-Rewrite- When we found love พบรัก ▪×พบรักพิเศษ×▪ P.9 5/06/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -Rewrite- When we found love พบรัก ▪×พบรักพิเศษ×▪ P.9 5/06/61  (อ่าน 102186 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
สงสารต้นว่านเลยอ่าาา

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ขอร้องละคนแต่งช่วยจัดการอีเป้กับครอบครัวเลวๆของมันทีได้ไหมอย่าโลกสวยแบบให้อภัยนะขอร้องต้องจัดหนักอีครอบครัวที่ชอบเหยีบคนไม่มีจะกินคือรักต้นว่านมากและครอบครัวเค้าก็น่ารักอีเป้นี่ขาดความอบอุ่นหรือไงหาเรื่องตั่งแต่เรียนมาจนมาถึงเรียนจบแม่งอีเลววววววววว :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: ต้นว่านกับใบไผ่น่ารักจริง ๆ พ่อกับแม่คงจะไม่ค่อยรู้น่ะว่าต้นว่านทำรายได้ ๆ เยอะ เพราะไม่คิดว่าพึ่งจะเรียนจบคงไม่ได้ทำงานได้เงินอะไรเยอะนัก และก้อเป็นคนขี้เกรงใจด้วยอ่อนน้อมถ่อมตน ยังไงย้ายไปอยู่บ้านของใบไผ่ก่อนก้อได้ บ้านออกจะกว้างขวางและใบไผ่ก้อมีคอนโดด้วยนี่น่า เรามองว่าต้นว่านยังเด็กน่ะแต่ก้อรู้ความขึ้นเยอะแล้วล่ะ ทุกอย่างต้องอาศัยประสบการณ์ช่วยขัดเกลา ต้นว่านถือว่าโชคดีที่มีใบไผ่อยู่ใกล้และให้โอกาสน่ะ คนเราจะเก่งได้ก้อต้องอาศัยการเรียนรู้ขวนขวาย และถ้าอยากก้าวหน้าไวก้อต้องเสาะแสวงหาหมั่นเพียรและได้รับโอกาสที่ดี การได้โอกาสนั้นถือว่าเป็นโชคที่ยิ่งใหญ่น่ะ ดีแล้วล่ะที่ต้นว่านจะเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับใบไผ่ อย่าเกรงใจหรือหยิ่งในเรื่องที่ไม่เข้าท่า ถ้าเราได้รับทั้งโอกาสและความรักเราเพียงแค่ทุ่มเทให้กับเขากลับคืนก้อถือว่าเป็นการตอบแทนที่ดีแล้วล่ะ ความซื่อสัตย์ไม่ได้หาซื้อหรือประกาศรับสมัครได้ง่าย ๆ น่ะ คนมีเงินบางครั้งก้อมองข้ามตรงจุดนี้คิดว่าเพียงแค่จ่ายค่าตอบแทนสูง ๆ แล้วทุกอย่างจะมาเอง ลืมคิดไปว่าเรื่องของใจเงินน่ะซื้อไม่ได้หรอก  :mew2:

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เรื่องนี้ใสๆน่ารักๆดีต่อใจมากๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
พบรัก ▪×วันที่13×▪




บรรยากาศในช่วงเช้าหนาวกว่าปกติเล็กน้อย อาจเพราะว่ากำลังเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้วก็เป็นได้ ผมเดินออกมารดน้ำต้นไม้ในยามเช้าพร้อมกับสุนัขใหญ่ทั้งสี่ตัว ตอนนี้เหล่าลูกสุนัขในวันวานมีขนาดพอๆ กับตัวแม่อย่างมะนาวแล้ว ถูกกระโดดใส่ทีเป็นต้องเซ


บรู๊ววว~


“อย่าหอน ราตรี” ผมหันไปบ่นสุนัขสีขาวแซมน้ำตาลและดำที่กำลังส่งเสียงหอนรบกวนเพื่อนบ้านอยู่


ราตรีเป็นสุนัขที่ไฮเปอร์ที่สุดในสี่ตัว ทุกครั้งที่พาออกมาข้างนอกจะส่งเสียงหอนพร้อมกระดิกหางไปมาด้วยความดีใจ แค่นั้นยังไม่พอราตรียังชอบไปหาอะไรแล้วคาบมาให้ผมด้วย อย่างวันนี้ก็เป็น...


หืมม์?


นั่นมันรองเท้าข้างหนึ่งของผมที่หายไปเมื่ออาทิตย์ก่อนนี่


“เธอเป็นคนเอาไปจริงๆ สินะราตรี!” ผมขึ้นเสียงเมื่อเห็นรองเท้าสีดำที่หายไปอยู่ในปากของสุนัขตรงหน้า


หงิ๋ง!


“ไม่ต้องมาหง๋อย” คิดว่าผมจะใจอ่อนกับท่าทางแบบนั้นรึไง


บรู๊ววว~


“เฮ้ย! ไม่กระโดดนะต้นสน” ผมตะโกนพร้อมกับหลบสุนัขตัวใหญ่ขนสีดำสนิทที่กำลังจะพุ่งกระโดดใส่


ต้นสนเป็นสุนัขตัวผู้เพียงตัวเดียวที่ชอบเรียกร้องความสนใจโดยเฉพาะกับผม ถ้าผมไปสนใจตัวอื่นมากกว่าก็จะกระโดดใส่ทุกครั้งไป ...ไม่รู้ว่าจะสนใจอะไรผมนัก


ส่วนต้นโมกก็เป็นสุนัขสีขาวล้วนซึ่งได้ต้นว่านช่วยตั้งชื่อให้ อาจเพราะแบบนั้นจึงได้ชอบอ้อนต้นว่านมากกว่าผม ทุกครั้งที่ต้นว่านนั่งที่โซฟาต้นโมกก็จะกระโดดขึ้นไปนอนข้างๆ ด้วยเสมอ


หลังจากรดน้ำต้นไม้เสร็จผมก็เดินกลับเข้ามาในบ้านและตรงไปยังห้องครัวเพื่อทำมื้อเช้าง่ายๆ เพื่อรอต้นว่านที่น่าจะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า การมีต้นว่านมาเป็นเลขาส่วนตัวถือเป็นเรื่องดีมาก ต้นว่านทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่โดยไม่มีอิดออด แถมยังทำงานที่ให้ไปอย่างรอบคอบ อาจเพราะแบบนั้นประธานอย่างผมเลยไว้ใจให้ไปเข้าประชุมแทนอยู่บ่อยๆ ถึงจะถูกสายตาเคืองๆ มองมาแต่ผมก็ไม่สนใจหรอก คนที่มีความสามารถระดับนี้ต้องได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาความสามารถให้สูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ


“ทำอะไรดีนะ โอ๊ะ...มีไก่เหลือนี่นา” ผมตัดสินใจทำอาหารง่ายๆ อย่างขนมปังราดไก่ผัดซอสมะเขือเทศ อย่างที่เคยบอกไปว่าผมทำได้แต่พวกอาหารฝรั่ง ดังนั้นอาหารที่มักทำจึงเป็นอาหารที่ดัดแปลงจากสูตรที่รู้มาทั้งนั้น


แกร็ก!


“ต้นว่าน? วันนี้มาเร็วจัง อ๊ะ...เกิดอะไรขึ้น!”


ทันทีที่โผล่หน้าออกไปมองที่ประตูก็ต้องตกใจกับสภาพของต้นว่าน ตอนนี้ใบหน้าหล่อๆ นั่นเต็มไปด้วยบาดแผล ผมรีบหันไปปิดเตาก่อนจะวิ่งไปหาคนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูด้วยความเป็นห่วง


“สวัสดีครับพี่ใบไผ่”


“เจ็บอยู่ก็อย่าพึ่งพูดอะไร เข้ามาก่อนสิ” ผมบอกพลางพยุงอีกฝ่ายมานั่งบนโซฟา ต้นว่านเองก็ทำเพียงพยักหน้าเบาๆ แล้วทำตามที่บอกเท่านั้น


เกิดอะไรขึ้นกัน? จะบอกว่าไปมีเรื่องก็ไม่น่าใช่ ต้นว่านไม่ใช่คนที่จะไปมีเรื่องกับคนอื่นโดยไม่มีเหตุผลแบบนั้น


“กินยาแก้ปวดอะไรมารึยัง แล้วนี่ยังไม่ได้ทำแผลใช่ไหม เดี๋ยวพี่ไปหยิบกระเป๋าพยาบาลก่อนนะ” พูดจบก็รีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนชั้นหนังสือออกมาจัดการทำแผลให้อีกฝ่ายอย่างเบามือ ระหว่างทำแผลต้นว่านก็เอาแต่นิ่งเงียบเหมือนกำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องอะไรบางอย่างอยู่


ก็อยากรู้...แต่ผมเชื่อว่าต้นว่านจะบอกเองเพราะเราสัญญากันแล้ว


ต้นว่านจะรักษาสัญญาแน่นอน


“...พี่ใบไผ่” เสียงทุ้มที่ออกแปลกๆ ดังขึ้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตา ริมฝีปากของอีกฝ่ายเม้มเข้าหากันแน่นเหมือนกำลังชั่งใจว่าจะพูดดีไหม


“อย่าเม้มปากแน่นขนาดนั้นสิ เรายังเจ็บอยู่ พี่รอได้...ไม่ต้องรีบหรอก” มือที่ว่างอยู่เอื้อมไปลูบเส้นผมสีดำสนิทตรงหน้าอย่างอ่อนโยน


“ผม...มีเรื่องอยากปรึกษา...ได้ไหมครับ”


“ได้สิ” ผมพยักหน้าอย่างไม่ลังเล


รู้สึกดีใจจังที่ต้นว่านมาปรึกษาผมด้วย


“พี่จำคนที่หาเรื่องผมตอนทำงานพิเศษที่ร้านสะดวกซื้อได้ไหมครับ”


“ได้สิ...” คำถามที่เริ่มเกริ่นนำทำให้เดาสิ่งที่เกิดขึ้นได้


อย่าบอกนะว่าคนที่ให้ต้นว่านเป็นแบบนี้คือ...เด็กคนนั้น?


“เขากำลังไล่ครอบครัวผมออกจากบ้าน”


“ไล่เหรอ ทำไมถึงไล่ได้ล่ะ”


ปกติถึงจะมีอำนาจขนาดไหนก็ไม่น่าจะไล่ใครออกจากบ้านได้นี่นา นอกจากจะเป็นพวกบ้านเช่าที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่


“บ้านผมเป็นบ้านเช่า...”


นั่นไง...ว่าแล้วเชียว


“พวกเขาขึ้นค่าเช่าเพื่อกดดันให้พวกเราย้ายออก ช่วงแรกพ่อกับแม่ก็ทำงานมากขึ้นจนมีเงินพอจ่าย แต่ช่วงหลังถูกไล่ออกจากงานเลยค้างค่าเช่ามาหลายเดือนแล้ว”


“ตอนนี้ค้างอยู่เท่าไหร่”


เรื่องราวทั้งหมดผมเข้าใจแล้ว ไม่ต้องไปสืบก็พอจะเดาได้ว่าคนที่ไล่พ่อกับแม่ต้นว่านออกจากงานคือใคร


“...สามแสน”


คำตอนนั่นทำให้คิ้วสีน้ำตาลของผมขมวดเข้าหากันแน่น


“ค้างมากี่เดือนแล้ว?” หลักแสนนี่ไม่น่าจะแค่เดือนหรือสองแล้ว


“พ่อบอกว่าสามเดือนครับ แล้วก็ยังมีหนี้ที่ไปกู้ออกมอเตอร์ไซค์ด้วย”


“แค่สามเดือน...ยังตั้งสามแสน ถึงจะมีหนี้ค่ามอเตอร์ไซค์รวมด้วยก็ยังมากเกินไปอยู่ดี”


ถึงจะมีดอกเบี้ย แต่แบบนี้มันโกงกันเกินไปหน่อยมั้ง พูดง่ายๆ คือคิดจะทำทุกทางไม่ให้ครอบครัวของต้นว่านได้ใช้เงินคืนได้เลยสิท่า


แค่เด็กทะเลาะกัน คนเป็นผู้ใหญ่ถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยรึไง


ในเมื่อเป็นแบบนี้ จะให้อยู่เฉยๆ คงไม่ได้


“พี่ใบไผ่ พี่ว่าผมควรไปกู้เงินดีไหม”


“ไม่จำเป็น” ผมตอบพลางเลื่อนมือที่ลูบเส้นผมสีดำสนิทไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผลแทน


“...แล้วพี่ว่าควรจะทำยังไงดี” ต้นว่านนิ่งไปสักพักก่อนจะถามต่ออีกรอบ


อารมณ์ของผมตอนนี้เหมือนจะเริ่มหงุดหงิดนิดหน่อยแล้วสิ


“ต้องใช้เงินคืนภายในกี่วัน” ผมไม่ตอบแต่ถามกลับแทน


“สามวันครับ นี่พี่คิดจะทำอะไร” ดูเหมือนต้นว่านจะรู้แล้วว่าผมคิดจะทำอะไรสักอย่าง


“พี่จะจัดการให้” ผมไม่ยอมให้ใครมาใช้อำนาจในทางที่ผิดแบบนี้หรอก


“ไม่ได้นะ ผมแค่มาปรึกษาพี่ ไม่ได้อยากให้พี่มาช่วย” อีกฝ่ายรีบคว้าแขนแล้วกำแน่นเหมือนจะบอกว่าไม่ยอมให้ผมทำตามใจแน่


“แล้วเราทำอะไรได้บ้างล่ะ ถึงเราจะกู้เงินเพื่อไปใช้คืน แล้วคิดว่าเรื่องมันจะจบลงง่ายๆ แบบนั้นเหรอ? ” ผมถามกลับพร้อมกับกุมมือของอีกฝ่าย


ความเงียบถือเป็นสัญญาณที่บอกว่าสิ่งที่ผมพูดไปนั้น อีกฝ่ายก็คิดอยู่เช่นกัน


ไม่มีทางเลยที่เรื่องจะจบลงเพียงแค่เอาเงินนั่นไปใช้คืน ตราบใดที่ยังไม่มีฝ่ายไหนหลาบจำ เรื่องพวกนี้ก็จะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ ไม่มีวันจบ แล้วคนที่จะซวยคือต้นว่านและครอบครัว เพราะไม่มีอำนาจหรือทางเลือกมากเท่าตระกูลของเด็กคนนั้น


“เรื่องนี้เราให้พี่จัดการได้ไหม” ผมเอ่ยขอตามตรง


คนที่จะสามารถช่วยต้นว่านได้คือผมเท่านั้น ถ้าต้นว่านตกลงที่จะให้ช่วย ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเอง


“...นี่ผมกำลังสร้างความเดือดร้อนให้พี่สินะ” เสียงทุ้มพึมพำพร้อมกับก้มหน้าลงเพื่อซ่อนใบหน้าที่เจ็บปวดเอาไว้


“ไม่เลย พี่ดีใจที่เราบอกเรื่องนี้กับพี่ มันไม่ได้ลำบากอะไรเลย” ก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่อยากทำให้ผมเดือดร้อน แต่ผมกลับคิดว่าการได้ผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปด้วยกันจะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราแน่นแฟ้นขึ้น


“พี่บอกได้ไหมว่าจะทำยังไง”


“ขอไม่บอกได้ไหม” สิ่งคิดจะทำคงไม่ใช่เรื่องที่จะบอกอีกฝ่ายได้


ถ้ารู้...ต้นว่าก็อาจคัดค้าน


“คิดจะทำอะไรที่อันตรายเหรอ” ต้นว่านถาม น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความห่วงใยจนผมคลี่ยิ้มออกมา


“ไม่แน่นอน พี่จะไม่ทำเรื่องอันตราย”


ใช่...มันไม่อันตรายสำหรับผม แต่สำหรับครอบครัวเพชรเกษมศักดิ์คงเป็นเรื่องที่อันตรายพอดูเลยล่ะ


“...ผมไม่อยากให้ครอบครัวต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก เพราะงั้น...ช่วยผมด้วยนะพี่ใบไผ่”


คำขอร้องนั่น ผมขอน้อมรับไว้ด้วยความยินดี


“แน่นอน เราพยายามมามากแล้วต้นว่าน สิ่งที่จะใช้จัดการกับอำนาจก็มีเพียงอำนาจด้วยกันเท่านั้น” ผมบอกพร้อมกับขยับเข้าไปกอดอีกฝ่ายไว้หลวมๆ ต้นว่านเองก็กอดตอบ ใบหน้าคมซุกตัวเข้าที่ต้นคอก่อนจะดันให้หลังผมติดกับเบาะโซฟาด้านล่างโดยมีต้นว่านคร่อมอยู่ด้านบน


“ผมอยากโตเร็วๆ อยากเป็นคนที่เป็นที่พึ่งให้พี่ ไม่ใช่ตัวเองมาทำให้พี่เดือดร้อนแบบนี้”


“เราเป็นที่พึ่งให้พี่ได้เสมอต้นว่าน แม้แต่ตอนนี้ที่พี่ไม่เหลือใครก็มีเราคอยช่วยอยู่ข้างกายเสมอ เราทำให้ความเศร้าที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ลำพังเปลี่ยนไป ถ้าไม่มีเราพี่ก็ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือจากนี้ไปเพื่อใคร”


“พี่ใบไผ่...” อีกฝ่ายกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น


“ขอบคุณที่อยู่ข้างพี่นะ ตอนนี้ให้พี่ได้ทำอะไรเพื่อเราบ้างเถอะ...นะ”


“...ครับ ขอบคุณครับพี่ใบไผ่”


เสียงกระซิบนั้นดังขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ผมทำเพียงกอดตอบอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี...


ต้นว่านกำลังอ่อนแอและคนที่สามารถช่วยได้คือผม


ต้นว่านที่เข้มแข็งอยู่เสมอกลับหมดหนทางขนาดนี้แปลว่าคงไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการง่ายๆ แต่ยังไงผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้หรอก
มาลองดูกันสักหน่อย...เพชรเกษมศักดิ์


ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รอยยิ้มนั้นของต้นว่านกลับคืนมา




หลังจากวันที่ต้นว่านมาขอให้ช่วยก็มาถึงวันสุดท้ายในการคืนเงิน วันนี้ผมตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อจัดเตรียมเอกสารหลายๆ อย่างที่จำเป็น รวมทั้งติดต่อเพื่อนในกลุ่มที่ค่อนข้างมีอิทธิพลให้มาช่วยเมื่อวันก่อน และตอนนี้ก็ได้ข้อมูลที่น่าสนใจมาเยอะพอสมควร
ผมเดินทางไปหาครอบครัวเพชรเกษมศักดิ์ แน่นอนว่าไม่ได้พาต้นว่านมาด้วยแต่ก็ไม่ได้มาคนเดียว สถานที่ที่ไปเยือนคือคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ท้ายซอยหมูบ้าน ไม่ไกลจากบ้านที่อยู่ตอนนี้นัก ด้วยนิสัยที่ค่อนข้างชอบทำอะไรให้ใหญ่โตผมเลยขอให้เพื่อนพาลูกน้องมาด้วยซึ่งลูกน้องของเพื่อนผมนี่ก็...ค่อนข้างจะเสียงดังเล็กน้อย


“เฮ้ย! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!” เสียงตะโกนของหนึ่งในลูกน้องของเพื่อนผมดังขึ้นพร้อมใช้เท้าถีบยันประตูรั้วสีทอง


“นี่เซน บอกให้ลูกน้องนายถอยไปก่อนดีกว่ามั้ง” ใบไผ่หันไปกระซิบเพื่อนหลังจากที่ลงรถมายืนอยู่หน้าประตูรั้ว


แบบนี้เหมือนมากับพวกยากูซ่าเลย...ถึงมันจะเป็นความจริงก็เถอะ


เซนเป็นเพื่อนสนิทที่รู้จักกันพร้อมๆ กับเจมส์ เป็นลูกของยากูซ่าที่มีอิทธิพลระดับประเทศ แม้จะเป็นแบบนั้นแต่นิสัยจริงๆ เป็นคนที่ยึดถือหลักความยุติธรรมมาก เรื่องวันนี้เองก็เหมือนกันพอผมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง เซนถึงกับของขึ้นจนต้องรีบห้ามก่อนที่ตระกูลเพชรเกษมศักดิ์จะพินาศภายในไม่กี่นาที


“ไม่เป็นไรน่า ฉันมาเองก็ต้องให้ยิ่งใหญ่หน่อยสิ” เซนบอกพลางส่งยิ้มมาให้


“เฮอะๆ เอาไงดีซัน ห้ามน้องชายนายหน่อยสิ” เมื่อพูดกับคนน้องไม่รู้เรื่องผมเลยเปลี่ยนไปคุยกับคนพี่ที่ยืนอยู่อีกข้างแทน


ด้วยใบหน้าที่เหมือนกันอย่างกับแกะทำให้หลายคนเดาได้ไม่อยากว่าทั้งคู่ต้องเป็นฝาแฝดกัน แต่เป็นฝาแฝดที่ทำอาชีพที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คนน้องเป็นผู้สืบทอดยากูซ่าต่อจากพ่อ ส่วนคนพี่เป็นผู้สืบทอดงานตำรวจต่อจากแม่แถมตอนนี้ยังเป็นถึงพลตำรวจโทอีกด้วย


“ปล่อยไปเถอะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวฉันปิดเรื่องเอง”


“นั่นไม่ใช่ปัญหามั้ง” พูดเหมือนกำลังจะไปก่อเหตุอะไรงั้นแหละ


นี่เราไม่ได้มาจับผู้ร้ายหนีข้ามประเทศนะ


“รอนานเกินไปแล้วนะ จัดการเปิดประตู” ซันหันไปบอกกับเหล่าลูกน้องในเครื่องแบบ


“ครับผม!” เหล่าลูกน้องตอบรับอย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนจะจัดการเปิดประตูตรงหน้าด้วยแรงถีบของตำรวจกว่า 20 นาย


“ซัน...แบบนี้มันไม่ดีมั้ง” เป็นตำรวจมาทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องแล้ว


“เออน่า ไปกันได้แล้ว” นอกจากจะไม่ฟังแล้วยังเดินนำเข้าไปเหมือนเป็นหัวหน้าอีก


“ให้ตายสิ ใครที่เป็นยากูซ่ากันแน่เนี่ย”


“ยังไงซันก็เหมาะจะเป็นยากูซ่ามากกว่าจริงๆ นั่นแหละ น่าเสียดายที่เขาชอบเครื่องแบบตำรวจมากกว่าเลยทิ้งตำแหน่งไป” เซนบอก ก่อนจะเดินตามพี่ชายไป


“เฮ้อ...” เจ้าของเรื่องอย่างผมได้แต่ถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะตามทั้งคู่เข้าไปภายในคฤหาสน์


เมื่อเข้ามาจนถึงตัวห้องโถงขนาดใหญ่ก็มีเสียงการต่อสู้ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง


ว่าแล้วเชียวว่าต้องมีคนคุ้มกัน...


ผั๊วะ!


“ไผ่หลุดไปคนนึงจัดการเลย!” เสียงตะโกนของซันดังขึ้นพร้อมกับชายร่างยักษ์ที่วิ่งออกมา


“ถอยไปไอ้ขี้ก้าง อั๊ก!...”


โคร่ม!


ร่างของชายที่วิ่งออกมาถูกผมเตะเข้าที่ข้อเท้า ก่อนจะถูกศอกอัดเข้าที่ท้ายทอยอย่างรุนแรงจนทรุดลงไปกองกับพื้นในเวลาไม่กี่วินาที


“นายว่าใครขี้ก้างกัน” เห็นแบบนี้ผมก็เล่นพวกศิลปะป้องกันตัวนะ


“วิ๊ว! สุดยอดเลย” ซันยืนผิวปากส่งยิ้มมาให้


“จงใจให้หลุดสินะ” ผมพึมพำเบาๆ เพราะไม่มีทางที่ซันจะปล่อยให้ใครหนีออกมาได้หรอก


“น่า เข้ามาจัดการสิ ฉันมีเวลาอีกชั่วโมงก่อนจะต้องไปเคลียร์คดีต่อนะ”


“ขอแค่ 5 นาทีก็พอแล้ว” พูดจบก็เดินเข้าไปภายห้องโถงที่ตอนนี้มีครอบครัวเพชรเกษมศักดิ์นั่งอยู่กันครบ และมีผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าตาคุ้นๆ อยู่


...รู้สึกว่าคนนี้น่าจะชื่อ ‘เป้’ ละมั้ง


“พวกแกต้องการอะไรจากฉัน?” เสียงทุ้มห้าวจากผู้ชายที่คาดว่าจะเป็นเจ้าของคฤหาสน์ดังขึ้น


“ผมมีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อย ยินดีที่ได้รู้จักผมกิตติพิชญ์ ศิริวัฒนิวงศ์ คุณคงรู้จักผมจากลูกชายคุณแล้วสินะ” ผมแนะนำตัวเองอย่างมีมารยาท และมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าตลอดการแนะนำตัว


“ศิริวัฒนิวงศ์? ทำไมคนนามสกุลนั้นถึงได้มาที่นี่ นี่แกทำอะไรลงไปห๊ะ?!”


ทันทีที่รู้ว่าผมเป็นใคร เจ้าบ้านก็หันไปตะหวาดใส่ลูกชายที่นั่งตัวสั่นทันที


“ผมเปล่านะ แล้วไอ้นามสกุลนั่นมันน่ากลัวตรงไหนกัน พ่อก็จัดการมันไปเลยสิ!”


แสดงว่าเด็กนั่นไม่ได้เอานามบัตรของผมไปให้พ่อดูสินะ


ก็ว่าอยู่แล้วเชียว ถ้าเป็นคนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักผม


“ไอ้ลูกบ้า! แส่หาเรื่องดีนัก” คนเป็นพ่อหันไปตวาดลูกชาย แล้วหันมาทางผม “เอ่อ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ ถึงได้มากันถึงที่นี่ด้วยตัวเอง”


ก็อย่างว่าละนะ เมื่อก่อนนามสกุลศิริวัฒนิวงศ์อาจเป็นที่รู้จักกันในนามสกุลของบริษัทขนส่งขนาดใหญ่เพียงแค่นั้น แต่พอผมขึ้นเป็นประธานได้ไม่นานก็มีข่าวลือกันหนาหูว่าผมเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพล อาจจะเป็นเพราะช่วงแรกผมไปไหนมาไหนกับพวกเซนและซันตลอด แถมพวกนั้นฉายเดี่ยวได้ที่ไหน ไปออกงานแต่ละทีก็ยกโขยงกันไปจนเป็นที่จับตามอง


ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังมีนักธุรกิจต่างชาติระดับแนวหน้าอย่างเจมส์ กลาสเป็นคนหนุนหลังอีก แต่จะว่าไปก็ถือเป็นเรื่องดีเพราะมันทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่มย่ามกับผมมากนัก


“ผมเอาเงินมาคืนน่ะ” พูดจบก็ยื่นเช็คที่มีตัวเลขสามแสนเขียนเอาไว้ส่งให้เจ้าของบ้าน


“คืนเงิน? คือคุณติดเงินเราเหรอครับ”


“เปล่า ไม่ใช่ผมแต่เป็นคนรักของผม ครอบครัวมั่งมีทรัพย์ที่พวกคุณคิดจะยึดบ้านของเขาไง” ผมอธิบายให้อีกฝ่ายนึกออก


“ครอบครัวนั้น... เป้ไหนแกบอกว่าจะจัดการเองไง แล้วทำไมบ้านนั้นถึงได้รู้จักคุณกิตติห๊ะ!”


“ขอโทษครับ ผมไม่รู้”


“จะทะเลาะกันก็เอาไว้หลังจากนี้เถอะ ผมขอสัญญาที่ว่านั่นคืนด้วย ยังไงก็ใช้เงินคืนแล้ว”


“ได้สิครับ เป้ไปเอาสัญญามา”


“ครับพ่อ” อีกฝ่ายทำหน้าเซ็งก่อนจะเดินไปหยิบมาตามคำสั่ง


“อ้อ แล้วก็นี่ครับ” พูดจบผมก็หยิบเช็คอีกใบที่ใส่จำนวนเงินกว่าสามล้านยื่นให้เจ้าของบ้านอีกครั้ง


“...นี่คือ?”


“ผมขอซื้อบ้านหลังนั้นด้วยเงินสามล้าน หวังว่าคงจะพอนะ”


ผมไม่แน่ใจเรื่องราคาที่ดินของบ้านต้นว่านนักเพราะไม่เคยไป แต่จากการคาดคะเนก็ไม่น่าจะสูงมากแต่ที่จงใจให้เยอะเท่าราคาบ้านมือหนึ่งเพราะต้องการให้อีกฝ่ายขายให้อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ


“พอแน่นอนครับ ผมจะทำเรื่องให้เดี๋ยวนี้”


“แล้วก็มีอีกอย่างหนึ่งที่อยากบอก”


“ว่ามาเลยครับ”


“อย่ามายุ่งกับครอบครัวนั้นอีก ไม่อย่างนั้นเรื่องการยักยอกเงินและหนีภาษีได้ถึงมือตำรวจแน่ โอ๊ะ...คนที่ยืนอยู่ข้างผมก็เป็นตำรวจนี่นา” ผมเอียงหน้าไปหาซันที่ยืนส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ ไม่มีทางที่ซันจะกลับมือเปล่าแน่ ยิ่งได้รู้เรื่องฉาวโฉ่ของคนตระกูลนี้แล้วยิ่งไม่มีทางปล่อย


หลังจากนี้ก็ขอปล่อยให้เป็นเรื่องของตำตรวจกับยากูซ่าก็แล้วกัน


ผมขอกลับไปเตรียมตัว ก่อนจะไปหาครอบครัวของต้นว่านดีกว่า

.................................................................................................

-Rewrite- >> มาอัพรีไรท์ตอนสุดท้ายของวันค่ะ แจ้งข่าวอีกเล็กน้อยตอนนี้เรื่องพบรักกำลังเปิดพรีอยู่สามารถเข้าไปสั่งซื้อกันได้นะคะ

สวัสดีค่า

มาอัพต่อแล้ววว

แต่งตอนนี้แล้วรู้สึกมันส์มากเลย 555

โดยส่วนตัวชอบพี่ใบไผ่มากถ้าเทียบกับตัวหลักที่เคยแต่งมา

ให้ความรู้สึกมีหลายด้านให้ค้นหาดี

สำหรับเรื่องนี้ตอนหน้าก็จะจบแล้วค่ะ

หลายคนอาจอยากให้แต่งต่อ แต่เราวางเรื่องไว้แบบนี้ถ้าแต่งต่อก็อาจดูเป็นกายืดเรื่องเพราะงั้นจะแต่งตอนพิเศษมาลงให้แทนนะคะ

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจค่า

บ๊ายบาย

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2018 21:04:13 โดย nicedog »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อื้อออหือ ตื่นเต้นสะใจ

ออฟไลน์ imvodka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
เสียดายเงิน 10 ล้าน ถ้าว่านรุ้คงไม่ปลื้มแน่ๆ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
อู้วหูววพี่ใบไผ่ตอนนี้เท่สุดดอะ
ต้นว่านตอนนี้ก้น่ารักกก ดูน่าปกป้องสุดดด
และแล้วเรื่องราวก้จบลงด้วยดี
แต่ถ้าต้นว่านรู้ พี่ใบไผ่โดนบ่นแน่ๆๆ
เหลืออยู่อย่างเดียวที่ต้องทำคือเปิดตัวอย่างเปนทางการค่ะ555
ตอนหน้าจบแล้ววว ถึงจะอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆก้เถอะ
แต่ก้อยากอ่านเรื่องต่อไปของคนเขียนเหมือนกัน555
ขะเป็นแหนตาซี น่ารัก อบอุ่น แบบไหนก้ดีงามไปหมดค่าา
รอนะคะะ รอทั้งตอนจบ ตอนพิเศษ และเรื่องหน้าด้วยเลย5555

ออฟไลน์ b2friend

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่ไผ่แมนมากกก  o13

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พี่ใบไผ่นี่เป็นเคะแมนๆ ที่เท่มากกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่ใบไผ่ o13 o13 o13 o13 o13 o13

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: พี่ไผ่เท่มากเลย ขอแบบนี้สักคนได้ไหม  :mew3: เป็นคนที่มีอะไรคาดไม่ถึงตลอดเลยหนุ่มคนนี้ ต้นว่านนายเป็นคนดีก้อเลยเจอคนดีเลยน่ะเนี่ย  :กอด1: จะจบแล้วเรอะ ยังรู้สึกว่ามันน่าจะมีตอนหวาน ๆ มากกว่านี้น่ะ อยากให้มีตอนพิเศษของลูก ๆ ของมะนาวบ้างน่ะ ชอบจังเลย น่ารัก  :o8:

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
นี่แหละคือนายเอกที่แท้จริง55555555

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ใบไผ่เป็นคนตลก!! 5555 น่ารักด้วย

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
โดนซะมั่ง น่าจะให้ราคาบ้านน้อยกว่านี้หน่อย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
การจัดการของใบไผ่ออกจะการ์ตูนไปเสียหน่อยนะเราว่า
ส่วนเรื่องบ้านของครอบครัวต้นว่าน ถ้ามันมีปัญหามากขนาดนั้นทำไมตอนแรกไม่หาทางแก้ไข เอาแต่ยอมให้ขึ้นค่าเช่า กดขี่อย่างไม่เป็นธรรมอยู่ได้ เห็น ๆ อยู่ว่าพวกนั้นต้องการไล่ที ถึงจะผูกพันธ์กับบ้านที่อยู่มานานขนาดไหนพอมาเจอเรื่องแบบนี้ก็ควรจะตัดใจหาที่อยู่ใหม่ไม่ใช่เหรอ เราว่าตรงนี้มันอ่านแล้วรู้สึกแปลก ๆ

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่ใบไผ่เท่ที่สุดเลยค่ะ  o13  :mew1:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
พี่ไผ่สุดยอดๆๆๆ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
โหหหหหหป พี่ใบไผ่อย่างเท่ จัดการได้หมดจดจิงๆ
ตอนหน้าก้อกลับไปปลอบใจต้นว่านดีกว่า อิอิ -.,-

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เล่นกะใครไม่เล่นเนอะ

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
พบรัก ▪×วันสุดท้าย×▪



ช่วงบ่ายหลังจากกลับมายังบ้านเดี่ยวสองชั้นก็ถูกต้อนรับจากสุนัขทั้งสี่ตัวด้วยการกระโดดใส่เต็มแรงจนผมแทบล้ม แม้จะไม่กลัวเหมือนเมื่อก่อนแต่เพียงแค่เล็บทู่ๆ นั่นจิกลงบนเนื้อผมก็แทบร้องด้วยความเจ็บปวด


“นั่งลงเดี๋ยวนี้!” ผมตะโกนขึ้นในทันใดเมื่อฝูงสุนัขขนาดใหญ่เตรียมจะกระโดดใส่อีกรอบ


แค่รอบเดียวก็เจ็บไปทั้งตัวแล้ว


หงิ๋ง~


สุนัขทั้งสี่ตัวทำตามคำสั่งอย่างพร้อมเพรียงทำให้ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ไม่โดนกระโดดใส่อีกรอบ พอตั้งสติได้ก็หันไปมองรอบๆ แต่ก็ไม่พบกับต้นว่านที่ควรจะอยู่แถวนี้ในเวลานี้


“ต้นว่านไปไหนพวกเธอรู้ไหม” เมื่อหาไม่เจอก็เลยก้มไปถามสุนัขทั้งสี่ที่ยังคงนั่งอยู่ที่พื้น


ถ้าพวกมันตอบกลับมา ผมก็ขอวิ่งล่ะ


ผมเดินเข้าไปภายในบ้านเผื่อว่าต้นว่านจะอยู่ข้างในแต่ก็ไม่พบเลย ไม่ว่าจะในห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ หรือห้องนอน ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาอีกฝ่ายแทน


(...ครับพี่ใบไผ่)


“เราอยู่ไหนน่ะต้นว่าน” ผมถามปลายสาย


(อยู่บ้านครับ)


“บ้าน...บ้านต้นว่านเหรอ”


(ใช่ครับ พอดีพ่อกับแม่ค่อนข้างกังวลเรื่องที่วันนี้ครบกำหนดใช้หนี้แล้วน่ะครับผมเลย...)


“เรื่องนั้นพี่จัดการให้แล้วล่ะ” ผมบอกออกไป


(จัดการ? พี่จัดการให้แล้ว?)


“อ่า บอกทางไปบ้านเรามาสิ เดี๋ยวพี่ไปหา” จะให้คุยทางโทรศัพท์ก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พูดกันต่อหน้าเลยดีกว่า


(ครับ พอพี่ออกจากบ้านก็ให้ตรงมาเรื่อยๆ จากนั้นก็....)


ผมจดจำเส้นทางที่ต้นว่านบอกเอาไว้ในหัวแล้วขับรถยนต์ไปตามเส้นทางนั้น ก่อนจะเจอเข้ากับบ้านเดี่ยวชั้นเดียวที่มีพื้นที่ค่อนข้างน้อยกว่าบ้านสองชั้นของผมอยู่พอสมควร พอคิดว่าอยู่กันตั้งห้าคน สภาพภายในบ้านคงอึดอัดกันพอดู อีกอย่างบ้านหลังแค่นี้ดูยังไงค่าเช่าก็ไม่น่าแพงมากขนาดนั้น ถึงจะบอกว่าติดมาหลายเดือนแล้วก็ตาม


เอาเถอะ...ยังไงซะเรื่องนั้นก็จบแล้ว


“ต้นว่าน!” ผมตะโกนเรียกคนที่อยู่ข้างใน


“ครับ” เสียงขานรับดังขึ้นก่อนที่เจ้าของร่างสูงโปร่งจะเดินออกมาเปิดประตูรั้วและเชิญให้ผมเข้าไปด้านใน


ห้องแรกที่เจอหลังจากเข้ามาคือห้องรับแขกที่ตอนนี้มีสมาชิกในครอบครัวอยู่พร้อมหน้ากันทุกคน ไม่เว้นแม้แต่น้องๆ ของต้นว่าน ก็อย่างว่าวันนี้วันอาทิตย์ก็ควรจะนอนเล่นอยู่บ้านมากกว่าจะออกไปเที่ยวเล่นที่อื่น


“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พ่อและแม่ของต้นว่านอย่างมีมารยาท ก่อนจะหันไปยิ้มรับน้องสาวและน้องชายของต้นว่านที่ยกมือไหว้มา


“สวัสดีจ้ะสุดหล่อ เดี๋ยวน้าไปหาเครื่องดื่มอะไรมาให้นะ” คุณแม่ของต้นว่านลุกขึ้นมาทักทายเป็นคนแรก “ว่าน...ทำไมเราไม่บอกว่าจะมีแขกล่ะ” ก่อนจะหันไปบ่นต้นว่านที่เดินตามมา


“ถ้าบอก เดี๋ยวแม่ก็ทำตัวเว่อร์อีก”


“ใครเว่อร์กัน รอแป๊บนะจ๊ะ” พูดกับลูกชายเสร็จก็หันมาส่งยิ้มหวานให้ผม


“ครับ ขอบคุณมากนะครับ”


“จ้า มารยาทดีจริงๆ เลยนะพ่อหนุ่ม” คุณน้าเดินออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้มกว้าง


รู้สึกว่าท่านจะถูกใจผมนะ...


“นั่งก่อนสิ” เสียงทุ้มของพ่อต้นว่านดังขึ้นพร้อมกับเรียกให้ไปนั่งโซฟาอีกฝั่งที่ว่างอยู่


“ขอบคุณครับ” ผมนั่งลงโดยมีต้นว่านนั่งอยู่ข้างๆ


“พี่ไผ่ขา หนูไปนั่งด้วยได้ไหมคะ” เสียงหวานๆ ของน้องสาวเพียงคนเดียวของบ้านดังขึ้น


“ได้สิ” ไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธนี่


“เยส...ขอบคุณค่า” ทันที่อนุญาตเธอก็รีบย้ายมานั่งข้างผมแต่ยังไม่ทันนั่งก็ถูกต้นว่านดึงแขนไว้ก่อนจะบังคับให้นั่งลงด้านข้างตัวเองทำให้ตอนนี้ต้นว่านนั่งอยู่ตรงกลาง


“พี่ว่าน” น้องดาหันไปเรียกพี่ชายตัวเองเสียงห้วน


“นั่งนี่แหละ จะไปกวนพี่เขาทำไม”


“กวนที่ไหน พี่ไผ่ก็ให้แล้วไง” เธอยังคงเถียงต่อ


“นั่งนี่แหละ” เหมือนต้นว่านไม่รู้จะเถียงต่อไปยังไงเลยได้แต่ตัดบทไปทั้งๆ แบบนั้น จากนั้นไม่นานคุณน้าก็เดินเข้ามาพร้อมแก้วน้ำส้ม ผมขอบคุณรับแก้วนั้นไว้ด้วยรอยยิ้ม


ครอบครัวต้นว่านดูเป็นกันเองมาก ...รู้สึกดีจริงๆ


อยู่แบบนี้แล้วรู้สึกเหมือนตอนได้อยู่กับคุณพ่อและคุณแม่เลย


“ดูท่าคุณกับว่านจะคบกันแล้วสินะ”


คำถามง่ายๆ ดังขึ้นจากคุณอาหรือก็คือคุณพ่อของต้นว่านที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแต่ทำให้ผมและต้นว่านสะดุ้งพร้อมหันมองหน้ากันทันที


นี่ต้นว่านบอกคุณพ่อไปแล้วงั้นเหรอ?


“...ผมไม่ได้บอกนะ” ต้นว่านเหมือนจะอ่านสิ่งที่ถามทางสายตาได้เลยกระซิบตอบ


“คุณคะ...” คุณแม่เหมือนจะงงกับสิ่งที่คุณพ่อบอกเลยหันไปสะกิดเบาๆ


“คุณคงพอดูออกนะว่าลูกเราหลงรักเขาเข้าแล้ว” ระหว่างพูดคนตรงหน้าก็จับจ้องมายังผมราวกับจะค้นหาความจริงบางอย่าง


“พ่อ” คนที่ถูกพาดพิงอย่างต้นว่านถึงกับสะดุ้ง


“หรือไม่จริง?”


ความเงียบของต้นว่านดูจะเป็นคำตอบให้ทั้งครอบครัวได้เป็นอย่างดี


“นี่พี่ว่านชอบพี่ไผ่เหรอ” ดาถึงกับหันมาถามเสียงหลง


“ไม่ได้ชอบ” ต้นว่านพึมพำ


“อ้าว...ก็เห็นพ่อบอก”


“รักต่างหาก” ประโยคต่อมาของคนข้างกายทำเอาผมหน้าขึ้นสี


ไม่ได้ชอบ...แต่รักต่างหาก


ทั้งครอบครัวก็ถึงกับนิ่งไปเพราะสิ่งที่ได้ยิน


“ผมรักพี่ใบไผ่ และตอนนี้เราก็คบกันมาสักพักแล้ว ขอโทษที่ไม่ได้บอกนะครับ” ต้นว่านอธิบายทุกอย่างให้ครอบครัวฟัง


“ฉันก็ว่าอยู่แล้วเชียว” คุณอาเหมือนจะเป็นคนแรกที่ไม่ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน มีเพียงแค่ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น


“พี่ไผ่ของหนู...” แต่น้องดาเองดูจะเสียใจอยู่ไม่น้อย


“ของพี่ต่างหากละดา” ต้นว่านหันไปพูดเสียงเข้ม


“โหย...ทำหวงๆ ถ้าพี่ไผ่เป็นแฟนพี่ว่านก็เหมือนกับเป็นพี่หนูแหละ คอยดูนะหนูจะอ้อนจนพี่หึงไปเลย”


“ดา”


“พอแล้วทั้งคู่” คุณน้าที่นั่งเงียบอยู่ห้ามทัพก่อนจะทะเลาะกันหนักกว่านี้ ส่วนน้องคนสุดท้องอย่างผาก็ได้แต่นั่งรับฟังเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรเลย


“...แม่ครับ” น้ำเสียงของต้นว่านดูจะกังวลพอดู


“ทำไมเราไม่บอกแม่ก่อนล่ะว่าน”


“ผมขอโทษครับ”


“แบบนี้มันก็เหมือนลูกคบกับพี่เขาแค่เล่นๆ โดยไม่มีผู้ใหญ่รับรู้น่ะสิ ครอบครัวพี่เขาจะว่ายังไงเนี่ย”


ต้นว่านนิ่งไปเมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้น


“พ่อกับแม่ผม...ท่านเสียไปแล้วครับ” ผมให้คำตอบแทน


“อ๊ะ...ขอโทษนะจ๊ะ”


“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ขอโทษที่ไม่ได้มาขออนุญาตอย่างเป็นทางการ ตอนนี้อาจเป็นโอกาสดีที่ผมจะได้พูดเรื่องนี้ ผมกับต้นว่านกำลังคบกันอยู่ ผมอยากให้ทุกคนรับรู้และยอมให้ผมคบกับเขาด้วยนะครับ” ถึงจะเตรียมใจมาบ้างแต่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น


“คุณแน่ใจแล้วนะ” คุณอาพูด


“หมายความว่ายังไงครับ” ผมไม่เข้าใจ


“ก็อย่างที่คุณเห็น ครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคุณ แถมตอนนี้ยังติดหนี้อยู่อีก ไม่รู้ว่าต้องย้ายที่อยู่รึเปล่า อีกอย่างทั้งฉันและภรรยาตอนนี้ก็ถูกไล่ออกจากงาน ครอบครัวเราไม่มีอะไรที่เหมาะสมกับคุณเลยสักนิด ได้ยินแบบนี้แล้วยังจะคบกับต้นว่านต่อไปอีกไหม”


“คุณคะ พูดอะไรน่ะ!” คุณน้ารีบเขย่าแขนสามีแรงๆ เป็นการเตือน


“พูดให้เขารู้ไงว่าสถานการณ์ที่บ้านเราเป็นไง”


“ถึงแบบนั้นก็เถอะ...”


“คำตอบของคุณคืออะไรล่ะ” คุณอาถามย้ำอีกรอบโดยที่ยังสบตากันอยู่


“พี่ใบไผ่...” ต้นว่านเองก็ทำหน้าเหมือนรอคำตอบนั้นอยู่เหมือนกัน


คำตอบของผม...มันชัดเจนมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว


ผมหันไปยิ้มให้ต้นว่านพร้อมกับเอื้อมมือไปกุมมืออีกฝ่ายไว้หลวมๆ


“ผมไม่ได้คบกับต้นว่านที่ฐานะ ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน ต้นว่านก็มอบความกล้าให้ผม เพื่อไปเผชิญหน้ากับความกลัวจนสามารถผ่านมันไปได้ เขาทำให้ผมที่ไม่เหลือใครแล้วได้สัมผัสถึงคำว่าความสุข ผมไม่รู้ว่ารักเขาตั้งแต่ตอนไหน รู้แค่ว่าพอรู้ตัว หัวใจผมก็มีแต่เขาแล้ว เพราะแบบนั้นผมถึงไม่สนใจเรื่องฐานะหรือครอบครัวเลยสักนิด ที่ผมสนคือต้นว่านคนเดียวเท่านั้น” นี่คือคำตอบทั้งหมดของผม


“พี่ใบไผ่” ทันทีที่พูดจบคนข้างกายก็รวบตัวผมเข้าไปกอดไว้แน่น


“...ต้นว่าน” สัมผัสอุ่นๆ ที่คุ้นเคยเรียกให้ผมกอดตอบอีกฝ่ายตามความเคยชิน


“ว้าย พี่ใบไผ่น่ารักจัง” เสียงของดาเรียกสติของผมให้กลับเข้าร่างก่อนจะผละออกจากต้นว่าน


ให้ตายสิ ผมกอดกับต้นว่านต่อหน้าครอบครัวเลยเหรอเนี่ย


น่าอายจริงๆ


“ลูกชายเราหน้าแดงใหญ่เลย” คุณน้าล้อต้นว่านที่ตอนนี้หน้าแดงไปหมด


“หยุดพูดเถอะน่าแม่อะ”


“คำตอบแบบนี้ได้ไหมครับ” ผมถามกลับคุณอาที่นั่งส่งยิ้มมาให้


“ได้สิ ฝากลูกชายฉันด้วยนะ”


“แน่นอนครับ”


“จะว่าไป ที่พี่ใบไผ่บอกว่าจัดการแล้วคืออะไรเหรอครับ”


“ถามมาก็ดีเลย เกือบลืมไปแล้ว” เพราะมีหลายๆ อย่างเกิดขึ้นเลยลืมไปเลยว่าจะต้องคุยเรื่องนี้กับต้นว่านและครอบครัว


“จัดการอะไร” คุณอาถามขึ้นเช่นกัน


“ผมจัดการเรื่องหนี้ให้แล้วครับ” ผมตอบไปตามตรง


“หนี้? อย่าบอกนะว่า...ว่านแกไปบอกเขาเหรอ!” ต้นว่านสะดุ้ง


เสียงนั้นดูจะแฝงไปด้วยความไม่พอใจอยู่มากพอสมควร


“เอ่อ...ครับ ตอนแรกผมแค่ไปขอคำปรึกษา แต่ว่าพี่เขาอยากช่วย ผมเลย...”


“แกเลยให้แฟนตัวเองใช้หนี้ให้!” คุณอาต่อประโยคต่อไปด้วยน้ำเสียงแข็งๆ


“...ครับ” ต้นว่านก้มหน้าลงเล็กน้อยคล้ายกำลังสำนึกผิด


“ฮึ...ขอโทษด้วยนะที่ลูกชายฉันทำแบบนี้ ถึงเป็นแฟนกันแต่ให้มาใช้หนี้ของครอบครัวตั้งสามแสนมันไม่น่าดูเลยจริงๆ” คุณอาก้มหัวขอโทษ


“ไม่เป็นไรครับ ผมเองแหละที่ตื้ออยากจะช่วย ต้นว่านเวลามีอะไรชอบปิดบังเพราะเกรงใจกันตลอด แต่ผมอยากจะช่วยเหลือเขาบ้าง เรื่องนี้อาจเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ผมสามารถช่วยเขาได้ ดังนั้นอย่าคิดว่ามันดูไม่ดีเลยนะครับ ทุกอย่างมันเป็นความต้องการของผมเองต่อให้ต้นว่านไม่มาขอคำปรึกษา ผมก็มั่นใจว่ายังไงเรื่องก็ต้องมาถึงหูผมอยู่ดี”


“แต่สามแสนไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลยนะ”


“แต่มันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกที่ผมมีต่อต้นว่านเลยครับ อย่ากังวลเรื่องเงินเลย”


“ครอบครัวเราจะหาทางใช้คืนก็แล้วกันนะ” คำพูดนั่นดูจะเหมือนเป็นคำสั่งมากว่าคำบอกเล่า


“ผมไม่รับครับ”


“คุณ...” เมื่อถูกผมตอบไปแบบนั้นอีกฝ่ายก็พูดไม่ออก


“อ้อ...แล้วผมก็มีของจะให้ด้วย” พูดจบซองเอกสารที่ถือมาด้วยก็ถูกส่งให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม


“พี่ใบไผ่ นั่นอะไรน่ะ” ต้นว่านกระซิบถาม


“รอดูละกัน”


“นี่มัน...” กระดาษที่อยู่ภายในถูกหยิบขึ้นมาอ่านพร้อมกับคิ้วสีดำที่ขมวดเข้าหากันมากขึ้น


“อะไรคะคุณ อ๊ะ! นี่มันโฉนดที่ดินนี่”


“พี่ใบไผ่!” เสียงทุ้มของต้นว่านดังขึ้นทันทีที่ได้ยิน ดวงตาคมสีน้ำตาลหันมามองผมอย่างเอาเรื่อง


“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ” คนฟังอย่างผมเอ่ยเสียงอ่อย


“พี่เสียเงินไปเท่าไหร่” แค่ได้ยินคำว่าโฉนดก็ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้ว


“...ก็นิดหน่อย”


“พี่ตอบไม่ตรงคำถาม ผมถามว่าเท่าไหร่!”


“ว่านอย่าเสียงดังใส่พี่เขาแบบนั้น” คุณน้าเข้ามาช่วยพูด


“แต่แม่...ดูสิว่าพี่เขาทำอะไร แค่ใช้หนี้สามแสนนั่นให้ผมก็รู้สึกแย่จนไม่รู้จะแย่ยังไงแล้ว แต่นี่ยังซื้อบ้านนี่ให้อีก แบบนี้จะให้ผมอยู่เฉยได้ยังไง”


“พี่ก็แค่อยากตัดปัญหา ยังไงหลังจากนี้ของที่เป็นทรัพย์สินของครอบครัวเพชรเกษมศักดิ์ก็จะถูกตรวจสอบ แล้วถ้าพบว่าทางนั้นมีความผิดจริง ครอบครัวเราอาจต้องย้ายที่อยู่นะต้นว่าน” ผมบอกไปตามตรง


ผมไม่ใช่คนที่เอะอะก็จะใช้เงินซื้อทุกสิ่ง แต่เพราะเรื่องนี้มันจะเป็นปัญหาใหญ่ ครอบครัวเพชรเกษมศักดิ์มีคดีอยู่มาก ดีไม่ดีทรัพย์สินทั้งหมดอาจถูกอายัด และถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าครอบครัวของต้นว่านจะได้อยู่ที่เดิม


“พี่ทำอะไร”


“พี่เปล่านะ คนที่ทำคือตัวพวกเขาเองต่างหาก พวกเขาทำเรื่องทุจริตไว้เยอะมากทั้งยักยอกเงิน ลักลอบเอาสินค้าผิดกฎหมายมาขาย หรือแม้แต่การใช้อำนาจไม่ในทางไม่ชอบ”


“พี่แจ้งตำรวจ?”


“...ก็ไม่เชิง พอดีพี่ต้องการสืบข้อมูลของครอบครัวนั้น แต่เรื่องพวกนี้พี่ไม่ถนัดเลยให้เพื่อนช่วย และเผอิญว่าเพื่อนพี่เป็นตำรวจพอดี มันก็เท่านั้นเอง”


ถ้าทางนั้นไม่ทำอะไรก็ไม่ต้องโดนแบบนี้หรอก


ไม่มีความลับไหนที่จะปิดเงียบไปตลอด


“...”


“ต้นว่าน พี่ขอโทษที่ไม่บอกก่อน อย่าโกรธกันนะ” ผมรีบบอกเพราะต้นว่านดูเหมือนจะนิ่งๆ ไปหลังจากที่ฟังจบ


“พี่บอกมาก่อนว่าใช้เงินซื้อบ้านนี้ไปเท่าไหร่”


“ก็ประมาณ...”


“อย่าคิดโกหกผมเชียว” สายตาที่สบมานั้นทำให้ผมได้แต่ถอนหายใจแรงๆ ออกไปก่อนจะบอกความจริง


“...สามล้าน” ผมเอ่ยตอบเสียงเบาหวิว


“ฮะ? ว่าไงนะพี่ใบไผ่!”


“ว้าย...สามล้าน!” ดาที่ฟังอยู่ข้างๆ ถึงกับยกมือขึ้นปิดปาก


ผู้ใหญ่ทั้งสองคนถึงกับพูดไม่ออกได้แต่มองมาทางผมอย่างอึ้งๆ ไม่ต้องถามถึงน้องคนสุดท้องอย่างผาที่ทำตาโตส่งมาเหมือนกัน


“พี่ใบไผ่...พี่...”


“ไม่ๆ อย่าพูดๆ พี่ไม่อยากฟังคำบ่นแล้ว ยังไงพี่ก็ซื้อมาแล้วเพราะงั้นก็อย่าไปพูดถึงอดีตเลย” ผมรีบพูดแทรกก่อนที่จะได้ยินคำบ่นจากต้นว่าน


“พี่พูดเหมือนของที่พี่ให้ราคามันแค่พันสองพันงั้นแหละ นี่มันตั้งสามล้านเลยนะพี่ ถึงจะบอกว่าตัดปัญหาแต่ราคานี้มันมากไป บ้านหลังนี้ให้ล้านเดียวก็ยังว่าแพงเลยแล้วพี่ไปซื้อตั้งสามล้านเนี่ยนะ...”


สุดท้ายก็ต้องโดนต้นว่านบ่นอยู่ดี ผมก็ได้แต่นั่งทำหน้าหง๋อยรอจนอีกฝ่ายบ่นเสร็จ


“อย่ามาทำหน้าหง๋อย เรื่องนี้พี่ผิดเต็มๆ เลยนะ...”


“...ขอโทษ”


“เฮ้อ พ่อ-แม่เอายังไงดี” ต้นว่านหันไปถามพ่อแม่ตัวเอง


“นั่นสิ แกว่ายังไงล่ะ”


“ผมอยากใช้คืน แต่ยอดเยอะขนาดนั้นคงใช้ไม่หมดภายในปีหรือสองปีแน่” ต้นว่านตอบ


“เราไม่ต้องใช้คืนพี่...” ผมที่กำลังพูดรีบกลืนคำสุดท้ายลงคอเมื่อถูกดวงตาคมนั้นจ้องมา


“แม่ว่าไงครับ”


“...เห็นด้วยที่จะใช้คืนนะ แต่การทยอยจ่ายมันต้องมีดอกเบี้ยนี่”


“ก็ใช่...”


“งั้นแบบนี้ล่ะ คุณชื่อกิตติพิชญ์สินะ” คุณอาหันมาถาม


“เรียกผมว่าใบไผ่ก็ได้ครับ”


“ก็ได้ใบไผ่ เธออยากได้ดอกเบี้ยแบบไหนล่ะ”


“ครับ? คือผมไม่อยากได้ดอกเบี้ยครับ”


ในเมื่อผมให้แล้วคือให้ จะมาใช้หนี้กันทำไม


“ฉันมีข้อเสนอ”


“เอ่อ...” ฟังที่ผมพูดอยู่ใช่ไหม


“ครอบครัวเราจะใช้หนี้ทั้งหมดโดยการส่งลูกชายคนโตไปขัดดอก”


“ฮะ?”


ลูกชายคนโต...หมายถึงต้นว่าน


แล้วให้ขัดดอกหมายถึงจะให้ต้นว่านมาอยู่กับผมเหรอ?


“พ่อ...พูดอะไรถามกันก่อนสิ” ต้นว่านโวยวาย


“จะถามทำไม แกน่ะรีบไปเก็บเสื้อผ้าเตรียมย้ายไปบ้านนั้นได้แล้ว”


“พ่อ”


“ไปทำหน้าที่ขัดดอก และดูแลแฟนให้ดีล่ะ”


ประโยคสุดท้ายทำให้ต้นว่านที่อยากจะพูดอะไรเงียบอย่างรวดเร็ว


“...แต่ที่บ้าน”


“ว่าน บ้านเราก็อยู่แค่นี้ แกเดินไปกลับยังทำมาแล้ว นี่จะมาห่วงอะไร”


“พ่อๆ แบบนี้ห้องก็เป็นของหนูแล้วใช่ไหม” ดารีบลุกขึ้นไปถาม


“ผมก็อยู่ด้วยนะพี่ดา” ผารีบบอกพี่สาว


“เดี๋ยวสิ ผมยังไม่ได้ตกลง”


“แม่จะไปช่วยเก็บนะ ลูกชายออกเรือนก็แบบนี้แหละ” คุณน้าพูดติดตลก


“ออกเรือนอะไรแม่ เดี๋ยวก่อนสิ ยังไม่ต้องเก็บ...” ต้นว่านรีบวิ่งตามแม่ไปโดยทิ้งผมไว้กับครอบครัวอีกสามคน


“ความจริงไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้นะครับ ผมไม่ได้ต้องการให้ใช้เงินคืน”


“ฉันรู้”


“งั้นทำไม...” ทำไมถึงยังยืนยันว่าจะใช้คืนล่ะ


“ลูกชายฉันรักเธอจริงๆ แค่ดูก็รู้แล้ว เขาอยากอยู่ข้างเธอแต่เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบบอกความต้องการของตัวเอ งฉันเลยต้องจัดการให้...”


“คุณอา...”


“เธออยู่คนเดียวนี่ คงเหงาน่าดูเพราะงั้นให้ว่านไปอยู่เป็นเพื่อน อ้อ...ไปอยู่เป็นแฟนละกัน”


“ขอบคุณครับ”


(มีต่อค่า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2018 20:30:01 โดย nicedog »

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อนะคะ)



พอต้นว่านลงมา ทั้งครอบครัวก็ออกมาส่งกันที่หน้ารั้วบ้าน กระเป๋าเป้ใบเดียวที่อีกฝ่ายสะพายมาเหมือนกำลังจะไปออกค่ายที่ไหนสักแห่ง


ก็นะ...บ้านก็ใกล้แค่นี้ จะเดินมาเปลี่ยนยังได้เลย


“มองอะไรต้นว่าน” ผมถามเพราะรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมา


“ผมไปนอนบ้านพี่ได้จริงนะ”


“ไม่อยากไปเหรอ”


“ไม่ใช่ แค่...รู้สึกแปลกๆ”


“ยังไง”


“ก็ตอนที่ไปค้างบ้านพี่ครั้งล่าสุดเรายังไม่ได้...เป็นแฟนกัน แต่ตอนนี้...”


“ตอนนี้เราเป็นแฟนกัน” ผมต่อประโยคให้


“อืม”


“แล้ว?” ผมยังไม่เข้าใจเลยว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไร


“ผมไม่รู้ว่าถ้าอยู่กับพี่แล้วจะข่มอารมณ์ที่อยากฟัดพี่ได้รึเปล่า”


“ฟัด?”


“ผมไม่ได้คิดลามกอะไรนะ” คนข้างกายรีบอธิบายด้วยใบหน้าแดงๆ และทำให้คนที่ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรอย่างผมหน้าแดงไปด้วยอีกคน


“รู้แล้วน่า”


พอได้ยินแบบนั้น ก็เกิดนึกขึ้นมาได้ว่าการที่พวกเราคบกันนั้นจะต้องมีสักวันที่เรา...


งื้ออ~ไม่เอาไม่คิด!


“แล้วพี่จะน่าแดงด้วยทำไม”


“ก็...ก็เราหน้าแดงก่อนนี่”


“ฮึๆ รู้สึกว่าผมจะประหม่ามากไปหน่อยแฮะ มื้อเย็นกินอะไรดีครับ” ต้นว่านเปลี่ยนเรื่อง


“ให้พี่ทำไหม” อยากให้ต้นว่านชมว่าผมทำอาหารอร่อย


“งั้นทำด้วยกันไหมล่ะครับ”


“เอาสิ”


ทำอาหารกับต้นว่าน...น่าสนุกจัง



เชื่อไหมว่าพอถึงบ้านผมก็รีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลอง ก่อนจะออกมาช่วยกันคิดเมนูว่าจะทำอะไรดี และก็ได้ข้อสรุปที่เมนูอาหารไทยสามอย่าง ด้วยความที่ผมทำเป็นแต่อาหารต่างชาติเลยเป็นลูกมือต้นว่านซะส่วนใหญ่


“อื้ม รสใช้ได้...ต้นว่านคิดว่ารสนี้เป็นไง” ผมใช้ช้อนตักน้ำซุปต้มยำขึ้นมาเป่าเบาๆ ก่อนจะยื่นไปป้อนต้นว่านที่กำลังหั่นผักกาดขาวอยู่ด้านข้าง


“เอ่อ พี่...ผมชิมเองได้” ใบหน้าที่แดงขึ้นเล็กน้อยยิ่งทำให้ผมอยากแกล้งเข้าไปอีก


“ไม่อยากให้พี่ป้อนสินะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ


“ไม่ใช่ แต่ว่า...”


“งั้นชิมนะ...นะครับ”


“ขี้โกงนี่” อีกฝ่ายบ่นอุบอิบพร้อมชิมน้ำต้มยำที่ป้อน


“ต้นว่านน่ารัก” ผมบอกด้วยรอยยิ้ม


“พี่ใบไผ่ต่างหากที่น่ารัก” อีกฝ่ายสวนกลับ


“ไม่น่ารักสักหน่อย”


“น่ารักสิ...” พูดจบต้นว่านก็ขยับหน้าเข้ามาใกล้ก่อนจะฉวยโอกาสหอมแก้มผมอย่างรวดเร็ว


เมื่อโดนอีกฝ่ายหอมอย่างไม่ตั้งตัวก็ได้แต่ยืนเม้มปากหน้าแดงด้วยความเขินอาย


เล่นแบบนี้ก็แย่สิ!


“เห็นไหม น่ารักที่สุดเลย” เสียงกระซิบต่อมายิ่งทำให้หน้าผมเห่อแดงขึ้นไปอีก


“คนฉวยโอกาส”


“ครับๆ ทำอาหารต่อดีกว่า ก่อนที่ผมจะฟัดแก้มพี่อีกรอบ”


“หมายความว่าไง”


“พี่ไม่รู้ตัวเหรอว่าแก้มแดงๆ ของพี่มันเชิญชวนผมขนาดไหน” ต้นว่านบอกก่อนจะหันไปจัดการกับผักกาดขาวต่อ


ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนหัวใจมันกำลังจะเด้งออกมาจากอกเลย


ต้นว่านเล่นทำให้ผมเขินเอาๆ อยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้ ...ขี้โกงนี่


อยากทำให้ต้นว่านอายบ้างจัง


ระหว่างที่คิดก็หันไปมองใบหน้าด้านข้างของอีกฝ่ายก่อนจะนึกขึ้นอะไรขึ้นได้ ในเมื่ออีกฝ่ายทำได้ ผมก็ทำได้เหมือนกัน


“ต้นว่าน”


“คะ...” ใบหน้าที่หันมาถูกผมจัดการปิดปากนั้นด้วยปากของตัวเองอย่างรวดเร็วก่อนจะผละออกแล้วขยับไปกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูคนรัก


“ใบหน้าแดงๆ ของต้นว่านก็เชิญชวนพี่เหมือนกัน ฮึๆ”


มื้อเย็นที่เต็มไปด้วยความเขินอายผ่านไปจนถึงช่วงกลางคืน พวกเราต่างแยกย้ายกันนอนตามห้องของตัวเอง ห้องของต้นว่านอยู่ชั่นล่างเหมือนกันแต่อยู่ถัดจากห้องผมไปหน่อย


ถึงจะบอกให้ไปนอนชั้นสอง แต่ต้นว่านก็ไม่ยอมอยู่ดี


ไม่รู้จะเกรงใจอะไรนักห้องที่นอนอยู่นั่นก็เล็กกว่าห้องนี้เกือบครึ่งได้


“จะว่าไปถ้าเป็นแฟนก็ควรนอนด้วยกันรึเปล่านะ?”


อยู่ๆ ก็นึกเรื่องนี้ขึ้นได้ ผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่บนเอวถูกดึงออกพร้อมกับใส่ชุดนอนที่เตรียมไว้โดยในหัวก็ยังคิดเรื่องต้นว่านอยู่ตลอด หรือว่าผมควรจะให้ต้นว่านมานอนห้องนี้ดี ยังไงห้องนี้ก็ใหญ่อยู่แล้วแถมเตียงก็กว้างจะตาย นอนกันสองคนได้สบายๆ


“ไปก็ไปสิ”


ในที่สุดผมก็ตัดสินใจจะไปชวนต้นว่านมานอนด้วยกัน



ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“ต้นว่าน”


“ครับพี่” ประตูตรงหน้าเปิดออกพร้อมคนในห้องเดินออกมาในชุดนอนเป็นเสื้อสีเข้มกับกางเกงสามส่วนทำให้อีกฝ่ายดูดีจริงๆ


“มานอนด้วยกันไหม”


ดวงตาคมสีน้ำตาลเบิกกว้างขึ้นทันทีที่ได้ยินคำชวนนั้น


“ต้นว่าน?”


“เอ่อ พี่...” ใบหน้าแดงๆ ของต้นว่านบอกได้อย่างดีเลยว่าอีกฝ่ายแอบคิดลามกอยู่


“นี่คิดอะไรลามกอยู่สินะ” ผมแหย่คนตรงหน้า


“ฮะ?! เปล่านะพี่”


“หื้ม แต่พี่ว่าใช่นะ”


“ก็พี่เล่นมาพูดอะไรกำกวมนี่”


“สรุปว่าคิดลามกจริงๆ น่ะสิ”


“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะน่า”


“คิกๆ ได้ แต่ไหนๆ เราก็เป็นแฟนกันแล้ว มานอนห้องเดียวกันไหม ห้องนี้มันเล็กไปเดี๋ยวจะนอนไม่สบายเปล่าๆ”


“ผมไม่เป็นไร”


“แต่พี่เป็น ไปกันเถอะ”


เมื่อรู้ว่าจะถูกปฏิเสธผมก็ไม่รอช้า รีบคว้ามืออีกฝ่ายแล้วดึงไปยังห้องนอนของตัวเองทันที แม้จะมีขัดขืนบ้างแต่สุดท้ายต้นว่านก็ยอมเดินตามมาจนพวกเรานั่งอยู่บนเตียงสีฟ้าโทนสะอาดภายในห้องด้วยกันแล้ว


บรรยากาศเงียบออกแนวอึดอัดแผ่ออกมาจากต้นว่านที่ตอนนี้นั่งตัวแข็งพิงหัวเตียงอยู่


“ต้นว่าน”


“ครับพี่” ผมเห็นนะว่าอีกฝ่ายสะดุ้งนิดๆ ตอนถูกเรียกน่ะ


“เกร็งอะไรน่ะ” ผมถามพลางขยับเข้าใกล้


“อย่าเข้ามานะพี่” ต้นว่านบอกก่อนจะขยับถอยไปจนสุดเตียง


“ก็อย่าหนีพี่สิ หยุดนะต้นว่าน” เมื่อเห็นว่านอีกฝ่ายกำลังจะลุก ผมก็รีบคว้าเอวเอาไว้จนหน้าทิ่มเตียง


โชคดีที่ไม่เจ็บ


“พี่ใบไผ่ เจ็บไหมครับ”


ดูเหมือนต้นว่านจะคิดว่าผมเจ็บนะ ดีล่ะ...


“เจ็บ เจ็บจังเลย ทำไมต้องหนีพี่ด้วยล่ะ” ผมหน้ามุ่ยใส่


“ก็...นี่พี่ไม่รู้จริงๆ เหรอเนี่ย”


“ถ้ารู้แล้วจะถามทำไมล่ะ”


“พี่กำลังทำให้ผมหมดความอดทนนะ”


“หืมม์? ความอดทนอะ… อ๊ะ!” ยังไม่ทันพูดจบร่างของผมก็ถูกคนด้านข้างดันจนหงายหลังลงกับเตียงก่อนที่ต้นว่านจะขึ้นมาคร่อมไว้


“ทำตัวแบบนี้ อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ” เสียงทุ้มก้มลงมากระซิบ


“พี่ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”


“ทำสิ แค่ได้อยู่บ้านเดียวกับพี่ผมก็รู้สึกดีจะแย่แล้ว แต่พี่ยังให้ผมมานอนห้องเดียวกันอีก กลิ่นของพี่ที่ลอยอยู่เต็มห้องทำให้ผมอยากจะครอบครองพี่มากขึ้น”


“ต้นว่าน...”


“ไม่ต้องห่วง ผมยังไม่ทำอะไรหรอก รอให้พี่เตรียมตัวเตรียมใจก่อน” พูดจบก็ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้


“คะ...ใครจะยอมกัน?” ทำไมต้องเป็นผมที่อยู่ข้างล่างล่ะ


“พี่สู้ผมไม่ได้หรอก”


“ใครจะรู้ ไม่แน่พี่อาจเก่งกว่าก็ได้” ผมบ่นอุบอิบ


“งั้นมาลองกัน”


“ฮะ? ลองอะไร อุ๊บ...อื้ออ~”


ริมฝีปากร้อนๆ ของคนด้านบนประกบลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะลุกล้ำเข้ามาสร้างความรู้สึกแปลกๆ ให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว สัมผัสอันร้อนรุ่มทำเอาผมแทบละลายได้เพราะเทคนิคที่ช่ำชองเหล่านั้น


ผมที่กำลังมัวเมาไปกับรสจูบนั้นทำได้แค่เอื้อมมือขึ้นไปโอบคออีกฝ่ายไว้หลวมๆ แล้วเงยหน้าขึ้นเพื่อรับสัมผัสนั้นให้มากขึ้นกว่านี้อีก


“อื้อออ~” เสียงครางดังขึ้นพร้อมกับความรู้สึกดีที่แล่นเข้ามาจนแทบสิ้นสติ


“ครางเสียงหวานแบบนี้จะรุกผมได้ยังไงกัน” น้ำเสียงเยาะเย้ยของต้นว่านดังขึ้นหลังจูบเสร็จ ผมจึงได้แต่เม้มปากแน่นด้วยความเขินอายที่ถูกอีกฝ่ายชักนำจนรู้สึกดีแบบนั้น


“ใบหน้าแดงๆ หลังจูบเสร็จก็น่ารัก”


“...อย่าพูด” ผมอายไปหมดแล้วเนี่ย


“พี่แกล้งผมมาเยอะ ผมขอแกล้งคืนบ้างนะครับ” พูดจบอีกฝ่ายก็ไล่จูบตั้งแต่หน้าผากลงมายังแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะเลื่อนลงมาที่คางและกลับมาจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากอีกครั้ง


“อื้ออ~ คนขี้แกล้ง” ผมได้แต่นอนหลับตาให้อีกฝ่ายแกล้งคืนจนพอใจ


“ก็พี่ชอบทำตัวน่ารัก แค่นี้ผมก็รักจะตายแล้ว”


“งั้นก็อย่ารัก...” ผมบอกเสียงสั่น


“พี่...”


“ถ้ารักแล้วจะตายก็อย่ารัก พี่อยากให้เราอยู่กับพี่นานๆ พี่จะรักเราเอง” ผมแทบไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกมา รู้เพียงว่าตอนนี้ผมมีความสุขเหลือเกินที่มีผู้ชายคนนี้อยู่ข้างกาย


“พี่ทำผมใจหายนะรู้ไหม”


“ไม่หายหรอก มันอยู่กับพี่เอง” เป็นอีกครั้งที่ผมหยอดคำหวานด้วยใบหน้าแดงๆ


“ใช่ มันอยู่กับพี่ และจะอยู่ตลอดไปด้วย”


“อืม...ขอบคุณที่รักกันนะ” ผมบอกพร้อมกับโอบคออีกฝ่ายไว้แน่นๆ


“ผมสิต้องขอบคุณ ขอบคุณที่รักผมครับพี่ใบไผ่”



ความรักนั้นเกิดขึ้นโดยไม่สนถึงฐานะ เพศ หรืออะไรก็ตาม มีเพียงแค่หัวใจเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าใครที่เป็นคนที่เรารักอย่างสุดหัวใจ


สำหรับผมมันอาจเป็นโชคชะตาที่ได้ทำให้ได้เจอกับต้นว่าน


ต้นว่านทำลายความกลัวที่ผมมี...


ต้นว่านมอบความกล้าให้ผมได้ก้าวต่อ...


ต้นว่านบอกรักให้หัวใจผมนั้นเต้นรัว...


ต้นว่านเป็นเหมือนทุกๆ อย่างสำหรับผมในตอนนี้..


แค่คำว่ารักมันอาจไม่พอ แต่ก็เป็นคำคำเดียวที่สามารถสื่อความรู้สึกที่มีในตอนนี้ได้อย่างชัดเจนที่สุด


รัก...


รักต้นว่าน


“รักที่สุดเลย!”



..................................................จบบริบูรณ์............................................

-Rewrite- >> วันนี้จะเป็นการรีไรท์ครั้งสุดท้ายนะคะ อัพรีครบทุกตอนแล้วดีใจมากเลย หวังว่าการรีครั้งนี้จะทำให้การอ่านลื่นไหลขึ้นนะคะ

สวัสดีค่ะ

ในที่สุดเรื่องราวก็ได้นำเนินมาจนถึงตอนจบได้

กว่าจะแต่งตอนนี้จบก็ใช้เวลาอยู่นาน ไม่รู้จะให้จบยังไดี 55

สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งให้ตัวละครหลักกลัวสุนัขซึ่งเราไม่ค่อยจะเข้าใจนัก(โดยส่วนตัวรักสุนัขมากมาย) ก็พยายามคิดว่าถ้ากลัวจะมีท่าทางยังไงนะ สนุกดีเหมือนกันค่ะ

แนวเรื่องสบายๆแบบนี้ทำให้ไม่รู้จะแต่งให้ดำเนินไปทางไหนดี

ไม่แน่ว่าเราอาจเหมาะกับพวกแนวแฟนตาซีมากกว่าก็เป็นได้

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกๆกำลังใจที่มีให้เสมอนะคะ

รู้สึกดีใจมากๆที่ได้แต่งนิยาย

เดี๋ยวจะมีส่งท้ายเล็กตามมาในอีกเร็ววันค่ะ อิอิ

บ๊ายบาย

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2018 20:30:50 โดย nicedog »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :-[.  มีความตัดฉากเข้าหัวเตียงนะคะพี่ต้นว่าน. ใบไผ่. อิอิอ

ขอบคุณมากค่ะ. น่ารักมากเลย

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น่ารักที่สุดเลยยย

ออฟไลน์ b2friend

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จบแบบน่ารัก จนอยากแอบอยู่ข้างห้องด้วย :hao6:

ออฟไลน์ Respire

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ารักมากๆ ผู้เขียนแต่งได้ดีทุกเรื่องเลยค่ะ ชอบสุดๆเลย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ครอบครัวต้นว่านชิลมาก ฮ่าๆ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:จบได้แบบน่ารัมากสมกับที่ตั้งใจอ่านมาเลยสนุกจริงๆๆแล้วจะรออ่านผลงานเขียนชิ้นอื่นต่อไปนะคร้าาาา :impress2: :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด