คาถาที่ 33 [END]“หน้าบึ้งๆ เป็นอะไรรึเปล่า” คมเขี้ยวถามพลางเช็ดหัวที่เปียกหมาดๆ เรียวจันทร์ที่กำลังนอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงเหลือบมองคนตัวสูงลิ่วด้วยสายตาไร้อารมณ์ แต่ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เคือง แค่นึกหงุดหงิดว่าทำไมไอ้พี่เขี้ยวมันต้องไปคอยดูแลนังหนูผีนั่นด้วย
“เปล่า บริหารกล้ามเนื้อบนหน้าอยู่” คมเขี้ยวย่นคิ้ว มองเรียวจันทร์เหมือนกำลังเห็นคนแปลกหน้า
“แน่ใจ?” เขารู้ว่าแม่ตัวดีคงกำลังรู้สึกแง่ลบกับเรื่องอะไรสักอย่างอยู่แค่บ่ายเบี่ยง แต่เขาแค่สงสัยตรงที่ว่าปกติเรียวจันทร์เป็นพวกโฉ่งฉ่าง เก็บอะไรได้ไม่นาน แต่อันนี้ดูจะเก็บเงียบ หรือเป็นช่วงเวลาฟักไข่?
“แน่สิ” คุณนายนางก็อยากจะพูดจนหมดเปลือกนั่นแหละว่าคิดอะไรอยู่ แต่นางก็มีสติพอที่จะเห็นว่าคมเขี้ยววางตัวยังไง นังหนูผีชายน์มันแค่อ่อยอ่อนๆ ไม่ได้รุนแรงมาก อาจเพราะมันยังมีความ (แอ๊บ) แมนอยู่ในตัว มันเลยไม่ได้แสดงออกโต้งๆ
แต่ที่สำคัญคือนางไว้ใจคมเขี้ยวว่าไม่มีทางเอาผู้ชายคนอื่นนอกจากนาง เพราะกว่านางจะได้มาก็ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะคมเขี้ยวชอบผู้หญิง ฉะนั้นเลเวลความหึงหวงของเรียวจันทร์จะพุ่งง่ายกว่าถ้าเป็นนังนี
“ไหนบอกซิว่ากำลังงอนอะไร” จากที่หน้าบูดเบาๆ พอได้ยินแบบนั้นคุณนายก็แทบจะยิ้มกว้างแต่ก็กลั้นยิ้มไว้เลยกลายเป็นว่านางกำลังเกร็งหน้า
เรื่องระยะเวลาไม่ใช่ตัวแปรของนางกับคมเขี้ยวเลย เพราะคมเขี้ยวมักจับความรู้สึกนางได้ไว
ก็ปกติเริงร่าอย่างกับกินยาม้า พอหงอยๆ ไปมันก็เห็นชัดน่ะสิ
“ไม่ได้งอนค่า หนูแค่…” เรียวจันทร์บุ้ยปาก คิดว่าจะพูดดีมั้ย
“…หนูไม่ชอบนังหนูผีชายน์” แต่ก็พูด
คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง ไม่ถึงขั้นประหลาดใจ แต่ก็แปลกใจอยู่นิดหน่อย “ทำไมล่ะ”
“มันดูแรด” คมเขี้ยวหัวเราะเสียงดัง แต่ก็ไม่ถึงกับลั่นห้อง
“ด่าเขาหรือด่าตัวเอง” เรียวจันทร์ถลึงตาใส่ให้คนที่นั่งอยู่ข้างเตียง
“หนูจะด่าตัวเองทำไมล่ะ เคยบอกแล้วนี่ว่าเราห้ามด่าตัวเอง เราต้องชมตัวเองเพื่อสร้างพลังบวก” และบอกอีกครั้งก็ยังจริงจังตลอด เรียกง่ายๆ ว่าแม่คุณนายหลงตัวเองเป็นเรื่องเป็นราวและไม่เคยคิดว่ามันผิด
“เห็นว่าเขาจะอยู่ต่ออีกสองสามวันนะ” เรียวจันทร์เบะปาก แต่ก็ไม่คิดด่าคิดว่าอะไรเพิ่มเติม ไม่ใช่ว่านางปลง แต่นางรู้ว่าสิ่งที่นังหนูผีชายน์มันหวังไว้เป็นไปไม่ได้หรอก ที่เป็นอยู่เนี่ยแค่หมั่นไส้
“ทำไม ดวงชะตาเป็นศัตรูกันเหรอ” คมเขี้ยวถามขำๆ โยนผ้าขนหนูไปที่โซฟานวดสีดำ สอดตัวเข้าไปในผ้านวม เรียวจันทร์เขยิบเข้าไปนอนกอดร่างสูงทั้งที่หน้ายังบึ้งอยู่
“เลิกทำหน้าบึ้งได้แล้วน่า ไม่กลัวหน้าเหี่ยวเหรอ” พอได้ยินคำว่าเหี่ยว คุณนายก็ปรับสีหน้าใหม่ทันที ใช้มือซ้ายจับๆ นวดๆ ใบหน้าตัวเองเบาๆ จนคมเขี้ยวขำคิก
ทำไมพี่เขี้ยวจะไม่รู้ว่าน้องหนูแอบหึงตัวเองเงียบๆ แค่ไม่ใช่การหึงแบบระเบิดลงเท่านั้นเอง เขาเคยเห็นมาแล้วตอนแม่คุณนายจัดการวี๊ดใส่ไฮโซกรุงเทพฯ คนหนึ่งที่ทักแชทเขาบ่อยแต่เขาไม่ค่อยตอบ แม่ตัวดีอัดคลิปจิกกัดส่งไปให้สิบกว่าวิแต่เป็นสิบกว่าวิที่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นเงียบหายไปและบล็อกเขาไปแล้ว
‘คมเขี้ยวเป็นเมียฉัน ฉันเป็นผัว ฉันเป็นคนเอา เขาโดนเอา คมเขี้ยวเป็นรับ ไม่ใช่รุก เท่านี้ รู้เรื่อง ถ้าไม่รู้เรื่อง ไปกินน้ำมันตับปลา! / ถลึงตาดุปิดท้ายคลิป’“ปิดกล้องจ้า!!!”
“วู้ววว!!!” นักแสดง เอ็กซ์ตร้าและทีมงานทุกคนส่งเสียงร้องดีใจและปรบมือไปรอบกองเมื่อผู้กำกับประกาศปิดกล้องในยามเย็นของวัน เนื่องจากถูกพักกองเป็นเวลาหลายเดือนจนแทบจะลืมว่าเคยทำหนังเรื่องนี้ เหล่านักแสดงหลักและทีมงานเลยไม่ได้รู้สึกว่ามันเหนื่อยมาก แต่รู้สึกโล่งใจมากกว่าที่มันจบสักทีเพราะหนังเรื่องนี้มีปัญหาไม่น้อยทีเดียว
“เก็บของเสร็จแล้วเจอกันที่โรงอาหารนะ ปาร์ตี้ๆ” ทีมงานผู้ชายส่งเสียงเฮตอบรับในขณะที่เก็บของต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง
แม้ว่าจะหมดคิวถ่ายของตัวเองแล้ว แต่เรียวจันทร์ก็ออกมาดูการถ่ายทำและดูแลคนในกองในฐานะเจ้าบ้านที่ดี จังหวะที่นางกำลังยืนคุยกับผู้กำกับ สายตาก็เหลือบไปทันเห็นว่านังหนูผีชายน์มองนางอยู่แว้บหนึ่ง คุณนายปลีกตัวจากผู้กำกับเดินเข้าไปคุยกับนังเก้งแอ๊บแมนที่นั่งจัดองค์ทรงเครื่องผมและหน้าตัวเองอยู่
“ได้ข่าวว่าจะอยู่ที่ฟาร์มต่ออีกสองสามวันเหรอจ๊ะ” คนถูกถามเลิกคิ้ว ยิ้มน้อยๆ ก่อนตอบ
“ครับ พอดีชายน์รู้สึกชอบที่นี่”
“หนูชอบที่นี่หรือชอบผัวพี่คะ อันนี้ถามกันตรงๆ และถามกันดีๆ เลยนะจ๊ะเนี่ย” สีหน้าของชายเลิ่กๆ ลั่กๆ ไปพักหนึ่งเพราะโดนถามตรงๆ แบบไม่ตั้งตัวมาก่อน
“ชายน์ไม่ได้…”
“…อย่าบอกว่าไม่ได้ชอบคมเขี้ยวนะ เพราะฉันไม่เชื่อ” ริมฝีปากคุณนายยิ้ม แต่ดวงตานางจ้องพิฆาตมาก
ชายน์พ่นลมหายใจ ลุกขึ้นยืนและลอยหน้าลอยตานิดหน่อย “ไม่เชื่อก็ดีครับ”
เรียวจันทร์มองรอยยิ้มกวนประสาทของอีกฝ่าย นึกหมั่นไส้ในใจ แต่นางก็เก็บไว้ข้างในไม่แสดงออกมา ทำเพียงยิ้มมุมปากพร้อมยักคิ้วหนึ่งที
“แหม่ เจอคนหน้าด้านอีกละ” คุณนายส่ายหัวสีหน้าอ่อนใจราวกับเป็นเรื่องที่หน่ายเหนื่อยใจเหลือเกินกับคนประเถทนี้ มันก็น่าเหนื่อยใจจริงๆ นั่นแหละ แต่ถามว่านางกลัวใจนังหนูผีนี่มั้ย ไม่เลยค่ะ
“อยากทำอะไรก็รีบทำ เพราะฉันไม่ให้เธอพักต่อ” ชายน์หน้าตึง มองเรียวจันทร์ด้วยความไม่พอใจ
“พี่เรียวมีสิทธิ์อะไร เป็นแค่เมียเจ้าของฟาร์ม ห้ามได้ขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วนี่ลูกค้านะ”
“ประเด็นแรก ฉันไม่ใช่แค่เมีย แต่ฉันเป็นเจ้าของที่นี่ ถ้าสงสัยข้อนี้นัก ช่วงที่อ่อยแฟนฉันก็ลองหยุดถามสักแปบ ส่วนประเด็นที่สองเกี่ยวโยงกับประเด็นแรก ในเมื่อฉันเป็นเจ้าของ ฉันก็มีสิทธิ์จะรับหรือไม่รับลูกค้าก็ได้ สำหรับฉัน ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า เพราะลูกค้าไม่ได้คลอดออกมาจากคัมภีร์ไบเบิ้ลย่ะ!” คุณนายพูดยาวเหยียดแต่ชัดเจนและเป๊ะในความหมายตามที่ต้องการ เรื่องพูดยาวๆ แต่ความหมายไม่เพี้ยนขอให้บอกนาง ระบบหายใจนางดี ยิ่งคบกับคมเขี้ยวยิ่งดี เพราะต้องตั้งรับจูบพ่อสามีตัวสูงให้ได้
นังหนูผีชายน์อ้าปากจะพูดต่อแต่คุณนายหมุนตัวเดินหนีไปก่อนอย่างไม่แยแส ไม่สนใจว่ามันจะพูดอะไร เพราะนางถือว่าพูดในส่วนของนางหมดแล้ว เลิก ขี้เกียจฟัง ไม่ได้สลักสำคัญอะไรกับนางขนาดนั้น
ชายน์มองตามด้วยสายตาหงุดหงิดและไม่พอใจ ก่อนจะนึกถึงประโยคที่ว่าอยากทำอะไรก็รีบทำแล้วก็ยิ้มเยาะน้อยๆ คนเดียว
เปิดทางให้เองนะ
งานเลี้ยงปิดกล้องภาพยนตร์มหากาพย์ที่ถ่ายทำอย่างยาวนานเพราะมีปัญหาเรื่องเงินทุนของเรียวจันทร์จัดขึ้นในโรงอาหารของฟาร์ม เวทีคอนเสิร์ตเล็กๆ เปิดโอกาสให้คนขึ้นไปร้องเพลง มีดีเจจำเป็นคือผู้ช่วยผู้กำกับคอยเปิดเพลงสนุกๆ ให้ฟังสลับกับมีคนขึ้นไปร้องเพลงสด อาหารทั้งจากกองถ่ายสั่งมาและทางฟาร์มเลี้ยงวางเต็มโต๊ะ เครื่องดื่มทั้งแอลกอฮอล์และไม่แอลกอฮอล์ก็เพียบ
แสงสีจัดเต็มอย่างกับในคลับ เพราะมีไว้เตรียมพร้อมสำหรับเทศกาลประจำปีของทางฟาร์มอยู่ก่อนแล้ว ทางกองถ่ายเลยขอดึงมาใช้เพื่อสร้างบรรยากาศก่อน แสงสีวิบวับกับเพลงมันส์ๆ และฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้บรรยากาศงานสนุกสนานมากขึ้น รวมทั้งมีคนมีคว้ามกล้ามากขึ้นอย่างชายน์
นังหนูผีของคุณนายแม่ถือโอกาสเนียนดึงคมเขี้ยวมาเต้นด้วยกันอย่างใกล้ชิด พอเหล้าเข้าปาก อาการแอ๊บแมนของหนังคุณหนูก็หลุด เปลี่ยนเป็นงูแม่เบี้ยเลื้อยไปทั่วตัวคมเขี้ยวที่เต้นไปหัวเราะไป
“ต๊าย ยัยคุณหนูมันตุ๊ดแตกขนาดนี้เลยเหรอ แมนมาได้ตั้งนาน มาหลุดไรวันนี้เนี่ย” ช่างแต่งหน้าสาวสองคนหนึ่งพูดด้วยความอึ้งและตะลึงเบาๆ กับลีลาเลื้อยรอบตัวคุณคมเขี้ยวสุดหล่อ
“เอ๊า อีนี่ ไม่เห็นเหรอว่ามันอ่อยคุณคมเขี้ยวอยู่”
“ฮะ? มันไม่รู้เหรอว่าเรียวจันทร์เป็นแฟนเขาอะ” เจ๊จิ๋มทำตาโตแบบใสซื่อพลางจิ้มไส้กรอกเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
“ยากอะไรล่ะค้า มันอยากได้ มันก็เลยต้องแย่ง เพราะถ้าคิดจะแช่งนังเรียวก็ยาก นังนี่มันเหนือไสยเวทย์ไปแล้ว”
“แล้วพี่เรียวเขาไม่คิดจะปกป้องแฟนตัวเองมั่งเหรอเจ๊” หญิงสาวที่เป็นช่างผมประจำกองถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น พลางสายตาก็สอดส่องมองหาหน้าสวยๆ ของเรียวจันทร์ว่าอยู่ที่ไหน
เจ๊จิ๋มขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ชะโงกหน้ายืดคอมองหาเรียวจันทร์แต่ก็มองไม่เห็นว่าแม่นายแบบสุดเปรี้ยวคนนั้นไปอยู่ที่ไหน สักพักก็เจอเรียวจันทร์นั่งเชิดหน้าสวยๆ อยู่กับหนุ่มผิวเข้มร่างใหญ่คนหนึ่งที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามตัวเอง
“นางดูชิลเนาะ หรือนางไม่รู้ว่าผัวกำลังจะโดนงาบ” เจ๊จิ๋มพูดกับสาวกด้วยความสงสัย แม้เพลงจะดังแค่ไหนแต่พวกหล่อนก็นินทาคนได้สบายมาก
ทางด้านเรียวจันทร์นั่งมองนังหนูผีชายน์อ่อยผัวนางและอ้อนตีนนางอย่างเงียบๆ ดินมองเรียวจันทร์ด้วยความไม่สบายใจ มันจะเข้าไปดึงพี่เขี้ยวออกมาให้หลายครั้งแล้วแต่ก็โดนคุณเรียวห้ามไว้ และคุณเรียวก็เอาแต่นั่งนิ่ง หยิบนั่นหยิบนี่กินแบบปกติจนไอ้ดินจะหึงแทนอยู่แล้ว
คมเขี้ยวโยกตัวเต้นกับชายน์เบาๆ เพราะมีอาการเมาร่วมด้วยเลยสนุกได้ง่ายกว่าปกติ ใครชวนเต้น ชวนชนแก้วก็สนุกสนานไปแบบไม่คิดอะไร
“โอ๊ย พี่เขี้ยวครับ ชายน์เหนื่อย เราไปหาที่นั่งกันข้างนอกมั้ย” หนูผีเขย่งตัวส่งเสียงออดอ้อนข้างหูคนตัวสูง และทำท่าหมดแรงจะล้มลงไปกองกับพื้น คมเขี้ยวใช้สองแขนรับร่างผอมบางไว้
“เฮ้ย อ่อนว่ะน้อง” คมเขี้ยวแซวขำๆ หนูผีชายน์ยิ้มอ้อแอ้ตาหวานเยิ้ม
“ประคองชายน์ไปนั่งข้างนอกหน่อยนะครับ ในนี้เสียงดังอะ”
“เอา ไปก็ไป” คมเขี้ยวพยุงร่างของชายน์ไว้ในวงแขน ประคองให้ชายน์เดินไม่สะดุดล้มคว่ำไปกับพื้น ร่างผอมบางเอนหัวซบอกเขา แต่คมเขี้ยวก็ไม่ได้ผลักออก พาเดินออกไปนอกโรงอาหารท่ามกลางสายตาของใครหลายคน รวมทั้งเรียวจันทร์กับดินด้วย
“คุณเรียว” ดินหันไปมองเรียวจันทร์ที่มองตามตาแทบขวาง แต่นางก็ยังไม่ลุกขึ้นวี๊ดแตก
“อีกสิบนาที ถ้าพี่ชายดินไม่กลับมา เป็นเรื่องสมใจดินแน่” คุณนายพูดอย่างแน่วแน่ น้ำเสียงชัดเจนแม้จะมีเสียงเพลงดังกลบ ไอ้ดินมองด้วยสายตาจะว่าสบายใจก็ไม่เชิง แต่ก็รู้สึกดีที่ได้เห็นคุณเรียวออกอาการบ้าง ไม่ใช่เอาแต่นิ่ง คือมันผิดวิสัยคุณนายเกินไป
“อะ นั่งดีๆ” คมเขี้ยวประคองร่างชายน์ให้นั่งลงบนท้ายรถกระบะบูโรทั่งสีฟ้าน้ำทะเลของเขาที่มาเปิดท้ายจอดทิ้งไว้ใกล้ๆ กับโรงอาหาร
“โอ๊ย เมาและมึนมากเลยอะครับพี่เขี้ยววว” ชายน์บอกเสียงอ้อแอ้ สองแขนกอดเอวคมเขี้ยวไม่ยอมปล่อย ใบหน้าซุกกับหน้าท้องของร่างสูง
“เอาน้ำเปล่ามั้ย เดี๋ยวพี่ไปเอาให้”
“ฮื้อออ ไม่เป็นไรครับ แค่พี่เขี้ยวนั่งด้วยกันสักพักก็พอ”
“อะๆ ได้ๆ งั้นปล่อยเอวพี่ก่อนดิ”
“ไม่เอาอะ ชายน์อยากกอดดด” คมเขี้ยวหัวเราะเบาๆ ก้มลงมองหัวสีดำของชายน์แล้วยิ้ม เกิดความเงียบสักพัก ได้ยินเสียงดนตรีจากในโรงอาหารแว่วๆ
“พี่เขี้ยว ผมชอ…”
“…น้อง น้องรู้จักครูแงะมั้ย” คมเขี้ยวถามสวนขึ้นมาก่อนที่ชายน์จะพูดประโยคตัวเองจบ ชายน์แหงนหน้าขึ้นมองหน้าคมเขี้ยวที่ก้มลงมองตัวเองอยู่
“ก็… ก็รู้ครับ เคยไปเรียนการแสดงด้วย” คมเขี้ยวยิ้มน้อยๆ
“งั้นน้องก็สอบตกมากนะ…” ชายน์ทำหน้างง คมเขี้ยวจับแขนชายน์ออกจากเอวตัวเองและถอยหลังไปหนึ่งก้าว หนูผีของคุณนายเรียวจันทร์ยิ่งงงเข้าไปอีก
“…แอคติ้งน้องไม่ได้เลย เมียพี่อ่อยพี่เนียนและหนักกว่านี้อีก จิ้งจอกถ้ามีพันหาง เมียพี่ก็มีพันหน้าจนพี่ตามไม่ทัน” คมเขี้ยวยิ้มเหมือนพูดเรื่องทั่วๆ ไปไม่ใช่เรื่องจับผิดที่เขาจับได้ ใบหน้าหล่อของชายน์เสียอย่างเห็นได้ชัด
“พะ… พี่”
“สกิลน้องยังอ่อนนะถ้าเทียบกับเรียวจันทร์ รายนั้นสุพรรณหงส์ยังเล็กไป ต้องระดับไททานิค” หน้าหนูชายน์ช็อคและเหวอไปกับสิ่งที่ได้ยิน ริมฝีปากพะงาบๆ อ้ำๆ อึ้งๆ พูดอะไรไม่ออก
“ผม… คือ…”
“เนี่ย ถ้าเป็นเมียพี่ ป่านนี้มันไหลไปไหนต่อไหนแล้ว ไหลจนพี่จับไม่ได้ และเริ่มไม่แน่ใจว่าใครผิดใครถูกกันแน่” คมเขี้ยวหัวเราะเมื่อนึกถึงว่าถ้าเป็นเรียวจันทร์คงคร่ำครวญ ไม่ก็ชวนเขาออกทะเลจนประเด็นเป๋ไปมาก
“ผมชอบพี่ครับ” ในที่สุดหนูชายน์ก็เปิดปากพูดได้สำเร็จ
“ขอบใจที่ชอบพี่ แต่พี่มีเมียแล้ว ถึงจะเป็นผู้ชาย แต่พี่ก็เต็มใจเรียกเมีย…” ชายน์รู้สึกหน้าชาจนไม่กล้าสบตาคมเขี้ยว
“…ว่างๆ ไปเรียนกับครูแงะแกเพิ่มนะ พี่ว่าเรียวจันทร์เป็นศิษย์รักครูแงะชัวร์ เก่งเกินครูอีกมั้ง” พ่อคาวบอยหน้าหล่อหัวร่อชอบใจ ยื่นมือซ้ายไปตบบ่าชายน์เบาๆ สองสามที
“ถ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร พี่แนะนำได้เลยว่าตัดนักแสดงไปเหอะ น้องยังเล่นไม่ลึกและไม่มีมิติเท่าเมียพี่” พูดจบก็หมุนตัวเดินหนีไปทันที ทิ้งให้หนูชายน์หน้าชา หน้าม้ามแทบอยากจะมุดดินกลับกรุงเทพฯ ตอนนี้ สองมือกำแน่น สีหน้าทั้งอายทั้งผิดหวัง พอเงยหน้ามองไปทางหน้าโรงอาหารก็เห็นเรียวจันทร์เดินออกมากับผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่ง เรียวจันทร์ยกมือทำท่าจะตบคมเขี้ยว แต่ก็โดนคมเขี้ยวดึงเข้ามากอด แม้จะไกลและมีเสียงเพลง แต่เสียงหัวเราะของคมเขี้ยวก็ดังมากพอที่ชายน์จะได้ยิน
“ฮ่าๆๆๆ ใครจะแรดเท่าเมียพี่ล่ะ ฮึ?” คมเขี้ยวก้มลงหอมกลางกระหม่อมเรียวจันทร์หนึ่งทีและกอดร่างบางๆ แต่กล้ามเนื้อเฟิร์มของคุณนายไว้เต็มอ้อมแขน
“ดินก็คิดว่าพี่เขี้ยวจะโง่”
“เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย ไอดิน มึงซื่อหรือมึงแซะกูเนี่ย”
“อะไรพี่ ดินก็แค่พูดอย่างที่เห็น ก็เห็นไม่หือไม่อือ ไม่ว่าอะไรเขาเลย” คมเขี้ยวยิ้ม โยกตัวเองกับเรียวจันทร์ที่ยังหน้าบูดน้อยๆ ไปมาเบาๆ
“กูแค่อยากดูลูกเล่นกับลีลาว่าจะเทพเท่าพี่สะใภ้มึงมั้ย…” คุณนายแหงนหน้ามองคมเขี้ยวและเบะปากให้หนึ่งที ร่างสูงยิ้มขำ
“…แต่เลเวลสู้แม่จันทร์ไรของพี่เขี้ยวกุดไม่ได้เลยครับ” เรียวจันทร์ทำลอยหน้าลอยตา สายตาเหลือบไปเห็นนังหนูผีชายน์เดินลิ่วๆ กลับไปทางหมู่บ้านคาวบอยที่เป็นที่พักของนักแสดงกับทีมงาน คุณนายยิ้มเยาะมุมปากน้อยๆ และเลื่อนสายตาหนีไม่คิดมองให้เสียสายตา
“นึกว่าจะหลงกลมนตร์เด็กประถมของนังหนูผีนั่นซะอีก” เรียวจันทร์แกล้งแซะคมเขี้ยวเบาๆ
“โอ๊ย เจอมนตร์นางมารตัวแม่เข้าไป ไม่มีอะไรถอนได้อีกแล้ว” คุณนายทำท่าจะยิ้มเขินแต่ก็กลั้นไว้จนปากบิดคางเบี้ยวน้อยๆ ให้ดินยิ้มขำกับใบหน้านั้น
“จริงพี่ ดินให้เห็นด้วย ขนาดดินยังรู้สึกต้องมนตร์คุณเรียวไม่เสื่อมเลย” คมเขี้ยวหยุดยิ้มทันที
“อ้าว ไอ้ดินๆ เมียพี่มึงเฮ้ย” เรียวจันทร์หัวเราะคิกคัก ยื่นมือขวาไปผลักแผงอกแน่นๆ ของดินหนึ่งที
“บ้า ดินก็ อวยฉันเกิน…” คุณนายห่อไหล่ขวา ท่าทีเขินอายชัดเจน
“…แต่ก็ปฏิเสธยากอีกอะแหละว่าฉันสวยแล้วยังมีเสน่ห์” คมเขี้ยวส่ายหัวหน้าเอือม รีบคว้ามือแม่ตัวดีให้ก้าวเท้าเดิน
“ไปๆ ไปนอน ไอ้ดินไปนอนไป เดี๋ยวกูจะไปนอนบ้านต้นสน” ไม่รอคำตอบจากน้องชาย คมเขี้ยวจูงมือเรียวจันทร์เดินไปทางป่าสน เรียวจันทร์แอบหันไปส่งจุ๊บให้ดินที่กำลังเดินกลับไปบ้านใหญ่ ดินยิ้มและยกมือบ๊ายบายให้เรียวจันทร์
“อ้า… อะ!”
เอี๊ยด! เอี๊ยด! เอี๊ยด!
เสียงร้องครางกระเส่าดังคลอกับเสียงเตียงลั่นเป็นระยะ ร่างเล็กถูกเข็มขัดสีน้ำตาลเส้นใหญ่รัดข้อมือและผูกติดกับเสาเตียง มีร่างใหญ่คร่อมทับอยู่ด้านบนและกระแทกเข้าหาเป็นจังหวะที่แสนรุนแรงจนเรียวจันทร์หดท้องเกร็งด้วยความเสียวที่จะขาดใจอยู่แล้ว
“พี่เขี้ยว… พี่ โอ๊ย… หนู… อ๊า อ้า!” เรียวจันทร์กรีดร้องเพราะความเสียววูบวาบจากการโดนของดีของคมเขี้ยวก่อกวนด้านใน ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ยังรู้สึกเสียวไส้เสมอ
“ร่ายมนตร์เก่งนักเหรอ ฮึ…”
“…อา” เรียวจันทร์ครางเสียงสั่นตาปรือเมื่อตอนที่โดนคมเขี้ยวซุกไซ้อย่างเร่าร้อน ด้านล่างก็ไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบเร่งแต่ก็ทำให้นางเสียวไม่หยุด มันวูบวาบในท้องตลอดเวลา หน้าท้องเกร็งๆ หดๆ สลับกัน
“ไม้กายาสิทธิ์อันนี้แข็งแรงดีจังค่ะ…” เรียวจันทร์กระซิบใกล้ริมฝีปากคมเขี้ยวที่อยู่ห่างจากปากนางเพียงนิดเดียว คมเขี้ยวคำรามเบาๆ สายตากรึ่มๆ เยิ้มๆ เพราะแอลกอฮอล์มองใบหน้าสวยหวานด้วยความรักความหวงแหน เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างเบาๆ มองด้วยสายตายั่ว สองขายกเกี่ยวรอบเอวคมเขี้ยว คิ้วเรียวสวยขมวดแน่น
“คืนนี้พี่จะเสกมนตร์ให้น้องหนูทั้งคืนเลย”
ปัก!
“อ๊า!” เรียวจันทร์แหงนหน้าขึ้นกับแรงกระแทกที่กระแทกเข้ามาจนจุก แค่เสียวอย่างเดียวก็ดิ้นทุรนทุรายพอแล้ว เจอจุกเข้าไปนางแทบหมดแรง
“เขี้ยวกุด…” เรียวจันทร์ครางเบาๆ ดวงตาฉ่ำปรือ
“…ครับ คุณนายจันทร์ไร” ใบหน้าสวยที่เสียวซ่านบึ้งน้อยๆ กับสรรพนามที่โดนเรียก คมเขี้ยวยิ้มกว้าง ก้มลงจูบปากเรียวจันทร์โดยที่ด้านล่างก็ยังแรงดีไม่มีตก
บ้านต้นสนคงเป็นขุมพลังงานของคมเขี้ยวในเรื่องอย่างว่าจริงๆ นั่นแหละนะ…
-END-
เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้
จบเลี้ยววววว จบแบบเสียวๆ ด้วย 555555
ขอบคุณคนอ่านทุกคนเลยค่ะที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันมาตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะตามมาแต่ต้น ตามตอนกลางเรื่อง ตามตอนใกล้จะจบ ไม่ว่าตามตอนไหนๆ แต่อยู่ด้วยกันจนจบแล้ว ตอมขอบคุณมากกกก ที่รักนิยายเรื่องนี้ในแบบที่เป็น
นายเอกเรื่องนี้ ตอมบอกบ่อยๆ ว่านางเป็นนายเอกที่แหวกแนวและแปลกประหลาด นางไม่แมน สาวก็ไม่ใช่สาวน้อยๆ นางเป็นคนสุดโต่งกับชีวิต นางเป็นคนที่สวยที่สุดในจักรวาลตามความคิดของนาง เชื่อว่าอาจจะไม่ถูกใจใครหลายคน แต่ก็มีใครหลยคนอีกเช่นที่ถูกใจนาง และทนนางได้ 555555
ขอบคุณคนอ่านที่ตามอ่านเรื่องนี้มากเลยนะคะที่รักเรียวจันทร์ นายเอกคนที่สองของตอม ค่อนข้างมั่นใจพอสมควรว่าเรียวจันทร์เป็นนายเอกที่เปรี้ยวเยี่ยวราดที่สุดด้วยนิสัยส่วนตัวของนาง (อย่างน้อยในบรรดานายเอกของตอมที่อยู่ในสังกัด เรียวจันทร์คือเปรี้ยวโคตรๆ แล้วจริงๆ ค่ะ) นางไม่ใช่แนวสวยสง่านางพญา นางไม่ใช่แนวสวยกุมอำนาจ แต่นางเป็นสวยสายไบโพล่า อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ตามความพึงพอใจและไม่พึงพอใจของนางเอง ใครโลกสวยหรือโลกไม่สวยนางไม่สนใจ เพราะนางสนแค่ว่าตัวเองสวยที่สุด 555555
อยู่ด้วยกันมาปีกว่าเลยนะเนี่ย ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าเป็นคนเขียนคนอื่น แค่สามสี่เดือนก็จบแล้วเรื่องเนี้ย 55555 แต่ตอมช้ามากกก เพราะเป็นคนเขียนช้าแล้วด้วยหนึ่ง สองคือตอมเองก็มีงานประจำของตัวเองที่ต้องทำ สามคือเขียนนิยายได้ทีละเรื่อง พอเขียนเรื่องวิคเตอร์กับแมท เรื่องนี้จะต้องพอสไว้ชั่วคราว กลายเป็นลากยาวเป็นปีกว่าๆ เลย แต่ในที่สุด วันที่ 15 กรกฎาคม 2560 นิยายเรื่องนี้ก็จบลงอย่างสมบูรณ์แบบแล้วค่ะ
หวังว่าจะติดตามผลงานเรื่องอื่นๆ ของตอมต่อไปนะคะ ไม่อยากเอ่ยแบบว่าจะจากลากันไปไกล เพราะคนอ่านหลายๆ คน เดี๋ยวก็ไปเจอกันเรื่องหน้าเนอะ อุๆ เอาเป็นว่า ขอให้ความสุขที่ได้รับจากพ่อเขี้ยวแม่เรียวประทับอยู่ในใจของคนอ่านไปนานๆ นะคะ
มนตร์ของขุ่นแม่จบลงแล้วค่ะ นางเสกคาถา นางร่ายมนตราจนได้ผัวมาครอบครองแล้ว นางขอไปแฮปปี้กับสามีของนางต่อเป็นการส่วนตัวแล้วกันนะคะ คิๆ บ๋ายบายค่า
แต่ถ้าใครอยากต่อเนื่อง ไปเจอกันในเล่มนะคะ คิๆ ขายของเนียนๆ ตอนนี้รอบสต๊อกขุ่นแม่เหลือ 21 ชุดค่ะ หนังสือรอบต๊อกจะมาพร้อมรอบพรีเลยค่ะ
รายละเอียด
ใครอยากได้ขุ่นแม่หรืออยากได้สามีขุ่นแม่ไปครอบครอง ส่งอีเมลมาหาตอมที่ worksthemagicอย่าแสดงเมลบนบอร์ด เขียนหัวข้ออีเมลว่า 'เปย์ขุ่นแม่รอบต๊อก' ตอมจะส่งรายละเอียดการโอนเงินกลับไปให้ หนังสือมีสองเล่ม (เล่มแรก 416 หน้า เล่มสอง 402 หน้า) ราคาชุดละ 1045 รวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียนแล้วค่ะ ตัดสินใจดีๆ เนอะ ตอมรู้ว่าหนังสือตอมราคาพาไตวายมาก ยังไงตัดสินใจก่อนเปย์ได้ตลอดๆ ค่า
.
ไม่มีจองนะคะ เหมือนร้านหนังสือค่ะ ใครพร้อมก็หยิบขุ่นแม่มาคิดเงินได้เลย สำหรับรอบต๊อกจะไม่ได้พวงกุญแจกับโปสการ์ดเด๊อจ้ะ
สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ