ตอนที่ 7
“นี่คุณถีบผมจริงอ่ะ…”
คนถูกถีบนั่งหน้าบู้อยู่บนพื้นบ้าน ส่วนพระจันทร์โมโหก็ถลึงตาใส่
“ไม่เห็นต้องดุเลย…”
บ่นงุ้งงิ้งแถมยังทำปากยื่น
“คิดว่าทำท่านี้มันน่ารักหรอคุณ?”
“น่ารักแล้วรักปะครับ”
ดูเอา… ปากบู้อยู่แปปเดียวหันมายิ้มกว้างทำตาวาวระยิบระยับ เฌอแตมได้แต่นับหนึ่งถึงสิบในใจเพราะไม่รู้จะรับมือกับความกะล่อนของช็อคโกแลตยังไง
ถามว่าโกรธไหม? มันก็ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น … แต่มันกึ่งๆหมั่นไส้ ยียวน ชวนหมั่นเขี้ยวเหลือเกิน!
มันทำเอาคิดไม่ออกว่าควรจะรับมือกับไอ้บ้านี่ยังไง
“พอเลย ตกลงร่มน่ะไม่มีจริงๆ?”
“ไม่มีครับ ดีลไหมล่ะๆ”
ยังอีก… ยังจะมาระริกระรี้
“เลิกเล่นได้แล้ว ลุกขึ้นด้วย ผมถีบเบาๆเหอะ ทำไมต้องแกล้งล้ม”
ส่ายหัวกับความทะเล้นแต่ก็ส่งมือให้อีกฝ่ายตามมารยาท แต่พระจันทร์เฌอแตมคงตีค่าความทะเล้นของช็อคโกแลตฌามาต่ำไป เพราะมือหนาดันดึงมือเรียวจนล้มลงไปทาบทับร่างหนาทั้งตัว แถมยังถูกพลิกตัวขึ้นคร่อมโดนกักร่างไว้ในอ้อมแขนในเสี้ยวพริบตา
“จับได้แล้ว”
เสียงทุ้มนุ่ม…ที่แผ่วเบาราวกระซิบกล่อม
เสียงฝนเหมือนถูกตัดออกไปจากสภาวะแวดล้อมรอบตัวทันทีที่สบตาคม….ลืมไปแล้วว่ายังโมโหกับความใกล้ชิดที่อีกฝ่ายพยายามอยู่เมื่อครู่
ลืมไปแล้วว่าใบหูที่หวงนักหนากำลังถูกเรียวปากสวยเขยิบเข้ามาใกล้…
หลับตาแน่นเมื่อสัมผัสเปียกชื้นทาบทับเนิบนาบที่ใบหูทีละนิด…. เสียงกระซิบเรียกชื่อแหบพร่าจนต้องกลั้นหายใจ มือก็ไร้เรี่ยวแรงได้แต่ยกทาบแผ่นอกหนาแต่แรงดันออกไม่มี
“ผมไม่กัดหูคุณก็ได้ แต่ถ้าคุณหาร่มไม่เจอ แพลนวันหยุดพรุ่งนี้ของคุณต้องมีผม”
ไม่กัด แต่การกระซิบชิดใบหูมันยิ่งให้ความรู้สึกประหลาดจนมือขยำเสื้ออีกฝ่ายแน่น เหมือนความวาบหวามที่แล่นริ้วผ่านเข้ามาให้งงเบลอ
และสุดท้ายก็จบลงที่ปลายจมูกโด่งหอมแก้มซีดฟอดใหญ่….และร่างหนาทิ้งตัวลงนอนกับพื้นข้างกัน รอยยิ้มยังประดับอยู่บนเรียวปาก
ดวงตาทอแสงอ่อนเอ็นดูคนผิวซีดที่ยังล่องลอย ตาเรียวหวานเชื่อมไม่รู้ตัวนี่มัน…
โคตรน่ารักเลย…
ไม่รู้ทำไมตัวเองถึงกลายเป็นคนหื่นอยากจะจูบ อยากจะงับอีกฝ่ายอยู่เรื่อยไป ท่าทางโมโหที่อีกฝ่ายแสดงออกไม่ได้ทำให้กลัว แต่ทำให้ยิ่งอยากเข้าหามากกว่าเดิม พระจันทร์เฌอแตมเวลามึนเบลอจนสติหลุดให้เขาลวนลามนี่น่ารัก… แต่ก็ต้องยอมตัดใจเลิกแกล้งอีกฝ่ายสักที เอาแค่นี้ดีกว่า เพราะพอสติกลับมา ใบหน้าซีดก็กลายเป็นสีชมพูระเรื่อ ปากเม้มแน่น… และถลึงตาใส่เขาทุกที
โอ้ย…น่ารัก
“ไอ้บ้าเอ้ย…”
พลั่ก…
รอบนี้คนน่ารักของช็อคโกแลตถีบจริง…ไม่มีออมแรง
“ผมข้ามไปไม่ได้จริงอ่ะ…”
คนทำผิดนั่งจ๋องอยู่ที่โต๊ะกินข้าว เพราะแขกผู้มีเกียรติสั่งห้ามข้ามโซนมายังบริเวณห้องครัว เฌอแตมใช้วิธีจัดข้าวของเป็นการสงบสติอารมณ์
จานเอามาล้างอีกรอบ เช็ดโต๊ะ ขัดพื้น จัดจาน เรียงขวดเครื่องปรุง เวลาได้ยินเสียงอวดครวญข้ามฟากมาก็ส่งสายตาเย็นชาวราวกับจะทิ่มแทงอีกฝ่ายให้ตายคาที่กลับไป
“ผมไม่ได้แตะต้องหูคุณเลยนะครับเมื่อกี๊”
“อยู่นิ่งๆไป ฝนเมื่อไหร่จะหยุดตกวะ…”
“หาร่มสิๆ ดีลกันๆ”
คนแหย่ก็ยังแหย่ไม่เลิก… แต่เฌอแตมก็ไม่ยอมรับปากดีลหาร่ม เพราะคิดว่าตัวเองคงจะเสียเปรียบ อันที่จริงก็แค่ขอหยุดเฉยๆไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่วันลามันเหลือ ยังไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะทำอะไร
เสียงของช็อคโกแลตเงียบไปแล้วจนต้องเงยหน้ามองก็เห็นอีกฝ่ายไปหาปากกาเมจิคจากไหนไม่รู้กำลังวาดภาพลงบนกระจกอีกฝั่งของบ้าน
เสน่ห์ในท่าทาง… ช็อคโกแลตคงได้ร้อยคะแนนเต็ม แค่ใส่เสื้อยืด กางเกงผ้า มือหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงอีกมือขยับไปตามใจคิด ผมบ๊อบเปิดหูข้างเดียวลู่รับไปกับท้ายทอยสวย ขายาวย่อเข่าเล็กน้อยในท่าทางยืนที่เจ้าตัวคงถนัด แผ่นหลังกว้าง…ที่เหยียดตรง
เป็นคนบุคลิกดีมากจนน่ามอง วิธีการลากเส้นวาดภาพของอีกฝ่ายไม่มีลังเล แค่ลากไปเรื่อยๆไม่มีหยุดชะงักเหมือนมีภาพในใจอยู่แล้วในทุกส่วน
เฌอแตมพับผ้าเช็ดโต๊ะวางลงเรียบร้อยก็เดินข้ามฟากที่ตัวเองเป็นคนแบ่งไว้เข้าไปดู ฟ้าที่มืดสนิทแล้วทำให้แสงไฟในบ้านสะท้อนเห็นเงาสะท้อนลางๆของตัวเองบนกระจก อีกฝ่ายก็คงเห็นเขาเพราะส่งยิ้มบางเบาผ่านกระจกมา
ตาเรียวกระพริบปริบๆหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อยเพราะภาพที่วาดเป็นภาพพระจันทร์ครึ่งเสียงมีหน้าตาขะมักเขม้นและมืองอกออกมาเช็ดจานอยู่หลังเคาน์เตอร์
ก็ไม่ได้วาดตัวเขาสักหน่อย…แต่พระจันทร์มันก็สื่อถึงเขาไม่ใช่หรือไง?
การวาดของช็อคโกแลตไม่จบแค่นั้น เพราะบนพื้นข้างเคาน์เตอร์เจ้าตัววาดช็อคโกแลตแท่งผมบ๊อบทำหน้าร้องไห้อยู่ด้วย และมีกล่อง
ข้อความงอกมาเหมือนในการ์ตูน
“I’m sorry TOT”
ฉับพลันเจ้าตัวก็หันมาพร้อมรอยยิ้มนุ่มนวล
“ดีกันนะครับพระจันทร์ เฌอแตม”
นิ้วก้อยถูกยกขึ้นมาแบบเด็กๆ ใบหน้าไม่ได้มีแววทะเล้นเหมือนเมื่อครู่แต่เป็นรอยยิ้มนิ่มๆที่ไปถึงแววตา ยิ้มที่ส่งมืทุกครั้งในร้านกาแฟที่นั่งคุยกัน ยิ้มเหมือนตอนที่ชื่นชมว่าผิวเขาสีนวลเหมือนแสงจันทร์
ยิ้ม…ที่ทำให้เจ้าก้อนเนื้อในอกซ้ายมันทำงานหนัก
รอยยิ้มของช็อคโกแลต ฌามา ชนะทุกสิ่ง…
“พรุ่งนี้คุณลาหยุดทำไมหรอครับ”
น้ำอัดลมคนละกระป๋อง นั่งห้อยขาคู่กันบนโต๊ะกินข้าวคู่กัน เก้าอี้ถูกยกออกไป ได้อารมณ์เหมือนห้อยขาชมวิวทั้งๆที่ญี่ปุ่นในเวลาค่ำมืดแบบนี้เหลือเพียงเงาตะพุ่มๆ ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง… ไม่รู้ตกอะไรกันนักกันหนา
“จริงๆ ผมก็แค่ใช้วันหยุดของตัวเองเฉยๆ ไม่มีอะไรพิเศษครับ”
ยักไหล่ง่ายๆ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรพิเศษจริงๆ ก็แค่วันธรรมดา
“งั้นก็ยังไม่มีแพลน?”
พยักหน้ารับง่ายๆ
ช็อคโกแลต ฌามาวางกระป๋องน้ำอัดลมลงข้างตัวก่อนจะยกตัวลงจากโต๊ะและส่งมือมาให้แขกผิวซีดหน้านิ่งที่มองมางงๆ
“ไปดูแหล่งกบดานของผมไหมครับ? ที่ชั้นบน”
“ไม่ต้องจับมือก็ได้มั้ง?”
“อ้าวไม่เท่ห์หรอ เห็นพระเอกละครเขาชอบทำ”
“ละครหลังข่าวไทยปะเนี่ย? ”
“ผมดูซีรีส์อเมริกาครับ แสดงว่าพระเอกทุกชาติมีท่าทางการจีบเหมือนกันนะเนี่ย… ดีจังที่วัฒนธรรมเราไม่ต่างกัน แสดงว่าถ้าจะมีมอนิ่งคิส
เฟรนด์คิส….ก็…”
“หุบปาก”
ท่าทางเม้มปาก เบิกตากว้างล้อเลียนยิ่งทำให้รู้สึกหมั่นไส้… ไม่น่าไปหลงเผลอใจหวั่นไหวกับรอยยิ้มละมุนของอีกฝ่ายเลย… เพราะหลังจากนั้นมันดูจะเกิดการแพร่พันธุ์ของโรค….แพ้ช็อคโกแลตยี่ห้อ ฌามา
ขนาดหมั่นไส้ ยังว่า เอ่อ น่ารักก็ได้…
หมั่นไส้ กับ น่ารัก คำนิยามก็ต่างกันแล้วนะ เอ้ะ หรือเหมือนกัน? สงสัยต้องกลับไปหาข้อมูล
คิดมากมัวแต่คิดมือที่รออยู่จึงไม่หยุดเฉย แต่เอื้อมมาดึงมือซีดไปกุมแล้วดึงทีเดียวก็ลากพระจันทร์คิดเยอะให้ตามไปที่บันไดได้ในที่สุด
บันไดที่เป็นแผนไม้ติดกับแนวกำแพง ขนาดไปกับกระจกด้านยาวขึ้นไปสู่ชั้นบน… รู้ว่าชั้นล่างห้องครัวกับห้องกินข้าวมันสร้างเต็มพื้นที่ แต่
ด้านบนมันจะเป็นแบบไหนนะ?
พื้นที่ด้านบนช่วงบานพับประตูมีผืนผ้าใบใหญ่กางอยู่บนพื้น ด้านขวาเป็นโซฟาสีเขียวมะนาวและโต๊ะรูปซีกมะนาว ส่วนด้านซ้ายเป็นบริเวณทำงานเพราะมีโต๊ะเขียนแบบ ชั้นหนังสือ และกำแพงก็มีบอร์ดที่มีรูปสเก็ตติดอยู่จนแน่น บันไดไม่ได้สุดแค่ชั้นนี่พาเดินขึ้นไปชั้นลอยได้ต่อซึ่งมองจากตรงนี้ก็เห็นว่าเป็นเตียง
“ร้านกาแฟ?”
ภาพบนผืนผ้าที่กินพื้นที่ตรงกลางมันช่างคุ้นตา เพราะเป็นสถานที่ที่เขาทำงานอยู่ทุกวัน ภาพร้านกาแฟในรูปแบบซีจัดจ้านจนเหมือนภาพการ์ตูน ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร แต่มันดูเพ้อฝันที่มีความเป็นจริง
“ใช่ครับ ผมเริ่มวาดแก้เครียดน่ะ เพิ่งเสร็จเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์”
ถังสีอะไรต่างๆยังวางระเกะระกะ เจ้าผ้านี่ก็ช่างใหญ่จนถ้ายกแขวนคงกินด้านหนึ่งของกำแพงได้เลย
“แล้ว วาดทำไมซะใหญ่?”
“จะเอา…ไปบริจาคครับ ผ้านี่จะเอาไปเย็บติดผ้าใบ ขึงกันแดดกันฝนได้ เผื่อพวกนักศึกษาค่ายอาสาจะมาขอไปออกค่าย จะใช้ตกแต่งอาคารหรือทำกันสาดก็ได้หมด คุณมาช่วยกันวาดสิครับ ทำบุญด้วยกัน”
“ผมไม่ถนัด…”
“แค่มีใจ ยังไงก็ทำได้ครับ มาลองดู เอาแค่มุมๆก็ได้นะ”
“อือ…ก็ได้”
ถังสีถูกเปิดให้พร้อมแปรงหลายขนาด ก่อนช็อคโกแลต ฌามาจะผสมสีด้วยท่าทางคล่องแคล่ว
“ผมขอถอดเสื้อนะครับ ไม่ถนัดอ่ะ”
ร่างสูงลุกขึ้นยืนตัวตรงก่อนจะถึงเสื้อออกพ้นหัวตามด้วยพับกางเกงขึ้นถึงเข่า แผ่นหลังกว้างมีกล้ามเนื้อได้รูปสวย และรอยสัก… รอยสักรูปกราฟฟิคเรขาคณิตแปลกตาอยู่ที่ใต้ลำคอตรงบริเวณที่ถูกซ่อนไว้ใต้เสื้อ เหนือขอบกางเกงด้านขวาก็ยังมีรอยสักเป็นตัวเลขหนึ่งชุดเรียงกันอยู่เจ็ดหลัก
ช็อคโกแลต ฌามาผสมสีต่อก่อนจะใช้แขนตัวเองเป็นที่รองสีว่าผสมเข้ากันหรือยังจนพอใจ ต้นแขนซ้ายมีรอยสีเลอะเทอะทับไปทับมา ท่าทางเป็นธรรมชาติบ่งบอกว่าเจ้าตัวเคยชินกับงานพวกนี้
“อ่ะ ลองทาตรงพื้นร้านแล้วกันครับ สีนี้น่าจะสีปูนเดียวกับที่ร้านแล้วล่ะ ลองดูผมก่อนแล้วกันครับ ตรงนี้นะ”
แปรงทาสีขนาดเล็กถูกแต้มสีตวัดตกแต่งเป็นจังหวะ ท่าทางสะบัดแปรงชำนิชำนานน่ามอง แบบนี้เขาเรียกว่าซิกเนเจอร์ประจำตัวหรือเปล่า? เพราะท่าสะบัดแปรงของฌามาไม่ได้กำแปรงแบบที่เคยเป็น แต่วางแปรงไว้ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง มือคว่ำลงและทา… เป็นท่าที่ลำบากอยู่ไม่น้อยถ้าถือไม่ดีแปรงก็หล่นง่ายๆแต่เจ้าตัวดูจะถนัด
“ลองดูครับ”
แปรงถูกเปลี่ยนมือมาให้ เฌอแตมเริ่มลงสีช้าๆ ซึ่งเงอะงะต่างจากท่าทางของฌามาโดยสิ้นเชิง
“แรงๆกว่านี้หน่อยครับ”
มือขาวถูกมือสีแทนขยับเข้ามากุมก่อนจะโดนนำพาให้ทาสีในน้ำหนักที่แรงขึ้น นั่นหมายความว่ามือที่กุมก็เพิ่มน้ำหนักเช่นกัน มือของฌามากระชับมือเขาแน่น แผ่นอกก็แนบชิดไหล่เขาจนเหมือนโอบกลายๆ
“รู้แล้ว… เขยิบไปหน่อย”
“หือ?”
เฌอแตมขยับไปพูดพอๆกับที่ฌามาหันมามอง ปลายจมูกโด่งแตะแผ่วเบาที่ผิวหน้าเนียน…เฉี่ยวใบหูไปนิดเดียว แต่ความร้อนผ่าวก็แผ่กระจายไปบนใบหน้าขาวจนขึ้นสีเรื่อจางๆ
ฌามาไม่พูดอะไรกับท่าทางเขินอายของพระจันทร์ เฌอแตม หน้ายังคงนิ่งสงบแต่ใบหน้าขึ้นสีคือหลักฐานชัดเจนว่าอีกฝ่ายมีความรู้สึก
เอาเถอะ…ปล่อยให้สบายใจดีกว่าไปตามหยอดตามแกล้ง
ขายาวลุกขึ้นพาตัวเองไปจัดการอีกฟากหนึ่งปล่อยพื้นสีเทาง่ายๆให้เฌอแตมจัดการ ดูท่าทางก็รู้ว่าไม่ได้จริงๆแต่เห็นอีกฝ่ายสนใจไม่บ่นอะไรก็วางใจ
มันน่าอึดอัดจะตายมาอยู่บ้านกับคนที่ยังสนิทกันไม่มาก ฝนก็ตกหนัก หากิจกรรมให้ทำแบบนี้ก็ดีกว่านั่งอึดอัดกันและกันเปล่าๆ…
“คุณซ่อนตัวเองได้เก่งนะครับ”
คำพูดแปลกหูทำให้มือที่ถือแปรงทาสีชะงัก ฌามาที่ยังมีรอยยิ้มมุมปาก แววตามองสีเทาที่ถมลงบนเนื้อผ้านิ่งๆ ราวกับพินิจพิจารณา
“ผมไม่เข้าใจ?”
“คุณ…เป็นคนใจร้อนใช่ไหม? ดูจากน้ำหนัก… ใจร้อน เอาแต่ใจ… และ ดื้อรั้น”
“คุณพูดอะไร”
คิ้วสวยขมวดมุ่น… คำทายทักที่ออกมามันทำให้หงุดหงิด… ไม่สนิทกันสักหน่อย
“ดูจากน้ำหนัก การลงสี การใช้แปรง สีไม่สม่ำเสมอ รอยหลังๆเริ่มเลอะเทอะเหมือนคนเบื่อที่ลงสีแล้วสีมันไม่ได้ดั่งใจ บ้างก็กระแทกแปรง ผมพูดถูกไหม?”
“แค่นั้นก็ตัดสินผมแล้ว?”
“เปล่า…ผมก็แค่ลองเดา ไม่หงุดหงิดน่า… อยากลองเดาของผมบ้างไหม น้ำหนักการลงสีของผมมันก็บอกตัวตนของผมเหมือนกันนะ”
ช็อคโกแลต ฌามาทิ้งตัวนั่งลงข้างกัน มือและแขนที่เลอะสีเป็นดวงๆดึงแปรงออกจากมือเรียวมาทาต่อ จังหวะไหลลื่นตวัดไปมา น้ำหนักสีที่หนักบ้างเบาบ้างจนเกิดแสงเงาแบบที่เขาทำไม่ได้ รอยยิ้มจางยังคงประดับอยู่ที่ใบหน้าไม่ไปไหน
….เป็นคนยังไง?
“ตีสองหน้า”
มือสีแทนชะงักบ้าง ก่อนจะหันมามองคนหน้านิ่ง
“ทำเป็นโชว์ฝีมือ พูดจาเหมือนถือไพ่เหนือกว่า ทำท่ามีน้ำใจ สุดท้ายก็แค่…คนอวดฉลาด ตีสองหน้า”
“คุณโกรธผมขนาดนั้นเลยหรอครับ”
ยิ้มขำแต่มันช่างเป็นรอยยิ้มที่ฝาดเฝื่อน
“อยากรู้บ้างไม่ใช่หรือไงว่าคุณเป็นคนยังไง”
“คุณใจร้อนและหัวดื้อแบบที่ผมทายจริงๆด้วย…”
“น้ำเสียงเหมือนรู้ทุกอย่างแบบคุณนี่…มันก็เสแสร้งเหมือนที่ผมพูดเหมือนกัน”
ความเงียบเข้าแทนที่บรรยากาศดีๆไปซะหมด… ตาเรียวสบตาคมนิ่งไม่มีใครยอมละสายตาก่อน แววตาที่เหมือนเข็มทิ่มแทงกันต่างจากช่วงการทำพิซซ่าราวกับหนังคนละม้วน
“คุณไม่รู้หรอกว่าตัวเองพูดอะไร”
“โลกนี้ไพ่ที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ในมือคุณคนเดียว”
“ผมไม่เล่นไพ่”
“ชอบดีลไม่ใช่หรอ ไพ่ก็เป็นพื้นฐานของการพนัน อย่าโกหกเลยคุณช็อคโกแลต ฌามา”
“แล้วกล้าดีลกับผมไหมล่ะครับ ร่ม…มีหรือไม่มี”
ย้อนกลับไปการดีลเรื่องร่มที่มีแพลนวันพรุ่งนี้ของเฌอแตมเป็นตัวประกัน ตาคมฉายแววสนุกสนาน รอยยิ้มมุมปากที่แสนสุภาพกลายเป็นความท้าทายราวกับเจอของถูกใจ
“หึ…”
“ว่าไง…กลัวหรอ… กลัวตัวเองจะแพ้ใช่ไหมพระจันทร์ เฌอแตม”
ตาเรียวที่จ้องเขม็งราวกับเสือจ้องเหยื่อ…ยิ้มที่เริ่มแต่งแต้มมุมปากต่างไปจากใบหน้านิ่งหรือเขินอาย เฌอแตมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าคมจนปลายจมูกแทบจะชนกัน
“เอาสิ… บอกเลยว่าเกมส์นี้ผมจะไม่แพ้ แต่ผมมีเงื่อนไข”
“ว่า”
“ถ้าฝนหยุดก่อนผมจะเริ่มหา ผมชนะ… แล้วผมจะเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอกับคุณเอง”
==========================
เริ่มเทาแล้วสิ ตอนหน้าก็เทาเต็มตัว อิอิ ....
ไปยั่วโมโหเฌอแตมทำไมล่ะคุณฌามาาาาา ปล่อยเขานิ่งๆก็ดีอยุ่แล้วววววว