63.มีนเทียวไปรับไปส่งผมไปทำงานทุกวันอย่างที่พูด กระทั่งแน่ใจว่าผมจะไม่ทำตัวเหลวไหลแล้วเขาถึงยอมให้ผมเป็นฝ่ายได้ดูแลเขาบ้าง เราผลัดกันเป็นคนขับรถโดยตัดสินจากตารางการทำงานของเขา แต่ก็แปลกที่ส่วนมากก็ยังเป็นมีนที่ต้องคอยรับส่งผมอยู่ดี
ผมไม่ได้เอารถตัวเองไปล้าง และปล่อยให้มันจอดนิ่งสนิทอยู่ที่คอนโดอยู่อย่างนั้น นับตั้งแต่วันนั้น..
“หิวหรือยัง เราจองโต๊ะไว้ที่ร้านโปรดของเบลล์แล้ว” ผมพยักหน้า ขณะสอดตัวเข้ามานั่งในรถ “มีขนมอยู่เบาะหลัง เผื่ออยากจะรองท้อง..”
“เมื่อเช้าเราลืมเอาผ้าลงมาร้านซักรีด” ผมพูดสวนไปเมื่อนึกได้ “มีนยังมีเสื้อใส่อยู่ใช่ไหม”
เขาหัวเราะ ก่อนจะยกมือมาลูบแก้มผม “เราจัดการให้แล้ว”
“ได้ไง..”
“พอดีตอนเที่ยงเราแวะเข้าไปเอาของที่ห้อง เห็นว่าเบลล์ลืมก็เลยเอาลงมาแทน”
“โทษทีนะ”
“อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยกัน อย่าคิดมาก” ผมยิ้มให้เขาก่อนจะหันไปหยิบขนมมาแกะ แล้วยื่นให้ “ขอบคุณครับ”
ผมย้ายมาอยู่ที่ห้องมีน ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรมันถึงได้กลายเป็นอย่างนี้ ทั้งที่ตอนแรกมีนเพียงแค่สั่งให้ผมมาอยู่ด้วยชั่วคราวเพื่อคอยควบคุมความประพฤติ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าข้าวของในห้องของผมแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว
“ความจริงกินร้านใกล้ ๆ คอนโดก็ได้ ไม่เห็นต้องโทรไปจองให้เสียเวลาเลย” ผมบอกเมื่อเห็นถนนที่เต็มไปด้วยรถแล้ว “เดี๋ยวคืนนี้มีนต้องกลับไปเข้าเวรด้วย”
“เพราะอย่างนั้นไง เราเลยทำ” ผมหันไปมองเขาแบบงง ๆ “พรุ่งนี้วันอะไร เบลล์ไม่รู้เหรอ”
ผมก้มลงกดโทรศัพท์มือถือในมือ ก่อนจะขมวดคิ้ว “ไม่เห็นมีอะไรเลย”
ผมบันทึกตารางงานทุกอย่างของตัวเองเอาไว้ในโทรศัพท์ และเพราะอย่างนั้นเลยนึกขึ้นได้ว่าควรจะบันทึกวันเกิดหรือวันสำคัญต่าง ๆ ทั้งของตัวเองและของคนรอบตัวเอาไว้ด้วย เพื่อจะได้ไม่ต้องพลาดไปทำให้ใครต้องรู้สึกแย่ไปกับนิสัยไม่ใส่ใจใครหรืออะไรอย่างเมื่อก่อนอีก
“ก็ไม่ใช่วันสำคัญอะไรมากมายขนาดนั้นหรอก” เขาบอกแล้วยิ้มบาง ๆ มาให้ “แค่เป็นวัน ๆ หนึ่งที่คนส่วนใหญ่ใช้แสดงความรักต่อกันเท่านั้นแหละ”
“วาเลนไทน์ ?” เห็นเขาหลบตา ผมก็เลยได้แต่ส่งยิ้มเก้อ ๆ ให้ตัวเอง “โทษทีนะ..เราไม่ค่อยได้ใส่ใจ”
“ไม่เป็นไรหรอก” เขารีบบอก “เราก็แค่อยากทำอะไรให้เบลล์บ้างก็แค่นั้น”
“เท่าที่ทำอยู่ก็มากเกินพอแล้ว” ผมตอบกลับไปเบา ๆ “ขอบคุณนะ”
“บอกขอบคุณ แต่ดูหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่”
“ไม่มีอะไรหรอก..”
“เราไม่ได้จะเร่งรัดอะไร” ผมค่อย ๆ หลับตาลงเมื่อเขายื่นมือมาใกล้ “เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีแล้ว”
ก่อนจะลืมตากลับขึ้นมามองเขาอีกครั้ง “เพราะงั้น อย่าเพิ่งคิดอะไรไปมากมายเลย”
“ขอบคุณนะ..”
“เราต่างหากที่ต้องขอบคุณ” ผมยิ้มขณะเงยหน้ามองสัญญาณไฟจราจรที่ตอนนี้กำลังแสดงสีที่บอกให้รถทุกคันทางฝั่งผมต้องหยุด “ขอบคุณที่ให้โอกาส”
“อืม..” ผมละสายตาจากสัญญาณไฟตรงหน้า ทิ้งประสาทสัมผัสทุกอย่างไว้กับฝ่ามือที่กำลังขยี้ไปมาเบา ๆ บนหัวตอนนี้ “ถึงแล้วปลุกเราด้วย”
“ครับ”
ไม่กล้าปฏิเสธเลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำให้มันทำให้ผมรู้สึกดีมาก ๆ แต่นั่นมันก็ยังไม่มากพอจะมาอุดช่องว่างอะไรบางอย่างในใจผมได้อยู่ดี
Ma-NuD_LaW
มีนรอได้ คนอ่านก็ต้องรอได้ !
ปล่อยมันเล่นตัวไปก่อน 
ขอบคุณทุกความเห็นครับ 