27.ผมคว้ากล่องน้ำส้มเปล่าขึ้นแล้วเดินออกมาเคาะประตูห้องของเขา ยืนรออยู่ไม่นานก็ได้เห็นหน้าเจ้าของห้องที่ตอนนี้ยังคงอยู่ในชุดนอน เขาแสดงสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยตอนที่เห็นผมก่อนจะกลับมาตีหน้าเรียบเฉยเมื่อผมเดินผ่านตัวเขาเข้ามาในห้อง
ผมคิดว่าเขาเองก็คงพอจะรู้ ถึงสาเหตุที่ผมเดินเข้ามาหาเขาเองอย่างนี้..
“เรามีเรื่องจะคุยด้วย” ผมบอกขณะวางกล่องน้ำส้มลงบนโต๊ะตรงหน้าโซฟา “มีนพอมีเวลาไหม”
“อืม”
เขาขานรับในลำคอ ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ ผมที่โซฟา ผมเหลือบมองเขา แล้วหันกลับมามองกล่องน้ำส้มเปล่า ๆ บนโต๊ะตรงหน้า “ขอบคุณสำหรับน้ำส้ม”
“อืม”
เกิดความเงียบขึ้นมาชั่วขณะ แต่ก็แค่เพียงไม่นาน เมื่อก่อนหน้าที่ผมจะมาหาเขา ผมได้รวบรวมความคิด ความรู้สึกทุกอย่าง ทั้งยังถามและตอบคำถามทั้งหมดในใจของตัวเองจนแน่ใจดีแล้ว
“เรามีเรื่องอยากถามมีน” ผมว่าแล้วหันไปสบตาเขา “และอยากให้มีนตอบเราตรง ๆ”
“...”
เห็นเขาไม่ตอบอะไร ผมเลยคิดเอาเองว่าเขาตกลงแล้ว “มีนต้องการอะไรจากเราเหรอ”
“...”
“ที่คอยวนเวียน ทำทุกอย่างอยู่ตอนนี้”
“...”
“มีนต้องการอะไรจากเราอย่างนั้นเหรอ”
“เรา..”
“เราขอร้อง..ช่วยตอบเรามาตรง ๆ ได้ไหม” เขาหลบตาผม ขยับริมฝีปากเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม “มีน..”
“เบลล์ไม่รู้จริง ๆ เหรอ”
“...”
“ไม่รู้จริง ๆ หรือไงว่าที่เราทำไปทั้งหมด..”
“...”
“นั่นก็เพราะ..เรารัก”
“...”
“แต่เบลล์ก็คงไม่รู้..” เขาเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น ก่อนจะคลายมันออกเพื่อใช้พูดทำร้ายผม “ไม่อย่างนั้นคงไม่ ขอเลิก”
“นั่นมันเพราะ..” ผมยั้งคำพูดที่กำลังจะพาดพิงไปถึงคนอื่น แล้วเปลี่ยนมาตั้งคำถามกับเขาแทน “แล้วทำไมตอนนั้น..มีนถึงไม่คิดจะ รั้งเรา เอาไว้เลย”
แล้วมันก็กลับมาตรงจุดเดิม..กลับมาในจุดที่เขาเอาแต่เงียบ ไม่คิดจะพูดหรือแสดงความรู้สึกอะไรให้ผมได้รับรู้ด้วยเหมือนเคย
“นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะถามแล้วนะ” ผมก้มลงมองฝ่ามือตัวเอง..นับเวลาถอยหลังในใจ “อย่าปล่อยให้เราต้องคิดทุกอย่างเอาเองได้ไหม”
“...”
“ได้หรือเปล่ามีน”
เขาไม่ตอบอะไรกลับมาเลย ทำแค่นั่งนิ่งแล้วปล่อยให้ผมคิดวนไปมาเองอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งทุกอย่างตีรวนในหัวผมจนปวดหนึบไปหมด แต่ผมก็ยังรอ..รอและหวังว่าในนาทีถัด ๆ มาหลังจากนั้นเขาจะตอบมันกลับมา
เพราะผมไม่อยากจะทำพลาดแบบเดิมอีก ผมไม่อยากทำแค่พาตัวเองหนีออกจากปัญหา จนทำให้ทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมดอย่างที่เคยเป็น
“มีนจะเห็นแก่ตัวกับเราแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนเหรอ” ผมถามขึ้น หลังจากพยายามอดทนรอคำตอบของเขามานานนับชั่วโมง “ไม่พูด ไม่บอกความรู้สึกอะไรเลย”
“...”
“แล้วสุดท้าย ก็โยนความผิดทุกอย่างมาให้เรา”
“...”
“โทษเรา..” ผมกลั้นลมหายใจตัวเอง บีบอัดความรู้สึกอัดอั้นทุกอย่างให้ย้อนกลับลงไป “ที่ตัดสินใจทำลายทุกอย่าง โดยไม่เคยคิดจะฟังอะไร..”
“...”
“ทั้ง ๆ ที่เป็นตัวมีนเองนั่นแหละ..ที่ไม่เคยคิดจะพูดหรือบอกอะไรกับเราเลย” ผมลุกขึ้นยืน เลิกคิดที่จะรอฟังคำพูดอะไรจากเขาอีก “ต่อไปไม่ต้องเอาอะไรมาแขวนไว้ให้เราที่หน้าห้องอีกแล้วนะ..”
“...”
“เพราะถ้ามีนยังแอบเอาอะไรมาให้เราอีก..”
“...”
“เราก็จะทิ้ง”
“เบลล์..”
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา..” ผมหลับตาลง นึกถึงภาพเก่า ๆ ที่กำลังทยอยผุดขึ้นมาในหัว “ตอนนั้นเรามีความสุขมากจริง ๆ”
“อย่า..”
ผมปัดมือเขาที่กำลังจะเข้ามาจับ “เราจะยังเป็นเพื่อนกัน..”
“ไม่..”
“เป็นเพื่อน ที่ไม่จำเป็นจะต้องห่วงใย หรือใส่ใจอะไรกันอีก”
ผมรีบพาตัวเองออกมาจากห้องของเขา..ปล่อยให้ประตูมันค่อย ๆ ปิดลงไปพร้อมกับความรู้สึกทุกอย่างที่ผมเคยมี เลิกคิด..เลิกหวังว่าจะสามารถหาทางออกอื่นให้กับปัญหาระหว่างเราได้อีก ในเมื่อเขาไม่คิดจะเปลี่ยน ไม่พยายามจะทำอะไรให้มันดีขึ้นเลยอย่างนี้ ผมก็ไม่จำเป็นจะต้องไปเสียเวลาอะไรอีก
Ma-NuD_LaW
เบลล์ก็ยังเป็นเบลล์..เช่นเดียวกับมีน ที่ยังคงเป็นมีน
เกรงว่าสิ่งที่เจ้สองต้องการ .. จะยังให้ไม่ได้ในตอนนี้ 
