70.เรามาพักที่บ้านพักของครอบครัวมีน บ้านที่แม่มลซื้อต่อจากเพื่อนเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ผมยืนมองบ้านไม้สีขาวสองชั้นปลูกอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่หลายต้น เหมือนเป็นสวนป่าขนาดย่อมภายในรั้วบ้านทั้งที่อยู่ในเขตตัวเมือง ผมถือกระเป๋าเดินตามมีนเข้ามาในห้อง จัดวางข้าวของเสร็จก็เดินลงไปดูน้องบัวกับพี่เลี้ยงตรงห้องข้างล่าง ช่วยจัดเสื้อผ้าเรียบร้อยก็อุ้มน้องบัวออกมาเดินเล่นรอมื้อเย็นข้างนอก
ผมพาน้องเดินมาทางด้านหลังเรื่อย ๆ กระทั่งเจอกับบึงน้ำตรงสุดแนวเขตรั้วลวดหนาม ใกล้กันมีบ้านหลังเล็ก ๆ ที่ปลูกขึ้นด้วยอิฐแดงตั้งอยู่ พอพาน้องเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็เห็นว่าเป็นข้างในเป็นห้องหนังสือ “เจ้าของเดิมขายมาพร้อมกับตัวบ้านน่ะ”
ผมหันไปมองเขาก่อนจะถาม “หนังสือพวกนี้อะนะ”
“อืม” มีนพยักหน้า แล้วเดินมาเปิดประตูให้ “มีหนังสือเก่า ๆ เยอะนะ ลองเข้าไปดูสิ”
“มีนมาบ่อยเหรอ” ผมถามขณะถอดรองเท้า
“เคยมาอยู่ที่นี่พักหนึ่ง” ผมเลิกคิ้วขึ้น “แค่ช่วงสั้น ๆ น่ะ”
ผมตอบรับเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะวางน้องลงที่พรมตรงหน้าโซฟา “น่าจะชวนเรามาด้วย หนังสือเยอะขนาดนี้”
มีนเดินเข้ามาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งจากชั้นบนสุดให้ ก่อนจะยื่นให้ผม “ชวนตอนนั้นเบลล์คงไม่อยากมา”
“ทำไมล่ะ”
เขาไม่ได้ตอบอะไร ทำแค่ส่งยิ้มบาง ๆ มาให้แล้วหันไปเลือกหนังสือให้ตัวเอง “อีกสักยี่สิบนาทีคงต้องกลับไปกินข้าวแล้วนะ”
“อืม..” ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้บุนวมริมหน้าต่าง แล้วเปิดหนังสือในมืออ่าน “นิยายรักเหรอ”
“ลองอ่านนิยายรักบ้างเป็นไง” เขาพูดยิ้ม ๆ “อ่านแต่แนวสืบสวนสอบสวน ไม่เครียดบ้างเหรอ”
“ความรักก็ทำให้เครียดได้” พูดแล้วก็นึกได้ว่าไม่ควรพูด “โทษที..”
“อย่าคิดมากสิ” เขาบอกขณะเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ น้องบัว “คุยกันแล้วนี่..ว่าจะเริ่มต้นใหม่”
ผมยิ้มให้เขา ก่อนจะก้มหน้าลงอ่านนิยายรักในมือตัวเอง “ภาษาสวยมากเลย”
“ก็นิยายเก่านี่นา”
“อืม..”
ผมค่อย ๆ พลิกหน้ากระดาษ ซึมซับความสวยงามของคำและความหมายในแต่ละตัวอักษร ขณะที่หูก็เงี่ยฟังเสียงเขาพูดคุยหยอกล้อกับหนูบัวไป ก่อนที่เราจะพากันเดินกลับมากินมื้อเย็นกันที่บ้าน แน่นอนว่าผมไม่ลืมที่จะหยิบนิยายเล่มนั้นติดมือมาอ่านด้วยในคืนนี้
มีนปลุกผมตื่นขึ้นแต่เช้าในวันถัดมา แยกย้ายกันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงมาช่วยแม่กับแม่มลเตรียมมื้อเช้า กินข้าวกันเสร็จก็ต่างแยกย้ายกันไปในมุมของตัวเอง ผมถือหนังสือนิยายเล่มเดิมเดินออกมานั่งอ่านที่เก้าอี้ไม้ด้านนอก นั่งอ่านไปได้ประมาณครึ่งเล่มมีนก็เดินตามออกมา
“ไปเดินเล่นกันไหม” ผมเลิกคิ้วมองเขา “เดินย้อนจากนี่ไปสองซอยจะมีวัด”
“ไปสิ” ผมตอบรับ ก่อนจะลุกขึ้น “ขอเอาหนังสือไปเก็บก่อน แล้วชวนหนูบัว..”
“น้องหลับไปแล้ว”
“อ่า..” ผมพยักหน้า ก่อนจะบอกต่อ “งั้นรอเดี๋ยว”
ผมเดินตามมีนไปจนถึงที่วัด บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นเต็มไปแมกไม้หลายชนิด เราพากันเดินเข้าไปภายในอุโมงค์ภายใต้เจดีย์ บันทึกภาพความสวยงามทั้งหมดเอาไว้ในหัวครบแล้วก็พากันเดินออกมาดูนกด้านหลังวัด
“สวยมาก ๆ เลย” ผมบอกแล้วยิ้มให้เขา “ขอบคุณนะที่พามา”
เขายิ้มตอบกลับมาให้ ก่อนที่เราจะพากันเดินกลับออกมา “เราชอบวัดทางเหนือ”
ผมหันไปมองคนพูด “ชอบสถาปัตยกรรมของที่นี่”
“...”
“เกษียรแล้วเรามาอยู่ที่นี่ด้วยกันดีไหม”
ผมอดแปลกใจไปกับคำพูดของเขาไม่ได้ “อีกตั้งกี่สิบปีล่ะนั่น”
แล้วเราก็หัวเราะออกมาพร้อม ๆ กัน
เรากลับมาเริ่มต้นทำงานหลังจากเสร็จสิ้นการพักผ่อน และงานแรกที่ผมต้องทำคืองานของคุณธี ผมหยิบของฝากที่ซื้อมาใส่รถไปให้เขา ก่อนจะใช้เวลาทั้งวันรวบรวมเอกสารลูกค้าที่ค้างชำระหนี้อยู่ที่บริษัทเขา คุณธีเองก็ดูเหมือนจะยุ่งอยู่ วันนี้ทั้งวันนอกจากตอนที่ผมเอาของฝากไปให้แล้ว เราเลยไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีกเลย กระทั่งตอนที่เขาเดินมาชวนไปกินข้าวหลังเลิกงาน
“สุกี้แล้วกันนะคุณ” ผมพยักหน้า แล้วเดินตามเขาเข้ามาในร้าน “สองที่ครับ”
เราตัดการสั่งอาหารหลังจากที่พนักงานพาเราเดินมานั่งที่โต๊ะแล้ว ก่อนจะคุยกันเรื่องงานนิดหน่อย “งั้นผมจะเร่งส่งหนังสือทวงถามไปครับ”
“พักเรื่องงานกันก่อนเถอะ” เขาตัดบท “ผมหิวจนตาลายหมดแล้ว”
“ก็อยากไม่กินข้าวเที่ยงเอง” ผมพูดเมื่อนึกได้ว่าตอนกลางวันเลขาเขาก็เดินเข้าไปชวนแล้ว ก่อนที่จะออกมากินข้าวกับผม
“งานมันยุ่งนี่ครับ”
“งั้นก็อย่าบ่นสิครับ”
ได้ยินเสียงเขาหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้เถียงหรือตอบโต้อะไรกลับมา ผมเลยก้มหน้าก้มตากินต่อไป ก่อนจะช่วยกันจ่ายค่าอาหารคนละครึ่งหลังจากกินอิ่ม ผมเลยแวะซื้อขนมติดมือไปฝากน้องบัวนิดหน่อยก่อนมาขึ้นรถ
“เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
ผมหันไปมองเขางง ๆ “พรุ่งนี้ผมไม่ได้เข้าไปที่บริษัทคุณแล้วนะ ได้เอกสารครบหมดแล้ว”
“ผมเองต่างหากที่จะเป็นฝ่ายไปหาคุณ”
“ไปทำไมครับ” ผมถามเมื่อหาเหตุผลที่เขาจะต้องไปไม่ได้
“กินข้าวไง มื้อเย็นก็ได้”
“ผมนัดที่บ้านไว้แล้ว” ผมบอกปัด
“งั้นผมขอไปกินข้าวที่บ้านคุณแล้วกัน”
ผมขมวดคิ้ว “รู้จักเกรงใจกันบ้างสิคุณ”
เขาหัวเราะออกมา ก่อนจะพูดต่อ “ผมหน้าด้าน”
ผมส่ายหัวไปมา แล้วพูดตรง ๆ “ถึงจะทำงานด้วยกัน หรือเคยเรียนมอปลายมาด้วยกัน มันก็ต้องเว้นระยะความเกรงใจให้กันบ้างครับ”
เขาดูอึ้ง ๆ ไป แต่ก็ยังตอบกลับผมมาพร้อมรอยยิ้ม “ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ”
เห็นผมทำหน้าไม่เข้าใจ เขาก็พูดต่อ “ไม่เคยอนุญาตให้ใครได้เข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวเลย”
“...”
“ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว..” เขายิ้มให้ผมอีกครั้ง “ที่เบลล์ไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครได้เข้าไปทำความรู้จักเลย”
“...”
“รู้ไหมว่าตอนนั้นใคร ๆ ก็สงสัยกันว่า..” เขาจ้องตาผม “มีนใช้วิธีไหนถึงพาตัวเองเข้าไปในเขตหวงห้ามของเบลล์ได้”
ผมเงียบ..หาคำพูดอะไรมาตอบโต้เขาไม่ได้ “ขับรถกลับบ้านดี ๆ นะ”
ผมมองเขาเดินขึ้นรถไป ก่อนจะหันกลับมาไขกุญแจรถตัวเองบ้าง “พื้นที่ส่วนตัว..”
แล้วผมก็หันกลับไปมองอีกครั้งเมื่อรถเขาแล่นผ่านไป “เขตหวงห้ามงั้นเหรอ..”
“นั่นสินะ..”
Ma-NuD_LaW
สงสัยวันนี้กินหวานมากไป ..แต่งออกมาซะหวานหยด
อีกสักตอนหรือสองตอนคงจบแล้วครับ ..แน่นอนว่าจบก่อนปีใหม่ เพราะงั้นไปเที่ยวกันก็อย่าลืมแวะมาอ่านนะ (รออยู่ตรงนี้)
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ
ปอลิง..เดี๋ยวลงจบละเอาเรื่องใหม่มาลงต่อเลย ถ้าชอบนิยายรักหวานแหววแบบนี้ก็ตามไปอ่านกันได้นะครับ