-Rewrite- When we found love พบรัก ▪×พบรักพิเศษ×▪ P.9 5/06/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -Rewrite- When we found love พบรัก ▪×พบรักพิเศษ×▪ P.9 5/06/61  (อ่าน 102180 ครั้ง)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
จริงๆ เดามาตลอดว่าใครจะกดใคร เพราะบางทีพี่ใบไผ่ก็แมนเกิน
หนูต้นว่านก็ดูอ่อนไหว บอบบาง กว่าพี่ใบไผ่ในบางครั้ง
แต่นี่ท่าทางจะเป็นพระเอกแสนงอนแทนซะแล้ว คีรี

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
อ่อยเด็กจนเด็กมันโงหัวไม่ขึ้นเชียว

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อ๊ากกกกก  ค้างอะ   :ling1:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ่านรวดเดี่ยวจบเลยยยยยยยยย
รอน้าาาาา รอว่าพี่ใบไผ่ของเราจะตอบต้นว่านไปว่าอย่างไร

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: ว๊าว คำสารภาพรักมาแบบคาดไม่ถึง คนอ่านยังตกใจแทนเลย 555 แต่เราคิดว่าใบไผ่น่าจะวางแผนเอาไว้แล้วแน่ ๆ อาจจะพอรู้แล้วว่าต้นว่านน่าจะมีใจให้กับตัวเองแต่ก้อยังเกร็ง ๆ ดูถูกตัวเองจนไม่กล้าแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาเลยหาเจมส์มาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา  :katai3: แล้วก้อได้ผลจริง ๆ ยินดีด้วยน่ะจ้ะ ใบไผ่  :L2: แผนของหนูสำเร็จแล้ว ชอบจังเลยลูก ๆ ของมะนาวเนี่ย อยากได้สักตัวจังเลย  :impress2:

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
คิดถึงมะนาวและลูกๆ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เพิ่งเห็นชื่อคนแต่ง

เรื่องราวน่ารักอีกแล้ว

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
พบรัก ▪×วันที่11×▪



“ผมรักพี่นะ ผมรักพี่ใบไผ่!”


เสียงของต้นว่านที่ตะโกนออกมาทำให้ผมตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะรู้สึกว่าความร้อนในตัวมารวมกันอยู่ที่บริเวณใบหน้าจนแดงระเรื่อในเวลาต่อมา


ต้นว่านบอกว่า ‘รัก’


รักผม?!


“ต้นว่าน...”


เดี๋ยวก่อนนะ...ผมตามสถานการณ์ไม่ทันแล้ว


การที่ผมวิ่งตามต้นว่านมาก็เพราะอีกฝ่ายทำตัวผิดปกติ เขามองเพื่อนสนิทผมด้วยสายตาแข็งๆ พูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ แถมยังทำท่าทางแปลกๆ ราวกับกำลัง...หวง


อ่า...นั่นแหละ


แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำๆ นี้ออกมาจากปากของต้นว่าน


“ผมรู้ว่าตัวเองไม่มีค่าพอที่จะพูดคำนี้กับพี่ พวกเราแตกต่างกันมากไม่ว่าจะฐานะหรืออย่างอื่น” น้ำเสียงเศร้าๆ กับวงแขนที่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นนั้นทำให้หัวใจผมรู้สึกเจ็บขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


“เราก็เอาแต่คิดแบบนั้น คิดว่าตัวเองไม่ดี คิดว่าฐานะต่ำต้อยกว่า คิดว่าไม่มีสิทธิ เอาแต่คิดไปในทางลบเสมอ เราเคยมองข้อดีของตัวเองบ้างไหม” ผมรีบพูดแทรกโดยไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ น้ำเสียงผมในตอนนี้กำลังสั่นเครือจนตัวเองยังสัมผัสได้


ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เอาแต่พูดถึงข้อเสียของตัวเองโดยไม่มองถึงข้อดีที่มีมากมายนั้นเลย ต้นว่านไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้อดีพวกนั้นทำให้ตัวผมตกหลุมรักอีกฝ่ายมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่


“ข้อดีของผม?”


“ใช่ เรารู้ไหมว่าตัวเองมีข้อดีอะไรบ้าง”


“ไม่รู้ครับ” ต้นว่านเม้มปากแน่นคล้ายกำลังคิดหนัก และสุดท้ายก็ส่ายหัวเบาๆ กลับมาแทนคำตอบ


“งั้นพี่จะบอกให้ ต้นว่านเป็นคนที่ซื่อสัตย์ จริงใจ มีเมตตา รักสัตว์ มีความรับผิดชอบ ทำอาหารเก่ง ทำงานบ้านได้ ยิ้มได้หล่อที่สุดในโลก แถมยังน่ารักมากๆ เวลาที่ถูกแหย่...”


“พี่ใบไผ่...”


“ข้อดีของเราไม่ตั้งมากมายขนาดนี้แท้ๆ แล้วทำไมถึงไม่มั่นใจในตัวเองหน่อยล่ะ” ผมถามกลับพร้อมกับยกแขนขึ้นกอดตอบอีกฝ่ายแน่นๆ


ถ้าพูดถึงข้อเสียของต้นว่านคงไม่พ้นเรื่องการคิดในแง่ลบเกินไป ไม่มีความกล้าที่จะก้าวข้ามผ่านเส้นกั้นระหว่างฐานะ ผมอยากให้เขาเปลี่ยนนิสัยตรงนี้เหมือนกัน


“...พี่”


“พี่รักต้นว่าน รักก่อนที่เราจะรักพี่อีกรู้ไหม” ผมกระซิบคำพูดนั้นออกไปเบาๆ อีกฝ่ายถึงกับนิ่งไปเลย


ทั้งที่คิดว่าจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้ในส่วนลึกของหัวใจ แต่พอรู้ว่าพวกเราต่างก็ใจตรงกันมันก็อดไม่ได้ที่จะบอกความรู้สึกนี้ให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ต่อจากนี้ความสัมพันธ์ของเราจะเป็นยังไงก็ให้มันเป็นเรื่องของโชคชะตาแล้วกัน


“ต้นว่าน...”


“พี่ล้อเล่นใช่ไหม”


“เรื่องอะไรล่ะ” ผมถามกลับแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไร


“ที่บอกว่ารักผม”


“พี่พูดจริง พี่รักต้นว่านจริงๆ นะ” ทำไมผมต้องล้อเล่นกับความรู้สึกด้วยล่ะ


“...โกหก” น้ำเสียงสั่นๆ ของต้นว่านเหมือนกำลังจะบอกว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน


“งั้นต้องทำยังไงถึงจะเชื่อใจกัน” ต้องทำยังไงถึงจะเชื่อว่าสิ่งที่พูดออกไปมันเป็นความจริง ไม่ใช่คำโกหกตามที่อีกฝ่ายเข้าใจ


“ผม...ผมไม่รู้ แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่พี่จะรักผม คนแบบผม...”


“คนแบบต้นว่านแล้วยังไง พี่ไม่สนว่าฐานะของเราจะเป็นยังไงหรือแตกต่างกันแค่ไหน พี่รักที่ต้นว่านเป็นต้นว่าน” ผมไม่ได้รักใครเพราะฐานะร่ำรวยหรือยากจน ไม่ได้รักที่รูปลักษณ์หน้าตา แต่เพราะตัวตนของต้นว่านต่างหากที่ทำให้ผมรัก


“พี่ใบไผ่”


“พี่จะทำให้รู้ว่าคำที่พี่บอกมันเป็นความจริง” พอพูดจบก็เงยหน้าขึ้นไปสบกับดวงตาคมสีน้ำตาลตรงหน้าพร้อมคลี่ยิ้มออกมาบางๆ


“พี่...”


เสียงของต้นว่านหายไปทันทีที่ถูกผมปิดปากนั่นด้วยปากของตัวเอง ไม่มีการล่วงล้ำใดๆ มีเพียงสัมผัสเบาๆ บริเวณริมฝีปาก พวกเราสัมผัสกันก่อนจะผละออกในเวลาต่อมา ผมสังเกตุสีหน้าของต้นว่านว่าจะเป็นอย่างไรเมื่อถูกผมรุกขนาดนี้


“แบบนี้เชื่อพี่ได้รึยัง?”


สภาพของต้นว่านหลังถูกจูบต่างจากที่คิดไว้อย่างสิ้นเชิง ผิวสีออกแทนของอีกฝ่ายแดงระเรื่อพร้อมกับดวงตาคู่เดิมที่เบิกกว้างด้วยความตกใจ แถมยังยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้อีก


น่ารักจัง...


ผมเองก็เขินไม่ต่างกันหรอก เพียงแต่ตอนนี้ความอยากรู้มันมีมากกว่าความเขินอาย


หวังว่าจะเชื่อคำว่ารักที่พูดไปสักทีนะ


“พี่ใบไผ่...พี่รู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป” น้ำเสียงของต้นว่านเหมือนกำลังข่มอารมณ์บางอย่าง


“รู้สิ...จูบคนที่รักไง” ผมตอบเสียงเบา


พอพูดเองก็อดไม่ได้ที่จะอายนิดๆ


“จูบเหรอ ไม่ใช่สักหน่อย”


“ฮะ? ไม่ใช่ยัง...อุ๊บ อื้ออ~” ยังไม่ทันได้พูดอะไร ริมฝีปากของต้นว่านก็ประกบลงมาอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่ครั้งนี้สัมผัสของรสจูบกลับลึกล้ำมากกว่าเมื่อครู่จนเทียบไม่ติด คนโดนจูบอย่างผมได้แต่ใช้มือทั้งสองข้างกุมเสื้ออีกฝ่ายไว้แน่นเพื่อใช้ยึดเกาะไม่ให้ร่างของตัวเองทรุดลงไปบนพื้น ตอนนี้ขาผมสั่นจนแทบไม่มีแรงยืนเลย


ต้นว่าน...จูบเก่งจัง


“แบบนี้สิที่เรียกว่าจูบ” ต้นว่านละสัมผัสออกไปพร้อมกับกระซิบบอกเบาๆ ที่ข้างหู


“รู้แล้วน่า...” แค่พูดผิดไปหน่อยเดียวไม่เห็นต้องแสดงให้ดูเลยนี่


“ความรู้สึกของเราตรงกันจริงๆ


ใช่ไหมพี่ใบไผ่” ต้นว่านถามย้ำ


“อืม พี่รักเรานะ” ผมเองก็ตอบย้ำเพื่อให้อีกฝ่ายแน่ใจ


“ทำไมพี่ไม่เคยบอกผมเลยล่ะ”


“พี่ไม่อยากจะเสียเราไป ถ้าบอกไปเราอาจจะรังเกียจและไม่มาหาพี่อีก พี่เลยต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้ บอกตรงๆ ว่าจนถึงตอนนี้พี่ก็ยังไม่อยากจะบอก ความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้มันดีมากและพี่พอใจกับมันแล้ว แต่พอได้ยินคำว่ารักจากเรา พี่ก็ไม่สามารถเก็บความรู้สึกนี้ได้อีกแล้ว” พูดเสร็จผมก็ก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาที่จ้องมา


“ผมดีใจที่ความรู้สึกเราตรงกัน” ต้นว่านพูดพร้อมยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าผมอย่างอ่อนโยน


“...อืม” ผมก็ดีใจไม่แพ้กันหรอก


ใครจะคิดล่ะว่าจะได้ยินคำว่ารักออกจากปากของคนที่เราแอบรักมาตลอดแบบนี้


“พี่ใบไผ่”


“อะไร...”


“คบกับผมไหม” คำขอซื่อๆ ของเด็กหนุ่มตรงหน้าทำให้ผมอมยิ้ม


ไม่มีทั้งความโรแมนติกหรือถ้อยคำหวานๆ แต่น้ำเสียงที่เอ่ยนั้นมันเต็มไปด้วยความรู้สึกจนสัมผัสได้อย่างชัดเจน


“เอาสิ ดูแลพี่ดีๆ ด้วยล่ะ” ผมตอบตกลงแล้วเข้าไปกอดแฟนหมาดๆ ของตัวเองแน่นด้วยความรู้สึกอันเปี่ยมไปด้วยความดีใจ


“จะดูแลทั้งชีวิตเลยครับ”



หลังจากที่พวกเรากอดกันอีกสักพักใหญ่ก็กลับไปยังห้องของตัวเองที่ถูกจัดไว้บนชั้น 25 ซึ่งเป็นชั้นที่สามารถมองเห็นวิวของลอนดอนได้อย่างชัดเจน ยิ่งตอนกลางคืนแบบนี้แสงสีจากด้านล่างนั่นดูสวยงามไม่แพ้ดวงดาวที่ทอประกายอยู่ด้านบนเลย


บรรยากาศสบายๆ ที่สัมผัสได้ทำให้ภาพตอนถูกขอเป็นแฟนผุดเข้ามาอีกครั้ง เพียงแค่นึกถึงก็ทำให้ผมยิ้ม เขินอายอย่างบอกไม่ถูก หมอนใบใหญ่ที่อยู่บนเตียงสีขาวสะอาดตาถูกยกขึ้นมาปกปิดใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความเขิน และเสียงครางที่เหมือนกรีดร้องด้วยความดีใจของตัวเอง


ตอนนี้ผมกับต้นว่านเป็นแฟนกันแล้ว


“...เป็นแฟน” แค่คิดก็เหมือนจะมีควันพุ่งออกมาจากหัวเลย


ให้ตายสิเขินสุดๆ


ก๊อกๆ


แกร็ก!


“แบมรีฟ!” เสียงเคาะประตูดังขึ้นเพียงครั้งเดียวก่อนประตูจะถูกเปิดออกด้วยฝีมือของเจ้าของโรงแรมนามว่าเจมส์ กลาส


“มาทำไม?” ผมถามเสียงแข็งพร้อมทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนุ่มด้านข้าง อารมณ์เขินอายเมื่อครู่หายไปทันตา หมอนใบโตที่อยู่ในมือถูกวางกลับไปยังหัวเตียงเหมือนเดิม


“แหม...เดี๋ยวนี้ไม่สนใจเพื่อนรักอย่างฉันเลยนะ ใช่สิมีคนรู้ใจแล้วนี่นา”


“พะ...พูดอะไรน่ะ?” คำพูดของเจมส์ทำให้ผมหน้าแดงขึ้นอย่างรวดเร็ว


“อย่าปิดบังเพื่อนคนนี้เลย แค่เห็นสายตาที่หนุ่มต้นว่านมองฉันก็รู้แล้ว”


“รู้อะไร”


“รู้ว่าเขารักนายไง”


“...รู้ได้ยังไง” สายตาที่มองมาเหรอ


ไม่เห็นว่ามันจะต่างกันตรงไหนเลย


“รู้ละกันน่า แถมยังหึงที่ฉันเข้าไปกอดไปจูบกับนายอีก”


“หึง?”


“อะไรๆ นี่ไม่รู้ตัวเลยรึไง” เจมส์พูดยิ้มๆ ก่อนจะเดินมานั่งบนเตียงเดียวกัน


เจมส์เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผมตั้งแต่ที่มาเรียนที่นี่ ในตอนแรกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนี้ ทว่าพอเกิดข่าวลือเรื่องที่ผมเป็นคนจนแต่แกล้งทำเป็นรวย พวกเราก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น เจมส์เป็นคนที่อัธยาศัยดีมากจึงมีเพื่อนอยู่หลายคณะ


แต่สิ่งที่ทำให้อีกฝ่ายสนิทกับผมมากกว่าคนอื่นคงเป็นเพราะผมรู้ว่าเจมส์กำลังคบหาอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่อายุมากกว่า มันเป็นความบังเอิญที่เดินไปเจอตอนที่ทั้งคู่กำลังจูบกันแต่ผมก็ไม่ได้พูดหรือทำท่าทางรังเกียจเหมือนอย่างที่อีกฝ่ายคิดไว้จึงทำให้เจมส์ไว้ใจมากขึ้น จนถึงตอนนี้เจมส์กับแฟนคนที่ว่าก็ยังคบกันอยู่แถมยังเปิดตัวต่อหน้าทุกคนแล้วด้วย


“มานี่ไม่เป็นไรรึไง” ผมถามกลับ จำได้ว่าแฟนหนุ่มของเจมส์ก็มางานด้วย


ผมไม่อยากมีเรื่องเพราะจำได้ว่าแฟนของเจมส์นั้นขี้หึงสุดๆ


“น่าๆ ขอพักผ่อนหน่อยเถอะ” พูดจบอีกฝ่ายก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงเดียวกับที่ผมนอนอยู่


“เดี๋ยวก็มีเรื่องหรอก” ผมเอนตัวนอนลงข้างๆ บ้าง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรานอนด้วยกันจึงไม่ได้รู้สึกลำบากใจอะไร


“มีก็ดีสิ เฮอะ!”


“ทะเลาะกันสินะ” แค่เห็นท่าทางก็รู้แล้ว


“นิดหน่อยน่ะ ก็หมอนั่นแหละผิด ไปเต้นรำกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง!” เจมส์ตะโกนเสียงดังเหมือนจะระบายความโกรธที่มีอยู่ออกมา


“เพื่อนรึเปล่า” ผมออกความเห็น


“เพื่อนแล้วไง? มีสิทธิอะไรมาเต้นรำกับแฟนคนอื่นแบบนี้ คอยดูนะวันนี้จะนอนกับผู้ชายคนอื่นให้ลืมคนบ้าแบบนั้นเลย”


“ผู้ชายคนอื่นที่ว่านี่...เฮ้ย! ไม่เอานะ” ผมเด้งตัวขึ้นจากเตียงทันทีที่รู้ว่าผู้ชายคนอื่นที่ว่าหมายถึงตัวเองแน่ๆ


เจมส์เป็นผู้ชายสูงโปร่งพอๆ กับผมแต่เตี้ยกว่าเล็กน้อย ใบหน้าก็ออกสวยแต่ไม่ได้ถึงกับน่ารัก สมัยเรียนก็มีข่าวออกมาว่าผมและเจมส์เป็นคู่รักกันอยู่เหมือนกัน


นี่กำลังจะลากผมไปซวยด้วยรึไง


“แบมรีฟ ช่วยเพื่อนหน่อยนะ แค่นอนเฉยๆ เองไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” อีกฝ่ายยังคงออดอ้อนพลางกลิ้งไปมาบนเตียง สายตาอ้อนๆ นั่นไม่ได้ทำให้ความรู้สึกอยากช่วยเพิ่มขึ้นสักนิด


“ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้นสักหน่อย” รู้อยู่แล้วว่านอนเฉยๆ ที่ผมเป็นห่วงคือหลังจากที่แฟนของเจมส์รู้เรื่อง ผมนี่แหละที่จะซวย


“น่าๆ มานอนด้วยกันซะดีๆ”


“เฮ้ย! ปล่อยนะเจมส์” ผมดิ้นรนสุดชีวิตเมื่อถูกเพื่อนสนิทคว้าแขนไว้จนร่างเซไปตกบนเตียง ผมพยายามที่จะผลักอีกฝ่ายออกไปแต่กลับถูกคนที่น้ำหนักน้อยกว่าอย่างเจมส์ขึ้นนั่งทับบนหน้าท้องจนรู้สึกจุก


“อย่าหนีเลยน่า แบมรีฟหนีฉันไม่พ้นหรอก” อีกฝ่ายว่าพร้อมกับแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์


“เจมส์!” ผมไม่เล่นด้วยนะ


ก๊อก ก๊อก ก๊อก...


“พี่ใบไผ่ เกิดอะไรขึ้นผมได้ยินเสียงดังมาจากห้องพี่ด้วย”


เฮือก!


เสียงทุ้มของต้นว่านทำเอาผมสะดุ้ง


ไม่ดีแน่ถ้าต้นว่านเข้ามาเห็นผมในสภาพนี้


“เจมส์ลุกไป” ผมหันไปบอกเพื่อนเสียงขุ่น


“เสียงนี่มัน...อะฮ่า! น่าสนุกจังเลยนะ เรียกเข้ามาดีไหม” ท่าทางเหมือนเจอเรื่องสนุกของเจมส์ทำเอาคนฟังอย่างผมส่ายหัวกลับไปแรงๆ


“พี่ใบไผ่ ผมเปิดเข้าไปนะ”


“เดี๋ยว...” ผมตะโกนสุดเสียง


ปัง!


ประตูบานสีน้ำตาลถูกเปิดออกอย่างรุนแรง ไม่ต้องถามก็รู้ได้ทันทีว่าฝ่ายนั้นคงใช้คีย์การ์ดสำรองเปิดเข้ามา ชายคนหนึ่งเดินนำเข้ามาโดยด้านหลังมีต้นว่านตามเข้ามาติดๆ และทันทีที่เห็นสภาพบนเตียงคิ้วสีดำเข้มก็ขมวดเข้าหากันแน่นพร้อมกับดวงตาคมสีน้ำตาลที่จ้องมาอย่างโกรธๆ


“เจมส์!” เสียงของชายคนแรกที่มีรูปร่างสูงโปร่งและใบหน้าหล่อเหล่าตามสไตล์ต่างชาติดังขึ้น พร้อมกับเข้ามาคว้าตัวของเจมส์ให้ลุกออกจากตัวผม


ถ้าจำไม่ผิดผู้ชายคนนี้คือแฟนของเจมส์


“ปล่อยนะดาส มานี่ทำไมไปอยู่กับสาวสวยของนายสิไม่ต้องมาสนฉัน!” เจมส์ดิ้นทันทีที่ถูกอีกฝ่ายจับตัวไว้แน่น


“บอกแล้วไงว่านั่นเป็นญาติฉันเอง...อย่าดื้อสิ”


“ฉันมันดื้อแล้วไงล่ะ แบมรีฟช่วยฉันด้วย!” สุดท้ายก็หันมาขอความช่วยเหลือผมที่กำลังลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียง


“สวัสดีดาส...ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ผมไม่สนใจเจมส์แต่เอ่ยทักทายดาสแทน


“อืม”


“ฉันไม่ได้ทำอะไรเจมส์นะ จะว่าไปคนที่ถูกทำน่าจะเป็นฉันมากกว่า” ผมรีบอธิบายก่อนจะเกิดการเข้าใจผิดกัน


“รู้แล้ว ขอโทษที่เจมส์สร้างเรื่องให้”


“ไม่เป็นไร ปรับความเข้าใจกันดีๆ ล่ะ เจมส์รักนายมากนะ” ผมบอกพร้อมกับส่งยิ้มไปให้


“อืม ขอบคุณ” พูดจบร่างของเจมส์ก็ถูกอุ้มพาดบ่าออกจากห้องไป


“ไม่นะ! แบมรีฟคนทรยศ!” นั่นคือเสียงตะโกนสุดท้ายของเพื่อนสนิทผม


ขอให้พรุ่งนี้ลุกไหวนะเจมส์


เสียงโหวกเหวกที่หายไปทำให้บรรยากาศภายในห้องกลับมาเงียบอย่างรวดเร็ว...ตอนนี้ผมอยากจะมุดตัวเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มเพื่อจะได้ไม่ต้องสบตากับต้นว่าน


“พี่ใบไผ่” ต้นว่านเรียกชื่อพร้อมกับเดินมานั่งข้างๆ กันบนเตียง


“เอ่อ...พี่ไม่ได้มีอะไรกับเจมส์นะ” ผมรีบหันไปอธิบายด้วยน้ำเสียงร้อนรน


“ผมรู้แล้ว ขอโทษที่มองพี่แบบโกรธๆ ตอนแรกนึกว่าพี่นอกใจผมแล้วสิ” อีกฝ่ายพูดพร้อมกับส่งยิ้มมาให้


“ใครจะนอกใจต้นว่านกัน พี่รักต้นว่านคนเดียวนะ” ผมรีบอธิบายเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดแต่ดูจะทำให้ต้นว่านหมดความอดทน เพราะอยู่ๆ ผมก็ถูกดันราบลงกับเตียงโดยที่อีกฝ่ายขึ้นคร่อมอยู่ด้านบน


“ถ้าขืนยังพูดจาน่ารักๆ อยู่แบบนี้จะหาว่าผมไม่เตือนไม่ได้นะ” น้ำเสียงและสายตาที่ส่งมาบอกได้เลยว่าต้นว่านกำลังข่มอารมณ์บางอย่างอยู่


“...ไม่ได้น่ารักสักหน่อย”


“น่ารักสิ แก้มแดงๆ นี่ขึ้นสีเพราะผมสินะ” พูดจบต้นว่านก็ก้มลงมาจูบเบาๆ ที่แก้มทั้งสองข้างสลับกันไป


“อื้อ! อย่า...” หัวใจตอนนี้เต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมาเลย


“อย่าหยุดใช่ไหมครับ”


“อย่าแกล้งพี่!” เหมือนตัวเองกำลังจะละลายเพราะสัมผัสร้อนๆ ที่อีกฝ่ายมอบให้


“ไม่แกล้งก็ได้ เรามานอนกันดีกว่าเนอะ” ต้นว่านเปลี่ยนจากคร่อมมาเป็นนอนลงข้างๆ แทน


“นอน? เราจะนอนนี่เหรอ” ผมถามเสียงสั่น


“ใช่ครับ ผมกลัวว่าถ้าไม่เฝ้าพี่ไว้อาจมีใครย่องเข้าห้องพี่ก็ได้”


“พูดอะไรน่ะ ไม่มีหรอก”


“ก็ผมหวงของผมนี่”


ผมได้แต่ซุกหน้าลงบนหมอนเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเอง


“พี่รู้ไหมว่าผมดีใจแค่ไหนที่ใจเราตรงกัน”


“...ไม่รู้”


“ผมดีใจมากจนไม่สามารถพูดมันออกมาได้ ผมแค่อยากย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่แค่ฝันที่ยาวนานของตัวเอง”


“ต้นว่าน...”


“ผมขอนอนข้างๆ พี่นะครับ”


คำขอนั่นยากที่จะปฏิเสธจริงๆ โดยเฉพาะเวลาที่ดวงตานั่นจ้องมาอย่างวิงวอน


“เอาสิ”



ค่ำคืนอันหนาวเหน็บในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไม่ได้ทำให้คนที่นอนเคียงข้างกันในห้องพักสุดหรูรู้สึกทรมาณได้ ความรู้สึกดีๆ ในวันนี้ทำให้เราทั้งสองคนอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ เสียงหัวใจสองดวงที่เต้นประสานกันเหมือนเป็นบทเพลงที่กล่อมพวกเราให้หลับสนิทไปจนถึงเช้าของวันใหม่


งานเลี้ยงสุดหรูถูกจัดขึ้นสามวันเต็มเพื่อให้เหล่าผู้ประกอบการชั้นแนวหน้าของโลกได้พบปะพูดคุยกันเหมือนเช่นทุกครั้ง ในครั้งนี้ประธานบริษัทอย่างผมก็ได้บริษัทคู่ค้าใหม่มาอีกหลายแห่งจากการเข้าไปพูดคุยทักทายและกลายเป็นการเจรจาเรื่องงาน ส่วนต้นว่านเองก็ดูเหมือนจะใจเย็นลงมาก ไม่มีทางแข็งๆ อย่างเมื่อวันก่อนแล้ว แถมดูท่าจะสนิทกับเจมส์และดาสได้อย่างรวดเร็วด้วย





(มีต่อค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2018 20:32:30 โดย nicedog »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
(ต่อนะคะ)


การเดินทางมาลอนดอนของพวกเราครั้งนี้เป็นไปด้วยความราบรื่นจนกระทั่งถึงวันกลับ เจมส์และดาสพาเรามาส่งที่สนามบินด้วยตัวเองและสัญญาว่าถ้ามีเวลาจะแวะไปเที่ยวที่เมืองไทยบ้าง ถุงของฝากมากมายถูกหิ้วกันคนละถุงสองถุงไปยังบริษัทเพื่อแจกจ่ายให้พนักงานทุกคน


ไม่อยากบอกว่าทุกคนต่างพร้อมใจกันละมือออกจากงานที่ทำเพื่อมาต่อแถวรับของฝากจากประธานกันอย่างพร้อมเพรียง
ตั้งใจทำงานกันจริงๆ


ไม่ใช่แค่ของฝากพนักงานเท่านั้นที่ผมซื้อมาแต่ยังมีของฝากให้พ่อกับแม่ของต้นว่านด้วย ถึงแม้จะถูกอีกฝ่ายปฏิเสธว่าไม่ต้องลำบากแต่คิดเหรอว่าผมจะยอมรามือง่ายๆ...ไม่มีทาง


สุดท้ายต้นว่านก็รับของฝากไปในที่สุด


นอกจากของฝากของให้คนแล้ว ผมยังซื้อของฝากให้สุนัขทั้งสี่ตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรืออาหารสำเร็จรูป ตอนขากลับนี่ต้องใช้เวลาขนนานพอดูเลย ช่วงนี้ผมสามารถให้อาหารพวกมะนาวได้แล้วจึงไม่ต้องรอให้ต้นว่านมาทำให้ในช่วงเช้า แต่ยังไงตอนเย็นผมก็ยังให้ต้นว่านจัดการอยู่ดี


ไม่รู้ว่าเพราะอะไรพวกมะนาวถึงดูจะชอบอาหารที่ต้นว่านทำนัก ทั้งๆ ที่ก็แค่ตักใส่ชามเหมือนกัน มีแค่ต้นสนตัวเดียวที่ดูจะติดผมมากกว่าตัวอื่นที่ติดต้นว่านแจ


หงิ๋ง~


นั่นไง พูดถึงก็มาพอดี


ต้นสน สุนัขขนสีดำสนิทมาคลอเคลียบริเวณขา ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงได้เห็นภาพของผมร้องลั่นพร้อมกระโดดหนีแล้วแน่ๆ แต่พอโดนเข้าหลายๆ ครั้ง ก็เหมือนจะรู้สึกชินขึ้นมา


“ไง...ไม่ไปวิ่งเล่นแล้วเหรอ” ผมถามพลางลูบเส้นขนสีดำสนิทนั่นเบาๆ


ดูเหมือนอาการกลัวสุนัขจะหายไปแล้ว แต่ต้องเป็นสุนัขที่บ้านเท่านั้นนะ ต้นสนส่งเสียงครางเบาๆ เป็นการตอบ ก่อนจะนอนลงกับพื้นข้างๆ โซฟาที่ผมนั่งอยู่ ประตูกระจกด้านข้างถูกเลื่อนเปิดไว้เพื่อให้สุนัขสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระรวมถึงให้ลมเย็นพัดเข้ามาด้วย


ครืดดดด~


เสียงสั่นเพียงครั้งเดียวแล้วหายไปเป็นสัญญาณว่ามีข้อความเข้า ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดข้อความนั้นอ่าน รูปภาพและข้อความที่ส่งมาทำให้ผมต้องหรี่ตาลงก่อนจะถอนหายใจเบาๆ


“เฮ้อ! อีกแล้วนะต้นว่าน เกรงใจกันตลอด” ผมถอนหายใจเมื่อเห็นรูปภาพงานเลี้ยงที่มีเค้กเขียนว่า ‘สุขสันต์วันเกิดต้นว่าน’ อยู่บนนั้น พร้อมกับเพื่อสนิทอีกสี่คน


ก็ว่าอยู่ที่ขอลางานทั้งๆ ที่เป็นพวกเอาการเอางานขนาดนั้น


ขนาดเป็นแฟนกันแล้วยังเกรงใจไม่เข้าเรื่องอีก


ถ้าเพื่อนต้นว่านไม่ส่งข้อความมาบอกผมคงนั่งอยู่เฉยๆ ไปจนหมดวันโดยที่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นสำคัญของต้นว่านแน่...ยังถือว่าโชคดีที่รู้ตอนนี้


“ไม่ยอมบอกกันแบบนี้ จะเซอร์ไพรซ์ให้หนักเลย” ผมพึมพำพร้อมยกยิ้มขึ้น


ถ้าต้นว่านบอกกันสักหน่อย ของขวัญที่ได้คงจะไม่ได้มากมายอะไรเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ชอบ แต่นี่ไม่ยอมบอกกันแบบนี้ผมก็โมโหนิดๆ เหมือนกัน ผมหันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลา 11 โมงอย่างครุ่นคิด กว่าที่ต้นว่านจะกลับมาคงประมาณ 4-5 โมงเย็น ดังนั้นผมยังมีเวลาเหลือค่อนข้างเยอะสำหรับเตรียมงานวันเกิดให้


“เอาล่ะ ไปห้างดีกว่า” พูดจบก็จัดการเรียกให้ต้นสนออกไปอยู่ข้างนอกรวมกับแม่และพี่น้องตัวอื่น ก่อนจะขับรถยนต์มุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล



ผมมีของหลายอย่างที่ตั้งใจจะซื้อแต่ด้วยความสามารถในการถือของที่มีจำกัดเลยต้องซื้ออย่างรอบครอบ ไม่งั้นคงหอบกลับไม่ไหว ความจริงจะให้ทางห้างมาส่งก็ได้แต่ส่วนมากมักจะส่งเป็นเวลากว่าจะได้ของครบคงพรุ่งนี้ ของขวัญประมาณ 3-4 อย่างถูกเลือกซื้ออย่างดีก่อนจะบอกให้พนักงานห่อให้อย่างสวยงาม เมื่อจัดการพวกของขวัญเสร็จแล้ว ผมก็ลงมายังชั้นล่างที่เป็นซุปเปอร์มาเก็ตขนาดกลาง ตั้งใจจะทำอาหารเย็นเลี้ยงต้นว่านด้วยตัวเอง ครั้งก่อนที่ทำให้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะชอบมากจนอดไม่ได้ที่จะทำบ่อยๆ


“อย่างแรกที่ต้องทำคือเค้ก...” วันเกิดก็ต้องมีเค้กสิ


ถึงอีกฝ่ายจะกินมาแล้วก็ไม่สนหรอก จะให้กินจนกว่าจะหมดเลยคอยดูสิ


นี่เป็นการลงโทษที่ไม่ยอมบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิด


มีแฟนที่ไหนไม่ให้ของขวัญวันเกิดกันบ้างล่ะ


นอกจากเค้กและขนมหวานอีกสองสามอย่างที่คิดจะทำก็ยังมีพวกอาหารคาวอย่างเนื้ออบมะเขือเทศ มันบดอบผักโขม ซุปข้าวโพด และสลัดปลาแซลม่อน ถึงแม้จะทำหลายอย่างแต่ก็ไม่ได้ทำจานใหญ่มากเพราะว่ากินกันแค่สองคน ถ้าเหลือทิ้งมันจะดูไม่ดี


ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน ผมก็ไม่รอช้ารีบจัดการเตรียมของทุกอย่างที่จะทำโดยเริ่มจากของที่ต้องใช้เวลาเยอะๆ อย่างเนื้ออบมะเขือเทศก่อน เมนูนี้ใช้เวลาอบค่อนข้างนาน ต้องใช้ความร้อนต่ำเพื่อให้เนื้อนุ่มและอร่อย ต่อมาก็ทำเค้กและคุ๊กกี้อีกสองสามชนิด ระหว่างที่อบอยู่ก็เปลี่ยนมาทำมันบดกับซุปข้าวโพด


เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสี่โมงเย็น ผมก็เร่งมือขึ้นเล็กน้อยเพราะยังไม่ได้จัดโต๊ะ กว่าจะจัดโต๊ะ วางอาหาร และวางของขวัญก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง โชคดีที่ต้นว่านยังไม่กลับมาถึงบ้าน


“วันนี้กินช้ากันหน่อยเนอะ เดี๋ยวมีของดีให้ด้วย” ผมก้มลงไปบอกสุนัขทั้งสี่ตัวที่นอนอยู่ทั้งบนและล่างของโซฟายาว


วันนี้ผมทำเนื้ออบสำหรับสุนัขที่ไม่ใส่พวกเครื่องปรุงเตรียมไว้ รอให้ต้นว่านมาเราจะได้กินฉลองด้วยกัน


“เอาล่ะ...ปิดไฟดีกว่า” ผมจัดการดับไฟที่สว่างอยู่แล้วเดินไปหลบที่ห้องครัว


จะให้เปิดเข้ามาเห็นแบบปกติก็ไม่สนุกน่ะสิ


แกร็ก!


“พี่ใบไผ่ผมกลับมา...อ๊ะ ทำไมไฟในบ้านยังไม่ได้เปิด?” เสียงทุ้มดังขึ้นเมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วเจอกับห้องอันมืดสนิท มีเพียงแค่สุนัขทั้งสี่ตัวที่วิ่งออกไปต้อนรับอย่างคุ้นเคย


เจ้าของบ้านอย่างผมได้แต่แอบมองผ่านชั้นวางหนังสือที่อยู่ติดกับห้องครัวอย่างตื่นเต้น


หวังว่าต้นว่านจะยังไม่เปิดไฟนะ


“ไงมะนาว ต้นสน ต้นโมก ราตรี เจ้าของบ้านของพวกเธอไปไหนหื้อ” ต้นว่านถามพลางก้มลงไปเล่นกับสุนัขทั้งสี่ตัว ไม่นานเขาก็เดินไปทางสวิทซ์ไฟ และนั่นทำให้ผมรีบวิ่งออกไปพร้อมกระโดดกอดคออีกฝ่ายไว้แน่น...


ขืนเปิดไฟก็อดเซอร์ไพรซ์สิ


“เฮ้ย! พี่ใบไผ่?” เหมือนคนตรงหน้าจะรู้ทันทีว่าเป็นใคร


“ทำไมถึงรู้” นึกว่าจะไม่รู้ซะอีก


“กลิ่นของพี่ไง แล้วสัมผัสของพี่ผมจำได้”


คำพูดหวานๆ นั่นทำให้ผมได้แต่ซุกหน้าลงที่ไหล่ของอีกฝ่ายด้วยความเขินอาย


ไปหัดพูดคำหวานๆ พวกนั้นมาจากไหนกันนะ


“ว่าแต่พี่ทำอะไร ถึงได้อยู่มืดๆ แบบนี้” อีกฝ่ายถามต่อโดยที่มือทั้งสองข้างเริ่มโอบเอวผมช้าๆ


“ก่อนที่พี่จะตอบ เรามีอะไรจะบอกพี่ไหม” ผมถามเผื่อว่าต้นว่านจะยอมบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิด


“บอก...เรื่องอะไรครับ”


จากที่ฟังคงไม่คิดจะบอกจริงๆ สินะ


“วันนี้วันเกิดต้นว่านนี่”


“พี่รู้ได้ยังไง?” อีกฝ่ายนิ่งไปสักพัก ก่อนจะถามกลับ


“แล้วทำไมเราไม่บอกพี่ล่ะ”


“ถ้าผมบอกพี่ก็ต้องหาของขวัญอะไรให้ผมอีก ผมเกรงใจ แล้วก็...”


“แล้วอะไร?”


“แค่ผมมีพี่อยู่ข้างๆ ก็ถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว”


คำตอบที่ได้ยินทำให้ผมหลุดยิ้มกว้างออกมา “ขอบคุณต้นว่าน สุขสันต์วันเกิดนะ” ผมกระซิบบอก


“ครับ ผมดีใจที่ได้ยินจากพี่”


“แต่พี่โกรธเราอยู่นะที่ไม่ยอมบอกกันแบบนี้”


หมดเวลาโรแมนติกแล้วนะต้นว่าน


“พี่...”


“ทั้งโกรธและก็เสียใจมาก เราเป็นแฟนของพี่เพราะงั้นการที่จะรู้วันเกิดแฟนมันก็เป็นเรื่องปกตินี่ ถ้าพี่ไม่รู้จากเพื่อนเรา ถามหน่อยว่าต้นว่านจะบอกพี่ไหม” ผมถามเสียงแข็งก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟแล้วยืนจ้องต้นว่านเขม็ง


“ผมเกรงใจพี่”


“ตอบไม่ตรงคำถาม”


“พี่ใบไผ่”


“แปลว่าคงไม่คิดจะบอกพี่สินะ” พูดจบก็แกล้งทำหน้าเศร้า


“ผมขอโทษ ผมแค่ไม่อยากให้พี่ต้องวุ่นวายทำอะไรให้ผม” อีกฝ่ายแก้ตัวพร้อมมองมาด้วยสายตาที่สั่นระริก


“งั้นนี่ถือเป็นการทำโทษละกัน” ผมบอกยิ้มๆ


“ทำโทษ?”


“มาสิ...ทางนี้” พูดจบผมก็ดึงแขนต้นว่านให้เดินตามไปที่ห้องครัว


บนโต๊ะมีอาหารและกล่องของขวัญอยู่เต็มโต๊ะ ต้นว่านที่เห็นแบบนั้นก็รีบหันกลับมามองอย่างไม่เชื่อสายตา


“พี่ใบไผ่...”


“ห้ามบ่นพี่ด้วย คนที่ผิดคือเราที่ไม่ยอมบอก ถ้าบอกพี่ก่อนพี่คงไม่ทำเยอะขนาดนี้หรอก” ผมรีบพูดแทรกก่อนต้นว่านจะบ่นเสียก่อน


“ถึงอย่างนั้นนี่มันก็มากไป”


“พี่ไม่สน ของขวัญพวกนี้เอากลับไปให้หมดด้วย”


“พี่...”


“ไม่ฟังแล้วๆ มากินกันดีกว่า มีเค้กด้วยนะ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง


“พี่ให้ผมมากไปแล้ว” ต้นว่านพึมพำเบาๆ ทว่าสายตาที่ประสานมานั้นทอประกายดีใจจนผมต้องส่งยิ้มกลับไปให้


“พี่จะให้มากกว่านี้อีกต้นว่าน จะให้จนกว่าเราจะรู้ว่าถ้ายังขืนเกรงใจไม่เข้าเรื่องครั้งหน้าคงไม่ใช่ของเล็กๆ พวกนี้ที่จะได้กลับไป”
ใช่...ถ้ากล้าปิดบังอะไรผมอีก คราวหน้าจะไม่ใช่พวกของราคาไม่กี่พันพวกนี้แน่


“ขอบคุณครับพี่ใบไผ่”


“อืม คราวหน้าต้องบอกพี่นะ”


“ครับ จะบอกแน่นอน”


“ดีมาก” แบบนี้สิน่ารัก


“พี่ใบไผ่”


“หืมม์?”


“ผม...ผมขอจูบพี่ได้ไหม”


“ฮะ?”


“ผมอยากจูบพี่จัง” คำของร้องแกมวิงวอนทำเอาใบหน้าผมขึ้นสีอย่างรวดเร็ว


“...อยากทำก็ทำสิ” ก็ไม่ได้ห้ามสักหน่อย


“พูดแล้วนะ...”


“อืม...” คำพูดที่กำลังจะเอ่ยถูกกลืนหายไปเพราะสัมผัสอันร้อนรุ่มที่คนตรงหน้ามอบให้


มันไม่ได้รุนแรง ตรงกันข้ามมันกลับอ่อนโยนจนผมต้องยกมือขึ้นโอบคออีกฝ่ายเอาไว้หลวมๆ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นเพื่อตอบรับสัมผัสนั้นมากกว่าเดิม งานวันเกิดผ่านไปอย่างเงียบๆ ทว่าเปี่ยมไปด้วยความสุขและความทรงจำ


ผมจะจำไว้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของต้นว่าน


คอยดูเถอะ...ปีหน้าผมจะจัดงานให้ใหญ่กว่านี้แน่นอน


..............................................................................

-Rewrite- >> มารีไรท์ต่อค่ะ อีกไม่กี่ตอนจะรีไรท์จบแล้วจะมาอัพตอนพิเศษให้อ่านกันนะคะ

สวัสดีค่ะ

ก่อนอื่นมีเรื่องแจ้งสำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามเพจเรานะคะว่าเราจะงดอัพนิยาย2อาทิตย์เนื่องจากต้องจัดการงานและสอบปลายภาคให้เสร็จ

ใครที่ไม่ได้ตามเพจสามารถเข้าไปตามได้นะเวลามีเรื่องอะไรเราจะแจ้งในเพจค่ะ >>nicedog

สำหรับตอนนี้ถือเป็นตอนส่งท้ายก่อนจะหยุดอัพเลยแต่งให้ยาวหน่อยซึ่งก็ยาวตามที่คาดไว้555

เนื้อเรื่องอาจดูดำเนินเร็วไปบ้างแต่ก็จะพยายามแต่งให้ออกมาดีที่สุดค่ะ

หลายคนต่างเริ่มเปลี่ยนอยากให้ต้นว่านเป็นฝ่ายรับเนื่องจากความน่ารักและพี่ใบไผ่ที่ชอบแหย่เหลือเกิน

อยากบอกตรงๆนะคะว่าคิดฉากncคู่นี้ไม่ออกจริงๆว่าจะไปในทิศทางไหน

ดังนั้นไม่แน่ว่าอาจไม่มีฉากนั้นจนจบเรื่องเลยค่ะ 555

ถือเป็นแนวใสๆไปละกันเนอะ

ไว้เจอกันใหม่ในตอนต่อไปนะคะ

อย่าพึ่งลืมกันนะะะ

บ๊ายบาย

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2018 20:33:20 โดย nicedog »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :-[   :mew1:  จูบแล้ว  จุดพลุเลยค่ะ
ลูกๆพร้อมแล้ว แต่พ่อแม่ล่ะพร้อมหรือยังอิอิ
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น่ารักเกินไปล้าวววว

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ไม่มีฉากนั้นจริงอ๋อ 555555 อยากดูโมเม้นเค้ากุ๊กกิ๊กกันจัง :hao6:

ออฟไลน์ b2friend

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เป็นแนวนี้ก็น่ารัก และอบอุ่นดีค่ะ :katai2-1:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: น่ารักมากจริง ๆ เราก้อคิดไม่ออกน่ะว่าจะให้ใครเป็นเคะดี แต่เรามองว่าให้พี่ใบไผ่ดีกว่า ต้นว่านดูน่าจะเป็นเมะที่ดีน่ะ  :mew3: แอบฟินกับคู่ของเจมส์จังเลย จะมีเปิดเรื่องของเขาด้วยไหม  :mew2: รอได้น่ะจ้ะ สู้ ๆ จ้ะ ไปทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดเลยจ้า ทางนี้รอได้เสมอ :mew1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
น่าร้ากกกกกกก

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เอ็นดูต้นว่านมากๆ ^///^

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อูยยยยยยยย เขินนนนนนนนน

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
น่ารักอยู่กันแบบนี้ก็น่ารัก
เลี้ยงหมาเป็นลูกกกกก :mew1:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
น่ารักกันเกินไปแล้วววว
รอค่าา

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
นึกภาพไม่ออกเหมือนกันค่ะ อ่าน ๆ ไปแล้วรู้สึกว่าน่ารักทั้งคู่เลย (จะสลับกันก็คงได้อยู่ ฮา)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อีกไม่นานพี่ใบไผ่โดนจัดการแน่ๆ คึคึ

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
รอน้าาาาา~ :hao7:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
รอออๆๆ

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ต้นว่าน นิสัยเด็กไป ทำงานในตำแหน่งเลขาได้ด้วยหรอ เอะอะวิ่งหนี เอะอะโกรธ ไม่มี คิด วิเคราะห์ ไตร่ตรองแยกแยะอะไรเลย ถึงจะมาฟังทีหลังก็เถอะ แต่ถ้า มันเป็นนิสัยส่วนตัว แล้วแบบนี้เวลาอยู่ในสังคมจะทำยังไง ถ้าทำงาน แล้วโดนคนอื่นดูถูก ไม่ต่อยเขาหรอ หรือทนได้ เพราะจำทน ให้เขาโขกสับ แบบ ไม่คิดจะใช้วิธีการเชือดนิ่ม ๆ แบบใบไผ่หรอ หรือจะบอกว่าเป็นกับใบไผ่คนเดียว นิสัยแบบนี้

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
พบรัก ▪×วันที่12×▪




งานวันเกิดที่ถูกจัดขึ้นอย่างลับๆ โดยไม่ให้เจ้าของวันเกิดอย่างผมรู้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนนั้นเป็นงานวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ ทั้งที่ไม่ได้บอกแท้ๆ ว่าเป็นวันเกิดแต่ดูเหมือนจะมีเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มมาบอกและเดาไม่อยากว่าเป็นใคร


ผมได้ไม่โกรธอะไรพี่ใบไผ่แต่กลับดีใจเสียอีกที่พี่เขาจัดงานวันเกิดให้แบบนี้


ไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่มีความสุขแบบนั้น ได้เป็นทั้งคนที่ถูกห่วงใยและได้เป็นทั้งคนรัก ความรู้สึกของพวกเราตรงกัน จนถึงตอนนี้ก็ยังอดไม่ได้ที่จะดีใจทุกครั้งที่คิดถึง


“ต้นว่าน” เสียงนุ่มติดหวานของพี่ใบไผ่ดังขึ้น


“ครับ” ผมขานรับก่อนจะลุกจากโซฟาที่นั่งอยู่กับพวกมะนาวซึ่งนอนเรียงอยู่ทั้งด้านบนและด้านล่าง


“ไม่ต้องลุกๆ” เสียงเดิมดังขึ้น ไม่นานเจ้าของบ้านก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกล่องของขวัญสี่กล่องที่ผมยังไม่ได้เอากลับบ้านไปสักที


“พี่ไม่ต้องยกมาให้ก็ได้ครับ”


“ไม่ได้ ขืนรอให้เราไปหยิบเองคงได้แกะปีหน้านู่น” พูดจบพี่ใบไผ่ก็นั่งลงข้างๆ โดยไม่กังวลถึงสุนัขทั้งสี่ตัวที่นอนอยู่รอบๆ

เหมือนอย่างแต่ก่อน เท่าที่สังเกตมาหลายวันดูเหมือนว่าความกลัวสุนัขของพี่ใบไผ่จะหายไปแล้ว ถึงจะไม่แน่ใจว่าจะยังกลัวสุนัขข้างนอกอยู่ไหมแต่ได้แค่นี้ก็ดีมากแล้ว


“พี่ก็เว่อร์ไป”


“พี่พูดจริงนะ มาแกะกันเลยดีกว่า พี่อยากให้เราเห็นแล้วว่าพี่ซื้ออะไรให้” อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงพลางเลือกกล่องของขวัญที่จะแกะเป็นกล่องแรก


“เป็นอะไรผมก็ชอบทั้งนั้นแหละ” ผมตอบกลับไปตามตรง ถ้าได้ชื่อว่าเป็นของที่พี่ซื้อให้ต่อให้เป็นอะไรก็คงยิ้มแล้วรับมาด้วยความยินดี ผมไม่หวังว่าจะได้อะไรในวันเกิดจากพี่ใบไผ่เพราะแค่ได้มีพี่ใบไผ่อยู่ข้างๆ แบบนี้มันก็ถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้วจริงๆ


“เปิดได้แล้ว” ใบหน้าแดงๆ นั่นทำให้ผมยิ้มออก ก่อนจะแกะกล่องของขวัญที่อีกฝ่ายยื่นมาอย่างลุ้นๆ


ถึงจะบอกว่าอะไรก็ได้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น...


ของอะไรที่พี่ใบไผ่อยากให้ในวันเกิดนะ


ผมแกะกระดาษห่อของขวัญสีเขียว และเปิดฝากล่องสีขาวที่อยู่ด้านในออกมา เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่มีลายเล็กๆ สีน้ำเงินดูสบายตาปรากฏขึ้น แค่สัมผัสเนื้อผ้าก็รู้ว่าราคาของมันคงมากกว่าที่คิดไว้หลายเท่าแน่


“ขอบคุณครับ ผมชอบมากเลย” ผมบอกคนที่กำลังนั่งลุ้นอยู่ข้างกาย


“จริงเหรอ พี่ไม่รู้ว่าเราชอบสีอะไรเลยเลือกสีที่กลางๆ แบบนี้มา”


ทันทีที่ชมใบหน้าลุ้นๆ ก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างทำเอาผมอยากจะเอื้อมมือไปดึงแก้มชมพูระเรื่อตรงหน้าเล่นจริงๆ


ท่าทางดีใจของพี่ใบไผ่น่ามองมาก...


“กล่องต่อไปเป็นอะไรครับ”


“ลองเดาดูสิ” ไม่นานกล่องสีฟ้าด้านข้างก็ถูกวางลงบนตัก


กล่องทั้งสามค่อยๆ ถูกแกะออกอย่างเชื่องช้าจนได้เห็นของที่อยู่ภายในตามลำดับ นอกจากเสื้อที่ได้กล่องแรกแล้ว ยังมีกางเกงสีกรมท่าเข้ากับเสื้อเชิ้ตในกล่องแรก แค่นั้นยังไม่พอในกล่องต่อมายังมีเข็มขัดหนังและนาฬิกาสีเงินเรือนสวยอีกด้วย


“พี่ใช้เงินไปเท่าไรเนี่ย” ทั้งที่คิดว่าจะปล่อยผ่านเรื่องมูลค่ารวมแล้วเชียว แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ เท่าที่ดูคงไม่ใช่แค่พันสองพันเป็นแน่


“ก็พอสมควร” ท่าทางแบบนั้นบอกได้อย่างดีเลยว่าต้องมากกว่าที่ผมคิดไว้ชัวร์


“พี่ไม่ควรใช้เงินกับเรื่องนี้มากขนาดนั้นนะครับ”


“พี่แค่อยากให้ เราก็ควรรับไว้ด้วยความยินดีสิ” อีกฝ่ายบ่นจนหน้ามุ่ย


“ผมยินดีอยู่แล้ว แต่แค่พูดไว้เฉยๆ ครั้งหน้าไม่ต้องให้ของแพงๆ กับผมนะครับ”


ผมรู้ว่าพี่ใบไผ่มีเงิน และมีมากจนใช้ทั้งชีวิตก็ไม่หมด แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่อยากให้พี่เขาเอาเงินนั้นมาใช้สุรุ่ยสุร่ายแบบนี้


อย่าทำให้ผมเปลี่ยนไปเพราะความโลภที่อยากได้มากขึ้น


“กำลังคิดอะไรอยู่ต้นว่าน”


“เปล่าครับ” เสียงของคนด้านข้างทำให้สติกลับเข้าร่างอีกครั้ง


“พี่ดูออกว่าเรากำลังคิดมากเรื่องอะไรอยู่”


“พี่...”


“ถ้าไม่บอกพี่ แล้วพี่จะแก้ไขได้ยังไงล่ะ”


“รู้ได้ยังไงว่าผมคิดเรื่องพี่อยู่” ผมถามกลับ


“ก็เรามองมาที่พี่นี่”


ผมหมดคำโต้แย้งในทันที


“ทีนี้บอกมาได้รึยัง”


“พี่เคยคิดไหมว่าผมอาจจะหวังสมบัติพี่ก็ได้” เมื่อไม่มีทางเลือกก็ได้แต่จำต้องพูดสิ่งที่กำลังคิดอยู่ออกไปตรงๆ


“ไม่เคยคิด”


“อย่าตอบเร็วแบบนั้นสิ” พี่เขาเล่นตอบกลับมาทันทีเหมือนว่าไม่ได้คิดคำตอบเลย


“ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรนี่ พี่ไม่เคยคิดว่าเราจะเป็นแบบนั้น คำที่บอกว่ารักของต้นว่านมันเป็นเรื่องจริง”


“แต่ถ้าพี่ยังเอาแต่ให้ผมแบบนี้ สักวันหนึ่งผมอาจเกาะพี่กินนะ”


“หืมม์? เอาสิ” อีกฝ่ายพูดยิ้มๆ


“พี่ใบไผ่” ผมไม่ได้พูดเล่นนะ


“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ พี่จะบอกอะไรให้นะ ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับต้นว่าน พี่มีความสุขมากๆ พี่อยากอยู่ข้างๆ เราตลอดเวล าอยากเห็นสีหน้าที่หลากหลายอารมณ์นั่น แต่พี่ก็กลัว...”


“กลัวอะไร” มีอะไรที่ทำให้พี่กลัวอีกงั้นเหรอ


“พี่กลัวว่าวันหนึ่งคำว่ารักที่เราบอกจะเปลี่ยนไป...”


“พี่ใบไผ่ ผมไม่...”


“อย่าพึ่งขัดสิ” คนตรงหน้ารีบเอามือมาปิดปากผมไว้ทันทีเมื่อถูกแทรก “เรายังเด็กนักต้นว่าน ยังมีเวลาอีกมากที่จะได้พบเจอคนใหม่ๆ พี่ก็แค่กลัวว่าเราจะเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น ดังนั้นถ้ามีสิ่งที่ทำให้เราสามารถอยู่กับพี่ไปได้ตลอด ต่อให้เราเกาะพี่กินก็ไม่เป็นไร อ๊ะ...”


ผมไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ รีบดึงคนตรงหน้าเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแล้วกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น


พี่ใบไผ่กล้าพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง


“ผมไม่เปลี่ยนใจแน่นอน”


ไม่มีทางเปลี่ยน


ผมเคยมีแฟนและเคยชอบคนอื่นมาก่อน


ดังนั้นผมรู้และแยกออกว่าชอบกับรักมันต่างกันยังไง ต่อให้พบเจอคนอีกกี่สิบล้านคนหัวใจดวงนี้ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง


ผมรักพี่ใบไผ่


“...ต้นว่าน ต้นว่าน” เสียงเรียกชื่อดังขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอ้อมแขนที่รัดร่างของพี่ใบไผ่แน่นขึ้น


“ห้ามคิดแบบนั้นอีกนะ” ผมกระซิบบอก


“อืม เราเองก็ห้ามคิดนะ มีอะไรต้องบอกพี่ด้วย ห้ามให้พี่รู้เรื่องจากคนอื่น ไม่งั้นจะโกรธจริงๆ ด้วย”


น้ำเสียงแข็งๆ นั่นไม่น่ากลัวสักนิด แต่…


 “ครับพี่” ถึงไม่น่ากลัวแต่ก็ตอบตกลงพร้อมกดจูบเบาๆ ลงที่เส้นผมสีน้ำตาลตรงหน้า


จะไม่ทำให้เสียใจเด็ดขาดเลย


ผมสัญญา




หลายวันผ่านไป ผมซึ่งเป็นเลขาส่วนตัวของประธานบริษัทศิริวัฒนิวงศ์ก็ยังคงมาทำงานที่บ้านท่านประธานสลับกับไปประชุมที่บริษัทเหมือนปกติ ช่วงเย็นหลังจากจัดการเอกสารทั้งหมดและดูแลความเป็นอยู่ของสุนัขทั้งสี่ตัวเสร็จแล้ว ผมก็เดินกลับบ้านเหมือนอย่างทุกวัน เพียงแต่วันนี้หน้าบ้านที่ไม่ควรมีอะไรจอดขวางกลับมีรถยนต์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่ แถมยังไม่ใช่แค่คันเดียวแต่มีถึงสามคัน


ผั๊วะ!


เสียงที่เกิดขึ้นภายในบ้านทำให้ผมรีบวิ่งเข้าไปดูด้วยความกังวล ก่อนจะเห็นภาพที่พ่อถูกคนกลุ่มหนึ่งรุมซ้อมต่อหน้าต่อตา


“พ่อ!” ผมตะโกนเรียกและเตรียมจะวิ่งเข้าไปช่วย แต่กลับถูกใครสักคนดึงแขนไว้พร้อมกับเหวี่ยงหมัดใส่หน้ามาเต็มแรงจนทรุดลงไปกองอยู่กับพื้น


“ต้นว่าน!” แม่กรีดร้องทันทีที่เห็นสภาพผมลงไปกองอยู่บนพื้น


“แค่กๆ แก...ไอ้เป้” ผมเรียกชื่อของคนที่เหวี่ยงหมัดใส่ด้วยความหงุดหงิด


ปริเมตร เพชรเกษมศักดิ์ หรือเป้ เป็นคนที่คอยหาเรื่องผมมาตลอดตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยและเลิกยุ่งเกี่ยวกันตั้งแต่ได้พี่ใบไผ่ไปช่วยผมออกมาวันนั้น ทั้งที่คิดว่าจะไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีกแล้วเชียว แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?


“หึ ไงไอ้ว่าน ไม่ได้เจอกันนานนี่” น้ำเสียงเย้อหยันที่ได้ยินทำเอาผมกำหมัดแน่น


“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยวะ” ทำไมต้องมาทำร้ายครอบครัวผม


“ทำอะไร? ฉันแค่มาเก็บหนี้พร้อมจัดการพวกที่ไม่ยอมย้ายออกจากที่นี่สักที ไม่คิดเลยว่านี่จะเป็นครอบครัวจนๆ ของแก สกปรก!”


ผั๊วะ!


พูดจบเป้ก็เตะเข้าที่ท้องของผมจนจุกแทบลุกไม่ขึ้น ผมไม่เชื่อหรอกที่อีกฝ่ายจะไม่รู้ว่านี่บ้านที่ครอบครัวผมอยู่ พวกมันจงใจหาเรื่องกันเห็นๆ


“แค่ก...”


“พี่!” เสียงของดาและผาตะโกนขึ้น ผมหันไปมองตามเสียงก็เห็นว่าตอนนี้ทั้งแม่ ดาและผาถูกคนกลุ่มหนึ่งจับตัวไว้โดยกดให้นั่งอยู่กับพื้นเฉยๆ


“อย่าทำอะไรครอบครัวฉัน” ผมกัดฟันพูดออกไป


“โฮ่ๆ สุภาพบุรุษจริงๆ ขอตบมือให้เลย แต่ขอโทษเถอะฉันไม่มีความจำเป็นต้องทำตาม”


“ฉันไปทำอะไรให้...”


“ทำมากจนพูดไม่หมดเลยล่ะ แกมันน่ารำคาญ!”


“...อึก!” ผมถึงกับนิ่วหน้าเมื่อถูกเท้าของคนด้านบนเหยียบลงมาอย่างแรง


“ไอ้พวกคนจน!”


“แค่ก...”


“ไอ้คนไม่มีกิน!”


“...อั่ก...”


“หึ พวกน่าสมเพช!”


เหมือนอีกฝ่ายกำลังระบายทุกอย่างที่อัดอั้นใส่ร่างผมที่ไม่สามารถขยับได้เนื่องจากความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่างโดยไม่สนเสียงกรีดร้องของแม่และน้องๆ เลยสักนิด


“ไสหัวไปจากที่นี่ซะ ก่อนฉันจะจัดการกับพวกแก! ไป!” เมื่อพอใจแล้วอีกฝ่ายก็เรียกตัวลูกน้องก่อนจะพากันกลับออกไป


“ต้นว่าน! คุณคะ!” แม่ตะโกนเรียกผมและพ่อด้วยเสียงเหมือนจะขาดใจ


“พี่ว่าน” ดาเองก็เข้ามาประคองผมไว้ด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับผาที่กำลังร้องไห้อยู่


“อย่าร้อง พี่ไม่เป็นไร” ผมพยายามปลอบน้องชายด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าข้างในจะรู้สึกเจ็บปวดปานตายก็ตาม


“พี่ว่าน อึก...ผม...”


“ไม่เป็นไร” ผมยกมือขึ้นลูบหัวน้องชายคนเล็กเบาๆ


“พ่อ แม่...เกิดอะไรขึ้น” พอเริ่มพยุงตัวได้ผมก็หันกลับไปถามแม่ที่กำลังพยุงพ่อให้ขึ้นมานั่งบนโซฟา


“คือ...”


“อย่าโกหกผม” ถ้าไม่ได้ฟังความจริงก็ไม่มีความหมายอะไร


“ความจริงแล้วพวกเขาคิดจะไล่เราออกจากที่นี่ ตอนแรกพ่อกับแม่ก็ไม่ยอมเพราะงั้นเลยโดนขึ้นค่าเช่าบ้านให้แพงกว่าเดิม ช่วงแรกๆ พวกเราก็ทำงานจนสามารถส่งได้ทุกเดือน แต่พอพวกเขาเห็นแบบนั้นเลยให้ที่ทำงานไล่พ่อกับแม่ออก ตอนนี้พวกเราเลยไม่มีเงินไปจ่ายค่าเช่า ถึงจะมีเงินที่ลูกแบ่งมาให้ทุกเดือนแต่ก็ยังไม่พอ” แม่อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยใบหน้าเศร้าๆ


“ทำไมเพิ่งบอกผม”


ถ้าบอกให้เร็วกว่านี้ ผมคงสามารถช่วยได้แท้ๆ เรื่องเงินน่ะผมพอมีเก็บอยู่ค่อนข้างเยอะจากการทำงานเป็นพ่อบ้านให้พี่ใบไผ่เมื่อก่อน


“แม่ไม่อยากให้ลูกลำบาก แม่รู้ว่าลูกของเขาจ้องเล่นงานลูกอยู่ แต่ก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะบุกมาแบบนี้ แม่ขอโทษ” แม่พูดพร้อมกับร้องไห้ออกมา


“คนที่ไม่ให้บอกคือพ่อเอง” พ่อพูดเสริม


“พ่อ...”


“ทั้งที่คิดว่าไม่เป็นไร แต่สุดท้ายก็ก่อเรื่องให้แกจนได้”


“ติดหนี้อยู่เท่าไรครับ?” ผมเปลี่ยนเรื่อง


“สามแสน...”


“ฮะ? ทำไมมันมากขนาดนั้นอะพ่อ”


“พ่อก็ไม่รู้ แต่นอกจากค่าเช่าบ้านสามเดือนแล้ว ก็มีแค่หนี้ที่พ่อกู้ไปออกมอเตอร์ไซค์ไว้รับส่งน้องไปโรงเรียนแค่นั้น ไม่รู้ว่าทำไมดอกเบี้ยมันถึงเพิ่มเร็วขนาดนี้”


“แล้วที่บอกว่าจะไล่เราออกไปล่ะ”


“ถ้าไม่มีเงินจ่ายภายในสามวันนี้ก็ต้องย้ายออกไป นั่นเป็นสัญญาที่พวกเราถูกบังคับให้


เซ็น...” แม่พูดต่อแทนพ่อ


“...สามวัน” แค่สามวันจะไปหาเงินสามแสนมาได้ยังไง


แบบนั้นมันก็เหมือนถูกบังคับให้ต้องออกไปอยู่ดี สถานการณ์ในตอนนี้ถือว่าเลวร้ายมาก ต่อให้ผมพอจะมีเงินเก็บอยู่บ้างแต่ก็ไม่ถึงสามแสนหรอก


“ต้นว่าน พ่อกับแม่จะหาทาง...”


“หาไปก็ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ”


ตอนนี้ต่อให้ทำอะไรผลก็คงออกมาเหมือนเดิม ต่อให้ดิ้นรนหาเงินสามแสนมาคืนได้ตราบใดที่ผมยังอยู่ที่นี่ ไอ้เป้ต้องหาทางทำอะไรอีกแน่ เรื่องที่เกิดในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะพ่อกับแม่แต่เป็นตัวผมที่ทำให้ครอบครัวต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ แบบนี้


“แต่ถ้าเราไม่ทำอะไร เราก็จะ...”


“ผมจะหาทางเอง...”


ใช่...ยังมีอีกทางที่นึกออก


แม้จะไม่อยากทำให้คนคนนั้นต้องเดือดร้อน แต่คงไม่มีทางเลือก


จะไม่ขอให้พี่เขาช่วย แต่จะไปขอคำปรึกษาในฐานะของแฟนที่สัญญาว่าจะบอก และหวังแค่ว่าจะมีทางเลือกให้ครอบครัวได้อยู่ที่ต่อไปโดยไม่โดนอะไรแบบนี้อีก


ขอแค่ครั้งนี้...


ขอพึ่งพิงพี่หน่อยได้ไหมนะ...พี่ใบไผ่

..........................................................................................

-Rewrite- >> มารีต่ออีกตอนค่ะ วันนี้กะจะรีสักสามตอนนะคะ ฝากติดตามกันด้วยน้าา ตอนนี้แก้เยอะหน่อยเพื่อจะได้เหมาะสมกับความเป็นจริงมากขึ้นค่ะ

สวัสดีค่ะ

ตอนนี้อาจสั้นไปนิดหน่อย

พอดีเราไม่ค่อยสบายเลยแต่งไม่ค่อยออก 55

ต้นว่านนิสัยอาจดูเด็กไปบ้างแต่ก็มีบางมุมที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ด้วยนิสัยหรืออารมณ์หลายๆอย่างอาจไม่ค่อยเหมาะกับตำแหน่งเลขาสักเท่าไหร่นัก เราว่าคงต้องใช้เวลาเรียนรู้งานหน่อยละนะถึงจะเป็นโปรได้

การแต่งนิยายของเราอาจขาดตกบกพร่องอะไรไปบ้างแต่ก็จะพยายามพัฒนาฝีมือนะคะ

ขอบคุณทุกๆคำแนะนำและทุกๆคอมเม้นท์ค่า

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าซึ่งไม่นานเกินรอแน่นอน

บ๊ายบาย

ปล.คิดว่าอีกตอนสองตอนก็คงจะจบแล้วละค่ะ อิอิ

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2018 20:58:00 โดย nicedog »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด