「Behind the Scene」 #ข้างหลังฉาก (End.) : ตอนพิเศษ : วานเลนไทน์ปีนี้ - (2/11/60)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 「Behind the Scene」 #ข้างหลังฉาก (End.) : ตอนพิเศษ : วานเลนไทน์ปีนี้ - (2/11/60)  (อ่าน 203540 ครั้ง)

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ่านทันแล้ว ดีจาย

เรื่องสนุกดี จีบกันได้น่ารักมากๆๆๆๆ
นี่มันวิถีชิปเปอร์ชัดๆ มม มาต้องชงต้องชิปเอาไปเวิ่นเว้อในทวีต
เหมือนเห็นตัวเองเลยอ่ะ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ใครตามมารึป่าว

โซลพระเอกของเรากำไรเห็นๆ อิอิ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
โซลนอกบทรัวๆเลยนะเนี่ยยย
หวังได้ต่ออีกหลายๆเทคละซิ
ขำซีนอะ ร้องไห้น้ำตาไหลไม่หยุดเพราะอาย555
นี่ว่าคนตรงประตูต้องเป็นเฟริสแน่ๆๆๆๆ
รอค่าาา

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
โอย เค้าจีบกันค่าาาาา น่าร้าก

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โซลแกตั้งใจใช่ไหมมม จุ๊บไปตั้งหลายที555555

ออฟไลน์ zongpei96

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0



ตอนที่ 19







@oohhoo

เมื่อวานเราอยู่สวนสาธารณะของหมู่บ้านตั้งหลายชั่วโมงไม่เห็นสองคนนี้เลย ไปวันไหนกันคะ ฮือ ต่อไปจะรอที่สวนทุกวันเลย พลาดแรง #โซลซีน



@nongwaii

ไหนเจ้าของหมาอะ เห็นแต่แฟนเจ้าของหมา #โซลซีน



@nefdb91

ไปบ้านเขานี่ไปฝากตัวเป็นลูกเขยแล้วถูกมะ? #โซลซีน



@kungpeuak

คู่นี้มาบ้างหายบ้าง แต่เรียลทุกรอบเลยนะคะ #โซลซีน



@ishipyounaokay

กัปตันโซลเคยทำให้ผิดหวังที่ไหน! #โซลซีน



@behindsoulscene

ชีวิตจริงเหมือนจะหวานกว่าในจออีกนะคะสองคนนี้ แอร๊ยย #โซลซีน





ผมเพิ่งเห็นว่าไอ้โซลลงคลิปไปเมื่อวาน ทั้งคลิปที่ผมเล่นกับปิ๊กมี่ แล้วก็คลิปตอนมันพาปิ๊กมี่ไปวิ่งเล่น แฟนคลับก็ทวิตกันสนุกสนานเหมือนเดิม หลังๆ มานี้ผมเพิ่งเห็นว่ามีแอคเคาท์หนึ่งที่ตั้งขึ้นเพื่ออัปเดตข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของผมกับไอ้โซล เห็นเรียกกันว่าบ้านคู่อะไรทำนองนั้น



“ซีนชอบให้สร้างกระแสเหรอ”



“หือ” ผมส่งเสียงในลำคอ ส่ายหน้า โรลมัทฉะเต็มปาก เฟิร์สเอามาฝากจากร้านของเพื่อนที่เคยจะพาผมไปนั่นแหละ อร่อยดี วันหลังคงต้องไปบ้างแล้ว



“ซีนดูมีความสุขที่เห็นพวกเขาพูดคุยกันแบบนั้นนะ”



“อ่า...” กลืนเค้กลงคอ กดล็อกหน้าจอ “เราแค่ไม่ได้อึดอัดอะไร ที่เขาคุยกันก็น่ารักดี”



“อย่างนั้นเหรอ” เฟิร์สพยักหน้ายิ้มๆ “มีแฟนคลับเมนชั่นมาถามว่าเมื่อไหร่เราจะออกไปข้างนอกด้วยกันอีก เราไม่รู้จะตอบว่ายังไง”



“เราทำตามที่พวกเขาบอกตลอดไม่ได้หรอกน่า” ผมบ่ายเบี่ยง ก็ไม่เชิงว่าไม่อยากไปไหนกับคนข้างๆ หรอกแต่ไม่อยากให้มีปัญหากับไอ้โซลมากกว่า



“เฟิร์สไม่กินอะ”



“ไม่ล่ะ มองซีนกินก็อิ่มแล้ว”



ผมทำเป็นหัวเราะแหะๆ “พูดอะไรเนี่ย”



“พูดความจริง” อีกฝ่ายสวนกลับทันที “เห็นซีนชอบก็อิ่มใจไปหลายวัน”



ผมยิ้มค้าง ยกขวดน้ำขึ้นดื่มไปหลายอึก เมื่อวานผมคิดว่าเฟิร์สจะรู้แล้วด้วยซ้ำว่าผมรู้ว่าเฟิร์สคิดยังไง รู้สึกผิดแทบตายที่เผลอทำอาการแบบนั้นใส่ แต่พอมาวันนี้เฟิร์สกลับดูรุกมากกว่าเดิมอีก



“ซีนดูสนิทกับโซลมากเลยเนอะ”



“อ้อ ก็มันเป็นรุ่นน้อง...เอ่อ ของเพื่อนน่ะ อยู่คณะเดียวกับเพื่อนสนิทเรา ช่วงก่อนถ่ายทำก็มีไปซ้อมด้วยกันบ้าง”



“ชักอิจฉาบทพระเอกซะแล้วสิ”



“บทพระรองก็สำคัญออก แฟนคลับเขาก็ชอบเฟิร์สกันนะ เรื่องนี้คาร์แรคเตอร์เฟิร์สเหมาะกับบทนี้ ไม่ใช่ว่าเฟิร์สจะเป็นพระเอกเรื่องอื่นไม่ได้สักหน่อย”



“ที่จริงเราไม่ได้หมายความแบบนั้น” อีกคนหัวเราะ “แต่ก็ขอบคุณ เรื่องหน้าเราอยากแสดงกับซีนอีกนะ”



“คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ เรามาแสดงเรื่องนี้เพราะม้าขอร้อง ไม่ได้อยากเป็นนักแสดง”



“จริงเหรอ น่าเสียดายจัง”



“แต่เราเจอกันที่อื่นได้นะ หมายถึง...ก็ยังเป็นเพื่อนกันนี่” ผมรีบว่าขึ้นเมื่อเห็นหน้าอีกคนหมองลง



“อืม เราเข้าใจแล้วแหละ”



เฟิร์สจ้องหน้าผมนิ่ง มุมปากมีรอยยิ้มบางๆ



“เจอซีนครั้งแรกเราว่าซีนน่ารักมากเลย”



“ฮ..เฮ้ย ใครให้ชมผู้ชายด้วยกันแบบนั้นเล่า..”



“ยิ่งรู้จักก็ยิ่งน่ารัก”



“เราไม่ได้น่ารัก!”



“จำที่เราให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวันบวงสรวงได้ไหม”



“…”



“เราไม่ได้พูดเล่นนะ”











วันนี้ถ่ายทำที่มหา’ลัยวันสุดท้ายแล้ว ต่อไปจะย้ายไปถ่ายที่สตูดิโอ ทั้งวันไอ้โซลมีเข้าฉากกับหนิง ขณะเดียวกันผมก็เข้าฉากกับเฟิร์สตลอด



ไอ้โซลยืนห่างออกไปไกล ถูกล้อมด้วยทีมงานที่คอยซับเหงื่อกับเติมหน้าให้มัน ข้างกันคือหนิงกับพี่โป้ง พูดคุยเรื่องบทกันอยู่ หนิงหันมายิ้มให้ ต่างกับไอ้โซลที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์ มันบอกให้ผมอยู่ห่างๆ จากเฟิร์สตั้งแต่เช้า แต่ผมทำได้ที่ไหนกันล่ะ



“ร้อนแฮะ”



“คงร้อนจริง ปกติซีนไม่เหงื่อออกขนาดนี้”



อากาศตอนสี่โมงเย็น พระอาทิตย์ทำงานเหมือนแปดโมงเช้า ร้อนจนแสบผิว เหงื่อไหลเปียกเสื้อไปหมด ผมไม่มีฉากที่ต้องถ่ายแล้ว เฟิร์สเหมือนกัน ไอ้โซลกับหนิงกำลังถ่ายฉากสุดท้ายของวันนี้ รอไอ้โซลเสร็จก็ได้กลับห้องแล้ว



บทในมือผมยู่ยี่ไปหมด เหมือนผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก นั่นก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือเพราะใช้มันแทนพัดนี่แหละ



สายตาผมจับจ้องไปที่ไอ้โซล เวลามันจริงจังกับการทำงานดูดีกว่าตอนยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยเสียอีก ทั้งแววตา สีหน้า น้ำเสียง มีอะไรที่มันทำไม่ได้บ้าง!



...อ้อ ทำกับข้าว



อยู่ๆ มันก็ตวัดสายตาจ้องเข้ามาในกล้อง ดีที่เก็บอาการได้ทัน ผมต้องสูดลมหายใจเข้าลึกระงับอาการเต้นรัวของหัวใจ พี่โป้งนั่งอยู่หน้ามอนิเตอร์แท้ๆ กลับไม่รู้สึกอะไรเลย ทำแต่หน้าดำคร่ำเครียด ผมกัดปาก บ้าเอ๊ย...แล้วหน้าผมจะร้อนขึ้นมาทำไมวะ



“ซีนหันหน้ามาหน่อย”



“มีอะไร...เหรอ” หมวกบนหัวเฟิร์สย้ายมาอยู่บนหัวผมแทน เจ้าตัวจัดแจงให้เสร็จสรรพ แถมยังเช็ดเหงื่อบนหน้าผากผมออกไปให้ด้วย ผมคอแข็ง ไม่กล้าหันหนี



“ไม่อยากให้ผิวขาวๆ โดนแดด”



“ข...ขอบคุณ...ที่จริงเราก็ยืนในร่ม หมวกนี่...”



“ใส่ไว้เถอะ”



ผมทำตัวไม่ถูก จับปีกหมวกขยับไปมาเล็กน้อย ก่อนจะสะดุ้งกับสัมผัสที่ข้างแก้ม



“อย่างกับไปอาบน้ำมาแหนะ” เฟิร์สเอากระดาษมาซับหน้าให้ ผมเกือบเผลอตัวเบี่ยงหลบแต่ก้อนความรู้สึกผิดของเมื่อวานกลับเป็นตัวที่ทำให้ผมยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น



“..เราทำเองดีกว่า”



“เงยหน้าขึ้นหน่อย”



“ไม่เอา...ไม่เอาแล้ว”



ผมหดคอหนี ไม่ได้ตกใจกับสัมผัสนั้นเพียงแต่ตกใจกับท่าทีแปลกไปของเฟิร์ส ผมถอยออกห่างแต่นึกขึ้นได้ว่าไม่ควรทำแบบนั้น



“เอ่อ...ขยับเข้ามาหน่อยสิ แดดมันไล่น่ะ”   



“ไม่เห็นแดดเลย”



“..ก็เขยิบเข้ามาเถอะ ตรงนี้ร้อนน้อยกว่า”



“แบบนี้เหรอ”



ผมเกือบจะหลุดอุทานคำหยาบออกไปแล้ว เฟิร์สก้าวเข้ามาประชิดจนตัวผมแทบหงายไปข้างหลังแต่อีกคนเอามือโอบเอาไว้ก่อน



“ท...ทำอะไร”



“ทำตามที่ซีนบอกไง”



“คือมัน...มากไป”



ค่อยๆ ดันตัวอีกคนออก แต่เฟิร์สแทบไม่ขยับ



“อย่าแกล้งเราเลย ตรงนี้คนเยอะด้วย”



“แล้วถ้าตรงนี้มีแค่เราล่ะ”



“ไม่...ไม่ คือปล่อยเราก่อน ตัวเรามีแต่เหงื่อ”



“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”



“อย่าเล่นแบบนี้เลย ปล่อยเถอะ”



“เราจริงจังนะซีน”



“ไม่เอาน่าเฟิร์ส คนอื่นเห็นแล้วจะไม่ดีนะ”



ผมเริ่มร้อนรน เรากระซิบกระซาบกันอยู่ทางด้านหลัง ส่งเสียงดังไม่ได้ ผมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เสียงพี่โป้งสั่งคัททำเอาผมสะดุ้ง ลุกลี้ลุกลนพยายามดันเฟิร์สออกไป กลัวไอ้โซลมาเห็นเข้าจะเป็นเรื่อง



“ไม่แกล้งแล้วก็ได้” ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ถอยห่างจากอีกคนมาเล็กน้อย “กลัวเหรอ”



“..เปล่า แค่ตกใจน่ะ” เฟิร์สเคยถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้กับผมที่ไหนล่ะ



จากที่เราเหมือนจะเข้ากันได้ดีกลับกลายเป็นความกระอักกระอ่วน เฟิร์สไม่ได้ผิดที่รู้สึกแบบนั้นเพียงแต่สิ่งที่เฟิร์สทำนั้นทำให้ผมอึดอัด



“ซีนยังอยู่กับเด็กนั่นอยู่ไหม”



“ก็...อยู่ ทำไมเหรอ”



“มาค้างที่ห้องเราได้นะ คอนโดเราใกล้สตูกว่า ทำงานทั้งคืน เดินทางนานๆ ซีนจะยิ่งเหนื่อย”



“ไม่เป็นไร เฟิร์สมีไม่กี่ฉากเองนี่”



“ไปส่งได้ ไม่ต้องเกรงใจ เราอยากดูแลซีน”



ผมเกือบจะโพล่งออกไปว่าผมดูแลตัวเองได้แล้วเชียว ถ้าไม่ติดว่ามีคนที่มาใหม่โพล่งขึ้นก่อน



“เหนื่อยก็พัก ง่วงก็นอน ผมขับรถให้ได้ อุ้มขึ้นห้องก็ยังได้ จะย้ายไปห้องคนอื่นทำไมให้วุ่นวาย ยุ่งยาก จุ้นจ้าน!”



“เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่แต่เหนื่อยใจนี่สิ จะทนอยู่กับเด็กที่ใช้แต่อารมณ์แบบนี้น่ะเหรอ”



“ก็ดีกว่าต้องไปอยู่กับคนที่ไม่อยากอยู่ด้วยล่ะวะ”



“โซล” ผมเอ่ยปราม แม้ว่าจะมีเสียงโหวกเหวกของทีมงานรอบกายแต่ใช่ว่าพวกมันพูดกันเบา



“กลับกันเถอะ”



ไอ้โซลจ้องเฟิร์สเขม็ง ผมยืนคั้นกลางทั้งสองเอาไว้ เฟิร์สเอาแต่ทำหน้ากวนตีนใส่มัน หนิงกลับไปทันทีที่ถ่ายเสร็จเพราะมีงานต่อ ตัวช่วยอื่นก็หาไม่เจอเพราะมีแต่ทีมงาน และผมก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าสองคนนี้ไม่ถูกกันด้วย



“เหนื่อยหน่อยนะซีน”



ไอ้โซลรู้ว่าโดนยั่วโมโหแต่ขณะเดียวกันมันก็หงุดหงิดเฟิร์สมาทั้งวันแล้วเหมือนกัน



“กูอยากกลับแล้ว”



เด็กตัวสูงพ่นลมหายใจ ก่อนจะคว้าแขนผมเดินกระแทกไหล่เฟิร์สออกมา





...





“อยาก...อยากกินอะไร”



ให้ตาย ทำไมผมต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ด้วย



“แล้วแต่พี่เลยครับ”



เจ้าของห้องโยนข้าวของลงโซฟา ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องนอน



หมวกของเฟิร์สผมเอาไว้เบาะหลังรถมัน ตอนแรกเหมือนมันอยากจะขว้างทิ้งแต่ผมห้ามไว้ก่อน ยังไงก็ต้องเอาไปคืนเจ้าของ ไอ้โซลเงียบมาตลอดทาง ผมชวนคุยก็ถามคำตอบคำ ผมรู้ว่ามันไม่ได้โกรธผมแค่ยังคงหัวเสียเรื่องของเฟิร์สอยู่ แต่ทำไมต้องไม่คุยกับผมด้วยวะ



ผมตามเข้าไปในห้อง เห็นมันกำลังถอดเสื้อออก



“จะอาบน้ำเหรอ”



“พี่ไปอาบก่อนเถอะ เหนียวตัวนี่”



“มึงอาบก่อนก็ได้ เดี๋ยวทำกับข้าวรอ”



“ไม่เป็นไรครับ” มันว่าแค่นั้น ไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ 



ผมลังเลว่าควรทำตามที่มันบอกหรือทำให้มันยอมพูดกับผมเหมือนเดิมก่อนดี แต่พอผมตัดสินใจก้าวตามหลังมันไป มันก็หันหน้ากลับมา ทำเอาซะผมเกือบเบรกแทบไม่ทัน



“ยิ่งมีคนมาวุ่นวายกับคนของเรามากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราอยากแสดงความเป็นเจ้าของมากเท่านั้น”



“...ฮะ”



“พี่น่าจะรู้ว่าผมโคตรหวงพี่”



ผมตาโต อ้าปากค้าง อะไรวะ จู่ๆ ก็มาพูดอะไรแบบนี้



“อย่าเพิ่งเข้ามาใกล้ผม” อีกฝ่ายเอ่ยห้าม นัยน์ตาไม่มีวี่แววของการหยอกล้อ “เพราะถ้าผมระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ พี่ได้วิ่งหนีผมแน่”



โอเค เข้าใจแล้ว พอมันพูดจบผมก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปเลย







ออกมานอกห้องนอนก็เห็นมันยืนอยู่ตรงระเบียง ไอ้โซลหันหน้ามาทางนี้ ท่อนบนยังคงเปลือยเปล่า พอเห็นผมมันก็กระตุกยิ้มบาง



“เท่มากไง”



“แล้วหน้าแดงทำไมครับ”



ผมจิ๊ปาก “อารมณ์ดีแล้ว?”



“ยังอยากต่อยมันเหมือนเดิม”



“ห้ามนะเว้ย”



“ผมรู้น่า” ว่าเสียงฉุน “ไม่รับประกันนะถ้ามันมายุ่งกับพี่มากกว่านี้”



“เฟิร์สไม่ทำอะไรหรอก มึงอยู่ห่างๆ ก็พอ”



เอานิ้วมาแตะแก้มผมเบาๆ “พี่ต่างหากต้องอยู่ห่างๆ มัน”     



“เออน่า พรุ่งนี้ถ่ายกับเฟิร์สไม่กี่ฉากก็เสร็จแล้ว” คงได้เจอเฟิร์สอีกทีวันเลี้ยงปิดกล้อง



ไอ้โซลดูยังหัวเสียอยู่นิดๆ “ก็ดีครับ”



ของสดที่ซื้อมามีไม่เยอะเท่าไหร่ ตอนนั้นหยิบๆ มาเผื่อไว้ไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรเป็นพิเศษ ผมทำยำรวมมิตรกับแกงจืด ผมไม่ค่อยกินเผ็ดแต่ไอ้โซลชอบ ตอนนี้กำลังจะทำไข่เจียวใส่หอม อยู่กันสองคน สามอย่างก็น่าจะพอแล้ว



“ให้ผมช่วยได้ยัง”



จากที่มันทำเต้าหู้ในแกงจืดเละก็ไม่อยากให้มันมายุ่งอะไรอีก แต่เห็นความพยายามผมเลยให้มันคอยหยิบนู่นหยิบนี่ให้



“เคยเจียวไข่ไหม”



“นานมาแล้ว แต่ผมทำได้”



มองมันตอกไข่อย่างเก้ๆ กังๆ ก็ชักจะไม่ไว้ใจ ผมดึงถ้วยมาทำเสียเอง ตักเปลือกไข่ที่ตกลงไปออก ตอกลงไปอีกฟองแล้วเอาให้มันตี ส่วนตัวเองเอาเขียงกับมีดมาเตรียมไว้       

   

“ขอหอมหน่อย”



“หื้อ มาแปลก” มันทำตาโต “กี่ทีดีครับ”



“อย่ามากวนตีน”



“อะไรกัน พูดจากำกวมเองแท้ๆ” ว่าพลางส่ายหน้า “หลอกให้ผมดีใจแล้วยังมาทำหน้าดุใส่อีก”



ผมพูดไปแบบไม่ได้คิดอะไรต่างหาก ชิ! เดินไปหยิบเองก็ได้วะ



“จะว่าไปแล้วซ้อมฉากในห้องครัวอีกรอบก็ดีนะครับ”



“ซ้อมไปคนเดียว ไม่ก็เดี๋ยวไปหยิบหมอนข้างมาให้”



“ใจร้ายตลอด” ไอ้โซลโคลงศีรษะ “แต่ที่จริงถ้าตัดฉากนี้ออกได้ก็ดี”



“ทำไมล่ะ” ไม่ใช่ว่าผมอยากทำหรอกนะ เพียงแต่เห็นมันพร่ำๆ อยากถ่ายฉากนี้บ่อยๆ ต่างหาก



“ไม่อยากให้ใครเห็นพี่ในท่าทางแบบนั้น…นอกจากผม”



ไอ้โซลวางส้อมลงในตอนที่หน้าผมร้อนวูบขึ้นมา อีกฝ่ายเดินไปตั้งกระทะ เปิดเตาแก๊สแล้วเทน้ำมันลงไป เห็นอย่างนั้นเลยถอดผ้ากันเปื้อนออก มันคงทำได้จริงอย่างที่ว่าแหละ



ฉากนั้นที่จริงมันก็ไม่ใช่ฉากอีโรติกอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าความพอใจของพี่โป้งจะต้องทำขนาดไหน จะว่าไปผมคิดว่ายากกว่าฉากร้องไห้เสียอีก แค่คิดก็เครียดแล้วเนี่ย



พอเห็นผมหน้าขึ้นสี ไอ้คนพูดก็ยกยิ้มมุมปาก เออ ได้ใจเข้าไป ผมสะบัดหน้าใส่ พอดีกับโทรศัพท์บนเคาน์เตอร์แผดเสียง



เห็นชื่อคนโทรเข้ามาก็แทบกุมขมับ ไอ้คนที่เทไข่ลงกระทะเพิ่งอารมณ์ดีได้แล้วเชียว หาเรื่องให้มันหน้าบูดอีกแล้ว ผมลังเลแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะกดรับ



“ฮัลโหล”



(ทำอะไรอยู่เหรอซีน)



“เรา...กำลังทำอาหารน่ะ”



(อ่า...โทรมาช้าไปเหรอเนี่ย ว่าจะชวนออกมากินข้าวข้างนอกน่ะ)



“โทษที...”



(ไม่หรอก ขอโทษที่รบกวน แค่คิดว่าหลังจากพรุ่งนี้เราก็จะไม่ค่อยได้เจอกันแล้ว...เราไม่อยากเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์..)



ประโยคหลังแผ่วลงจนผมต้องเอาโทรศัพท์แนบกับหูตัวเองมากขึ้น



“ไว้วันหลังนะ...”



“ไม่มีวันหลัง” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู ผมสะดุ้งหันกลับไปพอดีกับที่ไอ้โซลวางแขนไว้กับเคาน์เตอร์ ก้มลงมาฟังคู่สนทนาปลายสายที่ส่งเสียงหัวเราะขึ้นจมูก



(ซีนจะมีเวลาส่วนตัวบ้างหรือเปล่า)



“ไม่เกี่ยวกับมึง”



“เอ่อ...เฟิร์ส..”



(เด็กก็แบบเนี้ย ค่อนข้างงี่เง่านะว่าไหม)



“แค่นี้ก่อนนะ”



ผมกดตัดสาย  ตบไหล่ไอ้โซลเบาๆ เพื่อบอกให้ใจเย็นลง



“เฟิร์สจะชวนออกไปข้างนอก” ไม่รู้ว่ามันได้ยินที่คุยกันทุกประโยคไหม แต่ผมแค่อยากบอก “ถึงไม่ได้บอกมึงว่าวันนี้เราจะทำอาหารกันกูก็ไม่ไปหรอก”



เด็กตัวโตพ่นลมหายใจฮึดฮัด ไม่ใช่ว่าไอ้โซลก้าวก่ายสิทธิ์ของผม เฟิร์สเองก็ไม่ได้ผิดเพียงแต่เฟิร์สไม่รู้ว่าสถานะผมกับไอ้โซลเปลี่ยนไปแล้วแค่นั้นเอง



“ไม่เอาน่า ยังไงก็ไม่ได้คิดอะไรกับเฟิร์ส”



“ผมรู้”



คนตรงหน้ายังทำหน้าบึ้ง ผมเลยเอื้อมมือไปขยี้หัวมัน



“กูก็อยู่กับมึงนี่ไง”



สายตามันอ่อนลง รอยยิ้มบางเบาค่อยๆ ปรากฏขึ้น ขณะเดียวกันระยะห่างของเราก็ลดลง ผมหลับตา ปล่อยร่างกายไหลไปกับความรู้สึก ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น รับรู้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย





ก่อนที่อะไรบางอย่างจะทำให้ผมลืมตาโพลง...



“ได้กลิ่นอะไรไหม้ๆ ไหม”



“ไม่นะครับ”



ผมหันไปมองที่มาของกลิ่น...ไม่อะไรล่ะวะ...



แล้วไอ้แผ่นดำๆ ท่ามกลางควันนั่นคืออะไร!?





“ปิดเตาแก๊สเร็ว!!”







-

ได้จูบพี่ซีน ครัวไหม้ก็ยอม------

.......ขอคนละหนึ่งคอมเมนท์หน่อยนะคะ ติชมได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ T T …….

#ข้างหลังฉาก #โซลซีน 


ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
กำลังจะดีเลย 5555555555555555555555555

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
โซลเหนื่อยหน่อยนะคู่แข่งรุกแรงเหลือเกิน
แต่ได้พี่ซีนมายังไงก็คุ้มค่าละนะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :sad4: ทำไมไม่ปิดแก๊สก่อนคุยกันนะ  :ling1: ไข่ไหม้ขัดจังหวะมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
โอ้ยยยยยยยยยยย

ขัดใจ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ช่างยุช่างยั่ว(โมโหหึง)เหลือเกิน

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
โถ่เอ้ย เลิกกินไข่เจียว

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ไฟเกือบไหม้ครัวกันเลยทีเดียวค่ะ 5555

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เฟิร์สรุกจนน่ากลัวเกินไปอ่ะ ถึงไม่มีโซลเป็นซีนเราก็ไม่ชอบ อึดอัด วอแวมากกก  :mew5:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ตอนโซลโผล่มานี่ในหัวคิดอย่างเดียวเลยนะ
แล้วไข่เจียวละ...
5555555555 สายแดกที่แท้ทรู ห่วงของกินยิ่งชีพ
คนนี้จริงจัง ครัวพังก้ยอมม ใช่มั้ยโซลล

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เฟิร์สรุกแรงมาก อึดอัดแทนซีนเลยอะ อยากรู้ถ้าวันนึงโซซีนประกาศความสัมพันธ์แล้วจะเป้นไง

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เฟริส เลิกปิดตา เราว่านางดูออกว่า 2 คนนั้นเค้าสถานะเปลี่ยนแล้ว

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ MmBb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เฟิร์สน่าจะรู้แล้วล่ะว่าความสัมพันธ์โซลซีนมันเปลี่ยนไปถึงได้รุกหนักจนซีนอึดอัดขนาดนั้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เฟิร์สน่าสงสาร แต่ไม่ชอย ผู้ขี้ตื๊อ 555

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
โซลลูกกก ใจเย็นเย๊นนนนน

ออฟไลน์ xxSunShinexx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แบนนังเฟิร์สค่ะ คนเขาไม่มีใจนี่ไม่รู้สึกตัวเหรอ หึ =^=

ออฟไลน์ noppnopp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พ่อหนุ่มเอ๊ยยย ไข่เจียวไหม้ไปอี๊กกกก เรื่องทำอาหารนี่สกิลติดลบจริงๆ

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
รอวันเด็กมันทนไม่ไหว อิอิ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
โถ่ ไข่เจียวไม่น่าไหม้เลย :ling1:
เฟิร์สรุกหนักแบบนี้เป็นใครก็อึดอัดเหมือนกัน

ออฟไลน์ Ball

  • He exists now only in my memory.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +239/-0
ซีนเป็นประเภทบุคคลที่เราไม่ชอบเลย
แบบว่าจะขัดใจทุกครั้ง ถ้าต้องเห็นหรือรู้ว่าเป็นแบบนี้
จริงๆซีนก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอก มันเป็นเรื่องนิสัย ตัวตนของใครของมันอะ
แต่เราเห็นแล้วขัดใจ เราแค่รู้สึกว่า ซีนค่อนข้างเป็นคนลังเล
ไม่ชัดเจนและที่สำคัญคือแคร์คนอื่นมากไป แบบแคร์ดะไปทั่ว
ไม่จัดระเบียบความสำคัญของบุคคลรอบข้าง
ว่าคนไหนควรแคร์คนไหนไม่ควรแคร์
นี่ถ้าเป็นโซล นี่จะไม่เชื่อคำพูดซีนเลย พูดอีกอย่าง
แต่ก็ไม่เคยทำให้เห็นว่าตัวเองทิ้งสเปซกับคนอื่นเลย
ยิ่งกับเฟิร์ส รู้ทั้งรู้ด้วยซ้ำว่าอีกคนคิดยังไง ก็ยังจะไม่ชัดเจน
ก่อนหน้ายังพอว่า แต่ตอนนี้ตัวเองก็คบซีนแล้วปะ
ยิ่งพิมพ์ยิ่งอิน รู้สึกว่าถ้าจะมีใครทำร้ายความรู้สึกโซล
คนๆนั้นจะต้องเป็นซีนโดยไม่ต้องสงสัยอะ
ถ้าซีนคิดว่าตัวเองหนักแน่นพอแล้ว
ขอบอกเลยว่าไม่ได้แม้แต่เศษฝุ่นของโซลเลย

เป็นโซลนี่เหนื่อยเลย แต่รักใครรักมันอะนะ
ในเมื่อรักเขา ทนเอาก็แล้วกัน
หวังว่าซีนจะรู้ตัวในเร็ววันว่าที่ทำอยู่เนี่ย
เผลอทำร้ายคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนมาหลายรอบล่ะ

ด้วยรักและความอินค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ

ออฟไลน์ AeRoMoZa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ขัดใจซีน ช่างเป็นประเภทประเมินคนอื่นต่ำ และห่วงคนอื่นมากเกินไป พูดไปชัดๆ น่าจะดีกว่า แอบฮาตอนทอดไข่ทิ้งไว้จนไหม้นี่ล่ะ

ออฟไลน์ zongpei96

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0


ตอนที่ 20







“รู้แล้วๆ เราไม่เบี้ยวหรอกน่า”



(ถึงวันห้ามหาข้ออ้างนะ ไม่งั้นจะไปรออยู่บ้านเลย)



“เชิญไปรอได้เลย”



(โอ๊ะ ลืมไป ซีนไม่ได้อยู่บ้านนี่)



ผมย่นจมูก กิ๋งเพิ่งกลับถึงไทย เหยียบพื้นสนามบินปั๊บก็โทรมาปุ๊บ ไม่รู้ไปนัดไอ้จั๊มพ์กับพีมไว้ตอนไหน แต่เสาร์ที่จะถึงนี้ผมต้องไปร่วมแจมด้วย ที่จริงกิ๋งอยากสัมภาษณ์เรื่องผมแบบที่พีมว่านั่นแหละ นึกแล้วก็ต้องถอนหายใจ โดนซักจนสะอาดแน่



(เอาน้องโซลมาด้วยก็ดีนะ)



ผมเหล่มองคนที่นั่งดูบทอยู่ข้างๆ “ไม่รู้ ดูก่อน”



(หยุดเหมือนกันไม่ใช่เหรอ)



“ก็ให้มันมีธุระของมันบ้างสิ”



เหมือนรู้ว่าถูกพูดถึง เจ้าของหัวข้อสนทนาหันมาเลิกคิ้วใส่



“พามันไปหากิ๋ง ก็ติดกับดักน่ะสิ”



ปลายสายหัวเราะร่วน (โถ่ ซีนก็...)



ไม่ใช่ไอ้โซลนะ ผมนี่แหละที่จะติดกับดักของกิ๋ง ไอ้นี่หน้าหนาจะตาย ไม่ต้องทายเลยว่าวันนั้นใครจะโดนรุม



(เอาเป็นว่าเจอกัน เดี๋ยวโทรมาคอนเฟิร์มเวลาอีกที)



“โอเคๆ กลับบ้านดีๆ ล่ะ”



เจ้าตัวรับคำเสียงสดใส เรื่องอย่างนี้ชอบนักแล



วางสายจากกิ๋งได้ไม่นาน หนิงก็มา หอบของมาพะรุงพะรัง คนนี้ชอบซื้อของมาฝากคนในกอง ขุนคนอื่นแต่ตัวองกลับไม่แตะสักนิด อ้างรักษาหุ่นอยู่นั่น



“ว่าไงจ๊ะ วันนี้ต้องยืมตัวคุณพระเอกอีกวันแล้ว” เมื่อวานหนิงถ่ายกับไอ้โซลทั้งวัน วันนี้ถ่ายต่ออีกฉากเดียวก็เสร็จในส่วนของหนิงแล้ว



“ทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไง ใช่ซี่ เป็นตัวจริงนี่” โดนแบะปากใส่ทั้งที่ยังไม่ได้เอ่ยอะไรด้วยซ้ำ ผมส่ายหัว ไม่เถียงดีกว่า ไม่รู้ว่าหนิงรู้เรื่องของเราไหม แต่เดาจากสายตาเวลามองแล้ว...ก็คงจะรู้แหละ แค่ไม่พูดออกมาเท่านั้น และยังแซวเหมือนเดิมทุกครั้งที่มีโอกาส



“คนรีทวิตจนเครื่องค้าง อะไรจะฮอตขนาดนั้น” บ่นอย่างไม่จริงจัง เมื่อคืนหนิงลงรูปผมกับไอ้โซล ไม่รู้ไปแอบถ่ายมาตอนไหน เป็นรูปผมกับมันกำลังเปิดประตูขึ้นรถ ภาพเบลอๆ แสงไฟสลัวๆ ตอนกลางคืน พร้อมติดแฮชแท็ก #คนขับรถหล่อบอกต่อด้วย ผมเปิดเจอตอนจะนอนพอดี ไอ้โซลก็รีทวิต ผมเลยทำแบบนั้นด้วย กลายเป็นว่ากล่องเมนชั่นโดนถล่ม ออกจากแอปนกสีฟ้าแทบไม่ทัน



“เรื่องตัวเองก็ไม่แพ้กันหรอกน่า” ผมว่า ขอแซวบ้าง หนิงมีข่าวกับนักร้องวงร็อคน้องใหม่ เห็นทีมงานล้อกัน เจ้าตัวก็ไม่ปฏิเสธแสดงว่าคงจริง



“ทำไม ขอมีบ้างไม่ได้หรือไง” ทำโมโหกลบเกลื่อน ผมยักไหล่ เพิ่งรู้สึกเป็นต่อเป็นครั้งแรก



“หมั่นไส้!” มือเรียวเอื้อมมือมาหยิกแก้ม เห็นว่าตัวเองเป็นผู้หญิงก็เลยไม่เบาแรง ผมร้องโอดโอยตั้งนานกว่าจะยอมปล่อย



อีกฝ่ายไม่ได้นึกสงสารเลยด้วย พอทำผมเจ็บก็สะบัดหน้าไปแต่งหน้าทำผม ผมลูบแก้มตัวเอง ขึ้นรอยแดงชัวร์



ได้ยินเสียงคนข้างๆ หัวเราะเลยกระทุ้งศอกใส่ ไอ้โซลทำท่าเหมือนเจ็บเสียเต็มประดา ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบแก้มข้างที่โดนหยิกเบาๆ



“โอ้ย รำคาญ!” เสียงแหลมตะโกนมาจากที่ไกลๆ ทีมงานเลยหันมาสนใจด้วย กลายเป็นว่าผมแทบมุดหน้าหนีไม่ทัน



ไม่มีใครปริปากพูดอะไรต่อจากนั้น แต่ให้ตาย...สายตากับรอยยิ้มของทุกคนทำเอาผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาจากบทในมือเลย





...





“ซ้อมกันไหมซีน”



“ไม่”



“เผื่อพลาดขึ้นมาไม่รู้ด้วยนะ”



“ก็บอกว่าไม่!”



“ไม่เสือกสักเรื่องได้ไหม”



ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยกมือขึ้นห้าม นั่งอยู่เฉยๆ สองคนนี้ก็เดินมานั่งขนาบข้าง หาเรื่องให้ปวดหัวอีกแล้ว เจอหน้าทะเลาะกันตลอด แล้วดูเหมือนจะหนักข้อขึ้นเมื่อเฟิร์สเริ่มจะไม่ยอมบ้าง ทีมงานเพ่นพ่านเต็มไปหมดก็ยังไม่ระวังคำพูดกันอีก ผมเหนื่อยที่จะบอกแล้ว



“จะเข้าฉากอยู่แล้ว มาซ้อมเหี้ยอะไร อย่าคิดว่ากูไม่รู้”



“รู้อะไร ที่มึงทำบ่อยๆ น่ะเหรอ”



“ไอ้เหี้ยนี่”



“มันไม่น่าจะยากอะไร บทก็นิดเดียว เราของีบสักหน่อย ถ้าจะคุยกันก็คุยไป” ผมเอ่ยแทรก ก่อนจะไถตัวลงกับเก้าอี้ เอาบทปิดหน้าเอาไว้ แล้วเสียงทั้งคู่ก็เงียบกันไปเอง



เอาเข้าจริงก็ไม่ได้งีบเลย กำลังเคลิ้มก็ถูกปลุก ลุกขึ้นมาเห็นไอ้โซลทำหน้าเซ็ง ส่วนเฟิร์สก็สะกิดเรียกไปเข้าฉาก



ผมนั่งอยู่ในห้องนอนที่ถูกเซ็ทขึ้น ฉากนี้ถือเป็นฉากที่สำคัญอยู่พอตัว เป็นฉากที่ผมในเรื่องรู้ตัวว่าความรู้สึกที่มีต่อพระรองมันไม่ใช่ ไม่เหมือนเวลาอยู่กับไอ้พระเอก เฟิร์สต้องเกือบจะจูบผม ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ไอ้โซลหน้าบึ้งกว่าเดิมเพราะเราต้องใกล้กันมากกว่าทุกครั้ง



“มึงก้มหน้าไปอย่างนั้นแหละ ค่อยๆ เข้าไป เออใช่ ค้างไว้แป๊บนึงแล้วไอ้ซีนเบือนหน้าหนี”



พอทำความเข้าใจกันแล้ว พี่โป้งก็กลับไปประจำที่ ผมเหลือบมองไอ้โซล มันยืนกอดอกอยู่ไม่ไกล จ้องผมกับเฟิร์สไม่วางตา ไอ้นี่แหละจะทำให้ได้หลายเทค อย่ายืนกดดันสิวะ!



ผมเลิกสนใจมัน ไม่งั้นทำสมาธิไม่ได้สักที เฟิร์สดูท่าทางสบายๆ ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนกับสายตาที่จ้องจะกินเลือดกินเนื้อของไอ้โซลสักนิด และความชิลล์นั้นเองที่ทำให้ไอ้โซลแผ่รังสีดำทะมึนออกมาเพิ่มขึ้น จนเห็นว่าพี่โป้งโบกมือไล่ให้มันไปไกลๆ



“…แอคชั่น”



หลังจากรับรู้ความรู้สึกของเฟิร์ส ผมเพิ่งสังเกตว่าแววตาของอีกฝ่ายที่ใช้มองผมไม่เคยเปลี่ยนเลย อยากจะเลี่ยงแต่ก็ทำไม่ได้ พวกเราพูดกันตามบท เกิดความเงียบขึ้นจนได้ยินเสียงลมหายใจของคนตรงหน้า ใบหน้าเฟิร์สเคลื่อนเข้ามาใกล้ ผมเผลอกลืนน้ำลาย กัดฟันแน่น



“คัท! ไอ้ซีนอย่าถอยหลังดิวะ”



พระรองของเรื่องผละออกไป ผมพรูลมหายใจออกมา ก้มหัวพลางเอ่ยขอโทษทุกคน



เฟิร์สระบายยิ้มน้อยๆ “ไม่ต้องเกร็ง”



“โทษที” ผมว่าเสียงเบา “เรา...”



“ไม่เป็นไร ปล่อยใจสบายๆ นะ”



ผมพยักหน้าพลางเม้มปากแน่น การเข้าใกล้อีกคนมากไปทำให้ผมเกิดอาการต่อต้าน ผมต้องคิดว่านี่คือการแสดง จะทำให้เสียงานไม่ได้



เราเริ่มกันใหม่อีกครั้ง ผมตั้งใจกับสิ่งที่กำลังทำมากกว่าเก่า พยายามสลัดความรู้สึกส่วนตัวออกไป ผมจ้องตากับเฟิร์สนิ่งขณะที่เห็นภาพตัวเองในแววตาอีกคนชัดขึ้นเรื่อยๆ เฟิร์สห่างออกไปไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตร…



ฉากนี้เป็นฉากสุดท้ายของเฟิร์ส หลังจากนี้เราอาจได้เจอกันน้อยลง ผมแค่หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ในภายภาคหน้า เพราะเท่าที่ได้รู้จักกับเฟิร์สแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ ผมรู้สึกได้ว่าเฟิร์สก็เป็นคนดีคนหนึ่ง



แต่ในตอนที่ผมกำลังจะเบี่ยงหน้าหลบ ริมฝีปากผมกลับถูกครอบครองโดยคนตรงหน้า ผมเบิกตากว้างก่อนจะรีบผลักเฟิร์สออกพอๆ กับที่เสียงของไอ้โซลดังขึ้น



“ไอ้เหี้ย!”



ทุกคนตกใจไปตามๆ กัน พี่ปุ้ยคว้าไอ้โซลไว้เมื่อมันทำท่าจะพุ่งเข้ามา



“ไอ้เฟิร์สมึงนี่แม่ง” พี่โป้งส่ายหน้า “พวกมึงน่ะพอกันทั้งคู่”



“โทษทีครับ อารมณ์มันพาไป” เจ้าของคำพูดยกยิ้ม แววตาทอประกายประหลาด ผมเบือนหน้าหนี คิดไม่ถึงว่าเฟิร์สจะทำแบบนี้ และมันทำให้ผมรู้สึกแย่มาก



“ใจเย็นมึง” พี่โป้งหันไปบอกไอ้โซล ค่อยยังชั่วที่มีพี่ปุ้ยคอยรั้งเอาไว้ เพราะถ้ามันเข้ามาทำอะไรเฟิร์ส ยังไงคนที่อารมณ์เดือดก็ต้องถูกมองว่าเป็นฝ่ายผิด ผมไม่อยากให้มันถูกมองไม่ดี ถ้าสถานะผมกับมันเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องมันคงไม่ออกอาการขนาดนี้ อีกอย่างการแสดงมันพลาดกันได้ ถึงแม้อีกฝ่ายจะจงใจพลาดก็ตาม



ถึงอย่างนั้นผมก็ต้องถ่ายฉากนี้ให้เสร็จ ผมอดหันไปมองอีกคนอย่างเป็นกังวลไม่ได้ ไอ้โซลโกรธมาก ก่อนที่จะเริ่มถ่ายใหม่ ผมเห็นพี่ปุ้ยพูดอะไรกับมันสักอย่างก่อนดึงมันให้ออกไปจากบริเวณนี้











ผัวะ!



เสียงหมัดดังก้องไปทั้งลานจอดรถ เฟิร์สล้มลงกับพื้น มุมปากแตกจนเลือดออก ผมที่วิ่งตามมาจับไอ้โซลเอาไว้ แต่มันแกะมือผมออก



เฟิร์สถุยน้ำลายปนเลือดทิ้ง “แน่จริงอย่าเล่นทีเผลอสิวะ”



มันกระชากคอเสื้อเฟิร์สจนตัวลอยขึ้นจากพื้น เหวี่ยงกำปั้นใส่เต็มแรง



ผัวะ!



“โซลอย่า!” ผมร้องห้าม พอเลิกกองมันก็เดินตามเฟิร์สออกมาทันที ไม่พูดอะไรสักคำ ไอ้โซลไม่ได้ใจเย็นลงเลยสักนิดแต่ไม่คิดว่ามันจะลงมือจริง



ไอ้โซลเหวี่ยงหมัดลงไปอีกครั้ง เฟิร์สพยายามจะตั้งรับแต่เพราะโดนเล่นงานก่อนเลยทำให้อีกฝ่ายหาทางสวนกลับไม่ได้



ผัวะ!



“มึงมีสิทธิ์อะไรมาต่อยกูวะ”



“สิทธิ์ของแฟนไงไอ้เหี้ย!!”



ผัวะ!



เฟิร์สนิ่งค้างกับประโยคนั้น ใบหน้าที่หันไปตามแรงหมัดหันกลับมามองผมอย่างไม่เชื่อสายตา



“จริงเหรอซีน..”



ผมหลบสายตาคู่นั้น พยักหน้าขณะที่ขอบตาเกิดร้อนผ่าว “ร...เราขอโทษ เรารู้ว่าเฟิร์สคิดยังไงกับเราแต่เราคบกับโซลแล้ว...อย่าทำแบบนั้นอีกเลยนะ”



“..ซีนไม่ผิดอะไรสักหน่อย” อีกฝ่ายยกยิ้มทั้งที่เลือดเต็มปาก โหนกแก้มขึ้นรอยช้ำ ผมมองภาพนั้นอย่างใจเสีย ดึงแขนที่ไอ้โซลกำลังง้างหมัดขึ้นเอาไว้ พูดเสียงสั่น



“..พอแล้วโซล..พอแล้ว”



“เราชอบซีน”



“มึง!”



“..ก็แค่อยากบอก” เฟิร์สไม่สนว่าจะโดนไอ้โซลจะเดือดใส่แค่ไหน หมอนั่นจ้องมาที่ผม ริมฝีปากแตกช้ำนั้นเอ่ยต่อ “เราชอบซีนมากจริงๆ”



“เราขอโทษ..”



ขอโทษที่ตอบรับความรู้สึกนั้นไม่ได้ และมันผิดที่ผมเองที่ไม่ได้บอกให้ใครรับรู้เรื่องของผมกับไอ้โซล



ก่อนเลี้ยวออกจากลานจอดรถ ไอ้โซลเปิดกระจกแล้วทิ้งหมวกของเฟิร์สลงกับพื้น ผมมองอีกคนที่ค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นผ่านกระจก ผมไม่เห็นสีหน้าของเฟิร์สแต่หมอนั่นมองตามรถของไอ้โซลจนลับสายตา





เรามาถึงคอนโดอย่างรวดเร็ว เพราะมันเหยียบคันเร่งตามอารมณ์ที่ไม่ได้ลดลง เหตุการณ์นี้เหมือนเมื่อวานไม่มีผิด แต่วันนี้ดูจะหนักกว่าเดิมมาก



ไอ้โซลเงียบผมก็เงียบ ความรู้สึกผิดเกาะกินในใจเต็มไปหมดแต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง สุดท้ายเป็นไอ้โซลที่ถอนหายใจ ยอมเปิดปากพูดก่อน “พี่ไม่ต้องห่วงมันหรอกครับ”



“..มึงก็ไม่น่าไปทำขนาดนั้น”



“แต่มันนอกบท”



“แล้วมึงไม่เคยนอกบทหรือไง”



ไอ้โซลนิ่งไป เบือนหน้าไปทางอื่นก่อนจะยกมือลูบหน้าตัวเอง “..ผมขอโทษ”



“กูห่วงมึงนะ...ถ้าเกิดมีใครมาเห็นเข้า เขาจะมองมึงไม่ดี”



“ผมไม่สนหรอก ถ้าผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับพี่คงห้ามตัวเองได้มากกว่านี้”



“ก็บอกแล้วไงเฟิร์สไม่รู้ว่าเราคบกัน” หมอนั่นทำไม่ถูกก็จริง แต่ทั้งหมดนั่นมันก็มาจากผม



“ช่างมันเถอะ ผมอยากซัดมันมานานแล้ว”



ในกองถ่ายมีนักข่าวอยู่แต่พี่ปุ้ยน่าจะจัดการได้ แต่ที่ลานจอดรถไม่รู้ว่ามีใครเห็นหรือเปล่า อาจจะซุ่มดูอยู่ก็ได้ ผมกลัวไปหมด เฟิร์สเป็นคนเจ็บ ไอ้โซลผิดเต็มๆ อยู่แล้ว



“โซล มึงต้องใจเย็นกว่านี้ ถ้าเป็นข่าวขึ้นมาจริงๆ อนาคตมึงในวงการ...”



“พี่จะทำงานในวงการต่อไหมครับ”



“ไม่”



“ผมก็ไม่ทำต่อเหมือนกัน ผมรับเล่นบทนี้ก็เพราะพี่ ข่าวออกไปผมก็ไม่สนหรอก ใครให้มันมายุ่งกับแฟนคนอื่นล่ะวะ”



ไม่ได้ช่วยให้ผมคลายกังวลเลยแม้แต่น้อย สภาพเฟิร์สที่เห็นบ่งบอกว่าไอ้โซลมือหนักขนาดไหน แล้วถ้าเฟิร์สเป็นอะไรขึ้นมา แน่นอนว่าไอ้โซลจะแย่ไปด้วย ผมยอมรับว่าผมห่วงไอ้โซลมากกว่า



“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ มันก็แค่ปากแตกน่า”



ที่ผมเห็นคือช้ำไปทั้งหน้าต่างหาก ก็ใช่ที่เฟิร์สไม่มีคิวถ่ายแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเฟิร์สมีงานอื่นอีกไหม ต้องใช้หน้าตาในการทำมาหากินด้วย



“ห่วงผมคนเดียวก็พอ ดูสิ มือผมก็เจ็บนะ”



“..สมน้ำหน้า” ว่าอย่างนั้นแต่ก็เดินเข้าไปหามัน จับมือข้างที่มันชูขึ้นมาโชว์ ไม่มีเห็นรอยอะไรสักหน่อย



“รู้ไหมว่าผมห้ามตัวเองแล้ว”



“นี่ห้ามแล้วเหรอ”



“ไม่งั้นก็เข้าไปต่อยตั้งแต่ตอนที่มัน...” หน้าตากลับไปไม่สบอารมณ์อีกครั้งเมื่อนึกถึงสิ่งที่เฟิร์สทำ ไอ้โซลไล้มือไปตามริมฝีปากของผม ได้ยินเสียงสบถเบาๆ จากนั้นมันก็ทาบริมฝีปากลงมา



“..อื้อ!”  ผมตกใจ เผลอก้าวถอยหลัง อีกฝ่ายบดเบียดลงมาด้วยแรงอารมณ์ทว่านุ่มนวล มือข้างหนึ่งกดท้ายทอยให้ผมแนบชิดมากขึ้น หัวใจผมเต้นรัว มันไม่เหมือนในกองถ่าย ยิ่งตอนที่มันรุกล้ำเข้ามาเหมือนอะไรบางอย่างบินวนอยู่ในท้อง สิ่งนั้นดุนดัน หยอกล้อ ขณะเดียวกันก็เหมือนชะล้างสัมผัสของคนอื่นออกไป ผมรู้สึกราวกับถูกดูดกลืน ขาอ่อนขึ้นมาเสียอย่างนั้น



มือที่โอบเอวผมสอดเข้ามาในเสื้อเมื่อไหร่ไม่รู้ ผมรู้สึกเมื่อสัมผัสหวิวๆ นั่นลูบไล้ไปทั่ว ในท้องวูบโหวง ตัวผมสั่น ทุบอกอีกคนประท้วง



“อึก..อื้อ..” อีกคนผละออก ผมหอบหายใจหนัก มือทั้งสองข้างกำเสื้อมันแน่น



ไอ้โซลเหมือนได้สติ ดึงเสื้อผมลงแล้วลูบหลังผมเบาๆ 



“ไม่ต้องกลัว ผมไม่ทำอะไร..”



“อ..อือ”



“เนี่ย ผมห้ามตัวเองสุดๆ เลยนะ”



ผมอยากตอบกลับประโยคเดิมจริงๆ ว่า ‘นี่ห้ามแล้วเหรอ’ แต่พูดไม่ออก ไม่กล้ามองหน้ามันเลย พอรู้ว่าอีกฝ่ายจ้องอยู่ก็อดเหลือบขึ้นมองไม่ได้ สายตามันทำให้ผมทำหน้าไม่ถูก รอยยิ้มนั่นก็เหมือนกัน ผมยืนเงอะงะให้มันจ้องอยู่อย่างนั้น มือยังวางที่ไหล่มันอยู่เลย จนสุดท้ายไอ้โซลก็ขำออกมา



“จะต่อเหรอครับ”



“บ...บ้า!” ผมถอยห่างออกมาครึ่งก้าว “ไม่ใช่..”



ไอ้โซลยกยิ้ม เอื้อมมาลูบมุมปากผมเบาๆ “งั้นผมขออาบน้ำก่อนนะ”







-

อิอิ

ขอบคุณทุกคอมเมนท์ค่ะ ติชมกันได้น้า ^ ^

#ข้างหลังฉาก #โซลซีน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-06-2017 21:55:47 โดย zongpei96 »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด