"มึงไม่อยาก..." แว่นละคำคำนั้นไว้ในฐานที่เข้าใจด้วยไม่อยากกระดากปาก "...กับพี่อุ่นเหรอวะ?"
"อยากดิ...อยากมากจนกูกลัวใจตัวเอง" เด็กหนุ่มร่างสูงที่มักจะร่าเริงอยู่เสมอซุกหน้าลงกับฝ่ามือ "กูไม่อยากทำให้พี่อุ่นเจ็บ"
แว่นไม่รู้จะช่วยเพื่อนอย่างไร เพราะเขาเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้เสียด้วย
"แต่กูว่ามึงควรจะเคลียร์เรื่องเมื่อกี้ก่อนที่มึงจะทำพี่เขาเจ็บจริงๆดีกว่านะ" แว่นตบไหล่เพื่อนรัก
"หือ?" แทนไทยทำหน้าไม่เข้าใจ
"มึงลองคิดดูนะ ถ้ามึงเรียนหนักเป็นบ้าเป็นหลังทุกวัน แล้วในที่สุดมีวันที่มึงจะได้เจอพี่อุ่น แต่พี่อุ่นดันบอกว่าไม่ว่างเพราะต้องไปทำงานอะไรซักอย่างที่ใช้เวลาทำแค่ห้านาทีกับผู้ชายหน้าตาดีๆหล่อๆล่ำๆ เป็นมึงมึงจะรู้สึกไงวะ?"
แทนไทยได้แต่อ้าปากพะงาบๆ
"แต่...ไปตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วป่ะวะ พี่เขาไปแล้ว"
"เอาน่า วันเสาร์ก็เจอกัน ค่อยคุยกันวันนั้นก็ได้" แว่นปลอบ "แต่อีกเรื่องที่มึงกังวล กูว่ากูช่วยได้ว่ะ"
"หืม? ยังไงเหรอ?" แทนไทยหูผึ่งทันที
แว่นฉีกยิ้มกว้างที่ทำให้เพื่อนรักเสียวสันหลังวาบ
"แล้วก็เลยมาหาพี่?" ติณณ์ภพที่จู่ๆก็ถูกเด็กทั้งสองบุกมาถึงที่ห้องในเย็นวันนั้นเลิกคิ้วถาม โชคดีที่วันนี้เหนือฟ้ามีธุระกับน้องชายของเขา ไม่อย่างนั้นชายหนุ่มคงไม่ใจดีเชิญแว่นกับแทนไทยเข้ามาในห้องแบบนี้
"พี่ติณณ์พอจะบอกได้มั้ยครับ ว่าไอ้แทนมันควรทำยังไง?" แว่นถามแทนเพื่อนรักที่อายม้วนต้วนจนแทบจะมุดไปอยู่ใต้โต๊ะ
ติณณ์ภพรัวนิ้วบนโต๊ะอย่างครุ่นคิด
"ก็....จริงๆพี่ก็แนะนำอะไรไม่ได้มากอ่ะนะ เห็นไอ้อุ่นแรดๆแบบนั้นจริงๆมันรักนวลสงวนตัวมากเลยนะ เป็นเพื่อนกันมาสามสี่ปีพี่เพิ่งเคยเห็นมันหลงใครจนโงหัวไม่ขึ้นขนาดนี้"
คำว่าแรดที่ออกจากปากของชายหนุ่มแทบทำให้แทนไทยกระโจนข้ามโต๊ะไปต่อยปากเจ้าของห้อง แต่ถูกแว่นส่งสายตาปรามด้วยรู้ว่าพี่ติณณ์เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว
"แต่ถ้าจะให้พี่แนะนำอะไรจริงๆ ก็คงเป็นให้ขออนุญาตก่อนถ้ากลัวเขาไม่สมัครใจ แล้วบอกความกังวลของเราไปตรงๆ" ติณณ์ภพว่า "เพราะถ้ามัวแต่คิดว่าอีกฝ่ายเดาใจเราได้ แล้วไม่ยอมพูดกันตรงๆ ถ้าวันใดวันนึงที่เราอยากอธิบายว่าเขาเข้าใจผิด เขาอาจจะไม่อยากฟังคำแก้ตัวของเราแล้วก็ได้"
ว่ากันว่าคนที่เข้าใจความรักของคนอื่น มักจะไม่ฉลาดเรื่องความรักของตัวเอง
แว่นที่เหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าได้เวลาที่กวินภพจะกลับมาถึงห้อง เด็กหนุ่มจึงขอตัวเดินออกมา ปล่อยให้ร่างสูงทั้งสองพูดคุยกันต่อ
"แล้วอย่างตอนใช้นิ้ว..."
แว่นรีบปิดประตูห้องกั้นเสียงบทสนทนาติดเรทนั้นทันทีด้วยใบหน้าแดงก่ำ เด็กหนุ่มหันไปทางห้องพักของตนก็พบเจ้าของห้องและเหนือฟ้าที่ยืนอ้าปากค้างอยู่
"พี่กล้า พี่เหนือ สวัสดีครับ กลับมาเร็วจัง"
เด็กหนุ่มรีบก้าวยาวๆกลับเข้าไปในห้องของกวินภพ เจ้าของห้องหันมามองเหนือฟ้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ชายหนุ่มร่างโปร่งเดินเข้ามาวางของให้เพื่อนที่เคาท์เตอร์ครัว ก่อนจะเดินกลับออกไปเงียบๆ
"เอ่อ...พี่กล้ามีอะไรรึเปล่าครับ?" แว่นถามเมื่อเห็นกวินภพเงียบผิดปกติ ชายหนุ่มดึงร่างเล็กเข้าไปในอ้อมกอดแน่น "พี่กล้าครับ?"
"พี่ไม่ให้นะ.." เสียงทุ้มพึมพำกับซอกคอของเขา "อย่างอื่นพี่ให้ได้ แต่แว่น...พี่ไม่ให้พี่ติณณ์นะ"
เด็กหนุ่มยิ้มอ่อนโยน ยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมสีดำสนิทของอีกฝ่าย
"พี่ติณณ์อ้อนผมไม่ได้น่ารักขนาดพี่กล้าหรอกครับ สบายใจได้"
"พูดแบบนี้แสดงว่าถูกพี่ติณณ์อ้อนด้วยเหรอ" ชายหนุ่มทำหน้ามุ่ย เรียกเสียงหัวเราะจากคนในอ้อมกอดได้เป็นอย่างดี
"คิดไปไหนแล้วครับเนี่ย"
"ถ้างั้นแว่นเข้าไปในห้องพี่ติณณ์ทำไม" กวินภพถามด้วยสีหน้าหงุดหงิด แม้จะอยากช่วยเพื่อนเก็บความลับ แต่แว่นก็รู้ว่าคนคิดมากต้องไม่เชื่อคำโกหกของเขา เด็กหนุ่มจึงยอมเล่าเหตุผลให้อีกฝ่ายฟังแต่โดยดี
"...แว่นคิดว่าถ้าแทนขอ พี่น้ำอุ่นเขาจะโอเคเหรอ?" ร่างสูงถามเมื่อฟังจบ
"ไม่รู้สิครับ ถ้าพร้อมก็ยอมมั้ง" แว่นยักไหล่ ลุกขึ้นเก็บข้าวของจากห้างสรรพสินค้าที่กวินภพและเหนือฟ้าต้องใช้ทำโปรเจ็กต์ออกจากถุง
"แปลว่าถ้าพี่ขอ..." ร่างสูงลากเสียง เดินไปช่วยเด็กหนุ่มจัดเก็บทุกอย่างตามประสาพ่อบ้านที่ดี
แว่นผลักแขนคนที่มายืนข้างๆด้วยใบหน้าแดงก่ำ
"ไม่ต้องตีเนียนเลยครับ!"
คนถูกผลักแกล้งทำเป็นเซแล้วหัวเราะเบาๆ แต่แว่นรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดเล่นเสียทีเดียวกับประโยคเมื่อกี้
แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้...
"ถ้าผมพร้อม ผมจะบอกนะครับ" เด็กหนุ่มพึมพำเบาๆ รวบรวมข้าวของเดินเข้าไปในห้องนอนเพียงวางบนโต๊ะหนังสือ แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินประโยคตอบรับจากปากร่างสูง
"ถ้าเป็นแว่น ตลอดชีวิตพี่ก็จะรอ"
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็คงจะดี...
เพราะแว่นไม่รู้จริงๆว่าเขาจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อลืมสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดหรือไม่
เหนือฟ้าเคาะประตูห้องของติณณ์ภพ พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองแม้ภาพของน้องแว่นเดินหน้าแดงก่ำออกมาจากห้องห้องนี้ยังคงติดอยู่ในหัว
เกือบแล้วมั้ยล่ะเหนือ...
เกือบพลาดอีกแล้ว
"ลืมอะไรเหรอน้อง..." ติณณ์ภพเปิดประตูออกเนื่องคิดว่าแทนไทยลืมของอะไรไว้ "ฟ้า?"
"คิดว่าผมเป็นใครเหรอครับ?" เหนือฟ้ากอดอกถามด้วยน้ำเสียงจับผิด
"เข้ามาสิ" ชายหนุ่มมัวแต่ดีใจที่เห็นคนที่เฝ้าคิดถึงรีบถอยหลังเชิญให้อีกฝ่ายเข้ามาในห้องโดยไม่ได้สังเกตน้ำเสียงขุ่นมัวของร่างโปร่ง
"พี่ติณณ์ คืนนี้ผมขอค้างที่นี่ได้มั้ยครับ ผมรู้สึกเพลียๆไม่อยากขับรถกลับ"
"หือ? ได้สิ" แม้จะแปลกใจกับคำขอ แต่ติณณ์ภพก็พยักหน้าอนุญาตพร้อมรอยยิ้ม "ของในตู้เสื้อผ้าใช้ได้หมดเลยนะ ส่วนแปรงสีฟันมีอันใหม่อยู่ในตู้ในครัว"
เหนือฟ้าพยักหน้าเข้าใจ เริ่มสำรวจหาของใช้จำเป็นในห้อง ร่างโปร่งทบทวนแผนของตัวเองกลับไปกลับมาหลายครั้ง แม้จะรู้ว่ามันจะทำให้หัวใจของตนแตกเป็นเสี่ยงๆหากเดินหมากผิดแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่เป็นแผนที่ดีที่สุดที่เขาคิดได้ในตอนนี้
ติณณ์ภพนอนอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมา ชายหนุ่มจะไปเที่ยวก็ต่อเมื่อปฎิเสธรุ่นพี่ไม่ได้จริงๆ เวลาส่วนใหญ่ที่มีหมดไปกับการอ่านหนังสือและทำกิจกรรมของคณะ ยิ่งพอขึ้นปีสี่ตารางเวลาของเขาก็ไม่เอื้ออำนวยให้ชายหนุ่มทำอะไรทั้งนั้น
ทั้งที่แต่ก่อนเป็นคนเที่ยวกลางคืนแทบทุกวันแท้ๆ
ในวันที่เขามีเด็กตัวเล็กๆคนนึงที่ฝืนตื่นรอเขาโทรหาอย่างเป็นกังวลไม่ว่าจะดึกแค่ไหน ติณณ์ภพไม่เคยสนใจแม้แต่จะโทรบอกอีกฝ่ายว่าเขายังมีชีวิตอยู่
แต่ในวันที่คนคนนั้นไม่คิดแม้แต่จะรับโทรศัพท์เขา ชายหนุ่มกลับเป็นฝ่ายที่อยู่แต่ในห้องที่ว่างเปล่า ได้แต่หวนนึกถึงช่วงเวลาที่ตนไม่เห็นค่า
เขาอยากใช้ช่วงเวลาทั้งหมดนับจากนี้ทำให้เหนือฟ้ามีความสุข
ติณณ์ภพไม่สนว่าเขาต้องแลกด้วยอะไร ถ้ามันทำให้รอยยิ้มของเหนือฟ้าคงอยู่ตลอดไป เขาพร้อมจะทำทุกอย่าง
"อ่านอะไรอยู่เหรอครับ?"
เหนือฟ้าในเสื้อเชิ้ตตัวยาวของเขาที่คลุมต้นขาขาวไว้อย่างหมิ่นเหม่เนื่องจากความสูงที่เพิ่มขึ้นของร่างโปร่งถาม เหนือฟ้านั่งลงบนเตียงข้างๆเขา เอนซบไหล่หนามองหนังสือในมือติณณ์ภพอย่างสนอกสนใจ
"เอ่อ...ฟ้า..." กลิ่นหอมๆกับร่างนุ่มนิ่มที่ซบเขาอยู่ตอนนี้รบกวนการทำงานของสมองติณณ์ภพเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มค่อยๆขยับตัวออกห่างจากอีกฝ่าย เหนือฟ้าที่เอนซบเขาอยู่เอ่ยขึ้นลอยๆ
"ฟ้าคิดถึงพี่ติณณ์..."
ติณณ์ภพไม่มั่นใจว่าเขาหูฝาดไปหรือไม่
"ฟ้าว่าอะไรนะ?"
"ฟ้าคิดถึงพี่ติณณ์" ขาเรียวยาวตวัดคร่อมตักร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียง เหนือฟ้ารวบผมที่เกะกะใบหน้าเกล้าขึ้นเป็นมวยสูงแล้วใช้ยางรัดผมที่คล้องไว้รอบข้อมือมัดไว้ เผยลำคอขาวที่ทำให้ติณณ์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ยังไม่รวมถึงชายเสื้อที่หมิ่นเหม่อยู่แล้วที่เลิกขึ้นแกล้งให้ใจคนมองแกว่งเล่นๆ
...และคำแทนตัวเองที่เขาไม่ได้ยินมานาน
"ฟ้า...ลงมานั่งคุยกันดีๆก่อนมั้ย?"
ติณณ์ภพเจรจา ขยับตัวนั่งตรงๆแต่คนบนตักไม่คิดจะให้ความร่วมมือ
"พี่ติณณ์ ถ้าเรากลับไปเป็นเหมือนเดิม พี่ติณณ์จะทำให้ฟ้าเสียใจมั้ย?"
ศีรษะกลมแนบลงกับอกแกร่ง กลิ่นสบู่ที่ชายหนุ่มใช้ประจำเมื่ออยู่บนตัวเหนือฟ้ากลับหอมฟุ้งยั่วยวนเสียจนติณณ์ภพแทบควบคุมตัวเองไม่ได้
"ไม่ครับ พี่จะไม่มีวันทำให้ฟ้าเสียใจอีก พี่สัญญา" มือใหญ่ยกขึ้นช้าๆอย่างลังเล เมื่อไม่เห็นการขัดขืนจากคนอายุน้อยกว่า ติณณ์ภพจึงโอบร่างโปร่งไว้หลวมๆ ซึมซับทุกสัมผัสไว้ในความทรงจำ
"ฟ้าขออะไรพี่ติณณ์ซักสองอย่างได้มั้ยครับ?"
ร่างที่พิงอยู่บนอกเขาถาม ติณณ์ภพพยักหน้า ณ จุดนี้หากอีกฝ่ายจะขอดาวขอเดือนเขาก็จะหามาให้ได้
"อย่างแรก...อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับไอ้กล้า ฟ้าจะหาเวลาบอกมันเอง"
แม้จะอยากวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้าแล้วประกาศในคนทั้งโลกรู้สถานะของพวกเขา แต่ติณณ์ภพก็เคารพการตัดสินใจของเหนือฟ้า ชายหนุ่มพยักหน้าอีกครั้ง
"อย่างที่สอง..." นิ้วชี้ของอีกฝ่ายแตะลงบนริมฝีปากที่แห้งผากของเขา "...ห้ามมีใครนอกจากฟ้า"
"ครับ...พี่สัญญา..." ริมฝีปากบางประกบปิดคำพูดของติณณ์ภพทันทีที่คำสัญญาหลุดออกจากปาก ติณณ์ภพหลับตาลงดื่มด่ำกับสัมผัสที่ร่างโปร่งมอบให้ ก่อนจะพลิกร่างของเหนือฟ้าลงไปอยู่ข้างใต้ ให้ตัวเองเป็นฝ่ายคุมเกมส์ "ขอบคุณนะครับที่ให้โอกาสพี่"
นิ้วเรียวยาวราวลำเทียนไล้ตามพวงแก้มของเหนือฟ้า ก่อนที่ริมฝีปากของชายหนุ่มจะประทับจุมพิตตามลงไปอย่างรักใคร่ เหนือฟ้าเอื้อมมือโอบแผ่นหนังกว้าง หลับตาเตรียมรับสัมผัสที่คุ้นเคยจากเมื่อสามปีก่อน
แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
“พี่ติณณ์?” เหนือฟ้าเรียกเบาๆ “จะไม่..ทำเหรอครับ”
“ฟ้าอยากให้พี่รักฟ้าขนาดนั้นเลยเหรอ”อีกฝ่ายหัวเราะหึๆข้างใบหูของเขา มือใหญ่เกลี่ยปอยผมที่หลุดจากมวยสูงเบาๆให้พ้นใบหน้าขาว “พี่แค่อยากนอนกอดฟ้า คืนนี้...ได้มั้ย?”
ติณณ์ภพคนเก่ารับมือง่ายกว่านี้เยอะ
“จะทำอะไรก็ทำเถอะครับ ฟ้าจะนอน” ร่างโปร่งพลิกกายนอนตะแคงหันหน้าหนี ทำเป็นไม่สนใจอ้อมแขนแกร่งที่โอบรอบเอวของเขาไว้หลวมๆ
ทั้งที่ในใจเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมานอกอกอยู่แล้ว
--------------
เหนื่อยใจกับทุกคู่
เมื่อไหร่จะได้(รัก)กันซักที ฮือออออออ
จะบอกว่าเรื่องอดีตติณณ์เหนือฉบับเต็มมีแน่ค่ะ น่าจะเป็นside story แบบไม่ยาวมาก ยังไม่รู้จะโผล่มาเมื่อไหร่
บอกไว้ก่อนเลยว่าในเรื่องนี้มีแค่3คู่ คู่ของน้องมีนกับคุณเชษฐ์ถ้ารีไรท์แล้วจะเอามาลงช่วงเมษานะคะ อยากให้เรื่องนี้ลงตัวนิดนึงก่อนจะเพิ่มงานให้ตัวเอง55555