*~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:  (อ่าน 279083 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
คุณนายงอนคืนใช่ไหมจ้ะ  :hao7:
ขอถามหน่อยค่าาา หนังสือจะมีอีบุ๊คไหมคะ เผื่อเก็บตังไม่ทันอีกรอบ  :hao5:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ แพรพลอย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตามอ่านจนทันแล้วค่าาา ชอบอกชอบใจคุณนายเหลือเกิน ขนาดบทโศกบางบทคุณนายเล่นเอาซะโศกด้วยไม่ลงเลยเพราะขำหนักมาก แต่เรื่องพ่อกับแม่แท้ๆนี่สงสารคุณนายจริงๆ ขนาดเสี่ยจอมทัพที่ว่าเหี้-ย ยังไม่เทียบเท่าเลย ก็เอาใจช่วยให้คุณนายกับพี่เขี้ยวได้ลงเอยกันอย่างสงบสุขกันไวๆ เห็นทั้งสองรักกันทีไรมันกร๊าวใจทุกทีเลย 55555

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8


คาถาที่ 31 [100%]




“ป้าอุ่น ลุงอ๊อด คุณป๋า คุณแม่ ถอยไปค่ะ จะให้เรียวขับรถชนทุกคนเหรอ?!” เรียวจันทร์โผล่หัวออกมาจากหน้าต่างรถ ใบหน้าหงุดหงิดงุ่นง่าน แคมรี่สีฟ้าอ่อนพร้อมพุ่งตัวออกไปจากฟาร์ม แต่โดนทั้งสี่คนยืนขวางรถอยู่


“หนูเรียว โกรธอะไรไอ้เขี้ยวมันลูก อยู่คุยกับมันก่อนมั้ย อย่าเพิ่งหนีไปแบบนี้”


“ขอร้องเถอะค่ะคุณป๋า ให้เรียวไปเถอะ” เรียวจันทร์พยายามสะกดอารมณ์รุนแรงของตัวเองเอาไว้เพื่อไม่เอาออกมาใช้กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพทั้งหลาย


“คุณหนู เป็นอะไรไปล่ะคะ จะทิ้งป้าเหรอ” เรียวจันทร์มองป้าอุ่นแล้วทำหน้างอเหมือนเด็ก เห็นสีหน้าเว้าวอนของป้าอุ่นก็ใจหล่นไปวูบหนึ่ง


“ไม่ได้จะทิ้งค่ะป้า แต่เรียวขออยู่ห่างจากไอ้บ้าเขี้ยวสักแปบ…”


“…จะไปไหน?!” เรียวจันทร์สะบัดหน้าไปมองคมเขี้ยวที่ยืนหอบน้อยๆ อยู่กับแก๊ป คุณนายเบ้ปากและหันหน้าหนี รีบปิดกระจกรถขึ้นพร้อมกับล็อคประตู คมเขี้ยวรีบก้าวเดินเข้าไปกระชากประตูแต่ก็เปิดไม่ออกเลยทุบกระจกรถอย่างแรง


“เรียวจันทร์ เปิดประตู!”


“เขี้ยว อย่าตะคอกน้องสิ” แต่เหมือนคมเขี้ยวจะไม่ได้สนใจคำเตือนของแม่ตัวเอง เพราะเขายิ่งทุบกระจกแรงขึ้นกว่าเดิม


“เปิดประตู! ไม่ให้ไป จะไปไหน?!” เรียวจันทร์นั่งหน้าบึ้งอยู่ในรถไม่ยอมตอบ คมเขี้ยวมองตาดุด้วยความหงุดหงิด เขาหันซ้ายหันขวาสักแปบ ก่อนจะก้าวเท้าเดินไปหยิบจอบที่วางอยู่ข้างออฟฟิศและเดินกลับมาที่รถเรียวจันทร์


“ถ้าไม่เปิด พี่จะทุบกระจกนะ!”


“เฮ้ย ไอ้เขี้ยว!” เมฆาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ บัวบูชาก็อ้าปากหวอ ทั้งสองไม่เคยเห็นอารมณ์โมโหของลูกชายหนักขนาดนี้ ยิ่งพอคมเขี้ยวยกจอบขึ้นพร้อมทุบก็ยิ่งสะพรึงเข้าไปอีก


“เปิดประตู!” คมเขี้ยวตะคอก หน้าตาทั้งโกรธทั้งกลัว กลัวว่าเรียวจันทร์จะไปจริงๆ



เรียวจันทร์ชักสีหน้าก่อนจะเปิดประตูกระแทกคมเขี้ยวเต็มแรง ร่างสูงผงะถอยหลังไปสองก้าว แต่พอเห็นร่างเล็กออกมายืนด้านนอกด้วยใบหน้ามุ่ย เขาก็ทิ้งจอบ ก้าวเข้าไปประชิดตัวเรียวจันทร์ ดึงร่างบอบบางเข้ามากอดเต็มแรง


“ไม่ให้ไป หนูจะไปไหนอีก จะทิ้งพี่อีกแล้วเหรอ” คมเขี้ยวพูดเสียงรัว กอดร่างเรียวจันทร์แน่น คนโดนกอดทำหน้ามึนๆ งงๆ ทั้งที่คิ้วยังขมวดอยู่


“อยู่กับพี่ที่นี่ อย่าทิ้งพี่ไปอีก พี่ขาดหนูไม่ได้นะ” คมเขี้ยวพูดอย่างลนลาน ราวกับกลัวว่าจะไม่ทันได้พูดให้เรียวจันทร์ได้ยิน ใบหน้าสวยอึ้งไป รู้สึกเบลอกับสิ่งที่ได้ยิน ราวกับสิ่งที่ได้ยินเป็นเพียงเสียงแว่วๆ ที่ฟังไม่ถนัดนัก


“เดี๋ยว… คือแน่น พี่เขี้ยว หนูแน่น” แม้จะบอกแบบนั้นแต่คมเขี้ยวก็ยังกอดเรียวจันทร์แน่นเหมือนเดิม


“มีอะไรก็ไปคุยกันให้เข้าใจไป” เมฆาอมยิ้มน้อยๆ กับภาพที่เห็น บัวบูชามองแล้วยิ้มเขินๆ ป้าอุ่นกับลุงอ๊อดยิ้มแบบงงๆ แต่ก็ดีใจที่เห็นคนๆ นึงรักคุณหนูตัวเองขนาดนี้


คมเขี้ยวย่อตัวลงและอุ้มเรียวจันทร์ขึ้นพาดบ่าท่ามกลางความตกใจของทุกคน เรียวจันทร์ร้องเสียงหลง หัวห้อยลงกับพื้น


“เว๊? ฉิ่นจ่ะ อะไรเนี่ย อีพี่เขี้ยว ปล่อยยย!” แม้เรียวจันทร์จะโวยวายเสียงดัง แต่คมเขี้ยวก็ไม่สนใจ รีบเดินเข้าไปในบ้านที่รั้วเปิดอยู่แล้ว ด้วยความใจร้อน คมเขี้ยวเลยเดินเข้าข้างล่างบ้านแทนที่จะเดินขึ้นไปด้านบน เขาแบกเรียวจันทร์เข้าห้องนอนของไอ้ดิน เข้าไปในห้องได้ก็วางเรียวจันทร์ลงบนเตียง


“อะไรเนี่ย?!” เรียวจันทร์โวยวายใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโมโห ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วงงเมื่อคมเขี้ยวนั่งคุกเข่าลงตรงหน้านาง


“อย่าไปจากพี่ จะตีพี่ตรงไหนก็ได้ แต่อย่าไปจากพี่” คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์ด้วยสายตาที่ต่างจากตอนตะคอกให้นางลงมาจากรถลิบลับ มันกลายเป็นสายตาที่ยอมแล้วจริงๆ


“ฉันอยากพัก ฉันไม่อยากเหนื่อยใจกับความคิดของนายอีก…” คมเขี้ยวขมวดคิ้วไม่เข้าใจ เรียวจันทร์ถอนหายใจแรงๆ


“…เดี๋ยวนายต้องเก็บเอาคำพูดอียอร์ชมาคิดแน่ๆ แล้วนายก็จะระแวงฉันมากกว่าเดิม และนายก็จะงี่เง่า ดุด่าว่าฉันไม่จบไม่สิ้น ฉันเบื่อท่าทีนั้น เบื่อความปั้นปึ่งของนาย” เรียวจันทร์บอกด้วยความเหนื่อยล้าที่แสดงออกทางสีหน้าและสายตา คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์ด้วยสายตารู้สึกผิด


“พี่ขอโทษ แต่พี่ไม่ได้คิดมากเรื่องที่ไอ้แฟนเก่าหนูพูดเลยนะ” เรียวจันทร์มองอย่างไม่เชื่อ


“เชื่อได้เหรอ นายเชื่อทุกคนยกเว้นฉัน ทั้งที่ฉันรักนายจริงๆ แต่นายก็ยังมีอคติต่อฉันอยู่ ฉันรู้!” คมเขี้ยวมีสีหน้าสลดลง เขายกตัวขึ้น คลานเข่าเข้าไปหาเรียวจันทร์ ยื่นสองมือไปจับมือเรียวจันทร์ไว้ ขนาดว่าคมเขี้ยวนั่งอยู่ข้างล่างยังเกือบสูงกว่านางอยู่ดี


“พี่ขอโทษจริงๆ ที่อคติงี่เง่า แต่พี่ไม่เคยอยากให้หนูจากพี่ไปนะ ที่พี่เคยบอกว่าให้ไปไกลๆ พี่ประชด” เรียวจันทร์มองคมเขี้ยวนิ่งแต่ก็มีแววเคืองอยู่ในดวงตา คมเขี้ยวเลื่อนสองมือไปปลดกระดุมเสื้อเรียวจันทร์


“อะไร?!” เรียวจันทร์ตีมือคมเขี้ยวและถลึงตามอง คมเขี้ยวทำปากยื่น สองมือสอดเข้าไปใต้เสื้อตัวหลวมของตัวเองที่เรียวจันทร์สวมใส่อยู่


“พี่ยอมแล้ว พี่ไม่คิดเรื่องที่ผ่านมาอีกแล้วครับ อยู่กับพี่นะ หนูจะให้พี่อยู่ยังไง ถ้าหนูไป”




“ก็อยู่กับม้าไปสิ รักมันมากไม่ใช่เหรอ?!” เรียวจันทร์แว้ดกลับ นึกถึงตอนที่ถูกบังคับให้คืนดีกับม้าก็นึกโกรธขึ้นมา แต่ไอ้พี่เขี้ยวมันฉลาดหรือมันรู้จุดอ่อนของนางไม่รู้ สองมือลูบหน้าอกนางจนนางเริ่มหายใจไม่สะดวกแล้ว


“แต่พี่รักหนูมากกว่า พี่จะไม่บังคับ ไม่ขัดใจอะไรหนูอีก แต่อย่าไปจากพี่ได้มั้ยครับ” เรียวจันทร์มองคมเขี้ยวอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจ ไม่แน่ใจว่าคมเขี้ยวพูดด้วยอารมณ์ไหน ไม่รู้ว่าเมายาลดไข้รึเปล่า


“นะครับหนู…” คมเขี้ยวมองอ้อน เรียวจันทร์ขมวดคิ้วน้อยๆ เลื่อนสายตาไปมองทางอื่น แต่แปบเดี๋ยวก็ต้องเปลี่ยนเป็นตกใจเล็กๆ เมื่อคมเขี้ยวยื่นหน้ามาไซ้คอนาง


“อ๊ะ เขี้ยวกุด ทำไมก้าวกระโดดล่ะ” เรียวจันทร์ใช้สองมือผลักไหล่คมเขี้ยวเพื่อดันอีกฝ่ายออก


แต่ก็ดันไม่เต็มแรงนักหรอก


“มีอารมณ์ได้ไงเนี่ย อื้อ…” สองมือที่ตอนแรกพยายามจะผลักจะดันเขาออก (แบบสั้นๆ) เปลี่ยนเป็นจิกเสื้อเขาแทน


“…เรียกพี่เขี้ยวสิ น้องหนู” เรียวจันทร์ตาปรือ แหงนคอขึ้นให้คมเขี้ยวซุกไซ้สะดวกกว่าเดิม


“อื้อ พี่เขี้ยว” แล้วนางก็ไม่สามารถคุมอารมณ์ตัวเองไม่ให้เตลิดไปกับคมเขี้ยวได้


อะไรคือความโกรธ ความเหนื่อยใจของนางก่อนหน้านี้… มันมีอยู่จริงมั้ย










เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด


“อ๊ะ อ๊ะ พี่เขี้ยว หนูเสียวว…ว” เรียวจันทร์ครางเสียงระทวยแข่งกับเสียงเตียงเหล็กที่ดังเอี๊ยดอ๊าดเพราะแรงขับเคลื่อนที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องไม่ยอมหยุดจากคนสองคนที่ใช้ร่างกายเสียดสีกันไปมา


“น้องหนูจะอยู่กับพี่ใช่มั้ย ฮื้อ” คมเขี้ยวก้มลงดูดหัวนมสีชมพูของเรียวจันทร์ราวกับกำลังดูดอมยิ้ม คุณนายแอ่นอกขึ้นด้วยความเสียววูบ ริมฝีปากสีชมพูอ้ากว้างพร้อมกับส่งเสียงคราง


“หนูอยู่นี่ค่ะพี่เขี้ยว” เรียวจันทร์ครางเสียงสั่น คมเขี้ยวปล่อยอมยิ้มสีชมพู เลื่อนปากไปประกบปากเรียวจันทร์ ลิ้นของทั้งสองคนคลอเคลียกันอย่างชุลมุน ด้านล่างคมเขี้ยวก็ขยับเอวไม่ยอมหยุด เรียวจันทร์เลื่อนสองมือขึ้นไปจับแกนเหล็กของหัวเตียงแน่น ด้านล่างก็โดนแทงเอาๆ ด้านบนก็โดนดูดกลืนไม่หยุด จนหายใจสะดุดไปหลายช่วง


“อื้อ อื้อ” ร่างเล็กร้องประท้วงเมื่อเริ่มโดนจูบหนักมากขึ้น คมเขี้ยวดึงปากตัวเองออก เรียวจันทร์อ้าปากหอบหายใจรุนแรง คมเขี้ยวเพิ่มแรงกระแทกและความถี่เพิ่มขึ้นอีกนิดจนเตียงสั่นอย่างแรงตามการกระแทก หัวเตียงชนกับผนังปูนเสียงดัง เสียงครางมีทั้งดังสลับกับแผ่วเบา


แกร๊ก~


คมเขี้ยวหยุดกระแทก เรียวจันทร์แทบหยุดหายใจ สองผัวเมียหันหน้าเหนื่อยหอบของตัวเองไปมองทางประตูห้อง เจ้าของห้องตัวโตยืนอ้าปากหวอมองทั้งสองคนด้วยความอึ้ง


“โห อะไรเนี่ย โคตรหยามเกียรติดินเลยนะพี่เขี้ยว” ไอ้ดินบอกอย่างหัวเสีย มองภาพร่างเปลือยเปล่าทั้งสองคนที่แนบชิดสนิทกัน ยิ่งช่วงนั้นคงยิ่งสนิทน่าดู



“เออ กูยืมห้องหน่อย เดี๋ยวคืน” คมเขี้ยวไม่ว่าเปล่าแต่ยังขยับเอวเบาๆ เพื่อไม่ให้อารมณ์มันขาดช่วงไปนาน เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่น หันหน้าหนีดินด้วยความอาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าอายจนอยากโดดหน้าต่างหนี ก็แค่อายแบบเบาๆ ที่ดินเข้ามาเห็นฉากนี้


“โห่ แม่ง แย่งคุณเรียวไป แล้วยังมาใช้ห้องเขาอีก” ไอ้หมียักษ์โวยวายเบาๆ แต่ก็ปิดประตูห้องให้ คมเขี้ยวที่ขยับสะโพกเบาๆ อยู่ก่อนแล้ว พอหันกลับมามองหน้าเรียวจันทร์ก็ก้มลงหอมแก้มนวล ก่อนจะเร่งเครื่องตามเดิมจนเตียงสั่นและเหล็กลั่นเอี๊ยดอ๊าด


“อ๊าๆๆๆ” เรียวจันทร์ร้องเสียงหลง คมเขี้ยวก้มลงดูดหัวนมอีกรอบอีกสักพัก ก่อนจะใช้สองแขนยันตัวขึ้น และออกแรงจนบั้นเอวเด้งเข้าเด้งออกอย่างเร็ว เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มแผ่นหลังคมเขี้ยว และไหลลงมาตามเนื้อสีคร้ามแดด เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่น ก่อนจะเลื่อนมือขวาลงไปช่วยตัวเองเพื่อให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง


“หนู พี่จะออกแล้ว…” คมเขี้ยวบอกเสียงแผ่วแต่ความแรงของสะโพกไม่แผ่วตามกลับยิ่งเร่งจนเรียวจันทร์แทบจะตาเหลือกเพราะความยาวของคมเขี้ยวก่อกวนด้านในจนท้องไส้ปั่นป่วน


“อ่า… อา… อ้า!!!” คมเขี้ยวสบถดังลั่นตอนที่ลูกชายพ่นน้ำเข้าไปในก้นเรียวจันทร์อย่างมากมาย ตัวคมเขี้ยวกระตุกเป็นระยะตามแรงพ่น เปลือกตาหลับแน่นอย่างเสียวซ่าน หอบหายใจอย่างหนักหน่วง


“อ้า อ้า!” เรียวจันทร์กรีดร้องตอนที่ตัวเองไปถึงจุดมุ่งหมายเช่นกัน น้ำสีขาวพ่นออกมาเป็นหย่อมบนหน้าท้องขาวเนียน คุณนายนอนหมดแรงโดยมีคมเขี้ยวที่ค่อยๆ ปล่อยตัวนอนทับร่างบางๆ ของนางไว้


เสียงหอบหายใจของคนทั้งคู่ดังไปทั่วห้องนอนของดินอยู่พักใหญ่ คมเขี้ยวนอนเอาจมูกหอมแก้มเรียวจันทร์ไว้บนหมอนเดียวกัน ด้านล่างยังคงเชื่อมต่อกันแม้จะปลดปล่อยจนหมดแล้ว


“พี่เขี้ยว อย่าเพิ่งต่อรอบสองนะ” เรียวจันทร์อ้อนวอนเสียงแห้ง เพราะดูจากการแข็งตัวของเขี้ยวเล็กที่คาอยู่ในตัวนางแล้วนั้น ดูมันพร้อมจะสู้ศึกเลยทันที


คมเขี้ยวยิ้มเพลีย ค่อยๆ ยกตัวขึ้นนั่งตรงๆ และค่อยๆ ดึงลูกชายตัวเองออกจากช่องคับช่องแน่นของเรียวจันทร์ น้ำสีขาวข้นทะลักตามออกมาราวกับลาวา รูลับของเรียวจันทร์ขมิบเป็นระยะเพื่อผ่อนคลายตัวเอง คมเขี้ยวยัดนิ้วชี้กับนิ้วกลางเข้าไปในช่องสีแดงฉ่ำที่เป็นรูปโหว่ และช่วยควักน้ำสีขาวออกมาด้านนอก


“อื้อ พอแล้ว” เรียวจันทร์ร้องบอกเบาๆ คมเขี้ยวหยุดทำ เขาหันหลังนั่งลงพิงกำแพงห้อง เหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้ากับตัวเพราะไม่ได้เปิดพัดลมหรือแอร์ มีเพียงหน้าต่างห้องนอนที่เปิดรับลมไว้เฉยๆ ไม่รู้ป่านนี้มีกี่คนแล้วที่ได้ยินเสียงสวาทของทั้งสองคน



“พี่เขี้ยวไม่นึกถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้วจริงอะ” เรียวจันทร์ถามเสียงแผ่ว นอนอ้าขาอย่างหมดแรง คมเขี้ยวหันหน้าไปมองคนสวยแล้วยิ้ม


“ไม่ลืม แต่จะไม่เอามาทะเลาะกับหนูอีกแล้ว พี่ขอโทษที่เคยเอามันมาเป็นปมให้เราทะเลาะกัน” เรียวจันทร์เบะปากน้อยๆ ค่อยๆ ดันตัวเองลุกขึ้นนั่ง


“พี่เขี้ยวชอบดุหนู” นางว่าหน้างอ คมเขี้ยวยิ้มขำ


“แต่เรื่องดุพี่ไม่ทำไม่ได้ เพราะหนูแรดเก่ง” เรียวจันทร์ดันตัวเองให้นั่งตัวตรงแล้วคลานเข้าไปนั่งคร่อมตักคมเขี้ยว คนตัวโตเหยียดขาตรง สองแขนโอบบั้นเอวงอนๆ ของร่างเล็ก


“พี่เขี้ยวไม่โกรธหนูเรื่องนั้นแล้วแน่นะ” คมเขี้ยวลูบมือไปตามเอวบางแผ่วเบา มองหน้าเรียวจันทร์ด้วยสายตาอ่อนโยน


“พี่ไม่โกรธหนูนานแล้ว แค่อยากดัดนิสัย แต่ท่าทางจะดัดยาก”



“ดัดไม่ยากหรอก หนูดัดจริตออก” เรียวจันทร์หัวเราะคิกคัก คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ ยื่นหน้าไปจุ๊บปากสีชมพูสดหนึ่งที


“ไม่ทิ้งพี่นะครับ พี่รักใครรักจริงนะรู้เปล่า” เรียวจันทร์คลี่ยิ้มเขิน คมเขี้ยวมองหน้าคุณนายด้วยสายตาจริงใจกับประโยคของตัวเอง เพราะเขามั่นใจว่าไม่ใช่คนรักใครเรี่ยราดหรืออยากเอากับใครไปทั่ว


“พี่ยอมเข้าสมาคมพ่อบ้านใจกล้าก็ได้” เรียวจันทร์ยิ้มกว้างขำขัน มองคมเขี้ยวที่มองนางอย่างจริงใจและจริงจังด้วยสายตาเป็นประกาย มือซ้ายอ้อมไปด้านหลังไปจับเขี้ยวเล็กที่อ่อนตัวลงให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง


“กลัวเมียอะดีแล้ว ชีวิตจะได้รุ่งเรือง” คมเขี้ยวขำพรืด นึกในใจว่าถึงจะไม่อยากกลัวยังไงก็ต้องกลัวกับอิทธิฤทธิ์และมารยาของแม่คุณนายตัวแสบคนนี้อยู่ดี ไอ้กล้าสู้น่ะกล้า แต่จะสู้ได้รึเปล่านั่นคืออีกเรื่อง


“ไหนบอกว่าอยากพักยกสองก่อน” คมเขี้ยวถามเสียงพร่า สองมือลูบตามเนื้อตัวขาวเนียนของเมีย เรียวจันทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จับลูกชายคมเขี้ยวตั้งตรงและนั่งลงทับรวดเดียว ความเสียวแล่นปรี๊ดไปทั่วทั่วน้อย


“มีผัวอย่างพี่ หนูว่าหนูพักยากค่ะ” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างและเริ่มโยกเอวเบาๆ คมเขี้ยวซี๊ดปากด้วยความเสียว


แล้วเตียงของดินก็เริ่มสั่นเหล็กลั่นเอี๊ยดอ๊าดอีกครั้ง…










กว่าจะเคลียร์เรื่องราวที่ค้างคาและเคยทำปั้นปึ่งใส่กันจนใจตรงกัน สองผัวเมียก็คลอเคลียเคล้าคลึงกันไปหลายรอบจนจากฟ้าสว่างกลายเป็นฟ้ามืด ดวงอาทิตย์จากไป พระจันทร์ขึ้นมาแทนที่ แต่พี่เขี้ยวก็ยังฟัดน้องหนูจนคิดว่าควรเปลี่ยนเตียงให้ไอ้ดินเร็วๆ นี้


“อ๊า! อ๊า! อ๊าๆๆ” คมเขี้ยวคำรามเสียงดังและยังคงกระแทกกระทั้นร่างขาวโพลนที่ตัวโยกโงนเงนอยู่ด้านบน เรียวจันทร์หน้านิ่วคิ้วขมวดกับความเสียววูบวาบตรงท้องน้อยที่โดนของของคมเขี้ยวปั่นและวนอยู่ด้านใน


ก๊อกๆ


“พี่เขี้ยว!” เสียงเจ้าของห้องร้องเรียก คมเขี้ยวหันไปมองประตูและเร่งเร้าใส่เรียวจันทร์ คุณนายยกมือขวาปิดปากตัวเองเพื่อกั้นเสียงร้องไม่ให้ดังลั่น


“เออ!”


“ไปกินข้าวพี่ จะข้ามวันข้ามคืนเลยเรอะ”


“แปบนึง” คมเขี้ยวกัดฟันแน่น คิ้วเข้มขมวดฉับ สองมือบีบเอวบางแน่น กระแทกอีกสามสี่ทีก็พ่นน้ำรอบที่ห้าของวันนี้ออกมา เรียวจันทร์หายใจหอบหมดแรง ทิ้งตัวลงนอนบนตัวคมเขี้ยวด้วยความล้า คมเขี้ยวยังคงอึดและทนเหมือนเดิม ทำแต่ละครั้งคือยาวนานจนขานางสั่น กล้ามก้นชาไปหมด


“ไอ้ดิน ประตูไม่ได้ล็อค” คมเขี้ยวตะโกนบอกน้องชายหลังจากใช้ผ้านวมคลุมตัวเองกับเรียวจันทร์เพื่อปิดเนื้อหนังมังสา ดินเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนตัวเอง


“โห จนคุณเรียวหมดแรงแล้วนะพี่ ทำไมทำงี้อะ” ดินมองสภาพอิดโรยของเรียวจันทร์ที่หลับคาอกของคมเขี้ยวแล้วบอกด้วยความไม่พอใจที่เห็นขวัญใจตัวเองโดนทารุณกรรม


“ขวัญใจมึงอะตัวดี ปั่นกูไม่หยุด” คมเขี้ยวเถียงเบาๆ ไอ้ดินเบะปากเบาๆ


“แล้วนี่พี่หายไข้แล้วรึไง ถึงได้มีแรงมาทำอะไรแบบเนี้ย”


“เพราะกูทำอะไรแบบเนี้ยแบบที่มึงว่าแหละ กูเลยหาย” ไอ้ดินกะพริบตาปริบๆ มองพี่ชายอย่างประหลาดใจ


“จริงอ้ะ? มันขับพิษไข้เหรอ” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น นึกในใจว่าเป็นแบบนั้นรึเปล่า แต่ก่อนหน้านี้อาการไข้เขาก็ไม่ได้หนักถึงขั้นปวดเนื้อปวดตัวจนทำอะไรไม่ไหว พอได้ออกกำลังแบบนี้ เหงื่อเลยออกเยอะมั้ง ไม่รู้เกี่ยวรึเปล่า ทฤษฎีนี้มั่วไปหมด


“ไม่รู้ว่ะ แต่มึงก็อย่าทำตามแล้วกัน บางทีกูคงเงี่ย…”


“…เงี่ยนจนไข้หายอะเหรอพี่” คมเขี้ยวอ้าปากหวอด้วยความช็อคเล็กน้อยกับการพูดหน้าซื่อตาใสแบบจริงใจของไอ้น้องชาย มันไม่ได้พูดแซวเล่นด้วย มันพูดจริง


“เอ่อ เอาแบบนี้ ขึ้นอยู่ที่ร่างกายของแต่ละคนแล้วกัน” ตอบแบบนี้ดีที่สุด เกิดแนะนำมันไปตรงๆ แล้วมันไม่ถูกต้องกับหลักความเป็นจริงก็ไม่ดีอีก ไอ้ดินยิ่งเรียนรู้จากการจดจำในชีวิตประจำวันอยู่ด้วย 


ปฐพีพยักหน้าหงึกๆ ใบหน้าครุ่นคิดตามที่พี่เขี้ยวบอก ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ “เออ แล้วพี่จะกินข้าวมั้ย ดินว่าพี่ยังต้องกินยาอยู่นะ”


“พี่สะใภ้มึงสลบไปละ คงไม่กิน วันนี้มึงขึ้นไปนอนห้องกูนะ กูยึดห้องมึงวันนึง” ดินมองค้อนพี่ชายตัวเองไปวงใหญ่ แล้วก็เดินออกจากห้องนอนตัวเองไปพร้อมกับปิดประตู ภาพที่เห็นก่อนประตูจะปิดคือพี่เขี้ยวแม่งสะกิดคุณเรียวจันทร์


โห่ แม่ง พี่เขี้ยวเป็นคนแบบนี้เองเหรอเนี่ย


“มันลดไข้ได้จริงเหรอวะ” ดินพูดกับตัวเองด้วยความสงสัยในประเด็นนี้อย่างจริงจัง ดินเองก็ไม่ใช่คนป่วยง่าย เกิดมาเป็นหนักสุดก็คืออีสุกอีใสในตอนเด็กๆ หลังจากนั้นก็ป่วยยาก ป่วยนิดๆ หน่อยๆ ไม่ค่อยจะล้มหมอนนอนเสื่อกับใครเขาหรอก คงเพราะถูกเลี้ยงตามมีตามเกิดมาตั้งแต่เด็กๆ เลยมีภูมิคุ้มกันเชื้อโรคดี


สงสัยต้องลองมีไข้ แต่มีไข้แล้วไม่มีเมียจะรู้ได้ไงว่าลดได้จริงมั้ย


งั้นคงต้องหาเมียก่อน


ไอ้ดินนึกอะไรเพลินๆ ในขณะที่จะเดินขึ้นบันไดบ้านไปชั้นสอง แล้วภาพคุณเรียวจันทร์ที่นอนอยู่ใต้ร่างพี่เขี้ยวก็ลอยเข้ามาในห้วงความคิด ไอ้ดินขนลุกซู่ รู้สึกถึงการตื่นตัว มันกลืนน้ำลายลงคอ พยายามสลัดภาพเมียพี่ชายที่แม้จะเป็นผู้ชายออกไปจากหัวตัวเอง แต่สุดท้ายไอ้ดินก็พ่ายในคุณเรียวตามเคย แม้จะเป็นในจินตนาการก็ตาม


ขอโทษนะพี่เขี้ยว แต่ดินใช้คุณเรียวช่วยตัวเองก่อนที่พี่จะได้เขาเป็นเมียอีก
   

   

 :hao6:


ว้ายยยย ขุ่นแม่หนีไม่พ้นนน แถมยังโดนเขี้ยวกุดฝังเขี้ยวซะจมมิดเลยยย กรี๊ดดดดๆ

พี่เขี้ยวเข้าสมาคมพ่อบ้านใจกล้าด้วยการประกาศตัวเองแบบไม่ต้องบังคับ ต่อแต่นี้ ขุ่นแม่คือผู้กุมอำนาจแห่งเมืองทิพย์ที่แท้จริงเจ้าค่ะ คริๆ

น้องดินของเจ้โดนภาพบาดตาบาดใจตลอด ไม่เป็นไรนะคะ ตอนพิเศษแบบพิเศษม้ากมาก น้องดินแข็งก็จะไม่ต้องใช้มือแล้ว อิๆ

อีกสองตอนจบแล้ววววว มนตร์ขุ่นแม่ใกล้จะปิดบทเต็มที ใครอยากต่อมนตร์พิเศษ ตอนนี้มีรอบสต๊อกนะจ๊ะ อิๆ ขายของเนียนๆ แถมในเล่มยังมีตอนของน้องดินด้วยยย ฮิ้วววว รายละเอียดอ่านได้ที่เพจค้า

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ  :mew1:


#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ว้ายยย ขุ่มแม้ๆๆๆๆๆๆๆ กรีดร้องกะนาง อิพี่เขี้ยวเลิกบ้าแล้วว

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ขุ่นแม่เรียว ถ้าตัดใจก็ตัดจริงเหมือนที่ตัดแม่ออกจากชีวิต แต่ยกเว้นกับพี่เขี้ยวนะ อิอิ ว่าแต่พี่เขี้ยวอ้อนเมียได้น่ารักมากๆ หุหุ

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คมเขี้ยวกลายเป็นไอ้เขี้ยวกุดของแท้เลยคราวนี้   :hao3:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ยอมใจคุณเขี้ยวเขา อะไรจะอึดเบอร์นี้  :hao7:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8


คาถาที่ ๓๒ :: Leave us alone. (อย่ายุ่งกับเรา) [ครึ่งแรก]




คมเขี้ยวตื่นตอนช่วงเก้าโมงเช้าของวันใหม่ เขาลุกขึ้นนั่งหน้าตางัวเงีย มองซ้ายมองขวาหาร่างบางที่ควรจะนอนสลบอยู่ข้างกันไปรอบห้องนอนไอ้ดินแต่ก็ไม่พบ เขาลุกขึ้นเดินไปดูที่ห้องน้ำก็ว่างเปล่า ตอนนั้นเองที่คมเขี้ยวเริ่มมีความกระวนกระวาย พอมองหาเสื้อผ้าที่ถอดกระจัดกระจายไว้บนพื้นเมื่อวานนี้แล้วไม่พบก็เริ่มมีอาการจิตตกร่วม เขารีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่แล้วเดินออกไปจากห้องนอนไอ้ดินอย่างรวดเร็ว

           

 

เขาเดินขึ้นไปบนบ้านก่อนเป็นที่แรก เผื่อว่าเรียวจันทร์จะขึ้นไปหาอะไรกิน แต่พอขึ้นไปก็เจอแค่ป๋าที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ มีจานผลไม้วางอยู่บนโต๊ะอาหาร

           

 

“ป๋า เห็นเรียวจันทร์มั้ย” เมฆาเงยหน้าขึ้นมองลูกชายงงๆ ย่นคิ้วกับสภาพยับยู่ยี่ของมันนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้จริงจังกับสภาพมันมาก สงสัยเพิ่งฟื้น

           

 

“ไปข้างนอก” คมเขี้ยวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ และใจก็ตกไปอยู่ตาตุ่ม หัวใจเต้นระส่ำระส่ายทันที

           

 

“ไปไหนป๋า??!!” คมเขี้ยวตะโกนลั่น เล่นเอาคนเป็นพ่อสะดุ้งไหล่แทบหลุด พอตั้งสติได้ก็เบะปากน้อยๆ ด้วยความหมั่นใส่ไอ้ลูกชาย

           

 

“ใจเย็น เมียแกไม่ได้หนีไปไหน ที่บอกว่าไปข้างนอก คือไปนอกบ้านโว้ย เห็นเดินขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ออกไป” คมเขี้ยวอึ้งไปแปบนึง ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ด้วยความโล่งอก เมฆามองด้วยความหมั่นไส้เล็กๆ

           

 

“หายไข้รึยังล่ะน่ะ” คมเขี้ยวยกมือจับหน้าและลำคอตัวเองสักพักก่อนตอบ

           

 

“ตัวอุ่นๆ อะป๋า กินยาวันนี้อีกวันคงหายดี”

           

 

“ยังเมื่อยตามตัวอยู่มั้ย” เมฆาถามถึงอาการไข้ตามปกติ แต่คมเขี้ยวแอบอ้าปากเหวอนิดๆ เพราะดันไปคิดถึงเรื่องอื่นที่ทำให้เมื่อยตามตัว

           

 

“ก็นิดหน่อยป๋า” คนเป็นพ่อพยักหน้าขึ้นหนึ่งที คมเขี้ยวกระตุกยิ้มเล็กๆ

           

 

“ไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วมากินข้าวกินยา แล้วจะไปตามหาหนูเรียวก็ไป” คมเขี้ยวพยักหน้าสองที หมุนตัวเดินกลับไปทางห้องนอนตัวเอง จัดการอาบน้ำแบบระมัดระวังไม่ให้น้ำโดนแผล แต่งตัวด้วยเสื้อกล้ามกับกางเกงยีน เสร็จเรียบร้อยก็ออกไปกินข้าวกินยา มีป๋านั่งเป็นเพื่อน

           

 

“คราวนี้เคลียร์กันเข้าอกเข้าใจจริงๆ แล้วใช่มั้ย” คมเขี้ยวพยักหน้าหงึกๆ ทั้งที่มือยังถือตะเกียบคีบผัดไทเข้าปาก

           

 

“แกไม่เล่นตัวยึกยักกับหนูเรียวแล้วแน่นะ” เมฆามองอย่างหมั่นไส้ ยังจำท่าทีเล่นตัวของไอ้เขี้ยวได้ดี ถึงไม่เห็นบ่อยแต่ก็เห็นเวลาที่มันชอบว่าชอบข่มหนูเรียว

           

 

“ผมก็ไม่ได้เล่นตัวสักหน่อย” คมเขี้ยวทำทีเฉไฉเบาๆ

           

 

“อ๋อเหรอ เขามาง้อก็ทำงอนไม่จบไม่สิ้น”

           

 

“ตอนนี้มันสิ้นแล้วน่า” คมเขี้ยวมุ่ยหน้าน้อยๆ มองป๋าที่เบะปากเบาๆ

           

 

“ถ้าอยากมีงานแต่งก็บอก ถึงจดทะเบียนไม่ได้ แต่แต่งงานกันไว้ก็ดี เป็นการให้เกียรติหนูเรียวกับไอ้อาทิตย์มันด้วย” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าครุ่นคิดนิดหน่อย

           

 

“ป๋าอยากมีหลานป้ะ” เมฆาถอนหายใจ ลดหนังสือพิมพ์วางลงบนโต๊ะ มองหน้าลูกชายด้วยความเป็นกังวลนิดๆ

           

 

“ก็บอกตรงๆ ว่าอยาก ไม่ใช่แค่ว่าอยากอุ้มหลาน แต่ป๋าแค่คิดว่า หมดรุ่นแกไป ใครจะมารับช่วงที่นี่ต่อ ไอ้ดินก็พอไหว แล้วหลังจากไอ้ดินล่ะ”

           

 

“เผื่อไอ้ดินมันจะมีเมียเป็นผู้หญิงนะป๋า” เมฆากลอกตาไปหนึ่งรอบจนคมเขี้ยวขำ

           

 

“เห็นมันเทิดทูนหนูเรียวแล้วไม่มั่นใจเลย” คมเขี้ยววางตะเกียบลงในจาน หยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มสามอึกและพูดต่อ

           

 

“ผมกับเรียวมีให้ป๋าไม่ได้จริงๆ ลุ้นไอ้ดินเอาแล้วกัน แต่ถ้ามันมีเมียเป็นผู้ชายอีกคนก็ดูแลไปจนแก่เฒ่า สุดท้ายถ้าไม่มีใครรับช่วงต่อ เราก็ยกให้เป็นของประเทศไป” คมเขี้ยวบอกอย่างสบายๆ ไม่ได้มีท่าทีเครียดหรือจริงจังจนชวนปวดหัว

           

 

เมฆาถอนหายใจเบาๆ “ตอนนี้ก็ช่วยกันดูแลไปแล้วกัน”

           

 

คมเขี้ยวพยักหน้า เข้าใจว่าป๋าก็คงมีเครียดๆ บ้าง แต่ให้ทำไงได้ล่ะ เมียเขาไม่มีมดลูก แต่เก่งเรื่องบนเตียงสะบัดเชียวแหละ

           

 

“ขอบคุณนะป๋าที่ไม่ขัดขวาง ไม่กีดกันแบบละครน้ำเน่า” เมฆากระตุกยิ้มนิดหน่อย

           

 

“ชีวิตหนูเรียวน้ำเน่ามากพอแล้ว อย่าให้ป๋าเติมความเน่าอีกเลย…” เมฆาไม่เคยคิดรังเกียจหรือต่อต้านความรักรูปแบบนี้ เขามองแค่ว่าถ้าลูกรักก็จะรักคนนั้นของลูกด้วย ซึ่งคนที่ไอ้เขี้ยวมันรักเป็นลูกของเพื่อนรักเขาเลยยิ่งเปิดใจรับง่าย

           

 

“…ป๋ารักกับแม่แกก็ไม่มีใครบังคับหรือมากำหนดแบบนั้นแบบนี้ แล้วจะให้ป๋าบังคับให้แกฝืนใจตัวเองทำไม” คมเขี้ยวยิ้มด้วยความอบอุ่นหัวใจและโล่งใจ

           

 

“แต่ตอนแรกแกฝืนใจมากไม่ใช่เหรอที่หนูเรียวจะมาอยู่ที่นี่” เมฆาแกล้งแซวถึงจุดเริ่มต้นในอดีตที่ลูกชายตัวเองทำท่าต่อต้านเรียวจันทร์เต็มที่

           

 

“แหม่ ก็นั่นมันตอนแรก ตอนนี้ก็คือตอนนี้ดิป๋า ไม่ฝืนใจอะไรแล้ว”

           

 

“มีแต่ขืนใจเขาอะดิ…” คมเขี้ยวตีหน้ามึน เมฆามองซ้ายมองขวา ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ลูกชายและพูดเสียงกระซิบ

 

 

“…ไอ้ดินมันมาฟ้อง” เมฆายิ้มกรุ้มกริ่ม คมเขี้ยวรู้ว่าไอ้ดินมาฟ้องประเด็นไหน เขาเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้น้องชายตัวเอง ตอบสียงห้วนนิดๆ

 

 

“หนูเรียวของป๋าก็ชอบขืนใจผมเหมือนกันแหละ” เมฆาอ้าปากค้างหน่อยๆ

 

 

“แล้วทำไมแกไม่ขัดขืนล่ะ” คมเขี้ยวอมยิ้ม

 

 

“ก็ผมชอบ” คนเป็นพ่อมองอย่างหมั่นไส้กับรอยยิ้มอิ่มใจของไอ้ลูกชาย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นทำหน้าเสียดายเล็กๆ

 

 

 “ถ้าหนูเรียวเป็นผู้หญิงนะ ป๋าได้อุ้มหลานปีละคนสองคนแน่ๆ” คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับถือจานผัดไทเพื่อจะเอาไปวางไว้ในอ่างล้างจาน

 

 

“ขอโทษจริงๆ นะป๋าที่เมียผมดันเป็นผู้ชาย”

 

 

“เออ ให้คนนี้คนเดียวนะ ถ้าแกมีเมียผู้ชายโผล่มาอีกคนล่ะก็ ฉันตัดแกออกจากกองมรดกแน่ๆ” เมฆาชี้หน้าขู่ แต่คมเขี้ยวรู้ว่าพ่อเขาทำไปงั้นแหละ

 

 

“แต่เมียผู้หญิงได้ใช่ป้ะ” คมเขี้ยวแกล้งแซว เมฆาเบ้ปากและไหวไหล่

 

 

“เห็นไอ้ดินว่าหนูเรียวเล่นไอ้แฟนเก่าซะเละ แกจะจำลองเหตุการณ์นั้นให้ฉันกับแม่แกดูใช่มั้ย เอาสิ” คมเขี้ยวหัวเราะ เอื้อมตัวไปตบบ่าป๋าเบาๆ

 

 

“องครักษ์พิทักษ์เรียวจันทร์เยอะ ผมไม่กล้าหรอก” เมฆายิ้มเหี้ยม ส่งสายตาไปทางมือคมเขี้ยวที่วางอยู่บนบ่า ไอ้ลูกชายมันยิ้มร่าและเดินเอาจานไปไว้ที่อ่างล้างจาน

 

 

“ผมไปหาเรียวจันทร์ก่อนนะ”

 

 

“เออ ไปเถอะ” คมเขี้ยวเดินไปเปิดประตูบ้าน ตอนที่ประตูเลื่อนเปิดออกเขาย่นคิ้วกับเสียงเพลงแว่วๆ ที่มาพร้อมกับจังหวะกระหึ่ม สายตามองผ่านโดมโรงอาหารคนงานไปเพื่อพยายามเฟ้นหาต้นตอของเสียง

 

 

“ใครเปิดเพลงไรวะ”

 

 

“ฮะ? แกว่าไงนะ” คมเขี้ยวหันไปมองพ่อที่หันมาถามหน้าตางงๆ

 

 

“ใครเปิดเพลงอะไรไม่รู้ป๋า ดังลั่นฟาร์ม” เมฆาพยายามเงี่ยหูฟัง เพราะตอนแรกปิดประตูบ้านไว้เสียงเลยเข้ามาไม่ได้ พอเปิดประตูเลยได้ยินเสียงแว่วดังมาจากที่ไกลๆ

 

 

“พวกคนงานเปิดคลอระหว่างทำงานล่ะมั้ง” คมเขี้ยวมีสีหน้าหงุดหงิด รู้สึกหัวเสียนิดๆ

 

 

“คลอบ้าอะไรดังขนาดนี้”

 

 

“ฟาร์มเราปิดอยู่น่า ไม่เป็นไรหรอก” คมเขี้ยวยังคงหน้าเครียด ถึงฟาร์มจะปิดอยู่ แต่ไม่เข้าใจว่าพวกมันจะเร่งเสียงให้ดังไปทำไม เสียงเหมือนจะดังมาจากทางแคมป์ปิ้งสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยู่ละแวกเดียวกับคอกวัว แบบนี้วัวตกใจหมด

 

 

คมเขี้ยวปิดประตูตามหลัง เดินลงบันไดไปประตูบ้านที่เปิดแง้มๆ ไว้ ก้าวเท้าเดินตรงไปทางต้นเสียงที่ได้ยิน ยิ่งเดินเข้าใกล้ก็ยิ่งแน่ใจว่าเสียงมาจากคอกวัว มีเสียงเฮฮาหัวเราะของไอ้พวกคนงานอีก นี่มันจัดปาร์ตี้อะไรกันกลางวันแสกๆ แบบนี้

 

 

“เฮ้ย!!” คมเขี้ยวตะโกนแทรกเข้าไปในเสียงเพลงที่เปิดดังลั่น พวกคนงานที่ยืนอยู่ใกล้กับประตูของคอกวัวหันมามองเขาด้วยความตกใจ ยิ่งพอเห็นใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของพี่เขี้ยวก็ยิ้มแหย

 

 

“พวกมึงทำไรกันเนี่ย เปิดเพลงเสียงดังทำไม?!!” คนงานสองคนที่หันมาเห็นคมเขี้ยวพอดีเมื่อกี้นี้สั่นหัวรัวๆ และพูดเสียงดังกลับไป

 

 

“ผมเปล่านะพี่เขี้ยว พวกผมไม่ได้เปิด” คมเขี้ยวย่นคิ้ว

 

 

“เพลงดังขนาดนี้ พวกมึงบอกว่าไม่ได้เปิดได้ไง?!” คมเขี้ยวถามอย่างหัวเสียกับอาการแถของพวกมัน สักพักไอ้พวกคนงานนับสิบคนที่ยืนออกันอยู่ตรงทางเข้าพร้อมใจกันหันมาทางคมเขี้ยว

 

 

“พี่เขี้ยว…!” หนึ่งในนั้นตะโกนลั่น แล้วพวกมันก็ทำท่าทำทางไม่ถูก เพราะตกใจที่จู่ๆ เจ้านายตัวเองก็มายืนมอง แถมยังมองด้วยสายตาไม่ค่อยจะพอใจซะด้วย

 

 

“เปิดเพลงกูไม่ว่า แต่มึงจะไปเปิดแข่งกับดีเจรถบั๊มรึไง?!”

 

 

“ผมเปล่านะพี่!” คมเขี้ยวยกหลังมือขวาขึ้นทำท่าจะตบพวกลูกน้องตัวเอง

 

 

“เปล่าห่าอะไร เดี๋ยวกูจะซัดไอ้ตัวการให้เละเลยมึง!” พวกคนงานมองหน้ากันแล้วขยับยิ้มขำขันจนคมเขี้ยวงงแต่ก็ยังคงมีสีหน้าหงุดหงิด

 

 

~♫Too high, can’t come down. Losing my head. Spinning round and round. Do you feel me now?~♪

 

 

เสียงร้องของนักร้องหญิงคนหนึ่งที่คมเขี้ยวคุ้นหู แต่ก็นึกชื่อไม่ออกว่าชื่ออะไรดังลั่นคอกวัว คิ้วเข้มขยับย่นอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องแว่วๆ ไม่แน่ใจว่ามันมาจากเพลงหรือจากคนปกติ

 

 

“วู้ววว! ว้าวว! I’m addicted to you. Don’t you know that you’re toxic!!!”

 

 

แล้วคมเขี้ยวก็เบิกตากว้างเมื่อมองไปตรงกลางทางเดินของคอกวัวที่มีร่างอรชรเกินผู้ชายของเรียวจันทร์กำลังร่อนเอวอย่างเมามันส์ มือซ้ายจับเสาเหล็กในคอกวัว มือขวาถือสายยางและฉีดน้ำขึ้นไปในอากาศเป็นน้ำพุ หัวสีโค้กที่เปียกชุ่มสะบัดไปสะบัดมาอย่างสนุกสนาน

 

 

“เรียวจันทร์เปิดเพลง?!” พวกคนงานพยักหน้าแทนคำตอบที่พี่เขี้ยวถาม เจ้าของฟาร์มที่ตอนแรกหน้าเครียดพร้อมเอาเรื่องไอ้ตัวการค่อยๆ คลายใบหน้าเครียดตัวเอง เปลี่ยนเป็นสีหน้าเรียบเฉย เดินเข้าไปหาแม่ตัวดีที่เต้นสะบัดไม่สนใจว่าวัวจะอินไปกับเพลงแสนเปรี้ยวของตัวเองรึเปล่า

 

 

“เรียวจันทร์ หนู!” คมเขี้ยวเรียกเจ้าตัวพร้อมกับกระตุกแขนซ้ายเจ้าตัวเบาๆ เรียวจันทร์หยุดเต้นกะทันหันแล้วหันไปมองร่างสูง ใบหน้าสวยที่เปียกน้ำยิ้มแฉ่ง

 

 

“พี่เขี้ยววว! ตื่นแล้วเหรอออ” นางถามเสียงดังอย่างเริงร่า คมเขี้ยวหันไปมองไอ้พวกคนงานที่หัวเราะกันเสียงครืน เขาส่งสัญญาณทำมือให้ใครสักคนเบาเพลงและปิดน้ำในมือเรียวจันทร์ พวกนั้นไปทำตามคำสั่งที่สั่งด้วยภาษามือ เสียงเพลงเบาลงแต่ยังเปิดคลอๆ แต่น้ำจากสายยางปิดสนิท

 

 

“ทำอะไรเนี่ย” คมเขี้ยวถามเสียงปกติ ไม่ดุไม่ตะคอก เรียวจันทร์ปล่อยมือออกจากเสาสีเงิน วางสายยางสีใสลงบนพื้น

 

 

“หนูแก้บน พี่เขี้ยวจำได้มะที่น้องวัวอารียารอดตายอะ หนูบนไว้นะว่าจะเต้นเพลงบริทนีย์ให้ดู แต่หนูก็ลืมไปพักนึงเลยอะ…” คมเขี้ยวยิ้มแกนๆ มองหน้าสุดที่รักของตัวเองด้วยความหนักใจ

 

 

 

“…ช่วงที่เราทะเลาะกัน ปั้นปึ่งใส่กันอะ หนูว่าต้องเพราะหนูค้างบนไว้นี่แหละ หนูเคยฝันถึงจระเข้ครึ่งวัวนะ แบบว่า หัวเป็นจระเข้ แต่ตัวเป็นวัว เขามาทวงแน่ๆ วันนี้เลยมาแก้บนซะหน่อย” คมเขี้ยวยิ้มไม่เต็มปากนัก ไม่ว่าจะยังไง คุณนายแกก็ยังจริงจังกับสิ่งที่ไม่ควรจริงจังและคิดว่าตัวเองคิดถูกเหมือนเดิม

 

 

“ไม่เกี่ยวมั้ง เราก็ดีกันแล้วไง” เรียวจันทร์จิ๊ปาก

 

 

“ไม่ได้หรอก ถึงดีกันแล้วก็ต้องแก้ ให้สัญญาไว้แล้ว…” คุณนายยิ้มกรุ้มกริ่ม ยกสองมือคล้องคอคมเขี้ยวโดยไม่แคร์สายตาล้อเลียนของพวกคนงาน

 

 

“…เราจะได้ยิ่งรักกันหนักขึ้น รักกันมากขึ้นไง อิๆ” นางเอามือซ้ายมาป้องปากและหัวเราะคุคิน่ารัก (ในความคิดตัวเอง)

 

 

“อ๋อ เออๆ” คมเขี้ยวยิ้มแบบไปเรื่อย ยิ้มเออออห่อหมกไปกับคุณนายแก

 

 

“ทำไมอะ ไม่ดีเหรอที่หนูทำอะ หนูกลัวเราจะมีอุปสรรคอีกไง” เรียวจันทร์หน้างอหน่อยๆ เพราะเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของคมเขี้ยว

 

 

คนเป็นสามีรีบยิ้มเอาใจทันที “เปล่า ดีแล้ว ไม่ได้จะว่าอะไร”

 

 

“จริงอ้ะ หนูก็นึกว่าพี่จะด่าเรื่องที่เปิดเพลงเสียงดัง”

 

 

“โอ๊ย…” คมเขี้ยวอุทานเสียงเบาพร้อมยิ้มเบาๆ

 

 

“…ไม่หรอก งานคาวบอยเปิดดังกว่านี้อีก” คมเขี้ยวยิ้มใจดี ทำเหมือนไม่มีอะไร เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง ยื่นหน้าไปหอมแก้มพ่อคาวบอยของนาง

 

 

“อ้าวพี่เขี้ยว ไหนว่าจะจัดการไอ้ตัวการที่เปิดเพลงไง?!” หนึ่งในคนงานแกล้งตะโกนถามเสียงดัง คมเขี้ยวหันไปมองตาดุ พวกคนงานหัวเราะลั่น

 

 

“อะไรเหรอ?” เรียวจันทร์ถามตาใส มองอย่างงงๆ ไม่เข้าใจ คมเขี้ยวยิ้มและส่ายหัวเป็นการบอกว่าไม่มีอะไร แต่สักพักเขาก็มองชุดที่เรียวจันทร์แต่งชัดเต็มสองตา จากที่ไม่มีอะไรก็เริ่มมี

 

 

“ใส่ขาสั้นอีกละ แล้วอะไรเนี่ย ทำไมเสื้อจนขนาดนี้ ไม่มีเงินซื้อเสื้อที่มันหนากว่านี้เหรอ” คมเขี้ยวว่าหน้าตาเหมือนพ่อดุลูกสาวที่แต่งตัวโป๊

 

 

“ทำไมอะ สวยออก พอเปียกน้ำก็เซ็กซี่ด้วย” เรียวจันทร์บอกอย่างชิลๆ ไม่ได้มีทีท่าล้อเล่น นางคิดว่าสวยและเซ็กซี่จริงๆ

 

 

ก็มันจริงอะ

 

 

“เดี๋ยวพี่จะเอาเสื้อผ้าหนูไปเผาให้หมด” เรียวจันทร์กะพริบตาปริบๆ

 

 

“พี้เขี้ยวจะให้หนูแก้ผ้าเหรอ”

 

 

“เออ แก้ผ้าอยู่แต่ในบ้านนั่นแหละ” คมเขี้ยวบอกห้วนๆ นึกอยากจะจับแม่ตัวดีมาตีก้นให้หลาบจำ แม่ตัวดีที่ทำเขาหงุดหงิดทำปากยื่น แถมยังยิ้มระรื่นอีก




“เห็นแล้วมีอารมณ์ใช่มั้ยล่า”

 

 

“มีอารมณ์อยากกระทืบ” เรียวจันทร์หุบยิ้มฉับ ปล่อยมือออกจากคอคมเขี้ยว ยกมือขวาตีต้นแขนฝั่งที่ไม่ถูกยิงเต็มแรงจนเจ้าตัวสะดุ้งตกใจ

 

 

“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ จะกระทืบหนูจริงๆ เหรอ?!” คุณนายแว้ดใส่คมเขี้ยวจนเสียงดังกว่าบริทนีย์ที่ร้องคลอๆ เป็นแบ็คกราวด์ในคอกวัวอยู่ คมเขี้ยวหันไปมองไอ้พวกลูกน้องที่สลายตัวกันแยกย้ายไปทำงาน แต่ก็มีแอบหันมาขำเขากับเรียวจันทร์อยู่สามสี่คน

 

 

“เปล่า พี่จะกระทืบหนูทำไม หนูเป็นเมียพี่นะ” คุณนายถลึงตา ปากบิดปากเบี้ยวยกใหญ่

 

 

“ข่าวผัวกระทืบเมียเพราะว่าหึงที่เมียสวยมากมีเยอะไป แล้วหนูก็สวยขนาดนี้ พี่เขี้ยวอาจหึงจนหน้ามืดแล้วมาทำร้ายหนูเข้าสักวัน” คมเขี้ยวไม่รู้จะขำหรือจะเครียดดี เลยกลายเป็นขำพรืดแทนกับความจริงจังของแม่คุณนาย ซึ่งเขาคิดว่าแม่นางคงจะจริงจังตรงเรื่องที่ว่าตัวเองสวยมากจนเขาต้องหึง

 

 

ก็ไม่ปฏิเสธหรอก แต่มันควรเป็นความคิดเขาเองไง ไม่ใช่ให้เจ้าตัวบอก แต่นะ… นี่ใครล่ะ

 

 

“พี่หึง แต่พี่ไม่กระทืบหนูหรอก แต่พี่จะ…” คมเขี้ยวก้มลงกระซิบ เรียวจันทร์ตาโต แก้มขาวผ่องแดงระเรื่อ นางเม้มปากยิ้มเขิน ตัวบิดซ้ายบิดขวาน้อยๆ มองคมเขี้ยวที่ยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วก็ยิ่งตัวบิด

 

 

“บ้าาา… พี่เขี้ยวอ้ะ ฮึๆๆ” คุณนายหัวเราะ ทำไหล่ยึกยักๆ คมเขี้ยวยิ้มกว้าง ขำอารมณ์ดีกับแม่ตัวดีของเขา

 

 

“ขึ้นบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะไป”

 

 

“แต่หนูเพิ่งเต้นไปได้สองเพลงเองนะ”

 

 

“แก้บนเพลงเดียวก็พอแล้ว เทพเขาไม่มีเวลาดูนานขนาดนั้นหรอก”

 

 

“แต่น้องวัวยังไม่จุใจหรอก อารียากับเพื่อนๆ ชอบลายเต้นของหนู หนูมั่นใจ” แม้แต่กับวัวก็เอาเนาะ…

 

 

“ไปเต้นต่อบนห้องดีกว่า พี่อยากเห็นเป็นการส่วนตัว” เรียวจันทร์ย่นจมูกแล้วยิ้มขวยเขินเพราะค… เอ้ย

 

 

“ไปก็ด้ะ” เรียวจันทร์เข้าไปควงแขนซ้ายของคมเขี้ยว และก็พากันเดินออกไปจากคอกวัว

 

 

“แล้วนี่ไม่เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวบ้างรึไง ยังมีแรงมาเต้นต่ออีกเนี่ย”

 

 

“สบายมาก เพราะหนูสตรองค่ะ” คมเขี้ยวยิ้ม ก้มหน้าหอมหน้าผากเรียวจันทร์ด้วยความมันเขี้ยว

 

 

“พี่เขี้ยว! ไหนว่าจะจัดการคนเปิดเพลงไง ทำไมไม่เห็นทำไรเลยอะ โห่” คมเขี้ยวหันไปมองหน้าตาถมึงทึง

 

 

“ทำงานมึงไปเลยไอ้จีน!”

 

 

“สงสัยจะพาไปลงโทษที่ลานประหารส่วนตัวล่ะม้างงง” คมเขี้ยวยกมือชี้หน้าไอ้เทิง พวกคนงานหัวเราะร่วน แม่คุณนายหัวเราะคิกคัก ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกะเขาหรอก สนุกสนานเป็นงานอดิเรก

 

 





 :hao7:


ไหนว่าจะด่าคนทีเ่ปิดเพลงไงล่ะพี่เขี้ยว ไม่เห็นทำไรเล่อะะะ โห่วววว

บนไว้ก็ต้องแก้บนเนาะ เดี๋ยวเขาจะทำให้รักระหองระแหง เต้นพลิ้วเต้นสะบัดขนาดนี้น้องวัวคงไม่กล้าขัดความรักขุ่นแม่แล้วละค่ะ (ไม่อยากเห็นลายเต้นขุ่นแม่อีก)

ผัวห้ามไม่ให้ใส่กางเกงขาสั้น แต่ผัวก็ไม่เคยห้ามสำเร็จ แม่จะใส่ซะอย่าง 55555 บอกแล้วแรดก็คือแรด เอ้ย แม่ก็คือแม่ นะคะ พ่ออย่าขัดใจแม่เนาะ

 มนตร์ขุ่นแม่ใกล้จะปิดบทเต็มที ใครอยากต่อมนตร์พิเศษ ตอนนี้มีรอบสต๊อกนะจ๊ะ อิๆ ขายของเนียนๆ แถมในเล่มยังมีตอนของน้องดินด้วยยย ฮิ้วววว รายละเอียดอ่านได้ที่เพจค้า

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ   :mew1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
55555 ขุ่นแม่แซ่บตลอดดด

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
พี่เขี้ยวก็รักเมีย หวงเมียเหมือนเดิมล่ะนะ อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
มีตอนขุ่นแม่ไปเต้นในห้องไหมค่ะ แค่กกกๆ  :haun4:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8



คาถาที่ 32 (ครึ่งหลัง)



ในช่วงสี่วันที่ผ่านมานับตั้งแต่เคลียร์กับคมเขี้ยวรู้เรื่อง ดับเพลิงแค้นในตาของแต่ละคนจบลง เรียวจันทร์ก็ใช้ชีวิตอยู่ในฟาร์มอรุณพยัคฆ์ด้วยความสุขใจและอิ่มเอิบใจ ที่นี่ให้ความรู้สึกว่าเป็นบ้านเทียบเท่ากับบ้านหลังเดิมในสมัยที่เคยมีพ่ออยู่ด้วย แต่อันนี้พิเศษมากขึ้นเพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่ของพ่อที่ทิ้งไว้ให้นาง ยังมีผู้ชายอีกคนที่ทำตัวเหมือนพ่อนางแต่แท้จริงคือเป็นผัว

 

 

“บอกให้เลิกใส่กางเกงขาสั้น ใส่แบบนี้เดินแก้ผ้าไปเลยสิ” เรียวจันทร์หันไปกะพริบตาวิ้งๆ ใส่คมเขี้ยวที่ยืนกอดอกมองนางด้วยใบหน้าหงุดหงิด แล้วก็หันไปเติมปากต่อจนเสร็จ

 

 

“หนูกล้าแก้นะ พี่เขี้ยวเถอะ กล้าให้หนูแก้เปล่า” เรียวจันทร์ถามอย่างทะเล้น คมเขี้ยวถอนหายใจหน้าตาเซ็งๆ

 

 

“จะใส่แบบนี้ออกไปเจอพ่อหนูอย่างนี้เหรอ วันนี้มีย่า มีญาติหนูมาเยอะแยะเลยไม่ใช่รึไง” เรียวจันทร์แอบเบะปากนิดหน่อยตอนคมเขี้ยวเรียกผู้ชายคนนั้นว่าเป็นพ่อนาง แต่ก็ว่าไม่ได้ อีกฝ่ายไม่รู้

 

 

“ไม่แคร์ค่ะ รับไม่ได้ก็กลับไป” นางพูดอย่างไม่ใส่ใจ และอันที่จริงนางก็ไม่ใส่ใจคนพวกนั้นอยู่แล้ว ที่ให้มาวันนี้เพราะจะได้พูดในสิ่งที่นางค้างคาอยากจะพูด รอบที่แล้วโกหกคมเขี้ยวว่าจะไปหาเป็ดเพื่อจะไปคุยกับเจ้าสัว แต่โดนไอ้ตัวเห้ที่ตอนนี้ติดคุกไปเรียบร้อยดักทำร้ายร่างกาย นี่นางก็พักจนมั่นใจว่ารอยบนหน้าหายไปแล้วเลยตามคนพวกนั้นมาที่ฟาร์ม

 

 

“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ” คมเขี้ยวถามด้วยความสงสัย เรียวจันทร์บึนปากน้อยๆ พร้อมกับไหวไหล่ขวา

 

 

“ออกไปกันเถอะ” เรียวจันทร์คว้ามือคมเขี้ยวและพาเดินออกไปจากห้องนอน บนบ้านไม่มีใครอยู่เพราะลงไปทำงานด้านล่างกันหมด คุณป๋าก็กำลังฟื้นฟูไร่องุ่น คุณแม่ก็กำลังดูแลเรื่องแปลงดอกไม้ ดินก็ดูแลในส่วนหมู่บ้านคาวบอย ป้าอุ่นกลายเป็นอีกหนึ่งแม่ครัวฝีมือดีของฟาร์ม ลุงอ๊อดสดชื่นกว่าเดิมเพราะได้สังคมใหม่ๆ ส่วนแก๊ปเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยแล้ว เรียวจันทร์ไม่อยากให้น้องไปๆ กลับๆ กรุงเทพฯ กับเขาใหญ่ เลยจัดการซื้อคอนโดให้แก๊ปอยู่แทน

 

 

‘ไม่เป็นไรครับพี่เรียว แก๊ปกลับไปอยู่บ้านก็ได้’

 

 

‘แต่บ้านเรากับมหาวิทยาลัยแก๊ปก็ไกลกันอยู่ดี ไม่เป็นไรหรอกน่ะ พี่ก็กะจะซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้าอยู่แล้ว บ้านเราอยู่ในซอกในซอยเกิน’

 

 

‘เอางั้นเหรอครับ’

 

 

‘เอางั้นแหละ ถือว่าแก๊ปไปช่วยพี่ดูแลคอนโดด้วย จะพาเพื่อน พาสาวเข้าห้องก็ตามสบายนะจ๊ะ คริๆ’

 

 

เป็นอันว่าแก๊ปเลยย้ายไปอยู่คอนโดที่คุณนายนางซื้อใหม่ การตัดสินใจนั้นไม่ยาก นางเลือกคอนโดเดียวกับแจเร็ดนั่นแหละแค่คนละตึก นางชอบโลเคชั่นโซนนั้นอยู่แล้ว เดินเอื่อยๆ เรื่อยๆ ก็ห้าถึงเจ็ดนาทีถึงรถไฟฟ้า เอาไว้ไปนอนเวลามีงานใจกลางกรุง จะได้ไม่ต้องขับรถให้อารมณ์เสียกับจราจรเมืองไทย

 

 

“หนูจะไม่ให้ทำกับข้าวเลี้ยงพวกเขาจริงๆ เหรอ”

 

 

“ไม่ต้องค่ะพี่เขี้ยว อาหารว่างเบาๆ ก็พอ พวกเขาคงอยู่ไม่นานหรอก…” เรียวจันทร์ยิ้มมุมปากพร้อมกับยักคิ้วซ้ายหนึ่งที

 

 

“…อีกอย่าง พ้อยท์หลักเขาบอกว่า เขาอยากมาเที่ยวชมฟาร์ม ก็ให้เขาชมไปจนเป็นที่พอใจ”

 

 

เพราะได้แค่ชมเท่านั้นแหละ

 

 

คมเขี้ยวย่นคิ้ว มองเรียวจันทร์อย่างไม่ไว้วางใจในความคิดวิเคราะห์ของแม่ตัวดี ยิ่งเห็นรอยยิ้มใสซื่อที่ดูเหมือนจะประดิษฐ์ขึ้นมาเขาก็ยิ่งรู้สึกเสียววาบตามสันหลังแปลกๆ มันอาจจะไม่ได้มีอะไรร้ายแรงอย่างที่กำลังจินตนาการ แต่เวลาเห็นแอคติ้งสีหน้าครุ่นคิดขบคิดของเมียตัวเองแล้วก็ห้ามความกังวลใจไม่ได้

 

 

เรียวจันทร์ไม่ได้ถึงกับลงมานั่งรอเป็นจริงเป็นจัง นางให้คมเขี้ยวพาเดินดูการทำงานของคนงานในส่วนต่างๆ ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายเบาๆ คุณนายเหมือนแม่บ้านญี่ปุ่นในชุดเสื้อกันฝนสีใสกับรองเท้าบู๊ตสีขาว ส่วนคมเขี้ยวถือแค่ร่มหนึ่งอันกับใส่รองเท้าบู๊ตแค่นั้น

 

 

“พี่เขี้ยว หนูอยากได้เครื่องเล่นเพิ่มอะ หามาลงอีกสักสองอันไม่ได้เหรอ” เรียวจันทร์บอกหลังจากยืนพิจารณาม้าหมุนอยู่ครู่หนึ่ง

 

 

“ฮึ? เอาอะไรมาลง ฟาร์มเราไม่ใช่สวนสนุกนะ แค่นี้ก็พอแล้ว” เรียวจันทร์หน้างอ พูดเสียงเหวี่ยงเล็กๆ

 

 

“แต่หนูอยากได้อะ”

 

 

“จ้ะ งั้นหนูก็ไปดูแล้วกันว่าอยากได้อะไรมาเพิ่ม” วิ้งงง! ใบหน้าสวยฉีกยิ้มอย่างรวดเร็วเมื่อได้รับการตามใจ คมเขี้ยวทำหน้าอ่อนใจแต่ก็มีรอยยิ้มประดับบนหน้าจางๆ เรียวจันทร์แกล้งมองค้อน คมเขี้ยวยิ้มขำเบาๆ

 

 

คมเขี้ยวพาเดินมาดูในหมู่บ้านคาวบอยที่กำลังเนรมิตให้มีสีสันและความสนุกสนานมากขึ้นด้วยการเพิ่มของประดับตามบ้านตามตึกแต่ละหลัง มีการติดไฟเพิ่มเติม ตรงกลางหมู่บ้านที่เป็นลานน้ำพุก็จัดองค์ทรงเครื่องใหม่ คมเขี้ยวบอกว่าหลังหน้าฝนหมดไปจะจัดให้เต็มกว่านี้ ช่วงนี้ฝนตก บางอย่างเลยยังใส่เข้าไปไม่ได้

 

 

เดินดูงานในหมู่บ้านคาวบอยท่ามกลางสายฝนสักพักฝนก็หยุด และเป็นจังหวะที่พวกเจ้าสัววิโรจน์เดินทางมาถึงฟาร์มพอดี เรียวจันทร์กับคมเขี้ยวออกไปต้อนรับทุกคนที่ขนกันมาสองรถตู้ หนึ่งในนั้นมีนังเด็กเกาหลี ลูกสาวคนเล็กของเจ้าสัวที่เรียวจันทร์แสนยี้ เพราะความระริกระรี้ของนาง

 

 

“ฟาร์มใหญ่โตมากเลยนะ” หญิงสูงวัยท่าทางเจ้ายศเจ้าอย่างมองไปรอบๆ และเอ่ยชมด้วยรอยยิ้ม เรียวจันทร์ (ฝืนใจ) ยกมือไหว้บุคคลที่มีอายุมากกว่านาง บางคนนางไม่รู้หรอกว่าอายุมากกว่ารึเปล่า แต่ดูหน้าแล้วแก่ก็ยก

 

 

“สวัสดีจ้ะหลานเรียว” คุณหญิงคุณย่าผู้สูงศักดิ์เอ่ยทักหลานชายที่มีลักษณะเป็นหลานสาวมากกว่า แต่หล่อนก็ไม่นึกถือ หรือจริงๆ อาจจะถือแต่แสดงออกเยอะไม่ได้

 

 

เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ เป็นการตอบรับ คุณนายกวาดตามองจำนวนคนที่มากันราวสิบสองคนเห็นจะได้ บางส่วนยกมือถือมาถ่ายรูป หัวหน้าทริปอย่างเจ้าสัววิโรจน์เดินเข้ามาทักทายคมเขี้ยวกับเรียวจันทร์

 

 

“พ่อดีใจนะที่เรียวอยากเจอพ่อ” เรียวจันทร์ยิ้มอ่อนแบบที่คมเขี้ยวรู้สึกว่ามันอ่อนเกินไปจนน่าหวั่นใจ

 

 

“เชิญตามสบายนะคะ มีอาหารว่างอยู่ในครัว” ญาติโกโหติกาทั้งหลายที่เรียวจันทร์ไม่คิดอยากนับหันมายิ้มให้นาง คุณนายยิ้มตอบกลับไปแบบพอประมาณ

 

 

“คนเนี้ยอะเหรอคะแฟนพี่เรียวจันทร์” เรียวจันทร์แทบจะถลึงตามองนังเด็กผีเกาหลี แต่ก็ทำเพียงเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ

 

 

“ใช่ครับ” คมเขี้ยวตอบอย่างสุภาพ ยัยเด็กคนนั้นมองคมเขี้ยวแบบครุ่นคิด ก่อนจะบิดปากเหมือนไม่ชอบใจ คมเขี้ยวทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อย ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่เรียวจันทร์นี่แทบจะปล่อยพลังใส่แล้ว

 

 

“ก็หล่อดีนะคะ แต่ไม่ใช่สเป็คหนู…” เรียวจันทร์ไม่สามารถห้ามเปลือกตาไม่ให้ขยับกว้างขึ้น นางมองนังน้องนอกไส้อย่างไม่ชอบใจเช่นกัน

 

 

“…อีกอย่าง เขาฐานะด้อยกว่าพี่เรียวไม่ใช่เหรอคะ เทียบเท่าก็ไม่ต่างจากผู้ใช้แรงงานในฟาร์มพี่เรียว” และแล้วเส้นก็ขาดผึง!

 

 

“ปากแบบเนี้ย ถ้ามีไว้แล้วไม่รู้จักพูดสิ่งดีๆ ก็ต้องมีไว้ตบ” เรียวจันทร์กระแทกเสียง เล่นเอานังเด็กเกาหลีผงะถอยหลังไปยืนข้างแม่ตัวเอง คนอื่นๆ เหวอไปตามๆ กัน คมเขี้ยวเองก็เหวอไปนิดหน่อยแต่ก็รู้จักอารมณ์ของเรียวจันทร์ดี

 

 

“เอ่อ พ่อขอโทษแทนน้องนะลูก เรียวไม่ได้คิดจะตบน้องจริงๆ ใช่มั้ย”

 

 

“คิดค่ะ อยากทำจริงๆ ด้วย แต่ยังเกรงใจ…” วิโรจน์มีสีหน้าตกใจเบาๆ เรียวจันทร์หันไปมองคนเป็นแม่ที่หน้าตาสะสวยพอๆ กับคุณนายโรสิตาของนาง

 

 

“…เชื่อว่าคุณอบรมแล้ว แต่ก็เชื่ออีกว่ายังอบรมไม่มากพอ” ภรรยาของวิโรจน์มีสีหน้าไม่พอใจกับคำพูดของเรียวจันทร์ ยืนมองหน้าคนอายุน้อยกว่ามากตาแข็ง แต่เรียวจันทร์ไม่แคร์

 

 

“เรียว ไม่เอา” คมเขี้ยวกระซิบ เรียวจันทร์เหมือนจะหยุด แต่นึกขึ้นได้ว่ามีสิ่งที่อยากพูดอีก

 

 

“เธอมีสิทธิ์ดูถูกคนอื่นๆ ได้ แต่ต้องไม่ใช่กับแฟนฉัน ไม่งั้น หล่อนจะได้รู้ว่าเวลาผีเจ้าที่เข้าสิงมันเป็นยังไง” แค่พูดขู่ แต่คมเขี้ยวกลับรู้สึกว่าเจ้าที่เข้าสิงเรียวจันทร์ไปแล้วครึ่งนึง

 

 

“เดี๋ยวนะคะ ทำไมต้องพูดจารุนแรงขนาดนั้นด้วย พี่น้องกันทั้งนั้นอะ” เรียวจันทร์หันไปมองหญิงสาวอีกคนที่ดูจะอายุน้อยกว่านาง และท่าทางคงเป็นพี่ของนังเด็กผีเกาหลี ท่าทางไม่เบาเหมือนกัน คงเป็นพวกหน้าใสแต่ใจติดเทอร์โบ

 

 

“อยากจะชมฟาร์มต่อหรือจะให้ตัดจบตอนนี้” หึ พี่น้องงั้นเหรอ ฉันเคยเจอกับคำว่าแม่ลูกมาแล้วย่ะ แค่เนี้ยเบามาก

 

 

“หลานเรียว ใจเย็นก่อนนะลูก ย่าไม่ได้อยากให้หลานมาทะเลาะกันเองแบบนี้” เรียวจันทร์เหลือบไปมองคนสูงวัยที่สุด แม้จะอารมณ์เริ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่อยากถอนหงอกคนแก่

 

 

“ผมว่า เรามาเที่ยว เราก็ไปเที่ยวกันเถอะนะครับ” ชายหนุ่มรูปหล่อ รูปร่างสูงแต่ไม่ใหญ่ หุ่นพอๆ กับคมเขี้ยวแต่เตี้ยกว่าคมเขี้ยวเอ่ยบอกอย่างใจเย็น เรียวจันทร์เหลือบมองแว้บเดียว

 

 

“ผมชื่อวินนะครับพี่เรียว” คุณนายขยับยิ้มให้เล็กน้อย คงเป็นพี่ชายของแม่สองสาว ท่าทางดูจะสุภาพและนุ่มนวลที่สุดในบรรดาพี่น้อง

 

 

“โชคดีที่มาตอนฝนหยุดแล้ว ถ้ายังไงก็เดินชมตามสบายเลยครับ” คมเขี้ยวบอกเพื่อตัดบท แม่ตัวดีจะได้ไม่จิกกัดใครอีก

 

 

พวกเจ้าสัววิโรจน์พากันเดินออกจากจุดที่ยืนอยู่ ภรรยาของเจ้าสัวมองเรียวจันทร์ด้วยความขุ่นเคือง แต่เรียวจันทร์กลับหน้าเชิด ลึกๆ ในใจนางไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เพราะมาแทนที่แม่นาง แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้ แม่นางก็คงทำวีรกรรมอะไรไว้เยอะจนพ่อต้องขอเลิก

 

 

“นึกยังไงถึงอยากมาเที่ยวกันตอนนี้” คมเขี้ยวมองคนกลุ่มนั้นที่เดินไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ของฟาร์มแล้วพูดอย่างสงสัย

 

 

“ก็หนูชวนเขามาไง” เรียวจันทร์ย้ำเตือนความจำคมเขี้ยวกับสิ่งที่ตัวเองเคยบอกไปอีกที

 

 

“นั่นแหละ ยิ่งน่าสงสัยว่าทำไมถึงมา และทำไมหนูถึงไปชวนเขา” เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ แต่สีหน้าเหมือนมองกล้องสองอยู่ คมเขี้ยวหรี่ตามองด้วยความไม่ไว้ใจอย่างแรง

 

 

“หนูมีเรื่องจะพูดกับเขา”

 

 

“แล้วทำไมไม่พูดไปเลยล่ะ”

 

 

“ไม่เอาอะ มาถึงแล้วพูดเลยก็เร็วไป ไม่สนุกสิ ให้เขาได้เดินชมบ้านของเราก่อน” คมเขี้ยวทำหน้างงไม่เข้าใจ เรียวจันทร์ยิ้มกริ่ม ยกมือขวาตีอกตัวเองเบาๆ และทำหน้าว่าเชื่อเจ๊

 

 

 

เดินชมฟาร์ม เดินถ่ายรูป เก็บองุ่นกิน ดื่มนมข้าวโพด และชมหมู่บ้านคาวบอยจบ พวกวิโรจน์ก็พากันมากินอาหารว่างที่โรงอาหาร โดยมีพวกคนงานนั่งกินอาหารกลางวันเสียงดังจอแจ ญาติที่มาด้วยสามสี่คนแยกโต๊ะนั่งอีกโต๊ะ คุณหญิงย่าของเรียวจันทร์หน้าเหวอไปนิดที่ต้องมานั่งกินกับคนเยอะแยะแบบนี้ แถมแต่ละคนก็ดูไม่ได้ให้ความเกรงใจเธอและครอบครัวเธอเลยสักนิด ไม่ใช่แค่หญิงสูงวัย แต่สามสาวที่เหลือก็ดูออกว่ามีอาการอึดอัด ไม่สบายเนื้อสบายตัวสักเท่าไหร่

 

 

แต่นั่นแหละที่เรียวจันทร์ต้องการ นางเบะปากน้อยๆ เมื่อเห็นนังเด็กเกาผีทำหน้าหยีคนงานที่เดินผ่านไปผ่านมา นังคนพี่แม้ไม่แสดงออกลายใหญ่แต่ก็รู้ว่าดัดจริตไม่เบา

 

 

“ทุกคนดูสนิทสนมกันดีจัง” วิโรจน์พูดพลางยกแก้วไวน์แดงขึ้นจิบ เรียวจันทร์หันมองน้องชายต่างแม่ของตัวเองที่ยกนมวัวจากฟาร์มขึ้นจิบจากแก้วสีใส

 

 

“อร่อยมั้ยคะน้องวิน” คนถูกถามยิ้ม ทั้งรู้สึกดีที่ได้ยินพี่ตัวเองเรียกน้องและยิ้มเสริมคำตอบตัวเอง

 

 

“อร่อยครับ รสชาติดีมากเลย”

 

 

“นั่นเป็นนมวัวจากแม่วัวที่สตรองที่สุดของฟาร์มเราค่ะ…” เรียวจันทร์ปรายตาไปทางเจ้าสัววิโรจน์ที่มองไปรอบๆ แว้บหนึ่ง

 

 

“…สตรองแค่ไหนต้องถามใจนางดู ขนาดมีคนใช้นางเป็นเครื่องมือขู่พวกเรา นางยังรอดตายกลับมาได้ และก็เบ่งนมมาให้ได้ดื่มกันนี่แหละค่ะ”

 

 

“ใครขู่ใครเหรอจ๊ะหลานเรียว” เรียวจันทร์ยิ้มให้หญิงย่า หันไปมองวิโรจน์ที่ทำหน้าสงสัยใคร่รู้

 

 

“พวกนายทุนมักมากน่ะค่ะ หวังอยากจะได้ที่ดินคนอื่นเขาไปทั่ว พอขอไม่ได้ล่ะก็ แย่งเอา แย่งด้วยวิธีโสโครก” เรียวจันทร์พูดเรียบๆ เนิบๆ แต่เน้นเสียงชัดเจนจนนางเห็นว่าสีหน้าวิโรจน์สะดุดไปนิดหนึ่งเช่นกัน

 

 

“ไวน์ที่พ่อดื่มอร่อยมั้ยคะ” เรียวจันทร์แสร้งถามเสียงหวาน วิโรจน์ยิ้มน้อยๆ แล้วพยักหน้า

 

 

“อร่อย กลมกล่อมดีมาก”

 

 

“แหม เรียวดีใจนะคะที่พ่อชอบ ไวน์ล็อตนี้เป็นล็อตที่มีคนแอบเข้าไปในโรงงานผลิตแล้วทำลายมันซะเละเลย…” บรรยากาศบนโต๊ะชวนหายใจไม่สะดวกแปลกๆ แต่เรียวจันทร์ไม่แคร์

 

 

“…เรียวเสียดายน่ะค่ะ เลยให้คนงานเก็บไว้ ไม่คิดว่ามันจะยังมีรสชาติอร่อยด้วย” ที่จริงนางไม่ได้ให้ใครเก็บไว้หรอก นางพูดไปงั้นแหละ ให้บทมันไหลลื่น

 

 

“โห มีคนทำอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ” เรียวจันทร์นึกขอบคุณน้องชายต่างแม่ของตัวเองที่ส่งบทมาให้นางแบบนี้

 

 

“มีสิคะ คนมันอยากได้ มันก็ทำได้หมดแหละ ไม่ใช่แค่นี้นะ มันยังฝากระเบิดมาให้ที่ฟาร์มด้วย”

 

 

“ระเบิดเหรอ?! น่ากลัวอ้ะ” ยัยเด็กเกาหลีอุทานด้วยสีหน้าสยอง เรียวจันทร์กระตุกยิ้ม หันมองใบหน้าอึดอัดของบิดาตัวเอง

 

 

“ใช่จ้ะ น่ากลัวมาก แล้วคนทำก็เลวมากด้วย” เรียวจันทร์มองหน้าวิโรจน์อย่างนิ่งงัน มองจ้องแบบที่นางไม่ได้ทำอารมณ์ให้ซับซ้อนใดๆ

 

 

“พ่อขอคุยกับเรียวหน่อยสิ”

 

 

“ไม่ค่ะ ถ้าจะคุยก็คุยตรงนี้ ถ้าไม่อยากให้ใครรู้เรื่อง ก็ให้เขาย้ายไปนั่งที่อื่น” เชื่อว่าวิโรจน์เริ่มจะรู้ตัวแล้วว่าลูกชายหน้าหวานของตัวเองต้องการจะสื่ออะไร วิโรจน์หันไปมองภรรยาและพยักหน้าให้หนึ่งที หญิงสาวเลยพาทุกคนลุกออกไปนั่งอีกโต๊ะที่อยู่ไม่ห่างกันมากนัก พอเหลือกันสองคนเรียวจันทร์ก็เปิดปากพูดต่อทันที

 

 

“เรียวมีหลักฐานทุกอย่าง ทั้งคำให้การของแม่เรียวเอง และหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอัน…” วิโรจน์ขบกรามเบาๆ

 

 

“…เรียวเชื่อว่าพ่อรู้จักเสี่ยจอมทัพ และคงรู้ด้วยว่าคนๆ นี้ถ้าได้กัดใคร กัดไม่ปล่อย ถ้าเขาแฉพ่อขึ้นมา อิทธิพลที่พ่อมีก็สู้ของจอมทัพไม่ได้ เพราะอิทธิพลจอมทัพมืดกว่าของพ่อเยอะ” เรียวจันทร์คิดว่าตัวเองใจดีมากแล้วที่ยังเรียกคนๆ นี้ว่าพ่อ

 

 

“หนูต้องการอะไร จะขู่พ่อ หรือจะแจ้งจับพ่อ”

 

 

“นี่คือการขอร้องจากเรียวจันทร์ ลูกชายของพ่อคนนึงที่พ่อไม่เคยเหลียวแล แต่วันนึงกลับมาสนใจเพราะอยากได้สมบัติของเรียว” วิโรจน์หน้านิ่ง ขยับปากเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ทำเพียงยิ้มเยาะ เรียวจันทร์ไม่สนใจอาการนั้น

 

 

“เรียวยังเรียกคุณว่าพ่อ เพราะถือว่าคุณให้กำเนิดเรียวมา แต่นับจากนี้ อย่ามายุ่งกับชีวิตของเรียวที่นี่อีก ที่ตรงนี้พ่ออาทิตย์ทิ้งไว้ให้เรียว และคมเขี้ยวกับครอบครัวเขาก็เป็นคนริเริ่มให้มันใหญ่โต พ่อจะมาชุบมือเปิบเอาไปง่ายๆ ไม่ได้” วิโรจน์อ้าปากจะพูด แต่เรียวจันทร์ยกมือห้ามหน้า (สวย) ดุ

 

 

“อย่าให้เรียวต้องแจ้งจับพ่อกับแม่ตัวเอง ชีวิตพ่อเพียบพร้อมอยู่แล้ว อย่าโลภไปมากกว่านี้ และอย่ายุ่งหรือคิดทำร้ายที่ดินของเรียวอีก เพราะถ้ามีอีกครั้ง เราจะเจอกันที่ชั้นศาล ซึ่งเรียวจะไม่ยอมแน่ๆ” เรียวจันทร์จ้องตาวิโรจน์อย่างท้าทาย ผู้ชายตรงหน้าเรียวจันทร์ขบกรามแน่น มองลูกตัวเองด้วยสายตาขุ่นเคือง

 

 

“เรียวจะไม่ลืมเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เรียวจะไม่ขุดมันขึ้นมาอีก”

 

 

“มีใครรู้เรื่องนี้อีกมั้ย”

 

 

“ไม่มี และไม่ต้องกลัวว่าเรียวจะบอกใคร แต่ถ้ายังอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเองด้วยวิธีการทุเรศๆ อีกล่ะก็ เรียวจะบอกคนทั้งประเทศพร้อมหลักฐานทุกอย่าง แล้วมาดู ว่าใครจะพังกว่ากัน”

 

 

Game on!

 

 

วิโรจน์มองสายตาเอาจริงของเรียวจันทร์อีกสักพักก่อนจะถอนหายใจด้วยความจำยอม เรียวจันทร์ยืดตัวเชิดคางขึ้นเล็กน้อยและยกยิ้มมุมปากด้วยความเหนือกว่า

 

 

ถือว่านี่คือการชดใช้บุญคุณที่ทำให้นางเกิดมาก็แล้วกัน

 

 

 

คมเขี้ยวกับเรียวจันทร์ยืนมองรถตู้สองคันขับออกไปจากฟาร์มในยามเย็นที่ไม่มีแสงอาทิตย์เนื่องจากฟ้าครึ้มตลอด เสียงฟ้าร้องครืนๆ บ่งบอกว่าอีกไม่นานท้องฟ้าคงคายเม็ดฝนออกมา

 

 

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เป็นอะไรเนี่ย” คมเขี้ยวถามหลังจากเห็นแม่คุณนายยิ้มคล้ายว่ากำลังพอใจอะไรสักอย่างอยู่มาก

 

 

“เอ๊า รอยยิ้มมาจากการที่ภายในเราดี พอภายในเราดี มันก็ส่งผลมาถึงภายนอก ยิ้มเราเลยสดใส เพิ่มความสวยให้กับใบหน้าของหนู” คมเขี้ยวย่นคิ้วแล้วนึกในใจว่าอะไรวะ ถามแค่สั้นๆ ตอบมาซะยาวและเหมือนจะไม่ตรงประเด็นด้วย

 

 

“ถามจริง ไม่มีใครชมว่าสวยเหรอ ถึงชอบชมตัวเอง” คุณนายถลึงตาใส่สามี

 

 

“แล้วพี่เขี้ยวไม่คิดว่าหนูสวยเหรอ ห๊า?!” ร่างสูงยิ้มทะเล้น และส่งเสียงขำกับตาโปนๆ ของยัยคุณนายที่จ้องตัวเองอยู่

 

 

“สวยจ้าสวย” เขาน่ะประชด แต่ยัยคุณนาย…

 

 

“ก็คิดอยู่แล้วแหละว่าพี่เขี้ยวต้องคิดว่าหนูสวย ใบหน้าประจักษ์ขนาดนี้” จากที่ตาถลึงๆ เปลี่ยนเป็นยิ้มตาหวาน บิดตัวเขินน้อยๆ อย่างพอดิบพอดี คมเขี้ยวยิ้มระอาใจเล็กๆ

 

 

“เย็นแล้ว ไปทำกับข้าวไป ทำหน้าที่เมียหน่อย” ขี้เกียจจะเถียงด้วยแบบเมื่อก่อน เพราะเถียงไปยัยคุณนายเขาก็วกเข้าชมตัวเองตลอด

 

 

“เป็นเมียอยู่ในครัว แต่เป็นอีตัวบนเตียงนอน คิๆๆๆ” คมเขี้ยวยิ้มกว้างพร้อมหัวเราะกับใบหน้าเจ้าเล่ห์และเสียงหัวเราะเหมือนคนเส้นเสียงอักเสบ

 

 

“ใช่ ไม่มีใครสู้อีตัวเนี่ยได้อีกแล้ว” เรียวจันทร์หยุดหัวเราะฉับ สีหน้าเปลี่ยนเป็นเหวอนิดหน่อย

 

 

“ทำไมพี่เขี้ยวออกเสียงคล้ายตัวเหี้ยเลยอะ” คมเขี้ยวกลั้นขำ มองใบหน้าสวยนิ่วคิ้วขมวด อ้าปากหวอครุ่นคิดจริงจัง

 

 

“บ้า ใครจะว่าเมียตัวเองเป็นตัวเหี้ยล่ะ คิดมาก ไปๆ” คมเขี้ยวเดินจูงมือแม่ตัวดีเดินกลับไปทางบ้านใหญ่ ในตอนนั้นฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมา และแม่คุณนายนางก็เลิกคิดมากว่าผัวกำลังด่าตัวเอง เพราะนางเชื่อว่า

 

 

“เนอะ ไม่มีใครกล้าด่าคนแสนดีแสนวิเศษอย่างเรียวจันทร์ว่าตัวเงินตัวทองหรอก”

 

 

คมเขี้ยวหันไปพยักหน้าหงึกๆ ราวกับสนับสนุนความคิดเห็นนั้น

 

 

แต่ก็ต้องกลั้นขำจนเมื่อยแก้ม


 

 

 


 :hao7:

แอร๊ยยยย ตอนหน้าก็จบแล้วววว แต่แม้ว่ามนตร์ขุ่นแม่จะจบลงแต่รับรองว่าไม่มีวันเสื่อมคลาย ความเฮี้ยน เอ้ย ความฮ็อตของขุ่นแม่จะยังอยู่ทุกหนแห่งทุกแหล่งของโลกนี้แน่นอนค่ะ

พี่เขี้ยวไม่ได้กลัวเมียนะคะ พี่เขี้ยวแค่ร้ากมากเลยไม่อยากขัดใจ อะไรที่ตามใจขุ่นแม่ได้ก็ตามดีกว่า ขัดไปก็ไม่ดี คริๆ

นี่คือสิ่งที่เรียวจันทร์ทำได้ดีที่สุดกับคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้วจริงๆ ค่ะ ขอร้องครั้งสุดท้าย และขอเจอเป็นครั้งสุดท้ายทั้งพ่อและแม่ ทำได้ดีที่สุดแล้วสำหรับลูกคนนึงที่ไม่คิดจะตอบแทนบุญคุณแต่ก็ไม่อยากเนรคุณอะไรไปมากกว่านี้

ขุ่นแม่ทำดีที่สุดละเนอะะะ

  ใครอยากต่อมนตร์พิเศษ ตอนนี้มีรอบสต๊อกนะจ๊ะ อิๆ ขายของเนียนๆ แถมในเล่มยังมีตอนของน้องดินด้วยยย ฮิ้วววว รายละเอียดอ่านได้ที่เพจค้า

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
นี่ถือว่าขุ่นแม่ใจดีแล้วนะ  :hao7:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ขุ่นแม่นางช่างสดใส ขนาดชีวิตนางดราม่านะเนี่ย 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ทำไมยอมง่ายจัง

ไม่สะใจเลย

ทำไว้ตั้งเยอะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สมบัติของลูก แต่พ่อที่ไม่เคยเลี้ยงดูจะเอา
มันประหลาด งกโคตรๆเลย คิดไปได้
ว่าแต่หลักฐานการเป็นพ่อเป็นลูกมีด้วยหรือ
หลักฐานแจ้งเกิดเป็นพ่ออาทิตย์ไม่ใช่หรือ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ถึงพ่อแม่จะมีพระคุณที่ให้กำเนิดแต่พ่ออาทิตย์มีบุญคุณที่เลี้ยงมา เป็นเราก็เลือกพ่ออาทิตย์นะ

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
โถถถถถ ขุ่นแม่สตรองจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
สนุกอ่ะ ขุ่นแม่เรียวจันทร์นางสตรองมากจริงๆ
 และนางก็น่ารักมาก ฉันหลงรักนางแหละ  :กอด1:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8


คาถาที่ ๓๓ :: Devil is Devil. (นางมารก็คือนางมาร) [35%]




Winter

ฤดูหนาว


           

 

ฝนหมดไป ลมหนาวก็พัดมา ที่อื่นเป็นอย่างไรก็มิอาจรู้ได้ แต่สำหรับที่ฟาร์มอรุณพยัคฆ์นั้นเย็นแสนเย็น เพราะภูเขาโอบล้อมและมีต้นไม้เยอะ นี่ถ้าคุณนายเรียวจันทร์ไม่ถูกขอร้องจากสามีว่าอย่าเอาขนเฟลอร์มาใส่ นางคงใส่เดินว่อนรอบฟาร์มแทนการใส่เสื้อกันหนาวตามปกติอย่างที่ใส่อยู่

           

 

“บุญฮีบารมีแถดมากนะยะน้องเรียว สามีเธอหล่อและรวยมากกก” ช่างแต่งหน้าสาวร่างอวบที่มีจริตเกินหญิงจนนึกว่าเป็นกะเทยอยู่บ่อยครั้งพูดด้วยน้ำเสียงชวนขำ

           

 

“หนูสวย แฟนหนูก็ต้องหล่อและรวย ตามสูตรสำเร็จเป็นธรรมดา” เรียวจันทร์ตอบสีหน้าและท่าทีด้วยความภาคภูมิใจอย่างไม่สนว่าใครจะหมั่นไส้

           

 

ช่างแต่งหน้าสาวแอบเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้เร็วๆ หนึ่งที ก่อนจะปั้นยิ้มจริงใจ “แถมยังใจดีอีกเนอะ ให้กองถ่ายใช้สถานที่ฟรีๆ แบบไม่คิดเงินเลยสักบาท”

           

 

“เอ๊าเจ๊ ก็แฟนเขาเล่นด้วย เขาก็ต้องซัพพอร์ตเต็มที่สิค้า” หนุ่มอ้อนแอ้นออกสาวแต่ไม่สวยเท่าเรียวจันทร์ (ความคิดของนาง) ส่งเสียงมาร่วมเม้าท์ด้วยจากอีกฝั่งหนึ่ง

           

 

“อีกอย่าง พอหนังเข้าฉาย เขาก็ได้โปรโมตฟาร์มไปด้วย” ช่างทำผมสาวที่มีอายุมากสุดในบรรดาฝ่ายเมคอัพและมาแทนคนเก่าเอ่ยบอกในขณะที่กำลังทำผมให้นางเอกของเรื่องอยู่

           

 

เรียวจันทร์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ส่องกระจกเช็กความเรียบร้อยของตัวเอง สายตาเหลือบไปเห็นคุณหนูชายน์ที่มองมาทางนางด้วยสายตาเหมือนจ้องเพลินจนลืมหลบสายตา คุณนายยักคิ้วขวาให้และไหวไหล่ขวาให้น้อยๆ

           

 

“อยากกินอะไรเป็นพิเศษนอกเหนือจากอาหารกองมั้ยคะ” เรียวจันทร์หันไปถามคนอื่นๆ

           

 

“หนูอยากลองกินองุ่นอบแห้งอะพี่เรียว แฟนฟนูเคยมาเที่ยวแล้วซื้อไปให้กิน หนูชอบมาก”

           

 

“อุ๊ย แฟนหนูตาถึงลิ้นถึงมากค่ะ อร่อยจริง เดี๋ยวพี่จัดมาให้นะคะ” เรียวจันทร์หันไปยิ้มชื่นมื่นกับน้องนางเอกของเรื่องที่ปัจจุบันนี้คุณนายแกยังจำชื่อน้องสลับไปมาว่าสรุปชื่อหวานหรือน้ำตาลหรือผึ้ง

           

 

“คนอื่นๆ ล่ะคะ” เรียวจันทร์ถามอีกทีด้วยท่าทีแบบมีไมตรีจิตและน้ำจิตน้ำใจอันสูงส่ง (คิดเอง) ให้สมกับเป็นเจ้าบ้านที่ดีหน่อย

           

 

“ตอนนี้ยัง แต่เลิกกองเมื่อไหร่ ขอไวน์สักขวดสองขวดแล้วกัน” เจ๊จิ๋มช่างแต่งหน้าเป็นแกนนำขออีกหนึ่งของเด็ดของฟาร์ม คนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย มีที่นั่งเฉยๆ ไม่ตอบโต้อยู่สามคนแต่เรียวจันทร์ก็ปล่อยผ่าน นางหมุนตัวเดินออกไปจากเต็นท์ห้องแต่งหน้าแต่งตัวที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงอาหารของฟาร์มเพื่อความสะดวกในการพักกินข้าว

           

 

กองถ่ายได้เดินหน้าต่อหลังจากต้องหยุดชะงักกลางคันด้วยเรื่องคิวผู้กำกับและเงินทุนที่หนุนนำไม่พอหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ แต่เรียวจันทร์ถือว่าตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องตรงนั้น นางได้ค่าตัวครบเป็นอันจบ อีกอย่างบทนางก็เป็นบทเล็กๆ ในเรื่อง แต่ก็เป็นตัวละครที่มักออกมาแย่งซีนได้เยอะทีเดียว

           

 

ถ้าเป็นบทตัวประกอบไก่กาเป็ดห่าน นางก็ไม่รับหรอก แต่เพราะมันมีซีนให้เด่นอยู่นางเลยรับ

           

 

“แก๊ปๆ เห็นพี่เขี้ยวมั้ย”

           

 

“เห็นขี่ม้าไปทางเขาอีกลูกอะครับพี่เรียว” เรียวจันทร์พยักหน้า ตอนนี้แก๊ปก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องเป็นราว กลับมาที่นี่แทบจะทุกสุดสัปดาห์ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่นี่แก๊ปเลยกลายเป็นคนเบื่อกรุงเทพฯ ไปเลย

           

 

เรียวจันทร์เดินไปตักข้าวเช้ากินในโรงอาหาร คนงานเอ่ยทักทายนางตามปกติ คุณนายตอบกลับอย่างเป็นกันเองเพราะอยู่ที่นี่มาจะหมดปีแล้วเลยมีความสนิทสนมกันมากขึ้น และนางก็พยายามจำคนงานให้ได้มากขึ้นด้วย

           

 

“คุณหนู…” เรียวจันทร์ที่กำลังนั่งกินข้าวหันไปยิ้มให้ป้าอุ่นที่เดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับนาง

           

 

“…ได้ข่าวคุณโรสิตาบ้างมั้ยคะ” เรียวจันทร์ไม่ได้มีทีท่าไม่พอใจ นางแค่เลิกคิ้วขึ้นเหมือนกำลังนึกถึงคนที่ป้าอุ่นถามอยู่

           

 

“ป้าอุ่นถามทำไมเหรอ” เรียวจันทร์ถามกลับแบบธรรมดาๆ ไม่ได้เหวี่ยงหรือโกรธเคือง ซึ่งป้าอุ่นก็รับรู้ได้

           

 

หญิงสูงวัยถอนหายใจ “แก๊ปบังเอิญไปเจอเธอที่สนามบินตอนไปทำงานพิเศษน่ะค่ะ”

           

 

เรียวจันทร์เคี้ยวข้าวที่เพิ่งตักเข้าปากไปเมื่อครู่จนหมดปากก่อนพูดต่อ “เขาไปหาเป็ด และฝากบอกเรียวว่าเขาจะย้ายไปอยู่ออสเตรเลีย”

           

 

“แล้วเธอจะไปอยู่กับใครล่ะคะ” ป้าอุ่นถามด้วยความเป็นห่วง ซึ่งเรียวจันทร์ไม่คิดจะว่า คงตามประสาคนแก่ใจดีที่แม้จะไม่ชอบใจใครสักคน แต่คงมีความรู้สึกห่วงใยเล็กๆ เพราะอยู่ด้วยกันมานาน

           

 

“มันเป็นชะตากรรมของเขาเองป้าอุ่น ลองถ้ามีเงินออกนอกประเทศขนาดนั้นแล้ว เขาก็คงแน่ใจว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือที่นั่น” คงได้จากเจ้าสัววิโรจน์มากน่าดู ถึงมีเงินไปตั้งต้นชีวิตใหม่ขนาดนั้น

           

 

“อยู่ที่ไหนจะดีเท่าบ้านเรา” ป้าอุ่นยังคงมีท่าทีวิตก เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ

           

 

“อย่าเป็นห่วงเขาเลยป้าอุ่น เพราะตอนที่เขาอยู่กับเรา เขาเคยห่วงใครบ้างนอกจากตัวเอง” ป้าอุ่นมองคุณหนูของตัวเองแล้วก็เพิ่งคิดได้ว่า เด็กคนนี้ใจแข็งและเด็ดขาดกว่าที่คิด

           

 

มันคงถึงที่สุดสำหรับคุณหนูแล้วจริงๆ เพราะคุณหนูก็ดูแลผู้หญิงคนนั้นอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว

           

 

“ทุกคนต้องใช้ชีวิตต่อไป เขาให้ชีวิตเรียว เรียวก็ช่วยชีวิตเขาไว้เท่าที่เรียวจะทำได้ แต่ ณ วันนึงที่เขาทำเรื่องเกินเรียวจะรับได้ เขาก็ต้องไป” จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าสาเหตุใดที่ทำให้เรียวจันทร์ตัดแม่ตัวเองขาดสะบั้นขนาดนี้

           

 

 

กองถ่ายทำภาพยนตร์เริ่มถ่ายทำกันตั้งแต่ในช่วงสายๆ ตอนที่พระอาทิตย์เริ่มส่องให้ความอุ่นเพื่อบรรเทาอากาศเย็นๆ ในฟาร์ม การถ่ายทำเว้นไปนานเลยทำให้นักแสดงต้องเคาะสนิมที่ขึ้นช่วงหยุดหน้าฝนที่ผ่านมา แรกๆ ก็ดูงงๆ ไม่เข้าที่เข้าทาง แต่สุดท้ายก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ นักแสดงมีสมาธิและสติมากขึ้น เหล่าทีมงานนึกขอขอบคุณคุณคมเขี้ยวที่เลื่อนการเปิดฟาร์มช่วงงานเทศกาลประจำปีของที่นี่ไปอีกหนึ่งอาทิตย์เพื่อให้ทีมงานได้ถ่ายทำกันอย่างสะดวก

 

 

“พี่เขี้ยว หนูอยากกินพิซซ่าอะ” เรียวจันทร์บอกตอนที่สามีของนางเดินมาหาที่เก้าอี้นั่งพักระหว่างรอเข้าฉากต่อไป

 

 

“เอากี่ถาด”

 

 

“เอาทุกหน้า ไซส์ใหญ่ อย่างละสามถาดก็ได้ แบ่งๆ กันกินเดี๋ยวก็หมด”

 

 

“อือ เดี๋ยวบอกไอ้ดินให้มันไปซื้อให้” เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง กวักมือให้คมเขี้ยวก้มหน้าลงมาหา ร่างสูงทำตามอย่างว่าง่าย คุณนายหอมแก้มที่ชื้นไปด้วยเหงื่อหนึ่งฟอด

 

 

“ขอบคุณค่ะ”

 

 

“เหงื่อเต็มไปหมด ยังจะหอมอีก”

 

 

“ก็หนูหอมของหนูอะ” เรียวจันทร์หัวเราะคิกคัก ยิ้มยิงฟันตาหยี คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ ยกมือขวาผลักหัวสีโค้กเบาๆ

 

 

“ไปอาบน้ำให้ไอ้หงายก่อนนะ”

 

 

“อือๆ” เรียวจันทร์พยักหน้าขึ้นสองที (ทุกวันนี้นางก็ยังไม่ดีกับไอ้ม้าตัวนั้น) คมเขี้ยวเดินออกไปจากบริเวณนั้นท่ามกลางสายตาอิจฉาของแม่นางฝ่ายเมคอัพและคอสตูมทั้งหลาย เรียวจันทร์อมยิ้มเบาๆ แต่สักพักรอยยิ้มก็สะดุดเมื่อสายตาเห็นนังคุณหนูชายน์ที่กำลังเดินย้อนกลับมาทางที่พักของกองยกมือไหว้สวัสดีคมเขี้ยว และยืนคุยด้วยรอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

 

 

คุณนายเรียวจันทร์หรี่ตามองพร้อมกับเก็บข้อมูล แม้ในใจจะเริ่มระอุ แต่จะบุ่มบ่ามไม่ได้ ต้องรอให้นังคุณหนูนั่นเผยไต๋ออกมามากกว่านี้

 

 

แต่ หน็อยยย!

 

 

คุณนายแม่นั่งยุบหนอพองหนอกับตัวเอง แม้ภาพที่เห็นจะเป็นการทักทายกันทั่วไป แต่จากครั้งก่อนที่นังคุณหนูชายน์มันมองสามีหล่อนด้วยสายตาเป็นมันนั่นต่างหากที่ทำให้นางรู้ว่ามันเป็นการทักทายที่ไม่ค่อยจะธรรมดาสักเท่าไหร่

 

 

“เรียว เข้าฉากครับ!” นางหันไปตามเสียงเรียกของผู้ช่วยผู้กำกับ จากใบหน้าราวกับกำลังสาปแช่งใครเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานหยดย้อยสวยงามทันตา

 

 

“ค่า” คุณนายตอบเสียงใสราวกับหัวใจไม่ได้ขุ่นมัว นางลุกขึ้นเดินไปเข้าฉาก ฟังผู้กำกับบรีฟว่าต้องการอะไรในฉากนี้ จดจ่อสมาธิอยู่กับคำสั่งของผู้กำกับให้มากที่สุด ไม่ให้หลุดไปคิดแผนป้องกันสามีตัวเอง

 





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao5:




ตอนสุดท้ายแล้วววว  :o12:

ลงสั้นก็ต้องขออภัยนะคะ แต่ยังไม่อยากลงรวดเดียว จบรวดเดียว ฮือออ อยู่กับขุ่นแม่มาปีกว่า (เพราะเขียนช้า 55555) ก็ใจหวิวแปลกๆ กับตอนสุดท้ายของเรื่อง ความแซ่บเปรี้ยวเยี่ยวราดของขุ่นแม่เรียวกำลังจะจบลงงง

แต่ถ้าใครอยากต่อเนื่อง ไปเจอกันในเล่มนะคะ คิๆ ขายของเนียนๆ ตอนนี้รอบสต๊อกขุ่นแม่เหลืออีก 22 ชุดค่ะ หนังสือรอบต๊อกจะมาพร้อมรอบพรีเลยค่ะ

รายละเอียด

ใครอยากได้ขุ่นแม่หรืออยากได้สามีขุ่นแม่ไปครอบครอง ส่งอีเมลมาหาตอมที่ worksthemagicอย่าแสดงเมลบนบอร์ด เขียนหัวข้ออีเมลว่า 'เปย์ขุ่นแม่รอบต๊อก' ตอมจะส่งรายละเอียดการโอนเงินกลับไปให้ หนังสือมีสองเล่ม ราคาชุดละ 1045 รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียนแล้วค่ะ ตัดสินใจดีๆ เนอะ ตอมรู้ว่าหนังสือตอมราคาพาไตวายมาก ยังไงตัดสินใจก่อนเปย์ได้ตลอดๆ ค่า

.
ไม่มีจองนะคะ เหมือนร้านหนังสือค่ะ ใครพร้อมก็หยิบขุ่นแม่มาคิดเงินได้เลย สำหรับรอบต๊อกจะไม่ได้พวงกุญแจกับโปสการ์ดเด๊อจ้ะ


ตอนสุดท้าย ขุ่นแม่ก็ยังมีมารมาวุ่นวายกับสามีตัวเอง งานนี้ขุ่นแม่จะสำแดงอิทธิฤทธิ์อันใดใส่นังคุณหนูกันเล่าเจ้าคะ คริๆ

ใจหาย แต่ก็ยังไม่หายไปเน้อ ยังอยู่วววว

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ  :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด