ตอนที่ 5 ดวงดาวที่หอมหวาน
“กู๊ดมอร์นิ่งงงง”
เสียงหวานสดใสของมะนาวเป็นสัญญาณเริ่มวันใหม่ชั้นดีที่ภามชอบนัก ภามยิ้มตอบรับคำทักทายจนตาหยี ตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงสิบห้าพวกเขากำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าคณะ
“ไหน ไหน ที่บอกว่าทำอะไรมาให้กิน” มาถึงยังไม่ทันนั่งเจ้าหล่อนก็ร้องหาของกินทันที
“รอทีมก่อน มันไลน์มาบอกว่ากำลังมา” เขาเบรกพร้อมตะครุบมือเพื่อนสาวที่กระโจนใส่กล่องพลาสติกบนโต๊ะ
“หูย หิวแล้วอ่ะ ทีมช้า ทีมช้า โอ๊ย”
“บ่นอะไร ใครช้า” ชีทภาษาอังกฤษตีผั่วะเข้าที่หัวมะนาวไม่แรงแต่ก็ทำเอาหน้าเกือบทิ่ม
“หึ๊ย อิตาบ้า ทำร้ายร่างกายบอบบางของหญิงสาว” หันกลับไปฟาดคืนไม่ยั้ง
อืม..เสียงทะเลาะกันนี่ก็สงบสุข
“พอๆ จะกินไหม” ภามเปิดฝากล่อง ด้านในอัดแน่นไปด้วยแซนวิชโฮลวีทเนื้อนุ่ม “มีไส้อะโวคาโดไก่ต้มปรุงรสนิดหน่อย อันนี้เป็นมะเขือเทศกับทูน่า กินซะจะได้มีแรงทั้งคู่เลย”
มะนาวตาวาวราวกับเห็นกล่องแซนวิชมีประกายระยิบระยับ เธอเงยหน้าขวับมองเพื่อนตาแป๋วแหว๋ว
“ภามจ๋า แต่งงานกับเราเถอะ เราจะเลี้ยงภามอย่างดีขอแค่เป็นแม่บ้านให้เรานะ นะ” ดึงแขนเพื่อนอ้อน
“ให้ภามแต่งเป็นแม่บ้านแล้วเธอก็จะหาสามีให้มันใช่ไหม” ทีมเอ่ยแซวพลางเอื้อมมือหยิบไส้อะโวคาโดขึ้นมากิน
“หยาบคาย” มะนาวแหวใส่ “อย่าเอาความจริงมาพูด” แถมท้ายด้วยสะบัดหน้าไปอีกทาง
ภามกุมขมับ สองคนนี้นับวันชักคุยเรื่องที่เขาตามไม่ทันเข้าไปทุกที “กินก่อนเร็ว มีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเองนะ”
หญิงสาวร้องอุ้ย หล่อนรีบหยิบแซนวิชทูน่าขึ้นมากินหน้าชื่นตาบาน
พอของกินเข้าปากทั้งสองคนก็เงียบสนิท ภามนั่งเท้าคางมองยิ้มๆ เขาชอบดูเวลาคนอื่นกินอาหารฝีมือตัวเอง คิ้วเรียวเลิกขึ้นเมื่อเห็นทีมเปิดกระเป๋าหยิบน้ำส้มในขวดแก้วขึ้นมาแล้วเลื่อนส่งให้เขา ขวดยังเย็นเฉียบมีไอน้ำเกาะ
“ซื้อมาให้เหรอ นี่มันของร้านกาแฟXXนี่นา” ภามทำหน้างุนงงแต่ก็รับมาพลิกซ้ายพลิกขวาก่อนจะเปิดขวดขึ้นกระดก รสชาติน้ำส้มหอมหวานสมราคา แต่ต้องสำลักกับประโยคถัดมา
“เปล่า พี่ดีนฝากมาให้แก”
“แค่กๆๆๆๆๆ” ภามรีบรับทิชชู่จากมะนาว เขาสำลักกระอักกระไอก่อนจะทำตาขวางใส่ไอ้เพื่อนเวร “อย่ามาล้อเล่น”
ทีมยักคิ้ว “ใครล้อเล่น เมื่อเช้าเราแวะชมรมแล้วเจอพี่ดีนพอดี พี่เขาเลยฝากมาให้ คนทำขนม แล้วก็นี่” ยื่นโพสต์อิทแผ่นเล็กมาให้ พร้อมลายมือหวัดๆ
ขอบคุณ – Dean
ใบหน้าของเด็กหนุ่มเห่อแดง ยิ่งเพื่อนสองคนล้อด้วยสายตาเขาก็ยิ่งเขินหนัก ภามเอาโพสต์อิทที่ได้มาแปะลงในสมุดโน๊ตแล้วหยิบแซนวิชขึ้นมากินแก้เก้อ พยายามระงับหัวใจที่เต้นแรง
ขอบคุณงั้นเหรอ..
โพสต์อิทสีเดียวขนาดเดียวกับที่เขาแปะให้พี่ดีนไปเมื่อวันก่อน
พี่ดีนขอบคุณเรื่องไหนกันแน่
วันนี้ภามกับสาวๆ ในชมรมพากันมาซุปเปอร์เพื่อซื้อของสำหรับทำอาหารกล่อง สมาชิกผู้ชายมีเพียงเขาและพี่ปีสามอีกคนที่ทำหน้าที่สารถีและถือของ มินิแฮมเบอร์ทำไม่ยากแต่ต้องซื้อขนมปังแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นเล็กแพ็คถุงจำนวนมาก แล้วก็เนื้อ ไข่ ชีส ผักสด ซึ่งตอนนี้ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปซื้อของตามที่ตัวเองรับผิดชอบ
สำหรับภามเขาก็รับหน้าที่ซื้อของสำหรับทำขนมไทย วันนี้เขาพกอาวุธลับมาจากบ้านด้วย ดีที่เขามีซื้อทิ้งเอาไว้ เพราะเจ้าอาวุธลับเนี่ยไม่ได้ขายตามห้างทั่วไป
“ถั่วๆ ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกอยู่ไหนน้า” เขาเข็นรถก้มๆเงยๆตามชั้น ตอนนี้เขาได้ส่วนผสมอื่นๆ ครบหมดแล้ว เหลือแค่ถั่วเจ้าปัญหา พอเดินมาถึงจุดที่ควรจะมีแต่มันกลับว่างเปล่าทำเอาเด็กหนุ่มหน้าเสีย
“เฮ้ย หมดจริงดิ” พยายามมองหาให้ทั่วทั้งก้มทั้งเงย สุดท้ายเขาก็เจอถั่วที่ทางร้านวางสแปร์ไว้ชั้นบนสุด เด็กหนุ่มหน้ามุ่ยเพราะมันสูงสุดมือเอื้อมพอดี เขย่งก็แล้วกระโดดก็แล้ว เสียวถุงถั่วจะตกลงมาแตกเกลื่อนพื้นมาก
“พนักงานก็ไม่อยู่แถวนี้เลย อะไรว๊า ฮึ้บ” พยายามยืดตัวแต่ก็ไม่เป็นผล
“เฮ้ยขาดของอะไรอีกป่ะ”
“พวกยาสามัญซื้อไปแล้ว ห้ามของมึนเมาเด็ดขาด” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยดุเพื่อนที่ทำท่าจะเสนอ
“นิดๆหน่อยๆเอง อย่าเคี่ยวนักดิ ดีน”
“กินแล้วเมาจมน้ำไปใครรับผิดชอบ พอๆ ไปซื้อพวกน้ำอัดลมกับน้ำเปล่าได้แล้ว”
เสียงคุ้นหูทำให้ภามยืนค้างอยู่กับที่ เขาไม่กล้าหันหลัง ขยับตัว หรือแม้แต่ลดมือที่กำลังเอื้อมลง แต่พยายามทำตัวลีบติดชั้นสินค้า เบะปากอยากกลายร่างเป็นนินจาไม่ก็กลายเป็นกิ้งก่าให้รู้แล้วรู้รอด
“เออๆ น้ำเป็นแพ๊คอยู่ฝั่งโน้นนี่” เสียงพี่วินเข็นรถห่างออกไป จนกระทั่งไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกภามก็ถอนใจโล่งอก เขายืนหลับตานิ่งรอให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะปกติ สงสัยตัวเองว่ากลั้นหายใจทำไม เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอพี่ดีนที่นี่ แต่ก็ไม่แปลกเพราะซุปเปอร์แห่งนี้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมากที่สุด พี่ดีนกับพี่วินเองก็ต้องมาซื้อของเตรียมตัวสำหรับการออกค่ายวันพรุ่งนี้เหมือนกัน
พอสงบใจลงได้ก็เอื้อมมืออีกครั้ง เขย่งขาสุดตัว อีกนิดเดียวก็จะได้...แล้..
หมับ
หือ
ภามกระพริบตาปริบๆ เมื่อมือใหญ่จากไหนไม่รู้คว้าเอาถุงถั่วส่งมาให้ เขาหันหลังเตรียมฉีกยิ้มกว้างเพื่อจะขอบคุณ แต่ก็ปะทะเข้ากับแผ่นอกกว้างเข้าเต็มๆ
“ขะ ขอโทษครับ” จมูกจะพังไหม ฮือออ เด็กหนุ่มครวญครางในใจแล้วเงยหน้าขึ้นมอง พลัน..สมองก็ขาวโพลนไปหมด
...
พี่...ดีน
...
บรรยากาศรอบข้างเหมือนหยุดชะงัก คนช่วยเองก็ลมหายใจสะดุดไปหนึ่งจังหวะ เขาไม่คิดว่าร่างที่กำลังพยายามเขย่งสุดตัวอยู่จะเป็นคนที่เขาไม่คาดคิด
ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมานอกจากดวงตาที่ประสานกันนิ่ง ใบหน้าของพวกเขาอยู่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งไม้บรรทัด ใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจและกลิ่นน้ำหอมจางๆ
ความรู้สึกมากมายกำลังทะลักทะลายมาจากไหนสักแห่ง
คิดถึง
คิดถึง
คิดถึง
หัวใจกำลังกู่ร้องซ้ำๆ
ภามรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา ความรู้สึกคุ้นเคยปรากฏขึ้นเลือนรางในความทรงจำ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ รสจูบ อ้อมกอด ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในความฝันก่อตัวขึ้นมาเป็น...ผู้ชายคนนี้
คิดถึงเหมือนจะตาย คิดถึงจนจะขาดใจ ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกตอนนี้ยังไง
ดีนมองใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ตอนนี้แดงก่ำ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันดวงตาใสๆมีน้ำตาเอ่อคลอ และก่อนที่สมองจะสั่งงานมือใหญ่ก็เลื่อนไปเช็ดให้อย่างแผ่วเบา
เพียงแค่ผิวกายสัมผัสกันร่างตรงหน้าก็สะดุ้งเฮือกราวกับไฟฟ้าแล่นผ่าน ความรู้สึกที่เคยเลือนรางอยู่ๆกลับฉายชัดขึ้นมาเหมือนเสาทีวีที่โดนปรับจูนให้ตรงช่องสัญญาณ
พี่รักผมมากไหม
รักมากกกที่สุด
ชายหนุ่มสะบัดหน้าไล่ความสับสน เขาหายใจลึกข่มความรู้สึกอยากกอดอีกฝ่ายให้แน่นๆ แล้วบอกรักซ้ำๆ
...จะทำได้ยังไงในเมื่อ...พวกเขายังไม่รู้จักกันเลย..
ความกระอักกระอ่วนเคอะเขินเริ่มคืบคลาน ภามเป็นฝ่ายหลบตาก่อนเพื่อซ่อนความหวั่นไหว ชายหนุ่มเริ่มไม่ถูก ว่าเขาควรต้องทำยังไง? ให้ตายเหอะ! ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองโง่เง่าขนาดนี้มาก่อนเลย!!
“คือ...” ดีนตัดสินใจอ้าปากเริ่มประโยคแรก
“ไอ้ดีน ไปตายห่าที่ไหนวะ แบกน้ำคนเดียวไม่ไหวโว้ย!!” รองประธานชมรมว่ายน้ำตะโกนลั่นซุปเปอร์ แถมเข็นรถครืดๆกลับมาช่องเดิมเพื่อตามหาเพื่อน
ทั้งดีนทั้งภามสะดุ้งโหยง ประธานชมรมว่ายน้ำหันไปตามเสียงของเพื่อนเวรและเมื่อหันกลับมาอีกที ร่างของเด็กขี้แยก็วิ่งสี่คูณร้อยไปพร้อมรถเข็นชนิดที่เขาได้แต่ยืนตะลึง
“ทำไรอยู่วะ” วินจับบ่าเพื่อนที่ยืนอึ้ง “มองหาไรอีกล่ะ รีบกลับได้แล้วเนี่ย” คนมาขัดไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่อะไรสักอย่าง
ดีนกัดฟันกรอด ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาเขาไม่เคยอยากจับมันมาสับเป็นพันชิ้นแล้วโยนลงแม่น้ำเจ้าพระยาขนาดนี้มาก่อนเลย
“สัส!!” อุตส่าห์มีโอกาสได้คุยแต่ทุกอย่างก็หายไป เพราะมึงไอ้วิน!!
วินยืนเอ๋อ โคตรงงว่าตัวเองทำอะไรผิดเพื่อนถึงได้โกรธขนาดนี้ ว่าจะถามเหตุผลแต่ท่านประธานทำหน้าเหมือนหมีกินรังแตนมาเขาเลยปิดปากเงียบสนิท ทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมยิ้มแหยเอาใจ
นี่กูไปเหยียบกับระเบิดอะไรเข้าอีกวะ
แฮ่ก แฮ่ก
ภามทรุดตัวลงนั่งยองๆ หน้ารถที่ขับมา ลมหายใจหอบถี่เพราะวิ่งแบบไม่คิดชีวิต พอหายใจได้ลึกขึ้นเขาก็เปิดประตูรถโยนของไว้ด้านหลังตัดสินใจรอเพื่อนคนอื่นๆที่นี่
“ฮึก...”
ก้อนสะอื้นหลุดออกมาก่อนจะพรั่งพรูเป็นสายน้ำ เขาร้องไห้โฮสะอึกสะอื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาหลายปีนับตั้งแต่เสียบิดาไป
“พี่ดีน...อึก พี่ดีน” เสียงสั่นพร่าเรียกซ้ำๆ ยิ่งพบยิ่งเจอยิ่งใกล้ยิ่งรู้
รัก..เขารักพี่ดีนจริงๆ รักตั้งแต่แรกพบ
“แม่ง!” ทุบพวงมาลัยรถเต็มแรง มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาป้อยๆ “ทำไมวะ ทำไม” ภามโวยวายติดสะอื้น
ทำไมแรกพบต้องเป็นหน้าเชลฟ์ถั่วเขียวด้วยวะ! แม่งเอ๊ย!!
ยามเช้าเวลา 6.30 น. บรรดาสมาชิกปีหนึ่งปีสองของชมรมว่ายน้ำก็มารวมตัวกันที่ลานจอดรถบัสมหาวิทยาลัย เสียงเรียกขานชื่อวุ่นวาย ข้าวของโดนจับใส่ใต้ท้องรถไม่หยุดหย่อน
“ล้อวิ่งเจ็ดโมง เร็วๆๆๆๆ อย่ามาร่ำไร” เสียงประธานชมรมก้องลาน น้ำเสียงบอกชัดว่าอารมณ์ไม่ค่อยจะดี ดวงตาคู่สวยตอนนี้ราวกับไฟลุก มองไปทางไหนก็แผดเผาจนคนถูกมองต้องรีบหลบให้พ้นจากสายตา
“พี่วิน..เฮียแกองค์ลงไรอ่ะ” ทีมแอบถามรองประธานที่ตอนนี้ตาโหลเหมือนคนนอนไม่พอ
“ไม่รู้มัน ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่รู้ไปเหยียบติ่งอะไรมันเข้าโดนด่าเละ แถมเมื่อคืนก็ใช้งานจนพี่ไม่ได้นอนเนี่ย” วินบ่นอุบอิบ
“เวร แล้วนี่เอาไงดี” เบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อให้รุ่นพี่เห็นอีกหนึ่งชีวิตที่ยืนทำตาปริบๆอยู่ข้างหลัง
“อ้าว น้องภาม” วินยิ้มหวานให้ทันที ที่รู้จักน้องเขาเพราะเจ้าทีมมันอวดเพื่อนให้ฟังทุกวันนี่แหละ
ทีมยกถุงอาหารกล่องขึ้นมาให้ดู “ภามมันมาส่งของกินที่เราสั่งไว้ จะให้เอาไว้ไหนครับพี่”
“เดี๋ยวถามดีนก่อน” รองประธานทำท่าจะเดินไปหาเพื่อนหน้าตูดอย่างเซ็งๆ แต่แรงกระตุกชายเสื้อทำเอาเกือบหน้าคว่ำ
ทีมยิ้มตาใส “เฮ้ยพี่ ไหนๆแล้วก็ให้ไอ้ภามมันไปถามพี่ดีนเองเลยละกัน” ยัดถุงอาหารกล่องใส่มือเพื่อนที่อ้าปากเหวอ
“ทีม..” ภามใจหล่นวูบไปที่ตาตุ่ม แต่เพื่อนซี้ก็ไม่สนใจแถมผลักให้เข้าไปหาประธานชมรมอีกต่างหาก
ดีนจรดปากกามาร์กหัวข้อที่ทำเสร็จเรียบร้อย กระเป๋าเดินทางของน้องๆก็ครบหมดแล้ว เขาถอนใจนวดขมับกับความวุ่นวาย โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังยืนจ้องแผ่นหลังอยู่
“เอ่อ พี่ดีนครับ..อาหารกล่องจะ...”
เสียงไม่คุ้นหูดังขึ้น ดีนเสยผมหงุดหงิดแล้วหันไปตอบคนที่เขาคาดว่าน่าจะเป็นรุ่นน้องสักคน
“เดี๋ยวเอาขึ้นรถ....”
คำพูดหายไปในลำคอ ดวงตาคมดุเบิกกว้างเหมือนไม่เชื่อสายตา
“ น้อง..ภาม”
คนโดนเรียกชื่อหายใจลึก แก้มขาวๆ เริ่มขึ้นสีระเรื่อ
“นี่ครับพี่สำหรับรถบัสเบอร์หนึ่ง” ภามยื่นถุงพลาสติกที่บรรจุกล่องกระดาษให้สองถุงใหญ่
“อา ขอบคุณนะ” แววตาดุดันในตอนแรกหายวับไม่เหลือ เขายื่นมือไปรับแต่ก็ยังไม่เอาไปเก็บในขณะที่ภามเองยังคงยื่นนิ่งอยู่กับที่ ทั้งคู่ยืนจ้องกันเกือบนาทีก่อนที่ภามจะเอ่ยปากพูดก่อน
“เมื่อวาน...ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยหยิบของให้”
“...ไม่เป็นไร..” คนตอบยังคงประหยัดคำพูด ไม่ใช่ไม่พอใจแต่เพราะคนอย่าง ดีน รัฐนนท์ก็ตื่นเต้นเป็นเหมือนกัน
“ละ แล้วก็ขอโทษนะครับที่วิ่งหนีไปแบบนั้น คือ..” ภามรีบละล่ำละลักแก้ตัว เมื่อวานเขาโคตรเสียมารยาททั้งๆที่พี่เขาอุตส่าห์ช่วยหยิบของให้
ดีนจุดรอยยิ้มจางๆที่มุมปาก เด็กน้อยตรงหน้าพยายามอธิบายเสียงสั่นหน้าแดงไปหมด
ชายหนุ่มอดใจไม่ไหวรวบถุงไปถือไว้มือเดียวแล้วใช้มืออีกข้างวางแหมะลงบนเรือนผมนุ่มของรุ่นน้องขยี้เบาๆ
“..ไม่เป็นไร..” เสียงทุ้มอ่อนโยนชนิดที่คนอื่นได้ยินคงไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือประธานโหดแห่งชมรมว่ายน้ำ
ส่วนคนโดนถึงเนื้อถึงตัวตอนนี้ตัวแข็งทื่อไปแล้วเรียบร้อย
“สัสดีน!!! จะได้เวลารถออกแล้วอย่ามัวร่ำไร” วินได้โอกาสเอาคำพูดของประธานมาด่าเจ้าตัว เขายืนมองมันคุยกับน้อง ดวงตางี้พราวจนชักหมั่นไส้
“เออ!!” ดีนหันไปตอบเสียงแข็ง
ถ้าไม่ได้หูฝาด ภามว่าเขาได้ยินเสียงพี่ดีนจิ๊ปากแล้วสบถด่าพี่วินแบบหงุดหงิดสุดๆ จนเขาหลุดหัวเราะออกมา
ชายหนุ่มละมือออกจากผมนุ่มอย่างแสนเสียดาย “พี่ไปก่อนนะ”
“เอ่อ พี่ดีนครับ” ภามคว้าหมับเข้าที่ชายเสื้ออีกฝ่ายก่อนจะรีบปล่อยราวกับของร้อน พอพี่ดีนเลิกคิ้วมองมาเป็นคำถามคนใจป๊อดก็นึกถึงคำพูดเพื่อนซี้ขึ้นมาทันที
มึงจะมัวแต่แอบมองไม่ได้แล้วนะ มีโอกาสก็ต้องรุก!
เด็กหนุ่มหายใจลึกปลอบตัวเอง สู้ๆ ไอ้ภาม ทีมมันหาโอกาสให้ขนาดนี้แล้วนะเว้ย!
“อันนี้กล่องของพี่ครับ” ภามยืนกล่องกระดาษให้คนที่กำลังทำหน้าสงสัย “มีชื่อเขียนไว้ อย่าผิดกล่องนะครับ” กลั้นใจยัดใส่เข้ามือใหญ่แล้วหมุนตัวกลับไม่รอคำตอบอะไรทั้งนั้น
เมื่อล้อเริ่มหมุน ประธานก็แจกแจงงานของบรรดารุ่นพี่อีกครั้งก่อนจะเริ่มแจกจ่ายอาหารว่างเป็นคิวถัดมา เสียงฮือฮาตื่นเต้นของสมาชิกชมรมไม่พ้นตอนเปิดกล่องของกินแล้วพบมินิแฮมเบอร์เกอร์ขนาดเท่ากำปั้นเด็กสองชิ้นมีธงไม้เล็กๆเสียบกลางเอาไว้ ขนมปังฟูนุ่มยังอุ่นอยู่ ชีสสีเหลืองสดและผักกรุบกรอบ อีกทั้งเนื้อที่หนานุ่มส่งกลิ่นยั่วยวน
“เฮ้ย ขนมไทยว่ะ” เสียงใครบางโพล่งขึ้นอย่างแปลกใจ
“แฮมเบอร์เกอร์อร่อยโคตร เนื้ออย่างฉ่ำ”
“ขนมอร่อยมาก หอมมาก ร้านไหนเนี่ย”
ระหว่างที่ทุกคนกำลังอร่อยกับของกิน ดีนที่นั่งเบาะหน้าสุดคนเดียวด้านข้างเป็นกระเป๋าเอกสารและกระเป๋ายา เพิ่งจะวางสายมือถือหลังจากถามความเรียบร้อยของบัสเบอร์สอง มือใหญ่เอื้อมหยิบกล่องของว่างส่วนของตัวเองบ้าง เขายิ้มน้อยๆกับลายมือบนฝา
เมื่อเปิดกล่องออกเจ้ามินิแฮมเบอร์ก็อวดโฉมต่อสายตา ส่วนถ้วยกระดาษที่อยู่ข้างกันบรรจุขนมที่ใครๆก็รู้จักกันดี
ลูกชุบ..
ดีนหยิบขนมขึ้นมอง ลูกชุบดวงดาวน้อยๆสามดวงสีสันสดใสเบียดตัวอยู่ในนั้น และเมื่อลองกัดดูกลิ่นหอมที่ลูกชุบตามร้านสมัยนี้ไม่ค่อยทำก็อบอวลเต็มปาก ใบหน้าที่มักเคร่งเครียดตอนนี้ผ่อนคลายละมุนละไม ภาพในความฝันที่เลือนรางชัดเจนขึ้นมาทีละนิด
...พี่อ้าปากเร็ว
..หอมไหม อบควันเทียนด้วยนะ
“ทำไมได้เป็นดาวอ่ะ” เสียงของมารผจญที่ยังคงทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง วินชะเง้อหน้ามาจากเบาะหลังเหล่มองกล่องขนมเพื่อนด้วยความสงสัยว่าทำไมมีชื่อเขียนอยู่คนเดียว “มีสามดวงด้วย ขี้โกงนี่นา”
“โกงยังไง” ดีนย้อนถามไม่เข้าใจ
“ก็เขาได้คนละ 2ลูกเอง แถมเป็นรูปพริกรูปส้มทั่วไป ไม่มีหรอกดงดาวอะไรเนี่ย” รองประธานทำท่าประท้วงความไม่ยุติธรรม แล้วเอื้อมมือมาหมายจะฉกของในกล่อง
ดีนรีบปิดฝากล่องเมื่อคนขี้บ่นทำท่าจะฉกดวงดาวของเขาไป “ไปนั่งดีๆ” เตือนเสียงดุแต่ไม่ได้หงุดหงิดอารมณ์เสียเหมือนคราวแรก วินหัวเราะเบาๆแล้วยอมถอยกลับไปนั่งที่
สงสัย...ได้น้ำตาลมาเติมในเลือด อารมณ์ดีเชียว
-----
Talk
สวัสดีค่ะ
นี่ลงนิยายทั้งๆที่ตาบวม (ฮา) เรารู้สึกว่าในช่วงนี้ถ้านักอ่านได้อ่านอะไรยิ้มๆบ้างก็คงจะดี เพราะฉะนั้นถ้าอ่านตอนนี้แล้วเผลอยิ้มแค่มุมปาก ผู้เขียนก็ดีใจแล้วค่ะ ^^
Fanart ---> Facebook : @Iarladiel

