++หมอครับ... ผมอยากมีลูก [MPREG] ++ แจ้งข่าว หน้า 1
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ++หมอครับ... ผมอยากมีลูก [MPREG] ++ แจ้งข่าว หน้า 1  (อ่าน 123963 ครั้ง)

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-11.5-


            -ซูกัส-
 
            ห้องนอนบนชั้นสามของคลินิกที่ถูกตกแต่งไว้สำหรับผมยังคงเหมือนเดิม เรียบๆ สะอาดตา เตียงนอนขนาดหกฟุตที่แตกต่างจากเตียงของโรงพยาบาลทั่วไปทำให้รู้สึกว่าเหมือนห้องนอนที่บ้านมากกว่าห้องพักคนไข้ ผมมาที่นี่คนเดียวตามคำสั่งแพทย์... โดยไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมหมอว่านถึงบอกให้มารอที่นี่ ทั้งที่จะรอในห้องตรวจของหมอก็ได้ แต่ถึงจะมีความสงสัยมากมายผมก็ยังเลือกที่จะทำตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเงื่อนไข

            ผมนั่งอ่านหนังสือนิยายเล่มบางๆ บนเตียงกว้างนั่นฆ่าเวลาระหว่างรอพี่แคนดี้เก็บไข่ ทั้งๆ ที่หมอบอกว่าใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงแต่กลับนานแสนนานในความรู้สึกของผม กระทั่งในที่สุดหมอก็เปิดประตูห้องเข้ามา

            “พี่ดี้เป็นยังไงบ้างครับหมอ” ผมรีบถามอย่างตื่นเต้น วางหนังสือนิยายที่อ่านค้างไว้ทันทีโดยไม่แม้แต่จะหยิบที่คั่นมาคั่นไว้ ลุกขึ้นจากเตียงเดินไปหาหมอทันทีโดยไม่รอให้เขาเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา

            “ฟื้นแล้ว แต่เหมือนจะยังลุกไม่ไหวนะ หมอก็เลยให้นอนพักไปก่อนจนกว่าจะดีขึ้น”

            “งั้น เดี๋ยวกัสลงไปดูพี่นะ” ผมบอกอย่างกระตือรือร้นขยับตัวจะเดินไปที่ประตู แต่เพียงสวนกับร่างสูงโปร่งของเขา หมอกลับคว้าแขนผมเอาไว้เสียก่อน ผมหันกลับมามองด้วยสายตาแสดงถึงคำถาม

            “ยังไม่ต้องไปหรอก ปล่อยพี่เค้านอนพักก่อนเถอะ อย่ากวนเลย” คำพูดหมอทำให้ใบหน้าผมเศร้าลงทันทีที่ไม่ได้ลงไปดูอาการพี่เสียหน่อย แต่ถ้าผมไปดูแล้วจะเป็นการรบกวน ก็ไม่ไปดีกว่า

            “ไม่ต้องห่วงหรอก พี่สาวกัสเค้าแค่อ่อนเพลียนิดหน่อย ไม่มีอันตรายอะไร” หมอปลอบญาติคนไข้ซ้ำอีกทำให้ความกังวลใจของผมลดลงไปมากโข

            “ครับ” ผมรับคำแล้วยิ้มบางๆ  และนาทีต่อมามือเล็กของผมก็ถูกหมอจับไปกุมไว้ มืออุ่นๆ หมอทำให้รู้สึกอุ่นใจนัก แต่น่าแปลกที่นิ้วเรียวยาวนั่นมิได้อยู่เฉยเท่านั้นกลับเกลี่ยไล่สัมผัสถูไถปลายนิ้วของผมไม่หยุดจนอดจั๊กจี้ไม่ได้

            ผมก้มลงมองมือตัวเองที่ถูกหมอไล้ปลายนิ้วนั่นซ้ำๆ ด้วยความรู้สึกประหลาด ค่อยๆ แหงนเงยขึ้นสบตาที่ส่อแววอบอุ่นและทอประกายหวานของหมอที่มองจ้องลงมายังดวงตาของผม...

            ผมลอบกลืนน้ำลายดังกรึ๊บโดยอัตโนมัติ พยายามขยับร่างที่อยู่ดีๆ ก็ถูกสาปให้แข็งทื่อ ไปไหนไม่เป็นนั่นให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยไว โดยไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เอ... หรือเพราะนานแล้วที่หมอไม่ได้ลวนลามผมแบบนี้กันนะ...

            “อะ...ร้อนจัง...เราลงไปข้างล่างกันดีไหมครับ” ผมบอกหมอด้วยเสียงที่เกือบติดอ่าง ดึงมือของตัวเองที่อีกฝ่ายไล้ลูบลามยาวมาถึงข้อมือเล็กออกอย่างนุ่มนวลแล้วพลิกกายหมุนออก

            “เดี๋ยวสิ...ซูกัส”

            สวบ... ไม่เพียงคำพูดที่รั้งผมไว้ แม้แต่อ้อมแขนอุ่นนั้นก็ด้วยที่โอบรัดรวบร่างผมไว้หมดทั้งลำตัวและแขนสองข้างราวงูรัดเหยื่อ แผ่นหลังของผมปะทะกับอกแกร่งของเขา แม้หมอมิใช่ผู้ชายหุ่นงามกล้ามสวยอย่างหนุ่มเพาะกาย แต่ก็มิได้ปล่อยตัวเองให้ลงพุง หมอยังมีกล้ามเนื้อและพละกำลังอย่างบุรุษทั่วไปพึงมี


            ผมรู้สึกเหมือนตัวเองใกล้จะบ้า เพราะอยู่ดีๆ หัวใจก็สั่นรัว รู้สึกวูบวาบขึ้นมาบริเวณท้องน้อย แค่ถูกสัมผัสกอดและตลอดเวลาที่ปลายนิ้วเรียวนั่นไต่ระลากไปตามท่อนแขนเล็กของผม กระทั่งเมื่อจมูกโด่งกดลงมาที่แก้มและซอกคอ ผมก็ย่นคออัตโนมัติ ตัวสั่นระริก ปวดมวนในท้องไปหมด อ้อมกอดนั้นรัดรึงแนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ ราวจะหลอมรวมเราเป็นหนึ่งเดียวกัน แทบทุกส่วนของร่างกายที่แนบสนิททำให้รู้สึกถึงบางอย่างที่แข็งขืนกำลังเพิ่มขนาดบดเบียดเสียดสีกับบั้นท้ายของผม

            “ร้อนจริงเหรอ...หมอจะได้เพิ่มแอร์” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามอยู่ข้างหูและพูดน้ำเสียงยั่วเย้า “แต่แปลกนะ บ่นร้อนแค่ทำไมตัวสั่นอย่างกับจับไข้”

            น่าเจ็บใจนักที่อีกฝ่ายเอาแต่แกล้งผมอยู่ฝ่ายเดียว

            “หมอ... ” ผมพยายามขยับตัวออก ฝืนตัวพลิกกายหันกลับไปหาเขา

            “ครับ...” ตอบรับโดยไม่รู้ร้อนรู้หนาวรอยยิ้มทั้งปากและตานั้นยังค้างไว้ดังร่ายมนต์สะกด... ไม่วายยกมือขึ้นประคองสันคางผมไว้แล้วไกล่นิ้วลูบไปมาเหมือนจะปลุกความต้องการของผมให้หนักขึ้นเรื่อยๆ ชั่วอึดใจเดียวที่ผมไม่อาจหักห้ามความรู้สึกนั้น เป็นฝ่ายยื่นหน้าเข้าไปหาเขาพร้อมดวงตาที่พริ้มลงเกือบทันทีที่สองปากแตะกัน สองลิ้นที่คุ้นเคยต่างทักทายหยอกล้ออย่างแสนรักเป็นนาน

            “อืม...” เสียงผมครางในลำคออย่างเคลิบเคลิ้ม เมื่อหมอผละจูบที่ลึกซึ้งอันทำให้หัวใจโลดเต้นไม่เป็นจังหวะนั่นเคลื่อนคล้อยไปตามสันคางและลำคอของผม สองมืออุ่นที่ลูบไล้ตามบั้นท้ายกลมมน ทั้งพลิกพาผมเคลื่อนตัวมาถึงเตียงตั้งแต่ตอนไหนก็สุดรู้!

            ตัวผมที่เอนลงเหมือนนอนหงายแต่หลังไม่ติดเตียงเพราะวางมือทั้งสองค้ำไว้และงอข้อศอกเล็กน้อยค่อนข้างตกใจที่ร่างสูงโปร่งของหมอโถมตัวตามมาคร่อมและจู่โจมด้วยจุมพิตอีกครั้งอย่างรวดเร็วจนผมถึงกับหอบฮัก ผลักร่างของหมอออกระหว่างกอบโกยลมหายใจเข้าปอด

            “หมอ... นี่เราจะทำกันที่นี่จริงเหรอ?” ผมถามอย่างประหม่า เนื่องด้วยคิดว่าคลินิกตอนกลางวันดูเป็นสถานที่ไม่เอื้ออำนวยให้ทำอะไรประเจิดประเจ้อนัก

            “ใช่... ที่นี่... แต่ไม่ถึงขั้นนั้น”

            “ฮะ?” ผมอุทานกลับอย่างไม่เข้าใจความหมายของคำว่า “ขั้นนั้น” และที่ไม่เข้าใจหนักกว่าเก่าคือจากที่กางแขนคร่อมผมอย่างคุกคามเมื่อครู่อีกฝ่ายกลับถอยทัพกลับไปยืนที่ข้างเตียง

            “ช่วยหมอหน่อย...นะครับ” คำตอบนั้นไม่ได้ช่วยให้อะไรกระจ่างขึ้นเลยสักนิด มีเพียงเสี้ยวอารมณ์ที่หวามไหวไปกับเสียงอ้อนของหมอจนต้องเอ่ยถามกลับ

            “ช่วยอะร...” ถ้อยคำถามชะงักค้างไปทันทีที่หมอเริ่มต้นปลดเข็มขัดตัวเองออก ทำให้ผมเริ่มหายโง่ขึ้นมาฉับพลัน

            ผมนั่งตัวแข็งทื่อที่เดิม เหมือนคอตัวเองถูกแช่แข็งไว้ในห้องเย็นจนขยับไม่ได้เอาแต่กระพริบตาปริบๆ ใคร่ครวญว่าควรทำตัวแบบไหนระหว่าง “เด็กหนุ่มกร้านโลก” ที่แสดงบทรักอันเร่าร้อนอย่างช่ำชองโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องสอน... หรือวางท่าเป็น “ลูกกวางน้อย” ไร้เดียงสาหาทางวิ่งหนีราชสีห์หนุ่มดีนะ!

            อาฮ้า...  คิดเยอะไปแล้วซูกัส...

            ผมเกือบสะดุ้งทันทีที่มือใหญ่ของหมอแตะเข้าที่มือเล็กของผม ดึงรั้งให้ยื่นมือไปแตะบางอย่างที่ผงาดขึ้นหลังจากหมอเปลื้องกางเกงบางส่วนออก ทำให้หลุดจากห้วงความคิดเพ้อเจ้อ

            “หมอ...” ผมเรียกเสียงอ่อน ขณะอีกฝ่ายจับมือผมให้สัมผัสความอ่อนไหวอันแข็งแกร่งในกำมือแล้ว ขยับมือผมเป็นการชักนำให้สาวแก่นกายของเขาให้อุ้งมือเล็กเร่งจังหวะขึ้นไปเรื่อยๆ

            “เร็วอีกกัส... อีกนิด” หมอสั่งพลางโน้มตัวลงมาซบคางลงที่บ่าของผม จูบที่เน้นหนักขบเม้มอยู่ตรงซอกคอย้ำๆ สลับกับเสียงลมหายใจผะแผ่วทำให้ผมพลอยหายใจถี่ตามไปอย่างลืมตัวและผ่อนความเร็วลงเรื่อยๆ จนคิดว่าแค่มือยังไม่พอให้อีกฝ่ายถึงฝั่งไปได้ง่ายๆ

            “ให้ผมใช้ปากไหม” ผมเอ่ยถามอ้อมแอ้ม... ปกติแล้วผมไม่ทำหรอก เพราะหมอไม่ได้บอกให้ทำ และผมก็ไม่อยากเสนอตัวทำอะไรให้อีกฝ่ายเข้าใจว่า  ผมแรด! (ไปมากกว่านี้) แต่วันนี้ผมรู้สึกว่ามันแปลกกว่าทุกวัน เพราะหมอไม่พยายามเล้าโลมผมให้มากๆ อย่างที่ผ่านมา แต่เหมือนจะเน้นไปที่ตัวเองมากกว่า

            “ไม่ดีกว่า...ไว้คราวหลัง...” เขาตอบแล้วจับมือผมออกจากตัวตนของเขา น้ำเสียงเคร่งเครียดทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ และอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย แหงนเงยขึ้นมองหน้าหมอที่มีสีหน้าครุ่นคิดยิ่งทวีความสับสนมากขึ้น...

            หมอเครียดเรื่องอะไร?

            “ขอโทษนะกัส...” จู่ๆ อีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นมาอีก แววตาที่ส่งมามีแววรู้สึกผิดแต่ก็ไม่มีทางเลือก ผมได้แต่มองหน้าหมอด้วยความมึนงง เมื่ออีกฝ่ายพรวดพราดส่งมือมาแตะที่กระดุมกางเกงขาสั้นของผมอย่างว่องไว

            อ้าว... อะไรของหมอ!!

            ผมตามอารมณ์หมอไม่ทันแล้วตอนนี้ ทีแรกเหมือนจะไม่ทำอะไร แค่ใช้ผมเป็นตัวบิวท์ ตอนนี้เปลี่ยนใจซะงั้น แต่พอเห็นแกพยายามจะปลดกางเกงผมอย่างยากลำบากผมก็รำคาญเล็กน้อยจึงพยายามถอดให้เอง เหลือแต่เสื้อยืดแขนยาวที่ยังใส่อยู่

             เฮ้อ... จะทำอะไรก็ทำเถอะหมอ ผมงงไปหมดแล้ว

            “คว่ำไป...” คำสั่งฟังเฉียบขาดกว่าปกติจนน่าแปลกอีกครั้ง

            “ฮะ?” ผมส่งเสียงสูงทันทีอย่างตกใจ ยังคงนิ่งอยู่ไม่อยากทำตาม ด้วยแรงค้านในใจ...

            ก็ใจคอจะเสียบไปเลยเหรอไง มันเจ็บนะหมอ...

            “นะ แป๊บเดียว” โทนเสียงสั่งเปลี่ยนเป็นอ้อนอีกครั้ง ผมได้แต่กัดปากพลิกคว่ำลงอย่างจำใจ

            ไม่กี่วินาทีต่อมาร่างสูงโปร่งก็ขยับเข้ามาเสียดสีกายแกร่งลงที่ผิวเนื้อเปลือยตรงสีข้าง ก่อนจะขยับเคลื่อนไปตามแก้มก้นของผม จนผมได้แต่กลั้นหายใจอย่างกล้าๆ กลัวๆ ทุกครั้งที่ความรุ่มร้อนขยับเสียดสีใกล้เคียงปากทางคับแคบนั้นซ้ำซากไปมาแต่ไม่มีทีท่าว่ามันจะถูกขยับขยายหรือรุกล้ำแต่อย่างใดทั้งจากนิ้วเรียวหรือแก่นกายแข็งนั่น... มีเพียงสองมือใหญ่ที่ตะโบมโลมลูบก้นกลมหนักขึ้น และขยับสะโพกเสียดสีแก่นกายอันเร่าร้อนกับซอกก้นของผมต่อไปแต่เพียงภายนอก และเร่งจังหวะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็หยุดชะงักแล้วรีบขยับกายออกจนพ้นตัว ทิ้งผมกัดฟันกับความทรมานที่ถูกปลุกเร้าเอาไว้แต่ไม่อาจไปถึงจุดสิ้นสุดนั่นจนอยากจะร้องขอให้ช่วยทีแต่ก็ไม่กล้า ได้แต่นอนหอบนิ่งที่เดิมไม่ได้ขยับตัวลุกขึ้นมองว่าหมอละจากร่างผมแล้วไปไหน จนในที่สุดเขาก็ก้มลงจูบแก้มผมฟอดใหญ่

            “หมอขอโทษจริงๆ นะกัส แต่เอาไว้กลับไปบ้านก่อนแล้วหมอจะไถ่โทษให้นะครับ”

            ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วหันไปมองหมออย่างแปลกใจในคำขอโทษนั้นแล้วถึงกับอ้าปากหวอเมื่อพบว่าคุณหมอแต่งตัวกลับไปเรียบร้อยดังเดิมอย่างรวดเร็ว กำลังถือกล่องใสที่ปิดสนิทบรรจุของเหลวบางอย่างไว้ในมือ

            “หรือถ้าทนไม่ไหวจะช่วยตัวเองคนเดียวไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวหมอจะล็อกประตูให้” อันที่จริงก็จริงของหมอแหละว่าผมทำคนเดียวได้... เพียงแค่ผมไม่ชอบทำเรื่องนั้นคนเดียวนี่นา...

            “แล้วหมอจะรีบไปไหน?” ผมถามด้วยเสียงอ้อน พลางยกมือดึงชายเสื้อหมอไว้เป็นเชิงขอให้อยู่ก่อน

            “จะลงไปทำลูกต่อที่แล็บน่ะ” คำตอบของหมอโคตรทำร้าย แต่เข้าใจขึ้นทันที...

            เพราะจะใช้เพื่อเพื่อการนี้ เลยใช้ปากก็ไม่ได้ สวมถุงยางก็ไม่ได้ เลยสอดใส่ไม่ได้ด้วย สรุปว่าเซ็กส์ที่ผ่านมามีจุดประสงค์เพื่อสืบพันธ์จริงๆ สินะ!

            เมื่อได้ทราบเหตุผลนั้นแล้ว ผมก็รู้สึกผ่อนคลายลง ถึงแม้ร่างกายซูกัสจะอัดอั้นทรมานมากแค่ไหน ต่อให้อารมณ์จะหงุดหงิดงุดเงี้ยวเพียงใดที่ไม่ได้รับการเติมเต็มให้สมอยาก... แต่เพื่อลูกแล้ว เป็นอีกครั้งที่ผมยอม...


          “งั้นหมอรีบไปเถอะ แม้จะแค่วินาทีเดียวผมก็ดีใจ ถ้าจะได้เจอเค้าไวขึ้น”



           
 
++++++++++

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เอ็นดูหมอว่าน ฮ่าๆ. ปั๊มลูกดีๆอย่ามือสั่นนะ
ขอบคุณค่ะ.

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
จะได้เห็นหน้าลูกหมอว่านกับซูกัสแล้วใช่ไหม
ตื่นเต้น แต่ที่แน่ๆรอดูหมอไปไถ่โทษ :hao6:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
แหมหมอก็มาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลยนะ บอกกันก่อนก็ได้ นึกว่าจะมีดราม่า555

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ว่าแล้ว หมอเตรียมทำลูกจริงด้วย

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
เตรียมพร้อมจะตั้งครรภ์แล้ว

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-12-

   -หมอว่าน-


   หลังจากฝังตัวอ่อนลงในมดลูกเทียมแล้ว แพทย์พบว่าซูกัสมีอาการของโรค “เห่อลูก” เข้าขั้นโคม่าทีเดียว สังเกตได้จากจำนวนที่ตรวจตั้งครรภ์ใช้แล้วหลายแบบหลายยี่ห้อที่กองสุมในถังขยะตั้งแต่วันแรกที่ฝังตัวอ่อน ถึงแม้หมอจะบอกเขาแล้วว่ายังเร็วเกินไปที่จะตรวจพบก็ตาม ซูกัสก็ยังดื้อตรวจอยู่ดีวันละสองครั้งเป็นอย่างต่ำ!

   ถึงแม้หมอจะรู้ว่ามันไร้ประโยชน์ เพราะตามปกติแล้วแพทย์ทั่วไปจะเจาะเลือดคนไข้ตรวจประมาณสองสัปดาห์หลังฝังตัวอ่อนก็ตาม แต่เมื่อเห็นคนรักมีท่าทีกระตือรือร้นตื่นเต้นและลุ้นระทึกเช่นนั้นก็ได้แต่ปลงตก

   อยากทำอะไรก็ทำ... เอาตามที่สบายใจเลยครับที่รัก!


   ในระยะสามเดือนแรก เป็นช่วงที่แพทย์ต้องคอยดูแลควบคุมฮอร์โมนคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างใกล้ชิด และโดยเฉพาะซูกัสที่เป็นผู้ชายแล้วด้วยฮอร์โมนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซูกัสจึงต้องมาฉีดฮอร์โมน (เอสโตรเจน+โปรเจสเตอร์โรน)ที่คลินิกบ่อยๆ

   “เจาะเลือดตอนนี้เลยไหมหมอ สิบวันแล้วนะ” เขาถามขึ้น

   “แต่หมอว่ารอไปอีกสี่วันค่อยเจาะเถอะ จะได้ชัวร์ๆ” หมอตอบเรียบๆ พอเหลือบตาขึ้นเห็นใบหน้าซูกัสที่งอง้ำเพราะถูกขัดใจก็คลายยิ้ม “ซูกัสนี่ดีจังนะไม่กลัวเข็ม”

   “จะให้กลัวอะไรล่ะ? ตั้งแต่ฝังมดลูกเทียมกัสฉีดฮอร์โมนทุกเดือนเลย ภาวนาทุกวันไม่ให้มีนม”

   “กลัวไปได้... หมอไม่ได้ให้ในปริมาณที่มากเหมือนสาวประเภทสองที่จะแปลงเพศเค้าได้รับสักหน่อย ขนาดผู้หญิงทั่วไป มีฮอร์โมนหญิงไหลเวียนไม่รู้เท่าไรยังแบนก็มี” หมอปลอบให้อีกฝ่ายสบายใจ แต่ถึงฮอร์โมนนั่นจะมีผลทำให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงในทางที่ไม่ชอบ แต่ถ้ามันจะช่วยให้ลูกยังอยู่กับเรา หมอก็รู้ว่าซูกัสก็จะไม่เอ่ยปากปฏิเสธแน่นอน

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เสียงประตูห้องถูกเคาะและเปิดออก ร่างโปร่งบางแต่ทะมัดทะแมงในชุดกาวน์ยาวก้าวเข้ามา

   “ขอโทษที่รบกวนนะคะหมอ อ้อขอปรึกษาอะไรด้วยหน่อยได้ไหมคะ”

   “ได้ครับ” หมอตอบแล้วลุกขึ้นหันไปบอกซูกัสที่นั่งอยู่ที่เดิม

   “กัสรออยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวหมอมา”

   “เร็วๆ นะหมอ... กัสหิวแล้ว”

   “สั่งอะไรมากินก่อนไหมล่ะ? ถ้ากลัวนาน”

   “ไม่เอา...” เขาตอบกลับมาทันทีโดยไม่ต้องคิด ใบหน้ามีความหงุดหงิดเจืออยู่เล็กน้อย

   “โอเค หมอจะรีบกลับมา แล้วไปหาอะไรกินกัน”
   


   เนื่องจากเคสที่หมออ้อมาปรึกษาค่อนข้างยากเราจึงคุยกันนานกว่าที่คิด กว่าที่หมอจะกลับมาที่ห้องก็พบว่าซูกัสรอจนฟุบหลับกับโต๊ะไปแล้ว เพลียง่ายแบบนี้หรือว่า....

   “กัส... ตื่นเถอะ นอนแบบนี้เดี๋ยวก็ปวดหลังแย่หรอก” ผมเดินมาแตะตัวเขาเขย่าเบาๆ เพื่อปลุก

   “อือ...” ซูกัสครางอือปรือตาขึ้นมองหมองงๆ “กลับมาแล้วเหรอหมอ ทำไมไปนานจัง”

   “ขอโทษครับ เคสยากนิดหน่อย”

   “กัสหิว... ลูกกัสก็หิว” ซูกัสบอกหน้ามุ่ย แต่ทำไมหมอขำ

   “ครับ หมอรู้แล้วไม่ต้องทำหน้าดุก็ได้” หมอบอกแล้วถอดกาวน์สั้นที่ใส่เฉพาะในคลินิกแขวนไว้ เหลือเพียงเชิ้ตสีฟ้าและกางเกงแสล็กที่ดูสภาพเท่านั้นยามที่ออกจากคลินิกเพื่อไม่ให้คนอื่นเดาได้ว่าประกอบอาชีพอะไร

    “กลับบ้านกันเถอะ” หมอบอก พยุงแขนเขาขึ้นยืนจับจูงมือคนหิวเก่งให้เดินตามออกมาจากห้อง

   ระหว่างที่เดินออกมาหมอหันไปเห็นหมออ้อพอดีจึงหันไปบอกลาตามมารยาท

   “หมออ้อครับ ผมกลับแล้วนะครับ”

   “ค่ะหมอว่าน” เธอตอบรับกลับด้วยรอยยิ้มหวาน และหมอยิ้มตอบตามปกติ จากนั้นก็เดินพาซูกัสมาที่รถเก๋งของตัวเองที่จอดอยู่

   “หมออ้อเค้าสวยเนอะ” จู่ ๆ คนข้างๆ ก็เอ่ยชม

   “อือ” หมอตอบรับสั้นๆ โดยไม่ได้ใส่ใจนักจนกระทั่งอุ้งมือที่ถูกหมอกุมไว้ค่อยๆ บิดมือออกหมอจึงหันไปมอง เห็นอีกฝ่ายมองกลับมาด้วยสายตาบางอย่างที่ไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย..

   “กัสอยากกลับบ้าน...” รู้สึกเหมือนพบเจอเดจาวู!

   “ครับๆ หาข้าวเย็นทานก่อนนะ ที่ไหนดี?”

   “ไม่หิวแล้ว กัสอยากกลับบ้าน”

   “ซูกัส...” หมอเรียกด้วยเสียงต่ำ “งอนอะไรหรือเปล่า?”

   “เปล่า...”

   “งั้นก็ไปกินข้าวก่อนค่อยกลับนะครับ”

   “ก็กัสบอกว่า...”

   “กัสไม่หิวแต่ลูกกัสหิว... เพราะงั้นต้องกินนะครับ” หมอสรุปจบเพียงแค่นั้น อีกฝ่ายจึงเลิกเถียงในที่สุด...



   หลังจากกลับจากทานข้าวแล้ว เราสองก็อยู่ท่ามกลางความเงียบงันมาตลอด ซูกัสทานน้อย พูดน้อย สีหน้าแสดงออกว่าไม่พอใจอะไรบางอย่างตลอดเวลาอย่างเห็นได้ชัด หมอได้แต่เงียบไม่ได้ถามอะไรเขา ทั้งๆ ที่ในหัวพยายามใคร่ครวญสะระตะว่าเขากำลังโกรธเคืองเรื่องใดอยู่กันแน่จนกระทั่งหมอจอดรถที่โรงจอดรถ ซูกัสลงจากรถแล้วเดินลิ่วไปที่ประตูบ้านอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่รอ หมอมองตามอย่างไม่สบายใจ ล็อกรถล็อกบ้านเรียบร้อยแล้วจึงเดินมายืนข้างหลังซูกัสที่เปิดประตูบ้านออก

   “ฮึ้ย... หมอ” ซูกัสร้องอย่างตกใจเมื่อหมอกอดต้นขาแล้วยกร่างเขาขึ้นทั้งตัวแล้วพาเดินเข้าตัวบ้าน อ้อมแขนเล็กพยายามยึดบ่าหมอไว้แน่นเพราะกลัวตก 

   “จูบหน่อยซูกัส” หมอพยายามร้องขอ แต่อีกฝ่ายเบนหน้าหนีไม่ทำตาม

   “ฮื้อ...” เขาร้องเมื่อหมอกระแทกหลังของเขากับผนังห้องรับแขก เป็นฝ่ายยื่นหน้าเข้าไปหาเสียเอง ซูกัสขมวดคิ้วพลิกหน้าหนีปากหมอที่พยายามจูบเขาอย่างออดอ้อนจนจมูกของหมอได้แต่หอมแก้มเขาซ้ำซากไปมาอยู่อย่างนั้น จนในที่สุดเขาก็ยอมจูบตอบกลับมาจนได้

   “ปล่อยได้แล้ว ไม่หนักหรือไง”

   “ดีกว่าปล่อยให้งอนต่อไปเฉยๆ ถ้าไม่หายก็ไม่ปล่อย..” หมอบอกด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ยังคงแตะจมูกอยู่ที่พวงแก้มหอมกรุ่น ค่อยๆ ปล่อยร่างเขาลงยืนที่พื้นอย่างนุ่มนวล...

   “รู้ด้วย?”

   “กัสน่ะอ่านง่ายจะตายไป คิดอะไรน่ะออกมาทางสีหน้าหมด” ที่จริงหมอรู้ว่าเขาไม่พอใจ แต่ก็เหมือนผู้ชายทั่วๆไปนั่นแหละที่ไม่ค่อยรู้ว่า “เรื่องอะไร”

   “เหอะ! หมอจะบอกว่ากัสงี่เง่าอีกใช่ไหมล่ะ?” เขาถามพลางเชิดหน้างอนอีกครั้ง

   “จะว่าไปก็ใช่”

   “หมอ!!” ซูกัสเรียกเสียงดัง

   “ก็กัสหึงหมออ้อใช้ไหมล่ะ ไม่ไร้สาระเหรอ?” หมอถามกลับไป...

   “ไม่รู้ดิ ก็หมอชมว่าเค้าสวย” คำตอบนั่นเอ่ยออกมาพร้อมใบหน้าที่มุ่ยอยู่น้ำเสียงบ่งบอกว่างอนเต็มที่

   “สวยไปก็กินไม่ได้... หมอไม่ได้ชอบผู้หญิงซะหน่อย แล้วที่สำคัญ หมออ้อเค้าก็แต่งงานแล้วด้วย”

   “จริงเหรอครับ?” เขาถามอย่างแปลกใจ คงเพราะหมอไม่เคยเล่าให้ฟัง

   “อือ...ทีนี้เลิกงอนได้แล้วใช่ไหม?”

   “อื้อ...ก็ได้” ตอบแบบยังพยายามรักษาฟอร์มอยู่ดี

   “นี่สงสัยซูกัสคงท้องจริงๆ ซะล่ะมั้ง” หมอแซวพร้อมหัวเราะ

   “ทำไมล่ะ?”

   “ก็คนท้อง แรกๆ มักชอบหงุดหงิด หิวบ่อยแล้วก็อ่อนเพลียง่ายด้วย เหมือนกัสจะเริ่มมีอาการหน่อยๆ นะ”

   “จริงเหรอครับ?” คำถามนั้นมีแววตื่นเต้นดีใจแล้วก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าแสดงความสงสัย “แต่ทำไมพอตรวจแล้วยังขีดเดียวอยู่เลย”

   “ปริมาณ hcg คงยังน้อยเกินไปที่จะตรวจพบล่ะมั้ง หมอถึงยังไม่เจาะเลือดตอนนี้ เพราะถ้าไม่เจออะไรนอกจากเจ็บฟรี เดี๋ยวกัสจะจิตตกไปซะเปล่า”

   “หมอพูดแบบนี้ผมก็ใจชื้นเลย” ซูกัสบอกด้วยรอยยิ้มดีใจแล้วรีบผละจากอ้อมกอดของหมอเดินเข้าห้องนอนไป

   และหลังจากนั้นชุดตรวจตั้งครรภ์แสดงผลขีดแดง 1 ขีดก็เพิ่มขึ้นอีกสองอันในถังขยะ

   ทั้งๆ เคยบอกไปแล้วแท้ๆ นะว่าตรวจตอนตื่นนอนจะแม่นยำกว่า!


   
   และความพยายามนั่นยังดำเนินมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง...

   “เย้!!!!!”  นั่นคือเสียงที่ดังลั่นบ้านในวันที่สิบสองหลังจากฝังตัวอ่อน...เสียงย่ำเท้าตึกตึกดังก้องจากทางห้องน้ำมาจนถึงครัวที่หมอกำลังหั่นผักเตรียมทำอาหารให้คนไข้คนพิเศษสุดรับประทาน

   “ใจเย็นสิซูกัส อย่าวิ่งเดี๋ยวก็ล้มหรอก” หมอเตือนด้วยเสียงดุ 

   “ก็ผมตื่นเต้นนี่นา ดูสิหมอ...สองขีดแล้ว...” เขาบอกรีบยื่นหลักฐานเป็นชุดตรวจตั้งครรภ์มีขีดแดงสองขีดให้ดู

   “ยินดีด้วยครับคุณแม่...” หมอกล่าวยกมือขึ้นลูบผมเขาอย่างเอ็นดู

   “เช่นกันครับคุณพ่อ...” เขาตอบกลับมาแล้วยิ้มทั้งน้ำตาเพราะความปลาบปลื้มพลอยทำให้หมอต้องยิ้มตามไปด้วย ค่อยๆ จับมือเขาไว้ไล้นิ้วโป้งกับหลังมือขาวแล้วดึงร่างซูกัสเข้ามาหาตัวเอง ซูกัสค่อยๆ กางแขนโอบหมอแน่น... แนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ เหมือนอยากจะแสดงว่าเขาดีใจมากแค่ไหน และหมอเองก็ดีใจไม่น้อยไปกว่ากัน...

   “เอาล่ะ ฟังหมอดีๆ นะ ต่อจากนี้ไปกัสต้องดูแลตัวเองดีๆ ห้ามวิ่ง เดี๋ยวจะล้ม เดินได้แต่อย่ามาก ห้ามออกกำลังกายอย่างหนัก ห้ามเครียด ห้ามนอนดึก ห้าม...”

   “หมอ!!! ใจเย็นๆ สิ กัสฟังไม่ทัน!!!” หมอชะงักปากที่กำลังจะพ่นคำเตือนมากมายภายในหัวอย่างลืมตัว แล้วยิ้มให้ซูกัสอย่างเขินๆ ที่เผลอพูดมากจนเกินไป...

   เอ่อ...หมอเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วสิว่าระหว่างหมอกับซูกัส...ใครเห่อลูกมากกว่ากัน!!


++++++++++
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2016 01:04:02 โดย ๛ナーリバス๛ »

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
จะมีเบบี๋แล้วนะซูกัส   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
อยากเห็นหมอว่านเห่อลูก แพ้ท้องแทนเมีย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โชคดีมากๆๆๆๆๆ. เย้ ยินดีด้วยนะคุณพ่อคุณแม่มือใหม่
ถ้าหมอว่านไม่ห้ามคงวิ่งรอบบ้านใช่ไหมกัส :กอด1:   
รออีกเก้าเดือนเองไวจะตาย เอาใจช่วยให้ผ่านทุกอย่างไปด้วยดีนะ.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
กัสท้องแล้ว เย้ๆๆๆ เห่อลูกทั้งคู่ อิอิ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
สรุปว่าเห่อเหมือนกัน

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
เห่อลูกทั้งคู่แหละ

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ซูกัสมีน้องแล้ว....คุณหมอตอนแรกไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำขอซูกัส พอตอนนี้เห่อลูกแซงหน้าไปซะแล้ว :hao7:

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
-13-
   
   เมื่อซูกัสอายุครรภ์ได้ราว 6 สัปดาห์อาการแพ้ท้องก็ตามมาทันทีเหมือนเงาตามตัวและหนักขึ้นเรื่อยๆ จนหมออดรู้สึกสงสารเขาไม่ได้ ความรู้มากมายในหัวตีกันให้วุ่นจนไม่รู้จะเริ่มจากอะไรก่อนดี

   “ตื่นแล้วเหรอครับ... ทานบิสกิตสักหน่อยนะ แล้วก็นอนพักต่อสักยี่สิบนาทีแล้วค่อยลุกนะครับ”

   “ช่วงแรกๆ  อย่าเพิ่งดื่มนม เปลี่ยนเป็นดื่มน้ำขิงระหว่างวันแทน”

   “แต่ละมื้อไม่ต้องทานมาก แต่ทานวันละหลายๆ มื้อ”

   “ถ้าอยากทานของเปรี้ยวก็ให้ทานผลไม้สดพวกสตรอเบอรี่แทนของดอง”

   แต่ถึงจะพยายามหาวิธีไม่ให้แพ้มากก็เหมือนจะไม่หายซะทีเดียว

   “อ้วก...แหวะ...” อาการคลื่นไส้อาเจียนเริ่มต้นในตอนเช้าและทุกครั้งที่ได้กลิ่นแปลกๆ จนซูกัสไม่สามารถย่างเท้าเข้าครัวได้เลย (ดีเท่าไรแล้วที่ไม่เหม็นหมอด้วย) ช่วงนี้หมอจึงเป็นคนทำอาหารที่เหมาะสำหรับคนท้องให้เขา โชคดีที่ตอนนี้หมอเรียนจบแล้วและเลือกเข้าคลินิกแค่สองสามวันต่อสัปดาห์เพื่อใช้เวลาที่เหลือดูแลซูกัสที่บ้าน

   ซูกัสหิวบ่อย แต่ถ้ากินมากก็อาเจียนออกหมด อ่อนเพลียจนนอนทั้งวัน ท้องอืดและชอบบ่นว่าปวดหลัง จนหมออดกังวลไม่ได้ ความเครียดทำให้หมอพลอยมีอาการปวดหัวและอยากจะอาเจียนบ้างเป็นบางครั้ง

   “น้ำขิงไหมครับหมอ” ซูกัสเอ่ยถามเมื่อหมอเดินออกจากห้องน้ำหลังจากโก่งคอกับอ่างล้างหน้าแต่ก็ไม่มีอะไรออกมานอกจากน้ำลายเหนียวๆ หมอรับแก้วน้ำขิงในมือเขามาดื่มแล้วถามเมื่อเห็นรอยยิ้มกลั้นขำในหน้าที่ซีดเซียวนั้น

   “ขำอะไรครับ?”

   “ไม่คิดว่าคุณหมอจะแพ้ท้องแทนผม” ซูกัสตอบยิ้มๆ ระหว่างเราเดินจากห้องน้ำไปที่ห้องรับแขก

   “ทำไมล่ะ? เค้าว่าถ้าใครแพ้ท้องแทนเมียแปลว่ารักเมียมาก กัสไม่คิดว่าหมอรักกัสมากหรือไง?” หมอถามพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน

   “ไม่รู้สิครับ มันไม่ค่อยวิทยาศาสตร์เลยอ่ะ”

   “แล้วความรักมันฟังดูวิทยาศาสตร์ไหมล่ะ?” หมอวางแกวน้ำขิงไว้ที่โต๊ะชา และเราทั้งสองนั่งลงที่โซฟา

   “นั่นสิครับ ไม่ค่อยวิทยาสาสตร์แต่หมอบอกว่าเชื่อในความรักนี่นา”

   “ความจริงมีคนอธิบายความรักในหลักวิทยาศาสตร์ด้วยนะ พออ่านแล้วก็น่าเชื่อถืออยู่เหมือนกัน เพราะอธิบายโดยใช้หลักฮอร์โมนน่ะ”

   “จริงเหรอครับ ความรักเกิดจากฮอร์โมน?” ซูกัสทวนคำคล้ายกับไม่เชื่อ

   “กัสน่าจะเคยได้ยินคำว่าฟีโรโมนใช่ไหมล่ะ?”

   “ครับ สารที่หลั่งออกมาแล้วเพศตรงข้ามได้กลิ่นก็เกิดความหลงใหล ฟังดูเหมือนจะธรรมดาแต่พอรู้ว่าสารนี้ผลิตมาจากรักแร้ก็รู้สึกทะแม่งๆ อ่ะ น่าจะเหม็นมากกว่าหอม”

   “ที่จริงมันก็เกิดได้จากหลายจุดนะ ผิวหนังหรืออวัยวะอื่นๆ ก็ได้ แล้วฟีโรโมนก็ไม่ได้รับรู้ด้วยจมูกแต่รับรู้ด้วยสมองต่างหาก”

   “ถ้างั้นที่หมอบอกว่าตัวผมหอมก็โกหกน่ะสิ”

   “ไม่ได้โกหก รู้สึกจริงๆ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่ากลิ่นฟีโรโมน กลิ่นสบู่หรือว่า กลิ่นสาป”

   “หมอ!!!” ซูกัสลากเสียงยาวมุ่ยหน้าเป็นเชิงตัดพ้อ

   “ที่จริงแล้วฟีโรโมนเนี่ยมันก็เป็นแค่สารกระตุ้นที่ทำให้สนใจเท่านั้นนะ เหมือนตัวช่วยคัดสรรคนที่ใช่ให้เรา นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าคนบางคนอาจจะดีแสนดีแต่ทำยังไงเราก็ไม่รักอาจจะเพราะฟีโรโมนไม่ตรงกัน ส่วนทฤษฎีความรักเท่าที่จำได้จะมี 3 ช่วงนะคือ ช่วงเกิดตัณหา ช่วงคลั่งรัก แล้วก็ช่วงผูกพัน โดยฮอร์โมนเพศสองตัวคือเทสโทสเตอร์โรนกับเอสโตรเจนจะทำให้เกิดตัณหาอยาก...” หมอหันไปมองหน้าซูกัสด้วยดวงตาวาวหวาน

   “อะฮึ่ม... อะไรหมอ...คิดทะลึ่งอีกล่ะสิ!” ซูกัสเดาถูกอีกครั้ง ทำให้หมอยิ้มรับเป็นคำตอบแล้วพล่ามต่อ

   “เอ่อ...แล้วก็มีฮอร์โมนตัวอื่นๆ ที่ทำให้หลงใหล คิดถึงอีกฝ่ายจนไม่ได้กินไม่ได้นอน พอล่วงเลยช่วงคลั่งรักไปก็มีฮอร์โมนตัวอื่นที่ทำให้เกิดความผูกพันอยากอยู่กับคู่ของตัวเองไปตลอด ในสัตว์บางชนิดจึงพบว่ามันจะมีคู่ครั้งเดียวตลอดชีวิตของมันและหนูชนิดหนึ่งเมื่อคู่ของมันตายไป อีกตัวก็ตรอมใจตายตามไปด้วย”

   “ถ้าหากคนรักของเรา เค้ารัก ซื่อสัตย์และดูแลเราอย่างดีที่สุดตลอดชีวิตของเขา ต่อให้รู้ว่าต้องตายไปพร้อมๆ กับเขามันคงจะเป็นความตายที่มีความสุขมากนะครับ” ซูกัสเอ่ยตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงความซาบซึ้งพร้อมกับน้ำตาที่ไหลกลิ้งลงมาข้างแก้มทั้งๆ ที่ยิ้ม หมอยกมือขึ้นปาดน้ำตาเขาเบาๆ

   “คุณแม่นี่อ่อนไหวจริงๆ เอะอะก็ร้องไห้ตลอด” หมอแซวซูกัสแล้วหัวเราะเบาๆ

   “มันซึ้ง จริงๆ นะครับ” ซูกัสแก้ตัว ซึ่งหมอไม่รู้สึกแปลกใจอะไร เพราะมันเป็นอาการปกติของคุณแม่ตั้งครรภ์อยู่แล้วที่จะมีอารมณ์จนอยากร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผล

   “ที่จริงก็ซึ้ง แต่มันคงเกิดขึ้นได้ยากกับมนุษย์นะ เพราะอย่างน้อยชีวิตของเราก็ไม่ได้มีแค่คนรักเพียงอย่างเดียว ไหนจะพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง หรือแม้แต่ลูกของเรา”

   “ครับ...เค้าคงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้กัสอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปถ้าหากไม่มีหมออยู่แล้ว... แต่ถ้าหากว่ากัสเป็นฝ่ายที่จากไปก่อน หมอก็ต้องอยู่ต่อไปให้ได้เพื่อลูกของเราเหมือนกันนะครับ”

   หมอไม่ได้ตอบ เพียงยื่นมือไปกุมมือบางของซูกัสมากุมไว้ในอุ้งมือแล้วขยับตัวเขาหาเขา กดศีรษะเล็กให้ซบกับบ่าตัวเองพลางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ รับรู้ได้ถึงกลิ่นหอมเจือจางบางอย่างที่ตรึงติดจมูก หมอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบกลิ่นของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และเพราะอะไรถึงชอบกลิ่นของซูกัสมาก หรือฟีโรโมนของซูกัสมันเป็นกลิ่นพิเศษที่ดึงดูดเพศเดียวกันมากกว่าเพศตรงข้าม ในระหว่างที่ความรักเล่นงานหมออย่างหนักหน่วงมาตลอดสองปีกว่านี้หมอเฝ้าถามตัวเองว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในช่วงไหนของความรัก...

   ตัณหา เพ้อคลั่ง หรือผูกพัน หรืออาจจะพร้อมกันทั้งสามในเวลาเดียวกันก็เป็นได้...

   ยังไงก็ตามหมอไม่อาจตอบรับคำขอของซูกัสได้ เพราะหมอก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าหมอจะสามารถอยู่ต่อไปโดยไม่มีซูกัสได้จริงหรือเปล่า...



   
   อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ท้องซูกัสใหญ่กว่าปกติทั้งที่เป็นท้องแรก นั่นเป็นผลมาจากครรภ์แฝดทำให้หมอยิ่งหนักใจเพิ่มมากขึ้นไปอีก การมีลูกแฝดนอกจากทำให้แพ้ท้องมากขึ้นแล้วยังทำให้มีภาวะโลหิตจางและเป็นอันตรายมากทีเดียว หมอต้องให้กินธาตุเหล็กและต้องเตรียมเลือดไว้ในกรณีฉุกเฉิน และในระหว่างที่หมอไม่อยู่บ้าน หมอก็ไม่กล้าปล่อยให้ซูกัสอยู่คนเดียวเลย ดังนั้นหมอจึงพาซูกัสไปส่งที่บ้านของเขาตอนที่หมอมาทำงาน กำชับว่าหากมีอะไรผิดปกติให้โทรหาได้ตลอด

   พอถึงวันหยุด หมอไปรับซูกัสที่บ้านแต่เช้า ซูกัสยังมีอาการอ่อนเพลียอยู่ตลอด แต่รู้สึกได้ว่าเขามีความสุข...

   “ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องดื่มกาแฟ” หมอบอกเขาเมื่อซูกัสเอ่ยปากว่าจะขอแวะไปร้านกาแฟสด ตอนที่หมอแวะเติมน้ำมัน

   “ไม่ได้ดื่มกาแฟ แค่อยากกินชาเขียวสักแก้ว”

   “ชาเขียวก็คาเฟอีนเยอะไม่ต่างจากกาแฟหรอกน่า ที่จริงก็ดื่มได้นะ แต่ต้องควบคุมไม่ให้เกินวันละ300 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ถ้าทำได้ไม่ดื่มเลยจะดีกว่า”

   “เอ่อ...งั้นกัสไม่ดื่มแล้วก็ได้” เขาตอบเสียงอ่อย มองแล้วก็น่าสงสาร

   “เป็นน้ำผลไม้แทนแล้วกันนะครับ” หมอสรุปคล้ายบังคับ หลังจากเติมน้ำมันเสร็จก็เลี้ยวรถเข้าซองแล้วลงไปซื้อน้ำผลไม้ในเซเว่น รวมถึงซาลาเปา มาให้ซูกัสกินแก้หิวด้วย

    ระหว่างทางกลับบ้านซูกัสนั่งกินซาลาเปากับน้ำผลไม้ในรถ

   “ดีนะคนที่ท้องเป็นผมไม่ใช่แม็กม่า รายนั้นน่ะติดกาแฟมากเลย ถ้าวันไหนไม่ได้กินวันนั้นหงุดหงิด ถ้าเขางอนผมล่ะก็ ผมต้องง้อโดยซื้อกาแฟสตาร์บัคส์มาให้กินทุกทีเลย ทั้งๆ ที่ถ้ามันซื้อเองเห็นกินแต่ลาเต้เซเว่น ราคานี่ต่างกันลิบลิ่ว”

   หมอหัวเราะที่ซูกัสนินทาเพื่อนสนิทให้ฟัง หมอจำได้ว่าเคยพบหน้าเขาครั้งเดียวเองตอนที่แวะไปหาซูกัสที่มอ. แต่เรื่องราวของแม็กม่าจะถ่ายทอดจากปากซูกัสซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเหมือนแม็กม่าเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งของหมอทีเดียว

    “จะว่าไปตั้งแต่ปิดเทอม กัสไม่ได้เจอแม็กเลยนะ ได้ข่าวว่ามันได้งานที่บริษัทนำเที่ยวแถวๆ ลาดพร้าว ชื่ออะไรอิดๆ นี่แหละ” ทำไมข้อมูลเบื้องต้นมันคุ้นๆ อย่างนั้นนะ...

   “อิทธิฤทธิ์ คอป หรือเปล่า?” หมอถามกลับไปขำๆ เหมือนอยากจะแซวเล่นมากกว่าจริงจัง

   “ใช่...เอ๊ะ! หมอรู้จักหรอ?” คำตอบรับของซูกัสทำให้หมอค่อนข้างแปลกใจ ไม่คิดว่าโลกจะกลมได้ขนาดนั้น...

   “จะว่าไปก็รู้จักนะ... หรือว่าวันนี้เราจะแวะไปเยี่ยมเพื่อนซูกัสกันดีล่ะ?”





   “หมอ... ผอมลงหรือเปล่า” อิฐถามทันทีที่เจอหน้า มันค่อนข้างแปลกใจที่หมอสามารถลากสังขารตัวเองมาพบมันถึงบริษัทได้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

   “เอ่อ...” หมอกำลังคิดว่าจะตอบอย่างไรไม่ให้เสียฟอร์มแต่ไม่ทัน...

   “หมอเค้าแพ้ท้องน่ะครับ” ซูกัสตอบด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ทำให้หมอหันไปมองด้วยสายตาคาดโทษแต่อีกฝ่ายยิ้มรับไม่แคร์...

   “ว่าแต่ถ่อมาถึงนี่มีอะไรหรือเปล่า?” อิฐถามเป็นงานเป็นการ

   “หมอพาซูกัสมาหาเพื่อนน่ะ บังเอิญมากว่าทำงานที่นี่พอดี”

   “จริงเหรอ? บังเอิญจัง อยู่แผนกไหนล่ะ?”

   “ทดลองงานอยู่แผนกบัญชีน่ะครับ”

   “อ้อ... งั้นเดี๋ยวให้เลขาพี่พาซูกัสไปส่งหาเพื่อนนะครับ” อิฐบอกซูกัสอย่างใจดีแล้วยกหูโทรศัพท์ต่อสายในสั่งเลขาให้ทันที ไม่ถึงนาทีเลขาของอิฐก็เปิดประตูห้องเข้ามา

   “ซูกัสไปคนเดียวได้ไหมครับ เดี๋ยวหมอขอคุยกับอิฐสักพักนึงนะแล้วเดี๋ยวจะตามไป” หมอบอกเขา

   “ได้ครับ ถ้าผมหิวแล้วจะโทรตามนะ” เขาบอกอย่างอารมณ์ดี หมอพยักหน้ามองตามร่างเล็กที่ตอนนี้มองแล้วเหมือนเขาเริ่มมีพุงทั้งๆ ที่ร่างกายผอมซูบ..เดินออกจากห้องทำงานของอิฐไป

   “น่ารักชิบ... แต่เหมือนโทรมๆ ไม่สบายหรือเปล่า” อิฐค่อนข้างสายตาดี ช่างสังเกตเชียว

   “แพ้ท้อง...” หมอตอบเรียบๆ

   “เออ ดี! แพ้ทั้งสองคน สรุปว่าใครท้องกันแน่ล่ะ?” อิฐถามด้วยน้ำเสียงแสดงความขบขัน แต่หมอไม่สนใจจะตอบคำถาม เพราะอยากคุยธุระอื่นมากกว่า

   “อิฐ หาทนายให้หน่อยได้ไหม กูอยากเขียนพินัยกรรม”

   “ฮะ!! เร็วไปไหมหมอ... เพิ่งจะ 32 เอง”

   “เขียนไว้เฉยๆ ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะตายเร็วหรอก แต่เพราะผู้ชายจดทะเบียนสมรสไม่ได้ กูก็เลยอยากหาหลักประกันอะไรให้ซูกัสเท่านั้นเอง”

   “ท่าหมอจะเป็นเอามากนะเนี่ย แต่ที่จริงซูกัสก็เป็นลูกคนมีเงิน เค้าคงไม่แคร์สมบัติพัสถานอะไรของหมอนักหรอกมั้ง หมอบอกว่าซูกัสรวยกว่าหมออีกไม่ใช่เหรอ?”

   “อือ... มันไม่สำคัญหรอกว่าใครจะรวยกว่าใคร รู้แต่ว่าอยากยกทุกอย่างให้เฉยๆ เผื่อถ้าลูกโตขึ้นจะได้มีอะไรไว้ดูต่างหน้า”   

   “ลูก??” อิฐส่งเสียงสูงอย่างประหลาดใจ

   “อือ... ซูกัสท้องได้สามเดือนแล้ว” หมอตอบเรียบๆ ไม่คิดจะปิดบัง

   “หา? เพี้ยนหรือเปล่าเนี่ยหมอ ผู้ชายที่ไหนจะท้องได้?”

   “ไม่เชื่อก็ช่าง แค่ตอบมาก็พอแล้วว่าหาทนายให้ได้ไหม?”

   “อะ... ได้ๆ เดี๋ยวจะติดต่อทนายประจำตระกูลให้เลย”

   “ขอบใจ” หมอบอกแล้วยิ้มบางๆ

   “อืม... ถ้าหมอบอกว่าซูกัสท้องอยู่ แต่หมอแพ้ท้อง ก็แสดงว่าหมอแพ้แทนเมียสินะ?” หมอไม่แน่ใจว่าเขาอยากแซวเฉยๆ หรือนึกเชื่อหมอขึ้นแล้วจริงๆ แต่หมอก็ตอบกลับตามปกติ

   “มีซะที่ไหนอาการแพ้ท้องแทนเมีย”

   “อ้าว... แล้วที่หมอเป็นเรียกว่าอะไรล่ะ?”

   “เห็นซูกัสแพ้ท้องมากก็เลยเครียดต่างหากล่ะ” ใช่ อาการพวกนี้เกิดจากความห่วงใจภรรยาและลูกเท่านั้นเอง แต่หมอไม่อาจบอกซูกัสไปตามตรงได้ว่าหมอเครียดเรื่องลูกหลายๆ อย่างเพราะกลัวซูกัสจะพลอยไม่สบายใจตามไปด้วยจึงต้องยอมรับกับซูกัสว่าแพ้ท้องแทน

   “เครียดทำไมล่ะ แพ้ท้องก็เรื่องปกติไม่ใช่เหรอ”

   “อาการแพ้ท้องน่ะมันมีสาเหตุมาจากฮอร์โมน hcg ยิ่งสูงก็ยิ่งแพ้ท้องมากและการที่ฮอร์โมนสูงมันก็ทำให้วินิจฉัยไปในทางที่ไม่ดีได้ด้วยจำพวกครรภ์เป็นพิษ ท้องนอกมดลูก รกผิดปกติ หมอก็เลยเครียด แต่ตอนนี้รู้สาเหตุแล้วว่าแพ้ท้องมากไม่ใช่เพราะความผิดปกติแต่เพราะมีลูกแฝด”

   “ก็เลยหายเครียด?”

   “เปล่า เครียดกว่าเดิมอีก”

   “อะไรของหมอวะ” อิฐสบถทันที

   “ความจริงแล้วการที่ซูกัสมีลูกแฝดมันไม่ใช่ความบังเอิญแต่เป็นความผิดพลาดของหมอเอง เพราะหมอไม่แน่ใจว่ามดลูกเทียมมีความแข็งแรงมากแค่ไหน กลัวว่าจะมีโอกาสสำเร็จต่ำ แล้วตอนฝังตัวอ่อนต้องเจาะหน้าท้องด้วยหมอสงสารซูกัสไม่อยากให้เจ็บตัวหลายรอบก็เลยฝังตัวอ่อนไปสองเลยกันพลาด ที่ไหนได้ติดทั้งสองก็เลยเป็นแฝด”

   “ดีออกนะ คลอดทีเดียวสองคน ไม่ต้องท้องกันบ่อยๆ ไง”

   “มันเสี่ยงหลายอย่างน่ะ แต่ถึงยังไงหมอก็จะพยายามดูแลพวกเขาให้ปลอดภัยจนคลอดให้ได้และ”

   อิฐยิ้ม... เดินมาตบไหล่หมออย่างให้กำลังใจ

   “ผู้ชายท้องได้น่ะเป็นเรื่องยากขนาดไหนใครๆ ก็รู้ ถ้าหมอเก่งมากถึงขนาดทำให้มันเกิดขึ้นได้ เรื่องอื่นๆ ก็จิ๊บจ๊อยว่ะ อย่าไปเครียดเลย”

   “หวังอย่างนั้นเหมือนกัน...”




ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
ขอให้ซูกัสแข็งแรง ๆ คลอดน้องปลอดภัยนะจ๊ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
หมอว่านนี้รนับวันก็ยิ่งเป็นคุณพ่อที่น่ารัก....อยากเห็นตอนคุณหมอว่านช่วยซูกัสเลี่ยงลูกแล้วซิ
คงน่ารักน่าหยิกทั้งบ้าน แบบว่าฟินไปล้วงหน้าเลย  :z2: :z2: :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
สู้ๆๆน่ะหมอ  รอกัสคลอด แฝดด้วยคุ้มเลย อิอิ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ความรักนี่เข้าใจยากจริงๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โชคสองเด้งไงหมอ แต่จริงที่เสี่ยงหลายอย่างเพราะเราไม่รู้ว่าถ้าแฝดจะปกติสมบูรณ์ทั้งคู่หรือไม่แถมเรื่องมดลูกเทียมก็น่าห่วงอยู่
ถ้าเคสนี้สำเร็จสวยงามต้องลงกินเนสบุ้คแน่ๆเลย ฮ่าๆ แอบเรียลจนอิน
ขอบคุณค่ะ.  :L1:   

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
น้องแฝดลูกของซูกัสกับหมอว่านต้องปลอดภัยแข็งแรงเพราะพี่ป้าน้าอาทั้งหลายตั้งตารออยู่
 :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
หวังว่าจะปลอดภัยทุกคนนะคะ อย่ามาม่าตอนจบนะคะ :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
นับวันรอเด็กแฝดออกมาป่วนเลยหมอออ อย่าเครียดๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ขอให้ซูกัสคลอดอย่างปลอดภ

ยทีเถอะไม่อยากดราม่าอ่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ ♀♥♀DearigA♂♥♂

  • ♥kacha♥
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด