พิมพ์หน้านี้ - *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: คุณเจ้ ที่ 27-11-2015 23:59:35

หัวข้อ: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 27-11-2015 23:59:35
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


WORKS THE MAGIC !

สัวสดีค่ะ ขุ่นเจ้ เอง บางคนอาจคุ้นเคยกับนามปากกานามนี้บ้างจากเรื่อง Love, no boundaries (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47347.msg3092658#msg3092658)
วันนี้วันที่ 28/11/58 ขุ่นเจ้ก็มีเรื่องใหม่มาฝากคนอ่านค่ะ หวังว่าจะชอบกันนะคะ

ก่อนอ่านเรื่องนี้ มีประเด็นที่อยากแจ้งก่อนอ่าน

- นายเอกเรื่องนี้สาว สาวมาก จริตเกินชายไปเยอะมาก ถ้าในวงการเกย์เก้งกวาง นายเอกคนนี้จะมียศ ขุ่นแม่ เลยทีเดียว
คนอ่านนิยายชายรักชายคนไหนไม่โอเคกับนายเอกสาว อาจจะไม่ถูกใจ แต่หากอยากทดลองอ่านความแซ่บ เปรี้ยว เยี่ยวราด ของนายเอกคนนี้ก่อน ยินดีต้อนรับเลยค่ะ
- นายเอกเรื่องนี้มีพฤติกรรมที่ค่อนข้างร้าย แรง ไม่ใช่คนใสสะอาด คำพูดคำจาของเขาบางทีอาจจะรุนแรงอยู่บ้าง และนี่คือหน้าที่คนเขียนที่ว่าจะทำอย่างไรให้คนอ่านรักนายเอกร้ายๆ คนนี้ จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ
- เรื่องนี้เป็นงานเขียนนะคะ เกิดจากจินตนาการและอิงความเป็นจริงด้วยเบาๆ

คนเขียนรักตัวละครในแบบที่เขาเป็น และหวังว่าคนอ่านจะรักตัวละครอย่างที่เขาเป็นนะคะ ^^

ไม่อนุญาตให้คัดลอกหรือดัดแปลงนิยายเรื่องนี้ หากใครฝ่าฝืน จะขอดำเนินเรื่องตามกฏหมาย ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ ให้ถึงที่สุด ถ้าคนไหนคิดจะคัดลอกผลงาน คนเขียนมีเพื่อนเป็นทนายที่พร้อมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดค่ะ

HashTag #WorksTheMagic

สารบัญ
ตอน 1-2 เลื่อนอ่านหน้าแรกเลยจ้า
EP.3 50% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3249667#msg3249667), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3253682#msg3253682), EP.4 50% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3257445#msg3257445), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3263312#msg3263312), EP.5 50% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3270436#msg3270436), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3275744#msg3275744), EP.6 50% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3280993#msg3280993), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3297453#msg3297453), EP.7 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3317055#msg3317055), EP.8 50% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3344237#msg3344237), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3358357#msg3358357), EP.9 50% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3413434#msg3413434), 75% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3428587#msg3428587), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3431475#msg3431475), EP.10 50% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3448373#msg3448373), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3452363#msg3452363), EP.11 50% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3455545#msg3455545), 75% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3458986#msg3458986), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3460523#msg3460523), EP.12 35% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3464069#msg3464069), 70% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3473361#msg3473361), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3476205#msg3476205), EP.13 35% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3478199#msg3478199), 70% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3480998#msg3480998), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3482866#msg3482866), EP.14 40% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3486076#msg3486076), 70% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3488051#msg3488051), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3491370#msg3491370), EP.15 35% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3494686#msg3494686), 70% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3496996#msg3496996), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3499859#msg3499859), EP.16 35% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3503615#msg3503615), 70% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3507467#msg3507467), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3510041#msg3510041), EP.17 35% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3512594#msg3512594), 70% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3515089#msg3515089), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3516928#msg3516928), Ep.18 ครึ่งแรก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3519918#msg3519918), ครึ่งหลัง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3521942#msg3521942), EP.19 35% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3524740#msg3524740), 70% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3527981#msg3527981), 100% (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50360.msg3531733#msg3531733)
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง (ย) มาร.~*คาถาที่ ๑ (50%):28.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 28-11-2015 00:01:22
ปาดดดดด
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง (ย) มาร.~*คาถาที่ ๑ (50%):28.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 28-11-2015 00:06:02


คาถาที่ ๑ :: Devil wears high-heeled [นางมารสวมส้นสูง] (50%)


บนรันเวย์ยกสูงถึงข้อเท้าสีขาวปรากฏร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเบลเซอร์ (Blazer) สีขาวสะอาดตา กางเกงสีขาวรัดรูป โชว์เรียวขาที่สมสัดส่วนได้ชัดเจน ผมสั้นสีโค้กเข้มซอยถูกเซ็ทในทรงเว็ทลุคส์ ที่เผยดวงหน้าสวยหวานให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ริมฝีปากบางสีชมพูสดเผยอขึ้นเล็กน้อยตามคางที่เชิดขึ้นหน่อยๆ ยามที่โดนแสงแฟลชสาดใส่ สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงดูมาดเท่ สาปเสื้อแหวกออกเผยให้เห็นร่องอกขาวเนียน เรียวขายาวเดินไขว้อย่างสง่างามบนรองเท้าหนังหัวแหลมสีดำส้นหนา ดวงตาที่ถูกแต่งสโมคกี้อายสีเข้ม โฉบเฉี่ยวราวกับเหยี่ยวจะจิกเหยื่อ มองตรงอย่างแน่วแน่ที่จะแก้ไขในสิ่งผิด เอิ่ม ไม่ใช่แบบนั้น มองราวกับว่าเป้าหมายที่จะพุ่งชนนั้นอยู่ตรงหน้า ไม่วอกแวก ไม่หันซ้ายหันขวาไปสบตาใครที่นั่งชมอยู่ด้านข้างรันเวย์เลยสักนิด
   

ร่างบางแต่ไม่อ้อนแอ้นเพราะมีกล้ามเนื้อสวยงามพอประมาณหยุดอยู่ตรงปลายรันเวย์เดินแบบ ยืนโพสท่าด้วยท่วงท่าที่น่ามอง ชายหนุ่มหลายคนมองดวงหน้าสวยหวานแล้วยิ้มด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แน่นอนว่าเป็นไปในทางบวกมากกว่าจะลบ ไม่งั้นเขาเหล่านั้นจะยิ้มออกมากันทำไมเล่า แถมยังมีเหล่าหญิงสาวหลายคนมองด้วยรอยยิ้มอีกเช่นกัน ติ๊ต่างอีกครั้งว่าพวกเธอเหล่านั้นกำลังมองร่างบางบนเวทีด้วยความรู้สึกดีๆ แต่ก็แน่ละ เมื่อมีมองด้วยทางบวก มันก็ต้องมีมองทางลบด้วย เพราะมีหญิงสาวกลุ่มหนึ่งท้าทายอำนาจของคนบนรันเวย์อย่างเงียบๆ หญิงสาวพวกนั้นกำลังมองด้วยความสงสัยและอยากจะใคร่รู้เหลือเกิน แม้ไม่ได้ยินว่าแม่สองสาวนั้นพูดอะไร แต่การที่เห็นทั้งสองมองมาที่ตัวเองแล้วนั่งหัวเราะคิกคักราวกับตลกในหน้าตาของตัวเองก็ทำเอาอารมณ์เคืองผุดขึ้นมาได้เหมือนกัน ร่างบางหยุดเดินชั่วครู่ตรงหน้าแม่สองคนนั้น ปรายตามองช้าๆ แล้วจิกหางตาลงใส่แม่สองสาว จนคนโดนมองผงะไปนิด แต่กระนั้นก็ยังมีกระจิตกระใจทำหน้าตาตลกขบขันใส่ร่างสูง
   


ขำอะไรนักหนา หน้าสวยนะ ไม่ใช่หน้าตลก!
   



อยากจะเดินเข้าไปสอบถามให้รู้แล้วรู้แรด แต่เนื่องจากทำงานอยู่และยังมีนายแบบนางแบบคนอื่นๆ เดินตามหลังมา สิ่งที่ทำได้คือเชิดหน้าขึ้นช้าๆ ปรายตาจิกทิ้งไว้อีกทีแล้วเดินจากไปอย่างเชิดๆ โดยไม่สนใจว่ายัยสองคนนั้นจะนินทากาเลอะไรตัวเองเอาไว้บ้าง
   

อาจจะอิจฉาที่เห็นผู้ชายอย่างเขาหน้าสวยหวานกว่าก็เป็นได้ เหอะ ตามโลกให้ทันหน่อยเถอะย่ะ เดี๋ยวนี้ผู้ชายหน้าสวยเยอะแยะจะตายไปหล่อน!
   

“อ๊อย! สวยมากเพื่อนหลาว แฟชั่นเซ็ทแอนโดรจีนี (Androgyny) นี่เหมาะกับแกมากบอกเลย แต่งหญิงก็สวย แต่งชายก็หล่อ” คนถูกชมยักไหล่ขวาอย่างมีจริตแล้วยิ้มมุมปากเก๋ไก๋กลับไปให้เพื่อนสาว (สาวแท้ๆ) คนสนิทที่ตามมาดูแลอยู่หลังเวที
   

“เช็กหน้าด้วย สวยหล่อได้หมด ไม่งั้นฉันจะเป็นนายแบบเอลิสต์เหรอจ๊ะ” ว่าไปด้วยก็เปลี่ยนชุดใหม่ที่จะใส่เดินชุดสุดท้ายของงานนี้ไปด้วย คนเป็นเพื่อนมองแผ่นหลังขาวเนียนละเอียดยิบแล้วเบ้ปากแรงด้วยความหมั่นไส้ แต่คนที่หลงตัวเองนั้นไม่ได้มีทีท่าโกรธเคืองแต่อย่างใด เพียงแค่เอี้ยวหน้าสวยๆ หันไปยักคิ้วขึ้นเก๋ๆ ให้เพื่อนผ่านกระจกหนึ่งที คนเป็นเพื่อนหัวเราะกับท่าทีมีจริตของแม่ เอ้ย พ่อนายแบบสุดฮ็อต


“เออนี่ มีคนโทรมาหาแกสองคน คนแรกมอส…” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่เอาเข้าจริงมันสวยซะมากกว่า ยิ้มกว้างพร้อมดวงตาทอประกาย ตัวแทบบิดตอนหันตัวเปลือยเปล่าซีกขวาของตัวเองไปมองหน้าเพื่อน


“…คนที่สอง แม่แก” รอยยิ้มหุบวืดลงทันใด ดวงที่ทอแสงประกายวาบวับนั้นดับแสงในตัวอย่างรวดเร็วราวกับมีใครเดินสะดุดปลั๊กไฟที่เชื่อมต่อมาที่ดวงตาเรียวสวย เขาหันกลับไปแต่งตัวจนเสร็จแล้วก็หันกลับมายืนตรงหน้าเพื่อนตรงๆ


ใบหน้าสวยที่ยามนี้สวยเข้าไปอีกด้วยเครื่องสำอางตามคอนเซ็ปท์ของตีมงานแสดงออกถึงความเซ็ง ริมฝีปากชมพูสวยบิดเบ้ราวกับเหม็นอะไรสักอย่าง


“เดี๋ยวๆ แก หน้าแกตอนพูดถึงผู้ชายกับตอนพูดถึงแม่ ทำไมถึงได้แตกต่างขนาดนั้น คนหลังนั่นแม่แกนะ” คนเป็นเพื่อนว่าคล้ายจะตำหนิ แต่หากดูสีหน้าหล่อนดีๆ มีแววขบขันไม่น้อยทีเดียว


“แกอย่ามาแอคติ้งเป็นเด็กเพิ่งแตกเนื้อสาวหน่อยเลยนังสิริพร” เจ้าของชื่ออ้าปากหวอพร้อมสีหน้าตกใจสุดขีดเมื่อไอ้ ไม่สิ เมื่อนังเพื่อนสนิทตัวดีกล้าที่จะเอ่ยชื่อนั้นออกมา


“ช่วยเอ่ยชื่อที่สมฐานะของตัวดิชั้นด้วยค่ะนังคุณชายเรียวจันทร์ ฉันเปลี่ยนชื่อเป็นศิริประภาแล้ว โอเค๊?” เจ้าของนามเดิมว่าสิริพรว่าเสียงแหลมปรี๊ด ส่งสายตามองแรงไปที่เรียวจันทร์ผู้ซึ่งทำเพียงสีหน้าเหมือนเหม็นขยะกลับมาให้


“แม่แกชอบพี่ตั๊ก ลีลา จนเอามาตั้งเป็นชื่อลูก ผิดตรงไหนไม่ทราบ”


“ผิดตรงที่หน้าฉันไม่ได้เหมาะกับชื่อนี้น่ะสิคะ…” หล่อนกระแทกเสียง ทำหน้าดราม่าอยู่ครู่หนึ่ง “…แกน่ะมันใจร้ายนังเรียว”


“โอ๊ย เดี๋ยวๆ นังคล้ำ ออสการ์ไม่มีสาขานักแสดงแปลกนะ” สิริพร เอ้ย ศิริประภา เอามือทาบอก สีหน้าตกใจปนเจ็บปวด


“นี่ไง แกนี่มันใจดำยิ่งกว่าผิวของฉัน คอยดูนะฉันจะฟ้องผัวฉันให้เล่นงานแก!” ว่าไปก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ไป จนเรียวจันทร์ขำออกมา ก่อนจะยกหวีตีหัวเพื่อนตัวเองจนสาวผิวดำ เอ่อ ผิวเข้มสะดุ้งตัวโยน สีหน้าดราม่าทั้งหลายหลุดกระจายไปราวกับกระจกแตก


“พอๆ ใครโทรมาว่ายังไงบ้าง…”


“…Riewjan, your time!” เสียงตะโกนของสตาฟดังขึ้นขัดจังหวะของเพื่อนซี้สองคน เรียวจันทร์หันไปยกมือว่าโอเคแล้วหันกลับมาหาเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กลับเข้าสู่สภาะปกติแล้ว


“เดี๋ยวฉันมา ขอไปเดินปิดงานก่อน”


“เอาให้รันเวย์ระเบิดไปเลยค่ะ!” เรียวจันทร์หมุนตัวมองหน้ากระจกอีกรอบในชุดหนังสีดำคัตติ้งเนี้ยบทั้งชุด ตัวเสื้อเป็นแขนยาวคอตั้งไหล่ตั้งทำให้อกผายไหล่ผึ่ง หางเสื้อยาวไปทับไลน์กับกระโปรงหนังสีดำที่ยาวกรุยกราย แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องการเหยียบชายกระโปรง เพราะเรียวจันทร์ใส่ส้นสูงสีดำ ทำให้ชายกระโปรงลอยขึ้นมาเสมอพื้นพอดี เขาหมุนตัวหน้ากระจกอีกสักพักก็เดินออกไปพร้อมทีมงานด้วยท่าทีสง่าผ่าเผยจนเพื่อนสนิทมองด้วยความชื่นชม


“นี่ดีนะ ที่นางไม่ชอบแต่งหญิงในชีวิตจริง” เพราะไม่งั้นล่ะก็ เวลาเดินด้วยกันหล่อนคงดรอปลงไปอีกมากโข เพราะทุกวันนี้เวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน ส่วนมากคนก็จะมองพ่อนายแบบไว้ก่อน เนื่องด้วยนางขาวสว่างอย่างกับพกหลอดไฟ เรียวจันทร์ไม่ใช่ผู้ชายหน้าสวยจนดูไม่ออกว่าเป็นผู้ชาย แต่บุคลิกนางดี ดูมีสกุล หน้าตาสะอาดสะอ้าน หุ่นไม่เก้งก้าง ไม่ได้ออกสาวตลอดเวลา ถึงแม้จริงๆ นางจะสาวจัดเลยก็ตามเถอะ แต่นางก็คีพลุคของนางได้ดีเสมอ


และที่สำคัญ อย่าให้นางร้าย เพราะองค์แม่กลียุคจะลงจนแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลอยเลยทีเดียว




ร่างสูงโปร่งก้าวออกจากหลังฉากเวที เมื่อก้าวเข้าสู่รันเวย์ เรียวจันทร์ก็กดหน้าลง แววตาที่ถูกแต่งสีเข้มจนเฉี่ยวจ้องมองไปเบื้องหน้าอย่างมีพลัง ท่วงท่าในการเดินก็แสนจะสตรองมากมาย น้ำหนักที่ลงขาแต่ละข้างนั้นทำเอาเจ้าตัวดูแข็งแรงปราดเปรียวแล้วยังแฝงความเปรี้ยวเอาไว้อีกต่างหาก เมื่อมาถึงปลายเวที เขาก็ลงน้ำหนักที่เท้าขวาได้พอดิบพอดีกับจังหวะเพลง บิดหน้าซ้ายขวาเล็กน้อยก่อนจะสะบัดตัวเดินจนชายกระโปรงพลิ้วไปตามแรงทำให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น จังหวะที่กำลังจะเดินผ่านยัยสองคนที่หัวเราะเยาะเขาไว้ครั้งก่อน เรียวจันทร์ก็บิดหน้าไปมองเล็กน้อยแล้วเบะปากให้อย่างแรง แถมด้วยสายตามองหัวจรดเท้าอย่างรวดเร็ว จนสองสาวอ้าปากหวอด้วยความทึ่งและผสมกับความไม่พอใจสักเท่าไหร่ แต่คนอย่างเรียวจันทร์รึจะสน


รอยยิ้มสะใจเล็กๆ ผุดขึ้นที่มุมปากซ้าย แล้วเจ้าตัวก็เชิดหน้าขึ้น ก่อนจะก้าวเท้าเดินกลับไปหลังเวทีอย่างทรงพลัง ถือว่าปิดจ๊อบนี้ด้วยสวยงาม ทั้งจ๊อบเดินแบบและจ๊อบจิกคืนนังสองคนนั้น


ถึงนางจะเป็นผู้ชาย แต่ไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อย ฉะนั้นนางไม่สนหรอกว่าใครจะมองว่ารังแกผู้หญิง ก็นังผู้หญิงมารังแกนางด้วยการหัวเราะเยาะก่อนทำไม ไม่เดินไปจิกหัวมาทุ่มบนรันเวย์ก็ถือว่าใจเย็นมากแล้ว


“Hey, Riew.” เรียวจันทร์หันไปยิ้มกว้างให้กับเพื่อนนายแบบสุดหล่อคนหนึ่งที่นางเองก็ชื่นชอบและชื่นชมเพื่อนนายแบบที่เป็นหนุ่มอิตาลีคนนี้อยู่ไม่น้อย และที่สำคัญพ่อหนุ่มอิตาลีคนนี้ก็ชอบนางถึงขั้นเคยบอกว่าเครซี่นางมาก นี่ถ้าไม่ติดว่ามีคนคุยอยู่แล้วละก็ นางจะกิ๊กกับคนนี้ให้ดู


“Hi, Jared. What’s up? (ไง แจเร็ด)” หนุ่มอิตาลียิ้มหวานกลับมาให้จนเรียวจันทร์ต้องยิ้มหวานกลับไป


“We have a party tonight. Do you wanna join us? (คืนนี้เรามีปาร์ตี้ ไปด้วยกันมั้ย)” แจเร็ดยกนิ้วโป้งชี้ผ่านไหล่หนาตัวเองไปด้านหลังที่มีนายแบบอีกสามสี่คนยืนถอดเสื้อโชว์หุ่นล่ำๆ อยู่ เรียวจันทร์เลื่อนสายตากลับมามองแจเร็ดก่อนจะทำหน้าเสียดายอย่างสุดซึ้ง


“So sorry. I already have a plan. (ขอโทษจริงๆ นะ แต่ฉันไม่ว่างไปน่ะ)” แจเร็ดยักคิ้วขึ้นเซ็งๆ แต่ก็ยิ้มออกมาด้วยความเข้าใจ


“When would you hang out with me? (เมื่อไหร่เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันล่ะ)” เขาชวนเรียวจันทร์ไปเที่ยวด้วยกันมาหลายครั้งแล้วแต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยว่างไปกับเขาสักที


เรียวจันทร์ยิ้มกว้างอย่างมีเสน่ห์ก่อนตอบเสียงใส “Maybe tonight.”


แจเร็ดแลบลิ้นด้วยใบหน้าเซ็ง เพราะเขารู้ว่าไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ แล้วก็รู้ด้วยว่าเรียวจันทร์คงไม่ไปเที่ยวกับเขาง่ายๆ แน่


“Okay. See you.” ทั้งสองยกมือโบกลากันแล้วเดินแยกกันไปคนละฝั่ง


“แจเร็ดหล่อออก หล่อกว่าไอ้มอสอีก ทำไมแกไม่เอาเนี่ย” เรียวจันทร์ใช้สำลีชุบโทนเนอร์แล้วเช็ดเครื่องสำอางออกจากหน้าอย่างเร็ว แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเพราะเดี๋ยวผิวหน้าจะเสื่อมสภาพหมด แล้วนั่นจะทำให้หน้าสวยๆ ที่เจ้าตัวแสนจะภูมิใจนักหนามีรอยราคีเสียเปล่า แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากอ้อยอิ่งทิ้งตัวเองไว้ในห้องนี้นาน เพราะมีธุระต้องไปทำต่อ


“เอาสิ ใครไม่เอาล่ะ แต่กับมอสเพิ่งเดือนเดียวเอง ไว้ถ้าไปกันไม่รอด ค่อยอ้าแขนรับคนนี้ก็ยังทัน” เป็ดหรือศิริประภาเบ้ปากใส่เพื่อน พลางหยิบสำลีที่ใช้แล้วลงถังขยะ เรียวจันทร์หันมาขยิบตาขวาให้หนึ่งวิ้งแล้วหันกลับไปมองกระจกเพื่อเช็ดเครื่องสำอางต่อ


“ระวังเถอะย่ะ ชะนีจ้องงาบแจเร็ดตั้งเยอะ ไหนจะเก้งกวางอีก”


“ผู้หญิงน่าจะตัดออกนะ แกก็น่าจะเห็นว่าแจเร็ดชอบผู้ชาย”


“อะ ชอบผู้ชายไม่ได้หมายความว่าเอาผู้หญิงไม่ได้นะคะ” เรียวจันทร์หันไปกลอกตาใส่เพื่อนหนึ่งที ยกมือขวาตบอกตัวเองเบาๆ ทำหน้าประมาณว่า เชื่อเจ๊แล้วจะดีเอง


“เออ มอสโทรมาว่าไงบ้าง” ถามพลางหันกลับไปเช็ดหน้าตัวเองต่อ


“มันถามว่าแกเลิกงานกี่โมง ฉันเลยบอกว่าอาจจะเกือบๆ เที่ยงคืน แต่นี่เพิ่งจะสามทุ่ม โทรไปบอกมันมั้ย” เรียวจันทร์ที่เช็ดหน้าจนสะอาด เผยให้เห็นใบหน้าขาวใสผุดผ่องเนียนกิ๊งหันมามองเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มพร้อมส่ายหัวเบาๆ


“ไม่ต้อง วันนี้วันเกิดมอส เดี๋ยวไปซื้อเค้กแล้วเอาไปเซอร์ไพรส์ที่คอนโด” เป็ดพยักหน้าหงึกหงักไปกับความคิดเพื่อน ช่วงข้าวใหม่ปลามันก็งี้แหละ อะไรก็ดูสดใหม่และตื่นเต้นไปหมด


“ส่วนแม่แก…”


“…เรื่องเงิน” เป็ดยังไม่ทันพูดจบก็โดนอีกฝ่ายขัดด้วยสีหน้าเอือมระอาซึ่งตัดฉับสีหน้าระรื่นตอนพูดถึงแฟนเมื่อกี้ลิบลับ หล่อนยิ้มแห้งแล้วพยักหน้าลงหนึ่งที เรียวจันทร์ถอนหายใจ รู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องนี้เหลือเกิน


“คราวนี้ท่าทางจะใหญ่กว่าคราวที่แล้ว แม่แกร้อนรนจะคุยกับแกให้ได้เลย” คนเป็นลูกกลอกตา ยกมือขวาขึ้นโบกหนึ่งที


“ไว้ฉันกลับไปคุยเอง เรื่องเงินของแม่ก็ใหญ่โตตลอดนั่นแหละ” นางว่าเซ็งๆ หันไปหยิบเสื้อผ้าในกระเป๋าหนังของแบรนสุดเกร่ออย่างหลุยส์วิคตองที่ได้มาจากการไปเที่ยวฮ่องกงกับแฟนคนไหนสักคนที่นางยังจำหน้าได้แต่ลืมไปแล้วว่าอีกฝ่ายทำอาชีพอะไร เหมือนจะเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมริมทะเลนี่ละมั้ง แต่ดันเลิกกันเพราะอีกฝ่ายรับนิสัยบางอย่างของนางไม่ได้ แถมยังหนีไปแอบกิ๊กกับนังเก้งรุ่นน้อง!


เรียวจันทร์เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนสกินนี่สีน้ำเงินเข้มราคาแพง แม้จะมีอาชีพเป็นนายแบบที่ต้องเกี่ยวข้องกับแฟชั่น แต่ในชีวิตประจำวันของนางก็แต่งตัวง่ายๆ สบายๆ ไม่ได้เยอะสิ่งแบบที่ถูกประโคมใส่ให้เวลาอยู่บนเวทีหรือถ่ายแบบต่างๆ แรกๆ ก็แต่งเยอะสิ่งอยู่เหมือนกัน แต่หลังจากทำงานเป็นนายแบบมาได้สามปีก็รู้สึกเบื่อการประโคมเสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่มากมายลงไปบนตัว เยอะบนเวทีกับในนิตยสารแล้ว ขอแบบเบาๆ ในเดลี่ไฟล์หน่อยก็แล้วกัน แต่ก็ไม่ได้เบาทุกวัน วันไหนอยากเจิด อยากเลิศ ก็แต่งเต็มหน่อย


“See you, Jared!” เรียวจันทร์หันไปโบกมือลาให้กับหนุ่มอิตาลีที่ตอนนี้ถอดเสื้อยืดโชว์หุ่นอันแน่นหนา อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามแขนกับกล้ามท้อง เห็นแล้ววูบวาบเลยทีเดียว แต่นางก็เก็บอาการได้ดี แถมยังมีการโปรยเสน่ห์ใส่แจเร็ดด้วยการส่งจูบให้ จนเพื่อนๆ ของแจเร็ดส่งเสียงโห่แซว ส่วนคนโดนส่งจูบให้ก็ยิ้มเขินจนแก้มแดงระเรื่อ เรียวจันทร์ยิ้มกว้างมีเสน่ห์ส่งท้ายให้แล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องแต่งตัวไปพร้อมเพื่อนสนิท


“ร้ายนักนะอีเรียว” เป็ดกัดฟันพูดพร้อมกับมองจิกด้วยความหมั่นไส้ เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นแล้วยักไหล่ขวาน้อยๆ


“ก็ต้องเก็บไว้สิจ๊ะ อิมพอร์ตเต็ดจากอิตาลีเชียวนะ” ศิริประภาถึงขั้นมือสั่นปากสั่นมองเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ที่ประทุเต็มแน่นอยู่ในอก


“ฉันต้องด่าว่าเกลียดแกอีกกี่ครั้งถึงจะสาแก่ใจอีช้อยนะ”


“ฉันให้แกบอกทั้งชีวิตเลย” คนถูกหมั่นไส้ลอยหน้าลอยตาพูด แล้วเดินสะบัดไปขึ้นรถ สาวผิวเข้มผมยาวสลวยถึงกับกระทืบเท้าเบาๆ และกรี๊ดไร้เสียงออกมาด้วยความหมั่นไส้อย่างเต็มพลัง ได้แต่นึกในใจว่าเก้งสาวอะไรทำไมถึงได้จริตมารยาเยอะขนาดนี้


V
v
v

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง (ย) มาร.~*คาถาที่ ๑ (50%):28.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 28-11-2015 00:07:43
V
v
v

ทั้งสองคนมาเดินดูเค้กที่ร้านไอติมชื่อดังอย่างร้าน Swensens ให้กับแฟนของเรียวจันทร์ที่เพิ่งคบกันได้เดือนเดียวหลังจากคุยกันมาสองอาทิตย์ นางเลือกเค้กหน้าที่มีสตรอว์เบอร์รี่เยอะๆ เลือกจากความชอบของตัวเองทั้งนั้น เพราะกะว่าหลังจากเป่าเทียนเรียบร้อยแล้วจะได้กินอย่างสบายใจไม่ใช่ฝืนใจกิน มอสชอบกินเค้กวานิลลา แต่นางไม่ชอบ ฉะนั้นเลยเลือกเนื้อเค้กที่เป็นช็อกโกแล็ตแทน


“แกจะไปไหนต่อรึเปล่า” ศิริประภาถามหลังจากที่เรียวจันทร์ได้ช่อดอกกุลาบแดงสีสดมาไว้ในมือเพื่อเอาไปให้มอสในวันเกิด


“ไม่ดีกว่า สี่ทุ่มละ รีบไปเซอร์ไพรส์มอสเถอะ” เรียวจันทร์ยิ้มตื่นเต้นจนเพื่อนสาวทำหน้าเอือมกับความรักอันสดใสอย่างกับเด็กมัธยมต้นที่เพิ่งเริ่มจะมีความรักทั้งที่เรียวจันทร์นั้นผ่านศึก เอ้ย ผ่านความรักมากมายแล้ว ก็แหม หน้าตานางดี แถมสมัยนี้ผู้ชายที่ชอบผู้ชายก็มีน้อยซะเมื่อไหร่ หน้าปังๆ แบบนังเรียวจันทร์จะไปยากอะไรที่จะเรียกหนุ่มๆ เข้ามาหา


“เออ มอสนี่มันทำงานอะไรนะ ฉันเคยถามแกไปยัง” คนถูกถามส่ายหัวในขณะที่ขับรถออกไปตามท้องถนน สายตาก็เหลือบมอง GPS บนไอแพดไปด้วยเนื่องจากจำทางไปคอนโดแฟนตัวเองไม่ได้แม้จะไปสี่ห้าครั้งแล้วก็ตาม


“พ่อมอสเป็นเจ้าของเต็นท์รถมือสองอ่ะ” คนถามพยักหน้าว่าอ้อ


“มันมาจีบแกหรือแกมาจีบมัน” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นแล้วมองเพื่อนด้วยสายตาประมาณว่า เช็กด้วยนี่ใคร โดยที่ไม่ต้องออกเสียงเป็ดก็เข้าใจความหมายที่เพื่อนจะสื่อออกมาได้


“จ้า แม่หน้าตาดี มีออร่าแรง ฉันไม่น่าถามเลยจริงๆ” เรียวจันทร์หัวเราะอารมณ์ดีกับท่าทีประชดประชันของเพื่อน


“แหม ฉันก็ไม่ได้เสน่ห์รุนแรงขนาดนั้นมั้ย บางคนที่ฉันจีบเองก็มี”


“มีน้อยอะสิ เออ แต่จะว่าไป แกก็เคยอกหักจีบผู้ชายไม่ติดมาแล้วนี่หว่า” เรียวจันทร์ทำปากยื่นแล้วพยักหน้ารับแบบจำยอม


“ก็พวกนั้นผู้ชายแท้นี่ บางคนไม่แท้แต่ก็ไม่ชอบแบบฉัน” ใช่ว่าจะล่อลวงผู้ชายได้ทุกคน มันก็มีผิดหวังสมหวังบ้างปะปนกันไปเป็นรสชาติของชีวิต แต่ในชีวิตก็ยังไม่เคยอกหักถึงขั้นเสียสติมาก่อน ก็แค่เฟลๆ นอยด์ๆ ไปเป็นอาทิตย์ แต่หลังจากนั้นก็หายช้ำแล้ว เศร้านานไม่ได้ เดี๋ยวหน้าหมอง


“เออ แกปิดเครื่องเหรอแม่แกถึงโทรเข้าเบอร์ฉัน” คนที่กำลังขับรถทำหน้าเอือมแล้วพยักหน้าขึ้นสองที


“แกรีบๆ จัดการเซอร์ไพรส์แฟนแกเถอะ จะได้กลับไปหาแม่ ท่าทางจะร้อนใจมากเลย” เรียวจันทร์ถอนหายใจ แค่คิดว่าจะต้องกลับบ้านไปปะทะอารมณ์กับแม่ก็เหนื่อยล่วงหน้าแล้ว


“พรุ่งนี้แหละ ฉันว่าจะนอนกับมอสคืนนึง” นางว่าในขณะที่ตีไฟเลี้ยวเข้าไปในคอนโดหรูสูงชะลูดที่อยู่ย่านหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นย่านที่รถติดบรรลัยมากอีกจุดหนึ่งเลยก็ว่าได้ อันที่จริงเมืองกรุงมันก็รถติดแทบจะทุกจุดนั่นแหละ แต่ที่เฉือนเอาชนะกันได้ก็คงเป็นว่าจุดไหนมีนาทีไฟแดงนานกว่ากัน


“โอ้โห วันเกิดซะด้วย ฉันว่าแกคงตื่นมาในชุดวันเกิดแน่ๆ” หนุ่มหน้าสวยแต่ก็มีเค้าความหล่อบิดปากอย่างมีจริต ก่อนจะหัวเราะเสียงดังกับเพื่อน


“อีมอสก็ท่าทางจะแซ่บน่าดู” เรียวจันทร์ทำตาโตแล้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วยรัวๆ


“จริงแก อาทิตย์ก่อนนางใส่แต่กางเกงในเดินยั่วฉันหลายรอบมาก โอ๊ย อีแม่ใจ่บ่อดี๊ งานดี งานแน่น แต่ฉันก็ต้องคีพลุคไง เพิ่งคบกันได้สามอาทิตย์ ยังปล่อยเนื้อปล่อยตัวมากไม่ได้” เรียวจันทร์เอามือตบอกตัวเองเบาๆ ขยุ้มเรียวปากเป็นบัวตูมแล้วผ่อนลมหายใจออกแผ่วๆ เป็ดที่นั่งมองอยู่อดอ้าปากกว้างๆ เพื่อที่จะหัวเราะไม่ได้ เพื่อนหล่อนดูอยากมากจริงๆ


“โอ๊ย อีเน่! แรดจริงๆ อีมอสก็คงอยากฟัดแกใจจะขาดแล้วมั้ง แต่อีแฟนรุ่นพี่ไม่กระโจนเข้าใส่สักที”


“อยากจะขย้ำเลยแหละ แต่เพิ่งเดือนเดียว ไม่อยากให้มอสกลัว” แล้วนางก็หัวเราะเสียงอร่อยมาก ทำเอาศิริประภาร่วมวงไปด้วย แต่พอเหลือบเห็นตัวเลขบนนาฬิกาในรถ เป็ดก็สต็อปตัวเองกะทันหัน


“เฮ้ยแก จะเที่ยงคืนแล้ว ไปเร็ว เดี๋ยวหมดวันก่อน” ทั้งสองคนเปิดประตูรถ พอปิดประตูรถได้ก็รีบเดินไปขึ้นลิฟต์ กดไปยังชั้น 13 ของคอนโด ระหว่างนั้นเป็ดก็ช่วยเรียวจันทร์ปักเทียนลงบนเค้กตามจำนวนอายุของมอส


“กุญแจๆ” เป็ดบอกเสียงกระซิบเมื่อมายืนอยู่หน้าห้องของแฟนเรียวจันทร์ เจ้าของนามบุ้ยปากไปในกระเป๋าหนังสีน้ำตาลใบใหญ่ที่เกี่ยวไหล่ขวาอยู่ เป็ดก้มลงไปค้นจนเจอกุญแจห้อง พอไขประตูห้องเข้าไปได้ สาวผิวเข้มก็หันมาช่วยเพื่อนถือช่อดอกกุหลาบ ทั้งสองคนค่อยๆ ย่องเข้าไปในห้องที่มีไฟจากในห้องนอนสว่างลอดออกมาทำให้มองเห็นทาง แต่ในจังหวะที่กำลังจะก้าวเท้าเดินต่อนั้น ทั้งคู่ก็หยุดกึกเพราะเสียงๆ หนึ่ง


“อ้า อ้า อ้า อ้า…” ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้ปวดสมองว่ามันคือเสียงอะไร เรียวจันทร์เบิกตากว้าง ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นพร้อมเอาเรื่อง


“แก มันอาจดูหนังโป๊อยู่ก็ได้” เป็ดพยายามพูดกล่อมเพื่อนเมื่อเห็นว่าเรียวจันทร์แยกเขี้ยวราวกับเสือที่พร้อมแยกร่างเหยื่อ


“เสียงมันชัดเกินกว่าจะออกมาจากลำโพง!” พูดจบปุ๊บ เรียวจันทร์ก็กระแทกเท้าเดินเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็ว กะในใจว่าไปถึง ถ้าเห็นภาพบาดตาแม่จะอาละวาดให้พัง แต่เมื่อเข้าไปในห้องภาพที่เห็นทำเอานางตะลึงค้างกว่าเดิม คือมันก็บาดตาอยู่ดี แต่มันบาดแบบเบี้ยวๆ


“เฮ้ย! เรียว!” เป็ดที่เดินตามเข้ามาเบิกตากว้างมองด้วยความตะลึงเช่นกัน เรียวจันทร์อ้าปากค้าง ดวงตาคู่ใสค้างเติ่งอยู่กับสิ่งที่เห็น เมื่อภาพที่เห็นมันผิดคาดจากที่คิดว่ามอสต้องเอาใครขึ้นมามั่วด้วยสักคน ใช่ มันก็เอามามั่วนั่นแหละแต่ว่า


“มอส! เป็นรับทำไมไม่บอก!” เรียวจันทร์แผดเสียงกังวานด้วยความฉุน ยิ่งท่าทางของมอสที่นั่งอยู่บนแท่นบัลลังก์ของผู้ชายผิวสีคนหนึ่งที่ร่างกายกำยำบึกบึน ยิ่งทำให้นางฉุนเข้าไปอีก


“เดี๋ยวเรียว ขอมอสพูดก่อน” ชายหนุ่มผิวขาว ร่างหนาไปด้วยมัดกล้าม ลุกขึ้นยืนจากแก่นกายใหญ่โตของหนุ่มนิโกรหัวโล้นที่นอนแผ่อยู่บนเตียงและกำลังมองเรียวจันทร์ด้วยความสนใจ


“พูดอะไร?! โห ไอ้เราก็คิดว่าได้แฟน นี่อะไรวะ ได้เพื่อนสาวมาซะงั้น ทำไมไม่บอกกันก่อน เรียวว่าเรียวชัดเจนแล้วนะว่าเรียวไม่รุก!” หนุ่มตี๋ล่ำเอามือกอบกุมความเป็นชายของตัวเองไว้แล้วเดินเข้าไปหาแฟนหนุ่มหน้าสวยด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก


“ไม่ คือ มอสได้หมดอะเรียว ถ้าเป็นเรียวมอสก็รุกให้ไง” เป็ดที่ยืนอยู่ข้างๆ อ้าปากหวอ ยกมือที่ไม่ได้ถือช่อกุหลาบขึ้นปิดปากแล้วหันไปมองเรียวจันทร์ที่ถลึงตาใส่ไอ้ตี๋ล่ำ


“ไอ้บ้า! ฉันไม่อยากได้แฟนเป็นสาวเสียบ!” มอสรีบยกสองมือขึ้นโบกรัวๆ เป็นการปฏิเสธ ทำให้สิ่งที่มอสปกปิดไว้ก่อนหน้านี้ห้อยโตงเตงออกมา ศิริประภาถึงขั้นตาโตโอ้โหใหญ่จัง


“มอสไม่สาวนะ” เรียวจันทร์ย่นหน้าด้วยความโมโห มือซ้ายที่ไม่ได้ถือเค้กกำแน่น


“แต่ฉันก็ทำใจให้แกมารุกฉันไม่ได้เหมือนกัน!” เรียวจันทร์ตวัดสายตาไปมองนิโกรตัวใหญ่ล่ำที่นอนลูบไล้กลางลำตัวอย่างสบายใจ อีกฝ่ายส่งสายตาเจ้าชู้มาให้ แถมยังส่งซิกส์เชิญเรียวจันทร์ให้เข้าไปหาอีกต่างหาก


“หือ แล้วเล่นของใหญ่ซะด้วยนะ ไม่ธรรมดา กล้ากว่าฉันอีก!” เรียวจันทร์ขบกรามแน่น จ้องมองแฟนคนล่าสุดของตัวเองที่มองกลับมาด้วยสายตารู้สึกผิดปนละอายใจ


“เรียว มอสขอโทษที่มีคนอื่น…”



“…โอ๊ย! ประเด็นนั้นน่ะจิ๊บๆ แต่ที่ฉันรับไม่ได้คือฉันเกือบจะกลายเป็นเลสเบี้ยน!” เรียวจันทร์เม้มปากแน่น ย่นคิ้วด้วยความคับอกคับใจ มันรู้สึกเสียเซลฟ์ รู้สึกเฟลอย่างที่สุดที่มองพลาดไป หลงคิดไปว่าหมอนี่จะแมน มาเป็นแฟนที่ปกป้องเราได้ ที่ไหนได้จะมาช่วยเลือกรองพื้นละสิไม่ว่า


“เรียว มอสก็ยังเป็นมอสแบบที่เรียวเคยเห็น มอสแค่เปลี่ยนบทบาทเท่านั้นเอง” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ เบิกตากว้างมองอีกฝ่ายที่ยิ้มแกนๆ กลับมาให้


“ขอโทษที แต่บทที่แกเล่นไปน่ะ มันเป็นบทของฉัน ฉันรับคนเดียวพอ ไม่ต้องมีน้ำใจมาช่วยรับด้วย!” นึกถึงภาพเมื่อกี้แล้วใจขึ้นเลย โห! หมดเค้าความหล่อ ความแมนที่เคยวาดฝันไว้ หมดกัน ไอ้มอส!


“Hey, do you want to suck my dick? (เฮ้ อยากอมของผมมั้ย)” เสียงทุ้มใหญ่ๆ ดังมากจากพ่อนิโกรผิวเข้มที่ฟันขาวเคียงคู่มากับตาขาว เรียวจันทร์สะบัดดวงตาไปมอง ก่อนจะเดินฉับๆ ผ่านร่างอดีตแฟนไปที่ไอ้ถึกผิวดำตัวมันเลื่อม มันยิ้มกวนโอ๊ยกลับมา เห็นหน้าแล้วอารมณ์ขึ้น อยากจะเหยียบเข่าขึ้นเอาศอกกระแทกกลางหัวแบบนายขนมต้มเหลือเกิน!


“Suck your dick! (แกอมเองเถอะ!)” ว่าจบก็ทุ่มเค้กใส่หัวโล้นๆ ของมันเต็มแรง พ่อดำถึกสบถคำหยาบออกมามากมาย พร้อมกับลุกขึ้นจะเอาเรื่องเรียวจันทร์ แต่อีกฝ่ายกลับยืนนิ่งไม่ยอมขยับไปไหน



“What the fuck about you, huh?! You wanna piece of me?! (มึงเป็นห่าอะไรเนี่ย ฮะ?! อยากมีเรื่องเหรอวะ?!)” หนุ่มนิโกรที่ตอนนี้หัวโล้นๆ และหน้าดำๆ ขาวโพลนไปด้วยเค้กง้างมือขึ้นเหมือนจะต่อยเรียวจันทร์ แต่อีกฝ่ายกลับยืนนิ่งจนมอสต้องเป็นคนดึงนางออกมาให้ไกลจากรัศมีกำปั้นใหญ่ๆ นั้น


“Wait, wait, wait! Don’t hurt him. I can handle this. (เดี๋ยวๆ ใจเย็น อย่าทำร้ายเขา ผมจัดการเอง)” มอสเข้าไปปลอบนิโกรร่างใหญ่ด้วยการใช้มือซ้ายลูบต้นแขน มืออีกข้างก็ลูบไล้ตรงท้องน้อยไปมา เลื่อนลงมาจับความใหญ่โตมโหฬาร เรียวจันทร์แยกเขี้ยว หลับตาลงด้วยความปวดใจที่เห็นคนที่เคยคิดว่าเป็นชายชาตรีปกป้องตัวเองได้กลายเป็นแบบนี้


“I’ll be right back. (เดี๋ยวมานะ)” หลังจากปลอบไอ้โล้นหัวเปื้อนเค้กให้สงบลงได้ มอสก็หันไปหยิบผ้าขนหนูที่พาดอยู่ปลายเตียงมาพันเอวแล้วหันมาหาเรียวจันทร์ ทำท่าบอกให้ออกไปด้านนอก


“ไม่ต้อง เดี๋ยวจะไปละ” เขาหันไปคว้าช่อดอกไม้มาจากมือเป็ด


“เรียว แล้วเรา…”


“…เลิกกัน จบ พอเท่านี้ เชิญไปนั่งเทียนพรรษาสีดำได้ตามสบาย” เรียวจันทร์ยกช่อกุหลาบฟาดเข้าที่หัวมอสแรงๆ สองทีจนดอกไม้แตกกระจุย คนโดนดอกไม้ฟาดตกใจอึ้งไป เรียวจันทร์ขว้างช่อดอกไม้ใส่อกไอ้มอสก่อนที่ช่อดอกไม้นั้นจะร่วงลงพื้น


“ลีลาขย่มไม่เบานะ!” ว่าจบก็หมุนตัวเดินออกจากห้องนอน ทิ้งให้มอสยืนอึ้งกิมกี่อยู่กับที่ เป็ดที่ยืนละล้าละหลังอยู่ หันกลับไปมองมอสสลับกับมองพ่อนิโกรที่นั่งเอามือปาดเศษเค้กด้วยใบหน้าขุ่นเคือง


“โชคยังดีนะที่เรียวมันอาละวาดแค่นี้” เป็ดทำหน้าว่าเชื่อเจ๊เถอะแล้วเดินตามเพื่อนออกไป ทิ้งให้มอสยืนเกาหัวด้วยความเซ็ง เขาหันกลับไปมองหนุ่มคู่ขาที่เจอกันในแอพพลิเคชั่นหาคู่ อีกฝ่ายยักไหล่กลับมาเนือยๆ มอสยืนถอนหายใจ มองเศษกุหลาบที่กระจายอยู่เต็มพื้น นึกเสียดายอยู่ไม่น้อยที่เสียเรียวจันทร์ไปแล้ว



TBC...

ขุ่นแม่เรียวจันทร์มาล้าวววว วู้ฮู่ววว
ดีใจที่ได้เขียนเรื่องนี้ค่ะ เป็นอีกเรื่องที่เขียนไปสนุกไป ได้แต่หวังว่าคนอ่านจะชอบแบบที่เราชอบเน้อออ
เปิดใจให้กับนายเอกคนใหม่ของขุ่นเจ้ด้วยนะคะ  :mew1:

เรื่องนี้โปรโมตในเพจกับทวิตไว้บ่อย (ในเพจจะบ่อยกว่าหน่อย) หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับตัวละครจากการอ่านทีเซอร์หรือบทสัมภาษณ์ไปแล้วบ้างเนอะ วันนี้ก็ได้พบกับพวกเขาเหล่านั้นแล้วจ้าาา

เป็นอีกเรื่องที่ตั้งใจเขียน จริงๆ ก็ตั้งใจทุกเรื่อง ทุกตอนที่เขียนแหละค่ะ พยายามจะเขียนออกมาให้ดีที่สุด การเขียนไม่มีวันสิ้นสุด ไม่มีวันดีที่สุด ต้องพัฒนาต่อๆ ไปในทุกๆ วัน

ยังไงขอฝากพี่คมเขี้ยวกับน้องเรียวจันทร์ไว้ในอ้อมกอดด้วยนะคะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง (ย) มาร.~*คาถาที่ ๑ (50%):28.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 28-11-2015 00:14:59
เงิบเบาๆ

แฟนดันเป็นเคะซะได้ น้องเรียวชีวิตรักช่างอาภัพยิ่ง


(รอพระเอกออกโรง~)
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง (ย) มาร.~*คาถาที่ ๑ (50%):28.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 28-11-2015 00:20:06
ทำไมฮา 55555555555555 ปกติเราจะไม่อ่านเรื่องที่นายเอกสาวแบบสาวมากเลยนะคะ นี่เรื่องแรกเลยอ่ะ
ปกติจะชอบเป็นแนวผู้ชายธรรมดาๆด้วยซ้ำ แต่นี่แหวกมากกก หลงมาเจอแล้วดันไม่ปิดหนีนี่ถือว่าสุดยอดเลยค่ะ
หลงเสน่ห์เรียวไปเต็มๆเลย เฉี่ยวมากกก แซ่บมากกก จิกเว่อร์ นางพญาสุดอะไรสุด
นี่กะแล้วแหละว่าแม่นางต้องไปเจอสามีกำลังแซ่บ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดแซ่บหนุ่มอื่นแถมเป็นรับนี่สิคะ ฮาสุดๆ 555555555
เอาจริงๆเราก็คล้ายๆเรียวอย่างนึงตรงที่ไม่เคยมีความรักที่ทำให้ฟูมฟายน่ะค่ะ เหมือนแค่คุยๆไปเท่านั้นเอง
แต่ใจยังไม่เคยทุ่มให้ใครลงไปจนขาดไม่ได้ฟูมฟายจะเป็นจะตายงี้ .. รออ่านตอนต่อไปนะคะ ~
อยากเห็นพระเอกแล้วว่าใครจะเอาคุณเรียวเธออยู่ 555555555 เพราะรอบตัวนี่รายล้อมด้วยตัวเลือกร้อยแปดมากจริงค่ะ
รอติดตามค่า~  :L2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง (ย) มาร.~*คาถาที่ ๑ (50%):28.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: G-love ที่ 28-11-2015 00:40:27
แซ่บลืม อยากอ่านตอนเจอพี่คมเขี้ยวแล้ววว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง (ย) มาร.~*คาถาที่ ๑ (50%):28.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 28-11-2015 01:31:29
555555 สงสารเรียวจันทร์เบาๆเกือบโดนสาวดุ้นเสียบแล้วมั้ยล่ะ
แต่คือ เรียวจันทร์นางแซ่บบบอ๊ะ!!  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง (ย) มาร.~*คาถาที่ ๑ (50%):28.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 28-11-2015 11:53:45

ชอบเรียวจันทร์มาก นางมั่นดี...
สงสัยว่าจะมีเรื่องมากกว่าเรื่องมอสแล้วล่ะ
หลังจากนี้แม่ต้องเอาเรื่องอื่นมาทำให้เรียวจันทร์คนงามกลุ้มแหงๆ
ไม่ก็จะนำพาสุดหล่อเข้ามาสู่ชีวิตน้อง
(งานมโนล้วนๆ)

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ  :L2:

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง (ย) มาร.~*คาถาที่ ๑ (50%):28.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 28-11-2015 12:31:23
สนุกจ้า รอตอนต่อไป  :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑ (100%):29.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 29-11-2015 00:01:06

คาถาที่ ๑ [100%]



“อ้ากกก! ไอ้มอส! ฮึ่ยๆๆ” เรียวจันทร์เตะเข้าที่ล้อรถเก๋งแคมรี่สีฟ้าสุดหรูที่เก็บเงินซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แล้วก็เกือบต้องเข้าไฟแนนซ์อยู่บ่อยครั้ง


ปึก! ปึก!


“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ ก่อนเรียว คู่นั้นไนกี้ลิมิเต็ดอีดิชั่นเชียวนะ กว่าแกจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่ายนะยะ” เรียวจันทร์ชะงักกึก หันไปมองเพื่อนด้วยใบหน้างอง้ำ พอนึกตามที่เพื่อนพูดก็เลยค่อยๆ ดึงเท้าออกจากล้อรถ ก่อนจะกระแทกก้นลงนั่งบนพื้นสนามหญ้าเล็กๆ ที่อยู่ตรงใกล้ประตูทางเข้าไปในอาคารคอนโด พ่นลมหายใจอย่างเซ็งจัด สีหน้านั้นทั้งคับแค้นใจ ทั้งผิดหวังปนกันไปหมด


“นี่แกจะครายรึเปล่าเนี่ย” พ่อหนุ่มหน้าผ่องรีบเบะปากส่ายหน้าทันที


“ฉันเฟล ฉันนอยด์ ฉันดิสสัพพอยท์มากกว่าที่มอสมันเป็นแบบนี้ ฉันดูไม่ออกจริงๆ ว่ามันเป็นรับ คือแกก็รู้ ฉันสาวแล้ว ฉันก็อยากได้คนแมนๆ มาปกป้องฉัน ถึงมอสมันจะแมน แต่โห แกก็เห็น ตอนมันนั่งเทียนเมื่อกี้ ลีลาพลิ้วไหวอย่างกับสายน้ำ” ยกมือขวาปาดแก้มขวาหนึ่งที น้ำตาไม่มีสักหยด ทั้งที่จริงอยากจะร้องไห้อยู่นะ แต่ร้องไม่ออกเลย นางไม่ได้มองว่ามันเป็นการนอกกายหรือนอกใจใดๆ นางมองว่ามันเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในชีวิต


“แต่เอาจริงๆ นะแก มอสมันก็ดูแมนดีนะ ก็แค่นั่งเทียนเก่งไปหน่อย”


“นั่นแหละ มันบอกมันอยากลอง เกิดมันติดใจแล้วขอนั่งของฉัน โอ๊ย อีแม่ขนลุกขนพอง!” เป็ดนั่งลงข้างๆ เพื่อน เรียวจันทร์ถอนหายใจ ใบหน้าหมดอารมณ์จะทำใดๆ ต่อ แหวกกระเป๋าออก หยิบมือถือขึ้นมาเปิดเครื่อง รอสักพักให้เครื่องได้เริ่มการทำงาน ก็เปิดเข้าไปเช็กโซเชียล มีสายไม่ได้รับจากแม่เป็นครึ่งร้อยมิสคอล แล้วยังมีข้อความแจ้งเตือนตอนปิดเครื่องอีก นางกดลบทิ้งไม่สนใจ กะว่าเดี๋ยวคงจะปิดเสียงเอาไว้ ช่วงเวลานี้อย่าได้คุยกับแม่จะเป็นการดีที่สุดสำหรับชีวิต เพราะไม่งั้นเลเวลการอาละวาดจะมีมากขึ้น


“เฮ้ย ฉันว่าที่แกควรรู้สึกด้วยอะ คือเรื่องที่มันมีคนอื่นนะ” คนที่กำลังก้มมองมือถืออยู่หันไปมองเพื่อนสาวด้วยใบหน้ากำลังครุ่นคิด


“เออ ก็จริงเนอะ เหอะ! ดีนะที่ความรู้สึกฉันไม่ได้ลงลึกไปกับมันมาก” พอตั้งสติได้ขึ้นมาบ้าง ก็มองเห็นถึงความจริงในข้อนี้ว่าอีกฝ่ายไม่ซื่อสัตย์


“ร้องไห้ก็ได้วะ…” แล้วเรียวจันทร์ก็ปล่อยโฮ น้ำตาที่ตอนแรกจะไม่ไหล จู่ๆ ก็ไหลออกมา พอบอกกับตัวเองได้ว่าโดนแฟนหักหลัง เป็ดที่รู้นิสัยเพื่อนดีเลยได้แต่นั่งตบหลังเพื่อนเบาๆ อย่างเป็นกำลังใจให้ เรียวจันทร์นั่งสะอึกสะอื้น มือซ้ายเช็ดน้ำตาไป มือขวาก็เลื่อนเช็กฟีดข่าวในเฟซบุ๊คไปด้วย


“…ฉันรักมันมั้ย ฉันว่าก็ยังไม่ได้รักอะไรมาก แต่ก็จะเริ่มรักแล้วอะ แล้วมันก็มาเป็นแบบเนี้ย ฮื่อ ฮื่อ” ชายหนุ่มสะอื้นเบาๆ มือซ้ายก็ป้ายน้ำตาทิ้งรัวๆ มือขวาก็เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นภาพของแจเร็ดไปปาร์ตี้กับเพื่อน ตอนนั้นเองที่หยุดร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบฉับพลันแล้วหันไปหาเป็ดทั้งที่ยังมีน้ำตาเปรอะแก้มอยู่


“เป็ด แกไปส่งฉันที่ RCA ที” ศิริประภาขมวดคิ้วฉับแล้วหันไปมองเพื่อนด้วยความงง


“แกจะไปทำไมวะ” เรียวจันทร์วางโทรศัพท์ลงบนตัก ใช้สองมือเช็ดน้ำตาออกจากแก้มจนเหือดแห้ง กระแอมคอให้โล่งแล้วปรับทีท่าให้กลับมาสง่าผ่าเผย


“ฉันจะไปปาร์ตี้กับแจเร็ด”


“ฮะ?!” สาวผิวเข้มอ้าปากค้างหน่อยๆ จ้องมองเพื่อนอย่างเหลือเชื่อเล็กๆ อีกฝ่ายยิ้มกริ่ม ยักคิ้วหนึ่งทีแล้วพยักหน้าตอบกลับมา


“แกเพิ่งบอกเลิกผู้ชายอีกคน แล้วแกจะโผเข้าหาอีกคนเลยงั้นเหรอ” เรียวจันทร์ทำหน้าว่า แล้วไง หยิบมือถือขึ้นมากดพิมพ์รัวๆ สักพักแล้วก็เงยหน้าขึ้นไปพูดกับเพื่อนอีกรอบ


“จะให้ฉันเศร้านานทำไม ฉันก็ไม่เคยบอกว่าฉันไม่ชอบแจเร็ด แค่ฉันยังมีมอสอยู่ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีมอสแล้ว”


“โอ้โห ฉันล่ะบูชาความแรดของแกจริงๆ” คนโดนด่าว่าแรดไม่ได้สนใจ ลุกขึ้นยืนแล้วกวักมือเรียกให้เป็ดลุกขึ้นยืนตาม สายตาก็ยังคงจับจ้องมองที่จอมือถือตามเดิม


“เดี๋ยวแกไปส่งฉันแล้วแกเอารถกลับไปได้เลย พรุ่งนี้เช้าเจอกันที่บ้าน” เป็ดทำหน้าอึ้งเข้าไปอีก


“นี่แกกะเสียตัวให้แจเร็ดคืนนี้เลยเหรอ” เรียวจันทร์ถลึงตามองกลับ


“เปล่า แต่แจเร็ดบอกว่าอาจจะอยู่โต้รุ่ง เดี๋ยวเขาไปส่งฉันเอง” พอพูดจบ พ่อนายแบบก็เปิดประตูเข้าไปประจำที่อย่างรวดเร็ว ทิ้งความทึ่งปนความนับถือ (ในความแรด) ไว้ให้กับศิริประภา ประภาศิริไว้เต็มเหนี่ยว



เรียวจันทร์สอดส่องมองหาตำแหน่งของโต๊ะนั่งที่แจเร็ดบอก เสียงเพลงดังจนหูอื้อหลังจากก้าวเข้ามาข้างในร้านได้สักพัก นางพยายามมองหาแจเร็ดท่ามกลางลำแสงไฟสีเขียวสีแดงสีเหลืองที่ปัดผ่านความมืดมิดในร้าน ใบหน้าของผู้คนด้านในเห็นได้ลางๆ จากแสงไฟวิบวับของในผับ ขาเรียวยาวก้าวเดินไปตามทางเดินช้าๆ เบียดเสียดผู้คนเข้าไปด้านใน ยืนชะเง้อมองหาพ่อหนุ่มอิตาลีด้วยใบหน้ามู่ทู่ เพราะหายังไงก็หาไม่เจอ กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์วอทสแอพหาก็โดนสะกิดที่ไหล่ พอหันไปก็กรีดยิ้มกว้าง


“ฉันมองหาเธอตั้งนานแน่ะแจเร็ด” เสียงอ่อนเสียงหวานราวกับกินน้ำตาลไปสิบช้อน แถมสร้างเสน่ห์ด้วยการสวมกอดด้วยความดีใจสักนิดเพื่อพิชิตใจชาย แจเร็ดยกแขนกอดตอบหลวมๆ แต่ยังไม่ทันได้โอบรัดเรียวจันทร์ก็ผละออกมายิ้มให้


“นั่งอยู่ตรงไหนกัน” แจเร็ดยิ้มกับท่าทางสดใสของอีกฝ่าย แน่นอนว่าเรียวจันทร์ปั้นหน้ามาตั้งแต่ในรถ จะให้เห็นร่องรอยความเศร้าหรือร่องรอยน้ำตาไม่ได้ เดี๋ยวไม่เฟรช


“ตามไอมาสิ” แจเร็ดถือโอกาสจูงมือเรียวจันทร์ไปที่โต๊ะของเขากับเพื่อนๆ ที่อยู่ติดกับผนัง เพื่อนของเขาคนหนึ่งกำลังยืนคุยกับสาวไทยที่เข้ามาพูดคุยด้วยนานแล้ว


“Hey dude! Riewjan!” แจเร็ดตะโกนบอกเพื่อน ทุกคนหันมามองหนุ่มหน้าสวยที่ยิ้มสดใสกลับไปให้ เรียวจันทร์ถือว่าเป็นคนโดดเด่นลำดับต้นๆ ของวงการนายแบบ ฉะนั้นถ้าหนุ่มหน้าหวานจะเป็นที่จดจำและเป็นที่พูดถึงของเพื่อนร่วมอาชีพก็ไม่ใช่เรื่องแปลก


“Hi, Riew!!”


“Hi!!!!” เรียวจันทร์ส่งเสียงดังแข่งกับเพลง ผสานความสดใสเริงร่าเข้าไปยิ่งกว่าขบวนการเทเลทับบี้ นางเข้าไปสวมกอดกับหนุ่มหล่ออีกสามคนที่แค่หน้าตาก็กินขาดผู้ชายโต๊ะรอบๆ แหม ก็เป็นนายแบบนี่นะ จะไม่ให้ชวนมองได้ยังไง


“What do you want? I will get it for you!” แจเร็ดถามเสียงดังที่ข้างหูพลางชี้ไปยังเครื่องดื่มที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะกลมสีดำเล็กๆ เรียวจันทร์ตะโกนตอบว่าขอแบบที่พวกเขากำลังดื่มอยู่ แจเร็ดพยักหน้ารับแล้วเอื้อมไปหยิบเครื่องดื่มจากโต๊ะมาให้เรียวจันทร์หนึ่งขวด


“ไม่คิดเลยว่ายูจะมา!!” แจเร็ดกระซิบบอกเสียงดังที่ข้างหู เรียวจันทร์ยกเบียร์ดื่มก่อนที่จะหันไปตอบ


“พอดีแพลนที่มีล่ม ฉันเห็นคุณอัพรูปในไอจีพอดีเลยอยากมาสนุกด้วย!!” แจเร็ดยิ้มหล่อ ส่วนเรียวจันทร์ก็ยิ้มมีเสน่ห์กลับไปให้ ทั้งสองคนกระซิบคุยกันข้างหูกันสองคน ทำอย่างกับเพื่อนที่เหลือไม่ได้มาด้วย แต่ช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นเวลาดีๆ ของแจเร็ดเลยทีเดียว เพราะเขาชวนอีกฝ่ายเที่ยวมาหลายครั้งแล้วแต่ได้รับการปฏิเสธมาตลอด



หลังจากผ่านไปได้สองชั่วโมง เรียวจันทร์ก็เริ่มมีอาการมึน นางไม่ใช่คนคอแข็ง แต่จะรู้ลิมิตของตัวเองดีว่าดื่มได้เท่าไหร่ อย่างตอนนี้กำลังดื่มเบียร์ขวดที่ห้า ซึ่งยังเป็นระดับที่ยังรับไหว ไม่เมา แต่ก็ครึกครื้นกว่าเดิมเยอะมาก พูดอะไรนิดอะไรหน่อยแม่นางก็ขำทำอย่างกับว่ามันตลกนักหนา ทั้งที่จริงบางครั้งเพื่อนแจเร็ดบางคนแค่บอกว่าฉี่จะแตก ก็ขำอย่างกับว่าเขาฉี่แตกไปแล้ว


“ไหวมั้ย!?” แจเร็ดก้มลงถามจนจมูกเฉียดแก้มหอมๆ ของเรียวจันทร์ไปหลายครั้งแล้ว


“แอมโอเค ยังโอเคอยู่ ยูไม่ต้องกังวลกับไอเลย!!” คนมึนยังคงพูดเสียงปกติ แต่แค่มีเอนเนอร์จีมากกว่าปกติ แจเร็ดยิ้มขำกับความเพี้ยนของอีกฝ่าย เรียวจันทร์เห็นหนุ่มหล่อยิ้มมาให้ก็เลยแสร้งยิ้มเขินอาย ตอนนี้สองคนยืนแยกออกมาจากโต๊ะอยู่ในมุมของผับ ยืนคุยกันราวกับโลกไม่มีใครอื่น


“ไอดีใจจริงๆ นะที่ยูมาคืนนี้” หนุ่มหน้าสวยหวานยิ้มกว้างคล้ายจะเขิน แต่ถ้าใครตามนางไม่ทันก็ไม่รู้หรอกว่านั่นน่ะแสร้งทำทั้งนั้น แจเร็ดยิ้มละมุน มองเรียวจันทร์ด้วยสายตาเจ้าตัวก็พอจะเดาออกว่าเป็นสายตาแบบไหน แต่มีหรือเรียวจันทร์จะหลบสายตา มองมาก็มองกลับ ใส่ความยั่วเข้าไปด้วยนิดหน่อย


“จูบได้มั้ย” แจเร็ดกระซิบเสียงเข้มข้างหู เรียวจันทร์ไม่ได้ตอบคำถามของอีกฝ่ายแต่กลับโน้มหน้าไปจูบแจเร็ดแทน หนุ่มอิตาลีตอบรับอย่างรวดเร็วและดูท่าจะโชกโชนมากด้วย มือขวาของเขายกขึ้นมาจับใบหน้าหวาน มือซ้ายรั้งเอวบางเข้ามาชิดร่างตัวเอง ทั้งคู่ยืนจูบกันดูดดื่ม ไม่สนสายตาของคนอื่นที่มองมา เรียวจันทร์หยอกล้อด้วยการยกมือขวาไปลูบๆ บีบๆ ตรงเป้าแจเร็ดจนสิ่งที่มันกำลังขยายตัวช้าๆ เปลี่ยนเป็นโป่งพองอย่างเร็ว


“ไปห้องไอเถอะ” เรียวจันทร์พยักหน้าตอบด้วยอาการหอบน้อยๆ แจเร็ดจูบเก่งมาก นี่ถ้านางอินโนเซ้นต์หรือด้อยประสบการณ์ละก็ มีหวังขาดใจตายแน่ๆ



“Hey! I’m gonna go back. Tell me later about money. See you!” แจเร็ดเข้าไปบอกเพื่อน มือซ้ายจับมือเรียวจันทร์ไว้แน่น เจ้าของมือนิ่มยืนมึนแต่ไม่ถึงขั้นประคองตัวไม่รอด ใบหน้าแดงก่ำเริ่มมีความรู้สึกร้อนจากการจูบเมื่อครู่นี้


หลังจากตกลงกับเพื่อนๆ แจเร็ดก็พาเรียวจันทร์เดินฝ่าฝูงชนออกจากผับ ก่อนออกมาเพื่อนแจเร็ดแซวเรียวจันทร์ว่าให้เตรียมถุงยางไว้สักสิบกล่องถึงจะพอกับความต้องการของแจเร็ดที่อยากปู้ยี้ปู้ยำนางมานานแล้ว เรียวจันทร์เลยหยอกกลับไปว่าในกระเป๋ามีอยู่สองกล่อง ถ้าไม่พอค่อยซื้อเพิ่มก็แล้วกัน เล่นเอาเพื่อนของแจเร็ดขอแท็กมือกันเป็นแถว






“Could you suck it? I don’t want to let it down. (อมมันไว้ได้มั้ย ไม่อยากให้มันหดเลย)” แจเร็ดถามหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามานั่งในรถมินิคูเปอร์ของพ่อหนุ่มอิตาลี แจเร็ดมองด้วยสายตาแผดเผา เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอแล้วพยักหน้า หนุ่มอิตาลีปลดตะขอกางเกงแล้วควักอาวุธคู่กายออกมา เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอดังอึกกับการผงาดของหนุ่มเมืองโรมิโอแอนด์จูเลียต


“ยูขับรถได้ใช่มั้ย” แจเร็ดพยักหน้าเร็วๆ มือซ้ายรูดรั้งแก่นกายตัวเองเบาๆ


“คอนโดไออยู่ไม่ไกลมาก ขับแปบเดียว อย่าเพิ่งทำจนเสร็จแล้วกัน” เรียวจันทร์เม้มปากหนึ่งที บอกใจให้สงบนิ่ง ใช่ว่าไม่เคย แม้กับของต่างชาติจะผ่านมือ ผ่านปากมาไม่มาก แต่ก็ไม่ยากเย็นอะไรนักหรอก ก็แค่ได้เพิ่มอีกประเทศไง คิดดังนั้นก็โน้มตัวเข้าไปหาแจเร็ด ใช้ปากปรนเปรอให้หนุ่มอิตาลีที่ส่งเสียงร้องอู้ว~ อ้า~ ในขณะที่ขับรถไปบนท้องถนน


“Fuck. Very nice.” แจเร็ดครางเสียงกระเส่า เขาอยากจะหลับตาพริ้มแต่ก็ทำไม่ได้ มือซ้ายยกมาจับหัวเรียวจันทร์กดเข้ากดออกช้าๆ สายตาก็มองถนนไปด้วย หน้าท้องที่เต็มไปด้วยซิกส์แพ็คหดเข้าหดออกยามเรียวจันทร์กดเข้าไปจนลึกสุดลำคอหรือใช้ลิ้นละเลงส่วนปลายจนแทบแตกซ่าน แต่ดีที่เรียวจันทร์เบรกไว้ให้


“ยูเก่งมากเลยเรียว” คนถูกชมช้อนสายตามอง แจเร็ดก้มลงมองแล้วยิ้มให้ เรียวจันทร์ยิ้มตอบกลับไปนิดหน่อยแล้วก้มหน้าก้มตาใช้ปากให้แจเร็ดไปเรื่อยๆ เสียงครางทุ้มน่าฟังดังไปทั่วรถ แม้ของแจเร็ดจะใหญ่และแสนอวบอั๋น แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคของคนอย่างเรียวจันทร์เลยสักนิด


“เฮ้ เรียว ถึงคอนโดไอแล้ว” เรียวจันทร์ดันตัวลุกขึ้น ส่งยิ้มยั่วให้แจเร็ดที่ซี๊ดปากกลับมา หนุ่มหน้าหวานใช้ลิ้นเลียไปรอบปาก ทำเอาอีกฝ่ายต้องโน้มหน้ามาจูบปากหนึ่งทีก่อนที่จะเก็บอาวุธเข้าไปด้านในกางเกง


“กำลังสนุกเลย” เรียวจันทร์บอกเสียงยั่ว หนุ่มอิตาลียิ้มหล่อ


“เดี๋ยวไปสนุกต่อบนห้องนะ” ทั้งคู่จัดการตัวเองแล้วเดินลงจากรถไปพร้อมกัน แจเร็ดจูงมือเรียวจันทร์ไปขึ้นลิฟต์ กดเลขแปดที่เป็นชั้นของห้องเขา ระหว่างที่รอลิฟต์ขึ้นไป ความร้อนในกายของแจเร็ดก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลง เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่าง นางเองก็ใจเต้นระทึกไม่น้อยเช่นกัน


พอลิฟต์เปิดออกที่ชั้นแปด แจแร็ดก็จูงมือเรียวจันทร์ไปตามทางเดินที่มุ่งตรงไปยังห้องพัก เขาดึงคีย์การ์ดออกมาทาบกับที่เปิดประตู เสียงสัญญาณดังขึ้น แจเร็ดเปิดประตูเข้าไปด้านใน ดึงร่างบางกว่าให้ตามเข้ามา วินาทีที่ประตูปิดลงดังปัง หนุ่มต่างชาติก็พุ่งเข้าจูบเรียวจันทร์อย่างเร่าร้อน


“อา… อา…” ลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวไล้กันอย่างรุนแรง สองมือแจเร็ดดึงเสื้อยืดของเรียวจันทร์ออกแล้วขว้างทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ เรียวจันทร์ปลดกระดุมกางเกงของร่างหนาออกอย่างรวดเร็ว แจเร็ดผละออกจากริมฝีปากนุ่มนิ่มของร่างบาง ก้มลงถอดกางเกงอย่างรวดเร็ว ความเป็นชายของหนุ่มอิตาลีดีดผึงผงาดออกมาอีกครั้ง เขาจัดการถอดกางเกงให้เรียวจันทร์ ร่างโปร่งบางที่มีกล้ามเนื้อสวยงามเปลือยเปล่าน่ามอง


“ยูมีถุงยางมั้ย”


“มีอยู่ที่เตียง” ร่างบางพยักหน้ากับคำตอบนั้น แจเร็ดอุ้มช้อนก้นของเรียวจันทร์ขึ้นมา คนถูกอุ้มใช้สองมือจับไหล่หนา สองขาเกี่ยวสะโพกหนาของคนตัวหนาไว้แน่น เรียวจันทร์จูบโลมเลียแผ่วเบา อีกฝ่ายจูบตอบกลับมาเพียงริมฝีปากแตะเช่นกัน พอถึงเตียงแจเร็ดก็วางร่างบางลงบนขอบเตียง เอื้อมตัวไปหยิบถุงยางจากลิ้นชักโต๊ะข้างหัวเตียงมาหนึ่งอัน วินาทีนั้นเรียวจันทร์รับรู้ได้เลยว่าแจเร็ดต้องพาคนมานอนที่ห้องบ่อยพอสมควร


“มีคนมานอนเป็นเพื่อนบ่อยล่ะสิ” แจเร็ดยิ้มในขณะที่กำลังสวมถุงยาง เขาโยนห่อถุงยางทิ้งลงบนพื้น จับเรียวจันทร์นอนแยกอ้าขากว้างๆ แล้วก็ค่อยๆ ดันแก่นกายเข้าไปในตัวร่างบางโดยอาศัยเจลหล่อลื่นบนถุงยางเป็นตัวช่วย เรียวจันทร์เผยอปากขึ้น รู้สึกถึงความคับแน่น อึดอัดแต่ก็เสียวซ่าน นานมากแล้วที่ไม่ได้มีเซ็กส์กับใคร


“วันไนท์สแตนด์ทั้งนั้น” แจเร็ดก้มลงไปจูบพวงแก้มเนียนละเอียดของเรียวจันทร์ อีกฝ่ายยกสองมือมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออกทีละเม็ดจนหมดแต่ไม่ยอมถอดออก ทำเพียงแหวกแล้วใช้มือลูบไล้นมโตๆ แบบคนเล่นกล้ามทั้งสองข้าง


“แล้วไอล่ะ” ถามพลางส่งสายตายั่วยวนชวนหลงใหลไปให้ แจเร็ดยิ้มแล้วเริ่มขยับสะโพก ทำเอาเรียวจันทร์จิกเล็บลงบนอกแน่นๆ ของอีกฝ่าย ใบหน้าสวยหวานแหงนขึ้น


“ถ้ายูตกลงเป็นแฟนไอ จะไม่ใช่แค่คืนนี้คืนเดียว” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแล้วยิ้ม โน้มคอแจเร็ดลงมาจูบด้วยความดูดดื่ม เขาจูบตอบในขณะที่สะโพกก็ซอยเข้าออกไปอย่างเชื่องช้าเพื่อทำให้เรียวจันทร์คุ้นเคยกับขนาดใหญ่โตของตัวเอง


“อือ… อืม… ดีจัง ขอแรงๆ ได้มั้ย” ร่างบางร้องขอด้วยสายตาอ้อนวอน แจเร็ดเลื่อนสองมือไปค้ำไว้ข้างเอวกิ่วคอดพอประมาณทั้งสองข้างของเรียวจันทร์ สองขายืดตรง ใช้เท้ายันพื้นห้องไว้ แล้วก็กระแทกเข้าหาคนข้างใต้อย่างแรงตามที่อีกฝ่ายต้องการ


“โอ้ว เยส!!” เรียวจันทร์สบถเสียงดัง ร่างหนากระแทกสะโพกเข้าหาอีกฝ่ายด้วยจังหวะที่หนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นลั่นห้องนอน แจเร็ดหอบกระเส่า เขาเสียวสูบวาบไปหมดเพราะร่างบางขมิบตอดรับเขาอย่างชำนาญ


“อู้ววว! เรียว ยูเก่งมากเลย ไอจะแตกแล้ว” เรียวจันทร์ส่งยิ้มขี้เล่นให้ ใช้ศอกทั้งสองข้างยันตัวขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลา ร่างบางๆ เลื่อนขึ้นลงตามจังหวะกระแทก แจเร็ดเริ่มออกแรงซอยถี่ขึ้นจนเรียวจันทร์ร้องเสียงเพี้ยนแล้วแหงนหน้าขึ้น


“อ๊า! อ๊า! โอ้ว! ดีมากเลยแจเร็ด” คนข้างใต้เอ่ยชมเสียงสั่น มือขวายกไปลูบกล้ามท้องที่หดเกร็งด้วยความเสียว ก่อนจะเลื่อนมาขยับแก่นกายตัวเองเพื่อเร่งเร้าอารมณ์ร้อน นางอยากจะไปถึงแล้ว มือบางรูดขึ้นรูดลงตรงกลางลำตัว ทิ้งตัวลงนอนกับเตียง มือซ้ายรั้งให้ใบหน้าหล่อโน้มลงมารับจูบแลกลิ้นนัวเนียจนน้ำลายเยิ้ม ใบหน้าทั้งสองคนชิดกัน ปลายจมูกเกลี่ยกันไปมา สายตาประสานจ้องมองกันอย่างหลงใหล แล้วรอยยิ้มก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของทั้งสอง


“ไอจะถึงแล้ว” แจเร็ดหลับตาปี๋ สูดปากด้วยความเสียว จังหวะสะโพกเริ่มเร่งเร็วขึ้น พอๆ กับมือของเรียวจันทร์ที่เร่งไปตามแรงซอยถี่ แล้วในที่สุดทั้งคู่ก็ไปถึงฝั่งฝันพร้อมกัน


“อ้า!!!”


“อ๊ะ!!!”


เสียงร้องของทั้งสองคนผสมปนเปกัน เรียวจันทร์นอนหอบแผ่หลา แจเร็ดนอนทิ้งตัวใหญ่หนาทาบทับลงบนร่างบาง เขาขยับพาร่างเรียวจันทร์ให้ขึ้นไปกลางเตียง ถอนแก่นกายออก ถอดถุงยางทิ้งลงบนพื้น แล้วนอนทับนอนกอดเรียวจันทร์เอาไว้ ร่างบางนอนหอบอกกระเพื่อมอยู่บนเตียง


“ยูจะคบกับไอมั้ยเรียว” คนถูกถามกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะพลิกให้ร่างตัวเองขึ้นไปนั่งอยู่บนตัวแจเร็ด สองมือลูบไล้หัวนมของคนตัวหนาเบาๆ


“ตกลงกันตอนเช้าได้มั้ย ตอนนี้อยากได้อีกรอบ” แวบแรกแจเร็ดทำหน้าอึ้ง แต่สักพักก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ


“หยิบถุงยางมาสิ”


ข้อตกลงใดๆ ค่อยคุยกันอีกครั้งหลังจากนี้แล้วกันนะ เพราะเวลานี้เรียวจันทร์ติดใจในรสชาติของอิมพอร์ตจากอิตาลีเหลือเกิน ไม่ต้องตีตั๋วบินไปถึงนู่น ก็รู้สึกถึงความเป็นอิตาลีแท้ๆ ได้อย่างดี


ใครจะไปฟินเท่านางตอนนี้อีกล่ะ ไม่มี๊!






TBC.


ขุ่นแม่เรียวจันทร์ แซ่บมั้ยคะ กลัวว่าจะไม่แซ่บมากๆ -.,- พยายามประคองนางไปให้ดีที่สุด ตอนแรกๆ อาจจะยังเบลอๆ มึนๆ จับทางไม่ถูก แต่คิดว่าอยู่ด้วยกันไปสักพักคงจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น

เปิดมาก็ได้กับใครอื่นที่ไม่ใช่พระเอกซะแล้ว 55555 เอาน่ะ เป็นนายเอกผู้มากประสบการณ์

ขอบคุณคนอ่านที่แวะเข้ามามากเลยค่ะ ดีใจนะคะที่มีคนอ่านด้วย  :hao5:

แอบหวั่นใจนะ เพราะเรียวจันทร์นางสาวมาก เปรี้ยวมาก คิดว่าคนอ่านนิยายชายชายหลายคนคงไม่ชอบนางเท่าไหร่ ได้แต่หวังว่าคงจะมีคนที่รักนางบ้าง ฝากเรียวจันทร์ไว้ด้วยนะคะ ^__^


หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑ (100%):29.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 29-11-2015 00:13:37
แจเรดไม่ใช่พระเอก

ผู้ใด๋หว่า อยากยลโฉมไวๆแล้ว~
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑ (100%):29.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 29-11-2015 00:56:50
เก็บซิงไว้ให้พระเอกคงไม่มีในหัวเรียวจันทร์ 555555  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑ (100%):29.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 29-11-2015 01:11:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑ (100%):29.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 29-11-2015 06:53:24
นางแซ่บจริงไรจริง 5555 แบบว่ารุ้นนี้ไม่มีเก็บซิงไว้ชิงโชคคะ นางบอกยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบกาม เอ้ย..การณ์  เดี๋ยวรอดูนางเอาสิ่งเหล่านี้ไปใช้กับพระเอกที่วันๆทำแต่งาน 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑ (100%):29.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 29-11-2015 07:48:38
แซ่บมากค่ะเรียวจันทร์  :m25:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑ (100%):29.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: JoyboyTssn ที่ 29-11-2015 14:42:10
แซ่บจริงอะไรจริง555 ขอพระเอกใสๆ555 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑ (100%):29.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: G-love ที่ 29-11-2015 23:24:06
อ๊ายยยย พี่คมเขี้ยวจะจัดการเรียวจัทร์ยังไงน้าาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑ (100%):29.11.58:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 30-11-2015 15:30:40
เรียวได้ใจมาก สนุกอ่า มาต่ออีกไวๆน๊า  :-[
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒ (70%):01.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-12-2015 00:25:02

คาถาที่ 2 :: Devil's Drama. [นางมารดราม่า] [70%]



ตึ่งตึงตึ๊งตื๊อดื๊อดึงตึ๊งตึ่ง~
   

ร่างหนาแน่นงัวเงียตื่นขึ้นจากซอกคอหอมๆ ของร่างบางที่นอนซ้อนอยู่ด้านหน้าของตัวเอง แจเร็ดหันไปมองแสงสว่างของแดดที่พยายามส่องทะลุผ้าม่านสีเทาในห้องนอนเข้ามาด้านใน เขาหรี่ตาลงเพื่อพยายามปรับสายตาให้สู้แสงไหว พอรู้สึกว่าม่านสายตาปรับรับแสงได้เขาจึงสลัดผ้านวมที่ห่มกายออก ลงจากเตียงแล้วเดินเปลือยออกไปหาโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงดัง ยืนงงอยู่ตรงห้องนั่งเล่นของคอนโดฯ สักพักถึงค่อยหันไปมองตรงกองกางเกงยีนของเขากับเรียวจันทร์ที่ถอดกองอยู่ตรงประตูห้อง เดินเข้าไปค้นหาโทรศัพท์จากกางเกงยีนตัวเอง หยิบขึ้นมาแล้วก็เห็นเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้นตา จึงขมวดคิ้วงงก่อนจะกดรับสาย
   

“Hello?”
   

“เอ่อ แจเร็ดนี่เพื่อนเรียวนะคะ เป็ดอะค่ะ ดั๊คอะดั๊ด” หนุ่มอิตาลีที่เพิ่งตื่นนอนยืนนึกถึงใบหน้าของคนในสายว่าตัวเองคุ้นเคยหรือเคยได้ยินชื่อนี้หรือไม่ แต่บอกว่าเป็นเพื่อนเรียวจันทร์ เขาจึงทำหน้าว่าอ้อ
   

“โอ้ ครับ ว่ายังไงครับคุณเป็ด”
   

“คือ เป็ดขอเบอร์คุณมาจากเพื่อนคุณน่ะค่ะ ขอโทษนะคะที่โทรมารบกวน แต่ตอนนี้เป็ดติดต่อเรียวจันทร์ไม่ได้ แล้วทางบ้านเขาตามหาเรียววุ่นไปหมดเลย”
   

“อ้อ แปบนึงนะครับ…” แจเร็ดหมุนตัวกลับไปทางห้องนอนที่ประตูเปิดค้างไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ใบหน้าหวานหลับสนิท แม้กระทั่งยามหลับเรียวจันทร์ยังคงดูดีไม่มีหลุดมาด เขาสอดตัวเข้าไปในผ้านวมแล้วนอนซ้อนหลังร่างโปร่งบางอย่างเดิม ก้มลงหอมแก้มใสของอีกฝ่าย
   

“เฮ้ เรียว มีคนโทรมาหาแน่ะ” เจ้าของชื่อส่งเสียงอืออาแล้วขยับตัวเพียงนิด แจเร็ดยิ้มแล้วก็นึกสนุกถึงวิธีปลุกคนขี้เซา
   

“รอแปบนึงนะครับ” เขากรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ กดปุ่มพักสาย วางโทรศัพท์ไว้บนเหนือหัวคนนอนหลับ มือเอื้อมไปหยิบหลอดเจลหล่อลื่นที่วางทิ้งไว้บนเตียงฝั่งตัวเองเมื่อคืนมาบีบใส่ปลายนิ้วมือซ้ายเท่าเมล็ดถั่วแล้วก็สอดมือเข้าไปข้างใต้ผ้านวม เลื่อนมือไปตรงความอุ่นร้อนด้านหลังของร่างบาง ยัดปลายนิ้วเข้าไปด้านในช้าๆ คนนอนหลับปุ๋ยครางเสียงแผ่วแต่ยังไม่ยอมตื่น แจเร็ดเร่งเร้านิ้วทั้งสามดันเข้าดันออกตามความลื่นของเจลใส จนกระทั่งเรียวจันทร์เริ่มหายใจหอบแล้วลืมตาขึ้นมาสบตากับเขา
   

“อะ…อะไร…” แจเร็ดก้มลงจูบกลีบปากสีชมพูสดของเรียวจันทร์ ทำเพียงประทับจูบเฉยๆ ส่วนนิ้วมือยังคงหยอกล้อตรงจุดกระตุ้นต่อมของอีกฝ่าย
   

“มีคนโทรมาหายู” คนตัวหนาหน้าหล่อเอ่ยบอก พลางเอื้อมมือขวาหยิบโทรศัพท์ที่อยู่เหนือหัวอีกฝ่ายขึ้นมา เรียวจันทร์มองด้วยสายตาปรือ ทั้งเพิ่งตื่นและรู้สึกเสียววูบๆ
   

“ใครเหรอ” ร่างบางถามเสียงแผ่วแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ด้านหลังขมิบตอบรับนิ้วทั้งสามไปเรื่อย
   

“ดั๊กกี้เพื่อนยูน่ะ” เรียวจันทร์เข้าใจความหมายนั้นได้ พยักหน้าแล้วเอื้อมมือไปรับมือถือจากมือหนา มองหน้าจอสักพักก็เห็นว่าพักสายอยู่ เลยกดเลิกพักสายแล้วกรอกเสียงลงไป
   

“ว่าไงเป็ด ขอโทษที เพิ่งตื่น” คนที่รอสายอยู่นานด้วยอาการร้อนใจถึงกับหายใจโล่งอกดังอย่างชัดเจน เรียวจันทร์ดึงผ้านวมออกจากตัวแล้วเอื้อมมือซ้ายของตัวเองไปจับมือซ้ายของแจเร็ดให้เลื่อนขึ้นมาลูบไล้จันทร์น้อยซึ่งหนุ่มอิตาลีก็ยอมทำตามแต่โดยดี
   

“เอากันจนได้นะยะ!” เสียงเป็ดมีแววประชดประชันอย่างชัดเจน เรียวจันทร์ยิ้ม เอื้อมมือซ้ายไปจับของดีของเด็ดของหนุ่มแจเร็ด อีกฝ่ายกระเถิบเข้าใกล้ร่างเนียนๆ เพื่อให้มือนางจับสะดวก หนุ่มหน้าสวยลูบไล้ไปมาอย่างเพลิดเพลิน
   

“ถ้าแกซื้อหวยแกรวยเละไปแล้ว” เรียวจันทร์ว่าเสียงใส เอียงหน้ารับจูบแผ่วเบาจากคนด้านบน ตอนนี้อาวุธของทั้งคู่ตื่นตัวสู้มือของแต่ละฝ่ายแล้ว
   


“ถ้าฉันรวยจะสวยให้ดูแล้วกัน แต่ตอนนี้แกกลับไปดูแม่แกก่อน คุณหญิงแม่แกกริ้วใหญ่แล้วที่ติดต่อแกไม่ได้” อารมณ์แทบจะหมดทันทีที่เพื่อนสนิทเอ่ยถึงชื่อของมารดาตนเอง แต่แจเร็ดก็เก่งที่ปลุกอารมณ์ได้อย่างต่อเนื่องจนนางเริ่มแอ่นตัวขึ้น
   

“เดี๋ยวฉันกลับไปเองแหละ ถ้าโทรมาอีก บอกว่ายังติดต่อฉันไม่ได้แล้วกัน กลับไปตอนไหนคุณหญิงแกก็กริ้วอยู่ดี” มันเป็นความจริง จะกลับเช้า สาย บ่าย เย็น กลับตอนไหนอารมณ์ของแม่นางก็ไม่เคยจะดี หรือถ้าอารมณ์ดีสาเหตุก็ไม่ได้มาจากนางหรอก
   

“แล้วทำไมแกไม่กลับเลยล่ะ รอบนี้โทรจิกมากเลยนะ ฉันว่าทอปปิคนี้ต้องใหญ่แน่ๆ” เรียวจันทร์ทำหน้าเอือมแวบหนึ่ง แต่ก็สลัดทิ้งไปเมื่อแจเร็ดยิ้มมาให้ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังลูบไล้ไซส์บึ้มของตัวเองที่สวมถุงยางอนามัยเรียบร้อยแล้ว
   

“เชื่อฉันสิ ที่จิกขนาดนั้น เพราะกำลังร้อนเงิน ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรอก” แจเร็ดก้มลงจูบปากคนข้างใต้ เรียวจันทร์ตอบกลับ แล้วอ้าขาให้กว้างเพื่อรองรับคนตัวโต
   

“จะให้รับก็โทรมาแล้วกันนะ” เป็ดเอ่ยเสียงปลดปลง หล่อนคงเร่งให้เพื่อนกลับบ้านไม่ได้ตามที่นายแม่ของนังคุณชายเรียวจันทร์บอกแน่ๆ
   

“จ้ะ เท่านี้ก่อนนะ ฉันกินอาหารเช้าก่อน” พูดจบก็วางสายไป วางโทรศัพท์ไว้บนหมอนอีกใบ พอหันกลับมาก็เป็นจังหวะที่แจเร็ดดันความเป็นชายเข้ามาในร่างนางแล้ว เรียวจันทร์ครางเสียงดังรับกับความคับแน่น ยกสองมือขึ้นคล้องคออีกฝ่าย แจเร็ดใช้สองมือช้อนตัวเรียวจันทร์ขึ้นมานั่งคร่อมเขาไว้ ปลายจมูกของทั้งคู่ชนกัน เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่น เพราะความลึกที่แก่นกายของชายหนุ่มตัวโตดันเข้าไปจนสุดในท่านั่งแบบนี้
   

“จัดการเลยเรียว” คนหน้าหวานยิ้มโปรยเสน่ห์หนึ่งยก ก่อนที่จะจัดแจงท่าทางให้ตัวเองแล้วก็เริ่มบรรเลงบทรักรับยามเช้าหรืออาจจะสาย หรืออาจจะเย็นไปแล้วก็ได้ จะเวลาอะไรก็ช่างเถอะ แต่เวลานี้แดดด้านนอกที่ว่าร้อนแรง ยังไม่สู้ความร้อนของทั้งสองคนเลย

   

“ถามจริงสิ ยูเป็นเกย์เหรอแจเร็ด” เรียวจันทร์ใช้ปลายนิ้วชี้ลูบวนหัวนมสีน้ำตาลอ่อนของหนุ่มอิตาลีเบาๆ
   

“ก็อาจจะละมั้ง เพราะว่าไอชอบยูนี่” แจเร็ดตอบเสียงสบายๆ ไม่ได้รู้สึกว่าประเด็นนั้นสำคัญอะไรขนาดหนักที่จะต้องมานั่งขบคิดให้ปวดหัว
   

“แล้วไม่ชอบผู้หญิงแล้วเหรอ” คนถามเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงกว่า แจเร็ดเลิกคิ้วขึ้นเหมือนกำลังคิด แล้วสักพักก็ส่ายหัวอย่างเชื่องช้า
   

“ก็คงจะไม่แล้ว ไอชอบยูอยู่นี่นะ” เรียวจันทร์ยิ้ม เลื่อนมือลงไปลูบกล้ามท้องแน่นๆ ของแจเร็ด
   

“แล้วยูเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงมั้ย”
   

“มีสิ แฟนคนแรกเลย นานมากแล้ว พอเลิกกันไป ไอก็ยังควงผู้หญิงอยู่นะ แล้วพอมาเจอยู ไอก็ชอบผู้ชายเฉยเลย” ร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดของคนร่างหนาขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เรียวจันทร์มองหน้าแจเร็ดแล้วยิ้มปลื้มใจ
   

“ดีใจนะที่ไอเป็นผู้ชายคนแรกที่ยูชอบ” แจเร็ดเอาหัวพิงผนังบนหัวเตียงแล้วส่งยิ้มให้กับอีกคน
   

“ยูเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วไอรู้สึกมีชีวิตชีวามากเลย คบกับไอนะเรียว” เรียวจันทร์ใจเต้นแผ่วเบา นางเพิ่งถูกผู้ชายขอคบเมื่อไม่นานมานี้ เหมือนความรู้สึกไหลย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง เพียงแต่ผู้ชายคนนี้ได้กันก่อนที่จะขอคบ
   

ก็อยากคบกบแจเร็ดนะ แต่จากเรื่องของไอ้มอสที่เพิ่งผ่านพ้นมาเมื่อคืนมันทำให้ไม่กล้าตอบรับคำขอนั้นทันที เหมือนความรู้สึกมันยังดีใจไม่สุดกู่ ก็แอบกลัวๆ ว่าแจเร็ดจะมีซัมติงอะไรมั้ย เรื่องไม่แมนไม่น่าห่วง เพียงแต่ผู้ชายที่หล่อขนาดนี้ อายุก็ไม่ใช่สิบเจ็ด สิบเป็ด แถมยังโสด บางครั้งก็แอบน่ากลัว เรื่องเป็นเกย์ไม่กลัวหรอก กลัวทำไม เป็นสิดี เพราะจะได้ชอบนางนี่ไง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น จะเป็นเกย์หรือไม่ แต่แจเร็ดก็ชอบนางไปแล้ว
   

“ไม่ใช่ไอไม่อยากคบกับยูนะ แต่ผู้ชายที่มีถุงยางไว้บนหัวเตียงหลายกล่องขนาดนั้น แสดงว่าก็ต้องไม่ธรรมดา” ผู้ชายหล่อล่ำแถมยังแซ่บมาก มีถุงยางเตรียมพร้อมออกรบควบคู่กับเจล แสดงว่าก่อนหน้าคงมีคนมากมายที่เข้าหาแจเร็ด และเรียวจันทร์เชื่อว่าต้องมีผู้หญิงหลุดมาแหละ เพราะแจเร็ดเองก็ดูเป็นผู้ชายปกติมาก ถ้าไม่บอกว่าชอบนาง ก็คงไม่มีใครคิดหรอกว่าเป็นเกย์หรือไม่


แล้วอันที่จริงสมัยนี้ไม่ต้องเป็นเกย์ก็มีเซ็กส์กับผู้ชายด้วยกันได้ไม่ใช่เรื่องเพี้ยน ก็ถ้าคนมันอยาก ก็แค่ทำไง ซับซ้อนตรงไหน เหมือนนางเนี่ย
   

“ไอก็ผู้ชายธรรมดานี่แหละ ไอโสดนะ ถ้ามันเป็นเรื่องยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย มันก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอ” แจเร็ดไม่ได้โกรธหรือเหวี่ยงวีน หรือทำท่าน้อยใจ แค่พูดตามปกติ พูดด้วยท่าทีสบายๆ
   

“ไอรู้…” เรียวจันทร์ยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มคนตัวสูงกว่าเบาๆ
   

“…งั้นเอาแบบนี้มั้ย ไอขอให้เราดูใจกันไปก่อน แบบว่าคุยกันไปสักพัก ยังไม่ต้องมีสถานะ แต่ต่างคนต่างไม่มีใคร เหมือนทดลองอยู่ก่อนแต่ง ถ้าเราเข้ากันได้ดี ขัดแย้งกันน้อยที่สุด ก็คบกัน” หนุ่มอิตาลีขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ
   

“มันต่างจากการที่ยูจะคบกับไอเลยตรงไหน” เรียวจันทร์ยักไหล่สองข้าง ก่อนตอบเสียงใส
   

“ไม่ต่างหรอก ก็แค่ยังไม่ผูกมัดกันเท่านั้นเอง” นางว่าง่ายๆ ที่บอกแจเร็ดไปมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการเป็นแฟนกัน เพียงแต่ไม่เอาคำว่าแฟนมาผูกมัดกันไว้เท่านั้นเอง เลเวลมันต่างระดับกันอยู่
   

“ก็ได้ แต่ยูจะว่าอะไรมั้ยถ้าไอจะต้องกลับอิตาลีสักหกเดือน” แวบแรกเรียวจันทร์รู้สึกตกใจ แต่สักพักก็ยิ้มบางๆ แล้วส่ายหัว
   

“ไม่ว่าหรอก” แจเร็ดทำหน้าโล่งอก ดึงเรียวจันทร์เข้าไปกอดไว้ตามเดิม
   

“ไอต้องกลับไปหาครอบครัวน่ะ ไม่ได้กลับมาเกือบปีแล้ว ปกติไอจะกลับเรื่อยๆ แต่ช่วงนี้ทำงานกับเที่ยวหนักไปหน่อย”
   

“ไอเข้าใจ แล้วยูจะเดินทางเมื่อไหร่” แต่จะว่าไปก็แอบใจหายอยู่เหมือนกันนะ หกเดือนนี่คือครึ่งปีเลย ไม่รู้เราจะยังติดต่อกันอยู่มั้ย ดีไม่ดีก็คงห่างหายกันไป แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นความทรงจำของกันและกัน มีเพียงวันนี้ที่เราได้สนุกกันเท่านั้น
   

“อาทิตย์หน้า”
   

“ถ้าว่างจะไปส่งที่สนามบินนะ” แจเร็ดยิ้มกริ่ม ก้มลงจูบเรือนผมสีโค้กของเรียวจันทร์ เขาเองก็ไม่ได้อยากกลับตอนนี้หรอก แต่ไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว พ่อกับแม่และญาติๆ เอ่ยถามตลอด แต่พอดีเขาติดงานและติดเที่ยวจนไม่ได้กลับบ้านเกือบปี พอกลับไปคราวนี้ทางครอบครัวเลยยื่นคำขาดว่าให้อยู่บ้านอย่างน้อยครึ่งปีเป็นการชดเชย
   

ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าเรียวจันทร์จะกลายมาเป็นของเขาในเวลาที่ไม่คาดคิดแบบนี้ ตอนที่ทำเรื่องกลับบ้าน ก็ทำตามปกติไม่ได้กังวลอะไร แต่ตอนนี้เขาชักจะไม่อยากกลับแล้ว มีเวลาอีกแค่สี่วันที่จะอยู่กับร่างหอมกรุ่นตรงหน้า แล้วถ้าจากกันเขาคงคิดถึงเรียวจันทร์ตายเลย
   

แต่หนุ่มอิตาลีไม่รู้หรอกว่าหนุ่มไทยที่เขาเครซี่มากมายนั้น จะทำให้เขาเครซี่เออร์ (ขั้นกว่าของความเครซี่) เพราะความแรดของเจ้าตัว


   


V
v
v


   
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒ (70%):01.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-12-2015 00:26:03

V
v
v


   เรียวจันทร์ถอนหายใจ กำลังนั่งทำใจอยู่บนรถสักพัก ตอนนี้จอดรถอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่โตที่แสนจะโอ่อ่า หรูหรา ใครผ่านไปมาก็เหลียวมองทั้งนั้น และคงมีหลายคนโหวตให้บ้านหลังนี้เป็นบ้านในฝันกันเยอะ มันไม่ใช่บ้านสีขาวมีนกอินทรีย์ประดับบนหลังคาเหมือนในละคร ก็แค่บ้านสไตล์โมเดิร์นที่รูปส่งเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมสี่ห้ากล่องมาวางต่อกัน สีขาวสีน้ำตาลสลับกันไป ตัวบ้านโปร่งใสด้วยกระจก มีความเก๋ด้วยการออกแบบที่ทำให้ดูทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เชื่อว่าบ้านหลังนี้จะยังคงไม่ดูล้าหลัง
   

ใช่ มันเป็นบ้านในฝัน นางฝันมาตั้งแต่เด็กว่าอยากมีบ้านหลังใหญ่ๆ สไตล์แบบนี้ พอโตขึ้นพอที่จะทำงานได้ จึงมุ่งมานะทำงานเก็บเงินแล้วซื้อบ้านหลังนี้ เงินทุกบาทที่ทำงานเดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา หรือว่าออกอีเว้นท์ใดๆ ก็เก็บหอมรอมริบเพื่อบ้านหลังนี้ เพื่อความสุขสบายในชีวิต นางยกเงินให้พ่อทุกบาททุกสตางค์ เอาไปรวมกับเงินเก็บของพ่อและเงินที่พ่อทำงานมาได้ แต่ความสุขสบายในชีวิตมักจะถูกแม่ทำลายอยู่บ่อยครั้ง จากบ้านในฝันสวยหรู ก็กลายเป็นฝันร้ายเมื่อผู้หญิงคนนั้นกลับเข้ามา
   

“คุณเรียว หายไปไหนมาคะ ป้าเป็นห่วงแทบแย่” เรียวจันทร์ยิ้มให้ป้าอุ่นหลังจากก้าวลงจากรถ แม่นมที่เลี้ยงนางมาตั้งแต่เด็กๆ ชื่อป้าอุ่น อบอุ่นสมชื่อ ในยามที่เหนื่อยล้า ท้อถอย ก็จะมีพ่อกับป้าอุ่นที่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอ อ้อ ยังมีนังเป็ดอีกคน ถึงจะให้กำลังใจแว้ดๆ ไปหน่อย แต่ก็ทำให้ยิ้มได้
   

“เรียวนอนบ้านเป็ดอะป้าอุ่น เมื่อวานทำงานเหนื่อยมาก เลยไม่อยากกลับบ้านมาเจอกับเขา” ป้าอุ่นรับรู้ว่าคุณหนูของเธอหมายถึงใคร หญิงสูงวัยร่างอวบถอนหายใจด้วยความเห็นใจเรียวจันทร์
   

“เมื่อคืนเธอก็กินเหล้าเมา บ่นทั้งคืนแล้วถึงหลับไป ป้ากับลุงแล้วก็เจ้าแก๊ป ช่วยกันพาไปนอนที่ห้อง” เธอเองก็ไม่ได้ชอบคุณนายโรสิตานั่นเท่าไหร่หรอก
   

“เมื่อวานได้เข้าไปจัดการในห้องคุณพ่อรึเปล่าคะป้า”
   

“เรียบร้อยค่ะ ไม่ต้องห่วง” เรียวจันทร์มองรอยยิ้มอบอุ่นของแม่นมแล้วก็ระบายยิ้มอ่อนๆ บนใบหน้า ก่อนที่จะน้ำตาคลอ
   

“โธ่ คุณหนู อย่าร้องไห้สิคะ คุณพ่อไม่ชอบให้คุณหนูร้องไห้นะคะ” ยิ่งพูดก็ยิ่งน้ำตาไหลออกมา นางไม่อยากกลับบ้านมาเจอปัญหาซ้ำๆ เดิมๆ ของแม่ ใครจะว่าเนรคุณยังไง นางไม่สนใจหรอก ลองให้คนพวกที่ว่านางต้องมาดูแลแม่ที่ไม่เคยดูแลนางเลยบ้างสิ
   

“ถ้าไม่มีป้าอุ่น เรียวคงแย่กว่านี้อีก…” ร่างบางเช็ดน้ำตาจนเหือดแห้ง คลี่ยิ้มให้กับแม่นมตนเอง
   

“…ขอบคุณนะคะป้าที่ไม่ทิ้งเรียวไป ทั้งๆ ที่เงินเดือนที่เรียวให้ก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย”
   

“คุณหนูให้มากกว่าเงินเดือนอีกค่ะ ค่ารักษาตาอ๊อด ค่าเรียนเจ้าแก๊ป คุณหนูก็จ่ายให้หมด”
   

“โอยป้า อย่ามาพูดรำลึกความดีกันเลย ไม่ใช่เรื่องน่าชื่นชมขนาดนั้นหรอก” จะว่าโรคจิตก็ได้ แต่นางไม่ค่อยชินกับการที่มีคนมาเอ่ยชมในเรื่องพฤติกรรมความดี ส่วนใหญ่มีแต่คนรุมจิกกัดถึงขั้นด่ากันแบบสาดเสียเทเสียทั้งนั้น 
   

“มันเป็นเรื่องดีค่ะ คุณชายเรียว…” หนุ่มนายแบบเบ้ปากใส่คำเรียกนั้นทันที
   

“…บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกแบบนั้น เรียวไม่ได้อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเขาสักหน่อย” ป้าอุ่นยิ้มแซว เรียวจันทร์แสร้งทำหน้างอแล้วก็เดินเข้าบ้านทางประตูที่อยู่ติดกับโรงรถ เมื่อเข้าไปในบ้านเรียวจันทร์ก็เดินไปตรงห้องรับแขกสีขาวสะอาดตา พื้นพรมหนังสัตว์ขนนุ่มสีดำผืนใหญ่ปูตัดกระเบื้องสีขาวอยู่บนพื้น
   

“แกมาแล้วเหรอ?!” ยังไม่ทันจะได้วางกระเป๋าลงบนโซฟา เสียงวินาศสันตะโรก็ดังมาจากชั้นสอง ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใครตะโกนลงมาจากด้านบน เรียวจันทร์นั่งลงบนโซฟาตัวยาว หันไปพยักหน้าให้ป้าอุ่นเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร หญิงร่างอวบผิวขาวจำใจเดินออกจากห้องรับแขกไปทางครัว ตอนนั้นเองที่ร่างระหงในชุดนอนกรุยกรายราวกับคุณนายใหญ่ในแก๊งค์มาเฟียเกาะฮ่องกง ใบหน้าที่แม้ว่าจะอายุมากแล้วก็ยังคงมีเค้าความสวยให้ได้เห็นก็เดินดุ่มๆ ตรงมาหาเรียวจันทร์ด้วยใบหน้าถมึงทึง
   

“แกหายไปไหนมา?! ฉันโทรตามแกจนนิ้วจะหักอยู่แล้ว!!” โรสิตาแว้ดเสียงใส่ลูกทันทีที่มายืนอยู่ตรงหน้า เรียวจันทร์มองผู้เป็นแม่กลับไปอย่างไร้อารมณ์ ใช้สายตาสำรวจมือทั้งสองข้างของสาวในชุดคลุมผ้ามันสีแดง แล้วเลื่อนสายตาไปมองใบหน้าสวยผ่องอีกครั้ง
   

“ก็ยังไม่หักไม่ใช่เหรอ ถ้าหัก แม่ก็คงต้องเข้าเฝือกไปแล้ว” โรสิตาถลึงตามองลูกชายที่หล่อนรู้ว่ามันไม่ใช่ชายแท้ แต่หล่อนก็ไม่สนหรอก
   

“แกอย่ากวนฉันนะไอ้เรียว!” หล่อนแผดเสียงไม่ยอมแพ้กลับมา คนเป็นลูกกลอกตาเซ็งๆ
   

“แม่เลือกเอาว่าแม่จะทะเลาะกับเรียวต่อ หรือแม่จะเลือกพูดปัญหาที่แม่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ให้เรียวฟัง…” เรียวจันทร์พยายามเอ่ยอย่างใจเย็น ไม่วีน ไม่เหวี่ยงกลับใดๆ
   

“…แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ เรียวไม่รับปากว่าจะจัดการให้แม่ได้มากน้อยแค่ไหน” สองแม่ลูกจ้องตากันนิ่ง โรสิตาจ้องมองดวงตาที่ได้อย่างเธอไปด้วยความขุ่นเคือง ก่อนที่จะเลือกสงบศึกเอาไว้ก่อน
   

“ฉันมีหนี้” หล่อนพูดเสียงห้วนพลางกอดอกแล้วเชิดคางขึ้น เรียวจันทร์ไม่ได้มีสีหน้ากังวลใจใดๆ ถามมารดากลับด้วยน้ำเสียงทื่อๆ
   

“แม่ก็มีหนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
   

“ก็คราวนี้มันหนี้ใหม่” ใบหน้าสวยหวานของเรียวจันทร์แสดงออกชัดเจนว่าเบื่อหน่าย แววตาที่มองมารดาบอกชัดเจนว่าสุดแสนจะรำคาญ
   

“ที่มีทุกวันนี้มันยังไม่พออีกเหรอแม่ ของเก่าๆ ยังใช้ไม่หมด ดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้นตลอด แล้วแม่ยังจะไปมีหนี้ที่ไหนอีก!?” อยากจะเข้าไปบีบคอแม่แรงๆ จริงเชียว นางทำได้และกล้าที่จะทำด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพ่อขอไว้ละก็ นางไม่ไว้หน้าผู้หญิงคนนี้หรอก ก็แค่คลอดนางออกมา แค่นั้นจริงๆ
   

“แกก็บ่นอยู่นั่นแหละ” แม้ว่าตัวจะผิด แต่ก็ไม่อยากยอมรับผิดเต็มๆ คนเดียว โรสิตาเลยเลือกที่จะทำท่าว่าอารมณ์เสียใส่ไว้ก่อน เรียกได้ว่าเป็นการกลบเกลื่อนความผิดของตัวเองแบบไม่เนียนอย่างแรง
   

“หรือจะให้ด่า แม่ก็รู้ว่าเรียวด่าได้” คนเป็นลูกพูดเสียงเย็นอย่างไม่เกรงกลัว และไม่คิดเกรงใจใดๆ จนคนเป็นแม่มองอย่างโกรธจัดกลับมา แต่เรียวจันทร์ยกมือขึ้นเบรกเอาไว้ ตอนนี้ต้องการเคลียร์ปัญหาที่แม่พยายามโทรจิกเหลือเกิน
   

“แม่รีบๆ พูดมาว่าแม่เป็นหนี้ มีหนี้เท่าไหร่ มีหนี้ที่ไหน” ตัดบทเสียงเรียบ โรสิตาสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ ปล่อยแขนลงข้างตัว แล้วพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ
   

“สิบล้าน หนี้ที่บ่อน” เรียวจันทร์รับรู้ได้ถึงความเดือดที่พุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย จ้องมองมารดาด้วยสายตากระด้างจนคนเป็นแม่แอบผงะ เรียวจันทร์กำสองมือแน่น บอกตัวเองให้ใจเย็นไว้แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย
   

“เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเล่นการพนัน ไอ้หนี้ที่มีทุกวันนี้มันไม่ทุเรศพอรึไง??!!” แทบอยากจะขว้างอะไรสักอย่างใส่คนตรงหน้า แต่ก็ยังพอจะมีจิตสำนึกอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่จิตสำนึกของความเป็นลูกที่ดีหรอก
   

“ก็ฉันคิดว่ามันจะได้นี่!!” เมื่อเสียงดังมา หล่อนก็เสียงดังกลับ แล้วตามนิสัยโรสิตา หล่อนไม่ยอมรับง่ายๆ หรอกนะว่าตัวเองผิด ถ้าไม่งั้นหล่อนก็รับความผิดอื่นๆ ไปแล้วสิ
   

“เป็นประโยคที่พวกสิ้นคิดพูดออกมาเวลาเล่นของอุบาทว์พวกนั้น แม่อยู่ในช่วงตกต่ำก็จริง แต่ไม่จำเป็นต้องทำตัวต่ำไปอยู่ในที่ต่ำๆ แบบนั้นก็ได้!”
   

“นี่! มันชักจะแข็งข้อขึ้นทุกวันแล้วนะ จะเกลียดฉันยังไง แต่ฉันก็อุ้มท้องแกตั้งเก้าเดือน แล้วก็เป็นคนคลอดแกออกมานะ!!” เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืนทันที จ้องแม่กลับไปอย่างแข็งกร้าว
   

“งั้นบอกสิว่าตัวเองเป็นแม่ที่ดี เป็นแม่ที่ควรได้รับการยกย่อง เป็นแม่ที่ไม่ได้หนีตามผัวใหม่ไป แล้วก็โดนผัวใหม่ทิ้ง!” โรสิตาเลือดขึ้นหน้าเมื่อเจอย้อนแย้งเข้าให้ ชี้หน้าลูกชายด้วยมืออันสั่นเทา
   

“แก! ระวังนรกจะกินกบาลเถอะ!” เรียวจันทร์เชิดคางขึ้นอย่างไม่ยี่หระ แล้วพูดด้วยเสียงเยือกเย็น
   

“มันอาจจะบาป ถ้าแม่เป็นแม่ที่ดีกว่านี้” หญิงวัยกลางคนง้างมือทำท่าจะเข้ามาตบหน้าเรียวจันทร์ แต่ฝ่ายคนเป็นลูกรีบยกมือชี้หน้าดักทันที
   

“อย่าเชียวนะ พ่อเลี้ยงเรียวมาอย่างดี ไม่เคยใช้กำลังตบตี อย่าบังอาจมาแตะต้องตัวเรียว!” แม้ว่าจะโกรธจนแทบระเบิดยังไง แต่เมื่อพูดถึงพ่อ และนึกถึงปัญหาของแม่ที่เพิ่งบอกตน ก็ทำให้ให้คนที่เข้มแข็งอย่างเรียวจันทร์ถึงกับน้ำตาร่วงแหมะ แต่กระนั้นก็ยังคงจ้องหน้าแม่แทบไม่กระพริบตาจนอีกฝ่ายต้องสะบัดมือลงด้วยความโมโห
   

“ฉันเป็นแม่แก ต่อให้แกเกลียดฉันยังไง แกก็หนีความจริงไม่พ้นว่าฉันเป็นแม่!”
   

“ถ้าเรียวคิดจะหนีจริงๆ แม่ไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นมาแบบนี้หรอก ป่านนี้คงหนีหนี้หัวซุกหัวซุนไปแล้ว!” โรสิตาขมวดคิ้วฉับ รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมากับท่าทีถือดีของลูกตัวเอง
   

“แกไม่ต้องมาทวงบุญคุณฉัน ถ้าไม่มีฉัน แกก็ไม่ได้เกิดมาเหมือนกัน” เรียวจันทร์แสยะยิ้มแล้วว่าด้วยน้ำเสียงขมขื่น
   

“ถ้าตอนที่เป็นตัวอ่อนอสุจิมีสมองสักหน่อย เรียวคงยอมตายกลางทาง ไม่รีบวิ่งเข้าไปในท้องแม่หรอก”
   

“แกนี่มันปากดีจังนะ!” โรสิตาว่าเสียงสั่น
   

“แล้วไอ้คนที่แม่ยืนด่าอยู่ตอนเนี้ย เป็นคนเดียวกับที่ทำงานงกๆ เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ให้แม่รึเปล่า” เมื่อเจอตอกกลับด้วยความจริงข้อนี้ คุณนายโรสก็เงียบใส่แล้วลอยหน้าลอยตาทำเนียนไม่รู้เรื่อง
   

“เรียวไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น หรือถึงมีเรียวก็ไม่ให้ เพราะเงินที่มีก็ต้องเอามาล้างหนี้ของแม่ในที่อื่นๆ แล้วไหนจะค่าใช้จ่ายต่างๆ อีก ถ้าเป็นไปได้ แม่ก็เลิกทำตัวไฮโซโก้หรู มีสติสักทีว่านั่นมันอดีตไม่ใช่ปัจจุบัน” โรสิตาทำหน้าขัดใจ หล่อนก็พอจะรู้อยู่แล้วแหละว่านังลูกชายตัวดีของหล่อนไม่ยอมแน่ๆ แต่หล่อนก็ยังอยากจะพูดเผื่อมันจะยอมช่วย
   

“ก็ฉันบอกแล้วว่าให้เอาบ้านหลังนี้ไปจำนอง” เรียวจันทร์ตาวาวทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น
   

“อย่ายุ่งกับบ้านหลังนี้” ว่าเสียงกระซิบเยือกเย็น จะให้ทำงานหนักขนาดไหน ให้ขายสมบัติชิ้นไหนในบ้าน ทำให้ได้ แต่ถ้าจะเอาบ้านหลังนี้ไปขาย ไม่ยอมแน่ๆ
   

“เออๆ ไม่ขายก็ไม่ขาย แต่คนที่บ่อนเขามีข้อเสนอ” หล่อนตัดบท ขี้เกียจจะทะเลาะกันเรื่องบ้านอีก
   

“ข้อเสนออะไร” เรียวจันทร์ถามอย่างไม่แคร์ ตอนนี้อยากขึ้นไปนอนพักเหลือเกิน รู้สึกปวดหัวกับแม่ตัวเอง
   

เสี่ยจอมทัพเขาชอบแก เขาอยากพบแล้วก็คุยกับแก” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว มองมารดาด้วยความไม่ไว้ใจ อีกฝ่ายทำหน้าเซ็งที่ถูกจับไต๋ได้
   

“ฉันก็เลยรับปากว่าแกจะไปพบเขา”
   

“แม่” เรียวจันทร์เอ่ยสั้นๆ น้ำเสียงไม่พอใจพอๆ กับสีหน้า
   

“แกก็ไปเจอเขา คุยกับเขา แล้วก็ลองดูว่าข้อเสนอที่เขาให้มามันน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน แล้วก็ค่อยตัดสินใจก็ได้” คนเป็นแม่แผดเสียงแหลมออกมาท่าทางไม่ได้ใส่ใจหรือห่วงความรู้สึกของคนเป็นลูก
   

“แล้วถ้าเรียวไม่ไปพบเขาล่ะ” โรสิตาเม้มปาก เธอไม่กล้าสบสายตาของลูกชายตรงๆ เพราะสิ่งที่กำลังจะพูดต่อไปนี้ เชื่อว่าถ้าเรียวจันทร์ไม่อาละวาด ก็จะโกรธจนพูดไม่ออก
   

“เขาจะยึดบ้าน ตีราคาได้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น หนี้ที่เหลือก็ให้เวลาแค่สามเดือนในการจ่าย” เรียวจันทร์ตัวชาวาบเมื่อได้ยินว่าบ้านนี้จะถูกยึด ทั้งๆ ที่เพิ่งบอกไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาว่าอย่ายุ่งกับบ้านหลังนี้ แต่แม่ก็ทำไปแล้ว
   

“แม่ทำอย่างนี้ได้ยังไง เรียวขอไว้ตั้งกี่ครั้งแล้ว?!” นางถามเสียงเข้ม ใบหน้าโกรธจัด
   

“เดี๋ยวก่อนสิ ฉันยังไม่ได้เอาโฉนดไปให้เขานะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแกเก็บโฉนดไว้ที่ไหน” หล่อนว่าหน้านิ่วคิ้วขมวด พยายามหาจนแทบจะพลิกบ้านก็หาไม่เจอ
   

เรียวจันทร์รู้สึกโล่งอกมากขึ้น รู้สึกดีเหลือเกินที่เก็บโฉนดที่ดินบ้านเอาไว้อย่างมิดชิด “แต่แม่ก็ไม่ควรไปพูดกับเขาแบบนั้น”
   

“แต่ฉันพูดไปแล้วนี่” เรียวจันทร์ถอนหายใจเบื่อหน่าย ก็ไม่ได้อยากจะไปพบกับคนๆ นี้นักหรอก คงเป็นพวกเฒ่าหัวงู ชอบเด็กหนุ่มเอ๊าะๆ นั่นแหละ แต่ถ้าการไปพูดคุยให้เข้าใจกันว่าไม่ให้ยุ่งกับบ้านหลังนี้ และแสดงเจตนาชัดเจนว่าขอปกป้องรักษาบ้านหลังนี้ไว้ อันนั้นแหละที่นางจะทำ
   

“งั้นเดี๋ยวเรียวไปคุยกับเขาเอง” โรสิตายิ้มกว้างด้วยความดีใจ
   

“จริงเหรอ แกจะไปคุยกับเขาจริงๆ เหรอ”
   

“จริง แต่ที่ไป ไม่ได้ไปเพราะแม่ เรียวจะไปบอกเขาว่าห้ามแตะต้องบ้านหลังนี้ และคุยกับเขาเรื่องระยะเวลาในการจ่ายหนี้” โรสิตาไม่ได้สนใจประโยคนี้นักหรอก แค่เรียวจันทร์บอกว่าจะไปพบกับเสี่ยจอมทัพ แค่นี้หล่อนก็โล่งใจแล้ว
   

“ดีเลย ท่าทางเขาจะชอบแกมากนะ ดีไม่ดี เขาอาจจะยกหนี้ให้เลยด้วยซ้ำ ถ้าไปหาเขาน่ะ” เรียวจันทร์มองแม่ราวกับเห็นคนแปลกหน้า
   

“เรียวไม่เอาตัวเข้าแลกหรอกนะ”
   

“ฉันก็ไม่พูดอย่างนั้นสักหน่อย…” ถึงใจจริงจะหมายความตามนั้นก็เถอะ
   

“…แต่เสี่ยจอมทัพยังหล่อ ยังแน่นอยู่เลย ถึงอายุจะเยอะไปหน่อย แต่ฉันว่าถ้าแกคิดจะ…” เรียวจันทร์ยกมือเบรกความคิดเพ้อฝันทั้งหลายของแม่เอาไว้เท่านั้น
   

“เรียวมีคนคุยแล้ว ซึ่งไม่ต้องถามว่าใคร เพราะเราไม่ได้สนใจชีวิตกันและกันอยู่แล้ว…” มือบางเอื้อมไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไว้บนไหล่ขวา
   

“…แล้วช่วงระยะเวลานี้ อย่าไปสร้างหนี้ที่ไหนอีก กับหนี้ที่บ่อน เรียวจะคุยให้ แต่แม่ต้องหามาใช้เอง” โรสิตาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
   

“ฉันจะหาเงินจากที่ไหนไปใช้เขาล่ะ” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าไม่แคร์พร้อมยักไหล่ขวาหนึ่งที
   

“เครื่องเพชรแม่ไง คิดว่าเรียวไม่รู้เหรอ…” สีหน้าของคุณนายโรสชะงักกึกทันที “…ถ้าเป็นหนี้ธนาคาร เงินนอกระบบ เรียวช่วยได้ แต่หนี้พนัน เรียวไม่ช่วย อย่างที่บอก เรียวไปคุยกับเขาเพราะบ้านหลังนี้”
   

พูดจบ เรียวจันทร์ก็เดินผ่านมารดาไปทันที ทิ้งให้โรสิตายืนอ้าปากพะงาบๆ แต่สักพักคนเป็นลูกก็หยุดเดินตรงตีนบันไดที่นำขึ้นไปสู่ชั้นสองของบ้าน หันกลับไปมองหน้ามารดาอีกรอบ
   

“นัดเขาให้ด้วยแล้วกัน เรียวว่างวันอาทิตย์ ถ้าเขาไม่ว่าง บอกเขาว่าต้องว่าง เพราะเรียวจะสละเวลาทำงานไปหาเขาแค่วันนั้นวันเดียว”


   




TBC.

แซ่บแค่ไหน ชีวิตก็ยังมีมุมดราม่าอยู่เนาะ 55555 อาจจะดูรุนแรงในประเด็นเรื่องแม่กับลูก แต่เดี๋ยวอ่านไปเรื่อยๆ จะค่อยๆ ทราบว่าทำไมเรียวจันทร์กับแม่ถึงเป็นแบบนี้ค่ะ

ได้หนุ่มอิตาลีไปกี่ยกละค่ะคุณแม่เรียว เปรี้ยวมากเลยอะ กว่าจะถึงมือพี่พระเอก ยังฟิตอยู่ใช่มั้ย 55555 บอกเลยว่าไม่ต้องห่วงนางนะ ตัวแม่อย่างนาง ไม่มีพลาด

ขอบคุณคนอ่านหลายๆ คนที่ตามอ่านกันนะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะที่แวะเวียนกันเข้ามาอ่านกัน ดีใจที่อ่านแล้วชอบ ดีใจที่อ่านกันแล้วรู้สึกว่ามันสนุก ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ยังไงฝากติดตามต่อไปเรื่อยๆ เลยนะคะ

ขอบคุณที่รักเรียวจันทร์ในแบบที่เขาเป็นค่ะ ถึงจะเป็นชายสาวแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีสิทธิ์รักเนอะ  :mew1:


 
   
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒ (70%):01.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 01-12-2015 07:57:16
เสี่ยขาเป็นพระเอกช่ายม้ายยยย :call:


มาต่อด่วนเลยค่าาาาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒ (70%):01.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 01-12-2015 08:25:20
เรียวจันทร์จะโดนยึดบ้านมั้ยเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒ (70%):01.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 01-12-2015 10:24:10
เจอมุมดราม่าแล้วสงสานาง เอาน๊านะเรื่องแรดๆของนางก็ถือซะว่าคลายเครียด 555  ยุให้นางกิหนุ่มอิตาลี่แล้วหนีแม่ไปเลยได้ไหม ไม่ชอบแม่นางเลยอะ

ปล.พระเอกใกล้อดกยังนี้ก่อกบฏรอแล้วนะ 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒ (70%):01.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-12-2015 11:09:20
แม่ก็นะ...ไม่รู้จะว่ายังไงเลย ว่าแต่คุณพ่อที่รักของเรียวจันทร์ไปไหนล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒ (70%):01.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ 01-12-2015 12:38:21
แปะะะะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒ (70%):01.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 01-12-2015 12:59:02
เลวมากกกดดกดดดดด :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒ (70%):01.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 01-12-2015 18:29:39
พระเอกจะซื่อๆมั้ยนะ เรียวจันทร์แซบขนาดนี้ รอพระเอกกก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒ (70%):01.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: thevicious ที่ 01-12-2015 20:28:27
มีแม่แบบนี้ เอาไปปล่อยวัดเถอะเรียว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒(100%):03.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 03-12-2015 15:39:20


คาถาที่ ๒ [100%]





   เรียวจันทร์นั่งหน้าอึนให้ช่างทำผมจัดการหัวตัวเอง ใบหน้าขาวผ่องมีแววอิดโรยโปรยปรายบางๆ ไปทั่ว ขอบตาคล้ำน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดมาก เมื่อวานหลังจากทะเลาะกับแม่เสร็จก็ไม่ยอมออกมาจากห้องอีกเลย จนป้าอุ่นต้องยกอาหารเย็นเข้าไปเสิร์ฟถึงในห้อง ทานข้าวไปคุยกับแจเร็ดไป อีกฝ่ายกำลังเก็บของเตรียมตัวบินกลับบ้านเกิดในอีกไม่กี่วันนี้
   

“น้องเรียว เป็นอะไรเหรอคะ หน้าเหงาหงอย เหม็นหอยใครรึเปล่า” พี่ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองร่างใหญ่เอ่ยถามพลางเตรียมอุปกรณ์การแต่งหน้าให้พร้อม
   

“มีเรื่องที่บ้านนิดหน่อยน่ะพี่ทิฟฟี่” เรียวจันทร์ถอนหายใจแรงๆ หนึ่งที แล้วสลัดเรื่องแม่ออกจากหัวไป อีกหนึ่งชั่วโมงจะต้องเริ่มงานแล้ว ไม่อยากเก็บเอาอะไรมาใส่หัวให้ปวดสมอง
   

“อ๋อ พี่ก็คิดว่าเหม็นหอยนังโบว์ซะอีก” จากที่กำลังเครียดๆ นอยด์ๆ เรื่องที่บ้าน เรียวจันทร์ก็ปรับสีหน้าเหมือนคนเหม็นขยะจนช่างแต่งหน้าร่างใหญ่ผิวคล้ำหัวเราะกิ๊กกั๊ก
   

“นี่มันมาเดินด้วยเหรอเนี่ย”
   

“ตอนแรกก็ไม่มาหรอกค่ะ แต่ว่าน้องอีกคนเขาแอคซิเด้นท์มาไม่ได้ ก็เลยต้องอัญเชิญน้องโบว์มาช่วย” ว่าไปก็เริ่มเอาแปรงปัดแก้มขาวใสของหนุ่มนายแบบหน้าสวยไปด้วย เรียวจันทร์เบะปากแล้วกลอกตาเซ็ง
   

“นางแบบมีเป็นร้อย ทำไมไม่เลือกคนอื่น” นางว่าด้วยใบหน้าไม่พึงพอใจสักเท่าไหร่ ก่อนจะทำหน้านิ่งๆ ให้ช่างแต่งหน้าจัดการทารองพื้นให้
   

“ก็ต้องยอมรับนะคะว่า น้องโบว์นางแซ่บจริง เอามาแก้ขัดกับอีกคนก็ไม่เสียหายอะไร” เรียวจันทร์เบ้ปากเร็วๆ หนึ่งที ก่อนจะว่าด้วยน้ำเสียงดูแคลน
   

“นมปลอม ดั้งปลอม คิ้วปลอม ปลอมทั้งนั้น ในตัวมันมีอะไรเป็นของแท้บ้าง…”
   

“…ก็เพศหญิงที่แท้จริงยังไงล่ะจ๊ะ เรียวจันทร์” เสียงแหลมแต่ไม่ถึงขั้นแหลมเล็กดังลอยมาจากด้านหลัง ช่างแต่งหน้าผมยาวถึงกับอ้าปากหวอ แต่ในใจของนางนั้นรอรับชมความแซ่บของทั้งสองคนอย่างระทึกเลยละ เรียวจันทร์ทำหน้าเอือม ไม่ได้หันไปมองอีกฝ่ายหรอก เพราะรู้ว่าเดี๋ยวมันก็เดินมาตรงนี้ เลยเลือกรอให้มันเดินมาหาเองมากกว่าที่จะหันไปมองมัน อยากหาเรื่องก็ต้องเดินเข้ามาเองสิ
   

“นินทาฉันสนุกเลยนะ นิสัยลอบกัดเนี่ย เมื่อไหร่จะเลิกล่ะจ๊ะ” เรียวจันทร์ตวัดสายตาขึ้นไปมองหญิงสาวร่างสูง หน้าเรียว แหลมเล็ก ตาโต จมูกโด่ง ผิวขาวอมชมพู ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมของหญิงไทยในสมัยนี้ เรียวจันทร์ยืดตัวขึ้นให้นั่งตรงๆ แล้วไล่สายตามองศัตรูของตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็เท้าจรดหัว จนอีกฝ่ายหน้าตึงนิดๆ
   

“ด่าฉันเนี่ย ดูตัวเองบ้างหรือยัง ต้องให้บอกมะ ว่าผู้หญิงอย่างเธอทำอะไรไว้ ลอบกัดลับหลังฉันไว้ยังไงบ้าง หื้ม?” เรียวจันทร์แสร้งทำหน้าใสซื่อว่าหนูไม่รู้อะไรเลย เหล่านางแบบ นายแบบ สไตล์ลิส ช่างแต่งหน้าทั้งหลายในห้องแต่งตัวเริ่มหันมามองด้วยความสนใจ
   

“แหม ก็ได้รับความร่วมมือดีจากอีกฝ่ายนี่คะ” โบว์ยิ้มเหนือกว่ากลับมา เรียวจันทร์ฉีกยิ้มกว้างแกนๆ แล้วหัวเราะในลำคอแผ่วๆ
   

“เธอคิดว่าฉันยังมีความรู้สึกกับผู้ชายคนนั้นอยู่อีกเหรอ…” จากที่กำลังยิ้มเหนือกว่า สีหน้าของหญิงสาวก็สะดุดกึกไปนิดหนึ่ง แต่ก็ยังปั้นหน้าเชิด
   

“…นี่ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ถ้าคิดว่า คำพูดแนวๆ นี้จะทำให้ฉันรู้สึกเสียอกเสียใจ เธอพลาดแล้วละ ไม่เข้าใจเลยอะ ไปยกเครื่องถึงเกาหลี ทำไมไม่บอกให้หมอยกเครื่องสมองด้วย” น้ำเสียงที่ใช้นั้นหนักแน่นและมั่นคงพอๆ กับแววตาคู่สวยที่มองหน้าหญิงสาวไม่วางตา หนุ่มนายแบบนั่งหน้าเชิด หลังตรงอกแอ่นราวกับราชินีนั่งบนบัลลังก์ทั้งที่จริงมันก็แค่เก้าอี้โครงเหล็กเก่าๆ ตัวหนึ่งเท่านั้นเอง
   

“อูยยย” ทิฟฟี่ที่นั่งฟังด้วยความลุ้นระทึกถึงกับอุทานเสียงมาดแมน ดวงตาเบิกกว้างด้วยความขบขันที่แม่สาวนมโตโดนแขวะเข้าให้ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าหล่อนก็ยังคงทระนงเชิดหน้าสู้ต่อ
   

“อยากด่าอะไรก็ด่าไป แต่ทุกวันนี้เขาอยู่กับฉัน!” แถมยังมีการใช้น้ำเสียงประหนึ่งว่าตัวเองนั้นคือผู้กุมชัยชนะ แต่มีหรือที่เรียวจันทร์จะยอมให้แม่นั่นกุมชัยชนะนั้นไว้ หน้าสวยๆ ทำหน้าเหมือนกำลังเห็นอกเห็นใจอีกฝ่ายเหลือเกิน แต่จริงๆ นางก็แค่รู้สึกเวทนากับความคิดความอ่านของแม่นี่ต่างหาก
   

“จ้า รู้แล้ว ไม่ใช่ไม่รู้ ก็ยินดีด้วย แล้วก็ขอให้เขาอยู่กับเธอนานๆ นะ ผู้ชายโลเลแบบนั้น มันจะมั่นคงได้อีกนานเท่าไหร่ ขนาดรสนิยมตัวเองยังไม่ชัดเจนเลย” เรียวจันทร์พูดด้วยน้ำเสียงไหลลื่น แอบมีจิกเบาๆ ลอยหน้าลอยตานิดๆ เพื่อสร้างความกระอักเลือดในอกโตๆ ของนังศัตรู ฝ่ายหญิงสาวก็นึกหมั่นไส้อยู่นะ แต่ต้องเก็บอาการให้มิด สติแตกก่อนจะพ่ายมันเอาได้ โบว์มองหน้าเรียวจันทร์แล้วแสยะยิ้ม ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงกับความคิดที่ว่าตัวเองนั้นมีดีกว่ามาก
   

“ยังไงเขาก็ต้องเลือกผู้หญิงป้ะ ก็เขาเป็นผู้ชายอะ ยังไงผู้หญิงก็วินอยู่แล้ว”
   

“วินมอเตอร์ไซด์อะเหรอ?” เรียวจันทร์ถามกลับด้วยน้ำเสียงกับใบหน้ากวนส้นเท้า เล่นเอาทิฟฟี่หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว โต๊ะใกล้เคียงที่ได้ยินก็ยังแอบหัวเราะเบาๆ โบว์ถลึงตามองศัตรูตัวเองด้วยความหงุดหงิดกับความกวนประสาทของมัน
   

“อ้าว นี่ๆ เสียเวลายืนคุยกันทำไมเนี่ย ไม่ไปเตรียมตัวทำงานกันล่ะ จ้างมาทำงานนะ ไม่ได้จ้างมาตบกัน” เรียวจันทร์เบนหน้าเชิดของตนไปมองคนพูด ก็เห็นว่าเป็นสาวห้าวนางหนึ่งหน้าตาถมึงทึงยืนทำท่าทางคุมเชิงประหนึ่งว่าเป็นผู้มีอิทธิพลซะเต็มประดา แต่เรียวจันทร์ไม่ค่อยชอบรับสายซ้อนเท่าไหร่ เลยหันมาจัดการสายแรกให้เรียบร้อยซะก่อน
   

“รีบไปแต่งหน้าเถอะ หน้าเธอแย่มากเลยอะ มองหน้าเธอแล้วนึกว่ามองหน้าแดร็คคิวล่าตอนโดนแดดอยู่” พูดจบก็หันกลับมาหาช่างแต่งหน้าตัวเอง ทิฟฟี่พยายามหยุดขำแล้วตั้งสมาธิกับการแต่งหน้า นางแบบสาวยืนกำหมัดแน่น กัดฟันกรอด แต่หล่อนก็ยังฉลาดพอที่จะไม่ยืดเรื่องให้มันยืดเยื้อไปมากกว่านี้ เพราะไม่งั้นหล่อนเองนั่นแหละที่จะกลายเป็นหมาเห่าใบตองแห้ง โบว์พยายามสงบความเดือดของตัวเองไว้แล้วหมุนตัวเดินกระแทกเท้าอย่างหงุดหงิดไปตรงโต๊ะแต่งหน้าของตัวเองบ้าง
   

“แล้วไม่ได้เจอกันอีกเลยเหรอ กับแฟนเก่าที่นางแย่งไปน่ะ” เรียวจันทร์สั่นหน้าน้อยๆ กับคำถามของทิฟฟี่ที่กำลังใช้บลัชออนปัดเศษแป้งบนหน้านางออกเบาๆ 
   

“อย่าเรียกว่าแย่งเลย มันเต็มใจไปกับนังโบว์เองต่างหาก ถ้าศีลธรรมมันสูงสักหน่อยมันจะไม่พ่ายให้กับแรงอ่อยของโบว์มันหรอก” ถึงแม้จะโกรธและไม่ชอบยัยนางแบบนมใหญ่นั่นอยู่มาก แต่เรียวจันทร์ก็ไม่คิดโยนความผิดให้กับผู้หญิงฝ่ายเดียว จริงอยู่ว่าแม่นางแบบทอดสะพานมาให้จนไหม้เกรียม แต่ถ้าคนของนางไม่เดินข้ามไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น แต่นี่ไอ้ตัวดีดันเดินข้ามไปหาเจ้าหล่อนเช้าเย็น ทั้งที่ตัวเองก็มีแฟนเป็นผู้ชายอยู่แล้ว ยังจะมาทำตัวเป็นไส้เดือนสวมบทบาทสองเพศอยู่ได้ แถมยังสวมเขาให้นางได้ตั้งเป็นเดือน ดีนะที่เรียวจันทร์มีสายสืบเยอะ
   

“แล้วถ้าเจอกันนี่จะคุยกันมั้ยคะเนี่ย” เรียวจันทร์เบ้ปากเบาๆ แล้วตอบเสียงชิล
   

“คุยได้สิ เรียวไม่คิดอะไรหรือติดใจอะไรกับเขาแล้ว”
   

“เรียกว่าสวยเลือกได้สินะคะ” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองหัวเราะเสียงเล็กเสียงน้อย เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ
   

“แน่สิ ชีวิตดีๆ อย่างเราจะเอาตัวเองไปจมปลักกับพวกโคลนตมทำไม” โบว์ที่นั่งอยู่ห่างออกไปจากโต๊ะเรียวจันทร์หันไปมองตาขวาง เรียวจันทร์เบะปากแล้วไหวไหล่ไม่แคร์ไปให้หนึ่งที ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นให้ช่างแต่งหน้าได้จัดการกับตัวเอง




   แสงสีภายในงานเดินแบบของแบรนด์เสื้อผ้าดังสำหรับฤดูร้อนสาดส่องไปทั่วห้องจัดงานภายในโรงแรมหรู เสียงเพลงสากลจังหวะป๊อบดังขับกล่อมผู้มาร่วมงาน เหล่าดารา นักแสดง นักร้อง และเซเลบริตี้ที่ถูกเชิญมานั่งเรียงรายเต็มสองข้างเวทีรวมกับผู้ร่วมงานทั่วไป เสียงพูดคุยดังหึ่งๆ แข่งกับเสียงเพลง ทุกคนต่างรอเวลาเริ่มงาน ไม่มีพิธีกร ไม่มีใครมาบอกว่างานจะเริ่มตอนไหน แต่เมื่อมีนายแบบหรือนางแบบสักคนเดินออกมา นั่นก็คือช่วงเวลาที่ทุกคนรู้กันว่าเป็นการเริ่มงาน และคนที่เดินเปิดงานนี้ก็คือนายแบบหน้าสวยหวานสุดฮ็อตที่ไปโด่งดังถึงต่างประเทศ แต่ก็ยังแวะเวียนมาทำงานที่ไทยบ้างหากมีเวลา
   

เสียงปรบมือดังขึ้นต้อนรับนายแบบผู้ที่กำลังเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ในประเทศไทยเรียวจันทร์อาจไม่ได้มีงานจ้างมากมาย แต่ถ้าเป็นต่างประเทศละก็ คิวนางถูกจองเต็มแทบทุกเดือน เรียวจันทร์ไปทำงานที่นิวยอร์กตั้งแต่อายุสิบเจ็ด ฉะนั้นดีกรีของนางไม่ธรรมดา เมื่อสร้างฐานที่ดีให้กับตัวเองได้ เรียวจันทร์จึงบินกลับมาไทยและรับงานในประเทศใกล้เคียงไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ทิ้งเมืองแห่งแฟชั่นตัวจริงอย่างมหานครนิวยอร์ก นางไปล่าฝันที่นั่นมาตั้งนาน กว่าจะผ่านมาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย
   

ในไทยอาจจะยังไม่เปิดรับนายแบบอย่างนางมากนัก เนื่องด้วยสังคมของเมืองไทยปากว่าตาขยิบ บอกว่ารับได้ แต่ถามว่าจะให้โอกาสนายแบบที่ไม่ใช่ชายจริงหญิงแท้หรือไม่นั่น ตอบได้เลยว่าให้ แต่ก็น้อยมาก เทียบกับเมืองนอกที่ไปอยู่มา ถือว่าโอกาสของนางมีมากกว่าทีนี่เยอะมาก แต่ที่กลับมาไทยเพราะมีพ่อต้องดูแล แล้วตอนนี้ก็มีแม่ที่ต้องมาดูแลด้วยนี่ไง
   

ร่างสูงโปร่งในชุดกางเกงขายาวสีดำ เสื้อโค้ตไหมพรมสีดำทรงเก๋ เดินอย่างมีพลังในทุกย่างก้าว ใบหน้าขาวผ่องเชิดขึ้นเล็กน้อยเป็นการสร้างคาแร็คเตอร์ให้กับตัวเอง ดวงตาสุกใสเหมือนกวางน้อยมองตรงไปด้านหน้าไม่มีวอกแวก เมื่อมาหยุดอยู่ตรงปลายทางของรันเวย์ก็โพสน้อยแต่พองามแล้วหมุนตัวเดินกลับไปด้านหลังเวที โดยมีนายแบบคนอื่นๆ เดินตามมาติดๆ
   

“เปลี่ยนชุดเลยนะคะ เร็วเลยค่ะ เร็วเลย!” เสียงทีมงานตะโกนบอกเหล่านายแบบนางแบบเซ็ทแรกที่เข้ามาด้านหลังเวที เรียวจันทร์เดินไปหยิบชุดมาจากราวเปลี่ยนเสื้อผ้า พอหันกลับมาก็เห็นโบว์กำลังจะเดินผ่านไป สาวอกโตเหลือบมองแล้วทำเป็นเชิดใส่ เรียวจันทร์มองอีกฝ่ายเหมือนเห็นของประหลาดตกลงมาจากท้องฟ้าก็ไม่ปาน ทำเอาโบว์ต้องถลึงตามองกลับมาน้อยๆ แต่นางไม่สนใจ หมุนตัวเดินหนีไปเปลี่ยนชุดเพื่อเดินรอบต่อไปท่ามกลางเสียงห้าวๆ ของนังสตาฟคนนั้น ซึ่งเสียงของมันกวนใจมากเหลือเกิน
   

“อ้าว เร็วหน่อย ช้าอยู่นั่นอะ มืออาชีพหน่อยได้มั้ย?!”
   

วันนี้ไม่มีเป็ดมาเป็นเพื่อน เพราะเป็ดก็มีงานประจำของตัวเอง เรียวจันทร์เลยต้องบุกเดี่ยว แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับนางเลย ช่วงที่เดินแบบในต่างประเทศก็ต้องดูแลตัวเองแบบนี้ ทีมงานต่างประเทศมืออาชีพก็จริง แต่เราก็ต้องไม่ง่อย ไม่งอมืองอเท้าให้เขามาช่วยใดๆ อะไรที่ทำเองได้ก็ทำไปก่อน คิดแล้วก็อยากจะกลับไปอเมริกาซะจริงๆ อยู่ไทยมาได้แค่สองปียังรู้สึกเบื่อประเทศนี้แล้ว แม้จะมีงานให้ทำเรื่อยๆ ก็เถอะ ถ้าในไทยนางจะรับงานเอง มีเอเจนซี่ขอนางไปดูแลมากมาย แต่นางไม่เอา เพราะยังคงรักเอเจนซี่หลักในนิวยอร์กที่หมดสัญญาแล้ว ทุกวันนี้อยู่ด้วยสัญญาใจ แล้วอีกอย่างหนึ่งเรียวจันทร์รู้ดีว่ากระแสของนางจะบูมอยู่พักหนึ่งเท่านั้นแหละ แรกๆ เอเจนซี่คงป้อนงานให้ แต่พอผ่านไปจะเริ่มถูกดอง เพราะมันต้องโยนงานให้นางแบบนายแบบชายจริงหญิงแท้ไว้ก่อน
   

“ชุดสุดท้ายแล้ว ออกมาคงไม่เจอกันแล้วนะคะน้องเรียว พี่กลับก่อนนะ” ทิฟฟี่บอกพลางเก็บของใส่กระเป๋าเก็บอุปกรณ์แต่งหน้า
   

“แล้วเจอกันค่ะพี่ทิฟ” เรียวจันทร์ยิ้มให้แล้วรีบเดินไปเตรียมตัวด้านหลังเพื่อเดินแบบในชุดสุดท้าย พอคนสุดท้ายของเซ็ทก่อนหน้าเดินกลับเข้ามา เรียวจันทร์ก็เดินออกไปในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลแก่ มีผ้าพันคอลายดอกไม้ พื้นสีน้ำตาลสลับเหลืองผืนบางคล้องคอ ใบหน้าแต่งบางเบา ทำให้เรียวจันทร์ดูอย่างกับตุ๊กตาผู้ชาย หนุ่มๆ ที่มีรสนิยมชื่นชอบหนุ่มๆ ด้วยกันจ้องมองเรียวจันทร์ที่เดินอยู่บนเวทีด้วยความสนใจกันเพียบ เรียวจันทร์หมุนตัวเดินกลับ จังหวะนั้นเองที่โบว์เดินสวนมาอีกทาง ทั้งสองคนปรายตามองกัน โบว์ยื่นเท้ามาหมายจะขัดขาให้เรียวจันทร์ล้ม แต่สกิลของหนุ่มหน้าหวานนั้นมีมากกว่า


นางเกร็งข้อเท้าแล้วออกแรงเตะข้อเท้าของอีกฝ่ายเน้นๆ หนึ่งที โบว์เสียหลักล้มคะมำเข่ากระแทกพื้นบนเวที สองมือค้ำร่างตัวเองเอาไว้ท่ามกลางเสียงฮือตกใจของผู้ชม ตอนนั้นเองที่เรียวจันทร์เดินเชิดกลับเข้าไปด้านหลังเวที ทิ้งให้โบว์ค่อยๆ ยันตัวเองลุกขึ้นด้วยความเจ็บใจ แสงแฟลชสาดวูบวาบจนหล่อนใจเสีย แต่ก็ปั้นหน้ายิ้มแล้วลุกขึ้นมาเดินต่อด้วยอาการขาสั่น ผู้ชมในห้องจัดงานปรบมือเป็นกำลังใจให้ หล่อนโพสตรงปลายรันเวย์ ปั้นยิ้มให้ดูเป็นโปรเฟสชั่นนอลสุดพลัง แม้ในใจอยากจะเข้าไปตะบันหน้านังเรียวจันทร์ตัวแสบแล้วก็ตาม
   

ฝ่ายที่เดินเชิดกลับเข้ามาหลังเวทีก็ยืนรออยู่ตรงทางออกเพื่อเดินออกไปปิดงานพร้อมกับคนอื่นๆ อีกครั้ง เรียวจันทร์เองก็อยู่ในอารมณ์หงุดหงิดเช่นกัน หงุดหงิดทั้งนังโบว์ ทั้งนังสตาฟเสียงห้าวนั่น นางยืนรอนัวโบว์เดินกลับเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัว พออีกฝ่ายเดินดุ่มเข้ามาพร้อมสีหน้าเอาเรื่องก็ยืดตัวให้ยืนขึ้นตรงกว่าเดิม
   

“แก…”
   

“…ถ้าคิดจะมาแว้ดๆ บอกว่า ฉันทำเธอขายหน้าบนเวที ขอบอกเลยว่าไม่ต้องเสียเวลาพูด เธอเริ่มก่อนนะ” เรียวจันทร์ยิ้มอ่อน หญิงสาวกำสองหมัดแน่น เรียวจันทร์เดินกระแทกไหล่อีกฝ่ายออกไปบนรันเวย์อีกครั้ง ไม่สนสีหน้าฟึดฟัดของศัตรู พอออกมาด้านหน้าก็ปั้นหน้ายิ้มแล้วเดินอย่างแข็งแรงเป็นการปิดท้าย นายแบบ นางแบบทุกคนยืนแถวคู่ ปล่อยให้เจ้าของงาน และนักแสดงตัวแม่ของเมืองไทยยืนเด่นอยู่ตรงกลาง เสียงปรบมือดังคลอกับเสียงเพลง แถวของเรียวจันทร์เดินกลับเข้าไปก่อน เมื่อมาถึงด้านหลังเวที เรียวจันทร์ก็เดินไปที่โต๊ะแต่งหน้าของตัวเอง เตรียมจะลอกคราบ แต่สักพักก็โดนกระชากไหล่ให้หันไปเผชิญหน้ากับนังนางแบบคางแหลม
   

“แกเดินชนไหล่ฉัน” เรียวจันทร์จ้องโบว์กลับตาไม่กะพริบ ตอนนี้อารมณ์นางกำลังเดือดได้ที่ นางยื่นสองมือไปผลักอกคนที่ยืนตรงข้ามกันจนอีกฝ่ายล้มลงไปกองกับพื้น ทุกคนในห้องแต่งตัวส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ
   

“แกเล่นสกปรกกับฉันก่อนแล้วยังมีหน้ามาเอาเรื่องฉันอีกเหรอ?!” เรียวจันทร์ชี้หน้าโบว์แล้วตวาดเสียงใส่ อีกฝ่ายไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่พอๆ กับเรียวจันทร์ตามเดิม
   

“แกสะอาดนักรึไง?!” เรียวจันทร์ยิ้มเหี้ยม ถลึงตามองนังหน้าแหลม
   

“ก็ไม่เคยแย่งแฟนใครอะ ด่าเขาว่าตุ๊ดอย่างนั้นอย่างนี้ แต่อยากได้แฟนเขาจนกลีบอวัยวะเพศสั่น” เสียงหัวเราะจางๆ ดังขึ้นในห้องแต่งตัว โบว์กัดฟันกรอด เงื้อมือขึ้นจะตบเรียวจันทร์
   

“นี่! อย่าบังคับให้ฉันตบเธอกลับ ฉันยังมีร่างเป็นผู้ชายอยู่ ยังไม่อยากตบผู้หญิง…” เรียวจันทร์ยื่นมือซ้ายไปดันแขนของโบกี้ลง อีกฝ่ายเอาลงตามอย่างงงๆ
   

“…แต่ถ้าฉันแต่งหญิงเมื่อไหร่ ฉันจะตบด้วย” หนุ่มหน้าหวานยักคิ้วทั้งสองข้างให้ศัตรูคู่แค้น หญิงสาวมองอย่างแค้นเคืองกลับมา
   

“อ้าวๆ ทะเลาะอะไรกัน แยกๆ งานจบแล้ว” เรียวจันทร์ทำหน้าเซ็งผสมกับเบื่อหน่าย เอี้ยวหน้าพร้อมกับเบนสายตาไปมองนังทีมงานที่ทำท่าวางมาด หงุดหงิดนังนี่มาหลายชั่วโมงละ ดี เสนอหน้าเข้ามาเองแบบนี้แหละดี
   

“นี่ก็เหมือนกัน ทำตัวเป็นตำรวจไทยในละคร เขาทะเลาะกันเสร็จไปแล้ว มีลูกตาก็ใช้มองให้มันดีๆ หน่อย” ทีมงานสาวห้าวผงะไปเมื่อเจอนายแบบหนุ่มชื่อดังเหวี่ยงกลับมา เธอทำท่าจะเถียงกลับ แต่โดนเรียวจันทร์ดักเอาไว้ก่อน
   

“จะเอาใช่มะ อยากเถียงอีกคนใช่มั้ย” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นมองแม่สาวทีมงานผมสั้นที่ทำท่าไร้มารยาทตั้งแต่เริ่มงาน สั่งงานไม่ว่า แต่ไม่มีน้ำใจในการสั่งงานเลยสักนิด
   

“ทำมาเป็นวางอำนาจ แกใหญ่โตมาจากไหนนักหนา?!” โบว์ถามเสียงแหว เรียวจันทร์เริ่มรู้สึกเบื่อแล้วก็รำคาญสถานการณ์นี้มาก นางอยู่ตรงนี้นานเกินไปแล้ว
   

“น่ารำคาญ ไม่เคยมีเรื่องเหรอ ถึงได้อยากมีจัง” สะบัดสายตามองหน้าโบว์หนึ่งทีแล้วหันไปเก็บกระเป๋าขึ้นมาเพื่อจะเดินไปเปลี่ยนชุดลำลองกลับบ้าน ไม่ใช่บ้านตัวเองนะ บ้านหนุ่มอิตาลีต่างหาก
   

“เชิดหน้าเข้าไปเถอะ วันไหนที่โดนหนี้ที่บ้านทับตายคงเชิดไม่ได้อีก” เรียวจันทร์ถอนหายใจ หมุนตัวกลับไปมองโบว์ด้วยสีหน้าเซ็งๆ เวลานี้ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง มันไม่ใช่เวลามายืนทะเลาะกัน นางจะรีบไปหาแจเร็ด นี่ก็จะเกินเวลานัดแล้วด้วย พอหันกลับไปได้เรียวจันทร์ก็ชูนิ้วกลางใส่หน้านังโบว์ด้วยใบหน้าเอือมระอา เป็นการบอกว่า กูเบื่อมึงแล้ว
   

“แล้วมันไปทับหัวเธอด้วยเหรอ” หญิงสาวแอบสะอึกไปนิด เรียวจันทร์หมุนตัวไปทางห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมกับส่ายหัวเซ็งๆ กับการที่เสียเวลาไปกับคนประเภทนั้น
   

“นังเรียวจันทร์ นังตุ๊ด!” หล่อนได้แต่สบถด้วยความโมโหตามหลัง กำลังจะหมุนตัวกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ก็เห็นหน้าทีมงานที่เข้ามาห้ามเธอพอดี เลยชักสีหน้าใส่ไปหนึ่งทีก่อนที่จะเดินกลับไปโต๊ะแต่งหน้าตัวเอง ทิ้งให้ทีมงานยืนมึนอยู่คนเดียว
   






TBC.  :katai5:


ตัวละโบว์เป็นนางร้ายที่อย่าคิดอะไรกับนางมาก คือฉันอยากจะร้าย ฉันก็ร้ายย่ะ 55555 แต่เมื่อเจอเรียวจันทร์เข้าไป นางเหมือนจะกลายเป็นนางเอกไปเลยนะ -.,-

ไม่รู้ว่ามีใครเคยอ่านนายเอกที่สาวขนาดนี้มั้ย แต่บอกตรงๆ ตอมรักเรียวจันทร์มากเลย 55555 เวลาเขียนเรื่องนางมันสุดดีอะ คืออยากใส่อะไรใส่ แต่ก็ต้องระวังพฤติกรรมบางอย่างให้นางด้วย อย่างการต่อว่าผู้หญิง ตอมก็เกรงใจคนอ่านผู้หญิงนะ กลัวว่ามันจะแรงไปมั้ย ยังไงแยกแยะนิดนึงน้อว่ามันคือนิยาย ไม่ได้มีเจตนาเหยียดเพศนะค้าาา

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ตามอ่านนิยายเรื่องนี้อยู่นะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ ดีใจที่มีคนอ่านแล้วชอบ ขอบคุณที่รักขุ่นแม่เรียวจันทร์ในแบบที่นางเป็นนะคะ

พระเอกอาจแวบมาตอนหน้า เรื่องเรียวจันทร์ไม่ซิง อยากให้มองว่า นางเป็นคนมีประสบการณ์ 555555 เจอกันตอนหน้านะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒(100%):03.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 03-12-2015 15:48:54
อุ้วววว เรียวแซ่บ ปากงี้ต้องจับจูบเท่านั้น


แล้วคุณพระเอกเราที่ชอบเรียว เพราะอยากเอาฮิม หรืออยากสานความรักคะ?


หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒(100%):03.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 03-12-2015 16:50:26
เรียวจันทร์ปากจัดดี ชอบบบบ 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒(100%):03.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 03-12-2015 17:20:10
เรียว แรงได้ใจมากครับ เหอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒(100%):03.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 03-12-2015 20:11:20



แล้วคุณพระเอกเราที่ชอบเรียว เพราะอยากเอาฮิม หรืออยากสานความรักคะ?


อันนี้ต้องติดตามต่อแน้คะ คริๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒(100%):03.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 03-12-2015 21:57:52
เเซ่บบ รอเจอพระเอก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒(100%):03.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 04-12-2015 10:52:04
 :m19: :m19: :m19: :m19: :m19: :m19: :m19:เรียวสุดยอด o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒(100%):03.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 04-12-2015 13:44:13
ชอบที่เรียวจันทร์เป้นแบบนี้นางสู้คนแต่ไม่เคยระรานใคร  โอ้ย...รักนาง...  ซิงำม่ซิงไม่ใช่ปัญหา  ไม่ซิงสิยิ่งแซ่บ 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒(100%):03.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 04-12-2015 15:57:15

น้องเรียวไม่มีธรรมดา...
หึ หึ หึ มีผู้ชายมาอีกคนแล้วเหรอนี่?
รออ่านเลยว่าเสี่ยจะมาอ้อยน้องเรียวยังไง
แต่พระเอกยังไม่มาใช่ไหมคะ?
#พ่อเขี้ยวของป้า งานล้ำค่าต้องค่อยๆออกเนอะ ^^  :pig4:

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒(100%):03.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ 05-12-2015 20:13:48
ขำ  ตรงที่คุย นิดนุง ตัวละโบว์  จะเขียนว่าตัวละครชิมิ 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒ (70%):01.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 06-12-2015 12:53:10
ชอบนาง
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/50%:06.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-12-2015 16:41:33
คาถาที่ ๓ :: Devil's negotiation. [การต่อรองของนางมาร] (50%)



   ท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยงของเมืองกรุง ร่างโปร่งบางในชุดเสื้อเชิ้ตบางเบาสีขาวตัวใหญ่กับกางเกงยีนสกินนี่สีดำรัดรูป ห้อยกระเป๋าทรงกระบอกสีเอกลักษณ์ของแบรนด์กุชชี่อันแสนจะโด่งดัง แว่นตาสีดำของทอมฟอร์ดปกป้องดวงตาคู่สวยจากแสงแดดไว้มิดชิด ผมสีโค้กสว่างไสวเมื่ออยู่กลางแดด สิ่งที่ไม่เข้ากับใครเพื่อนมากที่สุดคงจะเป็นรองเท้าไนกี้สีดำตัดขาวรุ่น AIR MAX  แต่นางแคร์สายตาใครที่ไหน ก็ถ้าสบายใจจะใส่ใครจะทำไม
   

“มาพบใครครับ” เมื่อมาถึงหน้าตึกที่ทำเป็นคลับหรูด้านล่างและด้านบนคงเป็นที่พักผ่อนก็มียามวัยรุ่นผิวคล้ำหน้าตอบโหนกสูงฟันขาวสะอาดสอบถามการมาของนาง
   

“เรียวจันทร์ มาพบคุณจอมทัพ” หนุ่มหน้าหวานบอกน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาชัดเจน ยามหนุ่มยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาโทรคุยกับภายในสักพักก่อนที่จะบอกให้นางเดินเข้าไปด้านในได้โดยที่พ่อหนุ่มหน้าตอบเป็นคนกดเปิดประตูให้
   

หนุ่มร่างบาง (แต่มีกล้ามท้องนะจ๊ะ) เดินเข้าไปด้านในที่เป็นคลับหรูอย่างที่คาดเอาไว้ไม่ผิด บาร์ใหญ่สีดำทะมึนตั้งยาวอยู่ฝั่งขวามือตอนเดินเข้าไป สุดซ้ายมือเป็นเวทีและแท่นเปิดเพลงของดีเจ ใกล้กับเวทีเป็นบาร์ไม้เล็กๆ อีกบาร์ โซนโต๊ะกลมมีเก้าอี้ถูกจัดไว้ใต้โต๊ะอย่างเป็นระเบียบ ส่วนโต๊ะโซนผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มก็สะอาดสะอ้าน เรียวจันทร์ถอดแว่นออกเก็บไว้ในกระเป๋า หันไปมองความเงียบสงบด้านในคลับ นึกสงสัยว่าคนหายไปไหนกันหมด ไม่รู้ว่าจะก้าวเท้าเดินไปทางไหนให้มันถูกที่ถูกทางเลยได้แต่เขยิบไปทางซ้ายสองที ย้อนกลับมาขวาอีกที ก่อนที่จะยกมือเกาหัวอย่างงงๆ
   



“ออฟฟิศเหรอ” นางพึมพำกับตัวเองแล้วพยายามชะเง้อมองหาห้องสำนักงานของคลับ ซึ่งไม่รู้ว่ามีหรือเปล่า เริ่มรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่มีคนให้ถามไถ่ว่าต้องทำตัวยังไง คลับก็โล่งร้างอย่างกับสุสานคนเป็น นี่ถ้ายามโดนฆ่าตายแล้วคนร้ายบุกเข้ามาปล้นก็คงได้ของไปเยอะ
   

“คุณเรียวจันทร์ใช่มั้ยครับ” ใบหน้าสวยแหงนมองชั้นสองของคลับที่เป็นระเบียงโล่งกว้าง ชายร่างสูงผิวขาวเหลืองหน้าตาพอใช้ได้คนหนึ่งชะโงกหน้ามาถาม เจ้าของชื่อพยักหน้าหงึกๆ
   

“เสี่ยรออยู่ด้านบน ขึ้นมาเลยครับ”
   

“แล้วขึ้นทางไหน คุณควรลงมารับฉันนะ ฉันเพิ่งเคยมาที่นี่ ขนาดกูเกิ้ลแมพยังบอกทางพลาด นับภาษาอะไรกับคนที่เพิ่งเคยมา” ใบหน้าได้รูปของชายผู้นั้นแสดงอาการทึ่งไปนิดหนึ่งที่โดนเรียวจันทร์พล่ามใส่ แต่ก็เก็บอาการอย่างรวดเร็ว
   

“เดินไปตรงด้านในของบาร์ใหญ่ จะเจอบันไดขึ้นมาบนนี้ครับ” ชายหนุ่มด้านบนผายมือทางซ้ายของตนซึ่งเป็นทางขวาของเรียวจันทร์ คนที่อยู่ด้านล่างเดินไปตามเส้นทางที่ฝ่ายนั้นบอก พอหลุดขอบบาร์ใหญ่ไปก็เจอซอกบันไดสีดำขนาดเดินได้ประมาณสามคนในคราวเดียวอยู่ในหลืบกำแพง เรียวจันทร์ก้าวเท้าขึ้นไปตามขั้นบันไดที่น่าจะมีประมาณสิบห้าขั้นจากการนับคร่าวๆ ระหว่างเดิน พอมายืนบนพื้นปูนชั้นสอง ขาเรียวยาวก็ก้าวเท้าไปทางซ้ายที่ชายตัวสูงรออยู่ ฝ่ายนั้นผายมือไปทางเดินแคบๆ แต่ก็ไม่ถึงขั้นบีบคนเดินตายที่มีห้องกระจกมีม่านกั้นติดกันสองฝั่ง ถ้าให้เดาคงเป็นห้องระดับวีไอพีเพราะมีอยู่แค่สี่ห้อง แบ่งเป็นฝั่งละสองห้อง แต่ห้องกว้างใหญ่มาก
   

“สักครู่นะครับ” หนุ่มจมูกโตแต่ไม่ได้โตแบบผลชมพู่เอ่ยบอกหลังจากมายืนอยู่ตรงหน้าประตูสีดำสนิทหลังหนึ่งที่อยู่หลังบาร์ทรงครึ่งวงกลม หนุ่มหน้าตาดีใช้ได้ในชุดแจ๊คเก็ตหนังสีดำ กางเกงยีนทรงผู้ชายยกมือเคาะประตูห้องนั้น แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ กลับมา เรียวจันทร์เริ่มหน้าหงิกที่ต้องรออีกแล้ว ส่วนพ่อหนุ่มแจ๊คเก็ตหนังสีดำยืนสีหน้าอึดอัดหน่อยๆ
   

“เอ่อ เชิญครับ” ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างของเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักมีลักยิ้ม หนังตาสองชั้นหลบใน ดวงตาสีดำสนิทมองสลับระหว่างเรียวจันทร์กับผู้ชายอีกคนด้วยท่าทีอายๆ แก้มขาวแดงระเรื่อ เรียวจันทร์สังเกตเห็นรอยสีแดงตรงคอขาวผ่อง เสื้อนักศึกษายับยู่ยี่ เด็กหนุ่มยกมือขึ้นเกาจมูกโด่งของตัวเอง
   

“พี่เมล เสี่ยบอกให้ไปส่งผมด้วย” เรียวจันทร์หันไปมองหน้าหนุ่มที่เพิ่งจะรู้ชื่อ อีกฝ่ายพยักหน้ารับคำบอกกล่าวของหนุ่มตัวเล็ก พ่ออีเมลเดินนำร่างเล็กกลับไปทางเดิมที่พานางมา เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปากหน่อยๆ แล้วผลักประตูเข้าไปด้านในห้อง


เมื่อพาร่างตัวเองเข้ามาด้านในก็พบกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ไหล่กว้าง แขนหนา อกแน่นจนเสื้อเชิ้ตสีขาวแทบจะปริแตก ผมทรงสั้นยุ่งหน่อยๆ มือหนากำลังจัดเสื้อเชิ้ตที่ค่อนข้างยับยู่ยี่ให้เข้าที่เข้าทาง ท่าทีของอีกฝ่ายไม่ได้เร่งรีบแต่อย่างใด เรียวจันทร์มองใบหน้าหล่อเหลาและดูแข็งแกร่งด้วยสันกรามก่อนจะอมยิ้ม อีกฝ่ายใช้ดวงตาสีนิลมองมาด้วยสายตามีแววเลิ่กลั่กนิดหน่อย 
   

“เอ่อ…” เรียวจันทร์ยกนิ้วชี้ขึ้นแตะตรงบริเวณหนวดใต้จมูกที่มีคราบขาวจุดเล็กๆ ติดอยู่ หนุ่มร่างโตยกหลังมือขึ้นปาดป่ายไปทั่วจนคราบนั้นหลุดออกจากหนวดเครา
   

“ขอโทษทีที่เข้ามาตอนคุณยังไม่เรียบร้อย” ร่างบางยิ้มแซว จอมทัพกระตุกยิ้มมุมปาก เลิกสนใจจัดสภาพตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง ไหนๆ อีกฝ่ายก็คงจะรู้แล้วว่าเขาเพิ่งทำอะไรไป เลยนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าสบายๆ ผายมือให้ผู้มาเยือนนั่งลงตรงข้าม
   

“ขอโทษนะครับที่ทำให้รอ” อื้อ… เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง เสียงนุ่มทุ้มเพราะมาก เข้ากับใบหน้าเข้มและหุ่นเหมือนนักรบไทยในตำนาน หุ่นกับหน้าตาแสนจะเข้ากับชื่อเสียงเรียงนามของเขาเหลือเกิน
   

“หงุดหงิดนิดหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับจะอาละวาดอะไร” เรียวจันทร์วางกระเป๋าลงบนพื้น นั่งไขว่ห้างด้วยท่าทีมีมาด จอมทัพมองสำรวจใบหน้าสวยหวานของอีกฝ่ายแล้วยิ้มพึงใจ
   

“คุณดูดีกว่าในนิตยสารที่ผมเคยเห็นอีกนะ” เรียวจันทร์ไหวไหล่ขวาหนึ่งที ริมฝีปากสีชมพูสดยื่นน้อยๆ คลี่ยิ้มเบาๆ
   

“ในรูปฉันก็ดูดีนะ แต่อย่างที่คุณว่า ตัวจริงดีกว่า” แล้วนางก็ยิ้มกว้างจนคนตรงข้ามยิ้มขบขัน ดวงตาคู่คมมองดวงหน้าสวยหวานด้วยความชื่นชม มือใหญ่หนาลูบเคราใต้คางไปมาเบาๆ
   

“ผมดีใจมากที่คุณมาวันนี้” เรียวจันทร์เลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้น
   

“อันที่จริงคุณควรไปหาฉันนะ ไม่ใช่ให้ฉันมาหา”
   

“แต่คุณก็มาหาผมแล้วนี่ครับ” เสี่ยจอมทัพเอ่ยบอกด้วยท่าทีนุ่มๆ ซึ่งไม่ได้ขัดกับหนวดเคราบนใบหน้าเลย เสี่ยรูปหล่อมองเรียวจันทร์อย่างนึกชมอยู่ในใจกับความกล้าที่จะเข้ามาหาเขาที่นี่ ทั้งที่ไม่เคยคุย ไม่มักคุ้น ไม่รู้จักกันมาก่อน แถมเพียงแค่เจอกันอีกฝ่ายก็ทำตัวสบายๆ ไม่อึดอัด ไม่เครียด ไม่เกร็งใดๆ
   

“ถ้ามาแล้วทำให้คุณลดหนี้ให้แม่ฉันได้ ฉันว่าก็คุ้มที่จะมา” จอมทัพกระตุกยิ้มมุมปากขวา เอาศอกทั้งสองข้างวางไว้บนโต๊ะ โน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย
   

“ผมคงไม่ลดหนี้ให้หรอก…” เรียวจันทร์บุ้ยปากไปมา



“…แต่ผมจะยกหนี้ให้แม่คุณเลย ถ้าคุณมาเป็นของผม” เสี่ยจอมทัพส่งสายตาแพรวพราวไปหาคนตรงข้าม ดวงตาสีนิลเลื่อนมองผิวขาวผ่องตรงอกที่โผล่พ้นตรงสาปเสื้อที่แหวกออก เรียวจันทร์เม้มปากนิดหนึ่ง แล้วแอ่นอกขึ้นน้อยๆ แสร้งเอามือซ้ายเกลี่ยตรงผิวเนียนขาวของตัวเองอย่างมีลีลา ทำหน้าใสซื่อเหมือนไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ จอมทัพยิ้มตาวาว รู้สึกถูกอกถูกใจกับผู้ชายคนนี้มากขึ้นไปอีก เมื่อเห็นว่าพอจะล่อเหยื่อได้บ้างแล้ว เรียวจันทร์ก็เอามือลงจากอกตัวเองด้วยท่าทีเหมือนว่าเพิ่งยกมือไปเกาอาการคันตรงอกมาเฉยๆ ไม่ได้ล่อลวงอะไรใคร
   

“ให้มาเป็นของคุณทั้งที่เมื่อกี้เพิ่งมีกิ๊ก เด็กในสังกัด หรือคู่ขาของคุณสักคนออกไปจากห้องในสภาพยับย่นเนี่ยน่ะเหรอ” เรียวจันทร์ทำปากจู๋ ใช้ดวงตาเหมือนกวางน้อยของตัวเองมองช้อนเสี่ยเข้มอย่างมีชั้นเชิง ฝ่ายเสี่ยยิ้มกริ่ม วางแขนทั้งสองข้างลงบนโต๊ะ
   

“ก็แค่ชั่วคราว ผมโสด ผมผู้ชาย ว่างๆ ก็ปลดปล่อย เด็กพวกนั้นก็เต็มใจเข้ามาหาผมเอง” จอมทัพพูดด้วยท่าทีปกติ ไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ เลื่อนสองแขนมาวางซ้อนกันไว้เพื่อค้ำร่างใหญ่ของตัวเอง
   

“แหม ก็พอจะเข้าใจอยู่ เสี่ยจอมทัพทั้งหล่อ ทั้งล่ำ ทั้งรวยขนาดนี้ ไม่สนใจได้ไง” เรียวจันทร์ยิ้มโปรยเสน่ห์ ก่อนจะกัดริมฝีปากล่างเบาๆ มองผิวเข้มคร้ามแดดของคนตัวโตอย่างเผลอไผล
   

“แล้วคุณเรียวจันทร์สนใจมั้ยล่ะครับ…” คนถูกถามยิ้มบิดปากเล็กน้อย ส่วนคนถามจ้องมองอย่างมีความหมาย
   

“…ถ้าคุณตกลง คุณจะเป็นที่หนึ่ง และเป็นคนเดียวของผม” เรียวจันทร์ทำหน้าว่า อู้ว~
   

“แล้วฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าฉันจะเป็นของคุณคนเดียวตลอดไป เราเพิ่งเจอกันครั้งแรก รู้จักกันดีขนาดไหนเชียว” จอมทัพระบายยิ้มอ่อน เลื่อนมือซ้ายไปสัมผัสมือบอบบางของเรียวจันทร์
   

“ค่อยๆ ทำความรู้จักกันไปก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอ” ดวงตาคู่คมกับดวงตาคู่ใสมองแช่กันไว้อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ฝ่ายร่างบางจะค่อยๆ ดึงมือออกแล้วยกไปปัดผมหน้าของตัวเองไปด้านขวาเบาๆ จอมทัพกัดริมฝีปากล่างแน่น ดึงมือกลับพร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้สีดำ เอาสองแขนวางเท้าไว้บนที่เท้าแขนของเก้าอี้
   

“แล้วในระหว่างทำความรู้จักกันมันก็จะมีความเสียหายเกิดขึ้นระหว่างเราแน่นอน” เรียวจันทร์กรีดยิ้มบางพร้อมกับลดมือลงวางไว้บนหน้าตัก ดวงตาคู่สวยจ้องมองดวงตาคู่คมบาดใจของคนตรงข้ามอีกครั้ง จอมทัพกรีดยิ้มถูกใจอีกรอบ รู้สึกต้องตาต้องใจจริตของคนตรงข้ามเสียจริง
   

“ไม่คิดจะให้โอกาสผมหน่อยเหรอ”
   

“แหม อยากให้อยู่นะ แต่คิดว่าคงมีเด็กหนุ่มๆ อีกมากที่อยากได้โอกาสนี้ ดีไม่ดีมีสาวๆ อีกเพียบที่อยากจะได้โอกาสนี้ร่วมด้วย” เรียวจันทร์ไม่คิดว่าคนๆ นี้จะคั่วแค่เด็กผู้ชาย ต้องมีสาวๆ เล็ดลอดมาบ้างแหละ
   

“ผมชอบผู้ชายมากกว่า” เรียวจันทร์ยักคิ้วขึ้นหนึ่งที มองจอมทัพด้วยความชื่นชมที่ค่อนข้างชัดเจนกับตัวตนของตัวเอง
   

“แต่ก็ยังชอบผู้หญิงด้วย” เสี่ยทัพยักไหล่สองข้างหนึ่งที
   

“ถ้าเกรดเอก็น่าลอง” หนุ่มหน้าหวานยิ้มกริ่ม จอมทัพเอียงหน้าไปด้านขวาเล็กน้อยแล้วยกมือลูบหนวดใต้คางไปมาพลางใช้สายตามองสำรวจเรียวจันทร์อีกครั้ง
   

ขนาดเป็นผู้ชายยังสวยและแซ่บขนาดนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าถ้าเป็นผู้หญิงคงเปรี้ยวเข็ดฝัน แต่เป็นแบบนี้แหละ เขาชอบ โดนใจที่สุด
   

“มาเข้าประเด็นที่ฉันมาคุณในวันนี้ดีกว่า” เรียวจันทร์เริ่มเรื่องที่ต้องการจะพูดคุยจริงๆ จังๆ เสียที
   


“ครับ” จอมทัพตอบรับสั้นๆ เรียวจันทร์มองหน้าอีกฝ่ายแล้วก็คิดอย่างนึกขันว่า เป็นเสี่ยที่ค่อนข้างจะใจดีมากทีเดียว แต่ก็นั่นแหละ นี่เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ที่อยู่ด้วยกัน หากได้คลุกคลีขึ้นมาจริงๆ คงอาจได้เจอช็อตเด็ดๆ อีกมากมาย
   

“แม่ฉันเป็นหนี้คุณสิบล้าน และคงมีดอกเบี้ยเพิ่มอีกบานเบอะ”
   

“ดอกเบี้ยน่ะใช่ แต่หนี้แม่คุณยี่สิบล้านนะ” เรียวจันทร์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ นึกโมโหที่โดนแม่หลอก แถมยังหลอกเกินไปกว่าครึ่ง จอมทัพพยักหน้ายืนยันอีกที หนุ่มนายแบบขบกรามเบาๆ แล้วตั้งสติพูดต่อ
   

“ฉันไม่ต้องการให้คุณยุ่งกับบ้านของฉัน มันอาจจะไม่ได้มีราคามาก แต่ขอร้องว่าอย่ายุ่งกับมัน” เรียวจันทร์จ้องตาสีนิลของจอมทัพอย่างแน่วแน่ อีกฝ่ายนั่งนิ่งรอฟังให้นางพูดต่อ
   

“ฉันคงหาเงินมาใช้ให้คุณทีเดียวไม่ได้”
   

“แล้วทำไมไม่ให้แม่คุณจัดการเองล่ะ” เรียวจันทร์นิ่งไปนิด ใบหน้าอิดโรยขึ้นมาแวบหนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
   

“ยังไงก็แม่ฉัน เขาเองก็ไม่ได้มีอะไรมาก…” จอมทัพจ้องมองดวงหน้าขาวผ่องนิ่งๆ เรียวจันทร์ถอนหายใจแผ่วๆ แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงปกติ สลัดท่าทีหมองหม่นเมื่อครู่นี้ออกไป
   

“…แม่บอกว่าคุณมีข้อเสนอ ฉันเลยมาที่นี่ ได้แต่หวังว่าจะเป็นข้อเสนอที่เราตกลงกันได้”
   

“ผมมีข้อเสนอสามข้อ ข้อแรกผมเสนอไปแล้ว และดูท่าทางคุณจะไม่สนใจ” เรียวจันทร์ยิ้มเพลียๆ
   

“เชื่อสิ ถ้าอยู่ด้วยกันนานๆ เข้า คุณก็เขี่ยฉันทิ้งเองแหละ” จอมทัพกระตุกยิ้มมุมปากนิดหนึ่ง ค่อนข้างจะไม่เห็นด้วยกับความคิดนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
   

“ข้อที่สอง หาเงินมาใช้หนี้ผมตามปกติ ดอกเบี้ยร้อยละสามสิบ ให้เวลาใช้หนี้สามเดือน ถ้าใช้ไม่หมด ผมคงต้องบังคับให้คุณขายบ้านหลังนั้นให้กับผม นี่ผมใจดีกับคุณแล้วนะ” เรียวจันทร์เบ้ปากทันที เล่นเอาจอมทัพกระตุกยิ้มขำ
   

“ใจดีมาก…” นางถอนหายใจเซ็ง ดอกเบี้ยแพงกว่าที่กฎหมายกำหนดอีก แต่จะต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าหนี้มากไปก็เกรงว่าจะไม่ได้อยู่ในฐานะที่ทำได้ แล้วอีกอย่างคนๆ นี้ก็คงไม่ได้อยู่ในกฎหมายนักหรอก


 “…แล้วข้อเสนอสุดท้ายล่ะ” จอมทัพเปิดลิ้นชัก หยิบซองเอกสารสีน้ำตาลออกมาวางไว้ตรงหน้าเรียวจันทร์ ใบหน้าสวยหวานมีแววงงปนสงสัยนิดหน่อย
   

“ไปเอาที่ดินที่เขาใหญ่ที่นึงมาให้ผมให้ได้ภายในสามเดือนเช่นกัน คุณจะทำยังไงก็ได้ แต่ต้องให้เขาเซ็นยินยอมขายที่ดินนั้นให้ผม ราคาเท่าไหร่ก็ได้ ผมยินดีจ่าย” จากใบหน้าที่กำลังงง คราวนี้เพิ่มการขมวดคิ้วงงด้วยความไม่เข้าใจไปอีกยก
   

“แล้วทำไมคุณไม่ไปเอาเอง” จอมทัพยืดตัวนั่งตรงๆ ประสานสองมือเข้าด้วยกันแล้วค้ำคางไว้
   

“เพราะผมลองแล้ว เขาไม่ยอม” เรียวจันทร์หน้าเหวอ อ้าปากหวอ พูดด้วยน้ำเสียงสูงเพี้ยน
   

“อ้าว แล้วเขาจะยอมขายให้ฉันงั้นเหรอ ขนาดคุณมีอำนาจ มีอิทธิพลยังทำไม่ได้เลย แล้วฉันที่ไม่คุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้จะไปทำได้ยังไง” ไม่เข้าใจอีตาเสี่ยคนนี้ในจุดนี้จริงๆ ส่งนางไปขอให้เจ้าของที่ดินขายที่ให้เนี่ยนะ เจ้าของคงยอมหรอกเนาะ
   

“เพราะโนเนมเนี่ยแหละ เอ่อ ผมหมายถึงโนเนมในโลกธุรกิจน่ะ...” จอมทัพรีบแก้เมื่ออีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นสูงแล้วมองเขาด้วยสายตาเป็นเชิงถามว่า ใครโนเนมไม่ทราบ?


“…มันง่ายที่จะส่งคุณเข้าไป ใครจะไปคิดว่านายแบบชื่อดังและกำลังจะเป็นนักแสดงภาพยนตร์อย่างคุณจะเข้าไปขอซื้อที่ดินกันล่ะ” จอมทัพยิ้มอย่างเอาใจ ส่วนเรียวจันทร์ทำหน้าประหลาดใจที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดเหมือนติดตามข่าวคราวของตัวเอง
   

“คุณรู้เรื่องที่ฉันกำลังจะได้แสดงหนังด้วยเหรอ…” จอมทัพพยักหน้าพร้อมกับยิ้มน้อยๆ เรียวจันทร์ยิ้มปลื้มใจ ยกมือขวาทาบอกเบาๆ ด้วยท่าปริ่มใจไม่ต่างจากใบหน้า
   

“…มันเป็นอะไรที่อเมซิ่งมากเลยนะ ฉันดีใจมากที่เขาติดต่อให้ไปแสดงหนัง เป็นประสบการณ์ใหม่มากๆ เลยแหละ ตื่นเต้นมาก มีไปเรียนการแสดงมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ได้ต่อเนื่องหรอก บทก็ดีมากเลย อ่านแล้วชอบ…” นางพูดด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว พูดไปเรื่อย พูดด้วยความตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่ในชีวิตของตัวเองที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่พอเลื่อนสายตาไปมองใบหน้าหล่อเข้มของจอมทัพที่กำลังมองด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ก็หยุดชะงักไปอย่างเริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังนอกเรื่อง เรียวจันทร์กระแอมคอแผ่วๆ แล้วยืดตัวให้ตรง
   

“…เอ่อ เรื่องที่ดิน คือคุณจะให้ทำเนียนเข้าไปหลอกล่อให้เจ้าของที่ดินขายที่ให้เงี้ยอะเหรอ”
   

“ก็อยู่ที่คุณ ทำยังไงก็ได้ให้เขายอมขายที่ให้ผม คุณจะวางแผนยังไงก็ตามใจ แต่ผมต้องได้ที่ดินตรงนั้น”
   

“แล้วถ้าทำไม่ได้อะ”
   

“ก็เลือกเอา ใช้หนี้ให้หมดภายในสามเดือนกับมาเป็นของผม แล้วผมจะยกหนี้ให้ทั้งหมด รวมทั้งจะใช้หนี้ที่บ้านคุณมีอยู่ให้ด้วย” เรียวจันทร์อ้าปากค้าง มองเสี่ยจอมทัพด้วยความอึ้ง ก็รู้ตัวอยู่นะว่าเป็นคนหน้าตาดี แต่ไม่คิดว่าจะมีคนคลั่งนางถึงขนาดนี้ แจเร็ดชิดซ้ายไปเลย ชิดแล้ว ชิดอีก ชิดจนตัวลีบแบนไปเลยมั้ง
   

“อะไรจะปานนั้นเนี่ย ฉันเซี้ยะขนาดนั้นเลยเหรอ” จอมทัพยิ้มกริ่ม
   

“ผมก็อยากลองเหมือนกันว่าคุณจะเซี๊ยะขนาดไหน ลองตอนนี้ก็ได้นะ ถ้าผมพอใจ ผมลดหนี้ให้ล้านนึง” วูบหนึ่งเรียวจันทร์ตาโตตกใจกับการลดหนี้ลงอย่างง่ายดาย แต่แค่แปบเดียวรอยยิ้มก็เปลี่ยนเป็นยิ้มยั่ว แถมยังมองคนตรงข้ามด้วยสายตาเย้ายวน
   

“ล้านเดียวเองเหรอ” จอมทัพคลี่ยิ้มมีแววเหี้ยมแผ่วๆ แล้วหัวเราะหึๆ ในลำคอ เรียวจันทร์มองด้วยสายตาเป็นประกาย
   

“ห้าล้าน” เรียวจันทร์มองด้วยสายตาเฉียบคม จอมทัพจ้องกลับมาอย่างท้าทาย ทั้งสองจ้องตากันครู่หนึ่งแล้วเรียวจันทร์ก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืน เดินไปยืนพิงขอบโต๊ะตรงหน้าจอมทัพ เสี่ยร่างใหญ่ยื่นมือมาฉุดร่างบางให้ลงไปนั่งบนตักตัวเอง เรียวจันทร์มองใบหน้าคมเข้มและแข็งแกร่งด้วยสันกรามใกล้ๆ ยิ่งมองก็รู้สึกได้ว่าเป็นผู้ชายมีอายุที่หล่อมาก แต่คาดว่าคงไม่ใช่สี่สิบเกือบห้าสิบ น่าจะอยู่ที่สามสิบกลางๆ มากกว่า ก็เดาไม่ถูกหรอกว่าจอมทัพอายุเท่าไหร่ แต่คงมากกว่าตัวเองเกือบสิบปีได้ แต่ถึงจะอายุเท่าไหร่ก็เถอะ ผู้ชายคนนี้ก็ทำให้รู้สึกเลยว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขอย่างแท้จริง
   

“แค่ใช้หนี้นะ แต่ฉันไม่เป็นของคุณ ไฟอย่างคุณต้องมีน้ำเย็นๆ มาดับ อยู่กับไฟด้วยกันไม่ได้หรอก” เรียวจันทร์ค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อหนาของอีกฝ่ายออกจนหมด แล้วแหวกเสื้อออกจนเห็นกล้ามท้องเป็นมัดๆ และอกหนาแน่น เป็นผู้ชายมีอายุที่ดูดีมากจริงๆ
   

“เดี๋ยวผมใช้น้ำส่วนตัวดับไฟอย่างคุณเอง” มือใหญ่หยาบกร้านสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบาง ลูบไล้เนื้อเนียนลื่นของเรียวจันทร์อย่างเคลิบเคลิ้ม มือบางแบะกางเกงยีนที่ยังติดกระดุมไม่สนิทออกแล้วล้วงมือซ้ายเข้าไปสัมผัสกับชายชาตรีของจอมทัพในกางเกงชั้นในที่เริ่มขยายใหญ่โตเต็มมือ
   

“ที่ทำไปแค่ใช้หนี้อย่างเดียวเหรอครับคุณเรียว” เรียวจันทร์ผ่อนลมหายใจเบาๆ ตอนที่โดนปลายนิ้วทั้งสองมือของคนตัวโตขยี้หัวนมตัวเอง
   


“น่าจะมั้ง…” ร่างบางตอบเสียงแผ่ว จอมทัพกรีดยิ้มพอใจ ดึงสองมือออกจากเสื้อ แล้วคว้าหน้าเรียวเล็กของเรียวจันทร์เข้ามาจูบแลกลิ้น คิดไม่ผิดเลยว่าเรียวจันทร์ไม่ใช่คนไร้เดียงสา อีกฝ่ายจูบตอบอย่างคล่องแคล่ว เขาถอนจูบออกแล้วพาเรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน จับคนตัวเล็กนอนลงไปบนโต๊ะทำงาน จัดการถอดกางเกงกับรองเท้าของเรียวจันทร์ทิ้งไว้บนพื้นห้อง แล้วก็ดึงกางเกงยีนกับชุดชั้นในตัวเองลงไปใต้ก้น เปิดลิ้นชักหยิบถุงยางกับเจลหล่อลื่นขึ้นมา ใช้ปากกัดห่อฟรอยด์ออก หยิบถุงยางออกมาสวมใส่ ทาเจลบนแก่นกายที่พร้อมรบ แล้วค่อยๆ สอดใส่เข้าไปในตัวเรียวจันทร์ช้าๆ
   

“ฮ่ะ! ฮ้า! อะ!” แขนเรียวของร่างบางปัดป่ายไปทั่วโต๊ะจนกวาดของหลายสิ่งลงไปบนพื้น แต่ทั้งคู่ไม่สนใจ จอมทัพเอามือค้ำตัวเองไว้ข้างเอวทั้งสองข้างของคนข้างใต้ เรียวจันทร์ใช้สองขาหนีบสะโพกหนาของจอมทัพแน่น แถมยังออกแรงบีบบั้นท้ายเพื่อให้อีกฝ่ายดันอาวุธเข้าไปลึกๆ ในตัวเองอีก
   

“ใจเย็นนะคุณเรียว” จอมทัพยิ้มหล่อ มองดวงหน้าขาวใสที่ตอนนี้แดงระเรื่อด้วยแรงอารมณ์ แค่เพียงเริ่มยังรู้สึกตื่นเต้นจะตายแล้ว
   

ปึก! “อ้า!”
   

ปึก! “อ้า!”
   

ปึก! “โอ้ว! ดี! เอาอีก!”
   

เรียวจันทร์กรีดร้องดังลั่นห้อง ปล่อยขาเรียวออกจากเอวจอมทัพแล้วอ้าออกกว้างๆ จอมทัพเร่งซอยสะโพกเข้าหาอีกฝ่ายอย่างเร็วทันทีจนคนตัวเล็กตัวเลื่อนขึ้นเลื่อนลงตามแรงกระแทก เสียงร้องใสๆ ร้องระงมไปทั่วห้อง จอมทัพกัดฟันแน่น อัดสะโพกเข้าหาคนที่นอนตาปรือไม่หยุด แถมร่างบางยังรู้จักขมิบตอดรัดเขาอีกต่างหาก เล่นเอาคำรามลอดไรฟันเป็นระยะๆ
   

“อา!” จอมทัพครางเสียงต่ำ ใช้มือซ้ายเลิกเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่ายขึ้นจนเผยให้เห็นยอดอกสีชมพูน่าลิ้มลอง เขาก้มลงไปดูดดึงเม็ดสีชมพูด้านซ้ายอย่างดูดดื่ม ทั้งดูด ทั้งเลีย เล่นเอาเรียวจันทร์แอ่นตัวจนหลังไม่ติดพื้น
   

“อ๊ะ! ข้างล่างอย่าหยุดสิ” เรียวจันทร์ร้องขอ จอมทัพเลยต้องออกแรงโยกเข้าหาแรงๆ จนโต๊ะสั่นคลอน เขาผละออกจากหน้าอกหอมกรุ่น เอามือค้ำร่างไว้ข้างเอวคอดเล็กของคนตัวขาวอีกครั้ง เสี่ยทัพสูดปากเสียวเป็นระยะ ส่วนคุณชายเรียวหอบกระเส่าอย่างเซ็กซี่
   

“หยุดก่อน” เรียวจันทร์ยกมือขึ้นดันอกแกร่งของคนผิวเข้ม จอมทัพยอมหยุดตามที่บอก คนตัวเล็กใช้ศอกดันตัวลุกขึ้นนั่งจนสิ่งที่ประสานกันอยู่หลุด นางดันให้จอมทัพถอยห่างออกไปแล้วลงไปยืนบนพื้น ก่อนที่จะจับจอมทัพนั่งลงบนขอบโต๊ะทำงาน ปีนขึ้นไปนั่งยองๆ คร่อมคนตัวใหญ่ จอมทัพช่วยจับอาวุธตัวเองดันเข้าไปด้านในของร่างบาง วินาทีที่ความใหญ่โตสีเข้มถูกดันจนมิดลำ เรียวจันทร์ก็ครางเสียงสั่นแล้วแหงนหน้าขึ้น จนจอมทัพต้องก้มลงไปดูดดมความหอมของเนื้อเนียน พอเริ่มตั้งสติได้ เรียวจันทร์ก็จับไหล่หนาแน่น ขย่มขึ้นลงอย่างมีจังหวะ
   

ปับ ปับ ปับ ปับ ปับ~
   

เสียงเนื้อกระทบกันอย่างช้าๆ แต่ว่าหนักแน่น เรียวจันทร์สบตากับจอมทัพ สายตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ที่ส่งให้กัน มันอัดแน่นไปด้วยเสน่ห์หาทางเพศ จอมทัพยื่นหน้าไปหอมแก้มนวลใสทั้งสองข้าง แล้วเอนหลังใช้สองมือค้ำร่างตัวเอง นั่งมองคนหน้าหวานขย่มตัวตนของตัวเองอย่างเพลิดเพลิน มองหน้าเรียวจันทร์แล้วยิ้มออกมาเป็นระยะๆ รู้สึกพอใจ รู้สึกตื่นเต้น และรู้สึกอิ่มใจที่ได้เสพสุขจากเรียวจันทร์ คนที่เฝ้าฝันว่าอยากลิ้มลองสักครั้ง เคยคิดว่าถ้าได้ลองคงจะติดใจมากแน่ๆ และรู้เลยว่าที่ผ่านมาเขาคิดไม่ผิดจริงๆ
   

“สวยมาก เด็ดมาก ไม่สนใจเป็นเมียผมจริงๆ เหรอ” มือซ้ายของจอมทัพเลื่อนไปรูดรั้งแก่นกายของเรียวจันทร์จนมันแข็งเต็มมือ
   

“ฮ่ะ… ฮ่ะ… สนุกแค่นี้… อะ… ก็ดีแล้ว… อื้ม…ไม่ใช่เหรอ” ร่างบางพูดด้วยเสียงกระท่อนกระแท่น เพราะออกแรงขย่มไปด้วย ไหนจะโดนชักขึ้นชักลงตรงกลางลำตัวอีก ความเสียวปะทะกันทั้งสองด้าน แต่ในที่สุดด้านหน้าก็ต้านไม่ไหว พ่นน้ำข้นขุ่นออกมาเลอะกล้ามท้องอันหนาแน่นจองจอมทัพ
   

“อย่าเพิ่งหยุดนะ ผมจะแตกแล้ว” จอมทัพร้องบอกเสียงหอบ เรียวจันทร์ออกแรงขย่มหนักขึ้น สลับกับหยุดหมุนวนแก่นกายของอีกฝ่าย เล่นเอาคนตัวตัวเสียงวูบตรงท้องน้อย เสี่ยทัพร้องอื้ออ้าเสียงดัง
   

“โอ้ยเหี้ย!” จอมทัพสบถเสียงต่ำในจังหวะที่ลูกชายพ่นน้ำออกมาเต็มถุงยาง เรียวจันทร์จับไหล่เขาไว้แน่น นั่งหอบนิ่งๆ อยู่บนตักเขาทั้งที่ยังมีอาวุธของเขาค้างคาอยู่ด้านใน
   

“เป็นเมียผมเถอะน่า” จอมทัพยิ้มแล้วเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม เรียวจันทร์ยิ้มอ่อนเพลีย ลุกออกจากตักอีกฝ่าย ลงไปนั่งบนเก้าอี้หนังสีดำตัวใหญ่ ค่อยๆ ไถลตัวลงจนหลังลงไปนอนบนพื้นนั่งเก้าอี้ ยกแยกขากว้างออก ส่งสายตาเชิญชวนให้จอมทัพ
   

“ลดให้ตั้งห้าล้าน รอบเดียวคงไม่พอ” จอมทัพคลี่ยิ้ม ชอบใจเป็นอย่างมาก เขาถูกใจคนๆ นี้ซะจริง ร่างสูงลุกขึ้นยืน ถอดถุงยางอันเก่าออกแล้วกำลังจะทิ้งลงถังขยะ แต่เรียวจันทร์ยื่นมือมาเป็นเชิงว่าขอ เขาเลยยื่นให้ไป อีกฝ่ายบีบส่วนหัวถุงยางไล่ให้น้ำข้นๆ ไหลออกมาหยาดเยิ้มบนลูกกลมๆ สีเนื้อละเอียดสองลูกของตัวเอง พอบีบจนน้ำหมด ก็โยนลงถังขยะ แล้วใช้มือขวาลูบไล้น้ำข้นๆ ไปตรงบริเวณช่องทางด้านหลัง ใช้นิ้วกลางดันเข้าดันออก ช้อนสายตามองจอมทัพอย่างยั่วยวน
   

“พร้อมนำทัพอีกรอบเมื่อไหร่ ก็บุกเข้ามาได้เลยนะเสี่ย” ร่างหนาผิวเข้มตาลุกวาว หันไปเปิดลิ้นชัก หยิบถุงยางออกมาอีกอันแล้วชูขึ้น
   

“เดินขาถ่างกลับบ้าน อย่าโทษเสี่ยนะหนู” แล้วยกที่สองก็เริ่มขึ้นอย่างเร่าร้อนและร้อนแรงไม่แพ้รอบแรก เสียงคราง เสียงร้องดังลั่นไปทั่วห้อง


   



TBC.

แอร๊ยยย ฟาดผู้ชายอีกล้าววว 55555 ทำไมถึงแรดแบบนี้คะขุ่นแม่เรียววว พี่เขี้ยวต้องเป็นลมแน่ๆ ถ้ารู้ว่าเป็นคนแบบนี้ ! แล้วสงสารแจเร็ดมั้ย ตอบบบ

ถ้าพี่เขี้ยวมาแบบใสซื่อสะอาดแบบหนุ่มบ้านไร่ โอ๊ย อีแม่ใจ่บ่อดี๊เลยก้าาา

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากค่ะที่แวะเวียนเข้ามาอ่านเรื่องนี้กัน ขอบคุณที่รักเรียวจันทร์ในแบบที่เขาเป็น ปริ่มใจ นิยายวายเรื่องนี้ สาววายที่อ่านอาจต้องมีเลเวลความสตรองทางจิตใจมากหน่อยเนาะ 55555

เจอกันค่าาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/50%:06.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 06-12-2015 17:38:07
โหวววว

เรียวจันทร์ถีบแจเร็ดตกขอบไปซะแล้ว

เสี่ยแซ่บจริงไรจริง ยอมตกเป็นทาสรักเรียวเถอะค่ะ xD
.
ปอลอ ที่ดินนั่นของใครหว่า??
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/50%:06.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 06-12-2015 18:05:19
นางแซ่บจริงๆ อ่านนี่ใจเต้น 555+  :hao7: สนุกมากจ้า มาต่อเร็วๆน๊า
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/50%:06.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 06-12-2015 19:50:59
เรียวนางงาบผู้ชาย เปลี่ยนผู้ชายในทถกตอนที่นางมาเลยอ่ะ นางแซ่บเว่อร์ 5555

เรารับได้ที่นายเอกจะแซ่บแบบนี้ เพร่ะนางยังถือสถานะภาพโสดไง แต่ถ้านางคบใครแล้วทำตัวแบบนี้เราคงนอย แต่ตอนนี้ยังโสดเพราะงั้นจัดโล้ด 555


เรียวรีบจัดหนักจัดเต็มก่อนไปเนอพี่เขี้ยวเลย ท่าทางพี่เขี้ยวจะได้ยาก น่าจะเกือบๆลงแดง 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/50%:06.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ 06-12-2015 22:30:23
อีกคน คงเป็นเจ้าของที่ดิน  ดีไม่ดีมีคนเพิ่มม  55555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/50%:06.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 07-12-2015 00:15:05
ขอยกให้เรียว เป็นไอดอลขอรับ  :call:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/50%:06.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 07-12-2015 02:50:22
ถึงใจมากกก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/50%:06.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-12-2015 03:43:23
แรงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/50%:06.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 07-12-2015 08:59:31
คนนี้แซ่บกว่าแจเร็ดอีกกก  :hao6:

เรียวจันทร์ฟาดเรียบ
พระเอกเราคงไม่ใสซื่อบ้านนาจริงๆนา ถ้าเป็นอย่างนั้นจะเอาหนูเรียวอยู่มั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/50%:06.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 07-12-2015 09:49:53
พี่เขี้ยวจะเป็นหนุ่มบ้านไร่จริงหรอ? ดูคุณจอมทัพเขาเอาจริงนา
พี่พระเอกจะสู้ได้หรอออ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/50%:06.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 08-12-2015 09:50:23
นางแร๊ง... ถ้าเสี่ยไม่นี่คิดว่าต่อให้ลดให้สิบห้าล้านนางก็ไม่น่าจะเอา5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/50%:06.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 08-12-2015 11:26:31
อู้วววว ทำไมแรดได้ขนาดนี้คะขุ่นแม่
เชื่อว่าพอๆกับนังวิคเตอร์กันเลยทีเดียว 555

ติดตามขุ่นเจ้อยู่นะค้าา +1
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/100%:10.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 10-12-2015 18:11:56

คาถาที่ ๓ [100%]




เสียงหอบหายใจของผู้ชายสองคนดังระงมไปทั่วห้องหลังเสร็จกิจรอบที่ห้าของวันนี้ เป็นเรียวจันทร์เองที่เสนอให้ เนื่องจากถือว่าห้าล้านคือห้ารอบ แล้วก็เป็นนางเองที่ตอนนี้นอนคว่ำหมดแรงอยู่บนโซฟาตัวใหญ่สีดำในห้อง โดยมีร่างใหญ่หนาของจอมทัพนอนทับอยู่ด้านบนอีกที คนตัวโตใช้จมูกสูดดมกลิ่นหอมตรงหลังคออุ่นๆ ของคนตัวเล็ก แขนขวาเรียวจันทร์ห้อยตกลงจากโซฟา แขนซ้ายพาดอยู่บนขอบกั้นโซฟาอย่างปวกเปียก จอมทัพถอนอาวุธออกจากตัวเรียวจันทร์ ดึงถุงยางที่เต็มไปด้วยน้ำรักออกจากความเป็นชายแล้วโยนลงถังขยะข้างโซฟา
   

“ลุกออกไปหน่อยได้มั้ย คุณตัวพอๆ กับช้างเลย” เรียวจันทร์บอกเสียงอ้อแอ้ ค่อยๆ ปรับลมหายใจของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง จอมทัพลุกขึ้นนั่งแล้วดึงให้เรียวจันทร์ขึ้นมานั่งตักตัวเอง น้ำในตัวของเรียวจันทร์กระจัดกระจายเต็มโซฟา
   

“นั่งเองได้น่า” นายแบบหนุ่มกระเถิบลงไปนั่งข้างๆ คนตัวใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ห่างมาก เพราะโดนแขนหนาเกี่ยวเอวไว้ จอมทัพก้มลงจูบริมฝีปากสีชมพูสดหนึ่งทีแล้วยิ้มด้วยความรู้สึกชื่นมื่น
   

“ค้างกับผมเถอะ” คนถูกชวนส่ายหัวด้วยสีหน้าอ่อนเพลีย หันรีหันขวางมองหานาฬิกา ก็เห็นว่าติดอยู่บนผนังฝั่งตรงข้ามที่เขานั่งอยู่
   


“โห จะสามทุ่มแล้วเหรอเนี่ย” มาตั้งแต่ช่วงบ่าย รู้ตัวอีกทีทำไมเวลาถึงได้ผ่านไปเร็วจนน่าตกใจ มัวแต่สนุกจนลืมมองเวลา อีกอย่างในห้องไม่ได้เปิดม่านไว้แล้วไฟก็เปิดตลอดเวลาเลยไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว
   


“ถึงได้บอกไงว่าค้างกับผมเถอะ” จอมทัพหอมแก้มนวลข้างขวาไปหนึ่งที เรียวจันทร์หันไปยิ้มเพลียใจให้กับความเจ้าชู้ของอีกฝ่าย คือเสี่ยแกก็ไม่ได้เจ้าชู้อะไรมากหรอก แค่ชั่วโมงบินสูงมากจริงๆ
   

“ไม่เอาละ ฉันมีนัดกับเพื่อนต่อตอนสี่ทุ่ม” เพื่อนที่ไหนกันล่ะ แจเร็ดต่างหาก วันนี้จะไปนอนกับอีกฝ่าย แล้วพรุ่งนี้จะไปส่งหนุ่มอิตาลีกลับเมืองโรมิโอแอนด์จูเลียต เสี่ยจอมทัพมองหน้าเรียวจันทร์ด้วยความเสียดาย ก่อนจะถอนหายใจออกมา
   

“ถ้าผมคิดถึง ผมไปหาคุณได้มั้ย”
   

“ลดไปห้าล้านแล้ว ถ้าได้กันอีกสิบห้าครั้ง หนี้หมดแล้วนะ” เรียวจันทร์ยิ้มแซว จอมทัพยิ้มกริ่ม ยื่นหน้าไปจูบขมับอีกฝ่ายหนึ่งที
   

“แบบนั้นคุณก็มาเป็นเมียเสี่ยจอมทัพดีกว่า” หนุ่มหน้าหวานย่นหน้าแล้วส่ายหัว ถ้าไม่ติดว่าผู้ชายคนนี้ชั่วโมงบินสูงจนน่าหวั่นใจละก็ อาจจะมาเป็นนะ แต่อันนี้แค่สนุกด้วยกัน แถมหนี้ยังลดลงอีก ก็เลยไม่ปฏิเสธ
   

“ช่วงพักยกก็บอกคุณแล้วไง ถ้าให้เป็นมากกว่านี้ ฉันขอบาย ผู้ชายอย่างคุณน่ะไว้ใจยาก” แถมดูท่าทางจะขี้เบื่อง่ายอีกต่างหาก
   

“คุณก็ให้โอกาสผมพิสูจน์ตัวเองสิ” เรียวจันทร์ถอนหายใจเบาๆ บิดตัวเข้าหาอีกฝ่าย ใช้มือซ้ายไปลูบไล้กล้ามท้องสีเข้มของจอมทัพ ดวงตาคู่สวยก็มองอ้อน
   

“เชื่อสิ เราไม่เหมาะจะจริงจังกันหรอก” เรียวจันทร์ยื่นหน้าไปจูบสันกรามของผู้ชายร่างโต เสี่ยทัพได้แต่ถอนหายใจปลงๆ
   

“ผมยังไม่อยากยอมแพ้หรอกนะ เอาเป็นว่าทำตามที่คุณต้องการก่อนแล้วกัน ไปเอาที่ดินตรงนั้นมาให้ได้…” เรียวจันทร์พยักหน้ายิ้มกริ่ม มือซ้ายบีบๆ รูดๆ ความเป็นชายของเสี่ยเล่นไปเรื่อย
   

“…อย่างที่ผมบอกไปตอนช่วงเบรก คุณเตรียมตัวไว้แล้วกัน” คนฟังพยักหน้าอีกครั้ง นางตอบตกลงจะไปเอาที่ดินตรงนั้นมาให้เสี่ยจอมทัพ เพราะคิดว่ามันคือทางออกที่ไม่ยากเย็น จอมทัพให้เหตุผลว่าส่งคนไปมากมาย แต่โดนปฏิเสธกลับมาหมด เลยคิดว่าคงต้องส่งคนที่อีกฝ่ายไม่คาดคิดว่าจะมาสนใจเรื่องที่ดิน
   

“ผมเชื่อว่าคุณทำได้ ใช้เสน่ห์ของคุณให้เป็นประโยชน์” ลูกชายของเสี่ยทัพเริ่มจะกลับมาตั้งตระหง่านอีกครั้งเพราะโดนเรียวจันทร์จับๆ คลำๆ มันอาจจะไม่ตั้งง่ายขนาดนี้หรอกถ้าคนที่บีบๆ จับๆ ลูกเขาอยู่ไม่ใช่คนที่เขาอยากฟัดมานานแล้ว
   

“แหม ให้ไปเป็นเมียไอ้เจ้าของที่ดินเลยมั้ยล่ะ แล้วก็ให้เขาทำพินัยกรรมมรดกยกที่ดินให้” จอมทัพยกมือขวามาลูบเคราใต้คางอย่างครุ่นคิด
   

“ก็ไม่แน่นะ อาจจะฟังดูไร้สาระ แต่ก็เป็นไปได้…” เขาลดมือขวาลงไปวางข้างตัว มองหน้าเรียวจันทร์อย่างเทิดทูน แต่อาจจะยังไม่ถึงขั้นบูชา
   

“…ใครได้คุณเป็นเมีย คงถวายให้ทุกอย่าง ขนาดผมยังอยากถวายให้หมดเลย” เรียวจันทร์กะพริบตาปริบๆ หัวใจพองโต รู้สึกเหมือนเป็นคนที่สวยที่สุดในโลกอย่างไรอย่างนั้น แต่นี่แหละเป็นกับดักอันร้ายกาจของตาเสี่ยจอมทัพ ปากหวาน ไม่รู้ว่าก้นจะเปรี้ยวรึเปล่า ก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ เพราะไม่ได้ชิม
   

“ไม่แปลกใจเลยที่เด็กๆ จะเข้าหาคุณ หยอดเก่งจริงนะ” หนุ่มหน้าหวานแกล้งบีบรัดทัพน้อยจนทัพใหญ่ถึงกับส่งเสียงซี๊ดออกมา
   

“คุณลองอ่านประวัติของไอ้คมเขี้ยวเจ้าของไร่ก่อนก็ได้นะ” เรียวจันทร์รู้สึกสะดุดหูกับชื่อเจ้าของไร่มาก นางขมวดคิ้วแล้วยิ้มงงๆ
   

“ชื่อแปลกดี” จอมทัพพยักหน้า รู้สึกปวดหนึบตรงนั้น แต่เรียวจันทร์ก็ยังคงบีบๆ คลำๆ ต่อไป
   

“ในซองมีประวัติคร่าวๆ ของมันอยู่ ลองอ่านดู จะได้เตรียมตัวถูก” ร่างบางขมวดคิ้ว รู้สึกนึกประหลาดใจอยู่ในใจตนเอง
   

“มันต้องขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมถึงอยากได้ที่ดินตรงนั้นจัง” จอมทัพยกยิ้มมุมปาก แวบหนึ่งเรียวจันทร์เห็นแววตาเหี้ยมเกรี้ยมของอีกฝ่าย   
   

“เพราะว่าผมอยากได้น่ะสิ”
   

“อ้อ เพราะความอยากล้วนๆ สินะ” เรียวจันทร์ยักคิ้วหนึ่งที พยักหน้าหงึกหงักอืมๆ ไม่คิดถามต่อ เพราะถ้าตอบมาแบบนี้ก็ไม่ได้มีเหตุผลยิ่งใหญ่อะไรมากมาย นอกจากอยากได้มากจริงๆ
   


“เหมือนที่อยากได้คุณนั่นแหละ” จอมทัพจ้องเรียวจันทร์ด้วยสายตาคมกล้า เปลือกตาไม่ขยับ จนเรียวจันทร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ปั้นยิ้มแกนๆ ออกมา มือซ้ายที่บีบคลำจับรูดความยาวใหญ่โตของอีกฝ่ายอยู่คลายออก ปล่อยให้มันแข็งแนบไปกับกล้ามท้องของจอมทัพ
   

“ฉันกลับก่อนดีกว่า”
   

“ทำลูกผมตั้งแล้วก็จะหนีกลับเนี่ยนะ” เรียวจันทร์ยิ้มยั่ว ขยิบตาซ้ายให้หนึ่งวิ้ง ยื่นหน้าไปจุ๊บริมฝีปากสีชมพูคล้ำของคนตัวโต
   

“จะได้ไม่ลืมฉันไง” ร่างบางลุกขึ้นยืนไปหยิบกางเกงมาสวมใส่ คนตัวโตนั่งมองแล้วยิ้มอารมณ์ดี กัดริมฝีปากล่าง ไล่สายตาสำรวจร่างกายขาวผ่องของคนตัวเล็ก เอาศอกซ้ายยันพนักพิงโซฟาไว้แล้วใช้มือลูบหนวดใต้คางเบาๆ


รูปลักษณ์ ลักษณะนิสัยเหมาะที่จะมาอยู่ข้างเขาซะเหลือเกิน


“ถ้ามีอะไรสงสัยจะโทรหาแล้วกัน” เรียวจันทร์พูดพลางจัดเสื้อเชิ้ตที่ยับยู่ยี่ให้เข้าที่เข้าทาง เอื้อมมือไปหยิบซองเอกสารขึ้นมาจากบนโต๊ะ ก้มลงหยิบกระเป๋าขึ้นมาคล้องไหล่


“นอกเวลาสงสัยก็โทรหาผมได้” จอมทัพยิ้มเจ้าชู้ เรียวจันทร์ยิ้มบางตอบกลับไป ก้าวเท้าเตรียมตัวเดินออกจากห้องทำงานของจอมทัพ


“อ้อ มีอะไรจะบอกอย่างนึง” เรียวจันทร์หยุดเดินแล้วหันไปเลิกคิ้วมองอีกฝ่ายที่ยิ้มทะเล้นน้อยๆ


“อะไรเหรอ”


“แม่คุณติดหนี้ผมแค่สิบล้านนั่นแหละ” คนที่ยืนอยู่ทำหน้างงๆ ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ในตอนแรก แต่พอได้สติคิดตามก็เบิกตากว้างมองไอ้คนตัวโตผิวเข้มที่นั่งอ้าซ่าโชว์ร่างกายเปลือยเปล่าอยู่บนโซฟา


“ไอ้เสี่ย!!” เรียวจันทร์ตะวาดแว้ด จอมทัพหัวเราะเสียงทุ้ม ยักคิ้วซ้ายหนึ่งที หน้าหวานของเรียวจันทร์ทั้งโกรธ ทั้งแค้น ทั้งเคือง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ก็ให้ไปแล้วอะ! โหย!


“สรุปหนี้ไม่ได้ลดลงเลยเหรอ?!” จอมทัพส่ายหัวกลับมาหน้าตาย รอยยิ้มหยันน้อยๆ ปรากฏบนใบหน้าเข้มๆ


“เอาน่า จะรีบใช้หนี้ไปทำไม อยู่เป็นลูกหนี้ของผมไปนานๆ แบบนี้แหละ ผมชอบ” เรียวจันทร์กำหมัดแน่น ได้แต่แยกเขี้ยวใส่อีกฝ่ายด้วยโมโห


“งั้นห้ามคิดดอกเบี้ย!”


“งั้นคุณก็ต้องมานอนกับผมตามที่ผมต้องการ” มุมปากทั้งสองข้างของคนตัวโตยกขึ้นเป็นรอยยิ้มมาดร้าย ทำสีหน้าว่าไม่แคร์แล้วยักไหล่สองข้างหนึ่งที เรียวจันทร์ถลึงตามองไอ้เสี่ยจอมโกหก


“ก็ได้! ดอกเบี้ยตามเดิม ไม่มีเพิ่มเติม แต่ห้ามยุ่งกับบ้านฉันนะ!” จอมทัพลุกขึ้นยืน เดินเปลือยเข้ามากอดเอวบางของเรียวจันทร์ เจ้าตัวทำสะดีดสะดิ้งเล็กน้อยให้ดูไม่ยอม แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ขัดขืนนักหนาหรอก นางไม่ใช่คนบื้อ เสียตัวให้เขาแล้วยังทำดัดจริตบิดตัวหนี มันไม่สมเหตุสมผลมะ ?!


“ไม่ยุ่งกับบ้านคุณ แต่ห้ามสั่งผมเลิกยุ่งกับคุณนะ โอเคมั้ย” เรียวจันทร์ถอนหายใจ กลอกตาไปหนึ่งที


“นี่ฉันกำลังขายตัวให้คุณอยู่รึเปล่าเนี่ย” คนตัวโตกว่าก้มลงหอมหน้าผากมน แล้วยิ้มหล่อคล้ายว่าจะล่อใจ 


“ไม่น่า ผมไม่ได้ให้เงินคุณสักบาท แต่ถ้าอยากได้อะไรบอกแล้วกัน เดี๋ยวซื้อให้” นี่หลงถึงขั้นไหนกันถึงจะยอมซื้อนั่นซื้อนี่ให้


ก็แบบนี้แหละนะ ช่วงแรกๆ ก็หลงจนไม่อยากจะโงหัวขึ้นมามองเดือนมองตะวันหรอก


“อ้อ ฉันมีสิทธิปฏิเสธมาพบคุณนะ ถึงจะเป็นลูกหนี้ แต่เจ้าหนี้ก็ไม่มีสิทธิบังคับ เชื่อว่าคุณแฟร์มากพอนะคุณจอมทัพ อย่าทำลายความเชื่อของฉันทิ้งซะล่ะ” เรียวจันทร์ช้อนตามองดวงตาสีนิลคล้ายจะมีแววขู่นิดๆ จอมทัพกระตุกยิ้มนุ่มๆ ที่มุมปากซ้ายหนึ่งที


“เสี่ยจอมทัพไม่ใช่คนแฟร์เท่าไหร่ด้วยสิ ยิ่งอะไรที่เป็นผลประโยชน์กับตัวเองก็ยิ่งอยากตักตวง” เรียวจันทร์ยกมือซ้ายทุบอกหนาแข็งแกร่งของอีกฝ่ายไปหนึ่งที เล่นเอาเสี่ยจอมทัพทำหน้าจุกไปนิด


“เด็กคุณก็ตั้งเยอะ เรียกมาสักคนสิ ไม่ใช่มาเรียกแต่ฉัน!” ทำอย่างกับตัวเองอดอยากปากแห้งลำบากในการหาใครสักคนมาช่วยปลอดปล่อยอย่างนั้นแหละ


“แต่ผมติดใจเด็กคนนี้” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วมองใบหน้าเปื้อนยิ้มเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย  ก็ดีอยู่หรอกนะมีคนคลั่งรักขนาดนี้ แต่นางเอาแค่สนุกๆ ไง


“กลับก่อนดีกว่า ป่านนี้ลูกค้าคุณเข้ามาเต็มร้านแล้วมั้ง” เลือกที่จะตัดบทสนทนา เพราะถ้ายังพากันเถียงไปมา คาดว่าคงจบลงที่โดนเอาอีกรอบแน่ เพราะจอมทัพน้อยพร้อมออกรบมาก แนบหน้าท้องนางอยู่นี่ไง


“เดี๋ยวผมลงไปส่ง” ร่างใหญ่ผละออกจากร่างเล็ก หันไปหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายขึ้นมาสวมใส่บนร่างกายเปลือยเปล่า


“ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวลงไปเอง”


“ผมจะพาคุณออกทางด้านหลัง จะได้ไม่ต้องเดินผ่านไอ้พวกเฒ่าหัวงู” ว่าไปก็ดึงกางเกงยีนขึ้นแล้วติดกระดุมให้เรียบร้อย ลูกชายของเขาค่อยๆ สงบลงแต่ยังคงดุนดันเป้ากางเกงจนมันตุงอยู่บ้าง


“คุณไม่เฒ่าเลยงั้นสิ” จอมทัพยิ้มกว้างขบขันพลางติดกระดุมเสื้อเชิ้ตจนหมด เดินเข้ามามาแตะเอวเรียวจันทร์แล้วพาเดินออกจากห้องทำงานเพื่อไปส่งว่าที่เมียที่เขาหมายตาเอาไว้ให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย




เรียวจันทร์มาถึงคอนโดแจเร็ดในตอนสี่ทุ่มครึ่ง ถือถุงอาหารสำหรับทานกันสองคนขึ้นลิฟต์มาด้วย ไม่ได้ซื้ออะไรมาเยอะแยะ ก็แค่อาหารง่ายๆ สำหรับทานมื้อดึกกับมื้อก่อนไปสนามบินวันพรุ่งนี้ ไม่ได้มีคนไปส่งแจเร็ดมากมาย ก็แค่นางกับเพื่อนๆ แก๊งค์แจเร็ดเท่านั้น


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


มือบางข้างที่ถือของน้อยกว่ายกขึ้นเคาะประตูห้อง รอไม่นานใบหน้าหล่อเหลาของแจเร็ดก็โผล่มาพร้อมรอยยิ้มจริงใจจนหัวใจของเรียวจันทร์กระตุกวูบแปลกๆ แต่ก็กลบเกลื่อนด้วยการปั้นยิ้มขึ้นมาอย่างเร็ว


“เฮ้ ไอซื้อของกินมาฝากด้วย” ชูถุงอาหารในสองมือขึ้นโชว์อีกฝ่าย


“แจ๋ว เก็บของทั้งวัน ยังไม่ได้กินอะไรเลยสักนิด” เรียวจันทร์เดินผ่านเจ้าของห้องเข้าไปด้านใน เลี้ยวเข้าครัวด้านซ้ายมือเพื่อจัดแจงอาหารใส่ถ้วย ใส่จาน ให้เรียบร้อย ของในครัวไม่ได้ถูกเก็บไปด้วย แจเร็ดถึงขั้นทิ้งห้องไว้ให้นางใช้ด้วยซ้ำ ข้าวของที่เก็บไปส่วนใหญ่ก็เป็นเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นต่อหนุ่มอิตาลีมากกว่า


“เก็บของใกล้เสร็จหรือยัง” ถามไปพลางเทอาหารใส่ถ้วย ใส่จานไปด้วย


“เกือบแล้วละ จริงๆ ของไม่เยอะ ไออ้อยอิ่งเองแหละ” เรียวจันทร์หันไปมองรอยยิ้มน่ารักๆ ของอีกฝ่ายแล้วก็ยิ้มตาม


“ให้ช่วยมั้ย”


“ไม่ต้องหรอก แค่ยูมาไอก็ดีใจแล้ว” แจเร็ดมายืนซ้อนหลังร่างบางแล้วก้มลงหอมแก้มไปหนึ่งฟอด เรียวจันทร์เม้มปาก แววตามีแววรู้สึกผิดแวบไปแวบมา หัวใจเต้นจังหวะแผ่วเบา แต่กระนั้นก็ยังพยายามยิ้ม


“ไอซื้อไวน์แดงมาด้วย ดื่มสักแก้วมั้ย” หันไปถามคนที่ยืนซ้อนร่างตัวเองอยู่ด้านหลัง ทำให้ปลายจมูกสัมผัสกับแก้มเนียนของอีกฝ่าย


“เอาสิ” เรียวจันทร์ยกยิ้มอ่อน จัดการหยิบขวดไวน์สีดำออกมาจากถังน้ำแข็งที่เตรียมมาพร้อม หยิบแก้วสำหรับดื่มไวน์ในครัวออกมาหนึ่งใบ แล้วเทให้แจเร็ดหนึ่งแก้ว


“ไอไปเก็บของก่อนนะ เสร็จแล้วเดี๋ยวมาอยู่เป็นเพื่อน” เรียวจันทร์ยิ้มมุมปาก พยักหน้าให้กับท่าทีกระตือรือร้นของนายแบบตัวหนา ไม่ถึงกับน้ำตาจะไหลออกมา แต่มันเป็นความรู้สึกจุกที่อก


นางกับแจเร็ดไม่ใช่แฟนกัน ต่างยังมีสิทธิที่จะมีพื้นที่ส่วนตัว เพียงแต่เรียวจันทร์รู้สึกเศร้าใจกับความรัก ความจริงใจที่อีกฝ่ายมอบให้ ไม่อยากให้แจเร็ดให้มามากมาย เพราะผู้ชายอย่างแจเร็ด ดีเกินกว่าที่จะมอบสิ่งมีค่าให้กับคนอย่างนาง ร่างบางถอนหายใจพร้อมหน้าตาครุ่นคิดที่คิดมาก แต่ไม่นานก็สะบัดหัวหนึ่งทีไล่ความคิดต่างๆ ออกไป หันไปจัดการเทอาหารใส่ถ้วยกับจานจนเสร็จเรียบร้อย ยกทุกอย่างไปไว้ที่โต๊ะทานอาหาร ระหว่างที่รอแจเร็ดเก็บของ ก็หยิบซองเอกสารจากจอมทัพขึ้นมาอ่านไปพลางๆ


“คมเขี้ยว พยัคฆ์เกรียงไกร…” ริมฝีปากสีชมพูสดพึมพำเสียงแผ่วเบา ไล่สายตาอ่านประวัติคร่าวๆ ของชายหนุ่มที่ยังไม่ได้เห็นหน้า ในประวัติที่จอมทัพให้มาไม่ได้ละเอียดลออถึงขั้นว่า ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร หรือมีนิสัยแบบไหน เวลาว่างทำอะไร บอกแค่ชื่อพ่อ ชื่อแม่ วันเดือนปีเกิด แล้วก็หน้าที่การงาน แจกแจงกิจการทั้งหลายที่ชายหนุ่มผู้นี้ครอบครองอยู่ เรียวจันทร์ได้แต่ส่งเสียงอู้หูเมื่อพบว่าพ่อคมเขี้ยวนั้นร่ำรวยไม่ใช่เล่น แบบว่าพี่แกไม่ได้มาเล่นๆ พี่แกมาเพื่อชนะได้เลยทีเดียว


“กรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดินติดอุทยานแห่งชาติจำนวนหกหมื่นไร่ อื้อหือ…” คงจะเป็นที่ตรงนี้หรือเปล่าที่จอมทัพต้องการเหลือเกิน มันสวยงามขนาดไหนกันเชียว ถึงต้องส่งคนเข้าไปกลมกลืนกับคนพวกนั้น


“เจ้าของฟาร์มม้า วัว แพะ แกะ โอ้ย เลี้ยงกี่ชนิดกันเนี่ย เปิดสวนสัตว์หรือเปล่า” อ่านข้อมูลไปก็บ่นงึมงำกับตัวเองไป พลิกอ่านกระดาษเอสี่สี่ห้าแผ่นอย่างเชื่องช้า ส่วนมากมีแต่ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจแล้วก็ที่ดินของหมอนี่ แล้วก็แผนที่ของฟาร์ม ซึ่งใหญ่โตมโหฬาร แต่คิดว่าคงไม่ใช่ใหญ่ที่สุดในประเทศหรอก


“มีรูปมั้ยเนี่ย” เรียวจันทร์แหวกซองเอกสารเพื่อหารูป แต่ก็ไม่มี คิดว่าจอมทัพคงไม่ถึงขั้นส่งคนไปแอบถ่ายรูปพ่อเขี้ยวคมคนนั้นหรอกนะ นางถอนหายใจเซ็ง ถ้าได้เห็นหน้าสักหน่อยก็คงจะดี บางทีอาจจะนึกแผนอะไรออกบ้าง


“กูเกิ้ลๆ” พอนึกได้ว่าถ้าจอมทัพไม่มีรูปให้ ก็หาจากคุณปู่กูเกิ้ลเนี่ยแหละ ท่าทางหมอนั่นก็ดูจะดังในโลกธุรกิจมากอยู่เหมือนกัน ต้องมีใครเคยไปสัมภาษณ์หรือถ่ายรูปมาให้บ้างแหละน่า นิ้วเรียวยาวพิมพ์ชื่อกับนามสกุลลงไปในช่องค้นหา รอไม่นานก็ปรากฏภาพถ่ายของชายหนุ่มขึ้นมา แต่ก็ยังเห็นไม่ชัด แต่ดูแล้วก็มีเค้าโครงความหน้าตาดีอยู่ไม่น้อย เรียวจันทร์เลื่อนดูลิงก์ต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นมาหน้าเว็บไซต์ ที่น่าทึ่งอย่างไม่คาดคิดคือหมอนี่มีแฟนเพจด้วย คนกดไลค์ครึ่งแสนเลยทีเดียว อ่าฮ่า! ไม่ธรรมดานะเนี่ย


“โอ้ว หล่อแฮะ…” พอกดเข้าไปดูรูปใหญ่จากนิตยสารของสังคมธุรกิจและไฮโซก็ต้องอุทานเบาๆ เมื่อได้เห็นหน้าคมเข้มด้วยหนวดเคราของพ่อคมเขี้ยวที่อยู่ในชุดเสื้อลายสก็อตสีฟ้าคู่กางเกงยีนสีดำ รองเท้าบู๊ทหนังและหมวกคาวบอย ในรูปดูดีมาก และคาดว่าตัวจริงน่าจะไม่ต่างจากในนี้นักหรอก ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวเชียวนะ เทียบกับจอมทัพที่มาแนวคมเข้มเหมือนกันแล้ว พ่อเขี้ยวคมก็ดูจะแซ่บไม่แพ้กัน


“เฮ้!” เสียงแจเร็ดดังมาจากด้านหลัง เรียวจันทร์ไม่ได้ลนลานกดปิดหน้าจอเหมือนโดนผัวจับได้ว่ามีชู้ ก็แค่หันไปยิ้ม นิ้วก็กดออกหน้าเว็บตามปกติแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างจานอาหาร


“รอนานมั้ย” แจเร็ดถามพลางนั่งลงตรงข้ามกับเรียวจันทร์ คนถูกถามส่ายหัวพร้อมส่งยิ้มละมุนให้


“ไม่นานหรอก”


“แล้วนี่อะไรเหรอ” แจเร็ดบุ้ยปากไปตรงกองกระดาษเอกสาร หยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวผัดปูเข้าปากหนึ่งคำ


“เอกสารเรื่องงานน่ะ ไม่ได้มีอะไรสำคัญหรอก” เรียวจันทร์ตัดบท ไม่ได้โกหก ก็เรื่องงานจริงๆ แล้วก็ไม่ได้สำคัญอะไรนักหนาด้วย ก็แค่ภารกิจที่ต้องไปพิชิตให้สำเร็จเท่านั้นเอง


“นี่ ถ้ายูว่างๆ แล้วอยากไปพักผ่อนที่อิตาลี บอกไอนะ เดี๋ยวออกค่าตั๋วให้” เรียวจันทร์ยิ้มตาเป็นประกายแล้วยกไวน์ของตัวเองขึ้นจิบ


“ว้าว จริงเหรอ ไอไปได้จริงๆ เหรอ”


“จริงสิ แม่ไออยากเจอยูด้วยนะ ไอส่งรูปยูให้ดู เขาชมว่ายูเป็นผู้ชายที่สวยมากเลย” คนถูกชมว่าสวยหัวเราะน้อยๆ อย่างมีจริต


“ได้สิ ถ้ามีเวลาจะไปนะ ไอเองก็ยังไม่เคยไปอิตาลีเลย คงต้องสวยมากแน่ๆ” แจเร็ดกลืนข้าวลงคอแล้วยกไวน์จิบตามลงไป


“รับรองยูจะต้องติดใจจนไม่อยากกลับ เดี๋ยวไอพาไปเวโรน่า พาไปลูบนมจูเลียต” เรียวจันทร์หัวเราะอารมณ์ดี ทำให้แจเร็ดหัวเราะตามไปด้วย เรียวจันทร์นั่งฟังแจเร็ดพูดถึงบ้านเกิดด้วยความสนใจ มีถามแทรกบ้างเป็นบางช่วง แจเร็ดพูดซะจนเห็นภาพชัดเจน ทำเอาอยากจะบินตามไปด้วยเลย


“ไปมั้ยล่ะ เดี๋ยวไอเลื่อนวันกลับได้” เรียวจันทร์ยิ้มอ่อนโยน มองหน้าแจเร็ดด้วยหัวใจที่บีบรัด รู้สึกอึกอักในอกกับการที่อีกฝ่ายใส่ใจ สนใจตัวนางเหลือเกิน


“ไม่เป็นไร ยูรีบกลับบ้านเถอะ นัดครอบครัวไว้แล้ว อย่าผิดคำพูดเลย” แจเร็ดยิ้มเซ็งหน่อยๆ แต่ก็พยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะชวนคุยไปเรื่องงานที่ต้องทำในช่วงที่อยู่อิตาลี ซึ่งก็เกี่ยวกับนายแบบนางแบบ


เรียวจันทร์ยิ้มตามกับรอยยิ้มสดใสของอีกฝ่าย ในอกอึดอัดน้อยๆ ไม่ได้ถึงขั้นรู้สึกผิดมากหรือรู้สึกร้ายแรงกับตัวเองเหมือนว่าได้หักหลังคนอื่นอย่างรุนแรง เพียงแต่มันเป็นความรู้สึกไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะให้พูดความจริงที่ว่า นางกับแจเร็ดไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่นอนด้วยกัน แล้วคุยๆ กันอยู่ ยังไม่ทันเดตกันด้วยซ้ำ ไม่มีสถานะใดๆ ต่อกัน ก็คงไม่ผิดนักที่จะพูดแบบนี้


ขอโทษนะแจเร็ดที่ดันมารักคนแรดอย่างเรียวจันทร์




 :hao7:

ฟาดไปห้ารอบ แล้วเสนอให้เขาเองด้วย 55555 แต่ท้ายสุด ขุ่นแม่ก็โดนเสี่ยตลบหลัง ก๊ากกก
พี่คมเขี้ยวโผล่มาแล้วนะ ฮี่ๆ แม้จะยังไม่เจอหน้ากัน แต่ก็ได้รู้จักผ่านอากู๋ละ อิๆ
ตอนหน้าเจอกับพี่เขี้ยว มาดูซิว่าพี่เขี้ยวจะมาแนวไหน ถ้าใสๆ จะเอาเรียวจันทร์อยู่มั้ย  :hao3:

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยค่ะ แล้วเจอพี่เขี้ยวตอนหน้านะคะ อิๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/100%:10.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-12-2015 18:25:20
พระเอกกกก


อยากเห็นด่วนค่า จอมทัพยังปราบเรียวไม่ได้เลย

XD


แจเร็ด ไปหาคนอื่นเถิด~
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/100%:10.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 10-12-2015 18:37:14
โธ่ ขุ่นแม่! นึกว่าจะแพง นี่ขุ่นแม่เสียฟรีเลยเหรอเนี่ยยยย
ไม่ยอมนะขุ่นแม่  ต้องเอาคืนเสี่ยให้ได้น้าาาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/100%:10.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 10-12-2015 20:48:01
โถถถ ถ้าแจเร็ดเป็นพระเอกนี่เจ็บแทน แต่พอดีไม่ใช่ไง ถถถ สงสารแจเร็ดนิดๆ
เรียวจันทร์ต้องเอาคืนเสี่ยนะ ทำอย่างนี้กับคนสวยได้ไง!
พระเอกจะโผล่แล้ววว ดูเหมือนจะแซ่บ  :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/100%:10.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 10-12-2015 22:50:53
อ้าวนึกว่าหนี้จะลด ร้ายนะเสี่ย แต่ชอบอ่ะกรี๊ดๆๆ  o13 สนุกมากจ้า รอน๊าตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/100%:10.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 12-12-2015 01:18:14
โถๆๆๆ โดนเสี่ยตลบหลังซะหงายเงิบเลย 5555
รอเจอพี่คมเขี้ยวอยู่น้าาาา จะเปิดตัวยังไงน้อออ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/100%:10.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-12-2015 03:51:45
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/100%:10.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 12-12-2015 11:14:11
ใครจยังไงไม่รู้แต่กูอยากได้อีเสี่ยมากๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/100%:10.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 12-12-2015 12:06:31


อา... น้องเรียวนี่ช่างเปรี้ยวเยี่ยวราดเสียนี่กระไร
แล้วเมื่อไรพ่อเขี้ยวจะมาปราบน้องเรียวกันล่ะคะ? ปล่อยให้น้องเรียวเสียน้ำไปกับชายต่างชาติกับหนุ่มใหญ่ไปหลายแล้วนะลูก ไม่กลัวขาดดุลเหรอพ่อเขี้ยว?

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :mew1:


หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/100%:10.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ 12-12-2015 14:05:29
หวั่ยยยยยย พ่อเขี้ยวจิเอาอยู่มั้ยเนี่ยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/100%:10.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 12-12-2015 17:29:08
อื้อหือออ แซ่บมว๊ากกกกกกกกกกกกกกก นางแซ่บจริงๆ

แค่ตอนแรกก็ขำไม่ไหวละ สาวเสียบ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

แต่แหม 5รอบขนาดนั้น ก็นับ เป็น5ล้านไม่ได้เหรอเสี่ย~
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/50%:14.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 14-12-2015 20:38:51
คาถาที่ ๔ :: Devil meets Tiger. [50%] นางมารพบพยัคฆ์


   “แกแน่ใจเหรอเรียวว่าแบบนี้มันจะเวิร์ค” เป็ดถามใบหน้านิ่วคิ้วขมวดพลางมองความเขียวขจีของทุ่งหญ้าที่ตัดกับสีเหลืองของดอกไม้ดอกเล็กๆ ที่อยู่ตรงบริเวณเกือบตีนภูเขาสีเขียวขจีที่ตัดกับท้องฟ้าสีสดใส ทิวสนเรียงติดกันเป็นเหมือนรั้วขนาดใหญ่อยู่ฝั่งซ้ายมือของฟาร์ม ณ จุดที่ทั้งสองคนยืนอยู่ตอนนี้
   

“มันต้องเวิร์คน่า!” เรียวจันทร์ที่เช็กสภาพตัวเองจากเงาสะท้อนตรงกระจกประตูรถตอบกลับแบบไม่คิดอะไรมาก
   

“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนวะ” หนุ่มหน้าหวานจิ๊ปากพร้อมกับทำหน้าเซ็ง ผละออกจากหน้าต่างรถเดินมายืนข้างเป็ด
   

“เอางี้ อย่างน้อยนะ ที่เรามาวันนี้ โอกาสต้องสักห้าสิบแหละที่จะเป็นไปได้…” เป็ดทำหน้าว่า เหรอ โดยไม่พูดออกเสียง เรียวจันทร์บิดริมฝีปากแล้วกลอกตา
   

“…คือวันนี้ยังไม่ต้องเอาความสำเร็จอะไรมากเว่ย ฉันแค่จะมาสร้างเมมโมรี่ระหว่างเขากับฉัน ให้เขาจำฉันได้ก่อน ถึงแม้จะเลือนราง แต่พอครั้งหน้าเจอกัน เขาจะได้ อ้าว คุณนั่นเอง” เรียวจันทร์ทำสีหน้าว่า เก็ทมั้ย? เป็ดยื่นปากน้อยๆ แล้วพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่จะขมวดคิ้วฉับ
   

“แต่ไอ้วิธีที่แกบอกฉันอะ มันไม่ใช่เรื่องที่น่าจดจำเลยนะ” แทนที่จะเซ็งที่เพื่อนยังคงขัดใจ แต่เรียวจันทร์กลับยิ้มตาเป็นประกายแทน
   

“นั่นแหละ เขาจะยิ่งจำฉันได้แม่นขึ้น!” พ่อหนุ่มร่างเพรียวบางยิ้มกรุ้มกริ่มทำสายตามีเลศนัย ทิ้งความไม่เข้าใจไว้ให้เพื่อนสาวอย่างเป็ดที่ไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่กับวิธีการที่อีกฝ่ายลองพูดให้ฟังคร่าวๆ ระหว่างทางที่อยู่บนรถ
   

“แต่ถ้าพลาด แกเจ็บตัวมากเลยนะ”
   

“เออ นั่นแหละ เจ็บตัวสิยิ่งดี” เป็ดอ้าปากย่นจมูกหน้าเหวอใส่เพื่อน
   

“อีโรคจิต” เรียวจันทร์ไม่โต้อะไรกลับ ทำเพียงยิ้มแพรวพราวแล้วไหวไหล่หนึ่งที
   

นางหันไปมองวิวทิวทัศน์ของท้องทุ่งเบื้องหน้าจากจุดเนินจอดรถที่อยู่ตรงข้ามกับฟาร์ม ลมเย็นๆ พัดโชยมาตลอดเวลาอาจเพราะมีต้นไม้เยอะแล้วยังอยู่ติดภูเขา นางไม่อาจปฏิเสธได้ว่าแม้จะต้องขับรถเข้ามาลึกและไกลจากถนนใหญ่มาก ขับผ่านดงป่า ดงหญ้า ดงต้นไม้ แต่ความสวยงามของที่นี่ก็ทำเอาคิดว่ามันคุ้มค่ามากที่ฝ่าดงถนนดินลูกรังเข้ามา แอบไม่เข้าใจว่าอีตาเจ้าของฟาร์มทำไมถึงไม่ทำถนนให้มันดีๆ หน่อย
   


“สวยเนอะ” เรียวจันทร์หันไปพึมพำกับเป็ดระหว่างเดินลงจากเนินตรงไปยังทางออกลานจอดรถ เป็ดพยักหน้ากลับมาอย่างเห็นด้วย แล้วเลื่อนสายตาไปมองลอดผ่านซุ้มไม้ซุงขนาดใหญ่ที่เป็นทางเข้าของฟาร์ม แม้ที่เห็นนั้นยังไม่ใช่ภาพกว้าง แต่ก็พอจะเดาไว้คร่าวๆ ว่ามันต้องมี ต้นไม้ ภูเขาโอบล้อม ทุ่งหญ้า ทุ่งดอกไม้ กองฟาง ถนนดินลูกรังสีน้ำตาลแบ่งเป็นซอกเล็กๆ ในไร่ ทำให้ตัดกับสีเขียวของทุ่งหญ้า ตรงหน้าของทั้งสองคนตอนนี้คือซุ้มทางเข้าที่ทำจากไม้ซุงใหญ่ๆ มีป้ายเขียนเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษว่า


‘ฟาร์มอรุณพยัคฆ์’

‘Welcome to the Sun-Tiger land’
   

“เสืออาทิตย์?” เป็ดอุทานด้วยความงง ไม่เข้าใจความหมายของชื่อฟาร์มสักเท่าไหร่
   

“ที่นี่ดูไม่น่าจะมีเสือ แต่น่าจะมีแค่ม้า แค่วัว แล้วอาจจะมีแกะหรือแพะเพิ่มเข้ามา” เรียวจันทร์เองก็พูดแบบงงๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเก็บเอามาครุ่นคิดเป็นวรรคเป็นเวรขนาดนั้น
   

“ซื้อตั๋วตรงไหนอะ อ๋อ นั่นไงที่ขายตั๋ว” เป็ดชี้ไปที่สำนักงานที่อยู่ติดกับเสาขนาดใหญ่ของซุ้มฝั่งขวามือเมื่อมองจากลานจอดรถที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน เป็นลักษณะคล้ายบ้านหลังเล็กๆ ที่ทำจากไม้ ถัดจากนั้นเห็นเป็นคล้ายหลังบ้านของบ้านสี่ชั้นหรืออาจจะห้าหรือหกหลังเรียงติดกัน โดยที่หลังบ้านมีต้นสนต้นใหญ่เรียงกันเป็นแถบเหมือนเป็นรั้วอีกชั้นอีกที ทั้งสองคนมองซ้ายมองขวาบนถนนลูกรังสีน้ำตาลสักพักเพื่อมองรถ แต่อันที่จริงไม่มีรถมาถึงจุดที่พวกนางยืนอยู่หรอก เพราะรถทุกคันจะถูกบังคับเลี้ยวให้เข้าไปในลานจอดรถก่อนถึงซุ้มประตูยักษ์นี่แล้ว ส่วนซ้ายมือท่าทางน่าจะเป็นป้อมยาม ติดกับป้อมยามก็เป็นเหมือนหอคอยสูง ที่คนสามารถขึ้นไปยืนด้านบนได้ เรียวจันทร์เห็นคนในชุดเสื้อลายสก็อตสีแดงยืนอยู่ด้านบนกำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองอะไรสักอย่างที่อยู่อีกฝั่งของฟาร์มอยู่ ถัดจากหอคอยเป็นเหมือนห้องอะไรสักอย่างที่มีลักษณะเป็นตัวแอลเข้ากับมุมพื้นที่ที่เหลือพอดี ห้องนั้นติดกระจกเรียงกันเป็นแถบยาว มองเห็นผู้คนที่อยู่ด้านในได้
   

“แก เข้าไปในสุดนั่นคืออะไรวะ” เรียวจันทร์พยักพเยิดไปทางถนนที่เป็นเนินสูงพอประมาณ ก่อนถึงเนินมีร้านอาหารขนาดใหญ่ของทางฟาร์มตั้งติดกับลานจอดรถ หลังร้านเป็นตึกสีขาวมุกขนาดใหญ่ ที่เห็นไม่ชัดว่ามันคืออะไร แต่ขนาดนอกฟาร์มก็ยังจัดบรรยากาศได้น่ารักมาก มีต้นก้ามปูขนาดใหญ่แผ่ขยายกว้างอยู่เหนือหน้าร้านอาหาร ตรงลานจอดรถก็มีดอกไม้ปลูกติดกับรั้วสีขาวที่มีต้นสนกันไว้อีกที หลังต้นสนคือถนนใหญ่ที่เป็นถนนสายหลัก และจะมีทางเลี้ยวเข้ามาในฟาร์มนี้ ท่าทางเจ้าของที่นี่จะชอบต้นสน ปลูกเต็มไปหมดเลย
   

“ฉันก็มากับแกครั้งแรกป้ะวะ” เรียวจันทร์เลิกสนใจถนน แล้วเดินเข้าไปต่อคิวซื้อตั๋ว คนไม่ค่อยเยอะมาก เนื่องจากวันที่เลือกมาเป็นวันธรรมดา แล้วอีฟาร์มนี้ก็จะเปิดให้เข้าแค่วันจันทร์ วันพฤหัสบดี แล้วก็เสาร์กับอาทิตย์ ส่วนวันที่เหลือเท่าที่หาข้อมูลจากจอมทัพได้ เขาบอกว่าปิดทำการเพื่อให้ฟาร์มได้พักผ่อน
   

ฟาร์มพักผ่อนเนี่ยนะ เจ้าของพักเองซะมากกว่ามั้ง ฟาร์มมันจะพักไปทำไม มันก็อยู่ของมันเฉยๆ
   

“สองใบค่ะ” เป็ดเอ่ยเสียงหวานกับพนักงานสาวขายตั๋ว พอจ่ายเงินไป เธอก็ให้บัตรคล้องคอที่เขียนว่า TOURIST มาให้
   

“รอบบ่ายโมงนะคะ ก่อนออกจากประตูทางออกคืนป้ายนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ประจำประตูด้วยนะคะ” ทั้งสองคนพยักหน้ารับงงๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ให้ตั๋วฉีกมา ลงทุนทำป้ายคล้องคออย่างดีให้เลยเนี่ยนะ
   

“เอ่อ ไม่ทำตั๋วฉีกเหรอคะ” ไม่อยากเก็บความสงสัยเอาไว้นาน เลยถามดีกว่า
   

“เมื่อก่อนทำค่ะ แต่ว่านักท่องเที่ยวบางส่วนชอบทิ้งตั๋วไว้ตามพื้นจนสกปรก เจ้าของฟาร์มเลยทำวิธีนี้ แล้วก็แบ่งนักท่องเที่ยวเข้าชมฟาร์มเป็นรอบๆ นี่แหละค่ะ แต่ละกรุ๊ปจะอยู่ได้ไม่เกินสองชั่วโมง”
   

“โอ้โห นี่เหมือนการเข้าไปชมภาพยนตร์เลยนะคะเนี่ย” เป็ดเอ่ยด้วยเสียงตะลึงเบาๆ
   

“ใช่ค่ะ รอบที่ฮิตที่สุดคือรอบเย็น เพราะส่วนมากจะมารอดูพระอาทิตย์ตกกัน” สาวพนักงานขายตั๋วเล่าให้ฟังอย่างเป็นมิตร สองเพื่อนซี้ยืนฟังด้วยความสนใจ จนลืมคนที่ต่อคิวอยู่ด้านหลังไปแล้ว
   

“อ้าว นังเรียว แกพลาดละ ทำไมไม่มาตอนเย็นวะ”
   

“แกลืมแล้วรึไงว่าเราไม่ได้มาเที่ยว” เรียวจันทร์กัดฟันบอกเพื่อนยิ้มๆ เป็ดที่เหมือนจะลืมจุดประสงค์ของการมาครั้งนี้ทำหน้าเข้าใจขึ้นมาทันที
   

“เอ่อ… ถ้ายังไง ขอให้คิวต่อไปได้ซื้อตั๋วหน่อยนะคะ  ส่วนคุณสองคนเข้าไปรอที่ห้องรับรองได้เลยค่ะ เดินเข้าไปแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางเดิน” ทั้งสองคนก้าวเท้าออกจากบริเวณหน้าจุดขายตั๋ว เดินก้าวเข้าไปในซุ้ม แม้จะสามารถมองเห็นวิวบางส่วนจากด้านนอกซุ้ม แต่พอเข้ามาด้านในนักท่องเที่ยวจะไม่สามารถเดินตรงเข้าไปในฟาร์มได้เลย เนื่องจากมีรั้วกั้นอยู่ แล้วพอก้าวเท้าเข้ามาก็ต้องเดินไปตามทางที่บังคับเดินโดยจะมีลูกศรชี้บอกให้เดินไปตามทางที่เป็นซุ้มโค้ง ระหว่างทางเดินเช้าไปในห้องรับรอง เรียวจันทร์มองเห็นซุ้มโค้งที่เชื่อมกับประตูทางออกของห้อง โดยตรงนั้นจะมีละอองน้ำฟุ้งอยู่จางๆ ได้ยินเจ้าหน้าที่ที่อยู่แถวนั้นประกาศบอกว่าเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ แล้วก่อนที่จะเข้าชมฟาร์มนักท่องเที่ยวทุกคนต้องล้างมือก่อนด้วย
   

“โห โคตรจะสะอาดเลยอ่ะ” เป็ดหันมากระซิบกับเพื่อนในขณะที่ก้าวเท้าเดินเข้าไปหาที่นั่งในห้องกระจกใสที่มีคนนั่งอยู่ประปราย ตรงนี้เหมือนเป็นจุดนั่งรอมากกว่า เป็นเพียงห้องกว้างๆ มีม้านั่งสีน้ำตาลแก่ตัวยาวตั้งเรียงรายเป็นระเบียบ มีกระจกใสติดรอบห้อง ภายในห้องมีแอร์เย็นฉ่ำ จากจุดนี้ก็พอที่จะเห็นวิวทิวทัศน์ของฟาร์มได้มากขึ้น หลายคนตื่นเต้นกับบรรยากาศของฟาร์มโดยการถ่ายรูปผ่านกระจกซะตั้งแต่ในห้องนี้
   

“อ๋อ แก ไอ้บ้านที่มันติดๆ กัน มันเป็นร้านอาหารกับร้านของฝาก” ร้านอาหารที่ว่าเป็นร้านอาหารจำพวกอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ร้านนมสดนมปั่น ขนมทานเล่น
   

“มีชิงช้าด้วยแก” เรียวจันทร์ชี้เครื่องเล่นไม้กลมๆ คล้ายชิงช้าสวรรค์ แต่อันที่นางเห็นเป็นกระเช้าไม้ไม่มีหลังคา มีแค่ที่นั่งสำหรับสองคนกับที่ล็อคกันตกเท่านั้น มันตั้งอยู่ท่ามกลางดงดอกไม้หลากสีที่อยู่เกือบกลางฟาร์ม บริเวณนั้นยังมีลานหญ้ากว้างซึ่งมีสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้สักเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เห็นจะได้ คงเอาไว้ให้สำหรับเด็กเล่น แล้วผู้ใหญ่ก็คงจะเล่นได้ด้วย มีกองฟางวางไว้สำหรับนั่งพักผ่อน มีโรงนาขนาดใหญ่และวางตัวยาวสร้างจากก้อนอิฐสีหินกระเถิบออกไปจากลานสนามเด็กเล่น
   

“แกๆ ซื้อตั๋วเอทีวีตรงนั้นไง” เป็ดชี้ไปตรงโต๊ะไม้ที่มีเจ้าหน้าที่นั่งขายตั๋วประจำล็อคเล็กๆ เหนือหัวของเจ้าหน้าที่มีป้ายบอกวิธีการเข้าชมฟาร์มด้วยยานพาหนะที่แตกต่างกัน เรียวจันทร์พยักหน้ารับแล้วมองลาดเลาก็เห็นว่ายังไม่มีคนต่อคิวซื้อ เขาเลยก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่าอีกสิบนาทีถึงจะบ่ายโมง
   

“สวัสดีนักท่องเที่ยวทุกๆ ท่านค่ะ…” ไกด์สาวคล้องโทรโข่งไว้บนไหล่มายืนอยู่ตรงกลางห้องรับรอง ทุกคนที่เกาะกระจกมองวิวอยู่หันมามอง เธอบอกให้ทุกคนมานั่งเพื่อรับฟังข้อปฏิบัติในฟาร์ม
   

“…ทุกท่านมีเวลาเที่ยวชมฟาร์มสองชั่วโมง โดยกรุ๊ปของท่านมีลูกทัวร์ยี่สิบคน สำหรับวันนี้ทางเราไม่บังคับค่ะว่าจะเที่ยวชมฟาร์มในรูปแบบใด เนื่องจากลูกทัวร์น้อย แต่ให้ระมัดระวังในการใช้ถนนร่วมกันสักนิดหนึ่ง เราจะมีเจ้าหน้าที่จราจรคอยให้สัญญาณ ขอความร่วมมือว่าอย่าทำลายสิ่งของใดๆ ในฟาร์ม ตรงบริเวณบ้านของท่านเจ้าของฟาร์ม ทุกคนสามารถถ่ายภาพด้านนอกได้ แต่ห้ามเข้าไปด้านใน ตรงบริเวณหมู่บ้านคาวบอย ให้ระวังในการเยี่ยมชมม้า จงเชื่อฟังคำเตือนของเจ้าหน้าที่ในส่วนตรงนั้น ตรงบริเวณที่พักแคมป์ปิ้งห้ามเข้าไปรบกวนลูกค้าที่มาพัก…” ไกด์สาวพูดถึงข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามต่างๆ อีกมากมายจนจบก่อนที่จะปล่อยให้ลูกทัวร์ลุกขึ้นไปซื้อตั๋วข้อมือสำหรับการเที่ยวชมฟาร์มในรูปแบบที่สนใจ
   

“แก ฉันอยากนั่งเกวียนม้าอะ” เป็ดบ่นกระปอดกระแปด มองซุ้มซื้อตั๋วสำหรับนั่งเกวียนม้าตาละห้อย
   

“นังเป็ด” เรียวจันทร์เรียกชื่อเพื่อนเสียงกดต่ำพร้อมกับกดหน้าลงแล้วมองเพื่อนด้วยสายตาเบื่อหน่าย เป็ดจิ๊จ๊ะนิดหน่อยแต่ก็ไม่เถียงอะไรกลับมา
   

“ถ้าขับไม่เป็นให้บอกเจ้าหน้าที่นะคะ เขาจะได้สอนก่อนขับ” คนขายตั๋วบอกพลางพันข้อมือของทั้งสองคนด้วยสายรัดขอมือพลาสติกสีขาวที่เขียนว่า ATV
   

“โอเคค่า” เป็ดตอบรับด้วยรอยยิ้มทั้งที่จริงแม่นางสองคนเคยขับเอทีวีจากทริปที่ไปเที่ยวด้วยกันมาก่อนๆ หน้านี้บ้างแล้ว
   

ทั้งสองคนเดินออกจากห้องรับรอง เดินผ่านซุ้มน้ำยาฆ่าเชื่อแล้วออกไปสู่ความกว้างขวางและความชัดเจนของฟาร์มอรุณพยัคฆ์ สองเพื่อนซี้ยืนตื่นตะลึงอยู่ตรงเนินหญ้าหน้าตึกไม้ มองภาพวิวที่สวยงามราวกับภาพวาดจากฝีมือจิตรกรเอกของโลก มองลอดซุ้มประตูทางเข้าว่าสวยแล้ว พอได้มาเห็นเต็มตาก็สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าที่นี่สวยมาก ภูเขาโอบล้อมรอบฟาร์ม ทุ่งดอกไม้หลากสีมีอยู่สี่ห้าแปลง แต่ละแปลงอยู่ห่างกันออกไปเพื่อกระจายความสวยงาม ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีแบบขจีของแท้ ฝั่งขวามือเหมือนจะเป็นหมู่บ้านคาวบอยที่ไกด์ว่า มีกระโจมใหญ่ลายขาวแดงเหมือนโรงละครสัตว์หรืออาจจะเป็นม้าหมุนอยู่เบียดไปทางขวาของฟาร์มโดยอยู่ห่างจากชิงช้าสวรรค์ไกลออกไป เรียวจันทร์คิดว่านั่นอาจจะเป็นม้าหมุนก็เป็นไปได้ เพราะไหนๆ ก็มีชิงช้าไปแล้ว จะมีม้าหมุนด้วยจะแปลกอะไร ถัดจากกระโจมเป็นฉากไม้อันใหญ่มากที่เห็นแต่ด้านหลัง เปรียบเป็นฉากกั้นห้องก็คล้ายคลึงอยู่
   

“นั่นบ้านเจ้าของฟาร์มเปล่าวะ” เป็ดชี้ไปที่บริเวณเหนือเนินเกือบถึงตีนเขาที่มีบ้านไม้ตัดสลับกับการประดับกระจกใสหลังใหญ่โตมากหลังหนึ่งโผล่พ้นจากยอดต้นไม้ใหญ่มาให้เห็น รั้วไม้สีน้ำตาลกั้นหน้าบ้าน รั้วบ้านก็ไล่ระดับขึ้นไปตามความสูงของเนินหญ้าที่ตัวบ้านตั้งอยู่ จากมุมที่เรียวจันทร์ยืนอยู่ ดูๆ แล้วไม่น่าจะเป็นเนินสูงลาดเอียงมากนัก แค่ยกสูงขึ้นจากสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ในฟาร์ม บ้านหลังนั้นแยกออกจากส่วนต่างๆ ของฟาร์มออกไปไกลพอสมควร แต่ก็ไม่ได้อยู่ติดกับตีนเขาแต่อย่างใด 
   

“คงใช่แหละ โดดเด่นซะขนาดนั้น” บ้านหลังนั้นท่าทางจะสวยมาก แค่เห็บแวบๆ แพลมๆ ยังดูดี เรียวจันทร์เลื่อนสายตาไปมองหมู่บ้านคาวบอยที่ไกด์สาวบอก เป็นบ้านไม้ซึ่งคาดว่าคงสร้างจากสิ่งที่ทำมาให้เหมือนไม้มากกว่า ใกล้กันนั้นเป็นคอกม้าขนาดใหญ่ที่แบ่งโซนเป็นคอก มีหลังคากับคอกลานกว้างให้ม้าอยู่อย่างเป็นอิสระ มีโรงนาสีแดงขนาดใหญ่ที่เป็นตัวกั้นคอกม้ากับหมู่บ้าน
   

“ฉันว่าฉันเจอจุดยุทธศาสตร์แล้วเป็ด” หญิงสาวมองตามสายตาเจ้าเล่ห์ของเพื่อนไป ก่อนจะอ้าปากหวอทำหน้าตกใจ หันมาสั่นหัวกับเพื่อนรัวๆ
   

“แกจะบ้าเหรอ มันอันตรายนะ” เรียวจันทร์ย่นคิ้ว
   

“อันตรายตรงไหน ชิลๆ”
   

“แต่ตรงนั้นมันคือจุดที่เขาเตือนว่า อย่า!”
   

“อย่ารอช้าไง!” พูดจบก็เดินไปตรงศาลาลานจอดเอทีวีของฟาร์มทันที เป็ดรีบเดินตามและพยายามห้ามเพื่อน แต่หนุ่มหน้าหวานหันกลับมาทำหน้าดุใส่
   

“นี่ ใครทำกันแน่นังเป็ด ฉันทำ ไม่ใช่แก”
   

“ก็นั่นแหละ ฉันเป็นห่วงแกนะ เจ้าของเขาเอาเรื่องแกหนักแน่เลย” เรียวจันทร์ยักไหล่ ทำสีหน้าว่าฉันไม่แคร์
   

“แล้วฉันมาที่นี่เพราะอะไรล่ะ” เรียวจันทร์สตาร์ทเครื่องยนต์หลังจากสมหมวกกันน็อคเสร็จ เจ้าหน้าที่แนะนำการใช้ แล้วให้เซ็นเอกสารประกันชีวิตของตนเอง พอเป็ดเห็นเอกสารนั้นก็ยิ่งตาโต แต่ไม่ทันแล้ว เรียวจันทร์เซ็นอย่างรวดเร็วก่อนที่จะบิดเอทีวีสีดำที่นางเลือกออกไป
   

“อีเรียววว!” เป็ดแผดเสียงแข่งกับเสียงเครื่องยนต์ รถของเรียวจันทร์แล่นไปตามเส้นทางดินลูกรังสีน้ำตาล หล่อนรีบขึ้นคร่อมรถสีแดงของตัวเอง ยื่นเอกสารคืนหลังจากเซ็นเสร็จ แล้วบิดรถตามเพื่อนออกไป
   

เรียวจันทร์ขับเอทีวีไปตามทางอย่างชิลๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศท้องทุ่งหญ้า ดอกไม้ ใบไม้ ลมเย็นดีมาก แม้แดดจะแรงไปบ้าง แต่ลมที่พัดมานั้นทำเอาไม่กังวลกับแดด แต่อาจจะต้องไปกังวลกับการถูกรังสียูวีไหม้ผิวแทน ทางดินที่มีไว้สำหรับให้ยานพาหนะเที่ยวชมฟาร์มไม่ได้กว้างมาก เป็นถนนเลนเดียว แล้วเป็นเส้นทางที่บังคับให้ไปตามจุดต่างๆ อยู่ที่ว่าใครจะหยุดชมตรงจุดไหน อย่างตอนนี้เรียวจันทร์กำลังขับผ่านโรงนาอิฐที่อยู่ตรงช่วงกึ่งกลางของฟาร์ม มีร้านอาหารกึ่งคาเฟ่เรือนกระจกเล็กๆ ยื่นออกมาจากโรงนา ด้านในโรงนามีลักษณะคล้ายพิพิธภัณฑ์ มีรถไถ รถกระบะเก่าๆ แล้วก็อุปกรณ์มากมายตั้งเรียงรายอยู่ มีกองฟางวางไว้เป็นที่นั่งและมีมุมถ่ายรูปสวยๆ เก๋ๆ ด้วย
   

“นังเรียว!” เสียงแป๋นๆ ของเป็ดดังตามหลังมา เรียวจันทร์เอี้ยวหน้าไปมองผ่านไหล่แวบหนึ่งแล้วหันกลับไปสนใจทางตรงหน้าต่อ นางหันไปมองวิวด้านขวามือ เป็นบ่อดอกบัวขนาดยาว บนฝั่งมีต้นตะแบกสีม่วงสดใสออกดอกสะพรั่ง ตั้งเรียงรายเว้นช่องไฟอย่างพอดี มีเก้าอี้ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจริมสระบัว ติดกับแนวต้นตะแบกนาเป็นถนนลาดยางสั้นๆ ขนาดกว้างที่กั้นระหว่างฝั่งเรือนไม้สำนักงานของฟาร์มกับแนวต้นตะแบก เรียวจันทร์สอดส่องสายตามองไปเรื่อย ขับไปตามทางดินขรุขระ ตอนนี้นางกำลังขับผ่านทุ่งหญ้าสีเขียวที่อยู่ติดกับรั้วต้นสน  ใกล้กันมีทุ่งดอกปอเทืองสีเหลืองอร่าม พอขับไปได้อีกสักพักก็เจอคอกวัวนม มีเป็นโซนหลังคาแล้วก็โซนโล่งคล้ายกับคอกม้าที่อยู่กันคนละฝั่งไกลลิบ ปล่อยให้วัวเดินกินหญ้าได้อย่างอิสระ ถัดจากคอกวัวมีรั้วกั้นพื้นที่สีเขียวของต้นหญ้าสูงๆ ที่กว้างขวางไกลสุดลูกหูลูกตา เรียกได้ว่าฟาร์มแห่งนี้ยังมีพื้นที่เหลือใช้อีกมากมาย
   

“วัวตัวใหญ่มากแก!” เรียวจันทร์หันไปบอกเป็ดที่ขับตามมาติดๆ กัน ด้านหลังเป็ดที่ไกลลิบๆ ออกไปคือรถเกวียนม้าของคนที่มาเที่ยวรอบเดียวกับพวกนาง
   

“แวะถ่ายรูปหน่อยได้มั้ยอะ?!” เป็ดตะโกนถามกลับมา
   

“แกอยากถ่ายก็ถ่ายไปคนเดียว” ว่าแล้วก็บิดรถไปตามทาง ขับผ่านไร่ข้าวโพด หลังไร่ข้าวโพดเป็นดงต้นไม้เขียวขจี มีที่พักแบบกางเต็นท์อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งอนุญาตให้เข้าไปเฉพาะผู้ที่มาพักที่ฟาร์มแห่งนี้ แต่นั่นไม่ใช่จุดที่เรียวจันทร์สนใจ นางบิดรถผ่านอาคารสำนักงานอย่างเชื่องช้าเพื่อมองลาดเลา พอเห็นเงียบๆ ก็เลยบิดรถต่อไปอีก แต่ก็ชะลอความเร็วลงเพื่อชมความงามของแปลงดอกกุหลาบใกล้กับสำนักงาน ใบหน้าหวานคลี่ยิ้ม มองแปลงกุหลาบด้วยความสนใจอยู่ครู่หนึ่ง มันไม่ใช่มีแค่กุหลาบสีแดง แต่มันมีกุหลาบสีส้ม สีขาวและสีชมพูด้วย แต่ไม่ได้ปลูกรวมกัน ทางฟาร์มปลูกคนละแปลง แต่ก็อยู่ใกล้ๆ กันนั่นแหละ มีซุ้มประตูอิฐอยู่ท้ายแปลง เชื่อว่าคงเป็นมุมถ่ายรูปอยู่แถวนั้น แต่ตัวนางเองก็ไม่ได้สนใจจะหยุดถ่ายรูป


ใบหน้าสวยและยังหวานผินหน้ากลับไปมองถนนลาดยางต่อ พอพ้นหน้าสำนักงานไป ถนนก็กลับกลายเป็นถนนดินตามเดิมแล้วลากยาวโค้งกลับไปทางห้องรับรองที่เพิ่งจากมา แต่ก็ไม่ใช่ว่าบิดแล้วถึงเลยทันที ระยะทางก็ยังดูไกลลิบจากตรงนี้ ระหว่างทางก็จะผ่านซุ้มกระโจมม้าหมุน มีแปลงดอกไม้ที่จัดเอาไว้สำหรับถ่ายรูป หนึ่งในนั้นคือดอกทานตะวันบานสะพรั่ง พ้นกระโจมไปเป็นแบ็คกราวด์ที่เห็นก่อนขับรถมาด้านนี้ เป็นฉากไม้มีอุปกรณ์ทำการเกษตรขนาดใหญ่ยักษ์แขวนไว้ มีรถไถสีส้มสดจอดไว้เป็นพร็อพ มีกองฟางก้อนๆ ตั้งเรียงกัน


ยังมีถนนอีกเส้นฝั่งซ้ายมือ ใช้สำหรับขับอ้อมไปใกล้กับประตูทางออก เพื่อใช้เป็นเส้นทางขับรถไปในหมูบ้านคาวบอย เรียวจันทร์บิดคันเร่งไปจอดพักรถตรงบริเวณเขตรั้วรอบนอกหน้าบ้านเจ้าของฟาร์ม รั้วนอกรอบเป็นรั้วสีขาวเตี้ยๆ ที่เป็นปูนแต่ทำเป็นในลักษณะของไม้สี่เหลี่ยม ตั้งยาวสองฝั่งของสวนสวยหน้าบ้านที่แบ่งเป็นสองโซน ทั้งสองสวนจัดเป็นสวนสไตล์อังกฤษ เน้นไม้จริง เน้นหิน เน้นดอกไม้สีสด ของประดับกระจุ๊กกระจิ๊กวางไว้เป็นหย่อมๆ ฝั่งขวามือมีน้ำพุรูปปั้นคิวปิดเป่าแตร ฐานของคิวปิดคือบ่อรองรับน้ำกลมๆ เป็นวงเวียนสามารถนั่งถ่ายรูปได้ ชวนให้นึกถึงประเทศอิตาลีไม่ก็ฝรั่งเศส ซ้ายมือไม่มีน้ำพุ แต่มีศาลาไม้ทรงกระโจมโล่งๆ สีขาว มีซุ้มไม้ที่ดอกไม้เลื้อยเกี่ยวพันจนออกมาสวยงาม ถ้าคู่บ่าวสาวอยากหาโลเคชั่นถ่ายพรีเวดดิ้งละก็ เรียวจันทร์จะรีบแนะสวนกั้นบ้านเจ้าของฟาร์มอรุณพยัคฆ์ทันที
   

“แก พอเถอะ ฉันว่ารอคุณจอมทัพเขาส่งแกมาทีเดียวเลยดีกว่า” เป็ดเบรกรถข้างๆ เพื่อนกะทันหันจนฝุ่นตลบแล้วรีบเอ่ยห้ามเพื่อนด้วยความเร็วปรื๋อจนลิ้นแทบม้วนตัว มีเจ้าหน้าที่เป่านกหวีดอยู่ตรงด้านหน้า ทำสัญญาณมือว่าให้ทั้งคู่หลบรถเกวียนม้า สองเพื่อนซี้ขับเข้าไปจอดติดรั้วไม้ปลอมสีขาวที่กั้นถนนเที่ยวชมฟาร์มกับพื้นที่แถวทางเข้าบ้านเจ้าของฟาร์ม เรียวจันทร์เหลียวไปมองบ้านหลังนั้นด้วยสายตามีแผน แล้วหันกลับมามองเพื่อนอีกที
   

“แกนี่ยังไงนะ หน้าที่แกคือแอคติ้งโอเวอร์เข้าไว้ตอนที่ฉันพุ่งไปถึงที่นั่น” เรียวจันทร์บิดเครื่องเป็นสัญญาณว่าเตรียมพร้อม เป็ดอ้าปากหวอ ใจเต้นระรัวอย่างกับมีกลองเปิงมางตีอยู่ในอก วินาทีที่เพื่อนสาวอย่างเรียวจันทร์พุ่งตัวออกไป สาวผิวเข้มก็กรี๊ดตกใจเบาๆ
   

“แอร๊ยยย!!!” เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลจราจรบริเวณนั้น เป่านกหวีดเตือนเป็นเชิงให้ระวังเรื่องความเร็ว แต่เรียวจันทร์ไม่สนใจ บิดคันเร่งอย่างแรงไปตามทางที่ใช้อ้อมเพื่อเข้าไปในหมู่บ้านคาวบอย พอถึงทางโค้งที่อยู่ใกล้กับประตูทางออก เอทีวีสีดำของเรียวจันทร์ก็เอียงตัวอย่างน่าหวาดเสียว นางเกร็งร่างกายเพื่อบังคับทิศทางของมันให้กลับไปวิ่งสี่ล้อได้ดังเดิม เมื่อเลี้ยวเข้าไปในถนนพาไปสู่หมู่บ้านคาวบอย เรียวจันทร์ก็บิดคันเร่งเร็วกว่าเดิม แล้วแทนที่จะขับไปเต็นท์จอดรถ แต่กลับหักคอรถไปทางขวามือซึ่งไม่ใช่ทางหลักแต่เป็นทางพุ่งไปตรงคอกม้าแทน
   

บรื๊นนน!!!
   

ปรี๊ดดด!!!
   

“คุณครับ ไม่ใช่ทางนั้นครับคุณ!!!” เสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ตะโกนบอกเสียงดังพร้อมกับเริ่มวิ่งไปทางร่างบาง แต่ไม่ทันแล้ว เรียวจันทร์บิดรถตัดสนามหญ้าเข้าไปใกล้รั้วไม้สีน้ำตาลแก่จนเริ่มคล้ำ แล้วก็!!
   

“เฮ้ยคุณ!!!” เจ้าหน้าที่เป่านกหวีดเสียงดังลั่นฟาร์ม ก่อนที่จะตะโกนเรียกเรียวจันทร์ ทำเอานักท่องเที่ยวคนอื่นหันมาชะเง้อมองจุดเกิดเหตุเต็มไปหมด
   

“อีเรียววว แอร๊ยยยย!!!!” เสียงเป็ดตะโกนดังตามหลังแว่วๆ เรียวจันทร์หลับตาปี๋ บิดคันเร่งไว้ไม่ยอมผ่อน แล้วเอทีวีคันใหญ่ก็พุ่งชนรั้วล้อมคอกม้าที่ทำจากไม้อย่างแรง ราวกับมีใครขว้างเรียวจันทร์มาอีกฝั่งด้วยแรงมหาศาล เพราะมันพังทะลุคอกไม้ม้าเข้าไปด้านในจนเป็นช่องโหว่
   

“อ๊ายยย!!!” เรียวจันทร์กรี๊ดสุดเสียงในตอนที่หัวรถพุ่งพังทลายรั้วไปส่วนหนึ่ง ตอนนั้นเองที่สตินางหลุดจริง ยิ่งพอเห็นฝูงม้าแตกฮือกันไปคนละทิศ ก็ทำเอาสมองตื้อ แรงกระแทกเมื่อกี้ทำเอาหูอื้อ รู้สึกเจ็บปวดแปลบตามตัว เสียงควบเท้าของม้าทำเอาหวาดผวาในหัว แต่ตอนนี้นางสติแตก บังคับรถไม่อยู่ เอทีวีสีดำตีโค้งเลี้ยวพุ่งไปชนรั้วอีกด้านของคอกม้าที่อยู่ใกล้กับโรงนาสีแดง
   

“อีเป็ดดดด!!!!”
   

โคร่ม!!!!

V
v
v

   

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/50%:14.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 14-12-2015 20:39:23
V
v
v

“ฮะ??!! อีเรียวว อย่าตายนะ!!! ว้ายยย ช่วยด้วยค่า!!!”  เป็ดลงจากรถเอทีวี รีบวิ่งกระวีกระวาดจะเข้าไปในคอกม้า แต่ก็ต้องชะงักเท้ากะทันหัน
   

“ว้ายยย!!! ม้าค่ะ ม้า!! ม้าจะถีบหนูค่า!!” เหล่าฝูงม้าที่ตกใจกับเหตุการณ์เอทีวีพุ่งชนเรือนพักผ่อนของตัวเอง ต่างกำลังอาละวาดยกแข้งยกขาจะดีดใส่กันเองแถมยังจะลามไปดีดใส่คนดูแลม้าอีก ตอนนี้ทุกคนกำลังพยายามช่วยกันทำให้พวกมันสงบ
   

“อ๊ายยย! พี่คะ พี่!! ดูเพื่อนหนูด้วยค่ะ อย่าให้ม้าตามไปกระทืบซ้ำได้ ว้ายยย! อีตัวดำมันไปแล้วค่า พี่ค้า! เพื่อนหนูนอนตายอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ อย่าให้ศพมันเละไปมากกว่านั้นเลย!” เป็ดตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ม้าสีดำมันวับรูปร่างกำยำตัวหนึ่งวิ่งควบไปทางที่เอทีวีจอดนิ่งสนิทควันขึ้นอยู่ในรูโหว่ข้างโรงนา เป็ดพยายามชะเง้อมองหาเพื่อน แต่ก็มองไม่เห็น ไม่รู้กระเด็นไปถึงตรงไหน
   

“เฮ้ย! มีใครไปตามพี่เขี้ยวยัง ไอ้เดือนหงายแม่งอาละวาดใหญ่แล้ว!” ม้าสีดำตัวใหญ่ควบไล่คนกับม้าตัวอื่นไปทั่วคอก พวกคนงานวิ่งหลบเจ้าม้าตัวนั้นให้วุ่น มันทำท่าจะวิ่งออกจากคอกตรงจุดที่โดนเอทีวีชนจนหัก แต่ก็มีคนใช้แส้ยาวๆ ฟาดลงพื้นขู่มันเอาไว้ เลยทำให้มันเปลี่ยนทิศทางแล้ววิ่งพุ่งเข้าไปตรงกลุ่มม้าตัวอื่นๆ ทำให้วงม้ากระจายแตกฮืออีกรอบ
   

“พี่เขี้ยวๆ ด่วนเลยพี่!!” ชายหนุ่มรูปหล่อ ร่างกายกำยำสูงใหญ่ ใบหน้าคมสมส่วนด้วยกรามอันชัดเจน และมีหนวดเคราประดับวิ่งมาตรงคอกม้าอย่างเร็วพร้อมใบหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่กระนั้นก็เรียกสายตาจากหญิงสาวแถวนั้นได้ไปหลายสายตา ดูได้จากเป็ดที่อึ้งสติดับไปแวบหนึ่ง


ร่างสูงใหญ่หยุดยืนมองความวุ่นวายในคอกม้าสักพักก่อนที่จะวิ่งเข้าไปด้านใน สายตาคมมองตามร่างของม้าตัวใหญ่ที่วิ่งพุ่งทแยงมั่วไปหมด
   

“เดือนหงาย!!” เสียงทุ้มแสนแมนดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณ เจ้าม้าสีดำทะมึนตัวใหญ่หยุดควบเท้าแล้วยกขาหน้าทั้งสองข้างขึ้นพร้อมกับส่งเสียงร้องดังลั่นราวกับเถียงสู้
   

“เดือนหงาย!!!” เสียงของชายหนุ่มตัวสูงร่างใหญ่ดังหนักแน่นขึ้นกว่าเก่าและแฝงด้วยความมีอำนาจอยู่ในนั้น ใบหน้าหล่อนิ่งสนิท สายตาคมปลาบจ้องมองไปยังเจ้าม้าพยศ แต่ไอ้ม้าตัวนั้นก็ยังคงดูหงุดหงิดงุ่นง่าน หนุ่มรูปหล่อเลยเอื้อมมือไปดึงแส้มาจากมือลูกน้อง ก่อนจะสะบัดแส้ลงบนพื้นดินหนึ่งที
   

เปรี๊ย!
   

เสียงแส้ฟาดผ่านอากาศแล้วกระทบลงบนผืนดินจนดินแตกกระจาย นักท่องเที่ยวที่มายืนมุงดูเหตุการณ์ในจุดใกล้เคียงถึงกับสะดุ้งไปหลายคน เจ้าม้าตัวใหญ่สีดำมีจุดสีขาวเหมือนเสี้ยวดวงจันทร์อยู่ตรงหน้าผากค่อยๆ ควบช้าลง จนกระทั่งกลายเป็นวิ่งเหยาะๆ ไปรอบคอกม้า หนุ่มเจ้าของฟาร์มทิ้งแส้ลงพื้น เดินเข้าไปยืนรอในวิถีเส้นทางที่ม้าจะเดินกลับมา พอเจ้าม้าเดินวนมาตรงที่เขารออยู่ มันก็ทำท่าผงกหัว เดินหน้าถอยหลัง เหมือนงอน ชายหนุ่มเดินเข้าไปโอบรอบคอมันไว้ มันส่งเสียงฟึดฟัดเหมือนเคืองๆ
   

“ไม่เอาน่า แกดื้อกับฉันก่อนนะ” เสียงทุ้มบอก สองมือลูบตัวม้าปลอบโยนไปมาเพื่อให้มันสงบ เจ้าม้าตัวใหญ่ฟึดฟัดอีกนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ยอมสงบให้กับเจ้านายตนเอง ผู้คนที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ต่างปรบมือให้กับหนุ่มคนนั้นที่ยืนกอดม้าเอาไว้ สาวๆ หลายคนชะเง้อมองกันยกใหญ่ เพราะมีเสียงลืออย่างมากมายเกี่ยวกับเจ้าของฟาร์มว่าหล่อนักหนา วันนี้ได้เห็นกับตาก็ต้องบอกว่าข่าวลือเป็นเรื่องจริง ขนาดเป็ดเองยังแอบเคลิ้มจนลืมเพื่อนที่เงียบหายไปแล้ว
   

“เรื่องเป็นมายังไง” คมเขี้ยวหันไปถามลูกน้องที่ยืนอยู่แถวนั้นด้วยสายตาคมวาววับ สีหน้าไม่พอใจอยู่มาก เขามองไปตามจุดเสียหายที่เกิดขึ้น แล้วก็หยุดตรงรถเอทีวีซึ่งเอียงทะลุผนังโรงนาเข้าไปครึ่งคัน
   



“มีคนขับเอทีวีพุ่งเข้ามาทางนี้ครับพี่” ลูกน้องว่าเสียงอ่อย ก้มหน้าหลบสายตาแข็งกร้าวของคมเขี้ยวกันเป็นแถว ร่างสูงใหญ่ผละจากม้า เดินตรงไปยังรถเอทีวี พอเห็นคนเคลื่อนไหว เป็ดก็ได้สติ รีบเดินเข้าไปในคอกม้า พยายามเลี่ยงไม่เข้าใกล้เจ้าม้าสีดำที่ยืนปัดหางไปมา
   

“โอ๊ย…” เสียงร้องโอดครวญดังขึ้นตรงรถเอทีวีที่จอดเอียงกระเท่เร่ ดวงตาคู่คมของคมเขี้ยวองจับจ้องอยู่ตรงนั้น แล้วสักพักเขาก็เห็นแขนขาวๆ ค่อยๆ โผล่ออกมาทีละข้าง ค่อยๆ พาร่างบอบบางแต่ไม่ได้ผอมกะหร่องออกมาตรงท้ายรถเอทีวี ใบหน้าขาวสว่างเปื้อนดินดำ ผมเผ้ายุ่งเหยิงมีเศษหญ้าสีเขียวติดหัวเป็นหย่อม
   

“…ใครก็ได้ ช่วยสนใจสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงนี้หน่อยได้มั้ย” ริมฝีปากสีชมพูสดส่งเสียงโอดครวญ เจ้าของฟาร์มรูปหล่อขบกรามแน่น มองร่างนั้นเกาะเสาคอกม้าที่เอียงไปจากเดิม เขาค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ร่างขาวบาง
   

เรียวจันทร์ลืมตาขึ้นเมื่อเห็นว่ามีร่างใหญ่ทะมึนมายืนตรงหน้า ดวงตาเหมือนกวางน้อยสบกับดวงตาดุดันเหมือนพญาราชสีห์ ต่างคนต่างมองกันนิ่ง ส่งความรู้สึกอันต่างกันผ่านสายตา คนหนึ่งมองด้วยความอึ้งกับตัวจริงของอีกฝ่าย ส่วนอีกคนมองอย่างกับว่าอยากจะเข้าไปบีบคอขาวๆ ให้หักคามือ


จุ้นจ้านวุ่นวายดีนัก!
   



   
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/50%:14.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 14-12-2015 20:59:19
ฟาร์มสวยๆผุดขึ้นมาในมโนแล้วจ้าาาา พี่เขี้ยวเท่เวอออออร์
เรียวจันทร์ระห่ำไปป่ะลูกก แข้งขาหักไปจะคุ้มม้ายยย 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/50%:14.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 14-12-2015 21:17:51
กรี้ดดดดด

พี่เขี้ยวเท่ห์100x


จอมทัพยกให้เป็ดไปเลยค่า  :pigha2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/50%:14.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 14-12-2015 21:42:48
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย เท่ห์มากเลยค่ะพี่เขี้ยววววว!!!

ขอเป็นแฟนคลับพี่เขี้ยวด้วยคนนะค้าาาาาา  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/50%:14.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 15-12-2015 13:05:24
พี่เขี้ยวเท่มากกกกกกกกกกกกกกกก :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
คนนี้แหละที่เหมาะสำหรับเรียวจันทร์ที่สุด!  :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/50%:14.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 15-12-2015 14:32:18
สนุกอ่า สามีเค้ามาละ  :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/50%:14.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ 15-12-2015 19:39:04
พี่เขี้ยวโหดร้ายยย..
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/50%:14.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 19-12-2015 15:20:31


พระเอกมาแล้ว ^^
รออ่านตอนต่อไปค่ะ
 :L2:

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/50%:14.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-12-2015 20:38:05
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/100%:22.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 22-12-2015 17:19:29
คาถาที่ 4 [100%]




   


ปัง!!!
   

เสียงทุบโต๊ะไม้สีน้ำตาลแก่ดังลั่นออฟฟิศของฟาร์ม เรียวจันทร์ไหล่กระตุกด้วยความตกใจ ใบหน้าเหวอเหลอหลา ดวงตาเลื่อนขึ้นไปจับจ้องใบหน้าที่กำลังขบเครียด
   

“ขอสติด้วยคุณ อย่าเหม่อ!” คมเขี้ยวเอานิ้วเคาะขมับเหมือนเป็นการบอกว่า สมอง อะสมอง เรียวจันทร์เม้มปาก สลัดความเลื่อนลอยออกจากสมองแล้วเรียกสติคืนมา พอดีว่าเมื่อกี้มัวแต่มองพ่อเครามาดโหดนี่เพลินตา หมอนี่หล่อลงตัวดีนะ หน้าตาดีมีหนวดก็เข้าที ตัวสูง ร่างใหญ่ แต่ไม่ได้ใหญ่ยักษ์ ผิวสีแทนเซ็กซี่ หุ่นดีไม่แพ้หน้า เสื้อลายสก็อตขาวแดงก็เหมาะกับบอดี้ของเขา กางเกงยีนรัดรูปสีดำกับรองเท้าคอมแบทสีน้ำตาลก็ยิ่งทำให้ดูดี ปฏิเสธยากมากว่าตัวจริงของอีตาคมเขี้ยวหล่อกว่าในนิตยสารที่เห็นในอินเตอร์เน็ตซะอีก
   

“อะไรล่ะ ก็ฟังอยู่นี่ไง เสียงดังไปถึงหลังเขาแล้ว” เรียวจันทร์ว่าอย่างกระปอดกระแปด ตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้ หมอนี่ยังไม่ยิ้มเลยสักครั้ง เอาแต่บ่นแล้วก็บ่น จริงๆ คงอยากด่า แต่คงยังเล็งเห็นว่านางเป็นลูกค้าอยู่มั้ง เลยไม่กล้าด่า (แรงๆ) แล้วยังทำหน้าทำตาอย่างกับครูฝ่ายปกครองที่จับได้ว่าเด็กนักเรียนแอบโดดรั้วหนีโรงเรียนอย่างงั้นแหละ
   

“แล้วคุณเหม่อทำไม ผมกำลังคุยเรื่องซีเรียส!”
   

“โอ๊ย จะเครียดทำไมนักหนาคุณ หัดหลั่งสารเอ็นดอร์ฟีนให้กับชีวิตบ้าง” เรียวจันทร์อดจะหงุดหงิดกับเสียงดังเสียงตะคอก หน้าตาดุเข้ม สายตาเข้มงวดนี่ไม่ได้ เมื่อก่อนเคยเป็นครูมารึไง ห๊า?!
   

“จะให้ผมหลั่งสารความสุขทำเพื่อ?! คุณเกือบทำม้าทั้งคอกผมตาย!” เอ๊ะ?! อะไรกันนักกันหนา
   

“โห่ โอเวอร์ไปมั้ย นี่! ที่จะตายอะ คือผม ม้าคุณมันก็ยังร้องฮี่ๆ อยู่เลย!” เรียวจันทร์เถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ แรกๆ ทั้งคู่ก็คุยกันแบบปกติอยู่ (บ้าง) หรอก อาจจะมีอารมณ์หงุดหงิดของคมเขี้ยวผสมบ้าง แต่สักพักเหมือนเลเวลมันเพิ่มขึ้นๆ จนมาถึงเลเวลนี้ จนเรียวจันทร์ก็เริ่มทนไม่ไหวกับการต่อว่าของอีกฝ่ายที่เริ่มหนักขึ้นๆ แล้วก็เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ
   

“คุณก็ยังไม่ตาย ไม่งั้นคงไม่ยืนเถียงผมคอเป็นเอ็นขนาดนี้!”
   

“เอ๊ะ! คุณนี่ยังไง ก็ต้องเถียงสิ ก็คุณเอาแต่ด่าๆ ผมมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ถามบ้างมั้ยว่าผมเจ็บตรงไหนหรือเปล่า คนที่คุณควรห่วงอะคือผม ไม่ใช่ไอ้ม้าสามศอกนั่น!” แววตาของคมเขี้ยวกระด้างฉับพลัน ใบหน้าหล่อเข้มตึงขึ้นทันที และนั่นก็ทำให้เรียวจันทร์แอบผงะไปนิดแต่ก็ยังทำเชิดว่าไม่กลัว
   

“ม้าผมมันอยู่เฉยๆ แต่คุณเกือบทำมันตาย ถ้ามันหลุดออกไปคิดบ้างมั้ยว่าจะเป็นไง?!” น้ำเสียงห้าวเข้มดังมาจากชายหนุ่มร่างใหญ่ ทำเอาชายหนุ่มร่างบางที่นั่งอยู่ตรงข้ามตัวกระตุกด้วยความตกใจ แต่ก็ยังแอ๊บทำหน้าเนียนว่าไม่รู้สึกอะไร
   

“โอ๋ยยย! นั่นม้าหรือเมียเนี่ย?!!” คมเขี้ยวถลึงตาดุมองเรียวจันทร์ เล่นเอานางตัวกระตุกอีกรอบแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อแอ๊บว่าไม่กลัวไปแล้ว ยังไงก็ยังต้องทำเชิดเถียงต่อ แรกๆ ก็กะจะยอมลงให้อยู่หรอก แต่มนุษย์อย่างเรียวจันทร์ดันหน้าหักไม่ค่อยจะเป็นนี่สิ โถ่ เป็นนายแบบน่ะต้องแกร่งพอตัวนะอยากจะบอก ไม่งั้นล่ะอยู่ยาก
   

“มันก็ไม่หลุดไม่ใช่เหรอ คุณมาสยบมันทันอะ แล้วจะบ่นทำไมอีก… ล่า” ท้ายประโยคเสียงของเรียวจันทร์ยานและอ่อย เพราะสายตาของคมเขี้ยว
   

แต่ถึงจะแกร่งในวงการนายแบบ แต่วงการฟาร์มวัว ฟาร์มม้า อาจจะยังไม่ใช่ที่ของนางละมั้ง
   

“อ้าว แล้วคุณไม่คิดล่ะว่าถ้ามันหลุดออกมา…”
   


“…เออๆ ขอโทษได้ป้ะล่ะ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันหลุดไง ผมควบคุมรถไม่ได้ ผมตกใจ ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละ” เรียวจันทร์รีบตัดบทก่อนที่ไอ้เคราโหดจะบ่นไปถึงชายแดนใต้
   

“แล้วคุณไม่เห็นเหรอว่ามันมีทางให้รถไป ยังจะขับออกนอกเส้นทางอีก!” วะ! ไอ้หมอนี่นี่นะ จะหาเรื่องไม่หยุดเลยใช่มั้ย ม้าตัวนั้นเป็นเมียแกแน่ๆ!
   

“เอ้า! ก็บอกอยู่ว่าตกใจ คุมรถไม่อยู่ พอสติแตก มันก็บิดไปเรื่อยอะ” คมเขี้ยวขมกรามแน่นด้วยความโมโห นึกอยากจะเตะให้ผู้ชายหน้าหวานคนนี้สักที เอาให้หายหงุดหงิด
   

“ออกไปนอกฟาร์มก่อนได้มั้ย ขอเตะสักทีซิ” เรียวจันทร์อ้าปากกว้างพอๆ กับเป็ดที่นั่งอยู่บนโซฟาที่ติดกับผนัง คมเขี้ยวยืนเท้าเอวมองหน้าคู่กรณีด้วยความหงุดหงิดสุดขีด ถ้าสถานะของไอ้หน้าสวยตอนนี้เป็นลูกค้าเขา งั้นพาออกไปข้างนอกสักพักเพื่อลดสถานะเป็นบุคคลทั่วไปก็น่าจะได้อยู่
   

“เฮ้ย! ขอเตะเนี่ยนะ เส้นประสาทบิดเหรอ?! ฉันเป็นนักท่องเที่ยวของคุณนะ เสียเงินให้ฟาร์มของคุณ แล้วยังจะมาขอเตะได้ยังไง มนุษย์นะ! ไม่ใช่ลูกฟุตบอล!”
   

“เออ ขอเตะก่อน ค่อยกลับเข้ามาเป็นลูกค้าใหม่อีกรอบ คนแบบนี้ต้องจัดสักที”
   

“เหยยย! ไรอ้ะ?! ที่นี่ประเทศไทยนะ ถึงมันจะไม่ได้ศรีวิไลซ์มาก แต่ก็ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนป้ะ?!” เรียวจันทร์เชิดคางขึ้น ถลึงตามองอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมเช่นกัน
   

“แต่คุณทำกับม้าผมโคตรเถื่อน!” พอได้จุดติด อารมณ์ของคมเขี้ยวมันก็เริ่มลุกลามเหมือนไฟ เรียวจันทร์มองหน้าอีกฝ่ายแล้วนึกว่าถ้าใครคนไหนบอกว่าตัวเองเป็นทาสแมว หมอนี่อาจบอกว่าตัวเองเป็นทาสม้าก็ได้ เพราะดูโอ๋ไอ้สัตว์ตัวใหญ่สี่เท้ามหึมานั่นซะจริง
   

“นี่! ดูหน้าฉันด้วย เอาตรงไหนมาเถื่อนไม่ทราบ อย่ายัดเยียดสิ่งที่ไม่เหมาะกับหนังหน้าฉันมาให้เด็ดขาด!” หลังจากยืนมองสถานการณ์อยู่สักพัก เป็ดก็เริ่มจะหวาดกลัวว่าอาจมีการตบตีเกิดขึ้นจริงๆ เธอเลยเดินเลี่ยงไปทางประตูออฟฟิศ เดินเลี้ยวขวาผ่านมุมห้องเล็กๆ ในออฟฟิศอีกทีเพื่อไปตามหาใครสักคนมาสยบความวุ่นวายของสองคนนี้
   

“คุณต้องรับผิดชอบแน่ๆ ไม่ต้องห่วง!” คมเขี้ยวกัดฟันแน่น ยกมือชี้หน้าเรียวจันทร์ อีกฝ่ายพอโดนชี้หน้าก็ไม่ยอมเลยยกนิ้วชี้หน้ากลับไปบ้าง
   

“เออ ก็บอกตั้งแต่แรกสิว่าจะให้รับผิดชอบอะไร ยืนบ่นเสียงดังอยู่ได้” เรียวจันทร์ถลึงตาเบะปากใส่พ่อเคราหน้าคมที่ยืนขบเคี้ยวฟันแน่น
   

“ต้องด่าก่อนดิก่อนจะให้รับผิดชอบ ให้รับผิดชอบเฉยๆ แล้วจากไป มันง่ายไป” โห กวนตีน กวนตีนเลยแบบนี้ แล้วยิ่งทำหน้ากวนตีนนี่ชัดเลยว่ากวนตีน
   

“แล้วทำไมจะต้องทำชีวิตให้มันยากด้วย ตึงมากๆ ระวังเส้นประสาทขาด!”
   

“ผมอาจจะขาด แต่คุณอะขาดไปเรียบร้อยแล้ว คนสติดีที่ไหนจะขับรถเข้าไปชนคอกม้าแบบนั้นวะ?!”
   

“เฮ้ย ทำไมต้องวะด้วยวะ ก็บอกแล้วไงว่ามันควบคุมรถไม่อยู่ คิดว่าใครเขาจะอยากขับพาตัวเองไปตายแบบนั้น นี่ไม่ใช่โกสท์ไรเดอร์นะพ่อคุณ!” ถึงตอนแรกจะตั้งใจก็เถอะ แต่พอเอาเข้าจริงๆ วินาทีนั้นสติแตกจริงๆ ต่างหาก เรียวจันทร์บ้าก็จริง แต่ก็ยังไม่บ้าพอที่จะเอาตัวเองไปตายหรอกนะ
   

“ทางนี้ๆ ค่ะ รบกวนทีเถอะค่ะ” เสียงเป็ดดังแทรกขึ้นพร้อมกับพาร่างสูงใหญ่ของใครอีกคนเดินตามเข้ามา
   

“มีอะไรไอ้เขี้ยว คุณคนนี้เขาให้คนงานไปตามป๋ามา เขาบอกว่าแกมีเรื่อง” เรียวจันทร์หันไปมองผู้มาใหม่ในชุดไม่ต่างจากพ่อคมเขี้ยวนัก แค่สีเสื้อลายสก็อตเป็นสีเขียวสลับขาว หน้าตาหล่อไม่แพ้กัน แต่มีริ้วรอยแห่งความสูงวัยไปเยอะแล้ว หนวดเข้มกว่า โดยเฉพาะใต้จมูก ร่างสูงพอกัน แต่ผู้เป็นพ่อดูจะตัวหนากว่าคนเป็นลูก
   

“อยากมีอยู่ป๋า แต่ยังเกรงใจว่าเขาเสียเงินให้ฟาร์มเรา นี่ผมกำลังเชิญเขาออกไปเคลียร์กันนอกฟาร์ม” เรียวจันทร์มองคมเขี้ยวตาโตแล้วรีบหันไปหาผู้ชายอีกคนทันที
   

“คุณป๋าครับ ขออนุญาตเรียกแบบนี้เพื่อความสะดวก คุณป๋า ผมทำผิดก็จริง แต่ผมไม่ได้ตั้งใจ และผมก็พยายามขอโทษแล้ว แต่ลูกคุณป๋าก็ยังเอะอะโวยวาย ประหนึ่งโดนโจรปล้นควายไปจากสมอง” คมเขี้ยวเบิกตากว้างมองหน้าสวยหวานของเรียวจันทร์ ศิริประภายกสองมือปิดปากที่เพื่อนแผลงอิทธิฤทธิ์แห่งฝีปากของนางออกไปเบาะๆ ส่วนผู้มาใหม่ในห้องอ้าปากค้าง แวบแรกเป็ดคิดว่าโดนด่ากลับแน่ๆ ที่ไปด่าลูกชายเขา แต่กลายเป็นว่าคุณป๋าดันหัวเราะชอบใจ
   

“เอ้อ ไอ้เด็กคนนี้ปากดีจัง ป๋าชมนะลูกที่ว่าปากดีเนี่ย มีไม่กี่คนหรอกจะด่าให้ไอ้เขี้ยวอ้าปากค้างอย่างนี้ได้” เรียวจันทร์ยิ้มแฉ่ง ยกมือพนมตรงอกแล้วก้มลงกราบอย่างนอบน้อม
   

“ขอบพระคุณมากครับป๋า”
   

“เฮ้ยป๋า! ยังไงเนี่ย” คมเขี้ยวหันไปถามพ่อด้วยความเคืองใจ ป๋ายกยิ้มให้ลูกชายแล้วหันกลับไปหาหนุ่มหน้าสวยอีกที
   

“ชื่ออะไรล่ะเรา”
   

“เรียวจันทร์ครับ” วินาทีที่ได้ยินชื่อจากริมฝีปากสีชมพูสด หนุ่มสูงวัยก็อ้าปากค้าง สายตาทึ่งปนตกใจสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าของเรียวจันทร์จนเจ้าตัวงง แม้กระทั่งอีกสองคนที่เหลือยังงงไม่แพ้กัน
   

“เรียวจันทร์…” ชายหนุ่มสูงวัยขมวดคิ้ว มองหน้าเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างไม่ค่อยจะมั่นใจเท่าไหร่ กำลังไม่ชัวร์ว่าชื่อแบบนี้จะใช้เรียกผู้ชายได้หลายคนหรือเปล่า ท่าทางลังเลอยู่สักพัก คุณป๋าของนายคมเขี้ยวก็ลองเอ่ยถามดู


“…พ่อชื่ออาทิตย์รึเปล่า” คราวนี้เป็นฝ่ายเรียวจันทร์ที่เบิกตากว้างขึ้น มีทั้งความตกใจและความดีใจผสมอยู่


“ใช่ค่ะ! เอ้ย ใช่ครับ อาทิตย์ ทิพย์เทวา ใช่มั้ยครับ?!” เจ้าของฟาร์มคนพ่อตบมือไปหนึ่งฉาด ก่อนจะยิ้มด้วยความดีใจจนคนเป็นลูกชายทำหน้างง


“งั้นก็ใช่เลย หนูเรียวจันทร์ ลูกไอ้อาทิตย์!” เรียวจันทร์อ้าปากหวอเป็นรอยยิ้ม แต่ก็เป็นยิ้มประหลาดใจ
   

“คุณป๋ารู้จักพ่อผมด้วยเหรอ”
   

“รู้สิ ไอ้อาทิตย์น่ะเพื่อนซี้ป๋าเลย!” ราวกับมีเม็ดฝนชโลมใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน เรียวจันทร์รู้สึกเบ่งบานในอกทันที
   

“จริงเหรอครับเนี่ย?!” นางถามเสียงหลง มันมีความทึ่ง ความเหลือเชื่ออยู่ในน้ำเสียงและหน้าตา ไม่รู้ว่าเหตุการณ์มันมาทางนี้ได้ยังไง แต่นับว่าน่าอัศจรรย์มาก
   

“จริงสิ เพื่อนรักกันเลย ป๋ามีทุกวันนี้ได้ก็เพราะมันนั่นแหละ” โอ๊ย! อยากจะกลับไปกราบพ่อแรงๆ สามที  ไม่ว่าพ่อจะทำอะไรให้ผู้ชายคนนี้มีวันนี้ได้ แต่มันช่างเป็นประโยชน์กับนางมากจริงๆ ขอบคุณพ่อ ขอบคุณโชคชะตา พรมลิขิต กรรมลิขิตอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้
   

“อะไรกันเนี่ยป๋า”
   


“นั่นสิคะ อย่าบอกนะว่าทฤษฏีโลกกลมได้เกิดขึ้น ณ ละติจูดตรงนี้อะค่ะ” คมเขี้ยวกับเป็ดถามด้วยความงงงวย มองหน้าเรียวจันทร์กับคนอายุมากที่สุดในห้องอย่างไม่เข้าใจ จริงๆ เรียวจันทร์น่ะก็งง แต่อารมณ์ดีใจ อารมณ์ลิงโลดมีมากกว่า ก็แหม ตั้งใจจะมาคุยธุรกิจกับเขานี่นะ พอมันมีช่องทางที่พอจะทำได้ก็ต้องดีใจสิ
   

“เรื่องมันยาว แต่เอาเป็นว่าหนูเรียวเนี่ยก็เหมือนลูกป๋าอีกคน…” เจ้าของชื่อยิ้มพริ้มเพรา ดวงตาเป็นประกาย
   

“…สมัยเด็กๆ น่าเสียดายมากที่ทั้งสองคนไม่มีโอกาสได้เจอกัน ไม่งั้นคงเป็นพี่เป็นน้องที่สนิทกันไปแล้ว” เรียวจันทร์กะจะหันไปยิ้มสร้างสัมพันธไมตรีอันดีงามกับพ่อคมเขี้ยวคดเคี้ยว แต่พอเห็นใบหน้าบูดบึ้งที่ยังคงพร้อมเตะนางกระเด็นออกจากฟาร์มก็ทำเอารอยยิ้มสวยๆ หุบยิ้มฉับลงทันใด
   

“ผมถือว่าผมโชคดีและมีบุญ” และมิวายไอ้เคราโหดยังแซะนางอีก เรียวจันทร์เชิดคางขึ้น มองอีกฝ่ายด้วยสายตาหาเรื่อง
   

“เอ๊ ไอ้เขี้ยวนี่ยังไง…” คนเป็นพ่อหันไปปรามลูกชายเบาๆ ก่อนจะหันกลับมาหาลูกของเพื่อนรัก
   

“…จำป๋าได้มั้ยล่ะหนูเรียว” คราวนี้เรียวจันทร์ต้องพยายามงัดความทรงจำในวัยเด็กออกมา นางมองหน้าของพ่อนายคมเขี้ยวแล้วพยายามนึก ถ้าเคยเจอกันตอนเด็ก นางต้องเด็กขนาดไหนกันถึงจำไม่ได้
   

“ขอโทษทีครับคุณป๋า แต่เรียวจำไม่ได้จริงๆ ต้องเด็กมากแน่ๆ ตอนที่เจอคุณป๋า” คนสูงอายุหัวเราะเสียงทุ้มอารมณ์ดีและพยักหน้าหงึกๆ
   

“ใช่ เราเพิ่งขวบเดียวเอง กำลังหัดพูดเลย…” เรียวจันทร์ยิ้มแห้ง รู้สึกคะแนนลดลงไปนิด เพราะดันจำคนนี้ไม่ได้ คุณป๋าหันไปมองคมเขี้ยวแล้วสลับกลับมามองเรียวจันทร์ก่อนจะยกยิ้มกริ่มราวกับนึกอะไรดีๆ ขึ้นมาได้
   

“ไม่สงสัยบ้างเหรอว่าชื่อเราสองคนน่ะคล้องจองกันนะ” เจ้าของชื่อทั้งสองคนรวมทั้งเป็ดต่างก็ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ หันไปมองผู้ใหญ่ในห้อง
   

“ป๋าตั้งชื่อให้เราเองแหละ ตอนนั้นพ่อเรายังไม่มีชื่อเรียกเราด้วยซ้ำ เรียกแต่ตาหนูๆ แต่วันที่มาหาป๋าน่ะ เป็นวันที่พระจันทร์มันมีครึ่งเสี้ยว บวกกับนึกถึงเจ้าเขี้ยวพอดี ป๋าเลยตั้งชื่อนี้ให้ เพราะพ่อเราน่ะเขาอยากฝากฝังเราไว้กับป๋าหากว่าเขาไม่อยู่แล้ว” หัวใจดวงน้อยของเรียวจันทร์กระตุกวูบ ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มแจ่มใสเกือบจะกลายเป็นหมองลงไปทันตา แต่ก็ยังปั้นยิ้มได้ คมเขี้ยวทันเห็นอาการนั้นแต่ไม่ได้พูดอะไร หันไปมองหน้าบิดาที่ยิ้มเศร้าๆ ออกมาเช่นกัน
   


“แบบนี้นี่เอง…” เรียวจันทร์เอ่ยเสียงแผ่ว เอาเข้าจริงแล้ว นางไม่เคยรู้ต้นกำเนิดของชื่อตัวเองเลยด้วยซ้ำ แม้แต่ต้นกำเนิดของนางจริงๆ นางยังไม่รู้เลย แต่นาวก็ไม่เคยคิดขุดคุ้ยหา เพราะตัวนางเองก็ชอบชื่อนี้และชอบชีวิตที่เป็นอยู่แล้ว แม้จะมีแม่เป็นมารผจญอยู่บ้างก็เถอะ
   

“นี่ป๋า ขอเวลาผมแทรกแปบ อย่าเพิ่งเอาประเด็นอื่นมาปนได้ป้ะ ผมยังไม่จบประเด็นกับสิ่งที่เขาทำความเสียหายให้ฟาร์มเราเลยนะ นั่นมันอดีต แต่ตอนเนี้ย ปัจจุบัน” กำลังได้ฟีลรำลึกความหลังอันหอมหวาน ก็ต้องมีอันสะดุดไปเพราะไอ้ลูกชายเจ้าของฟาร์ม เรียวจันทร์หันไปมองหน้าคมเขี้ยวด้วยความหมั่นไส้


เฮอะ! ไม่ง้อแล้วโว้ย ฉันไม่ต้องเข้าทางแกแล้ว เข้าทางป๋าก็ได้
   

“เออ หนูเรียวอย่าไปถือสาเจ้าเขี้ยวมันมากนะ พอดีป๋ายกทุกอย่างให้มันดูแลแล้ว มันเลยต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุดน่ะ” อ้าว! ดับวูบเลย ยากเลยทีนี้ ถ้าไอ้หมอนี่ดูแลอยู่ คงไม่ได้ตะล่อมขอซื้อที่ดินง่ายๆ ซะแล้วมั้ง
   

“เอาะ… อ้อ เหรอครับ อ๋อ เก่งมากเลย” พูดอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ความยากกลับมาเท่าเดิมอีกแล้ว จากตอนแรกมีคุณป๋าที่ทำว่าจะมาช่วยได้บ้าง แต่ถ้าฝ่ายนั่นยกทุกอย่างให้ลูกชายไปแล้ว ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย
   

“ใช่ ไอ้เขี้ยวมันเก่งนะ ตอนเด็กๆ พ่อเรายังอยากให้เรามาอยู่กับพี่เขี้ยวเขาเลย มาเรียนรู้งานเล็กๆ น้อยๆ กับพี่เขา” พ่อคิดอะไรอยู่เนี่ย ถึงจะส่งเรียวมาอยู่กับไอ้ผู้ชายคนนี้
   

ทั้งสองคนจ้องตากัน เรียวจันทร์แอบเบ้ปากใส่นิดหน่อย ส่วนคมเขี้ยวจ้องกลับมานิ่งแต่กวนตีนเหลือเกิน
   

“แกๆ มาอยู่นี่ก็ดีนะ” เป็ดที่ยืนฟังเรื่องราวรวมญาติโดยบังเอิญแล้วก็คิดอะไรบางอย่างออก เลยเดินเข้าไปกระซิบด้านหลังเพื่อนให้ได้ยินกันสองคน แล้วด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมานานนับสิบปี เรียวจันทร์ก็เก็ททันทีว่าเป็ดต้องการจะบอกอะไร นางเลยหันกลับไปยิ้มหวานกับคุณป๋าที่มองกลับมาด้วยความใจดี
   

“เอ่อ จริงๆ พ่อก็เคยพูดถึงบ้างว่าอยากให้เรียวมาเยี่ยมฟาร์มอะไรสักอย่าง แต่ตอนนั้นเรียวอยู่นิวยอร์ก เลยไม่ค่อยได้สนใจ…” ใครว่าล่ะ ไม่สนใจเลยต่างหาก แล้วพ่อก็ไม่เคยบอกหรอกนะ หรือจริงๆ อาจจะเคยบอกแต่นางไม่ค่อยฟังก็ไม่รู้
   

อ้อ! ไม่สิ นางเพิ่งนึกขึ้นได้ พ่อเคยบอกว่าพ่อมีเพื่อนเป็นเจ้าของไร่ เจ้าของฟาร์มสักอย่างเนี่ยแหละนะ แต่ตอนนั้นก็แค่รับฟังไม่ได้คิดอะไรมาก อ่าฮ่า! อย่างน้อยก็ถือว่าพ่อบอกละน่ะ
   


“…ถ้าตอนนี้เรียวสนใจอยากมาลองอยู่ มาเรียนรู้งานบ้าง คุณป๋าจะว่าอะไรมั้ยครับ” สิ้นคำของพ่อหนุ่มหน้าสวยหวาน คมเขี้ยวก็เบิกตากว้าง ส่วนคนเป็นพ่อนั้นยิ้มกว้างเชียว
   

“ได้สิ!”
   

“ไม่เอา ป๋า!” คนเป็นพ่อหันไปขมวดคิ้วมองลูกชายที่ทำหน้าแข็งขืนว่าไม่เอาเด็ดขาด
   

“แกอยู่เฉยๆ ก่อนไอ้เขี้ยว เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน” คมเขี้ยวอ้าปากทำท่าจะเถียงต่อ แต่ถูกประมุขของบ้านยกมือห้ามไว้ เขาเลยต้องเงียบแล้วมองเรียวจันทร์ด้วยความเคืองสุดขีด ส่วนคนถูกมองก็ทำหน้าลิงหลอกเจ้ากลับไป แต่พอคุณป๋าหันกลับมาก็ยิ้มเป็นเด็กดีทันที
   

“มาเลย ป๋ากำลังหาคนมาคอยช่วยงานออฟฟิศไอ้เขี้ยวอยู่พอดี มันไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ หนูเรียวโตมาแล้วหน้าตาละเอียดลออดีนะ ไม่ผิดอย่างที่คิดไว้ หน้าสวยอย่างกับผู้หญิงแต่เด็ก” เรียวจันทร์ยิ้มกว้างกับคำชมนั้น ผู้ชายคนไหนจะโกรธเวลาโดนชมว่าหน้าสวยแบบผู้หญิง โกรธไปเถอะ ถ้าไม่ชอบ เอามาลงที่นางนี่ นางชอบ
   

“มันเกี่ยวอะไรกันป๋า หน้าแบบนี้ใช่ว่าจะทำงานดี” คมเขี้ยวยักสองคิ้วมาทางเรียวจันทร์ สีหน้าดูถูกอย่างชัดเจน คนโดนมองอ้าปากเตรียมเถียงกลับ แต่ก็โดนเพื่อนสนิทพูดแทรก
   

“เอ่อ อาจจะยังไม่ทราบกันนะคะ เรียวเนี่ย ไปอยู่เมืองนอกมาเจ็ดแปดปีเลยนะคะ อยู่ที่นู่น เรียวต้องดูแลตัวเอง จัดการชีวิตตัวเอง จัดการตางการทำงานของตัวเอง คือทำทุกอย่างด้วยตัวเองหมดค่ะ เป็ดเชื่อว่า ถ้าเรียวมาเป็นผู้ช่วยคุณคมเขี้ยวนะคะ เรียวจะต้องทำได้ดี” เรียวจันทร์หันไปมองเพื่อนสาวคนสนิทด้วยสายตาทึ่งผสมรอยยิ้มอึ้ง แล้วก็นึกขอบใจเพื่อนที่เลือกจะพูดแต่แง่ดีๆ ของนาง เป็ดหันมายิ้มหวานราวกับนางสาวไทยได้มงกุฎ
   

“ถ้าหนูเรียวสนใจ พร้อมเมื่อไหร่บอกป๋ามาได้เลย”
   

“เฮ้ยป๋า?! ถามผมหน่อยมั้ย ผมไม่อยากได้ คุมไอ้พวกนั้นยังง่ายกว่าคุมคนแบบนี้อีก!”
   

“อ้าวเฮ้ย คุณคมเขี้ยวเคี้ยวอ้อย จะมาคุมอะไรเนี่ย ไม่ต้องคุม ดูแลตัวเองได้ ก็แค่มาทำงานป้ะ”
   

“ดูแลตัวเองได้? เอาสมองฝั่งไหนคิดครับคุณเรียวจันทร์ไร” เจ้าของชื่ออ้าปากกว้างอย่างตกใจ ยกมือสั่นๆ ของตัวเองชี้หน้าอีกฝ่ายที่ยักคิ้วขวากลับมาให้อย่างไม่สะทกสะท้าน
   

“อะ… ไอ้… ฮือออ” ไม่รู้จะด่าอะไรกลับ ร้องไห้ตอบซะเลย แต่ไม่ได้ร้องจริงหรอก เรียวจันทร์ก็แค่ทำเสียงงอแงเท่านั้นเอง
   

“ไอ้เขี้ยว ปากแกนี่มันน่านัก…” คมเขี้ยวขมวดคิ้วมองพ่อตัวเอง ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องปกป้องอีกฝ่ายขนาดนั้น
   

“…ขอโทษนะหนูเรียว อย่าไปถือสาไอ้เขี้ยวมัน เอาเป็นว่า มันไม่รับ แต่ป๋ารับหนูเข้ามาอยู่ด้วยกัน ฟาร์มนี้ก็เหมือนของหนูเรียวนั่นแหละ” พอได้ยินประโยคนั้นคนที่กำลังงอแงก็หยุดฉับ ยิ้มแฉ่งน่าเอ็นดูในสายตาคนเป็นผู้ใหญ่ แต่ในสายตาอีกคนน่ะเหรอ
   

หึ! หน้าไหว้หลังหลอก ไอ้จิ้งจอกจอกพันหน้า!
   

“แล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นล่ะป๋า ผมไม่ยอมนะ?!” คนเป็นพ่อหันไปมองหน้าลูกชายที่ทำท่าว่าไม่ยอมจริงๆ
   

“งั้นเอางี้ ก็ให้หนูเรียวมาทำงานชดใช้ให้แก โอเคมั้ย?!”
   

“ไม่เอา จ่ายเป็นเงินมาเลย ทีเดียวจบ ไม่ต้องมาพบ มาเจอกันอีก เอาคนแบบนี้เข้ามาอยู่ในฟาร์ม เดี๋ยวก็บรรลัยหมดพอดี!”
   

“โอ้ว มายก็อด” เป็ดเอ่ยด้วยความตกตะลึงเสียงเบากับคำพูดคำจาของพ่อรูปหล่อคนนั้น เรียวจันทร์กัดฟันแน่น มองไอ้เคราโหดอย่างกับจะกินเลือดเกินเนื้อ
   

“นี่! ฉันไม่ใช่ตัวซวยนะ! หน้าอย่างนี้จะมาทำความเสียหายให้ฟาร์มได้ยังไง หน้าตาฉันดีขนาดนี้ มันต้องมีแต่สิ่งดีๆ เสะ!” พ่อของคมเขี้ยวยิ้มขำกับสีหน้าท่าทางของลูกเพื่อนสนิทตัวเอง แล้วก็นึกชื่นชมอยู่ในใจว่าแม้จะมีร่างกายเป็นผู้ชาย แต่เด็กคนนี้รับความสวยของคนเป็นแม่มาเยอะมากทีเดียว 
   

“โห แม่งโคตรหลงตัวเอง!” คมเขี้ยวตอกกลับ มองด้วยสายตาที่คล้ายจะมีความสมเพชผสมอยู่นิดๆ เล่นเอาเรียวจันทร์แทบจะเต้นเร่าๆ
   

“ฉันมีดีให้หลงก็แล้วกัน!” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น แล้วใช้สายตาสำรวจสภาพของอีกฝ่ายที่หน้าเปื้อนดิน ผมเผ้ายุ่งเหยิง เศษหญ้าติดไม่ยอมหลุด เรียวจันทร์รู้ตัวว่าโดนมองด้วยสายตาแบบไหน และรู้ตัวว่าสภาพตัวเองเป็นยังไง เลยได้แต่ทำท่าอึกอัก แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้
   


“ชีวิตคนเราก็… ก็ อาจจะโดนทำร้ายบ้าง… เป็นบางเวลา” เรียวจันทร์พูดเสียงตะกุกตะกักยกมือขวาป้ายหน้า แต่นั่นยิ่งทำให้ขี้ดินเปื้อนหน้ามากขึ้นไปอีก สร้างรอยยิ้มขำขันให้กับคุณป๋า แถมนายคมเขี้ยวนั่นยังร่วมขำไปด้วยเลย
   

“ไปล้างหน้าล้างตาเถอะไป มอมแมมเหมือนตอนเด็กไม่มีผิด”
   

“เดี๋ยวก่อนป๋า สรุปจะให้เรื่องจบแบบเนี้ยอะเหรอ”
   

“แกจะต่อความยาวสาวความยืดไปทำไมไอเขี้ยว เอาแบบนี้แหละ แล้วเดี๋ยวแกกับป๋าค่อยมาคุยกัน รอแม่เขากลับมาก่อน” พอบ่นลูกชายเสร็จก็หันกลับไปยิ้มอบอุ่นให้กับเรียวจันทร์
   

“ป๋าไปดูวัวก่อนนะ เที่ยวเต็มที่เลยนะหนูเรียว” สองเพื่อนซี้ยกมือไหว้ผู้สูงวัย อีกฝ่ายรับไหว้แล้วเดินจากไป ทั้งสามคนได้ยินเสียงประตูปิดตามหลัง เรียวจันทร์หันกลับไปมองคมเขี้ยว แล้วยักคิ้วเหนือกว่าไปให้
   

“อย่าคิดว่าจะเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ง่ายๆ” คมเขี้ยวว่าเสียงขู่ หน้าตาเอาจริง แต่เรียวจันทร์ทำเพียงยักไหล่ขวาน้อยๆ จนพ่อรูปหล่อหน้าหนวดที่เพิ่งดึงสติกลับมาได้และเพิ่งสังเกตดีๆ ก็ขมวดคิ้วฉับว่าคนตรงหน้านี้มีจริตเกินผู้ชายปกติมากเหลือเกิน
   

“ง่ายหรือยาก ยังไงป๋าของคุณก็อนุญาตฉันแล้ว” คมเขี้ยวขบกรามแน่น ไอ้เรื่องที่อีกฝ่ายจะมีจริตมากน้อยยังไง จะเป็นอะไร เขาไม่สนหรอก ที่เขาสนคือต้องทำยังให้คนๆ นี้ไม่ต้องมายุ่งกับฟาร์มของเขา
   

ปัง!!!
   

“เว้ยยย!!!” เรียวจันทร์กับเป็ดสะดุ้งและร้องออกมาสุดเสียงเพราะคมเขี้ยวใช้สองมือตบลงบนโต๊ะไม้เสียงดังสนั่น ก็กำลังหันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กันอยู่ดีๆ เสียงตบโต๊ะก็แทรกเข้ามาแบบไม่ได้ตั้งใจ อีแม่ก็ใจหล่นตุ้บสิ!
   

“คุณทำม้าผม ผมไม่ยอมง่ายๆ แน่” คมเขี้ยวชี้หน้า ทิ้งสายตาอาฆาตเอาไว้ แล้วเดินเลี่ยงออกไป สองเพื่อนซี้เลยหันไปหัวเราะคิกคักด้วยกันสองคน
   

“ขอบคุณมากเลยนะเป็ดที่ช่วยพูดให้อะ”
   

“ฉันสนับสนุนให้แกทำแบบนี้ ดีกว่าแกเอาชีวิตไปเสี่ยงแบบนั้น แต่ฉันว่าการที่แก…”   
   

“…เฮ้ย! ออกมาได้แล้ว จะปิดออฟฟิศ!” เสียงตะโกนดังลั่นมาจากหน้าประตูออฟฟิศ ทำให้ทั้งสองคนตกใจหน้าตื่นแล้วรีบกุลีกุจรวิ่งออกจากออฟฟิศไปด้วยสภาพทุลักทุเล

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/100%:22.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 22-12-2015 17:53:02
 :hao3:

อยากพลีกายให้พี่เขี้ยวจริง แต่กลัวแม่เรียวดุ

 :laugh:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/100%:22.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 22-12-2015 18:39:27
คิดถึงจะแย่ เป็นกำลังใจให้เรียวจันทร์สู้ต่อไป 55555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/100%:22.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 22-12-2015 19:09:33
คุณป๋าของทั้งสองคนรู้จักกันดีซะด้วย  :hao7: ทางสะดวกก หุหุ
ขำสองคนนี้ 5555555 #ทีมพี่คมเขี้ยวเคี้ยวอ้อย vs #ทีมน้องเรียวจันทร์ไร  :laugh: เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/100%:22.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 22-12-2015 19:21:26
รอ ๆ คิดถึงเรียว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/100%:22.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 22-12-2015 20:53:41
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/100%:22.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ 22-12-2015 22:15:11
ต้นตออาจจิมาจากลุงที่บอกให้มา(ชื่อไรหว่าา)หาพี่เขี้ยวของเรียวจันทร์ที่เป็นทาสม้าตัวใหญ่มหึมา ก็เป็นได้...
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๔/100%:22.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 24-12-2015 23:50:40
สนุกมากเบยยยยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 31-12-2015 15:35:49


คาถาที่ 5 :: The confession of Devil. [คำสารภาพของนางมาร] [50%]




“ผมไม่เข้าใจป๋าเลยอะแม่ ว่าทำไมถึงยอมให้ไอ้คนนั้นเข้ามาอยู่ในฟาร์มเรา แถมยังปกป้องออกหน้าออกตาอีก!” การประชุมเล็กๆ ภายในครอบครัวพยัคฆ์เกรียงไกรมีขึ้นในช่วงอาหารค่ำบนโต๊ะไม้มันเลื่อมในห้องทานอาหารที่อยู่ติดกับห้องครัว คนเป็นลูกชายยังคงรู้สึกคาใจกับประเด็นเมื่อช่วงบ่ายของวัน ท่าทางเขาไม่ค่อยจะพอใจนักกับการตัดสินใจของบิดา


“นั่นสิคะคุณเมฆ จากที่แม่ฟังลูกเล่ามา ทำไมคุณปกป้องเด็กคนนั้นจัง” หญิงสาวเลยวัยกลางคนไปหน่อยเอ่ยถามเสียงใส ใบหน้าสวยคมผิวน้ำผึ้งนิ่วเบาๆ ตามอารมณ์ไม่เข้าใจของตน


คนถูกถามหรือประมุขของบ้านยิ้มน้อยๆ กับอดีตที่หวนเข้ามาในห้วงความคิดของตนก่อนตอบ “ผมเคยเล่าให้ฟังแล้วคุณบัว ว่าผมมีเพื่อนรักอยู่คนหนึ่ง แล้วเขาก็มีลูกชายซึ่งลูกไอ้อาทิตย์ก็เหมือนลูกผมอีกคน”


คมเขี้ยวขมวดคิ้วฉับแล้วพูดน้ำเสียงห้วน “ผมว่าไม่น่าจะเป็นลูกชาย แค่หน้าก็สวยละ ไม่ต้องพูดถึงพฤติกรรม ชัดเจนขนาดนั้น”


คนเป็นพ่อโบกมือเป็นเชิงปัดทิ้งกับสิ่งที่ได้ยินพร้อมกับส่ายหน้าเหมือนว่าไม่ได้ใส่ใจกับประเด็นตรงนั้นแล้วตักข้าวเข้าปากหนึ่งคำ “เขาจะเป็นอะไรก็ช่าง แต่ที่แน่ๆ เขาเป็นลูกเพื่อนรักของป๋า รักมากด้วย ไม่มีเพื่อนคนนี้ก็ไม่มีครอบครัวเราอย่างทุกวันนี้”


คนเป็นลูกยังคงขมวดคิ้วและขมวดหนักกว่าเดิมแถมยังเพิ่มเติมความไม่เข้าใจให้กับตัวเอง ส่วนคุณบัวผู้เป็นศรีภรรยาเริ่มมีสีหน้าที่เข้าใจมากขึ้น


“คนนี้เองเหรอคะ” ประมุขของบ้านยิ้มอบอุ่นพร้อมพยักหน้า คนเป็นลูกยังคงอยู่ในหมวดสงสัยใคร่รู้ ยิ่งเห็นมารดาทำท่าว่าเข้าใจกับความคิดบิดาไปอีกคนก็ยิ่งไม่เข้าใจ


“คนนี้? คนนี้อะไรกัน” คมเขี้ยวขมวดคิ้วเข้ม คนเป็นพ่อยิ้มกริ่มท่าทีอบอุ่น


“ที่ดินที่ป๋าให้แกดูแลอย่างดี เป็นของเด็กคนนี้แหละ” คมเขี้ยวเบิกตากว้าง มองหน้าคนเป็นพ่อด้วยความทึ่ง เมฆาพยักหน้ายืนยันเบาๆ เจ้าลูกชายหันหน้าตกตะลึงของตัวเองไปมองหน้ามารดาเพื่อขอคำยืนยัน พอคุณบัวยิ้มอ่อน กลับมา คมเขี้ยวก็รู้แล้วว่านี่มันคือเรื่องจริง


“เฮ้ยป๋า โลกจะกลมอะไรขนาดนั้นวะครับ” ผู้เป็นพ่อไหวไหล่ทั้งสองข้างแล้วถอนหายใจเบาๆ


“มันไม่ใช่โลกกลมหรอก แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นตามจังหวะเวลาของมัน…” คมเขี้ยวย่นคิ้ว เขายังคงมีความรู้สึกตะขิดตะขวงอยู่ในใจ เอาจริงๆ เหมือนยังไม่อยากยอมรับกับความจริงที่เพิ่งได้ยิน


“…รู้มั้ยเขี้ยว ที่ดินที่เราอยู่กันทุกวันนี้ ก็มาจากพ่อของเรียวจันทร์” เออ! ตะลึงอยู่ ได้ยินแบบนี้ก็อึ้งเข้าไปอีกสิครับ!


“โห บุญคุณเขาท่วมหัวเราขนาดนี้เลยเหรอ” เขาพูดน้ำเสียงเซ็ง ไม่ใช่จะเป็นคนเนรคุณหรอก แต่การที่ชีวิตเขาต้องไปพัวพันกับไอ้หน้าสวยนั่น มันไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนา แค่เจอกันวันเดียวมันยังเปรี้ยวทำให้ม้าทั้งคอกเขาเกือบเยี่ยวราดมาแล้ว เกิดมันมาวุ่นวายวื่อวึงกับฟาร์มเขามากๆ ม้าเขาไม่ขี้แตกขี้แตนเอารึไง


“อาทิตย์มันให้ มันไม่เคยขออะไรตอบแทน ขอแค่ดูแลลูกมันด้วย”


“ทำไมอะ แล้วเขาไม่มีคนดูแลรึไง” เมฆาถอนหายใจ หันไปมองหน้าภรรยาตัวเองที่มีสีหน้าลำบากใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน


“พ่อเล่าให้แม่ฟังว่า แม่ของเรียวจันทร์เป็นผู้ดีเก่า แต่ตกอับ ก็นานแล้วละ พอคลอดเรียวจันทร์เสร็จก็หนีไปกับสามีใหม่เลย” คมเขี้ยวทึ่งเข้าไปอีก ถลึงตาตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน


“โห เพื่อนป๋าเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเหรอเนี่ย น้ำเน่าว่ะป๋า”


“มีน้ำเน่ากว่านั้นอีก” คมเขี้ยวเลิกคิ้วเข้มทั้งสองข้างขึ้นสีหน้าแสดงออกว่า ยังมีอีกเหรอ? ผู้เป็นพ่อพยักหน้าพร้อมกับบิดปากน้อยๆ


“ไอ้อาทิตย์ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของหนูเรียวจันทร์หรอก” คมเขี้ยวกลืนข้าวลงคอสีหน้ามึนงง


“อ้าว แล้วพ่อแท้ๆ เขาไปไหน” ทั้งป๋าทั้งแม่ต่างส่ายหน้าพร้อมกัน ทำเอาคนเป็นลูกหน้าเอ๋อไปอีก


“ไม่มีใครรู้ว่าพ่อเขาเป็นใคร ป๋าไม่อยากว่าผู้หญิงหรอกนะ แต่สมัยสาวๆ น่ะ แม่หนูเรียวควงผู้ชายเยอะมาก”


“อื้อหือ!” ชายหนุ่มผิวน้ำผึ้งจนเกือบคล้ำถึงกับสบถด้วยความอึ้งทึ่ง ไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องราวน้ำเน่าเหมือนละครไทยเมื่อยี่สิบสามสิบปีก่อนในชีวิตจริงของตัวเอง ใช้ชีวิตมาจนถึงตอนนี้ ได้ยินเรื่องน้ำเน่ามาพอสมควร แต่เรื่องนี้เน่าสุดแล้วมั้ง ผู้เป็นพ่อถอนหายใจแผ่วเบา หน้าตาหมองลงไปนิดเมื่อคิดถึงชีวิตของเพื่อนรักกับลูกเลี้ยง


“เอ้อ แกรู้เรื่องที่ดินแล้ว อย่าเพิ่งบอกใครนะ แม้กระทั่งเรียวจันทร์เองก็เถอะ”


“อ้าว ทำไมอะ เขาเป็นเจ้าของที่ดินไม่ใช่รึไง ให้เขาไปดิ” จะมาเก็บไว้ทำไม ในเมื่อเจ้าของมาแล้วก็ยกๆ ให้เขาไป ยิ่งเป็นไอ้เรียวจันทร์ยิ่งรีบๆ ให้ไปเถอะ ดีกว่ากั๊กมันไว้ใกล้ตัว เพราะเขากลัวความวินาศจะเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินเงินทองของทุกคนในฟาร์มจริงๆ


“ถ้าให้ง่ายๆ พ่อเขาจะเก็บเงียบมาทำไม ตอนแรกพ่อจะให้เขี้ยวไปตามหาเรียวจันทร์ด้วยซ้ำ เพื่อมาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่เผอิญตอนนี้มันมีบางอย่างทำให้พ่อเขายังไม่กล้ายกที่ดินให้เรียวจันทร์เขาไปดูแล” คมเขี้ยวหันไปมองหน้าแม่สลับกับมองหน้าพ่ออย่างงงๆ


“นี่เคยมีความคิดจะส่งผมให้ไปตามหาไอ้จันทร์นั่นด้วย” เขาทำหน้าทึ่งปนสยองหน่อยๆ แค่คิดว่าต้องไปตามติดชีวิตของไอ้หน้าหวาน เขาก็ขนลุกแล้ว


“ก็เออสิ ไอ้อาทิตย์มันบอกว่าถ้าหนูเรียวอายุยี่สิบห้าเมื่อไหร่ให้กลับมาจัดการเรื่องที่ดิน แต่พอมันมีคนจ้องจะเอาที่ดินตรงนั้นมากขึ้น ป๋าเลยคิดว่าควรเบรกไว้ก่อน” คมเขี้ยวหน้าตึงเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาไม่ได้โกรธแค้นแทนไอ้เรียวจันทร์ แต่เพราะเขาไม่ชอบไอ้พวกนายทุนต่างหาก


“ไอ้จอมทัพใช่มั้ย?!” ชายหนุ่มพูดเสียงห้วนสะบัด แววตามีแววเกลียดชังจางๆ


“นั่นก็ด้วย แต่มันก็มีอีก…” ประมุขของบ้านพยัคฆ์เกรียงไกรมีสีหน้าหน่ายใจและถอนหายใจแผ่วเบาตามมา


“…แต่ป๋ายังไม่แน่ใจข้อมูลนี้เท่าไหร่ แค่คิดว่าที่ไอ้อาทิตย์มันเคยพูดๆ ไว้น่าจะเป็นจริง” คิ้วเข้มของเจ้าของฟาร์มรูปหล่อขมวดเข้าหากันอีกครั้ง มันจะซ้ำซ้อนอะไรขนาดนั้นกันวะ


“ป๋า ชีวิตไอ้เรียวจันทร์ไรเนี่ย มันประเด็นเยอะไปแล้วมั้ง” เมฆาหัวเราะเสียงทุ้ม พอๆ กับคุณบัวที่หัวเราะอย่างพองามกับอาการไม่เข้าใจของลูกชาย


“เพียบ ใครว่าเรื่องน้ำเน่ามีแต่ในละคร อย่าดูถูกสังคมไทยไอ้เขี้ยว บางมุมที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยได้รับรู้ ใช่ว่ามันจะไม่มีอยู่จริง” คมเขี้ยวยักคิ้วหนึ่งที สีหน้ามึนไร้อารมณ์ร่วม พยักหน้าหงึกหงักไปเรื่อยพลางตักข้าวเข้าปากอีกคำ คือไม่ใช่ว่าไร้หัวใจหรอก แต่จะให้มานั่งสงสารก็ไม่รู้จะทำไปทำไม เพราะก็คงไม่ได้ทำให้ชีวิตไอ้หน้าหวานนั่นดีขึ้น


“เออ แล้วทำไมเพื่อนป๋าถึงยอมเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่ลูกตัวเองอะ” คนถูกถามหันไปมองหน้าภรรยาแล้วเอื้อมมือไปจับมือหญิงสาวไว้พร้อมกับส่งยิ้มให้กันและกัน


“เพราะรักไง” คมเขี้ยวหน้าระอา ทำท่าจะอ้วกข้าวที่เพิ่งตักเข้าปากไปเป็นการแซวพ่อกับแม่ตนเอง


“โห่ป๋า พูดปกติผมก็เข้าใจละ ไม่ต้องแสดงก็ได้” คนเป็นพ่อกับแม่หัวเราะเบาๆ


“ได้ที่ไหน เขี้ยวยังไม่พาสาวคนไหนมาให้แม่รู้จักสักที หนูเอื้องก็น่ารักนะ ไม่รู้ทำไมเล่นตัวกับเขานัก” คนเป็นแม่เอ่ยแซวและพูดถึงหญิงสาวที่มาชอบลูกชายได้สักพักแล้ว แถมยังคอยเทียวไปเทียวมาบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้อ่อยจนเกินงาม


“ก็ดูๆ ไปก่อนแม่ รีบทำไมล่ะ อีกอย่างตอนนี้ผมก็มีความสุขดี” เขาไม่รีบ ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องรีบมีเมีย มีครอบครัวเป็นตัวเป็นตนขนาดนั้น ทุกวันนี้เขาไม่มีใคร เขาก็อยู่ได้ สบายใจดี ไม่คิดว่าตัวเองขาดอะไรไป นอกจากช่อเอื้องที่แม่เขากล่าวถึง ก็ยังมีผู้หญิงคนอื่นอีกที่คอยมาส่งสายตา คอยมาโปรยเสน่ห์ใส่ เขาก็ทำได้เพียงยิ้มรับ แต่ไม่คิดรับรักหรือความเสน่หาทั้งหลายเหล่านั้น มันเป็นเรื่องที่ดี แต่ในหัวเขาไม่คิดจะมีใครจริงๆ อาจเพราะพวกเธอยังไม่ใช่ไม่โดนใจมั้ง


“ได้ม้าเป็นเมียซะแล้วมั้ง” คนเป็นพ่อหัวเราะร่า เลยทำให้คนเป็นแม่หัวเราะตาม ส่วนคนเป็นลูกนั้นยิ้มหน่ายใจพร้อมโคลงหัวเบาๆ คำพูดไอ้เรียวจันทร์ที่ด่าเขาว่ามีเมียเป็นม้าพุ่งวาบเข้ามาในหัวทันที


“แหม่ป๋า ว่าไปนั่น ก็ผมโตมากับไอ้หงายแต่เด็กนี่” อยู่กับมันตั้งแต่มันคลอดออกมาจากท้องแม่มัน เวลาเหงาๆ ก็ไปเล่นกับมันเหมือนพวกคนรักหมารักแมวนั่นแหละ พอมันโตขึ้นเขาก็ช่วยคนงานของพ่อฝึกมัน จนทุกวันนี้มันเป็นม้าเบอร์หนึ่งของฟาร์มเลยก็ว่าได้


“เออ ระวังเหอะ ไม่ได้ม้าเป็นเมีย ก็ได้เมียพยศเหมือนม้านี่แหละ” ทั้งสามคนยิ้มขบขัน เมฆามองหน้าลูกชายแล้วยิ้ม มันมีแฟนคนเดียว คบกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย จนกระทั่งขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วก็เลิกรากันไปก่อนจบ ฝ่ายหญิงน่ะแต่งงานมีลูกไปนานแล้ว แต่ไอ้เจ้าลูกชายเขาสิ ยังโดดเดี่ยวเดียวดายเป็นชายโสดอยู่เลย แต่เขาก็ไม่เคยคิดไปเร่งเร้าหรือบังคับเรื่องนี้กับลูกมันหรอก เพราะสำหรับเขาแล้ว เรื่องหัวใจมันบังคับกันไม่ได้ เขารู้ดี


 คุณบัวเองก็เช่นกัน หล่อนไม่เคยคิดบังคับลูกชายเรื่องนี้ แต่ก็แอบหวังอยากเห็นลูกชายมีชีวิตชีวาจากความรักบ้าง ทุกวันนี้ลูกชายหล่อนมีความสุขกับการทำงานเหลือเกิน แต่มันจะไปเหมือนกันได้อย่างไร หล่อนอยากเห็นลูกชายมีความสุขเพราะมีใครข้างกายสักคน แล้วก็แอบอยากเห็นลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝาอยู่เหมือนกัน แต่ที่สุดแล้ว หล่อนปล่อยให้เป็นเรื่องของหัวใจลูกชายตัวเองดีกว่า เพราะคมเขี้ยวเป็นเด็กดีมาตลอด มีเรื่องให้ผิดหวังบ้างแต่ก็เล็กน้อย ไม่ได้ใหญ่โต เรื่องดีๆ ที่ลูกชายหล่อนทำมีให้ภูมิใจมากกว่า


“เอ้อ แล้วทำไมป๋าถึงไปตั้งชื่อลูกเขาได้อะ แถมยังตั้งซะผู้ยิ้งผู้หญิง” คมเขี้ยวอดสงสัยกับประเด็นนี้ไม่ได้ ถึงไอ้นั่นมันจะไม่ได้เป็นชายชาตรีเต็มร้อย แต่ถ้าพูดแค่ชื่อใครก็ต้องคิดว่าเป็นผู้หญิงนั่นแหละ


“ก็ไอ้อาทิตย์มันคิดชื่อลูกไม่ออก มันรับหนูเรียวจันทร์มาอยู่ด้วยกะทันหัน ตอนแรกเรียกตาหนูๆ จนเรียวจันทร์ได้ขวบสองขวบเนี่ยแหละ หนูเรียวก็มีชื่อเพราะป๋าตั้งให้ แล้วอาทิตย์มันก็ยกเรียวจันทร์ให้เป็นลูกป๋าอีกคน”


“ก็เท่ากับว่าเขาเป็นน้องชายเราน่ะแหละเขี้ยว ชื่อเรียวจันทร์พ่อเขาก็ตั้งมาให้คล้องจองกับเรา” มารดาของเขาเสริมขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น คนเป็นลูกชายขมวดคิ้วนิดหน่อย ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ดูรักและเอ็นดูไอ้ออกสาวนั่นขนาดนี้ ก็รู้แหละว่ามีบุญคุณ แต่ทำอย่างกับคลอดมันออกมาอีกคนงั้นอะ


“น้องชาย? ไม่มั้ง ผมว่าแม่งไม่แมน”


“ก็ไม่แปลกใจ ไอ้อาทิตย์ชอบจับหนูเรียวแต่งตัวเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ มันบอกลูกมันสวย” เมฆาหัวเราะเสียงทุ้มเมื่อนึกถึงอดีตกับเพื่อนสนิท


“แล้วเขาจะเป็นยังไงก็ปล่อยเขา ชีวิตเขาเศร้าพอแล้ว อย่าไปทำลายตัวตนเขาเลย” คมเขี้ยวพยักหน้าน้อยๆ หน้าตาไม่ได้ยินดียินร้ายเท่าไหร่ จะเป็นอะไรก็ไม่ได้เกี่ยวกับเขาหรอก ขอแค่อย่ามาสร้างความวินาศให้เขาอีก


“เอ้อ แล้วพ่อเขาไปไหนอะ” เมฆาหันไปมองหน้าภรรยาด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย ก่อนจะถอนหายใจแผ่ว




“พ่อ วันนี้เรียวไปเจอเพื่อนพ่อมาด้วยนะ บังเอิญมากเลยอะ ไม่คิดว่าจะเจอกัน พ่อไปนัดแนะอะไรกับเขามาก่อนรึเปล่าเนี่ย…” รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นใบหน้าสวยเมื่อได้พูดกับผู้เป็นพ่อผู้เป็นที่รัก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสุกใสเหมือนกวางน้อยอ่อนแสงลงเมื่อยามมองหน้าบิดา


“…เพราะความบ้าของเรียวแท้ๆ ที่ทำให้เรื่องดำเนินมาถึงจุดนี้ได้ ใครจะคิดว่าเพื่อนพ่อจะอยู่ที่นั่น เรียวจำไม่ค่อยได้หรอกนะ ว่าจริงๆ เคยไปที่ฟาร์มนั้นหรือเปล่า เพราะมันก็นานมากแล้วเนอะ” เรียวจันทร์หยุดยิ้มแล้วมองหน้าบิดาตัวเองด้วยสายตาอ่อนโยนผสมกับความคิดถึง


“เรียวไม่ได้อยากทำแบบนี้เลยพ่อ แต่คิดว่านี่คือวิธีที่น่าจะดีแล้ว เรียวมีเงินก็จริง แต่ไม่มากมายที่จะใช้หนี้ให้แม่เยอะขนาดนั้น เรียวอยากทิ้งเขา แต่เพราะพ่อบอกว่ายังไงเขาก็คือแม่ เรียวก็จำคำพ่อมาตลอด…” น้ำตารื้นขึ้นมาตรงขอบตาคู่สวยทั้งสองข้าง ความเหงา ความเหนื่อยล้าเกาะกุมหัวใจดวงน้อย


“…แต่เรียวเหนื่อยจังพ่อจ๋า แม่ไม่เคยหยุดเลย เรียวอยากปล่อยให้เขาไปตามทางของเขาแล้ว เขาไม่เคยให้กำลังใจเรียว มีแต่เหยียบย่ำซ้ำเติมด้วยการเพิ่มเติมปัญหา” มือบางนุ่มนิ่มยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากสีชมพูสั่นน้อยๆ ยามเปล่งเสียงพูดออกมา ใบหน้าสวยประหนึ่งหญิงสาวหมองลงด้วยความเศร้า


“เรียวคิดถึงพ่อ เรียวอยากให้พ่ออยู่ด้วยกันตอนนี้” เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ร่างบางก็เหมือนได้ปลดเปลื้องความเข้มแข็งทุกอย่างที่ห่อหุ้มตัวเองอยู่ ลึกๆ เรียวจันทร์รู้ว่าตัวเองอ่อนแอและเหนื่อยล้ามากแค่ไหน นางแค่ต้องการกำลังใจจากคนสำคัญอย่างพ่อตัวเอง แม้จะไม่ใช่พ่อแท้ๆ แต่พ่ออาทิตย์ก็เลี้ยงดูนางมาอย่างดี แต่ว่าตอนนี้พ่อไม่อยู่แล้ว


พ่อจากไปแล้ว จากไปเมื่อสองปีก่อน เหตุผลที่นางต้องกลับมาอยู่ไทยก็เพราะพ่อกำลังจะจากไป กลับมาเพื่อดูแลพ่อในช่วงสุดท้ายของชีวิต


“ฮึก… เรียวคิดถึงอ้อมกอดของพ่อ” เรียวจันทร์ดึงกรอบรูปพ่อที่ตั้งอยู่ข้างโกศเก็บอัฐิของพ่อมากอดไว้แนบอกแล้วก้มหน้าลงร้องไห้สะอึกสะอื้น น้ำตาหยดแหมะลงบนกรอบกระจกของรูป หนึ่งหยดของน้ำตาไหลผ่านแก้มรูปบิดาของเรียวจันทร์ราวกับผู้เป็นพ่อนั้นร้องไห้ไปกับลูกชายสุดที่รักด้วย


ป้าอุ่นกำลังเดินตามหาคุณหนูของตัวเอง พอได้ยินเสียงร้องไห้เธอก็รีบเดินเข้าไปในห้องนอนของคุณผู้ชาย เห็นเรียวจันทร์นั่งกอดรูปพ่อตัวเองอยู่บนของเตียงแล้วก็นึกเวทนา ด้วยความที่เธอเองก็ช่วยคุณผู้ชายเลี้ยงคุณหนูมา เมื่อเห็นภาพว้าเหว่นั้นจึงน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้


“คุณเรียว…” เธอเอ่ยเสียงแผ่วเบา เจ้าของนามเงยดวงหน้าขึ้นมามอง น้ำตานองหน้าสวยหวานเกินชายของเรียวจันทร์ ป้าอุ่นยิ้มน้อยๆ ใจหนึ่งนึกสงสาร อีกใจก็ชวนให้นึกถึงคุณหนูเรียวจันทร์ในวัยเด็กยามร้องไห้น้ำตาเปรอะเปื้อนแก้มยุ้ยแล้วมีคุณพ่อคอยกอดปลอดใจ แต่ยามนี้คุณหนูของเธอไม่มีใครกอดปลอบโยน เธอทำก็คงเทียบไม่เท่ากับคุณผู้ชายหรอก


“ไม่เป็นไรป้าอุ่น มันแค่วูบเดียวเท่านั้น” เรียวจันทร์ไม่ชอบให้ใครมาปลอบใจ (ยกเว้นพ่อ) เพราะคุณหนูของเธอไม่ชอบให้ใครมาสงสาร ไม่ชอบให้ใครมาปลอบโยน น้อยครั้งนักที่คนๆ นี้จะแสดงความอ่อนแอออกมา แม้จะเหนื่อย จะล้า จะเจ็บยังไง ไม่ว่ากับเรื่องอะไร เรียวจันทร์จะซ่อนมันไว้และสลัดมันทิ้งออกไปได้อย่างดีเสมอ


“ไปทานข้าวกันนะคะ ป้าเตรียมไว้ให้แล้ว” เรียวจันทร์หยุดสะอื้น พยักหน้ารับเบาๆ วางรูปพ่อลงบนโต๊ะข้างเตียง ลุกขึ้นยืนแล้วใช้สองมือเช็ดน้ำตาจนหมดไปจากแก้ม สูดลมหายใจเข้าปอดหนึ่งที ปรับสีหน้าให้มั่นใจตามเดิม ปรับท่าทีให้กลับมาฮึดอีกครั้ง สองเท้าก้าวเดินออกจากห้องนอนบิดานำป้าอุ่นออกไป


“แล้วเขาไปไหนล่ะ” เรียวจันทร์ถามถึงแม่ตัวเองหลังจากนั่งลงบนโต๊ะทานอาหารเล็กๆ ในห้องครัว นางไม่ชอบนั่งโต๊ะใหญ่ๆ แต่นั่งกินข้าวอยู่แค่คนเดียว เลยชอบมานั่งกินอาหารกับพวกป้าอุ่นในครัวแทน


“ออกไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ เห็นมีเพื่อนมารับ” เรียวจันทร์พยักหน้าขอไปที ไม่ได้สนใจที่จะสอบถามจริงจัง


“ไปไหนก็ไปเถอะ แค่อย่าไปสร้างหนี้ให้อีกก็แล้วกัน” ไม่รู้จะออกงาน ออกเที่ยวกับเพื่อนอะไรนักหนา หวงนักกับหน้าตาทางสังคมเนี่ย



“คงยากค่ะที่จะให้เธอปล่อยวางเกียรติยศที่ตระกูลสั่งสมมานาน” เรียวจันทร์เบ้ปาก โบกมือปัดไล่ราวกับมีแมลงวันมาตอมอยู่แถวหน้า นางไม่คิดอยากจะฟังความเลิศเลอของต้นตระกูลผู้หยิ่งทระนงและสูงศักดิ์ของแม่ที่ตอนนี้ล่มสลายหายไปพร้อมกับยุคเมโสโปเตเมีย


“ทานข้าวกันเถอะป้าอุ่น เรียกลุงกับแก๊ปมากินเร็ว” ก่อนหน้านี้ทั้งสามคนไม่กล้ามานั่งกินด้วยหรอก เพราะเกรงใจในความเป็นเจ้านาย แต่เรียวจันทร์เอ่ยปากว่าอย่ามาแบ่งชนชั้นใดๆ กับนาง เพราะนางไม่เคยคิดแบ่งกับใคร หลังๆ มาทั้งสามคนจึงมานั่งทานข้าวกับหนุ่มนายแบบได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ


ก็คงจะมีสามคนนี้แหละที่ทำให้เรียวจันทร์รู้สึกว่าตัวเองก็มีครอบครัวกับใครเขาบ้าง



 :mew1:

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 31-12-2015 16:05:20
เอ่อ

ถึงพ่อจะบอกให้ดูแลแม่ แต่ถ้าแม่ไม่หยุดแบบนี้น่าจะปล่อยไปนะ

ที่แม่กลับมาหาเรียวก็เพราะเงิน ไม่ได้รักลูก

จะเหลือเยื่อใยไปทำไม??
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ 31-12-2015 16:07:13
มันต้องมีตอนที่เรียวจันเผลอพูดเรื่องหนี้แน่ๆ   :hao7:    **สุขสันวันปีใหม่น้าาาา.**   อ่านิยายข้ามปี ;w;
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 31-12-2015 17:31:18
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 31-12-2015 17:48:16
 :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 31-12-2015 19:35:57
สุขสันต์วันส่งท้ายปีเก่า ขึ้นปีใหม่นะค้าาา
คุณพระคุ้มครองนะ :impress2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 31-12-2015 19:45:24
เจอคุณพระเอกแล้ว ไม่อนุญาตให้หนูเรียวไปจ้ำจี้กับใครแล้วน้าาาาา :laugh:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 31-12-2015 21:07:13
กลายเป็นนางเอกขี้แยไปซะงั้น สู้ๆนะเรียว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-01-2016 01:00:06
อุ้ยยย หนูเรียวปมเยอะจริงๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 01-01-2016 22:57:43
คือบ้านคมเขี้ยวอยู่บนที่ดินของเรียวจันทร์?
แล้วคมเขี้ยวมีที่ดินของตัวเองมั้ยคะ งงนิดหน่อย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 04-01-2016 09:44:32
คือบ้านคมเขี้ยวอยู่บนที่ดินของเรียวจันทร์?
แล้วคมเขี้ยวมีที่ดินของตัวเองมั้ยคะ งงนิดหน่อย


เดี๋ยวเรื่องจะค่อยๆ บอกจ้าาา ^^
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 05-01-2016 20:54:54


เฮ่ย!  ชีวิตเรียวนี่มันมีปัญหาเยอะขนาดนี้เลยเหรอ
งั้นแสดงว่ากว่าจะมาถึงที่เป็นอยู่นี่ น้องเรียวต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก
หนูเป็นคนสตรอง เพราะฉะนั้นหนูจะต้องได้กินเขี้ยวเร็ว ๆ  นี้แน่ ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ^^  :mew1:





หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/50%:31.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: ้hellobow ที่ 05-01-2016 21:07:48
งื้อ มาให้กำลังใจหนูเรียว นางแซ่บมาก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.01.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-01-2016 18:32:25


คาถาที่ ๕ [100%]






“อาทิตย์หน้าหนังก็เปิดกล้องละ แอคติ้งแกเป็นไงบ้างเนี่ยเรียว” เป็ดถามพลางตักไอติมชาเขียวกับน้ำแข็งใสเข้าปากแล้วทำหน้าฟินกับความเย็นชุ่มฉ่ำและความหวานอร่อยของไอติม


“โห ไม่อยากจะพูด แต่ก็ต้องพูดนะว่าครูแงะชมฉันว่าแอคติ้งเป็นธรรมชาติมาก” นางบอกอย่างภาคภูมิใจ เอามือขวาตบอกน้อยๆ สมทบกับสีหน้าภาคภูมินั่น ก่อนจะตักไอติมชาเขียวเข้าปากหนึ่งคำ

“อ๋อ แปลง่ายๆ ก็คือครูแงะบอกว่าแกตอแหลได้เนียนดีใช่ป้ะ” สองเพื่อนซี้หัวเราะเสียงดัดจริตแล้วยิ้มยิงฟันกว้างใส่กัน ก่อนที่เรียวจันทร์จะหุบยิ้มฉับทำตาค้อนขวักใส่เพื่อน ยกช้อนตักไอติมสีดำขึ้นชี้หน้านังเพื่อนตัวดำจนเป็ดต้องขยิบตาหยอกล้อกลับมา


“เออ แล้วแกจะเข้าไปในไร่ในฟาร์มนั้นเมื่อไหร่” เรียวจันทร์ขมุบขมิบปากเคี้ยวไอติมแล้วกลืนลงคอ แต่ก็ยังไม่ตอบทันทีเพราะกำลังทำหน้านึกอยู่


“ยังไม่รู้เลยอะ แต่คิดว่าก็ต้องเร่งหน่อย นี่ฉันก็ยังไม่ได้บอกตาจอมทัพเลยว่าฉันเข้าไปในนั้นได้แล้ว”


“อู๊ย พูดถึงเสี่ยจอมทัพ เขาหล่อเนอะ แก่แต่แซ่บอะ” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่มแล้วทำคอยึกยัก เป็ดเห็นอาการของเพื่อนก็อ้าปากหวอสีหน้าตกใจ รับรู้ทันทีว่าอะไรเป็นอะไร


“นังเรียว แกเคี้ยวโคแก่ไปแล้วเหรอ?!”


“เคี้ยวจนเมื่อยกรามเลยแหละ!” เรียวจันทร์อ้าปากน้อยๆ ขยิบตาเบาๆ ให้ดูเซ็กซี่ เป็ดอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ เลยรีบเปิดกระเป๋าหนังสีดำตัวเองแล้วมุดหน้าเข้าไปกรี๊ดในนั้น เรียวจันทร์หัวเราะสดใส ได้ยินเสียงกรี๊ดแว่วๆ เล็ดลอดออกมา พอกรี๊ดเสร็จเป็ดก็เงยหน้าแดงๆ ของตัวเองมามองเรียวจันทร์ด้วยความตื่นเต้น


“ไปกินกันได้ยังไงคะ ครั้งที่แล้วแกไม่เห็นเล่าให้ฉันฟังเลย”


“เอ๊า ก็แกไม่เปิดประเด็นอะ จะให้ฉันพูดยังไงล่ะ” เรียวจันทร์ว่าพลางตักทอปปิ้งบนไอติมเข้าปาก


“โอ๊ยยย แกจะฟาดผู้ชายอีกกี่คนคะถึงจะมีผัวเป็นตัวเป็นตนได้” เรียวจันทร์ยักไหล่ขวาแบบไม่ใส่ใจ ใช้ปลายนิ้วมือซ้ายเกลี่ยผมหน้าของตัวเองเบาๆ


“ใครจะไปตอบเรื่องแบบนี้ได้กัน มันอยู่ที่ใจ เจอเมื่อไหร่หัวใจคงทำงานหนักอะมั้ง” ศิริประภา ประภาศิริถอนหายใจแผ่วเบาพลางตักไอติมเข้าปากด้วยท่าทีเนือยๆ มองเพื่อนด้วยสายตายเป็นห่วงเป็นใย


“เลิกร่านเถอะเรียว ฉันเป็นห่วงแกนะ” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ กะพริบตาปริบตกใจ เป็ดหัวเราะคิกคักอารมณ์ดี


“แม๊! อีเปดดด! ซึ้งในความห่วงหาอาทรณ์ของแกมาก” สาวดำทรงเสน่ห์หัวเราะเริงร่า เรียวจันทร์มองค้อนใส่เพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้


“เออนี่ ฉันจะเม้าท์นานละ แต่ลืมเม้าท์ทุกที เพราะไม่ได้สนใจมาก แต่พอดีก่อนปิดคลาสแอคติ้ง มันเริ่มตงิดแรงขึ้น”


“อะไรคะ เม้าท์มา อย่าได้ยึกยัก”


“ไอ้พระรองหนังที่ฉันเล่นอะ ท่าทางนางไม่แมนนะ แต่ก็ไม่ได้สาวแบบฉันหรอก แต่ฉันว่ามีองค์แม่อยู่ในตัว” เป็ดทำตาโต เลิกคิ้วขึ้น


“จริงเหรอ เขาหล่อเกาหลีมากเลยนะ ฉันว่าเขาเป็นไทป์พระรองที่คนจะรักมากเหมือนในซีรีส์เกาหลีอะ…”


เป็ดทำหน้านึก ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นหน้าจับผิด “…อะไร อย่าบอกนะว่าเขาชอบแกอะ” เรียวจันทร์ส่ายหัวรัวๆ แถมยังยกมือขึ้นมาโบกเร็วๆ เสริมด้วย นางเบ้ปากทำหน้าว่าไม่ใช่แน่ๆ



“ไม่ใช่แบบนั้น ฉันก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แปลกๆ อะ ตอนนี้รู้สึกแค่ว่านางไม่แมนแท้ ฉันอาจจะมโนก็ได้นะ เก้งกวางก็ชอบมโนให้ผู้ชายเป็นแบบตัวเองอยู่เรื่อย” สองเพื่อนซี้หัวเราะขบขันชอบใจกันสองคน


“เออ อันนี้ฉันเห็นด้วย สมัยนี้พวกแกอะ เอะอะชอบตัดสินว่าผู้ชายคนนั้นคนนี้เป็นเกย์ เป็นเก้งไปหมด กูรูเรย์ดาร์เต็มประเทศไปหมดละ”


“เรดาร์มโนอะสิ” ทั้งสองคนช่วยกันนั่งกินไอติมต่อพลางเปลี่ยนประเด็นพูดกันแบบกะทันหัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องติดขัดสำหรับทั้งสองคน เพราะนึกอยากคุยอะไรก็คุย อยากพูดก็พูด ต้องรีบพูดรีบคุย เดี๋ยวเรื่องนั้นจะหล่นออกจากสมองก่อน แล้วจะทำให้หงุดหงิดมากเพราะมันจะติดขัดพูดไม่ออก หรือพูดไปแล้วก็จะไม่ได้บรรยากาศเท่ากับตอนอยากพูดในรอบแรก


RRRrrrr!


มือถือของเรียวจันทร์สั่นสะเทือนอยู่ในกระเป๋าคล้องไหล่หลุยส์วิคตองต๊องแต๊ง นางแหวกกระเป๋าออกแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดูหน้าจอ พอเห็นเป็นชื่อจอมทัพก็ทำท่าลังเลนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็กดรับตามปกติ (ทำท่าให้ดูมีจริตเล่นตัวไปอย่างนั้นแหละ)



“ฮัลโหล… ตอนนี้เหรอ… ฉันอยู่พารากอน… มารถเพื่อน… อืม เอางั้นก็ได้ ฉันก็มีเรื่องจะคุยกับคุณอยู่พอดีเลย… เจอกันนะ” นางหย่อนโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋า หันกลับไปตักไอติมกินตามเดิมพร้อมกับเอ่ยปากบอกเป็ดเองก่อนที่เจ้าหล่อนจะถาม


“เสี่ยจอมทัพโทรมา เรียกเข้าไปพบ” เป็ดอ้าปากหวอ หน้าตาตกใจ


“เข้าไปคุยแน่เหรอยะ” เรียวจันทร์ย่นคิ้วนิดหนึ่ง


“แน่สิ ยังไงก็ต้องคุยมะ ถึงจะทำอย่างอื่นด้วยก็เถอะ” เรียวจันทร์หัวเราะอ้าปากกว้าง ใบหน้าสวยหวานสว่างสดใสด้วยรอยยิ้มจริงใจที่ไม่ได้ประดิษฐ์แต่อย่างใด ทำให้ใบหน้าของนางเรียกสายตาผู้ชายหลายคนและผู้หญิงบางคนที่อยู่ใกล้ๆ แถวนั้นให้หันมามอง


“โอ๊ย ถ้ามีองค์กรพิทักษ์สัตว์หายากที่ไหนบอกว่าแรดใกล้จะสูญพันธ์นะ ฉันจะรีบบอกให้เขามาพบแกเลย!” เป็ดว่าอย่างหมั่นไส้ แต่ไม่ได้หมั่นไส้เอาเป็นเอาตาย แค่หมั่นว่านังเพื่อนสาวคนนี้มันไม่ถ่อมตัวใดๆ อะไรทั้งสิ้น แถมยังทำท่าทางมั่นหน้ามั่นใจใส่หล่อนอีก


“ขอโทษนะเป็ด ถ้าฉันใส่วิกจิกส้นสูง ฉันชนะ” แต่ถึงแม้จะหมั่นไส้เพื่อนยังไง พอเจอจริตดีดดิ้งแต่พองามของเรียวจันทร์ก็ทำเอาเป็ดต้องขำเสียงดังไปซะทุกที




ก่อนเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์ ก็ยังมีช่วงเวลาว่างเว้นให้นอนอ่านบทเล่นๆ และเตรียมตัวให้ดี แต่เรียวจันทร์คิดว่าตัวเองพร้อมมากพอสำหรับการแสดง ช่วงเวลาที่ว่าง นางเลยขับรถมาที่ฟาร์มอรุณพยัคฆ์คนเดียวเปรี้ยวๆ โดยเลือกวันที่เขาไม่เปิดให้บริการนั่นแหละ เพราะไม่ได้คิดจะมาเที่ยวอยู่แล้ว


สำหรับด้านในฟาร์ม แม้จะไม่เปิดให้เข้าชม แต่ร้านอาหารด้านนอกยังคงเปิดให้บริการตามปกติ เลยยังพอให้เห็นผู้คนแวะเวียนกันมาทานอาหารกันอยู่บ้าง แม้ไม่แน่นขนัดเท่ากับวันเปิดให้เข้าชม แต่ก็ไม่บางตาโหวงเหวง เรียวจันทร์จอดรถตัวเองไว้หน้าร้านอาหารเรือนไม้หลังใหญ่ด้านนอก ปิดประตูรถเสร็จสรรพพร้อมเช็กสภาพตัวเองเรียบร้อยก็เดินตรงไปยังป้อมยามทันที


“เอ่อ ช่วยติดต่อภายในให้หน่อยได้มั้ยคะ” ลุงยามหนวดเคราสีเทาแซมดำ หน้าตาท่าทางใจดีมองหน้าเรียวจันทร์อย่างนึกสงสัย


“มาติดต่อใครล่ะหนู” เรียวจันทร์ไม่ได้เหวอหรืออ้าปากตอบคำถามนั้นของลุงยามแต่อย่างใด กลับพูดไปอีกประเด็นด้วยท่ากระดี๊กระด๊า


“อุ๊ย ลุงยามเรียกว่าหนู หน้าหนูเด็กใช่มั้ยอะ” กลายเป็นลุงยามที่อ้าปากหวอ กะพริบตาปริบๆ มองไอ้หนุ่มเจ้าสำอางอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่มันต้องการ


“เอ่อ ก็เด็ก หน้าตาดีด้วย” พูดไปตามที่สายตาเห็นนั่นแหละ พูดอย่างงงๆ ด้วย คนโดนชมยิ้มปริ่มพิมพ์ใจ ทำหน้าตาอย่างกับได้เข้ารอบตอบคำถามรอบห้าคนสุดท้ายของการประกวดนางงามอย่างนั้นแหละ


“ลุงมีตาและมีแววดีมากเลยอ้า” เรียวจันทร์ยิ้มแฉ่ง แต่รอยยิ้มก็ต้องหุบวืดเมื่อได้ยินประโยคถัดไป


“แล้วสรุปมาหาใครล่ะพ่อรูปหล่อ”


“ลุงยาม หน้าอย่างนี้นี่หล่อเหรอ” เรียวจันทร์จือปากทำตาปรือจนลุงยามขมวดคิ้วแล้วนึกในใจว่าไอ้นี่มันบ้าหรือเปล่า


ครืด!


เสียงล้อรถบดเบรกลงบนถนนดิน เรียวจันทร์กับลุงยามหยุดบนสนทากันไว้ชั่วครู่ หันไปมองรถกระบะบุโรทั่งแบรนด์ฟอร์ดสีฟ้านวลตาคันหนึ่ง หนุ่มหน้าสวยย่นคิ้วนิดๆ มองเจ้ารถกระบะในยุคเก้าศูนย์ด้วยความชื่นชมว่ามันสวยคลาสสิคดีจริงเชียว สีก็เด่นมากด้วย ประตูรถฝั่งคนขับเปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งก้าวลงจากรถ พอฝ่ายนั้นหมุนตัวหันหน้ามาพร้อมก้าวเท้าเดินมาทางนาง เรียวจันทร์ก็ยิ้มเป็นมิตรส่งไปให้


“มาทำอะไร” รอยยิ้มเมื่อกี้หายวับไปกับตาเมื่อเจอน้ำเสียงห้วนพร้อมกับสีหน้าตายด้านไม่แสดงอาการอะไรของไอ้นายคมเขี้ยว


“อ้าว ก็คุณป๋านายบอกว่า ฉันอยากมาที่เมื่อไหร่ก็มาได้เลย แล้วอีกอย่างคุณป๋าก็รับฉันเข้ามาทำงานที่นี่ด้วย ฉันก็เลยอยากจะ…”


“…พอเหอะ พูดมาก” เรียวจันทร์เบิกตากว้างอ้าปากหวอมองไอ้หน้าหนวดเคราที่อยู่ในชุดตีมเดิมจากคราวที่แล้วแค่เปลี่ยนสีเสื้อเป็นลายสก็อตสีแดงดำกับกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้ม


“พูดมากตรงไหน เชื่อเลยว่าถ้าเขียนลงในกระดาษยังไม่ทันเต็มบรรทัดด้วยซ้ำ!” เรียวจันทร์ถลึงตามอง ริมฝีปากขมุบขมิบ ก่อนจะช้อนสายตามองด้วยความหมั่นไส้


“วู้ว! คุณแม่งทำความวุ่นวายไว้รอบที่แล้ว ยังมีหน้ากล้าที่จะมาที่อีกเหรอ” พ่อหนุ่มมาดคาวบอยทำสีหน้าไร้อารมณ์ ท่าทางกวนตีนกวนใจ แต่เรียวจันทร์หากลับได้แคร์ไม่


“มี! ก็หน้าเนี้ย หน้าเดิม เพิ่มเติมคือสิวหนึ่งเม็ด” ดีนะเม็ดไม่ใหญ่มาก แค่เม็ดเล็กๆ ตรงบริเวณแก้มซ้ายเท่านั้น


คมเขี้ยวกลอกตาทำหน้าเซ็ง เลื่อนสายตาไปมองทางอื่นแวบหนึ่งก่อนจะเลื่อนกลับไปมองเจ้าของใบหน้าสวยหวานเกินชายที่ทำหน้าตาเริ่ดๆ เชิดๆ อยู่


“งั้นก็ดี กล้ามาผมก็กล้าคุย ไปขึ้นรถ” พูดจบก็เดินนำไปที่เจ้าบุโรทั่งคันงาม เรียวจันทร์ย่นคิ้วนิดหน่อยแต่ก็ก้าวเดินตามไป เปิดประตูอีกฝั่งหวังจะขึ้นไปนั่งเคียงข้างพ่อคนขับ


“ใครให้มานั่งตรงนี้ ยังไม่ได้จุดธูปเชิญ ไม่ต้องมา โน่น ไปนั่งข้างหลัง” เรียวจันทร์ที่กำลังจะหย่อนก้นลงนั่งบนเบาะถึงกับทำหน้าเหวออีกรอบ


“อะไรนะ นั่งหลัง?! นายบ้าป้ะ ให้ฉันไปนั่งหลังได้ยังไง”


“ให้คุณไปนั่งหลังนี่มันบ้ายังไง อธิบายหน่อยซิ” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย เรียวจันทร์ทำตาโตมองอีกฝ่ายด้วยความหมั่นไส้ที่เพิ่มระดับขึ้นมาอีกนิด


“เออ ไม่ได้บ้า แต่มันไม่สมควรอะ ฉันเป็นแขกนายนะ แขกมาบ้าน นายก็ควรต้องต้อนรับดีๆ สิ” เรียวจันทร์เชิดคางขึ้นว่าฉอดๆ คมเขี้ยวบิดปากเซ็ง นึกรำคาญกับเสียงใสๆ แต่แสนแจ๋นนั่น


“ก็ถ้าแขกคนนั้นไม่สร้างความพินาศไว้ให้กับฟาร์มผม ก็คงจะดูแลดีกว่านี้”


“นี่! จะอะไรกันนักกันหนา ไม่ทราบว่านายได้เสียกับม้าตัวนั้นมาเหรอ?!” คมเขี้ยวขบกรามแน่น ดวงตาคมคู่นั้นถลึงมองใบหน้าขาวผ่อง จนเรียวจันทร์ผงะไปนิดหนึ่งแต่ก็แอ๊บเชิดสู้


“มันโตมากับผมแต่เด็ก ถ้าคุณเคยเลี้ยงสัตว์หรือเลี้ยงอยู่ คุณจะเข้าใจ!” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว เม้มปากแน่น รูจมูกบานเพราะมองอีกฝ่ายอย่างเข่นเขี้ยว


“มันก็ยังอยู่ดีกินดี ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย…”


“…ลงไป! ไปนั่งข้างหลัง เร็วๆ อย่าวอแว อย่ามากความ!” ดวงตาสีนิลจ้องมองเรียวจันทร์นิ่งสนิทแต่แฝงความจริงจังไว้มากล้น จนคนหน้าหวานต้องสะบัดหน้าหนี เดินลงจากรถ กำลังจะกระแทกประตูปิดก็โดนเบรกไว้ทันที


“แรงปิดประตูดังขนาดไหน ผมจะเอาพลั่วตักอาหารวัวฟาดหัวคุณเท่าแรงนั้น” คมเขี้ยวยักคิ้วขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ก็ทำเอาเรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่น อยากจะกระทืบเท้าเร่าๆ แล้วกรี๊ดๆ ให้ตุ๊ดแตกกว่าที่เป็นอยู่


นางเลยต้องปิดประตูเบาๆ แต่ในอกเต็มไปด้วยความแค้นอกแค้นใจ กระแทกเท้าเดินไปด้านหลังรถ หลับตาลงแล้วผ่อนลมหายใจเพื่อไล่อาการแค้นเคืองทั้งหลายให้ออกไปจากอก ก่อนจะยกขาขวาก้าวเข้าไปในกระบะ ตามด้วยขาซ้าย แต่ยังไม่ทันที่ก้นงอนงามๆ จะได้นั่งลงบนพื้นกระบะ ไอ้เจ้าของรถมันก็พุ่งตัวออกไปจนทำให้นางหน้าหงายหลังชนกับฝากั้นหลังกระบะอย่างแรง


“ว้ากกกก! ไอ้เขี้ยวหัก ไอ้ฟัก!” เรียวจันทร์ตะโกนด่าเสียงดังจนคนที่เพิ่งออกมาจากร้านอาหารของฟาร์มมองด้วยความตกใจ แต่นางไม่สนใจใครแล้ว ตอนนี้ต้องจับขอบกระบะไว้ให้ดี เมื่อกี้เกือบหงายหลังจริงๆ เล่นเอาใจหายวาบไปหมด เรียวจันทร์นั่งตัวเกร็ง สายตาหันไปมองสองข้างทางอย่างระแวดระวัง ฝั่งซ้ายมือเป็นรั้วไม้ มีต้นสนเรียงรายไปตลอดทาง ด้านขวาที่เคยเห็นด้านข้างว่าเป็นตึกสีขาวเมื่อคราวก่อน พอได้เห็นด้านหน้าเต็มตาซึ่งเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นด้านในได้ส่วนหนึ่ง นางคิดว่าเหมือนจะเป็นโรงงานผลิตสินค้าอะไรสักอย่าง



คมเขี้ยวขับรถเลยประตูทางออกสำหรับนักท่องเที่ยว เลยไปอีกร้อยสองร้อยเมตรเป็นอย่างต่ำแล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าประตูไม้อันใหญ่อีกอันที่อยู่ด้านซ้ายมือ เรียวจันทร์เห็นถนนดินยืดยาวต่อจากรั้วไม้นี้ไปอีก แต่ก็ไม่รู้ว่าตรงนั้นนำพาไปที่ไหน


พอรถเข้ามาด้านในนางก็ได้รู้ว่ารั้วไม้ที่คมเขี้ยวพาเข้ามาเหมือนจะเป็นถนนที่อยู่ด้านหลังหมู่บ้านคาวบอย มีรั้วปูนสูงแหลมและมีลวดหนามกั้นพื้นที่บ้านกับป่าตีนภูเขา หมู่บ้านคาวบอยตั้งเรียงติดกันเป็นพรืด ชั้นสองชั้นสามด้านหลังมีระเบียง มีคนนั่งคุยกันบนระเบียงบางอัน เหมือนจะเป็นที่พักด้วยหรือเปล่านางเองก็ไม่แน่ใจ หรืออาจเป็นที่อยู่ของคนงานก็ได้ พอบุโรทั่งสีฟ้าขับไปตามเส้นทางแล้วเลี้ยวซ้ายตรงมุมของตึกสีขาวฟ้ามุมซ้ายมือก็เป็นทางตรงบังคับไปเรื่อย ใบหน้าหวานหันไปมองทางเข้าหมู่บ้านคาวบอย ทันเห็นด้านในแวบหนึ่งว่ามีผู้คนเดินกันเยอะพอสมควร
   

รู้ตัวอีกทีคือตอนรถจอดตรงหน้ารั้วประตูบ้านของเจ้าของฟาร์ม คมเขี้ยวเปิดประตูลงมาด้วยสีหน้าเฉยเมย จนเรียวจันทร์แอบเบ้ปาก แต่ถึงอย่างนั้นพ่อเคราเขาก็ยังทันเห็น
   

“เป็นโรคปอลิโอเหรอ ถึงได้ปากบิดปากเบี้ยว”
   

“นั่นปากคนหรือปากไก่ถึงได้จิกๆๆๆ อยู่นั่นอะ” คมเขี้ยวทำหน้าไม่ใส่ใจ ทำหน้าเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เรียวจันทร์พูดด้วยซ้ำ นางแยกเขี้ยวด้วยความหมั่นไส้
   

“เข้าประเด็น ไม่อยากเสียเวลา…” คมเขี้ยวยืนเอาข้อศอกสองข้างวางบนขอบกระบะหลังรถ ส่วนเรียวจันทร์นั่งหน้างอหน่อยๆ ในกระบะ
   

“…คุณไม่ต้องมาทำงานที่นี่ เรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ผมไม่เอา ถ้าอยากมาเที่ยว มาได้ ผมไม่คิดค่าเข้า แต่ไม่ต้องเอาตัวเองมาสิงอยู่ที่นี่หรอก” เรียวจันทร์มองค้อนไปหนึ่งที
   

“เรื่องผู้ช่วย ป๋าเขาพูดไปแบบนั้นแหละ แต่จริงๆ ผมไม่ต้องการ ผมมีลูกน้องคอยช่วยงานแล้ว คุณมาก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี”
   

“แต่ฉันอยากมา ฉันอยากมาทำงาน!” ใบหน้าขาวผ่องเชิดขึ้นน้อยๆ แล้วพูดโกหกออกไป ใครอยากจะมาทำงานทีนี่กันล่ะ งานที่ทำอยู่ทุกวันนี้สบายกว่าอีก แต่ที่ต้องอยากมาทำที่นี่ก็เพราะเหตุผลอื่นน่ะสิ
   

คมเขี้ยวย่นคิ้ว ยกยิ้มมุมปากซ้ายแบบเย้ยหยันหน่อยๆ “คุณเนี่ยนะอยากทำงานที่นี่ ผมเปิดดูรายการตลกในทีวีได้ อย่ามาเล่นตลกให้ผมดู”
   

เรียวจันทร์หน้าตึง แต่ก็ไม่คิดถอย ยังไงนางต้องเข้ามาอยู่ที่นี่ให้ได้ จะให้เทียวมาเทียวไปแบบนั้นเหนื่อยตายห่า แล้วยังน่าสงสัยอีกด้วย
   

“ฉันไม่ได้ตลก ฉันอยากมาทำงานที่นี่จริงๆ!”
   

“ไหนลองผมบอกผมซิ ว่าอะไรคือแรงบันดาลใจในการที่อยากจะทำงานที่นี่” คนถูกถามย่นคิ้วนิดๆ เม้มปากหน่อยๆ แล้วคิดว่านี่นางกำลังถูกสัมภาษณ์งานหรือเปล่า แต่พอจะตอบ กลับคิดคำตอบไม่ได้ แถไม่ทันจริงๆ รอบนี้ เลยทำให้คมเขี้ยวยกยิ้มมุมปากอีกรอบ
   

“คนอย่างคุณน่ะเหรออยากมาอยู่กับป่าเขาลำเนาไพรแบบนี้ หน้าตาท่าทางก็ไปไม่รอดแล้ว!”
   

เรียวจันทร์เบิกตากว้าง อารมณ์ปรี๊ดเบาๆ พุ่งมาที่อก นางแยกเขี้ยวใส่ไอ้เคราแพะ “อย่าดูถูกฉันนะ นายยังไม่เคยเห็นฉันทำงานเลย!”
   

“ก็ดูถูกน่ะถูกแล้ว ดูไม่ผิดหรอก”
   

“ผิด! นายดูฉันผิด นายเอาความคิดตัวเองมาตัดสินล้วนๆ!” เมื่อเจอไอ้หน้าหวานนี่เถียงคอเป็นเอ็น ก็ทำเอาคนหน้าเข้มอารมณ์ขึ้นเหมือนกัน
   

“งั้นบอกมา อยากมาทำงานที่นี่เพราะอะไรกันแน่ ผมไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างคุณอยากจะมาทำงานในที่แบบนี้!” คมเขี้ยวจ้องดวงตาเหมือนกวางน้อยอย่างคาดคั้น ตากลมโตสีน้ำตาลของเรียวจันทร์จ้องมองอย่างไม่ยอมแพ้ เมื่อกี้แถไม่ทันก็สตั๊นท์พอแล้ว และนี่ทำท่าจะไม่ให้นางเข้ามาอยู่ที่นี่อีก แบบนี้จะทำตามแผนได้ไงกัน
   

“เพราะฉันชอบนาย” เรียวจันทร์ตอบน้ำเสียงชิลๆ ยักคิ้วสองข้างขึ้นหนึ่งที ปรับสีหน้าเป็นผ่อนคลายได้อย่างรวดเร็ว ต่างจากสีหน้าถมึงทึงเมื่อกี้ลิบลับ เพิ่มความเนียนกริบด้วยการยิ้มกริ่มสวยๆ ส่วนคนที่โดนบอกชอบกลายเป็นฝ่ายสตั๊นท์ไป คมเขี้ยวขมวดคิ้ว กะพริบตาปริบ มองเจ้าของใบหน้าสวยหวานเกินชายแบบงงๆ เจ้าตัวยิ้มกริ่มกว้างขึ้นแล้วพยักหน้าลงแบบมีจริตสวยเพื่อยืนยันคำพูดตัวเอง
   

“ว่าอะไรนะ ชอบผม?!”
   

“อือฮึ!” คมเขี้ยวเหมือนสติหลุดไปชั่วครู่ มองหน้าไอ้เรียวจันทร์ตัวพินาศด้วยความทึ่งปนตกใจ ดวงตาสุกใสคู่นั้นวิบวับเป็นประกาย ใบหน้าสวยหวานฉีกยิ้มน่ารักสดใสให้เขาอย่างเต็มที่


ได้แต่คิดในหัวตัวเองว่าไม่มันก็เขานี่แหละที่บ้าไปแล้ว!

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 06-01-2016 18:56:11
ถึงพี่เขี้ยวจะโหดยังไง แต่เจอนางมารบอกว่า ชอบ ต่อหน้าก็ต้องถึงกับอึ้งล่ะค้าาาาาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 06-01-2016 18:56:46
ตอนสั้นเกินไป

ประท้วงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 06-01-2016 19:07:35
 เรียวจันทร์แซ่บมากกกก ลุ้นต่อ อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 06-01-2016 19:17:18
เรียวนี่น่าสงสารอ่า สนุกอ่า รอตอนต่อไปน๊า :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-01-2016 20:21:56
อุต๊ะ หนูเรียวจันทร์ลูก. แร่ดได้โล่เลยคระ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 06-01-2016 20:44:20
มุกนี้ก็เห็นมาเยอะนะ แต่ทำไมพอเรียวเอามาใช้แล้วรู้สึกพี่เขี้ยวต้องแพ้ยังไงก็ไม่รู้ 555555555
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 06-01-2016 22:36:13
สนุก แซ่บตามประสาหนูเรียว :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: cinnsin ที่ 06-01-2016 23:10:43
หูยยยย เรียวชนะเลิศศศศศไปเลยค่าาาาาา  > <
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 07-01-2016 17:55:25
นี่จิ้นไกลนำหน้าไปจนถึงตอนความจริงเปิดเผยแล้วอ่าาา  พี่เขี้ยวจะโกรธขนาดไหนนะ

แล้วเรียวจะช้ำขนาดไหนกับการเอาคืนอ่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 10-01-2016 12:47:14
 :impress3: เปิดตัวได้ถูกใจสุด ๆ เลยอ่ะ น้องเรียวจันทร์สุดยอดเลย แต่เล่นเอาอึ้งกับมอสน่ะ 555 ตามต่อจ้ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 10-01-2016 22:49:38
คือ ขำก๊าก   :m20: กับคำตอบของเรียว เล่นเอาคมเขี้ยวพูดไม่ออกเลย งานนี้พี่คมเขี้ยวจะเอาเรียวจันทร์อยู่ไหมเนี่ย น้องมีปมตั้งกำแพงเสียสูงเชียว เอาใจช่วยให้สองคนนี้สู้กันไป ยกแรก เรียวชนะ  :z1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๕/100%:06.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 10-01-2016 23:45:53
เอากับน้องเรียวเราซี่ ลูกมึนนี่เพียบ เล่นเอาพี่เขี้ยวเราสตั้นไปเล๊ย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/50%:12.01.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 12-01-2016 15:00:17
คาถาที่ 6 :: A deviltress. นางมารละคร [50%]



      “ฉันว่านายได้ยินชัดแล้ว แต่ถามเพราะไม่แน่ใจใช่มั้ยล่ะ…” เรียวจันทร์ยิ้มกรีดกราย กะพริบตาจนแพขนตากระพือโต้ลม คมเขี้ยวยังคงยืนหน้านิ่วคิ้วขมวด มองไอ้หน้าสวยตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลายอย่าง ทั้งไม่ไว้ใจ ทั้งแปลกใจ และตกตะลึง
   

“…เอาน่ะ ไม่เป็นไรนะ ก็คือฉันชอบนาย ฉันเลยอยากมาทำงานที่นี่ อยากมาอยู่ใกล้ชิดนาย จะได้ใช้เวลากับนายให้มากขึ้น” เรียวจันทร์ยิ้มแฉ่ง ไหวไหล่ทั้งสองข้างขึ้น คมเขี้ยวหรี่ตามอง ยังคงไม่ไว้ใจแม้จะทึ่งจนเบลออยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คล้อยตามกับสิ่งที่อีกฝ่ายบอก
   

“ชอบผม? ทั้งที่เราไม่เคยเจอกัน ไม่รู้จักกันมาก่อน เพิ่งเคยเจอกันครั้งเดียวน่ะเหรอ” เรียวจันทร์พยักหน้าตอบรับแบบทันที
   

“เยส! คือแบบว่า…” หนุ่มนายแบบอ้าปากค้างเล็กน้อย พอต้องแถแบบเร่งด่วนก็ทำชะงักไปเหมือนกัน ยิ่งเห็นสายตาของไอ้เครามาดโหดที่มองอย่างกดดันก็เกือบจะทำเอาไปไม่เป็น แต่คลาสการแสดงที่เรียนมาก็พอจะช่วยเหลือนางได้อยู่บ้าง


“…ถึงเราจะเพิ่งเคยเจอกันครั้งเดียว และการเจอกันครั้งแรกของเราอาจจะไม่ดีเท่าหน้าฉัน แต่ก็ต้องยอมรับนะว่ารูปลักษณ์ภายนอกของนายดึงดูดใจฉัน แล้วก็ต้องยอมรับเลยนะว่านายน่ะหล่อ” เรียวจันทร์พยักหน้าว่า ใช่ๆ แบบนั้นละ อย่างนั้นเลย ท่อนท้ายของประโยคนางไม่ได้โกหกสักหน่อย ก็หมอนี่มันหล่อจริงๆ


คมเขี้ยวขยับเปลือกตาที่หรี่มองอีกฝ่ายอยู่ให้เบิกกว้างขึ้นตามเดิม ริมฝีปากสีแดงบิดเล็กน้อยคล้ายกระตุกเบาๆ ดวงตาคมปลาบมองหน้าสวยหวานเกินชายของเรียวจันทร์อย่างประเมิน


“มองแค่เปลือกนอกก็เลยชอบว่างั้น” คิ้วเข้มของหนุ่มบ้านไร่เลิกขึ้นเป็นเชิงสงสัย เรียวจันทร์กะพริบตาปริบสองสามที เม้มปากนิดหนึ่งแล้วรีบตอบ


“ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่นายนึกออกมั้ยว่ามันเป็นสิ่งแรกที่ฉันเห็น ชูโนว์? เฟิรส์อิมเปรสชึ่น (You know? First impression) แล้วฉันก็ชอบ ฉันก็เลยอยากมาสัมผัสเนื้อในของนายที่เปลือกนอกของนายห่อหุ้มอยู่ไง” เรียวจันทร์คิดว่ามันสมเหตุสมผลอยู่นะที่พูดไปน่ะ


“หึ นี่คือการแถสดใช่มั้ย” คมเขี้ยวยกมุมปากซ้ายขึ้นอย่างถากถาง แวบหนึ่งเรียวจันทร์เกือบถลึงตามองเพราะความหมั่นไส้กับอาการเหนือกว่าของไอ้เครา แต่ก็ทำเนียนบ้องแบ๊วต่อไป


“เปล่าสักหน่อย ที่พูดไปน่ะออกมาจากใจล้วนๆ นะ!” เรียวจันทร์ทำหน้าว่า ฉันจริงจังนะ! แต่คมเขี้ยวกลับทำหน้าว่า เหรอ? กลับมาให้


“ออกมาจากใจหรือไตคิดให้ดีๆ ไตมันยังกรองปัสสาวะได้ แต่ใจคุณกรองอะไรได้บ้าง”


“นี่ๆ น้อยๆ หน่อย ฉันกำลังบอกชอบนายอยู่นะ ให้เกียรติความรู้สึกฉันบ้าง กล้ามาดูถูกฟีลลิ่งฉันได้ยังไง” คมเขี้ยวหัวเราะเสียงทุ้มแหบออกมาจากลำคอ หันหน้าไปมองทางอื่นครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมามองหน้าเรียวจันทร์ต่อ


“เนี่ยเหรอ อาการของคนที่กำลังบอกชอบคนอื่นอยู่ หน้าคุณโคตรจริงใจเลยเนอะ” คมเขี้ยวน่ะว่าประชด แต่แม่นางเรียวจันทร์น่ะ นางเข้าใจไปอีกอย่าง


“ก็ใช่น่ะซี๊! นายก็เห็นใช่มั้ยล่ะว่าฉันจริงใจกับความรู้สึกฉันขนาดไหน เห็นป้ะ นายยังเห็นได้จากสีหน้าฉันเลย” รอยยิ้มภูมิใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาวผ่อง นึกชมตัวเองว่าทำได้ดีตีบทแตกใช้ได้


คมเขี้ยวขมวดคิ้วฉับ มองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าไอ้จันทร์ไรกำลังคิดเข้าข้างตัวเองไปขนาดนั้นได้ยังไง สัมผัสไม่ถึงอาการจริงๆ ของเขาเลยงั้นเหรอ


“ยิ่งแบบนี้ ผมยิ่งให้คุณมาอยู่ในฟาร์มกับผมไม่ได้หรอก” คนตัวสูงกว่ายืดตัวตรงขึ้น เลื่อนศอกออกจากขอบกระบะหลังแล้วใช้สองมือจับขอบกระบะแทน เรียวจันทร์เบิกตากว้าง หน้าตาตื่น นางลุกขึ้นยืนอย่างเร็วแล้วก้าวกระโดดลงไปยืนตรงหน้าพ่อหนุ่มคาวบอย


“แบบนี้คือแบบไหน ที่ฉันพูดไปคือเรื่องจริง…” ยังไม่ทันพูดจบ คมเขี้ยวก็แทรกเสียงเข้มขึ้นมาพร้อมหน้าตาเข้มงวดกวดขัน


“…ไม่จริง! บอกมาดีกว่าว่าทำไมคุณถึงอยากมาอยู่ที่นี่ คุณมีอะไรแอบแฝงใช่มั้ย?!”


“แอบแฝงอะไรล่ะ?! ก็บอกอยู่นี่ไงว่าฉันชอบนาย ถ้าจะหาว่าฉันแอบแฝงอะไร ก็คงเป็นการที่ฉันอยากเป็นเมียนายมั้ง?!” คมเขี้ยวอ้าปากหวอเล็กน้อย แอบมึนไปเหมือนกันที่ได้ยินไอ้ตัวพินาศพูดแบบนั้น


“ยอมรับซะบ้างสิว่านายอะหน้าตาดี ถ้าฉันจะชอบนายก็ไม่เห็นแปลกอะไร เนี่ย ดูสิ…” เรียวจันทร์ผายมือซ้ายไปทางร่างสูงใหญ่ กวาดตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า ลดมือขึ้นลงตามสายตาตัวเองก่อนจะไปหยุดที่ใบหน้าหล่อๆ ของพ่อคาวบอยที่กำลังย่นคิ้วมองนางอย่างระแวดระวัง


“…รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาก็ดี หุ่นก็ล่ำแน่น มีร้อยให้เก้าสิบเลยที่อยากเป็นเมียนาย แล้วถ้าฉันจะเป็นหนึ่งในเก้าสิบที่อยากเป็นเมียของเจ้าของฟาร์มอรุณพยัคฆ์บ้าง มันจะเป็นอะไรล่ะเฮาะ?!” เรียวจันทร์จีบปากจีบคอ ทำหน้าจริตจิกชายสุดพลัง คมเขี้ยวมองด้วยความทึ่ง พอเห็นว่าเขาเงียบไม่ตอบโต้อะไร มันเลยจัดชุดใหญ่ให้เขาเต็มที่ ใส่อารมณ์และแอคติ้งมาเต็ม คมเขี้ยวแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างที่แห้งผาก ยกมือขวาขึ้นเบรกเรียวจันทร์ รีบตั้งสติแล้วรีบโต้กลับ


“เดี๋ยวก่อน ถ้าผมจะมีเมีย ผมจะมีเมียเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย” เรียวจันทร์จึ๊ปากหนึ่งทีแล้วยิ้มเป็นกันเอง


“เอาน่า…” มีการยกมือแตะต้นแขนเขาเบาๆ ด้วยท่าทีสนิทสนมอีกต่างหากด้วย


“…สมัยเนี้ยมีเมียเป็นผู้ชายก็ได้ ไม่จำกัดแล้วว่าคำว่าเมียต้องเป็นผู้หญิง” คมเขี้ยวสะบัดมือขวาไปมารัวๆ เป็นการปฏิเสธ เริ่มทำหน้าตาจริงจังมากขึ้น


“ไม่! เอาชัดๆ นะ ผมชอบผู้หญิง ไม่ได้ชอบผู้ชาย”


“อ๊ะ! ก็ไม่เป็นไร ตอนนี้ยังไม่ชอบ เดี๋ยวอยู่ใกล้กันทุกวันนายก็ต้องชอบฉันบ้างแหละ” คมเขี้ยวทั้งอึ้งทั้งขำกับความมั่นใจในตัวเองของไอ้หน้าหวาน แล้วคือไม่ได้มั่นใจเล่นๆ ด้วยนะ ท่าทีกับน้ำเสียงที่พูดคือมั่นใจจริงจัง


“ถามจริง ความมั่นใจที่มีในตัวอะ สร้างขึ้นเองหรือไปขอใครมา” เรียวจันทร์ยืดตัวเชิดคอขึ้นอีกนิด เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งทำท่าคิดก่อนตอบ



“บอกเลยว่ามาจากตัวเองล้วนๆ!” เรียวจันทร์ทำหน้าว่า อื้อ! ฉันนี่แหละ! มีการชูกำปั้นขวาขึ้นมาด้วยท่าทางอย่างกับนักสู้ประกาศศักดาให้กับตัวเอง คมเขี้ยวเหวอจนหน้าบิดเบี้ยว คิดว่ามันจะปฏิเสธบ้าง มันกลับทำท่าทางภูมิอกภูมิใจนักหนา


“ผมไม่เถียงหรอกนะว่าคุณอะหน้าสวย แต่…” ยังไม่ทันพูดจบคนโดนชมก็ทำหน้าดีใจประหนึ่งถูกประกาศว่าคือนางงามจักรวาลประจำปี สองมือยกขึ้นจับแก้มอย่างเขินอาย


“…เห็นมั้ยยย แค่นี้นายยังชมว่าฉันสวยเลย แล้วคิดดูสิ ถ้าเราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เราต้องรักกันแน่ๆ” เรียวจันทร์ฉีกยิ้มกว้าง หัวเราะอารมณ์ดีอย่างมีจริต สองมือจับอกตัวเองก่อนแบไปทางคมเขี้ยวที่ขมวดคิ้วแน่นและรู้สึกอยากทุบกบาลตัวเองที่พลาดไปชมมัน คือไม่ได้ตั้งใจจะชม คือจะเตือนอะไรสักหน่อยไง แต่ยังพูดไม่จบเลย


“เฮ้ยๆ ไปกันใหญ่แล้ว ไม่ได้จะชมว่าสวย คือฟังให้จบก่อนได้ป้ะ” พ่อหน้าเคราเริ่มจะงึดๆ ในอกกับอาการหลงตัวเองแบบไม่แคร์โลกของแม่นางตรงหน้า


“ฮือ?! จะมาบอกว่าไม่ชมได้ไง ก็พูดอยู่เมื่อกี้ว่าฉันหน้าสวย…” เออ! กูพลาดละจริงๆ ที่เกริ่นประโยคนั้นออกมา คมเขี้ยวกัดฟันแน่น ทำหน้าทำตาไม่ถูกเลยว่ากูจะอารมณ์ไหนดี



“…จะบอกอะไรให้นะ ความรักมันไม่จำเป็นต้องแค่ชายหญิงแล้ว แค่นายลองเปิดใจให้ฉันเข้าไปข้างใน ให้เราได้เรียนรู้กัน มันก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความรักได้ ขอแค่อย่าปิดกั้นตัวเองจากฉันแค่นั้นแหละ”


“ไม่ได้ปิดกั้น! แต่ไม่ชอบผู้ชาย ชอบผู้หญิงเว่ย!”


“เออ! รู้แล้วว่าชอบผู้หญิง ก็ถึงได้บอกนี่ไงว่าให้ลองเปิดใจให้กันก่อน ยังไม่ได้ลองคุยกันเลยอะ ทำไมรีบปฏิเสธจัง” ใบหน้าสวยมุ่ยอย่างไม่เข้าใจ ก็ไม่ได้ว่าจะต้องเป็นแฟนกันวันนี้ตอนนี้เลยสักหน่อย พยายามต่อรองเรื่องเวลาศึกษาดูใจกันอยู่นี่ไง


“เฮ้ย ทำไมมึนจังวะคุณ คือไม่เข้าใจเหรอว่าผมไม่ได้เป็นเกย์!” คมเขี้ยวก็แสนจะเหลืออดเหลือทนกับความหน้ามึนของไอ้คนตรงหน้า


“โอ๋ยยย! ไม่จำเป็นต้องเป็นเกย์ก็รักกันได้ แบบชายชายอะ เข้าใจป้ะ?!” คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์อย่างอ่อนใจ แล้วทำหน้าว่า มึงนี่เนาะ?! เขายกมือขยี้หัวรัวๆ หนึ่งที


“เอาง่ายๆ ไม่เอาตูด จบป้ะ?!” เรียวจันทร์ถลึงตามอง เห็นหน้าเข้มๆ เพราะหนวดดกดำทำยักคิ้วกวนตีนกลับมาให้ก็นึกหมั่นไส้ หน็อย! แค่บอกว่าชอบหน่อยต้องมาทำท่าทำทางจิ๊กโก๋รึไง


เร็วกว่าความคิด เร็วเกินจะห้ามตัวเองทัน เรียวจันทร์พุ่งตัวเอาแขนโอบรอบคอคมเขี้ยวไว้แน่น แล้วกดคออีกฝ่ายให้ลงมารับจูบจากตัวเอง คมเขี้ยวเบิกตากว้าง ตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกอยู่พักหนึ่งปล่อยให้เรียวจันทร์เอาริมฝีปากบดบี้ริมฝีปากตัวเอง มาได้สติตอนได้ยินเสียงลูกน้องที่อยู่แถวๆ คอกม้าโห่แซวนั่นแหละ


“โห!! เฮ้ย พี่เขี้ยวเปรี้ยวว่ะ จูบกันตรงนี้เลยเหรอพี่!!” คมเขี้ยวยกสองมือจับเอวบางของเรียวจันทร์แน่นแล้วผลักออกจากตัวอย่างแรงจนเรียวจันทร์ร้องโอ๊ย


“แม่งเอ๊ย!!!!” เจ้าของฟาร์มหนุ่มสบถหัวเสีย หน้าตาโกรธจัด แล้วสิ่งสุดท้ายที่เรียวจันทร์จำได้คือแรงเหวี่ยงอันรุนแรงและแรงกระแทกเข้าที่บุโรทั่งสีฟ้า


ปัง!!!


“เฮ้ย!!!” แล้วทุกอย่างก็ดับวูบไป ได้ยินเสียงโวยวายแว่วๆ แต่ความรู้สึกมึนในหัวทำให้สติค่อยๆ หายไปในที่สุด






“แกทำได้ไงไอ้เขี้ยว เกิดหนูเรียวเขาหัวแตกขึ้นมาจะทำยังไง?!”


“โห่ป๋า! ผมไม่ได้ตั้งใจ ก็ผมตกใจอะ จู่ๆ แม่งเข้ามาจูบผมนะเว้ย!” คมเขี้ยวเถียงหน้าเครียด ไม่แพ้ใบหน้าของบิดาที่กำลังจ้องเขาอย่างไม่พอใจ


“ไอ้ไก่ก่อน โดนจูบแค่นี้ถึงกับสติแตก!” คมเขี้ยวหน้าตื่นกับคำปรามาสของบิดาทันที


“เฮ้ยๆ ป๋า เดี๋ยวก่อนๆ ผมโดนผู้ชายจูบนะ ถ้าเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง!” ใครมันจะทำท่ายินดีปรีดาวะโดนผู้ชายจู่โจมจูบปากขนาดนั้น แถมจูบต่อหน้าลูกน้องเป็นสิบ ป่านนี้แม่งคิดกันไปไหนต่อไหนแล้วว่าเขาชอบไม้ป่าเดียวกัน


“เออ! ป๋ารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติ แต่แกไม่จำเป็นต้องทำรุนแรงกับเขาขนาดนี้”


“คือผมตกใจ โอเคป้ะป๋า ไม่ต้องออกนอกหน้าแทนไอ้เรียวขนาดนี้ก็ได้ ลูกชายป๋าเสียหายนะเว้ย โดนผู้ชายจูบใช่เรื่องเรอะ!”


“เสียหายใช่มั้ย?! งั้นเดี๋ยวป๋าจัดงานแต่งให้แกกับหนูเรียวเลยดีมั้ยล่ะ ฮะ?!” ไอ้เจ้าลูกชายทำท่าขนพองสยองเกล้ายกใหญ่ คนเป็นพ่อเห็นแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้


“ผมเอาไอ้หงายเป็นเมียยังดีกว่าอีก”


“เออ! ปากดีไปเหอะไอ้เขี้ยว!” เมฆาชี้หน้าลูกชาย สายตาคาดโทษเอาไว้ก่อน คมเขี้ยวขมวดคิ้วหน้าตาไม่พอใจสักเท่าไหร่เช่นกัน


สองพ่อลูกหันไปมองคนตัวบางผิวผ่องนอนสลบอยู่บนตักของคุณบัวที่ใช้ยาดมแกว่งไปมาใต้จมูก แต่เรียวจันทร์ก็ยังไม่มีวี่แววจะตื่นจากอาการสลบเพราะหัวกระแทกกับตัวรถกระบะอย่างแรง


“แม่ก็ไม่ได้เห็นชอบเรื่องที่เขาทำกับเขี้ยวหรอกนะ แต่เราทำเกินไปจริงๆ เนี่ย หัวน้องโนเลย” คมเขี้ยวเบิกตากว้างมองตรงจุดที่มารดาชี้ให้ดู บริเวณขอบหน้าผากฝั่งซ้ายของเรียวจันทร์ปูดขึ้นมานิดหนึ่ง คนทำสลดลงไปนิดแต่ก็ยังไม่อยากยอมรับความผิดนี้ไว้คนเดียว


“ก็ถ้ามันไม่เข้ามาลวนลามผมก็ไม่โดนแบบนี้หรอก”


“ยังอีก เดี๋ยวเถอะไอ้เขี้ยว ทำให้ป๋ากับแม่เสียเวลาไปงานเลี้ยงเลยเนี่ย” เมฆากับภรรยากำลังจะออกไปงานแต่งงานของลูกเพื่อนคุณบัว แต่ก็มาเจอกับเหตุการณ์วุ่นวายนี่เสียก่อน เลยทำให้ต้องหยุดชะงักการเดินทางไป


“ไม่ต้องไปก็ได้คุณเมฆ อยู่ดูแลหนูเรียวก่อนก็ได้” เมฆามีสีหน้าลำบากใจ จะไม่ไปงานนั้นก็ได้แต่ก็รับปากเขาไว้แล้ว ก็เคยทำธุรกิจด้วยกันเล็กๆ น้อยๆ เขาเองก็อยากไปร่วมแสดงความยินดีกับงานมงคลสมรสนี้ แต่จะให้ทิ้งลูกเพื่อนสนิทที่เจ็บตัวเพราะลูกตัวเองไปก็กระไรอยู่


“โอยยย…” ในขณะที่ทุกคนกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด คนตัวบางที่นอนสลบอยู่ก็ส่งเสียงครางขึ้นมาเบาๆ สองพ่อลูกขยับตัวเข้ามาดูทันที เห็นแบบนี้แต่คมเขี้ยวก็แอบกลัวว่าไอ้หน้าหวานจะเป็นอะไรรุนแรงหรือเปล่า


เปลือกตาเรียวจันทร์ค่อยๆ ขยับขึ้นอย่างช้าๆ จนกระทั่งลืมเต็มตา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองไปรอบๆ อย่างงงๆ เห็นใบหน้าของหญิงสาวหน้าตาใจดีคนหนึ่งกำลังส่งยิ้มให้ พอเลื่อนไปมองข้างๆ อีกรอบก็เจอใบหน้าหนวดเข้มของผู้ชายสองคน


“เป็นไงมั่งหนูเรียว เจ็บตรงไหนบ้าง” เมฆาเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล เรียวจันทร์ย่นคิ้วแล้วก็ซี๊ดปากเบาๆ เพราะสะเทือนถึงตรงเนื้อที่ปูดออกมา นางยกมือซ้ายขึ้นแตะตรงที่มันโน สีหน้าตกอกตกใจ


“หัวโน… หัวโนอะ… เจ็บ…” ริมฝีปากสีชมพูสดแบะน้อยๆ หน้าตาเหมือนจะร้องไห้ เมฆาหันไปมองลูกชายตัวเองด้วยสายตาเอาเรื่อง คมเขี้ยวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ในใจก็แอบเป็นกังวลเล็กๆ ว่าไอ้เรียวจะเป็นอะไรร้ายแรงหรือเปล่า


“ป๋าขอโทษแทนไอ้เขี้ยวมันด้วยนะ” เรียวจันทร์ไม่ตอบอะไรแต่สีหน้าหม่นมากทีเดียว นางค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นโดยมีแม่ของคมเขี้ยวช่วยประคองไว้อีกที พอลุกขึ้นนั่งได้เรียวจันทร์ก็มองหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างรู้สึกผิด เลื่อนสายตาไปมองคมเขี้ยวที่มองกลับมาอย่างเฉยชาก็ยิ่งรู้สึกสลด


“เรียวขอโทษนะครับที่ทำกิริยาไม่ดีใส่ลูกคุณป๋ากับ…” เรียวจันทร์หันไปมองคุณบัว เธอยิ้มอ่อนโยนแล้วตอบเสียงสุภาพ


“…แม่จ้ะ” คนหน้าหวานพยักหน้ารับรู้เพียงนิด ยกมือไหว้ทั้งสองคน


“ขอโทษนะครับที่เรียวลวนลามลูกชายคุณป๋ากับคุณแม่ เรียวทำตัวแย่มาก” นางว่าเสียงอ่อย หน้าตาหมองเศร้า ท่าทางหงอยเหงาจับใจ


“ยังไม่ได้เสียตัวให้กันสักหน่อย ไม่ต้องคิดมากหนูเรียว”


“อ้าวเฮ้ยป๋า ทำไมพูดงี้อะ ต้องรอให้เขาเอาผมจนท้องก่อนใช่ป้ะ” คนเป็นลูกชายว่าหน้าตาขมุกขมัว มองบิดาตัวเองอย่างนึกเคืองใจว่าทำไมไม่เข้าข้างลูกตัวเองเลยสักนิด ก็เข้าใจได้ว่านั่นน่ะลูกผู้มีพระคุณ แต่ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ โห่ นี่ถ้ายกขันหมากไปขอไอ้จันทร์ไรให้เขาได้คงยกไปแล้วมั้ง


“ไอ้เขี้ยว แกแค่โดนจูบ แต่หัวหนูเรียวปูดขนาดนั้น?!” เมฆาชี้ไปที่เรียวจันทร์ซึ่งนั่งก้มหน้าไม่ยอมเงยขึ้นมาสบตากับใคร


“อ้าว ก็…”


“…ไม่เป็นไรหรอกครับป๋า” หลังจากก้มหน้ามาสักพัก เรียวจันทร์ก็เงยหน้าขึ้นมองทุกคนแต่ที่ทำเอาเมฆาและคุณบัวตกใจคือน้ำตาที่ปริ่มตรงขอบตา แล้วพอสบตากับคมเขี้ยวน้ำตาก็หยดลงบนแก้มนวลทั้งสองข้างทันที หนุ่มหน้าเข้มเองก็อ้าปากหวอน้อยๆ มองอีกฝ่ายด้วยความอึ้งเหมือนกัน


“เรียวไม่ดีเอง ฮึก… คุณเขี้ยวเขาคงรังเกียจเพศแบบเรียว เขาคงขยะแขยงที่เรียวทำแบบนั้น…” เรียวจันทร์เว้นช่วงเพราะสะอื้นหนักจนเสียงถูกกลืนลงคอไป สามพ่อแม่ลูกเห็นแบบนั้นก็มองหน้ากันอย่างลนลานเล็กๆ


“…เรียวขาดสติเอง ผู้ชายคนไหนโดนแบบนั้นก็คงต้องทำแบบนี้ นี่ก็ดีมากแล้วครับที่คุณเขี้ยวเขาไม่ต่อยหน้า อึก…” มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มอย่างน่าสงสาร แววตาเหมือนกวางน้อยเศร้าหมอง เมฆาหันไปมองคมเขี้ยวที่ยืนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาเลยเลือกจะหลบสายตาบิดาตัวเองไปทางอื่น


“แล้วเรื่องมันเป็นมายังไงล่ะหนูเรียวถึงได้เข้าไปจูบพี่เขา” คุณบัวถามอย่างใจเย็น ไม่ได้โกรธเคืองหรือมองอีกฝ่ายอย่างรังเกียจ เพียงแต่อยากรู้ถึงต้นสายปลายเหตุที่แท้จริง เพราะลูกชายตนเองเอาแต่โวยวายกับผู้เป็นบิดาจนไม่ได้ความจริงจังสักที


เรียวจันทร์หันไปมองหน้ามารดาคมเขี้ยวด้วยสายตาน่าสงสาร อ้าปากตอบเสียงอ่อย “…ก็ พอดีเรียวบอกชอบคุณเขี้ยว แต่เขารับไม่ได้ เราเลยยืนเถียงกัน เรียวก็แค่… ก็แค่อยากให้เขารู้ว่าชอบเขาจริงๆ”


คุณบัวอ้าปากค้างไปนิดกับสิ่งที่ได้ยิน พอหันไปมองหน้าสามีตนเองก็เห็นฝ่ายนั้นยืนหน้ามึนเหมือนสมองตื้อคิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ จริงๆ จากเหตุการณ์ที่ลูกชายโดนจู่โจมจูบแบบนั้นก็พอจะนึกออกบ้างว่าน่าจะมีต้นเหตุจากอะไร แต่พอได้ยินสาเหตุจากปากจำเลยจริงๆ ก็ทำเอาก่งก๊งไปเหมือนกัน


“เรียวไม่มาทำงานที่นี่ก็ได้แล้วนะครับคุณป๋า เดี๋ยวจะอึดอัดกันเปล่าๆ เรียวขอโทษ…” แล้วน้ำตาก็ไหลออกจากดวงตาคู่สวยใสทั้งสองข้างพร้อมกับอาการสะอึกสะอื้นเสียงแผ่ว เมฆามองอย่างทำอะไรไม่ถูก คุณบัวพอจะได้สติอยู่บ้าง เธอเลยยกมือลูบหลังเรียวจันทร์เบาๆ


“ใจเย็นๆ นะหนูเรียว พ่อกับแม่ไม่โกรธ ไม่ว่า ไม่เคืองอะไรทั้งนั้นลูก” เธอไม่ได้แอนตี้เพศที่สามมาแต่ไหนแต่ไร เพราะเพื่อนฝูงก็มีแบบนี้เยอะแยะ แต่ถ้าให้พูดตรงๆ ว่าถ้าลูกเธอจะมีแฟนเป็นผู้ชาย เธอก็คงคิดหนักอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่คิดกีดกันเป็นแม่ผัวใจร้าย


“ไม่จริงหรอกครับ เรียวรู้ ไม่มีพ่อแม่คนไหนรับได้ง่ายๆ…” เรียวจันทร์สะอื้นอีกรอบ หน้าตายับย่นเพราะร้องไห้เต็มที่ไม่มีกั๊ก คมเขี้ยวมองอย่างประหลาดใจ คิดในใจคนเดียวว่าอะไรจะร้องไห้เยอะแยะปานนั้น แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมาเพราะทำเขาไว้ซะแรง


“ป๋าไม่รังเกียจหนูเลยหนูเรียว ป๋าแค่กำลังอึ้งที่จู่ๆ มีผู้ชายมาบอกชอบลูกชายป๋า คือป๋าเพิ่งเคยเจอน่ะ” คมเขี้ยวตบมือดังป้าบ สีหน้าครึ้มอกครึ้มใจที่มีคนเข้าใจความรู้สึกเขาสักที


“ใช่ป้ะล่ะป๋า แม่งจู่ๆ โดนผู้ชายด้วยกันบอกชอบอ ผมก็ช็อคดิ แถมยังจูบผมอีก!” พอมีโอกาสคมเขี้ยวก็ขยี้อารมณ์ตัวเองยกใหญ่ คุณบัวมองด้วยสายตาปรามเลยทำให้เขาชะงักไปบ้าง


“ป๋าก็เข้าใจแกนะไอเขี้ยว…” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นแล้วกำลังจะอ้าปากยิ้ม แต่ก็หุบฉับเพราะประโยคถัดไป


“…แต่แกไม่ต้องเหวี่ยงเขาแรงขนาดนี้ก็ได้ ผลักออกแบบมีมารยาท แกทำเป็นมั้ย”


“โห่ อะไรวะ นี่ใครเป็นลูกบ้านนี้กันแน่เนี่ย กูโดนด่าซะงั้น” เขาว่าอย่างหัวเสีย หน้าตาเซ็งจัด สายตามองเรียวจันทร์ที่ก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างขุ่นเคือง


แม่ง! ตั้งแต่มันเข้ามาในชีวิตเนี่ย กูเหมือนหมาหัวเน่าไปเลย ทำอะไรก็ผิด!


“อย่าไปว่าเขาเลยครับ ผมผิดเอง ผมขอโทษนะครับคุณเขี้ยว” ฮึ่ย! มายกมือไหว้ทำหน้าจ๋อยใส่อีก


“น้องขอโทษแล้ว แล้วเราล่ะเขี้ยว เหวี่ยงจนเขาเจ็บตัวน่ะจะว่ายังไง” แม่เขาไม่ได้ว่าเสียงดุ เสียงข่มหรือมีท่าทีบังคับอะไรเลย แค่ถามให้คิดเท่านั้น แล้วคือเขาก็ต้องคิดเป็นไง รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไร แต่ยิ่งมองตาใสๆ แสนเศร้าสลดกับน้ำตาอาบแก้มนั่น มันกลับทำให้รู้สึกอยากต่อต้านมากขึ้นไปอีก


คือก่อนหน้านี้ยังปากเก่ง เถียงฉอดๆ หลงตัวเองอยู่ได้ตั้งนานสองนาน พอมาตอนนี้แม่งอ่อนแออ่อนแรงไปซะงั้น แล้วจะให้เชื่ออารมณ์ไหนกัน หรือว่าพอหัวโขกเลยเพี้ยนเป็นแม่พระขึ้นมา?!


“ไอ้เขี้ยว” ชายหนุ่มหันไปมองหน้าบิดาตัวเองที่มองอย่างกดดัน เขากลอกตาเซ็ง พ่นลมหายใจออกทางจมูกแรงๆ


“เออๆ ขอโทษที่เหวี่ยงแรงอย่างนั้น” เรียวจันทร์ยิ้มดีใจ สองมือเช็ดน้ำตาป้อยเหมือนเด็กน้อย เมฆามองหน้าลูกเพื่อนสนิทแล้วก็นึกสงสาร สมัยเด็กๆ น่ะไอ้อาทิตย์เพื่อนเขาประคมประหงมตาหนูเรียวอย่างกับอะไรดี แล้วตอนนี้มันไม่อยู่แล้ว เด็กคนนี้ก็ต้องอยู่ด้วยตัวเอง ถึงจะมีแม่แต่ก็เหมือนไม่มี


“พักที่นี่สักแปบก็ได้หนูเรียวแล้วเดี๋ยวค่อยกลับ หรือจะนอนค้างไปเลยก็ได้” คมเขี้ยวทำท่าว่าจะขัด แต่พอเห็นสายตาปรามของมารดาอีกรอบเลยหุบปากฉับด้วยท่าทีขัดใจ


“ขอบคุณครับคุณป๋า แต่เรียวคงกลับกรุงเทพฯ พอดีมีงานต้องกลับไปทำ ขอแค่นั่งพักสักแปบก็โอเคแล้ว” เรียวจันทร์พูดด้วยท่าทีนอบน้อมอ้อมแอ้ม คมเขี้ยวขมวดคิ้วมองอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจนัก


“ถ้างั้นเขี้ยวดูแลน้องด้วย แม่กับพ่อจะได้ออกไปงานเลี้ยง” คมเขี้ยวหน้าตื่นส่ายหัวหน้าตั้ง สองมือโบกปฏิเสธรัวๆ จนเมฆาอดใจไม่ไหว ต้องยกมือตบกะโหลกไปสักที


“ทำท่าทำทางมันน่านักไอ้นี่!”


“เอ้า อะไรวะ ก็ดูแลตัวเองดิ” พูดจบก็ต้องเอี้ยวหัวหลบมือตบของป๋าตัวเองอย่างฉับไว


“เอ๊! ไอ้นี่หนิ เป็นคนยังไง ทำร้ายเขาแล้วก็ต้องรับผิดชอบสิวะ”


“แล้วที่ผมโดนจูบล่ะป๋า”


“ยังไม่เลิกกับเรื่องจูบใช่มั้ย งั้นแกก็จูบหนูเรียวกลับไปสิ ไม่งั้นก็แต่งงานกันเลย ทำอย่างกับเสียบริสุทธิ์!” คุณป๋ามองไอ้ลูกชายด้วยสายตาหมั่นไส้ มาทำหวงเนื้อหวงตัว ใช่ว่ามันไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่ามา อาจจะแปลกไปหน่อยกับผู้ชายด้วยกัน แต่เขาก็ไม่ได้ทำร้ายจิตใจอะไรมันถึงขั้นซึมเศร้าจนต้องมาทำท่าทีสะดีดสะดิ้งหวงเนื้อหวงตัวใหญ่โตอย่างที่เป็นอยู่ คมเขี้ยวขมวดคิ้วและแยกเขี้ยวอย่างหงุดหงิด ชกกำปั้นไปในอากาศรัวๆ เหมือนมีกระสอบทรายอยู่ตรงหน้า แต่จริงๆ เขากำลังจินตนาการว่าเป็นหน้าหวานๆ ของไอ้จันทร์ไรมากกว่า


“ตามสบายนะหนูเรียว ถ้าไอ้เขี้ยวแกล้งอะไรอีก บอกป๋าได้เลย” เรียวจันทร์ยิ้มอ่อน พยักหน้ารับน้อยๆ สองสามทียกมือไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่ทั้งสอง ฝ่ายภรรยาเอ่ยกำชับลูกชายให้ดูแลเรียวจันทร์ให้ดีก่อนจะพากันเดินออกไปจากห้องรับแขกของบ้าน โดยมีลูกชายขออาสาออกไปส่งหน้าบ้านเพราะมีเรื่องจะคุยกับบิดามารดาเพิ่มเติม


คล้อยหลังครอบครัวพยัคฆ์เกรียงไกรทั้งสามคนไป เรียวจันทร์ก็หยุดสะอื้นฉับพลันราวกับมีคนกดปุ่ม STOP ยกสองมือปาดน้ำตาทิ้งเร็วๆ ชะโงกหน้าไปมองตรงประตูกระจกที่ทั้งสามเพิ่งเดินออกไปเมื่อกี้นี้ด้วยท่าทีระมัดระวัง พอเห็นว่าทั้งสามหายลับไปแล้ว นางก็ผ่อนลมหายใจยาวๆ ขยับกล้ามเนื้อบนใบหน้า แววตาที่เคยเศร้าหมองเปลี่ยนเป็นเปล่งประกายวิบวับ รอยยิ้มที่เคยอ่อนหวานนอบน้อมถ่อมตนเปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์ ใบหน้าอันหมองหม่นเปลี่ยนเป็นสดใสเริงร่าตามปกติ ท่าทีหงอยเหงาเหมือนเหงาหอยเศร้าสร้อยเมื่อกี้กระเด็นหายวับไปกับตา


อื้ม… ถือว่าแอคติ้งใช้ได้ เปิดกล้องภายนตร์เมื่อไหร่ เทคเดียวคงผ่านฉลุย หุๆ






:hao7:


นางร้ายนะคะหัวหน้าาา นางแอคติ้งค่าาา 55555 ถือว่าเป็นการซ้อมแอคติ้งก่อนเปิดกล้องหนัง คริๆ ใช้ได้ๆ

พี่เขี้ยวบอก กูโดนเต็มๆ เสียหายเต็มๆ แต่ไม่มีคนเข้าข้างกูเลยยย โธ่ พี่เขี้ยว มาหาหนูมา รักพี่นะ

น่าจะพอเห็นลางๆ เนอะว่าเรื่องนี้ไม่มีดราม่าครอบครัวรับไม่ได้ ไม่ใช่พ้อยท์หลักค่ะ พ้อยท์หลักคือความจี๊ดของแม่เรียวจันทร์กับความซึนและความน่ารักของพี่เขี้ยว เราเลิฟพี่เขี้ยวมั่กจริงง แอร๊ยยย > <

คำว่า Deviltress ตอมผสมคำเองนะคะ มาจาก Devil+actress ค่ะ เจอคำไหนผิดๆ แปลกๆ บอกได้เน้อออ แล้วมีใครคิดถึงเสี่ยทัพมั้ยย ฮิ้ววว เดี๋ยวเสี่ยจิมาแล้นนน

 :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/50%:12.01.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-01-2016 18:13:35
5555. อึ้งไปเลยดิอีพี่เขี้ยว อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/50%:12.01.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 12-01-2016 21:12:06
เรียวจันทร์สุดยอดอ่ะ  o13 นับถือ เกือบน้ำตาไหลกับบทบาทของหนูเรียวแน่ะ  :m20: พี่คมเขี้ยวหวงตัวจังเลยน่ะ  :hao3: รอดูบทบาทต่อไปของหนูเรียวน่ะจ้ะ  :mew4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/50%:12.01.59:
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 17-01-2016 11:41:14
ท่าเรียวจันทร์จะแหลเก่งขนาดนี้ พี่เขี้ยวเราจะตามทันมั๊ยน้ อออ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/50%:12.01.59:
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 17-01-2016 18:18:54
แอคติ้งขนาดนี้ไอ้หงายไม่รอดแน่ ผิด ๆ พี่เขี้ยวไม่น่ารอด  :z1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/50%:12.01.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aimjjj ที่ 19-01-2016 00:05:16
ดูท่าแล้วไม่นานพี่เขี้ยวจะเสร็จหนูจันทร์ซะแล้ววว :hao6: :hao6: :z1:
 ตามคุณน้องเค้าทันมั๊ยคุณพี่  :hao3: :m20: :laugh:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/100%:01.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-02-2016 14:53:39
คาถาที่ 6 :: [100%]





“เมื่อไหร่จะกลับเนี่ยคุณ” ร่างสูงถามหน้านิ่วคิ้วขมวด พลางมองคนหน้าหวานนั่งกินข้าวด้วยท่าทีเฉื่อยชา สีหน้ายังคงแย่ๆ นอยด์ๆ อยู่ เห็นแบบนั้นเขาก็เลยถอนหายใจเบาๆ นิดหนึ่ง


“แหม… เอ่ยปากไล่มาสามหนติดกันแล้วเนี่ย ฉันไม่กล้าลวนลามนายอีกแล้วละ ไม่อยากโดนต่อยหน้าปูด” เรียวจันทร์ว่าหน้าบูดน้อยๆ พลางตักข้าวผัดไข่ที่ไอ้เคราโหดเป็นคนทำให้กินตามคำสั่งของคุณป๋ากับคุณแม่


คมเขี้ยวมองอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจสักเท่าไหร่กับท่าทีของไอ้หน้าหวาน คนถูกมองหันมองตอบแล้วบิดปากเล็กน้อยก่อนหันไปทานข้าวต่อ คมเขี้ยวขมวดคิ้วนิดหนึ่งแล้วก็นึกอยากถามกับสิ่งที่อีกฝ่ายโพล่งไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็คิดอีกทีว่าไม่เอาดีกว่า ไม่อยากรื้อฟื้นโมเม้นต์นั้น


“รีบกินได้ป้ะ ผมมีงานต้องทำ นี่ก็จะเย็นแล้ว ขับรถกลับกรุงเทพฯ ดึกๆ มันอันตรายนะคุณ” เรียวจันทร์อมยิ้มนิดหนึ่ง ดวงตาฉายประกายวิบวับแพลมๆ


“เป็นห่วงฉันล่ะซี้!” คมเขี้ยวอ้าปากหวอเล็กน้อย ก่อนมองไอ้หน้าสวยที่ยิ้มเก๋อย่างทึ่งๆ


“ไม่ได้ห่วง อยากให้กลับไปซักที ขี้เกียจนั่งเฝ้า จะไปทำงาน”


“นายก็พาฉันไปทำด้วยสิ ยังไงฉันก็ต้องมาทำงานกับนายอยู่แล้วอะ” คมเขี้ยวจิ๊ปาก รู้สึกรำคาญกับความพยายามอันล้นเหลือของไอ้เรียวจันทร์


“บอกว่าไม่ต้องไง อยากจะมาเที่ยวก็มาได้ตลอด แต่ไม่ต้องมาอยู่ที่ฟาร์ม ไม่ต้อนรับ” ตอนแรกเรียวจันทร์ทำท่าจะเถียงคอเป็นเอ็น แต่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองเพิ่งพ้นซีนดาวพระศุกร์มาจะมาเปลี่ยนเป็นอรอินทร์ ณ เมียหลวงไม่ได้ นางเลยปรับหน้าให้หมองลงอีกนิด เอาที่คิดว่าอยู่ในระดับพอเหมาะ ไม่ถึงขั้นหมดอาลัยตายอยาก เพราะเขาคิดว่าซีนนี้ไม่ต้องเศร้าใหญ่มาก เศร้ากลางๆ ก็พอ


“นายคงรังเกียจฉันมากเนอะ ขอโทษจริงๆ นะ” ว่าจบก็ก้มหน้า ใช้ช้อนเขี่ยข้าวไปมาแบบหงอยๆ คนหน้าเคราเห็นแบบนั้นก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะบ่อน้ำตาแตกขึ้นมา แล้วเรื่องนี้ต้องถึงหูป๋ากับแม่เขา แล้วพอสองคนนั้นรู้เรื่อง เขาก็จะรับกรรมอีกรอบเต็มๆ


“เฮ้อ… ไม่ได้รังเกียจ เลิกทำท่าเหมือนจะสิ้นใจเหอะ” เรียวจันทร์เม้มปากเบาๆ ช้อนสายตาน้ำตาคลอมองคมเขี้ยวอย่างเศร้าๆ แต่ก็กั๊กน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา จะได้ดูตาช้ำๆ ฉ่ำๆ หน่อย แถมมีการยกมือขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเองตรงที่มันปูดออกมาให้ไอ้เคราเขี้ยวมันได้เห็นการกระทำอันป่าเถื่อนของตัวเอง ซึ่งก็ได้ผลดีเชียวแหละ เพราะคมเขี้ยวชะงักไปนิดและมีสีหน้าสลดลงนิดหนึ่ง


“อิ่มยัง เอาอีกมั้ย” เรียวจันทร์กะพริบตาถี่ๆ ไล่น้ำตาแล้วส่ายหัวเป็นการปฏิเสธน้อยๆ


ใครจะไปกินอีก รสชาติย่ำแย่ขัดกับหน้าตาแกมากไอ้เขี้ยวกุด ทำอาหารไม่เป็นก็ไม่บอก


“นี่ ฉันอยากมาทำงานที่นี่จริงๆ นะ ทั้งอยากมาทำงานและอยากมาอยู่ใกล้ๆ นายอย่างที่บอกนั่นแหละ” เรียวจันทร์แสร้งว่าซื่อๆ ใสๆ เลยทำให้คมเขี้ยวเงิบไปนิดแต่ก็ไม่ได้เงิบหงายหลังอะไรปานนั้น เขาทำหน้าแหยงนิดหน่อย ก็ไม่ได้รังเกียจอย่างปากว่านั่นแหละ ใช่ว่าไม่เคยมีผู้ชายมาชอบ แต่โดนจู่โจมโต้งๆ แบบนี้อะเพิ่งเคย ไอ้ที่เคยโดน มันก็เนียนๆ มาแบบเพื่อน กว่าจะรู้ตัวก็เกือบเสียวไปเหมือนกัน จะว่าไปการที่ไอ้จันทร์ไรบอกก่อนแบบนี้ก็ดี เขาจะได้เพิ่มมาตรการป้องกันตัวเองจากไอ้นี่ได้หลายขั้นหน่อย


“ไม่จำเป็น ชอบกันไม่ต้องอยู่ใกล้กันก็ได้”


“ได้ไง ชอบกันควรอยู่ใกล้กันสิ เราจะได้ทำความรู้จักกัน ถ้าฉันยังไปๆ มาๆ แบบนี้ ก็ไม่ได้สร้างสัมพันธ์ระหว่างเราอย่างต่อเนื่อง ขาดตอนแบบนั้นมันจะไปดีอะไรล่ะ” เรียวจันทร์ว่าหน้างอ เอาช้อนจิ้มๆๆๆ ข้าวจนเละไปหมด


“ดีดิ ผมไม่อยากให้สัมพันธ์ระหว่างเราต่อติด”


“นั่นแหน่ะ! กลัวจะอ่อนไหวใจอ่อนให้กับฉันสินะ ถึงได้พยายามสร้างปราการป้องกันตัวเองใหญ่เลย” เรียวจันทร์ (แกล้ง) ว่าอย่างเขินอาย เม้มปาก กัดปาก บิดตัวตามองศาที่ตัวเองกำหนด ช้อนสายตามองหน้าเหม็นเบื่อของไอ้เขี้ยวที่ทำเอานางอยากเขวี้ยงช้อนใส่หัวให้แตกไปเลย


หยิ่งนักนะ! แม่จะจับทำผัวให้ได้เลยคอยดู!


“โอ๊ย ขนลุก!”


“ปวดขี้เหรอ”


“เออ ปวดขี้ เห็นหน้าแล้วนึกถึงชักโครก” หน็อย! อยากจะด่าให้หูดับ แต่ติดที่ว่าตอนนี้ยังสลัดภาพลักษณ์อ่อนแอออกไปไม่ได้ คนที่เพิ่งเจอเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจที่ไหนจะมาแว้ดๆ ใส่คนอื่นได้ฉอดๆ ที่ทำได้คือต้องยิ้มแกนๆ ทำว่าเสียเซลฟ์หน่อยๆ กับคำเปรียบเปรยนั้น เพราะดูท่าแล้วไอ้เขี้ยวกุดมันก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำจนเกินไป เพราะพอนางทำท่าทางสลดหงอยเหงามันจะรู้สึกผิดขึ้นมาอยู่บ้าง อย่างครั้งนี้ก็เช่นกัน


“เออ ขอโทษ” คมเขี้ยวว่าอย่างเสียมิได้และพ่นลมหายใจหน่ายๆ


“ไม่เป็นไรหรอก โอ๊ย…” เรียวจันทร์ยกมือซ้ายขึ้นมาจับตรงหัวโนของตัวเอง สีหน้าเจ็บปวดจี๊ดๆ คมเขี้ยวเห็นแบบนั้นก็แอบตกใจ เด้งตัวตรงมองอย่างเลิ่กลั่ก


“เจ็บเหรอ” เรียวจันทร์พยักหน้าน้อยๆ เลื่อนจานข้าวออกห่างจากตัว หลับตาลงคล้ายว่าทรมาน ใช้นิ้วซ้ายนวดขมับเบาๆ คนที่ทำร้ายนาวไว้ก็เริ่มจะนั่งไม่ติด เริ่มกังวลว่าจะเป็นอะไรร้ายแรงกว่าเดิมหรือเปล่า


“ไปหาหมอมั้ยคุณ” คมเขี้ยวถามด้วยความเป็นห่วงอย่างลืมตัว แล้วก็กลัวด้วยว่าที่ตัวเองทำไปจะส่งผลรุนแรงอะไรกับสมองของอีกฝ่ายมากขนาดไหน


คนถูกถามลอบอมยิ้มขำน้อยๆ กับท่าทางห่วงใยจากอีกฝ่ายที่เผลอออกมาจากใจจริง ก่อนจะรีบเก๊กหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างเจ็บปวดแล้วส่ายหัวเบาๆ ตอบเสียงแผ่วตามที่กำหนดโทนเสียงมาแล้วว่าต้องพูดในระดับนี้เท่านั้น “แค่ปวดตุบๆ จี๊ดๆ น่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก เดี๋ยวกลับบ้านไปนอนพักก็คงดีขึ้น”


“เอ่อ… งั้นเหรอ… ขับรถกลับบ้านไหวใช่มั้ย” คมเขี้ยวถามเสียงห้วนหน้าตาและท่าทีอึกอักยึกยัก น้ำเสียงเมื่อกี้ที่ใช้ไม่ได้กะให้มันห้วนหยาบคาย ก็แค่ถามสั้นห้วนไปหน่อยเท่านั้นเอง


เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกหงักเบาๆ แล้วเงยหน้าเพลียๆ ของตัวเองขึ้นตอบ “ไหวสิ แค่นี้เอง”


คมเขี้ยวย่นคิ้วเม้มปาก มองเรียวจันทร์ด้วยสายตาคิดหนัก กลัวว่าไอ้หน้าหวานมันจะปวดหัวจนน็อคกลางทางแล้วเกิดอุบัติเหตุเอาได้ เขาเลยตัดสินใจถามเสียงกระด้างอย่างไว้ท่าที


“ไปส่งมั้ยอะ”


“ไม่ต้องหรอก แขนขาฉันยังใช้ได้น่า” เรียวจันทร์ว่าเสียงอ่อนเพลียพลางลุกขึ้นยืนช้าๆ คมเขี้ยวรีบเด้งตัวขึ้นตามอย่างเร็ว แต่ไม่ได้เพราะเป็นห่วงหรอกนะ ยอมรับเลยว่ามันเป็นอาการสะดุ้งตกใจที่เห็นอีกฝ่ายเคลื่อนไหว


เรียวจันทร์แอบเบ้ปากนิดหนึ่งก่อนจะรีบทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม เดินเลี่ยงออกจากโต๊ะอาหารจะกลับไปห้องรับแขกของบ้านเพื่อไปเอากระเป๋าแล้วจะได้กลับ นางเดินไปอย่างเชื่องช้าในจังหวะที่คำนวณมาอย่างดีว่าควรก้าวเท่านี้ ก้าวแบบนี้เพื่อให้ดูอ่อนล้าไม่ค่อยมีแรง ร่างสูงหน้าเคราดกดำเดินตามมาหน้านิ่วคิ้วขมวด สายตามองร่างโปร่งบางด้วยหลายอารมณ์ที่ปนกัน พอมาถึงห้องรับแขก เรียวจันทร์ก็หยิบกระเป๋าขึ้นคล้องไหล่ขวา หมุนตัวไปมองคมเขี้ยวที่ยืนอยู่ด้านหลัง ส่งยิ้มบางให้อีกฝ่าย


“ขอบคุณมากนะที่ให้พักต่ออีกนิดนึงน่ะ แต่คงไม่รบกวนแล้วล่ะ”


“อือ!” คมเขี้ยวพยักหน้าขึ้นหนึ่งทีแล้วเดินผ่านร่างบางไปที่ประตูบ้านที่เป็นกระจกบานเลื่อนเพื่อเปิดประตูให้ เรียวจันทร์เดินตามไปช้าๆ จับจ้องมองคมเขี้ยวไว้ไม่วางตา พอจังหวะที่อีกฝ่ายหันมา นางก็ยกขาขวาขัดหลังขาซ้ายตัวเองจนเดินสะดุดขาตัวเอง ทำให้พุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของไอ้เคราแพะ หน้าผากมนชนกับริมฝีปากแดงอ่อนของคมเขี้ยวเต็มๆ เรียวจันทร์แกล้งทำนิ่งตัวแข็งทื่อ แต่คมเขี้ยวน่ะเบิกตากว้างตัวแข็งทื่อของจริง


“เอ่อ…” เรียวจันทร์ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายที่หน้าแดงหน่อยๆ แสร้งทำสีหน้าลำบากใจอย่างแนบเนียน


“…อันนี้ฉันไม่ได้จูบนายนะ” คมเขี้ยวกัดฟันแน่น รู้สึกไส้บิดเป็นเกลียว แก้มสองข้างร้อนผ่าวเบาๆ เขายกสองมือขึ้นมาจับไหล่ไอ้หน้าหวานแล้วดันร่างมันออกให้ห่างจากตัว


“เดินหัวทิ่มไปก็ได้ ไม่ว่าหรอก” หน้าสวยๆ คลี่ยิ้มแหย ยกมือลูบตรงหัวปูดๆ ของตัวเอง คมเขี้ยวจิ๊ปากอีกรอบเมื่อรู้สึกโดนต่อว่าโดยไร้เสียง


มีหลักฐานแล้วใช้ข่มใหญ่เลยนะไอ้จันทร์ไร!


“ไปๆ เชิญกลับครับคุณเรียวจันทร์” เจ้าของชื่อยิ้มหวานแล้วเดินผ่านร่างสูงใหญ่ไปโดยมีเจ้าของบ้านเดินตามออกไปส่งตรงประตูบ้านใหญ่อีกที โดยที่พ่อเคราไม่ได้เห็นหรอกว่าแม่นางเรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปากแรงขนาดไหนที่แผนอ่อยเหยื่อขั้นต้นเป็นไปได้ด้วยดี!




 
“อือ… อือ… เก่งมาก… เยี่ยมเลย…อือ…”


“เก่งนี่คือ… ฮ่ะ… เก่งเรื่องไหนล่ะเสี่ย… อ๊ะ…”


“ทั้งสองเรื่องเลยคนสวย…อืม… อย่าเพิ่งหยุดนะ จะเสร็จแล้ว…” จอมทัพกัดฟันแน่นพลางมองใบหน้าสวยหวานของเรียวจันทร์ที่แหงนเชิดขึ้นอยู่ตรงหน้า ด้านล่างของทั้งสองคนบดเบียดกันไปมาด้วยแรงขับเคลื่อนของคนร่างบางที่นั่งอยู่ด้านบนของคนตัวใหญ่ แม้วันนี้หน้าสวยๆ จะมีรอยปูดตรงแถวๆ ขมับมาด้วย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยนั้นลดลงเลย แถมวันนี้เรียวจันทร์ยังเอาข่าวดีมาบอกเขาอีกว่ากำลังจะได้เข้าไปอยู่ในฟาร์มอรุณพยัคฆ์แล้ว แต่ก็ยังไม่ทันได้คุยรายละเอียดกันจริงจังนักหรอก เขาก็ชวนอีกฝ่ายขึ้นเตียงซะก่อน ก็ห่างไปหลายวันแล้ว ถึงระหว่างนั้นจะมีเด็กมาให้กินเยอะแยะทั้งหญิงและชาย (ผู้ชายเยอะกว่า) แต่ก็ไม่โดนใจเขาเท่าเรียวจันทร์คนนี้


“อ๊ะ… อ๊ะ…”


“สุดยอด… โอย… ซี๊ดดด…” เสี่ยทัพหน้าเหยเกเมื่อความเสียวเริ่มตีตื้น เขาเลื่อนสองมือไปจับเอวบางของคนตัวเล็กเอาไว้แน่น ก่อนจะเด้งสะโพกเข้าหาอีกฝ่ายด้วยตนเองเพื่อเร่งเร้าการปลดปล่อยออกมา กระแทกอีกไม่ถึงนาทีก็ถึงจุดปลดปล่อย จอมทัพคำรามเสียงดังลั่นห้อง คลอไปกับเสียงกรีดร้องหวานๆ ของเรียวจันทร์เมื่อตอนที่แตกละเอียดในเวลาไล่เลี่ยกับเสี่ย


เสียงหอบหายใจของทั้งสองคนดังคละเคล้ากันอยู่พักหนึ่งก่อนที่เรียวจันทร์จะยกตัวเองออกจากกลางลำตัวของจอมทัพแล้วลงไปนอนหมดแรงข้างๆ คนตัวโต จอมทัพดึงเครื่องป้องกันออกจากแก่นกาย มัดปากถุงแล้วโยนทิ้งลงถังขยะอย่างแม่นยำ เขาหันกลับมาหาร่างบางที่นอนบิดขาปิดส่วนกลางเอาไว้แล้วหันหน้ามามองเขาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้ม


“วันนี้หนี้ลดลงอีกบ้างมั้ยเสี่ย” คนถูกถามยิ้มกว้าง ก้มลงจูบหน้าผากของคนสวย


“วันนี้เสี่ยลดให้แสนนึงแล้วกันนะ” เรียวจันทร์แสร้งทำหน้าบู้ แต่ที่จริงก็รู้อยู่แล้วละว่าคงลดไม่เยอะหรอก ครั้งที่แล้วตาเสี่ยนี่ก็ลดให้ไปแล้วสองแสน เกิดลดลงรวดเดียวหมอนี่ก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากนางอีกไม่ได้น่ะสิ


“เออ วันนี้แม่คุณมาเล่นที่บ่อนผมอีกแล้วนะ แต่วันนี้ได้มากกว่าเสีย” เรียวจันทร์กลอกตาเซ็งพร้อมเบ้ปาก


“ช่างเขาเถอะ ฉันบอกไปแล้วว่าถ้าสร้างหนี้เพิ่มหลังจากนี้ ให้ใช้เองทั้งหมด ตอนนี้ฉันกำลังทยอยใช้หนี้เก่าๆ ของเขาที่จดเอาไว้อยู่ หลังจากนี้ถ้ามีเพิ่ม ทางใครทางมัน” อันนี้นางพูดจริง นางยื่นคำขาดกับมารดาตัวเองไปแล้วว่าถ้ามีหนี้เพิ่มไม่ว่าหนี้จากทางไหน จากใคร มาได้อย่างไร ต่อไปนี้คุณนายโรสต้องรับผิดชอบตัวเอง และถ้าจะมองว่านางเป็นคนอกตัญญูอะไรก็ตามใจ เพราะนางถือว่าทำดีที่สุดแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคุณนายแม่แกวี้ดบ้านแทบแตก แต่นางก็หันหน้าหนีลูกเดียว


“แหม คนสวยโหดจัง” จอมทัพเอ่ยแซวยิ้มๆ ขยับตัวไปนอนใกล้ๆ ร่างเนื้อเนียน เรียวจันทร์กระเถิบศีรษะขึ้นไปนอนบนแผงอกล่ำของเสี่ยรูปหล่อ ใช้เรียวขาก่ายทับความเป็นชายของอีกฝ่ายเอาไว้


“นี่ ถามหน่อยสิ ถ้าได้ที่ดินตรงนั้นไป จะเอาไปทำอะไรเหรอ” เห็นว่าอยากได้นักหนาถึงขั้นต้องคิดแผนการส่งคนเข้าไปใกล้ชิดกับคนพวกนั้น มันต้องเป็นโปรเจ็คต์ที่ไม่ธรรมดา


“ก็คิดไว้หลายอย่างเหมือนกัน รอให้ได้ที่ดินตรงนั้นมาก่อน ซึ่งจะได้หรือไม่ ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะ” จอมทัพใช้นิ้วเกลี่ยไปตามไหล่เนียนอย่างเพลินมือ


“แหม อย่างกับว่าตอนนี้ฉันลงเรือลำเดียวกับคุณไปแล้วงั้นแหละ” เรียวจันทร์ว่าพลางใช้มือขวาลูบแผงอกแน่นๆ


“จะว่างั้นก็ได้นะ แต่ถ้าคุณทำได้ก็ปลดหนี้ที่มีหมดเกลี้ยง” เรียวจันทร์ย่นคิ้วแล้วแหงนหน้าไปสบตากับจอมทัพ


“แล้วถ้าเกิดฉันล้มเลิกกลางทาง ปล่อยหนี้ให้แม่ใช้เองล่ะ” จอมทัพเลิกคิ้วขึ้นสูงแล้วทำท่าครุ่นคิด


“มันก็แล้วแต่คุณ แต่คือผมต้องได้เงินคืน แล้วก็… ผมคงเสียดายแย่” เสี่ยทัพไหวไหล่ซ้ายน้อยๆ พร้อมยิ้มมุมปากหล่ออย่างแบดบอย เรียวจันทร์เบ้ปากทันที


“เสียดายอะไรเหรอเสี่ย?!” คนโดนถามหัวเราะเสียงทุ้มน่าฟัง เอื้อมมือซ้ายไปตบก้นงอนๆ ของคนสวยแรงๆ หนึ่งทีพร้อมกับทำหน้ามันเขี้ยว


“รู้แล้วยังจะถามนะ” เรียวจันทร์ยิ้มมุมปาก เลื่อนสายตามองตรงไปข้างหน้าอย่างครุ่นคิด นางเองก็ไม่ใช่ไม่คิดแบบที่พูด บางทียังนึกสงสัยว่าทำไมต้องยอมทำอะไรขนาดนี้ให้กับแม่หนึ่งคนที่ไม่เคยสนใจใยดีนางเลย แค่ทำหน้าที่อุ้มท้องนางเก้าเดือนแล้วพอคลอดปุ๊บก็หายไป แต่พอตัวเองตกอับก็กลับมาขอความช่วยเหลือ แถมยังขอแบบบังคับกันอีก


“คุณคิดจะล้มเลิกจริงๆ เหรอ” จอมทัพถามเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเรียวจันทร์แปลกไป


“ไม่รู้สิ ข้อเสนอที่คุณจะปลดหนี้ให้ทั้งของคุณและที่อื่นๆ ก็น่าสนใจ แถมยังได้นอนกับเสี่ยสุดหล่ออีก” นางว่าอย่างติดตลกและยิ้มขำหน่อยๆ จอมทัพหัวเราะอารมณ์ดีเบาๆ


“งั้นก็อย่ายอมแพ้นะครับเมีย” คนถูกสถาปนาให้เป็นเมียถึงกับย่นจมูกทันทีที่ได้ยิน ถึงนางจะพึงพอใจจอมทัพอยู่มาก แต่ก็ไม่คิดจะเป็นเมียของผู้ชายคนนี้อย่างที่คิดในตอนแรกจริงๆ


“ไม่เอาหรอก เป็นเมียเสี่ยทัพได้ช้ำใจตาย” แต่ถ้าเป็นเมียนายคมเขี้ยว ท่าทางจะดีนะ อ๊ะ… คิดจริงจังอะไรขนาดนั้นน่ะ


“โถ่ เอาอีกละ ไม่ให้โอกาส แถมยังใส่ร้ายผมตามเคย” จอมทัพส่ายหัวอ่อนใจ ไอ้ที่ว่าเขาเจ้าชู้เขาก็ไม่เถียงหรอก แต่เขายังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนสักหน่อย โลกของเขา ถ้าคิดจะมีตัวจริงน่ะยาก เพราะคนๆ นั้นจะใช้ชีวิตลำบากทันที ผลประโยชน์แลกผลประโยชน์ อำนาจสู้กับอำนาจ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ขาวและไม่ดำ ไม่สว่างจ้าและไม่มืดสนิท แต่ที่เขาอยากได้เรียวจันทร์ก็เพราะดูแล้วคนๆ นี้จะยืนหยัดเคียงข้างเขาได้ดี


“เอาน่า หล่อๆ แซ่บๆ อย่างคุณมีมาให้เลือกอีกเพียบ ถ้ามีตัวจริงเมื่อไหร่อย่าลืมบอกนะ ฉันจะได้เลิกมาทำอะไรแบบนี้” ถ้าตาเสี่ยนี่มีตัวจริงแล้ว แต่ยังมาจ้ำจี้กับนางแบบนี้ นางไม่โอเคแน่นอน ถึงจะแรดแต่ไม่ขอแรดกับผัวคนอื่น


“เฮ้อ… อย่างนี้แสดงว่าถ้าคุณมีตัวจริงเมื่อไหร่ก็จะเลิกมาหาผมใช่มั้ย” บอกตรงๆ ว่าเขาเองไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เขารู้สึกดีกับเรียวจันทร์มากโข อาจดูว่าเขาเล่นๆ หมาหยอกไก่ แค่เอาชั่วครั้งชั่วคราว แต่ลึกๆ ก็อย่างที่บอกกับเจ้าตัวไปว่าอยากให้มาอยู่ข้างกัน


“ฉันยังไม่มีเร็วๆ นี้หรอก ไม่ต้องห่วง” แล้วใบหน้าของคมเขี้ยวก็ลอยเข้ามาในห้วงความคิด นึกถึงแก้มแดงระเรื่ออย่างกับคนไม่เคยเขินของหมอนั่นแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ นางเชื่อว่าไอ้เขี้ยวกุดมันไม่ได้ใสซื่อเรื่องแบบนี้หรอก แต่คงไม่เคยมีใครกระโจนเข้าใส่เข้าหาแบบนางมากกว่า


ถึงจะเสแสร้งแกล้งทำกับกิริยาต่างๆ แต่ก็ยอมรับว่าไอ้เครามันก็น่ารักดีนะ






 :mew1:

หายไปนาน กลับมาแล้วกับเรื่องนี้ จะบอกว่ายังไงก็ไม่ดอง ไมีหนีตายจากแน่นอนนะค้าาา วางคิวเขาไว้แล้นนน พี่เขี้ยวนังเรียวจันทร์มาแน่ๆ แต่ขอเคลียร์อีกเรื่องให้เรียบร้ยอสนิทจริง แล้วจะมาลุยอันนี้เต็มพลังงงละะ

พี่เขี้ยวผู้ใสซื่อกำลังจะโดนงาบในไม่ช้านี้แน่ๆ เห้อออ -.,- สงสารจุง คริๆ แม่เรียวนางมุ่งมั่งแล้วว่าจะจับทำผัวให้ได้ 55555 นางมาแน่ แต่ก่อนมาขอไปกกเสี่ยทัพก่อน คริๆ

แจเร็ดหายไปลเยนะนังเรียว TT__TT โธ่ พ่อหนุ่มอิจาลีของชั้น โดนฟันแล้วทิ้ง กระซิกๆ

เรื่องนี้ก้สนุกสนาน โรแมนติกคอเมดี้ค่ะ อ่านละหวังว่าจะยิ้มกันได้เน้อ อ้อ นิยายวายเรื่องนี้เหมาะแก่สาววายเลเวลสูงจริงๆ นะ เพราะนายเอกสาวสุดดพลังงง แต่เรารักนางในแบบนี้จริงๆ อุอิๆ

เจอคำผิด เจอคำแปลกๆ แจ้งกันได้เช่นเคยนะคะ เผื่อเบลอแล้วพลาดบางจุดไป
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/100%:01.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 01-02-2016 15:05:35
เสี่ยยังแซ่บเหมือนเดิม รอตอนต่อไปน๊า แล้วก็อย่าหายไปนานเค้าคิดถึง  :-[
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/100%:01.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-02-2016 19:58:21
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  นางสตรองจริงๆ เรียวจันทร์ อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/100%:01.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 01-02-2016 20:51:05
พอเรียกว่าพี่เขี้ยวกุดก็น่ารักมุ้งมิ้งขึ้นมาทันทีเลย 5555555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/100%:01.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 01-02-2016 23:06:21
 :z1: แรดส่งท้ายเลยใช่ไหมจ้ะน้องเรียวจันทร์ เราก้อชอบนายเอกแซ่บ ๆ แบบนี้น่ะ แรดแต่จริงใจเนี่ยถูกใจมากกกกกกกกกกกก  :katai3: พี่คมเขี้ยวดูห้าวเถื่อนแต่ไร้เดียงสาเชียว โดนจูบแค่นี้แก้มแดงเลยอ่ะ  :mew4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/100%:01.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: cinnsin ที่ 01-02-2016 23:22:29
เสี่ยจะทำอะไรก็รีบทำนะคะ อีกเดี๋ยวน้องนางขอเสี่ยก็จะมีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้ว ถถถถถถถถถ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/100%:01.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 01-02-2016 23:29:58
นี่หล่อนแรดมากกกกกกกก นังเรียวชั้นชอบบบบ :laugh:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/100%:01.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Onlylyn ที่ 02-02-2016 10:10:20
เอารางวัลตุ๊กตาทองให้เรียวด่วน  55555  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/100%:01.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 02-02-2016 12:37:55
เรื่องนี้เสี่ยจะตายตอนจบไหมคะ

เอาจริงๆ อยากให้เสี่ยได้เมียเด็กน่ารักๆ สักคน จะได้ช่วยลดความเหี้ยมของเสี่ยลงเสี่ยจะได้ไม่ตายหรือติดคุกตอนจบ

ไม่ชอบเรียวนะ แต่ที่ตามอ่านเพราะพี่เขี้ยวล้วนๆ เลย อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๖/100%:01.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 09-02-2016 20:01:44
ถ้าพี่เขี้ยวรู้ความจริง เจ๊เรียวตายโหงแน่นอลลลลลลลลล เสี่ยแกแซ่บนะ ขอหนูเถอะ 55555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๗/100%:25.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 25-02-2016 17:37:04
คาถาที่ 7 :: Game on! [100%]




หลังจากพยายามคัดค้านแล้วคัดค้านอีก คมเขี้ยวก็ทำไม่สำเร็จ เพราะเรียวจันทร์ก็ได้เข้ามาทำงานในฟาร์มสมใจ แถมป๋าเขายังเบิกทางอย่างสะดวกให้อีกด้วยการให้ไอ้จัญไรนั่นเข้ามาพักที่ฟาร์ม ไอ้แค่เข้ามาทำงานด้วยกันในฟาร์มก็ทำเอาเขาหงุดหงิดอยากอาละวาดแรงๆ เต็มทน แต่คนเป็นพ่อยังอนุญาตขั้นเหนือกว่าไปอีกด้วยการจะให้ไอ้หน้าหวานนั่นมานอนในบ้าน!

           

 

“ไม่เอาป๋า! ให้คนแปลกหน้ามานอนในบ้านเราได้ยังไง” เขาโวยลั่นบ้าน หน้าตาถมึงทึง มองเรียวจันทร์ที่หอบกระเป๋าเสื้อผ้ามาพร้อมอย่างหงุดหงิด อีกฝ่ายกำลังนั่งหน้าเข่นเคี้ยว ทำปากขมุบขมิบอยู่บนโซฟาห้องรับแขก

           

 

“เรื่องนี้ผมยอมไม่ได้ ป๋าจะมาอ้างว่าเป็นลูกเพื่อนป๋า หรือมีบุญคุณใดๆ ไม่ได้ ถ้าเขาเข้ามานอนที่นี่ ผมจะไปนอน บ้านต้นสน ไม่กลับมานอนที่นี่อีก!” คมเขี้ยวยื่นคำขาด คราวนี้เขาต้องขอเอาจริงขึ้นมาบ้างละ จะรักจะเอ็นดูอะไรก็ไม่ควรมากเกินไป รู้จักกันดีแค่ไหนเชียวถึงจะให้เข้ามานอนในบ้าน 

           

 

“แกจะประชดทำไมวะไอ้เขี้ยว”

           

 

“ผมไม่ได้ประชด ผมพูดจริง ป๋าตั้งสติหน่อย เขาเป็นใครป๋า ทุกอย่างมันดูเปิดทางให้เขาไปหมดเลยป้ะ เออ ถ้าก่อนหน้านี้เคยคุ้นเคยกันมาตลอด ผมจะไม่อะไรเลย” คมเขี้ยวว่าหน้าเครียด หน้านิ่วคิ้วขมวดแสดงออกถึงความไม่ชอบใจอย่างแรง เมฆาทำท่าจะพูดต่อแต่ก็ถูกภรรยาห้ามปรามเอาไว้

           

 

 “ขอแม่คุยกับพ่อเป็นการส่วนตัวสักแปบนะ” เธอยิ้มอ่อนให้เรียวจันทร์ที่ยิ้มบางตอบกลับมา คุณบัวลากสามีไปคุยในห้องครัว คมเขี้ยวสะบัดสายตาเคืองไปมองเรียวจันทร์ที่ตอนนี้ปรับสีหน้าให้ดูแอ๊บใสเข้าไว้ เขาพยายามยิ้มให้คนตัวโตแต่อีกฝ่ายกลับทำหน้าบูดหน้าบึ้งจนต้องค่อยๆ หุบยิ้มไปเอง

           

 

“อะ โอเค งั้นเดี๋ยวป๋าให้เรียวจันทร์เขานอนในห้องนอนออฟฟิศ” เมฆาสรุปด้วยท่าทีที่ดูใจเย็นขึ้น แต่เรียวจันทร์สังเกตว่าท่าทีนั้นดูเหมือนคนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้มามากกว่า เชื่อได้เลยว่าเมื่อกี้แม่ของคมเขี้ยวต้องพูดเตือนสติอะไรสักอย่างที่เชื่อมโยงมาถึงนางเต็มๆ

           

 

“แม่เห็นด้วย ให้หนูเรียวเขานอนนั่นแล้วกัน จะให้ไปนอนกับคนงานแม่ว่าก็ไม่เหมาะ อย่างน้อยให้เขามีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง” ดูเหมือนคมเขี้ยวจะเถียงแม่น้อยกว่าพ่อ เพราะพอคนเป็นแม่เอ่ยแบบนั้นเรียวจันทร์ก็เห็นว่าไอ้เครามีท่าทีอ่อนลงและเหมือนจะเห็นด้วยกลายๆ

           

 

“ตามนั้นครับ แต่ถ้าของในออฟฟิศหาย ผมไล่เขาออกจากฟาร์มแน่!” คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์อย่างคาดโทษ คนหน้าหวานกัดริมฝีปากล่างแน่น ถลึงตาน้อยๆ มองไอ้มาดคาวบอยด้วยความโมโห

           

 

หน้าตาฉันดีขนาดนี้ยังกล้ามองว่าเป็นขโมยอีก!

           

 

“ขอโทษด้วยนะหนูเรียวที่เสียงดังโหวกเหวกโวยวายไปหน่อย” เจ้าของชื่อรีบปรับสีหน้าเป็นยิ้มหวานประจบ ก่อนจะบอกเสียงนุ่ม

           

 

“ไม่เป็นไรหรอกครับ…” เพราะที่บ้าน เวลาเถียงกับแม่ก็เสียงดังประมาณนี้แหละ “…จริงๆ เรียวนอนไหนก็ได้”

           

 

“งั้นกลับไปนอนบ้านตัวเองดิ ถ้าอยากทำงานจริงก็มีความพยายามหน่อย” คมเขี้ยวว่าเสียงขุ่น ยักคิ้วสองทีอย่างกวนตีนกวนใจเหลือเกิน แต่ที่นางทำได้คือแอ๊บยิ้มแห้ง แบบว่า แหม พี่เขี้ยวก็ ทั้งที่ในใจน่ะเหรอ หน็อย ไอ้ห่าเขี้ยว!

           

 

“อันนั้นก็เกินไปเขี้ยว เหนื่อยตายเลย” คุณบัวปราม แต่ก็ไม่ได้ดุด่า หล่อนมองหน้าเรียวจันทร์อย่างครุ่นคิด พอเจ้าตัวหันหน้ามาสบตาก็คลี่ยิ้มบางกลบเกลื่อนอาการครุ่นคิดนั้น

           

 

“งั้นเดี๋ยวป๋าให้คนงานพาเราไปเก็บของในออฟฟิศแล้วกัน” เรียวจันทร์พยักหน้ารับ

           

 

“เขี้ยว ตามดินมาพาเรียวจันทร์ไปที่ห้องหน่อย” คนเป็นแม่เอ่ยบอก คมเขี้ยวโบกมือขวาหนึ่งที 

           

 

“เดี๋ยวผมพาไปเองก็ได้”

           

 

“แม่มีเรื่องจะคุยกับเรา ให้ดินหรือใครก็ได้พาไป” คุณบัวเอ่ยบอกอย่างนิ่งสงบทั้งน้ำเสียงและท่าที ไม่ได้มีอาการผิดแปลกใดๆ แต่ใช่ว่าเรียวจันทร์จะสัมผัสไม่ได้ว่าทั้งสามคนคงต้องการคุยเรื่องของนางแบบคนในครอบครัวนั่นแหละ แต่ก็เลือกที่จะเงียบแล้วทำตัวนิ่ง

           

 

คมเขี้ยวพยักหน้ารับ กดโทรศัพท์เรียกหนึ่งในลูกน้องคนสนิทที่ตอนนี้เริ่มเป็นเหมือนน้องชายเขาอีกคนไปแล้วให้ขึ้นมาบนบ้าน ระหว่างรอ คุณบัวก็เข้าไปพูดคุยกับเรียวจันทร์เรื่องการใช้ชีวิตอยู่ที่ฟาร์มอรุณพยัคฆ์ว่าต้องปฏิบัติตัวยังไง ตื่นตอนไหน ต้องช่วยงานคมเขี้ยวในส่วนไหนบ้าง

           

 

“เอ่อ คุณแม่ครับ คือเรียวเนี่ย มีงานการแสดงและงานเดินแบบด้วย อาจจะมีบางอาทิตย์ที่เรียวต้องขอตัวหายไป เรียวจะไม่โดนไล่ออกใช่มั้ย” นางแบ่งตารางชีวิตไว้คร่าวๆ แล้วว่าจะต้องทำอะไรบ้าง วันไหนมีงานอีเว้นต์ก็ขออนุญาตนายคมเขี้ยวไป ในส่วนของการแสดง นางเองก็ไม่ใช่บทดำเนินเรื่องขนาดที่ต้องเข้ากองทุกวี่ทุกวันหรือทุกอาทิตย์

           

 

“ไม่หรอกจ้ะ หนูก็แบ่งเวลาตัวเองให้ดี อย่าให้มันเสียงานทั้งสองที่” คุณบัวเอ่ยบอกยิ้มๆ เรียวจันทร์ยิ้มโล่งอก แต่พอหันไปเห็นสายตาคมของไอ้เคราที่จ้องอย่างกับจะจับร่างนางฉีกเป็นชิ้นๆ ก็ต้องสะดุดกึกแล้วรีบหันหนี

           

 

 

“พี่เขี้ยว ผมมาแล้ว” เสียงทุ้มห้าวๆ เสียงหนึ่งดังขึ้น เรียวจันทร์หันไปมองก็เห็นหนุ่มร่างบึ้กหนาแน่น บึ้กในที่นี้คือบึ้กจริง ตัวหนา วงแขนกล้ามเป็นมัดๆ อุ๊ย น่าจะกัดแขนเล่นเบาๆ ตัวสูงพอกับนายเขี้ยว ผิวเข้มกว่ามาก แล้วก็ดูคลุกฝุ่นคลุกดินพอสมควร หน้าตาไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดีงามอร่ามหรู แต่นั่นไม่ใช่ข้อเสียของผู้ชายคนนี้ เรียวจันทร์มองว่าหน้าตาค่อนข้างดุแต่ตาดวงตาดูซื่อๆ ใสๆ เลยทำให้หน้าเขาดูไม่น่ากลัว อืม ถ้าไปเป็นนายแบบที่นิวยอร์กล่ะก็ ขายดิบขายดีเลยแหละ

           

 

“ไอ้ดิน พาคนนี้ไปเก็บของในห้องนอนออฟฟิศหน่อย เสร็จแล้วก็ลองบอกงานในออฟฟิศคร่าวๆ ว่าต้องทำอะไรบ้าง” คมเขี้ยวร่ายยาวหน้าตายังไม่ค่อยจะสบอารมณ์สักเท่าไหร่ เรียวจันทร์หันไปยิ้มให้กับหนุ่มนามว่าดินสมกับสีผิวเจ้าของชื่อยิ้มตอบกลับมาอย่างเป็นมิตร เป็นอันว่าผู้ชายคนนี้แม้นหน้าตาไม่หล่อมาก แต่มีเสน่ห์มากเวลายิ้ม ยิ้มเป็นมิตรและจริงใจสุด

           

 

“รบกวนด้วยนะครับ” เรียวจันทร์บอกอย่างเป็นมิตรพลางยื่นกระเป๋าลากใบโตสีดำให้กับหนุ่มล่ำบึ้ก อีกฝ่ายยื่นมือมารับแล้วช่วยยกออกจากบ้านไป

           

 

“เดี๋ยวแม่ให้คนไปตามมากินข้าวเย็นนะหนูเรียว” คุณบัวตะโกนตามหลังไป เรียวจันทร์ที่อยู่ระเบียงหน้าบ้านหันมามองแล้วยิ้ม

           

 

“โอเคครับแม่” ว่าจบก็หมุนตัวเดินตามพ่อล่ำไป สามคนพ่อแม่ลูกบ้านพยัคฆ์เกรียงไกรมองตามร่างบางเดินลงบันไดไม้ไปสู่ประตูรั้วใหญ่จนลับสายตาไปแล้วค่อยหันมามองหน้ากัน

           

 

“แม่มีอะไรรึเปล่า” คุณบัวถอนหายใจนิดหนึ่ง เดินไปนั่งบนโซฟาโดยมีสองพ่อลูกตามมานั่ง เมฆานั่งลงข้างภรรยาส่วนลูกชายนั่งตรงข้ามกับทั้งสองคน

           

 

“ป๋าขอโทษที่ใจร้อนและใจง่ายไปหน่อย” เมฆาเอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิด คมเขี้ยวถอนหายใจ

           

 

“ป๋าเปิดทางให้เขาง่ายมาก คือผมเข้าใจว่าเขาเป็นลูกเพื่อนสนิทป๋า เป็นผู้มีพระคุณของบ้านเรา แต่ป๋าก็ต้องยอมรับนะว่าเรากับเขาไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันนานแล้ว เพื่อนป๋าก็จากไปแล้ว ผมไม่ได้จะเนรคุณ แต่เราไม่เคยรู้จักเขาเลย อยู่ๆ ก็ให้เขามาอยู่กับพวกเรา เราไม่รู้นะป๋าว่าช่วงที่เรากับเขาไม่รู้จักกัน เขาไปเจออะไรมาบ้างและนิสัยเขาเป็นยังไง” คมเขี้ยวพูดอย่างมีสติ พูดอย่างใจเย็น ไม่ได้โกรธหรือเหวี่ยงบิดาแต่อย่างใด เขาแค่อยากให้ป๋าเข้าใจว่าสิ่งที่เขาต้องการจะบอกคืออะไร

           

 

“เรื่องนี้แม่ก็คุยกับพ่อเขาแล้วละ แม่เห็นด้วยกับเขี้ยวนะที่ว่าเราไม่รู้ว่าช่วงที่เขากับเราไม่รู้จักกัน ห่างหายกันไป เขาเป็นคนยังไง จะเอาเหตุการณ์ที่เขาเป็นบุญคุณกับเรามาตัดสินไม่ได้ แม่รู้ว่าพ่อหนูเรียวเขาดี แต่ก็ยอมรับว่าแม่ยังไม่รู้จักเรียวจันทร์ดีพอ”

           

 

“นั่นแหละครับที่ผมอยากจะบอก แต่ป๋าก็เข้าข้างเขาลูกเดียว” เมฆาถอนหายใจหน้าตาสลดลงไปนิดหนึ่ง

           

 

“เออ ป๋ารู้แล้วว่าตัวเองคิดน้อยไปหน่อย ขอโทษแล้วกันน่า”

           

 

“ไม่โกรธหรอกป๋า แค่น้อยใจ เนี่ย ลูกชายป๋านะ แต่ตั้งแต่มีไอ้นั่นเข้ามา ป๋าทำอย่างกับผมไม่ใช่ลูก” คมเขี้ยวว่างอนๆ จนคนเป็นพ่อกับแม่อดอมยิ้มไม่ได้

           

 

“โถ่ ไอ้นี่ ทำเป็นงอนอย่างกับผู้หญิง รักเหมือนเดิมน่าไอ้เครา” คนเป็นแม่หัวเราะน้อยๆ กับคำเอ่ยแซวของสามี คมเขี้ยวเบ้ปากพร้อมยักไหล่ เขาเองก็ไม่ได้เคืองแค้นฝังหุ่นอะไรหรอก

           

 

“แต่ยังไงเขี้ยวก็เปิดใจรับเขาหน่อยนะ เขาอาจจะดีก็ได้ แต่ถ้าเขาไม่ดีจริง แม่กับพ่อก็ไม่เอาไว้หรอก เรื่องบุญคุณที่มีมาก็เดี๋ยวจะชดใช้ให้ ที่ดินของเขาก็จะคืนให้เขาไป แล้วก็ทางใครทางมัน” หญิงสาวคนเดียวในบ้านเอ่ยบอกนิ่งๆ แต่สองพ่อลูกก็รู้ว่านั่นคือคำขาด คือความเด็ดเดี่ยวและเอาจริง คุณบัวเป็นคนใจดี แต่ในเวลาเด็ดขาด เธอก็คือเด็ดขาดจริงๆ ไม่มีเล่น

           

 

“แกก็อย่าไปตั้งแง่กับเขามาก เขาจะดีจะร้ายเราก็ยังไม่รู้…” เมฆาเหม่อมองไปเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิด ก่อนหน้านี้เขามัวแต่คิดว่านั่นคือลูกเพื่อนสนิท คิดถึงแต่ตอนเด็กที่เรียวจันทร์ยังเป็นเด็กน้อยน่ารักคนหนึ่ง มัวแต่ดีใจที่ได้เจอลูกเพื่อนสนิทสักที

 

 

“…แต่ก็จริงอย่างที่แกว่า เรากับเขาห่างหายจากกันไปนานมาก ป๋าไม่รู้เลยว่าวันเวลาที่ผ่านมา นิสัยของเขาถูกหล่อหลอมให้เป็นยังไง แต่ป๋าก็เชื่อนะช่วงที่ไอ้อาทิตย์มันยังอยู่ มันต้องสอนลูกมันดีแน่ๆ มันเพิ่งจากหนูเรียวไปเมื่อสองปีก่อนนี่เอง ป๋าเชื่อว่ามันทิ้งความดีไว้ให้ลูกมันแหละ” คมเขี้ยวยกมุมปากทั้งสองข้างยึกยักไปมาแล้วพยักหน้ารับน้อยๆ คนเป็นภรรยานั่งฟังนิ่งก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้

 

 

“เออ จริงสิ ตอนงานศพเพื่อนคุณ ทำไมเราไม่เจอหนูเรียวล่ะ”

 

 

“เห็นว่าบินกลับมาถึงงานหลังเรานะ เขาบินกลับไปทำงาน แล้วก็บินกลับมาอีกที” คุณบัวพยักหน้ารับนิดหนึ่ง ส่วนคมเขี้ยวนั่งนิ่ง เขาไม่ได้ไปงานศพพ่อเรียวจันทร์หรอก เพราะตอนนั้นคิดว่าก็เป็นเพื่อนพ่ออีกคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดว่าวันหนึ่งจะต้องมาเกี่ยวข้องกับลูกชายเขา

 

 

“แล้วนี่ป๋าจะให้เขาอยู่นานเท่าไหร่เนี่ย”

 

 

“ก็ตามที่เขาอยากอยู่ อย่าลืมว่าที่นี่ก็เหมือนบ้านเขา แต่ถ้าเกิดเขาเป็นคนไม่ดีจริง ก็คงต้องให้เขาไป” คมเขี้ยวพยักหน้ารับหนึ่งที ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองซ้ายมองขวาก่อนจะเห็นโทรศัพท์มือถือของเรียวจันทร์ตกอยู่บนโซฟา

 

 

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะ”

 

“อย่าไปชวนเขาทะเลาะอีกล่ะ ทะเลาะกันมากๆ เดี๋ยวก็ได้เขาเป็นเมียหรอก” คุณบัวเอ่ยแซวด้วยรอยยิ้ม คมเขี้ยวทำหน้าเหมือนเหม็นขยะที่ลอยอยู่ในคลองเน่า สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน เขาส่ายหัวพร้อมย่นจมูกก่อนจะเดินไปหยิบมือถือของไอ้หน้าหวานขึ้นมาแล้วเดินออกจากบ้านไป

 

 

คมเขี้ยวเดินเลี้ยวขวาออกจากประตูบ้านใหญ่ตรงไปออฟฟิศ วันนี้ทางฟาร์มปิดไม่ให้ใครเข้าชม จึงมีแต่คนงานกำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้นไปทั่วบริเวณ แบ่งกันทำคนละส่วนตามหน้าที่ใครหน้าที่มัน ส่วนร้านค้าในฟาร์มก็ปิดให้บริการทุกร้าน ก่อนที่จะให้ร้านใดร้านหนึ่งเข้ามาเปิดค้าขายในฟาร์ม คมเขี้ยวได้ทำข้อตกลงกับทุกคนแล้วว่ากฎเกณฑ์ของที่นี่เป็นยังไง หากใครยอมรับได้เขาก็ยินดีที่จะร่วมงานด้วย เขาไม่ใช่คนขี้งกหรือเจ้าระเบียบ แต่จริงๆ ที่นี่คือบ้าน คือที่ทำงานของเขา ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เพื่อนเขาที่มาเที่ยวบ้านต่างบอกว่าควรเปิดให้คนนอกเข้ามาเที่ยวด้วยได้ก็จะดี เพราะบรรยากาศที่นี่สวยด้วยธรรมชาติจริงๆ แล้วพอเปิดจริงจัง พ่อเขานั่นแหละก็เอานู่นเอานี่มาประดับเต็มไปหมด ทั้งชิงช้า โรงนา รถไถเก่า หมู่บ้านคาวบอย พ่อบอกว่าไหนๆ ก็ทำแล้ว ขอใช้จิตนนาการในวัยเด็กของตัวเองเนรมิตมันขึ้นมาหน่อย เขาได้แต่ขำ เห็นตัวโตกว่าแบบนั้นแต่พ่อยังแอบมีมุมมุ้งมิ้งอยู่ในตัว

 

 

“ขอบใจมากนะดิน” ตอนเปิดประตูเข้าไปในออฟฟิศก็ได้ยินเสียงไอ้หน้าหวานเอ่ยเสียงเพราะ ได้ยินเสียงไอ้ดินหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะพูดเสียงเขิน

 

 

“ไม่เป็นไรครับ ตัวบางอย่างคุณเรียวไม่เหมาะกับงานใช้แรงหนักๆ หรอก”

 

 

“หืม ปากหวานจังเลย…” ตอนแรกๆ ก็เสียงอ่อนเสียงหวาน สักพักมันก็เปลี่ยนเป็นเสียงเหวี่ยง “…ไม่เหมือนเจ้านายดินเลยนะ แหม ปากบูดปากเบี้ยว” เขานึกหน้าไอ้จันทร์ไรนั่นออกเลยว่าคงจีบปากจีบคอ ทำหน้าทำตารังเกียจเขาแค่ไหน

 

 

“พูดถึงผมอยู่รึเปล่า” คมเขี้ยวยืดกอดอก สะโพกพิงกรอบประตูห้องนอนในออฟฟิศ ไอ้ดินหุบปากหยุดหัวเราะฉับ ส่วนอีกคนเบ้ปากใส่เขาเต็มแรง

 

 

“ดิน ไม่มีไรแล้วก็ไปทำงานไป”

 

 

“ครับพี่”

 

 

“แล้วเจอกันนะดิน” เรียวจันทร์ยิ้มหวานพร้อมโบกมือบ๊ายบายให้ดินที่ยิ้มเขินตอบกลับมาก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องนอนไป พอเหลือกันสองคน ต่างฝ่ายต่างก็เงียบ เรียวจันทร์เลยนั่งพับเสื้อผ้าต่อ

 

 

“ไหนว่าชอบผมไง เมื่อกี้เบะปากให้ซะอย่างกับปากมีปัญหา” เรียวจันทร์ตวัดสายตาเหวี่ยงไปมองไอ้เครา

 

 

“ชอบก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องยิ้มพิมพ์ใจให้นายตลอดเวลานี่” คมเขี้ยวเบะปากน้อยๆ และไหวไหล่ทั้งสองข้าง

 

 

“ดี เพราะผมไม่คิดจะพิมพ์ใจไปกับรอยยิ้มของคุณ” พูดจบก็โยนมือถือไปให้เรียวจันทร์ที่ทำหน้าตกใจสุดขีดแต่ก็ยกมือขึ้นมารับไว้ได้ทัน

 

 

“นี่! ถ้าโทรศัพท์แสกกลางหน้าฉันขึ้นมา จะทำยังไงฮะ?!” ว่าไปก็เอานิ้วลูบคลำหน้าผากตัวเองเบาๆ

 

 

“ศัลยกรรมไง คุณน่าจะถนัดไม่ใช่เหรอ” เรียวจันทร์ถลึงตาใส่ไอ้ร่างโย่งแล้วหยิบเสื้อยืดตัวหนึ่งที่เพิ่งพับเสร็จปาใส่หน้าอีกฝ่ายเต็มแรง

 

 

“หน้าฉันหน้าจริงทั้งหมด ไม่มีศัลยกรรม!” คมเขี้ยวส่ายหัวทำหน้าเอือมระอา โยนเสื้อยืดไปบนปลายเตียงนอนขนาดใหญ่

 

 

“ขออะไรอย่างดิ ทำตัวให้แมนหน่อยได้ป้ะ” เรียวจันทร์อ้าปากพร้อมจะเถียงด้วยสีหน้าไม่ยอม แต่คมเขี้ยวยกมือขวาเบรกไว้ก่อน

 

 

“ไม่ต้องมาเบรกฉัน…”

 

 

“…ฟังก่อนดิ” เรียวจันทร์คิ้วขมวดมุ่นมองอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่ที่อีกฝายมาสั่งห้ามไม่ให้นางเป็นตัวของตัวเอง คมเขี้ยวพ่นลมหายใจหนึ่งที

 

 

“ผมว่าคุณดูดีกว่าเวลาที่ทำท่าทางแว้ดๆ อีก ไม่ต้องกรีดกรายเยอะแยะ ผมไม่ได้บอกให้คุณเลิกเป็นในแบบที่คุณเป็น ก็แค่ปรับ เอ่อ อะไรนะ จริตใช่มั้ย ถ้าใช่ก็ลดลงมาบ้าง” คมเขี้ยวไม่ได้อยากไปวุ่นวายหรือคิดจะเปลี่ยนให้เรียวจันทร์เป็นผู้ชาย หมายถึงว่าผู้ชายจริงๆ น่ะ เพราะดูแล้วเปลี่ยนไม่ได้หรอก ก็แค่อยากให้ดูเรียบร้อยขึ้นบ้าง หรือรักษามาดหน่อย เพราะบางทีอีกฝ่ายก็กิริยาล้นเหลือเกิน

 

 

“ให้ลดอะไรล่ะ ฉันก็ไม่ได้เยอะอะไรสักหน่อย” คมเขี้ยวทำหน้าว่า โอ้โห นี่พูดจริงใช่มั้ย เรียวจันทร์ทำหน้ากลับว่า มีอะไรผิดแปลกงั้นเหรอ คมเขี้ยวยกมือขวาเกาหัวเบาๆ

 

 

“เออ เป็นไงก็เป็น” เรียวจันทร์ยักไหล่ขวา ทำหน้าว่าไม่แคร์ นั่งพับผ้าต่อไป

 

 

“เมื่อกี้ไอ้ดินบอกงานอะไรไปบ้าง” เรียวจันทร์ทำหน้านึกพลางพับกางเกงไปด้วย

 

 

“ก็บอกว่า ช่วยนายดูบัญชีรายรับรายจ่าย การสั่งซื้อของในฟาร์ม ดูแลร้านค้าในฟาร์มกับข้างนอก แล้วก็รายได้วันเปิดให้เข้าชมฟาร์ม”

 

 

“แล้วมันได้สอนงานอะไรรึยัง” เขาถามไปงั้นแหละ ดูก็รู้ว่ายังไม่ได้สอนอะไรกันหรอก ก็ยังนั่งอยู่บนเตียงอยู่เลย

 

 

“ยัง ฉันมัวแต่ชวนดินเม้าท์เพลินอะ” เรียวจันทร์ยิ้มแหะ คมเขี้ยวทำหน้าเอือม

 

 

“แล้วใกล้จะเสร็จรึยัง” เจ้าของฟาร์มยื่นคางไปทางกองเสื้อผ้า เรียวจันทร์พับกางเกงตัวสุดท้ายแล้วพยักหน้ารัวๆ

 

 

“เนี่ย เสร็จละ”

 

 

“งั้นก็ตามมา ผมจะได้บอกว่าต้องทำอะไรบ้าง อยากทำงานนักก็จะให้ทำ” เรียวจันทร์ทำปากยื่นแต่คมเขี้ยวไม่สนใจ เขาหมุนตัวเดินออกจากห้องนอนไปรออยู่ตรงโต๊ะทำงาน จัดเรียงแฟ้มกับเอกสารต่างๆ มากมายไว้ให้ผู้ช่วยที่เขาไม่ได้เต็มใจอยากรับ

 

 

“ไหนอะ” ร่างบางเดินออกมาถาม คมเขี้ยวชี้ที่กองเอกสารมากมาย เรียวจันทร์ตาโตทันทีเมื่อเห็นกองงานของตัวเอง

 

 

“ต้องทำเยอะขนาดนี้เลยเหรอ”

 

 

“ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องทำ แล้วก็ออกไป แค่นั้นแหละ” คมเขี้ยวขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงด้วย เลยตัดบทง่ายๆ ก็คือถ้าทำไม่ได้ คิดว่าทำไม่ไหว ก็ไม่ต้องอยู่ จะไปยากอะไร

 

 

“นายแกล้งฉันป้ะเนี่ย” เรียวจันทร์ถามอย่างจับผิด คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น มองหน้าหวานอย่างไร้อารมณ์

 

 

“ถ้าคิดว่าแกล้งก็ไปสิครับคุณ อยู่ให้ผมแกล้งทำไม” ไอ้ร่างโย่งว่าอย่างกวนๆ คนเตี้ยกว่ามองค้อนขวัก

 

 

“ไม่ไป ฉันจะอยู่จีบนายให้ติด!” เรียวจันทร์เบ้ปากทำหน้าว่าไม่ยอมแพ้ คมเขี้ยวทำหน้าคล้ายว่าขยาดหวาดกลัว นายแบบหนุ่มร่างบางเบิกตากว้างมองอย่างหมั่นไส้

 

 

“เอา เร็วๆ สิ จะสอนงานอะไรก็สอน”

 

 

“อ่านที่กองๆ อยู่เนี่ยให้หมด ผมให้เวลาสองชั่วโมง เสร็จแล้วจะได้พาไปเดินดูฟาร์ม” เรียวจันทร์พยักหน้าจำยอม แม้จะไม่อยากทำแต่ก็ดิ้นรนจนได้เข้ามาอยู่ในนี้ตามที่ต้องการแล้ว อีกฝ่ายสั่งอะไรมาก็ต้องไหลไปตามน้ำก่อน

 

 

คมเขี้ยวมองหน้าบูดน้อยๆ ของเรียวจันทร์แล้วก็ยิ้มมุมปาก คิดในใจว่าคงทนได้อีกไม่นานเดี๋ยวก็ไป เขาหมุนตัวจะเดินออกจากออฟฟิศ แต่ก็หยุดเท้าไว้เพราะคนข้างหลังเรียก

 

 

“เดี๋ยวก่อนนายเขี้ยว”

 

 

“ว่าไง” พูดพร้อมกับหันตัวหันไปมองหน้าสวยหวานเกินชายนั่น

 

 

“นายก็ไม่ได้รังเกียจฉันใช่ป้ะ ถึงได้ยอมให้ฉันมาทำงานด้วยอะ” เรียวจันทร์ยิ้มแฉ่งตาเป็นประกาย ถึงหมอนี่จะปากร้ายมากไปนิด และทำท่าจะไม่ยอมให้นางเข้ามาข้องเกี่ยวด้วย แต่สุดท้ายก็ให้นางเข้ามาอยู่ในฟาร์ม มาทำงานด้วย

 

 

“ถ้าถามว่ารังเกียจมั้ย ก็ไม่ แต่ถามว่าให้เอาเป็นเมียมั้ย หึ…” เรียวจันทร์เบ้ปากพร้อมย่นจมูก

 

 

“…ผมแยกแยะได้ งานก็คืองาน ป๋าบอกว่าควรให้โอกาสคุณ เพราะคุณอยากทำงาน และหวังว่าคุณจะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปน ผมบอกไว้ก่อนนะ ถ้าคุณทำงานไม่ดี คุณก็ไม่ผ่านโปรแบบบริษัททั่วๆ ไปนั่นแหละ”

 

 

“แต่นอกเวลางานฉันเต๊าะนายได้ใช่มะ” เรียวจันทร์ถามตาใสพร้อมรอยยิ้มน่ารักที่เค้นออกมาสุดๆ คมเขี้ยวขมวดคิ้วแล้วส่ายหัวน้อยๆ

 

 

“ถ้าให้ดีไม่ต้องมาเต๊าะมาเจ๊าะมาแจ๊ะอะไรกับผม บอกหลายรอบแล้วนะว่าชอบผู้หญิง” เรียวจันทร์รีบบิดปากเบ้เร็วๆ หนึ่งทีแล้วรีบปรับสีหน้าให้ดูซอฟต์ลง

 

 

“แต่นายก็ยังไม่มีแฟนนี่ ทำไมไม่ให้โอกาสฉันหน่อยล่ะ” เรียวจันทร์ว่าหน้าบูด คมเขี้ยวมองอย่างเอือมระอา

 

 

“คือคุณเข้าใจป้ะวะว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย แล้วจะไปให้โอกาสให้คุณเสียเวลาทำไม ผมชอบผู้หญิง ถ้าผมจะมีเมียสักคน ผมก็ต้องเอาผู้หญิงดิ”

 

 

“โถ่ พ่อโลกทัศน์ไม่กว้างไกล หัดมีวิชั่นใหม่ๆ บ้างเถอะ นี่ เห็นมั้ย หน้าสวยขนาดนี้ เดินควงได้ไม่อายใคร” เรียวจันทร์ว่าอย่างไม่ยอมแพ้พร้อมกับยื่นหน้าไปโชว์ความสวยของตัวเองเต็มที่

 

 

“แต่ผมอายถ้าจะมีเมียเป็นผู้ชาย เก็ทป้ะ?!” เรียวจันทร์ขบเคี้ยวฟันดังกึดๆ อย่างโมโห ไม่ใช่ไม่เคยเจอผู้ชายประเภทนี้ แต่คนนี้ทำให้นางรู้สึกเสียหน้ามากจริงๆ

 

 

ก็แหม จอมทัพกับแจเร็ดหลงนางหัวปักหัวปำมันก็เลยทำให้ได้ใจน่ะสิ

 

 

โอ๊ะ ตายแล้ว แจเร็ด พูดถึงพ่อหนุ่มอิตาลี นางเกือบลืมไปเลย

 

 

“นี่ๆ ที่นี่มีวายฟายมั้ย” เรียวจันทร์ตัดบทเปลี่ยนเรื่องอย่างไวจนคมเขี้ยวขมวดคิ้วงง ถ้าบอกว่ามีประจำเดือนก็เชื่อ

 

 

“มี รหัสอยู่บนบอร์ดนั่นน่ะ” เรียวจันทร์หันไปมองตามสายตาคมเขี้ยวก็เห็นบอร์ดไม้อัดสีน้ำตาลอันใหญ่อันหนึ่งติดอยู่บนผนังฝั่งซ้ายมือตนเอง

 

 

“อย่ามัวแต่เล่นเน็ตเพลิน สองชั่วโมงผมกลับมา งานต้องเสร็จนะ” เรียวจันทร์จิ๊ปากก่อนตอบรับ

 

 

“รู้แล้วน่ะพ่อคนหน้าบางที่จะมีเมียเป็นผู้ชาย” คมเขี้ยวเบ้ปากเล็กน้อยพร้อมยักไหล่ซ้ายอย่างไม่แคร์ หมุนตัวเดินออกจากออฟฟิศ ทิ้งให้เรียวจันทร์มองตามด้วยสายตาหมั่นไส้และขุ่นเคือง

 

 

หนุ่มนายแบบหน้าสวยสลัดความเคืองทั้งหลายทิ้ง หยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์วอทสแอพไปหาแจเร็ด ลองสอบถามว่าเขาตื่นอยู่หรือเปล่า แต่ฝ่ายนั้นก็ยังไม่ตอบทันที นางเลยวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ตัว เอื้อมมือไปหยิบแฟ้มที่คมเขี้ยวเอามาให้ศึกษามาเปิดอ่าน พอเปิดอ่านหน้าแรกก็อยากจะหลับ ตัวหนังสือผสมกับตัวเลขยั้วเยี้ยไปหมด

 

 

ครืด!

 

 

เรียวจันทร์ทิ้งแฟ้มในมือ เอื้อมมือไปหยิบมือถือขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นแจเร็ดพิมพ์ตอบกลับมาว่ายังไม่ถึงเวลานอน นางเลยพิมพ์ตอบกลับไปว่าให้สไกป์คุยกัน รอสักพักหนุ่มอิตาลีก็วิดีโอคอลมาหา เรียวจันทร์ยิ้มกว้างพร้อมกับโบกมือทักทายอย่างเริงร่า

 

 

“Hi!”

 

 

“Ciao!” แจเร็ดเอ่ยทักทายเป็นภาษาอิตาลีพร้อมรอยยิ้มหล่อผสมน่ารัก เรียวจันทร์ยิ้มกว้างตาหยี จนแจเร็ดนึกอยากจะคว้าคนตรงหน้าเข้าไปหอมแก้มแรงๆ สักที

 

 

“ขอโทษนะที่เมื่อคืนไม่ได้คอลไป เผลอหลับ” เรียวจันทร์ยิ้มน่ารักให้แจเร็ด อีกฝ่ายเห็นนางยิ้มเลยยิ้มตาม ก่อนจะบอกว่าไม่เป็นอะไร เรียวจันทร์ชวนคุยแจเร็ดอย่างสนุกสนานตามภาษาคนร่าเริง (เกินไป)

 

 

ทั้งคู่ยังไม่ได้ขาดการติดต่อไปไหน หลังจากแจเร็ดกลับถึงอิตาลีก็ส่งรูปมาทักทายเรียวจันทร์บ่อยๆ ส่วนมากจะคุยกันผ่านวอทสแอพมากกว่า วีดีโอคอลนับครั้งได้ เนื่องจากเวลาไม่ค่อยจะตรงกัน และแจเร็ดก็ไม่อยากดื้อดึงจะคุยแบบเห็นหน้ากับเรียวจันทร์มากนักเพราะยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ทั้งที่ใจเขานั้นอยากจะเป็น แต่ก็พอรู้อยู่บ้างว่าเจ้าตัวคงยังไม่ตอบรับเขาง่ายๆ

 

 

แต่แจเร็ดยังไม่รู้ว่าเรียวจันทร์นั้นคั่วกับหนุ่มอื่นอยู่ด้วย ซึ่งพ่อนายแบบตัวบางก็ไม่คิดจะบอก แต่ถามว่าลึกๆ ในอกรู้สึกผิดหรือไม่ก็ต้องบอกว่ารู้สึกอยู่ แต่เรียวจันทร์เองก็คิดอีกว่าในเมื่อยังไม่ได้ผูกมัดกับใคร นางก็น่าจะยังมีสิทธิ์ลั้นลาอยู่นี่นา

 

 

เรียวจันทร์ไม่คิดจะคบกับแจเร็ดจริงจัง แต่ก็ไม่ยังไม่กล้าที่จะบอกตัดขาดตอนนี้ เพราะนางคิดสงสารหนุ่มเมืองสปาร์เก็ตตี้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ มันคือการเห็นแก่ตัวที่นางไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอยู่


V
v
v


หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๗/100%:25.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 25-02-2016 17:40:42

V
v
v

“เสร็จรึยัง?!” เรียวจันทร์สะดุ้งจนมือถือเกือบร่วงตกลงพื้นตอนที่คมเขี้ยวเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดมาอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงาน หนุ่มหน้าหวานเม้มปากน้อยๆ มองซ้ายมองขวาเหมือนหาตัวช่วย แต่สุดท้ายก็ต้องยิ้มแห้งแล้วตอบเสียงอ่อย

 

 

“ยังเลยอะ” พูดพร้อมกับค่อยๆ วางมือถือลงบนโต๊ะทำงาน คมเขี้ยวขบกรามแน่นมองด้วยสายตาโกรธๆ

 

 

“แค่นี้ยังไม่มีความรับผิดชอบ แล้วจะมาทำงานด้วยกันได้ยังไง”

 

 

“เดี๋ยวๆ เรื่องความรับผิดชอบนี่ขอเถียงได้มั้ย ถ้าฉันไม่มีความรับผิดชอบ ฉันไม่มีงานให้เดินแบบ ไม่มีหนังให้แสดงหรอกนะ” เรียวจันทร์ไม่ได้เถียง แค่บอกหน้าตาไม่สบอารมณ์และน้ำเสียงห้วนไปนิด

 

 

“งั้นก็เอาความรับผิดชอบนั้นมาใช้กับงานนี้หน่อย คุณเสนอตัวเข้ามาทำเองนะ ผมไม่ได้ขอให้มาทำ” คมเขี้ยวว่าหน้าเครียด แต่ก็ไม่ได้เครียดใหญ่โต เรียวจันทร์ย่นจมูกก่อนจะว่าเสียงนุ่มแต่แอบสะบัด

 

 

“ขี้บ่นจริงๆ เลย ก็ให้เวลาฉันปรับตัวหน่อยสิ โห่ ไอ้เคราครึ้ม” คมเขี้ยวถลึงตาจนเรียวจันทร์สะดุ้ง แต่ที่นางสะดุ้งคือนางเผลอว่าอีกฝ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

 

“เดี๋ยวให้ม้าเตะปากซะหรอก” เรียวจันทร์ทำปากขมุบขมิบ เอาแฟ้มมากางตรงหน้าเพื่อจะเริ่มอ่านงานอย่างจริงจัง

 

 

“พักเอาไว้ก่อน คืนนี้ค่อยกลับมาอ่าน มานี่ ผมจะพาไปเดินดูฟาร์ม”

 

 

“คืนนี้ฉันต้องนอนนะ” เรียวจันทร์ว่าเสียงอ่อย

 

 

“ผมให้เวลาคุณทำงานแล้วแต่คุณไม่ทำ ก็เอาเวลานอนมาทำงานแล้วกัน พรุ่งนี้เช้าคุณต้องบอกผมได้ว่าอ่านอะไรไปบ้าง แล้วอย่าคิดตุกติกนะ ผมจำได้หมดว่าในนั้นมีอะไรบ้าง” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วฉับมองหน้าคนตัวโตอย่างไม่เข้าใจ

 

 

“อ้าว ก็ถ้านายจำได้หมดแล้วจะให้ฉันจำอีกทำไมอะ นายก็บอกฉันสิ”

 

 

คมเขี้ยวเลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นสูงก่อนจะว่าน้ำเสียงห้วนๆ “อ้าว แล้วคุณไม่คิดจะศึกษาอะไรด้วยตัวเองเลยรึไง”

 

 

คิ้วเรียวสวยของเรียวจันทร์ขมวดเข้าหากันอีกนิดแล้วก็อ้าปากหวอน้อยๆ “เอ๊า ก็นายรู้อยู่แล้วอะ ก็แค่เล่าให้ฟังสิ มันจะได้ประหยัดเวลา”

 

 

คมเขี้ยวเอียงหน้าไปทางขวา ไหวไหล่ข้างเดียวกันหนึ่งที “เอ๊า ก็ถ้าคุณไม่มัวแต่เล่นมือถือ คุณก็ทำเสร็จในเวลาไปแล้ว”

 

 

“เอ๊ะ?!” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่าง ถลึงตามองไอ้คมเขี้ยวที่กำลังหน้าตาไม่สะทกสะท้านอยู่

 

 

“โอ๊ะ?!” คมเขี้ยวทำตาโตและทำทำปากเป็นรูปตัวโอ บิดไหล่ไปมาอย่างกวนๆ เรียวจันทร์จิ๊ปากก่อนจะลุกขึ้นยืนมองหน้าไอ้เคราอย่างนึกหมั่น

 

 

“เดี๋ยวปั๊ดทุบหน้าเลยนี่!” นึกอะไรไม่ออกก็ขู่ทำร้ายร่างกายไว้ก่อน เห็นท่าทางกวนโอ๊ยกับหน้าตากวนตีนแล้วมันเขี้ยวนัก!

 

 

“อันนี้คือวิถีของคนที่ชอบกันเขาปฏิบัติต่อกันใช่มั้ย” คมเขี้ยวยิ้มมุมปากกวนอารมณ์เรียวจันทร์ไม่หยุด พ่อหนุ่มหน้าสวยได้แต่กัดฟันและกำหมัดแน่น

 

 

“อยากมีเรื่องเหรอ ฮะ?! ฮะ?! ไอ้เขี้ยวกุด!” คมเขี้ยวหัวเราะขำขันอารมณ์ดีเมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มคุมสติตัวเองไม่อยู่ เขาก็ไม่ได้มีนิสัยกวนตีนใครเป็นดั้งเดิม แต่กับเรียวจันทร์มันต้องคุยอย่างนี้แหละถึงจะเอาอยู่

 

 

“โอ๊ย กลัวแล้วครับคุณจังไร” เรียวจันทร์อ้าปากค้าง เบิกตากว้างมองไอ้เคราที่ยิ้มยียวนกวนไม่เลิก

 

 

“อะ… อะไรนะ ไอ้โคยเบี้ยว!”

 

 

“เคยเห็นแล้วเหรอถึงบอกว่าเบี้ยวอะ” เรียวจันทร์ได้ทีก็รีบชวนเข้าโซนล่อแหลมต่อทันที นางทำหน้าว่า โอ๊ะ?! แเอามือขวาป้องปาก หน้าตาว่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก

 

 

“นั่นสิ ยังไม่เคยเห็นเลย งั้นถอดโชว์ตอนนี้เลยดีกว่า ฉันอยากพิสูจน์ว่าตรงหรือเบี้ยว” เรียวจันทร์ทำท่าจะเดินเข้าไปหาคมเขี้ยว คนตัวโตขมวดคิ้วฉับแล้วถอยหลังหนีไปสองก้าวยาวๆ พร้อมกับยกสองมือเบรกไอ้หน้าหวานไว้ทันที

 

 

“อยู่ให้ห่างผมเลย” เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปาก เอามือซ้ายเท้ากับขอบโต๊ะทำงานไว้ ทิ้งสะโพกลงข้างหนึ่งอย่างมีลีลา

 

 

“จะตรงจะเบี้ยวฉันก็เคี้ยวได้ทั้งนั้นอะ ไม่ต้องกังวลนะพ่อรูปหล่อ” เรียวจันทร์ขยิบตาซ้ายให้อย่างมีจริต คมเขี้ยวทำหน้าหยีตอบกลับทันทีจนเรียวจันทร์มองค้อนไปหนึ่งยก

 

 

“ชีวิตไม่ปลอดภัยเข้าไปทุกทีละ ประกันเขามีชดเชยค่าเสียหายเวลาโดนตุ๊ดลวนลามป้ะเนี่ย” คมเขี้ยวไม่ได้ว่าแบบดูถูกหรือเหยียดเพศ เขาแค่พูดเอาฮาเท่านั้นแหละ ซึ่งเรียวจันทร์ก็จับน้ำเสียงนั้นได้เลยไม่ได้นึกโกรธเคือง

 

 

“แม๊! อย่าให้พลาดนะ เดี๋ยวจะมีเมียเป็นตุ๊ดไม่รู้ตัว!” เรียวจันทร์มองแรง มองจิกสุดพลัง คมเขี้ยวเบะปากพร้อมย่นจมูก ก่อนจะเรียกความจริงจังกลับมาหาตัวเอง คุยกับไอ้จันทร์ไรทีไรกลายเป็นเละเทะทุกที

 

 

“พูดมาก ตามมาได้แล้ว เดี๋ยวมืดค่ำก็ลำบากอีก เร็วๆ” ว่าจบก็เดินออกจากออฟฟิศไปทันที เรียวจันทร์มองตามแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจแรง นึกในใจว่าประสาทจะกินก่อนทำงานให้ตาเสี่ยจอมทัพเสร็จรึเปล่า

 

 

 

คมเขี้ยวเดินนำเรียวจันทร์ไปที่แปลงกุหลาบข้างออฟฟิศเป็นที่แรก ก่อนจะเล่าให้ฟังว่าแปลงกุหลาบตรงนี้ไม่ได้ปลูกแค่เพื่อความสวยงาม แต่สามารถทำรายได้ให้กับฟาร์มด้วย ทุกวันอาทิตย์จะมีคนมารับไปขายที่ตลาด คมเขี้ยวเล่าว่าขายได้ราคาค่อนข้างดี เพราะแม่เขาเอาใจใส่ดูแลเป็นประจำเลยทำให้ดอกกุหลาบแต่ละดอกสีสดงดงาม

 

 

“แล้วตรงนี้ปลูกกุหลาบตลอดเลยเหรอ” คมเขี้ยวส่ายหัวก่อนจะว่า

 

 

“ไม่ แล้วแต่แม่ ดอกไม้ในฟาร์มแม่ก็เป็นคนคิดว่าจะปลูกอะไรในช่วงไหน” เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกๆ มองดอกกุหลาบไปเรื่อยเปื่อย

 

 

“ไม่คิดจะเอาสมุดอะไรมาจดเลยรึไง คิดว่าจะจำหมดเหรอ ทั้งฟาร์มไม่ได้มีแค่แปลงดอกไม้ตรงนี้นะ”

 

 

“จดทำไม โทรศัพท์ก็มี อัดเสียงนายไว้ฟังสิ…” นางชะงักไปนิดก่อนจะทำหน้ากรุ่มกริ่ม

 

 

“…เอาไว้ฟังก่อนนอน ฉันคงหลับฝันดีน่าดู” เรียวจันทร์แอ๊บยิ้มเขินอายราวกับเด็กมัธยมต้นที่แอบชอบรุ่นพี่มอปลาย คมเขี้ยวทำหน้าเอือมระอา หมุนตัวเดินหนีไปทันที เรียวจันทร์มองตามแล้วขำคิกคักอยู่คนเดียวก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินตามไป

 

 

“นี่ๆ ม้าหมุนอันนั้นหมุนได้จริงรึเปล่าอะ”

 

 

“จริง แต่ส่วนมากจะหมุนช่วงเทศกาลคาวบอย” เรียวจันทร์ทำตาโตนิดหนึ่ง เท้าก็ก้าวเดินไปข้างหน้า สายตาก็มองม้าหมุนแล้วเลยไปที่กระเช้าไม้ที่มีลักษณะคล้ายชิงช้าสวรรค์

 

 

“แต่กระเช้าไม้เปิดให้ใช้เป็นประจำเวลาวันเปิดให้เข้าชม”

 

 

“เออ อยากรู้อะว่า ทำไม… ว้ากกก!” เพราะมัวแต่มองกระเช้าไม้หมุนเลยทำให้เดินสะดุดหินหนึ่งก้อนแบบที่คราวนี้ไม่ได้ตั้งใจจะล้มจริงๆ ดีว่าคมเขี้ยวหันตัวมารับนางได้ทันเลยทำให้ไม่หน้าแหกไปกับพื้น เรียวจันทร์ซุกหน้าอยู่กับอกคมเขี้ยว สีหน้าโล่งอกโล่งใจที่ใบหน้าตัวเองไม่เป็นอะไร นางแหงนหน้าขึ้นมองใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของคมเขี้ยวแล้วยิ้มแฉ่ง

 

 

"เหมือนในละครเลยเนอะ ที่แบบนางเอกล้มใส่พระเอก แล้วพระเอกก็รับไว้ได้” เรียวจันทร์ยิ้มหวานตาหยี ส่วนคมเขี้ยวมองต่ำอย่างระอาใจ ค่อยๆ ดันร่างบอบบางออกจากตัวเอง แต่เรียวจันทร์กลับทำหน้าซื่อ ขืนตัวเองไว้กับตัวคนตัวสูง คมเขี้ยวกัดฟันแน่น ออกแรงงัดจนร่างเรียวจันทร์เด้งออกจากตัวเขาไป

 

 

“หูย! เกือบหงายหลังแล้วนะเนี่ย!” เรียวจันทร์แสร้งทำหน้ามุ่ย แต่คมเขี้ยวน่ะมุ่ยจริง

 

 

“มัวแต่เล่น ตามมา” พ่อเคราว่าเสียงเข้ม หมุนตัวเดินนำต่อไป เรียวจันทร์ย่นจมูกใส่ตามหลัง รีบเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างเร็ว

 

 

คมเขี้ยวถามถึงประเด็นที่เรียวจันทร์อยากถามก่อนหกล้มเมื่อกี้นี้ เจ้าของคำถามเลยถามต่อให้จบว่าทำไมฟาร์มนี้ถึงเปิดให้เข้าชมเป็นบางวัน ไม่ได้ให้เข้าชมตลอด

 

 

“อะไรที่มันมีน้อยๆ คนก็ยิ่งต้องการมาก” คมเขี้ยวว่าสั้นๆ แค่นั้นแล้วเดินต่อไป ก่อนจะพูดถึงระเบียบเรื่องการค้าขายของร้านค้าในฟาร์มว่าก่อนทำสัญญาค้าขาย ต้องแน่ใจว่าพ่อค้าแม่ค้าพวกนั้นมีรายได้อื่นด้วย เพราะจริงๆ แล้วเขาไม่ได้คิดถึงขั้นเปิดร้านแบบนี้ แต่มีคนมาขอพ่อกับแม่ ทั้งสองคนเลยยอมให้ตั้งร้านค้าได้ แต่ก็ต้องคัดร้านที่มีรายได้ทางอื่น เพราะที่นี่ไม่ได้เปิดตลอด และไม่สะดวกที่จะให้เข้ามาขายตลอดเวลา เนื่องจากทางฟาร์มก็มีร้านอาหารอยู่ด้านนอกเช่นกัน

 

 

“แล้วนี่ก็คอกม้าที่คุณมาสร้างความพินาศเอาไว้” คมเขี้ยวชี้คอกม้าที่คราวก่อนเรียวจันทร์บุกเข้าไปทะลายจนพังเละไปหมด แต่ตอนนี้รั้วถูกซ่อมแซมแล้ว และดูเหมือนจะทำแน่นหนากว่าเดิมด้วย เรียวจันทร์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่พูดไม่เถียงอะไรเพราะเดี๋ยวมันจะย้อนเข้าตัวเอง

 

 

“แล้วนั่นไอ้เดือนหงายที่คุณไปทำร้ายมัน” คมเขี้ยวเกาะรั้ว ยื่นคางไปทางม้าสีดำเงางามตัวใหญ่ที่กำลังยืนกินหญ้าอยู่ เรียวจันทร์แอบสะดุ้งไปนิดตอนมันผงกหัวขึ้นมองมาทางตัวเองกับคมเขี้ยว สักพักคมเขี้ยวก็ผิวปากเสียงแหลมใส ก่อนที่เจ้าม้านั่นจะเดินเตาะแตะมาทางทั้งสองคน

 

 

“นายเรียกมันมาทำไมอะ” ถามไปก็เขยิบเข้าไปหลบข้างหลังคนตัวโต แต่ก็แอบโผล่หน้าจากตรงไหล่กว้างของคมเขี้ยวไปมองเจ้าม้าสีดำตัวใหญ่ซึ่งกำลังยืนให้เจ้านายมันลูบหัวเล่น

 

 

“เรียกเฉยๆ…” คมเขี้ยวหันมายิ้มกริ่มให้เรียวจันทร์ พ่อนายแบบมองด้วยความไม่ไว้ใจทันที

 

 

“…ไงไอ้หงาย จำได้มั้ยว่านี่ใคร” คมเขี้ยวกระเถิบไปทางซ้ายมือ เรียวจันทร์มัวแต่มองหน้าเจ้าม้าเลยลืมหลบ เจ้าม้าตัวใหญ่มองหน้าเรียวจันทร์สักพักก่อนที่จะทำเสียงฟึดฟัดจนร่างบางทำตาโตตกใจผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าว สร้างรอยยิ้มขำให้กับคมเขี้ยว

 

 

“มันออกมาดีดคุณไม่ได้หรอกน่า”

 

 

“ใครจะไปรู้?! ฉันยังพังรั้วเข้าไปหามันได้เลย” เรียวจันทร์ว่าเสียงแหว พยายามไม่สบตาสีดำของเจ้าม้าที่มองมาเหมือนมีความเคืองแค้นอยู่ในสายตา

 

 

“อ้าว รู้ตัวด้วยนี่ว่ามีความผิด” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วแล้วมองค้อนอีกฝ่าย คมเขี้ยวยิ้มเบ้ปาก หันไปลูบหัวเดือนหงายสองสามทีก่อนที่จะเดินไปทางซ้ายมือ เรียวจันทร์รีบเดินตามไปทันที นางกำลังเดินผ่านหลังตึกไม้หลากสีสัน ครึ่งที่ติดกับคอกม้ามีระเบียงหลังห้องเหมือนกับอีกฝั่งหนึ่งที่เขาเคยเห็น มีนักท่องเที่ยวทั้งชายทั้งหญิงออกมายืนมองวิวของฟาร์ม บ้างก็ออกมานั่งคุยเล่นกัน

 

 

“เนี่ย หมู่บ้านคาวบอย พ่ออยากได้ ผมเลยสร้างขึ้นมาไว้ให้พวกคนงานอยู่ แล้วก็มีที่พักของนักท่องเที่ยวด้วย” เรียวจันทร์พยักหน้า กวาดตามองซุ้มประตูโค้งทางเข้าหมู่บ้าน

 

 

“โซนนี้จะเปิดบริการตลอด เป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดนี้” เรียวจันทร์พยักหน้ารับไปเรื่อย สายตายังคงมองรูปทรงโค้งของซุ้มประตูอีกสักพักก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปมองคมเขี้ยวที่ยืนมองนางหน้านิ่งอยู่

 

 

“ก็คือเหมือนรีสอร์ท โรงแรมงี้ แต่ห้ามเข้าไปวุ่นวายในฟาร์มในเวลาปิดทำการใช่มั้ย”

 

 

“อือ ฉลาดดี” เรียวจันทร์พยักหน้ารับทันควัน แต่พอนึกได้ว่าโดนกัดก็เลยมองจิกไอ้เขี้ยวที่ยิ้มขำอยู่ไปหนึ่งยก

 

 

“เอ้อ แล้วเทศกาลคาวบอยมีอีกเมื่อไหร่อะ”

 

 

“ปลายปีนี้” คมเขี้ยวตอบแล้วพาเรียวจันทร์เดินเข้าไปด้านใน พอเดินเข้าไปด้านในเรียวจันทร์ก็รู้สึกเหมือนได้เข้ามาอยู่ในยุคคาวบอยกำลังรุ่งเรืองอย่างไรอย่างนั้น รูปทรงบ้าน รูปทรงตึก รูปแบบเสา ประตู พื้นไม้ ดีเทลต่างๆ ของแต่ละตึก แต่ละบ้านถอดแบบมาจากยุคนั้นอย่างจริงจัง ยังมีออพชั่นเสริมคือร้านอาหาร บาร์นั่งดื่ม ร้านของขายที่ระลึก ร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า ข้าวของเครื่องใช้ในยุคคาวบอย เหมือนหลุดมาอยู่ในยุคนี้จริงๆ ยิ่งผู้คนในหมู่บ้านเน้นแต่งตัวแบบเสื้อเชิ้ตลายสก็อต กางเกงยีน ยิ่งให้บรรยากาศที่ใช่มากเข้าไปอีก นำทีมโดยนายคมเขี้ยวนี่ไง

 

 

“อ้าวพี่เขี้ยว คนที่จูบกับพี่นี่” ใครสักคนเอ่ยแซวลูกพี่ตัวเอง คมเขี้ยวทำหน้าเซ็งที่เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในโจ๊กประจำตัวเขาไปแล้ว เรียวจันทร์ทำหน้าแอ๊บแบ๊วไม่รู้เรื่อง แต่ในใจน่ะแอบขำที่เห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของไอ้เขี้ยวหัก

 

 

“เออ อยากจูบเท้ากูมั้ยล่ะ?!” พวกลูกน้องคมเขี้ยวที่นั่งอยู่ตรงร้านบาร์ไม้แบบเปิดโล่งร้านหนึ่งใกล้ๆ กับประตูทางเข้าทางออกของหมู่บ้านหัวเราะกันครื้นเครงผสมกับโห่ร้องเฮฮา

 

 

“โห่ อย่าอารมณ์เสียดิพี่ ใจเย็นๆ ถึงเขาจะไม่ใช่ผู้หญิง แต่เขาก็สวยนะ” เรียวจันทร์หันควับไปมองคนที่พูดแล้วฉีกยิ้มกว้างดีใจ

 

 

“ตาถึง! ตาถึงมากพ่อหนุ่ม พูดจาได้ดี!” นั่นยิ่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับพวกลูกน้องคมเขี้ยวเข้าไปอีก แถมยังมีเสียงโห่แซวผสมปนเปมาด้วย เรียวจันทร์ยิ้มกว้างอย่างเปรมปรี แต่สายตา (หาเรื่อง) เหลือบไปเห็นสองสายตาที่ทำให้ไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไหร่นัก หนึ่งคือสายตาของผู้หญิงคนหนึ่งที่มองนางอย่างเฉยเมย แต่เซ้นส์ของเรียวจันทร์ก็สัมผัสได้ยิ่งกว่าเจน ญาณทิพย์ว่ามีความไม่ชอบใจในตัวนางอยู่ด้วย

 

 

และสองคือสายตากรุ้มกริ่มจากผู้ชายหน้าตาเหมือนตัวร้ายในละครไทยคนหนึ่งที่ยืนมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า ถ้าเป็นคนอื่นอาจไม่ชอบ กระเถิบเข้าไปหาคมเขี้ยวเพื่อความอุ่นใจแล้วละ แต่เรียวจันทร์กลับทำตรงข้ามด้วยการยืนอวดความสวยและความทรงเสน่ห์ของตัวเองให้มองเต็มที่ อยากมองก็ให้มอง จะไปห้ามเขาได้ยังไงกัน มองด้วยสายตาอยากกินนางไปทั้งตัวแบบนั้นก็แสดงว่านางมีเสน่ห์ทางเพศที่ดีน่ะสิ แบบว่าดึงดูดใจชาย และส่วนใครจะมองแบบไม่พอใจ ไม่ชอบใจ นางก็หาแคร์ไม่ รู้สึกดีด้วยซ้ำ เพราะมันทำให้นางยิ่งดูมีค่า มีอะไรให้น่าอิจฉา เลยมีคนมองแบบไม่ชอบใจ เรียวจันทร์คิดแล้วก็เบ้ปากน้อยๆ ให้ผู้หญิงคนนั้น

 

 

“แบบนี้ไอ้น้อยหน่าก็อกหักดิวะ” พวกลูกน้องคมเขี้ยวหันไปหัวเราะแซวใส่ผู้หญิงคนที่มองเรียวจันทร์ด้วยสายตาไม่พอใจเล็กๆ เรียวจันทร์ทำหน้าเก็ททันทีว่าทำไมถึงได้โดนมองด้วยสายตาแบบนั้น พอหันไปมองคมเขี้ยว เจ้าตัวก็ทำหน้าเฉยๆ ไม่ได้แสดงอาการใดๆ ออกมา

 

 

ถือว่าทางสะดวก ดูท่าทางแล้ว ไอ้เคราไม่ได้คิดอะไรกับแม่นั่นอย่างแน่นอน มีแต่ยัยนั่นคิดอยู่ฝ่ายเดียวสินะ หุๆ

 

 

“เออ แซวกันพอยัง ถ้าพอแล้วกูจะบอกพวกมึงว่าฝากดูเขาด้วย ถ้าเกิดเขาเรียกใช้อะไรก็ช่วยเขาหน่อย เป็นง่อย ทำไรไม่ค่อยเป็นหรอก” เกือบจะดีอยู่ละ กำลังยิ้มสวยขอบคุณกับความมีน้ำใจของไอ้เขี้ยว แต่มีอันต้องหุบวืดอย่างเร็วจนพวกลูกน้องคมเขี้ยวต่างขำกันเสียงดังที่เห็นหน้าของเรียวจันทร์ตัดกับอารมณ์ก่อนหน้านี้ได้ไวมาก

 

 

“ไอ้เขี้ยวกุด” เรียวจันทร์ว่าเสียงกดต่ำ

 

 

“อะไรครับคุณนายจัญไร” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วอ้าปากหวอ ก่อนจะแยกเขี้ยวใส่ไอ้เคราดก คมเขี้ยวเบ้ปากไม่สนใจหันไปมองพวกลูกน้องต่อ

 

 

“แล้วนี่ไม่ทำงานกันรึไง”

 

 

“โห่ พี่ ก็ทำเสร็จไปแล้วเปล่าล่ะ นี่ก็จะมืดค่ำแล้ว”

 

 

“เออๆ เสร็จแล้วก็ดี แยกไปอาบน้ำ ไปกินข้าวไป” พวกลูกน้องนับสิบคนที่นั่งอยู่ตรงบาร์ไม้ตอบรับลูกพี่เสียงยานคาง หันไปโบกมือลาให้กับเรียวจันทร์ที่โบกมือพลิ้วไหวราวกับนางงามพร้อมกับเดินตามคมเขี้ยวเข้าไปในหมู่บ้าน

 

 

“ไอ้พวกนี้มันรับผิดชอบโซนนี้แหละ” คมเขี้ยวว่าพลางเดินนำไปยังสุดทางของหมู่บ้าน มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยทั้งเทศที่มาพักบริการที่นี่ออกมาเดินเล่นในหมู่บ้าน นั่งชิลตามร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม บ้างก็เดินดูของฝาก บ้างก็ชวนกันมาถ่ายรูป หรือบางคนก็นั่งอยู่บนระเบียงหน้าห้องตนเองแล้วคุยกันไปเรื่อยเปื่อย

 

 

“ที่พักตรงนี้เปิดให้เข้าอยู่ตลอดเลยใช่ป้ะ” คมเขี้ยวขมวดคิ้วนิดหนึ่งแต่ก็พยักหน้ารับ หยุดเดินตรงประตูเหล็กบานใหญ่หนึ่งบาน

 

 

“ผมก็บอกไปตั้งแต่หน้าประตูแล้วป้ะ…” เรียวจันทร์ อ้าปากหวอน้อยๆ และกะพริบตาปริบๆ

 

 

“…ก็นั่นหน้าประตู อันนี้ท้ายประตู” คมเขี้ยวทำตาปรือ ส่ายหน้าอย่างระอา ไม่รู้จะต้องระอากับไอ้จัญไรไปอีกนานแค่ไหน

 

 

“ตรงนี้ไม่เหมือนแคมป์ เพราะตรงนั้นคิวจองเยอะแล้วที่พักมันน้อย แต่ตรงนี้มาได้เรื่อยๆ เพราะห้องพักมันเยอะ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วงงๆ มองไปรอบหมู่บ้านคาวบอยที่มีสีสันหลากหลายสีสลับกันไป ตรงกลางมีลานน้ำพุด้วย และตอนนี้ในนี้ก็เริ่มเปิดไฟรับยามเย็นแล้ว

 

 

“ฉันว่าระบบฟาร์มนายมันดูงงๆ นะ” คมเขี้ยวยักไหล่ทั้งสองข้างสีหน้าว่าไม่แคร์

 

 

“แล้วไงอะ ก็นี่ฟาร์มผม อยากจะเปิด อยากจะปิด อยากจะทำอะไรก็เรื่องของผม”

 

 

“อ๋อ ลืมไป ขอโทษๆ” เรียวจันทร์แสร้งว่าประชด แต่ก็รู้ดีว่าไอ้เขี้ยวกุดมันไม่สนใจหรอก คมเขี้ยวหันไปเปิดประตูเหล็ก พาเรียวจันทร์เดินออกมาข้างๆ โรงนาสีแดงที่นางเคยขับเอทีวีชนไปเมื่อคราวก่อน เดินลัดเลาะออกมาข้างคอกม้า โผล่ออกมาที่เดิม

 

 

“คุณก็ต้องดูแลรายรับรายจ่ายในส่วนนี้ด้วย ว่างๆ ก็มาเดินดูบ้างว่างานเป็นยังไง” เรียวจันทร์พยักหน้าขอไปที

 

 

ตอนที่คมเขี้ยวพาเดินมาโซนร้านอาหาร ร้านขายของฝากจากข้างนอก ก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว แสงพระอาทิตย์เริ่มเลือนหายไป แสงไฟในฟาร์มเริ่มมาแทนที่ ดินมาตามทั้งสองคนให้ไปกินข้าวบนบ้านใหญ่ ทั้งสามคนเดินกลับไปพร้อมกัน ระหว่างทาง เรียวจันทร์มองเห็นแสงอาทิตย์สีส้มรำไรบนท้องฟ้าที่อยู่เหนือยอดภูเขาสีเขียวด้วยสายตาชื่นชม เพราะในเมืองหลวงไม่มีอะไรแบบนี้ให้เห็นแน่นอน

 

 

“อยู่ที่นี่เดี๋ยวก็ได้เห็นทุกวัน” คมเขี้ยวที่พอจะอ่านสายตาของอีกฝ่ายออกเอ่ยขึ้น เพราะเขามักจะเห็นนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ประทับใจช่วงเวลายามเย็นในฟาร์มเขาแบบนี้ทั้งนั้นแหละ

 

 

“ฉันชอบจัง มันดูแบบแรร์ไอเท็มอะ” เรียวจันทร์ว่าด้วยสีหน้าปริ่มเปรม ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเพื่ออัพลงอินสตาแกรมของตัวเอง คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์ที่กำลังก้มหน้าก้มตาตั้งใจอัพรูปลงโซเชียลแล้วส่ายหัวน้อยๆ

 

 

“มัวแต่ก้มหน้า เดี๋ยวก็เดินหน้าคว่ำอีกหรอก” คนหน้าหวานเงยขึ้นมามอง ยิ้มยักคิ้วเพียงนิดก่อนจะก้มลงไปกดๆ จิ้มๆ ต่อ

 

 

“ไอ้ดิน ดูด้วย ถ้าหน้าคว่ำไปก็บอกเขาด้วยแล้วกัน” ดินรับคำด้วยรอยยิ้มจริงใจแล้วคอยมองเรียวจันทร์เอาไว้ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเดินสะดุดอะไรเข้า

 

 

“หูย สวยมากเลยอะ ฉันชอบที่นี่จัง…” เรียวจันทร์เงยหน้าขึ้นมาแล้วบอกด้วยสีหน้าประทับใจจริงๆ ก่อนจะมองหน้าคมเขี้ยวที่มองกลับมานิ่งๆ

 

 

“…แต่ฉันชอบเจ้าของฟาร์มมากกว่า” คมเขี้ยวขมวดคิ้วแน่น

 

 

“วู้!” ว่าแล้วก็รีบเดินหนีไปทางบ้านใหญ่อย่างรวดเร็ว เรียวจันทร์หัวเราะคิกคักอารมณ์ดี โดยมีดินมองสลับทั้งสองคนอย่างนึกสงสัย

 

 

“คุณเรียวชอบพี่เขี้ยวจริงๆ เหรอครับ” คนถูกถามเงยหน้าขึ้นไปมองคนถามแล้วยิ้มหวานก่อนตอบ

 

 

“จริงสิ…” ดินทำหน้าประหลาดใจอย่างใสซื่อ เรียวจันทร์เห็นแล้วก็อดยิ้มอดแซวไม่ได้

 

 

“…แต่ฉันก็ชอบดินด้วยนะ” พูดจบดินก็หน้าแดงแม้จะมองไม่ค่อยออกว่าแดงเพราะผิวดำไปหน่อยแต่ก็รู้ว่าดินกำลังอาย เรียวจันทร์เห็นแบบนั้นก็หัวเราะอ้าปากกว้างอย่างชอบใจ

 

 

“เอ้า! หัวเราะอยู่นั่นแหละ พ่อกับแม่รอกินข้าวอยู่ เดี๋ยวก็ให้กินขี้ม้าแทนหรอก!!” คมเขี้ยวหันมาตะโกนเรียกสีหน้ามุ่ย เพราะเขาเดินถึงรั้วบ้านแล้ว แต่แม่ตัวดียังเดินกินลมชมวิวไปเรื่อย

 

 

“แหม หึงก็บอกว่าหึงสิ ทำมาเป็น โห่ ไอ้เขี้ยวกุด” คมเขี้ยวขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก ก่อนจะส่ายหัวเอือมแล้วหมุนตัวเดินเข้าบ้านไป ทิ้งให้เรียวจันทร์หัวเราะกับดินสองคนท่ามกลางบรรยากาศดีๆ ของธรรมชาติ


 :hao7:

หายไปนานม้ากกกก เกือบเดือนแน่ะ ใจหาย นึกว่าตัวเองจะไม่ได้อัพเรื่องนี้ละ ติดงานเยอะพอสมควรรร ไหนเลยจะต้องปิดต้นฉบับพี่วิคเตอร์กับน้องแมทอีก รู้ตัวเลยว่า เขียนนิยายสองเรื่องควบไม่ได้ ไม่งั้นพัง แต่ในเมื่อสลิดอยากเขียนเรื่องนี้เอง ก็ต้องต่อให้จบแน่นอนค่ะ ไม่ดอง แต่อาจจะอัพช้าไปสักนิ้ดดด

เอาล่ะ ตอนนี้นังเรียวได้เข้ามาอยู่ใกล้พี่เขี้ยวแล้ว ความปลอดภัยของพี่เขี้ยวเริ่มลดลงทีละนิดแล้วนะคะทุกคน 55555 นางจับพี่เขี้ยวกินแน่ๆ โดนแน่พี่เขี้ยววว อ้ากกกก

ใครตามอ่านเรื่องนี้อยู่ ตอมขอนับถือนะ 55555 คือเลวเวลทางใจต้องสตรองมากๆ แล้วอะ ถึงอ่านเรื่องนี้ได้ดีไม่มีปัญหา เนื่องจากนายเอกเราสาวมาก แล้วสาวเปรี้ยวด้วย 555555 เอาเป็นว่า Love the way Riewjan are! เนอะ

เจอกันตอนหน้านะคะ ใครเจอคำผิดบอกตอมได้เลยเน้อออ  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๗/100%:25.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 25-02-2016 18:49:18
คือลำบากใจเรียวจันทร์ เรื่องผช เนื่องงานใหม่~

ขีวิตคงหัวปั่นไปอีกหลายยยยเดือน
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๗/100%:25.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-02-2016 01:32:46
เอ่อมมมม. นางสตรองจริงๆ ณ จุดนี้  หว่านเสน่ห์ซะทั่วเชียว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๗/100%:25.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 26-02-2016 02:31:45
ก่อนกินพี่เขี้ยวของเจ้ได้ นี่นางจะงาบน้องดินไปก่อนมั้ยอ่า
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๗/100%:25.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 26-02-2016 06:42:26
กัดกันแสบๆคันๆขนาดนี้ ตอนรักกันจะมันส์ขนาดไหนน๊า
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๗/100%:25.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 26-02-2016 07:13:37
พี่เขี้ยวก็ใจดีนะ ถึงจะไม่ชอบน้องเรียวเท่าไหร่ แต่ก็แยกแยะได้ ถ้าสองคนไม่กวนกัน ก็ดูจะคุยกันได้ปกติเลย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๗/100%:25.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ 26-02-2016 08:59:06
เรียวหนูไม่น่าจะได้ที่ดินแล้วล่ะ งั้นส่งดินไปเป็นเครื่องเซ้นให้เสี่ยสิ  เสี่ยอาจจะชอบคนใสๆก็ดั้ยยย  แล้วก็พากันย้ายมาอยู่ฟามม.   :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๗/100%:25.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Tatangth ที่ 03-03-2016 11:39:18
สงสารอิพี่เขี้ยว 555555555555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๗/100%:25.02.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 03-03-2016 16:09:09
เรียวจันทร์นางสาวจริง รอได้จ้ะไม่รีบ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/50%:27.03.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 27-03-2016 15:55:16


คาถาที่ 8 :: Tiger defeated by Devil. (นางมารตะปบเสือ) [50%]



   
   “นี่! ไอ้เขี้ยวกุด! คุณป๋าให้ฉันมาช่วยงานด้านเอกสารนะ แล้วนี่อะไรอะ ให้ฉันมาตักขี้วัวได้ไง?!” เสียงแว้ดๆ มาพร้อมกับหน้าบู้ๆ เมื่อได้กลิ่นเหม็นของอึวัวภายในคอก เรียวจันทร์กวาดสายตาไปมองรอบคอกวัวแล้วก็ป๊ะกับวัวตัวหนึ่งที่กำลังก้มหน้าก้มตากินหญ้าในรางปูนให้อาหารพร้อมกับยกหางขึ้นเพื่อปลดปล่อยขี้ออกจากก้นดังแผละ
   

อี๋ ก้อนมหึมาและดำเมี่ยมมาก
   

“อะไร ป๋าบอกให้คุณมาเป็นผู้ช่วยผม ฉะนั้นผมทำงานอะไรคุณก็ต้องช่วยผมทำด้วยดิ” คมเขี้ยวว่าหน้าตายหน้ามึน แต่ในใจแอบคึกนิดๆ ที่จะได้หาเรื่องแกล้งคน
   

“อาทิตย์ก่อนทั้งอาทิตย์ฉันยังนั่งสบายๆ ในออฟฟิศอยู่เลยนะ แล้วทำไมวันนี้ฉันถึงถูกเนรเทศมาเก็บขี้วัว?!”
   

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมให้คุณไปตักขี้ม้าต่อด้วย” เรียวจันทร์เบิกตากว้างพร้อมอ้าปากหวอมองคมเขี้ยวที่ยิ้มยียวนและยักคิ้วขวาเท่ๆ มาให้หนึ่งที นางยกสองมือเท้าเอวแล้วก้าวเท้าเดินสับๆ ขาไขว้กันไปยืนตรงหน้าไอ้เครา แม้จะเป็นเพียงก้าวสั้นๆ แต่ก็ต้องก้าวให้สตรอง
   

“นายแกล้งฉันอยู่ใช่มั้ย หาเรื่องบีบให้ฉันออกไปจากฟาร์มล่ะสิ?!” คมเขี้ยวเบ้ปากเล็กน้อยพร้อมกับยักไหล่ขวานิดๆ เหมือนว่าไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเรื่องใหญ่
   

“ไม่ได้แกล้ง ก็นี่มันงานผมจริงๆ หรือคุณจะเถียงว่าฟาร์มนี้ทั้งฟาร์มไม่ใช่ความรับผิดชอบของผม เป็นผู้ช่วยผมก็ต้องช่วยผมทำงานทั้งฟาร์มดิ” เรียวจันทร์ย่นจมูกและเบะปาก ไม่รู้ว่าตอนนี้ทำหน้าแบบนี้เพราะหมั่นไส้ไอ้ตัวสูงหน้าเคราแพะหรือว่าเหม็นขี้วัวในคอกกันแน่
   

“นี่! นายดูหน้าฉัน หน้าสวยๆ อย่างเงี้ยอะเหรอจะให้มาตักขี้วัว บ้ารึเปล่า มันเข้ากันที่ไหน?!” คมเขี้ยวหยีใส่อีกฝ่ายนิดหนึ่งที่ชมตัวเองแบบไม่สะทกสะท้าน เรียวจันทร์ลอยหน้าลอยตาไม่สะท้านใดๆ กลับเช่นกัน ประมาณว่าก็ฉันพูดเรื่องจริง!
   

“มันเกี่ยวอะไรกับหนังหน้า จะสวยไม่สวยถ้าผมสั่งก็ต้องทำ สถานะคุณตอนนี้คือลูกน้องผม” คมเขี้ยวว่าด้วยท่าทีเหนือกว่า เรียวจันทร์กัดฟันแน่น จ้องหน้าไอ้เคราอย่างขุ่นเคืองเล็กๆ
   

“แต่อาทิตย์หน้าฉันมีถ่ายหนังนะ นายจะให้ฉันมาคลุกสิ่งปฏิกูลอย่างนี้ได้ยังไง?!” คมเขี้ยวทำหน้าเบื่อหน่าย ยกสองมือเท้าเอวแล้วหลุบตามองต่ำคนตัวบางร่างน้อย
   

“แถ?”
   

“ไม่ได้แถ! ฉันมีถ่ายหนังจริงๆ” เรียวจันทร์ว่าเสียงสะบัด อาทิตย์หน้ามีคิวนางเข้าฉากด้วย พยายามบ่มผิวให้ผ่องใสอยู่ อาทิตย์ก่อนยังโชคดีว่าหมอนี่ให้นางอยู่แต่ในออฟฟิศเคลียร์งานด้านเอกสาร มาอาทิตย์นี้เริ่มให้นางออกนอกสถานที่ สองวันก่อนก็ให้นางไปเก็บดอกกุหลาบกับคุณแม่ อันนั้นยังพอทน วันถัดมาให้ไปรดน้ำกับถอนหญ้าในแปลงผักใกล้กับคอกวัว อันนั้นก็ยังพอทน แต่มาวันนี้ให้มาตักขี้วัว นางคิดว่านางจะไม่ทน
   

“ตักขี้วัวแล้วไปถ่ายหนังไม่ได้รึไง ฮะ แม่ดาราใหญ่” เรียวจันทร์ทำแก้มป่อง เบิกตากว้างมองไอ้คนตัวสูงอย่างกับเปรตที่กำลังมองนางอย่างกวนตีน เรียวจันทร์จิ๊ปากแล้วยกสองแขนกอดอก
   

“งั้นหอมแก้มฉันก่อน ไม่ก็ให้ฉันหอมแก้มนาย แล้วฉันจะยอมทำงานนี้” คมเขี้ยวขมวดคิ้วฉับ ดึงหน้าตัวเองให้ออกห่างจากหน้าอีกฝ่าย 
   

“ผมรู้ว่าคุณสติไม่สมประกอบ แต่อย่าทำให้มันชัดเจน ใครเขาจะยอมวะ” เรียวจันทร์เบะปากแล้วไหวไหล่ว่าไม่สนใจ
   

“นายจะด่าจะว่าฉันปัญญาอ่อนก็ด่าไปเลย แต่นายต้องหอมแก้มฉัน หรือเลือกเอาว่าให้ฉันหอมแก้มนาย ไม่งั้นฉันไม่ทำ!” คมเขี้ยวแบมือทั้งสองข้างออกและยักไหล่ว่าไม่แคร์
   

“เรื่องของคุณ ไม่ทำก็ไม่ต้องทำ ผมยอมกินขี้ดีกว่าหอมแก้มคุณ” เรียวจันทร์อ้าปากหวอพร้อมถลึงตามองอีกฝ่ายที่พูดจาได้ร้ายกาจมาก!
   

“งั้นกินสิ ดูซิว่าจะกินได้กี่ก้อน หน็อย! ขี้มันดีกว่าแก้มฉันตรงไหนฮะ?!”
   

“ก็ดีกว่าตรงที่มันไม่ใช่คุณ” เรียวจันทร์ลดมือลงมาเท้าเอว ถลึงตามองคมเขี้ยวที่ยิ้มเบ้ปากอย่างสุขใจ
   

“เออ ดี! เกลียดฉันไว้เยอะๆ เลย เพราะสุภาษิตเขาว่าเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น!” เรียวจันทร์แยกเขี้ยวใส่อีกฝ่ายที่ทำสีหน้าสบายๆ ไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอะไรทั้งสิ้น เห็นแล้วก็ได้แต่นึกหมั่นไส้ อยากจะจับปล้ำทำผัวซะให้เข็ด!
   

“นั่นมันโบราณ นี่มันยุคใหม่แล้ว อย่ามาทำตัวเป็นคนหัวโบราณหน่อยเลย…” คมเขี้ยวยื่นหน้าเข้าไปใกล้เรียวจันทร์ ซึ่งฝ่ายหลังก็ไม่คิดถอยหนีแบบนางเอกละครไทยที่เล่นตัว ยื่นมาใกล้ ก็ยืนนิ่งๆ ให้ใกล้นี่แหละ ดี จะได้ดูมีความใกล้ชิดซึ่งกันและกัน
   

“…สมัยนี้ เกลียดอะไรก็คือเกลียด อย่างถ้าผมเกลียดแมลงสาบ ผมต้องได้แมลงสาบเป็นเมียรึไง” ชายหนุ่มที่หนุ่มจริงๆ เลิกคิ้วขึ้นสูงพร้อมรอยยิ้มกวน ชายหนุ่มอีกคนที่หนุ่มน้อยกว่าเพราะมีความสาวกว่าเบิกเปลือกตากว้างขึ้นมองอีกฝ่าย
   

“ปากดีนักนะไอ้เขี้ยว!” คมเขี้ยวเอียงหน้าซ้ายขวาไปมาแล้วดึงหน้าออกห่างจากใบหน้าสวยๆ เกินชายนั่น 
   

“ปากจัดนักนะไอ้เรียว!”
   

“ไอ้เขี้ยว!”
   

“ไอ้เรียว!”
   

“หืมมม!” เรียวจันทร์แยกเขี้ยวแล้วส่งเสียงคำรามออกมา ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าไปหาคนตัวสูงกว่า กระโดดเอาสองแขนคล้องคอคมเขี้ยวแน่น ยื่นหน้าไประดมหอมแก้มสากของอีกฝ่ายไม่ยั้ง
   

ฟอด! ฟอด! ฟอด! ฟอด!
   

“นี่แน่ะ! นี่แน่ะ!” เรียวจันทร์ว่าอย่างมันเขี้ยว ใช้จมูกขยี้แก้มคมเขี้ยวไม่หยุด กว่าเจ้าของแก้มจะได้สติเต็มร้อยก็เสียบริสุทธิ์บนแก้มไปมากโขแล้ว
   

“เฮ้ย! โอ๊ย! ออกไป! อะไรวะเนี่ย ไอ้จันทร์ไร!” คมเขี้ยวพยายามผลักและดันคนตัวบางออกห่างจากตัวเอง แต่อีกฝ่ายเกาะแน่นยิ่งกว่าลูกลิงเกาะท้องแม่
   

“ฮึ?! หวงตัวนักใช่มั้ย” เรียวจันทร์พยายามจะดันหน้าตัวเองฝ่าด่านสองมือของคมเขี้ยวไปหอมแก้มอีกฝ่ายต่อ คมเขี้ยวดันสุดแรงเกิด เรียวจันทร์เองก็ต้านสุดพลังเช่นกัน สองแขนเรียวจันทร์ค่อยๆ ร่วงจากคอคมเขี้ยวเพราะถูกดันให้ออกห่าง แต่กระนั้นแขนขาวเนียนก็แหวกว่ายอยู่ในอากาศพยายามดิ้นรนเอื้อมให้ถึงตัวคนตัวโต แต่สุดท้ายคนตัวสูงกว่าก็ต้องเสียทีเพราะคนตัวเตี้ยกว่ายื่นมือขวาไปตะปบเป้ากางเกงยีนเต็มมือจนเจ้าตัวตกใจปล่อยสองมือออกจากหน้าสวยๆ
   

“เฮ้ย?!”
   

ฟอด! ฟอด!
   

“ปี๊บๆ” ขโมยหอมแก้มคมเขี้ยวไปอีกสองที ตบท้ายด้วยการบีบเป้าอีกฝ่ายเต็มมือไปสองครั้ง คมเขี้ยวมองหน้าไอ้จันทร์ไรอย่างตกตะลึง เรียวจันทร์ยกมือกอดอกแล้วยื่นปากจู๋ทำหน้าแบ๊วใสๆ เหมือนไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น
   

“เฮ้ยยย พี่เขี้ยวโดนจับเป้าว่ะ ฮิ้ววว!” พวกคนงานที่ยืนดูทั้งสองคนทะเลาะกันมาสักพักส่งเสียงแซวลั่นคอกวัว คมเขี้ยวหันหน้าตื่นตกใจของตัวเองไปมอง สองมือกุมเป้าตัวเองไว้มิดชิด พวกลูกน้องเขานับสิบคนยืนหัวเราะเฮฮาอารมณ์ดีกันยกใหญ่ เขาหันกลับมาถลึงตามองเรียวจันทร์ด้วยความโกรธ ยกมือขวาขึ้นมาทำท่าจะต่อย เรียวจันทร์สีหน้าแตกตื่น รีบกระเถิบถอยหนีไปหลายก้าว มองคมเขี้ยวที่ยืนฮึดฮัดอย่างโกรธจัดด้วยความตกใจนิดๆ
   

“อะไรอะ ถึงขั้นจะลงไม้ลงมือ ป่าเถื่อนไปป้ะ?!”
   

“ไม่ต้องมาพูด แม่งเดี๋ยวต่อยตาบวม!” เรียวจันทร์ยักไหล่ทำท่าเชิด แต่ในใจก็แอบกลัวๆ กับหน้าตาเอาเรื่องของไอ้เขี้ยวกุดอยู่เหมือนกัน ดูท่าจะโกรธจริงๆ แฮะ
   

“อย่าให้มันมากเกิน” คมเขี้ยวว่าเสียงเหี้ยม จ้องมองหน้าสวยด้วยดวงตาไม่พอใจอย่างมาก เขาก้าวเท้าเดินไปทางประตูเข้าคอก เอาไหล่ขวาตัวเองกระแทกไหล่ขวาของเรียวจันทร์อย่างแรงไปหนึ่งที
   

“โอ๊ย! ไอ้นี่!” เรียวจันทร์หันไปมองแผ่นหลังกว้างเดินออกไปอย่างไม่สนใจใคร พวกคนงานที่พอจะรู้ว่าเจ้านายโกรธจริงไม่ใช่เล่นๆ ก็เงียบสนิท ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองกันต่อไป
   

เรียวจันทร์หันหน้ากลับมามองอุปกรณ์ตักขี้วัวทั้งหลายที่ไอ้เขี้ยวกุดมันเอามาให้ มือซ้ายจับไหล่ขวาที่โดนกระแทกอย่างแรงเมื่อกี้นี้ ไม่ใช่ไม่เจ็บนะ เจ็บมากด้วย จงใจกระแทกแบบนั้นคงกะให้แขนหักเลยมั้ง
   

“แล้วนี่ฉันต้องมาตักขี้วัวจริงๆ เหรอเนี่ย” นางบ่นกระปอดกระแปด กวาดตามองไปรอบตัวที่มีแต่วัวๆๆ แล้วก็วัว!และขี้วัว! เรียวจันทร์หน้าง้ำ จะไปดื้อใส่ไอ้เขี้ยวหักตอนนี้ก็ท่าจะยิ่งแย่ เพราะดันไปทำให้มันอารมณ์เสียแบบที่พี่เบิร์ด ธงไชยก็ซ่อมไม่ได้ 
   

แต่ก็แล้วไงอะ ก็หมั่นไส้อะ ชอบทำท่าทำทางรังเกียจนางดีนัก ถ้าไม่ติดว่าต้องทำให้หมอนั่นไว้ใจ โอนอ่อน ยอมความ หรือจะเรียกว่าอะไรก็ตามเถอะ แต่นางต้องทำให้ไอ้เขี้ยวหักนั่นยอมขายที่ดินให้แบบละมุนละม่อมที่สุด ที่ตาเสี่ยจอมทัพบอกว่าถ้าจับหมอนี่เป็นผัวได้ ก็จะง่ายขึ้น มันก็ถูก แต่กว่าจะได้มันเป็นผัวนี่สิ มันไม่ง่าย !
   

“จริงๆ ตาเสี่ยนั่นควรหาวิธีอื่น…” บ่นไปก็เริ่มจับพลั่วขึ้นมาตั้งไว้ตรงๆ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้
   

“…แล้วฉันมาทำอะไรอยู่ที่นี่เนี่ย อ้อ ใช้หนี้อีตาเสี่ยทัพสินะ” เรียวจันทร์เบะปาก อยากจะร้องไห้แรงๆ แต่ก็ไม่รู้จะร้องไปทำไม มันอาจจะเป็นแค่อารมณ์อ่อนไหวที่พัดปลิวผ่านมาแล้วทำให้นางเกิดดัดจริตแอ๊บแบ๊วว่าอยากร้องไห้ ทั้งที่จริงไม่ได้คิดจะร้องไห้เลยสักนิด
   

สลัดความเวิ่นเว้อกับตัวเองออกไป แล้วคิดจะเริ่มงาน แต่พอหันไปเห็นวัวอีกตัวกำลังขี้แหมะๆ ลงบนพื้นก็ได้แต่ทำสีหน้าอยากจะอ้วก และคราวนี้ไม่ใช่การแอ๊บอยากอ้วก แต่มันชวนอ้วกจริงๆ

   

“เอ้า! ยืนหน้าโง่อยู่นั่นแหละ ทำดิ สั่งไรก็ทำ!” เรียวจันทร์หันไปมองคมเขี้ยวที่ยืนสั่งงานหน้าตาบูดบึ้ง คนหน้าสวยจ้องมองกลับอย่างไม่พอใจแรงๆ
   

“ถ้าฉลาดมาก ก็ทำเองมันซะทั้งหมดเลยสิ!” เรียวจันทร์แหวกลับไปในขณะที่กำลังรวบรวมกำลังใจอยู่หน้าคอกม้าในการเข้าไปทำความสะอาดด้านในกับคนงานคนอื่นๆ นางไม่ค่อยจะถูกกับม้าของคมเขี้ยวสักเท่าไหร่เนื่องจากมาสร้างวีรกรรมกับพวกมันไว้คราวก่อน ไม่รู้ว่าพวกมันแค้นฝังหุ่นหรือเปล่า
   

“ก็อยากสั่ง มีไร?! ตอนนี้เป็นลูกน้อง ก็ต้องฟังเจ้านาย” คมเขี้ยวพูดด้วยท่าทางเกรียนๆ เรียวจันทร์ขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ นางรู้ว่าอีกฝ่ายยังโกรธเรื่องที่คอกวัวอยู่
   

“นี่นายคมเขี้ยว! แกนประสาทนายเบี้ยวเหรอตอนเนี้ย ถ้าไม่พอใจมากนายก็จับเป้าฉันคืนซี้! ไม่ก็หอมแก้มฉันคืนไปเลย!” เรียวจันทร์เท้าเอวพูดสีหน้าเอาเรื่อง คมเขี้ยวยิ้มเยาะหน่อยๆ
   

“คิดว่าตัวเองดึงดูดนักรึไง ถ้าเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง” เรียวจันทร์ถอนหายใจ หน้าตาเซ็งจัด ลดแขนลงแนบลำตัว มองหน้าคมเขี้ยวด้วยสายตาพร้อมเหวี่ยง
   

“นายรังเกียจเพศที่สามมากใช่มั้ย ถ้ามากก็บอก ฉันจะได้ไม่อยู่ใกล้ๆ ให้นายพร้อมทำร้ายร่างกายแบบนี้” บางทีก็มากเกินไปหน่อย ไม่รู้ว่าหมอนี่รังเกียจเพศอย่างนางมากน้อยแค่ไหน แต่ที่เมืองนอก พวกรังเกียจเพศที่สามจะหัวรุนแรงเป็นพิเศษ วันดีคืนดีก็ทำร้ายร่างกายเพศอย่างนางไปทั่วเพียงเพราะเดินผ่านมันแล้วมันเห็นท่าทีอ้อนแอ้นเกินชาย
   

“ผมไม่ได้รังเกียจ แต่ผมไม่ชอบการกระทำของคุณ!” คมเขี้ยวว่ากลับหน้าตานิ่งสนิท แววตาบอกว่าไม่ชอบจริงๆ เรียวจันทร์หายใจฮึดฮัด ปากบิดปากเบี้ยวไปมาเพราะอารมณ์เคืองใจ
   

“ถ้างั้นฉันขอโทษก็ได้ ขอโทษๆๆๆๆ ขอโทษที่ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ขอโทษที่ไม่ใช่ผู้หญิง นายคงไม่ฟินเท่าผู้หญิงทำสินะ!” นางว่าอย่างประชดประชัน ทั้งสีหน้าและแววตาจิกใส่ไอ้เคราชนิดที่ว่าถ้าเลือดออกได้เพราะคำพูด ตามเนื้อตามตัวคมเขี้ยวคงมีแผลเล็กแผลน้อยเลือดไหลย้อยไปทั้งตัว
   

“ถ้าไม่ได้ขอโทษจากใจก็อย่าขอโทษ!” ชายหนุ่มที่เป็นชายจริงๆ ขบกรามแน่นและจ้องหน้าคนหน้าสวยหวานด้วยตาที่ยังขุ่นเคือง เรียวจันทร์เบะปากน้อยๆ แล้วถอนหายใจแรงๆ
   

“จะต้องเอาจากใจแค่ไหนล่ะ อ๋อ หรือจะต้องมีน้ำตาผสม ได้!” เรียวจันทร์สะบัดหน้าไปทางซ้าย หลบสายตาของคมเขี้ยว เจ้าของฟาร์มมองอย่างงงๆ ที่จู่ๆ ฝ่ายนั้นก็หันหนีไป เรียวจันทร์หลับตาลง เรียกพลังทางการแสดงที่ครูแงะได้สอนเอาไว้ออกมาใช้ นางรวบรวมสมาธิ ดึงจุดที่เศร้าที่สุดในจิตใจออกมา ขับเคลื่อนด้วยแรงอารมณ์ดราม่า แล้วในที่สุดน้ำตาก็ไหลอาบแก้มซ้ายของนาง!
   

พรึ่บ!
   

คมเขี้ยวผงะไปนิดเมื่ออีกฝ่ายหันกลับมาพร้อมหยาดน้ำตาจากดวงตาซ้าย ใบหน้าสวยหวานสลดลง แววตาดูเจ็บปวดคลอไปด้วยน้ำตา
   

“นายต้องการอย่างนี้ใช่มั้ย… ฮึก” พ่อหน้าเคราอ้าปากหวอกับน้ำเสียงสั่นเครือที่สุดแสนจะเนียนกริบ พอเริ่มพูดน้ำตาก็ยิ่งไหลออกมาจากดวงตาเหมือนกวางน้อย
   

“…ใช่สิ ฉันมันไม่ดี ฉันไม่มีฮีแบบพวกชะนี ฉันขอโทษ ฮึก… แต่ฉัน! ก็เจ็บปวดไม่แพ้นายนั่นแหละ นายพูดจาเหยียดเพศตั้งหลายครั้งแล้วอะ ฉันเป็นคนนะ ถึงฉันจะสวยและรวยในระดับหนึ่ง แต่ฉันก็มีจิตใจที่เปราะบางนะ ฮือๆ ฮ้าๆ” ตอนนี้คมเขี้ยวงงไปหมดว่านั่นอารมณ์จริงหรือมันเป็นการแสดง เขาหันไปมองคนงานในคอกม้าที่มองมาทางเขาสองคนอย่างตื่นตระหนกปนงง เขาหันกลับมามองไอ้หน้าหวานอ้าปากกว้างร้องไห้โฮ น้ำตาหูน้ำตาไหลทะลักออกมาไม่หยุด
   

“เฮ้ย เดี๋ยว…”
   

“…นายเอาแต่ว่า! ดูถูกเหยียดหยาม! ทำอย่างกับฉันไปตีหน้าแม่นายจนต้องไปศัลยกรรมใหม่ที่เกาหลี ฮึกๆ เอาชีวิตฉันไปเลยมั้ย หรือจะทุบตีฉัน ให้เลือดคั่งตายเลยดีล่ะ?!!” เรียวจันทร์เบะปาก หูแดง จมูกแดง แก้มแดง น้ำตาไหลไม่หยุด คมเขี้ยวอ้าปากหวอ กะพริบตาปริบ มองด้วยความงงแบบที่ว่าโคตรงง สมองมึนไปชั่วขณะ เรียวจันทร์ก้าวเข้ามาหาเขาหนึ่งก้าว พร้อมกับยื่นแขนสองข้างมาให้ ทำท่าเหมือนว่าจะให้เขาตี แต่แล้วสักพักอีกฝ่ายก็ชะงักกึก ถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนจะทำท่าฮึบกลั้นสะอื้น สะบัดหน้าไปทางซ้ายประมาณสี่สิบห้าองศาครู่หนึ่ง แล้วหันกลับมามองหน้าเขาด้วยดวงตาเศร้าสร้อยหงอยเหงาที่มากกว่าเดิมและยกมือขวาขึ้นไปจับตรงหน้าอกซ้ายเบาๆ
   

“ฉันเจ็บ! หัวใจฉันเหมือนโดนกรีดด้วยคัตเตอร์ขึ้นสนิม ฮาๆ ฮือๆ ถ้าฉันทำอะไรให้นายไม่พอใจ ก็ขอโทษด้วย แต่เลิกดูถูกเรื่องสถานะทางเพศฉันเถอะ ฉันเลือกเกิดไม่ได้ ฉันก็ไม่ได้อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ แต่บุญฉันไม่ถึงที่จะเป็นชะนี นายจะให้ฉัน ฮึก ทำยังไงล่ะ ฮือๆ” คมเขี้ยวขมวดคิ้วอ้าปากหวอ ยกมือขวาขึ้นเกาหลังหัวงงๆ มองใบหน้าหวานใสที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตามากมาย มือขวาของเรียวจันทร์ขยุ้มเสื้อตรงอกซ้ายจนยับยู่ยี่ราวกับเจ็บปวดหัวใจจริงๆ อย่างที่ปากบอก
   

“มันต้องอะไรขนาดนี้เลย…” ยังไม่ทันพูดจบเขาก็ต้องหุบปากฉับ แล้วเบิกตากว้างขึ้นนิดหนึ่งเมื่ออีกฝ่ายยกสองมือมาพนมเป็นดอกบัวตูมตรงหน้าอกแล้วร้องไห้จนตาปิด
   

“ฉันขอล่ะนะ ให้อภัยฉันเถอะ ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีกก็ได้ แต่นายก็อย่าเหยียดหยามฉันนักเลย ฉันเลือกเพศเองไม่ได้ แต่ฉันจะพยายามเป็นคนดีของแผ่นดินสยามก็แล้วกัน นายให้อภัยฉันได้มั้ยล่ะ ฮือออๆ” คมเขี้ยวหันไปมองรอบๆ คนงานที่อยู่แถวนั้นมองด้วยสายตาอึ้งๆ ทึ่งๆ ไปตามๆ กัน เหมือนทุกคนก็ทำอะไรไม่ถูกที่จู่ๆ ไอ้จันทร์ไรก็เป็นแบบนี้ เขาหันกลับมามองคนตรงข้ามด้วยท่าทีงงๆ อีกฝ่ายยังคงประนมมือไหว้อ้อนวอนตามเดิม
   

“เออๆ ไม่ว่าแล้ว ขอโทษละกันที่พูดแบบนั้น” คมเขี้ยวพูดแบบงงๆ พูดแบบเบลอๆ สองมองเขามันตื้อแปลกๆ แล้วสักพักก็ยิ่งต้องงงยิ่งกว่าไก่ตาแตก เรียกว่าไก่ตาหลุดก็ยังไงได้ เมื่อเรียวจันทร์สะบัดสองมือออกจากกัน สีหน้าอ้อนวอน ดราม่าเมื่อกี้หายวับไปกับตา คนร่างบางใช้สองมือเช็ดน้ำตาออกจากแก้มเนียนนวล เงยหน้าขึ้นมองฟ้าแล้วค่อยๆ ใช้นิ้วซับน้ำตาไปตามขอบตา ก้มหน้ากลับลงมาแล้วเอาสองมือนวดไปทั่วใบหน้าตัวเอง สูดจมูกอีกนิดหน่อยแล้วก็เอามือทิ้งลงข้างตัว ท่าทีกลับมาเชิดตามเดิม
   

“โถ่ ที่แท้ก็นิสัยคนไทย ชอบอะไรดราม่าๆ ความสดใสร่าเริงอย่างฉันดันไม่ชอบ ชอบอะไรที่น้ำเน่าไปได้ นี่ถ้ามีผู้หญิงมาดราม่าน้ำตาแตกใส่นายว่านายไปทำเขาท้อง นายคงมีลูกเป็นสิบคนอะ” น้ำเสียงที่ใช้ต่างกับเมื่อตอนน้ำตาแตกกันอย่างสิ้นเชิงจนคมเขี้ยวอ้าปากเหวอ หน้าตาเหลอหลา มองเรียวจันทร์ที่ถอนหายใจแล้วยกมือขวาขึ้นมากดๆ แก้มทั้งสองข้างเหมือนกำลังเช็กกล้ามเนื้อ
   

“เดี๋ยวก่อน นี่คือยังไง สรุปแอคติ้ง??” เรียวจันทร์สะบัดมือลงไปข้างตัวแล้วทำหน้าว่า เอ๊า ไม่รู้เหรอ?!
   

“ทำไมอะ เนียนเหรอ หูย! ครูแงะต้องดีใจแน่ๆ เลยอะ นี่ฉันก็มีสิทธิ์เข้าชิงรางวัลเหมือนกันนะ” ยังมีหน้ามาลอยหน้าลอยตาพูดด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ คมเขี้ยวขบกราม มองคนตรงหน้าอย่างโมโหอีกครั้ง
   

“แม่งเอ๊ย!!” เรียวจันทร์รีบยกมือเบรกขึ้นทันที
   

“พอเลย ถ้านายจะมาเก๊กเกรียน เก๊กโหด ทำมาเป็นอารมณ์เสียใส่ ก็ไปไกลๆ ไม่อยากจะอยู่ใกล้ด้วยนักหรอก แล้วนายก็ยกโทษให้ฉันแล้วนะ อย่าลืม” คมเขี้ยวกำหมัดซ้ายแน่น อยากจะต่อยหน้าไอ้จันทร์ไรแรงๆ สักที จะตะโกนใส่หน้าว่าไม่ได้เต็มใจขอโทษก็ไม่ได้อีก ตอนขอโทษก็ไม่ถึงขั้นเต็มใจหรอก แต่งงมากกว่ามันเป็นอะไร ร้องไห้ซะอย่างกับมีคนตายต่อหน้าต่อตา แล้วก็พูดไปเพราะมันกำลังบ่อน้ำตาแตกยิ่งกว่าเขื่อนพัง เห็นแบบนั้นก็กลัวว่ามันจะสะอื้นจนหายใจไม่ทัน
   

“คุณนี่แม่งงูเห่าชัดๆ” เรียวจันทร์ถลึงตาใส่ไอ้คนตัวโต
   

“เอ๊! นายนี่เป็นคนยังไง ชอบเอาฉันไปเปรียบกับสัตว์อยู่เรื่อย ถ้าจะเปรียบก็ขออะไรที่มันน่ารักๆ หน่อย ไม่เอางูเห่า ฉันเกลียดเวลามันลอกคราบ”
   

“คอยดูนะ ถ้าครั้งต่อไปร้องไห้จริงขึ้นมา ผมจะซ้ำให้หนักเลย!” คมเขี้ยวว่าอย่างหงุดหงิด เขาทั้งหงุดหงิด ทั้งหมั่นไส้ ทั้งโมโหไอ้ผู้ชายหน้าหวานคนนี้จริงๆ อยากจะจับมันมาเขย่าๆๆๆ แล้วเหวี่ยงขึ้นไปบนยอดเขา!
   

“แล้งน้ำใจจริงจริ้ง!” เรียวจันทร์ส่ายหน้า ทำสีหน้าว่า ไม่ไหว ไม่ไหว เหมือนด่าอีกฝ่ายโดยไม่ต้องออกเสียง คมเขี้ยวเบิกตากว้างมองดุๆ เรียวจันทร์สะบัดตัวไปทางซ้าย ก้าวเท้าจะเดินจากไป แต่ก็ชะงักไว้แปบหนึ่ง
   

“อ้อ งานนี้ฉันขอบายนะ ตักขี้วัวมาก็อ้วกจะแตกแล้วอะ ขอพักจากเรื่องขี้ๆ สักแปบเหอะ เดี๋ยวฉันไปดูแลต้นไม้ใบหญ้าแทนก็แล้วกัน” ว่าเสร็จก็เดินสะบัดเอวบิดออกไปจากตรงนั้นทันที คมเขี้ยวมองตามอย่างเข่นเขี้ยว รู้สึกหงุดหงิดจนต้องคำรามกับตัวเองแล้วยกมือชกอากาศรัวๆ เหมือนกำลังชกกระสอบทราย ก่อนจะยกเท้าขวาเตะก้อนหินแถวนั้นแรงๆ หนึ่งที
   

จะว่ามันหลอกอีกก็ไม่ได้ ก็เมื่อกี้มันถามแล้วว่าจะเอาน้ำตาด้วยใช่มั้ย สะบัดหน้าไปแปบเดียว หันกลับมาอีกทีทำเขาสตั๊นท์ไปเลย ไอ้จันทร์วิบัติ!






 :hao7:

หายไปนานมากอีกแล้วสำหรับเรื่องนี้ คือติดงานอื่นแะติดปั่นต้นฉบับไอ้ยักษ์กับน้องเอเลี่ยน ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่เสร็จ เนื่องจากเดินทางบ่อยมาก เลยทำให้มีเวลาพิมพ์น้อย แต่ช่วงเวลาน้อยๆ นั่นคือก็พิมพ์นะ พยายามที่จะเขียนไว้ ทีละนิดทีละหน่อยก็ยังดีอะ -.,-

กลับมาแล้ววว พาขุ่นแม่เรียวจันทร์กับพี่เขี้ยวมาเสิร์ฟทุกคน ระดับความแซ่บเพิ่มขึ้นบ้างมั้ยนี่ 55555 แม่เรียวก็แจ๋นแหลนเกินนะ จับเป้าพี่เขี้ยวได้ไง ดีนะพี่เขี้ยวเป็นคนใจดี ไม่งั้นมีชกหน้าคว่ำแบบจับตามองไม่ทัน ร้ายนะคะคุณแม่ ว่าแต่ใหญ่มั้ยคะ ไม่เห็นบอก 55555

วันนี้ขอมาครึ่งนึงก่อนนะคะ คืออยากอัพมากกก จริงๆ รอครอบร้อยก้ได้ แต่คืออยากอัพวันนี้แล้ว แล้วเขียนได้แค่ครึ่งเดียว 5555 เลยขออัพครึ่งนึงก่อน นิยายเรื่องนี้แต่งสดค่ะ เขียนสด อัพสด ยิ่งกว่าการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยซะอีก

อีกครึ่งที่เหลือ เดี่ยวตามมาเร็วๆ นี้แน่นอนค่ะ เพราะกำลังปั่นอีกครึ่งอยู่ คงเสร็จเร็ววว เจอกันค่าา

ใครเจอคำผิดบอกได้นะคะ ขอบคุณมากๆ ที่ช่วยเช็ก แล้วก็ขอบคุณมากๆ ค่ะสำหรับคนอ่านที่ติดตามขุ่นแม่เรียวและพ่อเขี้ยวอยู่ ขอบคุณที่รักพวกเขาในแบบที่เขาเป็น ดีใจที่มีคนอ่านเรื่องนี้แล้วชอบสไตล์เรื่องแบบนี้ ชอบนายเอกแบบนี้ แสดงว่าเลเวลทางใจคุณสูงจริงๆ 55555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/50%:27.03.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-03-2016 17:52:58
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/50%:27.03.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 28-03-2016 06:49:55
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/50%:27.03.59:
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-03-2016 07:22:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/50%:27.03.59:
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 28-03-2016 17:20:19
สงสารพระเอก โดยเต๊าะหนักมากก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/50%:27.03.59:
เริ่มหัวข้อโดย: มาม่าหมูสับ ที่ 29-03-2016 18:56:54
จะรักกันยังไงเนี่ย  :hao6: :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/50%:27.03.59:
เริ่มหัวข้อโดย: lalaly ที่ 02-04-2016 21:25:23
:laugh:สตรองมากเรียว สตรองมาก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/100%:14.04.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 14-04-2016 18:50:47

คาถาที่ ๘ [100%]


“โอ๊ย ฉันเริ่มคิดละว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่ ฉันต้องใช้หนี้อีตาจอมทัพก็จริง แต่ฉันลงทุนกับชีวิตมากไปรึเปล่า”
   

[ก็แกรับข้อเสนอเขา แล้วก็ยังเป็นคนเสนอแผนนี้เองด้วยนะ อย่าลืม] เรียวจันทร์ทำปากยื่นหน้าบูด พลางเกาแขนซ้ายยิกๆ หลังจากโดนไอ้เขี้ยวกุดสั่งให้ไปช่วยคนอื่นยกกองฟาง
   

“ฉันจะอยู่รอดถึงสามเดือนมั้ยเนี่ย” เรียวจันทร์บ่นเสียงเซ็ง ถอนหายใจดังพรืด
   

[แกก็ทำให้มันเสร็จก่อนสามเดือนสิวะ แบบนั้นเสี่ยทัพจะยิ่งชอบใจเลยแหละ]
   

“แต่มันไม่ง่ายเลยอะ ไอ้คมเขี้ยวมันเล่นตัวมากแก”
   

[แกก็หาวิธีอื่นสิ ไม่จำเป็นต้องจับเขาเป็นผัวก็ได้ แกแน่ใจได้ไงวะว่าถ้าเกิดแกกับเขาได้กัน เขาจะยอมแกทุกอย่าง แกท้องไม่ได้นะเว้ย แกมีอะไรไปต่อรองกับเขาที่ไหน จะบอกว่าแกโดนพรากบริสุทธิ์ก็ไม่ได้อีก เพราะแกไม่บริสุทธิ์แล้ว]
   

“อีเป็ด!” ศศิประภาหัวเราะคิกคักที่กัดเพื่อนสายได้หนึ่งดอก
   

[ถ้าแกไม่อยากโดนกดขี่เป็นแรงงานทาสแล้ว แกก็คุยกับเขาไปตรงๆ เลยสิว่าแกต้องการอะไร เขาอาจจะคุยง่ายกว่าที่แกคิดก็ได้นะ] เรียวจันทร์ทำเสียงเหอะในลำคอพร้อมกับกลอกตาเซ็ง
   

“ฉันว่ามันเลยจุดนั้นมาแล้วนะ…” นางถอนหายใจพลางเอาแขนถูกับลำตัว “…แต่ถ้ามีจังหวะฉันจะลองพูดดู”
   

[เออ พูดไปเลย เผลอๆ เขาทนรำคาญแกไม่ไหวเขาอาจจะขายที่ดินนั้นให้แกเลยก็ได้…] เรียวจันทร์เบ้ปากเล็กน้อย


[…แกรีบจัดการให้เสร็จก่อนที่เสี่ยทัพเขาจะลงมือเองเถอะ เขาเอาอกเอาใจแกก็จริง แต่ฉันไปสอดมา เสี่ยทัพแกไม่ได้ใจดีอย่างที่คิดนะ เขาเป็นผู้มีอิทธิพลนะแก]
   

“ผู้มีอิทธิพลภาษาอะไร ทำไมถึงมาพึ่งพิงฉัน ถ้าอิทธิพลมากนัก ก็ทำเองสิ”
   

[ก็เขาจะเอาแกทำเมียน่ะสิ!] เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว อ้าปากหวอหน่อยๆ
   

“ก็… อันนั้นฉันรู้ แต่ฉันปฏิเสธไปแล้ว” เป็ดถอนหายใจหน่ายๆ เรียวจันทร์ได้ยินเสียงกุกกักสักพักก่อนที่เสียงเพื่อนสนิทจะตามมา
   

[แกฟังนะ แกคิดจริงๆ เหรอว่าเสี่ยเขาจะไว้ใจให้แกทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ให้ เขาแค่อยากให้แกเข้าไปอยู่ในวงโคจรชีวิตเขา ก็แม่แกบอกเองว่าเขาสนใจแกมานานแล้ว ไอ้เรื่องที่ดินอะ ฉันเชื่อว่าระดับเสี่ยทัพเขาต้องมีวิธีเคลียร์ของเขาจนได้นั่นแหละ ฉันว่าแกเป็นแค่แผนสำรองของแผนสำรองของเขาอีกที]
   

“ทำไมสำรองซ้ำซ้อนจัง” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
   

[เขาคงมีแผนอื่นๆ อีกเยอะน่ะสิ แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแผนนั้นจะสะอาดมากน้อยแค่ไหน เสี่ยเขาไม่ได้นุ่งขาวห่มขาวอยู่ในวงการนักเลงนะแก]
   

“หูย ฮ็อตเวอร์ผู้ชายทรงอำนาจกับการอยากได้ผู้ชายสวยๆ อย่างฉันไปเป็นเมีย เขาต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” เรียวจันทร์หัวเราะคิกคัก เป็ดที่นั่งฝั่งอยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์ถึงกับกลอกตาและเบ้ปากจนปากแทบเบี้ยว
   

[จ้า อีสวย สวยมาก แต่สวยมากก็เป็นภัยนะคะ จะบอกอะไรให้นะ ไอ้เรื่องที่เขาอยากเอาแกเป็นเมียก็อีกเรื่อง แต่ที่ดินก็อีกเรื่อง ไอ้ด้านที่แกเห็นเสี่ยเขาตอนบนเตียงนั่นคือเขาเอาใจแก แต่ลงจากเตียงแล้วแกคิดว่าเสี่ยเขาจะอ่อนหวานอย่างนั้นเหรอ] เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว ที่ขมวดคิ้วนี่ไม่ใช่อะไรนะ
   

“เดี๋ยวๆ อีเป็ด ฉันว่าฉันก็ไม่ได้เล่านะว่าเสี่ยตอนอยู่บนเตียงเป็นยังไง ทำไมแกสาธยายได้ขนาดนั้น”
   

[เปล่าหรอก ฉันแค่ลองพูดเปรียบเทียบให้แกเข้าใจอะ แต่ฉันดันพูดตรงเหรอ] เรียวจันทร์ปรือตา นางก็นึกว่าตัวเองเผลอไปพูดเรื่องบนเตียงของตัวเองกับเสี่ยจอมทัพให้เพื่อนสาวฟัง
   

[เอางี้แล้วกัน ถ้าแกทนไม่ไหวจริงๆ ก็บอกเสี่ยเขา แล้วก็ออกมาจากที่นั่นซะ] เรียวจันทร์ทำปากยื่นหน้าตาแสดงออกถึงความเสียดาย
   

“แต่ถ้าฉันออกไป หนี้ฉันก็จะท่วมหัวท่วมหางเหมือนเดิมนะ เสี่ยบอกว่าจะช่วยฉันใช้หนี้ด้วย”
   

[อีเรียว แกไม่ใช่คนโง่นะ ใครเขาจะมายกหนี้ให้แกฟรีกับช่วยแกใช้หนี้เพียงเพราะแกเอาที่ดินมาให้เขา แกต้องไปเป็นนางบำเรอสวาททาสรักมาเฟียนามว่าเสี่ยทัพอยู่แล้ว] เรียวจันทร์หัวเราะเอิ๊กอ๊ากจนเป็ดงง
   

“เกลียดชื่ออะ เหมือนนิยายร่อนสวาทเลย แต่ก็ร้อนแรงดี” เรียวจันทร์หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว ส่วนเป็ดตอนแรกก็ทำหน้าเซ็งที่เพื่อนไม่ได้มีท่าทีจริงจังไปกับการเตือนของหล่อน แต่สักพักพอนึกชื่อที่ตัวเองพูดไปก็อดขำไม่ได้
   

[ระรื่นเหลือเกินนะกับการที่ผู้ชายอยากได้เนี่ย] นี่ถ้าอยู่ต่อหน้ากันเป็ดคงเห็นภาพที่เรียวจันทร์หน้าเชิดแล้วทำหน้าพราวซะเหลือเกินได้เต็มตา
   

“แน่นอนอะ คิดดูสิ เฮเลนแห่งกรุงทรอยอาจต้องกราบฉันนะแก”
   

[โอ๊ย แต่ตอนนี้แกกราบไหว้ขอที่ดินจากคุณเขี้ยวเขามาก่อนเถอะไป] คนหน้าสวยเบ้ปากทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
   

“ฉันไม่ลงทุนขนาดนั้นหรอก ถ้าฉันจะได้ ฉันต้องได้มาอย่างสง่างาม” เรียวจันทร์ว่าแล้วเชิดหน้าขึ้นนิด ทำสีหน้ามุ่งมั่น
   

[โอ๋ยยย! แกไปใช้หนี้อีเรียว ไม่ได้ไปประกวดนางงาม] แล้วความมุ่งมั่นนั้นก็ทลายลงอย่างไวเพราะคำพูดคำจาอันร้ายกาจของนังดำเพื่อนสาว
   

“โถ่อีเป็ด แกก็ใจเย็นๆ สิ เดี๋ยวมันก็ต้องมีทางออกแหละน่ะ!” ชายหนุ่มหน้าหวานว่าอย่างหงุดหงิด เห็นผื่นแดงๆ เต็มสองแขนแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด
   

[ก็เมื่อกี้ใครหน้าไหนมันบ่นเหมือนจะตายแล้ว]
   

“ก็ไม่ได้ถึงขั้นจะตายสักหน่อย ก็คนไม่เคยทำงานหนักๆ แบบนี้นี่” เรียวจันทร์ว่าเสียงอ่อยและทำหน้างอหน่อยๆ
   

[งั้นถ้าแกคิดจะสบายให้ผู้ชายช่วยใช้หนี้ให้ แกก็ต้องสตรองค่ะ แล้วอย่าลืมสตรองเผื่อตอนเป็นทาสสวาทเสี่ยทัพด้วยนะ] เรียวจันทร์หัวเราะกิ๊กกั๊ก รู้สึกขำกับประโยคนี้มากจริงๆ ได้ยินแล้วมันจี้ใจ
   

[หัวเราะไปเถอะย่ะ โดนจับขังเป็นนกในกรงทองของเสี่ยเขาขึ้นมาจริงๆ แกจะใบ้กินเอา อ้อ แล้วฉันจะบอกแกว่า ความรู้สึกของคนอื่นไม่ใช่ของเล่นนะ แกทำร้ายแจเร็ดคนนึงแล้ว แกอย่าทำร้ายคุณเขี้ยวเขาอีกคนเลย] เรียวจันทร์กะพริบตาปริบๆ ทำหน้าอึกอัก
   

“แหม แกทำอย่างกับไอ้เขี้ยวกุดมันจะชอบฉันงั้นแหละ”
   

[ใครจะไปรู้อนาคตวะแก บางทีพอแกกับเขาได้เสียกัน เขาอาจจะติดใจแก รักแกจนโงหัวไม่ขึ้น แต่ถ้าเขารู้ว่าแกใช้เขาเป็นเครื่องมือนะแกเอ๊ย ความน้ำเน่าละครไทยบังเกิดกับแกแน่] พ่อคนหน้าสวยเบ้ปากหน่อยๆ แล้วกลอกตาเซ็ง
   

“โอ๊ย ให้มันเน่าจริงๆ เถอะ ทุกวันนี้เอาแต่กรอกหูฉันทุกวันว่าไม่คิดเอาฉันเป็นเมีย” เป็ดหัวเราะเสียงเล็กเสียงน้อย แล้วก็นึกถึงที่ตัวเองพูด
   

[เออ แล้วแจเร็ดเป็นไงมั่ง] คนถูกถามถอนหายใจสีหน้าไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่
   

“ก็ยังคุยกันอยู่นั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้สวีตอะไรมากหรอก ฉันไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับเขานี่” เรียวจันทร์ถอนหายใจ สีหน้าแสดงออกถึงความรู้สึกเพียงนิด นิดแบบนิดจริงๆ
   

[คนดีๆ อย่างแจเร็ดไม่น่ามาเจอแกเลย] เป็ดว่าด้วยน้ำเสียงเศร้าสลดประหนึ่งว่าชีวิตแจเร็ดรันทดมากที่ได้มาเจอกับเขา
   

“จ้ะ อีเป็ด ฉันมันเลว ฉันมันนังเรียวคนเริงเมือง”
   

[ก็รู้ตัวนี่] เป็ดหัวเราะ เรียวจันทร์จิ๊ปาก แต่ในใจก็รู้สึกไม่ดีเรื่องแจเร็ดอยู่เหมือนกัน แจเร็ดเป็นคนดีอย่างที่เป็ดว่าซึ่งไม่น่ามาเจอนางจริงๆ นั่นแหละ แล้วตอนนี้นางก็ยังกั๊กพ่อหนุ่มอิตาลีเอาไว้อีก วันที่แจเร็ดบอกนางด้วยรอยยิ้มเศร้าว่ารู้ดีว่าเรียวจันทร์คงไม่จริงจังกับตัวเอง เพราะนางคงมีใครคนอื่นอยู่ที่ไทยไปแล้ว เรียวจันทร์ได้แต่น้ำท่วมปาก มองรอยยิ้มไม่เต็มปากบนใบหน้าหล่อๆ ของหนุ่มอิตาลีด้วยความรู้สึกหวิวใจ


ก๊อกๆ
   

“นี่คุณ” เรียวจันทร์ที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ พลางหมุนโทรศัพท์ในมือเล่นหันไปมองทางประตูห้องนอน พอตั้งสติได้ว่าเมื่อกี้คือเสียงของใครก็ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู
   

“มีอะไร” คนหน้าสวยถามเสียงไม่ค่อยจะสบอารมณ์นัก คนหน้าเคราทำหน้าหน่ายแล้วพูดต่อเสียงเซ็ง
   

“ป๋ากับแม่ให้มาตามไปกินข้าวที่บ้าน” เรียวจันทร์บิดปากเล็กน้อย
   

“ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวฉันไปกินกับดินที่ครัวคนงานเอง นายคงไม่เต็มใจให้ฉันไปนักหรอก” อันนี้ไม่ได้เล่นตัวจริงจังนะ พูดไปเพื่อให้ดูแบบว่าเป็นนางเอกผู้หยิ่งทระนงไปงั้นแหละ
   

“อืม ก็จริง ไม่ได้อยากให้ไป แต่ขัดคำสั่งบุพการีไม่ได้” คมเขี้ยวว่าหน้าตาย เรียวจันทร์สะบัดตามองขวางนิดหน่อยแล้วเดินเบียดกับคนตัวโตที่ยืนค้ำขอบประตูห้องนอนอยู่ออกไป
   

“แล้วจะไปมั้ยน่ะ จะสองทุ่มแล้ว กินดึกเดี๋ยวอ้วน” คมเขี้ยวยิ้มเยาะมุมปาก เรียวจันทร์ถลึงตาใส่นิดหนึ่งแล้วแอบสำรวจชุดนอนของพ่อคาวบอยที่ใส่เสื้อยืดคอกลมกับกางเกงนอนลายสก็อตเนื้อนุ่ม
   

ชุดนอนถอดง่ายดีนะ
   

“แล้วก็ทำท่ามาก”
   

“มากตรงไหน แล้วรู้ได้ไงว่าท่ามาก เคยลองกับฉันบนเตียงแล้วเหรอ” คมเขี้ยวหมวดคิ้วฉับ มองเรียวจันทร์อย่างหวาดกลัว
   

“คนอะไรวะคิดแต่เรื่องแบบนั้น พูดจาสองแง่สองง่ามตลอด”
   

“คนที่รักนายไง” ว่าแล้วก็ขยิบตาวิ้งหนึ่งทีให้ไอ้เขี้ยวกุดมันทำหน้าสยองเล่นๆ
   

“แม่งน่ากลัว” คนตัวสูงกว่าก้าวเท้าเดินนำออกไปจากออฟฟิศทันที เรียวจันทร์มองตามแผ่นหลังกว้า เบ้ปากไล่หลังก่อนจะเดินตามไป


   
   
คมเขี้ยวพาเรียวจันทร์ขึ้นไปบนบ้านใหญ่ พาเดินเข้าไปในครัวที่ผู้สูงวัยทั้งสองนั่งรออยู่ก่อนแล้ว พอหันไปมองในครัวก็เห็นดินกำลังจัดแจงยกอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ หนุ่มล่ำจอมซื่อยกยิ้มให้เรียวจันทร์ที่ส่งยิ้มไปให้ก่อน คมเขี้ยวสลับมองทั้งสองคนแล้วเบ้ปากเล็กน้อย เรียวจันทร์ทันเห็นก็เลยขยับปากแบบไม่มีเสียง
   

“อย่า-หึง-สิ” คมเขี้ยวทำท่าอ้วกเบอร์ใหญ่มาก แต่เรียวจันทร์ก็ด้านพอที่จะทำหน้าทะเล้นแถมยังยกมือทำท่าไอเลิฟยูไปให้อีกฝ่าย คมเขี้ยวรีบยกนิ้วกลางให้เรียวจันทร์อย่างไว หนุ่มหน้าหวานถลึงตาใส่
   

“ไอ้เขี้ยวเป็นไร ท้องเหรอ” เมฆาหันไปเห็นลูกชายทำท่าพะอืดพะอมเลยถามด้วยความสงสัย
   

“เปล่าป๋า แค่รู้สึกว่าบรรยากาศวันนี้มีพิษ” สองสามีภรรยารับรู้ได้ทันทีว่าลูกชายแซะใคร พอหันไปมองคนโดนแซะก็เห็นว่าอีกฝ่ายนั่งทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมใสๆ อยู่ตรงข้ามกับลูกชายตัวเอง
   

ก็คงจะมีแต่พ่อกับแม่เขาเท่านั้นแหละมั้งที่ไม่ทันไอ้จิ้งจอกพันหน้าอย่างไอ้จันทร์ไรเปลี่ยนสีหน้าไปมา
   

“เขี้ยว อีกแล้วนะ” คุณบัวปรามลูกชาย คมเขี้ยวทำหน้าหน่ายและกลอกตา พอจ้องไอ้หน้าหวานที่นั่งตรงข้ามตัวเองก็ต้องทำตาดุใส่เพราะมันแลบลิ้นมาให้อย่างเร็วจนผู้ใหญ่อีกสองคนไม่ทันเห็น
   

“งั้นเดี๋ยวดินไปก่อนนะครับ”
   

“ไปไหนล่ะไอ้ดิน กินด้วยกันนี่แหละ มาๆ นั่งข้างไอ้เขี้ยวไป”
   

“หูย ไม่เป็นไรครับ ผมลงไปกินกับไอ้พวกนั้นแหละ” ดินว่าอย่างนอบน้อม ว่าด้วยความเกรงใจอย่างมากล้นจนเรียวจันทร์รู้สึกว่าตัวเองหน้าด้านเหลือเกิน
   

“ทำเป็นไม่เคยกินด้วยกันไปได้ แค่วันนี้มีหนูเรียวมาเสริมอีกคนเท่านั้นเอง” ผู้หญิงคนเดียวบนโต๊ะอาหารเอ่ยอย่างมีเมตตา หนุ่มผิวคล้ำเหมือนชื่อหันไปมองผู้ชายหน้าสวยแล้วยิ้มแห้งและมองอย่างเกรงใจ
   

“ถ้าดินไม่กินด้วยกัน ฉันจะถือว่าดินรังเกียจฉัน”
   

“ไอ้ดินมันก็รังเกียจคุณนั่นแหละ มันถึงได้ไม่อยากกิน” เรียวจันทร์สะบัดหน้าไปมองไอ้เขี้ยวกุด ขมวดคิ้วฉับพร้อมกับจ้องหน้าไอ้เคราแพะตาแทบถลนออกมา
   

“เอ้ยยย เปล่านะพี่เขี้ยว ผมไม่ได้รังเกียจคุณเรียวเลย ไม่จริงนะครับคุณเรียว” ดินรีบหันไปส่ายหัวหน้าตั้งกับผู้ชายหน้าหวานที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นยิ้มหวานจนคมเขี้ยวเบ้ปากอย่างหมั่นไส้
   

“ฉันรู้ว่าดินไม่รังเกียจฉันหรอก คนแถวนี้มากกว่าที่เอาความรังเกียจของตัวเองไปแบ่งปันให้คนอื่น” เรียวจันทร์เบ้ปากใส่ไอ้เขี้ยวกุดที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด
   

“จะขมวดให้หน้าย่นเป็นหมาบูลด๊อกเลยรึไงไอ้เขี้ยว” คนเป็นพ่อเอ่ยแซวลูกชายด้วยรอยยิ้ม คมเขี้ยวคลายใบหน้าตัวเองออกแล้วถอนหายใจเซ็งๆ
   

“ป๋าเข้าข้างไอ้นี่อีกแล้วนะ”
   

“เข้าข้างอะไร ยังไม่ทันได้พูดอะไรสักหน่อย” เมฆาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไอ้เจ้าลูกชายจิ๊ปากหน้าตาเซ็ง หยิบช้อนขึ้นมาตักกับข้าวใส่จานข้าวตัวเอง เมฆากับคุณบัวมองหน้ากันแล้วยิ้มขำ
   

“ดิน นั่งสิ ถ้าไม่อยากนั่งข้างนายเขี้ยวปรักหักพัง นั่งข้างฉันก็ได้นะ น่าจะปลอดภัยกว่าเยอะเลย”
   

“นั่งข้างคุณก็เหมือนไอ้ดินนั่งข้างงูเห่านั่นแหละ”
   

“เอ๊ะ เอะอะว่าฉันเป็นงูตลอดเลย นายมีจิตผูกพันกับงูรึไงเฮอะ!” เรียวจันทร์เบิกตากว้างดุๆ มองไอ้คนตรงข้ามตัวเองแล้วยกช้อนชี้หน้า แต่พอนึกได้ว่ามีผู้ใหญ่อีกสองคนนั่งอยู่ด้วย นางเลยรีบลดช้อนลงแล้วปรับสีหน้าให้ดูเรียบร้อย คมเขี้ยวยิ้มมุมปากเยาะๆ
   

“เก็บไม่ทันแล้วไอ้หน้าไหว้หลังหลอกของคุณน่ะ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างหงุดหงิด
   

“แม่นึกว่าดูละครไทยสมัยสาวๆ ที่พระเอกกับนางเอกเป็นคู่กัดกันแล้วก็รักกัน” คุณบัวเอ่ยแซวทั้งสองคน คมเขี้ยวเบิกตากว้างอย่างตกใจแล้วหันไปมองแม่ตื่นๆ ส่วนเรียวจันทร์หันไปยิ้มกว้าง
   

“แหม คุณแม่ เรียวก็หวังอยู่เหมือนกัน” เมฆาหัวเราะชอบใจกับท่าทีทะเล้นของลูกเพื่อนสนิท เรียวจันทร์ยิ้มตาหยีก่อนจะหันไปกวักมือเรียกให้ดินมานั่งข้างๆ ตัวเองไปด้วย หนุ่มล่ำจอมซื่อเดินไปนั่งข้างๆ คุณเรียวอย่างว่าง่าย
   

“แม่! อยากมีลูกสะใภ้เป็นผู้ชายรึไง คิดอะไรอยู่เนี่ย”
   

“อะไรเขี้ยว แม่ยังไม่ทันคิดเลยนะว่าหนูเรียวเป็นลูกสะใภ้แล้ว นั่นพูดออกมาเองนะ” คมเขี้ยวแยกเขี้ยว ส่งเสียงฮึ่มฮั่มในลำคอ สร้างเสียงหัวเราะให้กับบิดามารดาของตัวเองรวมทั้งดินด้วย ส่วนไอ้คนต้นเรื่องนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นไอ้เขี้ยวกุดโดนต้อน
   

“พี่เขี้ยวชอบคุณเรียวเหรอ” ไอ้ดินถามซื่อๆ ไม่ได้ถามเพราะจะแซว คนเป็นลูกพี่ทำหน้าเอือม ไอ้ลูกน้องพอเห็นลูกพี่ไม่ตอบก็ยิ้มแล้วตอบเอง
   

“คุณเรียวก็น่ารักดีนะพี่”
   

“ดินนนน” เรียวจันทร์ทำท่าบิดตัวเขินอายข้างละสี่สิบห้าองศาอย่างน่าเอ็นดูในสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองและเจ้าของคำชม แต่มีเพียงคนเดียวที่ทำหน้าสยองขวัญกับคำชมนั้นและจริตที่เรียวจันทร์แสดงออก
   

“ขนลุก!” คมเขี้ยวกระแทกเสียงใส่คนตรงข้าม เรียวจันทร์ลอยหน้าลอยตาถามกลับ
   

“ปวดขี้เหรอ?!”
   

“เออ! นึกว่าส้วมอยู่ตรงข้ามตัวเอง” เรียวจันทร์กำลังจะอ้าปากว่าต่อ แต่ก็โดนเบรกเอาไว้ก่อน
   

“พอเท้อ ทะเลาะกันจนข้าวจะบูดแล้ว” ประมุขของครอบครัวพยัคฆ์เกรียงไกรว่าอย่างอ่อนใจ นี่ถ้าเขาไม่ยอมหยุดสองคนนั้น คิดว่าวันนี้คงกินข้าวเสร็จกันสักเที่ยงคืนก็เป็นได้
   

พอเบรกความร้อนระอุของลูกชายตัวเองและลูกชายเพื่อนสนิทได้แล้ว บรรยากาศการกินข้าวก็เข้าสู่สภาวะปกติ คมเขี้ยวกับเรียวจันทร์นั่งกินใครกินมัน เรียวจันทร์หันไปคุยกับดินอย่างเป็นมิตร คมเขี้ยวก็กำลังคุยกับพ่อและแม่ตัวเองเรื่องในฟาร์มไปเรื่อย
   

“เออ เสี่ยจอมทัพเขายังติดต่อมาอยู่รึเปล่า” เรียวจันทร์ชะงักไปนิดหนึ่งแต่ก็ยังคงฟังดินเล่าเรื่องการรีดนมวัวด้วยหูซ้าย ส่วนหูขวากำลังผึ่งฟังเรื่องที่ทางผู้ใหญ่กำลังคุยกัน
   

“ก็เรื่อยๆ แหละป๋า เพิ่มราคาให้จนสูงลิบลิ่ว แต่ผมบอกไปแล้วว่าเดี๋ยวรอคุยกับเจ้าของที่เขาเอง” คมเขี้ยวเหลือบมองเรียวจันทร์แวบหนึ่ง แต่เจ้าตัวไม่ทันรู้ตัวเพราะกำลังหันไปคุยกับไอ้ดินอยู่
   

“แต่เขาไม่เชื่อมั้งว่าเราไม่ใช่เจ้าของที่ดิน”
   

“อย่างนั้นเลยเหรอดิน…” เรียวจันทร์ว่าเสียงแผ่ว สมองเริ่มตีกันจนงง และตอนนี้กำลังงงไม่เข้าใจว่าไอ้เขี้ยวกุดพูดว่าอะไร ใครเป็นเจ้าของที่ดินงั้นเหรอ
   

“อย่าเพิ่งบอกล่ะ” เมฆาว่าเสียงเข้ม ชำเลืองมองเรียวจันทร์ที่นั่งหัวเราะกับมุกตลกอะไรสักอย่างของเจ้าดิน
   

“หนูเรียว มาอยู่ที่นี่อาทิตย์กว่าแล้ว เป็นไงบ้าง” พ่อของคมเขี้ยวถามพลางตักปลาทับทิมทอดใส่จานข้าวตัวเองและตามด้วยตักน้ำจิ้มราดชิ้นปลา เรียวจันทร์หันไปยิ้มแบบเหลอหลาเพราะกำลังคุยกับดิน แต่ก็ไม่ถึงขั้นฟังไม่ทันว่าเมื่อกี้อีกฝ่ายถามว่าอะไร
   

“อ๋อ ดีครับคุณป๋า เรียวชอบบรรยากาศที่นี่นะ อากาศเย็นมากกว่าร้อน ต้นไม้เยอะดี แต่เรียวก็ยังเดินดูไม่ทั่วหรอกนะครับ”
   

“ถ้าว่างๆ ก็ลองเดินๆ ดูให้ทั่วนะ…” เมฆาว่าแล้วหันไปมองลูกชายตัวเอง “…ว่างๆ ก็พาน้องเที่ยวฟาร์มบ้าง”
   

“ผมไม่ว่างหรอก ถ้าเขาอยากไปก็ให้ไปเอง ขาก็มี เดินไปสิ” ด้วยความหมั่นไส้อันรุนแรง เรียวจันทร์เลยยกเท้ากระแทกหน้าแข้งไอ้เขี้ยวกุดใต้โต๊ะทานอาหารเต็มแรง อีกฝ่ายหน้าเหยเกและพยายามกลั้นเสียงร้องที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดออกมา
   

“ปากแกนี่มันน่าให้ไอ้เดือนหงายถีบสักที” คนเป็นพ่อว่าอย่างอ่อนใจ ไม่ได้สนใจสีหน้าเจ็บปวดของลูกชายตัวเองเลยสักนิด
   

“อุ๊ย แล้วแขนหนูเรียวไปโดนอะไรมาคะ เป็นผื่นแดงเต็มเลย” คุณบัวที่หันไปเห็นสิ่งผิดปกติบนแขนขาวๆ ของเรียวจันทร์เอ่ยถามอย่างตกใจ
   

“จริงด้วยแม่บัว แขนคุณเรียวเหมือนเป็นลมพิษเลย” เรียวจันทร์ตาโตกับคำว่าลมพิษทันที
   

“ละ… ลม ลมพิษเลยเหรอ”
   

“ไหน แม่ขอดูหน่อย” คุณบัวว่าพลางเขยิบเข้าไปใกล้คนตัวบาง จับแขนทั้งสองข้างขึ้นมาดูอย่างสำรวจ สามหนุ่มที่เหลือมองตามอย่างสนใจ จะมีก็แต่คมเขี้ยวที่รู้สึกเสียววาบๆ ตามสันหลังด้วย
   

“แม่ขอโทษนะคะ แต่ขอดูผิวตรงอื่นด้วยได้มั้ย” เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกๆ ถลกเสื้อยืดขึ้นจนเห็นผิวขาวเนียนละเอียดบริเวณหน้าท้อง คมเขี้ยวเบิกตากว้างมองอย่างตะลึง ไม่ได้ตะลึงเพราะความขาวเนียนหรือหุ่นอันบอบบาง แต่เพราะผื่นแดงเถือกบนผิวขาวๆ นั่นต่างหาก
   

“น่าจะยังไม่ถึงขั้นลมพิษ แต่หนูเรียวแพ้อะไรรึเปล่าลูก” เรียวจันทร์ดึงเสื้อลง หันไปมองคมเขี้ยวที่หน้าคร้ามแดดที่ตอนนี้แทบจะซีดเป็นกระดาษเอสี่
   

“วันนี้เรียวไปช่วยพวกพี่ๆ คนงานยกกองฟางมาครับ” เมฆากับคุณบัวตาโตทันที
   

“ห้ะ?! ไปยกกองฟาง ยกทำไมหนูเรียว” เรียวจันทร์ทำหน้าซื่อตาใส ชี้นิ้วไปที่คมเขี้ยวที่นั่งหน้าหดเหลือกี่นิ้วแล้วก็ไม่รู้
   

“ก็คุณเขี้ยวสั่ง เรียวเลยทำตามครับ”
   

พรึ่บ!
   

สามคนที่เหลือบนโต๊ะอาหารหันไปมองทางไอ้เคราเป็นตาเดียวเล่นเอาเรียวจันทร์ต้องกลั้นขำ เพราะหน้าตาไอ้เขี้ยวหักตอนนี้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างแท้จริง
   

“ไอ้เขี้ยว” ประมุขของบ้านว่าเสียงเย็นและมองหน้าเจ้าลูกชายอย่างคาดคั้น คมเขี้ยวขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะทำท่าหงุดหงิด
   

“แหม่ป๋า ก็ต้องทำงานทุกอย่างได้เปล่าวะ”
   

“อันนี้เกินไปแล้วเขี้ยว ไม่เห็นรึไงว่าผิวเรียวจันทร์เขาบอบบางขนาดไหน”
   

“ไม่เห็นหรอกแม่ ไม่เคยสัมผัสและไม่คิดจะสัมผัสด้วย”
   

“ยังจะหน้าด้านตอบอีก เกิดเขาแพ้รุนแรงขึ้นมา แกจะทำยังไง” คมเขี้ยวขมวดคิ้วแน่น มองหน้าพ่อกับแม่ตัวเองแล้วถอนหายใจเซ็ง เข้าข้างไอ้จันทร์ไรนั่นอีกแล้ว เริ่มสงสัยละว่าเขาอาจไม่ใช่ลูกของบ้านนี้ อาจจะมีการสลับตัวกันเกิดขึ้นในอดีต
   

“ครับๆ ขอโทษครับที่ทำร้ายลูกรักคนใหม่ของบ้านนี้”  เขาว่าเซ็งๆ หมดอารมณ์จะกินข้าวต่อทั้งที่เพิ่งกินไปได้สี่ห้าคำเท่านั้นเอง
   

“พี่เขี้ยวพูดเหมือนน้อยใจเลย” คมเขี้ยวหันไปมองไอ้ดินตาขวางจนอีกฝ่ายสะดุ้ง ไอ้นี่ก็ซื่อมากไปละ
   

“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จทายาให้หนูเรียวด้วยนะ โทษฐานที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้”
   

“โห่แม่ มันก็ทำเองได้หรอก ไม่ได้แขนด้วนซักหน่อย” คุณบัวไม่เถียงอะไรกลับ ทำแค่เพียงกดหน้าลงเล็กน้อยแล้วจ้องตาดุๆ คมเขี้ยวทำหน้าอึดอัดแต่ก็ยอมเงียบไม่กล้าเถียงมารดา
   

“ทนไหวมั้ยหนูเรียวหรือจะทายาก่อน”
   

“กินข้าวก่อนก็ได้ครับป๋า” คนถามพยักหน้ารับน้อยๆ
   

“ก็ดีเหมือนกันจะได้กินยาแก้แพ้ด้วย” หญิงสาวเดินอ้อมโต๊ะไปตรงตู้ยาของบ้าน หยิบแผงยาแก้แพ้ออกมาหนึ่งแผง เดินกลับมาที่โต๊ะแล้วยื่นให้เรียวจันทร์ อีกฝ่ายยกมือรับไหว้ วางไว้ข้างตัวก่อนจะนั่งทานข้าวต่อ
   

นางนั่งอมยิ้มขำเพราะเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของคมเขี้ยว อีกฝ่ายลุกขึ้นเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร เมฆากับคุณบัวมองตามลูกชายแล้วมองตากันสักพัก ก่อนจะกินข้าวกันต่อ โดยที่ทั้งสองรู้ว่าเว้นไว้สักพักค่อยไปง้อไอ้เคราขี้งอน
      
V
v
v
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/100%:14.04.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 14-04-2016 18:52:03
V
v
v



“เอ้า! ถ้าเสร็จแล้วก็รีบมานั่งนี่ จะได้ทายา จะได้ไปนอนสักที!” หลังจากช่วยคุณแม่ล้างจานและเก็บโต๊ะอาหาร เรียวจันทร์ก็กล่าวลาผู้ใหญ่ทั้งสองคนไปนอน โดยที่เจ้าลูกชายของบ้านออกไปนั่งรอหน้าหงิกตรงโต๊ะระเบียงหน้าบ้านแถวชานบันไดที่จะลงไปประตูรั้วของบ้านโดยมีดินนั่งอยู่เป็นเพื่อน
   

“ใจเย็นได้มั้ยเนี่ย เห็นมั้ยว่ากำลังก้าวขาเดินไป” เรียวจันทร์ว่าอย่างหงุดหงิดไม่แพ้อีกฝ่าย เดินไปนั่งตรงโต๊ะไม้สักสีน้ำตาลริมขอบระเบียงเหล็กใกล้ๆ กับไอ้เขี้ยวกุด ก่อนจะแบมือออกไปขอกระปุกยา
   

“ทาเองละกัน”
   

“ฉันก็ไม่ได้คิดจะขอน้ำใจจากคนอย่างนายหรอก” พูดแล้วเบ้ปาก อีกฝ่ายแค่ทำหน้าเซ็ง ดินนั่งมองทั้งสองคนหน้าซื่อ แววตางงไม่เข้าใจว่าทำไมสองคนนี้ต้องแง่งๆ ใส่กันขนาดนี้ มีใครไปตีหน้าญาติฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก่อนหรือเปล่า
   

เรียวจันทร์เขย่าขวดยาสามสี่ทีแล้วเปิดฝาเทยาน้ำสีชมพูกลิ่นเหมือนแป้งเด็กละลายน้ำใส่ฝ่ามือขวา เอาไปลูบแขนซ้ายทั้งแขนจนผิวเป็นสีชมพูอ่อน ก่อนจะสลับข้างทำแบบเดียวกันกับแขนอีกข้าง
   

“คุณเรียวกินยาแก้แพ้ไปยังครับ” ดินถามเสียงนุ่ม เรียวจันทร์ทำหน้านึกขึ้นได้
   

“เออ ยังเลยอะ” พูดไปก็ล้วงมือเข้าไปทายาตรงท้องกับหน้าอกของตัวเอง
   

“งั้นเดี๋ยวผมไปเอามาให้นะครับ” ดินพูดพร้อมลุกขึ้นยืน เรียวจันทร์หันไปยิ้มสวยเป็นการขอบคุณ ทำให้ดินหน้าแดงหน่อยๆ ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในบ้าน
   

“โปรยเสน่ห์เก่งเหลือเกินนะ” คมเขี้ยวที่เห็นลูกน้องตัวเองเขินรอยยิ้มหวานจากไอ้หน้าหวานก็อดจะแขวะไม่ได้
   

“ทำไมอะ ก็มีให้โปรย” เรียวจันทร์ว่าอย่างเย่อหยิ่งหน่อยๆ และพยายามเอื้อมมือไปทายาด้านหลังของตัวเอง แต่ก็เอื้อมได้ลำบากลำบนเหลือเกิน คมเขี้ยวเห็นแบบนั้นก็ทำหน้าเอือม แต่ก็ยื่นมือไปดึงขวดยามาไว้ในมือ
   

“หันหลังไป” เรียวจันทร์ยักคิ้วสองข้างแวบหนึ่ง นั่งหันหลังให้อีกฝ่ายพร้อมดึงเสื้อขึ้นมากองไว้ตรงหน้าอก คมเขี้ยวมองผิวขาวเนียนเกินชายแล้วนึกแอบทึ่งในใจว่าดูแลตัวเองดีอะไรขนาดนั้น ขนาดมีผื่นแดงเต็มหลังยังรู้เลยว่าผิวจริงเนียนละเอียดและขาวใสขนาดไหน เผลอๆ ขาวอมชมพูด้วยซ้ำ
   

“นี่ๆ อย่ามัวแต่ตะลึง ฉันรู้ว่าผิวฉันสวย แต่ไม่ต้องตะลึงนานมากก็ได้” คมเขี้ยวผงกหน้าขึ้นไปมองเสี้ยวหน้าสวยหวานที่หันมาเหลือบมอง เขาบิดปากเล็กน้อย จัดการเหยาะยาจากขวดไปทั่วหลังของเรียวจันทร์ก่อนจะยื่นมือไปลูบหยดยาให้มันเนียนไปกับผิว
   

ป้าบ ป้าบ ป้าบ!
   

“เฮ้ยๆ ไม่ต้องตีแรงขนาดนั้น ยาไม่ซึมเข้าไปข้างในหรอกพ่อคุณ” คมเขี้ยวแอบยิ้มขำตรงมุมปาก เขาแกล้งเอามือตีหลังเนียนๆ นั่นดังลั่นระเบียงจนผิวขาวขึ้นรอยแดงชัดเจน ช่างบอบบางเสียเหลือเกินแม่คุณนาย
   

“ยามาแล้วครับคุณเรียว” ดินเดินออกมาพร้อมยากับน้ำหนึ่งแก้ว เรียวจันทร์สวมเสื้อกลับเข้าไปตามเดิม หันตัวไปรับน้ำกับยา ยกน้ำดื่มแล้วหย่อนยาตามลงไป
   

“อ้า… ขอบใจมากนะดิน” ดินยิ้มอย่างจริงใจ เรียวจันทร์ดื่มน้ำต่อจนหมดแก้วแล้ววางไว้บนโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
   

“ฉันไปนอนละ ฝันดีนะนายคมเขี้ยวหน้าเบี้ยวหน้าบูด” คมเขี้ยวขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงเลยทำหน้าเอือมๆ โบกมือปัดไล่อีกฝ่ายให้ไปไกลๆ เรียวจันทร์เบ้ปากใส่แล้วหมุนตัวเดินลงบันไดนำดินไปก่อน
   

“ไปก่อนนะพี่เขี้ยว”
   

“เออ ส่งให้ถึงห้องอะ”
   

“ครับพี่” ดินยิ้มแล้วรีบเดินตามเรียวจันทร์ไป คมเขี้ยวมองแผ่นหลังของทั้งสองคนที่กำลังเดินไปที่ประตูรั้วของบ้านด้วยสายตานิ่ง พอสองคนนั้นหลุดออกจากประตูรั้วบ้าน เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านตัวเอง


   

“ขอบใจมากนะดินที่มาส่ง กู๊ดไนท์นะจ๊ะ” เรียวจันทร์ยิ้มหวานจนดินเขินทำตัวไม่ถูก สร้างเสียงหัวเราะให้กับเรียวจันทร์
   

“ฝันดีนะครับคุณเรียว”
   

“นี่ มาเป็นแฟนฉันมั้ย ดินน่ารักอะ” ขนาดว่าผิวคล้ำจนดำเมื่อมยังเห็นชัดว่ามีรอยแดงบนใบหน้า ไอ้ดินกะพริบตาปริบมองหน้าคนสวยที่ยืนยิ้มพิมพ์ใจอยู่ตรงหน้า
   

“เอ่อ ดินไม่อาจเอื้อมหรอกครับ” เรียวจันทร์ที่กำลังยิ้มถึงกับตาโตอ้าปากหวอ
   

“โห ยังมีคนที่คิดแบบนี้อยู่อีกเหรอ นี่มันแนวความคิดยุคโบราณมากนะ ดิน ฉันไม่ได้สูงส่งอะไรเลย และจำไว้นะ ถ้าเกิดดินรักใครสักคน อย่าคิดแบบนี้ คนทุกคนมีค่าเท่ากันหมด อะ โอเค ประเทศเราอาจจะดัดจริตสักหน่อยกับการบอกว่าไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ ไม่แบ่งฐานะ แต่จริงๆ แล้วตรงข้ามไปหมด แต่ดินต้องไม่ดูถูกตัวเองนะจำเอาไว้” เรียวจันทร์บ่นซะยืดยาว แต่ก็ไม่ได้บ่นจริงจังเหมือนคนแก่บ่นเด็กๆ หรอก เพราะเรียวจันทร์จะไม่มีทางยอมทำให้ตัวเองดูเป็นนังเก้งสาวแก่ๆ คนหนึ่งแน่นอน
   

ไอ้ดินมองเรียวจันทร์อย่างประทับใจ มันยิ้มน้อยๆ มีแววเขินอยู่ในดวงตาสุกใสคู่นั้น เรียวจันทร์มองอีกฝ่ายแล้วยิ้มปากบางเฉียบ ยกมือขวาขึ้นไปตบต้นแขนล่ำหนาของอีกฝ่ายเบาๆ
   

“กล้ามแน่นๆ แบบเนี้ย เรียวชอบ” ไอ้ดินยิ้มกว้างเขินจัด มันก้มหน้าหลบสายตาแพรวพราวคุณเรียวจันทร์สุดสวย
   

“ผม… ผมไปไม่เป็นแล้ว” เรียวจันทร์หัวเราะสดใส มองนายดินดวงตาเป็นประกาย รู้สึกประทับใจกับความใสซื่อของผู้ชายตัวโตคนนี้เหลือเกิน ภายนอกอย่างโหด แต่ภายในมุงมิ้งน่าเอ็นดูมาก
   

“น่ารักจริงเชียว มีแฟนรึยังเนี่ย” ไอ้ดินรีบส่ายหน้าทันที
   

“ยังครับ ผมโสด” เรียวจันทร์แสร้งยิ้มยั่วยวน
   

“แบบนี้ฉันก็มีสิทธิ์น่ะสิ” ไอ้ดินก้มหน้าเขินอีกครั้ง มันเม้มปากเบาๆ แล้วเงยหน้ามองคุณเรียวอีกครั้ง อีกฝ่ายยิ้มกว้างสดใส
   

“ก็มีครับ ผมยังไม่มีใครจริงๆ” เรียวจันทร์ยิ้มอ้าปากกว้าง ยกสองมือจับแก้มตัวเอง นางรู้สึกเขินจริงขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ที่เขินไม่ใช่เพราะชอบดินในความรู้สึกแบบนั้น แต่เขินเพราะความใสซื่อน่ารักของดิน
   

“โอยยย ดิน มีสิทธิ์เสียตัวได้ง่ายๆ เลยนะเนี่ย” ดินกะพริบตาปริบๆ มองอย่างไม่เข้าใจ เรียวจันทร์ยิ้มเอ็นดู ยกมือตบไหล่ขวาคนตัวหนาอีกที
   

“เอาล่ะ ไปนอนนะ พรุ่งนี้เจอกัน”
   

ไอ้ดินมองมือบางที่วางอยู่บนไหล่ตัวแล้วหันไปยิ้มน่ารักซื่อๆ กับเจ้าของมือ “ครับ ฝันดีนะครับคุณเรียว”
   

“เช่นกันจ้ะ” เรียวจันทร์ยกมือบ๊ายบายอย่างน่ารัก ไอ้ดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยกมือบ๊ายบายกลับไป ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากหน้าออฟฟิศของฟาร์มหรือห้องนอนคุณเรียวจันทร์ เดินกลับไปทางที่พักคนงานหรือตรงหมู่บ้านคาวบอยที่ไอ้ดินมักจะชอบไปนอนมากกว่าห้องนอนตัวเองในบ้านใหญ่ที่พี่เขี้ยวยกให้
   

เรียวจันทร์มองตามร่างหนาตัวสูงใหญ่แล้วยิ้มน้อยๆ นึกในใจว่านางรักและเอ็นดูดินเหมือนน้องชายมากกว่าจะคิดไปในทางนั้น ไม่คิดว่าจะมีคนใสซื่อบริสุทธิ์ได้เท่านี้ด้วย
   

เอ๊ะ หรือเพราะนางมันแจ๋นแหลนเกินไป จนไม่ชินกับความบริสุทธิ์นั้นนะ
   

กำลังคิดอะไรเพลินๆ และกำลังเปิดประตูออฟฟิศเพื่อจะเข้าไปห้องนอน เรียวจันทร์ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อมีมือใหญ่ๆ สากๆ มือหนึ่งปิดปากตัวเองไว้จากทางด้านหลัง
   

“เดินเข้าไปข้างในเงียบๆ ถ้าโวยวาย หน้าสวยๆ แหกแน่!” อี๋! ไอ้น่าเกลียด ไอ้โหด! บังอาจเอาหน้าสวยๆ ของฉันมาขู่กันเหรอ แบบนี้ฉันก็ต้องกลัวน่ะสิ


แล้วกลิ่นตัวเนี่ยจะแรงแข่งกับขยะเปียกเหรอ?! สกปรกที่สุด!



 

:hao7:

มาต่อแล้ววว ทำไมถึงชอบหายไปนานกับเรื่องนี้นะ T^T คือมันเป็นการเขียนสดตอนต่อตนอน แล้วเขียนสองเรื่อง ตอมจะแบ่งสมองยากมาก นับถือคนเขียนที่สามารถเขียนได้หลายๆ เรื่องอะ ทำได้ไงงง

แต่ยังไงก็มาต่อจนครบตอนนี้แล้วนะคะ พาขุ่นแม่เรียวจันทร์มาพบปะแฟนๆ แล้ว โดนนางเหวี่ยงไปเยอะมากเช่นกัน โทษฐานไม่สนใจเรื่องนาง มัวแต่ปั่นต้นฉบับน้องเอเลี่ยน 55555 มาแล้วค่ะคุณแม่ มาแล้ววว

ใครทำอะไรขุ่นแม่คะ จะมีใครปล้ำขุ่นแม่หรือเปล่า ขุ่นแม่จิเอาตัวรอดได้มั้ย แต่ก็เนาะ สวยๆ อย่างขุ่นแม่ก็ต้องมีผู้ชายหมายปอง ดูได้จากการที่นางไม่สะทกสะท้านเลยที่ถ้าหากต้องโดนเสี่ยทัพจับไปเป็นนกในกรงทอง แต่ก็ อ๊ะๆ มันก็ความคิดตอนนี้อะเนาะ พอรักกับพี่เขี้ยวแล้ว อาจจะไม่อยากไปก็ได้ใครจิไปรู้ววว -..-

เสี่ยทัพใจดีแค่บนเตียงเนาะ เหมือนที่เป็ดบอก เสี่ยก็คือเสี่ย อิทธิพลก็มี อำนาจก็มาก แค่เสี่ยยังไม่แสดงด้านนั้น ได้เห็นแต่ด้านหื่นๆ ของเสี่ยกับขุ่นแม่เรียว ฮี่ๆ แต่เสี่ยทัพใจดี (กับเด็กๆ) ค่าาา เป็นเด็กในสังกัดเสี่ย ไม่ต้องกลัวลำบาก คริๆ

ใครเจอคำผิดบอกได้นะคะ ขอบคุณมากๆ ที่ช่วยเช็ก แล้วก็ขอบคุณมากๆ ค่ะสำหรับคนอ่านที่ติดตามขุ่นแม่เรียวและพ่อเขี้ยวอยู่ ขอบคุณที่รักพวกเขาในแบบที่เขาเป็น ดีใจที่มีคนอ่านเรื่องนี้แล้วชอบสไตล์เรื่องแบบนี้ ชอบนายเอกแบบนี้ แสดงว่าเลเวลทางใจคุณสูงจริงๆ 55555

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/100%:14.04.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 14-04-2016 21:44:02
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/100%:14.04.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-04-2016 02:52:11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/100%:14.04.59:
เริ่มหัวข้อโดย: PingPong_Hunlay ที่ 15-04-2016 23:31:19
ใครรรรร อะไร ยังไง?????
พึ่งตามอ่านทันฮามาก555 #แม่ก็คือแม่
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/100%:14.04.59:
เริ่มหัวข้อโดย: lalaly ที่ 20-04-2016 10:14:00
 :z10:ถึงมาช้ายังงัยก็จะรออ่านเหมืินเดิม
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/100%:14.04.59:
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 21-04-2016 10:32:04
ขนาดฉากอันตรายยังฮาเลย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๘/100%:14.04.59:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 23-06-2016 15:40:10
มาต่อไวๆน๊า เค้ารออยู่ สนุกๆ :3123:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/50%:01.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-07-2016 00:18:55

คาถาที่ ๙ :: Charming devil. (นางมารทรงเสน่ห์) [50%]



   ร่างบางถูกร่างใหญ่หนาและชุ่มไปด้วยเหงื่อของใครสักคนดันเข้ามาในออฟฟิศและเป็นห้องนอนของนางด้วย เรียวจันทร์ทำหน้าหยี สีหน้าพะอืดพะอมรู้สึกขมคอยามที่แขนสัมผัสเหงื่อชุ่มโชกของอีกฝ่าย นางพยายามเบี่ยงตัวหลบหลีกร่างกายของผู้ชายอีกคน แต่ไอ้บ้าข้างหลังก็ยังคงเอาตัวเข้ามาแนบชิดนางราวกับสนิทสนมกันมานานแรมปี
   

“นี่! ปล่อยได้มั้ย จะสนิทชิดเชื้อกันมากไปละ หน้าแกฉันยังไม่เคยเห็นเลย!” ไม่รอให้มันปล่อยเอง แต่เรียวจันทร์กระทืบเท้าไอ้ตัวอับเต็มแรง
   

“โอ๊ย!” มันปล่อยมือออกจากแขนบางของเรียวจันทร์แล้วกระโดดเหยงด้วยความเจ็บ คนหน้าสวยสะบัดหน้าหันไปมองพร้อมกับกระเถิบหนีอย่างเร็ว
   

ไม่ใช่กลัวเพราะมันน่ากลัว แต่กลัวเพราะตัวมันชุ่มไปด้วยเหงื่อ!
   

“ฤทธิ์เยอะนักนะ…”
   

“…อ๊ะๆ” เรียวจันทร์ยกมือขวาเบรกคำพูดของอีกฝ่ายไว้ทันทีพร้อมกับเบ้ปากและทำหน้าพราวเล็กๆ
   

“อย่าเพิ่งบอกว่าเยอะ แค่นี้ยังเยอะไม่พอหรอก เห็นทุกมุมก่อนเสะแล้วค่อยว่าเยอะ กะอีแค่กระทืบเท้ามันยังแค่เบื้องต้นเท่านั้นละ” เรียวจันทร์กอดอก ปรายตามองอีกคนประหนึ่งว่าฝ่ายนั้นเป็นเด็กอมมือเพิ่งเรียนรู้โลกกว้าง ชายร่างใหญ่จ้องมองเรียวจันทร์อย่างขุ่นเคือง แต่แม่ร่างบางนางไม่ได้สนใจสักนิด
   

“แล้วนี่มีอะไร จะมาปล้น มาปล้ำ หรือทั้งปล้น ทั้งปล้ำ ถ้าทำสองอย่าง ขอปล้ำก่อนนะ อืมม กินได้ๆ” เรียวจันทร์สำรวจร่างกายกำยำของอีกฝ่าย พยักหน้ากับตัวเองอย่างพอใจ แม้จะหน้าตาธรรมดาออกแนวโจรผู้ร้ายไปสักหน่อย แต่หุ่นแซ่บสะท้านใจน่าดู จับอาบน้ำก่อนปล้ำก็น่าจะใช้ได้แล้วละ
   

“ผมก็อยากปล้ำเหมือนกัน แต่ติดที่เสี่ยทัพไม่อนุญาต” ชื่อที่เอ่ยออกมาจากริมฝีปากคล้ำหนาทำให้นายแบบหนุ่มชะงักกึก
   

“เสี่ยทัพ? เขามาเกี่ยวอะไรด้วย ไม่สิ เกี่ยวแน่ ไม่งั้นแกคงไม่เอ่ยชื่อ ถามใหม่ เขาเกี่ยวข้องกับแกยังไง” จะว่าเป็นคู่ขาของเสี่ยแกก็ไม่ใช่ เสี่ยไม่น่าจะนิยมร่างบึกและถึกทึนแบบนี้นะ
   

“ผมเป็นคนที่เสี่ยทัพส่งมาอยู่ที่นี่ก่อนหน้าคุณสามเดือน” เรียวจันทร์เบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ที่ตะลึงก็เพราะว่าหมอนี่มาอยู่ที่นี่ได้ตั้งสามเดือนแล้วต่างหาก
   

“อยู่มาสามเดือน? แล้วทำอะไรไปแล้วบ้าง เสี่ยเขาให้แก เอ่อ นายก็ได้ เสี่ยเขาให้นายทำอะไรไปแล้วบ้าง” นางถามด้วยอาการใจเต้นแผ่วๆ กำลังงงว่าตัวเองจะตื่นเต้นทำไม
   

คนถูกถามทำหน้าไร้อารมณ์แล้วยักไหล่ “ตอนนี้ยัง แค่ทำตัวให้เป็นพนักงานของฟาร์มนี้ให้ดีที่สุดก่อน เดี๋ยวคำสั่งจะมาอีกที”
   

เรียวจันทร์หรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้ใจ กำลังจะนึกอะไรต่อ แต่ก็ดันมีความคิดบางอย่างแทรกเข้ามาอย่างฉับพลัน นายแบบหนุ่มเบิกตากว้างและกระเถิบเข้าไปมองหน้าลูกน้องเสี่ยทัพใกล้ๆ อีกที แล้วนางก็นึกออก
   

“ฉันเคยเห็นนายตอนไอ้เขี้ยวกุดพาฉันเดินเที่ยวฟาร์ม” หมอนั่นไง ที่จ้องมองนางอย่างกับอยากกลืนกินนางไปทั้งตัว แต่นางก็เข้าใจนะว่าเสน่ห์ของตัวเองคงดึงดูดใจมาก เลยอาจจะห้ามใจยากที่ไม่ให้ใช้สายตาแทะโลมกับนางแบบนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะกลายมาเป็นพวกเดียวกัน


ไม่สิ นางกับหมอนี่ไม่ใช่พวกเดียวกัน เรียกว่ามีคนรู้จักคนเดียวกันเฉยๆ ก็พอ
   

“อ้อ จำผมได้ด้วย” ไอ้ผิวเหงื่อโชกแสยะยิ้มน้อยๆ เรียวจันทร์ย่นคิ้ว
   

“อย่าเรียกว่าจำ เพราะฉันไม่ได้จำนายไว้ในหัว เรียกว่าผุดจะดีกว่า” เรียวจันทร์ยกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นสูงแล้วทำหน้าเป็นเชิงถามว่า โอเค๊?
   

ลูกน้องของเสี่ยทัพขมวดคิ้ว มองเรียวจันทร์ด้วยความหงุดหงิดปนหมั่นไส้เล็กๆ กับความมากจริต “แล้วแต่คุณเหอะ”
   

เรียวจันทร์แบะปากนิดหน่อย คลายสองแขนที่กอดอกเอาไว้ออก “แล้วมีอะไร ถึงได้บุกประชิดตัวฉันซะขนาดนี้”
   

คนถูกถามยักไหล่พร้อมทำหน้าไร้อารมณ์ก่อนตอบ “เปล่า แค่มาแนะนำตัวให้คุณได้รู้จัก ให้คุณรู้ว่าเราเป็นพวกเดียวกัน”
   

เรียวจันทร์อ้าปากหวอ กดหน้าลงนิด มองอีกฝ่ายค้างเติ่ง “แค่เนี้ย?”
   

พ่อหนุ่มร่างใหญ่เหงื่อชุ่มพยักหน้ายืนยันกับคำตอบที่ตัวเองบอกคนหน้าหวานไป เรียวจันทร์หุบปากฉับ หลับตาลง กัดฟันแน่นด้วยอารมณ์โมโหเล็กๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมองชายหนุ่มร่างกำยำ
   

“ทักทายได้ป่าเถื่อนเหลือเกินนะพ่อคุณ เสี่ยทัพเขาสอนให้ลูกน้องทักทายคนอื่นแบบนี้ทุกคนเลยรึไง?”
   

“บางคนเสี่ยเขาให้ทักด้วยลูกปืนก่อนด้วยซ้ำ” เรียวจันทร์กำลังจะเถียง แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าจริงจังไม่มีแววเล่น นางเลยเม้มปาก ทำหน้าหน่อมแน้ม แล้วเสียงพูดของเพื่อนสนิทก็ดังขึ้นในหัว
   

เสี่ยเขาไม่ได้นุ่งขาวห่มขาวอยู่ในวงการนักเลง
   

“สรุปคือไม่มีอะไร แค่มาเอ่ยบอกเฉยๆ ว่านายเป็นลูกน้องเสี่ยทัพ”
   

“เสี่ยเขาอยากให้คุณกับผมร่วมมือกันในบางคำสั่ง…” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว เริ่มมองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้ใจ ไม่ใช่ไม่ไว้ใจว่ามันจะปล้ำ ไม่ไว้ใจอีตาเสี่ยทัพที่จู่ๆ ก็มาสั่งอะไรแบบนี้ต่างหาก


“…แล้วเสี่ยทัพก็ฝากผมมาดูแลคุณ” คนสวยยังคงขมวดคิ้ว แล้วถามอย่างนึกสงสัย


“จะมาดูอะไร ฉันดูแลตัวเองได้ แล้วเสี่ยเขาก็รู้อยู่แล้วว่าฉันจะทำอะไร ไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับนายก็ได้” ลูกน้องเสี่ยทัพเลิกคิ้วขึ้น ยิ้มเยาะหน่อยๆ เรียวจันทร์ถลึงตากลับที่บังอาจมาทำท่าเยาะแบบนั้นใส่


“ไอ้วิธีที่จะจับไอ้คมเขี้ยวเป็นผัวอะเหรอ” เรียวจันทร์เบิกตากว้างอ้าปากค้างด้วยความตกใจ


“หยาบคาย!...” แต่สักพักก็ทำหน้าลอยหน้าลอยตาต่อ “…แต่ก็ใช่อะ ฉันจะทำแบบนั้น”


ชายหนุ่มตัวใหญ่ยิ้มมุมปากเยาะอีกที เรียวจันทร์ยกสองมือเท้าเอวแล้วส่งเสียงแว้ด “นี่! สีหน้าแบบนั้นช่วยเอาไปใช้ที่อื่นด้วย ห้ามเอามาใช้กับฉัน ทำอย่างกับฉันสิ้นไร้ไม้ตอก ชีวิตฉันยังไม่ได้น่าสมเพชขนาดนั้นสักหน่อย”


“ผมว่าถ้าคุณคิดจะจับไอ้คมเขี้ยว สู้ไปเป็นเมียเสี่ยทัพแล้วให้เขาใช้หนี้ให้ไม่ดีกว่าเหรอ” ลูกน้องเสี่ยทัพไม่สนใจอาการแว้ดๆ ของอีกฝ่ายแต่พูดสวนกลับไปอย่างไร้อารมณ์ เรียวจันทร์เบ้ปาก


“คือยังไง? นี่ตาเสี่ยเขาส่งนายมาเป็นกามเทพให้เขาด้วยเหรอ” ชายหนุ่มร่างใหญ่หัวเราะก่อนจะว่าต่อ


“ตอนนี้เขายังเจรจาได้ง่ายๆ แต่ถ้าเขาเกิดคลั่งคุณมากกว่านี้เมื่อไหร่ คุณอาจได้ลิ้มลองรสชาติจำเลยรักก็ได้นะ” แทนที่จะทำหน้าหวาดกลัว แต่เรียวจันทร์กลับยิ้มกรุ้มกริ่มและมีท่าทางภาคภูมิใจเล็กๆ ที่ได้ยินแบบนั้น


“แหม ขนาดเกิดเป็นผู้ชายยังสวยได้ขนาดนี้เลยอะ นี่ถ้าฉันเป็นผู้หญิงนะ ท็อปไฟว์มิสยูเวิร์สยังน้อยไป ต้องมงลงเท่านั้น” ว่าเสร็จก็ยิ้มเขินตาหยี ยกมือป้องปากหัวเราะคิกคัก ทิ้งให้ชายหนุ่มอีกคนมองอย่างประหลาดใจกับพฤติกรรมประหลาดของตัวเอง


“เอาเป็นว่าผมมาแนะนำตัวแล้ว และตอนนี้คุณมีฐานะเป็นเมียเสี่ยทัพ ถ้าใช้อะไรผมก็เรียกแล้วกัน แต่ไม่ใช่ให้ผมไปช่วยจับไอ้คมเขี้ยวให้นะ” เรียวจันทร์ทำตาดุใส่อีกฝ่าย ไม่ใช่เพราะเคืองเรื่องที่จะให้มาช่วยจับนายคมเขี้ยว เพราะอันนั้นนางทำเองได้ แต่เคืองตรงที่บอกว่าเป็นเมียตาเสี่ยทัพนั่นต่างหาก


“ฉันไม่ใช่เมียเสี่ย เราแค่มีอะไรกันย่ะ!” เรียวจันทร์เท้าเอวมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเข่นเขี้ยว ไม่โกรธจริงจังที่โดนหาว่าเป็นเมียตาเสี่ยนั่น แค่เคืองนิดหน่อยที่ยกฐานะนี้ให้ โดยที่นางยังไม่ได้ตอบรับ


“ไปเคลียร์กับเสี่ยเองนะ เพราะเขาบอกลูกน้องทุกคนแบบนี้…” เรียวจันทร์ถอนหายใจ ทำหน้าปลดปลงแล้วยกมือกอดอกอีกที


สวยมากก็ลำบากใจจริงๆ ผู้ชายพร้อมแย่ง


“…อ้อ ระวังคุณพยาบาลคนสวยคนนึงไว้นะ ผมเห็นเธอกับไอ้เขี้ยวสนิทสนมกัน นั่นอาจเป็นคู่แข่งคนสำคัญของคุณก็ได้” เรียวจันทร์กะพริบตาปริบสองสามที ก่อนจะเบ้ปากนิดหน่อยและไหวไหล่ขวาน้อยๆ


“ทำไมต้องระวังด้วย นางเป็นกับดักระเบิดเหรอ” ลูกน้องเสี่ยวทัพหัวเราะน้อยๆ แล้วยักไหล่ทั้งสองข้าง


“ผมไปละ อ้อ ผมชื่อแม็ค ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเรียวจันทร์” ว่าจบเจ้าของนามก็เดินออกไปทางประตูจากออฟฟิศ ทิ้งให้เรียวจันทร์ยืนมองตามอย่างมึนๆ งงๆ นิดหน่อย


แม้จะทำเป็นเฉิดฉาย แต่ในใจนางก็นึกเป็นกังวลอยู่ลึกๆ ว่าเสี่ยจอมทัพจะทำอะไรร้ายแรงกับฟาร์มนี้หรือเปล่า นางก็ไม่ได้ว่ามีจิตผูกพันอะไรกับที่นี่เป็นจริงเป็นจัง แต่ใจมันดันเป็นกังวลขึ้นมา


แต่ช่างเถอะ ถ้ายังไม่ถึงขั้นเผาหรือวางระเบิดที่นี่ก็ดีไป แต่เอ๊ะ? มันก็มีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน เพราะตาเสี่ยทัพอยากได้ที่ดินตรงนี้นักหนา บางทีลูกบ้าอาจจะเยอะกว่าที่คิด เรียวจันทร์ล่ะนึกสงสัยว่าที่ดินตรงนี้มันมีดีอะไรนักหนาถึงอยากได้นัก มันฝังทองคำทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองไว้รึไง


เช้าวันต่อมาเรียวจันทร์ตื่นอาบน้ำแต่งตัวในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาที่เข้ากับผิวขาวเนียนละเอียดยิ่งกว่าหญิงสาวบางคน กางเกงสกินนี่สีดำรัดรูปที่ทำให้รูปร่างของนางเพรียวบางสูงยาวเข่าดีมากขึ้น ริมฝีปากสีชมพูถูกแต่งแต้มด้วยลิปกอสมันวาวดูสุขภาพดี แม่นางส่งจุ๊บกับตัวเองหน้ากระจกในห้องนอน ก่อนจะคว้ากระเป๋าหนังทรงสีเหลี่ยมสะพายข้างของแบรนดังขึ้นมาคล้องแขน พร้อมกับใส่แว่นกันแดดสีชาอันใหญ่ไว้บนดั้งโด่งแล้วเดินออกจากห้องนอนของตัวเองไปอย่างหน้าเชิดคอตั้ง


“ไปไหนน่ะ?!” อารมณ์หน้าเชิดแจ่มจ้าแทบดับวูบเมื่อได้ยินน้ำเสียงห้วนทื่อจากชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตลายสก็อตกับกางเกงยีนสีน้ำเงิน เรียวจันทร์หันหน้าหมดอารมณ์ของตัวเองไปมอง


“ฉันมีอีเว้นต์ที่กรุงเทพฯ ฉันบอกนายไปแล้วนะ” คมเขี้ยวพ่นลมหายใจพร้อมกับเบะปากน้อยๆ


“เบื่อพวกเซเล็ปจริงจิ้ง” เรียวจันทร์มองหน้าคมเขี้ยวผ่านเลนส์แว่นแล้วไหวไหล่อย่างมีลีลา ก่อนจะพูดจีบปากจีบคอ บีบเสียงเล็กเสียงน้อย


“ก็ลำบากใจอะค่ะ แต่ว่าก็จะพยายามแบ่งหน้าที่ในชีวิตให้ดีที่สุด” พูดจบก็ทำปากจู๋แอ๊บแบ๊ว คมเขี้ยวทำท่าอ้วก เรียวจันทร์ลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ


“แพ้ท้องบ่อยเนาะ ไปเสียตัวให้ใครมาล่ะ”


“ใครก็ได้ แต่ไม่ใช่คุณแน่” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าหูว


“สำส่อนจังเลยอะ เอาใครก็ได้เงี้ยเหรอ ระวังจะเป็นเอดส์นะ”


“บางทีเอากับใครก็ได้ อาจจะปลอดภัยกว่าเอากับคุณ” เรียวจันทร์เบ้ปากแรง ดึงแว่นออกจากหน้าก่อนจะใช้ดวงตาคู่สวยมองใบหน้าหล่อคมเข้มของไอ้เขี้ยวกุด


“ลองเอาก่อนสิ แล้วค่อยมาบอกว่าปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย” คมเขี้ยวทำท่าขนลุกขนพอง เห็นแล้วก็ทำให้พ่อหน้าหวานนึกหมั่นไส้ นึกอยากจะจับทำผัวให้สำเร็จไวๆ


“เอากับต้นกล้วยยังน่าสนใจกว่าอีก”


“โถถถถ! ก็ถ้าต้นกล้วยมันยั่วมาก นายก็ตัดมาทำเมียเลยซี้ ไปสิ เอาสิ อยากจะเห็นคนเอาต้นกล้วยเหมือนกัน เคยเห็นแต่ในคลิปที่แชร์ๆ กันมา ฉันอยากเห็นของจริงเป็นบุญตา ทำให้ดูหน่อยสิ!” หมั่นไส้นัก ทำอย่างกับฉันเป็นหมามุ่ย!


“เป็นแม่ผมรึไงถึงมาสั่ง” คมเขี้ยวถามหน้าตายียวน เรียวจันทร์กัดฟันแน่น ยกมือซ้ายที่ถือแว่นอยู่ขึ้นชี้หน้าอีกฝ่าย


“จะเล่นใช่มะ ได้! อย่าให้ถึงจังหวะของฉันก็แล้วกัน แม่จะเล่นให้อวดดีไม่ออกเลย” คมเขี้ยวทำหน้ามึนไม่รู้ไม่ชี้ ยิ้มเบ้ปากขำขันสนุกสนาน


“จะทำอะไรผมเหรอครับคุณนายเรียวจันทร์”


“ฉันจะจับนายทำผัวให้ได้น่ะสิ!” เรียวจันทร์บอกอย่างมาดมั่น เล่นเอาคมเขี้ยวสะอึกไปเหมือนกัน เพราะแม่งเล่นทำหน้าตาว่า กูเอาจริงแน่ๆ


“ชีวิตกูทำบาปอะไรมาวะถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้” คมเขี้ยวตัดพ้ออย่างทรมานใจกับการที่ต้องหวาดระแวงว่าตัวเองจะเสียตัวให้กับไอ้จันทร์ไรเมื่อไหร่


“บอกเลยนะว่าถ้านายได้ฉันเป็นเมียล่ะก็ บาปที่นายว่าจะหายไป กลายเป็นขึ้นสรรค์ชั้นเจ็ดไปเลยแหละ” ไอ้ครั้นจะพูดปกติน่ะไม่เท่าไหร่ แต่นางดันพูดด้วยสีหน้าภูมิอกภูมิใจ และยืนยันสีหน้ามั่นเหมาะมากว่าสิ่งที่ตัวเองพูดนั้นเป็นเรื่องจริงแน่ๆ หากคมเขี้ยวได้ลิ้มลองตัวนาง


“น่ากลัวว่ะ” คมเขี้ยวทำหน้าขยาดที่เรียวจันทร์เริ่มจะเห็นบ่อยขึ้น คนหน้าสวยถลึงตาใส่ คมเขี้ยวส่ายหัวอ่อนใจแล้วจะเดินเลี่ยงออกไปทางคอกวัว แต่เรียวจันทร์นึกถึงเหตุการณ์ที่ได้เจอกับลูกน้องเสี่ยจอมทัพเมือคืนก็นึกอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับนายคมเขี้ยว


“เดี๋ยวก่อน” คนถูกเรียกหยุดเดินแล้วหมุนตัวมามอง


“จะสร้างความน่ากลัวอะไรให้ผมอีก” เรียวจันทร์จิ๊ปากหนึ่งที ไม่นึกอยากเถียง แต่นึกอยากจะพูดเตือน หรือพูดอะไรก็ได้ให้คมเขี้ยวรู้ตัวว่าตอนนี้ในฟาร์มของตัวเองอาจมีความไม่ปลอดภัยซ่อนอยู่


“คือ…” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นมองท่าทีอึกอักที่สวนทางกับความมั่นใจในตัวเรียวจันทร์ หนุ่มนายแบบร่างบางเม้มปาก นึกไม่ออกว่าจะบอกว่าอะไรดี ถ้าบอกไปตรงๆ อาจทำให้เรื่องวุ่นวายขึ้นหรือเปล่า หรือนางอาจจะโดนมองว่าเป็นกระต่ายน้อยน่ารักที่แสนจะตื่นตูมไปเอง


“ดูแลฟาร์มดีๆ นะ แล้วก็ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย ฉันเป็นห่วง รักนะ แล้วก็ชอบแสดงออกมากด้วย” วิ้ง!


เรียวจันทร์ขยิบตาให้คมเขี้ยวอย่างมีเสน่ห์ พ่อหน้าเคราผงะไปนิด นึกแปลกใจในคำพูดประหลาดอันนั้นนิดหน่อย จริงๆ มันก็ไม่ได้ประหลาดสำหรับเขามากหรอก เพราะไอ้จันทร์ไรก็ชอบแทะโลมแบบนี้อยู่แล้ว เพียงแต่คราวนี้น้ำเสียงซอฟต์อบอุ่นกว่าปกติ


“ฉันไปละ” ว่าจบก็ยิ้มกริ่มสวยๆ แล้วสวมแว่นไว้บนหน้าตามเดิม ก่อนที่จะหมุนตัวแล้วเดินหน้าเชิดอีกครั้ง คมเขี้ยวมองตามแผ่นหลังร่างบางแล้วถอนหายใจเบาๆ แต่ก็แอบมียิ้มขำที่มุมปาก เขาส่ายหัว หมุนตัวเดินไปทางคอกวัวต่อ






เรียวจันทร์มาถึงสถานที่จัดงานที่เป็นลานจัดกิจกรรมของห้างก่อนเริ่มงานสองชั่วโมง โชคดีที่นางรีบออกแต่เช้าเลยไม่เจอรถติด วันนี้เป็ดติดงานประจำตามเคยเลยไม่ได้มาด้วย แต่จริงๆ แล้วเป็ดมาก็คงไม่ได้ทำอะไรมากอยู่ดี แต่ถ้างานไหนที่เรียวจันทร์มองว่าต้องใช้ตัวช่วย นางก็จะรบกวนเพื่อนสาวให้มาเป็นเพื่อน


การทำงานวันนี้ก็แค่เดินแบบให้กับห้องเสื้อชื่อดังของเมืองไทยที่ออกคอลเลคชั่นใหม่ช่วงกลางปี ซึ่งเรียวจันทร์จะเดินทั้งหมดสามชุดคือชุดเปิด ชุดกลางและชุดปิด ตอนนี้กระแสของนายแบบหนุ่มหน้าสวยหวานจนเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นยังคงเป็นที่พูดถึงเรื่อยๆ อาจจะไม่พุ่งแรงมากเหมือนสมัยที่นางอยู่นิวยอร์ก แต่ก็มีงานเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย ทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มา นางแบ่งไว้จ่ายใช้หนี้ให้แม่ซะครึ่งหนึ่ง แม้จะพยายามใช้หนี้เก่ายังไง แต่หนี้ใหม่ๆ ก็ยังคงงอกเงยขึ้นมาเรื่อยๆ จนนางต้องยื่นคำขาดกับแม่ล่าสุด


‘เรียวจะไม่ใช้หนี้ใหม่ให้แม่อีก เรียวจะใช้แค่หนี้เก่าตามที่เราคุยกันไว้ ถ้ามีเพิ่มต่อจากนี้แม่ต้องเป็นคนรับผิดชอบเอง’


นางไม่รู้ว่าแม่ฟังเขามากน้อยแค่ไหน แต่นางถือว่าได้พูดไปแล้ว และนี่คือสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เรียวจันทร์จะทำให้กับคนเป็นแม่ได้ แม่ที่ไม่สนใจใยดีนางเลย แต่พอตกระกำลำบากก็มาพึ่งพิงนาง ถ้าไม่ใช่เพราะรับปากพ่อไว้ นางจะไม่มีวันเหลียวแลผู้หญิงคนนั้นเด็ดขาด


“คุณเรียว เตรียมตัวนะคะ” เรียวจันทร์พยักหน้าพลางหันไปเช็กสภาพตัวเองในกระจกอีกครั้ง วันนี้แต่งหน้าสบายๆ ไม่จัดมาก เพราะเสื้อผ้าแบรนนี้เน้นความเรียบหรูดูดี ไม่เน้นความเยอะ ใบหน้าจึงต้องแต่งโทนธรรมชาติเพื่อให้ไม่เด่นเกินเสื้อผ้า


หลังจากเช็กสภาพของตัวเองเสร็จ เรียวจันทร์ก็ก้าวออกไปรอด้านหลังเวที เมื่อสตาฟให้สัญญาณ นางก็เดินหน้านิ่งออกไปบนรันเวย์


ขาเรียวยาวเดินไขว้กันอย่างลงจังหวะที่พอดีกับเสียงเพลง ใบหน้าสวยหวานเกินชายทั่วไปเชิดขึ้นเล็กน้อยแล้วมองตรงไปด้านหน้า ผู้คนสองข้างเวทีต่างจับจ้องนายแบบผู้เป็นคนเดินเปิดเสื้อผ้าคอลเลคชั่นนี้ และถึงแม้จะเรียกนายแบบ แต่ชุดที่ใส่อยู่นั้นกลับเป็นชุดที่เหมาะกับหญิงสาว แต่ก็ไม่ใช่ชุดสวยหวาน เป็นชุดสวยเท่ที่เหมาะสำหรับเวิร์คกิ้งวูแมนหรือผู้หญิงที่มีคาแรคเตอร์ลุยๆ เรียวจันทร์ที่มีใบหน้าสวยเหมือนผู้หญิง แต่ก็มีความเท่ของผู้ชายอยู่ด้วยจึงถูกเลือกให้เดินในชุดนี้ ซึ่งนางก็ไม่ทำให้เจ้าของงานผิดหวัง เพราะเสื้อผ้าลงตัวกับเรียวจันทร์มาก


เดินชุดแรกจบไป เรียวจันทร์ก็กลับเข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังเวที เพื่อเตรียมเดินชุดที่สอง ระหว่างที่รออยู่นั้น ทีมงานผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับช่อดอกไม้


“พี่เรียวคะ มีผู้ชายคนนึงฝากดอกไม้มาให้พี่ค่ะ เขาฝากมาตั้งแต่ก่อนเริ่มงานแล้ว แต่หนูลืมให้” หญิงสาวยิ้มแห้ง เรียวจันทร์แสร้งมองดุแต่ไม่ได้คิดจริงจังก่อนคลี่ยิ้มน้อยๆ


“ใครล่ะ หล่อมะ” เรียวจันทร์แสร้งถามเสียงตื่นเต้นพร้อมกับรับช่อดอกกุหลาบขาวแซมดอกเดซี่สีเหลืองเล็กๆ ขนาดกลางที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลแสนเก๋


“ก็หล่อนะพี่ หุ่นล่ำมาก เสื้อเชิ้ตที่เขาใส่จะขาดแล้วมั้งหนูว่า ตัวสูงๆ หน้าตาตี๋ๆ หน่อยค่ะ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วกับลักษณะหนุ่มที่สตาฟสาวเอ่ยมา มันเป็นลักษณะหน้าตาพื้นฐานของผู้ชายโดยทั่วไปมากจนยากที่จะนึกออก


“เขามากับใคร มากับเมียแล้วแอบส่งดอกไม้ให้พี่รึเปล่า” หญิงสาวส่ายหัวก่อนจะตอบ


“หนูเห็นเขามากับเพื่อนผู้ชายอะ” เรียวจันทร์มีสีหน้างงๆ ก้มลงมองช่อดอกไม้ในมือ ความรู้สึกคุ้นเคยและคุ้นตาแวบเข้ามาในหัว


‘รู้มั้ยดอกเดซี่สีเหลืองหมายถึงอะไร’


‘ดอกเดซี่หล่นใส่กองอึแล้วยอร์ชก็เก็บมาให้เรียวอะสิ’ ชายหนุ่มหัวเราะแล้วยิ้มละมุน


‘ฉันจะชนะใจเธอให้ได้’



เรียวจันทร์เบ้ปากเมื่อจิตใต้สำนึกเริ่มส่งสัญญาณเตือนว่าใครเป็นคนส่งช่อดอกไม้อันนี้มาให้ นางไม่ได้อยากจะจำได้เลยสักนิด แต่ด้วยความที่เกิดมาสวยและสมองดี โดยที่ไม่ต้องพึ่งโอเมก้าทรี เลยทำให้จำแม่นน่ะสิ หรืออีกเหตุผลหนึ่งก็คือ


นางไม่คิดจะเผาผีคนๆ นี้อีกเลยต่างหาก







 

 
 :hao7:
 

น๊าน นาน คิดถึงจังเลย พออยู่เฉยๆ มันเหงาจริงๆ จากกันไปนาน หัวอกผู้หญิง มันมีหลายสิ่งอยากจะเสนอออ มาแล้วจ้า แม่กลับมาแล้ว จำเสียงหวานแหวของแม่ได้ไหม ถ้าอยากจะรู้ว่าแม่เป็นใคร คนเดิมนี่ไงที่หายหน้าเป็นเดือนนน

มาเป็นเสียงเพลง แต่บางคนอาจงงว่าตอมร้องเพลงอะไร 55555 เพลงลูกทุ่งเมื่อนานมาแล้ว เข้ากับสถานการณ์ของแม่เรียวจันทร์ได้ดีเหลือเกิน ดองขุ่นแม่ไว้สองเดือนนน แต่ตอนนี้แม่คัมแบ็คละค่ะ และต่อจากนี้แม่จะไม่หายไปนานๆ อีกแล้ววว เพราะจะทุ่มเทให้แม่อย่างเต็มที่เลยยยย

และแม้จะหายไปนานแค่ไหน แต่ความใสจังแรนของแม่เรียวก็ยังคงไม่เสื่อมคลาย ยังคงสตรองงง หลายคนบอกว่า มองไม่เห็นทางที่จะรักกันได้ แม่ไม่เดินตามทางหรอกค่ะ แม่ชอบบิน 55555

เรื่องนี้ไม่หวือหวานาค้าาา อยากให้อ่านแล้วยิ้มแย้มกับความแซ่บและความบ้าของแม่เรียวจันทร์มากกว่า ปมต่างๆ ในเรื่องก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมาก อ่านไปเรื่อยๆ จิรู้เลยว่านิยายเรื่องนี้ซื่อๆ ใสๆ แต่แม่เรียวไม่ใสนะ 55555

ขอบคุณคนอ่านหลายๆ คนนะคะที่ยังรอกัน ขอบคุณมากค่ะ กลับมาแล้วนะคะ และต่อไปนี้ไม่หายไปเป็นเดือนสองเดือนแบบนี้อีกแล้ว มาตลอดๆ วันนี้ขออัพครึ่งหนึ่งก่อน แต่อีกครึ่งจะมาต่ออีกไม่นานเกินรอ ขอปล่ยแม่มาทีละครึ่ง แบบให้ดูตื่นเต้น เช็กกระแสแม่นิดนึง 55555

เดี๋ยวเจอกันส่วนที่เหลือค่าาา ใครคิดถึงแม่เรียววว เม้นบอกแม่กันเร้วววว  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/50%:01.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-07-2016 03:54:19
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/50%:01.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 01-07-2016 12:49:31
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/50%:01.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 01-07-2016 14:39:15
เดซี่เหลืองในความหมายของเรียว??  555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/50%:01.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: cinnsin ที่ 01-07-2016 20:24:09
เป็นไปได้มั้ยที่เสี่ยจอมทัพรู้อยู่แล้วว่าที่ตรงนั้นเป็นของเรียวตั้งแต่แรก? แล้วตั้งใจจะฮุบที่เพื่อที่จะเสนอเงื่อนไขว่าถ้าเรียวยอมเป็นเมียก็จะคืนที่ให้ โอ้ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/75%:20.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 20-07-2016 21:25:50
คาถาที่ ๙ [75%]




เรียวจันทร์กำลังนั่งเช็ดเครื่องสำอางออกจากใบหน้าหลังจากเสร็จงานเดินแบบ นางเหลือบมองช่อดอกไม้ที่วางอยู่หน้าโต๊ะกระจกแล้วถอนหายใจพร้อมกับเบ้ปาก


“พี่เรียว ผู้ชายคนนั้นเขา…” ยังไม่ทันที่สตาฟสาวจะพูดจบ เสียงนุ่มทุ้มที่เคยคุ้นหูเมื่ออดีตอันไกลโพ้นก็ดังขึ้น


“…สวัสดีเรียว” เจ้าของชื่อหันหน้าไปมองอย่างชิลๆ พอเห็นใบหน้าหล่อตี๋และลักษณะร่างกายตามที่สตาฟสาวพูดไปก่อนหน้านี้ก็ทำหน้าไร้อารมณ์เป็นการทักทาย ก่อนที่จะหันไปพยักหน้าขึ้นให้หญิงสาวอีกคนที่ยิ้มให้แล้วหมุนตัวเดินออกไป


“นังฮีโบ๋วปลดปลอกคอให้ออกมาเดินเล่นเองได้ด้วยเหรอ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้น ชายหนุ่มร่างกายกำยำล่ำสันยิ้มเจ้าเล่ห์ ดึงเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกับนายแบบหนุ่ม


“ยอร์ชเลิกกับเขาแล้ว”


“แล้วเรียว…” เรียวจันทร์ชะงัก ชายหนุ่มกระตุกยิ้มที่ได้ยินอีกฝ่ายแทนตัวเองเหมือนเดิม “…แล้วฉันต้องทำยังไง ดีใจที่คุณโสดแล้วเงี้ยเหรอ”


“ไม่ต้องก็ได้ แต่แค่มาบอกให้รู้ไว้ว่ายอร์ชคิดถึงเรียว แล้วก็อยากให้เราสองคนกลับมาเป็นเหมือนเดิม” เรียวจันทร์อ้าปากหวอเล็กน้อย ทำท่าคล้ายจะขำแต่ก็ขำไม่ออกเลยเปลี่ยนเป็นเบิกตากว้างสีหน้าตกใจเหมือนเห็นผีมากกว่าจะตื่นเต้น


“หลังจากที่เปลี่ยนใจไปกินหอยแครงแมลงภู่อยู่เป็นปีๆ แล้วก็จะกลับมามุดถ้ำเหมือนเดิมน่ะเหรอ” ยอร์ชยิ้มขำกับคำจิกกัดของแฟนเก่าตัวเอง


“ใช่ครับ ยอร์ชอยากกลับมามุดถ้ำ” เรียวจันทร์แสร้งยิ้มหวาน บิดหน้าไปมองช่อกุหลาบแซมดอกเดซี่สีเหลือง หยิบมันขึ้นมาก่อนจะยื่นไปตรงหน้าเจ้าของ


“ถ้ำมีให้เลือกมุดเยอะแยะค่ะคุณโยธิน เชิญเลือกได้ตามสบาย แต่ถ้ำของดิฉันไม่ต้องรับมังกรของคุณ” หนุ่มหน้าหวานดันช่อดอกกุหลาบไปแนบชิดติดอกล่ำของแฟนเก่า โยธินยกมือซ้ายขึ้นมาหมายจะจับมือเรียวจันทร์ แต่นายแบบหนุ่มปล่อยช่อกุหลาบร่วงลงพื้นแล้วดึงมือตัวเองกลับทันที โยธินยิ้มมุมปาก ดวงตาวิบวับ


“ผมคิดถึงเรียว”


“โอ๊ย…” เรียวจันทร์ถอนหายใจแรงพร้อมใบหน้าเซ็งขั้นสุด “…นี่คืออะไร ฟีลลิ่งคิดถึง โหยหางี้ อยากรีเทิร์น? บ้ารึเปล่า ฉันเอาเขาที่คุณสวมให้ออกไปนานแล้ว ไม่ต้องกลับมาอีก”


เรียวจันทร์มองอย่างไม่พอใจ หันหน้าไปมองหน้าตัวเองในกระจก พอเห็นว่าเครื่องสำอางถูกล้างออกไปจนหมดเกลี้ยง นางจึงลุกขึ้นยืน คว้ากระเป๋าแล้วเดินผ่านไอ้แฟนเก่าเฮงซวยไปอย่างไม่ไยดี


โยธินมองตามแล้วทำตาลุกวาว ทำท่าเข็ดฟันกับความเผ็ดร้อนของเรียวจันทร์ที่ยังคงถูกใจเขาเหมือนเดิม เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามร่างบางไป


เรียวจันทร์ก้าวฉับๆ ไปตรงประตูทางออกของห้องด้านหลังเวที ก้าวเท้าเข้าประตูข้างๆ ของห้างเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ นางผลักประตูใหญ่ของห้องน้ำเข้าไปด้านในที่มีคนยืนปัสสาวะอยู่คนเดียว เลือกห้องน้ำห้องริมสุดแล้วผลักประตูเพื่อจะเข้าไปปลดทุกข์ จังหวะที่กำลังจะดันประตูปิด ประตูสีขาวก็ถูกดันเข้ามาด้านในอย่างแรงจนนางตกใจ


“ยอร์ช!” เรียวจันทร์มองหน้าอีกฝ่ายอย่างงงปนตกใจ หนุ่มตี๋ร่างใหญ่ดันประตูห้องน้ำปิด หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้ร่างบาง ไม่พูดพล่ามมากมาย ยอร์ชดันเรียวจันทร์ติดกับกำแพง ก้มลงประกบปากสีชมพูสดนุ่มนิ่ม



“อื้อ!” เรียวจันทร์พยายามดันร่างใหญ่หนาของอีกฝ่ายออกจากตัว แต่สองแขนก็ถูกตรึงไว้กับผนัง เรียวจันทร์หันหน้าหนีเลยหลุดออกจากจูบจู่โจมนั้นได้ โยธินก้มลงไปซุกไซ้สูดดมกลิ่นซอกคอหอมกรุ่มที่เขาเคยเสพติด และแม้จะห่างหายกันไปนาน เขาก็ยังคงคิดถึงร่างบางแสนหอมของจันทร์ดวงนี้


“นี่ๆ หยุดทีได้มั้ย ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเลย” เรียวจันทร์พยายามเอนหน้าหนีเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายไซ้ซอกคอนางได้ หนุ่มกล้ามบึ้กหยุดทำแล้วถอนหายใจรดซอกคอ ก่อนจะเงยหน้ามองร่างบางที่ยืนทำหน้ามุ่ย


“ไม่คิดถึงกันจริง ๆ เหรอ” เรียวจันทร์บิดข้อมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของมือหนา มองยอร์ชด้วยความขุ่นเคือง


“ความรัก ความคิดถึงมันหมดไปแล้วมะ ถามใจเธอดูยอร์ช ฉันต้องจมปลักอยู่กับเธอคนเดียวรึไง” เรียวจันทร์ทำสีหน้าว่า คิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ?


“ก็เผื่อไง” เรียวจันทร์เบ้ปาก ยกสองมือผลักอกหนา ดันอีกฝ่ายให้ออกห่างจากตัวเองเพียงนิด ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าและท่าทีที่แสนจะภาคภูมิใจ


“ฉันมีผู้ชายให้เลือกเยอะแยะ และมีผู้ชายอยากได้ฉันอีกมาก ทำไมฉันต้องวกกลับมาหาเธอด้วย นี่ใคร เรียวจันทร์ สวย รวย มีการศึกษา หน้าตาในสังคมฉันก็มี ทำไมฉันต้องทำตัวสิ้นหวังแบบนั้น”


โยธินหรี่ตามองเรียวจันทร์ อ้าปากน้อยๆ แลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างราวกับกำลังใช้ความคิด “เพราะแบบนี้ไงยอร์ชถึงรักเรียว”


เรียวจันทร์มองอีกฝ่ายเหมือนเห็นของประหลาด “ขอบคุณที่รักกัน แต่ตอนนี้ฉันมีผู้ชายมารักมากพอแล้ว ไม่รับสายซ้อนค่ะ!”


ว่าจบก็เอื้อมมือไปปลดล็อคประตู ดึงประตูเปิดกว้างแล้วผายมือให้โยธิน


“ออกไป ฉันจะฉี่ ถ้าปวดบ้าง ก็ไปยืนฉี่ตรงโถ ไม่ก็ห้องอื่น” เรียวจันทร์ยักคิ้วสองข้างให้ร่างหนาบึ้ก อีกฝ่ายยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์


“เราเคยเห็นกันหมดแล้วน่า” เรียวจันทร์กลอกตาเซ็ง


“ก็แค่เคย แล้วเคยเห็นแล้ว ยังจะมาอยากเห็นอีกทำไม ออกไป จะฉี่!” นายแบบหนุ่มตะคอกเสียงเข้ม กระแทกมือผายไปทางประตูห้องน้ำอีกครั้ง


“ฉันไม่ย้ายห้องฉี่นะ เพราะฉันมาก่อน อย่ามาแซงคิว จะไปไหนก็ไป” เรียวจันทร์พูดด้วยความหงุดหงิดและรำคาญใจ นางรำคาญของนางจริงๆ ด้วยนะ ไม่ใช่แอ๊บรำคาญ


โยธินถอนหายใจพร้อมรอยยิ้มอ่อน “เดี๋ยวผมรอข้างนอกแล้วกัน”


เรียวจันทร์พ่นลมออกทางจมูกอย่างหน่ายใจ มองโยธินที่ค่อย ๆ เดินออกไปจากห้องน้ำอย่างเอือมระอา พอร่างสูงใหญ่พ้นเขตประตูห้องน้ำ เรียวจันทร์ก็ปิดประตูแล้วรีบปลดทุกข์ให้กับตัวเอง





หลังจากออกจากห้องน้ำมาพร้อมตัวพ่วงที่ไม่เต็มใจให้มาด้วยอย่างแฟนเก่า เรียวจันทร์ก็กะจะไปเดินหาซื้อของเข้าบ้านตามลิสต์รายการที่ป้าอุ่นแจ้งนางเอาไว้ในไลน์ ป้าอุ่นไม่ได้ใช้เองหรอก เจ้าแก็ปหลานป้าอุ่นเป็นคนส่งมาบอกว่าต้องการอะไรบ้าง ตอนแรกป้าอุ่นจะฝากซื้อยาบรรเทาอาการปวดเข่าของลุงอ๊อดสามีแกด้วย แต่เรียวจันทร์ดุว่าไม่ให้ซื้อยากินเอง เจ็บป่วยอะไรต้องไปพบหมอ และต้องเป็นหมอที่โรงพยาบาลเอกชน เพราะเขาจะได้ดูแลดีๆ ไม่ปล่อยให้นั่งรอนานๆ


“เรียวจะซื้ออะไรบ้าง” เรียวจันทร์กลอกตามองบนก่อนตอบ


“ใช่ญาติมะ มาถามกันเนี่ย”


“ไม่ใช่ แต่เคยเป็นผัวเรียวมาก่อน” คนสวยขมวดคิ้วฉับ


“รำคาญ! พูดอยู่ได้ ไม่รีเทิร์นย่ะ!” ร่างบางถลึงตามองไอ้ร่างโตที่ยิ้มไม่สะทกสะท้าน โชว์ความหน้าด้านของตัวเองต่อไป


“อย่าเล่นตัวน่าเรียว…” เรียวจันทร์สะบัดหน้าไปมองตาขวาง ตอนแรกนึกโกรธ แต่สักพักนึกอะไรเก๋ๆ ขึ้นได้เลยเปลี่ยนเป็นยิ้มพราว


“ก็มีดีให้เล่นตัวอะค่ะ ทำไมเหรอ” ว่าเสร็จก็หันไปหยิบผักสีเขียวที่ตัวเองไม่ค่อยจะกินใส่ในรถเข็น โยธินยกยิ้มมุมปากแล้วเดินเข้าไปซ้อนหลังร่างบางที่กำลังเดินเข็นรถเข็นของซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่


“เอ๊ะ?! เกาะแกะจังเลยอะ อย่ามาเจ๊าะแจ๊ะได้มั้ย ออกไป” เรียวจันทร์กระทุ้งข้อศอกใส่กล้ามท้องหนาของคนตัวใหญ่ เล่นเอาอีกฝ่ายจุกใช่เล่น แต่ก็ยังไม่ยอมเดินออกจากตัวเรียวจันทร์


“ก็แค่อยากช่วย” เรียวจันทร์ทำหน้าเอือมกับเสียงนุ่มชวนขนลุก นึกย้อนไปเมื่อก่อนแล้วก็กลัวตัวเองที่หลงใหลไปกับคารมของผู้ชายคนนี้


“งั้นช่วยไปไกลๆ จะไปหาหอยที่ไหนกินก็เชิญ”


“ก็บอกแล้วไงว่าอยากมุดถ้ำ”


“โอยยย! เก้งกวางละมั่งเลียงผาในเมืองไทยมีเยอะแยะ ไปหาสักคนเถอะไป ใช่ว่าหน้าอย่างเธอจะหาไม่ได้” เรียวจันทร์พูดด้วยความหงุดหงิด ออกแรงดันตัวโยธินออกห่างจากตัวเองสำเร็จ ก้มลงอ่านรายการสิ่งของในมือถืออย่างรวดเร็วเพื่อดูว่าเหลืออะไรอีกบ้างจะได้ไปจากหมอนี่สักที


“ไม่เอา อยากเอาเรียวคนเดียว” เรียวจันทร์กัดฟันแน่น รีบหยิบเนื้อหมู หมา กาไก่ ลงรถเข็นรัวๆ



“ไม่ต้องมาเอาฉัน รูฉันหลวม ขี้แตกสามเวลาติดกัน เอาไม่มันส์หรอก” โยธินหัวเราะเบาๆ ดูน่ารักด้วยลักยิ้มบนแก้มทั้งสองข้าง เรียกสายตาหนุ่มสาวได้หลายคนเชียวละ แต่กับเรียวจันทร์มันไม่ได้ผลอีกแล้ว


“แบบนี้ยิ่งต้องพิสูจน์” เรียวจันทร์กลอกตาก่อนจะว่าเสียงเหวี่ยง


“หน้าด้าน” ว่าจบก็เข็นรถไปที่เค้าน์เตอร์จ่ายเงินอย่างเร็ว โยธินเดินตามไปยิ้มไป


ณ ตอนนี้เขาหวังเพียงให้ได้ครอบครองเรียวจันทร์ดังเดิมก่อน แล้วถ้าสิ่งที่ได้ยินมาเป็นเรื่องจริง นั่นคือขั้นต่อไปที่เขาคาดหวังไว้หลังจากได้เรียวจันทร์คืนกลับมา




เรียวจันทร์ขับรถมาจอดหน้าบ้านตัวเองที่ไม่ได้กลับมาสองอาทิตย์เต็ม ๆ คิ้วโก่งสวยขมวดนิดหน่อยเมื่อเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์สามคนยืนเกาะขอบรั้วหน้าบ้าน และทำท่าทางคล้ายว่าจะบุกเข้าไปในบ้านของนางให้ได้ เจ้าของบ้านจอดรถ ลงจากรถด้วยอาการแตกตื่นนิดหน่อย เพราะในใจก็กลัวว่าพ่อสามคนนี้จะมาวางระเบิดบ้านตัวเองหรือเปล่า



“มีอะไรกันรึเปล่า” ชายสามคนในชุดที่ไม่มอซอแต่ก็ไม่ได้หรูหราหันกลับมามองเรียวจันทร์ที่ขมวดคิ้วมองทั้งสามคนอย่างไม่ไว้ใจ


“แล้วคุณเกี่ยวอะไรด้วย” ไอ้ผู้ชายร่างผอมหน้าตอบอย่างกับคนติดยาคนหนึ่งตอบแทนอีกสองคนที่เหลือ


“เกี่ยวมาก เพราะฉันเป็นเจ้าของบ้าน” สามคนนั้นหันมองหน้ากัน แล้วหันกลับไปมองเรียวจันทร์อีกที


“งั้นคุณก็ต้องรู้จักโรสิตาใช่มั้ย” เรียวจันทร์ยิ่งขมวดคิ้วหนักเมื่อหนึ่งในนั้นที่มีรูปร่างอ้วนท้วมเอ่ยถามกลับมา เรียวจันทร์มองอย่างระแวดระวัง และในขณะที่กำลังจะอ้าปากตอบ เสียงฝีเท้าวิ่งเร็ว ๆ ก็ดังออกมาจากในบ้าน


“เรียว! แกอย่าให้มันเข้าบ้านนะ!” เจ้าของชื่อหันไปมองมารดาตัวเองที่วิ่งหน้าตื่นตกใจออกมา ด้านหลังคือป้าอุ่นที่ยืนทำสีหน้าลำบากใจอยู่


“ปรากฏตัวออกมาได้แล้วเหรอครับคุณโรสิตา ถ้าอย่างนั้นขอเงินที่ติดเจ้านายผมไว้ด้วย” ไม่ต้องถามอะไรให้มากความ เรียวจันทร์หันไปมองแม่ตัวเองด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเต็มทน


“แม่เคลียร์เองนะ เพราะเรียวบอกไปแล้วว่าจะไม่ช่วยเหลืออะไรอีกทั้งสิ้น…” โรสิตาทำหน้าตกใจมากกว่าเดิม แต่เรียวจันทร์หาสนใจไม่


“…นี่ หลบหน่อย ฉันจะเข้าบ้าน จะคุยกับลูกหนี้ของนายก็เชิญ” ร่างบางว่าหน้าเฉยเมย พร้อมกับโบกมือให้ทั้งสามคนเป็นเชิงบอกให้ขยับหลบ สามหนุ่มสามไซส์เขยิบหนีออกจากรั้วบ้าน เรียวจันทร์กดรีโมตเปิดประตูอัตโนมัติ หย่อนก้นลงไปบนเบาะรถ ขับรถเข้าไปจอดด้านในโรงรถของบ้าน ชายสามคนเดินเข้ามาด้านใน ทำเอาโรสิตาวิตกจนหน้าซีด พอหันไปมองลูกชายตัวเองก็เห็นว่ามันยื่นของให้ป้าอุ่นด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ได้ทุกข์ไม่ร้อนใจใดๆ กับการที่มีคนมาทวงหนี้แม่ตัวเอง


“ไอ้เรียว แกจะทำเฉยไม่ได้นะ ช่วยฉันหน่อย!” เรียวจันทร์ถอนหายใจเบาๆ หันไปมองชายทั้งสามคนนั้น โรสิตายิ้มดีใจ


“เป็นคนของเสี่ยจอมทัพหรือเปล่า” ทั้งสามคนส่ายหน้า


“แล้วเป็นคนของ…” เรียวจันทร์เอ่ยชื่อเจ้าหนี้ของแม่ที่ตัวเองจำได้อีกสามสี่ราย แน่นอนว่าไม่รวมถึงธนาคาร เพราะทางนั้นคงไม่ส่งคนมาทวงแบบนี้แน่ๆล แต่ทั้งสามหนุ่มต่างปฏิเสธกับรายชื่อที่นางเอ่ยไป เรียวจันทร์พยักหน้าเบาๆ แล้วหันกลับไปมองหน้าแม่ตัวเอง


“ไม่ได้อยู่ในลิสต์ชื่อที่เราคุยกันไว้ ฉะนั้นเรียวไม่ช่วยใด ๆ ทั้งสิ้นตามข้อตกลง จัดการตัวเองนะขุ่นแม่” เรียวจันทร์หันไปยิ้มให้ป้าอุ่น ชวนให้แม่นมตัวเองเข้าบ้าน โรสิตาเลือดขึ้นหน้า อกแทบจะแตกตายที่เห็นลูกชายตัวเองเมินเฉยแบบนั้น


“อีเรียว! กลับมานะ! ช่วยฉันก่อน!


เรียวจันทร์ไม่สนใจเสียงเรียกและเสียงด่าทอของแม่ เดินเข้ามาในบ้านพร้อมป้าอุ่น แต่แม้จะทำเฉย ใบหน้าสวยหวานเกินชายก็แสดงถึงความเหนื่อยล้า ป้าอุ่นยื่นมือมาลูบหลังนางเบาๆ เรียวจันทร์หันไปยิ้มบาง


“คุณเรียวทำดีแล้วค่ะ ถ้าขืนยังตามเช็ดตามล้างให้ต่อไป เธอก็คงได้ใจไม่ยอมหยุดสร้างหนี้” เรียวจันทร์วางของลงบนโต๊ะไม้ในห้องครัว พยักหน้ารับน้อยๆ ด้วยสีหน้าเนือยๆ ได้ยินเสียงฝีเท้ากระแทกตึงตังขึ้นไปบนบ้านพร้อมกับเสียงก่นด่าด้วยความโมโห


แม้จะแก่นเซี้ยวเปรี้ยวจี๊ดแค่ไหน แต่คนที่ขึ้นชื่อว่าแม่กลับทำให้นางบั่นทอนกำลังใจตัวเองได้มากจริงๆ


“ขึ้นไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าทำกับข้าวไว้ให้ วันนี้จะนอนที่บ้านมั้ยคะ”


“คงไม่ล่ะป้า เดี๋ยวกินข้าวเสร็จคงกลับเขาใหญ่เลย”


“คุณเมฆาดูแลดีใช่มั้ยคะ” เรียวจันทร์ยิ้ม พยักหน้ารับเป็นการตอบคำถามนั้น นางไม่ได้บอกรายละเอียดลึกๆ ให้ป้าอุ่นรู้ว่าไปทำไม ไปทำอะไรเพราะอะไร แต่พอป้าอุ่นรู้ว่าจะไปอยู่ที่ฟาร์มของใคร หญิงสูงวัยก็จำได้ว่านั่นคือเพื่อนสนิทที่สุดของพ่อ ป้าอุ่นเคยพบคุณเมฆาสองครั้ง เธอเองก็ช่วยยืนยันว่าพ่อของเรียวจันทร์กับพ่อของคมเขี้ยวนั้นสนิทกันจริงๆ แต่ดีเทลอื่นๆ ของสองหนุ่มเพื่อนซี้ในอดีต ป้าอุ่นเองก็ไม่ได้ทราบมาก


“บางทีเรียวก็อยากย้ายไปอยู่ที่นั่นเหมือนกันนะ ป้าอุ่นรู้มั้ย ที่นั่นบรรยากาศดีมาก ไร้มลพิษทำลายจิตใจ” รอยยิ้มอ่อนล้าปรากฏบนใบหน้าสวยหวาน สาวสูงวัยมองเจ้านายน้อยของตัวเองแล้วยิ้มอย่างเข้าใจ


“ถ้าชอบ ก็อยู่ไปเถอะค่ะ แต่อย่าไปอยู่ถาวรนะคะ ป้าคิดถึง” เรียวจันทร์ระบายยิ้มอ่อนบนใบหน้าสวยๆ ก่อนจะขอตัวขึ้นไปพักด้านบน แต่ยังไม่ทันเดินถึงห้องนอน โรสิตาที่ใบหน้าเปื้อนน้ำตาก็เดินออกมาดักหน้านางไว้ก่อน


“สะใจแกแล้วใช่มั้ยที่ฉันต้องขายเครื่องเพชรที่ต้นตระกูลฉันสะสมมานาน!” เรียวจันทร์มองหน้ามารดาหน้าตาย


“ก็สมควรแล้วนี่ สร้างหนี้ขึ้นมาเอง ถึงเวลาก็ต้องชดใช้ อยากใช้เงินไปกับของไม่จำเป็น วันนึงมันก็ต้องขายของจำเป็นแบบนี้แหละคุณแม่”


“ไม่ต้องมาสอนฉัน…!”


“…ก็ถ้าไม่อยากโดนสอน ก็ไม่ต้องมาคุยกับเรียวสิ อยู่เงียบๆ ของแม่ไป ใช่ว่าเรียวอยากคุยด้วยเมื่อไหร่”


“แกนี่มันใจจืดใจดำจริงๆ!!” โรสิตาว่าด้วยสีหน้าเจ็บใจ เรียวจันทร์ขบกรามแน่น มองหน้าแม่ตัวเองอย่างหงุดหงิด


“อยากให้เรียวใจดำกว่านี้มั้ยล่ะ?!” สองแม่ลูกจ้องตากัน โรสิตามองอย่าโกรธจัด เรียวจันทร์มองอย่างหงุดหงิดสุดขีด แล้วสักพักโรสิตาก็เป็นฝ่ายสะบัดหน้าเดินกลับไปเข้าห้องนอนตัวเองและปิดประตูตามหลังดังปัง เรียวจันทร์หลับตาลง ถอนหายใจแรงๆ ก้าวเท้าเดินไปห้องนอนตัวเองต่อพร้อมกับเสียงโทรศัพท์มือถือ หยิบขึ้นมาดูหน้าจอก็เห็นว่าเป็นเสี่ยจอมทัพโทรมา นางพ่นลมหายใจเบาๆ แล้วกดรับสาย


“ว่ายังไงคุณเสี่ย”


[มาหาผมหน่อยสิ ผมอยากเจอ หรือจะให้ผมไปหาก็ได้นะ แค่บอกมาว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน] เรียวจันทร์กลอกตา ทำหน้าเอือม นางอยากพักร่างและสมองจากเรื่องน่าเหนื่อยใจที่เกิดขึ้น


“มีอะไรคะเสี่ยขา” นางแกล้งว่าเสียงอ่อนเสียงหวานพลางนั่งลงบนเตียง


[คิดถึงเมีย] พอตาเสี่ยนั่นพูดขึ้นมาเลยทำให้นางนึกขึ้นได้


“นี่ คุณไปบอกลูกน้องคุณเหรอว่าฉันเป็นเมียคุณอะ” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น สีหน้าไม่ค่อยจะพึงพอใจเท่าไหร่


[ก็มันจริง]


“ฉันเป็นลูกหนี้ที่ดันได้กับเจ้าหนี้เท่านั้นแหละคุณเสี่ย ไม่ใช่เมีย”


[แล้วต่างจากเมียตรงไหน ได้กันเกินสิบครั้งแล้ว] เรียวจันทร์ทำปากยื่นเมื่อได้ยินน้ำเสียงสบาย ๆ ของตาเสี่ยจอมหื่น


“โอ๊ย สวยอะไรปานนี้เนี่ย ผู้ชายอยากได้ไม่เคยว่างเว้น” เสียงหัวเราะทุ้มอารมณ์ดีของเสี่ยจอมทัพดังมาตามสาย ดูไปดูมาตาเสี่ยก็ไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไรร้ายแรงอย่างที่นังเป็ดบอกสักหน่อย ออกจะชิลลิ่งไม่สนอายุด้วยซ้ำ


[งั้นมาหาผมหน่อยสิ ผมอยากเจอ เผื่อบางทีผมอาจจะลดหนี้ให้แม่คุณอีกสักล้านสองล้าน] ก็คงจะเป็นเรื่องกามๆ แบบนี้นี่แหละที่ร้ายที่สุดจากที่เห็น


เรียวจันทร์ยิ้มเพลียละเหี่ยใจ “ถ้าลดให้หมดจะไปทันทีเลย”


[อย่าโลภมากสิจ๊ะหนู ล้านนึงเสี่ยก็ใจดีมากพอแล้ว] แม่นายแบบหน้าสวยถอนหายใจเบาๆ วันนี้นางถอนหายใจจนลมหายใจจะหมดตัวอยู่แล้ว


“วันนี้เหนื่อยมากเลยค่ะเสี่ยขา” เรียวจันทร์กำลังจะทิ้งตัวลงนอน แต่ประโยคต่อมาของเสี่ยจอมทัพก็ทำเอาเบรกร่างกลางทาง ตอนนี้เลยอยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอน


[แหม บางทีเสี่ยก็เหนื่อยที่จะรอหนูใช้หนี้ให้ครบสามเดือน ไม่อยากเก็บบ้านไว้เหรอจ๊ะ] พอได้ยินเรื่องบ้าน เรียวจันทร์ก็ใจหล่นวูบ สีหน้าเริ่มอึกอัก


“อย่ายุ่งกับบ้านผม” คนสวยว่าเสียงเย็น หน้าตาเริ่มไม่พอใจ พลางลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องนอนตัวเอง ก้าวไปยังห้องนอนเก่าของบิดา รีบค้นลิ้นชักที่เก็บเอกสารสำคัญๆ ไว้


[ถ้าไม่อยากให้ผมยุ่งกับบ้าน ก็ให้ผมยุ่งกับคุณดีๆ สิ] น้ำเสียงที่ใช้ของจอมทัพเริ่มเปลี่ยนไป จากเอ็นดูอ้อล้อ เริ่มออกแนววางอำนาจ แม้ไม่ได้แสดงออกมาโต้งๆ แต่เรียวจันทร์ก็สัมผัสบางสิ่งในน้ำเสียงราบเรียบนั้นได้


“ก็ได้ เดี๋ยวผมไปหา” เรียวจันทร์ว่าอย่างจำยอม จังหวะนั้นเองที่นางค้นเจอโฉนดที่ดินของบ้าน นางถอนหายใจอย่างโล่งอกที่มันยังคงอยู่ไม่ได้หายไปไหน


[แล้วเจอกันนะครับคนสวย] เรียวจันทร์วางสายจากจอมทัพ กอดโฉนดที่ดินของบ้านไว้กับอกแนบแน่น นางหลับตาลงแล้วผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ เพื่อระบายความเหนื่อยหน่ายในอกออกมา






 :hao3:

ชีวิตนางมารเจอเรื่องรุมเร้ามากค่ะ แต่แม่ก็คือแม่ แม่ยังสตรองงงง

เรื่องนี้ก็สบายๆ อยากให้อ่านแล้วยิ้มไปกับความเซี้ยวของแม่เรียวมากกว่า เรื่องนี้จะน่ารักด้วยตัวเรียวจันทร์นี่แหละค่ะ นางลูกบ้า ลูกเล่นเยอะนะ 55555 ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ใครที่ติดตามกันอยู่แล้ว ขอบคุณมากๆ เลยค่าาาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/75%:20.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Lyralyn ที่ 20-07-2016 22:11:59
ดีใจที่มาต่อแล้วว รอติดตามน้าค้าา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/75%:20.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-07-2016 22:24:42
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/75%:20.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 20-07-2016 22:26:38
 :katai2-1: ชีวิตขุ่นแม่นี่ลำบากเนาะะะ ลำไยงี้เอาเสี่ยดีมั้ยคะแม่ รวยๆสวยๆผัว(อำนาจ)ใหญ่55555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/75%:20.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Krittapas ที่ 20-07-2016 22:40:11
มาต่อทุกวันไม่ได้เหรอคะ ค้างตลอดเลย อยากร้องไห้วันล่ะสิบรอบ เข้ามารอทุกวัน ติดและชอบเรื่องนี้ งอลๆๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/75%:20.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 20-07-2016 22:45:05
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/75%:20.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 21-07-2016 15:47:44
น่าสงสารเรียวจังเลยน่ะ สู้ ๆ น่ะจ้ะ อ่านแล้วแอบเครียดยังดีที่มีนิสัยของแม่เรียวมาเบรกนิดนึง แต่ยังงง ๆ ว่าเหมือนนายยอร์ชจะรู้ว่าเรียวเป็นเจ้าของที่ดินแน่ ๆ เลยกะจะมาจับแน่ ๆ เลยแต่ตัวเรียวยังไม่รู้เรื่อง มีแม่เป็นแบบนี้มันก้อพูดยากน่ะ จะตัดก้อเหมือนใจร้ายจะช่วยก้อไม่ไหวแหละ ถ้าแม่ดีกับเรียวก้อคงช่วยอย่างเต็มที่แต่ทิ้งเรียวไปตั้งแต่เด็กเลยนี่น่า แล้วงวดหน้าเรียวต้องไปนอนกับอีตาเสี่ยนี่อีกเรอะ นอนแบบเต็มใจก้อรับได้น่ะ แต่นอนแบบฝืนทนนี่สงสารเรียวอ่ะ นายคมเขี้ยวมาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวหน่อยสิ ขอเพ้อนิดนึง
ติดตามต่อน่ะจ้ะ ยังไงมาอัพบ่อย ๆ น่ะจ้ะ แต่ก้อแอบคิดถึงน้องแมทกับพี่ยักษ์น่ะจ้ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/75%:20.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 21-07-2016 21:15:11
โอ้ยยยย

ชีวิตเรียวนี่มันยากแท้ อุปสรรคเยอะหลาย

แต่เรียวจันทร์ยังเข้มแข็งได้


กอดดดดดด
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/75%:20.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 22-07-2016 02:56:41
น่าสงสารเรียวจังเลย มาต่อไวๆน๊า สนุกมากค่ะ อย่าหายไปนานเค้าคิดถึง 555+ :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/100%:24.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 24-07-2016 14:56:43

คาถาที่ ๙ [100%]



หลังจากให้เสี่ยแทะเล็มไปสามรอบ เรียวจันทร์ก็ถูกปล่อยตัวพร้อมกับหนี้ที่ลดลงอีกหนึ่งล้านบาท หากเป็นคนอื่นอาจจะกำลังดราม่าเสียน้ำตาว่าทำตัวไม่ต่างจากผู้หญิงหรือผู้ชายขายตัว แต่กับแม่นางเรียวจันทร์น่ะเหรอ? ไม่มี้ นางหาได้แคร์ไม่และมีเหตุจำเป็นอันใดทำไมนางต้องแคร์ อะไรที่ลดหนี้ได้ก็ทำไปซี้ จะมาพิรี้พิไรทำใจแกร่งดังเหล็กหนาทำไมกัน มันไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก ดีไม่ดี ทำเล่นตัว ยืดเยื้อต่อไป ดอกเบี้ยก็บานตะไทเข้าไปสิ ตาเสี่ยนั่นก็ใช่ว่ากินไม่ได้ กินได้อิ่มหนำสำราญเลยละ ต้องยอมรับว่าแม้อายุของเสี่ยจะเสี่ยงเรียกแก่ แต่พออยู่บนเตียง เสี่ยกลบความแก่ซะมิด


วินวินทั้งคู่ เสียตัวเสียตูดให้แล้วก็ยังได้อะไรตอบแทนกลับมานอกจากความสนุกบนเตียง แต่การลดหนี้ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตาเสี่ยนั่นด้วย อารมณ์ดีก็ลดหนี้ให้ แต่ถ้าแค่อยากนอนกับนางด้วยเฉยๆ ก็ไม่มีการลดหย่อนหนี้อย่างใด ซึ่งข้อนี้นางเองก็ลำบากจะต้าน เพราะดูท่าแล้วการขัดใจเสี่ยจอมทัพไม่น่าจะใช่เรื่องดีเท่าไหร่ ไม่ได้กลัวตายนะ กลัวหนี้เพิ่ม


แต่วันนี้ที่ออกอาการอิดออดกับเสี่ยก็เพราะนางรู้สึกเหนื่อยจริงๆ มันหนักๆ ตึงๆ ในหัว โดนแฟนเก่าหน้าด้านตามติดจนหงุดหงิด กว่าจะสลัดหลุดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย กลับบ้านไปยังไปเจอคนทวงหนี้แม่ และยังต้องปะทะกับแม่ผู้ไม่เคยพูดจาดีกับนางนอกจากอยากจะให้ช่วยเหลือเรื่องเงิน 


เรียวจันทร์กลับมาถึงฟาร์มของคมเขี้ยวตอนราวๆ ห้าทุ่ม ในฟาร์มเปิดไฟสว่าง แต่ก็ไม่ได้เปิดทั่วฟาร์ม แค่ตามริมรั้ว แถวรถไถคันเก่า โรงนา คอกวัว คอกม้า หรือแล้วแต่เจ้าของฟาร์มจะบัญชาว่าจะให้เปิดไฟตรงไหนบ้าง แสงไฟทำให้ฟาร์มไม่มืดมิดหม่นหมองหรือดูน่ากลัว และแม้จะดึกแล้ว ในหมู่บ้านคาวบอยยังคงมีเสียงเพลงและเสียงพูดคุยดังแว่วมาให้ได้ยิน สีสันในหมู่บ้านดูจะสว่างไสวและรื่นเริงที่สุดในฟาร์ม


“ไปไหนมา?!”


“อุ๊ยแหก!” เรียวจันทร์ที่กำลังจะเดินกลับห้องนอนตัวเองซึ่งก็คือออฟฟิศของฟาร์มถึงกับสะดุ้งตกใจเมื่ออีตาคมเขี้ยวเดินโผล่ออกมาจากสวนหน้าบ้านใหญ่อันมืดมิดแบบไม่มีสุ้มเสียงเอื้อนเอ่ยใดๆ ให้รู้ล่วงหน้า พอเห็นว่าเป็นอีตาเคราแพะเรียวจันทร์ก็ถอนหายใจโล่งอก


“สะดุ้งตกใจอย่างกับพวกเด็กหนีเที่ยว” คมเขี้ยวหรี่ตามองอย่างจับผิด เรียวจันทร์ยืนทิ้งสะโพกข้างหนึ่ง บิดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มน้อยๆ


“แล้วคุณพ่อทูนหัวก็จับได้ว่าลูกสาวแอบหนีเที่ยวมา ว้า แบบนี้จะโดนลงโทษอะไรมั้ยน้า” แม่เสี้ยวจันทร์แสร้งทำหน้านึก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าแอ๊บแบ๊วว่ากลัวจังเลย ส่วนคมเขี้ยวก็หน้าเดิมคือ ขยาด


“โอ๊ย หน้าเดิมตลอดเวลา ฉีดโบท็อกซ์แล้วยังไม่เข้าที่รึไง!” เรียวจันทร์ประชดอย่างหมั่นไส้ ไอ้เจ้าของฟาร์มเบ้ปาก ลอยลอยตาไม่รู้สึกรู้สา


“แล้วทำไมยังไม่นอน ออกมาเดินมืดๆ ค่ำ…” หนุ่มหน้าสวยทำตาโต ประดิษฐ์สีหน้าดีใจบนใบหน้านวลผ่อง


 “…แอบมาดักเจอฉันล่ะซี้” นายแบบหนุ่มทำท่าเขินอายอย่างมีจริต คมเขี้ยวเบะปากแล้วส่ายหัวช้าๆ


“กำลังจะเข้าบ้าน ไปนั่งดื่มกับคนงานในหมู่บ้านมา แล้วดันเผอิ๊ญเผอิญเดินมาเจอผีตานีอย่างคุณ โอเคมั้ยครับคุณนาย ผมไม่ได้มาดักรอเพราะพิศวาสคุณนายครับ” คมเขี้ยวทำหน้าว่า เข้าใจ๊? เรียวจันทร์เชิดหน้าขึ้นแล้วเอียงหน้าราวสี่สิบห้าองศา ก่อนจะชายตามองชายหนุ่มอีกคน


“เบื่อจังเลย พวกผู้ชายปากแข็ง โอะ… เฮ้ย!” มาดเชิดหลุดกระเด็นออกจากร่างทันทีเมื่อเจอคมเขี้ยวผลักหัวเบาๆ แต่ด้วยความที่กำลังเชิดได้ที่เลยไม่ทันตั้งตัว หัวแทบทิ่มลงพื้น เรียวจันทร์สะบัดหน้าไปมองไอ้เคราตาขวาง


“แม่งโคตรเพ้อเจ้อ…” คมเขี้ยวกำลังจะอ้าปากว่าต่อ แต่สายตาเห็นรอยแดงบนอกขาวๆ ของอีกฝ่ายเลยยิ้มกรุ้มกริ่ม ถามเสียงทุ้มออกแนวกวนๆ


“…ไปอ่อยผู้ชายที่ไหนมาล่ะคุณนาย” เรียวจันทร์ที่กำลังหน้ามุ่ยชะงักไปนิดก่อนจะก้มลงมองหน้าอกตัวเองตามสายตาของไอ้เขี้ยวกุด สักพักก็เงยหน้าขึ้นกลับไปมองหน้ามันใหม่ ก่อนจะยิ้มแพรวพราว แววตาระยิบระยับ


“หึงล่ะซี้…” เรียวจันทร์ยิ้มกว้างล้อเลียน มองด้วยสายตาเขินอาย ยกนิ้วขึ้นชี้หน้าชายหนุ่มตัวโต บิดตัวเล็กน้อยให้ดูพองาม ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเข้าอกเข้าใจ


“…มีใจให้กันก็บอก ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะฉันก็ชอบนายอยู่ นายก็รู้” เรียวจันทร์ขยิบตาให้หนึ่งวิ้ง คมเขี้ยวทำหน้าหยีเหมือนเห็นขยะเปียกก็ไม่ปาน เรียวจันทร์ยิ้มเบะปากด้วยความหมั่น แล้วด้วยความรวดเร็ว แม่ตัวดีรีบพุ่งตัวเข้าไปกอดร่างโตๆ ของไอ้เขี้ยวกุดไว้แน่น


“เฮ้ย!! ผีเกาะ ออกไป!” แน่นอนว่าคนโดนกอดพยายามทั้งดัน ทั้งแกะไอ้จันทร์ไรออกให้ไกลจากตัว แต่ไอ้ตัวป่วนก็กอดเขาไว้ซะแน่น ล็อคเอวเขาแน่นหนา เอาหน้าแนบชิดกับอก เกาะติดยิ่งกว่าลูกลิงเกาะท้องแม่


“หืม อกแน่น หน้าท้องดี๊ดี หุ่นแบบนี้ซบแล้วฟินเฟ่อ”


“โอ๊ย ไอ้จันทร์ไร!” ด่าไปก็พยายามดันร่างบางออกจากตัวเองแต่ก็โดนเกาะติดหนึบหนาแน่น กำลังจะอ้าปากขู่แต่เสียงแผ่วเบาของคนที่กอดเขาไว้ก็ทำให้ชะงัก


“เขาบอกว่าการกอดใครสักคนแล้วจะทำให้เรารู้สึกดี…” เพราะมันคือน้ำเสียงอันเหนื่อยล้า และเหมือนจะเป็นตามนั้นจริงๆ ไม่ใช่เสียงเสแสร้งแกล้งทำ


“…ท่าจะจริงเนอะ” อ้อมแขนที่กอดตัวเขาไว้แน่นในตอนแรกค่อยๆ คลายออก แต่ก็ไม่ได้เลิกกอดเขา คมเขี้ยวนึกทำตัวไม่ถูกที่เจอเรียวจันทร์ในหมวดสงบเสงี่ยมแบบนี้


“นี่คุณนาย…”


“…ขอแค่แปบเดียว ฉันรู้สึกดีจริงๆ นะ” อ้อน? ไอ้จันทร์ไรอ้อนเหรอ แต่ก็ไม่ใช่ออดอ้อนจนขนลุก แต่ให้ความรู้สึกกำลังพอดี


คมเขี้ยวถอนหายใจแผ่วเบาและเลิกพยายามที่จะดันอีกฝ่ายออกจากตัวเอง เดี๋ยวพอรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมก็คงพอ เขาเลยยืนให้คนตัวเล็กกว่ากอดและซบหน้ากับอกเขาต่อ


ก็แค่เห็นว่าดูเหนื่อยๆ หรอกนะเลยไม่อยากซ้ำเติมมาก
.
.
.
แต่เฮ้ย… นี่มันนานไปละ จะสิบนาทีแล้วเนี่ย แล้วทำไมคุณนายมันนิ่งไป คมเขี้ยวก้มลงมองหัวสีโค้กที่ไม่มีทีท่ากระดุกกระดิกแล้วยกมือจิ้มๆ ไหล่ของเรียวจันทร์


“เฮ้ย ไอ้จันทร์ไร”


“…” ไม่มีการตอบรับจากปลายทาง


“เฮ้ย หลับเหรอวะ จะหลับก็กลับไปที่ห้องโน่นแม่คุณ” แต่เรียวจันทร์ก็ยังคงนิ่ง ยืนกอดเขาไว้ไม่ยอมขยับ กำลังจะอ้าปากด่าต่อ แม่คุณนายเขาก็เงยหน้างัวเงียขึ้นมา


“นี่ ถ้าจะ…”


“…งิ้มๆ น้องเรียวง่วง พ่อไปส่งน้องเรียวนอนหน่อย งึ้มๆๆ” คมเขี้ยวขมวดคิ้วแล้วนึกในใจว่ามันบ่นอะไรของมัน บ่นเสร็จก็เขย่งตัวเอาคางมาเกยไหล่ขวาเขาไว้ สองแขนยกขึ้นโอบรอบคอเขาแน่น


“นี่!”


“อุ้มๆ พ่ออุ้มๆ น้องเรียวง่วงงง” ละเมอเหรอวะ ละเมอห่าอะไรแบบนี้ นึกว่าตัวเองเป็นเด็กรึไง แอคติ้งใส่กูอีกรึเปล่าเนี่ย


“ไอ้ดิน มึงไปถามพี่เขี้ยวซิ…” คมเขี้ยวเบิกตากว้างตกใจเมื่อได้ยินเสียงลูกน้องดังมาจากแถวทางเข้าหมู่บ้านคาวบอย ด้วยความไม่อยากให้พวกมันเห็นภาพนี้แล้วเอาไปแซวไม่เลิกอีก เขาเลยรีบอุ้มร่างเรียวจันทร์ไว้ในอ้อมกอด สองแขนเรียวจันทร์เกาะอยู่บริเวณคอกับไหล่คนตัวโต หัวโงนเงนซุกอกแกร่งของคมเขี้ยว


คมเขี้ยวก้าวเท้าฉับๆ อุ้มร่างบางไว้ในอ้อมแขน สีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย ดีที่ไอ้จันทร์ไรตัวเบา ผู้ชายห่าอะไรวะตัวเล็กแค่นี้ เอวบางร่างน้อยพอๆ กับผู้หญิง อ้อ ลืมไป คุณนายแกเป็นนายแบบ แถมยังไม่ใช่ชายเต็มร้อย เลยต้องรักษาหุ่นสินะ


“ลำบากผมจนได้นะคุณนาย” บ่นพึมพำคนเดียวในขณะที่อุ้มร่างเรียวจันทร์เข้ามาในห้องนอนในออฟฟิศที่มืดมิด มีเพียงแสงไฟจากด้านนอกที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่างที่มีม่านกันอีกทีเท่านั้นที่ให้แสงสว่างจางๆ เขาวางร่างบางไว้บนเตียง กะจะเปิดแอร์ให้แล้วเดินออกไปทันที แต่สองแขนไอ้จันทร์ไรก็เกี่ยวคอเขาไว้แน่น


“ปล่อยได้แล้ว”


“ฮื่อออ ไม่เอา พ่อนอนกับน้องเรียวสิ นะ น้องเรียวคิดถึงพ่อ ฮึกๆ” คมเขี้ยวตะลึงไปนิดเมื่อเห็นอีกฝ่ายเบะปากก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา


“หลอกกูอีกมั้ยเนี่ย” ด้วยความที่เคยเห็นไอ้จันทร์ไรบีบน้ำตาสดๆ ต่อหน้ามาก่อน เขาเลยไม่ค่อยจะไว้ใจน้ำตายัยคุณนายเท่าไหร่ แต่วงแขนที่กระชับคอเขาให้ไปใกล้ใบหน้านวลผ่องเกินชาย และท่าทางที่พยายามซุกหาไออุ่นก็ทำให้คมเขี้ยวถอนหายใจ


‘ตั้งแต่พ่อหนูเรียวตาย เขาก็ต้องอยู่ตัวคนเดียว มีแม่ก็เหมือนไม่มี ไอ้อาทิตย์คือสิ่งยึดเหนี่ยวในชีวิตที่หนูเรียวรักที่สุดแล้ว’


เสียงของป๋าที่เคยเล่าเรื่องของไอ้จันทร์ไรแบบคร่าวๆ ให้ฟังดังขึ้นในหัว คมเขี้ยวถอนหายใจแผ่วเบาอีกรอบ ก่อนที่จะถลกผ้านวมออกจากเตียง ค่อยๆ หย่อนตัวเองไปนอนข้างๆ เรียวจันทร์ วินาทีที่เขานอนลงด้านข้าง เรียวจันทร์ก็ปล่อยมือออกจากคอเขาแล้วกระเถิบหัวขึ้นมาหนุนอกเขาทันที สองแขนกอดร่างเขาเอาไว้ราวกับกอดหมอนข้าง


อยู่อีกพักนึงก็แล้วกัน ให้คุณนายแกได้ซึมซับพ่อในฝันไปก่อน


คมเขี้ยวดึงผ้านวมสีขาวผืนหนาขึ้นมาห่มร่างตัวเองกับเรียวจันทร์ เอื้อมมือขวาไปหยิบรีโมตแอร์มากดเปิดแอร์ก่อนจะเอาวางไว้บนโต๊ะหัวเตียงตามเดิม สองแขนเก้ๆ กังๆ ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนดี สุดท้ายเลยยกแขนขวาหนุนหัวตัวเองไว้กับหัวเตียง แขนซ้ายวางราบไปกับหมอนอีกใบ ปล่อยให้คุณนายเรียวจันทร์นอนกอดตัวเองไว้แน่น


คมเขี้ยวก้มลงมองหัวทุยสวยของอีกฝ่าย ก่อนจะส่ายหัวน้อยๆ ที่ต้องมาอยู่ในสภาพนี้กับไอ้ตัวจี๊ด แต่ตอนนอนก็ไม่มีพิษมีภัยอะไร สงบเสงี่ยมดี แต่ก็แน่อยู่แล้ว นอนอยู่แบบนี้จะลุกขึ้นมาแผลงฤทธิ์ได้ยังไงล่ะ รอให้ตื่นก่อนสิ โลกาวินาท


และแม้คมเขี้ยวจะเคยเห็นแอคติ้งของเรียวจันทร์มาบ่อยครั้ง แต่ยังไงซะ พ่อหนุ่มก็ไม่มีทางตามคุณนายแกทันหรอก เพราะตอนนี้คุณนายแกนอนหลับตาพริ้มยิ้มอิ่มชัยที่หลอกให้ผู้ชายมาส่งตัวเองถึงเตียงนอนได้ ต้องขอบคุณครูแงะสำหรับวิชาการแสดงที่ยอดเยี่ยมในบทแกล้งนอนละเมอ และขอบคุณพ่อที่ให้ลูกใช้ชื่อมาอ้อนบังหน้า ฮิๆ

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/100%:24.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Krittapas ที่ 24-07-2016 15:33:19
สนุกมากกกกก มาต่อทุกวันเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/100%:24.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 24-07-2016 15:50:33
บสงทีก็หมั่นนางนะคุณนายเธอแอ๊คติ้งสุกยอดมาก 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/100%:24.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-07-2016 21:35:36
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/100%:24.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 25-07-2016 02:22:49
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/100%:24.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 25-07-2016 10:57:30
จะสงสารคมเขี้ยวดีไหมเนี่ย  :mew4: แต่สงสารแม่เรียวจริง ๆ มีแม่ไม่ดีเนี่ยเป็นกรรมส่วนตัวจริง ๆ  :เฮ้อ: ยังไงก้อสู้ ๆ น่ะ เราว่าเสี่ยต้องรู้แน่ ๆ ว่าที่ผืนนี้เป็นของเรียวหรือเปล่าและทำไมใคร ๆ อยากได้ที่พื้นนี้จัง ชักสงสัย  :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/100%:24.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 25-07-2016 23:06:43
บางทีก็อยากตบเสี่ยนะ :beat:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/100%:24.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คนอ่าน ที่ 02-08-2016 10:37:30
สนุกมากกกกกชอบเคะราชินี
กับเมะที่ดูรังเกียจเคะแบบนี้555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๙/100%:24.07.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 03-08-2016 17:29:13
มารยาคุณนาย ล้านเล่มเกวียนยังถือว่าน้อยไป
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๐/50% :15.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 15-08-2016 18:13:15


คาถาที่ 10 :: The enemy of Devil. (ศตรูนางมาร) [50%]




   เสียงนกร้องจิ๊บๆ คลอไปกับเสียงไก่ขันดังแว่วมาจากไกลๆ ในตอนเช้าที่แสงอาทิตย์สีส้มสว่างสาดแสงเป็นวงกว้างบนท้องฟ้าสีเข้ม ดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ขึ้นพ้นจากยอดเขาสีเขียว ดอกทานตะวันที่ห้อยหัวต่องแต่งกำลังจะมีโอกาสเงยหน้าสู้ฟ้าอีกรอบ ดอกไม้ใบหญ้าที่หลับใหลในยามค่ำคืนที่ผ่านมา กำลังบิดขี้เกียจรับแสงตะวัน เหล่ามนุษย์หลายคนที่มีหน้าที่ในตอนเช้าตรู่ก็ตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ของตนในวันใหม่
   

แต่ก็ยังมีมนุษย์อีกหนึ่งชีวิตที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนุ่มๆ ใต้ผ้านวมผืนหนา โดยมีร่างบอบบางที่ตื่นนอนแล้วนอนกอดไว้ตั้งแต่คืนที่ผ่านมา คมเขี้ยวหลับตาพริ้ม ริมฝีปากบนเผยอขึ้นเล็กน้อย ลมหายใจอุ่นๆ ผ่อนเข้าผ่อนออกเบาๆ


เรียวจันทร์แหงนหน้ามองอีกฝ่ายแล้วยิ้มกริ่ม หัวเราะคิกคักในลำคอเบาๆ กับตัวเอง รู้สึกปริ่มใจที่ได้นอนกอดผู้ชายคนนี้ไว้ทั้งคืนในอ้อมกอดตัวเอง แต่ที่ปริ่มยิ่งกว่าคือแม่นางสามารถล่อลวงให้ไอ้เขี้ยวกุดมาตกหลุมพรางของตัวเองได้ต่างหาก เรียวจันทร์ยกมือซ้ายจะเอื้อมไปสัมผัสเคราบนใบหน้าหล่อของคมเขี้ยว แต่สักพักก็นึกอะไรขึ้นได้ เลยเปลี่ยนจากยกมือขึ้นด้านบนลงไปด้านล่างแทน


เรียวจันทร์สอดมือเข้าไปใต้ผ้านวม ไม่เสียเวลาคลำใดๆ ทั้งสิ้น มือเรียวบางคว้าหมับเข้าที่เป้ากางเกงนอนเนื้อนุ่มของคมเขี้ยว ก่อนที่แม่นางจะอ้าปากตาโตด้วยความตื่นเต้น


“โอ้วมายก็อดดด ตุงมาก ยาวมาก” เรียวจันทร์พูดเสียงกระซิบ ใบหน้าแสดงออกถึงความระริกระรี้



“อือ…” เจ้าของความยาวที่เรียวจันทร์จับๆ คลำๆ ครางเสียงแผ่ว เรียวจันทร์แหงนหน้าขึ้นมอง ดวงตาเป็นประกายวิบวับ หัวใจเต้นตุบๆ ไม่ได้ตื่นเต้นที่อีกฝ่ายจะตื่นหรือไม่ แต่ตื่นเต้นที่ได้จับของดีแต่เช้าแบบนี้ต่างหาก


“ใจไม่ดีเลยอะ…” เรียวจันทร์พึมพำสีหน้าเปรี้ยวปาก ขอบคุณกลไกร่างกายของชายหนุ่มยามเช้าที่ทำให้นางได้สัมผัสลอง (long) เขี้ยว และขอบคุณพ่อเครางามที่ไม่ใส่กางเกงในนอน นางเลยได้ฟินตั้งแต่เช้ารับแสงอรุณแบบนี้


“อืมมมม…” เรียวจันทร์หน้าเคลิ้ม มือซ้ายลูบไปตามความยาวของเขี้ยวน้อย คมเขี้ยวผ่อนลมหายใจแผ่วเบา รู้สึกเสียวตรงกลางลำตัวกับท้องน้อย จิตใต้สำนึกสองจิตกำลังตีกัน จิตนึงบอกว่ารู้สึกฟินดี แต่อีกจิตก็กำลังแยกแยะว่ามันคือฝัน (เปียก) หรือเรื่องจริง เขาปล่อยวางทุกอย่างทิ้งแล้วค่อยๆ ตั้งสติ เปลือกตาขยับทีละน้อย


“อื่อ… เฮ้ย!!” คมเขี้ยวเบิกตากว้าง ร้องเสียงหลงแต่ก็ไม่ได้ดังลั่นจนน่าตกใจ เขาจ้องร่างบางที่นอนอยู่ข้างเขาพร้อมกับรอยยิ้มพริ้ม


“หม่อนิ้ง” เรียวจันทร์เอ่ยเสียงยานคาง มือซ้ายยังคงจับๆ คลำๆ ของดีของคมเขี้ยวไม่ยอมปล่อย คมเขี้ยวเพิ่งตื่นเลยยังงงๆ อยู่สักพัก


“คุณ...” เขาขมวดคิ้ว กำลังจะอ้าปากถามว่าอีกฝ่ายมาอยู่นี่ได้ยังไง แต่พอสติเริ่มไหลเข้ามาในหัวเลยนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเขาเผลอหลับไปพร้อมกับไอ้จันทร์ไร


“มอร์นิ่งคิสกันมั้ย” เรียวจันทร์กะพริบตาปริบวิ้งๆ คมเขี้ยวเบลออีกสักแปบก่อนจะรู้สึกได้ว่าเป้าตัวเองโดนมือมืดลวนลามอยู่ เขาสะบัดผ้านวมออกแล้วก็เห็นเต็มตา เรียวจันทร์แสร้งทำตาโต อ้าปากหวอคล้ายตกใจ แต่มือที่จับเป้าคมเขี้ยวไว้ก็ไม่ยอมปล่อย


“อุ๊บส์! โดนจับได้ซะแล้ว แย่จัง~” เรียวจันทร์แสร้งยิ้มเขิน บิดไหล่ซ้ายน้อยๆ แต่มือซ้ายจับลำคมเขี้ยวไม่หลุด ยิ่งกว่าตุ๊กแกเกาะผนัง


“เอามือออกไป” คมเขี้ยวสั่งเสียงเรียบ จ้องคนตัวเล็กดุๆ แต่อีกฝ่ายหาได้สนใจไม่ กลับทำหน้าใสซื่อ และเลื่อนมือลูบเป้าเขาไปตามความยาวเบาๆ เล่นเอาเผลอเกร็งหน้าท้องไม่รู้ตัว


“ฉันก็เดาว่านายน่ะไม่ธรรมดาแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ แบบนี้ถ้าโดนเข้าไปคงทั้งจุก ทั้งเสียวตลอดทริปเลยล่ะ” คมเขี้ยวขมวดคิ้วหน้ามุ่ย เอื้อมมือขวาไปกระชากมือซ้ายของเรียวจันทร์ออก เขาทำท่าจะลุกขึ้น แต่เรียวจันทร์รีบเด้งตัวขึ้นแล้วกระโดดขึ้นนั่งคร่อมเขา


“ไอ้จันทร์ไร อย่าลามปาม ลงไป!” คมเขี้ยวเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงมีน้ำโห เขาบีบข้อมือซ้ายของเรียวจันทร์แน่น คนข้างบนยิ้มกริ่มไม่สะทกสะท้าน


“แหม มันแข็งขนาดนี้ เอาออกหน่อยสิ ฉันช่วยได้นะ”


“จะกินเยี่ยวผมรึไง ผู้ชายมันก็เป็นทุกคนแหละตอนเช้า ถึงคุณจะไม่ใช่ชายแท้ แต่ก็ไม่ต่างจากผมหรอก” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้น แล้วก้มลงมองเป้าตัวเองแวบหนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม


“ก็จริงนะ ถ้างั้นเราต้องปลดปล่อยแบบแพ็คคู่” เรียวจันทร์ขย่มเป้าคมเขี้ยวเบาๆ เด้งตัวไปข้างหน้าข้างหลังช้าๆ หน้าท้องคมเขี้ยวหดเกร็งวูบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเลื่อนสองมือมาจับเอวของคนด้านบน


เอวแม่งโคตรเล็ก เอาไส้ไปไว้ไหนวะ


“ลงไป ก่อนที่ผมจะทำร้ายคุณ…” เรียวจันทร์ยกสองมือประกบหน้าคมเขี้ยว ก้มลงจูบริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว นางกดริมฝีปากบางของตัวเองแนบชิดสนิทไปกับริมฝีปากหนาของอีกฝ่าย คมเขี้ยวช็อคไปนิดหนึ่งที่โดนจู่โจมอย่างว่องไว เขาบีบเอวเรียวจันทร์แน่น แต่พอนึกขึ้นได้ว่าจับตรงนี้ก็ไม่ช่วยอะไร เขาเลยยกสองมือขึ้นจับหน้าสวยเกินชายของเรียวจันทร์ไว้แล้วดันออกอย่างแรง จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความโมโหที่เริ่มมากขึ้น


“ผมเตือนดีๆ แล้วนะ ออกไป!” แต่เรียวจันทร์กลับทำตรงกันข้าม นางปัดสองมือคมเขี้ยวออกอย่างแรง ล็อคหน้าอีกฝ่ายไว้อีกรอบและก้มลงจูบ คราวนี้พยายามใช้ลิ้นแทรกแซงเข้าไปในปาก คมเขี้ยวปิดปากแน่นและยกสองมือจับไหล่เรียวจันทร์ไว้ตั้งท่าจะผลักออกแรงๆ แต่เรียวจันทร์ก็ใช้สองมือตัวเองและแรงที่แม้จะน้อยนิดแต่ก็พยายามใช้กดข้อมือทั้งสองข้างของคมเขี้ยวไว้บนเตียง และพยายามเปิดปากคมเขี้ยวให้ได้


“เฮ้ย! บอกให้ออกไปไง!” คมเขี้ยวสะบัดหน้าหนี น้ำเสียงเริ่มหงุดหงิดได้ที่ และเริ่มหัวเสียหนักขึ้น เรียวจันทร์เปลี่ยนเป็นไซ้คอคมเขี้ยวแทน คนด้านล่างเริ่มออกแรงดิ้นแรงขึ้นจนคนด้านบนโคลงเคลงแต่ก็ไม่ย่อท้อต่อการไซ้คอผู้ชาย


“ไอ้จัญไร!” เรียวจันทร์น่ะรู้แล้วละว่าควรพอตรงไหน แต่ก่อนจะหยุดก็ขอให้ได้ทำอะไรบ้าง นางเลยฝากรอยจูบเอาไว้ที่ซอกคอซ้ายของคมเขี้ยว ก็เป็นจังหวะที่คมเขี้ยวดันตัวนางออกจากตัวเองพอดี เรียวจันทร์ยกหัวขึ้นตั้งตรงแล้วถอนหายใจหน้าเซ็ง ปล่อยให้คมเขี้ยวใช้สองมือบีบไหล่ตัวเองแน่น แม้จะเจ็บแต่นางก็ยังคงนั่งคร่อมเป้าผู้ชายเอาไว้อยู่


“โห่ อะไรอะ ใจแข็งชะมัด ยั่วยากจริงๆ เลยนะ ว้าย!” ร่างบางหน้าเหวอเมื่อโดนคนตัวโตใช้แขนซ้ายข้างเดียวผลักตกลงไปบนเตียงอีกฝั่ง ก่อนที่คมเขี้ยวจะลุกขึ้นนั่งและสะบัดตามองเรียวจันทร์ด้วยความไม่พอใจ


“เริ่มลามปามหนักขึ้นละนะไอ้จังไร” คมเขี้ยวว่าเสียงเหี้ยมพร้อมชี้หน้าอีกฝ่ายหน้าตาเอาเรื่อง เรียวจันทร์ตีหน้ามึน ทำไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่จริงในใจก็รู้แหละว่ารอบนี้ไอ้เขี้ยวกุดอาจจะชกนางจนฟันหลุดเลยก็ได้ถ้ายังไม่หยุด


“แหม ก็ฉันอยากทำนี่ นายน่ากินเพิ่มเป็นสองเท่าเลยนะแบบเนี้ย” แต่นางก็ยังมิวายแทะเล็มด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแบบที่ถ้าคมเขี้ยวไม่อคติ ก็ต้องบอกว่ามันดูกระเง้ากระงอดน่ารักไม่น้อย แต่ตอนนี้พ่อเครางามกำลังอยู่ในอาการหงุดหงิดพร้อมชกยิ่งกว่านักมวย เขาขมวดคิ้วมองไอ้จันทร์ไรที่นอนเอวคอดก้นโด่ง ก่อนจะลุกออกจากเตียงไปยืนบนพื้น เรียวจันทร์มองเป้ากางเกงสีเทาตุงๆ แล้วอมยิ้มกรุ้มกริ่ม 


“ไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าเป็นผู้ชายที่น่ากินมากคนนึง ฉันคิดไม่ผิดจริงๆ เลยอะที่ชอบนาย” เรียวจันทร์ยิ้มภูมิใจ น้ำเสียงอ่อนหวานเบาหวิว ริมฝีปากสีชมพูห่อเป็นดอกบัวตูมน่ารักๆ กะพริบตาวิ้งๆ ให้คมเขี้ยวที่ยังคงทำหน้าโมโหอยู่ และเมื่อเห็นว่าอีตาหนุ่มคาวบอยยังคงไม่ยิ้มแย้ม นางเลยจิ๊ปาก


“โอเค ขอโทษก็ได้…” ว่าแล้วก็ยกมือพนมขึ้นตรงอก แต่นางยังกวนประสาทอีกฝ่ายด้วยการพนมมือแบบนางรำที่แบะนิ้วออกสองฝั่ง แล้วยกมือขึ้นถวายบังโคมอย่างอ่อนช้อย


 “…อิฉันขอโทษนะคะคุณคมเขี้ยวที่ทำเกินเหตุ” เรียวจันทร์ยิ้มหวาน ส่วนคมเขี้ยวทำหน้าเหี้ยมไม่เปลี่ยน คำขอโทษของไอ้จังไรไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น แต่หมั่นไส้มันกว่าเดิมอีก


“คราวหน้าอย่ามาทำแบบนี้อีกนะ เดี๋ยวแม่งชกให้หน้าพังทั้งหน้า” คราวนี้เรียวจันทร์สะดุ้งตกใจจริงไม่แอคติ้ง รีบยกสองมือจับหน้าตัวเอง


“เฮ้ย โหดร้ายที่สุด หน้าฉันคือเครื่องทำมาหากินเลยนะ!”


“ไม่อยากอดตายอย่าทำแบบนี้กับผมอีก!!” คมเขี้ยวตะคอกลั่น ไหล่สองข้างของเรียวจันทร์กระตุกเพราะตกใจ (ของจริง) คนตัวเล็กมองหน้าคนตัวใหญ่ที่กระฟัดกระเฟียดเครียดเข้มข้นแล้วทำหน้างอ


“ขอโทษแล้วกันค่ะคุณคมเขี้ยวที่ดิฉันมิอาจห้ามใจไม่ให้อยากกินคุณ ขอโทษที่มองว่าคุณหล่อและแซ่บจนกลีบผกาของดิฉันสั่นไหวระดับสิบริกเตอร์!” คมเขี้ยวยังขมวดคิ้วกับข้อแก้ตัวประหลาดจากคนประหลาดอย่างนังคุณนายจัญไร เขาไม่อยากเสียเวลากับมันอีก ไม่รู้ว่าจะบ้าได้ถึงเลเวลไหน เขาเลยก้าวเท้าเดินไปที่ประตูห้องนอน


แต่ไอ้จันทร์ไรก็คือไอ้จันทร์ไร มันสะทกสะท้านที่ไหนล่ะ


“อยากโดนเขี้ยวนายฝังแรงๆ จัง วี้ดวิ้ววว” คมเขี้ยวสะบัดหน้าไปมองนังคุณนายตัวแสบที่หัวเราะอ้าปากกว้างพร้อมรอยยิ้มเริงร่า เขาขบกรามแน่นแล้วเลือกจะเดินหนี เพราะถ้าเขาเลือกอีกทางเขาคงได้เดินเข้าไปต่อยหน้าสวยๆ นั่นเละแน่


คนอะไรวะ หน้าด้าน กวนตีน ปากดีและไม่ได้ดีแต่ปากด้วยนะ แม่งมันคือความหายนะของชีวิตเขาชัดๆ







หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จแล้ว เรียวจันทร์ก็ออกไปหาอะไรกินที่โรงอาหารของคนงานที่อยู่ข้างบ้านคมเขี้ยว เป็นโดมไม้ทรงกลมโปร่งๆ มีต้นไม้ต้นใหญ่ตรงกลางโดม โต๊ะอาหารตั้งวางเรียงรายล้อมรอบต้นไม้ เรียวจันทร์เจอกับดินในตอนเช้า ทั้งคู่นั่งทานข้าวด้วยกันและพูดคุยกันอย่างสบายๆ เรียวจันทร์ไม่ได้เข้าไปทำความรู้จักกับคนงานอื่นๆ ของคมเขี้ยว แต่ก็ส่งรอยยิ้มให้หากใครมองหรือยิ้มให้ก่อน ยกเว้นก็แต่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเจอตอนคมเขี้ยวพาเดินดูฟาร์ม ผู้หญิงที่ชอบคมเขี้ยว หล่อนมองนางอย่างไม่เป็นมิตร แต่เรียวจันทร์ก็ไม่ได้พยายามยิ้มสร้างมิตรแต่อย่างใด มองมาอย่างต่อต้านขนาดนั้น คุณนายเรียวแกเลยปรายตามองให้แม่นั่นทำหน้าหงุดหงิดเล่นๆ


“ไอ้น้อยหน่าครับ มันชอบพี่เขี้ยวมาก” เรียวจันทร์อ้าปากเล็กน้อยที่โดนดินจับได้ว่ากำลังปรายตามองชะนีตนนั้นอยู่ เรียวจันทร์ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มทีละนิด


“งั้นเหรอ แต่ดูท่าทางจะเป็นรักข้างเดียวเนอะ” เรียวจันทร์ไหวไหล่ขวาเบาๆ ตักไข่ดาวราดซอสพริกเข้าปาก 


“ใช่ครับ น้อยหน่ามันชอบพี่เขี้ยวมานานแล้ว แต่พี่เขี้ยวไม่ได้ชอบมัน ผมว่าพี่เขี้ยวชอบคุณเอื้อง นางพยาบาลคนสวย” เรียวจันทร์ชะงักไปนิดหนึ่ง ทวนความจำว่าเคยได้ยินถึงคำว่านางพยาบาลคนสวยมาก่อนเมื่อไม่นานมานี้


“…อ้อ ระวังคุณพยาบาลคนสวยคนนึงไว้นะ ผมเห็นเธอกับไอ้เขี้ยวสนิทสนมกัน นั่นอาจเป็นคู่แข่งคนสำคัญของคุณก็ได้”


เรียวจันทร์เลิกคิ้วและเบ้ปากนิดหนึ่งก่อนจะถามเสียงเรื่อยเปื่อย “อ้อ สวยมากมั้ย” ดินพยักหน้ารับแรงๆ แววตาใสซื่อไม่โกหกว่าอีกฝ่ายนั้นสวยมาก


“สวยครับ แต่…” ดินขมวดคิ้ว ทำท่าอึกอักไม่อยากพูด เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นสูงงงๆ


“…แต่ผมว่าคุณเอื้องมีบางอย่างที่ทำให้ผมไม่ค่อยชอบแบบที่ผมชอบคุณเรียว” เรียวจันทร์ยิ้มเขิน ยกมือไปตีแขนแน่นๆ ล่ำๆ ของดินเบาๆ หนึ่งที


“ดินล่ะก็ ทำให้เขินอีกละ”


“จริงๆ นะครับ คุณเอื้องเธอสวย แต่ผมอึดอัดแปลกๆ เวลาอยู่กับเธอ”


“แล้วเจ้านายดินเขาไม่รับรู้ความแปลกนั้นเลยเหรอ” ดินส่ายหัวรัวๆ


“ไม่รู้เหมือนกันครับ” เรียวจันทร์พยักหน้านิดๆ ไม่ได้คิดต่อเรื่องราวอันนี้ให้มันยืดยาวใดๆ เพราะนางไม่ได้กังวลกับชะนีนางนั้นเลยสักนิด ถ้าสวยมากขนาดนั้น แน่จริงหล่อนก็ไปคว้ามงกุฎนางงามจักรวาลคนที่สามมาให้ไทยสิยะ


“นี่ดิน มีคนมาขอซื้อที่ดินของเจ้านายดินเยอะมั้ย” ดินเลิกคิ้วขึ้นงงๆ นิดหนึ่ง เรียวจันทร์มองออกว่าดินคงงงว่าทำไมจู่ๆ นางถึงถามประเด็นนี้


“ก็… ฉันเห็นที่แถวนี้เป็นที่ต้องการเยอะ แล้วชาวบ้านก็ขายกันหลายคน ที่ดินของนายเขี้ยวก็สวยจะตาย ฉันเลยนึกสงสัยน่ะว่ามีคนมาขอซื้อบ้างหรือเปล่า”


“อ๋อ…” ดินพยักหน้า ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มหนึ่งอึก


“…เยอะนะครับ คนมาขอซื้อที่ดินที่อยู่รอบนอกฟาร์มพี่เขี้ยวบ่อยมาก แต่ที่บ่อยที่สุดคือคนชื่อจอมทัพ คนนั้นผมเห็นตื๊อป๋าบ่อยมากเลย” เรียวจันทร์คิ้วกระตุกนิดหนึ่ง


“แต่เขาก็ไม่ยอมขาย?” ดินส่ายหัวเร็วๆ


“ไม่ขายหรอกครับคุณเรียว พ่อพี่เขี้ยวเคยบอกว่า ที่ดินตรงนั้นเขาขายไม่ได้” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วงงๆ


“ทำไมอะ” ดินยักไหล่แล้วส่ายหัวสองที


“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” เรียวจันทร์อ้าปากหวอเล็กน้อย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าถามดินไปก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี เพราะดินไม่ใช่เจ้าของที่


“แต่ฉันสงสัยนะว่าตาเสี่ย เอ่อ หมายถึงจอมทัพอะไรนั่นน่ะ ทำไมถึงอยากได้ที่ดินตรงนี้นักหนา”


“เดี๋ยวนี้ที่ดินแถวนี้ทำเลทองครับคุณเรียว ราคาสูง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคุ้ม พวกนักลงทุนเลยกว้านซื้อเก็บไว้สร้างนั่นสร้างนี่…” เรียวจันทร์ยิ้มอย่างประหลาดใจที่ดินพูดอย่างเป็นการเป็นงาน ดินยิ้มแห้งก่อนจะรีบโบกมือ


“…อย่าคิดว่าผมรู้เองนะ ไอ้ดินความรู้น้อย ที่พูดๆ มาพี่เขี้ยวบอกผมทั้งหมดเลย” เรียวจันทร์ขมวดคิวนิดหนึ่ง


“ดินจบชั้นอะไรเนี่ย”


“แค่มอหกเท่านั้นแหละค้าบ”


“อ้าว แล้วทำไมไม่เรียนต่อปริญญาตรี ดินควรเรียนต่อนะรู้มั้ย การศึกษาไทยอาจไม่ได้ดีที่สุดในโลก แต่ดินควรมีดีกรีไว้กับตัวนะ”


“หูย ไม่เอาหรอกครับ ดินเรียนแค่นี้ก็พอ เกรงใจพี่เขี้ยว เขาส่งดินเรียนตั้งแต่มอต้น ดินอยากออกมาช่วยงานพี่เขี้ยวมากกว่า” คิ้วเรียวสวยยังคงขมวดเข้าหากัน


“แล้วพ่อแม่ดินไปไหน ทำไมกลายมาเป็นนายคมเขี้ยวส่งเราเรียน” ดินยิ้มน้อยๆ ออกจะเป็นรอยยิ้มเศร้าแต่ก็ไม่ใช่รอยยิ้มชวนดราม่า


“ตายหมดแล้วครับ ตายตอนดินอยู่ประถม ก็ได้พี่เขี้ยวนี่แหละดูแลดินมา” เรียวจันทร์อ้าปากค้างนิดหนึ่ง ก่อนที่จะยิ้มด้วยความเข้าใจ นางเอื้อมมือขวาไปจับมือซ้ายของดินเอาไว้


“ดินเก่งมาก” ชายหนุ่มตัวโตยิ้มกว้าง เรียวจันทร์ยิ้มอย่างชื่นชมด้วยความจริงใจที่นานๆ นางจะมีให้กับใคร


ทั้งสองคนนั่งกินข้าวกันต่อจนหมด ก่อนจะออกจากโรงอาหาร เรียวจันทร์ปรายตามองแม่ลูกระเบิดน้อยหน่าอีกที เห็นเจ้าหล่อนทำหน้านิ่งเชิดใส่ คุณนายแกเลยยกยิ้มมุมปากเย้ยนิดๆ แล้วก็เดินออกไปจากโรงอาหารพร้อมดิน


“เดี๋ยวดินขอไปดูแลม้าก่อนนะครับ” เรียวจันทร์ยิ้ม ดินกำลังจะเดินไปทางคอกม้าแต่เรียวจันทร์นึกอะไรขึ้นได้


“เออนี่ดิน ถ้าฉันจะขออนุญาตเรื่องในฟาร์มทั้งหลายแหล่ ฉันต้องขอป๋าหรือนายเขี้ยว”


“ก็ต้องพี่เขี้ยวแหละครับ เพราะป๋าเขาไม่ได้ลงมายุ่งนานแล้ว นานๆ ทีถึงจะลงมา ก็ อย่างตอนเกิดเรื่องคุณเรียวนั่นแหละ” เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ พยักหน้าเบาๆ ดินหมุนตัวเดินไปทางคอกม้า คุณนายแกยืนเคว้งสักแปบว่าจะไปทางไหนดี มองไปทางออฟฟิศกับตัวบ้าน สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินไปทางบ้านของคมเขี้ยวเพื่อที่จะไปคุยสิ่งที่ลืมคุยเมื่อเช้า


ร่างบางเดินไปกดกริ่งตรงหน้ารั้วประตูบ้านเพื่อเรียกให้ใครสักคนออกมาเปิดประตูให้ ยืนกอดอกรอสักพักประตูรั้วไม้ก็เปิดออก พอหันไปมองก็เจอกับผู้หญิงผมยาวสลวยสวยตรงพอๆ กับใบหน้า หล่อนยิ้มให้เรียวจันทร์อย่างเป็นมิตร ส่วนเรียวจันทร์ด้วยความลืมตัวก็กวาดสายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าของชะนีนางนั้น


“เอ่อ มาหาใครคะ” จากที่กำลังมองอย่างสำรวจ เรียวจันทร์สะดุดไปนิดหนึ่งก่อนที่จะยิ้มน้อยแต่พองาม เพราะไม่อยากยิ้มให้เจ้าหล่อนเยอะมาก เดี๋ยวจะหาว่าอยากผูกมิตรด้วย


“คุณพ่อ คุณแม่หรือนายคมเขี้ยวก็ได้ สักคน”


“อ๋อ ถ้างั้นอยู่หมดเลยค่ะ” เรียวจันทร์ยิ้มมุมปากอ่อนๆ เดินแทรกตัวเข้าไปด้านในรั้ว หญิงสาวผิวผ่องตัวสูงเท่านางเดินนำขึ้นบันไดไปบนบ้าน เรียวจันทร์มองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายอย่างประเมินก่อนจะก้าวเท้าเดินตามไป


“เอ่อ คุณพ่อคุณแม่คะ มีคนมาหาค่ะ” หล่อนเอ่ยปากเมื่อเดินนำเรียวจันทร์มาถึงในครัวของบ้าน เรียวจันทร์เห็นพ่อกับแม่กำลังยกกับข้าวมาไว้บนโต๊ะ ส่วนนายคมเขี้ยวไม่รู้หายหัวไปไหน แต่นั่นไม่สำคัญ ดีเหมือนกัน ขอกับพ่อน่าจะง่ายกว่า ถึงหมอนั่นจะไม่อนุญาตแต่ถ้าป๋าให้ ไอ้เขี้ยวหักก็ค้านไม่ได้อยู่แล้ว


“อ้าว หนูเรียว มาทานข้าวเร็ว” เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ พร้อมส่ายหัวเบาๆ


“เรียบร้อยแล้วครับป๋า เรียวไปกินกับดินที่โรงอาหารมา” แม่สาวสวยตัวเล็กเดินนวยนาดไปช่วยแม่ของไอ้เขี้ยวกุดยกอาหาร เล่นเอานางทำตัวไม่ถูกว่าควรจะช่วยด้วยหรือไม่ แต่พอเห็นว่าจานอาหารเหลืออีกสองสามอย่างเลยเลือกจะยืนอยู่กับที่


“บอกแล้วไงว่าให้ขึ้นมาทานด้วยกัน”


“ไม่เป็นไรครับแม่ กินที่ไหนก็อร่อยเหมือนกัน” เรียวจันทร์ยิ้ม มองทั้งสามคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะอย่างพร้อมเพรียง หญิงสาวคนนั้นนั่งลงข้างมารดาของคมเขี้ยว


“แล้วมีอะไรรึเปล่าหนูเรียว” เรียวจันทร์หันไปมองคุณเมฆาแล้วยกยิ้ม กำลังจะอ้าปากตอบก็เห็นคมเขี้ยวเดินเข้ามาในครัว อีกฝ่ายชะงักไปนิดที่เห็นเรียวจันทร์ ก่อนที่จะบิดปากไม่พอใจน้อยๆ และเดินไปนั่งข้างพ่อตัวเอง เรียวจันทร์กลอกตานิดหน่อย ปัดสีหน้าของอีกฝ่ายทิ้งออกจากความคิดแล้วรีบพูดธุระของตัวเอง


“คือเรียวจะมาขออนุญาตอะไรสักสองอย่างหรืออาจจะสามอย่างน่ะครับคุณป๋า…” คุณเมฆายิ้มใจดี พยักหน้าเป็นเชิงให้พูดต่อ คุณบัวก็หันมามองอย่างสนใจ ยัยชะนีที่นางไม่รู้จักก็หันมามองด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันกลับไปสนอาหารตรงหน้าต่อ มีคมเขี้ยวคนเดียวที่นั่งก้มหน้าก้มตากินข้าวเงียบๆ


“…พอดีมีรายการสอนทำอาหารติดต่อเรียวมา แล้วเขาอยากใช้ฟาร์มของคุณป๋าเป็นที่ถ่ายทำ แล้วก็กองถ่ายหนังของเรียวจะมาขอใช้สถานที่ถ่ายทำสามวัน แล้วก็ เอ่อ… แม็กกาซีนเล่มนึงติดต่อให้เรียวถ่ายแบบและอยากได้สถานที่ลักษณะแบบที่ฟาร์มนี้ เรียวเลยลองเสนอฟาร์มคุณป๋าไป” เรียวจันทร์ร่ายยาวจนจบแล้วฉีกยิ้มแห้งอย่างเกรงใจ


“โห เป็นดาราเหรอคะ” หญิงสาวแปลกหน้าเอ่ยถามด้วยความทึ่งหลังจากได้ยินลิสต์งานของเรียวจันทร์ คนถูกถามยิ้มนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี คนที่ตอบเลยเป็นคุณบัวแทน


“หนูเรียวเป็นนายแบบจ้ะหนูเอื้อง กำลังฮ็อตเลยนะ แล้วก็เห็นว่าจะมีหนังเร็วๆ นี้เนอะ” เรียวจันทร์ยิ้มพร้อมพยักหน้าสามสี่ทีตอบคำถามของคุณบัว ก่อนจะบิดหน้าไปมองหน้าของหญิงสาวอีกคนให้ถนัดกว่าเดิมแล้วก็นึกถึงคำพูดของดิน นี่สินะยัยช่อเอื้องเรืองรอง ผู้หญิงของนายคมเขี้ยว เรียวจันทร์หันไปมองไอ้เคราที่นั่งแกะกุ้งใส่จานอยู่


“เรื่องราคาคุณป๋าเรียกมาได้เลยนะคะ เอ้ย ครับ” เมฆาอมยิ้มอย่างไม่ถือสากับการลงท้ายหางเสียงแบบผิดๆ ถูกๆ ของเรียวจันทร์


“ป๋ากับแม่น่ะไม่มีปัญหาหรอก ดีซะอีก ได้โปรโมตฟาร์ม แต่ว่า…” เมฆาเหลือบมองลูกชายตัวเอง คมเขี้ยวเงยหน้าขึ้นสบตากับเรียวจันทร์อย่างเฉยชา


“ถึงผมไม่อนุญาต แต่ถ้าป๋ากับแม่บอกว่าไม่มีปัญหา แล้วมันจะมีปัญหาอะไรล่ะ” คมเขี้ยวว่าแบบเบื่อๆ เขารู้ดีว่าถึงตอบว่าไม่ให้ พ่อกับแม่เขาก็ให้อยู่ดี


“โถ่ งอนอีกแล้วไอ้เคราเอ๊ย” เมฆาเอ่ยแซวลูกชาย สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้หญิงสาวอีกสองคน เรียวจันทร์มองภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกอึดอัดแปลกๆ จนต้องขมวดคิ้วนิดหนึ่ง


“เอ่อ สรุปว่าเขามาถ่ายได้ใช่มั้ยคะ” เมฆาพยักหน้ารัวๆ เรียวจันทร์ยิ้มกว้างแต่รอยยิ้มก็ต้องหุบลงเพราะเสียงห้วนๆ ของคมเขี้ยว


“อย่าสร้างความวุ่นวายก็แล้วกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นคุณต้องรับผิดชอบ” เรียวจันทร์ทำหน้าหมั่นไส้ คมเขี้ยวยักคิ้วสองข้างหนึ่งทีและทำสีหน้าว่าไม่แคร์


“รู้แล้ว!” คนหน้าสวยกระแทกเสียงด้วยความหมั่น


“กินอาหารเช้าช้าไปรึเปล่าเนี่ย ทำไมเขี้ยวทำหน้าบูดแบบนั้นล่ะ” ว่าจบแม่พยาบาลสาวก็ตักอาหารใส่จานให้คมเขี้ยว ชายหนุ่มยิ้มรับละมุนแล้วเอ่ยขอบคุณเบาๆ เรียวจันทร์เห็นสายตาของพ่อกับแม่ที่มองกันด้วยสายตากรุ้มกริ่มพอๆ กับรอยยิ้ม ก็พอจะเข้าใจได้ว่าทั้งสองคนคงอยากได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นสะใภ้


เรียวจันทร์รู้สึกแปลกๆ ไม่ได้อยากมีความรู้สึกนี้ แต่ตอนนี้นางเหมือนส่วนเกิน และนางจะไม่ยอมให้ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด เอาแค่เหมือนพอ อย่ารู้สึกจริง


“งั้น… ขอบคุณมากนะคะป๋ากับแม่ เรียวไปทำงานก่อนแล้วกัน…” เรียวจันทร์ส่งยิ้มให้ป๋ากับแม่ และยัยพยาบาล (อย่างไม่ค่อยเต็มใจ) ก่อนจะหันไปมองคมเขี้ยวที่กำลังตักอาหารใส่จานของผู้หญิงที่ชื่อเอื้อง


หึ! สุภาพบุรุษเหลือเกินพ่อคุณ


“…วันนี้คุณจะให้ฉันทำอะไร”


“ไปรอที่ออฟฟิศ” คมเขี้ยวตอบสีหน้าเรียบเฉย เรียวจันทร์ยักคิ้ว ตอบรับอือออเสียงเบา กำลังจะยกมือไหว้ลาป๋ากับแม่ โทรศัพท์ก็ส่งเสียงสไกป์ดังขึ้น นางหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นแจแร็ดวีดีโอคอลมา เรียวจันทร์เหลือบมองคมเขี้ยวกับยัยช่อเอื้องที่กำลังส่งยิ้มให้กันแวบหนึ่งก่อนจะเบ้ปากน้อยๆ


คิดว่าพวกหล่อนมีคู่กันคู่เดียวเหรอยะ!


“Hi, Jared!” เรียวจันทร์เอ่ยทักเสียงใส พร้อมกับยิ้มและโบกมือให้หนุ่มอิตาลีอย่างสวยงาม แจเร็ดยิ้มกว้างและส่งจุ๊บมาให้


“ฝรั่งที่ไหนน่ะ” คุณเมฆาเอ่ยถามพลางตักอาหารใส่จาน เรียวจันทร์หันไปยิ้มแล้วตอบ


“กิ๊กเรียวเองค่ะป๋า เอ่อ ยังไงเรียวขอตัวก่อนนะคะ” พ่อกับแม่คมเขี้ยวยิ้มให้ เรียวจันทร์หมุนตัวเดินไปพร้อมกับถือโทรศัพท์ไว้ในมือ เสียงพูดคุยภาษาอังกฤษคลอไปกับเสียงหัวเราะ


“Yes, I miss you… really?... Missing your hunk body…” คนบนโต๊ะอาหารทั้งสี่คนมองตามร่างบางที่เดินละล่องคุยโทรศัพท์อย่างเบิกบานออกไปจากบ้าน แล้วเสียงใสๆ ก็ค่อยหายไป


“เป็นผู้ชายที่สวยมากเลยค่ะ ผิวดีมาก หุ่นก็ดี ถ้าเป็นผู้หญิงต้องสวยมากแน่ๆ” เอื้องหรืออัจฉราเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงและหน้าตาที่หมายความตามนั้น


“จริง แม่เห็นด้วย ผู้ชายอะไร สวยจนหาคำว่าหล่อไม่เจอ” เอื้องตอบรับอย่างเห็นด้วยอีกที เมฆายิ้มขำแล้วนึกถึงเพื่อนสนิทตัวเองที่ชอบจับเรียวจันทร์แต่งตัวเป็นผู้หญิงสมัยที่ยังเด็กๆ


คมเขี้ยวนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ไม่ใช่เขาไม่อยากพูดหรือโกรธใคร แต่เป็นเพราะพูดเรื่องเรียวจันทร์เขาเลยขอเงียบดีกว่า ไม่อยากพูดถึงมัน เดี๋ยวจะชอบวกไปนึกถึงเหตุการณ์สยิวเมื่อเช้าอยู่เรื่อย แม่งน่าหงุดหงิด








 :hao7:

เกือบหน้าเสียโฉมแล้วมั้ยคะขุ่นแม่เรียว แทนที่จะยั่วให้เขาอยากเยเรา กลายเป็นว่าเขาอยากกระทืบซะงั้น ฮ่าๆๆ โอ้ยยย ขุ่นแม่จะจับผู้ชายคนนี้ทำผัวได้มั้ยคะเนี่ย

ศัตรูหัวใจของขุ่นแม่เรียวปรากฎกายขึ้นมาแล้วค่ะ นางมาแล้ว แต่อาจจะยังไม่เห็นบางอย่างที่ทำให้น้องดินผู้ใสซื่อของเราอึดอัด สิ่งนั้นจิเป็นอะไร รอให้ขุ่นแม่เป็นคนดึงมันออกมาละกันเนอะ

โหหห หายไปเกือบเดือนอีกละ พอดีเคลียร์หนังสืออีกเรื่องเพิ่งเสร็จค่ะ ตอนนี้โล่งรัวๆ มีเวลามาทุ่มให้แม่เรียวเต็มที่แล้ว

เอ้อออ นิยายเรื่องนี้มี สนพ. สนใจติดต่อมาด้วยนะคะ วู้ววว ดีใจ ฮ่าๆๆ แต่ว่า ตอมก็ปฏิเสธไปแล้วละค่ะ เพราะปั่นให้ไม่ทัน ไม่อยากเร่งตัวเอง ยังไงก็ต้องขอบคุณ สนพ. มากๆ เลยค่ะ ที่สนใจนิยายเรื่องนี้ คือเพิ่งมีสิบตอนเอง เพิ่งจะเกือบครึ่งเรื่อง ฮ่าาา

เจอกันอีกครึ่งที่เหลือนะคะ ขอบคนอ่านทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้กันอยู่ค่ะ ขอบคุณมากๆ เลย

สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้ว่า #WorksTheMagic จ้า
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๐/50% :15.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-08-2016 18:40:43
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๐/50% :15.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 15-08-2016 19:27:28
แต่ก็แต่งได้สมจริงนะ คมเขี้ยวเป็นชายแท้อะ จะให้เขว้ให้เปลี่ยนทาง ก็ต้องใช้เวลา ใช้เหตุผลให้มากหน่อย จะรอวันน้านน วันมี่เธอเปลี่ยนจายยย :haun4: :oo1: :impress2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๐/50% :15.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-08-2016 21:26:49
น้องเรียววววว แซ่บมากกกกกก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๐/50% :15.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-08-2016 10:18:56
เรียว เอ๊ย.....รุก เขี้ยว แรงมั่กมาก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๐/50% :15.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 16-08-2016 11:09:16
บอกพี่เขี้ยวว่าถึงอิพี่จะไม่ให้ แต่อิแม่นางก็มีผู้ให้เลือกเยอะนะจ๊าาา 5555555.  :katai3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๐/50% :15.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 20-08-2016 01:02:21
 :impress3: แม่เรียวร้ายจริงเชียว แต่แซ่บมากจ้ะ รักแม่เรียวจริง ๆ เลยน่ะ แต่หนูแซ่บได้แต่อย่าดราม่าน่ะ เราสงสารน่ะ ต้องยั่วจนนายเขี้ยวอดหึงไม่ได้เลยน่ะ หนูต้องแสดงให้นายเขี้ยวได้เห็นว่าหนูนั้นมีดีมากกกว่าความแรดน่ะจ้ะ  :o8: ส่วนยายเอื้องเนี่ย เราว่าเป็นสายของนายจอมทัพหรือเปล่า หรือว่ากะจับนายเขี้ยวแต่แอบซ่อนไว้อย่างแนบเนียน หน่าเล่นเข้ามากินข้าวร่วมบ้านทำตัวเป็นว่าที่ลูกสะใภ้เชียวน่ะ  :katai3: คอยดูแม่เรียวจะตีบทให้กระจุยไปเลย  :m16: มาด่วน ๆ น่ะจ้ะ ดีใจจ้ะที่ไม่ไปออกกับ สนพ.ชอบอุดหนุนกับผู้เขียนมากกว่าน่ะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๐/100% :21.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 21-08-2016 01:07:13


คาถาที่ ๑๐ [100%]




“ฉันมาทำแค่สามเดือนเท่านั้นแหละ เดี๋ยวก็เลิกแล้ว” เรียวจันทร์บิดปากไปซ้ายทีขวาที พูดแล้วก็หัวใจหวิวๆ ถ้านางทำไม่สำเร็จ ไม่รู้ว่าจะพูดกับเสี่ยจอมทัพยังไงเลย แจเร็ดขมวดคิ้วสีหน้าไม่เข้าใจ


[ไอไม่เก็ตเลย ทำไมยูจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย] คนถูกถามถอนหายใจแรงๆ


“อย่าเก็ตเลย เรื่องมันซับซ้อน…” เรียวจันทร์ปัดเรื่องรกสมองออกจากหัว ไม่อยากคิดเยอะแยะอะไรตอนนี้ นางเปลี่ยนเป็นยิ้ม ส่งสายตาแพรวพราวให้หนุ่มอิตาลี


“…หุ่นยังดีเหมือนเดิมเลยนะ” เรียวจันทร์ยิ้มตาหยี แจแร็ดยิ้มเขินแล้วลุกขึ้นนั่ง เลื่อนกล้องไปตามร่างกายท่อนบนตัวเอง เรียวจันทร์แกล้งทำเสียงซี๊ดจนแจเร็ดหัวเราะ


[ไอคิดถึงยูมาก กว่าจะได้เจอกันก็ตั้งปลายปี ทุกวันนี้ไอต้องช่วยตัวเอง] เรียวจันทร์อ้าปากค้างนิดหนึ่งก่อนจะรีบว่าต่อ


“เฮ้ ยูก็หาสาวสักคนสิ หรือหนุ่มหน้าตาดีๆ อย่างฉันสักคนก็ได้ ช่วยตัวเองให้เมื่อยแขนทำไม” แจเร็ดทำหน้าซื่อแล้วยักไหล่ทั้งสองข้าง


[ก็ตอนนี้ไอมีแค่ยู] เรียวจันทร์อ้าปากหวอค้างเติ่ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้โดนแจแร็ดด่าอะไรเลยแม้แต่คำเดียว แต่นางกลับรู้สึกจี๊ดที่หัวใจ


“โอ้ว… เอ่อ… น่ารักจริงเชียวพ่อหนุ่ม” เรียวจันทร์พยายามฉีกยิ้มกว้าง แต่ก็ทำได้ไม่ค่อยดีนัก แจเร็ดยิ้มอบอุ่น มองเรียวจันทร์อย่างรักใคร่


[I miss you and I love you, Riew.] เรียวจันทร์ยิ้มค้าง ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ แววตาราวกับกวางน้อยสลดลงชั่วครู่ก่อนที่จะรีบฉีกยิ้มเรียกความสดใสคืนกลับมาให้ตัวเอง


“นี่ แล้วจะไปถ่ายแบบที่ LA วันไหนเหรอ”


[อาทิตย์หน้า ถ่ายชุดว่ายน้ำ] เรียวจันทร์อ้าปากยิ้มกว้าง ห่อไหล่อย่างมีจริตแล้วกรี๊ดเบาๆ


“ตายแล้ว แค่คอนเซ็ปต์ก็น่าชื่นชม ถ่ายรูปมาให้ดูเยอะๆ นะ” แจเร็ดหัวเราะอารมณ์ดี


[ยูเคยเห็นไอตอนไม่ใส่อะไรสักชิ้นมาแล้วนะ]


“โถ่ เธอไม่รู้อะไร ผู้ชายใส่กางเกงว่ายน้ำ เซ็กซี่กว่าตอนเปลือยทั้งตัวอีก” เรียวจันทร์บอกตาเป็นประกาย ยกมือขวาเท้าคางใบหน้าเคลิบเคลิ้ม มองแจเร็ดราวกับกำลังตกอยู่ในห้วงจินตนาการอันล้ำลึก


[ไอใส่แล้วส่งให้ยูดูเลยก็ได้นะ แต่อย่าลืมตั้งเป็นรูปภาพหน้าจอล่ะ] แจเร็ดแซวยิ้มๆ เรียวจันทร์แสร้งมองค้อนน้อยๆ


[นี่ แล้วยูไม่คิดจะกลับไปนิวยอร์กอีกแล้วเหรอ]


“กลับสิ นิวยอร์กน่ะแหล่งทำมาหากินของฉันเลยนะ แต่ขอเคลียร์งานตรงนี้ให้เสร็จก่อน อีกอย่างตอนนี้ฉันก็มีงานในไทยเยอะเลยละ” ใบหน้าสวยหวานยิ้มภูมิใจ ช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณนายแกกำลังมีโอกาสกอบโกย กระแสในตัวนางกำลังมี งานเลยเข้ามาเยอะเป็นพิเศษ แต่เรียวจันทร์ก็ไม่ได้รับทุกงาน สกรีนเป็นงานๆ ไปว่าอันไหนน่าสนใจ และทำแล้วสบายใจหรือไม่


[ถ้ายูกลับไปอยู่นิวยอร์กเมื่อไหร่ ไอจะไปอยู่ด้วย] นายแบบหนุ่มหน้าหวานยิ้มกว้างเขินๆ


“ได้สิ ไป…”


“…ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะ แต่ถึงเวลาทำงานแล้ว” เรียวจันทร์ชะงักกึก เงยหน้าขึ้นมองคนพูด กำลังจะอ้าปากตอบรับ แต่พอเห็นว่าข้างๆ ไอ้เขี้ยวกุดเป็นยัยเอื้องเยื้องย่างเลยปิดปากเงียบและทำหน้าเฉยๆ


“นายพร้อมจะทำงานแล้วแน่นะ ส่งเพื่อนนายกลับก่อนมั้ย” คมเขี้ยวหันไปมองอัจฉราที่ยิ้มน้อยๆ


“วันนี้เอื้องจะอยู่ที่ฟาร์มจนถึงเย็นค่ะ วันนี้หยุดเลยจะมาช่วยเขี้ยวทำงาน” เรียวจันทร์ทำปากว่า อ้อ แล้วยิ้มอ่อน


“ถ้างั้นเต็มที่นะคะ เรียวจะออกไปช่วยคนงานด้านนอกแทนก็แล้วกัน” เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืนโดยที่ยังไม่ได้กดวางสายจากแจเร็ด


“ไม่ต้อง ก็อยู่ทำด้วยกันนี่แหละ คุณก็มีหน้าที่ของคุณ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้น ทำหน้าตายไม่สนใจ


“ไหนว่าในฟาร์มนี้คือหน้าที่ฉันไง ก็ในเมื่อวันนี้นายมีคนช่วยงานในออฟฟิศแล้ว ฉันก็จะไปทำอย่างอื่นแทน…” ว่าจบก็ปรายตามองยัยช่อเอื้องที่กำลังวางสีหน้าไม่ถูก ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองแจเร็ดในมือถือต่อ


“…เฮ้ เดี๋ยวฉันโทรหาใหม่นะ”


[โอเค รักยู จุ๊บ] นางส่งจุ๊บกลับไปพร้อมยิ้มแฉ่ง แจเร็ดกดตัดจบวีดีโอคอล เรียวจันทร์เก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงขาสั้น


“แฟนคุณเรียวเหรอคะ”


ยุ่งนักนะยะ!


อยากจะตอบกระแทกหน้าแรงๆ แต่เจอกันครั้งแรกและอีกฝ่ายยังไม่ได้สำแดงอิทธิฤทธิ์อะไรมากเลยยังไม่อยากประกาศตัวชัดเจน


“แค่คนที่คุยๆ กันน่ะค่ะ ยังไม่ใช่แฟนหรอก จริงๆ เรียวมีคนที่แอบชอบอยู่…” ว่าเสร็จก็หันหน้าไปมองคมเขี้ยวที่ทำหน้าอึดอัด เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปาก หญิงสาวหนึ่งเดียวหันไปมองคมเขี้ยวตามสายตาของนายแบบหนุ่มแล้วก็ทำหน้างง เรียวจันทร์หันไปยิ้มอ่อนให้หล่อน ก่อนจะแสร้งทำท่าตกใจ


“…แหม เอาเวลาไหนไปทำคิสมาร์คกันคะเนี่ย” คราวนี้อัจฉรางงหนัก มองสลับคมเขี้ยวกับเรียวจันทร์ด้วยสายตาไม่เข้าใจ พ่อเครางามมองหน้าไอ้หน้าสวยด้วยท่าทีไม่เข้าใจเช่นกัน


“คิสมาร์คอะไรเหรอคะ” เรียวจันทร์แสร้งทำสีหน้าตกอกตกใจอย่างมีจริต


“อ้าว คุณเอื้องไม่ได้ทำหรอกเหรอ ก็…” นางชี้นิ้วไปที่แถวๆ ต้นคอของคมเขี้ยว


“…รอยแดงบนคอของนายเขี้ยวไม่ใช่รอยจุ๊บของคุณเอื้องเหรอคะ” หญิงสาวทำหน้าตกใจเล็กน้อย หันไปมองคมเขี้ยวที่พยายามซ่อนใบหน้าหงุดหงิดเอาไว้


“เขี้ยวมีรอยแบบนั้นด้วยเหรอ” เรียวจันทร์ยิ้มเยาะอ่อนๆ คนเดียว ท่าทางยัยช่อเอื้องจะขี้หวงใช่เล่น เพราะแม้จะพยายามซ่อนสีหน้าหึงยังไง แต่ก็ดูออกว่านางร้อนใจไม่น้อยเชียวล่ะ


“ยุงกัดน่ะเอื้อง ไม่ใช่รอยจูบสักหน่อย” คมเขี้ยวตวัดสายตาไปมองไอ้จันทร์ไรที่เลิกคิ้วขึ้นและทำปากจู๋กวนตีน


“ไหนขอดูหน่อย รอยยุงกัดจริงรึเปล่าเถอะ” อ่าฮ่า! นี่ถ้าคบกันเมื่อไหร่ บอกเลยว่าไอ้เขี้ยวกุดโดนยัยนี่คุมเข้มแน่ๆ เรียวจันทร์มองภาพที่ยัยช่อเอื้องแหวกคอเสื้อคมเขี้ยวดูรอยจูบที่นางทำไว้เมื่อเช้าแล้วพยายามกลั้นขำ คมเขี้ยวถลึงตามอง แต่คุณนายแกหาได้แคร์ไม่


“ยุงกัดไม่มีตุ่มเลยเนอะ” อัจฉราว่าหน้าง้ำนิดๆ เพราะดูยังไงที่เห็นมันก็ไม่ใช่รอยยุงกัดแน่ๆ คมเขี้ยวถอนหายใจเบาๆ


“อย่าคิดมาก รอยอะไรก็ช่างมันเถอะ แต่ไม่ใช่รอยจูบหรอก” ชายหนุ่มพูดอย่างอดทน แต่ไม่ได้ต้องอดทนกับหญิงสาว แต่เป็นการอกทนที่จะไม่หันไปทำร้ายไอ้จันทร์ไรที่ลอยหน้าลอยตานั่นต่างหาก


อัจฉราถอนหายใจเบาๆ แล้วพยักหน้าสองที “เอื้องขอโทษนะคะที่แสดงกิริยาแบบนั้น”


คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ พยักหน้าให้หล่อนเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร เรียวจันทร์หรี่ตามองยัยเอื้องเยื้องย่างอย่างประเมิน แล้วก็ได้ผลประเมินว่า ยัยนี่ต้องมีลูกเล่นในตัวที่ซ่อนเอาไว้อีกแน่ๆ ปรับท่าทีได้ต่างกันแบบนี้ ในคลาสแอคติ้งฉันเห็นมาเยอะย่ะ!


“ก็… ถ้าพระนางปรับความเข้าใจกันแล้ว ตัวเดินเรื่องอย่างดิฉันขอตัวนะคะ” เรียวจันทร์ยักไหล่ขวา เดินละล่องผ่านทั้งสองคนไป คมเขี้ยวมองตามด้วยสายตาไม่พอใจ


“เอื้องเคลียร์เอกสารที่เคยทำไว้ต่อได้เลยนะ เดี๋ยวเขี้ยวมา ไปสั่งงานลูกน้องข้างนอกก่อน” อัจฉรายิ้มรับ คมเขี้ยวเดินไปทางประตูออฟฟิศ


เขาทันเห็นเรียวจันทร์ที่กำลังเดินไปทางคอกม้า ขายาวๆ ก้าวตามอีกฝ่ายไปจนทัน คมเขี้ยวคว้าหมับเข้าที่แขนของคนตัวเล็กแล้วดึงให้กลับมาเผชิญหน้ากัน เรียวจันทร์เบ้ปาก เปิดฉากพูดก่อน


“ไม่ขอโทษใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉันทำไปด้วยความหมั่นไส้ล้วนๆ!” ว่าจบก็บิดแขนตัวเองออกจากมือหนาของอีกฝ่ายทันที คมเขี้ยวขบกรามแน่น


“กลับไปทำงานของคุณซะ”


“โอ๊ย อย่าโชว์ตลก ก็ในเมื่อนายให้นางสาวเอื้องเยื้องย่าง หยดย้อยอร่อยเหาะมาทำหน้าที่แทนฉันวันนี้ ก็ให้นางทำไปสิ จะมาเอาฉันไปทำอีกคนทำไม ซ้ำซ้อน!”


“เอื้องอยู่ คุณก็ทำได้”


“ไม่ได้! ฉันไม่อยากทำกับคนอื่น ไหนว่าจะสอนงานฉัน ให้ฉันเป็นงานไง แล้วจะเอาคนอื่นมายุ่งวุ่นวายทำไมล่ะ?!” เรียวจันทร์จ้องตาคมเขี้ยวอย่างไม่ยอม คนตัวสูงกว่ามองอย่างหงุดหงิด


“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว อิฉันขอตัวนะคะคุณเขี้ยว อีเรียวมันเป็นไพร่ มันต้องไปทำงานเจ้าค่ะ”


คมเขี้ยวหรี่ตามอง แล้วยกยิ้มมุมปากขวาน้อยๆ “ที่พูดมาทั้งหมดเนี่ย คุณหึงผมกับเอื้องใช่มั้ย”


เรียวจันทร์อ้าปากหวอด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะรีบปรับสีหน้าเป็นประมาณว่า อื้ม ใช่ ใช่เลย “ใช่! ฉันหึง ฉันหวงนายมากกกก…” นางเบะปากทำท่าจะร้องไห้ ยกสองมือขึ้นมาทาบอกตัวเอง


“…ฉันทำใจไม่ได้ที่ต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจตัวเอง มันเหมือนมีมีดกรีดเฉือนหัวใจฉัน จนมันแหลกเป็นชิ้นๆ!” แม่นักแสดงใหญ่บิดหน้าหลบสายตาคมวาวของคมเขี้ยวแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองด้วยสีหน้าเจ็บปวดต่อ


“ขอให้ฉันอยู่ห่างจากภาพอันแสนเจ็บนั้นเถอะนะ…” ว่าธรรมดาไม่ได้ด้วย เพราะตอนนี้คุณนายแกค่อยๆ เดินถอยหลังช้าๆ เอื้อมมือซ้ายมาด้านหน้า ราวกับจะไขว่คว้าคมเขี้ยวไว้ไม่ให้หลุดมือ หนุ่มเจ้าของฟาร์มขมวดคิ้วมองอย่างข้องใจ


“…ลาก่อนโกโบริ” ว่าจบไอ้จันทร์ไรมันก็หมุนตัววิ่งไปทางคอกม้าอย่างเร็ว ทิ้งให้คมเขี้ยวยืนเคว้งอ้าปากหวอ ชายหนุ่มมองตามชายเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคล่งที่พลิ้วสะบัดตามแรงวิ่ง


สรุปมันหึงกูจริงมั้ยเนี่ย?!









“วู้ฮู้ววว! ดินๆๆ จับไว้ อย่าปล่อยๆ” เรียวจันทร์ส่งเสียงหัวเราะเริงร่าอยู่บนหลังม้า โดยมีดินเป็นคนควบคุมให้เจ้าม้าสีน้ำตาลเดินเหยาะๆ ไปรอบลานกว้างในคอก ส่วนแม่นางนั่งไขว่ห้างเกาะเอวดินเอาไว้ ทำท่าทางเชิดสมกับเป็นคุณนาย เหล่าคนงานที่ดูอยู่ต่างหัวเราะไปกับเรียวจันทร์


“รู้สึกถึงความเป็นราชนิกูล” นายแบบหนุ่มหัวเราะคิกคักอยู่บนหลังม้า ทั้งเสียวทั้งสนุก เสียวจะตกลงไปตายแล้วโดนม้ากระทืบซ้ำ เพราะทุกคนเตือนแล้วว่าอย่านั่งแบบนี้ ถ้าจะนั่งต้องนั่งด้านหน้าคนคุมม้า ตอนแรกนางก็จะนั่งนั่นแหละ แต่ดินเขินนางจนตัวแดงจากตัวดำๆ สุดท้ายเลยต้องมานั่งข้างหลังดิน ดินเลยพยายามบังคับม้าให้เดินช้าที่สุดเพื่อความปลอดภัยของคุณนายเรียวจันทร์


“นี่ๆ แล้วไอ้ชื่ออะไรนะ เดือนหงายเดือนแหงน มันไปไหนล่ะ” ว่าไปก็หันรีหันขวางมองหาเจ้าม้าตัวใหญ่สีดำขลับแสนสง่าตัวนั้น


“ออกไปกินหญ้าตรงทุ่งหญ้านอกฟาร์มครับ”


“อ๋อ ดีแล้วล่ะ ดูมันไม่ค่อยชอบฉันเลยอะ” ดินหัวเราะก่อนจะค่อยๆ เบรกม้าให้หยุดอยู่กับที่


“ดินว่าพอเท่านี้ก่อนดีกว่าครับคุณเรียว เดี๋ยวเราต้องไปอาบน้ำให้ม้าอีก” เรียวจันทร์พยักหน้าเร็วๆ


“โอ๊เข่” เรียวจันทร์ทำท่าจะลง แต่ก็จับทางไม่ถูกว่าจะต้องลงยังไง นางเก้ๆ กังๆ อยู่บนหลังม้าสักพัก ก่อนที่จะเห็นลูกน้องเสี่ยจอมทัพเดินมาตรงหน้าตัวเอง


“มาครับ เดี๋ยวผมรับ” เรียวจันทร์มองด้วยท่าทีมีระยะห่าง แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้มีพิรุธใดๆ ให้คนอื่นสงสัย นางเลยยื่นแขนให้อีกฝ่ายอุ้มรับตัวเองลงจากหลังม้าไปยืนบนพื้น


“เสี่ยฝากบอกว่าคิดถึง” ชั่ววินาทีที่ใบหน้าทั้งสองคนใกล้กัน ชายคนนั้นก็กระซิบอย่างรวดเร็ว เรียวจันทร์มองรอยยิ้มมุมปากของอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่ชอบใจ แม็คยิ้มเลศนัยอีกทีแล้วเดินแยกตัวไปอีกทาง


“คุณเรียวไม่ชอบไอ้แม็คเหรอครับ” เรียวจันทร์หยุดทำหน้านิ่วคิ้วขมวด หันไปมองดินที่ถามอย่างสงสัย นางยิ้มเหลอหลา


“ผมก็ไม่ชอบมันเหมือนกัน” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้มขำ


“ดินมีคนที่ดินไม่ชอบสองคนแล้วนะ ยัยเอื้องอะไรนั่นกับนายคนนี้” ดินทำตาโต รีบโบกมือเป็นพัลวัน


“กับคุณเอื้อง ดินแค่ไม่สบายใจที่อยู่ใกล้เธอครับ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วเธอแต่งงานกับพี่เขี้ยว เธอก็คือเจ้านายของดิน” คุณนายเรียวจันทร์เบ้ปากทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น


“คุณเรียวไม่ชอบคุณเอื้องเหรอ” ดินถามหน้าซื่อ เรียวจันทร์ย่นจมูกเหมือนเหม็นขี้ แต่อันที่จริงนางก็เหม็นขี้จริงๆ นั่นแหละ ขี้ม้าไง


“แล้วถ้าฉันบอกว่าไม่ชอบยัยคนนั้น ดินจะไม่ชอบฉันมั้ยล่ะ” หนุ่มร่างบึ้กหน้าตาใสซื่อส่ายหัวรัวๆ


“ไม่ครับ ผมอยู่ข้างคุณเรียว” เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปากเขินๆ ยกมือผลักอกดินเบาๆ


“บ้า ดินอะ ทำให้เขินอีกละ เขินมากๆ เดี๋ยวฉันจับทำผัวนะ” พ่อหนุ่มผิวคล้ำเบิกตากว้าง ก่อนที่แก้มเข้มๆ จะเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเรียวจันทร์หัวเราะขำเสียงดัง แล้วยิ่งหัวเราะดังกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของดิน


“ก็… ก็ ถ้าคุณเรียว จับผม เอ่อ จับผมทำผัวจริงๆ ผมยอม”


“อ๊ายยย ดิน ฮ่าๆๆๆ” เรียวจันทร์ยกมือปิดหน้าปิดตาและกระทืบเท้าเร่าๆ ด้วยความเขินไม่แพ้กัน คนงานแถวนั้นเห็นเรียวจันทร์หัวเราะก็ยิ้มตาม แล้วสักพักก็ส่งเสียงเฮกันครื้นเครงเมื่อเรียวจันทร์ล้มตัวซบอกแน่นๆ ของดิน ไอ้ดินตัวแข็งทื่อเพราะความเขิน


“เฮ้ยยย ไอ้ดินน้ำจะแตกแล้วววว” พวกคนงานผู้ชายหัวเราะกันเริงร่า เรียวจันทร์ผละตัวเองออกจากอกของดิน มองหน้าอีกฝ่ายที่แดงแจ๋แล้วหัวเราะร่วมไปด้วย แต่ไม่ได้เป็นการหัวเราะเยาะเย้ย คุณนายแกเอ็นดูเด็กหนุ่มคนนี้


“ดิน ถ้าจะมีแฟนนะ ต้องให้ฉันสแกนก่อนรู้รึเปล่า ห้ามตกลงปลงใจกับใครง่ายๆ” เรียวจันทร์ว่าอย่างไม่จริงจังนัก แต่ในใจนึกเป็นห่วงดินอยู่เหมือนกัน ผู้ชายคนนี้อาจโดนผู้หญิงหรือผู้ชายสักคนหลอกใช้ความรู้สึกได้ง่ายๆ ไอ้ดินพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน เรียวจันทร์คลี่ยิ้มเอ็นดู


“ไม่ทำงานกันรึไง??!!” เสียงหัวเราะครืนๆ ค่อยๆ เงียบลงเมื่อเสียงตะโกนของเจ้าของฟาร์มดังขึ้นพร้อมกับสีหน้าดุๆ เรียวจันทร์หันไปมองไอ้เขี้ยวกุดที่ยืนเกาะขอบรั้วคอกม้าอยู่


“เขาก็ทำกันย่ะ แค่หัวเราะนิดๆ หน่อยๆ” เรียวจันทร์แบะปากน้อยๆ แต่พองามเมื่อเห็นว่ายัยช่อเอื้องยืนอยู่ข้างๆ


ยิ้มอะไรนักหนา หล่อนเทคยาหนักไปเหรอ?!



“อ้าวพี่เขี้ยว ไปควงสาวอื่น ไม่กลัวคุณเรียวจันทร์น้อยใจเหรอพี่?!” เสียงคนงานคนหนึ่งตะโกนถามขึ้น เรียกเสียงแซววี้ดวิ้วดังไปทั่วคอกม้า เรียวจันทร์อ้าปากหวอ แต่สักพักก็ฉีกยิ้ม พอหันไปมองหน้ายัยช่อเอื้อง แม่นั่นกำลังยิ้มงง


“เดี๋ยวมึงจะโดนหักเงินเดือน!” คมเขี้ยวชี้หน้าลูกน้องที่ตะโกนถามขึ้นมา


“อ้าว ก็เห็นจูบลูบคลำกันออกจะบ่อย”


“ฮิ้วววว ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะตอบรับดังลั่น คมเขี้ยวขบกรามแน่นทำหน้าเซ็ง มองไอ้จันทร์ไรด้วยสายตาวาววับ คนถูกมองยิ้มเย้ยนิดหน่อยแล้วยักไหล่อ่อนๆ พอมองหน้านิ่วคิ้วขมวดน้อยๆ ของยัยคนข้างๆ ไอ้เขี้ยวกุดก็แอบสะใจเบาๆ แม้จริงๆ จะสะใจแรง แต่ต้องบอกเบาๆ ไว้ก่อน เพราะไม่งั้นเราจะร้ายเกินไป


“อะไรกันเหรอคะเขี้ยว” แหม พอถามผู้ชาย สีหน้าเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานงงๆ เชียวนะ


“มันก็แซวเล่น เรียวจันทร์มันก็ผู้ชาย จะไปมีอะไรได้ไง” คมเขี้ยวบอกอย่างอ่อนใจ แต่ไม่ได้อ่อนใจอัจฉรา เขาอ่อนใจกับไอ้พวกลูกน้องปากมากพวกนี้มากกว่า และที่ทำเขาอ่อนใจจนล้าก็คือไอ้เรียวจันทร์ตัวดี


“แต่คุณเรียวเธอเป็นผู้ชายที่สวยนะ” ต๊าย! แม่นี่พูดจาดี ยิ้มให้นิดนึงก็ได้


“เขี้ยวไม่ได้ชอบผู้ชาย โอเคมั้ยเอื้อง” เบื่อจริงจริ้ง อีคำพูดนี้น่ะ!


แม่ช่อเอื้องยังคงทำหน้าเง้าหน้างอ คมเขี้ยวเลยต้องพาเดินออกไปจากตรงนั้น เรียวจันทร์มองมือคมเขี้ยวที่จูงมือหญิงสาวด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนที่จะหันกลับไปยิ้มให้ดิน


“ไปอาบน้ำให้ม้ากันเถอะ”







ตกเย็น หลังจากที่ทำงานกันมาทั้งวัน ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว เรียวจันทร์เดินบิดขี้เกียจสลับกับเกาแขนขาตลอดทางเดินกลับออฟฟิศ วันนี้หลังจากอาบน้ำให้ม้าเสร็จ นางก็ไปช่วยพวกดินขนกองฟางขึ้นรถไถไปเก็บไว้ในโรงนา เลยทำให้เกิดอาการคันยุบยิบไม่หยุด


พอกลับเข้าห้องได้ นางก็รีบอาบน้ำชำระร่างกายแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่หายคัน นางเลยกินยาแก้แพ้ไปสองเม็ด กะสู้กับอีผื่นแดงทั้งหลายเต็มสูบ ตอนที่เปิดประตูออฟฟิศเพื่อจะเดินไปกินอาหารเย็นกับพวกดินก็เจอกับคมเขี้ยวยืนอยู่ในชุดเดิม


“แม่เรียกให้ไปกินข้าว” คนถูกชวนส่ายหัว


“ไม่ล่ะ ฉันนัดกับดินไว้แล้วว่าจะไปกินข้าวด้วย ฝากบอกป๋ากับแม่ด้วยนะว่าขอบคุณ”


“ตกลงจะเอาไอ้ดินหรือกิ๊กฝรั่งกันแน่ ไหนบอกว่าชอบผมไง” คมเขี้ยวหรี่ตามอง เรียวจันทร์ยิ้มมุมปาก แต่ก็มิวายยกมือเกาตามเนื้อตามตัวไปด้วย


“เอ๊า ก็ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นชอบเฉยๆ ยังไม่ได้เสียกันซักหน่อย จะให้ฉันให้ใจนายไปหมดเลยเหรอ ใจทั้งดวงนะยะ เผื่อแผ่ให้หนุ่มอื่นบ้างสิ เออ ถ้าว่านายกับฉันเป็นผัวเมียได้เสียกันแล้ว อันนั้นน่ะ ไม่ต้องห่วง ฉันให้นายได้แม้กระทั่งเส้นเลือดฝอยในหัวใจ” เรียวจันทร์ยกมือตบอกซ้ายตัวเองเบาๆ และเกายิกๆ ไปในตัว คมเขี้ยวขมวดคิ้วมองอาการนั้น


“ถามจริง คุณชอบผมจริงๆ หรือใช้เป็นข้ออ้างอะไรรึเปล่า” คมเขี้ยวกอดอกมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาสงสัยจริงจัง เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นสูงและฉีกยิ้ม


“ฉันควรดีใจใช่มั้ยที่นายสนใจว่าฉันชอบนายจริงหรือเปล่า”


“คุณควรบอกความจริงผมมาว่าคุณต้องการอะไรกันแน่” คนหน้าสวยถอนหายใจเซ็งกับใบหน้าเคร่งเครียดของคมเขี้ยว


“นายจะทำหน้าแบบนี้ทุกครั้งเวลาอยู่กับฉันเลยรึไง…” คมเขี้ยวยังคงทำนิ่ง เรียวจันทร์กลอกตาแล้วเดินออกจากประตู ลงไปยืนบนพื้นด้านล่าง


“…ไม่มีข้ออ้างอะไรทั้งนั้น ฉันบอกว่าชอบก็คือชอบ เหมือนที่ยัยเอื้องชอบนายนั่นแหละ” คุณนายแกว่าสบายๆ แต่หน้านิ่วคิ้วขมวดนิดหน่อยเพราะคันยิบๆ ไม่หยุด สองมือใช้ปลายนิ้วเกาตามผิวตัวเองเบาๆ 


“สนิทกับเขาแล้วเหรอถึงเรียกเขาแบบนั้น” นายแบบหนุ่มทำปากยื่นพร้อมไหวไหล่


“ไม่สนิทและไม่คิดสนิท ถ้าฉันขึ้นไอ้ขึ้นอีกับว่าที่แฟนนายเมื่อไหร่ ค่อยโกรธแล้วกันนะ” เรียวจันทร์ยกมือขวาตบไหล่ซ้ายของคมเขี้ยวเบาๆ ก่อนจะเดินผ่านร่างสูงไปแต่ก็ต้องหยุดชะงักกับคำถามของอีกฝ่าย


“แล้วถ้าผมตกลงเป็นแฟนกับเอื้อง คุณจะทำยังไง” คุณนายเรียวหันไปมองหน้าคนถามทันทีไม่มีชะงัก นางเบ้ปากเล็กน้อยพร้อมไหวไหล่เก๋ๆ


“ฉันไม่ชอบแย่งแฟนใคร คบกันเมื่อไหร่ก็บอกฉันแล้วกัน” เรียวจันทร์กลอกตาพร้อมเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป คมเขี้ยวมองตามร่างเล็กที่เดินไปทางหมู่บ้านคาวบอย เขาเห็นแม่ตัวดียกมือเกาแขน เกาคอ เกาหลังอย่างกับลิง






เรียวจันทร์มานั่งกินข้าวกับดินและคนงานอื่นๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน จากการได้ทำงานกับลูกน้องคมเขี้ยวในฟาร์มวันนี้ ทำให้นางได้รู้จักกับอีกหลายคน ได้สร้างเพื่อนใหม่อีกมากมาย ทุกคนใจดี มีน้ำใจ ไม่รังเกียจผู้ชายดัดจริตอย่างนาง แต่ก็มีที่ไม่ได้มาสุงสิงกับนางด้วย ก็ใช่ว่าทุกคนจะอยากสุงสิงกับนางนี่นะ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นหลัก มีคนรักก็ต้องมีคนไม่รักเพื่อความสมดุลของชีวิต


“คุณเรียวตัวแดงหมดแล้ว” ดินพูดพลางมองตามแขนขาวๆ ที่ผื่นแดงขึ้นเป็นแถบยาว เรียวจันทร์โบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร


“กินยาแก้แพ้ไปแล้วละ เดี๋ยวนอนพักผ่อนก็ดีขึ้น” พูดจบก็อ้าปากหาววอด


“งั้นถึงห้องนอนก็นอนเลยนะครับ จะได้พักผ่อนเยอะๆ” เรียวจันทร์ยิ้มง่วงๆ ให้ดินที่เดินมาส่งหลังจากกินอาหารมื้อเย็นและลากยาวไปถึงอาหารกรุบกรอบหลังอาหารหลักกับพวกคนงาน นั่งไปได้สักพัก คุณนายแกก็อ้าปากหาวง่วงนอนเพราะฤทธิ์ยา เลยขอตัวออกมาก่อน


“ขอบใจดินมากนะ โอ๊ย ไม่น่ากินสองเม็ดเลยอะ นี่จะหลับหรือจะตายก็ไม่รู้” นางอ้าปากหาววอดๆ ตอนเดินมาถึงหน้าออฟฟิศ


“แน่ใจนะครับว่าไม่เอายาทา” เรียวจันทร์ส่ายหัวหน้ามุ่ย


“ม่ายยย เดี๋ยวนอนแล้วมันก็คงไม่คันแล้วละ ไปแล้วนะดิน ขอบคุณมาก” นางโบกมือให้ดิน ส่งยิ้มง่วงนอนให้อีกทีแล้วเปิดประตูเข้าไปในออฟฟิศ ตรงดิ่งไปที่ห้องนอน ฝืนใจเดินไปแปรงฟัน พอเห็นสภาพผิวตัวเองก็ตกใจนิดหน่อย เพราะมันแดงเข้มไปทั้วตัว


ก๊อกๆ


“ฮึ” ร่างบางกำลังจะล้มตัวลงนอนขมวดคิ้วมองประตูอย่างงงๆ แต่ก็ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูให้ พอเปิดออกก็เห็นคมเขี้ยวยืนอยู่ในชุดนอน


“อ้าว นายมีไรอีกอะ ฉันไม่ไหวจะเถียงด้วยแล้วนะ” พูดเสร็จก็เดินโงนเงนไปล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที


“ทายาก่อน ตัวแดงอย่างกับลูกลิงแรกเกิด”


“ม่ายอาว ม่ายทา จานอนนน” คมเขี้ยวยืนมองร่างบางนอนคว่ำหน้าหลับสนิทแล้วถอนหายใจ


“จันทร์ไร ตื่นมาทายาก่อน”


“อื้อ… มั๊ย…” เรียวจันทร์ตอบเสียงอ่อน เป็นการบอกให้รู้ว่ากูง่วงแล้วจริงๆ ร่างสูงพ่นลมหายใจ เดินเข้าไปหา จัดการถลกเสื้อยืดตัวย้วยขึ้นจนเห็นผิวขาวละเอียดที่แดงเต็มหลัง


“โห… บอบบางอะไรขนาดนี้วะ” แม้จะรู้ว่าอาการแพ้มันจะเป็นลักษณะแบบนี้ แต่กับเรียวจันทร์ดูจะมีปฏิกิริยามากกว่า มันเหมือนคนตากแดดจนผิวใกล้ไหม้


“พ่อ… อุ้มๆ น้องเรียว… งืมๆ” คมเขี้ยวขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของคนตัวเล็ก เขาเปิดฝาขวดยาแล้วเทใส่ฝ่ามือก่อนที่จะทาไปตามผิวเนียนนุ่มของเรียวจันทร์ เขาว่ามือตัวเองสากแล้วนะ แต่พอสัมผัสผิวเรียวจันทร์ยังรู้สึกถึงความนุ่มนวล


คมเขี้ยวจัดการทายาตามตัวเรียวจันทร์จนทั่ว นึกสงสัยว่าช่วงล่างของมันคันหรือเปล่า แต่ดูท่าทางแล้วก็ไม่มีอาการยุกยิกที่เบื้องล่างแต่อย่างใด เขาปิดฝาขวดยา วางไว้บนหัวเตียง เผื่อว่าเจ้าตัวจะรู้สึกคันกลางดึก เขาเห็นยาแก้แพ้วางอยู่บนหัวเตียง เลยรู้สาเหตุแล้วว่าทำไมไอ้จันทร์ไรถึงง่วงนอนหนักได้ขนาดนี้


ตึ๊งตึ่ง~


เสียงข้อความแชทดังขึ้น คมเขี้ยวหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงนอนก็เห็นข้อความส่งมาบอกว่าฝันดีของอัจฉรา เขายิ้มมุมปากน้อยๆ สายตาเลื่อนไปมองเรียวจันทร์ที่นอนหลับสนิทหมดพิษภัยใดๆ อย่างครุ่นคิด


ฉันไม่ชอบแย่งแฟนใคร คบกันเมื่อไหร่ก็บอกฉันแล้วกัน







 :ling1:

มาต่อแล้วค่ะ ยาวๆ กันไป อย่างน้อยพี่เขี้ยวก็ยังมีน้ำใจเป็นห่วงแม่เรียวนะคะ เอายามาทาให้ถึงห้องนอน อย่างน้อยก็ไม่ได้เกลียดขุ่นแม่ชิมิล่ะพี่เขี้ยว

แต่เมื่อไหร่ขุ่นแม่จะชนะใจพี่เขี้ยวนี่สิ อีกนานแค่ไหนจะกว่าฉันจะใกล้เธอออ บอกที 55555

แต่ตอนท้ายนี่ยังไงคะ พี่เขี้ยวจะขอนังเอื้องคบหราาา เอาจริงหราาพี่ แบบนี้แม่เรียวต้องเร่งรัดแล้วนะคะคุณแม่

ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามเรื่องนี้กันอยู่นะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่ชอบแม่เรียวกับพี่เขี้ยว เป้นอีกรเื่องที่ตั้งใจ ตอนนี้ทุ่มเทเรื่องนี้ได้เต็มที่แล้วค่ะ หุๆ ไม่หายไปนานๆ แล้นนนน   :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๐/100% :21.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 21-08-2016 07:26:21
พี่เขี้ยวนี่น่าหมั่นไส้อ่ะ ขี้เก๊กแท้ 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๐/100% :21.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 21-08-2016 12:24:30
ตอนนี้พี่เขี้ยวก็คงยังไม่ได้ชอบเรียวนะ
แต่เราว่า พี่เขี้ยวเริ่มสนใจเรียวบ้างแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๐/100% :21.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 21-08-2016 23:09:43
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/50% :25.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 25-08-2016 15:36:44
คาถาที่ 11 :: Angry Devil. [นางมารพิโรธ] (50%)



   เรียวจันทร์นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ในโรงนาอีกหลังที่อยู่กลางฟาร์ม ปล่อยให้ช่างหน้าช่างผมจัดการตัวเอง ทีมงานหลายสิบคนกำลังยกอุปกรณ์ประกอบฉากไปวางในร้านคาเฟ่ของฟาร์มที่ถูกเลือกเป็นจุดถ่ายทำของรายการ ระหว่างนั้นแขกรับเชิญชายหน้าหวานก็นั่งพึมพำอ่านสคริปการถ่ายทำไปด้วย
   

“แก มีสายรายงานมาว่า ไอ้ยอร์ชจะมาหาแกที่นี่” เรียวจันทร์เงยหน้าขึ้นมองเป็ดที่ใส่แว่นดำอันเบ้อเริ่ม คุณนายแกขมวดคิ้วงง
   

“ฉันขมวดคิ้วด้วยกันสองประเด็น ประเด็นแรก แกจะใส่แว่นทำไม ในนี้ไม่มีแดด…” เป็ดทำหน้านึกขึ้นได้ ก่อนที่จะถอดแว่นดำออกแล้วเอาเหน็บไว้ตรงปกเสื้อ
   

“…สอง ไอ้ตี๋หน้าฮีนั่นมันจะมาหาฉันทำไม”
   

“คำตอบของฉันคือ ไม่รู้ค่ะ แต่มันจะมา” คุณนายเรียวเบ้ปากพร้อมกลอกตาเบื่อหน่าย เป็ดยักไหล่สองข้างเบาๆ นายแบบหนุ่มพ่นลมหายใจแรงๆ แล้วยกมือปัดเป็นเชิงว่าช่างมันเถอะ
   

“ล้อมสายสิญจน์ไม่ทันแล้วละ ขอแค่อย่าเอานังฮีโบมาก็แล้วกัน” เรียวจันทร์ว่าแล้วหลับตาให้ช่างผมฉีดสเปรย์ลงบนหัว
   

“อ้าว ไหนว่ามันเลิกกันแล้วไง” ช่างทำผมหยุดฉีดสเปรย์ เรียวจันทร์ลืมตาขึ้นแล้วยิ้มเยาะมุมปากน้อยๆ ขอบตาที่ถูกเขียนสีเข้มทำให้รอยยิ้มเยาะนั้นดูดุขึ้นไปอีก
   

“แกอย่าลืมนะว่าอียอร์ชมันเป็นผู้ชายตอแหล”
   

“กว่าแกอีกเหรอวะ”
   

“โอ๊ย อีนี่!” เป็ดหัวเราะพร้อมร้องกรี๊ดๆ เมื่อเพื่อนหยิบสเปรย์ฉีดผมขึ้นมาฉีดไล่ วันนี้เป็ดหยุดงานเลยแวะมาหาเพื่อนสนิทที่ฟาร์มของคมเขี้ยว อีกเหตุผลคือหล่อนอยากมาพักผ่อน วันนี้เป็นวันที่ทางฟาร์มเปิดให้คนนอกเข้ามาเยี่ยมชม เลยมีผู้คนเดินยั้วเยี้ยอยู่ในฟาร์มมากมาย แต่ตรงบริเวณสถานที่ถ่ายทำถูกกันเอาไว้ไม่ให้เข้ามา
   

 “ถ้าคุณเรียวพร้อมแล้วให้ออกมาหน้าเซ็ทได้เลยนะ” เสียงใครสักคนดังออกมาจากวอล์ก็เป็นตอนที่เรียวจันทร์เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จพอดี คุณนายใส่เสื้อเชิ้ตขาวตัวบางหลวมกับเลกกิ้งรัดรูปสีดำที่ทำให้ขายาวผอมเพรียว แลร่างสูงระหงเข้าไปอีก ผมสีโค้กถูกจัดทรงแสกกลาง กระบังด้านหน้าทั้งสองข้างเด้งดึ๋งๆ ยามสะบัด ถ้าเป็นคนอื่นทำทรงนี้อาจตายคาที่ แต่คุณนายเรียวจันทร์ซะอย่าง นางรอดค่ะ!
   

“สวัสดีค่า” เรียวจันทร์เอ่ยเสียงใสพร้อมยกมือไหว้พิธีกรสาวของรายการ และหันไปไหว้ทีมงานที่อยู่หน้าเซ็ท ทุกคนตอบรับนายแบบหนุ่มด้วยรอยยิ้ม โปรดิวเซอร์รายการเดินเข้ามาหาทั้งสองคนเพื่อแจงว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
   

“วันนี้จะเป็นการทำขนมเค้ก มีสี่รสชาติ น้องเรียวเคยทำเค้กบ้างมั้ย” โปรดิวเซอร์สาวห้าวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม เรียวจันทร์ยิ้มแกนๆ แล้วส่ายหัว
   

“ไม่เคยเลยพี่ เรียวถนัดทำอาหารคาว อาหารหวานอาศัยกินตามร้านเอา”
   

“โอเค ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แม่พิธีกรนางบอกให้ทำอะไรก็ทำตามที่นางว่าได้เลย เดี๋ยวลองซักซ้อมก่อนสักรอบนะ จะได้คุ้นเคยกัน” เรียวจันทร์ยิ้มและพยักหน้ารับ ก่อนที่จะเริ่มทำความคุ้นเคยกับพิธีกรเพื่อจะได้ถ่ายทำรายการได้ราบรื่น พิธีกรคนนี้ปกติดี อีกฝ่ายยื่นไมตรีจิตมาให้และแลไม่มีพิษภัย ตัวคุณนายแกเลยอ่อนน้อมด้วย แต่ถ้ามีอะไรตุกติก นางรับรองเลยว่าพร้อมจะแผลงฤทธิ์ใส่ทันที
   

“อีเรียว ผัวเก่าแกมาละ” ในขณะที่เรียวจันทร์กำลังซักซ้อมจังหวะการถ่ายทำกับพิธีกรและผู้กำกับรายการอยู่ เป็ดก็เดินเข้ามากระซิบหน้าตาไม่รับบุญ นายแบบหนุ่มบึนปากนิดหน่อย พยักหน้ารับรู้เร็วๆ ก่อนจะหันไปสนใจงานที่ทำค้างอยู่ต่อ
   

“เดี๋ยวพี่จะบอกให้น้องเรียวอบขนมเค้ก ตีแป้ง แยกไข่ อะไรแบบนี้แหละค่ะ คิดว่าไม่ยากเนอะ…” เรียวจันทร์ยิ้มพยักหน้ารับกระตือรือร้น
   

“…บรรยากาศในรายการก็สนุกสนานค่ะ ความรู้สึกคือเหมือนหนูมาเยี่ยมพี่ที่บ้าน แล้วพี่ชวนเราเข้าครัวด้วยกัน”
   

“โอเคค่ะ ไม่ต้อง…”
   

“เรียว” เจ้าของชื่อหุบปากฉับ หันไปมองคนเรียกที่นางรู้ทันทีว่าคือใคร ใบหน้าสวยเซ็งจัด มองช่อดอกกุหลาบสีแดงสุดเห่ยในมือแฟนเก่าตัวเอง
   

“ถ้าคิดอะไรไม่ออก ซื้อชาแนลมาให้ฉันก็ได้นะ อันนั้นน่ะฉันไม่เล่นตัวไม่เอาแน่นอน แต่ขอ Black Caviar Jumbo Classic Flap Bag นะ” คนหน้าหวานเลิกคิ้วบางสวยขึ้น มองช่อกุหลาบที่จัดอย่างเชยๆ แล้วทำหน้ายี้
   

“จ้างพวกร้านดอกไม้วันรับปริญญาจัดให้รึเปล่า แพทเทิร์นห่วยมาก” โยธินถึงกับอ้าปากหวอเมื่อเจอเรียวจันทร์กระหน่ำใส่ทั้งที่เพิ่งพูดไปได้คำเดียว
   

“เอ่อ…”
   

“…สวัสดิการอยู่ด้านนอก ทำตัวตามสบายนะคะ…” คนสวยยิ้มหวาน ก่อนที่จะหุบยิ้มเร็วไว


“…แต่อย่าสบายมากไป” ว่าจบก็หันกลับไปสนใจคุณพี่พิธีกรที่ยืนมองเหตุการณ์งงๆ เรียวจันทร์ยิ้มสวย พูดต่อจากที่ค้างไว้โดยไม่สนใจไยดีบุรุษรูปร่างล่ำสันด้านหลังเลยสักนิด
   

“เค้กน่ากินมากเลยค่ะ” คุณนายแกว่าเสียงตื่นเต้นเมื่อทีมงานยกถาดเค้กสี่ถาดในแบบเสร็จสมบูรณ์มาไว้บนโต๊ะไม้ประกอบฉากสีน้ำตาลอ่อน ยอร์ชขมวดคิ้วหงุดหงิดนิดหน่อย มองแผ่นหลังเรียวจันทร์ด้วยความอดทน ก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกไปนั่งตรงโต๊ะสวัสดิการในโรงนา เขาโยนช่อดอกไม้ไว้บนโต๊ะเซ็งๆ สายตาเลื่อนไปเห็นเป็ดที่เดินเข้ามาหาเขาหน้านิ่ง
   

“แกรู้ตารางงานเรียวได้ยังไงเนี่ย” ยอร์ชยิ้มมุมปากพร้อมยักไหล่ขวา
   


“ฉันก็มีสายสืบเหมือนที่เธอมีนั่นแหละ”
   


“แกต้องการอะไรยอร์ช ไม่สิ ฉันต้องถามว่า จุดประสงค์ของแกที่กลับมาหานังเรียวคืออะไร” เป็ดหรี่ตา ปากบิดปากเบี้ยว สีหน้าจับผิด คิ้วขมวดมุ่น ยกขึ้นยกลง แถมมีการวางมาดด้วยการกอดอกให้ดูภูมิฐาน แต่รวมๆ แล้วดันตลก
   

“มันจะมีอะไรนอกจากฉันเพิ่งคิดได้ว่าฉันรักเรียวจริงๆ” ชายหนุ่มว่าหน้าบริสุทธิ์ใจพร้อมคลี่ยิ้ม แม้ไม่ได้คลุกคลีวงในกับผู้ชายคนนี้เท่ากับเพื่อนสาวของหล่อน แต่ศศิประภาก็พอจะรู้ว่าไอ้คนนี้ ปลิ้นปล้อนเก่งเป็นอันดับต้นๆ ของผู้ชายที่มีเชื้อสายแมงดาเลยละ
   

“ต๊าย หวานยิ่งกว่าน้ำตาลทรายก้นแก้วกาแฟ” ยอร์ชทำหน้าไม่ใส่ใจแล้วไหวไหล่น้อยๆ เป็ดเบ้ปากก่อนจะเดินออกไปจากโรงนา ยอร์ชมองตามแล้วเบะปากตามหลัง
   
   
   




“พักกองจ้า!” เสียงผู้กำกับตะโกนบอก เรียวจันทร์ยืดสองแขนขึ้นบิดขี้เกียจน้อยๆ แต่พองาม จะบิดลายใหญ่มากไม่ได้ เดี๋ยวจะเสียภาพพจน์สวยๆ หมด
   

“พาร์ทอาหารคาว น้องเรียวคงชิลแล้วละเนอะ” เรียวจันทร์หันไปยิ้มหัวเราะกับพิธีกรที่พูดยิ้มๆ
   

“คิดว่างั้นแหละค่ะ เรียวทำอาหารกินเองบ่อย เดี๋ยวตอนโชว์สูตรยำทะเล จะทำให้เต็มที่เลย” ทั้งสองคนหัวเราะกันเบาๆ ก่อนที่พิธีก่อนสาวจะขอตัวออกไปพัก
   

“น้ำครับเรียว” เรียวจันทร์เท้าเอวสองข้าง มองหน้ายอร์ชด้วยสายตาเบื่อหน่าย แต่ก็รับแก้วน้ำพลาสติกมาไว้ในมือ ดูดโอวัลตินเข้าปากสองสามอึก
   

“ว่างเหรอ ถึงได้มานั่งเอ้อระเหยอยู่ที่นี่” ยอร์ชเลิกคิ้วขึ้น ยิ้มมุมปากน้อยๆ
   

“กับเรียว ยอร์ชมีเวลาให้เสมอ” เรียวจันทร์ถอนหายใจ สีหน้าของนางทั้งอึดอัดและรำคาญ นางมองหน้าคนรักเก่าอย่างระอา
   

“ถามจริง เอาอะไรมามั่นใจเบอร์ใหญ่มากว่าฉันจะยอมคืนดีด้วย” นายแบบหนุ่มเอียงหน้าถามอย่างสงสัย พลางยกแก้วน้ำขึ้นดูดโอวัลตินอีกหลายอึก รู้อยู่นะว่ามันจะทำให้อ้วน แต่ดูดไว้เยอะๆ เผื่อของหวานจะช่วยให้ใจเย็น
   

“ไม่มีหรอก เรียวก็ให้โอกาสยอร์ชหน่อย มาเริ่มใหม่กัน”
   

“ไม่เริ่ม! ไม่เอาใหม่อะไรทั้งนั้น ฉันจบสิ้นกับนายไปนานแล้ว” เรียวจันทร์ว่าอย่างรำคาญ ใบหน้ามุ่ยไม่พึงใจ ยอร์ชระบายลมหายใจแต่ก็ไม่คิดยอมแพ้
   

ดูเหมือนของหวานจะช่วยให้คุณนายแกอารมณ์ดีไม่ได้
   

“เรียว ยอร์ชรักเรียวจริงๆ นะ” คนถูกบอกรักชักสีหน้านิดหนึ่ง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เสียงแหลมปรี๊ดเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เล่นเอาคนทั้งกองสะดุ้งตกใจ
   

“ยอร์ช!!!” เจ้าของชื่อหันขวับไปมองแล้วก็เบิกตากว้างตกใจ หญิงสาวมองชายหนุ่มตาลุกวาว เรียวจันทร์ชะเง้อมองผ่านไหล่ยอร์ชก็เห็นนังฮีโบยืนหน้าตาถมึงทึงจ้องหน้าแฟนตัวเอง คุณนายเรียวยิ้มเยาะน้อยๆ มองเลยผ่านด้านหลังของโบกี้ไปก็เจอกับเป็ดที่ยืนยิ้มอุ๊บอิ๊บอยู่คนเดียว เรียวจันทร์หรี่ตามองเพื่อนแล้วก็นึกสงสัยว่านังดำตับเป็ดต้องทำอะไรมาแน่ๆ
   

“โบ?!” เหมือนชายหนุ่มเพิ่งจะได้สติจากการตกใจ เลยเพิ่งจะเอ่ยชื่อของแฟนสาวออกมา โบกี้เดินสับๆ เข้ามายืนข้างยอร์ช จ้องหน้าเรียวจันทร์อย่างอาฆาต คนโดนจ้องแสร้งทำหน้าบ้องแบ๊ว
   

“หนูเปล่าน้า เค้ามาเอ๊งงง หนูเปล่าชวนน้า เค้ามาเองงง~♫” เรียวจันทร์พึมพำเป็นเพลงเบาๆ แอบมีลูกเอื้อนเล็กน้อยด้วย โบกี้ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งตาลุกวาวกับความกวนประสาทของเรียวจันทร์ ทีมงานหลายคนเริ่มมองมาที่ทั้งสามคนเป็นตาเดียว
   

“นังตุ๊ดตอแหล! แกโทรล่อผัวฉันให้มาหาถึงที่!” โบกี้แผดเสียงใส่คนตรงข้าม จ้องมองหน้าสวยๆ ของเรียวจันทร์ด้วยความโกรธสุดขีด
   

“อะ ฮะๆๆๆๆ ฮ่าๆๆ…” คุณนายเรียวจันทร์อ้าปากหัวเราะเสียงดัง ก่อนที่จะหยุดหัวเราะฉับพลันแล้วถลึงตามองโบกี้อย่างแรง!
    

“…น้ำเน่า! แกคิดว่าคนหน้าตาอินเตอร์อย่างฉันจะทำอะไรเห่ยๆ เหมือนช่อดอกกุลาบที่ผัวแกหอบมาให้ฉันงั้นเหรอ…” หนุ่มนายแบบเบรกตัวเองกะทันหันพร้อมทำหน้าตกใจประหนึ่งว่าเผลอพูดความลับระดับชาติ


“…อุ๊บส์!” นางยกมือขวาปิดปากตัวเองอย่างกรีดกราย แต่แววตาที่มองศัตรูตลอดกาลนั้นเต็มไปด้วยความสะใจ โบกี้กัดฟันกรอด หันไปมองแฟนตัวเองตาขวาง
   

“เอาดอกไม้มาให้มันด้วยเหรอ?!” ชายหนุ่มร่างบึ้กอึกอัก หาต้นเสียงของตัวเองไม่เจอว่าจะพูดอะไร ยิ่งพอโดนแฟนสาวมองอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อก็ถึงกับทำหน้าไม่ถูก
   

“แต่แหม บางทีเธอก็ต้องทำใจนะโบกี้ วันเวลาผ่านไป ผู้ชายเขาก็คงคิดได้ว่าอะไรคือเพชร อะไรคือหินถนนลูกรัง…” เรียวจันทร์วางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะแล้วเดินเข้าไปยืนใกล้ยอร์ช ทำเอาหญิงสาวที่โกรธจนหัวแทบลุกเป็นไฟ ยิ่งโกรธกว่าเดิม
   

“…เขาก็คงคิดดีแล้วละว่าใครที่เหมาะสมกับเขากันแน่”
   

“เอ่อ พี่ว่า มีอะไร…” โปรดิวเซอร์สาวห้าวกำลังจะเข้ามาห้ามทัพ แต่โบกี้ไม่ได้สนใจเสียงนั้นเลยสักนิด หล่อนแผดเสียงดังลั่นกอง
   

“ผีเน่ากับโรงผุชัดๆ ตุ๊ดอย่างแก ไม่มีใครเขาจริงใจด้วยหรอก อีผิดเพศ!!”
   

“อ้าว!!” โบหันควับไปทางต้นเสียง ก็เจอเข้ากับกะเทยร่างยักษ์สองนางที่เป็นช่างหน้าช่างผม สองสาวเทียมยืนมองนังสาวแท้ด้วยสายตาหมั่นเต็มที่ แต่โบกี้ก็ไม่แคร์อีกเช่นเคย ช่างผมที่ถือหวีอยู่ยกหวีขึ้นชี้หน้านังชะนี โบกี้เบะปากอย่างไม่กลัว
   

“อ๋องั้นเหรอออ เขาจริงใจกับแกมากเลยเนอะ ให้ฉันเดานะ แกยังไม่เลิกกับเขา ไม่งั้นแกคงไม่ตามมากรี๊ดๆๆ ขอส่วนบุญถึงนี่หรอก” โบกี้สะบัดสายตากลับมามองเรียวจันทร์ที่ทำหน้าทำตาน่าหมั่นไส้
   

“จะเลิกได้ยังไง?! ฉันกับยอร์ชยังไม่เลิกกัน!” คุณนายเรียวทำหน้าตกอกตกใจทั้งที่จริงน่ะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นอีหร็อบนี้
   

“อุ๊ยตาย รักกันยังไงอะ ถึงได้พูดสวนทางกันขนาดนี้” เรียวจันทร์ช้อนสายตามองหน้ายอร์ชที่ทำหน้าละเหี่ยใจและเหมือนอยากปลิดชีพตัวเองลงตรงนี้ซะ พอหันกลับไปมองโบกี้อีกที แม่นางนมโตก็จ้องแฟนตัวเองด้วยสายตาเสียใจและโกรธเคือง
   

“คงไม่ต้องถามแล้วเนอะ ว่าแฟนเธอพูดว่าอะไร แต่ว่า…” มือขาวบางทั้งสองข้างยกขึ้นวางบนไหล่หนาด้านซ้ายของยอร์ชอย่างมีลีลา


“…ฉันก็กลัวเธอจะเห็นภาพไม่ชัด…” เรียวจันทร์กระแอมเสียง วางมาดจริงจังขึ้นอีกนิด ในขณะที่โบกี้กำหมัดแน่น อกเริ่มกระเพื่อมหนักขึ้น


กิริยาท่าทางของหล่อนนี่มันนางร้ายแท้ๆ นังฮีโบ
   

“…ยอร์ชบอกว่า เลิกกับเธอแล้ว และเขาอยากกลับมาหาฉันน่ะจ้ะ ก็อย่างที่บอก เขาคงรู้แล้วละ ว่าเธอน่ะไม่ใช่เพชร แต่เป็นกรวด!”
   

“หือ!!” เพี๊ยะ!!!
   

“ว้ายยยย!” เสียงเป็ดตกใจลากเสียงยาว ทีมงานทุกคนส่งเสียงฮือ และทำท่าจะกรูกันเข้ามาห้าม


“อย่ามายุ่ง!” โบกี้แผดเสียงใส่ทีมงาน ทุกคนผงะอยู่กับที่


 ยอร์ชมีสีหน้าตกใจ กำลังจะเข้าไปดึงเรียวจันทร์ที่โดนตบจนล้มคว่ำไปกองบนโต๊ะ แต่ก็โดนแฟนสาวดึงออกห่างจากร่างนายแบบหนุ่มอย่างแรง
   

“ถ้าฉันกรวด แกก็ตัวตะกวด อะ… อ๊ายยยย!!!” เพี๊ยะ!!!! ยังพูดไม่ทันจบ โบก็หน้าหันไปตามแรงตบของเรียวจันทร์ที่ดันตัวเองขึ้นจากโต๊ะและตั้งสติจากความมึนได้แล้ว เรียวจันทร์มองหน้านังศัตรูคู่อาฆาตด้วยความพยาบาท


“แกตบฉันเหรอนังเรียว แกเป็นผู้ชายนะ!!” โบหันไปด่าด้วยความตกใจ รู้สึกปวดร้าวที่แก้มกับลูกตบของอีกฝ่าย


“อ้าว?! ฉันเป็นผู้ชายแล้วเหรอเนี่ย…” เรียวจันทร์เบ้ปาก ถลึงตามองโบกี้
   

ตอนนี้คุณนายเริ่มองค์ลงแล้ว

V
v
v
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/50% :25.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 25-08-2016 15:37:46

V
v
v

“…แต่ถึงจะเป็นผู้ชาย ฉันก็จะตบแก ชะนีอย่างแกเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมกันนักไม่ใช่เหรอ ก็นี่ไง ฉันให้แล้ว!” โบกี้ทิ้งกระเป๋าลงพื้นอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปตะลุมบอลกับเรียวจันทร์
   

“เฮ้ยยย เละแล้ว กองกู!!!”
   

ทั้งสองคนไม่สนใจเสียงโวยวายของผู้กำกับ แต่กลับจิกหัวและกระชากไปมาอย่างไม่ยอมกัน แต่ด้วยความที่เรียวจันทร์อาศัยแรงผู้ชายในร่างตัวเอง นางเลยจับโบกี้ลงไปนอนบนโต๊ะ ขึ้นคร่อมอย่างว่องไว ก่อนที่จะตบหน้าโบท็อกซ์ของโบกี้ไปข้างละแก้ม
   

เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
   

“ถ้าคิดว่าฉันจะเห็นแก่ความเป็นเพศแม่ของแกล่ะก็ แกขอผิดคนแล้ว!” องค์ยานแม่ประทับสิงสู่ในร่างคุณนายเรียวจันทร์ ฉะนั้นตอนนี้นางยากที่จะเบรกตัวเอง มีแต่อารมณ์ขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ ทีมงานรีบเข้าไปดึงตัวเรียวจันทร์ แต่ก็โดนคุณนายแกออกแรงสะบัดทิ้ง และหยิบถุงแป้งสาลีสาดไปในอากาศ ทำให้ทัศนียภาพในคาเฟ่ขาวโพลน
   

“อ๊ายยย! ปล่อยฉันนะ!” เรียวจันทร์เอื้อมมือไปหยิบเค้กมาเต็มมือแล้วโปะลงบนหัวของโบกี้ ขยี้ๆๆ จนเละไปทั้งหัวของนังศัตรูตัวดี
   

“เรียว เรียวครับ พอก่อน พอ!” ยอร์ชพยายามเข้าไปห้าม เรียวจันทร์หยิบถ้วยใส่แป้งสาดใส่หน้ายอร์ชจนหน้าขาวโพลน ยอร์ชสำลักแป้งและโดนแป้งเข้าตาจนมองอะไรไม่เห็น
   

“เรียว! น้องเรียว พอก่อนฮะ พอก่อน โอ้ย! ตายๆๆ เละหมดแล้ว พอก๊อนนน!” คุณนายแกปรี๊ดแล้ว หูอื้อไม่ฟังอะไรทั้งนั้น
   

“อีเรียวววว!” เป็ดตะโกนเรียกเพื่อน แต่ดูเหมือนเพื่อนจะไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น เพราะกำลังสนุกกับการเอาเค้กละเลงหัวนังฮีโบจนผมยาวๆ ของนางเหนียวหนึบ
   

“อีบ้า อีตุ๊ดบ้า ปล่อยฉัน!” โบกี้พยายามใช้มือปัดป่ายปกป้องตัวเอง แต่ก็ทำได้แค่สะเปะสะปะ เพราะนางโดนเค้กโปะเต็มหน้า จนแทบมองอะไรตรงหน้าไม่เห็น แต่สุดท้ายนางก็คว้าอะไรได้สักอย่าง ก่อนที่จะเหวี่ยงขึ้นไปที่ด้านข้างของเรียวจันทร์
   

“โอ๊ะ! โอ๊ะ! โอะ แอร๊ยยย!” ร่างของเรียวจันทร์หล่นลงพื้นดังตุ้บพร้อมกับเสียงกรีดร้อง โบกี้มองอย่างเดือดดาล ก่อนจะทิ้งถาดสีเงินในมือ รีบคว้าเค้กที่เหลืออยู่บนโต๊ะไว้เต็มสองมือก่อนจะปาใส่หน้าเรียวจันทร์
   

“ทำฉันเหรอ นี่! นี่!” เรียวจันทร์พยายามยกแขนกันเอาไว้ เค้กเลยโดนเฉี่ยวๆ โบกี้เห็นแบบนั้นเลยลงจากโต๊ะ ถือเค้กอีกก้อนที่วางใกล้กันเดินเอาไปโปะใส่หัวเรียวจันทร์เต็มๆ ก่อนจะขยี้ๆ จนเค้กเละไปครึ่งหนึ่ง
   

“พอแล้วคุณ พอแล้ว!” โบกี้หันไปมองทีมงานผู้ชายคนหนึ่งที่พยายามเข้ามาดึงหล่อนไว้ ก่อนที่จะยกเค้กที่เหลือขึ้นตบหน้าทีมงานจนชายหนุ่มผงะหงายหลังเดินเซถอยหลังไปหลายก้าว พอหันกลับไปจะเล่นงานเรียวจันทร์ต่อ อีกฝ่ายก็ลุกขึ้นยืนพร้อมสู้แล้ว
   

“นังโบ!” เรียวจันทร์คำราม ใช้สองมือกระชากหัวโบกี้ไว้เต็มมือและพยายามดึงกลับไปทางโต๊ะที่ใช้เข้าฉาก แต่โบกี้ฝืนตัวเองเอาไว้ สองมือก็จิกผมเรียวจันทร์ไว้เต็มมือเช่นกัน
   

“คุณเขี้ยวคะ ห้ามอีเรียวที ห้ามมันทีค่า!” เรียวจันทร์ได้ยินเสียงเป็ดแว่วๆ แต่ก็ไม่สนใจ พยายามกดหน้านังฮีโบลงไปในอ่างไข่ขาวให้ได้
   

“คุณเรียว หยุด!”
   

“ไม่หยุด!” เรียวจันทร์ตอบคมเขี้ยวทันควันโดยที่นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่นคือใคร แม้จะเหนื่อยหอบแทบขาดใจ แต่ถ้านังโบกี้ยังไม่เละสมใจ คุณนายแกก็จะไม่ยอมหยุดแน่นอน!
   

“อ๊ายยย” โบกี้กรีดร้องในขณะที่ใบหน้าเริ่มต่ำติดอ่างไข่ขาว เรียวจันทร์กัดฟันแน่น นางแค้นที่อีกฝ่ายเอาถาดตบหน้านาง
   

“จันทร์ไร หยุดเดี๋ยวนี้!” คมเขี้ยวออกแรงดึงแขนเรียวจันทร์ออกจนคุณนายแกหลุดออกห่างจากโบกี้ หญิงสาวเอาแขนค้ำร่าง ยืนหอบหายใจตัวงอ เรียวจันทร์กัดฟันแน่น ก่อนที่จะหันไปมองไอ้โยธิน พอเห็นว่าฝ่ายนั้นกำลังนั่งล้างหน้าล้างตา นางก็สะบัดแขนคมเขี้ยวจนหลุด เดินเข้าไปผลักร่างนังโบกี้ล้มลงไปกับพื้น
   

“โอ๊ย…  แฮ่ก… อีนี่…” โบกี้บ่นเสียงหอบ เรียวจันทร์หยิบอ่างไข่ขาวขึ้นมา เดินอ้อมโต๊ะไปหาโยธินที่ล้างหน้าจนสะอาดเกลี้ยงเกลาแล้ว
   

“แก ไอ้อดีตผัวเฮงซวย ไอ้ตัวต้นเหตุ อย่าคิดว่าจะรอด!!” ว่าด้วยความเดือดดาลแล้ว คุณนายแม่ก็คว่ำอ่างสีใสที่มีไข่ขาวเหนียวๆ เกือบเต็มอ่างใส่หัวโยธินจนหมด
   

“เหี้ย!” โยธินสบถเสียงดังอย่างหัวเสีย เงยหน้าขึ้นมองเรียวจันทร์ตาขวาง คุณนายแม่หาได้เกรงกลัวไม่ นางคว่ำอ่างครึ่งทรงกลมลงบนหัวของฝ่ายชาย ยืนมองด้วยสายตาสะใจ แต่ก็หอบหายใจหนักเช่นกัน

   
“เรียว!” ยอร์ชผุดลุกขึ้นยืนท่าทางเอาเรื่อง เรียวจันทร์ยกมือขึ้นชี้หน้าไอ้ตี๋ล่ำ อ้าปากเตรียมจะด่าทั้งที่หอบแดกไปทั้งตัว คมเขี้ยวรีบเดินเข้ามาพาเรียวจันทร์ออกจากร้านคาเฟ่ทันที พอออกมาด้านนอก เรียวจันทร์ก็เห็นว่ามีคนมุงอยู่นอกร้านพอประมาณ แต่ยามนี้คุณนายแกเหนื่อยเกินกว่าจะว่าอะไรได้ นางเลยเดินไปตามแรงดันของคมเขี้ยวที่พาเดินไปทางออฟฟิศ
   

“นั่งนิ่งๆ อย่าวุ่นวายอีกนะ” คมเขี้ยวชี้หน้าคุณนาย หน้าตาเอาเรื่องหลังจากพาร่างเล็กนั่งลงบนโซฟาในออฟฟิศได้ เรียวจันทร์นั่งหายใจเหนื่อยๆ อีกพักใหญ่ พยายามปรับลมหายใจให้เข้าที่เข้าทาง ผ่านไปไม่นานคมเขี้ยวก็เดินกลับมาพร้อมกับผ้าขนหนูสีขาวผืนขนาดกลาง เขาโยนให้เรียวจันทร์แล้วเดินไปนั่งขอบโต๊ะทำงานในออฟฟิศ นั่งมองเรียวจันทร์เช็ดหน้าเช็ดหัวเอาเค้กออก คุณนายแม่เลื่อนสายตาไปมองหน้าคมเขี้ยว
   

“ถ้าคิดจะบ่น ฮึก… จะว่าหาว่าฉันคือ… แฮ่ก… ตัวต้นเรื่อง หยุด… เลยนะ เพราะฉันไม่ใช่เหตุ แฮ่ก… ของเรื่องนี้” พูดไปด้วย เหนื่อยหอบไปด้วย แต่นางก็ยังพูด และพูดด้วยสีหน้าไม่ยอมด้วย
   

“แต่คุณก่อเหตุความวุ่นวาย ผมบอกว่าไง… อย่าให้เกิดเรื่อง” เรียวจันทร์ถอนหายใจทั้งที่ยังหายใจไม่ปกติดี
   

“แล้วคุณเป็นผู้ชาย ทำไมไปทำร้ายผู้หญิงแบบนั้น” คราวนี้นางเบ้ปากด้วยความหงุดหงิดเต็มแรง
   

“กรุณาอย่าทำตัวเป็นพระเอกละครไทยยุค 40 จะได้มะ ที่เห็นเหตุการณ์ตอนหลังๆ ที่นางเอกฮึดสู้แล้วก็ตัดสินว่าอีนางเอกมันผิดเพราะไปตบอีนางร้ายกลับ โถ่ ฉันสวยและฉันไม่ได้โง่ ที่จะต้องตบยัยนั่น คิดว่าฉันชอบมีเรื่องเหรอ เกิดหน้าฉันพังขึ้นมาจะทำยังไง เห็นมั้ยเนี่ยว่านั่งหอบอยู่” เรียวจันทร์ว่าอย่างหงุดหงิด พอพูดยาวๆ ก็ยิ่งเหนื่อยเพิ่มไปอีก แต่นางจะพูดซอฟต์ๆ และเบาๆ ไม่ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวโดนขัด คุณนายยกผ้าขนหนูเช็ดหน้า เช็ดผมเอาครีมเค้กออก แต่ยิ่งเช็ดก็ยิ่งเลอะเทอะ
   

“แล้วถ้านายตาไม่บอดนะ ฮื่อ… ฮื่อ… ฉันก็ทำไอ้ผู้ชายด้วย มันนั่นแหละตัวต้นเหตุแห่งความซวยทั้งหลาย!” นางว่าไปหอบไป แต่อาการหอบเริ่มลดน้อยลง คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง
   

“อดีตผัวเฮงซวยของคุณน่ะเหรอ”
   

“ใช่ แล้วมันก็จะเป็นอดีตต่อไปจนมันตายนั่นแหละ!” คนหน้าสวยที่ตอนนี้หน้าหงิกตอบเสียงกระแทก คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์อย่างพิจารณา และคิดได้ว่าเขาไม่ควรใช้อารมณ์กับไอ้จันทร์ไรตอนนี้ เพราะเชื่อเลยว่าแม่คุณนายแกพร้อมจะอาละวาดทันทีถ้าไปแตะอารมณ์กริ้วของนาง
   

“คุณรู้มั้ยว่าทำแบบนี้มันทำให้ฟาร์มผมเสียชื่อเสียง คนเขาจะคิดยังไงที่มีคนมาทะเลาะเบาะแว้งกันที่นี่” แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องตักเตือนเรียวจันทร์อยู่ดี จะให้ปล่อยผ่านไปเลยไม่ได้แน่นอน คนหน้าสวยมองอย่างเคืองๆ
   

“หาจุดให้ฉันผิดจนได้นะ” นางว่าเสียงเคืองพอๆ กับสีหน้า และยังคงพยายามเช็ดครีมสีขาวออกจากเส้นผมด้านข้างที่หนืดหนึบไปทั่วหัว
   

“แล้วคุณผิดจริงมั้ย”
   

“จริงครึ่งเดียว นายจะมาโยนความผิดให้ฉันเต็มๆ คนเดียวไม่ได้” คุณนายแกไม่ยอม เถียงคอเป็นเอ็นเส้นเสียงแทบปูดบวม คมเขี้ยวยังคงทำหน้านิ่งและพูดต่ออย่างเรียบเฉย
   

“แล้วไหนจะทีมงาน คุณคิดว่าเขาจะรู้สึกยังไง” นายแบบหนุ่มกำลังจะอ้าปากเถียงต่อ แต่พอสติจับได้ว่าคมเขี้ยวพูดถึงใคร คราวนี้นางเลยชะงักกึก ท่าทีค่อยๆ อ่อนลง และกลายเป็นสีหน้ารู้สึกผิดจนคมเขี้ยวนึกงงปนประหลาดใจ
   

“โอ๊ยตาย…” ร่างเล็กพึมพำ หลับตาลงพร้อมขมวดคิ้วด้วยความเครียดและความรู้สึกผิด คมเขี้ยวมองอย่างแปลกใจกับท่าทีนั้นของอีกฝ่าย ก่อนจะพูดต่อด้วยเสียงเรียบเช่นเคย
   

“ผมยังไม่เช็กความเสียหายในฟาร์ม แต่ผมเชื่อว่ากองถ่ายเสียหายมากแน่ๆ” เรียวจันทร์เงยหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมองคมเขี้ยวแล้วพูดด้วยเสียงสะบัด
   

“ฉันรู้แล้วน่า ย้ำอยู่ได้ เดี๋ยวฉันจะกลับไปเริ่มงานต่อเดี๋ยวนี้แหละ” คมเขี้ยวมองคุณนายแกด้วยความประหลาดใจมากเข้าไปอีก กำลังนึกสงสัยว่าอะไรดลใจให้พูดแบบนั้น นั่นไม่ควรเป็นท่าทีของไอ้จันทร์ไรจอมอวดดี
   

“สภาพแบบนี้ยังจะเริ่มงานต่ออีกรึไงแม่คุณ” เรียวจันทร์สะบัดสายตาขุ่นเคืองไปมองไอ้ตัวสูง
   

“ฉันมีความรับผิดชอบพอย่ะ ฉันผิด ฉันระลึกได้ แต่ฉันจะทำให้เขาเสียงานไม่ได้…” เรียวจันทร์ถอนหายใจ ไม่ใช่เพราะเหนื่อยใจ แต่เพราะรู้สึกผิด


“…ทีมงานทุกคนต้องกินต้องใช้ ถ้าวันนี้เลิกกองด้วยสถานการณ์แบบนี้ เขาจะไม่ได้ค่าจ้างอะไรเลย” เรียวจันทร์ว่าเสียงอ่อย สีหน้าเครียด สายตาเริ่มเป็นกังวล คมเขี้ยวขมวดคิ้วมองร่างบางอย่างนึกสงสัย
   

“ห่วงคนอื่น???” คนโดนหาว่าแล้งน้ำใจเอียงหน้ามองคนพูดเซ็งๆ เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน ถือผ้าขนหนูไว้ในมือ เดินเข้าไปใกล้คมเขี้ยวที่ทำหน้าคล้ายจะขำ
   

“เงินมันหายาก กว่าจะได้มาไม่ใช่ง่ายๆ ตอนไม่มี แค่บาทเดียวก็ยังหายาก ทีมงานทุกคนเขาต้องใช้เงินดำรงชีวิต” คมเขี้ยวยักคิ้วแล้วเบ้ปากแว้บหนึ่ง
   

“แนวคิดดี” เรียวจันทร์ยิ้มเยาะ
   

“ถ้านายไม่เคยลำบากหรือต้องดิ้นรนหาเงินล่ะก็ นายไม่เข้าใจจริงๆ หรอก” เรียวจันทร์มองหน้าคมเขี้ยวด้วยสายตาอ่อนล้าจนคนโดนมองถึงกับชะงัก ไม่เข้าใจว่าไปสะกิดใจอะไรไอ้จันทร์ไรเข้าให้
   

เรียวจันทร์ไม่พูดอะไรต่อ นางหมุนตัวเดินออกไปจากออฟฟิศ คมเขี้ยวมองตามร่างบางจนหายลับ นั่งครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะลุกขึ้นเดินตามร่างเล็กไป
   

เรียวจันทร์รีบเดินกลับมาหน้าเซ็ท ทีมงานทุกคนกำลังช่วยกันเก็บกวาดซากปะรักหักพังที่แม่นางเป็นคนทำทิ้งไว้ คุณนายแกมองด้วยสายตาเครียดเล็กน้อย ถอนหายใจแล้วก็เดินเข้าไปด้านในร้านคาเฟ่ ทีมงานหันมามองนายแม่เป็นตาเดียว เรียวจันทร์รับรู้ได้ว่าสายตาเหล่านั้นเป็นสายตาแห่งความผิดหวัง แม้ไม่ได้รุนแรง แต่ทุกคนคงไม่คาดหวังว่านางจะอาละวาดจนพังขนาดนี้แน่ๆ นายแบบหนุ่มยกมือขึ้นไหว้ทุกคน
   

“เรียวขอโทษนะคะ ขอโทษทุกคนเลยค่ะที่คุมสติตัวเองไม่ดี…” ทีมงานหลายคนยืนนิ่ง บางคนก็ยังคงเก็บกวาดต่อไป และเรียวจันทร์รู้ว่าบางคนเหล่านั้นคงไม่อยากจะมองหน้านางสักเท่าไหร่
   

ว่าจะนางเอกให้เต็มร้อยแล้วนะ แต่มีนังชะนีสองตนมาทำท่าเชิด ท่าหยิ่งจนน่าหมั่นไส้ แต่สถานการณ์นี้ นางต้องกู้ภาพลักษณ์นางเอกยุคสุวนันท์กลับมาให้ได้


“…ถ้าพี่ๆ ทุกคนยังอยากทำงานต่อ เรียวก็พร้อมจะทำต่อให้เสร็จค่ะ หักค่าตัวเรียวเป็นค่าเสียหายก็ได้นะ” เอาวะ ทุ่มให้สุด มาขนาดนี้แล้ว ดีกว่าภายภาคหน้างานหดหายหมด คราวนี้ทุกคนหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ พวกที่แสดงออกให้รู้ว่าไม่พอใจ ไม่ชอบใจก็เชิดหน้าเชิดตา เรียวจันทร์แอบมองตาขวางนิดหน่อยแล้วแอบเบ้ปากเบาๆ แต่ก็รีบกลบอาการนางร้ายอย่างเร็ว


 ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์รายการมองหน้ากันแล้วก็หันไปมองหน้าเรียวจันทร์ “คงไม่ทำต่อแล้วล่ะน้องเรียว ใช้เทปที่อัดไปก่อนหน้านั้นก็ได้ พี่ว่ามันน่าจะใช้ได้อยู่ พาร์ทหลังเดี๋ยวพี่เอาคนอื่นมาถ่าย” เรียวจันทร์มองหน้าผู้กำกับอย่างรู้สึกผิด อันนี้นางรู้สึกผิดจริงๆ อาจเพราะด้วยผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ไม่ได้มีท่าทีจองหองใส่นาง นางเลยเห็นใจหน้าทัพของกองถ่ายอย่างจริงใจ เรียวจันทร์ก้าวเท้าเดินไปตรงหน้าของผู้กำกับ
   

“พี่ ถ้าพี่อยากได้เพิ่ม ทำเถอะ นะ เรียวไม่เอาค่าตัวก็ได้ หักให้ทีมงานเป็นค่าโอทีก็ได้ แต่ทำงานให้เสร็จเถอะ” ก็ดันประกาศไปแบบนั้นแล้วนี่ ได้แต่หวังว่าทางกองจะไม่หักจริงจังหรอกนะ แต่ก็… ถ้าหักขึ้นมาจริงๆ คุณนายแกจะดอกจันทร์ชื่อนังชะนีสองตนที่ทำท่าผยองพองขนใส่นาง


ฉันผิด ฉันรู้ แต่มาทำท่าแบบนั้น ฉันไม่ชอบย่ะ!


เรียวจันทร์แอบเหล่มองนังสองคนนั้นตาขวางนิดๆ แล้วรีบปรับสีหน้าเป็นอ้อนวอนขอร้องกับผู้กำกับ นางไม่ได้ขอร้องให้ตัวเอง นางขอร้องเพราะอยากให้งานเสร็จจริงๆ


โอเค นางกลัวงานนางหดนั่นแหละประเด็นหลัก แต่อีกประเด็น แม้จะเป็นประเด็นรอง แต่นางเข้าใจหัวอกคนทำมาหากินจริงๆ ทีมงานพวกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะได้เงินเยอะ ถ้ากองพังกองเละแบบนี้ เงินค่าตัวก็พังตามไปด้วย นางรู้ดีว่าความลำบากเป็นยังไง


โปรดิวเซอร์กับผู้กำกับมองหน้ากันอีกครั้งราวกับกำลังปรึกษากันทางสายตา ผ่านไปครู่สั้นๆ ทั้งสองคนก็พยักหน้า เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง “แต่สถานที่เขาจะให้ใช้ต่อเหรอ เราดีลกับเขาไว้ถึงแค่บ่ายสองเอง” เรียวจันทร์เม้มปากแล้วพยักหน้า
   

“เรื่องสถานที่…”
   

“…ใช้ไปเลยครับ ผมไม่คิดตังค์เพิ่ม” ทุกคนหันไปมองเจ้าของเสียงทุ้มหล่อ เจ้าของฟาร์มยืนมองหน้าเรียวจันทร์นิ่ง คุณนายแกอ้าปากหวอน้อยๆ มองหน้าพ่อมาดคาวบอยด้วยความอึ้งเบาๆ คิ้วเรียวสวยขมวดนิดหน่อย แต่สักพักริมฝีปากสีชมพูก็คลี่ยิ้มบางๆ อย่างดีใจ
   

“นายพูดจริงอ้ะ” คมเขี้ยวยักคิ้วพร้อมยักไหล่แล้วหมุนตัวเดินออกไปจากร้านคาเฟ่ เรียวจันทร์มองแผ่นหลังคมเขี้ยวด้วยความตื้นตันใจที่หมอนั่นใจดีกับตัวเอง ถึงจะไม่ได้ใจดีกับนางคนเดียวเต็มๆ แต่อย่างน้อยก็ใจดีแหละน่า แสดงว่าบทนางเอกยุคสุวนันท์ได้ผล


เรียวจันทร์ยิ้มปริ่มใจกับตัวเองก่อนจะหันไปยิ้มกริ่มให้กับโปรดิวเซอร์และผู้กำกับหนุ่ม เขาถอนหายใจแล้วยิ้มน้อยๆ
   

“เอา ถ่ายต่อละกัน” คุณนายแกยิ้มแป้นแล้นเชียวล่ะ
   

แม้ในใจจะหวั่นไหวว่าจะโดนหักค่าตัวจริงๆ หรือเปล่า เล่นบทนางเอกไว้เบอร์ใหญ่ซะด้วยสิ
   

   







 :hao7:

แม่ก็คือแม่ อย่าให้แม่เรียวโกรธ นี่ยังอ่อนๆ นะคะ แม่มีแข็งกว่านี้ อันนี้แบบซอฟต์ๆ เสียวแทนแม่เลยค่ะ เสียวว่าแม่จะกู้ภาพลักษณ์นางเอกยุคสุวนันท์ตามที่แม่ว่ากลับมาไม่ได้ แต่สุดท้ายแม่ทำได้ แอคติ้งของแม่ ครูแงะนั้นแสนจะภูมิใจกับลูกศิษย์คนนี้ ฮ่าๆๆ

แต่ใครว่าแม่เอาแต่ตอแหล แถไปวันๆ แม่ก็มีน้ำใจนะคะ ต้องขอบอก เพราะแม่รู้ดีว่ากว่าจะหาเงินได้ มันไม่ใช่เรื่องยาก แม่เรียวเองก็ต้องลำบากกับหนี้สินของแม่ตัวเองอยู่

พี่เขี้ยวได้เห็นมุมนางเอกของนางบ้างแล้ว แม่ว่าครึ่งหนึ่งนางจะทำเพื่อตัวเองก็เถอะ 55555 แต่อย่างน้อยก็มีมุมดีๆ ให้พี่เขี้ยวเราเห็นบ้างแล้วเนอะแม่เนอะ แต่ถามว่าใจอ่อนมั้ย อันนี้ตอบยากจุง เป็นกำลังใจให้แม่ต่อไป

ส่วนนังฮีโบกับไอ้ยอร์ชก็เละด้วยฝีมือของแม่ ไม่รู้ไอ้ยอร์ชไปได้ยินอะไรมา ถึงอยากกลับมาหาแม่นักหนา แม่เรียวจิยังไงดีคะะ



ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามเรื่องนี้กันอยู่นะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่ชอบแม่เรียวกับพี่เขี้ยว เป็นอีกเรื่องที่ตั้งใจเขียน ตอนนี้ทุ่มเทเรื่องนี้ได้เต็มที่แล้วค่ะ หุๆ ไม่หายไปนานๆ แล้นนนน ช่วงนี้ถ้าใครตามอยู่ ตอมจะมาถี่กว่าแต่ก่อนเนอะ เพราะช่วงนั้นติดงานและปั่นอีกเรื่องอยู่ แต่ตอนนี้หมดงาน และอีกเรื่องเรียบร้อยแล้ว มีเวลาให้นางมารเต็มๆ แล้วข่าาา  :mew1:

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/50% :25.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-08-2016 19:40:02
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/50% :25.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 25-08-2016 22:32:19
งานนี้แม่เรียวทำถูกใจมาก ๆ จ้ะ นางหลุดบทนางเอกผู้แสนดีซะแล้ว  :a5: แต่ก้อพยายามกลับอย่างเต็มที่ 555 พี่เขี้ยวเริ่มได้เห็นอีกมุมของแม่เรียวแล้ว ส่วนไอ้แมงดาแกจะต้องโดนพี่เขี้ยวจัดการในอนาคตข้างหน้าแน่ ๆแต่จะทำยังไงให้คู่นี้เขาดูดดื่มกันเนี่ย อยากเห็นพี่เขี้ยวหลงนางจริง ๆ  :mew3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/75% :30.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 29-08-2016 23:58:14

คาถาที่ 11 [75%]



   

“ขอบคุณพี่ๆ มากนะคะ” หลังจากผู้กำกับประกาศว่าเสร็จงาน ทีมงานทุกคนก็เฮดังลั่น เรียวจันทร์ยกมือไหว้ทีมงานทุกคนในกอง ตัวนางเองก็โล่งไปด้วยที่งานเสร็จตามที่ทีมงานต้องการ กลัวงานหดยังไง แต่สิ่งที่นางมีมากกว่านั้นก็คือความผิดชอบนี่แหละ พอรับผิดชอบในสิ่งที่เป็นหน้าที่ของตนเองเรียบร้อยแล้ว มันสบายใจจริงๆ
   

สบายใจสิยะ ค่าตัวไม่โดนหัก และได้ใจทีมงานทั้งกอง อ้อ ยกเว้นนังชะนีสองตัวนั้น แต่ช่างเถอะ ไม่โดนหักค่าตัว คุณนายแกก็อารมณ์ดีแล้ว
   

“ขอบคุณน้องเรียวมากนะฮะ งานออกมาดีสมใจผู้กำกับแกเลย” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่มตาหยี พนมมือไหว้ตรงอกพร้อมกับก้มหัวลงเล็กน้อย
   

“ยินดีค่ะพี่ แล้วเรียวต้องขอโทษอีกครั้งนะที่ทำให้งานเสียหายไปช่วงนึง”
   

“เสียหาย แต่สุดท้ายน้องเรียวก็ทำมันออกมาดีจนได้ แค่นี้พี่ก็พอใจแล้วละ” นายแบบหนุ่มยิ้มสวย โปรดิวเซอร์สาวหล่อยิ้มด้วยความดีใจ เรียวจันทร์เห็นแบบนั้นก็ปริ่มเปรมที่ทำงานเสร็จเรียบร้อยดีตามแพลนของทีมงาน
   

“เรียว ฉันขอโทษนะที่โทรไปปั่นประสาทนังโบอะ” เป็ดเดินเข้ามาบอกเสียงอ่อยหลังจากเลิกกองแล้ว เรียวจันทร์หันไปจิกตามองเพื่อนสนิทนิดหนึ่ง
   

“กะแล้วเชียวว่าแกต้องอุตริทำอะไรที่ไม่ปกติเหมือนหน้าแก” เป็ดหน้างอง้ำ แต่ไม่ใช่เพราะเพื่อนด่าเรื่องหน้า หล่อนรู้สึกผิดที่ตัวเองคะนองมากไปหน่อย
   

“ฉันรู้สึกผิดจริงๆ นะแก” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วมองเป็ดแล้วสะบัดสองมือเร็วๆ เป็นเชิงบอกว่าช่างมัน
   

“ก็ยังดีที่งานมันไม่พังเท่ากับหน้าแก”
   

“อีบ้า” เป็ดว่าเสียงพึมพำ หน้าตายังคงรู้สึกผิดอย่างที่พูด เรียวจันทร์ยกมือผลักหัวเพื่อนสนิทเบาๆ
   

“แต่ก็ดีนะที่แกโทรตามมันมา มันสองคนจะได้ไปเคลียร์กันให้รู้เรื่องว่าจะเอายังไงกับชีวิต และไอ้ยอร์ชจะได้รู้ตัวสักทีว่าไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก” 
   

“มันจะรู้ตัวจริงเหรอ ฉันว่ามันกลับมาเพราะอยากมาเกาะแกกินรึเปล่า” เรียวจันทร์ทำตาโตพร้อมเบ้ปาก
   

“งั้นมันคิดเกาะคนผิดแล้วละ มันไม่รู้รึไงว่าฉันต้องทำงานใช้หนี้งกๆ จะเอาที่ไหนให้มันเกาะ…” นางชะงักไปนิด เพราะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ริมฝีปากสีชมพูสดเม้มเข้าหากัน
   

เอาไว้เดือดร้อนสุดๆ เมื่อไหร่ เรียวมารบกวนแน่ จะได้ทำหน้าที่อย่างที่คุณต้องการ
   

เรียวจันทร์ส่ายหน้ากับตัวเองหนึ่งทีแล้วว่าต่อ “…จะว่าไป มันไม่เคยรู้เรื่องหนี้ของแม่ฉันเลย แต่…  นังฮีโบก็น่าจะบอก เพราะนังนั่นมันรู้ว่าฉันมีหนี้” สองเพื่อนสนิทขมวดคิ้วมองหน้ากันงงๆ ไม่ได้งงเพราะใครคนอื่น งงเพราะตัวเองกันนี่แหละ พูดเองงงเอง
   

“รึมันจะรักแกจริงอย่างที่ว่า” เป็ดเสนอขึ้นมาหน้าสงสัย แต่ทำให้คุณนายแกหน้าบูดทันที
   

“รักจริงติ๊งนั้งอะสิ…” เรียวจันทร์พ่นลมหายใจแล้วสั่นหัวเบาๆ “…พอดีกว่า เปลืองพื้นที่สมอง แล้วแกจะกลับเลยมั้ยหรือยังไง”
   

“ฉันว่าจะนอนนี่คืนนึง ฉันจองที่พักกับคุณเขี้ยวไปแล้วละ…” เรียวจันทร์พยักหน้าว่าอ้อ เป็ดยิ้มเขินและบิดตัวเขินในมุมสี่สิบห้าองศา ก่อนพูดต่อด้วยเสียงสอง
   

“...คุณคมเขี้ยวเท๊เท่เนอะแก ตอนที่บอกว่าไม่คิดตังค์เพิ่มอะ หล่อน้ำใจงามมากเลย…” เป็ดเม้มปากแน่น ท่าทีขวยเขินลายใหญ่จนเรียวจันทร์มองเหมือนกำลังเห็นของแปลก ซึ่งปกติอีเป็ดมันก็แปลกอยู่แล้ว


“…ถ้าแกจะหลงรักเขาขึ้นมาจริงๆ ฉันสนับสนุนเลยนะ” หนังตาคุณนายเรียวหย่อนลงกลายเป็นตาปรือทันที 
   

“โอ๊ย อีแค่หลงรักปลอมๆ อีตานั่นยังแทบจะกระทืบฉัน” เป็ดหยุดท่าทีบิดขวยเขิน แล้วถอนหายใจแรง อาการคล้ายจะปลงแต่ก็ไม่ใช่
   

“งั้นแกก็รักเขาจริงๆ เลยสิ แสดงความจริงใจให้เขาเห็น ตอนนี้เขาอาจจะเห็นแต่ความตอแหลของแกไง” เรียวจันทร์ถลึงตามองเพื่อน เลือกไม่ถูกเลยว่าจะด่ายังไงดี
   

“แกจะบ้าเหรออีเป็ด ฉันมาที่นี่เพราะเสี่ยจอมทัพให้มา ฉันไม่ได้มาเพราะรักอีตาคมเขี้ยว” คุณนายแกหันไปยิ้มให้กับผู้กำกับที่เดินผ่านนางกับเพื่อนสนิทไปทางโรงนา พอชายหนุ่มร่างอวบเดินผ่านรัศมีนางไป เรียวจันทร์ก็หุบยิ้มฉับแล้วหันกลับมาหาเพื่อนต่อ 
   

“อ้าว ก็ไหนแกบอกว่าจะจับเขาทำผัวไง”
   

“ก็ใช่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารักป่ะ แค่ให้ได้เป็นผัวเฉยๆ ไง” เรียวจันทร์ว่าเสียงกระซิบ ตาสีน้ำตาลมองซ้ายมองขวา กลัวว่าจะมีใครได้ยินเข้า ศศิประภาขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ   
   

“แก แล้วถ้าเขาไม่รักแก เขาจะยอมให้ที่ดินกับแกเหรอ ที่ดินนะคะ ไม่ใช่หญ้าผืนน้อยของชะนีไซด์ไลน์ ที่จะซื้อขายกันได้ง่ายๆ และราคาถูก” เรียวจันทร์กลอกตา กอดอกพร้อมกับขมวดคิ้วเครียด
   

“งั้นก็คงต้องทำให้หลง” เป็ดกลอกตาทันควันที่ได้ยินแบบนั้น
   

“อีเรียว เมื่อกี้แกเพิ่งบอกว่าเขาจะกระทืบแกอยู่เลยไม่ใช่เหรอ” เรียวจันทร์ยกมือขวาเกาหัวแกรกๆ เริ่มรู้สึกถึงประโยคที่ว่า อับจนหนทาง
   

“โอ๊ย แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงอะ อีตาคมเขี้ยวไม่ใช่คนพูดจาอะไรง่ายๆ ด้วย จะขอเจรจากับพ่อเขาก็ไม่ได้อีก เพราะทุกวันนี้อีตาเขี้ยวคือลีดเดอร์ชิฟของฟาร์มนี้” เป็ดเม้มปากแล้วถอนหายใจ มองหน้าเพื่อนสนิทอย่างลำบากใจ จนเรียวจันทร์ทำหน้างงว่ามันจะลำบากใจลำบากกายอะไร
   

“ถ้างั้นแกก็ต้องทำให้เขารักและไว้ใจแก แล้วหาจุดอ่อนของเขา…” นายแบบหนุ่มเอียงคอมองเพื่อนสนิทด้วยความสะดุดใจ


“…และก็ข่มขู่เอาสิ่งที่แกอยากได้มาเป็นของแก…” เรียวจันทร์มองหน้าเป็ดอย่างครุ่นคิด ดวงตามีแววคล้อยตาม


“…แต่แกจะกลายเป็นคนที่ใจดำมากเลยนะ” แต่แล้วท่าทีของเรียวจันทร์ก็ชะงึกกึก สีหน้าบนใบหน้าสวยๆ สลดลงนิดหนึ่ง ก่อนจะว่าเสียงอ่อย


“แหม ก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้นสักหน่อย…” ใบหน้าสวยหวานเกินชายครุ่นคิดยุกยิก “…แต่เรื่องจุดอ่อนน่าสนใจ แต่ประเด็นคือฉันไม่รู้ว่าจุดอ่อนของหมอนี่คืออะไร…”


ว่าแล้วก็ถอนหายใจแรงๆ ด้วยความกลุ้มใจ “…กะอีแค่จะพูดคุยทำความรู้จักกันธรรมดายังยากเลยอะ”


“ก็นี่ไง แกก็ต้องทำให้เขาไว้ใจแกก่อน จากนั้นก็ทำให้เขารัก พอเขารัก แกจะเห็นมุมที่แกไม่เคยเห็นในตัวเขาเองแหละ แต่แกต้องมั่นใจนะว่าตัวเองก็จะไม่รักเขาไปด้วย”
   

“โถ เป็ด คณิตศาสตร์ที่ฉันสอบตกตั้งแต่มอสี่ยันมอหก ยังไม่ยากเท่าสิ่งที่แกพูดเลย” เป็ดหรี่ตามองหน้าอีสวยแล้วถามอย่างข้องใจ
   

“อะไรยาก เขารักแกหรือแกรักเขา” เรียวจันทร์ทำหน้าอึกอักนิดหน่อยแล้วตอบเสียงอ้อมแอ้ม
   

“ทั้งสองนั่นแหละ” เป็ดยิ้มเบ้ปาก มองเพื่อนด้วยความหมั่นไส้
   

“ลองเข้าหาเขาด้วยความจริงใจดูมั้ยแก มันอาจจะดีก็ได้นะ…” เรียวจันทร์มองหน้าเพื่อนพลางใช้ความคิด ริมฝีปากสีชมพูสดบุ้ยไปซ้ายทีขวาที
   

“…ฉันไม่ได้ว่าแกตอแหล เออ ก็ตอแหลนั่นแหละ…” คุณนายถลึงตามองเพื่อนเล็กน้อย เป็ดยักไหล่อย่างไม่แคร์


“…แต่คือลองเปลี่ยนวิธีไง เหลือเวลาอีกไม่มากนะยะ แกยังเข้าไม่ถึงตัวเขาจริงๆ สักทีเลยอะ แล้วแกจะไปเอาที่ดินมาได้ยังไง” เรียวจันทร์ถอนหายใจ สีหน้าเครียดเล็กน้อย นางไม่อยากแสดงความเครียดผ่านทางสีหน้าเยอะ เดี๋ยวรอยย่น รอยยับจะมาเยือนหน้านางเร็ว เลยต้องข่มความเครียดเอาไว้ข้างใน ไม่ให้มันออกมาเพ่นพ่านมากไป นางยังไม่อยากไปใช้บริการโบท็อกซ์เร็วๆ นี้หรอกนะ
   

“แค่สิ่งที่ฉันทำอยู่ มันก็ไม่จริงใจแล้วป่ะ”
   

“อ้าว แกรู้ด้วยอะ อัศจรรย์ใจจัง” คนหน้าสวยเหลือบมองเพื่อนด้วยความเซ็งนิดหน่อย
   

“แต่ฉันเป็นหนี้อะ ฉันอยาก…” เรียวจันทร์เม้มปากท่าทางอึดอัดเล็กๆ “…ฉันอยากปลดหนี้ทั้งหมด” เป็ดถอนหายใจ เข้าใจดีว่าเพื่อนเองก็แอบรักสบายกับหนทางรวบรัดตัดจบหนี้สินทั้งหลายที่เสี่ยจอมทัพเสนอให้
   

“แกก็ทำงานอยู่ตลอด แกก็เอาเงินตรงนี้ไปใช้หนี้ได้นะเรียว อาจจะช้าหน่อย เหนื่อยเหมือนกัน แต่มันสบายใจกว่าป้ะวะ” เป็ดพยายามโน้มน้าวใจเพื่อน หล่อนเองก็ไม่ได้ว่าเห็นด้วยหรอกกับวิธีที่เพื่อนทำอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้สนับสนุน แต่ก็คอยยืนข้างๆ เพื่อนเสมอเท่านั้นเอง
   

เรียวจันทร์เม้มปาก ยกสองแขนกอดอกอีกที ใบหน้าคิดไม่ตก เป็ดหันไปมองรอบๆ ก็เห็นทีมงานเก็บของจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว “เรียว ฉันเตือนแกอีกทีนะ เสี่ยจอมทัพเขาไม่ใจดีปลดหนี้ให้แกทุกหนี้เพียงเพราะที่ดินหรอก อีแบบนั้นอะ ต้องเอาตัวแกเข้าไปปลดต่างหาก”
   

“เฮ้อ สวยอีกละ ผู้ชายต้องการตลอดเลยอะ” จากที่เครียดๆ จู่ๆ คุณนายแกก็เปลี่ยนอารมณ์โดยฉับพลันอย่างไม่มีการเกริ่นใดๆ ทั้งสิ้น เป็ดได้แต่เบ้ปาก ก็ทำได้แค่นี้แหละ หมั่นไส้ก็เบ้ปากใส่ไป จะให้ตบเพื่อนก็กระไรอยู่
   

“โห่ อีนี่ พูดมีหลักการมาตั้งนาน ตกม้าตายเพราะความหลงตัวเองอีกแล้ว” เรียวจันทร์บิดปากเป็นรอยยิ้มแอ๊บแบ๊วน้อยๆ แล้วยักไหล่แต่พองาม
   

“เครียดอะ พูดอะไรก็ไม่รู้ เอาเป็นว่านะ ถ้าสามเดือนฉันกล่อมนายคมเขี้ยวให้ขายที่ไม่ได้ ฉันจะเลิกแพลนนี้ แต่ไม่เป็นเมียตาเสี่ยเช่นกัน ฉันจะทำงานหาเงินใช้หนี้เอง โอเค๊?” คุณนายนางยกมือขวาขึ้นมาทำท่าโอเค เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามเพื่อน
   

“อะ พ้อยท์ก็มีเท่าเนี้ย พูดซะยาวจนฉากเยิ่น กว่าจะตัดจบคือย้วยเหลือเกิน”  เป็ดจิกตามองเพื่อน เรียวจันทร์ยิ้มเยาะอย่างมีจริต ก่อนที่จะปรับสีหน้าเป็นปกติ
   

“ลืมบอก แกไม่ต้องไปจองที่พักหรอก นอนกับฉันนี่แหละ เตียงเบ้อเริ่ม” เป็ดส่ายหัวหน้าสั่นทันที
   

“ไม่ย่ะ ฉันอยากนอนในหมู่บ้านคาวบอย” ว่าจบก็หมุนตัวเดินหนีเพื่อนสนิทไปทันที เรียวจันทร์จิ๊ปากเบาๆ ตามหลังเพื่อน
   

“น้องเรียวรับเช็คจ้า” ทุกสิ่งมลายหายวับไปจากหัวทันที่ที่ได้ยินเรื่องเงิน
   

“ค่าพี่!”

   
   





 :hao7:

เอาเข้าจริงอีแม่ก็ยังหาวิธีให้พี่เขี้ยวยอมขายที่ดินไม่ได้ใช่มั้ยคะ 55555 แต่แม่ไม่รู้ตัวเลยว่า ที่ดินนั้นจะขายได้หรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพี่เขี้ยวเลยสักนิด ตัวนางล้วนๆ (ลืมกันแล้วหรือยังว่านางนั่นแหละเป็นเจ้าของที่ดิน)


ก็เครียดมาซะยาว ฉากเยิ่นอย่างที่เป็ดว่ามาก สุดท้ายวกเข้ากลับว่าตัวเองสวยตามเคยเนาะอีแม่ 555555 ใครที่ลุ้นให้แม่จับพี่เขี้ยวได้เร็วๆ รอจังหวะเหมาะๆ ไปพร้อมแม่นะคะ ตะครุบแรงมากไม่ได้ เดี๋ยวเหยื่อดิ้นนนหลุดดด เชื่อว่าหลายคนอึดอัด และหงุดหงิดที่เรื่องยังไม่เดินถึงตอนนั้นสักที แต่ถ้าใครติดตามนิยายตอมมา จะแบบเนี้ย 5555 กว่าจะถึงจุดที่ควรถึง ทำเอาขุ่นข้องกันไปหลายยก แต่ถึงจุดนั้นแล้วก็ถึงใจนาาา คริๆ


อยากขอบคุณคนอ่านที่ตามอ่านเรื่องนี้อยู่จริงๆ ค่ะ เห็นว่ามีคนรออ่าน คอยเม้นให้ แม้ไม่ได้เยอะมากมาย แต่ตอมก็มีกำลังใจอัพแล้ว อยู่กันไปจนจบเลยนะคะ ^___^
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/75% :30.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 30-08-2016 05:20:10
อินางไม่รู้นี่นาาา 55555 ว่าที่เป็นของนาง แสบ เซี้ยวจริงๆ เรียวเอ๊ย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/75% :30.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 30-08-2016 06:23:28
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/75% :30.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 30-08-2016 10:19:25
สนุกเหมือนเดิมเลย มาต่อบ่อยๆน๊า รอจ้า รักคนเขียนนนนน :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/75% :30.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-08-2016 12:12:45
 :really2: :really2: :really2: :really2: :really2: :really2: :really2: :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/75% :30.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 30-08-2016 13:08:04
เป็นเมียเสี่ยเถอะเรียว โดนบ่อยยิ่งกว่าพระเอกอีก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/75% :30.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 31-08-2016 00:12:13
นิยายของคุณตอมจะมีดีเทลให้เก็บรายละเอียดเยอะ ดังนั้นเราต้องยอมทนความหน่วงไปก่อนน่ะ สรุปว่าน้องเรียวก้อยังไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ให้คมเขี้ยวตกกับดัก 555 ดักเขาไปปทั่วสุดท้ายที่ดินของตัวเอง เราว่านายยอร์ชต้องรู้่ว่าที่ดินนี่ของเรียว แต่รู้ได้ยังไงล่ะ แล้วเสี่ยทัพตกลงต้องการตัวแม่เรียวใช่ไหม  :mew5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/75% :30.08.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-08-2016 02:04:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/100% :01.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 31-08-2016 23:59:10

คาถาที่ 11 [100%]





   หลังจากพาเพื่อนสนิทไปกินสเต็กที่ร้านอาหารด้านนอกฟาร์มตามที่นางว้อนแล้ว เรียวจันทร์ก็เดินกลับมาออฟฟิศเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ระหว่างที่กำลังเปลื้องผ้าออกจากร่างบอบบางของตัวเอง สายตาก็เลื่อนไปเห็นขวดยาทาแก้คันที่วางอยู่บนหัวเตียงตั้งแต่อาทิตย์ก่อน
   

เรียวจันทร์เดินไปหยิบขวดยาขึ้นมามองแล้วนึกสงสัยว่าสิ่งที่ตัวเองคิดจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือเปล่า คืนหนึ่งเมื่ออาทิตย์ก่อน นางตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าอาการคันทุเลาลง นอกจากยาแก้แพ้แล้ว ก็ได้ยาในขวดนี้ทาไว้ตามตัวที่มีผื่นแดงขึ้นด้วย จำได้ลางๆ ว่าเห็นคมเขี้ยวเดินเข้ามาในห้อง แต่เพราะฤทธิ์ยาแก้แพ้สองเม็ด ทำให้หัวหนักอื้อจนจำได้แค่ว่าตอนนั้นเบลอมากจริงๆ แทบจำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้
   

ได้แต่นึกสงสัยอย่างดีใจเล็กๆ ว่าคมเขี้ยวมีน้ำใจทายานี้ให้ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เอ่ยถามกับเจ้าตัว เพราะจากเหตุการณ์คราวก่อนที่นังช่อเอื้องมาเยือนฟาร์ม ทำให้ระหว่างนางกับไอ้เขี้ยวกุดคุยกันน้อยลงกว่าเดิมจากปกติที่คุยกันน้อยอยู่แล้ว
   

“ฉันว่านายนั่นแหละ” เรียวจันทร์พึมพำ ค่อนข้างมั่นใจว่าคมเขี้ยวทำให้ แต่ก็อยากได้ยินจากปากเจ้าตัวชัดๆ
   

เรียวจันทร์วางขวดยาทาแก้คันไว้บนโต๊ะหัวเตียงตามเดิม ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายที่สะบักสะบอมมาทั้งวัน พออาบน้ำจนตัวหอมฟุ้ง ใบหน้าสดแสนสดใส นางก็หยิบชุดนอนมาใส่ และตั้งใจว่าวันนี้จะไปคุยดีๆ กับพ่อเขี้ยวกุดสุดน่ารักสักหน่อย
   

อุตส่าห์ทำตัวน่ารัก มีน้ำใจไม่คิดตังค์ค่าโลเคชั่นเพิ่ม และไหนจะเรื่องที่แอบมาทายาให้ตอนหลับ มองข้ามเรื่องมึนตึงใส่กันไป แล้วเดินหน้าสานใจใส่กันดีกว่า
   

เรียวจันทร์เดินไปตรงรั้วประตูบ้านใหญ่ พยายามชะเง้อชะแง้ และแทบจะแงะรั้วไม้ดูว่ามีแววคมเขี้ยวอยู่ในบ้านหรือไม่ แต่ก็เห็นเพียงความเงียบสงบและแสงไฟเท่านั้น
   

“คุณเรียว” เจ้าของชื่อหันไปมองคนเรียกก่อนจะฉีกยิ้มเมื่อเห็นว่าเป็นดิน
   

“มาทำอะไรครับ มาหาพี่เขี้ยวเหรอ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแล้วพยักหน้ารับสองสามที
   

“วันนี้วันศุกร์ พี่เขี้ยวแกน่าจะอยู่ที่บ้านต้นสนครับ” คนฟังขมวดคิ้วพร้อมกับทำสีหน้าประหลาดใจ
   

“แล้วไอ้บ้านต้นสนนี่มันอยู่ไหนอะ”
   

“อยู่ในป่าสนหลังบ้านพี่เขี้ยวครับ” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าอ้อ คิดอะไรเล็กน้อยกับตัวเองครู่หนึ่ง
   

“ไกลมั้ย” ดินทำท่าจะพยักหน้าแต่ก็เปลี่ยนเป็นส่ายหัว แต่ก็ส่ายไม่เต็มที่ เหมือนดินเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเรียกระยะทางนั้นว่าใกล้หรือไกลดี
   

“ก็… เข้าไปลึกอยู่ครับ แทบจะท้ายฟาร์มเลย ถ้าเดินก็สิบห้านาที”
   

“อ๋อ…” คนหน้าสวยพยักหน้าน้อยๆ สีหน้ายังคงคิดอะไรอยู่ “…แล้วฉันไปหาหาเขาได้มั้ย ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขา” แทบจะทันทีที่ดินทำหน้าหนักใจเมื่อได้ยินว่าเรียวจันทร์จะไปหาเจ้านายตัวเองที่สถานที่แห่งนั้น
   

“คือ…” ดินอึกอัก เรียวจันทร์มองงงๆ “…พี่เขี้ยวไม่ค่อยชอบให้ใครไปที่บ้านต้นสนอะครับ มีแค่ป๋ากับแม่บัวที่ไปได้ แต่สองคนนั้นก็ไม่ค่อยไปหรอกครับ เพราะพี่เขี้ยวแกค่อนข้างหวงที่นั่น” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วหน้าเหวอทันทีที่ได้ยิน จะหวงปานไหนกันเชียว 
   

“บ๊ะ กับพ่อกับแม่ก็ยังหวง” คุณนายแกทำหน้าไม่เข้าใจว่าทำไมคมเขี้ยวจะต้องหวงไอ้บ้านหลังนี้นัก หรือซุกลูกซุกเมียไว้ที่นั่น
   

“ก็… เหมือนโลกส่วนตัวอะครับคุณเรียว” คนฟังก็อยากทำหน้าว่าอ้อ แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าหงึกๆ อย่างเอ๋อๆ คงเป็นฟีลปลิกวิเวกละมั้ง 
   

“งั้นเหรอ แล้วนายเขี้ยวจะออกจากป่าสนเมื่อไหร่”
   

“วันอาทิตย์นู่นแหละครับ บางทีก็วันจันทร์ หรือบางทีถ้าแกติสท์นานหน่อยก็อยู่เป็นอาทิตย์” เรียวจันทร์เบิกตากว้างขึ้น เอียงคอมองหน้าดินที่ยิ้มซื่อ
   

“กลายเป็นคนป่าไปซะงั้นพ่อคุณ…” นายแบบหนุ่มย่นจมูก ยกมือขวาเกาคิ้วเบาๆ ไอ้จะรอก็ได้แหละ แต่ฟีลลิ่งมันกำลังมาอะ จะให้เก็บเอาไว้เดี๋ยวฟีลหมด มันจะรู้สึกไม่เหมือนเดิมนะจริงๆ
   

“แต่ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขาอะ ไม่นานหรอก แปบเดียว ฉันเดินไปหาเขาได้ใช่มั้ย” ดินทำหน้าเหมือนโดนบังคับให้กินขี้ม้าเข้าไปทั้งคอก หรือบางทีให้กินขี้ม้าทั้งคอก ไอ้ดินยังอาจจะมีสีหน้าดีกว่านี้ก็ได้
   

“คุณเรียวลองโทรหาพี่เขี้ยวก่อนมั้ยครับ” เรียวจันทร์ส่ายหัวหน้ามึนว่าไม่เอาเด็ดๆ
   

“ไม่ เอาเป็นว่า เดินไปทางหลังบ้านใช่มั้ย เดี๋ยวฉันไปเอง ฉันโดนเขาด่าจนชินแล้วละ” พูดจบก็ทำท่าจะก้าวเท้าเดินเบี่ยงตัวผ่านดินไปทันที แต่ดินยกมือแตะไหล่บางของเรียวจันทร์เอาไว้ก่อน
   

“แต่ตอนนี้มันมืดแล้วนะครับคุณเรียว ถึงจะมีไฟตามทางบ้าง แต่อย่าไปเลยครับ ผมเป็นห่วง” เรียวจันทร์ยิ้มตาหยี ยกมือขวาตีอกแน่นของดินเบาๆ จนไอ้ดินมีท่าทีเคอะเขินตามเคย
   


“ก็ถ้าห่วงฉันก็ไปเป็นเพื่อนฉันสิ ฉันจะได้มีเพื่อนเดินกลับด้วย” ไอ้ดินทำหน้าลำบากใจ แต่ก็นึกเป็นห่วงเรียวจันทร์ เส้นทางตรงนั้นเป็นเส้นทางส่วนตัวก็จริง และมีไฟประดับตลอดทาง แต่ประเด็นคือเรียวจันทร์ไม่เคยไป
   

“เอางั้นก็ได้ครับ แต่ผมขอยืนห่างๆ นะ ไม่อยากโดนพี่เขี้ยวด่า” 
   

“ตานั่นไม่ด่าดินหรอก เพราะจะด่าฉันจนหมดคำด่าดิน” ทั้งสองคนหัวเราะน้อยๆ ก่อนที่ดินจะเป็นคนเดินนำเรียวจันทร์ไปข้างๆ บ้าน
   

ดินพาเรียวจันทร์เดินผ่านโรงอาหารของฟาร์ม ผ่านแคมป์สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวให้เห็นบางตาเนื่องจากทางฟาร์มจำกัดคนเข้าพัก พอเดินไปเรื่อยๆ ผ่านรั้วไม้ข้างบ้านของคมเขี้ยวไป เรียวจันทร์ก็พบกับดงต้นสนและต้นไม้สูงๆ บางชนิดขึ้นปนกัน เดินระยะแรกสักเกือบสิบนาที มีแต่ความมืด มีเพียงแสงสว่างรำไรๆ ของดวงจันทร์กับแสงไฟจากฟาร์มไกลๆ ที่ทำให้ยังเห็นถนนดินเส้นเล็กๆ เอาเข้าจริงเรียวจันทร์ก็แอบคิดว่าถ้ามาคนเดียวคงขวัญหนีดีฝ่อไปแล้วละ
   

“เดี๋ยวข้างหน้าก็มีไฟแล้วครับ” ดินบอกเสียงทุ้มท่ามกลางเสียงนกร้องในยามค่ำคืน และมีเสียงแมลงตัวเล็กๆ คลอเคลียไปด้วย พอเดินไปอีกนิด ต้นสนและต้นไม้เริ่มแน่นขนัดมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เริ่มเห็นแสงไฟรำไรๆ พอพ้นดงต้นสนที่เบียดเหมือนเป็นม่านบังตาเอาไว้ ก็เจอกับคบไฟประดิษฐ์ที่ใช้หลอดไฟแทนการจุดไฟจริง ปักประดับไว้ตามข้างทาง ตั้งห่างกันพอประมาณ เบื้องหน้าที่ห่างออกไปไกลเกือบลิบคือบ้านไม้เล็กๆ หลังหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางต้นสนและต้นไม้บางชนิด
   

“ว้าว” เรียวจันทร์ถึงกับอุทานออกมาเมื่อเห็นสิ่งก่อสร้างเบื้องหน้าตัวเอง บ้านไม้สีน้ำตาลอ่อนหลังเล็ก ยกพื้นขึ้นสูง หน้าบ้านมีลานสนามหญ้าสีเขียวไม่กว้างมากและไม่เล็กจนเกินไป ดอกไม้หลากสีขึ้นเป็นช่อตามรั้วไม้เตี้ยๆ ที่โอบล้อมบ้านเอาไว้ มุมหนึ่งในลานหญ้าเป็นหินกรวดที่เอาไว้วางเตาปิ้งย่างสำหรับจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวหรือปาร์ตี้ปิ้งย่างกลางแจ้ง
   

“เดี๋ยวผมรอตรงนี้ได้มั้ยครับ” ดินว่าตอนที่ถึงปากทางเข้าไปในเขตรั้วของบ้าน เรียวจันทร์หันไปพยักหน้า เดินต่อเข้าไปเองตามถนนเล็กๆ ที่นำไปสู่ตัวบ้าน นางเพิ่งสังเกตว่าตรงนี้เงียบสงบมาก เหมือนตัดขาดออกจากโลกภายนอกไปเลย
   

“ไอ้เขี้ยวกุด” เรียวจันทร์เรียกเสียงเบาตอนที่ยืนอยู่ตรงตีนบันไดไม้ที่มีหนทางหักซ้ายหักขวากว่าจะขึ้นไปถึงระเบียงบ้าน ผ่านไปสักพักก็ยังไม่มีเสียงตอบรับกลับมา
   

“นี่ นายเขี้ยว” เรียวจันทร์ลองเรียกเสียงดังขึ้นอีกนิด แล้วสักพักร่างสูงใหญ่ของพ่อคมเข้มในชุดนอนเสื้อยืดกางเกงขายาวก็ก้าวเดินออกมายืนตรงระเบียงบ้าน เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ ให้ใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของอีกฝ่าย 


“ใครให้คุณเข้ามาที่นี่” ว่าแล้วก็เลื่อนสายตาดุๆ ไปมองไอ้ดินที่ยืนห่างออกไปตรงนอกรั้วไม้เตี้ยๆ
   

“ฉันเองแหละ ไม่ต้องไปว่าดินนะ ฉันให้เขาพามาเอง” คมเขี้ยวเลื่อนสายตากลับมามองยัยคุณนายตัวแสบที่ยืนอยู่ด้านล่าง
   

“มาทำไม มีธุระอะไรสำคัญนักหนาถึงต้องมาวุ่นวายพื้นที่ส่วนตัวของผม” ชายหนุ่มว่าเสียงหงุดหงิด เขาค่อนข้างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่มีคนเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ตรงนี้
   

“ขอโทษค่าคุณคมเขี้ยว…” เรียวจันทร์ว่าประชดเล็กน้อย มองร่างสูงที่ยืนอยู่บนระเบียงด้วยสายตาเอือมนิดๆ


“…ดิฉันแค่อยากจะมาขอบคุณนายเฉยๆ และฉันไม่อยากจะเก็บอั้นไว้นานเกิน ถ้าเกิดนายออกจากป่าสนเดือนหน้า ฉันไม่ลืมไปแล้วเหรอ” คนฟังขมวดคิ้วไม่เข้าใจ สองมือวางไว้บนราวไม้ของระเบียง
   

“ขอบคุณเรื่องอะไร”
   

“ก็เรื่องวันนี้แหละ ขอบคุณมากที่ไม่คิดเงินเพิ่ม…” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่ม ส่วนคมเขี้ยวทำหน้าเฉย
   

อีตานี่เข้าถึงยากกว่าที่ฉันคาดการณ์ไว้อีก


“…แล้วก็ ที่ทายาให้ฉันอาทิตย์ก่อนด้วยนะ เมอร์ซี่กุ๊กกู~” คุณนายส่งจุ๊บให้พ่อคาวบอย แต่พ่อคาวบอยกลับทำหน้าตายและพูดเสียงห้วน
   

“แม่สั่ง” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นพร้อมยักไหล่ทั้งสองข้าง
   

“แม่สั่งแต่นายก็ยังทำ ยังไงก็ต้องขอบคุณ ฉันไม่ได้ลืมนะ แต่ตอนนั้นฉันเบลออะ ฉันก็ยังไม่ชัวร์ แต่วันนี้คิดดีๆ แล้ว ก็นายนั่นแหละจะเป็นใคร” คนสวยฉีกยิ้มกว้าง กะว่าประทับใจแน่ๆ ต้องแอดแทคใจพ่อโลกส่วนตัวสูงบ้างสักนิดก็ยังดี แต่สิ่งที่ได้มาคือ
   

“พูดจบยัง ถ้าจบ ก็ไปได้ละ” เรียวจันทร์หุบยิ้มวืด ก่อนจะทำหน้าเซ็ง มองใบหน้าไร้อารมณ์ของคมเขี้ยว แต่ก็พยายามบิ้วบรรยากาศให้ดีขึ้น เลยฉีกยิ้มอีกครั้ง
   

“แอบเป็นห่วงฉันอยู่ล่ะซี้ กิ้วๆ”
   

“ผมจะพักผ่อน ไม่มีบุญแบ่งให้หรอกนะ ผมไม่ค่อยสวดมนตร์” คุณนายแกถึงกับพ่นลมหายใจแรงๆ ทำหน้าเหนื่อยใจกับพ่อเขี้ยวแสนเข้ม
   

“นี่ นายรู้อะไรมะ นายไม่เหมาะกับฟีลลิ่งเครียดๆ ฟีลลิ่งเป็นผู้ชายเข้าถึงยากเลยอะ เพราะชีวิตนายดูไม่มีปมดราม่าใดๆ แต่ทำไมนายถึงทำตัวโลกสูง หยิ่ง นิ่ง ปิดกั้นตัวเอง อะไรทำนองนั้นอะ เหมือนพวกพระเอกนิยายโลกสีเทา ถามจริงชีวิตนายเศร้าอะไรขนาดนั้น” คุณนายแม่ร่ายยาวด้วยความข้องใจ ด้วยความสงสัย มองหน้าคมเขี้ยวอย่างต้องการคำตอบ คนที่ยืนอยู่บนระเบียงทำเพียงยกแขนกอดอกแล้วถามกลับนิ่งๆ
   

“ถามจริง แบบเพราะๆ เลยนะ คุณเสือกอะไรขนาดนั้น” เรียวจันทร์เบิกตากว้าง ยกมือขวาทาบอกสีหน้าตกอกตกใจกับประโยคที่ได้ยิน
   

“หยาบคาย ฉันถามเพราะเป็นห่วงนะ! ก็คิดว่ามีปมอะไรในชีวิต…” คุณนายแกมองจิกไอ้หยิ่งคมเขี้ยวสักพัก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นมองด้วยสายตายั่วยวน


“…จะได้ช่วยแก้” ว่าจบด้วยเสียงหวานๆ ก็ยกมือขวาขึ้นป้องปาก ทำหน้าแบ๊วและทำท่าเขินอาย ตัวบิดไม่ถึงสี่สิบห้าองศา แต่ก็รู้ว่าบิดตัวแล้ว คมเขี้ยวมองผู้ชายที่ดัดจริตที่สุดในชีวิตเขาเท่าที่เคยเจอมาอย่างระอา
   

“อย่างแรกที่ควรแก้ คือนิสัยจุ้นจ้านของคุณ ไป ไปไหนก็ไป จะไปแก้ผ้า แก้ผีที่ไหนก็เชิญ ผมจะพักผ่อน” ไม่ว่าเปล่ายังมีการยกมือโบกไล่ เป็นการย้ำว่าให้ไปสักที เรียวจันทร์มองอย่างหมั่นไส้ แต่คมเขี้ยวไม่แคร์
   

“ค่ะๆ ไปแล้วๆ ขอบคุณอีกทีนะคะ…” คุณนายแกว่าเสียงประชดประชัน แต่สักพักก็มองคมเขี้ยวดวงตาเป็นประกาย โดยที่อีกคนยืนมองอยู่ด้วยสายตาเอือมๆ แล้วพูดเสียงจริงจัง แต่ก็มีความอ่อนหวานน้ำตาลไหม้นิดๆ


“…นี่ แต่ฉันขอบคุณนายจริงๆ นะ ขอบคุณน้ำใจของนาย” ริมฝีปากสีชมพูคลี่ยิ้มบาง คมเขี้ยวมองนิ่ง แต่ท่าทีก็ไม่แข็งทื่อเท่าตอนแรก


“อือ ไม่เป็นไร งานหน้าก็อย่าก่อเรื่องอีก ไม่งั้นผมไล่คุณออก”
   

เรียวจันทร์ยิ้มกริ่ม ยกมือขวาขึ้นตะเบ๊ะแบบคว่ำมือตรงคิ้วซ้าย “ค่ะ เจ้านาย ฝันดีนะคะ หมั่ว!” คุณนายเปลี่ยนจากตะเบ๊ะมาส่งจูบให้คมเขี้ยวอย่างไวแล้วหมุนตัวเดินกลับไปหาดินที่ยืนรออยู่ คมเขี้ยวมองตามแผ่นหลังร่างบางใบหน้าเรียบเฉย แต่พอนึกถึงเหตุการณ์ในร้านคาเฟ่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปากน้อยๆ
   


“ถ้าอยากฝันเปียกก็ฝันถึงฉันนะ รับรองเลอะเต็มที่นอนเลยละ!” กำลังยิ้มๆ อยู่ ถึงกับเกือบเก๊กหน้านิ่งไม่ทันเมื่อยัยคุณนายจันทร์ไรหมุนตัวมาโบกมือบ๊ายบายพร้อมกับเล่นหูเล่นตาใส่ มีการขยิบตามาให้หนึ่งวิ้งอีกด้วย
   

คมเขี้ยวทำหน้าระอาเล็กน้อย แล้วก็หมุนตัวกลับเข้าไปในบ้านต้นสนอย่างเร็ว
   




 :hao3:

พี่เขี้ยวมีมุมสันโดษด้วย แต่สุดท้ายโดนคุณนายแกตามมาป่วนเฉย 55555 คุณแม่ไม่แคร์ถ้าจะโดนด่า เพราะโดนด่าจนชินแล้ว เออ นางก็มึนดีนะ และปิดท้ายนางก็เต๊าะพี่เขี้ยวไปนิดๆ หน่อยๆ ตามสไตล์ หมั่นไส้ ฮ่าๆๆ

เจอกันตอนหน้านะคะ แม่เรียวเราต้องจับพี่เขี้ยวได้สิ แต่อยู่ที่ว่าแม่จะใช้วิธีไหน และจังหวะไหน เอาไงเอาตามกันค่ะแม่ 55555


อยากขอบคุณคนอ่านที่ตามอ่านเรื่องนี้อยู่จริงๆ ค่ะ เห็นว่ามีคนรออ่าน คอยเม้นให้ แม้ไม่ได้เยอะมากมาย แต่ตอมก็มีกำลังใจอัพแล้ว อยู่กันไปจนจบเลยนะคะ ^___^


ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่ชอบแม่เรียวกับพี่เขี้ยว เป็นอีกเรื่องที่ตั้งใจเขียน ตอนนี้ทุ่มเทเรื่องนี้ได้เต็มที่แล้วค่ะ หุๆ ไม่หายไปนานๆ แล้นนนน ช่วงนี้ถ้าใครตามอยู่ ตอมจะมาถี่กว่าแต่ก่อนเนอะ เพราะช่วงนั้นติดงานและปั่นอีกเรื่องอยู่ แต่ตอนนี้หมดงาน และอีกเรื่องเรียบร้อยแล้ว มีเวลาให้นางมารเต็มๆ แล้วข่าาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/100% :01.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 01-09-2016 00:24:10
คุณนายจะต้องเต๊าะไปถึงเมื่อไหร่คะเนี่ย กว่าพี่เขี้ยวจะตกหลุมกับดัก5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/100% :01.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 01-09-2016 00:34:08
โอ้ยยย ขุ่นแม่นกมานานแล้วนะกับเขี้ยวกุดเนี่ย 555
นี่ชะนียังคงเพิ่งเปิดตัว นางต้องมีบทบาทให้เขาผิดกันอีกแน่ หรือขุ่นแม่ก็คือขุ่นแม่ ชะนีเจอฤทธิ์เข้าไปตาย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/100% :01.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 01-09-2016 00:37:43
ถ้าลองเรียวทำตัวเหมือนตอนขอบคุณพี่เขี้ยวได้ตลอดนะ พี่เขี้ยวคงยอมให้หมดล่ะ แต่ถ้าทำอย่างนั้น...ก็ไม่ใช่เรียวจันทร์แล้วล่ะ 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/100% :01.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-09-2016 00:42:03
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/100% :01.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-09-2016 01:34:49
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/100% :01.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 01-09-2016 05:23:09
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/100% :01.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-09-2016 05:45:53
ถถถถถถ น้องเรียวขาาา จะจับพี่เขียว สงสัยต้เอาเชือกมัด ตีหัว ลากเข้าถ้ำอย่างเดียวซะล่ะมั้ง พี่ทั่นสร้างเกราะป้องกันตัวเองซะหนาเลยยยย 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/100% :01.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Lyralyn ที่ 01-09-2016 09:18:59
มาต่อนะค้าาา จะตั้งตารอขุ่นแม่เรียว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/100% :01.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 03-09-2016 01:16:25
กำลลังลุ้นว่าแม่เรียวจะะเข้าถึงตัวพี่่เขีี้ยวได้ยังไง
อยย่าลืมพี่ยักษ์กับน้องแมทนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๑/100% :01.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 03-09-2016 14:52:04
โอ้ยยย เมื่อไหร่อิเขี้ยวกุดจะใจอ่อนคะเนี่ยย ไม่งั้นจะให้น้องเรียวจันทร์ขืนใจแล้วนะ เสี่ยจอมทัพก้น่าสนถ้าไม่ดูร้ายๆไปสักหน่อย เหมือนวางแผนอะไรมาก่อนแล้วยังไงก้ไม่รู้ แม่แบบน้องเรียวนี่ หมดชาตินี้ก้ไม่เผาผีละค่า  :z3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-09-2016 00:30:40


คาถาที่ 12 :: Jealous? No way. (หึงเหรอ? โน๊ววว!) [35%]




“เอาจริงเลยมั้ยครับเสี่ย” จอมทัพยิ้มมุมปากแล้วส่ายหัวปฏิเสธหนึ่งที
   

“ยัง” ดวงตาคมปลาบทอประกายความตื่นเต้นวิบวับ รอยยิ้มมุมปากในทีแรกเป็นเพียงรอยยิ้มปกติ แต่ตอนนี้มันมีเลศนัยให้ชวนสงสัยอยู่ด้วย
   

จอมทัพทำหน้านึกขึ้นได้ ยกนิ้วขึ้นชี้คนที่ยืนตรงข้ามแวบหนึ่ง “คราวก่อนที่สั่งไป รีบจัดการซะ อย่าปล่อยไว้นาน”
   

“ไม่ต้องห่วงครับ” เสี่ยจอมทัพยิ้มพอใจ พยักหน้าให้ลูกน้องหนึ่งที ก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปมองลูกน้องอีกคนที่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นริมสระจากุซซี่หลังบ้าน
   

“คุณเรียวจันทร์มาแล้วครับ” ชายร่างผอม ตัวเตี้ยกว่าชายคนแรกเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ
   

“ให้เข้ามานี่เลย” จอมทัพยิ้ม สีหน้าสดชื่นขึ้น แต่ก็ไม่ได้แสดงออกชัดเจนมากมาย ชายหนุ่มที่เดินเข้ามารายงานเดินออกไปจากห้อง เสี่ยหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบพร้อมกับเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าลูกน้องอีกคนมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
   

“ว่ามา” เขาวางแก้วลงบนโต๊ะ เอนหลังพิงพนักโซฟามองหน้าชายหนุ่มอีกคน
   

“เสี่ยจะหยุดที่คุณเรียวจริงเหรอครับ” คนถูกถามยิ้มนิดหน่อย เขามองแสงระยิบระยับตรงสระน้ำสีฟ้าด้วยสายตาเรียบเฉยครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันกลับมามองหน้าลูกน้องต่อ
   

“แกคิดว่าไง”
   

“อิทธิฤทธิ์เยอะน่าดูครับ” จอมทัพหัวเราะด้วยความถูกอกถูกใจ คนถามยิ้มน้อยๆ แต่ก็เป็นรอยยิ้มงงๆ
   

“นั่นน่ะ ดึงดูดใจฉันดีเชียวละ” จอมทัพยักคิ้วขวา ระบายลมหายใจออกช้าๆ ริมฝีปากบิดเป็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
   

ลูกน้องของจอมทัพขมวดคิ้วนิดหนึ่ง “แต่เสี่ยปล่อยให้เธอไปยุ่งกับไอ้คมเขี้ยว ไม่กลัวสองคนนั้นสปาร์คกันเหรอครับ คุณเรียวเธอรุกไอ้เขี้ยวน่าดู”
   

จอมทัพไหวไหล่ หน้าตาไม่ได้แสดงอาการยินดียินร้ายใดๆ “ก็นั่นมันเป็นแผนของเขา”
   

“แล้วถ้าเกิดมันมากกว่าแผนล่ะครับ…” จอมทัพทำเพียงยิ้มมุมปาก ดวงตาลุกวาวด้วยความรู้สึกอย่างหนึ่งที่คาดเดายาก
   

“…อีกอย่าง ผมว่าแผนของเธอดูจะเอื้อตัวเธอมากกว่าที่จะเอื้อให้เสี่ยนะ ไอ้คมเขี้ยวไม่ยอมขายที่ดินเพียงเพราะเมียมันขอร้องหรอก”
   

“เอาเป็นว่า…” จอมทัพหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อจนจบด้วยเสียงนุ้มทุ้ม “…ปล่อยให้เขาสนุกไปก่อน” ลูกน้องจอมทัพขมวดคิ้วไม่เข้าใจสิ่งที่เสี่ยพูด   
   

“เห่นโล่ววว” จอมทัพบิดคอไปมองผู้ชายหน้าสวยที่มาพร้อมกับรอยยิ้มน่ารักน่ามอง ร่างระหงส์ยังคงเฉิดฉายเช่นเคย เรียวจันทร์มองเสี่ยตาเป็นประกาย ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองชายหนุ่มอีกคน พอเห็นว่าเป็นใครก็ขมวดคิ้วฉับ
   

“ชื่ออะไรนะ แม็คใช่มั้ย…” เจ้าของนามพยักหน้าพร้อมยิ้มนิดหน่อย “…มาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”
   

“ก่อนหน้าคุณเรียวจันทร์สักสองชั่วโมงครับ”
   

“อ้าว แล้วก็ไม่บอกว่าจะมานี่ จะได้มาด้วยกัน” ลูกน้องเสี่ยทัพคลี่ยิ้ม ยกสองมือขึ้นไว้ระดับอก
   

“ผมไม่บังอาจมากับเมียเสี่ยสองต่อสองหรอกครับ” คนโดนหาว่าเป็นเมียเสี่ยชักสีหน้า สองมือเท้าเอวหน้าตาไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่
   

“อีกละ ฉันบอกว่าฉันไม่ใช่เมียเสี่ย ก็แค่คนได้เสียกันหลายครั้งเท่านั้นย่ะ!” สองหนุ่ม (แท้) หัวเราะกันเสียงเบา สร้างความขุ่นใจให้คุณนายแกนิดๆ
   

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับเสี่ย” จอมทัพพยักหน้าอนุญาต แม็คเดินผ่านเรียวจันทร์ไปตรงทางออกห้องนั่งเล่นส่วนตัวของเสี่ย พอเหลือกันสองคนเรียวจันทร์หันไปมุ่ยหน้าใส่เสี่ยทันที
   

“อะไรล่ะ” จอมทัพแบมือและยักไหล่ ทำหน้าตาว่า มีอะไรเหรอ
   

“ขอถามก่อน เดี๋ยวฉันหน้าแหก…” จอมทัพยิ้มขำ แต่ก็กดหน้าลงหนึ่งที “…คุณบอกลูกน้องคุณทุกคนใช่มั้ย ว่าฉันเป็นเมียคุณ”
   

“ใช่ ผมบอกแบบนั้น” เรียวจันทร์ถลึงตากว้างใส่เสี่ยจอมทัพที่นั่งเอกเขนกอย่างสบายใจอยู่บนโซฟาตัวยาว
   

“โอ๋ยยย! รักฉันอะไรขนาดนั้นอะ ถึงขนาดยกย่องฉันเป็นเมีย ถ้างั้นเด็กคนอื่นๆ ของคุณก็เป็นเมียคุณทุกคนแล้วสิ!” จอมทัพหัวเราะน้อยๆ ยื่นมือขวาไปดึงร่างบอบบางเกินชายลงมานั่งบนตัก ยกแขนขวาโอบรอบเอวบางเอาไว้ เสี่ยยิ้มกริ่มให้คนหน้ามุ่ย
   

“ก็อย่างที่คุณบอก ผมยกย่องคุณ” เรียวจันทร์แสร้งปั้นหน้าตกใจ ยกมือขวาทาบอกอย่างมีลีลา
   

“โอ้ มายก็อด ฉันต้องกล่าวสุนทรพจน์พร้อมน้ำตามั้ยเนี่ย” คนตัวใหญ่หัวเราะ เรียวจันทร์พ่นลมหายใจ

   
“เอาเป็นว่าฉันภาวนาให้มีชายใดสักคนที่โดนใจเสี่ยมากกว่าอิฉันเข้ามาในชีวิตเสี่ยเร็วๆ นะคะ” นางยกมือขวาตบแก้มซ้ายของเสี่ยเบาๆ คนตัวโตยิ้มขบขัน สอดมือซ้ายเข้าไปในเสื้อเชิ้ตสีดำของเรียวจันทร์แล้วลูบตรงซี่โครงฝั่งขวาเบาๆ
   

“แต่ตอนนี้ถูกใจคนนี้ ถูกใจมากด้วย” จอมทัพมองร่างบางอย่างหื่นกระหาย นิ้วโป้งขยับขึ้นไปเขี่ยหัวนมอมชมพูที่คุ้นเคยเบาๆ เล่นเอาคนด้านบนสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะรีบใช้มือขวาตัวเองตะปบข้อมือของคนมือซน
   

“คุณเสี่ย ไหนว่าวันนี้อยากแค่ไปกินข้าวดูหนังไง เรื่องจ้ำโบ๊ะไม่อยู่ในลิสต์นะ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นพร้อมส่ายหัวช้าๆ จอมทัพทำหน้าเสียดาย ดึงมือออกจากตัวอีกฝ่าย
   

“แล้วนึกยังไงถึงอยากจะทำตัวคิกขุ มีเดทแบบวัยรุ่น”
   

“ถึงผมจะไม่วัยรุ่นแล้ว แต่ผมก็ฟิตอยู่นะ หรือคุณจะว่าไม่จริง” เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ ใช้มือขวาตะปบเข้าเป้ากางเกงสแลคสีดำของเสี่ยทัพ อีกฝ่ายทำเพียงยิ้ม ก้มหน้ามองมือขาวบางขย้ำเป้าตัวเองไปเรื่อย
   

“ไม่เถียงค่ะ เพราะแซ่บจริง” ว่าเสร็จก็ยกมือออกจากเป้ากางเกงแล้วหัวเราะเสียงเล็กเสียงน้อย สร้างเสน่ห์ให้กับตัวเองจนเสี่ยทัพมองด้วยความเข็ดฟัน
   

“อยากเล่นหนังสดกับคุณก่อนไปดูหนังจัง” เสี่ยทัพซุกหน้าเข้ากับซอกคอหอมๆ ของเรียวจันทร์ สูดดมเบาๆ
   

“เสี่ย จะไปก็ไปค่ะ จองตั๋วหนังไว้แล้ว เราต้องรีบไปรับนะ” คนที่กำลังสูดดมความหอมกรุ่นอ่อนๆ ถึงกับถอนหายใจเสียดาย ดึงหน้าตัวเองออกมามองใบหน้าสวยเกลี้ยงเกลาที่วันนี้แต่งแต้มสีสันมาแบบอ่อนๆ อย่างละมุน
   

“ครับเมียครับ”
   

ป้าบ!
   

เรียวจันทร์ฟาดเข้าที่อกแกร่งเสี่ยทัพ “แค่คนที่ได้เสียกันเฉยๆ!” จอมทัพหัวเราะชอบใจ เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน ปล่อยให้เสี่ยทัพลุกขึ้นยืนตามเต็มความสูง
   

“ก็เมียอยู่ดี” เรียวจันทร์ปรือตามอง หมุนตัวเดินออกไปจากห้องก่อน จอมทัพคลี่ยิ้ม มองตามด้วยสายตาขบขัน แต่ภายในใจนั้นแน่วแน่ว่า เขาต้องได้ผู้ชายคนนี้
   

เพราะนอกจากจะถูกใจ เรียวจันทร์ยังมีอะไรล่อใจเขาอีกต่างหาก


   




สองหนุ่มต่างวัย ต่างความสูงและต่างบุคลิก แต่ดึงดูดสายตาของใครหลายคนให้หันมองได้แทบตลอดทางที่ทั้งสองก้าวเท้าเดินเคียงกันไป จอมทัพใช้แขนขวาคล้องเอวของเรียวจันทร์ไว้ไม่ให้ห่างกาย คนตัวเล็กเดินคุยด้วยรอยยิ้มแย้มที่ทำให้เจ้าตัวน่ามองเข้าไปอีก แถมยังมีน้ำใจแจกยิ้มให้กับสาวๆ หลายคนที่มองเจ้าตัวอย่างชื่นชม
   

“เอาป๊อบคอร์นมั้ยเสี่ย…”
   

“…พี่เรียวจันทร์ป้ะคะ” เจ้าของนามที่กำลังแหงนหน้าถามคนตัวสูงตรงบริเวณเค้าน์เตอร์ขายขนมหน้าโรงหนังชะงักและหันไปมองหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่ยืนมองนางด้วยความตื่นเต้น คุณนายแกฉีกยิ้มสวยแล้วบอกเสียงหวาน
   

“ใช่ค่า” สาวๆ กลุ่มนั้นหันมองหน้ากันแล้วส่งเสียงกรีดร้องดีใจเบาๆ
   

“หนูเป็นติ่งพี่ค่ะ ชอบพี่ตั้งแต่อยู่นิวยอร์กแล้ว” เรียวจันทร์ยิ้มพิมพ์ใจ รู้สึกพราวในอกเล็กๆ ที่มีติ่งเป็นของตัวเอง แต่อันที่จริงนางก็พอรู้ตัวอยู่แล้วละ เพราะไอจีนางมีคนตามครึ่งแสนเชียวนะยะ
   

“ขอบคุณมากนะจ๊ะเด็กๆ” คุณนายแกโปรยยิ้มตาหยี สาวบางคนในกลุ่มนั้นแทบละลายไปกับพื้น แล้วได้แต่คิดว่าผู้ชายอะไรทำไมสวยได้ขนาดนี้
   

“ถ่ายรูปได้มั้ยคะ” แกนนำของติ่งสาวหันไปมองจอมทัพเป็นเชิงขออนุญาต เรียวจันทร์หันไปมองหน้าเสี่ยแล้วยิ้มขำ อีกฝ่ายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพยักหน้า
   

“เชิญครับ แต่อย่านานนะ ผมหวง” สาวๆ อ้าปากหวอค้างเติ่ง ก่อนจะหันพรึบไปมองเรียวจันทร์เป็นตาเดียว
   

“แฟนพี่เรียวเหรอคะ” หนึ่งในนั้นถามด้วยความตื่นเต้น คนถูกถามทำหน้าไม่ถูกแวบหนึ่งก่อนจะยิ้มบริสุทธิ์ใจ
   

“พ่อพี่ค่ะ ไม่ใช่แฟน” พอพูดจบนางก็หัวเราะเบาๆ คนเดียว จอมทัพส่ายหัวหน้าเอือมแต่ริมฝีปากก็คลี่ยิ้มบางๆ ส่วนสาวๆ ติ่งทั้งหลายก็ทำหน้างง
   

“พ่อพี่หล่อมากเลยอะ” สาวแกนนำมองหน้าจอมทัพแล้วทำหน้าเพ้อ คนตัวสูงยิ้มขบขัน เขาไม่ได้คิดจะแก้ต่างสถานะที่เรียวจันทร์ว่าไว้
   

“ถ่ายรูปมั้ย เดี๋ยวใกล้ถึงเวลาพี่เข้าโรงหนังแล้ว” สาวๆ ทั้งหลายได้สติก็รีบกุลีกุจรผลัดกันเข้ามาถ่ายรูป เรียวจันทร์เซอร์วิสติ่งตัวเองเต็มที่ ดีที่ไม่เยอะมาก กลุ่มนี้แค่หกเจ็ดคนเท่านั้น ไม่งั้นคุณนายแกคงยิ้มเมื่อยปากน่าดู
   

“หนูรอดูหนังของพี่อยู่นะคะ”
   

“ขอบคุณนะ” เรียวจันทร์ฉีกยิ้มให้เด็กๆ ทั้งหลายที่โบกมือให้นางรัวๆ ในขณะที่ขาก็พาเดินไปทางบันไดเลื่อนลงจากชั้นโรงหนัง นายแบบหนุ่มหันใบหน้าเปื้อนยิ้มไปหาจอมทัพที่ยืนยิ้มเท่อยู่
   

“พ่ออะไรทำไมได้เอาลูกสาวบ่อยจัง” เรียวจันทร์จิ๊ปาก จิกตาใส่พ่อร่างใหญ่
   

“สรุปเอาป๊อปคอร์น…”
   

“…เสี่ยครับ” ยังไม่ทันพูดจบ (จะได้แดรกมั้ย) ก็มีเสียงคล้ายจะห้าวแต่ก็ห้าวไม่สุดดังขึ้นเบาๆ ทั้งสองคนหันไปมองก็เจอกับผู้ชายตัวสูง ผิวขาวผ่อง มีกล้ามอ่อนๆ ยืนอยู่กับผู้ชายอีกสามคนด้านหลัง ทุกคนแลปกติดี ถ้าเพียงจะไม่ลงรองพื้นซะหนาเกือบเทียบเท่านางรำในสมัยอยุธยา ยังดีที่ในกลุ่มนั้นมีหน้าสดอยู่คนหนึ่ง
   

“ผมซันครับ เราเคยเจอกันที่ผับ” ชายหนุ่มผู้ลงรองพื้นเบอร์แรงสุดเอ่ยอย่างกระตือรือร้นเมื่อเสี่ยจอมทัพยังคงทำหน้าเฉย และมองอย่างไม่เข้าใจ
   

“ที่ผับมีคนตั้งเยอะแยะ ฉันจำได้ไม่หมดหรอก” เสี่ยว่าอย่างเฉยชา เรียวจันทร์แอบอ้าปากหวอนิดหนึ่งเมื่อเห็นสีหน้าเงิบของชายคนที่มาทักจอมทัพ เพื่อนๆ ของนางก็ยืนทำหน้าอิหลักอิเหลื่อกันถ้วนหน้า
   

แต่อดีตคู่ขาคนที่เท่าไหร่ของเสี่ยจอมทัพที่ตัวเสี่ยก็คงไม่รู้และไม่จำยังคงพยายามยิ้มสู้ แม้จะยิ้มไม่เต็มปากเท่าไหร่ “คือผม… เคยนอน…”
   

ฟึบ!
   

คราวนี้เรียวจันทร์เบิกตากว้างหน้าตะลึงนิดหนึ่งเมื่อเสี่ยทัพยกมือขวาขึ้นเบรกอีกฝ่ายอย่างฉับไวโดยที่ใบหน้าเริ่มไม่สบอารมณ์ คนพูดเองก็ชะงักไปเยอะเหมือนกัน “ถ้าแค่เคยก็คือเคย ไม่ต้องมารื้อฟื้น”
   

“อ้าว ทำไมพูดงี้อะ” ไม่ใช่แม่นางรองพื้นเบอร์แรงสุดอุทานนะ แต่เป็นคนที่รองพื้นหนาเป็นอันดับสอง (หล่อนเอาเวลาไหนไปจัดอันดับ) ที่อยู่ด้านหลังต่างหาก แต่ก็ไม่ได้อุทานแรงหรอก เหมือนนางก็อุทานด้วยความอึ้ง แต่พอโดนสายตาคมวาบของเสี่ยทัพตวัดมองแวบเดียวพวกนางก็เลือกที่จะไม่ตอบโต้โดยที่คุณแม่ไม่ต้องขอร้อง
   

“ผมแค่อยากทักเสี่ยเฉยๆ” แม่นางหัวหน้ารองพื้นเบอร์ใหญ่เอ่ยเสียงอ่อย หน้าเสียไปมากโข มีแอบชำเลืองมองเรียวจันทร์ด้วยสายตาประเมินด้วย ด้วยความที่เป็นสายพันธ์เดียวกันแต่เลเวลสูงกว่าเรียวจันทร์ก็เลือกที่จะทำเฉย เพราะรองพื้นเรามันคนละเบอร์จ้ะ เรื่องนี้ฉันยกให้เธอจริงๆ
   

“ไปเถอะ” จอมทัพเลิกสนใจคนกลุ่มนั้นแล้วหันมาแตะบั้นท้ายเรียวจันทร์ พาเดินไปตรงเค้าน์เตอร์ขนมเพื่อซื้อของก่อนเข้าโรงภาพยนตร์
   

เรียวจันทร์สีหน้าค้างเติ่ง หันไปมองสีหน้าของอดีตคู่ขาเสี่ยที่ชักสีหน้าไม่พอใจอย่างงงๆ พ่อหนุ่มสาวกรองพื้นกวนอิมที่อุทานใส่เสี่ยยื่นแขนมาสะกิดเพื่อน ส่วนอีกสองคนก้มหน้าเล่นโทรศัพท์
   

“จำเขาไม่ได้จริงเหรอ” เรียวจันทร์หันไปถามผู้ชายข้างกาย
   

“ผมมั่นใจว่าตัวเองไม่เอาคนนี้แน่ ผมไม่ชอบคนลงรองพื้นหนา” นายแบบหนุ่มหัวเราะขบขันกับสีหน้าไร้อารมณ์ตอนจอมทัพพูด นี่แสดงว่าคุณเสี่ยแกก็ใจดีมากแล้วสินะที่ไม่หักหน้าไปมากกว่านั้น ดีไม่ดีพ่อรองพื้นหนาคนนั้นอาจจะแค่ชอบเสี่ย แล้วพยายามเต๊าะเสี่ยอยู่ก็ได้
   

“ฉันก็นึกว่าคุณจะเอาหลายคนจนจำไม่ได้” จอมทัพยกยิ้มมุมปากพลางรับถังป๊อปคอร์นมาจากพนักงานขาย
   

“ผมอยาก แต่ไม่ได้สำส่อน ก่อนจะเอาใครผมก็ต้องเลือกที่ตัวเองอยากเอาด้วย ไม่ใช่เอาได้หมดทุกคน” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าอ้อ ยื่นมือไปรับแก้วน้ำอัดลมแก้วใหญ่สีดำลายภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าไปชม จอมทัพยื่นเงินสดให้กับพนักงานสาวที่หน้าตาเฉยเมย ทำทุกอย่างเหมือนถูกตั้งโปรแกรมมาให้ทำ


เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งก่อนจะบิดปากเป็นรอยยิ้ม “แต่อย่าบอกว่าตอนนี้คุณมีฉันคนเดียวนะ อ๊ะ อ่า…” นางหรี่ตามองคนตัวสูง ยกมือขวาขึ้นแล้วโบกนิ้วชี้ไปซ้ายทีขวาทีตรงหน้า จอมทัพยิ้มมุมปากขำๆ
   

“ก็มีคุณคนเดียวจริงๆ นี่ คุณคนเดียวที่ผมเรียกเมีย” คุณนายแม่กลอกตาเป็นคำตอบ มือขวามิวายหยิบป๊อบคอร์นรสคาราเมลใส่ปาก เคี้ยวเสียงดังกรุบๆ
   

จอมทัพยิ้ม ก่อนที่จะพาเรียวจันทร์เดินเข้าไปตรงทางเข้าโรงภาพยนตร์เพื่อให้พนักงานฉีกตั๋ว


   

      
   
 :katai5:

เสี่ยขาาา เสี่ยจะทำอารายยย เสี่ยแลไม่น่าไว้ใจขึ้นทุกวันนะ 55555 คุณแม่ก็ยังคงไม่รู้สึกรู้สาอะไร ใครว่ายังไงคือฉันขอสวยไว้ก่อน 55555 กิ๊กเก่าเสี่ยจะมาก็เรื่องของนาง ถือว่ากิ๊กเก่าเสี่ยสติดีมากที่ไม่มีเรื่องกับขุ่นแม่ ไม่งั้นนางด่าออกสื่อแน่ๆ

แต่เสี่ยก็เบรกหนุ่มรองพื้นหนาหน้าเกือบทิ่มเช่นกัน นี่ถ้ามีเรื่องของเสี่ย อยากเห็นเหมือนกันว่าเสี่ยจะทำยังไงกับพวกเซ้าซี้ อู้ววว

ช่วงแรกมาแบบใสๆ พาเสี่ยไปดูหนังแบบวัยรุ่น เสี่ยอาจห่างไกลฟีลลิ่งนี้มานาน 55555



บางคนอยากให้ลงเร็วๆ ตอมเองก็อยากลงเร็วๆ ค่ะ แต่ตอมเขียนสด ลงสด 55555 แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขียนปุ๊บอัพปั๊บนะคะ ถ้าใครตามตอมมาตั้งแต่เรื่องก่อน จะทราบว่าตอมเป็นคนเขียนนิยายช้ามากกก ตอนนึงนี่เขียนสองสามวันเลยอะ

ยังคิดอยู่เลยว่าจะรีไรท์ตอนแรกๆ แต่ไม่ได้เปลี่ยนเนื้อเรื่องนะคะ แค่ใส่ดีเทลและปรับคำเฉยๆ เพราะแรกๆ คือเขียนสองเรื่องพร้อมกัน ตอมทุ่มให้เรื่องนี้น้อยมาก แต่ตอนนี้ทุ่มให้เรื่องนี้เรื่องเดียวแล้ว โฟกัสได้เต็มที่เลย ฉะนั้นอยากกลับไปแก้ในจุดที่รู้สึกว่ามันลวกๆ ไปหน่อย



อยากขอบคุณคนอ่านที่ตามอ่านเรื่องนี้อยู่จริงๆ ค่ะ เห็นว่ามีคนรออ่าน คอยเม้นให้ แม้ไม่ได้เยอะมากมาย แต่ตอมก็มีกำลังใจอัพแล้ว อยู่กันไปจนจบเลยนะคะ ^___^



สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้ว่า #WorksTheMagic




หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-09-2016 00:42:11
อีเสี่ยนี้เจ้าเลห์จริงๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-09-2016 06:13:10
เสี่ยนี่ขัดใจจริงๆ เจ้าเล่ห์ได้โล่
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 06-09-2016 06:16:42
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 06-09-2016 07:32:46
โอ้ยย อิในใจก้เชียร์ให้อิเสี่ยเป็นพระเอกนะ แต่ว่ามันต้องมีอัลไลเงี่ยนงำแน่ๆ อิเสี่ยต้องรู้แน่ๆว่าเจ้เรียวจันทร์เป็นเจ้าของที่ดินตรงนั้น พี่คมเขี้ยวรีบๆหลงเจ๊เค้าเร็วๆหน่อยยยเร๊ววว ประเดี๊ยวเสี่ยจะแย่งซีนโหม๊ดดด  :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-09-2016 10:24:43

เสี่ยน่ารักกกกกกกกกกกก

 :z10: :z10: :z10: :z10: :z10: :z10: :z10: :z10: :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 06-09-2016 12:09:04
พี่เขี้ยวอ่าาาา

อยากเชียร์เสี่ยให้มีคู่จัง สังเวยแกะน้อยให้เสี่ยซักคนได้ไหมค้า?
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-09-2016 16:24:17
พี่เขี้ยวอ่าาาา

อยากเชียร์เสี่ยให้มีคู่จัง สังเวยแกะน้อยให้เสี่ยซักคนได้ไหมค้า?



เดี๋ยลองสอบถามไปทางฟาร์มแกะก่อนนะคะ 55555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 06-09-2016 18:56:26
ถ้าเสี่ยไม่ทำหลายๆอย่างไปเพราะหวังผลอื่นนอกจากถูกใจเรียวนะ จะเชียร์เสี่ยเลยนะนิ เพราะดูเข้ากัน รู้ทันกันไปซะทุกเรื่อง 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 06-09-2016 20:21:11
แอบเชียร์เสี่ย แต่คิดว่าเสี่ยไม่น่าไว้ใจ
รอพี่เขี้ยวหลงรักเรียวจันทร์อยู่นะ เราจะได้กลับไปเชียร์แบบเต็มตัว อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 07-09-2016 02:14:08
เปลี่ยนพระเอก เสี่ยเลวก็ยอม แลดูทันกันดี
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 08-09-2016 22:34:54
เราชินกับเรืองที่บทพระเอกจะเด่น ๆ ในเรื่อง แต่เรื่องนี้เหมือนกับเสี่่ยเหมือนจะะเด่นมากกกกกกกกกกกกก จนเรารู้สึกว่าเสียยน่าจะเป็นพระเอกแทนพี่่่เขี้ยวน่ะ แลล้วเสีี่ยดูลลึกลลับแลละดาร์คดีน่ะ คมเขี้ยวดูจะะใสจนน่ารำคาน (ตัวอักษรใช้ไม่ได้) เราเลยชักสงสัยว่าตกลงเรื่องนี้คมเขี้ยวเป็นพระเอกหรือเปล่า 555 ยังไงจะรอติดตามน่ะจ้ะ แค่ตั้งข้อสังเกตน่ะจ้ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/35% :06.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 10-09-2016 13:13:47
เราตามมาจากเรื่อง น้องแมท กับไอ้ยักษ์ ค่ะ

สนุกมากกกกกกทั้งสองเรื่องเลย รอมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 17-09-2016 23:56:47

คาถาที่ 12 [70%]




หลังจากดูหนังจบ ทั้งสองคนก็เดินหาอะไรกินเป็นอาหารมื้อบ่าย เรียวจันทร์เลือกกินอาหารญี่ปุ่น ช่วงเวลานี้ จอมทัพไม่เอ่ยถึงเรื่องธุรกิจ หรือเรื่องที่ดินใดๆ ทั้งสองคนคุยกันเรื่องสัพเพเหระทั่วไปแบบที่คนรู้จักคุยกัน เรียวจันทร์ได้รู้ว่าจอมทัพมีน้องชายคนละแม่สองคน สองคนนั้นเป็นพี่น้องกัน มีแม่คนเดียวกัน โดยที่จอมทัพเป็นพี่ใหญ่สุด แต่จอมทัพนั้นลูกคนละแม่ เรียกง่ายๆ ว่า จอมทัพคือลูกเมียหลวง พี่น้องของเสี่ยอาศัยอยู่ทางภาคใต้ นานๆ ทีจะขึ้นมากรุงเทพฯ ส่วนพ่อของจอมทัพพักอยู่ทางภาคเหนือ นานๆ ทีจะลงมาหาเขา หรือไม่เขาก็ขึ้นไปหาพ่อตัวเอง ส่วนแม่ของจอมทัพเสียไปแล้ว


คุยไปกินไปจนอาหารหมด วันนี้เสี่ยมาสายเปย์เพราะจ่ายให้คุณนายทุกอย่าง และจอมทัพยังเปย์หนักเข้าไปอีกด้วยการซื้อกระเป๋าแบรนดังอย่างชาแนลให้เพราะอยากเอาใจเมียที่ตนเองเรียก เรียวจันทร์นึกขำเพราะเพิ่งเอ่ยเล่นๆ กับไอ้อดีตผัวตัวซวยว่าอยากได้ไปเมื่อสามสี่วันก่อน
   

“จริงๆ อยากปฏิเสธนะ อยากให้ตัวเองเป็นนางเอกหยิ่งทระนง แต่ชาแนลชนะนางเอกค่ะ” สุดท้ายนางก็ได้กระเป๋าใบนั้นมา ซึ่งได้งบจากเสี่ยจอมทัพผู้หล่อล่ำเป็นผู้สนับหลักแสนใจดี นางไม่ทำเชิดว่าไม่เอาเด็ดขาด เรื่องอะไรจะเล่นตัว เขาให้ก็ต้องรับสิ จะมาทระนงในศักดิ์ศรี เชิดหน้าชูคอผยองให้เมื่อยทำไมกัน ถึงจะมีปัญญามีเงินซื้อเอง แต่ในเมื่อผู้ชายเขาตัดหน้าซื้อให้ก่อน เราก็ไม่ควรเบรกเขาหน้าทิ่มนะคะคุณ 


“อยากไปไหนต่อรึเปล่าคุณเสี่ย”


“คุณล่ะ อยากไปไหนมั้ย” คนถูกถามทำหน้านึกสักแปบก่อนจะส่ายหัวสองที


“ไม่ล่ะ เดี๋ยวฉันต้องรอนายคมเขี้ยวมารับไง” จอมทัพเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง เมื่อเช้าตอนเรียวจันทร์บอก เขาก็แอบชะงักไปนิดที่ได้ยินว่าทั้งสองคนมาด้วยกัน 


“มันจะมารับคุณกี่โมง” เสี่ยถามหยั่งเชิงเสียงเรียบ สันกรามขึ้นชัดเพราะขบซะแน่น


“ส่งข้อความมาบอกว่าอีกไม่เกินชั่วโมงจะถึงนี่” จอมทัพเลิกคิ้วขึ้น หน้าตาหงุดหงิดแวบหนึ่ง


“แล้วเมื่อกี้คุณจะถามผมทำไมว่าอยากไปไหนต่อหรือเปล่า” เรียวจันทร์หันไปมองคนพูดหน้างง แต่พอเห็นสีหน้าไม่พอใจของจอมทัพก็อมยิ้มน้อยๆ


“คุณเสี่ยหึงเหรอ”


“ถ้าบอกว่าหึง คุณจะให้ผมไปส่งที่ฟาร์มมั้ย” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วแต่ริมฝีปากก็คลี่ยิ้ม


“ได้ไงล่ะเสี่ย เดี๋ยวนายคมเขี้ยวก็มาแล้ว…” ใบหน้าของเสี่ยจอมทัพยังคงไร้อารมณ์จนเรียวจันทร์ต้องเดินเข้าไปหาแล้วยกมือซ้ายจับใบหน้าเข้มเอาไว้


“…สบายใจเถอะเสี่ย นายคมเขี้ยวเขาไม่แย่งฉันไปจากเสี่ยหรอกน่า” จอมทัพเลื่อนสายตาขวางเล็กๆ ที่กำลังมองไปเรื่อยมามองหน้าเรียวจันทร์ที่ยิ้มหวานมาให้ เขาพ่นลมหายใจหนึ่งที พูดเสียงห้วนหน่อยๆ


“แล้วคิดยังไงถึงมากับมัน” เรียวจันทร์ลดมือลง ยักไหล่สองข้างอย่างสบายๆ พอกำลังจะอ้าปากตอบ เสียงโทรศัพท์มือถือของเจ้าตัวก็ดังขึ้น พอหยิบมาดูก็เห็นเป็นชื่อคมเขี้ยว เรียวจันทร์กดรับอย่างเรื่อยเปื่อย


“ฮัลโหล… ฉันอยู่ชั้นสี่ของห้าง อ้อ เหรอ เดินมาทางร้านหนังสืออะ… ใช่ๆ ฉันยืนอยู่แถวนั้นแหละ… โอเค” เรียวจันทร์เก็บมือถือเข้าไปในกระเป๋า พอเงยหน้ามองจอมทัพก็เห็นอีกฝ่ายทำหน้าไม่สบอารมณ์ เรียวจันทร์เลยยิ้มแซว


“โถ่ คุณจอมทัพวัยว้าวุ่น” เรียวจันทร์หัวเราะเบาๆ จอมทัพทำหน้าเอือม ก่อนที่จะบุ้ยปากไปทางด้านหลังเรียวจันทร์ คนตัวเล็กหันไปมองทั้งที่ยังยิ้มค้างอยู่ แต่พอเห็นว่าคมเขี้ยวเดินมากับใคร รอยยิ้มก็หุบวืดทันที


“ไหนว่ามากันสองคน แล้วนั่นใคร” เรียวจันทร์หันไปตอบหน้าหมดอารมณ์


“ว่าที่แฟนนายคมเขี้ยว” จอมทัพเบ้ปากนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้สนใจเป็นจริงเป็นจัง เรียวจันทร์หันไปมองคมเขี้ยวที่เดิมมาพร้อมกับอัจฉรา คมเขี้ยวหรี่ตามองจอมทัพอย่างนึกสงสัย เรียวจันทร์ไม่ได้มีท่าทีตื่นตูมหรือตื่นเต้นใดๆ ที่ทั้งสองคนเจอกัน


“ธุระที่นายว่าคือมารับแฟนนายใช่มั้ย” เมื่อเช้าตอนเรียวจันทร์กำลังจะออกจากฟาร์มมาด้วยรถตัวเอง นายคมเขี้ยวก็บอกให้ไปด้วยกัน เพราะมีธุระจะเข้ากรุงเทพพอดี เรียวจันทร์เห็นว่าสะดวกดี และถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้อยู่กับไอ้เขี้ยวกุดสองต่อสอง แต่สุดท้ายคุณนายนางดันหลับจนมาถึงกรุงเทพ


เรียวจันทร์หันไปมองนังช่อเอื้องที่ยิ้มเขินๆ แล้วนึกหมั่นไส้ว่าหล่อนจะเขินอะไรไม่ทราบ


“ก็ด้วย พอดีเอื้องเขาเข้ากรุงเทพมาเมื่อวาน ผมเลยแวะรับกลับพร้อมกัน คุณ…”


“…ขอโทษทีที่ให้แวะมา แต่เดี๋ยวคุณจอมทัพจะไปส่งฉันพอดี…” เรียวจันทร์หันไปมองจอมทัพที่ทำหน้าเรียบเฉย แล้วหันกลับไปมองคมเขี้ยวต่อ


“…คงไม่ต้องแนะนำแล้วมั้ง น่าจะรู้จักกันอยู่แล้ว” คมเขี้ยวขมวดคิ้วหรี่ตามองคนหน้าสวยแวบหนึ่ง


“เขาบอกคุณ หรือคุณรู้ได้ยังไง” คมเขี้ยวถามเสียงเรียบ มองจอมทัพอย่างไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ ฝ่ายเสี่ยที่เห็นสีหน้าคมเขี้ยวก็ยิ้มน้อยๆ แล้วเอ่ยทักเสียงทุ้ม


“สวัสดีครับคุณคมเขี้ยว พบกันอีกแล้วนะครับ” คมเขี้ยวหน้าตึงนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอย่างก้าวร้าว เพราะคนตรงหน้าก็ไม่ได้แสดงมารยาทไม่ดีใส่


“สวัสดีครับคุณจอมทัพ”


จอมทัพยิ้มนุ่ม ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองหญิงสาวข้างกายชายหนุ่ม “ผมเพิ่งรู้ว่าคุณมีแฟนด้วย”


เรียวจันทร์มองคมเขี้ยวสีหน้าเฉย คมเขี้ยวเงียบไม่ตอบ อัจฉราที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับหน้าม้ามเล็กน้อยที่อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรหรือยืนยันว่าตนคือใคร


“สรุปคุณจะกลับกับผมมั้ย” เรียวจันทร์สั่นหัวนิดหนึ่ง


“ไม่ บางทีคุณเอื้องอาจจะอยากดูหนัง ฟังเพลงบ้าง ลองไปดูเรื่อง XXX สิ ฉันเพิ่งไปดูมา สนุกดีนะ…” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่ม ยื่นมือซ้ายไปจับมือขวาของจอมทัพไว้หลวมๆ คมเขี้ยวมองนิ่ง ก่อนที่จะเลื่อนสายตาขึ้นมองเรียวจันทร์ด้วยสายตาเดิม หนุ่มนายแบบยิ้มละมุน


“…เจอกันที่ฟาร์ม เมื่อเช้าขอบคุณมากที่มาส่ง ไปละ” เรียวจันทร์หันไปพยักหน้าให้จอมทัพ ทั้งสองคนพากันเดินผ่านคมเขี้ยวกับอัจฉราไป


คมเขี้ยวยืนนิ่งสักแปบ ใบหน้าของเขานิ่วและคิ้วก็ขมวด ในใจรู้สึกไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง แต่ก็มั่นใจว่าไม่ใช่อาการหึงหวงในตัวเรียวจันทร์


“เขี้ยวคะ” คนถูกเรียกหันไปมองคนเรียก คมเขี้ยวทำหน้างงสักแปบก่อนจะฉีกยิ้มน้อยๆ


“เอื้องอยากทำอะไรก่อนกลับมั้ย” อัจฉรายิ้มก่อนตอบ


“ดูหนังมั้ย ที่คุณเรียวแนะนำก็น่าดูนะ” คมเขี้ยวยิ้มนิดหน่อยและพยักหน้าตอบรับคำชวนของหญิงสาว อัจฉรายิ้มด้วยความดีใจ แม้จะหน้าชาไปวูบหนึ่งตอนที่ชายหนุ่มไม่ยอมพูดถึงสถานะของหล่อนกับเขา


แต่ลึกๆ ในใจหล่อนกำลังไม่สบายใจกับชายหนุ่มหน้าหวานที่ชื่อเรียวจันทร์สักเท่าไหร่




“ไหนว่าจะกลับกับมัน ทำไมจู่ๆ กลับลำให้ผมไปส่ง” เรียวจันทร์เบ้ปากทันทีที่จอมทัพถามในระหว่างที่ทั้งสองคนเดินจูงมือกันกลับไปที่รถ


“ฉันไม่ชอบยัยผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้กลัวนางนะ ฉันกลัวตัวเองกัดแม่นั่นไปตลอดทาง ไม่อยากเปลืองเงินซื้อแอลกอฮอล์ให้ราดแผล” ร่างบางกลอกตาพร้อมกับทำหน้ายี้


“หึงไอ้คมเขี้ยวรึไง” เขาถามเสียงทื่อหน้ามุ่ยนิดหน่อย แต่เรียวจันทร์ไม่ทันเห็น นางส่ายหัวพร้อมกับเบ้ปากน้อยๆ


“หาความรู้สึกนั้นไม่เจอจริงๆ” เรียวจันทร์ปล่อยมืออีกฝ่ายตอนที่เดินมาถึงรถออดี้ (Audi) สีเงินวาววับของจอมทัพ เดินไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับหลังจากเจ้าของรถปลดล็อครถเรียบร้อยแล้ว


“จะให้ผมไปส่งฟาร์มเลยหรือจะไปไหนก่อน” คุณนายแกทำหน้าคิดสักแปบก่อนจะตัดสินใจ


“ถ้ากลับดึกมากไป ฉันกลัวคุณจะเหนื่อยขับรถ แต่ฉันก็อยากไปที่ผับคุณสักแปบ” จอมทัพยิ้มมุมปากแล้วสตาร์ทรถ


“ผมไปส่งเมียผมได้น่า”


“โวะ! ไปค่ะไป” เรียวจันทร์ว่าหน้ามุ่ย ปัดมือขวาไปข้างหน้าเป็นสัญญาณให้ออกรถได้แล้ว จอมทัพหัวเราะหึๆ ขับรถออกไปจากลานจอดรถ







ผับของจอมทัพมีขนาดใหญ่โต รูปร่างภายนอกมีลักษณะเป็นตึกทรงสี่เหลี่ยมต่างระดับ มองแล้วนึกถึงตึกสูงระฟ้าในมหานครนิวยอร์กที่สหรัฐฯ เป็นรูปทรงแปลกตาและแตกต่างมากสำหรับการเป็นผับในประเทศไทย แต่นั่นละที่ทำให้ที่นี่โดดเด่น แถมยังไม่ได้ตั้งติดกับผับเจ้าอื่น เป็นของจอมทัพคนเดียวล้วนๆ ผับของจอมทัพมีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยว มีแบ่งโซนเป็นวีไอพีกับโซนธรรมดา ที่เรียวจันทร์เคยเข้าไปตอนพบกับเสี่ยจอมทัพครั้งแรก เป็นโซนคลับฟังเพลงสบายๆ ซึ่งโซนนั้นจะอยู่ด้านหลัง เป็นโซนหรูหราอีกระดับหนึ่ง ซึ่งลูกค้าที่จะเข้าไปนั้นไม่จำกัดระดับใดๆ แต่จำกัดคนเข้าและอายุ เนื่องจากไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางมากนัก เหมาะกับคนที่ชอบนั่งฟังเพลงสบายๆ และไม่ชอบความวุ่นวายหรือเสียงดังจนสนั่นหู คนที่เสร็จจากผับด้านหน้าแล้ว หากคุ้นเคยกับที่นี่จริงๆ ก็มักจะไปต่อกันที่คลับด้านหลัง ซึ่งจะมีมาตรการคุมเข้มกว่าผับด้านหน้าเยอะมาก     
   

“แล้วคุณเปิดบ่อนที่ไหน” เรียวจันทร์ถามหลังจากฟังเสี่ยจอมทัพเล่าเรื่องเกี่ยวกับผับและคลับของตนเองคร่าวๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของเขา
   

“แม่คุณไม่เคยบอกรึไง” นายแบบหนุ่มหันไปมองค้อนคุณเสี่ยสุดหล่อ ฝ่ายนั้นยิ้มหัวเราะ
   

“ไม่บอกและไม่อยากรับรู้ด้วย…” เรียวจันทร์ทำหน้าหน่ายนิดๆ “…ว่าแต่ เขายังไปที่นั่นอยู่รึเปล่า” จอมทัพพยักหน้าพลางหักพวงมาลัยเข้าไปจอดในที่จอดวีไอพีหน้าคลับ เรียวจันทร์ถอนหายใจเบื่อๆ
   

“คุณไม่น่าเปิดของแบบนั้นเลย…” เรียวจันทร์บิดคอไปมองหน้าคนตัวโตเซ็งๆ “…เส้นใหญ่จริงนะ”
   

จอมทัพยิ้มมุมปาก ยักไหล่ท่าทางไม่แคร์ “อย่างอื่นก็ใหญ่”
   

เรียวจันทร์เบ้ปากใส่คนข้างๆ พออีกฝ่ายจอดรถสนิทแล้ว คุณนายก็เปิดประตูลงจากรถไปยืนบนลานจอด แดดร่มลมตกแล้ว เดี๋ยวพอดึกๆ กว่านี้ นักท่องราตรีทั้งหลายก็คงมากันแน่นขนัด
   

“แล้วคุณคิดได้รึยังว่าถ้าได้ที่ดินตรงนั้นมา คุณจะทำอะไร”
   

“โปรเจ็คต์ผมเยอะแยะ แต่ที่เหมาะกับตรงนั้นมันก็มีอยู่แล้ว”
   

“หวังว่าคุณจะไม่ทำโรงงานสารพิษหรอกนะ ที่นั่นอากาศดีมาก ฉันไม่อยากให้มันถูกทำลาย” เรียวจันทร์ว่าอย่างที่ใจคิด ที่นั่นอากาศบริสุทธิ์ผุดผ่องเกินกว่าจะมีโรงงานผีบ้าผีบอทั้งหลายไปตั้ง
   

“ดูคุณกังวลมากกว่าแต่ก่อน…” จอมทัพใช้แขนขวาคล้องเอวบาง ก้มลงมองหน้าเรียวจันทร์ด้วยสายตามีคำถาม
   

“…อย่าบอกนะว่าคุณรักที่นั่น” เรียวจันทร์มีสีหน้าอึกอักนิดหน่อย หันหน้าหนีสายตาวาววับของจอมทัพ
   

“ก็มันจริง ถ้าคุณจะตั้งโรงงานอะไรสักอย่าง ขอเถอะว่าอย่าทำ”
   

“แล้วถ้าผมจะทำล่ะ” เรียวจันทร์หันไปมองอย่างรวดเร็ว รู้สึกอึ้งไปนิดเมื่อได้ยินแบบนั้น ไม่รู้ว่าจอมทัพพูดจริงหรือพูดเล่น
   

“คุณพูดจริงเหรอ” จอมทัพฉีกยิ้มกว้างกับหน้าตาตื่นตกใจของคนตัวเล็ก
   

“นั่นไม่ได้อยู่ในลิสต์โปรเจ็คต์ของผม”
   

“อ่อ เอ่อ โอ้ว ดีแล้ว” คุณนายแกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อโรงงานนรกเหล่านั้นจะไม่ไปผุดขึ้นแถวนั้น แต่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจอมทัพอยากจะทำอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆ คือขอให้ได้ที่ดินตรงนั้นมาก่อน
   

จอมทัพพาเรียวจันทร์เดินเข้าไปด้านในคลับ ยามที่เฝ้าด้านหน้าลุกขึ้นยืนสวัสดีจอมทัพกับเรียวจันทร์อย่างรวดเร็ว พอเข้าไปด้านในของคลับที่เรียวจันทร์เคยมา นางก็เห็นคนจับกลุ่มกันอยู่ตรงโต๊ะใกล้กับเวที เหมือนกำลังมั่วสุมอะไรกันสักอย่าง
   

“พวกมึงทำอะไรกัน?!” จอมทัพถามเสียงกังวาน เป็นน้ำเสียงที่เรียวจันทร์รู้สึกว่า น้อยแต่มีอำนาจมาก เหล่าชายหนุ่มสี่ห้าคนที่กำลังสุมหัวสูดดมบางอย่างถึงกับหันมามองอย่างตกใจ ก็จะมีบางคนที่ดูเบลอๆ ลอยๆ
   

“เสี่ย…” หนึ่งในนั้นพูดเสียงอ่อย ท่าทีไม่อยู่กับร่องกับรอย ไม่รู้เพราะสิ่งที่สูดดมเข้าไปหรือว่าเพราะกลัวจอมทัพ
   

“ปุ๊นหรืออะไร มึงเล่นโคกันรึเปล่า?!” จอมทัพถามเสียงดังหน้าตาดุ แต่ก็ยังไม่ใช่ดุน่ากลัว แต่แค่นั้นก็ทำเอาเรียวจันทร์แอบอึ้งและพวกลูกน้องเสี่ยก็กลัวจนแทบทำอะไรไม่ถูกแล้ว
   

“เปล่าครับเสี่ย! แค่ปุ๊นเฉยๆ ครับ!” จอมทัพขบกรามเบาๆ สีหน้าเครียดนิดหนึ่ง ก่อนจะตวาดเสียงดังแต่ไม่ได้ดังตะคอก
   

“ไปหลังร้าน!” สามคนที่ยังแลมีสติครบถ้วนรีบพาอีกสองคนที่ยิ้มเลื่อนลอยออกไปจากบริเวณนั้น เรียวจันทร์มองคนพวกนั้นอ้าปากหวอ พอทั้งหมดหายลับไป นางก็หันไปมองเสี่ยทัพที่มีสีหน้าไม่พอใจ
   

“อันนี้เป็นเรื่องปกติมั้ย” จอมทัพทำหน้าตายแล้วตอบ
   

“ปกติ แต่ไม่ทุกคน ผมไม่ห้าม ถ้ามันจะเล่น แต่ห้ามขายให้ลูกค้าเด็ดขาด และห้ามเล่นในเวลางาน” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว
   

“ถ้าเขาจะขาย แล้วคุณจะรู้ได้ยังไง” จอมทัพยิ้มมุมปากเล็กๆ
   

“ลูกน้องผมไม่ได้มีแค่พวกนั้นนะ” เรียวจันทร์พยักหน้าเอื่อยๆ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ เบิกตากว้างหันไปมองคนข้างๆ
   

“แล้วตัวคุณค้ายาบ้า ยาอี ยาไอซ์ ยาเลิฟด้วยรึเปล่า…” ใบหน้าสวยหวานชะงักกึกเพราะสะดุดใจกับบางสิ่งบางอย่างที่ผุดขึ้นมากะทันหัน
   

“…ยาเลิฟงั้นเหรอ?”
   

“ก็ขายบางอย่าง บางอย่างก็ไม่ขาย” จอมทัพตอบอย่างง่ายๆ ไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจใดๆ กับการค้ายา
   

เรียวจันทร์ค่อยๆ คลี่ยิ้มกว้าง หันไปหาจอมทัพอย่างตื่นเต้น “งั้นคุณช่วยหายาปลุกเซ็กส์ให้ฉันหน่อยสิ”
   

คนตัวโตเลิกคิ้วเข้มขึ้น ทำหน้านึกๆ สักแปบก่อนจะตอบ “ก็น่าจะได้อยู่…” จอมทัพหรี่ตามองร่างบางที่ทำหน้าเหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
   

“…อย่าบอกนะว่าจะเอาไปใช้กับไอ้คมเขี้ยว” เรียวจันทร์ฉีกยิ้มกว้าง แววตาดั่งลูกกวางน้อยทอประกายตื่นเต้น แต่นางก็ยังแอ๊บตอบเสียงอ้อมแอ้ม
   

“ก็ยังไม่ได้คิดขนาดนั้นซักหน่อย”
   

“แต่กำลังคิดว่าของมันขนาดไหนอยู่ล่ะสิ”
   

ก็ยาวอยู่ จับเต็มไม้เต็มมือเชียวละ
   

“นะคะเสี่ยขา ลองดูก็ไม่เสียหาย ฉันจะได้เอาที่ดินมาให้เสี่ยได้ไวๆ ไง” จอมทัพมองเรียวจันทร์นิ่ง เริ่มคิดว่าอีกฝ่ายกำลังสนุกเกินไป แต่เขาก็ไม่อยากขัดใจ เพราะเขาเองก็มีเวลาให้เรียวจันทร์สนุกไปกับสิ่งที่ทำก่อน
   

แต่ถ้าหมดเวลาแล้วละก็ อย่าหวัง
   

“ก็ได้ ถือว่าช่วยแผนของคุณแล้วกัน” แม้จะพูดแบบนั้นแต่สีหน้าของจอมทัพก็เรียบเฉยจนอ่านยากว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่คุณนายแม่กำลังปริ่มใจที่หาทางให้กับตัวเองได้ นางเลยเขย่งหอมแก้มเสี่ยไปหนึ่งฟอด
   

เสร็จฉันรึเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ นายได้เสร็จไปเจ็ดน้ำ (แตก) แน่ๆ ไอ้เขี้ยวกุด!

   


   
      
:hao7:

ขออภัยที่หายไปหลายวันค่ะ แพ็คหนังสืออีกเรื่องอยู่ วุ่นวายขายกะปิมาก ทำนางเดียวทั้งวันทั้งคืน ไม่มีเวลามาอัพแม่เรียวเลยยย แต่วันนี้วันอาทิตย์วันหยุดเก๋ๆ ก็อดใจไม่ได้ที่จะพาแม่เรียวคัมแบ็คมาหาทุกคน เพราะไม่งั้นโดนนางจิกตบขบกันไม่หยุดแน่ๆ  :katai5:

และในที่สุดอีแม่เรียวก็หาทาง (เสียว) จับพี่เขี้ยวเจอ 55555 เอาล้าาาา พี่เขี้ยวจะรอดมืออีแม่มั้ยย อีแม่มาแน่ ให้เสี่ยหาให้เป็นจริงเป็นจัง แบบนี้พี่เขี้ยวตกอยู่ในอันตรายแล้วละค่ะ เสียบริสุทธิ์ให้แม่เรียวมั้ยเนี่ยพี่เขี้ยวกุดดด กะอีแค่จะเอาที่ดิน แม่ลงทุนเอาตัวเข้าแลกแรงมากเนาะ 555555

ละคือเสี่ยเป็นเททับบี้ใช่มั้ย แบบว่าปล่อยให้สนุกไปก่อน พอหมดเวลาก็จะ หมดเวลาสนุกแล้วสิ หมดวเลาสนุกแล้วสิ !

คนที่อ่านเรื่องนี้ ตอนนี้เสียงเชียร์เสี่ยแรงมากก่ะ เดี๋ยวๆ รอพี่เขี้ยวเราตกหลุมอีแม่เรียวก่อน 5555 แต่คือตอนนี้ใครหึงใคร ใครหึงอะไรคะ เพราะความหึงลอยอบอวลรอบตัวทุกคนเลยนิ -.,-


ขอบคุณคนอ่านที่ชอบและตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่นะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ตอมไม่รู้จำนวน แต่ว่าเห็นคอมเม้นทีไรก็มีแรงใจเขียนต่อตลอดๆ แล้วค่าาา  :mew1:


แท็กในทวิต #WorksTheMagic หรือจะ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่าาา




หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 18-09-2016 00:05:40
#สายเปย์ #ทีมเสี่ย ค่า5555555555 :hao7: ชอบผช.สายเปย์สูงวัยใจดี หุหุ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 18-09-2016 00:26:06
ก็เชียร์พี่เขี้ยวนะ แต่คุณเสี่ยมาแรงอ่ะ ดูอบอุ่นแล้วก็น่าจะเอาอิแม่อยู่ ซึ่งก็เหมาะสมกันดีออก อิอิ
ส่วนพี่เขี้ยวก็เร่งๆหน่อยน้า เดี๋ยวตามเสี่ยไม่ทัน 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-09-2016 00:45:28

ง่าาา. อีคมเขี้ยวจะเสร็จเรียวจันทร์ไหม อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 18-09-2016 01:05:44
โอ้ยยย เสี่ยยังคงมีบทเสมือนพระเอกอยู่ 55555 คือเด่นกว่าพี่เขี้ยว ดังนั้นนเรายังคงเชียร์เสี่ยต่อไปค่ะ ตราบใดที่ไม่ทำน้องเรียวเสียใจ นี่ก้จะเชียร์เสี่ยสุดใจขาดดิ้นน  :z3: คือทะแม่งๆว่าเสี่ยจะรู้อยู่แล้วว่าที่ดินตรงนั้นเป็นของเรียวจันทร์รึป่าวน้า  :เฮ้อ: รอได้กับพี่เขี้ยวก่อนนะ จะขอดูพฤติกรรมหน่อยว่าจะเลือกเชียร์ใครดี  :oo1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-09-2016 05:57:44
จะเลือกเชียร์ข้างไหนดีน้าาา โอ้ยย เสี่ยก็แซ่บ ท่าทางจะชอบๆน้องเรียว หรือตาคมเขี้ยวดีน้าาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 18-09-2016 06:15:01
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-09-2016 08:41:22
ขอเสี่ยแทนได้ไหมเนี่ยยยย  เสี่ยแซ่บเหลือเกิน

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: palette_burgundy ที่ 18-09-2016 21:46:55
รอคุณคนเขียนนะครับ  :impress2: :L2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 19-09-2016 00:29:38
ในที่สุดก้อมีสัญญาณตอบรับของพี่เขี้ยวให้ได้เห็นบ้างแหละ เราไม่อยากให้แม่เรียวโดนอีตาจอมทัพเกทับกลับประจำน่ะ รู้สึกเสียเชิงเคะราชินีไปนิดนึง เรามองแม่เรียวแบบนี้น่ะ  งานนี้แม่เรียวเตรียมรับศึกหนักจากตาจอมทัพได้เลยน่ะ เพราะท่าทางจะไม่ปล่อยไปง่าย ๆ แน่เลย และงานนี้แม่เรียวเริ่มจะหลงรักที่ดินนี้แล้วสิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 19-09-2016 00:39:17
เชียร์เสี่ยอ่ะ คือแบบบักคมเหี่ยวมันไม่มีบทเล้ยยย จนตอนนี้คิดไปเองว่าบักเสี่ยเป็นพระเอกแหล่ว คมเหี่ยวก็ให้จมปลักกับหนองหอยต่อไป บอกว่าเสี่ยเป็นพระเอกนี่เชื่อนะบอกเลย #เสี่ยจอมทัพกับอิแม่จอมอ่อย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Sbatandty ที่ 19-09-2016 15:38:10
จัดไป 3P เลยดีกว่า
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 19-09-2016 17:48:01
เสี่ยน่ารัก

ขอ 3p เลยเถอะ แต่กลัวเสี่ยจะไม่ยอมแบ่งนางกับใคร

3Pๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มีเปิดโหวตม้ายยค้าาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-09-2016 17:54:44
รวดเดียวจบ ต้องตามมม!!
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/100% :21.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 21-09-2016 20:33:31


คาถาที่ 12 [100%]





   ท่ามกลางความมืดมิด บนท้องฟ้าสว่างไสวด้วยแสงจันทร์ และมีแสงระยิบระยับเล็กๆ ของดวงดาวสีขาวที่เป็นเหมือนของประดับฟ้าสีกำมะหยี่ ร่างระหงส์เดินลงจากรถตู้คันใหญ่ที่มาส่งถึงฟาร์มอรุณพยัคฆ์ เรียวจันทร์หันไปยิ้มและโบกมือให้จอมทัพที่นั่งมาส่งนางถึงที่โดยมีคนขับรถของจอมทัพเป็นคนพามา
   

“กลับบ้านดีๆ นะเสี่ย ขอบคุณมากสำหรับวันนี้” เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง จอมทัพยิ้มน้อยๆ แต่เท่กินใจ ประตูรถค่อยๆ เลื่อนปิด รถตู้สีดำแบรนดังขับออกไปตามทางที่อ้อมหมู่บ้านคาวบอยไปทางประตูทางออก
   

“คุณเรียว”
   

“อ้าว ดิน ยังไม่นอนอีกเหรอ” 
   

“ยังครับ นายให้มารอรับคุณเรียว” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าอ้อ
   

“คุณป๋าให้มารอฉัน มีอะไรรึเปล่า”
   

“คงเป็นห่วงแหละครับ ตอนแรกนายบอกด้วยซ้ำว่าถ้าตีสามคุณเรียวยังไม่กลับ นายจะขับรถไปตาม” เรียวจันทร์อมยิ้ม รู้สึกอบอุ่นเล็กๆ ถึงไม่ใช่ความอบอุ่นจากพ่อ แต่อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนสนิทพ่อแหละนะ
   

“แล้วคุณป๋านอนรึยัง ฉันจะได้เข้าไปรายงานตัวว่าฉันกลับมาแล้ว” ดินหันไปมองทางบ้านหลังใหญ่ที่ยังมีแสงไฟให้ความสว่างอยู่
   

“ไม่แน่ใจครับ เดี๋ยวลองไปกดออดหน้าบ้านก่อนแล้วกัน” ทั้งสองคนพากันเดินไปทางประตูหน้าบ้าน พอมาถึงดินก็กดออดหนึ่งทีพร้อมกับชะเง้อมองไปในตัวบ้าน เรียวจันทร์หยิบมือถือขึ้นมากดดูเวลาที่หน้าจอ ตอนนี้ตีสองกว่าแล้ว เรียวจันทร์ปลดล็อคหน้าจอแล้วเข้าไปตอบข้อความของแจเร็ดในว้อทสแอพที่ส่งมาตั้งแต่บ่าย ก้มหน้าพิมพ์อยู่สักพักก็เงยหน้าขึ้นมองดินที่กำลังดันประตูไม้เปิดออกพอดี
   

“พี่เขี้ยว คุณเรียวกลับมาแล้วพี่” เรียวจันทร์หันไปมองพ่อคาวบอยในชุดนอนด้วยแพทเทิร์นเดิมคือเสื้อยืดเนื้อนิ่มกับกางเกงขาวยาว 
   

“คุณกลับดึกอะไรป่านนี้ รู้มั้ยว่าพ่อกับแม่ผมเป็นห่วง!” กำลังเพลิดเพลินคิดถึงวันที่ตัวเองได้มีโอกาสจับเขี้ยวน้อยในตอนเช้าก็ถึงกับดับวูบเมื่อเสียงห้วนเกือบจะเป็นตะคอกดังขึ้น
   

“พี่เขี้ยว…” ดินว่าเสียงเบา เหมือนจะเป็นการเตือนว่าเสียงดังมากไป คมเขี้ยวขบกรามแน่น มองเรียวจันทร์อย่างไม่สบอารมณ์ คนหน้าสวยได้สติเต็มที่ก็เลยพูดกลับ
   

“คุณป๋า คุณแม่นอนรึยัง ฉันจะได้ไปบอกว่ากลับมาแล้ว”
   

“ก็เพราะพวกเขารอคุณอยู่นี่ไง” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว นึกขี้เกียจเถียงกับอีกฝ่าย เลยเดินผ่านร่างสูงไปอย่างเร็ว คมเขี้ยวหันไปมองตามอย่างไม่พอใจก่อนจะหันกลับไปหาดิน
   


“มึงกลับไปนอนได้แล้วดิน ขอบใจมาก” ดินยิ้มแห้ง พยักหน้ารัวๆ สองสามทีแล้วเดินกลับไปทางหมู่บ้านคาวบอย คมเขี้ยวเลื่อนประตูปิด หมุนตัวเดินตามร่างบางเข้าไปในบ้าน
   

เรียวจันทร์เดินเข้ามาด้านในบ้านก็เห็นว่าพ่อกับแม่ยังคงนั่งดูทีวีกันอยู่สองคน พอเห็นแบบนั้นนางก็ถอนหายใจ รู้สึกไม่ดีนิดๆ ที่ปล่อยให้ทั้งสองคนมานั่งรอ
   

“คุณป๋าคุณแม่ เรียวกลับมาแล้วค่ะ” ตอนที่คมเขี้ยวเดินตามเข้ามา เขาก็ทันเห็นว่าพ่อกับแม่หันมามองเรียวจันทร์ด้วยความโล่งอกขนาดไหน
   

“โล่งอกไปที คิดว่าหนูไปเจอเรื่องไม่ดีรึเปล่า ป๋าใจไม่ดีเลยตอนเขี้ยวมันบอกว่าเราอยู่กับไอ้จอมทัพ” เรียวจันทร์ชะงักไปนิดแต่ก็ไม่ได้หันไปมองคนด้านหลังตัวเอง นางเดินเข้าไปนั่งโซฟาตัวเล็กที่อยู่เยื้องกับป๋าและแม่
   

“ขอโทษทีค่ะที่ไม่ได้โทรบอกก่อน…” เรียวจันทร์ยกมือไหว้ขอโทษทั้งสองคน คนสูงวัยทั้งสองพยักหน้าและยิ้มด้วยความโล่งอก เรียวจันทร์เห็นแบบนั้นก็ยิ้มแกนๆ
   

“…เรียวไม่มีคนคอยกลับบ้านหรือคอยห่วงมานานแล้ว ก็เลยไม่ค่อยได้โทรบอกใคร” เมฆารู้ดีว่าคนตรงข้ามหมายถึงอะไร
   

“หนูเรียว ฟังป๋านะ อาทิตย์ฝากหนูเรียวไว้กับป๋า ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ป๋าขอโทษที่ไม่เคยคิดตามหา หรือเข้าไปดูแลหนูเรียวเลยแม้แต่นิด แต่ตอนนี้เราเจอกันแล้ว หนูมีป๋ามีแม่ มีพี่เขี้ยวคอยห่วงอยู่นะ” เรียวจันทร์อมยิ้ม นึกขำกับคนสุดท้าย ไอ้เขี้ยวกุดนั่นน่ะเหรอจะมาห่วงนาง
   

“โอย อย่ารื้อฟื้นเลยค่ะป๋า ตอนนั้นพ่อเรียวยังอยู่ และที่ป๋าไม่ได้ตามหา ไม่ได้มาดูแลเรียว เพราะเรียวอยู่เมืองนอก ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” อันนี้คือเรื่องจริง นางไม่คิดมากเรื่องนั้นเลย เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา ตอนที่พ่อยังไม่เสีย นางก็ยังมีพ่อ และพอไปนิวยอร์ก นางก็คิดแต่ว่าจะทำงานหาเงินเท่านั้น 
   

“แล้วหนูเรียวไปรู้จักคนชื่อจอมทัพได้ยังไงลูก” คุณบัวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
   

“เขารู้จักกับแม่เรียวน่ะค่ะ เราเลยได้มีโอกาสรู้จักกัน” คนสูงวัยทั้งสองคนพยักหน้า หันมองหน้ากันด้วยสายตาแปลกๆ แต่เรียวจันทร์ไม่เก็บมาคิดมาก
   

“เรียวขอโทษอีกทีนะคะที่ให้ป๋ากับแม่รอจนไม่ได้นอน” เรียวจันทร์ยกมือไหว้ขอโทษทั้งสองคนอีกรอบ เมฆาโบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร คุณบัวทำเพียงคลี่ยิ้มน้อยๆ
   

“เอาเถอะ กลับมาปลอดภัยก็ดีแล้ว บอกตามตรงว่าป๋าไม่ชอบไอ้จอมทัพเท่าไหร่” เรียวจันทร์ชะงักอีกที นางไม่รู้เหตุผลที่ป๋าไม่ชอบเสี่ย แต่สำหรับนาง รู้ดีว่าถ้าป๋ารู้ว่านางมาที่นี่ทำไม ป๋าจะต้องยิ่งไม่ชอบจอมทัพและต้องไม่ชอบนางแน่ จากที่เอ็นดูอาจกลายเป็นเกลียด
   

เรียวจันทร์รู้สึกหดหู่ในใจพิกล
   

“งั้นเรียวขอตัวไปนอนก่อนนะคะ”
   

“เขี้ยว ไปส่งน้องด้วย” เรียวจันทร์หันไปมองคนตัวสูงที่ยืนกอด เอาสะโพกพิงกับเสาไม้ของบ้าน คมเขี้ยวมองกลับมาหน้าตาย เรียวจันทร์หันไปยิ้มให้กับป๋าและแม่ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก้าวเท้าเดินผ่านคมเขี้ยวที่เดินตามหลังนางมา
   

คมเขี้ยวเดินตามหลังเรียวจันทร์ไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งเรียวจันทร์เดินออกไปยืนนอกรั้วประตูบ้าน ร่างบางก็หันมาหาเขาแล้วพูดสีหน้าไร้อารมณ์
   

“ไม่ต้องไปส่งหรอก เดี๋ยวฉันเดินกลับเองได้ ส่งแค่นี้แหละ” เรียวจันทร์ยิ้มอ่อน คมเขี้ยวเดินตามออกมานอกรั้ว ใช้มือดันรั้วให้ปิดตามเดิม
   

“คุณเสร็จธุระก่อนผมอีก ไปทำอะไรมา” คมเขี้ยวถามเสียงเรียบจนเกือบจะเป็นการจับผิดด้วยซ้ำ เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นพร้อมยิ้มกริ่ม
   

“ห่วงฉันเหรอ” คมเขี้ยวกลอกตาหน้าเซ็ง เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปาก ยกสองมือกอดอก
   

“ฉันถามจริงๆ นายคบกับคุณเอื้องรึยัง ถ้าคบแล้ว ฉันจะได้เลิกยุ่งกับนาย…” คมเขี้ยวหันไปสบตาสีน้ำตาลสุกใสของอีกฝ่ายโดยไม่แสดงอาการใดๆ
   

“…ใช่ ฉันชอบนายอยู่ ถ้านายอยากรู้นะ” คมเขี้ยวยิ้มเยาะ มองเรียวจันทร์อย่างประเมิน แต่ถ้ามองในแง่ร้ายมากหน่อยอาจกลายเป็นสายตาสมเพชเลยก็ว่าได้
   

“ชอบผม? แต่คุณมีฝรั่งคนนั้น แล้วตอนนี้ยังมีไอ้จอมทัพอีก อย่าบอกว่าแค่รู้จักกันเฉยๆ นะ เพราะที่ผมเห็นวันนี้ไม่น่าใช่แค่นั้น” เรียวจันทร์ไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้าน นางกลับทำหน้าว่าแล้วไงล่ะ?
   

“ก็บอกหลายครั้งแล้ว ว่าฉันยังมีสิทธิ์คุยหรือไปไหนมาไหนกับใครก็ได้ ตราบใดที่ฉันยังไม่ได้ลงเอยกับนาย”
   

“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่สำหรับผม จอมทัพเป็นคนชั่วคนนึง” เรียวจันทร์ยังคงทำหน้ามึน ไม่ได้รู้สึกตกอกตกใจอะไร ข้อนั้นทำไมนางจะไม่รู้ ก็ดูธุรกิจที่ตาเสี่ยนั่นมีสิ
   

“ทำไมอะ เขาชั่วเลเวลไหนกันเชียว” อันนี้แอ๊บแบ๊วถามครึ่งนึงส่วนอีกครึ่งก็คืออยากรู้จากมุมมองคนอื่นบ้าง
   

“คั่วกันอยู่นี่ น่าจะรู้ดีกว่าผมนะ” เรียวจันทร์ส่ายหัวหน้าตั้ง
   

“รู้ดีอะไรล่ะ ฉันคุยกับเขา เราไม่เคยคุยเรื่องชั่วๆ ของเขานี่ จริงมะ?!” คมเขี้ยวทำหน้าเฉย เรียวจันทร์รู้แหละว่าคมเขี้ยวไม่ชอบจอมทัพเพราะเรื่องที่ดิน แต่ก็อาจจะมีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งนางไม่ขอเกี่ยวข้องในประเด็นอื่น
   

“คุณรู้เรื่องที่มันอยากได้ที่ดินแถวนี้รึเปล่า” เรียวจันทร์เกือบจะสะดุ้งแรง แต่ดีที่เบรกตัวเองทัน เลยทำเนียนทำหน้านึก ก่อนจะตอบน้ำเสียงสบายๆ
   

“เขาก็แค่บอกว่าที่ดินที่นี่สวย แต่ก็ไม่ได้เมนชั่นอะไรชัดเจน คือเขาพูดกับฉัน เพราะเห็นว่าฉันมาทำงานที่นี่” คมเขี้ยวหรี่ตามอง แล้วโพล่งไปทันที
   

“มันไม่ได้ส่งคุณมาเพื่อเจรจาขอซื้อที่ดินใช่มั้ย” เรียวจันทร์อ้าปากหวอด้วยความอึ้งที่อีกฝ่ายจับจุดถูก แต่ก็ต้องแสร้งเนียนว่าที่อ้าปากหวอนั้นเป็นเพราะตกใจอย่างงงๆ
   

“จะบ้าเหรอ ฉันมาของฉันเอง บอกตรงๆ นะ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าพ่อนายกับพ่อฉันจะรู้จักกัน มันเหลือเชื่อมาก เหมือนทุกอย่างถูกจับวาง แล้ววันนั้น ครั้งแรกที่เราเจอกัน พ่อนายก็เสนองานให้ ฉันว่าน่าสนใจดี เพราะงานในวงการฉันไม่รู้จะกอบโกยได้อีกนานเท่าไหร่ อีกอย่างฉันชอบนาย ฉันอยากมาใช้เวลาอยู่กับนายแบบใกล้ๆ ไง” เรียวจันทร์ร่ายยาวราวกับพูดเรื่องลมฟ้าอากาศทั่วๆ ไป คมเขี้ยวมองอย่างประเมิน ไอ้เรื่องโดนไอ้จันทร์ไรบอกชอบตอนนี้เขาปล่อยผ่านไม่เอามาด่ามันอีกแล้ว
   

“มันพยายามกว้านซื้อที่ดินแถวนี้เพื่อเอาไปสร้างบ้าน สร้างสวนสนุก และสร้างห้าง และอีกมากมายเหมือนที่ในเมืองหลวงมี” เรียวจันทร์กะพริบตาปริบๆ นึกงงนิดหน่อยที่จู่ๆ คมเขี้ยวก็พูดถึงประเด็นนี้
   

“ก็… ก็น่าจะดี… รึเปล่า” เรียวจันทร์ว่าเสียงขาดๆ หายๆ เริ่มทำหน้าไม่ถูกแต่ด้วยแอคติ้งที่ครูแงะสอนมา เลยทำให้นางคีพลุคนิ่งไว้ได้อยู่นิดหน่อย
   

“ไม่ดี คุณว่าถ้าที่นี่กลายสภาพเป็นเมืองหลวงอีกเมืองของไทย สภาพมันจะเป็นยังไง”
   

“ก็เจริญขึ้นไง” คมเขี้ยวปรือตามองไอ้จันทร์ไรด้วยความหน่ายกับความหน้ามึนของมัน
   

“ที่ที่ไอ้จอมทัพอยากได้ มีติดกับอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง คุณเข้าใจคำว่าอุทยานแห่งชาติมั้ย มันคือสมบัติของชาติ แล้วถ้าไอ้จอมทัพได้ไป มันต้องบุกรุกแน่ๆ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
   

“อ้าว ก็ในเมื่อเป็นของชาติ จอมทัพจะไปบุกได้ไง กฎหมายก็มีนี่” คมเขี้ยวยิ้มเยาะ
   

“แต่ไอ้จอมทัพมันมีอำนาจ และที่นี่ประเทศไทย ถ้าคุณมีอำนาจและเงินเมื่อไหร่ คุณอยู่เหนือกฎหมายได้สบายๆ คุณคิดว่าคนอย่างมันจะไม่ทำงั้นเหรอ…” คิ้วสวยของเรียวจันทร์ยังคงขมวดมุ่น คมเขี้ยวนึกอยากบอกว่าถ้ายิ่งได้เจ้าของที่อย่างเรียวจันทร์ด้วยแล้ว มันคงทำอะไรง่ายขึ้นมากเชียวละ
   

“…ยิ่งถ้าเจ้าของที่ยอม มันก็ยิ่งง่าย”
   

“อ้อ เพราะแบบนี้นายถึงไม่ยอมขายให้เขาใช่มั้ย” คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์นิ่ง เริ่มพอจะนึกออกแล้วว่าทำไมพ่อเขาถึงไม่ให้บอกแม่คุณนายว่าใครเป็นเจ้าของที่ดิน
   

“ก็ใช่ และก็ไม่ใช่ในเวลาเดียวกัน…” เพราะเขาไม่สิทธิ์ในที่ดินนั้นต่างหาก “…และผมบอกเลยนะว่าถ้ามันจะเอา มันต้องเอาทั้งหมด ไอ้ที่ดินที่มันอยากได้ ลากยาวไปไกลมาก ซึ่งรวมถึงฟาร์มที่นี่ด้วย”
   

“บ้า! ไม่สิ เขาบอกฉันว่าเขาแค่ต้องการที่ดินรอบนอกแถวนี้ อะ…” เรียวจันทร์เม้มปากฉับเมื่อเบรกปากของตัวเองไม่ทัน คมเขี้ยวยิ้มเยาะ ก็รู้อยู่แล้วละว่าไอ้จอมทัพต้องพูดให้ฟังบ้าง
   

“…เขาเล่าให้ฟังอะ” เรียวจันทร์ยอมรับเสียงอ่อย
   

“คุณบอกเองนะว่าคุยกันมันก็ไม่เล่าเรื่องชั่วๆ ของมันให้ฟังหรอก” เรียวจันทร์เริ่มคิดมากขึ้นมานิดหนึ่งเมื่อได้ยินแบบนั้น เพราะตัวนางก็ไม่เคยคิดถึงจุดนี้ จุดที่ว่าถ้าซื้อก็ต้องซื้อทั้งหมด จะมาเว้นไว้แค่ที่ฟาร์มนี้ได้ยังไง
   

“แต่… แต่เขาก็เอาที่นี่ไปไม่ได้หรอก แต่รอบนอก นายไม่ลองเจรจาอีกทีเหรอ” คมเขี้ยวหัวเราะหึๆ เพราะเริ่มจะจับทางของเรียวจันทร์ถูก คุณนายแกเห็นแบบนั้นก็รีบส่ายหัวรัวๆ
   

“นี่ๆ อย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้มาเป็นทูตที่ดินนะ แค่ลองถามดู ก็ฉันเห็นว่าพื้นที่รอบนอกฟาร์มก็ไม่ได้ทำอะไร”
   

“ไม่ได้ทำอะไร แต่ก็ไม่ขาย ผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน” คุณนายแกนึกห่อเหี่ยวในใจ เพิ่งได้กำลังใจมาวันนี้แหมบๆ ว่าน่าจะมีหนทางคุยกับไอ้เขี้ยวกุด แต่ตอนนี้หนทางนั้นแลจะปิดปรับปรุง
   

นายแบบหนุ่มพ่นลมหายใจแผ่วๆ ยกมือขวาเกาหัว หันรีหันขวางสักพักเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็จะพูดอะไรล่ะ เจ้าของที่เขาบอกแล้วนี่ไงว่าไม่ขาย
   

โอ๊ย แล้วถ้าเกิดจับหมอนี่เป็นผัว ไอ้เขี้ยวกุดมันจะเปลี่ยนใจมั้ย ฉันต้องหลอกล่อยังไงนะ ดอกเบี้ยตาเสี่ยจอมทัพก็ขึ้นเอาๆ ใช้ร่างกายปลดหนี้ไปแล้ว แต่ก็เพราะอีดอกเบี้ยนี่แหละ หนี้มันเลยไม่หมดสักที!
   

“ฉันไปนอนละ…” เรียวจันทร์ว่าอย่างเหงาหงอย หงอยยิ่งกว่าหอยอ้างว้างอีก ในหัววนเวียนแต่ว่าจะพูด จะกล่อมให้คมเขี้ยวขายที่ยังไงดี


“… อ้อ เกือบลืม…” คุณนายแกก้าวไปได้ก้าวเดียวก็หันกลับไปหาคมเขี้ยวที่ยังยืนอยู่ที่เดิม


“…วันพุธถ่ายแบบนะ นายรับปากฉันไว้แล้วด้วย” เรียวจันทร์ทวงสัญญาเรื่องที่คมเขี้ยวรับปากจะถ่ายแบบคู่กับนาง เพราะทางกองถ่ายแม็กกาซีนขอมาหลังจากชื่นมื่นกันถ้วนหน้าว่าเจ้าของฟาร์มสุดหล่ออย่างคมเขี้ยวอนุญาตให้มาใช้สถานที่ได้ บ.ก.เลยรุกเข้าแผนสองทันที เพราะอยากได้คมเขี้ยวมาถ่ายแบบให้นานแล้ว
   

คมเขี้ยวถอนหายใจเซ็งๆ เขาเองไม่ได้ว่าไม่ถนัดหรอก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีนิตยสารมาขอถ่ายเขากับฟาร์มอยู่บ่อยๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ถ่ายแบบคู่ แล้วดันเป็นผู้ชาย!
   

“ขอถ่ายกับผู้หญิงสวยๆ สักคนไม่ได้เหรอ”
   

“ฉันก็สวย ดูหน้าด้วย ถึงไม่ใช่ผู้หญิง แต่ฉันก็มีนม มีตูดที่ดูดเอ็นอุ่นๆ ของนายได้ฟินเชียวละ” เรียวจันทร์ขยุ้มปากเป็นบัวตูม ใช้มือขวาตบก้นตัวเองเบาๆ คมเขี้ยวทำตาปรือ ถอนหายใจราวกับหมดอาลัยตายอยากในชีวิต
   

“เพราะแบบนี้ไงผมถึงไม่อยากถ่าย” ตอนแรกไอ้เขี้ยวกุดปฏิเสธหัวชนฝาบ้านจะพัง ไม่ใช่เพราะไม่ถนัด ก็อย่างว่านั่นแหละ เคยถ่ายมาบ้าง แต่ไม่ใช่งานหลัก ก็ไม่อยากทำ แถมยังทำคู่กับไอ้จันทร์ไรอีก แต่พอบอกไปแบบนั้น แม่คุณนายก็ดราม่าร้องห่มร้องไห้หาว่ารังเกียจ ดูถูกกันเรื่องเพศ พอป๋ามาเจอก็ด่าเขา และบอกให้ไถ่โทษด้วยการช่วยงานน้อง
   

กูล่ะประสาทจะแดก ไม่เคยเถียงไอ้จันทร์วิบัตินี่ได้สักที
   

แล้วตอนนี้มันก็เริ่มทำหน้าดราม่าอีกละไง “นายแสดงออกว่ารังเกียจฉันอีกแล้ว…” ทำมาเป็นพูดเสียงอ่อย หน้าตาเศร้าสร้อย ตอนนี้เขาแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนจริง อันไหนปลอม เพราะถึงปลอมแม่งก็ทำซะเหมือนจริง
   

“เออๆ ไม่ได้รังเกียจ ชอบคิดอย่างนี้อยู่เรื่อย บอกว่าจะถ่ายก็ถ่ายไง” วิ้ง! ทันทีที่พูดจบใบหน้าโศกาเมื่อกี้บนหน้านังคุณนายก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแฉ่งทันที คนตัวโตระบายลมหายใจด้วยความหน่าย
   

“ไป ไปนอน เดี๋ยวผมเดินไปส่ง” ว่าเสร็จก็ก้าวเท้าเดินนำไอ้จันทร์ไรไปทางออฟฟิศ
   

“ใจดีจังเลยอะ น่ารักที่สุด…”
   

“…อย่าเจ๊าแจ๊ะน่า” คมเขี้ยวปัดมือบางที่ยกขึ้นมาหยิกแก้มเขาเบาๆ เรียวจันทร์หัวเราะคิกคัก ท่ามกลางบรรยากาศมืดมิดที่มีแสงสว่างจากดวงจันทร์และแสงไฟไกลลิบ มีเสียงธรรมชาติดังแผ่วๆ ก็ยังมีเสียงคุยของคนสองคนที่คุยกันกระหนุงกระหนิง แต่อันที่จริงคุณนายแกก็มุ้งมิ้งอยู่คนเดียว ส่วนคมเขี้ยวก็คอยป้องกันตัวเองจากมือแมงมุมของยัยคุณนาย เพราะชอบจับนั่นจับนี่เขาอยู่เรื่อย โดนเป้าไปทีเสียววาบไปเลย
   

“พรุ่งนี้ฉันมีกำลังใจตื่นมาทำงานละ / เออ ตื่นให้ไหวละกัน ไม่ตื่นจะเอาไก่ไปขันเรียกถึงหัวเตียง / จะมาถึงหัวเตียงคิดอะไรกับฉันล่ะสิ คริๆ / คิดจะถีบ / ปากคอเราะร้าย ผู้ชายแบบนี้แหละ แม่เรียวชอบ / เดี๋ยวพ่อจะโบกให้ / ว้าย นายแทนตัวเองว่าพ่อกับฉันด้วยอะ ทำลูกกันมะ / มีมดลูกรึไง / ไม่มี มีตูดและฟิตด้วยนะ / แม่ง น่ากลัว…”
   
      
   


   
 



 :hao7:

หลังจากปล่อยให้เสี่ยทำคะแนนจะแซงพระเอก พี่เขี้ยวของเราก็ขอกลับมามีโหมดมุ้งมิ้ง แม้จะน้อยนิด แต่ก็ดีกว่าเดิมนาาา

พระเอกเรื่องนี้ ตอนนี้ยังสตาร์ทไม่ติด เลยยังแผ่วๆ อยู่ สู้คุณเสี่ยไม่ได้ที่ออกตัวแรงๆ 55555 เอาหน่า ให้เวลาพี่เขีย้วหน่อย พี่เขี้ยวเป็นชายเนาะ จู่ๆ จะพุ่งตัวเปลี่ยนใจเลยก็มิได้อีก ต้องให้เวลาช่วยเปลี่ยน ครุคริๆ แต่ตอมเชื่อนะว่าถ้าเกิดถึงตอนที่พี่เขี้ยว หลงแม่เรียวแล้ว มันต้องน่ารักแหละ เนอะ ใช่มะพี่เขี้ยว 555555

เจอกันตอนหน้านะคะ ตอนหน้าเขาจะถ่ายพรีเวดดิ้ง เอ้ย ถ่ายแบบคู่กันนน


อยากขอบคุณคนอ่านที่ตามอ่านเรื่องนี้อยู่จริงๆ ค่ะ เห็นว่ามีคนรออ่าน คอยเม้นให้ แม้ไม่ได้เยอะมากมาย แต่ตอมก็มีกำลังใจอัพแล้ว อยู่กันไปจนจบเลยนะคะ ^___^
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/100% :21.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 21-09-2016 20:50:47
ถ่ายพรีเวดดิ้งไปเลยยยย 5555
คิดว่าพี่เขี้ยวต้องระแคะระะคายอะไรบ้างแล้วนะเนี่ยยยแบบนี้
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/100% :21.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 21-09-2016 21:44:38
เอิ่มนี่คิดภาพคมเขี้ยวเวอร์ชั่นมุ้งมิ้งไม่ออก  :mew5: ถ้ารัก ถ้าหลงขึ้นมาจริงๆคงจะเป็นแนวด่าแล้วจูบ ตบแล้วปล้ำมากกว่า อ่อ คนที่จูบที่ปล้ำน่ะ คุณนายเรียวนะ ไม่ใช่ใคร :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/100% :21.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 21-09-2016 23:39:23
ชักหวั่น ๆ กับดราม่าของแม่เรียวซะแล้วสิ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/100% :21.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-09-2016 00:10:18
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/100% :21.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 22-09-2016 00:47:42
ชักสงสัยว่า พี่เขี้ยวแค่ห่วงธรรมดาจริงๆเหรอ มีอะไรมากกว่านี้รึป่าวน้อ (มโนอยากให้มี) 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/100% :21.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 22-09-2016 09:12:08
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/100% :21.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 22-09-2016 10:14:59
เหมือนรู้สึกว่าพี่เขี้ยวแอบหึงเล็กๆไม่รุตัวรึป่าวน้า
ส่วนเสี่ยก้อ ถ้าคิดหวังผลประโยชน์จากเรียวจันทร์อย่างเดียวก้ไม่ให้เป็นพระเอกนะคะ 5555555 พี่คมเขี้ยวรีบมาทำคะแนนให้ว่องเลย! o13 รอภาพพรีเวดดิ้ง :impress2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/70% :28.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 24-09-2016 18:01:11

คาถาที่ 13 :: Closer. [ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดเข้ามาอีกหน่อย] (35%)




   เรียวจันทร์กะจะคุยกับจอมทัพเรื่องที่ดินให้เข้าใจว่าเขาไม่ได้ต้องการฟาร์มนี้ด้วยใช่หรือไม่ แต่จอมทัพบินไปใต้หวันและจะไปต่อฮ่องกงกับญี่ปุ่นเป็นเวลาสองอาทิตย์ ลูกน้องจอมทัพบอกว่าเขาไปคุยธุรกิจ แบบนี้จะติดต่อยาก รอเขาติดต่อกลับมาจะดีที่สุด ตัวคุณนายเองก็ไม่ได้จะเซ้าซี้มาก เพราะกะว่าจอมทัพกลับมาค่อยคุยกันก็ยังได้
   

“เสี่ยฝากบอกว่า เขาไปกับเลขา และไม่นอกลู่นอกทางแน่นอนครับ” เรียวจันทร์บึนปากใส่แม็คที่เอาข่าวมาบอกในเช้าวันหนึ่งในขณะที่คุณนายแกกำลังเคลียร์บัญชีของฟาร์มอยู่
   

“เลขาสวยว่างั้น”
   

“ผู้ชายครับ แก่แล้ว เป็นคนของพ่อเสี่ย” เรียวจันทร์เบิกตากว้าง ทำหน้าทึ่งน้อยๆ
   

“แล้วเสี่ยของนายจะเว้นจากเรื่องอย่างว่าได้นานขนาดนั้นเชียว?”
   

“เวลางาน เสี่ยเขาก็ทำงานอย่างเดียวครับ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วแล้วพยักหน้าไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้นึกสนใจเป็นจริงเป็นจังว่าจอมทัพจะไปนอนกับใครหรือไม่นอนกับใคร 
   

“ขอบใจมากที่มาบอก ฉันรอเขากลับมาก่อนค่อยคุยก็ได้ ไม่ได้รีบมาก…” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง เงยหน้าจากกองเอกสารขึ้นมองหน้าลูกน้องเสี่ยจอมทัพ
   

“…ถ้าจะมีธุรกิจเยอะขนาดนั้น ที่ดินตรงนี้ก็ไม่เห็นจำเป็น”
   

“คนอย่างเสี่ย ถ้าเขาอยากได้ เหตุผลก็คืออยากได้ครับ” เปลือกตาเรียวจันทร์หรี่ปรือมองคนตรงหน้า
   

“โอเค ฉันเชื่อละ เพราะเขาก็เคยบอกแบบนี้กับฉัน” นางส่ายหัวน้อยๆ แม็คยิ้มนิดหน่อยแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากออฟฟิศ ผ่านไปครู่สั้นๆ คมเขี้ยวก็เดินเข้ามาด้านใน
   

“คุณรู้จักคนนั้นด้วยเหรอ” เรียวจันทร์ทำหน้าประหลาดใจ
   

“เอ้า ก็ต้องรู้จักสิ เขาเป็นคนงานของนายนี่” 
   

“แล้วมันมาคุยอะไรกับคุณ” คมเขี้ยวหรี่ตามองอย่างข้องใจ
   

“มาทักทายคนสวย” เรียวจันทร์กะพริบตาวิ้งๆ ทำท่าชะม้อยช้อยชายรูปหล่อ คนโดนแอ๊วแต่เช้ามองอย่างหมดอารมณ์
   

“งั้นคนสวยมานี่ ไปอาบน้ำให้วัวก่อน ฝึกเอาไว้ จะได้เป็น” เรียวจันทร์หน้าเหวอ มองคมเขี้ยวอย่างตื่นตระหนกตกใจ แล้วก็แผดเสียงแว้ดๆ ลั่นออฟฟิศทันที
   

“อะไรนะ อาบน้ำให้วัว?! ไม่! จะบ้าเหรอ ให้ไปเก็บขี้มันก็พอแล้ว นี่ยังจะให้ฉันไปขัดสีฉวีวรรณให้มันอีก!”
   

“ไป ถ้าไม่ไป ผมไม่ถ่ายแบบกับคุณพรุ่งนี้นะ” เรียวจันทร์ลุกขึ้นพรวด เดินเข้าไปยืนตรงหน้าไอ้เขี้ยวกุด แหงนหน้าถลึงตามองพ่อยอดชาย ก่อนที่จะสะบัดเสียงใส่หน้าอีกฝ่าย
   

“ก็ได้!” คมเขี้ยวยิ้มอย่างเหนือกว่า ยักคิ้วให้คนที่บอกว่าตัวเองสวยหนึ่งที เรียวจันทร์มองด้วยความหมั่นไส้ แล้วนางก็รีบฉกหอมแก้มสากของคมเขี้ยวไปหนึ่งฟอด ก่อนที่จะวิ่งหนีไปอย่างเร็ว
   

“ไอ้… เนี่ย!” คมเขี้ยวถลึงตามองตามแผ่นหลังร่างบางที่หายไปลิบๆ ยกมือขวาขึ้นลูบแก้มตรงที่โดนหอม ถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินตามอีกฝ่ายไป

   


วันถัดมาเสี่ยจอมทัพก็โทรมาหาเรียวจันทร์ตอนเช้าที่ไทย โทรมาก็ปากหวานว่าคิดถึง อยากให้มาด้วยกัน เขาชวนแล้วละ แต่เรียวจันทร์ไม่ว่างไป เพราะติดงาน อีกอย่างคิดว่าไปก็คงเบื่อน่าดู เพราะอีกฝ่ายบอกไปเรื่องงาน ให้เดาคงแว้บไปดูธุรกิจบ่อนคาสิโนละมั้งน่ะ
   

“ยาที่ให้ไป ใช้รึยังล่ะ” จอมทัพถามถึงยาปลุกเซ็กส์ที่ให้ลูกน้องไปหามาให้เรียวจันทร์ในวันที่เจ้าตัวให้หามาให้ ขอวันนั้นเสี่ยทัพก็จัดให้วันนั้นเลย
   

“แหม เพิ่งได้มา จะให้รีบใช้เลยรึไง ใจเย็น” คนสวยว่าเสียงอู้อี้เพราะกำลังมาร์คหน้าอยู่เลยขยับปากมากไม่ได้ เดี๋ยวจะทำให้หน้าย่น ต้องบำรุงให้ฉ่ำก่อนเริ่มงานสักนิดก็ยังดี จอมทัพหัวเราะน้อยๆ แล้วก็ถามต่อ
   

“แล้วคุณมีอะไรจะคุยกับผม”
   

“เรื่องที่ดินที่คุณอยากได้ ฉันอยากรู้ว่า คุณไม่ได้จะซื้อฟาร์มอรุณพยัคฆ์ด้วยใช่มั้ย”
   

“ที่ดินมันก็ติดๆ กันอะนะ” เรียวจันทร์สะดุดกึก ปากอ้าหวอนิดๆ อ้าเยอะไม่ได้เดี๋ยวมุมปากย่น
   

“เสี่ย ที่นี่มีเจ้าของแล้ว”
   

“ผมถึงกำลังขอซื้อเขาอยู่นี่ไง” จอมทัพตอบกลับอย่างสบายๆ ฟังแล้วไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอนิดหนึ่ง
   

“แต่นี่มันบ้านเขานะเสี่ย เขาอยู่กันมาตั้งนาน”
   

“อ้าว พอผมซื้อ เขาก็ได้ตังค์ แล้วก็เอาตังค์ไปซื้อบ้านใหม่สิ” จอมทัพว่าง่ายๆ เรียวจันทร์ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง อยากจะขมวดเยอะๆ แต่มาร์คอยู่บนหน้าเลยทำได้แค่นี้ คุณนายแกเริ่มสัมผัสถึงความวุ่นวายที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดว่ามันจะมีหรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง
   

“ฉันไม่อยากให้คุณยุ่งกับฟาร์มเลย เอาแค่ที่ดินรอบนอกไม่ได้เหรอ” เรียวจันทร์ขยับปากพูดเสียงชัดขึ้นอีกนิด ใช้น้ำเสียงต่อรองเล็กน้อย แต่ดูแล้วจะไม่ได้ผล
   

“คุณเรียวจันทร์ คุณเป็นลูกหนี้ผม ถึงผมจะชอบคุณมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะขัดผมได้” เป็นครั้งแรกที่เรียวจันทร์ได้ยินน้ำเสียงแสดงอำนาจที่เหนือกว่ากับตนเองจากจอมทัพ เพราะทุกทีผู้ชายคนนั้นจะมีแต่พูดจาอ่อนหวานกับเขาตลอด พอเจอแบบนี้เล่นเอาคุณนายแกสะอึกไปเหมือนกัน
   

“ทำสิ่งที่คุณอยากทำไป แค่นี้ผมก็ยอมคุณมากพอแล้ว” จอมทัพทิ้งความหนักอึ้งไว้ให้กับเรียวจันทร์แล้วตัดสายทิ้งไป เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอ ต้องยอมรับว่าใจคอไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
   

อ้าว เผลอย่นคิ้วหนักมาก ว้ายยย! หน้าย่นรึเปล่าเนี่ย?!
   

“คุณเรียว! ทีมงานมาแล้วครับ!” เสียงของดินนอกออฟฟิศทำให้สติที่เลื่อนลอยไปครู่หนึ่งกลับมารวมตัวกัน เรียวจันทร์ดึงแผ่นมาร์คสีขาวออกจากใบหน้า หลับตาลงแล้วพยายามจัดระเบียบสติให้เข้าที่เข้าทาง พักเรื่องนั้นเอาไว้ก่อนแล้วกัน มาจัดการเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นก่อนดีกว่า
   

เรียวจันทร์เดินออกไปนอกออฟฟิศก็เจอกับทีมงานแม็กกาซีนหัวใหญ่ของไทย นำทีมโดย บ.ก.สาวของนิตยสารที่ลงทุนมาดูงานเองเพราะอยากให้งานนี้ออกมาดีที่สุด เนื่องจากเป็นการขึ้นปกของเรียวจันทร์ นายแบบดางรุ่งผู้โด่งดังครั้งแรกบนปกของตนเอง ทุกคนเอ่ยทักเรียวจันทร์ด้วยรอยยิ้ม เรียวจันทร์สวมกอดกับช่างผมและสไตล์ลิสต์ด้วยความสนิทสนมเพราะเคยร่วมงานกันในงานเดินแบบมาบ้าง
   

“สวัสดีค่ะคุณแม่” เรียวจันทร์หันไปเอ่ยทักช่างแต่งหน้าเก้งสาวมือทองของเมืองไทยคนหนึ่งที่ปลาบปลื้มเรียวจันทร์มานานแสนนาน งานนี้เจ้าตัวก็ขอมาทำเองเพราะอยากมาแต่งหน้าให้นายแบบเก้งสาวที่ไปโด่งดังถึงเมืองนอกเมืองนา
   

“ได้เจอตัวจริงสักที อยากบอกกับหนูมานานว่าพี่ภูมิใจแทนหนูมากที่ได้ลงเว็บนางแบบนายแบบระดับโลก” เรียวจันทร์ฉีกยิ้มสวย ช่างแต่งหน้ามองอย่างถูกอกถูกใจ
   

“ดู๊ดู สวยอยู่แล้ว ยิ้มยิ่งสวยไปอีก ถ้าเปลี่ยนถ่ายมดลูกได้เมื่อไหร่ หนูไปทำเลยนะลูกนะ”  เรียวจันทร์ยิ้มกว้างขำขัน เหล่าทีมงานหัวเราะกันครื้นเครง
   

ทักทายกันอีกสักพัก เรียวจันทร์ก็พาทุกคนเดินไปทางโรงนาที่อยู่ติดกับคาเฟ่ ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่หลักในการถ่ายแม็กกาซีนเช่นเดียวกับรายการทำอาหารก่อนหน้านี้ที่เรียวจันทร์ถ่ายทำไป แต่กองแม็กกาซีนจะไปถ่ายในจุดอื่นๆ ในฟาร์มด้วย วันนี้จะสะดวกกว่าวันถ่ายรายการ เพราะเป็นวันปิดฟาร์ม ไม่มีคนภายนอกเข้ามาวุ่นวาย
   

“แล้วนายแบบของฉันล่ะ” บรรณาธิการสาวร่างผอม แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด ใบหน้าโหนกแก้มชัดเจนหันไปถามเรียวจันทร์
   

“อ้าว ไม่ใช่คนนี้หรอกเหรอยัยปุ๋ย” ช่างหน้าชี้ไปที่ดินที่ยืนอยู่ข้างเรียวจันทร์ ดินทำหน้าเงอะงะ หันไปมองเรียวจันทร์ที่ยิ้มให้
   

“ไม่ใช่ค่ะคุณแม่ นายแบบวันนี้เป็นคุณคมเขี้ยวเจ้าของฟาร์ม คุณแม่รู้จักมั้ยคะ”
   

“เออ รู้จักๆ เคยเห็นอยู่ หล่อมาก แต่คนที่ยืนข้างแม่เรียวก็ดีนะ ดีมากด้วย” ช่างแต่งหน้ามือทองมองไอ้ดินอย่างชื่นชม แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการออกหน้าอะไรมาก
   

“ก็เก๋ดีนะคุณแม่” บรรณาธิการสาวมองดินแล้วยิ้มพึงใจ
   

“มาก ดีมาก รูปร่างดีมาก... หนูเป็นลูกครึ่งเปล่าลูก” ช่างแต่งหน้าพยักเพยิดมาทางดินที่ยืนทำหน้างง สักพักก็สั่นหัวปฏิเสธ
   

“เหรอ นึกว่าลูกครึ่งนะ มีความไทย แต่มีกลิ่นอาย เอ่อ ของอะไรล่ะ พวกอเมริกาใต้ บราซิลอะไรแบบเนี้ยนะ แต่ไทยแท้เลยเหรอคะ” ไอ้ดินอ้าปากพะงาบๆ ยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ก็เข้าใจแหละว่าคุณคนนี้ถามมันอยู่
   

“ทะ… ไทยครับ ไทยเต็มตัวเลย” ดินหันไปมองเรียวจันทร์ที่ยิ้มให้กำลังใจอยู่


“ฉันชอบนะ เธอไม่ลองเอาเขาถ่ายวันนี้ด้วยล่ะ” ช่างแต่งหน้าหันหน้าไปถามบรรณาธิการสาว
   

“อู๊ย ก็อยากค่ะคุณแม่ แต่คอนเซ็ปต์วันนี้เป็นคอนเซ็ปต์หวานๆ เหมาะกับคนสองคนอะสิ…” บ.ก.สาวมองดินอย่างพิจารณาจนเจ้าตัวทำตัวไม่ถูก เรียวจันทร์ยิ้มแล้วยกมือตบไหล่ดินเบาๆ เป็นเชิงปลอบ
   

“…อันนี้ใครอะคะน้องเรียว”
   

“ลูกน้องคุณคมเขี้ยวค่ะพี่ เป็นคนงานในฟาร์มนี้แหละ”
   

“จริงสิ? ต๊าย คนงานอะไรดี๊ดี เอาแบบนี้ งานหน้า ถ้ามีคอนเซ็ปต์เหมาะๆ กับน้องเขา พี่จะติดต่อมาแล้วกัน” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าอู้ว หันไปยิ้มดีใจกับดินที่ยังทำหน้าตื่นๆ อยู่
   

“ได้ถ่ายแบบกับอองชองเต้ (Enchante) เลยนะดิน” ไอ้ดินยิ้มแหย เพราะไม่รู้จักชื่อที่คุณเรียวว่า
   

“เดี๋ยวพี่ติดต่อผ่านน้องเรียวได้ใช่มั้ยคะ” เรียวจันทร์หันไปพยักหน้าแล้วยิ้มพยักพเยิดเห็นด้วย บรรณาธิการสาวหันไปหาช่างแต่งหน้าที่กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์
   

“คุณแม่ตาถึงมาก”
   

“เนี่ย มีงานหน้า เรียกเขาเลย ฉันว่าเขาเกิดมาก หนูเอาไปนิวยอร์กด้วยยังได้เลยนะเรียว โพเทนเชี่ยลเขาดีมาก โครงหน้าชัด สันกรามแน่น ผิวเข้มคร้ามแดด เขาจะรุ่งแน่ๆ” ช่างแต่งหน้าเก้งสาวสุดเปรี้ยวคอนเฟิร์มด้วยความมั่นใจ 
   

เรียวจันทร์หันไปหัวเราะเบาๆ กับดิน “อยากไปมั้ย”
   

ไอ้ดินส่ายหัวรัวๆ “ไม่ครับ ดินกลัวเครื่องบินตก” เรียวจันทร์หัวเราะน้อยๆ ช่างแต่งหน้ากับบ.ก.สาวได้ยินก็หัวเราะไปด้วย แต่สักพักจุดสนใจของเจ้าหล่อนก็ถูกหันเหไปเมื่อร่างสูงโปร่งแต่กำยำของคมเขี้ยวเดินเข้ามาในโรงนา
   

“อ๊าย คุณคมเขี้ยว สวัสดีค่า” หญิงสาวหันไปพะเน้าพะนอคมเขี้ยวที่ยกมือไหว้พร้อมรอยยิ้ม ชายหนุ่มยกมือไหว้สวัสดีทีมงานทุกคน
   

“มาค่ะ ไหนๆ ก็มาพร้อมสองคนแล้ว มาคุยคอนเซ็ปต์ให้เข้าใจกันอีกที” เรียวจันทร์เดินไปนั่งบนเก้าอี้กองฟางที่มีโต๊ะไม้ตั้งตรงกลาง คมเขี้ยวนั่งลงใกล้ๆ กับเขาแต่ก็ไม่ได้ติดกันมาก ส่วนดินขอตัวออกไปทำงาน
   

“อย่างที่บอกไปคราวก่อน คอนเซ็ปต์จะออกหวานๆ หน่อยค่ะ น้องเรียวเนี่ย มีความสวย ความหวานอยู่ในตัว เรื่องสถานะทางเพศพี่ไม่แคร์เลย ส่วนคุณคมเขี้ยว ก็จะมาในแบบผู้ชายหล่อ ล่ำ แมน เอาง่ายๆ ว่าเหมือนแฟนกันน่ะค่ะ แต่มาในสถานะของผู้ชาย อันนี้เป็นแค่คอนเซ็ปต์นะคะ ไม่ได้จะให้เป็นแฟนกันจริงๆ” บรรณาธิการสาวหัวเราะร่วน เรียวจันทร์ยิ้มขำน้อยๆ คมเขี้ยวทำเพียงยกยิ้มมุมปาก
   

“ตากล้องคะ มาบอกนายแบบนางแบบหน่อยเร้วว่าต้องการสื่อสารกันยังไง” ช่างภาพหนุ่มที่เรียวจันทร์รู้มาว่ากำลังเป็นช่างภาพมือใหม่มาแรงของวงการเดินเข้ามานั่งข้างบรรณาธิการของนิตยสาร
   

“เดี๋ยวต้องถามคุณคมเขี้ยวก่อนว่า คิดมากมั้ยครับ กังวลกับภาพลักษณ์ตัวเองหรือเปล่า” คมเขี้ยวเบะปากนิดหนึ่งแล้วส่ายหัวช้าๆ
   

“ไม่นะครับ มันก็เป็นงาน…” เขาหันไปมองเรียวจันทร์ที่หันมามองเขาอย่างเงอะงะ เพราะงงที่จู่ๆ ไอ้เขี้ยวกุดก็หันมามองตัวเอง


“…ทำไปแล้วก็จบ ผมไม่ใช่คนดัง เรื่องภาพลักษณ์ก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น” เรียวจันทร์เม้มปาก นึกสงสัยอะไรกับตัวเองไปเรื่อยเปื่อย ไอ้เขี้ยวกุดต้องการจะบอกว่าไม่ได้คิดอะไรสินะ  เหมือนจะดีที่หมอนี่รับงานคู่กับเขา แต่จริงๆ เหมือนต้องการจะบอกว่าทำได้เพราะไม่ได้คิดอะไรด้วยมากกว่า 


ย่ะ! แนวคิดบาดคมเหลือเกิน เพราะชายแท้ทั้งหลายที่เรียวจันทร์ร่วมงานด้วย เขาก็จะทำงานกันตามปกติ งานคืองาน ไม่ได้กังวลเรื่องภาพพจน์อะไรทั้งนั้น


“โอเค งั้นหวานใส่กันไปเลยนะครับ เวลาผมบอกให้มองตาก็สื่อสารหากันให้ชัดเจน ใกล้ชิดกันก็ส่งเคมีออกมาให้ฟุ้งไปเลย สวยกับหล่ออยู่ด้วยกัน มันเป็นเรื่องที่ชวนฟิน เป็นเหมือนคู่รักหนุ่มคาวบอยกับคาวเกิร์ล”


ทั้งสองคนนั่งฟังช่างภาพเล่าว่าต้องการอะไรบ้างในงานอย่างตั้งใจ มีบรรณาธิการคอยเสริมบ้างเป็นบางจังหวะ หลังจากคุยกันประมาณสิบนาทีได้ ทั้งคู่ก็ปล่อยให้ช่างหน้าช่างผมจัดการตัวเอง พอแต่งเสริมเติมหล่อกันเสร็จก็ไปเปลี่ยนชุด เรียวจันทร์ใส่เชิ้ตขาวบางตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลอ่อน ใส่รองเท้าบู๊ทสีน้ำตาลเข้ม และมีหมวกหมวกคาวบอยสีน้ำตาลเข้มอีกใบไว้ใช้เป็นพร็อพ


คมเขี้ยวมาในลุคส์ที่ไม่ได้ต่างจากชีวิตประจำวันสักเท่าไหร่ ก็แค่ดูหล่อคมกริบขึ้นเพราะการทำผม เหมือนได้เก็บลายความหล่อให้ชัดกว่าเดิม เสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีน้ำเงินสลับขาวพับแขน แหวกออกให้เห็นแผงอกแน่นๆ ชายเสื้อปล่อยออกนอกกางเกงยีนสีดำ รองเท้าบู๊ทสีเดียวกับเรียวจันทร์แต่ส้นหนากว่าทำให้คมเขี้ยวสูงขึ้นอีกนิด ที่ข้อมือซ้ายใส่นาฬิกาสีดำของแบรนด์ที่เป็นสปอนเซอร์ในการถ่ายแบบครั้งนี้ เรียวจันทร์เหลือบมองอีกฝ่ายในตอนที่มายืนอยู่ใกล้กัน เป็นจังหวะเดียวกับที่คมเขี้ยวกดหน้าก้มมองเรียวจันทร์พอดี


“อ้อ เอ่อ หล่อเหมือนทุกวันเลย” เรียวจันทร์พูดเพื่อทำลายจังหวะเงอะงะของตัวเองที่เกิดขึ้นตอนประสานสายตากันอย่างไม่ได้ตั้งใจ คมเขี้ยวยักคิ้วสองข้างตอบกลับมา


“เดี๋ยวเรียวไปยืนซ้อนด้านหน้าของเขี้ยว แล้วเขี้ยวโอบเอว เรียวยกแขนขวาคล้องคมเขี้ยวไว้ เอาแก้มชิดกับคางของเขี้ยว ใช่ๆ อย่างนั้นละ…” ทั้งสองคนสบตากัน คมเขี้ยวมองดวงตาเหมือนกวางน้อยของเรียวจันทร์นิ่งสงบ เรียวจันทร์ถึงกับเกิดอาการประหม่า


“ยังไม่ต้องรีบร้อนมองตากันนะ เดี๋ยวมองกล้องก่อน” ช่างภาพแซว เสียงหัวเราะทีมงานดังเบาๆ นางแบบและนายแบบละสายตาออกจากกันแล้วหันไปมองกล้อง แต่ใบหน้าของทั้งสองยังคงใกล้ชิดติดกัน เรียวจันทร์พยายามกลั้นขำ เพราะรู้สึกจั๊กจี้เคราของคมเขี้ยว


“ขำอะไรเนี่ยคุณนาย” เรียวจันทร์หันไปจะมองหน้าคมเขี้ยว แต่จมูกดันไปโดนแก้มอีกฝ่าย คุณนายแกเลยเอนหน้าถอยหลังห่างนิดหนึ่งแล้วก็ยิ้มขำ


“หนวดนายคันดีอะ” เรียวจันทร์หัวเราะขบขัน คมเขี้ยวเผลอยิ้มขำไปด้วย เสียงชัตเตอร์ดังรัวๆ ก่อนที่ทั้งสองคนจะหันกลับไปมองกล้องตามเดิม


“ดีครับ… เรียวเชิดหน้าขึ้นนิด เขี้ยวกดจมูกลงบนคอเขาเบาๆ… ช่าย แบบนั้น เคมีดีมาก…” เรียวจันทร์เผลอกลั้นหายใจตอนที่คมเขี้ยวกดจมูกลงบนซอกคอตัวเองแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดเบาๆ มือขวาที่แปะอยู่ช่วงท้ายทอยของอีกฝ่าย เผลอเลื่อนขึ้นขยุ้มเส้นผมแน่น


“จิกหัวผมทำไม” คมเขี้ยวกระซิบถาม


“ฉันเสียวอะ ขนฉันลุกไปหมดแล้ว” คมเขี้ยวยิ้มมุมปากอย่างขำๆ เลื่อนจมูกตัวเองขึ้นไปบนขมับของคนในอ้อมแขน แล้วกระซิบเสียงแผ่ว


“ถ่ายแบบนะคุณ ไม่ได้มีเซ็กส์กัน…” เรียวจันทร์ปล่อยมือออกจากเส้นผมของคมเขี้ยว แล้วหันตัวเข้าหาคนตัวโต แหงนหน้ามองอีกฝ่ายด้วยสายตาเชิญชวนแบบที่ลึกๆ ในใจของคมเขี้ยวก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า


ยั่วยวนดี…


“เออ… ดีครับ ไหลไปเลย” เรียวจันทร์วางมือลงบนอกเปลือยที่ไม่ได้ติดกระดุมเสื้อ แล้วตอนนั้นเองที่คมเขี้ยวลืมตัวที่จะละสายตาออกจากดวงตาและใบหน้าของเรียวจันทร์ เขามองหน้าสวยหวานเกินชายของเรียวจันทร์ราวกับโดนสะกด เรียวจันทร์กรีดยิ้มน้อยๆ มือขวาลูบอกซ้ายของคมเขี้ยวเบาๆ ปลายจมูกของทั้งสองคนชนกันแผ่วๆ ริมฝีปากสีชมพูสดกับริมฝีปากสีแดงอ่อนอยู่ห่างกันเพียงนิดเดียว


“โอ๊ย ยังไงน่ะ ยังไง จะได้กันมั้ย” บรรณาธิการสาวว่าด้วยเสียงตื่นเต้นเบาๆ อยู่ตรงหน้าจอแม็คบุ๊คที่มีภาพจากกล้องถูกทรานส์เฟอร์ลงมาแบบเรียลไทม์ 


“เยี่ยมมาก เดี๋ยวเปลี่ยนท่าใหม่นะครับ” ช่างภาพลดกล้องลง หันไปดูภาพที่หน้าจอทันที ทิ้งให้นายแบบทั้งสองคนยืนมองตากันค้างครู่หนึ่ง ก่อนที่เรียวจันทร์จะเป็นฝ่ายค่อยๆ ถอยหน้าออกพร้อมยิ้มกรุ้มกริ่ม คมเขี้ยวเหมือนหลุดออกจากมนตร์สะกด เขามองหน้าเรียวจันทร์ค้างอีกสักพัก แล้วก็เลื่อนสองมือที่โอบบั้นท้ายอีกฝ่ายไว้ออก


“ฉันชอบโมเม้นต์นี้จัง” เรียวจันทร์ยิ้มกว้างแล้วยักไหล่ คมเขี้ยว (แสร้ง) ขบกรามแน่นแล้วมองอีกคนเอือมๆ เรียวจันทร์ยื่นมือขวาไปเกาคางคมเขี้ยวเบาๆ เจ้าตัวทำเพียงเอนหน้าหนี เรียวจันทร์หัวเราะคุคิๆ คนเดียว


“เดี๋ยวเขี้ยวนั่ง แล้วเรียวนั่งตักเขี้ยวนะ” หลังจากเช็กภาพเสร็จ ตากล้องก็หันไปบอกนายแบบทั้งสอง ทีมงานกำลังจะยกเก้าอี้ไม้เข้าไปในเซ็ทแต่ตากล้องโบกมือปฏิเสธ


“เดี๋ยวนั่งบนกองฟางเลย” ช่างภาพหนุ่มเดินเข้าไปบอกทีมงานว่าต้องการอะไรวางไว้ตรงไหน จัดยังไง นายแบบทั้งสองยืนรอทีมงานจัดฉากอยู่ข้างๆ กัน เรียวจันทร์ยื่นมือไปดึงมือคมเขี้ยวให้ถอยห่างทางเดินของทีมงานเพื่อให้ทุกคนทำงานได้สะดวกขึ้น


“มาครับ เดี๋ยวเขี้ยวนั่งนี่ แล้วเรียวก็ตามไปนั่งทับตักเขาไว้” คมเขี้ยวนั่งลงบนกองฟาง ตากล้องจัดให้เขานั่งแหวกขาเพื่อให้เรียวจันทร์เดินเข้าไปตรงกลางแล้วหย่อนก้นลงบนต้นขาซ้ายของเขาได้ เรียวจันทร์นั่งลงพร้อมกับยกแขนขวาคล้องคอหนาของชายหนุ่ม 


“มองหน้ากัน แล้วยิ้มให้กัน ถ้าผมเรียกก็ค่อยหันมานะ” ทั้งสองคนพยักหน้ารับคำสั่งนั้น เรียวจันทร์หันไปมองหน้าคมเขี้ยวที่มองก่อนอยู่แล้ว คุณนายแกอมยิ้มเขินแวบหนึ่ง แล้วเลื่อนสายตาหนีไปมองทางอื่นเพื่อไม่ให้เขินไปมากกว่านี้


“เขินได้ด้วยรึไง” คมเขี้ยวถาม ริมฝีปากกึ่งยิ้มกึ่งขำ เรียวจันทร์เลื่อนสายตากลับมามองหน้าหล่อๆ ของคมเขี้ยวตามเดิมแล้วก็หลับตาปี๋แวบหนึ่งก่อนจะลืมขึ้นมองหน้าอีกฝ่าย และพยักหน้าสองสามที คมเขี้ยวย่นคิ้ว แต่ใบหน้าก็เปื้อนยิ้มขบขัน เรียวจันทร์เขินจัดเลยแก้เขินด้วยการเอาหน้าผากตัวเองไปชนกับหน้าผากคมเขี้ยวเบาๆ หลับตาลงเพื่อไม่ให้ตัวเองเห็นหน้าอีกฝ่าย


“เมื่อกี้ยังยั่วอยู่เลย” คมเขี้ยวกระซิบ เสียงชัตเตอร์ดังไปเรื่อย แต่เหมือนทั้งสองคนก็อยู่ในโลกของตัวเองกันไป พอตั้งสติได้ เรียวจันทร์ก็ลืมตาขึ้นมองตาคมเขี้ยวที่มองเขาตาเป็นประกาย เรียวจันทร์ดึงหน้าตัวเองออกแล้วยกยิ้มมุมปาก จากนั้นก็ตั้งสติให้อยู่กับงาน


“หันมาทางกล้องเลยครับ” ทั้งสองคนหันไปมองกล้อง ถ่ายได้ห้าหกภาพ คุณนายแกก็เลื่อนตัวเองลงไปนั่งตรงกลางหว่างขาของคมเขี้ยว


“อ้า ดี ดี โอเค ผมชอบ” เรียวจันทร์ดึงแขนคมเขี้ยวมาโอบรอบเอวตัวเอง และใช้สองมือจับหลังมือคมเขี้ยวไว้เบาๆ แล้วก็เอนหัวซบอกของของคนตัวโต


“อกนายอุ่นจัง” เรียวจันทร์ว่ายิ้มๆ ทั้งที่สายตามองกล้อง คมเขี้ยวก้มมองรอยยิ้มเล็กๆ ที่ผุดขึ้นบนใบหน้าสวยผุดผ่อง


“หัวใจเต้นหนักเหมือนกันนะ…” คมเขี้ยวชะงัก ผ่อนลมหายใจเบาๆ ยาวๆ แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองกล้อง แต่สักพักก็ต้องก้มลงไปมองหน้าเรียวจันทร์ใหม่เพราะเสียงกระซิบเล็กๆ


“…ฉันก็เหมือนกัน เต้นหนักมากเลย” เรียวจันทร์ยิ้มบางเบา สายตายังคงมองกล้อง ไม่ได้แหงนขึ้นสบตาของอีกฝ่าย คมเขี้ยวมองอย่างสับสน กำลังเกิดความรู้สึกงงกับตัวเองว่าว้าวุ่นอะไรอยู่


“ดีครับ ดีมาก เดี๋ยวเปลี่ยนชุดใช่มั้ยครับพี่…” ตากล้องหันไปถามสไตล์ลิสต์กับบรรณาธิการ และปรึกษาอะไรกันสักอย่าง


เรียวจันทร์ยังคงนั่งพิงอกของคมเขี้ยว โดยที่เจ้าของอกอุ่นก็นั่งนิ่งให้พิงโดยที่ไม่ได้ผลักไสไล่ส่ง มือหนายังคงวางไว้ที่เอวบางของคนตัวเล็ก คมเขี้ยวเม้มปาก เงยหน้าขึ้นมองรอบโรงนาแล้วก็วกกลับมามองใบหน้าสวยๆ อีกที เรียวจันทร์แหงนหน้าขึ้นมองแล้วส่งยิ้มจิ้มลิ้มมาให้ คมเขี้ยวขบกรามจนสันกรามขึ้นนิดๆ


“ไปเปลี่ยนชุดกันดีกว่าเนอะ” เรียวจันทร์ยิ้มกว้างแล้วก็ลุกขึ้นยืน เอื้อมมือไปดึงมือคมเขี้ยวใหลุกขึ้นตาม และเดินจูงมือคนตัวโตไปทางโซนเสื้อผ้าด้วยกัน


 :hao7:

เขาใกล้ชิดกันขึ้นมาอีกนิดแล้นนะคะ อะคริๆ เต๊าะนิดเต๊าะหน่อย อ่อยเบาๆ เข้าทางแม่เรียวมากทีเดียว  :hao6:

งานนี้พี่เขี้ยวของเราถูกจับได้ว่าใจเต้นด้วย แอร๊ยยยย พี่เขี้ยวหวั่นไหวกับความน่ารักของแม่เรียวชิมิล่ะ ฮิๆ แหมมม ก็แม่เรียวออกจะน่ารัก ถ้าตัดนิสัยผีๆ ที่แม่มีออกไป แม่ก็เป็นคนน่ารักมากนะ 5555

ตอนนี้พี่เขี้ยวคะแนนเพิ่มขึ้นอีกนิดละเนาะ หุๆ ค่อยๆ มา มาทีหลังต้องปังๆ นะพี่เขี้ยว เสี่ยเขานำไปไกลแล้ววว

ส่วนคุณเสี่ยเริ่มขู่แม่เรียวนิดหน่อย แต่ก็ยังมาวินในใจสาวๆ อยู่สินะ เรารู้ 55555

เจอกันกับที่เหลือค่าาา

สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้ว่า #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/35% :24.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 24-09-2016 18:34:08
โอ้ยยยย อ้อยยยยจ๊น ขุ่นแม่เรียวว ลุ้นให้อิตาเขี้ยวหวั่นไหวเร็วๆ 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/35% :24.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-09-2016 18:56:21
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/35% :24.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 24-09-2016 19:40:08
ถ้าพี่เขียวยังเคลิ้มไปกับคุณนายแกอย่างนี้นะ คงตกหลุมคุณนายแกซักวัน 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/35% :24.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-09-2016 20:55:49
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/35% :24.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 24-09-2016 21:32:53
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/35% :24.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 24-09-2016 23:26:17
อิเสี่ยมีขู่กันด้วยย อย่านะ เดี๋ยวให้พี่เขี้ยวจัดการเลย :hao5:
ตอนนี้พี่เขี้ยวเริ่มทำคะแนนแล้ว ฮิฮิ จะสปาร์คกันก้งานนี้แหละค่าาา สู้เค้าแม่เรียววว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/35% :24.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 24-09-2016 23:26:36
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/35% :24.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 24-09-2016 23:32:07
เขินนนนยยยยย มียั่วเย้ายั่วยวนด้วยรออค้าาาา :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/35% :24.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 24-09-2016 23:39:50
ในที่สุดพี่เขี้ยวก้อเริ่มทำให้แม่เรียวหวั่นไหวนิด ๆ แหละ ได้ใจเรามาหน่อยไม่งั้นโดนเสี่ยทิ้งไปไกลลิ่วเลยน่ะ ส่วนพี่เขี้ยวเริ่มมองเห็นเสน่ห์ของแม่เรียวแล้วสิ ตอนนี้เสี่ยออกลายให้แม่เรียวได้เห็นมากขึ้นแหละ ระวังตัวหน่อยน่ะจ้ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/35% :24.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 24-09-2016 23:55:58
ว้ายยย มีใจเต้นกันด้วยค่าา ใกล้กันอีกนิดแล้วว ทีมคมเขี้ยวโอนลี่ค่าา
ส่วนเสี่ยไปแล้วไปลับไม่ต้องกลับมาจะดีมากก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๒/70% :17.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 25-09-2016 11:18:33
เสี่ยน่ารัก

ขอ 3p เลยเถอะ แต่กลัวเสี่ยจะไม่ยอมแบ่งนางกับใคร

3Pๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มีเปิดโหวตม้ายยค้าาา


ว้ายยยย สามพีเลยเหรอ 555555 แม่เรียวจะหมดแรงน่ะสิคะ คริๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/35% :24.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: yin ที่ 28-09-2016 17:25:08
OMG!!  คุณเขี้ยวจะโดนแม่นางจับกินตับแล๊ว...เขินมากซีนนี้ อยากให้ขุ่นแม่เธอบอกความจริงไปซะไม่งั้นมีมาม่าแน่อ่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/70% :28.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 28-09-2016 18:58:30

คาถาที่ 13 [70%]




เซ็ทถัดมาเป็นการถ่ายในคาเฟ่ กับตีมคู่รักเข้าครัวทำอาหารเช้า ทีมงานเซ็ทฉากเค้าน์เตอร์ของคาเฟ่ให้กลายเป็นครัวแสนเก๋ เรียวจันทร์นั่งอยู่บนเค้าน์เตอร์ คมเขี้ยวยืนตรงกลางระหว่างขาเรียวจันทร์ ทั้งคู่อยู่ในชุดนอน คุณนายแม่ยังคงเป็นเชิ้ตขาวตัวใหญ่ ด้านล่างใส่เพียงบ็อกเซอร์ ส่วนคมเขี้ยวใส่เสื้อกล้ามสีดำโชว์กล้มแขนกับแผงอกแพลมๆ ด้านล่างใส่ขายาว ช่วงที่รอช่างภาพจัดแสง ลองกล้อง เรียวจันทร์ก็ยกมือช่วยจัดทรงผมของคมเขี้ยวให้มันดูยุ่งขึ้นอีกนิดแบบคนที่เพิ่งตื่นนอน คมเขี้ยวยืนนิ่งให้อีกฝ่ายช่วยจัดผม เขาเห็นเศษฟางเล็กๆ ติดอยู่บนผมเรียวจันทร์เลยยื่นมือขวาไปดึงออกให้ แล้วก็ยืนนิ่งให้คุณนายแกช่วยยีหัวเบาๆ



“ทรงผมเหมือนเพิ่งมีเซ็กส์มาหมาดๆ” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่มหลังจากจัดทรงผมให้คมเขี้ยวเสร็จ คนตัวโตยิ้มเอือม ยื่นมือไปดึงฟางเส้นบางๆ อีกเส้นที่ติดอยู่กลางหัวเรียวจันทร์ออก คนหน้าหวานยิ้มกรุ้มกริ่ม ขยิบตาซ้ายให้เป็นการขอบคุณ คมเขี้ยวยกมือซ้ายตีหน้าผากเรียวจันทร์ดังแปะด้วยความหมั่นไส้ ร่างบางหัวเราะน้อยๆ ยกมือซ้ายขวาขึ้นลูบหน้าผากเบาๆ



เสียงชัตเตอร์ดังแชะๆ แต่ทั้งสองคนคิดว่าช่างภาพลองแสง ลองกล้อง แต่จริงๆ ช่างภาพบันทึกภาพเหล่านั้นเอาไว้หมด และกะจะใช้จริงๆ ด้วย



หลังจากถ่ายตรงคาเฟ่เสร็จ ก็เป็นช่วงพักเบรก คมเขี้ยวให้แม่ครัวของฟาร์มยกอาหารมาให้ทีมงานทุกคนนั่งทานกันในโรงนา นายแบบทั้งสองคนนั่งใกล้กันโดยที่เรียวจันทร์ไม่ได้จัดแจงแต่อย่างใด เหมือนนั่งไปตามอารมณ์ ว่างไหนนั่งนั่น แล้วเผอิญที่นั่งดันใกล้กัน




“เอ่อ จะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าจะถ่ายภาพน้องคนนี้เก็บไว้เป็นโปรไฟล์สักนิด” ก่อนที่จะเริ่มกินอาหาร บรรณาธิการสาวก็เอ่ยปากถามไปทางคมเขี้ยวกับเรียวจันทร์และบุ้ยปากไปทางดินที่กำลังวางจานอาหารไว้บนโต๊ะ คมเขี้ยวทำหน้างงไม่เข้าใจพอๆ กับเจ้าตัว เรียวจันทร์เลยหันไปอธิบายให้คนข้างๆ ฟัง



“พี่ปุ๋ยกับคุณแม่เขาชอบดิน เขาว่าดินเหมาะจะเป็นนายแบบ” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นสูง ทำหน้าประมาณว่าจริงเหรอ? เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกๆ



“นายจะว่าอะไรมั้ย ถ้าพวกเขาจะขอถ่ายรูปดินเก็บเอาไว้ เผื่อมีงานหน้าที่เหมาะกับดิน เขาจะได้จ้างดินไปทำงานด้วย”



“เอาจริงเหรอ” คมเขี้ยวถามด้วยความตกใจปนประหลาดใจ หันไปมองดินที่ยืนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ก่อนจะหันกลับมาหาเรียวจันทร์อีกรอบ



“ก็แล้วแต่มัน ถ้าเป็นทางดีๆ กับมันผมก็ไม่ขัดหรอก” เรียวจันทร์ยิ้มบางๆ แล้วชะโงกหน้าไปคุยกับดิน บอกดินว่าทีมงานต้องการอะไร ไอ้ดินส่ายหัวหน้าตั้งว่าไม่เอาทันทีที่ฟังจบ



“ถ่ายรูปเฉยๆ ดิน ไม่น่ากลัวหรอก ฉันก็อยู่นี่”



“กูก็อยู่นี่” คมเขี้ยวเสริมให้ลูกน้องตัวเองหายกังวล ปฐพีมองหน้าหน้าทั้งสองคนด้วยความตระหนกเล็กๆ



“ดินไม่เคยอะพี่เขี้ยว ดินทำไม่เป็น”



“ก็แค่ยืนให้เขาถ่ายรูปเฉยๆ เหมือนเวลามึงถ่ายบัตรประชาชนแหละ” เรียวจันทร์ตีไหล่คมเขี้ยวเบาๆ ไปที คนโดนตีหันเลิกคิ้วงงๆ



“ได้ไงล่ะ ทื่อหมดพอดี เอางี้ เดี๋ยวฉันช่วยนะดิน…” เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน “…มาค่ะพี่ ถ่ายตรงไหนบอกได้เลย” นางหันไปถามตากล้องและบรรณาธิการ ทั้งสองคนลุกขึ้นยืน หญิงสาวบอกทีมงานให้ตั้งฉากสีขาว จัดการเซ็ทแสงให้เข้าที่เข้าทาง พอเรียบร้อยก็กวักมือเรียกให้ดินเดินไปยืนตรงกลาง เรียวจันทร์พาพ่อกล้ามโตตัวใหญ่เกินอายุจริงไปยืนตรงกลางฉากสีขาวสะอาดตา ดินประหม่าอย่างเห็นได้ชัด



“ฉันอยู่นี่ๆ ไม่ไปไหนหรอก” เรียวจันทร์ปลอบและยืนอยู่นอกกรอบของฉากสีขาว ช่างภาพยกกล้องขึ้นกดถ่ายลองแสง ดินกะพริบตาถี่ๆ เพราะไม่ชินกับแสงแฟลชที่แรงขนาดนี้



“ผมมึนหัวครับคุณเรียว” ดินว่าหน้ามึนงง เปลือกตาปิดลงเปิดขึ้นสลับไปมา เรียวจันทร์เข้าใจดีเลยเดินเข้าไปนวดขมับทั้งสองข้างของดิน หนุ่มน้อยตัวใหญ่ลืมตามองใบหน้าสวยผ่องของคนอายุมากกว่าแต่ตัวเล็กกว่ามาก ผ่านไปสักพักใบหน้าคร้ามแดดก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง เปลือกตาของดินค้างไม่ยอมขยับ ดวงตาสีดำจ้องมองหน้าเรียวจันทร์แทบไม่สั่นไหวใดๆ



เรียวจันทร์หัวเราะน้อยๆ ดึงสองมืออกจากขมับของดิน “ดีขึ้นรึยัง”



ไอ้ดินพยักหน้าแรงๆ ทั้งที่ตายังมองหน้าคุณเรียวค้างไม่ขยับ เรียวจันทร์หันไปยกมือว่าโอเคกับช่างภาพแล้วเดินถอยห่างออกมา จังหวะที่จะหันไปคุยกับบรรณาธิการสาว สายตาก็หันไปเจอกับใบหน้านิ่งสนิทของคมเขี้ยวตรงโต๊ะกินข้าว แต่สักพักก็เลื่อนสายตากลับมาคุยกับบ.ก.สาวต่อ



“อย่าเพิ่งให้น้องเขาไปทำงานกับคนอื่นนะยัยเรียว ให้พี่เปิดซิงน้องก่อนเป็นที่แรก” นายแบบหนุ่มยิ้มขำ แล้วก็รับปากว่าจะไม่ให้ดินไปทำงานกับใครก่อนนอกจากหล่อน



“ถอดเสื้อหน่อยครับ”



“หะ… ฮะ ถอดเสื้อเหรอ” ไอ้ดินอุทานเบาๆ ด้วยความตกใจ มันหันไปมองคุณเรียวเป็นคนแรก เรียวจันทร์เลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นแล้วพยักหน้าสองสามที



“แปบเดียวได้มั้ย คิดซะว่าเหมือนถอดตอนอาบน้ำให้ม้าไง”



“แต่ม้ามันไม่มีกล้องนะครับคุณเรียว” เรียวจันทร์ ช่างภาพและบรรณาธิการที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉากถึงกับหัวเราะชอบใจกับความซื่อของอีกฝ่าย คนที่นั่งกินข้าวอยู่ตรงโต๊ะชะเง้อมองยิ้มๆ คมเขี้ยวมองสลับเรียวจันทร์กับดินใบหน้าเรียบเฉย



“อะ ถือว่าถอดให้ฉันดูก็ได้ นะ ดินหุ่นดีจะตาย ฉันบอกดินออกจะบ่อย จำได้มั้ย”  ปฐพีพยักหน้าหงึกๆ แล้วดึงเสื้อยืดสีเทาออกจากตัว วินาทีที่ทีมงานทุกคนเห็นหุ่นของดินก็ต่างพากันส่งเสียงอู้ อ้า ซี๊ด ซ๊าด เว้นเรียวจันทร์กับคมเขี้ยวที่เคยเห็นแล้ว



“หุ่นดีจังเลย นี่ถ้าเข้าฟิตเนสเป็นเรื่องเป็นราวจะเฟิร์มมากเลยนะ” ช่างแต่งหน้าของกองวันนี้บอกอย่างชื่นชม หุ่นของชายหนุ่มเป็นสัดส่วนชัดเจน แต่ถ้าให้เทรนเนอร์ช่วยเทรนเก็บลายกล้ามอีกสักหน่อย บอกได้เลยว่าผู้ชายคนนี้จะเป๊ะยิ่งขึ้น



“ไม่ต้องเกร็งนะครับ ยืนตรงๆ ธรรมดาๆ เลย” เรียวจันทร์ส่งยิ้มให้กำลังใจดิน เด็กหนุ่มตัวโตยิ้มนิดหน่อย แล้วยืนตรงนิ่งๆ ให้ช่างภาพกดถ่ายภาพตนเอง พอช่างภาพบอกให้หันก็หันตามที่เขาบอก หัวไปจนครบสี่ด้านและปิดท้ายด้วยการที่ช่างภาพขอให้เรียวจันทร์ถ่ายคู่กับดินสักสี่ห้าภาพ



“เรียวเข้าไปยืนด้านหน้าน้องเขาเลย” เรียวจันทร์เดินเข้าไปหาดินพร้อมส่งยิ้มให้ ดินยิ้มเก้กัง เรียวจันทร์หันแผ่นหลังไปชิดกับด้านหน้าของดิน นางรับรู้ได้เลยว่าคนข้างหลังเกร็งไปทั้งตัว



“วันนี้ฉันเก็บคุ้มมาก ซ้อนสองเลยค่ะ” เรียวจันทร์หัวเราะสดใส ทีมงานหัวเราะกันเบาๆ ดินยืนเกร็ง แขนแนบลำตัวตรงอย่างกับกำลังเคารพธงชาติ เรียวจันทร์ต้องเป็นฝ่ายดึงแขนของดินมาโอบเอวตัวเอง



“นี่ แบบนี้ โอบไว้ ไม่ต้องเกร็ง ถ้าดินเกร็งฉันจะถือว่าดินรังเกียจฉัน”



“เปล่านะครับ ดินไม่รังเกียจเลย แต่ดินเขิน” เรียวจันทร์หันไปยิ้มกว้างให้ดิน ไอ้ตัวโตหน้าเคลิ้มไปกับรอยยิ้มนั้น แขนล่ำๆ ทั้งสองข้างเริ่มคลายอาการเกร็ง ลำตัวก็เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น



“มองกล้องพร้อมฉันนะดิน” เรียวจันทร์บอกเสียงเบาในขณะที่สายตามองกล้อง ดินหันไปมองบ้าง แล้วโดยที่ไม่รู้ตัว ดินก็กระชับอ้อมแขนตัวเองแน่นขึ้น ร่างของเรียวจันทร์แนบชิดติดกับร่างใหญ่ๆ ของดินกว่าเดิม



แชะ แชะ แชะ



“โอเค ขอบคุณมากนะครับน้องดิน” ตากล้องวางกล้องไว้บนโต๊ะไม้ที่มีแม็คบุ๊ควางอยู่ แต่ไอ้ดินยังคงกอดเรียวจันทร์ไว้แน่นไม่ยอมปล่อย



“ดิน ถ่ายเสร็จแล้วนะ” เรียวจันทร์หันไปบอก ไอ้ดินกลืนน้ำลายลงคอแล้วก็พูดเสียงอ่อย



“ดินไม่กล้าขยับครับ เอ่อ…” แก้มเข้มๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ “…มันแข็งอยู่” เรียวจันทร์เบิกตากว้างอ้าปากหวอ ไอ้ตัวโตทำหน้ารู้สึกผิด แต่แทนที่ยัยคุณนายจะกังวลนางกลับปริ่มในอก



“แสดงว่าเสน่ห์ทางเพศของฉันก็รุนแรงพอตัวเลยนะเนี่ย” ไอ้ดินยิ้มแห้ง เรียวจันทร์หัวเราะกิ๊ๆ



“ไอ้ดิน เขาถ่ายเสร็จแล้ว มึงก็ปล่อยเขาได้แล้วมั้ง” เสียงทุ้มห้วนๆ ของคมเขี้ยวดังขึ้น เรียวจันทร์หันไปมองพ่อคาวบอยเจ้าของฟาร์มที่มองมาที่ทั้งสองคนนิ่งสนิท ดวงตาคมๆ มองทั้งสองไม่กะพริบเปลือกตาสักนิด



“แปบนึง ดินไม่เคยเลยเป็นตะคริวอยู่” เรียวจันทร์แถหน้ามึนๆ ปล่อยให้ดินกอดเอวตัวติดกันโดยไม่คิดอะไร คมเขี้ยวขบกรามแน่น มองหน้าแม่ตัวดีอย่างเอือมระอาสักพักค่อยหันไปสนใจจานข้าวของตัวเอง



“ดีขึ้นรึยังดิน” ไอ้ดินยิ้มแห้ง ส่ายหัวช้าๆ



“คือเวลาดินขึ้นแล้วมันลงยากอะครับคุณเรียว”



“โอ้ยตาย” เรียวจันทร์อุทานเบาๆ ค่อยๆ ดึงมือดินออกจากเอว หมุนตัวออกจากตัวดินแล้วกระเถิบถอยหลังไปนิด ตรงเป้าดินถ้าไม่สังเกตก็คงคิดว่าเป็นเป้ากางเกงโป่งพองธรรมดาๆ



“ใส่เสื้อก่อน แล้วไปนั่งกินข้าวกัน ถ้ายังไม่ลง ดินค่อยไปปลดปล่อยในห้องน้ำ เนอะ” ไอ้ดินพยักหน้า สีหน้ารู้สึกผิด



“ดินขอโทษนะครับที่คุมมันไม่ได้” เรียวจันทร์เบิกตากว้างแล้วพูดเสียงตำหนิ



“จะไปคุมได้ไงล่ะดิน ไม่ต้องซีเรียส ฉันเข้าใจ อยู่ใกล้คนสวย มีเซ็กส์แอพเพียลสูงๆ อย่างฉัน มันก็ต้องคอนโทรลยากเป็นธรรมดา” ดินใส่เสื้อกลับเข้าไปตามเดิม พอใส่เสร็จก็พูดเสียงอ่อย



“เดี๋ยวดินออกไปเลยดีกว่าครับ” เรียวจันทร์ยิ้มขำ



“ไม่ไหวแล้วเหรอ” ไอ้ดินกลืนน้ำลายลงคอแล้วพยักหน้าหนึ่งที คุณนายยิ้มกริ่มแล้วพยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงบอกให้ดินไป พ่อตัวโตเดินไปยกมือไหว้ทีมงานทุกคนที่ตอบรับอย่างเป็นมิตรแล้วก็รีบเดินออกไปจากโรงนา



“กับข้าวอร่อยมั้ย” เรียวจันทร์ถามคมเขี้ยวตอนที่กลับมานั่งลงที่เดิม



“มีปากก็ลองกินเองสิ จะมาถามทำไม” พ่อคาวบอยว่าหน้านิ่งเสียงห้วน ยื่นมือไปตักกับข้าวใส่จานต่อโดยไม่สนใจเรียวจันทร์



“อ่อค่า คุณคมเขี้ยว” คุณนายมองจิกไปหนึ่งที แล้วก็ไม่สนใจไอ้เคราแพะเหมือนกัน หันไปตักอาหารใส่จานตัวเองแล้วชวนทีมงานคนอื่นคุยไปเรื่อยเปื่อย



 :hao7:


ดินนนนน ดินแข็งงงง กรี๊ดดด ดินแย่งซีนนะค้าาา แอร๊ยยยย >..< ขึ้นแล้วลงยากด้วย ตายๆ พอ่คุณเอ๊ยยย คริๆ

แต่ถามแม่เรียวรู้สึกยังไง นางชอบค่ะ 55555 สวยมีเซ็กส์แอพเพียลแบบนาง ปลุกอารมณ์ชายได้ นางชอบบบบ เพราะนางจะรู้สึกว่าสวยมาก

เนาะ ก้ตามประสาของแม่เขาเนาะ

พี่เขี้ยวและหงุดหงิดๆ ป้ะคะ หึงแม่เหรอ หรือยังไง แน่ะ! กิ้ววววๆ

มาต่อให้อีกนิดค่ะ อยากอัพพพ เลยเขียนมาให้ก่อน เดี๋ยวมาต่อเร็วๆ นี้แน่นอนค่าาา  :mew1:

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยนะคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/70% :28.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 28-09-2016 19:37:02
ตายแล้ว แม่เรียวเสน่ห์แรงจริงอะไรจริง ทำน้องดินของขึ้นได้โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยยย ฮิฮิ
 
กะควบสอง พี่เขี้ยวคะ หึงก้บอกว่าหึงไรงี้ ทำเข้มอยู่ด้ายย  :hao3:

รอวันที่พี่เขี้ยวจะตกหลุมแม่เรียวเข้าซักวัน อิ๊ๆ เสี่ยก้เสี่ยเถอะ นี่ถึงในใจลึกๆจะเชียร์เสี่ย แต่ก้รู้ว่าอิเสี่ยมันก้ไม่ดีอ่านะ  :katai1:

ชอบเรือ่งนี้ ถ้าทำเล่มมีซื้อเก็บแน่นอนค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/70% :28.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 28-09-2016 19:49:09
เอิ้กกๆ อิแม่ ดินก็ไม่เว้นงี้แหละคนสวยย :mew2:
พี่เขี้ยวรู้สึกหึงและขัดตาใช่มั้ยค่ะ เสียงห้วนเชียววววว :mew3: :katai3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/70% :28.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 28-09-2016 19:56:28
หนุ่มน้อยคนซื่อ ถถถถถถ ดินแข็ง!!!
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/70% :28.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-09-2016 19:57:51
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/70% :28.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-09-2016 20:00:05
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/70% :28.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: palette_burgundy ที่ 28-09-2016 20:40:07
 :jul1: เขิน ไม่ไหวแล้ว
ดินน่ารัก  :o8:
รอนะครับคุณคนเขียน สนุกมากๆเลย  :bye2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/70% :28.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 28-09-2016 21:51:03
น้องดินนนนน ถ้าไม่มีพี่เขี้ยวอยู่นี่จะเชียร์น้องดินให้จีบเรียวเลยนะนิ
แล้วก็พี่เขี้ยว ความหมันไส้โดยรู้ตัวเป็นบ่อเกิดของความหึงไม่รู้ตัวนะค้าาาาา ^^
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/70% :28.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 30-09-2016 01:34:42
ถ้าจะบอกว่าชอบเสี่ยมากกว่าพี่เขี้ยวจะผิดมั้ย  :hao7: แต่เสี่ยดูมีอะไรแอบแฝงเยอะมากเลย แต่ก็เร้าใจ ทีมเสี่ยจ้าาาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/70% :28.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 30-09-2016 01:59:40
ดินแข็ง แฮกๆ หอบหื้่นเลย ดินแย่งซีน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/70% :28.09.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 30-09-2016 05:47:22
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-10-2016 19:25:35


คาถาที่ 13 [100%]



“ขอบคุณคุณคมเขี้ยวมากนะคะ เป็นเกียรติมาก และดีใจมากที่คุณเขี้ยวยอมมาถ่ายแบบให้กับเรา” บรรณาธิการสาวยกมือไหว้อย่างอ่อนช้อย เจ้าของฟาร์มยิ้มกว้างพร้อมกับยกมือไหว้


“ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของคุณคมเขี้ยวด้วยค่ะ” หล่อนหันไปยกมือไหว้ผู้สูงวัยทั้งสองคนที่มาชมการถ่ายแบบในช่วงสองเซ็ทสุดท้าย


ตอนที่ถ่ายเซ็ทสุดท้ายตรงม้าหมุนเสร็จ ก็เป็นช่วงที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ทิ้งไว้แต่แสงสีส้มอมน้ำเงินตัดกับยอดเขาสีเขียวอย่างสวยงาม ช่างภาพพึงพอใจกับงานวันนี้เป็นอย่างมาก ทีมงานทุกคนแฮปปี้ในการทำงานกับคมเขี้ยวและเรียวจันทร์ ทั้งสองคนทำงานด้วยง่าย สบายๆ ไม่เรื่องมาก เรียวจันทร์ช่วยคมเขี้ยวเรื่องการถ่ายแบบได้เยอะ เลยทำให้ช่างภาพไม่เหนื่อยมาก ทั้งกองอมยิ้มไปกับความเข้ากันของทั้งสองคน เรียกได้ว่าเคมีระหว่างสองคนนั้นอัดแน่น แม้หลังจากกินข้าวเสร็จคมเขี้ยวจะคุยกับเรียวจันทร์น้อยลง หรือเอาเข้าจริงแทบไม่คุยเลยด้วยซ้ำ มีแต่เรียวจันทร์ที่จ้อไปเรื่อย แม้ชายหนุ่ม (แท้) จะไม่ค่อยตอบโต้ แต่แม่คุณนายก็เจื้อยแจ้วไปกับทีมงานอย่างสำเริงสำราญ


 แม้จะไม่ค่อยพูดกัน แต่แค่ทั้งสองคนอยู่ใกล้กัน มันก็ชวนมองมากแล้ว


“หนังสือออกแล้วขอฟรีสักเล่มนะ แม่เขาเก็บสะสมทุกเล่มที่มีไอ้เขี้ยว” เมฆาเอ่ยยิ้มๆ กับบอกอสาวที่หัวเราะเบาๆ



“โอ๊ย ปุ๋ยให้สิบเล่มเลยค่ะ แล้วเดี๋ยวแถมเซ็ทเบื้องหลังมาให้คุณแม่เป็นกรณีพิเศษด้วย” สองสามีภรรยายิ้มกว้าง หันไปมองลูกชายที่ทำหน้าหงุดหงิด และเบี่ยงหน้าหนีเรียวจันทร์ที่กำลังจะยื่นมือไปช่วยเช็ดหน้าด้วยสำลีให้


“นายเป็นอะไรเนี่ย ตอนแรกก็ปกติ ตอนนี้โดนผีเจ้าที่เข้าสิงเหรอ” เรียวจันทร์ว่าอย่างงงๆ ผสมหงุดหงิดเล็กๆ กับท่าทีหมางเมินเหินห่างกะทันหันแบบนี้


คมเขี้ยวมองแม่คุณนายหน้าเฉย แล้วตอบเสียงเรียบ “งานเสร็จ หน้าที่ผมจบ”


เรียวจันทร์บิดปาก วางสำลีที่ชุ่มไปด้วยโทนเนอร์ลงบนโต๊ะ “อ๋อ ถอดหัวโขนออกแล้วสินะ”


“อือ” คมเขี้ยวรับคำสั้นๆ พร้อมกับยักคิ้ว เรียวจันทร์ยกสองแขนกอดอกมองหน้าคมเขี้ยวด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่


“แอคติ้งเก่งนี่”


“คุณก็น่าจะชินกับอะไรแบบนี้นะ” เรียวจันทร์เม้มปากเบาๆ เลื่อนสายตาไปมองทางอื่นแล้วก็เดินออกไปจากตรงที่คมเขี้ยวยืนอยู่


“หนูเรียว เดี๋ยวขึ้นไปกินข้าวด้วยกันนะลูก” เรียวจันทร์แค่นยิ้มให้กับแม่นายคมเขี้ยวและพยักหน้านิดหน่อยก่อนที่จะเดินตรงไปทางออฟฟิศ สองสามีภรรยาหันมองหน้ากันอย่างอิหลักอิเหลื่อแล้วค่อยหันไปมองลูกชายตัวเองที่กำลังเดินมาทางนี้


“แกทำอะไรหนูเรียวอีกรึเปล่าไอ้เขี้ยว” คมเขี้ยวทำหน้างง หันไปมองแผ่นหลังของเรียวจันทร์แว้บๆ ที่เดินเข้าไปในออฟฟิศแล้วก็หันกลับมามองพ่อกับแม่ตัวเอง


“เปล่านี่พ่อ ผมจะไปทำอะไรเขาล่ะ” คุณบัวมองอย่างจับผิด คมเขี้ยวทำหน้าเอือมและเดินหนีพ่อกับแม่ตัวเองไปทางบ้านใหญ่ ผู้สูงวัยทั้งสองคนหันมองหน้ากันครู่สั้นๆ เหมือนสื่อสารกันทางสายตาแว้บหนึ่ง แล้วค่อยหันไปมองทีมงานที่กำลังเก็บของกันเรียบร้อยแล้ว


ทางด้านเรียวจันทร์หลังจากเสร็จจากงานก็กลับไปอาบน้ำ แต่งตัวใหม่ เขาเดินมานั่งลงบนเตียง หยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาเพื่อนสนิทตนเอง ในระหว่างรอสายก็ตอบว้อทสแอพของแจเร็ดไปด้วย


“ฮายค่า”


“แกทำอะไรอยู่อะ”


“ออกมาช้อปปิ้งกับแม่ แต่คุยได้”


“ฉันหมั่นไส้อีตามคมเขี้ยวอะ” เรียวจันทร์บอกสีหน้าหงุดหงิด


“เอ๊า อยู่ๆ ทำไมมานึกหมั่นไส้เขาล่ะ” เรียวจันทร์จิ๊ปากหนึ่งทีก่อนจะว่าต่อเสียงห้วน


“ฉันหมั่นจนบางทีอยากจะจับหมอนี่ทำผัวให้ได้เร็วๆ”


“อ้าวอีนี่ ผีเคอร์รี่เข้าสิงใช่มั้ย” ศศิประภาหัวเราะร่วนเพราะนึกตลกที่เพื่อนตนเองพูดจาแบบนั้นขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย มีแต่เปียโนกับเชลโล่


“ฉันอยากจะทำให้ไอ้เขียวกุดหลงฉันจนโงหัวไม่ขึ้นจริงๆ!” คุณนายนางว่ากระแทกเสียง หน้าตาหมั่นไส้เต็มประดา ยิ่งนึกถึงหน้าเย่อหยิ่งอวดดีของคมเขี้ยวแล้วยิ่งหมั่น


“นั่นไม่ใช่แจเร็ดนะคะที่จะหลงแกแล้วหลงแกอีก…” คนสวยถอนหายใจแรงๆ กดดูข้อความในวอทสแอพที่หนุ่มอิตาลีส่งกลับมา เรียกรอยยิ้มบนหน้าบึ้งๆ ได้นิดหนึ่ง


“…แล้วไหนว่าแกได้ของดีมาแล้วไม่ใช่เหรอ ก็เอาไปใช้กับเขาซะสิ เขาจะได้เป็นผัวแกสมใจสักที”


“ฉันใช้แน่ย่ะ จะเอาให้น้ำตัวหมดเลย!” เรียวจันทร์ถลึงตาราวกับไอ้เขี้ยวกุดอยู่ตรงหน้าตัวเอง


“ว้ายยย แรงค่ะคุณแม่ แต่คุณแม่จะหมดแรงก่อนน้ำเขาจะหมดตัวป้ะคะ”


“อุ๊ย คิๆ” เรียวจันทร์หัวเราะเขินๆ เพราะดันนึกภาพตัวเองบนเตียงกับคมเขี้ยว หน้าบึ้งๆ เมื่อกี้หายวับไปทันตา


“สงสัยต้องฟิตรูไว้ให้ดีละ ฉันอาจจะเดินขาถ่างไปสามสี่วันนะเป็ด” ว่าแล้วก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดก่อนจะล้มตัวลงบนเตียง ถีบขาดีดดิ้น สั่นตัวไปมาแรงๆ


“นี่ๆ เมื่อกี้แกยังบอกว่าหมั่นไส้เขาอยู่เลยนะ” เรียวจันทร์ชะงัก หยุดดีดดิ้นถีบขาแล้วเด้งตัวลุกขึ้นนั่งตามเดิม สีหน้าสะดีดสดิ้งเมื่อกี้หายวับแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าบูดบึ้งตามเดิม


“ก็ยังหมั่นอยู่นั่นแหละ”


“แล้วสรุปที่หมั่นไส้เขาเพราะอะไร เพราะเขาทำท่าจะไม่เอาแกใช่มั้ย” เรียวจันทร์ทำหน้าเหวอไปนิด รู้สึกหัวใจเจ็บจี๊ดเบาๆ ที่เพื่อนพูดคำนั้นออกมาเต็มรูหู คุณนายแกพ่นลมหายใจแรงๆ หนึ่งทีแล้วว่าต่อเสียงเซ็ง


“เออสิ ใจแข็งพอๆ กับอวัยวะเพศเลยมั้ง”


“ถ้าท้อนักก็กลับบ้านค่ะ กลับมาใช้วิธีที่แกเคยบอก” คุณนายใจหายวาบ วางศอกขวาไว้บนเข่าแล้วใช้มือรองคางเรียวสวยเอาไว้


“แต่บางทีเขาก็ทำให้ฉันมีแรงใจที่อยากจะจับทำผัวอะ” เป็ดที่กำลังเดินๆ อยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตถึงกับขมวดคิ้ว อ้าปากพะงาบๆ จะขำก็ไม่ใช่ จะอึ้งก็ไม่เชิง


“เออ เอาๆ ให้ได้กันก่อนแล้วกัน” ไม่รู้จะแนะนำนังเรียวจันทร์ยังไงแล้วเหมือนกัน เอาเป็นว่าให้นางทำไปอย่างที่ใจนางอยากทำก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยดูผลหลังจากนั้นค่อยหาคำแนะนำให้นางอีกที


“งั้นแค่นี้แหละ ฉันโทรมาระบายเฉยๆ ไปกินข้าวละ ไว้เม้ากันนะ” เรียวจันทร์วางสายจากเป็ดแล้วก็กดเข้าไปตอบข้อความของแจเร็ดในวอทสแอพรัวๆ ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงเคาะประตูออฟฟิศ นางลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนแล้วไปเปิดประตูออฟฟิศ กะว่าเป็นดินเต็มที่ แต่พอเห็นว่าเป็นใครนางก็ทำหน้าเรียบตึง


“คุณพ่อคุณแม่ให้มาตามคุณเรียวไปทานข้าวเย็นด้วยกันค่ะ” อัจฉรายิ้มหวาน เรียวจันทร์คลี่ยิ้มนิดหน่อย ก้าวเดินลงมายืนบนพื้นด้านล่างพร้อมกับดึงประตูไม้ปิดตามหลังด้วย


“อาหารพร้อมแล้วค่ะ วันนี้เอื้องทำมาสมทบด้วย” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง แสร้งทำหน้าตื่นเต้นแว้บเดียว


“ลำบากน่าดูเลยนะคะ” คุณนายแกเอ่ยเสียงหวาน นางพยาบาลสาวยิ้มหวานตอบกลับ แต่แววตานั้นแสนจะมั่นคง


“ไม่ลำบากเลยค่ะ เอื้องทำแบบนี้มานานแล้ว เขี้ยวเองก็ชอบกินอาหารที่เอื้องทำมาให้…” เจ้าหล่อนเว้นวรรคยิ้มกว้างอย่างดีใจสักแปบ


“…เขากินหมดตลอดเลยค่ะ” เรียวจันทร์ยิ้มหึ มองยัยช่อเอื้องด้วยสายตาหมั่นไส้วูบหนึ่ง


“อ๋อ ก็เหมือนกับที่เขากินอาหารที่แม่เขาทำจนหมด หรืออาหารที่แม่ครัวทำจนหมดใช่มั้ยคะ” ใบหน้าอิ่มเอมของยัยช่อเอื้องสะดุดกึก หล่อนมองหน้าเรียวจันทร์เหมือนกำลังงงๆ ชายหน้าสวยยิ้มกริ่ม แสร้งทำหน้าใสซื่อ


“ฉันเคยเห็นดินต้มมาม่าให้เขากิน เขาก็กินหมดนะคะ ท่าทางเขาจะเป็นคนกินของง่ายๆ เนอะ” อัจฉราทำนิ่งแล้วก็ค่อยคลี่ยิ้มอ่อน


“ใช่ค่ะ บางทีเขี้ยวเขาก็กินง่ายเกินไป จนบางทีเอื้องกลัวว่าเขาจะไปกินของเน่าของเสีย” เรียวจันทร์ตวัดสายตาไปมองใบหน้าสวยที่คุณนายนางมั่นใจว่าสวยน้อยกว่าหน้าตัวนางเองแล้วก็ยิ้มขำอย่างมีจริต


“เรารู้จักกันมานานค่ะ ก็มีหลายเรื่องที่เอื้องเป็นห่วงเขา” อัจฉรายังคงยิ้มหวาน คุณนายแกทำหน้าว่าอู้ว ท่าทางเสแสร้งแกล้งทำว่าประทับใจกับสิ่งที่ได้ยินเหลือเกิน แต่สักพักนางก็เปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วน้อยๆ แล้วเอียงคอถามคนตรงข้าม


“คุณเอื้องกับนายคมเขี้ยวคุยกันมานานรึยังคะ” คนถูกถามยิ้มกว้างแล้วตอบอย่างมั่นใจ


“ก็นานแล้วค่ะ เป็นปีแล้วละ” เรียวจันทร์แสร้งยิ้มสีหน้าประหลาดใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะว่าด้วยเสียงแอ๊บใสๆ


“อุ๊ยตาย คุยกันมาตั้งน้านนานจนถึงขั้นรู้นิสัย รู้ใจกันดีขนาดนี้ ยังไม่มีสถานะที่ชัดเจนอีกเหรอคะ”  รอยยิ้มบนหน้าหญิงสาวค่อยๆ เลือนหายแล้วกลายเป็นหน้าตึงเรียบๆ เรียวจันทร์ยิ้มโชว์ฟันขาวเรียวตัวสวย


“จะคุยกันต่ออีกสักปีดีมั้ยล่ะคะ เผื่อจะได้รู้จักมักจีกันมากกว่าเดิม เนอะ” คุณนายแกยิ้มริมฝีปากบางเฉียบ เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วก้าวเท้าเดินผ่านหญิงสาวไปแต่ก็ต้องหยุดตัวเองไว้เพราะคำพูดถัดมาของอีกฝ่าย


“เขี้ยวเขาเป็นผู้ชายค่ะ เขาอยากมีลูก เขาอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์” เรียวจันทร์หมุนตัวไปเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่ทำหน้านิ่งและเชิดขึ้นเล็กน้อย คุณนายแม่ยิ้มมุมปากเพียงนิด


“ครอบครัวที่สมบูรณ์ต้องมาจากลูกเหรอคะ แล้วพวกที่มีลูกแล้วแต่ก็หย่ากันนี่เขาบกพร่องตรงไหนกันนะ” เรียวจันทร์แสร้งทำหน้านึกสงสัยอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสลัดสีหน้านั้นทิ้งแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง ทำท่าจะหมุนตัวเดินต่อไปแต่ก็หมุนกลับไปหาหญิงสาวที่ยืนทำหน้าตึงอยู่ที่เดิม


“ฝากบอกคนในบ้านด้วยนะคะว่าเรียวจะไปกินข้าวกับคนงาน” ว่าจบก็หันหลังเดินไปทันทีไม่มีหันไปสนใจว่าแม่นั่นจะทำหน้ายังไง   
   


 :hao7:

โอ๊ะ แม่เอื้องเยื้องย่างเริ่มสำแดงอิทธิฤทธิ์แล้ว OoO! แต่แม่ก็คือแม่ค่ะ แม่เรียวไม่ยอมให้ใครหยามง่ายๆ เนาะแม่เนาะ

ถือว่าเป็นการเปิดศึกระหว่างสองสาวอย่างเป็นทางการรึเปล่านะ 55555 แต่ศึกนี้จะสู้จะรบยังไง แม่เรียวจะทำไงต้องมาคอยให้กำลังใจแม่กันค่า กระซิบว่าของเด็ดที่เสี่ยให้มา อีกไม่นานนี้ก็จะได้ใช้แล้วละ แต่จะสำรเ็จรึเปล่านะ คริๆ -..-

ตอนนี้มีทีมดินแข็งเพิ่มขึ้นมาอีกทีม ทีมเสี่ยคือหนาแน่นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ทีมพี่เขี้ยวเงียบ 5555 เป็นพระเอกที่จะโดนกลบหมดแล้วววว รอจังหวะพี่เขี้ยวแปรบบบ



ขอบคุณคนอ่านทุกๆ คนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่นะคะ พอเห็นคอมเม้นคนเขียนก็จะมีแรงใจและแรงงานในการเขียนเร็วๆ เพื่อมาอัพต่อเร็วๆ เลยละค่ะ ขอบคุณคนอ่านที่รอและตามอ่านกันอยู่นะคะ คอมเม้นต์เป็นกำลังใจดีๆ มากจริงๆ ค่ะ ^___^



สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้ว่า #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 01-10-2016 19:38:50
แม่เอื้อง เดี๋ยวได้เจอของแรงงง  :z6: มาท้ารบปรบมือกับใครไม่ท้า

พี่เขี้ยวก้เหลือเกิน เคี้ยวยากเคี้ยวเย็น กว่าจะได้พี่เขี้ยว ดอกเบี้ยแม่เรียวกับอิเสี่ยพอกพูนไปนู่นนนนแล้วมั้งงง  :katai1:

เสี่ยมาลากกลับไปเลยยข่าาา ถ้าพี่เขี้ยวยังใจแข็งอย่างนี้ ไม่ต้องเอามันแล้วที่ดินนนน
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-10-2016 20:20:57
ขุ่นแม่เรียวไฟ้ท์ติ้งๆๆๆ ยกที่1 เริ่มแล้ววว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 01-10-2016 20:31:59
ถ้าพี่เขี้ยวยากนักกะ3p เสี่ยเรียวดินเลยค่าา ตึ่งโป๊ะ 555555555
ยัยเคี้ยวเอื้องนี่คิดว่าตัวเองเป็นใครยะ อย่าซ่ากับแม่
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-10-2016 21:25:58
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 01-10-2016 22:48:04
ผู้หญิงมักจะมีเซ้นเกี่ยวกับผู้ชายที่ชอบนะคะ
น้องนางเอื้องถึงมาแขวะกับคุณนาย
ที่คุณนายบอกว่าจะไปกินข้าวกับคนงาน นางคงไม่ได้อยากประชดอะไร แต่คงแค่หมั่นไส้แม่นางเอื้อง
แต่เราว่า ผลที่ได้คงเป็นอะไรที่ไม่ได้คาดคิดล่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 01-10-2016 23:06:20
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 01-10-2016 23:27:34
รอยาได้ใช้เมื่อไหร่ เชียร์พี่เขี้ยวเมื่อนั้นนน อุ๊ปส์สสส ยายเอื้องงเยื้องย่างงตายแน่หล่อน#ตอนนี้เชียร์ดินคร้าา :katai3: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-10-2016 00:04:22
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 02-10-2016 18:43:44
กลัวหนูเรียวใช้ยาแล้วพ่อเขี้ยวกุดจะโกรธหนูเรียวนะสิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 03-10-2016 00:16:41
 :z1: ดินนายแย่งซีนพี่เขี้ยวอีกคนแล้วน้า  :-[ พี่เขี้ยวช่างน่าสงสารมีแต่คนแย่งซีนไปหมดเลยอ่ะ แล้วตกลงพี่เขี้ยวจะต้องโดนยาจากแม่เรียวหรือเนี่ย  :ruready ยังไงแม่เรียวแสดงฤิทธิ์เดชตัวเองน่าจะแซ่บกว่าน้า แม่เรียวเจอศัตรูเพิ่มอีกหนึ่งแล้วจ้า แต่อย่างแม่เรียวคงไม่ต้องให้ใครช่วยเนอะ สิว ๆ   :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: palette_burgundy ที่ 03-10-2016 10:13:48
สู้เขาค่ะแม่ อิตาคมเขี้ยวต้องแอบหวั่นไหวนิดๆแน่แล้ว เดินหน้าต่อเลยค่ะ  :m31:
ขอบคุณนะครับคุณคนเขียน สนุกมากๆเลย รอนะครับ :L2: :bye2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๓/100% :01.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ believeinme ที่ 04-10-2016 01:30:03
มาแสดงตัวค่าาา เพิ่งได้อ่าน ชอบมากเลยยยยย สนุกดี ชอบเรียวจันทร์ดูไม่ยอมใครดี อยากให้พี่เขี้ยวหลงเมียแล้ววววว 55555555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 05-10-2016 20:55:35


คาถาที่ 14 :: Embrace. [อ้อมกอด] (40%)




หลังจากกินข้าวกับพวกดินเสร็จ เรียวจันทร์ก็ไม่ได้พบกับคมเขี้ยวอีก นางไม่สนใจด้วยว่าชายหนุ่มจะไปทำอะไรที่ไหนกับยัยช่อเอื้อง แต่ความคิดที่ว่าทั้งสี่คนคงนั่งกินข้าวด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ มันก็ทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นหวิวแปลกๆ

 

 

เพราะคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้พ่อกับแม่เป็นห่วงตนเองราวกับเป็นคนในครอบครัว แต่พอคิดได้ว่าจริงๆ แล้วคงห่วงเพียงเพราะเป็นลูกของเพื่อนสนิทเท่านั้น

           

 

สุดท้ายยังไงนางคงไม่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้จริงๆ หรอก

           

 

เรียวจันทร์เดินกลับห้องพักด้วยความรู้สึกเหงาเล็กๆ แต่ยังโชคดีที่มีดินเดินมาเป็นเพื่อน และช่วยสร้างรอยยิ้มให้นาง คุณนายแกเลยไม่ได้เหงาจนว้าเหว่เอกาดำดิ่งสู่ดราม่า ตัวนางเองก็รู้ว่ามาที่นี่เพื่ออะไร สุดท้ายพอภารกิจเสร็จสิ้น ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ตัวนางก็ต้องไปจากที่นี่อยู่ดี

           

 

“นี่ แล้วตอนช่วยตัวเองอะ นึกถึงฉันรึเปล่า” เรียวจันทร์เอ่ยแซวดินตอนที่ทั้งสองคนเดินมาถึงหน้าประตูออฟฟิศแล้ว หนุ่มซื่อยืนทำตาโตปริบๆ แล้วใบหน้าก็ร้อนฉ่า คุณนายแกเห็นก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม

           

 

“คิดถึงหน้าฉันล่ะซี้ คริๆ”

           

 

“กะ… ก็ ก็ คือ ดินขอโทษครับคุณเรียว” หนุ่มร่างใหญ่ยกมือไหว้ด้วยสีหน้ารู้สึกผิด เรียวจันทร์รีบยื่นมือไปดันสองมือของดินลง

           

 

“ฉันไม่ใช่กุมารนะดิน ไม่ต้องไหว้ กะอีแค่ช่วยตัวเองแล้วนึกถึงหน้าคนสวยๆ อย่างฉัน มันไม่แปลกสักหน่อย ดีจะตาย ผู้ชายชักว่าวจุฬาแล้วนึกถึงหน้าเรา แสดงว่าเราน่ะเผ็ช!” เรียวจันทร์ทำปากจู๋แล้วพ่นลมเบาๆ ยกมือขวาโบกลมเข้าหาตัวสองสามทีคล้ายว่ากินของเผ็ดเข้าไป ดินยิ้มเจื่อน รู้สึกไม่ดีที่ทำอะไรไปแบบนั้น แต่ตอนนั้นห้ามความคิดตัวเองให้นึกถึงหน้าของคุณเรียวไม่ได้จริงๆ

           

 

“อยากลองของจริงมั้ยล่ะดิน” ไอ้ดินตาโตตกใจ สีหน้าตื่นตะลึงทำตัวไม่ถูก แล้วหน้าเข้มๆ ก็แดงแจ๋จนเรียวจันทร์หัวร่อชอบใจ

           

 

“น่ารักจริงเชียวพ่อดินแข็ง…” เรียวจันทร์หยุดหัวเราะแล้วเดินเข้าไปกอดดิน “...แต่อย่าเลย ดินสะอาดเกินกว่าจะมายุ่งกับคนอย่างฉัน”

           

 

ปฐพียกสองแขนล่ำสันกอดร่างบางจนจมมิดอกตัวเอง มือขวาลูบแผ่นหลังบางๆ ของคนตัวเล็กแผ่วเบา “ถ้าสกปรกเพราะคุณเรียว ดินยอมนะครับ”

           

 

เรียวจันทร์ยิ้มกว้างและหัวเราะเบาๆ แล้วก็พึมพำเสียงเบาตรงอกดิน “ขอบคุณนะดิน”

           

 

คุณนายแกก็ไม่รู้ว่าขอบคุณดินเรื่องไหนกันแน่ แต่ที่รู้ๆ คืออยากขอบคุณ อาจจะเพราะดินให้เกียรตินาง อยู่กับนางบ่อยๆ ตอนนางต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการคนนั่งข้างๆ หรืออาจจะเพราะคำพูดหวานๆ ที่มาจากใจซื่อๆ ทั้งหลายของเขาก็เป็นได้ ที่ได้ฟังทีไรแล้วรู้สึกดีเสมอ

           

 

“นอนละ เดี๋ยวหน้าไม่สวย ดินก็ไปนอนได้แล้วนะ” เรียวจันทร์ผละออกจากอกแน่นหนาของดินแล้วส่งยิ้มให้ พ่อกล้ามใหญ่ตัวโตยิ้มน่าเอ็นดูแล้วพยักหน้าหงึกๆ สามสี่ที ร่างเล็กหันตัวไปเปิดประตูออฟฟิศแล้วเดินเข้าไปด้านใน หันมาโบกมือให้ดินอีกทีก่อนที่จะปิดประตูตามหลัง

           

 

ดินยิ้มเขินอยู่คนเดียวสักพักก่อนที่จะหมุนตัวเดินกลับไปทางบ้านใหญ่ จริงๆ ดินพักที่นั่น เนื่องจากจะได้รับใช้พวกพี่เขี้ยวได้ทันท่วงที พี่เขี้ยวใจดีให้ห้องนอนไอ้ดินไว้ที่ชั้นล่างของบ้าน และไม่ใช่ห้องนอนเก่าๆ หรือยัดเยียดให้แบบขอไปที แต่เป็นห้องนอนอย่างดีที่ตัวดินเองไม่มีปัญญาจะมีได้หากไม่ได้เจอกับพี่เขี้ยว แต่บางครั้งดินก็ชอบไปนอนกับเพื่อนๆ คนงานในหมู่บ้านคาวบอย แล้วก็รีบตื่นแต่เช้ามาที่บ้านใหญ่

           

 

“อ้าว ไอ้ดิน” เจ้าของชื่อหยุดเดินแล้วยิ้มให้พี่เขี้ยว ก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปมองหญิงสาวสวยๆ ข้างกายเจ้านายและยกมือไหว้หล่อน อีกฝ่ายยกมือรับไหว้พร้อมรอยยิ้ม

           

 

“ดินเพิ่งไปส่งคุณเรียวเข้านอนมา” หนุ่มซื่อตอบก่อนที่จะถูกถาม คมเขี้ยวทำหน้านิ่งแล้วยกหน้าขึ้นหนึ่งทีสั้นๆ เป็นการรับรู้

           

 

“อย่าเพิ่งนอน รอกูตรงชานระเบียงก่อน”

           

 

“ครับพี่เขี้ยว” ดินปล่อยให้เจ้านายไปส่งหญิงสาวของเขาแล้วเจ้าตัวก็เดินไปทางบ้านใหญ่ เดินขึ้นบันไดไปรอพี่เขี้ยวตรงระเบียงกว้างด้านหน้าบ้าน แหงนหน้ามองดาวบนท้องฟ้าแล้วก็คลี่ยิ้ม

         

 

“ดิน” เจ้าของชื่อลดหน้าลงมองหญิงสูงวัยที่ยืนอยู่ตรงประตูบ้าน

           

 

“ครับแม่บัว”

           

 

“ทำไมไม่ชวนหนูเรียวขึ้นมากินข้าวด้วยกัน” ดินยิ้มเฝื่อน ก่อนตอบเสียงอ่อย

           

 

“เอ่อ คือ คุณเรียวเห็นว่าคุณเอื้องอยู่ เขาก็เลยไม่อยากขัดจังหวะครับแม่บัว” ดินตอบอย่างที่คุณเรียวบอก หญิงสาวถอนหายใจแผ่วๆ พอจะรู้บ้างว่าอะไรเป็นอะไร

           

 

“เราก็อีกคน ชอบหนีไปกินข้าวกับคนงานอยู่เรื่อย บอกให้มากินกับพ่อกับแม่” ดินยิ้มแห้ง ยังไม่ทันได้ตอบอะไร ร่างสูงของพี่เขี้ยวก็เดินขึ้นมาถึงระเบียงบ้าน

           

 

“อ้าวแม่ ผมนึกว่าเข้านอนแล้ว”

           

 

“เจอดินพอดีเลยถามว่าทำไมหนูเรียวถึงไม่ขึ้นมากินข้าวด้วยกัน” คมเขี้ยวทำหน้าไร้อารมณ์แล้วก็ตอบแม่ตัวเองแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก

           

 

“เขาจะมาหรือไม่มาก็ปล่อยเขาเถอะแม่”

           

 

“แต่แม่ไม่สบายใจ หลายครั้งแล้วนะที่เรียวจันทร์เขาไม่ขึ้นมากินข้าวกับเราเลย เขาไม่พอใจอะไรรึเปล่า” คมเขี้ยวขมวดคิ้วมุ่น

           

 

“ทำไมแม่ต้องแคร์เขาขนาดนั้น”

           

 

“เขี้ยวก็รู้อยู่แล้ว” คนเป็นลูกถอนหายใจด้วยความหน่ายเล็กๆ แต่พอเห็นหน้าดุๆ ของมารดาตนเองเลยต้องเปลี่ยนเป็นหน้าปกติ

           

 

“พรุ่งนี้เช้าผมจะพาเขาขึ้นมากินข้าวด้วยกัน” บัวบูชาพยักหน้านิดหนึ่งแล้วหมุนตัวเดินไปด้านในบ้าน คมเขี้ยวหันมามองไอ้ดินที่นั่งหน้ายิ้มๆ อยู่คนเดียว

           

 

 “ยิ้มอะไรวะ” คนถูกถามยิ้มเขินๆ ยกมือขวาเกาต้นคอเบาๆ

           

 

“คุณเรียวกอดดินอะพี่เขี้ยว” คมเขี้ยวขบกรามนิดหนึ่งที่ได้ยินชื่อไอ้จันทร์ไรอีกแล้ว นึกในใจว่าทำไมใครๆ ถึงชื่นชอบและเป็นห่วงมันนักหนา เขาเดินไปนั่งตรงระเบียงไม้ เยื้องๆ กับดิน สลัดสีหน้าตึงๆ ของตัวเองออกไปแล้วก็พูดถึงสิ่งที่ตั้งใจจะพูดกับดิน

           

 

“อาทิตย์หน้าจะไปเดินป่า แต่รอบนี้ไปที่ใหม่” ดินยิ้มประหลาดใจปนตื่นเต้นเล็กๆ

           

 

“จริงเหรอพี่เขี้ยว”

           

 

“เออ พ่อไปเจอป่าที่ใหม่มา” ดินยิ้มกว้าง รู้สึกกระปรี้กระเปร่าที่ได้ยินว่าจะได้เดินป่าอีกครั้ง

           

 

“เป็นปีแล้วเนอะพี่ที่เราไม่ได้ไปเดินป่ากัน” คมเขี้ยวกระตุกยิ้มมุมปาก มองน้องชายต่างสายเลือดด้วยความเอ็นดู เขารู้ว่าไอ้ดินมันชอบเดินป่า มันชอบธรรมชาติพอๆ กับที่เขาชอบ แล้วยังชอบปิ้งไก่ ย่างปลาท่ามกลางมวลหมู่ไม้ อยู่ที่บ้านมันก็ชอบทำกับพวกคนงานบ่อยๆ มันว่าอร่อยกว่าทำแบบสมัยใหม่

           

 

“เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน ไปสามวัน” ดินพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้

           

 

“ชวนคุณเรียวไปด้วยได้มั้ยพี่เขี้ยว” พ่อหนุ่มเคราครึ้มหน้านิ่งสักแปบก่อนจะยักคิ้วหนึ่งที

           

 

“ถึงมึงไม่ชวน พ่อกับแม่เขาก็จะชวนอยู่แล้ว อยู่ที่คุณเรียวขวัญใจมึงแล้วละว่าเขาจะไปมั้ย บอบบางซะขนาดนั้น”

           

 

“ดินว่าคุณเรียวไปพี่ เห็นคุณเรียวแบบนั้น เขาก็ขาลุยเหมือนกันนะ” คมเขี้ยวบิดปากนิดหน่อย มองไอ้น้องชายตัวโตด้วยความเอือมนิดๆ

           

 

“รู้ใจเขาดีจังนะ มึงชอบเขารึไง” ไอ้ดินยิ้มเขินแก้มดำเปลี่ยนเป็นแดงท่ามกลางแสงไฟสีขาวนวลตา

           

 

“ดินไม่รู้เหมือนกันพี่เขี้ยว แต่ดินชอบอยู่กับคุณเรียวมากเลย เขาทำให้ดินมีความสุข”

           

 

“แต่เขาเป็นผู้ชายนะไอ้ดิน” ดินระบายยิ้มอ่อนๆ บนใบหน้าสีแดงจางๆ ของตนเอง

           

 

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่นี่พี่ แค่เขาทำให้เรามีความสุข มันก็ดีสุดแล้ว ใครจะมองว่าวิปริตผิดเพี้ยนยังไง แต่ใจเรามีความสุขก็น่าจะพอ พี่ไม่มีความสุขเหรอเวลาอยู่ใกล้ๆ คุณเรียว เขาน่ารักออก” ไอ้ดินมันก็ว่าซื่อๆ ของมันตามนิสัยนั่นแหละ แต่ใจไอ้คนฟังดันกระตุกวูบหนึ่ง ไม่รู้ว่ากระตุกด้วยความรู้สึกไหนและเหตุผลอะไรกันแน่

           

 

“จะถึงขั้นเอาเขาเป็นเมียเลยมั้ยล่ะ” คมเขี้ยวว่าหยั่งเชิง ไอ้ดินยิ่งเขินเข้าไปอีก ไม่ได้เข้ากับตัวโตๆ ของมันเลยสักนิดไอ้ท่าเขินนั่นน่ะ

           

 

“ถ้าคุณเรียวให้โอกาสก็อยากอยู่ แต่คุณเรียวเขาชอบพี่เขี้ยวอะ เขาไม่ได้ชอบดิน” คมเขี้ยวเบิกตากว้างขึ้นอีกนิด แล้วก็หันหน้ามองทางอื่นไปเรื่อยเปื่อย พ่นลมหายใจออกทางปากเบาๆ เพื่อบรรเทาอาการว้าวุ่นในอกที่เกิดขึ้นกะทันหันเมื่อครู่นี้

           

 

“อันนั้นกูรู้แล้ว”

           

 

“แล้วพี่ไม่ชอบเขาจริงๆ เหรอ” ดินถามหน้าซื่อตาใส คมเขี้ยวหันไปมองแว้บหนึ่งแล้วหันกลับไปมองทางรั้วบ้านต่อ ก่อนตอบเสียงเรียบๆ

           

 

“กูคุยกับเอื้องอยู่ไง” ดินขมวดคิ้ว

           

 

“ดินเห็นพี่คุยกับเขามาตั้งนาน มือก็ยังไม่เคยจับ พี่เขี้ยวชอบคุณเอื้องจริงเหรอ” คมเขี้ยวขมวดคิ้ว รู้สึกหงุดหงิดที่โดนไอ้ดินจี้ถาม เขารู้แหละว่ามันถามตามความนึกคิดของมัน ไม่ได้จี้ถามอย่างจงใจ เพราะไอ้ดินไม่ใช่คนมีเล่ห์เหลี่ยมขนาดนั้น

           

 

“ก็คุยกันไปก่อนดิวะ รีบไปไหน”

           

 

“โหพี่ คุยนานจัง คนจะใช่ มันใช่ไปนานแล้วเปล่า” คมเขี้ยวหน้าเหลอหลา หันมองซ้ายทีขวาที เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่าง แล้วปล่อยให้ไอ้ดินพูดต่อ

           

 

“ดูอย่างดินดิ เจอคุณเรียวไม่นานยังว่าเขาใช่เลย” แล้วมันก็ยิ้มเพ้อๆ เขินๆ ของมัน เห็นแล้วหมั่นไส้อยากยกเท้าถีบสักที แต่ติดตรงที่เขาไม่ได้หยาบคายขนาดนั้น

           

 

“เพ้อเจ้อละมึง อะไรจะใช่ไวขนาดนั้น”

           

 

“เขาใช่สำหรับดินก็แล้วกันน่าพี่ ถึงดินจะไม่ใช่สำหรับเขาก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าคุณเรียวไม่ได้กับพี่เขี้ยว ดินไม่ยอมหรอกนะ ถ้าคุณเรียวได้กับคนอื่น ดินจะไปแย่งมา ดินว่าดินแย่งได้ เพราะคุณเรียวเขาเคยบอกว่าเขาก็ชอบดิน ถึงตอนนี้จะชอบแค่เป็นน้องก็เถอะ” คมเขี้ยวยิ้มขำ มองสีหน้ามุ่งมั่นของไอ้ตัวโตเกินวัย ตอนนี้มันเพิ่งจะยี่สิบต้นๆ แต่มันดูเหมือนคนสามสิบต้นๆ ไปแล้ว

           

 

“อะไรของมึงวะ ยุให้กูมีเมียเป็นผู้ชายซะงั้น มึงไม่อยากอุ้มหลานรึไง” ดินทำหน้านึกสักแปบ ก่อนที่จะพูดซื่อๆ เช่นเคย

           

 

“ถ้าได้อุ้มหลานแล้วพี่มีความสุขก็โอเค แต่มันจะดีจริงๆ เหรอพี่ถ้ามีชีวิตครอบครัวตามวิถีชีวิตของคนทั่วไปแต่ไม่ได้มีความสุขกับคนที่เรารัก ลูกมันคล้องใจคนสองคนได้จริงเหรอ” ดินไม่ได้พูดเป็นนักปราชญ์หรือเป็นนักวิชาการ เขาแค่พูดไปอย่างที่ใจและสมองคิดกรองออกมา เขาไม่ได้ช่ำชองในความรักนักหรอก เพราะตั้งแต่อยู่มายี่สิบกว่าปี เคยมีแฟนแค่คนเดียวสมัยมัธยม แต่ก็แค่ความรักวัยรุ่นทั่วไป ไม่ได้ลึกซึ้งตรึงใจมากมาย คุณเรียวถือเป็นคนแรกด้วยซ้ำที่ทำให้ใจสั่นเหลือเกิน

           

 

“แล้วมึงคิดว่ากูจะมีความสุขกับไอ้เรียวจันทร์รึไง” ดินส่ายหัวหน้าบริสุทธิ์ใจ

           

 

“ไม่รู้ดิ พี่ลองเปิดใจให้คุณเรียวยังล่ะ” คมเขี้ยวขมวดคิ้วแล้วลุกขึ้นยืน

           

 

“จะเปิดใจได้ไง กูไม่ได้ชอบผู้ชายนะดิน”

           

 

“ถ้ามองว่าเขาเป็นผู้ชายพี่ก็ไม่ชอบหรอก แต่ถ้ามองเขาเป็นคุณเรียวจันทร์พี่อาจจะชอบเขาก็ได้ ผมยังชอบเลยนี่ไง พี่เขี้ยวไม่เอา ดินเองเอาเองนะ” คมเขี้ยวยิ้มขำ เดินเข้าไปยีหัวไอ้น้องชายต่างสายเลือดด้วยความหมั่นไส้ในคำพูดคำจาซื่อๆ ของมัน

           

 

“เออ”

           

 

“แล้วอย่ามาทำหวงก้างนะพี่เขี้ยว” คมเขี้ยวส่ายหัวหน้าระอา ปฐพียิ้มแป้นแล้น ยักคิ้วขึ้นสองสามที

           

 

“ไปนอนไป” ดินยิ้มให้พี่ชายที่เคารพแล้วลุกขึ้นยืน เดินลงบันไดบ้านไปชั้นล่างเพื่อไปห้องนอนตัวเอง คมเขี้ยวมองตามหลังไอ้ดินไปอย่างครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะเดินเข้าไปในด้านใน

           

 

ไอ้ดินมันจริงจังแค่ไหนวะนั่น รึเราต้องมีน้องสะใภ้เป็นไอ้จันทร์ไรจริงๆ

 

           

           

 

เสียงโทรศัพท์ดังลั่นพร้อมกับการสั่นอันรุนแรงจนได้ยินเสียงครืดๆ ตรงโต๊ะหัวเตียง ร่างเล็กเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ทั้งที่เปลือกตายังปิดอยู่ มือบางควานหาโทรศัพท์อยู่สักพักก่อนจะจับขึ้นมาแนบหูได้ เรียวจันทร์กรอกเสียงแหบๆ ลงไปทั้งที่ยังตื่นไม่เต็มที่

           

 

“ฮัลโหล~”

           

 

“เรียว แม่แกเรียกฉันมาหา แล้วคือ ตอนนี้แม่แกอยากเจอแก” เรียวจันทร์หลับตาขมวดคิ้วมุ่นสักพัก ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น ยกโทรศัพท์ออกจากหูมาดูเวลาก็เห็นว่าเป็นเวลาแปดโมงเช้าแล้ว

           

 

“มีอะไร ถ้าจะขอเงินฉันไม่ให้นะ” เป็ดถอนใจด้วยความลำบากใจ

           

 

“ก็มีอยู่เรื่องเดียวแหละ แต่ว่า…” เขาลุกขึ้นนั่งแล้วเอาตัวพิงหัวเตียงเอาไว้ “…แม่แกโดนทำร้ายอะ”

 

           

คนฟังนิ่งไปด้วยความตกใจเล็กๆ “ใครทำร้ายเขาล่ะ”

           

 

“ลูกน้องเจ้าหนี้ เขาบอกฉันแล้วล่ะว่าเจ้าหนี้คนนี้ไม่ได้อยู่ในลิสต์ที่แกจดไว้” เรียวจันทร์หลับตาแล้วพ่นลมหายใจยาวๆ

           

 

“ฉันไม่รับปาก แต่เท่าไหร่”

           

 

“ตอนนี้เขาอยากเจอแกก่อน เขาจะให้ฉันพาไปหาแกที่ฟาร์ม” ร่างเล็กนั่งหน้าอึน รู้สึกหดหู่ตามเคยเวลาได้ยินเรื่องปัญหาการเงินจากมารดา

           

 

“ไม่ต้องมา ฉันขอรู้ตัวเลขก่อน”

           

 

“ห้าแสน” เรียวจันทร์น้ำตาคลอขึ้นมาทันที ตัวเลขขนาดนี้ทำให้เงินในบัญชีของเขาหายไปจนน่าใจหาย ทั้งๆ ที่เขาเตรียมเงินไว้สำหรับใช้หนี้อื่นๆ ของแม่แล้ว แต่ดันมีหนี้ก้อนใหม่เพิ่มเข้ามาอีก

           

 

ก๊อกๆ

           

 

เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้น เรียวจันทร์ปาดน้ำตาออกจากแก้มทั้งสองข้าง “เป็ด แปบนึงนะ”

           

 

ร่างเล็กเดินไปเปิดประตูห้องนอน พอเปิดออกก็เจอกับคมเขี้ยวที่อยู่ในชุดพร้อมทำงานแล้ว คนตัวสูงกว่ามองหน้าใบหน้าผุดผ่องราวอย่างคาดคั้นราวกับอยากจะรู้ว่าทำไมถึงตื่นเอาป่านนี้

           

 

“เดี๋ยวฉันไป…”

           

 

[…เรียว! ช่วยแม่หน่อย มันขู่จะฆ่าแม่!] เสียงโวยวายดังออกมาจากโทรศัพท์ คมเขี้ยวเหลือบสายตาไปมองโทรศัพท์ในมือเรียวจันทร์แล้วขมวดคิ้วเพราะได้ยินเสียงหวีดแว่วๆ แต่ฟังไม่ถนัดว่าคนในสายพูดอะไรบ้าง เรียวจันทร์ยืนนิ่ง ดวงตาสั่นระริกแต่ก็ไม่ยอมแสดงสีหน้าอ่อนแอหรือปล่อยให้น้ำตาไหลออกจากดวงตาคู่สวย คมเขี้ยวยืนมองงงๆ แต่ก็สัมผัสได้ว่าสีหน้าของแม่คุณนายไม่ค่อยดีนัก

           

 

“เดี๋ยวฉันตามไป” เรียวจันทร์ดันประตูช้าๆ คมเขี้ยวค่อยๆ ถอยหลังไปทีละนิดจนกระทั่งประตูไม้ปิดสนิทเบาๆ

           

 

คมเขี้ยวยืนหน้างงสงสัยอยู่ตรงหน้าห้องนอนของเรียวจันทร์ เขาเห็นนะว่าสีหน้าของอีกฝ่ายไม่สู้ดี ปกติถ้าเขามาปลุกแบบนี้จะแว้ดๆ ใส่ รึไม่ก็แอบแทะเล็มเขาเล็กๆ น้อยๆ ให้เสียววูบแต่เช้าเล่นๆ

           

 

“บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำอีก!!” เสียงตวาดดังลั่นจากในห้องนอนทำให้คมเขี้ยวที่กำลังเหม่อได้สติกลับมา เขายืนมองประตูห้องนอนด้วยความกระวนกระวายเล็กๆ จะเปิดเข้าไปก็กลัวจะไปขัดจังหวะของอีกฝ่าย หรือจะเป็นการเสียมารยาทที่เข้าไปวุ่นวาย ดูแล้วจะเป็นเรื่องส่วนตัวมาก และเขาไม่รู้ว่าตอนนี้แม่คุณนายแกอยู่ในห้วงอารมณ์ไม่ดีเลเวลไหนกันแน่ เผลอๆ เดี๋ยวมาเหวี่ยงใส่เขาอีกคน

           

 

เขาตัดสินใจนั่งรออีกฝ่ายอยู่ตรงโต๊ะทำงานในออฟฟิศ เสียงตวาดหายไป ชายหนุ่มนั่งนิ่งฟังว่าจะมีเสียงตะคอกตามมาอีกมั้ย แต่สุดท้ายเสียงคุณนายก็เงียบลง คมเขี้ยวกำลังนึกว่าแม่ตัวแสบทะเลาะกับไอ้จอมทัพหรือไอ้หนุ่มฝรั่งหรือเปล่า

           

 

ระหว่างนั่งรอเรียวจันทร์ คมเขี้ยวก็หยิบบัญชีในฟาร์มขึ้นมาตรวจสอบไปพลางๆ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ผ่านไปหลายนาทีแต่ก็ไม่รู้ว่ากี่นาที ประตูห้องนอนของเรียวจันทร์ก็เปิดออก ร่างบอบบางไม่เหมือนร่างผู้ชายเดินหน้าซึมออกมาจากห้องนอน ชัดเจนว่าอีกฝ่ายกำลังมีปัญหาไม่สบายใจอยู่จริงๆ

           

 

“อ้าว นายอยู่นี่เหรอ” เรียวจันทร์ถามอย่างล่องลอย คมเขี้ยวขมวดคิ้ว ไม่คุ้นเคยและไม่คุ้นตากับอาการนี้ของแม่คุณนายเลยสักนิด ปกติจะต้องแว้ดๆ และมีแต่ความสุนทรีย์ในตัวเองกับคนรอบข้าง ตอนนี้สภาพเรียวจันทร์เหมือนโดนดูดพลังงานออกไปจากร่าง           

           

 

“ทะเลาะกับแฟนรึไง” ชายหนุ่มาถามหยั่งเชิง อีกฝ่ายยิ้มอ่อนเพลีย ดวงตาหม่นหมอง

           

 

“เราทะเลาะกันตอนไหนล่ะ” คมเขี้ยวขมวดคิ้วงง แต่สักแปบก็เข้าใจว่าแม่คุณนายเล่นมุกหยอกเอิน

           

 

“จะทะเลาะกันตอนนี้แหละ”

           

 

“ฉันขอยอมแพ้สักแปบนะ” ร่างบางทรุดตัวลงบนโซฟาบุนวมสีน้ำตาลแก่ตัวยาวในออฟฟิศ นั่งนิ่ง ท่าทางเซื่องซึมจนคนที่คุ้นเคยกับท่าทีร่าเริงแจ่มใสยิ่งกว่ารายการเจ้าขุนทองสมัยก่อนนึกรู้สึกซึมไปด้วย

           

 

ที่เขาว่าคนเราถ้าปล่อยพลังงานอะไรออกมา คนรอบข้างก็จะรับรู้ด้วย น่าจะเป็นเรื่องจริง

           

 

“แม่ให้มาตามไปกินข้าว และอย่าหนีไปกินกับคนงานอีก แม่ไม่สบายใจนะที่คุณชอบหนีกินข้าวกับเขาบ่อยๆ” เรียวจันทร์หันไปมองใบหน้าหล่อเหลาแบบพอดิบพอดีไม่ได้เวอร์เกินของคมเขี้ยวแบบเหม่อๆ สักพัก แล้วก็หันหน้าไปมองทางอื่นอย่างเอื่อยเฉื่อย คมเขี้ยวมองกิริยานั้นแล้วรู้สึกไม่ชอบใจแปลกๆ

           

 

เขาไม่ชินแม่คุณนายตัวแสบในเวอร์ชั่นเหงาหงอยแบบนี้

           

 

“ฉันไม่หิวอะ นายไปเถอะ เดี๋ยวฉันขึ้นไปขอโทษพ่อกับแม่เอง” เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีเหนื่อยๆ และทำท่าจะเดินออกไปจากออฟฟิศ

           

 

“เดี๋ยวก่อน” ร่างเล็กหยุดเดิน แต่ไม่ได้หันไปมองคนเรียก คมเขี้ยวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินเข้าไปใกล้ร่างหอมๆ ใช้มือจับตัวบางๆ ให้หันมาทางเขา เรียวจันทร์หันกลับมาแต่โดยดีไม่มีฝืน ใบหน้าอิดโรยไม่ใช่เพราะอดนอน แต่เพราะมีเรื่องให้คิดพยายามยกยิ้ม

           

 

“เป็นอะไร” น้ำเสียงนุ่มทุ้มกับคำถามสั้นๆ แต่ทำเอาเรียวจันทร์เกือบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ สายตาที่คมเขี้ยวมองมาแม้จะเป็นสายตานิ่งๆ แต่สีหน้าของคนตัวสูงมีแววกังวลให้เห็นนิดๆ

           

 

เรียวจันทร์ไม่ได้ตอบคำถามนั้น เขาระบายยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้า แล้วพูดเสียงแผ่วเบา “ขอกอดได้รึเปล่า”

           

 

“เขาบอกว่าการกอดใครสักคนแล้วจะทำให้เรารู้สึกดี…”

           

 

น้ำเสียงเดียวกันกับวันนั้นที่มันขอกอดเขาครั้งแรก น้ำเสียงอันเหนื่อยล้า

           

 

คมเขี้ยวไม่ตอบรับหรือต่อต้าน เขายืนมองอีกฝ่ายนิ่งเฉย เรียวจันทร์ยิ้มเศร้าพอจะเข้าใจว่าคงขอมากไป คุณนายแกเลยหมุนตัวจะเดินจากไป แต่หมุนตัวยังไม่ถึงสี่สิบห้าองศาก็ถูกคนตัวโตดึงเข้าไปกอดเอาไว้เบาๆ

           

 

เรียวจันทร์ซบหน้ากับแผงอกนูนแน่นของอีกฝ่ายที่อยู่ใต้เสื้อลายสก็อตสีเขียวสลับขาว คนตัวเล็กหลับตาลง ปลดปล่อยความเหนื่อยล้าทางใจออกไปเมื่อได้ไออุ่นจากคมเขี้ยวเข้ามาแทนที่ เขาไม่ได้คิดหรือสะกดจิตไปเองว่าอ้อมกอดนี้ดีมันดีต่อใจจริงๆ

           

 

เรียวจันทร์ยกสองแขนขึ้นกอดตอบร่างสูงแผ่วเบา ทิ้งศีรษะลงบนอกแน่นๆ อย่างเต็มที่ เปลือกตาปิดลง รับลมหายใจอุ่นๆ ที่รดอยู่เหนือหัวเบาๆ รับรู้ถึงวงแขนอันแข็งแกร่งที่กอดเขาเอาไว้ราวกับเป็นป้อมปราการอันแข็งแรงที่ปกป้องเขาให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง

           

 

คมเขี้ยวยืนนิ่ง แต่รับรู้ได้ว่าคนในอ้อมกอดกำลังมีปัญหาและต้องการที่พึ่งพิงจริงๆ เพราะเรียวจันทร์ทำเพียงกอดเขาไว้เฉยๆ กอดเหมือนแค่อยากหาที่พักพิงสักพักเท่านั้นเอง

           

 

การกอดเพียงยี่สิบวินาทีสามารถสร้างความผูกพันให้คนสองคนได้ แต่ทั้งสองยืนกอดกันอยู่แบบนั้นตั้งสิบนาทีโดยที่ไม่พูดอะไรก่อนจะพากันไปกินข้าว

           

 

ความผูกพักที่ส้รางขึ้นคงแนบแน่นกว่าที่นักวิจัยกล่าวไว้น่าดู



:hao6:

อ่าฮ่า เขากอดกันอีกครั้งละนะ และรอบนี้พี่เขี้ยวเต็มใจให้กอดด้วย คุๆ -.,- พัฒนาขึ้นมาอีกนิ้สสส ใครทีมพี่เขี้ยวใจเย็นๆ ค่อยเป็นค่อยไป  ช้าๆ ได้พร้าเล่มงามนะ ฮิๆ ถึงจะยังไม่ดุเด็ดเท่าแจเร็ด เท่าเสี่ย หรือสยิวกิ้วเท่าน้องดิน แต่เขาก็ใสๆ เนาะ


ไม่รู้จะขอบคุณคุณแม่ดีมั้ยที่ทำให้แม่เรียวได้กอดพี่เขี้ยว 5555 เป็นดราม่าที่แม่เรียวเพลียที่สุด แต่ก็ได้กำลังใจดีๆ จากการกอดกับพี่เขี้ยว อบอุ่นหัวใจไปเนาะแม่เนาะ


พระเอกเรื่องนี้แทบจะโดนผู้ชายคนอื่นกลบ 55555 แต่อยากจิบอกว่า ถ้ามองในแง่ว่าเขาเป็นผู้ชาย ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเนาะที่จะชอบผู้ชายอีกคน แถมยังแรดซะขนาดนี้ 55555 แต่ว่าถ้ามาแบบทื่อๆ คิดว่าพี่เขี้ยวยิ่งหลีกหนีง่ายนะ ต้องมาแบบอีแม่นี่แหละเด้อ เอิ๊กๆ



ขอบคุณคนอ่านทุกๆ คนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ คอมเม้นเท่าที่มีทุกวันนี้ ก็ทำให้ตอมมีแรงใจในการเขียนแล้วค่ะ คือรู้ว่ามีคนรออ่านมันมีกำลังใจจริงๆ นะ ถึงจะไม่ได้มากมาย แต่ขอที่มีอยู่ อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ จนจบ ตอมว่าอบอุ่นดี หุๆ และยินดีต้อนรับคนอ่านใหม่ๆ ทุกคนเลยค่า ^^



สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                             

#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-10-2016 22:34:19
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-10-2016 22:42:40
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 05-10-2016 23:05:53
เห็นด้วยกับดินนะ ให้มองเรียวให้เป็นเรียว ไม่ให้มองเรียวเป็นผู้ชาย จะเห็นเลยว่า อยู่กับคุณนายแล้วมีความสุขจริงๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 05-10-2016 23:23:47
ไม่อยากเจอมาม่า!!! :ling3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: lynn_lynnhui ที่ 06-10-2016 00:03:00
เราจะรอพี่เขี้ยวมาทำคะแนนกับคุณนาย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 06-10-2016 00:07:20
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาซึมเลยอ่ะ สงสารแม่เรียวจังเลย เราเข้าใจเลยน่ะ การไม่มีหนี้นี่เป็นลาภอันประเสริฐแท้ ถ้ามันเป็นหนี้ที่เราก่อเองเราก้อยอมที่จะรับกรรมไปน่ะ แต่นี่เป็นหนี้ของผู้อื่นอีก ถึงแม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ก้อเถอะ ถ้ามันเป็นหนี้ที่ถูกก่อเพราะความจำเป็นเราก้อยินดีน่ะ แต่นี่เป็นหนี้ที่มาแบบไม่ขาดสายและยังเป็นหนี้การพนันอีก แม่ก้อไม่ใช่แม่ที่ดีอีกต่างหาก งานนี้พี่เขี้ยวเท่เลย แต่ก้อโดนเด็กสอนไปหลายดอกเลย งานนี้ดินเป็นฮีโร่เลยอ่ะ  :hao3: ดินจะมีคู่กับเขาไหมเนี่ย หรือว่าจะเปิดอีกเรื่องไปเลย  :impress2:แต่ขอรอพี่ยักษ์จบก่อนน่ะ คิดถึงน้องแมทจังเลย  :impress3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-10-2016 05:44:35
เกลียดแม่ของขุ่นแม่เรียวจริมๆ ทำไมนางสร้างแต่หนี้ สร้างแต่ปัญหาเนี่ยยย โอ้ยยยย สงสารขุ่นแม่เรียวว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 06-10-2016 06:13:56
สรุปพระเอกนี่ ตาเขี้ยวเหรออออ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 06-10-2016 06:28:19
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 06-10-2016 15:58:50
 :z3: เบื่อแม่น้องเรียว ทำให้กลุ้มใจไม่เว้นแต่ละวัน ช่วยไปก้สร้างหนี้ไปอยู่ดี คนมันผีพนัน มีเงินไม่ได้ ขนาดไม่มียังดิ้นรนไปสร้างให้มันไม่มียิ่งกว่าเดิม ถ้าเรามีแม่แบบนี้ ก้คงพูดไม่ออก พี่เขี้ยวให้กำลังใจพักพิงดีๆเนอะ ไม่ปากหมาๆ แล้วเดี๋ยวจะหลงเสน่ห์เอง  o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: palette_burgundy ที่ 07-10-2016 17:30:58
สงสารเรียวจัง สู้ๆนะแม่  :กอด1:
ขอบคุณนะครับคุณคนเขียน สนุกมากเลย  :L2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/40% :05.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 08-10-2016 10:52:22
สรุปพระเอกนี่ ตาเขี้ยวเหรออออ



เอ๋า 55555 ก็ต้องพี่เขี้ยวววจิ พี่เขี้ยวเป็นพระเอกกกกก -.,-
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/70% :08.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 08-10-2016 16:49:32



คาถาที่ 14 [70%]



คมเขี้ยวพาเรียวจันทร์ที่มีสีหน้าและท่าทางดีขึ้นกว่าเดิมเดินไปทางบ้านใหญ่ ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยสักคำ แต่บรรยากาศกลับไม่อึดอัดเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับทำให้รู้สึกสบายใจ คมเขี้ยวเหมือนได้ลดกำแพงในใจตัวเองที่มีต่อเรียวจันทร์ลงไปอีกชั้น
   


“อ้าว ขึ้นมากินข้าวกับป๋าและแม่ได้สักทีนะหนูเรียว” ชายหนุ่มอ้อนแอ้นยิ้มบางเบาให้กับหญิงสาวกับชายหนุ่มสูงวัยที่รออยู่ตรงโต๊ะกินข้าวอยู่ก่อนแล้ว พอหันไปมองทางเค้าน์เตอร์ครัวก็เห็นดินกำลังยกอาหารมาทางนี้ เรียวจันทร์คลี่ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิดให้หนุ่มตัวโต ฝ่ายหนุ่มซื่อยิ้มแป้นเมื่อเห็นหน้าคุณเรียวจันทร์
   


“เมื่อวานเรียวต้องขอโทษนะครับ พอดีเห็นว่าคุณเอื้องอยู่ด้วย เลยไม่อยากมารบกวน” สองสามีภรรยามองหน้ากันอย่างอึกอัก
   


เรียวจันทร์น่ะพูดไปไม่ได้ประชดหรือไม่ได้ฉุกคิดอะไร แค่พูดไปอย่างที่สถานการณ์มันเกิดขึ้นจริงๆ แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองคนจำได้น่ะสิว่าหนูเรียวเคยบอกว่าชอบลูกชายตนเอง
   


“อันที่จริง หนูเรียวขึ้นมาได้ตลอดเลยนะลูก ใครจะมา ใครจะไป ไม่เกี่ยวกันหรอก” เรียวจันทร์ยิ้มให้กับเพื่อนสนิทของพ่อ หันไปมองคมเขี้ยวแว้บหนึ่งที่นั่งลงตรงข้ามกับเขา ฝ่ายนั้นไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ
   


สองสามีภรรยารู้สึกอิหลักอิเหลื่อขึ้นมาพร้อมกันโดยที่ไม่ต้องพูดให้มากความ ทั้งสองมองหน้ากันและหาเรื่องอื่นมาปัดเรื่องนี้ให้หลุดไป เพื่อจะได้เปลี่ยนบรรยากาศกระอักกระอ่วนให้ดีขึ้น ทั้งที่จริงแม่คุณนายนางก็ยังคงไม่ได้คิดมากอะไรกับประโยคที่ตนพูดไปก่อนหน้านี้เลยสักนิดเดียว
   


“เอ้อ อาทิตย์หน้าเราจะมีทริปไปเดินป่า หนูเรียวสนใจไปมั้ย” เรียวจันทรฺหันไปยิ้มขอบคุณให้ดินที่ตักข้าวให้ก่อนจะนั่งลงข้างๆ กัน
   


“เดินป่าเหรอครับ น่าสนใจ เรียวไม่เคยไปเที่ยวในลักษณะนั้นเลย” พอเห็นว่าบรรยากาศเริ่มดีขึ้น บัวบูชาก็รีบพูดเสริมทันที
   


“สนุกดีนะจ๊ะหนูเรียว แม่ไปมาสองครั้งแล้ว แรกๆ ก็ไม่ได้ตามสามพ่อลูกเขาไปหรอกค่ะ เพราะกลัวลำบาก แต่พอไปจริงๆ แล้วเพลินดี ลำบากนิด แต่ก็ได้หนุ่มๆ คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้” เรียวจันทร์พยักหน้ายิ้มๆ นึกภาพตัวเองไปเดินป่าไม่ออก นางเลยขมวดคิ้วเล็กน้อย
   


“อยู่นี่ว่าอากาศบริสุทธิ์แล้ว แต่ได้ไปพักผ่อนกลางป่ากลางเขาแบบดั้งเดิม ได้เติมพลังธรรมชาติให้กับปอดเราบ้าง มันก็สดชื่นดีนะหนูเรียว” เมฆายิ้มอบอุ่น เรียวจันทร์นึกคล้อยตาม หันไปมองคมเขี้ยวที่ทำเพียงยักคิ้วให้เขาหนึ่งทีแล้วนั่งกินข้าวต่อ ไอเดียบางอย่างแว้บเข้ามาในหัว
   


กลางป่า กลางเขาลำเนาไพรงั้นเหรอ…
   


“ไปด้วยกันนะครับคุณเรียว นี่นายก็ไปเจอป่าที่ใหม่มา เห็นว่าสวยมาก” ประมุขของบ้านรับช่วงต่อทันที
   


“สวยมาก ดีมาก ป๋ารับประกัน ได้สูดอากาศเต็มปอดอย่างปลอดภัย” สองสามีภรรยายิ้มให้กัน เรียวจันทร์เม้มปากเป็นรอยยิ้มนิดหน่อย
   


“เรียวยังไม่กล้ารับปาก กลัวจะติดงาน แต่อยากไปนะครับ เดี๋ยวเรียวมาคอนเฟิร์มอีกทีนะ” อันนี้เขาไม่ได้เล่นตัวนะ กลัวจะมีงานแทรกเข้ามาจริงๆ ก็อย่างที่เคยบอกว่าโกยได้โกยก่อน กำลังฮ็อต กำลังรุ่ง แต่จากตารางงานตอนนี้มันก็มีงานเดินแบบอยู่สามงาน ต้องดูว่าวันที่ไปเดินป่าจะชนกันมั้ย
   


มื้อเช้าเป็นไปอย่างชื่นมื่น อาหารก็อร่อย บนโต๊ะอาหารมีเสียงพูดคุยตลอดเวลา มีเรียวจันทร์เป็นคนนำเสียงเฮฮาอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ได้ว่าฮาแตกจนคุณนายแกควรจะไปเปิดตลกคาเฟ่อะไรขนาดนั้น ก็แค่ทำให้คนสูงวัยยิ้มและหัวเราะไปกับเสียงเจื้อยแจ้วของเจ้าตัว
   


คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์แล้วยิ้มมุมปากที่เห็นคุณนายตัวแสบในเวอร์ชั่นสุนทรีย์กลับมา พอหันไปมองไอ้ดินก็แอบมองด้วยความมั่นไส้เล็กๆ เพราะมันมองไอ้จันทร์ไรด้วยสายตาชื่นชมบูชาซะเหลือเกิน
   


“เดี๋ยวเรียวช่วยค่ะแม่” พ่ออารมณ์ดี จริตสาวสวยก็กลับคืน น้ำเสียงสุภาพบุรุษหลุดหาย แทนที่ด้วยน้ำเสียงหญิงสาวพราวเสน่ห์
   


“แม่ใช้น้ำยาล้างจานอันเดียวกับบ้านเรียวเลยค่ะ ใช้ดีนะคะ ล้างจานทีล้างคาบหมดจด จนบางทีเรียวนึกอยากเอามาล้างเครื่องสำอางบนหน้าตัวเองหลังจากเสร็จงาน… ว้าย คุณแม่ คิกๆ… งั้นเหรอคะ… สะพรึงมากค่ะ…”
   


คมเขี้ยวแทบไม่ได้ยินเสียงแม่ตัวเอง เพราะเสียงแม่คุณนายดังแจ้วๆ ไม่หยุด จ้อแล้วจ้ออีก แม่เขาก็ยิ้มจนหนังตาย่นแล้วย่นอีก ครีมที่บำรุงไปแทบไม่ได้ผลเลยมั้งน่ะ
   


“พี่เขี้ยว งั้นดินไปทำงานก่อนนะ” คมเขี้ยวยกหัวขึ้นหนึ่งทีเป็นการรับรู้ ไอ้ดินหันไปสวัสดีเมฆา และมิวายเดินไปบอกแม่บัวกับคุณเรียวจันทร์ของมัน
   


“เจอกันด้านล่างนะดิน วันนี้จะถอดเสื้ออาบน้ำให้ม้าอีกรึเปล่า ฉันจะได้ไปดู ฮิๆ”
   


“ถึงไม่อาบ แต่ถ้าคุณเรียวอยากดู ดินถอดให้ดูก็ได้ครับ” บัวบูชาหัวเราะไปพร้อมกับเรียวจันทร์ที่หัวเราะเริงร่าอ้าปากกว้าง ยกมือจิ้มแขนล่ำสันของดินอย่างมีจริต เมฆามองแล้วก็ขำเสียงสั่นในลำคอ คมเขี้ยวหันไปมองพ่อตัวเองแล้วหันกลับไปมองตรงเค้าน์เตอร์ครัวก่อนที่มุมปากทั้งสองข้างจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มขบขัน
   


“แกจะชวนหนูเอื้องไปเดินป่าด้วยรึเปล่า” พ่อหันมาถามเขา คมเขี้ยวที่กำลังมองเรียวจันทร์คุยกับดินและแม่ตัวเองเพลินๆ หันไปมองพ่องงๆ
   


“หนูเอื้องๆ จะชวนเขาไปด้วยมั้ย” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น ทำหน้าคิดนิดหนึ่งก่อนตอบ
   


“ก็เคยชวนไปครั้งนึง เขาก็ไม่ไป ครั้งนี้ก็คงเหมือนเดิมแหละ”
   


“แน่ใจนะว่าจะไม่ลองชวนเขาอีกสักที เผื่อรอบนี้เขาจะเปลี่ยนใจ” คมเขี้ยวส่ายหัวน้อยๆ
   


“เขาคงมีงานทำแหละป๋า อีกอย่าง ปกติเราก็ไปแต่คนในครอบครัว”
   


“แต่รอบนี้มีหนูเรียวไปด้วยนะ” คมเขี้ยวหันไปมองบิดาตัวเองที่ถามด้วยสีหน้าปกติ
   


“พ่อกับแม่รักและปกป้องมันมากกว่าผมกับไอ้ดินอีก” เขาว่าอย่างประชด คนเป็นพ่อหัวเราะร่วน ยกมือขวาผลักหัวลูกชายเบาๆ แล้วหันไปมองเรียวจันทร์ที่ช่วยภรรยาตนเองเช็ดจานที่เพิ่งล้างเสร็จ ไอ้ดินเดินออกไปจากบ้านเมื่อครู่นี้
   


“ป๋ายังไม่เคยได้ตอบแทนไอ้อาทิตย์ มันก็มาจากไปก่อน มันไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย แต่สิ่งหนึ่งที่มันฝากเอาไว้คือหนูเรียวจันทร์…” เรียวจันทร์กำลังแนะนำเรื่องครีมบำรุงหน้าให้กับบัวบูชาอย่างออกรสชาติ



“…ถึงหนูเรียวจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของมัน แต่มันก็รักยิ่งกว่าชีวิตมันเอง เรามีชีวิตที่ดีทุกวันนี้ได้เพราะมันแทบทั้งนั้น แค่ช่วยดูแลลูกรักของมัน ป๋าว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ” คมเขี้ยวมองเสี้ยวหน้าของพ่อที่เหมือนกำลังรำลึกความหลังกับเพื่อนสนิทตนเองอยู่



“ป๋า เรื่องที่ดินอะ เราจะบอกเขาเมื่อไหร่” เมฆาหันกลับมามองลูกชาย แล้วตอบสีหน้าเรียบเฉย



“จนกว่าจะปลอดภัย พ่อกลัวเรียวจันทร์โดนกล่อมจนยอมขายง่ายๆ ถ้าเปิดเผยว่าเรียวจันทร์มีมรดกเป็นที่ดินผืนนี้ที่มีมูลค่ามหาศาล หนูเรียวอาจโดนปลิงเกาะเต็มไปหมด”



“ไอ้จอมทัพมันอยากได้ที่ตรงนี้มาก และมันรวมถึงบ้านเราด้วย” เมฆาส่ายหัวน้อยๆ



“ไอ้เรื่องที่เราจะโดนผลกระทบไปด้วยน่ะไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก เราก็แค่หาบ้านใหม่ แต่…” ชายสูงวัยมองไปรอบบ้านตนเอง แล้วยกมือขวาแตะลงบนอกซ้ายเบาๆ



“…ความผูกพันกับที่นี่น่ะเป็นเรื่องน่าเสียดาย เราบุกเบิกมากับมือ” คมเขี้ยวพยักหน้าน้อยๆ รับรู้ได้ถึงความรักความผูกพันของบิดาตนเองที่มีต่อที่ดินผืนนี้



พ่อเขาเริ่มจากศูนย์ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง สุดท้ายก็สร้างทุกอย่างที่มีในทุกวันนี้มาด้วยสองมือกับมารดาของเขา



“เสร็จแล้ว ฉันพร้อมทำงานค่ะเจ้านาย” เรียวจันทร์เดินมายิ้มแฉ่งตรงหน้าสองพ่อลูกหลังจากช่วยงานคุณแม่เสร็จ เมฆายิ้มให้ลูกเพื่อนสนิทแล้วหันไปมองลูกชายตัวเอง



“พาน้องไปทำงานเถอะ” คมเขี้ยวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะพยักหน้าให้เรียวจันทร์และหมุนตัวเดินนำออกไปจากบ้านก่อน



“เจอกันตอนเย็นนะคะคุณพ่อคุณแม่” เรียวจันทร์เอ่ยเสียงหวาน พนมสองมือเป็นดอกบัวตูมและค่อยๆ ย่อถอนสายบัว จนผู้ใหญ่ทั้งสองหัวเราะชอบใจ



“เยอะละๆ แม่คุณ มานี่ เร็วๆ” คมเขี้ยวที่หันตัวกลับมามอง กวักมือเรียกหน้าตาระอาแต่ก็นึกขำกับท่าทีอ่อนช้อยแสนประดิษฐ์นั่น



เรียวจันทร์เดินตามร่างสูงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนเดินลงบันไดบ้านไปยังรั้วไม้ที่เปิดอ้ากว้างเอาไว้ วันนี้เป็นวันที่ฟาร์มเปิดให้คนนอกเข้ามาชม ตอนนี้เลยเห็นผู้คนบ้างประปราย แต่ก็ไม่เยอะอยู่ดีเนื่องจากวันนี้เป็นวันธรรมดา



“วันนี้ไปช่วยคนงานปลูกดอกไม้ตรงแปลงริมรั้วนะ จะเอาดอกฟอร์เก็ตมีน็อตมาเปลี่ยนแทนดอกเก่า” เรียวจันทร์พยักหน้าอย่างว่าง่าย คมเขี้ยวมองอย่างประหลาดใจนิดหน่อย เรียวจันทร์ทำหน้างง



“ทำไมอะ มีอะไรรึเปล่า”



“โดนกอดไปแปบเดียว เชื่องจนเชื่อฟังคำสั่งผมเลยรึไง” เรียวจันทร์แสร้งมองค้อน



“ก็ไม่ดื้อ ไม่วีน ไม่เหวี่ยงเป็นการตอบแทนอ้อมกอดนายไง…” คุณนายแกทำแก้มป่องหนึ่งทีแล้วว่าต่อ “…ก็กอดนายแล้วรู้สึกดี”



คมเขี้ยวยิ้มมุมปาก ไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่เดินนำเรียวจันทร์ไปทางแปลงดอกไม้ริมรั้วที่บอกเอาไว้ คนงานบางส่วนกำลังช่วยกันถอนดอกปอเทืองสีเหลืองที่เริ่มเหี่ยวออก และปรับปรุงหน้าดินให้พร้อมลงดอกไม้พันธ์ใหม่ที่จะมาแทน



“น้อย” คมเขี้ยวเรียกคนงานหญิงคนหนึ่งที่เรียวจันทร์จำหน้าได้ว่าเป็นคนที่แอบชอบคมเขี้ยว หล่อนทำหน้าตาเม้งเล็กๆ เมื่อเห็นเรียวจันทร์ยืนอยู่ด้วย



“ฝากคุณเรียวด้วยนะ เขาจะมาช่วยงาน” น้อยหน่าหน้าเบ้เล็กน้อยแต่ก็ตอบรับว่าจะช่วยดูแลเท่าที่จะทำได้ คมเขี้ยวทำเฉยไม่ตอบรับกับอาการนั้น หันไปมองเรียวจันทร์ที่กำลังเกาแขนยิกๆ



“เป็นอะไร ตรงนี้ไม่มีกองฟางนะ”



“เปล่าหรอก คงแค่คันไปเรื่อยอะ เดี๋ยวก็หายแหละ” ร่างสูงพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะขอตัวไปทำงาน



“เดี๋ยวก่อนนายเขี้ยว…” คนตัวโตหันกลับมามองงงๆ คนตัวเล็กมองซ้ายทีมองขวาทีแบบเร็วๆ โดยที่ไม่ได้สนใจจริงๆ หรอกว่าจะมีใครมองอยู่หรือเปล่า แต่คุณนายแกก็รีบเขย่งหอมแก้มสากของพ่อเขี้ยวกุดไปหนึ่งทีจนเจ้าตัวหน้าเหวอไปนิดเพราะไม่ทั้นตั้งตัว



“…ตั้งใจทำงานนะ” เรียวจันทร์หมุนตัวแล้ววิ่งดุ้กๆ เข้าไปช่วยคนงานทันทีไม่รอให้พ่อคาวบอยเอ็ดตะโรใส่



คมเขี้ยวมองแผ่นหลังร่างบางที่กำลังก้มๆ เงยๆ ช่วยเก็บซากดอกปอเทืองออกจากพื้นดินก่อนจะถอนหายใจแล้วยิ้มเพลียเล็กน้อย แล้วค่อยหมุนตัวเดินกลับไปทางเดิม


 
:hao6:

แม่เรียวนี่ขอแทะเล็มพี่เขี้ยวสักนิดสักหน่อยนางก็เอาเนาะ 55555

วันนี้มาไม่ยาวมาก แต่ก็อยากมาก -..-

แม่เรียวจะเป็นเด็กดีของพี่เขี้ยวได้กี่วันคะแม่ แล้วเกิดไอเดียอะไรในหัวอีกล่ะคะแม่ขา ปากแดงๆ จะไว้ใจได้กาาาา


ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดที่ติดตามเรื่องนี้กันอยู่นะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ เห็นคอมเม้นต์ทุกครั้งที่อัพก็ชื่นใจมากๆ แล้ว  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/70% :08.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 08-10-2016 17:01:36
ขโมยจุ๊บกันปายยยย 55555 เดินป่าคราวนี้คงมีเฮ 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/70% :08.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-10-2016 18:39:02
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/70% :08.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 08-10-2016 19:09:22
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/70% :08.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 08-10-2016 20:40:27
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/70% :08.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 08-10-2016 23:24:35
 :เฮ้อ: กลับมาครึกครื้นแล้วน่ะแม่เรียว อยากให้แม่เรียวชื่นมื่นไปนาน ๆ น่ะจ้ะ ไม่อยากให้ร้องไห้เลยอ่ะ  :mew2: ยังไงขอให้ไปเดินป่าอย่างสนุกสนานน่ะ  :hao3: แต่คุณเธอเหมือนมีแผนน่ะเนี่ย  :katai3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/70% :08.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: palette_burgundy ที่ 09-10-2016 01:06:52
ขอบคุณนะครับคุณคนเขียน ขยันอัพมากเลย รอนะครับ สนุกมากๆ  o13 :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/70% :08.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 09-10-2016 02:17:59
ขุ่นแม่วางแผนอะไรไว้คะ แหม่ ไหนบอกลูกสาวซิ๊ :katai3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/70% :08.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 09-10-2016 02:26:47
กลับมาอ่านใหม่ ไม่ได้ตามหลายตอนเลย  :-[
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/70% :08.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 09-10-2016 06:31:03
แหมะ น้องเรียวคะ ถ้าจะน้ำยาล้างจานจะล้างสะอาดขนาดนั้น... 55555555  พี่เขี้ยวกุดอย่าได้ริอาจชวนนังเอื้องมันไปเที่ยวด้วยเลยนะ เสียบรรยากาศหมด ไม่งั้นคะแนนพระเอกติดลบแน่ อุตส่าห์จะได้ตีตื้นอิเสี่ยแล้วเชียว ช่วงนี้เสี่ยทำตัวไม่ดี พี่เขี้ยวรีบทำคะแนนเลยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/100% :12.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 12-10-2016 22:22:48



คาถาที่ 14 [100%]



“พี่เขี้ยว พี่เขี้ยว…” คมเขี้ยวที่กำลังยืนมองคนงานทำงานในคอกม้าอยู่ตรงริมรั้วไม้ที่เรียวจันทร์เคยพังจนเละหันไปมองน้อยหน่าที่ยืนหน้าบอกบุญไม่รับอยู่



“มีอะไรน้อย”



“ไปดูคุณนายของพี่หน่อย ตัวแดงเถือกหมดแล้ว” คมเขี้ยวทำหน้าตกใจนิดหนึ่ง



“ใครเอากองฟางไปวางไว้แถวนั้นรึเปล่า” คนถูกถามส่ายหัว



“ไม่มีนะ” ร่างสูงฟังแล้วขมวดคิ้ว ปกติเรียวจันทร์จะมีปฏิกิริยากับกองฟางเป็นพิเศษ แต่ถ้าไม่มีกองฟางแล้วไปโดนอะไรเข้า



คมเขี้ยวเดินนำน้อยหน่าไปทางแปลงดอกไม้ริมรั้วที่อยู่คนละฝั่งกับคอกม้า ใช้เวลาเดินเกือบสิบนาทีก็มาถึงตรงห้องกระจกสำหรับให้นักท่องเที่ยวนั่งรอไปเข้าชมฟาร์ม เขาเห็นคนตัวขาวๆ นั่งอยู่กับคนงานหญิงอีกสองคน ผิวสีขาวเห็นชัดว่าแดงแจ๋ไปทั้งตัว ซ้ำยังลามขึ้นไปลำคอ และคิดว่าอีกไม่นานคงตามไปถึงใบหน้า



“ไปยุ่งกับกองฟางมารึเปล่า” คมเขี้ยวถามทันทีที่เดินไปถึงตัวเรียวจันทร์ แม่คุณนายทำหน้าหยีแล้วสั่นหัวรัวๆ สองมือลูบๆ เกาๆ ตามตัวไม่หยุด



“ฉันว่าคุณเรียวแกแพ้หญ้า ไม่ก็เกสรดอกไม้นะพี่เขี้ยว”



“บอบบางซะจริง ฉันเป็นผู้หญิงยังไม่เห็นเป็นไร” คมเขี้ยวหันไปมองน้อยหน่าด้วยสายตาดุนิดๆ อีกฝ่ายทำหน้าบึ้งแล้วเดินไปทางอื่น เรียวจันทร์ไม่มีเวลาชักสีหน้าใส่แม่ลูกระเบิด เพราะกำลังคันยิกๆ



“เดี๋ยวไปทายา เดินไหวรึเปล่า” เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกๆ ลุกขึ้นเดินตามคมเขี้ยวไป



“ก่อนผื่นจะขึ้นไปจับอะไรมา” ระหว่างทางเดินไปที่บ้านใหญ่ คมเขี้ยวก็หันมาถามคนที่กำลังลูบไปทั่วแขนแดงเถือกของตัวเอง



“ก็ต้นปอเทือง แล้วก็ไปจับดอกไม้อะ”  คมเขี้ยวส่ายหัวหน่อยๆ



“แพ้แค่กองฟางยังไม่พอ ยังจะมาแพ้ดอกไม้ใบหญ้าอีกหรือไง” เรียวจันทร์หน้างอ ปลายนิ้วลูบไปตามตัวเบาๆ



“ใครจะถึกทนเหมือนนายล่ะ ฉันไม่เคยทำงานแบบนี้นะ”



“ก็เลิกทำแล้วกลับไปเป็นนายแบบซะ จะได้ไม่เป็นแบบนี้” เรียวจันทร์เบะปากหนึ่งที



“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวไม่ได้อยู่ใกล้นายสิแบบนั้น” คนตัวสูงส่ายหัวอย่างระอาแต่ก็ไม่ว่าอะไร รีบพาแม่คุณนายเดินขึ้นบันไดบ้านเพื่อไปทายาแก้คัน



“นั่งรอนี่ก่อน เดี๋ยวไปเอายามาให้” ร่างเล็กนั่งลงบนโซฟาอย่างว่าง่าย นั่งลูบนั่งเกาเบาๆ เกาแรงไม่ได้ เดี๋ยวผิวเสีย เกิดเกาจนหนังถลอกปอกเปิก ถ่ายแบบจะลำบากตากล้องต้องมารีทัชอีก ไม่ได้หรอก นางไม่อยากโดนหาว่าสวยเพราะรีทัช



“ถอดเสื้อ” เสียงทุ้มดังขึ้น เรียวจันทร์หันไปมองหน้าแหย ไม่ใช่เพราะคำสั่งให้ถอดเสื้อ แต่เพราะมันคันยุบยิบๆ ไม่หยุดเลยต่างหาก



“อย่ามีอารมณ์ทางเพศก่อนทายาเสร็จล่ะ” คมเขี้ยวกลอกตา นึกอยากจะเขกหัวแม่ตัวดีสักทีที่ยังมิวายพูดเล่น



เรียวจันทร์ถอดเสื้อยืดที่ใส่อยู่ออก คมเขี้ยวทำตาโตเพราะผิวขาวๆ แดงอย่างกับเส้นเลือดแตก เขารีบเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ ร่างเล็ก มองตุ่มแดงๆ ที่ขึ้นหนาแน่นจนน่ากลัว



“หันหน้ามาซิ” เรียวจันทร์หมุนตัวไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย คมเขี้ยวเบิกตากว้างด้วยตกใจเมื่อเห็นว่าเส้นเลือดในตาขาวของเรียวจันทร์แตกเป็นฝอยๆ ใบหน้าขาวผุดผ่องก็เริ่มแดงไปด้วยผื่น



“ไปหาหมอดีกว่า ผมว่าอาการคุณหนักละ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วแล้วส่ายหัวน้อยๆ



“ไม่ต้องหรอก ทายา กินยาแก้แพ้แบบเดิมก็หายแล้ว” คมเขี้ยวหน้าเข้มขึ้นมาทันทีเมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะดื้อ



“ไหนว่าจะไม่ดื้อไง”



“เปล่าดื้อ แต่ฉันเห็นว่ามันไม่ได้ร้ายแรงมาก ทายากินยาแบบเดิมก็น่าจะหาย” ร่างสูงส่ายหัว วางขวดยาทาแก้คันไว้บนโต๊ะ



“ไปหาหมอ ใส่เสื้อซะ” ร่างเล็กถอนหายใจ เห็นว่าวันนี้ใจดีกับนางมากหน่อยหรอกนะเลยยอม ไม่อยากแง่งๆ ใส่มาก






สุดท้ายคมเขี้ยวก็พาแม่ตัวดีมาที่โรงพยาบาลที่เอื้องทำงานอยู่ พอคุณนายแกรู้ก็เบ้ปากไปหนึ่งที แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอย่างก้าวร้าว แค่เบ้นิดๆ หน่อยๆ แบบให้รู้ว่ามาเยือนถิ่นศัตรูหัวใจ จะได้เป็นแพทเทิร์นที่ถูกต้องของนางเอกสู้คนที่ไม่ชอบนางร้ายว่าต้องทำสีหน้าแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วนางควรต้องมาอย่างยิ่งเพราะอาการที่ตอนแรกบอกว่าไม่ร้ายแรง มันเริ่มจะรุนแรงขึ้นระหว่างทางที่นั่งรถมาโรงพยาบาล นางไอค่อกแค่กบ่อยๆ และรู้สึกคันในลำคอยิบๆ



“มีอาการแพ้อย่างอื่นอีกบ้างมั้ยครับ” คุณหมอรูปหล่ออย่างกับหนุ่มเกาหลีเอ่ยถามเสียงนุ่ม เรียวจันทร์เหลือบมองแม่เอื้องเยื้องย่างในชุดพยาบาลสีขาวที่เข้ามาฟังอาการของเขาด้วยนิดหน่อยก่อนเลื่อนสายตาไปมองคุณหมอตามเดิม



“กองฟางอะครับคุณหมอ แล้วล่าสุดก็เพิ่งรู้ว่าเหมือนจะแพ้ดอกไม้ด้วย แต่ไม่รู้ว่าทุกชนิดรึเปล่านะครับ” คมเขี้ยวที่นั่งอยู่ข้างๆ เอื้อมมือมาดึงมือเขาที่กำลังเกาแขนซ้ายยิกๆ จนเลือดเริ่มซิบซึม



ปฏิกิริยานั้นอัจฉราทันเห็น แต่เนื่องจากอยู่ในหน้าที่ หล่อนเลยเลือกจะเก็บอาการเอาไว้



“หมอคิดว่าน่าจะทราบกันอยู่แล้วว่าคนไข้มีอาการภูมิแพ้ แต่ไม่ใช่แพ้อากาศแบบที่คนไทยฮิตเป็นกัน บางคนแพ้อาหารบางประเภท บางคนแพ้สัตว์ แต่กับคุณเรียวจันทร์น่าจะแพ้พวกละอองเกสร ละอองกองฟาง หรือต้นหญ้าบางชนิดด้วย…” คุณหมอขออนุญาตดึงเปลือกตาล่างของเรียวจันทร์ลงเพื่อดูอาการเส้นเลือดแตกในตา



“…อยู่ให้ห่างของพวกนั้นนะครับ หมอว่าถ้าอยู่กับมันนานๆ มีสิทธิ์ถึงชีวิตได้” คุณหมอก้มหน้าลงจดยิกๆ ในสมุดประวัติคนไข้เล่มใหม่ของเรียวจันทร์



“ยังไงหมอขอให้นอนโรงพยาบาลสักคืนได้มั้ยครับเพื่อดูอาการ เพราะตอนนี้ตาคุณเรียวจันทร์เส้นเลือดแตกเยอะมากจนน่ากลัว แถมมีอาการไออีก” เรียวจันทร์หน้าเหวอไปนิดเมื่อได้ยินว่ากับแค่อาการแพ้ดอกไม้ถึงกับต้องนอนโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว



“นอนโรงพยาบาลเลยเหรอครับคุณหมอ” หมอหนุ่มเกาหลีพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม เรียวจันทร์ยิ้มเฝื่อนหันไปมองคนข้างกายตัวเองที่ทำหน้าเฉยเมย



“นอนไปเถอะ ดีกว่าไปตายในฟาร์ม ตายในโรงพยาบาลยังส่งเข้าห้องดับจิตทัน” เรียวจันทร์เบิกตากว้าง และเพราะเส้นเลือดฝอยแตกจนแดงฉานน่ากลัวอยู่แล้ว พอเบิกตากว้างขึ้นแล้วยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ คมเขี้ยวทำท่าทางขนลุกขนชัน เรียวจันทร์เลยยื่นมือไปหยิกต้นแขนของไอ้เขี้ยวกุดแรงๆ ด้วยความหมั่นไส้



“ไหนว่าจะเชื่อฟังกันไง”



“แล้วดูพูดเข้า!” คมเขี้ยวยิ้มขำ คุณหมอเองยังขำไปด้วย คงมีแต่อัจฉราเท่านั้นที่ขำไม่ออก หล่อนกำลังข่มใจไม่ให้แสดงอาการไม่ดีออกมา



“เอาเป็นว่านอนโรงพยาบาลหนึ่งคืนนะครับ ถ้าพรุ่งนี้เส้นเลือดฝอยในตาและอาการไอลดลงก็กลับบ้านได้ ส่วนเรื่องผื่นหมอจะให้ยาทา ยาแก้แพ้และยาฆ่าเชื้อไปกิน” เรียวจันทร์พยักหน้ารับอย่างจำยอม หมอเขาคงไม่ให้นอนโรงพยาบาลเล่นๆ หรอกถ้าอาการไม่หนักจริง เขาเองก็รู้สึกร้อนๆ ในจมูกและลำคอเหมือนกัน



“เดี๋ยวก่อนไปที่ห้องพัก ล้างจมูก ล้างตา ล้างคอก่อนนะครับ” คนป่วยพยักหน้านิดหน่อย เหลือบไปมองทางอัจฉราที่กำลังยืนเตรียมของเงียบๆ คุณหมอบอกให้เขาเดินไปนอนบนเตียง พอนอนหงาย คุณหมอก็สั่งให้ลืมตา ก่อนจะเทน้ำยาล้างตาเย็นๆ ใส่ตาขวาของเขา อัจฉรายืนถือถาดสีเงินติดกับโหนกแก้มเขาเพื่อรองรับน้ำยาจากดวงตา



“ข้างซ้ายอีกข้างนะครับ” เรียวจันทร์พยักหน้า เบิกตาซ้ายให้กว้างไว้ ปล่อยให้คุณหมอจัดการเทน้ำยาล้างตาอีกข้าง พอทำเสร็จแล้ว เขาก็ลุกขึ้นนั่ง คุณหมอยื่นสลิงค์ที่ดูดน้ำเกลือให้เขาล้างจมูกหลอดละหนึ่งข้าง ร่างเล็กสำลักน้ำเกลือที่พุ่งเข้าไปในจมูกและทะลุไปถึงลำคอ



“แอ่ก เอิ่ก…” แม่คุณนายทำหน้าหยีเพราะความเค็มของน้ำเกลือ คมเขี้ยวยืนยิ้มขบขันเงียบๆ กับสีหน้าหมดความสวยของแม่ตัวดี



“กลั้วคออีกทีก็โอเคแล้วครับ” คุณหมอยื่นแก้วน้ำที่ใส่น้ำเกลือไว้ให้คนป่วย เรียวจันทร์ยกทิชชูที่อัจฉรายื่นให้ซับน้ำเกลือที่เลอะจมูกและปากสักแปบ ก่อนรับแก้วน้ำเกลือมากระดกใส่ปากและกลั้วในลำคอครู่หนึ่งแล้วบ้วนใส่ถาดสีเงินในมืออัจฉรา



“ยังไม่ต้องอาบน้ำนะครับ เดี๋ยวพยาบาลจะยกอาหารเที่ยงเข้าไปให้เพื่อจะได้กินยา” คนป่วยพยักหน้าพร้อมยกยิ้มเพลียนิดหน่อย คุณหมอนั่งเซ็นเอกสารสำหรับส่งตัวเรียวจันทร์นอนโรงพยาบาล ระหว่างนั่งรอ คมเขี้ยวก็พยายามห้ามมือแม่คุณนายไม่ให้เการุนแรง



หลังจากทำเรื่องให้นอนโรงพยาบาลเสร็จ เรียวจันทร์ก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า โชคดีของคุณนายที่ไม่ต้องเจาะน้ำเกลือ ก็ไม่ได้ว่ากลัวเข็มหรอก แต่มันก็เจ็บเอาเรื่องนะไอ้เข็มน้ำเกลือน่ะ



“เดี๋ยวผมกลับไปฟาร์มก่อน แล้วกลางคืนจะให้ไอ้ดินมานอนเป็นเพื่อน”



“ทำไมนายไม่มาเองล่ะ” คุณนายแกว่าเสียงอ้อน ทำหน้าตาออดอ้อนอีกต่างหาก



“แล้วทำไมผมจะต้องมาด้วย”



“ก็ฉันอยากให้นายมา ฉันอุ่นใจนะเวลามีนายอยู่ใกล้ๆ” เรียวจันทร์ว่าเสียงอ่อย หน้าตาหงอยๆ แววตาเกือบจะเซื่องซึม คมเขี้ยวมองคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลนิ่งๆ สักแปบ ก่อนจะพยักหน้าหนึ่งที



“ก็ได้ เดี๋ยวผมมานอนเฝ้า” คุณนายยิ้มกว้าง แม้ตอนนี้จะมีเลือดในตาขาวทั้งสองข้าง แต่ดวงตาดั่งกวางน้อยก็ยังฉายแววสุกใสเมื่อได้ยินว่าคมเขี้ยวจะมานอนเฝ้าตัวเองอย่างที่ขอ



เสียงล้อรถเข็นดังขึ้น ทั้งสองคนหันไปมองตรงประตูทางเข้าก็เห็นอัจฉราเข็นรถอาหารสำหรับผู้ป่วยเข้ามาในห้อง หญิงสาวยิ้มให้คมเขี้ยวบางๆ และหันไปยิ้มจางๆ ให้เรียวจันทร์



“อาหารเที่ยงค่ะ ทานแล้วจะได้ทานยาและหยอดยาที่ดวงตา คุณหมอกำชับมาว่า อยากให้คุณเรียวจันทร์พักผ่อนเยอะๆ” ร่างเล็กพยักหน้า ค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่ง อัจฉราเข็นรถเข้าล็อคกับเตียงพอดี บนโต๊ะสีขาวมีถ้วยข้าวต้มกุ้ง ยาสามเม็ดในถ้วยแก้ว และยาหยอดตาหนึ่งขวด



“ผมฝากเขาแปบนึงนะเอื้อง ผมจะกลับฟาร์ม แล้วเดี๋ยวตอนเย็นจะมาใหม่” อัจฉราประหลาดใจ แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่าชายหนุ่มจะทำอะไร



“เขี้ยวจะมานอนเฝ้าคุณเรียวเหรอ” ชายหนุ่มพยักหน้านิดหน่อย เรียวจันทร์ทำไม่รู้ไม่ชี้ ก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มเงียบๆ



หญิงสาวแทบจะปั้นสีหน้าปกติไม่ได้ แต่ก็ยิ้มบางๆ ให้คมเขี้ยวแล้วพยักหน้ารับรู้ “ไม่ต้องห่วง เป็นหน้าที่เอื้องอยู่แล้ว”



คมเขี้ยวยิ้มเป็นการขอบคุณ แล้วหันไปมองแม่คุณนายที่นั่งกินข้าวต้มเงียบๆ “น้ำอยู่บนหัวเตียงนะ กินข้าวเสร็จกินยาซะ”



เรียวจันทร์ยักคิ้วให้ร่างสูงสองที คมเขี้ยวเดินออกไปจากห้องพัก ทิ้งความเงียบให้ครอบคลุมสองคนที่เหลือ อัจฉราหันกลับมามองคนป่วยด้วยสายตานิ่งสงบ เรียวจันทร์หันไปสบตาแล้วยิ้มอ่อนให้



“อิ่มแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณเอื้อง” เรียวจันทร์หันไปหยิบน้ำเปล่ามาเปิดฝา เสียบหลอดเข้าไปแล้วดูดเข้าไปสองสามอึก กะว่ารอสักพักค่อยกินยาตามเข้าไป



“ถ้ามีอะไรกดออดเรียกแล้วกันนะคะ” นายแบบหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ พร้อมรอยยิ้มแฉล้ม



พยาบาลสาวข่มใจแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้องพัก หล่อนหลับตาลงในขณะที่ก้าวเท้าเดิน เรียวจันทร์มองแผ่นหลังของหญิงสาวที่ค่อยๆ เดินทางประตูห้อง นางกำลังลุ้นว่าอีกฝ่ายจะหันมาพูดอะไรหรือไม่ แต่สุดท้ายยัยช่อเอื้องก็เปิดประตูออกไปจากห้อง



ทิ้งให้คุณนายเรียวจันทร์เชิดคางขึ้นเล็กน้อย และคลี่ยิ้มเบาๆ อย่างมีชัย โดยที่ไม่ได้มองสภาพตัวเองเลยว่ายามนี้ไม่ควรนึกสะใจใคร







ตอนที่คมเขี้ยวกลับมาก็เป็นตอนที่คุณหมอเจ้าของไข้ของเรียวจันทร์กำลังตรวจร่างกายของคนป่วยที่ยังหน้าตาสลึมสลือเพราะฤทธิ์ยาแก้แพ้ หมอรูปหล่อสูงขาวเกาหลีบอกว่าผื่นคันลดลง อาการแดงค่อยๆ หายไปเช่นกัน แต่คุณหมอขอให้เรียวจันทร์หยุดเกา เพราะมันยิ่งทำให้แดงและอาจทำให้เลือดออกเยอะกว่าที่กำลังซึมๆ ตามผิวหนังในตอนนี้ คุณนายแก็ไม่ได้อยากเกานักหรอก เพราะเดี๋ยวผิวเสียแล้วถ่ายแบบไม่สวย แต่พอเผลอทีไรมือไปเองทุกที



“แต่อาการเส้นเลือดฝอยแตกในตายังน่าห่วง แต่ก็ดีที่มันไม่ได้ขยายไปมากกว่าที่เป็นอยู่” เรียวจันทร์ยิ้มอ่อนเพลีย หมดอิทธิฤทธิ์จนคมเขี้ยวนึกขำว่าวันนี้คงเป็นวันดูดวิญญาณของแม่ตัวแสบแน่ๆ



“อาการคันคอยังเป็นอยู่มั้ยครับ”



“ก็มีบ้างครับหมอ แต่ไม่ยุบยิบเท่าตอนแรกแล้ว อาการไอมีค่อกแค่กบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นโก่งคอจะอาเจียน” 



“เรียกว่าโชคดีมากครับที่มาก่อนจะเป็นหนักกว่านี้ อาการแพ้พวกนี้เรามองว่ามันอาจจะไม่เป็นหนักมาก ทายากินยาแก้แพ้ก็หาย แต่ถ้าโดนเข้ามากๆ อาจะถึงชีวิตได้…” คุณนายเบิกตากว้างขึ้นนิดหนึ่งที่ได้ยินว่ากะอีแค่แพ้ดอกไม้ใบหญ้ากองฟางถึงกับจะคร่าชีวิตสวยๆ ของตัวเองไปเลย



 “…ต่อไปนี้ก็อยู่ให้ห่างจากของที่ทำให้คุณอยู่ในสภาพนี้นะครับ” เรียวจันทร์ยิ้มเจื่อน ถึงหมอไม่บอกนางก็ไม่คิดจะไปคลุกคลีกับของพวกนั้นหรอกนะ



“พักผ่อนเยอะๆ งดใช้สายตานะครับ” คุณหมอทิ้งท้ายเรื่องกินยาไว้ก่อนจะเดินนำพยาบาลคนใหม่ที่ไม่ใช่อัจฉราออกไปจากห้อง พออยู่กันสองคนเรียวจันทร์ก็หันไปมองคมเขี้ยวทั้งที่เปลือกตายังหย่อนคล้อยนิดๆ



“กินข้าวเย็นก่อน จะกินของโรงพยาบาลหรือที่ผมเอามาให้” คนป่วยทำหน้าประหลาดใจนิดหนึ่ง



“นายมีน้ำใจซื้อข้าวมาฝากฉันด้วยเหรอเนี่ย”



“เปล่า แม่ทำมาให้ ตอนแรกจะมาเยี่ยม แต่ผมบอกว่าพรุ่งนี้คุณก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว” เรียวจันทร์พยักหน้านิดหนึ่ง ไม่ได้ติดใจเรื่องข้าวว่าจะมาจากไหน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่ต้องมานั่งคิดหลายตลบ ใครให้ก็ช่าง เพราะสุดท้ายนางก็เอาเข้าปากอยู่ดี



คุณแม่ทำผัดผักกับต้มจืดหมูมะระมาให้ รสชาติอร่อยแสนจะคุ้นเคยเพราะเพิ่งจะกินฝีมือคุณแม่ไปเมื่อเช้านี้นี่เอง ตอนแรกก็กะว่าหลังเสร็จงานจะขึ้นไปกินข้าวบนบ้านใหญ่นั่นแหละ แต่นางดันต้องมานอนแหมะอยู่โรงพยาบาลนี่ไง



“ไม่ต้องอาบน้ำใช่มั้ย” คมเขี้ยวถามพลางนั่งมองคนตัวเล็กนั่งกินข้าวตุ้ยๆ แล้วก็แอบสงสัยว่ากินก็เก่งแต่ทำไมตัวบางร่างน้อยจริงเชียว



“หมอไม่ให้อาบไง แต่ให้ทายาทุกสองชั่วโมง ก่อนนายมาเพิ่งทาไป น่าจะทาอีกทีตอนสองทุ่มแหละ” คุณนายแกยกมือจะเกาต้นคอที่มันคันยิกๆ แต่ก็ฉุกคิดได้ว่าเดี๋ยวเป็นแผล เลยเปลี่ยนเป็นลูบแรงๆ แทน ทั้งที่จริงอยากจะจิกเล็บลงไปบนเนื้อตัวเองแล้วครูดขึ้นลงให้หนำใจ



“หมอก็บอกไม่ใช่รึไงว่าอย่าเกา” คุณนายแกนั่งหน้างอในขณะที่ใช้ปลายนิ้วเขี่ยๆ ตรงบริเวณที่คัน



“ก็มันคันอะ คันยิ่งกว่าอาการอยากได้นายเป็นสามีอีก” คมเขี้ยวถลึงตาใส่คนบนเตียง ร่างเล็กยิ้มกว้างตลกขบขัน มือขวาตักอาหารเข้าปาก มือซ้ายลูบไปทั่วคอและอก



“หยุดเกา” คมเขี้ยวว่าเสียงดุเบาๆ แล้วนั่งลงบนโซฟาตัวยาวสีขาว โทรศัพท์มือถือเขาส่งเสียงดัง เขาหยิบจากกระเป๋าเป้ขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นชื่อใครโทรมาเขาก็เหลือบมองเรียวจันทร์ที่กำลังนั่งกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย แต่มือซ้ายก็ปัดป่ายไปตามลำคอและแขนตัวเอง



“ฮัลโหล”



[เฝ้าคุณเรียวอยู่รึเปล่าเขี้ยว]



“อื้อ ใช่ ทำไมเหรอ”



[เปล่า แค่โทรมาเช็กน่ะ คุณหมอบอกว่าอย่าเพิ่งให้คุณเรียวอาบน้ำนะ]



“เมื่อกี้เจ้าตัวบอกเขี้ยวแล้วแหละ ขอบใจเอื้องมากนะ” หญิงสาวชวนเขาคุยต่ออีกนิด เขาตอบบ้างไม่ตอบบ้างเพราะกำลังพยายามดึงมือไอ้จันทร์ไรที่เกาไม่หยุด



“อ๋อ… โอเค เฮ้ย เรียวจันทร์! บอกว่าอย่าเกาไง…”



“คันอะ ฉันจะตายมั้ยเนี่ย ทำไมมันคันแบบนี้” คนป่วยว่าหน้างอง้ำ เริ่มหวาดกลัวในอกเล็กๆ ว่าทำไมอาการคันมันไม่ลดลงตามผื่นแดงๆ ที่เริ่มจางลงไปแล้ว



“อย่าเว่อร์น่า… เอ่อ เอื้อง เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ”



[อื้ม อย่านอนดึกนะเขี้ยว] ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณเบาๆ แล้วตัดสายทิ้ง วางมือถือไว้บนโต๊ะหัวเตียง รวบสองมือเรียวจันทร์ไว้ไม่ให้แม่ตัวแสบเกา พอโดนยึดมือ แม่คุณนายก็หดคอลงแล้วเอาแก้มถูๆ ไหล่ตัวเอง



“อิ่มรึยัง จะได้กินยา” คนป่วยพยักหน้าหงึกๆ คมเขี้ยวใช้มือซ้ายกดข้อมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายไว้บนโต๊ะกินข้าวของโรงพยาบาล เอี้ยวตัวไปหยิบถ้วยยาที่วางอยู่ข้างๆ ยาทามาให้



“ผมรู้ว่าคัน แต่อยากมีรอยแผลบนผิวรึไง เกาก็เกาเบาๆ พอ ไม่ต้องเการุนแรงก็ได้” พอได้ยินคำว่าแผล คุณนายก็หน้าเสียไปนิด เพราะเผลอเกาแควกๆ ไปหลายจุด



คมเขี้ยวปล่อยข้อมือเล็กๆ ออก เรียวจันทร์กำสองมือไว้หลวมๆ สำรวจสองแขนตัวเองก็เห็นว่ามีรอยแดงจากการเกายาวเป้นแถบทั้งสองข้าง คุณนายแกเลยต้องข่มใจในการออกแรงเกา เปลี่ยนเป็นใช้ปลายนิ้วขยุ้มๆ พอ



“กินยาได้แล้ว” คมเขี้ยวยื่นแก้วน้ำให้ เรียวจันทร์รับไปดื่มแล้วกรอกยาตามลงไป เมื่อเช้ายังไม่ทันหายเบลอ เจอยาแก้แพ้เข้าไปอีกเม็ดคงสลบเป็นตาย



“นอนไปเถอะ เดี๋ยวผมทายาให้” เรียวจันทร์หันไปมองด้วยความประหลาดใจ ปนตกใจและปนดีใจ ปนกันเข้าไป ปนกันไปหมดจนเละเทะ



“จริงอ้ะ? วันนี้นายใจดีกับฉันมากเลยนะ นายรู้ตัวมั้ยเนี่ย” คมเขี้ยวยกสองมือเท้าเอวแล้วยักคิ้วนิดหนึ่ง



“เดี๋ยวคุณตาย ผมก็เสียชื่อเสียงพอดี” เรียวจันทร์มองค้อนควัก แต่ก็ไม่ได้นึกโกรธเคืองจริงจัง



“ถ้าฉันตาย ฉันก็ยังจะมาปล้ำนาย เป็นผีนี่แหละดี นายทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”



“ผมจะห้อยพระทุกวัดของทุกจังหวัดในประเทศไทยที่ว่าดี” เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปาก



“ฉันไม่กลัวพระหรอก ต้องมีสักองค์ที่หลงความสวยฉันและเปิดทางให้ฉันได้เข้าไปปล้ำนาย” คมเขี้ยวขมวดคิ้วแล้วขำพรืด อันนี้เขาขำจริงๆ คนอะไรวะ หลงตัวเองได้แม้กระทั่งกับพระกับเจ้า



“ขำอะไรยะ ขายสวยนะ ไม่ได้ขายตลก” คมเขี้ยวไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วยเพราะอีกสักพักคนปากดีจะง่วงนอนและหลับหนีไปเอง เขาเลยเดินไปเปิดทีวีดู แต่ก็เปิดเสียงเบาๆ หันไปมองบนเตียงก็เห็นแม่คุณนายนอนมองจอตาแป๋ว



“หมอบอกให้พักสายตา หลับได้แล้ว”



“อีกไม่ถึงชั่วโมงฉันก็สงบปากสงบคำแล้วน่า” คมเขี้ยวเดินไปนั่งบนโซฟาตัวเล็กอีกตัว ตอนนี้ในห้องพักมีเพียงเสียงทีวีดังกลบความเงียบระหว่างทั้งสองคน



ผ่านไปได้พักใหญ่ๆ เรียวจันทร์ก็ผล็อยหลับไปเพราะฤทธิ์ยา และเพราะฤทธิ์ยาตอนเที่ยงยังไม่ทันจาง โดนตอนเย็นเข้าไปอีกรอบเลยหลับสนิทไม่รู้เรื่องราว



ไม่รู้แม้กระทั่งว่าคมเขี้ยวตื่นมาทุกสองชั่วโมงเพื่อทายาแก้คันให้ตามที่หมอบอกจนกระทั่งถึงเช้าตรู่ของอีกวัน หลังจากนั้นคมเขี้ยวก็หลับยาวรอเวลาให้หมอเข้ามาตรวจร่างกายคนป่วยตามเวลาเริ่มงานของหมอ 


 :mew3:

คะแนนพี่เขี้ยวสู้เสี่ย สู้ดินได้มั่งยังนิ 55555 ดูแลแม่เรียวทั้งคืนเลยนาาา แม่ก็หลับเป็นตายค่ะ ผู้ชายเทคแคร์อย่างดีไม่มีรู้เรื่อง

เกิดเป็นหญิงสาวบอบบาง โดนอะไรนิดหน่อยก็อ่อนแอ เลยต้องมีผู้ชายมาดูแล คิๆ

เดี๋ยวขอดักก่อน คุณหมอหนุ่มเกาหลีไม่ใช่ผู้ชายคนใหม่ของแม่นะคะ 555555 โนค่า ม่ายช่ายยย เป็นคุณหมอจริงๆ แค่หน้าตาดีเนอะ บรรยายให้รู้เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นิดหน่อยยย แต่ไม่ใช่สามีคนใหม่ของแม่แน่นอนนน 

ตอนนี้ก็เขยิบเข้ามาใกล้กันอีกนิดอีกหน่อย อ้อมกอดเดียวเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเชียวเนอะ หุๆ

เจอกันตอนหน้านะคะ  :mew1:


ขอบคุณคนอ่านทุกคน ณ เล้าเป็ดที่ติดตามกันอยู่ค่ะ ขอบคุณที่คอยคอมเม้นต์ให้กันเสมอ มีแรงใจก็เพราะมีคนอ่านรออ่านนี่ละค่าาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/100% :12.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-10-2016 23:06:00
อะ.  อีเขี้ยวคะแนนขึ้นมาเยอะเลย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/100% :12.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-10-2016 23:09:46
อ่านตอนนี้รู้สึกว่าละมุนมากกกกกกกกก แต่เสี่ยยังเป็นที่หนึ่งอยู่

 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/100% :12.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 12-10-2016 23:21:41
อุ๊ต๊ะ !!  อิพี่เขี้ยวหล่อขึ้นมาทันทีทันใด
อ่านแล้วรู้สึกคันๆตามแม่เรียวเลยอะ ยุบยิบๆ5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/100% :12.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-10-2016 23:54:09
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/100% :12.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 13-10-2016 06:40:52
เปลี่ยนใจไปที่หมอทันมั้ย ชอบคุณหมออปป้าาา 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/100% :12.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: palette_burgundy ที่ 13-10-2016 21:57:22
รอนะครับคุณคนเขียน สนุกมากเลย o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/100% :12.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 14-10-2016 22:56:59
 :z1: งานนี้คมเขี้ยวเริ่มตีตื้นแหละ แต่ขอยาว ๆ อีกนิดน่ะ อยากให้มีช่วงเวลาดี ๆ ระหว่างกันบ้างน่ะ ความโชคดีในความโชคร้ายเลยเนอะ ได้ใจคมเขี้ยวไปเลย  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๔/100% :12.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 16-10-2016 13:14:56
รอออออออออออออ :-[
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/35% :19.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 19-10-2016 15:00:13



คาถาที่ 15 :: One Step Closer. (ใกล้อีกนิดชิดไปอี๊ก) [35%]




 คุณหมอตรวจดูอาการของเรียวจันทร์อย่างถี่ถ้วนและพิจารณาแล้วว่าไม่มีอันตรายอะไรร้ายแรง คนป่วยก็ได้รับการอนุญาตให้กลับบ้านได้ แม้อาการตาแดงจะยังไม่หายดี แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิม อาการคันลดลงจนเกือบจะปกติดี แม่คุณนายยังคงมีเกายิกๆ อยู่บ่อยครั้ง ดีที่ไม่ได้เกาจนเนื้อจะหลุด ผื่นแดงตามตัวยุบลงไปมาก มีหลงเหลือบ้างแต่ก็ไม่ได้หนาหรือลุกลามเท่าตอนแรก

           

 

เรียวจันทร์นั่งคอพับคออ่อนนอนหลับอยู่กับเบาะรถ ไม่หือ ไม่อือ ไม่ส่งเสียงใดๆ เพราะก่อนออกจากโรงพยาบาลแม่ตัวดีกินยาแก้แพ้ไปอีกเม็ดตามคำบอกของหมอ เลยสลบไปอย่างเงียบๆ พอไม่มีเสียงพูดคุยของอีกฝ่าย บรรยากาศรอบตัวคมเขี้ยวก็ดูสงบเสงี่ยมทันที จะว่าดีมันก็ดี แต่ก็แอบไม่คุ้น

           

 

เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น เห็นเป็นเบอร์ไอ้ดินโทรมาเลยกดรับ “ว่าไง กูกำลังกลับ”

           

 

[แม่อารียาแย่แล้วพี่ จู่ๆ ก็ล้มลง] คมเขี้ยวใจหายวูบเมื่อได้ยินว่าหนึ่งในแม่นมวัวตัวท็อปของฟาร์มมีอาการป่วย แต่เขาก็ไม่ได้โวยวายขาดสติ แค่ถามกลับไปเรียบๆ แต่ก็แอบร้อนใจ

           

 

“ตามหมอรึยัง”

           

 

[ตามแล้วพี่ หมอกำลังมา]

           

 

“อาการเป็นยังไง”

           

 

[นอนนิ่งไม่ขยับ ถ่ายเป็นของเหลวเป็นพักๆ แล้วก็ก่อนดินมา อ้วกไปเยอะ] จากที่ตอนแรกไอ้ดินบอกว่าตามหมอแล้ว ทำให้เขารู้สึกคลายกังวลไปหน่อย แต่พอได้ยินอาการของแม่วัว คมเขี้ยวก็รีบเหยียบคันเร่งเท่าที่ไอ้บุโร่ถังสีฟ้าน้ำทะเลของเขาจะเร่งไปได้ นึกเคืองตัวเองที่ไม่เอาคันอื่นที่มันเหยียบได้เร็วๆ กว่านี้มา

           

 

“มีเลือดปนออกมากับอุจจาระมั้ย” ดินเงียบไปสักพัก ได้ยินเสียงกุกกักเหมือนมันกำลังขยับเขยื้อนเคลื่อนตัว คาดว่าคงกำลังไปมองแม่วัว

           

 

[มีครับพี่เขี้ยว] คมเขี้ยวหน้าเครียด เขาขบกรามแน่น ใจร้อนแข่งกับอากาศด้านนอก แต่ก็ยังมีสติข่มตัวเองไม่ให้หุนหันพลันแล่นจนเกินไป

           

 

“แล้วตัวอื่นๆ ล่ะเป็นอะไรรึเปล่า”

           

 

[อีกสองตัวสำรอกอาหารออกมาอะพี่ ถ่ายเหลว แต่ไม่เท่ากับอารียา] คมเขี้ยวกัดฟัน เริ่มคิดโกรธไอ้พวกลูกน้องที่ดูแลอาหารการกินของแม่วัว

           

 

“ให้หมอตรวจตัวอื่นไปด้วย ถ้าปกติดี อีกวันสองวันค่อยรีดนมออกมาเช็ก” ดินรับคำ กำลังจะวางสายจากกัน แต่ไอ้หนุ่มรุ่นน้องก็ท้วงขึ้นก่อน

           

 

“มีอะไรอีก” เขาถามเสียงห้วน แต่ไม่ได้รำคาญไอ้ดิน แค่กำลังใจร้อน

           

 

[พวกไร่องุ่นมันมาบอกว่าองุ่นตายไปครึ่งไร่]” คมเขี้ยวขบฟัน มือซ้ายกำพวงมาลัยแน่น

           

 

“มีอย่างอื่นเป็นอะไรอีกมั้ย” ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ หักพวงมาลัยเข้าโค้งไปตามทาง ร่างเล็กที่นอนหลับมาตั้งแต่โรงพยาบาล บิดคอมาทางเขาแล้วปรือตามองงงๆ

           

 

[ตอนนี้มีเท่านี้แหละพี่] คมเขี้ยวสบถคำหยาบในลำคอเบาๆ

 

 

ไร่องุ่นอยู่ด้านหลังฟาร์ม ห่างจากบ้านต้นสนของเขาไปอีก เป็นอีกโซนที่นานๆ ทีจะเปิดให้เข้าไปเที่ยวชม เขาไม่ได้ทำเพื่อการท่องเที่ยว เขาทำเพื่อเป็นอีกแหล่งไว้ทำมาหากิน แต่เพราะบรรยากาศดี คนที่เคยไปพากันเช็กอินตามโซเชียลจนเป็นที่พูดถึงย่อมๆ เลยมีหลายคนแห่มาเพื่อขอเข้าไปในโซนไร่องุ่น เคยเปิดให้เข้าชมอยู่พักหนึ่ง แต่มันมีความเสียหายเกิดขึ้น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเขาเลยไม่ได้เปิดให้เขาเยี่ยมชมอีก

           

 

เขาวางสายจากไอ้ดิน นึกหงุดหงิดที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น องุ่นน่ะไม่เท่าไหร่ มีแรงกำลังเดี๋ยวปลูกใหม่ก็ได้ แต่แม่วัวมันมีชีวิตจิตใจ เกิดมันเป็นอะไรไป มันจะกลายเป็นเรื่องเศร้า

           

 

“มีอะไรเหรอ” คนตัวเล็กพึมพำหน้าตาง่วงนอน คมเขี้ยวถอนหายใจแผ่วแล้วหันไปมอง

           

 

“มีปัญหาที่ฟาร์ม คุณนอนเถอะ กลับถึงฟาร์มก็ไปพักผ่อนซะ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วมุ่น หน้าตางอง้ำหน่อยๆ

           

 

“ทำไมปัญหามาเกิดตอนนายไม่อยู่ฟาร์มเพราะต้องไปเฝ้าฉันด้วยล่ะ…” คนป่วยแบะปากน้อยๆ “…เหมือนฉันเป็นตัวซวยเลยอะ…”

 

 

ร่างเล็กจิ๊ปากเบาๆ หันไปมองเสี้ยวหน้าหล่อๆ ของพ่อเขี้ยวกุด “…ฉันไม่ใช่นะ ฉันสวย ไม่ใช่ซวย”

           

 

คมเขี้ยวทำหน้าระอา แต่ก็มีรอยยิ้มขบขันด้วย หน้าตาอิดโรยขนาดนั้นยังมาห่วงความสวยตัวเอง เรียวจันทร์ยิ้มเพลีย ก่อนจะอ้าปากหาววอดๆ

           

 

“ไหนหันมาดูตาซิคุณนายว่าหายรึยัง” เรียวจันทร์หันไปแบบมึนๆ งงๆ แต่ก็เบิกเปลือกตาให้กว้างขึ้น คมเขี้ยวหันมองสักพักแล้วก็หันกลับไปมองถนนต่อ

           

 

“มันก็ลดลงนะ หยอดตาแล้วนอนพักผ่อนเดี๋ยวคงดีขึ้น” เรียวจันทร์ระบายยิ้มอ่อนๆ บนใบหน้าสด (สดจริงๆ ไม่ใช่สดใส)

           

 

“ชอบคุณ เอ้ย จะบอกว่าขอบคุณซะหน่อย…” เรียวจันทร์ยิ้มยิงฟันตาหยีน้อยๆ ให้ดูน่ารักน่าเอ็นดู 

 

 

“…ใครว่ามีแต่พิมพ์ผิดในโปรแกรมแชท พูดก็ผิดได้เห็นมั้ยล่ะ ขอบกับชอบต่างกันตรงหางนิดเดียวอะเนอะ เบลอยาแก้แพ้ก็เงี้ย” ถึงหน้าคุณนายแกจะเพลียเอาเรื่อง แต่ไอ้เรื่องเต๊าะเขาก็ยังเอาเรื่องอยู่เหมือนเดิมเช่นกัน แม้จะป่วยอยู่ก็ตาม

           

 

คมเขี้ยวทำปากยื่น เหลือบมองคนข้างๆ ด้วยสายตาระวัง เรียวจันทร์เห็นก็หัวเราะ แต่คงเพราะยังไม่หายดีซะทีเดียว พอหัวเราะมากไปเลยทำให้ไอโคร่กๆ

           

 

“นั่น สม ป่วยแล้วไม่เจียม ตอดผมดีนัก” เรียวจันทร์หยิบน้ำขึ้นมาจิบ อาการไอทุเลาลงจนเหลือไอแห้งๆ

           

 

“ฉันไม่ยอมตายง่ายๆ หรอก ถ้ายังจับนายทำผัวไม่ได้” คมเขี้ยวส่ายหัวเหนื่อยใจ แต่ไม่ได้คิดโกรธเคือง หรือขุ่นข้องหมองใจเหมือนแต่ก่อน

           

 

เริ่มจะชินแล้ว แม่คุณนายแกก็เต๊าะตอดเขาแบบนี้อยู่เรื่อย

           

 

“อุดมการณ์แน่วแน่จริงนะ กับการเรียนตั้งใจขนาดนี้มั้ย” เรียวจันทร์ยิ้ม คมเขี้ยวเห็นแล้วก็แอบอมยิ้มขำคนเดียว เพราะเป็นรอยยิ้มที่โคตรสะลึมสะลือ

           

 

“ในชีวิตที่ผ่านมา ฉันไม่เคยแน่วแน่กับอะไรมากเท่านี้เลยละ” ทำหน้าซะภาคภูมิใจเชียวนะแม่ตัวดี

           

 

คมเขี้ยวทำปากยื่นอีกที เรียวจันทร์เห็นแล้วก็ยิ้ม “นายทำปากยื่นๆ เหมือนเป็ดน่ารักอะ ฉันเคยคิดว่าตัวเองทำน่ารักแล้วนะ มาเจอนายทำน่ารักกว่าอีก”

           

 

“อยากได้ผม ก็ชมว่าน่ารักไปเรื่อย” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งก่อนจะส่ายหัวสองสามที

           

 

“ไม่นะ น่ารักจริงๆ” คมเขี้ยวหันไปหรี่ตามองคนตัวเล็กที่ยกมือขวาขึ้นมาทำท่าจะเกาต้นคอ

           

 

“อย่าเกานะ…” เรียวจันทร์หันมายิ้มแหย แล้วก็เปลี่ยนเป็นใช้ปลายนิ้วลูบๆ แทน “…นี่ถ้าได้ผมสมใจแล้ว ยังจะชื่นชมบูชากันอย่างงี้อยู่มั้ย”

           

 

เรียวจันทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ ขยิบตาให้คมเขี้ยวหนึ่งที “ลองได้พี่ก่อนสิคะน้องเขี้ยว…”

           

 

คุณนายแม่ตั้งตัวตรงขึ้น ยกขาซ้ายขึ้นไขว่ห้าง บิดตัวไปทางคมเขี้ยวมากขึ้นอีกนิด ใช้ข้อศอกขวาเท้ากับเบาะ สองมือจับประสานกันอย่างมีมาด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเป็นจริงเป็นจัง

 

 

“อยู่ทีมพี่สิคะ แล้วพี่จะทำให้น้อง ไม่ต้องกอดใคร นอกจากพี่” คมเขี้ยวยิ้มกว้างแล้วพยายามกลั้นขำจนไหล่ทั้งสองข้างสั่น เรียวจันทร์ยักคิ้ว พยักหน้าหนึ่งทีเป็นเชิงย้ำอีกครั้งว่า มาอยู่ทีมพี่สิคะ

           

 

“นอนไปเลย!” กำลังเก็กท่าโดยใช้ฟีลลิ่งพี่มาช่าก็โดนไอ้เขี้ยวกุดยื่นมือซ้ายมากดหน้าผากให้กลับไปพิงเบาะไว้ตามเดิม

           

 

เรียวจันทร์นั่งหัวเราะเบาๆ ไม่กล้าหัวเราะแรงมากกลัวจะไอโครกอีก คมเขี้ยวหันมามองยิ้มๆ แล้วก็ละสายตาไปมองถนนต่อ เรียวจันทร์หันไปสนใจวิวด้านนอก ภูเขา ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี เห็นแล้วก็สบายใจ รู้สึกเฟรช มันเหมือนได้เห็นของดีที่ทำให้ปอดโล่ง ซึ่งภาพแบบนี้ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นในกรุงเทพแน่นอน

           

 

คมเขี้ยวขับรถมาถึงฟาร์มช่วงสายๆ เขาจอดรถไว้ตรงใต้ต้นก้ามปูหน้าบ้านตัวเอง อาศัยร่มเงาที่แผ่กิ่งก้านเป็นตัวบังแดด คมเขี้ยวบอกให้เรียวจันทร์ไปพักผ่อน ส่วนตัวเขารีบวิ่งไปทางคอกวัว คุณนายแกเห็นท่าทางรีบร้อนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคืออะไร นางเลยตัดสินใจพาสาระร่างเบลอๆ ของตัวเองเดินไปทางคอกวัว

           

 

ภายในคอกไม่ได้มีเหตุวุ่นวายจนน่าตกใจ แต่ก็มีคนหลายคนกำลังล้อมรอบวัวสามตัว ตัวหนึ่งนอนนิ่ง อีกสองตัวยืนอยู่ แต่ก็มีท่าทีงุ่นง่านแปลกๆ ทุกคนไม่ได้ยืนมุงมองเฉยๆ บางส่วนช่วยกันเก็บกวาดซากอึ บางส่วนช่วยหมอจับตัววัว แล้วบางส่วนก็กำลังกรอกอะไรบางอย่างในขวดพลาสติกใส่ปากวัวที่นอนแน่นิ่ง  คมเขี้ยวยืนหน้าเครียด ยืนคุยกับผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวเหลืองคนหนึ่งที่ดูท่าจะเป็นหัวหน้าของทีมสัตวแพทย์

           

 

“อารียากินเศษเหล็กเข้าไป อาการเลยหนักสุด” คมเขี้ยวตวัดสายตาไปมองลูกน้องที่เป็นคนดูแลอาหารการกินของวัว ไอ้พวกนั้นหน้าตื่นแล้วส่ายหัวทันที

           

 

“พวกผมให้เหมือนเดิมตามปกติเลยนะพี่เขี้ยว สแกนหาโลหะก่อนให้อาหารทุกครั้งด้วย” เขารู้ว่าไอ้พวกนี้ไม่ทำร้ายวัวหรอก มันดูแลของมันมา เชื่อว่ามันก็รักของมันอยู่

           

 

“อีกสองตัวแค่กินของขึ้นราเข้าไปใช่มั้ยหมอ”

           

 

“ครับ ส่วนอารียา…” หมอเม้มปาก สีหน้าลำบากใจ เห็นแบบนั้นคมเขี้ยวก็เกิดใจไม่ดีขึ้นมา

           

 

“…ถ้ามันเป็นเหล็กเพียงชิ้นเดียวก็โชคดีไป ผมไม่รู้ว่าเขากินเข้าไปมากน้อยแค่ไหน” คมเขี้ยวหันไปมองแม่วัวตัวใหญ่ที่นอนหายใจฟืดฟาดอยู่บนพื้น

           

 

เรียวจันทร์ยืนอึ้งอยู่กับที่ ได้แต่หวังว่าวัวตัวนั้นจะไม่ตาย เพราะนางเคยอาบน้ำ เก็บอึให้มันมาก่อน อันที่จริงนางทำให้ทุกตัวนั่นแหละ เพราะคมเขี้ยวสั่งให้ทำ

           

 

“มันจะตายมั้ย” หลายคนแต่ก็ไม่ทุกคนหันไปมองร่างบางใบหน้าซีดเซียวที่เดินเข้ามามองแม่วัวช้าๆ

           

 

“ถ้าผ่าตัดแล้วเอาเศษเหล็กออกมาจนหมด ก็รอดครับ” คุณหมอตอบเสียงนุ่ม เรียวจันทร์หันไปมองคมเขี้ยวด้วยสีหน้าหวาดหวั่นจนคมเขี้ยวแอบนึกแปลกใจ

           

 

“อาทิตย์ก่อนฉันเพิ่งอาบน้ำให้มันไปเอง เปิดเพลงให้ฟังแล้วก็เต้นให้มันดูด้วย” คุณนายแกพึมพำหน้าเบ้ ตั้งท่าเหมือนจะร้องไห้  คุณหมอสัตว์หลุดยิ้มขำเล็กน้อย คมเขี้ยวถอนใจระบายยิ้มอ่อนบนใบหน้า

           

 

“มันจะตายเพราะคุณร้องไห้นั่นแหละ” พอว่าแบบนั้น คนตัวเล็กก็เม้มปาก พยายามกลั้นน้ำตา เหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่พยายามกลั้นสะอื้นเวลาโดนพ่อกับแม่ดุว่าไม่ให้ร้องไห้ตอนโดนขัดใจเรื่องของเล่นที่อยากได้ สร้างยิ้มจางบนใบหน้าทีมงานบางส่วนและทีมสัตวแพทย์

           

 

“ไอ้ดิน พาเขาไปนอนไป เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล คงยังเพลียอยู่” ดินวางคราดสีดำอันใหญ่ที่ถือไว้พิงกับเสาไม้ เดินตรงไปหาคุณเรียวที่ยืนหน้าซีดเซียวอยู่กับที่

           

 

“ไปครับคุณเรียว ดินพาไปนอน” เรียวจันทร์พยักหน้า หมุนตัวเดินตามดินออกไปจากคอกวัวอย่างง่ายดาย ทิ้งให้พวกคมเขี้ยวกับคุณหมอช่วยชีวิตแม่วัวตัวนั้น

           

 

แกอย่าตายนะ ถ้าแกรอดฉันสัญญาว่าจะเต้นเพลงบริทนีย์ สเปียร์ให้แกดูอีก ฉันรู้ว่าแกชอบ เพราะฉันเต้นสวย



 :hao3:


พี่เขี้ยวสนใจจะอยู่ทีมแม่เรียวมั้ยคะ ถ้าอยู่รับรองเลยว่า พี่เขี้ยวจะได้เป็นเดอะเฟซแน่ๆ 5555 เพราะแม่ตั้งใจจะปั้นพี่เขี้ยวเน้นๆ เชียวละ คริๆ -.,-

เขาก็ค่อยๆ เขยิบเข้าหากันเนาะ รวดร้อน รวดเร็วมิด้าย พี่เขี้ยวเป็นผู้ชายยยย อีแม่เราก็เปิดตัวซะแรงด้วยว่าจะเอาเขาทำผัว 55555 แต่ตอนนี้แม่เริ่มเบาลง พี่เขี้ยวเลยไม่ต้องพกพระแล้ว เข้าใกล้แม่ได้อย่างปลอดภัยแล้ว



ที่หายไปนานอย่างที่ทราบกันเนอะว่า ประเทศเรามีความสูญเสียเกิดขึ้น ตอมก็ลังเลว่าควรจะอัพนิยายดีมั้ย อัพได้หรือไม่ แต่ก็ขอคิดในด้านดีว่า คนอ่านที่ตามอ่านกันอยู่ คงอยากมีรอยยิ้มเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ก็เลยขอให้แม่เรียวนำความสุขนิดๆ หน่อยๆ มาให้ในช่วงหม่นๆ แบบนี้ค่ะ



ขอบคุณคนอ่านทุกๆ คนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ ขอบคุณทุกคอมเม้นที่คอยเม้นให้ เห็นคอมเม้นแล้วก็มีกำลังใจเขียนและอัพต่อไปนี่แหละค่า ขอบคุณมากนะคะ ^_^



สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                             
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ



หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/35% :19.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-10-2016 15:15:34
แม่นางยังคงฮาได้แม้กระทั่งเวลาป่วย แอบสงสัยว่าคนทำต้องเป็นสายขเสี่ยที่แฝงตัวเข้ามาแน่ๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/35% :19.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-10-2016 16:33:24
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/35% :19.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-10-2016 18:52:04
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/35% :19.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-10-2016 19:52:19
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/35% :19.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 19-10-2016 20:18:46
ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/35% :19.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 19-10-2016 20:29:10
 :impress2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/35% :19.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 20-10-2016 00:32:49
คุณนายมีความหมั่นมากอ่ะ o13 ว่าตัวเองเต้นสวย :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/35% :19.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 20-10-2016 07:29:21
นิสัยเรียวจันทร์เหมือนตารหัสมาก แม่นางชอบโก๊ะแต่น่ารัก ชอบนิสัยเรียวดูชิลดี
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/35% :19.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 20-10-2016 18:31:23
ชิบเรียวจันทร์. อยากรู้ว่าแม่นางจะตัดสินปัญหาในชีวิตยังไงดี. 555555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/35% :19.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: rawinan99 ที่ 21-10-2016 21:00:13
ชอบคุณนายเรียวมากเลยย อิอิ o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/70% :23.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 22-10-2016 23:56:08



คาถาที่ 15 [70%]




หลังจากหลับคล้ายว่าตายไปนาน คุณนายนางก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกทีตอนหกโมงเย็น แล้วที่ตื่นก็เพราะดินเข้ามาปลุกด้วย ไม่งั้นคงนอนทะลุมิติไปแล้ว ข้าวเที่ยง ยาเที่ยงก็ไม่ได้กินเพราะหลังจากดินช่วยหยอดตาให้ นางก็หลับยาวๆ แม้ก่อนหลับจะยังนึกกังวลถึงแม่วัวบ้าง แต่ดินก็คลายกังวลว่าหมอที่มา เป็นหมอที่เก่งมาก ช่วยดูแลรักษาสัตว์ในฟาร์มมานานแล้ว

           

 

“นี่ฉันต้องทำอะไรก่อนบ้าง งงไปหมด” คุณนายแกว่าหน้าตาสลึมสลือ

           

 

“ไปอาบน้ำก่อนแล้วกันครับ คุณเรียวใส่ชุดเดิมตั้งแต่เมื่อวาน ดีนะครับเนี่ยที่มันไม่ทำให้ผื่นขึ้นอีกรอบ” เรียวจันทร์หันไปพยักหน้าให้ดินแบบเบลอๆ ค่อยๆ ลงจากเตียง มีเซเบาๆ แต่ดีที่ดินเข้ามารับไว้ได้ เลยพาประคองเข้าไปในห้องน้ำซะเลย

           

 

พอได้น้ำเย็นๆ คุณนายแกก็ตื่นเต็มตา และรู้สึกตื่นตัวกว่าเก่า สำรวจตามร่างกายก็ยังเห็นผื่นแดง รอยแดงอยู่บ้าง แต่ไม่เยอะเท่าเมื่อวาน อาการเลือดฝอยแตกในตาลดลง จนเหลือเพียงเล็กน้อย ถ้าไม่ได้สังเกตก็คงไม่เห็น คิดว่าอีกสักสองวันหรือสามวันก็น่าจะหายเป็นปกติแล้ว

           

 

“ดิน แล้วแม่วัวเป็นไงบ้าง”

           

 

“ปลอดภัยแล้วครับ หมอเอาเหล็กออกมาจากท้องมันจนหมดเลย” คิ้วสวยขมวดฉับในขณะที่กำลังนั่งเป่าผมให้แห้งหน้ากระจก

           

 

“มันกินเข้าไปได้ยังไงอะ” ดินทำหน้าตึงเหมือนกำลังโมโหอะไรสักอย่าง ซึ่งก็กำลังโมโหจริงๆ นั่นแหละ

           

 

“มีคนเอาให้มันกินครับ” นางถึงกับปิดเครื่องเป่าผมเพื่อหันไปพูดกับดิน

           

 

“อะไรนะ ประสาทรึเปล่าคนเอาให้กินอะ”

           

 

“ไม่ประสาทหรอกครับ แต่มันเลว ต้องมีใครจงใจอยากให้วัวในฟาร์มเป็นอะไรแน่ๆ” พอได้ยินแบบนั้น สีหน้าเรียวจันทร์ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเครียด แววตาครุ่นคิดอย่างนึกสงสัย

           

 

“กล้องวงจรปิดล่ะ มีรึเปล่า เอามาเปิดให้เห็นไปเลยว่าใครทำ” ดินทำหน้าไร้อารมณ์ผสมเสียดาย

           

 

“ไม่มีหรอกครับ ไม่มีใครคิดว่าจะมีใครมาทำอะไรวัวแบบนี้ เพราะฟาร์มเราก็แน่นหนามากพอ” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ หน้าตาอึกอัก จะด่าก็ไม่ได้ เพราะเอาเข้าจริง จะติดกล้องวงจรปิดติดตามชีวิตวัวแบบนังหมีแพนด้าก็ดูจะประหลาดไปหน่อย

           

 

“ใครมันทำอะ น่าทุบหน้าจริงๆ ถ้าทำจมูกนะ แม่จะเอาให้หมอแก้ไม่ได้เลยคอยดู” นางบ่นเสียงเหวี่ยง ยกผ้าขนหนูขึ้นเช็ดหัวเร็วๆ

           

 

“ดินว่าคนในฟาร์มนี่แหละ…” คนตัวเล็กเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่าชัวร์เหรอ ดินทำหน้าไม่มั่นใจนักแต่ก็พูดต่อ

 

 

“…ไม่งั้นมันไม่เจาะจงอารียากับอีกสองตัวหรอกครับ สามตัวนั้นน่ะ ให้น้ำนมดีจะตาย แต่อารียาน่ะนมแน่นกว่าใคร” กำลังเครียดๆ พอได้ยินดินพูดหน้าซื่อก็หลุดขำ จนคนตัวใหญ่กว่ายิ้มกว้างขำอย่างงงๆ ไปด้วย

 

 

“ถ้างั้นฉันก็ต้องระวังตัวแล้วละ เพราะฉันก็นมใหญ่อยู่นะ” เรียวจันทร์ห่อไหล่ทำท่าบีบหน้าอกเหมือนกำลังถ่ายปกหนังสือปลุกใจเสือป่าอยู่ ไอ้ดินเห็นแล้วก็ยิ้มแฉ่งโชว์ฟันขาวเรียงตัวสวยงาม

 

 

กำลังจะอ้าปากพูดกับดินต่อ แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยการเข้ามาในห้องของเจ้าของฟาร์ม คมเขี้ยวกำลังจะอ้าปากพูดกับเรียวจันทร์ พอหันไปเห็นไอ้ดินก็ชะงักไปนิดหนึ่ง

 

 

“อ้าว ไอ้ดิน มึงมายืนดูเขาแก้ผ้ารึไงเนี่ย”

 

 

“ยังไม่ทันแก้เลย ดินยังไม่เห็นสักหน่อย” ร่างบางว่าด้วยรอยยิ้มทะเล้น ขยิบตาให้ดินที่ยิ้มเขิน คมเขี้ยวทำหน้าเอือมนิดหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ขึงขังอะไรมาก

 

 

“รีบแต่งตัว จะได้ขึ้นไปกินข้าว แม่กับพ่อรออยู่”

 

 

“แล้วนายรอฉันด้วยรึเปล่า”

 

 

“รอเสิรฟ์ปลาตีนให้อยู่” คมเขี้ยวยักคิ้วหน้านิ่ง เรียวจันทร์เบ้ปากและย่นจมูกใส่ร่างสูง หันไปเป่าผมต่อ เร่งเบอร์แรงสุดเพื่อให้ผมแห้งเร็วๆ

 

 

เสียงเครื่องเป่าผมดังจนคุณนายแกไม่ได้ยินว่าสองหนุ่มด้านหลังกำลังพูดอะไรกัน แต่พอหันกลับมาอีกทีก็เห็นเพียงคมเขี้ยวยืนอยู่คนเดียว คุณนายแกชะโงกหน้ามองทางประตูนิดหนึ่ง

 

 

“ดินล่ะ”

 

 

“ไปช่วยแม่ทำกับข้าว” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าอ๋อแล้วลุกขึ้นยืนไปหาเสื้อผ้าจากในตู้ไม้มาใส่

 

 

“เดี๋ยว ทายารึยัง แขนยังแดงอยู่เลยน่ะ” ร่างเล็กทำหน้าตกใจนิดหนึ่งที่เกือบลืมทายา

 

 

“โอ๊ะ ลืม แต่เอาจริงๆ ทาก่อนนอนก็ได้นะ จะได้หลับไปยาวๆ เลย”

 

 

“ทาไปเลย จะมารอทำไม” เรียวจันทร์หรี่ตามองคมเขี้ยวที่ยืนตีหน้านิ่งแว้บหนึ่ง

 

 

“อยากสัมผัสผิวฉันล่ะซี้” คนโดนแซวยกสองแขนกอดอก กดหน้าลงมองหน้าล้อเลียนอีกฝ่ายอย่างนิ่งเฉย จนแม่คุณนายต้องหยุดทำหน้าตาปัญญาอ่อนไปเอง

 

 

“ยังไม่ทันบอกเลยนะว่าจะทาให้” คมเขี้ยวหันตัวทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง เรียวจันทร์รีบเดินเข้าไปคว้าแขนเอาไว้ แล้วออดอ้อนยกใหญ่

 

 

“อ๊า ทาให้เค้าหน่อยน้า นะๆๆ…” เรียวจันทร์กระตุกแขนล่ำสามสี่ที่ อีกฝ่ายก็หันตัวกลับมา ใบหน้ายังเฉยเมยเหมือนเดิม แต่เรียวจันทร์ไม่สนหรอก

 

 

นางหน้าด้าน

 

 

“…ฉันล่ะช้อบชอบเวลามือของนายสัมผัสไปทั่วร่างของฉัน…” แม่ตัวดีทำปากเผยอ หรี่ตาทำหน้าเซ็กซี่ แหวกเสื้อคลุมตรงช่วงไหล่ออก เผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียดราวกับน้ำนมที่ยังมีผื่นแดงจางๆ ติดอยู่

 

 

“…ทาให้หน่อยนะคะคุณคมเขี้ยว แล้วเรียวจันทร์จะเป็นเด็กดี” พูดจบก็ส่งจูบเสียงดัง หมั่ว! ให้พ่อรูปหล่อหนึ่งทีและปิดท้ายด้วยการกัดริมฝีปากล่างแผ่วๆ กะว่าเซ็กซี่ที่สุดแล้ว

 

 

แต่พ่อคาวบอยก็ทำเพียงเบ้ปากนิดหน่อยพร้อมยักไหล่ทั้งสองข้างหนึ่งที “แอคติ้งจบยัง จะได้ทายา จะได้ไปกินข้าว หิว”

 

 

คุณนายทำหน้าหมดอารมณ์ แต่ก็แค่แปบเดียวนางก็เปลี่ยนมาเป็นยิ้มแย้ม ก่อนจะเดินนำร่างสูงไปทางเตียง หยิบขวดยาที่วางไว้บนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมาส่งให้คนข้างหลัง

 

 

“อะ! รบกวนด้วยนะคะคุณคมเขี้ยว” เรียวจันทร์ยืนหันหลัง ปลดเสื้อคลุมอาบน้ำออกช้าๆ ปล่อยให้ผ้าลงไปกองตรงช่วงบั้นเอวบางๆ ของตัวเอง แล้วก็นั่งลงบนขอบเตียงโดยที่ไม่รู้เลยว่าคนตัวสูงกำลังยืนมองแผ่นหลังขาวเนียนกับบั้นท้ายโค้งงอนของตัวเองที่โผล่แพลมๆ จากชุดอาบน้ำอย่างมึนงง

 

 

ผู้ชายอะไรทำไมมันมีทรวดทรงองค์เอวแบบนั้น ไม่เท่าผู้หญิงก็จริง แต่แม่งก็อ้อนแอ้นเกินชายไปมาก

 

 

“นี่ๆ คุณพี่คะ มาค่ะ เย็นมากค่ะตอนนี้” คุณนายนางยกมือขวาขึ้นมากวักมือเรียกโดยไม่ได้หันไปมองพ่อคาวบอย คมเขี้ยวกะพริบตาอีกสองสามทีแล้วก็นั่งลงบนขอบเตียง เทยาใส่ฝามือแล้วค่อยๆ ลูบไปตามแผ่นหลังเนียนละเอียด

 

 

เมื่อคืนที่โรงพยาบาล มันยังมีไอ้พวกผื่นแดงๆ หนาตึ้บอยู่ไง แต่ตอนนี้มันลดลงแล้ว นี่ถ้าหายดี ผิวทั้งตัวของไอ้จันทร์ไรคงเนียนกริ๊บ

 

 

“ดินบอกว่าวัวปลอดภัยแล้ว ดีใจด้วยนะ สงสัยฉันต้องไปเต้นเพลงบริทนีย์ในคอกวัวแล้วละ” คมเขี้ยวยกยิ้มมุมปากในขณะที่มือก็ลูบยาไปตามความยาวของแผ่นหลัง

 

 

“ทำไมต้องไปเต้นด้วย”

 

 

“ก็ฉันภาวนาไว้ ว่าถ้านางรอด ฉันจะไปเต้นให้ดูอีก ฉันรู้ว่านางชอบ ลายเต้นฉันสวยพอๆ กับหน้าฉันเลยนะ” นางว่าอย่างมั่นอกมั่นใจ คมเขี้ยวขำในลำคอ

 

 

“รู้งี้ผมให้คุณภาวนาให้องุ่นผมรอดด้วยดีกว่า” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้น เอี้ยวหน้าไปมองหน้าอีกคนผ่านไหล่ตัวเอง

 

 

“ทำไมอะ องุ่นเป็นอะไรเหรอ” ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้คมเขี้ยวนึกอยากพูดปัญหานี้ให้อีกฝ่ายฟัง อาจเพราะแม่คุณนายนางไม่ใช่คนเครียดมั้ง นางมักทำให้ปัญหาเครียดๆ เบาลง ทำให้รู้สึกว่าปัญหาที่มี มันไม่ได้หนักหนาจนหาทางออกหรือทางแก้ไขไม่ได้ ดูได้จากวันนี้

 

 

“องุ่นผมตายไปครึ่งไร่เห็นจะได้”

 

 

“ตายได้ไงอะ” คมเขี้ยวลูบมือช้าๆ บนหลังขาวเนียนฝั่งที่เหลือ

 

 

“มีคนเอายาฉีดให้มันตาย” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว ใบหน้าคิดวกไปวนมา จนลืมรู้สึกว่าคมเขี้ยวไล่มือลงไปต่ำถึงบั้นท้ายของตัวเอง

 

 

และกำลังมองอย่างลืมตัว ถ้าแม่คุณนายไม่หันตัวมา ชายหนุ่มคงมึนกับบั้นเอวงอนๆ ไปพักใหญ่

 

 

“แสดงว่ามีคนจงใจทำให้ทั้งวัวนายและองุ่นนายตาย” คมเขี้ยวกะพริบตาถี่ๆ แล้วตั้งสติสักแปบ ก่อนจะพยักหน้าแบบงงๆ

 

 

“คิดว่างั้น มันดูจงใจไป” เขามองผื่นแดงๆ บนไหล่และอกของเรียวจันทร์แล้วเทยาลงบนฝ่ามือ ก่อนจะยื่นไปลูบตามไหล่ตามอก เรียวจันทร์เหมือนจะรู้ตัวขึ้นมานิดว่าเพลินไปหน่อย เลยรวบเสื้อคลุมปิดๆ ด้านล่างเอาไว้ แต่ด้านบนนางแอ่นให้อีกฝ่ายสัมผัสเต็มที่ค่ะ

 

 

“หน้าอกฉันอาจจะไม่ฟูมาก แต่ขย้ำมันเหมือนกันนะ” คมเขี้ยวยิ้มเพลีย เขาว่าจริงๆ ไม่ใช่เพราะไอ้จันทร์ไรมันทำให้ปัญหาเบาลงหรอก แต่เป็นเพราะมันชอบนอกเรื่อง ชอบพาออกทะเลต่างหาก

 

 

“เสร็จแล้ว ส่วนลึกลับตรงที่อื่นทาเองได้ใช่มั้ย” เรียวจันทร์ทำท่าอิดออดอย่างมีจริต

 

 

“แหม อยากให้ทาให้หมดเลยอะ เนี่ย ขาหนีบด้านในก็มีนะ” นางว่าแล้วแกล้งเลิกชายเสื้อคลุมตรงต้นขาขึ้นมาให้มันสั้นลง เผยให้เห็นความขาวเนียนละเอียดที่ไร้ขนมาบดบัง

 

 

“พอ เอาไปทำเอง เดี๋ยวผมรอข้างนอก” เรียวจันทร์หัวเราะ คมเขี้ยวส่ายหัวน้อยๆ แต่มุมปากก็กระตุกเป็นรอยยิ้ม พอตอนที่พ่อคาวบอยกำลังจะลุกขึ้น เรียวจันทร์ก็กระโดดขึ้นไปนั่งทับตักอีกฝ่ายไว้

 

 

“เฮ้ย!” คมเขี้ยวร้องตกใจ แต่แขนขวาก็รีบโอบรัดเอวเล็กเอาไว้เพราะกลัวแม่ตัวดีจะหงายหลังลงพื้น เรียวจันทร์ยกแขนซ้ายคล้องคอหนาของชายหนุ่มไว้แล้วอมยิ้ม

 

 

“ฉันยังไม่ปล้ำหรอกน่า แค่อยากให้ความอุ่นใจ…” คมเขี้ยวขมวดคิ้วทำหน้างง เขาไม่ได้คิดผลักไสไล่ส่งแม่คุณนายออก เพราะรู้ว่ายิ่งต่อต้าน นางก็ยิ่งจะบุกหนักขึ้น

 

 

“…เมื่อวานนายให้ฉันกอด ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก วันนี้ฉันจะกอดนายบ้างนะ” คนตัวเล็กยิ้มกว้างแล้วก็โผเข้ากอดคนตัวใหญ่กว่า คางเกยอยู่บนไหล่ขวาของคมเขี้ยว สองมือลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ

 

 

คมเขี้ยวนั่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะถอนหายใจแผ่วเบา เขาไม่ได้กอดตอบ เพราะแขนขวาก็โอบรัดเอวเรียวจันทร์ไว้อยู่แล้ว เขาเลยทำแค่กระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นอีกนิดและเอาคางเกยไหล่ขวาของอีกฝ่ายไว้อีกหน่อย

 

 

ไม่มีคำพูดใดๆ หรือการลวนลามใดๆ เพิ่มเติม เรียวจันทร์แค่นั่งกอดเขาไว้แบบนั้นจริงๆ

 

 

เหมือนที่ทำกันเมื่อวาน

 

 


และพอได้กอดกันอีกครั้ง ความผูกพันของทั้งสองคนมันก็เพิ่มขึ้นอีกหลายวินาที 



 :mew3:


อะ เขากอดกันอีกละ -.,- ค่อยๆ เพิ่มความผูกพันกันไปต่อใจทั้งสองคน คริๆ

เขียนมาสองเรื่อง กว่าพระนายจะได้กัน คนอ่านจะขาดใจแทน 55555

เอาหน่าาา ค่อยเป็นค่อยไปเนาะ พี่เขี้ยวมีป้อมปราการมาแต่แรก ได้เท่านี้ ก็น่ารักขึ้นละนา อุอิๆ

สรุปน้องวัวปลอดภัย แม่จันทร์ไรของพี่เขี้ยวเตรียมตัวแก้บนนะคะ เลือกลิสต์เพลงของบริทนีย์ไว้เลยค่ะ  :hao7:



ในช่วงนี้ประเทศไทยเราอาจจะหม่นๆ ไปบ้างด้วยเหตุการณ์ที่สะเทือนใจคนไทยหลายคน ยังไงขอให้แม่เรียวได้ทำให้คนอ่านของขุ่นเจ้อมยิ้มบ้างเนอะ


ขอบคุณคนอ่านที่เล้าเป็ดมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามเรื่องนี้ มีกำลังใจเสมอเมื่อเห็นคอมเม้นต์  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/70% :23.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 23-10-2016 00:14:30
แม่เรียวเป็นติช่าปะจ๊ะ องค์แม่บริทลงทีเดียว :katai3:
่ว่าไงคะพี่เขี้ยว ตูดแม่เรียวงอนมากป้ะ :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/70% :23.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-10-2016 00:53:57
 :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/70% :23.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 23-10-2016 00:57:59
แหมมม พี่เขี้ยวก็แอบเคลิ้ม ลองได้กินแล้วจะติดใจ  :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/70% :23.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-10-2016 05:28:46
ขุ่นแม่นี่สร้างสีสันจริงๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/70% :23.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 23-10-2016 06:33:10
ได้กันๆๆๆๆๆ :katai3: อ้ออ ยังๆ แหม อิฉันก็อินไปคมเขี้ยวเริ่มเทใจให้คุณแม่นางหรือยังค่ะ คนอ่านจะขาดใจแล้ว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/70% :23.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 23-10-2016 14:13:58
กอดบ่อยๆ ระวังจะอยากกอดไม่ปล่อยนะพี่เขี้ยว ^^
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/70% :23.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 24-10-2016 01:44:30
ตอนนี้สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจลืมความทุกข์โศกบ้างคือ การอ่านนิยายจ้ะ น้ำตาแตกทุกวัน ๆ ละสามเวลาเลย งานนี้แม่เรียวกับพี่เขี้ยวกำลังมีพัฒนาการที่ดีขึ้นแล้ว งวดหน้าอยากเห็นแม่เรียวเต้นจังเลย เอาให้พี่เขี้ยวหลงไปเลยน้า วัวก้อมีนมเยอะ ๆ ด้วย  :mew4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/70% :23.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 24-10-2016 08:59:01
 :-[ :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 26-10-2016 23:26:28



คาถาที่ 15 [100%]




นั่งกอดกันอยู่นาน จนคมเขี้ยวต้องเป็นฝ่ายสะกิดให้คนบนตักรู้ตัว แม่คุณนายดึงหน้าตัวเองออกมามองคนตัวโตด้วยท่าทีสลึมสลือเหมือนจะหลับ นางยอมรับว่าอบอุ่นจนรู้สึกสบายตัว เลยเกือบเคลิ้มหลับทั้งที่ไม่ได้กินยาแก้แพ้เข้าไป

 

 

คมเขี้ยวปล่อยให้อีกฝ่ายทายาในส่วนอื่นๆ ที่เป็นส่วนลับและแต่งตัวให้พร้อม เขาออกไปรอนอกห้องนอน ผ่านไปไม่นานเรียวจันทร์ก็ออกมาในชุดนอนพร้อมกับถือถุงยาออกมาด้วย ทั้งคู่พากันเดินไปทางบ้านใหญ่

 

 

“นี่ แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ยังจะไปเดินป่าอยู่หรือเปล่า” เรียวจันทร์ถามตอนที่กำลังเดินขึ้นบันไดบ้านไปชั้นบน

 

 

“เดี๋ยวดูก่อนว่าสถานการณ์เป็นไง” เรียวจันทร์พยักหน้าและนึกขึ้นได้อีกอย่าง

 

 

“นายคิดว่าจะหาตัวคนทำผิดได้มั้ย” คมเขี้ยวตาวาวนิดหนึ่งก่อนตอบเสียงเรียบ

 

 

“ต้องได้สิ” ร่างเล็กเม้มปาก ไม่ได้ตอบรับอะไร แค่เดินเข้าไปในบ้าน ตรงไปทางครัวก็เจอพ่อ แม่และดินกำลังเตรียมโต๊ะอาหาร เมฆาเดินเข้ามาสำรวจร่างกายเรียวจันทร์ทันที

 

 

“เป็นไงบ้างหนูเรียว ไอ้เขี้ยวว่าผื่นแดงอย่างกับลมพิษ” ร่างเล็กยิ้มก่อนตอบ

 

 

“ก็เกือบเป็นลมพิษอยู่แหละค่ะป๋า แต่ว่าได้หมอดีแล้วก็ได้คนดูแลดี เลยหายไว” เรียวจันทร์ยิ้มกรุ้มกริ่ม เหลือบไปมองทางคมเขี้ยวที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะเดินไปทางโต๊ะอาหาร

 

 

“ต่อไปหนูไม่ต้องไปยุ่งกับงานแบบนั้นอีกแล้วนะลูก ให้คนงานเขาทำไป เดี๋ยวเป็นหนักว่านี้ล่ะแย่เลย” หญิงสาวคนเดียวในบ้านเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นห่วง แอบเหล่มองลูกชายตัวเองที่ทำหน้าเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่

 

 

“แล้วคนดูแลที่ว่าดีน่ะใครเหรอหนูเรียว” บัวบูชาแกล้งถาม

 

 

“ผมไงแม่บัว” ดินว่ายิ้มๆ คมเขี้ยวเหล่มองตาขวางนิดหน่อย

 

 

“อ้าว ดินเองเหรอ มีน้ำใจจริงเชียว” คุณบัวเอ่ยชมด้วยรอยยิ้ม ตบบ่าหนาของลูกชาย (บุญธรรม) เบาๆ ไอ้ดินยิ้มรับกับคำชมนั้นจนคนพี่อดหมั่นไส้ไม่ได้

 

 

“น้อยๆ หน่อยแม่ ผมไปดูแลมันมาทั้งคืนนะ”

 

 

“อ้าว แกไปดูแลหนูเรียวมาเรอะไอ้เขี้ยว”

 

 

“โถ่ป๋า อย่ามาทำใส ก็เมื่อคืนบอกไว้แล้วไง”

 

 

“โทษทีๆ ปกติแกไม่ค่อยทำเรื่องดีๆ แบบนี้” ทั้งบ้านหัวเราะ มีคมเขี้ยวคนเดียวที่นั่งหน้าบึ้ง แต่ก็ไม่ได้บึ้งโกรธเคืองเป็นเรื่องเป็นราว

 

 

เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง เดินไปนั่งตรงข้ามกับคมเขี้ยว “พี่เขี้ยวดูแลเรียวดีค่ะ ถ้าไม่ได้เขา เรียวก็แย่เหมือนกัน แต่ดินก็ด้วยนะ”

 

 

เมฆาหัวเราะชอบใจกับลูกหยอดของลูกเพื่อนสนิท เล่นเอาไอ้ดินยิ้มเขิน “จริงๆ หนูเรียวขึ้นมานอนกับเราก็ได้นะลูก เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะได้ช่วยทัน”

 

 

“ไม่เป็นไรค่ะแม่ เรียวชินตรงนั้นแล้ว ส่วนตัวดีด้วย ไม่ได้บอกว่าคุณป๋ากับคุณแม่หรือใครวุ่นวายนะคะ แต่ว่า ชินจนชิลไปแล้ว”

 

 

“เอาตามที่หนูสะดวกเถอะ แม่แค่เสนอ ถ้าอยากขึ้นมานอนด้วยกันก็บอกนะ ตอนนี้พี่เขี้ยวเขาคงไม่ขัดแล้วละมั้ง” คนถูกเมนชั่นถึงทำหน้าเงอะงะนิดหน่อย ก่อนจะยักไหล่หนึ่งทีแล้วก็กินข้าวต่อ เมฆายิ้มกริ่มที่เห็นลูกชายตัวเองไม่ต่อต้านลูกชายเพื่อนสนิทของเขาแบบแต่ก่อน

 

 

“นอนกับดินก็ได้นะครับคุณเรียว”

 

 

“เอ๊ ไอ้ดินนี่ยังไง จะเอาหนูเรียวเป็นเมียเรอะ”

 

 

 

“ได้ก็ดีครับนาย ดินชอบ” สองสามีภรรยาหัวร่อชอบใจ ไอ้ดินยิ้มหวานเขินๆ เรียวจันทร์อมยิ้มแล้วทำปากยื่น เลิกคิ้วขึ้นสูงเพื่อแซวดิน ส่วนคมเขี้ยวยิ้มหึ ไม่ได้ออกความเห็นว่าอะไร แค่นั่งกินข้าวต่อไปเงียบๆ คนเดียว

 

 

เมฆากับบัวบูชารับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฟาร์ม แต่ทั้งสองก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายมากมาย เพราะเชื่อว่าลูกชายจะแก้ไขได้เอง คมเขี้ยวไม่ได้ปรึกษาอะไรกับพ่อเป็นจริงเป็นจังบนโต๊ะอาหาร แค่เล่าให้ฟังว่าอาการแม่วัวเป็นยังไง หมอให้ดูแลแบบไหน และไร่องุ่นเสียหายไปเท่าไหร่ วิธีการแก้ปัญหาก็ไม่ซับซ้อน แค่ถอนอันเก่าออกแล้วปลูกใหม่ ส่วนที่ยังรอดอยู่ก็ดูแลมันให้ดีต่อไป

 

 

“แล้วมีหลักฐานอะไรมั้ยที่จะชี้ตัวคนทำผิด” หญิงสาวเอ่ยถามพลางตักอาหารใส่จานข้าวตัวเอง

 

 

“ที่คอกวัวไม่เจอ ที่ไร่องุ่นมีกล้องวงจรปิด แต่คนทำมันตัดสายกล้องวงจรปิดเกือบหมด” เรียวจันทร์อ้าปากหวอน้อยๆ ทั้งที่มีข้าวอยู่ในปาก

 

 

“เกือบหมด ก็แสดงว่ายังมีหลงเหลืออยู่” ชายหนุ่มถอนใจเบาๆ กับประโยคของพ่อ

 

 

“มันกวนตีน มันตัดแค่ใกล้ๆ กับที่มันเอายามาฉีด แต่ที่ไกลๆ เหมือนทิ้งไว้ให้เห็นรูปร่างมันแล้วให้เรามาเดากันเอง” คิ้วเรียวสวยของเรียวจันทร์ขมวดคิ้วฉับ นึกอยากจับไอ้คนทำผิดมาตีหน้าให้เลือดอาบ

 

 

“มันต้องใครสักคนในฟาร์มนี่แหละพี่เขี้ยว ไม่งั้นมันไม่รู้มุม รู้ทิศดีขนาดนั้น” ดินว่าอย่างหงุดหงิด

 

 

“อาจจะเป็นคนนอกก็ได้ดิน อย่าด่วนสรุปคนกันเองสิ” บัวบูชาบอกอย่างใจเย็น เรียวจันทร์คิ้วกระตุก ในใจรู้สึกหายว้าบแปลกๆ มันเหมือนมีอะไรมาสะกิดใจ

 

 

คนในฟาร์ม… คนกันเอง…

 

 

“จะนอกจะในฟาร์ม ผมก็จะหาตัวมันให้เจอ” คมเขี้ยวพูดเสียงติดจะเหี้ยม เรียวจันทร์นั่งครุ่นคิดว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

 

 

“อิ่มแล้วเหรอหนูเรียว” คนถูกทักหันไปมองแม่ของคมเขี้ยวแล้วยิ้มแห้ง

 

 

“อิ่มแล้วค่ะแม่”

 

 

“อิ่มแล้วก็กินยา” เรียวจันทร์กระตุกยิ้มนิดหน่อย หยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม หูยังคงได้ยินหนุ่มๆ ทั้งสามคุยกันเรื่องที่เกิดขึ้นในฟาร์ม ผ่านไปได้ห้านาทีคุณนายแกก็กินยาตามที่หมอสั่ง

 

 

“เอ่อ เดี๋ยวเรียวขอตัวก่อนนะคะ พอดีนัดกับเป็ดไว้ว่าจะโทรเม้าท์กัน” นางยิ้มตาหยี แต่รอยยิ้มก็ไม่เต็มปากนัก ผู้ใหญ่ทั้งสองตอบรับคำบอกของเจ้าตัว

 

 

“เดี๋ยวผมเดินไปส่งนะครับคุณเรียว” คุณนายนางทำโต ยกสองมือกดไหล่ทั้งสองข้างของดินเอาไว้

 

 

“อู๊ย ไม่ต้องจ้าดิน ยังกินไม่เสร็จเลย ตามสบายๆ” หล่อนยิ้มหวาน พยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงยืนยันว่าให้ดินนั่งกินข้าวต่อไป

 

 

“ขอโทษด้วยนะคะคุณแม่ที่ไม่ได้อยู่ช่วยล้างจาน พอดีนังเป็ดมีเวลาเม้าท์ไม่มากน่ะค่ะ”

 

 

“ไม่เป็นไร ไปเถอะจ้ะ พรุ่งนี้เช้ามากินข้าวด้วยกันอีกนะ”

 

 

“แน่นอนค่ะคุณแม่” เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง พอหันไปจะลาคุณป๋า ก็แทบยิ้มค้างเมื่อเจอสายตาจับผิดของคมเขี้ยวมองอยู่ นางแอคติ้งเนียนยิ้มต่อและเอ่ยลาเมฆา

 

 

แต่บอกได้เลยว่า แอคติ้งรอบนี้ครูแงะไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่

 

 

“เดี๋ยวผมไปส่ง” คมเขี้ยวรวบช้อนไว้บนจาน เรียวจันทร์เกือบจะโวยวายว่าไม่ต้อง แต่สติเตือนอย่างเร็วปรื๋อว่าเมื่อกี้ทำให้ครูแงะเสียชื่อไปแล้วหนึ่งช็อต ฉะนั้นจะพลาดอีกไม่ได้

 

 

“ไม่ต้องหรอก ฉันเดินเองได้จริงๆ” นางลดท่าทีตื่นตูมลงจนเป็นปกติ และพยายามบอกอย่างเรียบๆ ว่าเดินกลับห้องได้เองจริงๆ

 

 

“มีพิรุธนะ ปกติถ้าผมจะไปส่งต้องกระดี๊กระด๊าแล้ว” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ หันไปมองผู้ใหญ่อีกสองคนที่นั่งอ้าปากค้างน้อยๆ ก่อนจะขำกันเบาๆ

 

 

“เออๆ ก็ได้ แหม ก็รู้ตัวหรอกนะว่าสวย แต่ไม่เห็นจะต้องหวงขนาดนี้เลย” คมเขี้ยวลุกขึ้นยืนแล้วเอียงคอมองแม่ตัวดีด้วยสีหน้าหาเรื่องแว้บหนึ่งแล้วยกมือชี้หน้าก่อนจะเดินออกไปรอตรงชานระเบียงหน้าบ้าน

 

 

“ไปนะคะคุณป๋าคุณแม่ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ ไปนะดิน ฝันดีจ้ะ จุ๊บๆ” เรียวจันทร์ส่งจุ๊บให้ดินแล้วเดินตัวปลิวไปหาคมเขี้ยวที่ยืนรออยู่

 

 

“เป็นห่วงฉันล่ะสิ ทำมาเป็นปากแข็ง” นางว่าในขณะที่กำลังเดินลงบันไดบ้าน คมเขี้ยวยื่นมือไปผลักหัวร่างเล็กเบาๆ จนแม่นางหน้าเหวอ

 

 

“โห ทำร้ายร่างกายอะ ฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาข่มขืน”

 

 

“ให้ผมข่มขืนจริงๆ ก่อนค่อยไปแจ้ง” เรียวจันทร์ยิ้มกรุ้มกริ่ม คมเขี้ยวหันไปมองหน้าตื่น เพิ่งรู้ตัวว่าพลาดแล้วที่พูดไปแบบนั้น

 

 

“มีอารมณ์ทางเพศกับฉันล่ะซี้…” เรียวจันทร์ยื่นมือซ้ายไปจิ้มไหล่คมเขี้ยวเบาๆ “...ถ้าอยากก็บอก ต่อยท้องฉันได้เลยนะ ฉันจะขัดขืนพอเป็นพิธีแบบนางเอกละครไทยอะ ให้ดูไม่ต้องการ แต่จริงๆ แล้วก็แอบร่านอะไรแบบเนี้ยเนอะ”

 

 

เพี๊ย~

 

 

“อุ๊ย!” เรียวจันทร์สะดุ้งตกใจเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมาตีปากนางเบาๆ

 

 

“พูดไม่เพราะ” คมเขี้ยวว่าเสียงดุนิด เรียวจันทร์ยิ้มหน้าเคลิ้ม

 

 

“หืมมม เหมือนแฟนหนุ่มดุแฟนสาวเลย… วะ… ว้ายยย!” กำลังฟินเฟ่อกับโมเม้นต์ชายหนุ่มเอ็ดหญิงสาวเบาๆ ก็มีอันต้องสะดุดเพราะนางลื่นบันไดสองขั้นสุดท้าย และไม่มีโมเม้นต์ว่าพระเอกคว้าตัวนางทันใดๆ ทั้งสิ้น ก้นนางจ้ำเบ้าไปสองทีเน้นๆ ก่อนจะนั่งดังตุ้บบนพื้นกระเบื้อง

 

 

“เอ้า บันไดมันอยู่ของมันเฉยๆ ไปล้มทับมันทำไมคุณนาย” คมเขี้ยวหัวเราะชอบใจ นั่งมองแม่คุณนายหน้าเหยเก ส่งเสียงร้องโอดโอย ตัวบิดไปทางขวา มือซ้ายกุมก้นซ้ายเอาไว้ มือขวากำถุงยาไว้แน่นและใช้พยุงตัวเอง

 

 

“หัวเราะอะไรเล่า ช่วยฉัน ยืนพยุงสิ!” นางว่าหน้างอง้ำ ร้องโอยๆ ว่าเจ็บ คมเขี้ยวหัวเราะแต่ก็ก้มลงไปช่วยพยุงแม่คุณนายให้ยืนขึ้น คนตัวเล็กยืนขัดๆ ยอกๆ เล็กน้อยเพราะก้นกระแทกบันไดและพื้นไปเต็มแรง

 

 

“ปวดตูดเลยอะ”

 

 

“เดินไหวมั้ยเนี่ย”

 

 

“เดี๋ยวลองเดิน” คมเขี้ยวพยุงร่างบางไว้ในอ้อมแขน เรียวจันทร์ก้าวเท้าขวาได้ก้าวเดียวก็เกิดอาการคล้ายเส้นยึด

 

 

“โอ๊ะ… โอ๊ยยย… เจ็บบบ” นางหน้างอคล้ายว่าจะร้องไห้ แขนซ้ายคล้องคอคมเขี้ยวแน่นเพราะกลัวจะล้มลงไปกองกับพื้นอีก

 

 

“เจ็บขนาดนั้นเลย”

 

 

“ขอสาบานด้วยเกียรติของอดีตเนตรนารีหมู่ดอกดาวเรืองว่าฉันไม่ได้โกหก ฉันเจ็บจริงๆ” คมเขี้ยวหัวเราะในลำคอจนไหล่ทั้งสองข้างสั่น เรียวจันทร์เห็นแบบนั้นก็หัวเราะด้วยหน้างอด้วย ผสมกันมั่วไปหมด

 

 

“หัวเราะอะไร พี่เกดไม่ได้มาเล่นๆ นะคะน้องเขี้ยว” คมเขี้ยวหมวดคิ้วงงนิดหน่อยว่าพี่เกดไหนวะ

 

 

“ต้องเรียนลูกเสือไม่ใช่เหรอ ไปอยู่เนตรนารีได้ไง”

 

 

“ฉันจะเรียกเนตรนารี” นางว่าหน้าตาย ร่างสูงส่ายหัวยิ้มๆ แล้วตัดสินใจช้อนตัวร่างเล็กขึ้นในท่าเจ้าสาว เรียวจันทร์หน้าเหวอไปนิดแต่สักพักก็ยิ้มกว้าง

 

 

“เหยยย ทำให้เองไม่ต้องขอเลยอะ นายน่ารักกับฉันมาสองวันแล้วนะ ทำแบบนี้ฉันยิ่งอยากได้นายมากเข้าไปอีก”

 

 

“พูดมากผมจะปล่อยทิ้งเดี๋ยวนี้แหละ” คนตัวโตแกล้งทำท่าจะปล่อยร่างเล็กลงพื้น แม่คุณนายรีบใช้สองแขนคล้องคอหนาไว้แน่นแล้วเอาหน้าซุกอกพ่อคาวบอยอย่างเร็ว

 

 

“อ๊ะๆๆ ไม่พูดแล้ว อย่าปล่อยฉันนะ ฉันชอบที่นายอุ้มแบบนี้” นางว่าเสียงอ้อนมุ้งมิ้งอยู่ตรงอกของคมเขี้ยว เจ้าของอกแน่นๆ ก้มลงมองเสี้ยวหน้าขาวผ่องแล้วอมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเท้าเดิน

 

 

“เมื่อกี้จะรีบไปไหนกันแน่” หลังจากเดินออกมาจากรั้วบ้านใหญ่ได้แล้ว คมเขี้ยวก็เปิดปากถามคนที่ซุกอกเขาอยู่

 

 

เรียวจันทร์ทำหน้าอึกอักแว้บหนึ่งแล้วพูดเสียงปกติ “ก็บอกว่าจะไปเม้าท์กับเป็ดไง”

 

 

คมเขี้ยวก้มลงมองหน้าสวยๆ ของอีกฝ่าย มองด้วยสายตานิ่งจนคนในอ้อมแขนต้องยิ้มเจื่อน “ทำตัวมีพิรุธ”

 

 

“แหม ฉันไม่มีชู้หรอกน่า ฉันมีนายคนเดียว ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะน้องเขี้ยว พี่เรียวเลือกน้องแล้ว พี่จะทำให้น้องเป็นเดอะผัวของพี่ให้ได้” คมเขี้ยวขมวดคิ้วมุ่น มองแม่คุณนายด้วยสายตาดุๆ

 

 

“พูดไม่เพราะอีกแล้ว ผัวๆ เผอๆ อะไร”

 

 

“อ้าว ก็นายไง นายผัว ฉันเมีย คิๆๆๆ”

 

 

“เดี๋ยวจะโดนโยน”

 

 

“อ๊า ล้อเล่น ล้อเล่นค่า” เรียวจันทร์กระชับอ้อมแขนตัวเองที่เกี่ยวคออีกฝ่ายอยู่ เอาแก้มแนบกับอกแน่นๆ และนุ่มๆ ไว้ แหงนหน้ามองเสี้ยวหน้าหล่อของคนตัวสูงแล้วยิ้มกริ่ม

 

 

“ขอบคุณนะนายเขี้ยว ฉันดีใจที่นายใจดีกับฉัน” คมเขี้ยวก้มหน้าลงมองตาแป๋วอย่างกับลูกกวางของแม่ตัวดีแปบหนึ่งแล้วก็เงยหน้าไปมองทางต่อ

 

 

“อืม” ถึงจะพูดน้อยแต่คุณนายแกไม่แคร์หรอก เพราะนี่ถือว่ามีพัฒนาการขึ้นเยอะมากกก นางถือว่านี่คือสัญญาณอันรุ่งโรจน์สำหรับนางเลยละ

 

 

คมเขี้ยวอุ้มเรียวจันทร์จนมาถึงออฟฟิศ เรียวจันทร์ช่วยเปิดประตู ร่างสูงพาร่างเล็กเข้าไปในห้องนอน เขาค่อยๆ วางร่างของแม่ตัวดีลงบนเตียง เรียวจันทร์กระเถิบตัวขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียงไว้ นางมองหน้าคมเขี้ยวแล้วยิ้ม

 

 

“ขอบคุณนะ อกนายอุ๊นอุ่น ละมุนละไมมาก” นางวางถุงยาไว้บนโต๊ะหัวเตียง คมเขี้ยวยิ้มมุมปาก เดินไปหยิบรีโมตแอร์ตรงผนังห้องขึ้นมาจากที่เสียบ กดเปิดแอร์ในอุณภูมิมาตรฐานแล้วเสียบกลับเข้าไปตามเดิม

 

 

“หยอดยาแล้วนอนซะ ตอนเช้าอย่าลืมขึ้นไปกินข้าวบนบ้านใหญ่ล่ะ”

 

 

“นายจะมารับฉันรึเปล่า” คราวนี้เรียวจันทร์ไม่ได้แอคติ้ง แต่นางถามด้วยสีหน้ามีความหวังจริงๆ

 

 

ก็สองวันที่ผ่านมามันอบอุ่นหัวใจมากเลยนี่นา

 

 

“อะไร บ้านอยู่แค่นี้ยังจะต้องให้มารับ ไปเองสิ” คนที่นั่งอยู่บนเตียงทำหน้างอน แต่ก็ไม่ได้โวยวายหรือเรียกร้องให้มากความ

 

 

“ก็ได้” คมเขี้ยวยิ้มระอาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปลอบใจ ปลอบโยนอะไรแม่คุณนาย เขาหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง

 

 

“เดี๋ยวก่อน” เขาหมุนตัวกลับไปมอง เรียวจันทร์กระเถิบตัวลงจากเตียง เดินโขยกเขยกเข้ามาหาเขา

 

 

“มีอะไร”

 

 

ฟอด ฟอด จุ๊บ~

 

 

แม่คุณนายเขย่งตัวหอมแก้มทั้งสองข้างของคมเขี้ยวเสียงดังด้วยความชื่นใจ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการจุ๊บริมฝีปากของคนตัวสูงไปหนึ่งที เล่นเอาชายหนุ่มถึงกับยืนตะลึงไปนิด มองหน้าขาวผ่องที่คลี่ยิ้มด้วยความงง เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างสักพัก ก่อนที่จะใช้สองมือประคองใบหน้าคมเขี้ยวเอาไว้ แล้วยื่นหน้าไปกดริมฝีปากตัวเองไว้บนริมฝีปากของอีกฝ่ายครู่สั้นๆ แล้วผละออก

 

 

คมเขี้ยวกะพริบตาสองสามที มองหน้าเรียวจันทร์ด้วยความสับสน มึนงง ร่างเล็กมองหน้าร่างสูงอย่างชั่งใจ ก่อนจะเขย่งตัวคล้องคออีกฝ่ายแล้วค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปสัมผัสริมฝีปากหนานุ่มอีกครั้ง กดแช่ไว้นานกว่าสองครั้งแรก

 

 

คมเขี้ยวยกสองมือขึ้นมาจับเอวบาง ทำท่าจะผลักออก แต่เรียวจันทร์ดึงหน้าตัวเองออกก่อน ทั้งสองคนมองตากันนิ่ง ลมหายใจเป่ารดปะทะกันแผ่วเบา ปลายจมูกเกลี่ยกันไปมา สายตาทั้งสองคนประสานกัน ไม่มีใครพูดอะไร มีเพียงเสียงลมหายใจและสายตาที่เป็นตัวสื่อสาร

 

 

เรียวจันทร์ยื่นหน้าไปจูบคมเขี้ยวอีกรอบ สัมผัสเพียงริมฝีปากเท่านั้น ไม่ได้รุกล้ำจนเกินงาม สองมือของคมเขี้ยวเปลี่ยนจากจับเอวมาเป็นโอบเอวบางไว้แทน ริมฝีปากของทั้งสองคนเริ่มขยับเขยื้อนเข้าหากันช้าๆ แล้วสักพักเรียวจันทร์ก็เป็นฝ่ายบุกมากขึ้นด้วยการใช้ริมฝีปากบางขบริมฝีปากล่างหนาของคมเขี้ยวเบาๆ แล้วค่อยๆ ดึงออกอย่างอ้อยอิ่ง

 

 

ทั้งสองลืมตาขึ้นมองสายตาของอีกฝ่ายหลังจากริมฝีปากหลุดออกจากกัน ปลายจมูกของทั้งสองชนกันเบาๆ ลมหายใจดังผะแผ่ว

 

 

“ฝันดีนะ” คมเขี้ยวมองคนตัวเล็กนิ่งสักพักก่อนจะตอบรับสั้นๆ ในลำคอ เรียวจันทร์ยิ้มบาง ยื่นหน้าไปหอมแก้มซ้ายของคนตัวโตอีกทีแล้วค่อยๆ คลายแขนตัวเองออกจากลำคอหนา ก้าวเท้าถอยหลังหนึ่งก้าว ส่งยิ้มสวยๆ ให้ชายหนุ่มที่กำลังยืนสับสนปนงงอยู่กับที่

 

 

“ไปนอนได้แล้ว” คมเขี้ยวมองสบตากับเรียวจันทร์พักหนึ่ง ก่อนที่จะขบกรามเบาๆ ยกมือเกาจมูกด้วยปลายนิ้วชี้สามสี่ที

 

 

“อืม” เรียวจันทร์ยิ้มอีกที คมเขี้ยวค่อยๆ หมุนตัว แต่ก็มิวายเหลือบมองเรียวจันทร์นิดหนึ่ง แต่ไม่นานเขาก็เดินออกไปจากห้องนอนคนตัวเล็กและดึงประตูปิดตามหลัง

 

 

เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง ยกสองมือขึ้นมากำแล้วสั่นตรงอกราวกับกำลังสั่นเครื่องดนตรีมาราคัสรัวๆ ท่าทางดีอกดีใจและขวยเขิน ยักไหล่ยึกยัก บิดสะโพกมนไปมาจนลืมอาการเคล็ดขัดยอกก่อนหน้านี้ สองเท้าย่ำคล้ายว่าจะกระโดดอย่างลงจังหวะ ส่งเสียงกรีดร้องในลำคอด้วยความปริ่มใจ

 

 

แกร๊ก~

 

 

วืดดด! เพล้ง!

 

 

คุณนายแกแทบเบรกตัวเองไม่ทันเมื่อประตูห้องนอนเปิดอีกครั้งด้วยฝีมือคนที่เพิ่งปิดประตูห้องไปเมื่อกี้ แต่นางก็เร็วพอที่จะเก็บอาการปลากระดี่ได้น้ำก่อนที่คมเขี้ยวจะทันเห็นรายละเอียดทั้งหมด

 

 

“นายเขี้ยวกุด คือ… มี… เอิ่ม ฮึ?” นางถึงกับไปไม่ถูก เกือบจะหลุดยิ้มขำ แต่นางก็เก็กหน้าเฉยได้ดีจนครูแงะต้องชื่นชม

 

 

คมเขี้ยวมีท่าทีเงอะงะ เหมือนกำลังงงว่าตัวเองเปิดประตูกลับเข้ามาทำไม แต่สุดท้ายเขาก็เปิดปากพูด “อย่าลืมหยอดตาก่อนนอนนะ”

 

 

เรียวจันทร์พยักหน้ายิ้มๆ สองมือไพล่หลังเอาไว้ ยืนบิดตัวนิดๆ หน่อยๆ คมเขี้ยวมองนางด้วยสายตาเหมือนมีอะไรอยากจะพูด แต่ไฟนอลลี่ชายหนุ่มก็ปิดประตูลงตามเดิม

 

 

เรียวจันทร์รอสักพัก พอแน่ใจว่าอีกคนจะไม่เปิดประตูพรวดเข้ามาอีก นางก็กลับมาดีดดิ้นราวกับเด็กมัธยมที่ได้ให้ดอกไม้กับรุ่นพี่ที่แอบชอบในวันวาเลนไทน์ แล้วเขาก็ทำเพียงขอบคุณครับ แต่สะดีดสะดิ้งประหนึ่งว่าเขาขอมีอะไรด้วยที่ห้องน้ำหลังอาคารใดอาคารหนึ่งของโรงเรียน

 

 

“อุ๊ย!” ดีดดิ้นอยู่สักพักนางก็นึกขึ้นได้ว่า มีสิ่งที่ตัวเองตั้งใจมาทำก่อนหน้านี้ค้างอยู่ นางเลยเดินตัวเอียงไปหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ของคนที่นางต้องการเจอ

 

 

“ฉันต้องการพบนาย…”



 :katai5:


แนบชิดไปอี๊กเนาะแม่เนาะ ได้เล็มเลียปากพี่เขี้ยวแล้วนะค้า ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นเยอะมาก ร่วมดีใจกับแม่ด้วย 55555


บอกกงๆ นะคะพี่เขี้ยว ความปลอดภัยของพี่ มันเริ่มน้อยลง แม่เรียวไม่ได้มาเล่นๆ นะคะ พี่เขี้ยวมีสิทธิ์ได้รับตำแหน่งเดอะผัวมากค่ะ


วันนี้นั่งเขียนเส้นเรื่องของเรื่องนี้ จากตอนแรกที่คิดว่าน่าจะไม่ยาวมาก พอเขียนเส้นเรื่องไป เอ๊ แลดูยาว 55555 ยาวแต่จะไม่ทำให้แม่ย้อยหรือย้วยค่ะ เพราะแม่เรียวแกไม่ชอบความย้วยย้อยทั้งหลาย นางกลัวหน้าไม่เด้งงง





ขอบคุณคนอ่านทุกๆ คนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ ขอบคุณทุกคอมเม้นที่คอยเม้นให้ เห็นคอมเม้นแล้วก็มีกำลังใจเขียนและอัพต่อไปนี่แหละค่า ขอบคุณมากนะคะ ^_^



สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                                 
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 26-10-2016 23:50:11
เฮ้ย!!! ในที่สึดความพยายามของคุณนายแกก็เริ่มเห็นผล พี่เขี้ยวหวั่นไหวแล้วววววว  :hao7: :hao7: :hao7:และก็ต้องขอบคุณดิน กับ เสี่ย นะที่เป็นแรงกระตุ้นที่ดีมากๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 27-10-2016 00:17:44
คมเขี้ยวเริ่มรู้สึกดี ๆ กับเรียวแล้วน่ะ หวังว่าแผนของแม่เรียวจะไม่แตกเสียก่อนล่ะ นายทัพนายร้ายเกินไปน่ะ ไปเล่นงานสิ่งมีชีวิตได้ยังไง โกรธ  :angry2: แม่เรียวอย่าไปนอนกับมันอีกน่ะ ถ้ามันไม่ดีอ่ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-10-2016 01:15:47
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 27-10-2016 06:48:25
พี่เขียวตกหลุมขุ้นแม่แน่แล้วค่าาา เงอะงะอึกอักแบบเน้ๆๆๆ 5555 นึกถึงตอนพี่เขี้ยวรู้ความจริงเรื่องเสี่ย คงต้องเตรียมทิชชู่ไว้ก่อนไม่เนี่ย ถ้าทางจะเรียกน้ำตาอ่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 27-10-2016 07:47:57
ไม่โดนต่อย.  3 ผ่าน!!!!ค่ะ  o18 o18
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 27-10-2016 10:00:11
จะมาม่าหนักไหมเนี่ยยย

 :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: palette_burgundy ที่ 27-10-2016 11:06:54
สนุกมากเลย เราจะได้อ่านฉากนั้นเร็วนี้สินะ เขิน  :z3:
ขอบคุณคุณคนเขียนนะครับ รอนะครับ :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 27-10-2016 21:37:50
 :katai4:  ชอบมาก ๆ ตอนแรกไม่ค่อยอะไรมากเพราะนายเอกสดิ้งไป 555 แต่อ่านไปแล้วติดใจมาก แต่ก็สงสารนางนะ แม่ก็ทำตัวไม่ดี พ่อไม่อยู่แล้ว กำลังใจของนางนี่มาจากตัวเองล้วน ๆ ถือว่าแกร่งคนนึงเลย นับถือใจนาง อยากให้นางหมดเคราะห์เร็ว ๆ จัง แต่กลังใจเสี่ยดูท่าจะโหดมากกลัวนางโดนทำอะไรร้าย ๆ และถ้าเรื่องแตก ไม่อยากให้พ่อแม่เขี้ยวกุดเกลียดนางเลย นางคงแย่แน่ ๆ รอตอนต่อไปนะคะ สู้ ๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 29-10-2016 09:07:40
 :impress2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: lynn_lynnhui ที่ 29-10-2016 11:04:58
หลงเค้าแล้วใช่ไหมหละพี่เขี้ยววววววว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: lolli_candy99 ที่ 29-10-2016 14:42:07
ตามทันแล้ววว สนุกมากกกกกกกกกกกกกกก น้องเรียวน่ารักกกกกกกก เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะะะสู้ๆ o18 :impress2: :sad4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๕/100% :26.10.59:
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 30-10-2016 01:24:15
กรีดร้องอย่างหนัก คุณเขี้ยวยอมให้จูบโดยไม่ขัดขืน อร๊ายยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/35% :01.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-11-2016 00:03:12


คาถาที่ 16 :: You wanna piece of me? (อยากมีเรื่องกับขุ่นแม่เหรอคะ) [35%]



“ผมไม่ได้ทำ คุณมีหลักฐานอะไรเนี่ยถึงพุ่งเป้ามาที่ผม” ลูกน้องของเสี่ยจอมทัพเลิกคิ้วขึ้นสูงแล้วยกยิ้มมุมปาก ทำหน้าตาราวกับนึกสงสัยอย่างที่ถามจริงๆ

         

 

แต่แม่คุณนายนางแอคติ้งดีเด่นมานาน ทำไมนางจะไม่รู้ว่าหมอนี่มันยียวนกวนประสาทอยู่ คุณนายแม่จิกตาใส่ไอ้นั่นไปหนึ่งทีแล้วพ่นลมหายใจ

         

 

“ไม่มี แต่ฉันอยากจะสงสัยนาย เพราะนายเป็นคนที่เสี่ยจอมทัพส่งมาอยู่ที่นี่”

         

 

“พูดแบบนี้แสดงว่าคุณเองก็สงสัยเสี่ยเขาด้วยน่ะสิ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วใส่อีกฝ่ายที่ยังคงทำหน้าระรื่น

         

 

“ก็น่าสงสัยทั้งเจ้านายและลูกน้องนั่นแหละ!” นางว่าเสียงแว้ดๆ

         

 

“คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่ผมขอบอกว่าผมไม่ได้เป็นคนทำ” คนตัวเล็กจิ๊ปาก ยกสองแขนกอดอกแน่น

         

 

“แล้วเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ไง ฟาร์มนี้เขาอยู่สงบๆ กันมาตลอด” ลูกน้องจอมทัพเลิกคิ้วขึ้นสูง มองเรียวจันทร์ด้วยความสงสัย

         

 

“คุณเพิ่งมาอยู่ที่นี่ไม่นานไม่ใช่รึไงครับ” นางอ้าปากกำลังจะเถียงต่อ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าอกฝ่ายพูดมันก็จริงนางเลยเงียบ

         

 

เออว่ะ

         

 

แต่คนขี้แถอย่างนาง ก็ไหลไปเรื่อยนั่นแหละ “ก็เดาเอาอะ จากสภาพอากาศและบรรยากาศของฟาร์ม มันไม่น่าจะมีเรื่องอะไรแบบนี้ แล้วอีตาเสี่ยก็อยากได้ที่ดินนี้จะเป็นจะตาย”

         

 

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับวัวแล้วก็องุ่นล่ะ ฆ่าวัวกับฆ่าองุ่นแล้วจะทำให้ได้ที่ดินงั้นเหรอ” เรียวจันทร์ตวัดสายไปมองใบหน้าราวกับพวกตัวร้ายในละครที่แคสติ้งมาได้ตรงบทซะเหลือเกินของอีกฝ่าย ชายหนุ่มยิ้มบางเบา สีหน้าไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจใดๆ

         

 

ก็จริงอย่างที่หมอนี่ว่า ทำร้ายวัวกับองุ่นแล้วนายคมเขี้ยวจะยกที่ดินให้รึไง

         

 

เอ๊ะ?! หรือยังไง

         

 

“ถ้าไม่มีหลักฐาน มีแต่แค่ความสงสัย ผมว่าคุณอย่าเที่ยวไปว่าใครเขาเลยดีกว่า” เรียวจันทร์กัดฟันแน่น จ้องหน้าคนที่ตัวสูงกว่าอย่างเคืองๆ

         

 

“ฉันจะสงสัย เพราะตาเสี่ยไม่ส่งนายเข้ามาเพื่อทำไร่ทำฟาร์มเฉยๆ หรอก พวกนายต้องรอจังหวะอะไรอยู่แน่ๆ” ลูกน้องจอมทัพยิ้มขำ แว้บหนึ่งเขามองหนุ่มร่างบางด้วยความชื่นชมว่าสมแล้วที่จอมทัพอยากได้นักหนา เพราะเซ้นส์ดีเหลือเกิน ไม่ใช่คนฉลาดนักหรอก แต่เรียวจันทร์เป็นพวกเซ้นส์ดี

         

 

หรือเรียกหยาบๆ หน่อยคือพวกขี้สงสัย หรือเรียกเถื่อนลงไปอีกคือขี้เสือก

         

 

“งั้นคุณคงต้องจับตาผมให้ดีแล้วละครับ คุณจะได้ไม่พลาดจังหวะนั้น” แม็คยกยิ้มมุมปากอีกทีแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากโรงอาหารของฟาร์ม เรียวจันทร์มองตามอย่างเซ็งๆ นางใจร้อนไปหน่อยที่จู่ๆ มาพูดกับอีกฝ่ายแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะทำให้ไก่ตื่นหรือเปล่า ดีไม่ดีถ้าตาเสี่ยเป็นคนสั่งให้ทำจริงๆ ต่อจากนี้คงรอบคอบและเงียบเชียบมากขึ้น

         

 

แล้วนั่นก็จะทำให้นางเสือกได้ยาก เอ๊ย หาหลักฐานมาเอาผิดได้ยากมากกว่าเดิม

         

 

เรียวจันทร์พ่นลมหายใจแล้วเดินกลับห้องด้วยอาการพะว้าพะวงแปลกๆ รู้สึกงงๆ กับความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ก็พอจะรู้ว่าตัวเองรู้สึกไม่สบายใจกับผู้ชายที่ชื่อเสี่ยจอมทัพสักเท่าไหร่ 

 

 

 

 

            เรียวจันทร์นั่งหน้าอึนอยู่บนโต๊ะทำงานในออฟฟิศเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่แอบนัดเจอ เอ่อ ไม่ดีกว่า นัดเจอเหมือนนัดกันไปยิ้มเลย เอาเป็นว่านางเพิ่งนึกถึงบทสนทนาของตัวเองกับลูกน้องเสี่ยจอมทัพเมื่อคืนนี้ที่นางเรียกอีกฝ่ายมาถามเพื่อไขข้อข้องใจ แต่กลับกลายเป็นว่าไขไม่สำเร็จ

 

 

 นางยังรู้สึกค้างคาในใจและรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในฟาร์มเมื่อวานนี้ นึกระแวงลูกน้องเสี่ยจอมทัพเป็นพักๆ ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้เฉียดเข้าใกล้ตัวนางเลยสักนิด พอนึกระแวงลูกน้อง ก็พาลไปเคลือบแคลงใจกับตัวหัวหน้า เรียวจันทร์นึกอยากจะคุยกับเสี่ยจอมทัพตรงๆ แต่นั่งคิดไปคิดมาคล้ายว่าหมดอาลัยตายอยากในชีวิตเหลือเกินแบบหลายตลบแล้ว ก็ได้คำตอบล่วงหน้าว่าเสี่ยจอมทัพคงไม่นั่งเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่นางอยากรู้เหมือนเวลาพูดถึงเรื่องการตีกอล์ฟหรอกนะ

           

 

“นี่เป็นอะไรเนี่ย เห็นนั่งหน้าซึมๆ ตั้งแต่กินข้าวแล้ว” คุณนายแม่หันหน้าเบลอๆ มึนๆ ของตัวเองไปมองพ่อคาวบอยหน้าหนวดรูปหล่อที่ยืนมองหน้านางอย่างงงๆ

           

 

“อ้าว…” นางว่าแค่นั้นแล้วก็เหมือนสมองหยุดสั่งการไปสักแปบ คมเขี้ยวเลิกคิ้วเข้มขึ้นมองอีกฝ่าย

           

 

เมื่อเช้าเขาไม่ได้ลงมาดูว่าเรียวจันทร์เป็นยังไงบ้าง เพราะรีบไปดูแลวัวทั้งสามตัวแต่เช้าตรู่ พอสายๆ ตอนที่กำลังจะเข้าบ้าน เขาก็เจอแม่คุณนายเดินลอยละล่องไปกินข้าวบนบ้าน ก็ไม่ถึงกับมีท่าทีคล้ายชีวิตจะจบสิ้นแล้วหรอก แต่แม่ตัวดีก็คุยน้อยกว่าปกติจนแม่กับพ่อเขานึกสงสัย แต่เรียวจันทร์ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร แค่เบลอยาแก้แพ้ ซึ่งเขาเองก็คิดว่าอาจจะจริงเพราะคนตัวเล็กกินยานั้นติดกันมาหลายมื้อแล้ว เลยอาจทำให้เกิดอาการมึนๆ เบลอๆ

           

 

ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เมื่อคืนทำไปเพราะเบลอยาด้วยรึเปล่า พอนึกแล้วพ่อตัวสูงก็ยกนิ้วเกาจมูกเบาๆ

           

 

ส่วนไอ้คนจู่โจมเขา เช้านี้มันทำตัวตามปกติอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

           

 

“เป็นอะไร” เขาถามย้ำอีกทีเมื่อเห็นว่าแม่คุณนายยังนิ่งเงียบ

           

 

เรียวจันทร์ได้สติก็กลับมายิ้มกริ่ม “ฉันชอบเวลานายถามว่าฉันเป็นอะไรจัง…” นางเอาสองมือช้อนคางเรียวสวยของตัวเองไว้ กะพริบตามองคนหล่อวิ้งๆ

           

 

“…เหมือนโดนนายขอมีอะไรด้วยเลย” คมเขี้ยวทำตาปรือ ยกมุมปากทั้งสองข้างขึ้นแบบเอือมๆ เรียวจันทร์หัวเราะ ลุกขึ้นเดินไปยืนแหงนหน้ามองคนตัวสูงกว่าตัวเอง ตาเขี้ยวกุดนี่สูงสมความสูง ไม่ใช่แค่บอกว่าตัวสูงแล้วให้รู้ว่าสูง (อะงงไปสิ) นางว่าตัวเองก็เป็นคนสูง ไม่งั้นคงเป็นนายแบบไม่ได้ แต่พอมายืนกับคมเขี้ยวแล้ว ตัวนางสูงถึงใต้คางหมอนี่เอง ระดับอกพอดีเลย 

           

 

“ถ้าฉันบอกว่าฉันเป็นกังวลเรื่องเมื่อวาน ฉันจะดูสวยและใจดีมั้ย” นางยิ้ม คมเขี้ยวขมวดคิ้วนิดหนึ่งแล้วมองคนตัวเล็กด้วยสายตาเป็นคำถามว่า อะไรวะ?

           

 

“ผมควรตอบว่าไร” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้น เม้มปากท่าทางเขินอายนิดๆ ก่อนจะพูดด้วยเสียงกระท่อนกระแท่น แลดัดจริตเหลือเกิน

           

 

“เก๊าะ… ชมว่าสวยก็ได้… แต่บับว่า จริงๆ ฉันก็รู้ตัวแหละว่าฉันอะสวย คือถ้าเป็นผู้หญิงนี่บอกเลยนะ…” นางเว้นวรรคเพราะหลุดขำ แต่ก็พยายามกลั้นขำ คมเขี้ยวเห็นนางกลั้นขำก็เลยกลั้นขำตามไปด้วยจนไหล่กระตุก

           

 

“…บอกเลยนะว่า มดลูกหลวม” เรียวจันทร์พยายามกลั้นหัวเราะจนไหล่ทั้งสองข้างสั่นกระตุก คมเขี้ยวยิ้มขำ ไม่รุนแรงมาก ขำแบบหอมปากหอมคอ เรียวจันทร์มองรอยยิ้มคมเขี้ยวแล้วก็ยิ้มกว้าง

           

 

“นายมีลักยิ้มด้วยอะ มิน่าล่ะ เวลานายยิ้มอะ…” นางยื่นสองมือไปบีบแก้มคมเขี้ยวเบาๆ ด้วยปลายนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง

           

 

“…ถึงได้น่าร้ากน่ารัก” คมเขี้ยวไม่รู้จะทำหน้ายังไงเลยเก๊กหน้านิ่งไว้ ยักคิ้วให้แม่ตัวดีสองสามที เรียวจันทร์เห็นแบบนั้นก็มันเขี้ยว ปล่อยมือออกจากแก้ม พุ่งเข้ากอดตัวพ่อคาวบอยเอาไว้ หน้าซุกอยู่กับอกแกร่ง

           

 

“ลวนลามผมอีกละ”

           

 

“เปล่าซักหน่อย นายก็รู้นี่ว่าฉันชอบกอด กอดแล้วรู้สึกดีไง ที่ฉันเคยบอกอะ” อันนั้นเขาจำได้ ก็ช่วงสองวันมานี้เขากับแม่จันทร์ไรกอดกันบ่อยเหลือเกิน

           

 

“ไปกอดคนอื่นมั่งไป” ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่เขาก็ไม่ได้ผลักไสไล่ส่งร่างเล็กออกจากตัว ทำเพียงโอบแขนไว้ที่เอวเรียวจันทร์หลวมๆ

           

 

“ไม่ ฉันชอบกอดนาย แล้วก็ชอบนายด้วย…” นางกระชับอ้อมกอดอีกนิด เอาแก้มถูอกคมเขี้ยวเบาๆ ก่อนจะยิ้มบางๆ แล้วพูดเสียงอิ่มใจ

           

 

“…กอดนายแล้วฉันชอบนึกถึงอ้อมกอดพ่อ เวลาฉันรู้สึกไม่ดีกับเรื่องอะไรก็ตาม พ่อจะชอบกอดฉันแบบนี้ แล้วฉันก็จะรู้สึกดีขึ้น…” นางแหงนหน้าขึ้นสบตาของเจ้าของอกหนาแน่นนุ่มและอมยิ้ม คมเขี้ยวกระตุกยิ้มนิดหนึ่ง

           

 

“…พ่อฉันไม่อยู่แล้ว ตอนนี้ฉันก็มีนายนี่แหละให้กอด รู้สึกดีพอๆ กันเลยแหละ…” คมเขี้ยวมองดวงตาสีน้ำตาลสุกใสกลอกไปมาสักแปบก่อนที่หนังตาจะหรี่ลงนิดหนึ่ง แล้วแม่คุณนายก็แจ้วต่อ

           

 

“…อ้อมกอดของพ่อจะอบอุ่น ปลอดภัย แบบว่าด้วยความเป็นพ่ออะไรอย่างเนี้ย…” คมเขี้ยวไม่รู้ว่าเรียวจันทร์รู้หรือไม่ว่าพ่อที่เลี้ยงตัวเองมาจนกระทั่งจากไปไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของตัวเอง

           

 

“…อ้อมกอดนายก็อบอุ่นนะ ปลอดภัยเหมือนกัน แต่มันพิเศษเพิ่มไข่ดาวตรงที่ มันอุ่นซ่านไปทั้งตัว ซู่ซ่าๆ หน่อย เลือดลมวิ่งดี๊ดี ตัวเบาๆ เหมือนลอยๆ อะ จะบอกยังไงให้ชัดเจนดีล่ะ…” แม่ตัวดีย่นคิ้ว ใบหน้าคิดหนักราวกับคิดหาสูตรคณิตศาสตร์ คมเขี้ยวยกยิ้มมุมปากกับใบหน้าคิดไม่ตกของอีกฝ่าย แต่สักพักก็ต้องหุบยิ้มวืดและสะดุ้งกับประโยคต่อไป

 

 

“…แบบว่ามันฟินอะ อวัยเพศคล้ายจะตื่นตัวตลอดเวลา เหมือนน้ำจะแตกอะไรอย่างงั้นเลยอย่ะ” คมเขี้ยวย่นคิ้ว แม่นางพูดหน้าตาประหนึ่งว่ากำลังสรุปการอภิปรายไม่ไว้วางใจของรัฐบาลยังไงอย่างงั้น

 

 

เริ่มต้นด้วยความนุ่มนวล ละมุนละไม ตอนจบทำไมมันฮาร์ดคอร์จังวะ 

           

 

“ผมว่ามันดูน่ากลัวนะ” เรียวจันทร์ทำแก้มป่องหน้างอเล็กน้อย

           

 

“น่ากลัวตรงไหน ออกจะมุ้งมิ้ง”

           

 

“น่ากลัวตรงที่คุณเป็นคนพูดนี่แหละ” สองสามวันมานี้ แม่ตัวดีลดดีกรีความก๋ากั๋นลงไปเยอะ ไม่บุกรุกอะไรใส่เขารุนแรงจนรู้สึกระแวง

           

 

เหตุการณ์เมื่อคืนไม่ถือว่าเป็นความรุนแรง เพราะแม่คุณนายมาด้วยความนุ่มนิ่มเนิบนาบ

           

 

“ว่าฉันน่ากลัวอีกละอะ…” นางหุบแก้ม ทำตาปรือก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าว่าไม่แคร์

 

 

“…แต่ฉันไม่โกรธหรอก ผู้ชายด่า เขาว่าผู้ชายรัก” นางยิ้มปากบางเฉียบ ขยิบตาให้พ่อหนุ่มหนึ่งวิ้ง

           

 

คมเขี้ยวขมวดคิ้ว ยกสองมือขึ้นจับไหล่เรียวจันทร์แล้วดันร่างเล็กออกห่างจากตัว “เขาน่ะใคร”

           

 

“เขานี่แหละ” นางชี้ที่ตัวเอง คมเขี้ยวยื่นมือซ้ายไปตีหน้าผากเรียวจันทร์เบาๆ แต่ก็ทำเอาอีกฝ่ายที่กำลังยิ้มเพลินๆ สะดุ้ง

           

 

“นายตีฉันทำไมอะ”

           

 

“เรียกสติ จะได้เลิกพร่ำเพ้อเจ้อได้แล้ว” เรียวจันทร์กลอกตาหน้าเซ็ง เดินไปนั่งแหมะบนเก้าอี้ทำงานตามเดิม

           

 

“แล้วเรื่องเมื่อวันก่อน เคลียร์เรียบร้อยรึยัง” เขาไม่ได้ถามเพราะอยากสอดอะไรทำนองนั้น แค่อยากรู้เฉยๆ ว่าตอนนี้คนตัวเล็กโอเคขึ้นหรือเปล่า

           

 

ก็ให้กอดไปตั้งหลายนาทีและหลายทีตามที่แม่ตัวดีบอกว่ากอดแล้วจะรู้สึกดีขึ้น ก็อยากรู้ว่าจริงมั้ย

           

 

เรียวจันทร์หันไปมองงงๆ สักแปบ แต่ด้วยความที่นางสวยและฉลาดมาก นางเลยเก็ทว่าคมเขี้ยวคงหมายถึงเรื่องแม่ตัวเอง “เรื่องแม่อะเหรอ ก็… ตามมีตามเกิด ปัญหาเกิดจากเขา ฉันแนะนำทางออกให้ แล้วให้เขาไปเคลียร์ด้วยตัวเองแล้วละ…”

           

 

เรียวจันทร์ถอนหายใจเบาๆ พูดต่อเสียงเอื่อย “…ฉันช่วยเขามามากโดยที่เขาใช้ศีลธรรมแม่ลูกมาผูกคอฉัน”

           

 

คมเขี้ยวไม่เข้าใจดีนักหรอก แต่ก็พอจะเดาออกว่าสถานการณ์เป็นไปในรูปแบบไหน แค่ไม่รู้ว่าแก่นของเรื่องราวคืออะไร แต่เขาไม่คิดถามหรือจุกจิก เพราะน่าจะเป็นการเสียมารยาทพอสมควร (ซึ่งถ้าเป็นเรียวจันทร์ นางจะสอดจนได้ความแน่นอน)

           

 

เรียวจันทร์หันไปมองหน้าคมเขี้ยวที่มองนางอยู่นิ่งๆ แล้วยิ้มบางเบา “เพราะกอดนายเลยนะ ทำให้ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นเยอะมาก อันนี้ฉันพูดจริงๆ ไม่ได้เอาใจ แต่ถ้าได้เอานาย ฉันโอเค”

           

 

คมเขี้ยวถึงกับหมดอารมณ์ เหมือนกำลังเดินอยู่บนถนนดีๆ แต่ดันเดินตกหลุม

           

 

เขาผ่อนลมหายใจเบาๆ มองเรียวจันทร์ที่ยิ้มกรุ้มกริ่ม “ทำงานไปเถอะคุณนาย แล้วไม่ต้องออกไปยุ่งกับกองฟาง กองหญ้า หรือดอกไม้ทั้งหลายล่ะ ถ้าเป็นไรอีกผมพาไปวัดแทนโรงพยาบาลแล้วนะ”

           

 

“แหม ฉันสวย แต่ฉันไม่โง่นะ”

           

 

“อืม ไม่โง่ แค่ฉลาดนิดเดียว” เรียวจันทร์มองค้อนตาเหลือก คมเขี้ยวหัวเราะเบาๆ กำลังจะหมุนตัวเดินออกไปจากออฟฟิศ

           

 

“เดี๋ยวก่อนนายเขี้ยวกุด…” เขาหันกลับไปมองคนตัวเล็กที่ลุกขึ้นเดินมาหาเขา พอมาถึงตัวเขา เรียวจันทร์ก็เขย่งตัวหอมแก้มเขาไปข้างละฟอดและยิ้มกว้างให้

           

 

“…ตั้งใจทำงานนะ” พูดจบก็เดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม ทิ้งให้เขายืนมึนงงอยู่สักแปบ แต่พอเห็นคนมาขโมยหอมแก้มเขากำลังนั่งก้มหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เจ้าของแก้มก็ยิ้มน้อยๆ และเดินออกจากออฟฟิศไป

           

 

เรียวจันทร์เงยหน้าขึ้นมองตามแผ่นหลังกว้างลิบๆ ริมฝีปากยิ้มกริ่ม ท่าทางเป็นกะหรี่ อุ๊ย ปลากระดี่ได้น้ำอยู่คนเดียว

 

 

 :hao3:
 
หลังจากกอดกัน แลคุณแม่จะได้แทะพี่เขี้ยวได้สะดวกขึ้นนะคะ พี่เขี้ยวเราดูไม่ปัดป้องหรือหลีกหนีแต่อย่างใด แต่จะบอกว่ารู้งี้กอดไปตั้งนานแล้วก็ไม่ได้อีก เพราะจำได้มั้ยว่า นางเคยกอดเขาแล้ว แต่เขาเกือบชกหน้านางแหก เพราะไปจับเป้าเขา 55555

คุณแม่ต้องปรับลุคส์นะคะ พอเรียบร้อยขึ้น (นิดเดียว) พี่เขี้ยวโอบแม่เลยเห็นมั้ย คริๆ เขียนเองเริ่มสับสนว่าอันนี้นางแอคติ้งหรือเป็นจริงๆ 55555

เขิยบกันไปทีละก้าวเนาะพี่เขี้ยว โดนคุณนายแกลวนลาม จับนั่นจับนี่แทบทู้กวัน ยิ่งช่วงนี้โดนบ่อยจนปล่อยเลยตามเลยเนอะ 55555

ส่วนเสี่ย ถ้าใช่เสี่ยจริง เสี่ยเล่นงี้เหรอออ ได้!! ขุ่นแม่ต้องจับยามสามตาให้ดีเลยค่ะ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้กันอยู่นะคะ ขอบคุณที่รักเรื่องนี้ในแบบที่เป็นค่ะ คนอ่านอาจจะไม่มาก แต่อย่างน้อยคือมีคนรออ่านอยู่ เห็นเม้นให้ก็มีแรงใจเขียนต่อแล้ววว

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/35% :01.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-11-2016 00:50:06
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/35% :01.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-11-2016 01:05:05
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/35% :01.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 01-11-2016 07:11:38
หลังๆพี่เขี้ยวเหมือนชินกับกอดของคุณนายเธอนะ อย่างนี้นับถอยหลังวันที่จะตกที่นั่งสามีคุณนายได้เลย 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/35% :01.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: basanti ที่ 01-11-2016 20:06:39
คุณนายเรียวจันทร์นี่น่ารักน่าหยิกทุกตอน รักขุ่นเจ้  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/35% :01.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 01-11-2016 21:42:33
ดีใจ ท่าทางเป็นกระหรี่ เอ้ย ปลากระดี่ได้น้ำเชียวน้าา คุณนายยย เมื่อไหร่จะเผด็จศึกนายเขี้ยวซะที ยาที่ซื้อมาน่ะ เมื่อไหร่จะได้ใช้ รอจนเหงือกเริ่มแห้งแล้ววว :ling3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/35% :01.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: bookie ที่ 01-11-2016 22:41:43
หวั่นไหวเบาๆพอน้องกลัวพี่เขี้ยวดราม่าแรงตอนแม่โป๊ะแตก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/35% :01.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 02-11-2016 20:19:32
 o13 o13 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/35% :01.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 02-11-2016 23:43:01
เสี่ยจอมทัพยังคงไม่น่าไว้วางใจ และแม่เรียวก้อต้องระวังตัวน่ะ เราว่าลูกน้องเสี่ยก้อร้ายพอกันกับเสี่ยแหละ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/35% :01.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 03-11-2016 16:30:51
เมื่อไหร่พี่เขี้ยวจะชอบเรียวจริงๆจังๆซักกกกกกที :ling1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/70% :06.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-11-2016 14:33:33



คาถาที่ 16 [70%]




RRRrrr!

           

 

เสียงมือถือสั่นไหวจนสะเทือนไปถึงเชียงใหม่ทำให้นางหลุดจาภวังค์หวานๆ หยิบมือถือขึ้นมากดรับสายเพื่อนสนิทของตัวเอง

           

 

“ว่าไงคะอีเป็ด”

           

 

“มีเรื่องแล้วค่ะหมวด!”

           

 

“เรื่องอะไรคะจ่า”

           

 

“อันนี้เป็นแค่การสันนิษฐาน การเดา การเชื่อมโยง และการมโนของฉันนะ แต่ฉันว่าเป็นไปได้” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นหนึ่งที เปิดสปีกเกอร์โฟนและพิมพ์ตอบวอทสแอพของแจเร็ดไปด้วย เหมือนเป็นหนึ่งในกิจวัตรของแต่ละวันไปแล้วที่ต้องคุยโต้ตอบกับพ่อหนุ่มอิตาลีเกือบทั้งวัน

           

 

“อะ ว่ามาค่ะ”

           

 

“ฉันไปสืบ…”

           

 

“…เป็ด พูดใหม่ สืบหรือเสือก” ว้าว จะมาไทยแล้วเหรอ? นางแชทตอบข้อความของแจเร็ดที่บอกว่าอีกสองเดือนจะมาไทยประมาณหนึ่งอาทิตย์

           

 

“ย่ะ! ไปเสือกมา”

           

 

“แล้วเสือกมาว่า”

           

 

“ไอ้ยอร์ชกับแม่มันกำลังถังแตก จริงๆ ไม่ใช่กำลัง มันถังแตกมาตั้งแต่ก่อนคบแกแล้ว” เรียวจันทร์กดส่งข้อความแชทบรรทัดสุดท้ายไปให้แจเร็ด กดออกจากวอทสแอพ ปิดสปีคเกอร์โฟน ยกมือถือขึ้นแนบหู

           

 

“บ้านไอ้ยอร์ชมันเป็นระบบกงสีไม่ใช่เหรอ ก็ดูจะรวยนะ…” เรียวจันทร์ย่นคิ้ว พยายามนึกถึงช่วงเวลาที่เคยคบกับหมอนั่น

           

 

“…แต่เอาจริง เวลาจ่ายมันก็จ่ายน้อยกว่าฉันมากอะ”

           

 

“ตระกูลนางอะรวย แต่แม่นางเคยเล่นพนัน สร้างหนี้ไว้เยอะจนใช้ไม่ไหว พอจะขอเงินจากกงสี ก็ต้องรอให้ญาติผู้ใหญ่ของนางตายก่อน ถึงจะแบ่งเงินกันได้”

           

 

“เคยเล่น แสดงว่าหยุดแล้ว ฉันอยากจะส่งคุณนายโรสไปบำบัดด้วยจัง”

           

 

“บำบัดอะไรล่ะ ก็เพราะหมดตัวไงนางถึงเลิกเล่น แต่ตอนนี้คือไม่มีอันจะกินแล้ว ธุรกิจที่ทำก็ลุ่มๆ ดอนๆ ที่บ้านนางเขาก็ไม่ให้หยิบยืม”

           

 

“ขอให้แม่ฉันหมดตัวบ้างเถอะ” เรียวจันทร์เบะปากนิดหน่อย ไม่ได้สนใจใยดีเรื่องแฟนเก่าตัวเองเลยว่ามันจะลำบากแสนเข็ญยังไง นางนึกอยากให้แม่ตัวเองหมดตัวบ้าง แม้จะรู้สึกไม่ดีนิดๆ ที่ครั้งล่าสุดนางไม่ยอมช่วยแม่ แต่ความรู้สึกดีที่ไม่ยอมช่วยนั้นมีมากกว่า เพราะที่ช่วยเหลือมาตลอดและช่วยอยู่ทุกวันนี้มันก็มากพอแล้ว

           

 

“แม่แกขายเครื่องเพชรเมื่อไหร่ก็หมดเมื่อนั้นแหละ…” เรียวจันทร์นึกห่อเหี่ยวอยู่วูบหนึ่ง รู้ว่าเครื่องเพชรที่แม่สะสมไว้น่ะเยอะมาก คุณนายโรสไม่อยากขาย เพราะกลัวน้อยหน้าคนอื่นเวลาออกงาน ถ้าจะให้ผู้หญิงคนนั้นขายเครื่องเพชร สู้นางมาขูดเลือดขูดเนื้อเอาจากลูกตัวเองดีกว่า

 

 

“…วกกลับมาเข้าเรื่องอียอร์ชต่อ คือสองแม่ลูกหมดตัว นังฮีโบก็ไม่ได้ร่ำรวย เลยมีการเล่าลือเล่าอ้างอันใดพี่เอยว่า แม่ไอ้ยอร์ชอยากให้กลับมาเกาะแก” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ ก่อนที่จะหัวเราะเริงร่าไปหนึ่งยก

           

 

“ไม่รู้กันรึไงว่าฉันก็จน ใช้หนี้งกๆ อยู่เนี่ย”

           

 

“เอ๋า ตัวแกจน แต่บ้านคุณชายพ่อของแกไม่จนนี่” นายแบบหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น ทำหน้าประหลาดใจอยู่คนเดียว

           

 

“แล้วไง มันคิดว่าฉันจะขอเงินจากคนบ้านนั้นมาให้มันเหรอ”

           

 

“มันก็คงหวังอย่างงั้นอะแหละ คงคิดว่าแกจะให้เขาอุ้มชูดูแลและเผื่อแผ่มาถึงมันบ้างละมั้ง” เรียวจันทร์ยิ้มเยาะมุมปากเมื่อนึกถึงตระกูลฝั่งพ่อแท้ๆ ของตัวเอง

           

 

นางรู้แล้ว รู้ได้จะสามปีแล้วว่านางมีพ่อแท้ๆ อีกคน แต่นางไม่ได้เป็นคนไปตามหา จู่ๆ เขาก็มาปรากฏกายและบอกว่าเป็นพ่อของนาง แสดงหลักฐานเยอะแยะว่าตัวเองคือพ่อของนางจริงๆ มาบอกว่าคิดถึงลูกอย่างนั้นอย่างนี้ อยากจะดูแลลูกอย่างนางบ้าง ความรู้สึกตอนนั้นไม่ช็อก ไม่ตกใจอะไรทั้งสิ้น แค่งงๆ มึนๆ เพราะนางคิดแค่ว่านางมีพ่อคนเดียวคือพ่ออาทิตย์ นางไม่ดราม่าใดๆ ใส่คนพวกนั้นด้วย ก็แค่รับรู้ไว้ว่าเป็นพ่อ ส่วนคุณนายโรสยังไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นมาแสดงตัวว่าเป็นอดีตสามีตัวเองให้ลูกรับรู้แล้ว

           

 

“เป็ด ยี่สิบกว่าปี เขาเพิ่งมาตามหาฉัน เพิ่งมาบอกฉันว่าฉันคือลูก เขาต้องการฉันแน่เหรอ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาต้องการอะไร แต่ฉันว่าเขาไม่ได้ต้องการอยากจะดูแลฉันจริงๆ หรอก จะเอาหน้าหรือเอากระแสอะไรฉันไม่รู้แหละ แต่ฉันไม่อยากไปยุ่งกับพวกเขา” นางใช้ชีวิตของนางมาได้ตั้งนาน ไม่เคยรู้สึกขาดพ่อ เพราะพ่ออาทิตย์เติมเต็มให้หมด นางไม่ได้ต้องการความรักจากพ่อคนไหนอีก ถึงจะเป็นพ่อแท้ๆ แต่นางก็ไม่ได้เว้าวอนอยากจะมีพ่อแม่ที่สมบูรณ์ นึกแล้วสยอง ผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่งที่เคยซั่มกันจนเด็กคนนึงเกิดมา แต่ว่าไม่เคยมาดูแลแยแสใดๆ แต่จู่ๆ วันนึงก็กลับมาหาเฉย คนเป็นแม่กลับมาเกาะนาง แล้วคนเป็นพ่อล่ะ?

           

 

“ดีไม่ดีนะ พ่อฉันก็อาจจะถังแตกอยู่ก็ได้ แล้วกะมาให้ฉันเลี้ยงดูแบบแม่ไง” ไม่ได้อยากมองโลกในแง่ร้ายหรอก แต่แม่นางก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนนี่ไง

           

 

“อู๊ย ไม่หรอกแก อันนี้ฉันเผือกมา พ่อแท้ๆ ของแกรวยจริงไม่ติ๊งนั้งนะจ๊ะ”

           

 

“เขาจะรวยจะจนฉันไม่ได้สนใจ แต่ฉันไม่เก็ทว่าจู่ๆ เขาจะมาแสดงตัวทำไม…” คิ้วสวยมุ่นเข้าหากัน แล้วก็ส่ายหัวน้อยๆ

           

 

“…ถ้าอียอร์ชคิดจะมาเกาะฉัน ใครก็ได้ ไปบอกมันทีเถอะว่ามันเกาะผิดคนละ…” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วเพิ่มขึ้นอีกนิดเมื่อนึกอะไรขึ้นได้

           

 

“…เรื่องพ่อฉันหลุดไปได้ยังไง ทำไมมีคนอื่นรู้ด้วย”

           

 

“หญิงย่าของแกไงคะ เม้าท์ว่ามีหลานเป็นนายแบบหน้าตาดีชื่อเรียวจันทร์ แกก็รู้ ปากใครเม้าท์ไม่เท่าพวกวงสังคมชั้นสูงเม้าท์หรอกค่ะ แปบเดียวข่าวกระจายเร็วยิ่งกว่าข่าวเงินกู้กองทุนหมู่บ้าน” ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเล็กๆ ด้วยความเซ็งกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ถามว่านางเอามาใส่ใจมั้ย ก็ไม่ ไม่สนใจคือไม่สนใจ ตราบใดที่ยังไม่นำความเดือดร้อนอะไรมาให้นาง เรียวจันทร์ก็จะยังไม่วี๊ดใส่ใครทั้งนั้น

           

 

“ช่างเถอะ ใครอยากพูดอะไรก็พูด แต่ต้องพูดด้วยว่าฉันสวย” นางยกมือป้องปากหัวเราะคิกคัก เป็ดที่อยู่อีกฝั่งเบ้ปากอย่างหมั่นไส้

           

 

“จ้าอีสวย แล้วไม่ทราบว่าอีสวยใกล้ทำแผนการที่วางไว้สำเร็จรึยังจ๊ะ เพราะเหลือเวลาอีกไม่มากนะ” เรียวจันทร์ชั่งใจอยู่สักแปบว่าจะเล่าให้เป็นฟังดีหรือไม่ถึงความคืบหน้าเรื่องระยะห่างของตนกับคมเขี้ยวที่มันใกล้เข้าหากันมากกว่าช่วงแรกๆ

           

 

“คือ…” อันที่จริงบอกไปก็ไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง

           

 

“ตอนนี้ก็เป็นสัญญาณดีๆ อะเป็ด เมื่อวานตาเขี้ยวกุดยอมให้ฉันจูบ…” พูดยังไม่ทันจบ เป็ดก็ร้องวี้ดว้ายทันที

           

 

“แอร๊ยยย! จูบเหรอ?! แกได้จูบเขาแล้วอะ” เรียวจันทร์ยิ้มขำกับน้ำเสียงตื่นเต้นของเพื่อนสนิท

           

 

“ที่ดีกว่าจูบ ฉันว่าคือการที่ฉันไม่โดนหมอนั่นต่อย” เมื่อคืนนางลุ้นจะตายว่าถ้าก้าวพลาดนิดเดียวนั่นหมายถึงฟันซี่ใดซี่หนึ่งของนางจะต้องมีอันเป็นไป

           

 

“เออ แล้วทำไมเขาไม่ต่อยแกอะ”

           

 

“ก็ต้องดูจังหวะสิคะว่าหมอนั่นจะไม่เกิดสติแตกกระแทกหมัดใส่ฉัน”

           

 

“ฮึ้ย น่าแปลกอะ ปกติเขาต้องเตะ ไม่ก็ต่อยแกไปละป่ะ” เรียวจันทร์ยกโทรศัพท์ออกมาถลึงตาใส่ไปที

           

 

“มันก็ต้องมีพัฒนาการบ้างสินังนี่ จะให้อยู่แต่แถวเอกมัยกับทองหล่อรึไง”

           

 

“ต๊าย พัฒนายิ่งกว่ารถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย เอ๊ะ?! หรือเขาจะเริ่มรู้สึกซัมติงกับแก” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว หน้าตาไม่ค่อยจะมั่นใจนักว่าที่เป็ดพูดจะมีความเป็นไปได้

           

 

แต่เอาเข้าจริงๆ ก็เป็นไปได้อยู่นะ

           

 

“ก็อาจจะมั้ง สวยทรงเสน่ห์อย่างฉันก็ไม่ยากหรอกที่ผู้ชายจะรู้สึกดีๆ ด้วย” ถ้าตอนนี้คุณนายได้อยู่ต่อหน้าเพื่อนสนิทล่ะก็ นางจะเห็นทันทีว่าเป็ดเบ้ปากและกลอกตาจนกล้ามเนื้อบนหน้าแทบจะพิการแล้ว

           

 

“จ้า จ้ะ แล้วตัวแกล่ะคะ รู้สึกยังไงกับเขากันแน่ อยากได้เขาเพราะแผนการ หรืออยากได้เพราะอยากได้เอง” หน้าสวยๆ เหมือนมีเครื่องหมายคำถามขึ้นเต็มใบหน้า ก่อนที่คิ้วสวยๆ จะย่นเพราะแยกไม่ออก

           

 

“ต่างกันยังไงอะแก ฉันก็ต้องอยากได้เขาตามแผนสิ ถ้าไม่อยากได้ จะมาสถิตอยู่ที่ฟาร์มนี้เหรอ” เป็ดบึนปากให้กับความงั่งของเพื่อน

           

 

“เอาง่ายๆ อยากได้เพราะเสี่ยสั่ง หรืออยากได้เพราะใจแกอยากได้เอง”

           

 

“เอ๊า ใจฉันก็ต้องอยากได้สิ เพราะฉันต้องแลกกับร่างกายอันผุดผ่องของฉันนะ ถ้าใจไม่อยาก จะทำทำไมล่ะจริงมะ แต่ฉันก็ยอมรับนะว่าถ้านายคมเขี้ยวหน้าตาไม่ใช่แบบนี้ ฉันคงไม่ทำหรอก”

           

 

“โอ้โห แกมองคนที่เปลือกนอกนี่หว่า”

           

 

“แกอย่าดัดจริต มันก็ต้องมองเปลือกนอกก่อนป้ะคะ เพราะมันคือสิ่งแรกที่เรามองเห็นก่อน หรือแกคิดว่าคนเราทุกวันนี้มันเอานิสัยออกมาประดับตามตัวให้คนอื่นเห็นได้เหรอ” เป็ดทำหน้าคิดตาม ก็จริงอย่างที่นังสวยมันว่า ไม่มีใครเห็นนิสัยก่อนเห็นหน้าตาหรอก

           

 

“แต่นิสัยคุณเขี้ยวที่แสดงออกกับแกก็แย่ไม่ใช่เหรอ”

           

 

“ก็ถ้าเขายังแย่กับฉันอยู่ เขาจะยอมให้ฉันสัมผัสริมฝีปากของเขาเหรอ” นางไม่รู้หรอกว่าทำไมคมเขี้ยวถึงปล่อยตัวปล่อยใจไปกับนาง สิ่งที่นางสนใจคือเขาไม่ได้ผลักไสไล่ส่งนางแบบแต่ก่อนแล้วต่างหาก

           

 

“บางทีไอ้สิ่งยิบย่อยปล่อยมันไปก็ได้ ถ้าผลลัพธ์ที่เราได้ มันออกมาตรงใจ” คุณนายนางว่าอย่างสบายๆ ไม่คิดไรมากตามประสาคนสมองโล่ง เอ้ย ตามประสาคนไม่คิดเยอะต่างหาก

           

 

“แล้วมันจะทันเหรอ อีกเดือนครึ่งเองมั้งที่แกเหลืออยู่”

           

 

“ถ้าไม่ทันก็ต้องขอเวลาเพิ่ม ตาเสี่ยให้อยู่แล้วละ”

           

 

“เรียว ฉันรู้นะว่าฉันอาจจะพูดซ้ำ แต่แกจะทำอย่างนี้จริงๆ เหรอวะ ถ้าเกิดความรู้สึกของแกสองคนมันลงลึกเกินกว่าที่แกคิด แล้วคุณเขี้ยวรู้ มันคือการหักหลังเขาเลยนะเว่ย” เรียวจันทร์แอบสะอึกไปนิดหนึ่ง นั่งนิ่งสักพักก็ถอนหายใจแล้วสลัดสิ่งที่เป็ดพูดทิ้ง

           

 

“ไว้ก่อนแล้วกัน” เป็ดที่อยู่อีกฝั่งยกมือเกาหัวแกรกๆ นึกเป็นห่วงเพื่อน เรียวจันทร์เป็นคนไม่คิดเยอะ ไม่คิดมาก ใช้ชีวิตได้เต็มลิมิต บางทีก็เกินลิมิต หล่อนเคยนึกอิจฉาเพื่อนที่เกิดมาเป็นคนใช้ชีวิตได้สนุกสนาน สำเริงสำราญมาก ราวกับว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรยุ่งยากสำหรับนาง ก็จะมีแค่เรื่องแม่ที่มักมาพรากความสุขของเรียวจันทร์ไป

 

 

บางทีกับบางเรื่องเรียวจันทร์ก็สบายๆ กับมันมากไปหน่อย

           

 

ก็ดูสิ ขนาดจับได้ว่าผัวเด็กเป็นรับและแอบไปเอากับคนอื่น นางยังร้องไห้แปบเดียว แล้วไม่กี่ชั่วโมงถัดไปก็ได้ผู้ใหม่

 

 


 

  :hao7:



แม่เป็ดได้นำความมาแจ้งแก่ขุ่นแม่เรียวจันทร์แล้ว เพราะแบบนี้สินะ ไอ้ชอร์ชถึงได้ย้อนกลับมา มันจะกลับมาเกาะคุณแม่ค่ะ แต่ขอโทษทีแม่เองก็ไม่มีให้เกาะ 555555

เรื่องพ่อของเรียว ไม่ได้อยากให้มันยิ่งใหญ่หรือละครไทยมาก แบบว่ารู้ความจริงก็คือช็อกสุดๆ หรือยิ่งใหญ่สุดๆ เพราะต้นกำเนิดชีวิตคุณแม่ก็น้ำเน่าพอแล้ว ก็เอาเป็นว่านางรับรู้ละค่ะว่ามีพ่อจริงๆ อีกคน แต่คือเรียวจันทร์ก็ไม่ได้สนใจให้มันกลายเป็นประเด็นสำคัญอะไรขนาดนั้น

หลายคนคงคิดว่ามีกลิ่นมาม่าลอยมา อุ๊บส์

ต้องมารอดุนะคะว่าแฟนเก่าขุ่นแม่จะกลับมาเกาะแม่ได้หรือไม่ มันจะรู้ตัวมั้ยว่าคนที่มันจะเกาะไม่มีอันจะกินคือกัน ว้ากกกก ฮ่าๆๆๆ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คอมเม้นเป็นกำลังใจดีๆ สำหรับคนเขียนเสมอ ^^





สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                               
 #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/70% :06.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-11-2016 15:27:49
แอบคิดว่า อิพ่อนี่จะมาอยากได้ที่ดินด้วยมั้ยเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/70% :06.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-11-2016 15:34:07
 :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/70% :06.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 06-11-2016 19:02:14
สรุปคือ ถ้าคุณนายนางเดือดร้อนสุดๆก็ยังไปขอความช่วยเหลือจากพ่อแท้ๆได้ แต่นางไม่ทำชิมิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/70% :06.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: bookie ที่ 08-11-2016 00:15:13
ทำไมอ่านแล้วนึกถึงป้าเป็ด ททท 55555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/70% :06.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 08-11-2016 06:02:08
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/70% :06.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 08-11-2016 07:41:42
ต๊่าย ขุ่นนายจะรวยแบบ บั่บไม่รู้ตัวป่ะเนี่ยยยยยยยยยย. จะได้ขอปรองดองกับขุ่นนายด้วย 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/70% :06.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 08-11-2016 10:09:25
 :ling1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/100% :09.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 09-11-2016 21:07:11

คาถาที่ 16 [100%]




ช่วงสี่โมงเกือบจะห้าโมงเย็น เรียวจันทร์เคลียร์เอกสารรายรับรายจ่ายของนมวัวในฟาร์มเสร็จเรียบร้อยก็ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย และเดินออกไปจากออฟฟิศ วันนี้ฟาร์มเปิดให้คนนอกเข้ามาเที่ยว แต่ก็ไม่ได้เยอะแยะมากมาย เพราะเป็นวันธรรมดา ตอนแรกนางก็ไม่ค่อยจะเข้าใจหรอกว่าทำไมไม่เปิดให้เข้าทุกวัน แต่พออยู่มาสักพัก

 

 

ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี แต่ก็ไม่คิดไปเซ้าซี้ถามเรื่องนี้ เจ้าของเขาอยากจะเปิดจะปิดยังไงก็เรื่องของเขาเถอะ

           

 

RRRrrr!

           

 

มือถือนางสั่นไหวยิ่งกว่าหัวใจของนางอีกครั้ง พอหยิบขึ้นมาดูจากกระเป๋ากางเกงก็เห็นเป็นเบอร์คุณป๋าโทรมา

           

 

“ค่า คุณป๋า”

           

 

[หนูเรียว ป๋าวานเอาของที่มาส่งหน้าออฟฟิศไปเก็บบนบ้านทีลูก ไอ้ดินมันไปตัดหญ้าให้ม้า ไอ้เขี้ยวโทรไปก็ไม่รับสาย] นางหันรีหันขวางอยู่สักพักก็เห็นกล่องเบียร์สองกล่องและถุงใส่ชุดใหญ่ๆ หนึ่งถุงวางอยู่ตรงเก้าอี้ไม้ยาวหน้าออฟฟิศ

           

 

“กล่องเบียร์สองกล่องกับถุงใส่ชุดที่วางอยู่นี่ใช่มั้ยคะ”

           

 

[อ้า ใช่ๆ ลูก เอาขึ้นไปเก็บบนบ้านทีนะ บ้านไม่ได้ล็อคหรอก]

           

 

“ได้ค่ะคุณป๋า แล้วนี่คุณป๋าอยู่ไหนเหรอคะ”

           

 

[ป๋ากับแม่พาเพื่อนมากินข้าวลูก ดึกๆ แหละคงถึงบ้าน วันนี้ก็กินข้าวกับพี่เขี้ยวกับดินไปนะ]

           

 

“โอเคค่ะคุณป๋า กินอาหารให้สนุกนะคะ” คุณป๋าวางสายไป แล้วเรียวจันทร์ก็นึกขึ้นได้ว่า การบอกให้กินอาหารให้สนุกมันเป็นยังไง

           

 

ร่างเล็กเดินถือลังและถุงใส่ชุดที่ดูท่าว่าน่าจะเป็นชุดสูทไปทางบ้านใหญ่ ลัดเลาะไปทางหลังออฟฟิศเพื่อหลบผู้คน ใช้แขนซ้ายโอบลังและมือข้างเดียวกันถือถุงชุดเอาไว้เพื่อใช้แขนขวาดันประตูใหญ่และปิดตามหลัง เดินขึ้นบันไดบ้านด้วยความทุลักทุเลเล็กน้อยเนื่องจากกล่องลังหนักสำหรับคนตัวเล็กๆ อย่างนาง และชุดที่ถือก็หนักมาก ไม่รู้ว่าข้างในถุงนั่นคือชุดอะไรก็ตาม

           

 

พอเดินขึ้นมาบนบ้าน เรียวจันทร์ก็ใช้มือขวาดันประตูกระจกขอบไม้อีกทีเพื่อเข้าไปในตัวบ้าน เดินไปตรงโซฟารับแขกแล้วค่อยๆ วางกล่องลังบนโต๊ะไม้และตามด้วยถุงใส่ชุด พอตอนที่กำลังจะเดินออกไปนอกบ้าน เรียวจันทร์ก็เห็นคมเขี้ยวเดินใส่ผ้าขนหนูออกมาที่ห้องครัว ท่อนบนเปลือยเปล่า หยดน้ำเกาะเต็มตัว บนหัวเต็มไปด้วยฟองแชมพู ตาขวาปิดไว้ด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก มีตาซ้ายคอยนำทาง

           

 

“นายทำอะไรอะ” คมเขี้ยวหันมามองด้วยความตกใจนิดหน่อย แต่สักพักก็ร้องโอ๊ยเพราะแชมพูบนหัวไหลเข้าตาซ้ายอีกข้าง

           

 

“เอ้าๆ แล้วทำไมไม่ล้างหัวก่อนเนี่ย”

           

 

“มีคนงานทำท่อน้ำแตกเลยต้องปิดน้ำเพื่อซ่อม” คมเขี้ยวว่าทั้งที่ตาปิด สองมือพยายามควานหาอะไรสักอย่าง

           

 

“นายหาอะไรน่ะ”

           

 

“น้ำเปล่า ขอสักสามสี่ขวด” เรียวจันทร์มองซายมองขวาก็เจอกับน้ำเปล่าแบรนดังวางอยู่ด้านล่างข้างเค้าน์เตอร์ครัว นางก้มลงไปหยิบขึ้นมาสี่ขวด หอบไว้เต็มสองแขน

           

 

“จะล้างตรงไหน ซิงก์ล้างจานเลยมั้ย” คมเขี้ยวพยักหน้าทั้งที่ตาปิดแน่นด้วยความแสบ เรียวจันทร์รีบวางขวดน้ำไว้บนเค้าน์เตอร์ครัว ยื่นแขนไปจับท่อนแขนล่ำของคนตัวสูงแล้วลากมายืนตรงอ่างล้างจาน

           

 

“ค่อยๆ ก้มหน้าลง อย่างนั้นๆ เดี๋ยวฉันเทน้ำล้างหน้าให้ก่อน” คมเขี้ยวโค้งตัวลง สองมือค้ำขอบอ่าง เรียวจันทร์เปิดฝาขวดน้ำ เทลงบนหน้าคมเขี้ยว ชายหนุ่มยกสองมือล้างฟองออกจากใบหน้าและดวงตา จังหวะที่กำลังถูหน้าถูตาเพื่อล้างแชมพูออก ผ้าขนหนูที่ผูกเอวไว้หลวมๆ ก่อนออกจากห้องนอนเมื่อกี้ก็ค่อยๆ คลายตัวหลุดออก

           

 

“เฮ้ย! ผ้าหลุดๆ” เรียวจันทร์อ้าปากหวอแต่ก็มีสติดีที่จะรีบยื่นมือขวาที่ไม่ได้ถือขวดน้ำไปจับผ้าขนหนูให้คมเขี้ยว แต่สงสัยมือนางจะดีหรือรู้งานมากไปหน่อย เพราะตะปบเป้าคมเขี้ยวเต็มมือ

           

 

“โอ๊ย อย่าจับตรงนั้นดิ!” คมเขี้ยวรีบถูแชมพูออกจากหน้า แต่ไอ้ที่มันไหลลงมาจากหัวมาเจอกับน้ำ มันเลยยิ่งทำเลอะเทอะไม่หยุดหย่อน

           

 

“จับตรงไหนอะ ถ้าปล่อยตอนนี้ไม่ใช่แค่ก้นนายแล้วนะที่ฉันจะได้เห็น” เรียวจันทร์ว่าเสียงเร็วปรื๋อ พยายามเลื่อนสายตาหนีก้นแน่นๆ ของคมเขี้ยว มือที่ตะปบเป้าอยู่ก็พยายามไม่กำไปตามความยาวที่นางสัมผัสได้

           

 

“ปล่อยๆ” คมเขี้ยวรีบถูหน้าอีกสามที ไม่สนใจแล้วว่าฟองจะหมดรึยัง เขาดันตัวขึ้นเต็มความสูง ทำให้ตอนนี้ทั้งสองคนยืนใกล้กัน ห่างเพียงหนึ่งข้อศอกของเรียวจันทร์ที่งอเพราะมือจับเป้าคนตัวสูงอยู่ คนตัวเล็กกะพริบตาปริบๆ อยู่ตรงระดับอกของคนตัวสูง นางว่านางก็สูงเพรียวเหมาะกับนายแบบแล้วนะ แต่นายเขี้ยวกุดสูงกว่านางอีก

 

 

 เรียวจันทร์ลอบกลืนน้ำลายกับหุ่นของอีกฝ่าย มันไม่ได้ล่ำหนาใหญ่โต ก็มีกล้ามท้อง แต่ไม่ได้ฟิตเฟิร์มมาก แอบมีย้อยนิดหน่อยด้วยตอนงอตัวเมื่อกี้นี้ อาจเพราะไม่ได้ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด ก็ยังเป็นกล้ามเนื้อท้องมากกว่ากล้ามเนื้อย้อยอยู่ดี อกแน่นที่นางเคยซบก็แน่นอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ได้นูนบึกบึน

           

 

แต่ที่บึกบึนคือสิ่งที่นางโปะมือไว้อยู่นั่นละ

           

 

“คุณนาย มืออะปล่อยได้ละ” เรียวจันทร์ได้สติ เงยหน้าขึ้นมองตาแดงจางๆ ที่มองกดลงมายังหน้านาง คิ้วเข้มยักขึ้นหนึ่งทีเป็นการย้ำว่าให้ปล่อย เรียวจันทร์กะพริบตาปริบๆ และเผลอบีบมือขวาปี๊บๆ ตามจังกระพริบตา เล่นเอาคมเขี้ยวสะดุ้งหน้าท้องหดเกร็งไปนิดเพราะมือแม่ตัวดีบีบเข้าเต็มลำเขาเลย

           

 

“อุ้ย” เรียวจันทร์ดึงมือออกจากลำเขี้ยว ฉีกยิ้มแห้งๆ ให้พ่อคนตัวสูงที่ยืนขบกรามแน่น สองมือผูกผ้าขนหนูที่เอวให้แน่นขึ้น

           

 

“ขอสาบานด้วยเกียรติของเนตรนารีหมู่ดอกดาวเรืองอีกครั้งว่า ฉันไม่ได้ตั้งใจจับนะ” คมเขี้ยวผูกผ้าที่เอวเสร็จก็มองแม่ตัวดีด้วยสายตาดุๆ ไอ้ไม่ตั้งใจจับน่ะเชื่ออยู่หรอก แต่พอได้จับแล้วจับจนเต็มมือเนี่ยสิแม่คุณนาย

           

 

“ล้างหัวต่อสิ แชมพูยังไม่หมดเลย” เรียวจันทร์เปลี่ยนเรื่องเพื่อให้คมเขี้ยวเลิกทำหน้าดุใส่ตัวเอง

           

 

คมเขี้ยวไม่ว่าอะไร ใช้สองมือค้ำขอบอ่างล้างจานไว้และก้มหัวลงไปในอ่างตามเดิม เรียวจันทร์เทน้ำที่เหลือในขวดจนหมดและหยิบขวดใหม่มาเปิด ค่อยๆ เทน้ำลงบนหัวคมเขี้ยว มือขวาถือขวดน้ำ มือซ้ายช่วยลูบแชมพูออกจากเส้นผมอย่างเบามือ

           

 

“นายมีเซ็กส์ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่เหรอ” ถามไปมือก็ลูบหัวให้คนตัวโตและแอบมองร่างกายเปลือยเปล่าของป้อจายไปอย่างเพลินๆ

           

 

“ถามทำไม” คมเขี้ยวถามเสียงเรียบ ไม่ได้ห้วน ไม่ได้เหวี่ยง แต่คิ้วก็ขมวดเข้าหากันแน่นอยู่

           

 

“ก็ได้จับคาวบอยน้อยเลยนึกสงสัย”

           

 

“คาวบอยน้อย?” คมเขี้ยวหน้านิ่วกับชื่อนั้น บิดหน้าไปมองเรียวจันทร์ที่กำลังเปิดน้ำขวดใหม่

           

 

“ใช่ ชื่อกระปู๋นาย ฉันตั้งให้” เรียวจันทร์ยิ้มกว้างแล้วหัวเราะคึๆ ยกขวดน้ำเทใส่หัวคมเขี้ยวต่อ ชายหนุ่มกลับไปก้มหน้าตามเดิม ปล่อยให้เรียวจันทร์ช่วยล้างหัวให้ รอยยิ้มขำขันผุดขึ้นตรงริมฝีปากน้อยๆ

           

 

“ปีกว่าแล้วมั้ง” เรียวจันทร์ตาโต ตกใจเผลอทำน้ำกระฉอกออกจากขวดแรงไปหน่อยจนทำให้ไถลเลยหัวคมเขี้ยว เปียกกระจายไปรอบๆ อ่าง และเปียกเผื่อแผ่มาถึงนางด้วยนิดหนึ่ง

           

 

“ปีเลยเหรอ?! นายอยู่ได้ยังไงอะ ไม่อยากรึไง” นางถามด้วยความทึ่ง อันที่จริงก็คงไม่แปลกที่จะไม่มีเซ็กส์เป็นระยะเวลาเท่านั้น แต่เผอิญตัวนางขาดเซ็กส์ได้นานสุดคือสามสี่เดือน ไม่ใช่เพราะคันคะเยอนะ แต่สวยขนาดนี้ เสน่ห์ทางเพศล้นขนาดนั้น ผู้ก็อยากกินนางบ่อยๆ น่ะสิ นี่ไม่ได้หลงตัวเองนะ วัดจากจำนวนดุ้นของผู้ชายที่ไม่ค่อยจะขาดสายจากก้นนาง

           

 

“ก็ผมทำงาน พอเหนื่อยจากงานมันก็ไม่มีเวลาคิดเรื่องนั้นแล้ว” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว มองคมเขี้ยวด้วยสายตาเหลือเชื่อในขณะที่มือยังคงเทน้ำรดหัวของอีกฝ่ายและช่วยสางแชมพูออกจากเส้นผมของอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันสะอาด

           

 

“นายก็ต้องมีเวลาบ้างสิ จะยุ่งกับงานตลอดเลยเหรอ” เรียวจันทร์วางขวดน้ำ ดึงผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาจากคอคมเขี้ยว ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นเต็มความสูง เรียวจันทร์เดินเข้าไปประชิดตัวแล้วยืดแขนสุดแขนโปะผ้าขนหนูผืนเล็กลงบนหัวคมเขี้ยวและขยำเบาๆ

           

 

“มันก็มี แต่ผมก็ไม่ได้จดจ่อกับเรื่องนั้น มันไม่ใช่สาระสำคัญขนาดนั้นนะคุณนาย” คมเขี้ยวก้มหัวลงนิดหนึ่งเพื่อให้เรียวจันทร์เช็ดหัวเขาได้สะดวก

           

 

“แล้วช่วยตัวเองมั่งมั้ยเนี่ย”

           

 

“ถามอะไรขนาดนั้น จะเอาไปทำวิจัยรึไง” เขามองหน้าขาวๆ และดวงตาใสๆ ของเรียวจันทร์แบบเหม่อๆ คือเหมือนสายตามันโฟกัสอยู่จุดใดจุดหนึ่งนานไปจนลืมถอนสายตาออก พอมองแล้วก็เลยมองแบบเพลินๆ

           

 

“เป็นห่วงงง กักเก็บไว้มากๆ ใช่ว่าจะดีนะ ต้องปลดปล่อยบ้าง” คมเขี้ยวเงียบไปพักหนึ่ง นึกอยู่ในใจว่าเรื่องแบบนี้พูดกันแบบปกติเหมือนถามว่าเมื่อกลางวันกินข้าวกับอะไรมาอย่างนั้นเลยหรือเปล่า แต่เขาคิดว่าก็แค่ตอบๆ ไปไม่ได้เกิดผลเสียอะไรนักหรอก

           

 

“เมื่อคืนเพิ่งทำไปตอนอาบน้ำ” เขาตอบแค่นั้น ไม่อธิบายเพิ่มเติมว่ามีเหตุอะไรมากระตุ้นที่ทำให้เขาขัดจรวดตัวเองในห้องน้ำเมื่อคืนนี้

 

 

เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้น หยุดเช็ดหัวของคมเขี้ยว ดึงผ้าขนหนูออกจากหัวร่างสูง หนุ่มคาวบอยยืดตัวเต็มความสูง กดหน้าลงมองใบหน้าผุดผ่อง

           

 

“นึกว่านายจะทำตัวบำเพ็ญเพียรซะละ” เรียวจันทร์ยิ้มล้อๆ คมเขี้ยวยกยิ้มมุมปากนิดหนึ่ง สายตามองรอยยิ้มจิ้มลิ้มบนหน้าสวยๆ ด้วยสายตาลืมกระพริบ มองคนตัวเล็กที่ยื่นมือมาจับเส้นผมของเขาที่เปียกหมาดๆ

           

 

“ถ้าอยากได้คนช่วยบอกได้นะ ฉันเต็มมือ เอ้ย เต็มใจช่วย…” ร่างเล็กยิ้มย่นจมูก ปล่อยมือออกจากเส้นผมสีดำของพ่อร่างโย่ง คมเขี้ยวทำเพียงบึนปากพร้อมกับยักคิ้วหนึ่งที

           

 

“…แล้วน้ำจะมาเมื่อไหร่เนี่ย”

           

 

“อีกสักพักละมั้ง แล้วคุณขึ้นมามีอะไรรึเปล่า”

           

 

“อ๋อ ฉันเอาของขึ้นมาเก็บให้คุณป๋าอะ มีลังเบียร์สองอันแล้วก็ชุดอะไรสักชุดในถุง น่าจะสูทมั้ง” เรียวจันทร์ชี้ไปที่โต๊ะรับแขกด้านนอก คมเขี้ยวพยักหน้าขึ้นหนึ่งทีเป็นการรับรู้

           

 

“แล้วนายมาอาบน้ำอะไรตอนนี้”

           

 

“ไปแบกกับตัดฟืนมา ร้อน เลยอยากอาบน้ำ” เรียวจันทร์พยักหน้าเข้าใจ เผลอมองหุ่นคมเขี้ยวตาลอยเบาๆ พร้อมกับเผลอพูดเสียงแผ่วคล้ายคนเพ้อ

           

 

“หุ่นนายน่าดม…” พูดยังไม่ทันจบนางก็ได้สติคืนมาเอง เรียวจันทร์มองหน้าคมเขี้ยวเงอะงะ และอีกครั้งที่งงกับประโยคของตัวเองว่า หุ่นน่าดมคืออะไร

           

 

“เป็นคำชมที่แปลกดี” คมเขี้ยวแซวด้วยรอยยิ้มขำๆ นึกงงไปกับคำพูดจากแม่คุณนายเหมือนกันว่าการที่หุ่นเขาน่าดมนั้นเป็นยังไง แต่การที่เรียวจันทร์พูดอะไรไม่ปกติก็นั่นแหละคือปกติ

           

 

“ฉันหมายถึง มันน่าซุกอะ เห็นแล้วอยากขดตัวอยู่ด้วยทั้งวัน” คมเขี้ยวขยับเปลือกตาโตและเบ้ปาก ยกสองแขนขึ้นมาปิดหน้าอกในท่ากากบาทเพื่อปกปิดหน้าอกของตัวเองจากสายตาเคลิ้มๆ ของเรียวจันทร์

           

 

“ได้ นายปิดข้างบน ฉันเปิดข้างล่างนะ”

           

 

“เฮ่ย!” คมเขี้ยวรีบเอามือลงจากอกมากุมเป้าแทน เรียวจันทร์ยิ้มกว้างแล้วหัวเราะเสียงใส ทำท่าจะวิ่งเข้าใส่คนตัวสูง คมเขี้ยวกระเถิบตัวหนีออกห่าง เรียวจันทร์เห็นแบบนั้นเลยวิ่งต้อนพ่อตัวโย่งจนไปยืนจนมุมเค้าน์เตอร์บาร์ในครัว

           

 

“วุฮ่าๆ โดนแน่ นายเขี้ยวกุด!” เรียวจันทร์พุ่งตัวเข้าไปกอดคมเขี้ยวไว้แน่น เอาหน้าซุกกับเนื้ออกอุ่นที่คราวนี้ไม่มีเสื้อผ้ามาบดบังความอุ่นนั้นแม่แต่ชิ้นเดียว แก้มนุ่มรับรู้ถึงกล้ามเนื้อของพ่อเครางามได้เต็มที่

           

 

“คุณจันทร์ไร ออกไปเลย”

           

 

“เน่! นายเลิกเรียกฉันแบบนั้นไปแล้วนะ ไม่เพราะเลยอะ” นางเอาแก้มถูเนื้ออุ่นที่ยังเปียกหยดน้ำเบาๆ ด้วยความเคลิ้มกรุ่นๆ

           

 

“เดี๋ยวจะเปลี่ยนสรรพนามคำนำหน้าให้ใหม่ถ้ายังเกาะผมไม่เลิก” เรียวจันทร์แหงนหน้า เอาคางเกยอกเปลือยแล้วมองหน้าคมเขี้ยวที่เริ่มทำหน้าดุ

           

 

“จุ๊บหน้าผากฉันก่อน” นางยิ้มกว้างอารมณ์ดี หัวเราะในลำคอเสียงเพี้ยน ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่น

           

 

“ไม่เอา” คนตัวเล็กทำหน้างอ

           

 

“อะไรอ้า แค่จุ๊บเหม่งเอง นะๆ จุ๊บปุ๊บปล่อยปั๊บ” คมเขี้ยวกดหน้าลงแล้วใช้หน้าผากตัวเองกระแทกลงบนหน้าผากคนตัวเล็กเบาๆ แต่ก็เล่นเอาดัง ปัก!

           

 

“โอ๊ย! เดี๋ยวๆ นี่จุ๊บหรือทุบเนี่ย”

           

 

“ปล่อยยัง ไม่ปล่อยจะเอาให้แรงกว่านี้” คมเขี้ยวถลึงตามองแม่คุณนายที่ทำปากยื่นหน้างอ

           

 

“จุ๊บก่อนซี จุ๊บเดียวเอง นะคะพี่เขี้ยววว” เรียวจันทร์ทำเสียงอ้อนพร้อมกะพริบตาปริ๊บๆ คมเขี้ยวทำหน้าระอาแล้วก็ตัดรำคาญด้วยการก้มหน้าลงไปจุ๊บหน้าผากของเรียวจันทร์แผ่วเบาหนึ่งที

           

V
v
v
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/100% :09.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 09-11-2016 21:07:41


V
v
v

“เขี้ยว” ในขณะที่เขากำลังจะดึงหน้าออกจากหน้าผากเรียวจันทร์ เสียงเข้มเรียบๆ ของหญิงสาวคนหนึ่งก็ดังขึ้น ทำให้ทั้งคู่หันไปมองพร้อมกันโดยที่เรียวจันทร์ก็ยังไม่ได้ปล่อยอ้อมแขนออกจากตัวคมเขี้ยว และหน้าคมเขี้ยวก็อยู่ห่างจากหน้าเรียวจันทร์แค่ปลายจมูกกั้น

           

 

“อ้าวเอื้อง” คมเขี้ยวทักเสียงงงพอๆ กับสีหน้าที่เห็นหญิงสาวยืนอยู่ในชุดพยาบาลสีขาว เรียวจันทร์เห็นสีหน้าพยายามปั้นยิ้มของแม่เอื้องแล้วก็ยิ้มมุมปากไปหนึ่งที

           

 

“ทำอะไรกันอยู่เหรอ” ปลายเสียงของหล่อนต่ำกว่าปกติ ราวกับพยายามคุมเสียงไม่ให้สั่นหรือเพี้ยน แม่คุณนายเหลือบมองหญิงสาวด้วยหางตาแว้บหนึ่งแล้วแหงนหน้าไปมองคมเขี้ยวที่ก้มลงมองนางแบบมึนๆ สักพักแล้วก็เงยหน้าขึ้นไปตอบคำถามอัจฉรา

           

 

“เล่นกัน” เขาไม่รู้จะตอบว่าอะไร แต่เขาก็เล่นกับเรียวจันทร์อยู่จริงๆ

           

 

อัจฉรามองทั้งสองคนในท่าทางแนบชิดสนิทสนมแล้วปั้นยิ้มยาก “เล่นกันใกล้ชิดดีจัง”

           

 

คมเขี้ยวถึงกับไปไม่ถูก จะให้แก้ตัวกับอัจฉราก็ไม่รู้ว่าจะต้องแก้ไปทำไม และไม่รู้ว่าจะต้องแก้ว่าอะไร ในขณะที่กำลังยืนงง เรียวจันทร์ก็ผละตัวออกไปจากตัวเขา

           

 

“นายไปดูน้ำเถอะว่ามารึยัง อาบน้ำให้เสร็จแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ” เรียวจันทร์ยกผ้าขนหนูคล้องคอคมเขี้ยว เลยทำให้ดูว่านางกำลังยกแขนโอบคอหนาของชายหนุ่ม

           

 

“แล้วไม่ต้องสระผมอีกล่ะ” เรียวจันทร์ยักคิ้ว คมเขี้ยวกระตุกยิ้มมุมปากหนึ่งทีแล้วค่อยรีบก้าวเท้าเดินกลับไปทางห้องนอนของตัวเอง

           

 

เรียวจันทร์หันตัวไปเผชิญหน้ากับพยาบาลสาวที่ดูท่าเพิ่งจะเลิกงานมาหมาดๆ แล้วบึ่งมาที่นี่ทั้งชุดเต็มยศ อัจฉรามองเรียวจันทร์นิ่ง แต่มีเหรอที่คุณนายแกจะไม่รู้ว่าแม่นั่นกำลังไม่พอใจที่นางไปใกล้ชิดกับชายที่หล่อนหมายปองและคุยมาเกือบปี

           

 

“คุณเอื้องเดินเข้าบ้านคนอื่นได้ง่ายจังนะคะ” อัจฉรายิ้มยากอีกที

           

 

มาดูกันดีกว่าว่าระหว่างแอ๊บของหล่อนกับเงินล้านในเกมโชว์ที่มีสคริปว่าไม่มีทางที่คนทางบ้านจะได้เงินล้านนั้นไป อันไหนจะแตกก่อนกัน

           

 

“ก็อย่างที่เคยบอกแหละค่ะ เราคุยกันมานานจนสนิทกัน เอื้องมาบ้านนี้ได้เหมือนเป็นบ้านเอื้องเองเพราะคุณพ่อคุณแม่อนุญาต…” เรียวจันทร์ยังคงยิ้มบางๆ แววตาดูซุกซนจนอัจฉรานึกหงุดหงิดใจ

           

 

“…เอื้องก็เหมือนเป็นคนในครอบครัว จะเข้านอกออกในก็เลยไม่ยาก เอื้องยังเคยเข้าไปจัดห้องนอนให้เขี้ยวเลยค่ะ” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าอู้ว แต่ก็ยังไม่โต้ตอบอะไร อัจฉราเดินมาที่โซนครัว เปิดตู้เย็นและควานหาอะไรสักอย่างอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหยิบของสดพร้อมผักออกมาจากตู้เย็น

           

 

“เย็นนี้เอื้องก็มาทำกับข้าวให้เขี้ยวกิน เพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่ ก็เป็นปกติแหละค่ะ…” อัจฉราหันมายิ้มให้เรียวจันทร์ในขณะที่มือก็เริ่มแกะนั่นแกนี่ หยิบของออกมาวาง

           

 

“…ดูแลคนป่วยมาตั้งมากมาย กับแค่จะดูแลคนพิเศษของเราสักคนคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร” หล่อนหันกลับไปจัดการของบนเค้าน์เตอร์ครัวต่อ เรียวจันทร์เบ้ปากใส่หลังนังเอื้องเยื้องย่างไปหนึ่งที

           

 

“เป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่มากจริงๆ ค่ะ” อัจฉราหันกลับมายิ้มสวยหนึ่งทีแล้วพูดเสียงเรียบ

           

 

“ใช่ค่ะ จนบางทีก็มีพวกสัมพเวสีมาขอส่วนบุญนั้นด้วย เอื้องก็แผ่เมตตาให้นะคะ ได้แต่หวังว่าบุญจะพาเขาไปในที่ชอบๆ” อัจฉรายิ้มนิ่มๆ เรียวจันทร์ยิ้มบางเบา

           

 

หน็อย นังพยาบาท!

           

 

“งั้นบุญที่คุณเอื้องแผ่ให้ เรียวคิดว่าสัมฤทธิ์ผลแล้วละค่ะ…” เล่นงี้ใช่มะ ปากคอเราะร้ายนักใช่มะ ได้! “…เพราะดูท่าสัมพเวสีที่คุณเอื้องบอก เขาจะชอบที่นี่นะคะ”

           

 

งั้นมันต้องเจอความด้านต้านค่ะ!

           

 

อัจฉราหน้าตึง ก่อนที่จะรีบปั้นยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา “ถึงเวลาเขาคงไปผุดไปเกิดเองแหละค่ะ”

           

 

“คุณเอื้องเคยได้ยินเรื่องบุญหมดมั้ยคะ ที่เขาบอกกันว่าบุญเก่าน่ะค่ะ ถ้ามัวแต่กินแต่ไม่สร้างบุญใหม่ วันนึงก็จะไม่เหลือบุญไปแบ่งให้ใครแม้กระทั่งตัวเอง…” อัจฉราหน้านิ่งเกือบจะทันตาเห็น เรียวจันทร์ยิ้มเย็นแล้วก็นึกใจว่า

           

 

โอ๊ยยย! ฉันไม่ได้อยากมาเล่นสงครามประสาทกับหล่อนเพราะผู้ชายคนเดียวหรอกนะยะ แต่ที่ทำไปเนี่ยหมั่นไส้หล่อนล้วนๆ

           

 

“…ต้องหมั่นสร้างแต้มบุญไว้เยอะๆ ค่ะคุณเอื้อง บุญเก่าที่กินนานมาแรมปี บางทีก็ไม่ได้ช่วยอะไรนะคะ” อัจฉราหันมาเผชิญหน้ากับเรียวจันทร์ ยืนพิงเค้าน์เตอร์ครัวไว้ มองใบหน้าสวยเกินชายปกติอย่างเชิดๆ

           

 

“เขี้ยวเขาไม่ใช่เกย์” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้น ทำหน้าตกอกตกใจลายระดับกลาง อันนี้ใหญ่มากไม่ได้เดี๋ยวจะดูเว่อร์เกินธรรมชาติ

           

 

“แล้วใครบอกล่ะคะว่าเขาเป็น เจ้าตัวก็บอกค่ะว่าเขาไม่ใช่”

           

 

“ถ้าเขาบอกแล้วคุณก็ควรไปสิ”

           

 

“ไปไหนล่ะคะ เรียวทำงานที่นี่ค่ะคุณ ออกก็ไม่มีเงินสิ”

           

 

“คุณมีอาชีพของคุณอยู่แล้ว คุณจะมาทำที่นี่อีกทำไม” อัจฉราว่าหน้าแทบสั่น เรียวจันทร์เดาว่าตอนนี้แม่นั่นคงอยากจะกรี๊ดใส่หน้านางจนอกสั่นสะเทือนแล้วละ

           

 

“อ้าว คุณเอื้องคะ คนเราต้องหาเงินหลายๆ ทางสิคะ มีรายได้หลายทางเป็นเรื่องดีจะตายไป” เรียวจันทร์ว่าอย่างสบายๆ แต่ดูท่าอีกคนจะไม่ค่อยสบายด้วยเท่าไหร่ เพราะมองนางตาลุกพรึบเลยทีเดียว

           

 

เรียวจันทร์ต้องขอนับถือกับความอึด ความอดทนของแม่ช่อเอื้องจริงๆ ดูก็รู้ว่านางอยากจะด่ากราด แต่นางก็ยังเก็บอารมณ์ได้เก่ง แน่สิ ไม่งั้นนางจะอยู่ทน อยู่นานกับนายคมเขี้ยวได้ขนาดนี้เหรอ คุยมาเป็นปี แม้แต่สถานะยังไม่มี ถ้าเป็นนางเนี่ย ปีเดียวได้เสียจนหมอขอทำมดลูกให้แล้วละ

           

 

“คุณอาจจะสวยนะคุณเรียวจันทร์ แต่คุณไม่มีในสิ่งที่ฉันมี” คุณนายเอียงคอแล้วยักไหล่สวยๆ หนึ่งที

 

 

“ถ้าเธอหมายถึงนมกับจิ๋มล่ะก็ ข่มฉันไม่ได้หรอก แต่ถ้าหมายถึงมารยาฉันก็น่าจะแพ้”

 

 

อันนี้ไม่จริงค่ะ ถ้าเรื่องนี้ล่ะก็อัจฉราแพ้ตั้งแต่ยังไม่ถึงหน้าประตู

 

 

อัจฉรากัดฟันแน่น มองเรียวจันทร์จนเปลือกตาไม่กะพริบ “คุณจะแย่งเขาไปจากฉันรึไง”

 

 

คราวนี้นางไม่ได้แอคติ้ง แต่เรียวจันทร์มีสีหน้าแปลกใจจริงๆ เลยได้แต่มองหน้าอัจฉราแล้วก็ยิ้มขำจนแม่พยาบาลมองนางกลับมาตาวาว คงไม่พอใจที่เห็นนางขำ เรียวจันทร์นึกอยากจะพูดโต้ตอบด้วย แต่พอดีผู้ชายที่เป็นชนวนของนางสองคนเดินออกมาในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นพอดี

 

 

“เอื้องล่ะ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว นึกในใจว่าไม่สังเกตอะไรขนาดนั้นเลยรึไง จนนางต้องบุ้ยปากไปทางหญิงสาวที่ยืนยิ้มละไมอยู่ตรงเค้าน์เตอร์ครัว

 

 

โห แม่คุณ รอยยิ้มพิมพ์ใจเชียวนะ ปั้นเก่งซะเหลือเกิน

 

 

“เอื้องมีอะไรรึเปล่า เพิ่งออกเวรน่าจะไปพักผ่อนนะ” หญิงสาวยิ้ม เดินเข้ามาจับแขนคมเขี้ยวเบาๆ เรียวจันทร์ยืนตีหน้ามึนไม่รู้สึกอะไร

 

 

หล่อนได้แค่จับแขน ฉันได้จับสิ่งที่ยาวเกือบเท่าลำแขนมาแล้วจ้ะ

 

 

“พอดีโทรหาคุณพ่อกับคุณแม่แล้วท่านบอกว่าออกไปกินข้าวนอกบ้าน เอื้องเลยจะมาทำกับข้าวให้เหมือนทุกครั้งไง”

 

 

“ลำบากเอื้องแย่ จริงๆ ไม่ต้องมาหรอก เข้าเวรมาตั้งแต่เที่ยงคืน เพิ่งจะออกมา ควรกลับไปนอนนะเนี่ย” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ อันนี้นางทึ่งของจริง นังผู้หญิงคนนี้อดนอนสิบกว่าชั่วโมงแต่ไม่กลับไปนอนค่ะ นางมาหาผู้ถึงบ้าน!

 

 

“แค่นี้เอง ชิลมาก” หล่อนตอบชายหนุ่มแล้วยิ้มกว้าง คมเขี้ยวยิ้มตอบ

 

 

“ไหนๆ มาแล้วก็ตามใจเอื้องแล้วกัน” เรียวจันทร์กลอกตาหนึ่งที อีตาเขี้ยวเนี่ยเหมือนจะฉลาดทันคนนะ แต่จริงๆ หมอนี่ยังใสซื่อในเรื่องมารยาของคนมาก ไม่ต้องไปดูไหนไกล เวลาที่นางแอคติ้งตอแหลทั้งหลายนั่นไง หมอนี่เคยจับได้ที่ไหน ถ้าจับได้ ไอ้เขี้ยวกุดก็คงรู้แล้วละว่าแม่คนนี้เป็นผ้ายับที่พับเอาไว้ ไม่ปล่อยให้นางมาลอยไปลอยมาเหมือนผีใกล้ๆ ตัวแบบนี้หรอก

 

 

“งั้นเดี๋ยวนั่งรอเลยนะ” อัจฉรายิ้มแล้วเดินกลับไปที่เค้าน์เตอร์ครัว คมเขี้ยวหันมามองแม่คุณนายที่ยืนทำหน้าไม่พร้อมรับบุญอยู่

 

 

“เดี๋ยวกินข้าวด้วยกัน”

 

 

“ไม่อะ ฉันจะลงไปกินกับคนงาน” นางไม่ได้โกรธหรืองอนคมเขี้ยวนะ แต่ขอสักแปบเถอะ สักแปบในการเบื่อความซื่อบื้อของไอ้เขี้ยวกุด

 

 

ฉันอยากจะผ่าตัดเซ้นส์จับชะนีขี้ตอแหลของตัวเองใส่เข้าไปในร่างของนายจังเลยนายคมเขี้ยว!

           

 

“อ้าว ก็มากินด้วยกันสิ” คมเขี้ยวขมวดคิ้ว หน้าไม่ค่อยจะพอใจกับคำพูดคำจาและท่าทางของเรียวจันทร์สักเท่าไหร่

           

 

“นายกินเถอะ นี่ไม่ใช่โต๊ะอาหารรักสามเส้าน้ำเน่านะ” เรียวจันทร์ทำหน้ายี้ไปหนึ่งที คมเขี้ยวทำหน้าเอือม นึกอยากด่ายัยคุณนายตัวดี แต่ก็นึกไม่ออกว่าจะด่าอะไร

           

 

“ฉันไม่ได้เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษนายไย ฉันแค่อยากจะไปกินข้าวในที่ๆ มันสบายใจก็เท่านั้น ไม่ต้องชวนดินนะยะ เพราะฉันจะชวนดินไปกินกัน เอ้ย ไปกินข้าวด้วยกัน” คมเขี้ยวเบิกตากว้างมองดุๆ แต่ไม่ได้เบิกจนตาแทบทะลุออกจากเบ้า เรียวจันทร์บึนปากใส่ไอ้เขี้ยวกุดแล้วหมุนตัวเดินจากไปทันทีไม่รีรอให้หมอนั่นง้อ

 

 

ก็บอกแล้วว่าไม่ได้งอน แค่เอือมกับความเมตตากรุณากับแม่ชะนีเคี้ยวเอื้องนั่นก็เท่านั้นเอง

           

 

“จะไม่กินจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย?!”

           

 

“เอ๊า! ฉันเดินลากกระเป๋าออกจากบ้านเอเอฟขนาดนี้แล้ว ฉันอำเล่นมั้งล่ะ!”

 

 

โวะ เดินออกมาราวกับนางงามอำลาตำแหน่งขนาดนี้ คิดว่านางจะมาฟูลเทิร์นเก๋ๆ หนึ่งทีแล้วเดินกลับไปงั้นเหรอ เบื่อขี้หน้าแม่นีขี้แอ๊บนั่นมากพอแล้วค่ะ ปล่อยจังหวะให้นางไปก่อน เห็นแก่ความอึดอดทนกับการดิ่งมาหาผู้ชายแทนที่จะนอนพักผ่อน ฉันล่ะยอมใจหล่อนจริงๆ

 





 





      เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao3:



เอื้อง แม่เรียวเขามีพี่ปาน ธนพรเป็นไปดอลนะคะ ตบได้ตบ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

แม่เรียวนี่นางเอกมั้ยคะหรือยังไง เอื้องเขาคุยมาก่อน เขาอยากได้ก่อน เพียงแต่ว่ายังไม่ได้สักที จู่ๆ ก็โดนขุ่นแม่ของเรามาปาดหน้าเค้กแบบแรงๆ เจอแบบนี้ ถ้าเอื้องจะปรี๊ดสักนิด ก็ได้อยู่นะคะ 55555

พี่เขี้ยวดูเต็มใจให้แม่เรียวลวนลามมากขึ้นนะคะพี่ แหม่ะ แบบนี้เข้าทางแม่เรียวเลยค่ะ

ใครที่ลุ้นให้แม่เรียวกินพี่เขี้ยวได้เร็วๆ สักที น่าจะอีกนิดแหละค่ะ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าแม่จะพลาดตรงไหนมั้ย หรือจะตะล่อมฮุบเหยื่อได้ในที่สุด ลุ้นไปกับแม่ค่ะ กรี๊ดดด

มีความคิดว่าจะรีไรต์สิบตอนแรกของนิยาย แต่ไม่ได้เปลี่ยนเนื้อเรื่องนะคะ แค่ขัดเกลาสำนวนให้มันสมูทขึ้น เพราะมันมีบางตอน บางฉากดูอึดอัด ขัดๆ และสำนวนแปร่งๆ เลยว่าจะขัดเกลาให้กริ๊บขึ้นอีกสักนิดเท่าที่จะทำได้ หลังจากตอนสิบค่อนข้างแน่ใจว่า เป็นช่วงที่มีเวลามาโฟกัสให้เรื่องนี้ได้เต็มที่แล้ว สำนวนน่าไหลลื่นกว่าแรกๆ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คอมเม้นเป็นกำลังใจดีๆ สำหรับคนเขียนเสมอ ^^ เจอกันตอนหน้านะคะ





สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                                 
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/100% :09.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 09-11-2016 21:30:16
ขุ่นแม่จะไม่ล้างมือใช่ไหมคะ 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/100% :09.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 09-11-2016 21:51:01
พี่เขี้ยวมีพัฒนาการนะนิ ชวนคุณนายแกกินข้าวด้วย อิอิ
แล้วก็คุณเอื้องไม่แปลกนะที่นางจะดูหวงพี่เขี้ยวออกนอกหน้าขนาดนี้ นางก็ตามของนางมาเป็นปีๆ ยังไม่ถึงเนื้อถึงตัวพี่เขี้ยวขนาดคุณนายแก ถ้านางจะปรี๊ดแตกก็ไม่แปลกล่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/100% :09.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-11-2016 21:53:12
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/100% :09.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 09-11-2016 22:32:22
ลำเกือบเท่าหรอพี่เขี้ยว  :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/100% :09.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 10-11-2016 07:22:36
แม่เคี้ยวเอื้ยงนี่นางเอกจริงๆๆๆ ไม่คิดเหรอว่า ถ้าเค้าจะเอานาง นางไม่เหลือแล้ว เชอะ!
#ทีมแม่เรียว  รอวันนางได้กินผู้ค่าา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/100% :09.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 10-11-2016 08:01:34
ขุ่นแม่เรียวนี่วางกลยุทธได้เยี่ยมมากค่ะ. ตั้งหลักแบบสวยๆ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/100% :09.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-11-2016 12:10:11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/100% :09.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 10-11-2016 13:57:49
ลุ้นจนตัวโก่งแล้ว เค้ายังหมาหยอกไก่กันอยู่เลย :serius2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/100% :09.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 10-11-2016 16:00:38
เบื่อเขี้ยว ให้เรียวได้กับดินเถอะ  :z3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๖/100% :09.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 12-11-2016 01:42:44
 :o8: ตอนนี้ชอบน่ะ ดูมันเป็นอะไรที่แอบหวานซ่อนเปรี้ยวน่ะ อ่านแล้วมันดูธรรมชาติดี ชอบ แต่เป็นอะไรที่ผิดคาดตอนท้ายนิดนึง นึกว่าแม่เรียวจะอยู่ฉะปะดะ กับแม่อัจต่อ ปรากฎว่าปล่อยซะ เล่นเอาเขี้ยวมึนไปเลยมั๊งแถมยังต่อท้ายให้นายเขี้ยวหงุดหงิดเล่น ๆ อีก 555 เราว่าเขี้ยวก้อดูจะแคร์แม่เรียวขึ้นน่ะเนี่ย มีหวัง ๆ  :impress3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/35% :13.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 13-11-2016 16:53:28



คาถาที่ 17 :: Devil is not here, but... [นางมารไม่อยู่ แต่ว่า...] (35%)




“เรียวเขยิบไปซ้ายหน่อย เออ ใช่ ช่าย แล้วก็ตอนเดินกับพระเอก เราก็ไปตามธรรมชาติได้เลยนะ เพื่อนคุยกัน แต่เราแอบชอบเพื่อน ซ่อนความรู้สึก แต่สายตาก็ต้องแสดงออกชัดเจน”

           

 

เสียงผู้กำกับสั่งผ่านวอล์สีแดงจากหน้าจอมอนิเตอร์มายังวอล์อีกตัวหนึ่งที่อยู่ในมือผู้ช่วยผู้กำกับ เรียวจันทร์ฟังแล้วพยักหน้าตามคำสั่ง และนึกภาพตามในหัว ยืนนิ่งๆ ปล่อยให้ช่างหน้าช่างผมจัดการใบหน้าตัวเอง

           

 

“พี่คะ ไม่ดราม่าเนอะฉากนี้” นางตะโกนถามผู้กำกับผ่านวอล์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าตะคอกเสียงดังลั่นกอง

           

 

“ไม่จ้ะไม่ บรรยากาศใสๆ แค่หน่วงนิดหน่อยนะ แล้วก็ น้องเรียวอย่าลืมเพิ่มความแมนให้ตัวเองด้วยนะครับ” เรียวจันทร์หัวเราะเบาๆ กับคำสั่งนั้นในขณะที่กำลังก้มจัดการปลดกระดุมเสื้อออกหนึ่งเม็ด

           

 

“ครับพี่ครับ ได้เลยครับ” นางตอบกลับไปอย่างทะเล้น

           

 

“แมนมากเลยอะ น่าจับทำผัว” หลายคนในกองหัวเราะกันเสียงครืน พระเอกที่เข้าฉากกับเรียวจันทร์นัดแนะคิวกับเรียวจันทร์กันสองคนว่าจะใช้จังหวะไหนยังไงบ้าง

           

 

สำหรับเรียวจันทร์พระเอกคนนี้ทำงานด้วยง่าย เป็นผู้ชายสบายๆ แต่ก็ไม่ใช่ปล่อยปะละเลยทุกสิ่งในชีวิต ทั้งสองคนคุยด้วยกันง่าย เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ไม่มีเกินเลยอะไรมากไปกว่านี้ เพราะพระเอกเขาเป็นผู้ชายปกติ ชอบผู้หญิงขาว หมวย สวย เอ็กซ์ สเป็กอันดาษดื่นของชายไทย

           

 

“เอานะ ห้า สี่ สาม สอง เทปเดิน!”

           

 

วันนี้คุณนายแม่มาถ่ายหนังที่กรุงเทพ สำหรับซีนที่จะไปถ่ายฟาร์มของคมเขี้ยว ผู้กำกับตัดสินใจว่าจะไปปิดกล้องที่นั่นทีเดียว ช่วงนี้เลยถ่ายเก็บโลเคชั่นอื่นๆ ให้หมดก่อน เพราะทุกคนจะถือโอกาสไปพักผ่อนหลังจากถ่ายจบด้วย

           

 

“ทำตามใจตัวเองนั่นแหละ” นางพูดบทของตัวเอง ในเรื่องนี้นางรับบทเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อของพระเอก ต้องปรับความแมนขึ้นมานิดหนึ่งแต่ก็ไม่ได้มาก ยังคงมีความน่ารักเป็นตัวนางอยู่

           

 

วันนี้มาสวมบทบาทเป็นนักแสดง เป็นอีกหนึ่งแขนงของงานที่เรียวจันทร์มีโอกาสได้ทำ ค่ายหนังติดต่อมาบอกว่าอยากได้นางมาร่วมงานด้วย เรียวจันทร์เห็นว่าบทน่ารักดี อาจไม่ใช่มาสเตอร์พีช แต่บทมันน่ารัก ที่สำคัญคือมันเป็นโอกาสที่ดีเลยตอบตกลง เพราะมันทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น และก็จะหมายถึงงานที่มีเพิ่มขึ้นตามมาด้วย ยามนี้โกยได้ต้องโกย เพราะชีวิตของนางจำเป็นต้องใช้เงิน ทั้งเก็บไว้ใช้เองและใช้หนี้ใช้ดอกของตาเสี่ยจอมทัพนั่นด้วย

           

 

พูดถึงเสี่ย พอพี่ท่านรู้ว่าเรียวจันทร์ต้องเข้ามาทำงานกรุงเทพ ก็เรียกให้เข้าไปหา บอกว่าอยากเจอ เฮ้อ จะอยากเจอเพราะอะไรล่ะถ้าไม่ใช่เรื่องอย่างว่า ก็แบบนี้แหละนะ ฟีโรโมนทางเพศของนางมันเยอะจนดึงดูดผู้ชายให้อยาก

           

 

แต่แทนที่จะดึงดูดให้คนที่นางอยากดูด เอ้ย คนที่นางอยากให้เข้าหาก็ดันทำไม่ได้ อีตาเขี้ยวยังดูเฉยๆ กับนางอยู่เลย ถึงจะไม่ผลักไสไล่ส่งหรือทำท่ารังเกียจแบบแต่ก่อนแล้วก็เถอะ แต่นางก็อยากได้ความรู้สึกดีๆ เพิ่มกว่านี้

           

 

แบบนี้แหละนะมนุษย์ ได้คืบจะเอาศอก ค่อยเป็นค่อยไปมันไม่ทันใจอยากได้รวบรัดเร็วๆ

           

 

ส่วนผู้ชายที่คุณแม่นางหมายปอง ตอนนี้เขาก็…

 

           

 




คมเขี้ยวยืนดูคนงานรีดนมวัวอยู่ด้วยท่าทีเฉื่อยๆ แค่ยืนดูยืนมองเฉยๆ จริงๆ ไม่ได้ออกคำสั่งหรือมีแอคชั่นใดๆ ร่วมด้วย เหมือนยืนไปเรื่อยเปื่อย สายตาของเขาเลื่อนมองวัวแต่ละตัวไปเรื่อยเพื่อเช็กว่าทุกตัวสุขภาพยังดีอยู่ สามตัวที่เคยป่วยตอนนี้กลับมาปกติดี แต่ก็ยังไม่หายเป็นปลิดทิ้ง หมอให้งดรีดนมอีกสักระยะเพื่อให้ร่างกายมันพักฟื้นมากกว่านี้ก่อน

           

 

“อยากให้คุณเรียวแกมาเต้นอีกว่ะ น่ารักดี” ชื่อที่คนงานชายสองคนที่นั่งรีดนมวัวอยู่ใกล้กันพูดถึง ทำให้คมเขี้ยวตาสว่างขึ้นมาบ้าง เขาหันไปมองสองคนนั้นที่กำลังนั่งหัวเราะ

           

 

“คนอะไรอารมณ์ดีทั้งวี่ทั้งวัน กูว่าวัวมันชอบคุณเรียวนะเอาจริง เห็นเวลาคุณเรียวแกมา ไอ้พวกนี้ส่งเสียงต้อนรับกันใหญ่” คมเขี้ยวนึกถึงวันที่เรียวจันทร์บอกว่าตัวเองจะต้องมาเต้นแก้บนให้วัวดูแล้วก็ยิ้มขำอยู่คนเดียว

           

 

“คุณเรียวแกบอกว่าให้เปิดเพลงให้พวกมันฟังบ่อยๆ ถึงไม่มีแกเต้น แต่ก็เปิดให้วัวมันอารมณ์ดี” คมเขี้ยวพยายามไม่ยิ้มมากเพราะเดี๋ยวจะเหมือนคนบ้า เขายกมือขึ้นเกาปลายจมูกด้วยนิ้วชี้สามสี่ที นึกถึงแม่ตัวดีที่เงียบหายไปตั้งแต่มื้อเย็นเมื่อวาน เขาลงมาเคาะเรียกแล้วเมื่อคืน เพราะพ่อกับแม่ซื้อขนมมาฝาก แต่แม่คุณนายเงียบไม่ตอบโต้ เขาเลยเดินกลับขึ้นบ้าน พอเช้ามาเขาก็ได้รับคลิปวีดีโอที่ส่งมาในโปรแกรมแชทไลน์ว่า

           

 

‘เจ้านายคะ วันนี้ดิฉันมีถ่ายหนัง แน่นอนว่าสวยๆ อย่างฉันต้องรับบทนางเอกของเรื่อง อันนี้ฉันได้ทำเรื่องแจ้งไว้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วว่าจะไม่อยู่สองวันนะคะ หวังว่าเจ้านายจะจำได้และไม่พาลมาด่าดิฉันเสียๆ หายๆ นะ คนอะไร ชอบด่าฉันอยู่ได้…’ ใบหน้าสวยงอง้ำนิดหน่อย แต่ก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าว่าไม่แคร์
         

 

‘…แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก นายจะด่าจะว่าฉันอีกเยอะเท่าไหร่ ฉันก็จะไม่หายไปไหนจนกว่าจะได้หัวใจนายมาครอง เหมือนที่ตอนนี้นายครองหัวใจฉันอยู่ คิๆๆ’ เรียวจันทร์ห่อไหล่ ยกมือป้องปากแล้วหัวเราะคิกคักน่ารักน่าเอ็นดู (ในความคิดของนางเอง)

           

 

คมเขี้ยวพ่นลมหายใจผะแผ่ว วันนี้รู้สึกว่ารอบตัวสงบกว่าปกติ ถึงจะได้ยินเสียงคนงานพูดคุย เสียงม้า เสียงวัว เสียงนกร้องแบบที่เคยได้ยินมาตลอด แต่ก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศมันเจื้อยแจ้วเท่าเสียงของแม่คุณนาย คิดอีกแง่มันก็สบายหูดี ไม่มีเสียงแว้ดๆ เวลาโมโหอะไรสักอย่าง ไม่มีเสียงดังลั่นแก้วหูให้หูเสี่ยงอักเสบ ได้คืนความสงบให้ตัวเองเขาก็สบายในอกดี

           

 

แต่ก็แว้บไปนึกถึงเสียงออดอ้อนใสๆ เสียงแง้วๆ เวลาที่ลวนลามหรือแทะเล็มเขา เสียงนั้นน่ะไม่ได้ทำให้รำคาญใจหรอก ฟังแล้วมันจั๊กจี้ที่ใจมากกว่า แรกๆ ก็สยิวกิ้วที่มีผู้ชายมาทำแบบนั้นใส่ แต่นานวันไปมันเริ่มทำให้ใจยุกยิกแปลกๆ

           

 

“พี่เขี้ยว แล้ววันนี้คุณเรียวเขาไปไหนเหรอ” ไอ้เทิงหนึ่งในสองคนที่เขานั่งมองมันพูดถึงเรียวจันทร์เมื่อกี้นี้หันมาถามเขาพลางยกแขนเสื้อเช็ดหน้าดำๆ ของมัน

           

 

“ไปถ่ายหนังที่กรุงเทพ” เขาตอบพลางเดินเข้าไปลูบตัวแม่วัวที่ชื่ออารียา มันเพิ่งกินยาและล้างแผลตรงแผลผ่าตัดตามที่หมอสั่งไป

           

 

“โห คุณเรียวเป็นดาราเหรอพี่” ไอ้จีนคู่หูดูแลวัวของไอ้เทิงถามด้วยความตื่นเต้น ตาตี่ๆ ของมันพยายามเบิกกว้างเพื่อแสดงออกถึงความตื่นเต้นจริงๆ

           

 

“อือ เป็นนายแบบ อีกหน่อยก็คงเป็นนักแสดงด้วย” เขาตอบเสียงเรียบเรื่อย คนงานคนอื่นที่ได้ยินก็ยิ้มกันหลายคน คงตื่นเต้นที่เพิ่งรู้ว่าคุณเรียวจันทร์ตัวดีมีอาชีพอะไรนอกจากเป็นเลขาของเขา

           

 

“แต่ผมว่าก็ไม่แปลกนะพี่ หน้าตาแกดีขนาดนั้น เป็นได้สบายเลย เสียแต่ว่าคงเล่นบทพระเอกไม่ได้” ไอ้เทิงหัวเราะแล้วไอ้จีนกับคนงานคนอื่นก็หัวเราะตามไปด้วย คมเขี้ยวเข้าใจว่าพวกมันไม่ได้เหยียดแม่คุณนาย แต่ใบหน้าอันสวยหวานและจริตเกินชายนั่นต่างหากที่ทำให้แม่ตัวดีเป็นพระเอกไม่ได้

           

 

“พี่เขี้ยวๆ” เขาหันไปมองตามเสียงเรียก ไอ้ดินก้าวเท้ายาวๆ เข้ามาพร้อมกับหนังสือสองเล่ม เล่มหนึ่งหนา อีกเล่มบางลงครึ่งหนึ่งจากเล่มแรก

           

 

“หนังสือที่พี่ถ่ายกับคุณเรียวมาแล้วพี่ เขาส่งมาให้เป็นสิบชุดเลย แต่ผมหยิบมาให้พี่ดูก่อนชุดนึง” เขาย่นคิ้วแว้บหนึ่งเพราะลืมเรื่องหนังสือไปแล้ว เขายื่นมือไปรับหนังสือ พอเห็นหน้าปกก็เลิกคิ้วขึ้น รอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นนิดหนึ่ง

           

 

“สวยดีนะพี่เขี้ยว” เขาเงยหน้าขึ้นมองไอ้ดินที่ยิ้มซื่อกับคำชมของตัวเอง เขาพยักหน้าขึ้นหนึ่งทีแล้วก้มลงมองหน้าปกหนังสือต่อ

           

 

หน้าปกเป็นรูปเขากับเรียวจันทร์นั่งอยู่บนกองฟาง เรียวจันทร์นั่งอยู่ตักซ้ายของเขา แขนขวาคล้องคอเขาหลวมๆ มือขวาวางอยู่ไหล่ขวาของเขาอีกที แม่ตัวแสบมองกล้องแล้วยิ้มร่า ดวงตาสดใสน่ามอง ส่วนเขาเอาแขนซ้ายโอบเอวเรียวจันทร์ไว้ ใบหน้าหันข้าง จมูกกดลงบนขมับของคนหน้าสวย เปลือกตาพลับพริ้มราวกับกำลังสูดดมกลิ่นหอมๆ

           

 

คุณนายจันทร์ไรก็ตัวหอมจริงๆ นั่นแหละ กลิ่นหอมเย็นสะอาด ไม่ฉุนจมูก แต่กลับทำให้จมูกอุ่นๆ

           

 

“อีกเล่มเป็นอะไรเหรอพี่เขี้ยว” เขาหยิบหนังสืออีกเล่มขึ้นมาดู แค่เปิดดูรูป ไม่ได้อ่านเนื้อหาแล้วก็ตอบคำถามของดิน

           

 

“เป็นเบื้องหลังการถ่ายทำ อ้าว มีรูปมึงด้วยนะ” เจ้าของชื่อทำตาโต เขยิบเข้ามาใกล้หนังสือ ก้มหน้าหารูปตัวเองในหน้าที่พี่เขี้ยวเปิดไว้ แล้วก็เห็นเป็นรูปตัวเองกำลังยืนกอดเรียวจันทร์อยู่ ไอ้ดินคลี่ยิ้ม

           

 

“หน้าบานเชียวนะมึง” คมเขี้ยวแกล้งมองไอ้ดินตาขวาง คนถูกมองไม่ได้ผวาหรือกลัว กลับยิ้มกว้างมากกว่าเดิม

           

 

“ดินจำได้ว่าตัวคุณเรียวหอมมาก อยากดมทั้งวันเลย” คมเขี้ยวหรี่ตามองน้องชายตัวเองด้วยความหมั่นไส้

           

 

“เดี๋ยวก็เป็นไซนัสหรอกมึง”

           

 

“ดินยอม” คมเขี้ยวด่าเป็นคำศัพท์ที่หมายถึงสัตว์คล้ายจระเข้แต่ตัวเล็กกว่าแบบไม่ออกเสียงใส่หน้าดินเบาๆ เจ้าตัวหัวเราะชอบอกชอบใจ

           

 

“กูฝากดูก่อน” ดินพยักหน้า คมเขี้ยวเดินออกไปจากคอกวัว ในมือถือหนังสือไปด้วย

           

 

คล้อยหลังคมเขี้ยวเดินห่างออกจากคอกวัวไปไกลแล้ว ไอ้เทิงกับไอ้จีนก็รีบวิ่งเข้ามาสุมหัวกัน นั่งมองกระดาษเอสี่แผ่นนึงด้วยสีหน้าและสายตาตื่น

           

 

“กูพูดถูกมั้ยวะเนี่ย” ไอ้จีนบอกอย่างเป็นกังวล ดินที่ยืนมองไอ้สองคนนั้นกระซิบกระซาบกันก็ทำหน้างง

           

 

“เออๆ ได้อยู่ คุณเรียวแกบอกไม่ต้องถูกต้องมาก แต่ให้ได้ใจความประมาณนี้แหละ” ไอ้เทิงตอบเพื่อนซี้ในคอกวัว แต่ตัวมันเองก็กวาดสายตาอ่านข้อความในกระดาษอีกรอบด้วยความพะว้าพะวงหน่อยๆ

           

 

“แอคติ้งโอเคใช่มั้ยวะมึง” ไอตาตี่ถามด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ

           

 

“กูว่าโอเคนะเว้ย คุณเรียวแกซ้อมให้เราตั้งนาน ไม่น่าพลาดๆ” ไอ้ตัวดำบอกด้วยสีหน้ามั่นใจขึ้นมาหน่อย เพราะเท่าที่จับน้ำเสียงและการแสดงของตัวเองกับเพื่อนได้ นับว่ามันทั้งสองทำได้ดีอย่างที่ว่าถ้าคุณเรียวเห็นคงจะพอใจ

           

 

“พวกมึงคุยไรกันวะ” ดินเดินเข้าไปถามมันสองคนอย่างข้องใจ ขมวดคิ้วมองไอ้สองซี้ที่ทำหน้าตกใจเล็กน้อย และพยายามซ่อนกระดาษเอสี่ไว้ด้านหลัง

           

 

“เปล่าๆ คุยกันไปเรื่อยอะแหละ” ดินเขม้นตามองไอ้สองคนนั้น พวกมันกลืนน้ำลายลงคอนิดหน่อย

           

 

“เอากระดาษอันนั้นมาดูดิ๊” ดินยื่นมือไปตรงหน้ามันสองคน แต่ไอ้เทิงกับไอ้จีนส่ายหัวหน้าตั้ง

           

 

คุณเรียวบอกห้ามใครเห็นกระดาษแผ่นนี้เด็ดขาด

           

 

“ถ้ามึงไม่ให้กูดู กูจะถือว่ามึงเป็นคนทำอารียากับเพื่อนๆ เจ็บ” ดินขู่ ซึ่งได้ผลไอ้สองคนนั้นตาโตทันที

           

 

“เฮ้ย! กูเปล่านะไอ้ดิน กูสองคนไม่ได้ทำแบบนั้น” ไอ้จีนบอกอย่างร้อนรน มองไอ้ดินที่ตีหน้าเคร่ง

           

 

“งั้นมึงก็ส่งมา ถ้าพวกมึงบริสุทธิ์ใจ ไม่งั้นกูฟ้องพี่เขี้ยวแน่” ไอ้สองซี้หันมองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่อยากจะร้องไห้ให้ท่วมคอกวัว คุณเรียวจันทร์ก็น่ากลัว พี่เขี้ยวยิ่งน่ากลัวกว่า ฉะนั้นมันสองคนเลยตกลงกันทางสายตาว่าไม่ควรไปลองดีกับคนที่น่ากลัวกว่าอย่างพี่เขี้ยว

           

 

“เอามา” ดินว่าพลางขยับมือกวักเรียกกระดาษแผ่นนั้นยิกๆ ไอ้เทิงค่อยๆ ยื่นกระดาษไปให้ไอ้ดิน

           

 

ดินดึงกระดาษแผ่นนั้นไปไว้ในมือ ก้มลงอ่านข้อความในกระดาษแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ พยายามอ่านทวนอีกรอบก็ยังไม่เก็ทอยู่ดีว่ากระดาษแผ่นนี้มันมีอะไรสำคัญนักหนา ไอ้สองคนนั้นถึงทำท่าไม่อยากให้

           

 

“อะไรของพวกมึงวะ กูก็นึกว่ามีความลับอะไร ข้อความห่าไรเนี่ย”

           

 

“ของคุณเรียว แกฝากให้พวกกูทำ” ซึ่งพวกกูไม่ได้อยากทำเลย แต่โดนคุณเรียวแกขู่เรื่องภาพลับ…

           

 

ดินขมวดคิ้ว ยิ่งงงเข้าไปอีกว่าคุณเรียวจะฝากกระดาษแผ่นนี้ไว้ให้ไอ้สองคนนี้ทำไม “โค้ตลับเหรอวะ…”

           

 

 

ดินก้มลงมองข้อความในกระดาษอีกครั้ง ก่อนจะอ่านออกเสียงเบาๆ “…คิดถึงคุณเรียวเนอะพี่… อยากเห็นคุณเรียวมาเต้นให้วัวดูอีก… คนอะไร อารมณ์ดีทั้งวัน… กูว่าวัวชอบคุณเรียวนะ… อะไรของพวกมึงวะ คุณเรียวเขาเขียนไรให้เนี่ย”

           

 

ไอ้จีนกับไอ้เทิงทำหน้าคล้ายว่าจะร้องไห้ แต่ก็ไม่ได้ร้องออกมาหรอก มันสองคนแค่รู้สึกเวทนาในชะตากรรมของมันสองคนที่พลาดไปให้คุณเรียวจันทร์กุมเอาไว้

           

 

“สคริปต์” ไอ้เทิงบอกเสียงเหมือนจะร้องไห้แล้วเบะปาก ดินก็ยังขมวดคิ้วไม่เข้าใจอยู่ดี จนสุดท้าย พอเช็กแล้วว่ากระดาษแผ่นนี้มันไม่มีการก่อการร้ายอะไร เขาก็คืนให้มันสองคน

           

 

“ฮู้ว สคริปต์ห่าอะไร มึงสองคนเล่นไรกับคุณเรียวเนี่ย” ไอ้จีนอยากบอกเหลือเกินว่าพวกกูไม่ได้เล่น ไม่ได้อยากเล่นด้วย เพราะคุณเรียวคนสวยของมึงเขาบังคับพวกกูจริงจังมาก แต่ก็ปริปากพูดมากไม่ได้ ไม่งั้นคุณเรียวบั่นชะตาพวกกูแน่

           

 

ดินเดินไปดูคอกวัวส่วนอื่นๆ แล้ว ทิ้งให้ไอ้สองซี้นั่งพ่นลมหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนที่แต่ละคนจะนึกถึงคำพูดของคุณเรียวที่มาพร้อมกับการข่มขู่

           

 

“นายสองคนต้องแกล้งพูดถึงฉันต่อหน้านายคมเขี้ยว พูดให้เป็นธรรมชาติ ทำแบบว่า จู่ๆ นายสองคนก็นึกถึงฉันในจังหวะที่นายเขี้ยวเดินผ่านมาพอดี…” ไอ้สองซี้นั่งตัวสั่นเบาๆ กับสายตาราวกับแม่เหยี่ยวที่พร้อมจะกางเก็บข่วนลงบนหน้าของมันสองคนหากว่าไปขัดใจอะไรเข้า เรียวจันทร์ยิ้มอ่อน แต่เป็นรอยยิ้มที่ไอ้เทิงกับไอ้จีนเสียวสันหลังวาบ

 

 

“ต้องฝึกแอคติ้งให้เนียน ให้ดูว่านายสองคนพูดออกมาจากใจจริงๆ น้ำเสียงต้องไม่ประดิษฐ์หรือสูงหรือต่ำจนน่าสงสัย สิ่งที่ฉันต้องการคือ พูดสะกิดใจให้ตานั่นคิดถึงฉัน ช่วงที่ฉันไม่อยู่ที่นี่สองวัน”

 

 

“พะ… พวกผม จะ… จะทำได้เหรอครับ” ไอ้เทิงเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก เรียวจันทร์จากที่ยิ้มหวานก็หุบยิ้มวืด ดวงตาเปลี่ยนเป็นตานางมารทันที

         

 

“ก็ถ้าเกิดนายทำไม่ได้ ทำไม่เนียนล่ะก็ ฉันจะเอาภาพที่นายสองคนช่วยกันชักว่าวไปทำเป็นป้ายไวนิลแล้วประจารไปรอบฟาร์ม!” พวกมันไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยซ้ำ ไม่มีการคิดว่าจะทำได้หรือไม่ได้ด้วย สิ่งที่ต้องทำคือทำให้ได้เท่านั้น

           

 

เป็นคืนที่พลาดของมันสองคน คืนนั้นเมาแล้วดันเกิดอารมณ์ อยู่กันสองคนเลยช่วยกันปลดปล่อยเท่านั้นเอง ใครจะไปคิดว่าคุณเรียวแกจะผ่านมาเห็นแล้วถ่ายคลิปกับภาพไว้แล้วก็เอามาขู่กันแบบนี้ล่ะ ตอนแรกแกบอกว่ากะถ่ายไว้เพื่อความสนุกเฉยๆ แต่ไปๆ มาๆ ดันมามีประโยชน์ต่อตัวแกเองซะอย่างนั้น





ประโยชน์ของคุณเรียว แต่เป็นโทษของมันสองคนนี่ไง

 







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:



เอ๊า คุณแม่ 555555 นึกว่าคนงานเขาจะพูดเพราะนึกถึงคุณแม่จริงๆ ที่ไหนได้โดนนางมารข่มขู่ไว้นี่เอง ทำบุญมาน้อยเหรอจ๊ะพ่อคุทั้งสอง ไม่รอดเงื้อมือนางมารเนาะ 55555

ตัวจากไป แต่ต้องปลุกปั่นหัวใจเป้าหมายไม่ขาดหายสิคะ เดี๋ยวผู้ชายจะลืม ผู้ชายให้จูบ ให้กอดแล้ว เราต้องไม่หยุดแค่นี้ใช่มั้ยคะคุณแม่ แม้จะไม่อยู่ แต่เราก็ต้องเตรียมพร้อม

แล้วพี่เขี้ยวก็ดันคิดถึงคุณแม่ด้วย แหม พี่เขี้ยวจะอยู่รอดปลอดถัยได้อีกนานมั้ยคะ คริๆ  :hao3:

ส่วนดิน ซื่อจริงพ่อคุณ นั่นไม่ใช่โค้ตลับน้อ 55555

เดี๋ยวเจอกันในส่วนต่อไปนะคะ ^^



ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คอมเม้นเป็นกำลังใจดีๆ สำหรับคนเขียนเสมอ ดีใจที่คนอ่านรักและเข้าใจในตัวตนของแม่เรียว ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างแม่เรียวในการจับพี่เขี้ยวมาด้วยกันค่ะ 555555





สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                               
 #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/35% :13.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-11-2016 17:45:20
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/35% :13.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 13-11-2016 18:11:49
ว้ายยย ขุ่นแม่เรียวขาาา นางช่างนะ มีแอบถ่ายแบล๊คเมล์ด้วย แผนอ้อยให้พี่เขี้ยวกระโดดลงไปในหลุมที่แม่นายขุดใกล้สำเร็จแล้ววๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/35% :13.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-11-2016 18:29:27
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/35% :13.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 13-11-2016 20:08:46
นางมารก็คือนางมารนะคะ ไม่อยู่สองวันคุณนายคงกลัวว่าพี่เขี้ยวจะไม่คิดถึง 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/35% :13.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 14-11-2016 00:02:48
 :m20: เราก้อนึกว่าคนงานแบบคิดถึงจริง ๆ ก้อคงจริงแหละ แต่คิดถึงด้วยความกลัว 555 ขำคนงานสองคนนี้จริง ๆ แม่เรียวต้องไปปฏิบัติหน้าที่อีกแล้วเรอะ  :o12: แม่เรียวสู้ ๆ น่ะจ้ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/35% :13.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 14-11-2016 21:47:58
 :impress2: :L1:
ติดเรื่องนี้สุดๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/70% :16.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 16-11-2016 22:05:56



คาถาที่ 17 [70%]



คมเขี้ยวเดินกลับมาที่ออฟฟิศ พอเข้ามาด้านในก็เจอกับแพ็คหนังสือที่ถูกแกะทิ้งไว้บนโต๊ะทำงาน ในนั้นมีหนังสืออีกหลายเล่มอัดแน่นอยู่ด้วยกัน คมเขี้ยววางหนังสือในมือลงบนโต๊ะ นั่งลงบนเก้าอี้ หยิบบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวกับฟาร์มขึ้นมานั่งเคลียร์แทนแม่คุณนาย เขาหันไปมองประตูห้องนอนของคนตัวเล็กพักหนึ่งแล้วก็หันกลับมาสนใจงานตัวเองต่อ
               

 

คมเขี้ยวนั่งทำงานเงียบๆ จนรู้สึกว่ามันเงียบเกินไป มันโหวงเหวงในใจพิกล เขาเงยหน้าขึ้นจากกองงาน หยิบแม็กกาซีนมาเปิดดูอีกรอบ คราวนี้เขาค่อยๆ เปิดดูช้าๆ นั่งมองภาพแฟชั่นของตัวเองกับเรียวจันทร์ไปทีละภาพอย่างใจเย็น ในหนังสือมีหลายสิบภาพ ดึงเอาทุกเซ็ทที่ถ่ายกันในวันนั้นมาลงจนหมด แต่ก็คัดแต่ละภาพมาแล้วอย่างดี มีภาพนึงเรียวจันทร์ทำหน้าตกใจม้าที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แม่นาง สองแขนคล้องคอเขาแน่นไม่ยอมปล่อย ส่วนตัวเขาหัวเราะโดยที่ช่างภาพไม่ได้สั่ง นี่ถ้าแม่คุณนายเห็นภาพนี้นางอาจวีนได้ว่าเอาภาพที่หน้าตัวเองกำลังเหวอไม่สวยมาลงได้ยังไง แต่เขาว่ามันไม่ปรุงแต่งดีนะ

               

 

เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น คมเขี้ยวหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเบอร์อัจฉรา เขามองนิ่งสักพัก นึกงงใจตัวเองว่าทำไมมันรู้สึกหล่นวูบไปวูบหนึ่ง

               

 

“ครับเอื้อง”

               

 

[เอื้องใกล้จะออกเวรแล้วค่ะ จะชวนไปร้านขนมหวาน]

               

 

“ผมยังไม่แน่ใจเลยเอื้องว่าจะเคลียร์งานเสร็จตอนไหน” ปากพูด แต่สายตาก็มองรูปในแม็กกาซีน

               

 

[อีกแล้วเหรอ ช่วงสองอาทิตย์นี้เราไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันเลยนะเขี้ยว]

               

 

“หือ ก่อนหน้านี้ก็ใช่ว่าเราจะไปไหนด้วยกันบ่อยนะเอื้อง” เขากับอัจฉราคุยกันก็จริง แต่ก็ไม่ได้คุยกันทุกวัน หรือคุยตลอดเวลา เป็นอารมณ์คุยๆ หายๆ ไม่ใช่การสานต่ออย่างต่อเนื่อง มีช่วงนึงเขาเคยขาดการติดต่อกับเธอไปเกือบสองเดือน จนเอื้องทักแชทหาเขาอีกครั้งถึงได้กลับมาคุยกันต่อ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรพัฒนาเพิ่มเติม ก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง การเจอกันแต่ละครั้ง ซึ่งไม่ได้บ่อยครั้งด้วย ก็ไม่ใช่ลักษณะการออกเดทอะไรทำนองนั้น เหมือนมาเจอกันตามปกติ เหมือนเขาเจอกับเพื่อนทั่วไป เพียงแค่เพื่อนคนนี้อาจจะบ่อยกว่าเพื่อนคนอื่นมากหน่อยเท่านั้นเอง ตัวเขาไม่เคยกระตือรือร้นอยากพบอยากเจอเธอทุกวี่ทุกวัน ถ้ามีโอกาสเจอกันก็เจอ ถ้าไม่มีก็คือใช้ชีวิตในส่วนอื่นๆ ตามปกติ

 

 

เหมือนที่ไอ้ดินเคยบอกนั่นแหละ มือเธอเขายังไม่เคยจับเลย ไม่ว่าจะตั้งใจหรือเผลอก็ตาม

               

 

[แต่พักนี้เอื้องรู้สึกว่าเราห่างกันกว่าปกติ]

               

 

“มันเป็นปกติอยู่แล้วนะผมว่า หมายถึงไม่ใช่ห่างกันปกติ แต่รูปแบบชีวิตเราก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว” คมเขี้ยวพูดแบบไม่ได้คิดอะไรมาก นึกแค่อยากพูดให้เธอสบายใจว่าเขายังเหมือนเดิม เพราะแต่ไหนแต่ไรเขาก็เป็นแบบนี้ กับเธอเขาก็เป็นไปในลักษณะนี้อยู่แล้ว

               

 

อัจฉราเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่เธอจะพูดเสียงนิ่ง [งั้นเดี๋ยวเอื้องไปหาที่ฟาร์มนะ]

               

 

“ครับ เดี๋ยวเจอกัน” เขาวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะตามเดิม มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเมื่อดูภาพเบื้องหลังการถ่ายแม็กกาซีน เป็นรูปที่เขาผลักหัวเรียวจันทร์เบาๆ จำไม่แม่นว่าตอนนั้นแม่คุณนายแกจะเข้ามาลวนลามหรือว่าอะไร

               

 

คมเขี้ยวละสายตาจากแม็กกาซีนมามองงานบนโต๊ะ ถอนหายใจหนึ่งทีแล้วเก็บเอกสารทุกอย่างไว้ในลิ้นชัก รู้สึกไม่ค่อยมีสมาธิจดจ่อกับงานเท่าไหร่ เขาลุกขึ้นยืน วางหนังสือสองเล่มที่ดินเอาไปให้ไว้บนโต๊ะทำงาน ส่วนที่เหลือเขากะเอาไปเก็บไว้ที่บ้านก่อน แล้วจะยังไงต่อก็ค่อยว่ากัน

               

 

คมเขี้ยวเดินออกมาจากออฟฟิศ ตอนที่กำลังเดินตรงไปทางสวนหน้าบ้าน เขาเจอกับน้อยหน่า คนงานสาวในฟาร์มที่ทำงานกับเขามานาน เธอทำหน้าตกใจที่เห็นเขาแต่ก็ไม่ใช่อาการตกใจใหญ่โต เหมือนเธอสะดุ้งที่เจอเขาโดยไม่ได้ตั้งใจมากกว่า

               

 

“ไปไหนเหรอน้อย” เขาถามตามปกติ หญิงสาวยิ้มนิดหนึ่งก่อนตอบ

               

 

“กำลังจะเข้าไปเคลียร์พื้นที่ในแคมป์ปิ้ง พี่เขี้ยวจะเข้าบ้านเหรอ” เขาพยักหน้าหนึ่งทีแทนคำตอบ หญิงสาวมองห่อกระดาษสีน้ำตาลในมือคมเขี้ยวด้วยความสงสัย

               

 

“อะไรเหรอพี่เขี้ยว”

               

 

“หนังสือน่ะ”

               

 

“หนังสืออะไรเหรอ”

               

 

“แม็กกาซีนถ่ายแบบ” น้อยหน่าทำหน้าประหลาดใจเพียงครู่ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นทำหน้าหงิก คมเขี้ยวรู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับตัวเอง แต่เขาก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจหรือเอามาเป็นประเด็นเด่นในชีวิต เขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอ เท่านั้นก็จบแล้วสำหรับเขา

               

 

“ที่พี่ถ่ายกับแม่คุณนายนั่นน่ะเหรอ”

               

 

“อือ” หญิงสาวเบ้ปากนิดๆ สองแขนยกขึ้นกอดอก

               

 

“ถามจริงสิพี่เขี้ยว พี่เป็นเกย์เหรอ” คนถูกถามเลิกคิ้วขึ้นแล้วทำหน้าเฉยและตอบแบบเฉยๆ ไม่ได้ผวาตกใจหรือลนลานราวกับไปทำความผิดอะไรร้ายแรงมา

               

 

“ก็ไม่นี่ พี่ก็เป็นพี่เหมือนเดิม”

               

 

“แต่พี่กับคุณเรียวแลจะสนิทกันมากนะ” น้อยหน่าว่าด้วยความหมั่นไส้ สายตาดูแคลนคนที่พูดถึงหน่อยๆ

               

 

“พี่ก็สนิทกับไอ้ดิน สนิทกับคนงานตั้งหลายคน มันเป็นเรื่องแปลกตรงไหนเหรอน้อย”

               

 

“ไม่แปลกหรอก แต่พี่กับยัยคุณนายมันแตกต่าง ถ้าพี่คิดจะมีแฟนจริงๆ ผู้หญิงที่ชื่อเอื้องนั่นก็ได้พี่ แต่อย่าวิปริตไปเอาผู้ชายด้วยกันเลย” คมเขี้ยวหน้าตึงแทบจะทันที เขามองหน้าน้อยหน่าด้วยสายตานิ่งแต่เฉียบคม ไม่กะพริบตาสักนิด ไม่มีคำพูดตอบกลับ แค่มองนิ่ง มองไม่ละสายตาจนอีกฝ่ายเริ่มหน้าเสียไปเอง และสุดท้ายเธอก็ก้มหัวเดินผ่านเขาไป คมเขี้ยวไม่ได้หันไปมองตาม แค่ส่ายหัวช้าๆ และก้าวเท้าเดินต่อไปทางบ้าน คำพูดของน้อยหน่าถูกปัดออกไปอย่างไม่ได้คิดเอามาต่อยอดใดๆ

               

 

“แบกอะไรมาน่ะเขี้ยว” แม่ถามเขาตอนที่เดินขึ้นมาถึงประตูหน้าบ้านด้านบน อันที่จริงบ้านเขามีประตูหน้าบ้านและชานด้านหน้าที่ด้านล่าง แต่ส่วนห้องนอนของเขาอยู่ชั้นบน เลยขึ้นมาทางนี้เลยทีเดียว

               

 

“หนังสือที่ผมถ่ายกับเรียวจันทร์” บัวบูชาตาโตด้วยความตื่นเต้น

               

 

“ไหนๆ ขอแม่ดูหน่อย” คมเขี้ยวเอาห่อกระดาษไปวางไว้บนโต๊ะ ฉีกกระดาษออกอีกนิด หยิบหนังสือส่งให้แม่ มองเข้าไปในห่อกระดาษก็เห็นเล่มเบื้องหลังการถ่ายทำวางอยู่ เขาเลยหยิบขึ้นมาส่งให้แม่อีกเล่ม เขาลองแหวกห่อกระดาษดูเลยได้เห็นแฟลชไดรฟ์สีดำอันเล็กตกอยู่ตรงก้นห่อ

               

 

“อันนั้นอะไรล่ะน่ะ”

               

 

“แฟลชไดรฟ์อะแม่ ในนี้คงมีไฟล์รูปละมั้ง ผมเดาเอานะ” เพราะเขาได้ยินแว่วๆ จากตอนถ่ายแบบเสร็จว่า บรรณาธิการจะให้รูปแบบพิเศษกับแม่เขาเลย

               

 

“โอ๊ยตาย แม่ชอบมากเลยเขี้ยว ลูกแม่หล่อ น้องเรียวก็น่าร้ากน่ารัก” คมเขี้ยวอมยิ้มกับสีหน้ายิ้มใหญ่และยิ้มใหญ่มากของแม่ หล่อนเปิดหนังสือดูแต่ละรูปอย่างช้าๆ ราวกับจะซึมซับทุกอณูของรูปให้ได้มากที่สุด

               

 

“กว่าหนูเรียวจะกลับก็ตั้งมะรืน คิดถึงน้องเหมือนกันนะ ปกติอยู่ก็จะแจ้วๆ ตลอด” แสดงว่าไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้

               

 

ค่อยโล่งใจหน่อยว่าตัวเองไม่ได้จมอยู่กับไอ้จันทร์ไรมากไป

               

 

“แม่ยังไม่เคยเห็นมันเงียบ” หญิงสูงวัยเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ

               

 

“เขาก็ต้องมีเงียบบ้างสิเขี้ยว ใครจะมาพูดได้ทั้งวี่ทั้งวัน” หล่อนพูดจบก็ก้มดูนิตยสารต่อ คลี่ยิ้มเมื่อเห็นภาพด้านในถูกใจตนเองเหลือเกิน

               

 

“อันนั้นผมรู้ แต่หมายถึงตอนที่น้องเรียวของแม่เขาเงียบซึมเพราะมีปัญหา” แม่เขาเงยหน้าขึ้นจากรูปในนิตยสารอีกครั้งทั้งที่ยังมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้า

               

 

“หือ น้องมีปัญหาอะไรเหรอ”

               

 

“ผมก็ไม่รู้หรอก แต่เคยซึม นิ่งเงียบเหมือนโดนดูดวิญญาณออกไปจากตัว” บัวบูชาทำหน้านึก แต่ก็นึกไม่ออกว่าเรียวจันทร์ไปเจอปัญหาอะไรเข้า หรือว่ามีปัญหาอะไรอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วหรือเปล่า แต่สามีของเธอน่าจะพอเดาได้อยู่

               

 

“ยังไงก็ดูแลน้องด้วยนะเขี้ยว แม่ไม่ได้ให้เขี้ยวดูแลเพียงเพราะว่าพ่อเขามีบุญคุณกับบ้านเรา แต่เรียวจันทร์เป็นเด็กดี…” หล่อนยิ้มบาง เลื่อนสายตาไปมองรูปคู่ของทั้งสองคนในนิตยสารแล้วก็ถอนหายใจแผ่วๆ เงยหน้าขึ้นมองลูกตัวเองอีกครั้ง มองใบหน้าหล่อเหลาของลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน

               

 

“…ถ้าเกิดเราลงเอยกับหนูเรียวจริงๆ แม่ก็ไม่รังเกียจ ไม่กีดกัน แค่ลูกรักกันแล้วมีความสุข แม่ก็ยินดี” คมเขี้ยวทำตาโต แล้วเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้ว ก่อนที่จะมีท่าทีอึกอัก เขายกมือขึ้นเกาปลายจมูก

               

 

“แม่ ว่าไปนั่น แม่ไม่อยากอุ้มหลานรึไง ถ้าผมมีเรียวจันทร์เป็นเมีย ผมก็ไม่มีลูกนะ” บัวบูชาปิดหนังสือ มองหน้าลูกชายตรงๆ แล้วส่งยิ้มใจดีให้

               

 

“มีลูกแล้วเขี้ยวมีความสุขรึเปล่าล่ะ…” คมเขี้ยวมองหน้าแม่อย่างไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่

 

 

“…ถ้ามีก็ดี แต่ถ้าไม่มี เขี้ยวก็ต้องคิดให้ดีว่าชีวิตต้องการอะไรกันแน่ อยากมีลูกเพื่อตอบโจทย์กรอบชีวิตของสังคม หรืออยากมีความสุขกับคนที่เรารัก” คนเป็นลูกชายมองมารดาตัวเองด้วยความทึ่งกับแนวคิดที่แสนจะสมัยใหม่

               

 

“แม่คิดงี้จริงๆ เหรอ” บัวบูชาพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม

               

 

“สำหรับแม่กับป๋า ก็หวังให้เขี้ยวมีความสุขนั่นแหละ เขี้ยวเป็นลูกที่ดีมาตลอด ถ้าแค่ลูกอยากจะขอมีเมียเป็นผู้ชาย แม่จะไปว่าอะไรล่ะ” หล่อนยิ้มแซวกับใบหน้าเก๊กขรึมของลูกชาย

               

 

“เป็นตุเป็นตะเชียวนะแม่” คนเป็นแม่เบะปากเบาๆ พร้อมกับมองผู้เป็นลูกด้วยความหมั่นไส้เล็กๆ

               

 

“ว่าแม่เป็นตุเป็นตะ แต่ก็ไม่ปฏิเสธนะพ่อเขี้ยว” คมเขี้ยวทำหน้าตาย พูดด้วยน้ำเสียงไหลไปเรื่อย

               

 

“ผมเห็นแม่พูดก็ไม่อยากขัด เดี๋ยวจะหาว่าเถียงพ่อเถียงแม่”

               

 

“หื้ม จ้า” หญิงสาวยังคงมองลูกชายด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะนึกถึงประเด็นหนึ่งที่เมื่อกี้ลืมพูด

               

 

“ถ้าเกิดเรามีความรู้สึกที่ดีกับหนูเรียวเขาจริงๆ เคลียร์หนูเอื้องให้รู้เรื่องด้วยนะ”

               

 

“เคลียร์อะไรล่ะแม่ ผมกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน การที่เขามาบ้านเราบ่อยๆ มาเจอพ่อกับแม่ ไม่ได้หมายความว่าผมจะเปิดตัวนะ ก็เหมือนเพื่อนมาบ้าน ตั้งแต่รู้จักกันมา ความสัมพันธ์เราไม่ได้ไปไหนไกลเลย”

               

 

“แล้วเขาคิดอย่างเรารึเปล่าล่ะ” คุณบัวมองคล้ายว่าจะดุอยู่ในที คมเขี้ยวยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มแค่นๆ แล้วหุบลงอย่างเร็ว

               

 

“แม่ว่าเวลาเราอยู่กับหนูเอื้องก็น่ารักดี แต่แค่นั้นก็ไม่ใช่คำตอบของทั้งหมด” สองแม่ลูกกำลังจะคุยกันต่อ แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยการมาเยือนของหญิงสาวที่เพิ่งอยู่ในบทสนทนาเมื่อครู่นี้

               

 

“คุณแม่สวัสดีค่ะ” บัวบูชารับไหว้พร้อมรอยยิ้ม

               

 

“สวัสดีจ้ะหนูเอื้อง เพิ่งเลิกเวรเหรอลูก”

               

 

“ใช่ค่ะแม่ เอื้องแวะไปซื้อขนมมาฝากทุกคนด้วยนะคะ” หญิงสาวยิ้มหวาน วางถุงขนมที่แวะซื้อมาก่อนจะเข้ามาบ้านของคมเขี้ยว เธอกำลังยิ้มแย้มและกำลังจะเริ่มชวนทั้งสองคนคุย แต่สายตาเหลือบไปเห็นนิตยสารบนโต๊ะเสียก่อน เลยชะงักไปนิดหน่อย บัวบูชาหันไปมองหน้าลูกชายที่ยังนิ่ง ไม่ได้สังเกตปฏิกิริยาของผู้มาใหม่เลย

               

 

“ไปถ่ายตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอเขี้ยว” คมเขี้ยวหันไปมองเธองงๆ แต่พอเห็นว่าอัจฉราเอื้อมมือไปหยิบนิตยสารขึ้นมาดูเขาเลยทำหน้าเข้าใจ และมีความลำบากใจปะปนด้วย

               

 

“สักพักแล้วล่ะ” อัจฉรายิ้มอ่อน ก้มลงมองหน้าปกของหนังสือด้วยสายตาที่เขาไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ หญิงสูงวัยมองหญิงสาวอีกคนด้วยความเห็นใจ ตัวหล่อนเองไม่คิดบังคับเรื่องหัวใจของลูกชาย แค่อยากให้เป็นลูกผู้ชายมากพอที่จะเคลียร์ทุกอย่างให้ชัดเจน อันที่จริงกับอัจฉรา หล่อนก็เห็นอย่างที่ลูกชายว่า พยาบาลสาวแสดงออกว่าชอบพอและพึงพอใจในตัวลูกชายหล่อนมาก ส่วนลูกชายหล่อนก็ไม่ได้มีท่าปฏิเสธ แต่ก็ไม่ยอมให้ความสัมพันธ์ก้าวไกลไปมากกว่าที่เป็นอยู่สักที เมื่อก่อนนี้ หล่อนหวังให้ลูกชายตกลงปลงใจกับอัจฉราเร็วๆ เพราะเห็นว่าทั้งสองเหมาะสมกันดี หล่อนยังเคยหวังให้หญิงสาวคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้เลย แต่หล่อนกับสามีก็ไม่เคยเชียร์ออกนอกหน้า เพราะถือว่าใจใครใจมัน

               

 

สมัยที่หล่อนกับสามีคบกันก็มาจากใจของตัวเองกันทั้งนั้น ไม่เคยมีใครบังคับใดๆ แล้วเหตุอะไรทำไมหล่อนต้องบังคับลูกชายตนเอง ถ้าเขาชอบ หล่อนก็พร้อมยินดี แต่ถ้าเขาไม่ชอบ หล่อนก็พร้อมเคารพการตัดสินใจของลูกเช่นกัน

               

 

“เป็นงานชิ้นนึงนั่นแหละหนูเอื้อง ทางนิตยสารเขาขอมา ปกติเขี้ยวก็เคยถ่ายแบบให้สัมภาษณ์ในนิตยสารบ้าง แต่เล่มนี้เป็นเล่มแรกเลยที่ขึ้นปก” บัวบูชาอธิบายอย่างนุ่มนวลเพื่อให้อัจฉราไม่รู้สึกแย่ไปมากกว่านี้ ต่อให้เงียบยังไงก็ดูออกนั่นแหละว่าพยาบาลสาวคงไม่สบายใจอยู่

               

 

อัจฉราเงยหน้าขึ้นมองแม่ของชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้ม และหันไปมองคมเขี้ยวที่ทำหน้าไม่สบายใจอยู่อย่างสบายๆ เธอเปิดหนังสือดูรูปถ่ายในเล่มทีละรูป

               

 

“เขี้ยวหล่อดีนะ นานๆ ทีจะเห็นมาดนายแบบ” พอเห็นว่าเธอยิ้มได้ คมเขี้ยวเลยค่อยรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย เขายิ้มตอบเธอบางๆ

               

 

“ตอนถ่ายก็เกร็งอยู่เหมือนกัน”

               

 

“แต่คุณเรียวคงช่วยได้เยอะเลยละสิ” เธอทำท่าจะวางหนังสือไว้บนโต๊ะตามเดิม แต่สักพักก็เปลี่ยนใจ

               

 

“ขอเอื้องเล่มนึงได้มั้ยคะ เก็บเอาไว้ดูรูป เฉพาะเขี้ยวนะ ไม่นับคุณเรียว” เจ้าหล่อนหัวเราะเบาๆ คมเขี้ยวยิ้มแกนๆ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดด้วยความรู้สึกหึงหวงหรือเปล่า

               

 

“ได้ เอาไปสิจ๊ะ เอาเล่มรวมเบื้องหลังด้วยมั้ย” บัวบูชายื่นหนังสือเล่มเล็กกว่าไปให้อัจฉรา พยาบาลสาวยื่นมือไปรับมาวางไว้กับอีกเล่มบนตัก

               

 

“คุณพ่อกับดินไปไหนล่ะคะแม่” เธอว่าพลางเอาหนังสือยัดลงกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมสีครีมของตัวเอง

               

 

“ป๋าเขาไปดูไร่องุ่นจ้ะ ดินก็คงอยู่แถวๆ นี้แหละ”

               

 

“วันนี้เอื้องทำกับข้าวให้มั้ยคะ” เธอเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม

               

 

“ไม่ต้องหรอกเอื้อง เมื่อวานก็มาทำให้ผมไปมื้อนึงแล้ว” คมเขี้ยวว่าอย่างเกรงใจ นึกถึงมื้อเย็นเมื่อวานที่กินแบบขัดๆ ฝืนๆ เหมือนกินได้ไม่เต็มที่แล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ

               

 

“ทำอย่างกับเอื้องทำให้กินไปแค่มื้อเดียวงั้นแหละ” อัจฉรายิ้มเย้า คมเขี้ยวยิ้มไม่เต็มปากนัก

               

 

“ถ้าหนูสะดวกก็ทำเถอะจ้ะ แม่เองก็ชอบรสมือหนูเอื้อง” บัวบูชาบอกพร้อมรอยยิ้มใจดี หล่อนไม่อยากให้หญิงสาวตรงหน้ารู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นส่วนเกิน จากที่เคยเดินเข้าเดินออกบ้านนี้ได้อย่างเป็นกันเอง

               

 

“งั้นเดี๋ยวเอื้องทำรอคุณพ่อกับดินเลยแล้วกันนะคะ” ไม่รู้ว่าคมเขี้ยวคิดมากไปหรือเปล่า แต่เหมือนอัจฉราจะจงใจไม่พูดถึงเรียวจันทร์ ดีที่ว่าแม่คุณนายแกไม่อยู่พอดี

               

 

“ถึงจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา แต่อย่าทำเหมือนเขาไม่เคยใกล้ชิดกับเรามาก่อนเลยนะ” บัวบูชาบอกก่อนจะลุกขึ้นเดินตามอัจฉราเข้าไปในครัวเพื่อช่วยหล่อนทำอาหาร คมเขี้ยวยักคิ้วขึ้นหนึ่งที ก่อนจะพ่นลมหายใจเบาๆ


 

 






 เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:


คุณแม่พี่เขี้ยวเปิดทางแล้วนะคะพี่ ตัวพี่ว่ายังไงคะ ตัวเองก็แอบคิดถึงคุณนาย ยังมิวายพยายามหาข้ออ้างให้ตัวเองนะ หุๆ

ที่คุณแม่พูดว่าคิดถึงเรียวจันทร์ คุณแม่ไม่ได้โดนบังคับเหมือนสองคนนั้นใช่มั้ยคะ 555555

สายตาของยัยเอื้องอ่านไม่ออก จะผีเข้าผีออก หรือผีบอกอะไรก็ยังไม่รู้ พี่เขี้ยวโปรดรีบเคลียร์ แต่ก่อนจะเคลียร์แม่นางคนนี้ ขอพี่เขี้ยวก็เคลียร์ใจตัวเองก่อนว่ายังไงกับแม่เรียว

แต่ก็เป็นสัญญาณดีๆ ละน้าาา ถ้าใครตามอ่านกันมานาน จะรู้เนอะว่าอีพี่เขี้ยวต่อต้านคุณนายมากแค่ไหน 555555 เนี่ยยยย อันนี้ดีแล้ว เริ่มมีคิดถึงจุ๊บจิ๊บๆ กรุบๆ กริบๆ

เอ๊าาา ลุ้นกันต่อปายยยย ว่าขุ่นแม่เรียวเข้าจะพุ่งชนเป้าพี่เขี้ยวได้สำเร็จหรือไม่ ฮู่เล่ๆ *ชูพู่เชียร์*

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่ค่ะ คอมเม้นทุกคอมเม้นที่เม้นให้ เรื่องจำนวนตอมไม่ได้เอามาเป็นประเด็นใหญ่ แค่เห็นจำนวนคอมเม้นเพิ่มขึ้นในแต่ละครั้งที่อัพให้ก็ดีใจแล้วค่ะจริงๆ มันเป็นกำลังใจให้ตอมรู้ว่า เออ มีคนอ่านรอเราอยู่นะ ขอบคุณมากๆ นะคะทุกคอมเม้น และขอบคุณนักอ่านเงาด้วยค่ะที่คอยเพิ่มยอดวิวให้เสมอ ฮ่าๆๆ


#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/70% :16.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-11-2016 22:45:40
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/70% :16.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 16-11-2016 22:59:21
เดี๋ยวนี้พี่เขี้ยวนางไม่สู้ละจ้าาา แม่เรียวเขาเก่ง
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/70% :16.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 16-11-2016 23:14:46
จะเอารูปไปทำไมคุณเอื้อง
ไม่มีคุณนายแต่พี่เขี้ยวก็ไม่เคยชัดเจน ปล่อยไปเรื่อยๆอย่างนี้ก็เหมือนให้ความหวังคุณพยาบาลเค้านะ น่าสงสารออก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/70% :16.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-11-2016 23:14:59
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/70% :16.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 17-11-2016 13:59:04
 :fire: ยัยเอื้อง ยัยนี่มันร้ายยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/70% :16.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 17-11-2016 21:00:50
หงุดหงิดดดดดดดๆๆยัยเอื้องเยื้องย่าง กะไอ้พี่เขี้ยวจริงๆ(คนนี้เขาใจว่ายังเคลียร์ตัวเองไม่ได้) :katai1: :katai1: :katai1: o13
 :z3: :ling3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/70% :16.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 17-11-2016 22:14:01
 :z1: หมดปัญหาเรื่องครอบครัวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เพราะพ่อแม่ให้การสนับสนุนเต็มที่ถ้าลูกมีใจรัก ตอนนี้ก้ออยู่ที่ใจของเขี้ยวแล้วว่าจะเปิดใจตัวเองแค่ไหน แต่ดูแล้วก้อคงแง้มอออกมาแล้วล่ะ มีแอบคิดถึงด้วย :mew4: พอเคลียร์ใจได้แล้วก้ออย่าลืมไปเคลียร์คนข้าง ๆ ด้วยน่ะ เห็นเขาเฉย ๆ ไม่ใช่ว่าไม่คิดน่ะจ้ะ พอมีคู่แข่งเลยกระตือรือล้นขึ้นมาเต็มตัวแล้วน่ะ  :mew4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/70% :16.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-11-2016 05:23:36
ยัยเอื้องงง หมดหวังจ้าา ขุ่นแม่เปิดทางขนาดนี้แล้ววว โอ้ยยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 19-11-2016 15:05:57



คาถาที่ 17 [100%]




“ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้มากนะหนูเอื้อง” เมฆาบอกอย่างอารมณ์ดี เจ้าของฝีมือการทำอาหารมื้อนี้ยิ้มกว้างด้วยความชื่นใจ

           

 

“ยินดีเหมือนทุกครั้งค่ะคุณพ่อ”

           

 

“ไอ้ดินไม่ยอมมากินด้วย สงสัยเพราะหนูเรียวไม่อยู่ มันเลยไม่อยากขึ้นมา” คมเขี้ยวหันไปมองพ่อด้วยความเลิ่กลั่ก แต่คนเป็นพ่อนั่งหัวเราะเอิ๊กๆ โดยที่ไม่ทันฉุกคิดอะไร คมเขี้ยวหันไปมองอัจฉรา เธอยังคงยิ้มและช่วยมารดาเขาเก็บจานไปล้างด้วยท่าทีปกติ

           

 

“เสร็จแล้วเดี๋ยวไปส่งหนูเอื้องเขาด้วยล่ะ” เมฆายังคงพูดตามปกติ คมเขี้ยวพยักหน้ารับ

           

 

วันนี้อัจฉราให้เพื่อนที่ทำงานมาส่ง แต่ปกติเธอไม่ค่อยขับรถเองอยู่แล้ว เพราะเป็นคนขับรถไม่แข็ง คมเขี้ยวไปรับไปส่งบ้างตามแต่จังหวะและโอกาส แต่ก็ไม่ได้บ่อย จะมีช่วงนึงที่เขาพยายามหนีเรียวจันทร์นั่นแหละ เขาจะชอบรับปากเป็นสารถีให้เอื้องบ่อยหน่อย

           

 

“งั้นเอื้องกลับก่อนนะคะ ไว้เจอกันค่ะคุณพ่อคุณแม่” หญิงสาวยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนพร้อมรอยยิ้มหวานๆ ก่อนที่จะหมุนตัวเดินนำคมเขี้ยวออกไปจากบ้าน

           

 

“วันนี้ไปส่งเอื้องที่บ้านแล้วกันนะเขี้ยว พรุ่งนี้เอื้องหยุด เลยว่าจะกลับไปนอนบ้าน”

           

 

“นอนคนเดียวอะนะ” อัจฉรายิ้มบางในขณะที่ก้าวเท้าเดินไปทางประตูรั้วไม้

           

 

“ปกติก็นอนคนเดียว แค่มีเพื่อนห้องอื่นด้วย” เธออาศัยอยู่แฟลชของทางโรงพยาบาลที่มีให้สำหรับคุณหมอกับพยาบาล แต่ส่วนมากจะเป็นพยาบาลมากกว่าที่อยู่

           

 

“แม่เอื้องเขาจะกลับไทยตอนไหน”

           

 

“ไม่รู้สิ ไม่ค่อยได้คุยกัน แต่เดาๆ ว่าคงปีหน้าเลยแหละ งานภัตตาคารมันไม่ได้หยุดกันบ่อยๆ” แม่เธอทำงานอยู่ที่ไทเป เป็นกุ๊กทำอาหารอยู่ที่นั่น นานๆ ทีจะคุยกัน เรียกได้ว่าปฏิสัมพันธ์แม่ลูกไม่ค่อยจะผูกพันนักหรอก

           

 

“ไม่ได้เจอพ่อกับแม่เอื้องสักทีเนอะ” คมเขี้ยวว่าพลางยกรีโมตปลดล็อครถครอสโอเว่อร์คาร์สีเทาเข้มมันวาวของยี่ห้อดัง แสงไฟสีส้มกะพริบพร้อมเสียงสัญญาณปลดล็อค

           

 

“เขี้ยวจำไม่ได้จริงเหรอว่าพ่อเอื้องมีครอบครัวใหม่ไปตั้งนานแล้ว” คมเขี้ยวหันไปมองหน้าสวยๆ งงๆ ตอนที่ทั้งคู่ขึ้นมานั่งบนรถแล้ว และเขาก็พยายามนึกว่าเธอเคยบอกเขาตอนไหน

           

 

“เอ่อ ขอโทษทีครับ” เขาว่าอย่างรู้สึกผิดที่อาจไปสะกิดปมหรือต่อมความรู้สึกไม่ดีของอีกฝ่ายหรือเปล่า

           

 

“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ…” อัจฉราหัวเราะเสียงใสเบาๆ พลางคาดสายเข็มขัดนิรภัย “…เรื่องตั้งแต่เอื้องเด็กๆ ไม่เก็บมาคิดเยอะแล้วละ”

           

 

คมเขี้ยวยิ้มบาง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทีไม่คิดมากอย่างที่พูดจริงๆ เขาสตาร์ทรถและขับออกไปจากหน้าบ้านไปตามถนนทางออกของฟาร์ม บ้านของอัจฉราอยู่ห่างจากบ้านเขาไปเป็นสิบกิโลเมตร เขาเคยไปบ้านหล่อนอยู่ไม่กี่ครั้ง นับได้ก็ยังไม่ถึงสิบครั้งเลยด้วยซ้ำ

           

 

อย่าทำเหมือนเขาไม่เคยใกล้ชิดกับเราเลยนะ

         

 

คำพูดของแม่แว่วขึ้นในหัว และเขาก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังกันอัจฉราให้ออกจากตัวเอง เหมือนกำลังหาเหตุผลต่างๆ มากันเธอออกไปให้ห่าง พยายามบอกว่าเขากับเธอไม่เคยมีความสัมพันธ์ใดๆ เกิดขึ้นต่อกัน และเขากำลังจะลืมว่า ถ้าไม่มีความรู้สึกดีๆ ให้กัน เขาเองคงไม่คุยกับเธอคนเดียวมาจนป่านนี้ แม้จะคุยๆ หายๆ หรือไม่ได้ปะติดปะต่อกันมากนัก แต่ถ้าพูดกันตามจริง อัจฉราก็เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาใกล้ชิดด้วยมากที่สุดในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา เพียงแค่ความสัมพันธ์มันไม่พัฒนาจนเขาเริ่มรู้สึกชินว่าการมีเธออยู่แบบนี้คือเรื่องปกติ เหมือนเรามีเพื่อนสนิทเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นเอง

           

 

“บางทีก็นึกอยากออกจากงานเหมือนกันนะ” อัจฉราเปรยขึ้นหลังจากรถแล่นมาได้ราวสิบนาที

           

 

“ออกทำไมล่ะ เอื้องก็อยากเป็นพยาบาลไม่ใช่รึไง”

           

 

“แต่พอได้เป็นแล้วก็ไม่อยากเป็นน่ะสิ” คมเขี้ยวหัวเราะน้อยๆ เปิดไฟเลี้ยวด้านซ้ายเพื่อหักรถเข้าไปตามเส้นทาง

           

 

“ทำไม โดนผู้ป่วยป่วนเอาเหรอ”

           

 

“นั่นก็ด้วย แต่บางทีเอื้องก็อยากหางานที่มันมีเวลาพักผ่อน และมีเวลาส่วนตัวมากกว่านี้” หล่อนว่าพลางบิดขี้เกียจนิดๆ

           

 

“ก็เอื้องจบด้านนี้มาโดยตรง จะไปทำงานอะไรอีกล่ะ” คมเขี้ยวหันไปมองแสงสีของบาร์แห่งหนึ่งที่ประดับประดาหลอดไฟหลากสีจนน่าดึงดูดใจนักท่องราตรีเหมือนแมงเม่าที่เห็นกองไฟก็พากันบินเข้าไปใกล้ๆ

           

 

“เอื้องทำงานเกี่ยวกับเอกสารหรือบัญชีพอได้ ถ้าให้เอื้องไปช่วยเขี้ยวเรื่องเอกสารในออฟฟิศ เอื้องก็ทำได้นะ” หล่อนยิ้มตาเป็นประกาย ชายหนุ่มย่นคิ้วนิดหนึ่ง

           

 

“เอื้องจะมาทำงานกับผมเหรอ” หญิงสาวมีท่าทีตื่นตัว หันหน้ามองคมเขี้ยวอย่างตื่นเต้นเล็กๆ

           

 

“ก็ถ้าเขี้ยวให้ทำ เอื้องก็ทำ” เจ้าของฟาร์มทำหน้าครุ่นคิดในขณะที่มองถนนตรงหน้า เขาหันไปมองใบหน้าสวยๆ ของอัจฉราแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก

           

 

“เรียวจันทร์เขาทำอยู่แล้วน่ะสิ” อัจฉราเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง

           

 

“แล้วเขาจะทำตลอดไปเลยเหรอ” คนถูกถามส่ายหัวน้อยๆ

           

 

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาก็ทำงานดีนะ”

           

 

“งั้นเหรอ” คมเขี้ยวคลี่ยิ้มและผงกหัวขึ้นหนึ่งทีเป็นเชิงยืนยันคำพูดตัวเอง อัจฉรายิ้มบางตอบ หันกลับไปมองถนนยามค่ำคืนที่มีแสงไฟส่องสว่างอยู่

           

 

หลังจากบทสนทนานั้นจบลง ทั้งสองก็นั่งเงียบ มีเพียงเสียงวิทยุคลื่นเพลงสากลที่คมเขี้ยวเปิดคลอเบาๆ เพื่อไม่ให้บรรยากาศเงียบจนเกินไป อัจฉราหยิบมือถือขึ้นมากดเล่นโดยที่คมเขี้ยวก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งความเป็นส่วนตัวของหญิงสาว ผ่านไปเกือบสิบนาที คมเขี้ยวหยิบมือถือขึ้นมากดดูเวลา ตอนนี้จะสี่ทุ่มแล้ว เขากดเข้าไปดูโปรแกรมแชท มีข้อความจากกรุ๊ปไลน์เพื่อนๆ จากคนที่ทำงานด้วยกัน จากผู้หญิงสองคนที่เขาจำไม่ได้ว่าคือใคร แต่หลังๆ เธอชักจะคุยกับเขานอกเรื่องงานไปเยอะ จนเขาต้องแกล้งไม่ตอบโต้ใดๆ กลับไป

           

 

เขาเลื่อนดูโปรแกรมแชทด้วยความรู้สึกหม่นในอกแปลกๆ พอเลื่อนดูจนแน่ใจว่ามีการแจ้งเตือนเท่าที่เห็นจริงๆ ก็เก็บมือถือไว้ข้างประตูตามเดิม

           

 

“เขี้ยวๆ เลยแล้ว” คมเขี้ยวหันไปมองหญิงสาวด้วยความตกใจก่อนจะเบรกรถ หันไปมองด้านหลังแล้วค่อยๆ ถอยรถกลับไปตามทางเดิมเพื่อจะเลี้ยวเข้าซอยบ้านอัจฉรา

           

 

“ใจลอยไปไหนเนี่ย” ร่างสูงที่สูงจนหัวติดเพดานรถหันไปยิ้มแกนๆ ด้วยความรู้สึกที่เรียกว่าผิดหวังจนพยาบาลสาวทำหน้าแปลกใจ แต่หล่อนก็ไม่คิดจี้ถามต่อ

           

 

เพียงแค่เก็บความสงสัยและความกังวลใจต่างๆ ไว้กับตัวเองก็พอ

           

 

“ขอบคุณมากนะ พรุ่งนี้ถ้าตื่นแล้วจะโทรหา เผื่ออยากไปไหน” คมเขี้ยวยิ้มนิดหน่อย พยักหน้ารับเบาๆ อัจฉราปลดสายเข็มขัดนิรภัยออก เปิดประตูลงรถ ปิดประตูตามหลัง คมเขี้ยวเตรียมถอยรถออกจากหน้าบ้านหญิงสาว แต่ครู่สั้นๆ กระจกฝั่งคนขับก็มีเสียงเคาะดังขึ้น เขาเลื่อนกระจกสีทึบลง อัจฉรายืนยิ้มหวานอยู่ด้านนอก

           

 

“มีอะไรเหรอ” ร่างสูงถามหน้าตาสงสัย แทนคำตอบ อัจฉราโน้มหน้าไปจูบริมฝีปากคมเขี้ยวแผ่วเบา ทำเพียงแค่แตะริมฝีปากเอาไว้ คมเขี้ยวตกใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ผลักหล่อนออก ความรู้สึกแค่นึกแปลกใจว่าทำไมจู่ๆ อีกฝ่ายถึงทำแบบนี้ เพราะแค่จับมือกันก็ยังไม่เคยเลย

           

 

“เอื้องรักเขี้ยวนะ มันอาจจะเป็นแค่คำพูด แต่เอื้องรักผู้ชายตรงหน้าเอื้องจริงๆ” คมเขี้ยวเหมือนน้ำท่วมปาก แต่ก็ไม่ถึงขั้นกับขยับปากพูดอะไรไม่ได้

           

 

“เอ่อ…” แต่ก็พูดได้แค่คำเดียวเนี่ยแหละ

           

 

อัจฉรายิ้มกว้างเป็นรอยยิ้มขำ “ต่อไปเอื้องจะบอกรักให้บ่อยขึ้น เขี้ยวจะได้ชิน…”

           

 

หล่อนยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากคมเขี้ยวอีกครั้ง และครั้งนี้จูบแช่นานกว่าครั้งแรก คมเขี้ยวกำพวงมาลัยรถแน่น ก่อนจะค่อยๆ ถอยห่างออกจากใบหน้าสวยๆ เขากระตุกยิ้มไม่เต็มปาก ไม่กล้าสบตาอันเป็นประกายของอัจฉรา

           

 

“ฝันดีนะเขี้ยว” ชายหนุ่มพยักหน้ารับเล็กน้อย กดเลื่อนกระจกรถขึ้น และค่อยๆ ถอยรถออกไปจากจุดที่จอดอยู่

           

 

อัจฉรามองตามรถสีเทาเข้มที่แล่นออกไปจากซอยบ้านของเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ จางลง มือเรียวยาวเอื้อมไปหยิบหนังสือที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมา ก้มลงดูด้วยใบหน้าเรียบเฉย เธอมองหน้าปกด้วยสายตานิ่ง หล่อนเงยหน้าขึ้นมองไฟท้ายสีแดงอันไกลลิบที่หายพ้นไปจากสายตาพอดี มือขวาที่ถือนิตยสารค่อยๆ กำมันแน่นจนนิตยสารบีบตัวยับยู่ยี่ ใบหน้าเรียวจันทร์บนปกบิดเบี้ยว พอๆ กับใจของอัจฉราที่พยายามสร้างให้มันตรงมาตลอด

           

 

 

 

            คมเขี้ยวกลับถึงบ้านในอีกครึ่งชั่วโมงถัดมา เขาเดินเข้าห้องนอนด้วยท่าทางมึนงง จากวันนี้ที่เพิ่งทบทวนความคิดว่าแม้กระทั่งมือของอัจฉราเขายังไม่เคยจับ แต่วันนี้กลับกลายเป็นว่าได้มากกว่าจับมือ แต่ประเด็นสำคัญคือ เขารู้สึกไม่โอเคเท่าไหร่ที่อีกฝ่ายทำแบบนั้น

           

จูบของอัจฉรา ทำให้เขารู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว ไม่รู้สึกเบาหวิว แต่ทำให้ตื้อ ไม่ต้องเสียเวลาสับสนก็รู้ได้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเป็นพิเศษจริงๆ ก่อนหน้านี้เขาคงแค่เกิดความรู้สึกดีเฉยๆ แต่ไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับที่อัจฉราบอกกับเขาเลย

           

 

ก็แน่ล่ะ คุยกันมาเป็นปี โดยที่ไม่ได้เริ่มจากคำว่าเพื่อน ถ้าจะรู้สึกอะไรมากกว่านี้ เขาคงคบกับหล่อนไปแล้ว

           

 

เขาล้มตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียง ไม่ต้องหลับตา ก็สามารถนึกถึงความรู้สึกจากจูบของอีกคนที่ตรงกันข้ามกับของอัจฉราอย่างมาก อันนั้นน่ะทั้งตัวเบาหวิว นุ่มนิ่ม ชวนลิ้มลองแบบละเมียดละไม

           

 

เขาหยิบมือถือขึ้นมากดเข้าไปในโปรแกรมแชทไลน์ เข้าไปตรงหน้าต่างแชทของเรียวจันทร์และเปิดคลิปที่ถูกส่งมาเมื่อเช้าดูอีกรอบด้วยใบหน้าและสายตานิ่งเฉย

           

 

‘…แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก นายจะด่าจะว่าฉันอีกเยอะเท่าไหร่ ฉันก็จะไม่หายไปไหนจนกว่าจะได้หัวใจนายมาครอง เหมือนที่ตอนนี้นายครองหัวใจฉันอยู่…’

           

 

ไหนว่าจะไม่หายไปไหน แต่นี่หายไปจะวันนึงเต็มๆ แล้วยัยคุณนายตัวแสบ

           

 

เขากดเข้าไปอ่านข้อความในกลุ่มไลน์ของเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย ทุกคนนัดเจอกันอาทิตย์หน้า เสนอให้เจอกันที่ฟาร์มของคมเขี้ยว เขาพิมพ์ตอบกลับไปสั้นๆ ว่า

           

 

‘กูไปเดินป่ากับที่บ้าน อาทิตย์ถัดไปได้มั้ย’

         

 

เขาไม่ได้กดออกจากห้องแชทนั้น เพราะจะรอดูว่าเพื่อนจะตอบยังไง ผ่านไปเกือบสิบนาที มีเพื่อนคนนึงมาตอบว่าโอเค และถามความเห็นของเพื่อนคนอื่น ทุกคนทยอยมาตอบว่าได้ๆ แต่เขาเชื่อว่าถึงวันจริงมากันไม่ครบหรอก

           

 

ไลน์!

           

 

เสียงข้อความไลน์อันใหม่เด้งขึ้นมา คมเขี้ยวออกจากห้องแชทของกลุ่มเพื่อน เป็นข้อความจากเรียวจันทร์ แม่คุณนายส่งหน้าตัวเองทาลิปสติกสีแดงแจ๋ที่ริมฝีปาก ทำท่าจุ๊บจนแทบจะเต็มจอ พ่อคาวบอยคลี่ยิ้มกว้าง หัวเราะครืดๆ ในลำคอ เขารอดูว่าอีกฝ่ายจะส่งอะไรมาอีกมั้ย แต่ห้านาทีผ่านไปก็ยังเงียบ เขาเลยส่งสติ๊กเกอร์ทำหน้ากลัวกลับไปให้ เรียวจันทร์ส่งสติ๊กเกอร์ผู้หญิงทำหน้าเชิดกลับมา เขาเลยส่งสติ๊กเกอร์รูปทำท่าจะเข้าไปต่อย แล้วแม่ตัวดีก็ส่งสติ๊กเกอร์ผู้หญิงทำท่าหวาดกลัวกลับมาให้

           

 

เขาหัวเราะหึๆ คนเดียว เรียวจันทร์เงียบหายไป ไม่ตอบโต้กลับมาอีก เขาเองก็ไม่ได้ส่งอะไรไปอีกเช่นกัน คมเขี้ยวคว่ำมือถือไว้บนอก นอนหลับตาแล้วอมยิ้มน้อยๆ สักพักก็มีข้อความแชทเข้ามาอีกครั้ง เขากดเปิดดู เรียวจันทร์อัดคลิปวีดีโอสิบวินาทีส่งมาให้ แม่คุณนายในคลิปถือรูปนิตยสารที่ถ่ายคู่กับเขาไว้ในมือ และทำท่าเลียนแบบตัวเองบนปกหนังสือในห้าวิแรก ส่วนห้าวิหลังทำท่าเขินอายได้อย่างน่าหมั่นไส้ตามเคย

           

 

คมเขี้ยวชูนิ้วกลางมือซ้ายขึ้นกลางอากาศ กดถ่ายรูปแล้วส่งกลับไปให้เรียวจันทร์ แม่คุณนายหายไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งภาพบั้นท้ายตัวเองกลับมาให้เป็นการโต้ตอบ ชายหนุ่มหัวเราะเสียงแผ่ว กำลังจะส่งสติ๊กเกอร์ต่อยหน้าไปให้ แต่คุณนายนางก็ส่งสติ๊กเกอร์หลับฝันดีมาให้ก่อน เขาเลยหยุดโต้ตอบกับอีกฝ่ายเพียงเท่านี้ และลุกขึ้นเดินไปอาบน้ำพร้อมกับผิวปากอารมณ์ดี


 


 

 






 เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao3:


เอาล้าาาา พี่เขี้ยววว หัวใจเริ่มพ่ายให้กับคุณนายแล้วชิม้ายยย ยังงายๆ อะคริๆ มีความผิวปากอารมณ์ดีนะ แล้วที่เปิดดูแชทบ่อยๆ นั่น เพราะอยากเห็นข้อความจากแม่เรียวชิมะ อะโหะๆ  :hao3:

ส่วนยัยเอื้อง หล่อนบี้หนังสือซะเละเลยนะคะ เวลาของหล่อนใกลหมดแล้วรึเปล่าเนี่ย เฮ้อ คุยมาเป็นปี แต่สุดท้ายก็ไม่พัฒนาไปไหน มันไม่ใช่คือไม่ใช่อะเอื้องงง แม้แม่เรียวเขาจะมาทีหลัง แต่นางมือไวใจกล้าหน้าด้านไงเอื้อง ไม่แอ๊บนีเหมือนเธอ -..-

มนตร์ของแม่เรียวที่เสกไว้เริ่มทำงานกับหัวใจพี่เขี้ยวแล้วววป่าววว เสกมนตร์แบบนี้ นางเป็นแม่มดระดับสูงแน่นวล ดัมเบิลดอร์หรือโวลเดอมอลก็มิอาจเทียบ อิๆ  :hao7:



เอ๊าาา ลุ้นกันต่อปายยยย ว่าขุ่นแม่เรียวเข้าจะพุ่งชนเป้าพี่เขี้ยวได้สำเร็จหรือไม่ ฮู่เล่ๆ *ชูพู่เชียร์*

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่ค่ะ คอมเม้นทุกคอมเม้นที่เม้นให้ เรื่องจำนวนตอมไม่ได้เอามาเป็นประเด็นใหญ่ แค่เห็นจำนวนคอมเม้นเพิ่มขึ้นในแต่ละครั้งที่อัพให้ก็ดีใจแล้วค่ะจริงๆ มันเป็นกำลังใจให้ตอมรู้ว่า เออ มีคนอ่านรอเราอยู่นะ ขอบคุณมากๆ นะคะทุกคอมเม้น และขอบคุณนักอ่านเงาด้วยค่ะที่คอยเพิ่มยอดวิวให้เสมอ ฮ่าๆๆ






สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                                 
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 19-11-2016 15:10:06
รักคุณแม่มากกก  :L2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 19-11-2016 15:25:42
คิดถึงคุณนายยยย :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 19-11-2016 16:14:55
 :oo1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-11-2016 16:42:00
เย้ๆๆๆๆ ฮูเร่ พี่เขียวใจอ่อนนิดๆแล้วว จูบจากขุ่นแม่ ละมุนๆชิมิ อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 19-11-2016 17:08:36
ขุ่นพี่คมเขี้ยว. คิดถึงขุ่นแม่สินะะะะะะะะะะ. หุหุหุหุ :katai3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-11-2016 17:10:55
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-11-2016 18:32:53
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 19-11-2016 19:02:13
คุณนายน่ารักกว่ายัยเคี้ยวเอื้องเยอะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 19-11-2016 19:27:32
ขาดเขาไม่ได้แล้วก็บอกมาเหอะ คุณเขี้ยว แหม เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นเยอะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 19-11-2016 19:41:49
พี่เขี้ยว เป็นขนาดนี้ถ้ายังไม่รู้ตัวว่า รู้สึกยังไงกับคุณนายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วนะ 
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 19-11-2016 21:10:59
 :impress3: ในที่สุดเสน่ห์แม่เรียวก้อเริ่มซึมลึกเข้าสู่เขี้ยวได้สำเร็จ  :mew1: ยายเอื้องเธอรุกช้าไปไหม ถ้าทำก่อนหน้านี้อาจจะมีผลตอบรับอะไรที่คืบหน้าขึ้นน่ะ แต่นี่เขามีคนที่สนใจเข้ามาแล้ว ใจเขาเริ่มไม่ว่างแล้วน่ะ มีตัวเปรียบเทียบแล้วน้า เสียใจด้วยน่ะจ้ะสาวเอื้อง อย่างที่เขี้ยวคิด ถ้าจะเป็นมากกว่าเพื่อนคงเป็นไปนานแล้วล่ะ คงไม่เอื่อยขนาดนี้หรอก  :mew6:
กำลังอ่านตอนพิเศษ ของแมทน้อยกับไอ้ยักษ์อยู่ เจอคมเขี้ยวกับแม่เรียวด้วย ฟินไปเลย แล้วเรื่องเต้กับแผ่นดินล่ะ จะมีเรื่องเปิดใหม่ด้วยไหม รอเลยน่ะเนี่ย ค่อย ๆ โผล่มาทีละคู่ให้ฟินตามกันไปเลย  :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๗/100% :19.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 21-11-2016 17:11:57
 :katai4: ชอบคุณนาย 55555 ยัยเอื้องนี่แอ๊บได้ตลอดเว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งแรก :23.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 23-11-2016 15:59:54

คาถาที่ 18 :: Kiss of Devil. [จุมพิตนางมาร] (ครึ่งแรก)




คมเขี้ยวตื่นเช้าเหมือนทุกวัน เมื่อช่วงเช้าตรู่เขาเดินเข้าไปในบ้านต้นสนเพื่อทำความสะอาด เพราะอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้แวะเข้าไปนอน พอจัดการมุมพื้นที่ส่วนตัวเสร็จเขาก็ออกมาดูแลงานส่วนต่างๆ ในฟาร์มตามปกติอย่างเรียบง่าย วันนี้เป็นวันเปิดให้เข้าชมฟาร์ม เลยมีนักท่องเที่ยวให้เห็นประปราย ตอนนี้เขากำลังมองหาไอ้ดินว่ามันอยู่ไหน เพราะจะใช้ให้มันไปซ่อมรถไถที่เสียอยู่ เขายืนคุมคนงานให้ถอนหญ้าในแปลงดอกไม้หน้าร้านอาหาร ร้านขนม ร้านของฝากในฟาร์ม พ่อค้าแม่ค้ากำลังบริการนักท่องเที่ยวที่แวะกินอาหาร

           

 

สำหรับอาหาร แต่ละร้านจะแตกต่างกันออกไป ตรงตึกสำหรับเช่าร้าน จะมีร้านอาหารแค่สี่ร้าน ก็จะมีอาหารสี่อย่าง เป็นสูตรเด็ดของแต่ละร้าน มีสองร้านที่แม่เขาสนิทด้วย ก็ไปขอให้มาเปิดสาขาที่นี่ ส่วนอีกสองร้านก็ขอมาเช่าพื้นที่ด้วยตนเอง ซึ่งพ่อกับแม่เขาก็เก็บแค่เดือนละครึ่งพัน ค่าน้ำ ค่าไฟก็คิดไปตามจริงที่ใช้ ร้านขนมก็จะเป็นร้านจากด้านนอกที่มาเช่าพื้นที่ ร้านของฝากจะเป็นของฝากที่เป็นสินค้าจากฟาร์มเขาเท่านั้น ด้านบนก็จะเป็นอาหารของทางฟาร์มเอง แบ่งเป็นบาร์เครื่องดื่มมุมหนึ่ง และมุมทำอาหาร โดยอาหารจะเป็นประเภทเดียวกับร้านอาหารด้านนอกฟาร์มที่อยู่ใกล้กับอาคารผลิตนมวัวและไวน์ แต่บรรยากาศจะต่างกัน

           

 

“พี่เขี้ยวๆ!”

           

 

“อ้าว ไอ้ดิน มึงมาก็ดี ไปซ่อม…”

           

 

“ไว้ก่อนพี่ ตอนนี้ไวน์ที่หมักไว้ในขวดระเบิดหมดเลย ที่อยู่ในถังหมักก็แตกจนไวน์ท่วมแล้วพี่” คมเขี้ยวไม่ได้ตกใจใหญ่โต เขาคุมสติให้นิ่ง และก้าวเท้าเดินเร็วๆ ออกไปทางประตูหน้าของฟาร์มเพื่อตรงไปยังอาคารผลิตไวน์

           

 

“ตั้งแต่เมื่อไหร่” คมเขี้ยวถามในระหว่างที่กำลังเดินเข้าไปในโซนเก็บไวน์ที่หมักเอาไว้ทั้งแบบขวดและแบบถังไม้

           

 

“ไม่รู้พี่ คนงานมาบอกผมก่อนจะไปบอกพี่อะแหละ” คมเขี้ยวขบกรามแน่น พ่นลมหายใจออกทางจมูกแรง ข่มความโมโห หงุดหงิดกับเรื่องยิบย่อยที่เกิดขึ้นติดๆ กัน

           

 

ไอ้คนทำองุ่นตายกับทำวัวเจ็บยังหาตัวไม่ได้ ดันเกิดเหตุการณ์แทรกซ้อนอีก 

           

 

พอเดินเข้ามาในห้องหมักไวน์ เก็บไวน์ เขาก็ได้ยินเสียงจ๋อมของรองเท้าตัวเองที่จมไปกับน้ำสีเข้มของไวน์ที่ไหลออกมาจากขวดที่ระเบิดเป็นเสี่ยงๆ เศษแก้วกระจัดกระจายเต็มพื้น และยังมีไหลออกมาจากถังไม้โอ๊คที่ใช้หมักไวน์ ที่ดูก็รู้ว่ามันถูกทำลายด้วยฝีมือคน ไม่ใช่การปิดฝาขวดแน่นจนระเบิดแบบขวดแก้ว

           

 

“กล้องวงจรปิด เช็กรึยัง” ดินทำหน้าเครียดก่อนจะตอบเสียงแผ่ว

           

 

“มันตัดสายกล้องวงจรปิดของโรงงานหมดเลย” คมเขี้ยวขบกรามแน่น พอๆ กับหมัดที่กำไว้ เขามองสภาพห้องเก็บไวน์ที่เจิ่งนอง กลิ่นแอลกอฮอล์ส่งกลิ่นคลุ้งทั่วห้อง เศษขวดแก้ว เศษไม้กระจายเต็มพื้น เละไม่มีเหลือ

           

 

“เรียกตำรวจมาดูที่เกิดเหตุ และเรียกคนงานทุกคนมาให้พร้อมกัน” ดินพยักหน้า หมุนตัวเดินออกไปจากห้องเก็บไวน์ คมเขี้ยวมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยใบหน้าเครียดขึง

           

 

ไม่ต้องเดา แต่รู้ได้เลยว่าไอ้คนทำมันต้องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความหวาดแระแวง และจงใจตัดช่องทางทำมาหากินของฟาร์ม

           

 

เขาค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ ระบายความเครียดออกไปทางลมนั้น สายตามองไวน์ที่ท่วมเต็มพื้นนิ่ง ทั้งโกรธ ทั้งเสียดาย ทั้งรู้สึกเหนื่อยล่วงหน้าที่จะต้องมาทำกันใหม่ทั้งหมด วิธีการทำมันไม่ยุ่งยากมากก็จริง แต่แรงงานที่เสียไปก็ไม่สมควรได้รับสิ่งๆ นี้ตอบแทน สิ่งที่ได้ควรเป็นเงินตราจากการนำไวน์ที่หมักด้วยสูตรของทางฟาร์มจนเป็นที่เลื่องชื่อไปวางจำหน่ายต่างหาก

           

 

บึ้ม!!!

           

 

คมเขี้ยวเบิกตากว้าง ไหล่และใจกระตุกไปพร้อมกัน เสียงระเบิดที่เกิดขึ้นดังสนั่น ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของผู้คนด้านในฟาร์ม เขารีบวิ่งกลับออกไปจากอาคารโรงงานผลิต ไม่แน่ใจว่าเสียงระเบิดดังมาจากทางไหน พอออกมานอกอาคารโรงงาน เขาก็เห็นความโกลาหลขนาดย่อมตรงบริเวณประตูหน้าฟาร์ม ผู้คนวิ่งหนีแตกตื่นออกมายังลานจอดรถ เขาเพ่งมองเข้าไปในฟาร์ม เห็นควันสีเทาพวยพุ่งขึ้นจากโรงนาใกล้กับคอกม้า อันเดียวกับที่เรียวจันทร์เคยขับรถเอทีวีพังเข้าไป คมเขี้ยวได้ยินเสียงม้าร้องแตกตื่นเลยออกวิ่งอีกครั้ง แหวกคลื่นผู้คนที่หนีตายกันออกมาจากฟาร์มไปทางคอกม้า

           

 

ผู้คนในฟาร์มวิ่งสวนทางกับคมเขี้ยวไปทางประตูหน้า บ้างก็ไปยืนออกันตรงตึกร้านอาหารและตรงอาคารกระจกรอเข้าชมฟาร์ม มีหลายคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพควันสีขาวที่กำลังจางหายไป ดูจากกลุ่มควัน ระเบิดที่เกิดขึ้นน่าจะใหญ่และรุนแรงพอสมควร และเมื่อคมเขี้ยวยิ่งได้เห็นความเสียหายตรงฝาผนังของโรงนา ก็บอกได้เลยว่าแรงระเบิดเมื่อกี้รุนแรงแค่ไหน เพราะผนังโหว่เป็นรูขนาดใหญ่ยิ่งกว่าอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำ หลังคาด้านบนหายไปหนึ่งแถบ

           

 

“เฮ้ย! มีใครเป็นอะไรมั้ย?!” เสียงตะโกนโวยวายของไอ้ดินดังขึ้นตรงบริเวณใกล้กับที่เกิดเหตุทำให้ร่างสูงละสายตาจากความเสียหาย มองไปยังความวุ่นวายที่คนงานกำลังเดินสำรวจพื้นที่เกิดเหตุ

           

 

ฮี้ๆๆๆๆ

           

 

เสียงร้องของม้าที่ตกใจจนคุมตัวเองไม่อยู่ดังลั่น เจ้าของฟาร์มขมวดคิ้วเมื่อความโกลาหลเกิดขึ้นพร้อมกัน แต่เขาเห็นว่าม้ามันแค่ตกใจ ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ และมีคนงานกำลังพยายามช่วยคุมพวกมัน เขาเลยก้าวเท้าเร็วๆ ไปตรงที่ดินยืนอยู่

           

 

“มีคนเจ็บมั้ยไอ้ดิน” เขาถามโดยที่สายตาก็มองเหตุการณ์ตรงหน้าไปด้วย

           

 

“เท่าที่ดูตอนนี้ไม่มีนะพี่ ตอนที่มันมีระเบิด ไม่มีคนของเราอยู่ใกล้กับโรงนา”

           

 

“แล้วนักท่องเที่ยวล่ะ” ดินส่ายหัว คมเขี้ยวพยักหน้า และคิดว่าถ้าคนงานไม่ได้รับบาดเจ็บ นักท่องเที่ยวก็ไม่น่าจะเป็นอะไร

           

 

“มึงโทรหาตำรวจยัง”

           

 

“โทรแล้วครับ”

           

 

“โทรไปอีกที แจ้งเขาเพิ่มว่ามีเหตุระเบิดเกิดขึ้น แล้วตอนนี้มึงให้คนงานไปต้อนพวกนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาข้างในก่อน กูจะไปดูกล้องวงจรปิด” ดินพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน เดินไปคุยกับพวกคนงานว่าต้องทำอะไรยังไงบ้าง คมเขี้ยวก้าวเท้าเดินไปทางออฟฟิศ ระหว่างทางเขาเจอพ่อกับแม่ที่เดินเร็วๆ มาจากทางบ้านพอดี

           

 

“ระเบิดเหรอเขี้ยว?!”

           

 

“ครับป๋า น่าจะเป็นระเบิดขู่ ไม่ได้กะให้มีใครตาย” บัวบูชาถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่สีหน้าก็ยังมีความผวาอยู่

           

 

“แค่ไม่มีใครเป็นอะไรก็ดีแล้ว” หล่อนพูดเสียงสั่นน้อยๆ ผู้เป็นสามียกมือขวาโอบไหล่หล่อนไว้และลูบเบาๆ เป็นการปลอบ

           

 

“เดี๋ยวผมจะไปดูกล้องวงจรปิด ฝากทางนี้ไว้กับป๋าและแม่ด้วยนะ แต่อย่าเข้าไปใกล้มากนะครับ รอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบก่อน อีกอย่างเราไม่รู้ว่ายังมีระเบิดอยู่อีกมั้ย” พ่อกับแม่เขารับปาก คมเขี้ยวก้าวเท้าเดินต่อไปทางออฟฟิศ พอเข้ามาด้านใน เขาก็เดินไปเปิดประตูที่อยู่ตรงข้ามกับประตูห้องนอนเรียวจันทร์ ด้านในคือจอที่ฉายภาพจากกล้องวงจรปิด เขาไม่ได้มีกล้องทุกจุดของฟาร์ม ติดเอาไว้แค่จุดสำคัญๆ หรือจุดเสี่ยง และเขาจำได้ว่ากล้องวงจรปิดตรงอาคารโรงงานถูกตัด เขาเลยไม่ได้สนใจตรงนั้น สิ่งที่เขาต้องการเห็นคือภาพตรงประตูทางเข้าต่างหาก

           

 

คมเขี้ยวย้อนเทป เปิดดูตั้งแต่เริ่มแรกของวันนี้ มองผู้คนเดินเข้ามาด้านในฟาร์ม มีเลื่อนไปให้เร็วขึ้นบ้างในบางช่วง เพราะหากจะนั่งมองทั้งหมด คงใช้เวลาหลายชั่วโมง เขากดข้าม กดหยุด และกดให้เทปมันเล่นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดช่วงเวลาตอนบ่ายแก่ๆ เขาเห็นผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง ใส่หมวกปิดหน้า ผมของเธอดูรกๆ จัดไม่เป็นทรง ใส่กางเกงยีนเดฟสีน้ำเงิน เสื้อเชิ้ตสีดำ มีกระเป๋าผ้าสีขาวคล้องอยู่บนไหล่ซ้าย

 

 

 คมเขี้ยวขมวดคิ้วกับลักษณะการแต่งตัวของผู้หญิงคนนี้  มันดูไม่เข้ากันยังไงพิกล รูปร่างของหญิงสาวตัวหนาร่างใหญ่ ท่าทางดูปกติดี เธอเดินเข้ามาพร้อมผู้ชายตัวเล็กอีกคนหนึ่งซึ่งเขาไม่แน่ใจว่ามาด้วยกันหรือเปล่า คมเขี้ยวกดเลื่อนเทปให้เดินเร็วขึ้น แล้วก็เจอเธอเดินผ่านหน้าออฟฟิศไปคนเดียว เขาตัดภาพไปตรงมุมกว้างคอกม้า เห็นคนเดินอย่างบางตา แล้วสักพักก็ต้องจ้องหน้าจอตาไม่กะพริบเพราะเขาเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าไปในโรงนา

 

 

ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้มากเมื่อเธอลุกขึ้นเดินก้มหน้าออกมาจากประตูโรงนา คมเขี้ยวนั่งมองหน้าจออีกยี่สิบนาที จากนั้นกล้องก็สั่นสะเทือนเพราะแรงระเบิด เขาขบกรามแน่นกับภาพที่เห็น ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ออกไปตรงทางออก เขาคิดว่าเธอน่าจะอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งปะปนออกไปกับคนอื่นๆ คมเขี้ยวกดภาพไปที่ลานจอดรถ นั่งรอดูสักพักก็เห็นผู้หญิงคนนั้นเดินขึ้นรถกระบะสีดำคันหนึ่งไปอย่างเร็วๆ เขากดหยุดตรงนั้นไว้ และพยายามซูมเลขทะเบียนรถ พอได้ภาพที่ชัดมากพอเขาก็พิมพ์ไว้ในโน้ตโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นมองหน้าจออีกครั้งแล้วก็ถอนหายใจ ติดจะหงุดหงิดในใจเล็กๆ ด้วยซ้ำที่เขาช้าไปในการปิดประตูตีแมว

 

 

“ว่าไงไอ้ดิน” คมเขี้ยวยกโทรศัพท์ที่ถืออยู่ขึ้นแนบหูแล้วกรอกเสียงเหนื่อยๆ ลงไป

 

 

“ตำรวจมาแล้วพี่เขี้ยว”

 

 

“เออ ให้เขาตรวจสอบที่เกิดเหตุเลย เดี๋ยวกูออกไป” เขาวางสายจากดิน ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องกล้องวงจรปิด เดินไปที่โต๊ะทำงาน หยิบกระดาษกับปากกาออกมาเขียนสิ่งที่พิมพ์ไว้ในมือถือลงไป ก่อนจะก้าวเดินออกไปจากออฟฟิศ ด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างจะมั่นใจว่าคนวางระเบิดข่มขู่ ไม่ใช่คนเดียวกับคนที่กำลังพยายามตัดทางทำมาหากินฟาร์มเขาอยู่

V
v
v
v

 

           

           



         
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งแรก :23.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 23-11-2016 16:00:32

V
v
v
v


 “พี่ๆ สวัสดีค่า เจอกันคิวหน้านะคะ” เรียวจันทร์ยกมือไหว้ทีมงานกองถ่ายภาพยนตร์รอบทิศ ไม่รู้ไหว้ไปตกตรงไหน ตรงถึงใครบ้าง แต่นางก็ไหว้ไว้ก่อน ร่างเพรียวบางเดินออกจากกองถ่ายที่เป็นโลเคชั่นบ้านจัดสรรในหมู่บ้านหรูหราแห่งหนึ่ง กำลังจะเดินขึ้นรถก็ต้องชะงักกับเสียงเรียกของใครคนหนึ่งที่ทำให้นางกลอกตาจนลูกตาเกือบไม่กลับเข้ากระบอกตาตามเดิม

           

 

“เรียวครับ”

           

 

“อะไร?!” นางถามเสียงห้วน หน้าตาเหวี่ยงสะบัดเบาๆ พอให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่านางรำคาญตั้งแต่อยู่ในกองถ่ายแล้ว

           

 

“ไปกินข้าวกันนะ” เรียวจันทร์ทำหน้าเอือมกับความหน้าด้านหน้าทนของแฟนเก่าที่นางก็ไม่คิดว่าจะด้านจะทนได้ขนาดนี้ กะอีแค่อยากจะกลับมาเกาะนางเพราะคิดว่านังเรียวจันทร์คนนี้ต้องมีเงินมากมายก็ทำให้อึดและทนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

           

 

“ไม่ไป ฉันจะกลับบ้าน ข้าวบ้านฉันก็มี ทำไมจะต้องไปเสียเงินกินข้างนอกด้วย” หนุ่มตี๋ล่ำสันยังคงยิ้มจนแก้มทั้งสองข้างบุ๋มลงไป เมื่อก่อนคุณนายนางหลงลักยิ้มอันนี้มาก แต่ตอนนี้นางมีลักยิ้มอันใหม่ให้หลงแล้ว

           

 

“เสียเงินทำไมล่ะเรียว เดี๋ยวยอร์ชเลี้ยงเอง”

           

 

“แหม น้ำใจงาม…” นางชะงัก อ้าปากค้างไว้เท่านั้น คำพูดที่จะพ่นออกมาถูกกลืนเข้าไปในลำคอ เรียวจันทร์มองหน้ายอร์ชแล้วคลี่ยิ้มอ่อนโยน

           

 

“…กินข้าวฟรีนอกบ้านซักมื้อก็ดีเหมือนกันนะ ไปสิ” ยอร์ชยิ้มดีใจที่เรียวจันทร์ตอบตกลงไปกินข้าวกับตัวเอง

           

 

“จริงเหรอเรียว”

           

 

“เอ๊า จริงสิ ก็บอกอยู่นี่ไง แต่นังโบจะไม่ตามมาตบฉันแน่นะ”

           

 

“ไม่ครับ ยอร์ชเลิกกับเขาแล้ว เลิกอย่างเด็ดขาดจริงๆ” เรียวจันทร์ยิ้มอื้ม จะเลิกจริงหรือหลอกว่าเลิก นางก็ไม่ได้สนใจในจุดนั้นหรอก และไม่ว่าจะจุดไหน นางก็ไม่สนใจด้วย

           

 

ทั้งคู่ตกลงกันว่าจะขับรถตามๆ กันไปที่ห้างแห่งหนึ่งในใจกลางกรุงฯ เรียวจันทร์ขอเลือกร้านเอง ซึ่งหนุ่มตี๋ก็ไม่ขัด ตามใจนางหมด ระหว่างทางที่ขับรถมา คุณนายแม่ก็ยิ้มกริ่มอารมณ์ดีที่จะได้หาเรื่องแกล้งคน จู่ๆ ก็มาหาเรื่องให้คลายเครียดจากการทำงานถึงที่

           

 

ทั้งสองคนจอดรถไว้ใกล้ๆ กัน พากันเดินเข้าไปด้านในตัวห้างโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร เรียวจันทร์เดินนำนิดหน่อย ฝ่ายเสนอตัวเลี้ยงอาหารเย็นมื้อนี้ก็เดินตามราวกับเป็นคนว่านอนสอนง่าย

           

 

“เอาร้านนี้แหละ” เรียวจันทร์หยุดอยู่ตรงหน้าร้านอาหารร้านหนึ่ง เป็นร้านอาหารที่มาจากภัตตาคารโดยตรง อาหารแต่ละชนิดเลิศรสสมกับราคา วัตถุดิบคัดสรรมาอย่างดีไม่มีเอาเปรียบลูกค้า

           

 

“ได้เลยครับ” ยอร์ชยิ้ม เรียวจันทร์ก็ยิ้ม คุณนายหันตัวเดินเข้าไปในร้านที่มีพนักงานยกมือไหว้ต้อนรับ พนักงานสาวถามจำนวนลูกค้า และเมื่อทราบว่ามาสองคนก็พาไปนั่งในมุมหนึ่ง แต่เรียวจันทร์ส่ายหัว

           

 

“ขอนั่งกลางๆ แล้วก็โต๊ะใหญ่ได้มั้ยคะ ไม่ค่อยชอบมุมอับหรือพื้นที่คับแคบน่ะค่ะ” นางยิ้มอย่างขอความเห็นใจ พนักงานยิ้มรับและพาไปนั่งตรงใหญ่ตรงกลางทางเดิน  ยื่นเมนูให้ทั้งสองคนในขณะกำลังหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกัน

           

 

“เดี๋ยวอีกสักครู่มารับเมนูนะคะ”

           

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ รับไปได้เลย” เรียวจันทร์เปิดเมนูหน้าแรก กวาดสายตาอย่างรวดเร็วแล้วเงยหน้าบอกพนักงาน

           

 

“สปาร์เก็ตตี้หมู ไก่ ทะเล ขี้เมา เอาหมดอย่างละสิบ สเต็กหมู ไก่ เนื้อ ปลา เอาหมดอย่างละสิบเช่นกัน…” พนักงานมองเรียวจันทร์ด้วยความตะลึงนิดหนึ่ง แต่ก็รีบใช้ปากกดหน้าจอเครื่องสั่งอาหารอย่างรวดเร็ว

           

 

“…ที่นี่มีเนื้อวัวจากญี่ปุ่นมั้ยคะ”

           

 

“เอ่อ… มีค่ะ” นายแบบหนุ่มยิ้มรับ หันหน้าไปสบตาเจ้ามื้อในวันนี้ที่ยังคงทำหน้าสบายๆ อยู่

           

 

“งั้นขอเนื้อโอมิ ที่เป็นเนื้อวัวดั้งเดิมของญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเอโดะ อายุมากกว่า 120 ปี ถามเชฟด้วยว่า เนื้อที่ถูกนำมาปรุงให้กิน วัวตัวนั้นแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณธัญญาหารของเมืองโอมิรึเปล่า แล้วน้ำที่กินไป ใช่น้ำบริสุทธิ์ที่อุดมด้วยแร่ธาตุจากทะเลสาบบิวะมั้ย ถ้าใช่ ฉันเอาอันนั้นจ้ะ” พนักงานสาวกะพริบตาปริบๆ ด้วยความงง พยายามที่จะพยักหน้าลง แต่ก็เป็นการกดหน้าลงแบบฝืนๆ

           

 

“ดะ… เดี๋ยวจะถามให้นะคะ แล้วคุณลูกค้าเอากี่กิโลดีคะ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วเรียวสวยขึ้น หันไปมองเจ้ามือแล้วยิ้มหวาน หนุ่มตี๋ยิ้มตอบกลับมา

           

 

“เอาสิบกิโลจ้ะ แยกเป็นจานๆ มานะ” นางว่าเสียงเรียบ พนักงานเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ พอหันไปมองพ่อบุญทุ่มในวันนี้ เรียวจันทร์ก็ยิ้มโชว์ฟันสวย ยอร์ชนั่งหน้าอึ้งตะลึงเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่

           

 

“อะ… เอ่อ สิบกิโลเลยเหรอคะ” เรียวจันทร์หันไปปั้นยิ้มงง ทำหน้าเป็นคำถามใส่พนักงานประมาณว่า ไม่เข้าใจอะไรงั้นเหรอ

           

 

“ใช่จ้ะหนู พี่เอาตามที่บอกเลยค่ะ”

           

 

“แต่ว่า… กิโลละสี่พันห้าเลยนะคะ” เรียวจันทร์ทำตาโต แสร้งประดิษฐ์ท่าทางว่าตกใจจังเลย เป็นความรู้ใหม่มากๆ 

           

 

“โห แพงเนอะ ยอร์ชว่าไงอะ แต่เรียวอยากกินนะ วัวที่ถูกเลี้ยงมาโดยมีธรรมชาติของญี่ปุ่นโอบล้อมขนาดนั้น มันต้องอร่อยเหาะมากแน่ๆ” เรียวจันทร์ทำหน้าคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงดี ส่วนโยธินก็ สีบนหน้าตกลงเยอะเลย

           

 

“เอ่อ… เรียวจะกินหมดเหรอ มันเยอะมากนะ”

           

 

“ไม่รู้สิ แต่อยากสั่งมาอะ เห็นในซีรีส์เกาลีพวกพระราชา พระราชินี มีอาหารจากซังกุงห้องเครื่องเยอะมาก เรียวเลยอยากมีฟีลนั้นบ้าง ไหนๆ วันนี้ก็มีคนเลี้ยงแล้ว” โยธินรู้สึกเหมือนมีอ้วกมากระจุกอยู่ตรงลำคอ เขารู้สึกอยากจะอาเจียนหรือจะกลืนอาเจียนก็ยังไม่แน่ใจ มันอึกๆ อักๆ ทำอะไรไม่ถูก

           

 

“งั้นตามนี้นะคะน้อง เครื่องดื่มก็ เอาที่มีในร้านมาจนหมดนั่นแหละค่ะ เดี๋ยวพี่ชิมอีกทีว่าชอบอันไหน ส่วนของหวานนะคะ ก็เอามาอย่างละอันจากทั้งหมดที่ร้านมี พี่จะชิมอีกทีว่าชอบอันไหนที่สุด” และเมื่อเจ้ามือยังอ้าปากพะงาบๆ ไม่ตอบอะไร เรียวจันทร์ที่มีสีหน้าลำบากใจจะสั่งก็จัดการปิดเมนูแต่เพียงเท่านั้น

           

 

“เอิ่ม… โอเคค่ะ” พนักงานรับคำอย่างเอ๋อๆ เธอรับเมนูคืนจากลูกค้าชายหน้าสวยที่มีนิสัยแปลกประหลาด กับลูกค้าชายหน้าหล่อที่ตอนนี้มีสีหน้าประหลาด

           

 

“เรียว กินไหวเหรอครับ” ยอร์ชถามแบบที่พยายามคุมเสียงไม่ให้สั่น ใบหน้าของเขาเหมือนกำลังจะหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ดวงตาหลุดเหม่อลอยเป็นช่วงๆ

           

 

“ถ้าไม่หมดก็ห่อกลับบ้านได้นี่ ใช่มะ ยอร์ชไม่ได้บอกว่าต้องกินที่ร้านให้หมดไม่ใช่เหรอ” เรียวจันทร์ยิ้มหวาน แอ๊บทำตาใส มองใบหน้าขาวซีดของยอร์ชแล้วก็คลี่ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด

           

 

“ทำไมอะ ยอร์ชไม่พอใจเรียวเหรอ” นางแกล้งถาม แกล้งทำสีหน้ารู้สึกไม่ดีที่เห็นว่าคนตรงข้ามนั่งนิ่ง สีหน้ามึนงงเหมือนโดนใครเอาไม้เบสบอลฟาดเข้าที่ขมับอย่างแรง

           

 

“มะ… ไม่ใช่ ไม่ใช่ครับเรียว ยอร์ชไม่ได้ไม่พอใจอะไรเลย ยอร์ชแค่…” โยธินกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ

           

 

“…แค่ตกใจที่เห็นเรียวตัวแค่นี้ แต่กินเยอะ… มาก” คุณนายแม่ยกมือป้องปาก หัวเราะเสียงใสอย่างมีจริต ชม้อยชายตาทำท่าทีว่าเขินอายเหลือเกิน

           

 

“นี่ก็อ้วนแล้วเพราะตามใจปากแบบนี้อะแหละ แต่ทำไงได้ล่ะ ของกินมันล่อใจเนอะ” ยอร์ชยิ้ม แต่เป็นยิ้มแห้งๆ แห้งเหมือนร่างกายขาดน้ำมาแล้วสามวัน

           

 

“พี่คะ เชฟบอกว่าเนื้อวัวเป็นอย่างที่พี่ต้องการค่ะ” เรียวจันทร์ยกมือขวาทาบอกอย่างมีลีลา อ้าปากหวอเล็กน้อย ทำสีหน้าตกอกตกใจแบบพอประมาณ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นยิ้มด้วยความปลื้มปติ นางยิ้มด้วยความปลื้มปิติ ไม่ใช่ด้วยความดีใจ

           

 

“ร้านนี้ดีจัง วัตถุดิบชั้นยอดทั้งนั้น ขอบคุณยอร์ชมากนะที่พามากินของดีขนาดนี้…” นางเอื้อมมือขวาไปแตะมือซ้ายของอีกฝ่าย ตบหลังมือใหญ่เบาๆ แล้วหันไปมองพนักงานสาว

           

 

“…จัดมาเลยค่ะคุณน้อง มื้อเนี้ย เจ้ามือพี่เขาอัดฉีดยิ่งกว่าสปอนเซอร์บอลไทยอีกค่ะ” เรียวจันทร์ทำสีหน้าว่า เชื่อเจ๊เถอะค่ะ โดยที่ไม่สนใจสีหน้าถอดสีของเจ้ามือที่ว่าเลยสักนิด

           

 

ระหว่างนั่งรออาหาร เรียวจันทร์ก็ไม่ได้พูดอะไรกับยอร์ชอีก ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งกลุ้มอกกลุ้มใจไปพลางๆ ส่วนนางนั่งเล่นมือถือ เปิดโซเชียลไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งไปเจอโพสๆ หนึ่งที่เป็ดแชร์มาให้หน้าไทม์ไลน์ในเฟซบุ๊ค มีคนกดไลค์โพสต้นฉบับนั้นพอประมาณ ก็ไม่เยอะเท่ากับกดไลค์รูปพญานาคแล้วจะโชคดีอะไรแบบนั้นหรอก นางกดอ่านโพสนั้นเพราะเห็นว่าสถานที่ในรูปช่างคุ้นตา และเมื่อได้อ่านเนื้อหาของเจ้าของโพส นางก็ต้องตกใจ เมื่อเป็นข่าวที่ฟาร์มของคมเขี้ยวโดนวางระเบิด

           

 

ระเบิด??!! วางระเบิดในไร่ ในฟาร์มที่อยู่กลางหุบเขาลำเนาไพรเนี่ยนะ?!

           

 

 

“ขอทยอยเสิร์ฟนะคะ” เรียวจันทร์เงยหน้าขึ้นมองพนักงานสามคนที่ช่วยกันถือจานมาคนละสองใบ วางอาหารลงตรงหน้าของนาง และแน่นอนว่า จำนวนอาหารที่สั่งมานั้นล้นหลาม ทำให้พนักงานต้องช่วยกันยกโต๊ะมาต่อเตรียมการเอาไว้ก่อน

           

 

“จัดมาเลยจ้า!” นางว่าเสียงใสพร้อมรอยยิ้มสดใส ที่ตรงข้ามกับเจ้ามือของวันนี้ที่รอยยิ้มเหือดหายไปจากใบหน้า มีแต่ริมฝีปากเบี้ยวๆ จนนึกว่าเส้นเลือดในสมองแตกกะทันหันหรือเปล่า

           

 

แต่เรียวจันทร์ไม่ได้สนใจ นางรีบก้มลงไปอ่านโพสนั้นในมือถือต่อ เหตุการณ์เล่าแต่เพียงว่ามีการวางระเบิดในฟาร์มอรุณพยัคฆ์ เป็นระเบิดเวลาที่ทำขึ้นเอง ตอนนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวคนร้าย เนื่องจากคนร้ายหนีไปได้ก่อนที่เจ้าของจะสั่งให้ปิดฟาร์ม คุณคมเขี้ยวเจ้าของฟาร์มยินดีคืนเงินให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน มีข้อมูลหลักๆ แค่นี้ คนที่เขียนโพสนี้ก็ไม่ได้รู้อะไรเพิ่มเติมไปจากที่บอกแล้ว

           

 

“เรียวครับ ไม่ทานเหรอ” ยอร์ชถามทั้งที่สีหน้าของตัวเองยังไม่ดีขึ้น ในขณะนั้นพนักงานก็เดินนำอาหารมาเสิร์ฟให้เรื่อยๆ จนโต๊ะรอบข้างเริ่มมองด้วยความสนใจ

           

 

“ทานค่ะ ทาน” เรียวจันทร์หยิบส้อมขึ้นมาจิ้มเนื้อกุ้งในจานสปาร์เก็ตตี้เข้าปาก ในใจกำลังนึกเป็นห่วงที่ฟาร์มว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง แต่นางเชื่อว่าพ่อเขี้ยวกุดคงจะคุมสถานการณ์ได้แล้ว

           

 

และความคิดหนึ่งก็แว้บเข้ามาในหัว หรือว่านี่จะคือแผนการของเสี่ยจอมทัพ เรียวจันทร์ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อคิดแบบนั้น ถ้าเป็นแบบนั้นจริง จอมทัพจะใจร้ายไส้ระกำเกินไปแล้ว เมื่อวานที่นางเข้าไปพบเสี่ยมาก็เค้นถามเรื่องวัวกับไร่องุ่น เขาก็ตอบแต่เพียงว่าไม่ได้ทำ เรียวจันทร์ไม่คิดถามเซ้าซี้ เพราะถามไปยังไงก็ไม่ได้คำตอบ สำหรับเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น เรียวจันทร์กำลังคิดหนักว่าจะเป็นเสี่ยจอมทัพหรือไม่

           

 

“เรียว” คนถูกเรียกหลุดจากวังวนความคิด เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าตี๋หล่อของโยธินแล้วก็กระตุกยิ้มนิดหน่อย นางหันไปมองอาหารที่วางจนล้นอีกสองโต๊ะที่ถูกนำมาเสริมให้จากโต๊ะหลักของนาง

           

 

“แหม น่ากินทั้งนั้นเลยเนอะ” นายแบบหนุ่มว่าเสียงตื่นเต้น หั่นสเต็กหมูเข้าปากเป็นชิ้นพอดีคำ และเปลี่ยนไปหั่นสเต็กวัวจากญี่ปุ่นเป็นชิ้นพอดีคำอีกชิ้น จับยัดเข้าปากแล้วซึมซับความนุ่มลิ้นที่ราวกับว่ามันละลายได้เองโดยไม่ต้องขยับปากเลยสักนิด

           

 

“อื้มมม สุดยอดจริงๆ อร่อยอย่างกับจะเหาะเลย” นางอมยิ้มเพราะกำลังเคี้ยวเนื้ออยู่ในปาก โยธินนั่งยิ้มเหงือกแห้ง เขาแทบไม่กล้าหยิบจับอะไรเข้าปาก ได้แต่มองอาหารด้วยสายตาสิ้นหวัง

           

 

“ยอร์ช กินสิ อร่อยนะ เนี่ย ที่สั่งมา เลิศทุกอย่างเลย” นางทำตาโต พยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงชวน มือขวาจิ้มสเต็กเนื้อเข้าปากอีกคำ เขี้ยวกรุบๆ อย่างนุ่มลิ้น พ่อตี๋ล่ำบึ้กนั่งหน้าหดไม่รู้ว่าตดหายด้วยหรือเปล่า

           

 

เรียวจันทร์นั่งจิ้มจานละคำสองคำ ดูดน้ำปั่น น้ำอัดลม น้ำสมุนไพรอย่างละจิบสองจิบ ของหวานอย่างละนิดละหน่อย จนกระทั่งมั่นใจว่าทุกจาน ทุกแก้ว และทุกอย่างได้รับการกินอย่างเท่าเทียม นางจึงวางมือ ดูดน้ำมะพร้าวปั่นเป็นการส่งท้าย หยิบผ้าสีขาวขึ้นเช็ดมุมปาก ยอร์ชมองด้วยสีหน้างง

           

 

“อิ่มแล้วเหรอเรียว” เรียวจันทร์พยักหน้า ยิ้มตาโตและวางผ้าเช็ดปากไว้บนโต๊ะ

           

 

“อิ่มซะแล้วล่ะ แต่อร่อยมากเลยนะ เชฟนี่เกงเนอะ อาหารเหมือนกัน แต่รสชาติไม่ต่างกันเลย” ยอร์ชเบิกตากว้าง กวาดตามองจานอาหารที่วางละลานตาเต็มสี่โต๊ะ ก่อนจะตวัดสายตาขึ้นมองเรียวจันทร์อย่างเคืองๆ

           

 

“สั่งมาแล้วสุดท้ายก็กินไม่หมด เรียวจะสั่งมาทำไมนักหนา” หนุ่มตี๋ว่าเสียงเข้ม พยายามข่มความโกรธเอาไว้ไม่ให้ปะทุออกมา

           

 

เรียวจันทร์แสร้งทำหน้าตกใจ “อุ๊ย โกรธเหรอยอร์ช เรียวขอโทษนะ”

           

 

โยธินขบกรามแน่นจนสันกรามแทบปูด มองหน้าคนตัวเล็กเกือบจะเป็นตาขวาง เรียวจันทร์ยังคงคลี่ยิ้มโชว์ฟันที่เรียงตัวสวยงามของตนเอง หยิบกระเป๋าถุงผ้าคล้องไหล่ และเตรียมลุกขึ้น

           

 

“ขอบคุณจริงๆ นะ ยอร์ช ใจดีมากเลยอะ ยังไงก็ฝากจ่ายด้วยนะจ๊ะ ส่วนอาหารที่เหลือ ก็แล้วแต่ยอร์ชพิจารณาเลยว่าจะทำยังไงต่อไปดี” ร่างเพรียวขยิบตาซ้ายให้คนตรงข้ามแล้วลุกขึ้นยืน หมุนตัวเดินออกไปจากโต๊ะทันที ทิ้งให้ยอร์ชนั่งกำหมัดแน่น มองตามร่างระหงส์อย่างแค้นเคือง

           

 

เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง แล้วหัวเราะเบาๆ ด้วยความสนุกและสะใจในระหว่างที่เท้าก็ก้าวเดินไปอย่างสง่างาม

           

 

ก่อนจะมาเกาะฉันกิน ขอฉันเกาะแกก่อนแล้วกัน

 










เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao3:



โธ่ ยอร์ช เจอขุ่นแม่ผลาญเงินไปครึ่งแสน จิ๊บๆ เนาะ จะมาเกาะคุณแม่ หนูไม่รู้จริงๆ เหรอลูกว่านางจน 555555 เอาตัวเข้าแลกใช้หนี้อยู่เนี่ยทุกวันเนี้ย

เนื้อวัวบ้าอะไร แพงแต้ๆ ตอนหาข้อมูลจากคนที่เคยกินจริงๆ ตอมยังตกใจ ป๊าด กินน้ำทิพย์จากสวรรค์กันเหรอนังวัวพวกนี้ ตอมไม่เคยกินนะคะ เป็นคนไม่กินเนื้อ เลยไม่รู้รสชาติจริงๆ ถามเพื่อนที่เคยกินมานางบอกว่านุ่มลิ้น ละลายราวกับสายไหม

เสี่ยจอมทัพวางระเบิดเลยเหรอคะคุณแม่ขา แต่ถามไปเขาก็ไม่ตอบเนาะ ชีวิตคุณแม่ยังจะปลอดภัยมั้ยถ้าอยู่ใกล้ตาเสี่ยนี่ต่อไป แต่เชื่อว่าขุ่นแม่สตรองมากพอ







ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่นะคะ ขบคุณมากๆ ค่ะที่รักตัวละครในแบบที่เขาเป็น ขอบคุณทุกคอมเม้นที่คอยเม้นให้ทุกครั้งที่อัพ ดีใจที่เห็นคอมเม้นค่ะ เพราะมันเป็นแรงใจของคนเขียน ^___^






สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                                 
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งแรก :23.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-11-2016 16:50:52
วัวอะไรกินดีอยู่ดีกว่าเราอีกกกก โอ้ยย กินน้ำแร่..... 55555
ขุ่นแม่รียกลับไปดูพี่เขี้ยวเร้ววววว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งแรก :23.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-11-2016 17:05:26
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งแรก :23.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 23-11-2016 20:16:34
แกล้งนายยอร์ชเสร็จก็รีบกลับไปดูพี่เขี้ยวเลยนะคุณนาย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งแรก :23.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 23-11-2016 22:09:30
 :impress3: สงสารคมเขี้ยวจังเลย เจอแต่ปัญหาทั้งนั้นเลย สู้ ๆ น่ะจ้ะ ยังไงจะได้ความเห็นใจจากแม่เรียวขึ้นไง และแม่เรียวก้อจะได้รักฟาร์มและผูกพันมากขึ้น เพราะต้องมาช่วยคมเขี้ยวปรับปรุงซ่อมแซมด้วย  :mew4: สวนนายยอร์ชรู้สึกสะใจมาก ๆ เลยอ่ะ แต่แอบเสียดายของน่ะ ตอนแรกนึกว่าแม่เรียวจะเล่นมุกพาเพื่อนมากินเยอะ ๆ แต่นางก้อคงไม่มีเพื่อนสนิทเยอะขนาดนั้นเนอะ เล่นสั่งแบบนี้น่ะสะใจดี  :katai3: แต่แอบสงสารเหมือนกันน่ะ แต่พอรู้ว่าเคยเกาะแม่เรียว ดังนั้นก้อสมน้ำหน้าแหละ  :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งแรก :23.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 25-11-2016 17:54:39
 :z2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งแรก :23.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-11-2016 21:15:06
ขุ่นแม่รีบกลับไร่เถอะค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 26-11-2016 19:54:12


คาถาที่ 18 [ครึ่งหลัง, ครบ]



คมเขี้ยวยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในออฟฟิศตั้งแต่หลังจากคุยกับตำรวจเสร็จเมื่อช่วงบ่ายเกือบเย็น สำหรับเหตุการณ์วางระเบิด เจ้าหน้าที่ได้เก็บเศษซากระเบิดไว้ สอบปากคำคนงานในฟาร์ม ตรวจกล้องวงจรปิดอีกครั้งและขอภาพจากกล้องวงจรปิดไป ส่วนเหตุการณ์มีคนบุกรุกเข้าไปทำลายไวน์ เจ้าหน้าที่ก็พยายามหาลายนิ้วมือของคนร้าย ทางตำรวจรับปากว่าจะตามตัวคนร้ายให้เจอ เขาก็ได้แต่หวังว่าจะเจออย่างที่บอกจริงๆ

           

 

“อ้าว นายเขี้ยวกุด” เขี้ยวกุดเงยหน้าอึนๆ ของตัวเองขึ้นมองร่างเพรียวที่ยืนฉีกยิ้มตาเป็นประกายอยู่ตรงหน้าเขา คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์ตาค้าง ไม่ใช่เพราะคุณนายนางสวยขึ้นหรืออะไร แต่มันเป็นอาการใจเต้นหวิวไหวที่ได้เจออย่างไม่คาดคิด เขาคิดว่าเรียวจันทร์จะกลับวันพรุ่งนี้ เลยไม่ทันตั้งตัวเมื่อเจออีกฝ่ายยืนอยู่ตรงหน้า

           

 

“แหม มองฉันตาค้างเลย ใจเย็น ฉันยังไม่ได้แต่งหญิง สวยได้มากกว่านี้อีก” เรียวจันทร์เดินเอาถุงขนมที่ซื้อมาจากกรุงเทพฯ ไปวางไว้มุมติดผนังของโต๊ะทำงาน คมเขี้ยวยังคงมองตามร่างเล็กแบบงงๆ

           

 

และกำลังงงว่าจังหวะหัวใจตัวเองมันเต้นหนักเป็นปกติอยู่แล้วหรือมันเพิ่งเป็นตอนเห็นหน้าอีกคน

           

 

“นี่ หวังว่าไอ้สายตาที่มองฉันตาค้างอยู่เนี่ย จะเป็นในแง่ดีมากกว่าเห็นผีนะ” เรียวจันทร์ทำหน้าดุแบบไม่จริงจัง กระเถิบก้นขวาขึ้นไปนั่งบนขอบโต๊ะ เลยทำให้ตัวนางอยู่สูงกว่าคมเขี้ยว

           

 

“ไม่ได้กลับพรุ่งนี้เหรอ” คมเขี้ยวถามเสียงลอยๆ เรียวจันทร์ยิ้มแบบไม่เห็นฟันแล้วตอบเสียงนุ่ม

           

 

“ฉันเห็นมีคนแชร์เรื่องที่ฟาร์มโดนวางระเบิด ฉันเลยรีบกลับมา มีใครเป็นอะไรมั้ย” สติของคมเขี้ยวเริ่มเข้าที่เข้าทาง เขาขยับตัวให้ตรงขึ้นอีกนิดก่อนจะตอบคำถามนั้น

           

 

“ไม่มี มันแค่ทำขู่ ไม่ได้กะเอาชีวิตใครหรอก” คมเขี้ยวเห็นสีหน้าของเรียวจันทร์เคร่งเครียดขึ้นนิดหนึ่ง แต่ไม่นานแม่คุณนายก็ปัดสีหน้านั้นทิ้ง

           

 

“แล้วไอ้คนที่ทำล่ะ จับได้มั้ย” คมเขี้ยวส่ายหัวและพูดย้ำอีกที

           

 

“ยัง ผมช้าไป มัวแต่รีบวิ่งมาดูที่เกิดเหตุ กว่าจะนึกได้มันก็หนีไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่เอาเลขทะเบียนที่เห็นจากกล้องวงจรปิดไปเช็กแล้วละ”

           

 

“รูปพรรณสัณฐานของอีโจรนั่นล่ะ ต่ำตมขนาดไหน รู้รึยัง”

           

 

“ก็พอเห็นได้ มันใส่หมวก ยังดีเพื่อนมันที่มาด้วย เห็นหน้าในกล้องชัด” สรุปว่าไอ้คนที่เขานึกสงสัยว่าเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่านั้น มันคือพวกเดียวกันจริงๆ

           

 

“ไม่น่าเชื่อเลยอะ ขนาดอยู่กลางหุบเขาสงบๆ แบบนี้ ยังมีระเบิดมาเสิร์ฟถึงที่ได้” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วพอประมาณ ไม่กล้าขมวดเยอะเพราะกลัวจะหน้าย่น

           

 

“ผมก็ไม่คิดเหมือนกัน เพิ่งเคยเจอเนี่ยแหละ” เรียวจันทร์ทำตาโต จ้องมองคมเขี้ยวด้วยสายตาตระหนกเล็กๆ จนคมเขี้ยวรู้สึกตระหนกตามไปด้วยว่าแม่คุณนายเฮี้ยนอะไรขึ้นมาอีกรึเปล่า

           

 

“พูดแบบนี้เหมือนฉันเป็นคนนำความซวยเข้ามาในฟาร์มนายเลยอะ” คมเขี้ยวยิ้มขำน้อยๆ กับหน้าตาไม่สู้ดีของแม่คุณนายสุดมั่นที่ดูจะนึกกลัวว่าตัวเองเป็นตัวซวยจริงๆ

           

 

“แต่ไม่ใช่หรอก คนอย่างฉันมีแต่นำสิ่งดีๆ มาให้” คิดเอง พูดเอง ตอบเอง ให้กำลังใจตัวเองเสร็จสรรพ ไม่ต้องพึ่งพาใคร

           

 

“แล้วทำไมไม่รอกลับตอนเช้า ขับรถมืดๆ ค่ำๆ ทำไม” จากกรุงเทพฯ มาเขาใหญ่ มันไม่ใช่แค่หนึ่งกิโลถึง แล้วถนนที่ใช้เป็นเส้นทางผ่านมาที่นี่ ตรงนั้นน่ะรถติดบรรลัยมาก แถมหนทางที่เข้ามาฟาร์มก็ใช่ว่าจะดีนัก

           

 

“ฉันเป็นห่วงนายแล้วก็ทุกคนที่นี่ ไม่สบายใจหรอกถ้าจะอยู่นู่นต่อ ฉันอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองว่าไม่มีใครเป็นอะไร” คมเขี้ยวมองสีหน้าคนพูดที่ดูจะพูดจริงๆ ไม่ใช่การเรียกร้องคะแนนให้กับตัวเอง เพราะเขาเห็นแววตากับสีหน้าของแม่คุณนายมีความกังวลแสดงออกมา

           

 

“โรงนาที่คุณเคยพัง มีคนทำลายสถิติคุณแล้วละ” เรียวจันทร์ที่กำลังนั่งหน้านิ่วน้อยๆ หันมามองเขางงๆ สักพักก็เปลี่ยนเป็นทำตาโตขึ้นอีกนิด ก่อนจะยิ้มเล็กๆ

           

 

“แสดงว่าฉันไม่ใช่ความวินาศสันตะโรของนายอีกแล้วล่ะสิน้า” คุณนายนางลากเสียงยาน ยิ้มแพรวพราว เอื้อมตัวไปหยิบถุงขนมหนึ่งถุงมาวางไว้ที่ตัก

           

 

“แต่เป็นความจัญไร” เรียวจันทร์หุบยิ้มฉับ จิกตาใส่พ่อคาวบอยที่ยิ้มขำอารมณ์ดีกับสีหน้าเปลี่ยนสีอันว่องไว แต่แม่คุณนายไม่เถียง ไม่แว้ดกลับ ทำเพียงนั่งหน้างอง้ำหยิบกล่องขนมขึ้นมาจากถุง

           

 

“ฉันซื้อขนมมาฝาก มาการอง ฉันไม่ได้ฮิตตามเทรนหรอกนะ แต่มันอร่อยจริงๆ” คมเขี้ยวมองร่างเพรียวบางเปิดกล่องขนมช้าๆ แล้วหยิบขนมสีชมพูขึ้นมาถือไว้

           

 

“คุณกินเถอะ”

           

 

“กินแล้ว กินไปด้วยขับรถไปด้วย” เรียวจันทร์ยื่นขนมไปตรงหน้าคมเขี้ยว แต่อีกฝ่ายส่ายหัว นางทำหน้าเซ็งพร้อมจิ๊ปาก ลุกขึ้นเดินไปยืนชิดกับหน้าแข้งของคมเขี้ยว

           

 

“กินคำนึง นะ มันเสียน้ำใจคนให้รู้รึเปล่า” คุณนายแกไม่ได้พูดจาตัดพ้อต่อว่าเชิงดราม่า พูดแบบทีเล่นทีจริง คมเขี้ยวยังทำนิ่ง และเมื่อเห็นร่างสูงนิ่ง คนเตี้ยกว่าเลยทรุดตัวนั่งลงบนตักพ่อเครางาม

           

 

“แน่ะๆ ลวนลามผมอีกแล้วนะ” คมเขี้ยวแกล้งว่าหน้าดุ แต่ก็ปล่อยให้แม่ตัวดีนั่งตักต่อไปโดยไม่ได้ผลักออก

 

           

“เปล่าสักหน่อย แค่อยากจะป้อนขนมให้ถึงปากนาย กลัวขนมหล่นกลางทาง” นางว่าหน้าตาย แถแท่ดๆ อย่างตีมึน นั่งเอาไหล่พิงอกกว้างเอาไว้ มองคมเขี้ยวตาระยิบระยับ คมเขี้ยวขมวดคิ้วนิดๆ หันไปมองขนมสีหวานที่เรียวจันทร์ถือไว้ตรงระดับปากเขา

           

 

“ไม่เอาสีนี้ได้มั้ย มีสีอื่นหรือเปล่า”

           

 

“ได้สิคะ ตามบัญชาของพี่คาวบอยเลย” มีชื่อเรียกใหม่ๆ มาให้เขาได้ทุกอาทิตย์

           

 

“อะ ช็อคโกแล็ต กินแล้วจะช่วยปรับอารมณ์ของเราให้ดีขึ้น เจอเรื่องเครียดๆ มา กินอันนี้จะดีรู้ม้าย” เรียวจันทร์บรรยายเสียงยานคางแล้วยิ้มกริ่มอย่างน่ารักน่ามอง นางกลับมานั่งพิงอกคมเขี้ยวตามเดิม ยื่นขนมไปให้คนตัวสูง คมเขี้ยวอ้าปากเตรียมรับขนม แต่เรียวจันทร์แกล้งดึงขนมหนีทำให้เขาเผลอยื่นหน้าตามขนมไปด้วย แล้วแม่คุณนายก็เอียงแก้มตัวเองเข้าหาปากเขา เลยทำให้กลายเป็นว่าคมเขี้ยวหอมแก้มนวลๆ นั่นไปที

           

 

“อั๊ยยะ! หอมแก้มฉันด้วยอ้ะ เขินนะเนี่ย คิๆ” แม่คุณนายตัวดียิ้มตาหยี หัวเราะคิกๆ เจ้าของฟาร์มเอนตัวกลับไปนั่งพิงพนักเก้าอี้แล้วมองหน้าสวยๆ ด้วยสายตาเรียบนิ่ง จนอีกฝ่ายหยุดหัวเราะไปเอง

           

 

“โถ่ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ อะๆ ก็ด้ะๆ เดี๋ยวฉันหอมแก้มนายคืน จะได้เท่าเทียม” พูดจบก็ไม่ต้องรอให้เขาอนุญาต แม่ตัวป่วนยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มขวาคมเขี้ยวไปหนึ่งฟอดใหญ่ๆ แล้วก็ฉีกยิ้มหวานพร้อมกับกะพริบตาปิ๊งๆ คมเขี้ยวทำหน้าเอือมเล็กๆ แต่เอาเข้าจริงในใจเขาไม่ได้เอือมไปตามสีหน้าหรอก

           

 

“สรุปผมจะได้กินขนมมั้ย ถ้าไม่ก็ลุก จะได้ขึ้นไปกินข้าว อาบน้ำ นอน” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น มองหน้าคนที่นั่งตักตัวเองเป็นคำถามว่าจะเอาไง?

           

 

“กินๆ อะ อ้าปาก อ้ามมม” คมเขี้ยวงับขนมเข้าไปเต็มปาก มีเรียวจันทร์นั่งส่งยิ้มให้ในขณะที่เคี้ยว

           

 

“เลอะปาก” เรียวจันทร์ยกมือขึ้นไปเช็ดเศษขนมตรงริมฝีปากล่างของคมเขี้ยว นิ้วโป้งเกลี่ยตรงริมฝีปากหนาช้าๆ จนกระทั่งเศษขนมที่ติดอยู่หลุดไป แต่เรียวจันทร์ก็ยังไม่เอานิ้วออกจากริมฝีปากนั้น

           

 

คมเขี้ยวมองสบตาเรียวจันทร์ที่กำลังมองเขาด้วยดวงตาอย่างกับกวางน้อย ตาสีน้ำตาลใสๆ นั่นมองเขานิ่ง มีขยับสำรวจใบหน้าเขาบ้างเล็กๆ เขาเองก็มองนิ่ง มองอย่างลืมตัว แล้วสักพักเขาก็ปล่อยให้เรียวจันทร์ก้มลงประทับริมฝีปาก

           

 

ชายหนุ่มปล่อยให้คนตัวเล็กดูดดุนริมฝีปากตัวเองเบาๆ โดยที่เขายังไม่ได้ตอบโต้ ทำเพียงหลับตาพริ้ม ปล่อยอารมณ์ไปกับความอ่อนนุ่มของริมฝีปากเรียวจันทร์ ก่อนที่ลิ้นเล็กๆ จะออกมาเกลี่ยริมฝีปากเขาช้าๆ จนกระทั่งเขายอมเปิดปากขึ้น ปล่อยให้ลิ้นของเรียวจันทร์เข้ามาสัมผัสลิ้นของตัวเอง

           

 

“จุ๊บ…” เรียวจันทร์เริ่มกดริมฝีปากหนักขึ้น ลิ้นเริ่มรุกรานเข้าหาคนตัวโตมากขึ้น และคนตัวโตเองก็ปล่อยให้รุกรานได้เต็มที่ โดยที่คนตัวโตก็เริ่มตอบรับ ตอบโต้ลิ้นเล็กสีแดงสดนั้นเช่นกัน

           

 

เมื่อปล่อยตัวปล่อยใจไปกับจูบแสนวาบหวามที่ทำให้ตัวชาวาบแล้ว คมเขี้ยวก็จูบตอบเรียวจันทร์ รสช็อคโกแล็ตที่ยังค้างในปากถูกเรียวจันทร์ใช้ลิ้นกวาดช้าๆ

           

 

“จ๊อก…” เรียวจันทร์ตวัดลิ้นกับลิ้นของคมเขี้ยวจนเกิดเสียง คมเขี้ยวเริ่มตอบรับมากขึ้น และเป็นฝ่ายรุกกลับด้วยการกวาดลิ้นตัวเองในโพรงปากหวานๆ ของเรียวจันทร์ ที่เขาไม่รู้ว่ามันหวานเพราะช็อคโกแล็ตจากปากเขาหรือเพราะปากของเรียวจันทร์นั้นหวานอยู่แล้ว

           

 

คมเขี้ยวครางในลำคอยามที่เริ่มรู้สึกหัวตื้อ หัวสมองคล้ายจะขาวโพลน และเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้กับรสจูบที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเรียวจันทร์ ต้องยอมรับว่าแม่คุณนายจูบเก่งเหลือเกิน ในขณะที่เขาร้างการจูบ การสัมผัสอะไรแบบนี้มานานมาก จนแรกๆ ยังแอบรู้สึกว่าตนเองเป็นเหมือนเด็กเพิ่งหัดจูบ ทั้งที่ก็เคยผ่านมาแล้ว เพียงแค่เว้นช่วงนานไปหน่อยเท่านั้นเอง หัวใจของเขาเต้นกระแทกกับผนังอก มันไม่ได้เต้นรัวๆ แต่เต้นซะจนพาเขาตัวสั่นอย่างกับไปเจออากาศหนาวมา

           

 

“แฮ่ก…” แล้วก็เป็นเรียวจันทร์เองที่ผละออกจากปากเขาก่อน คุณนายหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากสีชมพูดูจะสีสดขึ้น ส่วนเขานั่งแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากบนล่าง ความรู้สึกหวานๆ และวาบหวิวยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น ท้องน้อยหดเกร็งตามความสยิวที่เกิดขึ้น คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์ที่กำลังผ่อนลมออกจากปากด้วยสายตาคมวาว เขากลืนน้ำลายลงคอ แลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างอีกที แม่คุณนายหันมามองเขาอย่างเลิ่กลั่กสักพัก ก่อนที่จะทิ้งตัวลงบนอกแกร่ง ใบหน้าซุกอยู่ตรงซอกคอ เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสองคน มีเพียงเสียงลมหายใจของสองคนที่สลับกันดัง โดยที่คมเขี้ยวปล่อยให้เรียวจันทร์นั่งอยู่แบบนั้น เขายกแขนขวาขึ้นโอบรอบเอวคนตัวเล็ก

           

 

“มาการองไส้ช็อคโกแล็ตอร่อยจัง” เรียวจันทร์ว่าเสียงเบาหวิว ลมหายใจรดสันกรามคมเขี้ยวเบาๆ และลมหายใจของคมเขี้ยวก็รดผ่านแก้มเรียวจันทร์แบบแผ่วๆ

           

 

 

ร่างสูงไม่ตอบ ทำเพียงใช้มือขวาลูบเอวเรียวจันทร์ขึ้นลงช้าๆ ดวงตาเหม่อมองตรงไปข้างหน้าอย่างครุ่นคิด หัวใจยังคงเต้นตึกๆ แต่ก็ไม่เท่าช่วงที่จูบ ความรู้สึกชาวาบค่อยๆ จางลงจนร่างกายเริ่มรู้สึกถึงความอุ่นร้อนในตัวเอง

           

 

ด้วยการสยบความว้าวุ่นที่เกิดขึ้นในหัวตัวเอง คมเขี้ยวเอียงแก้มกดลงบนศีรษะของเรียวจันทร์ แค่เหมือนซบแก้มลงบนหัวร่างเล็กเฉยๆ ไม่ได้กดลงไปแรงมาก เขาหลับตาลงชั่วครู่แล้วลืมตาขึ้น สายคายังคงครุ่นคิด แต่ก็ไม่ใช่คิดวิตกกังวล

 

 

แค่คิดว่ากำแพงที่เคยมีต่อเรียวจันทร์มันหายไปแล้วละ ไม่งั้นคงไม่พากันมาถึงขั้นนี้หรอก

 

 

“กินข้าวมารึยัง” คมเขี้ยวถามเสียงเบาในขณะที่มือขวาก็ยังลูบเอวคนตัวเล็กไปเรื่อยๆ แก้มของเขายังคงสัมผัสกับเส้นผมสีโค้กแสนนุ่มของเรียวจันทร์

 

 

“กินมาแล้ว แต่จะกินอีกถ้านายชวน” คมเขี้ยวกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ปล่อยให้เรียวจันทร์ยื่นมือขวามาจับมือซ้ายตัวเอง ก่อนที่เขาจะบีบมือบางนุ่มนิ่มเบาๆ เรียวจันทร์กดจูบตรงคอของเขาหนึ่งทีแล้วก็ซุกหน้าไว้กับซอกคอเขาต่อเงียบๆ

 

 

“พี่เขี้ยวๆ” เสียงเรียกของไอ้ดินมาพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินเข้ามายืนจังก้าตรงหน้าคนสองคนที่กำลังใกล้ชิดกันอยู่ ไอ้หนุ่มซื่อเบิกตากว้างมองทั้งสองคน ก่อนที่ใบหน้าสีเข้มจะเปลี่ยนเป็นใบหน้าตูม

 

 

“โห พี่เขี้ยว ทำไมทำงี้อะ” เรียวจันทร์ยิ้มขำ มองใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของดินที่มองมาที่ตัวเองกับคมเขี้ยว

 

 

“กูทำอะไร” คมเขี้ยวถามสีหน้าแกล้งไม่รู้เรื่อง มือขวายังคงไม่ปล่อยออกจากเอวเรียวจันทร์ มือซ้ายก็กำรอบมือบางไว้ดังเดิม ไอ้ดินผู้ที่มักจะยิ้มซื่อๆ ไม่มีพิษภัยกับใคร แต่ตอนนี้มันกำลังจิกตาใส่เขา

 

 

“คุณเรียวของดินนะพี่ ทำแบบนี้ขออนุญาตดินยัง” คนที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีเจ้าของแล้วนั่งยิ้มขำ ศีรษะยังคงซุกตรงซอกคอร่างสูง

 

 

“อ้าวเหรอ เออๆ กูขอโทษ แต่เผอิญคุณเรียวของมึงอะเขามานั่งตักกูเอง” เรียวจันทร์เบ้ปากกับดินแล้วกลอกตาไปหนึ่งที

 

 

“แหม คุณเรียวนั่งเอง แต่พี่ก็ต้อนรับดีจังเนอะ” ไอ้ดินยังคงจิกตาใส่พี่ชายตัวเองด้วยความหมั่นไส้ ปากว่าเขานั่งตักตัวเอง แต่สองมือน่ะไม่ปล่อยเลยนะ

 

 

คมเขี้ยวยักคิ้วพร้อมกับยักไหล่น้อยๆ ก่อนที่จะปล่อยให้เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน หยิบกล่องขนมเดินเอาไปให้ไอ้ดินที่ทำหน้าหมั่นไส้ตัวเองอยู่ เขายิ้มขำกับไอ้น้องชายตัวใหญ่ นานทีปีหนมันจะแสดงสีหน้าอื่นให้ได้เห็นบ้าง เห็นแล้วก็ขำดี

 

 

“กินขนมแก้หน้าบูดก่อน ยังไงดินก็น่ารักสำหรับฉันเสมอแหละ” เรียวจันทร์ยื่นมือไปหยิกแก้มของดินเบาๆ เจ้าของแก้มจากหน้าตูมเปลี่ยนเป็นเขินแทบจะทันที มือซ้ายยกขึ้นหยิบขนมในกล่องเข้าปากหนึ่งชิ้น

 

 

“อร่อยมั้ย” ร่างเล็กถามพร้อมรอยยิ้ม

 

 

“คุณเรียวให้มันเลยอร่อยครับ” เรียวจันทร์ขยับยิ้มให้กว้างกว่าเดิมจากที่ยิ้มอยู่ คมเขี้ยวลุกขึ้นยืน ทำเสียงกระแอมในลำคอสองสามครั้ง ไอ้ดินเลื่อนสายตาไปมองพี่ชายแล้วมองด้วยความเยาะเย้ยเล็กๆ

 

 

“คุณเรียวเขาเคยชมดินว่าน่ารักด้วยนะพี่เขี้ยว” ดินยิ้มเหนือกว่านิดๆ คมเขี้ยวเห็นแบบนั้นก็ยิ้มอย่างหมั่นไส้

 

 

“เออ กูดีใจด้วย” ไอ้ดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยกมือขึ้นหยิบขนมจากกล่องเข้าปากอีกชิ้น เรียวจันทร์หันไปหาคมเขี้ยวแล้วชี้ไปทางถุงขนมที่วางอยู่บนโต๊ะ พยักพเยิดเป็นเชิงบอกว่าให้หยิบให้หน่อย คนตัวสูงเอื้อมแขนยาวๆ ไปหยิบแล้วส่งให้

 

 

“ฉันซื้อมาฝากพวกงานด้วย แล้วก็มีของบ้านใหญ่” ไอ้ดินพยักหน้าหงึกๆ

 

 

“แล้วมึงมานี่มีไรรึเปล่า”

 

 

“แม่บัวให้มาตามไปกินข้าว” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าขึ้นมากดดูเวลา

 

 

“วันนี้กินข้าวดึกจัง”

 

 

“ก็มีเรื่องยุ่งๆ นั่นแหละ” เรียวจันทร์ขยับปากว่าอ๋อพร้อมพยักหน้าไปเรื่อย

 

 

“คุณจะไปกินด้วยมั้ย หรืออิ่มแล้ว” ร่างเพรียวส่ายหัว จริงๆ ไม่กินอีกนางก็ไม่ตายหรอก แต่นางอยากไปกับคมเขี้ยวเท่านั้นแหละ

 

 

“ถ้างั้นก็ไป” คมเขี้ยวเดินนำออกไปจากออฟฟิศ มีดินกับเรียวจันทร์เดินตาม

 

 

“เดี๋ยวฉันตามขึ้นไป อาขนมไปให้พวกคนงานก่อน” เรียวจันทร์บอกตอนที่เดินออกมาถึงหน้าอาคารไม้ คมเขี้ยวก้มหน้าลงมองถุงขนมในมือร่างเล็ก เอื้อมไปหยิบมาถือไว้แล้วส่งไปให้ทางดิน

 

 

“ไอ้ดิน มึงเอาไปให้หน่อย”

 

 

“อ้าว ทำไมอะ ดินกะจะไปกับคุณเรียวเนี่ย”

 

 

“คุณเรียวมึงเขาหิวข้าว ให้เขาไปกินข้าวก่อน” ไอ้ดินขมวดคิ้ว

 

 

“อ้าว แล้วดินไม่หิวเหรอพี่เขี้ยว”

 

 

“มึงตัวใหญ่กว่าเขา มึงกินช้าหน่อยไม่เป็นไรหรอก” คมเขี้ยวดันถุงขนมไปให้ไอ้ดินที่ยืนหน้ามุ่ย แต่มันก็ยื่นมารับถุงขนมห้าถุงจากเขา แต่เรียวจันทร์ยื่นมือไปดึงมาถือไว้ในมือตัวเองสองถุง

 

 

“อันนี้ของคุณป๋า คุณแม่ นายแล้วก็ดิน” คมเขี้ยวพยักหน้า หันไปมองไอ้ดินแล้วพยักหน้าขึ้นหนึ่งทีเป็นการบอกว่าให้มันเอาขนมไปให้พวกคนงานก่อน

 

 

“โห่ จะไม่ให้ดินเป็นก้างขวางคออะดิ ดินไม่ได้โง่นะ” คมเขี้ยวย่นคิ้ว ทำหน้าว่าอะไรของมึ้ง

 

 

“ก้างห่าไร เดี๋ยวก็ขึ้นไปเจอกัน แค่กูใช้ให้มึงเอาของไปให้คนงานหน่อยแค่เนี้ย เดี๋ยวนี้มึงบ่นเหรอ” เรียวจันทร์ยืนอมยิ้มกับการเถียงของผู้ชายสองคนตรงหน้า

 

 

สวยอีกละ ผู้ชายแย่งอยากอยู่ใกล้ นางอยากจะหัวเราะด้วยแอคติ้งตุ๊กกี้ในชิงร้อยชิงล้านยามที่ชมตัวเองว่าสวยแล้วหัวเราะคนเดียวมาก แต่ต้องคีพลุคสตรีที่เป็นศึกของชายทั้งสองคนในเวลานี้ไว้ก่อน

 

 

“ก็ได้ๆ เห็นว่าเป็นพี่หรอกนะ”

 

 

“แล้วถ้าไม่เป็นพี่มึง มึงจะทำไง”

 

 

“ก็ทำให้” เรียวจันทร์หัวเราะกับหน้าตางอนบูดๆ ของดิน เห็นแล้วก็น่าเอ็นดู พ่อตัวโตหมุนตัวเดินไปทางหมู่บ้านคาวบอย

 

 

คมเขี้ยวหันไปหาเรียวจันทร์ พยักหน้าให้เดินไปด้วยกัน ในใจเขานึกอยากจะทำอะไรสักอย่างกับร่างเล็ก ไม่ใช่ในทางอนาจาร แต่มันมีความรู้สึกอยากจับมือ อยากเดินจูงมือ คล้ายกับอยากต่อความรู้สึกที่ถูกไอ้ดินขัดไปเมื่อกี้นี้อีก

 

 

“อยากซบแขนนี้ทุกคืนก่อนนอนจัง” แต่กับแม่คุณนาย บางทีก็ไม่ต้องบุกเองหรอก เพราะแม่ตัวดีเขาบุกของเขาเองได้ ตอนนี้ก็เกาะแขนเขาไว้ เอาหัวซบไหล่และก้าวเท้าเดินไปด้วย

 

 

“หมอนก็มีให้นอน จะมานอนทับแขนผมทำไม” ถึงจะว่าแบบนั้น แต่ไอ้คาวบอยตัวโย่งก็เลื่อนมือซ้ายไปจับมือนุ่มนิ่มนั่นอีกครั้งและเป็นฝ่ายจูงคนตัวเล็กให้เดินไปด้วยกัน

 

 

“นี่ อยากจูบฉันก่อนกินข้าวมะ” คมเขี้ยวก้มลงมองใบหน้าขาวผ่องที่ยิ้มเต็มหน้า เขาย่นคิ้วทำหน้าระอาเล็กน้อย แต่พอเดินถึงตรงโรงอาหารของฟาร์ม คมเขี้ยวก็พาคนตัวเล็กแวะเข้าไปด้านในความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์ส่องให้ความสว่างก่อนที่จะดันร่างเรียวจันทร์ให้ติดผนังและก้มลงจูบปากสีชมพูสดอีกรอบ

 

 

เรียวจันทร์หัวใจพองโต อารมณ์พุ่งพล่านยิ่งกว่าจูบกับชายคนไหนมาทั้งหมดในชีวิตที่นางเคยเจอมา

 

 

แบบนี้ยาที่ตาเสี่ยให้มา อาจไม่จำเป็นแล้วมั้ง

 

.

.

.

 

“อ้าวไอ้ดิน ไปตามไอ้เขี้ยวไม่ใช่เหรอ แล้วมันไปไหน” หนุ่มจอมซื่อทำหน้างงหลังจากเดินขึ้นบ้านมาก็ถูกพ่อ (บุญธรรม) เอ่ยทัก

 

 

“อ้าว ดินไปตามแล้วนะพ่อ ก่อนขึ้นมายังใช้ให้ดินเอาของไปให้ไอ้พวกคนงานอยู่เลย”

 

 

“หืม แล้วหายไปไหน่ล่ะน่ะ” บัวบูชาถามพลางยกอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ ดินเองก็ทำหน้างงไม่เข้าใจว่าสองคนนั้นหายไปไหน ก็เดินมาก่อนเขาอีก

 

 

“ดินก็นึกว่าขึ้นมาพร้อมกับคุณเรียวแล้ว”

 

 

“อ้าว หนูเรียวกลับมาแล้วเหรอ”

 

 

“ครับพ่อ ซื้อขนมมาฝากพ่อกับแม่บัวด้วย” เมฆาขมวดคิ้วหันไปมองภรรยาที่ทำหน้างงเช่นกัน

 

 

“แล้วหายไปไหนกัน ไม่ใช่ไปทะเลาะตบตีกันอีกเหรอ” หญิงสาวเอ่ยด้วยความกังวล แม้พักหลังมานี้ทั้งคู่จะลดดีกรีต่อปากต่อคำต่อกันลงมากแล้ว แต่ก็กลัวว่าจะมีเหตุอะไรไปสะกิดให้มีเรื่องกันอีก

 

 

ไอ้ดินยิ้มเยาะด้วยความหมั่นไส้พี่ชายตนเองอย่างไม่จริงจัง “โอ้ย ไม่หรอกแม่บัว เดี๋ยวนี้สองคนนั้นเขาไม่ทะเลาะกันแล้ว เขาเปลี่ยนไปเดินเส้นทางปรองดองแล้วมั้ง”

 

 

ปรองดองกันถึงขั้นนั่งกอด จับมือ นั่งซบกันอย่างสนิทสนม

 

 

“หือ เขาดีกันแล้วเรอะสองคนนั้นน่ะ” เมฆาถามตาโตนิดๆ

 

 

“ดี๊ดีเลยละพ่อ” ไอ้ดินเดินเอาถุงขนมไปวางไว้ในครัวและช่วยยกอาหารที่เหลือไปวางไว้บนโต๊ะไม้

 

 

“ลงไปตามอีกรอบดีมั้ยดิน” บัวบูชาถามสีหน้าเป็นห่วง

 

 

“ไม่เอาหรอกแม่บัว เดี๋ยวดินจะกลายร่างเป็นก้างปลา” ตอนแรกผู้ใหญ่ทั้งสองคนมองหน้ากันงงๆ แต่สักพักก็ทำหน้าเหมือนเริ่มจะเข้าใจว่าดินกำลังสื่ออะไร บัวบูชาอมยิ้มน้อยๆ ส่วนเมฆายังทำหน้าเหมือนไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่น่ะใช่รึเปล่า

 




เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:



ต๊ายยยย ขุ่นแม่ได้ประทับจุมพิตแห่งนางมารกับพี่เขี้ยวแล้ววว เอาแล้ววว

แต่ที่สำคัญคือพี่เขี้ยวตอบสนองค่าคุณแม่ขาาา ว้ายยย อ้อยและเกี้ยวเขามานาน ในที่สุดก็มีวันนี้ แบบนี้ต้องปิดเขาใหญ่ฉลองนะคะ

ใครที่ตามเรื่องนี้กันมาแต่ต้น น่าจะชื่นใจแทนแม่เรียวบ้างแล้วเนอะ 55555 หลายคนลุ้นให้เขาทั้งสองปรองดองกันถึงขั้นเลิฟซีนกันสักที ตอนนี้เขาเขยิบกันมาไหลแล้วนะ พี่เขี้ยวไม่มีกำแพงอะไรในใจแล้ว ฮี่ๆ

น้องดินของขุ่นเจ้ อกหักแล้วเหรอลูก โธ่ จงรักภักดิ์ดีกับคุณเรียวมาตั้งนานเนาะ ไม่เป็นไรนะคะ มาหาเจ้มา / โชว์บัตรกดเงินสิบใบ

แท็ก #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 26-11-2016 20:20:57
พี่เขี้ยวจูบเองแล้วจร้าาาา ว้ายๆๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 26-11-2016 21:48:39
โอ้ยยยยย เขินพี่เขี้ยววววว นางจูบดูดดื่มมข่า แม่เรียวใกล้จะได้ตัวเค้าแล้วว ไม่ต้องใช้ยาเสี่ยมันหรอก เดี๋ยวพี่เขี้ยวรู้จะพาลโกรธป่าวๆ   :o8: เค้าใกล้จะหวานกันแล้วชิมิ รีบๆได้กันเลยยย :m20:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-11-2016 21:50:30
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-11-2016 23:01:28
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 26-11-2016 23:11:31
ปกติพี่เขี้ยวไม่ค่อยตอบโต้นะ แต่คราวนี้พี่เขี้ยวรุกคุณนายจ้า อิอิ เราจะรอลุ้นต่อไป
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 26-11-2016 23:24:36
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 27-11-2016 00:21:29
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: พูดเลยว่าจิกหมอนแรง  :m3: ถ้าไม่ติดกลัวพ่อแม่ตื่นนี้กรี๊ดไปแระ555
 มาต่ออีกเร็วๆน้าส์คิดถึงคุณนายม๊ากมาก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 27-11-2016 05:54:16
วรั้ยยยยยยยยยยย.  :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 27-11-2016 17:37:55
 :z1: ดีจังเลยในที่สุดแม่เรียวก้อมีวันนี้จนได้  :mew1: สงสัยต้องขอบคุณเหตุการณ์เลวร้ายที่มาเร่งปฏิกิริยาเคมี หรือจะเป็นหนูเอื้องดีแฮะ มีตัวเปรียบเทียบจะได้กระจ่างใจเร็ว ๆ ต้องรออ่านตอนแม่เรียวไปเดินป่ากับพี่เขี้ยวซะแล้ว คงมีซัมทิงให้เห็นแน่ ๆ ท่ามกลางป่าเขาใครก้อหล่อใครก้อสวยขึ้นได้เป็นกอง  :katai3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 27-11-2016 22:21:44
มาแอบส่อง :3129:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 28-11-2016 02:23:42
กรี้ดดดดดดดด ดีมากเรียวจันทร์ คิคิ พ่อข่มเขี้ยว เสร็จแน่จย้า :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 28-11-2016 08:31:53
รอคะ ชอบเรื่องของหล่อนนะยะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๘/ครึ่งหลัง:26.11.59:
เริ่มหัวข้อโดย: tamaya ที่ 30-11-2016 01:46:17
คุณนายย  ติดตามรอคุณนายค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-12-2016 00:19:20
คาถาที่ 19 :: Waiting for tonight, Oh.. oh.. (เฝ้ารอคอยคืนนี้... น้อยนอยน่อย) [35%]



หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาสองวัน คมเขี้ยวกับเรียวจันทร์ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่มีอะไรผิดแปลก ไม่มีอะไรเพิ่มเติมไปมากกว่าเดิมสักเท่าไหร่ รูปแบบการดำเนินชีวิตไม่ได้มีอะไรผิดเพี้ยนหวานเลี่ยนใดๆ ชีวิตของทั้งคู่ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีใครถามอะไรให้มันมากความ แม้ความคิดของทั้งคู่จะเพิ่มขึ้นในหัว แต่ความรู้สึกที่มันกำลังสบายตัวสบายใจแบบนี้ เลยยังไม่อยากไปแตะมัน ขอปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้สักพักก่อน
   


ที่บอกว่าไม่มีอะไรเพิ่มเติมไปมากกว่าเดิมสักเท่าไหร่นั้น ก็แสดงว่ามันมีอะไรเพิ่มเติมระหว่างทั้งสองคนกว่าแต่ก่อน ถึงจะไม่ได้เพิ่มมากมายมหาศาล แต่ทั้งคู่ก็รู้สึกได้ว่ามันเพิ่ม อย่างที่คมเขี้ยวกำลังจูบแม่คุณนายอยู่นี่ไง
   


“อืม… อือ…” เรียวจันทร์ครางเสียงแผ่ว ตอบรับลิ้นอุ่นๆ ของคมเขี้ยวอย่างเชื่องช้าแต่ว่าหนักแน่นและวาบหวิว จากครั้งแรกที่จูบกันคมเขี้ยวอาจจะยังดูไม่คล่อง แต่พอจูบกันบ่อยขึ้นก็ต้องบอกเลยว่า ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้ด้อยประสบการณ์เรื่องนี้เลย
   


ร่างของเรียวจันทร์นั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน มีร่างสูงใหญ่ไหล่หนาของคมเขี้ยวยืนคร่อมอยู่ ที่ปากก็บดจูบไม่ยอมปล่อย ตาเขี้ยวกุดจูบไม่รุนแรง จูบเบาๆ แต่จูบได้นานมากกก จูบเหมือนไม่เบื่อ ระบบหายใจพ่อคุณเขาดีเหลือเกิน แทบไม่ต้องถอนจูบเพื่อแวะหายใจ มีแต่คุณนายแกที่จูบไปได้หลายๆ นาทีเข้า ต้องผลักอกอีกฝ่ายออกแล้วถึงกลับไปจูบต่อได้ นี่ถ้ามีแข่งจูบมาราทอนเชื่อเถอะว่าคมเขี้ยวชนะใสๆ
   


“อ๊ะ…” เป็นอีกครั้งที่เรียวจันทร์ขอยอมแพ้ นางว่านางก็ช่ำชองเรื่องนี้แล้วนะ แต่พอเจอพ่อเขี้ยวกุดเข้าไป นางเริ่มสงสัยในประสบการณ์ตัวเอง
   


“หืม ปากบวมยังอะ จูบเน้นจูบแน่นเหลือเกินนะ” นางยกมือขวาขึ้นจับปากตัวเอง ใช้ลิ้นดุนผนังปากล่างปากบนเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อตรงปาก คมเขี้ยวกระตุกยิ้มนิดหน่อยแล้วตอบเสียงนุ่ม
   


“ยังไม่บวม” พูดจบก็ก้มลงจูบปากสีชมพูสดเล็กๆ นั่นต่อ โดยที่เจ้าของปากยังไม่ทันตั้งตัว แต่แม่คุณนายนางเก่งอยู่แล้ว เหวอไปแปบนึงก็กลับมาตอบรับได้ ลิ้นเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของคมเขี้ยวอย่างคุ้นเคย
   


ก็แน่ล่ะสิ ถึงจะใช้ชีวิตตามปกติ แต่ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือนางกับคมเขี้ยวจูบกันบ่อยขึ้นนี่แหละ บางทีอยู่ใกล้กัน มองๆ ตากันปุ๊บแล้วก็อมยิ้ม ก่อนจะพากันไปหามุมลับตาคนจูบกันสองคน แล้วจูบทีก็น้านนาน จนบาทีแข้งขานางอ่อน ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ามากกว่านี้ นางจะต้องถึงขั้นคลานมั้ย
   


ลิ้นของคมเขี้ยวยังคงกวาดกินความนุ่ม ความหวานในปากเรียวจันทร์อย่างแรงดีไม่มีตก จนแม่คุณนายเริ่มจะมึนๆ เบลอๆ คมเขี้ยวกดริมฝีปากหนักขึ้น เรียวจันทร์ยกแขนซ้ายมาดันตัวเองไว้กับโต๊ะ มือขวาเอื้อมลงไปจับเป้าคมเขี้ยวที่พอจับแล้วนางก็ดีใจเหลือเกินที่พ่อเขี้ยวกุดเป้าตุงเต็มมือ
   


“อื้ม… อย่าจับสิ” คมเขี้ยวหยุดจูบแล้วบอกเสียงทุ้ม เรียวจันทร์มองหน้าหล่อๆ ตาเป็นประกายวิบวับ มือขวาจับตามความยาวที่แออัดอยู่ในกางเกงยีนขาเดฟ
   


“แข็งแรงนะ นิสัยดีเชียว” เรียวจันทร์กัดปากล่างแล้วยิ้มเขินอายเบาๆ คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์ล่อกแล่กเล็กน้อย แก้มคร้ามแดดสีแทนแดงระเรื่ออย่างน่ามอง
   


“ปล่อยได้ยัง” คมเขี้ยวยกมือขึ้นเกาปลายจมูก หลบสายตากรุ้มกริ่มของแม่คุณนายตัวแสบ
   


“ขอจับก่อนสิ ใช่ว่ามีโอกาสได้จับบ่อยๆ เมื่อไหร่” เรียวจันทร์บีบไปตามความยาวที่พาดตุงไปกับเป้ากางเกง เจ้าของความแข็งแกร่งยืนเท้าเอวนิ่งให้อีกคนจับ แต่ก็ต้องคอยขบกรามตัวเองไว้แน่นเพื่อระงับอารมณ์
   


เรียวจันทร์ลงจากโต๊ะ มือจับเป้าคมเขี้ยวไม่ปล่อยและพาคมเขี้ยวเดินไปตรงโซฟาหนังสีน้ำตาลแก่ ดันให้คมเขี้ยวนั่งลงบนนั้นแล้วตัวนางก็ขึ้นคร่อม ก้มลงจูบคมเขี้ยวต่อโดยที่ร่างสูงก็ตอบรับกลับอย่างไหลลื่น
   


“อือ…” คมเขี้ยวครางเสียงพร่า ปากก็จูบไป เป้าก็ถูกลูบไปด้วยจนไอ้คาวบอยน้อยตามที่คุณนายเรียกยิ่งเต่งตึงจากที่แข็งอยู่แล้ว คมเขี้ยวยกมือขวาขึ้นลูบก้นของเรียวจันทร์ ขยำเต็มไม้เต็มมือ สักพักเรียวจันทร์ก็ถอนจูบออกและเปลี่ยนเป็นก้มซุกไซ้คอคมเขี้ยว คนตัวโตแหงนคอให้อีกฝ่ายไซ้ได้เต็มที่ เขาครางเสียงทุ้ม ริมฝีปากสีชมพูสดของเรียวจันทร์ประทับจูบแผ่วเบาไปตามลำคอ
   


“อึดอัดมั้ย” ร่างเล็กกระซิบถามที่ข้างหู แทนคำตอบนั้น คมเขี้ยวยื่นหน้าไปซุกซอกคอเรียวจันทร์ สูดดมกลิ่นหอมเย็นจมูกเข้าไปเต็มปอด เรียวจันทร์แหงนหน้าขึ้น ปล่อยมือออกจากเป้าคมเขี้ยว สองมือยกขึ้นมาจับไหล่ทั้งสองข้างของคนตัวโต ค่อยๆ นั่งลงคร่อมตักของคนข้างล่าง ครางเสียงเบาหวิวยามที่ริมฝีปากหนาของคมเขี้ยวกดลงบนต้นคอ
   


“ฮ่ะ…” เรียวจันทร์หลับตาพริ้ม ยกสองมือขึ้นขยุ้มเส้นผมของคมเขี้ยวแน่น สองมือหนาใหญ่ของคมเขี้ยวยกขึ้นมาจับเอวเล็กแต่มีกล้ามเนื้อของเรียวจันทร์
   


“เขี้ยว…” คมเขี้ยวขนลุกซู่กับเสียงเรียกผะแผ่ว เขาใช้จมูกสูดดมไปตามซอกคอหอมๆ สองมือบีบจับเอวเรียวจันทร์ไว้เต็มมือ ก่อนที่คนด้านบนจะเริ่มขยับเอว ขยับหน้าขยับหลังบนเป้าเขาไปเรื่อยๆ ทำให้เป้าที่เต่งนูนของคมเขี้ยวสัมผัสกับก้นแน่นของเรียวจันทร์
   


“อะ… อ่า…” คมเขี้ยวครางเสียงแหบพร่าออกมาจากลำคอ เขาถอนหน้าตัวเองออกจากซอกคอเรียวจันทร์ แหงนหน้าขึ้น เอาหัววางบนพนักพิงโซฟา สายตาจ้องมองใบหน้าแดงเรื่อของแม่คุณนาย ริมฝีปากสีชมพูสดเผยอขึ้น แววตาเร่าร้อนไปกับแรงอารมณ์ และก่อนที่เขาจะคุมตัวไม่ได้มากไปกว่านี้ คมเขี้ยวก็จับเรียวจันทร์นอนลงบนโซฟาโดยมีตัวเขาทาบทับอยู่ด้านบน สายตาทั้งคู่จ้องมองกันด้วยความวาบหวิว ก่อนที่คมเขี้ยวจะก้มลงจูบริมฝีปากเรียวจันทร์เบาๆ หนึ่งที
   


“แน่ใจนะว่าไม่อยากปลดปล่อย” เรียวจันทร์ถามพลางยกมือขวาสางผมของคมเขี้ยวให้เข้าที่เข้าทาง
   


“เราหายมานานแล้ว เดี๋ยวต้องไปตัดหญ้าให้ม้าอีก” คมเขี้ยวว่าเสียงแห้ง นิ้วโป้งทั้งสองข้างเกลี่ยแก้มเรียวจันทร์เบาๆ เคยได้แต่มอง พอมาสัมผัสจริง ก็นุ่มนิ่มอย่างที่คิด
   


“คืนนี้ล่ะ นายจะได้ไม่ต้องไปช่วยตัวเองให้เมื่อยมือไง” คุณนายไม่ว่าเปล่าแต่ยื่นมือซ้ายไปสะกิดหัวนมคนรูปหล่อที่คร่อมนางอยู่ด้วย เล่นเอาคมเขี้ยวกัดฟันหน้าย่นไปวูบหนึ่งเพราะความเสียว
   


“ผมไม่เคยกับผู้ชาย ขอละลายพฤติกรรมก่อนได้มั้ย” เรียวจันทร์ยิ้มขำ แต่ก็แอบดีใจ
   


“แสดงว่านายก็ไม่รังเกียจฉันใช่มั้ย” คนข้างล่างยกสองแขนคล้องคอของคนข้างบน คมเขี้ยวเลื่อนมือขวาขึ้นไปลูบหัวเรียวจันทร์
   


“เคยบอกเหรอว่ารังเกียจ”
   


“ไม่ แต่นายบอกไม่เอาตูด” คมเขี้ยวระบายลมหายใจแผ่วเบา
   


“อืม ก็ไม่แหละ แต่ถ้าเป็นตูดคุณก็…” คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์ที่ยิ้มบางรอคำพูดต่อท้ายอยู่ “…ก็เอาได้”
   


เรียวจันทร์หัวเราะเบาๆ ผงกหัวขึ้นไปจุ๊บริมฝีปากของคมเขี้ยวเบาๆ “ขอเวลาทำใจจากข้างหน้ามาเป็นข้างหลังว่างั้นเถอะ”
   


คมเขี้ยวหน้าแดงระเรื่อ แต่ก็กดหน้าลงเป็นการยอมรับ ก็เคยเอาแต่ข้างหน้า และก็ใช่ว่าคมเขี้ยวจะมีอารมณ์ทางเพศพุ่งพล่านจัดจนขอแค่ว่ามีรูให้เสียบก็เสียบได้หมด
   


“อย่านานมากได้มั้ย ของนายดีมากเลยอะ อยาก” เรียวจันทร์กัดริฝีปากล่างเป็นการย้ำว่าอยากจริงๆ นางไม่ได้พูดเอาตลกด้วย นางพูดจริงๆ ตามที่อยาก ก็ทั้งแน่น ทั้งอวบและยาว ราวกับไส้กรอกเยอรมันที่ควรลิ้มลอง
   


“อืม” คมเขี้ยวยกยิ้มมุมปากทั้งสองข้างเป็นรอยยิ้มจนเห็นลักยิ้มบนแก้มจางๆ เรียวจันทร์เลยเอานิ้วจิ้มลักยิ้มบนแก้มซ้ายไปหนึ่งที    
   


“อาทิตย์หน้าไปเดินป่าแล้ว เตรียมตัวรึยัง” เรียวจันทร์ทำตาโตแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม
   


“อะไร?” คมเขี้ยวหรี่ตามองคุณนายด้วยความสงสัย
   


“เปล่า เตรียมตัวแล้ว เคลียร์งานเรียบร้อยแล้วด้วย” คนตัวสูงคลี่ยิ้มน้อยๆ
   


“ดี” เขาก้มลงหอมหน้าผากเรียวจันทร์ไปหนึ่งฟอดแล้วค่อยๆ พาร่างเล็กลุกขึ้นนั่ง เรียวจันทร์ปล่อยแขนออกจากคอเขา
   


“เดี๋ยวผมไปตัดหญ้าให้ม้าก่อน คุณไม่ต้องไป เดี๋ยวผื่นขึ้น” เรียวจันทร์ยิ้มและพยักหน้าเข้าใจ
   


“ฉันอยู่นี่แหละ ไม่ก็อาจจะออกไปเดินเล่น” คมเขี้ยวพยักหน้า ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงร้อยเก้าสิบกว่า เรียวจันทร์มองตรงเป้ากางเกงก็เห็นว่ามันยังตุงอยู่
   


“รอให้มันสงบก่อนมั้ยค่อยเดินออกไป” เจ้าของเป้าตุงก้มลงมองอย่างเขินๆ
   


“อยู่นี่มันจะยิ่งตุง” เรียวจันทร์หัวเราะเบาๆ ลุกขึ้นยืนบ้าง ก่อนจะยกแขนโอบรอบคอคมเขี้ยว
   


“เดี๋ยวเจอกันนะ” คนโดนแขนคล้องคอยิ้มนิดหน่อยและพยักหน้าขึ้นหนึ่งที เรียวจันทร์ยื่นหน้าไปจูบคมเขี้ยวอีกที ร่างสูงตอบรับกลับอย่างง่ายดาย ลิ้นทั้งสองคนเกี่ยวรัดกันอย่างไหลลื่นอยู่หลายนาทีก่อนที่คมเขี้ยวจะเป็นฝ่ายถอนจูบออกไป
   


“พอแล้ว เดี๋ยวไม่ได้ไปทำงานกันพอดี” นี่ก็แอบหนีคนงานมาหาแม่ตัวป่วนที่ออฟฟิศเกินชั่วโมงแล้วมั้ง

   

“ป่ะๆ ทำงานๆ” คนตัวเตี้ยกว่าเอาแขนออกจากคอคนตัวสูง สองมือตบลงบนอกแกร่งเบาๆ คมเขี้ยวยิ้มอีกทีแล้วก็หมุนตัวเดินออกไปทางประตูออฟฟิศ
   


นี่ถ้าเขาสองคนลงลึก ลึกซึ้งกันกว่านี้ เขาล่ะกลัวว่าตัวเองจะขลุกอยู่กับเรียวจันทร์ทั้งวัน
   


เรียวจันทร์มองแผ่นหลังของคมเขี้ยวที่เดินหายลับไปทางประตูด้วยสายครุ่นคิดปนกังวลเล็กๆ ก่อนที่เสียงของเพื่อนสนิทจะดังขึ้นในหัว
   


อยากได้เพราะเสี่ยสั่ง หรืออยากได้เพราะใจแกอยากได้เอง
   


เรียวจันทร์เดินไปที่โต๊ะทำงาน หยิบมือถือขึ้นมากดหาชื่อเสี่ยจอมทัพแล้วกดโทรออก แต่ก็โทรไม่ติด มีเสียงอัตโนมัติบอกว่าติดต่อไม่ได้ ไม่รู้ว่าแบตหมดหรือยังไง และจะติดต่อไม่ได้ถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
   


เรียวจันทร์พ่นลมหายใจ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าไปถามลูกน้องตาเสี่ยที่มาเนียนแฝงตัวอยู่ในนี้ดีกว่า นางยัดมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วก้าวเท้าเดินออกไปจากออฟฟิศ พอออกมาข้างนอกก็เดินดุ่มๆ ไปทางหมู่บ้านคาวบอย ไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นั่นหรือเปล่า แต่ลองไปดูก่อน เผื่อจะแอบไปงีบหลับอยู่ในห้องพักคนงาน
   


เรียวจันทร์เดินเข้าไปในหมู่บ้าน กำลังเดินๆ อยู่ก็เจอกับนายเทิงและนายจีน คนงานสองคนที่ดูแลคอกวัวกำลังเดินมาทางนี้ เรื่องที่จะไปตามหาลูกน้องเสี่ยจอมทัพกระเด็นหายไปจากหัวอย่างเร็ว นางกำลังจะอ้าปากยิ้ม ในขณะที่เท้าก็รีบก้าวเดินเข้าไปหาสองคนนั้น แต่พอไอ้สองซี้เห็นแม่คุณนายก็ร้องเสียงหลง หน้าตาหวาดผวา และพยายามถอยหลังหนี คุณนายแกเลยหุบยิ้มแล้วเปลี่ยนเป็นถลึงตามองกับอาการเหมือนคนเห็นผีของสองคนนั้น
   


จะบ้าเหรอ?! เอาที่ไหนมาผี หน้านางฟ้าขนาดนี้!
   


“หยุด!” เรียวจันทร์ถลึงตาใส่สองคนนั้นอีกที เจ้าสองซี้เบรกเท้าตัวเองกะทันหันใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้กับประตูทางเข้าหมู่บ้านคาวบอย สีหน้าหวาดกลัวกับการมาของคุณเรียว
   


“จะวิ่งหนีฉันทำไม คนอื่นเห็นเขาจะคิดว่าฉันน่ากลัวหรือเป็นโรคร้ายแรงนะรู้รึเปล่า!” นั่นต่างหากที่นางกังวล เกิดคนที่กำลังเดินๆ อยู่ในหมู่บ้านคาวบอยมองมาแล้วเข้าใจผิด คิดว่านางเป็นโรคติดต่อหรือเป็นร่างทรงของผีที่ไหน นางจะทำยังไง เสียภาพลักษณ์สวยๆ ของนางหมด
   


“พะ… พวกผม ตะ… ตกใจครับ” ไอ้เทิงว่าพลางยิ้มเจื่อน ไอ้จีนพยายามยิ้มตามเพื่อนแต่ก็ยิ้มไม่ค่อยจะออก
   


“ตกใจ? มีอะไรให้ตกใจยะ ดูหน้าฉันด้วย หน้าฉันไม่สวยเหรอ?!”
   


“สวย สะ… สวยครับ! คุณเรียวสวย!” ไอ้จีนรีบโพล่งอย่างตื่นตระหนก กลัวว่าตัวเองจะตอบไม่ถูกใจคุณเรียวจันทร์ แต่พอเห็นรอยยิ้มพึงใจของอีกฝ่ายก็พอจะโล่งใจได้บ้าง
   


“ฉันจะมาขอบใจ อ๊ะ ไม่สิ ถามก่อน ได้พูดอย่างที่ฉันสอนไปมั้ย” ไอ้สองซี้พยักหน้ารัวๆ
   


“พูดครับ พวกผมพูดอย่างที่คุณเรียวสอน” ไอ้เทิงตอบด้วยความสัจจริง เรียวจันทร์ยิ้มพอใจมากกว่าเดิม นางเชื่อว่าสองคนนี้ไม่โกหก เพราะไม่งั้นนางคงไม่โดนจูบจนปากเปื่อยแบบนี้หรอก พ่อสองคนนี้คงทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว
   


“ดีมาก แล้วก็ขอบใจนายสองคนมากด้วย ฉันจะลบรูปกับคลิปนั้นทิ้งเพื่อเป็นการขอบคุณนายทั้งสองคน…” เรียวจันทร์หยิบมือถือขึ้นมา เปิดไฟล์เก็บภาพและคลิปวีดีโอ หันหน้าจอไปให้สองคนนั้นดูว่าเปิดไฟล์ภาพแล้วจริงๆ ก่อนจะหันเข้าหาตัวเอง กดเลือกไฟล์แล้วกดลบ หันหน้าจอไปให้สองคนนั้นดูอีกครั้ง
   


“…เรียบร้อย” ไอ้เทิงกับไอ้จีนหันมองหน้ากัน จะว่าโล่งอกก็ยังไม่กล้าโล่งเต็มที่ แต่ก็ยิ้มใจชื้นขึ้นมาหน่อย
   


“ขอบคุณครับ” ไอ้จีนนำไอ้เทิงยกมือไหวคุณเรียว แม่คุณนายมองสองคนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
   


“แล้วคบกันรึเปล่า หรือว่าแค่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่านั้น”
   


“เอ่อ เปล่าครับ คืนนั้นเราแค่เมาแล้วเปิดหนังโป๊ดู พอมีอารมณ์ก็เลยใช้มือช่วยกัน”
   



“ดีแล้วละ ดีกว่ามีอารมณ์แล้วไปข่มขืนคนอื่น…” เรียวจันทร์ชื่นชมสองคนนั้นจริงๆ ที่มีอารมณ์ก็ปลดปล่อยกันเอง ไม่ใช่ไปทำร้ายคนอื่นอย่างที่เมืองไทยมักจะมีข่าวบ่อยๆ ใครจะมองว่าวิปริตยังไง แต่นางมองว่าดีกว่าพวกหงี่แล้วฆ่าข่มขืนก็แล้วกัน



“…แต่ว่านะ ขอแนะนำ จะทำอะไรก็ดูประตูหน้าต่างให้ดีว่าปิดสนิทเรียบร้อยรึยัง ไม่งั้นฉันอาจได้คลิปใหม่ของนายสองคนมาแทนคลิปเก่า”



“ขะ… ขอบคุณครับคุณเรียว” ไอ้เทิงยกมือไหว้เรียวจันทร์อีกทีโดยมีไอ้จีนยกมือไหว้ตาม



“ว่าแต่ นายเห็นคนงานที่ชื่อแม็คมะ”



“น่าจะอยู่ที่บ้านพักรวมครับ” ที่นี่จะมีบ้านพักคนงาน แบ่งเป็นห้องๆ ให้คนงานจับคู่หรือจับคี่นอนด้วยกันก็แล้วแต่ไซส์ห้อง แต่จะมีบ้านหลังหนึ่งที่เอาไว้ให้สำหรับคนงานกินข้าว แฮงเอ้าท์ ดูหนัง ฟังเพลงด้วยกันที่นั่น และมีที่นอนไว้ให้เผื่อใครเพลียๆ ก็มานอนที่นี่โดยไม่ต้องกลับไปที่ห้องตัวเอง



“ขอบใจมาก” เรียวจันทร์ยิ้มให้สองคนนั้นที่รีบยิ้มตอบกลับอย่างว่องไวจนเป็นยิ้มปากเบี้ยว



ร่างเพรียวบางเดินมาตรงบ้านพักรวมที่เป็นอาคารไม้สไตล์คาวบอยสีฟ้าซีดชั้นเดียวที่อยู่ด้านในสุด เพราะจะได้แยกเป็นสัดส่วนไม่ไปปนกับบ้านพักของนักท่องเที่ยว ขาเรียวยาวก้าวขึ้นบันไดไม้เข้าไปในตัวบ้าน ห้องนั่งเล่นที่มีโซฟา ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี พัดลมขนาดใหญ่นั้นโล่งไม่มีใครอยู่ นางเลยก้าวเดินต่อเข้าไปยังส่วนที่เป็นเค้าน์เตอร์เครื่องดื่มและโต๊ะกินข้าว ด้านหลังสุดเป็นห้องครัวกับห้องน้ำและห้องอาบน้ำ



“ไม่อยากทำแล้วอะพี่ หนูกลัว”



“กลัวอะไร ใช่ว่าเพิ่งเคยทำ”



“ก็เพราะเคยทำไงถึงได้กลัว ถ้าเขามีหลักฐานมาถึงหนูล่ะ”



“เอาน่า อีกครั้งนึงละกัน”



“แต่รอบนี้โรงงานนมเลยนะ มัน… มันใหญ่ไป หนูไม่กล้า”



“ล้มวัวมาตัวแล้วยังจะกลัวอะไร” เรียวจันทร์นิ่งฟังตาค้าง แต่ไม่ใช่ค้างเพราะตกใจ นางกำลังค้างงงว่าสองเสียงที่กำลังคุยกัน คุยเรื่องที่นางกำลังคิดมั้ย เสียงผู้ชายน่ะลูกน้องจอมทัพแน่นอน แต่เสียงผู้หญิงคนนั้นน่ะใคร



“แต่ว่า…”



“ฮัลโหล! มีใครอยู่มั้ย” เรียวจันทร์แกล้งวิ่งกลับไปตรงเค้าน์เตอร์เครื่องดื่มด้านนอก ส่งเสียงตะโกนเรียกเพื่อให้บุคคลทั้งสองนั้นรู้ตัวว่ามีคนมาเยือน นางยืนรอแบบตีเนียนสักพัก ลูกน้องเสี่ยจอมทัพก็เดินมาจากด้านหลังบ้านที่เป็นชานยื่นออกไป



“คุณเรียวจันทร์”



“อ้าว นายอยู่นี่เอง ฉันตามหาอยู่” นางตีเนียนว่าเพิ่งเจออีกฝ่าย สายตาของนางแกล้งเหลือบไปมองทางด้านหลังของลูกน้องเสี่ยจอมทัพว่ามีคนเดินตามมาหรือไม่ แต่ก็ไม่มี



“มีอะไรรึเปล่าครับ” เรียวจันทร์ที่แกล้งทำเป็นมองไปรอบบ้านพักรวมของคนงานเลื่อนสายตากลับมามองเจ้าของร่างใหญ่ใบหน้าเหมือนตัวโกงในละคร



“ฉันโทรหาเสี่ยไม่ติด รู้รึเปล่าว่าเขาไปไหน”



“เสี่ยไปต่างประเทศครับ” ร่างเล็กขมวดคิ้วนิดหน่อย



“ตอนเจอกันไม่เห็นบอกว่าจะไปไหน”



“ไปแบบปุบปับครับ อีกอย่างเสี่ยพาผู้หญิงไปด้วยครับ เลยไม่อยากบอกคุณ” เรียวจันทร์อ้าปากกว้างเป็นรอยยิ้มด้วยความดีใจ



“เสี่ยมีคนใหม่แล้วเหรอ เขาถูกใจแม่คนนั้นมากมั้ย ไม่สิ ฉันว่าต้องมาก เพราะเสี่ยไม่ค่อยควงผู้หญิง เกรดเอเลยสินะ” นางว่าด้วยหัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เหมือนนกที่กำลังจะหลุดออกจากกรงแล้วได้โผบินขึ้นไปบนท้องฟ้า



“หลานเสี่ยครับ อายุหนึ่งขวบ” วืดดด! รอยยิ้มที่ฉีกกว้างเมื่อครู่หดลงเป็นหน้าเรียบสนิทอย่างรวดเร็วจนลูกน้องจอมทัพหัวเราะด้วยความตลก



“อยากจะไปจากเสี่ยขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณเรียว” เรียวจันทร์ไม่ตอบ ได้แต่ยกมือเกาต้นคอ สีหน้าระอาใจ ลูกน้องเสี่ยทัพขยับคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยแดงบนต้นคอของร่างเพรียว



“เสี่ยเขาจะกลับเมื่อไหร่ จะเปิดมือถือมั้ย” นางไม่สนใจว่าหลานจอมทัพจะมาจากไหน เป็นลูกใครมาก่อน นางสนแต่ว่าเมื่อไหร่จะได้คุยกับทางนั้น



“คงกลับอาทิตย์หน้าครับ เรื่องเปิดมือถือไม่แน่ใจ ลองฝากเรื่องไว้กับเลขาเสี่ยมั้ยครับ” เรียวจันทร์สั่นหัวเบาๆ



“ไม่อะ ฉันจะรอคุยกับเสี่ยเอง ถ้าเขาติดต่อนายมา บอกฉันด้วยนะ”



“ผมคงไม่ได้อยู่บอกแล้วละครับ ผมลาออกจากที่นี่แล้ว ทำงานอาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์สุดท้าย” เรียวจันทร์ย่นคิ้วมองคนตรงหน้าตนเองด้วยสายตาเคลือบแคลง แต่ก็รีบปัดทิ้งไปก่อนที่จะทำให้อีกฝ่ายนึกไหวตัว



“อ้าวเหรอ เสี่ยเรียกตัวกลับแล้วสินะ”



“ก็ครับ ผมอยู่มาจะครึ่งปีแล้ว ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เสี่ยเลยเรียกกลับไปตั้งหลัก” เรียวจันทร์ตวัดตามองอีกคนอย่างนึกหมั่นไส้



“ค่ะๆ เชิญกลับไปเถอะ โชคดีก็แล้วกัน” เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน กำลังจะก้าวเท้าเดินออกไป ก็หยุดเท้าเพราะเสียงทักของอีกฝ่าย



“รู้มั้ยครับ เสี่ยไม่ชอบใช้คนร่วมกับใคร” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นทำหน้าประมาณว่าแล้วไง?



“ทีฉันยังใช้เสี่ยร่วมกับอื่นเลย คิดว่าเจ้านายตัวเองมีฉันคนเดียวเหรอ”



“ตอนนี้เขามีแค่คุณคนเดียวจริงๆ” เรียวจันทร์เชิดคางขึ้นเล็กน้อย ก็ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ แต่ก็ไม่เชื่อว่าเสี่ยจอมทัพจะหยุดอยู่ที่ตัวเองจริงๆ นางไม่เคยเชื่ออะไรแบบนั้นเลย



“ถ้าเขากลับมา บอกให้เขาติดต่อฉันหน่อย” ว่าแค่นั้นก็หมุนตัวเดินออกไปจากบ้านพักรวมของคนงานทันที โดยมีสายตาเรียบนิ่งของแม็คมองตาม



 
:hao7:

พอได้จูบก็จูบกันใหญ่เลยนะคะ หืมมม มีมองตากันและพาไปในมุมลับตาคนด้วย พี่เขี้ยวอู้งานมาหาคุณนาย เอาใหญ่แล้วนะคะพี่เขี้ยว เสียผู้เสียคนเนาะ

แต่ขุ่นแม่เรียวถึงกับหายใจหายคอไม่ทัน ว่าที่สามีคุณแม่ไม่ธรรมดานะคะ จูบจนทำเอาคุณแม่รู้สึกเหมือนเด็กไปเลย อดคิดแบบคุณแม่ไม่ได้ค่ะว่าถ้ามากกว่านี้ คุณแม่ต้องคลานเข่ามั้ยหรือยังไง แอร๊ย


ขอบคุณทุกเม้นทุกโหวตเลยนะคะ ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกันทุกครั้งที่อัพค่า  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 01-12-2016 01:05:27
กรี๊ดดดดดดด คุณนายจูบปากเปื่อยเลยทีนี้ :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
รอต่อไปๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-12-2016 01:05:57
อร๊ายยยยยยยยยยย
พี่เมื่อก่อนละรังเกียจ พอตอนนี้ละก็แทบจะไม่หยุด
หมั่นไส้มากกกกกกก
แล้วตกลงที่ผ่านมานี่เสี่ยเป็นคนทำเหรอ
แอบเสียดายเสี่ยนิดๆ

 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 01-12-2016 02:20:56
เต็มไม้เต็มมือนะคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iAlexiajang ที่ 01-12-2016 02:48:53
ม่ายยยยยยยย จะมาต่อเมื่อไรค้าาาาาาา *กรีดร้องด้วยความบ้าคลั่ง* :m25:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-12-2016 03:42:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 01-12-2016 03:49:07
พี่เขี้ยวทำคุณนายแกเข่าอ่อนได้นี่ เจ๋งอ่ะ ^^
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 01-12-2016 05:52:22
กรี้ดดดดดดดดดดดด มีความคืบหน้าจาาาาาาาา :hao7:
อิอิอิ ฟิน :katai5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-12-2016 06:53:28
ขุ่นแม่เรียวววววว กรี๊ดๆๆๆๆ แซ่บขนานแท้จริงๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 01-12-2016 07:33:42
นึกออกแต่น้อยหน่า  หนทางข้างหน้ามีแต่มาม่ารออยู่ ถ้าเขี้ยวรู้ความจริงเรื่องจอมทัพล่ะ  :katai1: แอบกิ้วก้าวใจกับพัฒนาการของพ่อคาวบอย  :o8:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 01-12-2016 07:50:02
อร๊ายยยยย ไอพี่เขี้ยว!!!  o13 ทีงี้ล่ะติดใจ ลากไปจูบใหญ่เลยยย เขินนน :-[  ว่าแต่อิเสี่ยคงไม่หึงโหดหรอกนะ เดี๋ยวจะเกิดศึกชิงนายป่าวๆ อิ๊ๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 01-12-2016 09:28:33
คืบหน้านะพี่เขี้ยวววววว :hao6:เลือดพลุ่งพล่านน :hao6: :hao6:ยอมเลยแม่เรียว
ผู้หญิงที่คุยกะแม็คคือใคร?!!! :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 01-12-2016 10:23:32
ถ้าตกลงปลงใจคบกันเมื่อไหร่นะ
เสียการเสียงานก็คราวนี้แหล่ะ
 :hao7: :hao6:

พี่เขี้ยวดูเสพติดน้องเรียววววววว
น่ารักมุมิอ่ะ
ปากเปื่อยหมดล้าวววววว

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 01-12-2016 20:28:09
แม่ขุ่นนายยยยย. ปริ่มเลยสินะคะ. แต่หวั่นๆ กับอีตาเสี่ยจุงงงงง. อย่างนี้พี่เขี้ยวเราจะสู้ไหวไหมเนี่ยยย :katai1: :mew5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 02-12-2016 10:53:52
#ตอนที่5 น้ำตาไหลเลยยยหนูเรียวฮือออกอดหนู
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 02-12-2016 11:19:43
ชอบอ่ะชอบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 02-12-2016 15:18:31
ชอบเรื่องนี้มากกกกกก เรียวเริ่ดเชิด อยากรู้ว่าตอนที่คุณเขี้ยวเบี้ยวเขาเคี้ยวยัยเรียวแล้วกลืนนี้จะหลงเบอร์ไหน
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 03-12-2016 00:27:45
 :z1: หวานและร้อนแรงสุด ๆ เลย เขี้ยวจ้า  :o8: แล้วเสียงผู้หญิงนั่นใครล่ะ ถ้าให้เดาน่าจะเป็นคนที่แอบชอบเขี้ยวอยู่และชอบว่าแม่เรียวแน่ ๆ งานนี้จะโดนใหญ่ ว่าเสี่ยสั่งแน่ ๆ เลย ชักไม่แน่ใจแล้วว่าแม่เรียวจะเอาตัวรอดจากเสี่ยยังไงเนี่ย นายแมคก้อท่าทางจะร้ายน่ะ ก้อหน้าเหมือนตัวโกงซะขนาดนั้น :katai1: ชักหวั่น ๆ แทนแล้วสิ  :เฮ้อ: รอน่ะจ้ะ กำลังมันส์เลย :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Wdf_mikeii ที่ 04-12-2016 21:55:29
รักเรื่องนี้มาก ชอบพี่เขี้ยวน่ารักกก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 04-12-2016 22:39:06
 :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready มาส่องคุณนาย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/35% :01.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-12-2016 01:09:05
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 05-12-2016 23:00:50


คาถาที่ 19 [70%]




ระหว่างทางเดินไปออฟฟิศ เรียวจันทร์ก็พยายามเค้นความจำตัวเองว่าเสียงผู้หญิงอีกคนนั้นคือใคร มันไม่ถึงกับคุ้นหู แต่ก็ไม่ใช่น้ำเสียงที่นางจะตอบได้ทันทีว่าใคร เดินไปเค้นไปก็ยังนึกไม่ออก จนกระทั่งเดินมาถึงสวนกั้นบ้านคมเขี้ยวกับพื้นที่ของฟาร์ม เรียวจันทร์ก็หยุดเดินเพราะเจอกับอัจฉราที่กำลังจะเดินตรงไปทางบ้านใหญ่ ทั้งสองคนมองหน้ากัน อัจฉรายิ้มอ่อน ส่วนเรียวจันทร์ยิ้มตาเฉี่ยว

 

 

“เขี้ยวอยู่มั้ยคะ”

 

 

“ไปตัดหญ้าให้ม้าค่ะ” ไม่เสียเวลาอ้อมค้อม เรียวจันทร์ยืดคอขึ้นอีกนิด ยกมือปัดป่ายไปตามซอกคอตัวเอง ราวกับกำลังเช็ดเหงื่อหรือควานหาอะไรสักอย่าง แต่นางอยากให้อัจฉราควานหาบางอย่างบนคอนางให้เจอ พอเห็นว่าแม่เอื้องเยื้องย่างมองหน้านางนิ่งคล้ายจะโกรธ นางก็ยิ้มเบาๆ

 

 

“พอดีโดนหญ้าหนวดเขี้ยวไชคอมาน่ะค่ะ เลยเกิดอาการแพ้เล็กน้อย” อัจฉรายิ้มเยาะหน่อยๆ

 

 

“หญ้าสายพันธุ์ใหม่เหรอคะ” เรียวจันทร์ยิ้มแบบกระจุบกระจิบ ก่อนตอบเสียงหวาน

 

 

“มีค่ะ แต่น่าจะคนละตระกูลกับหญ้าหนวดเสือ เพราะมันเป็นสีดำสากๆ สั้นเป็นตอๆ”

 

 

“ตอแหลเหรอคะ” เรียวจันทร์ทำหน้าตกใจยกมือขวาปกป้องอย่างมีลีลา

 

 

“อุ๊ยตายแล้ว ดีนะคะเนี่ยที่พูดไม่ได้ดังมาก ไม่งั้นล่ะก็ที่เพียรพยายามมาจะพังเอาซะเปล่าๆ” เรียวจันทร์ยิ้มกระจุ๋มกระจิ๋ม ขยุ้มริมฝีปากอย่างดัดจริต อัจฉราขบกรามข่มใจแว้บหนึ่ง

 

 

“อันที่จริงเนี่ย ฉันไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับคุณเพราะเรื่องผู้ชายเลยนะคะ เพราะมันไม่คูล ฉันเคยด่าคู่แค้นคนหนึ่งไว้บ่อยๆ เรื่องทะเลาะตบตีเพราะผู้ชาย เลยไม่อยากจะกลืนน้ำลายตัวเองน่ะค่ะ”

 

 

“แต่คุณก็กลืนไปแล้วนี่คะ อึกใหญ่ซะด้วย แต่ดันไม่สำลักตาย” เออ เอาซี้! นางสู้นะจ๊ะเนี่ย ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดไว้จริงๆ แต่ก็ยังไม่เบอร์แรงมาก แต่ก็อาจจะเพราะว่าเพิ่งเริ่มสตาร์ท ความแรงเลยยังไม่เท่าไหร่

 

 

เรียวจันทร์ยิ้มหวานย้อยอร่อยเหาะ ก่อนตอบเสียงหวานพอๆ กับสีหน้า “โอ๊ย เรียวตายยากคะ นี่ก็โดนแช่งชักหักกระดูกมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังสตรองจนถึงทุกวันนี้”

 

 

“ขอให้สตรองมากพอกับที่สตออยู่นะคะ” เรียวจันทร์ทำปากจู๋แล้วยักไหล่ไปที อัจฉรามองด้วยความหมั่นไส้ผสมกับความโกรธ ก่อนที่จะหมุนตัวเดินไปทางออฟฟิศ แต่อัจฉราไม่ได้แวะอาคารไม้หลังน้อย กลับเดินเลยตรงไป เรียวจันทร์คิดว่าคงจะเดินไปหาคมเขี้ยวแถวๆ ข้างฟาร์มที่กำลังตัดหญ้าอยู่

 

 

คุณนายแกไม่เดินไปขัดขวางหรอก ต้องให้โอกาสและเวลาอีกฝ่ายบ้าง และเอาเข้าจริง ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าจะพูดให้ถูกต้องก็นางนี่แหละเป็นคนก่อวอร์ครั้งนี้ แม่เอื้องเขาอยู่ของเขามาดีๆ จนมีนางเข้ามาก็ทำให้ชีวิตของหล่อนปั่นป่วนไปหมด

 

 

แต่ก็ทำไงได้ หล่อนมัวแต่เอื้องเยื้องย่างหยดย้อยอร่อยเหาะเอง ช้าราวกับระนาดเอกบรรเลงเปิดมหรสพแบบนี้หล่อนก็ไม่ได้กินกันพอดี ยุคนี้ต้องไวจ้ะ สวยด้วย รวยด้วยไม่พอ ต้องโอนเงินไวถึงจะได้กิน มัวแต่เล็มเลียตาสไตล์ยุพินล้านนาสมัยก่อนที่ต๊ะยอนๆ จนหย่อนคล้อยแบบนั้นก็นกวนไปจ้ะ

 

 

เรียวจันทร์ยักไหล่อีกที สีหน้าโนสนโนแคร์ นางก็ไม่ได้มาแย่งแฟนใครสักหน่อย ก็แม่เอื้องเขาอ่อยไม่สำเร็จเอง อีกอย่างแม่เอื้องต้องขอบคุณนาง เพราะถ้าไม่มีเรียวจันทร์ในวันนี้ แอ๊บของหล่อนก็จะไม่แตกเหมือนเกมโชว์ไทยชิงเงินล้านเมื่อสักสิบกว่าปีก่อนหรอก

 

 

RRRrrr!

 

 

“ว่าไงเป็ด เรียบร้อยมั้ยคะคุณเพื่อน” เรียวจันทร์หันไปยิ้มให้ชายหนุ่มนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่เดินผ่านมาทางนี้ก่อนที่จะก้าวเท้าช้าๆ ไปทางออฟฟิศ

 

 

“เรียบร้อยย่ะ แกนะแก ให้เพื่อนมาลำบาก”

 

 

“ลำบากแต่แกก็ช่วยฉัน เพราะแกเป็นเพื่อนที่ดียังไงล่า” เรียวจันทร์ยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียวจนผู้หญิงต่างชาติหน้าตาเหมือนหมวยแผ่นดินใหญ่คนหนึ่งมองนางด้วยสายตาหวาดหวั่นเล็กน้อย

 

 

“ไม่ออกเกียรติบัตรชื่นชมความดีฉันเลยล่ะคะ” เรียวจันทร์หัวเราะคิกคัก แล้วก็นั่งคุยกับเพื่อนสนิทต่อ เป็ดบอกว่าส่งข้อมูลทุกอย่างที่เพื่อนต้องการเข้าไปในอีเมลแล้ว เรียวจันทร์สอบถามถึงประเด็นที่ตัวเองสงสัยอีกสามสี่ข้อ เป็ดอธิบายละเอียดตามข้อมูลเท่าที่หามาได้

 

 

“นี่ถ้าเป็นกายกรรมกวางโจว แกจะอยู่ในเลเวลที่สูงนะ เล่นท่ายากมาก แต่ในแง่การแสดง ฉันขอส่งชื่อแกเข้าชิงนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากฉากนี้แล้วกัน”

 

 

“งั้นคงต้องเตรียมตัดชุดรับรางวัลแล้วละ” คุณนายนั่งไขว่ห้าง ยกมือขึ้นป้องปากหัวเราะฮุฮิๆ อยู่คนเดียว เป็ดที่อยู่อีกฝั่งก็นั่งเบ้ปากแรงๆ ใส่เพื่อนผ่านโทรศัพท์

 

 

“ทำขนาดนี้ฉันนึกว่าจะจับเขาทำผัวเป็นตัวเป็นตนเป็นคู่ชีวิตตัวเองมากกว่าทำตามคำสั่งเสี่ยทัพเถอะค่ะ”

 

 

“อ๊ะ ละใครบอกว่าฉันตามคำสั่งเสี่ยล่ะยะ” เป็ดกำลังจะอ้าปากด่าเพื่อนต่อ แต่สติก็สะดุดกับคำพูดของเพื่อนเลยเปลี่ยนเป็นอ้าปากด้วยความตกใจ

 

 

“อย่าบอกนะว่าแกรักคุณเขี้ยว?!” เรียวจันทร์เม้มปากขมวดคิ้ว

 

 

“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ ยังไม่ถึงขั้นนั้นค่ะ ขั้นที่กำลังอยู่ตอนนี้คืออยากได้อยากโดน…” เรียวจันทร์ขยุ้มปาก กลอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนจะคลี่ยิ้ม

 

 

“…แต่ถ้าโดนแล้วฉันว่ามันก็จะพัฒนากันไปเองแหละ” คุณนายนางยกมือขวาป้องปาก หัวเราะคิกๆ จนไหล่สั่น

 

 

 “แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะที่ว่าคุยกับคุณเขี้ยวมาเป็นปีอะ” รอยยิ้มหายวับไปจากใบหน้าสวยๆ ทันที

 

 

“ยังคงต้องจับตาระวัง แกนึกอารมณ์ชะนีที่คุยกับผู้มานานแล้วโดนปาดหน้าเค้กออกใช่มะว่าบางประเภทมันจะมีแรงแค้นเฮือกสุดท้ายที่กะว่ากูขอสู้สุดชีวิต ยิ่งจะแพ้ตุ๊ดด้วยแล้ว นางต้องยิ่งไม่ยอม”

 

 

“เออๆ นึกออกๆ” เป็ดเออออด้วยเพราะไม่ใช่ไม่เคยเห็นและไม่เคยสัมผัส สังคมของเรียวจันทร์บางทีก็เปรี้ยวปรี๊ดตลาดแตก บางทีก็พาลไปถึงซ่องแตกก็มี

 

 

“จับตาดูไปก่อน ตอนนี้ยังไม่มีอะไร แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มี ชะนีที่ทนคุยกับผู้ชายคนนึงมาได้นานขนาดนี้ นางต้องสตรองจนพี่ลูกเกดอยากได้เข้าทีมแน่นอน”

 

 

พอแดดร่มลมตก บรรยากาศฟาร์มก็ดี๊ดี นักท่องเที่ยวที่รอชมพระอาทิตย์ตกลับขอบภูเขาอันเป็นที่เลื่องชื่อของฟาร์มแห่งนี้ก็ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปบรรยากาศฟาร์มในยามเย็นกันเต็มไปหมด ร้านอาหารบนชั้นสองของตึกโซนอาหารและของฝากแน่นขนัดไปด้วยผู้คน อีกราวสองอาทิตย์ทางฟาร์มก็จะปิดยาวในช่วงหน้าฝน และจะเปิดอีกทีในช่วงต้นฤดูหนาว (ที่ไม่มีจริงในประเทศไทย) ผู้คนเลยรีบแห่กันมาตักตวงความสวยงามที่ฟาร์มแห่งนี้กันไว้ก่อน

 

 

เรียวจันทร์กำลังนั่งขายบัตรม้าหมุนให้กับนักท่องเที่ยว ช่วงก่อนที่จะปิดฟาร์มยาวนานหลายเดือน พ่อเขี้ยวกุดเขาใจดีเปิดให้คนได้นั่งเล่นในยามเย็นจนถึงช่วงเวลาที่ฟาร์มปิดทำการประจำวัน นางว่างๆ เลยมาขอช่วยคนงานดูแลตรงนี้ เปิดให้เล่นรอบละห้าถึงเจ็ดนาที มีการซื้อตั๋วครั้งละห้าสิบบาท ราคาเท่ากันทั้งเด็กและผู้ใหญ่

 

 

“คนขายตั๋วสวยจังครับ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้มเบ้ปากให้กับเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ดูท่าว่าเพิ่งจะแตกเนื้อหนุ่มได้ไม่นาน

 

 

“ปากหวานแบบนี้พี่ลดราคาให้เหลือ 49 บาทค่ะ” หนุ่มๆ แก๊งค์สเตอร์เกือบสิบคนหัวเราะกับมุกตลกของเรียวจันทร์ก่อนจะยื่นเงินให้ตามจำนวนคน

 

 

“พี่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายอะครับ” เรียวจันทร์หันไปมองคนถามด้วยสายตาเกือบจะจิกแล้ว แต่นางก็ปั้นยิ้มขึ้นมาทัน ไม่รู้ว่าไอ้เด็กนี่จะมีแววเด็กเปรตรึเปล่า ถ้ามีล่ะก็โดนแม่ล่อหัวแน่

 

 

“ร่างกายพี่เป็นผู้ชาย แต่จิตวิญญาณพี่เป็นผู้หญิงจ้ะ” เสียงโห่ร้องดังขึ้นก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงหัวเราะ เด็กหนุ่มกลุ่มนั้นไม่ได้ว่าอะไรต่อ ทำเพียงเดินไปต่อคิวขึ้นเครื่องเล่น เรียวจันทร์กระตุกยิ้มมุมปากขึ้นนิดหน่อย ก่อนจะส่ายหัวเบาๆ

 

 

“ซื้อคนขายตั๋วแทนตั๋วได้มั้ยครับ” คุณนายที่กำลังนั่งฉีกตั๋วให้ลูกค้าคนต่อไปหันหลังไปมองเจ้าของเสียงทุ้ม ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างตลกขบขัน ไม่คิดว่าคมเขี้ยวจะมีมุมเสี่ยวแบบนี้ด้วย

 

 

“ไม่ต้องซื้อหรอกค่ะ ให้ฟรี” ร่างสูงยิ้มขำ เอาแขนเท้ากับเก้าอี้ไม้ที่เรียวจันทร์นั่งอยู่

 

 

“เพิ่งเสร็จเหรอ” เรียวจันทร์ว่าพลางหันไปรับเงินจากลูกค้าคนต่อไป แล้วก็หันกลับไปมองใบหน้าโทรมเหงื่อของคมเขี้ยวอีกแว้บหนึ่ง

 

 

“อื้อ จะมาชวนไปกินข้าว” เรียวจันทร์ย่นหน้า ผายมือไปทางแถวซื้อตั๋วที่ยังยาวเหยียดอยู่

 

 

“ช่วงนี้กำลังฮ็อตเลย นายขึ้นบ้านไปก่อนเถอะ” ช่วงเย็นๆ ตะวันกำลังลับขอบภูเขาและลากยาวไปจนถึงช่วงหัวค่ำก่อนฟาร์มปิด จะเป็นช่วงที่คนชอบมาถ่ายรูปกับแสงสี ความสวยงาม ความคลาสสิคและความน่ารักของม้าหมุนที่มีกระโจมสีแดงอันใหญ่เป็นหลังคา

 

 

“งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ เหนียวตัว” เรียวจันทร์พยักหน้าขึ้นลงและยิ้มน้อยๆ ฉีกตั๋วให้ชายหนุ่มตัวอ้วนท้วมคนหนึ่งที่มากับลูกชาย

 

 

“แล้วคุณเอื้องล่ะ” คนตัวสูงมีสีหน้ากังวลเมื่อได้ยินคำถามนั้น

 

 

“ขึ้นไปทำกับข้าวกับแม่แล้ว” เรียวจันทร์บุ้ยปากไปซ้ายทีขวาที หันไปรับเงินจากลูกค้าสาวชาวเอเชียที่ดูแล้วไม่น่าใช่คนไทย แม่ลูกค้ามองคมเขี้ยวด้วยความตะลึงเล็กๆ

 

 

“ฉันไม่กินกับข้าวมื้อนี้ได้มั้ย” เรียวจันทร์สีหน้าเซ็งหน่อยๆ แต่พอลูกค้าคนต่อไปยิ้มให้ นางก็สลัดหน้าเซ็งนั้นทิ้งแล้วยิ้มตอบกลับไป

 

 

“ไม่เอาน่า ขึ้นไปกินด้วยกัน” คมเขี้ยวทรุดตัวลงนั่งยองๆ แหงนหน้าขึ้นนิด มองใบหน้าสวยของเรียวจันทร์ที่กำลังยิ้มแย้มให้กับลูกค้า มือซ้ายจับที่พนักเก้าอี้ มือขวายื่นไปลูบหน้าท้องเรียวจันทร์เบาๆ

 

 

“ฉันไม่อยากกินข้าวฝีมืออดีตว่าที่แฟนนาย และไม่อยากนั่งร่วมโต๊ะกับเขา ฉันอึดอัดใจ” อันนี้ไม่ต้องบอกคมเขี้ยวก็รู้ แต่เขารู้สึกขอบคุณเรียวจันทร์ที่เป็นคนกล้าพูดอย่างที่คิด ไม่งึมงำอะไรไว้ทั้งสิ้น เพราะมันทำให้เขามั่นใจยิ่งขึ้นว่าแม่คุณนายกำลังรู้สึกอย่างที่เขาคิดจริงๆ

 

 

“วันนี้ผมตั้งใจจะเคลียร์กับเอื้อง ไปนั่งให้กำลังใจหน่อย” เรียวจันทร์มองหน้าคมเขี้ยวครู่หนึ่งแล้วก็สั่นหัว

 

 

“ไม่ ฉันไปกินกับพวกคนงานดีกว่า” แต่เขาไม่รู้สึกขอบใจไอ้นิสัยดื้อรั้นอันนี้เท่าไหร่

 

 

คมเขี้ยวพ่นลมหายใจเบาๆ “ไม่ต้องไปกินกับพวกคนงาน ผมกินกับพ่อกับแม่เสร็จ จะลงมารับไปกินด้วยกัน”

 

 

“กินข้าวอะไรซ้ำซ้อน เดี๋ยวนายก็ขึ้นไปกินแล้วนี่ไง”

 

 

“ก็กินน้อยๆ แล้วค่อยมากินเยอะๆ กับคุณ” เรียวจันทร์ละสายตาจากลูกค้าหันไปมองหน้าคมเขี้ยวที่ยิ้มละมุนอยู่ นางเม้มปาก แล้วสักพักก็ยิ้มเขินและพยักหน้าลงหนึ่งที

 

 

“นายไปเถอะ อาบน้ำก็ปิดห้องนอนดีๆ อย่าให้ชะนีโหนเข้าไปในห้องได้” คมเขี้ยวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพลางหัวเราะร่วน

 

 

ร่างสูงกวาดตามองบรรยากาศกลางคืนที่ตอนนี้มีแสงไฟหลากสีจากม้าหมุนกับชิงช้ากระเช้าไม้สว่างไสวระยิบระยับ เสียงเด็กร้องกรี๊ดดังลั่นฟาร์มผสมกับเสียงหัวเราะของผู้ใหญ่หลายคน เขามองมายังคิวซื้อตั๋วขึ้นม้าหมุน เหลืออีกห้าคนก็จะหมดแถวแล้ว เขายืนรอให้เรียวจันทร์ฉีกตั๋วให้ลูกค้าจนครบคนแล้วก็ก้มตัวลงหอมแก้มนวลนิ่มไปหนึ่งฟอด

 

 

“ชอบฉันล่ะซี ถ้าชอบก็บ้อก ไม่ชอบก็บ้อก ไม่ต้องกลัวร้อกเรื่องราคงราคา” คมเขี้ยวหัวเราะจนตาหยีกับเสียงร้องของเรียวจันทร์ แม่คุณนายยิ้มกว้างจนเกิดรอยที่หางตา พอนึกได้แบบนั้นนางก็รีบใช้สองมือดึงแก้มลงและพยายามกลั้นขำ

 

 

“ทำอะไรน่ะ”

 

 

“ยิ้มเยอะอย่างนี้ไม่ดี เดี๋ยวหางตาย่น ฉันไม่อยากฉีดโบท็อกซ์” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น เบ้ปากเป็นรอยยิ้มนิดๆ

 

 

“ไปอาบน้ำสักทีสิ จะได้รีบเคลียร์” คมเขี้ยวคลี่ยิ้มเป็นรอยยิ้มแซว เรียวจันทร์ย่นจมูกและยกมือขวาตีไหล่ร่างสูงหนึ่งแปะ

 

 

“ทุ่มครึ่งก็ปิดได้แล้วนะ” เรียวจันทร์พยักหน้า คมเขี้ยวก้าวเท้าเดินไปทางบ้านใหญ่

 

 

เรียวจันทร์หันกลับมาสนใจม้าหมุนต่อ นางหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้จะทุ่มนึงแล้ว สักทุ่มสิบห้าค่อยหยุดขายตั๋วก็แล้วกัน ระหว่างนั้นก็นั่งมองบรรยากาศในฟาร์มไปรอบๆ อากาศเย็น คงเพราะถูกภูเขาโอบล้อมเอาไว้แบบนี้ และก็ใกล้เข้าหน้าฝนแล้วด้วย แต่โดยปกติที่ฟาร์มจะเย็นสบายอยู่แล้ว ส่วนกลางวันก็ร้อนตามอัธยาศัยของแดดประเทศไทย

 

 

บรรยากาศครึกครื้น แสงสีคึกคัก มีเสียงเพลงเปิดคลอเบาๆ เพื่อเพิ่มความสนุกให้กับม้าหมุน ตรงชิงช้าก็มีเช่นกัน โรงนาที่ถูกระเบิดจนเละ ตอนนี้กำลังถูกซ่อมแซมให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม ข่าวที่ฟาร์มถูกวางระเบิดแทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในฟาร์ม คมเขี้ยวบอกว่าอาจเพราะคนรู้ข่าวว่าฟาร์มจะปิดยาวตลอดหน้าฝนเลยรีบมาก่อน อีกอย่างกระแสข่าวก็ใช่ว่าจะดังมาก ไม่ได้ออกทีวีใหญ่โตระดับประเทศ คนที่มาๆ บางทีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฟาร์มเพิ่งโดนระเบิดไป

 

 

เรียวจันทร์นั่งมองบรรยากาศสนุกๆ แบบนี้แล้วก็นึกใจหายถ้าเกิดว่าที่นี่จะถูกขายให้จอมทัพ และถูกนำไปเป็นอย่างอื่น คุณนายนั่งหน้าหงอย แต่พอคิดได้ว่าจะไม่ช่วยจอมทัพแล้วก็มีแรงใจฮึดขึ้นมา แต่สักพักก่อห่อเหี่ยวลงไปนิด เพราะถึงแม้นางจะไม่ช่วย แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่าจอมทัพจะล้มเลิกความคิดที่จะอยากได้ที่ดินแถวนี้

 

 

 

 


 เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao3:



แหม พอเกินเลยต่อกันพี่เขี้ยวนี่หยอดได้หยอดดี ฮิๆ กร๊าวใจเนาะพี่เขี้ยวเนาะ คริๆ เห็นแววกลัวเมียมาแต่ไกล ใช่รึเปล่าคะพี่เขี้ยว แต่เอาจริงๆ ตอนไม่เป็นเมีย พี่แกก็กลัวคุณนายแกอยู่แล้วป่ะ 55555

ติดงานค่ะ เลยหายไปหลายวัน นี่ก็รีบมารีบอัพมากเพราะมีทำงานแต่เช้าาาา เหนื่อยลาก วันนี้เลยเม้าท์น้อยหอยสังข์มาก รู้นะว่ารอฉากอะไรอยู่ -.,-

ไปแล้วค่ะ มีทำงานแต่เช้าตรู่ เดี่ยวจิน็อคคค  ยังไงเจอกันส่วนที่เหลือนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านเรื่องนี้มากค่ะที่รออ่านกัน ดีใจที่เห็นหลายๆ คนรอคุณนายกับพี่เขี้ยวนะคะ ปลื้มมากจริงๆ ^_____^ 
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 05-12-2016 23:26:06
 :impress3: คมเขี้ยวเริ่มหวานกับเขาแล้ว  :mew3: มาแบบแม่เรียวยังแทบตั้งตัวไม่ทัน ยายเอื้องร้ายอยู่แล้ว ใครจะยอมปล่อยง่าย ๆ ล่ะ คั่วมาตั้งนานจนจะแก่แหละ ยังไงต้องสู้กันสักตั้งแหละ แต่เรามองว่ายายคนนี้ไม่ใช่ตัวสำคัญเท่าไหร่ เพราะพ่อแม่เขี้ยวก้อไม่ได้สนับสนุนอะไร ยังไงแม่เรียวก้อนำอยู่แล้ว แต่นายทัพนี่สิคงจะเป็นตัวที่จัดการยากทีเดียว แล้วแม่เรียวจะแก้ปัญหาที่จะเกิดกับฟาร์มยังไงดีเนี่ย กำลังวางแผนกันอยู่เชียว แล้วเมื่อไหร่แม่เรียวจะรู้ความจริงว่าตัวเองเป็นเจ้าของฟาร์มน่ะ  :hao3:
คุณตอมไม่ต้องรีบก้อได้น่ะจ้ะ ดูแลตัวเองก่อนจ้า คนอ่านรอได้  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 05-12-2016 23:55:17
แหมะๆๆๆๆๆ มีหยอดนะพี่เขี้ยว :z1: ติดใจในความหวานของคุณนายหละสิ :hao6:

ปล.สู้ๆนะคะไรท์
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 05-12-2016 23:59:15
พี่เขี้ยวมีความรุกก่อนจ้าาาาา :hao7: เขินไปอีก
นังแม่เอื้องที่แรงเฮือกสุดท้ายก่อบตายจริมๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-12-2016 00:26:46
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-12-2016 00:54:26
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 06-12-2016 02:43:32
เค้าคุยเหมือนแฟนกันเลยอ่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-12-2016 05:59:59
ขุ่นแม่ช่างสุดยอดจริงๆ หยอกไปหยอกมา จะได้งาบพี่เขี้ยวแล้วเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 06-12-2016 06:19:16
โอ๊ยยยยยยย หวานกันจุงเบยยยยยย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 06-12-2016 11:10:11
หือ คมเขี้ยวโหมดเต๊าะ ฉันเขินนนน :o8:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 06-12-2016 19:15:07
 o13 o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 07-12-2016 14:01:22
 :z13:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/70% :05.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 11-12-2016 00:37:49
คิดถึงตุ้สคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 11-12-2016 01:16:58



คาถาที่ 19 [100%]




หลังจากปิดการขายตั๋วและปิดเครื่องเล่นม้าหมุน เรียวจันทร์ก็กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเล่นมือถือรอคมเขี้ยวอยู่ในออฟฟิศ ระหว่างนั้นก็พยายามทวนความจำของตัวเองว่าจะต้องบอกคมเขี้ยวเรื่องที่ได้ยินมาเมื่อตอนกลางวัน เพื่อที่เขาจะได้ระวังตัว

 

 

“คุณนาย”

 

 

“ทำไมมาตัวเปล่าล่ะ ข้าวฉันอะ” นางทำหน้างอ แต่ไม่ได้จะงอนหรือโกรธ นางแค่หิวท้องร้องโครกคราก

 

 

“ผมมารับขึ้นไปกินบนบ้าน” เรียวจันทร์ทำปากว่าอ๋อและพยักหน้าขึ้นลง

 

 

“คุณเอื้องล่ะ” คมเขี้ยวทำหน้าหนักใจ พ่นลมหายใจหนักๆ ออกทางจมูก เรียวจันทร์เห็นแบบนั้นก็พอจะเดาได้ว่าการเคลียร์คงไม่ค่อยจะราบรื่นนัก

 

 

“โดนตบรึเปล่าเนี่ย”

 

 

“ไม่ แต่ก็เหมือนโดนอยู่ดี” เรียวจันทร์ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปใกล้คนตัวสูง

 

 

“นายเล่นปล่อยให้คาราคาซังมาเป็นปี แทนที่จะคุยกับเขาให้รู้เรื่องว่าไม่ได้รู้สึกอะไร”

 

 

“ก็ผมคิดว่าเดี๋ยวคงรู้สึกอะไรด้วย” เรียวจันทร์เกือบจะกลอกตาแรงๆ แต่ก็ทำเพียงแค่ทำปากยื่นหน้าเอือม นางก็อยากจะสอนหรือให้คำคมอะไรดีๆ กับคมเขี้ยวเหมือนกันนะ แต่พอย้อนมองตัวเองแล้วก็คิดว่าอย่าเพิ่งจะดีกว่า

           

 

“ผมคิดว่า…” พ่อคาวบอยสไตล์ขมวดคิ้วเข้าหากัน ราวกับกำลังนึกถึงรูปแบบความสัมพันธ์ของตัวเองกับอัจฉราที่ผ่านมาให้ถูกต้องที่สุด

 

 

“…เป็นเพื่อนกันไปก่อน เดี๋ยวมันก็มากกว่าเพื่อนไปเอง แต่สุดท้ายมันก็ไม่มากไปกว่าเพื่อนสักที” คมเขี้ยวหน้าสลดลงราวกับเด็กหนุ่มที่ไม่ประสีประสาในความรัก เรียวจันทร์ขยับยิ้มเอ็นดู

 

 

“แล้วเคยถามตัวเองมั้ยว่าทำไมไม่รู้สึกไปมากกว่านั้น”

 

 

“เอื้องเป็นคนสวย เป็นคนดี มีน้ำใจ แต่ติดตรงที่เอื้องไม่ใช่คนที่ผมอยากจะรู้สึกรัก” เรียวจันทร์พยักหน้ายิ้ม เดินเข้าไปกอดคนตัวโต เอาคางเกยหน้าอกของอีกฝ่ายไว้แล้วแหงนหน้ามองพ่อคาวบอยรูปหล่อของนาง

 

 

“นี่ดีนะเนี่ยที่ฉันไม่ได้เข้าหานายแบบเพื่อน ไม่งั้นฉันคงนก เอ่อ หมายถึงแห้วน่ะ” คมเขี้ยวยิ้ม แล้วก็คิดว่าตอนไหนกันที่เขาเลิกพังกำแพงที่เคยกั้นเรียวจันทร์เอาไว้

 

 

“คุณไม่ใช่นกหรอก คุณเป็นแรด” เรียวจันทร์ที่กำลังยิ้มๆ หุบยิ้มฉับ เปลี่ยนเป็นหน้าบูด

 

 

“เดี๋ยวจะโดนแรดขวิด” คนโดนกอดหัวเราะเบาๆ

 

 

“ไป กินข้าวกัน” คนตัวเล็กคลายอ้อมกอดออกจากคนตัวใหญ่ พากันเดินออกไปจากออฟฟิศ

 

 

คมเขี้ยวเล่าเรื่องอัจฉราให้ฟังต่อว่า ก็คุยกันเกือบชั่วโมง อัจฉราร้องไห้ เขาก็ได้แต่ขอโทษ และยอมรับว่าเพราะเรียวจันทร์ด้วยส่วนหนึ่งที่ทำให้เขารู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาไม่ได้คิดอะไรกับเอื้องเกินมากกว่าเพื่อนจริงๆ

 

 

“ฉันไม่ผิดนะคะงานนี้ ถือว่าฉันเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องด้วยซ้ำ” นางว่าหน้าตาไม่ยอม คมเขี้ยวหัวเราะเบาๆ

 

 

“ครับๆ คุณนายไม่ผิด” เรียวจันทร์ยิ้ม เดินเข้าไปเกาะแขนคมเขี้ยว เอาแก้มแนบท่อนแขน

 

 

“ถ้าพ่อกับแม่ยังไม่นอน ยังไงทำตัวตามปกติก่อนนะ ผมกลัวพ่อกับแม่ปรับตัวไม่ทัน” เรียวจันทร์พยักหน้าเข้าใจ นางไม่คิดเซ้าซี้ ถ้าตาเขี้ยวกุดอายหรือขี้ขลาดในการเปิดเผยความสัมพันธ์ พี่แกคงไม่หอมแก้มนางตรงม้าหมุนเมื่อหัวค่ำหรอก คนบนม้าหมุนมองกันเต็ม (คมเขี้ยวสังเกตแต่คนต่อแถวซื้อตั๋ว)

 

 

“แล้วคุณเอื้องเขากลับยังไงอะ ดินไปส่งเหรอ” คมเขี้ยวย่นคิ้วแล้วส่ายหัวหน่อยๆ

 

 

“เขาโทรให้เพื่อนมารับ” เรียวจันทร์พยักหน้าอีกสองสามที เป็นอันว่าจบเรื่องอัจฉราแล้วสำหรับนาง (ในตอนนี้)

 

 

ตอนที่ขึ้นมาบนบ้าน ทั้งสองคนก็ทำตัวตามปกติ เรียวจันทร์ไม่ได้เกาะแกะเซาะแซะอะไรกับคมเขี้ยว เพราะพ่อกับแม่ของคมเขี้ยวยังนั่งดูทีวีที่โซฟากันอยู่

 

 

“เขี้ยวบอกว่าหลับเหรอหนูเรียว” เรียวจันทร์พยักหน้ารับคำของบัวบูชาอย่างไวโดยไร้พิรุธ

 

 

“คุมม้าหมุนเสร็จก็แอบไปงีบค่ะคุณแม่” นางยิ้มแหะ

 

 

“นึกว่างอนอะไรไอ้เขี้ยวอีก” คนโดนเมนชั่นถึงย่นคิ้วเล็กน้อยกับความคิดของพ่อที่จ้องจะหาว่าเขารังแกลูกรักของเพื่อนสนิทตัวเอง

 

 

“อู๊ย ไม่เลยค่า เดี๋ยวนี้เรียวกับพี่เขี้ยวชอบเกี่ยวก้อยกันมากกว่าทะเลาะตบตี” เรียวจันทร์พยายามไม่ยิ้มมีพิรุธ นางปั้นยิ้มให้ปกติที่สุด

 

 

“หือ” เมฆาเลิกคิ้วขึ้นสูง ทำหน้าประหลาดใจ หันไปมองภรรยาที่ทำยิ้มงงๆ อยู่เหมือนกัน

 

 

“เอ่อ เดี๋ยวผมพาน้องไปกินข้าวก่อนนะ” คมเขี้ยวตัดบท ดันหลังเรียวจันทร์ให้เดินเข้าไปในโซนครัวด้วยกัน

 

 

เมฆากับบัวบูชามองตากันนิ่งๆ ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกระตุกยิ้มพร้อมกัน หันไปมองสองคนนั้นที่กำลังยืนเถียงกันเบาๆ อยู่ในครัว ลูกชายเพื่อนสนิทน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ลูกชายของเขาสองคนต่างหากที่เขยิบตัวไปยืนติดกับร่างเล็กของหนูเรียวซะแน่นเชียว

 

 

“ไม่เอา ฉันจะกินขนมปังปิ้งทาแยม / ใครเขาให้มากินขนมปังตอนนี้ กินข้าวสิ / ฉันนี่แหละให้ตัวเองกิน / ไหนตอนแรกบอกจะกินข้าว  / เปลี่ยนใจ จะสี่ทุ่มแล้ว กินข้าวมันหนักไป เดี๋ยวพุงออก / ออกอะไร วันนี้จับไม่เห็นมี / ไม่เอา จะกินหนมปัง…”

 

 

เมฆาตามองทีวี แต่ริมฝีปากบิดเป็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม บัวบูชามองเรียวจันทร์ที่กำลังทาแยมขนมปังโดยมีลูกชายตัวเองยกเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ แล้วก็ยิ้มบางๆ

.
.
.
.
.
.

“กินเป็นสิบแผ่นแล้ว กินแบบนี้กินข้าวอิ่มกว่าอีก” คมเขี้ยวว่าหน้าดุนิดๆ กับคนที่นั่งกินขนมปังปิ้งทาแยมสตรอว์เบอร์รี่อย่างเอร็ดอร่อยอยู่บนเค้าน์เตอร์ครัว เรียวจันทร์ไม่ตอบโต้ ทำเพียงยักคิ้วหนึ่งที กำลังจะกัดขนมปังเข้าปากอีก ก็นึกถึงประเด็นที่อยากคุยกับคมเขี้ยวได้

 

 

“นี่ๆ วันนี้ฉันบังเอิญเดินไปได้ยินอะไรมา” คมเขี้ยวย่นคิ้ว นั่งเอนตัวพิงเก้าอี้ที่เขายกมานั่งใกล้ๆ แม่ตัวดี แล้วตั้งใจฟังสิ่งที่เรียวจันทร์ไปพบเจอมาวันนี้ แรกๆ เขาก็ฟังเฉยๆ แล้วก็เปลี่ยนเป็นหน้าเคร่งเมื่อเรียวจันทร์เล่าให้ฟังแบบละเอียดยิบ เขายกสองแขนกอดอก แววตาคิดหนัก

 

 

“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเสียงผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร มันไม่คุ้นหูเลย” เรียวจันทร์ว่าอย่างเสียดายที่พยายามแล้วพยายามอีกก็นึกไม่ออกว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร เลยสรุปกับตัวเองว่าคงไม่ใช่คนคุ้นเคยของตัวเอง และเอาเข้าจริงนางก็ไม่ค่อยจะคุ้นกับคนที่เป็นผู้หญิงในฟาร์มนี้เท่าแม่ของคมเขี้ยวอีกแล้ว

 

 

“ฉันขอโทษนะที่ไม่เสือกให้มากกว่านี้ ทั้งที่ปกติฉันออกจะขี้เสือก” คมเขี้ยวที่กำลังทำหน้าเครียดถึงกับหลุดขำเบาๆ เรียวจันทร์ยิ้มแฉ่ง กัดขนมปังชิ้นสุดท้ายเข้าปาก เขี้ยวตุ้ยๆ กระเถิบก้นลงจากเค้าน์เตอร์ครัว เดินไปนั่งคร่อมตักคมเขี้ยวที่เจ้าตัวก็อ้าแขนอ้าขารับแม่คุณนายให้นั่งลงบนตักตัวเอง

 

 

“ป๋ากับแม่จะไม่ตื่นมาจ๊ะเอ๋เราตอนนี้ใช่มั้ย” คมเขี้ยวส่ายหัวน้อยๆ สองมือลูบบั้นท้ายแสนงอนของเรียวจันทร์อย่างเพลินมือ

 

 

“อาทิตย์หน้าเราไม่อยู่ มันจะไม่เป็นการเปิดช่องทางให้คนเข้ามาทำมิดีมิร้ายฟาร์มนายเหรอ” คุณนายว่าเป็นกังวล สองมือลูบสันกรามของคมเขี้ยวเบาๆ

 

 

คมเขี้ยวนิ่งไปนิดก่อนที่จะตอบ “ไม่หรอก”

 

 

เขาตอบเหมือนไม่คิดอะไรมาก แต่ตอนนี้ในหัวก็กำลังคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง อย่างน้อยก็ได้เบาะแสเพิ่มเติมจากเรียวจันทร์ มันอาจจะมีประโยชน์ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาคนร้าย

 

 

“นายว่าคนที่วางระเบิด จะเป็นคนเดียวกับคนนี้มั้ย” คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์นิ่ง แล้วก็ส่ายหัวช้าๆ สองสามที

 

 

“ไม่ คนที่วางระเบิด น่าจะเป็นคนนอก ส่วนคนที่ทำร้ายวัว ก็ชัดเจนว่าเป็นคนในฟาร์มตอนที่คุณมาเล่านี่แหละ” คมเขี้ยวหายใจพรู ใบหน้าหล่อตึงเครียดนิดๆ เรียวจันทร์ยกมือขวาลูบหน้าผาก ลากลงมาที่แก้มและเอามือประแก้มสากไว้ ก้มลงหอมแก้มอีกข้างของพ่อคาวบอยดังฟอด

 

 

“ถ้าฉันบุกเข้าไปตอนนั้น เราอาจจับนายแม็คได้” เรียวจันทร์ไม่ใช่ไม่กล้าบุกเข้าไปให้ลูกน้องเสี่ยทัพเห็นว่านางได้ยินสิ่งที่หมอนั่นพูดกับชะนีลึกลับนั่นแล้ว แต่มันเป็นเพราะลึกๆ นางกลัวแหละเห็นแก่ตัวต่างหาก

 

 

กลัวว่าถ้าเกิดคมเขี้ยวจับลูกน้องเสี่ยทัพได้ มันจะบอกว่าเรียวจันทร์เข้ามาที่นี่ทำไม นางเพิ่งได้ใกล้ชิดกับคมเขี้ยว นางไม่อยากเสียตรงนี้ไป

 

 

อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้…

 

 

“ดีแล้ว เรามีแค่คำพูด ยังไม่มีหลักฐานที่มัดตัวมันได้” คมเขี้ยวนึกโกรธคนงานคนนั้นอยู่เหมือนกัน เขาไม่ได้สนิทคลุกคลีกับคนงานทุกคน เขารับเข้ามาเพราะเห็นว่าคงมาช่วยกันทำงานหนักๆ ในฟาร์มได้ ไม่ได้คิดลึกซึ้งหรือสืบประวัติเทียบเท่าบริษัทระดับโลก ที่นี่ก็แค่ฟาร์มเล็กๆ อยู่กันแบบครอบครัวเท่านั้นเอง

 

 

“ตำรวจเขามีความคืบหน้ามั้ย”

 

 

“กลับมาจากเดินป่า คงได้อะไรเพิ่มเติม” ตำรวจขอเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์ คมเขี้ยวเลยบอกว่าหลังจากเขากลับมาแล้วค่อยเข้ามาคุยกันก็ได้ เขาขอแค่จับตัวคนร้ายที่วางระเบิดให้ได้ก่อน เพราะมันอันตรายกว่าคนที่พยายามตัดช่องทางทำมาหากินฟาร์มเขา

 

 

“ฉันตื่นเต้นจัง ไม่เคยเดินป่าเลย ขอโทษนะที่เอาเป็ดไปด้วย เผลอไปเม้าท์ให้นางฟัง นางเลยอยากไปอะ” หึ ไม่ใช่หรอก คุณนายนั่นแหละบังคับให้เพื่อนไปด้วยกัน

 

 

“ไม่เป็นไร” คมเขี้ยวยิ้มอย่างใจดี เรียวจันทร์ยิ้มกริ่ม ยื่นหน้าไปจูบคมเขี้ยวหนึ่งทีเน้นๆ ดังหมั่ว

 

 

“คืนนี้นอนด้วยกันมั้ย” คมเขี้ยวเอ่ยชวนตาเป็นประกายเล็กๆ

 

 

“นายลงไปนอนกับฉันสิ นอนบนนี้ตื่นขึ้นมาคุณป๋ากับคุณแม่จะเห็นได้ง่ายนะ นอนข้างล่างนายยังแกล้งว่าตื่นเช้ามาทั้งชุดนอนได้” คมเขี้ยวยักคิ้วหนึ่งที

 

 

“บนนี้แหละ ตื่นสายๆ หน่อย ป๋ากับแม่ก็ออกไปนอกบ้านแล้ว” เรียวจันทร์ทำหน้าคิดสักแปบก่อนจะยักไหล่ตามไปด้วยพยักหน้าขึ้นลงสามที

 

 

“แล้วแต่เจ้านายบัญชาเลยค่ะ” คมเขี้ยวยิ้ม ยื่นหน้าไปซุกซอกคอเรียวจันทร์แล้วหอมกลิ่นหอมๆ ไปหนึ่งฟอด และจูบลงบนผิวขาวเนียนละเอียดหนึ่งที

 

 

“ก่อนนอนขอแปรงฟันก่อนนะ มีแปรงสีฟันใช่เปล่า”

 

 

“ใช้ของผมแหละ” เรียวจันทร์ตาโต

 

 

“นายไม่ถือเหรอ”

 

 

“ถืออะไร ลิ้นผมเข้าไปเลียในปากคุณหมดแล้ว แค่ใช้แปรงอันเดียวกันเป็นไรไปล่ะ” เรียวจันทร์เม้มปาก กลั้นยิ้มเขิน มองคมเขี้ยวทั้งนึกหมั่นไส้และเขินผสมกัน และสุดท้ายนางก็พ่ายให้กับความเขิน ทิ้งหัวลงบนไหล่ขวาของคมเขี้ยว

 

 

“อ๋อย… คำพูดคำจานะ ไม่สงสารหัวใจฉันเลย มันจะเต้นจินตลีลาได้อยู่แล้ว” 

 

 

“ของผมเต้นบัลเล่ต์” เรียวจันทร์หัวเราะ ดึงหัวตัวเองขึ้นจากไหล่ของคมเขี้ยว

 

 

“ไปนอนกันเถอะ อยากโดนนายกอดแล้ว” นางลุกออกจากตักคมเขี้ยวเพื่อให้ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนขึ้นเต็มความสูง คมเขี้ยวเดินจูงมือแม่คุณนายไปทางห้องนอนตัวเองที่จะอยู่ฝั่งมุกหน้าบ้านเห็นวิวในฟาร์ม ส่วนของป๋ากับแม่จะอยู่อีกฝั่งที่เป็นวิวป่าสนกับภูเขา

 

 

เรียวจันทร์กวาดตามองห้องนอนคมเขี้ยวที่เปิดประตูเข้าไปก็เจอกับเตียงไม้คิงไซส์อยู่กลางห้อง โซฟาหนังตัวยาวสีดำเข้มไว้นอนเหยียดขาดูทีวีอยู่ใกล้กับประตู ผนังห้องฝั่งตรงข้ามเป็นกระจกที่แบ่งช่องไฟด้วยไม้ เห็นวิวมุมกว้างของฟาร์มทะลุผ่านต้นหูกวางด้านหน้าของบ้าน เฟอร์นิเจอร์ตรงปลายเตียงเป็นแบบบิลด์อิน มีโต๊ะทำงานอยู่ใกล้กับกระจก บนโต๊ะจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ข้างกันฝั่งซ้ายมือของโต๊ะเป็นชั้นวางหนังสือสีดำเข้ม ตัดกับสีน้ำตาลอ่อนของโต๊ะทำงาน ทีวีจอแบนสีดำติดอยู่ผนังปลายเตียง ไว้สำหรับนอนดูทีวีได้สบายๆ

 

 

“ห้องน้ำเดินเข้าไปข้างใน ผมรอที่เตียงนะ” คมเขี้ยวชี้ไปทางช่องทางเดินที่ผ่านเตียงไป เรียวจันทร์เดินทะลุเข้าไปก็เจอกับโซนแต่งตัวที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก มีแค่ตู้เก็บเสื้อผ้าสีดำสองตู้ตั้งติดกัน ผนังอีกฝั่งมีราวสีเงินไว้สำหรับแขวนผ้าเช็ดตัว โต๊ะเครื่องแป้งที่ไม่ค่อยมีอะไรตั้งอยู่ในมุมด้านในสุด ประตูห้องน้ำอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เดินเข้ามา นางเปิดเข้าไปและจัดการแปรงฟันให้เรียบร้อย

 

 

พอจัดการตัวเองเสร็จก็เดินกลับมาโซนห้องนอน คมเขี้ยวกำลังกดปุ่มปิดม่านสีเทาเข้มอัตโนมัติให้เลื่อนปิดกระจก เขาเดินไปถลกผ้านวมสีเทาอ่อนออก กวักมือให้เรียวจันทร์สอดตัวเข้ามาในผ้านวม พอล้มตัวนอนลงได้ เรียวจันทร์ก็กระเถิบเข้าไปนอนใกล้ๆ เจ้าของห้องนอนที่อ้าแขนรอให้เป็นหมอนหนุนอยู่แล้ว

 

 

“ถ้าเมื่อยแขนก็เอาหัวฉันออกนะ เดี๋ยวเลือดไม่เดิน ตัดแขนทิ้งเพราะฉันอีก” คมเขี้ยวยิ้มขำน้อยๆ วางมือลงบนไหล่ขวาของเรียวจันทร์

 

 

“อย่าทำมิดีมิร้ายกับฉันนะ”

 

 

“ผมมากกว่าที่ต้องพูดแบบนั้น”

 

 

“นายพลาดละที่ให้ฉันเข้ามานอนด้วย”

 

 

“เฮ้อ ผมเอาภัยมาใกล้ตัวสินะ” เรียวจันทร์เบ้ปาก แหงนหน้าขึ้นไปขบใบหูคมเขี้ยวเบาๆ มือขวาสอดเข้าไปในกางเกงนอนของคมเขี้ยวแล้วคว้าไส้กรอกเขาใหญ่ที่นางอยากกินเต็มมือ

 

 

“แน่ะๆ ยัง ยังอีก” เพี๊ย!

 

 

คมเขี้ยวดันผ้านวมลงไปข้างล่าง ยกมือซ้ายตีมือเรียวจันทร์ไปหนึ่งที แม่คุณนายหัวเราะคิกคัก ทำท่าจะดึงมือออกจากกางเกง แต่ก็เปลี่ยนเป็นล้วงลึกลงไปลูบคลำฐานของไส้กรอกที่กลมกลึงน่าคลึงเล่นทั้งวี่ทั้งวัน

 

 

“จันทร์ไร” คมเขี้ยวกดเสียงลงต่ำ เขม้นมองหน้าสวยๆ อย่างพยายามดุ เรียวจันทร์ยิ้มแป้น ดึงมือออกจากกางเกงนอนของคมเขี้ยว ดึงมือขึ้นมาสูดดมเข้าปอดแรงๆ

 

 

“อื้มมม กลิ่นหอมมาก ดมแล้วฟิ๊นฟิน” คมเขี้ยวย่นคิ้วใส่แม่คุณนาย ดึงกางเกงขึ้นตามเดิม เรียวจันทร์นอนลงบนแขนคมเขี้ยวตามเดิม คมเขี้ยวกำลังจะดึงผ้านวมขึ้นห่ม แต่สักพักก็ต้องสู้รบกับมือซนๆ ของคนข้างๆ อีก

 

 

 

“คุณเรียว” เขาว่าเสียงต่ำอีกครั้ง ครางในลำคอฮึ่มๆ เป็นการขู่ แต่เรียวจันทร์ไม่ได้สนสักนิด อีกฝ่ายสอดมือเข้าไปในเสื้อยืดของเขา ลูบไปตามกล้ามท้อง และเลื่อนไปที่หัวนมก่อนจะสะกิดสองสามที เล่นเอาคมเขี้ยวตัวกระตุก หน้าท้องหดเกร็ง

 

 

“ซนอีกละ นอนนิ่งๆ ได้มั้ยเนี่ย โอ๊ย โอ๊ะ ซี๊ด…” คมเขี้ยวย่นคิ้ว สีหน้าทรมานเล็กๆ เมื่อเรียวจันทร์จับเสื้อยืดเขาเลิกขึ้นจนถึงหน้าอกแล้วก็ก้มลงดูดเลียหัวนมเขา

 

 

“เรียวจันทร์ถ้ายังไม่หยุด เดี๋ยวจะโดน” แม่คุณนายหยุดดูดเลียหัวนมสีเข้ม กระดกหัวขึ้นมองหน้าคมเขี้ยวที่ตอนนี้กำลังกัดฟันขมวดคิ้วแน่น

 

 

“โดนไรเหรอ ใช่อย่างที่ฉันอยากโดนรึเปล่าอะ” นางถามเสียงยานหวาน หน้าตากะลิ้มกะเหลี่ย กัดริมฝีปากล่างแน่น เอียงคออย่างยั่วยวน มองคมเขี้ยวอย่างที่พร้อมจะเสียตัวให้เต็มที่ มือขวายื่นไปสะกิดหัวนมของคนที่นอนอยู่เบาๆ สร้างความสยิวเสียวท้องน้อยให้คมเขี้ยว

 

 

“ท่าทางจุดอ่อนจะอยู่ที่หัวนมนะเนี่ย คิๆ” คมเขี้ยวถลึงตามองแม่ตัวดี เริ่มคิดว่าเขากำลังพลาดจริงๆ ที่พาเรียวจันทร์มานอนด้วย เพราะแม่คุณนายมือยั้วเยี้ยเหลือเกิน

 

 

“นอนเลยๆ” คมเขี้ยวดึงเรียวจันทร์ให้นอนลงบนแขนตัวเอง ก่อนที่จะพลิกให้เรียวจันทร์อยู่ด้านหน้าตัวเองและใช้สองแขนกอดตัวบางๆ เอาไว้แน่น ขาซ้ายก่ายขึ้นตรงสะโพกมน ล็อคขาเรียวจันทร์ไว้ไม่ให้ดิ้นหลุด

 

 

“อยู่อย่างนี้ทั้งคืนนี่แหละ จะได้ไม่ดื้อไม่ซนกับตัวผมอีก”

 

 

“แหม ว่าแต่เขา อิเหนาดอแข็งเชียวนะ” เรียวจันทร์บิดหน้าไปมองหน้าพ่อไส้กรอกเขาใหญ่ที่ตอนนี้ความใหญ่นั้นกำลังตุงดันบั้นท้ายนางอยู่ คมเขี้ยวรีบเก๊กหน้าเข้มทันที

 

 

“ก็ปล่อยให้มันแข็งไปอย่างนั้นแหละ เดี๋ยวมันก็หาย”

 

 

“ไม่เอาจริงเหรอ ฉันใช้ครีมทาผิวแทนเจลได้นะ แก้ขัดไปก่อน ลื่นเหมือนกัน” นางยิ้มกว้างขำด้วยความตลกกับพ่อตัวโตที่กอดนางแน่นเพียงเพราะกลัวนางจะไปปลุกปั่นอารมณ์อีก

 

 

“บอกแล้วไงว่าขอละลายพฤติกรรมก่อน เรียนการแสดงมาต้องเข้าใจคำนี้ดิ” เรียวจันทร์หัวเราะคึๆ จนไหล่สั่น คมเขี้ยวมองอย่างหมั่นไส้ ยกขาที่ก่ายสะโพกอีกฝ่ายไว้ออกและใช้มือซ้ายตีดับป้าบ

 

 

“โอ้ย!” เรียวจันทร์หยุดหัวเราะหน้าตื่นกับความเจ็บที่มาไม่ทันตั้งตัว

 

 

“เป็นสายเอสเอ็มก็ไม่บอก นี่แอบมีห้องเซ็กส์ทอยมหาสนุกเหมือนในนิยายที่ฉันเคยอ่านมั้ยเนี่ย” (นิยายใครนะ -.,-)

 

 

“เพ้อเจ้อละ นอนซะทีแม่คุณนาย ไม่งั้นให้กลับไปนอนข้างล่างนะ” คมเขี้ยวแกล้งขู่ ยกขาขึ้นมาไว้ที่เดิม แขนซ้ายกอดร่างเรียวจันทร์ไว้ตามเดิมเช่นกัน

 

 

“อะๆ นอนก็ได้ๆ เห็นว่าเป็นคืนแรกของการเข้าหอหรอกนะ เลยจะอนุโลมก่อน” คมเขี้ยวพยายามกลั้นยิ้มขำ แกล้งส่ายหัวทำหน้าระอากลบเกลื่อน

 

 

จุ๊บ~

 

 

“ฝันดีครับคุณนาย” คมเขี้ยวก้มลงจุ๊บแก้มนวลนิ่มของเรียวจันทร์หนึ่งที เจ้าของแก้มนุ่มบิดหน้ามามองนิดๆ แล้วยิ้มให้ ก่อนจะบิดหน้ากลับไปองศาเดิม

 

 

 “ฝันดีพ่อเขี้ยวกุด” คมเขี้ยวทิ้งหัวลงนอนบนหมอนตามเดิม กอดหมอนข้างอันใหม่ที่มีชีวิตแสนซุกซนไว้แน่น กำลังพาตัวเองใกล้เข้าสู่นิทราก็ได้ยินเสียงแม่คุณนายดังแว่วมา

 

 

“ระวังฉันลักหลับนะ”

 

 

“ฮื่อ!!” เรียวจันทร์หัวเราะกับเสียงครางขู่ในลำคอ ก่อนที่จะพยายามพาตัวเองเข้าสู่นิทราเช่นกัน แม้ว่าจะตัวร้อนวูบวาบกับความเป็นชายของพ่อเครางามที่ดันก้นนางอย่างแนบชิดก็ตาม

 

 

คมเขี้ยวแอบยิ้มนิดๆ ที่แม่ตัวแสบเงียบไปแล้ว เขายกมือซ้ายขึ้นไปตรงหัวเตียง คลำๆ สักแปบก็เจอสวิตช์ไฟ เขากดปิดไฟในห้องนอน เหลือเพียงแสงไฟสีเหลืองอ่อนนวลตาใต้เตียงที่ส่องกระจายตัวกับพื้นกระเบื้อง แล้วก็เอาแขนมากอดร่างเรียวจันทร์ไว้ตามเดิม   

 

 


 

 

 

 เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao3:



เขายังไม่มีไรกานนนน 55555 อย่าเพิ่งรีบๆ พี่เขี้ยวยังไม่พร้อม แต่ก็แข็งสู้มือคุณนายแม่ตลอดนะ คริๆ ส่วนขุ่นแม่เรียวก็เปรี้ยวเสมอ มือไม่เคยพัก นี่ถ้าถึงเวลานั้น คงเป็นแบบ ยักไม่เพ็ด รึเปล่าคะแม่ 55555

คืนที่เฝ้ารอคอยก็คือแบบ ขุ่นแม่ได้นอนเตียงเดียวกับพี่เขี้ยวอะเนาะ หลังจากที่ต้องนอนคนละเตียง คนละหลังคามานาน วันนี้ได้กระเถิบขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกันละนะ อิๆ แต่กว่าจะได้นอน พี่เขี้ยวก็โดนเต๊าะไปหลายยกเชียว

หายไปห้าวันได้ พอดีติดงานอย่างที่เคยเม้าท์ไว้รอบก่อนค่ะ ตอนนี้เสร็จงานละ เพิ่งเสร็จวันนี้เลยค่ะ จะได้พักสักแปบ แล้วเดี๋ยวงานจะเข้ามาอีก ก็จะรีบอัพรัวๆ

ขอบคุณทุกคนที่รออ่านเรื่องนี้กันอยู่นะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะที่รอพบขุ่นแม่กับพี่เขี้ยวเสมอๆ ดีใจนะคะที่รักขุ่นแม่ในแบบที่ขุ่นแม่เป็น ^__^

พบกันตอนหน้าค่า ขอบคุณทุกเม้น ทุกโหวตที่มีให้กันนะคะ

แท็กเรื่องนี้ก็ #WorksTheMagic ไม่ก็ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iAlexiajang ที่ 11-12-2016 01:45:27
เมื่อไรเขาจะอึ้บกันนนนนนนน



อุ๊ยยยย แมวพิมพ์ค่ะ #วิ่งหนี
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 11-12-2016 06:37:24
ความสัมพันธ์ค่อยๆถักทอ กลัวดราม่าเรื่องนางเรียวนี่แหละ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 11-12-2016 06:55:44
วุ้ยยยย พี่เขี้ยว ไม่รอดมือขุ่นแม่แน่ 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 11-12-2016 08:37:40
ถึงขนาดพี่เขี้ยวชวนนอนด้วยแล้ว คงอีกไม่นานล่ะ หุหุ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 11-12-2016 09:03:42
อินังเอื้องรีบๆออกไปจากชีวิตพี่เขี้ยวเถอะข่าา นางขัดหูขัดตาเหลือเกินน แอบคิดว่าถ้าพี่เขี้ยวรู้ความจริงเรื่องที่เรียวจันทร์เข้ามาในไร่เพราะเสี่ย จะผิดหวังแค่ไหนนะ  :เฮ้อ:
ส่วนพี่คมเขี้ยวคะ จะเล่นตัวละลายพฤติกรรมอีกนานมั้ยยย โอ้ยย นี่ก้ลุ้นให้เค้าได้กันแล้วค่าาาา  :-[ ยอมๆไปเด๋วจะติดใจ อิๆ แค่นี้พ่อแม่ก้สงสัยแล้วว  :z2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 11-12-2016 11:44:59
 :hao7: :hao6: :katai5: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-12-2016 13:36:17
อร๊ายยยย.  อีคุณแม่ไม่ได้กินได้ไง อิอิออ ครั้งหน้าไม่รอดแน่พ่อเขี้ยวกุด อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 11-12-2016 14:40:10
คุณแม่เรียวพอหอมปากหอมคอมั้ยจ้ะเตียงเดียวกันแล้วววว :hao6: :hao6:
จะเต๊าะจนกว่าพี่เขี้ยวจะระทวยเคลิ้มทั้งตัว :z1: :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 11-12-2016 15:12:25
อ่ะๆ ย้ายมาเตียงเดียวกันก่อน
ค่อยๆละลายพฤติกรรมเนอะ



หวานกันดีอ้ะ
หวานสไตล์เค้าทั้งคู่นั่นแหล่ะ
ฮ่าาาา

กลัวตอนพ่อเขี้ยวกุดรู้ความจริงจังเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 11-12-2016 16:33:22
ขุ่นนายแม่แซบบบบบบบบ  :katai3: :katai3: :katai3: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-12-2016 19:56:33
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-12-2016 00:18:27
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 12-12-2016 01:36:45
 :z1: แม่เรียวค่อย ๆ เลื่อนไปทีละขั้นเรื่อย ๆ น่ะจ้ะ พี่เขี้ยวค่อย ๆ ตกหลุมลงไปทีละนิดล่ะ ตอนนี้แอบเสียวแทนแม่เรียวว่าความลับจะเปิดเผยเมื่อไหร่ว่าแม่เรียวเข้ามาแบบมีแผนการแน่ะ งานนี้พี่เขี้ยวจะโกรธขนาดไหนเนี่ย  :hao3: แต่ยังไงเสร็จแม่เรียวไปก่อนน่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 12-12-2016 22:52:27
เป็นป้าป้าลักหลับคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๑๙/100% :11.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 14-12-2016 16:09:12
คุณนายตื่นมาลักหลับเถอะค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 16-12-2016 18:32:07


คาถาที่ 20 :: Black magic. [มนตร์ดำ] (50%)



  “ไม่ต้องบอกใคร รู้เท่านี้พอ กูเชื่อว่าพวกมึงทำได้ แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ กูจะถือว่ามีหนอนบ่อนไส้อยู่ในพวกมึง” เจ้าของฟาร์มว่าหน้านิ่งมาดดุแบบที่ไม่ต้องใส่อารมณ์จริงจังมาก ทำเพียงมองปราดคนงานทั้งสิบคนอย่างช้าๆ แต่ว่าดวงตาไม่หวั่นไหวใดๆ บ่งบอกให้รู้ว่ากูพูดจริง

           

 

“ไม่ต้องห่วงพี่ ที่นี่ก็เหมือนบ้านพวกเรา ยังไงเราจะปกป้องให้เต็มที่” ไอ้เทิงบอกสีหน้ามุ่งมั่นเพิ่มความมั่นใจให้เจ้านายของมัน ว่าพี่เขี้ยวไว้ใจไม่ผิดคนแน่นอน

           

 

“กูบอกตำรวจไว้แล้ว มึงจะขอความช่วยเหลืออะไร บอกเขาได้เลย”

           

 

“ครับพี่เขี้ยว”

           

 

“กูหวังว่าจะได้ยินข่าวดีหลังจากกลับมา…” สายตาคมเขี้ยวฉายแววเหี้ยมขึ้นแว้บหนึ่ง ก่อนที่จะหายไป

           

 

“…กูคงใจดีกับมันมากไป เลยทำร้ายบ้านกูไม่หยุด”

           

 

“แล้วพี่เขี้ยวนึกใครไว้ในใจมั้ย” คนถูกถามเงียบ ในหัวนึกถึงบางสิ่งที่รู้ แล้วก็ตอบคำถามลูกน้อง

           

 

“กูอยากจับให้ได้คาหนังคาเขาจริงๆ” พวกคนงานพยักหน้ารับ คมเขี้ยวบอกให้คนงานไปทำงานตามหน้าที่และฝากดูแลฟาร์มช่วงที่ตนไม่อยู่ เขาเดินกลับไปตรงหน้าประตูบ้านที่มีรถครอสโอเวอร์คาร์สีเทามันวาวจอดเปิดท้ายเพื่อขนย้ายของขึ้นรถอยู่

           

 

“ไอ้ดิน คุณเรียวจันทร์มึงอะ”

           

 

“ไปช่วยแม่บัวขนของทำอาหารอยู่ แหม่ ห่างนิดห่างหน่อยไม่ได้เลยนะพี่เขี้ยว” ไอ้ดินจิกกัดพี่ชายบุญธรรมด้วยความหมั่นไส้ คมเขี้ยวขมวดคิ้วมองไอ้กล้ามโตที่เดี๋ยวนี้ชักแสดงสีหน้าเก่ง ดูปีกกล้าขาแข็งขึ้นตั้งแต่เจอกับแม่จันทร์ไร

           

 

“เอ๊ เดี๋ยวนี้ปากมึงจัดเหมือนคุณเรียวของมึงเลยนะไอ้ดิน”

           

 

ไอ้ดินทำหน้าคล้ายว่าเคียดแค้น ยกมือขวาตบอกซ้ายตรงตำแหน่งหัวใจดังตับๆ แล้วตอบเสียงเข้ม “ใจที่ถูกทำให้ช้ำ มันเลยด้านชา”

           

 

“โอ๊ย ไอ้ดิน” คมเขี้ยวส่ายหัว สีหน้าเหลือเชื่อและผสมเหลืออดกับไอ้ตัวโตที่เริ่มจะติดจริตแม่คุณนายมากขึ้นทุกที

           

 

“เขาแค่นั่งตักกู มึงทำอย่างกับกูและเขาได้เสียกันแล้วงั้นแหละ” นี่ถ้ามึงรู้ว่าคุณเรียวจันทร์ขึ้นมานอนห้องกูสามคืนติดแล้ว มึงไม่บอกว่าตัวเองกระอักเลือดตายเลยเหรอ

           

 

“เดี๋ยวก็ต้องได้กัน โห่ ดินไม่ได้โง่” มันว่าหน้าหงิก คมเขี้ยวยกมือทำท่าจะโบกเข้าที่หัวมันสักทีแต่ก็ไม่ได้ทำจริงๆ เพราะป๋ากับแม่และเรียวจันทร์เดินออกมาพอดี

           

 

“คุณเรียว แล้วเพื่อนคุณล่ะ”

           

 

“ถึงแล้วๆ นางกำลังจะเลี้ยวเข้ามาละ” เขาพยักหน้าและช่วยร่างเล็กขนของใส่ท้ายรถจนอัดแน่น ผ่านไปได้สักห้านาที แสงไฟจากรถยนต์คันหนึ่งก็สว่างแทรกความมืดยามเช้ามืดมาทางพวกเขา รถคันนั้นขับเข้าไปจอดด้านหลังออฟฟิศ ก่อนที่เจ้าของรถจะลงมาพร้อมกับกระเป๋าเป้หนึ่งใบ

           

 

“เป็ดมาช้าไปรึเปล่าคะ” ศศิประภาหอบน้อยๆ หันไปมองหน้าเพื่อนสนิทที่ทำเพียงยักไหล่ทักทายกลับมาแบบสวยๆ

           

 

“ทันลูกทัน เพิ่งจัดของขึ้นรถเสร็จ” เป็ดถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยกกระเป๋าตัวเองให้ดินเอาไปเก็บไว้ท้ายรถ

           

 

“ไอ้ดินขับไหวใช่มั้ย”

           

 

“ไหวครับพ่อ สิบกว่ากิโลเอง”

           

 

“เออ ถ้าพ่อเผลอหลับ ก็ปลุกมาถามทางก็ได้ อาจจะงงๆ ตอนพ่อไปสำรวจครั้งแรกก็เกือบหลง”

           

 

“ป่าที่เราจะไปนี่มันคดเคี้ยวเลี้ยวเลื้อยมากเลยเหรอคะ” เรียวจันทร์ถาม ยกมือไปลูบท้องคมเขี้ยวเบาๆ โดยที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร

           

 

“ก็นิดหน่อยหนูเรียว คนมันถึงได้รู้จักกันน้อยไง แต่นั่นแหละข้อดี เพราะอุดมสมบูรณ์มาก ที่จริงก็ถือว่าอยู่ใกล้ฟาร์มเรานะ ป๋าก็เพิ่งรู้จักนี่แหละ มีเพื่อนไปเที่ยวมาเขาเลยมาแนะนำ” เรียวจันทร์พยักหน้าลอยๆ มือก็บีบกล้ามท้องคมเขี้ยวที่มีเนื้อย้อยนิดหน่อย แต่นางชอบจับมาก

           

 

 

“ขึ้นรถกันเถอะเนอะ” บัวบูชาเปิดประตูรถนำทุกคน ดินเข้าประจำที่คนขับมีเมฆานั่งข้างๆ บัวบูชานั่งแถวกลาง ส่วนคมเขี้ยวก็

           

 

“เดี๋ยวคุณเป็ดนั่งกับแม่เลยนะครับ ผมนั่งหลังสุดกับเรียวเอง” เป็ดอ้าปากหวอนิด กะพริบตาปริบๆ ด้วยความทึ่งเล็กๆ พอหันไปมองเพื่อนตัวเอง นังเก้งตัวแสบก็ทำเพียงยักคิ้ว เบ้ปากสีหน้าชนะ

           

 

“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา” เป็ดตอบรับอย่างยิ้มแย้ม แม้ในใจจะนึกหมั่นไส้อีเรียวจันทร์มันซะเหลือเกิน

           

 

คมเขี้ยวเปิดประตูให้เรียวจันทร์ขึ้นไปนั่งก่อนแล้วเขาค่อยตามขึ้นไป พอประตูสุดท้ายปิดลงดินก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งนำรถออกไปตามทางออกของฟาร์ม

           

 

บรรยากาศในรถช่วงแรกๆ มีเสียงพูดคุยสอบถามของเป็ดถึงแพลนว่าจะทำอะไรบ้าง เมฆาก็เล่าให้ฟังว่าวันแรกจะทำอะไรที่ไหนยังไง มีบัวบูชาคอยเสริมเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ เป็ดตั้งใจฟังทุกคำพูดของผู้ใหญ่ทั้งสอง ตั้งแต่กิจกรรมในวันแรกและอีกสองวันหลัง มีตอบโต้ ถามไถ่เพิ่มเติมบ้าง ส่วนดินนั่งขับรถเงียบๆ

 

 

ส่วนสองคนหลังสุด กำลังทำเนียนนั่งจับมือ คล้องคอ คล้องแขนกันเงียบๆ เช่นกัน คมเขี้ยวยกแขนคล้องคอเรียวจันทร์ดึงให้เข้ามาใกล้ตัว แต่พอเหลือบๆ เห็นคล้ายว่าแม่เขาจะหันมามองก็เอาแขนลงไปโอบเอวเรียวจันทร์ไว้เฉยๆ แม่คุณนายอมยิ้มกับความเนียนความนิ่งของคมเขี้ยว นางเลยแกล้งด้วยการยื่นมือขวาไปลูบเป้ากางเกงยีนแสนตึงนั่นเบาๆ คมเขี้ยวทำตาโตใส่นางแว้บหนึ่ง ก่อนจะยกนิ้วชี้มือซ้ายขึ้นจรดริมฝีปากและเสียงชู่วเบาๆ ราวกับจะปรามให้เรียวจันทร์อยู่ในความสงบ

           

 

“ไม่เอาๆ” คมเขี้ยวขยับปากแบบไม่มีเสียง ทำตาดุใส่แม่ตัวดีที่ยิ้มทะเล้น มือขวาก็ลูบเป้าเขาไม่หยุดจนลูกชายเขาเริ่มงัวเงียๆ ลืมตาขึ้นบ้างแล้ว

           

 

“ว่าไงเขี้ยว ที่ป๋าถามน่ะ” คมเขี้ยวใจหายวาบ หันไปมองแม่ตัวเองที่เอี้ยวหน้ามาถาม เขานั่งตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าละสายตามองไปที่มือเรียวจันทร์บนเป้าตัวเอง

           

 

“ป๋าว่าไง” เขาเก๊กนิ่ง เก๊กเนียนและรีบดึงมือเรียวจันทร์ออกจากเป้าตัวเองตอนที่แม่หันกลับไปแล้ว

           

 

“จะไปปีนน้ำตกวันนี้เลย หรือพรุ่งนี้ดี”

           

 

“วันนี้ก็ได้ป๋า เพราะเราไปถึงคงยังไม่มีไรทำมาก กลับลงมาค่อยทำอาหารเย็นกินกัน” คมเขี้ยวตะปบข้อมือเรียวจันทร์ไว้แน่นตอนที่โดนลูบเป้าตุงๆ ของตัวเองอีกครั้ง ได้ยินคนตัวเล็กที่แกล้งหลับพิงไหล่เขากลั้นขำ

           

 

“เออ ตามนั้นก็ได้ แล้วหนูเรียวหลับเหรอน่ะ”

           

 

“เอ่อ ครับป๋า หลับไปแล้ว”

           

 

“อีเรียว มาลงมาหลับ เพื่อนมายังไม่เม้าท์กันเลย” เป็ดหันมามองทั้งสองคน คมเขี้ยวพยายามฉีกยิ้มแต่ก็เป็นเพียงยิ้มแหย เรียวจันทร์หลับตาพิงไหล่คมเขี้ยว มือที่ลูบเป้าคมเขี้ยวถูกกุมไว้แน่น

           

 

“หลับไปแหละดีแล้วครับ ตื่นมาก็สงเสียงรบกวนไปทั่ว” คมเขี้ยวว่าเรียบๆ ด้วยท่าทีที่เก๊กสงบนิ่ง เป็ดเบ้ปากใส่เพื่อนตัวเองนิดหน่อยแล้วก็หันกลับไปตามเดิม

           

 

เรียวจันทร์เปิดเปลือกตาขึ้น พอเห็นว่าเพื่อนหันกลับไปแล้ว นางก็แหงนหน้าขึ้นมองคมเขี้ยว ขมวดคิ้วใส่อีกฝ่ายสีหน้างอง้ำที่โดนคนตัวโตว่า คมเขี้ยวย่นคิ้วกลับไป ทำตาดุหน่อยๆ ราวกับผู้ใหญ่กำลังปรามเด็กดื้อ เรียวจันทร์ทำปากยื่นคล้ายว่าจะงอน คมเขี้ยวเลยคลี่ยิ้มเอาใจ

           

 

“โอ๋ๆ” เขาพูดแบบไม่มีเสียง ก้มลงจุ๊บปากเรียวจันทร์เร็วๆ หนึ่งที ก่อนจะปล่อยมือขวาของเรียวจันทร์ให้ลูบเป้าเขาเล่นต่อ แม่คุณนายยิ้มกว้าง มือบอบบางลูบเป้าตุงแสนตึงของคมเขี้ยวเบาๆ เจ้าของเป้ากัดฟันแน่น ปิดตาแน่นคิ้วย่นเป็นระยะเพราะรู้สึกปวดหนึบ แต่ก็ต้องเก๊กหน้านิ่ง นั่งพิงเบาะด้วยท่าทีสบายๆ มือขวาลูบเอวเรียวจันทร์เบาๆ มือซ้ายยกปิดปากแบบหลวมๆ โดยใช้ข้อศอกยันกับขอบประตูรถไว้ หันไปมองแม่คุณนายก็เห็นอีกฝ่ายทำเพียงเอาหัวซบไหล่เขานิ่งๆ แต่มือไม่นิ่งตาม ลูบวนไปมาจนลูกชายเขาเหยียดตัวเต็มกางเกง

           

 

“พอแล้วมั้ง เบียดไปหมดแล้ว” เขาก้มลงไปกระซิบเบาๆ ให้ได้ยินกับเรียวจันทร์สองคน คนตัวเล็กยกหัวออกจากไหล่เขาแล้วหันมามองพร้อมรอยยิ้มทะเล้น

           

 

“อยากเหรอ” เรียวจันทร์กระซิบที่ข้างหูคมเขี้ยว ร่างสูงหันมาย่นคิ้วใส่คนมือซนเล็กน้อย แล้วก็ส่งเสียงฮึ่มๆ ขู่ในลำคอเป็นเชิงบอกว่าให้ปล่อยมือ เรียวจันทร์ยิ้มขำ พอหันไปมองด้านหน้าก็เห็นเป็ดกำลังหรี่ตามองตัวเองกับคมเขี้ยวอยู่ เรียวจันทร์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนคมเขี้ยวตีหน้าขรึม หันไปมองวิวนอกหน้าต่างเนียนๆ ปล่อยให้เรียวจันทร์ลูบเป้าตัวเองต่อไป ทั้งที่อึดอัดใจจะขาดแล้ว

           

 

           

             

          กว่าจะมาถึงที่หมายก็เล่นเอาคมเขี้ยวกัดฟันแทบแตก นั่งอดทนเกือบลมหายใจหมดปอด แม่คุณนายไม่ยอมปล่อยให้เขานั่งสงบตลอดทาง แม่นางนั่งลูบเป้าเขาไม่หยุดมือ เขาจับออกไปได้สักพัก มือแม่คุณนายก็จะกลับมาใหม่ สุดท้ายด้วยความอึดอัด เขาต้องขอเสื้อกันหนาวหน้ารถมาคลุมเป้าตุงๆ ของตัวเองไว้ ปลดซิบออกให้ลูกชายออกมาหายใจบ้าง ไม่งั้นมันคงนอนขดตัวปวดเมื่อยไปหมด เรียวจันทร์ตาวาวตอนที่ได้สัมผัสเนื้อเอ็นอุ่นๆ เต็มมือ แม่คุณนายรูดขึ้นลงให้คมเขี้ยวเสียววาบด้วยความทรมานเล่นๆ ชักเบาๆ ให้คมเขี้ยวเกร็งท้องน้อยเพิ่มความฟิตของกล้ามเนื้อ

           

 

“เดี๋ยวป๋าลงไปติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนนะ” เมฆาเปิดประตูรถ ก้าวลงจากรถพร้อมกับดินแล้วปิดประตูตามหลัง

           

 

“แม่ว่าจะไปเข้าห้องน้ำ หนูเป็ดไปด้วยกันมั้ยลูก”

           

 

“ไปค่ะไป” เป็ดเปิดประตูลงไปก่อน บัวบูชาหันไปถามสองคนข้างหลังสุด ที่นั่งพิงเบาะใครเบาะมันนิ่งๆ

           

 

“เขี้ยวกับหนูเรียวไปห้องน้ำมั้ย” คนเป็นลูกชายแค่นยิ้มแล้วส่ายหัว เรียวจันทร์เองก็เช่นกัน บัวบูชาพยักหน้าแล้วเปิดประตูรถ ก้าวลงจากรถและปิดประตูตามหลัง พอบนรถไม่เหลือใครแล้วเรียวจันทร์ก็เขยิบเข้าไปหาคมเขี้ยวทันที

           

 

“พอแล้วนะ ปวดไปหมดแล้ว” คมเขี้ยวดุเรียวจันทร์ที่ยิ้มร่าทันทีหลังจากอยู่กันสองคน มือใหญ่เก็บสิ่งที่มันกำลังตั้งผงาดอยู่ใต้เสื้อกันหนาวเข้าไปในกางเกงแล้วรูดซิปเก็บมันไว้ทั้งที่มันยังเหยียดตัวยาวไม่ยอมอ่อนลง

           

 

“ปวดก็ทำซี่” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างไว้แล้วยิ้มยั่ว มือขวาพยายามยื่นเข้าไปลูบเป้าคมเขี้ยวอีกครั้ง แต่คนตัวโตจับไว้แน่น เรียวจันทร์เลยยื่นหน้าเข้าไปจะกัดหูคมเขี้ยว แต่อีกฝ่ายผละหนี หันมองเรียวจันทร์ด้วยความมันเขี้ยวอย่างอดทนอดกลั้น

           

 

“บอกว่าขอละลายพฤติกรรมก่อนไง ฮึ?!” คมเขี้ยวปล่อยมือออกจากมือเรียวจันทร์แล้วยกขึ้นตีหน้าผากนูนสวยนั่นเบาๆ เรียวจันทร์หลับตาปี๋แว้บหนึ่งแล้วก็ลืมขึ้น ทำปากยื่นหน้างออ่อนๆ

           

 

“กว่านายจะละลายได้ หยากไย่ขึ้นปิดรูฉันหมดแล้วมั้ง” คมเขี้ยวหัวเราะเบาๆ ยกแขนขึ้นคล้องคอเรียวจันทร์ ดึงใบหน้าสวยใสเกินชายเข้ามาใกล้แล้วจุ๊บตรงหน้าผากไปหนึ่งที

           

 

“เดี๋ยวผมตีแมงมุมที่ให้”

           

 

“เอาอะไรตีหลอออ” เรียวจันทร์มองคมเขี้ยวตาแบ๊วหน้าใส กรีดยิ้มแพรวพราว คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น สั่นหัวน้อยๆ เรียวจันทร์ยกมือขวาขึ้นชี้ตรงเป้าที่มีเสื้อกันหนาวคลุมอยู่

           

 

“เอากระบองยักษ์อันนั้นตีรึเปล่า ถ้าตี ต้องตีให้แตกนะ” เรียวจันทร์ยื่นเข้าไปใกล้ใบหูคมเขี้ยวแล้วเลียติ่งหูไปที ขนคอของเจ้าของหูตั้งชันพร้อมเสียงฮึ่มๆ ในลำคอ

           

 

“ตีให้แตกเป็นไง” คมเขี้ยวแกล้งถาม เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปาก

           

 

“อยากรู้มั้ยล่ะ” คุณนายกัดริมฝีปากล่าง มองหน้าคมเขี้ยวสายตาเชิญชวน คมเขี้ยวกระตกยิ้มมุมปาก ส่ายหัวช้าๆ

           

 

“ไวไฟเหลือเกินนะคุณนาย” เรียวจันทร์ล้วงมือขวาเข้าไปตะปบเป้าคมเขี้ยวที่สงบลงแล้ว ส่งสายตาที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์อย่างว่าไปให้คมเขี้ยวที่กำลังกัดฟันแน่น

           

 

“ก็อยู่ใกล้วัตถุไวไฟนี่นา” คมเขี้ยวยิ้มหึ ดึงมือขวาเรียวจันทร์ออกจากเป้า จับไว้หลวมๆ แล้วดึงขึ้นมาหอมหลังมือ

           

 

“ตอนนี้วัตถุไวไฟไฟมอดอยู่ครับ” เรียวจันทร์ยิ้มขำ ก้มลงเอาหน้าวางบนไหล่ขวาคมเขี้ยว แขนขวากอดเอวคนตัวโต คมเขี้ยวเลื่อนแขนขวาลงไปกอดเอวเรียวจันทร์ ทั้งสองนั่งตากแอร์กอดกันอยู่ในรถ นั่งฟังเพลงจากเครื่องดีวีดีได้สี่เกือบห้าเพลงเต็ม ทุกคนก็เดินกลับมา และตอนนั้นคมเขี้ยวกับเรียวจันทร์ก็ตีเนียนนั่งแยกห่างกันตามปกติ

           

 

“เดี๋ยวตั้งเต็นท์เสร็จ ค่อยตามเจ้าหน้าที่ไปนำทางขึ้นไปน้ำตก” เมฆาบอก ในมือถือเอกสารเกี่ยวกับการเที่ยวอุทยานแห่งนี้ ดินขึ้นรถตามมา เข้าประจำที่คนขับตามเดิม และตามด้วยสองสาวในทริป

           

 

“เห็นเขาว่ามีคนมาตั้งเต็นท์อีกสามสี่กลุ่มด้วยนะ” เมฆาว่าต่อในขณะที่มองสองข้างทางของอุทยาน

           

 

“เราเลือกที่ตั้งเต็นท์ได้เลยมั้ยคะป๋า หรือว่าเจ้าหน้าที่เขาจะจัดให้” ตั้งแต่ขึ้นรถมาจากที่บ้าน เรียวจันทร์เพิ่งเปิดปากพูดกับคนอื่นนอกจากพ่อหน้าเคราข้างๆ นี่แหละ

           

 

“เขาแบ่งมาให้แล้วลูก เราได้ตั้งใกล้ๆ ท่าน้ำ สวยเชียวแหละ ป๋าแอบใช้เส้นจองนิดหน่อย” หนุ่มใหญ่ว่าอย่างอารมณ์ดี

           

 

ดินขับรถมาจอดไว้ในลานจอดรถที่เป็นสนามหญ้าแหว่งๆ สลับกับเห็นดินสีน้ำตาลที่มีรถจอดอยู่อย่างบางตา เนื่องจากช่วงเวลาที่บ้านคมเขี้ยวเลือกมาเที่ยวเป็นวันธรรมดา คนจึงมีไม่มากนัก  ตรงข้ามกับลานจอดรถที่มีถนนลาดยางกั้น เป็นอ่างเก็บน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ล้อมรอบ เห็นแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น แดดครึ้มฟ้าครึ้มฝนเล็กน้อย เพราะเริ่มเข้าสู่หน้าฝน อากาศเลยเย็นแบบอึนๆ

           

 

“ช่วงนี้เป็นช่วงต้นฝน ต้นไม้จะเขียวขจีเป็นพิเศษ” คมเขี้ยวบอกเรียวจันทร์ในขณะที่กำลังยกของลงจากหลังรถ คุณนายยิ้มอ้อแล้วพยักหน้า ช่วยคมเขี้ยวถือกระติกน้ำสองใบ ก้าวเท้าข้ามถนนไปพร้อมกัน พื้นดินที่ติดกับถนน จะไม่มีต้นไม้ เป็นเนินหญ้าลาดลงจากถนนลาดยาง พื้นด้านล่างจะเป็นผืนดิน มีม้านั่งไม้ที่ตั้งห่างกัน โขดหินที่น่าจะเกิดจากการที่คนเอาไปตั้ง มีสะพานไม้รูปตัวยูทอดยาวไปในอ่างเก็บน้ำ ตรงโซนนี้จะไม่มีคนตั้งเต็นท์

           

 

“เหลือพวกกระเป๋าเสื้อผ้า เดี๋ยวดินเดินกลับมาเอาให้ครับ” เรียวจันทร์หันไปมองดินที่เดินแบกเต็นท์มากับเมฆา สองสาวช่วยกันถือลังใส่อาหารเดินตามมาติดๆ

           

 

“เดี๋ยวเปลี่ยนกางเกงซะนะ คุณไม่เคยเดินมาก่อน ใส่ยีนไปแบบนี้เดี๋ยวลำบาก” คมเขี้ยวบอกเรียวจันทร์ในตอนที่เดินเข้ามาถึงโซนต้นสนสูงๆ

           

 

“เหมือนป่าสนหลังบ้านนายเลยอะ” เรียวจันทร์แหงนหน้ามองไปรอบๆ และก้มลงมองด้านล่าง มีเต็นท์หลากสีหลายไซส์กางอยู่ห่างกันออกไป แต่ก็ไม่ได้ว่ามีล้นหลาม นับได้ก็น่าจะสิบเต็นท์กว่าๆ

           

 

คมเขี้ยวแหงนหน้ามองแล้วยิ้ม “ก็คล้ายๆ”

           

 

เมฆานำทุกคนมาที่โซนกางเต็นท์ของกลุ่มตัวเองที่อยู่ห่างจากกลุ่มอื่นๆ มาหลายยี่สิบก้าวโดยประมาณ คุณป๋าเลือกตรงที่ใกล้กับท่าน้ำที่ทำจากไม้ มีเรือ มีแพผูกเอาไว้อยู่สามสี่อัน ตรงนี้อากาศเย็น นอกจากต้นไม้จะเยอะแล้วยังอยู่ใกล้น้ำ เลยทำให้เย็นเข้าไปอีก

           

 

“ก่อกองไฟทำอาหารตรงนั้น” เมฆาชี้ไปที่กลุ่มก้อนหินวงกลมที่วางล้อมรอบพื้นปูนที่ทำขึ้นเพื่อรองรับสำหรับการจุดไฟทำอาหาร

           

 

“ตั้งเต็นท์แล้วเอาของเก็บไว้นะ เสร็จแล้วจะได้ไปพิชิตน้ำตกกัน!” คุณป๋าว่าอย่างรื่นเริง ดูจะตื่นเต้นยิ่งกว่าใคร แต่ก็มีดินที่ร่วมแสดงอาการตื่นเต้นร่วมไปด้วย คมเขี้ยวทำเพียงยิ้มน้อยๆ บัวบูชายิ้มรับตามปกติ ส่วนสองเพื่อนซี้หันมองหน้าสบตากัน เรียวจันทร์ยักคิ้วซ้ายขึ้นหนึ่งที เป็ดเบะปากเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

           

 

“หนูเรียวกับหนูเป็ดกางเต็นท์เป็นมั้ย” สองเพื่อนซี้หันไปสั่นหัวรัวๆ ให้กับบัวบูชา

           

 

“งั้นเขี้ยวไปกางให้น้องไป ให้ดินกางของเขี้ยวให้” คมเขี้ยวพยักหน้า เดินเข้าไปจัดการกางเต็นท์ให้สองสาวเพื่อนซี้ โดยมีเรียวจันทร์คอยช่วยแบบเก้ๆ กังๆ จนเป็ดต้องบอกว่าให้ออกมายืนให้กำลังใจคมเขี้ยวแบบนั้นน่าจะเสร็จไวกว่า

           

 

เต็นท์สามหลังถูกกางห่างกันพอให้มีทางเดินระหว่างเต็นท์ เมฆานอนกับบัวบูชาที่เต็นท์สีครีมลายทหารทรงครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ คมเขี้ยวนอนกับดินในเต็นท์สีเขียวอ่อนตัดสีขาวทรงปกติของเต็นท์ทั่วไป ด้านหน้ามีโดมกันแดด กันฝนและมีพื้นที่นั่งหน้าเต็นท์ให้ด้วย และด้านในกว้างพอจะให้ผู้ชายตัวโตสองคนนอนด้วยกันได้ และปิดท้ายที่เต็นท์ทรงโดมสีน้ำตาลเข้มสลับสีครีมซึ่งเป็นที่นอนของสองเพื่อนซี้ ด้านในแต่ละเต็นท์มีฟูกแบบพับได้ปูรองให้อีกชั้น เพื่อกันความแข็งกระด้างของพื้นดิน

           

 

“เคลียร์ของเสร็จ แล้วออกมาเจอกันนะ” เมฆาบอกแล้วมุดหายเข้าไปในเต็นท์ด้านใน รวมทั้งคมเขี้ยวกับดินด้วย เรียวจันทร์กับเป็ดยืนกันอยู่ข้างหน้าเต็นท์ สอดส่องสายตามองหาอะไรบางอย่าง

           

 

“อย่าให้มันเยอะมากนักนะแก” เป็ดกระซิบหน้าจริงจัง เรียวจันทร์ยักคิ้วสองสามที สีหน้าไม่ใส่ใจและเดินไปหยิบกระเป๋าตัวเองที่วางกองไว้ใกล้กับกล่องลังใส่วัตถุดิบอาหารและเครื่องดื่ม

 

 

สองเพื่อนซี้มุดเข้าไปในเต็นท์ เป็ดเอาเสื้อผ้าและของใช้ที่จะใช้สำหรับวันนี้ออกมากองๆ ไว้ เหลือบมองเรียวจันทร์ที่กำลัง ‘จัดของ’ อยู่เช่นกันด้วยสายตาลังเลเล็กน้อย

 

 

“ปุบปับเหมือนกันนะ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแล้วยิ้มกริ่ม เขย่าของตรงหน้าแรงๆ จนเป็นที่พอใจ

 

 

“แกรู้หน้าที่ดีนะเป็ดว่าต้องทำอะไร” เป็ดมองค้อนเพื่อนนิดหน่อย เรียวจันทร์ยิ้มตาเป็นประกาย

 

 

“ย่ะ!” เป็ดตอบด้วยความหมั่นไส้ แต่ก็ทำอะไรไปมากกว่าหมั่นไส้ไม่ได้ เพราะเป็ดเคยบอกกับตัวเองว่าสิ่งหนึ่งที่กลัวที่สุดในชีวิตคือเรียวจันทร์ตอนไม่ชอบใครสักคน

 

 





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao3:



คุณแม่นี่มือไว มือยั้วเยี้ยจริงๆ เคยคิดนะคะว่าแม่เรียวควรเจอกับวิคเตอร์ คงผลัดกันจับผลัดกันลวนลามจนไม่เป็นอันทำมาหากิน 55555 คุณแม่เรามือปลาหมึกชั้นดี ติดหนึบหนับจับมันส์มาก พี่เขี้ยวก็ต้านบ้างไม่ต้านบ้าง แต่สุดท้ายก็ยอม แหมะ ฟินล่ะสิพี่เขี้ยว คริๆ

เรื่องได้เสียกันตอนนี้เชื่อว่าคุณแม่หาทางเสียตัวอยู่แน่นอนค่ะ 555555 นางกระเถิบชั้นได้ขึ้นไปนอนเตียงเดียวกับพี่เขี้ยวแล้ว นางต้องเอาให้ได้ ขุ่นแม่เรียวออกจะเปรี้ยวเยี่ยวแตกขนาดนี้

ไม่รู้ว่าตอมอัพช้าไปหรือเปล่า แต่พอดีก็ติดงาน บวกกับปั่นต้นฉบับเรื่องนี้ให้ได้สต็อกเยอะๆ เพราะเดือนหน้าจะเปิดใหม่อีกเรื่อง และต่อเรื่องเก่าอีกเรื่อง เลยต้องรีบเขียนสต็อกเรื่องนี้ไว้แน่นๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-12-2016 18:56:32
ขุ่นแม่นางปลาหมึกยังต้องยอมแพ้ 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 16-12-2016 19:16:50
พี่เขี้ยวก็ใจอ่อนเกิน เสร็จคุณแม่แน่นอน  :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 16-12-2016 19:22:42
 :-[ โอ้ยยย อยากให้เค้าได้กันซักทีค่ะ ลุ้นนนนนน
คะแนนนางนำโด่งแม่เอื้องแล้ว มัวแต่รอพี่เขี้ยวละลายพฤติกรรมนี่ล่ะ  :เฮ้อ: รออ่านตอนต่อไปิย่างใจจดใจจ่อ ครั้งแรกของคู่นี้นี่ จะจัดกลางป่าเขาเลยมั้ย หรือยังไง 55555555 :z2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-12-2016 19:36:36
พี่เขี้ยวจะเสร็จไหมนะรอบนี้อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: lolli_candy99 ที่ 16-12-2016 19:43:15
กราบแม่ แม่ก็คือแม่ รักคนแต่งค่ะะะะ มาอัพบ่อยๆน้าาาาา :3123:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 16-12-2016 20:55:26
พี่เขี้ยวยอมคุณนายสุดๆเลยนะนิ ถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้ยังไม่โกรธซักนิด อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-12-2016 01:00:21
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 17-12-2016 01:32:31
 :impress3: แม่เรียว เธอสุดยอดจริง ๆ เขยิบแบบก้าวกระโดดมาก งานนี้ดินได้นอนเดี่ยวแน่ ๆ 555 แต่จะจัดการยังไงล่ะ ยังคิดไม่ออก พอคนเขียนบอกว่าถ้าแม่เรียวเจอกับไอ้ยักษ์นี่แบบงานนี้ต้องสนุกแน่ ๆ  คิดถึงเอเลี่ยนจังเลยอ่ะ อยากอ่านแล้ว  :mew2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 17-12-2016 03:55:35
 :impress2: จัดของอารายยังงายยยยยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 17-12-2016 07:15:40
ยั่วพี่เขี้ยวเข้าไปคุณแม่~ :hao6:  พอถึงเวลาจะลุกไม่ขึ้นน เชื้อเพลิงมันดีวว :impress2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 17-12-2016 11:51:19
ต่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 17-12-2016 13:43:51
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 17-12-2016 22:10:32
โอ๊ยยยยย ติดใจคุณเรียวจันทร์  ของดีมากกกกก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/50% :16.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Wdf_mikeii ที่ 21-12-2016 00:22:12
ยั่วให้สุดเลยขุ่นแม่ ได้แน่นอน :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 21-12-2016 17:26:43



คาถาที่ 20 [100%]



หลังจากจัดของเสร็จ เรียวจันทร์กับเป็ดก็ออกมาด้านหน้าเต็นท์ ตามด้วยคมเขี้ยวกับดิน เรียวจันทร์เปลี่ยนจากกางเกงยีนขายาวเป็นกางเกงยีนขาสั้นที่เป็ดบอกได้เลยว่าถ้าหนังหน้า หนังผิวและหุ่นไม่ใช่แบบนังเรียวล่ะก็ คงจะถูกมองเหยียดไม่มากก็น้อย เพราะกางเกงมันสั้นเกือบเสมอหู ดีที่นังเรียวมันไม่มีขนขาและมันขาวผ่อง เรียวขาก็ยาวสมเป็นนายแบบ มันเลยใส่ออกมาแล้วดูดีเคียงคู่กับเชิ้ตลายสก็อตที่ไม่รู้มันตั้งใจจะให้แมทช์กับคุณคมเขี้ยวหรือเปล่า 

 

 

“โห คุณเรียวขาเนียนจังครับ” ดินเอ่ยปากชมอย่างซื่อๆ สายตามองขาขาวเนียนเรียวยาวแทบละสายตาไปไหนไม่ได้ ไอ้ดินมันคิดว่าถ้ามีนมล่ะก็ นี่คือหุ่นผู้หญิงชัดๆ เพราะกางเกงยีนรับก้นงอนกับสะโพกผายนิดๆ ของเรียวจันทร์ได้อย่างลงตัว

 

 

“ดินชอบล่ะซี” เรียวจันทร์แกล้งแซวพร้อมกับยื่นขาขวาไปด้านหน้า ไอ้ดินก็ซื่อตอบตามจริง

 

 

“ชอบครับ เห็นแล้วอยากสัมผัส”

 

 

“เฮยๆ ไอ้ดิน มึงจะไปจับไปสัมผัสขาเขาง่ายๆ ได้ไง” คมเขี้ยวขัดขึ้น ไอ้ดินที่กำลังยิ้มซื่อ หันไปมองพี่ชายตัวเองหน้าบึ้งทันที

 

 

“โห่ ขาคุณเรียว ไม่ใช่ขาพี่สักหน่อย”

 

 

“ถ้าดินอยากจับ จับได้เลยนะ จับสูงขึ้นมาอีกนิดก็ได้” เรียวจันทร์หันก้นไปหาดินแล้วตีเบาๆ เป็นการเชิญชวน จากที่หน้าบูดใส่พี่ชายตัวเองเมื่อกี้นี้ ไอ้ดินก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างทันทีเมื่อได้รับการอนุญาตจากคุณเรียว

 

 

“แน่ะ แม่นี่ก็เชิญชวนเหลือเกิน แล้วแต่งตัวอะไรเนี่ย เดี๋ยวก็โดนทากดูดเลือดหรอก” คมเขี้ยวว่าสีหน้าหงุดหงิดเล็กๆ ขึงตามองขาขาวเนียนและเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีดำแดงรัดรูปของแม่คุณนายแล้วนึกอยากจับแม่ตัวดีตีก้นแรงๆ หลายทีให้ได้สติว่าอะไรควรใส่ไม่ควรใส่

 

 

“ไม่มีทากสักหน่อย ดินถามเจ้าหน้าที่มาแล้ว” คมเขี้ยวหันไปมองไอ้น้องชายบุญธรรมหน้าเอือมกับการขัดคอของมัน เป็ดหัวเราะเบาๆ เรียวจันทร์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ให้คมเขี้ยว

 

 

“ไม่ต้องเอาอะไรติดตัวไปมากนะ เดี๋ยวจะหนัก เอาของมีค่ากับน้ำติดตัวไป เพราะมันเดินไกล หิวน้ำแน่นอน อาหารเดี๋ยวไอ้ดินแบกไปให้” เมฆาที่เดินออกมาพร้อมกับบัวบูชาเอ่ยบอก ดินเดินไปหยิบตะกร้ากระบอกน้ำที่เป็นทรงกระบอกแบบเดียวกันทั้งหมดแต่คนละสี หยิบยื่นให้ของใครของมันตามที่ใช้กันประจำอยู่แล้ว จะมีก็ของเรียวจันทร์และเป็ดที่เพิ่มเข้ามา

 

 

“ป่ะ ป๋าโทรตามเจ้าหน้าที่ละ เขารออยู่ที่ลานจอดรถ” เมฆาบอกว่าจากตรงนี้ต้องขับรถเข้าไปอีกสองกิโล ซึ่งสามารถเดินได้ แต่ก็ไม่อยากให้เสียแรงเดิน อยากให้เก็บแรงไว้เดินในวันพรุ่งนี้จะดีกว่า

 

 

“น้ำตกที่เราจะไป เห็นเขาว่าสูงสักสามสี่ร้อยเมตรได้มั้ง มีกี่ชั้นนะ ห้ามั้ยไอ้ดิน” คุณป๋าหันไปถามไอ้ลูกชายอีกคนที่ขมวดคิ้วนึกอยู่

 

 

“เอ่อ มีเจ็ดค่ะคุณป๋า ด้านบนจะสวยที่สุด จะมีอ่างหินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอยู่หลายอ่างให้ลงไปแช่น้ำได้” สมาชิกบ้านพยัคฆ์เกรียงไกรหันไปมองเพื่อนสนิทของเรียวจันทร์ด้วยความแปลกใจ จะยกเว้นก็แต่บัวบูชาที่ยิ้มอ้อ ศศิประภายิ้มเขินเล็กๆ

 

 

“เมื่อกี้ตอนอยู่ห้องน้ำ หนูเป็ดเล่าให้ฟังว่าเพิ่งมาเมื่ออาทิตย์ก่อน มาทำอะไรนะลูก”

 

 

“มาสเก้าท์โลค่ะ คือมาสำรวจโลเคชั่นถ่ายซีรีส์อะค่ะเลยจำได้”

 

 

“อ้าว แบบนี้เราก็มีไกด์แล้วสิ” เมฆายิ้มแย้มอารมณ์ดี

 

 

“อู๊ย อย่าเลยค่ะ ให้เจ้าหน้าที่พาไปดีกว่า ตอนเป็ดมาคือจำใจมาอะค่ะ” ท่อนจำใจ เป็ดหันไปจิกตาใส่เพื่อนตัวเองที่ยืนตีหน้าแบ๊วอยู่ข้างคมเขี้ยวแบบเนียนๆ

 

 

“คุณพี่เป็ดมีอะไรแนะนำในการเดินขึ้นไปน้ำตกมั้ยครับ” ดินถามอย่างสุภาพ เป็ดหัวเราะคิกคักกับสรรพนามที่ดินเรียกตัวเอง

 

 

“ก็ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะคะคุณน้องดิน แต่ก็ต้องสตรองมากพอเลยค่ะ เพราะหนทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีแต่กลีบหิน ก้อนหิน ไม้ไผ่อะไรอย่างเนี้ยอะค่ะ” ทุกคนพยักหน้ารับ รวมทั้งเรียวจันทร์ที่พยักหน้าเออออห่อหมกไปด้วย

 

 

เจ้าหน้าที่หนุ่มวัยกลางคนที่คุณป๋าตามมาจำเป็ดได้เลยทักทายกันสั้นๆ ก่อนที่จะให้ทุกคนขึ้นรถจี๊ปสีดำเพื่อนั่งเข้าไปยังจุดสตาร์ทการเดินขึ้นไปน้ำตก

 

 

“ที่นี่เปิดมาได้จะสี่ปีแล้วครับ ไม่ค่อยมีคนรู้หรอก ธรรมชาติเลยยังอุดมสมบูรณ์มาก แต่ถ้าในอนาคตจะมีคนมาเพิ่ม เราก็พร้อมจะรักษาไว้อย่างดี เพราะป่าผืนนี้ในหลวงท่านอยากให้อนุรักษ์ไว้ให้เป็นสมบัติของชาติ” ทุกคนพยักหน้ารับฟังข้อมูลที่เจ้าหน้าที่บรรยายให้ฟังด้วยรอยยิ้ม พลางมองภูเขาสีเขียวขจีที่มีหลายสิบลูก

 

 

 คุณเจ้าหน้าที่บรรยายต่อถึงเส้นทางขึ้นไปชมน้ำตกที่ตกลงมาเป็นสายจากยอดเขา และลดหลั่นลงมาเป็นชั้น แต่ละชั้นจะอยู่ห่างกันในระยะทางที่ไม่เท่ากัน การเดินทางไปกลับอยู่ที่แปดถึงสิบชั่วโมง ซึ่งรวมถึงเวลาถ่ายรูปและทานอาหารกลางวันบนนั้นด้วย คุณป๋าเลยเสริมว่าที่ให้ดินแบกอาหารไปด้วยเพราะจะขึ้นไปกินอาหารกลางวันกันบนน้ำตกชั้นบน เล่นน้ำกันสักพักแล้วก็ค่อยกลับลงมาข้างล่าง

 

 

ใช้เวลาไม่นานรถก็มาจอดบนถนนลาดยางเส้นหนึ่งที่คั่นกลางกับลำธารกว้างๆ ที่มีน้ำใสเห็นก้อนหินใต้น้ำไหลเอื่อยๆ ต้นไม้หลากพันธุ์ขึ้นสูงขึ้นต่ำริมลำธาร สีเขียวขจีหนาครึ้ม ได้ยินเสียงนกหลายชนิดร้องกังวานเป็นการต้อนรับ

 

 

“ไม่น่าใส่ขาสั้นมาเลยคุณเนี่ย เดินป่าอะไรใส่ขาสั้น” คมเขี้ยวบ่นเบาๆ ตอนที่มองป่าหนาทึบเบื้องหน้าอันเป็นเส้นทางที่พวกเขาจะต้องเดินไป แล้วหันมามองแม่คุณนายที่ใส่ขาสั้นราวกับจะไปเดินเล่นตลาดนัดยามเย็น

 

 

“นายก็ดูแลฉันอย่าให้ฉันเป็นอะไรสิ” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่ม กะพริบตาปิ๊งๆ เป็นการอ้อน คมเขี้ยวถอนหายใจหนึ่งที ยกมือซ้ายตีก้นงอนๆ ของเรียวจันทร์เบาๆ ก่อนจะพาคนตัวเล็กเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งที่ทุกคนยืนรออยู่แล้ว

 

 

“หนูเรียวเดินระวังๆ นะลูก หกล้มขึ้นขาได้แผลเลยนะ เดี๋ยวจะไปเดินแบบไม่ได้”

 

 

“ไม่ต้องห่วงค่ะคุณป๋า เรียวมีบอดี้การ์ดดี…” เรียวจันทร์จับสายกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กสีดำของตัวเองแล้วหันไปมองคมเขี้ยวแว้บหนึ่ง ก่อนที่จะหันกลับไปมองพี่เจ้าหน้าที่

 

 

“…หมายถึงคุณพี่เจ้าหน้าที่ไงคะ ใช่มั้ยคะคุณพี่ คุณพี่จะดูแลหนูกับทุกคนอย่างดีใช่มั้ยคะ”

 

 

“แน่นอนครับ ผมรับเงินมาแล้วนี่” ทุกคนหัวเราะกับมุกตลกของพี่เจ้าหน้าที่ จะว่าไปพี่แกก็หน้าตาดี สูงดำล่ำสันพอประมาณ ใส่ชุดลายพรางทหารก็ดูเท่ไม่เบา

 

 

“มองไร” คุณนายที่กำลังเพลิดเพลินกับการพิจารณาพี่เจ้าหน้าที่หันไปมองหน้าคมเขี้ยวอย่างงงๆ ก่อนที่จะทำหน้าเก็ทกับคำถามเมื่อกี้นี้

 

 

“อ๋อ มองพี่เจ้าหน้าที่ ก็ตั้งใจฟังที่เขากำลังแนะนำไง” คมเขี้ยวหรี่ตามองแม่ตัวดี เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นงงๆ แล้วหันไปสนใจพี่เจ้าหน้าที่ต่อ

 

 

“ถึงแม้คุณเป็ดจะเคยมาแล้ว แต่ยังไงก็ต้องระวังนะครับ เพราะฝนตกไปเมื่อวาน หินมันอาจจะลื่นกว่าครั้งก่อนที่คุณเป็ดมา…” พี่เจ้าหน้าที่หันมามองหน้าคนที่เหลือ

 

 

“…รองเท้าใครดีไม่ดีก็จะได้รู้กันงานนี้แหละครับ” ทุกคนหัวเราะเบาๆ อีกรอบ เรียวจันทร์ชูแขนซ้ายขึ้นก่อนเอ่ยปากถาม

 

 

“พี่ชื่ออะไรอะคะ เรายังไม่ได้แนะนำตัวกันเลย”

 

 

“อ๋อ โทษทีครับ ผมชื่อไม้” พี่ไม้ที่ทุกคนเพิ่งรู้จักยิ้มอบอุ่นละมุนละไม

 

 

“โห ชื่อม๊อเหมาะกับหน้าที่การงานเหลือเกิน หวังว่าคงจะไม่ใช่ไม้หน้าสามแล้วมาฟาดหน้าหนูนะ” เมฆาหัวเราะลั่นกับคำพูดของเรียวจันทร์ เป็ดหัวเราะเสียงแหบเสียงแห้ง ดินยิ้มกว้างด้วยความตลก บัวบูชายิ้มบางๆ คงจะมีแต่คมเขี้ยวที่ยืนหน้านิ่งเฉย

 

 

“ไปครับ ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย จะได้ทันมื้อเที่ยง” เจ้าหน้าที่หนุ่มเดินลงไปในลำธารที่สูงแค่หน้าแข้งของเจ้าตัว ตามไปด้วยเมฆา บัวบูชา เป็ดและดิน และปิดขบวนด้วยคมเขี้ยวที่ตอนนี้ยังยืนนิ่งไม่ยอมขยับจนเรียวจันทร์ต้องหันกลับไปจูงมือให้เดินตามมา น้ำในลำธารเย็นเฉียบ เรียวจันทร์ร้องตื่นเต้นอย่างเริงร่า

 

 

“นายเขี้ยวกุด น้ำใสมากเลยเนอะ” เรียวจันทร์หันไปยิ้มแย้มให้กับคนที่ตัวเองจับมืออยู่ พ่อร่างสูงกระตุกยิ้มเพียงนิด เรียวจันทร์ขมวดคิ้วแล้วหยุดเดิน หมุนตัวไปหาคมเขี้ยว

 

 

“ยิ้มกว้างๆ สิ ยิ้มทำไมแค่นี้” เรียวจันทร์เอียงคอมองหน้าเรียบเฉยของอีกฝ่ายอย่างุนงง ก่อนที่จะยกแขนรั้งคอคมเขี้ยวให้ก้มลงมารับจูบ คุณนายกดริมฝีปากไว้กับริมฝีปากคมเขี้ยวอยู่ครู่หนึ่งถึงได้ปล่อย

 

 

“ยิ้มกว้างได้ยัง” คมเขี้ยวกระตุกยิ้มมากขึ้นอีกนิด เรียวจันทร์คลี่ยิ้ม กำลังจะยื่นหน้าเข้าไปจูบคมเขี้ยวอีกทีแต่ก็ไม่ทันได้ทำ

 

 

“พี่เขี้ยว!” เสียงดินตะโกนเรียกเลยทำให้ทั้งสองคนผละออกจากกัน เรียวจันทร์หมุนตัวและรีบเดินฝ่ากระแสน้ำไปขึ้นบกอีกฝั่ง มีคมเขี้ยวเดินปิดท้ายตามมาติดๆ พอเดินไปตามเส้นทางเล็กๆ ก็เจอทุกคนยืนรออยู่

 

 

“โทษทีค่ะ น้ำเย็นเลยเล่นเพลินไปหน่อย” พวกเมฆาอมยิ้มและพากันเดินต่อไป เป็ดชะเง้อหน้ามองเพื่อนแล้วหรี่ตามองอย่างจับผิด เรียวจันทร์ปั้นหน้าใสซื่อ ยิ้มเบ้ปากและเดินตามหลังดินไป หันไปมองคมเขี้ยวที่ตอนนี้สีหน้าดีขึ้นแล้ว

 

 

เรียวจันทร์ยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพระหว่างทาง แต่ก็ไม่ได้ว่ากดถ่ายทุกช็อต เพราะพี่ไม้แจ้งว่าตอนนี้มันจะมีแต่ต้นไม้ใบหญ้าหนาทึบ ยังถ่ายรูปไม่สวย ที่สวยสุดคงเป็นเห็ดหลากสีและหลากรูปทรง เช่น เห็ดทรงแก้วไวน์สีแดงที่แม่คุณนายถูกอกถูกใจ นั่งแชะไปหลายมุมจนขบวนด้านหน้าเดินห่างออกไปแล้ว

 

 

“พอแล้วคุณนาย หัดซึมซับผ่านสายตาบ้าง” คมเขี้ยวที่ยืนสูงตระหง่านรอแม่ตัวดีถ่ายรูปมุ่ยหน้าใส่ เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืนยิ้มแฉ่ง เดินเข้าไปหาคมเขี้ยว เขย่งตัวยกแขนกอดคอหนาไว้

 

 

“งั้นถ่ายกับนายก่อน ตรงนี้ยังพอมีสัญญาณสี่จีอยู่บ้าง ฉันจะอัพรูป” คมเขี้ยวมุ่ยหน้าใส่หนักกว่าเดิม แต่ก็ยอมก้มหน้าเอาแก้มตัวเองแนบแก้มนิ่มของเรียวจันทร์ มองกล้องแล้วยิ้มน้อยๆ ปล่อยให้เรียวจันทร์ยิ้มกว้างคนเดียว เจ้าของมือถือกดถ่ายไปหลายรูป พอพอใจแล้วก็ปล่อยคอคมเขี้ยวออก

 

 

“แคปชั่นว่าไรดีอะ”

 

 

“แรดมาเยี่ยมถิ่นกำเนิด” เรียวจันทร์อ้าปากหวอตาโต ยื่นมือขวาไปตีเป้าคมเขี้ยวเบาๆ จนคนตัวสูงเผลอเกร็งหน้าท้อง คมเขี้ยวยิ้มขำ จับมือเรียวจันทร์ออกจากเป้าตัวเอง

 

 

“รีบอัพเข้า จะได้เดินต่อ” เรียวจันทร์จิ้มอยู่หลายสิบทีก่อนที่จะเก็บมือถือลงไปในกระเป๋าสะพายข้างของตัวเอง

 

 

“ป่ะ”

 

 

“เดินระวังๆ หญ้ามั่ง เดี๋ยวผื่นขึ้นจะแย่” เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกๆ ในขณะที่เท้าก็ก้าวเดินตามดินที่ทิ้งห่างไปไกลแล้วเร็วๆ

 

 

พี่ไม้บรรยายเพิ่มเติมว่า เส้นทางไปน้ำตก ยังไม่ใช่เรื่องยาก แค่มันลำบากตอนปีนขึ้นก้อนหิน ปีนขึ้นทางลาดที่ตอนนี้น่าจะเริ่มเละเป็นโคลนไปบ้างแล้ว ทางที่ยากจริงๆ คือเส้นทางปีนเขาในวันพรุ่งนี้ต่างหาก อันนั้นต้องเดินตามเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด และต้องมีเจ้าหน้าที่ปิดท้ายด้วยเพื่อความปลอดภัย เพราะทางไปยอดเขาไม่มีชัดเจน อีกอย่างมีเส้นทางเก็บเห็ด เก็บของป่าของชาวบ้านด้วย อาจทำให้หลงได้

 

 

“ใกล้ครึ่งทางละครับ พ้นลำธารนี้ไป” เรียวจันทร์ทำตาโต นึกในใจว่ายังไม่ถึงครึ่งทางอีกเหรอนี่

 

 

“เอาน้ำมั้ยคุณเรียว” เรียวจันทร์ที่กำลังพยายามฝืนเดินฝ่ากระแสน้ำหนักๆ หันไปมองคมเขี้ยวที่ถือกระบอกน้ำของตัวเองอยู่ในมือ แว้บแรกนางกระตุกยิ้ม แต่พอล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปในน้ำ หน้าก็เปลี่ยนเป็นเหวอทันที

 

 

“อ้าว หนูเรียวลูก ใจเย็นๆ ยังไม่ถึงที่เล่นน้ำ” พวกเมฆาที่เดินขึ้นไปยืนบนฝั่งได้แล้วหันมาแซวพร้อมเสียงหัวเราะ เรียวจันทร์ทำปากยื่นหน้างอ ตอนนี้นางเปียกเกินครึ่งตัวไปแล้ว

 

 

“เอ้า ลุกขึ้นมา อยากเล่นน้ำอะไรขนาดนั้น” คมเขี้ยวยิ้มกว้างขำขัน ยัดกระบอกน้ำที่ปิดฝาแล้วลงไปในกระเป๋าสีเขียวของตัวเองที่สะพายอยู่ด้านหลัง เขายื่นมือขวาไปดึงเรียวจันทร์ให้ลุกขึ้นมายืน เสียงน้ำไหลพรืดลงจากตัวเรียวจันทร์

 

 

“ต๊าย กะว่าเปียกน้ำแล้วจะเซ็กซี่เต็มที่สินะ” เรียวจันทร์หันไปเบะปากใส่เพื่อนตัวเองแรงๆ และก้าวเท้าเดินต่อโดยมีคมเขี้ยวคอยช่วยพยุงไม่ให้ล้มลงไปในน้ำอีก

 

 

“ไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยนอีก ไปทั้งยังงี้แหละ” คมเขี้ยวว่าหลังจากพาแม่ตัวดีขึ้นมายืนบนฝั่งได้แล้ว เรียวจันทร์ย่นจมูกนิดหน่อยแต่ก็พยักหน้ารับ

 

 

“ถึงข้างบนค่อยเอาผึ่งแดดไว้ก็ได้ครับ…” พี่ไม้ชะงักไปนิด แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าทุผ่านยอดต้นไม้ไป

 

 

“…โห แต่แดดก็น้อยเหลือเกิน ครึ้มมาเชียว”

 

 

“ไม่เป็นไรค่ะ เรียวอยู่ได้” เจ้าหน้าที่หนุ่มพยักหน้าและก้าวเท้าเดินนำทุกคนต่อไป

 

 

เส้นทางที่จะไปถึงน้ำตก มีก้อนหิน โขดหินตั้งทับ ตั้งซ้อนกัน บ้างก็ตั้งทับกันสูงจนเป็นคล้ายหน้าผาขนาดย่อม ต้องระมัดระวังในการปีนป่าย บางก้อนมีตะไคร่จับตัวยิ่งทำให้ต้องระวังเพราะถ้าก้าวพลาดอาจลื่นหน้าแหก เรียวจันทร์โชคดีมีคมเขี้ยวค่อยช่วยประคอง ชวยพยุงมาตลอดทาง

 

 

“ตอนนี้ใกล้จะครึ่งทาง แบบครึ่งทางจริงๆ แล้วนะครับ” พี่ไม้หันมาบอกในขณะที่ใช้มือจับต้นไม้ดึงตัวเองให้เดินขึ้นไปบนเนินดิน เมฆาส่งเสียงให้กำลังใจทุกคน เรียวจันทร์หันไปมองคมเขี้ยวที่กำลังปีนตามขึ้นมาอย่างสบายๆ แล้วหันกลับไปมองทางต่อพลางขมวดคิ้วครุ่นคิด

 

 

พ้นจากกองหิน ก็เป็นทางเดินดินปกติที่เละนิดหน่อย เดินต่อไปอีกเกือบสิบนาทีทุกคนก็ได้ยินเสียงน้ำไหล ดินส่งเสียงร้องวู้วด้วยความดีใจ เดินต่อไปอีกสักพักก็เจอกับน้ำตกชั้นที่หนึ่งที่เป็นแอ่งขนาดเล็ก มีน้ำไหลลงมาจากด้านบน และน้ำที่ไหลลงมาก็ไหลต่อลงไปด้านล่าง ซึ่งน่าจะไปเชื่อมเป็นลำธารที่ทุกคนเดินผ่านมาเมื่อตอนต้นทาง

 

 

“โอ๊ย ขนาดเป็ดเคยมาแล้ว เป็ดว่าเป็ดยังเหนื่อยอยู่เลยค่ะ” เป็ดหอบน้อยๆ ค่อยๆ นั่งลงบนโขดหินสีเข้มที่มีตะไคร่น้ำเกาะริมน้ำตก คนอื่นนั่งแยกใครแยกมัน หยิบกระบอกน้ำขึ้นมาดื่มกิน คมเขี้ยวกับเรียวจันทร์นั่งลงบนโขดหินรอบนอกกันสองคน

 

 

“น้ำมั้ย” คมเขี้ยวยื่นกระบอกน้ำสีขาวของเรียวจันทร์ให้เจ้าตัว เรียวจันทร์รับมาและมองหน้าคมเขี้ยวงงๆ นิดหน่อย

 

 

“นายได้กินน้ำมั่งรึยังเนี่ย”

 

 

“ยัง ก็เพิ่งจะกินพร้อมคุณเนี่ยแหละ” คมเขี้ยวหยิบกระบอกน้ำสีดำของตัวเองขึ้นมาหมุนฝาออก เรียวจันทร์มุ่นคิ้วหน้ายังงงๆ อยู่

 

 

“ฉันนึกว่านายกินตั้งแต่ลำธารที่สอง” คมเขี้ยวสั่นหัว ยกกระบอกน้ำกระดก

 

 

“ก็ว่าจะกิน แต่คุณลงไปเล่นน้ำก่อนไง” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าอ้อ หมุนฝากระบอกน้ำออกแล้วยกขึ้นดื่มบ้าง

 

 

“เขี้ยว พาหนูเรียวมาถ่ายรูปเร็ว” เมฆาตะโกนบอกมาจากแนวหินชั้นบนของน้ำตก เรียวจันทร์ยื่นกระบอกน้ำตัวเองไปให้คมเขี้ยวเก็บไว้ตามเดิม และพากันเดินขึ้นไปถ่ายรูปกับน้ำตกชั้นแรกโดยมีพี่ไม้เป็นคนกดถ่ายให้

 

 

หลังจากถ่ายรูปและชื่นชมความเขียวชอุ่มชุ่มชื่นของน้ำตกชั้นแรกกันเสร็จ พี่ไม้ก็เดินนำทุกคนไปต่อกับน้ำตกชั้นที่สองที่อยู่ห่างกันเกือบกิโล และแน่นอนว่าเมื่อถึงชั้นใหม่ก็ถ่ายรูปใหม่ เมื่อขึ้นไปถึงชั้นสาม สี่ ห้าและหกก็ยังคงถ่ายรูป ยังดีที่ว่าแต่ละชั้นจะมีความแตกต่างกันในรูปทรงของหินที่วางอยู่ในน้ำหรือรอบๆ หรือเขตรอบนอก และแต่ละชั้นจะมีพันธุ์ไม้ ดอกไม้ที่แตกต่างกันอย่างน้อยสักสี่ห้าชนิดตามที่พี่ไม้บรรยายให้ฟัง เลยทำให้ได้แบ็คกราวด์ที่ไม่ได้เหมือนกันไปหมดซะทีเดียว

 

 

ในระหว่างทางที่กำลังขึ้นไปนำตกชั้นที่เจ็ด เรียวจันทร์ก็เริ่มสังเกตว่าคมเขี้ยวมีอาการคอยพ่นลมออกทางปากเบาๆ ใบหน้าแดงน้อยๆ คมเขี้ยวยกมือโบกลมเข้าตัวเองเป็นระยะ

 

 

“นายร้อนเหรอ” คมเขี้ยวพยักหน้าขึ้นหนึ่งที

 

 

“อือ ร้อนอ้าวๆ หน่อย” เรียวจันทร์หยุดเดิน ยกมือขึ้นไปแตะหน้าผากคมเขี้ยว ก่อนจะลูบลงมาที่แก้ม ในตอนนั้นเองที่ร่างสูงสูดลมหายใจเข้าปอดลึก รู้สึกสะท้านไปทั้งร่าง มองเรียวจันทร์เปลือกตาไม่กะพริบ ค่อยๆ กลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก

 

 

 

“ตัวก็ไม่ร้อน สงสัยเพราะอากาศอ้าวมั้ง” เรียวจันทร์ลูบหน้าคมเขี้ยวอีกที ร่างสูงหลับตาพริ้ม ลมหายใจสั่นหวิว สันกรามนูนชัดเพราะขบไว้แน่น เรียวจันทร์ปล่อยมือออกจากหน้าคมเขี้ยว ยื่นมือไปจับมือคนตัวโตไว้และพากันเดินตามคนอื่นๆ ไป

 

 

พอขึ้นมาถึงน้ำตกชั้นบนสุดก็คงต้องบอกว่ามันคุ้มค่ากับความเหนื่อยที่ปีนป่ายกันขึ้นมา สันเขาสีเข้มที่มีพันธุ์ไม้พันธุ์เล็กขึ้นเต็มชั้นหิน และมีพันธุ์ไม้ใหญ่แต่ก็ไม่ใช่ต้นใหญ่ตระการตาขึ้นบริเวณชั้นพื้นดินรอบๆ ชั้นหินแบ่งเป็นสองขั้น ตกลงมาจากยอด แล้วกระทบกับพื้นหินชั้นแรกก่อนจะโปรยละอองสีขาวซ่าจากด้านบนสู่ด้านล่างทีเป็นแอ่งขนาดใหญ่อีกที น้ำที่ตกลงมาจากชั้นแรกกระทบกับพื้นหินชั้นที่สองดังซู่และแตกซ่านกระจายเป็นระยะ และไหลยาวลงมาเป็นม่านน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ กระทบกับพื้นเสียงดังไม่แพ้หินชั้นแรก แล้วก็ไหลทอดยาวไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ผืนน้ำด้านล่างใสอย่างที่เรียกว่าใสจริงๆ มองเห็นพื้นหินพื้นดินในน้ำอย่างชัดเจน สะท้อนเงาใบไม้กิ่งไม้พันธ์ขนาดใหญ่ที่ขึ้นตามริมน้ำตกด้านนอกอย่างสวยงามราวกับเป็นภาพวาด

 

 

“โอ้ สวยจริงๆ เว้ย” เมฆามองไปรอบๆ ด้วยรอยยิ้มกับภาพที่เห็น เขาสังเกตเห็นลูกชายตัวเองขยับปกเสื้อตัวเอง และพ่นลมออกทางปากเงียบๆ

 

 

“ไอ้เขี้ยว ร้อนเรอะ?”

 

 

“นิดหน่อยป๋า” คมเขี้ยวตอบพลางปลดสายกระเป๋าออกจากบ่าวางไว้บนพื้นโขดหินขนาดใหญ่ที่ทุกคนกำลังยืนอยู่

 

 

“อากาศชวนฝนตกขนาดนี้ มาร้อนได้ไงวะ” คมเขี้ยวสั่นหัว แลบลิ้นเลียริมฝีปากสองสามที

 

 

“ผมอยากลงแช่น้ำคลายร้อนก่อน แล้วค่อยกินข้าวได้ป่ะ”

 

 

“ก็แล้วแต่ อยากทำไรทำ” คมเขี้ยวพยักหน้ารับ เจ้าหน้าที่บรรยายเพิ่มเติมว่าตรงจุดไหนเล่นน้ำได้ และจุดไหนเล่นไม่ได้ให้ทุกคนทราบ คมเขี้ยวมองไปทางด้านในของเส้นทางโขดหินที่ตั้งเรียงไล่ละดับไม่ต่างกันมากตามที่เจ้าหน้าที่บอกว่าด้านในจะเงียบสงบที่สุด

 

 

“ผมจองด้านในสุดนะ” ว่าเสร็จคมเขี้ยวก็เดินตัวปลิวไปตามโขดหิน

 

 

“เออ ไม่มีใครไปแย่งแกหรอก มีจองด้วยเว้ย” คุณป๋าว่าขำๆ ในขณะที่ช่วยภรรยาตัวเองจัดเตรียมอาหารเที่ยง เผื่อเอาไว้ว่าใครหิวอยากจะกินก่อน

 

 

เรียวจันทร์เม้มปาก หันไปมองเป็ด แม่สาวดำขำถลึงตามองเล็กน้อย บุ้ยปากไปทางที่คมเขี้ยวเดินไป คุณนายก้มลงมองกระเป๋าของคมเขี้ยวแล้วหยิบขึ้นมา “เดี๋ยวเรียวเอากระเป๋าไปให้พี่เขี้ยวก่อนนะคะ เผื่อเขาจะใช้อะไรในนี้”

 

 

“แล้วหนูเรียวจะกินข้าวก่อนมั้ยลูก หรือจะลงเล่นน้ำพร้อมพี่เขี้ยว” เรียวจันทร์อ้าปากหวอก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเมื่อได้ยินบัวบูชาพูดแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มล้อๆ

 

 

“เอ่อ… ถ้าไม่โดนไล่ตะเพิดกลับมาก็อาจจะมากินข้าวช้าหน่อยนะคะ” เรียวจันทร์ตอบอ้อมแอ้ม เม้มปากกลั้นเขินจากสายตาล้อเลียนของเมฆาอีกคน พอหันไปมองเป็ดก็เห็นเพื่อนสนิททำมือปัดๆ ใส่และทำหน้าว่าไปเถอะๆ ส่วนดินกำลังยืนคุยกับพี่ไม้อยู่

 

 

เรียวจันทร์หมุนตัวเดินไปตามทางที่คมเขี้ยวเดินไป ก้าวยาวๆ ข้ามโขดหินจากอีกก้อนไปอีกก้อน ชะเง้อมองหาร่องรอยของคมเขี้ยวก็ยังไม่เจอ เลยต้องเดินต่อไป หันซ้ายแลขวาไปด้วยเผื่อจะเจอว่าคมเขี้ยวแอบอยู่ตรงไหน เสียงน้ำตกตกกระทบพื้นด้านหลังดังแว่วมาให้ได้ยิน สลับกับเสียงนกร้องก้องป่า เรียวจันทร์แหงนหน้ามองท้องฟ้า บรรยากาศครึ้มพร้อมจะคายฝนตกลงมา แต่ก็ยังพอมีแสดงแดดรำไรๆ เล็ดลอดออกมาจากหมู่เมฆอยู่บ้าง

 

 

เรียวจันทร์รู้สึกว่าตัวเองเดินมาไกลมากจนต้องหันหลังกลับไปมอง กิ่งไม้ที่แผ่อยู่เหนือโขดหินบดบังทัศนียภาพด้านหลังจนเกือบมิด พอหันกลับมามองด้านหน้าก็ต้องขมวดคิ้ว นึกในใจว่าตาเขี้ยวกุดเขาเดินไปถึงไหนกัน คุณนายก้าวเท้าเดินต่อ ผ่านความเขียวชอุ่มด้านขวามือของป่าหนาทึบ ด้านซ้ายเป็นฐานหินภูเขาของน้ำตกที่เบื้องล่างมีน้ำตกใสๆ โอบล้อม มีแอ่งน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างที่เป็ดบอก และพอเดินต่อเข้าไปจนด้านในสุดทางโขดหิน เรียวจันทร์ก็เจอกับคมเขี้ยว

 

 

ร่างสูงกำลังยืนแช่น้ำอยู่ในแอ่งหิน ร่างกายเปลือยเปล่าโชว์ก้ามเนื้อสีแทนคร้ามแดดของแผ่นหลังที่อัดแน่นด้วยมัดกล้าม เสื้อผ้าถูกถอดวางไว้บนโขดหิน เรียวจันทร์วางกระเป๋าลงที่เดียวกัน ก่อนจะเริ่มถอดเสื้อผ้าตัวเองออก

 

 

คมเขี้ยวยืนกัดฟันแน่น วักน้ำขึ้นล้างหน้าล้างตาเพื่อให้อาการดีขึ้น เขาร้อนรุ่มไปทั้งตัว รู้สึกถึงอาการตื่นตัวแปลกๆ ในเรื่องอย่างว่า ตอนที่เรียวจันทร์โดนตัวเขา มันรู้สึกวูบวาบไปทั้งร่างโดยเฉพาะไอ้ลูกชายที่เหมือนจะกู่ร้องเป็นพิเศษ เขาเอามือเท้าเอว หลับตาแล้วแหงนหน้าขึ้น

 

 

“นายโอเครึเปล่า” เสียงนุ่มมาพร้อมกับสัมผัสจากมือนิ่มที่ลูบจากเอวขึ้นมาที่หัวนม คมเขี้ยวหันขวับไปมองก็เจอกับเรียวจันทร์ในร่างเปลือยเปล่า โชว์ผิวขาวเนียนละเอียดอย่างกับน้ำนม คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์ด้วยความรู้สึกร้อนวูบวาบ สองมือจับข้อมือเรียวจันทร์เอาไว้กันอีกฝ่ายสัมผัสตัวเขาเอง 

 

 

“ลงมาทำไม กลับขึ้นไปเถอะ” เรียวจันทร์ก้มลงมองด้านล่าง ที่ใต้น้ำความเป็นชายของคมเขี้ยวค่อยๆ ตั้งผงาดขึ้นมา เรียวจันทร์เงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงที่ยืนหน้าเปียกแดงก่ำที่กำลังมองตัวนางด้วยสายตาพร่ามัว เรียวจันทร์บิดข้อมือตัวเองออกจากมือคมเขี้ยว ดึงมือใหญ่หนาของฝ่ายนั้นให้มาสัมผัสผิวตัวเอง คมเขี้ยวกัดฟันแน่น สองมือเกร็งไม่กล้าจับผิวเรียวจันทร์เต็มมือ

 

 

ร่างขาวเนียนละเอียดขยับเข้าไปใกล้ร่างเข้มคร้ามแดดมากขึ้น ยกสองแขนขึ้นคล้องคอหนา คมเขี้ยวทำท่าจะถอยหนี แต่เรียวจันทร์กระชับวงแขนไว้แน่น ยื่นหน้าไปหอมแผ่นอกล่ำหนาของคมเขี้ยว

 

 

“อ่า… คุณเรียว อย่า…” เรียวจันทร์เลื่อนลงไปจูบตรงต้นคออุ่นๆ ของคมเขี้ยวแผ่วเบาแล้วเงยหน้าขึ้นมองอีกคนที่กำลังมองนางอยู่เช่นกัน ใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันพอสมควรเนื่องจากคมเขี้ยวตัวสูงกว่ามาก

 

 

“อยากก็ทำสิ…” เรียวจันทร์ว่าเสียงกระซิบ มือขวายกขยุ้มเส้นผมตรงท้ายทอยของคมเขี้ยวเบาๆ

 

 

คมเขี้ยวยืนกลืนน้ำลายลงคอดังอึก มองหน้าแสนยั่วของเรียวจันทร์นิ่ง สองมือเคลื่อนลงต่ำไปตามแรงอารมณ์ กอบกุมก้นแสนงอนของร่างขาวสะอาดตาไว้ในมือทั้งสองข้าง สายตาของเขาจ้องมองดวงตาสีน้ำตาลสุกใสของแม่กวางน้อยที่ยืนรอเสืออย่างเขาเข้าไปขย้ำ

 

 

ยังไม่ทันที่กวางจะออกวิ่ง เสือตัวโตก็ก้มลงขย้ำซอกคอขาวนุ่มแสนหอมอย่างตะกละตะกลาม ทั้งสูดดม ซุกไซ้รุนแรงโดยที่เหยื่อก็แหงนหน้าขึ้นด้วยความเต็มใจที่จะให้พ่อพยัคฆ์ฝังเขี้ยวลงไปในตัวเองแรงๆ

 

 

เรียวจันทร์เปิดเปลือกตาขึ้น ในขณะที่คมเขี้ยวไซ้คอนางไม่หยุด ร่างเล็กหอบหายใจกระชั้นถี่กับแรงอารมณ์ที่พุ่งขึ้น สองมือเลื่อนลงมาจิกไหล่คมเขี้ยว ร่างสูงรัดเอวนางไว้แน่นจนด้านหน้าของนางแนบชิดติดกับกล้ามท้องของคนตัวโต

 

 

เรียวจันทร์กรีดยิ้มบางเฉียบและเอียงคอให้คมเขี้ยวไซ้อีกฝั่งอย่างเท่าเทียมกัน

 

 



เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao3:



กรี๊ดดดดด คุณแม่โดนพยัคฆ์ตะครุบแล้วค่าาา แอร๊ยยย กวางน้อยจะโดนย่ำยีเละขนาดไหนกัน อะคริๆ แต่เชื่อว่าขุ่นแม่เรียวนางเตรียมตัวมาพร้อมเพื่อสิ่งนี้มานานแล้ว นางคงพร้อมเยียวยารักษาตัวเองในภายหลัง

เสือกับกวางอยู่ในป่า เขาก็ต้องได้กันในป่านี่แหละค่ะเหมาะที่สุดแล้ว 55555 กลับคืนสู่ธรรมชาติที่แท้จริม วี้ดวิ้ววว

ขุ่นแม่เลือกจิ้มโลเคชั่นเสียตัวได้พีคมาก ที่บ้านอาจไม่เร้าใจหรือยังไงไม่ทราบเลยขอมาเสียตัวในป่า ทาร์ซานสุดฤทธิ์ ฮ่าๆๆ

แต่ก็เอ๊ะ... จะมีอะรไมาขัดรึเปล่าเนี่ย -..- ไม่ใช่ว่าตะครุบเหยื่อแล้ว มีอันต้องปล่อยเหยื่อให้หลุดไปนะพ่อพยัคฆ์

แท็ก #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 21-12-2016 17:56:55
ขุ่นแม่จะโดนกินล้าวววว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 21-12-2016 18:35:13
 :z3: มาต่อเดี่ยวนี้ค่าาาาาา ค้างแบบนี้ใจไม่ดีๆ

จะเสร็จสมอารมณ์หมายหรือเสร็จสมบ่มิสม พี่เขี้ยวเอาอยู่!!  :hao3:

จัดให้คุณแม่เรียวสักครั้งหนึ่งในชีวิต 5555555 พี่เขี้ยวนางเริ่มมีหึงค่ะงานนี้  :katai2-1: ขออย่ามีอะไรมาขัดเท้อออ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-12-2016 19:03:01
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-12-2016 19:10:10
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 21-12-2016 19:44:39
อย่าบอกนะคะ ว่าเจ้เรียวแอบเอาอะไรให้ขุ่นพี่เขี้ยวกินนนนนน :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 21-12-2016 20:19:13
โดนยาปลุกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 21-12-2016 20:29:54
กรี๊ดดดดดดดดดดด ไรท์ทามร้ายกานได้ลงคอออออออออ :serius2: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 21-12-2016 20:47:26
ทำร้ายจิตใจกันไปถึงหนายยยยยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 21-12-2016 21:26:18
กรี้ดดดดดดดดดด ค้างงงงงงงงงง กรีดร้องงงงงงงงงงงงงง :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 21-12-2016 21:48:28
กรี๊ดดดดดดดด คุณแม่จะปล้ำพี่เขี้ยวแล้ววววววว 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 22-12-2016 05:39:57
เจอขุ่นแม่โหมดเซกซี่ไป อุต๊ะ!! เล่นท่ายากกันในป่าเลยจร้าาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 22-12-2016 12:43:18
กรี๊ดดดดดดด ค้างแรงมากกกกกก  :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: wonwon ที่ 22-12-2016 16:12:45
ใครเอายาปลุกให้พี่เขี้ยวละเนี่ย อิอิ :haun4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 22-12-2016 17:06:16
ขุ่นแม่เหมือนนางพญาเล้ยยยย.  :hao6: :hao6: ร้อนแรงกันจริงๆนี่แค่คอนะ :z2:  อย่าามีใครขัดเลยยให้ขุ่นแม่เถอะแม่รอมานาน :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 22-12-2016 19:29:42
 :mew1:สศช
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Wdf_mikeii ที่ 23-12-2016 09:50:03
รอตอนต่อไปฮะ  :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 24-12-2016 00:43:21
 :z1: บรรยากาศให้มากเลยอ่ะ หวังว่าคงไม่มีใครมาขัดตาทัพให้พี่เขี้ยวต้องลงแดงก่อนน่ะ  :mew4: ทำไมแม่เรียวใจร้อนจริง แบบไม่ให้โอกาสคมเขี้ยวได้เตรียมตัวจัดหาเลยน่ะ เล่นเอาหอบเหนื่อยเลยกว่าจะขึ้นมาถึงบนสุดน่ะ เกิดพ่อเขี้ยวช็อคไปทำไงเนี่ย  :hao3: หวังว่าคนเขียนคงไม่ใจร้ายกับเสือร้ายกับกวางน้อยน่ะ หรือจะกวางแรดดีเนี่ย  :mew3: มาอัพเร็ว ๆ น่ะจ้ะ อยากเห็นเสือกินกวางแล้วอ่ะ  :z1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Wdf_mikeii ที่ 25-12-2016 00:04:50
โดนยาแน่ๆ 5555  :pighaun:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๐/100% :21.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 25-12-2016 00:36:54
ร้ายยยยยยยสุด
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 25-12-2016 18:22:50



คาถาที่ 21 :: The tiger devoured his prey. (พยัคฆ์ขย้ำนางมาร) [ครึ่งแรก]



เสียงหอบหายใจดังคลอเคลียสลับกับเสียงจูบอย่างดูดดื่ม เสียงผิวน้ำกระทบผิวเนื้อยามที่คนด้านล่างขยับเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างหนักหน่วง ร่างเล็กแหงนหน้าขึ้นให้ร่างสูงที่อยู่ด้านล่างสูดดมซุกไซ้ซอกคอตนเองได้อย่างสะดวก มือเล็กสองมือทึ้งเส้นผมดกดำ



เรียวจันทร์อ้าปาก พยายามผ่อนลมหายใจให้ทันกับแรงกระแทกด้านล่างที่กระแทกขึ้นมารัวๆ จนตัวสั่นคลอน ร่างบางรู้สึกเหมือนสติจะหลุดออกไปทุกที แรงเสียดสีที่ด้านล่างนั้นหนักแน่น รุนแรงและลงเน้นทุกจังหวะ ช่องทางด้านหลังร้อนระอุเพราะความเป็นชายของคมเขี้ยวเสียดสีเข้าๆ ออกๆ แต่ทว่าคับแน่นอยู่ด้านใน สองมือเลื่อนลงจากเส้นผม ลากครูดไปตามกล้ามเนื้อบนแผ่นหลังของคมเขี้ยวราวกับใจจะขาด
   


เรียวจันทร์รู้สึกเหมือนใจจะขาดจริงๆ และบางครั้งก็รู้สึกเหมือนไส้จะขาดไปด้วย อาวุธของคมเขี้ยวที่นางเคยจับ เคยสัมผัส พอได้เห็นของจริงและได้ใช้จริง มันช่างร้อนแรงและถึงใจยิ่งกว่าคิดไว้
   


เกินไปมากด้วย…
   


“เขี้ยว โอ๊ย โอ๊ย เขี้ยว ปะ… แปบนึง” เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอ เปลือกตาปิดแน่น สองมือดันอกคมเขี้ยวให้ห่างจากตัวเองสักแปบ ขาสองข้างที่อ้ายันพื้นหินสั่นระรัว คมเขี้ยวหยุดขยับสะโพก นั่งหายใจหอบเสียงหนัก สองมือลูบสะโพกผายแบบพอดีของเรียวจันทร์ ลากยาวขึ้นมาถึงซึ่งโครง เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่น เพราะแม้คนข้างล่างจะหยุดให้แล้ว แต่ไอ้ความใหญ่ยาวที่คาอยู่ในตัวก็ยังคงสร้างความเสียว ความหน่วงได้ดีซะเหลือเกิน
   


“ผมยังไม่เสร็จนะ” คมเขี้ยวว่าเสียงแหบ ยื่นหน้าไปกดจูบต้นคอขาวเนียนที่ตอนนี้มีรอยแดงขึ้นแทบจะรอบคอ เรียวจันทร์พยักหน้าพลางกลืนน้ำลายลงคอ
   


“เอาออกแปบนึง” เรียวจันทร์ค่อยๆ ยกก้นตัวเองขึ้น น้ำสีขาวข้นของคมเขี้ยวจากรอบก่อนที่นางใช้ปากให้จนอีกฝ่ายปล่อยน้ำลาวาออกมาล้นปาก นางเลยเอามาใช้เป็นเจลหล่อลื่นในรอบนี้ ซึ่งมันช่วยได้มากทีเดียว ไม่งั้นคงฝืดเคืองน่าดู คราบน้ำสีขาวเลอะไปรอบช่องแคบชมพูเนียนของเรียวจันทร์ ความเป็นชายของคมเขี้ยวที่ตั้งตระหง่านมีน้ำสีขาวอาบไล้จางๆ
   


“นั่งลงได้แล้ว มา” คมเขี้ยวที่กลืนน้ำลายเอื๊อกๆ เพราะความยาก พยักหน้าลงเป็นเชิงบอกให้เรียวจันทร์กลับลงไปในท่าเดิม เรียวจันทร์หน้าแหยนิดหน่อย แต่ก็ค่อยๆ นั่งลงไปบนความตระหง่านของคมเขี้ยว พอนั่งลงจนสุด เรียวจันทร์ก็ตาโตหน้าจุก สองแขนกอดคมเขี้ยวไว้แน่น
   


ปึก!
   


“อุ๊!” เรียวจันทร์กัดฟันแน่น หน้าหยีเพราะความเจ็บกับแรงกระแทกเต็มแรง และก่อนที่จะได้ผ่อนปรนความเจ็บ คมเขี้ยวก็จับเอวนางแน่น เอนตัวพิงกับแผ่นหินบนกลางน้ำที่ตอนนี้กลายมาเป็นเตียงให้ทั้งสองคน คมเขี้ยวเด้งสะโพกขึ้นถี่รัวและรุนแรงจนเรียวจันทร์ร้องเสียงเพี้ยน ตัวสั่นคลอนอย่างแรง
   


“อาๆๆๆๆ” เรียวจันทร์สะบัดหน้าไม่รู้ทิศ เล็บจิกลงบนอกคมเขี้ยวจนเป็นรอยแดง
   


“เขี้ยว! เขี้ยว! โอ๊ย… โอ๊ย…” แต่คมเขี้ยวไม่สนใจเสียงร้องอ้อนวอนนั้น เขาจับเอวเรียวจันทร์ไว้แน่นและเด้งสะโพกขึ้นลงเน้นๆ จนเสียงเนื้อกระทบกันดังตับๆๆๆ ลั่นแอ่งน้ำ
   


“อ๊าๆๆๆ” เรียวจันทร์รู้สึกสมองขาดการรับรู้เป็นพักๆ มันขาวโพลน เบลอสลับกับรับรู้ นางมองหน้าของคมเขี้ยวที่ดูจะเอาจริงเอาจังกับการกระแทกเหลือเกิน
   


“ขะ… เขี้ยว เรียวจะเสร็จ…” คมเขี้ยวครางฮึ่มฮั่มในลำคอ ยังไม่ยอมหยุดกระแทกด้วยแรงเท่าเดิม จนในที่สุดเรียวจันทร์ก็ปลดปล่อยน้ำสีขาวบางเบาออกมาเลอะหน้าท้องคมเขี้ยว ร่างเล็กไม่มีเวลาแม้แต่จะหยุดหายใจให้หายเหนื่อย เพราะตัวยังโยกไปโยกมาจากแรงกระแทกของคนตัวโต
   


ปัก!!
   


“อ๊า!” เรียวจันทร์กรีดร้องเสียงแผ่วในตอนที่คมเขี้ยวกระแทกปิดท้ายจนตัวของนางเด้งไปข้างหน้า ต้องใช้มือยันกับแผ่นหินเอาไว้ แต่ยังไม่ทันได้วางมือเต็มหิน คมเขี้ยวที่ยังไม่เสร็จก็จับตัวเรียวจันทร์ให้ลงไปอยู่ด้านล้างโดยที่ช่วงกลางของลำตัวยังคาอยู่ด้านในตัวเรียวจันทร์ ร่างเล็กอ้าปากหวอหน้าตาบ่งบอกว่าจุกในตอนที่โดนพลิกลงมาอยู่ข้างล่าง คมเขี้ยวจับสองขาของเรียวจันทร์พาดบ่า ทำให้ก้นขาวๆ ของเรียวจันทร์ยกขึ้น ส่วนตัวเขาปรับท่านั่งให้เป็นท่านั่งยองๆ แยกขาให้มั่นคง สองมือจับเอวเรียวจันทร์เอาไว้ แล้วก็กระแทกเข้าไปเต็มแรง
   


“อึ่ก!!!” เรียวจันทร์ส่งเสียงขาดห้วงออกมาจากลำคอ ตาแทบเหลือกกับความใหญ่ยาวที่เข้าไปก่อกวนด้านในของตัวเอง นางยกสองมือขึ้นจับแขนคมเขี้ยวไว้อย่างหมดแรง ลำตัวเคลื่อนไหวขึ้นลงไปตามแรงกระแทก
   


ปึก! “อะ!”
   


ปึก! “อะ!”
   


ปึก! “อะ!”
   


ปึก! “โอย… ฮื่อ…”



น้ำตาใสๆ ไหลออกทางหางตาคู่สวยทั้งสองข้าง แต่คนด้านบนก็ไม่ได้หยุดแรงกระแทก ยังคงกระแทกด้วยแรงเท่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเหี้ยม ดวงตาลุกโชนดุดัน เหงื่อผุดขึ้นเต็มกรอบหน้า แต่เขาก็ยังคงออกแรงขย้ำเรียวจันทร์ได้ดีราวกับไม่เหน็ดเหนื่อย



“เขี้ยวกุด…” เรียวจันทร์ครางเสียงแผ่ว ดวงตาพร่าเลือน สติคล้ายจะหลุดออกจากร่างทุกที แต่เพราะแรงกระแทกที่ยังคงเข้ามาไม่หยุดเลยทำให้ยังรู้สึกตัวอยู่บ้าง



“อ้า!!” คมเขี้ยวคำรามแล้วแรงกระแทกก็หยุดไป เขาคุกเข่าลงบนพื้นหิน สองมือยกมาจับขาเรียวจันทร์ที่พาดบ่าทั้งสองข้างของตัวเองไว้ ก่อนจะค่อยๆ จับแยกออกแล้ววางลงบนพื้น เรียวจันทร์หมดแรงที่จะพยุงขาให้ตั้งฉากได้ ร่างกายของนางอ่อนปวกเปียกไปหมด คมเขี้ยวกมตัวลงดูดยอดอกสีชมพูด้านซ้ายของเรียวจันทร์อย่างแรงจนเกิดเสียงจุ๊บจั๊บ เรียวจันทร์ตัวกระตุกด้วยความเสียว อ้าปากร้องครางแผ่วเบา คมเขี้ยวกัดยอดอกไปหนึ่งทีแล้วเด้งตัวขึ้น จับขาเรียวจันทร์ให้ตั้งฉาก และกลับไปนั่งยองๆ ตามเดิม จับเอวยกก้นเรียวจันทร์ขึ้น แล้วก็ออกแรงกระแทกถี่รัวจนร่างเล็กร้องเสียงหลงอีกรอบ ตัวของเรียวจันทร์สั่นไหวอย่างรุนแรง



“อาาา!!!” คมเขี้ยวคำรามลากเสียงยาวก่อนที่จะเร่งจังหวะขึ้นอีกนิดจนเรียวจันทร์หน้าเหยเก แล้วไม่นานก้นของคมเขี้ยวก็ขมิบถี่รัวเพราะด้านหน้าปลดปล่อยน้ำออกมาจำนวนมาก จนต้องดึงออกมาเสร็จข้างนอก น้ำสีขาวทะลักออกมาจากก้นเรียวจันทร์ และคาวบอยน้อยที่คุณนายเรียกก็ยังคงพ่นน้ำลงบนตัวขาวเนียนไม่หยุด คมเขี้ยวกัดฟันแน่น ร้องคำรามในลำคอ ค่อยๆ วางเข่าลงบนพื้นหิน ยกมือขวาขึ้นมารูดลูกชายตัวเองเบาๆ จนกระทั่งมันหยุดพ่นน้ำออกมา



คมเขี้ยวหอบเสียงหนัก มองร่างบอบบางแต่มีกล้ามเนื้อของเรียวจันทร์ที่กำลังนอนหายใจรวยริน ลำคอและแผ่นอกของเรียวจันทร์มีรอยสีแดงกระจัดกระจาย บางจุดเกือบจะเป็นสีช้ำ ยอดอกบวมเป่งเพราะโดนเขาดูดและกัด ใบหน้าขาวใสแดงระเรื่อ เปลือกตากะพริบอ่อนแรง ริมฝีปากสีขมพูสดเผยอขึ้นเพื่อช่วยจมูกหายใจ เขายังมีได้อีก ยังรู้สึกว่าไม่พอ อยากเอาอีก แต่ดูจากสภาพเรียวจันทร์แล้วอาจจะต้องพอแค่นี้ก่อน



“ลุกไหวมั้ย” คมเขี้ยวถามพลางลุกขยับไปนั่งบนพื้นที่ของหินที่เหลืออยู่ไม่มาก หินก้อนนี้แบนราบที่สุดที่จะใช้เป็นเตียงชั่วคราวของเขาสองคน เรียวจันทร์ปิดเปลือกตาลง นอนนิ่งๆ เพื่อปรับลมหายใจอีกสักพัก คมเขี้ยวยกมือขวาไปลูบหน้าเช็ดเม็ดเหงื่อให้เรียวจันทร์เบาๆ



“ดึงหน่อย” เรียวจันทร์บอกเสียงเบาหวิว ยกแขนซ้ายอันปวกเปียกให้คมเขี้ยวจับแล้วค่อยๆ ดึงตัวนางให้ลุกขึ้นนั่ง คมเขี้ยวเขยิบเข้าไปใกล้เรียวจันทร์ อุ้มร่างอ่อนแรงขึ้นมานั่งซ้อนด้านหน้าตัวเอง เรียวจันทร์นั่งคอพับคออ่อนจนต้องจับหัวให้พิงอกสีคร้ามแดดที่มีร้อยเล็บ เปลือกตาเรียวจันทร์ขยับเปิดขึ้นมามองหน้าคมเขี้ยว



“นี่กะเอาฉันรอบเดียวแล้วพอเลยใช่มั้ย” เรียวจันทร์ถามเสียงอ่อนแรง ทิ้งน้ำหนักที่รู้สึกว่าลดลงไปเยอะลงบนตัวคมเขี้ยว เจ้าของร่างสูงใหญ่ ขบกรามเบาๆ ยกมือขวาลูบเส้นผมสีโค้กของเรียวจันทร์อย่างอ่อนโยน



“เดี๋ยวล้างตัวแล้วไปกินข้าวกัน” คมเขี้ยวว่าเสียงนุ่ม จูบขมับซ้ายของเรียวจันทร์ไปหนึ่งที



“นายรู้สึกดีขึ้นแล้วเหรอ” เสียงของเรียวจันทร์เบาหวิว นางนึกสงสัยว่าฤทธิ์ยาที่คมเขี้ยวกินเข้าไปมันจะส่งผลนานขนาดไหน แต่จากที่เห็น คมเขี้ยวกินน้ำในกระบอกไปไม่มาก



“อย่าโดนตัวผมบ่อยแล้วกัน” คมเขี้ยวตอบหน้านิ่ง กำลังไตร่ตรองกับตัวเองเงียบๆ ว่าทำไมจู่ๆ ก็มีอาการอยากมีเซ็กส์ อยากปลดปล่อยขึ้นมา มันไม่เหมือนอาการเสี้ยนยาที่ว่าขาดไม่ได้ ไม่งั้นจะลงแดงตายอะไรแบบนั้น แต่ไอ้ลูกชายเขามันวูบๆ วาบๆ และมันแข็งทันทีตอนที่โดนเรียวจันทร์ลูบตัว



“เดี๋ยวล้างตัวกัน” คมเขี้ยวบอกเรียวจันทร์ที่นั่งหน้าตาอ่อนแรง หมดฤทธิ์คุณนายตัวแสบไปเลย เรียวจันทร์ค่อยๆ เคลื่อนตัวลงจากแผ่นหินโดยมีคมเขี้ยวช่วยพยุงไม่ให้ล้มหน้าคว่ำไปก่อน



คมเขี้ยวประคองเรียวจันทร์ที่ยืนโงนเงนอยู่ในน้ำไว้ในอ้อมแขน สองมือวักน้ำขึ้นมาลูบตัวเรียวจันทร์ ล้างทำความสะอาดคราบขุ่นที่อยู่บนตัวขาวเนียนออกไป มือซ้ายลูบสะโพกกลมกลึงของคุณนายด้วยความสงสัยเล็กๆ



“ทำไมมีสะโพกด้วย” หุ่นของเรียวจันทร์เหมือนผู้ชายปกติ ไม่ได้ผอมบางแห้ง หุ่นกำลังดี เอวคอดกิ่วพอประมาณ มีกล้ามท้อง แต่ไม่ได้เป็นหกห่อ แค่หน้าทองแบนราบด้วยความแข็งแรงเท่านั้นเอง



“ฉันเคยกินยาคุมเกือบสิบปี พอขึ้นมหา’ก็ออกกำลังกาย เน้นเล่นสควอช เพราะฉันอยากใส่ชุดผู้หญิงขึ้นรันเวย์สวยๆ” คมเขี้ยวลูบผิวลื่นๆ ตรงสะโพกของเรียวจันทร์ด้วยความเพลิน มันไม่ได้ผายขยายออกเป็นทรงผู้หญิง แต่เขาก็เชื่อว่าผู้ชายโดยปกติแล้วไม่น่าจะมีแบบนี้



แปะ!



คมเขี้ยวใช้มือขวาตบลงบนก้นงอนๆ ของเรียวจันทร์แล้วขยำเต็มมือ เรียวจันทร์คลี่ยิ้มอ่อนแรง หมุนตัวเข้าหาร่างสูง ยกสองแขนโอบคอคมเขี้ยว อีกฝ่ายใช้สองมือกอบกุมก้นเรียวจันทร์ไว้เต็มสองมือแล้วค่อยๆ ลูบขึ้นตามแผ่นหลังขาวเนียนที่ตอนนี้เป็นรอยแดง รอยครูดกับแผ่นหินเมื่อกี้นี้


V
v
v
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 25-12-2016 18:23:28

V
v
v

“พี่เขี้ยว!” คมเขี้ยวตาโตในขณะที่กำลังจะก้มจูบเรียวจันทร์ เขากำลังจะพาเรียวจันทร์ไปหาที่แอบแต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะพอเงยหน้าขึ้นไปบนแนวหินด้านบนก็เจอไอ้ดินยืนจังก้าอยู่บนนั้น



“โห พี่เขี้ยว เล่นคุณเรียวของดินจนได้เลยนะ ไรวะ มาให้พี่หยามถึงนี่เลยกู” ไอ้ดินว่าหน้าหงิก ยืนมองร่างเปลือยของคนสองคนกำลังแนบชิดสนิทกัน สองแขนของคุณเรียวโอบรอบคอพี่เขี้ยว สองแขนของพี่เขี้ยวก็โอบเอวคุณเรียวไว้



“เออ มึงมีไร” คมเขี้ยวหันหลังเอาตัวบังเรียวจันทร์ที่เอาหน้าซุกอกเขาอยู่ และหันหน้าข้างคุยกับไอ้ดิน



“จะมาเรียกไปกินข้าว เห็นว่าหายมานานแล้ว แต่พี่อิ่มละม้าง” เรียวจันทร์หัวเราะเบาๆ คมเขี้ยววักน้ำใส่ไอ้น้องชายจอมซื่อที่เดี๋ยวนี้มันจะเริ่มไม่ซื่อเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับเรื่องคุณเรียวจันทร์ของมัน



“เออ เดี๋ยวกูตามไป อิ่มห่าไรล่ะ กูหมดแรงแล้วเนี่ย” ไอ้ดินเบ้ปาก นึกอยากขว้างก้อนหินใส่หลังพี่เขี้ยวแรงๆ เอาให้หลังแอน ยิ่งเห็นร่างขาวๆ ของคุณเรียวจันทร์ซุกอยู่ในอกอีกฝ่ายก็ยิ่งหมั่นไส้



“ดินจะฟ้องพ่อกับแม่บัวว่าพี่แย่งคุณเรียวไปจากดิน” ว่าจบมันก็เดินกลับไปตามทางเดิม คมเขี้ยวมองตามไอ้ตัวโตแล้วส่ายหัวเบาๆ เรียวจันทร์ผงกหัวขึ้นจากอกคมเขี้ยว สอดส่องมองหาร่างของดินก็เห็นแต่ความว่างเปล่า



“รีบไปเถอะ เดี๋ยวคนอื่นรอนาน” คมเขี้ยวแลบลิ้นเลียลิมฝีปากล่าง มองหน้าเรียวจันทร์แล้วกลืนน้ำลายลงคอหนึ่งอึก



“อีกรอบนะ” เรียวจันทร์หน้าเหวอไปนิด ยังไม่ได้ทันได้นึกคำตอบก็ถูกคมเขี้ยวจับหมุนตัวไปด้านหน้า ดันให้เดินไปหาโขดหินก้อนหนึ่งที่อยู่เหนือน้ำขึ้นไปเกือบจะถึงบก คมเขี้ยวสั่งให้เรียวจันทร์เกาะหินนั้นไว้ ก่อนที่จะจับลูกชายตัวเองยัดเข้าไปในรูของเรียวจันทร์ที่บวมแดงและยังขยายตัวอยู่



“อื้อ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว ความจุก ความเสียวกลับมาอีกครั้ง ใช่ว่าคมเขี้ยวคือครั้งแรกหรือคนแรกของนาง แต่กับคมเขี้ยว มันกลับรู้สึกมากกว่าครั้งไหน ด้วยไซส์ของอาวุธที่ใหญ่ยาว สร้างความเสียว ความหน่วงท้อง ความอึดอัด และความสุขสมปนเปกันไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดตรงอารมณ์ไหน บวกกับความอึดความทนทานที่เรียวจันทร์ไม่รู้ว่า ถ้าในเวลาปกติคมเขี้ยวจะอึดแบบนี้มั้ย หรือว่าเป็นแค่ตอนนี้เพราะฤทธิ์ยา แต่เท่าที่จำสรรพคุณของยาได้ มันไม่ได้ช่วยเพิ่มพละกำลังหรือความอดทน มันแค่ทำให้อยากเฉยๆ แล้วกระตุ้นด้วยการสัมผัส นางเลยสรุปได้ว่า พ่อเขี้ยวกุดน่าจะอึดเป็นนิสัยอยู่แล้ว



“อาๆๆๆ เขี้ยว…” เรียวจันทร์เรียกชื่อชายหนุ่มเสียงสั่นไปพร้อมกับร่างที่สั่นสะเทือน มือที่จับโขดหินอยู่แทบจะไม่มีแรงเกาะเพื่อพยุงตัวอีกแล้ว นางเหลียวหน้าจะไปมองอีกฝ่าย คมเขี้ยวก็โน้มตัวเข้ามาจูบปากอย่างดูดดื่ม เรียวจันทร์อ้าปากแลบลิ้นให้คมเขี้ยวดูดกินอย่างรุนแรง พอดูดกลืนน้ำหวานจากปากเรียวจันทร์จนพอใจ คมเขี้ยวก็เด้งตัวกลับไป จับเอวเรียวจันทร์ให้มั่นคงและกระแทกอย่างรุนแรง เสียงเนื้อกระทบกันสนั่นลั่นป่า ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของเรียวจันทร์ที่ดังจนคมเขี้ยวต้องเอื้อมมือไปปิดปากเอาไว้ ร่างเล็กเลยส่งเสียงกรีดร้องอยู่ในมือคมเขี้ยวอย่างเต็มที่



“ฮื้ออออ… ฮื้อออ…” เรียวจันทร์ทั้งครางทั้งคำรามหวังจะช่วยปลดปล่อยความเจ็บปวด น้ำตาไหลอาบแก้มสองข้างเพราะความเจ็บจากแรงกระแทก เรียวจันทร์รู้สึกมวลท้องด้วยความเสียว แล้วส่วนน่ารักของเรียวจันทร์ก็ต้องพ่นน้ำออกมาอีกครั้งเนื่องจากส่วนปลายของคมเขี้ยวกระแทกจุดเสียวอารมณ์หวิวซ้ำแล้วซ้ำเล่า



ปับๆๆๆ



“อ้ะ! อ้ะ! อ้า!!!” คมเขี้ยวคำรามเสียงแหบ มือขวาจับเอวเรียวจันทร์แน่น มือซ้ายปลดออกจากปากเรียวจันทร์ ร่างเล็กครางฮือน้ำตาไหลพราก รับรู้ถึงความอุ่นร้อนของน้ำล็อตใหม่ที่ฉีดพ่นเข้าไปด้านในของตัวเอง เรียวจันทร์ปากสั่น ขาสั่นจนร่างทรุด ทำให้ด้านหลังหลุดออกจากกลางลำตัวคมเขี้ยว นางล้มลงไปกองกับพื้นหินกรวดริมน้ำในท่าคลานเข่า น้ำสีขาวหยดลงบนตัวเรียวจันทร์เปาะแปะๆ ก่อนที่จะหยุด และเปลี่ยนเป็นไหลเยิ้มทีละนิด



“อือ… อือ…” เรียวจันทร์ครางเสียงสั่น ริมฝีปากสีชมพูสดสั่นระริก สองขาสั่นจนประคองตัวเองไม่อยู่ ถึงกับต้องนั่งพับเพียบ กำลังจะล้มตัวลงนอนคมเขี้ยวก็ดึงตัวเรียวจันทร์ไว้ สองแขนแข็งแรงอุ้มร่างเรียวจันทร์ขึ้นและพาลงไปในน้ำตรงบริเวณตื้นๆ ก่อนจะเข้ามานั่งซ้อนด้านหลังเรียวจันทร์ ให้อีกฝ่ายใช้ร่างเขาเป็นที่พักพิงในยามหมดแรงแบบนี้



คมเขี้ยววักน้ำลูบหน้าลูบตัวเรียวจันทร์เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น เรียวจันทร์หลับตาพริ้ม ปล่อยให้คมเขี้ยวจัดการตัวเอง ส่วนนางนั่งหมดแรงหายใจรวยรินอยู่บนอกคมเขี้ยว กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก คมเขี้ยวนั่งบีบนั่งนวดตัวให้เรียวจันทร์อยู่พักใหญ่จนเขาคิดว่ามันน่าจะนานเกินไปแล้ว เขาเลยประคองให้เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน และพากันเดินกลับขึ้นไปด้านบนแนวหินที่ถอดเสื้อผ้าทิ้งไว้ 



เรียวจันทร์แต่งตัวด้วยความหมดแรง ไม่เปิดปากพูดเจื้อยแจ้วใดๆ ทั้งสิ้น แค่มีแรงเดินกลับขึ้นมาบนนี้นางว่านางก็เก่งแล้ว คมเขี้ยวเห็นสภาพหมดแรงของเรียวจันทร์ก็รีบเข้าไปช่วยแต่งตัวหลังจากใส่กางเกงเสร็จ เขาใส่เสื้อให้เรียวจันทร์ กระตุกยิ้มขำเล็กน้อยตอนที่เห็นใบหน้าสวยหมดแรงซีดเซียวนั่งเหม่อตาลอย พอใส่เสื้อเสร็จก็จับเรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน ใส่กางเกงชั้นในและตามด้วยกางเกงยีนขาสั้น



“กินน้ำก่อนจะได้พอมีแรงบ้าง” เรียวจันทร์พยักหน้าอ่อนแรง กำลังจะยื่นมือไปรับกระบอกน้ำสีดำของคมเขี้ยว แต่นางยังพอมีสติอยู่บ้างเลยชะงักมือไว้



“เอ่อ… ขอของฉันได้มั้ย” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นในขณะที่สวมเสื้อ มองเรียวจันทร์นิ่งครู่หนึ่งก่อนที่จะดึงกระบอกน้ำตัวเองกลับและเอาของเรียวจันทร์ให้ไป แต่พอเรียวจันทร์เห็นว่าคมเขี้ยวจะยกกระบอกน้ำตัวเองกิน นางก็รีบเอ่ยปากห้ามทันที



“นี่ๆ ดื่มน้ำฉันดีกว่า ของฉันเป็นน้ำแร่ สดชื่นกว่าเยอะ” คมเขี้ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย มองเรียวจันทร์ด้วยสายตาเรียบเฉย จนเรียวจันทร์ต้องรีบปั้นยิ้มเนียนแบบอ่อนแรงว่าไม่มีอะไรผิดปกติ คมเขี้ยวปิดฝากระบอกน้ำตัวเองและเก็บลงไปในกระเป๋า ยื่นมือไปหยิบกระบอกน้ำเรียวจันทร์มากระดกเข้าปากไปสี่อึกเน้นๆ ก่อนจะส่งคืนเจ้าของที่รับไปกระดกเข้าปากบ้างเช่นกัน



“ติดกระดุมบนหน่อย ยังเห็นรอยที่คออยู่” คมเขี้ยวบอกพลางหมุนฝาปิดกระบอกน้ำของเรียวจันทร์และยัดเข้าไปในกระเป๋า เรียวจันทร์ติดกระดุมบนสุดเสร็จก็ค่อยๆ ลุกขึ้น คมเขี้ยวรีบเข้าไปประคอง ร่างเล็กแข้งขาอ่อนทำจะล้มลง เขาเลยต้องอุ้มแม่ตัวดีไว้ในอ้อมแขน และแม้กระทั่งจะยกแขนคล้องคอคมเขี้ยว เรียวจันทร์ยังไม่มีแรง เลยได้แต่ซุกอกคมเขี้ยวไว้เฉยๆ 



พอคมเขี้ยวเดินกลับมายังจุดเดิม บัวบูชาที่นั่งอยู่กับเป็ดก็ถามด้วยความตกใจว่าเรียวจันทร์เป็นอะไรไป คมเขี้ยวย่อเข่าลง ค่อยๆ ปล่อยร่างเรียวจันทร์ลงบนพื้นโขดหินขนาดใหญ่ เสียงน้ำตกลงกระทบพื้นดังซ่าสนั่น แทบจะกลบเสียงนกมิด



“เรียวเป็นลมแดดค่ะแม่” เรียวจันทร์ตอบอย่าอ่อนแรง มือซ้ายพยุงร่างตัวเองให้ตั้งตรงๆ ไว้



“เอ้าตาย เขี้ยวก็พาน้องไปไหนมาตั้งนาน” คนเป็นลูกชายนั่งลงข้างมารดาตัวเอง มองเรียวจันทร์ที่กระเถิบเข้าหาเป็ดแว้บหนึ่งก่อนตอบ



“ไปเล่นน้ำตรงนู้นมา น้องเรียวของแม่ให้ผมสอนว่ายน้ำ เลยนานไปหน่อย” บัวบูชาเลิกคิ้วขึ้น มองสลับลูกชายตัวเองกับเรียวจันทร์ที่กำลังดมยาดมที่เพื่อนสนิทส่งให้ เรียวจันทร์ยิ้มกว้างอ่อนแรงให้บัวบูชา พยักหน้าเป็นเชิงยืนยันว่าจริงตามนั้น



“อาหารก็ยังไม่ตกถึงท้องตั้งแต่เช้า ไม่น่าใช้แรงเยอะๆ เลยลูก แค่เดินขึ้นมานี่ก็เสียแรงไปเยอะพออยู่แล้ว”



“ตอนแรกคิดว่าไหวน่ะค่ะแม่” เรียวจันทร์ยิ้มแห้ง



“งั้นรีบกินข้าว จะได้มีแรง เขี้ยวก็กินซะ” คนเป็นลูกชายพยักหน้า กวาดสายตามองไปรอบบริเวณน้ำตก



“แล้วพ่อ ไอ้ดิน กับเจ้าหน้าที่ไปไหนล่ะแม่” คมเขี้ยวถามพลางหยิบข้าวเหนียวกับไก่ทอดหั่นเป็นชิ้นขึ้นมากิน



“พากันปีนขึ้นไปด้านบนนู่น เขี้ยวไม่ต้องตามไปล่ะ ไม่มีเจ้าหน้าที่ไปด้วย มันอันตราย” ร่างสูงพยักหน้า เปลี่ยนเป็นหยิบหมูทอดขึ้นมากินแทนไก่



เป็ดที่นั่งข้างๆ เรียวจันทร์ หันหน้าไปกระซิบข้างหูเพื่อนอย่างรวดเร็วและแนบเนียน “อีเรียว ลมแดดห่าอะไร ครึ้มขนาดนี้”



เรียวจันทร์ที่กำลังโบกยาดมใต้จมูกชะงักกึก ดวงตาแข็งค้างไปชั่วครู่ หันไปมองเป็ดที่พยักหน้าหน้านิ่งกลับมาเป็นการยืนยันอีกทีว่าการเป็นลมแดดเป็นการตอแหลที่ไม่เนียน เรียวจันทร์หน้านิ่งค้างกะพริบตาปริบๆ พักนึงก็หันหน้าหนีเพื่อน พอเห็นว่าคมเขี้ยวกำลังมองมาอย่างสงสัย นางก็ยกยิ้มขึ้นทันที



“กินข้าว” คมเขี้ยวบอกพร้อมชี้อาหารที่วางอยู่ด้วยใบหน้านิ่ง เรียวจันทร์เอื้อมมือไปหยิบข้าวเหนียวกับหมูทอดใส่ปากเงียบๆ ช้อนสายตามองคนตรงข้ามที่นางรู้สึกว่าจะนิ่งเกินไปหน่อย ไม่รู้กำลังทำเนียนหรือว่าอะไร
   


ระหว่างรอสามหนุ่มกลับมาจากด้านบนของน้ำตก เรียวจันทร์ก็เผลอหลับบนตักเป็ดไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะหลับไปเรียวจันทร์ก็กินยาแก้ปวดเมื่อยกับยาแก้อักเสบที่เป็ดเตรียมมาให้ดักไว้ก่อน คมเขี้ยวนั่งมองเรียวจันทร์ใบหน้าเรียบเฉย สายตาสงบนิ่งอยู่พักใหญ่จนเป็ดรู้สึกอึดอัดแทน แต่ก็ไม่กล้าพูดกล้าถามอะไร เพราะมันอาจจะเป็นการเปิดประเด็นที่ไม่เหมาะสมขึ้นกลางวงก็เป็นได้
   


“หนูเป็ด ปลดกระดุมบนของหนูเรียวมั้ยลูก จะได้นอนหลับสบายๆ ไม่อึดอัด”
   


“อะ… เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรียวมันนอนได้ค่ะแม่” บัวบูชาทำท่าจะพูดอะไรต่อ แต่เสียงหนุ่มๆ ทั้งสามก็ดังมาจากทางผาน้ำตกด้านใน ก่อนที่ร่างทั้งสามคนจะก้าวขึ้นมาบนโขดหินแบบที่เปียกไปทั้งตัว
   


“อ้าว หนูเรียวหลับ”
   


“ไปว่ายน้ำตากแดด ตากลมมาแล้วไม่ได้กินข้าว คงเพลีย” บัวบูชาเอ่ยให้สามีฟัง ไอ้ดินตวัดสายตาไปมองพี่ชายของมันทันที คมเขี้ยวทำเพียงยักคิ้วขึ้นทั้งที่หน้ายังนิ่ง
   


“ปลุกหนูเรียวเถอะ คุณไม้เขาบอกว่าเราควรกลับได้แล้ว เดี๋ยวฝนตก” เป็ดปลุกเรียวจันทร์ในขณะที่คนอื่นช่วยกันเก็บของ ร่างเล็กตื่นขึ้นมาหน้าตางัวเงีย ยังคงรู้สึกเพลียๆ แต่ได้นอนหลับสนิทไปเลยรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แม้จะแค่ยี่สิบนาทีก็ตาม
   


“กลับกันหนูเรียว ไหวมั้ยนั่น” คุณป๋าถามสีหน้าเป็นกังวล เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกๆ เป็ดช่วยประคองเพื่อนให้ลุกขึ้นยืน คมเขี้ยวเข้าไปรับช่วงต่อจากเป็ด
   


“เดินไหวมั้ยเนี่ย” ร่างสูงก้มลงกระซิบถามในขณะที่ทุกคนออกเดินนำขบวนไปก่อน เรียวจันทร์พยักหน้าลงหนึ่งทีทั้งที่ใบหน้ายังบ่งบอกถึงความง่วงและความเพลีย
   


เรียวจันทร์เคล็ดขัดยอกเบาๆ มีอาการเสียดแสบตรงบริเวณนั้นบ้าง แต่ระดับคุณนายแม่ที่ไม่ใช่เพิ่งเคยผ่านศึกแบบนี้มาก็เลยสามารถปรับตัวรับกับสภาพร่างกายตัวเองได้ไวหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ว่ากลับมาเป็นปกติ เพราะต้องยอมรับว่าด้วยพลังและความอึดอดทนที่คมเขี้ยวโหมกระหน่ำใส่นางนั้น เล่นเอานางรู้สึกอย่างกับเพิ่งเสียตัวครั้งแรกเลยทีเดียว
   


แม้ว่าคมเขี้ยวจะคอยพยุง คอยจับตัวและดูแลเรียวจันทร์ตลอดการเดินทางกลับลงไปด้านล่าง แต่คุณนายก็รู้สึกว่าพ่อเขี้ยวกุดเงียบผิดปกติ ไม่ต้องเอาปกติไหน ขามายังคุย ยังยิ้มกับนางอยู่เลย แต่ขากลับแทบไม่ได้ยินเสียงพูด จะว่าเหนื่อยก็อาจจะเป็นไปได้ หรือเพราะยังมีฤทธิ์ยาอยู่ในตัวอยู่ เลยยังไม่อยากสุงสิงกับนางมาก แต่ตอนอยู่ชั้นบนสุดของน้ำตก คมเขี้ยวกินน้ำ (กระบอกของเรียวจันทร์) ไปเยอะมากจนลุกฉี่แล้วรอบนึง อันนั้นก็น่าจะขับฤทธิ์ยาออกมาได้บ้างแล้ว ไหนจะที่ปลดปล่อยไปเน้นอีกๆ สามรอบในน้ำนั่นอีก เรียวจันทร์พยายามคิดว่า คุยกันตอนนี้คงไม่สะดวก เลือกที่จะโฟกัสการเดินกลับลงไปข้างล่างดีกว่า เพราะคนอื่นๆ ก็ใช่ว่าจะคุยอะไรกันมากมาย รูปก็ไม่ได้แวะถ่ายเพราะมันคือบรรยากาศเดิมแค่ช่วงเวลาใหม่
   


ตอนที่ใกล้จะถึงจุดสตาร์ท ฝนก็ตกลงมาปรอยๆ แต่ไม่มีใครบ่นหรือว่าอะไร แค่เดินต่อไปจนไปถึงตัวรถจี๊ปคันเดิมที่จอดรออยู่ที่เก่า พอทุกคนขึ้นรถเสร็จพี่ไม้ก็ตีรถกลับออกไปตามทางเดิม ฝ่าสายฝนอ่อนๆ เรียวจันทร์ถือโอกาสนี้พิงไหล่คมเขี้ยว ร่างสูงยกแขนโอบเอวเรียวจันทร์ไว้ นั่นเลยทำให้คุณนายสบายใจขึ้นบ้าง
   


“ห้องอาบน้ำอยู่ใกล้กับลานจอดรถนะครับ ใครอยากอาบน้ำก็เชิญได้เลย คืนนี้พบกันครับ” ทุกคนโบกมือลาพี่ไม้ เจ้าหน้าที่หนุ่มขับรถออกไปตามถนนเส้นเดิม พี่ไม้แจ้งระหว่างทางกลับมาที่ตั้งเต็นท์ว่าคืนนี้เป็นเวรมานอนดูแลนักท่องเที่ยว
   


“ป่ะ ห้าโมงเย็นละ รีบอาบน้ำกันก่อน เดี๋ยวจะหนาวกว่านี้” ทุกคนเดินกลับไปยังที่ตั้งเต็นท์ คมเขี้ยวยังคงประคองเรียวจันทร์ให้เดินไปพร้อมกัน ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงก็เห็นว่าอีกฝ่ายยังนิ่งเงียบ เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว ที่เพิ่งรู้สึกสบายใจไปหายวับไปเมื่อมันเริ่มชัดขึ้นว่าคมเขี้ยวเงียบใส่นางจริงๆ
   


“ฝากเรียวด้วยนะครับคุณเป็ด” คมเขี้ยวว่าแค่นั้นแล้วเดินเข้าเต็นท์ตัวเองไปพร้อมกับดิน ทิ้งให้เรียวจันทร์ยืนย่นคิ้วมองตามอย่างไม่สบายใจ
   


“คุณเขี้ยวเขาเป็นอะไรอะ”
   


“ฉันคิดว่าคิดคนเดียวซะอีก” เรียวจันทร์บอกพร้อมกับก้าวเท้าเดินกลับเข้าเต็นท์พร้อมเป็ด เรียวจันทร์ค่อยๆ นั่งลงบนฟูกนอนอย่างระมัดระวัง
   


“ฉันเห็นเขาแปลกๆ ตั้งแต่ก่อนแกหลับละ…” หน้าสวยๆ ของเรียวจันทร์ยุ่งเหยิงเล็กน้อย
   


“…เออ แต่แกรู้มะ ตอนที่แกหายไปกับคุณเขี้ยวอะ ไม่มีใครคิดไปตามแกเลยนะ ทั้งที่แกหายไปเกือบสามชั่วโมง จนก่อนที่พวกคุณพ่อจะขึ้นไปยอดน้ำตกนั่นแหละ เขาถึงให้ดินไปตามเพราะกลัวพวกแกจะหิว” จากที่กำลังทำหน้ายุ่งๆ เรียวจันทร์ก็คลายคิ้วออก หันไปมองเป็ดสีหน้าประหลาดใจปนงุนงง เป็ดพยักหน้ายืนยันอีกที
   


“ตอนที่ดินจะไป ฉันก็ไม่ได้ห้าม เพราะเห็นว่ามันนานแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นฉันไม่ต้องแอคติ้งห้ามใครเลย เพราะไม่คิดมีใครไปตามแกสองคน อ้อ มีคุณพี่ไม้ถามถึงแกสองคนนิดหน่อยว่าหายไปนานมาก ฉันเลยตอบว่าแกคงกำลังบ้าถ่ายรูปอยู่เพราะไม่เคยมา” เรียวจันทร์พยักหน้าเบาๆ
   


“หรือคนอื่นจะรู้ แกได้ยินเสียงร้องของฉันมะ”
   


“โอ๊ย น้ำตกดังขนาดนั้น จะได้ยินอะไรล่ะคะ นอกซะจากแกร้องเป็นเสียงทาร์ซานเจ้าป่า” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น
   


“เหรอ” เรียวจันทร์ยังทำหน้านึกอย่างสงสัยนิดๆ ว่าทำไมทุกคนไม่คิดไปตามตัวเองกับคมเขี้ยว ถ้าเกิดว่าจมน้ำตายกันไปทั้งคู่จะทำยังไงกัน
   


“ฉันว่าเขาต้องระแคะระคายบ้างแหละ เขาเป็นพ่อเป็นแม่คุณเขี้ยวนะ จะไม่สังเกตอาการลูกตัวเองเลยเหรอ”
   


“แต่ดินรู้นะ”
   



“ดินก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะไปตามแกสองคนเลยนะ จนพ่อบอกนั่นแหละถึงไป” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าอ้อ ก่อนที่จะเลิกคิดประเด็นนี้ เพราะคิดไปก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี แต่ประเด็นที่อยากได้คำตอบตอนนี้คือคมเขี้ยวเป็นอะไร
   


ฝนที่ยังคงตกปรอยๆ ทำให้ยังไม่มีใครเดินออกไปอาบน้ำ เรียวจันทร์เลยเช็ดหัวให้แห้งแล้วล้มตัวลงนอน บอกเป็ดว่าถ้ายังตื่นอยู่ก็ให้ปลุกไปอาบน้ำด้วย ด้วยความอ่อนเพลียจากการสูญเสียน้ำและพลังงานในร่างไปเยอะ เลยทำให้เรียวจันทร์สลบไปอย่างง่ายดาย



เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao3:



กรี๊ดดดด คุณแม่โดนเสือเขี้ยวขย้ำแล้ววว >O< วี้ดดดดๆ สมใจอยากมั้ยคะคุณแม่ แรง ฟัด จัดเต็ม ถึงใจมั้ยคะ!

หลังจากวางแผนมานาน อ้อยเขาแล้วอ้อยเขาอีก โดนด่าบ้าง จะโดนต่อยบ้าง จะโดนเตะบ้าง ในที่สุดคุณแม่ก็ได้กินพี่เขี้ยวสมใจ เอ๊ะ หรือจริงๆ ต้องบอกว่า คุณแม่โดนพี่เขี้ยวกินกันนะ เพราะจากสภาพแล้วนั้น คุณแม่ร่างแทบพังเลยทีเดียว จากขุ่นแม่แสนเปรี้ยวกลายเป็นลูกสาวแสนเรียบร้อยไปเลยทีเดียว แต่ก็ไม่นาน เพราะอะไรคะ เพราะแม่ก็คือแม่ กรีสสสสส

คุณแม่ไม่นกนะคะ ระดับนี้ไม่มีทางนกง่ายๆ หรอกค่ะลูก แม่วางแพลนมาดี และตอนนี้แพลนแม่คอมพลีทแล้ว 55555

ถือว่าเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ในวันคริสต์มาสของขุ่นแม่เรียวจันทร์จริงๆ ค่ะ ซานต้าประทานของขวัญให้กลางป่าเขาลำเนาไพร สายน้ำสะเทือนกันเลยทีเดียว ขุ่นแม่เปรี้ยวจีๆ ค่าาา >[]<

แท็กทวิต #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-12-2016 18:47:18
หายอยากไหมคะขุ่นแม่ 55555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 25-12-2016 19:15:57
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 25-12-2016 19:34:30
เขี้ยวรู้แล้วแน่เลย ขุ่นแม่โดนโกรธแน่ๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 25-12-2016 20:00:53
ร่างน้องเรียวแทบพัง!!!
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: wonwon ที่ 25-12-2016 20:29:44
น้องดินน่ารักอ่ะ อยากให้มีคู่ อิอิ  ส่วนพี่เขี้ยวคงจะโมโหนิดๆ(มั้ง?)ที่โดนวางยาอ่ะ ยังไงก็อย่าโกรธคุณนายนานเลย คุณนายเองก็โดนไปหลายดอกจนเจ็บไปหมดแล้วอ่ะ อิอิ :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 25-12-2016 20:31:03
ฟินนนน กลางป่ากลางเขากันเลยทีเดียว พี่เขี้ยวนี่กะกระซวกไส้หลุดเลยมั้ย 555555555  :o8:

อิฮั้นว่า พี่เขี้ยวต้องฉุกใจแน่ๆเลยว่าใครวางยาน้ำกระบอกนั้นน แล้วทำไมที่บ้านก้แปลกๆ เอ๊ สงสัยนู่นนี่เต็มไปหมด
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 25-12-2016 20:45:22
สมใจอยากกกคุณแม่ :jul1: :haun4: :pighaun:  เอ้ะ! พี่เขี้ยวเป็นอะไรอย่าบอกนะว่าสงสัยน้ำกะบอกตัวเอง :hao4: เอาไปให้ดินลองต่อดิ#ดินถีบ :z6: :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 25-12-2016 23:46:10
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: สุดยอดดด
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 26-12-2016 00:22:17
พี่เขี้ยวสงสัยว่าคุณนายวางยารึป่าว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 26-12-2016 01:01:03
เราว่าพ่อแม่ของเขี้ยวคงพอวางใจและกะปล่อยให้เขี้ยวได้มีโอกาสกับแม่เรียวมากกว่า ส่วนเขี้ยวเราว่าที่ดูเฉย ๆ คงพอเดาได้แล้วว่าตัวเองโดนวางยา เลยรู้สึกไม่โอเคเท่าไหร่ที่เหมือนโดนบังคับกลาย ๆ แต่คงแค่ตึง ๆ แรก ๆ แหละ ยังไงพี่แกก้ออดใจไม่ไหวหรอก เพราะตัวเองก้อเริ่มมีใจให้แม่เรียวแล้ว ต้องหาทางต่อว่าแม่เรียวแน่ ๆ เลย คอยดูกันต่อไป แม่เรียวเป็นไงล่ะ เหมือนเสียจิ้นเลยใช่ไหม 5555  :o8:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-12-2016 01:10:38
 :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 26-12-2016 09:44:09
 :haun4: :haun4: :jul1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 26-12-2016 16:07:39
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 26-12-2016 19:48:56
อื้อฮืออออออออออออ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Wdf_mikeii ที่ 29-12-2016 00:35:52
ดันๆ พี่เขี้ยวสุดอึด
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งแรก:25.12.59:
เริ่มหัวข้อโดย: Wdf_mikeii ที่ 02-01-2017 08:49:54
รอนะครับ สวัสดีปีใหม่ :L3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 02-01-2017 20:26:30



คาถาที่ 21 [ครึ่งหลัง]



“เรียว… อีเรียว ไปอาบน้ำค่ะ สองทุ่มแล้ว จะได้มากินข้าว” 
   


เจ้าของชื่อลืมตาตื่นอย่างสลึมสลือและรู้สึกหนักหัว แต่ไม่ใช่อาการปวดหัวตัวร้อน น่าจะเป็นอาการของการนอนช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินมากกว่า อาการปวดตัวมีบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเคล็ดขัดยอกจนชอกช้ำอะไรขนาดนั้น คุณนายนางระดับไหนแล้ว กินยาอีกสักสองเวลาเดี๋ยวก็คืนชีพได้ดังเดิม
   


“แกอาบแล้วเหรอ”
   


“เออสิ คุณแม่ชวนไปอาบ ฉันเห็นว่าแกเพิ่งนอนเลยไม่อยากปลุก พวกคุณพ่อเพิ่งไปอาบเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนได้มั้ง” เรียวจันทร์ชะงักไปนิด ความรู้สึกกำลังสับสนว่าตัวเองกำลังจะเรียกร้องหรือต้องการอะไร แต่สุดท้ายก็ปัดมันออกไปจากหัว หันไปเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำพร้อมเสื้อผ้า แล้วมุดออกจากเต็นท์ไป
   


ในโซนกางเต็นท์มีแสงสปอร์ตไลท์อยู่สามอัน ให้แสงสว่างเป็นวงกว้าง พอเดินออกมาตรงถนนก็มีแสงไฟจากเสาไฟสองข้างฝั่งถนนที่ตั้งสลับฟันปลาห่างๆ กัน ลากยาวมาตั้งแต่ทางเข้าอุทยานจนน่าจะถึงสุดถนนเส้นนี้ ตอนที่เรียวจันทร์เดินมาถึงลานจอดรถก็เจอคมเขี้ยวกำลังยืนคุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง ความสูงเท่าแม่ช่อเอื้อง หน้าตาไปในโซนเดียวกัน คมเขี้ยวยืนคุยกับผู้หญิงนั้นด้วยรอยยิ้ม เรียวจันทร์เม้มปาก หัวใจกระตุกวูบหนึ่ง จังหวะที่กำลังจะเดินผ่าน คมเขี้ยวหันมาเห็นนางพอดี เรียวจันทร์คิดไปแว้บหนึ่งว่าเดี๋ยวอีกฝ่ายคงเข้ามาทัก แต่เปล่า เขาแค่หันมองและหันกลับไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นต่อ
   


เรียวจันทร์เดินผ่านทั้งสองคนไปเงียบๆ ไม่ได้เร่งฝีเท้าหนีไปไหน แค่เดินตรงไปทางอาคารสีขาวที่มีสัญลักษณ์ป้ายเพศชายบอกไว้ คุณป๋ากับดินเดินออกมาจากตัวอาคารห้องอาบน้ำ เรียวจันทร์สลัดความรู้สึกใจสั่นเมื่อครู่ทิ้งไปและฉีกยิ้มให้ทั้งสองคน
   


“อย่าอาบน้ำนะลูก น้ำมันเย็นมากเลย เดี๋ยวไม่สบาย”
   


“รับทราบค่ะคุณป๋า…” เรียวจันทร์หันไปมองดินที่ถอดเสื้อ เอาผ้าขนหนูพาดบ่าไว้แล้วยิ้มแซว
   


“…มื้อเย็นวันนี้ฉันกินดินแทนได้มั้ยเนี่ย” ดินหัวเราะขำขันก่อนตอบหน้าอายๆ
   


“ถ้าคุณเรียวอยาก ดินก็ให้ครับ” เรียวจันทร์หัวเราะเบาๆ
   


“ให้ป๋ากับไอ้ดินรอมั้ยลูก” คุณป๋าถาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มจาง
   


“ไม่เป็นไรค่ะป๋า กลับไปช่วยคุณแม่ทำอาหารเถอะค่ะ สบายมาก” เรียวจันทร์ยิ้มให้ทั้งสองคนแล้วเดินเข้าไปในอาคารอาบน้ำ ความคิดหยุดนิ่ง สิ่งเดียวที่เรียวจันทร์ทำคืออาบน้ำให้มันเสร็จๆ ไป
   


หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน เรียวจันทร์ก็เดินออกมาด้านนอก คมเขี้ยวไม่ได้ยืนอยู่ตรงที่เดิมแล้ว ร่างเล็กเดินหน้านิ่งกลับไปตามทางเดิม แต่จังหวะที่กำลังจะข้ามถนนก็เจอกับพี่ไม้ที่อยู่ในชุดเสื้อยืดทหารสีเขียวและกางเกงขาสั้นสีดำ
   


“อ้าว พี่ไม้ มาอาบน้ำเหรอคะ”
   


“มาเข้าห้องน้ำครับ เพิ่งอาบน้ำเสร็จเหรอครับเนี่ย” เรียวจันทร์ยิ้มพร้อมพยักหน้าแทนคำตอบ และก้าวเท้าข้ามถนนไปพร้อมกับชายหนุ่มที่อาสาเดินไปส่งถึงที่กางเต็นท์
   


“อยู่ใกล้ๆ กัน มีอะไรก็เรียกได้นะครับ” เรียวจันทร์พยักหน้ายิ้มๆ อีกที พี่ไม้ขมวดคิ้วนิดหน่อย
   


“ไม่สบายหรือเปล่าครับ ดูเงียบๆ ตั้งแต่ตอนลงจากน้ำตกแล้ว” คนถูกถามยิ้มไม่เต็มปากนัก
   


“เปล่าหรอกค่ะ น่าจะเมื่อยมากกว่า” พี่ไม้พยักหน้าและคลี่ยิ้มน้อยๆ
   


“เต็นท์สีดำใหญ่ๆ สองเต็นท์ตรงด้านโน้นนะครับ ถ้าต้องการเรียกใช้อะไรเดินไปเรียกได้เลย”
   


“ขอบคุณค่าพี่ไม้” เรียวจันทร์ยกมือไหว้อีกฝ่ายที่เดินต่อไปทางกองไฟลิบๆ ที่อยู่ห่างออกไปจากโซนของเรียวจันทร์หลายสิบก้าว
   


“เรียว มากินข้าวกัน” เป็ดเรียกพร้อมกับกวักมือ เรียวจันทร์เดินเข้าไปใกล้กับทุกคน ตรงกลางมีกองไฟสีแดงส้มลุกโชติช่วงซึ่งดินกำลังนั่งย่างไก่กับปลาโดยใช้เหล็กสองแฉกปักเป็นเสาสำหรับวางไม้ไผ่ที่ใช้เสียงตัวปลากับไก่แล้วพลิกไปพลิกมา
   


“เมื่อกี้พี่ไม้เหรอ”
   


“อือ แกโดนมาส่งอะ เจอกันที่ห้องน้ำ” เรียวจันทร์ตอบ หันไปมองคมเขี้ยวที่นั่งนิ่งเฉยไม่ตอบรับใดๆ ทั้งสิ้น เห็นแบบนั้นเรียวจันทร์ก็ถอนหายใจ ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรถึงได้นิ่งเฉยต่อกันแบบนี้
   


“กินกันเลยนะคะ เรียวไม่หิว ปวดเนื้อปวดตัวไปหมด พอดีเล่นน้ำแรงไปหน่อย” ท่อนท้ายเรียวจันทร์เน้นเสียงไปทางคมเขี้ยวพร้อมกับจิกตาใส่ ร่างสูงมองสบตากับเรียวจันทร์นิ่ง
   


“กินซักหน่อยสิหนูเรียว เดี๋ยวปวดท้องนะ” เรียวจันทร์ยิ้มอ่อนให้บัวบูชาพร้อมกับส่ายหัว
   


“ไม่หิวจริงๆ ค่ะแม่ กู๊ดไนท์นะคะทุกคน” ไม่รอให้ใครทักท้วงอะไร เรียวจันทร์เดินมุดเข้าเต็นท์ไปเงียบๆ ทันที และยังทิ้งให้บรรยากาศรอบกองไฟเงียบไปด้วย เป็ดมองทุกคนอย่างเลิ่กลั่ก
   


“ไอ้เขี้ยว แกไปทำอะไรน้องรึเปล่า” คนเป็นลูกชายย่นคิ้วนิดหน่อย แล้วก็เลี่ยงไม่ตอบคำถามด้วยการทำเฉย
   


“ที่เขี้ยวบอกว่าเวลาน้องเงียบเพราะมีปัญหา เป็นแบบนี้เองน่ะเหรอ” บัวบูชาไม่ได้ตั้งคำถาม แค่เอ่ยเสียงเรียบใบหน้านิ่ง ขณะที่มือก็ยังฉีกไก่ให้สามีกินต่อไป เป็ดมีสีหน้าลำบากใจ ส่วนดินแอบมองทุกคนอย่างเงอะงะ เพราะกำลังย่างเนื้อไก่กับเนื้อปลาอยู่
   


“เอ่อ เรียวมันแค่เมื่อยจริงๆ ค่ะ ตอนมันกลับมาก็เอาแต่นอน คงปีนเขาจนเหนื่อย ไม่มีใครทำอะไรมันหรอกค่ะคุณพ่อคุณแม่ เวลามันหมดแรงจากการทำงาน บางทีนางก็ชัตดาวน์ตัวเองไปเลย”
   


“แม่เข้าใจจ้ะหนูเป็ด ให้หนูเรียวเขาพักเถอะ พรุ่งนี้จะได้มีแรงขึ้นเขา”
   


“เอ้อ ใช่ พรุ่งนี้ทรหดกว่าวันนี้อีก” เมฆาเสริมขึ้นด้วยรอยยิ้ม เป็ดต้องรับหน้าที่โอเว่อร์แอคติ้งแทนเพื่อนเพื่อกู้บรรยากาศกลับมาตามเดิม
   


“โอ้วเหรอคะ ตายละ วันนี้ก็ว่าทรหดแล้ว ยังมีทรหดกว่านั้นอีก” แล้วเป็ดก็ชวนพ่อกับแม่และดินคุย คมเขี้ยวมียิ้มตอบรับบ้าง แต่ส่วนมากจะทำหน้าครุ่นคิดราวกับมีเรื่องให้คิดมากไม่หมดสต็อกสักที
   

   




เรียวจันทร์ลืมตาขึ้นในความมืดกลางดึก พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง หันไปมองข้างๆ ก็เห็นเป็ดนอนห่มผ้าหลับสนิทราวกับใส่ผ้าอนามัยลอริเอะ มือขาวบอบบางหยิบมือถือขึ้นมา รูดซิปเต็นท์ฝั่งตัวเอง ค่อยๆ คลานเข่าออกไปด้านนอก พอร่างกายปะทะกับบรรยากาศในค่ำคืนก็ตัวสั่นน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้คิดหยิบเสื้อกันหนาวออกมาด้วย เพราะกะว่าเดินไปฉี่ที่ห้องน้ำแค่แปบเดียวเดี๋ยวก็กลับ
   


เรียวจันทร์เปิดไฟฉายในมือถือ เดินส่องไปตามความมืดมิด มีสปอร์ตไลท์เปิดอยู่ดวงเดียวคือตรงโซนที่พี่ไม้นอนอยู่ นอกนั้นปิดเพื่อที่แสงจะได้ไม่รบกวนคนอื่นๆ ไฟบนถนนและที่ห้องน้ำยังคงเปิดอยู่ เรียวจันทร์ปิดไฟฉาย เดินตัดผ่านลานจอดรถไปห้องน้ำที่จะอยู่แยกจากห้องอาบน้ำมาอีกอาคาร คุณนายเดินเข้าไปปลดทุกข์ พอเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมาด้านนอก กำลังจะก้าวเดินกลับไป แต่สายตาก็เห็นคมเขี้ยวกำลังยืนหน้าเครียดอยู่ตรงหน้ารถ
   



เรียวจันทร์ไม่คิดเข้าไปทัก นางจะทำเป็นว่าไม่เห็นอีกฝ่ายเหมือนตอนที่เดินมาเข้าห้องน้ำ แต่เดินไปได้ไม่ไกลมาก ร่างสูงก็ก้าวเข้ามายืนดักตรงหน้า เรียวจันทร์มองอย่างไร้อารมณ์ คมเขี้ยวก้มมองหน้าสวยๆ ด้วยสีหน้าเครียดๆ แววตานิ่งแต่ก็แอบมองขวางอย่างสงบ
   


“คุณเอาอะไรใส่ไปในกระบอกน้ำผม” ร่างสูงถามเสียงดุ ใบหน้าตึงเข้มด้วยอารมณ์โกรธ
   


“ยาปลุกเซ็กส์” เรียวจันทร์ตอบทันทีอย่างที่ไม่รู้สึกสะทะสะท้าน และเรียวจันทร์เชื่อว่าจริงๆ คมเขี้ยวก็คงรู้อยู่แล้ว แต่คงอยากถามเพื่อความมั่นใจอีกขั้น
   


“ใส่ไปทำไม” เรียวจันทร์กัดฟันแน่น เริ่มรู้สึกแสบร้อนในดวงตา
   


“เพราะฉันอยากมีอะไรกับนาย แล้วฉันก็ทำสำเร็จด้วย” เรียวจันทร์ว่านิ่งๆ อย่างประชด แต่หางเสียงก็แอบสั่นเล็กๆ ก็ถ้าในเมื่อคมเขี้ยวจะทำนิ่ง ทำเฉยใส่นางแบบนี้ นางก็ไม่อยากแสดงอารมณ์อยู่ฝ่ายเดียว แม้มันจะเป็นเพียงการประชดเพื่อปกป้องความรู้สึกตัวเองแบบที่เรียวจันทร์ไม่เคยคิดทำมาก่อน
   


สถานการณ์มันเปลี่ยนไป มันไม่ใช่แบบตอนที่เรียวจันทร์พยายามเกี้ยวคมเขี้ยวให้เข้ามาหาตัวเองอีกแล้ว 
   


คมเขี้ยวขบกรามแน่น พยายามระงับอารมณ์โกรธของตัวเอง



“เพราะแค่อยากมีอะไรกับผม?” ร่างสูงยิ้มเยาะ แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ



 “คิดบ้างมั้ยว่ามันอาจจะเป็นอันตราย หรือไม่สนใจว่ามันจะเป็นยังไง” แววตาสุกใสดั่งกวางน้อยสั่นระริก รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาชั่วขณะ แต่ด้วยความน้อยใจที่มีมาตั้งแต่ตอนบ่ายเลยทำให้นางแข็งสู้กลับไป
   


“นายก็ยังไม่เป็นอะไรนี่” คมเขี้ยวจ้องเรียวจันทร์ตาเขม็ง แววตาหยาบกระด้างจนร่างเล็กอยากกระเถิบถอยหนี
   


“ผมลองให้ไอ้ดินกินน้ำในกระบอก ไอ้ดินเกือบตาย ตอนนี้มันคงชักว่าวจนหมดแรงอยู่ในห้องน้ำแล้ว!” เรียวจันทร์ตกใจ มองคมเขี้ยวอย่างอึกอัก ดวงตาสุกใสคลอด้วยน้ำตา
   


“ละ… แล้ว แล้วนายให้ดินกินทำไม”
   


“เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ผมคิดมันเป็นจริง…” คมเขี้ยวกัดฟันแน่น มองเรียวจันทร์ด้วยสายตาโกรธจัด



“…ถ้าเกิดผมมีอาการอย่างไอ้ดินขึ้นมา หรือหนักกว่าไอ้ดิน คิดบ้างมั้ยว่าผมจะเป็นยังไง”
   


เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอ น้ำตาคลอเบ้าตาหนักขึ้น ในใจนึกห่วงว่าดินจะเป็นยังไงบ้าง “มันเป็นแค่ยาปลุกเซ็กส์ มันอันตรายด้วยเหรอ”
   


“คุณเรียว! ไม่เคยได้ยินหมอถามรึไงว่าแพ้ยาอะไรรึเปล่า ถ้าเกิดผมแพ้ไอ้ยาเหี้ยนั่นขึ้นมา ผมไม่กลายเป็นศพกลางป่าเหรอ?!” เรียวจันทร์สะดุ้งกับเสียงตะคอกของคมเขี้ยว ก่อนจะค่อยๆ ตั้งสติพูด
   


“ฉัน… ฉันลืมคิด ฉันขอโทษ”
   


“เป็นห่วงผมบ้างมั้ย หรือคิดแค่ว่าต้องได้เท่านั้น” คมเขี้ยวถามเสียงนิ่งหน้านิ่ง มองหน้าเรียวจันทร์ที่กำลังไม่สู้ดีนัก
   


“ไม่… ฉันห่วงสิ อย่าคิดว่าฉันจะทำร้ายนาย ฉันไม่เคยคิด ฉันแค่…”
   


“คุณมั่นใจในตัวเองนักหนา มาปอดแหกกับเรื่องนี้ทำไม” เรียวจันทร์น้ำตาไหล ทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกกลัวอารมณ์ของคมเขี้ยว และกลัวว่าดินจะเป็นอะไร
   


“ก็ฉันหงี่อะ ฉันอยากได้นายเป็นผัว ฉันไม่รู้ว่านายจะต้องใช้เวลาละลายพฤติกรรมที่นายว่านานแค่ไหน ฉันรู้ว่ามันต้องรอ แต่ฉันแค่เร่งเวลาให้มันเร็วขึ้นเท่านั้นเอง ฉันผิดที่ฉันใช้ยา แต่มันเป็นเพราะนาย ถ้าไม่ใช่นายฉันไม่ทำหรอก” เรียวจันทร์ว่าเสียงสะอื้น หน้าตาบิดเบี้ยวเพราะคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ พรั่งพรูคำพูดออกมาโดยไม่ได้ประดิษฐ์แต่อย่างใด คมเขี้ยวพ่นลมหายใจแรงๆ หันหน้าไปมองทางอื่นครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอื้อมมือไปดึงเรียวจันทร์ให้เดินไปที่รถ คมเขี้ยวใช้รีโมตกดปลดล็อคประตู เปิดประตูด้านหลังที่เขากับเรียวจันทร์นั่งมาด้วยกันเมื่อเช้า แล้วพาเรียวจันทร์ขึ้นไปนั่ง ก่อนปิดประตูตามหลัง   



“ร้องไห้ทำไม” เรียวจันทร์ใช้หลังมือเช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนตอบ
   


“ก็ฉันน้อยใจอะ พอนายได้ฉัน นายก็เงียบ ไม่พูดอะไรกับฉันสักคำ แล้วนายก็ไปคุยกับชะนีที่ไหนก็ไม่รู้ ฉันเดินผ่าน แทนที่จะเข้ามาทัก แต่นายกลับยืนคุยแม่นั่น ฮึก… นายคิดว่าฉันจะรู้สึกยังไง ฮะ… ไอ้เขี้ยวกุด นายเอาฉันจนฉันทรุดลงกับพื้น แล้วนายก็ทำเมิน กะฟันแล้วทิ้งใช่มั้ย” เรียวจันทร์พูดเสียงอู้อี้เหมือนใจจะขาด น้ำตาไหลอาบแก้มพรากๆ สะอึกสะอื้นจนตัวสั่น
   



“เป็นจุดประสงค์ของคุณไม่ใช่รึไง ผมก็จัดให้แล้วนี่” เรียวจันทร์หันควับไปมองตาขวาง ยกมือซ้ายตบเข้าที่แก้มคมเขี้ยวเต็มแรง
   


“โว้ย! ตบมาได้ เจ็บนะ!”
   


“ตอนนายกระแทกไอ้จ้อนใส่ฉันเต็มแรง ฉันยังทนได้เลย!”
   


“แต่ก็เสียวด้วยไม่ใช่เหรอ?!” เรียวจันทร์กัดฟันแน่น ยกสองมือฟาดไปตามตัวคมเขี้ยวด้วยความหงุดหงิด
   


“เออ ฮื่อ!! ไอ้เขี้ยวหัก! เสียว รู้สึกดีมากด้วย ฮึก…” เรียวจันทร์หยุดตบตีคมเขี้ยว นั่งก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น ยกหลังมือเช็ดน้ำตาป้อยๆ เหมือนเด็ก
   


“…ถ้านายโกรธ ฉันขอโทษ ฉันขอหงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ฉันไม่ได้อ้างด้วย ฉันไม่รู้จริงๆ ถ้านายอยากทิ้งฉันหลังจากฟันฉันแล้ว ก็ไปเถอะ ฉันท้องไม่ได้ ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรหรอก ถือว่าเจ๊ากันไป” เรียวจันทร์เช็ดน้ำตาออกจากแก้มจนหมด เงยหน้าขึ้นใช้ดวงตาแดงก่ำสบตากับคมเขี้ยวที่มองมาอย่างนิ่งสงบ
   


“ฉันขอลาออก ฉันไม่ได้จะงี่เง่า แต่ฉันจะไม่ยอมให้ตัวเองอยู่ให้นายทำร้ายความรู้สึกฉันด้วยการเมินใส่ แต่กลับไปสนใจคนอื่น ฉันรู้ดีว่าฉันไม่มีสิทธิ์หวง” เรียวจันทร์หยุดร้องไห้ และนิ่งสงบได้มากขึ้นหลังจากปลดปล่อยน้ำตาออกมาจนเป็นพี่พอใจ
   


“ผมช่วยผู้หญิงคนนั้นขนของจากเต็นท์มาที่รถ แล้วเธอก็ถามถึงน้ำตกว่าเป็นไง ผมคุยกับเธอปกติเหมือนที่คุณเดินคุยมากับไอ้พี่ไม้นั่นแหละ…” เรียวจันทร์นั่งมองด้านหน้ารถนิ่ง มองไปเรื่อยโดยที่ไม่ได้โฟกัสจุดใดจุดหนึ่ง



“…ผมยอมรับว่าตอนนั้นยังไม่อยากพูดกับคุณ เพราะกำลังสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้น”



“เรื่องของนาย จะคุยกับใครก็คุย ฉันเองก็มีผู้ชายให้คุยเยอะแยะ” เรียวจันทร์บอกเสียงแข็ง คมเขี้ยวถอนหายใจเบาๆ



“อย่าประชดคุณเรียว ตอนนี้ผมมีคุณเดียว และคุณก็ควรมีผมคนเดียวเช่นกัน” เรียวจันทร์เหล่มองคมเขี้ยว ก่อนที่จะเลื่อนสายตากลับไปมองข้างหน้าตามเดิม



“อย่าใช้ยานี้กับผมอีก คุณเองก็ทำให้ผมมีอารมณ์ได้ ที่มันตุงเต็มเป้าบ่อยๆ นั่นยังไม่มากพออีกเหรอ” เรียวจันทร์หันหน้าไปมองคมเขี้ยว มองใบหน้าเรียบนิ่งของอีกฝ่ายอย่างไม่แน่ใจในคำพูดนั้น



“ก็นายบอกว่ายังไม่พร้อม”



คมเขี้ยวถอนหายใจยาวๆ ท่าทางอ่อนอกอ่อนใจเบาๆ “ไม่ใช่ผมไม่อยาก แต่คุณเข้าใจมั้ยว่าผมไม่เคยกับผู้ชาย ทำไมไม่ค่อยเป็นค่อยไป…”



คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นสูง นึกถึงคำพูดเรียวจันทร์ตอนระเบิดอารมณ์ย่อมๆ เมื่อกี้นี้ “อ๋อ หงี่”



เรียวจันทร์หน้างอ แล้วพูดเสียงอ่อย “ก็ฉันอยากเสียตัวให้นายเร็วๆ อะ แข็งสู้มือขนาดนั้น นายไม่จับฉันกดสักที”



คมเขี้ยวกระตุกยิ้มขำแล้วส่ายหัวหน้าระอา “คุณได้เสียตัวให้ผมอยู่แล้ว แค่ช้าหน่อยรอไม่ได้เลยเหรอ”



เรียวจันทร์มองหน้าหล่อๆ อย่างรู้สึกผิด สีหน้าสลดลงและกลายเป็นหน้าหงอ นางเขยิบตัวขึ้นไปนั่งตักคมเขี้ยว แขนขวาคล้องคอร่างสูงไว้ คมเขี้ยวยกแขนซ้ายโอบรอบเอวของคนบนตัก



“ขอโทษจริงๆ แล้วดินเป็นไงบ้าง”



“ตอนที่อาการกำเริบ พอผมโดนตัวมัน มันสะดุ้งโหยง ตัวร้อน ตัวแดงไปหมด เหงื่อแตกเต็มหน้า ผมรีบเอาน้ำให้มันกินเพื่อขับยาออก แต่สีหน้ามันทรมานเกิน มันบอกว่าเหมือนไส้ข้างในบิดมวนไปหมด ผมเลยรีบพามันมาอาบน้ำที่นี่” เรียวจันทร์อ้าปากค้างเมื่อได้ยินอาการของดิน ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามา



“นายไม่น่าให้ดินกินเลย น่าจะมาถามฉันตรงๆ”



“คนอย่างคุณ ถ้าหลักฐานไม่มัดตัวจริงๆ เดี๋ยวก็ดิ้นหนีได้…” เรียวจันทร์ทำหน้างอ คมเขี้ยวถอนหายใจหน้าเครียด คิ้วเข้มขมวดตึงเข้าหากัน



“…ผมก็รู้สึกผิดเหมือนกัน แต่ไอ้ดินมันยินยอม ผมบอกมันหมดว่าผมสงสัยอะไรอยู่ มันเลยบอกถ้าอยากรู้ก็ต้องลอง แล้วมันก็กระดกหมดเลย”



“อาจเพราะดินกินมากกว่านายด้วยแหละ” คมเขี้ยวพยักหน้าหนึ่งที



“มันอันตรายมากนะคุณเรียว ขนาดไอ้ดินตัวโตขนาดนั้น มันยังทรมานเหมือนจะตาย มันไม่ใช่ยารักษาสุขภาพนะ” เรียวจันทร์หน้าเสีย เม้มปากแน่น เริ่มเป็นกังวลมากกว่าเดิมกับอาการของดิน



“ขอโทษ…” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างเบาๆ รู้สึกกระวนกระวายในใจ



“…ไปดูดินมั้ย ฉันเป็นห่วงอะ เข้าไปนานรึยัง”



“ชั่วโมงกว่า ของผมกว่าจะหายก็ตอนกลับลงมาข้างล่าง แต่ไอ้ดินล่อไปขนาดนั้น ไม่รู้จะนานขนาดไหน” เรียวจันทร์ยิ่งรู้สึกตระหนกมากขึ้นไปอีก นางชวนคมเขี้ยวให้ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ เคาะประตูห้องที่ดินอยู่ข้างใน เสียงน้ำจากฝักบัวไหลไม่หยุด



“ดิน ดินเปิดประตูหน่อย” ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงเสียงฝักบัวกระทบพื้น เรียวจันทร์มองหน้าคมเขี้ยวด้วยความกังวล แต่สักแปบประตูพลาสติกสีเทาก็เปิดออก ดินที่ตัวแดงเถือกยืนค้ำขอบประตูห้องน้ำไว้ ร่างกำยำเปลือยเปล่าเปียกน้ำไปทั้งตัว เรียวจันทร์สะดุ้งนิดหน่อยเมื่อสายตาป๊ะกับความมโหฬารของดินที่ตั้งตระหง่านชี้หน้านางราวกับจะบอกว่ามึงทำร้ายกู



“ยาคุณเรียว แม่งเกินไปอะครับ ดินชักจนน้ำจะหมดตัวแล้ว แสบxxxไปหมดแล้วครับคุณเรียว” ดินว่าเสียงแผ่ว หน้าตาหมดเรี่ยวแรง ส่วนปลายอันใหญ่โตของดินแดงเปล่งปลั่งจนเรียวจันทร์นึกสงสาร



“กินน้ำเข้าไปอีกไอ้ดิน ให้มันขับออกมา”



“น้ำหมดแล้วพี่เขี้ยว ดินแทบจะกินน้ำจากฝักบัวแทนแล้ว”



“รออยู่นี่ก่อน เดี๋ยวกูไปหยิบในรถให้…” ปฐพีพยักหน้ารับอ่อนแรง คมเขี้ยวหันไปมองเรียวจันทร์ดุๆ



“…แล้วไม่ต้องมีน้ำใจไปช่วยมันปลดปล่อยล่ะ อยู่เฉยๆ นะคุณนาย” เรียวจันทร์ทำหน้าหงิกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เถียง เพราะตอนนี้นางรู้ตัวว่ามีความผิดอยู่



พอคมเขี้ยวเดินไป ดินก็เดินกลับไปนั่งบนเก้าอี้โต๊ะจีนสีน้ำเงินที่วางไว้ใต้ฝักบัว เรียวจันทร์ยืนมองด้วยความเป็นห่วง ดินนั่งแหงนหน้ารับน้ำจากฝักบัวเพื่อช่วยดับความร้อนในตัว



“คุณเรียวอย่าเข้ามาใกล้นะ ดินยิ่งอยากกับคุณเรียวอยู่” เรียวจันทร์อ้าปากค้าง มองดินด้วยความรู้สึกผิด รู้สึกแย่และรู้สึกสงสาร ถ้าจะบอกว่าดินเสียสละเพื่อช่วยคมเขี้ยวก็ไม่ผิดนัก



“คุณเรียวพอจะรู้มั้ย… แฮ่ก… ว่ามันจะหายเมื่อไหร่” เรียวจันทร์หน้าเครียด หยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาจอมทัพโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเวลากี่โมง แต่โทรไปก็ไม่ติด จนนึกได้ว่าจอมทัพอยู่ต่างประเทศ เรียวจันทร์เลยใช้วิธีกดโทรในโปรแกรมแชทแทน รอสัญญาณอยู่พักใหญ่มากจนคมเขี้ยวเดินกลับเข้ามาหน้านิ่วคิ้วขมวดมองนางอย่างสงสัย



“โทรหาใครตอนตีสอง” กำลังจะอ้าปากตอบ แต่อีกฝ่ายรับสายซะก่อน เรียวจันทร์เลยเดินออกไปด้านนอกอาคารห้องอาบน้ำก่อน



“เสี่ย ยาที่ให้ฉันมา มันจะหมดฤทธิ์ตอนไหน” ปลายสายเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะได้ยินเสียงกุกกักและตามมาด้วยเสียงงัวเงีย



[ยาอะไร] จอมทัพถามกลับอย่างงงๆ เขาหรี่ตามองนาฬิกาดิจิตอลบนหัวเตียงก็เห็นว่าเป็นเวลาตีสามกว่าแล้ว



“ยาปลุกเซ็กส์อันนั้นไง!” เรียวจันทร์กระซิบเสียงกระแทก



[อ๋อ แล้วแต่ปริมาณที่กิน แล้วก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของคนนั้น ตอบตายตัวไม่ได้หรอก] เรียวจันทร์รู้สึกมืดตึ้บกับคำตอบที่ได้รับ



[ทำไม ใช้กับไอ้คมเขี้ยวแล้วเหรอ]



“ย่ะ! แค่นี้ก่อนนะเสี่ย”



[อะไรกัน ไม่คิดถึงกันบ้างเลยรึไง ได้ผัวใหม่แล้วลืมผัวเก่าเหรอ]



“เสี่ย กลับไปนอนเถอะ” เรียวจันทร์กดวางสาย ถลึงตาใส่มือถือด้วยความหงุดหงิด พอหันตัวจะเดินกลับเข้าไปก็ชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของคมเขี้ยว



“โทรหาใคร” คมเขี้ยวยักคิ้วถาม



“โทรหากูรู เพื่อนน่ะ เขารู้เรื่องยาเยอะ” นางแถได้ทันท่วงที คมเขี้ยวมองอย่างประเมิน เรียวจันทร์ทำหน้างง



“อะไร โทรหาเพื่อน อยากช่วยดินนะเนี่ย”



“แล้วใครทำให้มันต้องอยู่ในสภาพนี้ล่ะ”



“นายไง”



“แล้วใครเป็นต้นเหตุ”



“ฉันเอง” เสียงอ่อย…



คมเขี้ยวจ้องหน้าเรียวจันทร์ตาดุ ร่างเล็กทำหน้าสำนึกผิด ก่อนจะเดินเข้าไปกอดร่างสูง เอาคางเกยบนอกคมเขี้ยวแล้วทำหน้าอ้อนเล็กๆ



“ฉันขอโทษที่อารมณ์อยากเสียตัวให้นายมันแรงกล้าเกินไปจนทำให้เกิดเรื่องไม่ดีแบบนี้ขึ้น” คมเขี้ยวดันตัวเรียวจันทร์ออกจากตัว สองมือจับไหล่สองข้างของคนตรงข้ามไว้



“อะไรจะอยากได้ผมขนาดนั้น อดใจไม่ได้เลยรึไง”



“อือ ก็อยากได้อยากโดนอะ”



“แล้วโดนไปรู้สึกยังไงล่ะ” เรียวจันทร์ทำสีหน้าว่า หูยยย ท่าขนลุกขนพอง แล้วสักพักสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเปรี้ยวปาก



“แรงมาก ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ใหญ่ แต่ความยาวเหมือนด้ามหอก ฉันเหมือนทั้งขึ้นสวรรค์และลงนรกตลอดเวลาที่นายอยู่ในตัวฉัน มันฟินแบบหน่วงๆ ดีอะ ฉันไม่ต้องช่วยตัวเองเลย เสียวจนเสร็จเอง” เรียวจันทร์บรรยายอย่างจริงใจ ไม่มีเฟค ไม่มีแอคติ้ง เล่นเอาเจ้าของด้ามหอกที่ว่าหน้าร้อนวาบๆ



“เอาซะเห็นภาพเชียวนะ”



“เอาอีกหลายๆ รอบได้นะ”



ป้าบ!



“โอ๊ย! ตีฉันทำไมอะ” เรียวจันทร์ว่าหน้าง้อ ยกมือขวาขึ้นลูบหัวตรงที่โดนตีเบาๆ



“ยังจะมาเล่นอีก ถ้าไอ้ดินไม่ดีขึ้น คุณต้องรับผิดชอบเลยนะ”



“รับผิดชอบยังไงล่ะ ให้ฉันไปเอากับดินอะเหรอ ก็ได้นะ ฉันจะเสียสละเหมือนที่ดินทำ” คมเขี้ยวกระตุกยิ้มเหี้ยม ก่อนจะหุบยิ้มหน้านิ่ง แล้วพูดเสียงกระแทกใส่หน้าเรียวจันทร์จนคุณนายสะดุ้ง สองไหล่กระตุกด้วยความตกใจ



“ไม่ต้อง!”



“พี่เขี้ยว… พี่… ขอน้ำอีก” เสียงดินดังโหยหวนดังมาจากห้องอาบน้ำที่ดินอยู่ ทั้งสองคนหันไปมองอย่างตระหนกเล็กๆ



“เออๆ เดี๋ยวกูเอาไปให้…” คมเขี้ยวหันกลับมามองเรียวจันทร์ตาดุนิดๆ “…คืนนี้ไม่ต้องนอน นั่งเฝ้าไอ้ดินจนกว่ามันจะดีขึ้น”



“ให้ฉันอยู่คนเดียวเหรอ” เรียวจันทร์ถามหน้างง



“ผมอยู่ด้วยเนี่ยแหละ เดี๋ยวก็แรดไปยุ่งกับไอ้ดินอีก” เรียวจันทร์หน้างอนตุ๊บป่อง ก่อนจะปรับเป็นยิ้มเกือบไม่ทันกับประโยคถัดมา



“มีเมียแรด ชีวิตแม่งไม่ปลอดภัยเลย”



ถึงจะออกแนวด่า แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยที่ผัวคนนี้ด่านาง






เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้   :hao3:



โดนจับได้ซะละ ว้าาา แต่ถามว่านางสำนึกผิดมั้ย 555555 ดูท่าทางจะไม่

ถ้าถามตอมนะ พี่เขี้ยวโกรธตรงที่ทำอะไรไม่นึกถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่น แล้วก็โกรธตรงที่เหมือนโดนบังคับกลายๆ แต่ถามว่าโกรธจนจะเกลียดมั้ยก็ไม่ใช่แน่นอน แต่ถามว่ายกโทษให้รึเปล่า ก็ไม่ได้ยกโทษให้ซธทีเดียว แต่พี่แกก็คงฟีลว่า โกรธไปคุณนายแกก็หัวดื้อหัวแข็งใส่ อีกอย่างตัวพี่แกเองก็มีใจให้อยู่แล้วอะเนาะ คริๆ

แต่ก็เชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ชอบการกระทำนี้ของแม่ แต่ทุกอย่างมันจะส่งผลต่อๆ ไปเองเนอะ จะมากจะน้อยก็ดูเหตุการณ์ในอนาคตข้างหน้าอีกทีแน้ค้าาา อะหุๆ

แต่งานนี้ทั้งรักและสงสารน้องดินค่ะ เสียสละมากพ่อเอ๊ย ช่วยพี่ชายไขข้อสงสัย ทุ่มเทแรงกายทั้งหมดจริงๆ เมียก็ยังไม่มี นี่ยังต้องมานั่งใช้มือให้เมื่อยอีก มามะน้องดิน มาหาเจ้

สวัสดีปีใหม่คนอ่านของขุ่นเจ้ทุกคนเลยนะคะ ขอบคุณที่อยู่กับนิยายเรื่องนี้มาเป็นปีๆ แล้ว ขอบคุณมากๆ ค่ะ ขอให้มีความสุขและความสนุกทุกครั้งที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้

เมื่อวานตอมลงตอนพิเศษต้อนรับปี 60 ให้อ่านกันในเพจ มาบอกย้ำอีกทีค่ะ เผื่อบางคนไม่ทราบเนอะ ตามไปอ่านได้ที่ลิงก์นี้เลยจ้า > ตอนพิเศษต้อนรับปี 60 (https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9-%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-2560/1153926574703708)

ที่ไม่ได้ลงในหน้านิยายเลยเพราะไม่ได้มีแค่พี่เขี้ยวกับแม่เรียวค่ะ มีตัวละครจากเรื่องอื่นยั้วเยี้ยไปหมด เลยเอาไปลงที่เพจดีกว่าาา ตามไปอ่านได้น้อออ 





หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 02-01-2017 21:08:44
ดีค่ะคุณเรียว ยอมรับกันตรงๆดี แต่น้องดินเอ้ยย ไม่ต้องลงทุนกินเยอะแยะขนาดนั้นก้ได้จ้าา กลัวไม่ออกฤทธิ์หรออ น่าสงสารเลย ว่าแต่เสี่ยจะทำอะไรรึป่าวนะ ถ้ารู้ว่าเรียวจันทร์กับคมเขี้ยวเค้าคบกันแล้ว เห้ออ กลัวใจเสี่ยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-01-2017 21:17:04
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: wonwon ที่ 02-01-2017 21:32:26
เอาจริงๆ สงสารดินอ่ะ น้องซวยเลยยย ถ้ามีใครช่วยปลดปล่อยก็คงดี อิอิ (ออกแนวอยากหาคู่ให้น้องดิน55) 

รอตอนต่อไป อยากอ่าน รอนะคะ สนุกดี o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-01-2017 21:41:30
ยิ่งอ่านยิ่งกลัวจะกินมาม่า   :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 02-01-2017 22:44:48
 :mew2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 02-01-2017 23:06:51
นึกว่าพี่เขี้ยวจะโกรธคุณนายมากกว่านี้ แต่ก็ไม่มากเท่าที่คิดนะ แสดงว่า พี่เขี้ยวแกรักคุณนายมากพอดูนะนิ อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 02-01-2017 23:32:16
คุณนายจะเคลียร์กับเสี่ยยังไงล่ะทีนี้  :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-01-2017 00:20:39
❤️ HAPPY NEW YEAR 2017 ❤️
สวัสดีปีไหม่ ๒๕๖๐
ขอให้ไรท์ มีความสุข มากกกกกกก
。◕‿◕。
หลังจากนี้ มีมาม่าแน่
      :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 03-01-2017 06:39:19
เรียวจ๊ะ ช่วยดินหน่อยจิ อิอิ :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 03-01-2017 11:59:34
โถ่ขุ่นแม่เรียวววว. เกือบโดนพี่เขี้ยวเขมือบหัวละ 555555 :katai2-1:  สงสารดินนนน. แต่ไม่เป็นไรค่ะ อิชั้นจะเสียสละตัวเองเพื่อดินเองค่าาาาาาาา :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 05-01-2017 07:31:46
 :z13:
ขอจิ้มเรื่องนี้ไว้ก่อนนะ
ว่างจะมาอ่านแน่นอนนนน
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 05-01-2017 10:37:52
น้องดินคนแมน
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 05-01-2017 23:48:45
น้องดินของป้าาาาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๑/ครึ่งหลัง:02.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 06-01-2017 00:21:04
หงี่ก็บอกว่าหงี่ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 07-01-2017 00:53:29



คาถาที่ 22 :: The fear of Devil. (ความกลัวของนางมาร) [35%]



   คมเขี้ยวสะดุ้งตื่นในตอนที่ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันแว่วๆ เขามองเรียวจันทร์ที่หลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดตั้งแต่เมื่อคืน พอได้สติขึ้นมาบ้างเลยหันไปมองน้องชายบุญธรรมตัวเองที่นอนแผ่หลาเหยียดขาตรง สองแขนนอนกางออกข้างลำตัว เนื้อตัวเปลือยเปล่ามีผ้าห่มคลุมช่วงกลางลำตัวไว้
   

เมื่อคืนเขากับเรียวจันทร์เฝ้าไอ้ดินจนเกือบตีห้า อาการความอยากของไอ้ดินรุนแรงกว่าของเขามาก เพราะมันกินเข้าไปจนเกลี้ยงกระบอกน้ำ มันทั้งฉี่ทั้งชักไปหลายรอบก็ดีขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ยังไม่หายดี ยังคงตัวร้อนรุมๆ เรียวจันทร์ลงความเห็นว่า ถ้าให้ร้อนกับเย็นเจอกันนานไปมันไม่น่าจะดี เขาเช็ดตัวไอ้ดินและพาไอ้ตัวใหญ่ที่เดินแทบไม่ตรงเดินกลับมาที่เต็นท์ ก่อนที่จะหลับไปมันบอกว่ายังร้อน มึนหัวและตัวก็ยังแดง ทั้งที่ผิวมันเข้มซะขนาดนั้นแต่ยังมองออกว่าตัวแดง และมันก็พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่โดนตัวเรียวจันทร์ขวัญใจของมัน
   

‘อย่าให้คุณเรียวโดนตัวดิน ไม่งั้นดินจับเมียพี่กินนะ’ ตอนประคองมาที่เต็นท์เขาเลยต้องทำคนเดียว มีเรียวจันทร์คอยส่องไฟฉายนำทางให้ พอเข้าเต็นท์ได้เขาก็ไล่เรียวจันทร์กลับไปนอนที่ แต่แม่ตัวดีก็ไม่ยอมไป
   

‘ไม่เอา ฉันเป็นห่วงดิน เป็นห่วงนายด้วย เกิดหน้ามืดตาบอดขึ้นมา กินกันเอง ฉันนี่แหละจะช็อคที่สุด’ สุดท้ายเขาเลยต้องนอนคั่นกลางและกอดแม่คุณนายไว้ ไอ้ดินนอนครางฟืดฟาดๆ อยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะค่อยๆ สงบลง
   

คมเขี้ยวหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาบนหน้าจอ ตอนนี้หกโมงเช้าแล้ว พวกเขาเพิ่งหลับไปได้ชั่วโมงเดียว เขาหันไปมองร่างไอ้ดิน เพ่งมองสำรวจเท่าที่จะฝืนความง่วงไหวว่าตัวมันยังแดงอยู่มั้ย
   

“อือ… ดินเป็นไงบ้าง” เสียงใสแหบๆ ดังขึ้นด้านหลังพร้อมกับร่างของเรียวจันทร์ที่ลุกขึ้นนั่งหน้าตางัวเงีย
   

“หลับอยู่ แต่วันนี้มันคงขึ้นไปบนเขาไม่ไหวหรอก” เรียวจันทร์หน้าเจื่อน ชะโงกหน้ามองดินที่นอนหายใจดังฟี่ หน้าตาของดินดูเหนื่อยล้า เห็นแล้วความรู้สึกผิดก็วกกลับเข้ามาหาอีกอีกครั้ง
   

“หรือเราจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสักวันมั้ย ให้ดินหายดีแล้วค่อยขึ้นเขา ดินอยากมาทริปนี้มากไม่ใช่เหรอ”
   

“งั้นเดี๋ยวปรึกษาพ่อกับแม่ก่อน” เรียวจันทร์พยักหน้างัวเงีย
   

“แล้วตอนนี้เราควรทำไง นอนต่อหรือว่าออกไปเตรียมตัว”
   

“เดี๋ยวผมออกไปถามพ่อกับแม่ก่อน…” คมเขี้ยวทำท่าจะลุกออกไปจากเต็นท์ แต่สักพักก็หันไปมองหน้าเมียใหม่หมาดๆ ด้วยสายตาดุนิดๆ


“…คุณก็ออกไปรอข้างนอกด้วย” เรียวจันทร์ย่นคิ้วทั้งที่หน้ายังง่วงอยู่แล้วพูดเสียงงึมงำๆ


“ทำไมอะ ฉันว่าจะนอนอะ”


“อยู่สองคนได้ไงล่ะ” เรียวจันทร์กลอกตาเอื่อยๆ ชันเข่าขึ้นเชื่องช้า รอคมเขี้ยวรูดซิบเต็นท์ออกแล้วให้เรียวจันทร์คลานออกไปด้านนอกก่อนแล้วค่อยตามออกมา ร่างเล็กนั่งหน้าสลึมสลืออยู่ตรงพื้นด้านหน้าเต็นท์ที่มีหลังคายื่นออกมาด้านหน้าคล้ายมุกหน้าบ้าน คมเขี้ยวเดินไปดูที่เต็นท์พ่อกับแม่ พอเห็นว่าทั้งคู่ไม่อยู่เลยจะเดินไปทางท่าน้ำ เขาเดินเข้าไปดึงเรียวจันทร์ให้เดินไปด้วยกัน คุณนายงอแงนิดหน่อยเพราะกำลังนั่งสัปปะหงกเพลินๆ


คมเขี้ยวลากเรียวจันทร์ให้เดินตามมาเรื่อยๆ เรียวจันทร์เพิ่งรู้สึกถึงอากาศตอนเช้าตรู่ ครึ้มแบบนี้คือเย็นจัดมาก ยิ่งเข้าใกล้น้ำก็ยิ่งเย็น จากที่กำลังงัวเงียๆ ถึงกับตื่นเกือบเต็มตา เมื่อกี้ก็ไม่ได้หยิบเสื้อกันหนาวหรือผ้าห่มมาด้วยเลยต้องเดินตัวสั่นเบาๆ


“ป๋า แม่ ไอ้ดินมันท้องเสีย วันนี้มันไม่น่าจะเดินไหว ผมเลยจะถามว่าเราจะอยู่ต่ออีกสักวันมั้ย รอให้ไอ้ดินหายดีแล้วค่อยขึ้นไปข้างบน” คมเขี้ยวถามพ่อกับแม่ตัวเองที่กำลังยืนถ่ายรูปตรงท่าน้ำที่ยื่นเข้าไปถึงกลางน้ำ ฉากหลังคือหมอกสีขาวลอยเหนือน้ำเย็นๆ มีแสงตะวันสีส้มอมทองแทรกอยู่ในหมู่เมฆสีครึ้มเหนือยอดไม้ฝั่งตรงข้ามที่กางเต็นท์


“อ้าว มันไปกินอะไรมา ก็กินเหมือนกันหมดนี่หว่า” เมฆาถามอย่างประหลาดใจ พลางมองเรียวจันทร์ที่ยืนหน้าง่วง สองมือลูบตามแขนขาวเพื่อเพิ่มไออุ่นให้ตัวเอง


“มือมันสกปรกแล้วหยิบของกินเข้าปาก” คมเขี้ยวตอบอย่างปกติธรรมดา ราวกับว่ามันเป็นไปอย่างนั้นแหละ


“เอาไงล่ะคุณบัว” เมฆาหันไปถามภรรยาที่ยืนอยู่ข้างกัน


“ช่วงนี้เราก็ปิดฟาร์มแล้ว อยู่ต่ออีกวันก็ได้ค่ะ แต่ก็รอดูอาการดินด้วย ถ้าไม่ดีขึ้น ยังไงก็ต้องกลับแล้วพาไปหาหมอ” คมเขี้ยวรับคำของมารดา หันไปมองเรียวจันทร์ที่เดินไปนั่งบนราวไม้ท่าน้ำอย่างง่วงๆ แล้วหันกลับไปหาพ่อกับแม่ตัวเองอีกที


“งั้นเดี๋ยวผมกลับไปนอนต่อก่อนนะ เมื่อคืนเฝ้าไอ้ดินจนเกือบเช้าเลย” ผู้ใหญ่ทั้งสองคนพยักหน้า มองลูกชายตัวเองเดินเข้าไปจูงมือเรียวจันทร์ให้ลุกขึ้นและพาเดินกลับไปทางเต็นท์


“ดีกันแล้วแหละน่ะ” เมฆายักคิ้วหนึ่งที บัวบูชายิ้มกริ่มและหันกลับไปถ่ายรูปต่อ


ก่อนเข้าเต็นท์คมเขี้ยว เรียวจันทร์แวะบอกเป็ดที่ตื่นแล้วว่าจะขอนอนต่อที่เต็นท์คมเขี้ยว และแจ้งเป็ดเรื่องจะอยู่ต่ออีกวัน


“อ้าว อยู่ต่อเหรอ ฉันติดงานอะแก” เรียวจันทร์ชะงักนิ่งคิดไปแปบหนึ่งก่อนจะหันไปมองคมเขี้ยว


“ผมลืมถามความเห็นคุณเป็ดเลย ขอโทษด้วยนะครับ” เป็ดยกมือโบกรัวๆ


“ไม่เป็นไรค่ะ เป็ดไม่คิดมาก แค่กังวลว่าตัวเองจะกลับยังไง” เป็ดหัวเราะแห้งๆ


“แกแคนเซิลได้มั้ย หาคนอื่นมาทำแทนได้หรือเปล่า ในบริษัทไม่ได้มีแกคนเดียวซะหน่อย”


“มันก็ใช่ แต่พี่หัวหน้าฉันเขาก็แบบ ไว้ใจฉันอะ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วหน้าง่วง


“ในบริษัทออแกไนซ์แกนี่ไม่มีใครน่าไว้ใจเลยเหรอ” เป็ดจิ๊ปากใส่เพื่อนตัวเอง และแอบเบ้ปากด้วยความหมั่นน้อยๆ เมื่อเรียวจันทร์ดึงให้คมเขี้ยวเข้ามากอดตัวเองจากทางด้านหลัง คิดไปคิดมาหมั่นไส้คมเขี้ยวด้วยดีกว่า เพราะรายนั้นก็สวมกอดนังเรียวอย่างเต็มใจเหลือเกิน


“ไม่ใช่ไว้ใจแบบนั้น หมายถึงว่า งานนี้ฉันเป็นคนเริ่มไง” เรียวจันทร์ที่กำลังลูบแขนคมเขี้ยว นิ่งคิดสักแปบเพราะสมองยังไม่ตื่นเต็มที่


“เอ่อ โอเค งั้นแกถามพี่หัวหน้าแกก่อน ถ้าเขาหาคนแทนได้ อยู่ต่อเหอะ” เป็ดพยักหน้า ก่อนจะขอตัวไปดูวิวยามเช้าบ้าง คมเขี้ยวกับเรียวจันทร์พากันเดินกลับไปเข้าเต็นท์ ดินยังคงนอนหลับสนิท ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนั่นทำให้คมเขี้ยวนึกสบายใจว่าอย่างน้อยมันก็ไม่ได้มีอาการทรมานให้เห็น


“ดินไม่มีแฟนหรือคนคุยบ้างเลยเหรอ” เรียวจันทร์ถามตอนที่คมเขี้ยวคลี่ผ้าห่มให้คลุมตัวเองกับคนข้างๆ


“ถามทำไม”


“บางทีเห็นแล้วก็น่าเห็นใจ เกิดอยากปลดปล่อยก็ต้องใช้แต่นารีทั้งห้า”


“ก็ไอ้ดินมันไม่จีบใคร มีผู้หญิงแถวบ้านมาชอบ มันก็ไม่เอา มันจะเอาแต่คุณเนี่ย” เรียวจันทร์บิดปากเป็นยิ้มเขิน แล้วพูดด้วยเสียงสอง พูดอ้อแอ้ๆ คล้ายคนไม่เต็มบาท


“ก็ฉันสวยอะ”


คมเขี้ยวยิ้มเหี้ยม ถลึงตามองแม่ตัวดี “เดี๋ยวจะศพไม่สวย”


“อู๊ย พี่เขี้ยวหึงน้องเรียวเหรอ น่ารักจังเลยค่า” เรียวจันทร์ยื่นหน้าไปจุ๊บมุมปากคนตัวโตหนึ่งที แล้วคลี่ยิ้มง่วงให้ คมเขี้ยวยกมือซ้ายตีหน้าผากเรียวจันทร์เบาๆ แล้วพาคุณนายล้มตัวลงนอน เรียวจันทร์ซุกหน้าเข้ากับซอกคอคมเขี้ยวแล้วไม่นานก็หลับ ไม่มีใครพูดอะไรต่อ เพราะง่วงกันทั้งคู่









เสียงโทรศัพท์มือถือของคมเขี้ยวดังแผ่วอยู่ตรงปลายเท้า เจ้าของโทรศัพท์ดันร่างเรียวจันทร์ออกจากอกตัวเองเบาๆ หันไปมองร่างไอ้ดินก็พบเพียงความว่างเปล่า แขนยาวๆ เอื้อมไปหยิบมือถือขึ้นมากดรับ


“ว่าไง”


[ขอโทษทีพี่เขี้ยวที่โทรมา แต่เมื่อคืนมีคนเข้าไปพังเครื่องผลิตนม] คมเขี้ยวไม่ได้มีท่าทีตกใจ เขาไม่แปลกใจด้วยซ้ำที่เกิดเหตุการณ์นี้ แต่เขาต้องการอีกคำตอบมากกว่า


[แต่ผมจับคนทำได้นะพี่เขี้ยว]


“เออ ดี เอาไปฝากขังกับตำรวจไว้ก่อน” คมเขี้ยวไม่ได้ตื่นเต้นที่จับคนร้ายได้แล้ว เพราะเขาคิดไว้แต่เพียงว่าต้องจับให้ได้เท่านั้น


[แต่พี่ ไอ้คนทำอะ คือ…]


“คือไรวะ”


[ไอ้น้อยหน่า] คมเขี้ยวนิ่งค้าง หัวใจกระตุกไปหนึ่งที ชื่อที่ได้ยินทำเอาเขารู้สึกมึนไปชั่วขณะ


“มึงว่าไงนะ” เขาลองถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้คิดผิดหรือได้ยินผิดไป จากที่ไม่ตื่นเต้น เขาก็เริ่มจะตื่นเต้นขึ้นบ้าง


[ไอ้น้อยอะพี่ แม่งเป็นคนทำ แต่ตอนนี้มันไม่พูดอะไรเลย] คมเขี้ยวหน้าเครียดไปนิด เขาผ่อนลมหายใจเบาๆ


“งั้นอย่าเพิ่งส่งให้ตำรวจ รอกูกลับไปคุยก่อน” ไอ้เทิงรับคำแล้ววางสายไป คมเขี้ยววางมือถือไว้ตรงที่นอนฝั่งไอ้ดิน หันไปมองเรียวจันทร์ก็เห็นว่ากำลังหลับอยู่ เขาเลยคลานออกไปนอกเต็นท์ก่อน พอออกมาด้านนอกก็เจอกับคนอื่นๆ นั่งล้อมกองไฟกันอยู่ ไอ้ดินกำลังนั่งจิบน้ำ ดูท่าจะเป็นน้ำอุ่นเพราะมีควันสีขาวลอยจางๆ ท่าทางของมันดูดีขึ้นกว่าเมื่อคืนเยอะ


“หนูเป็ด หนูเรียวยังไม่ตื่นเหรอลูก” คมเขี้ยวหันไปมองแม่ตัวเองแบบมึนๆ สักแปบก็ได้สติว่ามารดาเขาถามหาแม่คุณนายที่หลับอยู่ในเต็นท์เขา


“เอ่อ ใช่ค่ะ หลับอยู่ สงสัยจะเพลียจริง” คมเขี้ยวเหลือบมองเป็ด อีกฝ่ายยิ้มกลับมาเนียนๆ เขาเลยทำเนียนไม่พูดอะไรบ้าง


“ป๋ากับแม่ ผมมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย” คมเขี้ยวเดินไปนั่งใกล้ทั้งสองคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารพลาสติกทรงสี่เหลี่ยมสีฟ้าที่พกมาจากบ้าน เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง พ่อเขาเงียบหน้านิ่ง ส่วนแม่เขามีสีหน้าตกใจเมื่อได้ยินว่าคนที่ทำคือใคร


“งั้นกลับบ้านดีกว่า จะได้รีบเคลียร์” เมฆาสรุปแทนทุกคน และเป็นอันว่าจากที่จะอยู่ต่ออีกวันเป็นอันต้องกลับก่อนกำหนดหนึ่งวันแทน


พอตกลงกันได้ ทุกคนก็เตรียมตัวไปอาบน้ำ คมเขี้ยวมุดกลับเข้าเต็นท์ไปปลุกเรียวจันทร์และบอกให้อีกฝ่ายไปเตรียมตัวกลับบ้าน เรียวจันทร์ตกใจแบบงงๆ ที่แพลนเปลี่ยนกะทันหัน


“ที่ฟาร์มมีปัญหาน่ะ” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ เปลือกตากะพริบเอื่อยๆ ก่อนจะพยักหน้างึมงำ


“เดี๋ยวผมรอ ไปเตรียมของอาบน้ำเร็ว” เรียวจันทร์พยักหน้าอีกที คมเขี้ยวแหวกเต็นท์ดู เห็นพ่อกับแม่ไม่อยู่ตรงนั้นแล้วเลยปล่อยให้เรียวจันทร์มุดออกจากเต็นท์ไปอย่างเชื่องช้า พอเรียวจันทร์เดินกลับไปที่เต็นท์ตัวเอง เขาก็หันไปคุยกับดิน


“เป็นไงมั่งมึง”


“โอเคแล้วพี่ ไม่มีอารมณ์แล้ว เอ่อ ดินไม่ได้ตายด้านนะ หมายถึงว่า ไม่อยากเอาคุณเรียวแล้ว” คมเขี้ยวขมวดคิ้ว


“เอ๊ ไอ้นี่ พูดไรเกรงใจกูมั่ง”


“โห่ ไม่ต้องพูดเลยพี่เขี้ยว ทีแรกทำเป็นปากแข็ง ตัวเองมาทีหลังยังมาแย่งเขาอีก” คมเขี้ยวยิ้มระอาและส่ายหน้าน้อยๆ กับใบหน้างอนของไอ้ตัวใหญ่


“ยังไงกูก็ขอบใจมึงมากนะที่ช่วยกูลองกินไอ้ยานั่นอะ”


“ยาคุณเรียวสุดยอดของดี แต่ถ้าจะให้กินอีก ไม่เอาละนะ ถึงมันจะอยาก รู้สึกดี แต่ดินร้อนเหมือนจะตายเลย พี่เป็นมั้ยอะ” คมเขี้ยวถอนหายใจแผ่วเบา


“กูว่ากูโชคดีที่กินไปนิดเดียว แล้วถ้าเรียวไม่มาโดนตัวกู คิดว่าคงไม่เป็นอย่างที่มึงเห็นในน้ำตกหรอก”


“แล้ว… ตอนที่พี่ฟัดคุณเรียว ตอนนั้นเพราะยาหรือเพราะอยากอะ” คนถูกถามย่นคิ้วน้อยๆ พยายามนึกถึงความรู้สึกตอนนั้น


“ก็สองอย่าง เหมือนยามันแค่กระตุ้นให้กูอยากกับเขามากกว่าปกติ” ไอ้ดินจ้องหน้าคมเขี้ยว กะพริบตาปริบ ก่อนจะถามหน้าตาใสซื่อ


“เงี่ยxมากกว่าเดิมเงี้ยอะเหรอพี่” คมเขี้ยวไม่รู้จะวางสีหน้ายังไง เลยได้แต่พยักหน้าขึ้นเป็นคำตอบหนึ่งทีพร้อมกับทำเสียงอือๆ ออๆ ในลำคอนิดหน่อย


“แล้วถ้าเกิดเป็นคนอื่นมาโดนตัวพี่ แบบนั้นพี่ก็อยากกับคนนั้นด้วยอะดิ”


“ยามันไม่ได้ทำให้กูขาดสตินะ ถ้ากูไม่อยากกับคุณเรียวมึงซะอย่าง กูต่อยปากแตกคาน้ำตกไปแล้ว” ดินทำหน้าครุ่นคิด แววตากลอกไปซ้ายทีขวาทีก่อนพูดต่อ


“ก็น่าจะจริง ไม่งั้นดินคงเอาพี่เขี้ยวเป็นเมียแล้ว”


“ไอ้เหี้ยดิน” คนโดนด่าทำหน้างงว่าทำไมจู่ๆ ถึงโดนด่า ก็แค่เปรียบเทียบให้ฟังเฉยๆ


“เอ๊า ไรวะ ด่ากันเฉยเลย” คมเขี้ยวที่เตรียมอุปกรณ์อาบน้ำและเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ลุกชันเข่า


“ไปๆ ไปอาบน้ำ” ไอ้ดินส่ายหน้าสั่น


“หึ ไม่อะ เมื่อคืนแช่น้ำจนตัวจะเปื่อยแล้ว” คมเขี้ยวพยักหน้าขึ้นไปเรื่อย เหมือนเป็นการบอกว่าตามใจมึง


ร่างสูงออกมายืนด้านนอกเต็มความสูงของตัวเอง เรียวจันทร์เดินหอบของเตาะแตะมาหาเขา คมเขี้ยวยื่นมือไปจับมือเรียวจันทร์แล้วพากันเดินออกไปทางห้องอาบน้ำ ตอนนี้สิบโมงกว่าแล้ว มีคนมาอาบน้ำบ้างประปราย ฝั่งผู้ชายมีคนไม่เยอะมาก ห้องอาบน้ำมีสิบห้อง ตอนนี้เหลือห้องว่างอยู่สองห้อง แต่สองสามีภรรยาหมาดๆ เลือกที่จะเข้าไปอาบน้ำห้องเดียวกัน


คมเขี้ยวถอดเสื้อและกางเกงแขวนไว้ตรงราวพลาสติกในห้องอาบน้ำ ผ้าขนหนูสีขาวพาดไว้ใกล้กัน หันไปหยิบเสื้อ กางเกงและผ้าขนหนูของเรียวจันทร์มาพาดไว้ด้วยกัน พอจัดการเสร็จก็หันไปมองเรียวจันทร์ที่หัวยุ่งเหยิงหน้าตาง่วงซึมยืนเปลือยเปล่า ร่องรอยสีแดงบนตัวเรียวจันทร์ยังเด่นชัดบนผิวขาวราวกับน้ำนม มันก็ไม่ได้เหมือนนมราวกับเป็นแฝด แต่ผิวเรียวจันทร์ขาวมาก ขาวเนียนละเอียด เหมือนน้ำนมอ่อนๆ ราดอยู่บนตัว


“อยากเหรอ” เรียวจันทร์เดินเข้ามาคล้องคอเขาแล้วกระซิบถาม ก่อนจะจูบปลายคางเขาหนึ่งที


“ในนี้คงไม่สะดวก ถึงบ้านก่อนแล้วกัน” คมเขี้ยวก้มลงจูบปากเรียวจันทร์เบาๆ ร่างเล็กยิ้มแล้วพยักหน้า


คมเขี้ยวเปิดฝักบัวและพาเรียวจันทร์เข้าไปยืนใต้ละอองน้ำ เรียวจันทร์สั่นไหล่เบาๆ เมื่อโดนความเย็นจัดของน้ำกระทบผิว คมเขี้ยวหันตัวเรียวจันทร์เข้ามาหาตัวเอง ก่อนจะก้มลงไซ้คอขาวเนียนด้วยความกระสัน เรียวจันทร์ยกสองมือขึ้นจิกหัวคมเขี้ยวและแหงนหน้าให้คนตัวสูงไซ้ได้อย่างสะดวก


“ไหนว่ารอกลับบ้านไง” เรียวจันทร์กระซิบถามแผ่วเบา พยายามไม่ให้เสียงดังมากไป เพราะมีคนอื่นๆ อาบน้ำอยู่ ยังดีที่ห้องอาบน้ำของที่นี่เป็นแบบมีฝ้าปิดด้านบน ใครจะสอดกล้องเข้ามาก็ยากหน่อย


คมเขี้ยวไม่ตอบ เอาแต่มัวเมากับลำคอขาวของเรียวจันทร์ทั้งสองข้าง สองมือลูบผิวลื่นเนียนของเมียหมาดๆ ไปทั่ว เรียวจันทร์ปล่อยสองมือออกจากผมคมเขี้ยว เลื่อนลงมาที่หน้าอกกับหัวนมแทน พอสองมือสัมผัสเข้าที่ยอดอกของคมเขี้ยว เจ้าตัวก็ครางเสียงสั่น หน้าท้องหดเกร็ง ความเป็นชายที่ค่อยๆ แข็งทีละนิดกระดกตัวขึ้นราวกับมังกรลุกผงาด คมเขี้ยวเลื่อนมือลงไปแหวขาของเรียวจันทร์ให้อ้ากว้างขึ้น เอื้อมไปหยิบครีมอาบน้ำของเรียวจันทร์ที่วางอยู่บนแท่นปูนวางของมาบีบใส่มือแล้วสอดมือเข้าไปใต้หว่างขาเรียวจันทร์แล้วยัดนิ้วที่เยิ้มไปด้วยครีมอาบน้ำเข้าไปในรูคับแคบ


เรียวจันทร์แหงนหน้าตาปรือ สองมือจับไหล่คมเขี้ยวไว้ ปล่อยให้คมเขี้ยวทาครีมอาบน้ำตรงบริเวณนั้นจนลื่นมือ แล้วสักพักคมเขี้ยวก็เขยิบร่างตัวเองกับร่างเรียวจันทร์ออกห่างจากฝักบัว ปล่อยให้น้ำไหลกระทบพื้นเพื่อช่วยกลบเสียง


“ต้องเร็วหน่อย อย่าเสียงดังนะ” คมเขี้ยวกระซิบบอก เรียวจันทร์พยักหน้า ยกขาซ้ายขึ้นตามแรงแขนที่คมเขี้ยวดึงขึ้นไปคล้องไว้ตรงข้อแขน คมเขี้ยวย่อตัวแล้วใช้มือขวาจับลูกชายตัวเอง ค่อยๆ เสียบเข้าไปด้านใน


“อุ… อู้ว… อู้ว… อือ…” เรียวจันทร์สีหน้าจุก พยายามกลั้นเสียงร้องไว้ด้วยการยื่นหน้าไปกัดไหล่คมเขี้ยว ร่างสูงครางอืออาเบาๆ ยืนย่อเข่าแช่ตัวเองไว้ในตัวเรียวจันทร์สักพัก ก่อนที่จะยืนขึ้นเต็มความสูง ทำให้เรียวจันทร์หายใจเข้าปอดดังเฮือกยาว ปลายเท้าด้านซ้ายเขย่งขึ้นเพื่อให้คมเขี้ยวถนัด แต่เนื่องจากอีกฝ่ายสูงร้อยเก้าสิบกว่าเลยทำให้เหลื่อมล้ำกันอยู่ดี คมเขี้ยวเลยย่อตัวลงอีกนิด พอเข้าที่เข้าทางก็สวนสะโพกเข้าหาเรียวจันทร์


“อ๊ะ…อ๊า…” เนื่องจากยังมีความเจ็บบวมตุ่ยจากเมื่อวานเลยทำให้เรียวจันทร์รู้สึกระบบตรงทางเข้าของตัวเอง ร่างเล็กถึงกับยกมือขึ้นมาดันไหล่ร่างสูงให้ออกห่าง คมเขี้ยวหยุดขยับสะโพก เรียวจันทร์ออกแรงดันเขาออกให้ห่างจากตัวแล้วยืนพิงกำแพงหายใจหอบน้อยๆ หน้าตาบ่งบอกถึงความเจ็บ


“เจ็บเหรอ” คมเขี้ยวถามย้ำจากสีหน้า เรียวจันทร์หน้าเหยเก พยักหน้าอย่างยอมรับ นึกในใจกับตัวเองว่าเหมือนเพิ่งเสียบริสุทธิให้คมเขี้ยวคนแรกอย่างไรอย่างนั้น


“สงสัยจะเจ็บค้างจากเมื่อวาน พักวันนึงได้มั้ย” คมเขี้ยวกระตุกยิ้มแล้วพยักหน้า เรียวจันทร์สูดปากด้วยความเจ็บ มองไอ้ไส้กรอกเขาใหญ่ที่พุ่งตรงมาทางนี้ เอื้อมมือไปจับแล้วรูดเข้ารูดออก


“คาวบอยน้อยสะพรึงมาก แต่ขอพักสักวันนะลูกนะ” เรียวจันทร์ก้มลงจูบที่ส่วนปลายของแท่งสีเข้ม และหยอกล้อพ่อคนตัวสูงด้วยการดูดสูดปลายราวกับดูดอมยิ้มไปหนึ่งที ใบหน้าคมเขี้ยวกระตุกนิดหนึ่งด้วยความเสียว


“ฉันใช้มือให้มั้ย” เรียวจันทร์ว่าพลางชักขึ้นชักลงให้คมเขี้ยวช้าๆ ร่างสูงดึงมือเรียวจันทร์ออกจากของตัวเอง


“ไม่ต้องหรอก เก็บไว้ปล่อยทีเดียวตอนคุณหายแล้ว”


“ทนได้เหรอ” คมเขี้ยวยิ้ม ก้มลงจุ๊บหน้าผากเรียวจันทร์หนึ่งที


“ผมไม่มีอะไรกับใครมาเป็นปีๆ ยังอยู่ได้เลย” เรียวจันทร์ทำหน้านึกขึ้นได้ ก่อนจะพยักหน้า แว้บหนึ่งนึกสงสัยว่าผู้หญิงคนสุดท้ายที่คมเขี้ยวนอนด้วยคือใครกัน


ทั้งสองคนช่วยกันอาบน้ำ ถูสบู่ให้กัน แต่ล้างหน้าใครหน้ามันและแปรงฟันในปากใครปากมัน ผมไม่ได้สระเพราะเมื่อวานตอนเย็นก็สระไปแล้ว อาบน้ำเสร็จคมเขี้ยวก็ช่วยเรียวจันทร์เช็ดตัวก่อน ตามด้วยเรียวจันทร์เช็ดตัวให้คมเขี้ยวบ้าง พอตัวแห้งก็ใส่ชุดนอนชุดเดิมก่อนแล้วค่อยกลับไปเปลี่ยนที่เต็นท์ ทั้งคู่รอฟังเสียงจากด้านนอกสักพัก พอแน่ใจว่าไม่น่าจะมีใครอยู่แล้วก็ค่อยๆ แง้มประตูออกไปมองซ้ายมองขวา เห็นว่าทางสะดวกก็รีบพากันออกจากห้องอาบน้ำ และพากันกลับไปที่เต็นท์เพื่อเก็บของเตรียมตัวกลับ




เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:



แหม พี่เขี้ยว อดใจไม่ไหวล่ะซี้ อุอิๆ แต่คุณนายยอมแพ้จริง 55555 สู้ไม่ไหว ราวกับเป็นสาวบริสุทธิมาก่อน พี่เขี้ยวนี่ไม่ธรรมดานะคะ ทำให้คุณนายพ่ายได้

น้องดินก็น่ารักน่าเอ็นดู๊ 55555 หวงน้องดิน เก็บไว้กินคนเดียวดีกว่า คริๆ

มีเรื่องแล้วค่ะหมวดดด แพลนทุกอย่างต้องล่มเพราะมีเรื่องงง สำหรับสาวปริศนาที่ทิ้งไว้เป็นประเด็นในสักตอนหนึ่ง จริงๆ ก็ไม่ได้เป็นปริศนามาก ไม่ได้กะปิดให้มันซับซ้อนเป็นคดีฆาตกรรม 5555 หลายคนก็เดาถูกกันไปละเนาะ อุๆ

ยังไงกลับไปทำต่อ เอ้ย กลับไปเคลียร์ปัญหาที่ฟาร์มกันก่อนดีกว่าเนอะ หุๆ

ตอมลงตอนพิเศษต้อนรับปี 60 ให้อ่านกันในเพจ มาบอกย้ำอีกทีค่ะ เผื่อบางคนไม่ทราบเนอะ ตามไปอ่านได้ที่ลิงก์นี้เลยจ้า > ตอนพิเศษต้อนรับปี 60 (https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9-%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-2560/1153926574703708)

ที่ไม่ได้ลงในหน้านิยายเลยเพราะไม่ได้มีแค่พี่เขี้ยวกับแม่เรียวค่ะ มีตัวละครจากเรื่องอื่นยั้วเยี้ยไปหมด เลยเอาไปลงที่เพจดีกว่าาา ตามไปอ่านได้น้อออ 



สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                                 
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ


หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-01-2017 01:11:24
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-01-2017 01:52:53
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 07-01-2017 05:38:45
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 07-01-2017 06:35:02
พี่เขี้ยวนี่ของเค้าดีจริงๆ ฟัดจนขุ่นแม่ยอมแพ้ หึหึ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 07-01-2017 09:27:30
ไม่คิดว่าจะมีวันที่คุณนายไม่หิวโหยแบบนี้ 55555555555555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 07-01-2017 09:58:04
 :-[
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 07-01-2017 10:18:11
พี่เขี้ยวเด็ดมาก 555
พอได้คุณนายเป็นเมียนี่หื่นขึ้นมาเชียว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 07-01-2017 21:01:58
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-01-2017 21:42:09
 :z1: :pighaun: :haun4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 09-01-2017 00:42:43
 :z1: น้องดินไม่ต้องเสียสละขนาดนั้นหรอกน่ะ เอาแค่ถ้วยเดียวก้อพอแล้วจ้ะ ล่อซะหมด  :เฮ้อ: ต่อไปชีวิตของน้องเรียวคงต้องโดนล่ามโซ่แล้วจ้ะ แล้วเสี่ยจะยังไงล่ะเนี่ย เสียวกลัวเขี้ยวรู้ความจริง ๆ น่ะ  :mew5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-01-2017 07:12:38
อ่านไปก็ระแวงไป  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
กลัวแทนคุณนาน ถ้าเขี้ยวรู้ความจริง  :z6: :z6: :z6:
ดราม่าแน่ๆ คุณนายง้อตายแน่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๒๒/35%:07.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 09-01-2017 22:10:39
โถถถถ. อยากเป็นตัวเลือกให้น้องดินนนน :impress2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/70% :13.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 13-01-2017 00:07:49


คาถาที่ 22 [70%]




ขากลับคมเขี้ยวเป็นคนขับรถ เพราะอยากให้ดินได้พักผ่อน คุณป๋าอาสานั่งหน้าเป็นเพื่อนแต่เขาขอให้เรียวจันทร์มานั่งด้วยและให้ไอ้ดินไปนั่งหลังสุดกับพ่อตัวเองแทน



“ทำไมต้องให้หนูเรียวนั่งหน้ากับแกด้วย นั่งกับไอ้ดินเป็นไรไป”



“เรียวจันทร์มึนรถ นั่งหลังไม่ได้หรอก”



“ขามายังนั่งได้เลย”



“ก็เพิ่งรู้ตัวว่าเมารถตอนขามาแหละป๋า ขากลับเลยไม่อยากนั่งไง”



ไอ้ดินได้แต่เบ้ปากอย่างหมั่นไส้ให้พี่ชายตัวเอง เมฆาขมวดคิ้วมองหน้าลูกชายด้วยความไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่คิดทักท้วงให้มากความ เพราะเรียวจันทร์ก็ตอบรับเออออห่อหมกไปด้วย เลยปล่อยให้สองคนนั้นนั่งหน้าด้วยกัน



ตลอดทางกลับบ้าน สองคนข้างหน้าไม่รู้ว่าลืมตัวกันรึเปล่าว่ายังมีคนอื่นอยู่ด้วย เพราะเรียวจันทร์ป้อนข้าวป้อนน้ำป้อนขนมให้คมเขี้ยวอย่างดีไม่มีพร่อง สี่คนที่เหลือก็นั่งเงียบ ไม่มีใครพูดขัด บัวบูชานั่งดูแม็กกาซีนที่คมเขี้ยวกับเรียวจันทร์ถ่ายด้วยกันกับเป็ด นั่งเม้าท์น้อยเม้าท์ใหญ่กันสองคน หล่อนเอามาเก็บไว้บนรถด้วยชุดหนึ่ง ไว้ดูยามไม่มีอะไรทำ เมฆานั่งอ่านข่าวในไอแพด ดินเบ้ปากเป็นระยะเวลามองสองคนด้านหน้าสุด แต่ก็สลับกับมองวิวสองข้างทางไปด้วย 



ขากลับมาถึงฟาร์ม ทุกคนรู้สึกเหมือนกันหมดว่าเร็วกว่าตอนขาไป ซึ่งมันคือจิตวิทยาหรืออย่างไรไม่ทราบที่มักจะรู้สึกแบบนี้เวลาไปที่ไหนสักแห่งที่ไม่คุ้นเคย ขาไปมักจะยาวนานส่วนขากลับนั้นเพียงแปบเดียว อาจเพราะรู้สึกคุ้นทางแล้วก็เป็นได้



“อยู่ที่ไหนกันล่ะน่ะ” เมฆาถามพลางปิดประตูรถ ดินเดินไปหลังรถ เปิดท้ายรถและขนของลงมาวางไว้ข้างล่างโดยมีเรียวจันทร์กับเป็ดไปช่วยด้วย



“อยู่ที่พักคนงานแหละ ป๋ากับแม่จะไปด้วยกันมั้ย” บัวบูชาพยักหน้า สีหน้าตึงเครียดเล็กน้อย คมเขี้ยวเดินไปหลังรถแล้วช่วยพวกดินขนของขึ้นบ้าน เมฆากับบัวบูชาเดินมาช่วยขนของที่เหลืออยู่บนพื้นตามขึ้นไปทีหลัง เมฆาบอกให้วางของไว้ตรงแถวหน้าประตูก่อน เดี๋ยวค่อยขึ้นมาจัดการอีกที 



“อยู่กับคุณเป็ดไปก่อน เดี๋ยวผมมา” คมเขี้ยวบอกกับเรียวจันทร์ คุณนายทำหน้าสงสัยนิดหน่อยแต่ก็พยักหน้าตอบรับ คมเขี้ยวหันไปเรียกพ่อกับแม่และดินให้เดินออกไปจากบ้านด้วยกัน



เรียวจันทร์หันไปมองเพื่อนตัวเอง “แกจะกลับเลยมั้ย หรือนอนนี่อีกคืน” คนถูกถามคุ่นคิดสักแปบก่อนตอบ



“กลับเลยดีกว่า เพราะถึงฉันจะนอนนี่ ก็เหมือนฉันนอนคนเดียว” เป็ดจิกตาใส่เพื่อน เรียวจันทร์ยิ้มเขิน บิดตัวเล็กๆ



“เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวฉันเลี้ยงตอบแทนแกที่ช่วยฉัน ไปกินขนมกัน แถวนี้ร้านน่ารักเยอะมาก” เป็ดเบ้ปากใส่เพื่อนตัวเองเบาๆ แต่ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มพึงใจ



“ดีเหมือนกัน ฉันเห็นร้านนึงนานละ อยากลองไปนั่งดู”



“ตามใจแกเลยจ้ะ”



“อื้อหือ แม่บุญทุ่ม” สองเพื่อนซี้หัวเราะ และพากันเดินออกไปจากบ้าน ตกลงกันว่าจะขับรถตามกันไป เพราะขากลับเป็ดจะได้ไม่ต้องย้อนมาส่งเรียวจันทร์อีก



ระหว่างทางขับรถ เรียวจันทร์แชทไปบอกคมเขี้ยวว่ามาร้านขนมกับเป็ด แต่คมเขี้ยวยังไม่ได้เปิดอ่าน สงสัยจะติดธุระ คิดแค่ว่าว่างแล้วเดี๋ยวอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาเอง



“รู้สึกดีที่มาวันธรรมดา ฉันเคยผ่านตอนมาหาแกครั้งนึง คนแน่นมาก” เป็ดบ่นไปเรื่อยหลังจากลงจากรถและพากันเดินเข้าไปในร้านที่เป็นร้านกระจกโปร่งใสมีสองชั้น ด้านหน้าปลูกทุ่งดอกหญ้าไว้เต็ม มีทางเดินแหวกตรงกลาง มีดอกไม้สามสี่สีประดับประดาร่วมด้วย มีน้ำตกจำลองไหลเอื่อยเป็นทางยาวอยู่บนเนินที่ทางร้านทำขึ้น



“แกอยากนั่งตรงไหนเลือกเลย” เรียวจันทร์บอกเป็ด ศิริประภายืนมองทำเลดีๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนชี้ไปตรงโต๊ะไม้ติดริมกระจกที่ว่างอยู่หนึ่งที่ ทั้งสองคนเดินไปนั่ง รอไม่นานพนักงานก็เอาเมนูมาให้เลือกดู



“ขนมหวานเชิญเลือกที่ตู้ได้เลยนะคะ” เรียวจันทร์ฉีกยิ้มและพยักหน้า ก้มหน้าเลือกเมนูของคาวแบบเบาๆ เพราะเพิ่งกินมาบนรถ และกวาดตาเลือกเครื่องดื่มไปด้วย



“เอา ปีกไก่ทอดน้ำปลา ไก่ทอดเกลือ ปลาซาบะย่าง น้ำเอาเป็นนมชมพูปั่นแล้วกันค่ะ” เรียวจันทร์ที่กำลังดูเมนูเงยหน้ามองเป็ดที่สั่งเรียบร้อยแล้ว



“งั้นฉันไม่สั่งอาหารเพิ่มนะ…” เป็ดพยักหน้า เรียวจันทร์หันไปหาเด็กเสิร์ฟ “…เอานมชมพูปั่นอีกแก้วค่ะ”



พนักงานสาวยิ้มรับ เรียวจันทร์พับเมนูเตรียมส่งคืนให้ แต่สักพักก็ดึงกลับหน้าตื่นเล่นเอาเป็ดและพนักงานตกใจว่าอีผู้ชายหน้าสวยมันเป็นอะไรของมัน



“ขอยืมก่อนได้มั้ยคะ เผื่อหิวเพิ่ม” พนักงานพยักหน้างงๆ แล้วหมุนตัวเดินออกไปจากโต๊ะ



“อะไรของแกอีเรียว” คนถูกถามยกเมนูขึ้นมาบังครึ่งหน้า สายตาเหลือบมองไปทางโต๊ะสูงใกล้กับเสาของร้าน เป็ดหันไปมองตามสายตาเพื่อนก็เจอกับผู้ชายหน้าตาดี ออกไปทางออปป้าเกาหลีคนกับผู้หญิงหน้าตาสวยคมๆ อีกคน



“นั่นคือยัยช่อเอื้องกับคุณหมอที่เคยรักษาฉัน” เป็ดเลิกคิ้วขึ้นแอบหมุนคอไปมองสองคนนั้นอีกรอบแล้วรีบหันกลับมาหาเพื่อนตัวเอง



“เขากิ๊กกันเหรอ” เรียวจันทร์ชะงักกึก ขมวดคิ้วอ่อน มองสองคนนั้นที่มีท่าทีสนิทสนมกันตามปกติ นางก็ไม่กล้าฟันเฟิร์มตามที่เป็ดพูด



“ไม่รู้สิ แต่สองคนนั้นเขาทำงานด้วยกัน อาจจะสนิทกันในฐานะเพื่อนร่วมงานตามปกติก็ได้นะ”



“ก็เป็นไปได้นะ” เป็ดว่าอย่างเห็นด้วยกับเพื่อน คนทำงานด้วยกันต้องสนิทสนมกันบ้างคงไม่ใช่เรื่องแปลก เรียวจันทร์หรี่ตามองสองคนนั้นอย่างครุ่นคิด



“ตาเขี้ยวบอกว่าวันที่เคลียร์กับนาง นางร้องไห้นะ แต่ฉันไม่รู้หรอกว่าอาการหนักขนาดไหน”



“เขาอาจจะร้องไห้วันนั้น แค่วันเดียวไรเงี้ย พอตั้งสติได้ก็เชิดเดินหน้า” เรียวจันทร์พยักหน้าเบาๆ ยกเมนูขึ้นสูงอีกนิดในตอนที่ทั้งสองคนรับถุงขนมกับแก้วเครื่องดื่มจากพนักงานและพากันลุกเดินออกไปจากนอกร้าน เรียวจันทร์มองตามจนกระทั่งทั้งสองคนขึ้นรถไปด้วยกัน



“ใส่ชุดคุณหมอกับพยาบาล เขาคงแวะออกมาหาอะไรกินแหละ”



“ก็ถ้านางได้ผู้ใหม่แล้วก็ดีใจด้วยค่ะ จะได้ไม่ต้องวกกลับมาทางนี้อีก” เป็ดเบ้ปาก กลอกตาอย่างแรง



“อยากจะได้ผู้ชาย ใครลำบากคะ เพื่อน! ให้ฉันไปสำรวจพื้นที่ป่าล่วงหน้า หาโลเคชั่นเหมาะๆ ในการได้เสีย แล้วถามว่าฉันได้อะไรบ้าง”



“ได้พี่ไม้ไง ฉันเห็นแว้บๆ นะว่าเขากรุ้มกริ่มกรุบกริบๆ กับแกอะ” เป็ดทำตาโต กะพริบตางงๆ



“เหรอ?”



“เขาขอเบอร์แก ไลน์แก เฟซบุ๊คแกมั้ย” เป็ดย่นคิ้วนิดๆ



“ก็ขอนะ”



“ขอไรมั่ง”



“หมดเลย ที่แกว่ามาอะ” เรียวจันทร์ตาโต อ้าปากคลี่ยิ้มกว้าง เป็ดเม้มปากหน้าเขินพองาม



“ถ้ามีลูกก็ดื่มน้ำมะพร้าวเยอะๆ นะจ๊ะเป็ด ลูกจะได้ขาว เพราะพ่อกับแม่ เข้มทั้งคู่”



“บ้า! ยังไม่ถึงขั้นนั้นซักหน่อย” เป็ดอายม้วนแทบม้วนเป็นโรตีสายไหม เรียวจันทร์ยิ้มเบ้ปาก ก่อนจะเบรกความอายของเพื่อนด้วยการชวนกันไปเลือกเค้กในตู้ตรงเค้าน์เตอร์



 :hao3:

วันนี้มาสั่นไปหน่อย ต้องขออภัยค่ะ แต่ก็อยากอัพ กลัวจะหายไปนาน ช่วงนี้เตรียมทำงานโปรเจ็คท์ใหม่ เลยกลัวจะหายไปนาน มาน้อยแต่ก็อยากมาเนาะ

พี่เขี้ยวเขาก็มึนดีนะคะ อยากให้คุณนายนั่งใกล้ๆ ก็ออกอาการเอาแต่ใจเบาๆ บอกขุ่นแม่ว่าอย่าเพิ่งบอกบ้านตัวเอง แต่รู้ตัวมั่งมั้ยคะพี่เขี้ยวว่าตัวเองออกอาการมากมายทีเดียว 55555 ส่วนน้องดินก็ทำได้แค่หมั่นไส้เนาะลูกเนาะ เอาน่ะ สักวันต้องมีคนของเราบ้างสิ!

ช่อเอื้องได้หนุ่มใหม่แล้ว ขุ่นแม่ก็น่าจะสบายใจขึ้นนะคะ รึเปล่าคะแม่? เขาได้ออปป้าเลยนะคะแม่ขา นางไม่น่าจะหวนคืนกลับมานะเนาะ

เจอกันอีกส่วนที่เหลือนะคะ ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ คอมเม้นมากบ้างน้อยบ้างในแต่ละตอน แต่อย่างน้อยก็มีคนคอยเม้นให้ ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/70% :13.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-01-2017 00:17:43
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/70% :13.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 13-01-2017 00:24:14
นังเอื้องได้ผู้ใหม่ก็ดีใจด้วยค่ะ แต่ถ้าไม่ก็สงสาร เจอฤทธิ์คุณนายแน่นอน

ยิ่งอ่านยิ่งกลัวพี่เขี้ยวรู้ว่าคุณนายมาเพราะเสี่ย ระแวงทุกตอน  :ling3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/70% :13.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-01-2017 00:28:47
คมเขี้ยวจะจัดการปัญญาที่ไร่ยังไงหว่าาาาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/70% :13.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 13-01-2017 00:32:34
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/70% :13.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 13-01-2017 00:48:40
รอตอนต่อคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/70% :13.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 13-01-2017 07:24:43
ดีใจกับเป็ดด้วยนะคะ ในที่สุดก็มีผู้หลงมาาาาาาา. :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/70% :13.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 13-01-2017 08:24:07
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/70% :13.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: rawinan99 ที่ 13-01-2017 17:40:36
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/70% :13.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 13-01-2017 20:15:36
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/70% :13.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 19-01-2017 10:59:48
 :mew2: :mew2:  คิดถึงคุณนาย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/70% :13.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 20-01-2017 00:18:42
ดีจ้ะ ที่หนูเอื้องหาใหม่ได้แล้ว เราไม่อยากให้ผู้หญิงมาเป็นประเด็นในเรื่องสักเท่าไหร่น่ะ วายชอบให้ผู้หญิงเป็นตัวร้ายประจำเลย  :เฮ้อ:เอาแบบพอหอมปากหอมคอนิดนึง ก้อพอแล้วเนอะ  :hao3: แล้วตกลงน้อยหน่าคือใครหว่า  :m16: ท่าทางจะเป็นคนที่เขี้ยวไว้ใจน่ะเนี่ย รอตอนต่อไปเลยจ้ะ กำลังมันส์เลย  :o8:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/100% :21.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 21-01-2017 22:53:25


คาถาที่ 22 [100%]




อิ่มหนำสำราญกับอาหารและขนมนมเนยและเรื่องเม้าท์มากมายแล้ว เรียวจันทร์ก็แยกตัวกับเป็ดและขับรถกลับมาที่ฟาร์มในช่วงเกือบเย็น คมเขี้ยวโทรมาตามรอบนึงหลังจากนั่งอยู่ที่ร้านได้สองชั่วโมง แต่อีกฝ่ายไม่ได้เร่งเร้าให้กลับ แค่ถามเฉยๆ ว่าจะกลับตอนไหน


Rrrr!


เรียวจันทร์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูหน้าจอพลางใช้สะโพกดันประตูรถ พอเห็นหน้าจอว่าเป็นเบอร์ที่บ้านตัวเองโทรมาก็กดรับสาย


“ฮัลโหล… จ้า ป้าอุ่น ว่ายังไง… อ๋อ ได้ๆ เดี๋ยวเรียวโอนให้นะ กลับบ้านไปรอบก่อนเรียวลืม ขอโทษที… หืม… เขามาหาเรียวที่บ้าน?”


[ใช่ค่ะ คุณพ่อคุณหนูเจอกับคุณแม่ด้วยนะคะ] เรียวจันทร์ย่นคิ้วครุ่นคิด มีความไม่เข้าใจเกิดขึ้นในหัว แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร สองคนนั้นเขาเคยคบกัน ถึงขั้นได้เสียกันจนมีนางออกมาโชว์หน้าสวยๆ อยู่นี่ไง


“แล้วแก๊ปเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นไงบ้างคะ”


[ก็อ่านๆ เล่นๆ แหละค่ะคุณหนู แต่มันก็บอกว่าจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณหนูให้ได้]


“บอกเขานะป้าอุ่นว่าอย่าเครียด ในสี่อันดับให้เขาเลือกที่เขาอยากเรียนจริงๆ อย่ายื่นเอาแค่ติด ถ้าไม่ติดจะเรียนเอกชนก็ได้ เรียวไม่ว่าหรอก”


[ไม่เอาหรอกค่ะ แพง ให้มันตั้งใจซะตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่า]


“แต่แก็ปก็เกรดดี เรียวว่าก็น่าสบายใจไปเปราะนึงแล้ว” เรียวจันทร์เดินไปคุยไปจนกระทั่งมาถึงหน้าออฟฟิศ เปิดประตูเข้าไปด้านใน เดินไปตรงห้องนอน พอเปิดเข้าไปก็เจอคมเขี้ยวนอนตากแอร์รออยู่บนเตียง


“จ้ะป้าอุ่น ถ้าอาทิตย์หน้าได้กลับบ้านเดี๋ยวเจอกันนะ… จ้า” เรียวจันทร์กดวางสาย มองคมเขี้ยวที่นั่งหน้านิ่ง ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ กำลังจะอ้าปากถามแต่นึกขึ้นได้ว่าต้องโอนเงินให้ป้าอุ่น นางเลยเดินไปนั่งบนเตียงข้างคมเขี้ยว กดเข้าแอพฯ โอนเงินผ่านมือถือ จัดการโอนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ป้าอุ่น


“ทำอะไร”


“โอนเงินให้ที่บ้านน่ะ” คมเขี้ยวพยักหน้าลงหนึ่งที เรียวจันทร์วางมือถือไว้บนโต๊ะหัวเตียง หันตัวเข้าหาคมเขี้ยวที่ยังคงนั่งพิงหัวเตียงหน้าตามีแววเคร่งเครียดจางๆ


“เป็นอะไร ปัญหาที่เกิดขึ้นหนักมากเลยเหรอ” คมเขี้ยวพรูลมหายใจเบาๆ


“เรื่องที่เกิดขึ้นในฟาร์ม เว้นเรื่องระเบิด น้อยหน่าเป็นคนทำ…” เรียวจันทร์อ้าปากหวอน้อยๆ แววตาเหม่อลอยกำลังครุ่นคิด


“…เสียงผู้หญิงที่คุณได้ยินตอนนั้นน่ะคือน้อยหน่า”


“ใช่คนที่ชอบนายมั้ย” คมเขี้ยวกดหน้าลงเพียงนิด เรียวจันทร์เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย สีหน้าตลึงอ่อนๆ


“ทำไมเป็นคนนั้นอะ เขาทำไปทำไม”


“มีคนจ้าง” ร่างเล็กขมวดคิ้วหน้างง


“ใคร?”


“ไอ้จอมทัพ” เรียวจันทร์ตัวเย็นวาบ สีหน้าชะงักค้าง ร่างกายเหมือนจะขยับไม่ได้ไปครู่หนึ่งเพราะความเย็นที่ลามไปทั่วตัวจนเกิดเป็นความชา คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์นิ่ง โดยที่เรียวจันทร์ก็อ่านไม่ออกว่าอีกฝ่ายมองตัวเองด้วยสายตาแบบไหน กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ตอนนี้เรียวจันทร์กำลังรู้สึกหวาดกลัวในอกเล็กๆ


“มันบอกน้อยว่าถ้าบีบให้ผมยอมขายที่ดินได้ มันจะให้น้อยเป็นผู้จัดการโรงงานของมัน”


“โรงงานอะไร” เรียวจันทร์ถามอย่างเบลอๆ กำลังพยายามจับต้นชนปลายอยู่


“ไอ้จอมทัพมันอยากจะมาสร้างโรงงานเกี่ยวกับการเกษตรที่นี่…” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว นึกในใจว่าคนอย่างจอมทัพเนี่ยนะ จะทำอะไรแบบนั้น


 “…เอาง่ายๆ มันจะเอาที่นี่ไปเป็นของมัน สร้างแหล่งผลิตของมัน แย่งคนพื้นที่ทำมาหากิน” เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอ กำลังสับสนว่าจอมทัพมีความคิดแบบนี้จริงๆ เหรอ นางไม่ได้จะเข้าข้าง แต่จอมทัพดูจะไม่สนใจประเด็นนี้เลย


“ก็มันจริง ถ้าคุณจะตั้งโรงงานอะไรสักอย่าง ขอเถอะว่าอย่าทำ”


“แล้วถ้าผมจะทำล่ะ”


แต่ก็นั่นแหละ แค่ดูจะ เรียวจันทร์ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆ จอมทัพจะเอาที่ดินตรงนี้ไปทำอะไร


“มันอยากได้ที่ดินตรงนี้มาก” เรียวจันทร์หันหน้านิ่วคิ้วย่นของตัวเองไปมองคมเขี้ยวที่ยังคงมองกลับมาอย่างไม่วางตา


“ก็พอจะรู้ ยิ่งตอนนี้ยิ่งรู้เลยว่าอยากได้มากจริงๆ”


“มันเคยพูดอะไรกับคุณมั้ย คุณรู้จักมันและตอนนี้คุณอยู่ที่นี่” เรียวจันทร์มองหน้าคมเขี้ยวด้วยความอึกอัก ท่าทางเลิ่กลั่กอย่างหาทางออกไม่เจอ


“มันเคยเล่าเรื่องอะไรพวกนี้ให้คุณฟังรึเปล่า”


“ทำไมถึงคิดว่าเขาจะเล่าให้ฉันฟังล่ะ”


“ก็คุณเคยถามเรื่องขายที่ดินให้มัน”


“ฉันก็แค่ถาม เพราะเขาก็แค่บอกว่าอยากได้ที่ดินที่นี่ แต่เขาไม่เคยบอกหรอกว่าจะทำอะไรยังไงบ้าง” อันนี้นางคิดว่านางไม่ได้โกหก เพราะจอมทัพไม่เคยเล่าเลยจริงๆ ว่ามีโปรเจ็คต์จะทำอะไร บอกแค่คร่าวๆ ว่าถ้าได้ที่ดินตรงนี้มา ถึงเวลาค่อยคิดอีกที จอมทัพเคยบอกว่ามีลิสต์โปรเจ็คต์เยอะ 


“นั่นไม่ได้อยู่ในลิสต์โปรเจ็คต์ของผม”


เรียวจันทร์ย่นคิ้ว เม้มปากด้วยท่าทีไม่มั่นก่อนที่จะเอ่ยถาม “แต่นายเคยบอกไม่ใช่เหรอ ว่าจอมทัพจะสร้างพวกโรงแรม สวนสนุกอะไรอย่างนั้น แบบที่เมืองหลวงมี”


“แล้วโรงงานในเมืองไม่มีรึไง”


“ไม่ใช่ ฉันหมายถึงว่า โรงงานมันดูไม่เหมาะกับจอม…” แล้วเรียวจันทร์ก็ต้องงับปากตัวเองไว้เบาๆ เมื่อเห็นว่าคมเขี้ยวกำลังมองนิ่งแบบที่ว่าเปลือกตาไม่ขยับ ตาสีดำไม่หลุกหลิกเลยสักนิด


“ดูคุณจะออกรับแทนมันนะ…” ร่างสูงว่าเสียงเย็น เรียวจันทร์ตาโตหน้าตื่น


“…คุณยังมีความสัมพันธ์อะไรกับมันอยู่รึเปล่า”


“เปล่า คือ…” เรียวจันทร์ยกมุมปากขึ้นทั้งสองข้างเร็วๆ หนึ่งที ถอนหายใจสั้นๆ แล้วว่าต่อ


“…โอเค ก่อนหน้านี้ ฉันยอมรับว่าฉันคุยๆ กับจอมทัพ เรารู้จักกันผ่านแม่ฉันน่ะ แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเขาอีก” คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์เงียบๆ ให้เจ้าตัวรู้สึกกระวนกระวายเล็กๆ


เรียวจันทร์กำลังคิดว่าหรือจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้คมเขี้ยวฟังไปเลยดี แต่ท่าทีคมเขี้ยวตอนนี้ ถ้าเล่าไปอีกฝ่ายจะมีปฏิกิริยายังไงนะ


“ฉันไม่มีอะไรกับเขาแล้วจริงๆ นะ ก่อนหน้านี้อาจจะมี แต่ตอนนั้นฉันไม่มีใคร แต่ตอนนี้ฉันมีนายแล้ว” เรียวจันทร์ว่าอย่างร้อนใจ แต่ก็พยายามไม่แสดงออกให้มันตื่นตูมมากไป


“ขอให้จริงตามนั้น ผมไม่ห้าม ถ้าคุณจะรู้จักกันในฐานะเพื่อน แต่ถ้ามากกว่านั้น หรือมีนอกมีในอะไรกัน ผมไม่ชอบ” เรียวจันทร์อ้าปาพะงาบๆ นึกกังวลปนสงสัยว่าที่คมเขี้ยวพูดนั้นหมายถึงความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวหรือว่าอย่างอื่น


“ไม่มีแล้ว แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้มี” เรียวจันทร์ว่าเสียงอ่อย


“ก่อนหน้านี้คุณไม่มีผม แต่ตอนนี้คุณมีผม คุณคงเข้าใจนะ” เรียวจันทร์เข้าไปกอดคมเขี้ยวด้วยท่าทีอ้อนๆ ร่างสูงยกแขนวาโอบไหล่ร่างเล็กไว้


“เข้าใจ และไม่นอกใจค่ะคุณสามี”


“ผมยอมรับว่าผมไม่ชอบไอ้จอมทัพมาก เกือบจะเกลียดแต่ก็ยังไม่ขนาดนั้น แต่ผมก็จะไม่บอกให้คุณเลิกยุ่งกับมันเพียงเพราะผมไม่ชอบมัน แค่หวังว่าคุณจะไม่อยู่กับมันมากไปจนซึมซับความคิดของมันมา” เรียวจันทร์รู้สึกน้ำท่วมปาก อยากจะบอกคมเขี้ยวเรื่องจุดเริ่มต้นที่ทำให้นางต้องเข้ามาอยู่ที่นี่ แต่หลังจากได้ยินประโยคแนวต่อต้านจอมทัพชัดเจนแบบนี้ นางเลยยังไม่กล้าเอ่ยปากจริงๆ


เพราะเรียวจันทร์ไม่รู้เลยว่าถ้าเอ่ยปากไป ยังจะได้กอดคนตรงหน้านี้อยู่มั้ย


“ฉันไม่ใช่สาวกลัทธิจอมทัพหรอกน่า”


จอมทัพกลับมาคงต้องรีบเคลียร์ทางนั้นให้รู้เรื่องก่อน แล้วค่อยมาสารภาพบาปกับทางนี้อีกที จะให้พูดเวลานี้ทั้งที่คมเขี้ยวเพิ่งพบว่าจอมทัพสั่งทำลายบ้านตัวเอง คงไม่ดีแน่


“แล้วนายจะทำยังไงกับผู้หญิงคนนั้น” เรียวจันทร์ผละหน้าออกจากอกคมเขี้ยว กระเถิบตัวขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียงข้างๆ อีกคน


คมเขี้ยวถอนหายใจก่อนตอบ “แม่ไม่อยากตัดอนาคตน้อยหน่า แต่ป๋าไม่ยอม ป๋าโกรธมาก ป๋าเกลียดการหักหลัง เกลียดการเล่นสกปรก ยิ่งเป็นคนใกล้ตัวแบบนี้ ป๋ายิ่งไม่ชอบ…”


เรียวจันทร์หน้าเสียไปนิด ลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความฝืดเคือง แต่คมเขี้ยวกำลังมองตรงไปข้างหน้าเลยไม่ทันสังเกตสีหน้าคนข้างๆ


“…พอๆ กับที่ผมไม่ชอบ ผมเลยให้สองคนนั้นตัดสินใจก่อนว่าจะเอายังไง” คมเขี้ยวหันไปมองเรียวจันทร์ ร่างเล็กกระตุกยิ้มนิดหนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้น้อยๆ


“แล้วเรื่องระเบิดล่ะ”


“กำลังตามจับคนร้ายอยู่ ยังไม่รู้ว่าจะเจอตัวเมื่อไหร่”


“คนชื่อแม็คล่ะ” ร่างสูงขบกรามเบาๆ


“ก็ต้องพยายามตามหามัน ตอนนี้มันคงไปไหนต่อไหนแล้ว…” เรียวจันทร์อยากบอกเหลือเกินว่ามันไม่ไปไหนไกลหรอก มันอยู่กับจอมทัพ


“…ผมนี่โง่เนอะ ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาทำร้ายบ้านตัวเองอย่างง่ายๆ” ร่างเล็กเม้มปาก รู้สึกอยากจะร้องไห้ มันจุกขึ้นมาที่อก อยากพูด อยากสารภาพ อยากจะบอกทุกอย่าง แต่อารมณ์คมเขี้ยวตอนนี้ ไม่ใช่จังหวะที่ดี


“อย่าว่าตัวเองสิ ดูถูกตัวเองไม่ดีนะ เราต้องชมตัวเอง เพื่อที่เราจะได้มีแต่พลังบวกให้กับชีวิต” คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์นิ่งสักแปบก่อนจะคลี่ยิ้มไม่เห็นฟัน


“เหมือนที่คุณชอบหลงตัวเองบ่อยๆ อะเหรอ” เรียวจันทร์กลอกตาแล้วย่นจมูกใส่อีกคน คมเขี้ยวหัวเราะเบาๆ ยื่นหน้าไปหอมแก้มเรียวจันทร์หนึ่งฟอด


“ก็ฉันสวยจริงๆ อะ สวยเผ็ดเด็ดสะระตี่จะตาย” คมเขี้ยวมองสีหน้ายกยอตัวเองของอีกฝ่ายแล้วก็ต้องเลิกคิ้วขึ้น


“เด็ดจนเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นเลยสินะ” เรียวจันทร์ถลึงตาใส่คุณสามีหมาดๆ


“ฉันออมแรงย่ะ ปกติผู้ชายจะระทวยกับฉัน… อ๊ะ… เอ่อ…” นางงับปากตัวเองดังปั๊บ เมื่อเจอสายตาคมวาวมองมา


“…ปกติ หมายถึงอดีต นะคะสามี อดีตค่ะ” เรียวจันทร์ยิ้มแฮ่ ยื่นมือซ้ายไปลูบเป้าคมเขี้ยวเบาๆ เป็นการเอาใจ


“ปัจจุบันน้องเรียวระทวยให้กับพี่คมเขี้ยวคนเดียวเลยค่ะ” อันนี้นางพูดจริง คมเขี้ยวทำให้นางเหมือนเพิ่งโดนเปิดซิงเป็นครั้งแรก ผู้ชายคนนี้ทำให้นางรู้สึกเหมือนเพิ่งโดนเอา


“ความแรดของคุณนี่ไม่น่าไว้ใจจริงๆ” เรียวจันทร์ย่นคิ้ว ปล่อยมือออกจากเป้าขึ้นไปสัมผัสที่แก้มซ้ายเบาๆ


“ทำไมชอบว่าเมียแรดล่ะคะ เมียเป็นคนเรียบร้อยออก” คมเขี้ยวยื่นมือซ้ายไปตบก้นเรียวจันทร์หนึ่งที


“มีแรดมาอยู่ในฟาร์มก็มีสีสันดี…” เรียวจันทร์เบะปากแกล้งทำหน้างอน แต่พอคมเขี้ยวก้มลงจุ๊บปากนางก็ยิ้มกว้าง


“…หายเจ็บแล้วบอกนะ อยากระทวย” ร่างเล็กหัวเราะคิกคัก ยื่นมือซ้ายไปลูบเป้าคมเขี้ยวอีกที สลับกับบีบแรงๆ ให้ร่างสูงกัดฟันด้วยความรู้สึกเข็ดฟันเล่นๆ


เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง…


แต่ใจกำลังร้อนใจ อยากพูด อยากเคลียร์กับจอมทัพให้รู้เรื่อง ทั้งเรื่องของตัวเองและเรื่องที่จอมทัพทำร้ายฟาร์มนี้ เสี่ยจอมทัพไม่ใส่ชุดขาวแบบที่เป็ดเคยบอกจริงๆ นั่นแหละ



 :mew1:

ฮัลโหล่วฟรอมดิออเตอร์ซ้ายยยยด์

มาอัพต่อแล้ววว หลักจากหายไปนานมาก พอดีตอมติดงานค่ะ ทำงานเที่ยงวันยันเที่ยงคืน เวลาที่เหลทอสลบพักผ่อนรัวๆ แต่ในที่สุดก็มา รีบมาก่อนงานจะหวนกลับมา

ขุ่นแม่เลยน้ำท่วมปากไม่กล้าเอ่ยปากจะสารภาพบาปทันที พี่เขี้ยวพูดแบบนี้ ขุ่นแม่ที่เพิ่งสุขีมาหมาดๆ จะกล้าพูดหรือ นางก็กลัวเสียพี่เขี้ยวไปอะเนาะ

ขุ่นแม่จะทำยังไงดีล่ะคะทีนี้

เจอกันตอนหน้านะคะ วันนี้เม้าท์สั้นๆ เพราะเหนื่อยมากกก เดี๋ยวเจอกันค่าาา

 ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ คอมเม้นมากบ้างน้อยบ้างในแต่ละตอน แต่อย่างน้อยก็มีคนคอยเม้นให้ ขอบคุณมากค่ะ


หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/100% :21.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 21-01-2017 23:15:43
 :z13: :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/100% :21.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 21-01-2017 23:24:04
จริงๆแอบคิดว่าถ้าเรียวจันทร์พูดตอนนี้ อาจจะไม่ดราม่ามากเท่ามารู้ความจริงทีหลังรึป่าว แต่ยังไงก้รีบเคลียร์กะอิเสี่ยให้รู้แล้วรู้รอดเถอะ เสียววื้ดดดด 
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/100% :21.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-01-2017 23:58:32
เฮ้ออออ. รอวันดราม่าสินะ ถึงตอนนั้นเรียวจันทร์คงไม่เหลือใครแน่ๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/100% :21.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 22-01-2017 00:20:58
เริ่มเป็นห่วงอนาคตคุณนายกับสามีจริงๆ ถ้าพี่เขี้ยวรู้เรื่องทั้งหมดขึ้นมาจะว่าไงล่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/100% :21.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 22-01-2017 01:46:12
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/100% :21.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 22-01-2017 04:02:37
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/100% :21.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 22-01-2017 06:35:39
ไม่กล้าอ่านตอนต่อไปเลย สงสารขุ่นนาย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/100% :21.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 22-01-2017 14:33:18
 :oo1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/100% :21.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: exo_yaoi ที่ 24-01-2017 08:30:11
 :z3: :z3: :z3: เสี่จอมทัพไม่ดีตรงหนายยยยยยยยย แค่เลวเอ๊งง
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๒/100% :21.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: lynn_lynnhui ที่ 26-01-2017 00:46:23
กลัวใจพี่เขี้ยวจริงๆ ถ้ารู้ความจริงขึ้นมา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 28-01-2017 00:47:58



คาถาที่ 23 :: beening all day beening all night. (ทั้งวันทั้งคืน) [50%]



   ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน บรรยากาศแสนจะเฉอะแฉะ ฝนตกวันเว้นวัน บางทีก็ตกติดกันสองวันซ้อน และส่วนมากจะชอบตกทั้งวัน หยุดให้เดินออกไปสูดไอดิน กลิ่นหญ้าด้านนอกได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ตกลงมาอีก พื้นถนนในฟาร์มที่เป็นดินถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงเพราะรองเท้าจะได้ไม่มีโคลนติดหนึบเป็นตังเม แต่ส่วนมากก็เลี่ยงยากเพราะพื้นที่ในฟาร์มเป็นดินซะส่วนใหญ่ สำหรับเราคนงานในฟาร์มอรุณพยัคฆ์นั้นเป็นเรื่องปกติที่จะทำงานท่ามกลางสายฝนกับดินแฉะๆ ในน่าฝน เพราะทุกคนต้องเตรียมฟาร์มให้พร้อมสำหรับเทศกาลงานฤดูหนาวประจำปีในช่วงปลายปีที่จะเกิดขึ้นหลังจากหน้าฝนจากไปและมาแทนที่ด้วยหน้าหนาวที่หายากแสนยากในประเทศไทย
   

การเปิดฟาร์มครั้งนี้จะแตกต่างจากช่วงเวลาปกติ คือจะเปิดให้เข้าชมทุกวันจนกว่าจะขึ้นปีใหม่ และหลังจากนั้นก็จะกลับมาเปิดตามรูปแบบเดิมของฟาร์ม บางปีเจ้าของฟาร์มอย่างคุณคมเขี้ยวเกิดอินดี้ ปิดฟาร์มยาวไปเลยก็มี จะเปิดอีกทีตอนไหนก็ไม่อาจคาดเดาได้ แต่ถึงอย่างนั้นคนงานในฟาร์มก็ไม่ต้องกลัวอดตาย เพราะเจ้านายยังจ่ายเงินให้ตามปกติ แม้ฟาร์มจะเปิดแต่ก็มีงานต้องทำอยู่เรื่อยๆ 
   

บรรยากาศฝนตกพรำๆ สายน้ำชุ่มฉ่ำเต็มพื้น ส่งผลให้อากาศลดระดับลง ไอเย็นจากพื้นดินและจากท้องฟ้าส่งผลให้เกิดมวลอากาศเย็นสบาย เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การนอนบนเตียงนุ่มๆ และขดตัวอยู่ในผ้านวมอย่างที่เรียวจันทร์กำลังทำ ร่างเล็กหลับตาพริ้มอยู่บนอกแกร่งของคมเขี้ยว แขนซ้ายของเขาโอบร่างของเรียวจันทร์ไว้ แขนขวาชูกระดาษภาพสเก็ตช์ของแปลงดอกไม้ในฟาร์มที่คนงานกำลังทำ และยังมีภาพสเก็ตช์ในส่วนอื่นๆ ของฟาร์มที่จะใช้เป็นแบบในการจัดงาน
   

ครืด~ ครืด~
   

คมเขี้ยวละสายตาจากกระดาษไปมองโทรศัพท์มือถือเรียวจันทร์ที่วางอยู่บนผ้านวม เขาไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วง แต่การแจ้งเตือนมันเด้งขึ้นมาพร้อมกับที่จอสว่างพอดี เขาเลยเห็นชื่อ Jared ปรากฏขึ้นมาบนนั้นจากโปรแกรมสนทนาในมือถือ ร่างสูงย่นคิ้วเล็กน้อยเพราะคลับคล้ายคลับคลาว่าชื่อนี้เคยได้ยินแม่คุณนายเอ่ยถึง และน่าจะเป็นคนเดียวกับที่แม่คุณนายคุยด้วยก่อนหน้านี้
   

 ไลน์! ไลน์!
   

เสียงแจ้งเตือนโปรแกรมสนทนาจากมือถือของเขาดังขึ้น แขนยาวๆ เอื้อมไปหยิบมือถือจากบนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมากดดูข้อความ เป็นข้อความจากเพื่อนๆ เขาที่กำลังคุยกันว่าจะเอาอย่างไรกับการมาบ้านเขาดี เพราะถึงมาก็อาจจะเที่ยวไม่สนุกเนื่องจากฝนตก เขาไม่ได้ตอบอะไรใครไป ปล่อยให้พวกนั้นคุยกันเอง แล้วสักพักเสียงส่วนมากก็เอนเอียงไปแนวว่าไม่มาแล้ว เขาเลยพิมพ์สรุปไปว่าไม่มาไม่เป็นไร ไว้ค่อยมาช่วงที่ฟาร์มเปิดแล้วก็ได้ เพราะเอาเข้าจริงๆ มาตอนนี้ก็เอาแต่หลบฝน สุดท้ายการนัดเจอเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยก็ล่ม
   

ครืด~ ครืด~
   

คมเขี้ยวหันไปมองโทรศัพท์เรียวจันทร์อีกครั้ง บนหน้าจอปรากฏการแจ้งเตือนจากชื่อเดิมและมีเพิ่มเติมมาอีกคนแต่เป็นเพียงหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ได้เมมชื่อเอาไว้ เขาหยิบขึ้นมาดูก็เห็นข้อความบางส่วนว่าอยากเจอเรียวจันทร์ ครั้งก่อนได้เจอกันนิดเดียว คมเขี้ยวขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่ก็ยังไม่คิดอะไรให้มากความ แค่คิดว่าต้องคุยกับเรียวจันทร์ให้เข้าใจตรงกันมากกว่าเดิมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีที่ยังมีผู้ชายทักมาหาเจ้าตัวไม่ขาดสายแบบนี้
   

คมเขี้ยววางโทรศัพท์เรียวจันทร์ด้วยใบหน้าตึงนิดๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฟาร์ม ก็พอจะบอกได้ว่าคมเขี้ยวไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น หรือคนขี้โมโหที่จุดอารมณ์ได้อย่างง่ายๆ แต่มันก็นานแล้วที่เขาไม่เคยมีความรู้สึกรัก รู้สึกหึง รู้สึกหวงให้ใคร ความรู้สึกนี้มันหายไปนาน จนกระทั่งตอนนี้ เหมือนว่ามันจะกลับมาเพราะแม่คุณนายตัวดีกับเสน่ห์ที่เกินพอดีของเจ้าตัว คิดแล้วก็ได้แต่ส่ายหัว ไม่ผิดหรอกถ้าจะคิดว่ามีเมียเป็นแรดน่ะไม่ค่อยน่าไว้ใจ
   

“อื่อออ…” เสียงครางจากคนตัวเล็กดังขึ้นพร้อมกับหัวทุยๆ ขยับดุ๊กดิ๊ก คมเขี้ยววางแผ่นงานลงบนเตียง ก้มลงมองหัวสีโค้กที่ขยับไปมาน้อยๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะแหงนใบหน้าง่วงๆ งงๆ ขึ้นมองเขา
   

“กี่โมงแล้ว” เรียวจันทร์ถามเสียงงึมงำ หน้าตาเพิ่งตื่นนอน
   

“สี่โมงเย็น” พอได้คำตอบก็พยักหน้าน้อยๆ พร้อมกับอ้าปากหาววอดแล้วถามเสียงแห้ง
   

“เพื่อนนายล่ะ”
   

“ฝนตกมันเลยไม่มากันแล้ว…” เรียวจันทร์นิ่งไปนิดก่อนที่จะพยักหน้าหงึกๆ อีกทีและดันตัวขึ้นลุกนั่ง
   

“…วันนี้ไปนอนบ้านต้นสนกัน” ร่างเล็กใช้หลังมือขยี้ตาเบาๆ แล้วก็ทำตาโตมองคนถาม
   

“ฉันไปได้ด้วยเหรอ นั่นพื้นที่หวงห้ามของนายนี่” ร่างสูงยิ้มมุมปากน้อยๆ
   

“พาเมียไปกกในพื้นที่หวงห้ามผิดตรงไหน” เรียวจันทร์เม้มปากกลั้นยิ้มเขิน ห่อไหล่สองข้างขึ้นอย่างเขินอายกับสายตากรุ้มกริ่มของคมเขี้ยว ก่อนที่จะใช้มือขวาผลักไหล่ซ้ายของอีกฝ่ายเบาๆ
   

“บ้าาา ทำตัวเป็นไก่กกไข่ไปได้” คุณนายพูดเสียงยานคางท่าทางอายม้วนจนตัวแทบจะม้วนเป็นดักแด้ คมเขี้ยวยิ้มขำ ยื่นหน้าไปกระซิบข้างหูร่างเล็ก
   

“แล้วอยากกกไข่ไก่รึเปล่า” พูดเสร็จก็จุ๊บแก้มนวลไปหนึ่งที เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่าง ถลกผ้านวมออกแล้วก้มหน้าลงซุกตรงเป้ากางเกงวอร์มของคมเขี้ยวแว้บหนึ่งแล้วก็เด้งตัวขึ้น
   

“กกไข่นี้อะเหรอ…” คมเขี้ยวยิ้มมุมปากและยักคิ้วสองที เรียวจันทร์ยิ้มเขินแล้วว่าเสียงใส “…จะกกทั้งคืนเลยคอยดูสิ”
   

“ให้สามวันสามคืนเลย” ร่างเล็กหัวเราะคิกคัก ยันตัวขึ้นแล้วหอมแก้มสากของคนตัวสูงไปหนึ่งฟอด
   

“ต้องเตรียมอะไรไปมั่ง”
   

“ไม่ต้องเตรียมอะไร ที่นั่นมีครบหมดแหละ ยกเว้นอินเตอร์เน็ต ผมให้แม่ครัวเอาอาหารกับเครื่องดื่มไปเติมรอไว้แล้ว”
   

“เสื้อผ้าล่ะ ต้องเอาไปเปลี่ยนมั้ย” คมเขี้ยวยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนตอบ
   

“คิดว่าจะได้ใส่เหรอ” เรียวจันทร์ทำตาโต แก้มใสนวลเปล่งสีแดงระเรื่ออย่างน่ามอง   
   

“หูยยย ตาเขี้ยวกุดดด” คุณนายไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ เพราะนางไม่คิดจริงๆ ว่าคมเขี้ยวจะมีมุมนี้ซ่อนอยู่ ปกติก็ดูเงียบๆ ขรึมๆ บางครั้งก็อินดี้ติสท์แตก แต่มุมหวาน มุมเลี่ยน มุมหื่นเล็กๆ แบบนี้เพิ่งได้เห็นนี่แหละ
   

คมเขี้ยวคลี่ยิ้มกว้าง ยกมือซ้ายตบก้นเรียวจันทร์เบาๆ “ไปล้างหน้าล้างตาไป เดี๋ยวจะไปแล้ว ฝนกำลังซา รีบไปก่อนมันจะตกหนัก ไม่ต้องอาบน้ำนะ เดี๋ยวไปอาบโน่น”
   

เรียวจันทร์พยักหน้าและคลานลงจากเตียง คมเขี้ยวหันมองโทรศัพท์ของเรียวจันทร์ที่ยังเด้งการแจ้งเตือนจากชายอื่นขึ้นมาให้เห็น เขาขมวดคิ้วหน้าตาหงุดหงิด สะบัดอารมณ์ร้อนรุ่มออกไป รวบเก็บกระดาษแผ่นงานบนเตียง ลุกออกจากเตียงเอากระดาษไปวางไว้บนโต๊ะทำงาน พอเรียวจันทร์เดินออกมาก็พากันเดินออกไปนอกห้องนอน
   

ทั้งสองคนชะเง้อมองลาดเลาก่อนว่ามีใครอยู่ข้างนอกหรือเปล่า พอเห็นว่าบ้านโล่งก็รีบเดินไปหยิบร่มและพากันเดินออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว ฝนยังคงตกแบบเปาะแปะๆ แต่ก็ไม่ได้หนักมาก ร่มใหญ่พอที่จะกันฝนให้ร่างของคนสองคนที่กำลังเดินย่ำไปตามพื้นถนนอันชุ่มแฉะ แต่กระนั้นก็ยังมีกระเด็นมาโดนตัวบ้างทำให้เปียกเป็นหย่อมๆ แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้รีบเดิน ค่อยๆ เดินไป แถมมีหยุดจูบกันด้วย
   

“อืมมม อ๊ะ… ใจเย็นสิเขี้ยวกุด” ปากนางว่าให้อีกฝ่ายใจเย็น แต่มือตัวเองก็เอื้อมไปจับเป้าเขา ลูบไปลูบมาจนมันโป่งพอง
   

“หายดีแล้วใช่มั้ย” คมเขี้ยวถามพลางสูดดมขมับนุ่มๆ อย่างแผ่วเบา ปล่อยให้คนตัวเล็กขยำความเป็นชายของตัวเองที่ชี้พุ่งดันกางเกงไปเรื่อย
   

“หายแล้ว พร้อมรับศึกหนัก…” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่าง หยุดเดินแล้วเขย่งตัวจุ๊บริมฝีปากสีแดงอ่อนของคมเขี้ยวท่ามกลางเสียงฝนกระทบร่มเปาะแปะๆ


“…ที่บ้านต้นสนมีเจลมั้ย” คนถูกถามยิ้มกริ่มแล้วพยักหน้ารับ


“เอามาเตรียมไว้แล้ว” เรียวจันทร์ปล่อยมือออกจากความใหญ่ยาวของคมเขี้ยว ปล่อยให้มันตุงตังดันกางเกงวอร์มสีเทาจนโป่งพอง อีกไม่กี่ก้าวก็จะเข้าเขตรั้วบ้านต้นสน แต่คมเขี้ยวกลับปล่อยร่มทิ้งลงพื้น ดันร่างเรียวจันทร์เข้ากับต้นไม้ สองมือล็อคหน้าเรียวสวยไว้แน่นและก้มลงจูบอย่างดูดดื่มท่ามกลางความเปียกชื้นของเม็ดฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสาย


“แฮ่ะ… แฮ่ก… อืมมม” เรียวจันทร์ยกสองมือจิกเส้นผมสีดำของคมเขี้ยวที่เปียกลู่แนบหัวแน่น แหงนหน้าขึ้นและเขย่งเท้ารับจูบอันมูมมามและร้อนลนของคนตัวสูง ลิ้นของสองคนเกี่ยวรัดฟัดกันจนน้ำลายไหลเยิ้มปนกับน้ำฝนบนแก้ม


“แฮ่ก!” และก็เป็นเหมือนเคยที่เรียวจันทร์ต้านจูบมาราทอนของคมเขี้ยวไม่ไหวจนต้องหันหน้าหนี ร่างเล็กกะพริบตาปริบไล่น้ำฝน หัวใจเต้นระรัวกระแทกอก


“อดทนอีกนิดก็ได้ไม่ได้”


“จับจนพุ่งขนาดนี้ อารมณ์เลยพุ่งตามสิ” เรียวจันทร์ยิ้มขำน้อยๆ ยกสองมือขึ้นเลยเส้นผมเปียกของคมเขี้ยวขึ้นจนเห็นหน้าผาก ก่อนจะเลื่อนลงมือจับที่กรอบหน้าคมเบาๆ


“เข้าไปในบ้านเถอะ” คมเขี้ยวพยักหน้ารับและก้มตัวลงหยิบร่ม จัดการหุบเก็บให้เรียบร้อยและจูงมือเรียวจันทร์เดินไปทางบ้านต้นสน


พอเปิดประตูไม้สีน้ำตาลอ่อนเข้าไปด้านใน อย่างแรกที่เจอก็คือเค้าน์เตอร์ครัวที่ทำจากไม้ มีสตูลบาร์ทำจากไม้สามอันตั้งอยู่หน้าเค้าน์เตอร์ที่ยื่นออกมา ใช้สำหรับเป็นที่กินข้าวและดื่มเครื่องดื่มได้ด้วย พื้นบ้านก็ทำจากไม้ มีโซฟาตัวยาวเป็นแนวขวางและมีขนาดกว้างสีดำตั้งชิดกับกำแพงใกล้ประตู มีทีวีจอแบนตั้งอยู่ตรงข้าม บนพื้นหน้าโซฟาปูพรมสีขาวผืนใหญ่ กำแพงด้านซ้ายมือถูกเจาะลึกเข้าไปด้านในทำเป็นตาผิง ใกล้กันมีชั้นวางหนังสือสีน้ำตาลอ่อนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ บนนั้นมีหนังสือมากมายวางเบียดกัน ด้านขวามือเดินเข้าไปเป็นโซนห้องนอน ห้องน้ำอยู่ติดกับครัวซึ่งตรงข้ามกับห้องนอน ตรงปลายเตียงฝั่งซ้ายเป็นประตูเดินออกไปตรงระเบียงไม้ ใกล้กับประตูมีโซฟาเดี่ยวลายดอกไม้ตั้งวางไว้ใกล้กับตู้เสื้อผ้า


“น่ารักจัง” เรียวจันทร์มองไปรอบบ้านด้วยความตื่นเต้นเล็กๆ หันไปยิ้มให้กับคมเขี้ยวที่ยิ้มตอบกลับมา


“ถอดเสื้อผ้าอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวมาทำอะไรกินกัน” เรียวจันทร์พยักหน้า จัดการถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายพร้อมๆ คมเขี้ยว หน้าแดงนิดหน่อยตอนเห็นคาวบอยน้อยพุ่งตั้งฉากกับพื้น ส่วนลูกสาวของตัวเองก็ผงกหัวขึ้นมาทักทายลูกน้องพี่เขี้ยวเขาเบาๆ คมเขี้ยวยิ้มล้อ พาเรียวจันทร์เดินไปตรงหน้าประตูห้องน้ำ


“เข้าไปก่อน เดี๋ยวตามเข้าไป” ร่างเล็กพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปด้านใน คมเขี้ยวหันตัวไปเปิดลิ้นชักตรงโต๊ะข้างเตียง หยิบหลอดเจลหล่อลื่นหลอดใหญ่ขึ้นมาแล้วค่อยก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องน้ำที่เรียวจันทร์กำลังเปิดน้ำจากฝักบัวรดตัวอยู่ คมเขี้ยวบีบเจลลงบนมือ ยื่นไปป้ายตรงง่ามก้นเรียวจันทร์โดยที่อีกฝ่ายก็แอนก้นตอบรับอย่างดี เรียวจันทร์กระเถิบตัวออกจากฝักบัว ปล่อยให้น้ำรดลงบนพื้นไม้ ใช้สองแขนดันตัวเองไว้กับผนังห้องน้ำ แอ่นก้นให้คมเขี้ยวใช้นิ้วยัดเข้ายัดออกเพื่อช่วยเปิดทางก่อน


“ไม่อาบน้ำก่อนจริงเหรอ” เรียวจันทร์เหลียวหลังไปถาม ร่างสูงอมยิ้ม เทเจลลงบนลูกชายตัวเอง และเอาวางไว้บนชั้นวางของในห้องน้ำ


“อาบไปด้วยเอาไปด้วยไง” พูดจบก็จับเรียวจันทร์หันเข้าหาตัว ใช้แขนซ้ายช้อนใต้ข้อพับขาขวาเนียนๆ ของเรียวจันทร์ให้ยกขึ้นสูง สองมือเรียวจันทร์ยกขึ้นคล้องคอคมเขี้ยวพร้อมกับเขย่งเท้าซ้ายดันตัวให้สูงขึ้นเพื่อที่คมเขี้ยวจะได้เข้ามาสะดวกๆ เปลือกตาปรือน้อยๆ ในยามที่ส่วนหัวของอีกฝ่ายค่อยๆ แทรกเข้าไปในตัว


“อ้า!!!” เรียวจันทร์แหงนหน้ากรีดร้องออกมาเสียงดังเมื่อคมเขี้ยวกระแทกความเป็นชายเข้าไปจนมิด ร่างสูงก้มลงดูดซอกคอขาวเนียนแรงๆ จนขึ้นรอยแล้วลามขึ้นไปหอมแก้มนวลของร่างเล็ก


“อยู่ที่นี่จะร้องดังแค่ไหนก็ได้” คมเขี้ยวกระซิบ เรียวจันทร์กดหน้าลงมองหน้าคมเขี้ยว สีหน้าอึดอัดและอ้อนวอน คมเขี้ยวคลี่ยิ้มก่อนจะเริ่มกระแทกเข้าออกอย่างช้าๆ


เรียวจันทร์เผยอริมฝีปากขึ้น ร้องเสียงสั่นเสียงหลงกับความใหญ่โตที่เคลื่อนเข้าๆ ออกๆ ในก้นตัวเอง มันทั้งเสียววูบ ทั้งอึดอัด ทั้งจุกแต่ก็สุขสมปนเป กลีบเนื้อขมิบรัดของคมเขี้ยวจนเจ้าตัวหน้าเหยเกและร้องซี๊ดเบาๆ แต่ก็ยังไม่หยุดขยับสะโพก


“เขี้ยว…” เรียวจันทร์ครางเสียงเบา แล้วสักพักขาขวาก็ถูกคมเขี้ยวยกขึ้นตามขาซ้าย ทำให้เรียวจันทร์ตัวลอย สองแขนต้องกอดลำคอคนตัวสูงไว้ให้มั่น คมเขี้ยวใช้สองแขนสอดใต้ขาสองข้างของร่างเล็กและยกให้หลังขาวเนียนติดกำแพงห้องน้ำ ก่อนที่จะออกแรงกระแทกเข้าหาอีกฝ่ายอย่างรุนแรง


ปับๆๆๆๆ


“อาๆๆๆๆ เขี้ยว! อ้า! เขี้ยว!” เรียวจันทร์ร้องเสียงเพี้ยน ส่วนหัวของคมเขี้ยวกระแทกจุดเสียวได้อย่างตรงจุดและเน้นย้ำจนทำเอาสติของนางแทบหลุดลอย แรงกระแทกที่ดุดันก็ส่งผลให้เกิดความรู้สึกมวลท้อง ขนาดของอาวุธที่คับแน่นในช่องทางด้านหลังก็ทำเอาเกิดการเสียดสีจนเกิดความร้อนฉ่าแต่ว่าแสนภิรมย์


ปักๆๆๆ ปัก! ปัก!


“อ้า…” เรียวจันทร์ร้องเสียงเบา เริ่มไปแค่แปบเดียวแต่ก็รู้สึกถึงความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ คมเขี้ยวยืนหอบหายใจเสียงดังแข่งกับเสียงสายน้ำจากฝักบัว ยืนแช่ตัวเองอยู่ด้านในตัวเรียวจันทร์แบบนั้นนิ่งๆ สองแขนยังคงอุ้มร่างเล็กไว้ได้อย่างปกติ พอหายใจช้าลงแล้ว คมเขี้ยวก็ดึงอาวุธตัวเองออกจากด้านในตัวเรียวจันทร์ช้าๆ และค่อยๆ ปล่อยขาเรียวจันทร์ลงพื้นที่ละข้าง ช่วงแรกเรียวจันทร์เกือบทรุดลง ดีที่ได้คนตัวสูงประคองไว้


“พักอาบน้ำก่อน” เรียวจันทร์หันไปมองด้วยความงงปนเพลียเล็กๆ คมเขี้ยวยิ้มตอบแล้วดึงตัวเรียวจันทร์ให้เข้าไปยืนใต้ฝักบัวด้วยกัน สายน้ำเย็นๆ รดตัวทั้งสองคน คมเขี้ยวใช้สองมือลูบไล้ไปทั่วผิวขาวเนียนละเอียดสักพักแล้วก็ยื่นมือไปหยิบแชมพูขึ้นมาบีบใส่หัวคนตัวเล็ก ใช้สองมือขยำจนเกิดฟอง เรียวจันทร์ทำแบบนั้นให้คนตัวโตบ้าง สองคนช่วยกันสระผมให้กันโดยที่อาวุธของคมเขี้ยวยังคงตระหง่านไม่ยอมพักตามพ่อของมัน ส่วนลูกสาวคุณแม่เรียวก็ขอนิ่งสงบรอรบรอบใหม่อีกที


“มะรืนนี้ฉันต้องไปทำงานนะ อย่าหนักหน่วงมากล่ะ” เรียวจันทร์เตือนความจำในขณะที่มือก็ขยำเส้นผมคมเขี้ยวไปเรื่อย


“เดี๋ยวขับรถให้” คมเขี้ยวตอบสบายๆ ใช้ปลายนิ้วนวดหนังศีรษะให้เรียวจันทร์เบาๆ


“กะไม่ให้ฉันมีแรงไปทำงานเลยเหรอ” คมเขี้ยวหัวเราะ หลับตาลงตอนที่กลับไปยื่นใต้ฝักบัว เรียวจันทร์เองก็หลับตาปล่อยให้สายน้ำชำระล้างฟองสีขาวออกไปจากศีรษะ จังหวะที่กำลังจะเสยผมขึ้น เรียวจันทร์ก็หน้าเหวอตกใจเพราะคมเขี้ยวดันร่างให้หันหน้าเข้าหากำแพง แล้วก็สอดใส่ความเป็นชายเข้าไปด้านหลัง


“อ๊ะ!” เรียวจันทร์ใช้สองมือดันผนังกำแพงไว้ แยกขาออกนิดหน่อยเพื่อทรงตัวให้มั่นคง คมเขี้ยวหลับตาพริ้ม ปล่อยให้สายน้ำราดตัวต่อไป สองมือใหญ่หนาจับจะโพกมนของเรียวจันทร์แน่นและกระแทกเข้าหาอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงเนื้อเปียกน้ำกระทบกันดังลั่น เรียวจันทร์เหลียวหลังไปมองคมเขี้ยว เอื้อมแขนซ้ายไปเกี่ยวคออีกฝ่ายให้เข้ามาหาตัวเอง คมเขี้ยวลืมตาขึ้น จ้องมองดวงตาสีน้ำตาลสดใสของเรียวจันทร์ ก่อนจะจูบริมฝีปากสีชมพูสดทั้งที่สะโพกยังคงขยับด้วยความแรงเท่าเดิม


“อื้อ” เรียวจันทร์ย่นหน้าด้วยความเจ็บ และความเสียวที่ปนกันมั่ว ไม่รู้ว่านานไปตัวเองจะชินกับขนาดของคมเขี้ยวและลีลาของอีกฝ่ายมั้ย พ่อคาวบอยทำให้นางเหมือนคนเพิ่งเสียบริสุทธิ์ เหมือนคนไม่เคยมีเซ็กส์มาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว


ปัก! ปัก! “อ้า!”


คมเขี้ยวครางเสียงดังในจังหวะสุดท้ายที่กระแทกใส่เรียวจันทร์จนร่างเล็กสั่นสะเทือน สองขาเรียวจันทร์สั่นผับๆ คมเขี้ยวใช้แขนซ้ายคล้องตัวเรียวจันทร์กันหล่น ค่อยๆ ดึงอาวุธตัวเองออกจากตัวเรียวจันทร์ จับร่างเล็กให้หันมารับจูบอันดูดดื่มสักพักแล้วก็ช่วยกันอาบน้ำจนเสร็จ ก่อนจะพากันไปยืนเช็ดตัวตรงหน้าอ่างล่างหน้าที่มีกระจกบานกว้างติดอยู่บนผนัง คมเขี้ยวใช้ผ้าขนหนูสีขาวผืนนุ่มเช็ดตัวให้เรียวจันทร์ ส่วนเจ้าตัวใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดผมตัวเอง พอเช็ดตัวเรียวจันทร์จนแห้ง คมเขี้ยวก็เปลี่ยนไปเช็ดตัวเองบ้าง เรียวจันทร์เลยช่วยเช็ดหัวให้อีกฝ่ายโดยการยืดแขนจนสุดและขยี้ผ้าขนหนูบนเส้นผมเปียกน้ำ


“ฉันมีถ่ายสามวัน นายจะไปด้วยจริงเหรอ” คนตัวสูงพยักหน้า สายตายังคงมองสีหน้าตั้งอกตั้งใจเช็ดหัวให้เขาของเรียวจันทร์


“แล้วนายจะไปนอนค้างมั้ย หรือว่าส่งฉันแล้วจะกลับมาฟาร์ม”


 “ดูก่อน ถ้าไม่งั้นเดี๋ยวผมไปนอนคอนโดเพื่อน คุณเสร็จงานแล้วก็มานอนด้วยกัน” เรียวจันทร์แกล้งทำหน้าจับผิดใส่คนตัวสูง


“เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย”


“ผู้ชายสิครับคุณนาย” เรียวจันทร์เบ้ปากน้อยๆ ดึงผ้าขนหนูออกจากหัวคมเขี้ยว


“แล้วไป” คมเขี้ยวยิ้มกว้าง ก่อนจะยกตัวเรียวจันทร์ขึ้นไปนั่งบนพื้นที่ของอ่างล้างหน้า หมุนตัวเดินไปหยิบเจลหล่อลื่นจากชั้นวางของในโซนอาบน้ำออกมา บีบใส่มือแล้วทาตรงทางเข้าคับแคบเรียวจันทร์กับอาวุธของตัวเองที่อ่อนตัวลงเล็กน้อย รูดเข้ารูดออกจนมันกลับมาแข็งปักตามเดิม


V
v
v
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 28-01-2017 00:48:26


V
v
v


เรียวจันทร์นิ่วหน้าเมื่อคมเขี้ยวเสียบเข้ามาเต็มด้าม ทำเอาต้องแอ่นอกขึ้นด้วยความเสียว พ่อตัวสูงก้มลงดูดหัวนมสีชมพูสวยเสียงดังจุ๊บจั๊บจนเจ้าของอกสีสวยร้องเสียงสั่นด้วยความหวิวตั้งแต่หัวนมไปถึงใต้รักแร้ 


ปับ! ปับ! ปับ!


คมเขี้ยวย่อตัวลงนิด ใช้สองมือจับไหล่เรียวจันทร์ไว้แล้วกระแทกสะโพกเข้าออกช้าๆ แต่ว่าจังหวะเน้นหนักแน่นจนตัวเรียวจันทร์สั่นคลอน สองมือบางยกขึ้นจับต้นแขนล่ำทั้งสองข้างของคมเขี้ยวแน่น ใบหน้าบิดเบี้ยวไปตามแรงอารมณ์ ลำคอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายบ่อยครั้ง เสียงหลงขาดหายเป็นบางช่วง แต่ก็ไม่เคยทิ้งช่วงนานเพราะพ่อคาวบอยกระแทกได้ถูกจุดดีเหลือเกิน


“โอ๊ย… เขี้ยว…” เรียวจันทร์ครางเสียงหอบแฮก แต่เจ้าของชื่อก็ไม่หยุดหรือลดแรงลง กลับเพิ่มแรงกระแทกรัวๆ จนตัวเรียวจันทร์สั่นอย่างกับติดเครื่องลดความอ้วน ยิ่งเห็นดวงตากวางน้อยฉ่ำปรือไปด้วยน้ำตา เขาก็ยิ่งเกิดอารมณ์เพิ่มขึ้น กระแทกเข้าหาร่างบางด้วยความรู้สึกเสียววาบไปทั่งตัว เสียงลมหายใจของทั้งสองคนดังระงมทั่วห้องน้ำ แต่ก็ยังน้อยกว่าเสียงเนื้อกระทบกันดังผับๆ


ผ่านไปสักระยะคมเขี้ยวก็หยุดนิ่ง แต่ไม่ยอมถอนตัวเองออก โน้มตัวลงหาเรียวจันทร์ ดึงสองแขนของร่างเล็กให้ขึ้นโอบรอบคอตัวเอง จับสองขาขาวๆ ให้เกี่ยวรอบเอวตัวเองแน่น แล้วค่อยๆ อุ้มร่างเล็กขึ้นจากพื้นที่อ่างล้างหน้าโดยไม่ยอมให้ส่วนล่างหลุดออกจากกัน ยามที่คมเขี้ยวขยับเดิน เรียวจันทร์แสนจะอึดอัดกับความคับแน่นตรงช่องทางนั้นเลยระบายด้วยการจิกเล็บลงบนเนื้อคมเขี้ยวแรงๆ


คนตัวสูงอุ้มคนตัวเล็กพามาที่เตียง ค่อยๆ วางร่างขาวเนียนลงบนเตียง ส่วนตัวเองยืนยอยู่บนพื้นบ้าน สองมือดึงร่างเรียวจันทร์ให้เขยิบมาใกล้จนก้นอยู่ตรงขอบข้างเตียง ก่อนจะวางสองมือไว้ข้างเอวบาง ขยับตัวเองจนเข้าที่เข้าทางก็จัดการกระแทกต่อไม่ยั้ง ขาเตียงไม้สั่นกระทบกับพื้นบ้านและหัวเตียงก็กระทบกับผนังบ้านเสียงดังรุนแรงแข่งกับเสียงร้องของเรียวจันทร์


“อ๊า! อ๊า! เขี้ยววว อ๊า!” คนด้านบนที่ซอยสะโพกถี่รัวใส่คนด้านล่างกัดริมฝีปากล่างแน่น ใบหน้าเหยเกเป็นระยะกับความเสียวที่ตีตื้นขึ้นมาตรงท้องน้อย พอใกล้จะปลดปล่อยเขาก็จะหยุดให้เรียวจันทร์ได้พักหายใจหายคอบ้าง เมื่อความรู้สึกกลับคืนเป็นปกติก็กระแทกกลับเข้าไปใหม่โดยที่แรงไม่มีตก


“อื้อๆๆๆ เขี้ยว เขี้ยว…” ราวกับมีแมวมาร้องเหมียวๆ ใกล้หู คมเขี้ยวยิ้มกว้าง มองใบหน้าแดงก่ำของเรียวจันทร์ที่สะบัดไปมาพลางเรียกชื่อเขาราวกับแมวคราง เห็นแบบนั้นเขาก็ยิ่งคันเขี้ยว นึกอยากฟัดลูกแมวตัวนี้ให้หมดแรงอยู่บนเตียง


ปับๆๆๆ


“โอ๊ยเขี้ยว พอก่อน พอ…” แม้คนด้านล่างจะอ้อนวอนเสียงสั่น เสียงหอบ แต่คนด้านบนก็ไม่หยุดตามที่ขอ ยังคงอัดแรงเข้าหาร่างบาง มันเสียวตรงลูกชายกับท้องน้อยจนยากที่จะหยุด เขาเองก็อยากทำให้นานกว่านี้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันกำลังจะพังทลาย


เอี๊ยดๆๆๆ


เสียงเตียงสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง เรียวจันทร์ยกแขนสองข้างขึ้นไปวางเหนือหัวอย่างหมดแรง ปล่อยให้คมเขี้ยวกระแทกได้ตามใจ สองขาที่ตั้งฉากไว้ถ้าไม่ได้มือคมเขี้ยวจับกดให้อยู่กับที่คงทิ้งราบไปกับเตียงแล้ว ร่างสูงก้มลงหอมแก้มซ้ายนวลผ่องไปหนึ่งทีก่อนจะเลื่อนไปจูบปากและใช้ลิ้นแทรกเข้าไปด้านใน เรียวจันทร์ตอบรับอย่างอ่อนแรง ปล่อยให้คมเขี้ยวดูดลิ้นของตัวเองอย่างอ่อนล้า แล้วสักพักคมเขี้ยวก็ผละออกไปแล้วร้องซี๊ดเสียงยาวก่อนที่จะคำรามลั่น


“อ้า! โอ้ย! เรียว!” น้ำอุ่นร้อนพุ่งวาบเข้าไปด้านในตัวเรียวจันทร์ คมเขี้ยวกัดฟันแน่น สองมือบีบต้นขาเนียนๆ แน่นจนแดงเถือก หน้าตาเสียวสุดขีด หน้าท้องหดเกร็งเป็นพักๆ กลางลำตัวที่ฝังอยู่ในตัวเรียวจันทร์กระตุกอย่างรุนแรง รับรู้ได้ถึงความเอ่อล้นของน้ำสีขาวข้น คนตัวเล็กนอนหอบเสียงเหนื่อย ใบหน้าขาวแดงก่ำ มีเหงื่อผุดขึ้นตรงหน้าผากนิดๆ สองแขนวางเหนือหัวอย่างปวกเปียก คมเขี้ยวก้มลงจุ๊บแกมนิ่มไปหนึ่งทีในขณะที่ลูกชายเขาค่อยๆ ลดอาการพ่นน้ำลง


พอแน่ใจว่าปลดปล่อยทุกหยดจนหมดแล้วก็ค่อยๆ ดึงลูกชายตัวเองออกมา น้ำสีขาวทะลักตามออกมาจนเลอะผ้านวมสีขาวลายดอกไม้ สองขาตั้งฉากอย่างอ่อนล้า น้ำข้นขุ่นไหลออกมาราวกับนมข้นไหลออกจากกระป๋อง


ปิ๊ด~


“อุ๊ย” เรียวจันทร์อุทานเบาๆ เมื่อเผลอออกแรงเบ่งน้ำออกมาจนเกิดเสียงน่าอาย คมเขี้ยวหัวเราะเสียงดังลั่นด้วยความชอบใจ ก้มลงหอมแก้มสองข้าง หอมหน้าผากและปิดท้ายด้วยการจุ๊บริมฝีปากของคนตัวเล็ก เรียวจันทร์หน้าแดงด้วยความอาย แต่ก็อ่อนแรงเกินกว่าจะพูดอะไร


“ป่ะ ลุกล้างตัวแล้วทำกับข้าวกินกัน” ร่างเล็กปรือตาให้กว้างขึ้นอีกนิด มองใบหน้าคมหล่อเหลาที่กำลังยิ้มทะเล้น


“ทำคนเดียวได้มั้ย นายสูบพลังฉันไปเยอะเลยนะ” ว่าเสร็จก็บิดขาขวามาทับขาซ้ายแล้วนอนตะแคงตัวด้วยท่าทีหมดแรง คมเขี้ยวกระเถิบขึ้นไปนั่งบนเตียงตรงหน้าเรียวจันทร์ โดยที่อาวุธคู่กายยังคงแข็งค้าง แต่ก็อ่อนตัวลงบ้าง แม้จะหมดแรงแต่เรียวจันทร์ก็กระดกหัวขึ้นไปดูดส่วนปลายสีแดงอ่อนของคมเขี้ยวหนึ่งที รสชาติเค็มคาวของน้ำรักคมเขี้ยวติดตามปลายลิ้นของเรียวจันทร์มา


“ผมอยากให้คุณอยู่ด้วยนี่ นะ ไปเป็นแม่ครัวกับผมหน่อย” คมเขี้ยวว่าแล้วยื่นมือซ้ายไปลูบก้นกับสะโพกของคุณนายเบาๆ ร่างเล็กที่แทบหมดแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในเรื่องอย่างว่าถึงกับทำหน้าอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเมื่อคิดว่าต้องไปยืนทำกับข้าวทั้งที่เมื่อกี้ตอนตั้งขารับแรงกระแทกก็แทบจะไม่มีแรงแล้ว แต่พอนึกได้ว่าฝีมือการทำอาหารของคมเขี้ยวเกือบเข้าขั้นแย่นางเลยฮึดสู้ยันตัวเองลุกขึ้นโดยมีคมเขี้ยวช่วยประคองอีกแรง


“วันนี้จะเอากี่รอบ บอกก่อน” คุณนายถามหน้าซีดเซียว คนถูกถามยิ้มกว้างกระเถิบเข้าไปใกล้อีกฝ่ายแล้วจูบที่ขมับซ้ายไปหนึ่งที


“ไม่รู้สิ แข็งอีกก็เอาอีก”


“นี่แอบไปกินยาปลุกเองรึเปล่าเนี่ย ทำไมฟิต นายดูเป็นคนไม่จัดนะ”


“ก็มีเมียน่าจัดนี่” แขนยาวๆ โอบกอดรอบเอวบางแต่มีกล้ามท้องเบาๆ อย่างอ้อนๆ เรียวจันทร์ที่กำลังทำหน้าสงสัยถึงกับทิ้งสีหน้านั้นไปเปลี่ยนเป็นยิ้มเขิน


“พูดแบบนี้ฉันสู้นะ” คมเขี้ยวหัวเราะจนเห็นลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง เห็นแล้วเรียวจันทร์เลยหอมแก้มไปหนึ่งฟอดด้วยความมันเขี้ยวพ่อเขี้ยวกุด หล่อแล้วยังยิ้มชวนละลายอีก


“ผมให้พักแปบนึงแล้วค่อยมาสู้ต่อ” เรียวจันทร์เม้มปากหน้าตาครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะหันตัวเข้าหาคมเขี้ยว จับต้นขาคมเขี้ยวแหวกออกนิดๆ โดยที่คนตัวโตก็อ้าขาให้ตามที่ต้องการอย่างว่าง่าย


“ต่อเลยก็ได้ ฉันไม่อยากมีอะไรหลังกินข้าว” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะพยักหน้าตอบรับคำบอกนั้น เรียวจันทร์ส่งมือไปรูดลูกชายคมเขี้ยวเบาๆ ร่างสูงปล่อยมือออกจากตัวเรียวจันทร์และวางลงบนเตียงเพื่อค้ำร่างตัวเอง นั่งอ้าขาสบายๆ ปล่อยให้เรียวจันทร์ก้มตัวโก่งก้นใช้ปากปลุกอารมณ์รอบใหม่ให้


“อ้า…” ใบหน้าคมแหงนขึ้นรับความรู้สึกเสียววูบวาบ มือซ้ายยกไปลูบก้นงอนๆ ของคนตัวขาวเบาๆ ช่วยกันปลุกเร้าอารมณ์ก่อนที่ยกที่สองจะเริ่มขึ้น





 :hao7:
หม่าบู๊ฮายยย มาอัพต่อแล้ววว ก่อนอื่นต้องขอ ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดใช้ ด้วยนะค้า เฮงๆ รวยๆ ค่า

ช่วงนี้เงียบหายนานกว่าจะได้อัพ เพราะต้องทำงานด้วย มันจะช่วงงานยุ่งกับพักเบรกสักแปบ แต่ช่วงเบรกก็เขียนนิยายนี่แหละค่ะไม่ได้หายไปไหน เขียนสองเรื่องพร้อมกันเลยจะเงียบๆ หายๆ ไปบ้าง แต่ไม่ดองแน่นอนค่า ทั้งเรื่องนี้และเรื่องไอ้ยักษ์

แต่ประเด็นหลักๆ ตอนนี้ที่เงียบหายไปคือไปหมกมุ่นเชียร์นางงามอยู่ค่ะ 555555  (อยู่ในช่วงรอโปรเจ็คต์ใหม่เริ่มพอดีด้วย) เมื่อปีก่อนก็เป็น ช่วงประกวด Miss Universe ตอมมักจะมุ่นอยู่กับนางงามทั้งวี่วัน ยังไงคนที่ติดตาม อย่าลืมโหวตให้น้องน้ำตาลนะคะ โหวตทั้งตอนนี้และวันแข่งจริงวันที่ 30 ด้วยยย

แค่ชื่อตอน กับเนื้อหาที่หายไป คงซี๊ดซ๊าดกันน่าดูนะคะขุ่นแม่ 555555 พี่เขี้ยว เห็นนิ่งๆ เงียบๆ ขรึมๆ ไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชายแบบนี้นะคะ ไม่เบานะเลาอะ เอาซะขุ่นแม่ร้องขอชีวิตเลย ระวังบ้านต้นสนพังนะคะพี่ เอี๊ยดอ๊าดๆ ขนาดนั้น -..-

แต่ก็ฝิ่นแทนขุ่นแม่เนาะ สมใจมั้ยคะแม่ อยากกินเขามานาน พอโดนเขากิน ถึงกับยกแขนยอมแพ้เลยทีเดียว 55555

ขอเวลาสวีตให้ขุ่นแม่กับขุ่นพ่อเขี้ยวหน่อยนะคะ คริๆ กำลังได้ที่ๆ

 ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ คอมเม้นมากบ้างน้อยบ้างในแต่ละตอน แต่อย่างน้อยก็มีคนคอยเม้นให้ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ^_^ 

แท็ก #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 28-01-2017 01:10:30
โห่ขุ่นแม่อิ่มอกอิ่มใจสิท่า เต็มสูบมาก5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 28-01-2017 06:23:22
 :jul1: พี่เขี้ยวหื่นกามมากค่าาา ฟินแทนเบยย

คุณแม่ฟินลื้มมมม ว่าแต่สเน่ห์แรงดีไม่มีตกแบบแม่เรียวงี้สงสัยพี่เขี้ยวคงจะต้องมีทำข้อตกลงกันใหม่ ห้ามเจ๊าะแจ๊ะผช.มากไป 555 :impress2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 28-01-2017 06:45:58
โอ้ยยยยย ตายๆๆๆๆๆๆ ร้อนแรงจนจอแทบไหม้
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 28-01-2017 07:26:51
 :hao6: :haun4: :haun4: :haun4:  ขุ่นแม่เรียวอดทนนะคะ อิชั้นคาดว่าขุ่นพี่เขี้ยวจัดอีกยาวไกลลลลลงง :pighaun:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 28-01-2017 08:06:18
พี่เขี้ยวก็จัดหนักเลยนะ ^^
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 28-01-2017 12:02:45
 :z10:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 28-01-2017 13:23:57
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Moonoii ที่ 28-01-2017 14:00:47
 :o8:  :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ฟุยุโกะ ที่ 28-01-2017 15:16:59
 :pighaun: ฟินเลยสินะ ขุ้นแม่
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 28-01-2017 16:12:54
พี่เขี้ยวคนก่อนหน้านี้หายไปไหนคะ  :z2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-01-2017 17:34:10
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 28-01-2017 21:22:53
กรี็ดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mokh2558 ที่ 28-01-2017 21:25:53
Fin สุดๆ :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 29-01-2017 07:48:10
จัดเต็มมาก คมเขี้ยวเป็นคนแบบนี้เองสินะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: wonwon ที่ 30-01-2017 16:54:49
อยากอ่านอีก  :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งแรก :28.01.60:
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 03-02-2017 11:37:54
อืออ พี่คมเขี้ยวค่ะ


จัดหนักจัดเต็ม สมกับอดอยากมาแรมปีจริงๆค่ะ

คุณนานอิ่มเอมเลยทีนี้


ดาม่า กำลังตามมา ช่วงนี้สูบความปกติสุขเก็บไว้เยอะๆก่อน
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-02-2017 16:56:35



คาถาที่ 23 [ครึ่งหลัง]



ป๊อก!


เสียงเหมือนจุกไวน์โดนดึงออกจากขวดดังขึ้นตอนที่คมเขี้ยวดึงคาวบอยน้อยออกจากช่องทางคับแน่นของเรียวจันทร์ที่ตอนนี้กลวงโบ๋แดงฉ่ำจากการโดนเขาทะลวงสามรอบ หยาดน้ำสีขาวขุ่นไหลเยิ้มออกมาจากรูสีแดงที่กลีบเนื้อขมิบช้าๆ เพื่อปรับสภาพให้กลับสู่สภาวะเดิม


ร่างเล็กครางหงิง สองขาสั่นราวกับเจออากาศหนาวเหน็บ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างเชื่องช้า พยายามปรับสภาพการหายใจตัวเองให้เข้าที่ สายตามองเตาผิงอย่างเหม่อลอย คมเขี้ยวลุกขึ้นนั่งชันเข่า ดึงผ้าขนหนูที่รองอยู่ใต้ตัวเรียวจันทร์ขึ้นมา พลิกด้านที่ไม่เปรอะน้ำรักของคุณนายที่เสร็จไปสองรอบด้วยมือของเขาเอง แล้วใช้เช็ดทำความสะอาดภายนอกให้เรียวจันทร์จนเกลี้ยง แต่ภายในยังคงฉ่ำเยิ้ม เขาเลยใช้นิ้วแหย่เข้าไปในรูแดงฉ่ำน้ำ เกลี่ยน้ำข้นๆ ให้ไหลออกมาเท่าที่จะทำได้ และใช้ผ้าขนหนูเช็ดเก็บกวาดให้สะอาด


“หิวข้าวยัง” เขาถามในขณะที่เช็ดก้นกับต้นขาให้เรียวจันทร์ จากตอนแรกว่าจะทำอาหารกินกันตั้งแต่เสร็จครั้งแรก ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้วทั้งสองก็ยังไม่ได้กินข้าวหรือน้ำ (เปล่า) แม้แต่คำเดียว


เรียวจันทร์ค่อยๆ ทรุดตัวลงนอนราบกับพื้น ใบหน้าแนบไปกับหมอนที่เอามาจากเตียง สองแขนทิ้งแนบลำตัว พลิกหน้าไปทางคมเขี้ยวที่กำลังเอนตัวลงนอนข้างกัน เอาหัวหนุนหมอนใบเดียวกับนาง แล้วช่วยยกหัวนางขึ้นมานอนเกยหน้าอกตัวเอง เรียวจันทร์เขยิบตัวเองด้วยแรงอันน้อยนิดขึ้นไปนอนทับร่างสูงใหญ่ของสามี


“เดี๋ยวค่อยกิน พักแปบ…” คมเขี้ยวพยักหน้า สองมือเลื่อนไปลูบช่วงสะโพกของเรียวจันทร์เบาๆ


“…การที่นายไม่ได้มีอะไรกับใครนานเป็นปีๆ มันเลยส่งผลแบบนี้ใช่มั้ย” คนอะไร ดูเหมือนจะติ๋มๆ กับเรื่องแบบนี้ แต่พอขึ้นสังเวียน พ่อเขี้ยวกุดไม่ติ๋มแต่มาเต็ม ไม่ได้โหมกระหน่ำแต่ก็ไม่ลดราวาศอกเช่นกัน คมเขี้ยวไม่ใช่คนมีเซ็กส์หลายรอบ แต่คือมีได้นานในแต่ละรอบ เป็นชั่วโมงก็ทำได้ คือพอจะถึงจุดสุดยอดก็จะหยุดแทะเล็มโลมเลียร่างกายเรียวจันทร์ ชวนคุยไปเรื่อย มีเบรกไปดื่มไวน์อีกต่างหาก เหมือนคมเขี้ยวไม่ได้รีบร้อน ตอนที่พักเบรกรอบสอง เขาบอกว่าอยากมีนานๆ ไม่อยากจบเร็ว ไม่อยากตัดความสุขและความเสียวไวๆ ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักสักแปบ แต่ประเด็นคือแรงดีไม่มีหล่น จนเรียวจันทร์เอ่ยปากขอให้พอก่อนหลายครั้งเหมือนกัน


“เกี่ยวด้วยละมั้ง อีกอย่างหมั่นไส้คุณด้วย ชอบยั่วนักไม่ใช่เหรอ” เรียวจันทร์ย่นจมูกหน้างอง้ำ คมเขี้ยวขย้ำก้นขาวเนียนเต็มสองมือแรงๆ


“ก็อยากนี่ แต่ใครจะไปคิดว่านายจะมาแรงเบอร์นี้ล่ะ เลี้ยงม้าแล้วจำเป็นต้องแรงม้าด้วยเหรอ” เรียวจันทร์คิดว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาก็น่าจะช่วยให้ตัวเองสตรองพอตัวแล้วนะ แต่เจอคมเขี้ยวฝังเขี้ยวเข้าไปในตัวแล้วอ่อนแรงจนตัวเปื่อยเนื้อเหลวไปหมด


“แล้วชอบรึเปล่า” เรียวจันทร์ยิ้มอ้อมแอ้ม เม้มปากเบาๆ ก่อนตอบเสียงง๊องแง๊งนิดหน่อย


“ชอบ ถึงใจดี แต่แบบว่า ก็หมดแรงอะ” คมเขี้ยวยิ้มกว้างแล้วหัวเราะเสียงดังตามหลัง ยกสองมือขึ้นแล้วฟาดลงบนก้นงอนๆ แสนเด้งของแม่ตัวดี


“นี่ดีนะ ที่ฉันออกกำลังกายมาเพื่อสิ่งนี้ แล้วก็เคยเจอของนอกมาบ้าง อุ๊ยนั่น…” คุณนายนางรู้ตัวว่าเผลอหลุดพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดต่อหน้าสามี นางเลยยกมือปิดปากฉับ คมเขี้ยวหรี่ตามองน้อยๆ


“…หมายถึงในอดีต ปัจจุบันหนูมีพี่เขี้ยวคนเดียวเลยนะคะ” ว่าแล้วก็ถูแก้มอ้อนบนอกอุ่น


“คนเดียวแน่เหรอ ผู้ชายทักมาเต็มโทรศัพท์ขนาดนั้น” เรียวจันทร์เบิกตากว้างงงๆ ก่อนจะเข้าใจได้อย่างเร็วปรื๋อว่าคมเขี้ยวหมายถึงอะไร


“อู๊ยยย เพื่อน จริงๆ นะ”


“คนชื่อแจเร็ดล่ะใคร คนที่ไม่ได้เมมชื่ออีก” เรียวจันทร์ทำหน้านึก อยากจะไปหยิบโทรศัพท์มากดดูแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าคมเขี้ยวไม่ให้เอาติดตัวมา เพราะกฎหนึ่งของการอยู่ที่นี่คืออย่าเอาเครื่องมือสื่อสารติดตัวมาด้วย มารับพลังธรรมชาติเน้นๆ เท่านั้น (แต่จริงๆ นางคิดว่ามันคือข้ออ้าง)


“แจเร็ดเคยคุยด้วย ปัจจุบันเป็นเพื่อนกัน”


“แล้วมันรู้แล้วใช่มั้ยว่าคุณกับมันคือเพื่อนกัน” เรียวจันทร์ย่นคิ้วนิดหน่อยแล้วทำหน้างง ก่อนจะพยักหน้าแบบขอไปที


“รู้สิ ก็คุยกันแบบเพื่อนอะ เพื่อนจริงๆ ไม่มีล่อแหลมอะไรเลยนะ”


“ก่อนหน้านี้ล่ะ” คุณนายยิ้มแห้งกับใบหน้าขรึมเบาๆ ของพ่อเครางาม


“ก็… เคยลึกซึ้งกัน แบบเนี้ย แบบที่นายทำ แต่ฉันชอบของนายมากกว่านะ” นางรีบอ้อนออเซาะทันที แต่ก็ไม่ได้เฟค ก็พูดจริงๆ อย่างที่รู้สึกว่าชอบคมเขี้ยวมากกว่า


“คุณนี่มันแรดจริงๆ” เรียวจันทร์ตาโต มองหน้าคนพูดที่นิ่งไม่มีล้อเล่น นางเลยทำหน้าบูดไม่พอใจเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้โกรธจริงจัง


“แหม ทำอย่างกับก่อนมาเจอฉัน นายเวอร์จิ้นงั้นแหละ”


“แต่ผมก็มีทีละคน เชื่อผมสิ ถ้านับแล้ว ผมน้อยจนน่าใจหาย ส่วนคุณมากจนใจหายวาบเลยละ”


“อะ นายมีกี่คนล่ะ แล้วคนสุดท้ายที่นายมีอะไรด้วยอะใคร” จริงๆ มันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เรียวจันทร์ไม่เก็บมาคิดอะไรก็ได้ แต่ข้อสงสัยนี้นางอยากรู้จริงๆ ว่าคนที่พรากบริสุทธิ์คมเขี้ยวไปก่อนจะปล่อยให้กลับมาบริสุทธิ์อีกครั้งนานเป็นปีๆ คือนีนางไหน ซึ่งก่อนหน้านี้นางไม่ใช่คนจุกจิกกับเรื่องอดีตของแฟนหรือคนคุยด้วย แต่กับคมเขี้ยวนางอยากรู้จริงๆ


“งั้นวันนี้อยากรู้อะไรให้ถาม…” เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกๆ อย่างเห็นด้วย คมเขี้ยวชี้ขวดไวน์กับแก้วที่วางอยู่ใกล้ๆ กับเตาผิง เรียวจันทร์ดันตัวเองขึ้นแล้วเอื้อมตัวไปหยิบมาเทใส่แก้ว พอเทเสร็จก็ยื่นให้คนที่นอนอยู่ คมเขี้ยวยื่นมือไปรับ แต่สักพักเรียวจันทร์ก็ดึงกลับแล้วกระดกเข้าปากจนเกือบหมดแก้ว อมไวน์แดงไว้จนแก้มอูมก่อนที่จะก้มลงประกบปากคมเขี้ยว ร่างสูงงงแค่แปบเดียวก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายทำอะไร เลยเปิดปากรับแอลกอฮอล์ที่ไหลจากปากเล็กๆ ของเรียวจันทร์ คนด้านบนค่อยๆ ปล่อยไวน์ให้คนด้านล่างอย่างไม่รีบร้อนจนกระทั่งหมดปากก็ใช้ลิ้นเกลี่ยกันไปมาสักพัก ดูดดึงรสชาติไวน์ที่ติดค้างตรงปลายลิ้นกันไปมา


“เอาอีกมั้ย” คมเขี้ยวพยักหน้า ยกมือขึ้นเช็ดไวน์ที่ไหลออกมาตรงมุมปาก เรียวจันทร์เทไวน์ไปครึ่งแก้วแล้วกระดกเข้าปากในปริมาณเท่าเดิม โน้มหน้าหาคมเขี้ยวแล้วปล่อยไวน์ให้ค่อยๆ ไหลเข้าไปในปาก หนุ่มเครางามกลืนไวน์จากปากหนุ่มหน้าสวยอย่างเชื่องช้า ลูกกระเดือกของร่างสูงขยับยามที่กลืนแอลกอฮอล์ลงไปในลำคอ


“ฮ่า…”


“เอาอีก” เพี๊ย!


คมเขี้ยวบอกและตีมือลงบนก้นเรียวจันทร์แล้วก็เลื่อนขึ้นมาลูบไล้ตรงช่วงเอวคอดไปยังซี่โครง หุ่นเรียวจันทร์บอบบางแต่ก็มีกล้ามเนื้อ เอวคอดกิ่วและมีสะโพกผายเล็กๆ แบบที่ผู้ชายไม่ค่อยมีกัน คงเป็นผลมาจากที่เจ้าตัวกินยาคุมอย่างที่บอก หน้าท้องแบนราบไร้ไขมันแต่ก็มีกล้ามท้องจางๆ ให้ดูแข็งแรง หน้าอกสองข้างผายเต่งตึงเป็นเต้าเล็กๆ ให้ขยำเล่นได้เพลินๆ ส่วนกลางลำตัวของเรียวจันทร์อยู่ในขนาดพอดี กำลังน่ารัก


“อึก… เอาอีกมั้ย” คนตัวบางถามหลังจากป้อนแก้วที่สามให้คนตัวหนาหมดปากแล้ว คมเขี้ยวกดหน้าลงหนึ่งที


“พอก่อนก็ได้” เรียวจันทร์วางขวดไวน์กับแก้วไว้ข้างพรมฝั่งขวามือตนเอง คมเขี้ยวปล่อยสองมือออกจากใต้ราวนมของเรียวจันทร์ แล้วเอามารองไว้ใต้ท้ายทอย เรียวจันทร์เขยิบท่านั่งบนตัวคมเขี้ยวให้ดีกว่าเดิมเลยทำให้ง่ามก้นถอยไปชนกลางลำตัวคมเขี้ยว


“อุ๊ย จะแข็งอีกแล้วเหรอ เต่งตึงเชียว” คมเขี้ยวยิ้มขำแล้วยักคิ้วให้แม่ตัวดี


“เอา อยากรู้อะไรครับคุณนาย ถามมา”


“ผู้หญิงที่นายมีอะไรด้วยครั้งสุดท้าย คือใคร” ร่างสูงถอนหายใจแผ่วเบาก่อนตอบ


“รุ่นน้องที่มหา’ลัย พอดีได้เจอกันตอนงานเลี้ยงรุ่น เลยคุยกัน มีวันนึงไปดูหนังกันสองคน น้องเขาชวนขึ้นห้องไปกินน้ำ แล้วก็เป็นไปตามนั้นแหละ” เรียวจันทร์เบ้ปากตาโต


“แหม ใช่ย่อยนะยัยคนนั้นน่ะ ชวนขึ้นห้องไปกินน้ำ กินกันไปกี่แก้วล่ะ” คมเขี้ยวยิ้มขำ ทั้งขำจริงและเริ่มกรึ่มนิดๆ เลยขำง่ายขึ้นกว่าเดิม เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนตอบ


“แก้วเดียว หลังจากนั้นก็คุยกันปกติ แต่ผมงานยุ่ง ไม่มีเวลาไปเจอน้องเขา และน้องเขาก็ไม่ชอบมาที่นี่ ก็เลยเลิกติดต่อกันไป”


“ป้องกันรึเปล่าเนี่ย” ที่ถามเพราะว่าตานี่มีอะไรกับนางสดๆ เพรียวๆ น่ะสิ


“ป้องกันสิ ผมพกถุงยางติดตัวไปด้วย”


“แล้วทำไมกับฉันนายไม่ใช้ล่ะ ถ้าฉันเป็นผู้หญิง ฉันท้องไปแล้วนะ” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าครุ่นคิดพักหนึ่งแล้วก็พูดต่อ


“ตอนนั้นไม่ได้เตรียมไป ใครจะไปคิดว่าจะไปได้กันกลางป่า แล้วยาคุณก็ออกฤทธิ์ดีเหลือเกิน และผมก็มั่นใจว่าก่อนหน้านี้คุณต้องรักสะอาดมากพอ…” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่มแล้วพยักหน้าด้วยความภูมิใจ แม้จะผ่านมามากมายยังไงแต่คมเขี้ยวเป็นคนแรกของนางที่โนคอนด้อมจริงๆ


“…อีกอย่าง คุณจะไปมีอะไรกับใครที่ไหนไม่ได้อีก ต้องมีแค่ผมคนเดียว” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแล้วยิ้มเขิน มือขวาจิ้มลงบนอกซ้ายร่างสูงจึ้กๆ


“แผนสูงพอๆ กับตัวเลยนะเนี่ย” คมเขี้ยวยกยิ้มมุมปาก หน้ากรึ่มได้ที่ 


“ผมไม่รู้หรอกว่าอนาคตเป็นไง แต่… ผมไม่ใช่คนคบใครง่ายๆ ชีวิตนี้ผมมีแฟนมาแค่คนเดียว คบกันตั้งแต่มอปลายแล้วก็เลิกกันก่อนเรียนจบมหา’ลัย แล้วก็ไม่เคยคุยกับใครอีกจนมาเจอน้องเขาแล้วก็เอื้องนี่แหละ”


“พูดจริงอ๊ะเปล่า” คมเขี้ยวยิ้ม



“ถามพ่อกับแม่ผมหรือไอ้ดินก็ได้ สามคนนั้นไม่โกหกคุณหรอก” เรียวจันทร์เชื่อว่าแหล่งข้อมูลที่คมเขี้ยวบอกมาน่ะไม่โกหกจริงๆ นั่นแหละ และก็เชื่อด้วยว่าตัวคมเขี้ยวเองก็ไม่โกหกหรอก ตั้งแต่รู้จักกันมาผู้ชายคนนี้ไม่ชอบพูดโกหก มีอะไรก็พูดตรงๆ แต่ไม่ใช่ขวานผ่าซากไร้มารยาท


ไม่งั้นแต่ก่อนนางจะโดนด่า โดนกัดวันเว้นวันขนาดนั้นเหรอ


“ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นไง แต่ฉันอยู่กับนายแล้วแฮปปี้ม๊ากมาก ฉันไม่เคยจีบใครแบบนี้มาก่อนเลยนะ มีแต่คนมาจีบฉัน คิๆ” คมเขี้ยวยิ้มละมุน ทำปากยื่นเป็นสัญญาณขอจูบ เรียวจันทร์เลยก้มหน้าลงมาจุ๊บปากเขาหนึ่งที


“ของคุณล่ะ” เรียวจันทร์ยกไหล่สองข้างขึ้นแว้บหนึ่งแล้วถอนหายใจสั้นๆ


“มีแฟนคนแรกตอนมหาวิทยาลัย ช่วงมัธยมสังคมไม่ได้เปิดกว้าง เลยมีพวกอีแอบขอคบกับฉัน ขอมีอะไรกันแต่ไม่ขอเปิดเผย ฉันเลยยอมโสด เสียตัวครั้งแรกก็ตอนปีหนึ่งอะ เป็นรุ่นพี่ คบกันได้ปีเดียวก็เลิกเพราะพี่แกเริ่มออกสาวมากกว่าฉัน…” เรียวจันทร์ยิ้มแห้งพร้อมกับย่นหน้า คมเขี้ยวขำน้อยๆ


“…ปีสองฉันเริ่มทำงานหาเงิน เวลาก็น้อยลง เพราะตอนนั้นพ่อฉันป่วยแล้ว บ้านเราก็มีตังค์ แต่ฉันกลัวไม่พอ เพราะฉันเหลือพ่อแค่คนเดียว ฉันกลัวจะเสียพ่อไปเลยพยายามหาเงินไว้เยอะๆ ฉันเลยโสดยาว จนก่อนไปทำงานเมืองนอกก็คบกับแฟนเก่าคนที่ฉันเคยอาละวาดใส่นั่นแหละ คบได้ไม่นานก็เลิกเพราะมันนอกใจไปมีคนอื่น แต่ฉันก็ไม่แคร์ เพราะฉันมีอนาคตรออยู่ที่นิวยอร์ก”


“จริงเหรอ โสดไม่มีใครเลยเนี่ยนะ” คมเขี้ยวย่นคิ้วด้วยความสงสัย เรียวจันทร์เม้มปากก่อนยิ้มแหะๆ แล้วตอบเสียงอ้อมแอ้ม


“โสด… แต่ว่า ก็มีจ้ำจี้กันบ้าง” คมเขี้ยวยิ้มหึ


“กี่คน”


“อย่าได้คิดว่าเยอะเชียว นับจำนวนได้ค่ะ ก็มีตากล้องสองคน ทั้งแบบภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว บอดี้การ์ดในงานเดินแบบที่ตอนนี้แต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้ว มีพระเอกดาวรุ่งในตอนนั้นแต่ตอนนี้ดังม๊าก ถ้าเอ่ยชื่อไปร้องอ๋อ นายแบบรุ่นน้องสองคน เป็นเพื่อนซี้กัน แต่กินกันคนละเดือน แล้วก็มีรุ่นพี่สมัยมหา’ลัยที่วนมาเจอกันที่ผับ มีเอิ่ม…” นางทำหน้าคล้ายว่าไม่อยากจะพูด แต่คมเขี้ยวมองอย่างกดดันเลยยอมพูดออกมาเสี่ยงอ้อมแอ้ม


“…พ่อของเพื่อนคนนึงที่ไม่ได้สนิทกันมากอะ เขาเป็น แต่ว่าแอบ” คมเขี้ยวทำตาโตด้วยความตกใจ


“คุณเป็นชู้เหรอ” เรียวจันทร์ทำตาโตยิ่งกว่าแล้วสั่นหัวรัวๆ


“โนโน! เปล่านะ คือยังไงล่ะ เขาเลิกกันแล้ว แต่เขายังอยู่ด้วยกันเพราะหน้าตาทางสังคม ฉันเช็กมาแล้วอย่างถี่ถ้วน ไม่งั้นฉันไม่ยอมหรอก” คมเขี้ยวย่นคิ้วหน้าเครียดพักหนึ่งก่อนจะคลายคิ้วออกแล้วพ่นลมหายใจยาว


“คุณนี่มัน…” เหมือนคำว่าแรดจะซ้ำซากไป และไม่รู้จะหาคำไหนมาจำกัดความดี เขาเลยทิ้งไว้แค่นั้น


“อย่าโกรธนะ มันเป็นอดี๊ดอดีตจริงๆ คือหลังจากพ่อเพื่อนก็มาเจอ แฟนเก่า เพื่อนนายแบบที่นิวยอร์ก พอกลับมาไทยก็มีแฟนอีกคนแต่คบกันได้สั้นมากๆ แค่เดือนเดียว แล้วก็มาแจเร็ดนี่แหละ” คมเขี้ยวได้แต่อื้อหือในใจกับความโชกโชนของแม่คุณนาย ไอ้ที่บอกว่านับได้ นับได้เป็นสิบคนแล้วเนี่ย


“ไอ้จอมทัพล่ะ” เรียวจันทร์ยิ้มลำบากใจ ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้ารับอ่อยๆ คมเขี้ยวพ่นลมหายใจแผ่วๆ ยกสองมือออกจากท้ายทอยแล้วยื่นไปจับเอวคนข้างบนไว้


“โดนเยอะขนาดนี้ แต่รูยังฟิตอีกนะ” เรียวจันทร์ทั้งโล่งใจและขำที่ได้ยินแบบนั้น นางหัวเราะแหะๆ แล้วก้มลงจูบริมฝีปากคมเขี้ยวหนึ่งที


“หน้าฉันสวยเป๊ะ เรื่องอย่างว่าก็ต้องเป๊ะด้วย ฉันมีสูตรขมิบของฉันเองเลยนะ เพื่อความเฟิร์ม” คุณนายยิ้มตาหยีหัวเราะฮิๆ จนไหล่สั่นน้อยๆ คมเขี้ยวยิ้มเผล่ สองมือลูบขึ้นลูบลงตรงซี่โครงใต้ราวนมเรียวจันทร์


“แล้วคนที่ไม่ได้เมมชื่อล่ะ” ร่างเล็กย่นคิ้ว สีหน้าพยายามเค้นว่าไม่ได้เมมชื่อใครไว้บ้าง ซึ่งนั่นไม่ได้ผลเลยเพราะนางไม่ได้เมมชื่อตั้งหลายคน


“เขาบอกว่ารอบก่อนเจอกันแปบเดียว อยากเจอคุณอีก” ตอนนั้นเองที่นางทำหน้าว่าอ๋อแล้วพยักหน้าเบาๆ


“ก็อีตาแฟนเก่าคนนั้นแหละ มันอยากรีเทิร์น แต่ไม่ใช่ว่ารักฉันจริงหรอก มันคิดว่าฉันมีตังค์เลยจะกลับมา ฉันจนจะตาย” คมเขี้ยวหัวเราะน้อยๆ ใบหน้าคร้ามแดดสีเข้มเริ่มแดงเข้มแข่งกับสีผิว


“ว่าแต่ ยัยรุ่นน้องคนนั้น ไม่เคยหวนกลับมาหานายใช่มั้ย” ร่างสูงยักไหล่หนึ่งที


“ก็มีบ้าง แต่ผมงานยุ่งจริงๆ เลยไม่ค่อยได้คุย น้องเขาเลยหายไป ป่านนี้มีแฟนใหม่ไปแล้วแหละ” เรียวจันทร์หรี่ตามองหน้าหล่อๆ ของสามีตัวเอง


“ลองกลับมาอีกสิ แม่จะไล่ตะเพิดไปให้หมด ทั้งเก่าทั้งใหม่นี่แหละ ฉันมีพี่ปาน ธนพรเป็นไอดอล ตบได้ตบ ประกาศได้ประกาศว่านี่ผัวกู!” ท่อนท้ายนางอินมากไปหน่อยเลยเผลอขึ้นเสียงเข้มอย่างกับหญิงสาวในหมู่บ้านบางระจันที่พร้อมออกไปรบ


“โอ๊ย…” คมเขี้ยวหัวเราะดังลั่นจนอกกับหน้าท้องกระเพื่อมแรง เขาหัวเราะอ้าปากกว้าง เรียวจันทร์เห็นแบบนั้นก็เลยร่วมหัวเราะไปด้วย คุณนายเห็นลักยิ้มบนแก้มคมเขี้ยวทีไรก็มันเขี้ยว ต้องก้มลงไปฟัดแรงๆ บนแก้มสากที่ตอนนี้แดงก่ำ หน้าแดงกับเคราดำช่างตัดกันได้อย่างลงตัว สามีนางคนนี้หล่อละลายดวงใจน้อยๆ เหลือเกิน


 คมเขี้ยวพยายามหยุดหัวเราะ ก่อนจะพลิกร่างเรียวจันทร์ให้ลงไปอยู่ข้างล่างแล้วจัดการดันลูกชายตัวเองเข้าไปในตัวคุณนาย อาศัยน้ำรักกับกลีบเนื้อที่ยังอ่อนนุ่มหุบไม่เต็มที่ดันตัวเองเข้าไปได้อย่างสะดวก


“อะ… อ้า…” เรียวจันทร์แอ่นอกขึ้นแล้วหายใจหอบเบาๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความอึดอัดและสุขสม สองมือยกขึ้นจิกหมอนแน่น


“แล้วคุณล่ะ ไม่มีรีเทิร์นหรือหาใหม่แล้วใช่มั้ย” เรียวจันทร์กัดปากล่างแน่นแล้วส่ายหน้ารัวๆ รู้สึกอึดอัดตรงช่องทางด้านหลัง มันหน่วงจนหงุดหงิดเล็กๆ


“หนูเป็นเมียพี่เขี้ยวคนเดียวแล้ว อ๊ะ…” ร่างเล็กบิดตัวน้อยๆ เพื่อให้เกิดการขยับดีกว่าให้ค้างคาอยู่แบบนี้เฉยๆ เพราะมันหน่วงจนอัดอั้น


“พี่เขี้ยวก็เป็นผัวหนูคนเดียวนะครับ ฮึ” คมเขี้ยวยกมือขวาขึ้นลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ แล้วก้มลงจูบหน้าผากมนไปหนึ่งที


“พี่ขยับให้หนูหน่อย” เรียวจันทร์บอกเสียงอ้อน คมเขี้ยวกรีดยิ้ม แล้วก้มลงอุ้มร่างเล็กขึ้นจากพื้น ค่อยๆ ยืนขึ้นช้าๆ จนกระทั่งยื่นขึ้นเต็มความสูง


“อ้า!!!” เรียวจันทร์โดนส่วนปลายของอาวุธคมเขี้ยวกระแทกเข้าจุดเสียววาบจนต้องแหงนหน้าแล้วกรีดร้องดังลั่น ร่างสูงค่อยๆ เดินถอยหลังไปที่โซฟา ก่อนจะกระแทกก้นลงบนเบาะนุ่มเต็มแรง ส่งแรงกระแทกกระเทือนไปถึงคนข้างบนที่โดนส่วนปลายกระแทกข้างในอีกครั้งจนร้องเสียงหลง


“อ๊ะ… อ๊ะ…” ร่างกายขาวโพลนบิดเร่า หน้าท้องเนียนราบหดเกร็งเพราะความวูบวาบยามที่ส่วนหัวของคาวบอยน้อยคาอยู่ที่จุดกระตุ้นด้านใน


“หนูขยับเองเลย” คมเขี้ยวนั่งเอนหลังใช้สองแขนค้ำตัวเอง ร่างเล็กยกสองมือจับไหล่เขาไว้และแยกขาให้กว้างขึ้นแล้วเริ่มออกแรงขย่มตัวเองบนลูกชายคมเขี้ยวอย่างช้าๆ แต่เน้นจังหวะจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันอย่างหนักแน่น


ตับ! ตับ! ตับ! ตับ!


“ชอบมั้ย” คมเขี้ยวกระซิบถาม เรียวจันทร์ปรือตามองหน้าหล่อๆ แล้วพยักหน้ารัวๆ ร่างสูงยิ้มกริ่มแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มนวลหนึ่งที นั่งมองแม่ตัวดีของเขายกก้นขึ้นลงไปตามความยาวที่กลางลำตัวของตัวเขาเอง ช่องทางของเรียวจันทร์ตอดรัดเขาเป็นจังหวะ ยามยกก้นขึ้นก็ขมิบรัด ยามกดก้นลงก็ผ่อนคลาย เสียวสบายๆ แต่ความรู้สึกวูบวาบก็แล่นไปทั่วร่างอย่างเอื่อยๆ


“หนู พี่เขี้ยวอยากดื่มไวน์” เรียวจันทร์หยุดขย่มตอคมเขี้ยว นั่งแช่ค้างไว้อย่างนั้นอยู่พักหนึ่ง สองมือลูบไหล่กว้างทั้งสองข้างไปมา ก่อนจะค่อยๆ ยกก้นขึ้น ทำให้สิ่งที่เชื่อมกันอยู่หลุดออกจากกัน เรียวจันทร์พยายามประคองขาอันอ่อนล้าของตัวเองให้เดินไปหยิบขวดไวน์กับแก้วมาให้ได้ ตอนที่ก้มลงหยิบของขึ้นมา ขาสองข้างสั่นเกือบประคองร่างตัวเองไม่อยู่ แต่ก็ฝืนยืนหยัดได้ไม่ล้ม พอหันกลับไปมองคนตัวสูงที่นั่งใช้มือรูดตรงส่วนนั้นขึ้นลงพร้อมกับยิ้มทะเล้นก็ค้อนสายตาใส่ไปที


“มาอยากดื่มไวน์อะไรตอนนี้เนี่ย” คมเขี้ยวยื่นมือไปรับของมาไว้ในมือ เขยิบตัวไปพิงพนักโซฟา นั่งอ้าขารอให้เรียวจันทร์กลับประจำที่เดิม


“ดื่มไปด้วยดูโชว์จากเมียไปด้วย เพลินตาจะตาย” คุณนายทำปากยื่นใส่และค่อยๆ นั่งคร่อมลงบนลูกชายคมเขี้ยวตามเดิม ก่อนจะยกก้นขึ้นลงในจังหวะเดิมไม่ต่างจากเมื่อกี้ คมเขี้ยวเทไวน์ใส่แก้วแล้วยกขึ้นดื่มด้วยความสุนทรียะกับวิวตรงหน้าที่เป็นสีหน้าอึดอัดและทรมานของเรียวจันทร์ แต่กระนั้นก็ยังไม่หยุดแรงขย่ม มีการส่งไวน์ให้เรียวจันทร์ดื่มด้วย ร่างเล็กนั่งนิ่งคาความใหญ่ยาวและดื่มไวน์ลงคอดังอึกๆ พอคมเขี้ยวดึงแก้วออกจากปากก็ขย่มต่อ ทำได้สามสี่ทีคมเขี้ยวก็ส่งไวน์ให้ดื่มอีก


ผ่านไปได้ราวครึ่งชั่วโมงจนไวน์หมดไปหนึ่งขวด เรียวจันทร์ก็ยังนั่งอยู่บนตัวคมเขี้ยว ทำๆ หยุดๆ ตามความเมื่อย คนตัวสูงตอนนี้หน้าแดงก่ำกว่าเดิม ดวงตาเยิ้มและแดงจางๆ ส่วนเรียวจันทร์แดงระเรื่อไปทั้งตัว คมเขี้ยวขอเบรกสักแปบแล้วเดินไปเอาไวน์จากตู้เย็นมาอีกขวด แถมหยิบถั่วลันเตาสีเขียวใส่จานมาด้วย พอกลับมานั่งที่เดิมเขาก็ยกตัวเรียวจันทร์ให้ขึ้นประจำที่ คุณนายตาจะปิดเพราะความง่วงและความมึนของแอลกอฮอล์ ไหนจะเสียพลังงานไปแล้วสามรอบ พอมารอบนี้ต้องเป็นคนคุมเกมให้พ่อเขี้ยวกุดนั่งชมราวกับชมภาพยนตร์อีก


“ใกล้แตกรึยังเนี่ย” เรียวจันทร์ถามพลางกดตัวเองทับไอ้คาวบอยน้อยจนมิด ก่อนที่หน้าจะบิดเบี้ยวเพราะความเสียว คมเขี้ยวยิ้มทะเล้นพลางเทไวน์ใส่แก้วจนเกือบเต็ม


“ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก เดี๋ยวก็แตกเองแหละ” ว่าจบก็ส่งไวน์ให้เรียวจันทร์ดื่มไปอีกครึ่งแก้ว ที่เหลือก็เอาเข้าปากตัวเอง เรียวจันทร์เปลี่ยนเป็นโยกหน้าโยกหลังแทนเพราะแรงเริ่มน้อยลงที่จะยกก้นขึ้นๆ ลงๆ แล้ว


“อ้า… อ้า… อ้า…” เสียงใสดังขึ้นยามที่เด้งตัวมาด้านหน้าแล้วส่วนปลายของสามีรูปหล่อสวนทิ่มเข้าตรงจุด คมเขี้ยวที่ตอนนี้มึนๆ เมาๆ แล้วกัดริมฝีปากล่างแน่นด้วยความเสียว สูดปากเป็นระยะยามที่เรียวจันทร์ขมิบตอดรัด มือซ้ายหยิบถั่วลันเตาเข้าปากแล้วเคี้ยวช้าๆ อย่างเพลินๆ สายตาจ้องมองดวงตาฉ่ำปรือของเรียวจันทร์อย่างมัวเมา ทั้งเมาเหล้าและเมากาม มือขวายังคงกระดกไวน์เข้าปากไม่หยุดและก็แบ่งเรียวจันทร์ดื่มด้วยเหมือนเดิม


“อือ… พี่เขี้ยว… หนูเหนื่อย” ร่างเล็กบ่นหน้างอแต่ก็ไม่ยอมหยุดโยก แม้แรงจะลดลงไปบ้างแล้วก็ตาม ตอนนี้เรียวจันทร์มึนหัวเพราะไวน์ ดื่มตอนท้องว่างนี่เมาง่ายและเมาไวดีเหลือเกิน


“งั้นพอก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าหนูทำให้พี่เขี้ยวต่อนะครับ” คมเขี้ยวที่กินแอลกอฮอล์ตอนท้องว่าก็กรึ่มได้ที่ รู้สึกหนักหัวจนตัวเอียงนิดหน่อย น้ำเสียงและแววตาที่ใช้ก็อ้อนมากกว่าเวลาปกติ แถมยังดูน่ารักน่าหยิกขึ้นด้วย เรียวจันทร์ยิ้มหน้าง่วง พยักหน้ารับคำขอนั้น


“ป่ะ งั้นไปนอนกัน”


“หนูลุกไม่ไหว” เรียวจันทร์อ้อนกลับบ้าง คมเขี้ยวยิ้มเยิ้ม หอมแก้มนวลผ่องสองข้างไปแก้มละฟอด เขายกตัวเรียวจันทร์ออกจากตัวเอง พาล้มลงนอนบนโซฟา ก่อนที่ตัวเขาจะกระเถิบก้นลงจากโซฟาไปยืนบนพื้น ก้มตัวลงช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขน และพาเดินไปล้างก้นในห้องน้ำก่อนนอน เรียวจันทร์บิดตัวไปมายามที่นิ้วเรียวยาวแทรกเข้าไปด้านในเพื่อช่วยล้างน้ำข้นขาว พอล้างของเรียวจันทร์เสร็จ คมเขี้ยวก็ล้างลูกชายตัวเองให้สะอาดบ้าง หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดให้ตัวเองและเรียวจันทร์ ก่อนจะอุ้มร่างปวกเปียกของอีกฝ่ายออกมาที่เตียง ถลกผ้านวมได้ก็วางร่างขาวเนียนลงบนเตียงนุ่มๆ


“โห ตีหนึ่งแล้ว” เรียวจันทร์ว่าเปลือกตาปรือ หน้าตาพร้อมหลับ คมเขี้ยวเดินไปปิดสวิตช์ไฟตรงประตู มีเพียงแสงไฟจากด้านนอกที่ส่องสว่างรำไรๆ เข้ามา ร่างสูงเดินหน้าเมาอ้อมเตียงไปขึ้นอีกฝั่ง กระเถิบเข้ามานอนซ้อนหลังเรียวจันทร์ ดึงร่างเล็กเข้ามากอดไว้แน่น ก้มลงหอมแก้มขวาดังฟอดแล้วดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมร่างของตัวเองกับคุณนาย


“ถ้าหนูตื่นก่อนพี่ ขึ้นขย่มได้เลยนะ” ชายหนุ่มว่าเสียงอ้อแอ้เล็กๆ เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ แล้วพยักหน้าเอื่อยๆ เพราะง่วงนอน คมเขี้ยวหอมแก้มนวลอีกทีแล้วล้มตัวลงนอนบนหมอนเดียวกับเรียวจันทร์ จับตัวเรียวจันทร์ให้หันมานอนซบอกตัวเอง วาดแขนซ้ายโอบร่างบางไว้ เปลือกตาปรือ ทั้งเมาทั้งง่วง สักพักก็เรอออกมาเป็นลมขนาดใหญ่ กลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งไปทั่ว แต่เรียวจันทร์เองก็มึนจนแยกไม่ออกว่ากลิ่นนั้นมาจากตัวเองหรือจากคนตัวโตที่เมาหนักกว่านาง เนื่องจากดื่มไปเยอะกว่ามาก


“อือ…” คมเขี้ยวครางแล้วก้มลงจุ๊บหัวเรียวจันทร์หนึ่งที มือซ้ายลูบแขนเนียนขาวของอีกฝ่ายไปเรื่อย มือขวาสอดเข้าไปใต้ผ้านวม ลูบลูกชายตัวเองที่ยังแข็งตัวอ่อนๆ ราวกับปลอบให้มันสงบลง ก่อนที่จะพาตัวเองสงบไปพร้อมกับอาการมึนเมาและอาการเสียวค้าง


ส่วนคุณนายแม่ โดนสูบพลังไปจนแทบหมดตัว หลับหนีผัวไปก่อนหน้านี้นานแล้ว   






เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao6:



กลับมาอัพต่อแล้วววว ยังคงอยู่นะคะ ไม่ได้หายไปไหน แต่ติดงานจริงๆ นอนน้อยแล้วน้อยอีก บางทีไปหลับที่ทำงานก็มี มันเพลียยย พอมีเวลาว่างก็รีบตักตวงเวลานอน

พอดีวันนี้มีเบรกยาววว ก่อนจะกลับไปเริ่มงาน เลยรีบมาอัพขุ่นแม่กับขุ่นพ่อเขี้ยวต่อ

พี่เขี้ยวเล่นซะขุ่นแม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรงไม่มีแรงแม้กระทั่งจะเดินเหิน ทั้งวันทั้งคืนเลยนะพ่อเขี้ยววว แถมยังมีการอยากจะต่อตอนเช้าอีก กรี๊สๆๆ สมใจมั้ยคะแม่ม่ม่ม่   :impress2:

ประสบการณ์การเสียตัวของขุ่นแม่นี่โชกโชนที่แท้จริงค่ะ คาระวะนะคะแม่ ดีนะคะที่แม่ยังฟาดไม่หมดทุกวงการ แต่แม่ก็สตรองแม้จะผ่านมามากแต่ยังฟิตพิชิตใจพี่เขี้ยวได้!

ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามเรื่องนี้ และรอคอยกันตลอดๆ ขอบคุณมากนะคะ เม้นมากบ้าง น้อยบ้างในแต่ละตอน แต่มันก็เป็นเม้นจากคนอ่านที่ตามกันอยู่ ก็ขอบคุณคนที่ติดตามทั้งแบบแสดงตนและไม่แสดงตนเลยค่ะ

เจอกันตอนหน้าค่า



แท็ก #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์






หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-02-2017 17:20:03
ยอมใจขุ่นนายยเบยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 06-02-2017 18:16:58
 :z1: :hao6: :hao7: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 06-02-2017 19:11:55
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 06-02-2017 19:33:47
สองคนผัวเมียชิลไปจริงๆอะ :haun4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 06-02-2017 19:41:29
พี้เขี้ยววววว หื่นอ่ะ แต่คุณนายคงชอบมาก อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: wonwon ที่ 06-02-2017 19:57:57
 :haun4:

ถ้าเรื่องจอมทัพเปิดเผย คมเขี้ยวต้องโกรธมากแน่ๆ นางควรจะเล่าความจริงก่อนที่ความจะแตกเองนะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-02-2017 20:05:55
 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Moonoii ที่ 06-02-2017 20:09:23
เขินน รอติดตามอยู่เรื่อยๆน้าา  :o8:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 06-02-2017 20:44:59
พี่เขี้ยวทำไมเป็นคนแบบนี้คะ 5555  :hao7:

ปล.ตอนต่อไปนี่ต้องเป็นตอนเช้านะคะ ห้าม skip ไปเวลาอื่นนน  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 07-02-2017 09:19:31
เหมาะกันจริงๆ 5555

พี่เขี้ยวนี่ของจริงๆเลยนะคะ

เรียวอย่างได้แบบไหนจัดให้ได้หมด ทำคุณนานอ่อนแรงได้ ไม่ธรรมดา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 07-02-2017 10:59:59
 :haun4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 07-02-2017 11:18:32
 :pighaun:สมใจเลยไหมแม่เรียว คมเขี้ยวอึดทึกทนจริงๆเล่นเอาแม่เรียวกลายเป็นสาวซิงเลย :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mochimanja2 ที่ 11-02-2017 09:25:50
คิดถึงคุณเรียวจังเลย จะมีมาม่ามั้ยนะ กับเสี่ยเนี่ย มาต่อไวๆน๊า :L2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 11-02-2017 10:05:30
พี่เขี้ยววววว ความหื่นมาเต็มมม อึดม้ากกก ขนาดหนูเรียวที่ผ่านมาเกือบทุกสมรภูมิ เจอพี่เขี้ยวไปทียังต้องยอมแพ้เหมือนสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องง โอ้ย กลัวจะดราม่าเรื่องเสี่ยจอมทัพจังเลยยค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 11-02-2017 22:02:37
โอ้ย ตายยยยยยยย
นางได้กินของดีดีทั้งนั้นเลย
อิจฉาตาร้อนมาก
กล้าพูดว่านับได้ 555555 ถ้าพี่เขี้ยวไม่ได้อึดมีหงอกันแล้วค่ะ
ว่าแต่จะไม่บอกเรื่องจอมพทัพส่งมาเหรอ พูดก่อนเขาจะจับได้นะยะ ฮอลลลลฃ
กลัวพี่เขี้ยวเสียใจ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๓/ครึ่งหลัง :06.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 11-02-2017 22:22:15
แซ่บมากคู่นี้ ชอบบบ
อย่าให้มาม่าเยอะนะ สงสารคุณนาย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 11-02-2017 23:15:18


คาถาที่ 24 :: Gloomy. (อึมครึม) [ครึ่งแรก]



“ไม่ต้องรีบ พี่อยากทำกับหนูนานๆ…”


“อ้า… อ้า… อ้า…” เรียวจันทร์ครางเสียงหวานพลางโยกตัวกลับหน้ากลับหลังอย่างช้าๆ มีสองมือคมเขี้ยวลูบไล้ไปตามซี่โครงเบาๆ สีหน้าของคนด้านบนบิดเบี้ยวตามความเสียวตรงช่องทางด้านหลังของตัวเองที่โดนของดีของคมเขี้ยวฝังเข้าไป ทั้งลึกทั้งแน่น


เรียวจันทร์ตื่นตอนประมาณเก้าโมงเช้า ตื่นพร้อมกับเม็ดฝนอ่อนๆ ที่คงตกไม่หยุดตั้งแต่เมื่อคืน พอตื่นแล้วก็เข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำให้พร้อมก่อนคมเขี้ยวจะตื่น เพราะไม่รู้ว่าพ่อคาวบอยตื่นมาแล้วจะหื่นเลยหรือเปล่า แต่คงเพราะเมาและเสียน้ำไปเยอะเลยหลับสนิทจริงจัง คุณนายแกเลยเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าไม้เล็กๆ ตรงปลายเตียงที่ตั้งอยู่มุมห้องฝั่งขวามือเวลานอนบนเตียง หยิบเสื้อลายสก็อตตัวหลวมโพรกมาสวมทับตัว แล้วหยิบกางเกงในไซส์ใหญ่กว่าตัวเองมาใส่แก้ขัดไปก่อน


เรียวจันทร์ปล่อยให้คมเขี้ยวนอนหลับต่อไปแล้วเดินไปในโซนครัว เปิดตู้เย็นดูว่ามีอะไรกินบ้าง เห็นมีสเต็กหมูแช่อยู่เลยหยิบออกมาสองชิ้นสำหรับสองคน สมัยอยู่นิวยอร์กนางต้องทำอาหารกินเองเพื่อความประหยัด แรกๆ ก็เปิดสูตรจากหนังสือหรือตามเน็ต แต่พอคล่องขึ้นก็เริ่มผสมสูตรมั่วๆ เอง เอาที่กินแล้วชอบ ฝีมือของนางถือว่าไม่ธรรมดา ใครที่เคยกินอาหารที่นางทำก็เอ่ยชม แต่ก็ยังไม่มีใครชมถึงขั้นบอกให้ไปเปิดร้านอาหาร นางรู้ตัวดีว่าฝีมือไม่ถึงขั้นนั้นและไม่คิดทำ เพราะคิดว่าตัวเองคงตบกับลูกค้าทุกวัน


ยืนทำอาหารไปได้พักใหญ่แต่ก็ไม่รู้ว่านานกี่นาที ร่างสูงที่ตัวเปลือยเปล่าก็เข้ามากอดจากทางด้านหลัง จูบอรุณสวัสดิ์กันไปหลายที และยืนคลอเคลียกันสักพัก คมเขี้ยวก็บอกให้หยุดไว้สักแปบ แล้วก็ลากนางมาที่เตียง จัดการถอดเสื้อผ้าออกจนหมด ป้ายเจลหล่อลื่นเสร็จ ก็รัวสะโพกเข้าหานางทันที แล้วก็ลากยาวมาจนถึงตอนนี้ ปาไปเกือบชั่วโมงแล้ว ยังคงมาราทอนได้เหมือนเมื่อวานจริงๆ


“อื้อ… พี่เขี้ยว หนูหิวข้าว”


“อีกนิดนึงนะ ทำให้พี่หน่อย พี่หิวหนูมากกว่าข้าวอีก” เจอลูกอ้อนเสียงทุ้มหล่อๆ พร้อมกับหน้าอ้อนตาเยิ้มแบบนี้เข้าไป เรียวจันทร์ก็สู้เพื่อสามีไม่ถอยเช่นกัน เพิ่มแรงโยกขึ้นอีกนิด พอเห็นว่าร่างสูงสูดปากเสียวซี๊ดพร้อมกับที่สองขาดันขึ้นดันลงเหมือนคนกำลังทรมานก็กัดปากล่างแล้วยิ้มยั่ว คมเขี้ยวกัดฟันแน่น คิ้วเข้มย่นเพราะกำลังอดทนไม่ให้ให้ปลดปล่อยก่อนที่ใจอยาก


“อูย…” คมเขี้ยวเสียวจนเกร็งหน้าท้องแต่ก็อั้นไว้ไม่ยอมปล่อย เขาดึงหน้าเรียวจันทร์เข้ามาใกล้แล้วจูบช้าๆ กวาดลิ้นไปรอบปากเล็กๆ เรื่อยๆ แล้วในที่สุดก็กลั้นไว้ไม่อยู่ ลูกชายเขาพ่นน้ำเข้าไปในตัวเรียวจันทร์อย่างรุนแรง และเพราะอยู่ในท่านั่ง น้ำสีขาวเลยไหลเยิ้มอาบแก่นกายเขา เรียวจันทร์ดึงหน้าออกจากจูบเขาแล้วยกตัวขึ้น


ป่อก!


น้ำสีขาวเหนียวข้นล็อตแรกในเช้าวันนี้ไหลเยิ้มออกจากรูแดงฉ่ำของเรียวจันทร์ หยดลงบนหน้าท้องและกลางลำตัวของเขาเหมือนเม็ดฝนด้านนอกบ้านที่หยดลงบนพื้น เรียวจันทร์ยื่นมือขวาไปที่ด้านหลังตัวเอง ป้ายเอาน้ำรักของคนตัวโตออกจากปากทางเข้าแล้วเอาน้ำมาป้ายตามตัว ทำแบบนั้นจนรู้สึกว่าไม่มีไหลออกมาแล้ว ก็ค่อยๆ ล่นถอยหลังนั่งคุกเข่าโก่งโค้งก้มหน้าลงใช้ปากทำความสะอาดให้กับลูกชายคมเขี้ยว


“หนูเอาออกมั่งเปล่า เดี๋ยวพี่ทำให้” คมเขี้ยวถามในขณะที่ร่างเล็กผงกหัวขึ้นลงใช้ปากครอบครองแก่นกายที่เลอะน้ำรักของเขาไว้ เรียวจันทร์ส่ายหน้าทั้งที่ใช้ลิ้นเลียหยดน้ำสีขาวตามจุดต่างๆ ให้เขาจนหมดเกลี้ยง


“ไม่ต้องหรอก หนูโอเค ไปกินข้าวก่อน ไว้รอบหน้าหนูค่อยสอนพี่เขี้ยวใช้ปากให้หนูนะ” คมเขี้ยวยิ้ม มีอาการเยิ้มให้เห็นนิดๆ แต่ก็ไม่เมาเท่าเมื่อคืนแล้วแน่นอน


“งั้นก็ตามใจหนู สอนพี่ด้วยนะครับว่าต้องเอาใจเมียยังไง” เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง ก้มลงแช่จูบบนริมฝีปากคมเขี้ยวไว้สักแปบแล้วก็ถอนออก


“ทำไมน่ารักจังคะพี่เขี้ยว”


“ก็น้องหนูน่ารักกับพี่” เรียวจันทร์ยิ้มเขินกับสรรพนามนั้น ตอนแรกที่ใช้เรียกแทนตัวเองเพราะอยากอ้อนคนตัวโต ประจวบเหมาะกับที่คมเขี้ยวอายุมากกว่านางพอดีเลยเหมาะเหม็ง


“เราจะเรียกกันอย่างนี้เหมือนเวลาแฟนคนอื่นเขาเรียกอ้วน เรียกผอมงี้เหรอ” คมเขี้ยวยิ้ม สองมือลูบก้นงอนนิ่มๆ


“เรียกตอนเวลาอยู่กันสองคนละกัน” ร่างเล็กพยักหน้าเข้าใจ ให้พูดแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นก็อาจจะมีคนอ้วกใส่หน้าเพราะความหมั่นไส้ก็เป็นได้ เรียกกันสองคนแบบนี้สบายใจดี เป็นเหมือนโค้ชลับเล็กๆ ระหว่างเราสองคน


“ป่ะ กินข้าวกัน วันนี้ต้องใช้แรงอีกเยอะ” เรียวจันทร์ย่นจมูกและทำปากยื่น


“ให้หนูพักบ้าง เดี๋ยวรูหนูหลวม” คมเขี้ยวหัวเราะเสียงดัง ชอบอกชอบใจกับคำพูดนั้น ตีมือลงบนก้นนิ่มเบาๆ


“ก็ได้ พักก่อน” น้องหนูของพี่เขี้ยวฉีกยิ้มแฉ่ง ยกสองมือกอดคอหนาไว้แล้วก้มลงหอมหน้าผากพี่เขี้ยวไปหนึ่งที


“ขอบคุณค่า” พอขอบคุณเสร็จ คมเขี้ยวก็ลุกขึ้นชั้นเข่าบนเตียงแล้วอุ้มแม่ตัวดีที่เกาะคอเขาแน่นลงจากเตียงและพาเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนห้องครัว พากันแปรงฟันและล้างเนื้อล้างตัวจนสะอาดแล้วก็เช็ดตัวให้แห้ง เรียวจันทร์กลับไปใส่ชุดเดิม ส่วนคมเขี้ยวใส่แค่กางเกงวอร์มตัวเดียว ในบ้านเปิดที่ระบายอากาศไว้ ฝนตกบวกกับมีแต่ต้นไม้ล้อมรอบเลยทำให้บ้านต้นสนเย็นโดยไม่ต้องเปิดแอร์


ทั้งสองคนช่วยกันทำอาหารต่อจากที่ค้างไว้จนเสร็จ แล้วเอามานั่งกินที่เค้าน์เตอร์ไม้ตรงส่วนที่ยื่นยาวออกมาไว้สำหรับกินข้าวกับนั่งดื่ม เปิดทีวีช่องรายการเพลงทิ้งไว้ไม่ให้บ้านเงียบ มีเสียงมีดหั่นเนื้อกระทบกับจานกระเบื้อง เสียงส้อมจิ้มเนื้อเข้าปากดังเป็นระยะ ร่างสูงเคี้ยวเนื้อเต็มปาก หันไปมองร่างเล็กที่เคี้ยวตุ้ยๆ แล้วอมยิ้ม ร่างเล็กยิ้มตอบให้อย่างน่ารัก


พอกินเสร็จก็ช่วยกันล้างจานไว้ที่เดิม ปิดทีวีแล้วพากันเดินไปนอนที่เตียง คมเขี้ยวหยิบหนังสือติดมือมาเล่มนึง เป็นเล่มที่เขาอ่านค้างไว้จากรอบก่อนที่มานอนที่นี่


“อ่านอะไรอะ” คุณนายทิ้งหัวลงบนอกฝั่งขวาของคมเขี้ยว สายตามองหนังสือหน้าปกสีดำคาดแดงในมือใหญ่หนา


“นิยายสืบสวนสอบสวน” คมเขี้ยวตอบพลางดึงผ้านวมขึ้นคลุมตัวเองกับตัวเรียวจันทร์


“พี่อ่านอะไรอย่างนี้ด้วยเหรอ” ร่างเล็กถามด้วยความสนใจ ดูท่าบ้านต้นสนจะเป็นสถานที่ที่ทำให้เห็นตัวตนของคมเขี้ยวได้เยอะขึ้นทีเดียว


เหมือนกับว่าอยู่ที่นี่ คมเขี้ยวได้ปลดปล่อย ได้ผ่อนคลาย ได้เป็นตัวของตัวเองในอีกมุมที่ไม่ได้แสดงออกเมื่อต้องดูแลฟาร์ม ดูแลคนงานนับร้อยคน และดูแลครอบครัวของตัวเอง


“ฝึกสมองดี นักเขียนหลายคนเก่งจนกลัวว่าจะเป็นฆาตกรได้เอง” คุณนายพยักหน้า กอดร่างหนาเปลือยเปล่าท่อนบนไว้แน่น


“โห อ่านภาษาปะกิดซะด้วย” คมเขี้ยวยิ้มมุมปากแล้วก้มลงหอมหน้าผากเรียวจันทร์หนึ่งที


“ไม่ค่อยได้ใช้ กลัวลืม เลยใช้วิธีนี้แทนเอา” เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกหงัก ส่วนตัวนางมีโอกาสใช้บ่อยหน่อย เพราะมีเพื่อนต่างชาติเยอะ แต่ก็ไม่ได้ว่าเก่งเรื่องโครงสร้างประโยคมาก เน้นพูดสื่อสารรู้เรื่อง เพราะถ้ามัวแต่กังวลแกรมม่า กว่าจะพูดกันได้คงผมหงอกกันไปครึ่งหัวแล้ว


“หนูนอนละนะ” พูดไปเปลือกตาก็เริ่มย้อยลงทีละนิด ขยับหัวเอาแก้มแนบลงบนอกคมเขี้ยวให้สบายคอที่สุด


“ครับ” มือขวาคมเขี้ยวลูบขึ้นลูบลงบนต้นแขนคนที่นอนกอดเขาอยู่ ส่วนมือซ้ายถือหนังสือไว้ และก็ไล่สายตาอ่านอย่างสบายๆ ละสายตาไปมองเรียวจันทร์อีกทีก็หลับไปแล้ว เขาเลยดึงสมาธิมาอยู่ที่หนังสืออย่างเดียว ยังไงซะแม่คุณนายก็นอนกอดใกล้ๆ แบบนี้ไม่ไปไหนอยู่แล้ว




“พี่เขี้ยว! พี่เขี้ยว!” คมเขี้ยวที่กำลังอ่านหนังสืออยู่บิดหน้าไปมองทางหน้าต่างแว้บหนึ่งแล้วก็ก้มลงมองร่างเล็กที่ยังคงนอนหลับปุ๋ยอยู่บนตัวเขา ชายหนุ่มปิดหนังสือ วางไว้บนเตียง ค่อยๆ ยกร่างเรียวจันทร์ออกจากตัวแล้วปล่อยให้นอนบนเตียงดีๆ คลุมผ้านวมให้แล้วก็เดินไปเปิดประตูบ้าน พอออกมาด้านนอกก็ต้องแปลกใจว่าฝนหยุดไปตั้งแต่ตอนไหน สงสัยอ่านหนังสือเพลินจนลืมสนใจฝน


“ว่าไงไอ้ดิน” คมเขี้ยวถามน้องชายบุญธรรมที่กำลังเดินขึ้นบันไดบ้านมาที่ชานระเบียง


“ตำรวจมาอะพี่ เขาจะมาคุยเรื่องมือระเบิดแล้วเรื่องไอ้น้อยหน่าว่าจะเอายังไง” คมเขี้ยวนิ่งไปนิดก่อนจะพยักหน้าลงน้อยๆ


“พ่อกับแม่ล่ะ”


“อยู่ที่ออฟฟิศกับตำรวจนั่นแหละ พี่จะไปเลยเปล่า”


“ขอเวลากูแปบ เดี๋ยวตามไป” ไอ้ดินมองไปทางตัวบ้านสักแปบก่อนจะเบ้ปากนิดหน่อย


“กกคุณเรียวของดินอยู่อะดิ”


คมเขี้ยวหน้าเอือมนิดหน่อย แต่ไม่ได้จริงจังอะไร “เอาอีกละ วกเข้ามาจนได้นะมึง”


“หรือไม่จริงอะ โห่ หายไปกันสองคน คิดว่าไม่รู้เหรอ” คมเขี้ยวนึกขำกับท่าทีหมั่นไส้ของไอ้หมีตัวโตนี่ซะจริง ไม่รู้มันจะแค้นอะไรนักหนา ก็เข้าใจหรอกว่ามันรัก มันเทิดทูนคุณเรียวของมัน แต่ทำอย่างกับได้เขาเป็นเมียไปแล้ว


“เออ ก็รู้ไปดิ กูไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย เนี่ย เดี๋ยวเดินเข้าไปปลุกขวัญใจมึงแล้วกูจะตามไป บอกตำรวจรอแปบนึง” คมเขี้ยวกำลังจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้านแต่ก็ต้องชะงักฟังไอ้ดินมันพูดต่อ


“รอแปบนึง รอเจ้าของฟาร์มปลุกเมียก่อนนะครับงี้ใช่ป่ะ” ร่างสูงยกหลังมือขวาขึ้นมาทำท่าจะตีเข้าที่หน้าไอ้หมีใหญ่แล้วก็เอามือลง


“เดี๋ยวกูโบกให้ ไปๆ เดี๋ยวกูตามไป” ดินมองค้อนใส่พี่ชายตัวเองหนึ่งทีแล้วก็หมุนตัวเดินลงบันไดบ้านต้นสนไป คมเขี้ยวยิ้มขำอ่อนๆ ส่ายหัวน้อยๆ แล้วก็เดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อไปปลุกน้องหนูของเขา หยุดเช็ดเท้าหน้าประตูสักแปบเพราะชานระเบียงไม้ด้านนอกเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ พอใช้ผ้าเช็ดเท้าเสร็จก็เดินไปทางเตียงที่คนตัวเล็กหลับปุ๋ยอยู่


คมเขี้ยวทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอีกฝั่งนึง ยื่นมือซ้ายไปแตะตัวเรียวจันทร์และเขย่าเบาๆ “หนู… หนู… เรียว… เรียวตื่นก่อนเร็ว”


คนโดนปลุกส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ ใบหน้าสวยมุ่ยเล็กน้อย ก่อนจะกดหน้าตัวเองลงบนหมอนนุ่มเพราะนึกรำคาญ คมเขี้ยวกระเถิบเข้าไปใกล้ร่างบางอีกนิดแล้วก้มลงพูดข้างหูเสียงทุ้ม


“ตื่นก่อนนะครับน้องหนู” เปลือกตาของคนนอนหลับลืมพรึบขึ้นมาอย่างง่วงมึน มองใบหน้าหล่อคมที่มีเคราล้อมกรอบใบหน้าแล้วก็ขมวดคิ้ว


“อะไรอะ…” เสียงเล็กๆ ถามอย่างมึนงง คมเขี้ยวยิ้มมุมปากแล้วก้มลงจูบขมับคนตัวเล็กไปหนึ่งที


“เดี๋ยวพี่จะกลับไปที่ออฟฟิศ หนูไปกับพี่หน่อย”


“หนูไม่ไปไม่ได้เหรอ” เรียวจันทร์ถามเสียงเล็กผสมแหบหน่อยๆ ฟังแล้วน่ารักน่าชังดี


“ตำรวจมาคุยเรื่องที่เกิดขึ้นในฟาร์ม พี่อยากให้หนูไปด้วย” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว หน้าตาไม่เข้าใจผสมง่วงนอน


“ทำไมต้องอยากให้หนูไปด้วยอะ”


“เพราะพี่ไม่อยากห่างหนูไง” คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ แต่แสนจะหล่อในสายตาของคนที่กำลังง่วงนอน


“ก็ด้าย” สุดท้ายก็ใจอ่อนยอมลุกขึ้นนั่งแล้วขยี้ตาเหมือนเด็กๆ คมเขี้ยวบอกให้ร่างเล็กเข้าไปล้างหน้าล้างตาก่อน ระหว่างนั้นเขาก็แต่งตัวให้เรียบร้อยกว่าเดิม พอเรียวจันทร์ออกมาก็แค่ใส่กางเกงขาสั้นตัวเดิมที่ตากแห้งแล้ว คมเขี้ยวล็อคบ้านต้นสน พาเรียวจันทร์เดินย่ำถนนเฉอะแฉะออกไปตามทาง อากาศในโซนบ้านต้นสนเย็นมาก แต่ไม่ถึงกับหนาวจนทนไม่ไหว มันเย็นเพราะไอดิน ต้นสนต้นใหญ่ที่ขึ้นอย่างหนาแน่น และฝนเพิ่งหยุดตกไปเลยทำให้อากาศเย็นจัด


คมเขี้ยวเดินนำเรียวจันทร์มาจนถึงออฟฟิศ พอเข้าไปด้านในก็เจอกับพ่อ แม่ ไอ้ดินและตำรวจสองนายที่เขาจำได้ว่าเป็นคนดูคดีนี้ เมฆากับบัวบูชาไม่ได้ถามถึงประเด็นที่ว่าทำไมทั้งสองมาด้วยกัน เพราะตอนนี้ประเด็นสำคัญกว่ากำลังอยู่ตรงหน้า


“ลูกชายผมมาแล้วครับ ว่ามาได้เลยคุณตำรวจ” คุณตำรวจหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง สีผิวสองสีใบหน้าดูดีพอประมาณพยักหน้าลงหนึ่งครั้งแล้วเปิดปากพูด


“สรุปว่าจะเอายังไงกับผู้ต้องหาครับ ผมก็ไม่ได้อยากถามบ่อยๆ แต่จะปล่อยสำนวนให้นานเกินก็ไม่ได้” เมฆากับบัวบูชาหันมองไปที่คมเขี้ยวเป็นตาเดียว


“ป๋าให้แกตัดสินใจว่าจะเอายังไง แม่ก็ด้วย” คมเขี้ยวพยักหน้ารับใบหน้านิ่งแล้วพูดกับตำรวจ


“ดำเนินคดีผู้ต้องหาตามกฎหมายได้เลยครับ ผิดว่าไปตามผิด ถ้าเขาคิดจะสู้คดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ” ทั้งออฟฟิศตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะหนึ่ง บรรยากาศอบอวลด้วยความอึมครึมวูบหนึ่งแล้วก็ละลายหายไป 


“เขี้ยว คิดดีแล้วใช่มั้ยลูก” คนเป็นลูกชายพยักหน้าใบหน้านิ่งจริงจัง ลูกชายมองหน้ามารดาที่ทำสีหน้าไม่สู้ดีนัก เขารู้ว่าแม่เขากำลังรู้สึกไม่ดีที่เขาตัดสินใจแบบนี้


“เราต้องไม่สงสารคนผิดนะแม่ ทีเขาทำกับเรา เขายังไม่สงสารเราเลย” สมาชิกในบ้านที่เหลือนิ่งไปกับคำพูดนั้นของคมเขี้ยว


เรียวจันทร์ที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ รู้สึกถึงอาการใจเต้นตุ้มต่อมของตัวเอง ความรู้สึกเย็นค่อยๆ แล่นขึ้นมาจากด้านล่างขึ้นมาถึงต้นคอ ไม่ได้เย็นเพราะอากาศ แต่เย็นเพราะความผิดของตัวเองที่ยังติดตัวอยู่จนถึงตอนนี้ แม้ความผิดนั้นจะยังไม่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน แต่ที่ (เคย) คิดมันก็ถือเป็นเรื่องผิดอยู่ดี เรียวจันทร์เลื่อนสายตาไปมองใบหน้าจริงจังของคมเขี้ยวที่กำลังพูดกับตำรวจอยู่แล้วก็นึกใจหายและหวาดกลัวเล็กๆ ว่าถ้าวันหนึ่งคมเขี้ยวรู้ว่านางเข้ามาที่ทำไมในตอนแรก ตัวเองจะโดนผลักไสไล่ส่งหรือไม่


ไม่สิ คมเขี้ยวไม่เอาไว้แน่ๆ ขนาดคนที่ทำงานด้วยกันมานานอย่างผู้หญิงคนนั้น พอทำผิดก็คือผิด ไม่มีคิดหวนความหลังไปย้อนความดีก่อนหน้านี้ อย่างที่มีประโยคนึงว่าไว้ ทำดีมาทั้งชีวิตไม่มีใครเห็น แต่ทำผิดครั้งเดียวถูกจำไปทั้งชีวิต เรียวจันทร์ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนั้นมีความดีอะไรบ้างมั้ย แต่ไม่ว่าจะยัง ตอนนี้ความผิดที่แม่นั่นทำไว้ก็ดูจะกลบเรื่องราวในอดีตของนางไปเยอะทีเดียว เพราะคมเขี้ยวเล่นส่งนางเข้าคุกเข้าตารางแบบที่ไม่คิดอะไรมาก


“เรื่องระเบิด ผมจับตัวคนร้ายได้แล้ว คนร้ายเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง แต่มันไว้ผมยาวเท่านั้นเอง…” บัวบูชาถอนหายใจโล่งอกเมื่อได้ยินแบบนั้น เรียวจันทร์กำลังนั่งลุ้นว่าตำรวจจะว่ายังไงต่อ ในขณะที่ในหัวก็มีความคิดที่จะสารภาพบาปกับคมเขี้ยววนเวียนไม่รู้จบ


“…ผมสอบปากคำมัน และคนร้ายรับสารภาพ” คุณตำรวจมีสีหน้าหนักใจนิดหนึ่ง


“มันว่ายังไงครับคุณตำรวจ” ดินถามหน้าเคร่ง ส่วนคมเขี้ยวกับเมฆายังคงฟังนิ่งๆ อย่างสงบ บัวบูชาสีหน้าเนือยเล็กน้อยกับบรรยากาศเคร่งแบบนี้


“คนร้ายบอกว่าผู้ว่าจ้างคือนายจอมทัพครับ” สิ้นเสียงของตำรวจ ร่างของเรียวจันทร์ก็เหมือนโดนตรึงไว้กับที่ด้วยหมุดที่มองไม่เห็น ริมฝีปากสีชมพูสดอ้าค้าง ตัวที่เย็นเฉียบเมื่อครู่กลายเป็นชาวาบไปทั้งตัว หัวใจกระตุกไปหนึ่งทีก่อนที่จะเต้นตุบๆ ตุบๆ


คมเขี้ยวขมวดคิ้ว ใบหน้าเข้มกว่าเดิมด้วยความโกรธ “แม่ง ไอ้เหี้…”


ร่างสูงเกือบจะสบถคำหยาบออกมาเต็มคำแต่ก็ยับยั้งปากตัวเองไว้ได้ทัน แววตาคมวาววับด้วยความโกรธที่พร้อมจะปะทุได้ถึงจุดขีดสุดจ้องมองพื้นนิ่งจนเรียวจันทร์นึกหวั่นใจ


ความกล้าที่อยากจะสารภาพบาปกับคมเขี้ยวค่อยๆ ลดลงจนน่าใจหาย


“คนอะไรมันโลภมากจังวะ อยากได้ของคนอื่นเขาไปทั่ว!” ดินสบถด้วยความโกรธ ผสมความแค้นเล็กๆ เรียวจันทร์เลื่อนสายตาสั่นระริกมองสีหน้าของสมาชิกบ้านพยัคฆ์เกรียงไกรที่ไม่มีใครสีหน้าผ่อนคลายสักคนแล้วก็รู้สึกเหมือนมีแรงกดทับที่หน้าอกจนหายใจไม่สะดวก


“เดี๋ยวผมจะส่งคนไปหาจอมทัพ แล้วเรียกมาสอบปากคำครับ” คมเขี้ยวยิ้มหึ นึกในใจว่าคนอย่างมันจะยอมรับง่ายๆ งั้นเหรอ ถึงมันทำจริงแต่มันต้องหาทางดิ้นจนหลุดจนได้นั่นแหละ


“อะ…” เรียวจันทร์จะอ้าปากว่าขอตัวออกไปข้างนอก แต่เห็นว่าทุกคนกำลังหน้าเครียดเลยลุกขึ้นเงียบๆ แล้วเดินให้เบาที่สุดออกไปจากออฟฟิศ


พอออกมาด้านนอกได้ สองเท้าก็ก้าวกลับไปทางบ้านใหญ่ ระหว่างเดินไป จู่ๆ ก็รู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมา น้ำตาที่ไม่มีทีท่าว่าจะไหลก็หยดแหมะออกมาจากตาทั้งสองข้าง ตอนนี้เรียวจันทร์ทั้งโกรธ ทั้งกลัว ทั้งเสียใจ แม้ว่าจะไม่ใช่เพราะนางทั้งหมด แต่ก็พูดได้เลยว่าส่วนหนึ่งนางเป็นคนพาจอมทัพเข้ามาทำร้ายฟาร์มนี้ด้วย


และตัวนางเองยังเคยคิดจะทำร้ายฟาร์มนี้ด้วยเช่นกัน


เรียวจันทร์เดินขึ้นบันไดแบบข้ามสองขั้น เปิดประตูแล้วเดินดุ่มๆ ไปทางห้องนอนคมเขี้ยว เปิดประตูเข้าไป เท้าก็ก้าวแบบรีบๆ ไปตรงหัวเตียง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูหน้าจอ แบตเหลืออยู่สิบห้าเปอร์เซ็นต์เพราะเปิดเน็ตค้างไว้ มือบอบบางกดเคลียร์การแจ้งเตือนทุกอย่างทิ้งแล้วกดหาเบอร์จอมทัพก่อนจะกดโทรออก รอสัญญาณไม่นานฝ่ายนั้นก็กดรับสาย


“ว่ายังไงครับคุณเรียว”


“ปากบอกว่าไม่ได้ทำอะไรฟาร์มคมเขี้ยว แล้วผีตัวไหนมันเอาระเบิดมาวางที่นี่!” เรียวจันทร์ตาวาววับด้วยความโกรธจัด แต่ก็ยังเหลือสติเตือนตัวเองว่าอย่าแสดงความก้าวร้าวใส่จอมทัพมากนัก


“ระเบิด? กำลังคิดว่าผมวางระเบิดที่นั่นงั้นเหรอ” จอมทัพถามเสียงเรียบนิ่ง แต่เรียวจันทร์ก็สัมผัสกระแสความไม่ชอบใจในน้ำน้ำเสียงนั้นได้


“ใช่! กำลังคิด และคิดมานานแล้วด้วย…” เรียวจันทร์หันไปมองทางประตูห้องนอน เดินไปปิดประตูแล้วก็กลับมายืนกลางห้องดังเดิม ความรู้สึกปรี๊ดที่ปริ่มอยู่ตรงอกทำให้อยากตะโกนด่าจอมทัพแรงๆ แต่ก็ต้องเบรกตัวเองเอาไว้


“…คุณใจดำได้อะไรขนาดนั้นอะ ตัดช่องทางทำมาหากินบ้านเขาไม่พอ ยังจะเอาชีวิตเขาอีกเหรอ โหดร้ายแข่งกับโจรใต้รึเปล่า?!” นางแว้ดใส่ด้วยความหงุดหงิดในอก ถ้าแมนกว่านี้สักหน่อยก็อยากจะมีความรู้สึกอยากชกหน้าตาเสี่ยนั่นให้เต็มแรง 


“อะไรที่ทำให้คุณคิดว่าผมเป็นคนทำ” จอมทัพถามกลับเสียงนิ่งกว่าเดิมจนเกือบจะเป็นเสียงเย็นยะเยือก และดูท่าความไม่ชอบใจจะมากขึ้นด้วย


“ทั้งคนที่คุณจ้างให้ทำร้ายฟาร์ม และไอ้มือระเบิดชั่ว มันสารภาพหมดแล้วว่าคนชื่อจอมทัพเป็นคนสั่งเรื่องทั้งหมด!” เรียวจันทร์กระแทกเสียงใส่ปลายสาย สีหน้าบิดปากเบี้ยวเพราะความโมโห


“อ๋อ งั้นเหรอ มันสารภาพว่างั้นเหรอ” อีกฝ่ายถามกลับคล้ายว่าจะกวน ยิ่งทำให้คิ้วสวยขมวดหนักกว่าเดิม


“นี่เสี่ย ฉันไม่เคยคิดว่าคุณจะเหี้ยได้ขนาดนี้ มันเลวร้ายเกินไปแล้วนะ” เรียวจันทร์สะกดคำหยาบไม่อยู่จริงๆ มันอัดอั้นกับการกระทำของจอมทัพ ยิ่งนึกถึงตอนที่นางถามครั้งก่อนๆ แล้วตาเสี่ยปฏิเสธหน้าตาเฉยก็ยิ่งโมโห


อีกฝ่ายเงียบไปจนเรียวจันทร์แอบใจไม่ดี “เสี่ย!”


“หึ…” หัวใจดวงน้อยเต้นจังหวะเพี้ยน จังหวะการหายใจก็ผิดจังหวะ แค่หึเดียวแต่ทำเอาเสียววาบไปทั้งตัวจนขนลุกตั้งชันราวกับโดนลมหนาวพัดเข้าหาเต็มแรง


“…ผมไม่ปฏิเสธหรอกว่าผมเหี้ย” ลมหายใจเรียวจันทร์สะดุดกึก ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาเมื่อครู่ แม้ไม่เห็นหน้าตา แต่ก็รู้ได้ว่าฝ่ายนั้นต้องกำลังไม่พอใจ


“เสี่ย ฉัน… ฉันขอโทษ ฉันโกรธอะ ฉันเลยเผลอปาก”


“ดีแล้ว เพราะคนเรามักจะตะเบ็งความในใจออกมาตอนโกรธนี่แหละ” น้ำตาเอ่อคลอในดวงตาคู่สวยทั้งสองข้าง ในหัวคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และนึกโกรธสติตัวเองที่แม้จะเหลือแต่ก็ทำหน้าที่คุมตัวได้ห่วยมาก


“เสี่ย… อย่าทำอะไรฟาร์มนี้เลยนะ อย่าอยากได้ที่ดินของเขาอีก…” มือขาวบางยกมือถือออกมาดูก็เห็นว่าหน้าจอดับไปแล้ว น้ำตาที่คลออยู่เมื่อกี้ร่วงหล่นออกมาจากดวงตา สองขาค่อยๆ ทรุดลงตรงปลายเตียง นั่งลงอย่างอ่อนล้า สายตาเหม่อมองสายฝนจางๆ ด้านนอกที่โปรยปลิวไปตามแรงลม


“เรียว…” เสียงเรียกอันคุ้นเคยที่ช่วงนี้คุ้นเคยเป็นพิเศษดังขึ้นเบาๆ เจ้าของชื่อหันไปมองหน้าเศร้าน้ำตาอาบแก้ม คมเขี้ยวเห็นคนรักร้องไห้ก็เบิกตากว้างตกใจ รีบเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งข้างๆ


“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” เรียวจันทร์กัดฟันแน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองสะอื้น มือซ้ายยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มแล้วมองใบหน้าของคมเขี้ยวที่ตอนนี้กำลังมองนางด้วยสายตาเป็นห่วงอยู่


ถ้าเกิดสารภาพไปตอนนี้ สีหน้าห่วงใยนี้ อ้อมแขนที่โอบตัวนางอยู่ตอนนี้จะหายไปมั้ย ท่าทีของคมเขี้ยวจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า ความสุขก่อนหน้านี้จะกลายเป็นเพียงเรื่องฝันมั้ย เรียวจันทร์มองหน้าคมเขี้ยวด้วยความสับสน อีกคนเลิกคิ้วเข้มขึ้นเป็นเชิงถามอีกที


“เรื่องที่บ้านน่ะ” สุดท้ายเรียวจันทร์ก็ยังไม่กล้ามากพอที่จะเสียช่วงเวลาดีๆ ตรงนี้ไป อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่คมเขี้ยวเพิ่งรู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายบ้านตัวเอง ถ้าเกิดนางบอกไป แน่นอนว่าไม่พ้นถูกมองว่าเป็นพวกเดียวกับจอมทัพ ซึ่งก่อนหน้านี้นางก็เป็นจริงๆ เป็นคนที่จอมทัพส่งเข้ามาเพื่อหาทางยึดบ้านคมเขี้ยวไปเป็นของตัวเอง


ขอเวลาอีกนิด ให้ตัวเองได้รวบรวมความกล้ามากกว่านี้แล้วจะบอกให้ได้รู้


คมเขี้ยวถอนหายใจ แม้จะยังไม่รู้รายละเอียดเรื่องที่บ้านเรียวจันทร์ทั้งหมด แต่ถ้าอยู่ในสีหน้าอมทุกข์พร้อมน้ำตาแบบนี้ก็พอจะรู้ว่าเรื่องทางบ้านของเรียวจันทร์มักส่งผลต่อสภาพจิตใจของคุณนายแสนอารมณ์ดีคนนี้จริงๆ


“ถ้าบ้านโน้นเครียด ก็อยู่กับบ้านนี้แหละ ที่นี่เป็นบ้านคุณแล้วนะตอนนี้” ยิ่งพูดแบบนั้นเรียวจันทร์ก็ยิ่งเหมือนโดนบีบรัดที่หัวใจ น้ำตาตั้งท่าจะไหลออกมา แต่ในขณะเดียวกันริมฝีปากก็บิดเบ้เป็นรอยยิ้ม ใบหน้าสวยหวานพยักลงสองสามทีด้วยความรู้สึกดีใจ


“ตำรวจกลับไปแล้วเหรอ” คมเขี้ยวพยักหน้าแล้ววางก้นลงบนพื้นข้างเรียวจันทร์ คนตัวเล็กเอนตัวเข้าไปกอดคนตัวใหญ่ แขนซ้ายของคมเขี้ยวโอบร่างบางไว้เบาๆ


“อาจจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้น คงต้องเจอตำรวจบ่อยๆ ต้องให้ปากคำ แล้วถ้าเกิดสู้กันในชั้นศาลก็จะยิ่งวุ่นวาย…” มือซ้ายยกขึ้นลูบหัวเรียวจันทร์เอื่อยๆ


“…ผมไม่ได้อยากให้ชีวิตวุ่นวายหรอก ผมชอบอยู่อย่างสงบๆ แต่ถ้าจะให้ปล่อยคนที่ทำร้ายบ้าน ทำร้ายครอบครัวตัวเองไปง่ายๆ มันก็คงไม่ดี”


“ไม่หรอก ฉันเข้าใจ นายทำถูกแล้ว” คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ ก้มลงหอมกลางกระหม่อมเรียวจันทร์หนึ่งฟอด


“มีหนูอยู่ด้วยพี่ก็ไม่เครียดอะไรแล้ว” อยู่ใกล้คุณนายแกทีไร เขามักเห็นแต่ด้านสว่าง ด้านอารมณ์ดี เรียวจันทร์ไม่ใช่คนตลกโปกฮาเหมือนตลกคาเฟ่ แต่เป็นคนที่หัวใจเบิกบานแทบทุกเวลา เหมือนคนๆ นี้มองหาแต่ความสุขความสนุกให้ตัวเองและก็เผื่อแผ่มาถึงคนรอบข้างด้วย


เรียวจันทร์ยิ้มอ่อนด้วยความรู้สึกดีและรู้สึกไม่ดีปะปนกันไป หัวใจเต้นช้าเนิบนาบราวกับกำลังอ่อนแรง แต่อีกไม่นานนางจะกลับมาแข็งแรงและบอกทุกอย่างด้วยตัวเอง


“กลับบ้านต้นสนกันดีกว่า” ร่างเล็กผละออกจากตัวคมเขี้ยว พยักหน้าลงหนึ่งทีแล้วยิ้มน้อยๆ คมเขี้ยวดึงมือถือออกจากมือเรียวจันทร์ โยนไว้บนเตียง ฉุดให้ลุกขึ้นยืนแล้วจูงมือออกจากห้องนอนไปพร้อมกัน เรียวจันทร์หันไปมองมือถือแปบหนึ่ง ไม่ใช่ไม่คิดอยากโทรกลับไปคุยกับจอมทัพให้รู้เรื่อง แต่เรื่องมันดำเนินมาถึงตอนนี้แล้ว นางแน่ใจว่าอาจจะคุยรู้เรื่อง แต่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรจริงจังหรอก


เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ที่ต้องทำคือหางจบเรื่องนี้ยังไงดี



เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:


หม่าบู๊ฮายยยย มาต่อแล้ววว

พักเบรกจากงานได้หนึ่งวัน ก็เลยรีบมาอัพไว้ก่อน เพราะเดี๋ยวจะลุยงานยาวๆ อีกแล้ววว วันนี้ว่างหนึ่งวัน นั่งเขียนขุ่นแม่ต่อ และเขียนอีกรเื่องด้วย แต่เรื่องนั้นปั่นไม่ทันอัพ เลยขออัพขุ่นแม่ก่อน

ฉากตอนเช้าไม่หายไปนะคะ 555555 พี่เขี้ยวมีต่อเนื่องแบบไม่แคร์สาระร่างขุ่นแม่เลยจริงๆ หนูวิ่งเต็มบ้านแล้วววว คริๆ

แต่แม่ก็คือแม่ แม่ยังคงสตรอง ไม่พ่ายให้เขี้ยวน้อยง่ายๆ แม่สู้มาก ยอมใจแม่และยอมก้นแม่ค่ะ

ความสุขผ่านพ้นไป ความขุ่นมัวก็คืบคลานเข้ามาาา ขุ่นแม่จะทำยังงายยย รวบรวมความกล้าแล้วบอกมั้ยแม่ พ่อเขี้ยวอาจจะให้อภัยกึ่งหนึ่งก้อด้ายยยย แต่ก็เนาะ เพิ่งเสพสุขไป ใจก็กลัววว

จะยังไงต่อ เดี๋ยวเจอกันนะคะ

ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะสำหรับกำลังใจ สำหรับคอมเม้น ขอบคุณที่รักแม่เรียวจันทร์ในแบบที่นางเป็น  :mew1:

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 11-02-2017 23:39:11
สงสารแม่เรียว :hao5: รีบสารภาพซะเนาะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: dear77 ที่ 11-02-2017 23:40:38
 o13 ค้างคาาาา ไม่อยากคิดถึงตอนความจริงปรากฎเลย สงสารเรียวจันทร์
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-02-2017 23:48:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 12-02-2017 01:19:46
 :mew2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-02-2017 01:39:56
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 12-02-2017 07:03:11
กลัวใจมากแงงง
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 12-02-2017 07:45:05
ย้ายข้างเหอะ ขุ่นเรียว  บับว่าให้แม่ขุ่นเรียวใช้หนี้เองเลย สงสารพี่เขี้ยว ถ้าพี่เขี้ยวรู้ความจริงต้องโกรธมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-02-2017 09:35:23
 :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 12-02-2017 09:37:30
เอาไงดีหล่ะคุณนายเพิ่งจะHappy ก็จิตตกเลยนะ

ปล.ไม่รุทำไมเหมือนหลงเฮียจอมทัพก็ไม่รุ :hao4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 12-02-2017 09:48:23
ต้องรีบบอกพี่เขี้ยวแล้วนะ ไม่งั้นพี่เขี้ยวโกรธยาวแน่ๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 12-02-2017 22:12:50
สงสารขุ่นแม่เรียววววววววว แอบสงสารเสี่ยเบาๆ 5555 ขุ่นแม่ต้องสตรองนะคะ ขุ่นพี่เขี้ยวคงไม่ใจร้ายหรอกมั้งงงงงง :katai4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 14-02-2017 19:23:58
พี่เขี้ยวจอมอึด  :ruready

เริ่มฉายแววดราม่าแน่ๆ แงๆ รีบๆบอกความจริงเถอะ เผื่อพี่เขี้ยวอารมณ์กำลังดี หนูจะได้มีข้อแก้ตัวดีๆหน่อย  :katai1:

เสี่ยทำจริงรึป่าวก้ไม่รู้ แต่เสี่ยอย่าทำให้เค้าแตกแยกกันน้าา  :hao5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งแรก :11.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 18-02-2017 16:35:07
คุณนายรีบบอกเถอะค่าาา อย่าให้พี่เขี้ยวรู้เองเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 20-02-2017 17:47:18



คาถาที่ 24 (ครึ่งหลัง)



เช้าวันถัดมากับบรรยากาศอึมครึมเย็นๆ มีหมอกสีขาวบางเบาลอยเอื่อยอยู่เหนือยอดต้นสน เมฆสีขาวสลับสีครึ้มลอยอย่างเชื่องช้าบนท้องฟ้าสีเทา เม็ดฝนสีใสที่เกาะอยู่ตามกิ่งไม้ใบไม้ใบหญ้าทอประกายเล็กๆ ไอดินกลิ่นไม้ลอยอบอวลอ่อนๆ ให้รู้สึกถึงธรรมชาติและอากาศที่แสนจะบริสุทธิ์ ทำให้หยุดความคิดว้าวุ่นทั้งหลายได้อย่างง่ายดาย


“พี่ไม่ต้องไปส่งหรอก เดี๋ยวหนูขับไปเอง” เรียวจันทร์ใช้ช้อนส้อมจิ้มฮ็อตดอกที่หั่นแล้วจิ้มซอสมะเขือเทศแล้วเอาเข้าปาก


“ฝนตก มันอันตราย” คมเขี้ยวว่าแล้วยัดหมูย่างทรงลูกเต๋าเข้าปาก


“หนูขับได้น่า ใช่ว่าไม่เคยขับฝ่าฝน”


“ไม่เอา พี่เป็นห่วง” คมเขี้ยวว่าหน้าเฉย แต่เป็นเฉยซื่อๆ ตามความรู้สึกที่บอก เรียวจันทร์ยิ้มเขิน แล้วพยักหน้าน้อยๆ เป็นการตอบรับให้พี่เขี้ยวเขาไปส่ง


“แต่พี่ไม่ต้องนอนคอนโดเพื่อนนะ ไปนอนบ้านหนู…” นางนึกถึงหน้าแม่แล้วก็ถอนหายใจแผ่วๆ


“…ถ้าเจอแม่ก็บอกไปเลยว่าเป็นแฟนหนู ถ้าเขาถามซอกแซกเรื่องการเงินทางบ้าน ให้บอกไปเลยว่าเรียวไม่ให้บอก เดี๋ยวเขาจะเลิกสนใจพี่ไปเอง”


“ทำไมอะ แม่กลัวได้ลูกเขยจนเหรอ” เรียวจันทร์เคี้ยวฮ็อตดอกแล้วพยักหน้าเอือม คมเขี้ยวยิ้มขำน้อยๆ แต่ไม่คิดถามต่อ ถึงจะยังไม่รู้รายละเอียดแบบชัดเจน แต่พอเอาสิ่งที่เคยได้ยินจากปากเรียวจันทร์ทั้งแบบตั้งใจหรือไม่ตั้งใจมาปะติดปะต่อกันก็พอจะนึกภาพออกว่าแม่ของเรียวจันทร์ควรจัดอยู่ในหมวดหมู่ไหน


“ป่ะ ฝนกำลังหยุด” เรียวจันทร์คว่ำจานไว้บนตะแกรง หยิบกระเป๋าสะพายข้างใบใหญ่ขึ้นมาคล้องไหล่ซ้ายแล้วเดินออกไปจากบ้านต้นสนพร้อมคมเขี้ยวที่ถือถุงกระดาษสีน้ำตาลสองถุงใหญ่ไว้ในอ้อมแขน ระเบียงไม้ด้านนอกเปียกน้ำแวววาว พื้นดินเฉอะแฉะและมีน้ำขังหย่อมเล็กๆ หลายจุด ยังดีที่เส้นถนนสำหรับใช้เดินมีก้อนกรวดให้เหยียบอยู่บ้างเลยพอหลบขี้ดินไม่ให้ติดร้องเท้าได้นิดหน่อย คมเขี้ยวเดินจูงมือคุณนายมาถึงรถเก๋งแคมรี่สีฟ้าของเจ้าตัวที่จอดไว้ไม่ได้ใช้งานมาสองอาทิตย์แล้ว


“ของครบชัวร์นะ”


“ครบค่า เช็กแล้วเช็กอีก” เมื่อคืนก่อนจะนอน คมเขี้ยวเดินกลับมาบ้านใหญ่มาเอาของใส่กระเป๋าให้แม่คุณนายตามใบสั่งที่เขียนมา แล้วก็ขนกลับไปเก็บไว้ให้ที่บ้านต้นสน เพื่อที่ตอนเช้าจะได้ไม่ต้องรีบ


แม้จะเป็นเวลาหกโมงเช้าที่บรรยากาศยังมืดๆ ครึ้มๆ แต่คนงานของฟาร์มก็ตื่นขึ้นมาทำงานกันอย่างแข็งขันตามปกติแล้ว คมเขี้ยวเอาถุงกระดาษที่หอบมาวางไว้ที่เบาะหลังข้างกับกระเป๋าเรียวจันทร์ ปิดประตูแล้วก็สอดตัวเข้าไปในรถตามร่างเล็กที่เข้าไปนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาสตาร์ทรถแล้วทิ้งไว้สักแปบคมเขี้ยวก็ถอยรถออกไปจากข้างออฟฟิศ


“พี่อยู่ได้ใช่มั้ยถ้าหนูหลับ” เรียวจันทร์ถามในขณะที่เอนเบาะเตรียมตัวนอน


“หลับไปเถอะ จะได้มีแรง” หน้าสวยๆ ค้อนใส่หน้าหล่อๆ ไปหนึ่งที เพราะต้นเหตุดูดพลังงานของนางนั่งอยู่ข้างกันนี่ไง คมเขี้ยวยิ้มขำแล้วโอ๋เอ๋ๆ สักพักแม่ตัวดีก็หลับ ก่อนจะตั้งสมาธิกับการขับรถ


ขับไปได้สักพักฝนก็ตกลงมาแบบปรอยๆ ด้วยความที่ยังเช้าอยู่มาก บวกกับอากาศครึ้มเลยทำให้รถที่สัญจรไปมาต้องเปิดไฟให้ความสว่างด้วย คมเขี้ยวเบาแอร์ลงเพื่อไม่ให้หนาวจนเกินไป เสียงข้อความไลน์เด้งขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเอื้องส่งข้อความมาหาว่าทำอะไรอยู่ ร่างสูงขมวดคิ้วแล้วไม่สนใจข้อความนั้น ปล่อยทิ้งไว้ให้ค้างเหมือนข้อความจากลูกสาวเพื่อนแม่บ้าง สาวที่มีโอกาสเจอกันตามงานเลี้ยงบ้าง รุ่นน้องที่บอกว่าอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับเขาบ้าง ซึ่งสาวๆ พวกนั้นเขาจำได้เลือนรางเท่านั้น ไม่เคยจำใครแม่นเลย และบางคนเขาทิ้งข้อความให้ค้างไว้มาครึ่งปีแล้วก็มี


ก็ไม่รู้จะคุยอะไรด้วย มาเลียบๆ เคียงๆ คุยฉอเลาะหวานๆ นานๆ ทีทักมาแบบเกรงใจและชวนคุยเกือบชั่วโมง บางคนก็ทักมาถี่ๆ เขาตอบบ้างไม่ตอบบ้างแล้วแต่จังหวะและอารมณ์ ไม่เคยคิดว่าตัวเองหล่อระดับชาติ หรือหล่อมหาเสน่ห์ แต่ผู้หญิงเข้าหาเขาก็มีไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้มากจนเหมือนคนเล่นของเหมือนขุนแผน สาวๆ เหล่านั้นแสดงออกคล้ายกันหมดคือค่อยๆ เขยิบเข้าหาเขาทีละนิดๆ แต่สุดท้ายทุกคนก็โดนคุณนายเรียวจันทร์ดริฟแหกโค้งแซงหมด


คิดแล้วก็ขำคนเดียว คุณนายแกไม่เสียเวลาอ้อมค้อม ชอบบอกชอบ อยากได้คืออยากได้แล้วทำเอาเขาให้เอาตัวเองจนได้ หึๆ


เขาตามมารยาล้านเล่มเกวียนของคุณนายแกไม่ค่อยทันหรอก ลูกเล่นแพรวพราวจนบางทีนึกสงสัยว่านั่นจริงหรือหลอก แต่ตอนที่วางยาเขา ตอนนั้นคุณนายแกมีพิรุธให้ชวนสงสัย แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจ จนต้องให้ไอ้ดินช่วยพิสูจน์ แล้วสุดท้ายก็เป็นอย่างที่คิด สงสัยคงเพราะกลัวแผนเพี้ยนเลยออกอาการให้ชวนฉุกคิด หลุดความเนียนที่มักจะทำได้ดีเสมอ


คิดอะไรเพลินๆ พร้อมกับเปิดเพลงคลอเบาๆ มาตลอดทางก็ขับมาถึงมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำสำหรับวันนี้ในเวลาสองชั่วโมง เรียวจันทร์ตื่นตอนถึงช่วงที่กำลังเข้ากรุงเทพฯ แล้วก็นั่งคุยกับคมเขี้ยวมาเรื่อยๆ ร้องเพลงให้ฟังอีกต่างหาก เสียงคุณนายเพราะใช้ได้


“เดี๋ยวพี่ไปอยู่คอนโดเพื่อนก่อน เสร็จแล้วหนูก็โทรหานะ” เรียวจันทร์พยักหน้ายิ้ม ส่งกระจกเช็กความเรียบร้อยบนใบหน้าและทรงผมของตัวเอง ใช้ทิชชูปัดขี้ตาตรงหัวตาออกเบาๆ ครุ่นคิดอยู่แปบหนึ่งก็หยิบน้ำแร่ออกมาฉีดไปทั่วใบหน้าให้รู้สึกสดชื่น หยิบทิชชูขึ้นมาซับจนหน้าแห้ง


“คอนโดเพื่อนพี่อยู่ไหน”


“แถวลาดพร้าว” เรียวจันทร์เม้มปาก ทำหน้าครุ่นคิดนิดหนึ่ง ลดกระจกลงแล้วเพ่งมองไปในกองที่มีทีมงานเดินไปเดินมา ก่อนจะหันกลับมาหาคมเขี้ยว


“พี่อยู่กับหนูที่กองมั้ย…” เรียวจันทร์มองหน้าพี่เขี้ยวของนางด้วยท่าทีไม่มั่นใจ อยากชวนตั้งนานแล้วแหละ แต่ก็กลัวอีกฝ่ายจะเบื่อ เพราะเอาเข้าจริงก็อยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย


“…กลัวเบื่อ แต่ก็ไม่อยากให้ห่างอะ” ตาใสดั่งกวางน้อยกะพริบอ้อน คมเขี้ยวยกยิ้มมุมปาก


“เอางี้ เดี๋ยวกลับมาหา ขอเอาของไปให้เพื่อนก่อนแล้วกัน” เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกๆ ยื่นหน้าไปจุ๊บปากคมเขี้ยวหนึ่งที หันตัวไปเปิดประตูรถแล้วก้าวขาออกไป พอยืนบนพื้นเต็มความสูงก็ก้มลงโบกมือบ๊ายบายให้แฟนหนุ่มก่อนจะปิดประตูรถและเดินหลังตรง ก้าวขาสับๆ เข้ากองถ่าย


เรียวจันทร์เดินเข้าไปด้านในก็ยกมือสวัสดีพวกทีมงานตามความคุ้นเคย ไล่ตั้งแต่ช่างไฟ ช่างกล้อง ทีมสวัสดิการที่นางเอ่ยปากขอผลไม้แต่เช้า เดินเข้าไปในห้องแต่งตัวก็เจอกับช่างแต่งหน้าสาวรุ่นใหญ่หนึ่งคน สาววัยรุ่นหนึ่งคนหนึ่ง และเก้งสาวอีกหนึ่งคน มีสไตล์ลิสต์สาวเทียมรุ่นแม่หนึ่งคนและลูกทีมสาววัยรุ่นอีกสองคน


“สวัสดีค่าลูกสาว” ช่างแต่งหน้าสาวใหญ่นำทีมเอ่ยทักทายเรียวจันทร์ คุณนายยิ้มแย้มสดใส เอากระเป๋าไปวางไว้บนโต๊ะ


“หน้าตาดูผ่องใสขึ้นนะคะ”


“หนูอาจจะสวยขึ้นไงคะคุณแม่” แล้วทั้งห้องก็เราะคิกคักกับมุกตลกของเรียวจันทร์ ร่างบางนั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจกบานใหญ่ แล้วปล่อยให้ช่างแต่งหน้าจัดการลงรองพื้นให้บางๆ ปัดแก้มอมชมพูสุขภาพดีนิดหน่อย ทาลิปเพิ่มความชุ่มชื้นที่ปากแล้วจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ช่างผม


ในระหว่างที่นั่งทำผมอยู่ นักแสดงชายที่รับบทพระเอกอีกคน แต่บทก็แอบด้อยกว่าพระเอกคนแรกนิดหน่อย ถ้าให้เรียกพระรองก็คงจะไม่ใช่ เพราะหนังเป็นแนวรักสามเส้า ชะนีฟินอยู่คนเดียว เลยต้องมีพระเอกสองคน แต่อีกคนก็ห้าบาทสิบบาท จะว่าเด่นก็ไม่เด่นมาก และจะว่าแสดงดีก็ยิ่งไม่เต็มปาก เพราะแค่การได้เข้ามาเล่นหนังเรื่องนี้ก็เพราะบารมีคุณแม่ของเจ้าตัวที่ฝากฝังลูกชายมากับทางค่ายหนัง


“น้องชายน์จะแต่งหน้าเลยมั้ยจะ…”


“…เดี๋ยวชายน์แต่งเองครับ ไม่เป็นไร” ช่างแต่งหน้าเก้งสาวชะงักกึกกับการตัดบทด้วยคำพูดเรียบๆ และยกยิ้มเพียงนิดหนึ่งของคุณหนูชายน์ อยากจะเบ้ปากแต่ก็ทำได้เพียงยิ้มแหะๆ ให้ในกระจก


แต่คุณหนูรึจะสู้คุณนาย ริมฝีปากสีชมพูสดบิดเบ้ด้วยความหมั่นไส้อย่างไม่มีปิดบัง จนช่างแต่งหน้าทั้งสามแอบหัวเราะคิก ชายหนุ่มเจ้าสำอาง รูปร่างไม่อ้อนแอ้นแต่ก็ไม่ถึงกับล่ำสันใหญ่โตชักสีหน้าใส่เรียวจันทร์นิดหน่อยผ่านกระจก แต่เรียวจันทร์ก็ทำหน้ามึนไม่รู้สึกรู้สาอะไรจนกระทั่งช่างทำผมจัดการตัวนางเสร็จ


“เป๊ะปังค่ะ เปลี่ยนชุดได้เลยนะคะคุณน้อง” เรียวจันทร์พยักหน้า เดินตัวปลิวไปตรงโซนเสื้อผ้า หยิบชุดที่สไตล์ลิสต์ยื่นให้แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ จัดการแปลงโฉมตัวเองให้กลายเป็นนักศึกษาหนุ่ม พอเดินออกมาข้างนอกก็เห็นพ่อพระรองคนนั้นกำลังนั่งละเลงหน้าตัวเองด้วยแปรงเกลี่ยรองพื้นอย่างชำนาญ ก็ไม่อยากจะใส่ความคนที่ไม่ค่อยสนิทด้วย แต่พ่อยอดชาย (น์) น่ะมีเค้าลางความเป็นเพื่อนสาว นางรู้สึกตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่เจอกันแล้ว และดูท่าจะเป็นสาวแสบด้วย


เรียวจันทร์จัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็ออกมากินผลไม้ที่ทางสวัสดิการเตรียมไว้ให้ เป็นมะม่วงจิ้มพริกเกลือแซ่บๆ นางยืนกินดังกรุบๆ อยู่คนเดียวด้วยความเอร็ดอร่อย หันไปทักทายพระเอกของเรื่องที่เพิ่งมาถึง ชวนกินพอเป็นพิธี ฝ่ายนั้นส่ายหน้าแล้วเดินเข้าไปทางห้องแต่งตัว


“เรียว” คุณนายเกือบจะสำลักมะม่วงตายเมื่อได้ยินเสียงเคยคุ้นแต่ช่วงนี้ไม่อยากได้ยิน และไม่อยากเข้าใกล้เจ้าของเสียง


“มาทำไมเนี่ย?!” เรียวจันทร์แหวใส่ยอร์ชที่ยืนยิ้มกว้างพร้อมกับช่อกุหลาบแดงหนึ่งดอกโตๆ ที่จัดมาอย่างน่ารัก แต่มันหมดความน่ารักเพราะคนถือนี่แหละ


“ถามแปลกๆ มาหาเรียวสิ”


“แล้วจะมาหาฉันทำไม ไม่มีงานทำเหรอ แล้วรู้คิวฉันได้ยังไงเนี่ย?!” นางถามรัวๆ ด้วยความอารมณ์เสีย หงุดหงิดที่เห็นหน้าอีกฝ่ายที่นี่ มันอาจดูเกินเหตุ เกินความจำเป็นที่แสดงออกแบบนี้ แต่นางรำคาญของนางจริงๆ


ก็คนมันหมดความรู้สึก หมดเยื่อไยไปแล้ว แถมยังรู้จุดประสงค์การเข้าหาของอีกฝ่ายด้วย ใครมันจะไม่รำคาญ
   

“มีครับ แต่ผมอยากมาหาเรียว” เจ้าของชื่อถอนหายใจ ยัดมะม่วงที่ถืออยู่ในมือเข้าปาก ดึงมือใหญ่ของยอร์ชให้เดินออกไปด้านนอกด้วยกัน พอเห็นว่าไหลจากกองถ่ายมากแล้วก็เปิดปากพูด
   

“ฉันจะพูดตรงๆ นะ ซึ่งฉันคิดว่าแสดงออกอาจจะไม่มากพอ…” ยอร์ชยืนนิ่งรอฟังอีกฝ่ายพูด เรียวจันทร์ยกแขนกอดอกแล้วพูดอย่างเอือมระอา
   

“…ฉันรำคาญนายโว้ย! ไปไหนก็ไปเถอะ ชอบนักรึไงอะที่มาให้ฉันด่าถึงที่ ฉันไม่รีเทิร์น ฉันไม่รักนายแล้ว เก็ทมั้ย” เรียวจันทร์ไม่ได้ตะโกนใส่หน้าร่างหนา แต่ก็พูดด้วยเสียงดังฟังชัดทุกคำ
   

“เรียวจะไม่ให้โอกาสยอร์ชจริงๆ เหรอ” โยธินถามหน้าเศร้าเสียงหงอย เรียวจันทร์อยากจะอ้วกกับแอคติ้งเห่ยๆ นี่เหลือเกิน
   

“ไม่ให้ ไม่มี เพราะฉันมีแฟนใหม่แล้ว!” ยอร์ชขมวดคิ้วเป็นปม
   

“ใคร แฟนใหม่เรียวเป็นใคร”
   

“ทำไมฉันต้องบอกด้วยว่าเขาเป็นใคร” เรียวจันทร์ถามอย่างเอาเรื่อง ยอร์ชชักสีหน้าไม่พอใจนิดหน่อย

   
“ยอร์ชไม่เชื่อ เรียวแค่เอาใครมาอ้างว่าเป็นแฟนเพื่อกันยอร์ช”
   

“โอ๊ย! ก็รู้ตัวหนิว่าฉันพยายามกันนายออกไป แล้วทำไมยังมาวุ่นวายกับฉันอีก!” ยอร์ชมองใบหน้าสวยด้วยสายตาเว้าวอน ยื่นมือขวามาจะจับมือแต่คุณนายชักมือหนีและนิ่วหน้าใส่
   

“เรียว ให้โอกาสยอร์ชนะ เริ่มใหม่กันเถอะ” เรียวจันทร์รู้สึกอึดอัดใจและก็แสดงออกมาทางสีหน้า
   

“ยอร์ช ฉันไม่ได้อยากทำตัวสวยเลือกได้นักนะ เพราะฉันเลือกคนอื่นไปแล้ว นายจะมาให้ฉันด่าทำไมเนี่ย โรคจิตเหรอ?!”
   

“เปล่า ก็ยอร์ชอยากคืนดีกับเรียวจริงๆ” อาการอยากเงินมันทำให้คนลดศักดิ์ศรีได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ
   

“งั้นบอกฉันหน่อยว่าอะไรที่ทำให้นายอยากจะคืนดีกับฉันเหลือเกิน” แม้จะรู้อยู่บ้างแต่ก็อยากจะรู้ว่าถ้าถามจากเจ้าตัวตรงๆ จะพูดว่ายังไง
   

โยธินอึกอักไปนิดหนึ่งแต่ก็เนียนตอบอย่างว่องไว “เพราะยอร์ชรู้ตัวแล้วว่ารักใคร”
   

เรียวจันทร์เบ้ปากับการตอแหลคำโตของอดีตแฟนหนุ่ม “นายรู้ตัวว่ารักฉัน หรือว่านายเพิ่งรู้ว่าฉันเป็นลูกใคร”
   

คราวนี้ตี๋ร่างหนาตาตื่นหน้าชะงักตึงเหมือนโดนโบท็อกซ์เข้าไปหนึ่งเข็ม เรียวจันทร์ยิ้มริมฝีปากบางเฉียบ เดินเข้าไปตบบ่าหนาด้านขวาเบาๆ
   

“คิดจะตกถังข้าวสารเหรอ…” ยอร์ชอ้าปากจะพูด แต่เรียวจันทร์ยกมือเบรกไว้ก่อน
   

“…ฉันไม่ได้จะดูถูก ฉันกำลังจะบอกว่านายกำลังดูผิด ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับทางนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว”
   

“มันไม่ใช่แบบนั้นนะเรียว อย่าเข้าใจผิดคิดไปเองแบบนั้นสิ” เรียวจันทร์ขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืด เลยได้แต่ถอนหายใจด้วยความหน่าย
   

“เอาเถอะ ฉันจะเข้าใจผิดคิดไปยังไง ไม่สำคัญที่ว่านายควรเลิกคิดจะกลับมาหาฉันได้แล้ว…” เรียวจันทร์ยกมือเกาหัวเบาๆ เพราะมองจากสีหน้าอีกฝ่ายแล้วก็คงกำลังดื้ออยู่นั่นแหละ
   

“…เอางี้ ถ้าวันนี้ตัดสินใจจะว่างแล้ว นายก็อยู่รอเจอแฟนฉันด้วยแล้วกัน” แต่จริงๆ เรียวจันทร์ก็คิดนะว่ายอร์ชมันหน้าด้านหน้าทนมาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าเจอคมเขี้ยวคงหาว่านางเอาผู้ชายสักคนมาปลอมแปลงเป็นแฟนเพื่อเป็นไม้กันหมา


   
   ถ่ายทำกันไปได้เกินครึ่งวัน เลยเวลาพักเที่ยงมาเกือบสองชั่วโมง ผู้กำกับก็สั่งพักกองให้ทุกคนกินข้าว เรียวจันทร์กำลังจะเดินออกจากสตูดิโอที่ใช้เป็นที่ถ่ายทำ แต่คุณหนูชายน์ก็เดินเบียดออกไปก่อนพร้อมกับทิ้งสายตาเหลือบมองไว้ให้ด้วย แต่เรียวจันทร์ยังไม่คิดตบเก้งด้วยกันเอง นางเลยกระเถิบหนีให้อีกฝ่ายเดินออกไปก่อนแล้วค่อยเดินตามไปพร้อมกับพระเอกของเรื่องที่เดินตามมาด้านหลัง
   

“ประกาศศึกชัดเจนเลยป่ะเนี่ยเรียว” พระเอกของเรื่องเอ่ยถามอย่างขำๆ เพราะสองคนนี้ชอบมึนตึงใส่กันมาตั้งแต่วันแรกๆ ที่เข้ากองแล้ว ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจุดเริ่มต้นมันมาจากตรงไหน แต่เห็นพวกพี่ๆ ช่างแต่งหน้ากับเสื้อผ้าเม้าท์ว่าน่าจะเพราะสองคนนี้มาแนวเดียวกัน คือควีนชนควีนแค่ควีนคนละแบบ
   

“โอ๊ย ไม่ว่างมีเรื่องด้วยหรอกค่ะ” เรียวจันทร์ว่าประชดและย่นจมูกเหมือนเหม็นขยะ ชายหนุ่มข้างๆ หัวเราะน้อยๆ
   

“ว้ายยย ใครน่ะ หล่อแท้ล่ะพ่อคุณเอ๊ย!” เสียงวี้ดว้ายของสาวแท้สาวเทียมดังขึ้นตรงบริเวณที่กินข้าว เรียวจันทร์หันไปมองตามสายตาของสาวๆ กลุ่มนั้นก็เจอกับร่างสูงที่สูงแบบสูงชะลูดของคมเขี้ยวยืนเอาแขนค้ำไว้บนหลังคารถฝั่งคนขับ อีกมือก็กำลังถือโทรศัพท์ไว้แนบหู แต่พอมองเห็นเรียวจันทร์เขาก็กดวางสาย ปิดประตูรถ กดล็อครถแล้วก็เดินข้ามถนนมาฝั่งกองถ่าย เรียวจันทร์เดินยิ้มเข้าไปรับคมเขี้ยวท่ามกลางความวี้ดว้าย
   

“กินข้าวมายัง” คมเขี้ยวพยักหน้าสองสามที
   

“กินกับเพื่อนมาแล้ว”
   

“มีข่าวดีจะบอก เหลืออีกสามคิวหนูก็เสร็จแล้ว พรุ่งนี้มาถ่ายอีกสี่คิวตอนเช้า แล้วก็กลับบ้านได้เลย” เรียวจันทร์บอกด้วยความดีใจในขณะที่พาคมเขี้ยวเดินไปนั่งที่โต๊ะตั้งอาหาร
   

“ป้าค้า เดี๋ยวเรียวขอตักแยกไปกินเองที่ห้องแต่งตัวนะ”
   

“ได้จ้า” คุณป้าบอกให้เรียวจันทร์ไปนั่งรอได้เลย เดี๋ยวจะยกไปให้ คุณนายยกมือไหว้ขอบคุณและพาคมเขี้ยวเดินไปทางห้องแต่งตัว เหล่าสาวแท้สาวเทียมที่ออกอาการชื่นชมคมเขี้ยวเมื่อครู่นี้ถามไถ่กันใหญ่ว่าเขาเป็นใครหนอ เขามาจากไหน เรียวจันทร์ทำเพียงอมยิ้มตอบทุกคนกลับไป
   

“อ้าว นกจ้ะ นก แม่เสือดาวคาบไปกินแล้ววว” คมเขี้ยวยิ้มขำ เพราะเข้าใจคำศัพท์นั้นจากเรียวจันทร์ก่อนหน้านี้ เขาหันไปเห็นชายหนุ่มตัวหนากล้ามล่ำคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงรถบริเวณหน้าจอมอนิเตอร์ คมเขี้ยวย่นคิ้วแล้วเค้นความทรงจำ ก็จำได้ว่าผู้ชายคนนั้นคือแฟนเก่าเรียวจันทร์ แต่คุณนายไม่สนใจอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิด เดินเมินผ่านไปราวกับฝ่ายนั้นไร้ตัวตน
   

“เมื่อกี้โทรไปเช็กที่บ้านมา แม่หนูอยู่นะ” พูดเสร็จก็กลอกตามองบนแปบหนึ่ง คมเขี้ยวกระตุกยิ้ม เอนตัวลงนั่งบนโซฟาสีเทา
   

“เจอก็เจอ ไม่เห็นเป็นไรเลย” เรียวจันทร์พยักหน้าอย่างจำยอม เพราะถึงยังไงก็คงไล่แม่ออกไปจากบ้านไม่ได้ ก็แค่นึกอยากให้แม่ออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงขึ้นมากะทันหันเท่านั้นเอง
   

“ข้าวมาแล้วค่า” ลูกมือของแม่ครัวของกองถ่ายยกอาหารมาให้เรียวจันทร์ในห้องแต่งตัว วางไว้บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาที่นั่งอยู่กับคมเขี้ยว
   

“ขอบคุณนะค้า” เรียวจันทร์ยิ้ม สายตาเลื่อนไปมองร่างสูงเพรียวของคุณหนูชายน์ที่เดินเข้ามาในห้องแล้วหันหน้ามามองทางนาง ตอนแรกเรียวจันทร์คิดว่าอีกฝ่ายมองตัวเอง แต่พอมองดีๆ ก็เห็นว่าพ่อคุณหนูกำลังมองคมเขี้ยวด้วยความสนใจอยู่ต่างหาก แม้จะแกล้งทำเป็นมองแว้บๆ แต่นางก็จับสังเกตได้
   

หึ เรดาร์พี่ปาน ธนพรฉันดีย่ะ!
   

แน่ะๆ ยังแอบชำเลืองมองมานะนังคุณหนู เดี๋ยวแม่เอาเพดดีกรีมาเสิร์ฟซะหรอก โชคดีนะที่ตาพี่เขี้ยวไม่ใช่คนเล่นหูเล่นตากับใคร พี่แกนั่งอ่านงานในไอแพดที่พกมาด้วยอยู่


จากที่อยู่ด้วยกันมาสามสี่เดือน เรียวจันทร์รู้ดีว่าคมเขี้ยวไม่ใช่คนเจ้าชู้ เป็นคนเฉยเมยกับเรื่องความรักด้วยซ้ำ ถ้านางไม่ออกตัวแรงเข้าหา เชื่อว่าคงนกบินว่อนอยู่ยอดเขาที่ฟาร์มนั่นแหละ แม้ช่วงเวลาเดือนมันจะน้อย แต่ในทุกๆ วันที่ใช้เวลาร่วมกันเกือบนี่สิบสี่ชั่วโมงมันก็มากพออยู่เหมือนกัน


คุณนายนางมั่นใจในตัวคมเขี้ยว แต่ถ้ามีใครคิดอยากโดนฝังเขี้ยวแทนนางล่ะก็ นางก็พร้อมกางเล็บตะปบเขี้ยวคนนั้นหลุดเช่นกัน!





 :hao7:

มาต่อแล้ววว วิ้ดวิ้ววว

ครึ่งแรกสีเทา ครึ่งหลังขุ่นแม่แผงอิทฤทธิ์หวงผัวชัดมากค่ะ 55555 ผัวข้าใครอย่าแตะ ถ้าแตะมึงโดนนนน!

เชื่อว่ามีคนหงุดหงิดที่ขุ่นแม่ไม่ยอมพูดความจริงสักที 55555 แม่เกิดป๊อดขึ้นมาซะงั้น แต่ไฟนอลลี่แล้วแม่ต้องพูดค่ะ แต่จะพูดยังไงนี่สิ

คือเรื่องนี้ไม่มีปมซับซ้อนอะไรมาก เน้นขายความผีบ้าของแม่เรียวจันทร์ 55555

เม้าท์น้อยมาก เพราะเบลอจากงาน เพิ่งได้พักเบรก น่าจะได้เบรกยาวอยู่ค่ะช่วงนี้ มีเวลามาจมปลักกับนิยายอีกพักกกกใหญ่เลยยยย

ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะสำหรับกำลังใจ สำหรับคอมเม้น ขอบคุณที่รักแม่เรียวจันทร์ในแบบที่นางเป็น
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 20-02-2017 18:57:17
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: RELAXED ที่ 20-02-2017 20:04:44
เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 20-02-2017 20:53:06
ขุ่นแม่ช่างแซ่บเหลือเกินนน เชียร์ขาดใจเลย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-02-2017 21:05:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 20-02-2017 21:08:16
ขุ่นแม่นางแซ่บค่าาาาาา คุณหนูคุณนกที่ไหนก็ต้องนก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 20-02-2017 22:34:30
พี่เขียวน่ารักก็ตรงนี้ รักใครรักจริงไม่มีวอกแวก
รึเพราะคุณนายนางเสน่ห์แรง ทำพี่เขี้ยวหลงจนโงหัวไม่ขึ้นกันแน่ อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-02-2017 00:54:36
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 21-02-2017 06:45:22
รอๆๆๆค่า
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-02-2017 18:50:41
คมเขี้ยว เรียวจันทร์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ยอร์จ จะตามตื๊อไปถึงไหน
เงิน เรียวก็ไม่มี แฟนใหม่ก็มีแล้ว
ชายน์ ถึงสนใจเขี้ยว ก็คงนก
เพระเขี้ยวไม่ฝักใฝ่ด้านนี้ นอกจากเรียวเท่านั้น
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 24-02-2017 09:25:25
 :really2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 28-02-2017 09:27:54
แม่นางแซ่บจริงค้าาาา

ยอมเลย

ชอบๆ ทำไมพึ่งมาเจออะไรตอนนี้
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๔/ครึ่งหลัง :20.02.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 28-02-2017 12:54:38
บางทีก็อยากให้เรื่องนี้ 4p เลยไหมคะ

จะได้สมกับความแซ่บของแม่
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 04-03-2017 13:07:01


คาถาที่ 25 :: The truth. (ความจริง) [ครึ่งแรก]




   “หลังสีขาวสลับเทา… นั่นไง น้องแก๊ปมายืนรอแล้ว” เรียวจันทร์ยกนิ้วชี้เด็กหนุ่มตัวสูงเทียบเท่ากับนางเห็นจะได้ที่ยืนรออยู่หน้ารั้วบ้าน พอเห็นรถสีฟ้าอ่อนคุ้นตาของคุณชายเรียว เด็กหนุ่มก็ยิ้มและยกมือโบกต้อนรับ คมเขี้ยวตีไฟเลี้ยวเข้าไปจอดในโรงรถของบ้านโดยมีเด็กหนุ่มคอยให้สัญญาณ พอรถจอดเข้าที่ก็ดับเครื่อง ไฟหน้ารถดับลง เรียวจันทร์เปิดประตูลงรถไปด้านล่าง
   

“พี่เรียวสวัสดีครับ” เด็กหนุ่มผิวขาว หน้าตาไม่ขี้ริ้วขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้หล่อเท่จนป๊อปปูล่าเอ่ยทักเรียวจันทร์พร้อมกับยกมือไหว้ และหันไปไหว้คมเขี้ยวที่เปิดประตูตามมาทีหลัง คนเป็นรุ่นพี่ยกมือรับไหว้พร้อมยิ้มน้อยๆ
   

“อันนี้น้องแก๊ป หลานป้าอุ่นกับลุงอ๊อด…” เรียวจันทร์หันไปบอกคมเขี้ยว แก๊ปยกมือไหว้คนตัวสูงชะลูดอีกที
   

“…อันนั้นพี่คมเขี้ยวจ้ะ”
   

“แฟนพี่เรียวเหรอ” คนถูกถามเม้มปากเขินเบาๆ ใบหน้าขาวผ่องขึ้นริ้วรอยสีแดงจางๆ ไม่ตอบรับแต่ก็พยักหน้านิดๆ หน่อยๆ พอ
   

“เป็นไง เตรียมตัวสอบไปถึงไหนละ” เรียวจันทร์ถามพลางเดินไปจูงมือคมเขี้ยวให้เดินตามเข้าประตูบ้านที่เปิดไว้รออยู่แล้ว
   

“ก็ดีครับ แก๊ปเหลือสอบวิชาความถนัดด้านวิศวะฯ ถ้าได้คะแนนดีก็มีสิทธิ์ลุ้นครับพี่เรียว”
   

“เออดีๆ เอาให้ได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็อย่างที่พี่บอกป้าไป เอกชนก็เรียนไปเถอะ” เด็กหนุ่มยิ้มแล้วยกมือไหว้ขอบคุณกับความใจดีของเรียวจันทร์อีกที คมเขี้ยวมองสองคนคุยกันด้วยความงงนิดหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับไม่เข้าใจ แค่สงสัยว่าเรียวจันทร์เป็นคนส่งเด็กคนนี้เรียนด้วยรึเปล่า
   

“คุณหนู” หญิงชราร่างท้วมแต่ท่าทางแข็งแรงเดินเข้ามาหาร่างบางพร้อมรอยยิ้ม เรียวจันทร์ปล่อยมือออกจากมือคมเขี้ยวแล้วเดินเข้าไปกอดป้าอุ่นเต็มวงแขน
   

“คิดถึงจังเลยค่ะ”
   

“เรียวก็คิดถึงป้าค่า” เรียวจันทร์หอมแก้มป้าอุ่นไปหนึ่งที
   

“คิดถึงแต่ก็ไม่ค่อยกลับบ้านเลยนะคะ…” ป้าอุ่นแกล้งมองดุ คุณหนูเรียวยิ้มประจบ หญิงสูงวัยเลื่อนสายตาไปมองผู้ชายหน้าตาหล่อตัวสูงที่ยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มอบอุ่นน้อยๆ ให้หล่อน แม่นมของเรียวจันทร์ยกมือรับไหว้และทำหน้าเข้าใจ
   

“…ไม่กลับบ้านเพราะคุณรูปหล่อคนนี้นี่เอง” คมเขี้ยวหัวเราะเบาๆ คุณหนูของป้าอุ่นอมยิ้มขวยเขิน
   

“แหม ป้าอุ่นก็ เรียวไปทำงานด้วย คุณคมเขี้ยวเขาเป็นเจ้านายเรียวนี่นา”
   

“ตอนนี้ไม่ใช่แค่เจ้านายแล้วมั้งคะเนี่ย” เรียวจันทร์ยิ่งยิ้มเขินมากกว่าเดิม คมเขี้ยวมองท่าทางบิดซ้ายบิดขวาน้อยๆ ของเรียวจันทร์แล้วนึกขำ เพราะไม่ได้เห็นท่าทีแบบนี้บ่อยๆ นักหรอก สองป้าหลานเองก็ร่วมขำด้วยเบาๆ
   

“ลุงอ๊อดล่ะ”
   

“ทำสวนอยู่ค่ะ คุณผู้หญิงแกสั่งให้เอาดอกกุหลาบมาลงเพิ่ม” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ แต่ก็ทำเพียงไหวไหล่ขวาหนึ่งที
   

“แล้วคนสั่งอยู่ไหนคะป้า” ที่ถามนี่ไม่ได้อยากเจอ แต่นางกำลังภาวนาว่าขอให้ออกไปข้างนอกกะทันหัน ขอให้มีขาไพ่ที่ไหนก็ได้โทรตามคุณหญิงโรสิตาออกไปร่วมวงด้วยที
   

“ข้างบนค่ะ” คุณนายจือปากแว้บหนึ่งแล้วพยักหน้าเบาๆ หันไปมองคมเขี้ยวที่กำลังมองไปรอบบ้าน
   

“งั้นเดี๋ยวเรียวพาคุณเขี้ยวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ เดี๋ยวลงมากินข้าว” ป้าอุ่นพยักหน้า หันไปเรียกหลานชายให้มาช่วยกันจัดเตรียมอาหารค่ำ


เรียวจันทร์ควงแขนคมเขี้ยว พาเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองของบ้าน ยังไม่ทันก้าวพ้นหมดขั้นบันได ก็เจอกับโรสิตาในชุดอยู่บ้านที่เป็นแบรนเนมทั้งตัว ราวกับจะไปออกงานข้างนอก ชั่ววูบหนึ่งเรียวจันทร์รู้สึกแปลกประหลาดกับผู้หญิงคนนี้ เพราะไม่ได้เจอกันนานจนนึกว่าความสัมพันธ์ขาดหายไปแล้ว ล่าสุดที่คุยกันก็จบลงด้วยการที่เรียวจันทร์ไม่ยอมใช้หนี้ก้อนใหม่ให้
   

“ฉันนึกว่าแกสิ้นชีวิตไปแล้วซะอีก…” เรียวจันทร์กลอกตา หน้าตาเบื่อหน่าย หันไปมองคมเขี้ยวที่ยืนทำหน้าอึ้งนิดหนึ่งกับคำทักทายเมื่อครู่
   

โรสิตาย่นคิ้ว หรี่ตามองหน้าคมเขี้ยวด้วยความไม่ไว้ใจ “…แล้วนั่นใคร”
   

“แฟนเรียว” คนเป็นลูกตอบทื่อๆ สั้นๆ ท่าทางก็กระด้างกระด้างเล็กน้อย และไม่ขยายใจความอะไรมากไปกว่าที่ตอบไป เพราะแค่นั้นก็น่าจะตรงกับคำถาที่สุดแล้ว


 โรสิตายิ้มขำ แต่เป็นรอยยิ้มขำเยาะๆ หล่อนยกสองแขนกอดอก มองหน้าเรียวจันทร์ด้วยสายตาเหมือนกำลังเห็นของตลกขบขัน แล้วก็หันไปมองคมเขี้ยวตั้งแต่หัวจรดเท้า เรียวจันทร์ชักสีหน้าไม่พอใจ ดวงตากวางน้อยแข็งกร้าวทีละนิด    “จะเป็นแฟนกันได้นานเท่าไหร่ล่ะกับคนเนี้ย”


เรียวจันทร์หน้าตึง ใบหน้าฉาบด้วยอาการชาและอาการโกรธ “นี่คุณแม่ แค่คำทักทายก็ไม่มีมารยาทมากพอละ ยังตอกย้ำด้วยคำพูดทุเรศๆ อีกเหรอ”


โรสิตามองเรียวจันทร์เขม็ง แต่ก็แค่ครู่เดียวแล้วก็เปลี่ยนเป็นทำลอยหน้าลอยตา “ก็แค่ถาม เห็นแกมีแฟนเยอะแยะไปหมด”
   

“เห็นหรือเดาเอาให้ชัวร์ แม่ควรไปทำงานเป็นนักข่าวบันเทิงนะ เพราะเต้าข่าวเก่งดี” คมเขี้ยวตาโตขึ้นนิดหนึ่งกับการเถียงแม่ของเรียวจันทร์ที่ไม่ใช่การเถียงแบบล้อเล่น อำเล่น แต่เป็นการเถียงกันจริงจัง จนแอบนึกว่านี่แม่ลูกกันจริงๆ หรือเปล่า ถ้าบอกว่าเรียวจันทร์ได้ความสวยมากจากแม่ก็ไม่แปลกใจ แต่นิสัยอาจทำให้กังขาเรื่องสายเลือดมากทีเดียว
   

โรสิตาสะบัดแขนสองข้างออก ถลึงตามองหน้าลูกชายตัวเอง “นังเรียว!”
   

เรียวจันทร์พ่นลมหายใจแบบแรงๆ กะเสียภาพลักษณ์ให้ขี้มูกกระเด็นไปติดหน้าแม่ตัวเองสักทีแต่ก็ไม่มีอะไรหลุดออกมา นางหันไปดึงคมเขี้ยวที่กำลังยืนตะลึงเบาๆ กับการเถียง ลให้เดินขึ้นบันไดอีกสองขั้นที่เหลือ ก้าวเท้าเดินต่อไปโดยไม่หันไปสนใจอาการกระฟัดกระเฟียดของโรสิตา
   

“เดี๋ยวก่อน!” เรียวจันทร์ทำหน้าเซ็ง หันไปมองแม่ตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์ เอียงหน้ามองอย่างต้องการจะสื่อว่ามีอะไรอีก
   

“พ่อแกจะมากินข้าวที่บ้านด้วย” คิ้วสวยขมวดมุ่น คมเขี้ยวเองก็เผลอย่นคิ้วตามไปด้วย
   

“พ่อไหน?” ใบหน้าสวยเฉี่ยวของโรสิตาแสดงอาการหงุดหงิดออกมาให้เห็น แต่เรียวจันทร์ปัดทิ้งไม่สนใจ คนที่สนใจคือคมเขี้ยวที่กำลังพยายามทำความเข้าใจความสัมพันธ์ของสองแม่ลูกคู่นี้อยู่
   

“ก็พ่อแท้ๆ ของแกไง คิดว่าเป็นไอ้อาทิตย์เหรอ ถ้ามาก็มาแต่วิญญาณนั่นแหละ” เรียวจันทร์ค่อยๆ นิ่ง หน้านิ่ง แววตานิ่ง ร่างกายเย็นวาบ แล้วดวงตาสุกใสก็วาวด้วยความโกรธ
   

“อย่า ลาม ปาม พ่อ เรียว” นางพูดช้าๆ ชัดๆ ทีละคำ และเน้นอย่างหนักแน่นพร้อมกับส่งสายตาขู่สื่ออารมณ์ไม่พอใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้ และดูท่าโรสิตาจะรับรู้ได้เพราะหล่อนก็แอบผงะไปนิดหนึ่งเหมือนกัน หล่อนเลยคุมอารมณ์ให้เบาลงกว่าที่กำลังแสดงอยู่
   

“เขาจะมากินข้าวด้วย เขาอยากเจอแก” ด้วยความที่กำลังโกรธจัด เรียวจันทร์เลยไม่คิดจะถามหาเหตุผลว่าคนๆ นั้นจะมาที่นี่ทำไม นางทิ้งสายตาเฉี่ยวคมไว้กับแม่ก่อนจะหมุนตัวและเดินจูงมือคมเขี้ยวเข้าห้องนอนตัวเอง ปิดประตูไล่หลังดังปัง
   

คมเขี้ยวยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ครู่ใหญ่เมื่อเข้ามาในห้องนอนของเรียวจันทร์ที่กำลังยืนสงบสติอารมณ์ตัวเอง มองซ้ายมองขวาหาสสวิตช์ไฟ กดเปิดให้ความสว่างในห้อง หยิบรีโมตสีขาวอันเล็กที่เสียบอยู่ใกล้กับประตูขึ้นมากดเปิดเครื่องปรับอากาศให้ทำงาน เขามองเรียวจันทร์สักพัก เสียบรีโมตแอร์ไว้ที่เดิม เดินเข้าไปกอดร่างบางจากทางด้านหลัง ก้มลงหอมแก้มซ้ายแผ่วเบา
   

“หนู…” เรียวจันทร์หลับตาลง ผ่อนลมหายใจออกทางจมูกยาวๆ ช้าๆ เป็นการระบายความร้อนระอุข้างในของตัวเองออกไป
   

“ขอโทษนะ ถ้าหนูให้พี่ไปนอนคอนโดเพื่อนแต่แรกก็คงไม่เจออะไรแบบนี้”
   

“ไม่เป็นไรน่า เอาจริงๆ พี่ก็อยากมาบ้านหนูนะ” เรียวจันทร์ปรับมวลสารอารมณ์ให้เข้าที่เข้าทางอีกสักนิด แล้วก็หันตัวเข้าหาคมเขี้ยว มองใบหน้าหนวดเคราหล่อเหลาแล้วคลี่ยิ้มบางก่อนจะซุกแก้มขวาเข้ากับอกแกร่ง โอบสองแขนกอดร่างสูงโดยที่ร่างสูงก็กอดตอบอย่างอ่อนโยน
   

เขารู้ว่าเวลาเรียวจันทร์มีปัญหาหรือกำลังไม่สบายใจ น้องหนูของเขาจะชอบมากอด เรียกว่าเป็นกอดเพิ่มความรู้สึกดีๆ
   

“คุยกับแม่เป็นปกติแบบนี้เลยเหรอ” คมเขี้ยวเลียบเคียงถาม เรียวจันทร์ถอนหายใจแผ่วเบา ยกหน้าตัวเองออกจากอกอุ่น เงยหน้าขึ้นมองแฟนตัวเอง
   

“เหมือนเป็นชีวิตประจำวันเลยแหละ” เจ้าของฟาร์มอรุณพยัคฆ์มองหน้าคุณนายด้วยความรู้สึกเศร้าใจ เขากับแม่มีความสัมพันธ์ที่ดี แม่เขาเป็นแม่ที่ใจกว้าง ใจดี มีเมตตา เป็นคนมีเหตุผล เขานึกภาพความเป็นแม่คนว่ารักลูก และพร้อมมอบสิ่งดีๆ ให้กับลูกมาตลอดเนื่องด้วยแม่เขาทำอย่างนั้น แต่กับแม่เรียวจันทร์ทำให้เขาเห็นคนเป็นแม่ในอีกแบบที่เขาไม่เคยเจอมาก่อนจริงๆ
   

“พี่ขอโทษที่คิดแบบนี้ แต่เห็นแม่หนูแล้ว…”
   

“…ดีใจใช่มั้ยที่แม่ตัวเองไม่เป็นแบบนี้” คมเขี้ยวมองรอยยิ้มขมขื่นของเรียวจันทร์ ก้มลงจูบหน้าผากนวลไปหนึ่งที
   

“พี่ไม่ใช่คนแรกหรอกที่บอกแบบนี้…” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นแล้วตามด้วยกลอกตา ก่อนจะไหวไหล่ทั้งสองข้าง
   

“…เวลาได้ยินประโยคที่บอกว่า พ่อแม่รักลูกทุกคน เรียวอยากจะบอกว่าไม่จริงหรอก” คมเขี้ยวไม่อยากปลอบ ไม่อยากเถียงว่ามันเป็นแบบนั้นแหละที่พ่อแม่รักลูกทุกคน แต่แม่ของเรียวจันทร์เหมือนเพิ่งเปิดมุมมองใหม่ในชีวิตให้เขาไปเมื่อกี้นี้เอง
   

“พี่อาจจะบอกว่า ลึกๆ แม่อาจจะรักหนู แต่พี่เชื่อมั้ย หนูไม่เคยสัมผัสได้และไม่เคยคิดอยากสัมผัส” ต้องยอมรับว่าคมเขี้ยวก็คิดแบบนั้น เขาสัมผัสความรักของแม่เรียวจันทร์ที่มีต่อลูกไม่ได้เลย บางทีมันอาจจะมีแต่คงน้อยมากพอๆ กับการถามหาฝนในหน้าแล้ง
   

“มาสัมผัสรักพี่ดีกว่า” เรียวจันทร์ที่กำลังหน้าเศร้า ชะงักหน้ามึนไปแปบนึงก่อนจะได้สติว่าเมื่อกี้คนตัวสูงพูดว่าอะไรก็หลุดยิ้มขำผสมเขินออกมา
   

“อุ๊ต๊าาา!” เรียวจันทร์ทำตาโตอ้าปากลากเสียงยาว เรียกเสียงหัวเราะจากคมเขี้ยวดังลั่นห้องกับสีหน้าท่าทางของคุณนาย ในใจก็นึกดีใจที่สีหน้าเศร้าหงอยหายไปจากใบหน้าสวยแล้ว
   

“เดี๋ยววันนี้พี่ใส่เสื้อผ้าพ่อไปก่อน ใส่ได้แหละ พ่อกับพี่ตัวเท่าๆ กัน แต่พี่สูงกว่าพ่อหนูหน่อย” เรียวจันทร์บอกพลางมองประเมินความสูงของคมเขี้ยว
   

“ไม่ใส่ก็ได้นะเสื้อผ้าอะ” คมเขี้ยวยิ้มกรุ้มกริ่ม มองด้วยสายตาวิบวับ เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่นด้วยความเขินอาย ยกมือขวาดันไหล่ซ้ายคมเขี้ยวแรงๆ แก้เขิน
   

“บ้าาา ให้หนูพักบ้างงง”
   

“แล้วหนูอยากเปล่าล่ะ” เรียวจันทร์จิ๊ปาก ขมวดคิ้วหน้างอ แต่ไม่ได้งอนหรือโกรธ ก็แค่ทำจริตไปงั้นเอง
   

“ก็อยาก หนูชอบ แต่ขอพักฟิตรูสักวันสองวันสิค้า” ปากว่าขอหยุดพัก แต่มือขวายื่นมาลูบเป้าเขาเฉย
   

“จ้า จ้ะ หนูขอพัก มือหนูก็ควรพักด้วยสิ” เรียวจันทร์หัวเราะคิๆ ดึงมือออกจากเป้ากางเกงคมเขี้ยว ยกสองแขนขึ้นคล้องคอหนา ซุกหน้าเข้ากับซอกคอคมเขี้ยวแล้วกดจมูกลง ขยี้เนื้อตรงคอเหมือนขยี้ผิวแก้มด้วยความมันเขี้ยว
   

“แง่มๆๆๆ” คมเขี้ยวหัวเราะในลำคอ ยกมือขวาขยี้เส้นผมนุ่มแรงๆ หนึ่งที
   

“แล้วพ่อที่มาวันนี้นี่ยังไง” เขารู้จากพ่อตัวเองบ้างแล้วว่าเรื่องพ่อเรียวจันทร์นั้นเป็นยังไง เคยนึกสงสัยอยู่เช่นกันว่าเจ้าตัวรับรู้และรับได้มากน้อยแค่ไหน
   

“ก็ไม่ยังไง คือนึกออกมั้ยอะ เราเพิ่งเจอกัน ไม่มีความผูกพัน ไม่มีสายใยบางๆ อะไรต่อกัน มันมีแต่ความว่างเปล่า” สีหน้าของเรียวจันทร์บ่งบอกว่าไม่ได้คิดมากหรือคิดเล็กคิดน้อยอะไรกับเรื่องพ่อที่แท้จริงของตัวเอง คมเขี้ยวมองอย่างสำรวจ คนตัวเล็กกำลังแกะกระดุมเสื้อให้เขาทีละเม็ด
   

“หนูไม่รู้สึกแปลกบ้างเหรอ” ตากลมใสๆ เลื่อนไปมองหน้าหล่อคมอย่างบ้องแบ๊ว
   

“แปลกอะไรเหรอ เรื่องพ่ออะนะ…” คมเขี้ยวพยักหน้า กางแขนออกให้เรียวจันทร์ดึงเสื้อออกจากตัว
   

“…ไม่นะ เฉยๆ ก็ไม่ได้เกลียด ไม่ได้โกรธ แต่ก็ไม่รักเขาหรอก” เรียวจันทร์ว่าออกมาตรงๆ อย่างที่ใจนึก นางคิดอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
   

คมเขี้ยวพยักหน้านิ่งแล้วก็ผุดยิ้มริมฝีปากทั้งสองข้างน้อยๆ มองเรียวจันทร์ถอดเสื้อตัวเองออกบ้าง เขาปลดกระดุมกางเกงยีน และถอดกางเกงออกจากขา เรียวจันทร์เดินไปนั่งปลายเตียงและถอดกางเกงออกเช่นกัน สายตามองร่างสูงที่กำลังดึงกางเกงออกจากข้อเท้าด้วยความหนักใจ ความกลัว ความสับสนตีกันมั่วในหัวและในอกจนนึกหงุดหิดอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ


 ตอนนี้ทั้งสองคนเนื้อตัวเปลือยเปล่า เรียวจันทร์ลุกขึ้นเดินมาคล้องคอหนา ดึงหน้าคมเขี้ยวลงไปจูบ สองแขนของร่างสูงโอบบั้นเอวแสนงอน เนื้อตัวทั้งคู่เสียดสีกันอย่างแนบชิด เรียวลิ้นก็เสียดสีแนบแน่นไม่แพ้กัน ทั้งคู่ผลัดกันดูดดึงลิ้นของแต่ละฝ่ายจนอารมณ์เร่าร้อนเพิ่มขึ้นๆ
   

“อ่า…” เรียวจันทร์ดึงหน้าตัวเองออก มีน้ำลายบางๆ ยืดติดระหว่างลิ้นทั้งสองคน เรียวจันทร์เลยยื่นหน้าไปดูดปลายลิ้นคมเขี้ยวอีกหนึ่งที
   

“บอกไม่อยากแล้วยั่วทำไม” คมเขี้ยวถามพลางลูบขึ้นลูบลงตรงช่วงซี่โครงของร่างบาง
   

“เพื่อให้รู้ว่าพี่ยังอยู่กับหนูจริงๆ” พี่เขี้ยวยิ้มงงกับคำพูดของน้องหนูนิดหน่อย มองสายตาสุกใสที่มองตัวเขาราวกับกำลังมองว่านี่ใช่พี่เขี้ยวของตัวเองจริงๆ หรือไม่แล้วก็นึกขำ
   

“พี่ก็ยังอยู่นี่ไง” เรียวจันทร์มองหน้าคมเขี้ยวด้วยสายครุ่นคิด แบบที่คิดไม่ตก เหมือนยังติดสินใจไม่ได้ว่าจะเอายังไงดี คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า
   

“ถ้าเกิด…” เรียวจันทร์เม้มปาก คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นอีกที ใบหน้าสวยแสดงออกถึงความวิตกจนใบหน้าหล่อเริ่มเป็นห่วง
   

“…ถ้าเกิดหนูทำอะไรผิดพลาดไป แต่ไม่ได้ตั้งใจ พี่เขี้ยวจะโกรธหนูมั้ย”
   

“หนูไม่ได้ตั้งใจทำใช่มั้ยล่ะ” ร่างเล็กกัดริมฝีปากล่างเบาๆ แล้วปล่อยออก
   

“ตอนแรกอาจจะตั้งใจ แต่สักพักก็ไม่อยากทำแล้ว ประมาณเนี้ย” คมเขี้ยวสูดลมหายใจเข้าปอด เลิกคิ้วขึ้นสูงและทำหน้าไตร่ตรอง
   

“ก็ต้องดูก่อนว่ามันร้ายแรงแค่ไหน” แล้วเรื่องที่นางทำ สำหรับพี่เขี้ยวของนางจะร้ายแรงแค่ไหนนะ…
   

“ไปทำอะไรผิดมา มีชู้เหรอ” คมเขี้ยวแซวขำๆ เรียวจันทร์ยิ้มแหยเกือบจะเป็นยิ้มเจื่อน แต่ก็ขยับปากให้กว้างขึ้นอีกนิดเป็นยิ้มกว้างพอประมาณ
   

“พี่เขี้ยว”
   

“หือ” คมเขี้ยวก้มลงจูบหัวไหล่ซ้ายขาวเนียนละเอียดของเรียวจันทร์แล้วเงยหน้าขึ้นมอง เรียวจันทร์ที่พอจะรวบรวมความกล้าจะเอ่ยปากบอกเรื่องจอมทัพได้แล้วก็มีอันอ่อนยวบเมื่อเห็นลักยิ้มบนแก้มทั้งสองข้างยามที่พี่เขี้ยวยิ้มกว้าง
   

ถ้าบอกไป รอยยิ้มนี้จะยังอยู่มั้ย รอยยิ้มนี้พี่เขี้ยวจะยังมีให้น้องหนูคนนี้อีกหรือเปล่า นางกล้าพูดหักหน้า กล้าพูดแหกหน้าใครต่อใครมากมาย พูดตรงๆ กับทุกคนในสิ่งที่นางอยากพูดอยากจะบอกกับคนๆ นั้น หรือแม้กระทั่งพูดตรงๆ กับคนตรงหน้า แต่ช่วงเวลานี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะบอกออกไปตรงๆ ว่านางมีความผิดติดตัวอยู่ ซึ่งความผิดนั้นเป็นสิ่งที่ผิดต่อคมเขี้ยวเต็มๆ และตรงๆ
   

“มีอะไรใช่มั้ยเนี่ย…” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นแล้วถาม มองหน้าสวยใสด้วยสายตาเป็นคำถามอีกที เรียวจันทร์พ่นลมหายใจแผ่วเบาและสวมกอดคมเขี้ยว คางเกยอยู่บนไหล่กว้าง ผิวเนื้อแนบชิดติดกันจนเกิดไออุ่น
   

“…ถ้าจะสารภาพผิดอะไรก็บอกมา พี่อยากได้ยินจากปากหนูมากกว่าปากคนอื่นนะ” เรียวจันทร์ยิ้ม อย่างน้อยก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าคมเขี้ยวเปิดใจที่จะรับฟัง
   

“เรื่องชู้หนูไม่มีแน่นอน ถึงหนูจะสวยจนผู้ชายอยากได้มากมายก็เถอะ…” เรียวจันทร์ผละออก มองหน้าคมเขี้ยวแล้วยิ้มด้วยความโล่งใจในระดับหนึ่ง ร่างสูงกระตุกยิ้มน้อยๆ สายตามองร่างเล็กด้วยความว่างเปล่าแต่ไม่ใช่ไร้ความรู้สึก
   

“…ตอนนี้อาบน้ำ แล้วลงไปกินข้าวก่อนดีกว่าเนอะ” คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์นิ่งสักพัก ก่อนจะพยักหน้าและเดินเปลือยเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกัน
   

เขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมีเรื่องไม่สบายใจ และคงอึดอัดอยากบอกเขาเต็มทน เพียงแต่คงยังไม่พร้อมในตอนนี้ ซึ่งเขาจะไม่เร่ง เพราะการบังคับให้พูด บางทีอาจจะได้ความจริงไม่หมด
   

แต่ถ้าถามว่าเขาจะรู้สึกยังไงกับเรื่องที่เรียวจันทร์บอก อันนั้นเขาตอบไม่ได้หรอก เพราะเขายังไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไร จะให้บอกว่าเขายอมให้ได้ทุกอย่างก็ไม่ใช่ เกิดมันเป็นเรื่องที่เขาไม่ชอบขึ้นมา ก็จะเป็นการกลืนน้ำลายตัวเองอีก แค่เรื่องที่เรียวจันทร์ใช้ยากับเขาตอนนั้น มันยังแว้บๆ เข้ามาในหัวเขาเป็นช่วงๆ เลย แต่เขาก็ไม่ได้เอามาผูกกับจิตคิดเคืองน้องหนูของเขาอะไรนักหนาหรอก ก็แค่คิดๆ ว่า เรียวจันทร์เป็นประเภทอดเปรี้ยวไว้กินหวานไม่ค่อยเป็น ถ้าเห็นว่ามันมีทางเร่งให้ได้สิ่งที่อยากได้เร็วขึ้น คุณนายแกก็จะทำโดยไม่สนว่าระหว่างทางจะเป็นไง ขอแค่ไปให้ถึงจุดหมายเท่านั้นพอ




 :katai5:

ขอเวลาแม่อีกนิด ตอนนี้ความกล้าเริ่มมาแล้ว แม่แค่ยังหวั่นใจ บางคนอาจหมั่นไส้นาง ปากแจ๊ดๆ ทุกอย่าง แต่พอจะพูดความจริงดันเงียบ 55555 มันไม่เหมือนกานนน ตอนอยากเขาได้ผัวมันมีไฟ แต่พอได้เขาแล้วก็กลัวเสียเขาไป ไฟมอดกันเลยทีเดียวเชียวค่ะคุณแม่

ช่วงนี้อาจจะหายยาวไปสักนิส เพิ่งเบรกจากงานตัวเอง และต่อด้วยกำลังพรูพต้นฉบับขุ่นแม่เรียวและพ่อเขี้ยวอยู่ค่ะ เลยอาจจะมาอัพช้าหน่อย แต่ไม่ดองแน่นอนนนน ไม่ทิ้งกันนน

ยิ่งถ้าเป็นศุกร์เสาร์อาทิตย์สำหรับตอมหนักเลย ติดเพลิงพระนางแรงมาก 555555 อินแล้วอินอีก หมั่นไส้อีทิพย์ ! แต่รักแม่อั้มมม

เจอกันอีกครึ่งนึงที่เหลือนะคะ ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ค่ะ ขอบคุณมากๆ ที่รอกันเสมอ ขอบคุณมากที่สนุกไปกับแม่เรียว ขอบคุณทุกเม้น ทุกโหวตที่มีให้กัน ดีใจมากที่มีคนรักแม่เรียวในแบบที่นางเป็นจริงๆ


สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                                 
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 04-03-2017 13:54:10
อย่าโกรธขุ่นแม่นานน้าาา พี่เขี้ยว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-03-2017 17:32:03
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 04-03-2017 17:54:56
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Lbibo4k ที่ 05-03-2017 15:16:24
เนื้อเรื่อสนุกดี แต่เจอคำว่านางเยอะมาก นางๆๆๆๆ จนเราคิดว่าเรียวจันทร์เป็นผู้หญิงไปแล้ว
เราว่ามันเยอะเกิน ใช้คำว่าเขาแทนน่าจะดีกว่า 
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 06-03-2017 01:35:59
เตรียมโอลกอดเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 06-03-2017 15:59:51
กราบแม่เรียวค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 10-03-2017 02:32:10
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 10-03-2017 12:11:20
งื้อๆๆๆ สู้ๆ ขอแค่ระเบิดอย่าลงพี่เขี้ยวน้า สงสารเรียวจันทร์
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 10-03-2017 13:02:55
 :really2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 10-03-2017 13:57:57
 :z1:หื่นกันให้เต็มที่ พี่เขี้ยวจัดเต็มเลยน่ะ หนูเรียวเราเริ่มหลงรักหนูเรียวแหละ ลุ้นแทนแม่เรียวว่าจะบอกความจริงยังไงไม่ให้พี่เขี้ยวโกรธตัดเป็นตัดตาย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: poommy_TY ที่ 11-03-2017 09:37:04
เพิ่งมาตามอ่านเรื่องนี้ ปกติไม่ค่อยอ่านนายเอกสาวๆ
แต่เรื่องนี้ยอมใจ ตามอ่านรวดเดียว เดี๋ยวจะซื้อเล่มด้วย อิอิ ขุ่นแม่แซ่บมากกกก แซ่บเว่อร์ ซี้ดปากให้ความเผ็ชชชชของขุ่นแม่ ความสาวนั้น ไม่ขัดใจเราแม้แต่น้อย จะพูดคะขา หนูๆ ก็เอ็นดูนางไปหมดดด
อิพี่เขี้ยวก็ ฮู้ยยย ตอนปากดีนี่หมั่นไส้มาก แต่พอเป็นผัวเมียกันแล้ว แอร๊ยยยยย จิกหมอนรัวๆ พี่เขี้ยวปากหวานไม่พอ หื่นอีก บร้าๆๆๆ

มิอยากให้ดราม่าหนักเลยค่ะ สงสารขุ่นแม่ นางทำเพราะไม่รู้ว่าเป็นที่นาง และนางก็จำเป็นมากๆด้วย พี่เขี้ยวโปรดเข้าใจ พลีสส แค่ตามใช้หนี้เป็นสิบๆล้านก็น่าสงสารชีวิตขุ่นแม่มากพอแล้วนะคะ กระซิกๆ
นี่ระแวงอีเสี่ยมาก บอกเลย รู้เลยนะคะ ความชั่วร้ายยังไม่เผย ถึงเสี่ยจะแซ่บ แต่เราขอเฝ้าระวังค่ะ อย่ามาร้ายกับขุ่นแม่นะอิเสี่ย ฮืออออ

รอติดตามตอนตอไปนะคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งแรก :04.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 11-03-2017 15:32:31
พอได้กันแล้วเหมือนพี่เขี้ยวเกิดใหม่ พี่ๆหนูๆงี้ หวานอะไรเบอร์นี้คะ คนนิ่งๆจับแล้วต่อยตายไปแล้ว 55555555555555555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 12-03-2017 17:46:09



คาถาที่ 25 : ครึ่งหลัง




ตอนที่ทั้งสองคนลงมาข้างล่างด้วยชุดพร้อมนอน ชายหนุ่มภูมิฐานทั้งรูปร่างและหน้าตาก็นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมกับโรสิตาแล้ว ป้าอุ่น ลุงอ๊อดและน้องแก๊ปกำลังช่วยกันจัดเตรียมอาหารให้กับคุณๆ ของบ้าน เรียวจันทร์ยกมือไหว้ผู้ชายคนนั้นด้วยท่าทีเอื่อยเฉื่อย คนถูกไหว้ยกมือรับไหว้พร้อมกับคลี่ยิ้มบาง แม้จะมีผมสีขาวขึ้นแซมสีดำบ้างประปรายแต่ผู้ชายคนนั้นก็ยังดูดี เมื่อมองสลับกับผู้หญิงอีกคน ไม่แปลกใจเลยถ้าเรียวจันทร์จะเกิดมาหน้าตาดีให้หลงตัวเองอยู่บ่อยๆ
   

“เห็นแม่บอกว่าเราเพิ่งเลิกกองเหรอ”
   

“ครับ เลิกเมื่อตอนห้าโมงเย็น” คมเขี้ยวรู้สึกไม่คุ้นหูนิดหน่อยที่ได้ยินเรียวจันทร์พูดครับ แต่คิดว่าคงพูดเฉพาะกับคนที่ไม่ได้สนิทเท่านั้น
   

“แล้วนั่นใครล่ะ” ชายคนนั้นที่นั่งตรงหัวโต๊ะถามพลางยื่นคางมาทางคมเขี้ยว
   

“แฟนตาเรียวน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าไปคบกันตอนไหน” เรียวจันทร์บิดปากหน้าเซ็งให้กับคนที่ชิงตอบคำถามแทนตัวเอง พ่อของเรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นหน้าตาฉงนเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็คลี่ยิ้มนิดหน่อย
   

“เป็นใครมาจากไหนเหรอครับ” แม้ว่าพ่อของตัวเองจะถามด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่เรียวจันทร์ก็ย่นคิ้วฉับ รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ที่อีกฝ่ายมานั่งซักประวัติคมเขี้ยว ไม่ชอบที่อีกฝ่ายทำท่าเหมือนพ่อกำลังสแกนลูกเขยเข้าบ้าน
   

“เขาชื่อคมเขี้ยว เป็นเจ้าของฟาร์มอรุณพยัคฆ์…” นางเป็นคนตอบแทนเจ้าตัว และเพียงแค่พูดประโยคนั้น พ่อของเรียวจันทร์ก็หันมองคมเขี้ยวด้วยสายตาประหลาดใจปนสนใจในตัวคมเขี้ยว ส่วนโรสิตามองนิ่งสักพักก่อนจะยิ้มเยาะเล็กน้อย
   

“…คุณคนนี้ชื่อคุณวิโรจน์ เป็น เอ่อ พ่อ ของฉันเองอะ” เรียวจันทร์กระดากปากนิดหน่อยที่ต้องพูดคำนั้นออกมา ไม่ใช่ว่าโกรธเกลียดจนไม่อยากพูด แต่ยี่สิบกว่าปีนางไม่เคยได้เรียกคนๆ นี้ว่าพ่อเลยสักครั้ง แล้วจู่ๆ ก็ต้องมาเรียกคนๆ นึงว่าพ่อทั้งที่นางก็มีพ่อของนางอยู่แล้ว
   

“ผมรู้จักฟาร์มนั้นนะครับ เป็นที่ล่ำลือในเขาใหญ่มาก” คมเขี้ยวกระตุกยิ้มสั้นๆ กำลังจะอ้าปากพูดแต่เหลือบไปเห็นสายตาดูแคลนเล็กๆ จากแม่เรียวจันทร์ก็ย่นคิ้วนิดหน่อย แต่เขาก็ไม่เก็บมาใส่ใจ
   

“เคยพาครอบครัวไปเที่ยวอยู่ครั้งนึง ประทับใจมาก”
   

“ขอบคุณมากครับ” คมเขี้ยวตอบรับเพียงเท่านั้นเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก่อนลงมาเรียวจันทร์บอกว่าไม่ต้องพยายามเอาชนะใจใครทั้งนั้น ทั้งสองคนไม่มีสิทธิ์หรือมีความจำเป็นใดๆ ในการตัดสินใจเรื่องความรักของนาง
   

“เป็นเจ้าของฟาร์มเองจริงๆ เลยเหรอ” คมเขี้ยวหันไปมองแม่เรียวจันทร์หน้านิ่ง ก่อนตอบตามมารยาท แม้ในใจเขานึกอยากเสียมารยาทใส่ผู้หญิงคนนี้สักนิดสักหน่อย
   

“อันที่จริง เป็นของพ่อครับ แต่ตอนนี้พ่อยกให้ผมดูแลเองทั้งหมด” โรสิตายกมุมปากซ้ายเชิดขึ้น สีหน้าแววตาดูออกว่ากำลังคิดอะไรไม่ดี แต่คมเขี้ยวไม่ได้สนใจ เพราะดูแล้วผู้หญิงคนนี้คงคิดอะไรดีๆ น้อย เขาหันหน้าหนีไปทางอื่น แต่เป็นเรียวจันทร์ซะอีกที่สนใจสีหน้านั้น
   

“ถ้าฉีดโบท็อกซ์มากไปจนปากเบี้ยว หน้าเบี้ยวขนาดนั้น แม่ควรหยุดฉีดนะ” โรสิตาที่กำลังทำท่าทำทางอย่างที่เรียวจันทร์ว่าสะดุดกึก แล้วหันไปมองหน้าสวยๆ ของลูกชายตัวเองตาขวาง
   

“นังเรียว” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งทำหน้าตาประมาณว่า มีอะไร?
   

“คุณโรส อย่าทำเสียบรรยากาศสิ” เรียวจันทร์ไม่สนใจ ทั้งอาการปรามของพ่อและอาการฮึดฮัดของแม่ จัดการตักโจ๊กกุ้งเข้าปากหนึ่งคำ และหันไปดูแลคมเขี้ยวด้วยการส่งเครื่องปรุงให้
   

“คุณวิโรจน์นี่ใช่เจ้าสัววิโรจน์รึเปล่าครับ” คมเขี้ยวเอ่ยถามเมื่อบางอย่างในความคิดสะกิดต่อมความทรงจำ ด้วยชื่อที่อาจมีชื่อนี้หลายคน แต่รูปร่างหน้าตาทำให้เขาคุ้นตาอยู่บ้าง แม้จะไม่ชัดเจนแต่ก็ลองถามดูเผื่อจะใช่คนที่เคยผ่านตาผ่านความทรงจำเขาจากข่าวคราวในแวดวงธุรกิจ
   

“คนเขาก็เรียกไปเรื่อยแหละครับ ผมก็คือวิโรจน์เฉยๆ นี่แหละ” ท่าทางของวิโรจน์นั้นสุภาพกว่าโรสิตาเยอะ แม้จะเพิ่งเจอกันแต่คมเขี้ยวก็รู้สึกดีกับคนๆ นี้มากกว่าคนที่นั่งเยื้องกับเขาซะอีก ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้มน้อยๆ ในขณะที่เทซอสแม็กกี้ลงในถ้วยข้าวต้มของตัวเอง
   

“แล้วนี่ ทั้งสองคนไปคบกันได้ยังไงล่ะ” เรื่องสถานะทางเพศของเรียวจันทร์นั้น วิโรจน์ไม่ได้ต่อว่าหรือคิดต่อต้านใดๆ เพราะคงไม่ใช่เรื่องที่พ่ออย่างเขาซึ่งไม่เคยดูแลลูกมาก่อนจะมาห้ามในสิ่งที่ลูกเป็น เพราะถ้าเขาทำแบบนั้นจะกลายเป็นเรียวจันทร์ซะเองที่ต่อต้านเขา ซึ่งวิโรจน์ไม่อยากให้เกิดขึ้น
   

“เรียวไปทำงานเป็นเลขาผมอยู่ที่ฟาร์มน่ะครับ เลยได้รู้จักกัน” วิโรจน์มองทั้งสองคนอย่างสงสัย และอีกครั้งที่มองด้วยสายตาประหลาดใจปนสนใจ
   

“เรียวไปเป็นเลขาคุณได้ยังไงล่ะเนี่ย” เรียวจันทร์ตักข้าวต้มเข้าปากเงียบๆ ปล่อยให้คมเขี้ยวเป็นคนตอบ
   

คมเขี้ยวยิ้มขำน้อยๆ “ถ้าให้เรียบเรียงเรื่องราวมันคงซับซ้อนและยาวน่าดูเลยครับ”
   

“ว่าไงล่ะเรียว ไม่เล่าให้พ่อฟังหน่อยเหรอ” ต้องยอมรับว่าคุณนายนางรู้สึกแปลกๆ เวลาที่ได้ยินคนๆ นี้เรียกแทนตัวเองว่าพ่อ
   

“ก็อย่างที่เขี้ยวบอกแหละครับว่าเรื่องมันยาว ตัดจบสั้นๆ ก็ เรียวไปเที่ยวฟาร์มเขา เจอกับพ่อเขาที่เป็นเพื่อนสนิทพ่อเรียว หมายถึง พ่ออาทิตย์น่ะ…” วิโรจน์ชะงักไปนิดหนึ่ง สีหน้าเกือบจะเป็นสลดแต่ก็ปัดทิ้งแล้วปั้นยิ้มขึ้นมาแทน โรสิตาแทบจะควักลูกตาออกจากเบ้าเอามาจ้องเรียวจันทร์ แต่คุณนายนางหาได้แคร์ไม่
   

“…คุยกันไปคุยกันมา เรียวก็สนใจอยากทำงานที่นั่น ก็เลยไปทำ”
   

“ไม่ใช่ว่าเข้าไปที่นั่นเพราะเสี่ยจอมทัพสั่งหรอกเหรอ” เรียวจันทร์ตัวชาวาบ ในขณะเดียวกันก็หันไปจ้องแม่ด้วยความไม่พอใจ พอหันไปมองคมเขี้ยวก็เห็นอีกฝ่ายมีสีหน้างุนงง คิ้วเข้มขมวดเมื่อหันมาสบตาเรียวจันทร์ คุณนายถอนหายใจเบาๆ
   

“จอมทัพมาเกี่ยวอะไรด้วย” คมเขี้ยวถามเสียงราบเรียบ ซึ่งเป็นเสียงที่เรียวจันทร์ไม่ต้องการในเวลานี้
   

“อ้าว นี่เธอไม่รู้เหรอว่าเรียวจันทร์…”
   

“…แม่” เรียวจันทร์พูดสั้นๆ แต่เสียงราบเรียบและหนักแน่น แววตาวาวโรจน์เป็นการบ่งบอกว่าความโกรธเริ่มปะทุขึ้นในใจของนาง โรสิตาสงบปากสงบคำไป สีหน้าไม่พอใจเล็กๆ
   

“เอ่อ เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า…” วิโรจน์ที่เห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่เอ่ยชวนเปลี่ยนเรื่อง เรียวจันทร์มองแม่ตาขวางแวบหนึ่ง แล้วก็หันไปมองคมเขี้ยวด้วยสายตาที่อ่อนลง หน้าเข้มของคมเขี้ยวขรึมขึ้น เรียวจันทร์ยื่นมือไปวางบนหน้าตักร่างสูงแล้วบีบเบาๆ ส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่าเดี๋ยวเราต้องคุยกัน
   

คมเขี้ยวเงียบ ความคิดในหัวตีกันวุ่นจนเรียบเรียงไม่ถูกว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไง และกำลังประเมินว่าความคิดตัวเองไปไกลแค่ไหนแล้ว
   

“…ย่ากับน้องๆ อยากเจอเรานะ” เรียวจันทร์หันกลับไปมองวิโรจน์ที่ตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างสุภาพ
   

ย่าอยากเจอน่ะไม่เท่าไหร่ แต่พอนึกถึงน้องๆ ที่บอก เรียวจันทร์ก็รู้สึกแขยงยังไงชอบกล พ่อของนางแต่งงานใหม่และมีลูกกับภรรยาใหม่สามคน ลูกชายคนโตหนึ่งคนที่อายุน้อยกว่านางสักสามสี่ปีเห็นจะได้ และมีลูกสาวอีกสองคน ซึ่งนังน้องคนสุดท้องนี่แหละที่นางรู้สึกสยองขวัญเวลานึกถึง อายุสิบแปดแต่เลเวลความแรดสูงกว่าอายุ
   

“เรียวยังไม่ค่อยว่าง พอว่างก็กลับไปอยู่ที่ฟาร์มตลอด ถ้ายังไงคุณ เอ่อ พ่อลองนัดล่วงหน้ามาก่อนแล้วกันนะครับ” เรียวจันทร์ยิ้มไม่เต็มปาก ยังคงหันไปมองคมเขี้ยวที่นั่งจับช้อนนิ่งไม่กินต่อด้วยความเป็นห่วง   


“อ๋อ นี่กลับไปอยู่ที่ฟาร์มตลอดเลยเหรอ” วิโรจน์ถามด้วยความสนใจอีกครั้ง คุณนายหันไปพยักหน้าน้อยๆ ให้กับวิโรจน์
   

“ดีแล้ว ไปอยู่ซะ จะได้ชิน…” หน้าสวยๆ เบ้ด้วยความเซ็งเมื่อได้ยินเสียงจากผู้หญิงที่นางอยากให้เงียบที่สุดในเวลานี้
   

“…คุณโรส อะไรนักหนาเนี่ย” คราวนี้วิโรจน์ดูท่าทางจะหงุดหงิดโรสิตาบ้างแล้ว จากที่แค่ตอนแรกปรามตามปกติ แต่ตอนนี้ดูจะมีอาการไม่ค่อยพอใจด้วย
   

โรสิตาชักสีหน้าแล้วก็นั่งกินข้าวเงียบๆ ต่อไป วิโรจน์ถอนใจและส่ายหัวเบาๆ หันกลับไปหาลูกชายกับคนข้างกายที่นั่งนิ่งหน้าเคร่งไปนานแล้ว
   

“รึถ้าไม่งั้นพ่ออาจจะพาที่บ้านไปเยี่ยมที่ฟาร์มนะ”
   

“ถ้าจะมาช่วงนี้อย่าเพิ่งแล้วกันนะครับ ฟาร์มปิดอยู่ เปิดอีกทีตอนต้นฤดูหนาว จะมีประกาศในเพจของฟาร์มอีกที”
   

“ได้ แล้วพ่อจะโทรไปถามอีกทีนะ…” เรียวจันทร์ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “…พ่อดีใจนะที่ได้มาเจอเรียวอีก”
   

คนเป็นลูกกระตุกยิ้มมากขึ้นอีกนิดทั้งที่ความคิดของนางนั้นแสนว่างเปล่ากับการมาของผู้ชายคนนี้ นางไม่ได้ตื่นเต้นดีใจใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ได้ต้อนรับหรือขับไล่ คือมาก็มา ไม่ได้ส่งผลดีหรือร้ายต่อชีวิตนาง แค่อย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้นางก็พอ เพราะแค่แม่ที่ไม่เคยเลี้ยงดูนางก็สร้างปัญหาให้มากพอแล้ว



   
เรียวจันทร์พาคมเขี้ยวที่นิ่งเงียบตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้กลับขึ้นมาบนห้อง เพราะท้ายที่สุดคุณนายก็ทนความเงียบของคมเขี้ยวไม่ไหว กินได้อีกสามสี่คำก็ขอตัวกลับขึ้นห้องก่อนทั้งที่อาหารยังไม่หมด แต่ในตอนนั้นอารมณ์จะกินมันหมดไปแล้ว มันมีแต่ความกระวนกระวายว่าผู้ชายข้างๆ กำลังมีความคิดอะไรอยู่
   

“พี่เขี้ยว…” เรียวจันทร์เรียกเสียงอ่อยตอนที่พาคมเขี้ยวเดินมานั่งบนเตียงด้วยกัน อีกฝ่ายเงยหน้าสบตานางนิ่งเฉย จนนางใจคอไม่ดี
   

“…พี่ฟังหนูก่อนได้มั้ย”
   

“งั้นพูดมา” น้ำเสียงคล้ายจะดุทำให้เรียวจันทร์แอบขนลุกซู่ด้วยความกลัวเล็กๆ นางสูดลมหายใจเข้าปอดและเรียบเรียงในหัวว่าต้องเริ่มเล่าจากตรงไหนดี นางเม้มปาก ดวงตาสั่นระริกเล็กน้อย มองหน้าคมเข้มของคมเขี้ยวที่ยามนี้กำลังเข้มด้วยความครุกรุ่น
   

“พี่อย่าทำหน้าดุแบบนี้สิ หนูไม่กล้าพูดเลย” น้องหนูว่าเสียงอ่อยหน้าตาหงอราวกับลูกหมาที่หูลู่ตาตกที่เห็นพี่เขี้ยวทำหน้าเคร่งตาดุมองตัวเองจนเกิดความอึดอัดและใจเต้นตึกๆ
   

แต่แม้จะอ้อนแล้วก็ตาม พี่เขี้ยวก็ยังคงทำสีหน้าและแววตาดังเดิม น้องหนูของพี่แกเลยก้มหน้าลงนิด ปลายนิ้วทั้งสองมือดึงปล่อยดึงปล่อยผ้าปูเพื่อไม่ให้มือว่าง
   

“หนูเป็นหนี้เสี่ยจอมทัพ เขาเลยเสนอให้หนูเข้าไปเจรจาเรื่องขายที่ดินกับพี่…” หน้าสวยๆ เงยขึ้นมองหน้าหล่อๆ แว้บหนึ่ง พอเห็นว่ายังทำให้นางกลัวอยู่เลยก้มหน้าลงตามเดิม
   

“…ในแบบของหนูเอง” หัวใจดวงน้อยที่เต้นตึกๆ แบบเว้นจังหวะ ตอนนี้เริ่มเต้นผิดจังหวะจนต้องบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ เหมือนท่องพุทโธๆ
   

“แบบไหน” คมเขี้ยวถามเสียงห้วน เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่าง เงยหน้าขึ้นมองคมเขี้ยวแล้วน้ำตาก็คลอเบ้าตา ขยับปากอยากพูดต่อแต่เห็นสีหน้าและแววตาของอีกฝ่ายแล้วก็ทำให้ความกล้าฝ่อลงไป
   

“พูดมา” ยิ่งน้ำเสียงที่เข้มและเน้นย้ำว่าให้พูดก็ยิ่งทำให้ริฝีปากสีชมพูสดยากที่จะปริปากบอกออกไป
   

“หนู… ตอนนั้นหนูคิดว่า ถ้า… ถ้าทำให้พี่กับหนูเป็น…” เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอ น้ำตาหยดลงแก้มเมื่อเห็นว่าคมเขี้ยวขบกรามแน่น คิ้วเข้มตึงแน่นด้วยความเครียด เรียวจันทร์เริ่มรู้สึกอึดอัด เริ่มเครียดว่าจะต้องพูดยังไงดีให้มันไม่รุนแรงและเสียหายทางความรู้สึกมากที่สุด
   

“…พี่เขี้ยว อย่าดุหนูสิ” เรียวจันทร์ลองอ้อนอีกทีเผื่อคมเขี้ยวจะมีท่าทีอ่อนลงบ้าง คนโดนอ้อนนิ่งไปนิดและพยายามที่จะปรับสีหน้าตัวเองให้เบาลง แต่ก็ทำได้ไม่ดีนัก
   

“พูดมา อย่าให้ต้องไปถามไอ้จอมทัพเอง” เรียวจันทร์ยกมือซ้ายเช็ดน้ำตาบนแก้ม แต่ในดวงตาก็ยังคลอออกมาเรื่อยๆ
   

“มันจะง่ายขึ้นถ้าเราคบกัน แล้วหนูอ้อนขอให้พี่ขายที่ให้กับเสี่ยจอมทัพ หนูเลยพยายามที่จะจับพี่เป็นแฟน ถ้าหนูทำให้พี่ขายที่ได้ เขาจะยกหนี้ให้หนู” เรียวจันทร์กลั้นใจพูดเหมือนเด็กที่กลั้นใจกินยาขมๆ สักขวดเพื่อให้มันจบๆ ไป พอพูดจบน้ำตาก็ร่วงเผาะอีกรอบ
   

คมเขี้ยวนิ่งมึนกับสิ่งที่ได้ยิน มันวิ้งๆ ที่หูทั้งสองข้างเหมือนเขาโดนเรียวจันทร์ใช้สองมือตบเข้าบ้องหูด้วยประโยคเมื่อกี้นี้ เขาจ้องหน้าสวยผ่องที่กำลังร้องไห้ สีหน้าหม่นลง แววตาที่สดใสหายไป เขาจ้องมองคนตรงหน้าตัวเองด้วยความคิดที่หมุนรัวๆ อยู่ในหัวของตัวเอง เหมือนในหัวเขาเป็นที่เก็บเอกสารข้อมูล แต่เรียวจันทร์เข้ามาพังจนเอกสารกระจัดกระจายแล้วต้องจัดเรียงใหม่อีกที
   

“ยินดีด้วยที่คุณจับผมสำเร็จ” เรียวจันทร์ใจหายวาบกับสรรพนามนั้นและน้ำเสียงอันเหินห่าง ร่างเล็กส่ายหน้าเบาๆ ยื่นมือไปจับมือคมเขี้ยว เจ้าของมือมองนิ่ง เรียวจันทร์มองคมเขี้ยวแววตาเศร้าสักพักก่อนจะหลับตาลง พ่นลมหายใจออกยาวๆ พอลืมตาขึ้นอีกทีแววตาที่หม่นแสงลงไปเมื่อครู่ก็กลับมาตั้งมั่น
   

“ใช่ ฉันทำสำเร็จ ฉันจับนายได้ แต่ความตั้งใจที่จับไม่ได้เหมือนตอนแรกที่ฉันตั้งใจจะทำ สิ่งที่เกิดขึ้นที่น้ำตก มันเป็นเพราะฉันรู้สึกกับนายแบบนั้นจริงๆ ไม่ใช่เพราะแผนที่ฉันตกลงกับจอมทัพไว้” แม้จะเสียงสั่นไปบ้างแต่เรียวจันทร์ก็ประคองตัวเองพูดจนจบ มองคมเขี้ยวด้วยสายตาแน่วแน่และมั่นคงว่าสิ่งที่พูดนั้นคือเรื่องจริง
   

“ถ้าแม่คุณไม่หลุดปากออกมาให้ผมสงสัย คุณจะบอกผมมั้ย”
   

“ก็เรื่องนี้แหละที่ฉันเครียดและเป็นกังวลก่อนที่เราจะลงไปกินข้าว และฉันก็เครียดมาก่อนหน้านั้นหลายวันแล้วด้วย ฉันอยากจะบอก แต่นายนึกออกมั้ย นายเพิ่งส่งคนงานคนนึงเข้าคุกไปทั้งที่เขาอยู่กับนายมานาน เกิดฉันบอกไป ฉันกลัวนายไล่ฉันออกไปจากชีวิต”
   

“แล้วถ้าจะออกไปจากชีวิตผมมันจะเป็นอะไรล่ะ” เรียวจันทร์ใจหายวาบ ท่าทีของคมเขี้ยวดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลยถ้านางจะหายไปจากชีวิตตัวเอง
   

“ฉันก็ทรมานไง ฉันรักนายไปแล้วนะ!” เรียวจันทร์อดขึ้นเสียงแหลมไม่ได้
   

“รัก? รักแล้วเหรอ ทำไมรักผมไวจัง จากคนที่คิดแค่ว่าจะจับผมเพื่อแผนปัญญาอ่อนของตัวเอง ตอนนี้รักผมแล้วเหรอ” คมเขี้ยวถามเสียงเยาะ เรียวจันทร์ที่เพิ่งประคองตัวเองให้กลับมากล้าพูดได้ก็ถึงกับเซไปเหมือนกัน
   

“รักสิ ไม่งั้นฉันจะฟินเวลานายขย้ำฉันเหรอ ถึงฉันจะคิดว่านายอึดมากไปบ้าง แต่ฉันอิ่มใจกับนายมากนะ” คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์นิ่ง เขาเลือกชูความรู้สึกตอนนี้ของตัวเองไม่ถูกเลยว่าควรจะต้องใช้ความรู้สึกไหนขึ้นนำ
   

แต่ในที่สุดเขาก็รู้ว่าต้องรู้สึกแบบไหน คมเขี้ยวยิ้มหึ “งั้นถ้าผู้ชายคนไหนทำแบบนั้นกับคุณ คุณก็คงรักผู้ชายคนนั้นง่ายๆ สินะ”
   

เรียวจันทร์หน้าตื่น สั่นหัวรัวๆ “เปล่านะ! ไม่ใช่แบบนั้น คือว่า…”
   

ร่างเล็กจิ๊ปาก นึกอยากตบปากตัวเองแรงๆ แต่ก็กลัวปากแตกแล้วเลือดจะกลบปากทำให้ริมฝีปากเป็นแผล เดี๋ยวทาลิปไม่สวย นางเลยตั้งสติ รีบประมวลคำพูดตัวเองใหม่
   

“ฉันรักก็คือฉันรัก ไม่ใช่รักเพราะมีเซ็กส์กับนาย แต่ฉันรักนายด้วยความรู้สึกฉันจริงๆ นะ!”
   

“คุณเข้าหาผมเพราะคิดจะปลดหนี้เพื่อตัวเอง แล้วตอนนี้คุณกำลังบอกรักผม…” คมเขี้ยวยิ้ม แต่เป็นยิ้มขื่น
   

“…ถ้าคุณอยากจะกล่อมให้ผมขายที่นะ รีบทำซะ เพราะตอนนี้ผมแม่งโคตรหลงคุณเหมือนไอ้โง่คนนึงเลย!” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างด้วยความปวดใจ
   

“นายไม่ได้โง่!”
   

“แต่คุณก็ทำให้ผมโง่ไปแล้ว”
   

“ก็ถ้านายคิดว่าตัวเองโง่ ฉันก็กำลังทำให้นายฉลาดอยู่นี่ไง ฉันไม่เคยคิดว่านายโง่ การกระทำฉันอาจจะทำให้นายรู้สึกแบบนั้น แต่ฉันไม่เคยคิดว่านายโง่เลยนะ!” เรียวจันทร์พูดเสียงดังขึ้นอีกนิด ในใจก็หวาดกลัวไปหมด กลัวว่าคมเขี้ยวจะไม่เข้าใจ
   

“ชีวิตนี้คุณต้องเล่นละคร วางแผนมากมายเพื่อให้ได้อะไรมาตามที่ใจต้องการขนาดนี้เลยเหรอ” คมเขี้ยวไม่ได้ด่า ไม่ได้ว่า ไม่ได้ตั้งคำถามให้อีกฝ่ายตอบ เหมือนเป็นการรำพึงออกมาด้วยความสงสัยมากกว่า
   

“เขี้ยว ตอนนี้ฉันไม่มีแผนอะไรในใจทั้งนั้น ฉันมีแค่ความรู้สึกระหว่างเราสองคน” เรียวจันทร์บอกอย่างใจเย็น พยายามที่จะไม่เสียงดัง พยายามที่จะไม่ใจร้อน เพราะสถานะตอนนี้นางคือคนสารภาพผิดอยู่ 
   

“คุณยังทำไม่สำเร็จนี่ ผมยังไม่ได้ขายที่ให้ไอ้จอมทัพ แน่ใจแล้วเหรอว่าไม่มีแผนอะไรอีก” คมเขี้ยวพูดนิ่ง ยิ้มเยาะหน่อยๆ ซึ่งรอยยิ้มนั้นทำให้เรียวจันทร์น้ำตาคลอเบ้าทันที จากรอยยิ้มกว้างใจดีที่มีให้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้มันแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่นางเกลียด
   

“ไม่มี!...” เรียวจันทร์กระแทกเสียงพร้อมกับน้ำตาไหลและเริ่มสะอื้นเล็กๆ
   

“ไม่มีแผนอะไรทั้งนั้น ฉันอยากอยู่กับนาย ฮึก ฉันไม่คิดจะไปไหน ฉันรักฟาร์มอรุณพยัคฆ์ ฮึกๆ ฉันรักเจ้าของฟาร์ม ฉันรักทุกคนที่นั่นอาจจะเว้นคนสองคน แต่ฉันรู้สึกว่าที่นั่นคือบ้าน…” คมเขี้ยวสะดุดกึกกับประโยคท้าย
   

ใช่… นั่นคือบ้านของเรียวจันทร์จริงๆ
   

“…ตอนแรกฉันอาจจะไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น ฮึก แต่พออยู่ไปนานๆ ความรู้สึกมันก็เปลี่ยนไป ฟ้ายังมีหม่น ฝนยังมีวันแล้ง สลากยังมีกินแบ่งเลยอะ แล้วทำไมใจฉันจะรักนายและรักที่นั่นขึ้นมาบ้างไม่ได้ล่ะ ฮือออ” เรียวจันทร์ร้องไห้โฮจากที่ตอนแรกกะว่าต้องเข้มแข็ง ต้องบอกด้วยความตั้งมั่นและมั่นคงเพื่อไม่ให้เหยาะแหยะ แต่เพราะหัวใจมันสั่นไหวมากไปเลยต้านไม่ไหวแล้ว
   

“รู้มั้ยว่าฉันกลัวจะเสียนายไปมากแค่ไหน แล้วนายยังจะมาพูด…” เสียงเรียวจันทร์ขายหายไปในลำคอเพราะก้อนสะอื้น ใบหน้าสวยเบะปาก เปลือกตาปิดน้ำตาไหลพราก ไม่ห่วงสวยห่วงเป๊ะอะไรอีกแล้ว
   

“ร้องไห้ทำไม คนที่ต้องเสียใจคือผม” คมเขี้ยวถามกลับ ความโกรธลดลงพอให้ใจเย็นบ้าง เขาก็ไม่อยากถือศักดิ์ศรีอะไรมาก แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียเหลี่ยม
   

“แล้วคิดว่าฉันไม่เสียใจรึไงเล่า!” เรียวจันทร์กระแทกเสียง ยกสองมือขึ้นเช็ดน้ำตาเหมือนเด็กน้อย ส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบไม่มีฟอร์มใดๆ ทั้งสิ้น
   

“เล่นละครอยู่รึเปล่าเนี่ย” อดถามไม่ได้ ไม่ได้ประชดด้วย แม่ตัวดียิ่งแอคติ้งเก่งๆ อยู่
   

เพี๊ยะ!
   

“อ้าว! ตบอีกละ มันเจ็บนะเนี่ย!” คมเขี้ยวถลึงตาดุใส่เรียวจันทร์ที่ตบแก้มซ้ายเขาเต็มแรง ครั้งก่อนก็แก้มขวา ตบครบสองแก้มแล้วเนี่ย
   

“กล้าดียังไงมาว่าฉันเล่นละคร! ฉันร้องไห้จริงนะ ไอ้… เขี้ย ฮื่อ! ฮื่อ!” น้ำตาไหลอย่างมิอาจห้ามได้ เสียงสะอื้นหนักขึ้นจนไม่อาจจะพูดอะไรได้อีก
   

คมเขี้ยวมองคนตรงหน้าที่ยกมือเช็ดน้ำตาสะเปะสะปะและสะอื้นเหมือนใจจะขาดก็ถอนหายใจเบาๆ ดึงร่างเล็กเข้ามากอด เรียวจันทร์ปล่อยโฮกว่าเดิม ซุกหน้าเข้ากับอกคมเขี้ยว สองแขนกอดร่างสูงไว้แน่นราวกับกลัวคมเขี้ยวจะหายไป
   

“นอนเถอะ” คมเขี้ยวยกมือซ้ายขึ้นลูบหัวเรียวจันทร์เบาๆ ทั้งที่สีหน้าตัวเองก็ยังไม่ได้รู้สึกดีขึ้นสักเท่าไหร่
   

ร่างสูงพาร่างเล็กนอนบนเตียง วงแขนโอบไหล่ที่สั่นสะท้านเพราะร้องไห้ มือขวายกขึ้นลูบเส้นผมสีโค้กแผ่วเบา ดวงตาคมเหม่มองเพดานไปเรื่อย ปล่อยความคิดให้ไหลวนไปอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด เรียวจันทร์นอนกอดคมเขี้ยวแน่น แก้มซ้ายวางบนอกหนา ปล่อยน้ำตาไหลลงบนเสื้อยืดสีเข้มจนเปียกชุ่ม
   

“เงียบได้แล้ว”
   

“โกรธฉันอยู่ใช่มั้ย” คมเขี้ยวนิ่งไปพักใหญ่ ได้ยินเสียงสูดน้ำมูกสลับกับเสียงสะอื้นแล้วก็หลับตาลงก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
   

“ไม่โกรธ”…แต่จะให้ไม่รู้สึกอะไร ไม่ถือสาใดๆ เลยก็ไม่ได้อีก
   

เรียวจันทร์แหงนหน้าขึ้นจูบปลายคางคมเขี้ยวเบาๆ และเอาหน้าซุกเข้ากับซอกคออีกฝ่าย และพยายามที่จะหยุดร้องไห้ พยายามที่จะนิ่งไม่ให้ตัวเองงอแงไปมากกว่านี้ คมเขี้ยวถอนหายใจ ลดมือขวาลงไปลูบแขนเรียวจันทร์แทนหัว มือซ้ายยกขึ้นมาจับมือซ้ายของคุณนายไว้ หลับตาลง ปล่อยให้ความหนักหัวหนักใจค่อยๆ เบาลงไปกับการนอน
   


   



เปลือกตาร่างบางเปิดขึ้นเพราะได้ยินเสียงปลุกนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียง เรียวจันทร์บิดตัว เอื้อมแขนขวาไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาปิดเสียงเตือน พอมองหน้าจอก็เห็นว่าเป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าแล้ว พอหันกลับไปเพื่อจะปลุกคมเขี้ยวก็เห็นแต่ความว่างเปล่า หัวใจนางกระตุกวูบ แต่ก็บอกตัวให้เองให้ใจเย็น ใช้สองแขนดันร่างตัวเองลุกขึ้นและมองไปรอบห้องที่เงียบเชียบ มีเพียงเสียงแอร์ที่ดังแผ่ว
   

เรียวจันทร์ปลดล็อคมือถือ กดเบอร์คมเขี้ยวแล้วโทรออก แต่ปลายสายติดต่อไม่ได้ นางถลกผัวนวมออกจากตัว เดินเข้าไปดูในห้องน้ำก็ไม่เห็นวี่แวว พอออกมาจากห้องน้ำก็มุ่งตรงไปที่ประตูห้อง จังหวะที่กำลังจะก้าวออกจากห้องนอน สายตาก็เหลือบไปเห็นตะกร้าเสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าชุดที่คมเขี้ยวใส่เมื่อคืนอยู่ข้างใน เรียวจันทร์ทิ้งเสื้อผ้าลงตะกร้า รีบเดินออกจากห้อง วิ่งลงบันไดเข้าไปในครัว เจอป้าอุ่น ลุงอ๊อด ชายชราผมขาวทั้งหัวและหลานชายกำลังช่วยกันทำกับข้าว
   

“ป้าอุ่น เห็นคมเขี้ยวมั้ย” คนถูกถามทำหน้างงแปบหนึ่ง ก่อนที่หลานชายจะเป็นคนตอบ
   

“อ๋อ พี่เขาออกไปข้างนอกตั้งแต่ตีห้าแล้วครับพี่เรียว” ริมฝีปากสีชมพูเผยอขึ้นด้วยอาการใจหายวาบ
   

“ไปไหน เขาบอกรึเปล่าว่าไปไหน” แก๊ปขมวดคิ้วแล้วส่ายหัว
   

“ไม่ได้บอกอะพี่เรียว แก๊ปตื่นมาก็เห็นเขาเดินพรวดๆ ไปขึ้นรถกระบะที่หน้าบ้านแล้ว” เรียวจันทร์เบิกตากว้างขึ้นอีกนิดด้วยความตกใจ
   

“มีรถมารับเขาเหรอ”
   

“ครับ รถกระบะสีดำคันใหญ่ พอขึ้นรถได้ก็ออกไปเลย” เรียวจันทร์รู้สึกตัวชา น้ำตาตั้งท่าจะเอ่อเต็มขอบตา
   

“มีอะไรรึเปล่าครับคุณหนูเรียว” ลุงอ๊อดถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าซีดๆ ของเจ้านายตนเอง คนถูกถามสั่นหัวเบาๆ แต่สีหน้าอย่างกับคนไร้สติ ก่อนที่จะหมุนตัววิ่งกลับขึ้นไปบนบ้าน ทิ้งความงงและสงสัยไว้ให้สามคนที่เหลือ




 :hao7:

กรี๊ดดดด ขุ่นแม่ >__< ผัวหนีอะ

ตอนแรกจะอัพตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นๆ แล้วค่ะ แต่ติดแพ็คหนังสือ ทำกับน้องสองคนเลยช้าเชียว ลากยาวมาจนถึงเดอะเฟซ กำลังตรวจหาคำผิด เพลิงพระนางก็มาละ 555555 ไม่ได้พัก แต่สุดท้ายวันนี้ก็มาแล้นน้าาาา

กลับมาที่ขุ่นแม่เรียว ในที่สุดก็ได้สารภาพกับสามี แม้จะเป็นในจังหวะที่แสนจะบีบหัวใจตัวนางและไม่ใช่จังหวะที่หวังไว้ ดันมีคนชิงตัดหน้าบอกก่อน ซึ่งคือใครคะ แม่ของแม่ เจ๋ออีกแล้วววว เขาตั้งใจจะบอกกันอยู่แล้วย่ะ นี่แม่แม่เรียวจริงมั้ย ขุ่นแม่ร้องไห้น้ำตานองหน้าไปหมด ตื่นมาผัวหายอีก เหยเหยอีแม่เหย รีบวิ่งไปตามผัวแปบ

เอาจริงๆ ตอนตอมเขียนตัวละครโรสิตา หรือแม่ของเรียวจันทร์ขึ้นมา ตอมคิดหนักตรงที่ว่า เฮ้ย จะมีแม่แบบนี้อยู่มั้นยนสังคม แต่หลายๆ ครั้งเราก็เห็นจากข่าวเรื่องแม่และลูกในหลายๆ ประเด็นที่ไม่ใช่ประเด็นดีๆ ตอนที่เขียนความรู้สึกคมเขี้ยวว่า ตัวเขามีแม่ที่ดี พอมาเจอแม่เรียวจันทร์เหมือนได้เปิดโลกใหม่เลย ตอมเป็นอย่างนั้นตอนที่เราโตขึ้น ได้เสพข่าวมากขึ้น หรือเสพความจริงรอบตัวมากขึ้น ว่าเออ ผู้หญิงบางคนแค่ตั้งท้องแล้วคลอดเด็กออกมาเท่านั้นแหละ แต่ในฐานะแม่คุณแย่มากจริงๆ ปลิงตัวนี้ใหญ่มากและเกาะแน่นมากจริงๆ ค่ะ

แล้วเขาจะอย่างไรกันต่อนั้น เราก็ต้องมาตามกันต่อในตอนถัดไปค่ะ ครุคริๆ  พี่เขี้ยวหนีไปแบบนี้ ขุ่นแม่ต้องตามหาโวยๆ นะคะแม่ / ไปหอคำ!

เป็นกำลังใจให้ขุ่นแม่เรียวในการชิงบัลลังก์ตั่งทองกลับมาด้วยนะคะ

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 12-03-2017 18:48:30
คุณนายใจเย็นๆ คมเขี้ยวนางไปเคลียร์กับจอมทัพรึเปล่า
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mayongc. ที่ 12-03-2017 18:56:21
เข้าใจขุ่นแม่และเขี้ยวกุด ได้แต่ภาวนาให้ง้อผลัวแล้วกลับมาอ้อนได้เร็วๆเหมือนเดิม
เรื่องกับเสี่ยนี่ก็คาราคาซังเหลือเกิน สงสารนุ้งเรียว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 12-03-2017 18:57:00
ขอตบโรสิตาได้มั้ยคะ เบะปาก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-03-2017 20:08:26
 :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 12-03-2017 20:13:41
เราว่าพี่เขี้ยวอาจไม่ได้หนีไปไหนนะ
อาจไปหาเสี่ยจอมทัพก็ได้
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 13-03-2017 03:05:15
พี่เขี้ยวววว รีบเอาพี่เขี้ยวกลับมาเดี๋ยวนี้เลยน้าาา

อย่าให้ขุ่นแม่เรียวเค้าเศร้านาน
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 13-03-2017 12:06:57
หนีเมียไปได้ไงพี่เขี้ยวววว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 13-03-2017 14:54:21
สงสารคุณนายยยยย ผัวหายยย  :hao5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-03-2017 16:19:11
อ่านๆไป ก็กลัวไป
รู้ตั้งแต่แรกว่าต้องเกิดดร่าม่าแน่ๆ
เฮ้อ......มีพ่อที่รัก ก็ไม่ใช่พ่อแท้ๆ
มีแม่รึ.....ก็ไม่มีความเป็นแม่ ไม่รักลูก
มีแต่สร้างหนี้ ให้ลูกลำบาก ทุกข์ทรมาน
จะป่าวประกาศว่าไม่ยอมชดใช้หนี้ที่แม่สร้างอีกแล้ว
คนทั่วไปก็ต้องว่า เรียวเป็นลูกอกตัญญูอีก
เขี้ยวมารู้ความจริง ถึงแม้จะรัปบฟัง
แต่มันบาดใจจริงๆ ทำใจยากมาก
หรือความรักของเขี้ยว กับเรียวจันทร์ จะจบลงจริงๆ
ความเป็นจริงไรนั่น คนที่รู้มากที่สุด
ก็มีแค่เพื่อนสนิทเรียวเท่านั้น
ที่จะบอกเขี้ยวได้  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 14-03-2017 14:55:07
 :z3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: GnA ที่ 14-03-2017 21:37:52
ถือว่าดีนะคะ
แต่ขอตินิดนึงค่ะ ภาษาพูดดูเป็นเด็กวัยรุ่นไปหน่อยไม่เหมือนคนวัยทำงานแล้ว และถ้าเรียวจะเป็นนายเอกที่แรง ร้าย แรด แต่ไม่ร่านจะดูดีกว่านี้เยอะค่ะ อันนี้นางเจอใครก็อ้าขาหมดไม่ดีเลย

ขอโทษนะคะถ้าหากติไม่ถูกใจ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๕/ครึ่งหลัง :12.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 15-03-2017 18:13:34
ดีแล้วล่ะให้มันรู้กันไปเลย.  :mew2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 19-03-2017 21:12:16



คาถาที่ 26 :: I can't. (ฉันทำ... ไม่ได้) [ครึ่งแรก]



เสียงล้อรถบดกับพื้นดินจนน้ำที่ขังบางหย่อมกระจายเมื่อโดนล้อกระแทกใส่ในยามเย็นพระอาทิตย์ใกล้ตก เหล่าคนงานหันไปมองรถยนต์สีฟ้าคุ้นตาของนายแบบหนุ่มที่มาอยู่ฟาร์มนี้ได้สามเดือนแล้ว ทุกคนแค่หันไปมองแล้วก็หันกลับไปสนใจหน้าที่ของตนเองต่อเพราะคิดว่าหนุ่มหน้าหวานกลับมาฟาร์มตามปกติ แต่ใครจะรู้ว่าหนุ่มหน้าหวานยามนี้พกพายุลูกโตมาด้วย

           

 

เสียงเบรกรถดังเอี๊ยดตรงหน้าประตูบ้านใหญ่ เรียวจันทร์เปิดประตูรถออกมาสัมผัสกับบรรยากาศเย็นและเฉอะแฉะ ขาวยาวๆ ก้าวออกจากรถแล้วปิดประตูดังปัง ใบหน้าทั้งเสียใจทั้งโกรธปนกันมั่วจนไม่รู้จะเลือกหน้าไหนเป็นสีหน้าหลักของตัวเองในยามนี้ คุณนายเดินลิ่วๆ เข้าไปในบ้านใหญ่ ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นการเดินที่เร็วมากจนอาจทำให้รันเวย์หักได้หากใช้สเต็ปนี้

           

 

ร่างบางโผล่พรวดเข้าไปในบ้าน ไม่มีคนอยู่ทั้งในห้องโถง ห้องครัว ห้องทานข้าวและระเบียงหลังบ้าน นางเลยเดินไปทางห้องนอนคมเขี้ยว แต่เปิดเข้าไปก็พบเจอแต่ความว่างเปล่า เลยรีบเดินออกจากบ้าน ขณะที่กำลังเดินลงบันได เรียวจันทร์ก็มองเห็นดินอยู่นอกรั้วบ้านแว้บๆ

           

 

“ดิน!” เจ้าของชื่อหันรีหันขวางมองหาต้นเสียง สักพักก็เห็นขวัญใจตัวเองโผล่ออกมาจากในตัวบ้าน

           

 

“อ้าวคุณเรียว”

           

 

“พี่ชายดินอยู่ไหนเหรอ” แม้จะใจร้อน แต่เรียวจันทร์ก็ยังมีสติที่จะไม่ใช้น้ำเสียงแว้ดๆ ใส่คนอื่นที่เขาไม่รู้เรื่องด้วย รึอาจจะรู้แต่เขาก็ไม่ใช่เจ้าตัว

           

 

“อยู่ข้างฟาร์มนู่นครับ พาไอ้เดือนหงายไปเดินเล่น” ดินชี้ไปที่พื้นที่นอกรั้วฟาร์มที่เป็นทุ่งหญ้ากว้างติดกับภูเขา เรียวจันทร์อยากจะปรี๊ดให้แตกกลางฟาร์ม ในขณะที่นางร้อนใจแทบไฟไหม้ ถ่ายหนังแบบสมาธิมีบ้างไม่มีบ้างจนผู้กำกับเกือบด่าแม่ (ซึ่งนางจะยอมให้ด่าแน่นอน) แต่ไอ้เขี้ยวกุดกลับพาไอ้ม้าตัวดีไปเดินเล่น!

           

 

“เมื่อเช้ามืดพี่เขี้ยวให้ดินไปรับที่บ้านหลังนึง ไม่รู้ว่าบ้านใครเหมือนกันครับ กลับมาก็นิ่งเงียบ ไม่พูดไม่คุยกับใครเลย” เรียวจันทร์พ่นลมหายใจออกทางจมูกแผ่วเบา พายุที่รอพร้อมถล่มค่อยๆ หมุนช้าลง แต่ถ้าโดนมวลอากาศกดต่ำเกินไปรับรองเลยว่านางฟาดพายุใส่แน่ๆ

           

 

“ขอบคุณมากนะดิน” เรียวจันทร์ยกมือตบบ่าหนาของปฐพีไปสองสามที ก้าวเท้าเดินไปตามทางที่พาไปสู่ทุ่งหญ้าข้างฟาร์ม ดินมองตามงงๆ เมื่อเช้าพี่เขี้ยวก็เงียบ ไม่พูดไม่จา ไม่มีแอคชั่นอะไรเลยก็ว่าได้ มาตอนนี้คุณเรียวก็ดูจะพร้อมเหวี่ยงได้ทุกเมื่อ

           

 

เรียวจันทร์เดินไปตามถนนดินแฉะๆ อย่างที่ไม่กลัวว่ารองเท้าผ้าใบราคาแพงจะเปื้อน ถึงเปื้อนนางก็ไม่สนใจ ตอนนี้ใจนางอยากจะเคลียร์กับผู้ชายคนนั้นให้รู้เรื่องมากกว่า เดินมายังไม่ทันถึงรั้วที่จะข้ามไปอีกฝั่ง ขาเรียวยาวก็หยุดเดินเพราะเจอเป้าหมายของตัวเองกำลังนั่งอยู่บนหลังม้าสีดำมันวาวที่กำลังเดินมาทางนี้ คมเขี้ยวสบตากับนางนิ่ง เรียวจันทร์ก็ยืนรออีกฝ่ายนิ่งเช่นกัน

           

 

“…” ต่างคนต่างเงียบแม้จะอยู่ในระยะใกล้กันแล้ว คมเขี้ยวดึงเชือกให้ม้าสีดำมันเลื่อมตัวใหญ่หยุดเดิน เรียวจันทร์สูดลมหายใจเข้าปอดได้ก็ไม่รีรออะไรทั้งสิ้น

           

 

“หนีกลับทำไม จะเอายังไงทำไมไม่พูด ทิ้งฉันอย่างนั้นได้ยังไง หรือต้องการจะบอกว่าพร้อมจะทิ้งฉันแล้ว งั้นก็พูดมาตรงๆ สิ!” เรียวจันทร์มองหน้าคมเขี้ยวด้วยความผิดหวัง เสียใจยังไม่เท่าผิดหวังกับการที่อีกฝ่ายทำแบบนี้

           

 

“แล้วถ้าผมบอกว่าเราไม่ต้องยุ่งกันอีกล่ะ” เรียวจันทร์สะดุดกึก น้ำตาคลอเบ้าอย่างไม่ทันห้าม หัวใจกระตุกไปหนึ่งทีแล้วก็เหมือนมันจะไม่เต้นอีก

           

 

แต่ถึงอย่างนั้นคุณนายแม่ก็สะกดอารมณ์ข่มความน้อยใจของตัวเองให้มิด เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย

           

 

“ถ้านายต้องการอย่างนั้น ฉันก็จะทำตาม” ริมฝีปากชมพูสดขยับพูดเสียงราบเรียบ ดวงตาสุกใสไหวระริก น้ำตาทอประกายเล็กๆ กับแสงแดด

           

 

คมเขี้ยวมองร่างบางด้วยสายตาที่เดาไม่ออก จนเรียวจันทร์รู้สึกอึกอัดและพูดออกมาด้วยความหงุดหงิดปนโมโห “จะพูดอะไรก็พูดมา ไม่ต้องมาทำมองนิ่ง ฉันไม่ใช่ลอร์ดโวลเดอร์มอร์ ฉันอ่านใจนายไม่ออกหรอก!”

           

 

“ไหนว่ารักผมจริง” คิ้วเรียวสวยขมวดฉับ

           

 

“เอ๊ะ?!”

           

 

“ปากบอกว่ารักผม แต่จะยอมแพ้ เชื่อได้มั้ยว่ารักกันจริง” เรียวจันทร์มองคนที่นั่งอยู่บนม้าด้วยความไม่เข้าใจ

           

 

“แล้วนายจะให้ฉันหน้าด้านอยู่ทั้งที่นายเมินเฉยกับฉันเงี้ยเหรอ?!”

           

 

“ปกติก็หน้าด้านอยู่แล้ว จะอายอะไร”

           

 

“ไอ้เขี้ยวกุด!!” คุณนายสบถออกมาดังลั่นด้วยความโกรธ ดวงตากวางน้อยแปรเปลี่ยนเป็นนางเสือพร้อมตะปบกรงเล็บใส่อีกฝ่าย เสียงนางดังจนม้าขยับเท้ากุบกับๆ ด้วยความตกใจ คนงานในละแวกใกล้เคียงยังหันมามองด้วยสายตาตื่นตระหนกเล็กๆ

           

 

“ฉันรักนาย แต่ดูที่นายทำกับฉัน ถ้าจะหนีมาแบบนี้ เมื่อคืนก็น่าจะเอาฉันก่อนก็ได้!” นางว่าทั้งที่น้ำตาไหลแหมะลงบนแก้มนวล ไม่คิดยกมือขึ้นมาเช็ดด้วย ไหลได้ไหลไป

           

 

“เอาไม่ลง ไม่มีอารมณ์” คมเขี้ยวว่านิ่งๆ เรียวจันทร์กัดฟันแน่นด้วยความเจ็บใจกับคำว่า เอาไม่ลง

           

 

ไอ้บ้านี่ ก่อนหน้าไม่กี่วัน ยังเอาฉันจนหมดแรง พูดอย่างกับฉันเสื่อมสภาพแล้วงั้นแหละ!

 

 

นางเจ็บใจตรงนี้!

           

 

“งั้นนายก็คงไม่มีอารมณ์อยากจะเจอฉันอีก”

           

 

“ก็สร้างขึ้นใหม่ ทำได้มั้ย ทำให้เห็นหน่อยว่าจริงใจกับผมจริงๆ ไม่ใช่แค่พูดเอาตัวรอด” เรียวจันทร์มองอย่างสับสนปนโกรธเคือง นึกโมโหอยากด่าให้ไอ้บ้าหน้านิ่งขรึมลงมาคุยกันดีๆ

           

 

“เอาตัวรอดอะไร ฉันร่อแร่อยู่เนี่ย!” มาหาว่าเอาตัวรอด รอดอะไรล่ะ เมื่อเช้านางอาการแย่แค่ไหนไอ้เขี้ยวกุดไม่รู้หรอก เมื่อวานเพิ่งหน้าระรื่นอวดผู้ชายในกอง วันนี้หน้าหดเพราะผู้ชายหาย

           

 

คมเขี้ยวไม่โต้อะไร ทำเพียงมองหน้าสวยๆ ของเรียวจันทร์แล้วยิ้มหึมุมปากเหมือนเยาะน้อยๆ เรียวจันทร์ตีหน้าเคร่งใส่กับกิริยานั้น 

           

 

“พี่เขี้ยว!” เสียงของดินดังขึ้นพร้อมกับร่างยักษ์ราวกับหมีป่าวิ่งมาทางที่ทั้งสองคนยืนอยู่

           

 

“ว่าไงไอ้ดิน”

           

 

“ไอ้คุณจอมทัพมา” เรียวจันทร์ใจหายวาบ ดวงตาเบิกกว้างมองคมเขี้ยวที่ขบกรามแน่น หัวใจเต้นระส่ำด้วยความไม่สบายใจ

           

 

“มันอยู่ไหน” เจ้าของฟาร์มถามเสียงนิ่ง

           

 

“อยู่ออฟฟิศพี่ พ่อกับแม่กำลังไป” คมเขี้ยวหันไปมองเรียวจันทร์แล้วยิ้มเยาะ

           

 

“มันมาถามว่าทำสำเร็จรึเปล่าละมั้ง…” นางล่ะเกลียดการประชดของไอ้เขี้ยวกุดจริงๆ !

           

 

“…พาขวัญใจมึงเดินกลับออฟฟิศด้วย” คมเขี้ยวกระตุกเชือก เจ้าม้าสีดำวิ่งเหยาะๆ ผ่านหน้าเรียวจันทร์กับดินไป ทิ้งให้เรียวจันทร์ยืนเป็นกังวล ทิ้งให้ดินยืนงงไม่เข้าใจ

           

 

“คุณเรียว…”

           

 

“…ไปออฟฟิศกันเถอะดิน” มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาบนแก้ม ดินเบิกตากว้างที่เห็นคุณเรียวร้องไห้เลยเดินเข้าไปโอบกอดร่างบาง เรียวจันทร์หันไปมองดิน เม้มปากแล้วน้ำตาก็เอ่ออีกครั้ง

           

 

“ขอบใจนะ” เรียวจันทร์ยิ้มทั้งน้ำตา ดินสับสนไม่รู้ว่าต้องทำยังไง เลยได้แต่ลูบไหล่บางไปมาเป็นการปลอบ เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอและพ่นลมหายใจออกทางจมูกเบาๆ ยกสองมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มจนแห้ง

           

 

“ไปเถอะ” ใจจริงไอ้ดินก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม้จะซื่อแต่ก็ไม่ได้โง่ถึงขั้นเอาเหตุการณ์ตั้งแต่เช้ามืดมาโยงกับเย็นนี้ไม่ได้

           

 

ทั้งสองคนเดินกลับมาที่ออฟฟิศ พอเปิดประตูเข้าไปด้านในก็เจอกับบรรยากาศอึมครึมพอๆ กับบรรยากาศด้านนอก ที่สดใสสุดคงจะเป็นรอยยิ้มของเสี่ยจอมทัพที่นั่งวางมาดสมคำนำหน้าว่าเสี่ย บัวบูชานั่งสีหน้าอึดอัดนิดหน่อย เมฆานิ่งแต่ก็สัมผัสได้ว่าพร้อมเหี้ยม ส่วนคมเขี้ยวมองจอมทัพด้วยความไม่ชอบใจอย่างแรง

           

 

“อ้าว สุดที่รักของผมมาละ” คุณนายนึกอยากจะตะบันหน้าอีตาเสี่ยแรงๆ ก็วันนี้ เอาแบบแรงกว่าที่เคยคิดก่อนหน้านี้ ไอ้รอยยิ้มทะเล้นไม่เป็นเวลานั่นยิ่งทำให้หน้าเสี่ยกวนตีนเข้าไปอีก

           

 

“งั้นก็พูดได้ละว่ามาทำไม” คมเขี้ยวบอกหน้านิ่งเสียงแอบเหี้ยมเล็กๆ จอมทัพยิ้มกริ่ม ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินเข้ามาโอบไหล่เรียวจันทร์ คุณนายขมวดคิ้ว พยายามสะบัดไหล่ออกจากการเกาะกุมแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะจอมทัพบีบจนไหล่แทบร้าวเหมือนเป็นการเตือนว่าถ้ายังพยศอยู่จะโดนหนักกว่านี้

           

 

“มาคุยเรื่องที่อีกอะดิ ไม่มีใครขายให้หรอก” ดินว่าอย่างหัวเสียเล็กๆ มองจอมทัพด้วยความไม่ชอบใจเหมือนพี่ชายตัวเอง คนโดนไล่หันไปมองด้วยท่าทีสบายๆ

           

 

“อ้าว สรุปคุณทำไม่สำเร็จเหรอที่รัก” หัวใจเรียวจันทร์เต้นแรงขึ้นตอนที่จอมทัพกดหน้าลงมองนางแล้วยิ้มอ่อนให้ นางรีบหันไปมองทุกคนอย่างรวดเร็ว มีคมเขี้ยวคนเดียวที่ทำหน้านิ่ง นอกนั้นมองนางด้วยความงงๆ นิดหน่อย

           

 

“ผมให้เวลาคุณตั้งสามเดือน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความว่างเปล่าซะงั้น” แม้รูปประโยคจะดูดุ แต่สีหน้าและน้ำเสียงของจอมทัพกลับตรงกันข้าม เขายิ้มแย้มท่าทางไม่ขุ่นเคืองใดๆ แต่นั่นแหละที่เรียวจันทร์ไม่ชอบ

           

 

“คุณให้หนูเรียวทำอะไร” เมฆาถามอย่างข้องใจ มองหน้าจอมทัพนิ่ง เจ้าตัวกระตุกยิ้ม หันไปมองเรียวจันทร์ที่ทำท่าฮึดฮัดอยากจะออกจากอ้อมแขนตัวเองซะเหลือเกิน

           

 

แม้ปากจะยิ้มแต่มือที่บีบไหล่เรียวจันทร์กลับแน่นจนคุณนายนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

           

 

“คุณป๋าคะ…”

           

 

“…มันให้เรียวจันทร์มาติดต่อเรื่องซื้อที่ดิน” คมเขี้ยวชิงพูดขึ้นมาก่อนที่เรียวจันทร์จะทันได้ตอบ คุณนายหันไปมองคมเขี้ยวด้วยความเซ็งที่แย่งนางพูด

           

 

เมฆาและบัวบูชาขมวดคิ้วเข้าหากัน หันมองหน้ากันด้วยความงงงวย “ให้หนูเรียวมาซื้อที่ดิน? คือยังไง ก็ไม่เห็นหนูเรียวพูดอะไรนี่”

           

 

“ปกติลูกเพื่อนป๋าพูดมากตลอด แต่เรื่องนี้เขาเลือกจะเงียบ” เรียวจันทร์ถลึงตาใส่คมเขี้ยวและสะบัดจอมทัพออกในที่สุดด้วยความรำคาญ นางหันไปมองจอมทัพที่ปากยิ้มแต่ดวงตาวาววับจนเผลอใจเสียไปวูบหนึ่ง

           

 

“ที่เรียวไม่พูดเพราะสิ่งที่คิดไว้ตอนแรกมันกลับตาลปัตรหมด…” เรียวจันทร์หลับตา นึกคำพูดในหัวว่าควรใช้คำไหนยังไงดี

           

 

“…เรียวมาที่นี่เพราะเรื่องที่ดินจริง แต่นั่นคือความรู้สึกในตอนแรก แต่ความรู้สึกช่วงหลังๆ อาจจะ… หยุดเลยไอ้เขี้ยวกุด อย่าพูดแทรกนะ!” เรียวจันทร์ขู่ฟ่อเมื่อเห็นคมเขี้ยวยกมือขึ้นเบรกไม่ให้นางพูดต่อ แต่เจ้าของฟาร์มกลับไม่สนใจคำขู่นั้น

           

 

“จะมาพูดอะไรตอนนี้ ทีเรื่องอื่นล่ะพูดได้ แต่พอเป็นความผิดตัวเองกลับเก็บเงียบ” คมเขี้ยวว่าหน้าดุเสียงเข้ม เรียวจันทร์ทำสีหน้าหงุดหงิดใส่

           

 

“เขี้ยวจะขัดน้องทำไมล่ะ” บัวบูชาปรามเล็กๆ คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์หน้าบึ้งหน่อยๆ คุณนายหน้านิ่วคิ้วขมวดกับท่าทีของพ่อแฟนตัวดี

           

 

“มีอะไรก็พูดมาเถอะจ้ะหนูเรียว” บัวบูชาหันมาบอกร่างเล็กอย่างใจดี เรียวจันทร์นึกหวาดกลัวในใจว่าถ้าบอกไปความใจดีที่มีให้นางจะยังอยู่มั้ย ไหนจะคุณป๋าที่ยังมีสีหน้าเคร่งเครียดนั่นอีก

           

 

“ตอนแรกเลยเรียวมาที่นี่ด้วยเรื่องที่ดิน เรียวเป็นหนี้คุณจอมทัพ เขาเลยเสนอว่าให้เรียวมาเกลี้ยกล่อมเจ้าของฟาร์มนี้ขายที่ให้ได้…”

           

 

“…อันที่จริงผมไม่ได้จะให้เรียวจันทร์มาเกลี้ยกล่อมหรอกครับ” เรียวจันทร์ที่กำลังขยับปากชะงักกึก หันไปมองจอมทัพที่ยิ้มละมุน และเดินกลับเข้ามาโอบไหล่นางไว้ตามเดิม นางหันไปมองคนอื่นๆ ทุกคนยกเว้นคมเขี้ยวที่มองด้วยความสงสัย พ่อเครางามขบกรามแน่นมองจอมทัพอย่างไม่พอใจ

           

 

แม้จะอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด แต่คุณนายแกก็แอบดีใจที่สัมผัสได้ว่าพ่อเขี้ยวกุดหึง

           

 

“อะไรของคุณ?” ร่างบางหันไปถามอย่างไม่เข้าใจและพยายามยกมือขึ้นแกะมือใหญ่หนาของจอมทัพออก แต่เจ้าของมือกลับบีบแน่นขึ้นและคราวนี้ไม่มีรอยยิ้ม มีเพียงใบหน้านิ่งและสายตาที่สื่อว่ารำคาญกับกิริยาสะดีดสะดิ้งนี้แล้ว เรียวจันทร์เลยเลือกยืนนิ่งๆ สร้างความพึงพอใจให้จอมทัพได้บ้าง

 

 

“ผมส่งเขามา กะให้มาเตือนความจำพวกคุณ” เรียวจันทร์หน้างงสักแปบก่อนที่จะขมวดคิ้วฉับ หันไปมองจอมทัพที่ยิ้มกริ่มไปให้ทางครอบครัวพยัคฆ์เกรียงไกร

           

 

“เตือนความจำ? ความจำอะไร?” เรียวจันทร์ถามด้วยความไม่เข้าใจ สี่คนที่เหลือก็ทำหน้าไม่เข้าใจ แต่ในขณะเดียวกัน เมฆาก็กำลังครุ่นคิดทบทวนคำพูดนั้นอยู่

           

 

“เตือนว่าควรคืนที่ดินให้เจ้าของตัวจริงได้แล้ว” และนั่นเองที่ทำให้เมฆากระจ่างว่าจอมทัพต้องการสื่ออะไร ทั้งสองมองสบตากันนิ่ง จอมทัพกระตุกยิ้มมุมปาก เมฆาผ่อนลมหายใจแผ่วเบา บัวบูชาหันไปมองสามีอย่างตระหนกเล็กๆ หน้าตึงๆ ของคมเขี้ยวคลายลงเพราะเข้าใจเช่นกันว่าจอมทัพพูดถึงอะไร คงมีแต่ดินกับเรียวจันทร์ที่ยังงงอยู่

           

 

“เก็บไว้กับตัวนานไป จนบางทีอาจเผลอคิดว่าเป็นของตัวเอง ผมเลยมาเตือน แต่ขนาดเจ้าของเขามาอยู่กับคุณถึงที่ ก็ยังนิ่งเงียบ” จอมทัพกล่าวนิ่งสงบเยือกเย็น ท่าทางก็ใจเย็นไม่รีบไม่ร้อน

           

 

“ช่วยแปลความหมายหน่อยได้มั้ย ฉันงง” เรียวจันทร์ว่าด้วยความหงุดหงิด เพราะนางแกทแพทเชื่อมโยงไม่ได้เลย รุ่นนางสอบโอเน็ตเอเน็ตนะยะ!

           

 

“คุณอาจจะคิดว่าผมกล้ามากที่มาเหยียบที่นี่ทั้งที่ผมเพิ่งทำเรื่องไม่ดีกับฟาร์มนี้ไป” พอเจ้าตัวพูดขึ้นมา เรียวจันทร์เลยนึกขึ้นได้ นางเบิกตากว้าง หันไปมองจอมทัพอย่างขุ่นเคือง แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกรุนแรง กลัวอีกฝ่ายจะสั่งลูกน้องที่รออยู่ด้านนอกทำอะไรฟาร์ม

           

 

“แต่ตราบใดที่มีเพียงคำพูด ไม่มีหลักฐานมัดตัวผมแน่ชัด ผมก็ยังมีสิทธิสู้คดีอยู่ จริงมั้ยครับ…” จอมทัพหันไปยิ้มอ่อนกับคมเขี้ยวที่ขบฟันและกำหมัดแน่น

           

 

“…วันนี้ผมแค่จะมารับตัวเรียวจันทร์กลับบ้าน พร้อมกับของๆ เขา”

           

 

“ไม่! ฉันไม่กลับ หนี้สินทุกอย่างฉันจะทำงานหามาใช้ให้เอง!” เรียวจันทร์หันไปตะเบ็งเสียงใส่คนข้างกายทันที แต่จอมทัพไม่สนใจ หันไปพูดกับครอบครัวพยัคฆ์เกรียงไกรต่ออย่างราบเรียบ

           

 

“ว่ายังไงครับ คืนให้เจ้าของเขาได้รึยัง…” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วหงุดหงิด ไม่เข้าใจว่าใครเป็นเจ้าของอะไร พูดในสิ่งที่นางไม่เข้าใจอยู่ได้

           

 

“…คุณไม่ต้องทำงานหรอก แค่ให้ในสิ่งที่ผมอยากได้ก็พอ” จอมทัพหันหน้ากลับมาพูดกับนาง

           

 

“อะไรเนี่ย?! ให้อะไร ฉันไม่มีอะไรจะให้!” คุณนายพูดเสียงเหวี่ยงหน้าเหวี่ยงไม่แพ้เสียง

           

 

“ก็ที่ดินที่นี่ไง ที่ดินที่เป็นของคุณ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว อ้าปากค้าง พอๆ กับดินที่อ้าปากหวอสีหน้ามึนงง

           

 

“อะไร? ที่ดินไหนเป็นของฉัน บ้ารึเปล่า ฉันไม่มีที่ดินอะไรทั้งนั้นแหละ” ที่ดินที่เดียวที่นางมีก็บ้านนางนั่นไง

           

 

“มีสิหนูเรียว” เรียวจันทร์หันไปมองเมฆาสีหน้าสับสน

           

 

“ในที่สุดก็บอกสักทีนะครับ” จอมทัพยิ้มอ่อน เมฆาถอนหายใจแผ่วเบา แล้วว่าเสียงเรียบ

           

 

“ไอ้อาทิตย์เป็นเจ้าของที่ดินตรงนี้ทั้งหมด และทั้งหมดนี้ มันยกให้หนูคนเดียว” เมื่อกี้ว่าเหวอแล้ว ตอนนี้นางเหวอยิ่งกว่าเดิม เพิ่มเติมคือความมึนเข้าไปอีกระดับ

           

 

“อะไรนะคะ ที่ดิน? หมายถึงที่ฟาร์มเนี้ยอะเหรอ” เมฆากดหน้าลงหนึ่งทีเป็นการยืนยัน แม้จะมึนงงสับสนไม่เข้าใจเต็มที่ แต่ก็เริ่มจับใจความได้คร่าวๆ แล้วว่าเรื่องราวมันออกมาในรูปแบบไหน

           

 

“จากยาจก ไม่สิ ต่ำไป จากคนที่ทำงานหาเช้ากินค่ำ หาค่ำกินเช้าบ้างอย่างเรียวกลายเป็นทายาทที่ดินราคาร้อยล้านงั้นเหรอ?” คุณนายอึ้งไปนิดกับชีวิตตัวเอง ที่ตอนนี้ทำท่าจะพลิกไปในทางที่ดีเกินคาดซะเหลือเกิน

           

 

“มากกว่าร้อยล้านอีก” จอมทัพแก้ให้กับราคาที่ดินของเรียวจันทร์ เจ้าของที่ดินที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีมรดกตกทอดมาถึงตัวเองเบิกตากว้างขึ้นอีกนิด

           

 

“ป๋าขอโทษนะที่ไม่ได้บอก แต่ป๋าไม่เคยคิดจะฮุบเป็นของตัวเอง” เรียวจันทร์ที่ตั้งสติกับเรื่องราคาที่ดินที่มากกว่าร้อนล้านได้แล้วหันไปหาคนพูด

           

 

“เรียวก็ไม่คิดแบบนั้นค่ะ อันที่จริงตอนนี้เรียวยังคิดอะไรเป็นจริงเป็นจังไม่ได้เลย…” นางตวัดตาไปมองคมเขี้ยวที่มองกลับมาด้วยสายตาอ่อนล้าเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปมองจอมทัพ

           

 

“…งั้นถ้าฉันเป็นเจ้าของ ฉันก็มีสิทธิที่จะขายหรือไม่ขายให้กับใครก็ได้ และฉันไม่ขายให้คุณ” เอาเป็นว่ารายละเอียดใดๆ นางยังไม่คิดถาม แต่ขอเล่นประเด็นที่ต้องตัดจบให้รู้เรื่องที่สุดก่อน

           

 

จอมทัพหรี่ตามองเรียวจันทร์ ใบหน้ามีแววเหี้ยม “คุณแน่ใจนะที่พูดแบบนั้น”

           

 

เกิดความรู้สึกสะอึกในอกของคุณนาย นางรู้สึกผวากับน้ำเสียงและสีหน้าแสนเยือกเย็นของจอมทัพที่กำลังแสดงออกอยู่ในตอนนี้ มันไม่ใช่แค่ความเยือกเย็น แต่นางรู้สึกถึงความเลือดเย็นเลยต่างหาก

 





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:


แอร๊ยยยย พี่เขี้ยวทำไมหนีมาแบบเน้ ขุ่นแม่แย่เลยนะคะ แต่เอาจริง ขุ่นแม่ก็แย่เพราะมุบมิบอุ๊บอิ๊บไว้เองอะน้าาาา

แต่กรี๊ดดดด เสี่ยมาค่าาา >O< ยังไงคะ จะบรรลัยมั้ยงานนี้ อีรุงตุงนังมั่วซั่วไปหมด คุณแม่รู้ความจริง และอีเสี่ยก็ขู่เข็ญจะเอาที่ดิน

หมดสิ้นผืนแผ่นดินนนน ต้องพลาดพลั้งหมดทางงง เพราะเพลิงงง พระนางงง ครองจิตใจจจจ

ใจเต้นตุบๆ รู้สึกผวาไปกับขุ่นแม่ค่ะ เสี่ยไม่ได้มาในมาดบนเตียงที่อ้อล้อ หยอกเอินขุ่นแม่อีกแล้ว

พี่เขี้ยวก็ยังเคืองไม่หาย เรียกได้ว่าความเขี้ยวไม่ทันหาย ความทัพก็เข้ามาแทรกอีก อีแม่เรียวใจบ่อดีเลยค่ะลูกว่า

อย่างไรเสีย พวกเจ้าจงเป็นกำลังใจให้แม่ด้วย ให้แม่ฝ่าฟัน ผ่านพ้นวันอีรุงตุงนังนี้ไปให้ได้

เจอกันอีกครึ่งที่เหลือนะเจ้าคะพระนางเจ้า 



แท็ก #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-03-2017 21:56:26
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-03-2017 21:57:29
ตบอีเสี่ยให้ตาย!!!!
จับเสี่ยคู่กะหนูดินได้มั้ย อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mayongc. ที่ 19-03-2017 22:03:03
พ่อเขี้ยวกุดมีความงอนเหมือนอยากให้เขารุกจีบใหม่
เสี่ยดูเหี้ยมเหลือเกิน มีเรื่องบ้านอีกเรื่องที่ขู่ได้รึเปล่าหนอ
ขอให้ขุ่นแม่เรียวสู้สำหรับสึกนี้เด้อ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: poommy_TY ที่ 19-03-2017 22:10:53
โอ้ยยย อีรุงตุงนังเหลือเกินเพคะคุณนาย อีเสี่ยจะเอายังไงกับคุณนายคะ ว่ามาโลด อย่ามาร้ายกับคุณนายนะ สงสารนาง

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 19-03-2017 22:16:18
สู้เขานะคะขุ่นแม่เรียวววว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-03-2017 22:35:34
 :z6: :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 19-03-2017 22:43:59
เจ้านางเรียวทิพย์สู้ๆนะเจ้าคะ ตบอีเสี่ยปลิวแป๊บ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: bowbeauty ที่ 19-03-2017 22:44:09
ค้างไปอีกกก อย่ายาวจนเป็นไตรภาคเหมือนน้องเอเลี่ยนเลย ขอเถอะคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 20-03-2017 00:33:01
 :katai1: ยุ่งเหยิงอีรุงตุงนังจริง ๆ แล้วไอ้ฟาร์มเนี่ยมันมีอะไรหนักหนาน่ะ ที่ไอ้จอมทัพมันอยากได้เสียเหลือเกิน แล้วมันรู้ได้ยังไงว่าที่นี้เป็นของแม่เรียวล่ะจ้ะ แล้วแม่เรียวได้เจอจอมทัพในมาดอมหิตเสียที  :katai3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Lunar_lustre ที่ 20-03-2017 11:15:11
โอยย กำลังเข้าสู่ช่วงดราม่ารึเปล่า ค้างอย่างแรง รีบมาต่อที่เหลือนะคะ
เราจะกลับไปอ่านทวนตั้งแต่แรกใหม่ เอาความไร้สาระและความฮาของขุ่นแม่เรียวมาเยียวยาจิตใจ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 21-03-2017 01:11:02
ทำไทจอมทัพถึงอยากได้ที่ดินตรงนี้จัง
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งแรก :19.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 21-03-2017 16:50:16
 :z3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งหลัง :26.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 26-03-2017 16:32:51


คาถาที่ 26 [ครึ่งหลัง]



วูบแรกขนคอเรียวจันทร์ลุกชันกับสายตาดุจพญาเหยี่ยวของจอมทัพ แต่นางก็สะบัดอาการกลัวทิ้งแล้วเชิดหน้าขึ้นสู้และพูดเสียงแข็ง “ใช่ ก็ในเมื่อฉันเป็นเจ้าของที่ดิน ฉันก็ขอใช้สิทธิว่าไม่ขาย”
   


“แล้วหนี้ผม?” จอมทัพเลิกคิ้วขึ้น ท่าทีไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจใดๆ
   


“ฉันจะทำงานใช้หนี้ แต่ฉันจะไม่ขายที่ดินของพ่อเด็ดขาด ถ้าพ่อฝากไว้กับคุณป๋า แสดงว่าพ่อต้องมีเหตุผล” เรียวจันทร์ว่าอย่างแน่วแน่ จ้องมองจอมทัพนิ่งราวกับต้องการจะบอกว่านางหมายความตามที่พูดจริงๆ
   


“รึถ้าคุณอยากได้เงินเลย บอกมาว่าหนูเรียวติดหนี้คุณไว้เท่าไหร่ เดี๋ยวผมใช้แทนให้” เรียวจันทร์หันไปมองเมฆาด้วยความซึ้งใจ
   


“อ้อ ใช้ที่ดินเขาทำมาหากินจนร่ำรวย” จอมทัพยิ้มเยาะ บัวบูชาสะอึกไปนิด เมฆาขบกรามแน่น ดินขมวดคิ้วไม่ชอบใจ
   


“เฮ้ย!” คมเขี้ยวสบถดังลั่นออฟฟิศจนบัวบูชาต้องยกมือแตะไหล่ลูกชาย ใบหน้าหล่อของคมเขี้ยวบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
   


“ถ้าไม่มีที่ดินของเรียวจันทร์ พวกคุณจะเป็นยังไงเหรอ” จอมทัพยังคงกวนอารมณ์ด้วยท่าทีสบายๆ กับน้ำเสียงติดทะเล้นเล็กๆ
   


“มึง!” คมเขี้ยวลุกพรวด พุ่งเข้ามาจะต่อยจอมทัพ คนจะโดนต่อยยืนนิ่งไม่สะทกสะท้าน ดินกับเมฆารีบเข้าไปดันร่างคมเขี้ยวไว้ก่อน เรียวจันทร์ตะลึงไปนิดกับอารมณ์เดือดของคมเขี้ยว
   


“เสี่ย! ถ้าไม่มีพวกเขา ที่ดินตรงนี้ก็รกร้างว่างเปล่าอยู่ดี!”
   


“ผมจะพัฒนามันต่อไง”
   


“พัฒนาแบบคุณน่ะไม่ต้อง” เรียวจันทร์ว่าเสียงสะบัด จอมทัพหันไปมองคมเขี้ยวที่ยืนมองตาขวางแล้วยิ้มเยาะ ก่อนหันกลับมามองเรียวจันทร์อีกที
   


“รู้สึกว่าคนบ้านนี้ทำอะไรจะถูกใจคุณไปหมดเลยนะ”
   


“ใครบอก ก็มีไม่ถูกใจบ้าง…” นางตวัดสายตาไปมองคมเขี้ยวที่ย่นคิ้วใส่นาง “…โดยเฉพาะไอ้เขี้ยวกุดเนี่ย!”
   


จอมทัพเลิกคิ้วขึ้น ไม่ได้งงเป็นไก่ตาแตกอะไร แค่ประหลาดใจนิดหน่อย แต่สามคนที่เหลือมีสีหน้างุนงงกับคำเหวี่ยงของเรียวจันทร์เล็กๆ แต่เพราะความตึงเครียดที่เกิดขึ้นเลยไม่ได้จดจ่อตรงนั้นเท่าไหร่
   


“ถ้างั้นก็กลับไปกับผม คุณสนุกมากพอละ” เรียวจันทร์ตาโต กระเถิบถอยห่างออกจากจอมทัพทันที
   


“ไม่กลับ ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้นอะ”
   


“เรื่องหนี้หนูเรียว บอกผมมาว่าเท่าไหร่” เมฆาเอ่ยบอกอย่างใจเย็น จอมทัพหันไปมองแว้บหนึ่งแล้วหันกลับมามองเรียวจันทร์ตาลุกวาว
   


“เขาเป็นเมียผม วันนี้ผมมารับเขากลับ”
   


“ไอ้เสี่ย!” เรียวจันทร์แว้ดเสียดังลั่น สักพักก็หน้าเหวอเพราะโดนจอมทัพดึงออกไปทางประตูออฟฟิศ นางพยายามฝืนตัวเองไว้ไม่เดินตามออกไป
   


“ไม่ป๊ายยย! ฉันไม่ใช่เมียคุณ ถ้าการที่ฉันนอนกับคุณแล้วเป็นเมียคุณ ฉันก็มีผัวเป็นสิบคนแล้ว!!” นางโหวกเหวกโวยวายแต่ก็สู้แรงผู้ชายตัวใหญ่กว่าไม่ได้ จอมทัพดึงนางออกมาจากออฟฟิศสำเร็จโดยมีเสียงโวยวายของดินตามหลังมา
   


“ปล่อยคุณเรียว!”
   


กึก!
   


ดินชะงักกับที่เมื่อลูกน้องจอมทัพชักปืนขึ้นมา ไอ้หมีตัวโตมองอย่างเคียดแค้น สีหน้าเรียวจันทร์ตระหนกตกใจ หันไปมองทางลูกน้องจอมทัพ พอเห็นว่าหนึ่งในนั้นมีไอ้แม็คผู้ทรยศ ก็เบิกตากว้างและแผดเสียงทันที
   


“หน็อยยย! แกยังกล้ากลับมาทีนี้อีกเหรอไอ้แม็ค ไอ้คนงานครึ่งปี ฮึ้ยยย!!!” นางยกเท้าขึ้นจะเตะอีกฝ่ายแต่โดนจอมทัพรั้งเอวไว้แน่น คนจะโดนถีบยืนนิ่งไม่ไหวติง
   


“ปล่อยเรียวจันทร์!” คุณนายแม่แทบจะนิ่งสงบเมื่อได้ยินเสียงเข้มของคมเขี้ยว นางหันไปมองใบหน้าขรึมของอีกฝ่ายทั้งที่ยังโดนจอมทัพกอดแนบตัวเอาไว้อยู่
   


“กูบอกให้ปล่อยเรียวจันทร์”
   


“เรียวจันทร์จะกลับไปกับฉัน” จอมทัพบอกด้วยท่าทีสงบ ไม่ได้ตื่นกลัวหรือตื่นตูม คมเขี้ยวกำหมัดแน่นแล้วพุ่งตัวเข้าหาจอมทัพอย่างเร็ว
   


“ปล่อยเมียกู!!”
   


พลั่ก!!
   


ใบหน้าจอมทัพสะบัดไปตามแรงหมัดของคมเขี้ยวที่ซัดเข้าเต็มๆ ตรงสันกรามด้านซ้ายของใบหน้า เรียวจันทร์หลุดออกจากวงแขนจอมทัพ ยกสองมือขึ้นป้องปากมองทั้งสองด้วยความตกใจ นางรีบหันไปมองลูกน้องจอมทัพก่อนจะยกมือขึ้นชี้หน้าทุกคนและถลึงตาใส่เป็นการปรามว่าอย่าได้คิดยิงเด็ดขาด




 คมเขี้ยวยืนหอบอยู่กับที่ มองจอมทัพตาขวาง คนโดนต่อยสะบัดหน้ากลับมา จ้องคมเขี้ยวตาวาวแล้วหันไปคว้าปืนมาจากลูกน้องตัวเอง ไม่ทันที่เรียวจันทร์ได้ห้าม ลูกกระสุนก็พุ่งเข้าที่ต้นแขนด้านขวาของคมเขี้ยวทันที



“อั่กกกก!”



“พี่เขี้ยว!! / เขี้ยว!!!”



เรียวจันทร์เบิกตากว้างตะลึง สติแทบหลุดออกจากหัว มองเลือดสีแดงตรงต้นแขนของคมเขี้ยวแล้วใจสั่นหวิว น้ำตาเอ่อคลอเพราะความขวัญเสีย ถ้าไม่มีดินประคองเมื่อกี้ร่างสูงอาจล้มลงกระแทกพื้นไปแล้ว



“เลือกมา จะไปกับผม หรือจะให้ผมยิงมันอีก”



“ไม่ต้องไป มานี่” แม้จะเจ็บแผลจนกัดฟันแน่น แต่คมเขี้ยวก็บอกอย่างจริงจังกับร่างเล็กที่ยืนหน้าซีดเสียสติ




เสียงฝีเท้าหลายสิบคู่วิ่งมาทางที่เกิดเหตุพร้อมกับกระบอกปืนหลายสิบอัน และอาวุธมีด จอบ พร้า ขวาน เยอะแยะจนลูกน้องจอมทัพคนหนึ่งแอบผงะไปเช่นกัน ลูกน้องคมเขี้ยวมีท่าทีพร้อมตะลุมบอนพวกจอมทัพที่มีจำนวนน้อยกว่า นั่นยิ่งทำให้เรียวจันทร์ตระหนกมากขึ้นไปอีก



“หนูเรียว ไม่ต้องไปลูก หนี้เท่าไหร่ ป๋าจะใช้ให้” เมฆาบอกสีหน้าเคร่งเครียด เรียวจันทร์หายใจติดขัด น้ำตาหยดแหมะด้วยความหวาดหวั่น หันมองฝั่งคมเขี้ยวทีและจอมทัพที ในขณะที่กำลังจะก้าวเดินไปหาคมเขี้ยวแบบล่องลอย นางก็ต้องสะดุ้งกับเสียงปืนอีกนัด



ปัง!



“อ้ากกก!”



“ดิน!!!” เรียวจันทร์กรีดร้องเมื่อจอมทัพซัดกระสุนใส่ที่หัวไหล่ของดินจนตัวสะบัดไปข้างๆ อย่างแรง ก่อนที่จะพาคมเขี้ยวล้มลงไปกองกับพื้น



พวกลูกน้องคมเขี้ยวมีสะดุ้งเหมือนกันเพราะไม่คิดว่าจอมทัพจะกล้ายิง แต่คมเขี้ยวที่สติดีกว่าใครคว้าปืนมาจากมือลูกน้องคนหนึ่ง ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วลั่นไกใส่แขนจอมทัพจุดเดียวกับที่ดินโดนยิงเมื่อครู่แต่คนละข้างจนร่างใหญ่หนาของจอมทัพทรุดเข่าลงข้างหนึ่ง จอมทัพยกปืนขึ้นทำท่าจะยิงคมเขี้ยวอีกรอบ เรียวจันทร์หน้าตื่นทันที



“พอแล้ว! อย่า อย่าทำใครอีก!” เรียวจันทร์คร่ำครวญทั้งน้ำตา วิ่งเข้าไปคุกเข่าหน้าจอมทัพ ยกมือไหว้อ้อนวอน จอมทัพหน้านิ่ง แววตานิ่ง ท่าทางไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับการยิงคนไปสองคน และไม่มีท่าทีเจ็บปวดกับแผลที่เพิ่งโดนยิงเลยแม้แต่นิด เรียวจันทร์สั่นหัว น้ำตาไหลพราก สองมือพนมไว้ตรงหน้าเป็นการขอร้องว่าอย่าทำ จอมทัพหันไปโยนปืนให้ลูกน้องรับไว้ ลุกขึ้นยืน สีหน้าเหยเกเพราะเจ็บแผลนิดหน่อย ก่อนจะคว้าข้อมือเรียวจันทร์แน่น



“เรียวจันทร์ ไม่ต้องไป” คมเขี้ยวบอกเสียงหนักแน่น ร่างเล็กหยุดเดิน มองทั้งสี่คนผ่านม่านน้ำตา มีลูกน้องคมเขี้ยวนับสิบยืนถือปืนรายล้อมเอาไว้ บัวบูชาร้องไห้สะอึกสะอื้น มีเมฆาคอยยืนปลอบ



“หนี้คุณเท่าไหร่ บอกมา” คมเขี้ยวถามเสียงเข้ม เรียวจันทร์หันไปมองจอมทัพที่สีหน้าเริ่มแสดงออกว่าไม่พอใจแล้ว สตินางเริ่มหดหาย แต่ก็พยายามคุมตัวเองให้อยู่กับร่องกับรอย



“ตอนนี้น่ะ… น่าจะเหลือห่ะ… ห้าล้าน” นางบอกเสียงแผ่วติดสะอื้นเล็กๆ น้ำตาไหลอาบแก้มนวลไม่หยุด



“ป๋า ผมรบกวนที” คมเขี้ยวบอกทั้งที่สายตายังจ้องมองเรียวจันทร์กับจอมทัพ เมฆาทำท่าจะเดินเข้าไปในออฟฟิศ แต่ก็ต้องชะงักเพราะเสียงจอมทัพที่ประกาศเสียงแข็ง



“เลือกเอา ถ้าอยู่ที่นี่ บ้านคุณจะไม่ใช่บ้านคุณอีกต่อไป” เรียวจันทร์มองหน้าจอมทัพอย่างตะลึง สติที่ไม่คงที่อยู่แล้วพอได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก



 “อย่ายุ่งกับบ้านฉัน!” นางแผดเสียง ทั้งกลัวทั้งโกรธที่จอมทัพเอาสิ่งนั้นมาขู่ เสี่ยยิ้มเยาะ



“แล้วแต่นะ เสียสละมาอยู่นี่ แล้วทิ้งบ้านแสนรักของคุณไปผมก็ไม่ว่า” เรียวจันทร์ปากสั่น สับสนจนร้องไห้เสียงสั่นเครือ ไม่กล้าหันไปมองหน้าพวกคมเขี้ยว เพราะนางกำลังจะเห็นแก่ตัว



“ไหนว่ารักผมไง” คมเขี้ยวถามเสียงอ่อน เรียวจันทร์หันหน้าไปมองก็เห็นสายตาเศร้าของคนที่นางรัก เรียวจันทร์ไม่ได้ต้องการสายตาและสีหน้านั้น นางไม่ได้อยากได้ นางไม่ต้องการให้คมเขี้ยวอยู่ในสภาวะแบบนี้



“คุณจะทิ้งผมเหรอ ที่นี่ก็บ้านคุณ” เรียวจันทร์ร้องไห้โฮออกมา หันไปมองจอมทัพด้วยสายตาเคียดแค้น รีบประมวลความคิดว่าโฉนดที่ดินยังปลอดภัยอยู่หรือเปล่า และไม่รู้ว่าจอมทัพรู้ความคิดนางหรือไม่ แต่อีกฝ่ายพูดประโยคที่ทำให้นางช็อคกว่าเดิม



“ไม่ต้องห่วง ผมเก็บโฉนดไว้อย่างดี ต้องขอบคุณแม่คุณนะที่ความพยายามสูง” เรียวจันทร์กัดฟันแน่น รู้สึกร้อนรุ่มในใจ เหวี่ยงแขนขวาเข้าไปตีแผลจอมทัพแรงๆ



“โอ๊ย!”



“ทำไมถึงได้เลวอย่างนี้! เลว! เลวจริงๆ!” นางทั้งทุบทั้งตีจอมทัพ ร่างหนาเบี่ยงตัวหนีไม่ให้โดนแผล รีบยื่นมือไปขอปืนจากลูกน้องมาถือไว้และจ่อไปทางคมเขี้ยว เรียวจันทร์หยุดตีทันที



“เอาปืนออกไป ฉันไม่ตีแล้ว!” นางแผดเสียงใส่คนตรงหน้า จ้องมองอย่างโกรธแค้นทั้งน้ำตา จอมทัพหน้าเหี้ยมไม่ยอมลดปืนลง



“ฉันจะไปกับคุณ!” นางรู้ว่าจอมทัพไม่ได้อยากเอานางไปเพราะรักเทิดทูนบูชานางหรอก แต่ตอนนี้ไอ้เสี่ยมันกำลังบ้า ไม่อยากขัดใจให้มันอาละวาดไปมากกว่านี้ 



“หนู…” หัวใจเรียวจันทร์อ่อนยวบเมื่อได้ยินคมเขี้ยวเรียกแบบนั้น นางหันไปมองคมเขี้ยวที่ลดปืนลงและยืนมองหน้านางด้วยความหมดหวัง เรียวจันทร์หันกลับไปมองจอมทัพที่ยืนหน้านิ่ง



“ฉันขอเวลาแปบเดียว” นางบอกเสียงแข็ง จอมทัพจ้องตาเขม็ง แต่ก็ยอมปล่อยแขนเรียวจันทร์ ร่างเล็กวิ่งกลับไปกอดคมเขี้ยว วางคางไว้บนไหล่ซ้ายข้างที่เขาไม่เจ็บ ร่างสูงโอบแขนซ้ายกอดตอบ



“ไม่ต้องไป อยู่กับพี่ที่นี่ อยู่ง้อพี่สิ พี่โกรธอยู่นะ” เรียวจันทร์ร้องไห้งอแงเหมือนเด็ก ความรู้สึกตีกันจนแทบแยกไม่ออก นางอยากอยู่ที่นี่ แต่ลึกๆ ในใจนางก็เป็นห่วงบ้านตัวเอง อันนี้เรียวจันทร์รู้ตัวว่ากำลังเห็นแก่ตัว และนางก็กลัวเหลือเกินว่ามันจะยิ่งแย่



“หนูจะกลับมา จะกับมาง้อพี่เขี้ยวแน่ๆ อย่าโกรธหนูไปมากกว่านี้อีก ฮึก… เข้าใจมั้ย ไอ้เขี้ยวกุด…” เรียวจันทร์ผละออกจากคมเขี้ยว ยกสองมือลูบหัวลูบหน้าอีกฝ่ายทั้งที่ยังน้ำตาไหลและสะอื้นไม่หยุด คมเขี้ยวขบกรามเบาๆ มองหน้าเรียวจันทร์ด้วยสายตาผิดหวังจนเรียวจันทร์ใจไม่ดี แต่ก็ใจแข็งหันไปทางดิน



“ดิน ฉันขอโทษ ขอโทษที่ทำให้ดินโดนยิง” นางขอโทษดินด้วยอาการสะอึกสะอื้น ไอ้หมีร่างใหญ่ยืนยิ้มน้อยๆ



“ดินไม่เจ็บสักหน่อย” เรียวจันทร์ร้องไห้หนักกว่าเดิม เห็นเลือดตรงแขนของทั้งสองคนแล้วก็ใจกระตุกวูบ กระสุนฝังอยู่ในนั้นและถ้ายังยืดเยื้อต่อไปมันต้องเป็นอันตรายแน่ๆ



“คุณป๋า คุณแม่ พาพี่เขี้ยวกับดินไปหาหมอนะคะ อย่ารอช้า พาไปเลย” เมฆาพยักหน้ารับอย่างเคร่งเครียด บัวบูชายิ้มอ่อนทั้งที่ใบหน้าเปื้อนน้ำตา



“หนูเรียว… ที่นี่เป็นของหนู จะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ หรือจะให้พวกป๋าออกไปจากที่นี่ก็บอกนะลูก” เรียวจันทร์สั่นหัว น้ำตาไหลออกมาหนักกว่าเดิม



“ไม่ค่ะ อยู่ที่นี่ อย่าไปไหน รอเรียวกลับมา ถ้าคุณป๋าออกจากที่นี่ เรียวจะฟ้องพ่…” เสียงเรียวจันทร์ขาดหายเพราะกลืนก้อนสะอื้น นางหันกลับไปหาคมเขี้ยวที่ยืนหน้านิ่ง ดวงตาว่างเปล่า



“รอหนูนะพี่เขี้ยว” เรียวจันทร์กระซิบบอกข้างหูของคมเขี้ยวและหอมแก้มสากไปหนึ่งที ก่อนจะหมุนตัวเดินไปหาจอมทัพ



“ไม่รักบ้านนี้เลยใช่มั้ย ไม่รักที่นี่เลยใช่รึเปล่า” คมเขี้ยวถามเสียงเบาตามหลัง เรียวจันทร์หันกลับไปมอง น้ำตานองหน้า สายตาคมเขี้ยวที่มองมาคือการตัดพ้อ



“เขี้ยว ปล่อยน้องไปก่อน” บัวบูชาเดินเข้ามาจับไหล่ลูกชายและบอกเสียงอ่อนโยน คมเขี้ยวหลบสายตาหนีใบหน้าเรียวจันทร์ ร่างเล็กหลับตาลง ข่มใจไม่ให้ว้าวุ่น และท่องไว้ในใจว่านางจะกลับมาแน่ๆ ขอแค่กลับไปเคลียร์ทุกอย่างให้ชัดเจนก่อน



“อย่ายิงกัน อย่ายิงกันอีกนะ” นางหันไปบอกพวกคนงานคมเขี้ยวที่ทำท่าพร้อมยิงและพร้อมใช้อาวุธในมือทำร้ายฝ่ายตรงข้ามทุกเมื่อ ลูกน้องจอมทัพทั้งสี่คนเดินคุ้มกันเจ้านายกับคนของเจ้านายกลับไปที่รถตู้สีดำคันใหญ่



“เอากุญแจรถคุณให้ไอ้แม็ค เดี๋ยวมันขับกลับไปให้” เรียวจันทร์ล้วงเอากุญแจรถให้ลูกน้องจอมทัพ ก่อนจะถูกดึงขึ้นไปบนรถ ใบหน้าสวยที่เปื้อนน้ำตาหันไปมองตรงหน้าออฟฟิศ คมเขี้ยวมองกลับมาด้วยสายตาไร้อารมณ์ใดๆ ใบหน้าก็ว่างเปล่าจนชวนใจหาย 



จังหวะที่ประตูรถตู้ใกล้ปิดลง เรียวจันทร์สบตากับคมเขี้ยว และส่งยิ้มไปให้ แต่คมเขี้ยวยังคงมองอย่างเฉยเมยเหมือนเดิม แม้จะรู้สึกใจไม่ดีที่เห็นอาการนิ่งไร้การโต้ตอบของคมเขี้ยวแต่นางก็ให้กำลังใจตัวเองว่าพี่เขี้ยวของน้องหนูจะไม่โกรธหนูนาน



ประตูรถปิดลง เรียวจันทร์หลับตา ปล่อยให้น้ำที่คั่งค้างอยู่ในดวงตาไหลออกมาก่อนจะลืมตาขึ้น แววตาอ่อนไหวเมื่อครู่หายวับไป แทนที่ด้วยดวงตาแข็งกร้าว นางหันควับไปมองจอมทัพที่นั่งนิ่ง เลือดไหลอาบแขน เรียวจันทร์ยกมือขวาขึ้นแล้วฟาดลงบนแก้มซ้ายจอมทัพเต็มแรง จอมทัพทำแค่ขยับเปลือกตาและขยับกล้ามเนื้อบนหน้าที่โดนตบ



“ยิงเขาทำไม?!”



“มันก็ยิงผมเหมือนกัน” จอมทัพว่าเรียบๆ แต่น้ำเสียงหนักแน่น เรียวจันทร์กัดฟันกรอด



“ก็ถ้าคุณไม่ยิงเขา เขาจะยิงคุณเหรอ คิดสิคิด!” ดวงตากวางน้อยแดงก่ำ น้ำตาสีใสคลอเต็มเบ้าตาอีกครั้งเมื่อใจนึกห่วงคมเขี้ยวว่าจะเป็นยังไงบ้าง



จอมทัพยิ้มเยาะ ท่าทางไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับแผลที่แขน “ห่วงมันเหลือเกินนะ ผมก็ผัวคุณเหมือนกัน”



“ไม่ใช่! ฉันไม่ได้รักคุณ!” เรียวจันทร์แผดเสียงลั่นรถ มองจอมทัพอย่างโกรธเคือง ฝ่ายชายขบกรามแน่น วูบหนึ่งแววตาของเขาไหววูบ แต่เพียงวูบสั้นๆ เท่านั้นก็เปลี่ยนเป็นดวงตาวาวโรจน์



“ถ้าผมยังไม่พอใจ คุณก็ไปไหนไม่ได้” จอมทัพประกาศด้วยน้ำเสียงข่มขวัญ แววตาไร้อาการพูดเล่น สีหน้าเอาจริง ดวงตาเรียวจันทร์สั่นไหว หัวใจดวงน้อยสั่นแผ่วเบา



“เอาบ้านฉันคืนมา!” จอมทัพยิ้ม เป็นรอยยิ้มคล้ายว่าจะสมเพช



“คุณก็ไม่ได้รักไอ้คมเขี้ยวเท่าไหร่นี่ สุดท้ายแล้วคุณก็รักตัวเองมากกว่าอยู่ดี” เรียวจันทร์ตัวชาวูบ ความรู้สึกเหมือนโดนจอมทัพตบหน้าคืน



“ก็ถ้าฉันจะรักทั้งสองอย่างมันจะเป็นอะไร?! อันนึงผัว อันนึงบ้าน!”



“แต่ดูท่าจะรักบ้านมากกว่าผัว ไม่กลัวผัวทิ้งเหรอครับ”



“ไอ้เสี่ย! ปากเสีย!”



“ยอมรับเถอะว่าคุณรักมันน้อยกว่าที่รักตัวเอง” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างเบาๆ มองจอมทัพอย่างหงุดหงิด พอนึกคำด่าไม่ออกเลยยื่นมือไปตีแผลที่โดนยิงเต็มแรง



“โอ๊ย!!!!” จอมทัพร้องลั่นหน้าตาสะดุ้งโหยง ก่อนเสียงร้องจะจบด้วยซ้ำที่จอมทัพยกมือขวาตบหน้าเรียวจันทร์จนหน้าหัน จอมทัพมองเรียวจันทร์หน้าเหี้ยม เรียวจันทร์ค่อยๆ หันหน้ามึนงงของตัวเองกลับมามองจอมทัพ นางรู้สึกหน้าชาหัวหมุน และรู้สึกเจ็บตรงมุมปาก พอยกมือแตะๆ ก็เห็นเลือดติดปลายนิ้วมา เรียวจันทร์เลื่อนสายตางุนงงไปมองจอมทัพที่ยังคงมีสีหน้าไม่ปราณีใคร



น้ำตาใสๆ ไหลลงอาบแก้ม เรียวจันทร์หันหน้าหนีจอมทัพและนั่งสะอึกสะอื้นร้องไห้คนเดียว โดยมีสายตาไร้ความสงสารจากจอมทัพจ้องมองจนรู้สึกเกร็ง



“เสี่ยจะไปโรงบาลก่อนมั้ยครับ”



“ไป” ลูกน้องจอมทัพพยักหน้ารับคำสั่ง เจ้าตัวทำเพียงนั่งเอนหลังกับเบาะและมองไปด้านหน้านิ่ง ราวกับว่าไม่มีใครนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ ตัวเองเลยแม้แต่คนเดียว





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao5:



T_____T

เสี่ยโหดร้าย แต่เชื่อว่านี่เป็นแค่ส่วนเสี้ยวเล็กๆ ของเสี่ย นี่แค่อ่อนๆ สินะคะเสี่ย

ขุ่นแม่สติแตกไปเลย เหยเหยอีแม่เหย เสี่ยเอาบ้านมาขู่กันแบบนี้ อีแม่ก็พ่ายสิคะ

แล้วคุณนายโรสิตานี่ขโมยโฉนดที่ดินมาให้เสี่ยจริงเหรอ -*- มานะเหลือเกินนะคะคุณแม่ของขุ่นแม่

พี่เขี้ยวว่างเปล่าแบบนี้ น่ากลัวกว่าโกรธวีนเหวี่ยงอีก แต่พี่เขี้ยวคะ โปรดเข้าใจขุ่นแม่ของหมู่เฮาด้วยนะคะ ขอเวลาอีแม่อีกนิด แล้วอีแม่จะต้องกลับมาเนาะ

ฮืออออ สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งกว่าโบท็อกซ์บนหน้าคุณนายโรสิตาอีกค่ะ

เจอกันตอนหน้านะคะ



เรื่องนี้กำลังจะเปิดพรีออเดอร์วันจันทร์ที่ 27 มีนาคมเป็นวันแรกนะคะ รายละเอียดจะอัพให้ตอนช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 27 ค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งหลัง :26.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 26-03-2017 16:56:29
ตบอิเสี่ย!!!
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งหลัง :26.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 26-03-2017 16:56:58
อืออ จริงตอนต้นเรื่องก็เชียร์เสี่ยนะ

ชอบเสี่ยอะ เอาตรงๆ5555

แต่หลังเสี่ยถูกลดบทตอนนี้กลายเป็นตัวร้ายซะแล้ว

แต่เราก็ชอบเสี่ยน้าาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งหลัง :26.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 26-03-2017 18:15:26
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งหลัง :26.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 26-03-2017 19:32:55
ฮืออออออ สงสารอีแม่
อีเสี่ยอีชั่วชั่วชั่วชั่วชั่วชั่ว รวยมากก็ไปหาซื้อเมียที่อื่นสิโว้ยยย ยากอะไรด้วยกับอีแม่
ยังมีหน้ามายิงพี่เขี้ยวกับนุ้งดินอีก สารชั่วครบครันจริงๆ
กล้าดียังไงมาตบอีแม่ห้ะะะะะะ
นางถนอมหน้านางมาตั้งนาน นี่ตบได้ซะเลือด
ขอให้อีเสี่ยไม่ได้เมียตลอดกาล

ปล. ขอตบโรสิตาให้โบเบี้ยวได้มั้ยคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งหลัง :26.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 26-03-2017 22:04:22
หวังว่าพี่เขี้ยวจะเข้าใจน้องหนูนะ
ว่าแต่อิเสี่ย อยากได้ที่ดินตรงนี้มาก บวกกับเสียดายหนูเรียว เลยมาอาละวาดได้ขนาดนี้นะเหรอ รึเพราะอะไรกันแน่
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งหลัง :26.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Abella ที่ 26-03-2017 22:16:35
ลำไยมาทั้งสวน
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งหลัง :26.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 26-03-2017 23:32:46
จับอิจอมทัพเข้าคุกซะ เรื่องจะได้จบ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งหลัง :26.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Lunar_lustre ที่ 26-03-2017 23:35:00
นี่ดำเนินมาถึงครึ่งเรื่องรึยังคะ เอาจริงๆเราไม่ค่อยรู้สึกถึงความรักของพี่เขี้ยวเท่าไหร่เลยอ่ะ รึเราอ่านตกอ่านพลาดตรงไหนไป
ในตอนนี้เรารู้สึกว่าจอมทัพกับคมเขี้ยว ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่เลย แค่คนละมุมมองคนละด้านเท่านั้นเอง

ดีนะที่ขุ่นแม่เรียวของเรานางไม่ดราม่านาน นางมีอีคิวสูงและแอดติจูดในด้านบวก(ให้ตัวเอง)เยอะมาก ไม่งั้นนางคงช้ำใจ ดูใครๆก็ไม่สนใจนาง สนใจแต่ความต้องการของตัวเอง ยิ่งในแง่ของความสัมพันธ์ในเชิงหลงรักขุ่นแม่ไปแล้วด้วย เราแอบไม่พอใจเขี้ยวกุดมากกว่าจอมทัพซะอีก ทั้งๆที่รู้ว่าแม่ของเรียวเป็นยังไง น่าจะพอเดาๆได้ด้วยซ้ำว่าเรียวจันทร์เป็นหนี้ได้ยังไง ก็ยังจะเอาแต่ใจ เป็นฝ่ายที่ได้รับความรักจนชินงั้นเหรอ? ในจุดนี้เราสงสารนางมาก

กลายเป็นยิ่งอ่านยิ่งหดหู่ เดี๋ยวเรากลับไปอ่านใหม่อีกรอบดีกว่า เผื่อตกอะไรไปจริงๆ  :hao4:

คนแต่งต้องมาต่อบ่อยๆนะคะ หายไปนานเราก็ลืมๆเรื่องไปแย้ววว :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งหลัง :26.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 27-03-2017 00:14:58
ขอเสี่ยเป็นพระเอกเรื่องหน้าทีค่ะ สงสานเขา 555555555555555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งหลัง :26.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 27-03-2017 13:07:32
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๖/ครึ่งหลัง :26.03.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 28-03-2017 21:27:21
 :hao5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓/100%:10.12.58:
เริ่มหัวข้อโดย: phunpk ที่ 31-03-2017 20:18:45
แอบสงสารแจเร็ดอะ เรียวจันทร์นี่มีแต่ผชแซ่บๆมาติด งุ้ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-04-2017 16:57:40



คาถาที่ 27 :: Fragile time. (ช่วงเวลาที่แสนเปราะบาง) [ครึ่งแรก]



หลังจากผ่าเอากระสุนออกและทำแผลเรียบร้อย จอมทัพก็กลับมาบ้านพร้อมกับเรียวจันทร์ที่ยังคงเงียบมาตลอดทาง น้ำตาแห้งเหือดไปจากดวงตาคู่สวย ริมฝีปากด้านล่างมุมซ้ายแตกจนได้แผล มีเลือดแห้งกรังติดอยู่ตรงบริเวณนั้น รถตู้คันใหญ่จอดเทียบท่าหน้าบ้านเสี่ยจอมทัพ แต่เรียวจันทร์ยังคงนั่งนิ่ง

           

 

“ลงไป” จอมทัพสั่งเสียงทุ้ม เรียวจันทร์แค่หันไปมองนิ่ง ก่อนจะหันหน้าหนีและก้าวเท้าเดินลงไปจากรถ ตอนที่เท้ายืนบนพื้น โทรศัพท์มือถือของเรียวจันทร์ก็ดังขึ้น นางแหวกกระเป๋าและหยิบออกมาดู พอเห็นหน้าจอว่าเป็นเบอร์คมเขี้ยวโทรมาก็ดีใจรีบกดรับ

           

 

“ฮัลโหลเขี้ยวกุด!”

           

 

“คุณเรียว ดินเองครับ เป็นยังไงบ้าง” แว้บแรกเรียวจันทร์ใจแป้วที่ไม่ใช่เสียงของคนที่อยากได้ยิน แต่สักพักนางก็ปัดทิ้งเพราะน้ำเสียงของปฐพีที่ดังมาตามสายแสดงออกถึงความห่วงใย

           

 

“ฉันยังโอเค พี่ชายของดินเป็นยังไงบ้าง”

           

 

“อยู่โรงพยาบาลครับ กำลังทำแผล คุณเรียวแน่ใจนะครับว่าโอเค” พอดินถามจี้แบบนั้น เรียวจันทร์ก็น้ำตาเอ่อ กำลังจะอ้าปากพูดต่อแต่โทรศัพท์ก็หลุดจากมือ เรียวจันทร์หันไปมองอย่างตกใจ

           

 

“เอามือถือฉันคืนมา!!” เรียวจันทร์แผดเสียง เป็นเสียงสุดท้ายที่ดินได้ยินก่อนที่สายจะตัดไป

           

 

“ระริกระรี้เหลือเกินนะ” จอมทัพว่าอย่างหมั่นไส้

           

 

“ก็แล้วจะทำไม ฉันก็แรดของฉันอย่างเนี้ย รับไม่ได้ก็ปล่อยฉันไป ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่กับคุณ!”

           

 

“ผมปล่อยคุณแน่ แต่ต้องเป็นตอนที่ผมเบื่อคุณแล้ว” จอมทัพว่าหน้าตาย พูดอย่างไม่สะท้าน เรียวจันทร์กัดฟันแน่นจ้องจอมทัพอย่างโมโห

           

 

“บ้านฉัน คุณเอาไปจริงๆ รึเปล่า” นางกัดฟันถาม ก่อนหน้านี้สติแตกเลยไม่ทันฉุกคิดว่าจอมทัพอาจจะแค่ขู่ เพราะระหว่างทางมานางคิดได้ว่า โฉนดที่ดินนางเก็บไว้คนเดียวไม่ได้บอกใคร

           

 

“ถึงไม่ได้เอามาตอนนี้ แต่ถ้าผมอยากได้ คุณก็ต้องเอามาให้ผม” เรียวจันทร์เหยียดยิ้ม ในใจโล่งอกที่บ้านตัวเองยังปลอดภัย

           

 

“ฉันไม่ให้ ก็เหมือนที่ฉันจะไม่ให้ที่ดินตรงนั้นกับคุณ” จอมทัพเบะปากเบาๆ ยักคิ้วเหมือนไม่คิดไรมาก

           

 

“งั้นก็อย่าเผลอใจอ่อนยกให้แม่คุณก็แล้วกัน” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว สีหน้ามีความไม่เข้าใจ

           

 

“แม่ฉันเกี่ยวอะไร นางอยากได้ที่ดินตรงนั้นด้วยรึไง” จอมทัพยื่นมือขวาไปดึงข้อมือเรียวจันทร์แล้วลากเข้าไปในบ้าน พาเข้าไปในห้องนั่งเล่นมุมโปรดของตัวเอง

           

 

“พวกมึงเข้ามาให้หมด” จอมทัพบอกเสียงกังวานหลังจากยืนอยู่กลางห้อง เรียวจันทร์ยืนหน้างงๆ สลับมองจอมทัพกับลูกน้องของอีกฝ่ายที่เดินเข้ามาในห้องเกือบสิบคน

           

 

“ไอ้แม็คมานี่” ลูกน้องที่เรียวจันทร์คุ้นตาที่สุดก้าวเท้าเดินออกมา สีหน้าและแววตาแสดงออกถึงความไม่มั่นคงทางอารมณ์ จอมทัพเดินเข้าไปใกล้ลูกน้องและยกมือข้างที่ไม่เจ็บขึ้นชกหน้าอีกฝ่ายเต็มแรง ลูกน้องคนอื่นที่ตอนแรกว่านิ่งๆ ถึงกับตกใจไปตามๆ กัน เรียวจันทร์ยกสองมือป้องปาก ตกใจหน้าเหวอยิ่งกว่าใคร

           

 

“เสี่ย…” ผลั่ว!!

           

 

จอมทัพซัดเข้าที่จุดเดิมด้วยแรงอัดเท่าเดิมที่เพิ่มเติมคือเลือดตรงปากของไอ้แม็ค เจ้าตัวมีสีหน้างง แต่ในขณะเดียวกันก็ผสมความหวาดกลัว จอมทัพยิ้มอ่อน แววตาวาววับ พอลูกน้องตัวเองตั้งหลักได้ จอมทัพก็ใช้หลังมือขวาซัดเข้าที่แก้มขวาของอีกฝ่ายเต็มหลังมือจนไอ้แม็คหน้าหันราวกับที่แขนไม่ได้มีแผลถูกยิงเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว

           

 

“มึงว่ากูโง่มั้ย” ไอ้แม็คที่ตอนนี้เลือดเลอะปากเป็นหย่อมๆ ค่อยๆ ตั้งตัวตรงๆ มองเสี่ยอย่างนอบน้อม

           

 

“มะ… ไม่ครับเสี่ย…” เพี๊ยะ!!

           

 

จอมทัพตบเข้าที่แก้มลูกน้องเต็มแรงจนอีกฝ่ายเกือบล้มลง แต่เพื่อนด้านหลังเข้ามาประคองไว้ทันเลยยังยืนอยู่ได้ ไอ้แม็คไอค่อกแค่กเล็กน้อย เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอสีหน้าตื่นตะลึงมองเหตุการณ์ตรงหน้า

           

 

“มึงพูดซิว่าอะไรที่ทำให้มึงกล้าทำในสิ่งที่ทำให้กูดูโง่” ลูกน้องจอมทัพมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก ไอ้แม็คกลืนน้ำลายผสมเลือดลงคอ มองเสี่ยอย่างหวาดกลัว

           

 

“ผม… ผมทำอะไรเหรอครับ…” เพี๊ยะ!!!

           

 

เรียวจันทร์สะดุ้งโหยงกับแรงตบรอบใหม่ที่มากกว่าเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัด เลือดสีแดงกระจายออกจากปากลูกน้องจอมทัพ พวกเพื่อนๆ ของฝ่ายนั้นช่วยกันจับร่างใหญ่หนาของแม็คไว้

           

 

“มึงพูดมา มึงรู้อยู่แล้วว่าคืออะไร” จอมทัพว่าเสียงเข้ม หน้าตาดุดันที่ทำเอาพวกลูกน้องไม่กล้าสบตา ไอ้แม็คตัวปัญหายืนหน้าเหยเกเล็กๆ เพราะเจ็บแผล ก้มหน้ามองพื้นสักแปบก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วพูดเสียงสั่น

           

 

“ผม… ผมหักหลังเสี่ยครับ” เร็วเกินใครจะห้าม จอมทัพยกเท้าถีบลูกน้องกระเด็นทะลุกำแพงคนด้านหลังไปกองเกือบหน้าประตู เรียวจันทร์เบิกตากว้างกับภาพที่เห็น ตาเสี่ยไม่ได้มาเล่นๆ จริงๆ

           

 

“ไปแบกมันกลับมานี่” จอมทัพไม่ตวาด ไม่เสียงดัง แต่สั่งอย่างน่าเกรงขาม ซึ่งพวกลูกน้องทำตามอย่างรวดเร็วไม่อิดออด ทุกคนเดินไปหิ้วปีกไอ้แม็คที่หน้าช้ำเลือด และคงช้ำตรงท้องไปด้วยแล้วขึ้นมา ลากมันให้กลับมายืนตรงหน้าเสี่ย

           

 

“มึงบอกเรียวจันทร์ไปว่าเขาเข้าใจอะไรผิดอยู่” เรียวจันทร์หันหน้างงปนตื่นกลัวไปมองจอมทัพที่ยืนหน้านิ่งเหี้ยม และหันกลับไปมองหน้าเละเลือดของลูกน้องจอมทัพ

           

 

“ฉันเข้าใจอะไรผิด” เรียวจันทร์ถามเสียงแผ่ว ไอ้แม็คหน้าแหยเพราะเจ็บแผล พยายามรวบรวมแรงพูดออกไป

           

 

“เสี่ยไม่ได้เป็นคนทำอะไรฟาร์มไอ้คมเขี้ยวครับ” สีหน้าเรียวจันทร์ยังเหมือนเดิม นางสะบัดหน้าไปมองจอมทัพที่มองกลับมาอย่างเฉยเมย

           

 

“แล้วใครทำ ก็ผู้หญิงคนนั้นบอกเจ้านายเธอจ้างเขา”

           

 

“ผมให้น้อยหน่าอ้างชื่อเสี่ยเองครับ” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ คิ้วขมวดฉับ งงเกือบจะเป็นไก่ตาแตก

           

 

“เอ้า แล้วทำไมต้องอ้าง อ้างชื่อตาเสี่ยเพื่อไร ก็ตาเสี่ยเป็นคนบงการไม่ใช่เหรอ”

           

 

“เปล่าครับ มีคนจ้างผมอีกทีและผมก็ไปจ้างน้อยหน่าต่อ…” เรียวจันทร์สตาฟหน้างงหน้านั้นไว้อย่างเดิม จอมทัพมองนางอย่างไม่ไหวติง

           

 

“…คนที่จ้างผมคือแม่คุณเรียวจันทร์ครับ” ใบหน้าของนางคลายความสงสัย กลายเป็นอึ้งในสิ่งที่ได้ยิน ลำตัวเย็นวาบอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นตัวชา ริมฝีปากล่างสั่นเพราะพยายามกลั้นน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อขึ้นที่ขอบตา

           

 

“แม่…” นางพูดได้เพียงเท่านั้น หน้าผู้หญิงคนนั้นวนเวียนอยู่ในหัว ความรู้สึกโกรธและขยะแขยงตีกันในอกจนว้าวุ่นใจ

           

 

“…ทำไมแม่อยากได้ที่ดินนั้น แม่จะเอาไปทำอะไร” นางหันไปถามลูกน้องจอมทัพเสียงเบา หน้าตาล่องลอย

           

 

“คงมีใครสักคนมีข้อแลกเปลี่ยนที่ล่อใจมาขอความร่วมมือ แล้วแม่คุณก็ตอบตกลง” หัวคิ้วของเรียวจันทร์ขยับเข้าหากันเล็กน้อยแล้วก็คลายออก

           

 

“แล้วใครล่ะ” สีหน้าของเรียวจันทร์ทั้งสับสนและโกรธเคือง นางกำลังพยายามเรียบเรียงว่าใครเป็นใคร อะไรเป็นอะไร สิ่งไหนส่งผลต่อคนไหนบ้าง

           

 

“ไว้ถ้าคำตอบมันชัดเจน ผมจะบอกให้รู้ก็แล้วกัน” เรียวจันทร์หันมองจอมทัพอย่างมึนงง รู้สึกเหนื่อยที่หัวใจ

           

 

“ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง ว่าแม่…” นางเม้มปาก พ่นลมหายใจสั้นๆ ความรู้สึกผิดหวังกับผู้หญิงคนนั้นโถมเข้าหานางจนปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกแย่

           

 

“ถ้าคุณรู้เรื่อง แผนเขาก็จะไม่ง่ายและโง่แบบที่เขาต้องการสิ” เรียวจันทร์มองจอมทัพตาลอยน้อยๆ

           

 

“แม่คุณน่ะเห็นแก่ตัวกว่าที่คุณคิด แต่ขนาดว่าเขาเห็นแก่ตัวกับคุณ คุณก็ยังใจดีเลี้ยงงูเห่าไว้ใกล้ตัว” ยิ่งคิดได้ว่าแม่ตัวเองมีเพียงสรรพนามนี้แทนชื่อเท่านั้น นอกนั้นคือผู้หญิงชั้นเลวคนหนึ่งเท่านั้น ใบหน้าสวยก็หมองลงถนัดตา

           

 

“แล้วทำไมคุณถึงไม่บอกฉันว่ารู้เรื่องที่ดินอยู่แล้ว” เรียวจันทร์เปลี่ยนเรื่อง เพราะเกรงว่าพูดถึงแม่ตัวเองตอนนี้จะยิ่งอยากบุกไปด่าทอแม่แรงๆ ให้หายแค้นใจ

           

 

จอมทัพหันไปหาลูกน้อง “พวกมึงเอาไอ้แม็คไปขังไว้ก่อน ไม่ต้องให้มันแดกข้าวแดกน้ำ”

           

 

พวกลูกน้องรับคำสั่งเจ้านายและพากันหิ้วปีกไอ้แม็คออกไปจากห้องนั่งเล่นของเสี่ย จอมทัพหันกลับไปหาเรียวจันทร์ที่สีหน้าเหนื่อยๆ

           

 

“ผมไม่ไว้ใจ…” เรียวจันทร์ทำหน้าไม่เข้าใจ จอมทัพเดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาว เรียวจันทร์ยังคงยืนมองเจ้าของบ้านตามเดิม

 

 

“…คุณเลี้ยงงูเห่าอย่างแม่คุณไว้ ถึงคุณจะทำท่าต่อต้านเขา แต่คุณก็ใจดีเกินไป”

 

 

“ฉันใจดีแล้วเกี่ยวอะไร ก็ฉันสวยอะ” จอมทัพกระตุกยิ้มมุมปาก แม้จะบอกว่าตัวเองสวยแต่หน้าตาของคนพูดช่างเหนื่อยล้าและระทม

 

 

“หนี้ตั้งกี่สิบล้านบาทคุณก็ตามเช็ดตามล้างให้แม่ เกิดคุณได้ที่ดินคืน คุณยกให้แม่ง่ายๆ ผมก็แห้ว…” เรียวจันทร์ย่นคิ้ว กลอกตาไปซ้ายทีขวาที

 

 

“…คุณไม่ได้รัก ไม่มีความผูกพันกับที่นั่น ผมไม่รู้ว่าคุณจะโยนมันทิ้งรึเปล่า”

 

 

“ถ้างั้นฉันก็ขอขอบคุณที่ส่งฉันเข้าไปที่นั่น เพราะตอนนี้ฉันรักและผูกพันกับที่นั่นมาก” อันนี้นางกึ่งประชดและขอบคุณจริงๆ ถ้าจอมทัพไม่ได้อยากได้ที่ดินตรงนั้น และไม่คิดแผนอันไร้ตรรกะที่จะให้นางจับคมเขี้ยว (ซึ่งนางก็เห็นดีเห็นงามด้วย) นางก็คงไม่อินกับฟาร์มนั้น และไม่ได้คมเขี้ยวเป็นผัวกวนตัวกวนใจแบบนี้

 

 

“นี่คือข้อผิดพลาดของผม…” จอมทัพกระตุกยิ้ม สักพักก็ยักไหล่ขวา “…แต่คนเราก็มีข้อผิดพลาดกันทุกคนแหละนะ”

 

 

เรียวจันทร์พ่นลมหายใจ หน้าตาเหนื่อยล้า เป็นห่วงคมเขี้ยวก็ห่วง อยากจะคุยกับแม่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนให้กำเนิดนางมาให้รู้เรื่องก็อยากทำ แต่ตอนนี้นางกำลังจะถูกจองจำ ซึ่งไม่รู้ว่าต้องอีกนานแค่ไหนอีตาเสี่ยถึงจะเบื่อนาง ไม่เคยอยากให้ใครเบื่อนางมากขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ

 

 

“ฉันจะกลับบ้าน” นางบอกเสียงระโหยโรยแรง

 

 

“ผมว่าผมชัดเจนแล้วนะว่าคุณต้องอยู่ที่ไหน” จอมทัพพูดเหมือนพูดเรื่องทั่วไป เรียวจันทร์เหลือบมองอย่างขุ่นเคือง

 

 

“ฉันจะกลับ แล้วฉันจะเอาเงินมาให้ จะได้จบๆ กันไป พูดให้มันรู้เรื่องบ้างตาเสี่ย” จอมทัพยิ้มเยาะมุมปาก เอนหลังกับพนักโซฟาด้วยท่าทีสบายๆ

 

 

“คุณไปก็ได้ คุณจะไม่มีอันตรายใดๆ แต่ผมไม่รับประกันว่าบ้านผัวคุณที่คุณรักนักหนาจะปลอดภัยมั้ย” เรียวจันทร์เพ่งมองจอมทัพตาขวาง ในอกรู้สึกคับแค้นเหลือเกินกับวิธีการนี้ของอีกฝ่าย

 

 

“ทุเรศ ไหนว่ายิ่งใหญ่นักหนาทำไมใช้มุกหมาฝังกระดูกใต้ดินแบบนี้” จอมทัพทำสีหน้าว่าไม่แคร์

 

 

“บางครั้งมุกง่ายๆ โง่ๆ แบบที่แม่คุณทำมันก็สนุกดีนะ” เสี่ยยักคิ้วกวนตีน เรียวจันทร์นึกอยากเอาตีนเหยียบคิ้วเข้มๆ นั่นสักที

 

 

“แต่ฉันไม่สนุกด้วย!” เรียวจันทร์บิดปากหน้าเอือม มุกเมิกหมาแมวอะไรล่ะ โดนตบจนเลือดเกรอะกรังอยู่ที่ปากแบบนี้คงมีใจอยากอยู่ใกล้อีตาเสี่ยหรอกนะ

 

 

“ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าคุณต้องสนุก…” จอมทัพลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองเรียวจันทร์ด้วยสายตาคล้ายว่าจะเอ็นดู แต่เรียวจันทร์รู้ว่ามันไม่ใช่ มันเป็นสายตาจ้องจะตัดเอ็นนางขาดมากกว่า

 

 

“…แต่ถ้าคุณอยากสนุกก็ลองกลับไปหาไอ้คมเขี้ยวดูสิ” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่นและจ้องจอมทัพตาแข็ง คนตัวสูงโยนโทรศัพท์คืนให้เรียวจันทร์ คุณนายรีบยกสองมือไปคว้าตามสัญชาตญาณ ถลึงตามองตามไอ้คนที่เดินตัวปลิวชิลๆ ออกไปจากห้องนั่งเล่นก่อนจะตะโกนลั่นบ้าน

 

 

“ห้องคุณก็ห้องผม คุณคุ้นอยู่แล้วนะ”

 

 

“ฉันจะนอนข้างล่าง!”

 

 

“งั้นเดี๋ยวผมอยู่ข้างบนให้” ตอนแรกเรียวจันทร์ทำหน้างง แต่ครู่สั้นๆ ก็เก็ทว่าไอ้เสี่ยมันสื่อถึงอะไร นางกัดฟันเข่นเขี้ยวมองไอ้เสี่ยบ้าอำนาจเดินหายลับไปจากห้องนั่งเล่น

 

 

เรียวจันทร์พ่นลมหายใจแผ่วเบา นั่งเหม่อมองพื้นสักแปบเพื่อเรียกสติให้กลับมา นางหลับตาลง พ่นลมหายใจยาวๆ เพื่อระบายความรู้สึกหนักอึ้งทั้งหลายให้ออกไปจากอกจากสมอง แต่ก็ดูไม่ค่อยจะได้ผลดีสักเท่าไหร่ มือบางหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาเป็ดก่อนเป็นอันดับแรก รอสายอยู่พักใหญ่เป็ดถึงกดรับ

 

 

[ว่ายังไงคะ] เรียวจันทร์มึนไปสักแปบว่าจะเริ่มอะไรตรงไหนดี สุดท้ายตัดสิ่งที่จะเล่าออกและพูดถึงสิ่งที่อยากให้เป็ดทำให้ก่อน

 

 

“เป็ด เรื่องที่เกิดขึ้นมันยาวมาก ไว้ฉันจะเล่าให้ฟัง แต่พรุ่งนี้ ถ้าแกว่างงานตอนไหนหรือลาได้ ฉันวานแกไปรับพวกป้าอุ่นไปบ้านเขี้ยวหน่อยได้มั้ย” เรียวจันทร์พูดอย่างอ่อนแรง หน้ากระตุกเหยเกเป็นระยะเพราะเจ็บแผลที่มุมปาก

 

 

[ทำไมวะแก รับไปที่นั่นทำไมอะ] เป็ดถามด้วยความสงสัย แน่ล่ะถ้าไม่สงสัยก็คงแปลกที่จู่ๆ เพื่อนก็โทรมาบอกแบบนี้

 

 

“ตอนนี้มันก็สะดวกเล่านั่นแหละ แต่สติฉันยังไม่พร้อม ที่ฉันอยากขอแกคือ ไปรับพวกป้าอุ่นออกมาจากบ้าน พาไปฝากไว้ที่บ้านเขี้ยว บอกคุณป๋ากับคุณแม่ว่าฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกป้าอุ่น อยู่ที่ฟาร์มจะดีที่สุด”

 

 

[อ้าว แล้วแกอะ แกไม่ไปเหรอ แกอยู่ไหนเนี่ย]

 

 

“อยู่กับเสี่ยจอมทัพ มันยังคับให้ฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่กล้าออกไปไหน เพราะตาเสี่ยขู่จะทำร้ายฟาร์ม” เป็ดที่อยู่อีกฟากอ้าปากหวอด้วยอวามตะลึง

 

 

[มายพระเจ้า เสี่ยจะทำร้ายฟาร์ม อะไรยังไงเนี่ย เสี่ยแผลงฤทธิ์เหรอ] เรียวจันทร์ถอนหายใจหน้าเซ็ง

 

 

“อือ เขาไม่ได้นุ่งขาวห่มขาวแบบที่แกว่าจริงๆ นั่นแหละ” อันนี้เป็ดพอจะเดาได้แล้วว่าเพื่อนคงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

 

 

[โอเคแก เดี๋ยวฉันจัดการให้ แกต้องการให้ใครไปช่วยแกออกมามั้ย]

 

 

“อย่าเป็ด จอมทัพใจร้ายกว่าที่คิด รอเวลาอีกสักแปบ ฉันจะออกไปเองให้ได้”

 

 

[แกมีหนทางออกมาแล้วเหรอ] เจอคำถามนี้เข้าไปเรียวจันทร์ก็หน้าเครียดเบาๆ

 

 

“ยังหรอก แต่ตอนนี้เสี่ยมันอยากเอาชนะฉัน ต้องยอมแพ้มันไปก่อน” ได้ยินเสียงหายของเพื่อนดังมาตามสาย

 

 

[ลำบากใจยังไงให้บอก บางทีทางออกของแกอาจจะผิดอยู่ได้] เรียวจันทร์รับคำเพื่อน ก่อนจะฝากให้ช่วยดูแลพวกป้าอุ่นและช่วยไปดูคมเขี้ยวแทนนางด้วย คุณนายวางสายจากเป็ดและรีบกดโทรหาคนที่นางเพิ่งฝากเป็ดดูแลไปเมื่อกี้นี้ทันที รอสัญญาณอยู่นานมากก็ไม่รับสาย นางเลยกดโทรไปใหม่อีกครั้งก็ยังไม่รับสายจนเรียวจันทร์ใจไม่ดี แต่รอบที่สามที่โทรไปก็ได้ยินเสียงคนที่นางเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้

 

 

[โทรมาทำไม] นางจะถือว่าคมเขี้ยวประชดเพราะโกรธนางอยู่

 

 

“โทรมาก็เพราะเป็นห่วงไง ไอ้เขี้ยวหัก” น้ำตานางเอ่อคลอ ดีใจที่ได้ยินเสียงของคนที่ตนรัก น้ำเสียงแดกดันแบบนี้แสดงว่าเป็นปกติดีแล้ว

 

 

[ห่วงแล้วไปทำไม] เรียวจันทร์หน้าหม่นน้ำตาร่วงหยดลงบนแก้มหนึ่งเม็ด

 

 

“ก็เพราะห่วงไง”

 

 

[ห่วงใคร ห่วงผมหรือห่วงตัวเอง] คราวนี้น้ำตาไหลอาบแก้มนวลด้วยความรู้สึกที่โดนจี้ใจดำ

 

 

ยอมรับเถอะว่าคุณรักตัวเองมากกว่ารักมัน

 

 

“พี่เขี้ยว หนูห่วงพี่ ห่วงทุกคนที่ฟาร์ม แต่หนู…”

 

 

[…แต่ก็ห่วงความเป็นอยู่ของตัวเองมากกว่า] เรียวจันทร์เม้มปาก ไม่กล้าเถียงคอเป็นเอ็นตามนิสัย ก็ที่พูดมามันก็มีส่วนจริงเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์น่ะสิ

 

 

[ไม่ต้องห่วง ยังไม่ตาย สบายใจแล้วก็แค่นี้] คมเขี้ยวตัดสายเรียวจันทร์ ทิ้งให้คุณนายนั่งหน้าเศร้าเคล้าน้ำตา แต่ก็ไม่ได้ไหลพรากอาบแก้ม แค่เอ่อคลอและหยดแหมะ เรียวจันทร์ยกสองมือขึ้นปาดหยดน้ำตาออกจากแก้ม นางหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความหาคมเขี้ยว

 

 

‘รอก่อนนะ หนูจะกลับไปง้อพี่เขี้ยว’

 

 

ส่งเสร็จก็พ่นลมหายใจ หน้าตาเหนื่อยล้า นางค่อยๆ เอนตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาว เอาหัวหนุนหมอนโซฟาไว้ งอขาเล็กน้อย วางมือถือลงบนโซฟาเดี่ยวสำหรับวางขา จังหวะที่กำลังจะหลับตาลง โทรศัพท์มือถือก็สั่นครืด นางหยิบขึ้นมากดเปิดดูก็เห็นข้อความจากคมเขี้ยว

 

 

‘ไม่ต้อง’ หัวใจของเรียวจันทร์กระตุกวาบ นางหลับตาลง ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจระบายความใจไม่ดีออกไป นางจะถือว่าคมเขี้ยวประชดเพราะกำลังงอนอยู่ก็แล้วกัน เพราะอย่างน้อยฝ่ายนั้นก็ยังตอบข้อความนางกลับมา แม้จะเป็นข้อความแหกหน้าก็เถอะ

 

 

 “คุณเรียวครับ เสี่ยเรียกขึ้นไปบนห้อง” เรียวจันทร์ที่กำลังจะเอนตัวนอนลงบนโซฟาถึงกับค้างกลางอากาศ นางบิดปากเซ็ง

 

 

“เรียกไปทำไม ฉันจะนอนนี่”

 

 

“เสี่ยบอกว่าให้ไปช่วยเสี่ยอาบน้ำครับ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว มองหน้าลูกน้องจอมทัพที่พยักหน้ายืนยันคำพูดนั้นอีกที

 

 

“แขนเขาคงไม่ถึงขั้นพิการหรอกมั้ง อาบเองไม่เป็นรึไง” นางถามกระแทกเสียงด้วยความหงุดหงิด

 

 

“ผมรับคำสั่งมาแค่นี้ เชิญคุณเรียวจันทร์เถอะครับ” คุณนายนางถอนหายใจยาวๆ แล้วลุกขึ้นยืน เดินก้าวเท้าสับๆ ออกไปด้านนอกห้อง

 

 

ไอ้เสี่ยสำออย ผัวก็ไม่ใช่แค่คนได้กัน ผัวตัวจริง ฉันยังไม่ได้ดูแลเขาเลย โอ๊ย!

 





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



TT___TT

ต่างคนต่างมีเหตุผลเป็นของตนเอง เพียงแต่เหตุผลของแต่ละคนยังใช้กับอีกคนในช่วงเวลานี้ไม่ได้เท่านั้นเอง ทุกอย่างดูพร้อมจะแตกง่ายเหลือเกิน

พ่อเขี้ยวก็รักแม่เรียว แต่ก็น้อยใจที่เอาหัวใจตัวเองไปล้อเล่น แม่เรียวก็ทั้งห่วงบ้านตัวเองและห่วงคมเขี้ยว จะตัดใจอย่างใดอย่างนึงก็ไม่ใช่เรื่องง่าย บ้านก็เป็นความทรงจำที่มีค่าของแม่ พี่เขี้ยวก็เป็นความรักที่มีค่าของแม่เช่นกัน

ช่วงเวลายากลำบากนี้ต้องผ่านไปได้นะเจ้าค่ะเจ้านางเรียว อดทนเวลาที่ฝนพรำ เมื่อวันเวลาที่ฝนจางงง ฟ้าก็คงสว่างงงและทำให้เราได้เข้าใจจจจ

เรื่องโรสิตา สำหรับตอมเป็นประเด็นที่อ่อนไหวในสังคมบ้านเราเนอะ ด้วยความเป็นแม่อะ แต่ชีวิตจริงที่เคยเห็นจากข่าว มีแม่ที่โหดร้ายกว่าแม่อย่างโรสิตานัก ขอให้แม่เรียวพ้นทุกข์จากผู้หญิงคนนี้เร็วๆ นะคะ



ตอนนี้ขุ่นแม่เรียวกับขุ่นพ่อเขี้ยวกำลังเปิดพรีออเดอร์ตัวเองในรูปแบบหนังสือนะคะ ตอนพิเศษในเล่มแน่นมากกกก ผู้ใดสนใจ เข้าไปอ่านรายละเอียดของทั้งสองคนได้ที่ > พรีขุ่นแม่ขุ่นพ่อ (https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1389304&chapter=29)
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: poommy_TY ที่ 01-04-2017 17:28:31
สงสารขุ่นแม่เรียวไม่ไหงแล้วค่ะ หมั่นไส้อีเสี่ยมาก เกลียดด้วย คือบังคับอะไรเบอร์นี้ อิบ้าาาาาาาาา

เกลียดแม่ของขุ่นแม่เรียวด้วย เห็นแก่ตัวระดับเยียวยาไม่ได้ ฮือออออออ

ตอนนี้เหมือนทุกสิ่งรุมเร้าขุ่นแม่
แม่ตัวเองก็งูพิษ อีเสี่ยก็บังคับกักขัง
หนี้ก็มี บ้านก็ต้องระวัง ผัวก็งอน
เหมือนทุกสิ่งโหมกระหน่ำใส่ขุ่นแม่
สงสาร อึมครึมเหลือเกิน คลี่คลายเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 01-04-2017 18:00:49
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-04-2017 18:37:33
สงสารขุ่นแม่เรียวมากกก เจอมรสุมตลอดเลย นะมีความสุขก็ไม่เต็มที่ อยากจะยุให้นางตัดแม่ตัดลูกไป แม่อะไรเลวขนาด แล้วนางจะมีโอก่สกลับไปหาพี่เขี้ยวมั้ยเนี่ย ท่าทางอิเสี้ยก็บ้าๆบอๆ ไม่ได้รักแต่หวงไว้เพื่ออะไร หรืออยากจะได้ที่ดินผืนนั้นมากจ๊น! เกลียดอิเสี่ย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 01-04-2017 19:04:16
คนที่อยากได้ที่ คือคนที่มาบอกว่าเป็นพ่อจริงๆของเรียวรึเปล่า ??
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 01-04-2017 19:13:52
พี่เขี้ยวเข้าใจคุณนายหน่อย  :ling3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-04-2017 21:10:36
 :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 01-04-2017 23:26:09
งานของคุณตอมมีความจริงสอดแทรกอยู่ในเรื่องอยู่มากมาย เราเข้าใจในการกระทำของแม่เรียวน่ะ แม่ยืนยัดด้วยตัวเองมาโดยตลอดบ้านก้อเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างเป็นตัวแทนหลาย ๆ อย่างในความคิดของนาง เมื่อเสียไปทุกอย่างที่เฝ้าทำเฝ้าเหนื่อยมาตลอดก้อเหมือนจะสูญสลายไป กับความรักที่พึ่งจะเข้ามาจริงจังในชีวิตได้ไม่เท่าไหร่ เรียกได้ว่าเพียงแค่อึดใจเดียวในชีวิตก้อว่าได้ นางเหมือนคนที่อยู่ในโลกของความจริง นางจึงเลือกที่จะทำเช่นนี้ในเวลาที่จำกัด คนเราก้อมักจะเลือกในสิ่งที่ตัวเองผูกพันมาตลอดชีวิตก่อนเป็นอันดับแรก และเราก้อเข้าใจคมเขี้ยวด้วยน่ะตลอดชีวิตไม่เคยรักใครจริงจังแถมยังไม่เคยคิดจะรักผู้ชายด้วยกันอีกพอมาเปลี่ยนขั้วคิดจริงจังกับความรักก้อเจอทีเด็ดแบบนี้อีก ทุกอย่างเหมือนล่มสลายภายในพริบตาไม่แปลกที่จะแสดงออกแบบนี้ เราคนอ่านเองยังรู้สึกว่ารับไม่ได้กับทางเลือกของแม่เรียว ยอมรับมาก ๆ ว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่ไปลำบากมาก ๆ สำหรับเราน่ะ มันเหมือนหาความหวานไม่เจอ ความแรงของนางก้อไม่เข้าตาเราเท่าไหร่ เราชอบแบบเคะราชินีที่กำทุกอย่างไว้ในมือได้ แต่แม่เรียวเหมือนโดนกระทำตลอดแม้นางจะแรงแต่ก้อดูเหมือนน่าสงสารมากกว่าน่ะ เราอ่านแล้วเกือบจะทิ้งหลายรอบแหละ แล้วยิ่งมาเจอกับการเลือกครั้งนี้ของแม่เรียวก้อเลยเข้าใจความรู้สึกของคมเขี้ยวมาก ๆ อยากให้เสี่ยเป็นพระเอกไปเลยน่ะ รู้สึกเสี่ยแรงมาก ๆ พี่เขี้ยวกลายเป็นแมวน้อยไปเลยอ่ะ  :เฮ้อ: ระบายมาซะเยอะ แค่จะบอกว่า.... :mew2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Lunar_lustre ที่ 02-04-2017 12:26:51
มีความเข้าใจแม่เรียวนะ สิ่งที่นางเลือกไม่ใช่บ้านนะ แต่คือความทรงจำที่มีค่าระหว่างนางกับพ่อต่างหาก ในทางกลับกัน ถ้าลองให้เขี้ยวทิ้งไร่ทั้งหมด ทิ้งคนงาน ทิ้งสิ่งที่พ่อสร้างมาแล้วเข้ากรุงมาอยู่กะเรียวนางจะเอามั้ยล่ะ ด้วยนิสัยแบบเขี้ยว ไม่มีทาง! ยิ่งอ่านยิ่งคิดว่าเขี้ยวกุดไม่เหมาะกับเรียวเลย เสี่ยเองอย่างน้อยก็มีความเข้าใจให้นางในระดับนึงถึงจะบังคับก็เถอะ แต่เขี้ยวมีความเอาแต่ใจ ไม่คิดถึงคนอื่นมากๆ  ถ้าเขียวหักยังไม่ปรับปรุงเราจะเทละนะ สนับสนุนให้แม่เรียวเคี้ยวเล่นๆแล้วทิ้งไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเอามันละ ผู้ชายพวกนี้ดีแต่เห็นแก่ตัวทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-04-2017 13:04:58
 :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 02-04-2017 14:23:57
 :z3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 04-04-2017 13:02:52
กรรม ทำไมเรารู้สึกเสี่ยกับเรียวเคมีเข้ากัน แต่คือเรียวรักเขี้ยวไง=_=  แล้วอันที่จริงเสี่ยก็ไม่ได้ได้เสียอะไรก็แลไม่เลวร้ายมากยกเว้นที่ตบแม่เรียวในตอนที่ผ่านมา   คนที่อยากได้ที่ดินที่เสนอให้แม่ของเรียวก็อาจจะเป็นเจ้าสัววิโรจน์ที่จู่ๆก็โผล่มานั่นรึเปล่า  ไม่มีใครน่าไว้ใจสักคน   คือถ้าเรื่องนี้นางเอกไม่ใช่แม่เรียวคงดราม่าเลยแหละชีปมเยอะเกิน555 รอติดตามต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งแรก :01.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 07-04-2017 19:06:49
คือลุ้นมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งหลัง :09.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 09-04-2017 00:08:05



คาถาที่ 27 [ครึ่งหลัง]



เช้าวันถัดมา เรียวจันทร์ยังคงอยู่ในชุดเดิม และแผลก็ยังคงเดิม นางไม่ยอมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ได้ทำเพราะทระนงแต่อย่างใด แต่ทำไปเพราะอยากประชดล้วนๆ จอมทัพก็หน้ามึนพอที่จะทำเฉยขอนอนกอดนางตอนนอน แต่เรียวจันทร์ไม่ยอม นางแสดงอารยะขัดขืนด้วยการนอนโซฟาในห้องนอนของเสี่ย



“ฉันจะกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า”



“อาบที่นี่ เปลี่ยนที่นี่ก็ได้ ทำอย่างกับไม่เคย” จอมทัพบอกพลางตักข้าวต้มเข้าปากอย่างสบายๆ เรียวจันทร์ย่นคิ้วมองอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ



“ฉันไม่มีเสื้อผ้า พวกออพชั่นเสริมอาบน้ำฉันอีก”



“อยากได้อะไรไปซื้อเอา” เรียวจันทร์ชักสีหน้าไม่พอใจ



“เสี่ย อย่าเยอะ อย่ามาทำเป็นหวงฉันจะเป็นจะตายได้มั้ย น่ารำคาญ” จอมทัพเหลือบมอง วางช้อนลงอย่างเบามือ เรียวจันทร์จ้องเขม็งอย่างไม่ยอม



“ก็ได้…” เรียวจันทร์ทำหน้าเอือม ยกสองแขนกอดอกออกอาการเอาแต่ใจ



“…เอากุญแจรถให้เรียวจันทร์” เสี่ยหันไปสั่งลูกน้องเรียบๆ ลูกน้องคนนั้นผงกหัวลงหนึ่งทีและเดินเข้ามาหาเรียวจันทร์พร้อมกับยื่นกุญแจรถให้นาง



“ขอบใจที่ยังมีเมตตา” นางว่าอย่างประชด ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนหัวเข่ากระแทกกับขอบโต๊ะ หน้าที่เก๊กสวยเชิดทระนงเมื่อครู่ถึงกับทลายลงเพราะความเจ็บจี๊ด จอมทัพหัวเราะหึ เรียวจันทร์พยายามกอบกู้หน้ากลับมา นางค่อยๆ พาร่างตัวเองออกจากเก้าอี้



“ผมจะออกไปข้างนอก กลับมาผมควรจะได้เห็นหน้าคุณ”



“แล้วคุณกลับมากี่โมงล่ะคะ” นางถามเสียงประชด หน้าตาจิกกัดจอมทัพเต็มที่



“ตอบไม่ได้…” จอมทัพมองนิ่งแล้วว่าต่อ “…คุณควรรู้ตัวว่าควรอยู่หรือไม่ควรอยู่ที่ไหน ถ้าคิดจะไปหาไอ้คม…”



“ฉันไม่ได้คิดจะไปย่ะ!” นางแหว ถลึงตามองอย่างหงุดหงิด จอมทัพบึนปากน้อยๆ เลิกคิ้วขึ้นเร็วๆ หนึ่งที



“คุณไม่ใช่คนโง่ คงรู้นะ” คุณนายมองเสี่ยตาขวาง มือขวาที่ไม่ได้ถือกุญแจกำๆ คลายๆ อยู่หลายรอบก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากห้องกินข้าว จอมทัพมองตามด้วยแววตาที่ไม่อาจคาดเดาความคิด



“ให้ผมตามไปมั้ยครับ” จอมทัพสั่นหัวให้ลูกน้องน้อยๆ



“ไม่ต้อง” ว่าจบก็ตักข้าวต้มกินต่อได้อย่างต่อเนื่องราวกับเมื่อกี้ไม่ได้มีอะไรมาขัด



เรียวจันทร์เดินกระแทกเท้าออกมาจากบ้านจอมทัพด้วยอาการหงุดหงิดที่อยากจะกรี๊ดและกระทืบเท้าเร่าๆ ให้พื้นบ้านไอ้เสี่ยพัง แต่ที่ทำได้คือยืนนิ่งสงบสติอารมณ์ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและผ่อนออกมาช้าๆ ก่อนจะเปิดประตูรถและเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ สตาร์ทรถปิดประตูได้ก็ขับออกไป เป้าหมายของนางคือฟาร์มอรุณพยัคฆ์



ฉันไม่ได้คิด แต่ฉันไปจริงๆ ย่ะไอ้เสี่ย!







เรียวจันทร์เหยียบเท่าที่จะทำให้ใจที่ร้อนนั้นเย็นลงได้ นางขับแหกการจราจรของไทยมาตั้งแต่กรุงเทพฯ จนกระทั่งเข้าเขตเขาใหญ่ ป่านนี้ตำรวจไม่รู้กี่ด่านคงเข้าแถวเรียงคิวรอพบนางกันยาวเหยียด นางขับมาถึงบริเวณฟาร์มก็รีบเลี้ยวเข้าประตูอย่างรวดเร็ว เพิ่งจากไปเมื่อวานแต่พอกลับมาอีกทีทำไมถึงรู้สึกเหมือนจากที่นี่ไปนานมากก็ไม่รู้



เรียวจันทร์จอดรถที่หน้าบ้านใหญ่ พอลงมาจากรถก็ยืนงงสักแปบว่าจะต้องไปทางไหนเพราะไม่แน่ใจว่าคมเขี้ยวจะอยู่ส่วนไหนของฟาร์ม เรียวจันทร์หันไปมองรอบตัวแบบงงๆ แล้วก็ตัดสินใจเดินเข้าไปดูในบ้านก่อนเป็นที่แรก นางก้าวเท้าขึ้นบันไดอย่างเร็ว พอขึ้นมาบนบ้านก็เจอแต่ความโล่งและความเงียบ ร่างเล็กมองซ้ายมองขวาสักพักแล้วค่อยก้าวเดินไปทางห้องนอนของคมเขี้ยว เปิดประตูเข้าไปก็เจอเจ้าของห้องกำลังพยายามถอดเสื้อยืดที่ไว้ใส่นอนออกจากตัวอย่างทุลักทุเล นางปิดประตูเบาๆ เดินเข้าไปหาร่างสูง และช่วยดึงเสื้อยืดจนหลุดออกจากหัวคมเขี้ยว



วินาทีที่เสื้อหลุดไปอยู่ในมือเรียวจันทร์ ทั้งสองก็มองตากัน เรียวจันทร์มองด้วยสายตาหวาดหวั่น คมเขี้ยวก้มมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้มีแผลตรงมุมปากนิ่ง



“เพิ่งตื่นเหรอ” เรียวจันทร์เป็นคนทำลายความเงียบชวนอึดอัดนั้นลง นางเลื่อนสายตาไปมองต้นแขนขวาที่มีผ้าพันแผลสีขาวที่มีเลือดซึมหน่อยๆ แล้วก็กลับมามองหน้าอิดโรยของคมเขี้ยวตามเดิม มือบางยกขึ้นแตะหน้าผากและจับกรอบหน้าคม



“ตัวร้อน นายไม่สบายเหรอ” คมเขี้ยวไม่ตอบ แต่เบี่ยงหน้าหลบมือนุ่มนิ่ม เจ้าของมือใจกระตุกวูบ ลดมือลงไว้ข้างตัวและพยายามประคองสติตัวเองให้อยู่กับร่องกับรอย



“ออกไป” นั่นคือคำแรกที่คมเขี้ยวเอ่ยบอกอย่างเย็นชา เรียวจันทร์เชิดหน้าขึ้นนิดหนึ่งแม้จะรู้สึกร้าวเล็กๆ



“ไม่ จะอาบน้ำใช่มั้ย  ฉันจะช่วยอาบ”



“อย่ายุ่ง” ถ้าความหน้าด้านในตัวนางไม่มีมากพอ นางคงต้องน้ำตาคลอกับประโยคเน้นชัดเจนแบบนี้จากผู้ชายที่ตัวเองรักแล้วแน่ๆ แต่แม้จะหน้าด้าน ก็แอบรู้สึกใจสั่นกับอาการเหินห่างแบบนี้อยู่เหมือนกันนะ



“ฉันจะยุ่ง นายห้ามไม่ได้หรอก ฉันมันตัวยุ่ง ตัวขี้เสือกอยู่แล้ว” เรียวจันทร์ว่าอย่างดื้อดึง มองหน้าตายไร้อารมณ์ของคมเขี้ยวและแววตาที่ไม่ตอบสนองใดๆ



“รำคาญ ไปไหนก็ไป” คมเขี้ยวเริ่มหน้าดุเสียงดุขึ้น มองเรียวจันทร์อย่างอดทนอดกลั้น เรียวจันทร์เองก็พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา



“เขี้ยวกุด ฉันเป็นห่วงนายนะ…”



“…ผมขอให้คุณอยู่แล้ว แต่คุณก็ไป แล้วจะกลับมาทำไม ไปก็ไปให้ไกล” คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์อย่างไร้ความรู้สึกเกินไปจนเรียวจันทร์ทั้งใจไม่ดีและหงุดหงิดกับท่าทีนี้



“ฉันเป็นห่วง ที่ไปก็เพราะห่วง ที่กลับมาก็เพราะห่วง อย่ามาทำซื่อบื้อจะได้มั้ยเล่า!” นางว่าอย่างโมโหแต่ก็พยายามไม่วีนใส่คนตรงหน้า น้ำตาที่ไม่ทันห้าม หยดแหมะลงบนแก้ม เรียวจันทร์รีบยกมือขึ้นเช็ดออกไป



“ห่วงผมหรือห่วงตัวเอง”



“มันก็ทั้งสองนั่นแหละ! ทำไมถึงพูดจาแบบนี้นะ!”



“ถ้างั้นคงห่วงตัวเองมากกว่า” เรียวจันทร์กัดฟันน้ำตาคลอ มองคมเขี้ยวด้วยความโกรธ หงุดหงิดและน้อยใจที่อีกฝ่ายมีแต่ท่าทีเฉยเมยแบบนี้ให้



“นายจะไม่ให้ฉันห่วงบ้านนั้นเลยเหรอ ฉันสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง… ฮึก… ฉันสร้างให้พ่อ สร้างตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่… ฮึก… มันคือความภาคภูมิใจ พ่อดีใจแค่ไหนที่ฉันทำได้ รู้บ้างมั้ย…” เสียงเรียวจันทร์กลืนหายไปในลำคอกับก้อนสะอื้นก้อนใหญ่ น้ำตาไหลพรากอย่างไม่มีแอ๊บ มองหน้าคมเขี้ยวด้วยสายตาน้อยอกน้อยใจ คนตัวใหญ่ยืนมองด้วยความนิ่งเหมือนเคย



“แล้วที่นี่ไม่ใช่บ้านคุณรึไง”



“มันไม่เหมือนกัน!...” นางว่าเสียงเหวี่ยง “…บ้านนั้นมันคือความฝัน ระหว่างทาง ฉันมีพ่ออยู่ในความฝันนั้นด้วย เขาเห็นตั้งแต่เริ่มยันจบ มันคือสถานที่สุดท้ายที่ฉันได้อยู่กับพ่อนะ ไอ้เขี้ยว… ฮือ!”



เรียวจันทร์สะอื้นไห้ร้องไห้หนักไม่มีกั๊ก แต่คมเขี้ยวก็ยังมีท่าทีนิ่งเฉย เขาพ่นลมหายใจ ยื่นมือซ้ายไปดึงเสื้อมาจากมือเรียวจันทร์และหมุนตัวเดินออกไปจากห้อง เรียวจันทร์มองอย่างขุ่นเคืองและก้าวเดินตาม



“แล้วทำไมจะต้องเดินหนีแบบนี้ ทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่อง!” เรียวจันทร์ตะโกนลั่นบ้าน เท้าก็ก้าวตามร่างสูงไปเร็วๆ



“จะคุยอะไร หมดเรื่องจะคุย  กลับไปคุยกับไอ้จอมทัพเถอะ” เรียวจันทร์กัดฟันด้วยความหงุดหงิด



“หยุดแดกดันฉันสักทีเถอะ ฉันอยากคุยกับนาย ไม่ใช่เจ้าทัพ!”



“ทำไม? เบื่อแล้วเหรอ เมื่อคืนคุยกันจนหมดประเด็นเลยสิ”



“ไอ้เขี้ยวกุด!” เรียวจันทร์ว่าอย่างโมโห วิ่งเข้าไปทุบตีแผ่นหลังของคมเขี้ยวเต็มมือจนเจ้าตัวร้องด้วยความเจ็บและความตกใจ



“เฮ้ย! อะไรเนี่ย พอไม่ได้ดั่งใจก็ใช้กำลัง!” คมเขี้ยวใช้แขนซ้ายตัวเองดันร่างเรียวจันทร์ออกห่างตัวเอง ร่างเล็กหยุดทุบตีเขา



“เออ! นายมันไม่ได้ดั่งใจฉันเลย งี่เง่าเต่าตุ่น รู้บ้างมั้ยเนี่ยว่าฉันรักฉันห่วง ฮะ!!”



“ไม่รู้! ได้ผมไปแล้ว ก็น่าจะพอใจแล้วนี่ ที่ดินก็เป็นของตัวเอง ไม่ต้องมาใช้ผมเป็นตัวล่อ เป็นไอ้โง่ของคุณอีก” คมเขี้ยวพูดด้วยน้ำเสียงกระแทก เรียวจันทร์กัดฟันแน่น มองคมเขี้ยวด้วยความผิดหวังและเสียใจ



“เออ! นายนี่มันโง่จริงๆ โดนฉันหลอกให้รัก…”



“…แต่ผมไม่รัก” คมเขี้ยวสวนทันควัน เรียวจันทร์สะอื้นไห้ น้ำตาร่วงเผาะรัวลงบนแก้ม



“ไม่รักฉันเลยจริงๆ ใช่รึเปล่า” นางถามปนสะอื้น คมเขี้ยวมองนิ่ง เรียวจันทร์มองหน้าหนวดเคราทั้งคราบน้ำตาที่เปรอะเต็มหน้า และแผลเลือดแห้งกรังที่มุมปาก



“…” คมเขี้ยวขมวดคิ้วนิดหนึ่ง



“ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายไม่รักฉัน” เรียวจันทร์เบ้ปาก หน้าตาร้องไห้ตลอดเวลา มองคมเขี้ยวเหมือนเด็กกำลังดื้อ คมเขี้ยวพ่นลมหายใจ นึกโล่งอกที่ได้ยินเรียวจันทร์พูดแบบนี้ แต่ก็เขาก็ยังมีท่าทีไม่หือไม่อือใดๆ ทั้งสิ้น จนความรู้สึกของเรียวจันทร์แอบระส่ำระส่ายเล็กๆ



“แล้วช่วงเวลาที่เรามีความสุขด้วยกันล่ะ นายทิ้งมันไปรึยัง” นางถามด้วยความไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจใดๆ ทั้งสิ้น ช่วงเวลานี้นางอ่อนกำลังเกินกว่าจะเข้มแข็ง



“จะให้ทิ้งยังไง มันก็ไม่ไปไหน ก็จำได้เหมือนเหตุการณ์ทั่วไปในชีวิต”



“แล้วเหตุการณ์ระหว่างเราสองคนมันสำคัญสำหรับนายมั้ย” คมเขี้ยวนิ่ง ยกเสื้อพาดบ่า มองหน้าสวยที่มีรอยแผลของเรียวจันทร์ด้วยใบหน้าเดิม



“ตอนแรกก็คิดว่ามันสำคัญ แต่ตอนนี้คิดว่ามันก็แค่เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็จบไป” เรียวจันทร์น้ำตาคลอเต็มหน่วย มองหน้าคมเขี้ยวด้วยความน้อยใจ พยายามแล้ว นางพยายามแล้วที่จะหน้าด้าน หน้าทน แต่ความเฉยชาของผู้ชายคนนี้ก็ติดลบเหลือเกินแล้ว



เรียวจันทร์เม้มปาก ตอนนี้นางอ่อนแอเกินไปจริงๆ ที่จะตั้งสติให้อยู่กับร่องกับรอย นางเจ็บตัว หัวใจก็เจอเรื่องโหมกระหน่ำเข้าอย่างคลื่นซัดหาดช่วงหน้าฝน นางมาที่นี่เพราะเป็นห่วงคมเขี้ยว แต่นางคงลืมนึกไปว่าควรห่วงสภาพตัวเองก่อน แถมมาแล้วเขายังไม่ได้มีทีท่าเป็นห่วงนางเลยสักนิด



ใช่… เรียวจันทร์ผิดหวังเพราะคิดว่าถ้าคมเขี้ยวเห็นว่านางโดนทำร้ายจะโอบกอดปลอบใจนางบ้าง นางหวังมาเพิ่มแรงกายแรงใจจากคมเขี้ยว แต่เปล่าเลย นางไม่ได้สิ่งที่หวัง กลับได้สิ่งที่พาให้หมดหวังกำลังใจไปอีก



“เราจะเลิกกันใช่มั้ย” คมเขี้ยวส่ายหน้า ริมฝีปากเรียวจันทร์กำลังจะขยับยิ้มแต่ก็ค้างเติ่ง



“จะเลิกได้ไง ยังไม่ได้ทันได้คบกันเลย” เรียวจันทร์อึ้ง มองคมเขี้ยวอย่างเจ็บปวด แล้วสักพักอารมณ์ปรี๊ดก็พุ่งขึ้นมาที่อก และเกินจะห้ามความเคืองของตัวเอง เรียวจันทร์เดินเข้าไปหาคมเขี้ยว ยกมือขวาตบแก้มซ้ายคมเขี้ยวเต็มแรง



“เว้ย!! ตบอีกแล้ว คนนะ ไม่ใช่เป้าล่อ แม่ง!!!” คมเขี้ยวสบถลั่นบ้าน สบถด้วยความหงุดหงิดและโมโห เรียวจันทร์กัดฟันแน่น มองหน้าคมเขี้ยวอย่างผิดหวังและน้อยใจ



“งั้นก็จูบฉันคืนสิ!” นางท้าทั้งน้ำตา ตอนนี้น้ำตาไหลมั่วซั่วไปหมด ไม่รู้ว่าไหลออกมาเพราะอารมณ์ไหน



“จูบไม่ลง!”



“เออ! จูบไม่ลงก็ตบฉันคืนเลย เอาให้มันซ้ำแผลเดิมนี่แหละ ตบสิ!” เรียวจันทร์หายใจแรงจนอกกระเพื่อมเบาๆ ดวงตากวางน้อยจ้องดวงตาละมุนของคมเขี้ยวที่ยามนี้ตาแข็งเหลือเกิน จนนึกว่ากินกาแฟเกินขนาด



แต่สุดท้ายคมเขี้ยวก็ไม่ตบ เขาเบือนหน้าหนีเรียวจันทร์ไปมองทางอื่น คุณนายแกไม่ปิดบัง ไม่อ้อมค้อมเลยว่าอยากให้คมเขี้ยวง้อ แม้จะรู้ว่านั่นไม่มีทางเกิดขึ้น แต่อย่างน้อยโอ๋นางบ้างก็ยังดี



“ถ้ามาแล้วเสียความรู้สึกก็กลับไปเถอะ อย่าอยู่ให้ตัวเองมีแผลในใจแบบผมเลย” เรียวจันทร์มุ่นคิ้วมองใบหน้าด้านข้างของคมเขี้ยวอย่างไม่เข้าใจ



“อะไร” นางถามเสียงแผ่ว คมเขี้ยวหันกลับมาสบตากับนาง



“ถึงคุณบอกเรื่องนี้ด้วยปากตัวเองก่อนแม่คุณบอก ผมก็แน่ใจว่าความรู้สึกผมมันก็ยังคงเสียอยู่ ผมไม่รู้ว่าคุณรู้รึเปล่าว่าเรื่องแบบนี้ทำไปยังไงมันก็ต้องทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก…” คมเขี้ยวมองนิ่ง แต่ไม่ได้มีท่าทีแข็งกระด้างแล้ว



“…ผมมีความสุขที่ได้ใช้เวลาอยู่กับคุณ แต่ความเห็นแก่ตัวของคุณทำลายความสุขนั้นไปแล้ว” เรียวจันทร์ยืนฟังนิ่ง ยกมือเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม



“ผมมั่นใจว่าผมรักคุณมาก คุณทำทุกอย่างเพื่อให้ผมให้ใจคุณ แล้วผมก็ให้ไป แต่ดูคุณทำ”



“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าตอนหลังมันไม่ใช่เพราะแผนอะไรแล้ว แต่ฉันรักนายจริงๆ ฉันอยากได้นายเพราะตัวฉันเองไม่ใช่เพราะคนอื่น” เรียวจันทร์บอกปนเสียงสะอื้นน้อยๆ



“ผมรู้ว่าคุณคงรักผมจริงบ้างอย่างที่บอก แต่ความรู้สึกผมมันเสียไปแล้ว” นี่ต่างหากคือประเด็นที่คมเขี้ยวอยากจะบอก



“ผมหนีกลับมา ไม่ใช่ว่าขี้ขลาด แต่ผมฝืนตัวเองไม่ได้ที่จะอยู่ใกล้คนที่ทำร้ายใจผม…” ภาพของน้อยหน่าที่ถูกส่งเข้าคุกไปอย่างง่ายดายทั้งที่ทำงานกับคมเขี้ยวมานานลอยเข้ามาในหัวของเรียวจันทร์ ภาพนั้นและเหตุการณ์นั้นเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้นางไม่กล้าปริปากบอก เพราะมันคือสิ่งที่บอกว่าผู้ชายคนนี้ตัดคือตัด ไม่สนใจว่าใครคนนั้นจะมีความดีแค่ไหน แต่ถ้าเลวครั้งเดียวเขาก็ไม่เลี้ยงไว้เช่นกัน



“…ผมเลยกลับมาคิด และคิดว่าจะลองดูอีกครั้ง ถ้าคุณตามมา ผมจะให้โอกาส แต่คุณก็หนีผมไป”



“ฉันไปเพราะ…” คมเขี้ยวส่ายหัวหน้าตาเรียบเฉย



“…คุณดูถูกความรักผม คิดว่าผมจะปล่อยให้ใครมาทำร้ายคุณกับสิ่งที่คุณรักได้งั้นเหรอ คิดว่าผมอ่อนแอปกป้องคนที่ผมรักเลยไม่ได้รึไง”



“ไม่ใช่! ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ ฉันแค่อยากให้ทุกคนปลอดภัย ฉันไม่รู้ว่าจอมทัพจะใจร้ายได้ขนาดไหน”



“แต่คงไม่ใจร้ายเท่าคุณหรอก…” เรียวจันทร์สะอึก มองหน้าคมเขี้ยวด้วยสายตาตะลึงเบาๆ



“…คุณคงกะว่าถ้าได้ผมแล้ว ได้ที่ดิน ได้สิ่งที่ต้องการ คุณก็เฉดหัวไอ้โง่คมเขี้ยวคนนี้ไปไกลๆ หรืออย่างดีก็อาจจะเก็บไว้เป็นผู้ชายในคอลเลคชั่นของคุณอีกคน” เรียวจันทร์เม้มปาก อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็อึกอักพูดออกมาไม่ได้



เพราะที่คมเขี้ยวพูดมาน่ะ มันคือความคิดในขั้นแรกของนางจริงๆ



“เขี้ยว ฉัน… ฉันอาจจะเคยคิด แต่ตอนนี้ฉันไม่เหลือความคิดนั้นเลยนะ ฉันมีนายคนเดียว รักแค่นายคนเดียวจริงๆ” คมเขี้ยวถอนหายใจแผ่วเบา



“ที่ผ่านมา คุณอาจจะเล่นกับความรู้สึกใครต่อใครมากมาย แต่กับผู้ชายคนนี้ เรื่องความรู้สึกไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ผมชัดเจนพอหรือยัง” น้ำตาเรียวจันทร์ร่วงหล่นลงบนแก้มอีกครั้ง มองคมเขี้ยวด้วยความรู้สึกเสียใจ ด้วยความรู้สึกผิด



“ฉันขอโทษ”



“ผมรับไว้ แล้วตอนนี้คุณก็ไปได้แล้ว เพราะคุณคงไม่กล้าพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อหรอก” เรียวจันทร์เบะปากน้ำตาคลอ ขยับเดินเข้าไปหาคมเขี้ยว ร่างสูงมองร่างเล็กนิ่ง คนหน้าสวยเขย่งตัวยื่นหน้าไปจูบแก้มซ้ายของคมเขี้ยวแผ่วเบา



“โอกาสที่นายเคยคิดจะให้ ให้ฉันอีกครั้งได้มั้ย” คมเขี้ยวไม่ตอบ ทำเพียงหันหน้าหนีไปมองทางอื่นไม่สบตาไม่มองหน้าเรียวจันทร์จนเจ้าตัวใจแป้ว รู้สึกหัวใจห่อเหี่ยวถึงขั้นพิกลพิการ



“อ้าว คุณเรียว” เรียวจันทร์หันไปมองดินที่มีผ้าพันแผลตรงต้นแขนเช่นกัน นางกระตุกยิ้มให้ดินน้อยๆ ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหาหนุ่มร่างยักษ์ผู้ใสซื่อ



“เป็นยังไงบ้างดิน” คนถูกถามยิ้มแฉ่งก่อนตอบเสียงใส



“สบายมากครับ ดินยังแข็งแรงเหมือนเดิม” ดินยกแขนขึ้นเบ่งกล้ามโชว์เรียวจันทร์ แต่สักพักก็ร้องโอ๊ย หน้าตาเหยเกเพราะเจ็บแผล เรียวจันทร์หัวเราะทั้งที่น้ำตาคลอ



“คุณเรียวจะกลับมาอยู่ที่นี่แล้วใช่มั้ย ไม่กลับไปอยู่กับไอ้จอมทัพนั่นอีกใช่รึเปล่า” เรียวจันทร์ยิ้มเศร้า ดินเห็นรอยยิ้มนั้นก็หน้าเจื่อนไปนิด



“ดูแลตัวเองนะดิน ฝากดูแลพี่ชายดินด้วย ตอนนี้ฉันอาจจะยังอยู่ไม่ได้ แต่ฉันจะกลับมาแน่นอน รอฉันนะ” ปฐพีทำหน้าครุ่นคิดพักหนึ่งก่อนที่จะคลี่ยิ้มอ่อนและพยักหน้าลงหนึ่งที



“ครับ ดินจะรอ พี่เขี้ยวและทุกคนที่นี่ก็จะรอคุณเรียวกลับมา” เรียวจันทร์ยิ้มดีใจที่อย่างน้อยดินก็ไม่ได้โกรธนางจนไม่คิดเผาผีต่อกัน



“แล้วคุณป๋ากับคุณแม่ไปไหน”



“ไปดูไร่องุ่นครับ ให้ดินไปตามมั้ย” เรียวจันทร์ส่ายหัว สภาพของนางตอนนี้ห่อเหี่ยวเกินไป



“อ้าว ดินเพิ่งเห็น คุณเรียวไปโดนอะไรมา” ดินชี้มุมปากเรียวจันทร์ที่โดนตบจนเลือดออก เรียวจันทร์ยิ้มนิดหน่อยและส่ายหัวน้อยๆ



“อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ” เรียวจันทร์หันไปมองคมเขี้ยวที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ มองนางยืนคุยกับดินอย่างเฉยชา เรียวจันทร์หันกลับมาหาดิน



“กลับก่อนนะดิน แล้วเจอกันเร็วๆ นี้”



“รีบกลับมานะครับ” แค่ประโยคสั้นๆ จากดิน แต่กลายเป็นว่านางรู้สึกมีแรงใจเพิ่มขึ้นมากเหลือเกิน เรียวจันทร์พยักหน้า กอดดินไปหนึ่งทีแล้วเดินออกไปจากบ้าน



คมเขี้ยวมองตามนิ่ง สักพักแววตาชายหนุ่มก็สลดลง ใบหน้ามีความสับสนและความหนักใจ



ดินยืนมองพี่ชายบุญธรรมตัวเองอย่างครุ่นคิด ไอ้ดินรู้ว่ากว่าพี่เขี้ยวจะตกลงปลงใจให้คุณเรียวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพี่แกโสดมานาน มีสาวๆ (และหนุ่มบางคน) คอยมาขายขนมจีบให้พี่ชายไอ้ดินก็บ่อยครั้ง แต่พี่เขี้ยวก็ไม่ได้มีท่าทีสนใจใคร ขนาดคุณเอื้องที่ว่าคุยกันมานาน ก็นานซะจนสุดท้ายก็หายไป แล้วคุณเรียวจันทร์ก็แหกโค้งปาดหน้าทุกคนไปแบบม้ามืด พอเจอคุณเรียวทำแบบนี้ พี่แกก็คงเสียใจ เสียความรู้สึกมากโข



อีกอย่างพี่เขี้ยวรักใครรักจริง ไม่ใช่ผู้ชายใช้ใจเปลือง ก็ไม่แปลกถ้าพี่แกจะเคือง แต่อีกใจไอ้ดินก็คิดว่า ถ้าเป็นมัน แม้จะโกรธ จะเคืองยังไง แต่ถ้ารักก็คงโกรธแปบเดียว ไม่อยากยืดเยื้อนาน แต่ก็อย่างว่า นี่มัน นั่นพี่เขี้ยว คนละคนกัน 




 :mew2:

พี่เขี้ยวก็มีบาดแผลในใจ ขุ่นแม่เองก็ปวดใจที่เรื่องราวออกมาเป็นแบบนี้

พี่เขี้ยวไม่ได้คิดเป็นเชิงว่าตัวเองเสียเหลี่ยมหรอกค่ะ คำตอบและความรู้สึกของพี่เขี้ยว เขาก็ได้ตอบไปแล้วว่าเพราะอะไร ใจน่ะรัก แต่ใจก็เจ็บ และประโยคท้ายจากดินก็น่าจะเป็นคำตอบของความรู้สึกพี่เขี้ยวด้วย

งานนี้ขุ่นแม่อย่าเพิ่งท้อถอดใจไปก่อน ต้องรีบตามมาง้อสามีในเร็ววัน แต่วันนี้ขุ่นแม่อ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ สตรองดั่งตั่งทองเมืองทิพย์ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ ขอเวลาตั้งพระสติแปบ

ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ อดทนเวลาที่ฝนนนนนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง...

จากที่ดูในประเด็นของเสี่ย แอบเห็นมีคนอยากได้เสี่ยเป็นสามี 55555 เอ๊ะ ยังไง

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ

ตอนนี้ขุ่นแม่เรียวกับขุ่นพ่อเขี้ยวกำลังเปิดพรีออเดอร์ตัวเองในรูปแบบหนังสือนะคะ เปิดพรีฯ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม ตอนพิเศษในเล่มแน่นมาก ผู้ใดสนใจ เข้าไปอ่านรายละเอียดของทั้งสองคนพร้อมรายละเอียดของแถมได้ที่ > พรีออเดอร์ขุ่นพ่อขุ่นแม่ (https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1389304&chapter=29)


Tag #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งหลัง :09.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-04-2017 01:44:55
สงสารคุณแม่มากๆเลย  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งหลัง :09.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-04-2017 06:07:38
โกรธพี่เขี้ยวแล้ว ขับไล่กันงี้ เป็นเรา จะไม่กลับมาแล้ว ไปก็ไปดิ โอ้ยยยย โมโห ทั้งอิเสี่ย ทั้ง อิพี่เขี้ยว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งหลัง :09.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 09-04-2017 07:47:26
น่าสงสารขุ่นแม่จริงๆๆ  ขุ่นแม่สตรองนะคะ เดี๋ยวก็ผ่านไปปปปปปปปป



หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งหลัง :09.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Lunar_lustre ที่ 09-04-2017 09:04:50
เค้าขอรออีกสักตอนแล้วกันนะ ถ้าเขี้ยวกุดยังงี่เง่า เราคงเทเรื่องนี้อ่ะ รับไม่ได้จริงๆ :sad4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งหลัง :09.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 09-04-2017 09:14:25
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งหลัง :09.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 09-04-2017 10:01:12
ขุ่นแม่รีบเคลียร์ปัญหาเลยค่ะ แล้วกลับมาใหม่ พี่เขี้ยวไม่เอาก็ยัดเยียดไปเลย !!  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งหลัง :09.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-04-2017 10:55:46
 :impress3: :impress3: :impress3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๗/ครึ่งหลัง :09.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 09-04-2017 11:54:19
 :beat:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งแรก :14.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 14-04-2017 20:33:59


คาถาที่ ๒๘ :: Enough! (พอกันที!) [ครึ่งแรก]





   เรียวจันทร์นั่งหน้าหม่นกับความรู้สึกอึนๆ ในอกตรงเก้าอี้ของร้านเบเกอร์รี่แอนด์คอฟฟี่ช้อปแห่งหนึ่งในโซนใจกลางเมืองกรุง นางถอนใจเป็นรอบที่สี่ตั้งแต่มานั่งอยู่ตรงนี้เพื่อรอเป็ด ไม่เคยคาดคิดว่าวันนึงชีวิตตัวเองต้องมานั่งคิดวิเคราะห์อะไรให้มันซับซ้อนปวดหัวสมองและเหนื่อยใจแบบนี้
   

เมื่อวานหลังจากกลับหาคมเขี้ยวนางก็ไปขลุกตัวอยู่ที่คอนโดแจเร็ดที่ทิ้งห้องไว้ให้นางพัก จนเสี่ยจอมทัพโทรมาตามนั่นแหละถึงได้ออกจากห้องนั้น และวันนี้เรียวจันทร์ก็นัดเป็ดให้ออกมาเจอกัน นางนั่งรอมาสิบห้านาทีแล้ว ตอนมาถึงโทรหาเป็ด นังศศิประภาบอกว่ากำลังเดินมา แถวนี้ใกล้ออฟฟิศนังดำ หล่อนเลยเลือกจะเดินมาแทน
   

“ฮายๆ ค่ะเพื่อน” คนที่กำลังนึกถึงปรากฏกายในชุดเสื้อเชิ้ตดำเข้ารูปกับกระโปงหนังทรงเอรัดรูปสีดำมันเลื่อมผายสะโพกมนของอีเป็ดให้เด่นชัด
   

“ตั้งแต่มีผัวสวยขึ้น เอิบอิ่มขึ้นนะคะ ไม่ต้องบอกว่าเพราะอะไร” เป็ดจิกตากลับมา และหันไปตะโกนสั่งเครื่องดื่มตรงบาร์กับเจ้าของร้านก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับเรียวจันทร์
   

“เมื่อวานฉันพาพวกป้าอุ่นมาอยู่บ้านฉันก่อน เมื่อเช้าพี่ไม้มารับไปส่งที่ฟาร์มคุณเขี้ยวละ ป้าอุ่นขนของแกออกมาด้วย…” เป็ดดึงซองเอกสารสีน้ำตาลออกมาจากกระเป๋าถือของตัวเองแล้วส่งให้เรียวจันทร์
   

“…โฉนดที่ดินตามที่แกต้องการ รูปพ่อแก เถ้ากระดูกของพ่อ ป้าอุ่นเอาไปด้วยแล้ว ตอนนี้ที่บ้านไม่นับของประดับในบ้านก็เหลือแต่แม่แก” เรียวจันทร์พยักหน้าพร้อมกับรับซองเอกสารมายัดไว้ในกระเป๋าของตัวเอง หน้าตาไร้ซึ่งความสุขสดใสแบบที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวนาง
   

“ฉันบล็อกเบอร์เขาไปละ ไม่อยากพูดไม่อยากคุยกับผู้หญิงคนนี้อีก…” สีหน้าและแววตาของเรียวจันทร์แสดงออกถึงความผิดหวัง แต่นางก็ปัดทิ้งอย่างรวดเร็ว
   

“…แต่ฉันก็ยังไม่อยากปักใจเชื่อว่าเขาจะทำจริงๆ ไม่ใช่ว่าฉันรักและเชื่อใจนะ แต่แค่มันยังไม่มีหลักฐานมาชี้ว่าเป็นเขาชัวร์ๆ”
   

“อันนี้แกหมายถึง…” เป็ดย่นคิ้วนิดหน่อยเพราะยังตามประเด็นนี้ไม่ทัน
   

“เรื่องแย่ๆ ในฟาร์มของเขี้ยว จอมทัพบอกว่าแม่ฉันเป็นคนทำ” เป็ดเบิกตากว้าง ยกมือขวาป้องปากด้วยความตกใจ ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อพนักงานเดินเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ
   

“ขอบคุณค่า…” เป็ดวางแก้วน้ำที่มีน้ำแดงโซดาไว้ตรงหน้าตัวเอง “…ถ้าเป็นอย่างที่เสี่ยว่าจริงๆ แม่แกคือแบบ เอ่อ ฉันไม่รู้จะหาคำไหนมานิยามเขาว่ะ ขอโทษนะ”
   

“ฉันเองยังเลือกไม่ถูกเลยว่าเลวกับชั่วอันไหนแรงกว่ากัน” ศศิประภามองเพื่อนด้วยความเห็นใจ ไม่รู้ว่าเวรกรรมอันใดของมันที่มีแม่แบบนี้
   

“แล้วกับคุณเขี้ยวล่ะ” เป็ดเปลี่ยนประเด็นเพื่อไม่ให้เพื่อนรู้สึกแย่ไปมากกว่าที่มันเป็นอยู่ เรียวจันทร์พ่นลมหายใจ หยิบชามะนาวขึ้นมาดูดไปสองอึกใหญ่ก่อนตอบ
   

“ก็ตามสูตรดราม่า รู้เรื่องที่ฉันหลอกเขา โกรธ ไม่พูดไม่จา รับฟัง แต่ไม่คิดตาม” เป็ดเก็ทว่าเพื่อนสื่อสารอะไรอยู่ ไม่ต้องขยายให้มากความก็รู้ว่าสิ่งที่หล่อนคิดและบอกเพื่อนมาตลอดมันเกิดขึ้นจริงอย่างที่คิดไว้
   

ทำไมเวลาคิดหวยไม่ออกมาตามสูตรแบบนี้บ้างนะ
   

“ฉันไม่แปลกใจ จะให้เขาคิดอะไรวะ มันคือการหมดความไว้เนื้อเชื่อใจกันไปแล้วอะ แกนึกออกมะ” เป็ดพูดตรงๆ แต่ก็คิดว่าพยายามซอฟต์กับเพื่อนที่สุด เรียวจันทร์หน้างอเล็กน้อย
   

“ฉันกลัวอะ ฉันรักเขาจริงๆ นะเป็ด” ศศิประภาดูดน้ำแดงโซดาเข้าปากไปสองอึก
   

“รักเขา แล้วยังไงต่อ ฉันหมายถึง แกจะเอายังไงต่อ” เรียวจันทร์ถอนหายใจอีกที สีหน้าบอกความรู้สึกว่ากำลังจนปัญญา
   

“เมื่อวานฉันไปหาเขี้ยวมา เขาไม่มีรีแอคอะไรกับฉันมากไปกว่านิ่ง เงียบ เรียบ เฉย” นางทำหน้าราวกับจะร้องไห้ แต่ก็ไม่ได้คิดจะร้องออกมาตามหน้าหรอก
   

“โอ๊ย ถ้าเขามีรีแอคโอบกอด จูบหอมแกสิแปลก แกทำหัวใจเขาแหลกนะ ใช้คำนี้ได้เลย ไม่ต้องหาว่าฉันเว่อร์”
   

“ก็ไม่เว่อร์ แต่มันขนาดนั้นเลยเหรอเป็ด โกรธอะเข้าใจนะ แต่ถึงขั้นหัวใจแตก แหลกลาญเลยเหรอ” เป็ดมองหน้าเพื่อนสนิทแบบเอือมๆ
   

“คือฉันอยากให้แกลองคิดเหมือนกันนะว่าถ้าแกโดนแบบนั้น เหมือนโดนคนอื่นหลอกใช้ แกจะรู้สึกยังไง แต่ฉันก็รู้ว่าคนอย่างแกมันถือเรื่องความจริงใจเป็นจริงเป็นจังซะที่ไหน” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ มองเพื่อนด้วยความตระหนกตกใจเบาๆ เป็ดพยักหน้าจริงจังกับสิ่งที่พูด
   

“เป็ด แรงไปเปล่าอะ”
   

“ไม่แรงค่ะ พูดแบบนี้ฉันไม่ได้หมายความว่าแกเป็นคนไม่ดี เออ แกก็ไม่ใช่คนดีเท่าไหร่อะแหละ…” เรียวจันทร์ถลึงตาใส่เป็ดแต่เป็ดไม่สนใจ รีบพูดต่อทันที


“…แกเป็นคนที่ใช้ชีวิตไม่คิดเยอะ ใช้ชีวิตแบบไม่คิดถึงอนาคต แกมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน มันเป็นเรื่องที่ดี แต่แกไม่สนใจบริบทรอบข้างเลยว่ามันเป็นยังไง สิ่งที่แกมองคือสิ่งที่แกต้องการ แต่กว่าแกจะไปถึงสิ่งที่แกต้องการ แกทำลายอะไรระหว่างทางไปเยอะมาก” เป็ดพูดตรงๆ เพื่อจะได้สื่อสารให้เพื่อนเข้าใจชัดเจน อีนี่ต้องพูดอะไรให้ชัดถ้อยชัดคำเพราะเดี๋ยวมันแปลงสารเป็นอย่างอื่น


“ทำไมฉันดูแย่จังวะ” เรียวจันทร์หน้านิ่วคิ้วขมวด


“ให้ฉันเสริมเพิ่มเติมอีกมั้ยล่ะว่าแกเป็นยังไง” นางคลายหน้าคลายคิ้วที่นิ่วไว้อยู่ออกทันที


“ไม่ต้องอะ…” เรียวจันทร์ยกน้ำขึ้นมาดูดเข้าปากอีกสองอึก เหลือบมองเป็ดอย่างเกรงๆ เกรงว่าอีเป็ดมันจะพ่นอะไรออกมาอีก


“…แต่เรื่องความรู้สึกฉันที่ว่ารักเขาอะ มันมีจริงๆ นะ”


“มาบอกฉัน แล้วแกจะคืนดีกับเขาได้เหรอ”


“ฉันก็แค่บอกอีเป็ด…” เรียวจันทร์ว่าอย่างหงุดหงิดนิดหน่อยที่เพื่อนประชด แต่ก็ข่มใจบอกตัวเอไม่ให้วี๊ดใส่เพื่อน เป็ดเองก็มองออกว่าเพื่อนมีความเดือดอยู่ในห้วงอารมณ์เล็กๆ แต่หนนี้ศศิประภาจะแข็งใจพูดให้เพื่อนฉลาดให้ได้


“…แล้วฉันก็บอกเจ้าตัวไปแล้วด้วย แต่เขาไม่เชื่อ” เรียวจันทร์ว่าด้วยความหงุดหงิดเล็กๆ เป็ดมองเพื่อนอย่างระอาเบาๆ


“แกก็ทำให้เขาเชื่อสิ” เรียวจันทร์ที่กำลังมีสีหน้าหงุดหงิดขมวดคิ้วงง มองเป็ดอย่างไม่เข้าใจ 


“ทำให้เชื่อ? ก็ฉันบอกไปแล้ว แต่หมอนั่นมันไม่เชื่อฉัน”


“เอ๊า ก็ฉันพูดอยู่นี่ไงว่า ‘ทำ’ ให้เขาเชื่อ ไม่ใช่ ‘พูด’…” เรียวจันทร์ยังขมวดคิ้วน้อยๆ เป็ดทำหน้าเอือมไม่เสื่อมคลาย


“…ตอนที่แกได้เขามาครั้งแรก แกทำทุกวิถีทางจนได้เขามา แกไม่ใช่แค่พูด” เรียวจันทร์คลายคิ้วตัวเองออก พยายามจับเรียงความคิดความทรงจำของตัวเองให้นิ่ง และเอาคำพูดของเป็ดไปลิงค์กับคำพูดของคมเขี้ยวที่ฝ่ายนั้นพูดกับนาง เค้นความทรงจำว่าประโยคไหนใกล้เคียงกับความหมายในประโยคของเป็ดมากที่สุด


“…ทำให้เห็นหน่อยว่าจริงใจกับผมจริงๆ ไม่ใช่แค่พูดเอาตัวรอด”



“แกหมายถึงให้ง้อเขาเงี้ยเหรอ” เป็ดตาโตมองเพื่อนเหมือนกำลังเห็นของแปลก


“เอ๊า อีนี่ เขาโกรธ ก็ต้องง้อสิวะ ถ้ารักเขาจริง ก็ต้องง้อจนเขาหาย ไม่ใช่โดนเขาเมินใส่ก็ถอดใจ ทีก่อนนี้เขาด่า เขาไล่สารพัด แกยังหน้าด้านหน้าทนจนได้เสียตัวให้เขาตามปรารถนา” ง้องั้นเหรอ? ไม่ใช่นางไม่รู้ว่าต้องเป็นคำนี้ แต่นางแค่คิดว่าจะง้อยังไงล่ะ ก็ท่าทีไอ้เขี้ยวกุดดูมึนตึงเฉยชาจนไม่รู้ว่าอยากให้นางง้อจริงๆ รึเปล่า


“…อยู่กับพี่… อยู่ง้อพี่… พี่โกรธอยู่นะ”


“ก็รู้ว่าต้องง้อนั่นแหละ แต่ตอนนี้กำแพงที่หมอนั่นเคยมีมันกลับมาอีกแล้ว” เป็ดสูดลมหายใจเบาๆ


“ถ้ามี ก็ทำลายมัน” เรียวจันทร์มีสีหน้าท้อใจขึ้นมาทันที


“ครั้งนี้มันต้องยากกว่าเดิมแน่เลยอะ”


“เรียว แกรักเขาจริงมั้ยเนี่ย” เรียวจันทร์ย่นคิ้วตาโต


“จริงสิ! ทำไมไม่ค่อยจะเชื่อฉันเลยวะ”


“งั้นถ้ามันจะยากแค่ไหน แกจะกลัวอะไรล่ะ รักเขาก็เอาเขากลับมา” เรียวจันทร์มองเป็ดอย่างไม่ค่อยจะมั่นใจ คราวนี้ความมั่นหน้ามั่นใจในตัวนางหดลงไปเยอะเลย ศศิประภามองหน้าเพื่อนและพ่นลมหายใจเสียงเบา


“แต่ฉันว่านั่นอาจไม่ใช่กำแพงก็ได้ แต่เป็นเกราะป้องกันความเจ็บของคุณเขี้ยว คำพูดฉันมันน้ำเน่านะ แต่แกเชื่อสิ ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แกล้อเล่นกับความรู้สึกเขา ทำร้ายใจเขา…” เรียวจันทร์หลบสายตาจริงจังของเป็ดไปมองด้านนอกร้าน


“…ถ้าแกกำลังคิดว่าเป็นผู้ชายทำไมคิดเล็กคิดน้อย แล้วผู้ชายมีความรู้สึกไม่ได้เหรอ แกเองก็มีเพศชายอยู่ในตัว แกน่าจะตอบได้ดีกว่าฉันนะ” คุณนายสลดลงนิดหนึ่ง นึกถึงหน้าคมเขี้ยวก็ใจแป้วแปลกๆ


“มันต่างกันอะเป็ด ตอนนั้นฉันทำแบบไม่คิดอะไร…” เป็ดเบ้ปากทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เรียวจันทร์จิ๊ปากนิดหนึ่ง


“…แต่ตอนเนี้ย ความรู้สึกของฉันกับคมเขี้ยวมันเยอะกว่าเดิม มันมีรายละเอียดกว่าเดิมอะเป็ด” เรียวจันทร์พยายามนึกถึงคำพูดของคมเขี้ยวทั้งหลายที่พูดกับนางหลังจากรู้เรื่องราว และที่พูดกับนางในวันที่กลับไปหาที่ฟาร์ม


“ผมมั่นใจว่าผมรักคุณมาก…”


นางยิ้มด้วยความใจชื้นขึ้นมาเมื่อประโยคนี้ผุดขึ้นมาในหัว “เขี้ยวบอกว่ารักฉันอยู่นะ”


“ฉันไม่ได้จะตัดกำลังใจ แต่เพราะเขารักนั่นแหละ เขาถึงเจ็บมากกับสิ่งที่แกทำ” จากที่ใจชื้นขึ้นมาเมื่อกี้มีอันต้องเหี่ยวฟีบแฟบลงไปทันตา ยังไม่ทันได้ชุ่มฉ่ำทั่วทั้งใจเลย


“ผมเลยกลับมาคิด… และคิดว่าจะลองดูอีกครั้ง… แต่คุณก็หนีผมไป”


“ฉันถามนะว่าจะให้โอกาสฉันอีกได้มั้ย แต่เขาไม่ตอบ”


“เขาไม่ตอบ แล้วเขาปฏิเสธรึเปล่า” เรียวจันทร์มีสีหน้าไม่มั่นใจ นางส่ายหัวเบาๆ คมเขี้ยวเงียบตอนที่นางขอโอกาส ตอนนั้นนางรู้สึกสิ้นหวังไปเยอะเลย


“ก็เปล่า เขาไม่ได้พูดอะไร”


“งั้นจะรออะไร ไปง้อเขา รักเขาจริงก็พิสูจน์ให้เขาเห็น จริงใจอะเป็นมั้ย” เรียวจันทร์เบิกตากว้างมองเพื่อน บิดปากนิดหนึ่ง ยกมือขวาตบอกตัวเองสองสามที และพูดด้วยน้ำเสียงสั้นคล้ายคนจะร้องไห้


“คนอย่างฉัน ทำอะไร จริงใจล้วนๆ” เป็ดเบ้ปากจนปากเบี้ยวผิดรูป


“เออ เอาความจริงใจล้วนๆ ของแกไปแสดงให้เขาเห็นจนเขายอมคืนดีด้วยให้ได้แล้วกัน” เรียวจันทร์มองค้อนเพื่อนไปนิดหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาวกว่าทุกครั้งที่ตั้งแต่นั่งอยู่ในร้านนี้


“อีตาเสี่ยเนี่ยสิ…”


“แกจะกลัวอะไร บ้านแกก็ปลอดภัยแล้ว ถ้ากลัวว่าเสี่ยจะทำอะไรพวกคุณเขี้ยว ฉันว่าคุณเขี้ยวเขาคงไม่งอมืองอเท้าให้เสี่ยทำง่ายๆ หรอก แกอย่ามานางเอกได้มะ ไม่เข้ากับแกเลยค่ะ” เรียวจันทร์จิกตาใส่เป็ดพร้อมจิ๊ปากเสียงดัง เป็ดลอยหน้าลอยตาเป็นการบอกว่าก็กูพูดจริง


เสียงโทรศัพท์มือถือของเรียวจันทร์ดังขึ้น นางวางแก้วน้ำในมือซ้ายลงบนโต๊ะ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์ที่หน้าจอก็เห็นเป็นเบอร์ของแก๊ป


“ว่าไงแก๊ป เป็นไงบ้าง…” เป็ดยกน้ำขึ้นดูดด้วยความชื่นใจ แต่พอเห็นสีหน้าของเรียวจันทร์ที่เปลี่ยนจากขมวดคิ้ว เป็นเบิกตากว้าง หน้าซีดและตกใจในเวลาเดียวกัน ก่อนที่จะมีความกังวลให้เห็น ศศิประภาก็หยุดดูดน้ำด้วยความใจไม่ดี


พฤหัสบดี พระศุกร์ หรือพระเสาร์อีกล่ะที่เข้ามาแทรกเนี่ย










คมเขี้ยวกำลังยืนมองสภาพบ้านไม้หลายหลังที่ไหม้เกรียมไปคนละหย่อมสองหย่อม มีอยู่สี่หลังที่ไหม้วอดจนเหลือแต่ซากไม้ดำๆ กับควันจางๆ ทิ้งไว้ให้เจ็บช้ำใจ ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วแน่น ยืนมองด้วยความโกรธแค้น แต่ก็ไม่คิดอาละวาดโวยวาย แค่นึกเจ็บใจแทนชาวบ้านกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาหันไปมองชาวบ้านหลายสิบชีวิตที่นั่งสีหน้าไร้อารมณ์ แต่เขารู้ว่าทุกคนก็มีความรู้สึกไร้ความหวังด้วยเช่นกัน 


“ไม่โดนไฟไหม้เกือบสิบหลังครับพี่เขี้ยว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ทรัพย์สินเสียหายกันไปเยอะ” คมเขี้ยวพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง พ่นลมหายใจยาวๆ เพื่อผ่อนคลายความรู้สึกของตัวเอง เขาหันไปมองดินที่มองซากบ้านไม้ด้วยสายตาเศร้าเล็กๆ แล้วยกมือตบบ่าดินเบาๆ ดินหันกลับไปมองพี่ชายต่างสายเลือดด้วยความเหลอหลา แต่พอเห็นสายตาเข้าใจของคมเขี้ยวก็ยิ้มน้อยๆ และพยักหน้าเบาๆ


“พี่ว่ามีคนตั้งใจให้เกิดขึ้นมั้ย” คมเขี้ยวขบกรามแน่น ในอกร้อนรุมๆ เหมือนมีไฟสุม


“มึงคิดว่าพวกชาวบ้านเขาจะจุดไฟบ้านตัวเองรึไง” เขาลองสอบถามพวกลุงป้าน้าอาทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ทุกคนดูงงๆ มึนๆ กับเหตุไฟไหม้ ไม่มีใครตอบได้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง


“ไอ้จอมทัพเหรอพี่” ได้ยินชื่อนี้แล้วยิ่งเดือด ทั้งเพราะเขาปักใจเชื่อว่ามันต้องมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน และเพราะตอนนี้มันเอาตัวใครบางคนไปเก็บไว้กับมัน


นึกแล้วก็พาลมาหงุดหงิดตัวเองที่ท่ามาก เมื่อวานหลังจากเรียวจันทร์กลับไปเขาก็เอาแต่นอน เก็บตัวเงียบ ไม่กินข้าวกินน้ำจนพระอาทิตย์ตกดิน ไข้เลยขึ้นสูงกว่าเดิม พอแม่รู้ก็ดุเขา จัดอาหารและให้กินยา ตอนนี้อาการก็ยังทรงๆ ตัว หนักหัว ปวดหัว ตัวร้อน แต่ก็ไม่ถึงขั้นทรมาน


“คุณเขี้ยวครับ…” เสียงของเจ้าหน้าที่ดึงห้วงความคิดของคมเขี้ยวกลับมาปัจจุบัน เขาหันไปมองเจ้าหน้าที่คนเดิมที่ตอนนี้เป็นธุระให้เขาเรื่องคุมขังมือระเบิดฟาร์มเขาอยู่


“…จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่มีเรื่องของไฟฟ้าลัดวงจร แต่เจอคราบน้ำมัน ผมว่าเป็นการวางเพลิงอย่างที่คุณคิดแหละครับ” คมเขี้ยวไม่รู้ว่าจะต้องเครียดอีกระดับไหน เขาเลยทำหน้าเนือยแทน ยิ่งตอนนี้ไม่สบายด้วยเลยดูห่อเหี่ยวหม่นหมองมากกว่าปกติ


“ขอบคุณครับ”


“คิดว่าเป็นคนเดียวกันกับพวกมือระเบิดมั้ยครับ” คนถูกถามนิ่งไปสักนิดก่อนจะพยักหน้า


“ก็เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แหละครับที่คิดแบบนั้น”


“เรื่องที่มีคนขอประกันตัวพวกมัน ผมจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นนะครับ” คมเขี้ยวพยักหน้าสองสามที


“ก็ขอให้ไม่แพ้อำนาจเงินหรืออำนาจเส้นสายของใครแล้วกันนะครับ” คมเขี้ยวบอกเสียงเรียบ เจ้าหน้าที่พยักหน้านิดหนึ่งแต่ใบหน้าก็เครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เจ้าของฟาร์มอรุณพยัคฆ์ไม่สนใจ เพราะถือว่านั่นคือหน้าที่ของตำรวจที่ต้องช่วยเหลือประชาชนให้ได้ตามสโลแกนที่ว่าตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน


ทำไมเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังเอานิสัยเรียวจันทร์มาใช้นะ


“ไอ้ดิน เดี๋ยวเอาพวกอาหาร ของใช้บางส่วนมาให้พวกชาวบ้านนะ พาพวกคนงานมาสร้างที่นอนชั่วคราวให้ไปก่อน” ดินพยักหน้าระหว่างเดินกลับไปที่รถพร้อมพี่ชายตัวเอง ดินหันไปตะโกนบอกพวกชาวบ้านให้รอสักพักแล้วเดี๋ยวจะกลับมาอีกรอบ


ชาวบ้านที่โดนไฟไหม้คือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับฟาร์มของคมเขี้ยว เรียกได้ว่าอยู่ใกล้ชิดติดกับพื้นที่ของบ้านคมเขี้ยวมาก เขาไม่จำเป็นต้องมาดูก็ได้ถ้าก่อนหน้านี้มันไม่มีเหตุการณ์มีคนมาขอซื้อที่ดินบริเวณโดยรอบนั้น แต่พวกชาวบ้านไม่ขาย


“พี่ไหวมั้ยเนี่ย” ดินถามในขณะที่กำลังขับรถกลับฟาร์ม อาจเพราะตัวใหญ่เนื้อหา กระสุนที่ไอ้ดินโดนเลยแค่ถาก มีแผลและพันผ้าปิดไว้เท่านั้น ไม่เหมือนพี่ชายมันที่โดนกระสุนฝังเข้าต้นแขนเต็มๆ คมเขี้ยวนั่งนิ่ง อาการพี่ชายดินไม่ได้แย่จนถึงขั้นจะเป็นลมล้มพับ แต่ใบหน้าก็ซีดเซียวไม่น้อย


“กูดูอ่อนแอมากเลยรึไง”


“ใจพี่ไง ไม่มีคุณเรียวอยู่ อาจจะอ่อนแอ” คมเขี้ยวแทบไปไม่เป็น ไอ้ดินมันก็พูดหน้าซื่อตาใสเหมือนเดิมตามนิสัยมัน ไม่ได้พูดประชด ไม่ได้พูดเพื่อสะกิด แต่มันพูดอย่างที่มันคิดเท่านั้นแหละ


“ไม่เกี่ยวกับขวัญใจมึง”


“เขามาง้อก็ทำเป็นเล่นตัว” ดินว่าหน้าซื่อ เหลือบมองพี่ชายตัวเองอย่างไม่เข้าใจ คนโดนว่าว่าเล่นตัวยิ้มเยาะมุมปาก


“ง้อห่าไร ทำแค่นั้นอย่าเรียกว่าง้อเลย แค่จะกลับมาอยู่กับกูยังไม่กล้า”


“แล้วถ้าคุณเรียวกลับมาอยู่กับพี่ พี่จะดีกับเขาเปล่า” คมเขี้ยวเงียบ หันไปมองไอ้น้องชาย ไอ้ดินมองอย่างไม่มีเลศนัยแล้วหันกลับไปมองถนนต่อ คนเป็นพี่ชายหันไปมองข้างถนน คิดสักพักหนึ่งก่อนตอบ


“ให้กลับมาจริงก่อน”


“นี่พี่โกรธคุณเรียวหรือน้อยใจเขากันแน่” ดินถามด้วยความสงสัยจริงๆ


“ทั้งสองอย่าง” คมเขี้ยวตอบตามความเป็นจริง เขาไม่ใช่คนไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังรู้สึกแบบไหน อาจจะต้องใช้เวลาในการจัดเรียงลำดับความรู้สึกบ้างหากเวลาไหนที่ความรู้สึกมันตีกันพัลวันจนมั่วไปหมด


“โห ทั้งโกรธ ทั้งงอนขนาดนี้ แสดงว่าพี่ก็รักเขามากอะดิ” คมเขี้ยวย่นคิ้วจิ๊ปาก รู้สึกอารมณ์เสียกับไอ้น้องชายบุญธรรมของตัวเอง


“เออ!” เขาตอบห้วนสั้น นึกอยากโบกกะโหลกไอ้ดินสักทีให้หายหมั่นไส้ในความซื่อ (บื้อ) ของมัน


แต่เอาจริงๆ ถึงไอ้ดินไม่พูด ไม่จี้ถาม มันก็เป็นความรู้สึกของเขาอยู่แล้ว แค่ตอนนี้ความรู้สึกมันเสียไป รอการเยียวยาอยู่ แล้วดูนังคุณนายตัวแสบที่ควรจะต้องเป็นคนมารักษาสิ ไปมุดนออยู่ไหนก็ไม่รู้


คมเขี้ยวเอนหัวพิงกับเบาะ นั่งมองข้างทางระหว่างกลับไปบ้านตัวเองไปเรื่อยด้วยความคุ้นตา ข้างในหัวเต้นตุบๆ ตัวร้อนรุมๆ กลับไปก็ต้องรีบกินข้าวกินยามื้อเที่ยงที่เลยเที่ยงมานานแล้ว เขาก็ไม่ได้กะว่าจะต้องมีเหตุให้ออกจากฟาร์มแบบนี้เหมือนกัน ชาวบ้านพวกนั้นก็ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ใครที่มาเคารพนับถือบ้านเขานักหรอก แค่ช่วงนี้เรื่องที่ดินมันเป็นเรื่องหน้าสิ่วหน้าขวาน อะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วยไปก่อน ถึงขั้นเผาก็ใจหยาบมากแล้ว







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:



พี่เขี้ยวเขาก็รักกก เขาแค่น้อยใจขุ่นแม่ เขาแค่อยากให้ขุ่นแม่ง้อเยอะๆ ล่ะม้างงงง แหมมมม เอาแต่ใจใช่ย่อยนะพ่อเขี้ยว

ปกติเป็ดไม่กล้ากับเพื่อนขนาดนี้นะคะ สิ่งหนึ่งที่เป็นถือเป็นคติประจำใจคือห้ามเป็นศัตรูกับนังเรียวจันทร์ (เคยเขียนไปแล้วในตอนหนึ่ง) แต่ครั้งนี้ ศศิต้องพูดค่ะ !

ใกล้เดินทางมาถึงตอนจบแล้วแน้ ครุคริๆ / คนอ่านบอก ฮะ อะไรนะ 55555



ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ

ตอนนี้ขุ่นแม่เรียวกับขุ่นพ่อเขี้ยวกำลังเปิดพรีออเดอร์ตัวเองในรูปแบบหนังสือนะคะ เปิดพรีฯ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม ตอนพิเศษในเล่มแน่นมาก ประเด็นในตอนพิเศษจะเชื่อมต่อจากตอนหลักที่ลงเว็บเลยค่ะ ไม่ได้เขียนสตอรี่ขึ้นมาใหม่ ผู้ใดสนใจ เข้าไปอ่านรายละเอียดของทั้งสองคนพร้อมรายละเอียดของแถมได้ที่ > พรีขุ่นพ่อขุ่นแม่ (https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1389304&chapter=29)

               



สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                                 
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ

เม้าท์มอยหอยกาบนอกรอบแบบเวิ่นเว้อเยอะๆ ได้ที่

FACEBOOK > ขุ่นเจ้

TWITTER > tomisagiftofgod


หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งแรก :14.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 14-04-2017 20:55:41
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งแรก :14.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-04-2017 21:01:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งแรก :14.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 14-04-2017 21:13:12
เค้ามาง้อก็เล่นตัวนิ โอ้ยยย พ่อคมเขี้ยว เขี้ยวกุด
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งแรก :14.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 14-04-2017 21:18:49
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งแรก :14.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-04-2017 21:38:43
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งแรก :14.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mayongc. ที่ 15-04-2017 11:45:13
ชอบที่เป็ดเป็นคนที่รู้จักเรียวจันทร์ดีและคอยพูดฉุดให้เรียวจันทร์รู้ตัว
ขุ่นแม่ตั้งสติให้ได้เร็วๆนะคะ เขี้ยวกุดเขารอให้ไปง้ออยู่ :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งแรก :14.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 15-04-2017 19:39:01
เอ้อ พี่เขี้ยวงอนเข้า ตอนนี้ก้รอแค่แม่เรียวมาง้อแล้วจัดหนักจัดเต็ม เอาคืนไอเสี่ยให้หน้าหงายไปเลย

เสี่ยเล่นสกปรกตลอดเลย ทำมาเป็นหมาหวงก้าง  :z6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งแรก :14.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-04-2017 20:18:24
แม่คุณนาย  เสี่ยจอมทัพ  :z6: :z6: :z6:
เสี่ยจอมทัพ เข้าใจนะเป็นคนอื่น
แต่แม่นี่ เกินเลยเว่อวัง
คุณนาย แค่บล็อกเบอร์ 
แล้วจะทำอย่างไรกับการก่อหนี้
ป่าวประกาศว่าร้าย ให้ร้ายลูก  :ling1: :ling1: :ling1:
แม่ทำตัวเลวๆ แล้วยังอยู่ในบ้านที่คุณนายสร้างให้พ่อ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
แล้วมีมือวางเพลิงเผาบ้านคนงานอีก ใคร  :katai1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งแรก :14.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 15-04-2017 22:30:36
ไปๆมาๆ รู้สึกว่าเสี่ยอาจไม่ได้เลวร้ายเท่าที่คิดนะ
แล้วก็ที่พี่เขี้ยวงอน ก็ไม่น่าแปลกในนะ เพราะคงรู้สึกว่า คุณนายแกไม่ได้มาง้อจริงจัง แต่คิดว่า คงเข้าใจคุณนายแกแหละ แต่ที่เลือกไปกับเสี่ย เพราะกลัวพี่เขี้ยวโดนยิงอีก พี่เขี้ยวคงรู้สึกว่า โดนหยามเข้าไปอีก เฮ้อ...งานนี้คุณนายคงต้องง้อพี่เขี้ยวอีกเยอะอ่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งแรก :14.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 16-04-2017 12:28:07
 :z3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 21-04-2017 20:08:52



คาถาที่ 28 [ครึ่งหลัง]



ตอนที่ดินขับรถมาถึงฟาร์มก็เจอกับรถตู้สีขาวคันหนึ่งจอดอยู่หน้ารั้วบ้าน ทั้งสองคนมองรถตู้คันนั้นด้วยความงง แต่ก็ไม่มีใครถามใครเพราะหน้างงกันทั้งคู่ สองพี่น้องก้าวเดินเข้าไปในบ้านอย่างไม่รีบร้อน พอขึ้นมาบนบ้านก็เจอป๋ากับแม่กำลังนั่งอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง แว้บแรกคมเขี้ยวจำหล่อนไม่ได้ แต่พอมองดีๆ ก็นึกออก


“คุณ… แม่ของเรียวจันทร์ใช่มั้ย” หญิงสาวยิ้มปากบางเฉียบ ใบหน้าสวยมีแววโล่งใจ หล่อนขยับตัวให้ตรงอีกนิดเพื่อวางมาดให้เชิดขึ้นกว่าเดิม


“คุณโรสิตาเขาเพิ่งมาถึงก่อนหน้าเขี้ยวสักพัก เธอมารอเจอเขี้ยว” คมเขี้ยวมองไปที่มารดาและก้าวเท้าเดินไปนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามโรสิตาพร้อมดิน


“อันที่จริงฉันไม่ได้มารอพบแค่นายคมเขี้ยวหรอก ฉันแค่รอให้พร้อมหน้าพร้อมตาเท่านั้นเอง” โรสิตายิ้ม เป็นรอยยิ้มที่คมเขี้ยวไม่ชอบ มันดูเป็นรอยยิ้มข่มอย่างบอกไม่ถูก


“งั้นมีอะไรก็พูดมาเลยครับ เพราะพร้อมทุกหน้าทุกตาทุกปากแล้ว” คมเขี้ยวว่าหน้านิ่งแบบไม่สะทกสะท้านจนบัวบูชาแอบส่งสายตาปรามเล็กๆ แต่เขาก็ไม่ใส่ใจ จากการเจอกันครั้งก่อน เขาก็ไม่ได้ประทับใจแม่ของเรียวจันทร์นัก


โรสิตาเบะปากเล็กน้อย หน้าตาไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่กับพฤติกรรมของคมเขี้ยว แต่หล่อนก็ทำเชิดหน้าคอตั้งหลังตรงต่อไป “ไม่อ้อมค้อมก็แล้วกัน ฉันจะมาขอที่ดินของลูกฉันคืน”


สมาชิกบ้านพยัคฆ์เกรียงไกรนิ่งเงียบกันถ้วนหน้า มองตากันแบบงุนงงปนสงสัย เมฆาที่ได้สติก่อนใครเลยเอ่ยถามอย่างข้องใจ “คุณรู้เรื่องที่ดินแล้วเหรอ?”


โรสิตายิ้มเยาะมุมปาก “แหม กะจะเก็บเงียบจนลูกฉันแก่ตายแล้วให้ลูกชายฮุบไว้เป็นของตัวเองงั้นเหรอ”


คมเขี้ยวกับดินขมวดคิ้วหรี่ตามองโรสิตาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตัวเอง คมเขี้ยวนึกถึงอาการของเรียวจันทร์เวลาพูดถึงแม่หรือมีเรื่องแม่เข้ามาเกี่ยวข้อง


“ผมไม่แปลกใจว่าทำไมลูกคุณถึงไม่ค่อยจะเคารพคุณนัก” โรสิตามองหน้าคมเขี้ยวด้วยสายตาดุ แต่คนอายุน้อยกว่าไม่แคร์กับสายตานั้น


โรสิตาเลือกที่จะปล่อยผ่านกิริยานั้นไปก่อน “ฉันรู้เรื่องนี้ได้ไม่นาน ต้องยอมรับนะว่า ตาอาทิตย์นี่ปิดเก่งจริงเชียว แต่อาจเพราะได้คนร่วมมือดีด้วย”


พูดจบก็หันไปมองทางเมฆาด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน เมฆาไม่ได้มีอาการหวาดกลัวหรือหัวร้อนใดๆ หนุ่มสูงวัยยังคงมีสีหน้าท่าทางสบายๆ


“แน่นอนครับ อะไรที่เป็นความปลอดภัยของเพื่อนกับหลานผม ผมต้องทำอยู่แล้ว”


“หลานที่คุณว่าน่ะมันลูกฉัน แล้วมันก็ไม่ใช่ลูกอาทิตย์ด้วย”


“เพื่อนผมมันรักและเลี้ยงดูหนูเรียวจันทร์เป็นอย่างดี ผมดีใจด้วยซ้ำที่มันเป็นคนเลี้ยงหนูเรียว เพราะแกเป็นเด็กดีกว่าต้นกำเนิดของแกมาก” คราวนี้โรสิตาถึงกับกัดฟันแน่นกับคำแขวะนั้น


“เหอะ! ได้ดิบดีได้ดีเพราะสมบัติลูกฉันทั้งนั้น” หล่อนพูดอย่างโมโห กวาดตามองคนอื่นด้วยสายตาดูแคลน


“ใช่ครับ สมบัติลูกคุณ” เมฆาเน้นย้ำประโยคหลังด้วยเสียงดังฟังชัดให้โรสิตาจ้องมองอย่างเดือดดาล



“ถ้างั้นก็เอาคืนลูกฉันมา เก็บไว้นาน ไม่ใช่ว่าคิดเป็นของตัวเองไปแล้วล่ะ” โรสิตากระตุกยิ้มหยัน เมฆามองอย่างอ่อนใจ นึกขอบคุณโชคชะตาที่แม้จะน้ำเน่า แต่ก็ดีใจเหลือเกินที่ส่งเรียวจันทร์ให้มาเป็นลูกไอ้อาทิตย์


“ไม่หรอกค่ะ เราไม่เคยคิดว่ามันเป็นของเรา เคยคุยกันด้วยซ้ำว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราจะตามหนูเรียวจันทร์มารับของๆ เขาคืน แต่หนูเรียวก็มาเจอกับพวกเราก่อน หนูเรียวเองก็เพิ่งทราบเรื่อง ซึ่งทางเราไม่ได้มีเจตนาจะฮุบหรือจะยึดไว้เป็นของตัวเอง แต่เราเป็นห่วงหนูเรียวมากกว่า” โรสิตาหันไปยิ้มเยาะให้กับบัวบูชาอีกคน


“เป็นห่วง? คำพูดคำจาของพวกโจรนี่มันสวยดีนะ ห่วงจริงไม่ทิ้งระยะเวลามาเป็นสิบยี่สิบปีหรอก ปล่อยให้ลูกฉันลำบากลำบนอยู่ได้ ไอ้อาทิตย์นี่ก็เหมือนกัน ประหลาดคน รักลูกนักหนาแต่กลับปล่อยให้ลูกทำงานงกๆ” คมเขี้ยวขมวดคิ้ว มองโรสิตาด้วยความเหลือเชื่อ และยังรู้สึกตลกกับประโยคยาวๆ เมื่อกี้ที่ผู้หญิงคนนั้นพ่นออกมาอีก


“อันนี้คุณด่าตัวเองอยู่รึเปล่า” เขาถามด้วยความข้องใจแบบมากๆ นึกสงสัยว่าคนอะไรทำไมพูดแล้วเหมือนขว้างงูไม่พ้นคอ


โรสิตากัดฟันแน่น ถึงกับเลือดแทบขึ้นหน้า หล่อนยกมือชี้หน้าคมเขี้ยวด้วยอาการเกรี้ยวกราดเล็กๆ “นี่แก!”


คมเขี้ยวอ้าปากจะเถียงต่อด้วยความขบขัน กำลังปวดหัว มึนหัวเพราะไข้ ถึงกับรู้สึกดีขึ้นเพราะความฮาของผู้หญิงคนนี้ แต่เมฆายกมือห้ามไว้ก่อน เขาเลยยอมสงบปากสงบคำทั้งที่อยากจะขำให้ท้องแข็ง


“ไอ้อาทิตย์ไม่ได้แปลก หรือว่าใจร้ายหรอกครับ มันแค่อยากสอนลูกให้รู้จักคุณค่าของเงิน ให้รู้จักทำมาหากิน ไม่งอมืองอตีนเพียงเพราะมีสมบัติกองรออยู่แล้ว ผมว่ามันเห็นตัวอย่างจากคุณ มันเลยเลือกที่จะสอนลูกมันแบบนี้มากกว่า” คราวนี้โรสิตาถึงขั้นลุกขึ้นยืนด้วยความพิโรธ กวาดตามองทุกคนด้วยความดูถูกอย่างรุนแรง


“ปากดีกันเหลือเกินนะ ฉันอยากจะรู้นักว่าถ้าไม่ได้สมบัติลูกฉัน จะลืมตาอ้าปากมาปากเก่งกับฉันแบบนี้ได้รึเปล่า ที่ซุกหัวนอนทุกวันนี้ก็ที่ลูกฉัน ที่ทำมาหากินของพวกแกทุกวันนี้ก็ที่ของลูกฉัน เงินที่พวกแกมีกินมีใช้กันทุกวันนี้ มันมาจากใคร สำเหนียกไว้บ้าง!” หล่อนพูดด้วยอาการหอบน้อยๆ เพราะพูดด้วยอารมณ์โกรธจัด เหล่าสมาชิกบ้านพยัคฆ์เกรียงไกร มองตากันปริบๆ บรรยากาศคล้ายว่าจะตึงเครียด แต่สักพักก็ถูกทำลายลง


“สำเหนียกแปลว่าอะไรเหรอพี่เขี้ยว” แม้ดินจะพยายามกระซิบแล้ว แต่ด้วยความที่บรรยากาศมันเงียบเลยทำให้ทุกคนได้ยินกันหมด


คมเขี้ยวหัวเราะเบาๆ หันไปมองโรสิตาที่ท่าทางกระฟัดกระเฟียดอย่างไม่สะทกสะท้านจนเจ้าตัวยืนกำหมัดแน่น เขาหันกลับไปมองไอ้ดินที่ทำหน้ารู้สึกผิดเพราะคิดว่าตัวเองคงไปขัดผู้ใหญ่คุยกัน


“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ภาษาโบราณเกิน” คมเขี้ยวตอบชิลๆ โรสิตาเบิกตากว้างมองชายหนุ่ม


“ไม่ต้องมาทำเสียดสี รู้ไว้เลยนะว่าสถานะแกกับลูกฉันมันต่างกัน ตอนนี้แกก็ไม่ต่างอะไรกับลูกจ้างของลูกฉันหรอก” คมเขี้ยวทำหน้าเอือม เอนตัวพิงพนักโซฟาด้วยท่าทีหน่ายๆ


“ลูกจ้างอะไรคุณ เรียวจันทร์ไม่ได้จ้างอะไรผมทั้งนั้นอะ สถานะของเราสองคนก็ผัวเมียกันนี่แหละ มาลูกจงลูกจ้างอะไรล่ะ”


“ทำกวนไปเถอะ เอาเข้าจริง พวกแกก็ไม่มีอะไรเลย นอกจากตัว!” โรสิตาจ้องคมเขี้ยวอย่างขุ่นเคือง ส่วนคนโดนจ้องก็ยังคงอยู่ในท่าทีไม่เดือดเนื้อร้อนใจใดๆ


“เอาอย่างนี้ดีกว่าค่ะ ในเมื่อมันเป็นของหนูเรียว ให้เขาตัดสินใจเองดีมั้ยคะว่าจะทำยังไง” บัวบูชาที่กลัวว่าเรื่องมันจะนอกประเด็นไปมากกว่านี้พูดแทรกขึ้นมา


“เรียวมันไม่ว่างมาคุยหรอก ฉันมาคุยแทน จะฉันหรือมันก็ไม่ต่างกัน ยังไงก็แม่ลูกกัน”


“โอ้โห กลายเป็นแม่ลูกผูกพันกันไปเฉย…” คมเขี้ยวยิ้มเหยียดน้อยๆ มองหน้าตาถมึงทึงของคนตรงข้าม


“…ถ้าผูกพันกันจริงควรรู้สิครับว่าตอนนี้สถานการณ์ของลูกตัวเองเป็นยังไง” โรสิตาขมวดคิ้ว มองคมเขี้ยวอย่างไม่เข้าใจ คนทั้งบ้านมองโรสิตาเป็นตาเดียวจนเจ้าตัวเริ่มเกร็งทำอะไรไม่ถูก แต่คนอย่างหล่อนก็ไม่ยอมเสียหน้าง่ายๆ หรอก


“ฉันรู้สิ! แต่ทำไมฉันต้องบอก” คมเขี้ยวส่ายหน้าเอือมๆ


“ผมว่าคุณกลับไปก่อนดีกว่าครับ ยังไงเราก็คืนให้คุณโดยตรงไม่ได้ ตามพินัยกรรมที่ไอ้อาทิตย์มันทิ้งไว้ สิทธิทุกอย่างอยู่ที่หนูเรียวคนเดียว และยิ่งตอนนี้อายุเขาครบตามพินัยกรรมแล้ว เขายิ่งมีสิทธิโดยชอบธรรมอย่างเด็ดขาด” โรสิตามองเมฆาด้วยความตะลึงเบาๆ หล่อนมีสีหน้าสับสนกับสิ่งที่ได้ยิน


“นี่อาทิตย์ฝากพินัยกรรมไว้กับพวกเธอเลยเหรอ?!” เมฆาพยักหน้าแทนคำตอบ โรสิตาดูจะหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม


“ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย อะไรจะขนาดนี้เนี่ย!”


“ผมว่าเขาคงไม่อยากให้คุณแม่คุณเรียวรู้เรื่องละมั้งครับ” ดินว่าอย่างที่คิด พูดตรงๆ ทื่อๆ สมาชิกในบ้านที่เหลืออมยิ้มน้อยๆ ดินทำหน้างง ก่อนจะยิ้มแหยเมื่อเจอสายตาอาฆาตจากโรสิตา


“กลับเถอะครับคุณแม่ ถ้าเมียผมเขาเอ่ยปากว่าจะขอที่ดินทุกตารางเมตรคืนเมื่อไหร่ ผมจะคืนให้” คมเขี้ยวว่าอย่างกวนๆ


โรสิตาเดือดดาลจนตาแทบถลนออกมาจากเบ้า หล่อนกะว่ามาแล้วจะต้องได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการเลย แต่กลับกลายเป็นเหมือนหล่อนเดินเข้ามาให้คนพวกนี้รุมทึ้งสนุกสนาน หญิงสาวหยิบกระเป๋าสีดำขึ้นมาคล้องแขนและเดินตัวปลิวออกไปทางประตู เมฆาส่ายหัวอ่อนใจ มองหน้าบัวบูชาสักแปบก่อนจะพยักหน้าให้กัน ทั้งสองคนลุกขึ้นเดินตามโรสิตาออกไปจากบ้าน คมเขี้ยวกับดินรีบลุกตามไปทันที


“อ้าว ป้าอุ่น ฉันก็ว่าหายไปไหน มาอยู่นี่ได้ยังไงเนี่ย?!” โรสิตาเดินออกมาด้านนอกรั้วของบ้านก็เจอกับแม่บ้านของตนเองที่กำลังวางสีหน้าไม่ถูก ยิ่งเจอน้ำเสียงแหลมแสนคุ้นหูของแม่คุณหนูก็ยิ่งตกใจ


“เอ่อ… พอดีคุณเรียวให้ป้ามาอยู่ที่นี่ค่ะ” ป้าอุ่นตอบแบบกล้าๆ กลัวๆ โรสิตาเขม้นมองแม่บ้านของตัวเองอย่างข้องใจ


“อะไรนะ นังเรียวให้มาอยู่นี่ มาอยู่ทำไม บ้านก็มี” โรสิตาแว้ดใส่ ท่าทางไม่พอใจที่ลูกทำแบบนี้ พวกเมฆาเดินตามมาถึงพอดีเลยเข้าไปยืนใกล้ๆ กับป้าอุ่น


“ที่นี่ก็บ้านหนูเรียว เขาจะให้ป้าอุ่นอยู่บ้านไหนก็แล้วแต่เขาเถอะครับ” เมฆาเอ่ยนิ่งๆ โรสิตาหันไปมองหน้านิ่วคิ้วขมวด


“แต่ฉันจำเป็นต้องมีคนดูแลนะ ไม่งั้นจะปล่อยให้บ้านนั้นรกร้างรึไง”


“อันนั้นไม่ใช่ปัญหาของเราครับ หนูเรียวเขาว่ามาแบบนี้” โรสิตากวาดตามองทุกคนอย่างเลิ่กลั่ก แต่ก็มีอาการฮึดฮัดให้เห็น ตอนนี้หล่อนรู้สึกถึงความเวิ้งว้างแปลกๆ ในอก หญิงสาวหน้าตาสะสวยทำท่าอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายก็สะบัดหน้าและเดินลิ่วไปขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่


ทุกคนยืนมองรถตู้คันนั้นแล่นออกจากฟาร์มด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ป้าอุ่นมองตามอย่างไม่สบายใจเพราะนึกเป็นห่วงเรียวจันทร์


“แบบนี้คุณโรสเธอจะตามไปทะเลาะกับคุณเรียวรึเปล่าคะ”


“ไม่หรอกครับป้าอุ่น ตอนนี้คุณหนูของป้าอยู่กับคนอื่น” คมเขี้ยวว่าหน้าบึ้ง ป้าอุ่นทำหน้างง หันไปมองเมฆากับบัวบูชาแบบไม่เข้าใจ


“มีเรื่องนิดหน่อยครับ ที่ป้าอุ่นมาอยู่ที่นี่เพราะหนูเรียวเขาคงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ส่วนอาการลูกชายผมตอนนี้คืองอนอยู่” เมฆาว่ายิ้มๆ ป้าอุ่นตกใจเล็กๆ หันไปมองคมเขี้ยวที่หน้านิ่วเครียดเคร่ง


“งอนอะไรกันเหรอคะ อย่าโกรธคุณหนูป้านานเลยนะคะ ถ้าคุณหนูเอาแต่ใจมากไปป้าจะบอกให้” สองสามีภรรยายิ้ม หันไปมองลูกชายที่ยังหน้าตึง เมฆาหันกลับไปมองป้าอุ่นแล้วเอ่ยถามสิ่งที่อยากรู้


“ป้าอุ่นรู้เรื่องที่หนูเรียวเป็นหนี้คนชื่อจอมทัพมั้ย” คนถูกถามมีสีหน้างงๆ ปนประหลาดใจ


“เรื่องชื่อเจ้าหนี้ป้าไม่แน่ใจค่ะ แต่เรื่องหนี้ ไม่มีของคุณหนูเลยนะคะ มีแต่ของคุณโรสแกทั้งนั้น…” ทุกคนหันไปมองป้าอุ่น คมเขี้ยวที่หน้าตึงก็ค่อยๆ คลายกล้ามเนื้อบนใบหน้า


“…คุณหนูเป็นคนตามใช้หนี้ทุกบาทของคุณแม่ค่ะ”






ปี๊นนน!!! ปี๊นนน!!!


“เปิดประตู!!” เรียวจันทร์ลดกระจกลงแล้วตะโกนเสียงดังเพื่อเรียกให้ใครสักคนมาเปิดประตูบ้านให้ หน้าตาท่าทางของนางกำลังบ่งบอกว่าร้อนใจ ลูกน้องจอมทัพคนหนึ่งวิ่งมาทางประตูและกดเปิดประตูระบบอัตโนมัติ ประตูค่อยๆ เลื่อนเปิดออกตามปกติของมัน แต่ตอนนี้เรียวจันทร์นึกอยากจะขับชนให้มันพังไปต่อหน้าต่อตานี่แหละ 


รถแคมรี่สีฟ้าอ่อนพุ่งพรวดเข้าไปในโซนบ้านของจอมทัพ ลูกน้องบางคนที่อยู่ตามถนนที่มุ่งตรงไปยังตัวบ้านต้องกระโดดหลบรถอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจกับความเร็วที่เจ้าของรถเหยียบมา พอจอดตรงตีนบันไดบ้านได้ เรียวจันทร์ก็ดับเครื่องและพุ่งตัวลงจากรถอย่างเร็ว ก้าวเท้าเดินฉับๆ ไปหาจอมทัพที่ห้องพักมุมโปรดของเจ้าตัว


“เสี่ย!!” จอมทัพกำลังนั่งคุยกับผู้ชายคนหนึ่งแต่เรียวจันทร์ไม่สนใจใคร่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เสี่ยหันมามองอย่างนิ่งเฉย ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือตกใจอะไรกับอาการของเรียวจันทร์


“ออกไปก่อน” ชายสูงวัยท่าทางอายุจะมากกว่าจอมทัพโค้งหัวให้เสี่ยเล็กน้อยและเดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้เหลือบมองเรียวจันทร์เลยแม้แต่นิดเดียว


“ว่ามาเลยครับคุณเรียวจันทร์” จอมทัพว่าอย่างสบายๆ ในขณะที่เดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาวสำหรับเหยียดขานอน


“ตอบฉันเรื่องไฟไหม้บ้านคนที่อยู่ใกล้กับฟาร์มคมเขี้ยวหน่อย” คนถูกถามเลิกคิ้วขึ้น ท่าทียียวนเล็กน้อย เรียวจันทร์ขมวดคิ้วและมองอย่างไม่ชอบใจ


“ให้ตอบว่าอะไรล่ะ” มันน่าทุบแขนให้หักซ้ำซ้อนจริงเชียว!


“รู้รึเปล่าว่าใครเป็นคนทำ” จอมทัพมองหน้าคนสวยสักแปบแล้วก็ยิ้มขำน้อยๆ


“น้ำเสียงที่คุณใช้กับผมตั้งแต่เดินเข้ามาจนถึงตอนนี้ คุณอยากถามว่าผมรู้เรื่องมั้ย หรืออยากถามว่าผมเป็นคนทำใช่มั้ย อันไหนกันแน่ครับ” เรียวจันทร์ถลึงตามองจอมทัพน้อยๆ กับความกวนตีนแบบสบายๆ แม้แขนจะพิการอยู่ก็ตาม


“ก็สองอย่างรวมกันนั่นแหละ รู้เรื่องมั้ย แล้วคุณได้เป็นคนทำรึเปล่า หรือว่าแม่ฉันอีก” จอมทัพบิดปากและไหวไหล่ข้างที่ปกติ


“รู้เรื่อง แม่คุณไม่ได้ทำ…” เรียวจันทร์ใจเต้นแผ่วๆ รอฟังคำตอบท่อนต่อไป


“…และใช่ ครั้งนี้ผมทำเอง” คุณนายเบิกตากว้าง มองจอมทัพอย่างตะลึง ทั้งอึ้งที่จอมทัพกล้าทำเรื่องเลวร้ายขนาดนั้น และอึ้งที่จอมทัพยอมรับแบบง่ายๆ ชิลๆ ไม่ได้มีท่าทีเดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลยแม้แต่นิด แถมยังยิ้มน้อยๆ อีกด้วย


ยิ้ม! ยิ้มเนี่ยนะ?!


“ทำไมเลวอีกแล้วล่ะ เลวแค่ไหนถึงจะพอใจอะ?!” 


“ตอนแรกก็กะให้ไหม้แค่หลังเดียว แต่ฝนดันไม่ตกซะงั้น มันเลยไหม้มากกว่าที่คิด” ร่างเล็กกัดฟันแน่น ก่อนจะถลาเข้าไปหาจอมทัพ หยิบหมอนใบเล็กขึ้นมาทุบหัวทุบตัวจอมทัพแบบไร้จุดหมาย ฟาดตรงไหนได้ก็ใส่ไม่ยั้ง


“เลว! คำว่าเลวยังไม่อิมแพคพอสำหรับคุณเลย ไอ้เสี่ย ไอ้เสี้ย!!!”


“โอ๊ย! พอ!” จอมทัพใช้แขนข้างปกติดันเรียวจันทร์อย่างแรงจนเจ้าตัวกระเด็นไปอยู่บนโซฟาอีกตัว คุณนายที่ใช้หมอนตีคนตัวโตจนหอบ นั่งมองหน้าไอ้เสี่ยอย่างแค้นเคือง


“คุณไปทำร้ายชาวบ้านทำไม?! เขาเกี่ยวอะไรด้วย!?” นางตะเบ็งถามเสียงดังทั้งที่กำลังหอบ สายตามองราวกับจะเผาไหม้ร่างจอมทัพให้เหมือนกับที่บ้านชาวบ้านโดนไฟไหม้


จอมทัพยักคิ้วหนึ่งทีก่อนตอบ “เผื่อพวกนั้นจะช่วยทำให้ผมได้ที่ง่ายขึ้น”


เผื่องั้นเหรอ?! ไอ้ห่าเสี่ย!!


เรียวจันทร์ถลึงตามองจอมทัพอย่างหงุดหงิด “ไม่ง่าย!! ถ้าที่ตรงนั้นเป็นของฉัน ฉันไม่ขายให้คุณหรือใครหน้าไหนทั้งนั้น! จะอะไรกับที่ดินตรงนั้นนักหนา?!”


“มันเป็นเรื่องของมูลค่า มันคุ้มกับที่ผมจะได้มา”


“งั้นก็อย่าหวังเลยว่าจะได้ ฉันไม่ให้หรอก!” นางว่าอย่างกระฟัดกระเฟียด ขว้างหมอนใส่จอมทัพเต็มแรง คนตัวโตทำเพียงแค่ปัดออกอย่างง่ายๆ


“จริงๆ ถ้าคุณไม่ไปหาไอ้คมเขี้ยว ผมก็ไม่คิดจะเผาบ้านใครหรอก” หน้าตาที่กำลังโกรธจัดเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วงง แล้วสักพักก็มองจอมทัพด้วยความเหลือเชื่อ


“อะไรนะ? กะอีแค่ฉันไปหาคมเขี้ยว คุณถึงกับต้องเผาบ้านช่องคนอื่นเลยรึไง มันจะบ้ามากไปแล้วนะเสี่ย ดัดจริตรักฉันอะไรขนาดนั้น!” จอมทัพทำเพียงยิ้มเยาะมุมปากขวาน้อยๆ เรียวจันทร์มองอย่างแข็งกร้าว นางรู้ว่าจอมทัพทำไปเพราะอยากขู่ และทำให้รู้ว่านางไม่ควรฝ่าฝืนคำสั่งของเขา


แต่ถ้าแค่ขนาดนางไปหาคมเขี้ยวไม่นานยังทำถึงขนาดนี้ งั้นก็สู้ให้นางไปอยู่นู่นและคอยอยู่ข้างผัวนางไม่ดีกว่าเหรอ


“จำไว้นะเสี่ย ฉันจะไม่ยอมเสียคมเขี้ยวไป และฉันจะไม่ยอมเสียที่ดินให้คุณด้วย คุณจะไม่ได้อะไรจากฉันอีกเลยนอกจากเงินใช้หนี้!!” เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน มองจอมทัพที่ยังคงชิลๆ ด้วยสายตาดุเดือด


“จะไปใช่มั้ย?”


“ใช่! ฉันจะไป และถ้าคุณคิดจะทำอะไรฟาร์มคมเขี้ยวหรือชาวบ้านแถวนั้นอีกล่ะก็ ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”


“งั้นก็ช่วยเอาเรื่องแม่คุณด้วย เดี๋ยวผมจะส่งหลักฐานให้ อันที่จริงผมอยากให้คุณเจอไอ้มือระเบิดด้วยนะ แต่เขาไม่ยอมให้ประกันตัวพวกมัน ไหนๆ มันก็บอกว่าผมเป็นคนจ้างแล้วเลยอยากจะคุยกับมันสักหน่อย” เรียวจันทร์มองจอมทัพอย่างเข่นเขี้ยว


“ถ้ามีหลักฐานก็เอามา เดี๋ยวฉันจะให้พวกคมเขี้ยวดำเนินคดีกับแม่เอง” จอมทัพเบ้ปาก แสร้งทำหน้าประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยิน


“อู้ว คุณกล้าส่งแม่ตัวเองเข้าคุกงั้นเหรอเนี่ย…” เรียวจันทร์หน้าเสียไปวูบหนึ่ง


“…ผมจะบอกอะไรให้ แม่คุณไม่กล้าทำอะไรแบบนี้หรอกถ้าไม่ได้แบ็คดีจริงๆ” ใบหน้าสวยมีความงุนงง


“อะไรอีกล่ะ”


“ผมกำลังตามหาแบ็คของแม่คุณอยู่ แม่คุณไม่กล้าทำเรื่องเสี่ยงอันตรายขนาดนี้หรอก ผมเค้นจากไอแม็คแล้ว มันรับคำสั่งและเงินจากแม่คุณอีกที มันรู้แค่นั้น”


“จะทำอะไรก็ทำเถอะ ฉันเบื่อเรื่องที่ดินอันนี้มาก ถ้ามันยุ่งยากนะ เดี๋ยวฉันจะยกให้ประเทศชาติไปดูแล!” จอมทัพถึงกับอึ้งไปเหมือนกันเมื่อได้ยินแบบนั้น ไม่แน่ใจว่าเรียวจันทร์พูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่


“ถ้ายังไม่หยุดโลภมากกัน ฉันจะทำให้ที่ดินกลายเป็นอุทยานแห่งชาติ และคราวนี้ถ้าคุณหรือแม่ หรืออีพวกนายทุนหน้าไหนมายุ่งกับที่ดินนั้นอีก พวกคุณก็ไปทะเลาะกับประเทศชาติแทนก็แล้วกัน”


“คิดว่าประเทศนี้มีกฎระเบียบเคร่งครัดมากนักรึไง อำนาจเงินมันยิ่งใหญ่กว่าที่คุณคิด” จอมทัพว่าหน้านิ่ง เรียวจันทร์มองกลับอย่างไม่ยอม


“ฉันก็ขอให้ศรัทธาอันน้อยนิดที่ฉันมีต่อขื่อต่อแปเมืองไทยไม่สูญเปล่าก็แล้วกัน” นั่นคือสิ่งที่นางพอจะยืนยันกับตัวเองได้ เพราะเอาเข้าจริง สิ่งที่จอมทัพพูดมา มันไม่ใช่เรื่องผิดเลย


“หนี้ที่เหลือ ฉันจะใช้คืนให้” เรียวจันทร์มองจอมทัพอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะหมุนตัวแล้วก้าวเท้าเดินออกไปจากห้อง แต่ในขณะที่กำลังจะพ้นกรอบประตูของห้องนั้น


“ผมมีความสุขนะที่ได้อยู่กับคุณ” เรียวจันทร์ชะงักอยู่กับที่ มีท่าทีไม่แน่ใจอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเชิดหน้าขึ้นและเดินออกไปจากบ้านของจอมทัพ โดยไม่หันไปสนใจเจ้าของบ้านว่ามองตามด้วยความรู้สึกอย่างไร


หัวใจเรียวจันทร์ไม่ได้อยู่ที่นี่


ไม่ได้หมายถึงหัวใจที่เต้นอยู่ในอกนะยะ เป็นการเปรียบเปรยย่ะ!





 :hao7:
กรี๊ดดดด ขุ่นแม่ปลดพันธนาการจากเสี่ยแล้ว ไหนๆ ก็ไหนๆ กลับไปอยู่กับผัวตัวเองดีกว่าเนาะแม่เนาะ คริๆ

ถามว่าเสี่ยรักเรียวจันทร์จริงมั้ย อั๊ยๆ ตอบยากจุงเบย ขออุบเงียบกับตัวเองแล้วกัน ครุคริๆ

แต่เรื่องความเลวของเสี่ยนั้นไม่ต้องอุบ เพราะเห็นกันชัดเจน เสี่ยอยากทำอะไรทำ เสี่ยไม่รั้งรอ

เรื่องที่ดินที่เสี่ยอยากได้นักหนา สำหรับนักลงทุน นักธุรกิจ ของพวกนี้ถ้าเขาอยากได้เขาสู้สุดใจจริงๆ ค่ะ อย่างที่เสี่ยบอก ได้มาแล้วเขาก็คุ้มค่าของเขาเอง ตอมเคยได้ยินเรื่องแถวบ้านนี่แหละว่ามีคนอยากได้ที่ดินผืนนึง อันนั้นเขาบีบทุกวิถีทางจริงๆ ที่ดินมันเชื่อมกับของอีกคน ก็ไปคุยกับอีกคนว่าให้ปิดทาง หรือยอ่างที่เขาใหญ่ แฟนเพื่อนตอมบ้านอยู่เขาใหญ่ พี่เขาเล่าใฟ้ฟังว่าจริงๆ ที่ดินแถวนั้นมันมีเรื่องที่ซับซ้อนกว่าในนิยายที่ตอมเขียนอีก คือตอมไม่อยากไปลงลึกมาก เดี๋ยวจะกลายเป็นนิยายเครียด 55555

การมาของขุ่นแม่โรสิตาก็ช่วยให้พี่เขี้ยวเห็นชัดเจนมากขึ้นแล้วใช่มั้ยคะพี่ว่าแม่เรียวจันทร์ของพี่ต้องเจอต้องทนกับอะไรบ้าง

ทีนี้ก็รอขุ่นแม่คัมแบ็คทูเบเบี้พี่เขี้ยวสินะ คิๆ



ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ

ตอนนี้ขุ่นแม่เรียวกับขุ่นพ่อเขี้ยวกำลังเปิดพรีออเดอร์ตัวเองในรูปแบบหนังสือนะคะ เปิดพรีฯ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม ตอนพิเศษในเล่มแน่นมาก ประเด็นในตอนพิเศษจะเชื่อมต่อจากตอนหลักที่ลงเว็บเลยค่ะ ไม่ได้เขียนสตอรี่ขึ้นมาใหม่ ผู้ใดสนใจ เข้าไปอ่านรายละเอียดของทั้งสองคนพร้อมรายละเอียดของแถมได้ที่ > พรีขุ่นพ่อขุ่นแม่ (https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1389304&chapter=29)
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-04-2017 20:19:33
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 21-04-2017 20:35:58
ปลดแอกเป็นเอกราชละค่าาาาาา :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ขุ่นแม่คัมแบ้ค ขำตอนนางยกให้เป็นอุทยาน555
อิโรสิตานี่ต้องโดนแหก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 21-04-2017 20:44:11
ถ้าเสี่ยรักเรียวจันทร์จริงๆก้สงสารเสี่ยเหมือนกันน้า มาก่อนแท้ๆ ดันส่งเค้าไปให้ทั้งสองคนรักกันจนได้

ส่วนพี่เขี้ยว อย่างอนนาน เดี๋ยวหนูเรียวง้อไม่ไหว 

รักกันเร็ววววๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-04-2017 21:35:26
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 21-04-2017 22:28:18
ดีใจแทนขุ่นแม่ข่าาาาาาาาา :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 21-04-2017 23:47:24
สู้ๆค่ะคุณนาย ไปง้อคุณสาก่อนเลยอันดับแรก  :hao5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 22-04-2017 07:11:32
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 22-04-2017 15:25:50
เรียวรักพี่เขี้ยวมากๆอยู่แล้ว
แต่เสี่ยนี่น่าจะเรียกว่าถูกใจติดใจคุณนายแกมากกว่ารัก เพราะคุณนายแกหลากหลายมีจุดให้สนใจเยอะ และมีหลายอย่างที่เหมาะเป็นเมียเสี่ยนะ
แต่คุณนายเลือกพี่เขี้ยวจ้า อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-04-2017 18:11:24
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mayongc. ที่ 23-04-2017 00:42:09
สักทีนะคะขุ่นแม่
ทำไมตอนนี้รู้สึกสงสารเสี่ยทั้งที่นางเลว 5555555 เสี่ยจะมีคู่กับเขาไหมน้อออ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 23-04-2017 12:00:25
นั่นสิ แอบสงสารเสี่ย ถ้าคมเขี้ยวง้อยากกลับไปหาเสี่ยนะขุ่นแม่  :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 24-04-2017 01:52:13
 :impress2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๘/ครึ่งหลัง :21.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 24-04-2017 12:06:19
หูยยยย หนุกกกก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 28-04-2017 19:36:27



คาถาที่ ๒๙ :: Works it happen (again). [ร่ายมนตร์อีกครั้ง] ครึ่งแรก



เปลือกตาคมเขี้ยวขยับพร้อมกับรู้สึกถึงความหนักบนอกตัวเอง เขาลืมตาขึ้นอย่างมึนๆ เพราะฤทธิ์ไข้ แต่ก็ดีขึ้นเพราะกินยาตามเวลาที่ควรจะกิน เหลืออาการหนักหัวเล็กๆ น้อยๆ และเดี๋ยวคงค่อยๆ หาย แต่ไอ้อาการหนักหน้าอกนี่คืออะไร เป็นผลมาจากไข้ด้วยหรือเปล่า
   

ร่างสูงเปิดเปลือกตาเต็มที่และกดหน้าลงมองตรงอกของตัวเอง เห็นเส้นผมสีโค้กบนหัวทุยๆ อันคุ้นตาก็กะพริบตาปริบอย่างมึนๆ กำลังตั้งสติว่ามันคือฝันหรือเรื่องจริง และกำลังตั้งคำถามกับตัวเองว่าเพ้อถึงยัยคุณนายตัวแสบมากไปจนเก็บเอามาจินตนาการเลยหรือเปล่า แต่จากน้ำหนักบนอกดูท่าจะเป็นเรื่องจริงนะ
   

ว่าแต่… มาได้ไง หมายถึงว่า จู่ๆ ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ ยัยคุณนายลักลอบเข้าห้องเขางั้นเหรอ แล้วลักหลับเขาไปหรือยังนี่
   

คมเขี้ยวเขยิบหน้ามาทางขวาเพื่อจะได้เห็นหน้าเรียวจันทร์ชัดๆ ผิวเนียนละเอียด จมูกสวย ปากสีชมพูสด หน้าสวยเกินผู้ชายปกติ ในชีวิตเขาก็มีอยู่คนเดียวนี่แหละ
   

“เนียนเลยนะ…” คมเขี้ยวพึมพำเสียงเบา สายตายังคงมองหน้าเรียวจันทร์และถามตัวเองย้ำอีกทีว่าเขาไม่ได้เพ้อถึงยัยคุณนายมากไปจนเก็บเอามาฝันแน่ๆ ใช่มั้ย
   

เขานอนนิ่งให้ร่างเล็กนอนทับอกเขาต่อไป เรื่องโกรธก็ยังโกรธอยู่ แต่เขาก็ไม่อาจห้ามรอยยิ้มที่กำลังผุดขึ้นบนใบหน้าได้เช่นกัน คมเขี้ยวเลื่อนสายตาไปมองนาฬิกาดิจิตอลบนผนังห้องปลายเตียงใกล้กับทีวี ตอนนี้แปดโมงเช้า เขาควรตื่นไปกินข้าวกินยาได้แล้ว
   

ก๊อกๆ
   

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเบาๆ แต่ก็ได้ยินชัดเจนเพราะไม่มีเสียงอื่นรบกวนนอกจากเสียงแอร์ที่ดังค้อยค่อย คมเขี้ยวก้มลงมองเรียวจันทร์ที่ยังคงนอนนิ่งก่อนตอบเสียงดังพอประมาณ
   

“ประตูไม่ได้ล็อคครับ” สิ้นเสียงเขาประตูห้องนอนก็เปิดออกพร้อมกับร่างของแม่ที่เดินเข้ามา แต่สักพักแม่ก็มีสีหน้าประหลาดใจ หล่อนชี้มาที่เรียวจันทร์และยิ้มงงๆ ขยับปากถามแบบไร้เสียงแต่อ่านชัดเจนว่าหล่อนถามว่าคุณนายตัวแสบมาได้ยังไง คมเขี้ยวส่ายหัวเป็นคำตอบ ทำสีหน้าว่าไม่รู้จริงๆ แม่เขายิ้มกริ่มและทำท่าตักข้าวเข้าปากเป็นเชิงถามว่าจะกินข้าวมั้ย คนเป็นลูกพยักหน้าตอบรับ หญิงสูงวัยยิ้มน้อยๆ และเดินออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูเบามือ
   

คมเขี้ยวถอนหายใจเนือยๆ ก้มมองหน้าเรียวจันทร์อีกทีก่อนตัดสินใจใช้มือซ้ายสะกิดร่างคุณนาย
   

“คุณนาย… คุณนาย…”
   

“…ขาเขี้ยว” เจ้าของชื่อย่นคิ้วกับเสียงแหบออดอ้อนนั้น กำลังสงสัยว่าตั้งใจหรือละเมอกันแน่
   

“ตื่น” เขาบอกสั้นๆ ห้วนๆ เรียวจันทร์ขยับหัวถูแก้มกับอกเขาเบาๆ สักพักมือซ้ายของแม่ตัวดีก็เลื่อนไปจับเป้าเขาเต็มมือจนเขาเบิกตากว้างอย่างทึ่งๆ กับการจับของเขาแบบสบายๆ
   

“คิดถึงบ้องคาวบอยจัง” คุณนายพูดเสียงอ้อนและเงยหน้าสวยหวานขึ้นสบตากับคมเขี้ยว คมเขี้ยวเผลอมองจ้องกับใบหน้างัวเงียแต่น่ามันเขี้ยวของคุณนาย ริมฝีปากสีชมพูขยับหาววอดอย่างน่ารักน่าชัง เห็นแล้วอยากขยี้ริมฝีปากนั้นแรงๆ
   

คมเขี้ยวเรียกสติตัวเองกลับคืนและเก๊กหน้าขรึม พูดเสียงเข้ม “ปล่อยมือ และออกไปจากตัวผม”
   

เรียวจันทร์เบะปากนิดหน่อยแต่ก็ยอมปล่อยมือ นางดันตัวเองลุกขึ้นนั่ง คมเขี้ยวค่อยๆ ยันตัวเองลุกขึ้นนั่งตาม มองหน้าเรียวจันทร์เพื่อความชัดเจนอีกที
   

“มาทำไม” เรียวจันทร์ย่นคิ้ว มองหน้าคมเขี้ยวอย่างกระเง้ากระงอด
   

“มาหาผัวไง ผัวอยู่นี่ จะให้ไปไหน”
   

คมเขี้ยวยังหน้าขรึม พูดเสียงห้วน “แล้วก่อนหน้านั้นหายไปไหน”
   

“ไปทำแคมเปญ แพ้ทีมพี่เกด พี่เกดเลยเอลิมิเนทออกมาแล้ว” คมเขี้ยวย่นคิ้ว ครูแงะเอย พี่ช่าเอย พี่เกดเอย ไม่รู้ยัยคุณนายติดใจอะไรคนพวกนี้นักหนาถึงเอ่ยถึงบ่อยนัก โดยเฉพาะครูแงะเนี่ย
   

“เพ้อเจ้อไรเนี่ย” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้น ทำหน้าตาบ้องแบ๊ว
   

“เพ้อถึงเขี้ยวแทบใจจะขาดดด” นางตอบเป็นเพลงเสียงยานในคำสุดท้ายพร้อมกับช้อนสายตามองอย่างออดอ้อน คมเขี้ยวตีหน้านิ่งได้ไม่มีหลุดขำ คุณนายเห็นก็เซ็งหน้างอง้ำ
   

“โกรธอะไรอีกล่ะ ฉันหายไปสามวันเองนะ จะมาโกรธเหมือนฉันหายไปเป็นปีได้ยังไง”
   

“แล้วตอนบอกให้อยู่ ทำไมไม่อยู่” เรียวจันทร์ถลึงตามองคมเขี้ยว หยิบหมอนหนุนฝั่งตัวเองขึ้นมาตีหัวผัวตัวเองอย่างแรงจนคนโดนหมอนฟาดถึงกับตกใจ
   

“เฮ้ย อะไรเนี่ย” คมเขี้ยวถามเสียงห้วนหน้าเหี้ยม จ้องหน้าสวยงงๆ ปนโกรธ แต่เรียวจันทร์กลับถลึงตาดุกลับไม่ยอมแพ้
   

“ฉันหายอ่อนแอละ ทีนี้ฉันจะพูดให้นายได้แจ้งใจ…” คมเขี้ยวอ้าปากจะพูด เรียวจันทร์เบิกตากว้าง ยกนิ้วชี้หน้าร่างสูงไว้
   

“…นายจะว่าฉันเป็นนางเอกที่เห็นแก่ตัวก็ได้ ฉันไม่ว่า เพราะยังไงมันก็ยังมีนางเอกนำหน้า ฉันกลัวว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับฟาร์ม ฉันต้องไป สถานการณ์บีบบังคับนาดนั้น ฉันสติแตก เข้าใจมั้ย? เข้าใจคำว่าสติแตกมั้ย ฉันคุมตัวเองไม่อยู่ และที่ฉันต้องไป ฉันยอมรับว่าฉันห่วงบ้านตัวเอง แต่นายช่วยแจ้งใจให้มันเท่ากับแสงแดดเมืองไทยตอนหน้าร้อนบ้างได้มั้ยว่าบ้านหลังนั้นฉันสร้างมากับมือ เงินทุกบาททุกสตางค์มาจากน้ำพักน้ำแรงฉัน และบ้านหลังนั้นคือสถานที่สุดท้ายที่ฉันได้อยู่กับพ่อก่อนตาย คิดบ้างสิว่ามันมีคุณค่าทางใจและเป็นความทรงจำที่มีค่าของฉันมากแค่ไหน ไม่ หยุดพูด และฟังฉันให้จบ!” เรียวจันทร์จ้องคมเขี้ยวตาดุ สีหน้าว่าไม่ยอม คมเขี้ยวขบกรามแน่น ท่าทีที่กระด้างกระเดื่องในตอนแรกลดลง เขาหันหน้าไปมองทางอื่นแต่ก็นิ่งเงียบไม่เถียง
   

“ที่บอกว่าบ้านนี้ไม่ใช่บ้านฉันรึไง ตอบตรงๆ ว่าไม่ใช่ ฉันไม่ได้สร้างมา ยี่สิบหกปีที่ผ่านมา ที่นี่เหมือนเมืองลับแลที่ฉันไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น แล้วจู่ๆ วันนึงหนี้สินทั้งหมดก็พาฉันมาเจอที่นี่ ถามว่าฉันแปลกใจมั้ยว่าทำไมพ่อไม่บอกฉัน ก็แปลกใจ แต่ฉันคิดว่าพ่อต้องมีเหตุผล และถึงมีเหตุผลฉันก็ไม่ได้สนใจว่ามันจะเป็นอะไร เพราะตอนที่พ่อยังมีชีวิต พ่อเลี้ยงฉันดีมาก ฉันไม่เคยคิดติดขัดอะไรกับชีวิตตัวเอง และถ้าถามว่าไม่รักที่นี่เลยเหรอ ใช่ ในตอนแรกฉันไม่รัก ไม่รู้สึกอะไรกับที่นี่เลย แต่พอฉันมีนาย ฉันก็รักและเป็นห่วงที่นี่ ไม่ใช่เพราะว่ามันคือสมบัติของฉัน แต่เพราะฉันรักนาย เข้าใจมั้ยไอ้พี่เขี้ยว!” เรียวจันทร์ว่ายาวยืดและยืดยาวแต่นางว่ารัวๆ แทบไม่เว้นช่องไฟให้อีกฝ่ายได้โต้ตอบ ซึ่งอันที่จริงคมเขี้ยวไม่ได้มีท่าทีจะโต้เถียงเลยแม้แต่นิด เอาแต่นั่งนิ่งฟังประโยคยาวๆ ของยัยคุณนายจนมึนไปเหมือนกัน
   

“ครูแงะคิดบทให้เหรอ” และนี่คือประโยคแรกที่หลุดออกมาจากปากคมเขี้ยว ซึ่งทำให้เรียวจันทร์ถึงกับมองอย่างเข่นเขี้ยว
   

“ครูแงะจะมารู้เรื่องนี้ได้ยังไง มาจากใจฉันล้วนๆ” จู่ๆ นางก็เกิดอาการจะร้องไห้ ท่อนท้ายของประโยคเลยเสียงอั้นอยู่ในอกและมาจุกตรงลำคอ ริมฝีปากบิดเบ้เบะปาก หน้าตาพร้อมขับน้ำตาออกมา แต่สุดท้ายก็ฮึบแรงๆ และเชิดทระนงอีกครั้ง
   

คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์นิ่ง คุณนายทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่ก็เป็นเพียงแค่เบะปากนิดๆ หน่อยๆ กับมองคมเขี้ยวอย่างตัดพ้อเล็กๆ
   

“ผมต้องยกโทษให้ใช่มั้ย”
   

“นายรักฉันรึเปล่าล่ะ” คมเขี้ยวเงียบ ตอนแรกเรียวจันทร์คิดว่าพี่เขี้ยวของนางคงไม่ตอบ แต่สักพักก็ขยับปากพูด
   

“รักก็ส่วนรัก แต่ที่ผิดก็คือผิด” เรียวจันทร์ตาเป็นประกาย ลุกชันเข่าแล้วเดินไปนั่งคร่อมตักคมเขี้ยว เจ้าของตักไม่ได้ผลักไสไล่ส่ง แถมยังใช้แขนซ้ายโอบรอบบั้นท้ายคุณนายไว้หลวมๆ
   

“คือพี่เขี้ยวรักหนู แต่ก็อยากให้หนูง้องี้ใช่ป้ะคะ” มือขวาเรียวจันทร์ยกเกาคางที่มีเคราสีดำเบาๆ คมเขี้ยวพ่นลมหายใจยาว ยกมือซ้ายฟาดก้นงอนๆ ไปหนึ่งที
   

“หนูทำร้ายใจพี่ หนูเห็นพี่เป็นของเล่น” เรียวจันทร์บู้ปาก จุ๊บหน้าผากคมเขี้ยวหนึ่งที
   

“โอ๋ หนูขอโทษ แต่หนูไม่เคยมองพี่เขี้ยวเป็นของเล่นเลยนะ หนูอาจจะพลาดที่เอาความรู้สึกของพี่มาล้อเล่น แต่หนูรู้สึกเสียใจจริงๆ นาค้า” นางว่าเสียงออดอ้อน ใบหน้าสวยสลดลง ริมฝีปากสีชมพูยื่นเหมือนเป็ดน้อย คมเขี้ยวมองโครงหน้าสวยแล้วหายใจเข้าปอดเสียงดังก่อนจะผ่อนออกมายาวๆ อย่างแผ่วเบา
   




‘คุณหนูเลี้ยงดูแม่ที่ไม่เคยเลี้ยงตัวเองเลยมาหลายปีเพียงเพราะคุณผู้ชายขอเอาไว้ว่าอย่าทิ้งผู้หญิงคนนี้ จะร้ายจะดียังไงก็เป็นคนที่ทำให้คุณหนูได้เกิดมาเจอกับคุณผู้ชาย…’ ป้าอุ่นมองสมาชิกบ้านเกรียงไกรอย่างไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าควรพูดต่อมั้ย แต่สุดท้ายก็พูดต่อ
   

‘…คุณหนูอาจจะก๋ากั่น ทำอะไรตามใจตัวเองเต็มที่ไปหน่อย แต่ก็เป็นเด็กดี เป็นเด็กกตัญญู คนอื่นอาจจะมองว่าคุณหนูนิสัยไม่ดี แต่สำหรับป้า คุณหนูเข้มแข็ง อาจจะแข็งจนเกือบกระด้าง แต่คุณหนูมีน้ำใจ ห่วงใยคนอื่น’
   

‘ขนาดแม่ที่ไม่เหลียวแลตัวเองยังห่วง ยังดูแล แล้วกับพี่เขี้ยวที่คุณเรียวรักนักหนา จะห่วงขนาดไหนกัน’ ดินพูดพลางหน้านิ่วคิ้วขมวดคิดตามคำพูดตัวเอง คมเขี้ยวหันไปมองไอ้ดินหน้างงนิดหน่อย บางครั้งก็นึกสงสัยว่ามันซื่อจริงมั้ย จังหวะการพูดการจาของมันถูกที่ถูกเวลาหลายครั้งแล้ว
   

‘น้องก็คงไม่ได้อยากทำให้เขี้ยวโกรธ รักกันก็อย่าโกรธกันนาน เสียดายเวลาเปล่าๆ’
   

‘ผมก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไรเขาขนาดนั้นนะแม่…’
   

‘...งอนเขาว่างั้นเถอะ น้อยใจเขางี้’ คมเขี้ยวกลอกตาเบาๆ ให้พ่อ เมฆากับบัวบูชาหัวเราะ ป้าอุ่นคลี่ยิ้มไม่เต็มปากนัก
   

‘คุณเขี้ยวโกรธคุณหนูได้ไม่นานหรอกค่ะ คุณหนูเธอขี้อ้อนจะตาย’ ดินยิ้ม คมเขี้ยวขมวดคิ้วว่ามันจะยิ้มอะไร แต่ก็ไม่ได้คิดถาม เพราะกำลังคิดว่าถ้าเรียวจันทร์กลับมาจะไม่เมินน้องหนูของเขาอีกแล้ว
   

แต่ขอดัดนิสัยนางมารตัวแสบในตัวน้องหนูของเขาหน่อยแล้วกัน


   



และตอนนี้เขากำลังคิดว่า อาจจะคิดผิดเรื่องดัดนิสัย เพราะนางมารตัวดีเริ่มซนอีกแล้ว
   

“เห็นมั้ยเนี่ยว่าแขนเจ็บ” คมเขี้ยวว่าหน้ามุ่ย มองเรียวจันทร์อย่างปรามๆ พยายามใช้มือซ้ายรวบมือบางของร่างเปลือยเปล่าขาวสะอาดตาตรงหน้าที่พยายามเผด็จศึกเขาในอ่างอาบน้ำให้ได้
   

“เห็นซี่ แต่พี่เขี้ยวเจ็บแขนนะ ไม่ได้เจ็บโคย” เรียวจันทร์ดึงสองมือออกจากมือคมเขี้ยว ยื่นไปลูบอกแกร่งเปลือยเปล่าของคนตัวโต แขนขวาที่เจ็บวางพาดบนขอบอ่างอาบน้ำสีขาวทรงรีอันใหญ่
   

“พี่จะรีบออกไปกินข้าวกินยา” ร่างสูงบอกเสียงเฉียบพร้อมกับส่ายหัวว่าไม่เอา มือซ้ายพยายามปัดป้องมือของเรียวจันทร์ออกไปให้พ้นตัวแต่ก็ทำไม่สำเร็จ
   

“กินหนูก่อน รับรองดีกว่ายาหมออีก” หน้าสวยยิ้มทะเล้น มือซ้ายลูบลูกกลมกลึงสองลูกพอดีมือเบาๆ
   

“เรียว…” คมเขี้ยวว่าเสียงเข้ม จ้องตาดุ แต่คุณนายตัวป่วนกลับยิ้มหวาน มือขวาวนไปมาวนมาช่วงท้องของเขา มือซ้ายจับๆ บีบๆ ไข่ (ไก่) สีเข้มให้เขากัดฟันแน่น ปากบอกไม่อยากแต่ไอ้บ้องคาวบอยที่เรียวจันทร์เรียกกลับกระดกหัวจะเด้งตัวไปหาแม่ตัวดีให้ได้
   

คมเขี้ยวขมวดคิ้วทำหน้าเข้ม แต่ก็ปล่อยให้เรียวจันทร์ใช้ครีมอาบน้ำเฉพาะจุดถูๆ รูดๆ ลูกชายตัวเองได้ตามใจโดยไม่ขัดขืน พอเห็นว่าคนตัวโตนิ่งเปิดทางให้ ร่างเล็กก็ใช้สองมือรูดไปตามความยาวที่ตั้งโด่อย่างสนุกมือจนเกิดฟองสีขาว คุณนายหัวเราะคิกคัก คมเขี้ยวนั่งหน้าขรึม หน้าท้องหดเกร็งเป็นระยะ ผ่านไปสักพัก เรียวจันทร์ก็ใช้มือขวาจับสิ่งที่มันตั้งแข็งอยู่ให้ตั้งตรง สองเข่าดันร่างขึ้นให้นั่งคร่อมคมเขี้ยว ก่อนที่จะค่อยๆ ยัดส่วนหัวเข้าไปในก้นตัวเอง
   

“โอย…” คมเขี้ยวครางเสียงอ่อน ความเป็นชายโดนเรียวจันทร์ขมิบและตอดรัดอย่างเป็นจังหวะ เขามองสีหน้าเสียวซ่านของเรียวจันทร์ด้วยอาการเคลิ้ม พอเรียวจันทร์นั่งทับของเขาจนสุดลำ เจ้าตัวก็ผ่อนลมหายใจออกทางปากแผ่วเบา สีหน้าเต็มไปด้วยความทรมานและอึดอัดกับสิ่งที่คาอยู่ในตัวตอนนี้
   

“ถ้าอยากทำก็ทำเอง เอาให้เสร็จนะ” คมเขี้ยวว่าเสียงดุ ใบหน้าหล่อเข้มดุดัน เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่าง มองอย่างยั่วยวนเล็กๆ สองมือยกขึ้นจับบ่ากว้างของร่างสูง ยกเข่าขึ้นตั้งชัน สองแขนคมเขี้ยววางบนขอบอ่าง เอนหลังพิงกับอ่างอาบน้ำ สองขาเหยียดยาว สายตาเคลิ้มคล้ายจะหลับแต่จริงๆ คือกำลังเสียวอยู่
   

เรียวจันทร์ย่นคิ้วนิ่วหน้าเมื่อยามขยับตัวขึ้นลง บ้องคาวบอยที่นางเรียกตั้งตระหง่านให้นางได้ใช้ช่องทางด้านหลังรูดขึ้นรูดลงจนเสียววาบไม่หยุด เจ้าของความตระหง่านหลับตาพริ้ม ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเสียว สักพักก็เลื่อนสองมือลงมาจับเอวบางไว้หลวมๆ เรียวจันทร์แหงนหน้าขึ้นเพราะความจุกและความเสียวกับส่วนหัวที่กระแทกกระทุ้งถูกจุดได้ถึงต่อมอารมณ์ในร่างกายของนาง
   

“อ้า… อ้า…” เสียวตรงท้องน้อยตลอดเวลา ความเป็นชายของคมเขี้ยวยาวจนเสียวไส้ แค่มันเข้าไปข้างในก็ใจแทบขาด ยิ่งเวลาขยับก็เหมือนสติจะหลุดหายออกจากหัว เสียวจนสมองขาวโพลนไปหมด
   

“อือ อือ ซู๊ด…” คมเขี้ยวบีบเอวเรียวจันทร์แน่น ห่อปากด้วยความเสียว เขารู้สึกเสียวเรื่อยๆ เรียงๆ เสียววูบวาบตลอดเวลา เหมือนระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลังไปเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกสบายตัว รู้สึกว่าลูกชายตัวเองอารมณ์ดีกับการปรนเปรอครั้งนี้
   

ปับ ปับ ปับ ปับ!
   

“พี่เขี้ยว…”
   

“ห้ามหยุดนะ ทำต่อให้เสร็จ หยุดเมื่อไหร่จะโกรธเพิ่ม” คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์ดุนิดๆ เมื่อคนตัวเล็กทำท่าจะหยุดพัก เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่นและขยับก้นขึ้นลงอย่างเชื่องช้าต่อไปไม่พักเบรกอย่างที่คิดจะทำตอนแรกเพราะรู้สึกเมื่อยขา
   

คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์ราวกับจะกินเนื้อขาวๆ นี้ไปทั้งตัว สายตาทั้งเคลิ้มและเร่าร้อน สองมือจับเอวบางไม่ปล่อย แม้เรียวจันทร์จะมีสีหน้าที่บ่งบอกว่าไม่ไหวแล้ว แต่เขาก็ยังส่งสายตาดุไปให้เพื่อให้เรียวจันทร์ทำต่อไป แต่ในที่สุดร่างเล็กก็หยุดขยับพร้อมกับทิ้งหัวลงบนอกคมเขี้ยวอย่างอ่อนแรง คุณนายนอนครางหงิงปนเสียงหอบหายใจ
   

“หยุดทำไม ทำต่อสิ” คมเขี้ยวก้มลงมองหัวสีโค้กของเรียวจันทร์ตาคมวาว
   

“ขอพักแปบนึงซี่ พี่จะไม่ให้หนูแวะหายใจหายคอหน่อยเหรอ” นางว่าไปก็สลับกับหอบหายใจทางปากไปเบาๆ แกมนวลถูเนื้ออกสีเข้มของคมเขี้ยวเป็นการอ้อน
   

“ห้ามแวะ เร็วๆ” คมเขี้ยวดุ ยกมือซ้ายตีก้นเด้งๆ ไปหนึ่งที เรียวจันทร์ผงกหัวขึ้นจากคมเขี้ยว ใบหน้างอเล็กน้อย แต่ก็ตั้งตัวให้ลุกขึ้นนั่ง แม้จะเหนื่อยหอบแต่ก็เด้งหน้าเด้งหลังเบาๆ เพื่อผ่อนแรงตัวเองสักแปบ
   

“ทำแค่นี้มันจะแตกได้ไง” เรียวจันทร์เบะปากน้ำตาเอ่อคลอ ช่วงเอวขยับเขยื้อนเบาลง สองมือเลื่อนลงมาว่างตรงช่วงกล้ามท้องของคมเขี้ยว
   

“แตกได้ ฮือออ” และในที่สุดเรียวจันทร์ก็ห้ามน้ำตาที่เอ่อคลอเต็มเบ้าตาไม่อยู่ นางร้องไห้โฮเพราะความเมื่อยและความน้อยใจที่ไอ้พี่เขี้ยวทำท่าดุใส่นางไม่หยุดหย่อน คมเขี้ยวพ่นลมหายใจหน้าตาหงุดหงิดและพูดเสียงห้วนสั้น
   

“ลุกขึ้น” เรียวจันทร์ที่น้ำตาไหลอาบแก้ม ค่อยๆ ดันตัวเองลุกขึ้นทั้งที่ขาสั่นพับๆ นางก้าวเท้าจะออกจากอ่างแต่โดนคมเขี้ยวห้ามไว้
   

“ไปไหน ยังไม่เสร็จ” นางมองคมเขี้ยวหน้างอแบบไม่เข้าใจ คมเขี้ยวดันตัวเองลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะก้มตัวลงใช้ข้อพับแขนทั้งสองข้างช้อนข้อพับขาของเรียวจันทร์ทั้งสองข้างขึ้นจนตัวบางร่างน้อยลอยหวือ เรียวจันทร์หน้าเหวอไปนิด สองแขนรีบคล้องคอคมเขี้ยวแน่น
   

“จับมันเข้าไป” คมเขี้ยวว่าห้วนๆ เรียวจันทร์กะพริบตาหน้าหงอนิดหน่อย น้ำตาไหลอาบแก้มใสจางๆ แต่ก็เลื่อนมือขวาลงไปจับของคมเขี้ยวให้กลับเข้าไปในก้นตัวเองอีกครั้ง
   

“พี่เขี้ยว เลือด…” เรียวจันทร์อุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นแผลตรงต้นแขนของคมเขี้ยวมีการขยายของจุดสีแดงเพิ่มขึ้น แต่คมเขี้ยวไม่ได้หันไปดู เขากระชับร่างเรียวจันทร์ให้เข้าที่เข้าทางอีกนิด ก่อนจะซอยสะโพกเข้าหาร่างเล็กถี่รัวแบบไม่กลัวว่าเรียวจันทร์จะสึกหรอ
   

ปับๆๆๆๆๆๆ
   

“อ๊าๆๆๆ” เรียวจันทร์หลับตาแน่น ร้องครางดังลั่นห้องน้ำ คมเขี้ยวกัดฟันแน่นและคำรามในลำคอ สะโพกซอยถี่ยิกราวกับไม่ใช่คนป่วย แม้จะเจ็บแผลที่ต้นแขน แต่ความเสียวที่ตีตื้นตรงท้องน้อยตลอดเวลาทำเอาเขามีแรงฮึดในการกระแทกเพื่อไปให้ถึงจุดหมายของตัวเอง
   

“อือออ พี่เขี้ยว อือออ” เรียวจันทร์ครางเสียงเพี้ยน ความรู้สึกเสียวปั่นป่วนเต็มท้องน้อย เส้นความรู้สึกตรงจุดเสียวที่เชื่อมกับคุณนายน้อยเต้นกระตุกไหลเวียนความซ่านอยู่เป็นระยะ สองแขนที่อ่อนแรงก็พยายามเกี่ยวคอคมเขี้ยวไม่ให้ตัวเองหล่น ขาสองข้างสั่นไหวเบาๆ เสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นไม่แพ้เสียงครางของนางและเสียงคำรามของคมเขี้ยว
   

“พี่เขี้ยว หนูไม่ไหวแล้ว…” เรียวจันทร์ครางอ้อนวอนเพราะความเมื่อย ตัวของนางเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ
   

“ต้องไหว พี่จะเสร็จแล้ว” คมเขี้ยวว่าเสียงเข้มหน้าดุ เรียวจันทร์สะอื้นเล็กๆ แต่ก็ออกแรงฮึบ เกี่ยวสองแขนรอบลำคอคมเขี้ยวให้กระชับกว่าเดิม ใบหน้าทั้งสองคนใกล้กันเพียงปลายจมูกกั้น คมเขี้ยวมองอย่างดุร้าย เรียวจันทร์มองตาฉ่ำปรือด้วยน้ำตา คมเขี้ยวก้มลงจูบริมฝีปากเรียวจันทร์แนบแน่น กดไว้อย่างแรง ร่างเล็กร้องเสียงอื้ออึง สองมือจิกเส้นผมคมเขี้ยวแน่น และในที่สุดพ่อพยัคฆ์คมเขี้ยวก็ส่งเสียงคำรามลั่น ปิดตากัดฟันแน่นก่อนที่จะกระแทกเข้าหาเรียวจันทร์อย่างแรงจนร่างเล็กสะเทือน เรียวจันทร์กรีดร้อง สองแขนร่วงหล่นจากคอคมเขี้ยว ดีที่คนตัวโตประคองหลังไว้ได้ทัน กลางลำตัวของคมเขี้ยวหลุดออกจากด้านหลังเรียวจันทร์พร้อมกับน้ำสีขาวข้นที่พวยพุ่งออกมาจำนวนหนึ่งราวกับขวดไวน์ที่โดนเปิดจุก ร่างเล็กทรุดลงนั่งกับอ่างอาบน้ำอย่างอ่อนแรง นั่งครางเสียงอ่อนสลับกับหอบหายใจ ใบหน้าสวยหวานเกยขอบอ่างไว้ สองแขนแนบทิ้งข้างลำตัว สองขาพับเพียบอย่างหมดแรง
   

คมเขี้ยวมองร่างเล็กอย่างเคร่งขรึมก่อนจะนั่งลงบนขอบอ่างใกล้กับเรียวจันทร์ ลูกชายเขาเยิ้มไปด้วยน้ำสีขาว เขากำลังจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดแต่ก็ต้องชะงักเพราะเรียวจันทร์เลื่อนตัวเข้ามานั่งหว่างขาของเขาและใช้ปากกับลิ้นจัดการเล็มเลียน้ำสีขาวข้นจนหมดเกลี้ยง สีหน้าเขากระตุกเพราะความเสียวตอนโดนลิ้นสีชมพูตวัดส่วนหัวแบบเน้นๆ และครางเสียงเบาตอนที่โดนเรียวจันทร์ดูดส่วนหัวราวกับดูดอมยิ้ม
   

“ร้องไห้ทำไม” เขาถามหลังจากเรียวจันทร์ทำความสะอาดให้จนหมดแล้ว คนถูกถามเบะปากหน้างอ ยกสองมือเช็ดน้ำตาที่ยังติดค้างอยู่บนแก้ม
   

“ก็พี่เขี้ยวดุหนูอะ เหมือนหนูทำอะไรก็ไม่ถูกใจ หนูเปราะบางอยู่นะ” นาถอยหลังไปนั่งพิงขอบอ่างล้างหน้าตรงข้ามกับคมเขี้ยว ไอ้คาวบอยตัวลูกยังพุ่งชี้หน้านางราวกับกำลังจ้องตาแข็งแทนพ่อมันอยู่
   

“ทีแต่ก่อนเห็นหน้าด้านหน้าทนทุกอย่าง”
   

“ก็ยังหน้าด้านอยู่นี่แหละ แต่หนูรักพี่ไง มันน้อยใจอะ” คมเขี้ยวบิดปากเป็นรอยยิ้มเล็กๆ กับหน้าตาบิดเบ้จะร้องไห้ของเรียวจันทร์ เขาเอื้อมแขนไปดึงแขนเรียวจันทร์ให้ลุกขึ้นยืนและจับร่างเล็กมานั่งตัก
   

“พี่ยังน้อยใจหนูที่หนูทำกับพี่เลย” เรียวจันทร์ยังคงหน้างอ แต่ก็ไม่ได้โกรธเคือง นางพนมมือขึ้นตรงอกและก้มไหว้คมเขี้ยวตรงอก
   

“หนูขอโทษจริงๆ” คมเขี้ยวมองนิ่ง เลื่อนสายตาไปมองแผลจางๆ ที่มุมปากของเรียวจันทร์
   

“เจ็บมั้ย” เรียวจันทร์พยักหน้า สีหน้าออดอ้อนทันที
   

“เจ็บค่ะ” คมเขี้ยวยิ้มเบ้ปากกับเสียงอ้อนพอๆ กับสีหน้า ดวงตากวางน้อยมองอย่างขอความเห็นใจ ริมฝีปากสีชมพูสดแบะเล็กๆ อย่างน่ารัก
   

“สม”
   

“พี่เขี้ยวอ้ะ” นางว่าอย่างกระเง้ากระงอด คมเขี้ยวยักคิ้วหนึ่งที ริมฝีปากติดยิ้มเล็กๆ เรียวจันทร์หันไปมองแผลตรงต้นแขนขวาของคมเขี้ยว เลือดสีแดงขยายวงกว้างกว่าเดิม นางหันไปมองหน้าคมเขี้ยวอย่างตกใจ แต่เจ้าตัวกลับมีท่าทีเฉยๆ
   

“ถ้าอยากให้หายโกรธก็ต้องไถ่โทษ หนูต้องโดนดัดนิสัย จะได้ไม่แรดไปทั่วอีก” เรียวจันทร์ทำปากยื่น หน้าตาจำยอมอย่างจำใจ
   

มีปากมีเสียงเถียงแว้ดๆ มากไม่ได้ นางต้องเป็นเด็กดีให้พี่เขี้ยวเห็น ให้เขาเห็นว่านางไม่มีแผน ไม่มีตอแหลใดๆ กับพี่แกอีก ก็นางรักของนาง ถึงเวลารักก็พร้อมยอม แต่ถ้าอะไรที่มากไป นางก็จะขอต่อต้านนิดๆ หน่อยๆ ก็แล้วกัน
   

“ขออีกรอบก่อนไปกินข้าว”
   

แต่อันนี้นางไม่ต่อต้าน









เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:



ว้ายยยย ง้อกันวันแรกก็จัดจัดเต็มจนเลือดตกยางออกเลยนะคะคุณแม่ม่ม่ม่

เปรี้ยวเยี่ยวราดตามเคยค่ะ เริ่มก่อนได้ไม่เหนียมอาย ไม่มี ไม่ อย่านะ ไม่เอา แบบนั้นไม่ใช่ขุ่นแม่เรียวจันทร์ค่ะ ไม่ต้องรอสามีอยาก นางก็จัดให้ได้ คิๆ

กลับมาอยู่กับพี่เขี้ยวแล้ว ทำตัวดีๆ นะคะคุณแม่ เวลานี้เป็นช่วงทำคะแนน แอ๊บเป็นคนดีทันมั้ย พี่เขี้ยวรู้ยันยันพุงแล้วละ ก็เล่นเข้าไปถึงลำไส้ขนาดนั้นอะเนอะ วั้ยย อิๆ

พี่เขี้ยวเขาก็ไม่ได้แค้น เขาก็ร้ากเมียเขาาา แค่งอน อยากให้ง้อนิดโหน่ยโนะ ยังไงเขาก็มาง้อแล้ว อย่าเล่นตัวมากนะพี่เขี้ยว

อีกสี่ตอนจิจบเลี้ยวววว ความเปรี้ยวของแม่เรียวยังมีอีกเยอะนะคะในตอนพิเศษ คิๆ ขายของนวลเนียน

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ

ตอนนี้ขุ่นแม่เรียวกับขุ่นพ่อเขี้ยวกำลังเปิดพรีออเดอร์ตัวเองในรูปแบบหนังสือนะคะ เปิดพรีฯ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม ตอนพิเศษในเล่มแน่นมาก ประเด็นในตอนพิเศษจะเชื่อมต่อจากตอนหลักที่ลงเว็บเลยค่ะ ไม่ได้เขียนสตอรี่ขึ้นมาใหม่ ผู้ใดสนใจ เข้าไปอ่านรายละเอียดของทั้งสองคนพร้อมรายละเอียดของแถมได้ที่ > พรีพ่อเขี้ยวแม่เรียว (https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1389304&chapter=29)
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 28-04-2017 20:32:53
เค้าง้อกันได้เลือดสาดมากเลย  o13 สรุปหายโกรธกันแล้วนะคะพี่เขี้ยว

อีกสี่ตอนจะจบแล้ววว ไม่อยากให้จบเลยย ยังหวานกันไม่สะใจ

ปล.โอนตังเรียบร้อย รอรับหนังสืออยู่บ้านเลยยค่ะ o22
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 28-04-2017 21:24:25
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 28-04-2017 21:37:14
เรียวจันทร์น่ารักอ่ะ ชอบบ อยู่กับพี่เขี้ยวแล้วเหมือนเด็กดี
เลือดสาดมากจริงๆ  :-[
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 28-04-2017 22:08:25
ดีกันได้ซักที นึกว่าพี่เขี้ยวจะโกรธจริงๆซะแล้ว แต่ก็นะคุณนายซะอย่างคงไม่มีใครโกรธนางได้นานหรอก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-04-2017 22:39:14
แหมๆๆๆ ง้อกันซะเลือดตกยางออกเลยนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 28-04-2017 22:42:10
โอ้ย สงสารนาง นางร้องไห้เลยนะพี่เขี้ยว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 28-04-2017 23:20:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 29-04-2017 00:11:47
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 29-04-2017 01:05:08
คุณแม่เปรี้ยวเว่อ แซ่บที่แท้ทรู   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 29-04-2017 18:46:21
พี่เขี้ยวเวอร์ชั่นดุนี่กร๊าวใจมากค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 29-04-2017 20:07:04
 :hao6: :hao6: กิ๊วก๊าวมากค่ะขุ่นแม่
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-04-2017 22:39:41
พูดกัน เข้าใจกัน
หายโกรธ หายงอนกันนะ ก็ต่างก็รักกันนี่
แล้วรักกัน ทำรักกัน
คมเขี้ยว เรียวจันทร์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/ครึ่งแรก :28.04.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 03-05-2017 03:16:44
 :man1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/75% :06.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 06-05-2017 16:18:53


คาถาที่ ๒๙ (75%)




หลังจากเสร็จกิจรอบสอง เรียวจันทร์ก็ช่วยคมเขี้ยวอาบน้ำ เพราะอีกฝ่ายต้องระวังไม่ให้น้ำโดนแผล แต่ตอนนี้แผลคมเขี้ยวมีแววปริ เพราะเลือดขยายใหญ่มาก เลยตกลงกันว่ากินข้าวกินยาเสร็จจะต้องไปโรงพยาบาลเพื่อล้างแผลและให้หมอดูว่าที่เย็บมายังอยู่ดีหรือไม่
   

“แอบเอาเสื้อผ้ามาใส่ไว้ในตู้ด้วย?” คมเขี้ยวก้มลงมองร่างเล็กที่ยืนซ้อนหน้าเขาและกำลังเลือกเสื้อผ้าจากตู้อยู่
   

“อื้อ ยังไงฉันก็ต้องย้ายมาอยู่กับนายอยู่แล้ว ฉันรู้” เรียวจันทร์ยิ้มแฉ่ง หันไปเลือกเสื้อผ้าให้คมเขี้ยวและตัวเองต่อ
   

เพี๊ย!
   

“เอ้า…” เรียวจันทร์สบถพร้อมสะดุ้งเบาๆ เมื่อโดนมือใหญ่หนาฟาดลงบนแก้มก้นซ้าย
   

“ต่อไปให้แทนตัวเองว่าหนูตลอด และเรียกพี่ว่าพี่ เข้าใจมั้ย” เรียวจันทร์กะพริบตาปริบๆ สักแปบ ก่อนจะคลี่ยิ้มและยื่นหน้าไปหอมแก้มคนตัวโต คมเขี้ยวหอมแก้มนางกลับ ก่อนจะหันไปมองเสื้อผ้าในตู้ที่ถูกแบ่งเป็นฝั่งเขากับฝั่งเรียวจันทร์ เขายื่นมือไปหยิบเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีเขียวอ่อนสลับขาว
   

“หนูอยากใส่เสื้อพี่เขี้ยวตัวนี้อะ” เรียวจันทร์ชี้เสื้อในมือคมเขี้ยว เจ้าของเสื้อไม่พูดอะไรทำเพียงแค่ยื่นให้ เรียวจันทร์รับไปพร้อมยิ้มแฉ่ง คมเขี้ยวกำลังจะเอื้อมหยิบลายดำแดงมาแทน แต่เปลี่ยนใจเป็นหยิบเสื้อกล้ามสีขาวมาใส่แทน
   

ทั้งสองคนแยกกันแต่งตัวของใครของมัน คมเขี้ยวใส่กางเกงยีนขายาวตามปกติ ส่วนเรียวจันทร์ใส่เสื้อตัวหลวมของคมเขี้ยวและกางเกงยีนขาสั้นจนแทบจะเห็นแก้มก้น ยิ่งเสื้อตัวใหญ่ด้วยแล้วยิ่งทำให้เหมือนร่างเล็กไม่ใส่กางเกง
   

“เรียว เปลี่ยนกางเกง จะออกไปข้างนอกแบบนี้ได้ไง” คมเขี้ยวว่าเสียงเข้มหน้าเข้ม แต่น้องหนูของเขากลับเชิดปากขึ้น
   

“ไม๊…” ตอบเสร็จก็หันไปแต่งหน้าต่อ นางไม่ได้แต่งอะไรเยอะแค่ปัดแก้มเบาๆ กับทาลิปกลอสสีชมพูใสๆ
   

“เดี๋ยวจะโดนตี เปลี่ยนเลยนะ” เรียวจันทร์วางบลัชออนลงและหันไปเบ้ปากใส่คมเขี้ยว รีบเดินออกจากห้องแต่งตัวในห้องนอนร่างสูงไปทันที คมเขี้ยวย่นคิ้วตามหลัง แม่ตัวแสบเหมือนจะทำตัวเรียบร้อยได้แปบเดียวเท่านั้นแหละ
   

คมเขี้ยวเดินตามเรียวจันทร์ออกจากห้องนอนมาที่ครัว เจอป๋ากับแม่กำลังนั่งกินอาหารเช้าด้วยกันสองคน เขามองอย่างประหลาดใจ ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาตอนนี้สิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว
   

“ป๋ากับแม่เพิ่งกินข้าวเหรอ” เขาถามพลางนั่งลงใกล้กับบิดา ส่วนเรียวจันทร์กำลังจัดแจงตักข้าว ตักอาหารให้เขาอยู่ข้างกัน
   

“พาพวกคนงานไปซื้อของสร้างบ้านให้พวกชาวบ้านพอดี เลยเพิ่งได้กิน” คนเป็นลูกพยักหน้า หันไปมองเรียวจันทร์ที่นั่งกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย
   

“กินขนาดนี้ ทักทายคนอื่นรึยัง” เรียวจันทร์หันไปมองค้อนน้อยๆ สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ใหญ่ทั้งสองคน
   

“หนูแทบจะกราบพระบาทป๋ากับแม่แล้วเถอะ” คุณป๋าหัวเราะเบาๆ คมเขี้ยวถลึงตาใส่แม่ตัวดี ก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวกิน
   

“เดี๋ยวผมไปโรงพยาบาลแปบนึงนะ ไปดูแผล เลือดมันออกเยอะกว่าเดิม”
   

“ไปทำอะไรมาล่ะ”
   

“ยกของหนักมาป๋า” เรียวจันทร์หันไปค้อนควับ คมเขี้ยวกระตุกยิ้มขำ
   

“หมอเขาก็ห้ามว่าไม่ให้เคลื่อนไหวเร็วหรือยกของหนัก ยังจะทำอีก แล้วตาข่ายคล้องแขนไปไหน เดี๋ยวเลือดก็ยิ่งไหลหรอก” มารดาของเขาถามสีหน้าเป็นห่วงแกมดุเล็กๆ
   

“ใส่ไม่ใส่ก็ไม่ได้ต่างกันมากหรอกแม่”
   

“แต่ก็ควรใส่ไว้ อย่างน้อยเขี้ยวจะได้ไม่เผลอใช้แขนยกของหนักอีก” คมเขี้ยวพยักหน้า เลื่อนจานข้าวไปให้เรียวจันทร์ คุณนายมองกลับงงๆ   
   

“ป้อน ใช้แขนขวาไม่ถนัด” เรียวจันทร์เบ้ปากมองค้อนไปวงใหญ่
   

“เมื่อกี้ยกของหนักได้ แต่ดันยกช้อนไม่ไหวเนี่ยนะ ของเมื่อกี้มันนักขนาดไหนกันวะไอ้เขี้ยว”
   

“หนักมากป๋า โคตรหนัก” เรียวจันทร์ที่กำลังยื่นช้อนไปทางปากคมเขี้ยวถลึงตาใส่ แต่พอเห็นว่าสายตาคุณป๋ากับคุณแม่มองอยู่ก็เลยคลี่ยิ้มอย่างฉับไว
   

“หนูเรียวกลับมาอยู่นี่ยาวเลยใช่มั้ย”
   

“ยาวไม่ยาวก็อยู่ที่ลูกคุณป๋าแหละค่ะ ไม่รู้จะโกรธเรียวไปถึงเมื่อไหร่” นางว่าหน้าบูด แต่ก็ค่อยๆ ป้อนข้าวเข้าปากคมเขี้ยว
   

“ก็กลับมาจะมาง้อไม่ใช่เหรอ ก็ง้อสิ” คมเขี้ยวว่าหลังจากเคี้ยวข้าวหมดปาก
   

“ก็จะงอนนานป้ะล่ะ” คมเขี้ยวยักไหล่ไม่ตอบ แต่ยื่นคางมาทางจานข้าว เรียวจันทร์บู้ปากตักข้าวให้คนตัวโตกินอีกคำ
   

“อย่าเล่นตัวเยอะนักล่ะไอ้เขี้ยว วันไหนหนูเรียวเหนื่อยขึ้นมา จะหนีกลับบ้านเอาหรอก” เรียวจันทร์พยักหน้าเห็นด้วยกับคุณป๋า คมเขี้ยวบิดปากน้อยๆ ท่าทีชิลๆ แต่สักพักก็หันไปมองเรียวจันทร์ที่กำลังตักข้าวให้เขากินด้วยสายตาเป็นกังวลเล็กๆ แต่พอเรียวจันทร์เงยหน้าป้อนข้าวให้อีกคำ สายตาเขาก็เปลี่ยนเป็นมองปกติ
   

“กล้าหนีก็ลองดู” เขาพูดเสียงเรียบ
   

“จ้า พ่อถือไพ่เหนือกว่า ระวังขาไพ่ล้มเจ้ามือหรอก” เรียวจันทร์หันไปมองบัวบูชาตาโตและยิ้มอย่างขบขัน
   

“คุณแม่ดูเชี่ยวชาญเรื่องไพ่นะคะ” บัวบูชาอมยิ้มเขินเล็กๆ ก่อนตอบ
   

“สมัยสาวๆ แม่ตั้งวงกับเพื่อนบ่อยจ้ะ”
   

“ว้ายยย ขุ่นแม่ คิๆ” เรียวจันทร์หัวเราะคิกคัก ทำเอาสองสามีภรรยาหัวเราะไปด้วย คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ มองเรียวจันทร์อย่างครุ่นคิด หัวใจเต้นตุบๆ คล้ายว่าสติจะหลุดไปพักหนึ่ง แต่พอเรียวจันทร์ตักข้าวให้อีกคำเขาก็อ้าปากรับ
   

เมฆากับบัวบูชาตกลงคุยกันแล้วว่าจะไม่รื้อฟื้นหรือถามถึงเหตุการณ์เก่าแก่ทั้งหลายที่เกิดขึ้น แค่เรียวจันทร์ปรากฏตัวกับลูกชายของเขาทั้งสองคนเช้านี้ก็เป็นอันว่าจบ และเขากับภรรยาก็จะปล่อยให้ทั้งสองคนเคลียร์กันให้เข้าใจและใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างที่ควรจะเป็น
   

   

   

หลังจากกินข้าวกินยา คมเขี้ยวกับเรียวจันทร์ก็ขอตัวไปโรงพยาบาล เรียวจันทร์หาเสื้อยีนให้คมเขี้ยวใส่เพราะนางหวงไม่อยากให้โชว์กล้าม ตกลงกันว่าจะเอารถนางไปเพราะนางจะต้องเป็นคนขับ คมเขี้ยวมองกางเกงขาสั้นของเรียวจันทร์แล้วก็ทำหน้าหงุดหงิด
   

“ไปหาป้าอุ่นแปบนึงสิ” เขาปล่อยให้เรียวจันทร์เดินจูงมือไปทางโรงอาหารของฟาร์ม ป้าอุ่นกำลังตักอาหารให้กับคนงานที่พากันมากินมื้อเที่ยง พอหญิงสูงวัยเห็นคุณหนูตัวเองก็ยิ้มอย่างดีใจ
   

“คุณหนู…”
   

“เป็นไงบ้างป้าอุ่น อยู่ที่นี่โอเคมั้ย” ป้าอุ่นพยักหน้าและยิ้มอย่างอบอุ่น วางทัพพีตักอาหารลงในถาดและเดินออกออกมาหาเรียวจันทร์กับคมเขี้ยว
   

“ป้าอยู่ที่ไหนก็ได้หมดแหละค่ะ คุณหนูเถอะ คิดถึงบ้านรึเปล่า” คมเขี้ยวก้มมองร่างเล็กที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก แต่แค่แปบเดียวก็เปลี่ยนเป็นยิ้ม
   

“คิดถึงแหละป้า แต่ตอนนี้เรียวหมดห่วงแล้ว เพราะโฉนดบ้านอยู่กับเรียว”
   

“แล้วคุณหนูจะปล่อยให้คุณแม่อยู่แบบนั้นเหรอคะ” เรียวจันทร์หน้านิ่ง แววตาไร้ความรู้สึกและตอบเสียงเรียบ
   

“ไม่ แต่เขาต้องไม่อยู่ที่นั่น เขาต้องออกไป เรียวทำได้ดีที่สุดเท่านี้” คมเขี้ยวมองด้วยความแปลกใจกับน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวและท่าทีมั่นคงที่เรียวจันทร์มี ป้าอุ่นมองหน้าเรียวจันทร์ด้วยความสงสัยสั้นๆ แล้วก็เปลี่ยนเป็นพยักหน้าเข้าใจ
   

“ป้าเคารพการตัดสินใจของคุณหนูค่ะ” เรียวจันทร์ยิ้มเบาๆ
   

“ขอบคุณค่ะป้า แล้วสองหนุ่มไปไหนเหรอคะ”
   

“ไปช่วยน้องดินปลูกดอกไม้ค่ะ เจ้าแก๊ปชอบที่นี่มาก” ป้าอุ่นหันไปยิ้มให้คมเขี้ยวที่ยิ้มตอบกลับอย่างละมุน
   

“อาหารป้าอุ่นอร่อยมากนะครับ พวกคนงานชมกันเยอะเลย ไม่ต้องกลัวป้าแม่ครัวคนเดิมน้อยใจนะครับ แกดีใจด้วยซ้ำที่มีคนมาช่วย”
   

“ป้าแตนน่ารักมากค่ะ” ป้าอุ่นหันไปมองแม่ครัวเก่าแก่ของฟาร์มที่หันมายิ้มให้ทุกคน
   

“คงอยู่ที่นี่อีกพักใหญ่เลยนะคะป้าอุ่น ขอเรียวเคลียร์กับผู้หญิงคนนั้นก่อน” หญิงสูงวัยพยักหน้า เรียวจันทร์หันไปมองรอบโรงอาหารแล้วหันกลับมาหาป้าอุ่นตามเดิม
   

“เรียวพาพี่เขี้ยวไปหาหมอก่อนนะคะ”
   

“ดีกันแล้วใช่มั้ยคะ ป้าดีใจด้วย” เรียวจันทร์หันไปเบ้ปากใส่คมเขี้ยวที่บึนปากยักคิ้วหน้าตาย
   

“ดีกันนิดหน่อยค่ะ” ป้าอุ่นทำหน้างง เรียวจันทร์ขอตัวอีกทีก่อนจะพาคมเขี้ยวเดินออกมาจากโรงอาหารและพากันไปที่รถยนต์คันสีฟ้า
   

“จะไม่เปลี่ยนกางเกงจริงๆ ใช่มั้ย” เรียวจันทร์ก้มลงมองกางเกงตัวเองแล้วเงยหน้ามองคมเขี้ยว สั่นหัวแรงๆ หลายที
   

“เปลี่ยนทำไมอะ เซะซี่จะตาย”
   

“เดี๋ยวจะตายก่อนเซ็กซี่” คมเขี้ยวมองอย่างคาดโทษ เรียวจันทร์ยิ้มหวาน เดินเข้าไปหาร่างสูงและใช้แขนซ้ายคล้องคอหนาไว้ คมเขี้ยวก้มหน้าลงตามแรงโน้มของแขนเรียวจันทร์
   

“หวงหนูเหรอ”
   

“แล้วใครเป็นผัวหนู”


“พี่เขี้ยวค่ะ”


“ก็นั่นแหละ” เรียวจันทร์ทำปากเป็นบัวตูมเล็กๆ มองหน้าโหดของพี่เขี้ยวตาเป็นประกาย มือนุ่มนิ่มยกขึ้นลูบกล้ามแขนผิวสีคร้ามแดดข้างซ้ายของคมเขี้ยวเบาๆ


“พี่เขี้ยวหึงแล้วดูเซ็กซี่จัง หนูชอบ” เรียวจันทร์จ้องตาเรียวคมของคมเขี้ยวอย่างเย้ายวนเล็กๆ ร่างสูงจ้องมองร่างเล็กด้วยสายตาดุดัน แต่มันช่างร้อนแรงเหลือเกินในความคิดของคุณนาย


“ไปเปลี่ยนกางเกงไป เดี๋ยวรอ” คมเขี้ยวว่าเสียงทุ้ม หน้าเข้ม ยิ่งมีหนวดมีเคราก็ยิ่งทำให้เข้ม ช่วงนี้พี่แกเข้มยิ่งกว่ากาแฟ เพราะต้องข่มความดีดของแม่คุณนายให้อยู่หมัด


“หอมแก้มหนูทีสิ” คมเขี้ยวมองหน้าสวยเอือมๆ แต่ก็ก้มลงไปหอมแก้ม แถมมีลามลงไปไซ้คอขาวเบาๆ ให้คุณนายหัวร่อเสียงเล็กเสียงน้อยเพราะจั้กจี๋กับตอหนวดที่ทิ่มคอ


“ไปได้แล้ว” คมเขี้ยวตีก้นเรียวจันทร์เบาๆ คุณนายยิ้มหวาน หมุนตัวเดินกลับไปทางบ้าน คมเขี้ยวมองตามและส่ายหัวน้อยๆ แต่ริมฝีปากก็ระบายยิ้มอ่อนบนใบหน้า เขาสวมเสื้อยีนสีน้ำเงินเข้มที่เรียวจันทร์เอามาให้ใส่ทับ เปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับเข้าไปนั่งรอแม่ตัวดีกลับมา






เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:



ตอนแรกว่าจะอัพที่เหลือจนหมด แต่ ณ จุดๆ นี้อยู่นอกสถานที่ค่ะ มิสะดวกเท่าที่ควร

อีกอย่าง... T^T ฮึกๆ ช้ำใจ

คือตอมบอกไปในเพจว่า เอ๊อ เมื่อวันอังคารตอมเอาพีซีไปล้างและลงโปรแกรมใหม่ แล้วก็จะได้คืนวันพุธ คือตอมก็โอนข้อมูลลงเอ็กซ์เทอนอลหมดเลยนะคะ ก็คิดว่าหมดละ เลยลบไฟล์ทิ้งทุกไฟล์ ตรวจเช็กในเอ็กซ์เทอนอลเรียบร้อย ก็เออ มีไฟล์นิยายอยู่ เห็นชัดเจนงี้

แต่ปรากฎว่าวันที่ได้พีซีคืน ตอมจะปั่นต้นฉบับพ่อเขี้ยวแม่เรียวต่อ กดเข้าไปดูเท่านั้นแหละ ใจหายว้าบบบบบบ คือที่ตอมเห็นว่ามันมีไฟล์อยู่แล้ว มันคือไฟล์อันเก่าที่ตั้งแต่เขียนพ่อเขี้ยวแม่เรียวได้ครึ่งเรื่อง มันคือการเข้าใจเผียดดดดด

โอโหยยยยย ต้นฉบับหายวับบบ คือมันก้อปจากเว็บไปได้แหละค่ะ แต่พ้อยท์คือเรื่องนี้ตอมแจ้งไว้มีสามสิบสามตอน ลงในเว็บแล้วก็ยี่สิบเก้าตอน ซึ่งหมายความว่าตอมจะก้อปจากเว็บคืนได้เพียงเท่าที่ลงในเว็บ แต่ที่เซฟไว้ก่อนหน้านี้ หายยย โฮกกกก

ตอมเลยต้องมานั่งเขียนใหม่ มันเขียนได้ค่ะ แต่ว่า TT^TT ฟีลลิ่งมันนอยด์ๆ ไม่เหมือนเดิม ตอนพิเศษในเล่มแปดตอน เขียนไปได้สี่ คือต้องเขียนใหม่

ถามว่าไม่เห็นโวยวายในเพจหรือทวิต คือตอมช็อกจนโวยวายไม่ออก มันแบบ ฮัลโหล นี่ความจริงใช่มั้ย ไฮๆ ต้นฉบับลุงแซ็คที่เริ่มขึ้นไว้สามตอน ก็หาย ยังดีที่มันไม่เยอะ แต่ก็แบบ ฮึ้ย อะไรอะ

ฮือออออ

ตอนนี้เพิ่งกลับเข้าสู่สภาวะปกติทางอารมณ์ พักวันพฤหัสกับศุกร์ไปสองวันเต็ม คือเสียดาย นอยด์ และหมดแรงหวัง หมดแรงท้อ หมดแรงตัดพ้อมันถอดใจมาก (เมียหลวง 2552 ก็มา)

เช้ามาวันนี้เลยนั่งปั่นๆ เขียนๆ แบกพีซีมาทำงานด้วย เฮ้อออ เหนื่อยจุยยย TOT



อีกสี่ตอนจิจบเลี้ยวววว ความเปรี้ยวของแม่เรียวยังมีอีกเยอะนะคะในตอนพิเศษ คิๆ ขายของนวลเนียน

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ

ตอนนี้ขุ่นแม่เรียวกับขุ่นพ่อเขี้ยวกำลังเปิดพรีออเดอร์ตัวเองในรูปแบบหนังสือนะคะ เปิดพรีฯ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม ตอนพิเศษในเล่มแน่นมาก ประเด็นในตอนพิเศษจะเชื่อมต่อจากตอนหลักที่ลงเว็บเลยค่ะ ไม่ได้เขียนสตอรี่ขึ้นมาใหม่ ผู้ใดสนใจ เข้าไปอ่านรายละเอียดของทั้งสองคนพร้อมรายละเอียดของแถมได้ที่ > พรีพ่อเขี้ยวแม่เรียว (https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1389304&chapter=29)
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/75% :06.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 06-05-2017 16:51:12
โอ้ยยยยยยย.อิจคุณนายมากผัวรักผัวหลงขนาดนี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/75% :06.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-05-2017 18:36:05
คมเขี้ยว เรียวจันทร์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/75% :06.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 06-05-2017 19:17:44
นี่ขนาดยังไม่หายงอนยังหวงคุณนายขนาดนี้  :hao5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/75% :06.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-05-2017 19:45:03
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/75% :06.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 06-05-2017 19:52:12
 o13 นี่ขนาดดีกันแค่นิดนึงนะ หวานเข็ดฟันเลย
จะจบแล้วหรอออ ยังชมความแซ่บไปแค่นิดเดียวเองงง อยากอ่านแซ่บๆๆ  :-[
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/75% :06.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 06-05-2017 20:33:47
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/75% :06.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 06-05-2017 21:09:11
สู้ๆนะคะ
ชอบมากกกก อิอิ รอหวานๆๆอีกก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/75% :06.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-05-2017 03:35:07
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/75% :06.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 08-05-2017 17:13:14
ความแซบไม่เคยเปลี่ยนคมเขี้ยวแบดบอยก็ดูดีนะ โอยแอบคิดถึงเสี่ย55
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/100% :09.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 09-05-2017 22:34:19


คาถาที่ ๒๙ [ครบ]




ระหว่างทางขับรถไปโรงพยาบาล คุณนายก็เปิดเพลงสากลฟังและร้องเสียงใสมาตลอดทาง คมเขี้ยวนั่งหน้าหงุดหงิดกับกางเกงตัวใหม่ของเมียตัวเอง เพราะมันกระเถิบความยาวขึ้นมาอีกนิด ปิดแก้มก้นได้มากขึ้นเท่านั้นเอง ทำไมผู้ชายใส่กางเกงอะไรแบบนี้ได้ด้วยเหรอ ให้หมอล้างยาคุมที่แม่ตัวดีเคยกินเมื่อสมัยสาวๆ ออกจากตัวหน่อยได้มั้ย จะได้ลดก้น ลดสะโพกลงมาหน่อย มีมดลูกก็ผู้หญิงแล้วเนี่ย


“ทำหน้าตาพาเครียดอีกละ อารมณ์ดีหน่อยซี่” คุณนายว่าหลังจากเดินควงแขนร่างสูงเข้ามาในโรงพยาบาล คมเขี้ยวก้มลงมองหน้าเรียวจันทร์และย่นคิ้วใส่


“กลับบ้านไปเอากางเกงพวกนี้ไปเผาให้หมด”


“คิๆๆ” เรียวจันทร์ดูจะชอบอกชอบใจที่ได้เห็นพ่อคาวบอยใหญ่หึงหวงในตัวเอง หน้านิ่วคิ้วขมวดที่แสดงออกมา พี่เขี้ยวจะรู้ตัวมั้ยว่ามันทำให้พี่ฮ็อตถึ! มั่กๆ


เรียวจันทร์พาคมเขี้ยวไปรายงานตัวตรงเค้าน์เตอร์แรกเพื่อรอรับบัตรประจำตัวผู้ป่วย พยาบาลสอบถามถึงอาการ พอทราบว่ามีแพทย์คอยดูแลอาการนี้อยู่แล้วก็ส่งไปยังห้องเดิมที่คมเขี้ยวเคยมารักษาเมื่อคราวก่อน คนตัวโตกับคนตัวเล็กเป็นจุดเด่นของคนแทบทั้งโรงพยาบาล เดินไปทางไหนก็มีแต่คนมอง ทั้งมองแบบแว้บๆ และมองแบบแช่นาน แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้สนใจหรือรู้สึกอึดอัดอะไร


“คุณ อ้าว เขี้ยว…” เรียวจันทร์กลอกตาไปทีเมื่อเห็นแม่ช่อเอื้องนั่งอยู่ตรงโต๊ะซักประวัติอาการก่อนเข้าพบแพทย์ แต่คุณนายก็ไม่ได้อารมณ์เสียหรือหงุดหงิด เพราะนางไม่อยากให้แม่นั่นเข้ามามีอิทธิพลกับความรู้สึกตัวเอง


“หวัดดีเอื้อง” คมเขี้ยวเอ่ยทักอย่างสบายๆ พลางนั่งลงบนเก้าอี้ มีเรียวจันทร์ยืนอยู่ข้างๆ


“เพิ่งล้างแผล ทำแผลไป วันนี้เป็นไรเหรอ”


“พอดีเลือดออกเยอะ ยกของมา…”


“…เปล่าสักหน่อย ยกคน” คมเขี้ยวหันไปหรี่ตามองยัยคุณนาย อัจฉราหันไปมองเรียวจันทร์หน้านิ่งแอบมีความเหวี่ยงนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็แค่นยิ้มให้ เรียวจันทร์ยิ้มแห้งกลับไปให้เร็วๆ หนึ่งแห้ง


“แล้วก็มีไข้ แต่หมอให้ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวดไปแล้วแหละ จะมาถามหมอว่าควรให้เพิ่มมั้ย เพราะแผลน่าจะอักเสบ” อัจฉราพยักหน้า ก้มหน้าจดอาการคมเขี้ยวลงบนสมุดบันทึกประวัติอาการป่วย


“เขี้ยวสูง 194 น้ำหนักยังเท่าเดิมมั้ย” อัจฉราหันมายิ้มแซว คมเขี้ยวยิ้มตอบกลับและพยักหน้าตอบกลับไป เรียวจันทร์เบ้ปากเล็กๆ


“เดี๋ยวถอดเสื้อตัวนอกออกวัดความดันก่อนนะ” คมเขี้ยวถอดเสื้อยีนตัวนอกออกส่งให้เรียวจันทร์ที่ยืนทำปากมุบมิบๆ อยู่คนเดียว คมเขี้ยวยิ้มเบ้ปาก เบี่ยงตัวไปทางขวา ยื่นแขนซ้ายเข้าเครื่องวัดความดัน อัจฉรากดปุ่มแล้วเครื่องก็เริ่มบีบรัดแขนคมเขี้ยวจนแน่นอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะคลายออกพร้อมกับมีกระดาษสีขาวแผ่นเล็กๆ ปริ้นออกมาจากเครื่อง


“ความดันปกตินะ เดี๋ยวนั่งรอพบคุณหมอนะเขี้ยว” อัจฉรายิ้มหวานเหมือนใบหน้า คมเขี้ยวยิ้มตอบ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เรียวจันทร์กำลังจะเดินตามคมเขี้ยวไป แต่ก็ต้องชะงัก


“สวัสดีค่ะคุณเรียวจันทร์” คนถูกทักหันไปมอง เรียวจันทร์สัมผัสได้ว่าแม่เอื้องเยื้องย่างมองนางด้วยสายตาที่สตรองมากขึ้น คุณนายยิ้มเฉียบและเอ่ยกลับเสียงเรียบ


“สบายดีค่ะหลวงพระบาง” แต่ถึงจะสตรองยังไง หล่อนก็นกไปแล้วย่ะ ถ้าคิดบินกลับมาอีก แม่จะใช้หนังสติ๊กยิงให้ร่วงเลย


นางเดินตามคมเขี้ยวไปนั่งที่เก้าอี้สำหรับรอหน้าห้องตรวจ ไม่หันไปสบตากับอัจฉราอีก ใบหน้าสวยหันไปมองคมเขี้ยวเป็นระยะ สามีของนางไม่ได้หันมองหรือสบตากับแม่ช่อเอื้องนั่นแม้แต่นิด เอาแต่วุ่นวายกับการใช้เสื้อปิดขานางไว้แล้วตัวเองก็นั่งโชว์กล้ามแขนแทน


“พี่ต้องใส่สิ ปิดกล้าม หนูหวง”


“หนูนั่นแหละปิดไว้” เรียวจันทร์ทำปากยื่น คมเขี้ยวยกมือซ้ายตีหัวเรียวจันทร์เบาๆ คุณนายยื่นหน้าไปกัดกล้ามแขนด้วยความมันเขี้ยว คมเขี้ยวนั่งขำน้อยๆ


แม้จะนั่งปฏิบัติหน้าที่แต่สองคนนั้นนั่งอยู่ตรงหน้า เยื้องสายตาขนาดนี้ อัจฉราจึงเห็นหมดทุกอย่าง หล่อนข่มใจให้นิ่งและใช้สมาธิกับการทำงานของตัวเองต่อไป หล่อนบอกใจให้เข้มแข็ง เดินหน้ามาได้ขนาดนี้แล้ว ต้องเดินต่อไปจนทิ้งผู้ชายคนนั้นไว้ข้างหลังให้ได้สนิทใจจริงๆ


‘เอื้องตกต่ำขนาดไหนกัน ถึงมีความคิดจะไปแย่งผู้ชาย’

‘เพื่อนเอื้องบอกต้องไม่ยอม เรามาก่อน เราต้องได้ก่อน’

‘แต่คนชื่อเรียวจันทร์ก็ได้ไปแล้วนี่ครับ อีกอย่างเขาเป็นผู้ชายด้วย ถ้าคุณเขี้ยวมีรสนิยมคบผู้หญิงมาตลอด แต่วันนี้เขาเลือกคบผู้ชายแล้ว ผมว่าเขาตัดสินใจดีแล้วละครับ’

‘แต่เอื้องเจ็บใจอะหมอ’

‘เจ็บตอนนี้แค่นี้ยังดีกว่าเจ็บมากไปกว่านี้ ถ้าคุณเขี้ยวเขาจะเลือกเอื้องจริงๆ เอื้องถูกเลือกไปนานแล้วนะหมอว่า’



อัจฉรารู้สึกแสบร้อนที่ตาเหมือนน้ำตาจะไหล แต่หล่อนก็แข็งใจทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปเหมือนที่ทำมาตลอดนับตั้งแต่ถูกคมเขี้ยวปฎิเสธอย่างเป็นทางการ


‘เอื้องมีค่าในตัวเองนะ อย่าลดคุณค่าตัวเองเลย’



นั่งรออยู่ประมาณสิบนาที คมเขี้ยวก็ถูกเรียกเข้าไปพบคุณหมอ เรียวจันทร์จำได้ว่าคือคุณหมอที่เคยรักษานางคราวก่อน และเป็นคนเดียวกับที่นางบังเอิญเจออยู่กับอัจฉราสองคนที่ร้านอาหาร แอบนึกสงสัยว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของคุณหมอกับแม่ช่อเอื้องคือระดับไหน ไปไกลกันหรือยัง นางหวังอยากให้ไปไกลๆ ไปทรินาแดดแอนด์โทเบโก้เลยยิ่งดี ซึ่งนางไม่รู้หรอกนะว่าที่นั่นมันอยู่ตรงไหนของโลกแล้วก็ไกลแค่ไหน


“ที่เย็บไว้ยังอยู่ แต่น่าจะเพราะยกของเลือดเลยออก แต่หมอสั่งห้ามนะครับว่าห้ามยกอะไรอีกเด็ดขาดถ้าไม่อยากเย็บแผลเพิ่ม…” คุณหมอบอกพลางใช้ที่คีบคีบสำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดแผลให้คมเขี้ยวที่กล้ามเนื้อหน้ากระตุกนิดหน่อยกับความแสบและแรงกดสำลีของหมอ พอเสร็จแล้วก็ปล่อยให้นางพยาบาลผู้ช่วยอีกคนที่ไม่ใช่อัจฉราช่วยพันแผลให้


“…หมอจะให้ยาแก้อักเสบเพิ่ม อาการไข้มีผลมาจากแผล แต่คนไข้แข็งแรงดี อีกแปบก็หายครับ แล้วก็อย่าให้แผลโดนน้ำ ทำแผลที่บ้านเองได้ ถึงวันตัดไหมก็ค่อยกลับมา” คุณหมอพูดเร็ว แต่ก็ชัดเจน มือที่ถือปากกาสีน้ำเงินจดเร็ว เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว นึกสงสัยตลอดมาว่าพวกคุณหมอเขาเคยมีอ่านลายมือตัวเองไม่ออกมั่งมั้ย เพราะจดยึกยือกันเหลือเกิน และก็นึกสงสัยด้วยว่ากับยัยเอื้องเยื้องย่าง คุณหมอถึงขั้นไหนแล้ว


“คุณหมอมีแฟนยังคะ” เรียวจันทร์สะดุ้งกับคำถามตัวเอง นางตาโตตกใจ ยกมือขวาปิดปากอย่างเร็ว นางห้ามไม่ทันจริงๆ ความคิดมันพุ่งแทรกเข้ามา แล้วนางก็ปล่อยมันออกมาเต็มปากเต็มคำ


จริงๆ นางอยากถามด้วยซ้ำว่ากิ๊กกับยัยเอื้องรึเปล่า


“อันนี้เป็นอาการป่วยรึเปล่าครับ” คุณหมอเอ่ยแซวยิ้มๆ กับเรียวจันทร์ นางหันไปมองคมเขี้ยว อีกฝ่ายทำตาดุใส่นิดหน่อย


“เปล่าค่ะ พอดี เห็นคุณหมอหล่อเกาลี้เกาหลีเลยคิดว่าไม่น่าพลาด” คุณหมอเขียนอะไรอีกสักสามบรรทัดแล้วก็ปิดสมุด ยื่นให้นางพยาบาล และหันมองเรียวจันทร์พร้อมยิ้มหล่อ


“หมอยังโสดครับ คุณเรียวจันทร์จะมายกเลิกสถานะนั้นให้หมอก็ได้นะ” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ แววตาเป่งประกายดีใจ จนลืมดูสีหน้าพร้อมบีบคอของคมเขี้ยว


“คุณหมอรู้จักเรียวด้วย?!” คุณหมอหล่อใสเกาหลีปากแดงยิ้มขำ


“หมอจำคุณได้ครับ ก็คราวที่แล้วตาแดง ตัวแดงอย่างกับคนเป็นโรคร้ายขนาดนั้น” วืดดด!


นางก็นึกว่าจะจำนางได้เพราะงานเดินแบบถ่ายแบบซะอีก ที่ไหนได้ไปจำภาพตอนไม่สวยของนางซะงั้น คุณหมอนะคุณหมอ


“แหม หมอ ภาพเรียวสวยๆ เยอะแยะค่ะ เสิร์จกูเกิ้ลดูก็ได้ ไปจำภาพนั้นทำไมล่ะคะ” นางว่าหน้างอนตุ้บป่อง คุณหมอหนุ่มยิ้ม


“หมอไม่ได้ไล่นะครับ แต่คนไข้รออีกเพียบเลย อีกอย่าง คุณคมเขี้ยวเหมือนอยากจะต่อยหมอ” คนที่โดนกล่าวถึงทำหน้าเหวอนิดหนึ่งที่ถูกหมอแซว คมเขี้ยวยกนิ้วเกาปลายจมูกแก้เก้อ เรียวจันทร์ยิ้มขวยเขินนิดๆ


“ก็สวยอะเนอะหมอ…” เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืนพร้อมกับคมเขี้ยว จากที่กำลังยิ้มดัดจริตนางก็หุบยิ้มอย่างเร็วเพราะนึกอะไรขึ้นได้


“…ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว คุณหมอชื่ออะไรคะ อยากทราบเป็นบุญหู”


“หมอชื่อมาร์คครับ”


“ต๊าย หมอมาร์คขึ” คุณหมอยิ้มอย่างเป็นมิตร คมเขี้ยวสั่นหัวหน้าเอือม ดึงมือเรียวจันทร์ออกจากห้องตรวจไปอย่างเร็วก่อนที่แม่ตัวดีจะโปรยผงเสน่ห์ไปมากกว่านี้







กลับจากโรงพยาบาล ทั้งสองคนก็แวะไปดูร้านขายนมข้าวโพดนอกฟาร์มที่สถานช้อปปิ้งชื่อดังแห่งหนึ่งในเขาใหญ่ โดยปกติสินค้าของฟาร์มจะขายที่ฟาร์มเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวที่นั่นด้วย แต่ก็มีบางอย่างที่ขยายสาขาออกมาด้านนอก แต่ก็เน้นในแหล่งค้าขายใหญ่ๆ หน่อย และยังมีคนมาขอรับนมข้าวโพดไปขายตามข้างทางด้วย แต่ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝนคนมาเที่ยวน้อย รายได้เลยลดลงบ้างเป็นปกติ แต่ก็ยังถือว่าอยู่ได้ไม่ขาดทุน


พอเสร็จธุระก็พากันกลับฟาร์ม ช่วงหน้าฝนแบบนี้ทำงานลำบาก แต่คนงานในฟาร์มก็ขมักเขม้นกับการเตรียมงานประจำ (ปลาย) ปีของฟาร์มที่จะเกิดขึ้นหลังพ้นหน้าฝน แม้จริงๆ จะกำหนดยากว่าจะจัดวันไหนเพราะหน้าฝนในประเทศไทยเดายาก แต่คมเขี้ยวก็ยึดตามเกณฑ์เดิมของตัวเองทุกปี


“โอ๊ะ วันเกิดหนูค่ะ 13 พฤศจิกายน” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ


“ไม่เป็นมงคลละ เปลี่ยนวันดีกว่า” เรียวจันทร์เบ้ปากพร้อมถลึงตา ยกมือขวาตีเป้าคมเขี้ยวเบาๆ หนึ่งที ร่างสูงยิ้มขำ


“พี่เขี้ยวล่ะเกิดวันไหน” เรียวจันทร์ถามในขณะที่เดินตรงไปทางคอกม้า


“เกิดต้นปีโน่น เดือนกุมภาฯ เลขเดียวกับหนูแหละ” เรียวจันทร์ยิ้มตาหวาน


“อู๊ย ถึงจะคนละเดือน แต่เลขวันก็เลขเดียวกัน แล้ววันล่ะ นุ้งเกิดวันจันทร์ พี่เขี้ยวเกิดวันอะไรคะ” คมเขี้ยวยิ้มเบ้ปากนิดหน่อย ในขณะที่เอาศอกเท้าแขนกับไม้คอกม้า


“ฮึ้ยยย วันเดียวกันกับหนูเลย” เรียวจันทร์ยกสองมือป้องปาก เดินเข้าไปกอดคมเขี้ยว ชายหนุ่มยืดตัวเต็มความสูงและหันตัวเข้าหาแม่คุณนาย จะได้กอดเขาได้เต็มตัว


“โชคดีที่ไม่เกิดเดือนเดียวกัน” เรียวจันทร์ยื่นหน้าไปกัดหัวนมซ้ายไอ้เขี้ยวกุดผ่านเสื้อกล้าม คมเขี้ยวสะดุ้งพร้อมร้องโอ๊ย ก่อนจะหัวเราะเบาๆ


“ถอดเสื้อตัวนอกให้หน่อย” เรียวจันทร์ทำตามที่อีกฝ่ายบอก ค่อยๆ ถอดเสื้อตัวนอกออกจากตัวโตๆ พอถอดได้ คมเขี้ยวก็ดึงเสื้อมาไว้ในมือและเอาไปพันรอบเอวเรียวจันทร์จนปิดช่วงต้นขาขาวเนียนเกินผู้ชายได้เกือบมิด


“แหม หวงแม้กระทั่งในฟาร์มเลยนะคะ” เรียวจันทร์แซว ยิ้มล้อนิดหน่อย คมเขี้ยวทำเพียงกระตุกยิ้มเบาๆ ก่อนจะกระโดดข้ามรั้วไม้เข้าไปในคอกม้า


“เข้ามา” คมเขี้ยวบอกพลางยื่นแขนมาจะจับใต้ต้นแขนของเรียวจันทร์ แต่คนตัวเล็กเขยิบหนี


“ไม่ต้องเลย ลืมแล้วเหรอว่าหมอสั่งห้ามยกคนยกของ เดี๋ยวหนูข้ามเอง” ว่าเสร็จคุณนายแม่ก็ปีนขึ้นไปบนรั้วไม้อย่างเก้ๆ กังๆ ตัวเอียงจะหล่นแหล่มิหล่นแหล่ แต่ก็ได้คมเขี้ยวคอยประคองจนเข้ามายืนอยู่ในคอกม้าได้สำเร็จ นางหันไปมองรอบๆ และหันกลับมายิ้มให้คมเขี้ยว


“เราเข้ามาที่นี่ทำไมเหรอ”


“พี่จะพาไปหาไอ้เดือนหงาย ไปขอโทษมัน จะได้ดีกัน”


“อ๋อ ได้ อะไรนะ?! ไม่! หนูไม่ไป!” พอได้สติรู้ตัวว่ากำลังจะโดนพาไปไหน คุณนายก็ตั้งท่าจะปีนหนีออกนอกรั้ว แต่คมเขี้ยวก็ไวพอที่จะคว้าตัวบางๆ ร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนซ้าย เลยกลายเป็นว่ามือเรียวจันทร์จับรั้วแน่น ลำตัวลอยเพราะโดนคมเขี้ยวอุ้มและดึงไว้


“ไป จะดีกับพี่ ก็ต้องดีกับไอ้หงายด้วย มันโตมาพร้อมพี่ มันเหมือนน้องชายพี่อีกคน” คมเขี้ยวว่าเสียงเข้ม คนงานในคอกม้าเริ่มหันมาสนใจทั้งสองกันมากขึ้น


“ไม๊!!! พี่จะบ้าเหรอ ไปมีน้องเป็นม้าตั้งแต่เมื่อไหร่ มีดินคนเดียวก็พอแล้ว ปล่อยนะ ปล่อยยย!”


“อย่าดื้อ รอบสองในห้องน้ำ บอกว่าจะเป็นเด็กดีของพี่ไม่ใช่เหรอ”


“หนูขอถอนคำพูดสี่สิบแปดชั่วโมงนับจากนี้!” เรียวจันทร์ใช้มือดึงขอบรั้วไว้แน่น ในขณะที่คมเขี้ยวก็พยายามดึงร่างเล็กให้หลุดจากรั้วจนตัวเรียวจันทร์ลอย ถ้าไม่ติดว่าหมอสั่งห้ามออกแรงแขนขวาเยอะเขาดึงแม่ตัวดีหลุดไปแล้ว


“เฮ้ย! พวกมึงเอาไอ้เดือนหงายมานี่ดิ๊!” เรียวจันทร์หยุดดิ้น เบิกตากว้างพรึ่บและหันไปมองทางโรงม้า นางปล่อยมือออกจากรั้ว และพยายามผลักตัวเองออกจากตัวคมเขี้ยว แต่ไอ้เขี้ยวกุดก็กอดนางไว้เต็มอ้อมแขนและรัดซะแน่นจนนึกว่างูกำลังรัดเหยื่อ


“ไอ้พี่เขี้ยวปล่อยหนู!”


“ไม่ปล่อย ดีกับไอ้หงายก่อน มันจะได้พาเที่ยว”


“ม้ามันไม่ใช่ไกด์นะ มันพาเที่ยวไม่ได้หรอก! ไอ้เขี้ยวกุด ปล่อยยย!”


“บอกให้เรียกพี่!”


“อีพี่เขี้ยววว!” เรียวจันทร์กรีดร้องและออกแรงดิ้นเยอะขึ้นเมื่อไอ้ม้าสีดำเดินเตาะแตะๆ มาทางที่นางยืนอยู่ สักพักมันก็หยุดยืนมองเจ้านายมันกับคนที่มันยังไม่รู้ว่าเป็นเมียเจ้านายนิ่ง เรียวจันทร์ก็นิ่ง ยืนจ้องตากับไอ้ม้าสีดำมันเลื่อม มันจ้องมองร่างขาวเนียนอย่างพิจารณา แล้วไม่นานมันก็หายใจฟึดฟัด ทำท่าเดินหน้าถอยหลัง แค่นั้นแหละคุณนายก็สติแตก ดิ้นหลุดจากคมเขี้ยวได้ก็วิ่งหนี


“เฮ้ย!!” แต่ที่บันเทิงไปกว่านั้นคือไอ้ม้าสีดำพอเห็นคนวิ่งมันก็วิ่งตาม เรียวจันทร์วิ่งหน้าตั้ง ส่งเสียงกรีดร้องไปรอบคอกม้า ยิ่งกรี๊ดม้าก็ยิ่งดูจะคึก


“เรียวจันทร์!! กลับมานี่!!” คมเขี้ยวตะโกนเรียกร่างเล็กที่ดูจะสติหลุดวิ่งวนไปรอบคอกม้าแบบไร้จุดหมายปลายทาง ทีแรกเขาก็กลัวว่าไอ้เดือนหงายจะทำอะไรคุณนายมั้ย แต่ดูจากจังหวะการวิ่งของมัน เขาก็หยุดตะโกนและเปลี่ยนเป็นหัวเราะแทน เพราะดูท่าไอ้หงายอยากเล่นกับยัยคุณนายมากกว่าจะแก้แค้น


ปล่อยให้วิ่งเบิร์นเอาเหงื่อออกจากตัวสักพักแล้วกัน ก็ขำดีเห็นหน้าสวยๆ ตื่นตูมตาแทบหลุดแบบนั้น


“ว้ากกกก!!!”



 

:hao3:


มาาาา ต่อกันให้จบบบบ

ตอนนีทำใจเรื่องต้นฉบับหายวับไปกับตาได้แล้ว (ใครไม่ทันอ่าน ไปย้อนอ่านได้ที่เพจเด้อค่ะ) ตอนนี้เหลืออีกนิดหน่อยเลยมาต่อให้จบกันไปเลยจิดีกว่าาาา

เขาก็ดีกันเลี้ยวนั่นล่ะ แค่ว่าพี่เขี้ยวยังวางมาดข่มน้องหนูอยู่ โดนลบเหลี่ยมไป เลยอยากได้เหลี่ยมคืนงี้ป่ะพี่เขี้ยว คริๆ

สรุปน้องเอื้องเลือกที่จะเดินหน้าต่อ แม้จะโกรธแค้นเคืองและเสียหน้าที่ตัวเองนก แต่บุรุษนิรนามผู้นั้นก็ช่วยเรียกสติเอื้องคืนมาว่าลดคุณค่าตัวเอง

ปรบมือให้นางค่าาาา และขอบอกว่าเอื้องคิดถูกแล้วที่เลือกจะเดินหน้า เพราะถ้าวกกลับมา อีแม่ยิงร่วง 5555555

ตอนนี้ก็พาเมียมาดีกับม้า แต่ดูท่าเมียจะไม่ชอบม้าเนาะพี่เขี้ยวเนาะ

ตอนนี้พรีออเดอร์หนังสือพ่อเขี้ยวแม่เรียวเหลือเวลาอีกราวหนึ่งอาทิตย์ในการโอนเงินค่ะ ปิดโอนเงิน 16 พฤษภาคม เด้อค่า

ตอนพิเศษในเล่มแน่นมาก ประเด็นในตอนพิเศษจะเชื่อมต่อจากตอนหลักที่ลงเว็บเลยค่ะ ไม่ได้เขียนสตอรี่ขึ้นมาใหม่ ผู้ใดสนใจ เข้าไปอ่านรายละเอียดของทั้งสองคนพร้อมรายละเอียดของแถมได้ที่ > พรีพ่อเขี้ยวแม่เรียว (https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1389304&chapter=29)
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/100% :09.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 09-05-2017 22:56:13
ตอนนี้คือมาคลายเครียดใช่มั้ยคะ อิอิ
พี่เขี้ยวพอหายงอนก็หวงเมียหนักกว่าเดิมอีกนะคะ
ปล.ชอบคุณนายก็ตรงที่นางสู้คน แต่ไม่ทำร้ายใครก่อนนี่ล่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/100% :09.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Maii2206 ที่ 09-05-2017 23:03:11
นังช่อเอื้อง หนูนกแล้วนะคะ ฮิฮิ

ตอนนี้มาแบบสบายๆ  :-[ หวังว่าเสี่ยคงจบหมดเรื่องหมดราวมั้ยเนอะะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/100% :09.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-05-2017 23:50:18
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/100% :09.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-05-2017 00:01:57
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/100% :09.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 10-05-2017 00:59:05
น่ารักอ่ะ วิ่งหนีม้า 555555555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/100% :09.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 10-05-2017 04:21:15
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/100% :09.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: gchickii ที่ 10-05-2017 08:36:15
เป็นกำลังใจให้นักเขียนน้า
อยากบึนปากใส่ผัวเมียคู่นี้มากกกกกกกก หมั่นไส้ 555
งอนกันไปง้อกันมา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/100% :09.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 10-05-2017 09:04:37
ทำคุณนายยย สงสารก็สงสาร หรือนี่คือการแก้แค้นของพี่เขี้ยว 55555555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/100% :09.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 10-05-2017 10:52:07
 :z2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๒๙/100% :09.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 11-05-2017 20:31:51
โอย อย่าแกล้งหนูเรียว(?)มากนักเลย เป็นคนขวัญอ่อน 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/ครี่งแรก:13.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 13-05-2017 20:49:52


คาถาที่ ๓๐ :: Please go away. (ไปตามทางของคุณเถอะ) [ครึ่งแรก]




“มานี่! อย่าดื้อ” เรียวจันทร์ส่ายหัวหน้าตั้ง กอดเสาคอกม้าไว้แน่นไม่ยอมปล่อยตัวและใจไปกับแรงดึงของคมเขี้ยวที่พยายามลากนางให้ออกไปขี่ไอ้เดือนหงาย

           

 

“ไม่ไป! หัวเด็ดฮีขาดยังไงหนูก็ไม่ไป พี่ไม่เห็นรึไงว่าเมื่อวานมันไล่ขวิดหนูอย่างกับควาย!” เมื่อวานนางวิ่งวนในคอกม้าอยู่เป็นนาทีๆ พอตั้งสติได้ก็วิ่งออกจากคอกม้า รีบไปซุกตัวอยู่ในห้องนอนออฟฟิศที่นางคุ้นเคย คมเขี้ยวตามมาต่อว่าหาว่านางขี้ขลาด ทะเลาะกันจนนางงอนไม่ขอขึ้นไปนอนบนห้องด้วย ไอ้เขี้ยวกุดก็ตามมาด่าตอนดึกและก็เนียนนอนกอดนางทั้งคืน

           

 

แต่เช้าวันถัดมาดูท่าความตั้งใจพี่แกไม่ลดละ พยายามจะจับนางขึ้นหลังไอ้เดือนหงายให้ได้ ตัวเองอุ้มนางไม่ได้ ก็ใช้วิธีถูลู่ถูกังกันมาจนมายืนอยู่ตรงหน้าม้าตัวใหญ่

           

 

“เดี๋ยวพี่ขึ้นไปด้วย”

           

 

“ไม่ขึ้น! ไม่ไปไหนทั้งนั้น” นางเสียงแข็งและกอดเสาต้นเดิมแน่นไม่ยอมปล่อย เกาะแน่นยิ่งกว่าปลวกอีก

           

 

“เรียว! บอกอะไรให้ฟังมั่ง” คมเขี้ยวเริ่มดุ (อีกละ)

           

 

“อันนี้หนูไม่ฟัง ไม่อยากฟัง พี่นั่นแหละต้องฟังหนู…” นางเบะปากหน้างอ หันไปมองคมเขี้ยวน้ำตาคลอ แล้วนางก็…

           

 

“...♪~ถึงเวลาาา~ เธอจะฟังชั้ลได้ลึยังงงง…. ถึงเวลาเสียงของชั้นควรมีความหมายยย… เลิกพูดคำที่เธอต้องการ… หยุดฟังซักทีดั้ยมั้ยยย~♫!!!!” …แหกปากร้องเพลงพี่ดา เอ็นโดรฟินตั้งแต่สมัยเมื่อนางยังไม่แตกเนื้อสาวทั้งน้ำตา คมเขี้ยวที่กำลังเข้มๆ อยู่ถึงกับหลุดขำนิดๆ แต่พวกคนงานที่ยืนมองทั้งสองคนฉุดกระชากกันไปมาหัวเราะกันดังลั่น เรียวจันทร์สะอื้นน้อยๆ หันไปมองรอบๆ ด้วยสายตาน่าสงสร

           

 

“แค่ขี่ม้า จะกลัวอะไรนักหนา”

           

 

“ก็หนูกลัวอะ พี่เขี้ยวไม่เข้าใจความกลัวรึไง หนูเคยทำร้ายมันนะ” นางเบะปาก น้ำตานองสองแก้ม

           

 

“อ้าว จำได้นี่ว่าเคยทำอะไรมันไว้ คิดจะไถ่โทษพี่ ก็ต้องไถ่โทษไอ้หงายด้วย” คมเขี้ยวพยายามดึงตัวนางออกจากเสาไม้ แต่นางรัดแขนตัวเองแน่นเสา

           

 

“ไม๊!” เรียวจันทร์งอแง ส่ายหัวไม่เอา คมเขี้ยวเริ่มหงุดหงิด แค่ไอ้กางเกงขาสั้นแบบเดิมก็ทำหงุดหงิดมากพอละ ยังจะมาทำนิสัยอย่างนี้อีก

           

 

“เรียว ไหนว่าจะง้อพี่ไง” คมเขี้ยวถามเสียงกดต่ำ ราวกับกำลังข่มขู่ เรียวจันทร์สะอื้นเป็นพักๆ

           

 

“ง้อพี่ ไม่ใช่ง้อม้า หนูไม่ง้อมันหรอก” นางบอกอย่างดื้อดึง คมเขี้ยวมองหน้าสวยๆ ที่น้ำตาอาบเต็มแก้มแล้วถอนหายใจใบหน้าเสียอารมณ์

           

 

“งั้นก็ขึ้นบ้านไปเลยไป ไม่ต้องลงมาอีกนะ อยู่แต่บนนั้นแหละ ลงมาเมื่อไหร่จะให้ไอ้หงายไล่ควบให้” เรียวจันทร์มองหน้าไม่สบอารมณ์ของคมเขี้ยวด้วยความน้อยใจ ปล่อยสองแขนออกจากเสาไม้อย่างช้าๆ

           

 

แค่ไม่ทำดีกับม้าตัวนึง พี่เขี้ยวต้องโกรธขนาดนี้เลยเหรอ

           

 

“ไปสิ” คมเขี้ยวกระแทกเสียง พวกคนงานยืนมองกันตาปริบแบบงงๆ ไม่เข้าใจว่าเจ้านายตัวเองเป็นอะไรขึ้นมา เรียวจันทร์เดินออกไปจากบริเวณนั้นและยกสองมือปาดน้ำตาออกจากแก้มเหมือนเด็กน้อย คมเขี้ยวมองตามตาดุและหันกลับไปสั่งงานลูกน้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

           

 

วันนั้นทั้งวันเรียวจันทร์เก็บตัวอยู่แต่บนบ้านไม่กล้าลงไปข้างล่าง นางนั่งเหงาหงอยเหมือนเจ้าหญิงบนหอคอยสูง พอเจ้าชายกลับขึ้นมาบนบ้านในช่วงเย็น ก็ยังทำท่าปั้นปึ่งไม่ยอมคุยกับนาง ไม่ใช่ว่าจนปัญญา แต่นางเองก็มองว่ามันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง จะเคืองนางเพราะไม่ยอมดีกับม้าตัวเองเนี่ยเหรอ

           

 

“พี่เขี้ยวจะโกรธหนูเพราะไอ้ม้าตัวนี้เนี่ยนะ” คมเขี้ยวหันไปมองเรียวจันทร์ในขณะที่กำลังถอดเสื้อเตรียมอาบน้ำ

           

 

“ใช่” ร่างสูงตอบสั้นห้วนและหน้าตาย ถอดกางเกงยีนออกจากขา โยนไว้บนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ

           

 

“กระสุนตัดเส้นสติขาดไปด้วยเหรอ ถึงได้มีชีวิตเพี้ยนแบบนี้ ไอ้เขี้ยวกุด!” เรียวจันทร์แหวอย่างหงุดหงิด มองหน้าคมเขี้ยวด้วยสีหน้าบึ้งตึง

           

 

“แล้วมันจะยากอะไร กับอีแค่ขี่ม้า พี่ก็ขึ้นไปด้วย กลัวไรนักหนา ดีดดิ้นดัดจริตอยู่ได้” เรียวจันทร์ตาแข็งเบาๆ ใส่คมเขี้ยว แต่อีกฝ่ายดูไม่ได้จะใส่ใจอารมณ์ของนางสักเท่าไหร่

           

 

“เออ ฉันมันดัดจริต แต่นายมันอำมหิต คนกลัว ก็ยังบังคับกันอยู่ได้ ถ้าฉันอยากจะดีกับมัน เดี๋ยวฉันซื้อลูกอมโอเล่ย์ไปง้อมันเองแหละ!”

           

 

“บอกให้แทนตัวว่าไร?!”

           

 

“ไอ้เขี้ยว!!” เรียวจันทร์เปล่งเสียงดังลั่นห้อง คมเขี้ยวเบิกตากว้างมองด้วยสายตาดุ คุณนายก็ไม่ยอม จ้องตาแข็งที่เพิ่มดีกรีขึ้นกว่าเดิมกลับไป

           

 

“กลับไปนอนออฟฟิศเลยไป คืนนี้ไม่ต้องนอนนี่!” เรียวจันทร์ชะงักกึก แววตาแข็งเมื่อกี้เปลี่ยนเป็นวูบไหวทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น นางพยายามข่มความน้อยใจที่ตีตื้นขึ้นมาเป็นน้ำตาตรงขอบตา หันตัวไปกวาดเสื้อผ้าของตัวเองออกจากตู้ของคมเขี้ยว และเดินเท้ากระแทกพื้นออกจากห้องไปโดยที่เจ้าของห้องไม่ได้มีทีท่าจะรั้งไว้เลยสักนิด

           

 

สรุปคืนนั้นนางต้องนอนที่ออฟฟิศจริงๆ นอนร้องไห้เกือบทั้งคืนจนหลับไปคมเขี้ยวก็ไม่มาง้อ คนอื่นๆ ก็คงคิดว่านางหลับอยู่ในห้องคมเขี้ยว เย็นนั้นนางไม่กินข้าว ไม่อาบน้ำ แต่นอนร้องไห้ด้วยความน้อยใจจนหลับไป

 

 

 

            เช้าวันถัดมา เรียวจันทร์ก็ไม่ออกไปพบใคร ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องนอนออฟฟิศ อาบน้ำแต่งตัวใหม่ก็นอนซึมมันทั้งวัน มือถือก็ไม่ได้หยิบลงมาจากห้องนอนคมเขี้ยวเลยยิ่งเปลี่ยวไปอีก

           

ก๊อก ก๊อก

           

 

เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้น เรียวจันทร์พ่นลมหายใจ ลุกขึ้นไปเปิดอย่างเชื่องช้า พอเปิดก็เจอกับหน้านิ่งเคร่งเครียดของคนที่ทำให้นางนอนซึมอยู่แบบนี้ เรียวจันทร์นึกลุ้นในใจว่าคมเขี้ยวจะง้ออะไรนางมั้ย

           

 

“เมื่อกี้ไอ้ฝรั่งที่ชื่อแจเร็ดสไกป์มาหา กดรับกดคุยให้ละ…” พูดเสร็จก็ยื่นโทรศัพท์ให้เจ้าตัว เรียวจันทร์รับมาไว้ในมือ หน้าตาไม่ได้สะทกสะท้าน

           

 

“…ไหนบอกว่าเคลียร์กับมันเข้าใจแล้ว ทำไมมันยังคิดจะมาหา” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว

           

 

“แล้วเพื่อนกันมาหากันไม่ได้รึไง?” คมเขี้ยวยิ้มหึ แววตาดุจนเรียวจันทร์แอบกลัว

           

 

“เพื่อนกัน ส่งรูปหากันน่ารักดีเนอะ” น้ำเสียงประชดประชันอย่างจับได้ชัดเจน เรียวจันทร์เรียกสติกลับมาได้ก็ปล็ดล็อคโทรศัพท์ กดเข้าไปในสไกป์ก่อนแต่ก็ไม่เจอรูปอะไร เลยเข้าไปดูในวอทสแอพ พอเห็นรูปที่แจเร็ดส่งมาก็ตัวร้อนวูบ รู้สึกเกิดอารมณ์ทางเพศ เอ่อ ไม่สิ ต้องบอกว่านางอยากจะเป็นลมถึงจะเหมาะสมกับคาแร็คเตอร์หญิงใหญ่ในวังหลวง

           

 

แต่แหม รูปแจเร็ดใส่กางเกงในตัวเดียวมันเสียวจริงๆ นะ

           

 

“บางทีอีเป็ดก็ส่งรูปตัวเองในชุดชั้นในลายคิตตี้มาให้ดูเหมือนกัน” คุณนายนางว่าหน้าตาย น้ำเสียงออกจะสบายๆ ด้วยซ้ำ คมเขี้ยวนิ่งขึ้น สายตาเนี้ยบกว่าเดิม จนเรียวจันทร์ต้องหลบสายตาและสีหน้านั้น

           

 

“กลับขึ้นไปนอนข้างบน” หน้าสวยมุ่ยทันทีไม่มีรีรอ

           

 

“อะไรอะ เมื่อวานไล่ลงมานอนข้างล่าง วันนี้ให้ขึ้นไปนอนข้างบน คือจะจับจะเหวี่ยงไปไหนยังไงก็ได้เหรอ?!”

           

 

“บอกให้ทำอะไรก็ทำ ทีไอ้จอมทัพสั่งให้ทำ ยังยอมทำ พี่สั่งแค่นี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย ไม่ต้องไปหลอกอะไรใครด้วย” เรียวจันทร์มองคมเขี้ยวอย่างเหลืออดเหลือทน

           

 

“นี่พี่จะแค้นฝังหุ่นตุ๊กตาวูดูแล้วเอาเข็มมาจิ้มกันเลยมะ?!”

           

 

“ไป เร็วๆ” คมเขี้ยวกระแทกเสียง หน้าตาจริงจัง เรียวจันทร์จ้องมองใบหน้าหล่อที่ช่วงนี้แลจะตีหน้าโหดและเสริมความเหี้ยมเข้าไปมากกว่าปกติ นางกัดริมฝีปากล่าง เดินกระแทกไหล่ซ้ายใส่คมเขี้ยว ไม่สนเสื้อผ้าห่าเหวอะไรอีก ดีไม่ดีคืนนี้นางโดนไล่ตะเพิดกลับมานอนนอกห้องอีกด้วยมั้ง

           

 

ช่วงเวลาบ่ายถึงเย็นของวัน เรียวจันทร์ก็ไปช่วยงานป้าอุ่น ล้างชาม ล้างจาน ล้างถ้วย ล้างหม้อ ล้างไห ล้างหีบจนสะอาดและช่วยทำกับข้าวให้คนงาน พอทำเสร็จก็โดนคมเขี้ยวที่ยังปั้นปึ่งใส่ลากกลับขึ้นไปกินข้าวบนบ้านใหญ่ บนโต๊ะอาหารนางเงียบ คุยบ้างนิดหน่อยจนป๋ากับแม่และดินจับสังเกตได้ แต่ไม่มีใครถาม เห็นเพียงสายตาข่มของคมเขี้ยวที่ทำใส่เรียวจันทร์แทบจะตลอดเวลาก็พอจะรู้

           

 

“พรุ่งนี้มีงานกี่โมงถึงกี่โมง” คมเขี้ยวถามหลังจากกลับเข้ามาอยู่ในห้องนอนกันแค่สองคนแล้ว

           

 

“บ่ายงานนึง เย็นงานนึง” เรียวจันทร์ตอบเสียงสะบัด

           

 

“พี่ติดงาน ไปด้วยไม่ได้ เดี๋ยวให้ไอดินไป”

           

 

“ไม่ต้อง ไปเองเป็น” คุณนายตอบเสียงห้วนหน้าบิดปากเบี้ยว

           

 

“ไม่ต้องขับเอง ให้ไอ้ดินไปส่ง จะได้ไม่ต้องไปแจกจริตที่ไหนอีก” เรียวจันทร์ย่นคิ้วก่อนจะตามด้วยเบะปากน้อยๆ

           

 

“เดี๋ยวจะโดนตบปากเบี้ยวจริงๆ” ร่างเล็กชักสีหน้าไม่พอใจ

           

 

“โอ๊ย! ถ้าจะพูดจาแย่ๆ แบบนี้ใส่นะ ไม่ต้องพูดกันหรอก หนูผิด หนูรู้ แต่พี่จำเป็นต้องทำท่าทางเหมือนหมาพร้อมกัดตลอดเวลาขนาดนี้ด้วยเหรอ?!” เหลืออดแล้วนะโว้ยยย! เดี๋ยวอีแม่ก็แมนต่อยหน้าซะหรอก!

           

 

“ถ้าไม่รักกันแล้วก็ไป ไม่ได้สำนึกผิดอย่างที่ปากว่าก็ไปดิ” เรียวจันทร์เม้มปากแน่น มองคมเขี้ยวด้วยความรู้สึกที่ทั้งหงุดหงิด โมโห หมั่นไส้ อยากตบ แต่ย้อนมาแบบนี้นางก็ทำได้แค่กรี๊ดอยู่ในอกคนเดียว

           

 

“เออ!!”

           

 

“พูดเพราะๆ”

           

 

“ค่า!!”

           

 

และแม้ว่าแทบจะตบกันสนั่นห้องนอน แต่พอถึงเวลาเข้านอนแล้ว คมเขี้ยวก็นอนกอดคุณนายไว้ทั้งคืน ไม่ยอมให้แม่ตัวแสบดีดดิ้นออกจากอ้อมกอดได้เลย

 

           

 

 

“ทำงานเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้าน ไม่ใช่ไปแรดต่อล่ะ” คมเขี้ยวที่อยู่ในสภาพใส่กางเกงชั้นในสีน้ำเงินเข้มตัวเดียวหันมาบอกเรียวจันทร์ที่แต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กค่อยๆ เช็ดผมที่เปียกหมาดๆ อย่างใจเย็น

           

 

“รู้แล้วค่า ส่งดินไปคุมขนาดนั้น ไม่กล้าแรดหรอก” คุณนายว่าสีหน้าประชดเล็กๆ 

           

 

“ถ้าไอ้ดินไม่ไปคือจะแรดใช่มั้ย” คมเขี้ยวถามเสียงเข้ม หยิบกางเกงขาสั้นมาเตรียมใส่ เรียวจันทร์ทำปากยื่นและค่อยคลี่ยิ้ม

           

 

“แหม ดุง่ายจริงเชียวเดี๋ยวเนี้ย” ปากว่าแต่มือยื่นไปจับลำยาวๆ ของคมเขี้ยวที่ตอนนี้นอนสงบอยู่ในกางเกงชั้นใน คุณนายดึงร่างสูงให้เข้ามาใกล้และเงยหน้ามอง อมยิ้มกรุ้มกริ่มให้กับใบหน้าเคร่งขรึมที่แสนจะหล่อมาดแมน มือซ้ายที่จับเป้าสามีอยู่ขยำเรื่อยๆ จนกระทั่งบ้องคาวบ่อยโป่งพองคับกางเกง คมเขี้ยวระบายลมหายใจแผ่วๆ สันกรามชัดแน่นเพราะความเสียว คิ้วเข้มขมวดนิดๆ

           

 

“จะแรดไหนได้อีก สยบให้กับลูกชายพ่อเขี้ยวแล้ว” คมเขี้ยวหายใจหนักขึ้น มือขวาแปะลงบนผนังห้องแต่งตัวที่ติดกับห้องน้ำ มือซ้ายยกขึ้นจับกรอบหน้าสวยของเรียวจันทร์ สีหน้าบ่งบอกถึงความอดทนอดกลั้น

           

 

“อยากเดินแบบขาเป๋เหรอ” เรียวจันทร์หัวเราะเสียงใส มือซ้ายลูบความตุงแน่นของคมเขี้ยว และลากมือผ่านความยาวที่พาดเอียงตัวอยู่ในกางเกงใน พอก้มลงมอง นางก็ต้องตาเป็นประกายเพราะส่วนหัวโผล่ออกมาทักทายตรงขอบกางเกง เรียวจันทร์เงยหน้ามองคมเขี้ยวที่ตาปรือ มือซ้ายลูบแก้มนวลของนางอย่างเบามือ

           

 

“หนูอยากช่วยนะคะพี่เขี้ยว แต่หนูต้องไปทำงาน” เรียวจันทร์บอกเสียงกระเส่า ดึงมือซ้ายออกจากเป้าคมเขี้ยว ยกขึ้นลูบเคราบนแก้ม มือขวาลงน้ำหนักบนอกเปลือยเปล่าและลากไปมา

           

 

“งานเสร็จให้กลับเลย อย่าช้านะรู้มั้ย” คมเขี้ยวว่าเสียงดุเบาๆ หน้าอยากตาเยิ้ม เรียวจันทร์คลี่ยิ้มทะเล้น

           

 

“นี่พี่เขี้ยวโกรธหนูจริงๆ เหรอเนี่ย”

           

 

“ใช่ ยังไม่ยกโทษให้ง่ายๆ หรอก…” เรียวจันทร์เบะปาก คมเขี้ยวยืดตัวเต็มความสูงดันเป้าตุงของตัวเองแนบชิดกับหน้าท้องเรียวจันทร์ สองมือจับกรอบหน้าสวยไว้เบาๆ

           

 

“…แต่ห้ามไปจากพี่ ห้ามหนีพี่ไปไหน ต้องอยู่ง้อพี่” เรียวจันทร์อมยิ้มและพยักหน้าน้อยๆ คมเขี้ยวก้มลงจูบกลีบปากสีชมพูสดอย่างมูมมาม เรียวจันทร์ตอบรับอย่างคุ้นเคย สองแขนโอบรอบคอคมเขี้ยว ริมฝีปากบดขยี้กันและกัน ก่อนที่จะใช้ลิ้นตอบโต้กันสักพัก ก่อนที่คมเขี้ยวจะผละออกจากปากเรียวจันทร์และก้มลงซุกไซ้ซอกคอขาวหอมๆ อย่างละเมียดละไมราวกับจะสูดดมทุกอณูของผิวเรียวจันทร์ไว้ให้เต็มปอดยามห่างกัน

           

 

“พี่เขี้ยว… อึ…” เรียวจันทร์ครางเสียงสั่น สองมือขยุ้มเส้นผมสีดำคมเขี้ยวเต็มสองมือ ตัวร้อนวูบวาบ ยิ่งความตุงที่ดันท้องนางอยู่ยิ่งทำให้วูบวาบเข้าไปอีก

           

 

“…พี่เขี้ยว หนูจะไปทำงานสายนะ” เรียวจันทร์ร้องบอกในขณะที่ตาปรือ ริมฝีปากเผยอ คมเขี้ยวหยุดไซ้ซอกคอ และสูดลมหายใจเข้าปอดเยอะๆ ก่อนจะผละออก เรียวจันทร์หอบน้อยๆ มองหน้าคมเข้มของคมเขี้ยวด้วยสายแพรวพราว

           

 

“แต่งตัวสิ จะได้ออกไปส่งหนู” คมเขี้ยวพยักหน้า หยิบกางเกงที่ตกลงบนพื้นขึ้นมาใส่ปิดความตุงตัวเอง หยิบเสื้อยืดสีขาวจากตู้เสื้อผ้ามาใส่ ก่อนจะพาเรียวจันทร์เดินออกไปจากห้องนอนพร้อมกับกระเป๋าสะพายข้างแบรนดังที่ใส่ของไว้เต็ม

           

 

ตอนที่เดินมาถึงครัว ดินกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับบัวบูชา แต่บัวบูชากำลังนั่งอ่านนิตยสารแทนการกินข้าว เรียวจันทร์วุ่นวายกับการหาโทรศัพท์ในกระเป๋า

           

 

“ไอ้ดิน กินอิ่มยัง” คมเขี้ยวถามพลางนั่งลงข้างมารดา เรียวจันทร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กการแจ้งเตือนต่างๆ

           

 

“อีกคำนึงก็หมดแล้วพี่ แล้วคุณเรียวไม่กินเหรอ” เรียวจันทร์เงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์

           

 

“กินจ้ะ แต่ว่าเอาไปกินบนรถได้” พูดเสร็จก็เดินไปเปิดตู้เย็นในครัว หยิบกล่องสี่เหลี่ยมใสๆ ออกมาใส่กระเป๋า

           

 

“แค่นั้นอิ่มเหรอหนูเรียว”

           

 

“หูย สบายค่ะคุณแม่ เดินแบบกินมากไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวพุงป่อง” บัวบูชายิ้มน้อยๆ หันไปมองคมเขี้ยวที่กำลังนั่งตักอาหารใส่จานข้าว

           

 

“พ่อบอกว่าเขี้ยวไม่ต้องเข้าไปในไร่องุ่นหรอก อยู่เคลียร์เอกสารในออฟฟิศนั่นแหละ”

           

 

“ไม่เป็นไร แวะเข้าไปดูหน่อยก็ได้ครับ” บัวบูชาพยักหน้าแบบไม่คิดห้าม เพราะสามีหล่อนก็ไม่ได้คิดห้ามจริงจัง

           

 

“หนูเรียว แล้วที่ว่ากองถ่ายหนังเขาจะมาถ่ายที่ฟาร์ม เขายกเลิกไปแล้วเหรอลูก”

           

 

“อ๋อ ยังค่ะ คือตอนนี้มันมีปัญหาภายในด้วย บวกกับช่วงหน้าฝน มาถ่ายตอนนี้คงลำบาก เขาเลยกะว่าจะมาช่วงฤดูหนาวแทน แต่ไม่รู้ว่าจะเคลียร์ปัญหากันเสร็จรึเปล่านะคะ คืบหน้ายังไงเรียวจะอัพเดตอีกทีค่ะ”

           

 

“บอกล่วงหน้าหน่อยเนาะ จะได้เตรียมตัวกันทัน” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่มและพยักหน้าหงึกๆ

           

 

“เอ้า สายแล้วเนี่ย จะไปก็ไป” คมเขี้ยวบอกเสียงดุหน้านิ่ง เรียวจันทร์เบ้ปากหน้างอหน่อยๆ

           

 

“โห่ ดุจังพี่เขี้ยว สักวันคุณเรียวจะหนีไปเพราะความเข้มความดุของพี่นี่แหละ” คมเขี้ยวชะงักไปนิด เลื่อนสายตาไปมองเรียวจันทร์ที่ก้มลงสนใจหน้าจอมือถืออีกครั้ง

           

 

“เออน่า ไปๆ มึงพาเขาไปได้ละ ถ้ากูไม่ติดงานกูไปเองแล้วเนี่ย”

           

 

“ดินจะแอบเป็นชู้กับคุณเรียว” ไอ้ดินมันว่าหน้ามึน มีการยักคิ้วสมทบอีกด้วย

           

 

“เดี๋ยวเถอะมึงไอ้ดิน” คมเขี้ยวมองอย่างคาดโทษ บัวบูชานั่งหัวเราะ ส่วนคนถูกพูดถึงกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดกับโทรศัพท์

           

 

“คุณเรียว ไปกันครับ” เรียวจันทร์เงยหน้าขึ้นและยิ้มให้ดิน นางเดินตามร่างหมีใหญ่ไป สักพักนึกขึ้นได้ก็หันกลับไปหาคมเขี้ยวกับบัวบูชา

           

 

“สวัสดีค่ะแม่ จุ๊บๆ ค่ะพี่เขี้ยว” นางส่งจุ๊บให้พ่อคาวบอยที่แกล้งย่นคิ้วใส่ ยกมือขวาไล่ปัดๆ ให้เดินตามไอดินไป เรียวจันทร์ย่นจมูก สะบัดตัวรีบเดินตามดินออกไปจากบ้าน

           

 

“ทำท่าทำทางไล่เขา หนูเรียวไปจริงๆ ขึ้นมา เขี้ยวจะมาโอดครวญนะ”

           

 

“หนูเรียวของแม่ไม่ไปไหนง่ายๆ หรอก”

           

 

“อย่ามั่นใจอะไรเกิน เลิกทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เลิกดุเขาได้แล้ว ตั้งแต่เขากลับมาเนี่ย เขี้ยวดุน้องบ่อยมาก ไหนจะชอบตะคอกน้องอีก เกิดน้องน้อยใจหนีกลับบ้านล่ะ” คมเขี้ยวนิ่ง เหลือบมองแม่น้อยๆ นึกถึงช่วงเวลาที่เรียวจันทร์กลับมาอยู่กับตัวเองแล้วก็แอบกังวล ทั้งบ่น ทั้งด่า ทั้งว่า ล่าสุดก็ไล่ออกจากห้องนอน เมื่อคืนนอนกอดกันทั้งคืน เช้ามาแม่คุณนายก็เหมือนทิ้งทุกอย่างที่ผ่านมาไปหมด นอนคลอเคลียเขาแต่เช้า โดนเขารวนใส่เยอะ แต่แม่คุณนายก็ยังอยู่ไม่ไปไหน มีวันนี้แหละที่ต้องออกไปทำงาน

           

 

“ถ้าหนีกลับจริง เดี๋ยวผมไปตามกลับมาเอง” บัวบูชามองลูกชายเอือมๆ พ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดน้อยๆ ส่ายหัวเพราะความที่ลูกไม่ได้ดั่งใจ





 :katai5:

วันนี้ไม่ขอเม้าท์อะไรมากค่ะ ไปผ่าฟันคุดมาแล้วไข้ขึ้น  ตอนนี้ระบมมาก แก้มบวมตุ่ย หมอบอกวันที่สามจะบวมเป็นพิเศษ ตอนนี้ที่บวมอยู่ยังไม่พิเศษอีกเหรอหมอออ ไข้ก็ขึ้นตาม ฮือออ ชีวิต

ตบตีด่าทออีพี่เขี้ยวแทนขุ่นแม่ได้เลยนะคะ ปากคอเราะร้ายกับคุณแม่นัก ช่วงเวลานี้ขุ่นแม่ยังด่ากลับมากไม่ได้ จะดื้อมากไม่ได้ กำลังอยู่ในช่วงควบคุมความประพฤติ ใครอึดอัดแทนแม่เรียว ด่าเลยค่ะ ด่าอีพี่เขี้ยวเลยค่ะ คิๆ

ตอนนี้พรีออเดอร์หนังสือพ่อเขี้ยวแม่เรียวใกล้หมดเวลาโอนเงินแล้ว ปิดโอนเงิน 16 พฤษภาคมค่ะ

 ตอนพิเศษในเล่มแน่นมาก ประเด็นในตอนพิเศษจะเชื่อมต่อจากตอนหลักที่ลงเว็บเลยค่ะ ไม่ได้เขียนสตอรี่ขึ้นมาใหม่ ผู้ใดสนใจ เข้าไปอ่านรายละเอียดของทั้งสองคนพร้อมรายละเอียดของแถมได้ที่ > พรีพ่อเขี้ยวแม่เรียว (https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1389304&chapter=29)
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/ครี่งแรก:13.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 13-05-2017 21:46:55
ช่วงนี้พี่เขี้ยวดุจังเลย อย่าให้ถึงทีคุณนายนะพี่เขี้ยวคงได้ตามง้อเช้าเย็น 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/ครี่งแรก:13.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 13-05-2017 21:48:28
จะเล่นตัวไปถึงไหนเนี่ยยย พี่เขี้ยววว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/ครี่งแรก:13.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 13-05-2017 22:08:03
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/ครี่งแรก:13.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 13-05-2017 22:54:08
นั่นสิๆๆ เค้าไปแล้วจะรู้สึกนะพี่เขี้ยว ด่าแต่น้องงี้
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/ครี่งแรก:13.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-05-2017 22:58:46
 :m16: :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/ครี่งแรก:13.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-05-2017 02:00:38
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/ครี่งแรก:13.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: gchickii ที่ 15-05-2017 22:52:24
โอ๊ย อีพี่เขี้ยว ขยายกิจการเลี้ยงหมา(ในปาก)เพิ่มหรอ ดุแท้
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/ครี่งแรก:13.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 15-05-2017 23:30:15
แกล้งหนีไปเลยค่ะคุณนาย  :katai2-1: :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/ครี่งแรก:13.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 16-05-2017 16:52:11
 :really2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/ครี่งแรก:13.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Qualmy ที่ 17-05-2017 00:05:20
 :z6: ลำไยอิพิเขี้ยวเหลือเกินนนน มันน่านักน่าให้มีผช.มาติดคุณนายเขาจริงๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/หลัง:19.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 19-05-2017 20:26:31


คาถาที่ ๓๐ [ครึ่งหลัง]



เรียวจันทร์นั่งกินอาหารคลีนที่ให้ป้าอุ่นทำแช่เย็นไว้ให้ระหว่างทางที่รถกระบะคันใหญ่กำลังแล่นไป นางกินไข่ต้ม เนื้อไก่จิ้มพริกและข้าวกล้องประมาณสองหยิบมือ สลับกับดื่มน้ำเปล่าที่ใส่ผงสีเขียวช่วยในเรื่องขับถ่ายไว้

           

 

“ดิน แล้วไม่คิดจะเรียนต่อจริงๆ เหรอ” นางถามดินในขณะที่กำลังตักข้าวเข้าปากและเคี้ยวเบาๆ นับจำนวนการเคี้ยวอยู่ในใจของตัวเอง

           

 

“ไม่ล่ะครับ อยู่แบบนี้ก็สบายใจดี” ดินตอบและตามด้วยยิ้มน่ารักตาใส

           

 

“ฉันรู้นะว่ามันสบายใจดี แต่ก็เสียดายที่ดินจะได้ต่อยอดความรู้ไปอีก ดินเป็นคนเก่ง เป็นคนขยัน ฉันเชื่อเลยว่าดินจะเรียนจบได้อย่างสบายๆ” ดินยิ้มเขินกับคำชมนั้นของคุณเรียวจันทร์ขวัญใจตัวเอง

           

 

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ถ้าวันนึงพี่เขี้ยวบอกให้ดินไปเรียน ดินก็จะไป”

           

 

“แหม เชื่อฟังตานั่นเหลือเกินนะ” ดินยิ้มน้อยๆ

           

 

“ถ้าไม่นับความเป็นพี่ พี่เขี้ยวก็เหมือนพ่อดินแหละครับ” เรียวจันทร์เบะปากน้อยๆ แล้วยกเข่าขึ้นนั่งชันสบายๆ บนเบาะรถ

           

 

“ตอนนี้ก็ทำท่าจะเป็นพ่อฉันอีกคน ไม่รู้จะดุอะไรนักหนา”

           

 

“ดุ แต่พี่เขี้ยวก็รักคุณเรียวนะครับ” เรียวจันทร์ทำปากยื่นน้อยๆ ดินยิ้มเบาๆ

           

 

“ดุไปอะ ฉันรู้ว่าตัวเองผิด ฉันต้องเป็นฝ่ายขอโทษละเดินหน้าง้อ แต่บางครั้งฉันก็…” นางพ่นลมหายใจออกมายาวๆ หน้าตาอ่อนล้า

           

 

“…เหนื่อย” ดินหันมองหน้าสวยๆ สลับกับมองทางด้านหน้าอย่างครุ่นคิด แม้คุณเรียวจะดูร่าเริง ดูยิ้มแย้มเป็นปกติ แต่ดินก็รู้สึกได้ว่าไม่เหมือนเดิม เหมือนดีกรีความลั้นลา ความสดใสของคุณเรียวจะลดลงจากแต่ก่อนไปครึ่งนึงเลย

           

 

“ถ้าพี่เขี้ยวดุไม่เลิก มาคบกับดินแทนก็ได้นะครับ” เรียวจันทร์ที่กำลังตักข้าวด้วยท่าทีหงอยๆ หันไปมองดินด้วยอาการเหวอเล็กๆ ก่อนจะหัวเราะชอบใจ

           

 

“แหมดิน จะกินฉันให้ได้เลยน้า สวยอะซี้”

           

 

“ครับ คุณเรียวสวย” เรียวจันทร์ส่งเสียงร้องเพี้ยนๆ ลั่นรถ ก่อนจะหัวเราะด้วยความตลกขบขันกับการหยอดของดิน พ่อหมียักษ์ยิ้มกว้างอย่างจริงใจ

 

           

           

 

มาถึงกรุงเทพฯ ก็เป็นเวลาเที่ยงพอดี เรียวจันทร์บอกให้ดินไปดูหนังรอระหว่างที่นางทำงานในรอบบ่าย เพราะช่วงที่ขับรถมาดินเอ่ยปากว่าดูตัวอย่างหนังเรื่องหนึ่งในทีวีแล้วอยากดู เรียวจันทร์เช็กรอบหนังให้เสร็จสรรพและจองตั๋วหนังผ่านทางมือถือให้เรียบร้อย เสร็จแล้วก็จะไปกินข้าวเย็นด้วยกัน เรียวจันทร์ก้มมองนาฬิกาด้วยท่าทีกระวนกระวายเล็กๆ จนดินต้องเอ่ยปากให้รีบไปทำงาน

           

 

“แต่ดินไปโรงหนังคนเดียวได้เหรอ ฉันไม่ได้จะว่าดินบ้านนอกนะ แต่ดินไม่เคยมาเลยนี่” นางว่าอย่างเป็นห่วง พ่อหนุ่มหมีไม่ใช่คนเข้ากรุงบ่อย ชีวิตส่วนมากก็อยู่แต่ที่ฟาร์มกับเขาใหญ่

           

 

“คุณเรียวบอกเองไม่ใช่เหรอครับว่าดินเป็นคนฉลาด แค่บอกว่าโรงหนังอยู่ชั้นไหนก็พอครับ” เรียวจันทร์ยิ้ม จัดการส่งรูปรหัสการจองตั๋วให้ดินทางโปรแกรมแชทไลน์ที่ดินไม่ค่อยเล่น

           

 

“เอารูปที่ฉันส่งให้ให้พนักงานดู ฉันจองให้ดินสองที่เลย จะได้ไม่ต้องไปนั่งเบียดกับใคร ที่นั่งโซฟาบนสุด ไม่ต้องจ่ายเงินนะ ตัดจากบัตรฉันแล้ว ไม่ต้องเกรงใจด้วย ถือว่าฉันขอบคุณที่มาด้วยกันวันนี้” ดินยกมือไหว้ขอบคุณเรียวจันทร์

           

 

“ขึ้นไปชั้นห้า ขึ้นลิฟต์ไปก็ได้ ไม่ยากหรอก อย่าลืมปิดมือถือก่อนเข้าโรงหนังล่ะ”

           

 

“ครับคุณเรียว”

           

 

“มีอะไรโทรหาฉันได้ตลอด ถ้าไม่รับเดี๋ยวฉันโทรกลับทันทีที่ว่าง” ดินพยักหน้า เรียวจันทร์ยกมือขวาตบบ่าหนาเบาๆ และเดินลิ่วๆ ไปทางสถานที่จัดงาน ดินยืนมองซ้ายมองขวาสักพัก แล้วก็ตัดสินใจเดินขึ้นบันไดเลื่อนเพราะเห็นคนต่อคิวขึ้นลิฟต์กันเยอะ

           

 

ดินเดินไหลตามผู้คนและไปตามที่บันไดเลื่อนพาขึ้นไปเรื่อยๆ แต่พอมองเลขชั้นแล้วก็สับสนนิดหน่อยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ชั้นไหนกันแน่ สับสนเพราะป้ายบอกชั้นกับไอ้สติ๊กเกอร์ที่ติดตรงบันไดเลื่อนนั่นแหละ

           

 

“น้องคิวมาดูหนังครับป่าป๊า… หนังจบก็กลับไง… ฮื่อ? ดูหนังมันอันตรายตรงไหน ไม่ต้องห่วงน่ะป๊า คิวเป็นผู้ชายนะ… อืมๆ แค่นี้แหละ” ดินมองเด็กผู้ชายตัวเล็กหัวเกรียนอย่างพิจารณาแบบไม่ได้ตั้งใจ ก็ไม่ได้เล็กจิ๋ว แต่ตัวเตี้ยกว่าดินเยอะอยู่ ขนาดยืนอยู่บนขั้นบันไดที่สูงกว่าดินยังสูงกว่าไม่เท่าไหร่เลย ผิวขาวแต่ไม่ได้ขาวสว่าง เนื้ออวบอิ่ม ในปากอมอมยิ้มจนแก้มตุ่ย จังหวะที่หันหน้ามาไอ้ดินก็รีบหลบสายตาไปมองทางอื่น แต่ในใจมันคิดแล้วว่าไม่หลงทางไปโรงหนังแน่ ก็เมื่อกี้ได้ยินชัดเลยว่าเด็กคนนี้จะไปโรงหนัง เดินตามไปก็แล้วกัน

           

 

พอขึ้นมาถึงชั้นห้าตามที่คุณเรียวบอก ดินก็เจอกับโซนโรงหนัง เด็กคนที่ดินแอบใช้เป็นผู้นำทางหยุดยืนอยู่ตรงหน้าจอโปรแกรมหนัง ใบหน้านิ่วคิ้วขมวด ดินเลิกสนใจและเดินเข้าไปต่อคิวแบบคนอื่นๆ หยิบมือถือขึ้นมาเปิดรูปที่คุณเรียวส่งมาให้เพื่อเตรียมตัวยื่นให้กับพนักงาน

           

 

จึ้กๆ

           

 

มีอะไรบางอย่างทิ่มหลังเขาอยู่ ดินหันไปมองด้านหลังงงๆ ก็เจอกับเด็กคนนั้นที่พอเห็นชัดๆ แล้วก็ทำให้ดินนึกว่ากำลังมองตัวการ์ตูน หรือตุ๊กตาอะไรสักตัวที่หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักหัวกลมๆ และปากแดงเหลือเกิน

 

 

“พี่จองตั๋วไว้ใช่มั้ยครับ” ดินยังคงทำหน้างงๆ แล้วก็ตอบแบบงงๆ

           

 

“เอ่อ ครับ ใช่ครับ”

           

 

“ไปเข้าอีกแถวเลยพี่ เร็วกว่า ตรงนี้สำหรับคนมาซื้อหน้าโรงแบบผม” ดินมีสีหน้าสับสนไม่เข้าใจ เด็กตัวการ์ตูนคนนั้นคลี่ยิ้มและชี้ไปที่อีกแถวที่สั้นกว่ามาก มีคนรออยู่สามคนเอง

           

 

“แถวนั้นสำหรับคนจองผ่านมือถือมาครับ” ดินหันไปมองแถวนั้นแปบๆ และหันกลับมาหาเด็กตัวเล็กที่ตอนนี้ดินรู้แล้วว่าสูงแค่ระดับไหล่เขาเท่านั้น

           

 

“แล้ว… ไม่ได้จองไว้เหรอครับ” เด็กตัวการ์ตูนทำหน้าผิดหวัง มีแววเศร้านิดหน่อย

           

 

“ผมลืมอะ พอจะจองแถวเอที่ประจำก็เต็มหมดแล้ว แถวบนๆ แถวอื่นก็ไม่เหลือ ตอนนี้เหลือแต่ที่หน้าๆ ผมไม่ชอบ ผมปวดตา โคตรเซ็งเลย” เด็กคนนั้นบ่นเสียงเบื่อและกลอกตาน้อยๆ ดินกะพริบตาปริบๆ มองอย่างไม่แน่ใจสักเท่าไหร่ คิ้วเข้มแบบอ่อนขมวดเข้ากันนิดหน่อย แล้วก็ค่อยๆ ขยับปากพูดเสียงเบาจนเกือบไม่ได้ยิน

           

 

“จริงๆ ผมนั่งคนเดียว…” เด็กคนนั้นเลิกคิ้วขึ้น ทำให้ตาโตขึ้นกว่าเดิม ดินรู้ว่าตัวเองคงพูดเบาไปเลยเพิ่มเสียงพูดใหม่

 

 

“…ผมจองไว้สองที่ นั่งด้วยกันได้นะครับ แบ่งๆ กัน” ตากลมโตของเด็กคนนั้นกะพริบปริ๊บๆ พร้อมกับทำหน้าประหลาดใจ

           

 

“พี่จองไว้สองที่ แต่นั่งคนเดียวอะเหรอครับ” ดินเม้มปาก พยักหน้าหงึกๆ เด็กตัวเล็กทำปากโอ้โห

           

 

“โห รวยนะเนี่ย” ดินหน้าตื่น ส่ายหัวปฏิเสธรัวๆ

           

 

“เปล่ารวยครับ พี่ของผมเขาจองให้”

           

 

“งั้นแสดงว่าพี่ของพี่ก็ต้องรวย” คุณเรียวจันทร์รวยมั้ยนะ ต้องรวยสิ เป็นเจ้าของที่ดินเยอะแยะขนาดนั้น

           

 

“ก็… ก็รวยอยู่ครับ” ดินตอบตามซื่อ เด็กน้อยหัวเราะสดใส ทำเอาหัวใจดินกระตุกวาบๆ

           

 

“ผมตกลงครับ ไม่เรื่องมาก เพราะผมอยากนั่งข้างบน เมื่อวานมันเข้าวันแรก ผมไม่ได้ดู เพื่อนผมแม่งอวดกันใหญ่ ผมช้าไม่ได้แล้ว” เด็กตัวเล็กมีสีหน้าท่าทางและน้ำเสียงจริงจังขึ้นมา หน้าตาบ่งบอกว่าช้าไม่ได้แล้วจริงๆ ตามที่พูด ดินกระตุกยิ้มนิดหน่อย

           

 

“พี่จองแถวไหนไว้ครับ” ดินยื่นโทรศัพท์ให้เด็กคนนั้นดู พอเจ้าหัวเกรียนหัวกลมเห็นก็ตาโต

           

 

“พี่จองที่นั่งโซฟาแต่นั่งคนเดียว พี่ของพี่รวยจริงแหละ” ดินยิ้มไม่เต็มปาก พยักหน้าหงึกหงักไปเรื่อย

           

 

“งั้นไปรอตั๋ว… รอด้วยกันนะครับ” คนตัวเล็กกว่าดินพยักหน้ากระตือรือร้นและเดินนำดินไปต่อคิวอีกแถวทันที ระหว่างรอคนข้างหน้าไปรับบัตร ดินก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเด็กคนนั้น ทำให้รู้สึกเคลิ้มอยู่พักหนึ่ง สติกลับมาตอนที่เด็กคนนั้นเดินนำไปที่เค้าน์เตอร์รับตั๋ว

           

 

“พี่ๆ” เด็กคนนั้นกวักมือเรียกดินให้ไปยืนข้างกัน

           

 

“พี่ชื่อไรครับ”

           

 

“เอ่อ ชื่อดินครับ” ดินยิ้มน้อยๆ เด็กคนนั้นยิ้มกว้าง

           

 

“โอเคครับพี่ดิน ผมชื่ออิคคิวนะ พี่ดินยื่นที่จองไว้ให้พนักงานเลยครับ” ดินรับคำแบบงงๆ และยื่นมือถือให้พนักงานสาวผมยาวคนหนึ่งรับไปกดๆ อะไรอยู่สักพักก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนให้

           

 

“ภาพยนตร์เรื่อง XXX รอบบ่ายโมงสิบห้านาที โรงภาพยนตร์ที่สี่ค่ะ” พนักงานฉีกตั๋วแล้วยื่นให้ดิน เด็กน้อยที่ชื่ออิคคิวที่เพิ่งรู้จักกันหยิบเงินในกระเป๋าให้ดินตามจำนวนค่าตั๋ว

           

 

“ขอบคุณพี่ดินมากนะครับที่ให้คิวนั่งด้วย…” ดินรับเงินมาเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงยีน ถ้าเป็นเงินมันออกเอง ไอ้ดินไม่รับคืนหรอก แต่อันนี้เงินคุณเรียวจันทร์

           

 

“…ว่าแต่ เรียกพี่นี่ถูกต้องใช่มั้ย” ดินทำหน้างงแปบหนึ่งก่อนจะถามกลับบ้าง

           

 

“อิคคิวอายุเท่าไหร่ครับ”

           

 

“สิบเจ็ดย่างสิบแปดครับ เพิ่งขึ้นมอหก” ดินทำหน้าโอ้โหเบาๆ อายุกับใบหน้าเหลื่อมล้ำกันนิดหน่อย ดินคิดว่าเด็กคนนี้อายุสิบห้าสิบหก

           

 

“งั้นก็พี่แหละครับ ผมอายุมากกว่า” อิคคิวยิ้มกริ่มและพยักหน้าหงึก หันไปมองตรงโซนขายของก่อนเข้าโรงหนัง

           

 

“พี่ดินอยากกินอะไรมั้ยครับ” ดินหันไปมองขนมสักแปบแล้วก็ส่ายหัว

           

 

“ไม่รู้เลยครับ” ดินไม่รู้จริงๆ เพราะนี่เป็นการดูหนังโรงครั้งที่สองของชีวิต

           

 

“งั้นกินป๊อบคอร์นแล้วกัน เดี๋ยวผมเลี้ยง”

           

 

“เฮ้ย ไม่เป็นไรครับ ช่วยกันออกก็ได้”

           

 

“เอาน่าพี่ ถือว่าตอบแทนความใจดีของพี่ไง นะๆ ผมไม่ใส่ยาพิษลงไปหรอก ไปยืนซื้อด้วยกันก็ได้ถ้าไม่ไว้ใจ” ดินทำตาโต ยกมือโบกปฏิเสธ

           

 

“เปล่านะ ผมไม่ได้จะคิดแบบนั้น” อิคคิวหัวเราะน้อยๆ

           

 

“โธ่พี่ดิน ผมก็ไม่ได้คิดว่าพี่จะคิดอย่างนั้นสักหน่อย” ว่าเสร็จก็เดินนำไปที่ตักป๊อปคอร์น ดินพ่นลมหายใจออกทางปากเบาๆ และเดินตามไปสมทบอีกที รู้สึกมึนๆ งงๆ แต่ก็คิดได้ว่าแค่ดูหนังเท่านั้นเอง

           

 

แค่คนที่ดูด้วยหน้าตาน่ารักไปหน่อย…

 

           

           

หลังจากดูหนังเสร็จ อิคคิวก็ชวนดินไปกินข้าว ดินไม่กล้ารับปาก เพราะพอออกจากโรงหนังมาก็เจอสายไม่ได้รับจากเรียวจันทร์เป็นสิบสาย เลยขอโทรกลับไปหาเรียวจันทร์ก่อน

           

 

“คุณเรียวเสร็จเร็วจังครับ… อ๋อ… ได้ครับ… ครับ เดี๋ยวดินไปหาที่นั่น” ดินวางสายจากเรียวจันทร์ หันไปมองอิคคิวที่ยังกอดถังป๊อบคอร์นไว้ในอ้อมแขนและหยิบกินหมุบหมับๆ

           

 

“ผมต้องไปหาพี่แล้วอะครับ คงไปกินข้าวด้วยไม่ได้ ขอโทษนะครับน้องอิคคิว” เด็กตาโตปากแดงยิ้มอย่างสบายๆ สั่นหัวไปมา

           

 

“ไม่ต้องซีเรียสหรอกพี่ ไปเหอะ ยังไงต้องขอบคุณพี่ดินมากๆ นะครับที่แบ่งปันที่นั่งให้คิว พี่โคตรใจดีอะ” ไอดินไม่รู้ว่าจะต้องทำหน้าตาแบบไหน เลยยิ้มเก้อๆ ยิ้มไม่เต็มปาก เหมือนคนยิ้มไม่เป็นและพยายามยิ้ม อิคคิวมองแล้วก็หัวเราะ

           

 

“งั้น… ไปนะครับ” ดินเอ่ยเบาๆ คนตัวเล็กยิ้มพร้อมพยักหน้า ก่อนจะยกมือบ๊ายบาย ดินยิ้มน้อยๆ ก้มหัวให้หนึ่งที และหมุนตัวเดินอย่างเอื่อยๆ รู้สึกพะว้าพะวงแปลกๆ หันกลับไปเพื่อจะมองอิคคิว แต่อีกฝ่ายหมุนตัวเดินกินป๊อบคอร์นเพลินๆ ไปทางอื่นแล้ว

           

 

ไอ้ดินสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ และพ่นออกมาสั้นๆ สะบัดหัวสองสามทีก่อนจะเดินต่อ แวะถามทางกับพนักงานในห้างเอาว่าร้านที่คุณเรียวนัดอยู่ตรงไหนจนกระทั่งเดินมาเจอขวัญใจตัวเองกำลังนั่งกินไก่

           

 

“อ้าว มาแล้ว นั่งๆ ฉันสั่งชุดใหญ่มาเลย กินด้วยกัน ขอโทษนะที่พามากิน KFC อะ แต่มันง่ายและเร็วสุดแล้ว”

           

 

“ไม่เป็นไรครับ ดินกินได้ พี่เขี้ยวก็ชอบซื้อมาฝากบ่อยๆ” เรียวจันทร์ยิ้มทั้งที่ปากเคี้ยวเนื้อไก่ไม่หยุด ดินยิ้มน้อยๆ และเริ่มหยิบไก่ใส่จานตัวเองที่เรียวจันทร์เตรียมไว้ให้

           

 

“หนังสนุกป้ะ” เรียวจันทร์ถาม ดินชะงักไปนิด ไม่แน่ใจว่าควรเล่าเรื่องอิคคิวให้เรียวจันทร์ฟังด้วยมั้ย แต่ไอ้ดินมันก็คิดว่าคุณเรียวคงไม่ได้อยากรู้ อีกอย่างก็แค่นั่งดูนั่งด้วยกันแล้วก็แยกกันแล้วด้วย

           

 

“สนุกครับ แต่…” ไอ้ดินยิ้มแบบกล้าๆ กลัวๆ เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นทำหน้างงๆ

           

 

“…ดินฟังไม่ออกเลย อ่านแปลไทยข้างล่างก็ไม่ทัน” คุณนายแม่อ้าปากหวอตกใจ สีหน้าตะลึงไปนิด ก่อนจะรีบกลืนไก่ หยิบน้ำเปล่ามาดูดไปหลายอึก

           

 

“ดินนน ฉันขอโทษ ฉันลืมตัวอะ ฉันจองตั๋วให้แบบซาวด์แทร็ค” ใบหน้าสวยสลดลงอย่างรู้สึกผิด แต่ปากยังคงขยับเคี้ยวไก่หมับๆ อย่างหิวโหย เพราะดัดจริตกินไปน้อยนิดเมื่อเช้า ตอนทำงานแทบจะเป็นลม

           

 

“ไม่เป็นไรครับ เอาที่อ่านแปลข้างล่างมารวมๆ กันก็เลยพอจะเข้าใจเรื่อง” ดินยิ้ม ฉีกไก่เป็นชิ้นๆ แล้วจับเข้าปาก เรียวจันทร์ยังคงมีสีหน้ารู้สึกผิด แต่มือก็ยังไม่หยุดจับไก่เข้าปาก

           

 

“ดูหนังภาษาอังกฤษวันนี้แล้ว ดินอยากพูดภาษาอังกฤษได้เลย” เรียวจันทร์ยิ้มเกือบแฉ่ง เลือกหยิบไก่ทอดรสเผ็ดมากินหนึ่งชิ้น

           

 

“เรียนสิ มีคอร์สเยอะนะ ไม่ยากหรอก” ไอ้ดินทำหน้าขยาดเล็กๆ

           

 

“สมัยเรียนมัธยม ดินได้ภาษาอังกฤษเกรดสองเองครับ” เรียวจันทร์ยักไหล่หน้าตาสบายๆ

           

 

 

“ก็ยังได้สอง แสดงว่าก็ยังได้อยู่ บางคนติดศูนย์เลยนะดิน” ดินยิ้มไม่มั่นใจนัก แต่ก็พยักหน้าไปตามเรื่องตามราว เรียวจันทร์เคี้ยวกรุบๆ อย่างเอร็ดอร่อย ดินยิ้มกับท่าทางการกินอย่างมีความสุขของเรียวจันทร์

           

 

“เนี่ย เห็นมั้ยล่ะ ฉันถึงบอกไงว่าดินควรเข้าเรียนมหาวิทยาลัยต่อ ถึงแม้สุดท้ายแล้วดินจะกลับมาช่วยงานเขี้ยว แต่ถ้าดินมีดีกรีมาประดับเพิ่ม หรือได้ภาษาเพิ่ม ดินจะยิ่งสตรองนะจ๊ะ เชื่อพี่เกดสิ” ดินมองหน้าสวยๆ อย่างครุ่นคิด เรียวจันทร์ยักคิ้วให้เป็นเชิงยืนยันว่าเชื่อเจ๊

           

 

‘ผมอยู่มอหกครับ…’

           

 

จบมอหกก็ต้องขึ้นมหา’ลัยสินะ อันนี้ไอ้ดินรู้ ไม่ได้ซื่อถึงขั้นเซ่อสักหน่อย

 

           

           

พอจบงานที่สองของวัน เรียวจันทร์ก็โทรหาดินที่ไปนอนหลับรออยู่ในรถ  ไอ้หมียักษ์ไม่กล้าเดินไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะกลัวจะหลง คุณนายเลยบอกให้รออยู่ที่รถแล้วจะเดินไปหาเอง ตอนที่กำลังจะเดินถึงรถ ร่างสูงใหญ่ของโยธินก็เดินเข้ามาขวาง เล่นเอาเรียวจันทร์ตกใจไปเบอร์ใหญ่ เห็นตั้งแต่ในงานเดินแบบละ มาวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่ได้ นางกำลังจะอ้าปากด่า แต่พอเห็นรอยฟกช้ำดำเขียวบนใบหน้าขาวผ่องก็ต้องขมวดคิ้ว

           

 

“มีอะไร” แต่ถึงจะแปลกใจยังไง แต่นางไม่มีอารมณ์อยากเผือกเรื่องของอดีตแฟน ยอร์ชทำหน้าลำบากใจแต่ก็เปิดปากพูด

           

 

“เรียว ยอร์ชเดือดร้อนอะ” เรียวจันทร์ยกสองแขนกอดอก เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามโดยไร้เสียงว่าแล้วไง

           

 

“เรียว…”

           

 

“นายเดือดร้อน เกี่ยวอะไรกับฉัน” โยธินมองเรียวจันทร์อย่างอ้อนวอน

           

 

“ยอร์ชไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริงๆ เรียวช่วยยอร์ชหน่อยได้มั้ย” ร่างเล็กเบะปากน้อยๆ ปล่อยสองแขนลงข้างตัว

           

 

“ช่วยอะไร” อดีตแฟนคุณนายกลืนน้ำลายลงคอ สีหน้าท่าทางเหมือนไม่กล้าพูด แต่สุดท้ายก็พูดออกมา

           

 

“ยอร์ชจะขอยืมเงินเรียว แล้วเดี๋ยวยอร์ชจะรีบเอามาคืน” เรียวจันทร์อ้าปากหวอน้อยๆ มองยอร์ชด้วยความตื่นตะลึง

           

 

“โห เฮ้ย…” คุณนายอุทานแผ่วเบา ความตะลึงตีเข้าสองขมับจังๆ ทำเอางงไปเหมือนกันที่โดนขอยืมเงินกันง่ายๆ แบบนี้ แม้อีกฝ่ายจะมีท่าทีไม่กล้าเอ่ยและเกรงใจ แต่มันแค่แว้บเดียวมากๆ

           

 

“…ฉันไม่อยากเสียเวลาด่านาย แต่เอาเป็นว่าฉันไม่ให้ยืม ไม่ได้หยิ่ง แต่ฉันจน คิดว่าฉันรวยขนาดไหนเนี่ยถึงจะให้คนอื่นยืมเงินไปทั่ว” ว่าจบนางก็เลี่ยงจะเดินไปที่รถที่ดินเปิดประตูออกมารอด้านนอกและมองมาที่นางกับยอร์ชงงๆ

           

 

“แต่เรียวเป็นลูกเจ้าสัววิโรจน์ จะมาจนได้ยังไง!!” ยอร์ชพูดเสียงดังจนเกือบจะเป็นตะคอก ตอนนั้นเองที่ดินรีบเดินเข้ามาหาเรียวจันทร์ที่มีสีหน้าตกใจกับน้ำเสียงดังก้องนั้น

           

 

“คุณเรียว” ดินเรียก เจ้าของชื่อหันไปมองใบหน้าคล้ำเข้มของดินแปบหนึ่งก่อนหันไปมองหน้ายอร์ชต่อ นางยิ้มเยาะมุมปาก

           

 

“แจ้งใจตรงกันแล้วสินะว่าที่นายตะเกียกตะกายอยากกลับมาหาฉันเหลือเกินเพราะเงินนี่เอง แต่ขอโทษนะ ฉันเป็นลูกเขา แต่เราไม่รัก ไม่ได้สนิทกัน และฉันก็ไม่ได้เทิดทูลบูชาเขาด้วย สำนึกบุญคุณที่ให้เกิดมาแล้วก็จบไป ก็ถ้าคิดจะมาเกาะฉันแบบแต่ก่อนอีก เลิกเพ้อไปได้เลย” เรียวจันทร์จ้องยอร์ชตาแข็ง อดีตแฟนของนางมีท่าทีขุ่นเคือง ก่อนที่จะเดินจากไปด้วยความหงุดหงิด เรียวจันทร์มองตามอย่างไร้อารมณ์แล้วค่อยหันไปหาดิน

           

 

“กลับกันเถอะ”

           

 

“เขาไม่ได้ทำร้ายคุณเรียวใช่มั้ยครับ” เรียวจันทร์ยิ้มนิดหน่อย ยกมือขวาแตะต้นแขนดินเบาๆ

           

 

“จะทำได้ยังไง บอดี้การ์ดฉันล่ำขนาดนี้” ไอ้ดินเขินจนทำหน้าไม่ถูก เรียวจันทร์หัวเราะเบาๆ และควงแขนดินเดินกลับไปที่รถให้ไอ้หมียักษ์หน้าร้อนผ่าว

           

 

ถึงยังไง คนที่ทำให้ไอ้ดินเขินจากหน้าดำเป็นหน้าแดงได้ก็มีแต่คุณเรียวนี่แหละ

           

           

 

กลับมาถึงฟาร์มก็เป็นช่วงค่ำแล้ว ฝนตกโปรยปรายตามปกติของหน้าฝน แต่ยังดีที่ไม่ได้หนักมาก บรรยากาศที่ฟาร์มทั้งเย็นฉ่ำด้วยสายฝนและหนาวเย็นด้วยบรรยากาศภูเขาโอบล้อม เรียวจันทร์กับดินเดินกางร่ม ย่ำพื้นดินเฉอะแฉะกลับเข้าไปในบ้านใหญ่ พอขึ้นมาถึงบนบ้าน เรียวจันทร์ก็ไม่เจอใคร แต่ในบ้านเปิดไฟไว้

           

 

“สงสัยงานยังไม่เสร็จ คุณเรียวไปอาบน้ำก่อนก็ได้ครับ ดินจะลงไปหาไอ้พวกคนงาน” คุณนายพยักหน้าหงึกๆ จังหวะนั้นโทรศัพท์ของนางก็ดังพอดี เลยล้วงมือเข้าไปหยิบในกระเป๋า

           

 

“อยู่ได้ใช่มั้ยครับ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วกับเบอร์หน้าจอบนโทรศัพท์สักแปบก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปคลี่ยิ้มให้ดิน

           

 

“ได้สิดิน ทำอย่างกับฉันไม่เคยอยู่ ไปหาเพื่อนเถอะ” ไอ้ดินเดินถือร่มออกไปจากบ้าน เรียวจันทร์มองเบอร์แปลกอย่างไม่ไว้ใจ แต่ก็กดรับ

           

 

“ฮัลโหล”

           

 

[เรียว! แม่เอง! อย่าเพิ่งวางนะ!] เรียวจันทร์ตัวแข็งทื่อ เปลือกตาเบิกกว้าง กำลังจะกดวางสาย แต่สติที่เหลืออยู่รีบดึงนางเอาไว้ นางเลยยกโทรศัพท์แนบหูอีกครั้ง และคิดว่านี่ไม่ใช่ผี ฉะนั้นไม่มีอะไรต้องกลัว

           

 

“เบอร์เก่าโดนบล็อกไป ยังเพียรหาเบอร์ใหม่มาจนได้นะ” คุณนายว่าอย่างประชด หน้าตาอึดอัดที่จะคุยกับผู้หญิงคนนั้น แต่คิดไปคิดมา คุยกันให้รู้เรื่องชัดเจนไปเลยก็ดี

           

 

[เรียว ลูกอยู่ไหน ทำไมทิ้งแม่ไว้คนเดียวแบบนี้] เรียวจันทร์กัดฟันแน่น นางเกลียดเวลาที่แม่เรียกนางเพราะๆ ตอนที่ตัวเองเดือดร้อนและต้องการให้นางช่วยเหลือ แต่นอกเวลาอื่นจิกนางยิ่งกว่าไก่

           

 

“ไม่จำเป็นต้องรู้ แต่ที่รู้ไว้ คือคุณน่ารังเกียจ คุณทำร้ายบ้านพ่ออาทิตย์ได้ยังไง?!” ปลายสายเหมือนจะอึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยิน เรียวจันทร์สะกดอารมณ์อยากเหวี่ยงไว้ในอก และรอฟังคำแก้ตัวและคำแถจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่

           

 

[มีคนสั่งแม่ เจ้าสัววิโรจน์ พ่อของเรียวน่ะ เขาสั่งแม่] โรสิตาตอบเสียงลนลาน เรียวจันทร์นิ่งจนเหมือนจะช็อค ร่างกายคล้ายเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ

           

 

ทั้งพ่อทั้งแม่เลยเหรอ… สองคนนี้แค่ให้กำเนิดนางมาจริงๆ

           

 

“ร่วมมือกันดีเหลือเกินนะ ผีเน่ากับโรงผุจริงๆ…” เรียวจันทร์กัดฟันแน่น น้ำตาเอ่อคลอขอบตาทั้งสองข้าง

 

 

“…ตอนอยู่ในท้องแม่ คงเป็นช่วงชดใช้บาป แต่ขอบคุณบุญในตัวเองที่ยังพอมีแล้วส่งให้เรียวได้มาอยู่กับพ่ออาทิตย์…” แม้จะพูดใบหน้าไร้อารมณ์ แต่น้ำตาก็หยดลงบนแก้มข้างละหยด

 

 

ถึงจะหน้าไร้อารมณ์ยังไง แต่หัวใจของเรียวจันทร์เจ็บปวดกับการกระทำของผู้ให้กำเนิดตัวเองเหลือเกิน

 

 

[เรียว ฮึก แม่ขอโทษ แต่ฟังแม่ก่อน…] เรียวจันทร์ปาดน้ำตาออกจากแก้ม พูดเสียงเรียบแต่เน้นย้ำ

 

 

“…ออกไปจากบ้านของเรียวกับพ่อ ออกไปเองดีๆ ซะ อย่าให้เรียวต้องไปไล่ถึงที่ เพราะเรียวไม่อยากเจอหน้าคุณ”

 

 

[ฮือออ… เรียว แม่ขอโทษ อย่าทิ้งแม่เลย] แว้บหนึ่งเรียวจันทร์จะใจอ่อน แต่พอนึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมา มันก็สอนนางว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยสำนึกผิดจริงจัง

 

 

“ขอบคุณที่ทำให้เรียวเกิด แต่นับจากนี้ จงไปใช้ชีวิตตามทางของตัวเอง ให้เวลาอีกแค่หนึ่งอาทิตย์ หลังจากนั้น คุณจะต้องหายไปจากบ้านเรียวเด็ดขาด” เรียวจันทร์ฝืนพูดเสียงแข็งจนจบประโยค และพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีก

 

 

[เรียว… ฮึก แม่ไม่รู้จะไปอยู่ไหน แม่ไม่มีที่ไป แม่เหลือเรียวแค่คนเดียวแล้ว… ฮือ]

 

 

“งั้นแม่ก็ควรรู้ไว้ว่าต้องหัดรักษาน้ำใจกับคนที่แม่เหลือเพียงคนเดียว…” เรียวจันทร์ยืนฟังเสียงร้องไห้ของมารดาตนเองใบหน้าเรียบเฉย แต่น้ำตาคลอเต็มเบ้าตา

 

 

“…ไป ออกไปจากชีวิตเรียว หมดความเกี่ยวข้องกันเท่านี้ ถ้ากรีดเลือดคืนให้กันได้ เรียวก็อยากทำให้ แต่ในเมื่อมันทำไม่ได้ ที่ผ่านมาถือว่าเรียวตอบแทนบุญคุณไปแล้วก็แล้วกัน คุณแม่” เรียวจันทร์จบประโยคเสียงสั่น โรสิตาร้องไห้โฮ เรียวจันทร์ดึงโทรศัพท์ออกจากข้างหู กดวางสายด้วยสายตาที่แน่วแน่กับการตัดสินใจของตัวเองแล้ว

 

 

เมื่อนึกถึงคนเป็นพ่อ เรียวจันทร์ก็โมโหจนตาขวาง เสี่ยจอมทัพที่นางว่าเลว อาจจะสู้พ่อนางไม่ได้เลย นางต้องพูดกับผู้ชายคนนั้นเรื่องความเลวของเขาอย่างแน่นอน




 :katai5:

ตัดไหมที่ผ่าฟันคุดมาแล้วววว กลายเป็นว่าเจ็บกระพุ้งแก้มที่เขาเกี่ยวไหมไว้มากกว่าเจ็บแผลจริงๆ ซะอีก  :mew6:

อะ ดิน ยังไงๆ

อิคคิวเคยปรากฎตัวในเม้าท์พิเศษวันขึ้นปีใหม่ที่ตอมไว้ให้อ่านในโน้จของเพจแล้วนะคะ น้องก็มาลอยๆ แบบมึนๆ นี่คือจะมาปาดพ่อดินแข็งของเจ้ไปงั้นเหรอหนูอิคคิว 

ในส่วนของขุ่นแม่ ในที่สุดแม่เรียวก็ตัดเนื้อร้ายออกจากชีวิตจนได้ มันดูโหดร้ายและใจร้ายกับการกระทำนี้เนอะ แต่สิ่งที่เรียวจันทร์โดนผู้หญิงคนนี้ทำมา ตอมว่ามันก็ควรจะหยุดเลี้ยงดูเขาแล้วจริงๆ

อย่างที่เคยบอกไปค่ะว่า ประเด็นเรื่องเรียวจันทร์กับแม่คือละเอียดอ่อนมากสำหรับตอม คิดเสมอว่ามันมากไปมั้ยถ้าเรียวจันทร์จะพูดแบบนี้กับแม่ หรือเรียวจันทร์จะทำแบบนี้กับแม่ แต่พอเห็นข่าวบางข่าวในสังคมจริงๆ ก็รู้สึกว่า เรียวจันทร์กับคุณนายโรสิตาเบาไปเลย เรียวจันทร์ยังดีว่าไม่เอาเรื่องแม่ ขอแค่ให้ไปจากชีวิตนางเท่านั้นเอง

พรีออเดอร์หนังสือพ่อเขี้ยวแม่เรียวปิดแล้วนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เปย์แม่มากค่ะ ส่วนใครไม่ได้เปย์ก็ขอบคุณมากๆ ที่ติดตามกันอยู่  :mew1:

ไทม์ไลน์การทำหนังสืออ่านได้ที่โพสปักหมุดของเพจขุ่นเจ้เลยนะคะ ^_^

               

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ  :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/หลัง:19.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-05-2017 20:44:20
ดินกับน้องอิคคิวเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/หลัง:19.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: KJ. ที่ 19-05-2017 21:01:16
แอบอยากให้ดินเป็นรับแบบคิวเป็นรุกน่ารักงี้ :z1: :haun4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/หลัง:19.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 19-05-2017 21:19:19
ก็เข้าใจว่า เป็นลูกควรกตัญญูกับแม่นะ
แต่กับโรสิตา ที่ให้กำเนิดแต่ไม่เคยเลี้ยงดู แถมทำร้ายลูกขนาดนี้ เราไม่คิดว่า เรียวทำผิดเลย
แต่ถ้าช่วยแล้วนางสำนึกได้จริงก็น่าช่วยนะ แต่ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยสำนึกได้เลย เพราะงั้นเราถึงคิดว่า เหมาะสมแล้ว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/หลัง:19.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-05-2017 21:25:55
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/หลัง:19.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-05-2017 21:39:11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/หลัง:19.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-05-2017 21:43:32
 o13 o13 :กอด1: :กอด1: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/หลัง:19.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 19-05-2017 21:57:29
สะใจค่าาาาา อิโรสิตา หึหึ เป็นไงละหล่อน
เหลือคิลอิพ่อต่อ คุณแม่เรียวสตรองๆนะคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/หลัง:19.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 19-05-2017 22:42:03
หูยยยยยย เรียวสู้!
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๐/หลัง:19.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 20-05-2017 10:29:55
ตัดทิ้งไปให้หมดค่ะ  :z2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 35% :25.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 25-05-2017 19:26:06


คาถาที่ ๓๑ :: How dare you?! (แกกล้าดียังไง?!) [35%]




“จะไปไหน?” เรียวจันทร์ชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเดินออกจากห้องนอนคมเขี้ยวในช่วงเช้าของวันใหม่ที่มีฝนตกโปรยปรายลงมาต่อเนื่องจากเมื่อคืน เรียวจันทร์หันไปมองพ่อเครางามนอนเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียง คมเขี้ยวมองกลับมาอย่างสงสัยแต่ก็ยังคงความดุที่ช่วงนี้มีให้นางบ่อยเหลือเกินเหมือนเดิม

           

 

“เข้ากรุงเทพฯ” คมเขี้ยวขมวดคิ้ว

           

 

“มีงานเหรอวันเนี้ย เช็กในตารางไม่มีไม่ใช่รึไง” เรียวจันทร์ยิ้มระรื่น บิดตัวเขินๆ นิดหน่อย

           

 

“แหม แอบเช็กตารางกันด้วยอ้า ไม่หวงจริงไม่ทำนะเนี่ย” คุณนายว่าเสียงยาน ยิ้มหวาน แต่คมเขี้ยวยังหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่นาง จนนางกลอกตาหน้าเซ็ง

           

 

“ไปไหน” คมเขี้ยวถามเสียงแข็งอีกที เรียวจันทร์บิดปากน้อยๆ ก่อนตอบเสียงไม่เต็มใจตอบ

           

 

“ไปช่วยงานเป็ด”

           

 

“ช่วยอะไร ถ้าจะช่วย ทำไมไม่ค้างกรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อวาน” เรียวจันทร์ถลึงตาใส่ไอ้โย่ง อยากจะขว้างหลุยส์ต๊องแต๊งบนไหล่ซ้ายใส่หน้าสักที

           

 

“ฉันจะ…”

           

 

“…พูดว่าไร?!” คมเขี้ยวสวนเสียงดุทันควัน เรียวจันทร์ปรือตาหน้าบึ้งมองไอ้เครา

           

 

“หนูจะปล่อยให้ดินกลับคนเดียวได้ไง แล้วเป็ดมันก็เพิ่งบอกเมื่อคืน” คมเขี้ยวมองแม่คุณนายอย่างไม่ไว้ใจ เอี้ยวตัวไปหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะเตี้ยๆ ตรงข้างหัวเตียงขึ้นมากดเลื่อนหาอะไรสักแปบก่อนจะกดโทรออก เรียวจันทร์ยืนกอดอกมองพ่อคาวบอยรอสายอีกฝ่าย ซึ่งเชื่อเลยว่าเป็น…

           

 

“คุณเป็ดเหรอครับ… วันนี้เรียวต้องเข้าไปหาคุณเป็ดเหรอครับ…” คมเขี้ยวย่นคิ้ว มองเรียวจันทร์ที่ยักคิ้วขึ้นให้หนึ่งที เป็นเชิงบอกว่า ก็กูบอกแล้ว

           

 

“…ผมไปด้วยได้มั้ยครับ”

           

 

“ไม่ต้องไปเลย สภาพร่างกายเพิ่งฟื้น เมื่อวานคุณป๋าก็มาฟ้องว่าพี่ออกไปตากแดดตากลมมา เมื่อคืนนอนกอดหนูตัวระอุไปหมด” คมเขี้ยวขมวดคิ้ว หูยังคงฟังเป็ดร่ายยาวว่าเป็นนัดของเพื่อนสาวทั่วไป แต่สายตามองเรียวจันทร์ที่ทำสีหน้ายืนยันว่าตัวเขาห้ามออกไปไหน

           

 

“ครับๆ คุณเป็ด” คมเขี้ยววางสายจากเป็ด วางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม ชะงักไปนิดเมื่อเห็นถาดอาหารและยาที่เพิ่งจะเห็นว่าวางอยู่บนโต๊ะ

           

 

“กินข้าวกินยาซะ เย็นๆ เดี๋ยวกลับ”

           

 

“เตี๊ยมกับเป็ดรึเปล่า” คมเขี้ยวถามเสียงห้วน เรียวจันทร์ย่นคิ้วน้อยๆ

           

 

ถึงเตี๊ยมจริงคิดว่าจะบอกมั้ยห๊าไอ้เขี้ยวกุด

           

 

“พี่เขี้ยว นอกจากช่วงนี้จะดุยิ่งกว่าหมา ยังทำตัวขี้ระแวงเป็นออพชั่นเสริมด้วยเหรอ” คมเขี้ยวชักสีหน้าเบาๆ เคืองนิดๆ ที่ยัยคุณนายจับจุดได้

           

 

“แล้วทำไมต้องแต่งตัวสวยด้วย” เรียวจันทร์ก้มลงมองสภาพตัวเอง ขมวดคิ้วงงว่ามันสวยอะไร ก็เสื้อเชิ้ตสก็อตสีฟ้าขาวของผัวตัวใหญ่ๆ กับกางเกงยีนสีดำรัดรูปแค่เนี้ย

           

 

“หนูว่าหนูแต่งตัวธรรมดามากนะพี่เขี้ยว ที่มองว่าสวยเพราะหน้าหนูสวยรึเปล่า มีส่วนนะ” คุณนายนางว่าด้วยท่าครุ่นคิดที่จริงจัง ไม่ได้ว่าเล่นๆ เพราะนางคิดว่าประเด็นเรื่องความหน้าสวยของนางมันเป็นเรื่องจริง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง มีอยู่จริง

           

 

“วันนี้ไอ้ฝรั่งนั่นมันถึงไทยไม่ใช่รึไง” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าสวยเหลอหลา

           

 

“ใคร? แจเร็ดอะเหรอ เขากลับวันนี้เหรอ พี่เขี้ยวรู้แล้วทำไมหนูไม่รู้”

           

 

“มันบอกในวอทสแอพตอนส่งรูปใส่กางเกงในมาให้ไง!” คมเขี้ยวกระแทกเสียงด้วยความหงุดหงิด ภาพที่มันส่งมาพร้อมแคปชั่นสยิวยังติดตา แม่คุณนายบอกว่าแค่เพื่อนกัน เข้าใจตรงกันแล้วว่าสถานะเป็นไง แต่เขาว่าไม่ใช่ แม่จันทร์ไรต้องคิดเองเออเองว่าไอ้ฝรั่งมันเข้าใจไปกับตัวเองแล้วแน่ๆ

           

 

“อ๋อ…” ริมฝีปากสีชมพูบิดน้อยๆ แอบมองหน้าสามีตาขวางเล็กๆ

 

 

“…แหม เก็บรายละเอียดเชียว แต่สบายใจได้ค่ะ ไม่ได้ไปรับแจเร็ด หนูเพิ่งรู้จากพี่ด้วยซ้ำว่าเขามาถึงวันนี้” คมเขี้ยวมองอย่างไม่ไว้ใจ เรียวจันทร์ยกสามนิ้วขึ้นทำท่าสาบาน

           

 

“ด้วยเกียรติแห่งเมียพี่เขี้ยว พยัคฆ์เกรียงไกร หนูไม่โกหกค่ะ จริงๆ เชื่อหนู ไม่แอคติ้ง” คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์อย่างพิจารณา กำลังตัดสินใจว่าจะเอายังไงดี แต่คำพูดของแม่ก็ดังขึ้นในหัวว่าช่วงนี้เขาชอบด่าเรียวจันทร์

           

 

“ไปนานมั้ย” เขาถามเสียงห้วน

           

 

“น่าจะกลับถึงฟาร์มสักหกโมงหรือทุ่มนึง รีบไปรีบกลับแหละค่ะ” เรียวจันทร์บอกอย่างประชด คมเขี้ยวถอนหายใจและปัดมือขวาเป็นเชิงไล่ เรียวจันทร์จิกตาใส่หนึ่งทีและหมุนตัวเดินออกไปจากห้องนอนอย่างเร็ว

           

 

คมเขี้ยวรีบคว้ามือถือขึ้นมากดโทรหาไอ้ดิน พอไอ้น้องชายรับสายก็สั่งเสียงเข้ม

           

 

“ไอ้ดิน ตามพี่สะใภ้มึงไป… เขาจะเข้ากรุงเทพฯ… ตามไปดูให้กูหน่อยว่าไปไหน… กูเดี้ยงอยู่ เอาไอ้จีนกับไอ้เทิงไปด้วย จะได้มีคนช่วยมึงจำทาง”

           

 

คมเขี้ยวกดวางสายจากไอ้ดิน หลับตาลงด้วยความเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเพราะพิษไข้ แต่อาจเพราะปกติไม่ใช่คนป่วยง่าย ร่างกายเลยสู้กับอาการไข้ได้ไหวอยู่ แม้บางทีจะหนักหัวจนจะล้มก็มี เมื่อคืนเรียวจันทร์เช็ดตัวเขาไปบ่นเขาไป คุณนายจะขอนอนแยกห้องเพราะกลัวติดไข้ แต่เขาไม่ยอม โดนแม่ตัวดีบ่นจนหลับ เขาก็กลัวเรียวจันทร์ติดไข้เหมือนกัน แต่กลัวคำพูดแม่มากกว่า

           

 

เขาหนีไปแล้วจะรู้สึก

           

 

กลัว แต่ใจแม่งก็มึน บางทีชอบหวนนึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ ก็พาลหงุดหงิดและเกิดอาการต่อต้านเรียวจันทร์เล็กๆ เขาเองก็พยายามลืมเรื่องที่เรียวจันทร์ทำไว้ให้หมดอยู่ แต่มันยังทำไม่ได้ เห็นหน้าก็อยากดุแล้ว นี่ยังมามีพฤติกรรมลับล่ออีก ไอ้ฝรั่งกิ๊กเก่าก็จะกลับมา เมื่อวานไอ้ดินก็บอกว่าแฟนเก่ายัยคุณนายก็มาหาหลังเลิกงาน แบบนี้ไม่ให้เขาระแวงได้ไงวะ ดีที่ช่วงนี้ไอ้จอมทัพเงียบไป ไม่งั้นเขาคงต้องกินยาระงับประสาทสักพักเลยแหละ

 

           

           

เรียวจันทร์ขับรถออกมาจากประตูใหญ่ของฟาร์มที่พาออกไปสู่ถนนใหญ่อันเป็นถนนหลัก จังหวะที่กำลังจะเลี้ยวออกถนนใหญ่ นางก็ต้องเหยียบเบรกอย่างแรงจนหน้าผากกระแทกพวงมาไหล่ไปที

           

 

“โอ๊ย! อีห้า! หน้าฉันแหกมั้ยเนี่ย?!” สิ่งแรกที่นางทำก่อนที่จะไปฉะอีเจ้าของรถที่มาเบียดนางคือส่องกระจกดูก่อนว่าหน้าตัวเองเป็นยังไงบ้าง

           

 

“หูยยย เหม่งแดงเลยอะ” นางหน้าเสียไปนิด เพราะมันค่อนจ้างแดงแจ๋ ในขณะที่กำลังจะปรับอารมณ์ให้พร้อมไปด่าเจ้าของรถอีกคัน กระจกประตูก็ถูกเคาะรัวๆ โดยผู้ชายร่างใหญ่หนาคนหนึ่งที่คุ้นตา

           

 

“ไอ้ยอร์ชนี่…” เรียวจันทร์ปลดเข็มขัดออกจากตัว เปิดประตูออกไปหมายจะด่าก่อนถามว่ามาที่นี่ได้ไง

           

 

“ไอ้บ้านี่ นายจะเบียด… ว้ายยยยยย!!!” คุณนายร้องเสียงแหลมเสียงหลงเมื่อเจอกระบอกปืนสีดำจ่อมาทางหน้านางเต็มๆ พอเลื่อนสายตาดูไอยอร์ชก็เห็นว่ามันดูเหมือนคนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว

           

 

“ไปขึ้นรถ!!!” เรียวจันทร์สะดุ้งตาปิดเมื่อเจอเสียงตะคอกดังลั่น อดีตแฟนของนางหอบหายใจรุนแรง นางค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมองก็เห็นว่ายอร์ชมีท่าทีโมโห แต่สายตาโหดเหี้ยมนั้นมีความหวาดกลัวปนเปอยู่ด้วย

           

 

“ยะ… ยอร์ช… ทำไมทำแบบ…”

           

 

“…มึงไม่ต้องพูดมากอีเรียว!!!” เรียวจันทร์ตะลึง ก่อนจะถลึงตาใส่ไอ้ห่ายอร์ช

           

 

“เน่!! ปากดี! เรียกฉันว่าอีได้ไง ไอ้ผี!!”

           

 

“มึงอยู่เฉยๆ!!”

           

 

“อ๊า…” มือซ้ายที่ง้างเตรียมตบเข้าที่แก้มช้ำๆ ของไอ้ยอร์ชลดลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับสีหน้าเบะปากจะร้องไห้กับกระบอกปืนที่จ่อเข้าตรงคอหอยของตัวเอง

           

 

“เดินไปขึ้นรถกับกู!!”

           

 

“จะไปไหนอ้ะ?!”

           

 

“มึงอย่าเพิ่งถามมาก กูบอกให้ไป!!” ยอร์ชพูดเสียงตะคอก จ้องตาเรียวจันทร์แทบหลุด คุณนายตั้งสติแล้วรีบประมวลผลอย่างรวดเร็ว จากสีหน้าท่าทางของไอ้ยอร์ชมันดูกล้าๆ กลัวๆ ยังชั่วไม่เต็มที่ งานนี้ต้องขอบคุณเสี่ยที่ทำให้เห็นว่าคนชั่วจริงๆ จะมีลักษณะยังไง

           

 

“ขอหยิบกระเป๋าก่อนได้มั้ย” คุณนายขอเสียงอ่อย ท่าทีนอบน้อมกว่าเดิม ก็จะไม่ให้นางนอบน้อมได้ไง ปืนจ่อพร้อมยิงขนาดนี้

           

 

“ไม่จำเป็นเว้ย กูจะเอามึงไปเป็นตัวประกันเรียกค่าไถ่ ไม่ได้พาไปเดินแบบ!” คุณนายอ้าปากหวอด้วยตกใจ

 

           

“ตัวประกัน?”

           

 

“เออสิวะ!!” คุณนาย่นคิ้วครุ่นคิด มองอดีตแฟนตัวเองอย่างไม่เข้าใจว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่

           

 

“เดี๋ยวนะ ขับรถจากกรุงเทพฯ มาถึงนี่ เพื่อมาจับฉันไปเป็นตัวประกันเนี่ยนะ?!” เรียวจันทร์ถามด้วยความตกตะลึง ความหวาดกลัวกับกระบอกปืนสีดำหายไป มีแต่ความสงสัยไม่เข้าใจ ยอร์ชมองอย่างระแวง แต่ก็พยักหน้าแรงๆ หนึ่งที

           

 

“โอ๊ะตาย มานะเนอะ นี่ถ้าฉันไม่ออกจากฟาร์ม อย่าบอกนะว่าแกจะตามเข้าไปจับฉันถึงข้างในอะ?!” คุณนายถามอย่างข้องใจ และรู้สึกยอมใจในความอดทน ความมุ่งมั่นของมันที่ใช้เวลาราวสองชั่วโมงในการขับรถมานี่ ที่นางสงสัยมากๆ คือมันประคองอารมณ์จะจับนางไปเรียกค่าไถ่มานานขนาดนั้นได้ยังไง

           

 

“ก็ต้องอย่างนั้นสิวะ!” เรียวจันทร์ยังคงทึ่ง

           

 

“โอ้โห ยอร์ช ความมุ่งมั่นของแกเนี่ย ถ้าไปใช้ในทางที่ดีจะมีประโยชน์… ว้ายยย!!! ฉันแค่บอก เอาปืนออกไปจากหัวช้านนน อ๊ายย! อ๊ายย!!” คุณนายร้องกรี๊ดด้วยความตกใจและใจหายวาบเพราะไอ้ยอชร์ชมันกดปากกระบอกปืนตรงจุดแดงๆ บนหน้าผากของนางเต็มๆ

           

 

“มึงเลิกพล่ามและตามกูไปขึ้นรถได้แล้ว!!!” คุณนายน้ำตาไหลด้วยความกลัว แต่ก็ไม่ฟูมฟาย เดี๋ยวอายไลน์เนอร์จะเยิ้มได้ วันนี้นางไม่ได้ใช้แบบกันน้ำด้วย

           

 

“ขะ… ขอหยิบกระเป๋าก่อนนะ นะยอร์ชนะ ถึงจะเป็นตัวประกัน แต่ก็ขอเป็นตัวประกันสวยๆ เถอะ อีกอย่างจะเรียกค่าไถ่ตัวด้วยอะ ต้องสวยสมราคาหน่อย…” คุณนายย่นคิ้วเล็กๆ พยายามยิ้มประจบไอ้ยอร์ชที่ดูท่าจะบ้ามากขึ้นเรื่อยๆ

           

 

“…ว่าแต่ จะเรียกค่าไถ่เท่าไหร่แล้วจะเรียกจากใครเหรอ” นางถามเสียงอ่อน

           

 

“จากผัวใหม่มึงไง! กูจะขอมันสักห้าล้าน!” เรียวจันทร์ตาโต ก่อนจะยกมือทาบอก แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นไม่พอใจเล็กๆ

           

 

“ห้าล้าน?! เน่! ทำไมค่าตัวฉันมันถูกขนาดนั้นอะ เห็นฉันมีค่าแค่นั้นเหรอ ห๊า??!!” คนที่ตั้งใจมาจับตัวนังตัวแสบเรียกค่าไถ่ถึงกับไปไม่ถูก มือที่ถือปืนไว้เริ่มไม่มั่นคง หน้าตางงๆ เรียวจันทร์ถอนหายใจ มองเหยียดเล็กๆ ปัดปืนออกจากหน้าตัวเอง หันไปเปิดประตูรถ ก้มตัวลงหยิบกระเป๋าขึ้นมา ในช่วงเวลาสั้นๆ แค่นั้นนางรีบกดโทรศัพท์หาคมเขี้ยวและหย่อนโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าตามเดิม

           

 

“อะ จะไปก็ไป ไม่ต้องเอาปืนมาจ่อหน้าฉันอีกนะ แล้วก็คิดค่าตัวใหม่ให้มันมากกว่านั้นด้วย ผัวฉันรวยย่ะ!” ยอร์ชมองเรียวจันทร์อย่างสับสนมึนงง เริ่มทำตัวไม่ถูก หัวใจเต้นตึกๆ ด้วยความตื่นเต้น กลัวใครจะมาเห็นเข้า เขาไม่รู้ว่าไอ้การเรียกค่าไถ่จะต้องทำยังไงต่อบ้าง

           

 

“เอ๊า? ยืนทำไมอะ ตามมาจับฉันถึงหน้า-ทาง-เข้า-ฟาร์มขนาดนี้ ก็ไปสิ จะได้เรียกค่าไถ่ได้” เรียวจันทร์ตะโกนเสียงสถานที่ที่ตัวเองยืนอยู่ดังๆ ให้ฟังชัดๆ ไม่รู้ไอ้เขี้ยวกุดกดรับสายรึยัง แต่พูดให้ดังไว้ก่อน

           

 

ครืดดด!!

           

 

เสียงล้อรถบดกับถนนลูกรัง เรียวจันทร์กับยอร์ชหันไปมอง แต่คนละอารมณ์ ยอร์ชมองด้วยความตกใจ ยิ่งตกใจเข้าไปอีกเมื่อเห็นผู้ชายสามคนลงมาจากรถ

           

 

“ดิน!!” เรียวจันทร์ตะโกนด้วยความดีใจ

           

 

“เฮ้ย! มึงทำอะไรคุณเรียววะ!” เทิงตะโกนเสียงดังพร้อมชี้หน้ายอร์ช คนโดนชี้ลนลานสักแปบก่อนจะใช้แขนซ้ายรัดคอเรียวจันทร์แน่น

           

 

“ว้ายยย!!! ไอ้บ้า อย่ารัดแรง เดี๋ยวฉันตาย!”

           

 

“ไอ้เหี้ย! ปล่อยคุณเรียวนะโว้ย!!” จีนตะโกนอย่างโมโห และรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่มีอาวุธติดตัวกันมาเลย

           

 

“นี่! พวกนายอย่าไปกลัว มันจะจับฉันไปเรียกค่าไถ่ มันไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก!” สิ้นคำคุณนาย ยอร์ชก็ปล่อยตัวเรียวจันทร์และใช้มือซ้ายตบแก้มขาวผ่องเต็มแรงจนเรียวจันทร์กระเด็นไปติดรถ

           

 

“ไอ้เหี้ย!!” ดินตะโกนด้วยความโมโห ก้าวเท้าจะเดินเข้าไปช่วยเรียวจันทร์แต่พอไอ้ยอร์ชหันกลับมาพร้อมกับเล็งปืนมาทางตัวเองเลยต้องหยุดชะงัก

           

 

“พวกมึงหยุดเลย! ไม่ต้องมาเสือก!!” ยอร์ชตะโกนลั่น ดิน เทิง จีน ยืนมองกลับมาอย่างเคียดแค้น

           

 

เรียวจันทร์ยืนสะอื้นไห้เบาๆ ยกมือแตะแก้มที่โดนตบเต็มๆ ช่วงนี้นางโดนผู้ชายตบหน้านางสองคนแล้วนะ แถมอีสองคนนี้ยังตบคนละฝั่งด้วย ครบเลยเนี่ย

           

 

“อย่าปากดีอีกนะมึง อย่าคิดว่ากูเอามึงไปเรียกค่าไถ่แล้วกูจะไม่กล้าทำอะไร!” เรียวจันทร์หันไปมองไอ้ห่ายอร์ชทั้งที่น้ำตานองหน้า ดวงตากวางน้อยมองขวางอย่างพยาบาท ยอร์ชผงะไปนิด เพราะเผลอคิดถึงอิทธิฤทธิ์ของเรียวจันทร์ แต่ก็รีบสลัดทิ้งไปอย่างเร็ว

           

 

“เดินไป!” ยอร์ชสั่งเสียงดัง เรียวจันทร์สะอื้นเล็กๆ หมุนตัวเดินไปทางรถยอร์ชที่จอดรออยู่

           

 

ปัง!

           

 

เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับเสียงรถยนต์จอด ยอร์ชสะดุ้งตัวโหยง เรียวจันทร์หันไปมองก็เจอกับคมเขี้ยวที่กระโดดลงจากหลังกระบะในสภาพเปลือยท่อนบน ด้านล่างใส่กางเกงนอนตัวเดียวกับเมื่อคืน มือถือปืนลูกซองสีน้ำตาลแก่ คุณนายยิ้มทั้งน้ำตา

           

 

“พี่เขี้ยว!!” ผัวนางรับสายยย

           

 

“ปล่อยเรียวจันทร์ ไม่งั้นมึงตาย” คมเขี้ยวว่าเสียงเหี้ยมหน้าดุ พวกคนงานหลายสิบคนของฟาร์มที่ติดรถกระบะทั้งสองคันกระโดดลงมาพร้อมอาวุธครบมือ วิ่งมายืนล้อมโยธินที่หน้าตื่นหวาดกลัว

           

 

“กู… กูไม่ปล่อย!”

           

 

“ว้ากกก!” เรียวจันทร์ร้องลั่นเมื่อโดนแขนใหญ่ๆ รัดคออีกรอบ

           

 

ปัง! กร่อบแกร่บ!

           

 

คมเขี้ยวยิงปืนไปที่ประตูรถของโยธิน กระจกประตูร้าวเป็นวงกว้าง เจ้าของรถร้องตกใจเสียงดังลั่นและเผลอปล่อยแขนออกจากคอเรียวจันทร์ ยอร์ชรีบหันกลับไปหาคมเขี้ยวที่มองนิ่งท่าทีเอาจริง กระบอกปืนลูกซองเล็งมาที่ตัวเอง

           

 

“อย่ายิง!!! อย่ายิง นี่ปืนปลอม ปืนปลอม!!!” ยอร์ชยกสองมือขึ้นยอมด้วยท่าทีหวาดกลัว ทุกคนในทีนั้นหน้าเหวอไปนิดพร้อมกับส่งเสียงอ้าวเบาๆ ยกเว้น…

           

 

“อะไรนะ??!! แกเอาปืนปลอมมาขู่ฉันงั้นเหรอ?!” ยอร์ชกลืนน้ำลายลงคอ หันไปมองเรียวจันทร์อย่างหวาดกลัว กลัวยิ่งกว่าคมเขี้ยวที่ถือปืนซะอีก ยอร์ชพยักหน้าหงึกๆ หลายที เรียวจันทร์เบิกตากว้าง

           

 

“ไอ้จิ้งจก!!! ผยองจะเป็นตุ๊กแกงั้นเหรอ ว้ากกก!!!!” เรียวจันทร์พุ่งเข้าใส่ยอร์ชจนยอร์ชล้มลงไปนอนกับพื้น คุณนายฟาดสองมือตบตียอร์ชไปทั้งหน้าและตบไปตามตัว

           

 

“โอ๊ยยย! โอ๊ยยย! ปล่อยยย เรียกตำรวจให้กูเถอะ เรียกตำรวจมา แต่เอาอีนี่ออกไปปป!”

           

 

“เฮยยยย! แกเห็นฉันโง่นักเหรออียอร์ช อีบ้า ทำฉันโง่ไปหลายนาทีเลย ฮึยยย!!!” เรียวจันทร์ทึ้งหัวยอร์ชกระแทกกับพื้นดินแรงๆ ยอร์ชร้องโหยหวน เรียวจันทร์ทั้งตบทั้งข่วนหน้ายอร์ชด้วยความโมโห

           

 

“เรียว พอแล้ว พอๆ” หลังจากยืนมองเมียตัวเองเอาคืนไอ้โยธินอยู่สักพัก คมเขี้ยวก็เดินเข้ามาดึงร่างเรียวจันทร์ให้ออกห่างจากอีกฝ่าย เรียวจันทร์ดิ้นขลุกขลักอยู่พักหนึ่งก่อนจะยืนนิ่งหอบหายใจแรง มองไอ้ยอร์ชที่นอนครวญครางอยู่บนพื้นด้วยความอาฆาต

           

 

คมเขี้ยวยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ที่ไม่รีบเข้ามาห้ามเพราะอยากยืมมือแม่คุณนายเล่นงานไอ้นั่นสักหน่อย โทษฐานที่แอบมาหาเมียเขาเมื่อวานนี้ ไม่ว่าจะมาด้วยเหตุอะไร แต่เขาก็ไม่ชอบ

           

 

“ไอ้ดิน พามันไปสถานีตำรวจ เดี๋ยวกูตามไป”

           

 

“ครับพี่เขี้ยว” คมเขี้ยวพาเรียวจันทร์เดินไปขึ้นรถกระบะของฟาร์ม สั่งให้ใครสักคนขับรถเรียวจันทร์กลับเข้าไปในฟาร์มด้วย เรียวจันทร์มีสีหน้าพร้อมตะครุบเหยื่อได้ทุกเมื่อ นางจ้องไอ้ยอร์ชที่คนงานสามคนเข้าไปพยุงให้ลุกขึ้นยืน ทั้งที่มันสะบักสะบอมมากพอแล้วแต่นางก็ยังโมโหค้างอยู่ เลยลดกระจกลงและยื่นหน้าไปด่ายอร์ชในจังหะที่คมเขี้ยวถอยรถเพื่อหันหัวรถกลับเข้าฟาร์ม

           

 

“ไอ้ลูกเจี๊ยบ!!!” คุณนายชี้หน้าไอ้ยอร์ชที่หน้าเหยเกด้วยความเจ็บแสบกับรอยข่วนบนหน้าตัวเอง ไหนจะเจ็บใจที่แผนไม่สำเร็จ อันที่จริงอย่าเรียกว่าแผน มันเกิดบ้าขึ้นมาชั่วขณะ คิดแบบง่ายๆ คิดแบบสั้นๆ แบบคนหมดหนทาง แล้วสุดท้ายก็ถึงทางตันจริงๆ

 


 :hao4:

จะพูดอะไรดีล่ะ 55555555 ไม่รู้จะเอ่ยอย่างไรดีเลยค่ะกับพลังของแม่ เพราะแม่ก็คือเมียพ่อจริงๆ 5555555

ยอร์ชกล้าที่แท้จริงค่ะ ชายชาติทหารมาก บังอาจล้วงคอนางพญางูเห่า โดนงูฟัดเกือบตาย -..-

เนาะ คือแบบ แม่อะค่ะ 5555555 ไม่รู้จะว่ายังไงต่อจีๆ เอาเป็นว่า จะไม่ขอเป็นศัตรูกับแม่เด็ดขาด แม่ฟาดหนักมาก ฟาดเอาตาย อีพ่อตามมามีการปล่อยให้แม่ทุบตีก่อนแปบนึงนะ 555555

ใกล้จิจบแว้วววว อีกสองตอนครึ่งงงง



ไปทำงานด่วนแบบแทรกมากะทันหันสามวันค่ะ เลยทำให้ต้นฉบับตอนพิเศษในเล่มยังไม่เสร็จ แต่ตอนนี้เขียนถึงตอนสุดท้ายแล้ว อาทิตย์นี้ได้ส่งต้นฉบับให้คนจัดหน้าแล้วววว มีการคลาดเคลื่อนจากไทม์ไลน์ที่แจ้งไว้ในเพจ ต้องขออภัยจีๆ ค่ะ มีงานร้อนเข้ามาจริงๆ เลยต้องหยุดเขียนแปบนึง ตอนนี้กลับมาปั่นต่อใกล้จะเสร็จแล้ววว

พรีออเดอร์หนังสือพ่อเขี้ยวแม่เรียวปิดแล้วนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เปย์แม่มากค่ะ ส่วนใครไม่ได้เปย์ก็ขอบคุณมากๆ ที่ติดตามกันอยู่

ไทม์ไลน์การทำหนังสืออ่านได้ที่โพสปักหมุดของเพจขุ่นเจ้เลยนะคะ ^_^

               

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ

สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                                 
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 35% :25.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 25-05-2017 19:57:36
 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 35% :25.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-05-2017 20:02:53
ขุ่นแม่ นางเด็ด เผ๊ชชชช จริงๆ จะถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ ยังขอสวยไว้ก่อน แซ่บสะเด็ด 
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 35% :25.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 25-05-2017 20:13:40
โอ้ยยยย

คุณนายงานเข้ารัวๆเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 35% :25.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-05-2017 20:43:23
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 35% :25.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-05-2017 23:13:55
แม่ก็คือแม่จริงๆค่ะ  :hao7:
ขอถามหน่อยค่าาา คุณคนเขียนจะทำอีบุ๊คไหมอ่ะคะ เราหาตังไม่ทันพรี เสียใจมาก  :mew2:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 35% :25.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 25-05-2017 23:30:18
เหอะๆ ขุ่นแม่ก็คือขุ่นแม่ค่ะ พอรู้ว่า ปืนปลอมนางซัดไม่ยั้งจริงๆ 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 35% :25.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 26-05-2017 17:22:47
 :z3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 35% :25.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 26-05-2017 20:39:56
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 35% :25.05.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-05-2017 20:51:55
สมเป็นคุณนาย จริงๆ
เรียวจันทร์ตัวจริง คนจริงจนยอร์ชกลัว
ขอไปเจอตำรวจ ดีกว่าเจอนาง
ก่อนไปยังด่าซ้ำอีก "ไอ้ลูกเจี๊ยบ " ด่าเจ็บจริงๆ นะเนี่ย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 70% :03.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 03-06-2017 17:20:56


คาถาที่ 31 [70%]




คมเขี้ยวพาเรียวจันทร์ที่สงบสติอารมณ์ได้แล้วออกมาพบกับตำรวจเพื่อให้ปากคำที่สถานีฯ คุณนายทำแผลที่ปากเรียบร้อย คมเขี้ยวกลับถึงห้องก็กินข้าวเช้าและกินยาต่อจากที่ค้างไว้หลังจากเรียวจันทร์ออกไป พอขึ้นมาด้านบนของสถานีตำรวจ เรียวจันทร์ก็หันไปจิกตาใส่ยอร์ชที่นั่งอยู่อีกโต๊ะ อดีตแฟนของนางผงะไปนิดแต่คงจะตั้งสติได้แล้วเลยดูนิ่งมากขึ้น

           

 

“ผู้ต้องหาให้การว่า เป็นแผนที่เขาร่วมมือกับคุณเพื่อเรียกร้องความสนใจจากแฟนคุณครับ” คุณนายเบิกตากว้าง หันควับไปมองไอ้ห่ายอร์ชที่ยักคิ้วกวนตีนกลับมาให้

           

 

“อะไรนะ?!” นางแผดเสียงดั่งลั่นโรงพัก เล่นเอานายตำรวจอายุเยอะคนหนึ่งสะดุ้งจนแฟ้มในมือตกลงพื้น นายตำรวจหนุ่มที่ถามเรียวจันทร์ทำหน้าเหวอ และก่อนจะทันพูดอะไร เรียวจันทร์ก็ลุกขึ้นและเดินเร็วๆ ไปหายอร์ชที่หน้าตื่นกลัว

           

 

“อียอร์ช!! อีเลว อีผี!! แกกล้าดียังไงมาใส่ร้ายฉัน!” เรียวจันทร์พยายามจะก้าวข้ามโต๊ะสีน้ำตาลอ่อนเพื่อไปหาอียอร์ชที่เพิ่งลุกหนีไปยืนชิดติดกับกำแพง

           

 

“เรียวจันทร์ ใจเย็นๆ ก่อน!” คมเขี้ยวรั้งตัวเรียวจันทร์ไว้โดยมีนายตำรวจอีกสองนายมาช่วยด้วย ดิน เทิงและจีนที่ได้ยินเสียงโวยวายก็รีบวิ่งขึ้นมาบนสถานีฯ ภาพที่ทั้งสามเห็นคือ ร่างเล็กๆ ของเรียวจันทร์ดิ้นสุดแรงจนสะบัดคมเขี้ยวและนายตำรวจอีกสองคนหลุดและหงายหลังไปตามๆ กัน ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหายอร์ชและใช้แฟ้มสีแดงฟาดตัวยอร์ชแรงๆ

           

 

“โอ๊ย!! โอ๊ยยยย! คุณตำรวจ จับผมเข้าไปในคุกที แต่เอาอีนี่ออกไปจากผม!!!”

           

 

ป้าบ! ป้าบ!

           

 

“เรียกฉันว่าอีเหรอ อียอร์ชชชช!!! ฮึ้ยยยยย!!!” เรียวจันทร์ระดมฟาดแฟ้มใส่ยอร์ชไม่ยั้งจนเจ้าตัวร้องโอดโอย คมเขี้ยวหันมาเห็นพวกดินพอดีเลยพยักหน้าให้เข้ามาช่วยกันจับเรียวจันทร์ไว้ให้แน่น คุณนายตัวลอยหวือออกห่างจากไอ้ยอร์ชแต่หน้าตาอาฆาตยิ่งกว่าผีอีแพง

           

 

“แกแก้คำให้การเดี๋ยวนี้เลยนะว่าฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง อีบ้า!! ฉันไม่เคยคิดแผนเรียกร้องแบบนี้โว้ย!!” นางพูดเสียงหอบอยู่ในอ้อมแขนคมเขี้ยว มีพวกดินคอยเตรียมพร้อมเผื่อนางจะกระโดดขย้ำไอ้นั่นอีก

           

 

“คนอย่างแกแผนเยอะจะตาย เรียกง่ายๆ ว่าตอแหลเก่ง แผนแค่นี้ทำไมแกจะคิดไม่ได้?!” ยอร์ชสวนกลับมาอย่างยียวนกวนตีน เรียวจันทร์เบิกเปลือกตากว้างมองอย่างเคืองแค้น

           

 

 

“ฉันยอมรับว่าฉันตอแหลเก่ง แต่เพราะฉันเก่งไม่ใช่เพราะตอแหล แต่อีแผนง่ายๆ โง่ๆ แบบที่แกทำฉันไม่เอาด้วยหรอก!” ยอร์ชยิ้มเยาะ เลื่อนสายตากวนๆ ไปมองคมเขี้ยวแล้วพูดเสียงชวนโดดถีบ

           

 

“แกแน่ใจเหรอวะว่าจะเอามันเป็นเมีย พูดในฐานะที่เคยเอามันมาก่อนนะ ถ้าแค่เอาผ่านๆ สนุกๆ เก็บมันไว้เถอะ แต่ถ้าจะจริงอย่าเลยว่ะ” ไอ้ยอร์ชหัวเราะสะใจ

           

 

“อียอร์ช!! แกพูดอย่างนั้นได้ยังไง?!! ฮะ?! แกพูดอย่างนั้นได้ยังไง?!!!” เรียวจันทร์แผดเสียงลั่นโรงพักอย่างโมโห พยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนคมเขี้ยวเข้าไปตบไอ้กวนตีนยอร์ช

           

 

“คนอย่างนังเรียวจันทร์มันร่านจะตาย คนที่มันเรียกว่าผัวมีตั้งกี่คน…” เรียวจันทร์มองยอร์ชอย่างมาดร้าย แต่มันก็ยังทำหน้ากวนประสาทไม่หยุด

           

 

“…แกแน่ใจได้ยังไงว่ามันมีแกเป็นผัวคนเดียว นังเรียวมันก็เป็นเมียของผู้ชายไปทั่วแหละถ้ามันมีโอกาส” เรียวจันทร์กัดปากล่างแน่นอย่างโมโห สองมือกำแน่นด้วยความแค้นใจ

           

 

“แกระวังไว้เหอะ วันดีคืนดีเดี๋ยวจะจับชู้มันได้”

           

 

“ไอ้ยอร์ช!!!” เรียวจันทร์ตะโกนลั่น สะบัดตัวเองหลุดจากอ้อมแขนคมเขี้ยว หยิบแฟ้มที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะแล้วขว้างใส่ไอ้อดีตแฟนเฮงซวย ไอ้ยอร์ชกระโดดหลบไปซ้ายทีขวาที เรียวจันทร์ขว้างจนแฟ้มหมดโต๊ะก็ยืนหอบแรงๆ ก่อนจะตั้งสติพูดเสียงดังฟังชัด

           

 

“ฉันไม่เคยคิดแผนชั่วแบบนี้กับแก แกเป็นคนคิดจะมาจับฉันไปเรียกค่าไถ่ เพราะบ้านแกเป็นหนี้ และแกติดหนี้พนันบอล ตอนแรกแกกะกลับมาคืนดีฉัน หวังขอเงินฉันเพราะคิดว่าฉันเป็นลูกเจ้าสัววิโรจน์ แต่ขอโทษนะ เขาไม่เคยให้อะไรฉันเลยนอกจากชีวิตนี้ที่เกิดมา!” เรียวจันทร์จ้องยอร์ชตาขวาง ไอ้คนโดนจ้องยิ้มกวนตีนคุณนายมาก

           

 

“อีแผนกะหลั่วๆ ปัญญาอ่อนแบบเนี้ย ฉันไม่เอาด้วยหรอก มันตอแหลไม่พอ แล้วฉันก็ไม่จำเป็นต้องเรียกร้องความสนใจจากใคร เพราะผัวฉันสนใจฉันอยู่แล้ว ใช่มั้ยไอ้พี่เขี้ยว!?” เรียวจันทร์สะบัดหน้าหันกลับมามองคมเขี้ยวด้วยสีหน้าและสายตาพร้อมวีน คมเขี้ยวกลืนน้ำลายลงคอ มองซ้ายทีขวาทีก็เห็นตำรวจมองเขาเป็นตาเดียว เขาหันกลับไปมองเรียวจันทร์ที่ยืนมองตาขวางเบาๆ ก่อนจะพยักหน้า

           

 

“อื้อ สนใจ” เรียวจันทร์สะบัดหน้าหันกลับไปมองไอ้ยอร์ชที่เหยียดริมฝีปากเหมือนกำลังดูถูก

           

 

“ฉันเชื่อว่าคุณตำรวจโรงพักนี้ไม่โง่เชื่อแกหรอก” เหล่าคุณตำรวจทั้งหลายมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

           

 

“พวกผมสามคนยืนยันได้ครับว่าคุณเรียวจันทร์ไม่ได้ร่วมมือกับมัน ตอนที่พวกผมไปถึงที่เกิดเหตุ คุณเรียวสีหน้าโล่งใจแล้วก็ดีใจมากด้วย” ดินเล่าเรื่อยๆ ท่าทีไม่ได้ตื่นตูมหรือเดือดเนื้อร้อนใจอะไร แค่เล่าตามที่เห็น

           

 

“ก็มันแหลเก่งไง เรียวจันทร์มันแสดงเก่งจะตาย” เรียวจันทร์เบิกตากว้างใส่ยอร์ช

           

 

“โอ๊ย ถ้าแสดงเก่งขนาดนั้นฉันได้สุพรรณหงส์ไปแล้ว เพิ่งจะมีหนังเรื่องแรกในชีวิตนี่ละโว้ย!” เรียวจันทร์ยกมือชี้หน้าไอ้ยอร์ชและทำหน้าเป็นการบอกอย่างไร้เสียงว่า เดี๋ยวเถอะมึงๆ

 

 

“เมื่อวานผู้ชายคนนี้มาหาคุณเรียวที่ห้างในกรุงเทพฯ ด้วยครับ คุณเรียวไปทำงาน พอเสร็จงานเขาก็มาหาคุณเรียวที่ลานจอดรถ ถ้าผมได้ยินไม่ผิด เขามาขอเงินคุณเรียว”

 

 

“ใช่ ดินได้ยินไม่ผิดหรอก มันมาขอยืมเงินฉัน” คมเขี้ยวหันไปมองดินแล้วขมวดคิ้วใส่

 

 

“ไม่เห็นมึงบอกแบบนี้เลยเมื่อวาน”

 

 

“ดินไม่แน่ใจอะพี่เขี้ยวว่าเขาพูดเรื่องเงินชัวร์รึเปล่า แต่พอเห็นเหตุการณ์วันนี้ดินเลยว่าน่าจะเชื่อมโยงกันได้” คมเขี้ยวพยักหน้า หันกลับไปมองยอร์ชที่หน้าตาเริ่มมีความอึดอัดเหมือนกำลังหาทางไปไม่ถูก

 

 

“ทำเลวด้วยตัวเองแล้วยังจะมีหน้ามาหาแนวร่วม อุบาทว์จริงๆ สิ้นคิดขนาดไหนถึงต้องมาบอกว่าฉันร่วมมือกับแก คิดว่าฉันลงทุนให้แกตบหน้าฉันขนาดนี้เลยเหรอ?!”

 

 

“ก็ทีแกตบหน้าตัวเองตอนทะเลาะกับโบ ให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าโบทำร้ายแก แกยังทำมาแล้วเลย!” คมเขี้ยวตาโตวาบด้วยความตกใจกับเรื่องใหม่ที่เพิ่งได้ยิน

 

 

“เอ๊ะ ไอบ้านี่ มันเหมือนกันที่ไหน อันนั้นมันอารมณ์อิสตรีโว้ย!”

 

 

“เอ่อ จริงๆ ผมไม่คิดว่าคุณเรียวจันทร์จะทำแบบนั้นหรอกครับ ตอนที่บอกคือแค่อยากบอกเฉยๆ ว่าเขาให้การแบบนี้ แต่ไม่คิดว่าผลจะมาไกลขนาดนี้ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมกุมตัวเขาไว้ก่อน จะสอบปากคำอีกครั้งและจะสืบหาหลักฐานเพิ่มเติมด้วยครับ”

 

 

“ดีค่ะคุณตำรวจ! เรียวเชื่อว่าความหวังที่เรียวยังมีให้ตำรวจจะไม่สูญเปล่า!” นางจิกตาใส่ไอ้ยอร์ชและเบะปากอย่างแรง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากบริเวณนั้นและก้าวลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว

 

 

“ตรงปากทางเข้ามันมีกล้องวงจรปิดอยู่” คมเขี้ยวหันไปพูดกับนายตำรวจพร้อมกับยื่น USB สีดำอันเล็กให้อีกฝ่ายที่รับไปด้วยสีหน้างุนงงนิดหน่อย

 

 

“ไฟล์อยู่ในนั้นครับ”

 

 

“โห อันที่จริง ถ้าคุณคมเขี้ยวบอกแบบนี้แต่แรก ผมว่าเราก็จบเรื่องได้เลยนะครับเนี่ย” ตำรวจหนุ่มวัยกลางคนบอกด้วยรอยยิ้มแหย

 

 

“ขอโทษทีครับ ผมไม่รู้จะแทรกตรงไหน ถึงจะแทรก คุณนายแกก็ไม่ให้แทรกง่ายๆ ขนาดเราจับตัวเอาไว้ยังเหวี่ยงซะหลุด” คมเขี้ยวว่าขำๆ ส่ายหัวด้วยความอ่อนใจเล็กๆ

 

 

“ขอโทษแทนเรียวจันทร์ด้วยนะครับ”

 

 

“แกเห็นฤทธิ์มันรึยัง ยังอยากจะเอามันเป็นเมียอยู่อีกเหรอวะ” คมเขี้ยวหันไปมองโยธินด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนจะอ้าปากพูดคำเดียวสั้นๆ แต่ชัดเจน

 

 

“เสือก” เทิงกับจีนหัวเราะชอบใจ ดินอมยิ้มน้อยๆ คมเขี้ยวหันไปมองทั้งสามคนด้วยสีหน้าเดิม

 

 

“มึงสามคนช่วยพวกตำรวจเก็บกวาดหน่อย กูจะพาเรียวจันทร์กลับฟาร์ม” ทั้งสามรับคำ คมเขี้ยวหันกลับไปมองทางตำรวจอีกที

 

 

“ต้องให้ปากคำเพิ่มเติมมั้ยครับ ผมจะได้ไปตามเรียวจันทร์มาให้” คุณตำรวจครุ่นคิดครู่สั้นๆ ก่อนจะยิ้มนิดหน่อย

 

 

“ไม่เป็นไรครับ มีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญขนาดนี้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้ามี ผมจะติดต่อไปอีกครั้ง ยังไงรบกวนคุณคมเขี้ยวช่วยพาคุณเรียวจันทร์มาด้วยนะครับ”

 

 

คมเขี้ยวยิ้มขำเบาๆ “ผมจะจับใส่กรงมาส่งแล้วกัน”

 

 

 



คมเขี้ยวเดินกลับมาที่รถ เรียวจันทร์ขึ้นไปนั่งรอบนรถเรียบร้อยแล้ว หน้าตาคุณนายยังหงุดหงิดพร้อมอาละวาดวีนเหวี่ยงได้ทุกเมื่อ คมเขี้ยวเห็นแบบนั้นก็เลยทำตัวเงียบๆ ไปตลอดทางกลับฟาร์ม

 

 

เรียวจันทร์หันไปมองคมเขี้ยวด้วยสายตาขุ่นเคืองอยู่พักนึงแล้วก็หันหน้าบึ้งๆ ของตัวเองไปมองข้างทางต่อ

 

 

พอกลับมาถึงฟาร์ม เรียวจันทร์ก็เดินลิ่วๆ ขึ้นไปบนบ้านจนคมเขี้ยวงง กำลังจะเดินตามไปก็มีคนงานวิ่งมาตามให้ไปดูแปลงดอกไม้ข้างฟาร์มที่เพิ่งทำขึ้นมาใหม่เพื่อใช้เป็นอีกหนึ่งจุดสำหรับท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลคาวบอยปลายปีนี้ คมเขี้ยวเดินตามคนงานไปที่แปลงดอกไม้

 

 

“ริมๆ แนวต้นสนก็วางกองฟางก้อนไส้เป็นที่นั่ง อีกฝั่งก็ไอ้พวกของประดับสำหรับถ่ายรูป…” คมเขี้ยวชี้ไปตามจุดให้พวกคนงานดูว่าเขาต้องการใส่อะไร เหลือส่วนไหนไว้ ตอนนี้ดอกคอสมอสเริ่มลงไปแล้วหนึ่งแถว

 

 

“จะเที่ยงแล้ว ไปพักกินข้าวกันก่อนเถอะไป” คมเขี้ยวบอกหลังจากยืนคุยกันสักพัก แต่ก็ไม่ใช่การคุยจริงจัง เหมือนเป็นการคุยเรื่อยเปื่อยกันมากกว่า

 

 

“พี่เขี้ยวครับ! พี่เขี้ยว!” คมเขี้ยวที่กำลังเดินกลับไปทางบ้านใหญ่มองหน้าแก๊ปที่วิ่งมาทางนี้ด้วยอาการร้อนรนอย่างงงๆ

 

 

“มีอะไรแก๊ป” เด็กในอุปการะของเรียวจันทร์ยืนหอบสักพัก ก่อนจะชี้ไปทางตัวบ้านที่เห็นไกลลิบๆ จากจุดที่ยืนอยู่

 

 

“พี่เรียว พี่เรียวหอบเสื้อผ้าจะไปแล้วครับ” คมเขี้ยวขมวดคิ้ว แต่ใจก็เริ่มเต้นตึกๆ

 

 

“เขาไม่ยอมบอกว่าจะไปไหน แต่จะไปให้ได้ ตอนนี้ป้าอุ่นกับลุงอ๊อดพยายามขวางอยู่ครับ” คมเขี้ยววิ่งทันทีทั้งที่ยังไม่ได้ใจความของเรื่องชัดเจน แต่แค่ได้ยินว่ามีคนพยายามขวางอยู่ก็รีบวิ่งไปก่อนที่จะมีคนขวางไม่สำเร็จ



 :hao7:


มาแบบสั้นๆ ใกล้จบแล้ว ขอลงแบบกระมิดกระเมี้ยนนิดนึงนะคะ 555555 เล่นตัวๆ

ระหว่างเข้าคุกกับโดนขุ่นแม่ด่าทอและตบตี ยอร์ชเลือกเข้าคุก แต่ยอร์ชเลือกพลาดตั้งแต่จะมาจับแม่ไปเป็นตัวประกันแล้ว ฮ่าาาา

แล้วนี่ขุ่นแม่จะไปไหน หอบเสื้อผ้าหนีผัวทำไม หรือขุ่นแม่ท้องและจะอุ้มลูกหนี 555555

ใกล้จิจบเต็มทนแล้วค่ะ ตอนที่ 33 ก็คือจบเลี้ยวววว

ตอนนี้ตอมส่งต้นฉบับไปให้คนจัดหน้าแล้นนะคะ  เดี๋ยวจะแจ้งไทม์ไลน์เรื่องหนังสืออีกรอบที่เพจค่ะ มีการขยับขยายเวลา

ส่วนหนังสือขุ่นแม่เรียวจันทร์ ใครไม่ทันรอบพรีออเดอร์ เดี๋ยวกำลังจะเปิดให้โอนรอบสต๊อกนะคะ มีห้าสิบชุด ตอนแรกว่าจะเปิดอีกทีหลังจัดส่ง แต่เพื่อนถามว่าทำไมไม่ส่งไปพร้อมกัน 55555

รายละเอียดจะอัพให้ทราบอีกทีค่ะ

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 70% :03.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 03-06-2017 18:02:16
สงสัยคุณนายงอนที่พี่เขี้ยวไม่ตามไป เลยเกิดอารมณ์ประชด อยากให้พี่เขี้ยวตามง้อละมั้งคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 70% :03.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 03-06-2017 18:21:29
นางงอนไปไหนแช้ววว พี่เขี้ยว ง้อเร้วววว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 70% :03.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 03-06-2017 18:30:32
อียอร์ชโคตรตอแหลลลลลลกระทืบแม่ม
อย่าให้แม่เรียวโมโห
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 70% :03.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 03-06-2017 18:32:31
องค์คุณนายอลิน ของครูกุ๊ก ณ สูตรเสน่ห์หาลงขุ่นแม่เรียวจันทร์สินะ 555555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 70% :03.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-06-2017 18:36:19
งอนอะไรพี่เขี้ยวละขุ่นแม่เรียวจันทร์
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 70% :03.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 03-06-2017 20:25:25
คุณนายงอนคืนใช่ไหมจ้ะ  :hao7:
ขอถามหน่อยค่าาา หนังสือจะมีอีบุ๊คไหมคะ เผื่อเก็บตังไม่ทันอีกรอบ  :hao5:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 70% :03.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 03-06-2017 20:48:19
 o13 o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 70% :03.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: แพรพลอย ที่ 05-06-2017 06:37:43
ตามอ่านจนทันแล้วค่าาา ชอบอกชอบใจคุณนายเหลือเกิน ขนาดบทโศกบางบทคุณนายเล่นเอาซะโศกด้วยไม่ลงเลยเพราะขำหนักมาก แต่เรื่องพ่อกับแม่แท้ๆนี่สงสารคุณนายจริงๆ ขนาดเสี่ยจอมทัพที่ว่าเหี้-ย ยังไม่เทียบเท่าเลย ก็เอาใจช่วยให้คุณนายกับพี่เขี้ยวได้ลงเอยกันอย่างสงบสุขกันไวๆ เห็นทั้งสองรักกันทีไรมันกร๊าวใจทุกทีเลย 55555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 100% :09.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 09-06-2017 20:21:08


คาถาที่ 31 [100%]




“ป้าอุ่น ลุงอ๊อด คุณป๋า คุณแม่ ถอยไปค่ะ จะให้เรียวขับรถชนทุกคนเหรอ?!” เรียวจันทร์โผล่หัวออกมาจากหน้าต่างรถ ใบหน้าหงุดหงิดงุ่นง่าน แคมรี่สีฟ้าอ่อนพร้อมพุ่งตัวออกไปจากฟาร์ม แต่โดนทั้งสี่คนยืนขวางรถอยู่


“หนูเรียว โกรธอะไรไอ้เขี้ยวมันลูก อยู่คุยกับมันก่อนมั้ย อย่าเพิ่งหนีไปแบบนี้”


“ขอร้องเถอะค่ะคุณป๋า ให้เรียวไปเถอะ” เรียวจันทร์พยายามสะกดอารมณ์รุนแรงของตัวเองเอาไว้เพื่อไม่เอาออกมาใช้กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพทั้งหลาย


“คุณหนู เป็นอะไรไปล่ะคะ จะทิ้งป้าเหรอ” เรียวจันทร์มองป้าอุ่นแล้วทำหน้างอเหมือนเด็ก เห็นสีหน้าเว้าวอนของป้าอุ่นก็ใจหล่นไปวูบหนึ่ง


“ไม่ได้จะทิ้งค่ะป้า แต่เรียวขออยู่ห่างจากไอ้บ้าเขี้ยวสักแปบ…”


“…จะไปไหน?!” เรียวจันทร์สะบัดหน้าไปมองคมเขี้ยวที่ยืนหอบน้อยๆ อยู่กับแก๊ป คุณนายเบ้ปากและหันหน้าหนี รีบปิดกระจกรถขึ้นพร้อมกับล็อคประตู คมเขี้ยวรีบก้าวเดินเข้าไปกระชากประตูแต่ก็เปิดไม่ออกเลยทุบกระจกรถอย่างแรง


“เรียวจันทร์ เปิดประตู!”


“เขี้ยว อย่าตะคอกน้องสิ” แต่เหมือนคมเขี้ยวจะไม่ได้สนใจคำเตือนของแม่ตัวเอง เพราะเขายิ่งทุบกระจกแรงขึ้นกว่าเดิม


“เปิดประตู! ไม่ให้ไป จะไปไหน?!” เรียวจันทร์นั่งหน้าบึ้งอยู่ในรถไม่ยอมตอบ คมเขี้ยวมองตาดุด้วยความหงุดหงิด เขาหันซ้ายหันขวาสักแปบ ก่อนจะก้าวเท้าเดินไปหยิบจอบที่วางอยู่ข้างออฟฟิศและเดินกลับมาที่รถเรียวจันทร์


“ถ้าไม่เปิด พี่จะทุบกระจกนะ!”


“เฮ้ย ไอ้เขี้ยว!” เมฆาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ บัวบูชาก็อ้าปากหวอ ทั้งสองไม่เคยเห็นอารมณ์โมโหของลูกชายหนักขนาดนี้ ยิ่งพอคมเขี้ยวยกจอบขึ้นพร้อมทุบก็ยิ่งสะพรึงเข้าไปอีก


“เปิดประตู!” คมเขี้ยวตะคอก หน้าตาทั้งโกรธทั้งกลัว กลัวว่าเรียวจันทร์จะไปจริงๆ



เรียวจันทร์ชักสีหน้าก่อนจะเปิดประตูกระแทกคมเขี้ยวเต็มแรง ร่างสูงผงะถอยหลังไปสองก้าว แต่พอเห็นร่างเล็กออกมายืนด้านนอกด้วยใบหน้ามุ่ย เขาก็ทิ้งจอบ ก้าวเข้าไปประชิดตัวเรียวจันทร์ ดึงร่างบอบบางเข้ามากอดเต็มแรง


“ไม่ให้ไป หนูจะไปไหนอีก จะทิ้งพี่อีกแล้วเหรอ” คมเขี้ยวพูดเสียงรัว กอดร่างเรียวจันทร์แน่น คนโดนกอดทำหน้ามึนๆ งงๆ ทั้งที่คิ้วยังขมวดอยู่


“อยู่กับพี่ที่นี่ อย่าทิ้งพี่ไปอีก พี่ขาดหนูไม่ได้นะ” คมเขี้ยวพูดอย่างลนลาน ราวกับกลัวว่าจะไม่ทันได้พูดให้เรียวจันทร์ได้ยิน ใบหน้าสวยอึ้งไป รู้สึกเบลอกับสิ่งที่ได้ยิน ราวกับสิ่งที่ได้ยินเป็นเพียงเสียงแว่วๆ ที่ฟังไม่ถนัดนัก


“เดี๋ยว… คือแน่น พี่เขี้ยว หนูแน่น” แม้จะบอกแบบนั้นแต่คมเขี้ยวก็ยังกอดเรียวจันทร์แน่นเหมือนเดิม


“มีอะไรก็ไปคุยกันให้เข้าใจไป” เมฆาอมยิ้มน้อยๆ กับภาพที่เห็น บัวบูชามองแล้วยิ้มเขินๆ ป้าอุ่นกับลุงอ๊อดยิ้มแบบงงๆ แต่ก็ดีใจที่เห็นคนๆ นึงรักคุณหนูตัวเองขนาดนี้


คมเขี้ยวย่อตัวลงและอุ้มเรียวจันทร์ขึ้นพาดบ่าท่ามกลางความตกใจของทุกคน เรียวจันทร์ร้องเสียงหลง หัวห้อยลงกับพื้น


“เว๊? ฉิ่นจ่ะ อะไรเนี่ย อีพี่เขี้ยว ปล่อยยย!” แม้เรียวจันทร์จะโวยวายเสียงดัง แต่คมเขี้ยวก็ไม่สนใจ รีบเดินเข้าไปในบ้านที่รั้วเปิดอยู่แล้ว ด้วยความใจร้อน คมเขี้ยวเลยเดินเข้าข้างล่างบ้านแทนที่จะเดินขึ้นไปด้านบน เขาแบกเรียวจันทร์เข้าห้องนอนของไอ้ดิน เข้าไปในห้องได้ก็วางเรียวจันทร์ลงบนเตียง


“อะไรเนี่ย?!” เรียวจันทร์โวยวายใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโมโห ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วงงเมื่อคมเขี้ยวนั่งคุกเข่าลงตรงหน้านาง


“อย่าไปจากพี่ จะตีพี่ตรงไหนก็ได้ แต่อย่าไปจากพี่” คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์ด้วยสายตาที่ต่างจากตอนตะคอกให้นางลงมาจากรถลิบลับ มันกลายเป็นสายตาที่ยอมแล้วจริงๆ


“ฉันอยากพัก ฉันไม่อยากเหนื่อยใจกับความคิดของนายอีก…” คมเขี้ยวขมวดคิ้วไม่เข้าใจ เรียวจันทร์ถอนหายใจแรงๆ


“…เดี๋ยวนายต้องเก็บเอาคำพูดอียอร์ชมาคิดแน่ๆ แล้วนายก็จะระแวงฉันมากกว่าเดิม และนายก็จะงี่เง่า ดุด่าว่าฉันไม่จบไม่สิ้น ฉันเบื่อท่าทีนั้น เบื่อความปั้นปึ่งของนาย” เรียวจันทร์บอกด้วยความเหนื่อยล้าที่แสดงออกทางสีหน้าและสายตา คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์ด้วยสายตารู้สึกผิด


“พี่ขอโทษ แต่พี่ไม่ได้คิดมากเรื่องที่ไอ้แฟนเก่าหนูพูดเลยนะ” เรียวจันทร์มองอย่างไม่เชื่อ


“เชื่อได้เหรอ นายเชื่อทุกคนยกเว้นฉัน ทั้งที่ฉันรักนายจริงๆ แต่นายก็ยังมีอคติต่อฉันอยู่ ฉันรู้!” คมเขี้ยวมีสีหน้าสลดลง เขายกตัวขึ้น คลานเข่าเข้าไปหาเรียวจันทร์ ยื่นสองมือไปจับมือเรียวจันทร์ไว้ ขนาดว่าคมเขี้ยวนั่งอยู่ข้างล่างยังเกือบสูงกว่านางอยู่ดี


“พี่ขอโทษจริงๆ ที่อคติงี่เง่า แต่พี่ไม่เคยอยากให้หนูจากพี่ไปนะ ที่พี่เคยบอกว่าให้ไปไกลๆ พี่ประชด” เรียวจันทร์มองคมเขี้ยวนิ่งแต่ก็มีแววเคืองอยู่ในดวงตา คมเขี้ยวเลื่อนสองมือไปปลดกระดุมเสื้อเรียวจันทร์


“อะไร?!” เรียวจันทร์ตีมือคมเขี้ยวและถลึงตามอง คมเขี้ยวทำปากยื่น สองมือสอดเข้าไปใต้เสื้อตัวหลวมของตัวเองที่เรียวจันทร์สวมใส่อยู่


“พี่ยอมแล้ว พี่ไม่คิดเรื่องที่ผ่านมาอีกแล้วครับ อยู่กับพี่นะ หนูจะให้พี่อยู่ยังไง ถ้าหนูไป”




“ก็อยู่กับม้าไปสิ รักมันมากไม่ใช่เหรอ?!” เรียวจันทร์แว้ดกลับ นึกถึงตอนที่ถูกบังคับให้คืนดีกับม้าก็นึกโกรธขึ้นมา แต่ไอ้พี่เขี้ยวมันฉลาดหรือมันรู้จุดอ่อนของนางไม่รู้ สองมือลูบหน้าอกนางจนนางเริ่มหายใจไม่สะดวกแล้ว


“แต่พี่รักหนูมากกว่า พี่จะไม่บังคับ ไม่ขัดใจอะไรหนูอีก แต่อย่าไปจากพี่ได้มั้ยครับ” เรียวจันทร์มองคมเขี้ยวอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจ ไม่แน่ใจว่าคมเขี้ยวพูดด้วยอารมณ์ไหน ไม่รู้ว่าเมายาลดไข้รึเปล่า


“นะครับหนู…” คมเขี้ยวมองอ้อน เรียวจันทร์ขมวดคิ้วน้อยๆ เลื่อนสายตาไปมองทางอื่น แต่แปบเดี๋ยวก็ต้องเปลี่ยนเป็นตกใจเล็กๆ เมื่อคมเขี้ยวยื่นหน้ามาไซ้คอนาง


“อ๊ะ เขี้ยวกุด ทำไมก้าวกระโดดล่ะ” เรียวจันทร์ใช้สองมือผลักไหล่คมเขี้ยวเพื่อดันอีกฝ่ายออก


แต่ก็ดันไม่เต็มแรงนักหรอก


“มีอารมณ์ได้ไงเนี่ย อื้อ…” สองมือที่ตอนแรกพยายามจะผลักจะดันเขาออก (แบบสั้นๆ) เปลี่ยนเป็นจิกเสื้อเขาแทน


“…เรียกพี่เขี้ยวสิ น้องหนู” เรียวจันทร์ตาปรือ แหงนคอขึ้นให้คมเขี้ยวซุกไซ้สะดวกกว่าเดิม


“อื้อ พี่เขี้ยว” แล้วนางก็ไม่สามารถคุมอารมณ์ตัวเองไม่ให้เตลิดไปกับคมเขี้ยวได้


อะไรคือความโกรธ ความเหนื่อยใจของนางก่อนหน้านี้… มันมีอยู่จริงมั้ย










เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด


“อ๊ะ อ๊ะ พี่เขี้ยว หนูเสียวว…ว” เรียวจันทร์ครางเสียงระทวยแข่งกับเสียงเตียงเหล็กที่ดังเอี๊ยดอ๊าดเพราะแรงขับเคลื่อนที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องไม่ยอมหยุดจากคนสองคนที่ใช้ร่างกายเสียดสีกันไปมา


“น้องหนูจะอยู่กับพี่ใช่มั้ย ฮื้อ” คมเขี้ยวก้มลงดูดหัวนมสีชมพูของเรียวจันทร์ราวกับกำลังดูดอมยิ้ม คุณนายแอ่นอกขึ้นด้วยความเสียววูบ ริมฝีปากสีชมพูอ้ากว้างพร้อมกับส่งเสียงคราง


“หนูอยู่นี่ค่ะพี่เขี้ยว” เรียวจันทร์ครางเสียงสั่น คมเขี้ยวปล่อยอมยิ้มสีชมพู เลื่อนปากไปประกบปากเรียวจันทร์ ลิ้นของทั้งสองคนคลอเคลียกันอย่างชุลมุน ด้านล่างคมเขี้ยวก็ขยับเอวไม่ยอมหยุด เรียวจันทร์เลื่อนสองมือขึ้นไปจับแกนเหล็กของหัวเตียงแน่น ด้านล่างก็โดนแทงเอาๆ ด้านบนก็โดนดูดกลืนไม่หยุด จนหายใจสะดุดไปหลายช่วง


“อื้อ อื้อ” ร่างเล็กร้องประท้วงเมื่อเริ่มโดนจูบหนักมากขึ้น คมเขี้ยวดึงปากตัวเองออก เรียวจันทร์อ้าปากหอบหายใจรุนแรง คมเขี้ยวเพิ่มแรงกระแทกและความถี่เพิ่มขึ้นอีกนิดจนเตียงสั่นอย่างแรงตามการกระแทก หัวเตียงชนกับผนังปูนเสียงดัง เสียงครางมีทั้งดังสลับกับแผ่วเบา


แกร๊ก~


คมเขี้ยวหยุดกระแทก เรียวจันทร์แทบหยุดหายใจ สองผัวเมียหันหน้าเหนื่อยหอบของตัวเองไปมองทางประตูห้อง เจ้าของห้องตัวโตยืนอ้าปากหวอมองทั้งสองคนด้วยความอึ้ง


“โห อะไรเนี่ย โคตรหยามเกียรติดินเลยนะพี่เขี้ยว” ไอ้ดินบอกอย่างหัวเสีย มองภาพร่างเปลือยเปล่าทั้งสองคนที่แนบชิดสนิทกัน ยิ่งช่วงนั้นคงยิ่งสนิทน่าดู



“เออ กูยืมห้องหน่อย เดี๋ยวคืน” คมเขี้ยวไม่ว่าเปล่าแต่ยังขยับเอวเบาๆ เพื่อไม่ให้อารมณ์มันขาดช่วงไปนาน เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่น หันหน้าหนีดินด้วยความอาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าอายจนอยากโดดหน้าต่างหนี ก็แค่อายแบบเบาๆ ที่ดินเข้ามาเห็นฉากนี้


“โห่ แม่ง แย่งคุณเรียวไป แล้วยังมาใช้ห้องเขาอีก” ไอ้หมียักษ์โวยวายเบาๆ แต่ก็ปิดประตูห้องให้ คมเขี้ยวที่ขยับสะโพกเบาๆ อยู่ก่อนแล้ว พอหันกลับมามองหน้าเรียวจันทร์ก็ก้มลงหอมแก้มนวล ก่อนจะเร่งเครื่องตามเดิมจนเตียงสั่นและเหล็กลั่นเอี๊ยดอ๊าด


“อ๊าๆๆๆ” เรียวจันทร์ร้องเสียงหลง คมเขี้ยวก้มลงดูดหัวนมอีกรอบอีกสักพัก ก่อนจะใช้สองแขนยันตัวขึ้น และออกแรงจนบั้นเอวเด้งเข้าเด้งออกอย่างเร็ว เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มแผ่นหลังคมเขี้ยว และไหลลงมาตามเนื้อสีคร้ามแดด เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่น ก่อนจะเลื่อนมือขวาลงไปช่วยตัวเองเพื่อให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง


“หนู พี่จะออกแล้ว…” คมเขี้ยวบอกเสียงแผ่วแต่ความแรงของสะโพกไม่แผ่วตามกลับยิ่งเร่งจนเรียวจันทร์แทบจะตาเหลือกเพราะความยาวของคมเขี้ยวก่อกวนด้านในจนท้องไส้ปั่นป่วน


“อ่า… อา… อ้า!!!” คมเขี้ยวสบถดังลั่นตอนที่ลูกชายพ่นน้ำเข้าไปในก้นเรียวจันทร์อย่างมากมาย ตัวคมเขี้ยวกระตุกเป็นระยะตามแรงพ่น เปลือกตาหลับแน่นอย่างเสียวซ่าน หอบหายใจอย่างหนักหน่วง


“อ้า อ้า!” เรียวจันทร์กรีดร้องตอนที่ตัวเองไปถึงจุดมุ่งหมายเช่นกัน น้ำสีขาวพ่นออกมาเป็นหย่อมบนหน้าท้องขาวเนียน คุณนายนอนหมดแรงโดยมีคมเขี้ยวที่ค่อยๆ ปล่อยตัวนอนทับร่างบางๆ ของนางไว้


เสียงหอบหายใจของคนทั้งคู่ดังไปทั่วห้องนอนของดินอยู่พักใหญ่ คมเขี้ยวนอนเอาจมูกหอมแก้มเรียวจันทร์ไว้บนหมอนเดียวกัน ด้านล่างยังคงเชื่อมต่อกันแม้จะปลดปล่อยจนหมดแล้ว


“พี่เขี้ยว อย่าเพิ่งต่อรอบสองนะ” เรียวจันทร์อ้อนวอนเสียงแห้ง เพราะดูจากการแข็งตัวของเขี้ยวเล็กที่คาอยู่ในตัวนางแล้วนั้น ดูมันพร้อมจะสู้ศึกเลยทันที


คมเขี้ยวยิ้มเพลีย ค่อยๆ ยกตัวขึ้นนั่งตรงๆ และค่อยๆ ดึงลูกชายตัวเองออกจากช่องคับช่องแน่นของเรียวจันทร์ น้ำสีขาวข้นทะลักตามออกมาราวกับลาวา รูลับของเรียวจันทร์ขมิบเป็นระยะเพื่อผ่อนคลายตัวเอง คมเขี้ยวยัดนิ้วชี้กับนิ้วกลางเข้าไปในช่องสีแดงฉ่ำที่เป็นรูปโหว่ และช่วยควักน้ำสีขาวออกมาด้านนอก


“อื้อ พอแล้ว” เรียวจันทร์ร้องบอกเบาๆ คมเขี้ยวหยุดทำ เขาหันหลังนั่งลงพิงกำแพงห้อง เหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้ากับตัวเพราะไม่ได้เปิดพัดลมหรือแอร์ มีเพียงหน้าต่างห้องนอนที่เปิดรับลมไว้เฉยๆ ไม่รู้ป่านนี้มีกี่คนแล้วที่ได้ยินเสียงสวาทของทั้งสองคน



“พี่เขี้ยวไม่นึกถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้วจริงอะ” เรียวจันทร์ถามเสียงแผ่ว นอนอ้าขาอย่างหมดแรง คมเขี้ยวหันหน้าไปมองคนสวยแล้วยิ้ม


“ไม่ลืม แต่จะไม่เอามาทะเลาะกับหนูอีกแล้ว พี่ขอโทษที่เคยเอามันมาเป็นปมให้เราทะเลาะกัน” เรียวจันทร์เบะปากน้อยๆ ค่อยๆ ดันตัวเองลุกขึ้นนั่ง


“พี่เขี้ยวชอบดุหนู” นางว่าหน้างอ คมเขี้ยวยิ้มขำ


“แต่เรื่องดุพี่ไม่ทำไม่ได้ เพราะหนูแรดเก่ง” เรียวจันทร์ดันตัวเองให้นั่งตัวตรงแล้วคลานเข้าไปนั่งคร่อมตักคมเขี้ยว คนตัวโตเหยียดขาตรง สองแขนโอบบั้นเอวงอนๆ ของร่างเล็ก


“พี่เขี้ยวไม่โกรธหนูเรื่องนั้นแล้วแน่นะ” คมเขี้ยวลูบมือไปตามเอวบางแผ่วเบา มองหน้าเรียวจันทร์ด้วยสายตาอ่อนโยน


“พี่ไม่โกรธหนูนานแล้ว แค่อยากดัดนิสัย แต่ท่าทางจะดัดยาก”



“ดัดไม่ยากหรอก หนูดัดจริตออก” เรียวจันทร์หัวเราะคิกคัก คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ ยื่นหน้าไปจุ๊บปากสีชมพูสดหนึ่งที


“ไม่ทิ้งพี่นะครับ พี่รักใครรักจริงนะรู้เปล่า” เรียวจันทร์คลี่ยิ้มเขิน คมเขี้ยวมองหน้าคุณนายด้วยสายตาจริงใจกับประโยคของตัวเอง เพราะเขามั่นใจว่าไม่ใช่คนรักใครเรี่ยราดหรืออยากเอากับใครไปทั่ว


“พี่ยอมเข้าสมาคมพ่อบ้านใจกล้าก็ได้” เรียวจันทร์ยิ้มกว้างขำขัน มองคมเขี้ยวที่มองนางอย่างจริงใจและจริงจังด้วยสายตาเป็นประกาย มือซ้ายอ้อมไปด้านหลังไปจับเขี้ยวเล็กที่อ่อนตัวลงให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง


“กลัวเมียอะดีแล้ว ชีวิตจะได้รุ่งเรือง” คมเขี้ยวขำพรืด นึกในใจว่าถึงจะไม่อยากกลัวยังไงก็ต้องกลัวกับอิทธิฤทธิ์และมารยาของแม่คุณนายตัวแสบคนนี้อยู่ดี ไอ้กล้าสู้น่ะกล้า แต่จะสู้ได้รึเปล่านั่นคืออีกเรื่อง


“ไหนบอกว่าอยากพักยกสองก่อน” คมเขี้ยวถามเสียงพร่า สองมือลูบตามเนื้อตัวขาวเนียนของเมีย เรียวจันทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จับลูกชายคมเขี้ยวตั้งตรงและนั่งลงทับรวดเดียว ความเสียวแล่นปรี๊ดไปทั่วทั่วน้อย


“มีผัวอย่างพี่ หนูว่าหนูพักยากค่ะ” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างและเริ่มโยกเอวเบาๆ คมเขี้ยวซี๊ดปากด้วยความเสียว


แล้วเตียงของดินก็เริ่มสั่นเหล็กลั่นเอี๊ยดอ๊าดอีกครั้ง…










กว่าจะเคลียร์เรื่องราวที่ค้างคาและเคยทำปั้นปึ่งใส่กันจนใจตรงกัน สองผัวเมียก็คลอเคลียเคล้าคลึงกันไปหลายรอบจนจากฟ้าสว่างกลายเป็นฟ้ามืด ดวงอาทิตย์จากไป พระจันทร์ขึ้นมาแทนที่ แต่พี่เขี้ยวก็ยังฟัดน้องหนูจนคิดว่าควรเปลี่ยนเตียงให้ไอ้ดินเร็วๆ นี้


“อ๊า! อ๊า! อ๊าๆๆ” คมเขี้ยวคำรามเสียงดังและยังคงกระแทกกระทั้นร่างขาวโพลนที่ตัวโยกโงนเงนอยู่ด้านบน เรียวจันทร์หน้านิ่วคิ้วขมวดกับความเสียววูบวาบตรงท้องน้อยที่โดนของของคมเขี้ยวปั่นและวนอยู่ด้านใน


ก๊อกๆ


“พี่เขี้ยว!” เสียงเจ้าของห้องร้องเรียก คมเขี้ยวหันไปมองประตูและเร่งเร้าใส่เรียวจันทร์ คุณนายยกมือขวาปิดปากตัวเองเพื่อกั้นเสียงร้องไม่ให้ดังลั่น


“เออ!”


“ไปกินข้าวพี่ จะข้ามวันข้ามคืนเลยเรอะ”


“แปบนึง” คมเขี้ยวกัดฟันแน่น คิ้วเข้มขมวดฉับ สองมือบีบเอวบางแน่น กระแทกอีกสามสี่ทีก็พ่นน้ำรอบที่ห้าของวันนี้ออกมา เรียวจันทร์หายใจหอบหมดแรง ทิ้งตัวลงนอนบนตัวคมเขี้ยวด้วยความล้า คมเขี้ยวยังคงอึดและทนเหมือนเดิม ทำแต่ละครั้งคือยาวนานจนขานางสั่น กล้ามก้นชาไปหมด


“ไอ้ดิน ประตูไม่ได้ล็อค” คมเขี้ยวตะโกนบอกน้องชายหลังจากใช้ผ้านวมคลุมตัวเองกับเรียวจันทร์เพื่อปิดเนื้อหนังมังสา ดินเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนตัวเอง


“โห จนคุณเรียวหมดแรงแล้วนะพี่ ทำไมทำงี้อะ” ดินมองสภาพอิดโรยของเรียวจันทร์ที่หลับคาอกของคมเขี้ยวแล้วบอกด้วยความไม่พอใจที่เห็นขวัญใจตัวเองโดนทารุณกรรม


“ขวัญใจมึงอะตัวดี ปั่นกูไม่หยุด” คมเขี้ยวเถียงเบาๆ ไอ้ดินเบะปากเบาๆ


“แล้วนี่พี่หายไข้แล้วรึไง ถึงได้มีแรงมาทำอะไรแบบเนี้ย”


“เพราะกูทำอะไรแบบเนี้ยแบบที่มึงว่าแหละ กูเลยหาย” ไอ้ดินกะพริบตาปริบๆ มองพี่ชายอย่างประหลาดใจ


“จริงอ้ะ? มันขับพิษไข้เหรอ” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น นึกในใจว่าเป็นแบบนั้นรึเปล่า แต่ก่อนหน้านี้อาการไข้เขาก็ไม่ได้หนักถึงขั้นปวดเนื้อปวดตัวจนทำอะไรไม่ไหว พอได้ออกกำลังแบบนี้ เหงื่อเลยออกเยอะมั้ง ไม่รู้เกี่ยวรึเปล่า ทฤษฎีนี้มั่วไปหมด


“ไม่รู้ว่ะ แต่มึงก็อย่าทำตามแล้วกัน บางทีกูคงเงี่ย…”


“…เงี่ยนจนไข้หายอะเหรอพี่” คมเขี้ยวอ้าปากหวอด้วยความช็อคเล็กน้อยกับการพูดหน้าซื่อตาใสแบบจริงใจของไอ้น้องชาย มันไม่ได้พูดแซวเล่นด้วย มันพูดจริง


“เอ่อ เอาแบบนี้ ขึ้นอยู่ที่ร่างกายของแต่ละคนแล้วกัน” ตอบแบบนี้ดีที่สุด เกิดแนะนำมันไปตรงๆ แล้วมันไม่ถูกต้องกับหลักความเป็นจริงก็ไม่ดีอีก ไอ้ดินยิ่งเรียนรู้จากการจดจำในชีวิตประจำวันอยู่ด้วย 


ปฐพีพยักหน้าหงึกๆ ใบหน้าครุ่นคิดตามที่พี่เขี้ยวบอก ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ “เออ แล้วพี่จะกินข้าวมั้ย ดินว่าพี่ยังต้องกินยาอยู่นะ”


“พี่สะใภ้มึงสลบไปละ คงไม่กิน วันนี้มึงขึ้นไปนอนห้องกูนะ กูยึดห้องมึงวันนึง” ดินมองค้อนพี่ชายตัวเองไปวงใหญ่ แล้วก็เดินออกจากห้องนอนตัวเองไปพร้อมกับปิดประตู ภาพที่เห็นก่อนประตูจะปิดคือพี่เขี้ยวแม่งสะกิดคุณเรียวจันทร์


โห่ แม่ง พี่เขี้ยวเป็นคนแบบนี้เองเหรอเนี่ย


“มันลดไข้ได้จริงเหรอวะ” ดินพูดกับตัวเองด้วยความสงสัยในประเด็นนี้อย่างจริงจัง ดินเองก็ไม่ใช่คนป่วยง่าย เกิดมาเป็นหนักสุดก็คืออีสุกอีใสในตอนเด็กๆ หลังจากนั้นก็ป่วยยาก ป่วยนิดๆ หน่อยๆ ไม่ค่อยจะล้มหมอนนอนเสื่อกับใครเขาหรอก คงเพราะถูกเลี้ยงตามมีตามเกิดมาตั้งแต่เด็กๆ เลยมีภูมิคุ้มกันเชื้อโรคดี


สงสัยต้องลองมีไข้ แต่มีไข้แล้วไม่มีเมียจะรู้ได้ไงว่าลดได้จริงมั้ย


งั้นคงต้องหาเมียก่อน


ไอ้ดินนึกอะไรเพลินๆ ในขณะที่จะเดินขึ้นบันไดบ้านไปชั้นสอง แล้วภาพคุณเรียวจันทร์ที่นอนอยู่ใต้ร่างพี่เขี้ยวก็ลอยเข้ามาในห้วงความคิด ไอ้ดินขนลุกซู่ รู้สึกถึงการตื่นตัว มันกลืนน้ำลายลงคอ พยายามสลัดภาพเมียพี่ชายที่แม้จะเป็นผู้ชายออกไปจากหัวตัวเอง แต่สุดท้ายไอ้ดินก็พ่ายในคุณเรียวตามเคย แม้จะเป็นในจินตนาการก็ตาม


ขอโทษนะพี่เขี้ยว แต่ดินใช้คุณเรียวช่วยตัวเองก่อนที่พี่จะได้เขาเป็นเมียอีก
   

   

 :hao6:


ว้ายยยย ขุ่นแม่หนีไม่พ้นนน แถมยังโดนเขี้ยวกุดฝังเขี้ยวซะจมมิดเลยยย กรี๊ดดดดๆ

พี่เขี้ยวเข้าสมาคมพ่อบ้านใจกล้าด้วยการประกาศตัวเองแบบไม่ต้องบังคับ ต่อแต่นี้ ขุ่นแม่คือผู้กุมอำนาจแห่งเมืองทิพย์ที่แท้จริงเจ้าค่ะ คริๆ

น้องดินของเจ้โดนภาพบาดตาบาดใจตลอด ไม่เป็นไรนะคะ ตอนพิเศษแบบพิเศษม้ากมาก น้องดินแข็งก็จะไม่ต้องใช้มือแล้ว อิๆ

อีกสองตอนจบแล้ววววว มนตร์ขุ่นแม่ใกล้จะปิดบทเต็มที ใครอยากต่อมนตร์พิเศษ ตอนนี้มีรอบสต๊อกนะจ๊ะ อิๆ ขายของเนียนๆ แถมในเล่มยังมีตอนของน้องดินด้วยยย ฮิ้วววว รายละเอียดอ่านได้ที่เพจค้า

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ  :mew1:


#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 100% :09.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-06-2017 20:41:35
ว้ายยย ขุ่มแม้ๆๆๆๆๆๆๆ กรีดร้องกะนาง อิพี่เขี้ยวเลิกบ้าแล้วว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 100% :09.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-06-2017 21:05:25
 :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 100% :09.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 09-06-2017 21:47:59
ขุ่นแม่เรียว ถ้าตัดใจก็ตัดจริงเหมือนที่ตัดแม่ออกจากชีวิต แต่ยกเว้นกับพี่เขี้ยวนะ อิอิ ว่าแต่พี่เขี้ยวอ้อนเมียได้น่ารักมากๆ หุหุ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 100% :09.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mayongc. ที่ 09-06-2017 22:02:04
คมเขี้ยวกลายเป็นไอ้เขี้ยวกุดของแท้เลยคราวนี้   :hao3:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 100% :09.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 09-06-2017 23:20:07
ตายคาอกแน่
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 100% :09.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 10-06-2017 02:35:47
 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๑ 100% :09.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 13-06-2017 15:57:21
ยอมใจคุณเขี้ยวเขา อะไรจะอึดเบอร์นี้  :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งแรก :15.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 15-06-2017 20:43:45


คาถาที่ ๓๒ :: Leave us alone. (อย่ายุ่งกับเรา) [ครึ่งแรก]




คมเขี้ยวตื่นตอนช่วงเก้าโมงเช้าของวันใหม่ เขาลุกขึ้นนั่งหน้าตางัวเงีย มองซ้ายมองขวาหาร่างบางที่ควรจะนอนสลบอยู่ข้างกันไปรอบห้องนอนไอ้ดินแต่ก็ไม่พบ เขาลุกขึ้นเดินไปดูที่ห้องน้ำก็ว่างเปล่า ตอนนั้นเองที่คมเขี้ยวเริ่มมีความกระวนกระวาย พอมองหาเสื้อผ้าที่ถอดกระจัดกระจายไว้บนพื้นเมื่อวานนี้แล้วไม่พบก็เริ่มมีอาการจิตตกร่วม เขารีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่แล้วเดินออกไปจากห้องนอนไอ้ดินอย่างรวดเร็ว

           

 

เขาเดินขึ้นไปบนบ้านก่อนเป็นที่แรก เผื่อว่าเรียวจันทร์จะขึ้นไปหาอะไรกิน แต่พอขึ้นไปก็เจอแค่ป๋าที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ มีจานผลไม้วางอยู่บนโต๊ะอาหาร

           

 

“ป๋า เห็นเรียวจันทร์มั้ย” เมฆาเงยหน้าขึ้นมองลูกชายงงๆ ย่นคิ้วกับสภาพยับยู่ยี่ของมันนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้จริงจังกับสภาพมันมาก สงสัยเพิ่งฟื้น

           

 

“ไปข้างนอก” คมเขี้ยวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ และใจก็ตกไปอยู่ตาตุ่ม หัวใจเต้นระส่ำระส่ายทันที

           

 

“ไปไหนป๋า??!!” คมเขี้ยวตะโกนลั่น เล่นเอาคนเป็นพ่อสะดุ้งไหล่แทบหลุด พอตั้งสติได้ก็เบะปากน้อยๆ ด้วยความหมั่นใส่ไอ้ลูกชาย

           

 

“ใจเย็น เมียแกไม่ได้หนีไปไหน ที่บอกว่าไปข้างนอก คือไปนอกบ้านโว้ย เห็นเดินขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ออกไป” คมเขี้ยวอึ้งไปแปบนึง ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ด้วยความโล่งอก เมฆามองด้วยความหมั่นไส้เล็กๆ

           

 

“หายไข้รึยังล่ะน่ะ” คมเขี้ยวยกมือจับหน้าและลำคอตัวเองสักพักก่อนตอบ

           

 

“ตัวอุ่นๆ อะป๋า กินยาวันนี้อีกวันคงหายดี”

           

 

“ยังเมื่อยตามตัวอยู่มั้ย” เมฆาถามถึงอาการไข้ตามปกติ แต่คมเขี้ยวแอบอ้าปากเหวอนิดๆ เพราะดันไปคิดถึงเรื่องอื่นที่ทำให้เมื่อยตามตัว

           

 

“ก็นิดหน่อยป๋า” คนเป็นพ่อพยักหน้าขึ้นหนึ่งที คมเขี้ยวกระตุกยิ้มเล็กๆ

           

 

“ไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วมากินข้าวกินยา แล้วจะไปตามหาหนูเรียวก็ไป” คมเขี้ยวพยักหน้าสองที หมุนตัวเดินกลับไปทางห้องนอนตัวเอง จัดการอาบน้ำแบบระมัดระวังไม่ให้น้ำโดนแผล แต่งตัวด้วยเสื้อกล้ามกับกางเกงยีน เสร็จเรียบร้อยก็ออกไปกินข้าวกินยา มีป๋านั่งเป็นเพื่อน

           

 

“คราวนี้เคลียร์กันเข้าอกเข้าใจจริงๆ แล้วใช่มั้ย” คมเขี้ยวพยักหน้าหงึกๆ ทั้งที่มือยังถือตะเกียบคีบผัดไทเข้าปาก

           

 

“แกไม่เล่นตัวยึกยักกับหนูเรียวแล้วแน่นะ” เมฆามองอย่างหมั่นไส้ ยังจำท่าทีเล่นตัวของไอ้เขี้ยวได้ดี ถึงไม่เห็นบ่อยแต่ก็เห็นเวลาที่มันชอบว่าชอบข่มหนูเรียว

           

 

“ผมก็ไม่ได้เล่นตัวสักหน่อย” คมเขี้ยวทำทีเฉไฉเบาๆ

           

 

“อ๋อเหรอ เขามาง้อก็ทำงอนไม่จบไม่สิ้น”

           

 

“ตอนนี้มันสิ้นแล้วน่า” คมเขี้ยวมุ่ยหน้าน้อยๆ มองป๋าที่เบะปากเบาๆ

           

 

“ถ้าอยากมีงานแต่งก็บอก ถึงจดทะเบียนไม่ได้ แต่แต่งงานกันไว้ก็ดี เป็นการให้เกียรติหนูเรียวกับไอ้อาทิตย์มันด้วย” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าครุ่นคิดนิดหน่อย

           

 

“ป๋าอยากมีหลานป้ะ” เมฆาถอนหายใจ ลดหนังสือพิมพ์วางลงบนโต๊ะ มองหน้าลูกชายด้วยความเป็นกังวลนิดๆ

           

 

“ก็บอกตรงๆ ว่าอยาก ไม่ใช่แค่ว่าอยากอุ้มหลาน แต่ป๋าแค่คิดว่า หมดรุ่นแกไป ใครจะมารับช่วงที่นี่ต่อ ไอ้ดินก็พอไหว แล้วหลังจากไอ้ดินล่ะ”

           

 

“เผื่อไอ้ดินมันจะมีเมียเป็นผู้หญิงนะป๋า” เมฆากลอกตาไปหนึ่งรอบจนคมเขี้ยวขำ

           

 

“เห็นมันเทิดทูนหนูเรียวแล้วไม่มั่นใจเลย” คมเขี้ยววางตะเกียบลงในจาน หยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มสามอึกและพูดต่อ

           

 

“ผมกับเรียวมีให้ป๋าไม่ได้จริงๆ ลุ้นไอ้ดินเอาแล้วกัน แต่ถ้ามันมีเมียเป็นผู้ชายอีกคนก็ดูแลไปจนแก่เฒ่า สุดท้ายถ้าไม่มีใครรับช่วงต่อ เราก็ยกให้เป็นของประเทศไป” คมเขี้ยวบอกอย่างสบายๆ ไม่ได้มีท่าทีเครียดหรือจริงจังจนชวนปวดหัว

           

 

เมฆาถอนหายใจเบาๆ “ตอนนี้ก็ช่วยกันดูแลไปแล้วกัน”

           

 

คมเขี้ยวพยักหน้า เข้าใจว่าป๋าก็คงมีเครียดๆ บ้าง แต่ให้ทำไงได้ล่ะ เมียเขาไม่มีมดลูก แต่เก่งเรื่องบนเตียงสะบัดเชียวแหละ

           

 

“ขอบคุณนะป๋าที่ไม่ขัดขวาง ไม่กีดกันแบบละครน้ำเน่า” เมฆากระตุกยิ้มนิดหน่อย

           

 

“ชีวิตหนูเรียวน้ำเน่ามากพอแล้ว อย่าให้ป๋าเติมความเน่าอีกเลย…” เมฆาไม่เคยคิดรังเกียจหรือต่อต้านความรักรูปแบบนี้ เขามองแค่ว่าถ้าลูกรักก็จะรักคนนั้นของลูกด้วย ซึ่งคนที่ไอ้เขี้ยวมันรักเป็นลูกของเพื่อนรักเขาเลยยิ่งเปิดใจรับง่าย

           

 

“…ป๋ารักกับแม่แกก็ไม่มีใครบังคับหรือมากำหนดแบบนั้นแบบนี้ แล้วจะให้ป๋าบังคับให้แกฝืนใจตัวเองทำไม” คมเขี้ยวยิ้มด้วยความอบอุ่นหัวใจและโล่งใจ

           

 

“แต่ตอนแรกแกฝืนใจมากไม่ใช่เหรอที่หนูเรียวจะมาอยู่ที่นี่” เมฆาแกล้งแซวถึงจุดเริ่มต้นในอดีตที่ลูกชายตัวเองทำท่าต่อต้านเรียวจันทร์เต็มที่

           

 

“แหม่ ก็นั่นมันตอนแรก ตอนนี้ก็คือตอนนี้ดิป๋า ไม่ฝืนใจอะไรแล้ว”

           

 

“มีแต่ขืนใจเขาอะดิ…” คมเขี้ยวตีหน้ามึน เมฆามองซ้ายมองขวา ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ลูกชายและพูดเสียงกระซิบ

 

 

“…ไอ้ดินมันมาฟ้อง” เมฆายิ้มกรุ้มกริ่ม คมเขี้ยวรู้ว่าไอ้ดินมาฟ้องประเด็นไหน เขาเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้น้องชายตัวเอง ตอบสียงห้วนนิดๆ

 

 

“หนูเรียวของป๋าก็ชอบขืนใจผมเหมือนกันแหละ” เมฆาอ้าปากค้างหน่อยๆ

 

 

“แล้วทำไมแกไม่ขัดขืนล่ะ” คมเขี้ยวอมยิ้ม

 

 

“ก็ผมชอบ” คนเป็นพ่อมองอย่างหมั่นไส้กับรอยยิ้มอิ่มใจของไอ้ลูกชาย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นทำหน้าเสียดายเล็กๆ

 

 

 “ถ้าหนูเรียวเป็นผู้หญิงนะ ป๋าได้อุ้มหลานปีละคนสองคนแน่ๆ” คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับถือจานผัดไทเพื่อจะเอาไปวางไว้ในอ่างล้างจาน

 

 

“ขอโทษจริงๆ นะป๋าที่เมียผมดันเป็นผู้ชาย”

 

 

“เออ ให้คนนี้คนเดียวนะ ถ้าแกมีเมียผู้ชายโผล่มาอีกคนล่ะก็ ฉันตัดแกออกจากกองมรดกแน่ๆ” เมฆาชี้หน้าขู่ แต่คมเขี้ยวรู้ว่าพ่อเขาทำไปงั้นแหละ

 

 

“แต่เมียผู้หญิงได้ใช่ป้ะ” คมเขี้ยวแกล้งแซว เมฆาเบ้ปากและไหวไหล่

 

 

“เห็นไอ้ดินว่าหนูเรียวเล่นไอ้แฟนเก่าซะเละ แกจะจำลองเหตุการณ์นั้นให้ฉันกับแม่แกดูใช่มั้ย เอาสิ” คมเขี้ยวหัวเราะ เอื้อมตัวไปตบบ่าป๋าเบาๆ

 

 

“องครักษ์พิทักษ์เรียวจันทร์เยอะ ผมไม่กล้าหรอก” เมฆายิ้มเหี้ยม ส่งสายตาไปทางมือคมเขี้ยวที่วางอยู่บนบ่า ไอ้ลูกชายมันยิ้มร่าและเดินเอาจานไปไว้ที่อ่างล้างจาน

 

 

“ผมไปหาเรียวจันทร์ก่อนนะ”

 

 

“เออ ไปเถอะ” คมเขี้ยวเดินไปเปิดประตูบ้าน ตอนที่ประตูเลื่อนเปิดออกเขาย่นคิ้วกับเสียงเพลงแว่วๆ ที่มาพร้อมกับจังหวะกระหึ่ม สายตามองผ่านโดมโรงอาหารคนงานไปเพื่อพยายามเฟ้นหาต้นตอของเสียง

 

 

“ใครเปิดเพลงไรวะ”

 

 

“ฮะ? แกว่าไงนะ” คมเขี้ยวหันไปมองพ่อที่หันมาถามหน้าตางงๆ

 

 

“ใครเปิดเพลงอะไรไม่รู้ป๋า ดังลั่นฟาร์ม” เมฆาพยายามเงี่ยหูฟัง เพราะตอนแรกปิดประตูบ้านไว้เสียงเลยเข้ามาไม่ได้ พอเปิดประตูเลยได้ยินเสียงแว่วดังมาจากที่ไกลๆ

 

 

“พวกคนงานเปิดคลอระหว่างทำงานล่ะมั้ง” คมเขี้ยวมีสีหน้าหงุดหงิด รู้สึกหัวเสียนิดๆ

 

 

“คลอบ้าอะไรดังขนาดนี้”

 

 

“ฟาร์มเราปิดอยู่น่า ไม่เป็นไรหรอก” คมเขี้ยวยังคงหน้าเครียด ถึงฟาร์มจะปิดอยู่ แต่ไม่เข้าใจว่าพวกมันจะเร่งเสียงให้ดังไปทำไม เสียงเหมือนจะดังมาจากทางแคมป์ปิ้งสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยู่ละแวกเดียวกับคอกวัว แบบนี้วัวตกใจหมด

 

 

คมเขี้ยวปิดประตูตามหลัง เดินลงบันไดไปประตูบ้านที่เปิดแง้มๆ ไว้ ก้าวเท้าเดินตรงไปทางต้นเสียงที่ได้ยิน ยิ่งเดินเข้าใกล้ก็ยิ่งแน่ใจว่าเสียงมาจากคอกวัว มีเสียงเฮฮาหัวเราะของไอ้พวกคนงานอีก นี่มันจัดปาร์ตี้อะไรกันกลางวันแสกๆ แบบนี้

 

 

“เฮ้ย!!” คมเขี้ยวตะโกนแทรกเข้าไปในเสียงเพลงที่เปิดดังลั่น พวกคนงานที่ยืนอยู่ใกล้กับประตูของคอกวัวหันมามองเขาด้วยความตกใจ ยิ่งพอเห็นใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของพี่เขี้ยวก็ยิ้มแหย

 

 

“พวกมึงทำไรกันเนี่ย เปิดเพลงเสียงดังทำไม?!!” คนงานสองคนที่หันมาเห็นคมเขี้ยวพอดีเมื่อกี้นี้สั่นหัวรัวๆ และพูดเสียงดังกลับไป

 

 

“ผมเปล่านะพี่เขี้ยว พวกผมไม่ได้เปิด” คมเขี้ยวย่นคิ้ว

 

 

“เพลงดังขนาดนี้ พวกมึงบอกว่าไม่ได้เปิดได้ไง?!” คมเขี้ยวถามอย่างหัวเสียกับอาการแถของพวกมัน สักพักไอ้พวกคนงานนับสิบคนที่ยืนออกันอยู่ตรงทางเข้าพร้อมใจกันหันมาทางคมเขี้ยว

 

 

“พี่เขี้ยว…!” หนึ่งในนั้นตะโกนลั่น แล้วพวกมันก็ทำท่าทำทางไม่ถูก เพราะตกใจที่จู่ๆ เจ้านายตัวเองก็มายืนมอง แถมยังมองด้วยสายตาไม่ค่อยจะพอใจซะด้วย

 

 

“เปิดเพลงกูไม่ว่า แต่มึงจะไปเปิดแข่งกับดีเจรถบั๊มรึไง?!”

 

 

“ผมเปล่านะพี่!” คมเขี้ยวยกหลังมือขวาขึ้นทำท่าจะตบพวกลูกน้องตัวเอง

 

 

“เปล่าห่าอะไร เดี๋ยวกูจะซัดไอ้ตัวการให้เละเลยมึง!” พวกคนงานมองหน้ากันแล้วขยับยิ้มขำขันจนคมเขี้ยวงงแต่ก็ยังคงมีสีหน้าหงุดหงิด

 

 

~♫Too high, can’t come down. Losing my head. Spinning round and round. Do you feel me now?~♪

 

 

เสียงร้องของนักร้องหญิงคนหนึ่งที่คมเขี้ยวคุ้นหู แต่ก็นึกชื่อไม่ออกว่าชื่ออะไรดังลั่นคอกวัว คิ้วเข้มขยับย่นอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องแว่วๆ ไม่แน่ใจว่ามันมาจากเพลงหรือจากคนปกติ

 

 

“วู้ววว! ว้าวว! I’m addicted to you. Don’t you know that you’re toxic!!!”

 

 

แล้วคมเขี้ยวก็เบิกตากว้างเมื่อมองไปตรงกลางทางเดินของคอกวัวที่มีร่างอรชรเกินผู้ชายของเรียวจันทร์กำลังร่อนเอวอย่างเมามันส์ มือซ้ายจับเสาเหล็กในคอกวัว มือขวาถือสายยางและฉีดน้ำขึ้นไปในอากาศเป็นน้ำพุ หัวสีโค้กที่เปียกชุ่มสะบัดไปสะบัดมาอย่างสนุกสนาน

 

 

“เรียวจันทร์เปิดเพลง?!” พวกคนงานพยักหน้าแทนคำตอบที่พี่เขี้ยวถาม เจ้าของฟาร์มที่ตอนแรกหน้าเครียดพร้อมเอาเรื่องไอ้ตัวการค่อยๆ คลายใบหน้าเครียดตัวเอง เปลี่ยนเป็นสีหน้าเรียบเฉย เดินเข้าไปหาแม่ตัวดีที่เต้นสะบัดไม่สนใจว่าวัวจะอินไปกับเพลงแสนเปรี้ยวของตัวเองรึเปล่า

 

 

“เรียวจันทร์ หนู!” คมเขี้ยวเรียกเจ้าตัวพร้อมกับกระตุกแขนซ้ายเจ้าตัวเบาๆ เรียวจันทร์หยุดเต้นกะทันหันแล้วหันไปมองร่างสูง ใบหน้าสวยที่เปียกน้ำยิ้มแฉ่ง

 

 

“พี่เขี้ยววว! ตื่นแล้วเหรอออ” นางถามเสียงดังอย่างเริงร่า คมเขี้ยวหันไปมองไอ้พวกคนงานที่หัวเราะกันเสียงครืน เขาส่งสัญญาณทำมือให้ใครสักคนเบาเพลงและปิดน้ำในมือเรียวจันทร์ พวกนั้นไปทำตามคำสั่งที่สั่งด้วยภาษามือ เสียงเพลงเบาลงแต่ยังเปิดคลอๆ แต่น้ำจากสายยางปิดสนิท

 

 

“ทำอะไรเนี่ย” คมเขี้ยวถามเสียงปกติ ไม่ดุไม่ตะคอก เรียวจันทร์ปล่อยมือออกจากเสาสีเงิน วางสายยางสีใสลงบนพื้น

 

 

“หนูแก้บน พี่เขี้ยวจำได้มะที่น้องวัวอารียารอดตายอะ หนูบนไว้นะว่าจะเต้นเพลงบริทนีย์ให้ดู แต่หนูก็ลืมไปพักนึงเลยอะ…” คมเขี้ยวยิ้มแกนๆ มองหน้าสุดที่รักของตัวเองด้วยความหนักใจ

 

 

 

“…ช่วงที่เราทะเลาะกัน ปั้นปึ่งใส่กันอะ หนูว่าต้องเพราะหนูค้างบนไว้นี่แหละ หนูเคยฝันถึงจระเข้ครึ่งวัวนะ แบบว่า หัวเป็นจระเข้ แต่ตัวเป็นวัว เขามาทวงแน่ๆ วันนี้เลยมาแก้บนซะหน่อย” คมเขี้ยวยิ้มไม่เต็มปากนัก ไม่ว่าจะยังไง คุณนายแกก็ยังจริงจังกับสิ่งที่ไม่ควรจริงจังและคิดว่าตัวเองคิดถูกเหมือนเดิม

 

 

“ไม่เกี่ยวมั้ง เราก็ดีกันแล้วไง” เรียวจันทร์จิ๊ปาก

 

 

“ไม่ได้หรอก ถึงดีกันแล้วก็ต้องแก้ ให้สัญญาไว้แล้ว…” คุณนายยิ้มกรุ้มกริ่ม ยกสองมือคล้องคอคมเขี้ยวโดยไม่แคร์สายตาล้อเลียนของพวกคนงาน

 

 

“…เราจะได้ยิ่งรักกันหนักขึ้น รักกันมากขึ้นไง อิๆ” นางเอามือซ้ายมาป้องปากและหัวเราะคุคิน่ารัก (ในความคิดตัวเอง)

 

 

“อ๋อ เออๆ” คมเขี้ยวยิ้มแบบไปเรื่อย ยิ้มเออออห่อหมกไปกับคุณนายแก

 

 

“ทำไมอะ ไม่ดีเหรอที่หนูทำอะ หนูกลัวเราจะมีอุปสรรคอีกไง” เรียวจันทร์หน้างอหน่อยๆ เพราะเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของคมเขี้ยว

 

 

คนเป็นสามีรีบยิ้มเอาใจทันที “เปล่า ดีแล้ว ไม่ได้จะว่าอะไร”

 

 

“จริงอ้ะ หนูก็นึกว่าพี่จะด่าเรื่องที่เปิดเพลงเสียงดัง”

 

 

“โอ๊ย…” คมเขี้ยวอุทานเสียงเบาพร้อมยิ้มเบาๆ

 

 

“…ไม่หรอก งานคาวบอยเปิดดังกว่านี้อีก” คมเขี้ยวยิ้มใจดี ทำเหมือนไม่มีอะไร เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง ยื่นหน้าไปหอมแก้มพ่อคาวบอยของนาง

 

 

“อ้าวพี่เขี้ยว ไหนว่าจะจัดการไอ้ตัวการที่เปิดเพลงไง?!” หนึ่งในคนงานแกล้งตะโกนถามเสียงดัง คมเขี้ยวหันไปมองตาดุ พวกคนงานหัวเราะลั่น

 

 

“อะไรเหรอ?” เรียวจันทร์ถามตาใส มองอย่างงงๆ ไม่เข้าใจ คมเขี้ยวยิ้มและส่ายหัวเป็นการบอกว่าไม่มีอะไร แต่สักพักเขาก็มองชุดที่เรียวจันทร์แต่งชัดเต็มสองตา จากที่ไม่มีอะไรก็เริ่มมี

 

 

“ใส่ขาสั้นอีกละ แล้วอะไรเนี่ย ทำไมเสื้อจนขนาดนี้ ไม่มีเงินซื้อเสื้อที่มันหนากว่านี้เหรอ” คมเขี้ยวว่าหน้าตาเหมือนพ่อดุลูกสาวที่แต่งตัวโป๊

 

 

“ทำไมอะ สวยออก พอเปียกน้ำก็เซ็กซี่ด้วย” เรียวจันทร์บอกอย่างชิลๆ ไม่ได้มีทีท่าล้อเล่น นางคิดว่าสวยและเซ็กซี่จริงๆ

 

 

ก็มันจริงอะ

 

 

“เดี๋ยวพี่จะเอาเสื้อผ้าหนูไปเผาให้หมด” เรียวจันทร์กะพริบตาปริบๆ

 

 

“พี้เขี้ยวจะให้หนูแก้ผ้าเหรอ”

 

 

“เออ แก้ผ้าอยู่แต่ในบ้านนั่นแหละ” คมเขี้ยวบอกห้วนๆ นึกอยากจะจับแม่ตัวดีมาตีก้นให้หลาบจำ แม่ตัวดีที่ทำเขาหงุดหงิดทำปากยื่น แถมยังยิ้มระรื่นอีก




“เห็นแล้วมีอารมณ์ใช่มั้ยล่า”

 

 

“มีอารมณ์อยากกระทืบ” เรียวจันทร์หุบยิ้มฉับ ปล่อยมือออกจากคอคมเขี้ยว ยกมือขวาตีต้นแขนฝั่งที่ไม่ถูกยิงเต็มแรงจนเจ้าตัวสะดุ้งตกใจ

 

 

“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ จะกระทืบหนูจริงๆ เหรอ?!” คุณนายแว้ดใส่คมเขี้ยวจนเสียงดังกว่าบริทนีย์ที่ร้องคลอๆ เป็นแบ็คกราวด์ในคอกวัวอยู่ คมเขี้ยวหันไปมองไอ้พวกลูกน้องที่สลายตัวกันแยกย้ายไปทำงาน แต่ก็มีแอบหันมาขำเขากับเรียวจันทร์อยู่สามสี่คน

 

 

“เปล่า พี่จะกระทืบหนูทำไม หนูเป็นเมียพี่นะ” คุณนายถลึงตา ปากบิดปากเบี้ยวยกใหญ่

 

 

“ข่าวผัวกระทืบเมียเพราะว่าหึงที่เมียสวยมากมีเยอะไป แล้วหนูก็สวยขนาดนี้ พี่เขี้ยวอาจหึงจนหน้ามืดแล้วมาทำร้ายหนูเข้าสักวัน” คมเขี้ยวไม่รู้จะขำหรือจะเครียดดี เลยกลายเป็นขำพรืดแทนกับความจริงจังของแม่คุณนาย ซึ่งเขาคิดว่าแม่นางคงจะจริงจังตรงเรื่องที่ว่าตัวเองสวยมากจนเขาต้องหึง

 

 

ก็ไม่ปฏิเสธหรอก แต่มันควรเป็นความคิดเขาเองไง ไม่ใช่ให้เจ้าตัวบอก แต่นะ… นี่ใครล่ะ

 

 

“พี่หึง แต่พี่ไม่กระทืบหนูหรอก แต่พี่จะ…” คมเขี้ยวก้มลงกระซิบ เรียวจันทร์ตาโต แก้มขาวผ่องแดงระเรื่อ นางเม้มปากยิ้มเขิน ตัวบิดซ้ายบิดขวาน้อยๆ มองคมเขี้ยวที่ยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วก็ยิ่งตัวบิด

 

 

“บ้าาา… พี่เขี้ยวอ้ะ ฮึๆๆ” คุณนายหัวเราะ ทำไหล่ยึกยักๆ คมเขี้ยวยิ้มกว้าง ขำอารมณ์ดีกับแม่ตัวดีของเขา

 

 

“ขึ้นบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะไป”

 

 

“แต่หนูเพิ่งเต้นไปได้สองเพลงเองนะ”

 

 

“แก้บนเพลงเดียวก็พอแล้ว เทพเขาไม่มีเวลาดูนานขนาดนั้นหรอก”

 

 

“แต่น้องวัวยังไม่จุใจหรอก อารียากับเพื่อนๆ ชอบลายเต้นของหนู หนูมั่นใจ” แม้แต่กับวัวก็เอาเนาะ…

 

 

“ไปเต้นต่อบนห้องดีกว่า พี่อยากเห็นเป็นการส่วนตัว” เรียวจันทร์ย่นจมูกแล้วยิ้มขวยเขินเพราะค… เอ้ย

 

 

“ไปก็ด้ะ” เรียวจันทร์เข้าไปควงแขนซ้ายของคมเขี้ยว และก็พากันเดินออกไปจากคอกวัว

 

 

“แล้วนี่ไม่เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวบ้างรึไง ยังมีแรงมาเต้นต่ออีกเนี่ย”

 

 

“สบายมาก เพราะหนูสตรองค่ะ” คมเขี้ยวยิ้ม ก้มหน้าหอมหน้าผากเรียวจันทร์ด้วยความมันเขี้ยว

 

 

“พี่เขี้ยว! ไหนว่าจะจัดการคนเปิดเพลงไง ทำไมไม่เห็นทำไรเลยอะ โห่” คมเขี้ยวหันไปมองหน้าตาถมึงทึง

 

 

“ทำงานมึงไปเลยไอ้จีน!”

 

 

“สงสัยจะพาไปลงโทษที่ลานประหารส่วนตัวล่ะม้างงง” คมเขี้ยวยกมือชี้หน้าไอ้เทิง พวกคนงานหัวเราะร่วน แม่คุณนายหัวเราะคิกคัก ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกะเขาหรอก สนุกสนานเป็นงานอดิเรก

 

 





 :hao7:


ไหนว่าจะด่าคนทีเ่ปิดเพลงไงล่ะพี่เขี้ยว ไม่เห็นทำไรเล่อะะะ โห่วววว

บนไว้ก็ต้องแก้บนเนาะ เดี๋ยวเขาจะทำให้รักระหองระแหง เต้นพลิ้วเต้นสะบัดขนาดนี้น้องวัวคงไม่กล้าขัดความรักขุ่นแม่แล้วละค่ะ (ไม่อยากเห็นลายเต้นขุ่นแม่อีก)

ผัวห้ามไม่ให้ใส่กางเกงขาสั้น แต่ผัวก็ไม่เคยห้ามสำเร็จ แม่จะใส่ซะอย่าง 55555 บอกแล้วแรดก็คือแรด เอ้ย แม่ก็คือแม่ นะคะ พ่ออย่าขัดใจแม่เนาะ

 มนตร์ขุ่นแม่ใกล้จะปิดบทเต็มที ใครอยากต่อมนตร์พิเศษ ตอนนี้มีรอบสต๊อกนะจ๊ะ อิๆ ขายของเนียนๆ แถมในเล่มยังมีตอนของน้องดินด้วยยย ฮิ้วววว รายละเอียดอ่านได้ที่เพจค้า

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ   :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งแรก :15.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-06-2017 21:17:01
55555 ขุ่นแม่แซ่บตลอดดด
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งแรก :15.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-06-2017 21:54:11
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งแรก :15.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 15-06-2017 23:25:50
พี่เขี้ยวก็รักเมีย หวงเมียเหมือนเดิมล่ะนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งแรก :15.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-06-2017 23:41:49
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งแรก :15.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 16-06-2017 15:17:09
มีตอนขุ่นแม่ไปเต้นในห้องไหมค่ะ แค่กกกๆ  :haun4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งหลัง :23.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 23-06-2017 16:08:29



คาถาที่ 32 (ครึ่งหลัง)



ในช่วงสี่วันที่ผ่านมานับตั้งแต่เคลียร์กับคมเขี้ยวรู้เรื่อง ดับเพลิงแค้นในตาของแต่ละคนจบลง เรียวจันทร์ก็ใช้ชีวิตอยู่ในฟาร์มอรุณพยัคฆ์ด้วยความสุขใจและอิ่มเอิบใจ ที่นี่ให้ความรู้สึกว่าเป็นบ้านเทียบเท่ากับบ้านหลังเดิมในสมัยที่เคยมีพ่ออยู่ด้วย แต่อันนี้พิเศษมากขึ้นเพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่ของพ่อที่ทิ้งไว้ให้นาง ยังมีผู้ชายอีกคนที่ทำตัวเหมือนพ่อนางแต่แท้จริงคือเป็นผัว

 

 

“บอกให้เลิกใส่กางเกงขาสั้น ใส่แบบนี้เดินแก้ผ้าไปเลยสิ” เรียวจันทร์หันไปกะพริบตาวิ้งๆ ใส่คมเขี้ยวที่ยืนกอดอกมองนางด้วยใบหน้าหงุดหงิด แล้วก็หันไปเติมปากต่อจนเสร็จ

 

 

“หนูกล้าแก้นะ พี่เขี้ยวเถอะ กล้าให้หนูแก้เปล่า” เรียวจันทร์ถามอย่างทะเล้น คมเขี้ยวถอนหายใจหน้าตาเซ็งๆ

 

 

“จะใส่แบบนี้ออกไปเจอพ่อหนูอย่างนี้เหรอ วันนี้มีย่า มีญาติหนูมาเยอะแยะเลยไม่ใช่รึไง” เรียวจันทร์แอบเบะปากนิดหน่อยตอนคมเขี้ยวเรียกผู้ชายคนนั้นว่าเป็นพ่อนาง แต่ก็ว่าไม่ได้ อีกฝ่ายไม่รู้

 

 

“ไม่แคร์ค่ะ รับไม่ได้ก็กลับไป” นางพูดอย่างไม่ใส่ใจ และอันที่จริงนางก็ไม่ใส่ใจคนพวกนั้นอยู่แล้ว ที่ให้มาวันนี้เพราะจะได้พูดในสิ่งที่นางค้างคาอยากจะพูด รอบที่แล้วโกหกคมเขี้ยวว่าจะไปหาเป็ดเพื่อจะไปคุยกับเจ้าสัว แต่โดนไอ้ตัวเห้ที่ตอนนี้ติดคุกไปเรียบร้อยดักทำร้ายร่างกาย นี่นางก็พักจนมั่นใจว่ารอยบนหน้าหายไปแล้วเลยตามคนพวกนั้นมาที่ฟาร์ม

 

 

“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ” คมเขี้ยวถามด้วยความสงสัย เรียวจันทร์บึนปากน้อยๆ พร้อมกับไหวไหล่ขวา

 

 

“ออกไปกันเถอะ” เรียวจันทร์คว้ามือคมเขี้ยวและพาเดินออกไปจากห้องนอน บนบ้านไม่มีใครอยู่เพราะลงไปทำงานด้านล่างกันหมด คุณป๋าก็กำลังฟื้นฟูไร่องุ่น คุณแม่ก็กำลังดูแลเรื่องแปลงดอกไม้ ดินก็ดูแลในส่วนหมู่บ้านคาวบอย ป้าอุ่นกลายเป็นอีกหนึ่งแม่ครัวฝีมือดีของฟาร์ม ลุงอ๊อดสดชื่นกว่าเดิมเพราะได้สังคมใหม่ๆ ส่วนแก๊ปเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยแล้ว เรียวจันทร์ไม่อยากให้น้องไปๆ กลับๆ กรุงเทพฯ กับเขาใหญ่ เลยจัดการซื้อคอนโดให้แก๊ปอยู่แทน

 

 

‘ไม่เป็นไรครับพี่เรียว แก๊ปกลับไปอยู่บ้านก็ได้’

 

 

‘แต่บ้านเรากับมหาวิทยาลัยแก๊ปก็ไกลกันอยู่ดี ไม่เป็นไรหรอกน่ะ พี่ก็กะจะซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้าอยู่แล้ว บ้านเราอยู่ในซอกในซอยเกิน’

 

 

‘เอางั้นเหรอครับ’

 

 

‘เอางั้นแหละ ถือว่าแก๊ปไปช่วยพี่ดูแลคอนโดด้วย จะพาเพื่อน พาสาวเข้าห้องก็ตามสบายนะจ๊ะ คริๆ’

 

 

เป็นอันว่าแก๊ปเลยย้ายไปอยู่คอนโดที่คุณนายนางซื้อใหม่ การตัดสินใจนั้นไม่ยาก นางเลือกคอนโดเดียวกับแจเร็ดนั่นแหละแค่คนละตึก นางชอบโลเคชั่นโซนนั้นอยู่แล้ว เดินเอื่อยๆ เรื่อยๆ ก็ห้าถึงเจ็ดนาทีถึงรถไฟฟ้า เอาไว้ไปนอนเวลามีงานใจกลางกรุง จะได้ไม่ต้องขับรถให้อารมณ์เสียกับจราจรเมืองไทย

 

 

“หนูจะไม่ให้ทำกับข้าวเลี้ยงพวกเขาจริงๆ เหรอ”

 

 

“ไม่ต้องค่ะพี่เขี้ยว อาหารว่างเบาๆ ก็พอ พวกเขาคงอยู่ไม่นานหรอก…” เรียวจันทร์ยิ้มมุมปากพร้อมกับยักคิ้วซ้ายหนึ่งที

 

 

“…อีกอย่าง พ้อยท์หลักเขาบอกว่า เขาอยากมาเที่ยวชมฟาร์ม ก็ให้เขาชมไปจนเป็นที่พอใจ”

 

 

เพราะได้แค่ชมเท่านั้นแหละ

 

 

คมเขี้ยวย่นคิ้ว มองเรียวจันทร์อย่างไม่ไว้วางใจในความคิดวิเคราะห์ของแม่ตัวดี ยิ่งเห็นรอยยิ้มใสซื่อที่ดูเหมือนจะประดิษฐ์ขึ้นมาเขาก็ยิ่งรู้สึกเสียววาบตามสันหลังแปลกๆ มันอาจจะไม่ได้มีอะไรร้ายแรงอย่างที่กำลังจินตนาการ แต่เวลาเห็นแอคติ้งสีหน้าครุ่นคิดขบคิดของเมียตัวเองแล้วก็ห้ามความกังวลใจไม่ได้

 

 

เรียวจันทร์ไม่ได้ถึงกับลงมานั่งรอเป็นจริงเป็นจัง นางให้คมเขี้ยวพาเดินดูการทำงานของคนงานในส่วนต่างๆ ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายเบาๆ คุณนายเหมือนแม่บ้านญี่ปุ่นในชุดเสื้อกันฝนสีใสกับรองเท้าบู๊ตสีขาว ส่วนคมเขี้ยวถือแค่ร่มหนึ่งอันกับใส่รองเท้าบู๊ตแค่นั้น

 

 

“พี่เขี้ยว หนูอยากได้เครื่องเล่นเพิ่มอะ หามาลงอีกสักสองอันไม่ได้เหรอ” เรียวจันทร์บอกหลังจากยืนพิจารณาม้าหมุนอยู่ครู่หนึ่ง

 

 

“ฮึ? เอาอะไรมาลง ฟาร์มเราไม่ใช่สวนสนุกนะ แค่นี้ก็พอแล้ว” เรียวจันทร์หน้างอ พูดเสียงเหวี่ยงเล็กๆ

 

 

“แต่หนูอยากได้อะ”

 

 

“จ้ะ งั้นหนูก็ไปดูแล้วกันว่าอยากได้อะไรมาเพิ่ม” วิ้งงง! ใบหน้าสวยฉีกยิ้มอย่างรวดเร็วเมื่อได้รับการตามใจ คมเขี้ยวทำหน้าอ่อนใจแต่ก็มีรอยยิ้มประดับบนหน้าจางๆ เรียวจันทร์แกล้งมองค้อน คมเขี้ยวยิ้มขำเบาๆ

 

 

คมเขี้ยวพาเดินมาดูในหมู่บ้านคาวบอยที่กำลังเนรมิตให้มีสีสันและความสนุกสนานมากขึ้นด้วยการเพิ่มของประดับตามบ้านตามตึกแต่ละหลัง มีการติดไฟเพิ่มเติม ตรงกลางหมู่บ้านที่เป็นลานน้ำพุก็จัดองค์ทรงเครื่องใหม่ คมเขี้ยวบอกว่าหลังหน้าฝนหมดไปจะจัดให้เต็มกว่านี้ ช่วงนี้ฝนตก บางอย่างเลยยังใส่เข้าไปไม่ได้

 

 

เดินดูงานในหมู่บ้านคาวบอยท่ามกลางสายฝนสักพักฝนก็หยุด และเป็นจังหวะที่พวกเจ้าสัววิโรจน์เดินทางมาถึงฟาร์มพอดี เรียวจันทร์กับคมเขี้ยวออกไปต้อนรับทุกคนที่ขนกันมาสองรถตู้ หนึ่งในนั้นมีนังเด็กเกาหลี ลูกสาวคนเล็กของเจ้าสัวที่เรียวจันทร์แสนยี้ เพราะความระริกระรี้ของนาง

 

 

“ฟาร์มใหญ่โตมากเลยนะ” หญิงสูงวัยท่าทางเจ้ายศเจ้าอย่างมองไปรอบๆ และเอ่ยชมด้วยรอยยิ้ม เรียวจันทร์ (ฝืนใจ) ยกมือไหว้บุคคลที่มีอายุมากกว่านาง บางคนนางไม่รู้หรอกว่าอายุมากกว่ารึเปล่า แต่ดูหน้าแล้วแก่ก็ยก

 

 

“สวัสดีจ้ะหลานเรียว” คุณหญิงคุณย่าผู้สูงศักดิ์เอ่ยทักหลานชายที่มีลักษณะเป็นหลานสาวมากกว่า แต่หล่อนก็ไม่นึกถือ หรือจริงๆ อาจจะถือแต่แสดงออกเยอะไม่ได้

 

 

เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ เป็นการตอบรับ คุณนายกวาดตามองจำนวนคนที่มากันราวสิบสองคนเห็นจะได้ บางส่วนยกมือถือมาถ่ายรูป หัวหน้าทริปอย่างเจ้าสัววิโรจน์เดินเข้ามาทักทายคมเขี้ยวกับเรียวจันทร์

 

 

“พ่อดีใจนะที่เรียวอยากเจอพ่อ” เรียวจันทร์ยิ้มอ่อนแบบที่คมเขี้ยวรู้สึกว่ามันอ่อนเกินไปจนน่าหวั่นใจ

 

 

“เชิญตามสบายนะคะ มีอาหารว่างอยู่ในครัว” ญาติโกโหติกาทั้งหลายที่เรียวจันทร์ไม่คิดอยากนับหันมายิ้มให้นาง คุณนายยิ้มตอบกลับไปแบบพอประมาณ

 

 

“คนเนี้ยอะเหรอคะแฟนพี่เรียวจันทร์” เรียวจันทร์แทบจะถลึงตามองนังเด็กผีเกาหลี แต่ก็ทำเพียงเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ

 

 

“ใช่ครับ” คมเขี้ยวตอบอย่างสุภาพ ยัยเด็กคนนั้นมองคมเขี้ยวแบบครุ่นคิด ก่อนจะบิดปากเหมือนไม่ชอบใจ คมเขี้ยวทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อย ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่เรียวจันทร์นี่แทบจะปล่อยพลังใส่แล้ว

 

 

“ก็หล่อดีนะคะ แต่ไม่ใช่สเป็คหนู…” เรียวจันทร์ไม่สามารถห้ามเปลือกตาไม่ให้ขยับกว้างขึ้น นางมองนังน้องนอกไส้อย่างไม่ชอบใจเช่นกัน

 

 

“…อีกอย่าง เขาฐานะด้อยกว่าพี่เรียวไม่ใช่เหรอคะ เทียบเท่าก็ไม่ต่างจากผู้ใช้แรงงานในฟาร์มพี่เรียว” และแล้วเส้นก็ขาดผึง!

 

 

“ปากแบบเนี้ย ถ้ามีไว้แล้วไม่รู้จักพูดสิ่งดีๆ ก็ต้องมีไว้ตบ” เรียวจันทร์กระแทกเสียง เล่นเอานังเด็กเกาหลีผงะถอยหลังไปยืนข้างแม่ตัวเอง คนอื่นๆ เหวอไปตามๆ กัน คมเขี้ยวเองก็เหวอไปนิดหน่อยแต่ก็รู้จักอารมณ์ของเรียวจันทร์ดี

 

 

“เอ่อ พ่อขอโทษแทนน้องนะลูก เรียวไม่ได้คิดจะตบน้องจริงๆ ใช่มั้ย”

 

 

“คิดค่ะ อยากทำจริงๆ ด้วย แต่ยังเกรงใจ…” วิโรจน์มีสีหน้าตกใจเบาๆ เรียวจันทร์หันไปมองคนเป็นแม่ที่หน้าตาสะสวยพอๆ กับคุณนายโรสิตาของนาง

 

 

“…เชื่อว่าคุณอบรมแล้ว แต่ก็เชื่ออีกว่ายังอบรมไม่มากพอ” ภรรยาของวิโรจน์มีสีหน้าไม่พอใจกับคำพูดของเรียวจันทร์ ยืนมองหน้าคนอายุน้อยกว่ามากตาแข็ง แต่เรียวจันทร์ไม่แคร์

 

 

“เรียว ไม่เอา” คมเขี้ยวกระซิบ เรียวจันทร์เหมือนจะหยุด แต่นึกขึ้นได้ว่ามีสิ่งที่อยากพูดอีก

 

 

“เธอมีสิทธิ์ดูถูกคนอื่นๆ ได้ แต่ต้องไม่ใช่กับแฟนฉัน ไม่งั้น หล่อนจะได้รู้ว่าเวลาผีเจ้าที่เข้าสิงมันเป็นยังไง” แค่พูดขู่ แต่คมเขี้ยวกลับรู้สึกว่าเจ้าที่เข้าสิงเรียวจันทร์ไปแล้วครึ่งนึง

 

 

“เดี๋ยวนะคะ ทำไมต้องพูดจารุนแรงขนาดนั้นด้วย พี่น้องกันทั้งนั้นอะ” เรียวจันทร์หันไปมองหญิงสาวอีกคนที่ดูจะอายุน้อยกว่านาง และท่าทางคงเป็นพี่ของนังเด็กผีเกาหลี ท่าทางไม่เบาเหมือนกัน คงเป็นพวกหน้าใสแต่ใจติดเทอร์โบ

 

 

“อยากจะชมฟาร์มต่อหรือจะให้ตัดจบตอนนี้” หึ พี่น้องงั้นเหรอ ฉันเคยเจอกับคำว่าแม่ลูกมาแล้วย่ะ แค่เนี้ยเบามาก

 

 

“หลานเรียว ใจเย็นก่อนนะลูก ย่าไม่ได้อยากให้หลานมาทะเลาะกันเองแบบนี้” เรียวจันทร์เหลือบไปมองคนสูงวัยที่สุด แม้จะอารมณ์เริ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่อยากถอนหงอกคนแก่

 

 

“ผมว่า เรามาเที่ยว เราก็ไปเที่ยวกันเถอะนะครับ” ชายหนุ่มรูปหล่อ รูปร่างสูงแต่ไม่ใหญ่ หุ่นพอๆ กับคมเขี้ยวแต่เตี้ยกว่าคมเขี้ยวเอ่ยบอกอย่างใจเย็น เรียวจันทร์เหลือบมองแว้บเดียว

 

 

“ผมชื่อวินนะครับพี่เรียว” คุณนายขยับยิ้มให้เล็กน้อย คงเป็นพี่ชายของแม่สองสาว ท่าทางดูจะสุภาพและนุ่มนวลที่สุดในบรรดาพี่น้อง

 

 

“โชคดีที่มาตอนฝนหยุดแล้ว ถ้ายังไงก็เดินชมตามสบายเลยครับ” คมเขี้ยวบอกเพื่อตัดบท แม่ตัวดีจะได้ไม่จิกกัดใครอีก

 

 

พวกเจ้าสัววิโรจน์พากันเดินออกจากจุดที่ยืนอยู่ ภรรยาของเจ้าสัวมองเรียวจันทร์ด้วยความขุ่นเคือง แต่เรียวจันทร์กลับหน้าเชิด ลึกๆ ในใจนางไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เพราะมาแทนที่แม่นาง แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้ แม่นางก็คงทำวีรกรรมอะไรไว้เยอะจนพ่อต้องขอเลิก

 

 

“นึกยังไงถึงอยากมาเที่ยวกันตอนนี้” คมเขี้ยวมองคนกลุ่มนั้นที่เดินไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ของฟาร์มแล้วพูดอย่างสงสัย

 

 

“ก็หนูชวนเขามาไง” เรียวจันทร์ย้ำเตือนความจำคมเขี้ยวกับสิ่งที่ตัวเองเคยบอกไปอีกที

 

 

“นั่นแหละ ยิ่งน่าสงสัยว่าทำไมถึงมา และทำไมหนูถึงไปชวนเขา” เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ แต่สีหน้าเหมือนมองกล้องสองอยู่ คมเขี้ยวหรี่ตามองด้วยความไม่ไว้ใจอย่างแรง

 

 

“หนูมีเรื่องจะพูดกับเขา”

 

 

“แล้วทำไมไม่พูดไปเลยล่ะ”

 

 

“ไม่เอาอะ มาถึงแล้วพูดเลยก็เร็วไป ไม่สนุกสิ ให้เขาได้เดินชมบ้านของเราก่อน” คมเขี้ยวทำหน้างงไม่เข้าใจ เรียวจันทร์ยิ้มกริ่ม ยกมือขวาตีอกตัวเองเบาๆ และทำหน้าว่าเชื่อเจ๊

 

 

 

เดินชมฟาร์ม เดินถ่ายรูป เก็บองุ่นกิน ดื่มนมข้าวโพด และชมหมู่บ้านคาวบอยจบ พวกวิโรจน์ก็พากันมากินอาหารว่างที่โรงอาหาร โดยมีพวกคนงานนั่งกินอาหารกลางวันเสียงดังจอแจ ญาติที่มาด้วยสามสี่คนแยกโต๊ะนั่งอีกโต๊ะ คุณหญิงย่าของเรียวจันทร์หน้าเหวอไปนิดที่ต้องมานั่งกินกับคนเยอะแยะแบบนี้ แถมแต่ละคนก็ดูไม่ได้ให้ความเกรงใจเธอและครอบครัวเธอเลยสักนิด ไม่ใช่แค่หญิงสูงวัย แต่สามสาวที่เหลือก็ดูออกว่ามีอาการอึดอัด ไม่สบายเนื้อสบายตัวสักเท่าไหร่

 

 

แต่นั่นแหละที่เรียวจันทร์ต้องการ นางเบะปากน้อยๆ เมื่อเห็นนังเด็กเกาผีทำหน้าหยีคนงานที่เดินผ่านไปผ่านมา นังคนพี่แม้ไม่แสดงออกลายใหญ่แต่ก็รู้ว่าดัดจริตไม่เบา

 

 

“ทุกคนดูสนิทสนมกันดีจัง” วิโรจน์พูดพลางยกแก้วไวน์แดงขึ้นจิบ เรียวจันทร์หันมองน้องชายต่างแม่ของตัวเองที่ยกนมวัวจากฟาร์มขึ้นจิบจากแก้วสีใส

 

 

“อร่อยมั้ยคะน้องวิน” คนถูกถามยิ้ม ทั้งรู้สึกดีที่ได้ยินพี่ตัวเองเรียกน้องและยิ้มเสริมคำตอบตัวเอง

 

 

“อร่อยครับ รสชาติดีมากเลย”

 

 

“นั่นเป็นนมวัวจากแม่วัวที่สตรองที่สุดของฟาร์มเราค่ะ…” เรียวจันทร์ปรายตาไปทางเจ้าสัววิโรจน์ที่มองไปรอบๆ แว้บหนึ่ง

 

 

“…สตรองแค่ไหนต้องถามใจนางดู ขนาดมีคนใช้นางเป็นเครื่องมือขู่พวกเรา นางยังรอดตายกลับมาได้ และก็เบ่งนมมาให้ได้ดื่มกันนี่แหละค่ะ”

 

 

“ใครขู่ใครเหรอจ๊ะหลานเรียว” เรียวจันทร์ยิ้มให้หญิงย่า หันไปมองวิโรจน์ที่ทำหน้าสงสัยใคร่รู้

 

 

“พวกนายทุนมักมากน่ะค่ะ หวังอยากจะได้ที่ดินคนอื่นเขาไปทั่ว พอขอไม่ได้ล่ะก็ แย่งเอา แย่งด้วยวิธีโสโครก” เรียวจันทร์พูดเรียบๆ เนิบๆ แต่เน้นเสียงชัดเจนจนนางเห็นว่าสีหน้าวิโรจน์สะดุดไปนิดหนึ่งเช่นกัน

 

 

“ไวน์ที่พ่อดื่มอร่อยมั้ยคะ” เรียวจันทร์แสร้งถามเสียงหวาน วิโรจน์ยิ้มน้อยๆ แล้วพยักหน้า

 

 

“อร่อย กลมกล่อมดีมาก”

 

 

“แหม เรียวดีใจนะคะที่พ่อชอบ ไวน์ล็อตนี้เป็นล็อตที่มีคนแอบเข้าไปในโรงงานผลิตแล้วทำลายมันซะเละเลย…” บรรยากาศบนโต๊ะชวนหายใจไม่สะดวกแปลกๆ แต่เรียวจันทร์ไม่แคร์

 

 

“…เรียวเสียดายน่ะค่ะ เลยให้คนงานเก็บไว้ ไม่คิดว่ามันจะยังมีรสชาติอร่อยด้วย” ที่จริงนางไม่ได้ให้ใครเก็บไว้หรอก นางพูดไปงั้นแหละ ให้บทมันไหลลื่น

 

 

“โห มีคนทำอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ” เรียวจันทร์นึกขอบคุณน้องชายต่างแม่ของตัวเองที่ส่งบทมาให้นางแบบนี้

 

 

“มีสิคะ คนมันอยากได้ มันก็ทำได้หมดแหละ ไม่ใช่แค่นี้นะ มันยังฝากระเบิดมาให้ที่ฟาร์มด้วย”

 

 

“ระเบิดเหรอ?! น่ากลัวอ้ะ” ยัยเด็กเกาหลีอุทานด้วยสีหน้าสยอง เรียวจันทร์กระตุกยิ้ม หันมองใบหน้าอึดอัดของบิดาตัวเอง

 

 

“ใช่จ้ะ น่ากลัวมาก แล้วคนทำก็เลวมากด้วย” เรียวจันทร์มองหน้าวิโรจน์อย่างนิ่งงัน มองจ้องแบบที่นางไม่ได้ทำอารมณ์ให้ซับซ้อนใดๆ

 

 

“พ่อขอคุยกับเรียวหน่อยสิ”

 

 

“ไม่ค่ะ ถ้าจะคุยก็คุยตรงนี้ ถ้าไม่อยากให้ใครรู้เรื่อง ก็ให้เขาย้ายไปนั่งที่อื่น” เชื่อว่าวิโรจน์เริ่มจะรู้ตัวแล้วว่าลูกชายหน้าหวานของตัวเองต้องการจะสื่ออะไร วิโรจน์หันไปมองภรรยาและพยักหน้าให้หนึ่งที หญิงสาวเลยพาทุกคนลุกออกไปนั่งอีกโต๊ะที่อยู่ไม่ห่างกันมากนัก พอเหลือกันสองคนเรียวจันทร์ก็เปิดปากพูดต่อทันที

 

 

“เรียวมีหลักฐานทุกอย่าง ทั้งคำให้การของแม่เรียวเอง และหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอัน…” วิโรจน์ขบกรามเบาๆ

 

 

“…เรียวเชื่อว่าพ่อรู้จักเสี่ยจอมทัพ และคงรู้ด้วยว่าคนๆ นี้ถ้าได้กัดใคร กัดไม่ปล่อย ถ้าเขาแฉพ่อขึ้นมา อิทธิพลที่พ่อมีก็สู้ของจอมทัพไม่ได้ เพราะอิทธิพลจอมทัพมืดกว่าของพ่อเยอะ” เรียวจันทร์คิดว่าตัวเองใจดีมากแล้วที่ยังเรียกคนๆ นี้ว่าพ่อ

 

 

“หนูต้องการอะไร จะขู่พ่อ หรือจะแจ้งจับพ่อ”

 

 

“นี่คือการขอร้องจากเรียวจันทร์ ลูกชายของพ่อคนนึงที่พ่อไม่เคยเหลียวแล แต่วันนึงกลับมาสนใจเพราะอยากได้สมบัติของเรียว” วิโรจน์หน้านิ่ง ขยับปากเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ทำเพียงยิ้มเยาะ เรียวจันทร์ไม่สนใจอาการนั้น

 

 

“เรียวยังเรียกคุณว่าพ่อ เพราะถือว่าคุณให้กำเนิดเรียวมา แต่นับจากนี้ อย่ามายุ่งกับชีวิตของเรียวที่นี่อีก ที่ตรงนี้พ่ออาทิตย์ทิ้งไว้ให้เรียว และคมเขี้ยวกับครอบครัวเขาก็เป็นคนริเริ่มให้มันใหญ่โต พ่อจะมาชุบมือเปิบเอาไปง่ายๆ ไม่ได้” วิโรจน์อ้าปากจะพูด แต่เรียวจันทร์ยกมือห้ามหน้า (สวย) ดุ

 

 

“อย่าให้เรียวต้องแจ้งจับพ่อกับแม่ตัวเอง ชีวิตพ่อเพียบพร้อมอยู่แล้ว อย่าโลภไปมากกว่านี้ และอย่ายุ่งหรือคิดทำร้ายที่ดินของเรียวอีก เพราะถ้ามีอีกครั้ง เราจะเจอกันที่ชั้นศาล ซึ่งเรียวจะไม่ยอมแน่ๆ” เรียวจันทร์จ้องตาวิโรจน์อย่างท้าทาย ผู้ชายตรงหน้าเรียวจันทร์ขบกรามแน่น มองลูกตัวเองด้วยสายตาขุ่นเคือง

 

 

“เรียวจะไม่ลืมเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เรียวจะไม่ขุดมันขึ้นมาอีก”

 

 

“มีใครรู้เรื่องนี้อีกมั้ย”

 

 

“ไม่มี และไม่ต้องกลัวว่าเรียวจะบอกใคร แต่ถ้ายังอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเองด้วยวิธีการทุเรศๆ อีกล่ะก็ เรียวจะบอกคนทั้งประเทศพร้อมหลักฐานทุกอย่าง แล้วมาดู ว่าใครจะพังกว่ากัน”

 

 

Game on!

 

 

วิโรจน์มองสายตาเอาจริงของเรียวจันทร์อีกสักพักก่อนจะถอนหายใจด้วยความจำยอม เรียวจันทร์ยืดตัวเชิดคางขึ้นเล็กน้อยและยกยิ้มมุมปากด้วยความเหนือกว่า

 

 

ถือว่านี่คือการชดใช้บุญคุณที่ทำให้นางเกิดมาก็แล้วกัน

 

 

 

คมเขี้ยวกับเรียวจันทร์ยืนมองรถตู้สองคันขับออกไปจากฟาร์มในยามเย็นที่ไม่มีแสงอาทิตย์เนื่องจากฟ้าครึ้มตลอด เสียงฟ้าร้องครืนๆ บ่งบอกว่าอีกไม่นานท้องฟ้าคงคายเม็ดฝนออกมา

 

 

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เป็นอะไรเนี่ย” คมเขี้ยวถามหลังจากเห็นแม่คุณนายยิ้มคล้ายว่ากำลังพอใจอะไรสักอย่างอยู่มาก

 

 

“เอ๊า รอยยิ้มมาจากการที่ภายในเราดี พอภายในเราดี มันก็ส่งผลมาถึงภายนอก ยิ้มเราเลยสดใส เพิ่มความสวยให้กับใบหน้าของหนู” คมเขี้ยวย่นคิ้วแล้วนึกในใจว่าอะไรวะ ถามแค่สั้นๆ ตอบมาซะยาวและเหมือนจะไม่ตรงประเด็นด้วย

 

 

“ถามจริง ไม่มีใครชมว่าสวยเหรอ ถึงชอบชมตัวเอง” คุณนายถลึงตาใส่สามี

 

 

“แล้วพี่เขี้ยวไม่คิดว่าหนูสวยเหรอ ห๊า?!” ร่างสูงยิ้มทะเล้น และส่งเสียงขำกับตาโปนๆ ของยัยคุณนายที่จ้องตัวเองอยู่

 

 

“สวยจ้าสวย” เขาน่ะประชด แต่ยัยคุณนาย…

 

 

“ก็คิดอยู่แล้วแหละว่าพี่เขี้ยวต้องคิดว่าหนูสวย ใบหน้าประจักษ์ขนาดนี้” จากที่ตาถลึงๆ เปลี่ยนเป็นยิ้มตาหวาน บิดตัวเขินน้อยๆ อย่างพอดิบพอดี คมเขี้ยวยิ้มระอาใจเล็กๆ

 

 

“เย็นแล้ว ไปทำกับข้าวไป ทำหน้าที่เมียหน่อย” ขี้เกียจจะเถียงด้วยแบบเมื่อก่อน เพราะเถียงไปยัยคุณนายเขาก็วกเข้าชมตัวเองตลอด

 

 

“เป็นเมียอยู่ในครัว แต่เป็นอีตัวบนเตียงนอน คิๆๆๆ” คมเขี้ยวยิ้มกว้างพร้อมหัวเราะกับใบหน้าเจ้าเล่ห์และเสียงหัวเราะเหมือนคนเส้นเสียงอักเสบ

 

 

“ใช่ ไม่มีใครสู้อีตัวเนี่ยได้อีกแล้ว” เรียวจันทร์หยุดหัวเราะฉับ สีหน้าเปลี่ยนเป็นเหวอนิดหน่อย

 

 

“ทำไมพี่เขี้ยวออกเสียงคล้ายตัวเหี้ยเลยอะ” คมเขี้ยวกลั้นขำ มองใบหน้าสวยนิ่วคิ้วขมวด อ้าปากหวอครุ่นคิดจริงจัง

 

 

“บ้า ใครจะว่าเมียตัวเองเป็นตัวเหี้ยล่ะ คิดมาก ไปๆ” คมเขี้ยวเดินจูงมือแม่ตัวดีเดินกลับไปทางบ้านใหญ่ ในตอนนั้นฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมา และแม่คุณนายนางก็เลิกคิดมากว่าผัวกำลังด่าตัวเอง เพราะนางเชื่อว่า

 

 

“เนอะ ไม่มีใครกล้าด่าคนแสนดีแสนวิเศษอย่างเรียวจันทร์ว่าตัวเงินตัวทองหรอก”

 

 

คมเขี้ยวหันไปพยักหน้าหงึกๆ ราวกับสนับสนุนความคิดเห็นนั้น

 

 

แต่ก็ต้องกลั้นขำจนเมื่อยแก้ม


 

 

 


 :hao7:

แอร๊ยยยย ตอนหน้าก็จบแล้วววว แต่แม้ว่ามนตร์ขุ่นแม่จะจบลงแต่รับรองว่าไม่มีวันเสื่อมคลาย ความเฮี้ยน เอ้ย ความฮ็อตของขุ่นแม่จะยังอยู่ทุกหนแห่งทุกแหล่งของโลกนี้แน่นอนค่ะ

พี่เขี้ยวไม่ได้กลัวเมียนะคะ พี่เขี้ยวแค่ร้ากมากเลยไม่อยากขัดใจ อะไรที่ตามใจขุ่นแม่ได้ก็ตามดีกว่า ขัดไปก็ไม่ดี คริๆ

นี่คือสิ่งที่เรียวจันทร์ทำได้ดีที่สุดกับคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้วจริงๆ ค่ะ ขอร้องครั้งสุดท้าย และขอเจอเป็นครั้งสุดท้ายทั้งพ่อและแม่ ทำได้ดีที่สุดแล้วสำหรับลูกคนนึงที่ไม่คิดจะตอบแทนบุญคุณแต่ก็ไม่อยากเนรคุณอะไรไปมากกว่านี้

ขุ่นแม่ทำดีที่สุดละเนอะะะ

  ใครอยากต่อมนตร์พิเศษ ตอนนี้มีรอบสต๊อกนะจ๊ะ อิๆ ขายของเนียนๆ แถมในเล่มยังมีตอนของน้องดินด้วยยย ฮิ้วววว รายละเอียดอ่านได้ที่เพจค้า

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งหลัง :23.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 23-06-2017 17:35:43
นี่ถือว่าขุ่นแม่ใจดีแล้วนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งหลัง :23.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-06-2017 18:42:27
ขุ่นแม่นางช่างสดใส ขนาดชีวิตนางดราม่านะเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งหลัง :23.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-06-2017 18:59:44
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งหลัง :23.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 23-06-2017 19:25:56
555555 น่ารักมากกกกก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งหลัง :23.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 23-06-2017 20:19:50
ทำไมยอมง่ายจัง

ไม่สะใจเลย

ทำไว้ตั้งเยอะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งหลัง :23.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-06-2017 21:24:19
 :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งหลัง :23.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-06-2017 21:45:21
สมบัติของลูก แต่พ่อที่ไม่เคยเลี้ยงดูจะเอา
มันประหลาด งกโคตรๆเลย คิดไปได้
ว่าแต่หลักฐานการเป็นพ่อเป็นลูกมีด้วยหรือ
หลักฐานแจ้งเกิดเป็นพ่ออาทิตย์ไม่ใช่หรือ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งหลัง :23.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 23-06-2017 22:14:05
ถึงพ่อแม่จะมีพระคุณที่ให้กำเนิดแต่พ่ออาทิตย์มีบุญคุณที่เลี้ยงมา เป็นเราก็เลือกพ่ออาทิตย์นะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งหลัง :23.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 24-06-2017 09:19:11
โถถถถถ ขุ่นแม่สตรองจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งหลัง :23.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 24-06-2017 14:30:48
 :hao4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๒ ครึ่งหลัง :23.06.60:
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 25-06-2017 19:38:27
สนุกอ่ะ ขุ่นแม่เรียวจันทร์นางสตรองมากจริงๆ
 และนางก็น่ารักมาก ฉันหลงรักนางแหละ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 35% :01.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 01-07-2017 19:14:13


คาถาที่ ๓๓ :: Devil is Devil. (นางมารก็คือนางมาร) [35%]




Winter

ฤดูหนาว


           

 

ฝนหมดไป ลมหนาวก็พัดมา ที่อื่นเป็นอย่างไรก็มิอาจรู้ได้ แต่สำหรับที่ฟาร์มอรุณพยัคฆ์นั้นเย็นแสนเย็น เพราะภูเขาโอบล้อมและมีต้นไม้เยอะ นี่ถ้าคุณนายเรียวจันทร์ไม่ถูกขอร้องจากสามีว่าอย่าเอาขนเฟลอร์มาใส่ นางคงใส่เดินว่อนรอบฟาร์มแทนการใส่เสื้อกันหนาวตามปกติอย่างที่ใส่อยู่

           

 

“บุญฮีบารมีแถดมากนะยะน้องเรียว สามีเธอหล่อและรวยมากกก” ช่างแต่งหน้าสาวร่างอวบที่มีจริตเกินหญิงจนนึกว่าเป็นกะเทยอยู่บ่อยครั้งพูดด้วยน้ำเสียงชวนขำ

           

 

“หนูสวย แฟนหนูก็ต้องหล่อและรวย ตามสูตรสำเร็จเป็นธรรมดา” เรียวจันทร์ตอบสีหน้าและท่าทีด้วยความภาคภูมิใจอย่างไม่สนว่าใครจะหมั่นไส้

           

 

ช่างแต่งหน้าสาวแอบเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้เร็วๆ หนึ่งที ก่อนจะปั้นยิ้มจริงใจ “แถมยังใจดีอีกเนอะ ให้กองถ่ายใช้สถานที่ฟรีๆ แบบไม่คิดเงินเลยสักบาท”

           

 

“เอ๊าเจ๊ ก็แฟนเขาเล่นด้วย เขาก็ต้องซัพพอร์ตเต็มที่สิค้า” หนุ่มอ้อนแอ้นออกสาวแต่ไม่สวยเท่าเรียวจันทร์ (ความคิดของนาง) ส่งเสียงมาร่วมเม้าท์ด้วยจากอีกฝั่งหนึ่ง

           

 

“อีกอย่าง พอหนังเข้าฉาย เขาก็ได้โปรโมตฟาร์มไปด้วย” ช่างทำผมสาวที่มีอายุมากสุดในบรรดาฝ่ายเมคอัพและมาแทนคนเก่าเอ่ยบอกในขณะที่กำลังทำผมให้นางเอกของเรื่องอยู่

           

 

เรียวจันทร์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ส่องกระจกเช็กความเรียบร้อยของตัวเอง สายตาเหลือบไปเห็นคุณหนูชายน์ที่มองมาทางนางด้วยสายตาเหมือนจ้องเพลินจนลืมหลบสายตา คุณนายยักคิ้วขวาให้และไหวไหล่ขวาให้น้อยๆ

           

 

“อยากกินอะไรเป็นพิเศษนอกเหนือจากอาหารกองมั้ยคะ” เรียวจันทร์หันไปถามคนอื่นๆ

           

 

“หนูอยากลองกินองุ่นอบแห้งอะพี่เรียว แฟนฟนูเคยมาเที่ยวแล้วซื้อไปให้กิน หนูชอบมาก”

           

 

“อุ๊ย แฟนหนูตาถึงลิ้นถึงมากค่ะ อร่อยจริง เดี๋ยวพี่จัดมาให้นะคะ” เรียวจันทร์หันไปยิ้มชื่นมื่นกับน้องนางเอกของเรื่องที่ปัจจุบันนี้คุณนายแกยังจำชื่อน้องสลับไปมาว่าสรุปชื่อหวานหรือน้ำตาลหรือผึ้ง

           

 

“คนอื่นๆ ล่ะคะ” เรียวจันทร์ถามอีกทีด้วยท่าทีแบบมีไมตรีจิตและน้ำจิตน้ำใจอันสูงส่ง (คิดเอง) ให้สมกับเป็นเจ้าบ้านที่ดีหน่อย

           

 

“ตอนนี้ยัง แต่เลิกกองเมื่อไหร่ ขอไวน์สักขวดสองขวดแล้วกัน” เจ๊จิ๋มช่างแต่งหน้าเป็นแกนนำขออีกหนึ่งของเด็ดของฟาร์ม คนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย มีที่นั่งเฉยๆ ไม่ตอบโต้อยู่สามคนแต่เรียวจันทร์ก็ปล่อยผ่าน นางหมุนตัวเดินออกไปจากเต็นท์ห้องแต่งหน้าแต่งตัวที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงอาหารของฟาร์มเพื่อความสะดวกในการพักกินข้าว

           

 

กองถ่ายได้เดินหน้าต่อหลังจากต้องหยุดชะงักกลางคันด้วยเรื่องคิวผู้กำกับและเงินทุนที่หนุนนำไม่พอหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ แต่เรียวจันทร์ถือว่าตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องตรงนั้น นางได้ค่าตัวครบเป็นอันจบ อีกอย่างบทนางก็เป็นบทเล็กๆ ในเรื่อง แต่ก็เป็นตัวละครที่มักออกมาแย่งซีนได้เยอะทีเดียว

           

 

ถ้าเป็นบทตัวประกอบไก่กาเป็ดห่าน นางก็ไม่รับหรอก แต่เพราะมันมีซีนให้เด่นอยู่นางเลยรับ

           

 

“แก๊ปๆ เห็นพี่เขี้ยวมั้ย”

           

 

“เห็นขี่ม้าไปทางเขาอีกลูกอะครับพี่เรียว” เรียวจันทร์พยักหน้า ตอนนี้แก๊ปก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องเป็นราว กลับมาที่นี่แทบจะทุกสุดสัปดาห์ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่นี่แก๊ปเลยกลายเป็นคนเบื่อกรุงเทพฯ ไปเลย

           

 

เรียวจันทร์เดินไปตักข้าวเช้ากินในโรงอาหาร คนงานเอ่ยทักทายนางตามปกติ คุณนายตอบกลับอย่างเป็นกันเองเพราะอยู่ที่นี่มาจะหมดปีแล้วเลยมีความสนิทสนมกันมากขึ้น และนางก็พยายามจำคนงานให้ได้มากขึ้นด้วย

           

 

“คุณหนู…” เรียวจันทร์ที่กำลังนั่งกินข้าวหันไปยิ้มให้ป้าอุ่นที่เดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับนาง

           

 

“…ได้ข่าวคุณโรสิตาบ้างมั้ยคะ” เรียวจันทร์ไม่ได้มีทีท่าไม่พอใจ นางแค่เลิกคิ้วขึ้นเหมือนกำลังนึกถึงคนที่ป้าอุ่นถามอยู่

           

 

“ป้าอุ่นถามทำไมเหรอ” เรียวจันทร์ถามกลับแบบธรรมดาๆ ไม่ได้เหวี่ยงหรือโกรธเคือง ซึ่งป้าอุ่นก็รับรู้ได้

           

 

หญิงสูงวัยถอนหายใจ “แก๊ปบังเอิญไปเจอเธอที่สนามบินตอนไปทำงานพิเศษน่ะค่ะ”

           

 

เรียวจันทร์เคี้ยวข้าวที่เพิ่งตักเข้าปากไปเมื่อครู่จนหมดปากก่อนพูดต่อ “เขาไปหาเป็ด และฝากบอกเรียวว่าเขาจะย้ายไปอยู่ออสเตรเลีย”

           

 

“แล้วเธอจะไปอยู่กับใครล่ะคะ” ป้าอุ่นถามด้วยความเป็นห่วง ซึ่งเรียวจันทร์ไม่คิดจะว่า คงตามประสาคนแก่ใจดีที่แม้จะไม่ชอบใจใครสักคน แต่คงมีความรู้สึกห่วงใยเล็กๆ เพราะอยู่ด้วยกันมานาน

           

 

“มันเป็นชะตากรรมของเขาเองป้าอุ่น ลองถ้ามีเงินออกนอกประเทศขนาดนั้นแล้ว เขาก็คงแน่ใจว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือที่นั่น” คงได้จากเจ้าสัววิโรจน์มากน่าดู ถึงมีเงินไปตั้งต้นชีวิตใหม่ขนาดนั้น

           

 

“อยู่ที่ไหนจะดีเท่าบ้านเรา” ป้าอุ่นยังคงมีท่าทีวิตก เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ

           

 

“อย่าเป็นห่วงเขาเลยป้าอุ่น เพราะตอนที่เขาอยู่กับเรา เขาเคยห่วงใครบ้างนอกจากตัวเอง” ป้าอุ่นมองคุณหนูของตัวเองแล้วก็เพิ่งคิดได้ว่า เด็กคนนี้ใจแข็งและเด็ดขาดกว่าที่คิด

           

 

มันคงถึงที่สุดสำหรับคุณหนูแล้วจริงๆ เพราะคุณหนูก็ดูแลผู้หญิงคนนั้นอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว

           

 

“ทุกคนต้องใช้ชีวิตต่อไป เขาให้ชีวิตเรียว เรียวก็ช่วยชีวิตเขาไว้เท่าที่เรียวจะทำได้ แต่ ณ วันนึงที่เขาทำเรื่องเกินเรียวจะรับได้ เขาก็ต้องไป” จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าสาเหตุใดที่ทำให้เรียวจันทร์ตัดแม่ตัวเองขาดสะบั้นขนาดนี้

           

 

 

กองถ่ายทำภาพยนตร์เริ่มถ่ายทำกันตั้งแต่ในช่วงสายๆ ตอนที่พระอาทิตย์เริ่มส่องให้ความอุ่นเพื่อบรรเทาอากาศเย็นๆ ในฟาร์ม การถ่ายทำเว้นไปนานเลยทำให้นักแสดงต้องเคาะสนิมที่ขึ้นช่วงหยุดหน้าฝนที่ผ่านมา แรกๆ ก็ดูงงๆ ไม่เข้าที่เข้าทาง แต่สุดท้ายก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ นักแสดงมีสมาธิและสติมากขึ้น เหล่าทีมงานนึกขอขอบคุณคุณคมเขี้ยวที่เลื่อนการเปิดฟาร์มช่วงงานเทศกาลประจำปีของที่นี่ไปอีกหนึ่งอาทิตย์เพื่อให้ทีมงานได้ถ่ายทำกันอย่างสะดวก

 

 

“พี่เขี้ยว หนูอยากกินพิซซ่าอะ” เรียวจันทร์บอกตอนที่สามีของนางเดินมาหาที่เก้าอี้นั่งพักระหว่างรอเข้าฉากต่อไป

 

 

“เอากี่ถาด”

 

 

“เอาทุกหน้า ไซส์ใหญ่ อย่างละสามถาดก็ได้ แบ่งๆ กันกินเดี๋ยวก็หมด”

 

 

“อือ เดี๋ยวบอกไอ้ดินให้มันไปซื้อให้” เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง กวักมือให้คมเขี้ยวก้มหน้าลงมาหา ร่างสูงทำตามอย่างว่าง่าย คุณนายหอมแก้มที่ชื้นไปด้วยเหงื่อหนึ่งฟอด

 

 

“ขอบคุณค่ะ”

 

 

“เหงื่อเต็มไปหมด ยังจะหอมอีก”

 

 

“ก็หนูหอมของหนูอะ” เรียวจันทร์หัวเราะคิกคัก ยิ้มยิงฟันตาหยี คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ ยกมือขวาผลักหัวสีโค้กเบาๆ

 

 

“ไปอาบน้ำให้ไอ้หงายก่อนนะ”

 

 

“อือๆ” เรียวจันทร์พยักหน้าขึ้นสองที (ทุกวันนี้นางก็ยังไม่ดีกับไอ้ม้าตัวนั้น) คมเขี้ยวเดินออกไปจากบริเวณนั้นท่ามกลางสายตาอิจฉาของแม่นางฝ่ายเมคอัพและคอสตูมทั้งหลาย เรียวจันทร์อมยิ้มเบาๆ แต่สักพักรอยยิ้มก็สะดุดเมื่อสายตาเห็นนังคุณหนูชายน์ที่กำลังเดินย้อนกลับมาทางที่พักของกองยกมือไหว้สวัสดีคมเขี้ยว และยืนคุยด้วยรอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

 

 

คุณนายเรียวจันทร์หรี่ตามองพร้อมกับเก็บข้อมูล แม้ในใจจะเริ่มระอุ แต่จะบุ่มบ่ามไม่ได้ ต้องรอให้นังคุณหนูนั่นเผยไต๋ออกมามากกว่านี้

 

 

แต่ หน็อยยย!

 

 

คุณนายแม่นั่งยุบหนอพองหนอกับตัวเอง แม้ภาพที่เห็นจะเป็นการทักทายกันทั่วไป แต่จากครั้งก่อนที่นังคุณหนูชายน์มันมองสามีหล่อนด้วยสายตาเป็นมันนั่นต่างหากที่ทำให้นางรู้ว่ามันเป็นการทักทายที่ไม่ค่อยจะธรรมดาสักเท่าไหร่

 

 

“เรียว เข้าฉากครับ!” นางหันไปตามเสียงเรียกของผู้ช่วยผู้กำกับ จากใบหน้าราวกับกำลังสาปแช่งใครเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานหยดย้อยสวยงามทันตา

 

 

“ค่า” คุณนายตอบเสียงใสราวกับหัวใจไม่ได้ขุ่นมัว นางลุกขึ้นเดินไปเข้าฉาก ฟังผู้กำกับบรีฟว่าต้องการอะไรในฉากนี้ จดจ่อสมาธิอยู่กับคำสั่งของผู้กำกับให้มากที่สุด ไม่ให้หลุดไปคิดแผนป้องกันสามีตัวเอง

 





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao5:




ตอนสุดท้ายแล้วววว  :o12:

ลงสั้นก็ต้องขออภัยนะคะ แต่ยังไม่อยากลงรวดเดียว จบรวดเดียว ฮือออ อยู่กับขุ่นแม่มาปีกว่า (เพราะเขียนช้า 55555) ก็ใจหวิวแปลกๆ กับตอนสุดท้ายของเรื่อง ความแซ่บเปรี้ยวเยี่ยวราดของขุ่นแม่เรียวกำลังจะจบลงงง

แต่ถ้าใครอยากต่อเนื่อง ไปเจอกันในเล่มนะคะ คิๆ ขายของเนียนๆ ตอนนี้รอบสต๊อกขุ่นแม่เหลืออีก 22 ชุดค่ะ หนังสือรอบต๊อกจะมาพร้อมรอบพรีเลยค่ะ

รายละเอียด

ใครอยากได้ขุ่นแม่หรืออยากได้สามีขุ่นแม่ไปครอบครอง ส่งอีเมลมาหาตอมที่ worksthemagicอย่าแสดงเมลบนบอร์ด เขียนหัวข้ออีเมลว่า 'เปย์ขุ่นแม่รอบต๊อก' ตอมจะส่งรายละเอียดการโอนเงินกลับไปให้ หนังสือมีสองเล่ม ราคาชุดละ 1045 รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียนแล้วค่ะ ตัดสินใจดีๆ เนอะ ตอมรู้ว่าหนังสือตอมราคาพาไตวายมาก ยังไงตัดสินใจก่อนเปย์ได้ตลอดๆ ค่า

.
ไม่มีจองนะคะ เหมือนร้านหนังสือค่ะ ใครพร้อมก็หยิบขุ่นแม่มาคิดเงินได้เลย สำหรับรอบต๊อกจะไม่ได้พวงกุญแจกับโปสการ์ดเด๊อจ้ะ


ตอนสุดท้าย ขุ่นแม่ก็ยังมีมารมาวุ่นวายกับสามีตัวเอง งานนี้ขุ่นแม่จะสำแดงอิทธิฤทธิ์อันใดใส่นังคุณหนูกันเล่าเจ้าคะ คริๆ

ใจหาย แต่ก็ยังไม่หายไปเน้อ ยังอยู่วววว

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 35% :01.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-07-2017 20:13:40
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 35% :01.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-07-2017 20:25:01
แหมๆๆๆ นังชายน์ เดะจะรู้ฤทธิ์แม่นางเรียวจันทร์ หึหึ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 35% :01.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 01-07-2017 21:15:41
อ่อยผัวคุณนายระวังตัวไว้นะนังชายน์555555

ระวังคุณแม่องค์ลง :z6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 35% :01.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-07-2017 21:49:23
นังคุณหนูชายน์  มองพี่เขี้ยวตาเป็นมัน
คงคิดจะแย่งพี่เขียวของเรียวจันทร์ใช่มั้ย  :hao3:
นางเจอศึกหนักแน่  :z6: :z6: :z6:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 35% :01.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 01-07-2017 22:22:35
พี่เขี้ยวหล่องานดีก็ต้องระวังแบบนี้แหล่ะขุ่นแม่ :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 35% :01.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-07-2017 22:46:54
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 35% :01.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 02-07-2017 00:31:19
สงสัยคุณนายแกจะได้แสดงอภินิหาร์ตอนจบนี่ล่ะ 555
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 35% :01.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 02-07-2017 21:12:14
เดี๋ยวเจอขุ่นแม่นะจ๊ะ นังนู๋ซายน์
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 35% :01.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Mariinariiz ที่ 03-07-2017 22:31:20
เดี๋ยวเจอฤทธิ์คุณนายแม่ ยิ่งผัวหล่อๆอยู่ ต้องหวงเยอะๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 70% :08.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 08-07-2017 22:56:33


คาถาที่ 33 [70%]




ตกกลางคืน คมเขี้ยวสั่งเปิดไฟเพื่อให้กองถ่ายใช้เป็นฉากไฮไลท์ของหนัง พระนางขึ้นไปอยู่บนชิงช้าสวรรค์ เครื่องเล่นใหม่ที่เรียวจันทร์สั่งมาเพิ่ม ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านคาวบอยและคอกม้า เป็นชิงช้าสวรรค์สีขาวขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป มีตัวกระเช้าเป็นรูปทรงครึ่งวงกลมหลากสีและมีร่มคล้ายร่มชายหาดปักตรงกลาง คุณนายเลือกดีไซน์เองกับมือ มีการมั่นอกมั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของฟาร์มแน่นอน


“ชิงช้าสวยจังนะครับพี่เขี้ยว”


“เหรอ เรียวเขาเลือก…” คมเขี้ยวยิ้ม ชายน์ยิ้มตาม


“…ตอนแรกมีแค่สองอย่าง ชิงช้ากระเช้าไม้กับม้าหมุน ตอนนี้มีชิงช้าอันนี้ ชิงช้าเหวี่ยงๆ ที่อยู่ฝั่งสวนดอกคอสมอส แล้วก็มีรถไฟรางพาเที่ยวฟาร์ม ตอนนี้กำลังทำรถไฟเหาะรางไม้อยู่ เอาแบบให้เด็กๆ เล่นสนุกๆ อยู่ตรงท้ายป่าสน ไอเดียเรียวเขาหมด แต่พี่น่ะหมดเงิน” ร่างสูงหัวเราะเบาๆ ชายน์หัวเราะตาม คมเขี้ยวน่ะชี้แจงไปตามประสาเจ้าของฟาร์มตามที่คนถาม ไม่ได้คิดอะไร แต่อีกคนน่ะดูท่าจะคิด


บุคคลที่ไม่ได้ขึ้นไปบนชิงช้า แหงนมองการถ่ายทำฉากจุ๊บปากของพระนางด้านบน เครนยกกล้องพร้อมผู้กำกับภาพบิดไปตามองศามือที่ผู้กำกับต้องการเพื่อให้ได้ภาพที่สวยถูกใจที่สุด


“โอเค! ดี เดี๋ยวเปลี่ยนมุม เปลี่ยนฉาก” ผู้กำกับตะโกนบอกหลังจากได้ภาพเป็นที่พึงพอใจ


“ที่นี่น่าอยู่มากเลยนะครับ บรรยากาศดี ชายน์ชอบ” หน็อย! ชอบที่นี่แต่ชายตาให้เจ้าของฟาร์ม หมายความว่าแรดชัดๆ


“ช่วงนี้พี่เปิดฟาร์มยาว เปิดไปจนถึงกุมภาพันธ์ ว่างๆ ก็แวะมาพักได้ คิดราคาครึ่งนึง บอกเป็นเพื่อนเรียว” ชายน์ยิ้ม หันไปมองเรียวจันทร์ที่นั่งพิงเก้าอี้สนามด้วยท่วงท่าทีสบายๆ


แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าก่อนหน้านี้นางนั่งหลังตรงแหน่ว ปากบิดปากเบี้ยว จ้องนังคุณหนูตาแทบหลุด แต่พอมันจะหันมา นางก็รีบปรับทีท่าให้ดูสบายๆ


“หนูเหลืออีกกี่ฉาก” คมเขี้ยวหันไปถามแม่ตัวดีที่หยิบพิซซ่าขึ้นมาเคี้ยวหมับๆ


“หมดแล้ว มารอปิดกองพร้อมคนอื่นเฉยๆ” ที่ไหนล่ะ นางมาเฝ้าสามีนาง อีพี่เขี้ยวก็คงดูแลทีมงานเพลินเลยไม่ขึ้นบ้านขึ้นช่องสักที อีนังชายน์มันเลยได้ทีแทะโลมอยู่นี่ไง


“ขึ้นไปอาบน้ำก่อนเปล่า” เรียวจันทร์เชิดคางขึ้นนิดๆ และทำปากเชิดน้อยๆ ก่อนตอบเสียงดื้อเล็กๆ


“ไม่ หนูจะอาบพร้อมพี่เขี้ยว” คมเขี้ยวหัวเราะ


“เดี๋ยวเสร็จอันนี้แล้วขึ้นบ้าน” คุณนายยิ้มและพยักหน้า หางตาเห็นนังคุณหนูชายน์มีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนที่จะหันไปมองทางชิงช้าสวรรค์


ถ่ายอีกสักพักผู้กำกับก็สั่งเลิกกอง คิวถ่ายเหลืออีกสองวันก็จะเสร็จ ของเรียวจันทร์จบวันนี้ อีกสองวันเป็นของนักแสดงคนอื่นและเอ็กซ์ตร้าที่จ้างมา


“ขอบคุณคุณเขี้ยวมากครับที่อำนวยความสะดวกให้” ผู้กำกับหนุ่มวัยกลางคนเดินเข้ามาขอบคุณเจ้าของฟาร์มร่างสูงที่แม้จะทำงานตากแดดเหงื่อโทรมมาทั้งวันแต่ก็ยังดูดี ดีไม่ดีเหล่าสาวแท้สาวเทียมในกองก็มองกันไม่พักนี่แหละ 


“ยินดีครับ ยินดี” คมเขี้ยวรับไหว้พร้อมกับตอบกลับ


“วันสุดท้ายขออนุญาตจัดปาร์ตี้เลี้ยงปิดกล้องเสียงดังหน่อยนะครับ”


“ตามสบายเลยครับ” คมเขี้ยวตอบพร้อมกับหัวเราะ ทีมงานช่างไฟช่างกล้องทยอยเก็บอุปกรณ์กันเสียงดัง คมเขี้ยวหันไปมองเรียวจันทร์ที่นั่งกดมือถือตาใสอยู่บนเก้าอี้ที่เดิม


“เดี๋ยวผมขอตัวก่อนแล้วกันนะครับ” คมเขี้ยวบอกกับเหล่าทีมงาน ทุกคนเอ่ยสวัสดี โดยเฉพาะเหล่าน้องนี น้องเก้งและน้องเทยที่เอ่ยลาเสียงอ่อนเสียงหวาน ชายน์อ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ทันคมเขี้ยวที่หมุนตัวเดินไปหาเรียวจันทร์แล้ว


“ป่ะ อาบน้ำ นอน” เรียวจันทร์ชูสองมือขึ้นท่าทางอ้อนๆ คมเขี้ยวดึงสองแขนเรียวจันทร์ ย่อตัวลงและจับเอาร่างบางขึ้นพาดบ่าซ้าย


“กรี๊ด อั๊ยยยย” เรียวจันทร์กรีดร้องด้วยความขำและความเสียวแวบในช่วงแรกที่คมเขี้ยวยืนเต็มความสูง เหมือนได้ขึ้นหอคอยไปวูบหนึ่งเลยทีเดียว


“ต๊ายยย มันน่าอิจฉาอะไรขนาดนี้คะเจ๊จิ๋ม”


“หืมมมม ฉันอยู่มาจะชาตินึงแล้ว ฉันยังไม่ได้อะไรแบบนี้เลยนะ นอกจากซื้อกินเนี่ย” พวกนางๆ ทั้งหลายมองด้วยสายตาอิจฉาแต่ไม่ริษยากับวาสนาด้านการมีสามีของแม่เรียวจันทร์พลางเก็บของไปด้วย


ซึ่งคุณนายเรียวจันทร์ก็ไม่คิดมาก เพราะการโดนอิจฉาไม่ว่าจะแซวเล่นหรือจริงจัง นั่นเพราะนางสวยและเพอร์เฟ็กต์






วันที่สองของการถ่ายทำ เรียวจันทร์กับคมเขี้ยวปล่อยให้ทีมงานและนักแสดงคนอื่นทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองไป ทั้งสองคนออกไปคุยกับตำรวจเรื่องคดีที่เกิดขึ้นในฟาร์ม อันที่จริงคุณนายไม่ต้องไปก็ได้ แต่นางก็อยากจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อและแม่ให้ดีที่สุด แม้ว่าตอนนี้คดีจะไม่คืบหน้าและจอมทัพก็ไม่รู้ว่าจะเงียบไปแบบนี้อีกนานมั้ยหรือรอจังหวะเปิดโปงอะไรอยู่ นางยังไม่มีโอกาสได้คุยกับอีกฝ่าย แต่คิดว่าวันนี้หลังจากพบตำรวจแล้วคงต้องคุยกัน


“คุณเรียวจันทร์จะไม่ให้ตามสืบคดีแล้วงั้นเหรอครับ” ตำรวจหนุ่มถามด้วยความงงและสงสัย คมเขี้ยวหันไปมองคนข้างๆ ด้วยสายตานิ่งเรียบ


“ค่ะ เรียวเห็นว่ามันนานแล้วอะ แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า คือเรียวไม่ได้จะว่าทางตำรวจนะคะ แต่เรียวคิดว่า มันจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก”


“ทำไมคุณเรียวมั่นใจแบบนั้นล่ะครับ หรือเป็นเพราะคุณเรียวรู้จักกับนายจอมทัพ” เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอ หันไปมองคมเขี้ยวด้วยความเป็นกังวลเล็กๆ เพราะอีกฝ่ายนิ่งจนใจไม่ดี


“หลักฐานก็ยังไม่ชัดเจน เราได้แต่ฟังคำสารภาพของคนร้าย…” เรียวจันทร์เม้มปาก พยายามควบคุมท่าทีตัวเองให้มั่นคงเข้าไว้


“…และเพราะเรียวรู้จักจอมทัพ เรียวถึงเชื่อว่าถ้าเป็นเขา มันจะยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ หรือถ้าไม่ใช่เขา เราก็เสียเวลาต้องตามหาคนบงการตัวจริงอีก บางครั้ง อิทธิพลกับอำนาจเงินก็ชนะความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย” ตำรวจหนุ่มหน้าเสียไปนิด


“เรียวไม่ได้จะว่าตำรวจไทยค่ะ เพราะเรียวเชื่อว่าตำรวจดีๆ ยังมีอยู่ อย่างน้อยก็ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเรียวนี่คนนึง” ถึงจะทำงานช้าไปสักหน่อย แต่ในกระบวนการการทำงานของนายตำรวจหนุ่มคนนี้เขาก็ทุ่มเทและละเอียดจริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความคืบหน้าเลย แต่เพราะมันคืบหน้านั่นแหละนางเลยอยากให้พอแค่นี้


“คุณเรียวแน่ใจนะครับว่าจะให้จบคดีแค่นี้ มันคดีใหญ่มากนะครับ” เรียวจันทร์นิ่งไปสักแปบ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ


“ในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินตรงนั้นทั้งหมด เรียวขอให้ทางตำรวจหยุดคดีแต่เพียงเท่านี้ เรียวรู้ว่ากระบวนการมันจะยุ่งยาก แต่ถ้าต้องการความร่วมมือจากเรียว ขอให้บอก…” เรียวจันทร์รับรู้ได้ว่าคมเขี้ยวไม่พอใจ แต่นางต้องการพูดสิ่งที่ตัวเองอยากพูดให้จบก่อน


“…เรียวอยากใช้ชีวิตสงบๆ กับครอบครัวของเรียวที่ฟาร์ม ไม่มีใครเสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้นเรียวถือว่าเป็นบุญที่สุดแล้ว แต่ถ้ามันเกิดเหตุการณ์เลวร้ายอะไรขึ้นอีกครั้ง รับรองว่าคราวนี้เรียวไม่มีเบรกแน่นอน” นายตำรวจหนุ่มมองใบหน้าสวยเกินชายของเรียวจันทร์ด้วยความเสียดายเล็กๆ เพราะเขาเองก็พยายามช่วยอย่างเต็มที่ในการสืบคดีนี้ให้ถึงต้นตอของเรื่องจริงๆ


“ถ้าคุณเรียวจันทร์ต้องการแบบนั้น ผมจะทำเรื่องยอมความให้ครับ” เรียวจันทร์ยิ้มขอบคุณนายตำรวจ


ถือว่าได้ตอบแทนบุญคุณบุพการีที่ให้กำเนิดตัวเองมาอย่างถึงที่สุดแล้วจริงๆ






“รักมันมากรึไง” เรียวจันทร์เม้มปาก สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กะเอาไว้แล้วว่าต้องเจออารมณ์นี้ของคมเขี้ยว นางหันไปมองคนขับรถหน้าบูดของนาง


“เปล่า แต่หนูรักพี่มากต่างหาก…” เรียวจันทร์เอื้อมมือไปจับมือซ้ายของคมเขี้ยว


“…คดีความมันจะกลายเป็นสิ่งคาราคาซังสำหรับเรา หนูไม่อยากให้ชีวิตเราต้องมาคอยสะดุดเพราะเรื่องนี้ ชีวิตเราเดินหน้าแล้วพี่เขี้ยว”


“แล้วไม่คิดห่วงฟาร์ม ห่วงบ้านตัวเองเลยเหรอ” คมเขี้ยวถามเสียงเหวี่ยงเล็กๆ ใบหน้าถมึงทึงท่าทีตึงตัง


“พี่เขี้ยว ถ้าหนูไม่ห่วงฟาร์ม ไม่ห่วงบ้านเรา หนูจะเลือกไปกับจอมทัพจนเรางอนกันอย่างนั้นเหรอ” คมเขี้ยวหันใบหน้าเข้มไปมองใบหน้าสวย นิ่งไปสักแปบก่อนจะถอนหายใจเบาๆ


“ทำไมถึงยอม” เรียวจันทร์เก็บความลำบากใจซ่อนไว้ในส่วนลึก


“อาจจะไม่เข้ากับลุคสวยเปรี้ยวทันสมัยเก๋ไก๋ของหนู แต่ถือว่าเรามีกรรมกับคนที่ทำร้ายเรา เขาเอาคืนไปแล้ว ก็ให้เขาไปเถอะ”


“นี่พี่กำลังนั่งฟังธรรมะจากคนที่พร้อมตบผู้หญิงทุกคนที่เข้ามายุ่งกับผัวตัวเองงั้นเหรอ” เรียวจันทร์เชิดปากขึ้น


“ใครบอก ผู้ชายก็ด้วย สู้หมด!” คมเขี้ยวถอนหายใจด้วยท่าทีระอาในตอนแรก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มขำ ยกมือซ้ายขึ้นไปจับแก้มนวลใสของคุณนาย


“พี่เชื่อใจหนูได้ใช่มั้ยว่าที่หนูทำไปไม่ใช่เพราะรักไอ้จอมทัพ” เรียวจันทร์ส่ายหัว


“ไม่รัก ถ้ารักเขา หนูจะอยู่ตรงนี้เหรอ…” เรียวจันทร์ยกมือขวาประกบหลังมือคมเขี้ยว


“…แต่หนูขอนะพี่เขี้ยว ปล่อยให้เรื่องนี้จบไปได้มั้ย เรามีความสุขกันอยู่แล้ว อย่าให้มันมีเรื่องคดีมาวุ่นวายชีวิตเราเลย” คมเขี้ยวมองตาเรียวจันทร์ ดวงตาสุกใสดั่งกวางน้อยของร่างเล็กเปล่งประกาย


แต่ก็มีแววเศร้าที่เขาพอจะสัมผัสได้…


“ได้ เพื่อความสบายใจของหนู” แม้จะสัมผัสได้ แต่เขาก็สัมผัสได้ว่ามันเป็นความเศร้าเดียวกับเวลาที่พูดถึงเรื่องพ่อเรื่องแม่ ซึ่งถ้าเป็นเรื่องนี้เรียวจันทร์จะปิดปากเงียบไม่พูดง่ายๆ


“ขอบคุณค่ะ น่ารักที่สุด” เรียวจันทร์โน้มตัวไปหอมแก้มคมเข้ยวหนึ่งฟอด ร่างสูงหันหน้ามาจุ๊บปากสีชมพูไปหนึ่งที ทั้งสองคนยิ้มขำให้กัน ก่อนที่คมเขี้ยวจะสตาร์ทรถออกไปจากบริเวณสถานีตำรวจ







พอกลับมาถึงฟาร์มในช่วงบ่าย เรียวจันทร์ก็หลบเข้าไปในห้องนอนเก่าตัวเองที่อยู่ในออฟฟิศของฟาร์ม ยืนชั่งใจอยู่นาน และสุดท้ายก็ตัดสินใจโทรหาจอมทัพ


ยังไงนางก็ไม่ได้เกลียดเขาเข้ากระดูกดำขนาดนั้น


[สวัสดีครับคุณเรียวจันทร์] อีกฝ่ายทักทายกลับมาทันทีหลังจากรับสายในสัญญาณที่สอง


“เสี่ย สบายดีมั้ย” ปลายสายเงียบไปสักพักก่อนจะตอบ


[ก่อนหน้านี้สบายรึเปล่าไม่รู้ แต่ได้ยินเสียงคุณแล้วสบายใจมาก แม้จะเจ็บนิดๆ ก็เถอะ] เรียวจันทร์ยิ้มขำน้อยๆ


“ปากหวานเหมือนเดิมเลยนะ”


[ผมก็ไม่เคยไปปากหวานกับใครที่ไหนนอกจากคุณนี่แหละ]


“กับแม่ตัวเองก็ไม่เคยรึไง”


[นิดหน่อย น้อยกว่าคุณอีก] เรียวจันทร์หัวเราะเสียงเบา นั่งลงปลายเตียง ถอนหายใจหนึ่งทีและตัดสินใจเข้าเรื่อง


“เสี่ย ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้อง เกี่ยวกับเรื่องพ่อกับแม่ฉัน…” จอมทัพไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เขานิ่งเงียบราวกับกำลังฟังว่าเรียวจันทร์จะพูดอะไร


“…เก็บหลักฐานทุกอย่างที่คุณมีไว้กับตัวได้มั้ย อย่าเอาไปให้ตำรวจ”


[แล้วให้ผมถูกตราหน้าว่าเป็นคนร้ายน่ะเหรอ]


“เสี่ย ถ้าเสี่ยคิดจะแก้ตัวจริงๆ เสี่ยทำไปแล้ว แต่เสี่ยก็ยังนิ่งเงียบ” จอมทัพเงียบไปราวหนึ่งนาที เกิดความเงียบสงบจนเกือบจะเกิดความอึดอัดตามมาระหว่างทั้งสองคน


[…] เสี่ยเงียบไปพักใหญ่จนเรียวจันทร์ต้องยกหน้าจอโทรศัพท์มาดูว่าสายหลุดไปหรือยัง แต่นาทีก็ยังคงเดินอยู่ นางเลยเอาแนบหูต่อ


“ไม่ว่าจะเพราะอะไรที่คุณยังไม่เดินหน้าต่อ ฉันขอบคุณมาก และได้โปรดเก็บทุกอย่างไว้ได้มั้ย”


[ทีนี้คุณรู้ตัวรึยังว่าคุณน่ะใจดีกว่าที่ตัวเองคิด] เรียวจันทร์ทำหน้ายี้เมื่อได้ยินคนอื่นชมว่าตัวเองเป็นคนดี


“เอาเถอะ ใจดีเพราะฉันสวยนั่นแหละไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากหรอก ฉะนั้น เสี่ยโปรดช่วยคนสวยคนนี้หน่อยนะคะ” เสียงหัวเราะนุ่มทุ้มที่เคยคุ้นเมื่อช่วงหนึ่งของชีวิตดังมาตามสาย


[อยู่กับไอ้คมเขี้ยวคงมีความสุขดีสินะ]


“โอ๊ย เสี่ย อย่ามาทำตัวเป็นพระรองเกาหลีหน่อยเลยน่า หน้าไทยเป็นชาวบ้านบางระจันขนาดนั้น” จอมทัพหัวเราะต่อเนื่อง เรียวจันทร์ยิ้มขำ


[ผมไม่รับปาก ถ้าเจ้าสัวพ่อคุณเล่นตุกติกอะไรกับผมไม่ว่าจะเมื่อไหร่ เรื่องไหน ผมคงเก็บทุกอย่างไว้ไม่ได้] เรียวจันทร์ถอนหายใจอีกรอบ แต่ก็มีความโล่งใจเล็กๆ ติดมาด้วย


“ฉันขู่เขาไว้ให้เรียบร้อยแล้วล่ะว่าคุณน่ะกัดไม่ปล่อย เขาคงไม่กล้าเล่นกับคุณหรอกมั้ง”


[เจ้าสัววิโรจน์รวยติดท็อปเท็นของประเทศขนาดนั้น คุณคิดว่าเขาจะธรรมดามั้ย] เรียวจันทร์จิ๊ปากหน้าตายุ่งเหยิง


“พอเลยค่ะ พอเลย เรื่องธุรกิจ แย่งชิงอำนาจบริหารอะไรพวกนี้ ฉันไม่อยากยุ่ง ไม่เก็ทด้วยหรอก ฉันไม่ได้จบเอกบริหารมานะ” จอมทัพหัวเราะเสียงทุ้ม เรียวจันทร์พ่นลมหายใจแรงๆ อีกที คิดว่าเท่านี้ก็น่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว


“เอาเป็นว่าดีลนะคะเสี่ย จะเอาหนี้มาขู่ฉันไม่ได้อีกแล้วนะ สามีฉันให้ไปหมดแล้ว”


[ครับ รู้แล้วครับว่าตอนนี้เป็นคุณนายเต็มตัวแล้ว] เรียวจันทร์ยืดตัวขึ้น หรี่ตาจิกปากเบาๆ


[แค่นี้ใช่มั้ย]


“แหม มีไล่ๆ”


[คุณไม่สงสารผมบ้างรึไง คิดว่าผมจะคุยกับคนที่ผมอยากได้เป็นเมียโดยไม่รู้สึกอะไรเหรอ] ควรมีท่าทีลำบากใจและเสียใจ แต่คุณนาย…


“โอ๊ย ตอนฉันเกิดมา สงสัยลอดช่องคลอดเทพีวีนัสก่อนมาโผล่ช่องคลอดแม่แน่เลย ถึงได้สวยจนผู้ชายตัดใจยาก” แล้วนางก็หัวเราะคิกคัก จอมทัพถอนหายใจเอือมๆ


[ครับ สวย แต่พอดีผมจะขึ้นเครื่องแล้วครับ]


“ไปไหนเหรอ”


[อยากรู้ไปทำไม แล้วมาคุยกับผมนานขนาดนี้ สามีคุณจะไม่หึงเอารึไง] เรียวจันทร์มองค้อนทั้งที่จอมทัพไม่ได้อยู่ตรงหน้า แต่แอคติ้งมันไปเอง


“ค่าๆ เท่านี้ก็ได้ เดินทางปลอดภัยนะคะ” เรียวจันทร์กำลังจะวางสาย


[ที่ผมพูดตอนครั้งสุดท้ายที่อยู่ด้วยกัน ผมยังยืนคำนั้นนะ]


‘ผมมีความสุขนะที่ได้อยู่กับคุณ’


แล้วสายก็ตัดไป เรียวจันทร์มองหน้าจอมือถือนิ่งสักแปบ กำลังจะหวนรำลึกถึงความหลังกับจอมทัพ แต่สายตามองผ่านผ้าม่านสีครีมในห้องไปเห็นม้าสีดำตัวโตเดินผ่านหน้าออฟฟิศไปพร้อมกับนังคุณหนูชายน์ที่อยู่ด้านบนพอดี และมีไอ้พี่เขี้ยวเดินจูงม้าให้


นังคุณหนูผี! ถ้าฉันญาติดีกับไอ้ม้านั่นล่ะก็ ป่านนี้ฉันสั่งมันดีดกะโหลกแกไปแล้ว ถือว่าเป็นโชคดีของแกที่ฉันยังเข้าหน้ามันไม่ติด!



 



:hao7:

แว้บมาอัพให้ ต้องรีบกลับไปไฟนอลพรูพหนังสือขุ่นแม่ก่อนนน ใช้เม้าท์เดิมไปก่อนเนาะะะ

ตอนสุดท้ายแล้วววว

ลงสั้นก็ต้องขออภัยนะคะ แต่ยังไม่อยากลงรวดเดียว จบรวดเดียว ฮือออ อยู่กับขุ่นแม่มาปีกว่า (เพราะเขียนช้า 55555) ก็ใจหวิวแปลกๆ กับตอนสุดท้ายของเรื่อง ความแซ่บเปรี้ยวเยี่ยวราดของขุ่นแม่เรียวกำลังจะจบลงงง

แต่ถ้าใครอยากต่อเนื่อง ไปเจอกันในเล่มนะคะ คิๆ ขายของเนียนๆ ตอนนี้รอบสต๊อกขุ่นแม่เหลืออีก 22 ชุดค่ะ หนังสือรอบต๊อกจะมาพร้อมรอบพรีเลยค่ะ

รายละเอียด

ใครอยากได้ขุ่นแม่หรืออยากได้สามีขุ่นแม่ไปครอบครอง ส่งอีเมลมาหาตอมที่ worksthemagicแอท(@)gmail.com เขียนหัวข้ออีเมลว่า 'เปย์ขุ่นแม่รอบต๊อก' ตอมจะส่งรายละเอียดการโอนเงินกลับไปให้ หนังสือมีสองเล่ม ราคาชุดละ 1045 รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียนแล้วค่ะ ตัดสินใจดีๆ เนอะ ตอมรู้ว่าหนังสือตอมราคาพาไตวายมาก ยังไงตัดสินใจก่อนเปย์ได้ตลอดๆ ค่า

.
ไม่มีจองนะคะ เหมือนร้านหนังสือค่ะ ใครพร้อมก็หยิบขุ่นแม่มาคิดเงินได้เลย สำหรับรอบต๊อกจะไม่ได้พวงกุญแจกับโปสการ์ดเด๊อจ้ะ


หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 70% :08.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-07-2017 01:21:56
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 70% :08.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-07-2017 04:19:36
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 70% :08.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 09-07-2017 04:20:26
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 70% :08.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-07-2017 05:37:25
ความแซ่บนี้ขุ่นแม่นางยังกินขาดดจนจบ จริงๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 70% :08.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-07-2017 17:06:22
ชายน์ คิดยังไงกันแน่ กับเขี้ยว
ไม่รู้ความร้ายกาจของคุณนายเรียวซะแล้ว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 70% :08.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 10-07-2017 17:36:42
หาผู้ชายแซ่บๆไปให้เสี่ยจอมทัพหน่อยดีไหมคะ สงสารรรรร  :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 70% :08.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 11-07-2017 10:17:13
แอบปลื้มเสี่ยจอมทัพเบาๆ :-[
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่๓๓ 70% :08.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: P-Rawit ที่ 12-07-2017 17:46:27
พึ่งได้อ่านเรื่องนี้หลังจากเห็นมานาน 555 สนุกอย่างที่คิดจริงๆด้วย
ชอบความเรียวจันทร์และคมเขี้ยวมากๆ ตลกมาก.  ขอบคุณคนเขียนมากๆครับ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเจ้ ที่ 15-07-2017 20:30:40


คาถาที่ 33 [END]




“หน้าบึ้งๆ เป็นอะไรรึเปล่า” คมเขี้ยวถามพลางเช็ดหัวที่เปียกหมาดๆ เรียวจันทร์ที่กำลังนอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงเหลือบมองคนตัวสูงลิ่วด้วยสายตาไร้อารมณ์ แต่ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เคือง แค่นึกหงุดหงิดว่าทำไมไอ้พี่เขี้ยวมันต้องไปคอยดูแลนังหนูผีนั่นด้วย


“เปล่า บริหารกล้ามเนื้อบนหน้าอยู่” คมเขี้ยวย่นคิ้ว มองเรียวจันทร์เหมือนกำลังเห็นคนแปลกหน้า


“แน่ใจ?” เขารู้ว่าแม่ตัวดีคงกำลังรู้สึกแง่ลบกับเรื่องอะไรสักอย่างอยู่แค่บ่ายเบี่ยง แต่เขาแค่สงสัยตรงที่ว่าปกติเรียวจันทร์เป็นพวกโฉ่งฉ่าง เก็บอะไรได้ไม่นาน แต่อันนี้ดูจะเก็บเงียบ หรือเป็นช่วงเวลาฟักไข่?


“แน่สิ” คุณนายนางก็อยากจะพูดจนหมดเปลือกนั่นแหละว่าคิดอะไรอยู่ แต่นางก็มีสติพอที่จะเห็นว่าคมเขี้ยววางตัวยังไง นังหนูผีชายน์มันแค่อ่อยอ่อนๆ ไม่ได้รุนแรงมาก อาจเพราะมันยังมีความ (แอ๊บ) แมนอยู่ในตัว มันเลยไม่ได้แสดงออกโต้งๆ


แต่ที่สำคัญคือนางไว้ใจคมเขี้ยวว่าไม่มีทางเอาผู้ชายคนอื่นนอกจากนาง เพราะกว่านางจะได้มาก็ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะคมเขี้ยวชอบผู้หญิง ฉะนั้นเลเวลความหึงหวงของเรียวจันทร์จะพุ่งง่ายกว่าถ้าเป็นนังนี


“ไหนบอกซิว่ากำลังงอนอะไร” จากที่หน้าบูดเบาๆ พอได้ยินแบบนั้นคุณนายก็แทบจะยิ้มกว้างแต่ก็กลั้นยิ้มไว้เลยกลายเป็นว่านางกำลังเกร็งหน้า


เรื่องระยะเวลาไม่ใช่ตัวแปรของนางกับคมเขี้ยวเลย เพราะคมเขี้ยวมักจับความรู้สึกนางได้ไว


ก็ปกติเริงร่าอย่างกับกินยาม้า พอหงอยๆ ไปมันก็เห็นชัดน่ะสิ


“ไม่ได้งอนค่า หนูแค่…” เรียวจันทร์บุ้ยปาก คิดว่าจะพูดดีมั้ย


“…หนูไม่ชอบนังหนูผีชายน์” แต่ก็พูด


คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง ไม่ถึงขั้นประหลาดใจ แต่ก็แปลกใจอยู่นิดหน่อย “ทำไมล่ะ”


“มันดูแรด” คมเขี้ยวหัวเราะเสียงดัง แต่ก็ไม่ถึงกับลั่นห้อง


“ด่าเขาหรือด่าตัวเอง” เรียวจันทร์ถลึงตาใส่ให้คนที่นั่งอยู่ข้างเตียง


“หนูจะด่าตัวเองทำไมล่ะ เคยบอกแล้วนี่ว่าเราห้ามด่าตัวเอง เราต้องชมตัวเองเพื่อสร้างพลังบวก” และบอกอีกครั้งก็ยังจริงจังตลอด เรียกง่ายๆ ว่าแม่คุณนายหลงตัวเองเป็นเรื่องเป็นราวและไม่เคยคิดว่ามันผิด


“เห็นว่าเขาจะอยู่ต่ออีกสองสามวันนะ” เรียวจันทร์เบะปาก แต่ก็ไม่คิดด่าคิดว่าอะไรเพิ่มเติม ไม่ใช่ว่านางปลง แต่นางรู้ว่าสิ่งที่นังหนูผีชายน์มันหวังไว้เป็นไปไม่ได้หรอก ที่เป็นอยู่เนี่ยแค่หมั่นไส้


“ทำไม ดวงชะตาเป็นศัตรูกันเหรอ” คมเขี้ยวถามขำๆ โยนผ้าขนหนูไปที่โซฟานวดสีดำ สอดตัวเข้าไปในผ้านวม เรียวจันทร์เขยิบเข้าไปนอนกอดร่างสูงทั้งที่หน้ายังบึ้งอยู่


“เลิกทำหน้าบึ้งได้แล้วน่า ไม่กลัวหน้าเหี่ยวเหรอ” พอได้ยินคำว่าเหี่ยว คุณนายก็ปรับสีหน้าใหม่ทันที ใช้มือซ้ายจับๆ นวดๆ ใบหน้าตัวเองเบาๆ จนคมเขี้ยวขำคิก


ทำไมพี่เขี้ยวจะไม่รู้ว่าน้องหนูแอบหึงตัวเองเงียบๆ แค่ไม่ใช่การหึงแบบระเบิดลงเท่านั้นเอง เขาเคยเห็นมาแล้วตอนแม่คุณนายจัดการวี๊ดใส่ไฮโซกรุงเทพฯ คนหนึ่งที่ทักแชทเขาบ่อยแต่เขาไม่ค่อยตอบ แม่ตัวดีอัดคลิปจิกกัดส่งไปให้สิบกว่าวิแต่เป็นสิบกว่าวิที่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นเงียบหายไปและบล็อกเขาไปแล้ว


‘คมเขี้ยวเป็นเมียฉัน ฉันเป็นผัว ฉันเป็นคนเอา เขาโดนเอา คมเขี้ยวเป็นรับ ไม่ใช่รุก เท่านี้ รู้เรื่อง ถ้าไม่รู้เรื่อง ไปกินน้ำมันตับปลา! / ถลึงตาดุปิดท้ายคลิป’






“ปิดกล้องจ้า!!!”


“วู้ววว!!!” นักแสดง เอ็กซ์ตร้าและทีมงานทุกคนส่งเสียงร้องดีใจและปรบมือไปรอบกองเมื่อผู้กำกับประกาศปิดกล้องในยามเย็นของวัน เนื่องจากถูกพักกองเป็นเวลาหลายเดือนจนแทบจะลืมว่าเคยทำหนังเรื่องนี้ เหล่านักแสดงหลักและทีมงานเลยไม่ได้รู้สึกว่ามันเหนื่อยมาก แต่รู้สึกโล่งใจมากกว่าที่มันจบสักทีเพราะหนังเรื่องนี้มีปัญหาไม่น้อยทีเดียว


“เก็บของเสร็จแล้วเจอกันที่โรงอาหารนะ ปาร์ตี้ๆ” ทีมงานผู้ชายส่งเสียงเฮตอบรับในขณะที่เก็บของต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง


แม้ว่าจะหมดคิวถ่ายของตัวเองแล้ว แต่เรียวจันทร์ก็ออกมาดูการถ่ายทำและดูแลคนในกองในฐานะเจ้าบ้านที่ดี จังหวะที่นางกำลังยืนคุยกับผู้กำกับ สายตาก็เหลือบไปทันเห็นว่านังหนูผีชายน์มองนางอยู่แว้บหนึ่ง คุณนายปลีกตัวจากผู้กำกับเดินเข้าไปคุยกับนังเก้งแอ๊บแมนที่นั่งจัดองค์ทรงเครื่องผมและหน้าตัวเองอยู่


“ได้ข่าวว่าจะอยู่ที่ฟาร์มต่ออีกสองสามวันเหรอจ๊ะ” คนถูกถามเลิกคิ้ว ยิ้มน้อยๆ ก่อนตอบ


“ครับ พอดีชายน์รู้สึกชอบที่นี่”


“หนูชอบที่นี่หรือชอบผัวพี่คะ อันนี้ถามกันตรงๆ และถามกันดีๆ เลยนะจ๊ะเนี่ย” สีหน้าของชายเลิ่กๆ ลั่กๆ ไปพักหนึ่งเพราะโดนถามตรงๆ แบบไม่ตั้งตัวมาก่อน


“ชายน์ไม่ได้…”


“…อย่าบอกว่าไม่ได้ชอบคมเขี้ยวนะ เพราะฉันไม่เชื่อ” ริมฝีปากคุณนายยิ้ม แต่ดวงตานางจ้องพิฆาตมาก


ชายน์พ่นลมหายใจ ลุกขึ้นยืนและลอยหน้าลอยตานิดหน่อย “ไม่เชื่อก็ดีครับ”


เรียวจันทร์มองรอยยิ้มกวนประสาทของอีกฝ่าย นึกหมั่นไส้ในใจ แต่นางก็เก็บไว้ข้างในไม่แสดงออกมา ทำเพียงยิ้มมุมปากพร้อมยักคิ้วหนึ่งที


“แหม่ เจอคนหน้าด้านอีกละ” คุณนายส่ายหัวสีหน้าอ่อนใจราวกับเป็นเรื่องที่หน่ายเหนื่อยใจเหลือเกินกับคนประเถทนี้ มันก็น่าเหนื่อยใจจริงๆ นั่นแหละ แต่ถามว่านางกลัวใจนังหนูผีนี่มั้ย ไม่เลยค่ะ


“อยากทำอะไรก็รีบทำ เพราะฉันไม่ให้เธอพักต่อ” ชายน์หน้าตึง มองเรียวจันทร์ด้วยความไม่พอใจ


“พี่เรียวมีสิทธิ์อะไร เป็นแค่เมียเจ้าของฟาร์ม ห้ามได้ขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วนี่ลูกค้านะ”


“ประเด็นแรก ฉันไม่ใช่แค่เมีย แต่ฉันเป็นเจ้าของที่นี่ ถ้าสงสัยข้อนี้นัก ช่วงที่อ่อยแฟนฉันก็ลองหยุดถามสักแปบ ส่วนประเด็นที่สองเกี่ยวโยงกับประเด็นแรก ในเมื่อฉันเป็นเจ้าของ ฉันก็มีสิทธิ์จะรับหรือไม่รับลูกค้าก็ได้ สำหรับฉัน ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า เพราะลูกค้าไม่ได้คลอดออกมาจากคัมภีร์ไบเบิ้ลย่ะ!” คุณนายพูดยาวเหยียดแต่ชัดเจนและเป๊ะในความหมายตามที่ต้องการ เรื่องพูดยาวๆ แต่ความหมายไม่เพี้ยนขอให้บอกนาง ระบบหายใจนางดี ยิ่งคบกับคมเขี้ยวยิ่งดี เพราะต้องตั้งรับจูบพ่อสามีตัวสูงให้ได้


นังหนูผีชายน์อ้าปากจะพูดต่อแต่คุณนายหมุนตัวเดินหนีไปก่อนอย่างไม่แยแส ไม่สนใจว่ามันจะพูดอะไร เพราะนางถือว่าพูดในส่วนของนางหมดแล้ว เลิก ขี้เกียจฟัง ไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับนางขนาดนั้น


ชายน์มองตามด้วยสายตาหงุดหงิดและไม่พอใจ ก่อนจะนึกถึงประโยคที่ว่าอยากทำอะไรก็รีบทำแล้วก็ยิ้มเยาะน้อยๆ คนเดียว


เปิดทางให้เองนะ







งานเลี้ยงปิดกล้องภาพยนตร์มหากาพย์ที่ถ่ายทำอย่างยาวนานเพราะมีปัญหาเรื่องเงินทุนของเรียวจันทร์จัดขึ้นในโรงอาหารของฟาร์ม เวทีคอนเสิร์ตเล็กๆ เปิดโอกาสให้คนขึ้นไปร้องเพลง มีดีเจจำเป็นคือผู้ช่วยผู้กำกับคอยเปิดเพลงสนุกๆ ให้ฟังสลับกับมีคนขึ้นไปร้องเพลงสด อาหารทั้งจากกองถ่ายสั่งมาและทางฟาร์มเลี้ยงวางเต็มโต๊ะ เครื่องดื่มทั้งแอลกอฮอล์และไม่แอลกอฮอล์ก็เพียบ


แสงสีจัดเต็มอย่างกับในคลับ เพราะมีไว้เตรียมพร้อมสำหรับเทศกาลประจำปีของทางฟาร์มอยู่ก่อนแล้ว ทางกองถ่ายเลยขอดึงมาใช้เพื่อสร้างบรรยากาศก่อน แสงสีวิบวับกับเพลงมันส์ๆ และฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้บรรยากาศงานสนุกสนานมากขึ้น รวมทั้งมีคนมีคว้ามกล้ามากขึ้นอย่างชายน์


นังหนูผีของคุณนายแม่ถือโอกาสเนียนดึงคมเขี้ยวมาเต้นด้วยกันอย่างใกล้ชิด พอเหล้าเข้าปาก อาการแอ๊บแมนของหนังคุณหนูก็หลุด เปลี่ยนเป็นงูแม่เบี้ยเลื้อยไปทั่วตัวคมเขี้ยวที่เต้นไปหัวเราะไป


“ต๊าย ยัยคุณหนูมันตุ๊ดแตกขนาดนี้เลยเหรอ แมนมาได้ตั้งนาน มาหลุดไรวันนี้เนี่ย” ช่างแต่งหน้าสาวสองคนหนึ่งพูดด้วยความอึ้งและตะลึงเบาๆ กับลีลาเลื้อยรอบตัวคุณคมเขี้ยวสุดหล่อ


“เอ๊า อีนี่ ไม่เห็นเหรอว่ามันอ่อยคุณคมเขี้ยวอยู่”


“ฮะ? มันไม่รู้เหรอว่าเรียวจันทร์เป็นแฟนเขาอะ” เจ๊จิ๋มทำตาโตแบบใสซื่อพลางจิ้มไส้กรอกเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย


“ยากอะไรล่ะค้า มันอยากได้ มันก็เลยต้องแย่ง เพราะถ้าคิดจะแช่งนังเรียวก็ยาก นังนี่มันเหนือไสยเวทย์ไปแล้ว”


“แล้วพี่เรียวเขาไม่คิดจะปกป้องแฟนตัวเองมั่งเหรอเจ๊” หญิงสาวที่เป็นช่างผมประจำกองถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น พลางสายตาก็สอดส่องมองหาหน้าสวยๆ ของเรียวจันทร์ว่าอยู่ที่ไหน


เจ๊จิ๋มขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ชะโงกหน้ายืดคอมองหาเรียวจันทร์แต่ก็มองไม่เห็นว่าแม่นายแบบสุดเปรี้ยวคนนั้นไปอยู่ที่ไหน สักพักก็เจอเรียวจันทร์นั่งเชิดหน้าสวยๆ อยู่กับหนุ่มผิวเข้มร่างใหญ่คนหนึ่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามตัวเอง


“นางดูชิลเนาะ หรือนางไม่รู้ว่าผัวกำลังจะโดนงาบ” เจ๊จิ๋มพูดกับสาวกด้วยความสงสัย แม้เพลงจะดังแค่ไหนแต่พวกหล่อนก็นินทาคนได้สบายมาก


ทางด้านเรียวจันทร์นั่งมองนังหนูผีชายน์อ่อยผัวนางและอ้อนตีนนางอย่างเงียบๆ ดินมองเรียวจันทร์ด้วยความไม่สบายใจ มันจะเข้าไปดึงพี่เขี้ยวออกมาให้หลายครั้งแล้วแต่ก็โดนคุณเรียวห้ามไว้ และคุณเรียวก็เอาแต่นั่งนิ่ง หยิบนั่นหยิบนี่กินแบบปกติจนไอ้ดินจะหึงแทนอยู่แล้ว


คมเขี้ยวโยกตัวเต้นกับชายน์เบาๆ เพราะมีอาการเมาร่วมด้วยเลยสนุกได้ง่ายกว่าปกติ ใครชวนเต้น ชวนชนแก้วก็สนุกสนานไปแบบไม่คิดอะไร


“โอ๊ย พี่เขี้ยวครับ ชายน์เหนื่อย เราไปหาที่นั่งกันข้างนอกมั้ย” หนูผีเขย่งตัวส่งเสียงออดอ้อนข้างหูคนตัวสูง และทำท่าหมดแรงจะล้มลงไปกองกับพื้น คมเขี้ยวใช้สองแขนรับร่างผอมบางไว้


“เฮ้ย อ่อนว่ะน้อง” คมเขี้ยวแซวขำๆ หนูผีชายน์ยิ้มอ้อแอ้ตาหวานเยิ้ม


“ประคองชายน์ไปนั่งข้างนอกหน่อยนะครับ ในนี้เสียงดังอะ”


“เอา ไปก็ไป” คมเขี้ยวพยุงร่างของชายน์ไว้ในวงแขน ประคองให้ชายน์เดินไม่สะดุดล้มคว่ำไปกับพื้น ร่างผอมบางเอนหัวซบอกเขา แต่คมเขี้ยวก็ไม่ได้ผลักออก พาเดินออกไปนอกโรงอาหารท่ามกลางสายตาของใครหลายคน รวมทั้งเรียวจันทร์กับดินด้วย


“คุณเรียว” ดินหันไปมองเรียวจันทร์ที่มองตามตาแทบขวาง แต่นางก็ยังไม่ลุกขึ้นวี๊ดแตก


“อีกสิบนาที ถ้าพี่ชายดินไม่กลับมา เป็นเรื่องสมใจดินแน่” คุณนายพูดอย่างแน่วแน่ น้ำเสียงชัดเจนแม้จะมีเสียงเพลงดังกลบ ไอ้ดินมองด้วยสายตาจะว่าสบายใจก็ไม่เชิง แต่ก็รู้สึกดีที่ได้เห็นคุณเรียวออกอาการบ้าง ไม่ใช่เอาแต่นิ่ง คือมันผิดวิสัยคุณนายเกินไป







“อะ นั่งดีๆ” คมเขี้ยวประคองร่างชายน์ให้นั่งลงบนท้ายรถกระบะบูโรทั่งสีฟ้าน้ำทะเลของเขาที่มาเปิดท้ายจอดทิ้งไว้ใกล้ๆ กับโรงอาหาร


“โอ๊ย เมาและมึนมากเลยอะครับพี่เขี้ยววว” ชายน์บอกเสียงอ้อแอ้ สองแขนกอดเอวคมเขี้ยวไม่ยอมปล่อย ใบหน้าซุกกับหน้าท้องของร่างสูง


“เอาน้ำเปล่ามั้ย เดี๋ยวพี่ไปเอาให้”


“ฮื้อออ ไม่เป็นไรครับ แค่พี่เขี้ยวนั่งด้วยกันสักพักก็พอ”


“อะๆ ได้ๆ งั้นปล่อยเอวพี่ก่อนดิ”


“ไม่เอาอะ ชายน์อยากกอดดด” คมเขี้ยวหัวเราะเบาๆ ก้มลงมองหัวสีดำของชายน์แล้วยิ้ม เกิดความเงียบสักพัก ได้ยินเสียงดนตรีจากในโรงอาหารแว่วๆ


“พี่เขี้ยว ผมชอ…”


“…น้อง น้องรู้จักครูแงะมั้ย” คมเขี้ยวถามสวนขึ้นมาก่อนที่ชายน์จะพูดประโยคตัวเองจบ ชายน์แหงนหน้าขึ้นมองหน้าคมเขี้ยวที่ก้มลงมองตัวเองอยู่


“ก็… ก็รู้ครับ เคยไปเรียนการแสดงด้วย” คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ


“งั้นน้องก็สอบตกมากนะ…” ชายน์ทำหน้างง คมเขี้ยวจับแขนชายน์ออกจากเอวตัวเองและถอยหลังไปหนึ่งก้าว หนูผีของคุณนายเรียวจันทร์ยิ่งงงเข้าไปอีก


“…แอคติ้งน้องไม่ได้เลย เมียพี่อ่อยพี่เนียนและหนักกว่านี้อีก จิ้งจอกถ้ามีพันหาง เมียพี่ก็มีพันหน้าจนพี่ตามไม่ทัน” คมเขี้ยวยิ้มเหมือนพูดเรื่องทั่วๆ ไปไม่ใช่เรื่องจับผิดที่เขาจับได้ ใบหน้าหล่อของชายน์เสียอย่างเห็นได้ชัด


“พะ… พี่”


“สกิลน้องยังอ่อนนะถ้าเทียบกับเรียวจันทร์ รายนั้นสุพรรณหงส์ยังเล็กไป ต้องระดับไททานิค” หน้าหนูชายน์ช็อคและเหวอไปกับสิ่งที่ได้ยิน ริมฝีปากพะงาบๆ อ้ำๆ อึ้งๆ พูดอะไรไม่ออก


“ผม… คือ…”


“เนี่ย ถ้าเป็นเมียพี่ ป่านนี้มันไหลไปไหนต่อไหนแล้ว ไหลจนพี่จับไม่ได้ และเริ่มไม่แน่ใจว่าใครผิดใครถูกกันแน่” คมเขี้ยวหัวเราะเมื่อนึกถึงว่าถ้าเป็นเรียวจันทร์คงคร่ำครวญ ไม่ก็ชวนเขาออกทะเลจนประเด็นเป๋ไปมาก


“ผมชอบพี่ครับ” ในที่สุดหนูชายน์ก็เปิดปากพูดได้สำเร็จ


“ขอบใจที่ชอบพี่ แต่พี่มีเมียแล้ว ถึงจะเป็นผู้ชาย แต่พี่ก็เต็มใจเรียกเมีย…” ชายน์รู้สึกหน้าชาจนไม่กล้าสบตาคมเขี้ยว


“…ว่างๆ ไปเรียนกับครูแงะแกเพิ่มนะ พี่ว่าเรียวจันทร์เป็นศิษย์รักครูแงะชัวร์ เก่งเกินครูอีกมั้ง” พ่อคาวบอยหน้าหล่อหัวร่อชอบใจ ยื่นมือซ้ายไปตบบ่าชายน์เบาๆ สองสามที


“ถ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร พี่แนะนำได้เลยว่าตัดนักแสดงไปเหอะ น้องยังเล่นไม่ลึกและไม่มีมิติเท่าเมียพี่” พูดจบก็หมุนตัวเดินหนีไปทันที ทิ้งให้หนูชายน์หน้าชา หน้าม้ามแทบอยากจะมุดดินกลับกรุงเทพฯ ตอนนี้ สองมือกำแน่น สีหน้าทั้งอายทั้งผิดหวัง พอเงยหน้ามองไปทางหน้าโรงอาหารก็เห็นเรียวจันทร์เดินออกมากับผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่ง เรียวจันทร์ยกมือทำท่าจะตบคมเขี้ยว แต่ก็โดนคมเขี้ยวดึงเข้ามากอด แม้จะไกลและมีเสียงเพลง แต่เสียงหัวเราะของคมเขี้ยวก็ดังมากพอที่ชายน์จะได้ยิน


“ฮ่าๆๆๆ ใครจะแรดเท่าเมียพี่ล่ะ ฮึ?” คมเขี้ยวก้มลงหอมกลางกระหม่อมเรียวจันทร์หนึ่งทีและกอดร่างบางๆ แต่กล้ามเนื้อเฟิร์มของคุณนายไว้เต็มอ้อมแขน


“ดินก็คิดว่าพี่เขี้ยวจะโง่”


“เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย ไอดิน มึงซื่อหรือมึงแซะกูเนี่ย”


“อะไรพี่ ดินก็แค่พูดอย่างที่เห็น ก็เห็นไม่หือไม่อือ ไม่ว่าอะไรเขาเลย” คมเขี้ยวยิ้ม โยกตัวเองกับเรียวจันทร์ที่ยังหน้าบูดน้อยๆ ไปมาเบาๆ


“กูแค่อยากดูลูกเล่นกับลีลาว่าจะเทพเท่าพี่สะใภ้มึงมั้ย…” คุณนายแหงนหน้ามองคมเขี้ยวและเบะปากให้หนึ่งที ร่างสูงยิ้มขำ


“…แต่เลเวลสู้แม่จันทร์ไรของพี่เขี้ยวกุดไม่ได้เลยครับ” เรียวจันทร์ทำลอยหน้าลอยตา สายตาเหลือบไปเห็นนังหนูผีชายน์เดินลิ่วๆ กลับไปทางหมู่บ้านคาวบอยที่เป็นที่พักของนักแสดงกับทีมงาน คุณนายยิ้มเยาะมุมปากน้อยๆ และเลื่อนสายตาหนีไม่คิดมองให้เสียสายตา


“นึกว่าจะหลงกลมนตร์เด็กประถมของนังหนูผีนั่นซะอีก” เรียวจันทร์แกล้งแซะคมเขี้ยวเบาๆ


“โอ๊ย เจอมนตร์นางมารตัวแม่เข้าไป ไม่มีอะไรถอนได้อีกแล้ว” คุณนายทำท่าจะยิ้มเขินแต่ก็กลั้นไว้จนปากบิดคางเบี้ยวน้อยๆ ให้ดินยิ้มขำกับใบหน้านั้น


“จริงพี่ ดินให้เห็นด้วย ขนาดดินยังรู้สึกต้องมนตร์คุณเรียวไม่เสื่อมเลย” คมเขี้ยวหยุดยิ้มทันที


“อ้าว ไอ้ดินๆ เมียพี่มึงเฮ้ย” เรียวจันทร์หัวเราะคิกคัก ยื่นมือขวาไปผลักแผงอกแน่นๆ ของดินหนึ่งที


“บ้า ดินก็ อวยฉันเกิน…” คุณนายห่อไหล่ขวา ท่าทีเขินอายชัดเจน


“…แต่ก็ปฏิเสธยากอีกอะแหละว่าฉันสวยแล้วยังมีเสน่ห์” คมเขี้ยวส่ายหัวหน้าเอือม รีบคว้ามือแม่ตัวดีให้ก้าวเท้าเดิน


“ไปๆ ไปนอน ไอ้ดินไปนอนไป เดี๋ยวกูจะไปนอนบ้านต้นสน” ไม่รอคำตอบจากน้องชาย คมเขี้ยวจูงมือเรียวจันทร์เดินไปทางป่าสน เรียวจันทร์แอบหันไปส่งจุ๊บให้ดินที่กำลังเดินกลับไปบ้านใหญ่ ดินยิ้มและยกมือบ๊ายบายให้เรียวจันทร์






“อ้า… อะ!”


เอี๊ยด! เอี๊ยด! เอี๊ยด!


เสียงร้องครางกระเส่าดังคลอกับเสียงเตียงลั่นเป็นระยะ ร่างเล็กถูกเข็มขัดสีน้ำตาลเส้นใหญ่รัดข้อมือและผูกติดกับเสาเตียง มีร่างใหญ่คร่อมทับอยู่ด้านบนและกระแทกเข้าหาเป็นจังหวะที่แสนรุนแรงจนเรียวจันทร์หดท้องเกร็งด้วยความเสียวที่จะขาดใจอยู่แล้ว


“พี่เขี้ยว… พี่ โอ๊ย… หนู… อ๊า อ้า!” เรียวจันทร์กรีดร้องเพราะความเสียววูบวาบจากการโดนของดีของคมเขี้ยวก่อกวนด้านใน ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ยังรู้สึกเสียวไส้เสมอ


“ร่ายมนตร์เก่งนักเหรอ ฮึ…”


“…อา” เรียวจันทร์ครางเสียงสั่นตาปรือเมื่อตอนที่โดนคมเขี้ยวซุกไซ้อย่างเร่าร้อน ด้านล่างก็ไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบเร่งแต่ก็ทำให้นางเสียวไม่หยุด มันวูบวาบในท้องตลอดเวลา หน้าท้องเกร็งๆ หดๆ สลับกัน


“ไม้กายาสิทธิ์อันนี้แข็งแรงดีจังค่ะ…” เรียวจันทร์กระซิบใกล้ริมฝีปากคมเขี้ยวที่อยู่ห่างจากปากนางเพียงนิดเดียว คมเขี้ยวคำรามเบาๆ สายตากรึ่มๆ เยิ้มๆ เพราะแอลกอฮอล์มองใบหน้าสวยหวานด้วยความรักความหวงแหน เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างเบาๆ มองด้วยสายตายั่ว สองขายกเกี่ยวรอบเอวคมเขี้ยว คิ้วเรียวสวยขมวดแน่น


“คืนนี้พี่จะเสกมนตร์ให้น้องหนูทั้งคืนเลย”


ปัก!


“อ๊า!” เรียวจันทร์แหงนหน้าขึ้นกับแรงกระแทกที่กระแทกเข้ามาจนจุก แค่เสียวอย่างเดียวก็ดิ้นทุรนทุรายพอแล้ว เจอจุกเข้าไปนางแทบหมดแรง


“เขี้ยวกุด…” เรียวจันทร์ครางเบาๆ ดวงตาฉ่ำปรือ


“…ครับ คุณนายจันทร์ไร” ใบหน้าสวยที่เสียวซ่านบึ้งน้อยๆ กับสรรพนามที่โดนเรียก คมเขี้ยวยิ้มกว้าง ก้มลงจูบปากเรียวจันทร์โดยที่ด้านล่างก็ยังแรงดีไม่มีตก


บ้านต้นสนคงเป็นขุมพลังงานของคมเขี้ยวในเรื่องอย่างว่าจริงๆ นั่นแหละนะ…



-END-



เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :mew1:



จบเลี้ยววววว จบแบบเสียวๆ ด้วย 555555

ขอบคุณคนอ่านทุกคนเลยค่ะที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันมาตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะตามมาแต่ต้น ตามตอนกลางเรื่อง ตามตอนใกล้จะจบ ไม่ว่าตามตอนไหนๆ แต่อยู่ด้วยกันจนจบแล้ว ตอมขอบคุณมากกกก ที่รักนิยายเรื่องนี้ในแบบที่เป็น

นายเอกเรื่องนี้ ตอมบอกบ่อยๆ ว่านางเป็นนายเอกที่แหวกแนวและแปลกประหลาด นางไม่แมน สาวก็ไม่ใช่สาวน้อยๆ นางเป็นคนสุดโต่งกับชีวิต นางเป็นคนที่สวยที่สุดในจักรวาลตามความคิดของนาง เชื่อว่าอาจจะไม่ถูกใจใครหลายคน แต่ก็มีใครหลยคนอีกเช่นที่ถูกใจนาง และทนนางได้ 555555

ขอบคุณคนอ่านที่ตามอ่านเรื่องนี้มากเลยนะคะที่รักเรียวจันทร์ นายเอกคนที่สองของตอม ค่อนข้างมั่นใจพอสมควรว่าเรียวจันทร์เป็นนายเอกที่เปรี้ยวเยี่ยวราดที่สุดด้วยนิสัยส่วนตัวของนาง (อย่างน้อยในบรรดานายเอกของตอมที่อยู่ในสังกัด เรียวจันทร์คือเปรี้ยวโคตรๆ แล้วจริงๆ ค่ะ) นางไม่ใช่แนวสวยสง่านางพญา นางไม่ใช่แนวสวยกุมอำนาจ แต่นางเป็นสวยสายไบโพล่า อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ตามความพึงพอใจและไม่พึงพอใจของนางเอง ใครโลกสวยหรือโลกไม่สวยนางไม่สนใจ เพราะนางสนแค่ว่าตัวเองสวยที่สุด 555555

อยู่ด้วยกันมาปีกว่าเลยนะเนี่ย ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าเป็นคนเขียนคนอื่น แค่สามสี่เดือนก็จบแล้วเรื่องเนี้ย 55555 แต่ตอมช้ามากกก เพราะเป็นคนเขียนช้าแล้วด้วยหนึ่ง สองคือตอมเองก็มีงานประจำของตัวเองที่ต้องทำ สามคือเขียนนิยายได้ทีละเรื่อง พอเขียนเรื่องวิคเตอร์กับแมท เรื่องนี้จะต้องพอสไว้ชั่วคราว กลายเป็นลากยาวเป็นปีกว่าๆ เลย แต่ในที่สุด วันที่ 15 กรกฎาคม 2560 นิยายเรื่องนี้ก็จบลงอย่างสมบูรณ์แบบแล้วค่ะ   :katai2-1:

หวังว่าจะติดตามผลงานเรื่องอื่นๆ ของตอมต่อไปนะคะ ไม่อยากเอ่ยแบบว่าจะจากลากันไปไกล เพราะคนอ่านหลายๆ คน เดี๋ยวก็ไปเจอกันเรื่องหน้าเนอะ อุๆ เอาเป็นว่า ขอให้ความสุขที่ได้รับจากพ่อเขี้ยวแม่เรียวประทับอยู่ในใจของคนอ่านไปนานๆ นะคะ

มนตร์ของขุ่นแม่จบลงแล้วค่ะ นางเสกคาถา นางร่ายมนตราจนได้ผัวมาครอบครองแล้ว นางขอไปแฮปปี้กับสามีของนางต่อเป็นการส่วนตัวแล้วกันนะคะ คิๆ บ๋ายบายค่า  :bye2:



แต่ถ้าใครอยากต่อเนื่อง ไปเจอกันในเล่มนะคะ คิๆ ขายของเนียนๆ ตอนนี้รอบสต๊อกขุ่นแม่เหลือ 21 ชุดค่ะ หนังสือรอบต๊อกจะมาพร้อมรอบพรีเลยค่ะ


รายละเอียด

ใครอยากได้ขุ่นแม่หรืออยากได้สามีขุ่นแม่ไปครอบครอง ส่งอีเมลมาหาตอมที่ worksthemagicอย่าแสดงเมลบนบอร์ด เขียนหัวข้ออีเมลว่า 'เปย์ขุ่นแม่รอบต๊อก' ตอมจะส่งรายละเอียดการโอนเงินกลับไปให้ หนังสือมีสองเล่ม (เล่มแรก 416 หน้า เล่มสอง 402 หน้า) ราคาชุดละ 1045 รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียนแล้วค่ะ ตัดสินใจดีๆ เนอะ ตอมรู้ว่าหนังสือตอมราคาพาไตวายมาก ยังไงตัดสินใจก่อนเปย์ได้ตลอดๆ ค่า

.
ไม่มีจองนะคะ เหมือนร้านหนังสือค่ะ ใครพร้อมก็หยิบขุ่นแม่มาคิดเงินได้เลย สำหรับรอบต๊อกจะไม่ได้พวงกุญแจกับโปสการ์ดเด๊อจ้ะ




สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                                 
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ

หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 15-07-2017 20:51:27
ปรบมือรัวๆค่าาาาา ขุ่นแม่ไม่ต้อง พี่เขี้ยวจัดการนังหนูผีเอง555555
เริ่มแบบเสียวๆก็จบแบบเสียวๆสมกับเป็นแม่เรียวนะจ๊ะะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-07-2017 21:07:45
โอ้ยย จบแล้ว ขุ่นแม่นางยังคงความแซ่บไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-07-2017 21:08:32
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 15-07-2017 21:15:12
โอ้ยยยย ชอบผัวเมียคู่นี้จริงๆ พี่เขี้ยวกุด กับ น้องจันทร์ไร ดูเค้าเรียกกันสิ น่ารั๊กกก ^^
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 15-07-2017 21:37:25
คู่นี้แซ่บสุดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-07-2017 23:26:55
 :mew1: :mew1: :mew1: :3123: :3123: :3123: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-07-2017 23:35:57
คมเขี้ยว เรียวจันทร์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

แล้วซายน์ ก็เปิดเผยโฉมนาง ที่แอ๊บ
แต่คมเขี้ยวที่เคยเจอกับดักนางมารมาก่อนรู้หมด เลยเฟลไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 17-07-2017 20:40:06
พี่เขี้ยวโดนแม่เรียวฝึกมาดี เริ่ดสุดๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 17-07-2017 22:57:27
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Gear77 ที่ 19-09-2017 18:00:18
ความสัมพันธุ์ที่เริ่มด้วยการหลอกลวงนี่มันแฮบปี้ดีเนอะ นึกว่าเรียนจะคู่กับจอมทัพซะอีกเหมาะกันดี
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 20-09-2017 10:42:04
บอกตามตรงเลยค่ะขุ่นเจ้ ปกติไม่ชอบนิยายสาวแตกแบบนี้เลยค่ะ รู้สึกไม่ฟิน แต่พอได้อ่านเรื่องของขุ่นเจ้
ตั้งแต่ วิคเตอร์กับแมทใน Love no boundaries  แล้ว ติดเลยค่ะ อ่านไปทั้งหมดสองรอบถ้วน ฟินแล้วฟินอีกไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะขุ่นเจ้
แล้วยิ่งมาเจอเรื่องนี้ ตอนแรกไม่ได้ดูชื่อนักแต่งแต่เห็นสารบัญแบบเดียวกัน มั่นใจเลยว่าต้องเป็นคนแต่งเดียวกันแล้วก็จริงๆด้วย
พอมาอ่านเนื้อเรื่อง อยากบอกว่าชอบมากกกกก เป็นเรื่องที่สองที่อ่านแบบนายเอกสาวแตก และแฮ่นสุดๆ เนื้อเรื่องเนื้อหามีอะไรให้ติดตามตลอด ไม่น่าเบื่อเลยค่ะขุ่นเจ้ แล้วถ้าเดาไม่ผิด เสี่ยกับคุณแม่ของเรียวจันทร์นี่ได้เสียกันหรือเปล่าคะ ถึงได้บินตามกัน
แอบมีให้คิดต่อยอดไปเองด้วย ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องดีๆ จะรอติดตามในเรื่องต่อๆไปนะคะ

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 22-09-2017 15:58:49
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 23-09-2017 14:56:18
โอ๊ย คุณนายแซ่บมากกกกก
คุณเขี้ยวเราตอนแรกดูใสๆ
พอได้กับคุณนายปุ๊ป พลิกเลย
จัดว่าแซ่บ ถึงใจคุณนายแกมาก
ชอบเรื่องนี้มากเลย
น่ารักๆสไตลแรด 5555
อยากอ่านเรื่องของเสี่ยแล้วอ่ะ
สงสารเสี่ยมาก แต่ชอบความดาร์กตอนท้ายๆนะ
คู่เสี่ยต้องสตรองกว่าคุณนายละล่ะ
อยากอ่านจังเลย อีกนานไหมน้อ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: myapril ที่ 12-10-2017 14:08:35
แซ่บมากกกกกค่ะ รอเสี่ยรอน้องดินค่า
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 14-10-2017 12:04:53
ขุ่นแม่แซ่บมากค่าาาา
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 14-10-2017 14:25:55
อ่านรวดเดียวจบเลยค่าาา
เรียวจันทร์เป็นนายเอกที่เปรี้ยว แซ่บ และสาวสวยที่สุดที่เคยอ่านมาเลย
มีความขุ่นแม่มากจริงๆ55555555
ชอบที่ทั้งๆที่เรียวจันทร์ก้สาวออกขนาดนั้น แต่ไม่ได้รู้สึกว่าสาวจนเหมือนผญเลย
รู้สึกได้ว่าเออเรายังอ่านวายอยู่นะ แค่นายเอกแซ่บลืมมมมแค่นั้นเองง
หายากมากกค่ะ ที่นายเอกจะสาวๆแบบนี่โดยที่ยังได้ฟิลนิยายชชอยู่
ส่วนพี่เขี้ยว คนนี่ก้แซ่บบ มาดเข้มเหลือเกินนนพ่อคุณ หื่นได้ใจอีกกกก
ว่าก้ว่าพอพี่แกรู้ใจตัวเองแล้วก้ลัดเจนมากนะว่าหลงเมีย รักเมียมาก
สงสารพยานความรักอย่างดินมากค่ะ เจอจังๆหลายช้อตเหลือเกินนน
ส่วนคุณเสี่ยจองทัพ แอบเชียร์ให้มีคู่ค่ะ มีเรื่องของตัวเองงี้
รู้สึกว่าเสี่ยไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นอะ เออโหดจริงแหละ มาเฟียด้วย
แต่รู้สึกว่ายังมีศีลธรรมหรืออะไรบางอย่างที่ไม่ได้เลวจนเกินไปอะ
รู้สึกว่าชอบเรียวจันทร์จริงๆด้วย แต่ไม่ได้มากพอ แต่ก้ยังยอมให้ขนาดนี้
อยากรู้ว่าแล้วกับคนที่รักมากพอละ เสี่ยจะอ่อนโยนได้ขนาดไหนนะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ สนุกมากกกก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 15-10-2017 03:04:19
อ่านรวดเดียวจบแล้วก็ทีมเสี่ยมาตลอด ไม่เสียใจจริวๆที่เชื่อใจเสี่ย พี่เขี้ยวเราก็รักนะ ไหนๆนังเรียวไม่เอาแล้วขอเสี่ยได้มั้ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 15-10-2017 13:37:03
พอได้กันเท่านั้นแหละ อะไรก็ฉุดไม่อยู่ พี่เขี้ยวหื่นสู้จันทร์ไม่ได้หรอก คนอ่านนี่เลือดหมดตัว
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-10-2017 16:46:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ammlovey ที่ 16-10-2017 19:54:59
หาอ่านนิยายนายเอกสาว แรดแบบนี้นานแล้ววว เรื่องนี้โดนใจมากค่ะ ชอบความน่ารัก(?)ของน้องหนูเรียวมากกกกกก
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ :กอด1: o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Another Night ที่ 17-10-2017 01:31:44
จบได้แซ่บสุดอะไรสุด  :hao6: :hao6:
สารภาพว่าเพิ่งได้อ่านนิยายที่นายเอกสาวเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก และขอบอกเลยว่าสนุกมากค่ะ :katai2-1:
แอบมีบางช่วง นิสัยบางอย่างของตัวละครกับดราม่าไม่ค่อยหนัก(สำหรับเรา)เป็นส่วนที่ทำให้รู้สึกขัดใจอยู่นิดหน่อย
แต่รวมๆแล้วสนุกมากค่ะ ชอบความถึงไหนถึงกันของเรียวมาก ตาเป็นตา ตบเป็นตบ สะใจมากในส่วนนี้555555555
ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆที่เขียนมาให้อ่านนะคะ จะคอยติดตามผลงานเรื่องต่อไปนะคะ

Love
Another Night
 :L2: :pig4: :L1: :3123: :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 29-12-2017 22:55:19
เข้ามาอ่นอีกรอบ ชอบบบ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 02-01-2018 19:50:27

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Gwen ที่ 04-01-2018 09:13:55
อยากให้เสี่ยมีคู่กับเด็กคนนั้นก็ได้  จะได้ไม่มาวอแวคุณแม่
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 06-01-2018 13:22:50
อ่า...เป็นนิยายที่สุดยอดจริงๆ

อยากได้แบบแม่นางมาอยู่ด้วยสักคนคงจะสนุกพิลึก

5555 ชอบนางนะ


ขอบคุณนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 06-02-2018 22:58:18
คุณนายเรียวแซ่บ..บบบบบบ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: jomyingg ที่ 02-03-2018 00:51:29
กลับมาอ่านอีกรอบก็ยังชอบและสนุกเหมือนเดิมเลยค่ะ
ชอบคุณนายละเกิลล เผ็ชมาก5555 พี่เขี้ยวตอนโหดก็กร๊าวใจสุดๆไปเลย แอบอยากให้ดินกับตาเสี่ยมาคู่จังเลยยย :hao7:
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านนะคะ เลิฟฟ  :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Mushroom_mus ที่ 29-03-2018 02:53:25
ชอบตัวละครทุกตัวเลย เป็นกำลัง​ใจให้นะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Killian ที่ 30-03-2018 04:14:36
สนุกมาก อยากอ่านเรื่อยๆ ไม่อยากให้จบเลย เราชอบบบบบบบเรื่องนี้ อิตาเสี่ยจอมทัพก็อยากได้ พี่เขี้ยวก็น่าเอา น้องดินยิ่งน่ากิน โอ้ยยยย เป็นฉันจะฟาดทั้งสาม
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: TheGraosiao ที่ 31-03-2018 17:17:17
ชอบมากกกกกกก

ขอบคุณนะคะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-04-2018 07:55:27
ขอบคุณค่ะ เรียวจันทร์แซ่บมาก เผ็ช!
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 23-05-2018 14:18:18
ชอบดินมากเลยตัวประกอบผู้น่ารัก  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 17-06-2018 17:04:04
อ่านช่วงแรก ๆแอบรู้สึกว่าจะไม่สนุก  ส่วนตัวไม่ชอบนายเอกแบบสาวมากขนาดนี้

 แต่อ่านไปสักพักมันสนุกอ่ะ  ตลกด้วย  ลับฝีปากกันมันส์เลย


ชอบจ้าาาาาาาา  :mew1:  o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: doudoh ที่ 19-06-2018 14:09:44
สนุกมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 23-06-2018 03:17:15
ขอบคุณนักเขียนค่ะ สนุกมากค่ะ o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 01-07-2018 21:52:17
สนุก เฮฮา และตลกสวยๆ 555

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 19-08-2018 01:00:49
้พิ่งมาเจอเรื่องนี้เลยลองเข้ามาอ่านดู ปกติไม่ชอบนายเอกสาวแตกเลยนะเพราะมันดูน่ารำคาญ แต่ยอมให้แม่เรียวจริงๆ ถึงนางจะสาวแตกอ้อนแอ้นแต่นางก็สตรองในระดับนึงบวกกับนิสัยของนางเรื่องมันเลยสนุก พี่เขี้ยวก็กามมากเห็นเงียบๆแต่ฟาดจนขาอ่อนนะจ๊ะ  :hao3: แอบสงสารจอมทัพถึงคนจะมองว่าเลวแต่เสี่ยแกก็รักจริงนะ อยากให้มีคนมาดามใจเสี่ยจริงๆเลยตอนแรกแอบเชียร์เินให้เสี่ยนะแต่้หมือนดินจะมีคู่โผล่มาแล้วสิเพราะงั้นเสี่ยเลยต้องรอคู่ตัวเองต่อไปแล้วละ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 09-09-2018 19:47:51
แซ่บตั้งแต่ต้นจนจบ ประทับใจแม่เรียวมาก น่าร้ากกก  :-[
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: noveeo ที่ 23-02-2019 21:41:55
หลงรักคุณนายเรียวจันทร์

แต่ที่รักกว่าคือ รักคนเขียนจ้า

ปล.เราจะติดตามผลงานทุกเรื่องไป จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 24-02-2019 22:53:55
สนุกมากๆจ้า หนูเรียว แซ่บมาก  o13
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 03-03-2019 19:11:19
อ่านจบจนได้ชอบลุคคุณนายเรียวจันทร์แกมาเลย
ขอบคุณสำหรับนิยายที่มาแบ่งปันนะครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 05-03-2019 00:12:48
 :z1:สนุกจนตัวสุดท้าย ชอบมากค่า
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 06-03-2019 10:02:28
สนุกมากเลย  ว่าแต่มีเรื่องต่อของดินรึเปล่าค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Hoya ที่ 13-05-2019 17:53:03
 :mew1: :mew1: อ่านจบ รายงานตัว ค่ะ  :hao3: :hao3:

สนุกอ่า สนุกมาก เป็น ตัวละครที่  โคตรแสบ  พูดกี่ที ๆ ก็จะบอกว่า คุณนาย โคตรแสบ

ขอบคุณ คุณตอม มากๆ ค่า


แอบ อยากเก็บดิน ไว้ให้ เสี่ยจอมทัพแฮะ  ร้ายๆ เจ้าชู้ ต้องเจอคนซื่อๆ ดูจริตดินแล้ว..... ต้องโดน เสี่ยเลี้ยง....เสี่ยรักเสี่ยหลง กันไป
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 12-07-2019 11:13:29
ขอบคุณค่า สนุกมากเลย ทิ้งไว้อยู่นานกว่าจะได้
มาอ่าน ไม่นึกว่าจะดราม่าน้อย ประทับใจ 555
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-09-2019 13:39:33
 o13

 :กอด1: :L2: :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :L1: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 22-09-2019 08:33:58
ตามมาจากแมทน้อยค๊า ผัวเมียคู่นี้นี่มันแซ่บจริงๆ ชอบความมั่นของน้องเรียว ชอบทุกตอนที่บอกว่าตัวเองสวย ผู้แยกกัน ฮ่าฮ่า แต่ก็ชอบน้องดินด้วยฮึมๆ น้องมีการพัฒนาความปากร้ายหลังอยู่กับน้องเรียวเยอะๆ เรื่องนี้ชอบเด้อ แอบอ่านที่ทำงานมาสองวันละ555 งานการไม่ทำ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆอ่านเพลินแบบนี้ค่ะ รอเรื่องต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 19-01-2020 07:36:22
มาอ่านรอบ2 ยังแซบเหมือนเดิมเลยคุณนาย  :hao7:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ปาลี ที่ 27-06-2020 19:21:02
เรียวเหมาะกับเสี่ยที่สุดแระ ปล่อยคมเขี้ยวให้ไปเจอคนดีดีเหอะ
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ปาลี ที่ 27-06-2020 19:30:41
เป็นเรื่องแรกเลยที่เสียดายพระเอก
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: ปาลี ที่ 28-06-2020 00:32:28
อ่านถึงตอนเรียวสารภาพเรื่องเสี่ย ไม่รู้สึกถึงความเสียใจในความผิดเท่าไหร่ แถมดันโกรธเขี้ยวที่หนีกลับอีก ตอนท้ายที่เสี่ยพูดก็จริงนะนางรักตัวเองมากกว่าคนอื่น ยึดแต่ความคิดของตัวเองเป็นหลัก อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาเลย
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 03-07-2020 17:59:08
รักคุณนายเรียวจันทร์ที่สุด สตองและน่ารักมากมาย พี่เขี้ยวกุดก็สายฮาดคอ เนื้อเรื่องสนุกเข้มข้นมากค่ะ สนุกมากๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 17-07-2020 21:03:00
 :-[ :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: BM_CBC ที่ 15-08-2020 21:02:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
เริ่มหัวข้อโดย: noveeo ที่ 12-10-2021 06:25:55
รอบที่สามแล้ว พี่เขี้ยวกับแม่เรียวจันทร์ก็ยังร่ายมนตร์ใส่พี่ได้เสมอ...สนุกทุกรอบเลย