++หมอครับ... ผมอยากมีลูก [MPREG] ++ แจ้งข่าว หน้า 1
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ++หมอครับ... ผมอยากมีลูก [MPREG] ++ แจ้งข่าว หน้า 1  (อ่าน 123960 ครั้ง)

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5
น่ารักอบอุ่นจริงๆ

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
น้องกัสน่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
แหม่ๆๆ หมอก็แคร์น้องเหมือนกันเนอะ
 :o8:

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS

-3-

   อันที่จริงแล้วแค่ทานข้าวเฉยๆ ล่ะก็ หมอคงพอเจียดเวลาให้น้องได้บ้างหรอกครับ ถ้าไม่ใช่เพราะความป้ำๆ เป๋อๆ มัวแต่คิดเรื่องอื่นจนลืมไปว่าไม่เคยขอเบอร์ซูกัสไว้เลย กว่าจะได้เจออีกทีก็วันหยุดของอาทิตย์ต่อมาที่เขาแวะมาหาเองนั่นแหละ

   หลังจากจัดการเอกสารต่างๆ ที่คั่งค้างเรียบร้อยผมก็เดินพาซูกัสกลับมานั่งกินอะไรอยู่ที่ร้านเก่าที่เคยพาเขามาวันก่อน นั่งภาวนาไปตลอดมื้ออาหารว่าคงไม่มีใครโทรมาขัดจังหวะนี้

   “หมอรู้ได้ไงว่าผมชอบกินข้าวผัดอเมริกัน” เด็กน้อยเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าแปลกใจ เมื่อหมอสั่งอาหารนั้นให้เขาไม่รวมกับข้าวอย่างอื่นที่เพิ่มเติมมา

   “ก็เพราะว่าเราเคยซื้อมาฝากหมอไง”

   “แค่นั้นน่ะเหรอ?”

   “ถ้าจะให้พูดยาวๆ ก็คงเพราะว่าเวลาซื้อของไปฝากคนที่ไม่รู้จัก เราก็จะไม่รู้ว่าเค้าจะชอบอะไร เราก็ต้องเลือกซื้อของที่เราชอบกินก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถ้าเกิดอีกฝ่ายปฏิเสธไม่รับเราก็ต้องเอากลับมากินซะเองใช่ไหมล่ะ?”

   “แค่ข้าวกล่องเดียวนี่วิเคราะห์ได้ขนาดนี้เลยเหรอ? นี่หมอหรือโคนันเนี่ย?”

   “หมอก็พูดไปงั้นแหละ จริงๆ ก็แค่เดาน่ะ”

   “เหรอครับ แต่หมอทายถูกนะ ผมก็ชอบกินจริงๆ นั่นแหละ”

   “แล้วถ้าจะให้เดาเพิ่ม ความจริงข้าวกล่องนั้นน่ะเราตั้งใจซื้อมากินเองด้วยใช่ไหม? แต่เปลี่ยนใจยกให้หมอทีหลัง”

   “ทำไมหมอคิดงั้นล่ะ?”

   “ก็เพราะว่าเราน่ะแอบตามหมอมาไง ตามกลับมาทันทีที่หมอถึงบ้าน ดังนั้นการที่หมอยังไม่ได้กินข้าวเย็นน่ะเป็นเรื่องที่เพิ่งรู้ตอนนั้น จะแวะไปซื้อข้าวทีหลังก็คงไม่ได้ แสดงว่าซื้อล่วงหน้าไว้อยู่แล้ว”

   “เอ่อ... ผมอาจจะกินที่ร้านแล้วซื้อฝากด้วยก็ได้นี่นา”

   “ถ้ากินที่ร้านด้วยแล้วทำไมใบเสร็จที่อยู่ในถุงข้าวมันถึงระบุข้าวแค่กล่องเดียวล่ะ?”

   “อะ....โธ่หมอ... วิเคราะห์ตั้งนานทำไม มีหลักฐานอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

   “หึหึ แค่อยากรู้น่ะว่าถ้าถามเฉยๆ แล้วจะตอบไหม หมอแปลกใจว่าทำไมต้องซื้อฝาก ถ้ากัสอยากจะมากินข้าวด้วยสู้ดักรอแล้วชวนกินระหว่างทางน่าจะง่ายกว่าซื้อมาฝากเยอะ กัสรู้ได้ยังไงว่าหมอจะไม่แวะกินข้าว”

   “ครับ ความจริงก็อย่างที่หมอว่าแหละ กัสแค่อยากรู้ว่าบ้านหมออยู่ไหน เลยรอหมอกลับบ้าน แต่หมอไม่เลิกงานซะทีแล้วตอนนั้นนั้นกัสเกิดหิวเลยไปซื้อข้าวมากินระหว่างรอหมอแต่กลัวกินที่ร้านแล้วจะนานก็เลยห่อกลับมา แต่ยังไม่ทันที่จะกินข้าวหมอก็ลงจากตึกมาก่อน กัสก็เลยขับรถตามหมอมา แล้วหมอก็ไม่ได้แวะทานข้าวที่ไหน กัสเป็นห่วงก็ยกข้าวของตัวเองให้หมอแทน”   

   “แล้วทำไมต้องเอาข้าวให้หมอด้วยล่ะ ตัวเองก็คงหิวเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”

   “ยังไงขากลับผมไปหากินที่อื่นเอาก็ได้ แต่หมอถึงบ้านแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าบ้านหมอมีของกินหรือเปล่า ผมก็เลย...”

   “ขอบใจนะกัส นิสัยชอบเสียสละแบบนี้เป็นหมอได้เลยนะ”

   “ไม่หรอกครับ ผมคงเสียสละความสุขส่วนตัวให้คนที่ไม่รู้จักมากมายแบบหมอไม่ได้ แล้วอันที่จริงผมก็ไม่ได้อยากเป็นหมอด้วย ผมอยากมีแฟนเป็นหมอต่างหาก”

   “หยอดใส่ทุกทีที่เจอเลยนะ กลัวหมอไม่ใจอ่อนเหรอไง?”

   “ทุกทีที่ว่านี่ตั้งกี่วัน แค่ข้าวมื้อเดียวกว่าจะได้กินผมรอจนเหงือกแห้งแล้วเนี่ย”เขาทำเสียงกระเง้ากระงอด

   “อยากเจอทุกวันก็มาหาที่โรงพยาบาลสิ จะว่าไปตอนนี้แม่บ้านเหมือนจะขาดนะ”

   “โหย... นี่ผมต้องลงทุนไปสมัครเป็นแม่บ้านรพ.เลยเหรอถึงจะได้เจอหมอบ่อยๆ อ่ะ นั่นก็เกินไปนะ”

   “หรือจะมาเป็นแม่บ้านที่บ้านหมอก็ได้ ขาดเหมือนกัน แต่ไม่มีค่าจ้างให้นะ”

   “เอาจริงป่าว? ไม่มีตังค์ จ่ายเป็นตัวก็ได้หมอ ผมไม่ถือ...” ซูกัสตอบพร้อมยิ้มยั่ว...

   หมอยิ้มตอบ... เอียงคอเอานิ้วเท้าแก้ม...


   หึ.... ถึงเวลานั้นจริง ขอให้เก่งเหมือนปากเถอะ!!
   

:catrun:

   ทุกวันนี้หมอนับวันให้ถึงวันพฤหัสไวๆ เพราะหมอรู้ว่าจะมีคนไข้โรคไต(หาหัวจาม)ไปขอรับการรักษาที่คลินิก ถึงแม้บางวันจะไม่มีนัดกับคนไข้ หรือหมอจะเหนื่อยและง่วงมากแค่ไหนก็ยังฝืนถ่อสังขารไปรอทุกครั้งแล้วปั้นหน้าเหมือนกับว่าในวันนั้นหมอต้องมาที่คลินิกอยู่แล้วทั้งที่ไม่จำเป็น

   แต่ทุกๆ ความอ่อนล้าและปัญหาที่รุมเร้าไว้ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมามันก็คลี่คลายสลายไปทุกๆ ครั้งที่เห็นรอยยิ้มหวานๆ ของคนไข้กำมะลอนั่น หมอใช้ช่วงที่ว่างจากการรับปรึกษาปัญหาต่างๆ ของคนไข้นั่งมองริมฝีปากบางๆ เจื้อยแจ้วเล่าเรื่องชีวิตมหาวิทยาลัยของเขาทั้งอาทิตย์โดยไม่รู้จักเบื่อหน่าย ประวัติส่วนตัวตั้งแต่เกิดยันตอนนี้ถูกถ่ายทอดออกมาเรื่อยๆ ใหม่บ้าง ซ้ำบ้างจนหมอหลงคิดไปว่าเรารู้จักกันมานานกว่าความเป็นจริงและอาจสนิทกันมากกว่าคู่รักบางคู่ที่เจอกันทุกวันเสียอีก

   หมอหลงคิดว่ารู้จักเขาดีแล้วเชียวนะจนกระทั่งวันนี้แหละที่เพิ่งรู้ว่าตัวเองคิดผิด

   “หมอ....เป็นไปได้ไหมถ้าจะใช้วิธีอุ้มบุญ!!” วันนี้ซูกัสมาในมุกใหม่ที่ทำให้หมออึ้ง จู่ๆ ก็เดินดุ่มๆ เข้ามาในห้องทำงานของคลินิกและใช้สองมือทุบโต๊ะทำงานหมอดังปึ้งยื่นหน้ามาถามด้วยสีหน้าจริงจังสุดฤทธิ์

   “......” หมอพูดไม่ออก สรุปว่าที่ผ่านมา หมอไม่เคยรู้จักและเข้าใจเขาอย่างแท้จริงเลยสินะ!

   เฮ้อ... หมอเผลอถอนใจยาวเงยหน้าขึ้นมองคนไข้ตัวกวนคนเก่า พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองให้นิ่งสงบไว้ดังเดิม

   “ซูกัส ที่จริงหมอก็รู้แล้วนะเรื่องที่เราน่ะชอบหมอ ถ้าอยากจะคุยกับหมอ คุยเรื่องอื่นๆ ที่คนทั่วไปพูดกันก็ได้ จะฟุตบอล ข่าวบันเทิง เกม การ์ตูนก็ได้ ถึงหมอไม่ค่อยรู้เรื่องก็ฟังได้ทุกอย่าง เราไม่ต้องคุยเรื่องเครียดๆ วิชาการหรืออะไรที่ใกล้กับสายงานของหมอก็ได้นะ”

   “หมอ!! นี่ผมไม่ได้มาเล่นๆ นะ ผมพูดจริง ผมถามจริงๆ ว่าหมอทำได้ไหม?” อื้อหือ! วันนี้มาแบบสตรอง!

   กัสไม่ได้มาเล่นๆ นะ!

   “จนป่านนี้แล้วยังไม่ล้มเลิกความคิดอยากมีลูกอีกเหรอ? หมอนึกว่ากัสแค่หาเรื่องเรียกร้องความสนใจจากหมอเท่านั้นซะอีก”

   “ไม่ใช่นะ!! ผมจริงจังทั้งสองเรื่องแหละ ไม่ว่าจะหมอหรือลูก ผมอยากมีหมดแหละ ว่าไงล่ะหมอ อย่านอกเรื่องดิ”

   หมอถอนใจยาวอีกครั้งหนึ่งเมื่อมนุษย์คนไข้เริ่มโวยวายหน้าเครียด โดยที่ก่อนจะมาถามไม่เคยคิดจะหาข้อมูลอะไรมาก่อนเลย

   หมอสันนิษฐานว่าซูกัสคงเพิ่งจะไปเจอข่าวน้องคาเมน แล้วก็นึกเรื่องอุ้มบุญขึ้นมาได้ แต่หารู้ไม่ว่าเพราะเรื่องนี้แหละ เลยมีกฎหมายออกมาว่าห้ามมิให้มีการซื้อขายไข่ อสุจิ ตัวอ่อนและห้ามรับจ้างอุ้มบุญ จะทำได้ก็แค่ในกรณีที่เป็นสามีภรรยา (จดทะเบียนมากกว่า3 ปี) ที่มีบุตรยากจริงๆ และให้ญาติอุ้มบุญให้เท่านั้น

   เฮ้อ... อยู่ดีไม่ว่าดีจะหาคุกให้หมออีกแล้ว!!

   “อืม โอเค ถ้าอยากขนาดนั้นนะ” หมอเกริ่นก่อนจะก้มลงเปิดลิ้นชักใส่อุปกรณ์แล้วยื่นภาชนะใสมีฝาปิดส่งให้เขาด้วยหน้านิ่งๆ

   “หือ... อะไรอ่ะหมอ”

   “กล่อง... หมอขอตัวอย่างอสุจิหน่อยนะครับ เชิญที่ห้องน้ำเลย แต่เก็บเสียงนิดนึงนะ อายเค้า”

   “ฮะ!! เอาไปทำไม ทะลึ่งแล้วหมอ!” คนไข้หน้าแดงอย่างกับลูกมะเขือเทศ เห็นแล้วก็น่ารักดีนะครับ

   “ก็เห็นบอกอยากให้คนมาอุ้มบุญ หมอเลยจะขอตัวอย่างอสุจิมาตรวจก่อนว่าอ่อนไหม เผื่อถ้าเป็นหมันจะได้ไม่ต้องเหนื่อยดำเนินการอย่างอื่น”

   “อะ....” คนไข้ก้มหน้าลงมองกล่องในมืออย่างลังเลและเขินอาย

   “ถ้าไม่อยากทำก็ไม่เป็นไรนะ หมอก็...”

   “ทำดิ แป๊บนึงนะ” เขาบอกเสียงอ้อมแอ้มทำเหมือนจะเดินออกไป

   เฮ้ย เอาจริงดิ!! ความจริงแล้วหมอแค่หมั่นเขี้ยวอยากแกล้งเล่น ไม่คิดว่าซูกัสจะบ้าจี้ทำตามที่หมอสั่งจริงๆ

   “เดี๋ยวกัส”

   “ครับ?” เขารับคำแล้วหันหน้ามาด้วยสีหน้าจริงจัง

    เอ่อ... บอกว่าล้อเล่นทันไหม แต่เหมือนจะไม่ทันนะ ขืนบอกงั้นมีหวังโดนโกรธแน่เลย

   “หมอเปลี่ยนใจแล้ว ทำในห้องนี้เลยละกัน เดี๋ยวหมอออกไปรอข้างนอก” หมอบอกแล้วลุกขึ้นเดินไปที่ประตูกดล็อกประตู
ห้องตรวจของตัวเองก่อนจะออกไป

   
   หมอนั่งรอที่เก้าอี้หน้าห้องตัวเอง ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนไข้ที่รอตรวจ แต่คนข้างในก็ไม่มีวี่แววจะออกมาสักทีจนเวลาล่วงเลยไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว

   “อ้าว หมอว่าน ทำไมมานั่งตรงนี้ล่ะคะ?”

   “อ๋อ...เอ่อ...” หมอเกาคอไม่รู้จะตอบพยาบาลว่ายังไงดี “นั่งรอเพื่อนน่ะครับ”

   “หมอว่างอยู่หรือเปล่าคะ มีคนไข้ที่หมออ้อนัดไว้แล้วมาสาย แต่ตอนนี้หมออ้อเค้ากลับไปแล้ว รบกวนหมอหน่อยได้ไหมคะ”

   “อะ เอ้อ... ได้ครับ” เธอคงเกรงใจไม่อยากโทรตามคุณหมอที่เพิ่งจะกลับไป แล้วบังเอิญเจอผมนั่ง “ว่าง” อยู่พอดีเลยขอแรง จะตอบว่าไม่ว่างก็ยังไงอยู่

   “งั้นรอสักครู่นะคะ ฉันจะไปตามคนไข้แล้วก็เอาแฟ้มประวัติมาให้ด้วย” พยาบาลยิ้มให้อย่างดีใจรีบวิ่งกลับไปหน้าคลินิก

   เวรกรรม... หมอรีบลุกขึ้นเคาะประตูห้องตัวเอง

   “กัส... เสร็จยัง?”

   “แป๊บนึงน่าหมอ อย่าเร่งดิ” โอ๊ยไม่อยากจินตนาการเลยจริงๆ ว่าข้างในเป็นยังไงมั่งตอนนี้!

   “ไม่ต้องแล้วกัส ไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ออกมาได้แล้วหมอจะใช้ห้อง”

   เงียบ......

   “ไม่เปิด หมอไขกุญแจเข้าไปนะ?”

   “เฮ้ย.....อย่านะ!!”

   ฟังเสียงแล้วขำ หมอยืนยิ้มเป็นหมอโรคจิตอยู่หน้าห้องอย่างใจเย็น รอจนประตูถูกเปิดออกเบาๆ และคนไข้ที่ยึดห้องหมอเปิดประตูออกมาด้วยใบหน้างอง้ำ

   หมอดึงหน้าให้นิ่งขรึมอย่างเดิมแม้จะยากเย็นกว่าปกติประมาณ 350เท่า แล้วผลักประตูเข้าไปยืนข้างใน

   “ไหน... ได้ป่ะ?” หมอก้มลงถามด้วยน้ำเสียงล้อเลียน

   “เกือบ...ถ้าไม่มีใครมาขัดจังหวะซะก่อน”

   “ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ อึดใช่เล่นนะเรา”

   “โธ่!!ของแบบนี้ไม่ใช่ง่ายๆ นะหมอ กว่าจะบิ๊วได้”

   “หมอก็ไม่อยากขัดนะ แต่พอดีหมอมีเคส เอ่อ...ไม่ทำห้องเลอะใช่ไหม?” ถามแล้วหันไปสำรวจรอบๆ ห้อง

   “จะให้เลอะอะไรล่ะหมอ!!” ซูกัสถามเสียงขุ่น

   “ครับๆ งั้นออกไปรอข้างนอกก่อนนะ”

   “ครับ” เขารับคำหน้ามุ่ย

   “คราวนี้ไม่ถึงไม่เป็นไร ไม่ต้องเครียด ถ้าคนเดียวมันยากขนาดนั้น เอาไว้วันหลังหมอจะช่วย”

   “ครับ” เขาตอบรับสั้นๆ แล้วเปิดประตูออกจากห้องไปเฉยๆ จนหมออดแปลกใจไม่ได้ที่อีกฝ่ายไม่พูดอะไรต่อเลย สงสัยไม่ได้ฟังมั้ง หมอส่ายหน้าเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน แต่ยังไม่ทันจะนั่งลงประตูห้องก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้งพร้อมคำถามอันดังที่ตามเข้ามา

   “เมื่อกี้หมอว่าไงนะ?” หน้าตาคนถามดูเหรอหรา ตาโต จนผมไม่อาจจะอดกลั้นปั้นหน้าขรึมเหมือนเดิมได้อีกแล้วปล่อยหัวเราะออกมาทันที

   โอ๊ย จะบ้าตาย ซูกัสนี่ความรู้สึกช้าชะมัดเลย! พูดจบไปตั้งนานแล้วเพิ่งจะรู้สึกตัว


++++++++++

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2024
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
55555 ซูกัสน่ารัก หมอก็นะ ขี้แกล้งน้อง

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
น้องกัสเตรียมตัวเป็นแม่บ้านให้หมอเลยค่ะ
เป็นแม่บ้านให้หมอ ไม่ต้องอุ้มบุญให้ยุ่งยากด้วย
แถมได้เป็นแม่เหมือนกัน 5555
 :hao6: :hao6: o13 :pig4:

ออฟไลน์ painture

  • work hard play hard <3
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
กัสน่ารักกกก ติดตามค่ะ

 :katai2-1:

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
 :katai2-1:
หมอขี้อ่อยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
หมอขี้แกล้งเกิ๊นนนนน แต่กัสก็น่าแกล้งจริงๆนะ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
หมอแกล้งน้อง5555

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
ซูกัสเอ้ย

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5
โอ๊ยตาย หมอแกล้งน้องอ่ะ

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-4-
   
   -ซูกัส-

   “หมายเลข 1432”

   ผมลุกขึ้นด้วยรอยยิ้มเมื่อสิ้นสุดการรอคอย โปรดอย่าเข้าใจว่านั่นเป็นการใบ้หวยงวดต่อไปอย่างเด็ดขาด เพราะมันก็แค่หมายเลขคิวเท่านั้นเอง...

   ผมผลักประตูห้องที่ติดป้ายด้านหน้าว่า นายแพทย์บทกวี ........... เข้าไปเพื่อพบแพทย์ประจำตัวด้วยรอยยิ้มแจ่มใส แต่อีกฝ่ายกลับเงยหน้าขึ้นจากเอกสารในมือแล้วขมวดคิ้วใส่

   อะไร จะดุอะไรกันอีกล่ะ!!

   “ทำไมมาหาที่โรงพยาบาล?” คำถามนิ่งเรียบนั่นทำให้อดเบะปากอย่างงอนๆ ไม่ได้ ยังไม่ทันพูดอะไรก็ทำท่าเหมือนจะไล่กันท่าเดียว

   “ทำไมล่ะ? หมอเบื่อขี้หน้าผมขนาดนั้นเลย?”

   “เปล่า... แค่ช่วงนี้ผู้ป่วยนอกเยอะน่ะ”

   “อย่างน้อยผมก็ไม่ได้ลัดคิวใครนะ นั่งรอตั้งนานจนแทบจะหลับไปสองสามรอบแล้วเนี่ย” ผมบอกด้วยใบหน้าที่ตั้งใจให้รู้ว่ากำลังน้อยใจอยู่นะ

   “เพราะรู้ไง ถึงไม่ค่อยอยากให้มา” หมอตอบกลับด้วยเสียงอ่อนๆ รอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งให้ทำให้แทบจะละลายกลายเป็นฝุ่น ทำไมบุคลิกหมอถึงนุ่มนวลอ่อนโยนขนาดนี้นะ ผิวก็ขาว นิ้วเรียวยาว แล้วยังเป็นคนตาสวยมากๆ อีกด้วย แค่นั่งมองเฉยๆ ก็เพลินแล้วอ่ะ

   “ถึงบอกจะมาหาตอนเลิกงาน หมอก็บอกว่าเลิกตอนไหนก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ”

   “เอ่อ...” แล้วหมอว่านก็เกาคอทำท่าลำบากใจทำให้ใจอ่อนซะทุกที!

    เลิกนอกเรื่องแล้วเข้าสู่ธุระสำคัญดีกว่าก่อนที่หมอจะตบะแตกร่ายยาวเอาอีก...

   “นี่ครับ” ผมเปิดกระเป๋าเป้ที่เตรียมมาแล้วล้วงหยิบภาชนะใสมีของเหลวบางอย่างบรรจุอยู่ด้านในวางลงบนโต๊ะ

   “อะไรเหรอ” หมอถามกลับด้วยใบหน้างงๆ

   “ยังจะถามอีก เมื่อวานหมอจะเอาอะไรล่ะ?” ผมตอบมีท่าทีเขินอายเล็กน้อย กับตัวอย่าง...ที่นำมา

   “ฮะ?” หมอว่านทำตาโต อ้าปากค้างก่อนจะกระพริบตาปริบๆ เหมือนกำลังคิดทบทวนบางอย่าง จากนั้นก็ร้องออกมา “อ๋อ.....”

   รอยยิ้มที่คลี่แค่มุมปากแต่ไม่เห็นฟันสักซี่กับแววตาที่พราวระยับมองมาทำให้รู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนขึ้นอีกประมาณสามเท่าตัวด้วยความอับอายแต่ก็ต้องพยายามอดทนไว้

   อายครูไม่รู้วิชา อายภรรยาไม่มีบุตร #หมอก็เช่นกัน

   อายหมอก็จะไม่มีบุตร! ท่องไว้นะซูกัส

   “ทำตั้งแต่เมื่อไร?”

   “เมื่อเช้า”

   “แล้วเอามาให้ป่านนี้?” หมอถามพลางยกข้อมือดูนาฬิกาซึ่งน่าจะบอกเวลาประมาณเกือบหกโมงเย็นแล้ว จากนั้นก็เหลือบตาคู่สวยขึ้นมองพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ประดับที่แก้มไม่สร่างเหมือนขบขันอะไรบางอย่าง

   “ก็กัสต้องไปเรียน ไหนจะนั่งรอคิวอีก” ผมแก้ตัวแก้มป่อง

   “ใช้ไม่ได้นะ คือมันต้องตรวจภายในหนึ่งชั่วโมง”

   “หา!! แล้วทำไมหมอไม่บอกล่ะ?” อะไรกัน...งั้นก็เหนื่อยฟรีดิงี้

   “กัสก็ไม่ได้ถามหมอป่ะ?” หมอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยยี่หระทำให้ดูกวนๆ ไม่พอยังมีหัวเราะแนบท้ายอีกต่างหาก ทำให้รู้สึกว่าตัวเองโคตรพลาดเลยอ่ะ

   “แล้วไง? บ้านกัสอยู่ตั้งไกล แล้วหมอก็ยุ่ง งี้ก็ทำที่บ้านไม่ได้ใช่ป่ะ?”

   “ก็คงงั้นมั้ง”

   “แต่ที่คลินิกคนมันเยอะนี่ ใครจะไปมีอารมณ์ทำเรื่องแบบนั้น”

   “อืม... จะว่าไปก็มีอีกที่นึงนะที่เป็นส่วนตัวแล้วก็ไม่ไกลด้วย” ผมเบิกตากว้างส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างดีใจก่อนจะได้ยินประโยคถัดมา “แต่ไม่รู้ว่ากัสจะกล้าไปหรือเปล่านะ”

   หมอยิ้ม... ยิ้มแบบนี้อีกแล้ว...

   ฉีกริมฝีกปากออกแต่ไม่เห็นฟัน ส่งสายตาวาวหวานชวนมอง มันทั้งมีเสน่ห์และน่าขนลุกไปในคราวเดียว เพราะไม่รู้เลยว่าในคำพูดนั้นหมอกำลังคิดอะไรอยู่

   “ที่ไหนเหรอครับ” ผมเอ่ยถามอย่างสงสัย จินตนาการไว้ว่าคงเป็นสถานที่ที่น่ากลัวและอันตราย จำพวกตึกพาณิชย์ร้างมีผีสิง หรือห้องทดลองแสนลึกลับในคลินิกอาจจะมีซากทารกหรือหลักฐานการก่อคดีอาชญากรรม บรึ๋ยส์!!

   แล้วความคิดอันเพ้อเจ้อก็แตกกระจายไปทันทีที่หมอตอบกลับมาว่า

   “บ้านหมอ...”







   อาฮ้า... ใครก็ได้ช่วยที นี่แทบจะหุบยิ้มไม่ได้อยู่แล้ว... :mew1:


   “สตรอเบอรี่ซันเดได้แล้วครับ” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นแล้ววางไอศกรีมรสโปรดของผมลงตรงหน้า

   เฮ้อ... เสียดายจังที่ต้องมานั่งกินคนเดียวแบบนี้ ถ้าหมอมาด้วยได้ก็คงดี เหลือบมองพนักงานร้านด้วยสายตาอ้อนๆ

   “เลิกงานกี่โมง...”

   “ใกล้แล้วล่ะ คงพอๆ กับแกกินอิ่ม” พนักงานร้านสเวนเซ่นตอบกลับ ผมพยักหน้าเออออแล้วก้มหน้าลงตักของโปรดใส่ปากด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข


   “จะชวนไปไหน?” เสียงเพื่อนรักเอ่ยถามระหว่างผมดึงมือเขาเดินเล่นไปตามทางเดินของห้างสรรพสินค้า

   “ไปซื้อกกน.”

   “ที่มีไม่พอใช้?” เพื่อนถามหน้างงๆ

   “แม็ก... หมอชวนกูไปบ้าน” ผมเฉลยแล้วหันไปยิ้มจนตาปิด

   “แล้วเกี่ยวอะไรกับ.....อ๋อ..... มึงกะเตรียมไปเสียตัวเต็มที่เลยว่างั้น?”

   “บ้า!! ไม่ใช่ซะหน่อย” ผมตอบปฏิเสธ ทั้งที่หน้ายังยิ้มอยู่ มองยังไงก็รู้ว่าตอแหล!

   “แรด....” เพื่อนด่าตรงๆ ทำให้ผมหุบยิ้ม จิกตาเบาๆ

   “ทำเป็นด่า กูรู้มึงอิจฉากู ใช่มะ?”

   “ใครจะคิดอย่างงั้นกับเพื่อน มีแต่จะดีใจด้วย จะได้สมหวังสักที” พอมันตอบเรียบๆ เลิกจิกกัดก็พลอยทำให้อารมณ์ดีขึ้นหน่อย “หมอของมึงหน้าตาเป็นยังไง บอกจะถ่ายรูปมาให้ดู ป่านนี้ยังไม่เห็นแม้แต่ปลายผม”

   “เออลืมทุกทีเลย แต่หมอเป็นยังไงเหรอ? สั้นๆ ก็คงหล่อล่ะมั้ง”

   “นั่นล่ะของแน่ ไม่งั้นคงไม่เพ้อได้ขนาดนี้...” แม็กม่าพึมพำเสียงไม่เบาเลย

   “เขาก็เหมือนหมอทั่วๆ ไปนั่นแหละ ขี้เก๊กนิดๆ ดูสุภาพนุ่มนวล ผิวขาว แต่ไม่ค่อยสูงมากนะ หน้านิ่งๆ แต่ตาหวาน เวลายิ้มทีนึงนะ ฮึ่ม... เอาใจกูไปเลย”

   “แหม่งๆ ว่ะ ทำไมฟังดูเคะจัง”

   “งี้แหละเกย์สายสุขภาพ จะให้มาหุ่นล่ำ กล้ามโต สายเถื่อนเหมือนรุ่นพี่วิศวที่มอก็คงไม่ใช่ มาจีบกันแต่ละที กูนึกว่าเค้าจะมาขู่กรรโชกทรัพย์”

   “อุ๊บ..พูดแล้วเห็นภาพเลยว่ะ ฮ่าฮ่า” แม็กม่าหัวเราะลั่น  “เออ... แต่จะว่าไป นี่แกก็เทียวไล้เทียวขื่อตามจีบหมอมาเดือนกว่าแล้วไม่ใช่เหรอ?”

   “ใช่...”

   “แล้วก็บอกว่า หมอไม่เคยแม้แต่จะจับมือแกไม่ใช่เหรอ?”

   “อือ...”

   “ไม่ใช่ว่าพี่แกไม่ชอบเป็นฝ่ายรุกหรอกเหรอ?”

   “ฮื้อ... บ้า ไม่มั้ง” ก็เหมือนจะโดนรุกอยู่นะ ทางสายตาน่ะ!

   “ก็แบบ คนชอบๆ กันมันต้องมีถึงเนื้อถึงตัวกันบ้างไม่ใช่เหรอ?”

   จะว่าไปผมก็เคยคิด หมอเป็นพวกนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด แล้วก็ไม่รุ่มร่าม ไม่....

   ไม่เคยจับมือ ไม่เคยหอมแก้ม ไม่เคยอะไรเลย...

   “หรือเค้าอาจจะไม่ได้ชอบเด็กแอ๊บแบ๊วอย่างแกก็ได้”

   จะว่าไปแล้ว... แม้แต่บอกรัก หรือขอเป็นแฟน ก็ไม่เคยสักอย่างนึงเลยด้วย ถึงจะมีพูดจาให้คิดลึกบ้างก็เถอะ แต่ก็อาจจะแค่หยอกเล่นแค่นั้น แล้วเราก็เก็บไปคิดเอาเองว่าอีกฝ่ายมีใจ

   “อ๊ากกกก ไม่จริง!! เลิกไซโคได้แล้ว ที่หมอเค้าไม่ทำอะไรก็เพราะว่า...หมอเค้าเป็นสุภาพบุรุษไง มึงไม่เคยเจอ ไม่รู้จักหมอจะไปรู้อะไร” ผมโวยวาย เถียงออกมา เพื่อปิดบังความฟุ้งซ่านที่เริ่มก่อตัวขึ้น

   “อ้อเหรอ? อาจจะเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าหมอเค้าเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ อย่างที่ว่า นั่นแสดงว่ากกน.ตัวใหม่หรือตัวเก่าก็ไม่สำคัญ เพราะต่อให้มึงแก้ผ้าต่อหน้าเค้า หมอเค้าก็จะไม่ทำอะไร จริงไหม?”

   จะว่าไป ก็คงจริง!!

   “เออ!! งั้นกลับบ้าน ไม่ต้องซื้อและ!!”
   




    ผมกลับมาบ้านด้วยใบหน้างอง้ำ นึกเคืองไอ้เพื่อนรัก ที่พูดจาอะไรออกมาแต่ละอย่างล้วนทำลายความมั่นใจและความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตรักของผมให้พังระเนระนาด

   “กลับมาแล้วเหรอคะคุณกัส” เสียงป้าน้อม แม่บ้านถามขึ้นอย่างดีใจเมื่อผมเปิดประตูรถออก

   “ครับป้า”

   “ทานอะไรมาหรือยังคะ?”

   “ทานแล้วครับ ขอบคุณนะ” ผมตอบแล้วเดินเข้าตัวบ้านหลังใหญ่ ที่ค่อนข้างเงียบ หลงเหลือเพียงไฟสลัวๆ

   “แล้วคุณพ่อ คุณแม่ล่ะ?”

   “คุณนายขึ้นไปนอนแล้วค่ะ ส่วนคุณผู้ชายยังไม่กลับ”

   ผมพยักหน้ารับ

   “ป้าน้อมก็ไปพักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมแวะไปดูพี่ดี้เสร็จ ก็จะนอนแล้ว”

   “ค่ะ” ป้าน้อมรับคำ แล้วเดินกลับไป

   ผมเดินขึ้นบันไดบ้านแบบวน แล้วเปิดเข้าไปในห้องนอนที่ไม่ได้ล็อก ค่อยแง้มประตูเบาๆ พอมีแสงจากด้านนอกลอดผ่านเข้าไปพบว่าภายในห้องมืดสนิท และมองเห็นเงารางของสตรีคนหนึ่งนอนกอดตุ๊กผ้ารูปเด็กไว้ในอ้อมกอด ขณะที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ผมค่อยๆ ปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้รบกวนพี่สาว   

   พี่แคนดี้เพิ่งสูญเสียทั้งสามีและลูกสาวไปเมื่อสามเดือนที่แล้วจากอุบัติเหตุรถยนต์ และพี่ไม่สามารถยอมรับมันได้ จนกลายเป็นโรคซึมเศร้า ทุกๆ วันพี่จะนั่งเหม่อลอยอุ้มตุ๊กตาและพูดคุยกับมันราวกับนั่นคือลูกสาวที่ยังมีชีวิตอยู่

   ลองปรึกษาจิตแพทย์แล้ว พี่ก็อาการดีขึ้นบ้างเพราะยา แต่ก็ยังไม่หายขาด

   ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้อย่างไร แต่เคยลองพาไปตามสถานรับเลี้ยงเด็กอ่อน พี่เหมือนจะอาการดีขึ้นบ้างเมื่อเห็นเด็ก แต่ลงท้ายก็โวยวายว่านั่นไม่ใช่ “น้องด้า” ผมเดาเอาว่าคงเพราะเด็กที่อุ้มไม่มีส่วนคล้ายตัวเอง จนผมมีความคิดงี่เง่าว่าอยากมีลูกเสียเอง เพราะไม่แน่ ถ้าเป็นลูกของผม อาจจะช่วยทำให้พี่ดีขึ้นได้...

    

   “สี่โมงครึ่งว่างไหม ไปกินข้าวเย็นด้วยกันนะกัส” หมอโทรมาบอกตอนบ่าย ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจเพราะร้อยวันพันปี เพิ่งเห็นหมอเลิกงานเย็นได้

   “ที่บ้านเหรอครับ?” เอิ่ม... บางทีก็งงตัวเองว่าพูดอะไรออกไป!

   “ยังก่อนดีกว่า หมอเพิ่งpost เวร ไม่มีแรงทำอย่างอื่นตอนนี้แน่ๆ”

   “ครับ?” ศัพท์อะไรของหมออีกล่ะ

   “ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าของเมื่อวานจนตอนนี้หมอยังไม่ได้นอนเลย...” บอกทีเถิด นี่มนุษย์จริงๆ ใช่ไหม?

   “เอ่อ... ถ้างั้นหมอกลับไปนอนเลยก็ได้นะครับ” ผมรีบบอกอย่างสงสาร

   “มาหน่อยเถอะ วันนี้หมออยากเจอกัส”

   เหมือนถ้อยคำธรรมดาแต่เจือลูกอ้อนเล็กน้อย ทำให้คิดเข้าข้างตัวเองว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญ

   หลังเลิกเรียน ผมก็เดินตัวลอย เข้าโรงพยาบาลอย่างมีสุข ปรายตามองจุดลงทะเบียนอย่างเชิดๆ หมอเลิกงานแล้วก็ไม่ต้องรอคิวใช่ไหมล่ะ? แจ่ม!

   นี่ไงห้องหมอ  นายแพทย์บทกวี ที่รัก...

   ขอเสียมารยาทไม่เคาะประตูนะครับ...

   กึ่ก! หมุนลูกบิดเปิดประตูเข้าไปกะจะเซอร์ไพร้ส์เต็มที่

   ผ่าง!!!! ผมยืนนิ่ง ตะลึงตาค้างกับภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า

   หมอนั่งที่เก้าอี้ทำงานตามปกติ แต่มีใครบางคนยืนข้างๆ คล้องแขนโอบรอบคอหมอเอาไว้ โน้มตัวลงเหมือนกำลังกระซิบกระซาบบางอย่างแก่กัน ใบหน้าคมเข้มที่แหงนเงยขึ้นมองผมอย่างสนใจนั่นลอยอยู่เกือบชิดใบรูปหน้าเรียวของหมอ มันให้ความสนิทชิดเชื้อจนเกินความพอดี และถ้าวัดความแมนจากใบหน้าและขนาดตัวแล้วล่ะก็ คุณหมอช่างบอบบางน่าทะนุถนอมเสียเหลือเกิน

   พระเจ้า. . .

   นี่ผมคงเข้าใจรสนิยมหมอผิดมาโดยตลอดเลยสินะ!!

   โหดร้าย... เกินรับได้จริงๆ ณ จุดนี้!!




++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2016 18:57:08 โดย ๛ナーリバス๛ »

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เหยดดดด เราก็ช็อคไปกับน้องกัสนะคะ  :a5:
เราชอบคู่เบี้ยน หมอ-กัส นะ อร๊ายยยยยย ภาพบาดตาบาดใจจริงๆ  :sad4:

ออฟไลน์ junpa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ Snimsoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
โอ๊ย สงสารน้องกัส  :m20:

อย่าตัดสินสิ่งที่เห็นแต่เพียงภายนอกจ้ะ ต้องลองดูถึงจะรู้นะ แน่ะ

ออฟไลน์ Malila

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
5555555555  หมอรสนิยมแบบนี้นี่เอง  อืมๆๆ

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2024
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Air_Yaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
หืม คุณหมอ
ไม่ม้างงง
 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  ๕๕๕๕ ตลกตอนเปิดประตู
 

ออฟไลน์ Mekaming

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
55555คิดสภาพอารมณ์ตอนกัสเปิดประตูมาเจอเลยมันบระเจ้ามากก :hao7: :hao7: :laugh: :m20:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
เขาคือใครกันเนี่ยที่แท้สาเหตุที่น้องกัสอยากมีลูกก็เพื่อพี่สาวนี่เอง

ออฟไลน์ painture

  • work hard play hard <3
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ค้างงงงง จาอ่านต่อออ

ใครน่ะ

ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
อิฐหรือเปล่า ใช่มะๆๆๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อุ้ยยย. พี่หมอทำไมทำแบบนี้อะ  :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
พี่หมอทำอะไรรรรร  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด