พบรัก ▪×ส่งท้าย×▪
หลายเดือนผ่านไป
ตั้งแต่วันที่ต้นว่านย้ายเข้ามาอยู่ด้วย ทุกๆ วันก็เต็มไปด้วยสีสัน เมื่อก่อนพวกเราจะอยู่ด้วยกันช่วงเช้าถึงเย็นแต่ตอนนี้กลับอยู่ด้วยกันเกือบทั้งวัน ยกเว้นวันที่ผมให้อีกฝ่ายไปเข้าประชุมแทน
การทำงานของต้นว่านเป็นไปด้วยดีและมีพัฒนาการมากขึ้นเมื่อได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ทุกวันนี้ผมเลยชอบส่งต้นว่านไปช่วยงานของฝ่ายอื่นบ้างเพื่อให้มีประสบการณ์ในหลายๆ ด้าน แต่วันนี้เป็นวันที่พวกเราลาหยุด
ไม่สิ...ต้องบอกว่าผมถูกบังคับให้รับจดหมายลาพักร้อนทั้งๆ ที่ไม่ต้องก็ได้เพราะเหตุผลที่ต้นว่านต้องพักงานหนึ่งวันน่ะ คือ...
บรู๊ววว~
“ราตรีหยุดวิ่ง!” เสียงทุ้มของต้นว่านตะโกนขึ้นพร้อมกับวิ่งจับราตรีโดยที่ในมือมีสายจูงถืออยู่
วันนี้เป็นวันนัดฉีดวัคซีนที่คลินิกในตัวเมือง ผมก็บอกแล้วว่าจะจ้างหมอมาที่บ้านแต่ก็ถูกต้นว่านค้านหัวชนฝาเพราะเปลืองเงินมากกว่าพาไปที่ร้าน
แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะ?
วิ่งไล่จับมาจะครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่ได้เลย
ความจริงก็เหลือแค่ราตรีตัวเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้ใส่สายจูง อย่างที่บอกไปว่าราตรีเป็นสุนัขที่ค่อนข้างไฮเปอร์และตื่นตัวมากเป็นพิเศษ การที่จะจับได้นั้นจำเป็นต้องใช้เวลานานกว่าตัวอื่นมาก อย่างต้นสนไม่จำเป็นต้องวิ่งไล่ขนาดนั้น แค่ผมนั่งลงที่โซฟาสุนัขขนสีดำขลับก็วิ่งมานอนแทบเท้าทำให้สามารถใส่สายจูงได้อย่างง่ายดาย พอๆ กับต้นโมกที่แค่เห็นต้นว่านก็วิ่งเข้าไปหาด้วยความดีใจ
“อย่าหนีนะ แฮ่ก...จับได้ล่ะ”
ความพยายามเกือบสามสิบนาทีในที่สุดก็สัมฤทธิ์ผลจนได้ แม้ท่าทางของต้นว่านจะดูเหนื่อยล้ามากก็ตาม
“ไหวไหมต้นว่าน พักหน่อยก็ได้นะ” ผมเดินเข้าไปหาพร้อมสายจูงอีกสองเส้นที่ถืออยู่ วันนี้จะพาไปแค่สามตัวคือต้นสน ราตรี และต้นโมก ส่วนตัวแม่อย่างมะนาวก็อยู่เฝ้าบ้าน
“ไม่เป็นไรครับ รีบจัดการให้เสร็จแล้วกลับมาพักดีกว่า”
“ได้”
พวกเราช่วยกันจูงสุนัขที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมากไปยังคลินิก โดยที่ผมจูงต้นสนเพียงตัวเดียวและให้ต้นว่านจูงสองตัว ระหว่างรอคิวก็มีสุนัขมากมายพยายามเข้ามาใกล้แต่เพราะถูกต้นสนขู่จึงทำให้ไม่มีใครนั่งใกล้ผมเลยสักคน
“ขอบคุณนะต้นสน” ผมบอกพร้อมกับลูบเส้นขนสีดำนั่นเบาๆ
ดูเหมือนต้นสนจะรู้ว่าผมกลัวสุนัขตัวอื่นเลยช่วยกันไว้
หลังจากที่สุนัขพันธุ์เชคโกสโลวัคเกี้ยน วูล์ฟด็อกทั้งสามตัวถูกฉีดวัคซีนครบทุกตัวพวกเราก็ตรงกลับบ้าน สุนัขทั้งสามตัวรีบวิ่งเข้าไปคลอเคลียผู้เป็นแม่ทันทีเมื่อเปิดประตู
“ทำไมหน้าบึ้งล่ะต้นว่าน” พอนั่งลงบนโซฟาตัวน้ำตาลกลางบ้านผมก็หันไปถามคนที่นั่งตามมาติดๆ
วันนี้ต้นว่านทำตัวแปลกๆ ตั้งแต่ตอนอยู่ที่คลินิกแล้ว
“เดี๋ยวนี้ไม่มีผมช่วยก็ไม่เป็นไรแล้วสินะ”
เสียงพึมพำเบาๆ นั่นทำให้ผมเลิกคิ้วขึ้น “พูดถึงเรื่องอะไร”
“ก็...ทุกครั้งที่เจอหมาตัวอื่นผมจะเป็นคนช่วยพี่ แต่พอมีต้นสนผมก็เหมือนถูกแย่งหน้าที่ไปเลย”
“คิกๆ ขอโทษๆ” ผมหลุดหัวเราะออกมานิดนึง ก่อนจะรีบเอ่ยคำขอโทษเพราะถูกสายตาคมๆ นั้นจ้องมา
ไม่คิดว่าจะงอนด้วยเรื่องแบบนี้เลยนะ
“ผมจริงจังนะ ทำไมเดี๋ยวนี้พี่สนิทกับต้นสนจังล่ะ”
“นี่เราหึงพี่กับต้นสน”
หึงผมกับสุนัขเนี่ยนะ
“...ก็มันน่าไหมล่ะ เดี๋ยวนี้พี่ทำอะไรก็มีต้นสนตามต้อยๆ ขนาดให้อาหารต้นสนยังต้องรอให้พี่มาให้เองเลย”
“เราเลยหึง?” ผมถามย้ำเพราะคำอธิบายนั่นไม่ได้ให้คำตอบที่ต้องการ
“ครับ ผมเหมือนเป็นคนบ้าเลยเนอะที่หึงพี่กับหมาแบบนี้น่ะ” อีกฝ่ายยอมรับเสียงอ่อย
“อืม บ้า...แต่ถึงบ้าพี่ก็รัก” พูดเสร็จก็กระโดดเข้าไปกอดอีกฝ่ายแน่นจนต้นว่านถึงกับหงายหลังนอนราบไปกับโซฟาโดยมีผมนอนทับอยู่ด้านบน
“พี่ใบไผ่...”
“ดีใจที่เราหึงพี่นะ” ผมกระซิบบอก
“แต่พี่ไม่เห็นหึงผมบ้างเลย” อีกฝ่ายตอบเสียงเบา
“จะให้พี่หึงเรากับต้นโมกเหรอ” ผมถามกลับพร้อมกับยกหัวขึ้นส่งยิ้มไปให้
“พี่จะกวนผมสินะ”
“เปล่านี่ ก็วันๆ เราเอาแต่อยู่กับพี่ มีแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่แยกกัน แล้วพี่จะหึงต้นว่านทำไมล่ะ” ผมอธิบาย
พวกเราตัวติดกันเกือบตลอดทั้งวัน อาจมีบ้างที่แยกกันตอนที่ให้ต้นว่านไปประชุมอย่างที่บอกไปแล้ว
ในเมื่อรู้แบบนั้นจะหึงต้นว่านกับใครได้ล่ะจริงไหม
“ก็ใช่ แต่ผมก็อยากเห็นนี่ว่าพี่จะหึงผมยังไง”
“พี่ขี้หึงนะบอกเลย ถ้าเรากล้าไปคุยกับผู้หญิงคนอื่นโดยที่ไม่ใช่เรื่องงาน พี่จะลากเรามาทำโทษให้เข็ดเลย”
“ลงโทษ ...ยังไงครับ” ดูเหมือนต้นว่านจะสนใจว่าผมจะลงโทษแบบไหน
“ก็...จะจูบให้หนัก แล้วจะกอดทั้งวันไม่ให้ไปไหนเลย” นี่เป็นบทลงโทษเดียวที่คิดได้
“ฮึๆ นั่นไม่เรียกบทลงโทษหรอกนะพี่”
“ทำไมล่ะ?”
“ถ้านั่นเป็นบทโทษผมจะรีบวิ่งไปจีบผู้หญิงแถวบ้านเดี๋ยวนี้เลย พี่จะได้ลากผมไปจูบ” ต้นว่านพูดขึ้น แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
“ห้ามไปนะ!” ถึงจะรู้ว่าต้นว่านพูดเล่นแต่ก็ไม่อยากให้เขาไปจีบผู้หญิงคนไหน ด้วยหน้าตาแบบนั้น ถ้าจะจีบใครสักคนจริงๆ ก็คงจะติดแน่ๆ
“ถ้าไม่ให้ไปก็ทำให้ผมคิดถึงแต่เรื่องของพี่เท่านั้นสิ” ฝ่ามืออุ่นเอื้อมขึ้นมาสัมผัสใบหน้าผมอย่างอ่อนโยน
“อยากให้ทำอะไรล่ะ”
“บทลงโทษนั่น ทำให้ผมดูหน่อยสิพี่ใบไผ่” คำพูดนั้นทำให้ใบหน้าที่ถูกสัมผัสอยู่เห่อแดงขึ้นทันที
“...อย่างอื่นไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้ครับ”
“...ก็ได้”
เมื่อไม่มีทางเลือกผมก็ขยับตัวขึ้นไปเล็กน้อยจนดวงตาของเราประสานกัน ไม่นานก็ก้มลงไปจูบคนด้านล่างเบาๆ ก่อนจะผละออก
“พี่ใบไผ่”
“อะไร...”
“นี่จูบหนักแล้วเหรอ ที่ทับตัวผมอยู่ยังหนักกว่าเลย” คำพูดนั่นทำให้ผมได้แต่เม้มปากด้วยความอาย
จะให้จูบแบบต้นว่านผมทำไม่ได้หรอก ไม่ได้เก่งขนาดนั้น ถึงจะโดดจูบบ่อยๆ ก็ตามที
“ก็พี่อายนี่”
“ผมไม่แกล้งแล้ว หยุดหน้าแดงก่อนที่พี่จะถูกผมจูบหนักๆ นะครับ”
“ใครจะหยุดได้กัน”
อย่าพูดเหมือนง่ายสิ
ให้หยุดหน้าแดงเนี่ยนะ? ยากกว่าบอกให้หน้าแดงอีก
“ไม่หยุดผมหอมแก้มนะ...” ยังไม่ทันจบประโยคต้นว่านก็ขยับหน้าขึ้นมาหอมแก้มทั้งสองข้างของผม
“...คนขี้แกล้ง” ทำไมชอบทำให้ผมอายนักนะ
“ที่แกล้งเพราะรักหรอก” รอยยิ้มถูกส่งมาพร้อมกับคำพูดหวานๆ
ผมเองก็รักต้นว่าน...
จะรักไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือในอนาคตก็ตาม...
จะรักแค่ต้นว่านคนเดียว...
“ก็รักต้นว่านเหมือนกันนั่นแหละ”
...........................................................................
-Rewrite->> ตอนสุดท้ายกันแล้วกับการรีไรท์ อีกไม่กี่วันเราจะมาอัพตอนพิเศษของเรื่องนี้ให้ได้อ่านกันนะคะ
ตอนส่งท้ายมาแล้วค่า
มาแบบน่ารักหวานๆส่งท้ายตอยสักเล็กน้อย
สำหรับเรื่องนี้ใช้เวลาแต่งไม่มากอย่างที่คิด
ความจริงช่วงกลางๆเรื่องก็คิดอยู่เลยว่าจะแต่งต่อไหวไหมนะ 555
เราเองก็เคยแต่งนิยายไม่จบมาก่อนเพราะเป็นพวกที่แต่งตามอารมณ์เลยค่อยข้างกังวลว่าจะจบไหม
พอมาถึงตอนนี้ได้รู้สึกปลื้มจริงๆนะคะ
อาจเพราะกำลังจากทุกๆคอมเม้นท์ก็ได้
เราจะปรับปรุงการแต่ง ภาษาและคำบรรยายให้มากกว่านี้เพื่อจะได้อ่านกันได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น
หวังว่าทุกท่านจะติดตามผลงานอื่นๆของเราด้วยนะคะ
ไว้เจอในกันใหม่ในผลงานเรื่องหน้าและในตอนพิเศษของเรื่องค่า
ขอบคุณที่ติดตามและอยู่ด้วยกันเสมอค่ะ
บ๊ายบาย

nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪