【ช่างใจรัก】♦โหลดEbookและรอบปกติ♦12/11/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【ช่างใจรัก】♦โหลดEbookและรอบปกติ♦12/11/59  (อ่าน 238752 ครั้ง)

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
สมเป็นพี่เหนือทุกตอน  แพ้ทางให้ธารเสมอ
ก็ธารมันน่ารัก ถึงจะขี้แกล้งไปนิดนึง(มั้ง)

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
รู้สึกอยากให้เหนือทำตัวดีๆ แล้วเป็นพี่น้องกันไปก่อน

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ทำให้ได้จริงๆนะพี่เหนือ
เลิกมั่วเพื่อน้องธาร!!

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ชอบตรง ตอดเป็นปลาสวายนี่ละ  :m20:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ธารน่ารักนะ ซึนตัวพ่อ เป็นห่วงเป็นใย

แต่ปากร้ายกาจมาก

ออฟไลน์ shcheribrand

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พี่เหนือนี่ไม่มีเขินเลยเนาะ5555555 เมื่อไหร่จะสมใจพี่เหนือ คริ คริ

ออฟไลน์ toncivil

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านทีไร ฟินทุกทีเลย  :katai5:

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
สนุกจังเลย เขินน้องธารใจแทนพี่เหนือจัง  :z1:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ทำตัวดีๆ ก็พอ ..

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
พี่เหนือ เหลือเวลาฝีกสอนแค่ เดือนเดียว
ส่วนน้องทาน ก็ยังเหมือนจะห่างๆอยู่

พี่เหนือคงต้องกินแห้วกลับ กทม แน่นอน

ปล.เป็นกำลังใจให้คนแต่ง รอตอนต่อๆไปนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
[ตัวอย่าง] ชั่งใจ ครั้งที่12

ยังไม่แน่ใจนะคะว่าจะมาวันไหน อาจเป็นอาทิตย์หน้าเลย ช่วงนี้ยุ่งมากเพราะหนูแดงจะไปออกบูธที่งาน Gen Y วันอาทิตย์นี้ ใครไปงาน แวะไปหากันได้ที่บูธ H-04 นะคะ หนูแดงไปเปิดจองแก๊งเกรียนเอเลี่ยนอยู่ มีตัวทดลองอ่านทำมือไปแจกด้วย ทำแค่ 100 เล่มเท่านั้น (ทำมากกว่านี้คือไม่ไหวง่ะ)
รายละเอียดอื่นๆ ไปดูเอาที่หน้าแฟนเพจนะจ๊ะ
ปล. แฟนเพจเค้าอยู่นี่นะ
https://www.facebook.com/NooDangzzz/
---------------------------------------


แปะตัวอย่าง
#แตงกวาแลกน้องธาร

 ผมวิ่งมาถึงด่านสุดท้ายก่อนใครเพื่อน พอทรุดตัวนั่งปุ๊บ เห็นแตงกวาดิบที่ยังไม่ได้ปอกเปลือกขนาดเท่าฝ่ามือในตะกร้าห้าลูกเน้นๆ ขนมโก๋กับกล้วยตากที่กินไปเมื่อกี้ก็แทบพุ่งออกมาทางเดิม ยิ่งหยิบมันขึ้นมาหักครึ่ง ตั้งท่าจะกินด้วยแล้ว ผมก็เกือบจะสำรอกของในกระเพาะออกมาทันใด

หึย...เหม็นเขียวโคตร ขนาดปอกเปลือกก็แทบกินไม่ได้แล้ว นี่ไม่ได้ปอก แถมไม่ได้แช่เย็น ไม่ต้องถามเลยว่าจะกินได้หรือไม่
มันก็ต้องไม่ได้อยู่แล้ว!

ผมวางแตงกวาทิ้งลงในตะกร้าทันที ทำท่าจะยอมแพ้ด้วย กะว่าถ้ากรรมการหันมาก็จะยกมือขอแพ้ไปเลย ทว่าพอผมทำท่าละล้าละลังไม่ยอมกินอย่างนั้น เสียงน้องมายด์ที่ยืนเชียร์อยู่ข้างสนามก็ดังลอยมาให้ได้ยินทันที

“ทำอะไรน่ะเจ้! กินเข้าไปเร็วๆ เซ่! ตาแก่หัวล้านนั่นจะกินเสร็จอยู่แล้วนะคะ!”

ตาแก่หัวล้านคืออาจารย์สอนพละและอาจารย์ที่ปรึกษาแผนกช่างยนต์ปีสาม ผมหันไปมองก็เห็นตาหัวล้านนั่นวิ่งมาหยุดด่านข้างหลังผม ยัดกล้วยตากชิ้นแรกเข้าปากอย่างเมามันส์ ก็ใช่ว่าผมอยากจะยอมแพ้หรอก อุตส่าห์วิ่งนำชาวบ้านชาวช่องมาถึงขนาดนี้แล้ว มาจอดเอาตรงแตงกวานี่แหละ

“กินเข้าไปซะทีสิโว้ยอีเจ้!” น้องมายด์ตะโกนมาอีกเมื่อเห็นผมยังคงนั่งนิ่งอยู่เหมือนเดิม แถมรอบนี้ยังตะโกนด้วยเสียงที่แมนโคตรๆ อีกด้วย

หันไปมองหน้ามันแล้วก็เสียวมันจะพุ่งเข้ามาตีเข่าใส่ชะมัด ท่าทางมันอย่างกับเชียร์มวยไม่มีผิด ชุดเชียร์ลีดเดอร์ที่ใส่นี่ไม่ได้ทำให้มันดูอ่อนโยนขึ้นเลยแม้แต่น้อย

ผมกลั้นใจหยิบแตงกวาขึ้นมาอีก ตัดสินใจว่าจะหลับหูหลับตากินๆ ไป แต่สุดท้ายก็ต้องวางลงที่เดิม
มะ...ไม่ไหวจริงๆ ว่ะ โคตรเหม็นเขียว...

“อีเจ้! กินสิยะ! กิน!” น้องมายด์ตะโกนมาอีกละ ส่วนผมก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้หันไปทางมัน
“แต่พี่เหนือ...”
“ถ้าเจ้กิน จะประเคนผัวหลวงโรมที่รักให้เอาไปปลุกปล้ำจนหนำใจเลยเอ้า!”

พูดยังไม่ทันจบ มันก็แหกปากมาอีก ทำเอาโรมที่ยืนเชียร์อยู่ข้างๆ ทำหน้าเหวอ เกือบจะพุ่งเข้าไปตบกะโหลกมันอยู่แล้วถ้ามันไม่โพล่งขึ้นมาอีก
“ถ้าไม่พอ แถมจอมแก่นเข้าไปด้วยอีกคนก็ได้ กินเร็วเข้าเจ้!”
คราวนี้จอมแก่นตกใจบ้างละ แต่...

เอาผู้ชายมาล่อ กูก็กระเดือกไม่ลงหรอกเว้ย! บอกแล้วไงว่ามันเหม็นเขียว พูดไม่รู้ฟัง!

ตอนนี้ธารเหมือนจะหงุดหงิดที่ผมไม่ยอมกินสักทีขึ้นมาบ้างแล้ว เลยตะโกนขึ้นมาด้วยอีกคน

“พี่เหนือ! กินสิวะ!” ท่าทางเหมือนจะเข้ามากระทืบผมให้ได้เลยด้วยเถอะ
หากทว่าการตะโกนนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้น้องมายด์ยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้ผมอีกที

“ธารบอกว่าถ้าเจ้กิน ธารจะยอมได้เสียเป็นผัวเมียกับเจ้นะ!”
“เฮ้ย!”/ “อะไรนะ!”

ผมกับธารแหกปากขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน ไอ้ที่ร้องด้วยความตกใจน่ะของธาร ส่วนผมนี่ฮึกเหิมขึ้นมา ฟีลอย่างกับชาวบ้านบางระจันเตรียมออกรบไม่มีผิด

แตงกวากูอยู่ไหน เอามาประเคนเดี๋ยวนี้!
---------------------------
เพื่อ(ได้เป็นเมีย)น้องธาร เหนือทำด้ายยยย 555

ออฟไลน์ pedchara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
พี่เหนือมีแรงผลักดันขั้นสุด

ถ้าชนะนี้ธารนี่ต้องระวัง  พี่เหนืออาจจะย่องเข้าห้อง

จะได้จะโดนก็คราวนี้ล่ะวะ :hao7:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
เจ๊หนูขำ 5555555555555 สู้เพื่อผู้ชาย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :hao7: :hao7:
ครวนี้ยอมเห็น ๆ เลยนะเหนือ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ขรรมพี่เหนือ

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อิธารนี่... ปากแกจัดดีจริงๆ ตกลงเป็นเมะหรือเคะ กัดจิกถากถางขนาดนี้ 55555

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ต้องสู้ๆ จึงจะชนะ ..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
กินแตงกวาเพราะอยากกินมะเขือยาวหรอค้าาาาาาาาา

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
สนุกดี รอตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ฮึกเหิมขึ้นมาทันทีเลย

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ชอบเหนือ นางจริงใจ. มั่วก็ยอมรับว่ามั่ว. ไม่แอ๊บใสหลอกใคร. คิดว่าคงฝังใจกับอดีต. ตั้งสติใหม่นะเหนือ. รอรักแท้จากธาร

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 12: มันคงเป็นความรักที่ทำให้แสงเหนือยังหื่นอยู่อย่างนี้...[1]

ว่าจะตีตัวออกห่าง แต่พอเด็กนั่นมาพูดว่า ‘อยากคุยก็คุยได้’ แถมยังชวนไปวิ่งทุกวัน หนำซ้ำ พ่อมันยังโทรมาถามไถ่ถึงมันด้วยความเป็นห่วงสามเวลาหลังอาหารอีกด้วยเหตุผลว่าเขาไม่อยากโทรหาธารใจเอง เพราะคุยกันทีไรต้องมีเรื่องไม่เข้าใจกันทุกที เลยวานผมเป็นสื่อกลาง วิ่งไปดูมันที่ห้องแล้วก็รายงานคุณธี คุยกับคุณธีเสร็จก็ต้องรายงานเด็กนั่นว่าคุยอะไรกับพ่อมันอีก ความสนิทสนมก็เลยเริ่มหวนกลับมา

สนิทหรือไม่สนิทก็ดูได้ ไปกินข้าวเย็นด้วยกันแทบทุกวัน คือ...ความจริงไปวิ่งด้วยกันทุกวัน พอขากลับก็แวะกินข้าวด้วยกันน่ะ ส่วนเรื่องแกล้งผมนี่ก็เพลาลงไปถึงขั้นหยุดละ ผมเลยไปฝึกงานได้แบบสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่ารถสุดที่รักจะถูกประทุษร้ายอีก แถมผมกับธารก็เริ่มคุยกันมากขึ้นอีกด้วย เรื่องที่คุยส่วนมากเป็นเรื่องทั่วไปมากกว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็รู้สึกดีที่ได้คุยกับเด็กนี่นะ

รู้สึกดีอย่างเดียวไม่พอ อาการอยากเต๊าะเด็กก็กลับมาเช่นกัน ช่วยไม่ได้ ก็มันน่ารักนี่หว่า เห็นมันทุกวัน ทำอะไรด้วยกันทุกวัน ผมเลยได้เห็นด้านอื่นๆ ของธารใจที่ไม่ใช่ด้านเกเรด้วย บอกเลยว่ามันเป็นเด็กที่นิสัยน่ารักคนหนึ่งเลยนะ ดูแลเอาใจใส่คนอื่นดี ติดอย่างเดียวตรงที่การแสดงออกของมันดูแข็งๆ ไปหน่อย

แต่ถึงอย่างนั้นก็น่ารัก น่ารักจนผมอยากจะขายอ้อยมันให้รู้แล้วรู้รอด เแต่ก็ยังไม่กล้าทำไง ที่ไม่กล้าทำก็ไม่ใช่อะไร เกรงใจฝ่าเท้ามันที่จ้องจะประทับหน้าผมอยู่ร่ำไปถ้าผมแปลงร่างเป็นปลาสวายน่ะ

ตอนนี้เข้าใจเลยว่าฟีลหมาได้ปลากระป๋องเป็นยังไง คืออยากกิน แต่ไม่มีปัญญาจะกิน โอย...จะลงแดง

แต่คนอย่างไอ้เหนือมีเหรอที่จะยอมให้ปลากระป๋องมันหมดอายุแล้วขึ้นสนิมไปโดยที่ไม่แตะได้ แค่ได้เอาลิ้นเลียกระป๋อง ไม่ได้กินเนื้อข้างในก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย

จะเลียให้กระป๋องลอก... นี่คือคำปณิธานของผม

และเพราะเหตุนี้ ผมจึงหาโอกาสเหมาะๆ ที่จะทำความสนิทชิดเชื้อกับมันทันใด โชคดีที่วันนี้ธารยกเลิกซ้อมวิ่งเพราะต้องอยู่ช่วยเพื่อนๆ ทำรายงานที่วิทยาลัยเลยว่าจะกลับช้า ผมเลยกลับมาก่อน และทันทีที่กลับถึงห้อง ผมก็ไม่ยอมเข้าไปในห้องตัวเอง ยืนรอธารใจกลับมาอยู่หน้าห้องกระทั่งฟ้ามืด ผ่านไปจนดึกและโดนยุงกัดเต็มตัวนั่นแหละ เด็กเวรนั่นถึงจะโผล่หัวมา

ทันทีที่เห็นผมนั่งยองๆ อยู่บริเวณหน้าห้องปุ๊บ มันก็ย่นคิ้วถามปั๊บ
“มานั่งทำบ้าอะไรตรงนี้เนี่ยพี่”
“เมื่อเช้าพี่เหนือลืมเอากุญแจออกมาน่ะครับ” ผมหันไปยิ้มไปแล้วบอกเสียงเบา ซึ่งแน่นอนว่าโกหก

ลืมบ้าอะไรล่ะ อยู่ในกระเป๋าสะพายข้างเนี่ย ดีนะที่แม่กุญแจเป็นแบบกดล็อค ไม่ใช่แบบไขล็อค ไม่อย่างนั้นไอ้เด็กนี่จะต้องสงสัยแน่ว่าตอนออกจากห้องเมื่อเช้า ผมล็อคห้องได้ยังไง ส่วนเรื่องทำไมถึงโกหกน่ะเหรอ...

หึๆ ก็จะได้ขอเข้าไปนอนค้างห้องมันยังไงล่ะจ๊ะ แผนการตีสนิทและลอบตอดนิดตอดหน่อยแบบไม่ให้มันรู้ตัวต้องมา ถึงจะถูกมันสั่งว่าห้ามตอดเป็นปลาสวายก็เถอะ

ธารยืนมองผมครู่หนึ่ง แล้วก็พึมพำ
“โง่ว่ะ ปลาทองจริงๆ ซะด้วย ลืมอะไรไม่ลืม ดันลืมกุญแจห้อง ดึกขนาดนี้แล้ว เจ้าของหอคงไม่ถ่อเอากุญแจมาให้แล้วด้วย ป่านนี้ร้านทำกุญแจก็น่าปิดแล้วด้วย”

มึงก็เคยลืมเถอะ อย่าทำมาเป็นแขวะกูหน่อยเลย จริงๆ คือกูไม่ได้ลืมด้วย กูแค่วางแผนขายอ้อยมึงเฉยๆ

ผมนี่ก่นด่ามันในใจไปเรียบร้อย แต่คิดถึงความฟินในอนาคตข้างหน้าก็ได้แต่ฉีกยิ้ม แล้วเออออห่อหมกกับมันไป
“ใช่ๆ พี่เหนือก็เลยรอน้องธารกลับมานี่ไง” แล้วก็กะว่าจะตามด้วยคำพูดว่า ‘คืนนี้พี่เหนือขอค้างด้วยคนนะ’
หากแต่ธารมันไม่รู้ว่าผมคิดอะไร เลิกคิ้วสูงกับประโยคนั้นแล้วถามกลับ
“รอผมกลับมาแล้วจะช่วยอะไรได้วะ ในห้องไม่มีเครื่องมือช่างหรอกนะเว้ย ตอกลูกบิดไม่ได้”

ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้ช่วยตอกลูกบิดซะหน่อย จะขอไปนอนด้วยต่างหาก

แต่ก็ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ธารก็ไขประตูห้อง ปากก็ว่าไปด้วย
“งั้นคืนนี้พี่ก็ไปเช่าห้องพักรายวันนอนแล้วกัน หาไม่ได้ก็นอนหน้าห้องนี่แหละ” พูดจบ มันก็แทรกตัวเข้าห้องตัวเองไปหน้าตาเฉย

ฮะ...เฮ้ย นี่มึงจะไม่ชวนกูไปนอนด้วยหน่อยเลยเหรอ อย่างน้อยๆ ก็ถามหน่อยว่าคืนนี้กูจะไปนอนไหน ทีกูยังเคยให้มึงนอนด้วยเลยนะเว้ย!

เห็นมันทำท่าไม่เหลียวแล ผมก็รีบลุกพรวดมาคว้าขอบประตูไว้ก่อนที่จะถูกปิด ธารชำเลืองสายตามามองผมอย่างรำคาญ ตามมาด้วยการถามด้วยน้ำเสียงรำคาญเช่นกัน

“อะไร”
จะอะไรล่ะ มึงก็ชวนกูไปนอนด้วยเซ่!
“น้องธารไม่คิดจะถามพี่เหนือหน่อยเหรอครับว่าคืนนี้พี่เหนือจะนอนไหน” ผมว่าอ้อมๆ ไม่กล้าพูดตรงๆ ว่าจะขอนอนห้องมัน
แต่การพูดอ้อมๆ นี่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ไอ้เด็กนั่นเอียงคอมองผมด้วยท่าทางกวนโอ๊ย แล้วก็ว่าออกมา
“เมื่อกี้ก็บอกแหม็บๆ ว่าให้ไปเช่าห้องรายวันนอน หาไม่ได้ก็ให้นอนหน้าห้อง แก่แล้วหูไม่ดีหรือไงวะ”

โดนมันด่าว่าแก่อีกต่างหาก ไอ้เด็กนี่... งั้นตรงๆ ไปเลยแล้วกัน
“ไปเช่าห้องก็เสียตังค์ตั้งหลายร้อยแน่ะ ช่วงนี้พี่เหนือแกล๊บแกลบ กว่าทางบ้านจะโอนเงินมาให้ใหม่ก็อาทิตย์หน้า แถมพรุ่งนี้ก็ต้องจ้างช่างมาตอกลูกบิดประตูอีก เอาเป็นว่าน้องธารช่วยพี่เหนือประหยัดด้วยการให้พี่เหนือนอนค้างด้วยคืนนึงนะ”
จู่โจมแม่ง ส่วนเด็กนั่นพอได้ยินผมพูดอย่างนั้นก็เบ้หน้าขึ้นมา
“ไม่เอาอะ ให้พี่มานอนด้วย เดี๋ยวพี่ก็ทำมิดีมิร้ายผมอีก ฝันไปเถอะ” แล้วมันก็กระชากประตูออกจากมือผม ทำท่าจะปิดอีกครั้ง
ผมรีบแทรกตัวเข้าไป ส่งผลให้ถูกประตูหนีบจนร้องดังแอ้ก ธารก็เลยดึงมือออกจากประตู ปั้นสีหน้าขุ่นๆ ใส่ผม
“อะไรของพี่เนี่ย บอกว่าไม่ให้นอนไง”
“นะครับน้องธาร คืนเดียวเองนะ พี่เหนือแกลบแล้วจริงๆ สาบานว่านอนด้วยอย่างเดียว เค้าจะไม่ทำอะไรตัวเองเลย” ปลายประโยคโชว์ความแบ๊วหน่อยนึงเผื่อมันจะเอ็นดู ชูสามนิ้วสัตย์ปฏิญาณด้วย กะพริบตาปิ๊งๆ ให้อีก

ขนอ้อยมาทั้งไร่ ทุ่มสุดตัวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

“นะน้องธาร พี่เหนือแกลบจริงๆ ถ้าเอาเงินไปจ่ายค่าห้องพักรายวันคืนนี้ล่ะก็ รับรองได้เลยว่าพรุ่งนี้แล้วก็วันถัดๆ ไป พี่เหนือลำบากแน่"

แถสุดฤทธิ์ อันที่จริงเงินในสมุดบัญชียังเหลืออีกบานเพราะผมไม่ได้เที่ยวไหนเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ถ้าไม่นับวันที่ไปร่อนแถวไนท์พลาซ่า ส่วนธารก็มองหน้าผมนิ่งเหมือนเดิม ก่อนจะถอนหายใจออกมาเต็มแรง

“เออๆ นอนก็นอน”
ได้ยินแล้ว ผมถึงกับร้อง ‘เยส’ ออกมาเบาๆ ทำให้มันที่เปิดประตูให้ผมเข้ามาในห้องตวัดหางตามามองแล้วก็บ่น
“พี่นี่แม่งนอกจากเป็นปลาสวายชอบตอดนิดตอดน้อยกับปลาทองขี้ลืมแล้ว ยังเป็นปลาไหลอีกนะ ไหลไปเรื่อย”

แหม ถ้าไม่ไหลลื่นแล้วจะได้นอนห้องน้องธารเหรอจ๊ะ

“แถมตอนนี้ก็ยังเป็นปลากระดี่ได้น้ำอีก แค่ได้นอนห้องผม ไม่ต้องดีใจเนื้อเต้นขนาดนั้นหรอกว่ะ แม่งความกามออกทางสีหน้าหมดละ”

ผมชะงักเอาในตอนนี้ รีบเก็บอาการระริกระรี้ที่เผลอแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวทันใด หันไปมองไอ้เด็กนั่นที่ยืนจ้องผมตาไม่กะพริบแล้ว ผมก็กระแอมสองสามครั้ง พลันชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปเรื่อย

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับน้องธาร พี่เหนือไม่ทำอะไรน้องธารหรอก เพราะเดี๋ยวพี่เหนือจะนอนพื้น มีที่นอนปิกนิกใช่มั้ยล่ะ พี่เหนือปูไอ้นั่นนอนข้างๆ เตียงนั่นแหละ” ผมว่าให้มันวางใจ เสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้นอนบนเตียงด้วยกัน แต่ไม่เป็นไร แค่ได้ร่วมห้องกันก็ฟินละ

ทว่าพอผมมองซ้ายขวาหาที่นอนปิกนิกซึ่งปกติมันจะเอาไว้บนหลังตู้ ก็ดันหาไม่เจอ กระทั่งธารใจพูดขึ้นมา
“ที่นอนปิกนิกไม่มี เอาไปส่งร้านซักเมื่อเช้านี้เอง”

งะ...งั้นก็แสดงว่า...ผมจะได้นอนเตียงเดียวกับเด็กนี่ล่ะสิ
อู้ว... ดี๊ดี

“แต่ไม่ให้นอนบนเตียงด้วยหรอกนะ”
เอ้า!

ความฟินเล็กๆ เมื่อครู่สลายไปทันตา ทำเอาผมร้องโอดครวญ
“แล้วจะให้พี่เหนือนอนพื้นกระเบื้องแข็งๆ เหรอ เปิดแอร์ด้วย หนาวจะตาย”
“ผ้าห่มมีสองผืน”

มันไม่ช่วยให้อุ่นหรอกเว้ย ต้องเนื้อห่มเนื้อ!

แต่ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวโดนมันไล่กระทืบออกจากห้องไม่ทัน ได้แต่ย่นปากแล้วเดินไปทรุดตัวนั่งบนเตียงอย่างถือวิสาสะ
“เฮ้ยพี่ บอกว่าไม่ให้นอนบนเตียงไง” แล้วมันก็รีบร้องท้วงทันทีที่เห็นผมเริ่มเอนตัวนอนราบ

ทว่าผมก็ไม่ลุก ทิ้งหัวหนุนหมอนหน้าตาเฉย ทำให้ธารเดินมายืนค้ำหัวผมทันใด
“พี่เหนือ”
“ทีโรมกับจอมแก่นยังนอนเตียงน้องธารได้เลย น้องมายด์อีก พี่เหนือก็ต้องนอนได้สิครับ” ผมรีบแย้งขึ้นก่อนจะถูกมันกระชากขึ้นจากเตียง
“ก็นั่นมันเพื่อน แต่พี่เป็นอาจารย์นี่หว่า มันไม่เหมือนกัน ไม่สนิท” ธารให้เหตุผล ผมเลยเลิกคิ้วสูงใส่
“แต่เราก็สนิทเกินกว่าอาจารย์กับนักศึกษาแล้วนะ ไปวิ่งด้วยกันทุกวัน กินข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน แถมพ่อน้องธารก็โทรมาหาพี่เหนือทุกวันด้วย นี่มันพี่เลี้ยงเด็กกับเด็กที่ถูกพ่อเอามาฝากชัดๆ สนิทกันจนไม่รู้จะสนิทยังไงแล้ว”

ผมพูดมาอย่างนี้ ธารก็ไม่เถียง จึ๊ปากเล็กน้อย แล้วก็บ่นอีก
“เออ สนิทก็สนิท แต่ก็ไม่อยากให้นอนด้วย”
“เพราะพี่เหนือไว้ใจไม่ได้ในสายตาน้องธารล่ะสินะ” ผมว่าด้วยน้ำเสียงตัดพ้อนิดๆ รู้อยู่แก่ใจแหละว่ามันคิดแบบนี้กับผมตลอด ทั้งที่ผมก็ไม่ได้ไปยุ่งกับพี่จอมดื้อตามที่รับปาก แล้วก็ไม่ได้ลวนลามมันแล้ว แต่มันก็ยังไม่เชื่อใจผมอยู่ดี มีแต่ท่าทางเท่านั้นที่แสดงออกว่าเริ่มสนิทสนมด้วย แต่ในใจก็เหมือนเดิม

ทว่าสิ่งที่ผมพูดเมื่อครู่กลับผิดถนัด ธารเม้มปากไปครู่หนึ่งก่อนว่าออกมา
“ไม่ใช่เรื่องพี่ไว้ใจไม่ได้หรอก แต่ผมติดหมอนข้าง”
“ติดหมอนข้างแล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่ไม่อยากให้พี่เหนือนอนด้วยล่ะครับ” ผมทำหน้าสงสัย
“ก็ห้องผมไม่มีหมอนข้าง”
“แล้ว?”
“ก็คืนนี้พี่มานอนด้วยใช่มะ หมอนนั่นเป็นของผมใบนึง ส่วนอีกใบ พี่ก็ใช้หนุน ทีนี้ผมก็ไม่มีหมอนไว้กอด แล้วพี่คิดว่าผมจะทำยังไง”

ผมหันไปมองหมอนหนุนที่ตัวเองหนุนอยู่ ก่อนเหลือบไปมองหมอนใบข้างๆ แล้วก็เข้าใจขึ้นมาได้ว่าไอ้เด็กนี่หมายความว่าอะไร ก่อนจะขำออกมา
มิน่าล่ะ ทำไมผมถึงถูกมันกอดตอนมันหลับถึงสองครั้งสองครา ดูท่าทางจะติดหมอนข้างขนาดหนักนะเนี่ย
“เหตุผลที่ไม่อยากให้พี่นอนด้วยคือเรื่องติดนอนกอดหมอนแค่นี้เนี่ยนะ” ผมถามเพื่อความแน่ใจ
ธารพยักหน้ารับอย่างไม่สบอารมณ์ ผมเลยหัวเราะหนักขึ้นไปอีก
“ขำอะไรวะ มีอะไรให้น่าขำหรือไง” ธารชักสีหน้าใส่เมื่อเห็นผมหัวเราะไม่เลิก
“เปล่า เห็นว่าน่ารักดี อย่างกับเด็กเล็กๆ” ผมว่า สีหน้าของธารใจเลยแดงเรื่อนิดๆ ก่อนที่มันจะเสมองไปทางอื่น

น่าเอ็นดูจริงว่ะเวลามันไม่แง่งๆ ใส่ผมเนี่ย เห็นแล้วอยากแกล้งแฮะ แต่คงไม่เทกระจาดอ้อยกระจุยกระจายอย่างตอนแรกละ เดี๋ยวไก่ตื่นอีก เอาเป็นขายอ้อยแบบละมุนละม่อมแล้วกัน

“งั้นเอางี้แล้วกันน้องธาร ในเมื่อไม่มีหมอนให้กอด ก็กอดพี่เหนือนอนแทนเนอะ” ผมแกล้งหยอดทันใด
ธารใจก็พึมพำทันควันเช่นกัน “ไอ้นั่นแหละที่โคตรไม่อยากทำ”
“เอาน่า นิดๆ หน่อยๆ พี่เหนือยอมเปลืองตัวก็ได้” ผมแกล้งอีก
ธารก็เลยเบ้หน้าใส่ผมรัวๆ “ผมว่าผมเปลืองตัวกว่าว่ะ ถ้าผมกอดพี่ คนได้กำไรก็คือพี่ ไม่ใช่ผม”

พูดอีกก็ถูกอีก และผมโคตรจะนี้ดเลย แต่ธารมันก็ดับฝันผมด้วยการหนีไปอาบน้ำ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ไล่ให้ผมไปอาบต่อ มีการเอาเสื้อผ้าตัวเองมาให้ผมยืมใส่นอนด้วย

กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มผสมกับกลิ่นน้องธารทำเอาผมสูดดมเสื้อกับกางเกงมันอย่างกับโรคจิต ดีนะที่มันไม่ได้ให้ยืมกางเกงในหรือบ็อกเซอร์ด้วย ไม่งั้นผมได้กลายเป็นโรคจิตอย่างสมบูรณ์แบบแน่

“แต่งตัวเสร็จก็มานอนได้แล้ว ง่วงจะตายอยู่แล้ว ปิดไฟด้วย”

ออกมาจากห้องน้ำได้ มันก็สั่งผมใหญ่ขณะที่มันนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียง ผมไม่รอช้า ปิดไฟแล้วคลำทางมาปีนขึ้นเตียง ตอนขึ้นไปนอนนี่รู้สึกได้เลยว่าเด็กนั่นกระเถิบถอยห่างจากผมจนฟูกยวบ แต่ผมก็ไม่ถือสาอะไรด้วยคิดแผนอะไรบางอย่างออกขึ้นมา

ในเมื่อมันไม่กอด งั้นผมแกล้งทำเป็นหลับแล้วละเมอกอดมันแทนแล้วกัน

รอจังหวะให้เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง พอได้ยินเสียงกรนเบาๆ ดังออกมาจากคนข้างๆ ผมก็แกล้งทำเป็นนอนพลิกตัว แขนขาไปพาดบนร่างของเด็กนั่นทันที
ทว่าทันทีที่ผมพาด ฝ่าเท้าหนักๆ ก็กระแทกมายังร่างกายผมภายในเสี้ยววินาที ตามมาด้วยหลายต่อหลายครั้งจนผมแทบจะตกเตียง

“อย่ามาทำเป็นเนียนนอนละเมอกอดนะเว้ยไอ้พี่เหนือ!” แล้วเสียงโวยวายก็ดังขึ้น
มะ...มันรู้!?

ผมรีบดันตัวขึ้นนั่ง ขณะที่ธารเองก็รีบลงจากเตียง วิ่งไปเปิดไฟแล้วปั้นหน้าเครียดใส่ผม เห็นอย่างนั้น ผมก็ทำหน้าไม่ถูก ยิ้มแห้งๆ แล้วทักมันไป
“นะ...น้องธารยังไม่หลับเหรอครับ”
“ใครจะหลับลงวะ มีไอ้หื่นมือปลาหมึกมานอนข้างๆ เนี่ย”

สถานะปลาตัวใหม่มาอีกแล้ว โดนแขวะเป็นปลานู่นนี่จนจะกลายเป็นอควอเรียมแสงเหนืออยู่แล้ว
แต่ผมก็ไม่สนใจนัก ทำหน้าสงสัยแทน
“แล้วที่น้องธารนอนกรน...?”
“แค่เคลิ้มๆ แม่ง เผลอหน่อยเดียว โดนจนได้” ปลายประโยคนี่เหมือนจะบ่นคนเดียว

โด่ เซ็งเลย ทำไมไม่หลับให้สนิทไปเลยวะ จะมาเคลิ้มเพื่อ? ยังไม่ทันได้กอดจนหนำใจก็โดนมันถีบซะละ

ทว่าความเสียดายในการไม่ได้กอดมันก็ต้องอันตรธานหายไปเมื่อมันพูดขึ้นมาเสียงแข็ง
“ทำไมผู้ใหญ่นี่ไว้ใจไม่ได้สักคนเลยวะ รับปากอะไรแล้วทำไม่เคยได้”

ผมไม่เข้าใจที่มันพูดสักเท่าไหร่ แต่รู้สึกได้ว่าการกระทำของผมเมื่อครู่จะไปสะกิดปมอะไรของมันเข้า ก็เลยสีทำหน้าสลด แล้วเก็บกระจาดอ้อยลงไปก่อนด้วยอยากรู้สิ่งอื่นมากกว่าจะลวนลามเด็กนี่

จะว่าไปแล้ว จนป่านนี้ผมยังไม่รู้เลยนี่นาว่าตกลงมันมีปัญหาอะไรกันแน่ ทั้งที่สนิทกับทั้งคุณธี ทั้งกับเด็กนี่มากขึ้นแล้วแท้ๆ แต่ผมก็ยังไม่รู้สักทีว่าอะไรที่ทำให้ธารใจเกเรไม่ยอมกลับบ้านอย่างนี้

และเพราะผมสงสัย ผมก็เลยลุกขึ้นนั่ง ตบฟูกข้างตัวเบาๆ ปากก็ร้องเรียกไปด้วย
“น้องธารครับ มานั่งนี่หน่อย”
“ไม่ พี่คิดจะทำอะไรแปลกๆ กับผมอีกแล้วล่ะสิ” ธารใจแสดงท่าทางระแวงออกมาทันที ผมเลยต้องรีบส่ายหน้า
“ไม่ได้คิดจะทำอะไร กอดเมื่อกี้นี้พี่เหนือละเมอจริงๆ แต่ที่ให้มานั่งนี่เพราะจะคุยอะไรด้วยสักหน่อยน่ะ” ผมไม่ยอมรับหรอกว่าที่กอดมันเป็นเพราะตั้งใจ ขืนรับไปตรงๆ ก็ได้โดนมันประเคนฝ่าเท้าให้อีกน่ะสิ

ธารยืนนิ่ง แสดงท่าทีไม่ไว้ใจออกมาสุดกำลังจนผมต้องตบฟูกอีกครั้ง
“มาเร็ว จะคุยเรื่องน้องธารน่ะ ไม่ได้จะทำอะไรจริงๆ”
“แน่นะ?”
“อื้ม”
พอผมรับปาก ธารก็เดินมานั่งแต่โดยดี ทว่าไม่ได้นั่งข้างๆ ผม นั่งอีกฟากหนึ่งของเตียง แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าอย่างน้อยมันก็ยอมทำตามแหละนะ

“จะคุยอะไร” ธารทำลายความเงียบขึ้น
ผมมองใบหน้าหล่อที่มีหัวคิ้วย่นยู่เล็กน้อย ก่อนจะพูด
“ทำไมน้องธารถึงไม่อยากกลับบ้านล่ะครับ บอกพี่เหนือได้มั้ย”
“ถ้าจะคุยเรื่องนี้ก็นอนเถอะ” ธารตัดบทแทบจะในวินาทีนั้น เหมือนกับครั้งก่อนๆ ที่เวลาถูกผมถามไม่มีผิด แต่ครั้งนี้ผมไม่ยอมให้มันตัดบทแล้วทำเหมือนไม่ได้พูดอีกแล้ว

ขืนทำแบบนั้น ไม่อย่างนั้นในอนาคต มันก็ต้องมาหาว่าผมเป็นผู้ใหญ่ไว้ใจไม่ได้บลาๆๆ อะไรของมันอีก

ผมเลยรีบขยับเข้าไปหามัน คว้าข้อมือเอาไว้ก่อนที่มันจะเดินไปปิดไฟอีกรอบ
“น้องธาร พี่เหนือถามเพราะเป็นห่วงนะ ถึงพี่เหนือจะเป็นคนไว้ใจไม่ได้อย่างที่น้องธารพูด แต่อย่าลืมสิว่าที่น้องธารได้อยู่ที่นี่ต่อเป็นเพราะใคร” ได้ทีก็ทวงบุญคุณซะเลย

ธารเม้มปาก ทำหน้าขัดใจแล้วก็ส่งเสียงจึ๊จ๊ะ
“นอกจากไว้ใจไม่ได้แล้วยังชอบทวงบุญคุณอีกนะพี่น่ะ”
“ทวงสิ ก็อยากรู้นี่ว่าน้องธารมีปัญหาอะไรที่บ้าน แล้วทีนี้จะทดแทนบุญคุณพี่ได้หรือยัง” ผมหมายถึงการตอบคำถาม
ธารนิ่งคิดไปครู่ก่อนพยักหน้ารับช้าๆ ผมเลยตั้งท่าจะถาม ทว่าธารก็พูดขึ้นมาก่อน
“ให้ถามไม่เกินสามข้อ เกินกว่านี้จะไม่ตอบแล้ว”
“ได้ ไม่มีปัญหา งั้นคำถามแรกเลย ทำไมถึงไม่อยากกลับไปอยู่บ้าน”
“ก็มันไม่น่าอยู่ ...คำถามที่สอง”

เฮ้ยๆ เดี๋ยวสิวะ ตอบแบบกำปั้นทุบดินแบบนี้ กูก็เสียกำไรสิเว้ย!

“น้องธาร คำตอบไม่เคลียร์นะ” ผมท้วง หากแต่เด็กนั่นย้ำคำ
“คำถามที่สอง...” ส่งสายตาดุๆ มาให้ด้วย ผมเลยต้องใช้สมองอย่างหนักว่าควรจะถามอะไรดีที่ได้มาซึ่งคำตอบที่ต้องการ
คิดได้ครู่ก็ถามออกไปอีก
“น้องธารมีปัญหากับพ่อเลยไม่อยากกลับไปอยู่บ้านใช่มั้ย”

อันนี้มาจากการสันนิษฐานของผม ถ้ามีปัญหากับผู้ใหญ่ ที่บ้านของมันก็มีคนที่เป็นผู้ใหญ่แค่คนนี้คนเดียวเท่านั้น แต่ผมก็ไม่แน่ใจนักว่ามีปัญหากันแน่หรือเปล่า เพราะก็เห็นพ่อลูกยังคุยกันอยู่ถึงแม้ว่าจะคุยกันได้ไม่นานก็ทะเลาะกันตลอดเวลาก็เถอะ

คำถามนั้นทำเอาธารพ่นลมหายใจออกมาเต็มแรงแล้วพยักหน้า
“อืม”
“คุณพ่อทำอะไรให้เหรอถึงไม่อยากกลับไป” ผมกะว่าได้คำตอบมาก็จะเอามาประติดประต่อน่ะ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าคำตอบที่ได้จะมีประโยชน์เท่าไหร่

ทว่าก็คิดผิดเมื่อธารสบตาผมนิ่ง สายตาที่มองมาดูอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก นอกจากอึดอัดยังมีความเศร้าด้วย ก่อนที่ริมฝีปากหยักหนาจะเผยออก
“ถ้าเป็นพี่ พี่จะอยู่กับคนที่ฆ่าแม่ตัวเองได้โดยไม่รู้สึกอะไรมั้ยล่ะ ถึงจะคุยกันได้ก็เถอะ แต่ถ้าจะให้อยู่ด้วยนี่ทำไม่ได้ว่ะ เคยพยายามแล้ว แต่ทำไม่ได้”

ผมถึงกับชะงัก รู้อยู่ว่าแม่ของธารใจถูกยิงตายเพราะโดนลูกหลง แต่ที่ธารบอกว่าพ่อฆ่าแม่นี่หมายความว่ายังไง หมายถึงแม่ของเด็กนี่ไม่ได้โดนลูกหลงอย่างที่พี่สมรว่างั้นเหรอ? แล้วทำไมข่าวถึงออกมาแบบนั้นล่ะ

ผมอยากจะถามต่อเหลือเกิน แต่เห็นสีหน้าของคนตรงหน้าที่ดูสลดไปอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผมก็ไม่อยากจะถามต่อ ความอยากรู้อยากเห็นกับความหื่นในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นความสงสารขึ้นมา

ถ้าสมมติว่าพ่อฆ่าแม่จริงอย่างที่ธารว่า ผมก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเด็กนี่ถึงทำตัวเกเร ไม่อยากกลับไปอยู่บ้านแบบนี้ มันคือการเรียกร้องความสนใจอย่างหนึ่งนั่นเอง

“ถามครบสามข้อแล้วก็นอนเถอะ” ธารตัดบท
แต่ผมไม่อยากให้เด็กนั่นเข้านอนด้วยอารมณ์แบบนี้เลย พอธารลุกขึ้น ทำท่าจะไปปิดไฟอีกครั้ง ผมก็รีบคว้าข้อมือใหญ่เอาไว้ ธารเหลือบมองผมอย่างสงสัย ผมเลยรีบพูด
“พี่เหนือขอถามอีกคำถามนึงได้มั้ยครับ”
“ถ้าถามเรื่องที่บ้านอีก ไม่ต้องถามเลย” มันดักคอผมอย่างรวดเร็ว

แต่ขอโทษเถอะ ผมไม่ได้จะถามเรื่องนั้น จะถามเรื่องอื่นต่างหาก

เท่านั้นผมก็ดึงให้มันนั่งลงเหมือนเดิม ขยับไปใกล้ๆ มันแล้วก็ยิ้มให้
“ขอโทษที่พี่เหนือถามอะไรแบบนั้นออกไปนะ พี่เหนือไม่รู้ว่าปัญหาของน้องธารกับคุณพ่อจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถ้าพี่เหนือรู้ พี่เหนือจะไม่ถามเลย”
“ถามมาซะที” ตัดบทอีกแล้ว

วะ! อุตส่าห์จะเกริ่นให้รู้สึกดีก่อนแท้ๆ แล้วค่อยถาม งั้นก็ถามเลยแล้วกัน

“อยากให้พี่เหนือกอดมั้ย”
“ฮะ?” สีหน้าสลดเมื่อครู่หายไปทันตา กลายเป็นความตกใจที่จู่ๆ ผมก็โพล่งไปแบบนั้น
“พี่เหนือถามว่าอยากให้กอดมั้ย แบบว่ากอดปลอบน่ะ เอาปะ”
“กอดปลอบทำไม ไม่เอา”

ก็กะไว้อยู่แล้วล่ะว่าเด็กนี่จะต้องปฏิเสธ ทว่าผมไม่ยอมให้มันปฏิเสธง่ายๆ แล้วจบไปหรอก ผมเคยอ่านบทความมานะว่าการกอดทำให้คนเรารู้สึกดีขึ้นเวลาอยู่ในภาวะอารมณ์แย่ๆ โดยเฉพาะกับไอ้เด็กธารที่ผมบังเอิญไปสะกิดปมมันด้วยแล้ว ยิ่งต้องกอดปลอบใหญ่ รับประกันเลยว่าการเสนอตัวกอดมันครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพราะหอบหื่นกำเริบหรือจะลวนลามมันแต่อย่างใด แต่อยากจะปลอบใจจริงๆ

“นิดนึงน่า จะได้รู้สึกดีขึ้น”
“ไม่...”

ผมตอแย ธารก็ปฏิเสธ แต่แค่มันพูดได้คำเดียว ผมก็พุ่งเข้าไปรวบตัวมันมากอดแล้ว กดหน้ามันให้ซุกลงมาบนไหล่ตัวเอง มือที่กดท้ายทอยมันเมื่อครู่ก็ลูบไปมาเบาๆ ประหนึ่งกำลังโอ๋เด็กด้วย

“อะ...ไอ้พี่เหนือ!”
ธารโวยวายทันที ดิ้นออกจากอ้อมกอดผมด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ ผมรู้ตัวแหละว่าสู้แรงมันไม่ได้หรอก แต่ก็ขืนตัวไว้ กอดมันแน่นแล้วก็พูดไปด้วย
“นิ่งซะนะ แล้วก็ไม่ต้องรู้สึกแย่อะไรแล้ว ที่พี่เหนือถามไปเมื่อกี้ พี่เหนือขอโทษนะครับ อย่าคิดมากนะ” คราวนี้เอามืออีกข้างที่โอบหลังมันอยู่ลูบไปมา

ธารหยุดดิ้นได้ ตัวแข็งค้างราวกับตกใจนิดหน่อยที่จู่ๆ ก็ได้รับความอ่อนโยนแบบนี้ แต่ครู่เดียวก็ค่อยๆ ผ่อนคลายแล้วยอมให้ผมกอดแต่โดยดี

“อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปนะครับ พี่เหนือจะไม่ขอให้น้องธารยกโทษให้คุณพ่อหรอกนะ พี่เหนือเข้าใจ แต่อย่าเหมารวมว่าผู้ใหญ่ทุกคนไว้ใจไม่ได้ก็พอ ถึงพี่เหนือจะหื่น จะคิดลวนลามน้องธารบ่อยๆ แต่พี่เหนือเป็นที่พึ่งให้น้องธารได้เสมอนะ”
ได้ที ผมก็ปลอบไปอีก รอบนี้แอบพูดความในใจไปนิดนึง ทำเอาธารที่ซุกหน้าอยู่บนไหล่ผมว่าเสียงอู้อี้ออกมา

“พี่แม่งคิดจะกินเด็กจริงๆ ด้วย บอกแล้วไงว่าอย่าลวนลาม”
“ก็แค่คิดน่า ไม่ได้ทำจริงๆ ซะหน่อย ก็น้องธารน่ารักนี่นา พี่เหนือชอบ ชอบกว่าพี่ดื้ออีก” ผมหัวเราะ มือก็ยังไม่หยุดลูบหลัง แถมได้ทีก็หยอดใหญ่ หยอดประหนึ่งน้องธารเป็นหลุมขนมครก
“ยะ...หยุดพูดได้แล้ว” ธารว่าออกมาอีก คราวนี้พูดซะเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน

ผมไม่เห็นหรอกว่าเด็กนั่นทำหน้าแบบไหน แต่พอจะเดาได้ว่าป่านนี้ต้องหน้าแดงหูแดงไปแล้ว ฟังจากน้ำเสียงตะกุกตะกักนิดๆ ก็รู้แล้วล่ะว่าอยู่ในอารมณ์ไหน

“เอาเป็นว่าถึงพี่เหนือจะหื่นแต่ก็หวังดีกับน้องธารนะ ไม่ใช่แค่ในฐานะอาจารย์ แต่เป็นในฐานะ...อืม... พี่คนนึง”
 ธารไม่พูดอะไร พยักหน้ารับเล็กน้อยแล้วก็ปล่อยให้ผมกอดอยู่อย่างนั้นพักหนึ่ง พอผมผละออกมา ก็เห็นว่าใบหน้าขาวนวลของเด็กนั่นแดงเรื่อจนไม่มีพื้นที่ว่างให้สีเนื้อเลยแม้แต่เซนเดียว

โหย...น่ารัก ดาเมจความน่ารักแรงมาก เห็นแล้วอยากปกป้องจริงอะไรจริง

“มะ...มองอะไรเล่า นะ...นอนได้แล้ว”

ผมมองนานไปหน่อย ธารก็เลยโวยวายเบาๆ รีบเดินไปยังสวิตซ์ไฟ กดปิดอย่างรวดเร็ว ดูก็รู้ว่าตั้งใจจะซ่อนใบหน้าแดงๆ นั่นจากผม

ผมไม่ว่าอะไร ลอบยิ้มแล้วเอนตัวลงนอน กระทั่งธารเดินกลับมาทิ้งตัวลงบนฟูก ผมเลยแกล้งแหย่ไปอีกนิดหน่อย
“ถ้าเมื่อกี้กอดไม่พอ น้องธารจะให้พี่เหนือกอดอีกก็ได้นะ เห็นทำท่าเหมือนชอบ” ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียว ผมเอื้อมมือไปจะตวัดกอดด้วย

แต่ธารก็ยกเท้ามายันผมออกห่างได้ซะก่อน ตามมาด้วยการแผดเสียงใส่
“พอเลย เลิกตอด!”
แหม เขินก็เขินสิ ไม่ต้องทำร้ายร่างกายกันก็ได้

แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อแหละนะ ได้แต่หัวเราะกับท่าทางกระด้างกระเดื่องนั้นแล้วก็ตวัดผ้าห่มมาคลุมตัวให้คนข้างๆ
“เฮ้ย” ธารร้องออกมาอย่างตกใจ ผมเลยรีบพูดก่อนที่มันจะได้ด่าผมอีก
“นอนในห้องแอร์ต้องห่มผ้าด้วย เดี๋ยวเป็นหวัด พี่เหนือเป็นห่วง”

ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ กลับมา ผมไม่รู้ด้วยว่ามันทำหน้ายังไงเพราะปิดไฟมืดสนิทไปแล้ว เลยทิ้งตัวลงนอนบ้าง ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงธารดังขึ้นเบาๆ ขณะที่มันพลิกตัวตะแคงไปคนละฝั่งกับผม

“ขอบคุณ”

ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้อีกแล้ว หัวใจกระชุ่มกระชวยเพียงแค่ได้ยินคำขอบคุณสั้นๆ ถึงวันนี้จะไม่ได้เต๊าะอะไรแบบดุเด็ดเผ็ดมันส์ชวนให้เร้าใจ แต่การเต๊าะด้วยความละมุนละไมกลับทำให้ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายผมเต้นแรงกว่าการเต๊าะแบบไร้สติซะอีก
อยากปกป้องมันแฮะ อยากเป็นคนที่เด็กนี่พึ่งพาได้

ไม่รู้ทำไมถึงได้คิดอย่างนั้น แต่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

หรือผมจะชอบมันเข้าให้จริงๆ แล้ว?

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
ชั่งใจ ครั้งที่ 12: มันคงเป็นความรักที่ทำให้แสงเหนือยังหื่นอยู่อย่างนี้...[2]

คำตอบของคำถามเมื่อคืนก่อนจะผล็อยหลับมาชัดเจนเอาก็ตอนเช้าที่ตื่นมาแล้ว ตัวเองกลายร่างเป็นหมอนข้างให้ธารใจกอดนี่แหละ

ผมว่าผมชอบเด็กนี่เข้าแล้วล่ะ ไม่ได้ชอบแบบประเดี๋ยวประด๋าวซะด้วย ชอบแบบ...ชอบจริงๆ อยากดูแล อยากเป็นคนที่เด็กนี่มองหาก่อนคนแรกเวลามีปัญหาก่อนอะไรงี้

ยิ่งกว่าชอบน้องธารนั้น คือชอบไก่น้องธารยามเช้ามาก อู้หู ขันกระต๊ากอยู่ข้างขาแข็งขันเหลือเกิน งานดีมาก เหลือบไปมองแล้วอยากกินไก่เป็นๆ ทั้งขนอีกรอบ บอกได้เลยว่า...น้ำ-ลาย-สอ ดีที่ยังควบคุมสติได้ เลยได้แต่ลวนลามทางสายตา แล้วก็ต้องรีบทำตัวให้เป็นปกติเมื่อคนข้างๆ ตื่นขึ้นมามองผมทั้งที่ยังกอดผมอยู่

และโชคดีอีกอย่างคือตอนมันตื่นมา มันไม่ตกใจอะไรที่เห็นตัวเองเป็นฝ่ายกอดผมซะแนบชิด แค่พยักหน้ารับคำทักทายยามเช้าที่ผมทักไปเล็กน้อย แล้วก็ลุกไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปวิทยาลัย ส่วนผมก็อ้างว่าจะไปตามช่างมาตอกลูกบิดประตู แต่พลาดท่าไปหน่อย ตอนที่ควานหาโทรศัพท์จากในกระเป๋าสะพายข้าง ไอ้กุญแจห้องตัวดีดันหล่นออกมาจากกระเป๋าด้วย ธารก็เลยรู้ว่าจริงๆ แล้วผมไม่ได้ลืมกุญแจไว้ในห้องอย่างที่บอกในตอนแรก แต่จงใจแกล้งทำเป็นลืมเพื่อมานอนห้องมัน

เท่านั้นแหละ... งานงอกเลย โดนด่ามาชุดใหญ่ ด่าชนิดไม่เกรงใจตำแหน่งผมเลยว่าผมเป็นอาจารย์ฝึกสอนของมันนะ แต่ไม่เป็นไร ถือว่าคุ้มค่ากับการถูกด่าอยู่

ก็ความฟรุ้งฟริ้งของน้องธารใจมันช่วยเยียวยาหัวใจแสงเหนือเหลือเกินนี่นา

แถมหลังจากวันนั้น ความสัมพันธ์ของผมกับธารก็ดีขึ้นทีละน้อยอีกด้วย ที่ว่าดีขึ้นนี่ไม่ได้หมายถึงมีเรื่องชวนกิ๊บกิ้วมาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจหรอก แค่เด็กนั่นมันลดความแข็งกร้าวกับผมลงกว่าเดิมอีกระดับนึงน่ะ เราก็ยังคงทำทุกอย่างด้วยกันเหมือนเดิม กลับมาจากวิทยาลัยแล้วก็ไปวิ่ง วิ่งเสร็จก็ไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ถึงหอก็แยกย้ายเข้าห้องใครห้องมัน เป็นอย่างนี้ไปอีกอาทิตย์กระทั่งใกล้วันงานแข่งกีฬา

นั่นแหละจ้า ทุกอย่างเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไอ้น้องธารแม่งโหดมาก บังคับผมให้ซ้อมวิ่งหนักกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ผมมารู้เอาตอนนี้ว่าการแข่งขันกีฬากระชับความสามัคคีอะไรนี่ จริงๆ แล้วเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของนักศึกษาแต่ละแผนกเลยทีเดียว

พูดง่ายๆ ก็คือ พวกเด็กช่างมันจะประกาศศักดาว่าแผนกตัวเองแน่ แผนกตัวเองเจ๋งด้วยการกวาดรางวัลชนะเลิศจากกีฬาแต่ละประเภทให้ได้มากที่สุดน่ะ แล้วมันก็ลามมาซวยถึงผมที่เป็นผู้ช่วยอาจารย์ที่ปรึกษา มันบอกว่าแพ้การแข่งอะไรก็ไม่น่าอายเท่าแพ้การแข่งขันในเกมกีฬาที่อาจารย์ประจำแผนกลงแข่งด้วย เพราะมันหมายถึงการที่ตัวเป้งๆ ของแผนกมาประชันความแน่กันนั่นเอง
เด็กคนอื่นๆ ในแผนกก็เห็นด้วยเช่นกัน พวกมันก็เลยไซโคผมกันใหญ่ว่าถ้าผมแพ้ จะกระทืบให้จมดิน

เอ่อ...อันที่จริงไม่ควรเรียกว่าไซโค ควรเรียกว่าขู่ฆ่า

คือกูเป็นอาจารย์ฝึกสอนมั้ย! สติเว้ยสติ! ถ้ามึงอยากให้ตัวเป้งๆ ชนะจริง มึงก็ไปลากพี่สมรมาแข่งแทนกูโน่น!
แล้วพี่สมรลงแข่งมั้ยล่ะ...หึ ถ้าพี่สมรจะลงแข่งก็คงไม่ยัดเยียดให้ผมลงแข่งแทนหรอก

และเพราะเหตุนี้ผมเลยต้องฝึกวิ่งหนักกว่าเดิมเป็นเท่าตัว เรื่องวิ่งนี่ไม่น่าห่วง ที่น่าห่วงคือเรื่องกินแตงกวา ไม่ได้หัดกินแตงกวาเลยเถอะ ดูท่ายังไงก็แพ้แน่

แต่ผมก็ไม่บอกใครแม้แต่ธาร จนถึงวันที่จัดงาน ผมก็รู้ได้เลยว่าหายนะจะต้องมาเยือนอีกในไม่ช้าแน่ ทว่ามีใครสนผมล่ะ ไม่มี้! เอาแต่สนใจการแข่งกีฬาชนิดเอาเป็นเอาตายกัน น้องมายด์กับผองเพื่อนรุ่นน้องที่รับหน้าที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์ซึ่งดูยังไงก็เหมือนใส่ชุดหางเครื่องมาเชียร์มากกว่ายังเชียร์กีฬาอย่างเอาเป็นเอาตายเลย

จริงจังแค่ไหนก็ลองดู มันถึงขนาดลงทุนไม่อู้กำเมืองเลยนะ พอถาม มันก็บอกเหตุผลว่า...

“การเชียร์นักกีฬาจะต้องสตรองค่ะ จะมาสวยหวานอย่างสาวเหนือไม่ได้ วันนี้จะละเว้นการอู้กำเมืองวันนึง”

สตรองจริงๆ เห็นตอนมันสั่งให้สแตนด์เชียร์ร้องเพลงเชียร์นี่ หาความอ่อนช้อยในน้ำเสียงไม่ได้เลย เสียงแมนโคตร อย่างกับครูฝึกทหารสั่งทหารเกณฑ์ให้ร้องเพลง

เห็นความมุ่งมั่นของมันแล้ว ผมก็ไม่อยากจะบอกเลยว่าถึงจะไม่พูดเหนือก็ไม่ได้ทำให้กูชนะขึ้นมาหรอก เพราะมันมีแตงกวาในแข่งวิบาก!

ทว่าผมก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากภาวนาขอให้แตงกวาถูกเปลี่ยนไปเป็นของกินอย่างอื่น แล้วก็เบนความกังวลไปสนใจการแข่งกีฬาของพวกนักศึกษาแทน โดยเฉพาะการแข่งที่มีน้องธารลงแข่งด้วย

แข่งวิ่งร้อยเมตร ธารชนะไปได้โดยไม่มีคู่แข่งสูสี ผมไม่แปลกใจนักหรอก ก็ซ้อมวิ่งทุกวันอย่างนั้นน่ะ แถมความยาวช่วงขาก็เป็นต่อคู่แข่งเห็นๆ เอาชนะไปได้แบบใสสะอาดมาก

อีกเกมที่ธารลงแข่งก็คือวอลเลย์บอล อันนี้ธารไม่ได้ตั้งใจจะลงแต่ถูกน้องมายด์จับยัด ซึ่งแน่นอนว่าน้องมายด์เองก็ลงแข่งเช่นกัน

พอถึงเวลาแข่ง เครื่องประดับขนนกที่เสียบหัวยาวเป็นหนวดตั๊กแตนก็ถูกถอดออก ชุดเชียร์ลีดเดอร์กรุยกรายก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นเสื้อทีมของแผนกช่างไฟ เชียร์ลีดเดอร์คนอื่นๆ ที่เป็นสาวน้อยร่างยักษ์เหมือนน้องมายด์ก็ลงแข่งด้วย เรียกได้ว่าในทีมของแผนกช่างไฟ มีแค่ธารใจคนเดียวที่เป็นผู้ชายแท้ๆ คนอื่นก็สตรีเหล็กกันหมด

ในเมื่อมีสตรีเหล็ก อีกฝ่ายก็เป็นสตรีเหล็กเช่นกัน ผมไม่แปลกใจละว่าทำไมน้องมายด์ถึงบังคับให้ธารลง เพราะดูเหมือนว่าธารจะเป็นคนดังของวิทยาลัยพอสมควร พูดง่ายๆ คือนอกจากจะเป็นอันธพาลอันดับต้นๆ แล้ว ยังเป็นหนุ่มป็อปอีกด้วย แค่เดินลงสนามไป อีกทีมก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดขึ้นมาทันที ไม่เว้นแม้แต่กองเชียร์ทั้งของแผนกตัวเองและแผนกอื่นๆ

แต่พอสัญญาณการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น จากเสียงกรี๊ดกร๊าดก็เปลี่ยนเป็นเสียงกรี๊ดเพราะความตกใจระคนเจ็บปวดแทน

ก็จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง ก็ไอ้ธารใจมันตบลูกวอลเลย์ฯ อัดตุ๊ดฝั่งตรงข้ามแบบไม่เบามืออย่างนั้น ไม่ร้องก็บ้าแล้ว

ตบอัดจริงๆ ตบอัดอย่างไร้เมตตา ถูกหามออกจากสนามกันไปหลายราย ส่วนน้องมายด์กับสมาชิกทีมที่เหลืออยู่ก็ตีมือกันด้วยความดีใจที่การแข่งขันเป็นไปอย่างราบรื่น

อีน้องมายด์... แผนการมึงชั่วมาก เอาผู้ชายเข้าหลอกล่ออีกฝ่ายให้ตายใจแล้วจัดการเชือดทีเดียวตายหมดแผง

สรุปแผนกช่างไฟก็คว้ารางวัลชนะเลิศในการแข่งขันวอลเลย์บอลไปครอง แข่งเสร็จ ก็ถึงทีของการแข่งขันของตัวเป้ง
แข่งกินวิบาก...

ผมเดินลงสนามมาประจันหน้ากับอาจารย์ที่ปรึกษาของแผนกอื่นๆ มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย รุ่นไล่เลี่ยกับผมและอายุมากกว่า โฆษกสนามซึ่งเป็นอาจารย์เหมือนกันแนะนำอาจารย์แต่ละแผนกให้นักศึกษาได้ร้องเชียร์ แผนกอื่นมันก็ร้องเชียร์ด้วยชื่ออาจารย์กันปกตินะ แต่พอถึงทีผมปุ๊บ เด็กในแผนกมันไม่เรียกอาจารย์เหนือกันว่ะ แต่มันเรียก...

“ออโรราสู้ๆ! ออโรราสู้ตาย! ออโรราไว้ลาย! อยากกินผู้ชายต้องสู้!”
“ออโรราน่ารัก คึกคักเวลาอ้อยเล่น ออโรราใจเย็นๆ เวลาอ้อยเล่นน่ารักๆ!”
“ซู่...ซ่า! ซู่ๆ ซ่าๆ ปาทังก้า ปาทังกี้ ซู่ๆ ซี่ๆ ปาทังกี้ ปาทังก้า ออโรราซู่ซา ออโรราเซ็กซี่ ผู้ชายมากมี ออโรราซู่ซ่า!”

ออโรราป้าพวกมึง กูชื่อแสงเหนือเว้ย! แล้วเพลงที่พวกมึงร้องเชียร์นี่มันอะไร!

ปวดหัวหนักมาก อีน้องมายด์แน่ๆ ที่เปลี่ยนเนื้อเพลงเนี่ย เห็นมันไปยืนเต้นเย้วๆ สั่งให้สแตนด์เชียร์ร้องใหญ่ ผมนี่อยากจะวิ่งไปกระโดดถีบมันเหลือเกิน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่แค่มันที่เชียร์ให้สแตนด์ร้องเพลง โรมกับจอมแก่นเองก็เช่นกัน ขนาดไอ้เด็กธารมันยังเอากับเค้าเลย

เดี๋ยวเถอะพวกมึง เดี๋ยวได้โอกาสเมื่อไหร่ กูจะเอาคืนให้แบบทบต้นทบดอก!

ผมทำหูทวนลม เข้าประจำที่เมื่อถูกเรียกให้เตรียมพร้อม พอกรรมการสั่งให้เริ่มแข่งขันปุ๊บ ผมก็ออกวิ่งจากจุดสตาร์ทอย่างรวดเร็ว ด้วยความที่ผมซ้อมวิ่งมาพอสมควรเลยทำให้คล่องตัวไม่น้อย กอปรกับอายุน้อยกว่าใครเพื่อนเลยออกตัวได้ไวกว่า มาถึงด่านแรกที่เป็นเป่าแป้งแล้วคาบเหรียญออกมา ผมก็จัดการผ่านไปได้โดยง่าย วิ่งไปจัดการยัดขนมโก๋อันเท่ากระเบื้องมุงหลังคาวัดเข้าปากในด่านที่สองทันที

เสียงร้องเชียร์ดังลั่นจนจับคำไม่ได้ ฟังออกอยู่คำเดียวคือออโรราๆ

อ้อ มีที่ฟังออกอีกอย่างคือ...

“ถ้าแพ้จะกระทืบให้จมเลยนะเว้ยออโรรา!”
“อย่าแพ้นะเว้ย ศักดิ์ศรีของแผนกช่างไฟอยู่บนบ่านะ!”
“ชนะอย่างเดียวนะออโรรา! กินเร็วๆ เข้า ยัดห่าเข้าไปเลย!”

ไม่รู้ใครต่อใครตะโกนบ้าง แต่เสียงของแผนกช่างไฟปีสามแน่
ส่วนผมอยากจะบอกกับพวกมันว่า... พวกมึงมาลงแข่งกันเองเลยไอ้พวกเด็กเวร!

เคี้ยวขนมโก๋ตุ้ยๆ ไป ตาก็มองค้อนพวกมันอย่างขุ่นเคือง แม่ง พี่สมรนะพี่สมร ลงแข่งกินวิบากนี่มันภารกิจระดับชาติชัดๆ!
แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ผ่านมายังด่านต่อไปก่อนคนอื่นอยู่ดี ด่านต่อไปก็เป็นการกินกล้วยตาก ผมก็ยังผ่านไปด้วยดีแม้ขนมโก๋จากด่านก่อนจะทำฝืดคอไปมากโขก็ตาม

จัดการกับกล้วยตากห้าชิ้นเสร็จ ผมก็วิ่งไปยังด่านสุดท้าย ผ่านด่านนี้ก็ไปเคาะระฆัง ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้น แต่ด่านสุดท้ายนี่มันด่านมหาหินสำหรับผม เพราะพอผมทรุดตัวนั่งปุ๊บ สายตาก็เหลือบเห็นแตงกวาดิบที่ยังไม่ได้ปอกเปลือกขนาดเท่าฝ่ามือในตะกร้าห้าลูกเน้นๆ

เท่านั้นขนมโก๋กับกล้วยตากที่กินไปเมื่อกี้ก็แทบพุ่งออกมาทางเดิม ยิ่งหยิบมันขึ้นมาหักครึ่ง ตั้งท่าจะกินด้วยแล้ว ผมก็เกือบจะสำรอกของในกระเพาะออกมาทันใด

หึย...เหม็นเขียวโคตร ขนาดปอกเปลือกก็แทบกินไม่ได้แล้ว นี่ไม่ได้ปอก แถมไม่ได้แช่เย็น ไม่ต้องถามเลยว่าจะกินได้หรือไม่
มันก็ต้องไม่ได้อยู่แล้ว!

ผมวางแตงกวาทิ้งลงในตะกร้าทันที ทำท่าจะยอมแพ้ด้วย กะว่าถ้ากรรมการหันมาก็จะยกมือขอแพ้ไปเลย ทว่าพอผมทำท่าละล้าละลังไม่ยอมกินอย่างนั้น เสียงน้องมายด์ที่ยืนเชียร์อยู่ข้างสนามก็ดังลอยมาให้ได้ยินทันที

“ทำอะไรน่ะเจ้! กินเข้าไปเร็วๆ เซ่! ตาแก่หัวล้านนั่นจะกินเสร็จอยู่แล้วนะคะ!”

ตาแก่หัวล้านคืออาจารย์สอนพละและอาจารย์ที่ปรึกษาแผนกช่างยนต์ปีสาม ผมหันไปมองก็เห็นตาหัวล้านนั่นวิ่งมาหยุดด่านข้างหลังผม ยัดกล้วยตากชิ้นแรกเข้าปากอย่างเมามันส์ ก็ใช่ว่าผมอยากจะยอมแพ้หรอก อุตส่าห์วิ่งนำชาวบ้านชาวช่องมาถึงขนาดนี้แล้ว มาจอดเอาตรงแตงกวานี่แหละ

“กินเข้าไปซะทีสิโว้ยอีเจ้!” น้องมายด์ตะโกนมาอีกเมื่อเห็นผมยังคงนั่งนิ่งอยู่เหมือนเดิม แถมรอบนี้ยังตะโกนด้วยเสียงที่แมนโคตรๆ อีกด้วย จากเดิมที่แมนอยู่แล้ว เพิ่มความแมนเข้าไปอีกสิบระดับ

หันไปมองหน้ามันแล้วก็เสียวมันจะพุ่งเข้ามาตีเข่าใส่ชะมัด ท่าทางมันอย่างกับเชียร์มวยไม่มีผิด ชุดเชียร์ลีดเดอร์ที่ใส่นี่ไม่ได้ทำให้มันดูอ่อนโยนขึ้นเลยแม้แต่น้อย

ผมกลั้นใจหยิบแตงกวาขึ้นมาอีก ตัดสินใจว่าจะหลับหูหลับตากินๆ ไป แต่สุดท้ายก็ต้องวางลงที่เดิม

มะ...ไม่ไหวจริงๆ ว่ะ โคตรเหม็นเขียว...

“อีเจ้! กินสิยะ! กิน!” น้องมายด์ตะโกนมาอีกละ ส่วนผมก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้หันไปทางมัน
“แต่พี่เหนือ...”
“ถ้าเจ้กิน จะประเคนผัวหลวงโรมที่รักให้เอาไปปลุกปล้ำจนหนำใจเลยเอ้า!”

พูดยังไม่ทันจบ มันก็แหกปากมาอีก ทำเอาโรมที่ยืนเชียร์อยู่ข้างๆ ทำหน้าเหวอจนเกือบจะพุ่งเข้าไปตบกะโหลกมันอยู่แล้วถ้ามันไม่โพล่งขึ้นมาอีก

“ถ้าไม่พอ แถมจอมแก่นเข้าไปด้วยอีกคนก็ได้ กินเร็วเข้าเจ้!”
คราวนี้จอมแก่นตกใจบ้างละ แต่...

เอาผู้ชายมาล่อ กูก็กระเดือกไม่ลงหรอกเว้ย! บอกแล้วไงว่ามันเหม็นเขียว พูดไม่รู้ฟัง!

ตอนนี้ธารที่มองอยู่เหมือนจะหงุดหงิดที่ผมไม่ยอมกินสักทีขึ้นมาบ้างแล้ว เลยตะโกนขึ้นมาด้วยอีกคน
“พี่เหนือ! กินสิวะ!” ท่าทางเหมือนจะเข้ามากระทืบผมให้ได้เลยด้วยเถอะ

หากทว่าการตะโกนนั้นเป็นการเปิดโอกาสให้น้องมายด์ยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้ผมอีกที
“ธารบอกว่าถ้าเจ้กิน ธารจะยอมได้เสียเป็นผัวเมียกับเจ้นะ!”
“เฮ้ย!”/ “อะไรนะ!”

ผมกับธารแหกปากขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน ไอ้ที่ร้องด้วยความตกใจน่ะของธาร ส่วนผมนี่ฮึกเหิมขึ้นมา ฟีลอย่างกับชาวบ้านบางระจันเตรียมออกรบไม่มีผิด

แตงกวากูอยู่ไหน เอามาประเคนเดี๋ยวนี้!

แสงเหนือปอบลงทันที แตงกวาก็แตงกวาเถอะ ยัดทะนานเข้าไปแบบลืมไปหมดว่ากลิ่นมันเหม็นเขียวแค่ไหน ยัดครบห้าลูก กลืนลงท้องเสร็จก็รู้เรื่องเลย

จะ...จุก...

ไอ้ผักน้ำเยอะแถมเหม็นเขียวนี่จะเอามาใส่ในรายการทำไมวะ!

ผมค่อยๆ พาลุกขึ้น ลิ้นปี่จุกเสียดจนผมต้องกุมบริเวณนั้นไว้มั่น กัดฟันเดินเร็วๆ มายังระฆังที่อยู่ยังเส้นชัยอย่างยากลำบาก
ทั้งจุก ทั้งอิ่มจนอยากจะอ้วก ร่างกายบอกว่าไม่ไหวๆ แต่ใจผมนี่ท่องไว้ประโยคเดียว...

ได้เสียเป็นผัวเมียกับน้องธาร... ได้เสียเป็นผัวเมียกับน้องธาร...

ถึงธารใจจะไม่ได้พูด เป็นการยัดเยียดโดยอีน้องมายด์ก็เถอะ แต่บอกเลยว่าทำให้ผมฮึดมาก อึดใจเดียว ผมก็เข้าเส้นชัยพร้อมกับเคาะระฆังจนได้ กรรมการเป่านกหวีดปรี๊ดเป็นสัญญาณให้รู้ว่าได้ผู้ชนะแล้ว พวกเด็กแผนกช่างไฟร้องเฮกันอย่างกับจะออกศึกทันที

ส่วนผม...

เดินเซ... อยากจะลงไปนั่งอ้วกเต็มแก่
เพิ่งจะอายุยี่สิบสอง แต่สังขารแลดูจะไม่เที่ยง หน้ามืดตาลาย จะตายห่านกลางทางให้ได้

ท่าทางของผมทำให้โรมกับธารวิ่งเข้ามาประคองทันที โดยมีจอมแก่นวิ่งถือกล่องปฐมพยาบาลเข้ามาหา ประคองผมได้ก็พาไปนั่งข้างหลังสแตนด์เชียร์ จอมแก่นส่งแอมโมเนียให้ผมดม แล้วน้องมายด์ก็วิ่งแรดๆ เข้ามาถามด้วยน้ำเสียงตกใจ

“เจ้ เป็นไงบ้างคะ!”
มึงยังจะถามอีกเหรออีตุ๊ดนรก! กูจะท้องแตกตายเป็นชูชกก็เพราะมึงเนี่ย!

อยากจะด่ามันเหลือเกิน แต่ไม่มีแรง ดมแอมโมเนียลูกเดียวเลย โรมกับจอมแก่นก็เข้ามาบีบนวดมือกับขาผมเป็นการใหญ่ ธารเดินไปรินน้ำแดงชงมาให้ แต่ผมก็จิบได้นิดเดียวเท่านั้น จิบมากเกินกว่านี้ อ้วกได้พุ่งแน่

ส่วนอีน้องมายด์... ตั้งสติได้ มันก็ยิ้มเผล่
“แหม ตอนแรกทำท่าเหมือนจะไม่กิน แต่พอบอกว่าจะได้เสียเป็นผัวเป็นเมียกับธารก็ฮึดใหญ่เลยนะ”
“ไอ้ไม้ ถ้ามึงพูดอีก กูจะเทน้ำแดงราดหัวมึงเลย” ธารมองค้อนมันทันที

ส่วนผมก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่าที่ชนะก็เพราะคำพูดประโยคนี้แหละ เลยมองหน้าธารเล็กน้อยด้วยสายตาประมาณว่า ‘ชัยชนะครั้งนี้เพื่อน้องธารคนเดียวเลยนะครับ’ แต่ธารไม่สนใจ สบตาผมเล็กน้อยแล้วก็หันไปมองขวางใส่น้องมายด์อีกเมื่ออีกฝ่ายพูดขึ้น

“เอ้า ก็จริงนี่นา เจ้แกเล่นยัดแตงกวาพรวดๆ แบบนี้ แสดงว่ากำลังใจดีมาก แหม เจ้นี่ไม่ธรรมดานะคะ เอาผู้ชายเข้าล่อหน่อยเดียว ฮึดใหญ่เชียว”
แค่น้องธารคนเดียวเท่านั้นแหละเว้ย โรมกับจอมแก่นไม่เกี่ยว!
“ไปไหนก็ไปเลยไอ้ไม้ โน่น จะแข่งกีฬาใหม่แล้ว ไปเฝ้าสแตนด์มึงไป” ธารออกปากไล่ก่อนน้องมายด์จะได้พูดอะไรไร้สาระไปมากกว่านี้
“แหมๆ ไล่ใหญ่เลยนะ ใช่ซี่ เจ้เหนืออยู่ตรงนี้แล้วนี่ ของเก่าอย่างมายด์ก็ไม่สำคัญแล้วล่ะสิ”
“ยังไม่ไปอีก!”

ธารทำท่าจะสาดน้ำแดงในมือจริงๆ น้องมายด์เลยวิ่งกลับไปทางเดิม แต่ก็ไม่วายส่งเสียงหัวเราะคิกคักทิ้งท้าย ไม่ไปคนเดียวด้วย ลากโรมไปอีกเพราะโรมจะต้องลงแข่งกีฬาประเภทถัดไป เพิ่งถอดเฝือกออกแท้ๆ ความจริงไม่น่าลงแข่งอะไรเลย แต่ดีที่การแข่งขันรอบต่อไปคือฟุตซอล ผมเลยไม่เป็นห่วงมากว่าโรมจะต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะกระดูกแขนร้าวอีก

พอโรมกับน้องมายด์ไป จอมแก่นก็ขอตัวด้วยเมื่อเห็นผมมีอาการดีขึ้นเพราะต้องไปคอยดูแลฝ่ายสวัสดิการส่วนอื่น ผมพยักหน้าให้เป็นเชิงว่าไปไหนก็ไปเถอะ กูจะได้อยู่กับน้องธารใจที่รักสองต่อสองซะที แต่พอทุกคนไปปุ๊บ ไอ้เด็กธารมันก็จะไปบ้างทันใด

“ถ้าดีขึ้นแล้ว ผมไปเชียร์เพื่อนต่อนะพี่”
“เดี๋ยวสิน้องธาร” ผมรีบคว้าชายเสื้อมันเอาไว้ ธารหันมาเลิกคิ้วมอง ผมเลยได้ทีทวงรางวัล “พี่เหนืออุตส่าห์ชนะแล้ว น้องธารจะไม่ให้อะไรรางวัลพี่เหนือหน่อยเหรอครับ”
“อะไรของพี่เนี่ย อยากได้ก็ไปทวงไอ้ไม้โน่น ผมไม่ได้ตกลงอะไรด้วยสักหน่อย” มันโวยวายทันที ผมเลยทำปากยู่
“แหม แต่พี่เหนือฮึดขึ้นมาเพราะประโยคนั้นจริงๆ นะ”
“ได้เสียกับพี่นี่ไม่ไหวมั้ง อยากได้เสียก็ไปได้เสียกับไอ้ไม้เถอะ”

ทำอย่างนั้น ฟ้าก็ได้ผ่ากูพอดีน่ะสิวะ! แล้วดูเบ้าหน้าเพื่อนมึงด้วยว่าน่าได้เสียมั้ย พูดมาได้ไม่คิด!

“แต่พี่เหนือทำเพื่อน้องธารจริงๆ นะ น่าจะมีอะไรตอบแทนหน่อย นิดนึงก็ยังดี ไม่เห็นเหรอว่าเมื่อกี้พี่เหนือเกือบสำลักแตงกวาตายเลยนะ คนไม่ชอบกินแตงกวาอย่างพี่เหนือยอมกินแตงกวานี่ก็เพื่อน้องธารคนเดียวเลย” ผมเผลอเต๊าะมันอย่างไม่รู้ตัว ธารก็เลยทำหน้าแหยงๆ ใส่ผม
“เอาอีกละ เป็นปลาสวายอีกละ”
“ก็น้องธารน่ารักนี่นา พี่เหนือชอบ” ผมว่าไปตามตรง อันนี้ก็เต๊าะนะ แต่ผสมความจริงเข้าไปด้วย

และพูดแค่นั้น จากที่ทำหน้าแหยงๆ อยู่ก็กลายเป็นว่าหน้าแดงขึ้นมาทันใด
“อ๊ะๆ หน้าแดง” ผมได้ทีก็ล้อเลียน ชี้นิ้วไปที่หน้ามันด้วย ธารเลยปัดมือผมออกซะเต็มแรง
“ยะ...อย่ามาชี้หน้านะเว้ย!”
“ไม่ให้รางวัลแล้วยังจะมาตีเค้าอีก”
“ก็บอกแล้วไงว่าถ้าอยากได้รางวัลก็ไปเอาที่ไอ้ไม้!”
“นิดเดียวก็ไม่ได้เหรอ แบบว่าหอมแก้มอะไรงี้” ผมต่อรอง ทำให้ธารหน้าแดงจนลามไปยังหู
“ไม่! จะไปเชียร์ไอ้โรมแล้ว!”

 ผมย่นจมูกใส่ เอาเถอะ ช่วยไม่ได้ ก็ธารไม่ได้เป็นคนยื่นข้อเสนอนี่นา น้องมายด์มันพูดเองเออเองคนเดียว ผมเองก็บ้าจี้ไปกับมัน จะมาทวงรางวัลกับคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มันก็ไม่แฟร์

ผมเลยโบกมือเป็นเชิงบอกให้มันไป แล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้พลาสติก กะว่ารอให้หายเหนื่อยก่อน จะเข้าไปตากแอร์นอนเล่นในห้องพยาบาล

หากแต่ธารที่เดินไปแล้วเดินกลับมาอีกเรียกสายตาผมไป ผมเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่ามันยกมือแตะริมฝีปากตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมาแตะแก้มผมเบาๆ

“อะ...เอาไป ให้ได้แค่นี้แหละ” พูดแบบไม่มองหน้าด้วย
ฟะ...ฟินแรงมาก! ไอ้เหนือแทบจะลงไปดิ้นพราดๆ บนพื้น ทำไมเด็กนี่มันน่ารักได้ขนาดนี้!

ผมยิ้มกว้างอย่างหุบไม่ได้เลย จังหวะที่ธารหันมามองพอดี ผมก็เลยถูกหยิกแก้มซะเต็มแรง
“ยิ้มบ้าอะไร เลิกยิ้ม!”
“โอ๊ยๆ เจ็บๆ!”

กว่ามันจะปล่อยได้ก็เล่นเอาแก้มผมแทบย้วย หน้าชาไปครึ่งซีกเลยให้ตาย ขณะที่ตัวการทำหน้าบึ้งแล้วก็เม้มปากแน่นครู่หนึ่ง ก่อนสั่งออกมา

“อย่าเอาไปบอกใครเข้าใจมั้ย”
“ทำไมล่ะ” ผมยียวนด้วยอยากจะแกล้งให้ธารเขินกว่าเดิม
แต่สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นผมที่เป็นฝ่ายเขินแทน
“ถ้าอยากให้ทำอีกก็อย่าเอาไปบอกใคร”

จะ...จ้า! ไม่บอกจ้า เหยียบให้สนิท เหยียบให้มิดจมดินเลย ทำกับพี่เหนืออีกบ่อยๆ นะ ขอมากขึ้นกว่านี้ด้วย ชอบ!

พยักหน้ารัวเลย ธารมองผมแล้วก็ยกมือลูบท้ายทอยตัวเองแก้เขินนิดหน่อย แล้วก็ชี้โบ๊ชี้เบ๊
“งะ...งั้นไปละ ไอ้โรมมันจะแข่งแล้ว”
“ครับน้องธารของพี่เหนือ” ผมยิ้มให้

เท่านั้นธารก็เดินไป จังหวะที่มันหันหลังให้ ผมแอบเห็นด้วยว่าซีกหน้าของเด็กนั่นมีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นมา

ละ...หล่อโคตร

ละลาย... ละลายไปเลย ไหน หันกลับมายิ้มให้พี่อีกทีซิ

ไม่ทันละ มันเดินไปโน่นแล้ว มองตามหลังแล้วผมก็ใจเต้นตึกตัก

ชอบเด็กนี่จริงๆ ด้วย ไม่ใช่ชอบธรรมดาหรือชอบแบบอยากปกป้องแล้ว ตอนนี้คือชอบแบบอยากได้อยากโดน ไม่ใช่อยากได้อยากโดนแบบชั่วคราวแล้วก็จบด้วยนะ คือ...อยากได้เป็นแฟน

อา...  มันคงเป็นความรักที่ทำให้แสงเหนือยังหื่นอยู่อย่างนี้...

น้องธารนะน้องธาร ขโมยหัวใจพี่เหนือไปแบบไม่รู้ตัวซะแล้ว
-----------------------------------------------
ตอนนี้อันที่จริงซึ้งนะ แล้วดูนังพี่เหนือ 555 สักวันคงจะได้จะโดนนะคะพี่เหนือ กร๊ากกก
น้องธารยังคงมุ้งมิ้งเช่นเคย เป็นเมะที่น่ารักมากๆ แงงง ชอบผู้ชายขี้อาย แอบยิ้มด้วยคืออัลไลลล
ฮือ... ดีงามกรุบกรอบมาก ปมของน้องธารก็ค่อยๆ โผล่มาอีกนิดแล้วนะคะ อีกหลายตอนทีเดียวกว่าจะเฉลยทั้งหมด
ตอนนี้ที่จริงกะจะอัพไม่เกินเที่ยงคืน แต่ไม่ได้เขียนหลายวันเกิน อารมณ์มันไม่ต่อเนื่องเลยต้องบิวท์นานหน่อย อีกสัก 1-2 วันจะมาอัพตัวอย่างให้นะ ส่วนตอนใหม่ก็อาทิตย์หน้าเลยค่ะ ช่วงนี้หนูแดงวุ่นอยู่กับการทำหนังสือ ขอเวลาเคลียร์ภารกิจระดับชาติก่อนเน้อ ช่วงเดือนหน้าคงจะมาอัพให้ได้เต็มสูบค่า XD
ปล. ฝากส่งฟีดแบ็กกันหน่อยน้าตัวเอง

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ฟินอีกแล้ว ฟินอย่างต่อเนื่อง คนเขียนเขียนเก่งมากๆเลย ทำคนอ่านยิ้มไม่หุบ ขอบคุณมากๆน้า รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :hao6: :katai4:

ออฟไลน์ ►MoNkEy-PrInCe◄

  • อินเตอร์ไลน์
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 728
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
กำลังสนุกเลย มาต่อไวๆนะ

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พี่เหนือดูท้นทนเนอะะะ  ทำทุกอย่างเลย เพื่อจะเต๊าะน้องธาร 555

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ฟินไปกะน้องธาร น่ารัก มุ้งมิ้ง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด