เสน่หา...รักเอย {จบแล้วจ้า}{Mpreg}{P.๑๔}{๑๕/๐๕/๖๑}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เสน่หา...รักเอย {จบแล้วจ้า}{Mpreg}{P.๑๔}{๑๕/๐๕/๖๑}  (อ่าน 154511 ครั้ง)

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
วินเด็ดดอกไม้ สะเทือนไปถึงลำต้น อินทัชผู้น่าสงสารเพิ่งได้เจอกับรพินทร์อีกครั้ง ก็หายไปอีกแล้ว

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ทำดีมากเลยค่ะน้องกานต์

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ไม่อยากเศร้านานค่ะอยากให้หวานๆๆ :mew2:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
อ่านครั้งแรกแล้วชอบเลยภาษาน่ารักมาก แล้วบอกเลยว่าน้องเราน่าจะเลี้ยงลูกคนเดียวได้นะพ่อช่ฝั่วแบบนี้อย่ามีเลยถ้าไม่ไหมจริงๆก็หาคนดีๆสักคน

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :a5: กานต์หนีไปแล้ว จะทำยังไงต่อดี แต่วินยังเด็กไปจริงๆ นั้นแหล่ะ ดูไม่พร้อมจะรับผิดชอบอะไรเลย เฮ้อ

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
เอาใจช่วย

ออฟไลน์ KoTo_Nat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
นานจัง รออยู่นะคับ

 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
กานต์จ๋าาาาาาาาา :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ hunhan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พึ่งได้เข้ามาอ่าน พลาดแรงงมากก อ่านตั้งแต่ 4 ทุ่ม จนถึง 6 โมง555 กรี้ด ขอบอกว่าเรื่องนี้สนุกมากทำให้เราคิดถึงบรรยากาศเวลาอ่านนิยายเก่าๆ555 ภาษาของคนแต่งทำให้เราอินกับมันไปจริงๆ นานๆทีจะอินกับนิยายแบบจริงจังขนาดนี้555 ชอบบรรยากาศเวลาบรรยายตอนเด็กๆของพี่ณัฐกับกานต์มากค่ะ มันทำให้เราอบอุ่นนึกภาพตาม ตอนนี้ก็อ่านทันแล้ว สมเหตุสมผลแล้วค่ะที่เลือกจากไป เพราะเป็นเราเราก็ระแวง คนที่เคยไว้ใจมากๆแต่ก็หักหลังแบบหักดิบแบบนี้ เจ็บจริงค่ะ55 ก็ต้องให้อีพี่วินรับกรรมและให้กำลังใจคุณพ่อกับคุณแม่มือใหม่แล้วแฝดน้อยที่น่ารักอีกสามคนค่ะ  อิอิ สู้ๆนะคร้าเฝ้ารอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ :mew3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
เสน่หา...รักเอย ๒๓

‘สายบ่หยุดเสน่ห์หาย’
“สายเอ๋ย สายเสน่ห์ บ่ห่อนหาย หน่ายหนี 
เรียมจากพี่ จรลี หนีหน้า
บ่คิดหวน วันคืนเก่า ก่อนมา
สายบ่หยุด เสน่หา เรียมจ๋า ราจร”

-มญชุ์สิตางศุ์-


“ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ”
รพีกานต์พึมพำขณะทอดสายตาอ้อยอิ่งแลเลยไปเบื้องหน้า มือคนโจ๊กในชามเชื่องช้าเอื่อยเฉื่อย ควันขาวขุ่นลอยฟุ้งขึ้นเหนือชามอออังอยู่ตรงหน้าไม่ต่างจากใจพะว้าพะวังห่วงหน้าพะวงหลังยังใครอีกคน คนที่เคยชินกับการถูกประเคนปรนเปรอให้ทุกสิ่งอย่าง คนที่ไม่เคยถูกขัดใจคนนั้น ป่านฉะนี้จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ คิดแล้วก็เลื่อนมือลงลูบหน้าท้องแผ่วเบาปลอบใจสามแฝด เอาจริง ๆ รพีกานต์ยังไม่รู้สึกถึงความรักลึกซึ้งที่มีต่อลูกจากการแสดงออกของอัครวินท์สักเท่าไร เหมือนเขาแค่ดีใจอย่างเด็กเล็ก ๆ ที่จะมีสิ่งผูกมัดยึดเหนี่ยวรพีกานต์เอาไว้กับเขาก็เท่านั้น รพินทร์มองคนใจคอเหม่อลอยพลางเลื่อนมือไปแตะท่อนแขนกลมปลอบประโลมให้คลายความกังวลลง รพีกานต์หันมาสบตาบิดา ใจนึกอยากถามถึงความสัมพันธ์อันแสนคลุมเครือนั้นอยู่เหมือนกัน

“เดี๋ยวพ่อจะเล่าให้ฟัง กานต์กินโจ๊กเถอะ ไม่หิวก็ฝืนกินเสียหน่อย ไม่ได้มีตัวคนเดียวแล้วนะเรา” เอ่ยเตือนไปถึงสามแฝดในท้อง เพียงเท่านั้นคนเป็นลูกก็หันเหความสนใจมาที่ชามโจ๊กตรงหน้า ทัวร์กินลมชมวิวเดินทางแบบไม่รีบร้อนนัก รพินทร์เลือกเดินทางโดยรถตู้แทนการนั่งเครื่องที่ประหยัดเวลามากกว่า เพราะถึงแม้จะเสียเวลากว่ามากแต่อย่างน้อย ๆ หากมีคนตามหาก็คงเดาปลายทางได้ไม่ง่ายนัก อีกทั้งคนที่จัดไว้รับหน้าที่หนังหน้าไฟนั้นก็ไม่มีทางแพร่งพรายอะไรออกไปอยู่แล้ว

“หวังว่าพี่วินจะไม่อาละวาดกับอาเล็กนะครับพ่อ”

“หึ นั่นน่ะ ผู้อำนวยการแล้วก็อาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนเรานะลูก คุณรพีสวัสดิ์เคี้ยวไม่ง่ายนักหรอก อย่าห่วงเลย พ่อวานให้คุณเล็กมาพักที่บ้านคอยดูแลบ้านช่องให้ แล้วก็ช่วยดูกิจการในโรงงานร่วมกับเลขาฯ ของพ่อ เกรงใจคุณเล็กอยู่เหมือนกัน อะไรเข้ารูปเข้ารอยแล้วพ่อว่าจะให้ทัวร์กำนัลคุณเล็กไปเที่ยวนาน ๆ เสียหน่อย” รพินทร์ปรารภอย่างเกรงใจในน้ำใจของญาติผู้น้อง ตั้งแต่ทราบว่าเขาป่วยก็คอยยื่นน้ำใจเข้ามาช่วยเหลืออยู่ไม่ขาด

“พี่วินจะได้รู้ซึ้งเสียทีว่าไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ จะถอดใจรามือไปก่อนก็ไม่ว่ากัน” รพีกานต์ปรารภอย่างปลงตก คนจับจดไร้น้ำอดน้ำทน ไม่ทันนานก็คงถอดใจ

“เผื่อใจไว้ด้วยนะลูก ระยะทางมันพาให้ใจคนเปลี่ยนมานักต่อนักละ กานต์เองก็เหมือนกัน เผื่อเจอใครในวันข้างหน้าอาจเปลี่ยนใจจากพี่วินไปก็ได้”

“จะมีใครมาสนใจคนแปลกประหลาดอย่างกานต์ละครับพ่อ แถมเรือพ่วงมาอีกตั้งสามลำ ไม่มีใครอยากมีภาระหรอกครับ” รพีกานต์เอ่ยทั้งน้ำเสียงกลั้วขำ นึกไม่ออกว่าจะมีวันนั้นมาถึงตัวเอง

“ตัดสินใจไปคราวนี้ กานต์เองก็ทำใจเรื่องพี่วินไว้แล้วครับ ไม่รู้จะได้เจอกันอีกเมื่อไร เผลอ ๆ เจอเอาตอนพี่วินมีคนใหม่ไปแล้วก็ได้” ฝังจิตฝังใจไปอย่างนั้น ดวงตากลมหลุบมองลงต่ำ ในใจยังวูบโหวงด้วยรสสัมผัสไออุ่นยังตราตรึง แต่เพราะความรักลูกน้อยทำให้ตัดสินใจอะไรได้เด็ดขาด

...จะไม่หันหลังกลับไป แต่ถ้าเส้นทางข้างหน้าขีดให้ได้วกมาเจอกันใหม่ ก็ค่อยว่ากันอีกที...



แสงแดดยามสายจัดลอดผ่านแมกไม้ทอแสงรำไรทางหน้าต่าง คนหลับสบายค่อยได้สติควา
นมือสะเปะสะปะหาร่างอุ่นคุ้นกายทั้งยังไม่ลืมตา มือหนาป่ายไปยังหมอน แก้วดอกน้อยกลิ้งลงมาสัมผัสมือ อัครวินท์หยุดควาน เปิดเปลือกตาลืมมองความว่างเปล่าข้างกาย

“ลุกไปก่อนแล้วก็ไม่ปลุกเสียด้วย” เขาอมยิ้มเอ็นดู ปลายนิ้วเกลี่ยหมอนนุ่มติดกลิ่นหอมจาง ๆ ของแชมพูสระผม รสหวานละมุนเมื่อคืนยังซ่านติดลิ้น

“อย่างกับสาวน้อยเพิ่งเสียสาวเลยกู” เขาเกาท้ายทอยแก้เก้อ ริมฝีปากคลี่ยิ้มขำตัวเอง ปลายนิ้วเคาะลงบนเตียงนึกถึงภาพไม่ประสาเมื่อคืน รพีกานต์ก็ยังคงเป็นรพีกานต์ทั้งที่กำลังจะมีน้องด้วยกันแท้ ๆ แก้มสีเรื่อก้มงุดซุกในอกทั้งเนื้อตัวร้อนฉ่าด้วยความปรารถนาที่เขาเป็นคนจุด ทุกอย่างเกิดโดยละมุนละม่อมเพราะระวังเจ้าสามแฝดในท้อง แต่กระนั้นรพีกานต์ก็ยอมให้เขาตักตวงโดยไม่บิดพลิ้ว กรุ่นกลิ่นจางติดที่นอน อัครวินท์หยิบแก้วดอกน้อยขึ้นสูดดมต่างแก้มผู้เป็นเจ้าของ

“เป็นเอามากเว้ย” เขาส่ายหน้ากับอารมณ์เพ้อพกดูไม่เป็นตัวของตัวเอง มือหนาเลิกผ้าห่มชักเท้าวางบนพื้น พลางลุกจากเตียงเดินไปเยี่ยมหน้ามองทางหน้าต่าง สวนด้านหลังเรือนขนมปังขิงติดคลอง มองเห็นเงาสะท้อนแสงแดดส่องประกายระยิบระยับอำไพบนท้องน้ำไหวกระเพื่อม กล่อมเกลาให้รู้สึกสงบอย่างประหลาด รพีกานต์เติบโตที่นี่ สภาพแวดล้อมสงบร่มรื่นหล่อหลอมคนตัวเล็กด้วยความละมุนละไมไม่ต่างจากดอกไม้ในสวนที่ได้รับการประคบประหงมดูแลอย่างดีเยี่ยม เขาทอดอารมณ์เคลิ้มมองทัศนียภาพเบื้องหน้า บัวหลวงสีชมพูอ่อนกำลังเบ่งบานริมคลองใกล้ท่าน้ำหลังบ้าน นึกแล้วก็อยากพารพีกานต์พายเรือไปเก็บบัวด้วยกันอีกสักหน อยากชดเชยในความเลวร้ายที่เคยทำลงไปแม้มันจะเทียบไม่ได้กับบาดแผลในใจที่ฉีกเป็นริ้วจากน้ำมือเขา

“พี่ขอโอกาสนะกานต์”

เสียงท้องร้องประท้วงความหิวขึ้นมาตะหงิด กายหนาถอยร่นกลับมาหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ในใจก็คิดไปว่า รพีกานต์คงง่วนอยู่ในครัวเตรียมอาหารไว้รอ
จัดการธุระเสร็จเรียบร้อย ร่างสมบูรณ์ด้วยมัดกล้ามสมสัดส่วนจึงเดินลงมาข้างล่าง อดสนเท่ห์เล็ก ๆ ไม่ได้ที่ไม่เห็นรพีกานต์ขึ้นมาหา ผิดวิสัยคนตัวเล็กอย่างประหลาด กระนั้นเขาก็เลือกจะปัดความสงสัยทิ้งเมื่อย่างเท้าลงมาถึงชั้นล่าง

“กานต์” เขาส่งเสียงเรียกร่างที่กำลังหันหลังให้ หวังได้รับรอยยิ้มกระจ่างใสกลับมา หากใบหน้าที่หันมาสบตานั้นทำเอานิ่งไป

“กานต์ไม่อยู่หรอก เธอ...วินใช่ไหม เช้านี้รับอะไรดี พี่รพินทร์สั่งไว้ว่า ถ้าเธออยากอยู่ที่นี่ต่อก็ได้ พี่เขาให้ฉันมาคอยดูแลบ้านให้น่ะ ฉันเป็นอาของกานต์” คนได้รับการไหว้วานรายงานเสร็จสรรพ สายตาพินิจพิเคราะห์ลอบชำเลืองอย่างมีมารยาทยังชายหนุ่มตัวต้นเหตุที่ทำให้หลานของเขาต้องระเห็จไปเสียไกล

หล่ออย่างนี้ซิเล่า เจ้ากานต์น้อยถึงได้เสียอกเสียใจเสียมากมายตอนถูกเขาทิ้ง หล่อเสียทะลุความดีพี่ณัฐ

“เดี๋ยวนะครับ กานต์ไม่อยู่ แล้วกานต์ไปไหนหรือครับ ทำไมผมไม่รู้เรื่อง” อัครวินท์มึนงงเป็นไก่ตาแตก คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เอ่ยทวนเนื้อความที่อีกฝ่ายบอกให้รับรู้

“กานต์ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วน่ะ ไปเมื่อเช้ามืดนี่เอง ไปรอคลอดนั่นแหละ ที่นี่เรื่องนินทากาเลสอดส่องกันหูตาอย่างกับสับปะรด พี่รพินทร์ไม่อยากให้กานต์เสียสุขภาพจิตเพราะคนอื่นเลยพาหลบไป แต่จะไปที่ไหน ฉันก็บอกไม่ได้ รู้แค่พี่พกพาสปอร์ตไปด้วย อาจพาไปพักกับเพื่อน ๆ ญาติ ๆ เราที่ต่างประเทศ” รพีสวัสดิ์แจงพลางยกชาขึ้นจิบ สายตาเหลือบมองคนอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงที่ถูกปล่อยทิ้งกลางอากาศ สายตาสับสนเกลื่อนไปด้วยหลากคำถามมากมาย

“ทำไมกานต์ไม่บอกผม เมื่อคืนเรา...เรายังนอนคุยกันอยู่เลย ทำไมจู่ ๆ ทิ้งกันไปง่าย ๆ แบบนี้” เขาตกตะลึงจนเค้นคำพูดแทบไม่ออก ร่างสูงเข่าแทบทรุด เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมายังร่างให้ชาหนึบไปหมด เขาเหมือนคนกำลังปีนขึ้นจากหุบเหวแล้วมีเชือกส่งลงมาช่วย เมื่อคว้าเอาไว้ เชือกนั้นก็พลันปล่อยเขาลอยละลิ่วลงสู่ก้นเหว

รพีกานต์ไม่ต้องการเขา ไม่ต้องการมีเขาอยู่ในชีวิตแม้จะอุ้มท้องลูกของเขาอยู่ก็ตาม !

“ไม่ นี่จะต้องเป็นตลกร้ายแน่ ๆ” เขายังคงดื้อแพ่งดึงดันทั้งที่ใจแป้วไปแล้ว มือสั่นเทาล้วงโทรศัพท์สมาร์ตโฟนในกระเป๋ากางเกงออกมากดโทรออก

หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...

“กานต์...ไม่จริง กานต์จะทิ้งพี่ไปอย่างนี้น่ะหรือ” ดวงตาสั่นหลากด้วยความสับสนอย่างคนตั้งตัวไม่ทัน อัครวินท์หันขวับมายังคนตรงหน้าพลางปรี่เข้าหา

“ผมรู้ว่าคุณรู้ว่ากานต์อยู่ที่ไหน ได้โปรดเถอะ บอกผม คุณต้องการอะไร ผมจะรีบจัดหามาให้ตามต้องการ” เขาเอ่ยน้ำเสียงระรัว

“นี่เธอ ฉันไม่อยากได้อะไรของเธอหรอกนะ แล้วที่หลานฉันไป ฉันว่ามันก็ดีกับตัวกานต์แล้ว เธอทิ้งกานต์ไปแล้วนี่ คิดจะกลับมาง่าย ๆ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก เธอทิ้งกานต์ คราวนี้กานต์ทิ้งเธอบ้าง มันก็เจ๊ากันแล้วนี่ ยุติธรรมดี” รพีสวัสดิ์จ้องอีกฝ่ายเขม็ง นัยน์ตากวางขุ่นเคืองอยู่ไม่น้อยเพราะเขาเองก็เอ็นดูหลานคนนี้อยู่มาก

“แต่กานต์ท้องลูกของผม แล้วบ้านกานต์ก็อยู่ที่นี่ ยังไงก็ต้องกลับมา” นัยน์ตาคมสั่นระริกอย่างไม่ยอมรับความจริง ริมฝีปากได้รูปหลุดคำพูดแผ่วครางคล้ายสติใกล้หลุดเต็มที

“ก็แค่น้ำเชื้อที่หลุดเข้ามาปฏิสนธิในร่างกายของหลานฉัน เอาไว้เธอเจอคนใหม่ เธอจะมีเด็กอีกสักกี่คนก็ได้นี่ อย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นข้อผูกมัดกันน่า สมัยนี้มันเชยแล้วนะ ท้องแล้วจะได้ร้องเร่ให้ผู้ชายรับผิดชอบน่ะ แล้วอีกอย่างกานต์กลับมาที่นี่อยู่แล้วแน่ ๆ แต่อาจจะ...รอลูกโต เรียนจบไฮสคูลเข้ามหาวิทยาลัยแล้วโน้นล่ะมั้ง” คุณอาของรพีกานต์ทำน้ำเสียงคาดคะเนทิ้งจังหวะระทึกให้ลุ้นตาม ก่อนปัดความหวังทิ้งไม่ใยดีพลางยักไหล่ไม่ยี่หระ ท่าทีไม่ยอมคนต่างจากรพินทร์แบบลิบลับประสาลูกหลงคนสุดท้อง

“อะไรนะครับ ! กานต์จะกลับมาจนลูกโตขนาดนั้นเลยหรือ” อัครวินท์ตาโตอย่างไม่เชื่อหู คนตัวเล็กทำไมใจเด็ดได้ขนาดนั้นหนอ

“ประมาณนั้นละมั้ง อย่ามาเซ้าซี้คาดคั้นเอากับฉันดีกว่าน่า ฉันบอกว่าไม่รู้ก็คือไม่รู้ ฉันไม่ได้ใจดีอย่างพี่รพินทร์หรอกนะ เตือนไว้ก่อน” สายตาเอาเรื่องตวัดขึ้นเตือนกลาย ๆ ว่าไม่ได้แค่ขู่ อัครวินท์ยั้งใจไม่เผลอวู่วามทั้งที่อยากจับญาติผู้ใหญ่ของรพีกานต์เขย่าให้หัวสั่นหัวคลอนเค้นเอาความจริงเต็มแก่ แต่กิริยาควรไม่ควรก็เตือนให้นิ่งอั้นไว้

 “ผมจะไปตามหากานต์ จ้างนักสืบเก่ง ๆ พลิกแผ่นดินหา ยังไงก็ต้องหาให้เจอ” เขาบอกก่อนผลุนผลันออกมาจากบ้าน ร่างแกร่งตรงไปที่รถ กวาดสายตาเหลียวหาซ้ายขวา แน่ใจว่าคุณอาของรพีกานต์พูดจริงแน่ ๆ จึงรีบขับรถออกมาด้วยหัวใจร้อนรุ่มยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

Trrrrr

“ฮัลโล ว่าไงเจ้าวิน” อินทัชกรอกเสียงมาตามสายด้วยความฉงนสนเท่ห์ ร้อยวันพันปีเจ้าลูกคนนี้แทบจะโทร.หานับสายได้

“พ่อ กานต์หนีผมไปแล้ว” อัครวินท์ละล่ำละลัก เขาร้อนใจยิ่งกว่าไฟลน จะโทร.หาปู่ก็กลัวจะถูกเฉ่ง คุยกับบิดาน่าจะได้เรื่องกว่า

“แกว่าอะไรนะ” อินทัชทวนคำคิ้วขมวดยุ่ง มือวางปากกาที่กำลังเซ็นเอกสารตั้งใจฟังสิ่งที่บุตรชายเอ่ยบอก

“กานต์หนีผมไปแล้ว ตื่นมาคนที่บ้านกานต์ก็บอกว่ากานต์หนีไปอยู่ที่อื่น ไม่รู้ว่าไปที่ไหน แต่กานต์ไปโดยไม่บอกอะไรผมสักคำเลยพ่อ ทิ้งกันไปง่าย ๆ เมื่อคืนผมยังนอนกอดกานต์อยู่เลย” อัครวินท์พรั่งพรูความในใจออกมาอย่างใจเสีย อินทัชได้ยินถึงกับนิ่งในความใจเด็ดของเด็กผู้ชายหน้าอ่อนเยาว์คนนั้น

“พ่อ ส่งคนของเราออกตามหากานต์นะ จ้างนักสืบด้วย พ่อรู้จักตำรวจนี่ ดูกล้องวงจรปิดถนนเส้นทางที่กานต์ไปได้ไหม แล้วก็เช็กเที่ยวบินด้วย ญาติของกานต์บอกว่าคุณรพินทร์พกพาสปอร์ตติดตัวไปด้วย บางทีพวกเขาอาจจะหนีไปกบดานที่ต่างประเทศ” อัครวินท์แทบเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที พยายามคิดหาทุกทางออกที่จะติดตามตัวรพีกานต์กลับมา

“เดี๋ยว ใจเย็นก่อนวิน แกไปทำอะไรให้เขาโกรธ กานต์ถึงหนีแก” เขาจับใจความความร้อนรุ่มของบุตรชายก่อนเค้นหาสาเหตุ

“ผม...ผมเคยทิ้งกานต์ ผมแค้นนี่ ที่รู้ว่าพ่อของกานต์คือรพินทร์ คนรักเก่าของพ่อน่ะ ผมเกลียดมันพ่อก็รู้” เขาบอกเสียงอ่อยลงนิดหนึ่ง แต่คนฟังหูผึ่งทันทีที่ฟังจบ

“อะไรนะ แกบอกฉันว่า พ่อของกานต์คือรพินทร์อย่างนั้นหรือ” อินทัชแทบเต้นเหยงลุกผึงจากเก้าอี้ นัยน์ตากรอกไปมาเมื่อนึกไปว่าเขาเพิ่งจะไปเยี่ยมรพินทร์มาเมื่อวาน เพิ่งจะได้พูดคุยกัน มาวันนี้เจ้าลูกชายตัวดีก็ก่อเรื่องจนบ้านนั้นพากันระเห็จหนี

“ใช่ พ่อของกานต์คือรพินทร์คนนั้น แล้วในท้องของกานต์ก็มีลูกของผม พ่อ...ยังไงเราก็ต้องหากานต์ให้เจอนะ”

“ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน รีบกลับมาที่บ้าน เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว !” อินทัชสั่งเฉียบขาด ในใจคุกรุ่นร้อนรุ่มยิ่งกว่าสุมเพลิง นายธนาคารหนุ่มไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้กับบุตรชายสักครั้ง แต่คราวนี้เห็นทีต้องไล่เบี้ยกันยาวกับความผิดเทียบขั้นอุกฤษฏ์ที่บุตรชายตัวดีได้ก่อขึ้น มือหนาวางสายโทรศัพท์พึมพำชื่อ

“กานต์ลูกรพินทร์ สามแฝดนั่นเลือดเนื้อเชื้อไขอิศวัชร์แท้ ๆ หลานฉัน หลานแท้ ๆ เจ้าวินนะเจ้าวิน” อินทัชคว้าสูทที่ถอดพาดพนักเก้าอี้ก่อนก้าวฉับยาว ๆ อย่างรีบร้อนออกมานอกห้องทำงาน เสียงเข้มสั่งงานกับเลขาฯ ฉับไว เรียบร้อยแล้วจึงกดลิฟท์ลงมายังที่จอดรถ โรลส์-รอยซ์คันหรูพุ่งทะยานราวติดปีกออกสู่ท้องถนนมุ่งตรงไปยังคฤหาสน์ ระหว่างนั้นอินทัชได้โทร.ไปบอกเล่าเรื่องราวคร่าว ๆ ให้บิดาได้รับรู้เพื่อหาทางออกของปัญหาร่วมกัน อินทร์ฉายคิ้วกระตุก ชะรอยขนชังจะขึ้นเจ้าหลานตัวดีแล้วอย่างไรไม่ทราบ คนกำลังดูคลิปเหลนแฝดสามถึงกับหน้าตึง


-มีต่อด้านล่างค่ะ-  :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2017 10:53:15 โดย Moony_Darling »

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
๒๓ (ต่อ)


บรรยากาศในห้องรับแขกมาคุเขม็งเกลียวจนอัครวินท์รู้สึกได้นับแต่ก้าวเท้าแรกเหยียบเข้ามาภายในห้อง ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอสีหน้าเจื่อน สายตาล่อกแล่กลุกลนมื่อเจอสายตาถมึงทึงของผู้เป็นประมุขใหญ่แห่งอิศวัชร์ ร่างสูงใหญ่พาไหล่ห่อหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้รอถูกไต่สวน นับเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเข้าหน้าปู่ไม่ติดด้วยชนักติดหลังขั้นอุกฤษฏ์

“ฉันวานคนรู้จักในตม.ช่วยเช็กให้แล้ว ตอนนี้เด็กกานต์กับครอบครัวยังไม่ได้ออกนอกประเทศ เช็กกับสายการบินก็ไม่มีชื่อครอบครัวนั้นจองเที่ยวบินไหน ทั้งในประเทศแล้วก็ไฟท์บินออกนอกประเทศ พวกนั้นคงวางแผนเดินทางไม่ให้เราตามเจอตัวง่ายนักหรอก สรุปก็ต้องมาคลำหาดูว่าเจ็ดสิบเจ็ดจังหวัดในประเทศไทยนี่ เมียแกพาเหลนของฉันหนีไปที่ไหน แต่ก็คงวางใจได้อยู่หรอกว่าคงไม่พากันลงสามจังหวัดชายแดนใต้” ตลกฝืดของปู่ทั้งที่ใบหน้าขุ่นเคืองนั้น เขาทำได้เพียงยิ้มแหย รู้ตัวว่าตกจากบัลลังก์หลานรักดังแอ้กก็คราวนี้ ด้วยอัครวินท์จับอารมณ์กรุ่นโกรธของปู่ได้เป็นอย่างดี

“หรือว่าจริง ๆ แล้วกานต์จะไม่ได้หนีไปไหนครับปู่ เพียงแค่แกล้งหลอกให้ผมหัวหมุนเล่น บางทีตอนนี้กานต์อาจยังอยู่ที่บ้าน หรือไม่ก็แอบไปซ่อนตัวที่ไหนไม่ไกลนักเพื่อหลอกล่อให้ผมตายใจ แล้วก็กลับไปอยู่บ้านอย่างเก่า ถ้าอย่างนั้นเราส่งคนไปคอยจับตาดูก็ได้นี่ครับ เจอตัวแล้วเราค่อยไปเกลี้ยกล่อมดี ๆ” เขาโพล่งอย่างนึกขึ้นได้

“เรื่องนั้นฉันสั่งคนไปจัดการแล้ว แต่แกคิดหรือว่าเมียแกจะคิดอะไรตื้น ๆ เด็กเล่นแบบนั้น ในเมื่อในท้องเด็กคนนั้นมีสายเลือดของอิศวัชร์ ทางนั้นจะไม่คิดเชียวหรือว่าทางเราต้องพลิกแผ่นดินตามหาแน่ ๆ” น้ำเสียงของอินทร์ฉายเรียบขรึม หากภายในใจร้อนรุ่มแทบอยากแพ่นกบาลเจ้าตัวก่อเรื่อง เขารักอินทัชมาก พอมีอัครวินท์ก็ยิ่งรักมากเข้าไปอีก แต่อัครวินท์โตแล้วก็เป็นไปตามวัย มีเพื่อนมีสังคมของเขา การที่ได้รับรู้ว่าตัวเองจะมีเหลน แม้จะกะทันหันไปหน่อย แต่พอได้ดูคลิปแล้วก็ยังความยินดีที่จะได้รอเจอหน้าเหลนที่กำลังจะลืมตาดูโลก ยังจำได้ เด็กรพีกานต์เคยบอกว่าสามแฝดมีปฏิกิริยากับเสียงของเขา จะเรื่องจริงหรือพูดเพื่อเอาใจก็ตามแต่ แต่อินทร์ฉายก็มีความหวังในการรอเจอเหลนคลอดเข้าไปแล้ว

“ทัชบอกว่า แกเป็นต้นเหตุให้เด็กคนนั้นหนีไปอย่างนั้นหรือ” คำถามเล่นเอาอัครวินท์สะดุ้งโหยง เย็นวาบไปถึงไขสันหลัง

“ครับ กานต์คงโกรธที่ผมเคยทิ้งกานต์เมื่อก่อน จริง ๆ ก็ว่าจะลองคบแบบจริงจังดู แต่พอได้ไปเจอคุณพ่อของกานต์เข้า ผมก็เลย...ทำอะไรงี่เง่าไป” อัครวินท์ยอมรับเสียงอ่อย หลบสายตาวูบ ปู่ชอบคนแก้ไขแต่ไม่นิยมคนแก้ตัว

“เล่าให้ฉันฟังอย่างละเอียด ว่าแกเคยทำอะไรไว้ เด็กคนนั้นถึงได้หนีไปอย่างนี้” อินทร์ฉายน้ำเสียงเย็นเฉียบ อัครวินท์หน้าซีดปากสั่น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นถูกเล่าถ่ายทอดผ่านริมฝีปากของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหลานรัก ตลอดเวลาที่รับฟังอินทร์ฉายคิ้วกระตุกกับพฤติกรรมของหลานเป็นระยะ

“ตกลงว่าแกไปทำเรื่องระยำกับเขาจนทางนั้นต้องระเห็จหนีอย่างนั้นหรือ” อินทร์เสียงเหี้ยมคาดโทษ อัครวินท์สะดุ้งโหยงหน้าตื่น เหงื่อกาฬแตกพลั่กทั้งที่แอร์เย็นฉ่ำ

“แล้วพ่อของกานต์ก็คือผู้ชายที่เคยคบกับพ่อของแกก่อนหน้าที่อินทัชจะแต่งงาน แกรู้เรื่องนี้ได้ยังไงเจ้าวิน ตกลงว่าแกเป็นเกย์จริง ๆ ใช่ไหม” ถามรวบยอดทีเดียวตรงประเด็น อินทร์ฉายคาใจเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ถ้าตัดเรื่องรพีกานต์ตั้งครรภ์ออกไป ก็เท่ากับว่าอัครวินท์เองก็เป็นแบบที่อินทัชเป็น

“ผมไม่รู้หรอก เรื่องเป็นเกย์หรือไม่เป็น เพราะผมไม่เคยสนใจผู้ชายคนไหนจนมาเจอกานต์ แล้วตอนคบกันมันก็รู้สึกดี ผมชอบที่กานต์เป็นกานต์ ไม่ได้ชอบเพราะกานต์เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงเสียหน่อย กานต์ทำให้ผมมองข้ามเรื่องเพศสภาพไป ผมไม่เคยรู้สึกกระอักกระอ่วนเวลาอยู่ใกล้กัน ถ้าความรู้สึกนี้ใครจะมองว่าผมเป็นเกย์ ก็คงใช่” เขายืดอกรับ คิดว่าใคร่ครวญดีแล้วในคำตอบ มันอาจทำให้ปู่ผิดหวัง แต่การปฏิเสธทั้งที่มาจนขั้นนี้ก็เท่ากับผลักไสความเจ็บปวดให้อีกฝ่าย แล้วรพีกานต์จะรู้สึกยังไง

“ผมเคยเกลียดในสิ่งที่พ่อเป็น เคยเสียใจ ผิดหวังตอนเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกัน แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว จะรักใคร รักก็คือรักครับปู่ คนเราต่างหากที่แบ่งแยกให้มันวุ่นวายไปเอง แค่รักกับผู้ชายไม่ได้ทำให้โลกแตกเสียหน่อย”

“แกยอมรับว่ารักผู้ชาย” อินทร์ฉายถามหลาน แต่เหมือนคำถามนั้นเป็นการบอกตัวเองกลาย ๆ เสียมากกว่า

“ผมรักกานต์ครับ ถึงกานต์ไม่ท้อง วันนึงผมก็จะพากานต์มาให้ครอบครัวเรารู้จักอยู่ดี” ชายหนุ่มรู้ตัวว่าทำผิดมามาก ที่รพีกานต์หนีไปก็เพราะเขาทำตัวเองล้วน ๆ

“รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรอยู่ แกอายุแค่นี้อาจจะสับสนไปกับโลกที่มันเปิดกว้างขนาดมีซีรีส์เกย์ออกฉายทางทีวีโครม ๆ แถมเป็นที่นิยมขนาดมีแฟนคลับ” อินทร์ฉายไม่อยากเชื่อหูตัวเองนัก เอาจริง ๆ คือไม่อยากยอมรับเสียมากกว่า แต่ก็ต้องยอมรับว่าโลกปัจจุบันเปลี่ยนไปรวดเร็ว จนคนอาบน้ำร้อนมาก่อนหลายสิบปีปรับความคิดตามแทบไม่ทัน

“ไม่มีผู้ชายคนไหนไม่รู้ตัวเองหรอกครับปู่ ผมกล้าพูดได้เลย รู้ตัวทั้งนั้นแหละว่าสนใจหรือไม่สนใจผู้ชายด้วยกัน อยู่ที่จะยอมรับหรือเปล่าต่างหาก ถ้าผมเป็นเกย์แล้วผมจะไม่ใช่หลานปู่หรือครับ ปู่จะตัดปู่ตัดหลานกับผมเลยหรือ แค่ผมรักกับผู้ชายแล้วมีความสุข ปู่ไม่อยากเห็นผมมีความสุขหรือครับ” คำถามแทงใจดำอย่างจัง อินทร์ฉายเหลือบมองบุตรชาย อินทัชไม่เคยทำให้ผิดหวังสักครั้งยกเว้นเรื่องเดียว แต่ลูกก็ยอมเฉือนหัวใจตัวเองเพื่อแลกกับคำว่ากตัญญู รอยยิ้มของอินทัชหลังแต่งงานนับว่าหายากกว่าน้ำในทะเลทรายเสียอีก ทุกวันนี้ก็ยังถามตัวเองว่าทำถูกไหมที่บังคับอินทัชแต่งงาน แต่ผลิตผลที่ออกมาเป็นอัครวินท์ก็เป็นสิ่งปลอบใจจอมปลอมได้เสมอมา

“แล้วทีนี้จะทำยังไงต่อไป ถึงตามตัวเจอ แล้วคิดหรือว่าเด็กกานต์จะยอมกลับมากับแก ในเมื่อแกทำร้ายเขาขนาดนั้น ใครบ้างจะไม่ระแวงกับพฤติกรรมเลว ๆ ที่ผ่านมาของแกกัน นี่ฉันตามใจแกเกินไปใช่ไหม ถึงได้ทำอะไรร้ายกาจแบบนี้” ยิ่งได้รู้สาเหตุการหนีไปของรพีกานต์ ก็ยิ่งกรุ่นโกรธคนของตนเอง

โธ๋เอ๋ย เจ้าสามแฝด ต้องมารับเคราะห์เพราะมีพ่อสามานย์ เหนืออื่นใด ทวดเองที่ผิดกว่าใคร
อินทร์ฉายโอดครวญในใจด้วยความเสียใจ ในใจละห้อยหาเหลนที่ไม่รู้จะไปตกระกำลำบากที่ไหน นึกแล้วก็อยากเฉดเจ้าตัวพ่อมันออกจากบ้านนัก เห็นแล้วชังน้ำหน้าขึ้นมาครามครัน

“ผมขอโทษ” อัครวินท์เสียงอ่อยด้วยความรู้สึกผิดเต็มเปี่ยม

“คนที่แกสมควรขอโทษไม่ใช่ฉัน ฉันจะบอกอะไรให้นะเจ้าวิน คนเราถึงขอโทษแล้ว ถึงเขาจะยกโทษให้ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เวลาไม่ได้ช่วยเยียวยาทุกอย่างได้ สิ่งที่มันแตกเป็นเสี่ยง ๆ ไปแล้วไม่มีทางกลับคืนมาได้อย่างเก่า โดยเฉพาะความเชื่อใจ ถ้าแกได้ลองทำลายความเชื่อใจของใครไปแล้ว แกแทบจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อพิสูจน์ตัวแกเอง” น้ำเสียงฉาดฉานของปู่สะท้อนถึงความเสียใจและผิดหวังอย่างรุนแรงจนอัครวินท์ใจเสีย

“ถามตัวเองสิว่า แกหนักแน่นพอไหมสำหรับบททดสอบนี้ ถ้าคิดว่าทำได้ ต่อให้พลิกแผ่นดิน ฉันก็จะตามเด็กคนนั้นกลับมาให้จงได้ แต่ถ้าตัวแกเองยังไม่แน่ใจว่าแค่หลงไปชั่วคราวหรือเปล่า ก็ปล่อยเขาไป เด็กคนนั้นกับครอบครัวเขาคงเลี้ยงเหลนฉันได้ดีกว่าที่ฉันเลี้ยงแกมา” ประมุขแห่งอิศวัชร์เอ่ยหนักแน่นและเด็ดขาดทั้งที่เสียใจอยู่ลึก ๆ อัครวินท์คือกระจกสะท้อนความบกพร่องจากการเลี้ยงดูของครอบครัวขนานแท้ และภาพสะท้อนนั้นเล่นเอาจุกเจ็บไม่น้อย

“คุณพ่อพูดแบบนี้ แสดงว่าคุณพ่อยอมรับเด็กผู้ชายคนนั้นหรือคะ” ผดาชไมแทรกขึ้นหลังนั่งฟังอยู่นาน กระแสเสียงแฝงนัยไม่พอใจลึก ๆ เมื่อทราบที่มาของรพีกานต์

“ไม่ยอมแล้วจะให้ทำยังไง เหลนฉันอยู่ในท้องเด็กคนนั้นตั้งสามคน จะทำเหมือนว่าเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง ทำรังเกียจรังงอนแม่เขา ทั้งที่อยากได้ลูกเขาน่ะหรือ” อินทร์ฉายถามกลับสะใภ้ ใช่ว่าตัวเขาจะไม่ตะขิดตะขวงใจกับเพศสภาพของรพีกานต์ แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าไม่ยอมก็คงหมดวังที่จะได้เจอสามแฝด ยิ่งรู้ว่าอัครวินท์ทำร้ายกาจกับอีกฝ่ายแค่ไหน ตัวเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อทางนั้นและโหยหาสามแฝดหนักกว่าเดิม

“งั้นเราก็ยื่นข้อเสนอรับเด็กมาเลี้ยงเองก็ได้นี่คะ ยังไงทางเราต้องเลี้ยงได้ดีกว่าอยู่แล้ว พ่อแม่ยังวัยรุ่นรักสนุก เขาคงไม่อยากนำพาภาระให้ตัวเองหรอกค่ะ” ผดาชไมเสนอแบบคนที่เห็นปัญหาวัยรุ่นท้องในวัยเรียนยุคปัจจุบันที่เห็นได้เกร่อ สุดท้ายก็กลายเป็นภาระของพ่อแม่ในภายหลัง

“กานต์ไม่ยอมหรอกแม่” อัครวินท์ทักท้วงอย่างคนรู้จักนิสัยรพีกานต์ดี

“ทำไม หรือเด็กนั่นอยากเก็บลูกเอาไว้ต่อรองกับเราเรื่อย ๆ เห็นว่าเราสนใจอยากได้เด็ก เลยคิดจะขายลูกกินอย่างนั้นหรือ”

“กานต์ไม่ใช่คนแบบนั้นนะแม่ กานต์เคยบอกว่าไม่อยากให้วินเป็นพ่อของลูก ไม่อยากให้ลูกนิสัยไม่ดีเหมือนวิน ถึงได้หนีไปไง”

“งั้นก็ปล่อยเขาไป ตัวแกเองเดี๋ยวก็เจอคนถูกใจใหม่ ๆ แล้วก็คงลืมไปเอง” หล่อนบอกฉุนเฉียว ไม่นึกยินดีตั้งแต่รู้ว่าญาติทางนั้นเป็นใครแล้ว

“แม่คิดแบบนั้นได้ยังไง แม่พูดเหมือนไม่เชื่อว่าคนอย่างผมจะรักใครเป็นอย่างนั้นแหละ” 

“แกคิดน้อยเกินไปแล้วนะตาวิน ตัวแกไม่ได้มีแค่ตัวแกนะ ชื่อเสียงหน้าตาวงศ์ตระกูลจะได้ป่นปี้ก็คราวนี้” ผดาชไมขึ้นเสียงเสียงเขียวกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน อย่างไรหล่อนก็ไม่มีทางนับญาติกับทางนั้นเป็นแน่ ดวงตาขุ่นตวัดมองสามีทางนิตินัย

“ก็ในเมื่อเด็กคนนั้นไม่ต้องการความรับผิดชอบจากทางเราก็ปล่อยไปสิคะ ไม่นานตาวินก็คงลืมไปเอง รักฉาบฉวยของวัยรุ่นที่ดันพลาดท่าจนท้อง ในเมื่อเขาไม่อยากเกี่ยวข้องกับเราก็แล้วแต่เขา เดี๋ยวตาวินโตขึ้นกว่านี้ก็รู้จักมองคนเอง แล้วอนาคตก็จะมีเหลนใหม่ให้คุณพ่อ ไม่เห็นจะต้องวุ่นวายตามหานี่คะ เขาอยากไปก็ปล่อยให้เขาไป เราไม่ได้ขับไล่ไสส่งเสียหน่อย” หล่อนสรุปรวดเดียวเด็ดขาด ใบหน้ามีสง่าราศีเชิดขึ้นอย่างนางพญาที่ยังคงความสวยสะพรั่งราวหญิงสาววัยยี่สิบกลาง ๆ

“แม่ ทำไมแม่พูดอย่างนี้ แม่ไม่รู้สึกอะไรกับหลานในท้องบ้างหรือครับ” อัครวินท์เขย่าแขนมารดาด้วยความตกใจระคนร้อนรน

“รู้สึกผิดหวังที่แกทำตัวแบบนี้ไงวิน” หล่อนมองบุตรชายด้วยความผิดหวังจริง ๆ

“แม่...”

“เขาหนีไปอย่างนี้ อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าทางนั้นไม่ได้หวังอะไรจากเราเลย ก็น่าจะดีไม่ใช่หรือ คนที่อยากเกี่ยวข้องกับอิศวัชร์ก็มีแต่พวกหวังผลประโยชน์ทั้งนั้นแหละ” อินทัชเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ หากแต่กระตุกใจหลายคนนัก

“ที่เข้าข้างเพราะอยากจะเกี่ยวดองกับทางนั้นมากหรือคะ” หล่อนเหน็บด้วยความพาล ทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าอินทัชเป็นเกย์ ก็ในเมื่อหล่อนต้องตกนรกทั้งเป็น หล่อนก็จะไม่ยอมทนทรมานคนเดียวหรอก ดีหน่อยที่สมบัติมหาศาลของอิศวัชร์นั้น ทำให้หล่อนเชิดหน้าชูตาในวงสังคมได้อย่างนางพญา ผดาชไมถือว่านั่นคือสิ่งที่อินทัชสมควรชดเชยให้แก่หล่อน

“คุณลืมไปแล้วหรือว่าตัวเองก็มีลูกสาวน่ะหือ ถ้ายัยรินเจอแม่ผัวมหาประลัยหวงลูกชายเหมือนจงอางหวงไข่ เจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตคู่ของลูกไปเสียทุกเรื่อง ชีวิตจะมีความสุขได้ยังไง เราเลี้ยงลูกได้แต่ตัวนะคุณ แล้วเรื่องนี้ตาวินก็เป็นคนผิดเต็มประตู ทางนั้นจะระแวงก็ไม่แปลก หยุดให้ท้ายลูกเสียที ให้เจ้าตัวรู้จักผิดชอบเสียบ้าง ไม่งั้นอนาคตไม่รู้จะไปก่อเรื่องเดือดร้อนให้ใครอีก ยิ่งนามสกุลใหญ่ยิ่งดี เขาด่าทีด่ายันโคตร สะดุ้งไปถึงที่เก็บอัฐ” ผดาชไมคอแข็งเมื่อเจอคนไม่ค่อยพูดบริภาษได้อย่างเจ็บแสบ อินทัชไม่อยากต่อปากต่อคำกับภรรยาเท่าไร แต่งานนี้ต้องพูดเสียบ้าง

“แล้วตกลงคุณพ่อจะทำยังไงต่อไปหรือครับ” อินทัชหันมาปรึกษาอินทร์ฉายเป็นงานเป็นการ หลังไล่เบี้ยเจ้าตัวดีเสร็จ

“ทำยังไงล่ะ ตามกลับมาแต่คนของเราเป็นเสียอย่างนี้ ฉันเองก็ละอายใจไม่กล้าสู้หน้าเด็กคนนั้น ไม่รู้เหลนฉันจะไปตกระกำลำบากอยู่ที่ไหน ไม่เจ็บช้ำน้ำใจจริง ๆ เขาจะหนีหรือ ยอมทิ้งอนาคตตัวเองกันเลยทีเดียว” อินทร์ฉายส่ายหน้าด้วยความอิดหนาระอาใจกับเจ้าหลานตัวดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยอมรับอยู่ในใจว่า อัครวินท์คือผลพวงของการเลี้ยงดูแบบผิด ๆ ปู่แม่รังแกฉันโดยแท้

“เห็นที เราเองคงต้องดัดนิสัยคนของเราลงโทษกันบ้าง เรื่องตามหาผมจะลองหาทางอีกที” อินทัชเสนอ ซึ่งอินทร์ฉายก็พยักหน้าเออออเห็นด้วย เวลานี้ลมหายใจเข้าออกของอินทร์ฉายมีแต่ความห่วงใยและคิดถึงสามแฝด

“พ่อจะลงโทษวินยังไง”

“อายัดบัตรเครดิต ใช้แค่เอทีเอ็มพอ จากนี้ฉันจะจ่ายแกเป็นรายเดือน เดือนละหมื่นห้าเท่าสตาร์ตของป.ตรี จบใหม่ เอ๊ะ หรือจะจ่ายวันละสามร้อยเท่าค่าแรงขั้นต่ำดี แกเองไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟอยู่แล้ว นอนที่บ้านหรือคอนโดก็แล้วแต่ใจ ถ้าประหยัดหน่อยกินข้าวที่บ้านก็เซฟเงินได้อีก” อัครวินท์อ้าปากเหวอเมื่อเจอรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมของบิดา คราวนี้อินทัชลงโทษบุตรชายได้เต็มที่โดยไม่มีใครขัดลำให้ท้ายเจ้าตัวดี

“แล้วค่าน้ำมันรถล่ะพ่อ เดือนนึงหมื่นห้ามันจะพอได้ยังไง” อัครวินท์ถึงกับเต้นผาง

“พอสิ ฉันจะยึดกุญแจรถแกด้วย นั่งรถเมล์ หรือใช้บริการรถไฟฟ้าแบบคนอื่นเขาบ้าง เผื่อจะเข้าใจความยากลำบาก จะได้รู้จักให้เกียรติคนอื่นขึ้น ต่อไปแกจะมารับช่วงต่อจากฉัน เรียนรู้เสียตั้งแต่ตอนนี้ก็ดี คนอื่นยังอยู่กันได้ อยากได้เพิ่มก็หางานพิเศษทำเอา”

“พ่อ”

“อ้อ อีกอย่าง อย่าคิดให้แม่แกช่วยเชียว ไม่งั้นผมจะจัดการคุณเหมือนที่จัดการมัน รักลูกให้ถูกทาง ดัดกันตอนนี้เพื่ออีกหลายสิบปีข้างหน้า เจ้าวินจะได้โตเป็นผู้ใหญ่ที่มีหัวคิดกว่านี้” เขาบอกลูกชายพลางหันไปทางภรรยาอย่างรู้ทัน

“ฉันวางตัวแกให้ขึ้นมารับช่วงต่อจากทัชได้ ฉันก็ปลดแกลงได้เหมือนกัน ลองทำงานเป็นลูกน้องของเจ้าสามแฝดดูหน่อยไหมตาวิน” อินทร์ฉายทิ้งท้ายเสียงเฉียบหากสะท้านไปถึงทรวงในคนเป็นหลาน ปู่กับพ่อผนึกกำลังกันเฉ่งแบบไม่เหลือพื้นที่ให้อุทรณ์ ฤทธิ์ของสามแฝด ขนาดยังอยู่ในท้องแถมแม่พาหนียังทำเอาเสือผยองกลายเป็นแมว

“ฉันหาเมียกับลูกของแกเจอเมื่อไร การลงโทษก็สิ้นสุดเมื่อนั้น"

"แต่ถ้าไม่ดีขึ้น แม่เขาหอบลูกหนีอีก แกเองก็เตรียมเนรเทศตัวเองออกไปจากบ้านได้เลย บ้านนี่ฉันจะให้ทัชทำพินัยกรรมยกให้เหลนฉัน”

!!!

 :katai5:

คราวซวยมาเยือน อัครวินท์รึจะยิ่งใหญ่ไปกว่าคนจ่ายตังค์ ไม่มีคนถือหางแกแล้วนะวิน หัวเรือใหญ่กลับลำไปหาเหลนแล้ว สมบัติเขาก็จะยกให้เหลนแล้วเนี่ย เหอ ๆ
 :sad4:

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
5555555 สมน้ำหน้าวิน สมควรแล้ว ทำกับเขาไว้ซะมากมาย

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
สามแสบนอนยิ้มในท้องแม่ละนั่น   สมบัติจะเป็นของสามแสบ  :hao3:  :hao3:  :hao3:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
 ลูกหลานจะเป็นยังไงก็อยู่ที่การเลี้ยงดูสั่งสอนจริงๆ
  รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ cass-meyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
นี่เหลนแค่อยู่ในท้องนะเนี่ย ถ้าคลอดเมื่อไหร่วินตายแน่ๆๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แผลงฤทธิ์ตั้งแต่อยู่ในท้อง

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
นังแม่ของวินก็น่าเกลียด

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รีบๆเปลี่ยนตัวเองนะวิน

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
หึ ๆ หงอยเป็นแมวเลย แต่หวังว่าคงจะคิดอะไรได้สักทีนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ก็สมควรดัดนิสัยนะ เพราะวินก็ดูเหมือนเห่อลูกมากกว่าที่จะมีความรับผิดชอบจริงๆ

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อ่านจากบทนำ เหมือนแยกกับวินแล้วเจอคนใหม่  ชื่ออัษ แล้วก็มีแววจะผิดหวังอีก  เดาไม่ถูก รอตอนต่อไป :pig4:

ออฟไลน์ Kkookai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ดีต่อใจจริงๆ..น้องกานต์ทำถูกแล้วลูกอยู่บนความหวาดระแวงมันไม่มีความสุขหรอก..ให้กำลังใจคนเขียนนะเขียนดีมากภาษาสวยอ่านไหลลื่น...มาต่อไวๆนะ...✌✌✌

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
สมน้ำหน้า เอ๊ย เป็นการลงโทษที่สมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่ทำมาก หึหึหึ
ดีแล้วๆ เหลนจะได้ไม่โตมาเหมือนพ่อ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สมควรโดนซะบ้างจะได้ดัดนิสัย สะใจ :katai2-1:

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
โอ๊ยยยยย ซะใจฝุดๆๆๆ

ออฟไลน์ i_Tipz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด