《ใจยักษ์❤[เมฆ-เก่ง]:ตอนที่1❤[25/03/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 《ใจยักษ์❤[เมฆ-เก่ง]:ตอนที่1❤[25/03/61]  (อ่าน 221221 ครั้ง)

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 12.2♡ ++100%++[19/12/59]
«ตอบ #210 เมื่อ08-01-2017 00:46:48 »

เริ่มชินรึเปล่านะรัน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 12.2♡ ++100%++[19/12/59]
«ตอบ #211 เมื่อ08-01-2017 03:05:55 »

 :z13:

ออฟไลน์ จอมจุ้น6002

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 12.2♡ ++100%++[19/12/59]
«ตอบ #212 เมื่อ10-01-2017 11:53:02 »

คนเขียนสอบยังไม่เสร็จเหรอคะ
คิดถึงยักษ์!!! :ling1:

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #213 เมื่อ10-01-2017 15:08:43 »

ใจยักษ์ 13


Rrr   Rrr  Rrr

จุ๊บ!จ๊วบ!

“อึ่ก...อื้อ...พี่...ทะ...โทรศัพท์...อือ...พอก่อน”มือเรียวพยายามผลักคนตรงหน้าออกจากตัว  แต่อีกคนกลับไม่ถอยห่างดั่งใจ   คนตัวโตกว่าเหมือนไร้สติ  ริมฝีปากอิ่มยังถูกครอบครองจากคนตรงหน้าอย่างไม่รู้จักพอ  ผมใช้กำลังเฮือกสุดท้ายผลักทศกัณฐ์ออกอย่างแรง  ได้ยินเสียงจ๊วบตอนริมฝีปากผละออกจากกันอย่างน่าอาย

“shit!!อะไรวะ!”น้ำเสียงหงุดหงิดของอีกคนทำเอาผมสะดุ้ง  คิ้วขมวดกันยุ่งดวงตาสีเขียวทรงเสน่ห์จ้องคาดโทษมาแบบดุๆ

Rrr   Rrr   Rrr

เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูแผดขึ้นมาอีกรอบ

“ก็...โทรศัพท์พี่ดัง  รับหน่อยสิอาจจะมีเรื่องสำคัญก็ได้”ผมบอกแล้วหลบนัยน์ตาสีเขียวหม่นนั่น  แต่สายตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นริมฝีปากอีกคนที่บวมแดงขึ้นมานิดๆ  เผลอเม้นปากตัวแน่นเมื่อนึกว่าของตัวเองต้องเจ่อแดงกว่าอีกคนอย่างไม่ต้องสงสัย

ทศกัณฐ์เสยผมไปด้านหลังอย่างระบายความหงุดหงิด  เสียงโทรศัพท์มือถือหยุดดังแล้ว

คือกูผิดอะไรวะ?

ร่างหนาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง  ก่อนจะโน้มตัวช้อนใต้รักแร้ดึงผมให้ลุกขึ้นตาม  มือหนาสวมแว่นใส่ให้ผมที่ไม่รู้ว่าร่วงออกตอนไหน  ผมขยับออกห่างจากอีกคนเผลอกัดริมฝีปากด้วยความเคยชิน

“บอกว่าอย่ากัดปาก”ไม่พูดเปล่ามือหนายังยื่นมาคลึงริมฝีปากให้คลายออก  ลูบไล้อ้อยอิ่งบนริมฝีปากจ้องมองไม่ยอมสายตาละออก  จนผมเริ่มจะทำตัวไม่ถูก  จึงปัดมือเขาออกเบาๆ

“พี่หิวไหม  เดี๋ยวรันต์ทำอะไรให้กิน”เปลี่ยนเรื่องแม่ม

ทศกัณฐ์ไม่ตอบแต่พยักหน้าให้เบาๆ  ผมพยักหน้ารับ  เดินเลี่ยงมาเข้าครัวเพื่อหาอะไรให้คุณท่านยักษ์กิน  ระหว่างที่ทำอะไรง่ายๆให้ทศกัณฐ์  สมองผมก็ฟุ้งซ่านคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร  ทำไมถึงได้ยอมให้เขาทำขนาดนั้น  ก็รู้ว่ามันไม่น่าจะปกติที่ผู้ชายเขากอดจูบกัน  แต่ใจลึกๆผมก็อยากลองนะ  ไม่รู้สิ!  เกิดมาผมไม่เคยลองทำกับใคร  มากสุดก็เมฆที่แตะเบาๆ

แต่สอดลิ้นนี่...ครั้งแรกแฮะ

ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจเหมือนครั้งแรกที่เขาบังคับผม  อืม...อยากลองอีกด้วยซ้ำ

แล้วถ้าลองกับคนอื่นจะรู้สึกแบบนี้ไหมนะ?

ตัวผมได้แต่สงสัย  ใครจะมาอยากลองกับผมวะ  มีแต่ไอ้ยักษ์บ้านั่นแหละที่แปลก!


30นาทีต่อมา

“พี่ครับ  เสร็จแล้วนะ”ผมเดินมาหยุดอยู่ข้างๆทศกัณฐ์  เขานอนหลับเอามือก่ายหน้าผากอยู่ที่โซฟา  มองสำรวจคนตรงหน้าท่าทางเขาเหนื่อยๆ  ผมจะปลุกเขาดีไหมวะ

อืม...งั้นกลับดีกว่า  ปล่อยเขานอนไปเดี๋ยวก็ตื่นมากินเองนั่นแหละ

“อยู่กินด้วยกันก่อน”จังหวะที่ผมหมุนตัวกลับไปที่ประตูหน้าห้อง  เสียงทุ้มของทศกัณฐ์ก็เรียกขึ้นซะก่อน  ผมหันกลับไปทศกัณฐ์ก็ลุกขึ้นนั่งแล้วมองมาที่ผมก่อนแล้ว

“รันต์กินมาแล้ว  อิ่ม”กับพี่เเซนท์ไงครับ

นิ่งเลย.. เอาไงดีวะ

“แต่เดี๋ยวรันต์นั่งเป็นพะ...”

“ไม่ต้อง!กลับเถอะ”ตอบกลับมานิ่งๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าครัวไป

เขา...ไม่ได้โกรธผมใช่ไหมครับ?

ผมยักไหล่นิดๆก่อนจะเดินออกจากห้องมา  ในเมื่อเขาไม่อยากให้อยู่จะดึงดันทำไมล่ะครับ  อารมณ์ขึ้นๆลงๆกูตามไม่ค่อยจะทันนะโว้ยยยยย!!!


+++++++++++++++++++++++++++++++


“ผมฝากคุณบราวนไปดูเขาด้วยนะครับ...ครับ...ขอบคุณครับ”หลังจากวางสายจากโจเซฟ  ผมก็ผลักประตูเข้าไปในธนาคารที่ผมเปิดบัญชีไว้  กดคิวแล้วนั่งรอนิ่งๆ

วันนี้ผมแวะเข้าไปทำอาหารเช้าไว้ให้ทศกัณฐ์แล้วรีบออกมาทำธุระที่ธนาคาร  เลยต้องฝากโจเซฟไปดูให้หน่อย

ธุระที่ผมมาทำก็เรื่องเงิน5แสนบาทปริศนานั่นแหละครับ  ไม่สิ  ต้องบอกว่า5แสนเศษไม่ถ้วนเหมือนเปลี่ยนค่าเงินอีกสกุลนึงมาเป็นเงินบาทแล้วเข้าบัญชีผมนั่นแหละครับ

“สวัสดีค่ะ”เจ้าหน้าที่ยกมือสวัสดีเมื่อถึงคิวผม

“ผมมาตรวจสอบบัญชีครับ  เมื่อวานมีการโอนเงินเข้าบัญชีผมโดยที่ผมไม่รู้  อาจจะมีการโอนผิดบัญชี”ยื่นสมุดบัญชีพร้อมบัตรให้  แล้วเซ็นตามระเบียบ

“สักครู่นะคะ”

“เมื่อวันที่ xx เดือน xxx มียอดเงินโอนเข้ามาจำนวน5xx,xxxบาทค่ะ  และไม่มีการแจ้งอายัดเงินที่โอนเข้ามานะคะ  อาจจะไม่ใช่การโอนผิดค่ะ” เงินนี้โอนเข้าตั้งแต่2อาทิตย์ก่อนงั้นหรอ

“ผมขอโอนคืนให้บัญชีนั่น”

“ไม่ได้ค่ะ  นี่เป็นการโอนแบบไม่ระบุหมายเลขบัญชี  อาจจะมีการฝากเข้าจากที่ไหนสักแห่งก็ได้ค่ะ”จิ๊!ยุ่งยากชิบ

“ผมอยากทราบว่าเขาโอนเงินมาจากที่ไหนจะได้ไหมครับ”

“อาจจะต้องใช้เวลาตรวจสอบหน่อยค่ะ  ถ้าคุณเหรันต์ไม่สะดวกรอ  เดี๋ยวทางธนาคารจะติดต่อไปภายหลังค่ะ”

“ครับ  ขอบคุณครับ” ผมเดินออกจากธนาคารมารอแท็กซี่  นี่ก็สายมากแล้วเดี๋ยวจะกลับมหาลัยไปเรียนไม่ทัน  ผมสงสัยและรู้สึกไม่สบายใจมาก  เงินของใครก็ไม่รู้  ไม่ได้อยากได้สักนิด

พอถึงมหาวิทยาลัย  ผมก็ไปหาอะไรกินที่โรงอาหารของคณะคนเดียวรอเวลาขึ้นเรียน  เมฆไลน์มาบอกว่าวันนี้ไม่เข้าติดธุระกับม๊าฝากเช็คชื่อด้วย  ปกติมันก็ไม่ค่อยทิ้งให้ผมเรียนคนเดียว  นานๆมันจะขาดที

“น้องรันนนนนนนต์”เสียงมาก่อนตัวอีกครับ  คนหันมามองกันพรึ่บ  คนแก้มป่องวิ่งดุ๊กดิ๊กมาทางผมก่อนใคร

“ได้ยินแล้วครับ”ผมส่งยิ้มให้พี่เซนท์นิดๆ  ด้านหลังเขามีพี่ใจดีกับทศกัณฐ์เดินตามมา

“ง่ะ  ทำไมมานั่งกินข้าวคนเดียวล่ะ”พี่เซนท์ทรุดตัวลงนั่งที่ตรงข้ามพี่ใจดีนั่งลงข้างๆกัน  ทศกัณฐ์จึงต้องมานั่งฝั่งเดียวกับผม

“วันนี้เพื่อนผมไม่มาน่ะครับ”

“อ้อ  เหงาแย่สิ”ผมยิ้มรับบางๆ

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปหาอะไรมานั่งกินด้วยดีกว่า  ป่ะดีลุก! ทศมึงเอาไรป่ะ”พี่เซนท์ดึงมือพี่ดีให้ลุกขึ้น  ก่อนจะหันมาถามทศกัณฐ์

“ไม่  ขอบใจ”

“ทำไมออกมาก่อน”คนข้างๆถามขึ้นหลังจากพวกพี่เซนท์ลุกออกไป  ผมเงยหน้าจากจานข้าวมองสบกับอีกคน

“รันต์บอกคุณบราวนแล้วไงครับ  ว่ามีธุระ”

“แล้วทำไมไม่เข้าไปบอกกูเอง”

“ก็ไม่อยากปลุก...โอ๊ย!...มันเจ็บนะ!”มันเลื่อนมือมาบีบต้นขาผมแรงๆ  ขนาดผมไม่ได้ร้องดังมากยังมีบางคนหันมามอง  ดีนะใต้โต๊ะไม่มีใครเห็นว่าเขาทำอะไร

“ทีหลังต้องบอก!”เสียงเย็นๆกับสายตาบีบบังคับ

“ก็บอกดีๆได้ไหม!ทำไมต้องมาหงุดหงิดใส่รันต์ด้วย!ปล่อย!”ผมกัดฟันบอกอีกคนมองสบตาอย่างไม่ยอมแพ้  มือก็พยายามแงะมือเขาออกจากต้นขาตัวเอง  อยู่ๆเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกวะ

“มึงทำกูหงุดหงิดนะรันต์”เขาคลายแรงบีบลง  แต่ยังไม่ปล่อยมือออก

WTF!!!ความผิดกูอีกแล้ว?  นี่ผมยังไม่รู้ตัวเลยนะว่าไปทำอะไรให้มันหงุดหงิดตอนไหน

“รันต์ทำอะไรให้พี่หงุดหงิดมิทราบครับ”

“...”เงียบ

“บอกมาสิ”

“ก็มึง...”

“คุยอะไรกันเนี่ยท่าทางเครียดๆ”เสียงพี่เซนท์ดังขึ้นขัดจังหวะที่ทศกัณฐ์กำลังจะอ้าปากบอกเหตุผลพอดี  เขาเลยไม่ได้พูดอะไรต่อ  หันหน้าหนีผมไปอีกทางแต่มือยังไม่เอาออกจากขาผมอ่ะดิ  ผมไม่อยากทำตัวพิรุธเลยยิ้มให้พี่เซนท์แล้วก้มหน้ากินข้าวต่อน

“นี่  พวกพี่ไปลงชื่อกีฬาแล้วนะ”กินกันไปสักพักพี่เซนท์ก็ชวนคุย

“อ่อครับ  แล้วลงอะไรกันบ้างครับ”ผมถามขึ้นอย่างสนใจ  มือรวบช้อนส้อมไว้ที่จานเมื่ออิ่มแล้ว

“พี่ลงบาส”เสียงพี่เซนท์ดูภูมิใจสุดๆ

“จริงหรอครับ”ผมถามอึ้งๆอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“อะไรเล่าไอ้น้องรันต์  เห็นอย่างนี้พี่เก่งนะเว้ย”พี่เซนท์กอดอกหน้างอ  ทำเป็นงอนใส่

“อ่า  ผมขอโทษครับ”

“ไปแกล้งน้องมันทำไม  แต่เห็นเตี้ยๆแบบนี้เคยเป็นกัปตันทีมบาสโรงเรียนนะรันต์  หึๆ”พี่ดีพูดกับพี่เซนท์ก่อนจะหันมาบอกผม

“โห  สุดยอดเลยครับ”ชมเอาใจเขาหน่อย

“หึ!มันแน่อยู่แล้วไอ้น้อง”เสียงขึ้นจมูกเชียว

“แล้วพี่ดีล่ะครับ  ลงอะไรบ้าง”ผมหันไปถาม

“บาสกับว่ายน้ำน่ะ  แต่บาสมีคนบังคับให้พี่ลง”พี่ดียิ้มให้นิด  ก็...พอจะรู้ล่ะนะว่าใครบังคับก็คนข้างๆเล่นจ้องซะตาเขียวขนาดนั้น  พี่ดีก็ขยี้ผมพี่เซนท์แกล้งๆคืน  ผมพยักหน้ารับรู้  ก่อนยกน้ำขึ้นดูดจนเกือบหมดแก้ว

“แล้วไม่คิดจะถามกูหน่อยหรือไง”เสียงเย็นๆดังมาจากคนข้างๆ

“พี่ก็บอกมาดิ”ท้าวคางมองกลับ  ยักคิ้วให้ทีหนึ่ง

“ทำไมทีคนอื่นมึงถามได้  แล้วกับกูถามไม่ได้ใช่ไหม”เสียงทศกัณฐ์เข้มขึ้น  มือที่วางบนต้นขาผมก็ออกแรงบีบเบาๆ  ตอนนี้พี่เซนท์กับพี่ดีก็หันมามองพวกเราสองคนอย่างสนใจ

“พี่อย่ามางี่เง่านะ  ลงอะไรก็บอกมาสิ”ผมกัดฟันถามเบาๆ  ก็มันงี่เง่าจริงๆนี่  กับเรื่องแค่นี้ก็ชวนทะเลาะ  ทำตัวเป็นเด็กชอบเอาชนะไปได้  มือผมก็พยายามแกะมือเขาออกจากต้นขาเนียนๆ  ทว่าทศกัณฐ์กลับแกล้งสอดมือมาจับกับมือผมแถมประสานนิ้วกันซะแน่นจนสลัดไม่ออก

“ปล่อย”ผมตาโตตวัดสายตาสั่งให้เขาปล่อย  ทศกัณฐ์เพียงยิ้มมุมปากให้นิดๆก่อนจะยกแก้วน้ำผมขึ้นดูดหน้าตาเฉย

ผมจะทำอะไรได้ล่ะครับ  นอกจากต้องปล่อยเลยตามเลยเคยบอกอะไรแล้วมันเคยฟังซะที่ไหนล่ะ

“โอ้ย!มดกัดกู  หวานจริงๆแถวนี้  ไม่ต้องเกรงใจนะต่อเลยๆ”พี่เซนท์ทำเป็นลูบแขนตัวเองไปมาประกอบคำพูด  ผมนี่หน้าบึ้งยิ่งกว่าเดิมอีกตวัดสายตามองมันโกรธๆ  เพราะมันแม่งพี่เซนท์เลยล้ออ่ะ  สุดท้ายก็เลยไม่รู้ว่าไอ้ยักษ์วัดแจ้งนี่ลงกีฬาอะไร  ผมก็ขี้เกียจเซ้าซี้ต่อแล้วด้วย

“หึ!”มือหนาล้วงน้ำแข็งจากแก้วผมขว้างใส่พี่เซนท์  ย้ำ!แก้วน้ำผม!  พี่เซนท์มีหรือจะยอม  ขว้างน้ำแข็งจากแก้วตัวเองคืนใส่กันสนุกเลยสิทีนี้  ผมกับพี่ดีก็พลอยโดนลูกหลงไปด้วย  แต่ถึงอย่างนั้นทศกัณฐ์ก็ยังไม่ปล่อยมือเขาออกจากมือผมอยู่ดี

“พี่รันต์  หวัดดีครับ”เสียงทุ้มสดใสดังขึ้นที่ข้างโต๊ะ  พร้อมๆกับการปรากฏตัวของคนคุ้นหน้า

“อ้าวนัท  หวัดดีๆ”ผมยิ้มให้นัท  ผู้ชายสูง หล่อ คมเข้มแบบไทยแท้ๆ  และฮอตสุดๆในเศรษฐศาสตร์ขนาดนี้เพราะเขาเป็นเดือนคณะและรองเดือนมหาลัยในปีนี้  แล้วก็...ยังเป็นน้องรหัสผมด้วยอ่ะนะ

“นี่ผมมากวนพวกพี่รึเปล่าครับเนี่ย  แต่ผมไม่เจอพี่รันต์เลยตั้งแต่วันงานเฟรชชี่  วันนี้เห็นแวบๆเลยลองเข้ามาทักน่ะครับ”น้องส่งยิ้มให้ตาหยี  นัทเป็นผู้ชายที่น่าตาดีและขี้เล่น  เขาเข้าถึงคนได้ง่ายด้วยความอัธยาศัยดีของเขานี่แหละครับ  ขนาดผมเป็นเข้ากับคนอื่นยาก  ยังคุยสนิทกับนัทได้เร็วเลย

“ไม่กวนหรอก  แล้วนี่กินอะไรมารึยัง ป่ะพี่เลี้ยง”ผมออกตัว  ไม่ค่อยได้ดูแลน้องเลยครับ

“ยังเลยครับ  แต่ผมฝากเพื่อนซื้อแล้ว  เอาไว้วันหลังผมพาพี่รันต์ไปเลี้ยงสเต็กนะ”

“ได้ไง  พี่ดิต้องเลี้ยง”ผมรีบส่ายหน้า  จะมาให้น้องเลี้ยงไม่ได้  พี่กล้า(พี่ปี3)รู้  เล่นผมตายแน่

“ฮ่าๆๆ  ผมพาไปแต่พี่รันต์เลี้ยงไงครับ  พี่รันต์ไม่มีรถนี่นา”น้องมีรถยนต์ขับครับ

“อ่อ  โอเค  ว่างเมื่อไหร่ก็บอกนะ”

“ครับ  เดี๋ยวผมโทรหา  หวัดดีครับพี่ๆ”น้องตอบก่อนจะยกมือสวัสดีทุกคนในโต๊ะ  ก่อนไปไม่วายส่งยิ้มยิงฟันให้ผมอีกรอบ  ผมเลยยิ้มตอบให้น้องคืนบ้าง

อึ่ก! แรงบีบที่มือแรงขึ้นทำให้ผมหุบยิ้มฉับ  หันไปมองไอ้คนข้างๆที่ไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก  ทศกัณฐ์หน้านิ่งๆหันมามองผมเช่นกัน  ดวงตาสีเขียวหม่นจ้องมองลึกเข้ามาอย่างไม่ยอมแพ้  สุดท้ายเป็นผมที่ต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีไปอีกทางแทน

“เอ่อ  ตอนบ่ายน้องรันต์มีเรียนไหมเนี่ย”พี่เซนท์ถามขึ้นขัดบรรยากาศมาคุๆ

“มีครับ  ใกล้ได้เวลาแล้วด้วยสิ”ผมหันไปยิ้มตอบพี่เซนท์  ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก็เหลือเวลาประมาณอีก20นาที

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ  จะเอาจานไปเก็บด้วย”ผมพูดขึ้นลอย  ไม่ได้เจาะจงบอกใครเป็นพิเศษ  มือที่สอดประสานกับอีกคนก็พยายามดึงออกเบาๆ  แต่เจ้าตัวดันไม่ปล่อย  ผมเลยต้องใช้ไม้อ่อนบีบมือเขากลับเบาๆใช้นิ้วคลึงวนหลังมือเขา  แปบเดียวเท่านั้นแหละครับ  ทศกัณฐ์ปล่อยมือผมออกแทบจะทันที  แถมมองผมมาแบบอึ้งๆที่ไม่เคยเห็นจากเขาเลย  ผมเลยส่งยิ้มกลับให้นิดๆ

“ไปนะครับ”สะพายเป้ได้ ก็ยกจานกับแก้วน้ำออกมาเลย

อืม...วันนี้รู้สึกดีนิดๆแฮะ  ที่เห็นสีหน้าอีกแบบหนึ่งจากทศกัณฐ์ได้  คนแบบเขามันก็มีวิธีไม่ยากหรอกครับที่จะจัดการ  ผมรู้  อยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่ทำเท่านั้นเอง J


+++++++++++++++++++++++++++++


“ไอ้รันต์  เพื่อนรักมึงไม่มาหรอวันนี้”เก่งถามขึ้นตอนที่เราเดินออกจากห้องมาพร้อมกัน

“ไม่อ่ะ  มันไปธุระกับม๊ามัน  ทำไม?คิดถึงมันหรอ”ผมแกล้งแหย่เล่น  เก่งทำหน้ายี้ลูบแขนตัวเองเหมือนขนลุกขนพอง

“มึงอย่าพูดอย่างนี้อีกนะ  ข้าวเที่ยงกู 40บาทจะอ้วกออกมาก็เสียดาย”

“ฮ่าๆ เว่อร์ ก็เห็นกัดกันทุกวัน  มันไม่มาก็นึกว่าจะเหงา”ผมกดปุ่มรอลิฟท์

“สบายหูกูมากกว่า”เก่งยักไหล่  เบ้ปากนิดๆ”ว่าแต่มึงพาน้องรหัสไปเลี้ยงยัง?”เก่งถามขณะที่เราเดินเข้ามาในลิฟท์

“ยังเลย  วันนี้ก็เจอน้อง  ถ้าพี่กล้ารู้ว่ายังไม่พาน้องไปเลี้ยงนะ กูโดนเล่นแน่”

“เออ  สายมึงโหดจริง  กูยังทึ่งเลยที่มึงกล้าไม่ไปวันเลี้ยงสาย  มึงนี่เกือบจะโดนตัดออกอยู่แล้วนะรู้ตัวไหม  ดีที่เจ๊ออยแกใจดี  มึงเลยรอดตัวไป”เก่งท้าวความหลังเมื่อตอนปีหนึ่ง  คือจริงๆแล้วผมก็ไม่ได้กล้าอะไรขนาดนั้นหรอก  แต่วันที่สายรหัสนัดเลี้ยงสายที่ร้านนั่งชิล  ผมอารมณ์ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่  บวกกับที่รู้ว่าไปแล้วอาจจะต้องมีน้ำเมา  ซึ่งผมอ่อน  ผมด็เลยไม่ไปมันซะเฉยๆ  ไม่ได้บอกเหตุผลกับใคร  เพราะไม่รู้จะอ้างอะไรจริงๆ

เช้าวันต่อมาไอ้พี่กล้าตามผมถึงหน้าเซค  โมโหอะไรนักไม่รู้  ดีที่พี่ออย  พี่รหัสพี่กล้าปรามไว้  เขาก็เข้าใจว่าผมไม่ชอบดื่มเหล้า  เลยนัดเลี้ยงชาบูกันแทน  ผมก็ไปนะ  ไปหลังจากที่ทุกคนเกือบจะอิ่มกันหมดแล้ว  แต่พี่บลูพี่ซีเนียร์แกใจดี  เลยไม่ถือสาอะไรผมมาก  ที่ไอ้เก่งมันรู้เรื่องก็เพราะมันเป็นสายโคฯกับสายผม  เวลานัดเลี้ยงทั้งสายก็นัดสายมันไปด้วยกัน

“พี่ออยไม่เท่าไหร่  แต่พี่กล้าเนี่ยดิ  ไม่รู้ปีนี้จะเล่นหนักรึเปล่า”พี่กล้าแกก็ไม่ได้อะไรกับผมมากนะหลังจากนั้น  แต่ก็หาเรื่องคอยแกล้งผมเรื่อยๆนั่นแหละ

“กูว่าปีนี้มึงจะโดนเล่นแทนน้องไอ้รันต์  พี่พีท(พี่รหัสเก่ง)กระซิบกูมาแล้ว  หึๆ”มึงจะมาพูดให้กูระแวงเพิ่มอีกทำไมเนี่ย

ติ้ง!เราพากันเดินออกจากลิฟท์เมื่อถึงจุดหมาย

“มึงกลับหอเลยเปล่าเนี่ย”

“อืม”ผมตอบเก่งสั้นๆ  เราล่ำลากันเล็กน้อยก่อนจะแยกกันไปคนละทาง

กึก!ฝีทางผมหยุดลง  เมื่อไม่คิดว่าจะเห็นคนที่ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ได้ยืนดักทางที่ผมผมจะกลับ

“สวัสดีครับคุณรันต์  ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”รอยยิ้มตามมารยาทประดับอยู่บนใบหน้าหวานของเขา

“สวัสดีครับคุณสตีฟ  มีอะไรรึเปล่าครับ?”ผมฉีกยิ้มส่งคืนให้เขา

“ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณเกินไป  ช่วยตามผมมาจะได้ไหมครับ” ผมพยักหน้าตกลง  สตีฟจึงนำทางพาผมเดินไปที่จอดรถของคณะ  ระหว่างทางเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันสักนิด

สตีฟพาผมเดินไปถึงรถยุโรปคันหรูที่สตาร์ทเครื่องรอ  เขาเปิดประตูหลังรถให้  หันมายิ้มแล้วส่งสายตาให้ผมเข้าไปนั่งในรถ  ผมมองเข้าไปก็เจออีกคนนั่งอยู่ด้านใน  เขาหันออกไปมองนอกรถอีกฝั่ง

ผมเข้าไปนั่งในรถ  เหลือบมองคนที่นั่งข้างๆผมนิดๆ  เขาไม่หันมามองผมด้วยซ้ำ  เหอะ!

สตีฟปิดประตูให้  แล้วจึงไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ  ส่วนพลขับก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากโจเซฟ  เขามองผมผ่านกระจกหลัง  ก้มหัวให้นิดๆก่อนจะขับเคลื่อนรถออกไป

ในรถเงียบมาก  แม้แต่เสียงจากวิยุยังไม่มี  ผมไม่ได้ถามว่าพวกเขาจะพาผมไปไหนและไม่คิดจะถามเพราะมันไม่ใช่หน้าที่  หน้าที่ของผมคือทำตามที่พวกเขาบอกแค่นั้น

ผมมองออกไปนอกกระจกรถ  เส้นทางที่รถเคลื่อนผ่านเริ่มคุ้นตาผมขึ้นเรื่อยๆ  จนเมื่อมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง  สิ่งที่ผมคิดไว้ก็ไม่ผิด



[ยาวเกินต่อ reply ถัดไป]

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13(ต่อ)♡ [10/1/60]
«ตอบ #214 เมื่อ10-01-2017 15:10:20 »

(ต่อ)


พวกเขามาหาน้าเฟื่องฟ้า!!!

“เชิญครับ”เสียงสตีฟที่เปิดประตูรถให้  เรียกสติผมกลับมาอีกครั้ง  ผมก้าวลงจากรถ  เห็นทศกัณฐ์ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าบ้านก่อนแล้ว  มือทั้ง2ข้างของเขากำเข้าหากันแน่นราวกับกำลังประหม่าอยู่

ผมเดินไปหยุดอยู่ข้างๆทศกัณฐ์มือเอื้อมไปกดกริ่งหน้าบ้านโดยไม่ถามความเห็นใครสักคน  ทศกัณฐ์เบิกตากว้างมองผม  สายตาเขาหลุกหลิกนิดๆ

“มาขนาดนี้แล้ว  ก็กล้าๆหน่อย”ผมยักคิ้วให้เขาทีนึง  มือกดออดซ้ำเมื่อยังไม่เห็นใครออกมา  ทศกัณฐ์ถอนหายใจนิดๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร  สักพักก็มีผู้หญิงร่างบางเดินรีบๆออกมา

“มาแล้วค่าาาา  ขอโทษนะคะพอดีอยู่หลังบ้าน”เสียงฝีเท้าเธอใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  จนมาหยุดอยู่ที่ประตูรั้ว  สายตาเธอมาหยุดอยู่ที่ผมเป็นคนแรก

“น้องรันต์! มาทำไมไม่โทรบอกน้าครับ  น้าจะได้เตรียมอะไรไว้ให้ทาน”เสียงน้าเฟื่องฟ้าดูดีใจมาก  แววตาเธอก็สดใสแม้จะมีร่องรอยความเหนื่อยล้าอยู่บ้าง

“มันกระทันหันนิดหน่อยน่ะครับ”ผมส่งยิ้มไปให้คนตรงหน้า

“แล้วนี่...”น้าเฟื่องฟ้าไล่ดวงตาสำรวจบุคคลอื่นนอกจากเราสองคน  สายตาเธอมองไปที่ด้านหลังผมที่มีโจเซฟกับสตีฟยืนอยู่  จนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่ทศกัณฐ์  สายตาเธอแสดงออกมาแค่ความสงสัย  ในขณะที่ดวงตาของทศกัณฐ์กลับแสดงความประหลาดใจออกมาชัดเจน “พวกเขาเป็นใครหรอจ้ะน้องรันต์”คำถามน้าเฟื่องฟ้าทำเอาผมพูดไม่ออก  นี่เธอจำลูกตัวเองไม่ได้อย่างนั้นหรอ?

เงียบสนิท...

“นี่ทศกัณฐ์ครับ”ผมเป็นทำลายความเงียบ  ผาบมือไปทางทศกัณฐ์  ดวงตาน้าเฟื่องฟ้าเบิกกว้าอย่างตกใจก่อนน้ำใสๆจะคลอขึ้นเต็มหน่วยตา  สุดท้ายเธอก็ยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้อย่างห้ามไม่อยู่

“ไม่ใช่”เสียงแผ่วๆของทศกัณฐ์ดังออกมาจากลำคอ  กัดฟันแน่นจนขึ้นกรามชัด  แววตาที่จ้องมองน้าเฟื่องฟ้าสั่นไหวอย่างรุนแรง  เพียงเสี้ยววินาที  มือทศกัณฐ์ยื่นไปกำรอบคอน้าเฟื่องฟ้าผ่านประตูที่สูงเพียงอก  เธอทั้งร้องไห้ทั้งทั้งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ผมเองก็ตกใจไม่คิดว่าเขาจะทำขนาดนี้

“นี่คุณทำอะไร!!!เป็นบ้าไปแล้วหรอ!!!ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้”ผมพยายามดึงๆแขนทศกัณฐ์ให้ปล่อยแต่มันไม่กระดิกสักนิด  เขายิ่งเพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อยๆแววตาเย็นเยียบน่ากลัวอย่างกับไม่ใช่สายตามนุษย์ปกติ  น้าเฟื่องฟ้าเริ่มแย่  อ้าปากหายใจแทนจวนจะไม่ไหวเต็มที

“พวกคุณมาช่วยผมห้ามเขาที”ผมตัดสินใจหันกลับไปขอความช่วยเหลือจากสองคนด้านหลัง  พวกเขาแค่ยืนดูนิ่งๆเหมือนดูทศกัณฐ์กำลังเล่นขายของไม่ใช่กำลังจะฆ่าคน! ทำไมเวลาแบบนี้ถึงไม่มีคนผ่านมาเลยนะ! ผมกัดฟันกรอด  ตัดสินใจใช้วิธีสุดท้าย

หมับ!

“พี่ครับ  ปล่อยเธอเถอะ  ค่อยๆคุยกันนะครับ”ผมสวมกอดทศกัณฐ์จากด้านหลังเต็มแรง  สองแขนโอบรัดเขาแน่น  ขอร้องเสียงอ่อนที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้  ตัวทศกัณฐ์เกร็งเครียดไปหมด

“นะครับ นะ...เชื่อรันต์”ผมเรียกสติเขาเบาๆค่อยๆเอื้อมือไปจับแขนเขาเบาๆ  ดึงให้เขาปล่อยช้าๆ  ทศกัณฐ์คลายมือออกจากลำคอน้าเฟื่องฟ้า  ตัวเธอทรุดลงไปกองกับพื้นแทบจะทันที  น้าเฟื่องฟ้าหอบหายใจแฮ่ก  แววตาเธอมีความตื่นตระหนกและหวาดกลัว  น่าแปลกที่ผมไม่เห็นความเกรี้ยวกราดในดวงตาเธอ

ผมคลายอ้อมกอดออกจากตัวทศกัณฐ์  ดึงเขาให้ถอยห่างออกจากประตูรั้วบ้าน  ตัวเขาก็ขยับตามผมแต่โดยดี  เหมือนอ่อนลงแต่ก็ไม่  ผมเดาไม่ถูกว่าเขาคิดอะไรอยู่  ทำไมถึงทำแบบนั้นลงไป  น้าเฟื่องฟ้าไม่ใช่คนที่เขาตามหาหรอกหรอ  แต่ถึงไม่ใช่ก็ไม่ควรทำแบบนี้  ผมขมวดคิ้วมองเขาอย่างครุ่นคิด

“เจฟ”อยู่ๆทศกัณฐ์ก็เรียกโจเซฟขึ้น

กริ้ก! เสียงขึ้นนกทำให้ผมหันไปมองโจเซฟอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ปลายกระบอกปืนเล็งไปที่ทางน้าเฟื่องฟ้าที่กำลังพยุงตัวลุกขึ้นยืน  ตัวผมสั่นขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

“พี่เป็นบ้าอะไรวะ!!!”ผมตะคอกดังลั่น

“คุณเป็นใคร”ทศกัณฐ์ไม่สนใจเสียงผม  เค้นถามไปที่น้าเฟื่องฟ้าเสียงเข้ม  น้าเฟื่องฟ้าเพียงยิ้มเศร้าๆให้นิดๆมือค่อยๆเลื่อนเปิดประตูบ้าน  ไม่ได้สนใจกระบอกปืนสีเงินมันวาวที่เล็งไปทางตัวเองสักนิด

“เข้ามาสิจ้ะ  มาหาแม่ไม่ใช่หรอทศกัณฐ์”
.
.
.
.
.
.
.
.

เราทั้งสี่คนเดินตามน้าเฟื่องฟ้าเข้ามาในบ้านเงียบๆ  บ้านของเธอหลังไม่ใหญ่นัก  การตกแต่งภายในเป็นสไตล์วินเทจเหมือนแต่ก่อนที่ผมเคยมา  แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

“นั่งก่อนจ้ะ  เดี๋ยวน้าไปเอาน้ำมาให้”เธอผายมือให้เรานั่งที่โซฟาห้องรับแขก  ส่งยิ้มให้นิดๆ

“เดี๋ยวรันต์ช่วยครับ”ผมอาสา

“ไม่เป็นไรลูก  น้องรันต์นั่งเถอะ”เธอรีบปฏิเสธ

“ไม่ได้ครับ  ถ้าแม่รู้ว่ารันต์ใช้น้าเฟื่องฟ้านะ ต้องโกรธรันต์มากแน่ๆ น้าอยากให้คุณแม่โกรธรันต์หรอครับ”ผมพูดอ้อนๆ  สุดท้ายน้าเฟื่องฟ้าจึงพยักหน้าตกลงให้ผมช่วย  ส่วนสามคนที่นั่งอยู่มองตรงมาทางพวกเราสองคนนิ่งๆ  โดยเฉพาะสายตาว่างเปล่าจากทศกัณฐ์  เขาแทบไม่กระพริบตาหรือกระดิกตัวด้วยซ้ำ  ผมไม่ชอบที่เขาเป็นแบบนี้สักนิด  เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด

เมื่อผมกับน้าเฟื่องฟ้าเดินเข้ามาถึงส่วนครัว  เธอบอกให้ผมเอาแก้วจากในตู้ออกมาแล้วให้รินน้ำใส่  ส่วนน้เฟื่องฟ้าแยกไปห่ของว่างพวกบิสกิตจากอีกฝั่ง

“น้องรันต์ไปรู้จักกับพวกเขาได้ยังไงลูก”อยู่ๆน้าเฟื่องฟ้าก็โพล่งถามขึ้นกลางความเงียบ

“บังเอิญรู้จักกันน่ะครับ  ทศกัณฐ์เป็นรุ่นพี่ที่มหาลัย”

“อืม”จากนั้นเธอก็เงียบไป  ผมไม่กล้าถามว่าเธอใช่แม่ของทศกัณฐ์รึเปล่า  ทำไมเหมือนจำไม่ได้  ถึงจะผ่านมาเป็นสิบปี  แต่ถ้าเป็นลูกของตัวเองจะไม่คุ้นสักนิดเลยงั้นหรอ  แล้วน้าเฟื่องฟ้าทำไมต้องร้องไห้ขนาดนั้น

ในขณะที่ทศกัณฐ์บอกว่าไม่ใช่...

“เสร็จรึยังจ้ะน้องรันต์”เสียงเรียกจากด้านทำให้ผมหลุดจากภวังค์

“ครับ”

ผมกับน้าเฟื่องฟ้ายกน้ำและขนมมาวางไว้ที่โต๊ะห้องรับแขกผมทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาตัวยาวตัวเดียวกับทศกัณฐ์  ส่วนน้าเฟื่องฟ้านั่งลงที่โซฟาเดี่ยวตัวข้างๆ  ไม่มีใครยกน้ำขึ้นดื่ม  บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดจนผมรู้สึกอึดอัด

“จะเข้าเรื่องได้รึยัง”เสียงเย็นๆของทศกัณฐ์ลอยเข้ามากระทบโสตประสาท  ผมสะดุ้งนิดๆ  เหลือบมองไปที่โจเซฟไม่เห็นยกไอ้นั่นขึ้นมาก็เบาใจ

“เอาเรื่องไหนก่อนดีคะ”น้าเฟื่องฟ้ายิ้มตอบทศกัณฐ์บางๆ

“หยุดพล่ามแล้วพูดซะที!”ผมหันไปมองทศกัณฐ์ควับ  รู้แล้วว่าเขาใกล้จะสติแตกเต็มที  น้าเฟื่องฟ้าเพียงหัวเราะนิดๆก่อนจะเอ่ยปากเล่าช้าๆ

“ฉันเป็นน้องสาวฝาแฝดกับพี่บุหงาแม่ของเธอ”

“ไม่จริง  ในประวัติ...”เสียงสตีเฟ่นครางเบาๆกับตัวเอง

“เรื่องจริง  แต่ไม่มีใครรู้นอกจากพ่อแม่ของเราสองคน” เธอกวาดสายตาไปรอบๆเมื่อเห็นทุกคนนิ่งตั้งใจฟัง  จึงเปิดปากเล่าต่อ “พวกเราเกิดในต่างจังหวัด  เป็นอำเภอเล็กๆที่ค่อนข้างชนบท  เราสองคนเกิดมาจากความไม่ตั้งใจของพ่อกับแม่ หรือจะเรียกง่ายๆว่าพลาดนั่นแหละ”

“แม่ถูกตากับยายไล่ออกจากบ้านเพราะท้องไม่มีพ่อ  เธอหนีไปตั้งหลักในที่ที่ไม่มีคนรู้จัก  พ่อยังอยู่ในเมืองกรุงส่งเงินให้แม่ใช้ทุกๆเดือนแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก

จนกระทั่งแม่คลอดพวกเราออกมาโดยหมอตำแยประจำหมู่บ้าน  พ่อที่รู้เรื่องก็รีบไปหา  แต่สิ่งที่เขาทำคือนำเด็กผู้หญิงฝาแฝดคนหนึ่งกลับมาที่เมืองกรุงด้วย  โดยที่คนเป็นแม่ไม่ได้ยอม...และเด็กคนนั้นก็คือฉันเอง พวกเราแจ้งเกิดกันคนละที่  ชื่อ-นามสกุลต่างกัน  จึงไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นฝาแฝดกัน” น้าเฟื่องฟ้ายกน้ำขึ้นจิบเบาๆก่อนจะเล่าต่อ

“เราเติบโตมาโดยไม่รู้ว่ามีอีกฝาหนึ่งของตัวเองอยู่  ฉันเติบโตมาอย่างสุขสบายคนละสภาพแวดล้อมกับพี่บุหงา  พ่อเป็นคนมีฐานะอยู่แล้วก็แต่งงานใหม่  มีลูกอีกคน  พอฉันเริ่มโตขึ้นมาหน่อยก็แยกออกมาอยู่คนเดียว  ฉันแต่งงานแต่ไม่มีลูก แต่โชคร้ายหน่อยที่สามีฉันอายุสั้น  ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหลังใช้ชีวิตร่วมกันได้ไม่นาน”

“ฉันจึงใช้ชีวิตคนเดียวมาโดยตลอด  จนกระทั่งเมื่อสิบกว่าปีก่อน  ไม่รู้ว่าฟ้าลิขิตหรืออะไร  ฉันได้บังเอิญเจอกับอีกครึ่งหนึ่งที่หายไปของตัวเอง”เธอหยุดเล่าหลับตาเหมือนรำลึกความหลังอยู่พักหนึ่ง  ก่อนจะเล่าต่อช้าๆ



10 ปีก่อน

“คุณๆ  เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ”เฟื่องฟ้าสอบถามอาการคนที่เธอพึ่งช่วยจากการถูกรถจักรยายยนต์เฉี่ยวหยกๆ

“มะ...ไม่เป็นไร  ขอบคุณค่ะ”บุหงาได้สติ  ก่อนจะเงยหน้าไปขอบคุณคนที่พึ่งช่วยเธอจากการรอดตาย  แต่ก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นคนที่ช่วยเธอไว้หน้าตาเหมือนกันราวกับแพะ เอ้ย แกะ  แม้กระทั่งตัวเฟื่องฟ้าเองก็แปลกใจไม่แพ้กัน

“ไปที่บ้านฉันไหมคะ  ใกล้ๆนี่เอง”เฟื่องฟ้าเอ่ยปาก  เธอว่ามีหลายเรื่องที่ต้องคุยกับผู้หญิงตรงหน้าเธอ

“ฉันก็คิดว่าอย่างนั้น”

หลังจากที่ทั้งสองกลับมาถึงบ้าน  สอบถามสารทุกข์สุกดิบสืบสาวราวเรื่องของแต่ละคน  จนประติดประต่อไปว่าพวกเธออาจจะเป็นฝาแฝดกัน   ไม่จำเป็นต้องตรวจDNAให้เสียเวลา  พวกเธอทั้งคู่ต้องรู้สึกผูกพันต่อกันราวกับค้นพบสิ่งที่ขาดหายของตัวเองกลับคืน

เฟื่องฟ้าตัดสินใจชวนบุหงามาอยู่ด้วยกัน  เพราะรู้ว่าคนที่ตัวเองยกให้เป็นพี่ยังไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

ทั้งสองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กๆ  ภายในบ้านถูกตกแต่งให้เป็นสไตล์วินเทจอย่างที่บุหงาชื่นชอบ  ตัวเฟื่องฟ้าเองก็รู้สึกชอบด้วย

เวลาผ่านไปปีเศษๆเฟื่องฟ้าก็สังเกตเห็นอาการดหม่อลอยของบุหงาที่ถี่ขึ่นๆทุกวันจนกลัวว่าจะเป็นอันตราย  เธอถามว่าเหม่อถึงใครก็ไม่ยอมตอบ  เวลาผ่านไปยิ่งเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆเธอจึงต้องบังคับพาพี่สาวตัวเองไปหาหมอ

“ผู้ป่วยมีอาการเข้าข่ายของโรคซึมเศร้นะครับ”คำวินิจฉัยของหมอทำให้เฟิ่องฟ้าเป็นกังวลเป็นอย่างมาก

“แล้วมันร้ายแรงมากไหมคะหมอ”

“ถ้าไม่รีบรักษาอาจจะไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง  นำไปสู่การฆ่าตัวตายได้นะครับ”

“เข้าใจแล้วค่ะ  ฉันฝากคุณหมอด้วย”

เฟื่องฟ้าพยายามทำทุกอย่างให้บุหงากับมาเป็นปกติ  ไม่ให้บุหงาไปทำงานหางานอดิเรกให้ทำ  ส่วนตัวเธอทำงานน้อยลงพยายามหาเวลาว่างใช้กับบุหงาให้ได้มากที่สุด

แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปนานเข้า  อาการป่วยของบุหงายิ่งรุนแรงขึ้น  เธอไม่ยอมกินยอมนอนจนร่างกายอ่อนแอทรุดหนัก  แม้กระทั่งแรงหายใจยังแทบจะไม่มี

“เฟื่องฟ้า...มาหาพี่หน่อย”เสียงโรยแรงของบุหงาดังขึ้นเบาๆบนเตียงผู้ป่วย  คนน้องรีบรุดไปหากุมมือคนพี่ไว้เบาๆ

“เหนื่อยมากไหม”บุหงาถามยิ้มๆ  เฟื่องฟ้าเพียงแต่ส่ายหน้าให้แล้วยิ้มน้ำตาคลอ

“พี่มีเรื่องจะบอก...ที่เธอถามว่าพี่เอาแต่คิดถึงใคร แฮ่ก พี่จะบอกเธอ”

“ไม่พี่  พี่ไม่ต้องบอกหนู  หนูไม่อยากรู้แล้ว พี่พักนะยิ่งพี่พูดพี่จะยิ่งเหนื่อย”เฟื่องฟ้าน้ำตาไหลอาบแก้ม  ถ้าบุหงาตัดสินใจจะบอกหมายความว่าเวลานั้นใกล้เข้ามาถึงทุกที  เธอไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น

“คนคนนั้นคือลูกชายพี่...เขาชื่อ ‘ทศกัณฐ์’ มีดวงตาสีเขียวหม่นๆ ผมสีน้ำตาล  หล่อมากๆเลย”บุหงาไม่ได้ฟังคำทัดทานของน้อง พูดไปยิ้มไปราวกับมีความสุขมากๆที่นึกถึง

“พี่จำเป็น...แค่ก...ต้องจากมา  เพื่อรักษา...ความเป็นมนุษย์ปกติของเขาไว้  พี่หวัง...ว่าพวกเขาจะรักษาคำพูด”น้ำตาบุหงาไหลรินออกจากดวงตาสวยช้าๆเมื่อนึกถึงเหตุผลที่เธอต้องจากมา

“พี่จ๋า...”เฟื่องฟ้ารู้สึกสงสารพี่สาวเธอจับใจ

“น้องพี่...หนูอย่าร้องไห้นะ...พี่ขอโทษที่ทำให้หนูต้องมาเหนื่อยกับพี่ที่ไม่ได้เรื่องคนนี้  พี่ยังไม่ได้ทำอะไรให้สมกับคนเป็นพี่เพื่อน้องเลย  แฮ่กๆ”บุหงาพยายามเค้นเสียงบอกน้องช้าๆ  แรงเธอใกล้จะหมดเต็มที

“พี่อย่าขอโทษ  หนูเต็มใจ  หนูรักพี่นะ  ฮืออออ”เฟื้องฟ้ากุมมือคนพี่แนบแก้ม  น้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย

“พี่ก็รักหนู  ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลย  พี่ดีใจนะจริงๆ”คนพี่ยิ้มให้น้องสาวทั้งน้ำตา

“พี่มีเรื่องอย่างสุดท้ายจะขอร้องหนู...ถ้าเกิดว่าวันหนึ่ง  เด็กผู้ชายคนนั้นมา...ตัวพี่อาจไม่ได้ยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว...พี่ฝากหนูบอกเขาว่า...แม่รักหนูนะ  ขอโทษที่แม่สามารถทำให้หนูได้แค่นี้  แค่กๆ  ดูแลตัวเองดีๆ  อย่าทำร้ายคนอื่นเหมือนผักปลา  และจงปกป้องคนที่ตัวเองรัก   ถึงแม่จะไม่อยู่ตรงนี้แล้ว  แม่ก็ยังเป็นแม่หนูเสมอ  แม่ไม่เคยทิ้งหนูไปไหนจะอยู่ตรงนี้ในใจเสมอเมื่อยามคิดถึงกัน...นะ”เฟื่องฟ้าพยักหน้ารับทั้งน้ำตา

“หนูสัญญา  ถ้าเขามากนูจะบอกเขาให้ ฮึ่ก  พี่พักนะ”

“พี่ขอบใจหนูมากๆ  ดูแลตัวเองด้วยนะน้องสาวของพี่  อยู่ดูแลเขาแทนพี่ด้วย พี่เหนื่อยมากแล้วจริงๆ”บุหงาค่อยๆหลับตาลงพักผ่อนไปทั้งน้ำตา

คนน้องได้แต่ออกไปร้องไห้ที่ระเบียง  เพราะไม่อยากให้พี่กังวลหรือไม่สบายใจ  เธอเกลียดความรู้สึกนี้  ความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเฝ้ามองคนที่เธอรักค่อยๆจากไปทีละคน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

กลางดึกคืนนั้นบุหงาได้จากไปอย่างสงบ  เสียงร่ำไห้ราวกับจะขาดใจของเฟื่องฟ้าดังลั่นห้องพักในโรงพยาบาล  น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลอาบแก้มนวลเหมือนไม่มีวันจะหยุด  ยืนมองส่งพี่สาวขึ้นสวรรค์ไปอีกคนด้วยความอาลัย

‘ฟ้ามีตาจริงๆรึเปล่านะ....ทำไมถึงได้พรากคนที่เธอรักไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า...เธอจะอยู่ต่อไปยังไง  ชีวิตต่อจากนี้จะมีความสุขได้ยังไง  เธอเหนื่อย  เหนื่อยที่จะหายใจต่อเหลือเกิน...’


+++++++++++++++++++++++++++++

ยังไม่ตายนะครัชชชชช  ขอโทษจริงๆเกือบ3สัปดาห์(หลบตีนแปป)ที่ห่างหาย  :z6:  สอบเสร็จแล้วกลับ ตจว.เลยง่ะ  เที่ยวไม่หยุด  ปาร์ตี้ยิงยาวทุกวันยันปีใหม่  จะตื่นมาแต่งตอนพิเศษก็ไม่ไหวจริงๆช่วงนั้น สมองมึนๆไปหมด  ใช้วันหยุดโคตรคุ้ม  ตอนนี้กลับมาละแต่เปรมยังยุ่งๆเรื่องเรียนกับย้ายหออยู่นะคะ  เลยไม่ค่อยมีเวลา เพื่อนก็มาตามให้ลงยิกๆ  แต่จะกลับมาอัพถี่ๆให้ได้ล่ะ  ไม่ทิ้งแน่นอนนนน :z2:

ตอนนี้ก็เตรียมตัวอย่างที่บอก  เตรียมตัวหยิบทิชชู่น่ะนะ  ใช้เวลาแต่งนานพอสมควร(3วัน มัวแต่เล่นอยู่) ปมเรื่องแม่ทศกัณฐ์ยังไม่หมดแค่นี้  แต่จะค่อยๆคลายออกทีละนิดและตัวตนของพี่ยักษ์กำลังจะเปิดเผย  ฮ่าๆๆ(กูบ้าไปแล้ว)

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แฟนตาซีน้าาาาา  แต่ทศกัณฐ์ไม่เหมือนมนุษย์ปกติยังไงต้องติดตามเน้อ

ปอลอลิง.ถ้าพูดว่าสวัสดีปีใหม่ตอนนี้จะทันไหม? เอาเป็นว่า สวัสดีปีใหม่ฮับทุกคน  มีความสุขมากๆนะ  จุ๊ฟๆ :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-01-2017 16:30:21 โดย YINGPREM »

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #215 เมื่อ10-01-2017 16:02:00 »

ทศกัณฐ์ไม่ใช่มนุษย์หรือเปล่าคะ
ยังทันค่ะ สวัสดีปีใหม่คุณคนเขียน
เป็นกำลังใจให้ค่า  :L2:
ติดตามค่ะ
 :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #216 เมื่อ10-01-2017 16:33:06 »

รักษาความเป็นมนุษย์ แปลว่าครอบครัวทศนี่เป็น ผู้มีอิทธิพล นักฆ่าไรงี้ปะคะเนี่ย สงสัย แต่น้องรันต์เราจะโดนกินไหม ดูแล้วทศก็คนนะ แค่อารมณ์ไม่ปกติ เรื่องแม่นี่อยากรู้มาก เรื่องรันต์ยากรู้มากกว่า
ปล.ว่าแล้วว่าเฟื่องฟ้าต้องไม่ใช่ ตงิดมาก
น้องรันต์จะโดนจัยกินละชะ ทำไม น้องรันต์มีความคิดอยากลอง ถ้าพี่ทศรู้ รันต์เอ้ยรันต์ 555

ออฟไลน์ mxb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #217 เมื่อ10-01-2017 16:44:17 »

เปิดมาอื้อ อ้า นี่รีบเลื่อนลงมาอ่านเลย
นึกว่าน้องรันต์จะโดนกินสะแล้ว55555
เกิดอะไรขึ้นกับคุณยักษ์น้อ รอตอนต่อไป :katai2-1:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #218 เมื่อ10-01-2017 17:13:17 »

 :กอด1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #219 เมื่อ10-01-2017 18:46:10 »

บุหงา แม่ทศกัณฐ์ จำต้องจากลูกมา
เพราะทางฝ่ายพ่อของทศกัณฐ์บังคับ
เพื่อรักษา...ความเป็นมนุษย์ปกติของทศกัณฐ์ไว้ 
แสดงว่าทศกัณฐ์ ไม่ใช่มนุษย์เต็มตัว
มีความเป็นยักษ์อยู่ในตัวทศกัณฐ์ด้วย
แต่ทศกัณฐ์ จะอ่อนโยนกับรันต์  :mew1: :mew1: :mew1:
รอต่อไป อย่างพิศวงสงสัย  :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
« ตอบ #219 เมื่อ: 10-01-2017 18:46:10 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #220 เมื่อ10-01-2017 19:09:05 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #221 เมื่อ10-01-2017 19:31:33 »

ครอบครัวพี่ยักษ์นี่มีความลับอะไรกันนะ
จะรออ่านนะคะ สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #222 เมื่อ10-01-2017 19:50:15 »

หูยยย อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ
 :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #223 เมื่อ10-01-2017 20:09:23 »

อยากรู้ความลับพี่ยักษ์ทศกัณฐ์ :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #224 เมื่อ10-01-2017 20:59:05 »

 :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #225 เมื่อ10-01-2017 21:13:30 »

เศร้าเลย


ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #226 เมื่อ10-01-2017 23:55:04 »

อยากรู้ว่าครอบครัวทศกัณฐ์เป็นอะไร

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #227 เมื่อ11-01-2017 07:32:19 »

 :z3:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #228 เมื่อ11-01-2017 14:49:54 »

คุณแม่จากไปแล้ว


โอ๋เอ๋นะ

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #229 เมื่อ12-01-2017 00:42:41 »

 :a5: :a5: o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
« ตอบ #229 เมื่อ: 12-01-2017 00:42:41 »





ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #230 เมื่อ12-01-2017 06:04:18 »

อ่านอีกรอบ มีคำถาม ลุคกับสมิธ นี่ มีซัมติ้งกันใช่ไหม ลุคคือตราบาป?? ของสมิธ คือครั้งแรกของสมิธอ๋อ แล้วลุค นี่ด้วยปะที่สั่งฆ่าวัยรุ่น พร้อมตัดมือ

นี่ก็ยังอยากรู้ น้องรันต์ กับยักษ์ รู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า เหมือนต้องรู้จักกันมาก่อนสิ หรือยักษ์รู้จักรันต์คนเดียว

เค้าอยากรู้ไวไวคนเขียน มาต่อนะนะ  สงสารคนอ่านตาดำ ๆ

แต่ พี่ทสหึงน้องรันตืแล้วชะมะ  หึงแม้แต่กับพี่สมิธ คึคึ

ออฟไลน์ fsbeentaken

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #231 เมื่อ12-01-2017 09:40:12 »

ชอบค่ะ ทำปมได้ดีเลยยยย

ออฟไลน์ จอมจุ้น6002

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 13♡ [10/1/60]
«ตอบ #232 เมื่อ13-01-2017 13:05:47 »

ยิ่งอ่าน ยิ่งลุ้น ยิ่งอยากค้นหาตัวตนจริงๆของทศกันฐ์

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 14♡ [13/1/60]
«ตอบ #233 เมื่อ13-01-2017 15:24:56 »

ใจยักษ์  14


“...เรามีโอกาสได้ใช้ชีวิตด้วยกันเกือบ3ปี  อาจจะเป็นเป็นเวลาที่ไม่มาก แต่สำหรับฉันมันก็คุ้มค่าแล้ว”ร่างบางยิ้มเศร้าๆเล่ามาถึงตอนจบ  แม้กระทั่งตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่สาวเธอพูด  ทศกัณฐ์ไม่เหมือนคนปกติทั่วไปตรงไหน...แน่นอนว่าเขาอาจเย็นชาไปบ้าง  แต่เขาก็ยังมีอารมณ์มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์ปุถุชนปกติทั่วไป

ทั้งบ้านเกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง...ทศกัณฐ์นิ่งเงียบ  ไม่ไหวตัวเลยสักนิด

ช็อคตายไปแล้วรึเปล่าวะ

“แล้วตอนนี้น้าเฟื่องฟ้าเป็นยังไงบ้างครับ  สบายดีรึเปล่า?”ผมถามขึ้นทำลายความเงียบ

“ก็ตามอัธภาพจ้ะ  น้าพึ่งเปลี่ยนงานมาทำฟรีแลนท์ได้3-4เดือนแล้วจ้ะ”

“อ่อ...อย่าหักโหมมากนะครับ”เธอยิ้มบางๆตอบแทน

พรึ่บ!

“กลับ!”อยู่ๆทศกัณฐ์ก็ลุกขึ้นกระทันหันพร้อมสั่งเสียงเข้ม  ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปโดยไม่รอใครเลย  โจเซฟกับสตีฟก็รีบตามออกไป  น้าเฟื่องฟ้าก็หน้าเสียลงถนัดตา

“เขาอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย  น้าเฟื่องฟ้าอย่าคิดมากเลยนะครับ”ผมกุมมือเธอไว้หลวมๆพร้อมปลอบ

“น้าเป็นคนไม่ค่อยจะได้เรื่องนัก  ทำอะไรก็ไม่ค่อยจะสำเร็จ  เรื่องทศกัณฐ์น้าไม่อยากผิดคำพูดกับพี่บุหงาแต่ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ  น้องรันต์รู้จักเขาระหว่างนี้น้าอยากให้ช่วยน้าดูแลทศกัณฐ์จะได้ไหมจ้ะ”สายตาอ้อนวอนที่มองสบทำเอาผมอดรู้สึกสงสารไม่ได้  ทำไมเขาถึงต้องมีแต่คนคอยดูและนะ  ผมไม่เข้าใจจริงๆ

“รันต์คงจะรับปากไม่ได้หรอกครับ  เพราะรันต์กับทศกัณฐ์ไม่ได้เป็นอะไรกัน  อีกอย่างเขาโตแล้วไม่จำเป็นต้องมีคนดูแลหรอกครับ”ผมปฏิเสธเรียบๆ  สงสารก็สงสารอยู่  แต่มันไม่ใช่หน้าที่ของผมที่ต้องเอาชีวิตไปผูกเกี่ยวกับเขาตลอด  เพราะแค่ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็ทำเอาชีวิตผมปั่นป่วนอย่างที่ไม่เคยเป็น

น้าเฟื่องฟ้าถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ได้  ทำได้เพียงแต่ก้มหน้ายอมรับความเป็นจริง

“น้าเฟื่องฟ้าอย่าเอาแต่โทษตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลยครับ  ตอนนี้เขาพึ่งรับฟังเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจเขามาก  ไม่แปลกที่เขาจะแสดงออกแบบนั้น  รันต์เชื่อว่าเดี๋ยวเขาต้องกลับมาที่นี่อีก  พอถึงเวลานั้นน้าเฟื่องฟ้าก็ค่อยทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับน้าบุหงาก็ได้นี่ครับ...รันต์ต้องขอโทษถ้าการกระทำกับคำพูดของรันต์เป็นการล่วงเกินหรือทำให้น้าเฟื่องฟ้ารู้สึกไม่ดีนะครับ”ผมยกมือไหว้อย่างสุภาพที่สุด

“ไม่เป็นไรจ้ะน้าจะพยายามนะน้องรันต์  ขอบใจมากนะลูก”เธอยิ้มบางๆพร้อมลูบหัวผมเบาๆ

“ไม่เป็นไรครับ  ดูแลตัวเองด้วยว่างๆรันต์จะมาเยี่ยมนะครับ”ผมร่ำลาน้าเฟื่องฟ้าอีกเล็กน้อยก่อนจะขอตัวกลับ

พอเดินพ้นจากตัวบ้านออกมา  ปรากฏว่าทศกัณฐ์ยืนพิงรถรออยู่  เขาสูบนิโคตินเข้าปอดเฮือกใหญ่ทีเดียวสองมวน  ที่พื้นมีก้นบุหรี่ตกอยู่อีกสอง  เขาหันมามองผมนิ่งเมื่อตัวผมก้าวพ้นประตูบ้านออกมา  ทศกัณฐ์ดูดบุหรี่เฮือกสุดท้ายก่อนจะปล่อยลงสู่พื้นใช้เท้าขยี้ดับไฟแล้วหมุนตัวเปิดประตูรถเข้าไปเอง

ผมได้แต่ก้าวขึ้นไปบนรถเงียบๆ  ภายในรถมีแต่ความเงียบ  อึดอัดยิ่งกว่าตอนขามาซะอีก

เนิ่นนานในความรู้สึกผมแต่จริงๆแล้วพึ่งผ่านไปแค่40นาที  รถยนต์คันหรูจอดเทียบสนิทที่หน้าหอพักของผมเอง  ผมหันไปมองทศกัณฐ์ที่มองออกไปนอกหน้าต่างนิดๆ

“วันนี้เหนื่อยมากพอแล้ว  คุณรันต์พักผ่อนเถอะครับไม่ต้องไปทำอาหารให้คุณทศกัณฐ์”สตีฟลงมาเปิดประตูรถให้ผมแล้วบอก  ผมพยักหน้าเข้าใจ  ก้าวลงจากตัวรถ  ส่งยิ้มตามมารยาทให้สตีฟแล้วเดินขึ้นหอพักโดยไม่ได้หันกลับไปมองพวกเขาอีก

เอาเถอะ...เขาจะเป็นยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของผมนี่

ผมไม่จำเป็นต้องรู้สึกอะไร....


++++++++++++++++++++++++++

เช้าวันต่อมา

Rrr  Rrr  Rrr

“สวัสดีครับ”

(สวัสดีค่ะ  ตอนนี้กำลังเรียนสายอยู่กับคุณเหรันต์  ราชรัตน์ใช่ไหมคะ)

“ครับ มีอะไรรึเปล่าครับ”

(ดิฉันติดต่อมาจากธนาคาร CC นะคะ  เรื่องความคืบหน้าของเงินในบัญชีน่ะค่ะ  สะดวกคุยไหมคะ?)

“สะดวกครับ  เชิญพูดได้เลย”ขยับตัวลุกจากเตียงนั่งดีๆอย่างตั้งใจฟัง

(ทางเราได้ตรวจสอบต้นทางของเงินในบัญชีที่ฝากเข้ามา  พบว่ามาจากธนาคารRในกรุงลอนดอนนะคะ)

“...ครับ  ขอบคุณมากครับ”ผมนิ่งไปนานกว่าจะตอบปลายสาย

(ยินดีรับใช้ค่ะ  สวัสดีค่ะ) ติ้ด!

ลอนดอน...อังกฤษ...หรือว่าจะเป็นทศกัณฐ์!

ผมเดาว่าเป็นใครไม่ออกจริงๆนอกจากเขา

ผมรีบผุดลุกขึ้นจากเตียง  รีบเข้าห้องน้ำชำระร่างกายให้เรียบร้อย  ก่อนออกจากห้องไม่ลืมหยิบกุญแจรถคันหรูออกไปด้วย

อยากรู้อะไร...ก็ไปถามเลยสิวะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

แกร็ก! นี่มัน...เกิดเรื่องอะไรขึ้นวะเนี่ย!!!

ภายในห้องหรูที่ตกแต่งอย่างสวยงาม  ตอนนี้กลายเป็นเศษซากปรักหักพังไปหมด  ตั้งแต่ตู้รองเท้าข้างประตูยันทีวีจอแบนขนาดยักษ์ที่แตกเป็นเสี่ยงๆ  สภาพในห้องนั่งเล่นไม่มีอะไรดูได้เลยสักชิ้น  เคาน์เตอร์บาร์ที่ทำจากหินเนื้อดีนำเข้า  ก็แตกร้าวไม่เหลือเค้าความสวยงาม  โซฟาตัวยาวโดนกรีดซ้ำๆจนไม่เหลือชิ้นดี  เศษแก้วเศษไม้ของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆกระจายอยู่เต็มทั่วห้อง  ที่สำคัญ...รอยเลือดเป็นหย่อมๆนี่มันของใคร!

ผมรีบตรงดิ่งไปที่ชั้นสองพยายามเดินระวังไม่ให้เศษกระจกที่เกลื่อนไปทั่วบาดเท้า

มือผมคว้าลูกบิดได้ก็เปิดปังเสียงดังอย่างไม่สนใจมารยาทอะไรทั้งนั้น  ข้างในมืดสนิทผมจึงเลื่อนมือไปกดเปิดไฟ

แสงสว่างภายในห้องสว่างวาบขึ้นมา  คนที่ผมตามหานั่งชันเข่าอยู่ที่พื้นปลายเตียงขาอีกข้างเหยียดไปกับพื้น  ที่มือถือขวดเหล้าสีเข้มที่เหลือเพียงก้นกรมนิ่งๆ 

สายตาเขาไม่ได้หันมาสนใจผู้บุกรุกอย่างผมสักนิด  แววตาจดจ้องอยู่แค่กับหุ่นยนต์กันดั้มตัวหนึ่ง  ผมพึ่งสังเกตว่าตามข้อนิ้วเขามีแผลแตกแทบทุกนิ้ว

ผมค่อยๆเดินเข้าไปในห้องช้าๆ  ภายในห้องสะอาดเรียบร้อยดีไม่มีร่องรอยโดนทำลายเหมือนด้านล่าง

“พี่...ทศกัณฐ์”เรียกเบาๆ  ยังรักษาระยะห่างเอาไว้

“...”ไร้ปฏิกิริยาตอบรับ  ผมค่อยๆขยับร่างกายเข้าไปใกล้เขาขึ้นอีกนิดแม้สัญชาตญาณจะร้องเตือนว่าอย่าใกล้เขาตอนนี้จะปลอดภัยที่สุด

มือผมค่อยๆยื่นไปข้างหน้าหมายจะสะกิดให้เขารู้สึกตัว  แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร

หมับ! เพล้ง! โครม! อึก!

ทศกัณฐ์กระชากแขนผมแล้วดึงอย่างแรงจนไม่ทันตั้งตัว  ผมล้มลงกับพื้นเขาขว้างขวดเหล้าทิ้งก่อนจะยึดลำตัวผมลงกับพื้น  มือหนาบีบรอบคอผมอย่างแน่นจนหายใจไม่ออก

ผมดิ้นรนสุดตัว  สองมือพยายามแงะมือของทศกัณฐ์ออกจากลำคอ  ตัวก็ดิ้นไม่ได้มากนักเพราะอีกคนนั่งทับไว้ไม่ให้ขยับไปไหนได้

สายตาผมมองลึกเข้าไปในดวงตาทศกัณฐ์หวังให้เขาปล่อย  แต่สิ่งที่สะท้อนออกมาจากดวงตาเขามีเพียงความว่างเปล่า  ยิ่งมองลึกลงไปเท่าไหร่ยิ่งเหมือนกำลังดำดิ่งอยู่ในก้นเหว

ผมพึ่งรู้ในวันนี้เองว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผมพอจะเข้าใจนิสัยใจคอของเขาได้บ้าง  แต่ตอนนี้...ไม่เลย

เขาเป็นอีกคนที่ผมไม่รู้จัก  สายตาเขาไม่เหมือนมนุษย์ด้วยซ้ำ

มันว่างเปล่า...เย็นเยียบเกินกว่าจะหาคำมาบรรยาย

ชั่ววินาทีที่ผมคิดว่าอาจจะต้องตายแน่ๆ...ผมกลับรู้สึกสงสารเขาขึ้นมา

เขาโตมาแบบไหน  ใครกันที่เลี้ยงคนๆหนึ่งให้กลายเป็นปีศาจได้ขนาดนี้

ผมหลับตาลงอย่างยอมรับสภาพ...

ผมคงไม่โกรธเขาหรอก...เพราะเขาน่าสังเวชใจยิ่งกว่า

“เฮือก...แค่กๆๆ”แต่ก่อนที่ผมจะหมดลมหายใจ  แรงบีบรัดที่ลำคอก็หลุดออกไปอย่างกะทันหัน  ผมรีบสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่จนสำลัก  ลืมตาขึ้นเห็นชายฉกรรจ์3คนช่วยกันล็อคแขนและลำตัวทศกัณฐ์ไว้  และผู้ชายร่างสูงเพรียวคุ้นตาที่กำลังหันหลังให้ผมกำลังฉีดบางอย่างเข้ากับต้นคอแกร่งของทศกัณฐ์

สักพักเดียวทศกัณฐ์ก็สลบไป  ชายทั้งสามช่วยกันยกร่างของเขาไปนอนบนเตียง  คนที่ถือเข็มฉีดยาหันกลับมามองผมพร้อมฉีกยิ้มบางๆให้  บนใบหน้าหวานมีรอยช้ำหนักที่มุมปากขวาและข้างแก้มซ้าย  เหนือขึ้นไปบนหน้าผากมีผ้าพันแผลพันไว้แต่ก็ยังมีรอยเลือดจางๆอยู่

“เกิดอะไรขึ้นกับคุณสตีฟ...”ผมถามอย่างตกตะลึงเมื่อตั้งสติได้

“คุณรันต์ไม่เป็นอะไรมากนะครับ”เขาเลี่ยงที่จะตอบโดยการย้อนถามผมกลับ  ร่างเพรียวช่วยพยุงผมให้ค่อยๆลุกขึ้นยืน

“ผมโอเค...นี่มันเกิดอะไรขึ้น”ถามพร้อมจับลำคอตัวเองเบาๆอย่างไม่คาดฝัน

“เราไปคุยกันที่ห้องผมดีกว่าครับ”เขาบอกก่อนจะเดินนำออกจากห้องไป  ผมเหลือบไปมองทศกัณฐ์ที่หลับอยู่นิดๆ  ชายฉกรรจ์ทั้งสามอยู่ประจำแต่ละจุดในมุมห้อง  เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงจึงเดินตามสตีฟออกไป
.
.
.
.
.
.
.
.

ตอนนี้ผมมาอยู่ที่ห้อง 2910 เหมือนตอนแรกที่โจเซฟเคยพามาอีกครั้ง  ผมนั่งรอที่โซฟาห้องนั่งเล่น  ส่วนคนเจ็บเดินเข้าครัวไปเอาน้ำมาให้  จริงๆไม่อยากใช้คนเจ็บหรอก  แต่เมื่อเจ้าบ้านสั่งให้รอเฉยๆผมก็ต้องตามนั้นแหละ

กึก! สตีฟวางแก้วน้ำไว้ตรงหน้าก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกัน

“คุณอาจสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่ห้องนั่งเล่น  ผม  และคุณทศกัณฐ์”ผมพยักหน้ารับเมื่อเขาเกริ่นขึ้น

“จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากหรอกนะครับ”เขาพูดยิ้มๆแต่ผมสังเกตแววเศร้าในตาเขาแวบหนึ่ง

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอ...เขา-เกือบจะ-ฆ่า-ผม”ผมย้ำเสียงเข้ม

“ฮ่ะๆๆ  ต้องขอโทษด้วยจริงๆ  แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดคุณที่เข้าไปไม่ถูกเวลา”เขาหัวเราะฝืนๆมาให้  สรุปผมผิดหรอวะ?

“ผมจะตรัสรู้ไหมว่าเวลาไหนเขาปกติไม่ปกติ  แล้วคุณโจเซฟไปไหนอย่างนั้นหรอครับ?”ผมว่าอย่างโมโห  ก่อนจะถามถึงอีกคนที่ไม่เห็นเลยตั้งแต่เข้ามา

สตีฟเบือนหน้าไปอีกทาง  เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ  เงียบไปนานก่อนจะเอ่ยช้าๆ

“...ICU ครับ”เขาบีบมือตัวเองไปมาเหมือนระบายความเครียด

“...อย่าบอกว่าเพราะเขา”ผมนิ่งไปนานกว่าผมจะเค้นหาเสียงตัวเองเจอ  สตีฟเพียงยิ้มแทนคำตอบ  ทั้งรอยแผลบนร่างกายเขา  แค่นี้ก็ชัดเจนเพียงพอแล้ว

นี่มันเกิดอะไรขึ้น  นั่นลูกน้องคนสนิทของเขานะ  กับผมที่โดนทำร้ายน่ะไม่เท่าไหร่เพราะพึ่งจะรู้จักกัน

ผมได้แต่ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น

“นี่ไม่ใช่ความผิดคุณทศกัณฐ์  และมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้น”

“นี่ยังไม่ใหญ่พออีกหรอ  ต้องให้เขาฆ่าคนตายเลยไหมถึงจะเป็นเรื่องใหญ่!”ผมสวนกลับทันที

“คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าเขา!!!และเขาจะไม่ฆ่าใคร!!!...อีก”สตีฟตะคอกดังลั่นลุกขึ้นมากระชากคอเสื้อผมอย่างแรง  แต่ท้ายประโยคกลับสั่นเครืออย่างห้ามไม่อยู่  แววตาเขาสั่นไหวรุนแรง

“...”

“...”

“โอเค...ผมขอโทษ  ผมผิดเองนี่มันไม่ใช่เรื่องของผมเลย”ผมเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย  นั่นสิ มันไม่ใช่เรื่องของผมทำไมผมจะต้องมาเป็นเดือดเป็นร้อนแทน ผมค่อยๆแกะมือสตีฟออกจากคอเสื้อช้าๆ  เขายอมปล่อยออกง่ายๆสายตาเหมือนรู้สึกผิด

“คุณรันต์ ผม-”

“คุณพูดถูกสตีฟ...ผมไม่มีสิทธิ์เลยสักนิด  มีหน้าที่แค่ทำตามที่พวกคุณบอกก็พอ”ผมยิ้มมุมปากให้นิดๆ  มือล้วงหยิบกุญแจรถวางไว้ที่โต๊ะ “ผมเอามาคืน  จะเรียกใช้เมื่อไหร่ก็โทรมาแล้วกันนะครับ...ขอตัวก่อน”ว่าจบก็เดินออกจากห้องมาทันที

ผมช่างทำตัวแย่เหลือเกิน  ไปยุ่งเรื่องคนอื่นโดยที่เขาไม่ต้องการ  ไม่ได้สนิทกันด้วยซ้ำ  จะถูกเขาว่าก็สมควรแล้ว

แต่ไม่รู้ว่าทำไมในใจลึกๆผมถึงรู้สึกเจ็บแปลบๆในอกกับคำๆนั้น  รอยยิ้มเย้ยหยันตัวเองปรากฏบนใบหน้า

ไม่มีสิทธิ์งั้นหรอ...ก็คงอย่างนั้นแหละ...

++++++++++++++++++++++++++++

“เย็นนี้ไปไหน?  ไปดูกูซ้อมบอลป่ะ?”เมฆเอ่ยชวนหลังเราเลิกเรียนคาบสุดท้ายของวันนี้

“อืม...ไปดิ”ผมตอบเรียบก่อนจะโดนมันกอดคอพากันออกจากห้องเรียน

“ช่วงนี้เป็นอะไรรึเปล่า  ดูเงียบๆกว่าปกติ”เสียงคนข้างๆถามอย่างเป็นห่วง

“เปล่า  ก็ปกตินี่”ตอบเสียงโทนเดิม  เมฆหันมามองหน้าผมนิ่งๆแวบนึง  ก่อนจะเดินต่อ

“ตามใจ...อยากบอกเมื่อไหร่ค่อยบอก”เมฆพูดขึ้นลอย  ผมได้แต่พยักหน้ารับเบาๆ

ผมก็ปกติดีนี่...

โอเค...ผมไม่ปกติไปจากเดิมเล็กน้อย  แค่เล็กน้อยนะ

ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น  นี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว  พวกเขาไม่มีการติดต่อมา  เงียบหายไปซะเฉยๆ  และตัวผมก็ไม่กล้าเสนอหน้าไปหรอกครับ  อีกอย่างรอยแดงที่โดนบีบคอก็พึ่งจะจางลงเอง

จะเอายังไงกันแน่ก็ไม่พูดออกมาตรงๆ...ผมเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ

ช่วงนี้อารมณ์ผมเลยเป็นอึนๆเงียบๆจนเมฆสังเกตได้

“อีกอาทิตย์เดียวก็สอบแล้ว  มึงอ่านไปถึงไหนละ”เมฆถามระหว่างทาง

“เกือบจบหมดละ  เหลืออีก2 ตัว วิชาเสรีอ่ะ”

“โหยยยย  ติวกูเลยสาสสส  พึ่งเริ่มเองกู  ไม่ทันแน่ๆ”เมฆโอดครวญ

“เออๆ  ก็มึงมัวแต่เล่น”ผมบ่นเอือมๆ

“น่ารักจริงๆ  น้องใครเนี่ย”ขยี้ผมกูอีก

Rrr  Rrr  Rrr

“เออ  ว่าไงวะ”เมฆกดรับโทรศัพท์ “เอ้าไอ้สัด  ยืมกูแล้วลำบากกูไปเอาอีก”

“เออๆทีหลังกูจะไม่ให้แม่งยืมละ...สัสกวนตีน  แค่นี้แหละเดี๋ยวไปเอา”เมฆวางสายแล้วยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงอย่างหงุดหงิด

“เดี๋ยวแวะไปโรงยิม3ก่อนนะ”เก่งพาผมเดินเลี้ยวไปอีกทาง

“มีอะไรหรอ  ท่าทางหงุดหงิดเชียว”

“ไอ้เก่งอ่ะดิ  เมื่อเช้ามายืมไทด์กู  คือแม่งมีประชุมแต่เสือกลืมใส่มา  ควายไง...พอดีกูมีติดรถเลยให้แม่งยืม...แล้วมึงดูมันเดะ  ยังให้กูไปเอาเองอีก  จิกหัวกูนี่ยิกๆๆ”บ่นไปทั้งทาง

“ฮ่าๆๆๆ  มึงยอมตกเป็นเบี้ยล่างมันเองนิ”

“อย่างกูไม่เคยอยู่ล่างโว้ยย  บนตลอดคร้าบบ”เสียงกระล่อนเชียว

“บนอะไรของมึง?”ผมถามงงๆ

“หึๆ  เป็นเด็กไม่ต้องรู้หรอกไอ้น้อง”ทำเสียงมีเลสนัยอีกละ เฮ้ออ
.
.
.
.
.
.
.
.

“มึงนั่งรอนี่  กูไปขี้แปบ  เดี๋ยวไอ้เก่งมา”เมฆบอกก่อนจะวิ่งไปอีกฝั่งที่เป็นห้องน้ำของยิม  ผมก็ขึ้นไปนั่งรอบนที่นั่งไม่สูงมากนักตามที่มันบอก

มองไปบนสนามมีนักกีฬาบาสเกตบอลกำลังวอร์มกันอยู่ข้างสนาม  หนึ่งในนั้นมีคนที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ด้วย

พี่เซนท์...ข้างๆกันก็เป็นพี่ดี

เพียงแวบเดียวร่างโปร่งก็หันมาสบตากับผมโดยบังเอิญ  เขายิ้มกว้างออกมาทันทีที่เห็น  ผมก็ยิ้มบางๆตอบกับไป  คนตัวเตี้ยกว่าวิ่งมาชิดอัฒจรรย์กวักมือเรียกผมไห้ไปหา  ผมจึงเดินลงไปหาเขาแต่โดยดี

“หายไปไหนมา  ไม่เจอเลย”พี่เซนท์แกล้งถามเสียงงอนๆ  แก้มป่องขึ้นนิดๆ

“ผมไม่ได้ไปไหน  แค่เราไม่เจอกันเอง”

“ไม่เชื่ออออ  ไอ้ทศก็หายหัว  ไม่มาเรียนอีกแล้ว  ไปหาที่ห้องก็ไม่เจอ  ไอ้สมิธก็บ่นหาทั้งน้องรันต์ทั้งไอ้ทศทุกวัน  พี่ล่ะปวดหัว”พี่เซนท์ขยี้ผมตัวเองให้ยุ่งๆประกอบคำพูด  ผมทำได้แค่ยิ้มบางๆตอบอย่างไม่รู้จะพูดอะไร

“แล้วนี่น้องรันต์มาทำอะไรที่นี่”

“ผมมาหาเพื่อนน่ะครับ  เดี๋ยวก็จะไปแล้ว”พอผมว่าจบพี่เซนท์ก็หน้าบึ้งทันที

“น้องรันต์อ่ะ  พี่ก็นึกว่าจะมาดูเค้า”

“ฮ่าๆๆ  ผมสัญญาว่าจะไปดูเพื่อนซ้อมบอลแล้วน่ะสิครับ”

“ชิ!”พี่เซนท์เบะปาก

“ผมขอโทษ  หายโกรธเถอะนะ”ง้อเขาหน่อย

“ไม่...”ปฏิเสธเสียงแข็ง  ก่อนจะหันมาทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ผม”แต่ถ้าวันนี้น้องรันต์ไปรับไอ้สมิธออกจากโรงพยาบาลกับพี่จะหายโกรธก็ได้   ขี้เกียจฟังมันบ่นจะแย่”พี่เซนท์พูดเสียงอ้อนๆ  กระพริบตาใส่ผมปิ๊งๆ

ผมทำท่าคิดหนัก  อืม...

“ก็ได้ครับ”ตอบตกลงในที่สุด  พี่เซนท์ยิ้มดีใจร่าเลย

“เคร  เอาเบอร์มา  แปบนะ”เขาวิ่งกลับไปเอาโทรศัพท์ที่โต๊ะแล้ววิ่งกลับมายื่นให้ผม  ผมกดเบอร์ตัวเองให้พี่

“เดี๋ยวพี่โทรหาอีกทีนะ”พูดจบก็รีบวิ่งกลับไปซ้อมต่อ

“รันต์  แฮ่กๆ”เสียงเรียกชื่อผมดังขึ้นอีกฝั่ง  เก่งวิ่งหอบๆมาหยุดอยู่ข้างๆผม

“ใจเย็นเพื่อน  กูไม่ค่อยรีบ”

“ไอ้เมฆขี้เสร็จยังอ่ะ”หลังจากลมหายใจกลับมาปกติ  เก่งก็ยิงคำถาม

“ยังเลย  นานแล้วนะเนี่ย  แล้วมึงรู้ได้ไง  พึ่งมาไม่ใช่อ๋อ?”

“กูโทรหามันว่าให้รอแปบ  กูติดพันประชุมเรื่องงานกีฬาอยู่  มันก็บ่นๆแล้วบอกว่าจะขี้รอนั่นแหละ  ทุเรศชิบหายไอ้สัด”เก่งพูดไปเบะปากไป

“ฮ่าๆๆๆ  แล้วทำไมถึงนัดมันให้มาเอาที่นี่วะ”ผมถามอย่างสงสัย

“ก็กูต้องมาซ้อมบาส  ขี้เกียจเดินอ้อมโลกไปสนามบอล”แล้วพวกกกูต้องอ้อมแทนว่างั้นเถอะ  ไอ้เมฆก็ฉลาดตลอด  ไม่ทันไอ้เก่งหรอกรายนั้น

“พวกมึงนี่น้าาา”ผมส่ายหัวอย่างเอือมระอาพวกมันสองคนเบาๆ

“งั้นเดี๋ยวกูไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ  เดี๋ยวเอาไทด์มาให้”เก่งหันมาบอกก่อนจะเดินไปอีกทาง

“รันต์  ไอ้เก่งมายัง?”หลังเก่งเดินจากไปแค่ครู่เดียว  เมฆก็เดินกลับมาจากห้องน้ำ

พวกมึงสองคนนี่ยังไง  คลาดกันตลอด

“มาแล้ว  แต่มันขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”

“อะไรวะ!กูขี้เกียจรอแม่งละ  มึงรอนี่เดี๋ยวกูมา”เมฆติดจะหงุดหงิดนิดๆ  ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทางเดียวกับที่เก่งเดินไปเมื่อกี้


เกือบๆยี่สิบนาทีต่อมา  เมฆเดินยิ้มออกมาด้วยสีหน้าอารมณ์ดีสุดๆต่างจากก่อนจะเข้าไปโดยสิ้นเชิงที่มือถือไทด์ออกมาด้วย  เก่งที่เดินออกมาก็ตีหน้ายุ่งแล้วเดินเลี่ยงไปลงสนาม

“มีอะไรดีๆรึไง? อารมณ์ดีมาเชียว”ผมถามเมื่อเมฆเดินเข้ามาใกล้

“หึๆสะใจอะไรนิดหน่อย”ก็พอจะเดาได้จากสีหน้าเก่งล่ะนะ

++++++++++++++++++++++


“ไอ้สมิธมันต้องดีใจมากแน่ๆที่น้องรันต์มา อิอิ”พี่เซนท์พูดขึ้น  ขณะที่เรากำลังเดินทางไปที่ห้องพักพิเศษพี่สมิธ

“ไม่ขนาดนั้นมั้งครับ”ผมยิ้มแหยๆตอบ

“จริงๆ  ไม่เชื่อถามไอ้ดีดู  มันบ่นถึงน้องรันต์ทุกวันจริงๆ”พี่ดีก็พยักหน้ายืนยันคำพูดพี่เซนท์  ผมได้แต่ยิ้ม

พวกเราพากันเดินมาเรื่อยๆระหว่างทางก็มีพี่เซนท์พูดเจี้ยวจ้าวอยู่ตลอด  จนกระทั่งมาถึงหน้าห้องที่พี่สมิธพักอยู่  พี่ดีเป็นคนเปิดประตูนำเข้าไปก่อนคนแรก  ตามด้วยพี่เซนท์และตบท้ายด้วยผม

“ช้าาาาาา”เสียงบ่นพี่สมิธดังลั่นห้อง

“ไอ้สัด  เสียงดังเพื่อ?” โอ้โดนพี่ดีว่าเข้าให้

“เออๆ  มึงดูก่อนว่ากูพาใครมา”พี่เซนท์โผล่ออกไปจากหลังพี่ดี  แต่ผมยังไม่ได้ขยับออกพี่สมิธจึงยังไม่เห็นผม

“ใคร?”พี่ดีขยับตัวออกให้พ้นทางผม  เผยให้พี่สมิธเห็นหน้าผมตรงๆ

“ดีครับ  หายดีรึยัง”ผมทักแล้วยิ้มให้บางๆ

“ไอ้น้องรันต์มึงหายเฮดไปไหนมา  ไม่รอมาตอนฝังกูเลยอ่ะ”พี่สมิธตรงดิ่งลงมาจากเตียงมาหาผมแถมล็อคคอผมเข้าให้  เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองธรรมดาแล้ว  แต่ยังเกรียนขึ้นไปนอนบนเตียงผู้ป่วยอยู่

“นี่ถ้าไม่โดนบังคับมึงก็คงจะไม่มาใช่ไหมเนี่ย”พี่สมิธถามขึ้นหลังจากเราหาที่นั่งกันเรียบร้อย

“แฮะๆ”ได้แต่หัวเราะเจื่อนๆส่งให้

“บทพวกมึง2คนจะหายหัวก็หายไปเลย  บทจะมาก็มาพร้อมกัน”พี่สมิธพูดหน่ายๆ

หมายความว่า...?

แกร็ก!ครืด!เสียงเปิดประตูระเบียงดังขึ้นเรียกความสนใจจากทุกคนในห้องให้หันไปมอง

ผู้ชาย...ที่ผมไม่ได้เจอเกือบอาทิตย์ก้าวเข้ามาในห้อง  เขากวาดสายตามองยักคิ้วให้พี่ดีหนึ่งที  จนสายตามาหยุดอยู่ที่ผม  เท้าเขาชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเดินเลี่ยงไปนั่งอีกมุมโดยไม่หันมาสนใจผมสักนิด

ผมไม่รู้ว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับเขาและเขาเป็นอย่างไรบ้าง

แต่สิ่งที่ผมรู้ตอนนี้...

เขาไม่เหมือนเดิม...แม้กระทั่งสายตาที่ใช้มองผมยังเปลี่ยนไป!

+++++++++++++++++++++++

ตื่นปุ๊บก็รีบมาลงเลย  อิอิ :katai5:

{โปรดติดตามตอนต่อไป...}
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2017 15:57:33 โดย YINGPREM »

ออฟไลน์ Banabananabi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 14♡ [13/1/60]
«ตอบ #234 เมื่อ13-01-2017 15:43:01 »

ยังไงอ่ะ พี่ทศไม่ใช่คนนี่ยังไง  :katai1:

ออฟไลน์ Banabananabi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 14♡ [13/1/60]
«ตอบ #235 เมื่อ13-01-2017 15:44:18 »

แง่ว กำลังเม้นตอนเก่าตอนใหม่มาพอดี5555

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 14♡ [13/1/60]
«ตอบ #236 เมื่อ13-01-2017 16:15:03 »

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 14♡ [13/1/60]
«ตอบ #237 เมื่อ13-01-2017 16:30:23 »

ยังไงพี่ทศ เป็นอะไรกันแน่ พี่ทศ เหมือนกำลังผลักรันต์ให้ออกจากวงโคจร โอ้ววว อยากรู้มาก เว่อวังอลังการ ขนาด ทำร้ายคนได้รุนแรง ทศไม่ใช่คนใช่ไหม เครื่องจักรสังหาร ??? มโนไกลมาก กร๊ากกกก

น้องรันต์ บุกไปปล้ำพี่ทศเลย นี่ยุเพื่อจะได้มีสิทธิ์กับเขาบ้าง คิคิ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 14♡ [13/1/60]
«ตอบ #238 เมื่อ13-01-2017 16:34:18 »

ทศกัณฐ์ มีวิญญานยักษ์สิงอยู่ในร่างแน่เลย
เป็นรันต์ก็ต้องทำตัวไม่ถูก อยู่ๆโดนบีบคอหวิดตาย
เฉยมาก็เฉยไป ไม่ต้องสนใจ
เลิกไปหาทศกัณฐ์ที้ห้องเลย
เมฆ ปล้นจูบเก่ง แน่เลย
รันต์ ไม่รู้เรื่อง ไม่ทันเมฆร้อก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 14♡ [13/1/60]
«ตอบ #239 เมื่อ13-01-2017 17:23:30 »

 :katai1: :katai1: :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด