60.“เป็นไร” ผมเหลือบไปมองคนถาม ก่อนจะหันกลับมาสนใจกองเอกสารตรงหน้าอย่างเดิม “หยุดงานไม่กี่วัน กลับมาก็ทำตัวเงียบยิ่งกว่าเดิมอีก”
“เปล่าครับ”
“คิดไว้อยู่แล้ว ว่าต้องตอบอย่างนี้” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่พี่ชัชก็ยังเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามผม “ปากบอกเปล่า ๆ แต่หน้าดูโคตรจะมีปัญหา”
“ก็ผมทำงานอยู่”
“นี่กูเจ้านายมึงนะ” พอผมหัวเราะ พี่ชัชก็ยิ้ม “เย็นนี้ไปกินข้าวที่บ้านนะ จะให้แพรทำต้มข่าไก่ให้กิน”
“ผมต้องรีบกลับไปทำธีสิส อาทิตย์ที่แล้วก็ไม่ได้แตะเลยทั้งอาทิตย์” เห็นเขาขมวดคิ้ว ผมเลยรีบพูดต่อ “ไม่อยากกวนพี่แพรด้วย คนกำลังท้อง”
“คนท้องนั่นแหละเป็นคนสั่งให้มาชวน” พูดจบก็หรี่ตามองผมแบบจับผิด “เป็นอะไร”
ผมไม่ตอบอะไร เลือกจะใช้สมาธิทั้งหมดไปกับงานที่ค้างอยู่ตรงหน้าแทน “เงียบอีก”
เขาบ่นพึมพำ ๆ อะไรอยู่สักพักก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดแล้วกรอกเสียงไม่ดังแต่ก็ไม่เบาเท่าไรลงไป “เย็นนี้กลับดึกหน่อยนะแพร จะพาไอ้เบลล์ไปกินเหล้า..”
พอผมเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็ยักคิ้วส่งมาให้ “อืม..อืม..เดี๋ยวส่งให้ถึงบ้านแน่นอน ไม่ปล่อยให้ใครมาหิ้วไปหรอก ครับ..ครับ..ไม่เกินเที่ยงคืน”
“ไม่ได้ชวน แต่กูสั่ง” วางสายเสร็จก็รีบพูดดักคอผมทันที “อย่าให้เห็นว่าหนีกลับก่อน”
ผมพยักหน้าอย่างยอมจำนน ส่วนหนึ่งก็เพราะขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียง เมื่อพี่ชัชเป็นคนประเภทที่ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ผมเลยคิดว่าไปนั่งเล่นสักพักให้เขารู้สึกพอใจแล้วค่อยแยกย้ายกันกลับก็คงไม่เป็นอะไร อย่างมากก็คงไม่เกินสี่ทุ่ม เพราะพี่ชัชเองก็ชอบบ่นว่าห่วงพี่แพรไม่อยากให้อยู่บ้านคนเดียวสักเท่าไร
“ผมเอารถมา ไว้ขับตามกันไปก็ได้ครับ เสร็จแล้วจะได้แยกย้ายกันกลับเลย”
เขาโบกมือไปมา ก่อนจะตัดสินใจเอาเองอีกครั้ง “ทิ้งไว้นี่แหละ เผื่อมึงเมา”
ผมมองตามพี่ชัชที่ตอนนี้เดินหายออกจากห้องผมไปแล้ว ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ว่า “ผมไม่เคยเมา”
“จะถืออีกนานไหมแก้วนี้” ผมหันไปมองคนถาม ก่อนจะหันกลับมาสนใจเสียงดนตรีบนเวทีอีกครั้ง “ทำท่าเดิมใส่กูเป๊ะ”
“ให้บรรยากาศร้านอาหารมากกว่าร้านเหล้าอีก” ผมพูดเรียบ ๆ “รู้อย่างนี้ผมเอารถมาเองก็ดี”
“ไม่หมดขวดนี้กูไม่ให้กลับอะ”
ผมมองขวดแก้วกลม ๆ บนโต๊ะที่เพิ่งพร่องลงไปเพียงแค่นิดเดียว ก่อนจะถอนหายใจออกมา “เที่ยงคืนคงจะหมดหรอก เล่นเททีละหยดอย่างนี้”
“งั้นก็รีบ ๆ กินให้หมด กูจะได้ชงเพิ่ม” ว่าแล้วก็ใช้มือดัน ๆ แก้วในมือผมเป็นเชิงให้ยกดื่ม “แก้วเดียวถือมาเป็นชั่วโมงละ”
“อย่างกับตัวเองหมดไปแล้วสักแก้ว” ยกขึ้นจิบอีกอึกหนึ่ง ผมก็วางมันลงแล้วหมุนเก้าอี้หันไปฟังเพลงอย่างจริงจัง เลิกสนใจคนที่พยายามจะหลอกให้ผมกินเหล้าทั้งขวดเพียงคนเดียวทั้งที่เป็นคนเอ่ยปากชวนผมมาอย่างพี่ชัชไป
“ทำไม่สนใจอีก ขวดนี้มันแพงนะโว้ย”
“งั้นพี่ก็รีบกินสิ”
สุดท้ายก็ไม่มีใครยอมกินมันเพิ่ม ผมนั่งเงียบ ๆ ฟังเพลงไป ขณะที่พี่ชัชก็นั่งกินกับแกล้มบนโต๊ะสลับกับบ่นผมเรื่องค่าเหล้าที่เสียเปล่า กับเรื่องที่เอาแต่เงียบไม่เคยพูดหรือระบายอะไรออกมา ทั้งที่ผมเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองแสดงสีหน้าหรือท่าทางอะไรออกไปตอนไหน เลยทำให้เขาคิดว่าผมกำลังมีเรื่องไม่สบายใจอย่างนี้
“กูไม่เคยเห็นมึงเมาเลยสักที” ผมเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ตอนเลี้ยงฉลองเรียนจบก็ไม่เห็นจะเมา ทั้งที่พ่อแม่ก็ดูไม่ได้จะว่าอะไรที่กินเหล้า”
“...”
“มีความหลังฝังใจอะไรตอนเมาหรือเปล่า”
ผมยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะตอบคำถามกลับไป “เปล่าหรอกครับ ผมแค่ไม่ชอบเวลาที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ก็แค่นั้น”
แน่นอนว่าการไม่มีเพื่อนไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ผมไม่เคยเมาเพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พวกนี้
“เป็นพวกชอบใช้ชีวิตอยู่บนคำว่าเหตุผลสินะ” ผมเงียบ..ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป “แล้วใช้ชีวิตอยู่บนเหตุผลตลอดเวลาแบบนี้ ไม่รู้สึกเบื่อบ้างหรือไง”
“ไม่รู้สิครับ”
“กูยอมแพ้แล้ว” น้ำเสียงคนพูดก็ฟังดูเหมือนยอมแพ้แล้วจริง ๆ “หมดแก้วนี้ก็กลับกันเถอะ”
“ไม่ต้องไปส่งผมหรอกนะครับ เดี๋ยวผมกลับเอง” ผมบอกเมื่อคิดว่าพี่ชัชต้องลำบากวนรถกลับไปกลับมา
“ได้ยังไง..รับปากกับแพรไว้แล้วว่าจะไปส่ง”
“เดี๋ยวผมโทรบอกพี่แพรเองครับ”
“ไม่ได้ ๆ แพรรู้บ่นตาย อีกอย่างมันก็ดึกแล้ว..”
“งั้นผมขอให้มีนมารับ” ผมรีบพูดแทรก
“โทรตอนนี้เลย”
ทั้งที่ตั้งใจแค่จะยืมชื่อขึ้นมาอ้าง กลับกลายเป็นว่าถูกกดดันให้ต้องโทรขอให้มีนมารับเลยจริง ๆ สุดท้ายผมเลยต้องมายืนรอรถอยู่ที่หน้าร้านหลังจากแยกย้ายกับพี่ชัชแล้วอย่างนี้
“รอนานหรือเปล่า”
ผมส่ายหน้า ก่อนจะเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง “ขอโทษที่ต้องรบกวนดึก ๆ อย่างนี้นะ”
“เราเพิ่งออกเวรพอดี ไม่เป็นไรหรอก” ว่าแล้วก็หันมาส่งยิ้มให้ผม “แล้วนี่เมาหรือเปล่า ดูหน้าแดง ๆ นะ”
ผมสบตาเขา ก่อนจะแสร้งเอนตัวไปกับเบาะแล้วหลับตาลง “นิดหน่อย”
“งั้นก็นอนเถอะ ถึงแล้วเราปลุก”
“อืม..” สัมผัสแผ่วเบาที่ปลายจมูกทำให้รู้ว่าคนทำคงเพิ่งแปรงฟันมา ผมลืมตาขึ้นมองเขาอีกครั้งก่อนจะเอนตัวตามไปซบหน้าลงที่บ่า “จริง ๆ เรากินไปแค่แก้วเดียว”
“...”
“มีนน่าจะรู้ว่าเราไม่เคยเมา”
“เรารู้..” ว่าแล้วก็วางคางลงบนหัวผม “รู้กระทั่งว่าเบลล์ไม่ได้ตั้งใจจะโทรตามให้เรามารับหรอก”
“...”
“แต่เราก็ยังอยากมาอยู่ดี..”
Ma-NuD_LaW