[เรื่องยาว] Dear, My customer. รักลับๆ ของช่างตัดเสื้อ บทที่53 (จบ)p.24(6/1/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องยาว] Dear, My customer. รักลับๆ ของช่างตัดเสื้อ บทที่53 (จบ)p.24(6/1/63)  (อ่าน 97492 ครั้ง)

ออฟไลน์ -.NF.-

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 822
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ตลกหลอดสองหน่อ ถึงกับร้องไห้เลยนะ 55556

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
กำลังซึ้ง ก็มาขำอิตาลอดเฟลตัน ให้ตาย!

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
นั่งฮาไม่หยุด 555
เพื่อนๆ น่ารักมาก ลอร์ดเฟลตันคือดี คือน่ารักมาก นึกภาพหนุ่มๆ คอยระวังให้แล้วน่ารักมากค่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สังคมยุคนั้น!!!!! เรื่องชายรักชายมันจะรอดหรือ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ยังไงต่อละทีนี้ ถึงเพื่อนจะอยู่ข้างเดียวกัน แต่ท่านพ่อท่านแม่ไม่ว่างั้นแน่ท่านลอร์ด

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ทำไมอิฉันน้ำตาซึม//ปาดน้ำตาแปป :hao5:
หนุ่มจอร์จช่างเป็นเพื่อนที่ทุ่มเท! ต้องต้มมาม่ารอไหมเนี่ย?

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
มีเพื่อนดีเป็นศรีแก่จอห์นนี่

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เฟลตันยังไม่มีแฟน ใช่ไหม ขอจองนะ
 :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alicegrizzly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ็อยยยย เค้าเกือบได้กันแล้ววววววว
ลอร์ดเฟลตันมาขวางทำม๊ายยยยยยย
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ นางสาวกานาเลส

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โอ้ยยยยยยย ดีต่อใจจจ เพื่อนๆก็ช่วยเชียร์ ลุยจีบไปเลยค่าาาาา

ออฟไลน์ oOMqROo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านแล้วกังวลใจมาก ต้องดราม่าหนักแน่นอน อย่าว่าแต่เรื่องฐานะเลย
สมัยนั้นโฮโมเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ขนาดแค่เป็นผู้ชายแล้วแต่งหน้ายังโดนจับเลย
เฮ้ออ หนักใจจจ

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
แอบฮาแก๊งเพื่อน  :m20:
แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีนะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
กอร์ดอนผู้ไร้เดียงสา นายจะถูกจอห์นนีงาบแล้วนะ!
ทำกันเป็นขบวนการด้วย!

จอร์จจี้น่ารักเนอะ ลอร์ดเมอเรย์ก็น่านัก

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
ท่านลอร์ดมีเพื่อนดีมาก และตัวลอร์ดเองก็น่ารักมาก
ยิ่งตอนพูดเรื่องรักแรกพบกอร์ดอน มีความเขินสูงมาก
ได้โปรดอย่าดราม่าหนักเลย สงสารท่านลอร์ด

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
เพื่อนดีๆ ประทับใจรักแรกพบของท่านหลอดมากหมั่นไส้ เป็นแค่หลอดพอ 5555

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
อ่านแล้วติดเลย สนุกมากๆ
ประทับใจรักแรกพบของท่านลอร์ด
รอลุ้นให้กอร์ดอนรับรักนางไวๆ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ซึ้งใจไปกับมิตรภาพดีๆ TT
แล้วก้อกังวลไปกับความรักของทั้งสองคนด้วย ปัญหาล้านแปด และที่ใหญ่ที่สุดคือคุณพ่อและแม่ของท่ารลอร์ด =____=

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
พาหนีไปอเมริกาเลยค่ะท่านลอร์ด

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
โอ้ย เป็นเรื่องที่แหวกอีกแล้ว ไม่คิดว่าจะมีใครแต่งแนวนี้
อ่านแล้วได้อารมณ์นิยายแปลมากๆ เหมือนคนเขียนแต่งเป็นภาษาอังกฤษก่อนแล้วค่อยแปลเป็นไทยอีกที 55

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
โอ้ย เป็นเรื่องที่แหวกอีกแล้ว ไม่คิดว่าจะมีใครแต่งแนวนี้
อ่านแล้วได้อารมณ์นิยายแปลมากๆ เหมือนคนเขียนแต่งเป็นภาษาอังกฤษก่อนแล้วค่อยแปลเป็นไทยอีกที 55

ในความเป็นจริงคือคนเขียนง่อยเปลี้ยภาษาอังกฤษแบบถึงที่สุดมากค่ะ น่าจะเพราะอ่านนิยายแปลเยอะเกินไป แฮ่ๆ

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
โอ้ย สนุกมากๆ ลอร์คาเวนดิชน่ารักมากๆ สู้ๆขอให้สำเร็จ
รอตอนต่อไปค่า :katai4:

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
คาเวดิชถึงแม้จะดูบ้าๆ แต่จริงๆ แล้วลึกซึ้งกว่าที่เห็นมาก +เป็ด ค่ะ สนุกมากๆ เลย

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
จะเป็นยังไงต่อไปล่ะนี่

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog


Dear, My customer.

ตอนที่8 ปิกนิกที่ริมแม่น้ำเทมส์


                กอร์ดอนตื่นขึ้นมาอีกครั้งในเช้าของวันรุ่งขึ้น เขาบิดขี้เกียจ เปิดไฟหัวเตียง แล้วหยิบนาฬิกาพกขึ้นมาดู ก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ แต่แล้วก็ลุกพรวดขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เขารู้สึกตาสว่าง หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง

                ช่างตัดเสื้อหนุ่มเพิ่งระลึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกตอนที่ตั้งใจจะนอนรอบสองนี้เอง นี่เขาทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย กอร์ดอนนึกถึงสีหน้าของลอร์ดโทรว์บริดจ์ นึกถึงคำพูดของฝ่ายนั้น

                ‘อยากให้ผมจูบคุณไหม’

                ชายหนุ่มรู้สึกร้อนเห่อไปทั่วใบหน้า ทำไมลอร์ดโทรว์บริดจ์ถึงต้องถามเขาแบบนั้น แล้วทำไมเมื่อคืนพอเห็นหน้าฝ่ายนั้น เขาถึงต้องผวากอดเอาไว้ด้วย ช่างตัดเสื้อหนุ่มลุกขึ้นเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง พยายามหาเหตุผลอธิบายสิ่งที่เขาทำลงไปเมื่อวาน แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่สามารถหาเหตุผลใดมาอธิบายมันได้ นึกยังไงก็เห็นแต่ดวงตาสีเขียวของลอร์ดโทรว์บริดจ์ กับรอยยิ้มและคำพูดของฝ่ายนั้นเท่านั้นเอง

                สุดท้ายพอฟ้าเริ่มสาง กอร์ดอนก็ตัดสินใจเรียกรถม้าไปที่โบสถ์ นั่งสวดมนต์หน้ากางเขนศักดิ์สิทธิ์ ขอให้พระเจ้าช่วยชี้ทางสว่างให้กับเขา ขอให้พระเจ้าให้อภัยเรื่องที่เขาทำลงไปเมื่อคืน เขาสวดมนต์อยู่ถึงหนึ่งชั่วโมงเต็มจนรู้สึกดีขึ้น จึงจับรถม้ากลับมาที่ร้าน

-----------------------------------------

                ไม่มีวี่แววการปรากฏตัวของลอร์ดโทรว์บริดจ์ตลอดวัน กอร์ดอนนึกโล่งใจ ถึงแม้เขาจะคิดว่าพระเจ้าคงให้อภัยเขาในสิ่งที่ทำลงไปเมื่อคืน แต่ชายหนุ่มไม่แน่ใจนักว่าเมื่อได้เห็นหน้าลอร์ดคนนั้นอีกครั้ง เขาจะยังกล้าขอความเห็นใจจากพระเจ้าอยู่อีกหรือเปล่า ตกเย็นหลังมื้อค่ำ กอร์ดอนตัดสินใจแต่งตัวไปที่บาร์บีช็อร์ต

                “สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ วันนี้คุณดูรีบร้อนจัง” แอนนาเบลทัก กอร์ดอนลากเก้าอี้มานั่งข้างเธอ ก่อนจะก้มมองตัวเอง

                “คุณเหมือนไม่ได้หวีผม” หญิงสาวพูดยิ้มๆ แล้วใช้มือข้างหนึ่งปัดผมให้เขา กอร์ดอนสะดุ้ง

                “อ๊ะ! ฉันขอโทษ”

                ชายหนุ่มรีบสั่นศีรษะ “ไม่เป็นไร ผมแค่ตกใจ”

                “ค่ะ ฉันเห็นแล้ว” เธอมองเขาแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือคะ? สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย”

                กอร์ดอนลังเลที่จะพูด “คือ... ผมมีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อย”

                “ค่ะ...” หญิงสาวพยักหน้า และรอให้เขาพูดต่อ ชายหนุ่มขบริมฝีปาก นึกสงสัยว่าเขาควรจะพูดอย่างไรดี

                “คือผมคิดว่าผมน่าจะชอบคุณ...”

                “ค่ะ...?”

                “แต่...” ช่างตัดเสื้อกัดริมฝีปาก “ผมก็สงสัยอีกว่าบางทีผมอาจจะชอบอีกคน”

                แอนนาเบลยิ้มออกมา “คุณดูไม่เหมือนคนอายุสามสิบหกเลย กอร์ดอนที่น่าสงสารของฉัน คุณเหมือนลีแอนด์ตอนอายุสิบห้า เธอเคยทำหน้าแบบนี้มาหาฉันเหมือนกัน”

                กอร์ดอนเงยหน้ามองเธอ แอนนาเบลเลยพูดต่อ “เธอมีผู้ชายที่ชอบอยู่คนหนึ่ง เธอเพ้อถึงเขาทุกวัน จนวันหนึ่งเขาเชิญเธอไปงานเลี้ยง วันนั้นเธอกลับรู้สึกว่าเธออาจจะชอบเพื่อนอีกคนที่สนิทกับเธอมากกว่า ตอนเธอมาถามฉันก็ทำหน้าแบบคุณนี่แหละ”

                กอร์ดอนหน้าแดงทันที หญิงสาวจับมือเขาบีบเบาๆ “ค่อยๆ คิดก็ได้ค่ะ ฉันไม่โกรธคุณหรอก ยังไงคุณก็เป็นผู้ชายที่น่ารักมากคนหนึ่ง”

                กอร์ดอนได้แต่พยักหน้า “ผมขอโทษนะแอน ผมไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”

                “ไม่มีใครเข้าใจความรักหรอกค่ะ” แอนนาเบลตอบเขา “พระเจ้ามอบเอาไว้ในหัวใจเราเพื่อให้เรารู้จักรัก พระองค์ไม่เคยต้องการให้เข้าใจมันหรอก เราแค่รู้ว่าต้องรักใครสักคนก็พอแล้ว”

                กอร์ดอนเงยมองหน้าเธออีกครั้ง “ขอบใจนะ...”

                เธอยิ้มให้เขา “อย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นเลยค่ะ ฉันว่าคุณตัดสินใจได้ไม่ยากหรอก ฟังแค่เสียงหัวใจตัวเองก็พอค่ะ ฉันอยากให้คุณเลือกคนที่ใช่ ไม่ใช่เลือกคนที่คุณคิดว่าต้องใช่ แล้วทุกคนรวมทั้งคุณจะต้องมีความสุขแน่นอน”

                “อืม...”

------------------------------------

                กอร์ดอนกลับมาถึงห้องประมาณสี่ทุ่ม เขาเข้านอนแทบจะในทันที ชายหนุ่มนึกถึงผมสีแดงของแอนนาเบล นึกถึงดวงตาสีน้ำตาลสวยของเธอ นึกถึงคำพูดที่เธอพูดกับเขา จากนั้นใบหน้าของลอร์ดโทรว์บริดจ์ก็ลอยขึ้นมา

                ‘อยากให้ผมจูบคุณไหม’

                กอร์ดอนแตะริมฝีปากลงไปบนหลังมือของตัวเอง จุดเดียวกับที่ลอร์ดโทรว์บริดจ์จูบลงไปในคืนนั้น และเริ่มร้องไห้

                ขอพระเจ้าโปรดอภัยบาปให้เขาด้วยเถอะ

-------------------------------------

                ลอร์ดโทรว์บริดจ์เชิญเลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนมาดื่มน้ำชาในบ่ายวันอังคารของสัปดาห์ถัดมา ลอร์ดและเลดี้บาธรู้สึกดีใจที่ลูกชายเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์กับเลดี้ผู้เพียบพร้อม และเหมาะอย่างยิ่งที่จะรับตำแหน่งมาร์ชันเนสในอนาคต

                เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนไม่ถือสาเขาเรื่องที่เสียสมาธิในงานเต้นรำถึงสองครั้ง และไม่แม้กระทั่งถามว่าเขาหันไปมองใคร ลอร์ดโทรว์บริดจ์เห็นถึงประโยชน์ในการรู้จักรักษามารยาทก็คราวนี้ เขาคุยกับเธอในเรื่องสัพเพเหระทั่วไปอย่างที่พ่อเขาอยากให้ทำ เรื่องชนิดของใบชา งานเลี้ยง สภาพสังคม และความภักดีต่อพระราชินี จากนั้นก็ไปส่งเลดี้อย่างที่สุภาพบุรุษทั้งหลายควรทำถึงหน้าคฤหาสน์ตอนเวลาบ่ายสองเป๊ะ ขากลับเขาไม่ได้บ่ายหน้าไปทางคฤหาสน์ แต่สั่งให้โอลิเวอร์เลี้ยวรถม้าไปทางสโมสร

                “งานเลี้ยงน้ำชาเป็นไง” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันถามหลังจากทักทายกันเรียบร้อยแล้ว

                “ก็อย่างนั้นแหละ” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ตอบา ก่อนจะพูดต่อ “แคทเธอรีนสวยดี แต่ไม่ใช่แบบที่ฉันชอบ”

                “เออ แบบที่นายชอบเขาอยู่ที่ร้านตัดเสื้อ” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันว่า “นายคิดไว้หรือยังว่าจะไปคุยกับเขายังไง”

                “ฉันกำลังคิดอยู่” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า หลังจากเกิดเรื่องเมื่อวันศุกร์ ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเสนอว่าเขาไม่ควรไปหากอร์ดอนในวันรุ่งขึ้น เพราะด้วยลักษณะท่าทางอย่างกอร์ดอน คงไม่ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตัวเองเมาแน่ๆ ซ้ำเรื่องที่ว่ายังเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากอีกด้วย แม้ลอร์ดโทรว์บริดจ์จะไม่รู้สึกพอใจนัก แต่ก็เห็นด้วยกับเหตุผล ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์เสนอว่าน่าจะรอจนจัดการเรื่องเลี้ยงน้ำชาเลดี้แบรนดอนเรียบร้อย จึงค่อยคิดวิธีที่จะไปพูดกับกอร์ดอน พวกเขานัดเจอกันที่สโมสรอีกครั้ง เพื่อตกลงปัญหาดังกล่าว

                “ฉันว่าเราควรทำให้เรื่องมันดูปกติที่สุด” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูด “อย่างไอรีน พอมีเรื่องอะไร อีกวันฉันจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งมันก็ได้ผลทุกที”

                “แต่มันไม่ได้ผลกับมาร์กาเร็ต” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์แย้ง คนถูกแย้งทำหน้าฉุน “มาร์กาเร็ตกับกอร์ดอนไม่เหมือนกันนี่ นายหยุดพูดเรื่องมาร์กาเร็ตที ฉันปวดท้อง”

                ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ยักไหล่ จากนั้นก็เสนอขึ้นบ้าง “ถึงฉันจะไม่เห็นด้วยกับการยกตัวอย่างของจอร์จ แต่ก็เห็นด้วยเรื่องที่นายควรจะทำตัวให้เป็นปกติ มันน่าจะทำให้กอร์ดอนวางตัวได้ง่ายกว่า”

                ลอร์ดโทรว์บริดจ์ทำหน้าอย่างคิดหนัก “ที่จริงฉันก็คิดอย่างนั้นแหละ กอร์ดอนยังค้างเสื้อฉันอยู่อีกชุด ฉันพอจะหาข้ออ้างนี้ไปพบเขาได้หรอก” ชายหนุ่มหยุดเว้นจังหวะไปพักหนึ่ง “แต่พอคิดอีกที สมมติว่ากอร์ดอนเกิดคิดว่าฉันไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ล่ะ? หรือเกิดเขาไปขอแอนนาเบลแต่งงานเพื่อหาทางออกให้ตัวเอง ฉันจะทำไงดี?”

                ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “งั้นนายก็ควรจะแสดงความยินดีกับเขา” ลอร์ดหนุ่มพูดแล้วตบไหล่เพื่อน “จริงๆ นะจอห์นนี่ ต่อให้กอร์ดอนเป็นผู้หญิง เขาก็ไม่เหมาะสมกับนายอยู่ดี เต็มที่ก็เป็นได้แค่ภรรยานอกสมรส นายก็รู้ว่าตำแหน่งมาร์ชันเนสมีไว้สำหรับเลดี้เท่านั้น”

                “ใครๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้นแหละ” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันว่า “นายอย่าทำเสียบรรยากาศหน่อยเลยน่า เรื่องสำคัญคือเราจะทำยังไงให้จอห์นนี่มีเวลาอยู่กับคนที่เขารักให้ได้นานที่สุดต่างหาก”

                “อืม...” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ส่งเสียงในลำคอ เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมา “แต่ฉันว่าอย่างกอร์ดอนคงไม่ไปขอใครแต่งงานเพราะเขาชอบนายแต่ไม่อยากยอมรับหรอก ดูแล้วเขาไม่น่าเป็นคนใจร้ายกับผู้หญิงแบบนั้น”

                พูดจบก็หลิ่วตามองลอร์ดจอร์จ เฟลตัน แต่เจ้าตัวทำเป็นมองไม่เห็น เกิดความเงียบขึ้นในห้องอึดใจหนึ่ง ก่อนที่ลอร์ดโทรว์บริดจ์จะโพล่งออกมา “ฉันนึกออกแล้ว พอถามเรื่องชุดเสร็จ ฉันชวนเขาไปกินมื้อเย็นดีกว่า ฉันอยากชวนเขาไปกินมื้อเย็นนานแล้ว”

                ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์หรี่ตามองเพื่อน “นายแน่ใจหรือว่ากอร์ดอนจะยอมไปกินมื้อเย็นกับนาย... ตอนนี้เหตุการณ์มันไม่เหมือนก่อนคืนวันศุกร์นะ ไม่แน่ว่าเขาจะยอมให้นายลากไปไหนมาไหนอย่างที่ผ่านมา”

                “....” ลอร์ดโทรว์บริดจ์นิ่งไปอีก ลอร์ดจอร์จ เฟลตันยกมือลูบคางอย่างใช้ความคิด “เราต้องทำให้มื้อเย็นที่ว่ามันดูผ่อนคลายสำหรับเขา และไม่จงใจเกินไป...”

                “ยังไง?” สองหนุ่มหันไปมองเขา ลอร์ดจอร์จ เฟลตันค่อยๆ เสนอความคิดของตัวเองออกมา

                “กอร์ดอนเป็นชนชั้นกลาง ฉันว่าเขาคงพอใจกับร้านอาหารระดับธรรมดาไม่หรูหรามาก ตัดเรื่องมื้อเย็นที่บ้านนายไปได้เลยจอห์นนี่ เพราะพ่อแม่นายคงไม่ปลื้มแน่นอน” เขาเว้นจังหวะกลืนน้ำลาย “นายต้องรู้ว่ากอร์ดอนชอบกินอะไร จะยิ่งดีกว่านั้นอีกถ้านายรู้ด้วยว่าเขาชอบไปกินร้านไหน มันจะทำให้มื้อเย็นของพวกนายน่าประทับใจมากขึ้น”

                “ฟังยังไงมันก็ดูจงใจอยู่ดี” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์แย้งขึ้น “แค่จอห์นนี่ออกปากชวนเขาไปร้านอาหาร ไม่ว่าร้านนั้นเขาจะชอบหรือไม่ มันก็ดูจงใจชัดๆ เลยนี่”

                “พวกเราก็ไปด้วยกันสิ” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันว่า “ถ้าไปกันสามคนมันต้องดูไม่จงใจแน่นอน”

                “เออ จริงของนาย” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์เห็นด้วย ทั้งสองคนหันไปหาลอร์ดโทรว์บริดจ์ “นายเห็นว่าไง?”

                “ฉันคิดว่า...” เอิร์ลหนุ่มกวาดตามองเพื่อนทั้งสองคน “มีอยู่ที่นึงที่กอร์ดอนจะต้องประทับใจแน่นอนถ้าเราไปกินมื้อเย็นด้วยกัน ติดแต่พวกนายจะยอมไปด้วยรึเปล่า?”

                “เราเป็นเพื่อนนาย ที่ไหนเราก็ไปอยู่แล้ว” ลอร์ดหนุ่มทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน

----------------------------------------------

                “นี่มันบ้ามาก” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันในเสื้อโค้ทแบบธรรมดาทั่วไปที่เขายืมมาจากคนรับใช้พูดออกมาเป็นครั้งที่ห้าแล้ว นับตั้งแต่พวกเขาสามคนเรียกรถม้าออกมาจากคฤหาสน์ของมาร์ควิสแห่งวิสตัน

                “นายหยุดบ่นเสียที” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ว่า เขานั่งอยู่ฝั่งเดียวกับลอร์ดโทรว์บริดจ์ ด้วยขนาดตัวของคนทั้งคู่ ทำให้รถม้ายิ่งดูคับแคบกว่าเดิม “นายไม่ควรพูดคำว่าบ้าตั้งแต่เสนอตัวว่าจะช่วยจอห์นนี่แล้ว”

                “แต่ฉันไม่เคยทำแบบนี้เลยนะ มันจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันทำหน้าประหวั่นพรั่นพรึง ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์มองเขาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “ฉันก็ไม่เคยทำ แต่คิดว่ามันน่าจะเข้าท่าสำหรับแผนของเรานะ”

                “อือ” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พยักหน้า “เชื่อฉันเถอะ เขาต้องชอบแน่ถ้ารู้ว่าเราจะไปที่นั่นกัน”

---------------------------------------

                กอร์ดอนกำลังนั่งถักรังกระดุมเสื้อของลอร์ดโทรว์บริดจ์อยู่ ตอนที่ออดประตูดังขึ้น เดวิดรีบกระวีกระวาดไปเปิดประตู และรู้สึกแปลกใจที่เห็นผู้มาเยือนหน้าใหม่ 

                “อ้าว พวกคุณ?!” กอร์ดอนเองก็รู้สึกแปลกใจไม่แพ้กัน เขารีบกล่าวทักทายลอร์ดหนุ่มทั้งสามคนตามมารยาท แม้จะรู้สึกประหม่าที่ได้เจอลอร์ดโทรว์บริดจ์อีกครั้ง แต่เพราะฝ่ายนั้นพาเพื่อนมาอีกสองคน เขาเลยไม่กล้าแสดงอาการอะไรมากไปกว่าการหลบสายตา

                “ผมกำลังจะให้คนเอาชุดไปส่งให้คุณพอดี” กอร์ดอนได้แต่พูดแก้เก้อเพราะไม่รู้ว่าจะต้องวางตัวยังไง ลอร์ดโทรว์บริดจ์มองเขาแล้วยิ้ม “คุณกำลังถือเสื้อผมอยู่ใช่มั้ย? เข็มกับด้ายยังคาอยู่เลย จะให้คนเอาไปส่งแล้วหรือ?”

                กอร์ดอนผู้น่าสงสารอับอายจนหน้าแดง ลอร์ดจอร์จ เฟลตันรีบใช้ศอกกระทุ้งสีข้างเพื่อน “เราไม่ได้มาทวงเสื้อของจอห์นนี่หรอก เรามาชวนนายไปกินมื้อเย็น”

                “มื้อเย็น?” กอร์ดอนทวนคำด้วยความแปลกใจ ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพยักหน้า “ใช่ แมกซ์กำลังวางแผนจะเขียนนิยายเป็นงานอดิเรก เลยอยากได้บรรยากาศมื้อเย็นแบบพื้นบ้าน”

                พูดจบก็พยักเพยิดไปทางลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ ลอร์ดหนุ่มจึงต้องพูดขึ้นต่อ “ใช่ กอร์ดอน แต่เราไม่ได้จะมาใช้ห้องอาหารที่บ้านนายหรอก มันยังไม่น่าประทับใจพอ เราคิดว่าจะไปกินมื้อเย็นที่สวนแบตเตอร์ซีกัน มันคงได้บรรยากาศแบบปิกนิกดี”

                ช่างตัดเสื้อหนุ่มมีสีหน้าแปลกใจมากกว่าเดิม เขาหันไปมองหน้าลอร์ดโทรว์บริดจ์ เจ้าตัวยิ้มให้เขา หน้าแดงเล็กน้อย “ไปปิกนิกกับพวกเรานะ”

-----------------------------------------

                ท้ายที่สุดกอร์ดอนก็จำต้องปิดร้านและนั่งรถม้ามากับลอร์ดหนุ่มทั้งสามคน ลอร์ดโทรว์บริดจ์เอาแต่ก้มหน้ามองหมวกฮอมเบิร์กในมือ ในตอนที่กอร์ดอนนั่งลงบนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเขาติดกับลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ ส่วนกอร์ดอนเองพอนั่งแล้วก็เอาแต่มองปลายรองเท้าตัวเอง ที่ไม่น่าเป็นไปได้คือลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ ที่เหมือนถูกบรรยากาศชักนำให้พลอยนั่งก้มหน้าก้มตาไปกับคนอื่นด้วย ลอร์ดจอร์จ เฟลตันจึงพูดทำลายความเงียบขึ้นมา

                “นี่กอร์ดอน พวกเราทำแซนวิชมาเผื่อนายด้วยนะ ได้ยินว่านายชอบกินแซนวิช”

                “อ้อ... ครับ” กอร์ดอนเงยหน้าขึ้นมาหน่อยหนึ่งแล้วพยักหน้า “ผม... ขอบคุณมากเลยครับ”

                “ไม่เป็นไร” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันว่า “แมกซ์อวดว่าแม่บ้านที่คฤหาสน์เขาทำอาหารเก่งกว่าใคร ฉันว่าพวกเราคงได้พิสูจน์กันวันนี้นี่แหละ”

                ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์เงยหน้าขึ้นมา ทำท่าทางเหมือนว่าเขาไม่ได้พูด แต่ไม่มีใครสนใจ ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูดขึ้นต่อ “ว่าแต่ช่วงนี้นายเป็นไงบ้าง งานที่ร้านเยอะมั้ย?”

                “ก็... พอสมควรครับ” กอร์ดอนตอบคำถามฝ่ายนั้น “ผมทำเรื่อยๆ”

                “อืม...” ลอร์ดหนุ่มพยักหน้า “นอกจากตัดเสื้อนายชอบทำอะไรอีกบ้างล่ะ? อ่านหนังสือ เล่นไพ่ นายเล่นกีฬาบ้างมั้ย?”

                “ผมไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอกครับ” กอร์ดอนตอบ “แต่ผมชอบอ่านหนังสือ”

                “อ้อ...” ลอร์ดหนุ่มส่งเสียงในคอ “ฉันก็ชอบ โดยเฉพาะเรื่องเชอร์ลอร์ค โฮล์ม นายอ่านรึเปล่า?”

                “อ่านสิครับ” ช่างตัดเสื้อหนุ่มพยักหน้า จากนั้นก็หน้าแดงขึ้นมา จนลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ที่เอาแต่นั่งเงียบแต่แรกถามขึ้นมา “ทำไมนายทำหน้าอย่างนั้นล่ะ?”

                “คือผม...” กอร์ดอนหน้าแดงกว่าเดิม “คือตอนเจอกับลอร์ดโทรว์บริดจ์ครั้งแรก เขาก็บอกผมว่าชอบเรื่องนี้... เขาทำตัวเลียนแบบเชอร์ลอร์ค โฮล์มด้วยนะ”

                ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์และลอร์ดจอร์จ เฟลตันมีสีหน้าสนใจขึ้นมาทันที “ยังไง เล่าให้ฟังหน่อยสิ”

                ยังไม่ทันที่กอร์ดอนจะได้อ้าปากพูดอะไร ลอร์ดโทรว์บริดจ์ก็โพล่งขึ้น “ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็พูดไปเรื่อย”

                “เฮ้ยๆ ไม่เอาน่าจอห์นนี่ นายทำตัวเลียนแบบโฮล์มยังไง ให้กอร์ดอนเล่าให้เราฟังหน่อยสิ” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูดอย่างนึกสนุก ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์เองก็พลอยสนับสนุนด้วย “นั่นสิ” เขาหันไปหากอร์ดอน “นายเล่าต่อเลย ไม่ต้องกลัวจอห์นนี่หรอก เดี๋ยวจอร์จจะช่วยปิดปากให้”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพยายามเอามืออุดปากเพื่อน ขณะที่ลอร์ดโทรว์บริดจ์หันหน้าหนีเป็นพัลวัน “อย่าเล่านะ!”

                “นายอย่าหนีซี่”

                กอร์ดอนมองภาพตรงหน้า แล้วหลุดหัวเราะออกมา

---------------------------------------

                กว่าจะไปถึงสวนแบ็ตเตอร์ซี รถม้าก็แทบพลิกคว่ำ เพราะลอร์ดโทรว์บริดจ์กับลอร์ดจอร์จ เฟลตันเอาแต่เล่นปล้ำกันเรื่องปิดปากไม่ปิดปาก ส่วนกอร์ดอนก็หัวเราะจนหน้าดำหน้าแดง เลยไม่ได้เล่าเรื่องที่ลอร์ดโทรว์บริดจ์พยายามสวมบทบาทเป็นเชอร์ลอร์ค โฮล์มเสียที

                พอลงจากรถม้า ลอร์ดโทรว์บริดจ์ก็รีบฉุดมือกอร์ดอนเข้าไปในสนาม ราวกับกลัวว่าถ้าปล่อยทิ้งเอาไว้กับเพื่อนอีกสองนาที ความลับน่าอายของเขาก็จะถูกเปิดเผย แน่นอนว่าลอร์ดหนุ่มอีกสองคนที่เหลือก็ไล่ตามอย่างไม่ลดละ

                “นายกำลังปิดปากพยานนะจอห์นนี่ คืนกอร์ดอนมาให้พวกเราซะดีๆ”

                “ไม่มีทาง!” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า กอร์ดอนคิดว่าอีกไม่นานเขาคงถูกฝ่ายนั้นลากแน่ๆ “ท่านลอร์ด ช้าหน่อยก็ได้ครับ ผมไม่ปากโป้งเล่าเรื่องคุณหรอก”

                ลอร์ดโทรว์บริดจ์เหลือบตามองเขาเหมือนชั่งใจแว้บหนึ่ง ก่อนจะสั่นศีรษะ “ไม่ได้”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันร้องเหวอ ก่อนจะชี้มือให้ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ดู “โอ๊ย จอห์นนี่พาลูกวิ่งข้ามแนวจะวางทรัยแล้ว!”

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2017 21:25:46 โดย juon »

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
               กอร์ดอนหน้าเหวอกว่าใครเพื่อน เขาเพิ่งถูกลอร์ดโทรว์บริดจ์ยกพาดไหล่แล้วพาวิ่งตัดสนามอย่างกับแบกถุงทะเล ลอร์ดหนุ่มอีกสองคนวิ่งไล่ตามมา

                “อย่าให้จอห์นนี่ได้แต้มนะ เราต้องสกัดไว้”

                “ได้เลย!”

                กอร์ดอนคิดว่าเขาต้องตายแน่ๆ เขาเห็นลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์และลอร์ดจอร์จ เฟลตันวิ่งไล่ตามมาติดๆ จากนั้นทั้งคู่ก็กระโดดเข้าใส่ลอร์ดโทรว์บริดจ์ที่แบกเขาอยู่

                สี่หนุ่มกลิ้งหลุนๆ ไปตามพื้นหญ้านุ่มๆ ก่อนจะหยุดสนิทในที่สุด ลอร์ดจอร์จ เฟลตันตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาเป็นคนแรก “โอ๊ย นี่มันบ้าจริงๆ” เขาพูด แล้วหัวเราะชอบใจ ขณะที่ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ยันตัวนั่ง “ให้ตาย นี่มันบ้าที่สุดเลย”

                กอร์ดอนตะเกียกตะกายลุกขึ้นเป็นคนที่สาม เพราะนอนทับตัวลอร์ดโทรว์บริดจ์อยู่ เขานึกโล่งใจที่ไม่บาดเจ็บอะไร คงเพราะลอร์ดโทรว์บริดจ์กอดเขาเอาไว้ตอนล้มกลิ้งกันลงมา

                “ท่านลอร์ด...”

                ลอร์ดโทรว์บริดจ์ที่ลุกขึ้นตามมารีบยกมือห้าม “เรียกผมว่าจอห์น ขอร้องล่ะ”

                “ใช่” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันรีบขยับมาสมทบ “อย่าเรียกพวกเราว่าลอร์ดเด็ดขาด นายไม่เห็นสภาพพวกเราหรือไง”

                กอร์ดอนมองลอร์ดหนุ่มทั้งสามคนที่เสื้อผ้าเลอะเทอะไปด้วยเศษหญ้า แล้วหัวเราะออกมา “ครับ”

                “ห้ามครับด้วย” ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์เอ็ด กอร์ดอนพยักหน้า “ขอโทษครับผมลืม”

                ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ทำหน้าปลงตก ขณะที่ลอร์ดโทรว์บริดจ์หัวเราะออกมา “วางทรัยได้ห้าคะแนน”

                “ไม่ นายทำผิดกติกา” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันแย้งทันที ก่อนที่ทั้งหมดจะต้องรีบลุก เพราะถูกคนดูแลสวนวิ่งเข้ามาเอ็ด

                สี่หนุ่มคว้าหมวกที่หล่นอยู่ไม่ห่างไปนักมาปัดเศษหญ้าออก แล้วเดินหลบออกมา ระหว่างนั้นลอร์ดจอร์จ เฟลตันถามอย่างนึกขึ้นได้ “แมกซ์ ตะกร้าล่ะ?”

                ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ทำหน้าตกใจ จากนั้นก็วิ่งย้อนกลับไปทางที่เข้ามา สักพักเขาก็หิ้วตะกร้าใบหนึ่งกลับมา “เกือบลืม ฉันวางเอาไว้ตอนวิ่งไล่จอห์นนี่มา”

                “ท่าทางหิ้วตะกร้าของนายนี่ดูไม่จืดเลย” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันตั้งข้อสังเกต ก่อนจะพูดต่อ “ด้านในเป็นไงบ้างเนี่ย เละแล้วยังก็ไม่รู้”

                “เราไปหาที่นั่งเหมาะๆ แล้วค่อยเปิดดูดีกว่า” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า เพราะเห็นคนดูแลสวนยังวนเวียนคอยจับตาดูพวกเขาอยู่

                ทั้งหมดเดินผ่านสนามหญ้ามายังริมแม่น้ำ หลังจากเลือกที่เหมาะๆ ได้แล้ว ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ก็หยิบผ้าออกมาจากตะกร้า เพื่อปูรองนั่ง กอร์ดอนเห็นท่าปูผ้าของเขาแล้วทนไม่ไหว จึงขอมาปูเอง

                “เราคิดถูกแล้วที่พากอร์ดอนมาด้วย” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันว่า ก่อนจะนั่งลงเป็นคนแรก และคว้าตะกร้าใส่แซนวิชมาเปิดดู

                “ฉันว่าเราคงต้องไปลงเอยที่ภัตตาคาร” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูดอย่างปลงๆ เพราะนึกไม่ออกว่าแซนวิชจะรอดชีวิตมาได้อย่างไร หลังจากที่พวกเขาทั้งวิ่งทั้งล้มมาตลอดทาง

                “ว้าว! มันยังดีอยู่เลย” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันร้อง และหยิบแซนวิชที่ห่อกระดาษไว้อย่างเรียบร้อยขึ้นมา ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์พยักหน้า “ฉันบอกแล้วว่ามาทิลดาเป็นแม่บ้านที่ดีที่สุด”

                แซนวิชทั้งสี่ชิ้นรอดชีวิตมาได้อย่างเหลือเชื่อเพราะการห่ออย่างดีของแม่บ้านประจำคฤหาสน์ของมาร์ควิสแห่งวิสตัน ประกอบกับลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์มีสติพอที่จะวางตะกร้าก่อนจะกระโดดตะครุบลอร์ดโทรว์บริดจ์ มันเลยไม่ได้กลิ้งขลุกๆ ตามทั้งสี่หนุ่มลงมา แถมกระติกน้ำชาและแก้วที่ใส่มาด้วยยังทำจากเหล็กทั้งหมด ลอร์ดจอร์จ เฟลตันนึกดีใจที่เขาปากหนักไม่บอกแม่บ้านว่าอยากได้เป็นถ้วยกระเบื้องเคลือบ

                กอร์ดอนอาสาเป็นคนรินน้ำชาแจก ขณะที่ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเป็นคนส่งแซนวิช ทั้งสี่หนุ่มนั่งกินมื้อค่ำเป็นแซนวิชและน้ำชา ท่ามกลางแสงแดดยามเย็นที่สาดส่องแม่น้ำเทมส์ซึ่งไหลพาดผ่านกรุงลอนดอน

                “บอกตรงๆ นะ ฉันไม่นึกไม่ฝันเลยว่าตัวเองจะได้มานั่งกินแซนวิชแบบนี้” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูดขึ้นหลังจากกินแซนวิชจนหมด “ตอนแรกฉันคิดว่ามันต้องดูไม่จืดแน่ที่พวกเราจะหิ้วตะกร้ามาปิกนิกที่นี่”

                ลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์หัวเราะเสียงดังแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นมากนัก “แต่มันก็โอเคใช่มั้ยล่ะ? อย่างน้อยๆ ก็ยังดูดีกว่าตอนที่พวกเราล้มกลิ้งกันลงมาล่ะ”

                ลอร์ดจอร์จ เฟลตันหัวเราะชอบใจ เขาหันมาหากอร์ดอน “นายรู้สึกยังไงที่ได้มานั่งกินแซนวิชกับพวกเรา? คิดว่ามันบ้ามั้ย?”

                กอร์ดอนหัวเราะแหะๆ “หลังจากคุณปู่เสียไป ก็มีพวกคุณนี่แหละครับที่ชวนผมออกมาปิกนิก มันไม่บ้าหรอก แต่... เอ่อ... ผมก็รู้สึกแปลกใจมากเหมือนกันที่พวกคุณเป็นคนชวน”

                “ที่จริงแล้วจอห์นนี่เป็นคนเสนอแผนน่ะ อุ้บ!” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันรีบหยุดพูดเพราะถูกลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ใช้แขนกระทุ้งสีข้าง ลอร์ดโทรว์บริดจ์รีบพูดกลบเกลื่อนทันที “จอร์จเมาน้ำชาน่ะ”

                กอร์ดอนมองหน้าเขา จากนั้นก็ยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเป็นคนเล่าเรื่องแซนวิชกับคุณปู่ให้คุณฟังเอง”

                “....” ลอร์ดโทรว์บริดจ์หน้าแดงขึ้นมา เขาเอาแต่ก้มหน้ามองถ้วยน้ำชา กอร์ดอนเลยพลอยหน้าแดงตามไปด้วย สุดท้ายต่างคนต่างก็เอาแต่มองถ้วยชาในมือตัวเองโดยไม่มีใครพูดอะไรอีก ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเห็นสถานการณ์เป็นดังนั้น เลยสะกิดลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ สองหนุ่มค่อยๆ ผุดลุกขึ้น แล้วปลีกตัวไปเดินเล่นอีกด้านหนึ่ง

                “เอ่อ...” ลอร์ดโทรว์บริดจ์คิดว่าตัวเองควรจะพูดอะไรสักอย่าง แต่จนใจว่าไม่รู้จะเริ่มยังไงดี “ชาอร่อยนะ”

                “ครับ” กอร์ดอนได้แต่พยักหน้า ไม่รู้ว่าควรจะตอบฝ่ายนั้นยังไงเหมือนกัน ลอร์ดโทรว์บริดจ์ละสายตาจากถ้วยน้ำชาขึ้นมองคนตรงหน้า จากนั้นก็ถอนหายใจ

                “คุณสวยมาก”

                กอร์ดอนเงยหน้าขึ้นมองฝ่ายนั้น แล้วถอนใจบ้าง “ผมไม่ใช่ผู้หญิง”

                “ผมรู้” ลอร์ดโทรว์บริดจ์รีบพูดต่อ “คือผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น... คุณเป็นผู้ชาย ยังไงคุณก็ไม่สวยเหมือนผู้หญิงหรอก”

                “.....”

                ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง ผิดแต่คราวนี้ต่างคนต่างจ้องหน้ากัน สุดท้ายเป็นลอร์ดโทรว์บริดจ์ที่ถอนหายใจออกมาก่อน “ผมขอโทษที่ไม่ได้ไปหาคุณวันเสาร์”

                “ไม่เป็นไรหรอกครับ” กอร์ดอนตอบ ก่อนจะตัดสินใจพูดต่อ “ที่จริงผมก็โล่งใจเหมือนกันที่คุณไม่มา”

                “ทำไมล่ะ?” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ถามด้วยความสงสัยระคนตกใจ อีกฝ่ายมองเขาแล้วตอบ “ถ้าคุณมาวันนั้น ผมคงไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง”

                “.....”

                “คืนนั้นผมเมา...”

                “อืม...” ลอร์ดหนุ่มส่งเสียงในคอ รอให้อีกฝ่ายพูดต่อ แต่จนแล้วจนรอดกอร์ดอนก็ไม่ยอมพูดอะไรเสียที เขาจึงต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเอง

                “โชคดีนะที่คุณเมา ไม่อย่างนั้นผมคงไม่รู้”

                ช่างตัดเสื้อหน้าแดงจนถึงใบหู เขารีบก้มหน้ามองถ้วยชาของตัวเอง “ผมไม่ได้ตั้งใจ”

                “ไม่เป็นไร” เอิร์ลหนุ่มระบายยิ้ม แล้วขยับตัวเข้ามานั่งใกล้อีก “แค่นั้นผมก็ดีใจแล้ว แค่ได้รู้ว่าคุณกับผมคิดตรงกัน”

                กอร์ดอนเงยหน้ามองเขา “แต่ผมไม่ใช่ผู้หญิง ท่านลอร์ด...”

                ริมฝีปากของเขาถูกลอร์ดโทรว์บริดจ์ใช้นิ้วมือแตะเอาไว้ “เรียกผมว่าจอห์น ผมบอกคุณไม่รู้กี่ครั้งแล้ว”

                “....”

                “เรียกสิ”

                หลังจากอึกอักอยู่พัก กอร์ดอนก็ยอมเรียกฝ่ายนั้นในที่สุด “จอห์น”

                ลอร์ดโทรว์บริดจ์คลี่ยิ้มกว้าง “ดี กอร์ดอน ผมไม่เคยคิดว่าคุณเหมือนผู้หญิงเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ผมรู้แต่แรกว่าคุณเป็นผู้ชาย”

                “แต่...”

                “คุณเองก็รู้แต่แรกแล้วเหมือนกันว่าผมเป็นผู้ชาย”

                ช่างตัดเสื้อหนุ่มพยักหน้า ในที่สุดก็พูดตอบบ้าง “แต่มันผิด... นี่มันผิด ผมกับคุณ ระหว่างเรามันไม่มีทางเป็นไปได้เลย”

                “ผมก็ไม่ได้หวังให้มันเป็นไปได้แต่แรกอยู่แล้ว” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ถอนใจแล้วคลี่ยิ้มอีก “ผมแค่อยากให้พวกเรามีช่วงเวลาดีๆ ให้กันเท่าที่จะทำได้”

                “แต่มันผิดต่อพระเจ้า!” กอร์ดอนโพล่งออกมา ลอร์ดโทรว์บริดจ์รีบใช้มือแตะปากเขาเอาไว้

                “คุณอ่านไบเบิลบ้างมั้ย?”

                อีกฝ่ายพยักหน้า “ผมอ่านมาตลอดทั้งสัปดาห์เลย”

                “ดี” เอิร์ลหนุ่มว่า “มีบทไหนบ้างที่พระเจ้าบอกว่าไม่ให้เรารัก”

                “.....” กอร์ดอนนิ่งไปอึดใจหนึ่ง แต่ไม่วายแย้งต่อ “แต่พระเจ้าห้ามผู้ชายกับผู้ชาย...”

                “ไม่ให้มีอะไรกัน” ลอร์ดโทรว์บริดจ์เสริมให้ “ผมเองก็ไปเปิดอ่านมาแล้ว พระเจ้าไม่ได้ห้ามพวกเรารักกัน แค่ห้ามไม่ให้เรามีความสัมพันธ์ทางกายกันเฉยๆ”

                “แต่...”

                “คุณนี่ ‘แต่’ เยอะจริงๆ” ลอร์ดหนุ่มว่า “หรือคุณอยากมีอะไรกับผม”

                “ไม่มีทาง!” กอร์ดอนรีบปฏิเสธ “ผมแค่...”

                “แค่ไม่อยากให้ผมจูบคนอื่น ใช่มั้ย?” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า ก่อนจะพูดต่อเองเสร็จ “ไม่เป็นไร ยังไงตั้งแต่เจอคุณผมก็ไม่คิดจะจูบคนอื่นอยู่แล้ว” เขาชูมือขึ้นข้างหนึ่ง

                “กอร์ดอน ผมขอสาบานด้วยเกียรติทั้งหมดที่มี ในเมื่อพระเจ้าห้ามไม่ให้เราแตะต้องกันมากกว่าที่ควรจะเป็น ผมก็จะไม่แตะต้องใครเหมือนกัน”

                “อย่า!” กอร์ดอนรีบฉวยมือฝ่ายนั้นลง “คุณสาบานแบบนั้นไม่ได้ อนาคตคุณยังมีอีกไกล คุณยังต้องแต่งงาน ยังต้องสืบทอดตำแหน่ง”

                “แล้วคุณล่ะ?” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ถามกลับ กอร์ดอนนิ่งไปอึดใจ “ผม...”

                “เอ่อ... ฉันไม่ได้ตั้งใจจะขัดจังหวะพวกนายหรอกนะ” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันพูดแทรกขึ้น ไม่รู้ว่าเขาเดินกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ “แต่สวนใกล้จะปิดแล้ว พวกนายไปคุยกันต่อที่ร้านกอร์ดอนดีกว่า”

------------------------------------------

                ในที่สุดทั้งสี่คนก็กลับมาที่ร้านของกอร์ดอนอีกครั้ง ลอร์ดจอร์จ เฟลตันกับลอร์ดแมกซ์ เมอร์เรย์ขอตัวกลับก่อน สุดท้ายจึงเหลือแค่เขาและลอร์ดโทรว์บริดจ์สองคน

                “ให้ผมเข้าไปคุยต่อได้มั้ย?” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ถามหลังจากรถม้าแล่นออกไปแล้ว กอร์ดอนพยักหน้า ก่อนจะเดินนำเขาเข้าไปในร้าน

                “เดวิด ฉันมีธุระสำคัญต้องคุยกับท่านเอิร์ล เธอช่วยดูแลข้างล่างให้หน่อยนะ ถ้ามีใครมาติดต่อให้บอกว่าฉันกำลังคุยธุระอยู่”

                “ครับ”

                หลังสั่งความเด็กรับใช้เสร็จ กอร์ดอนก็เดินนำลอร์ดโทรว์บริดจ์ขึ้นไปชั้นบน

                “ที่จริงพวกเราคุยกันที่ห้องลองเสื้อก็ได้” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูดหลังจากที่กอร์ดอนปิดประตูห้องแล้ว อีกฝ่ายสั่นศีรษะ “ไม่ได้หรอกครับ ห้องนั้นไม่ได้เก็บเสียง”

                เขาตอบ แล้วลากเก้าอี้มาให้ลอร์ดหนุ่มนั่ง ส่วนตัวเองเดินไปนั่งบนเตียงนอน จากนั้นความเงียบก็เข้าปกคลุมคนทั้งคู่อีกครั้ง ลอร์ดโทรว์บริดจ์ลากเก้าอี้ไปใกล้กับเตียงอีก แล้วจึงพูดขึ้น “ตอบคำถามผมได้หรือยัง?”

                “ครับ?”

                เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้างง เอิร์ลหนุ่มจึงต้องรื้อฟื้นสิ่งที่พูดไปแล้ว “คุณห้ามไม่ให้ผมสาบาน บอกว่าผมต้องแต่งงาน แล้วคุณล่ะ? วางแผนแต่งงานกับแอนนาเบลหรือ?”

                กอร์ดอนมองหน้าเขาอยู่อึดใจ จากนั้นก็สั่นศีรษะ “ไม่ครับ... ผมไม่อยากทำร้ายเธอ...”

                “ทำไมล่ะ?”

                “เพราะผมไม่ได้รักเธอ...” กอร์ดอนตอบ ใบหูกลายเป็นสีแดงเรื่อ ลอร์ดโทรว์บริดจ์สูดหายใจลึก เขาขยับมาจับมือของช่างตัดเสื้อเอาไว้ “แต่รักฉันใช่มั้ย?”

                กอร์ดอนนิ่งไปอีกอึดใจหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า จากนั้นน้ำตาก็ร่วงผล็อยลงมา “ผมรักคุณ จอห์น... ผมรู้สึกกับคุณมากกว่าที่รู้สึกกับแอนนาเบล ผม...”

                ลอร์ดโทรว์บริดจ์รีบขยับตัวลงนั่งข้างฝ่ายนั้น แล้วรวบตัวเขาเข้ามากอด “ผมก็รักคุณ กอร์ดอน ผมรักคุณตั้งแต่แรกเห็น รักคุณทั้งที่รู้ว่าคุณเป็นผู้ชาย”

                หยดน้ำใสๆ พร่างพรูออกมาจากดวงตาสีฟ้าคู่นั้น กอร์ดอนพูดเสียงพร่า “ทำไม... ทำไมถึงต้องเป็นคุณกับผม ทำไมถึงต้องเป็นพวกเรา...”

                เขาซบหน้าลงกับไหล่ของลอร์ดโทรว์บริดจ์ เอิร์ลหนุ่มกอดเขาแน่นกว่าเดิม น้ำใสๆ ไหลซึมออกมาจากหัวตา ทั้งคู่ต่างปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มอยู่อย่างนั้น ราวกับว่ามันจะช่วยชะล้างตะกอนบาปที่เกิดขึ้นในจิตใจออกไปได้บ้าง

                “พระเจ้าคงกำลังทดสอบเราอยู่” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูดขึ้น เขาจูบลงบนศีรษะของกอร์ดอนที่ซบอยู่ “ความรักของพวกเรามันถึงได้ยากลำบากขนาดนี้”

                กอร์ดอนเงยหน้าขึ้นมองเขา และเห็นว่ามีน้ำตาไหลอาบแก้มของอีกฝ่าย น้ำตาเขายิ่งพร่างพรูมากกว่าเดิม ลอร์ดโทรว์บริดจ์หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาให้ฝ่ายนั้น

                “ผมจะไม่เปลี่ยนคำสาบาน” เขาพูด และจูบหน้าผากกอร์ดอนอีกครั้ง ก่อนจะยกมือขึ้น “ด้วยเกียรติทั้งหมดที่ผมมี ขอให้พระเจ้าเป็นพยาน ไม่ว่าพระองค์จะทรงทดสอบอะไรอยู่ ผมจะไม่มีวันนอกใจคุณ นอกจากคุณแล้วผมจะไม่รักใคร ไม่จูบหรือมีอะไรกับใครเด็ดขาด ผม จอห์น แมตธิว เฮนรี่ คาเวดิช สาบานว่าจะรักกอร์ดอน โอเดนเบิร์กไปจนวันตาย”

                กอร์ดอนเอาแต่สั่นศีรษะ “ไม่... อย่า จอห์น... คุณสาบานแบบนี้ไม่ได้”

                ลอร์ดโทรว์บริดจ์ยกมือลูบผมสีทองของอีกฝ่ายอย่างเบามือ “ทำไมล่ะ? ไม่มีใครห้ามหัวใจผมได้หรอก ถึงตาคุณแล้ว จะยอมสาบานรักร่วมกับผมรึเปล่า?”

                กอร์ดอนร้องไห้ออกมาอย่างห้ามความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่ เขาสะอื้นจนตัวโยน ก่อนจะยกมือขึ้น “ผม... กอร์ดอน วิลเลี่ยม โอเดินเบิร์ก สาบานจะรักจอห์น คาเวดิชไปจนวันตาย... จนกว่าชีวิตจะหาไม่”

                “ขอพระเจ้าอวยพรให้เราด้วย” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูด ก่อนจะรั้งตัวกอร์ดอนมากอดเอาไว้แน่น

-------------------------------------
(จบตอน)

** ในที่สุดเรื่องก็เดินทางมาถึงตอน8ล่ะค่ะ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ดิฉันมีโอกาสได้เขียนฉากสารภาพรักที่สองคนเอาแต่เขินกันไปเขินกันมา (ปกติต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหน้าด้านหน้าทน ฮ่าๆๆ) แต่ว่าฉากสารภาพรักเคล้าน้ำตานี่ถือเป็นครั้งที่สอง (เอิ๊ก)
.
มาถึงบทนี้แล้วทุกท่านก็อย่าเพิ่งหนีดิฉันไปไหนนะคะ ดิฉันเคี่ยวมาม่าอร่อยมาก ขอโปรดอยู่กินกันจนอิ่มก่อน ค่อยไปยังไม่สาย ฮ่าๆ น้ำเพิ่งเดือดอย่าเพิ่งปายยยย :hao7:
.
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2017 21:26:09 โดย juon »

ออฟไลน์ alicegrizzly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ๋อยยย มีความละมุนผสมกับความรวดร้าว
บีบคั้นหัวใจอะไรเยี่ยงนี้ มีรางสังหรณ์ว่า
กอร์ดอนต้องตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่




 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด