______(ครึ่งหลัง)_______
“อือ..”
ติณณ์ภพขมวดคิ้วกับแสงสว่างจ้าที่ลอดผ่านผ้าม่านของตนเช่นทุกวัน ชายหนุ่มพลิกตัวหนีแสงแดดยามเช้า ดึงร่างเปลือยเปล่าที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาเข้ามากอด
เดี๋ยวนะ....
ร่างสูงลืมตาโพลง ผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างตกใจ การเคลื่อนไหวอย่างกระทันหันของติณณ์ภพทำให้ร่างที่นอนหันหลังหลับสนิทอยู่ส่งเสียงในลำคออย่างรำคาญ เจ้าของแผ่นหลังนวลเนียนที่เต็มไปด้วยรอยรักสีกุหลาบพลิกตัวกลับมาทางเขา ดวงตาสีน้ำตาลหม่นถูกซ่อนภายใต้แพขนตางอนหนา ริมฝีปากบางที่ยังคงบวมเจ่อเล็กน้อยจากการถูกบดจูบซ้ำๆตลอดคืนพึมพำเสียงแหบพร่า
“พี่ติณณ์...ไม่เอาอีกยกแล้วนะ... ฟ้ามีเรียน..”
“ฮะ?” ติณณ์ภพก้มลงมองร่างกายของตัวเองที่ไร้อาภรณ์ปกคลุมกายเช่นเดียวกับคนอายุน้อยกว่า แถมยังมีรอยเล็บราวกับถูกแมวข่วนเป็นทางหลายรอย ทางด้านเหนือฟ้าที่นอนหลับอยู่นั้นสภาพร่างกายไม่ต่างจากที่เห็นจากแผ่นหลังเนียนมากนัก ร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของถูกทิ้งไว้ทั่วร่างโดยเฉพาะเม็ดทับทิมสีชมพูน่ากินที่บวมแดงเล็กน้อยจากการถูกหยอกล้อ ซึ่งติณณ์ภพจำได้ดีเพราะมันเป็นหนึ่งในจุดที่เขาชอบใช้กระตุ้นอารมณ์ของอดีตคนรักที่สุด
แต่เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร
“เกิด...เกิดอะไรขึ้น?”
เหนือฟ้าลืมตาขึ้นด้วยสีหน้ารำคาญใจที่ถูกกวนการพักผ่อน ร่างโปร่งชันตัวลุกขึ้น ผ้านวมผืนหนาสีขาวไหลลงไปกองที่สะโพก ปกปิดร่างกายท่อนร่างของชายหนุ่มไว้อย่างหมิ่นเหม่
“อะไรของพี่เนี่ย ดมกลิ่นยาฆ่าเชื้อโรงพยาบาลมากไปรึไง”
“ฟ้า..ทะ...ทำไมฟ้าถึงมานอนบนเตียงพี่ได้...” ชายหนุ่มตะกุกตะกัก สมองพยายามเค้นหาเหตุการณ์ในคืนก่อนหน้านี้แต่พบเพียงความว่างเปล่า เหนือฟ้าที่ดูจะยังไม่ตื่นดีคลานขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของติณณ์ภพ บั้นท้ายกลมกลึงขยับบดเบียดส่วนที่ตื่นเต็มตาของชายหนุ่มจนติณณ์ภพกัดริมฝีปากแน่นอย่างข่มอารมณ์ วงแขนเล็กคล้องรอบคอของร่างสูงพร้อมกับใบหน้าขาวที่ยื่นเข้ามาใกล้ ริมฝีปากบางกระซิบชิดริมหู
“ถ้าไม่ให้ฟ้านอนเตียงแฟน จะให้ฟ้านอนที่ไหนครับ?”
“ฟะ…แฟน?” ติณณ์ภพเบิกตากว้าง
“ไม่พูดกับพี่ติณณ์แล้ว คนอะไรพูดไม่รู้เรื่อง” คนบนตักยิ้มขำ หอมแก้มทั้งสองข้างของร่างสูงฟอดใหญ่ “ฟ้าไปอาบน้ำก่อนนะครับ เดี๋ยวทำอะไรให้กิน จะได้ไปเรียนทัน”
ร่างโปร่งก้าวลงจากเตียง ไม่สนใจจะหาอะไรมาปิดบังเรือนร่างของตนแม้แต่น้อย ติณณ์ภพมองตามแผ่นหลังขาวด้วยความรู้สึกประหลาดในอก
ความรู้สึกเหมือนเขากำลังจะเสียคนตรงหน้าไป“ฟ้า… เดี๋ยวก่อน”
เจ้าของชื่อยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆราวกับไม่ได้ยินเสียงเรียกของเขา
“ฟ้า…” ติณณ์ภพยื่นมือออกไป พยายามไขว่คว้าร่างโปร่งไว้แต่กลับคว้าได้เพียงความว่างเปล่า
ฉับพลันสภาพแวดล้อมรอบตัวกลับกลายเป็นเพียงความว่างเปล่า ติณณ์ภพหันมองซ้ายขวาอย่างแตกตื่นเมื่อเห็นเหนือฟ้าถูกกลืนกินหายไปกับความมืดมิด ชายหนุ่มส่งเสียงเรียกด้วยความตกใจ
“ฟ้า!!!”“พี่ติณณ์!!”เหนือฟ้าที่จะร้องไห้อยู่รอมร่อร้องอย่างดีใจเมื่อเห็นร่างที่ล้มพับไปเริ่มได้สติกลับคืนมา โชคดีที่ตอนนั้นเป็นจังหวะที่เหนือฟ้าหันกลับมาพอดีจึงถลาไปรับศีรษะของชายหนุ่มได้ทันก็ที่มันจะฟาดลงกันพื้น เหนือฟ้าประคองคนที่ตัวใหญ่กว่าเขาพอสมควรไปยังม้านั่งใกล้ๆแล้วใช้กระดาษโบรชัวร์พัดให้ติณณ์ภพอย่างกระวนกระวายใจ มือขาวแตะหน้าผากของชายหนุ่มที่ร้อนเสียจนน่าจะทอดไข่ได้
ทำไมถึงไม่บอกว่าตัวเองไม่สบาย ก็รู้ว่าเขาไม่ชอบให้ฝืน...
‘แล้วแต่ครับ แต่ถ้าพี่กลับก่อนแล้วผมต้องแบกข้าวของขึ้นแท็กซี่กลับ ก็ไม่ต้องกลับมาให้ผมเห็นหน้าอีก’
เพราะเขางั้นเหรอ?
“ฟ้า…ฟ้า...”เสียงแหบพร่าพึมพำเรียกชื่อเขาซ้ำไปมา เหนือฟ้าพยายามเขย่าตัวเรียกสติอีกฝ่าย
“พี่ติณณ์ ไหวมั้ยครับ ไปหาหมอกัน”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ส่ายหน้าทั้งที่ยังไม่ลืมตา “ไม่..ส่งพี่ที่คอนโดได้มั้ย..”
“ได้ครับ พี่ติณณ์ลุกไหวนะ รถอยู่ใกล้ๆนี่เอง กอดคอผมไว้นะครับ” ด้วยความรู้สึกผิด เหนือฟ้าช่วยพยุงร่างที่สูงกว่าและล่ำสันกว่ากวินภพพอสมควรไปยังทางออกลานจอดรถ
สุดท้ายวันนี้ก็ไม่ได้ของจนได้...
“พี่ติณณื ถึงแล้วครับ” เหนือฟ้าดับเครื่องยนต์ของรถมาสแตงของรักของชายหนุ่มที่เขาเพิ่งเคยขับเป็นครั้งที่สอง สมัยก่อนติณณ์ภพเป็นคนหวงรถมาก ทำให้เขาไม่เคยได้แตะต้องรถซักคันของชายหนุ่มเลย
ขนาดแค่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถยังไม่มีวาสนาร่างโปร่งหันไปหาคนป่วยที่หลับไปอีกครั้งหลังจากเข้ามานั่งในรถได้ไม่นาน มือขาวเอื้อมไปแตะที่หน้าผากที่ยังร้อนจี๋ของอดีตคนรักอย่างเป็นห่วง
หมับ!
คนป่วยจับข้อมือเขาไว้ทันทีที่สัมผัสกับใบหน้าคม ติณณ์ภพที่ยังคงไม่ลืมตาพึมพำชื่อเขาอีกครั้ง
“ฟ้า..”
“ครับ” เหนือฟ้าตอบเสียงเบา พยายามดึงมือออกจากการเกาะกุมของร่างสูง “พี่ติณณ์ ถึงคอนโดแล้ว ไปกันเถอะครับ”
ร่างโปร่งต้องขอให้พี่ยามที่ลานจอดรถช่วยเขาพยุงชายหนุ่มเข้าไปในลิฟท์ กว่าจะพาไปถึงห้องได้เล่นเอาเหนือฟ้ารู้สึกปวดหลังพอสมควร ชายหนุ่มเอนตัวคนป่วยลงนอนบนเตียงอย่างนุ่มนวลที่สุด นึกชั่งใจว่าจะโทรบอกกวินภพอย่างไรดีไม่ให้อีกฝ่ายจับพิรุธได้
“ฟ้า....” ติณณ์ภพที่นอนอยู่บนเตียงคว้าตัวเขาไว้ทันทีที่รู้สึกว่าร่างโปร่งกำลังห่างออกไป “อย่าไปได้มั้ย...”
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าตัวเองได้ยินคำนี้บ่อยเกินไปแล้วนะ...
แต่เหนือฟ้าก็ไม่ใช่คนใจไม่ใส้ระกำที่จะปล่อยให้คนป่วยนมอนซมอยู่คนเดียวซะด้วยสิ
“ครับๆ ผมไม่ไปไหนหรอก” แม้น้ำเสียงจะฟังดูเหนื่อยหน่าย แต่แววตาที่มองชายหนุ่มบนเตียงกลับเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจลบล้างได้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี “เช็ดตัวซะหน่อยนะครับ จะได้นอนสบายๆ”
เหนือฟ้าเดินเข้าไปหาอุปกรณ์เตรียมเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ชายหนุ่ม ระหว่างที่รองน้ำอุ่นในกะละมังอยู่นั้น ความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัว
หรือว่านี่จะเป็นกรรมที่เขาทำไว้กับน้องแว่น?
“พี่ติณณ์ ลุกขึ้นนั่งนิดนึงนะครับ ฮึบ” เหนือฟ้าจัดแจงดึงอีกฝ่ายให้นั่งพิงหมอน ติณณ์ภพที่เริ่มมีสติมากขึ้นแล้วให้ความร่วมมือโดยไม่ปริปากบ่น ต่างจากสมัยก่อนที่มักจะเหวี่ยงทุกคนเมื่อไม่ได้อย่างใจ สิ่งนั้นควรจะทำให้เหนือฟ้ามีความสุข แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกโหวงๆในอกอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนกับอีกฝ่ายค่อยๆกลายเป็นผู้ชายที่เขาไม่รู้จักทีละนิด
เหนือฟ้าปลดกระดุมเสื้อของคนป่วยอย่างชำนาญ สมัยก่อนเวลาที่ติณณ์ภพเมา เหนือฟ้ามักจะเป็นคนที่คอยดูแลเช็ดตัว เช็ดอาเจียน เปลี่ยนเสื้อผ้า และทำความสะอาดให้อีกฝ่ายอย่างไม่รังเกียจ เขาเคยเห็นร่างกายของอีกฝ่ายมากกว่าที่อีกฝ่ายเห็นร่างกายของเขาเสียอีก
เรื่องแค่นี้ทำอะไรเหนือฟ้าไม่ได้หรอก
ไม่นานนักร่างของติณณ์ภพก็ถูกถอดเสื้อผ้าออกไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว เหนือฟ้ารู้ว่าชายหนุ่มจะอึดอัดถ้าไม่ได้นอนใส่บ็อกเซอร์ย้วยๆสบายตัวอย่างที่ชอบจึงรีบเช็ดตัวด้วยกลัวชายหนุ่มจะหนาว ก่อนจะใส่กางเกงนอนให้ติณณ์ภพ พยายามไม่สัมผัสสิ่งที่ตนเคยคุ้นเคยดีเมื่อหลายปีก่อนที่กำลังสะลึมสะลือกึ่งหลับกึ่งตื่นเช่นเดียวกับเจ้าของ
ร่างโปร่งพร่ำบอกตัวเองว่าสิ่งที่ตนกำลังรู้สึกในตอนนี้เป็นเพียงปฎิกิริยาของร่างกายเท่านั้น
“พี่ติณณ์ห่มผ้านะครับ”
ติณณ์ภพไม่ชอบใส่เสื้อนอน เหนือฟ้าจึงแก้ปัญหาด้วยการเอาผ้าห่มสำรองมาโปะลงไปอีกชั้นเพื่อให้ความอบอุ่น แต่ดูเหมือนคนป่วยจะอุ่นไม่พอถึงได้คว้าตัวเขาเข้าไปกอดเสียดื้อๆ
“….” แม้จะอยากด่า แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่ซีดขาวกับอุณหภูมิกายที่ร้อนเป็นไฟของอีกฝ่ายแล้ว เหนือฟ้าก็โกรธไม่ลง
ใช่ว่าเขาจะไม่เคยอยู่ดูแลติณณ์ภพจนติดหวัดจากอีกฝ่ายเสียเมื่อไหร่
"ฟ้า..." นั่นเป็นสิ่งแรกที่ร่างสูงพึมพำหลังจากได้สติอีกครั้ง ดวงตาสีดำสนิทปรือขึ้นอย่างยากลำบาก เจ้าของชื่อที่นอนอยู่ข้างๆขานรับเสียงแผ่ว
"ครับ?"
" ฝัน...อีกแล้วเหรอ" เสียงของอีกฝ่ายเจือด้วยเจ็บปวด แต่ชายหนุ่มยังคงดึงร่างของเขามาในอ้อมกอดอยู่ดี "ไม่เป็นไร...แค่มีฟ้าอยู่ข้างๆ...ในฝันก็ยังดี"
"พี่ติณ...อุ๊บ..!!!"ริมฝีปากบางถูกปิดด้วยเรียวปากร้อนจากพิษไข้ แม้จะตกใจ แต่เหนือฟ้าก็ยอมเผยอปากให้ลิ้นร้อนสอดเข้ามากวาดชิมความหอมหวาน ร่างโปร่งเอียงคอทำมุมองศาที่เพิ่มความลึกให้กับการจูบอันแสนดูดดื่มที่ทำให้ท้องน้อยของเขา
รู้สึกวาบหวามอย่างห้ามไม่อยู่
เห็นว่าป่วยอยู่หรอกนะถึงไม่อยากขัดใจ
"ฟ้าครับ..." ริมฝีปากแห้งผากขยับเรียกชื่อของเขาทั้งที่ยังไม่ถอนริมฝีปากออกไป เหนือฟ้าครางรับเบาๆอย่างรู้สึกหมดแรง "ไม่อยากตื่นเลย..."
"พี่ติณณ์ พอแล้วครับ ถ้าทำมากกว่านี้เดี๋ยวอาการจะแย่ลงนะ" เหนือฟ้าเอ่ยปรามคนป่วยที่เริ่มซุกไซร้ซอกคอของเขาอย่างมัวเมา แต่เตือนไปก็เท่านั้น...เขารู้ดีว่าชายหนุ่มเวลาป่วยมักจะกลายเป็นมนุษย์มือปลาหมึกที่ชอบเอาหวัดมาติดเขาเสมอไม่ว่าเขาจะเต็มใจหรือไม่ก็ตามตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว
อีกอย่าง...เหนือฟ้ายอมรับว่าตัวเองยังรู้สึกดีกับสัมผัสที่ได้รับจากอีกฝ่าย
ก็แค่ปฎิกิริยาทางร่างกายเท่านั้น...
ท่องไว้เหนือฟ้า
"...ฟ้า..." ราวกับนั่นเป็นคำเดียวที่ร่างสูงรู้จัก ชายหนุ่มประทับริมฝีปากลงบนซอกคอหอมกรุ่นอย่างทะนุถนอม แล้วลากลิ้นร้อน
ขึ้นไปตามลำคอระหงส์จนถึงใบหูที่เป็นจุดอ่อนไหวของอีกฝ่าย
"อ๊ะ.." เหนือฟ้าเกร็งตัวอย่างเสียวซ่านเมื่อลิ้นร้อนแหย่เข้ามาในหูอย่างหยอกล้อ คนตัวเล็กหดคอหนีตามสัญชาตญาณ เรียกเสียงหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจจากติณณ์ภพได้เป็นอย่างดี "พี่ติณณ์...อย่าแกล้งสิครับ"
ชายหนุ่มหาได้ฟังคำขอของคนอายุน้อยกว่า มือใหญ่สอดเข้าไปใต้เสื้อของเหนือฟ้า ลูบผ่านหน้าท้องแบนราบ เขี่ยวนรอบเม็ดเชอร์รี่สีชมพูที่ตนโปรดปราน
"อ๊ะ...พะ...พี่ติณณ์..."
เหนือฟ้าแอ่นร่างรับสัมผัสที่คุ้นเคยอย่างลืมตัว ติณณ์ภพเงยหน้ามองร่างที่แดงระเรื่อไปทั้งตัวด้วยแววตาฉ่ำเยิ้มจากพิษไข้ ยังคงเข้าใจว่าเรื่องทุกอย่างเป็นเพียงความฝันแสนหวาน
ถ้ามึงไม่ห้ามเขาตอนนี้....มึงจะถอยไม่ได้แล้วนะเหนือ
แล้วมึงก็จะโทษพี่ติณณ์ไม่ได้ด้วย...
ทั้งที่รู้แบบนั้น แต่สีหน้าเปี่ยมสุขที่เขาไม่เคยเห็นจากร่างสูงทำให้เหนือฟ้าเพียงแต่เสตามองไปทางอื่นอย่างเขินอาย ไม่คิดจะห้ามการกระทำของคนตรงหน้า
เมื่อได้สัญญาณอนุญาตจากร่างโปร่ง ติณณ์ภพจึงตอบแทนด้วยการใช้ปากครอบครองเม็ดสีชมพูที่เริ่มแข็งเป็นไตจากสัมผัสขของเขา ส่วนอีกข้างก็ใช้มือสะกิดเขี่ยเป็นระยะไม่ให้น้อยหน้ากัน เหนือฟ้าสอดมือเข้าไปในกลุ่มผมสีดำสนิท แอ่นกายรับสัมผัสที่คนป่วยปรนเปรอให้ตนอย่างเต็มใจ
ก็แค่ปฎิกิริยาทางร่างกายเท่านั้น...
แม้ในขณะที่พยายามหลอกตัวเองอย่างนั้น....ส่วนลึกในใจของเหนือฟ้ารู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง
"ฟ้า..." เสียงแหบพร่ายังคงเอ่ยชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเทิดทูนบูชา ราวกับว่าเหนือฟ้าเป็นเครื่องแก้วล้ำค่าที่จะแตกหักได้ทุกเมื่อ
ทั้งที่อีกฝ่ายรู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่ใช่..."อะ..ดะ...เดี๋ยวครับ..." เหนือฟ้าดึงกลุ่มผมของคนที่ดื่มด่ำกับร่างกายของเขาเบาๆ ติณณ์ภพเงยหน้ามองเขาอย่างงุนงง"พี่ติณณ์...คนป่วยน่ะ นอนลงไปดีกว่าครับ..."
ร่างโปร่งพลิกตัวให้อีกฝ่ายลงมานอนใต้ร่างอย่างง่ายดาย อาจเป็นเพราะพิษไข้ทำให้ติณณ์ภพไม่ต่อต้านอะไรเขามากนัก
เหนือฟ้าอยากมองย้อนกลับมาในช่วงเวลานี้ แล้วพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ว่านี่คือการตัดสินใจของเขา
ถ้าเขาจะเจ็บ...ก็เป็นเพราะตัวเขาเอง ไม่ใช่ติณณ์ภพ
ชายหนุ่มรู้สึกสมเพชตัวเองที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็ยังคงหาข้อแก้ตัวให้อีกฝ่ายเสมอ
"ฟ้า..." ติณณ์ภพพยายามฝืนเปลือกตาที่หนักอึ้งมองคนที่ใช้นิ้วเกี่ยวขอบกางเกงนอนเขาแล้วดึงลงอย่างชำนาญ
"ครับ...ฟ้าเอง.." เจ้าของชื่อแทนตัวด้วยชื่อของตนอย่างที่ไม่ได้ทำมาหลายปี นอกจากติณณ์ภพแล้ว เขาไม่เคยยอมให้ใครเรียกเขาด้วยชื่อที่เหมือนผู้หญิงแบบนั้น แต่กับร่างสูง เหนือฟ้าสามารถยอมให้อีกฝ่ายเป็นข้อยกเว้นได้ทุกเรื่อง
มือเรียวหยอกเย้าทำความคุ้นเคยกับติณณ์ภพจูเนียร์ที่เขาไม่ได้สัมผัสมานานจนอีกฝ่ายเริ่มตื่นตัวลุกขึ้นมาเซย์ฮัลโหล ร่างสูงขบกรามแน่นกับจังหวะเนิบช้าของอดีตคนรักที่ราวกับจะแกล้งให้เขาเสียสติ
"ฟะ...ฟ้า..."
"พูดเป็นอยู่คำเดียวเหรอครับ?" เจ้าของชื่อเลิกคิ้ว เหนือฟ้าปรับจังหวะของมือเรียวให้เร็วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะแทนที่มันด้วยริมฝีปากบางโดยไม่รอให้ติณณ์ภพตั้งตัวได้ทัน
"...!!" ร่างสูงกำผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความรู้สึกที่ตนไม่ได้สัมผัสนานถึงสามปี ตั้งแต่เลิกกับเหนือฟ้า เขาก็ไม่เคยคบกับใครอีก
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ติณณ์ภพแทบจะปลดปล่อยทันทีที่ความอุ่นชื้นเข้าครอบครอง
เหนือฟ้าไล้ลิ้นเลียจากโคนจรดปลาย ลอบยิ้มกับอิทธิพลที่เขามีต่อคนตรงหน้า ศีรษะกลมขยับขึ้นลงเร่งจังหวะเสียจนสะโพกสอบเด้งสวนอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่
"ฟะ...ฟ้า...เดี๋ยว..."
ติณณ์ภพพยายามเตือนร่างโปร่งถึงปลายทางที่ใกล้เข้ามาแต่ไม่ทันการณ์ สมองของร่างสูงขาวโพลนไปขณะเมื่อความทรมานในร่างได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ เหนือฟ้าที่ไม่ทันตั้งตัวแทบสำลักกับปริมาณที่เยอะกว่าที่เขาคิดไว้มาก
อะไรกัน...ช่วงนี้ไม่ได้ทำรึไงทั้งที่ควรจะรู้สึกหงุดหงิดกับความเลอะเทอะที่เกิดขึ้น แต่เหนือฟ้าเพียงแค่ดึงทิชชู่จากหัวเตียงมาเพื่อคายเอาส่วนที่ตนยังไม่ได้กลืนลงคอออก เมื่อหันกลับไป ร่างโปร่งพบว่าร่างบนเตียงจมสู่ห้วงนิทราไปเสียแล้ว เหนือฟ้าหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่ยังหมาดๆอยู่มาเช็ดตามใบหน้าที่ผุดพรายด้วยเหงื่ออย่างพึงพอใจ
"เหงื่อออกแบบนี้จะได้หายป่วยเร็วๆเนอะ" เสียงหวานกระซิบเบาๆ ความอ่อนเพลียจากการเดินซื้อของและดูแลคนตรงหน้าตลอดวันทำให้เหนือฟ้าตัดสินใจเอนตัวลงนอนข้างๆแล้วหลับตาลง
ขอซักงีบคงไม่เป็นไรมั้ง
ติณณ์ภพพยายามฝืนลืมเปลือกตาที่หนักขึ้นอย่างอยากลำบาก อาการปวดหัวที่มีก่อนหน้าหายไปมากแล้ว เหลือเพียงแค่อาการวิงเวียนเล็กน้อยกับอุณหภูมิร่างกายยังไม่ค่อยจะลดลงเท่านั้น
ทว่าภาพที่เขาเห็นทำให้ชายหนุ่มเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที
ราวกับแผ่นฟิล์มม้วนเดิมถูกฉายซ้ำจากความฝันครั้งก่อน ร่างเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่มผืนหนานอนหลับสนิทอยู่ข้างเขา ติณณ์ภพที่ถูกความฝันหลอกให้ดีใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำสิ่งเดียวที่จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าตนไม่ได้ฝันไป
เพี้ยะ!เหนือฟ้าลืมตาโพลงทันทีที่ได้ยินเสียงคนโดนตบ ร่างโปร่งชันตัวขึ้นนั่งอย่างตกใจ มือเรียวเอื้อมไปแตะแก้มที่แดงจากแรงตบอย่างเป็นกังวล ลืมไปชั่วขณะว่าตนไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะทำอย่างนั้นได้แล้ว
"พี่ติณณ์ ตบตัวเองทำไมครับ? แก้มบวมหมดเลย"
ติณณ์ภพยังคงตกตะลึงกับน้ำเสียงอ่อนโยนที่คนตรงหน้าพูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
"พี่...ไม่ได้ฝัน?" ความทรงจำก่อนที่ตนจะหลับไปย้อนกลับเข้ามาในหัว ร่างสูงมีสีหน้าตกใจจนเหนือฟ้าตกใจตาม "ถ้างั้นเมื่อคืนเราก็...?!"
"ยังครับ..." เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายแตกตื่นเรื่องอะไร เหนือฟ้าก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ "คนแถวนี้หลับไปก่อน"
ติณณ์ภพลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้ล่วงเกินอีกฝ่ายแล้วยังจำไม่ได้
"อะไรกันครับ โล่งใจขนาดนั้นเลยเหรอที่เราไม่ได้มีอะไรกัน" แม้จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่ในใจกลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
"พี่แค่อยากให้ฟ้ายอมให้พี่กอดเพราะเรารักกัน...ไม่ใช่เพราะสงสารที่พี่ป่วย..." ติณณ์ภพแก้ตัวเสียงอ่อย แต่คำว่ารักกระแทก
ก้อนเนื้อน้อยๆในอกของร่างโปร่งอย่างแรงจนเหนือฟ้าต้องเบือนหน้าหนี
"ถ้าอย่างนั้นก็รอต่อไปเถอะครับ" รอให้แห้งตายไปเลย
"พี่รอมาตั้งสามปี ให้พี่รออีกพี่ก็ทำได้" ติณณ์ภพตอบพร้อมรอยยิ้ม เหนือฟ้าที่โดนย้อนลุกขึ้นจากเตียงทันทีอย่างไม่รู้จะโต้ตอบอีกฝ่ายอย่างไร
"เดี๋ยวผมทำอะไรมาให้กินจะได้กินยา คนป่วยน่ะนอนไปเถอะครับ"
ติณณ์ภพเอนตัวลงนอนอีกครั้ง มองตามแผ่นหลังขาวเนียนไปพร้อมรอยยิ้ม
ถ้าได้ร่างโปร่งกลับมาเคียงข้างกาย เขาจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายหายไปไหนอีกเลยคอยดู
____________
เรื่องนี้บอกได้เลยว่าอาจNCยากนิดนึงเพราะคนแต่งไม่ถนัด5555
เอาติณณ์เหนือมาเสิร์ฟล้าววววว
ช่วงนี้ก็หายหน้าหายตาไปบ้างเนอะ รอไรท์ปิดเทอมจะปลดปล่อยพลังการปั่นให้ชม55555