เด็กชาย ธารธารา ทรัพย์ดำรงนั่นเป็นชื่อจริงที่บิดาของเขาตั้งให้ในวันที่น้ำอุ่นลืมตาดูโลก
เขาเป็นลูกคนกลางของนักธุรกิจข้ามชาติมากความสามารถ ธีรเชษฐ์ ทรัพย์ดำรง ที่มีธุรกิจหมื่นล้านหลายเครือบริษัท ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ โรงแรม รีสอร์ท สายการบิน หรือแม้กระทั้งอะไหล่รถยนต์
ธีรเชษฐ์แต่งงานกับเกศรา หญิงสาวที่อายุมากกว่าเขาถึงสามปีในวัยเพียงสิบเจ็ดหลังจากฝ่ายหญิงคลอดบุตรชายคนแรก ในสมัยนั้นเป็นเรื่องโจษจัณฑ์พอสมควรด้วยครอบครัวฝั่งมารดาของน้ำอุ่นเป็นเศรษฐีจีนที่มีชื่อเป็นที่นับหน้าถือตาพอตัว โชคดีที่ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรู้จักกันจึงจัดงานมงคลสมรสเล็กๆให้คู่รักวัยรุ่นพอเป็นพิธี ถึงแม้เรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นอุบัติเหตุ แต่เขาเชื่อว่าธีรเชษฐ์รักมารดาของเขาในระดับนึง
แค่ไม่มากพอที่จะทำให้ชายหนุ่มหยุดความเป็นเสือผู้หญิงที่อยู่ในกมลสันดานได้
จนกระทั่งสี่ปีต่อมา หลังจากน้ำอุ่นลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรก มารดาของเขามีสุขภาพแย่ลง ล้มหมอนนอนเสื่อง่ายขึ้น จนทำให้ธีรเชษฐ์ที่เพิ่งตระหนักได้ถึงภาระหน้าที่ของตนในฐานะสามีและพ่อของเด็กตาดำๆสองคนเริ่มจริงจังกับการหาเลี้ยงครอบครัว และหาเงินค่ารักษาพยาบาลให้ภรรยา
แม้จะไม่ได้นอกลู่นอกทางไปหาผู้หญิงอื่นบ่อยเท่าที่เคย แต่นิสัยไม่กลับบ้านหลายวันติดกัน ทำให้เกศราต้องตื่นรอด้วยความเป็นห่วงทุกคืนยังคงไม่เปลี่ยนไป
แต่เรื่องทั้งหมดเริ่มเลวร้ายขึ้นเมื่อมารดาของเขาให้กำเนิดน้องชายคนสุดท้อง สุขภาพของเกศราทรุดหนักจนต้องมีพยาบาลพิเศษมาคอยดูแลที่บ้าน หลายปีผ่านไปคุณยายของเขาที่เชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติมากในระดับนึงทนไม่ไหว ไปขอคำปรึกษาจากซินแสเพื่อช่วยเสริมดวงชะตาให้ลูกสาว
"ท่านบอกว่า ที่ยัยเกศไม่สบายหลังจากคลอดเจ้าน้ำอุ่นเพราะเขายกโชคลาภให้ลูกคนนี้ไปหมด หน้าตาถึงได้ออกมาพิมพ์เดียวกัน" หญิงชราว่า "ทางแก้คือให้เจ้าอุ่นไว้ผมยาว แล้วแต่งตัวเป็นผู้หญิงสะเดาะเคราะห์ให้แม่ จนกว่าจะหาย"
แม้จะอายุเพียงเจ็ดขวบในตอนนั้น แต่น้ำอุ่นก็โตพอจะรู้ว่าเสื้อผ้าที่เขาถูกยัดเยียดให้ใส่ไม่ใช่สิ่งที่ตรงกับเพศของเขา
"ฮือ อุ่นไม่ใส่"เด็กชายงอแง
"หนวกหู แกนั่นแหละที่ทำให้แม่ไม่สบาย อยากให้แม่หายมั้ย ฮึ? หรือว่าไม่รักแม่?" หญิงชราขึ้นเสียง
"ฮึก..ถ้าใส่แล้วแม่จะหายมั้ยฮะ" เด็กชายที่โดนตวาดถามเสียงสั่น
"หายสิ ท่านซินแสเขาว่ามาแบบนี้" คุณยายของเขาบอก "แต่อย่าไปบอกแม่แกนะอุ่น"
เด็กน้อยพยักหน้า
ถ้ามันจะทำให้แม่ของเขาหาย ให้เขาทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
หลังจากวันนั้นมา เขาก็ใส่ชุดกระโปรงและไว้ผมยาวมาโดยตลอด ที่โรงเรียนซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติเขาก็ใส่กระโปรงไปเรียน
ด้วยใบหน้าสวยหวานและรอยยิ้มอ่อนโยนเขามักจะมีให้กับมารดาเสมอเพื่อเป็นกำลังใจให้อีกฝ่ายรักษาสุขภาพ ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นผู้ชาย
จนกระทั่งมีคนเห็นเขาเข้าห้องน้ำผู้ชายตอนอยู่เกรดสิบ
"อีตุ๊ดๆๆๆ"
"You fag"
"ทุเรศว่ะ วิปริต"
น้ำอุ่นพยายามก้าวหนีแก๊งเด็กผู้ชายที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นซึ่งตามตอแยเขามาตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากประตูโรงเรียน
"หยุดตามมาซะที" น้ำอุ่นขอร้อง น้ำเสียงสั่นเครืออย่างหวาดกลัว
"อีตุ๊ด! เป็นผู้ชายแต่เสือกใส่กระโปรง ฮ่าๆๆๆ" เด็กคนหนึ่งกลุ่มกระชากผมเขาอย่างแรงจนน้ำอุ่นหน้าหงาย เด็กหนุ่มหลับตาปี๋เตรียมรับหมัดจากกลุ่มอันธพาล ทว่ากลับเป็นกลุ่มเด็กพวกนั้นเสียเองที่ถูกถีบจนหน้าหงาย
"พี่สาวหลบไปครับ!" เด็กชายชาวต่างชาติที่โผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้กระโดดขาคู่ใส่หัวโจกของกลุ่ม น้ำอุ่นรีบถอยฉากออกมาทันทีที่ได้ยินดังนั้น แม้จะเป็นห่วงคนที่มาช่วย แต่ก็รู้ดีว่าตัวเองจะไปเกะกะเสียเปล่าๆ
ตุ้บ!ผลั่ก!อั่ก!!
ทั้งสามวิ่งหนีจากเด็กชายผมสีบลอนด์ทราย ร่างสูงปัดฝุ่นจากมือแล้วหันกลับไปหาน้ำอุ่น
"พี่สาวเป็นอะไรมั้ยครับ?" น้ำอุ่นส่ายหน้า
"บ้านพี่อยู่ตรงไหนเหรอครับ ให้ผมไปส่งมั้ย" เด็กชายถามตามประสาคนอัธยาศัยดี น้ำอุ่นเดินนำอีกฝ่ายมียังสวนสาธารณะหลังบ้านของตน ก่อนจะหันกลับไปบอกอีกฝ่าย
"ส่งพี่แค่นี้แหละ เมื่อกี้ขอบใจมากนะ"
"ไม่เป็นไรครับ พี่สาวกลับบ้านดีๆนะ" เด็กชายยกมือไว้แล้วหันหลังเดินย้อนกลับไปทางที่มา
"เดี๋ยวก่อน" น้ำอุ่นเรียก เด็กชายร่างสูงหันกลับมาอย่างสงสัย "น้อง...ชื่ออะไรเหรอ?"
"แทนไทยครับ" เด็กชายยิ้มกว้าง "ไว้เจอกันนะครับพี่สาวคนสวย"
น้ำอุ่นไม่เคยคิดว่าเขาจะได้พบกับฮีโร่ของตัวเองอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่กี่วัน อาการของมารดาของน้ำอุ่นเริ่มทรุดหนักลงเรื่อยๆ จนแม้แต่เด็กหนุ่มก็ไม่มีสิทธิ์เข้าเยี่ยม
นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำอุ่นมานั่งร้องไห้อยู่ที่สวนสาธารณะหลังบ้านแห่งเดิม
"ฮึก...ฮึก...."
เด็กหนุ่มไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าใคร เพราะรอยยิ้มของเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่ให้มารดามีความสุข
แต่เขากลัว...
กลัวว่าวันนึง รอยยิ้มของเขาจะไม่เพียงพอให้แม่สู้ต่อไป
"พี่สาว ร้องไห้ทำไมครับ?"
น้ำอุ่นรีบเช็ดน้ำตาที่อาบสองแก้มอย่างลวกๆ เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่แม้จะเคยได้ยินครั้งเดียวแต่จำได้ไม่เคยลืม
“เปล่า พี่ไม่ได้ร้อง”
เด็กชายที่ถือไอศกรีมแท่งที่เพิ่งซื้อจากรถขายเมื่อครู่ทำหน้าไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ได้ซักต่อ ร่างสูงนั่งลงข้างๆแล้วยื่นไอศรีมที่ยังไม่ได้แกะซองให้
“กินนะครับ จะได้อารมณ์ดี”
“….” น้ำอุ่นตั้งท่าจะปฎิเสธ แต่แววตาเป็นห่วงของอีกฝ่ายทำให้เขายอมรับแท่งไอศกรีมมาแกะกินแต่โดยดี
“อร่อยมั้ยครับ?”แทนไทยถาม
“อื้อ” เด็กหนุ่มพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่มีคนใส่ใจเขาแบบนี้ ถึงแม้จะเป็นลูกคนกลาง แต่พี่เมฆที่อายุห่างกันสี่ปีเป็นคนที่เงียบขรึมแถมยังดุเอามากๆ ส่วนน้องชายคนเล็กยิ่งไม่ต้องพูดถึง เป็นเด็กเงียบๆที่ถามคำตอบคำ ไม่สนใจโลกภายนอกทั้งที่อยู่ในวัยคึกคะนอง
น้ำอุ่นไม่อยากยอมรับว่าตอนเล็กๆเขาไม่เคยเล่นกับน้องชาย เพราะโทษอีกฝ่ายที่เป็นสาเหตุให้แม่ป่วยหนักกว่าเดิม
“เห็นมั้ย พี่สาวยิ้มแล้วสวยขึ้นตั้งเยอะ” แทนไทยยิ้มสดใส น้ำอุ่นมั่นใจว่าเขาไม่เคยเห็นรอยยิ้มที่ทำให้จิตใจของเขาพองฟูแบบนี้มาก่อน
“จริงเหรอ” เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ
“อื้อ ผมมีความลับจะบอกแหละ” เด็กชายกวักมือให้อีกฝ่ายโน้มเข้ามาใกล้ “พี่สาวเป็นคนที่สวยที่สุดที่ผมเคยเห็นเลยนะ”
นั่นเป็นครั้งแรกที่น้ำอุ่นหน้าแดงกับคำชมของใครซักคน
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อื้อ ถ้าใครได้แต่งงานกับพี่นะ คงจะเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดเลยล่ะครับ” เด็กชายตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
“แทนไทย กลับบ้านได้แล้วลูก เดี๋ยวพ่อจะพาออกไปกินข้าวกัน” เสียงของหญิงสาวตะโกนมาจากอีกฟากของถนน
“ครับแม่!” เด็กชายตะโกนตอบแล้วลุกขึ้นจากที่นั่ง “ไว้เจอกันใหม่นะครับพี่สาว ยิ้มกว้างๆไว้นะครับ”
และนั่น เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจอกับแทนไทย
สุขภาพของมารดาที่ทรุดลงเรื่อยๆทำให้ธีรเชษฐ์ตัดสินใจย้ายบ้านไปยังอีกฟากของตัวเมืองเพื่อความสะดวกตัวการรักษา แม้จะรู้สึกเสียใจ แต่น้ำอุ่นก็เลือกที่จะเก็บความทรงจำดีๆนั้นไว้เป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจ ได้แต่หวังว่าซักวัน เขาจะได้พบกับเด็กชายอีกซักครั้ง
“วันที่พี่เห็นแทนเดินเข้ามามอบตัวที่คณะ พี่นึกว่าพี่ฝันไปซะอีก” ร่างโปร่งหัวเราะเบาๆ “พี่ยังจำได้อยู่เลยนะ ว่าวันนั้นพี่คิดว่าในที่สุด พี่ก็เป็นบ้าไปแล้วจริงๆ”
“พี่อุ่น...” แทนไทยเอนศีรษะซบหัวไหล่มน “รักผมมากสินะครับ”
“ก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่” ร่างโปร่งไม่ยอมตอบตรงๆ ขยับตัวให้อีกฝ่ายพิงสบายขึ้น
“แต่ผมอยากได้ยินพี่พูด” ริมฝีปากได้รูปคลอเคลียออยู่กับซอกคอขาวที่เต็มไปด้วยรอยแสดงความเป็นเจ้าของจนคนรักหดคอหนี
“นะครับ..”
“อือ…รัก” น้ำอุ่นตอบอ้อมแอ้ม “พอใจรึยัง?”
“ถ้ารักก็ห้ามไปกอดกับผู้ชายคนอื่นแบบนั้นอีกนะครับ”
คนอายุมากกวว่ามีสีหน้าตกใจ “เห็นด้วยเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิครับ” แทนไทยหน้ามุ่ย ดึงรั้งร่างโปร่งขึ้นมาบนตัก โอบกอดร่างบอบบางที่อ่อนเพลียจนขยับไปไหนไม่ได้ไว้อย่างหวงแหน “ผมนี่เกือบจะเข้าไปต่อยมันแล้วนะรู้มั้ย”
น้ำอุ่นหัวเราะ ไม่ใช่เสียงหัวเราะเบาๆ อย่างที่แทนไทยเคยได้ยิน ร่างโปร่งหัวเราะลั่นจนตัวงอ มือขาวปาดน้ำตาที่เล็ดจากดวงตาเรียวสวย
“แทน… นั่นซัน น้องชายพี่”
“น้อง...น้องแท้ๆน่ะเหรอครับ” แทนไทยมีสีหน้าไม่อยากเชื่อ หน้าตาไม่เห็นเหมือนกันเลยซักนิด
“อื้อ พ่อพี่เป็นลูกครึ่งรัสเซีย แต่แม่พี่มีเชื้อจีน พี่เลยออกมาหน้าตาไม่เหมือนซันกับพี่เมฆ” น้ำอุ่นยิ้ม “ที่ถ่ายรูปเพราะว่าเจ้าซันอยากจะส่งไปอวดพี่เมฆ แค่นั้นแหละ”
“เป็นน้องผมก็หวง” แทนไทยกระชับอ้อมกอด “ไม่ให้กอดแบบนั้นแล้วนะ”
น้ำอุ่นพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม
“แล้วก็...” แทนไทยเอนตัวลงนอน ดึงคนในอ้อมกอดลงมาด้วย เด็กหนุ่มจุมพิตข้อมือที่มีรอยแดงจากการถูกมัดเป็นเวลานาน “พี่อุ่นอย่าลืมนะครับ...”
“ลืมอะไรเหรอ?” ร่างโปร่งถามเขินๆ เมื่อถูกอีกฝ่ายจุมพิตที่หลังมือราวกับเจ้าหญิง
“ผมได้พี่เป็นเมียแล้ว..” เสียงทุ้มกระซิบ ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นพวงแก้มใสแดงก่ำ“ถ้าพี่ไม่ยอมล่ามโซ่ผมไว้อย่างที่พูด ผมจะมัดพี่..”
ริมฝีปากได้รูปประทับลงบนหัวไหล่มน
“ตรึงพี่...”
…ขบลงบนติ่งหูเย็น
“ขังพี่ไว้...จนกว่าพี่จะยอมเป็นเมียผมตลอดไป” แทนไทยส่งยิ้มสดใสให้คนรัก “นะครับ”
น้ำอุ่นชักไม่มั่นใจแล้วว่าใครกันแน่ที่สวมหน้ากากพ่อพระมาโดยตลอด
“อือ…ไม่ปล่อยไปไหนทั้งนั้นแหละ”
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้...” ผ้าห่มผืนหนาถูกกระชากออกจากร่างเปลือยเปล่า ขาเรียวยาวถูกจับแยกออกอยากไม่ให้ตั้งตัว แทนไทยแทรกกายคุกเข่าระหว่างเรียวขาขาวเนียนพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ขออีกยกนะครับ”
ดวงตาเรียวเบิกกว้าง น้ำอุ่นพยายามดิ้นหนีแต่กลับถูกมือใหญ่จับไว้อย่างแน่นหนา ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาจุมพิตเบาๆที่หน้า
ผากใส
“ทะ...แทน พี่ไม่ไหวแล้ว แทน..มะ...ไม่..อ๊ะ...อะ...อ๊าาาา!!!”
---------
แทน...เธอเปิดเผยตัวตนออกมาแล้วสินะ....
เราจะไม่ดอง เราจะไม่ดอง
แต่เนื้อหาสอบมันช่างกว้างใหญ่ไพศาล
เจอกันใหม่เมื่อกระดึ้บออกมาจากสมรภูมิสอบได้นะคะ55555
อีกอย่าง ฝากside story ของคู่แฝดทีมเทสต์ที่โคตรจะไร้บทบาทไว้ ณ ที่นี้ด้วยยยยยยยย
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58878.0รัก||หลอก||เด็ก
เหมาะสำหรับคนชอบกินเด็ก...หรือโดนเด็กกิน....
หุหุหุหุหุ