【ช่างใจรัก】♦โหลดEbookและรอบปกติ♦12/11/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【ช่างใจรัก】♦โหลดEbookและรอบปกติ♦12/11/59  (อ่าน 261071 ครั้ง)

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
น้องธาร แสดงท่าทาง รังเกียจซะ ชัดเจน
พี่เหนือ ก็ยังทนและพยายามได้เนอะ คนอะไรจะทนขนาดนี้

ปล.เป็นกำลังใจให้คนแต่งและรอตอนต่อๆไปนะครับ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3005
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
น้องธารใจเย็นๆ อย่าเพิ่งหวั่นไหวนะลูก
คือไม่อยากให้น้องธารกลับมาโหดแบบเดิมอีกอ่ะ เค้าไม่ชอบบบบ (T_T)

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เหนือจะแก้ไขสถานการณ์ยังไง

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
มารอจ้า

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
จริง เห็นด้วยกับน้องธาร
พี่ดื้อเป็นคนเดียวที่ไม่ควรเสียจายยยย

ส่วนพี่เหนือจงเป็นนางเอกจำเลยรักน้องธารต่อไปค่ะ
เอสเอ็มดี เราชอบ
 :hao6:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
น่ารักเชียว ..

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ทำไมเหตุการณ์เป็นแบบนี้ไปได้เนี่ย

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
รอเรื่องนี้ อย่างใจจด ใจจ่อเลย

 :hao6: กินเด็กให้ได้นะสู้ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
มาต่อเร็วๆเน้อ  :hao6:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
พี่เหนืออย่ายอมแพ้ค่ะ
ทีมพี่เหนือ  :hao7:

อย่าไปแคร์ แรดให้สุดๆเลยค่าาา  :hao6:

ออฟไลน์ JARKISREAL

  • [ ฉันเอง ]
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-2
เป็นไงบ้างค่ะพี่เหนือ อยากได้อยากโดนของพี่
โดนดูดอย่างเดียวไม่ว่า โดนด่ามาด้วยยย โอ้ยย อยากอ่านต่อ ><

ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
เอ้า...ตอนอ่านตัวอย่างกับอ่านเต็มตอนนี่อารมณ์คนละเรื่องเลย 555+

ออฟไลน์ jillongame

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 o13 ชอบนะว่ากันจริงนี้แต่ได้ดู real มากๆ น่ะนิสัยนายเอกเนีย เกย์เป็นแบบนี้เยอะจริงๆ แต่ไม่ชอบน่ะนี้รอลุ้นให้เปลี่ยนนิสัยเลยจริง และดีใจที่คนมีรักจริงอย่าดื้อ ได้มีตัวจริงที่รักจริงในอีกเรื่อง ไหนๆชีวิตจริงมันหายาก ก็ต้องอาศัยได้แค่อ่านนิยาย เพื่อเจอคนดีๆบ้าง แล้วคนดีๆมีรักจริงตอบแทนความดีนี้ปลื้มชอบ เป็นกำลังใจน่ะชอบๆ

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ชอบนายเอกที่ตลกนะ แรดบ้างไรบ้าง แต่ไม่เอาร่านได้ไหมอ่ะ สงสารพระเอก มันดูไม่คู่ควรกันยังไงไม่รู้

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 11: พี่เหนือ จะทำตัวดีแล้วครับ[1]

หลังจากคืนนั้น ผมก็ไม่ไปเจอหน้าพี่จอมดื้ออีกเลย ที่ไม่ยอมไปเจอก็เพราะกลัวว่าจะเห็นรอยคิสมาร์กบนต้นคอนี่แหละ พี่จอมดื้อก็โทรมาถามตามประสาว่าเขาทำอะไรให้ผมไม่พอใจหรือเปล่า ผมถึงได้วิ่งทะเล่อทะล่าออกจากร้านมาอย่างนั้น ผมได้แต่ตอบปฏิเสธไปแบบโง่ๆ ว่านึกขึ้นได้ว่ามีธุระด่วนต้องทำ แต่ไม่ได้บอกว่าธุระอะไร

ก็แหม มันคิดไม่ออกน่ะ จะบอกว่าไม่สบายกะทันหันหรือท้องเสียอะไรเทือกนี้ก็ไม่เมคเซ้นส์ พูดรวมๆ ไปแล้วกัน

ดีที่พี่จอมดื้อไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ นอกจากขอเจอผมอีกครั้ง จะให้มาหาที่หอก็ได้ แต่สุดท้ายผมก็ปฏิเสธ อ้างว่ายุ่งไปเรื่อย ก็อย่างที่บอก ต้นคอยังมีรอยคิสมาร์กอยู่ จะให้ไปเจอหน้าได้ยังไง ไปเจอในสภาพนี้มีหวังพี่จอมดื้อได้เทผมทิ้งแน่ ขนาดไปฝึกงานยังต้องหาแผ่นแปะบรรเทาปวดมาแปะไว้เลย แปะปิดรอยน่ะ ใครถามก็บอกว่านอนตกหมอนแล้วปวดคอ ทั้งที่จริงไม่ได้ปวดอะไรหรอก เดี๋ยวโดนพวกเด็กเวรเห็นก็ได้เป็นเรื่องกันพอดี ส่วนเรื่องเจอพี่จอมดื้อนี่ ไว้รอยมันหายไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน

แต่ถึงพี่จอมดื้อจะไม่เทผมทิ้ง ผมก็ต้องเป็นฝ่ายเทพี่จอมดื้อทิ้งทั้งที่ไม่ได้อยากจะเท ต้นเหตุมันก็มาจากไอ้เด็กธารเจ้าเดิม ตอนแรกที่มันบอกให้ผมเลิกยุ่งกับพี่จอมดื้อถ้าไม่จริงใจ ผมก็ไม่ได้คิดว่าจะเลิกยุ่งจริงๆ หรอก ยังกะว่าเผื่อได้เผื่อโดนเอาสนุกเหมือนกัน แต่ธารใจมันไม่ยอมให้ผมทำอย่างนั้น ขู่ไม่พอ ลงไม้ลงมือกับรถผมด้วย การกลั่นแกล้งหวนคืนกลับมา แถมรอบนี้ไม่ได้เบาะๆ อย่างที่มันเคยทำ ทำใหญ่โตมาก ถึงขนาดพ่นสี...

ฟังไม่ผิด พ่นสีใส่ฝากระโปรงรถผมเลย ไม่ได้พ่นแบบมีศิลปะแบบกราฟฟิตี้อะไรด้วยนะ พ่นภาษาไทยนี่แหละ พ่นด้วยสีชมพูด้วยคำว่า...ออโรรา

ออโรราบ้านมึง! ไหนห้ามคนอื่นเรียกกูว่าออโรร่าไง แล้วไหงมึงถึงทำซะเองวะ!

แล้วผมก็ต้องแวะเข้าอู่จนกลายเป็นลูกค้าประจำอย่างเคย ที่สำคัญคือไม่ได้แกล้งแค่ประทุษร้ายรถอย่างเดียว เมื่อเช้านี้ก็เอาถุงหูหิ้วพลาสติกที่มีแมลงสาบเป็นๆ กว่าสิบชีวิตมาแขวนไว้หน้าห้องผมด้วย

โอย... ยอมแล้วจ้า กูไม่ยุ่งกับพี่จอมดื้อสุดฮ็อตอะไรนี่ก็ได้ เท...เทอย่างเดียว!

จากนั้นผมก็ตีตัวออกห่างพี่จอมดื้อเลย ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ตอบข้อความ กะหายไปเงียบๆ อะไรแบบนี้ ถ้าคุยล่ะก็ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมอดใจไม่ได้ อ่อยพี่แกอีก และแน่นอนว่าผมไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปบอกธารว่าผมเลิกยุ่งกับพี่จอมดื้อแล้วเหมือนกัน แต่เด็กนั่นเชื่อมั้ยล่ะ... ไม่ ส่วนปฏิบัติการกลั่นแกล้งผมก็ดำเนินต่อไปเหมือนเคย

ปวดหัวชะมัด เด็กนี่สุดท้ายก็เป็นเหมือนอย่างตอนแรก หาความน่ารักไม่เจอจนได้

ตอนนี้เลยไม่ใช่แค่เลิกยุ่งกับพี่จอมดื้อเท่านั้น ผมก็เลิกยุ่งกับธารด้วย ถ้าไม่มีธุระก็ไม่คุยเลย เรื่องการโดนแกล้งนั่น ผมก็ทำอะไรไม่ได้ด้วยไม่มีหลักฐาน และก็กลายเป็นว่าตอนนี้ไอ้พวกเด็กในแผนกที่เลิกเรียกผมว่าออโรราก็กลับมาเรียกอีกแล้ว เดาว่าไอ้เด็กธารคงจะไปยกเลิกคำสั่งกันแบบลับๆ โดยที่ผมไม่รู้แล้วล่ะ แล้วผมทำอะไรได้ล่ะ ก็ได้แต่ยอมรับชะตากรรมไป โทรไปเล่าให้พวกยีนส์กับกั้งฟัง ยังโดนสองคนนั้นซ้ำเติมด้วยการพูดมาประโยคเดียวว่า ‘สมน้ำหน้า แรดดีนัก โดนซะบ้าง!’ ไม่ได้ช่วยหาทางออกเลยสักนิด

เพื่อนเวร... ตอนฝึกงานเสร็จจะให้พวกมันนั่งรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ กันเอง ไม่ไปรับแม่งแล้ว!

จนถึงวันนี้ก็โดนแกล้งผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว บอกเลยว่าทำเอากำลังใจในการไปฝึกงานเอามากๆ ตื่นเช้าขึ้นมานี่ไม่อยากจะลุกจากเตียงเลย

ทำไมเวลาผ่านไปช้าจังนะ...

ถึงไม่อยากไปก็ต้องไป ปลอบใจตัวเองว่าจะหมดเดือนแรกแล้ว อีกเดือนเดียวก็จะฝึกเสร็จแล้วเลยลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวได้ หากแต่เดินมาถึงประตูก็ต้องชะงัก ในหัวคิดวุ่นเป็นพัลวัน

เอ...วันนี้ไอ้เด็กเวรนั่นเอาอะไรมาแขวนไว้หน้าห้องผมอีกหรือเปล่าหว่า? ถ้าเปิดมาเจอถุงใส่แมลงสาบห้อยไว้อีกนี่ สาบานเลยว่าผมจะกลับกรุงเทพฯ วันนี้เลย ไม่ฝึกมันละงานเนี่ย

ผมค่อยๆ แง้มประตูออกไปมอง ทว่าในจังหวะที่ผมสอดส่ายสายตาเช็คดูว่ามีอะไรแปลกปลอมมาแขวนอยู่มั้ย สายตาก็เหลือบไปเห็นชายฉกรรจ์สามคนยืนอยู่หน้าห้องข้างๆ คนหนึ่งใส่ชุดสูทเต็มยศ อีกสองคนแต่งตัวคล้ายพวกทวงหนี้ ตัวก็ใหญ่ด้วยเถอะ
ระ...หรือว่าไอ้เด็กนั่นมันไปติดหนี้ปล่อยกู้รายวันแล้วเค้ามาทวงถึงที่วะ?

คิดยังไม่ทันจบเลย ผู้ชายคนใส่สูทก็โพล่งขึ้นมาก่อน เรียกความสนใจของผมให้จับจ้องไปอีกครั้ง
“แต่คุณพ่อของคุณหนูสั่งมานะครับ”
“บอกว่าไม่ไปไงโว้ย! ฟังไม่รู้เรื่องหรือไงวะ!” ตามมาด้วยเสียงของธารที่ดังออกมาจากในห้อง
“งั้นก็ช่วยไม่ได้” ชายใส่สูทพึมพำ ส่ายหน้าแล้วหันไปมองชายอีกสองคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง
จังหวะนี้เองที่ผมเห็นใบหน้าของคนใส่สูทชัดเจน

นั่นมันเลขาของพ่อไอ้เด็กธารใจนี่หว่า!

ยังไม่ทันที่ผมจะได้ออกไปเลย ชายฉกรรจ์สองคนนั่นก็หยิบเครื่องมือช่างที่อยู่ในกล่องบนพื้นออกมาจัดการตอกลูกบิดประตูห้องกันทันใด เสียงตอกดังขึ้นปุ๊บ เสียงของธารก็ดังมาปั๊บ

“ถ้าเข้ามาล่ะก็ จะกระโดดจากระเบียงลงไปเลย!”

ผมได้ยินแล้วก็ใจหายวูบ รู้แหละว่ามันเป็นคำขู่เพื่อไม่ให้คนข้างนอกเข้ามา ถ้าเป็นคนอื่นพูด ผมก็คงจะไม่ใจหาย แต่นี่ไอ้เด็กธารไง คนอย่างมันดูท่าจะไม่ได้พูดเล่นอยู่แล้วด้วย ก็ไม่เคยเห็นมันพูดเล่นอะไรกับใครที่ไหนเลยนี่ กับเพื่อนสนิท มันยังไม่พูดเล่นเลย

เท่านั้นผมก็รีบโผล่หน้าออกไปก่อนที่คนพวกนั้นจะพังประตูแล้วธารจะกระโดดจากระเบียงลงไปจริงๆ ก่อนจะร้องทัก
“สวัสดีครับคุณเลขา มาทำอะไรกันตั้งแต่เช้าเลยครับเนี่ย”
เลขาพ่อของธารชะงัก ชายฉกรรจ์สองคนที่ตั้งหน้าตั้งตาตอกลูกบิดอยู่ก็ชะงัก หันมามองผมที่ส่งยิ้มให้อย่างแปลกใจ ก่อนคุณเลขาจะนึกขึ้นได้ว่าผมเป็นใคร
“อ้อ อาจารย์เหนือนี่เอง อยู่ห้องข้างๆ เหรอครับ”
ผมพยักหน้า ชะโงกหน้าไปมองยังประตูแล้วก็ถามอีกครั้ง
“แล้วนี่...ตกลงทำอะไรกันเหรอครับ”
“นี่เหรอครับ ก็ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่มาตามคุณหนูกลับบ้านตามคำสั่งของคุณธีน่ะครับ”
ผมเดาเอาเองว่าคุณธีอะไรนี่น่าจะเป็นพ่อของธาร ก่อนคำถามใหม่จะผุดพรายขึ้นมาในหัว
“ไอ้เด็ก... เอ้อ ธารใจไปก่อเรื่องอะไรมาหรือเปล่าครับ คุณพ่อเลยให้คุณเลขามาตามกลับบ้านแบบนี้” เกือบจะหลุดเรียกมันว่า ‘ไอ้เด็กเวร’ ออกไปแล้ว ดีนะที่กลับลำได้ซะก่อน
“ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณธีก็ให้มาตามแบบนี้บ่อยๆ แต่ปกติมาแล้วไม่เคยเจออยู่ห้องน่ะ รอบนี้ก็เลยมากันแต่เช้า”

ผมร้องอ๋อขึ้นมา ในใจก็สงสัยเข้าไปใหญ่ว่าทำไมเด็กนี่จะต้องต่อต้านการอยู่บ้านถึงขนาดนี้ด้วย ครั้งก่อนก็เห็นกลับไปนอนบ้านตอนที่มันเข้าห้องตัวเองไม่ได้แล้วนี่นา ตกลงมีปัญหาอะไรกับที่บ้านกันแน่นะ
ผมเกือบจะออกปากถามคุณเลขาอยู่แล้ว ถ้าหากว่าประตูที่ถูกตอกลูกบิดไม่ทำท่าจะถูกเปิดออกจนคนข้างในตะโกนออกมา
“บอกแล้วไงว่าให้ไสหัวกลับไป! ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือนนะเว้ย! ถ้าจะให้กลับบ้าน ก็เอาศพไปได้เลย!”
ฟังแล้วผมก็ใจหายหนักกว่าเก่า ไอ้ที่จะถามเมื่อกี้ลืมสิ้นไปทันใด ขณะที่คุณเลขาพ่นลมหายใจแล้วพูดขึ้นมา
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ คุณหนูไม่ทำจริงๆ หรอก รายนี้ขู่แบบนี้มาหลายครั้งแล้ว”

คือก่อนหน้านี้ ผมไม่รู้หรอกนะว่าเด็กนี่มันขู่อะไรไว้บ้าง แต่สัญชาตญาณมันบอกผมว่าครั้งนี้มันทำจริงแน่ถ้าไม่หยุด ผมก็เลยหมุนตัวกลับเข้าห้อง ก้าวเร็วๆ ไปยังระเบียง พอชะโงกหน้าออกไป ก็เห็นไอ้เด็กข้างห้องมันเปิดประตูระเบียงออกมาเหมือนกัน และเดินตรงมาจับขอบกำแพงระเบียงไว้ ขาข้างหนึ่งปีนขึ้นไปเรียบร้อย เท่านั้นผมก็ร้องลั่นทันที

“เฮ้ยๆ ไอ้น้องธาร อย่าโดดนะเว้ย!” ผมรีบร้องห้ามก่อนที่มันจะปีนขึ้นไป
นะ...ไหนบอกว่ามันไม่ทำจริงไงวะ! เอาขาพาดระเบียงแบบนี้ก็แสดงว่ามันเอาจริงแล้วเว้ย!

ธารหันหน้ามามองผมด้วยสายตาแข็งกร้าว ผมไม่รอให้มันได้พูดอะไรก็สวนขึ้นซะก่อน

“อย่าโดดนะ เดี๋ยวพี่เหนือไปบอกคนพวกนั้นให้กลับไปก่อนโอเคมั้ย น้องธารรอแป๊บนึง เดี๋ยวพี่เหนือมา ลงมาก่อนๆ!”

มันก็ยังไม่ยอมลง ดีที่ระเบียงห้องติดกันชนิดปีนข้ามหากันได้ ผมเลยคว้าไม้แขวนที่แขวนอยู่บนราวตากผ้าไปตีขามันรัวๆ
“บอกให้ลงมาก่อนไง เดี๋ยวพี่เหนือไปไล่ให้ พูดไม่รู้เรื่องเหรอ!” ผมว่ารนๆ ใจที่เต้นตึกตักเลย ใจนี่กลัวว่ามันจะโดดจริงๆ ชะมัด จากชั้นสามนี่ ถ้าโดดลงไป ดูยังไงก็พิการแน่นอน ไม่พิการก็ตายถ้าเอาหัวโหม่ง

แต่มึงจะต้องไม่มาพิการหรือตายข้างห้องกูเว้ย! กูยังต้องอยู่ต่ออีกเดือนนึงนะ!

ดีที่ธารใจมันฟัง ยกขาลงมาวางบนพื้นแต่โดยดี ผมเลยหายใจโล่งอกขึ้นมาได้บ้าง

“ระ...รอก่อนนะ เข้าไปรอให้ห้อง โอเค้?” ผมว่าเสียงสั่น

ธารเม้มปากแล้วยอมหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องแต่โดยดี เท่านั้นผมก็รีบวิ่งกลับเข้ามาในห้องบ้างแล้วพุ่งไปหาคุณเลขาทันใด

“คะ...คุณเลขาครับ ผมว่าวันนี้คุณกลับไปก่อนดีกว่า”
พอผมพูดอย่างนี้ คุณเลขาก็มองหน้าผมอย่างงุนงงทันใด

“ทำไมล่ะครับ”
“ผมว่าการที่คุณมากดดันธารใจแบบนี้ มันไม่เป็นผลดีเลยนะครับ ถ้าอยากให้ธารใจกลับบ้าน ทำไมไม่รอให้เขาอยากกลับเองล่ะ มาบังคับแบบนี้มันกดดันเกินไป จะยิ่งทำให้เด็กยิ่งหนีนะครับ” ผมให้เหตุผลไป ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าด้วยอารามตกใจ ผมจะกลายเป็นคนไหวพริบดีขนาดนี้
“แต่คุณธีสั่งผมมา และถ้าไม่ทำแบบนี้ คุณหนูก็ไม่กลับหรอกครับอาจารย์”
“ถ้าคุณเปิดห้องได้ แล้วยังไงต่อล่ะ จะลากธารใจไปเหรอ”
“ก็คงต้องอย่างนั้นแหละครับ”

คุณเลขาพูดมาอย่างนี้ ผมก็ถอนหายใจเต็มแรงเลย ก่อนจะว่าขึ้นมาอีก
“แล้วคุณคิดว่าพากลับไปในสภาพที่เด็กไม่ยินยอมมันจะเป็นผลดีหรือผลเสียกันล่ะ ผมว่าจะทำให้ธารใจเกลียดการกลับบ้านยิ่งกว่าเดิมเอานะครับ”
ตอนนี้เหมือนคุณเลขาจะฟัง มองหน้าผมแล้วหันไปส่งสัญญาณให้ชายฉกรรจ์สองคนหยุดตอกประตู หันกลับมามองหน้าผมอีกครั้ง
“ถ้าผมไม่พาคุณหนูกลับไปวันนี้ อาจารย์มีวิธีอะไรดีๆ ให้คุณหนูยอมกลับบ้านมั้ยล่ะครับ”
“เอ่อ...คือ...”

เอาล่ะกู งานงอกละ ไม่ได้คิดไว้ซะด้วย

ยืนคิดไปแป๊บนึงก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองมีสถานะอะไร เลยว่าขึ้นมาใหม่

“เอางี้ ผมว่าปล่อยให้ธารใจอยู่แบบนี้ไปก่อน ไว้ถ้าเขาอยากกลับแล้วค่อยให้กลับ กลับไปแบบเต็มใจกลับเองยังไงก็ดีกว่าอยู่แล้ว ส่วนเรื่องอยู่หอ ความจริงก็ไม่ได้มีเสียหาย ผมเองก็อยู่ห้องข้างๆ ยังไงก็ดูแลได้ รับรองว่าไม่ทำให้คุณหนูของคุณเลขาออกนอกลู่นอกทางแน่ อยู่ข้างห้องอาจารย์ยังไงก็หายห่วงครับ” ทำท่าทางมั่นใจใส่ไปด้วย

คุณเลขาเงียบคิดไปนิดหนึ่งก่อนจะตกลง

“งั้นผมคงต้องไปคุยกับคุณธีอีกที รายนั้นก็ใจร้อน อยากให้ลูกชายกลับไปอยู่บ้านจะแย่อยู่แล้ว”

ผมยิ้มรับทันใด โล่งใจอย่างถึงที่สุดที่คุณเลขาช่างคุยง่ายเหลือเกิน ขณะเดียวกันผมก็เริ่มสงสัยขึ้นมาอีกแล้วว่าที่บ้านเด็กนั่นมีอะไรกันแน่ ทำไมถึงไม่อยากกลับนัก ทว่าคุณเลขาก็ตัดบทเสียก่อน

“ผมขอฝากคุณหนูให้อาจารย์ช่วยดูแลด้วยนะครับ วันนี้ผมจะกลับก่อน”
ผมรับปากแล้วบอกลา ไม่นาน ชายสามคนนั่นก็หายออกจากบริเวณหน้าห้องไป พอเสียงฝีเท้าเงียบลง ธารก็เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าหงุดหงิด

“ไสหัวกันไปหมดแล้วใช่มั้ย”
“อือ” ผมขานรับ
“วุ่นวายชะมัดเลยไอ้พวกบ้านี่ บอกแล้วไงว่าไม่กลับๆ แม่ง ตามอยู่ได้” ธารยกมือขึ้นยีผมตัวเองรัวๆ ท่าทางหัวเสียสุดๆ เห็นอย่างนั้นแล้ว ผมก็อดถามไม่ได้
“พี่เหนือถามได้มั้ยว่าทำไมน้องธารถึงไม่อยากกลับบ้าน เห็นคุณเลขาบอกว่ามาตามหลายรอบแล้วนี่ ที่บ้านมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

แต่คิดว่าธารมันจะบอกมั้ยล่ะ มองผมตาขวางแล้วว่าเสียงแข็งใส่
“ไม่ใช่เรื่องของพี่ แล้วมายืนถามอะไรไร้สาระอยู่ได้ จะได้เวลาเข้าเรียนแล้ว ไสหัวไปวิทยาลัยซะที” แล้วมันก็ปิดประตูดังปัง เดินอาดๆ หนีผมลงไปข้างล่างหน้าตาเฉย

ไอ้เด็กเวรนี่... ไม่บอกก็ไม่ว่า แต่ขอบคุณที่ช่วยมันเมื่อกี้สักคำก็ไม่มี รู้งี้ปล่อยให้โดดตึกตายไปซะก็ดี ไม่น่าคุณธรรมกับจรรยาบรรณความเป็นอาจารย์สูงเลยกู ถึงจะแวบเดียวก็เถอะ

ต่อไปนี้ถ้ามีอะไรก็ช่างแม่งแล้ว!
 


แม้จะคิดว่าช่างหัวมัน แต่เอาเข้าจริง ผมก็สลัดความอยากรู้เรื่องปัญหาที่บ้านเด็กนั่นไม่ได้เลยสักนิด

อยากรู้อะ...อยากรู้! โคตรอยากรู้เลย!

เกือบจะโทรไปหาพ่อของเด็กนั่นแล้วถามให้รู้แล้วรู้รอดไปแล้ว แต่ทางนั้นก็โทรมาหาผมก่อน โทรเข้ามาหาพี่สมร แล้วพี่สมรส่งสายต่อมาให้ผมน่ะ

เรื่องที่คุยกันก็ไม่มีอะไร แค่มาถามเหตุผลที่ผมขอให้คุณเลขากลับไปเมื่อเช้านี้ ผมเลยต้องอธิบายอีกครั้ง แล้วคุณธีก็ขอฝากฝังลูกชายไว้กับผม

เหอะ... ไม่อยากจะบอกเลยว่าลูกชายแม่งน่ารับฝากมาก แกล้งกูทุกวัน เดี๋ยวก็เรียกค่าดูแลบวกค่าซ่อมรถซะเลย!

เอาเข้าจริงผมก็ไม่กล้าเรียกค่าเสียหายหรอก แต่ดูเหมือนคุณธีจะรู้อยู่แล้วจากการรายงานของพี่สมร เลยเป็นฝ่ายออกปากก่อนว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งที่ผ่านมาและถ้ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ผมเลยเบาใจไปอีกเรื่องว่าจะมีเงินใช้อย่างพอเพียงสักที ไม่งั้นก็ต้องเจียดไปจ่ายค่าซ่อมรถอยู่นั่นแหละ

และการที่คุณธีโทรมาอย่างนี้ ผมก็ได้โอกาส ถามมันเรื่องปัญหาของเด็กนั่นซะเลย

“คุณพ่อพอจะบอกผมได้มั้ยครับว่าธารใจมีปัญหาอะไรถึงไม่ยอมกลับบ้าน เผื่อผมจะได้ช่วยดูแลให้ได้ตรงจุดน่ะครับ” อ้างเรื่องดูแลซะเลย เป็นอาจารย์นี่เผือกโน่นเผือกนี่ง่ายดีชะมัด

[ก็...ไม่มีอะไรหรอกครับ ปัญหาคนต่างวัยไม่เข้าใจกันนิดหน่อย]
คุณธีไม่ตอบตรงๆ แต่ผมก็เดาได้ว่าคนที่ธารมีปัญหาด้วยก็น่าจะเป็นพ่อนี่แหละ

แต่เอ... พ่อก็เห็นใส่ใจดูแลดีนี่นา แล้วมีปัญหาอะไรกันนะ สงสัยที่มีปัญหาคงจะเป็นเพราะอารมณ์วัยรุ่นวุ่นวายของไอ้เด็กบ้านั่นล่ะมั้ง คงจะเกเรจนโดนพ่อด่า พอถูกด่าก็ทำประชดประชันแน่

[ฝากอาจารย์เหนือช่วยดูแลด้วยนะครับ ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมันแล้วเหมือนกัน ส่วนเรื่องกลับบ้านนี่ ไว้ให้มันอยากกลับมาเองก่อนแล้วค่อยกลับก็ได้ ยังไงซะอยู่ข้างห้องอาจารย์ก็ไม่ต้องเป็นห่วงมาก]

คุณธีฝากฝังตบท้าย ผมนี่อยากบอกชะมัดว่าคนที่ควรเป็นห่วงน่ะคือผมเพราะอยู่ข้างห้องมันเนี่ย แต่ก็รับปากไปให้อีกฝ่ายสบายใจ

อย่างน้อยๆ การที่ผมทำแบบนี้ก็อาจจะทำให้ไอ้เด็กนั่นเลิกแกล้งผมไปได้สักระยะนึงล่ะ
 



ใครว่ามันจะเลิกแกล้งผมสักระยะกันล่ะ! ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว รถผมก็ยังโดนประทุษร้ายอยู่ดีเถอะ แต่วันนี้เบาหน่อย เหมือนถูกเอาเยลลีสีแดงมาละเลงหน้ารถจนทั่วเท่านั้น ผมเลยไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก แค่เอาน้ำราดๆ ก็ล้างออกแล้ว

ทว่ามันไม่จบแค่นั้น พอกลับมาถึงห้อง ผมก็เจอไอ้เด็กธารยืนกอดอก พิงประตูห้องผมอยู่

ผมชะงักขาทันใด มันเองก็เหลือบมามองผมด้วย ก่อนจะทำลายความเงียบขึ้นมาโดยไม่รอให้ผมถามว่ามันมายืนทำซากอะไรอยู่หน้าห้องคนอื่น

“วันนี้พ่อโทรมาคุยเหรอ”
“นะ...น้องธารู้ได้ยังไงเหรอครับ” ผมถามด้วยตกใจที่มันรู้
“พ่อโทรมาบอก บอกว่าจะอยู่หอต่อก็ได้ถ้ามีอาจารย์อยู่ห้องข้างๆ เพราะไม่ต้องเป็นห่วงมาก” มันว่า ก่อนกลอกตาแล้วพูดลอยๆ “จริงๆ น่าจะบอกพ่อว่าเพราะมีไอ้อาจารย์บ้านี่อยู่ห้องข้างๆ นี่แหละถึงน่าเป็นห่วง แม่งโดนลวนลามไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว อันตรายฉิบ”

ฟังแล้วน่ากระโดดถีบชะมัด แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ ช่วยไม่ได้นี่หว่า ก็มึงอยากดูน่ากรุบกรอบเอง แต่ตอนนี้กูไม่ได้ตอดมึงเป็นปลาสวายแล้วซะหน่อย คุยยังไม่คุยเลยเถอะ อย่ามาหาว่ากูเป็นตัวอันตรายนะเว้ย!

ผมเกือบจะออกปากด่ามันอย่างลืมตัวซะแล้วถ้ามันไม่พูดขึ้นมาอีก

“แต่ก็ขอบคุณ”
ผมหยุดปากที่กำลังมุบมิบด่ามันเบาๆ ทันใด มองเด็กนั่นที่เบือนหน้าหนีไปทางอื่นแล้วถามอย่างสงสัย
“ขอบคุณเรื่องอะไรครับ”
“ก็เรื่องเมื่อเช้าแล้วก็เรื่องที่พ่อตามให้กลับบ้าน” พูดซะเบาจนแทบไม่ได้ยิน หน้าก็ไม่มองเลยเถอะ
แต่ก็เอาวะ อย่างน้อยมันก็รู้จักขอบคุณแล้วกัน
“ถ้าเปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นเลิกแกล้งพี่เหนือจะดีมากเลยครับน้องธาร” ได้ที ผมก็ต่อรองซะเลย
ธารหันมามองหน้าผมในตอนนี้
“ถ้าพี่เลิกยุ่งกับพี่ดื้อ แล้วก็เลิกยุ่งกับผม ก็จะเลิกแกล้ง”

พี่จอมดื้อนี่กูเลิกยุ่งไปพักนึงแล้ว ส่วนมึง... เห็นแต่มึงนี่แหละที่มายุ่งกับกู! ไอ้เด็กนี่ ด่าสักทีดีมั้ย!

แต่ด่าไปก็เปลืองน้ำลายเปล่า หัวดื้ออย่างมัน พูดอะไรไปก็ไม่ฟังหรอก

“ครับๆ งั้นจะถอยได้หรือยัง พี่เหนือจะเข้าห้อง” ผมเปลี่ยนเรื่องเอาดื้อๆ

ธารเลยถอยจากหน้าห้อง ให้ผมตรงเข้าไปเปิดประตู แต่ก็ยังไม่ยอมเดินไปไหน เอาแต่กอดอกมองผมไขประตูห้องอยู่อย่างนั้นจนผมต้องเป็นฝ่ายร้องถาม

“มีอะไรกับพี่เหนือหรือเปล่าครับน้องธาร” ถามด้วยน้ำเสียงระอาสุดฤทธิ์ ตอนนี้เหนื่อยจะเต๊าะมันละ เป็นเด็กที่ไม่น่ารักเอาซะเลย ดูสายตาที่มันมองผมสิ นี่ถ้าเขมือบผมได้ก็คงจะทำไปแล้ว

ทว่าคำพูดที่หลุดออกจากริมฝีปากหยักสวยกลับทำให้ผมต้องคลายความเหนื่อยพลัน กลายเป็นงุนงงแทน
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ จะได้ไปวิ่ง”
“ไปวิ่ง?”
“เออ ไปวิ่งสิ อาทิตย์หน้าก็งานกีฬาแล้ว อย่าบอกนะว่าจะลงแข่งโดยไม่ฝึกซ้อมน่ะ วิ่งไหวหรือไง” มันว่า ผมเลยนึกขึ้นมาได้ว่าอาทิตย์หน้าก็ถึงวันแข่งกีฬาสานสัมพันธ์อะไรนี่แล้ว

มัวแต่หนีพี่จอมดื้อจนลืมไปเลยแฮะ ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าผมถูกจับลงแข่งกินวิบากไว้ด้วย จะว่าไป เด็กนี่ก็ลงแข่งวิ่งร้อยเมตรไว้ด้วยนี่หว่า

และผมก็เพิ่งสังเกตเห็นตอนนี้นี่เองว่าคนตรงหน้าใส่ชุดเตรียมวิ่งแล้วเรียบร้อย ก่อนจะได้สติอีกครั้งเมื่อถูกไล่
“มองอยู่ได้ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว จะได้ไปกันซะที จะลงไปรอข้างล่าง”

ว่าจบก็เดินลงไปเลย ทิ้งให้ผมเอ๋อรับประทานอยู่ว่ามันจะมาชวนผมไปวิ่งทำไม ก็ในเมื่อเมื่อกี้มันเพิ่งจะบอกว่าให้ผมเลิกยุ่งกับมันเองแท้ๆ แล้วตอนนี้ทำไมมันถึงเป็นฝ่ายมายุ่งกับผมแทนวะ ที่สำคัญ...ทำไมต้องเอาเวลาพักผ่อนไปวิ่งกับมันด้วย จะหลอกกูไปฆ่าหมกป่าที่ไหนล่ะสินะ!

ผมตัดสินใจในวินาทีนั้นเลยว่าจะไม่ไป เข้าห้องแล้วขังตัวเองอยู่ในนั้น หากแต่เด็กนั่นรู้ทัน ส่งข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ผมก่อนที่ผมจะได้เดินเข้าห้องอีก
 
ธาร พ่อทุกสถาบัน: ถ้าไม่ลงมาหรือปล่อยให้คอยนานล่ะก็ จะพังประตูเข้าไปกระทืบแม่ง
 
โห ไอ้โหด นี่กูเป็นอาจารย์มึงนะ ถึงจะเป็นอาจารย์ฝึกสอนก็เถอะ แต่มาขู่แบบนี้มันใช่เรื่องมั้ย! แล้วขู่มาแบบนี้ คิดเหรอว่ากูจะไป...

ไปสิเว้ย! กลัวแล้วจ้า รีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร็วเลยทีเดียว

ลงมาข้างล่างได้ ผมก็เห็นเด็กนั่นนั่งรออยู่บนมอเตอร์ไซค์ออโต้คันเก่งของมัน แต่ผมไม่ไปกับมันหรอก หนึ่งคือกลัวมันพาไปคว่ำและไม่อยากถูกด่าพ่อล่อแม่เพราะฝีมือการขี่ของมัน และสอง ถ้าผมไปกับมันแล้วมันพาผมไปฆ่าหมกป่าจริง ผมก็หนีไม่ได้น่ะสิ เอารถตัวเองไปดีกว่า

ธารไม่ว่าอะไร ทำท่าหงุดหงิดนิดหน่อยแต่ก็ยอมขี่รถนำให้ผมไปยังจุดหมาย
 


ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 11: พี่เหนือ จะทำตัวดีแล้วครับ[2]

สนามกีฬากลางประจำจังหวัดถูกเลือกเป็นที่หมายสำหรับการซ้อมวิ่งวันนี้ จอดรถได้ ธารก็พาผมมาที่ลู่วิ่ง ผมกวาดมองไปรอบๆ แล้วก็ใจหวิวแปลกๆ

นี่มันสนามกีฬาประจำจังหวัดจริงเหรอวะ ทำไมมันถึงร้างไร้ผู้คนอย่างนี้!

จริงๆ ก็ไม่ได้ร้างไร้หรอก มีคนนั่นแหละแต่ประปรายมาก แถมสนามก็ใหญ่ วิ่งกันทีก็น่ากลัวว่าจะถูกมันลากเข้าซอกหลืบข้างทางไปฆ่าชะมัด แต่ธารมันสนมั้ยล่ะ หึ...ไม่เลยสักนิด มาถึงได้ก็จัดการยืดเส้นยืดสาย ซ้ำยังมีหน้ามาสั่งผมอีก

“จะยืนอีกนานมั้ย วอร์มร่างกายสิ”

วะ...วอร์มก็วอร์ม รีบทำตัวให้เป็นปกติแล้วเหยียดแข้งเหยียดขาตามมันไป ใจก็อยากจะถามมันด้วยว่านึกบ้าอะไร จู่ๆ ถึงชวนมาวิ่ง แต่ไอ้เด็กธารก็คือไอ้เด็กธาร มันวอร์มร่างกายตัวเองเสร็จก็ออกวิ่งไปเฉยเลย ไม่รอผมที่ยังเหยียดขาตัวเองไม่เสร็จสักนิด แถมมันไม่ยอมวิ่งคนเดียวอีกต่างหาก ร้องเรียกผมเสียงลั่น

“วิ่งตามมาซะที จะยืนบื้ออีกนานมั้ย!”

นี่นักเรียนหรือพ่อ ตอบให้เหนือหายข้องใจที!

ขาสองข้างออกวิ่งไปตามคำสั่งมันโดยอัตโนมัติ ใช้แรงมากพอสมควรทีเดียวกว่าจะวิ่งไล่ตามมันได้ วิ่งไปก็หอบไป ตอนนี้รู้เลยว่าสังขารไม่เที่ยง วิ่งไปได้ครึ่งสนามเท่านั้นก็รู้เลย...หอบแดร๊ก!

“นะ...น้องธาร...พะ...พี่เหนือ...พี่เหนือไม่ไหวแล้ว...” ผมชะลอฝีเท้าลง พยายามแค่นเสียงบอกให้เด็กนี่หยุดวิ่งซะที แล้วก็ตีไฟเลี้ยวเข้าไปข้างสนาม หมายจะทรุดตัวลงนั่ง

“เพิ่งจะวิ่งได้ครึ่งสนามเองนะ ทีตอนวิ่งหนีไอ้พวกวิทยาลัยอื่นนี่วิ่งนำชาวบ้านชาวช่องได้เป็นกิโลๆ” เด็กนั่นหันมามอง ปากก็บ่นผมทันที

ก็ตอนนั้นมันตกใจนี่หว่า แถมถ้าไม่วิ่งเร็วก็โดนกระทืบอีกด้วย มันก็ต้องวิ่งเร็วเซ่!

ผมอยากจะเถียงใจจะขาด แต่ขนาดหายใจให้ปกติยังทำไม่ได้ เลยเอาแต่เงียบ แล้วตั้งท่าจะนั่ง แต่ไอ้เด็กเวรนั่นกลับไม่ยอมให้ผมทำตามใจ แค่หยุดยืนเท่านั้น มันก็ตรงเข้ามาผลักผมกลับเข้าไปในลู่วิ่งซะเต็มแรง

“ไปวิ่งต่อ อย่าทำสำออย”

กูไม่ได้สำออย! เหนื่อยจริงๆ เว้ย! ถ้าเป็นลมขึ้นมากลางสนาม มึงจะผายปอดให้กูมั้ยล่ะ!

“พะ...พี่เหนือไม่ไหวจริงๆ” ผมก็ทำได้ดีแค่โบกมือให้มันแล้วแค่นเสียงออกมาอีกรอบเท่านั้น
กระนั้น ธารใจก็ยังไม่ยอมหยุด เห็นผมทำท่าจะหนีไปนั่งพักอีกก็ถลาเข้ามากระชากแขนผมซะเต็มแรง
“วิ่งให้ครบรอบก่อนแล้วค่อยพัก”
“เหวอ!”

เสียงของมันไม่ได้เข้าหูผมเลยด้วยตกใจกับแรงกระชากแบบไม่ทันตั้งตัว แถมตอนถูกกระชาก ผมก็ไม่ได้ตั้งหลักอีกต่างหาก ทำเอาผมเซล้มลงไปกับพื้นทันใด ล้มอย่างเดียวไม่ว่า ข้อเท้าข้างหนึ่งดันพลิกในจังหวะที่ทิ้งตัวลงมาอีก ทำเอาผมเบ้หน้าออกมาเมื่อความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่ว

“โอ๊ย!” แล้วผมก็เผลอร้องซะลั่น

ตอนนี้ไอ้คนตัวการก็ทำหน้าตกใจ รีบเข้ามาทรุดตัวลงนั่งข้างผมทันที
“เป็นอะไรมั้ย” สีหน้าโหดของมันแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าเป็นห่วงขึ้นมาทันตา
ผมเหลือบมองตอนที่มันก้มๆ เงยๆ มองข้อเท้าผมอยู่ แล้วก็คิดอะไรออกขึ้นมา

แกล้งสำออยแม่งเลยแล้วกัน จะได้ไม่ต้องถูกลากไปวิ่งอีก

“พี่เหนือคิดว่าข้อเท้าน่าจะเคล็ดน่ะครับ” พูดจบก็แกล้งทำสีหน้าเจ็บปวดใส่เข้าไปด้วย ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย ไม่ได้พลิกแรงด้วย แต่งานสำออยเพื่อให้มันปล่อยผมกลับต้องมา

และนั่นก็ยิ่งทำให้คนตรงหน้าแสดงสีหน้ากังวลขึ้นมาฉับพลัน ก่อนบอกผมเร็วๆ
“รออยู่นี่ก่อน เดี๋ยวจะไปซื้อผ้ายืดกับยานวดมาให้”
“เอาน้ำเย็นๆ มาขวดนึงด้วยนะ” ผมสั่งตามทันทีที่เห็นมันลุกขึ้น
มันพยักหน้าเร็วๆ แล้วก็รีบวิ่งไปยังมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้ ขี่ออกไปด้วยความเร็วจนน่ากลัวว่ามันจะไปเสยท้ายรถบนถนนเข้าให้สักคัน

รอได้ไม่ถึงสิบนาที มันก็กลับมาพร้อมกับถุงพลาสติกในมือ เดินมาถึงผมที่ลุกไปนั่งบนม้านั่งแถวนั้นได้ก็ยื่นขวดน้ำดื่มเย็นเฉียบให้
“อะน้ำ แล้วก็ยื่นขามานี่ จะพันผ้าให้”

ผมยังไม่ทันจะได้ตอบรับเลย มันก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นตรงหน้าผม แล้วจัดการถอดรองเท้าผ้าใบกับถุงเท้าของผมหน้าตาเฉย ทำเอาผมชะงักด้วยเกรงว่าถ้ามันได้กลิ่นเท้าผม มันจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้วหาเรื่องกระทืบผมแทนถึงผมจะมั่นใจว่าเท้าตัวเองไม่มีกลิ่นแรงอะไรขนาดนั้นก็เถอะ

“อะ...เอ่อ....น้องธาร เดี๋ยวพี่เหนือทำเองดีกว่า”
“เงียบน่า นั่งเฉยๆ ไป เดี๋ยวทำให้ ตอบแทนเรื่องวันนี้แล้วกัน”
พูดมาอย่างนี้ ผมก็ไปต่อไม่ถูก เลยปล่อยให้มันทำตามใจโดยไม่พูดอะไรออกมาอีก

ความเงียบเข้าปกคลุมเราสองคนชั่วขณะ บอกตรงๆ ว่าโคตรอึดอัดเลย อึดอัดจนผมต้องมองนกมองไม้ไปเรื่อย ได้สติอีกทีก็ตอนที่เด็กนั่นทำลายความเงียบขึ้นมา

“ถามอะไรอย่างนึงสิ”
ผมละสายตาจากสนามวิ่งตรงหน้าไปมองยังคนที่นั่งอยู่บนพื้นก็เห็นมันจ้องหน้าอยู่ ก่อนผมจะพยักหน้า
“ถามมาสิครับ”
“ยังคุยกับพี่ดื้ออยู่มั้ย”

อะ...อะไรของมันวะ จู่ๆ ก็ถามไม่มีปี่มีขลุ่ย นี่มันยังคิดว่าผมยังไปยุ่งเกี่ยวกับพี่จอมดื้ออยู่ล่ะสินะ บอกไปแล้วแท้ๆ ว่าไม่ได้ยุ่งแล้ว แต่ดูท่าทางมันจะไม่เชื่อแฮะ งั้นตอบให้มันสบายใจไปอีกหน่อยก็แล้วกัน

“ไม่ได้คุยแล้ว แต่ถ้าจะบอกว่าพี่ดื้อไม่โทรมาเลยก็ดูจะโกหกไปหน่อย เอาเป็นว่าพี่ดื้อโทรกับส่งข้อความมาหาพี่เหนือแต่พี่เหนือไม่ได้ตอบรับก็แล้วกัน สบายใจได้แล้วล่ะ เลิกยุ่งแล้วจริงๆ”

ธารพยักหน้า ผมดูไม่ออกหรอกว่ามันเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่มันก็ไม่พูดอะไรขึ้นมาอีก ครู่ใหญ่ทีเดียว มันก็ถามขึ้นมาอีก
“งั้นถามอีกเรื่องได้มั้ย”
“ครับ?”
“พี่เป็นคนมั่วอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

ไอ้เด็กนี่... ยังไม่จบอีกเหรอวะเรื่องนี้เนี่ย!

“อืม ไม่รู้สิ” ผมเลือกตอบแบบขอไปที ทำให้ธารชักสีหน้าใส่ แล้วพ่นคำถามใหม่ออกมา
“จะไม่รู้ได้ไงวะ ไม่มีใครเกิดมาแล้วก็มั่วไม่เลือกหรอกเว้ย มีใครเคยทำอะไรให้พี่เป็นคนแบบนี้ล่ะสิ โดนหักอกแล้วถูกทิ้งมาจนต้องประชดชีวิตแบบนี้แหง เดาถูกใช่มั้ย”

คำถามนี้ทำเอาผมชะงักกึก ไปต่อไม่ถูกทันที มองหน้ามันที่จ้องผมอย่างเค้นเอาคำตอบแล้วก็ต้องเบือนหน้าหนี

เดาถูกเป๊ะเลย คือผมเคยโดนแฟนคนแรกนอกใจน่ะ จากนั้นพอมีแฟนอีก ก็โดนนอกใจอีก เรียกว่าแฟนทุกคนที่เคยคบนอกใจเลยดีกว่า ผมเลยไม่เชื่อว่าเกย์จะมีรักแท้ได้จริงถึงได้ไม่จริงจังกับใคร

แต่ให้ตายเถอะ! ทำไมมันต้องให้ผมคิดถึงเรื่องเก่าๆ ด้วยนะ ไม่อยากพูดถึงเลยแฮะ ประเด็นคือไม่อยากเล่าให้เด็กนี่ฟังด้วย มันเรื่องส่วนตัวนี่หว่า ตอบเลี่ยงๆ ไปแล้วกัน

“โอ๊ย ไม่มีใครทำให้พี่เหนือเป็นแบบนี้หรอกครับ พี่เหนือเป็นแบบนี้เองมาตั้งนานแล้ว” ผมแสร้งว่าเสียงสูง ส่งเสียงหัวเราะปนไปด้วยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

แต่ดูยังไง ธารก็ไม่น่าจะเชื่อในสิ่งที่ผมพูด มองหน้าผมครู่หนึ่งแล้วก็ก้มไปมองข้อเท้า ตั้งหน้าตั้งตาบีบนวดให้ตามเดิม แล้วก็เงียบไปอีก

คราวนี้แหละที่ผมเงียบขึ้นมาบ้าง แต่เงียบได้ครู่เดียว เสียงทุ้มของเด็กนั่นก็ดังขึ้นมา

“มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่พี่จะเป็นคนมั่วแบบนี้โดยไม่มีใครมาทำอะไรให้ คนเราจะเป็นแบบไหน มันขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมทั้งนั้น เหมือนกับผมที่ไม่อยากกลับไปอยู่บ้าน พี่เองคงไปเจออะไรกระทบกระเทือนใจมาสินะถึงได้ทำตัวหลุดโลก ปัญญาอ่อนแถมแรดขนาดนี้” พูดโดยไม่มองหน้าด้วย

ผมมองมันอย่างอึ้งๆ ทันใด ไม่ใช่ว่าเพราะมันด่า แต่เป็นเพราะถูกมันรู้ทันต่างหาก และอึ้งหนักกว่าเดิมเมื่อตระหนักได้ว่าเด็กตรงหน้าเป็นคนใส่ใจคนอื่นกว่าที่ผมคิด ก่อนผมจะเผลอยิ้มออกมากับอากัปกิริยาน่ารักนั่น ทว่าไม่ได้ตอบคำถาม ธารก็เลยเงยหน้าขึ้นถามผมอีกครั้ง

“ว่าไงล่ะพี่ ตกลงมีใครไปทำอะไรพี่ พี่ถึงเป็นคนสันดานไม่ดีน่ะ”
ด่าอีกละ นิสัยก็พอมั้ง สันดานก็เยอะไป แต่ก็เอาเถอะ รู้ทันอย่างนี้แล้ว ตอบๆ ไปแล้วกัน

“น้องธารเคยได้ยินวลีที่ว่าความรักของเกย์มันไม่แท้จริงมั้ยครับ”
ธารไม่ตอบรับ เหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด พ่นลมหายใจแล้วพึมพำแทน “เหตุผลปัญญาอ่อนจริงๆ ด้วย”

เอ้า แล้วมึงจะเอาเหตุผลอะไรล่ะวะ ก็เหตุผลของกูมันเป็นเพราะเรื่องนี้น่ะ! ว่าจะเล่าลงรายละเอียดให้ฟังซะหน่อย ไม่เล่าแม่งละ ‘รมณ์เสีย!

“คนทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้นแหละ จะปัญญาอ่อนหรือไม่มันก็คือเหตุผลนะ” ผมบุ้ยปากใส่มัน เสตามองไปทางอื่นอย่างนึกหงุดหงิดที่ได้ทีก็โดนมันด่าเอาๆ
หากแต่ธารกลับทำให้ผมหายหงุดหงิดเป็นปลิดทิ้งเมื่อพูดขึ้นมาใหม่

“ปัญญาอ่อนจริงนี่หว่า แค่เป็นเกย์ ไม่ได้หมายความว่าจะหารักแท้ไม่ได้จนต้องทำตัวแบบนี้ซะหน่อย อย่างน้อยก็ผมคนนึงล่ะที่มีรักแท้ให้พี่”

ผมอ้าปากค้างทันใด เหลียวใบหน้ากลับมามองมันอย่างตกใจที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น

ระ...รักแท้ มะ...เมื่อกี้ไอ้เด็กนี่มันบอกว่ารักผมงั้นเหรอ!?
โอ้! นี่คงเป็นผลของการขายอ้อยแบบเทกระจาดใส่มันบ่อยๆ ใช่มั้ย โถ...เด็กมันใจง่ายอย่างนี้นี่เอง แล้วไอ้ที่บอกว่าอย่าให้ผมไปยุ่งกับมันนี่คืออาการซึนเดเระสินะ!

มันก็คงจะรู้สึกตัวในตอนนี้ว่าพูดอะไรออกไป เงยหน้าขึ้นมามองผมอีกครั้ง แล้วก็ถือวิสาสะเอามือที่จับเท้าผมเมื่อครู่มาดันคางผมที่กำลังอ้าปากค้างอยู่ขึ้นทันใด

“จะตกใจอะไรวะ ไม่ได้หมายความว่ารักแบบนั้นเว้ย หมายถึงรักแบบเพื่อนพี่น้องต่างหาก เข้าใจผิดไปไหนต่อไหนแล้วเนี่ย” มันว่าเสียงขุ่น

ส่วนผมก็มโนสลายไปทันตาทันที

โถ ก็อุตส่าห์คิดว่าจะเต๊าะเด็กติด แต่ก็ดีแล้วล่ะที่มันไม่ใช่เรื่องจริง เพราะผมรู้ตัวว่าไม่ได้ชอบเด็กนี่ถึงขนาดอยากเป็นแฟนด้วย ถ้าเกิดมันมามีใจให้ผมเข้าล่ะก็ ผมนี่แหละจะซวยยาว ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตีตัวออกห่าง ไม่ต้องมารู้สึกอะไรกันน่ะดีแล้ว

“พี่เหนือจะเป็นแบบไหนก็ไม่ต้องเป็นทุกข์เป็นร้อนแทนหรอกครับ เอาเป็นว่าน้องธารวางใจได้ว่าพี่เหนือไม่ไปยุ่งกับพี่ดื้ออีกแล้วก็พอ”
สุดท้ายผมก็ตัดบท ทำให้ธารเม้มปากแน่น ก้มหน้าลงบีบนวดข้อเท้าผมต่อ เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพึมพำมาให้ได้ยิน

“รู้แล้วเรื่องนั้นน่ะ แต่ที่เตือนเรื่องมั่วก็เพราะ... เป็นห่วงต่างหาก”
ผมหลุดหัวเราะทันใด พลันถามกลับอย่างหยอกเย้า “น้องธารเป็นห่วงพี่เหนือจริงเหรอ ไหนวันนี้บอกว่าห้ามพี่ยุ่งกับน้องธารอีกงืแล้วมาเป็นห่วงพี่ทำไมล่ะครับ”
“กะ...ก็พี่เป็นอาจารย์ผมนี่หว่า ทำตัวแบบนี้ก็ต้องเป็นห่วงสิ เป็นอาจารย์ก็ต้องทำตัวให้สมเป็นอาจารย์สิเว้ย ถึงจะเป็นแค่อาจารย์ฝึกสอนก็เถอะ!” ธารว่าเร็วๆ ขณะที่หูก็ค่อยๆ เริ่มแดงขึ้นมา

ผมมองแล้วก็ใจเต้นตึกตักอย่างน่าประหลาด รู้แหละว่าอาการแบบนี้ของเด็กนี่มันน่ารักดี แต่ที่ทำให้ผมใจเต้นเป็นเพราะธารไม่เคยแสดงความเป็นห่วงอะไรผมให้เห็นน่ะ ปกติก็เอาแต่แกล้งตลอดเถอะ วันนี้ตอนก่อนกลับยังประทุษร้ายรถผมอยู่เลย แต่แล้วจู่ๆ ทำไมถึง...

“มั่วไปเรื่อยแบบนี้ ทุเรศจะตาย” ธารแทรกขึ้นมาเสียก่อน ด่าผมแต่หน้าก็ยังไม่มองอยู่ดี

ผมยิ้มออกมาอย่างลืมตัว รับคำสั่งสอนจากคนอายุน้อยกว่าไปด้วย
“คร้าบๆ คุณพ่อธารใจ แหม สอนพี่เหนืออย่างกับเป็นพ่อเลยนะ” …หรือจะสอนอย่างกับเป็นสามีก็ได้นะ ไม่ว่ากัน แต่ถ้าพูดออกไปตอนนี้คงไม่เหมาะ เดี๋ยวมันจับข้อเท้าผมหักขึ้นมา มันจะเคล็ดเข้าจริงๆ จนได้

ธารเหลือบมองผมตาเขียวเล็กน้อย แล้วก็ก้มลงไปอีก
“ไม่ได้อยากสอนนักหรอกถ้าไม่เห็นว่าพี่ทำตัวทุเรศแบบนี้ ไม่อยากจะเข้าใกล้ด้วย พี่แม่งเป็นคนน่ารังเกียจเกินกว่าจะอยู่ใกล้”

ด่าอีก แล้วก่อนหน้านี้จะชวนกูมาวิ่งด้วยเพื่อ!?

บุ้ยปากใส่มันรัวๆ พลันกลั้นใจ ถามมันออกไปด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุด

“แล้วน้องธารชวนพี่เหนือมาด้วยทำไมล่ะครับ”
“บอกแล้วว่าตอบแทนเรื่องวันนี้ไง” ธารว่า ผมเลยย่นคิ้ว
“เรื่องวันนี้?”
“เรื่องที่บ้านไงเล่า นอกจากเป็นปลาสวายหน้าวัดแล้วยังเป็นปลาทองด้วยหรือไง ความจำสั้นขนาดนี้น่ะ ย้ำตั้งหลายครั้งแล้วนะเว้ย!”

ด่าอีกละ มันทั้งด่า ทั้งเหน็บทุกคำพูดเลยแฮะวันนี้ แต่ผมก็ปั้นหน้ายิ้มให้มัน

“ถ้าจะตอบแทนด้วยการชวนมาวิ่งก็ไม่เป็นไรนะครับ นั่นมันหน้าที่ของพี่เหนืออยู่แล้ว เป็นอาจารย์นี่เนอะ”
“หึ รู้ตัวนี่ว่าเป็นอาจารย์ งั้นก็เลิกมั่วซะที”
ยัง...ยังไม่เลิกด่ากูอีก หนีกลับแม่งเลยดีกว่า ชักรำคาญละ
“เดี๋ยวพันผ้ายืดให้พี่เหนือเสร็จแล้วพี่เหนือขอกลับเลยนะ อยากพักสักหน่อย ข้อเท้าเจ็บแบบนี้แล้วก็คงวิ่งไม่ได้แล้วด้วย” ผมตัดบทเอาดื้อๆ

ธารไม่พูดอะไร เอาผ้ายืดมาพันให้ผมตามที่บอก พันเสร็จก็วางเท้าผมลงบนพื้น ลุกขึ้นยืนแล้วมองผมที่พยุงตัวเองยักแย่ยักยันไปที่รถซึ่งจอดอยู่ หากแต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็รู้สึกได้ถึงมือใหญ่ที่คว้าข้อมือผมไว้ พอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นธารที่รั้งไว้อยู่ ก่อนมันว่าเสียงเรียบ

“พี่เหนือ”
“ครับ?”
“เลิกนิสัยมั่วๆ แบบนั้นเถอะ”

รำคาญว่ะ ตอนแรกที่มันพูด ผมก็รู้สึกดีอยู่หรอก แต่พอมันพูดหลายๆ รอบเข้า ก็ชักจะไม่โอเคละ
กูจะมั่วหรือไม่มั่ว แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับมึงวะเฮ้ย!

อยากตะโกนใส่หน้ามันแบบนี้ชะมัด ทว่าธารก็พูดขึ้นมาก่อน
“จะว่ายุ่งก็ตามใจ แต่เป็นห่วงจริงๆ ถึงได้เตือน”

ผมนิ่งงันไป ตอนนี้เองที่ธารเริ่มกลอกตาไปทางอื่น มือที่จับผมอยู่ก็รีบปล่อยแล้วยกไปเกาต้นคอตัวเองไปมาด้วยท่าทางขัดเขิน แล้วผมก็หลุดยิ้มออกมาจนได้

ชื่นบาน... บอกเลยว่าชื่นบาน ทุ่งดอกไม้ก็บาน อุตส่าห์จะไม่เต๊าะต่อแล้วเชียว ทำไมเด็กนี่ต้องมายั่วกิเลสด้วยนะ!
แต่แล้วกิเลสผมก็ดับวูบเมื่อมันว่าออกมาเบาๆ แก้เขิน

“มะ...มั่วมากเกิน...ดะ...เดี๋ยวหูรูดเสีย”
ทุ่งดอกไม้กูเฉาอนาถเพราะคำว่าหูรูดเสียของมึงเนี่ยไอ้เด็กธาร! ยังไม่เสียเว้ย!

หงุดหงิดเลย หงุดหงิดอีกละ แต่เอ๊ะ มันเตือนแปลกๆ แฮะ หรือว่ามันจะคิดกับผมในเรื่องอย่างว่า...
“ไสหัวกลับไปได้แล้ว จะได้ไปวิ่งต่อ”

คิดยังไม่ทันจบเลย มันก็ออกปากไล่ผมเป็นที่เรียบร้อย ไล่เสร็จก็เดินหนีด้วย ผมเลยไม่ได้ถามมันว่าที่พูดเมื่อกี้นี้หมายความว่าอะไร เลยได้แต่โบกมือลาแล้วก็เดินกลับมาที่รถอีกครั้ง แต่หูก็ไม่วายได้ยินมันตะโกนไล่หลังมาอีก

“ขับรถดีๆ นะเว้ย อย่าไปเสยตูดใครกลางทางนะ!”
ไม่เสยใครหรอกน่า อยากให้น้องธารนี่แหละเสย หูย... วันนี้มันทำตัวน่ารักเว่อร์ ถึงจะห่ามๆ และดูเพี้ยนๆ ไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็น่ารัก ใจนี่ท่องยุบหนอ พองหนอให้สงบสติอารมณ์อยากจะแกล้งทำเป็นสำออยแล้วให้มันมาดู จากนั้นก็แอบลวนลามมันเลย

น้องธารหนอ อย่ายั่วหนอ...
พี่เหนือหนอ ไม่ลวนลามปล้ำเด็กหนอ...

กิเลสมารัวๆ ถึงขั้นเกือบจะระงับไว้ไม่ไหว ดีที่กลับมาขึ้นรถได้ก่อน ขึ้นไปแล้วก็นั่งสงบสติอารมณ์ไปครู่ สายตามองไอ้เด็กธารที่วิ่งอยู่ในสนามไปด้วย

จะ...ใจเต้นแฮะ

กลับไปเต๊าะมันอีกรอบดีมั้ยเนี่ย เด็กมันยั่วจริงๆ เลยพับผ่าเถอะ...

กว่าจะสงบสติอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงกลับมาได้ก็เล่นเอาเสียเวลาไปเป็นสิบนาที รู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนโทรศัพท์ส่งเสียงเตือนข้อความเข้า หยิบมาดูก็เห็นว่าเป็นข้อความจากเด็กนั่นที่อยู่ตรงมุมสนามอีกฝั่งหนึ่ง
 
ธาร พ่อทุกสถาบัน: กลับไปได้แล้ว นั่งทำอะไรอยู่ในรถน่ะ
พี่เหนือ จะทำตัวดีแล้วครับ: เดี๋ยวก็กลับแล้วครับ นั่งรอให้หายเจ็บข้อเท้าน่ะ
ธาร พ่อทุกสถาบัน: เออ แล้วนี่ชื่ออะไรของพี่เนี่ย เปลี่ยนมาแต่ละชื่อนี่ปัญญาอ่อนทุกชื่อ
 
ผมหัวเราะนิดหน่อยกับคำก่นด่านั่น ก็บอกเองไม่ใช่เหรอว่าให้เลิกมั่วน่ะ ก็จะทำตัวดีแล้วนี่ไง
 
พี่เหนือ จะทำตัวดีแล้วครับ: งั้นพี่เหนือกลับแล้วนะ น้องธารก็อย่ากลับดึกรู้มั้ย มันอันตราย
 
พิมพ์ข้อความส่งไปเสร็จ เห็นมันก้มหน้าลงอ่าน ผมก็สตาร์ทรถ เตรียมจะขับกลับ ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อเสียงข้อความดังขึ้นมาอีก
 
ธาร พ่อทุกสถาบัน: พี่เหนือ
พี่เหนือ จะทำตัวดีแล้วครับ: ?
ธาร พ่อทุกสถาบัน: เรื่องรักแท้น่ะ ถ้าพี่อยากได้จริงๆ พี่ทำตัวดีๆ ให้มีคุณค่าก่อน สักวันก็จะมาหาพี่เองแหละ ส่วนเรื่องที่บอกว่าอย่ามายุ่งน่ะ ถ้าอยากคุยก็คุย ไม่ได้ว่าอะไร แต่อย่ามาตอดเป็นปลาสวายก็พอ
 
ผมอ่านแล้วก็ยิ้มกว้างออกมา ใจที่เต้นรัวก่อนหน้ายิ่งเต้นหนักเข้าไปใหญ่ และแทบจะระเบิดออกมาจากอกเมื่อเงยหน้าขึ้นมองไปยังบริเวณที่ธารยืนอยู่แล้วเห็นว่ามันก็มองผมอยู่เหมือนกัน ก่อนมันจะเป็นฝ่ายหันหนีก่อน แล้วพิมพ์ข้อความกลับมาอีก

ธาร พ่อทุกสถาบัน: กลับไปได้แล้ว! จะนั่งแช่อีกนานมั้ย!
พี่เหนือ จะทำตัวดีแล้วครับ: ครับ ไว้เจอกันที่หอนะ
 
ธารเริ่มออกวิ่งต่อทันที ส่วนผมก็วางโทรศัพท์ลง แขนทั้งสองกอดพวงมาลัยรถไว้ มองเด็กนั่นวิ่งไปรอบสนามด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ผมก็ไม่อยากจะกลับก่อนเลยแฮะ อยากจะนั่งมองเด็กนั่นแบบนี้ไปนานๆ จังเลย

วันนี้มันทำตัวน่ารักจริงๆ แฮะ น่ารักมากจนอยากจะบอกให้มันเปลี่ยนชื่อในแชทจาก ‘ธาร พ่อทุกสถาบัน’ เป็น ‘น้องธารใจ สามีพี่เหนือ’ เหลือเกิน

อยากได้อยากโดนกลับมาอีกแล้วสิ ถ้าได้ถ้าโดนขึ้นมา สาบานเลยว่าจะทำตัวดีจริงๆ

เอ...หรือว่าจะทำตัวดีตั้งแต่ตอนนี้เลยดีนะ เผื่อจะได้จะโดนเร็วขึ้น
-----------------------------------------------------------------------

น้องธารยังคงมุ้งมิ้งเช่นเคย เป็นห่วงพี่เหนือด้วย แต่เป็นห่วงหูรูดนี่คืออะไร 555
เจอแม่ยก-พ่อยกหลายคนเลยขัดใจนิสัยมั่วๆ ของพี่เหนือ อยากจะบอกว่าใจเย็นๆ นะคะ รอตัวละครเติบโตหน่อยนะ หนูแดงพยายามเขียนให้ตัวละครมีพัฒนาการด้านนิสัยกับความสัมพันธ์น่ะค่ะ ใจร่มๆ กันก๊อนนน อย่าเพิ่งตบพี่เหนือ ฮาา
อ่านแล้วส่งฟีดแบ็คกันหน่อยน้า ไว้พรุ่งนี้จะอัพตัวอย่างตอนที่ 12 ให้ค่า ส่วนตอนเต็มนี่ยังไม่แน่ใจว่าจะมาวันไหนนะ รอกันก่อนเน้อ

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
 :ling1:อยากกินเด็ก555

ออฟไลน์ kung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
อิเหนือแกเกือบดีละแต่ก็แค่เกือบอะ ใจแกก็ยังคิดมั่วเหมือนเดิม เฮ้ออออออ สงสารน้องธารคนดีของเราจริงๆ ถ้าคนเรามั่วเพราะโดนคนที่รักไปมั่วคนอื่นแบบอิเหนือนี่คงแย่ๆนะ สติอะควรมีติดไว้มั่งนะอิเหนือ #ยังคงอิน555 #และยังรักน้องธารเหมือนเดิม  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
น่ารัก ... หมายถึงคนเขียนนะ ไม่ค่อยว่างยังแวะมาลงให้

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
น่ารัก ... หมายถึงคนเขียนนะ ไม่ค่อยว่างยังแวะมาลงให้

ใจสั่งมาค่ะ 555
จริงๆอยากเขียนเรื่องนี้ค่ะ ไม่ว่างแต่ต้องหาเวลามาเขียนสนองนี้ดตัวเอง แหะๆ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3005
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
กรีดดดด น้องธารเริ่มกลับมาก้าวร้าวอีกแล้วอ่ะ ไม่อยากเลยยยย
แต่ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้น้องธารพูดจาดีมีหลักการอ่ะ สอนพี่เหนือด้วย

ส่วนพี่เหนือ ต้องบอกตัวเองเลยว่า ไม่ๆๆๆ เราไม่เชื่อพี่เหนือ
นิสัยที่สะสมมานานหลายปี ย่อมไม่สามารถเปลี่ยนได้ในวันเดียว
แต่ก็น่าห่วงจริงๆนะ โรคมันเยอะนะค๊าาาาพี่เหนือ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เหนือน่ารัก

ปล.แอบจิ้นว่า คุ่นี้เขาเคยเจอกันตั้งแต่เด็ก แล้วพี่เหนือดันจำน้องธาารไม่ได้ 555

เน่าๆ วัยป้าชอบ

ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
ธาร...เริ่มมีใจแล้วหรอ เริ่มแสดงออกชัดเจนแล้วหรอ โอ่ยยย
พี่เหนือ...ทำตัวดีได้แล้วนะ น้องธารจะได้ไว้ใจ เนอะๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีพี่เหนือเลิกมั่วเลิกแร่ดได้เเระ

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
น้องธารเป็นคนตรงๆ(ด่าตรงๆ) และเป็นห่วงเป็นใย(เรื่องหูรูด)พี่เหนือจริงๆ  :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:

เรื่องหูรุูดไม่ต้องเป็นกังวลแทนพี่เขาหรอกธารรรร  :laugh:

ตอนนี้น้องธารเพี้ยนๆเหมือนพี่เหนือคิดเลย แต่เราว่าน่าจะติดจากพี่เหนือนะ  :laugh: นี่ยังไม่ได้เสี้ยวพี่เหนือเลยนะ  :laugh:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
แต่ยังไงก็ชอบความแรดของเจ๊อยู่ดี 5555555

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด