*~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:  (อ่าน 278136 ครั้ง)

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


WORKS THE MAGIC !

สัวสดีค่ะ ขุ่นเจ้ เอง บางคนอาจคุ้นเคยกับนามปากกานามนี้บ้างจากเรื่อง Love, no boundaries
วันนี้วันที่ 28/11/58 ขุ่นเจ้ก็มีเรื่องใหม่มาฝากคนอ่านค่ะ หวังว่าจะชอบกันนะคะ

ก่อนอ่านเรื่องนี้ มีประเด็นที่อยากแจ้งก่อนอ่าน

- นายเอกเรื่องนี้สาว สาวมาก จริตเกินชายไปเยอะมาก ถ้าในวงการเกย์เก้งกวาง นายเอกคนนี้จะมียศ ขุ่นแม่ เลยทีเดียว
คนอ่านนิยายชายรักชายคนไหนไม่โอเคกับนายเอกสาว อาจจะไม่ถูกใจ แต่หากอยากทดลองอ่านความแซ่บ เปรี้ยว เยี่ยวราด ของนายเอกคนนี้ก่อน ยินดีต้อนรับเลยค่ะ
- นายเอกเรื่องนี้มีพฤติกรรมที่ค่อนข้างร้าย แรง ไม่ใช่คนใสสะอาด คำพูดคำจาของเขาบางทีอาจจะรุนแรงอยู่บ้าง และนี่คือหน้าที่คนเขียนที่ว่าจะทำอย่างไรให้คนอ่านรักนายเอกร้ายๆ คนนี้ จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ
- เรื่องนี้เป็นงานเขียนนะคะ เกิดจากจินตนาการและอิงความเป็นจริงด้วยเบาๆ

คนเขียนรักตัวละครในแบบที่เขาเป็น และหวังว่าคนอ่านจะรักตัวละครอย่างที่เขาเป็นนะคะ ^^

ไม่อนุญาตให้คัดลอกหรือดัดแปลงนิยายเรื่องนี้ หากใครฝ่าฝืน จะขอดำเนินเรื่องตามกฏหมาย ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ ให้ถึงที่สุด ถ้าคนไหนคิดจะคัดลอกผลงาน คนเขียนมีเพื่อนเป็นทนายที่พร้อมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดค่ะ

HashTag #WorksTheMagic

สารบัญ
ตอน 1-2 เลื่อนอ่านหน้าแรกเลยจ้า
EP.3 50%, 100%, EP.4 50%, 100%, EP.5 50%, 100%, EP.6 50%, 100%, EP.7 100%, EP.8 50%, 100%, EP.9 50%, 75%, 100%, EP.10 50%, 100%, EP.11 50%, 75%, 100%, EP.12 35%, 70%, 100%, EP.13 35%, 70%, 100%, EP.14 40%, 70%, 100%, EP.15 35%, 70%, 100%, EP.16 35%, 70%, 100%, EP.17 35%, 70%, 100%, Ep.18 ครึ่งแรก, ครึ่งหลัง, EP.19 35%, 70%, 100%
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2017 20:27:20 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8


คาถาที่ ๑ :: Devil wears high-heeled [นางมารสวมส้นสูง] (50%)


บนรันเวย์ยกสูงถึงข้อเท้าสีขาวปรากฏร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเบลเซอร์ (Blazer) สีขาวสะอาดตา กางเกงสีขาวรัดรูป โชว์เรียวขาที่สมสัดส่วนได้ชัดเจน ผมสั้นสีโค้กเข้มซอยถูกเซ็ทในทรงเว็ทลุคส์ ที่เผยดวงหน้าสวยหวานให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ริมฝีปากบางสีชมพูสดเผยอขึ้นเล็กน้อยตามคางที่เชิดขึ้นหน่อยๆ ยามที่โดนแสงแฟลชสาดใส่ สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงดูมาดเท่ สาปเสื้อแหวกออกเผยให้เห็นร่องอกขาวเนียน เรียวขายาวเดินไขว้อย่างสง่างามบนรองเท้าหนังหัวแหลมสีดำส้นหนา ดวงตาที่ถูกแต่งสโมคกี้อายสีเข้ม โฉบเฉี่ยวราวกับเหยี่ยวจะจิกเหยื่อ มองตรงอย่างแน่วแน่ที่จะแก้ไขในสิ่งผิด เอิ่ม ไม่ใช่แบบนั้น มองราวกับว่าเป้าหมายที่จะพุ่งชนนั้นอยู่ตรงหน้า ไม่วอกแวก ไม่หันซ้ายหันขวาไปสบตาใครที่นั่งชมอยู่ด้านข้างรันเวย์เลยสักนิด
   

ร่างบางแต่ไม่อ้อนแอ้นเพราะมีกล้ามเนื้อสวยงามพอประมาณหยุดอยู่ตรงปลายรันเวย์เดินแบบ ยืนโพสท่าด้วยท่วงท่าที่น่ามอง ชายหนุ่มหลายคนมองดวงหน้าสวยหวานแล้วยิ้มด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แน่นอนว่าเป็นไปในทางบวกมากกว่าจะลบ ไม่งั้นเขาเหล่านั้นจะยิ้มออกมากันทำไมเล่า แถมยังมีเหล่าหญิงสาวหลายคนมองด้วยรอยยิ้มอีกเช่นกัน ติ๊ต่างอีกครั้งว่าพวกเธอเหล่านั้นกำลังมองร่างบางบนเวทีด้วยความรู้สึกดีๆ แต่ก็แน่ละ เมื่อมีมองด้วยทางบวก มันก็ต้องมีมองทางลบด้วย เพราะมีหญิงสาวกลุ่มหนึ่งท้าทายอำนาจของคนบนรันเวย์อย่างเงียบๆ หญิงสาวพวกนั้นกำลังมองด้วยความสงสัยและอยากจะใคร่รู้เหลือเกิน แม้ไม่ได้ยินว่าแม่สองสาวนั้นพูดอะไร แต่การที่เห็นทั้งสองมองมาที่ตัวเองแล้วนั่งหัวเราะคิกคักราวกับตลกในหน้าตาของตัวเองก็ทำเอาอารมณ์เคืองผุดขึ้นมาได้เหมือนกัน ร่างบางหยุดเดินชั่วครู่ตรงหน้าแม่สองคนนั้น ปรายตามองช้าๆ แล้วจิกหางตาลงใส่แม่สองสาว จนคนโดนมองผงะไปนิด แต่กระนั้นก็ยังมีกระจิตกระใจทำหน้าตาตลกขบขันใส่ร่างสูง
   


ขำอะไรนักหนา หน้าสวยนะ ไม่ใช่หน้าตลก!
   



อยากจะเดินเข้าไปสอบถามให้รู้แล้วรู้แรด แต่เนื่องจากทำงานอยู่และยังมีนายแบบนางแบบคนอื่นๆ เดินตามหลังมา สิ่งที่ทำได้คือเชิดหน้าขึ้นช้าๆ ปรายตาจิกทิ้งไว้อีกทีแล้วเดินจากไปอย่างเชิดๆ โดยไม่สนใจว่ายัยสองคนนั้นจะนินทากาเลอะไรตัวเองเอาไว้บ้าง
   

อาจจะอิจฉาที่เห็นผู้ชายอย่างเขาหน้าสวยหวานกว่าก็เป็นได้ เหอะ ตามโลกให้ทันหน่อยเถอะย่ะ เดี๋ยวนี้ผู้ชายหน้าสวยเยอะแยะจะตายไปหล่อน!
   

“อ๊อย! สวยมากเพื่อนหลาว แฟชั่นเซ็ทแอนโดรจีนี (Androgyny) นี่เหมาะกับแกมากบอกเลย แต่งหญิงก็สวย แต่งชายก็หล่อ” คนถูกชมยักไหล่ขวาอย่างมีจริตแล้วยิ้มมุมปากเก๋ไก๋กลับไปให้เพื่อนสาว (สาวแท้ๆ) คนสนิทที่ตามมาดูแลอยู่หลังเวที
   

“เช็กหน้าด้วย สวยหล่อได้หมด ไม่งั้นฉันจะเป็นนายแบบเอลิสต์เหรอจ๊ะ” ว่าไปด้วยก็เปลี่ยนชุดใหม่ที่จะใส่เดินชุดสุดท้ายของงานนี้ไปด้วย คนเป็นเพื่อนมองแผ่นหลังขาวเนียนละเอียดยิบแล้วเบ้ปากแรงด้วยความหมั่นไส้ แต่คนที่หลงตัวเองนั้นไม่ได้มีทีท่าโกรธเคืองแต่อย่างใด เพียงแค่เอี้ยวหน้าสวยๆ หันไปยักคิ้วขึ้นเก๋ๆ ให้เพื่อนผ่านกระจกหนึ่งที คนเป็นเพื่อนหัวเราะกับท่าทีมีจริตของแม่ เอ้ย พ่อนายแบบสุดฮ็อต


“เออนี่ มีคนโทรมาหาแกสองคน คนแรกมอส…” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่เอาเข้าจริงมันสวยซะมากกว่า ยิ้มกว้างพร้อมดวงตาทอประกาย ตัวแทบบิดตอนหันตัวเปลือยเปล่าซีกขวาของตัวเองไปมองหน้าเพื่อน


“…คนที่สอง แม่แก” รอยยิ้มหุบวืดลงทันใด ดวงที่ทอแสงประกายวาบวับนั้นดับแสงในตัวอย่างรวดเร็วราวกับมีใครเดินสะดุดปลั๊กไฟที่เชื่อมต่อมาที่ดวงตาเรียวสวย เขาหันกลับไปแต่งตัวจนเสร็จแล้วก็หันกลับมายืนตรงหน้าเพื่อนตรงๆ


ใบหน้าสวยที่ยามนี้สวยเข้าไปอีกด้วยเครื่องสำอางตามคอนเซ็ปท์ของตีมงานแสดงออกถึงความเซ็ง ริมฝีปากชมพูสวยบิดเบ้ราวกับเหม็นอะไรสักอย่าง


“เดี๋ยวๆ แก หน้าแกตอนพูดถึงผู้ชายกับตอนพูดถึงแม่ ทำไมถึงได้แตกต่างขนาดนั้น คนหลังนั่นแม่แกนะ” คนเป็นเพื่อนว่าคล้ายจะตำหนิ แต่หากดูสีหน้าหล่อนดีๆ มีแววขบขันไม่น้อยทีเดียว


“แกอย่ามาแอคติ้งเป็นเด็กเพิ่งแตกเนื้อสาวหน่อยเลยนังสิริพร” เจ้าของชื่ออ้าปากหวอพร้อมสีหน้าตกใจสุดขีดเมื่อไอ้ ไม่สิ เมื่อนังเพื่อนสนิทตัวดีกล้าที่จะเอ่ยชื่อนั้นออกมา


“ช่วยเอ่ยชื่อที่สมฐานะของตัวดิชั้นด้วยค่ะนังคุณชายเรียวจันทร์ ฉันเปลี่ยนชื่อเป็นศิริประภาแล้ว โอเค๊?” เจ้าของนามเดิมว่าสิริพรว่าเสียงแหลมปรี๊ด ส่งสายตามองแรงไปที่เรียวจันทร์ผู้ซึ่งทำเพียงสีหน้าเหมือนเหม็นขยะกลับมาให้


“แม่แกชอบพี่ตั๊ก ลีลา จนเอามาตั้งเป็นชื่อลูก ผิดตรงไหนไม่ทราบ”


“ผิดตรงที่หน้าฉันไม่ได้เหมาะกับชื่อนี้น่ะสิคะ…” หล่อนกระแทกเสียง ทำหน้าดราม่าอยู่ครู่หนึ่ง “…แกน่ะมันใจร้ายนังเรียว”


“โอ๊ย เดี๋ยวๆ นังคล้ำ ออสการ์ไม่มีสาขานักแสดงแปลกนะ” สิริพร เอ้ย ศิริประภา เอามือทาบอก สีหน้าตกใจปนเจ็บปวด


“นี่ไง แกนี่มันใจดำยิ่งกว่าผิวของฉัน คอยดูนะฉันจะฟ้องผัวฉันให้เล่นงานแก!” ว่าไปก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ไป จนเรียวจันทร์ขำออกมา ก่อนจะยกหวีตีหัวเพื่อนตัวเองจนสาวผิวดำ เอ่อ ผิวเข้มสะดุ้งตัวโยน สีหน้าดราม่าทั้งหลายหลุดกระจายไปราวกับกระจกแตก


“พอๆ ใครโทรมาว่ายังไงบ้าง…”


“…Riewjan, your time!” เสียงตะโกนของสตาฟดังขึ้นขัดจังหวะของเพื่อนซี้สองคน เรียวจันทร์หันไปยกมือว่าโอเคแล้วหันกลับมาหาเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กลับเข้าสู่สภาะปกติแล้ว


“เดี๋ยวฉันมา ขอไปเดินปิดงานก่อน”


“เอาให้รันเวย์ระเบิดไปเลยค่ะ!” เรียวจันทร์หมุนตัวมองหน้ากระจกอีกรอบในชุดหนังสีดำคัตติ้งเนี้ยบทั้งชุด ตัวเสื้อเป็นแขนยาวคอตั้งไหล่ตั้งทำให้อกผายไหล่ผึ่ง หางเสื้อยาวไปทับไลน์กับกระโปรงหนังสีดำที่ยาวกรุยกราย แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องการเหยียบชายกระโปรง เพราะเรียวจันทร์ใส่ส้นสูงสีดำ ทำให้ชายกระโปรงลอยขึ้นมาเสมอพื้นพอดี เขาหมุนตัวหน้ากระจกอีกสักพักก็เดินออกไปพร้อมทีมงานด้วยท่าทีสง่าผ่าเผยจนเพื่อนสนิทมองด้วยความชื่นชม


“นี่ดีนะ ที่นางไม่ชอบแต่งหญิงในชีวิตจริง” เพราะไม่งั้นล่ะก็ เวลาเดินด้วยกันหล่อนคงดรอปลงไปอีกมากโข เพราะทุกวันนี้เวลาไปไหนมาไหนด้วยกัน ส่วนมากคนก็จะมองพ่อนายแบบไว้ก่อน เนื่องด้วยนางขาวสว่างอย่างกับพกหลอดไฟ เรียวจันทร์ไม่ใช่ผู้ชายหน้าสวยจนดูไม่ออกว่าเป็นผู้ชาย แต่บุคลิกนางดี ดูมีสกุล หน้าตาสะอาดสะอ้าน หุ่นไม่เก้งก้าง ไม่ได้ออกสาวตลอดเวลา ถึงแม้จริงๆ นางจะสาวจัดเลยก็ตามเถอะ แต่นางก็คีพลุคของนางได้ดีเสมอ


และที่สำคัญ อย่าให้นางร้าย เพราะองค์แม่กลียุคจะลงจนแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลอยเลยทีเดียว




ร่างสูงโปร่งก้าวออกจากหลังฉากเวที เมื่อก้าวเข้าสู่รันเวย์ เรียวจันทร์ก็กดหน้าลง แววตาที่ถูกแต่งสีเข้มจนเฉี่ยวจ้องมองไปเบื้องหน้าอย่างมีพลัง ท่วงท่าในการเดินก็แสนจะสตรองมากมาย น้ำหนักที่ลงขาแต่ละข้างนั้นทำเอาเจ้าตัวดูแข็งแรงปราดเปรียวแล้วยังแฝงความเปรี้ยวเอาไว้อีกต่างหาก เมื่อมาถึงปลายเวที เขาก็ลงน้ำหนักที่เท้าขวาได้พอดิบพอดีกับจังหวะเพลง บิดหน้าซ้ายขวาเล็กน้อยก่อนจะสะบัดตัวเดินจนชายกระโปรงพลิ้วไปตามแรงทำให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น จังหวะที่กำลังจะเดินผ่านยัยสองคนที่หัวเราะเยาะเขาไว้ครั้งก่อน เรียวจันทร์ก็บิดหน้าไปมองเล็กน้อยแล้วเบะปากให้อย่างแรง แถมด้วยสายตามองหัวจรดเท้าอย่างรวดเร็ว จนสองสาวอ้าปากหวอด้วยความทึ่งและผสมกับความไม่พอใจสักเท่าไหร่ แต่คนอย่างเรียวจันทร์รึจะสน


รอยยิ้มสะใจเล็กๆ ผุดขึ้นที่มุมปากซ้าย แล้วเจ้าตัวก็เชิดหน้าขึ้น ก่อนจะก้าวเท้าเดินกลับไปหลังเวทีอย่างทรงพลัง ถือว่าปิดจ๊อบนี้ด้วยสวยงาม ทั้งจ๊อบเดินแบบและจ๊อบจิกคืนนังสองคนนั้น


ถึงนางจะเป็นผู้ชาย แต่ไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อย ฉะนั้นนางไม่สนหรอกว่าใครจะมองว่ารังแกผู้หญิง ก็นังผู้หญิงมารังแกนางด้วยการหัวเราะเยาะก่อนทำไม ไม่เดินไปจิกหัวมาทุ่มบนรันเวย์ก็ถือว่าใจเย็นมากแล้ว


“Hey, Riew.” เรียวจันทร์หันไปยิ้มกว้างให้กับเพื่อนนายแบบสุดหล่อคนหนึ่งที่นางเองก็ชื่นชอบและชื่นชมเพื่อนนายแบบที่เป็นหนุ่มอิตาลีคนนี้อยู่ไม่น้อย และที่สำคัญพ่อหนุ่มอิตาลีคนนี้ก็ชอบนางถึงขั้นเคยบอกว่าเครซี่นางมาก นี่ถ้าไม่ติดว่ามีคนคุยอยู่แล้วละก็ นางจะกิ๊กกับคนนี้ให้ดู


“Hi, Jared. What’s up? (ไง แจเร็ด)” หนุ่มอิตาลียิ้มหวานกลับมาให้จนเรียวจันทร์ต้องยิ้มหวานกลับไป


“We have a party tonight. Do you wanna join us? (คืนนี้เรามีปาร์ตี้ ไปด้วยกันมั้ย)” แจเร็ดยกนิ้วโป้งชี้ผ่านไหล่หนาตัวเองไปด้านหลังที่มีนายแบบอีกสามสี่คนยืนถอดเสื้อโชว์หุ่นล่ำๆ อยู่ เรียวจันทร์เลื่อนสายตากลับมามองแจเร็ดก่อนจะทำหน้าเสียดายอย่างสุดซึ้ง


“So sorry. I already have a plan. (ขอโทษจริงๆ นะ แต่ฉันไม่ว่างไปน่ะ)” แจเร็ดยักคิ้วขึ้นเซ็งๆ แต่ก็ยิ้มออกมาด้วยความเข้าใจ


“When would you hang out with me? (เมื่อไหร่เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันล่ะ)” เขาชวนเรียวจันทร์ไปเที่ยวด้วยกันมาหลายครั้งแล้วแต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยว่างไปกับเขาสักที


เรียวจันทร์ยิ้มกว้างอย่างมีเสน่ห์ก่อนตอบเสียงใส “Maybe tonight.”


แจเร็ดแลบลิ้นด้วยใบหน้าเซ็ง เพราะเขารู้ว่าไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ แล้วก็รู้ด้วยว่าเรียวจันทร์คงไม่ไปเที่ยวกับเขาง่ายๆ แน่


“Okay. See you.” ทั้งสองยกมือโบกลากันแล้วเดินแยกกันไปคนละฝั่ง


“แจเร็ดหล่อออก หล่อกว่าไอ้มอสอีก ทำไมแกไม่เอาเนี่ย” เรียวจันทร์ใช้สำลีชุบโทนเนอร์แล้วเช็ดเครื่องสำอางออกจากหน้าอย่างเร็ว แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเพราะเดี๋ยวผิวหน้าจะเสื่อมสภาพหมด แล้วนั่นจะทำให้หน้าสวยๆ ที่เจ้าตัวแสนจะภูมิใจนักหนามีรอยราคีเสียเปล่า แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากอ้อยอิ่งทิ้งตัวเองไว้ในห้องนี้นาน เพราะมีธุระต้องไปทำต่อ


“เอาสิ ใครไม่เอาล่ะ แต่กับมอสเพิ่งเดือนเดียวเอง ไว้ถ้าไปกันไม่รอด ค่อยอ้าแขนรับคนนี้ก็ยังทัน” เป็ดหรือศิริประภาเบ้ปากใส่เพื่อน พลางหยิบสำลีที่ใช้แล้วลงถังขยะ เรียวจันทร์หันมาขยิบตาขวาให้หนึ่งวิ้งแล้วหันกลับไปมองกระจกเพื่อเช็ดเครื่องสำอางต่อ


“ระวังเถอะย่ะ ชะนีจ้องงาบแจเร็ดตั้งเยอะ ไหนจะเก้งกวางอีก”


“ผู้หญิงน่าจะตัดออกนะ แกก็น่าจะเห็นว่าแจเร็ดชอบผู้ชาย”


“อะ ชอบผู้ชายไม่ได้หมายความว่าเอาผู้หญิงไม่ได้นะคะ” เรียวจันทร์หันไปกลอกตาใส่เพื่อนหนึ่งที ยกมือขวาตบอกตัวเองเบาๆ ทำหน้าประมาณว่า เชื่อเจ๊แล้วจะดีเอง


“เออ มอสโทรมาว่าไงบ้าง” ถามพลางหันกลับไปเช็ดหน้าตัวเองต่อ


“มันถามว่าแกเลิกงานกี่โมง ฉันเลยบอกว่าอาจจะเกือบๆ เที่ยงคืน แต่นี่เพิ่งจะสามทุ่ม โทรไปบอกมันมั้ย” เรียวจันทร์ที่เช็ดหน้าจนสะอาด เผยให้เห็นใบหน้าขาวใสผุดผ่องเนียนกิ๊งหันมามองเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มพร้อมส่ายหัวเบาๆ


“ไม่ต้อง วันนี้วันเกิดมอส เดี๋ยวไปซื้อเค้กแล้วเอาไปเซอร์ไพรส์ที่คอนโด” เป็ดพยักหน้าหงึกหงักไปกับความคิดเพื่อน ช่วงข้าวใหม่ปลามันก็งี้แหละ อะไรก็ดูสดใหม่และตื่นเต้นไปหมด


“ส่วนแม่แก…”


“…เรื่องเงิน” เป็ดยังไม่ทันพูดจบก็โดนอีกฝ่ายขัดด้วยสีหน้าเอือมระอาซึ่งตัดฉับสีหน้าระรื่นตอนพูดถึงแฟนเมื่อกี้ลิบลับ หล่อนยิ้มแห้งแล้วพยักหน้าลงหนึ่งที เรียวจันทร์ถอนหายใจ รู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องนี้เหลือเกิน


“คราวนี้ท่าทางจะใหญ่กว่าคราวที่แล้ว แม่แกร้อนรนจะคุยกับแกให้ได้เลย” คนเป็นลูกกลอกตา ยกมือขวาขึ้นโบกหนึ่งที


“ไว้ฉันกลับไปคุยเอง เรื่องเงินของแม่ก็ใหญ่โตตลอดนั่นแหละ” นางว่าเซ็งๆ หันไปหยิบเสื้อผ้าในกระเป๋าหนังของแบรนสุดเกร่ออย่างหลุยส์วิคตองที่ได้มาจากการไปเที่ยวฮ่องกงกับแฟนคนไหนสักคนที่นางยังจำหน้าได้แต่ลืมไปแล้วว่าอีกฝ่ายทำอาชีพอะไร เหมือนจะเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมริมทะเลนี่ละมั้ง แต่ดันเลิกกันเพราะอีกฝ่ายรับนิสัยบางอย่างของนางไม่ได้ แถมยังหนีไปแอบกิ๊กกับนังเก้งรุ่นน้อง!


เรียวจันทร์เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนสกินนี่สีน้ำเงินเข้มราคาแพง แม้จะมีอาชีพเป็นนายแบบที่ต้องเกี่ยวข้องกับแฟชั่น แต่ในชีวิตประจำวันของนางก็แต่งตัวง่ายๆ สบายๆ ไม่ได้เยอะสิ่งแบบที่ถูกประโคมใส่ให้เวลาอยู่บนเวทีหรือถ่ายแบบต่างๆ แรกๆ ก็แต่งเยอะสิ่งอยู่เหมือนกัน แต่หลังจากทำงานเป็นนายแบบมาได้สามปีก็รู้สึกเบื่อการประโคมเสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่มากมายลงไปบนตัว เยอะบนเวทีกับในนิตยสารแล้ว ขอแบบเบาๆ ในเดลี่ไฟล์หน่อยก็แล้วกัน แต่ก็ไม่ได้เบาทุกวัน วันไหนอยากเจิด อยากเลิศ ก็แต่งเต็มหน่อย


“See you, Jared!” เรียวจันทร์หันไปโบกมือลาให้กับหนุ่มอิตาลีที่ตอนนี้ถอดเสื้อยืดโชว์หุ่นอันแน่นหนา อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามแขนกับกล้ามท้อง เห็นแล้ววูบวาบเลยทีเดียว แต่นางก็เก็บอาการได้ดี แถมยังมีการโปรยเสน่ห์ใส่แจเร็ดด้วยการส่งจูบให้ จนเพื่อนๆ ของแจเร็ดส่งเสียงโห่แซว ส่วนคนโดนส่งจูบให้ก็ยิ้มเขินจนแก้มแดงระเรื่อ เรียวจันทร์ยิ้มกว้างมีเสน่ห์ส่งท้ายให้แล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องแต่งตัวไปพร้อมเพื่อนสนิท


“ร้ายนักนะอีเรียว” เป็ดกัดฟันพูดพร้อมกับมองจิกด้วยความหมั่นไส้ เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นแล้วยักไหล่ขวาน้อยๆ


“ก็ต้องเก็บไว้สิจ๊ะ อิมพอร์ตเต็ดจากอิตาลีเชียวนะ” ศิริประภาถึงขั้นมือสั่นปากสั่นมองเพื่อนด้วยความหมั่นไส้ที่ประทุเต็มแน่นอยู่ในอก


“ฉันต้องด่าว่าเกลียดแกอีกกี่ครั้งถึงจะสาแก่ใจอีช้อยนะ”


“ฉันให้แกบอกทั้งชีวิตเลย” คนถูกหมั่นไส้ลอยหน้าลอยตาพูด แล้วเดินสะบัดไปขึ้นรถ สาวผิวเข้มผมยาวสลวยถึงกับกระทืบเท้าเบาๆ และกรี๊ดไร้เสียงออกมาด้วยความหมั่นไส้อย่างเต็มพลัง ได้แต่นึกในใจว่าเก้งสาวอะไรทำไมถึงได้จริตมารยาเยอะขนาดนี้


V
v
v

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 22:58:49 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
V
v
v

ทั้งสองคนมาเดินดูเค้กที่ร้านไอติมชื่อดังอย่างร้าน Swensens ให้กับแฟนของเรียวจันทร์ที่เพิ่งคบกันได้เดือนเดียวหลังจากคุยกันมาสองอาทิตย์ นางเลือกเค้กหน้าที่มีสตรอว์เบอร์รี่เยอะๆ เลือกจากความชอบของตัวเองทั้งนั้น เพราะกะว่าหลังจากเป่าเทียนเรียบร้อยแล้วจะได้กินอย่างสบายใจไม่ใช่ฝืนใจกิน มอสชอบกินเค้กวานิลลา แต่นางไม่ชอบ ฉะนั้นเลยเลือกเนื้อเค้กที่เป็นช็อกโกแล็ตแทน


“แกจะไปไหนต่อรึเปล่า” ศิริประภาถามหลังจากที่เรียวจันทร์ได้ช่อดอกกุลาบแดงสีสดมาไว้ในมือเพื่อเอาไปให้มอสในวันเกิด


“ไม่ดีกว่า สี่ทุ่มละ รีบไปเซอร์ไพรส์มอสเถอะ” เรียวจันทร์ยิ้มตื่นเต้นจนเพื่อนสาวทำหน้าเอือมกับความรักอันสดใสอย่างกับเด็กมัธยมต้นที่เพิ่งเริ่มจะมีความรักทั้งที่เรียวจันทร์นั้นผ่านศึก เอ้ย ผ่านความรักมากมายแล้ว ก็แหม หน้าตานางดี แถมสมัยนี้ผู้ชายที่ชอบผู้ชายก็มีน้อยซะเมื่อไหร่ หน้าปังๆ แบบนังเรียวจันทร์จะไปยากอะไรที่จะเรียกหนุ่มๆ เข้ามาหา


“เออ มอสนี่มันทำงานอะไรนะ ฉันเคยถามแกไปยัง” คนถูกถามส่ายหัวในขณะที่ขับรถออกไปตามท้องถนน สายตาก็เหลือบมอง GPS บนไอแพดไปด้วยเนื่องจากจำทางไปคอนโดแฟนตัวเองไม่ได้แม้จะไปสี่ห้าครั้งแล้วก็ตาม


“พ่อมอสเป็นเจ้าของเต็นท์รถมือสองอ่ะ” คนถามพยักหน้าว่าอ้อ


“มันมาจีบแกหรือแกมาจีบมัน” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นแล้วมองเพื่อนด้วยสายตาประมาณว่า เช็กด้วยนี่ใคร โดยที่ไม่ต้องออกเสียงเป็ดก็เข้าใจความหมายที่เพื่อนจะสื่อออกมาได้


“จ้า แม่หน้าตาดี มีออร่าแรง ฉันไม่น่าถามเลยจริงๆ” เรียวจันทร์หัวเราะอารมณ์ดีกับท่าทีประชดประชันของเพื่อน


“แหม ฉันก็ไม่ได้เสน่ห์รุนแรงขนาดนั้นมั้ย บางคนที่ฉันจีบเองก็มี”


“มีน้อยอะสิ เออ แต่จะว่าไป แกก็เคยอกหักจีบผู้ชายไม่ติดมาแล้วนี่หว่า” เรียวจันทร์ทำปากยื่นแล้วพยักหน้ารับแบบจำยอม


“ก็พวกนั้นผู้ชายแท้นี่ บางคนไม่แท้แต่ก็ไม่ชอบแบบฉัน” ใช่ว่าจะล่อลวงผู้ชายได้ทุกคน มันก็มีผิดหวังสมหวังบ้างปะปนกันไปเป็นรสชาติของชีวิต แต่ในชีวิตก็ยังไม่เคยอกหักถึงขั้นเสียสติมาก่อน ก็แค่เฟลๆ นอยด์ๆ ไปเป็นอาทิตย์ แต่หลังจากนั้นก็หายช้ำแล้ว เศร้านานไม่ได้ เดี๋ยวหน้าหมอง


“เออ แกปิดเครื่องเหรอแม่แกถึงโทรเข้าเบอร์ฉัน” คนที่กำลังขับรถทำหน้าเอือมแล้วพยักหน้าขึ้นสองที


“แกรีบๆ จัดการเซอร์ไพรส์แฟนแกเถอะ จะได้กลับไปหาแม่ ท่าทางจะร้อนใจมากเลย” เรียวจันทร์ถอนหายใจ แค่คิดว่าจะต้องกลับบ้านไปปะทะอารมณ์กับแม่ก็เหนื่อยล่วงหน้าแล้ว


“พรุ่งนี้แหละ ฉันว่าจะนอนกับมอสคืนนึง” นางว่าในขณะที่ตีไฟเลี้ยวเข้าไปในคอนโดหรูสูงชะลูดที่อยู่ย่านหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นย่านที่รถติดบรรลัยมากอีกจุดหนึ่งเลยก็ว่าได้ อันที่จริงเมืองกรุงมันก็รถติดแทบจะทุกจุดนั่นแหละ แต่ที่เฉือนเอาชนะกันได้ก็คงเป็นว่าจุดไหนมีนาทีไฟแดงนานกว่ากัน


“โอ้โห วันเกิดซะด้วย ฉันว่าแกคงตื่นมาในชุดวันเกิดแน่ๆ” หนุ่มหน้าสวยแต่ก็มีเค้าความหล่อบิดปากอย่างมีจริต ก่อนจะหัวเราะเสียงดังกับเพื่อน


“อีมอสก็ท่าทางจะแซ่บน่าดู” เรียวจันทร์ทำตาโตแล้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วยรัวๆ


“จริงแก อาทิตย์ก่อนนางใส่แต่กางเกงในเดินยั่วฉันหลายรอบมาก โอ๊ย อีแม่ใจ่บ่อดี๊ งานดี งานแน่น แต่ฉันก็ต้องคีพลุคไง เพิ่งคบกันได้สามอาทิตย์ ยังปล่อยเนื้อปล่อยตัวมากไม่ได้” เรียวจันทร์เอามือตบอกตัวเองเบาๆ ขยุ้มเรียวปากเป็นบัวตูมแล้วผ่อนลมหายใจออกแผ่วๆ เป็ดที่นั่งมองอยู่อดอ้าปากกว้างๆ เพื่อที่จะหัวเราะไม่ได้ เพื่อนหล่อนดูอยากมากจริงๆ


“โอ๊ย อีเน่! แรดจริงๆ อีมอสก็คงอยากฟัดแกใจจะขาดแล้วมั้ง แต่อีแฟนรุ่นพี่ไม่กระโจนเข้าใส่สักที”


“อยากจะขย้ำเลยแหละ แต่เพิ่งเดือนเดียว ไม่อยากให้มอสกลัว” แล้วนางก็หัวเราะเสียงอร่อยมาก ทำเอาศิริประภาร่วมวงไปด้วย แต่พอเหลือบเห็นตัวเลขบนนาฬิกาในรถ เป็ดก็สต็อปตัวเองกะทันหัน


“เฮ้ยแก จะเที่ยงคืนแล้ว ไปเร็ว เดี๋ยวหมดวันก่อน” ทั้งสองคนเปิดประตูรถ พอปิดประตูรถได้ก็รีบเดินไปขึ้นลิฟต์ กดไปยังชั้น 13 ของคอนโด ระหว่างนั้นเป็ดก็ช่วยเรียวจันทร์ปักเทียนลงบนเค้กตามจำนวนอายุของมอส


“กุญแจๆ” เป็ดบอกเสียงกระซิบเมื่อมายืนอยู่หน้าห้องของแฟนเรียวจันทร์ เจ้าของนามบุ้ยปากไปในกระเป๋าหนังสีน้ำตาลใบใหญ่ที่เกี่ยวไหล่ขวาอยู่ เป็ดก้มลงไปค้นจนเจอกุญแจห้อง พอไขประตูห้องเข้าไปได้ สาวผิวเข้มก็หันมาช่วยเพื่อนถือช่อดอกกุหลาบ ทั้งสองคนค่อยๆ ย่องเข้าไปในห้องที่มีไฟจากในห้องนอนสว่างลอดออกมาทำให้มองเห็นทาง แต่ในจังหวะที่กำลังจะก้าวเท้าเดินต่อนั้น ทั้งคู่ก็หยุดกึกเพราะเสียงๆ หนึ่ง


“อ้า อ้า อ้า อ้า…” ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้ปวดสมองว่ามันคือเสียงอะไร เรียวจันทร์เบิกตากว้าง ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นพร้อมเอาเรื่อง


“แก มันอาจดูหนังโป๊อยู่ก็ได้” เป็ดพยายามพูดกล่อมเพื่อนเมื่อเห็นว่าเรียวจันทร์แยกเขี้ยวราวกับเสือที่พร้อมแยกร่างเหยื่อ


“เสียงมันชัดเกินกว่าจะออกมาจากลำโพง!” พูดจบปุ๊บ เรียวจันทร์ก็กระแทกเท้าเดินเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็ว กะในใจว่าไปถึง ถ้าเห็นภาพบาดตาแม่จะอาละวาดให้พัง แต่เมื่อเข้าไปในห้องภาพที่เห็นทำเอานางตะลึงค้างกว่าเดิม คือมันก็บาดตาอยู่ดี แต่มันบาดแบบเบี้ยวๆ


“เฮ้ย! เรียว!” เป็ดที่เดินตามเข้ามาเบิกตากว้างมองด้วยความตะลึงเช่นกัน เรียวจันทร์อ้าปากค้าง ดวงตาคู่ใสค้างเติ่งอยู่กับสิ่งที่เห็น เมื่อภาพที่เห็นมันผิดคาดจากที่คิดว่ามอสต้องเอาใครขึ้นมามั่วด้วยสักคน ใช่ มันก็เอามามั่วนั่นแหละแต่ว่า


“มอส! เป็นรับทำไมไม่บอก!” เรียวจันทร์แผดเสียงกังวานด้วยความฉุน ยิ่งท่าทางของมอสที่นั่งอยู่บนแท่นบัลลังก์ของผู้ชายผิวสีคนหนึ่งที่ร่างกายกำยำบึกบึน ยิ่งทำให้นางฉุนเข้าไปอีก


“เดี๋ยวเรียว ขอมอสพูดก่อน” ชายหนุ่มผิวขาว ร่างหนาไปด้วยมัดกล้าม ลุกขึ้นยืนจากแก่นกายใหญ่โตของหนุ่มนิโกรหัวโล้นที่นอนแผ่อยู่บนเตียงและกำลังมองเรียวจันทร์ด้วยความสนใจ


“พูดอะไร?! โห ไอ้เราก็คิดว่าได้แฟน นี่อะไรวะ ได้เพื่อนสาวมาซะงั้น ทำไมไม่บอกกันก่อน เรียวว่าเรียวชัดเจนแล้วนะว่าเรียวไม่รุก!” หนุ่มตี๋ล่ำเอามือกอบกุมความเป็นชายของตัวเองไว้แล้วเดินเข้าไปหาแฟนหนุ่มหน้าสวยด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก


“ไม่ คือ มอสได้หมดอะเรียว ถ้าเป็นเรียวมอสก็รุกให้ไง” เป็ดที่ยืนอยู่ข้างๆ อ้าปากหวอ ยกมือที่ไม่ได้ถือช่อกุหลาบขึ้นปิดปากแล้วหันไปมองเรียวจันทร์ที่ถลึงตาใส่ไอ้ตี๋ล่ำ


“ไอ้บ้า! ฉันไม่อยากได้แฟนเป็นสาวเสียบ!” มอสรีบยกสองมือขึ้นโบกรัวๆ เป็นการปฏิเสธ ทำให้สิ่งที่มอสปกปิดไว้ก่อนหน้านี้ห้อยโตงเตงออกมา ศิริประภาถึงขั้นตาโตโอ้โหใหญ่จัง


“มอสไม่สาวนะ” เรียวจันทร์ย่นหน้าด้วยความโมโห มือซ้ายที่ไม่ได้ถือเค้กกำแน่น


“แต่ฉันก็ทำใจให้แกมารุกฉันไม่ได้เหมือนกัน!” เรียวจันทร์ตวัดสายตาไปมองนิโกรตัวใหญ่ล่ำที่นอนลูบไล้กลางลำตัวอย่างสบายใจ อีกฝ่ายส่งสายตาเจ้าชู้มาให้ แถมยังส่งซิกส์เชิญเรียวจันทร์ให้เข้าไปหาอีกต่างหาก


“หือ แล้วเล่นของใหญ่ซะด้วยนะ ไม่ธรรมดา กล้ากว่าฉันอีก!” เรียวจันทร์ขบกรามแน่น จ้องมองแฟนคนล่าสุดของตัวเองที่มองกลับมาด้วยสายตารู้สึกผิดปนละอายใจ


“เรียว มอสขอโทษที่มีคนอื่น…”



“…โอ๊ย! ประเด็นนั้นน่ะจิ๊บๆ แต่ที่ฉันรับไม่ได้คือฉันเกือบจะกลายเป็นเลสเบี้ยน!” เรียวจันทร์เม้มปากแน่น ย่นคิ้วด้วยความคับอกคับใจ มันรู้สึกเสียเซลฟ์ รู้สึกเฟลอย่างที่สุดที่มองพลาดไป หลงคิดไปว่าหมอนี่จะแมน มาเป็นแฟนที่ปกป้องเราได้ ที่ไหนได้จะมาช่วยเลือกรองพื้นละสิไม่ว่า


“เรียว มอสก็ยังเป็นมอสแบบที่เรียวเคยเห็น มอสแค่เปลี่ยนบทบาทเท่านั้นเอง” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ เบิกตากว้างมองอีกฝ่ายที่ยิ้มแกนๆ กลับมาให้


“ขอโทษที แต่บทที่แกเล่นไปน่ะ มันเป็นบทของฉัน ฉันรับคนเดียวพอ ไม่ต้องมีน้ำใจมาช่วยรับด้วย!” นึกถึงภาพเมื่อกี้แล้วใจขึ้นเลย โห! หมดเค้าความหล่อ ความแมนที่เคยวาดฝันไว้ หมดกัน ไอ้มอส!


“Hey, do you want to suck my dick? (เฮ้ อยากอมของผมมั้ย)” เสียงทุ้มใหญ่ๆ ดังมากจากพ่อนิโกรผิวเข้มที่ฟันขาวเคียงคู่มากับตาขาว เรียวจันทร์สะบัดดวงตาไปมอง ก่อนจะเดินฉับๆ ผ่านร่างอดีตแฟนไปที่ไอ้ถึกผิวดำตัวมันเลื่อม มันยิ้มกวนโอ๊ยกลับมา เห็นหน้าแล้วอารมณ์ขึ้น อยากจะเหยียบเข่าขึ้นเอาศอกกระแทกกลางหัวแบบนายขนมต้มเหลือเกิน!


“Suck your dick! (แกอมเองเถอะ!)” ว่าจบก็ทุ่มเค้กใส่หัวโล้นๆ ของมันเต็มแรง พ่อดำถึกสบถคำหยาบออกมามากมาย พร้อมกับลุกขึ้นจะเอาเรื่องเรียวจันทร์ แต่อีกฝ่ายกลับยืนนิ่งไม่ยอมขยับไปไหน



“What the fuck about you, huh?! You wanna piece of me?! (มึงเป็นห่าอะไรเนี่ย ฮะ?! อยากมีเรื่องเหรอวะ?!)” หนุ่มนิโกรที่ตอนนี้หัวโล้นๆ และหน้าดำๆ ขาวโพลนไปด้วยเค้กง้างมือขึ้นเหมือนจะต่อยเรียวจันทร์ แต่อีกฝ่ายกลับยืนนิ่งจนมอสต้องเป็นคนดึงนางออกมาให้ไกลจากรัศมีกำปั้นใหญ่ๆ นั้น


“Wait, wait, wait! Don’t hurt him. I can handle this. (เดี๋ยวๆ ใจเย็น อย่าทำร้ายเขา ผมจัดการเอง)” มอสเข้าไปปลอบนิโกรร่างใหญ่ด้วยการใช้มือซ้ายลูบต้นแขน มืออีกข้างก็ลูบไล้ตรงท้องน้อยไปมา เลื่อนลงมาจับความใหญ่โตมโหฬาร เรียวจันทร์แยกเขี้ยว หลับตาลงด้วยความปวดใจที่เห็นคนที่เคยคิดว่าเป็นชายชาตรีปกป้องตัวเองได้กลายเป็นแบบนี้


“I’ll be right back. (เดี๋ยวมานะ)” หลังจากปลอบไอ้โล้นหัวเปื้อนเค้กให้สงบลงได้ มอสก็หันไปหยิบผ้าขนหนูที่พาดอยู่ปลายเตียงมาพันเอวแล้วหันมาหาเรียวจันทร์ ทำท่าบอกให้ออกไปด้านนอก


“ไม่ต้อง เดี๋ยวจะไปละ” เขาหันไปคว้าช่อดอกไม้มาจากมือเป็ด


“เรียว แล้วเรา…”


“…เลิกกัน จบ พอเท่านี้ เชิญไปนั่งเทียนพรรษาสีดำได้ตามสบาย” เรียวจันทร์ยกช่อกุหลาบฟาดเข้าที่หัวมอสแรงๆ สองทีจนดอกไม้แตกกระจุย คนโดนดอกไม้ฟาดตกใจอึ้งไป เรียวจันทร์ขว้างช่อดอกไม้ใส่อกไอ้มอสก่อนที่ช่อดอกไม้นั้นจะร่วงลงพื้น


“ลีลาขย่มไม่เบานะ!” ว่าจบก็หมุนตัวเดินออกจากห้องนอน ทิ้งให้มอสยืนอึ้งกิมกี่อยู่กับที่ เป็ดที่ยืนละล้าละหลังอยู่ หันกลับไปมองมอสสลับกับมองพ่อนิโกรที่นั่งเอามือปาดเศษเค้กด้วยใบหน้าขุ่นเคือง


“โชคยังดีนะที่เรียวมันอาละวาดแค่นี้” เป็ดทำหน้าว่าเชื่อเจ๊เถอะแล้วเดินตามเพื่อนออกไป ทิ้งให้มอสยืนเกาหัวด้วยความเซ็ง เขาหันกลับไปมองหนุ่มคู่ขาที่เจอกันในแอพพลิเคชั่นหาคู่ อีกฝ่ายยักไหล่กลับมาเนือยๆ มอสยืนถอนหายใจ มองเศษกุหลาบที่กระจายอยู่เต็มพื้น นึกเสียดายอยู่ไม่น้อยที่เสียเรียวจันทร์ไปแล้ว



TBC...

ขุ่นแม่เรียวจันทร์มาล้าวววว วู้ฮู่ววว
ดีใจที่ได้เขียนเรื่องนี้ค่ะ เป็นอีกเรื่องที่เขียนไปสนุกไป ได้แต่หวังว่าคนอ่านจะชอบแบบที่เราชอบเน้อออ
เปิดใจให้กับนายเอกคนใหม่ของขุ่นเจ้ด้วยนะคะ  :mew1:

เรื่องนี้โปรโมตในเพจกับทวิตไว้บ่อย (ในเพจจะบ่อยกว่าหน่อย) หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับตัวละครจากการอ่านทีเซอร์หรือบทสัมภาษณ์ไปแล้วบ้างเนอะ วันนี้ก็ได้พบกับพวกเขาเหล่านั้นแล้วจ้าาา

เป็นอีกเรื่องที่ตั้งใจเขียน จริงๆ ก็ตั้งใจทุกเรื่อง ทุกตอนที่เขียนแหละค่ะ พยายามจะเขียนออกมาให้ดีที่สุด การเขียนไม่มีวันสิ้นสุด ไม่มีวันดีที่สุด ต้องพัฒนาต่อๆ ไปในทุกๆ วัน

ยังไงขอฝากพี่คมเขี้ยวกับน้องเรียวจันทร์ไว้ในอ้อมกอดด้วยนะคะ  :hao3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 23:02:12 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เงิบเบาๆ

แฟนดันเป็นเคะซะได้ น้องเรียวชีวิตรักช่างอาภัพยิ่ง


(รอพระเอกออกโรง~)

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
ทำไมฮา 55555555555555 ปกติเราจะไม่อ่านเรื่องที่นายเอกสาวแบบสาวมากเลยนะคะ นี่เรื่องแรกเลยอ่ะ
ปกติจะชอบเป็นแนวผู้ชายธรรมดาๆด้วยซ้ำ แต่นี่แหวกมากกก หลงมาเจอแล้วดันไม่ปิดหนีนี่ถือว่าสุดยอดเลยค่ะ
หลงเสน่ห์เรียวไปเต็มๆเลย เฉี่ยวมากกก แซ่บมากกก จิกเว่อร์ นางพญาสุดอะไรสุด
นี่กะแล้วแหละว่าแม่นางต้องไปเจอสามีกำลังแซ่บ แต่ไม่คิดว่าจะขนาดแซ่บหนุ่มอื่นแถมเป็นรับนี่สิคะ ฮาสุดๆ 555555555
เอาจริงๆเราก็คล้ายๆเรียวอย่างนึงตรงที่ไม่เคยมีความรักที่ทำให้ฟูมฟายน่ะค่ะ เหมือนแค่คุยๆไปเท่านั้นเอง
แต่ใจยังไม่เคยทุ่มให้ใครลงไปจนขาดไม่ได้ฟูมฟายจะเป็นจะตายงี้ .. รออ่านตอนต่อไปนะคะ ~
อยากเห็นพระเอกแล้วว่าใครจะเอาคุณเรียวเธออยู่ 555555555 เพราะรอบตัวนี่รายล้อมด้วยตัวเลือกร้อยแปดมากจริงค่ะ
รอติดตามค่า~  :L2:

ออฟไลน์ G-love

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แซ่บลืม อยากอ่านตอนเจอพี่คมเขี้ยวแล้ววว

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
555555 สงสารเรียวจันทร์เบาๆเกือบโดนสาวดุ้นเสียบแล้วมั้ยล่ะ
แต่คือ เรียวจันทร์นางแซ่บบบอ๊ะ!!  :-[ :-[

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook

ชอบเรียวจันทร์มาก นางมั่นดี...
สงสัยว่าจะมีเรื่องมากกว่าเรื่องมอสแล้วล่ะ
หลังจากนี้แม่ต้องเอาเรื่องอื่นมาทำให้เรียวจันทร์คนงามกลุ้มแหงๆ
ไม่ก็จะนำพาสุดหล่อเข้ามาสู่ชีวิตน้อง
(งานมโนล้วนๆ)

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ  :L2:


ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกจ้า รอตอนต่อไป  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

คาถาที่ ๑ [100%]



“อ้ากกก! ไอ้มอส! ฮึ่ยๆๆ” เรียวจันทร์เตะเข้าที่ล้อรถเก๋งแคมรี่สีฟ้าสุดหรูที่เก็บเงินซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แล้วก็เกือบต้องเข้าไฟแนนซ์อยู่บ่อยครั้ง


ปึก! ปึก!


“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ ก่อนเรียว คู่นั้นไนกี้ลิมิเต็ดอีดิชั่นเชียวนะ กว่าแกจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่ายนะยะ” เรียวจันทร์ชะงักกึก หันไปมองเพื่อนด้วยใบหน้างอง้ำ พอนึกตามที่เพื่อนพูดก็เลยค่อยๆ ดึงเท้าออกจากล้อรถ ก่อนจะกระแทกก้นลงนั่งบนพื้นสนามหญ้าเล็กๆ ที่อยู่ตรงใกล้ประตูทางเข้าไปในอาคารคอนโด พ่นลมหายใจอย่างเซ็งจัด สีหน้านั้นทั้งคับแค้นใจ ทั้งผิดหวังปนกันไปหมด


“นี่แกจะครายรึเปล่าเนี่ย” พ่อหนุ่มหน้าผ่องรีบเบะปากส่ายหน้าทันที


“ฉันเฟล ฉันนอยด์ ฉันดิสสัพพอยท์มากกว่าที่มอสมันเป็นแบบนี้ ฉันดูไม่ออกจริงๆ ว่ามันเป็นรับ คือแกก็รู้ ฉันสาวแล้ว ฉันก็อยากได้คนแมนๆ มาปกป้องฉัน ถึงมอสมันจะแมน แต่โห แกก็เห็น ตอนมันนั่งเทียนเมื่อกี้ ลีลาพลิ้วไหวอย่างกับสายน้ำ” ยกมือขวาปาดแก้มขวาหนึ่งที น้ำตาไม่มีสักหยด ทั้งที่จริงอยากจะร้องไห้อยู่นะ แต่ร้องไม่ออกเลย นางไม่ได้มองว่ามันเป็นการนอกกายหรือนอกใจใดๆ นางมองว่ามันเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในชีวิต


“แต่เอาจริงๆ นะแก มอสมันก็ดูแมนดีนะ ก็แค่นั่งเทียนเก่งไปหน่อย”


“นั่นแหละ มันบอกมันอยากลอง เกิดมันติดใจแล้วขอนั่งของฉัน โอ๊ย อีแม่ขนลุกขนพอง!” เป็ดนั่งลงข้างๆ เพื่อน เรียวจันทร์ถอนหายใจ ใบหน้าหมดอารมณ์จะทำใดๆ ต่อ แหวกกระเป๋าออก หยิบมือถือขึ้นมาเปิดเครื่อง รอสักพักให้เครื่องได้เริ่มการทำงาน ก็เปิดเข้าไปเช็กโซเชียล มีสายไม่ได้รับจากแม่เป็นครึ่งร้อยมิสคอล แล้วยังมีข้อความแจ้งเตือนตอนปิดเครื่องอีก นางกดลบทิ้งไม่สนใจ กะว่าเดี๋ยวคงจะปิดเสียงเอาไว้ ช่วงเวลานี้อย่าได้คุยกับแม่จะเป็นการดีที่สุดสำหรับชีวิต เพราะไม่งั้นเลเวลการอาละวาดจะมีมากขึ้น


“เฮ้ย ฉันว่าที่แกควรรู้สึกด้วยอะ คือเรื่องที่มันมีคนอื่นนะ” คนที่กำลังก้มมองมือถืออยู่หันไปมองเพื่อนสาวด้วยใบหน้ากำลังครุ่นคิด


“เออ ก็จริงเนอะ เหอะ! ดีนะที่ความรู้สึกฉันไม่ได้ลงลึกไปกับมันมาก” พอตั้งสติได้ขึ้นมาบ้าง ก็มองเห็นถึงความจริงในข้อนี้ว่าอีกฝ่ายไม่ซื่อสัตย์


“ร้องไห้ก็ได้วะ…” แล้วเรียวจันทร์ก็ปล่อยโฮ น้ำตาที่ตอนแรกจะไม่ไหล จู่ๆ ก็ไหลออกมา พอบอกกับตัวเองได้ว่าโดนแฟนหักหลัง เป็ดที่รู้นิสัยเพื่อนดีเลยได้แต่นั่งตบหลังเพื่อนเบาๆ อย่างเป็นกำลังใจให้ เรียวจันทร์นั่งสะอึกสะอื้น มือซ้ายเช็ดน้ำตาไป มือขวาก็เลื่อนเช็กฟีดข่าวในเฟซบุ๊คไปด้วย


“…ฉันรักมันมั้ย ฉันว่าก็ยังไม่ได้รักอะไรมาก แต่ก็จะเริ่มรักแล้วอะ แล้วมันก็มาเป็นแบบเนี้ย ฮื่อ ฮื่อ” ชายหนุ่มสะอื้นเบาๆ มือซ้ายก็ป้ายน้ำตาทิ้งรัวๆ มือขวาก็เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นภาพของแจเร็ดไปปาร์ตี้กับเพื่อน ตอนนั้นเองที่หยุดร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบฉับพลันแล้วหันไปหาเป็ดทั้งที่ยังมีน้ำตาเปรอะแก้มอยู่


“เป็ด แกไปส่งฉันที่ RCA ที” ศิริประภาขมวดคิ้วฉับแล้วหันไปมองเพื่อนด้วยความงง


“แกจะไปทำไมวะ” เรียวจันทร์วางโทรศัพท์ลงบนตัก ใช้สองมือเช็ดน้ำตาออกจากแก้มจนเหือดแห้ง กระแอมคอให้โล่งแล้วปรับทีท่าให้กลับมาสง่าผ่าเผย


“ฉันจะไปปาร์ตี้กับแจเร็ด”


“ฮะ?!” สาวผิวเข้มอ้าปากค้างหน่อยๆ จ้องมองเพื่อนอย่างเหลือเชื่อเล็กๆ อีกฝ่ายยิ้มกริ่ม ยักคิ้วหนึ่งทีแล้วพยักหน้าตอบกลับมา


“แกเพิ่งบอกเลิกผู้ชายอีกคน แล้วแกจะโผเข้าหาอีกคนเลยงั้นเหรอ” เรียวจันทร์ทำหน้าว่า แล้วไง หยิบมือถือขึ้นมากดพิมพ์รัวๆ สักพักแล้วก็เงยหน้าขึ้นไปพูดกับเพื่อนอีกรอบ


“จะให้ฉันเศร้านานทำไม ฉันก็ไม่เคยบอกว่าฉันไม่ชอบแจเร็ด แค่ฉันยังมีมอสอยู่ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีมอสแล้ว”


“โอ้โห ฉันล่ะบูชาความแรดของแกจริงๆ” คนโดนด่าว่าแรดไม่ได้สนใจ ลุกขึ้นยืนแล้วกวักมือเรียกให้เป็ดลุกขึ้นยืนตาม สายตาก็ยังคงจับจ้องมองที่จอมือถือตามเดิม


“เดี๋ยวแกไปส่งฉันแล้วแกเอารถกลับไปได้เลย พรุ่งนี้เช้าเจอกันที่บ้าน” เป็ดทำหน้าอึ้งเข้าไปอีก


“นี่แกกะเสียตัวให้แจเร็ดคืนนี้เลยเหรอ” เรียวจันทร์ถลึงตามองกลับ


“เปล่า แต่แจเร็ดบอกว่าอาจจะอยู่โต้รุ่ง เดี๋ยวเขาไปส่งฉันเอง” พอพูดจบ พ่อนายแบบก็เปิดประตูเข้าไปประจำที่อย่างรวดเร็ว ทิ้งความทึ่งปนความนับถือ (ในความแรด) ไว้ให้กับศิริประภา ประภาศิริไว้เต็มเหนี่ยว



เรียวจันทร์สอดส่องมองหาตำแหน่งของโต๊ะนั่งที่แจเร็ดบอก เสียงเพลงดังจนหูอื้อหลังจากก้าวเข้ามาข้างในร้านได้สักพัก นางพยายามมองหาแจเร็ดท่ามกลางลำแสงไฟสีเขียวสีแดงสีเหลืองที่ปัดผ่านความมืดมิดในร้าน ใบหน้าของผู้คนด้านในเห็นได้ลางๆ จากแสงไฟวิบวับของในผับ ขาเรียวยาวก้าวเดินไปตามทางเดินช้าๆ เบียดเสียดผู้คนเข้าไปด้านใน ยืนชะเง้อมองหาพ่อหนุ่มอิตาลีด้วยใบหน้ามู่ทู่ เพราะหายังไงก็หาไม่เจอ กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์วอทสแอพหาก็โดนสะกิดที่ไหล่ พอหันไปก็กรีดยิ้มกว้าง


“ฉันมองหาเธอตั้งนานแน่ะแจเร็ด” เสียงอ่อนเสียงหวานราวกับกินน้ำตาลไปสิบช้อน แถมสร้างเสน่ห์ด้วยการสวมกอดด้วยความดีใจสักนิดเพื่อพิชิตใจชาย แจเร็ดยกแขนกอดตอบหลวมๆ แต่ยังไม่ทันได้โอบรัดเรียวจันทร์ก็ผละออกมายิ้มให้


“นั่งอยู่ตรงไหนกัน” แจเร็ดยิ้มกับท่าทางสดใสของอีกฝ่าย แน่นอนว่าเรียวจันทร์ปั้นหน้ามาตั้งแต่ในรถ จะให้เห็นร่องรอยความเศร้าหรือร่องรอยน้ำตาไม่ได้ เดี๋ยวไม่เฟรช


“ตามไอมาสิ” แจเร็ดถือโอกาสจูงมือเรียวจันทร์ไปที่โต๊ะของเขากับเพื่อนๆ ที่อยู่ติดกับผนัง เพื่อนของเขาคนหนึ่งกำลังยืนคุยกับสาวไทยที่เข้ามาพูดคุยด้วยนานแล้ว


“Hey dude! Riewjan!” แจเร็ดตะโกนบอกเพื่อน ทุกคนหันมามองหนุ่มหน้าสวยที่ยิ้มสดใสกลับไปให้ เรียวจันทร์ถือว่าเป็นคนโดดเด่นลำดับต้นๆ ของวงการนายแบบ ฉะนั้นถ้าหนุ่มหน้าหวานจะเป็นที่จดจำและเป็นที่พูดถึงของเพื่อนร่วมอาชีพก็ไม่ใช่เรื่องแปลก


“Hi, Riew!!”


“Hi!!!!” เรียวจันทร์ส่งเสียงดังแข่งกับเพลง ผสานความสดใสเริงร่าเข้าไปยิ่งกว่าขบวนการเทเลทับบี้ นางเข้าไปสวมกอดกับหนุ่มหล่ออีกสามคนที่แค่หน้าตาก็กินขาดผู้ชายโต๊ะรอบๆ แหม ก็เป็นนายแบบนี่นะ จะไม่ให้ชวนมองได้ยังไง


“What do you want? I will get it for you!” แจเร็ดถามเสียงดังที่ข้างหูพลางชี้ไปยังเครื่องดื่มที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะกลมสีดำเล็กๆ เรียวจันทร์ตะโกนตอบว่าขอแบบที่พวกเขากำลังดื่มอยู่ แจเร็ดพยักหน้ารับแล้วเอื้อมไปหยิบเครื่องดื่มจากโต๊ะมาให้เรียวจันทร์หนึ่งขวด


“ไม่คิดเลยว่ายูจะมา!!” แจเร็ดกระซิบบอกเสียงดังที่ข้างหู เรียวจันทร์ยกเบียร์ดื่มก่อนที่จะหันไปตอบ


“พอดีแพลนที่มีล่ม ฉันเห็นคุณอัพรูปในไอจีพอดีเลยอยากมาสนุกด้วย!!” แจเร็ดยิ้มหล่อ ส่วนเรียวจันทร์ก็ยิ้มมีเสน่ห์กลับไปให้ ทั้งสองคนกระซิบคุยกันข้างหูกันสองคน ทำอย่างกับเพื่อนที่เหลือไม่ได้มาด้วย แต่ช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นเวลาดีๆ ของแจเร็ดเลยทีเดียว เพราะเขาชวนอีกฝ่ายเที่ยวมาหลายครั้งแล้วแต่ได้รับการปฏิเสธมาตลอด



หลังจากผ่านไปได้สองชั่วโมง เรียวจันทร์ก็เริ่มมีอาการมึน นางไม่ใช่คนคอแข็ง แต่จะรู้ลิมิตของตัวเองดีว่าดื่มได้เท่าไหร่ อย่างตอนนี้กำลังดื่มเบียร์ขวดที่ห้า ซึ่งยังเป็นระดับที่ยังรับไหว ไม่เมา แต่ก็ครึกครื้นกว่าเดิมเยอะมาก พูดอะไรนิดอะไรหน่อยแม่นางก็ขำทำอย่างกับว่ามันตลกนักหนา ทั้งที่จริงบางครั้งเพื่อนแจเร็ดบางคนแค่บอกว่าฉี่จะแตก ก็ขำอย่างกับว่าเขาฉี่แตกไปแล้ว


“ไหวมั้ย!?” แจเร็ดก้มลงถามจนจมูกเฉียดแก้มหอมๆ ของเรียวจันทร์ไปหลายครั้งแล้ว


“แอมโอเค ยังโอเคอยู่ ยูไม่ต้องกังวลกับไอเลย!!” คนมึนยังคงพูดเสียงปกติ แต่แค่มีเอนเนอร์จีมากกว่าปกติ แจเร็ดยิ้มขำกับความเพี้ยนของอีกฝ่าย เรียวจันทร์เห็นหนุ่มหล่อยิ้มมาให้ก็เลยแสร้งยิ้มเขินอาย ตอนนี้สองคนยืนแยกออกมาจากโต๊ะอยู่ในมุมของผับ ยืนคุยกันราวกับโลกไม่มีใครอื่น


“ไอดีใจจริงๆ นะที่ยูมาคืนนี้” หนุ่มหน้าสวยหวานยิ้มกว้างคล้ายจะเขิน แต่ถ้าใครตามนางไม่ทันก็ไม่รู้หรอกว่านั่นน่ะแสร้งทำทั้งนั้น แจเร็ดยิ้มละมุน มองเรียวจันทร์ด้วยสายตาเจ้าตัวก็พอจะเดาออกว่าเป็นสายตาแบบไหน แต่มีหรือเรียวจันทร์จะหลบสายตา มองมาก็มองกลับ ใส่ความยั่วเข้าไปด้วยนิดหน่อย


“จูบได้มั้ย” แจเร็ดกระซิบเสียงเข้มข้างหู เรียวจันทร์ไม่ได้ตอบคำถามของอีกฝ่ายแต่กลับโน้มหน้าไปจูบแจเร็ดแทน หนุ่มอิตาลีตอบรับอย่างรวดเร็วและดูท่าจะโชกโชนมากด้วย มือขวาของเขายกขึ้นมาจับใบหน้าหวาน มือซ้ายรั้งเอวบางเข้ามาชิดร่างตัวเอง ทั้งคู่ยืนจูบกันดูดดื่ม ไม่สนสายตาของคนอื่นที่มองมา เรียวจันทร์หยอกล้อด้วยการยกมือขวาไปลูบๆ บีบๆ ตรงเป้าแจเร็ดจนสิ่งที่มันกำลังขยายตัวช้าๆ เปลี่ยนเป็นโป่งพองอย่างเร็ว


“ไปห้องไอเถอะ” เรียวจันทร์พยักหน้าตอบด้วยอาการหอบน้อยๆ แจเร็ดจูบเก่งมาก นี่ถ้านางอินโนเซ้นต์หรือด้อยประสบการณ์ละก็ มีหวังขาดใจตายแน่ๆ



“Hey! I’m gonna go back. Tell me later about money. See you!” แจเร็ดเข้าไปบอกเพื่อน มือซ้ายจับมือเรียวจันทร์ไว้แน่น เจ้าของมือนิ่มยืนมึนแต่ไม่ถึงขั้นประคองตัวไม่รอด ใบหน้าแดงก่ำเริ่มมีความรู้สึกร้อนจากการจูบเมื่อครู่นี้


หลังจากตกลงกับเพื่อนๆ แจเร็ดก็พาเรียวจันทร์เดินฝ่าฝูงชนออกจากผับ ก่อนออกมาเพื่อนแจเร็ดแซวเรียวจันทร์ว่าให้เตรียมถุงยางไว้สักสิบกล่องถึงจะพอกับความต้องการของแจเร็ดที่อยากปู้ยี้ปู้ยำนางมานานแล้ว เรียวจันทร์เลยหยอกกลับไปว่าในกระเป๋ามีอยู่สองกล่อง ถ้าไม่พอค่อยซื้อเพิ่มก็แล้วกัน เล่นเอาเพื่อนของแจเร็ดขอแท็กมือกันเป็นแถว






“Could you suck it? I don’t want to let it down. (อมมันไว้ได้มั้ย ไม่อยากให้มันหดเลย)” แจเร็ดถามหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามานั่งในรถมินิคูเปอร์ของพ่อหนุ่มอิตาลี แจเร็ดมองด้วยสายตาแผดเผา เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอแล้วพยักหน้า หนุ่มอิตาลีปลดตะขอกางเกงแล้วควักอาวุธคู่กายออกมา เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอดังอึกกับการผงาดของหนุ่มเมืองโรมิโอแอนด์จูเลียต


“ยูขับรถได้ใช่มั้ย” แจเร็ดพยักหน้าเร็วๆ มือซ้ายรูดรั้งแก่นกายตัวเองเบาๆ


“คอนโดไออยู่ไม่ไกลมาก ขับแปบเดียว อย่าเพิ่งทำจนเสร็จแล้วกัน” เรียวจันทร์เม้มปากหนึ่งที บอกใจให้สงบนิ่ง ใช่ว่าไม่เคย แม้กับของต่างชาติจะผ่านมือ ผ่านปากมาไม่มาก แต่ก็ไม่ยากเย็นอะไรนักหรอก ก็แค่ได้เพิ่มอีกประเทศไง คิดดังนั้นก็โน้มตัวเข้าไปหาแจเร็ด ใช้ปากปรนเปรอให้หนุ่มอิตาลีที่ส่งเสียงร้องอู้ว~ อ้า~ ในขณะที่ขับรถไปบนท้องถนน


“Fuck. Very nice.” แจเร็ดครางเสียงกระเส่า เขาอยากจะหลับตาพริ้มแต่ก็ทำไม่ได้ มือซ้ายยกมาจับหัวเรียวจันทร์กดเข้ากดออกช้าๆ สายตาก็มองถนนไปด้วย หน้าท้องที่เต็มไปด้วยซิกส์แพ็คหดเข้าหดออกยามเรียวจันทร์กดเข้าไปจนลึกสุดลำคอหรือใช้ลิ้นละเลงส่วนปลายจนแทบแตกซ่าน แต่ดีที่เรียวจันทร์เบรกไว้ให้


“ยูเก่งมากเลยเรียว” คนถูกชมช้อนสายตามอง แจเร็ดก้มลงมองแล้วยิ้มให้ เรียวจันทร์ยิ้มตอบกลับไปนิดหน่อยแล้วก้มหน้าก้มตาใช้ปากให้แจเร็ดไปเรื่อยๆ เสียงครางทุ้มน่าฟังดังไปทั่วรถ แม้ของแจเร็ดจะใหญ่และแสนอวบอั๋น แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคของคนอย่างเรียวจันทร์เลยสักนิด


“เฮ้ เรียว ถึงคอนโดไอแล้ว” เรียวจันทร์ดันตัวลุกขึ้น ส่งยิ้มยั่วให้แจเร็ดที่ซี๊ดปากกลับมา หนุ่มหน้าหวานใช้ลิ้นเลียไปรอบปาก ทำเอาอีกฝ่ายต้องโน้มหน้ามาจูบปากหนึ่งทีก่อนที่จะเก็บอาวุธเข้าไปด้านในกางเกง


“กำลังสนุกเลย” เรียวจันทร์บอกเสียงยั่ว หนุ่มอิตาลียิ้มหล่อ


“เดี๋ยวไปสนุกต่อบนห้องนะ” ทั้งคู่จัดการตัวเองแล้วเดินลงจากรถไปพร้อมกัน แจเร็ดจูงมือเรียวจันทร์ไปขึ้นลิฟต์ กดเลขแปดที่เป็นชั้นของห้องเขา ระหว่างที่รอลิฟต์ขึ้นไป ความร้อนในกายของแจเร็ดก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลง เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่าง นางเองก็ใจเต้นระทึกไม่น้อยเช่นกัน


พอลิฟต์เปิดออกที่ชั้นแปด แจแร็ดก็จูงมือเรียวจันทร์ไปตามทางเดินที่มุ่งตรงไปยังห้องพัก เขาดึงคีย์การ์ดออกมาทาบกับที่เปิดประตู เสียงสัญญาณดังขึ้น แจเร็ดเปิดประตูเข้าไปด้านใน ดึงร่างบางกว่าให้ตามเข้ามา วินาทีที่ประตูปิดลงดังปัง หนุ่มต่างชาติก็พุ่งเข้าจูบเรียวจันทร์อย่างเร่าร้อน


“อา… อา…” ลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวไล้กันอย่างรุนแรง สองมือแจเร็ดดึงเสื้อยืดของเรียวจันทร์ออกแล้วขว้างทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ เรียวจันทร์ปลดกระดุมกางเกงของร่างหนาออกอย่างรวดเร็ว แจเร็ดผละออกจากริมฝีปากนุ่มนิ่มของร่างบาง ก้มลงถอดกางเกงอย่างรวดเร็ว ความเป็นชายของหนุ่มอิตาลีดีดผึงผงาดออกมาอีกครั้ง เขาจัดการถอดกางเกงให้เรียวจันทร์ ร่างโปร่งบางที่มีกล้ามเนื้อสวยงามเปลือยเปล่าน่ามอง


“ยูมีถุงยางมั้ย”


“มีอยู่ที่เตียง” ร่างบางพยักหน้ากับคำตอบนั้น แจเร็ดอุ้มช้อนก้นของเรียวจันทร์ขึ้นมา คนถูกอุ้มใช้สองมือจับไหล่หนา สองขาเกี่ยวสะโพกหนาของคนตัวหนาไว้แน่น เรียวจันทร์จูบโลมเลียแผ่วเบา อีกฝ่ายจูบตอบกลับมาเพียงริมฝีปากแตะเช่นกัน พอถึงเตียงแจเร็ดก็วางร่างบางลงบนขอบเตียง เอื้อมตัวไปหยิบถุงยางจากลิ้นชักโต๊ะข้างหัวเตียงมาหนึ่งอัน วินาทีนั้นเรียวจันทร์รับรู้ได้เลยว่าแจเร็ดต้องพาคนมานอนที่ห้องบ่อยพอสมควร


“มีคนมานอนเป็นเพื่อนบ่อยล่ะสิ” แจเร็ดยิ้มในขณะที่กำลังสวมถุงยาง เขาโยนห่อถุงยางทิ้งลงบนพื้น จับเรียวจันทร์นอนแยกอ้าขากว้างๆ แล้วก็ค่อยๆ ดันแก่นกายเข้าไปในตัวร่างบางโดยอาศัยเจลหล่อลื่นบนถุงยางเป็นตัวช่วย เรียวจันทร์เผยอปากขึ้น รู้สึกถึงความคับแน่น อึดอัดแต่ก็เสียวซ่าน นานมากแล้วที่ไม่ได้มีเซ็กส์กับใคร


“วันไนท์สแตนด์ทั้งนั้น” แจเร็ดก้มลงไปจูบพวงแก้มเนียนละเอียดของเรียวจันทร์ อีกฝ่ายยกสองมือมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออกทีละเม็ดจนหมดแต่ไม่ยอมถอดออก ทำเพียงแหวกแล้วใช้มือลูบไล้นมโตๆ แบบคนเล่นกล้ามทั้งสองข้าง


“แล้วไอล่ะ” ถามพลางส่งสายตายั่วยวนชวนหลงใหลไปให้ แจเร็ดยิ้มแล้วเริ่มขยับสะโพก ทำเอาเรียวจันทร์จิกเล็บลงบนอกแน่นๆ ของอีกฝ่าย ใบหน้าสวยหวานแหงนขึ้น


“ถ้ายูตกลงเป็นแฟนไอ จะไม่ใช่แค่คืนนี้คืนเดียว” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแล้วยิ้ม โน้มคอแจเร็ดลงมาจูบด้วยความดูดดื่ม เขาจูบตอบในขณะที่สะโพกก็ซอยเข้าออกไปอย่างเชื่องช้าเพื่อทำให้เรียวจันทร์คุ้นเคยกับขนาดใหญ่โตของตัวเอง


“อือ… อืม… ดีจัง ขอแรงๆ ได้มั้ย” ร่างบางร้องขอด้วยสายตาอ้อนวอน แจเร็ดเลื่อนสองมือไปค้ำไว้ข้างเอวกิ่วคอดพอประมาณทั้งสองข้างของเรียวจันทร์ สองขายืดตรง ใช้เท้ายันพื้นห้องไว้ แล้วก็กระแทกเข้าหาคนข้างใต้อย่างแรงตามที่อีกฝ่ายต้องการ


“โอ้ว เยส!!” เรียวจันทร์สบถเสียงดัง ร่างหนากระแทกสะโพกเข้าหาอีกฝ่ายด้วยจังหวะที่หนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นลั่นห้องนอน แจเร็ดหอบกระเส่า เขาเสียวสูบวาบไปหมดเพราะร่างบางขมิบตอดรับเขาอย่างชำนาญ


“อู้ววว! เรียว ยูเก่งมากเลย ไอจะแตกแล้ว” เรียวจันทร์ส่งยิ้มขี้เล่นให้ ใช้ศอกทั้งสองข้างยันตัวขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลา ร่างบางๆ เลื่อนขึ้นลงตามจังหวะกระแทก แจเร็ดเริ่มออกแรงซอยถี่ขึ้นจนเรียวจันทร์ร้องเสียงเพี้ยนแล้วแหงนหน้าขึ้น


“อ๊า! อ๊า! โอ้ว! ดีมากเลยแจเร็ด” คนข้างใต้เอ่ยชมเสียงสั่น มือขวายกไปลูบกล้ามท้องที่หดเกร็งด้วยความเสียว ก่อนจะเลื่อนมาขยับแก่นกายตัวเองเพื่อเร่งเร้าอารมณ์ร้อน นางอยากจะไปถึงแล้ว มือบางรูดขึ้นรูดลงตรงกลางลำตัว ทิ้งตัวลงนอนกับเตียง มือซ้ายรั้งให้ใบหน้าหล่อโน้มลงมารับจูบแลกลิ้นนัวเนียจนน้ำลายเยิ้ม ใบหน้าทั้งสองคนชิดกัน ปลายจมูกเกลี่ยกันไปมา สายตาประสานจ้องมองกันอย่างหลงใหล แล้วรอยยิ้มก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของทั้งสอง


“ไอจะถึงแล้ว” แจเร็ดหลับตาปี๋ สูดปากด้วยความเสียว จังหวะสะโพกเริ่มเร่งเร็วขึ้น พอๆ กับมือของเรียวจันทร์ที่เร่งไปตามแรงซอยถี่ แล้วในที่สุดทั้งคู่ก็ไปถึงฝั่งฝันพร้อมกัน


“อ้า!!!”


“อ๊ะ!!!”


เสียงร้องของทั้งสองคนผสมปนเปกัน เรียวจันทร์นอนหอบแผ่หลา แจเร็ดนอนทิ้งตัวใหญ่หนาทาบทับลงบนร่างบาง เขาขยับพาร่างเรียวจันทร์ให้ขึ้นไปกลางเตียง ถอนแก่นกายออก ถอดถุงยางทิ้งลงบนพื้น แล้วนอนทับนอนกอดเรียวจันทร์เอาไว้ ร่างบางนอนหอบอกกระเพื่อมอยู่บนเตียง


“ยูจะคบกับไอมั้ยเรียว” คนถูกถามกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะพลิกให้ร่างตัวเองขึ้นไปนั่งอยู่บนตัวแจเร็ด สองมือลูบไล้หัวนมของคนตัวหนาเบาๆ


“ตกลงกันตอนเช้าได้มั้ย ตอนนี้อยากได้อีกรอบ” แวบแรกแจเร็ดทำหน้าอึ้ง แต่สักพักก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ


“หยิบถุงยางมาสิ”


ข้อตกลงใดๆ ค่อยคุยกันอีกครั้งหลังจากนี้แล้วกันนะ เพราะเวลานี้เรียวจันทร์ติดใจในรสชาติของอิมพอร์ตจากอิตาลีเหลือเกิน ไม่ต้องตีตั๋วบินไปถึงนู่น ก็รู้สึกถึงความเป็นอิตาลีแท้ๆ ได้อย่างดี


ใครจะไปฟินเท่านางตอนนี้อีกล่ะ ไม่มี๊!






TBC.


ขุ่นแม่เรียวจันทร์ แซ่บมั้ยคะ กลัวว่าจะไม่แซ่บมากๆ -.,- พยายามประคองนางไปให้ดีที่สุด ตอนแรกๆ อาจจะยังเบลอๆ มึนๆ จับทางไม่ถูก แต่คิดว่าอยู่ด้วยกันไปสักพักคงจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น

เปิดมาก็ได้กับใครอื่นที่ไม่ใช่พระเอกซะแล้ว 55555 เอาน่ะ เป็นนายเอกผู้มากประสบการณ์

ขอบคุณคนอ่านที่แวะเข้ามามากเลยค่ะ ดีใจนะคะที่มีคนอ่านด้วย  :hao5:

แอบหวั่นใจนะ เพราะเรียวจันทร์นางสาวมาก เปรี้ยวมาก คิดว่าคนอ่านนิยายชายชายหลายคนคงไม่ชอบนางเท่าไหร่ ได้แต่หวังว่าคงจะมีคนที่รักนางบ้าง ฝากเรียวจันทร์ไว้ด้วยนะคะ ^__^


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 23:05:19 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
แจเรดไม่ใช่พระเอก

ผู้ใด๋หว่า อยากยลโฉมไวๆแล้ว~

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เก็บซิงไว้ให้พระเอกคงไม่มีในหัวเรียวจันทร์ 555555  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
นางแซ่บจริงไรจริง 5555 แบบว่ารุ้นนี้ไม่มีเก็บซิงไว้ชิงโชคคะ นางบอกยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบกาม เอ้ย..การณ์  เดี๋ยวรอดูนางเอาสิ่งเหล่านี้ไปใช้กับพระเอกที่วันๆทำแต่งาน 555

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1600
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
แซ่บมากค่ะเรียวจันทร์  :m25:

ออฟไลน์ JoyboyTssn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แซ่บจริงอะไรจริง555 ขอพระเอกใสๆ555 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ G-love

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ๊ายยยย พี่คมเขี้ยวจะจัดการเรียวจัทร์ยังไงน้าาา

ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรียวได้ใจมาก สนุกอ่า มาต่ออีกไวๆน๊า  :-[

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

คาถาที่ 2 :: Devil's Drama. [นางมารดราม่า] [70%]



ตึ่งตึงตึ๊งตื๊อดื๊อดึงตึ๊งตึ่ง~
   

ร่างหนาแน่นงัวเงียตื่นขึ้นจากซอกคอหอมๆ ของร่างบางที่นอนซ้อนอยู่ด้านหน้าของตัวเอง แจเร็ดหันไปมองแสงสว่างของแดดที่พยายามส่องทะลุผ้าม่านสีเทาในห้องนอนเข้ามาด้านใน เขาหรี่ตาลงเพื่อพยายามปรับสายตาให้สู้แสงไหว พอรู้สึกว่าม่านสายตาปรับรับแสงได้เขาจึงสลัดผ้านวมที่ห่มกายออก ลงจากเตียงแล้วเดินเปลือยออกไปหาโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงดัง ยืนงงอยู่ตรงห้องนั่งเล่นของคอนโดฯ สักพักถึงค่อยหันไปมองตรงกองกางเกงยีนของเขากับเรียวจันทร์ที่ถอดกองอยู่ตรงประตูห้อง เดินเข้าไปค้นหาโทรศัพท์จากกางเกงยีนตัวเอง หยิบขึ้นมาแล้วก็เห็นเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้นตา จึงขมวดคิ้วงงก่อนจะกดรับสาย
   

“Hello?”
   

“เอ่อ แจเร็ดนี่เพื่อนเรียวนะคะ เป็ดอะค่ะ ดั๊คอะดั๊ด” หนุ่มอิตาลีที่เพิ่งตื่นนอนยืนนึกถึงใบหน้าของคนในสายว่าตัวเองคุ้นเคยหรือเคยได้ยินชื่อนี้หรือไม่ แต่บอกว่าเป็นเพื่อนเรียวจันทร์ เขาจึงทำหน้าว่าอ้อ
   

“โอ้ ครับ ว่ายังไงครับคุณเป็ด”
   

“คือ เป็ดขอเบอร์คุณมาจากเพื่อนคุณน่ะค่ะ ขอโทษนะคะที่โทรมารบกวน แต่ตอนนี้เป็ดติดต่อเรียวจันทร์ไม่ได้ แล้วทางบ้านเขาตามหาเรียววุ่นไปหมดเลย”
   

“อ้อ แปบนึงนะครับ…” แจเร็ดหมุนตัวกลับไปทางห้องนอนที่ประตูเปิดค้างไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ใบหน้าหวานหลับสนิท แม้กระทั่งยามหลับเรียวจันทร์ยังคงดูดีไม่มีหลุดมาด เขาสอดตัวเข้าไปในผ้านวมแล้วนอนซ้อนหลังร่างโปร่งบางอย่างเดิม ก้มลงหอมแก้มใสของอีกฝ่าย
   

“เฮ้ เรียว มีคนโทรมาหาแน่ะ” เจ้าของชื่อส่งเสียงอืออาแล้วขยับตัวเพียงนิด แจเร็ดยิ้มแล้วก็นึกสนุกถึงวิธีปลุกคนขี้เซา
   

“รอแปบนึงนะครับ” เขากรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ กดปุ่มพักสาย วางโทรศัพท์ไว้บนเหนือหัวคนนอนหลับ มือเอื้อมไปหยิบหลอดเจลหล่อลื่นที่วางทิ้งไว้บนเตียงฝั่งตัวเองเมื่อคืนมาบีบใส่ปลายนิ้วมือซ้ายเท่าเมล็ดถั่วแล้วก็สอดมือเข้าไปข้างใต้ผ้านวม เลื่อนมือไปตรงความอุ่นร้อนด้านหลังของร่างบาง ยัดปลายนิ้วเข้าไปด้านในช้าๆ คนนอนหลับปุ๋ยครางเสียงแผ่วแต่ยังไม่ยอมตื่น แจเร็ดเร่งเร้านิ้วทั้งสามดันเข้าดันออกตามความลื่นของเจลใส จนกระทั่งเรียวจันทร์เริ่มหายใจหอบแล้วลืมตาขึ้นมาสบตากับเขา
   

“อะ…อะไร…” แจเร็ดก้มลงจูบกลีบปากสีชมพูสดของเรียวจันทร์ ทำเพียงประทับจูบเฉยๆ ส่วนนิ้วมือยังคงหยอกล้อตรงจุดกระตุ้นต่อมของอีกฝ่าย
   

“มีคนโทรมาหายู” คนตัวหนาหน้าหล่อเอ่ยบอก พลางเอื้อมมือขวาหยิบโทรศัพท์ที่อยู่เหนือหัวอีกฝ่ายขึ้นมา เรียวจันทร์มองด้วยสายตาปรือ ทั้งเพิ่งตื่นและรู้สึกเสียววูบๆ
   

“ใครเหรอ” ร่างบางถามเสียงแผ่วแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ด้านหลังขมิบตอบรับนิ้วทั้งสามไปเรื่อย
   

“ดั๊กกี้เพื่อนยูน่ะ” เรียวจันทร์เข้าใจความหมายนั้นได้ พยักหน้าแล้วเอื้อมมือไปรับมือถือจากมือหนา มองหน้าจอสักพักก็เห็นว่าพักสายอยู่ เลยกดเลิกพักสายแล้วกรอกเสียงลงไป
   

“ว่าไงเป็ด ขอโทษที เพิ่งตื่น” คนที่รอสายอยู่นานด้วยอาการร้อนใจถึงกับหายใจโล่งอกดังอย่างชัดเจน เรียวจันทร์ดึงผ้านวมออกจากตัวแล้วเอื้อมมือซ้ายของตัวเองไปจับมือซ้ายของแจเร็ดให้เลื่อนขึ้นมาลูบไล้จันทร์น้อยซึ่งหนุ่มอิตาลีก็ยอมทำตามแต่โดยดี
   

“เอากันจนได้นะยะ!” เสียงเป็ดมีแววประชดประชันอย่างชัดเจน เรียวจันทร์ยิ้ม เอื้อมมือซ้ายไปจับของดีของเด็ดของหนุ่มแจเร็ด อีกฝ่ายกระเถิบเข้าใกล้ร่างเนียนๆ เพื่อให้มือนางจับสะดวก หนุ่มหน้าสวยลูบไล้ไปมาอย่างเพลิดเพลิน
   

“ถ้าแกซื้อหวยแกรวยเละไปแล้ว” เรียวจันทร์ว่าเสียงใส เอียงหน้ารับจูบแผ่วเบาจากคนด้านบน ตอนนี้อาวุธของทั้งคู่ตื่นตัวสู้มือของแต่ละฝ่ายแล้ว
   


“ถ้าฉันรวยจะสวยให้ดูแล้วกัน แต่ตอนนี้แกกลับไปดูแม่แกก่อน คุณหญิงแม่แกกริ้วใหญ่แล้วที่ติดต่อแกไม่ได้” อารมณ์แทบจะหมดทันทีที่เพื่อนสนิทเอ่ยถึงชื่อของมารดาตนเอง แต่แจเร็ดก็เก่งที่ปลุกอารมณ์ได้อย่างต่อเนื่องจนนางเริ่มแอ่นตัวขึ้น
   

“เดี๋ยวฉันกลับไปเองแหละ ถ้าโทรมาอีก บอกว่ายังติดต่อฉันไม่ได้แล้วกัน กลับไปตอนไหนคุณหญิงแกก็กริ้วอยู่ดี” มันเป็นความจริง จะกลับเช้า สาย บ่าย เย็น กลับตอนไหนอารมณ์ของแม่นางก็ไม่เคยจะดี หรือถ้าอารมณ์ดีสาเหตุก็ไม่ได้มาจากนางหรอก
   

“แล้วทำไมแกไม่กลับเลยล่ะ รอบนี้โทรจิกมากเลยนะ ฉันว่าทอปปิคนี้ต้องใหญ่แน่ๆ” เรียวจันทร์ทำหน้าเอือมแวบหนึ่ง แต่ก็สลัดทิ้งไปเมื่อแจเร็ดยิ้มมาให้ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังลูบไล้ไซส์บึ้มของตัวเองที่สวมถุงยางอนามัยเรียบร้อยแล้ว
   

“เชื่อฉันสิ ที่จิกขนาดนั้น เพราะกำลังร้อนเงิน ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรอก” แจเร็ดก้มลงจูบปากคนข้างใต้ เรียวจันทร์ตอบกลับ แล้วอ้าขาให้กว้างเพื่อรองรับคนตัวโต
   

“จะให้รับก็โทรมาแล้วกันนะ” เป็ดเอ่ยเสียงปลดปลง หล่อนคงเร่งให้เพื่อนกลับบ้านไม่ได้ตามที่นายแม่ของนังคุณชายเรียวจันทร์บอกแน่ๆ
   

“จ้ะ เท่านี้ก่อนนะ ฉันกินอาหารเช้าก่อน” พูดจบก็วางสายไป วางโทรศัพท์ไว้บนหมอนอีกใบ พอหันกลับมาก็เป็นจังหวะที่แจเร็ดดันความเป็นชายเข้ามาในร่างนางแล้ว เรียวจันทร์ครางเสียงดังรับกับความคับแน่น ยกสองมือขึ้นคล้องคออีกฝ่าย แจเร็ดใช้สองมือช้อนตัวเรียวจันทร์ขึ้นมานั่งคร่อมเขาไว้ ปลายจมูกของทั้งคู่ชนกัน เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่น เพราะความลึกที่แก่นกายของชายหนุ่มตัวโตดันเข้าไปจนสุดในท่านั่งแบบนี้
   

“จัดการเลยเรียว” คนหน้าหวานยิ้มโปรยเสน่ห์หนึ่งยก ก่อนที่จะจัดแจงท่าทางให้ตัวเองแล้วก็เริ่มบรรเลงบทรักรับยามเช้าหรืออาจจะสาย หรืออาจจะเย็นไปแล้วก็ได้ จะเวลาอะไรก็ช่างเถอะ แต่เวลานี้แดดด้านนอกที่ว่าร้อนแรง ยังไม่สู้ความร้อนของทั้งสองคนเลย

   

“ถามจริงสิ ยูเป็นเกย์เหรอแจเร็ด” เรียวจันทร์ใช้ปลายนิ้วชี้ลูบวนหัวนมสีน้ำตาลอ่อนของหนุ่มอิตาลีเบาๆ
   

“ก็อาจจะละมั้ง เพราะว่าไอชอบยูนี่” แจเร็ดตอบเสียงสบายๆ ไม่ได้รู้สึกว่าประเด็นนั้นสำคัญอะไรขนาดหนักที่จะต้องมานั่งขบคิดให้ปวดหัว
   

“แล้วไม่ชอบผู้หญิงแล้วเหรอ” คนถามเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงกว่า แจเร็ดเลิกคิ้วขึ้นเหมือนกำลังคิด แล้วสักพักก็ส่ายหัวอย่างเชื่องช้า
   

“ก็คงจะไม่แล้ว ไอชอบยูอยู่นี่นะ” เรียวจันทร์ยิ้ม เลื่อนมือลงไปลูบกล้ามท้องแน่นๆ ของแจเร็ด
   

“แล้วยูเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงมั้ย”
   

“มีสิ แฟนคนแรกเลย นานมากแล้ว พอเลิกกันไป ไอก็ยังควงผู้หญิงอยู่นะ แล้วพอมาเจอยู ไอก็ชอบผู้ชายเฉยเลย” ร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดของคนร่างหนาขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เรียวจันทร์มองหน้าแจเร็ดแล้วยิ้มปลื้มใจ
   

“ดีใจนะที่ไอเป็นผู้ชายคนแรกที่ยูชอบ” แจเร็ดเอาหัวพิงผนังบนหัวเตียงแล้วส่งยิ้มให้กับอีกคน
   

“ยูเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วไอรู้สึกมีชีวิตชีวามากเลย คบกับไอนะเรียว” เรียวจันทร์ใจเต้นแผ่วเบา นางเพิ่งถูกผู้ชายขอคบเมื่อไม่นานมานี้ เหมือนความรู้สึกไหลย้อนกลับเข้ามาอีกครั้ง เพียงแต่ผู้ชายคนนี้ได้กันก่อนที่จะขอคบ
   

ก็อยากคบกบแจเร็ดนะ แต่จากเรื่องของไอ้มอสที่เพิ่งผ่านพ้นมาเมื่อคืนมันทำให้ไม่กล้าตอบรับคำขอนั้นทันที เหมือนความรู้สึกมันยังดีใจไม่สุดกู่ ก็แอบกลัวๆ ว่าแจเร็ดจะมีซัมติงอะไรมั้ย เรื่องไม่แมนไม่น่าห่วง เพียงแต่ผู้ชายที่หล่อขนาดนี้ อายุก็ไม่ใช่สิบเจ็ด สิบเป็ด แถมยังโสด บางครั้งก็แอบน่ากลัว เรื่องเป็นเกย์ไม่กลัวหรอก กลัวทำไม เป็นสิดี เพราะจะได้ชอบนางนี่ไง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น จะเป็นเกย์หรือไม่ แต่แจเร็ดก็ชอบนางไปแล้ว
   

“ไม่ใช่ไอไม่อยากคบกับยูนะ แต่ผู้ชายที่มีถุงยางไว้บนหัวเตียงหลายกล่องขนาดนั้น แสดงว่าก็ต้องไม่ธรรมดา” ผู้ชายหล่อล่ำแถมยังแซ่บมาก มีถุงยางเตรียมพร้อมออกรบควบคู่กับเจล แสดงว่าก่อนหน้าคงมีคนมากมายที่เข้าหาแจเร็ด และเรียวจันทร์เชื่อว่าต้องมีผู้หญิงหลุดมาแหละ เพราะแจเร็ดเองก็ดูเป็นผู้ชายปกติมาก ถ้าไม่บอกว่าชอบนาง ก็คงไม่มีใครคิดหรอกว่าเป็นเกย์หรือไม่


แล้วอันที่จริงสมัยนี้ไม่ต้องเป็นเกย์ก็มีเซ็กส์กับผู้ชายด้วยกันได้ไม่ใช่เรื่องเพี้ยน ก็ถ้าคนมันอยาก ก็แค่ทำไง ซับซ้อนตรงไหน เหมือนนางเนี่ย
   

“ไอก็ผู้ชายธรรมดานี่แหละ ไอโสดนะ ถ้ามันเป็นเรื่องยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย มันก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอ” แจเร็ดไม่ได้โกรธหรือเหวี่ยงวีน หรือทำท่าน้อยใจ แค่พูดตามปกติ พูดด้วยท่าทีสบายๆ
   

“ไอรู้…” เรียวจันทร์ยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มคนตัวสูงกว่าเบาๆ
   

“…งั้นเอาแบบนี้มั้ย ไอขอให้เราดูใจกันไปก่อน แบบว่าคุยกันไปสักพัก ยังไม่ต้องมีสถานะ แต่ต่างคนต่างไม่มีใคร เหมือนทดลองอยู่ก่อนแต่ง ถ้าเราเข้ากันได้ดี ขัดแย้งกันน้อยที่สุด ก็คบกัน” หนุ่มอิตาลีขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ
   

“มันต่างจากการที่ยูจะคบกับไอเลยตรงไหน” เรียวจันทร์ยักไหล่สองข้าง ก่อนตอบเสียงใส
   

“ไม่ต่างหรอก ก็แค่ยังไม่ผูกมัดกันเท่านั้นเอง” นางว่าง่ายๆ ที่บอกแจเร็ดไปมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการเป็นแฟนกัน เพียงแต่ไม่เอาคำว่าแฟนมาผูกมัดกันไว้เท่านั้นเอง เลเวลมันต่างระดับกันอยู่
   

“ก็ได้ แต่ยูจะว่าอะไรมั้ยถ้าไอจะต้องกลับอิตาลีสักหกเดือน” แวบแรกเรียวจันทร์รู้สึกตกใจ แต่สักพักก็ยิ้มบางๆ แล้วส่ายหัว
   

“ไม่ว่าหรอก” แจเร็ดทำหน้าโล่งอก ดึงเรียวจันทร์เข้าไปกอดไว้ตามเดิม
   

“ไอต้องกลับไปหาครอบครัวน่ะ ไม่ได้กลับมาเกือบปีแล้ว ปกติไอจะกลับเรื่อยๆ แต่ช่วงนี้ทำงานกับเที่ยวหนักไปหน่อย”
   

“ไอเข้าใจ แล้วยูจะเดินทางเมื่อไหร่” แต่จะว่าไปก็แอบใจหายอยู่เหมือนกันนะ หกเดือนนี่คือครึ่งปีเลย ไม่รู้เราจะยังติดต่อกันอยู่มั้ย ดีไม่ดีก็คงห่างหายกันไป แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นความทรงจำของกันและกัน มีเพียงวันนี้ที่เราได้สนุกกันเท่านั้น
   

“อาทิตย์หน้า”
   

“ถ้าว่างจะไปส่งที่สนามบินนะ” แจเร็ดยิ้มกริ่ม ก้มลงจูบเรือนผมสีโค้กของเรียวจันทร์ เขาเองก็ไม่ได้อยากกลับตอนนี้หรอก แต่ไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว พ่อกับแม่และญาติๆ เอ่ยถามตลอด แต่พอดีเขาติดงานและติดเที่ยวจนไม่ได้กลับบ้านเกือบปี พอกลับไปคราวนี้ทางครอบครัวเลยยื่นคำขาดว่าให้อยู่บ้านอย่างน้อยครึ่งปีเป็นการชดเชย
   

ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าเรียวจันทร์จะกลายมาเป็นของเขาในเวลาที่ไม่คาดคิดแบบนี้ ตอนที่ทำเรื่องกลับบ้าน ก็ทำตามปกติไม่ได้กังวลอะไร แต่ตอนนี้เขาชักจะไม่อยากกลับแล้ว มีเวลาอีกแค่สี่วันที่จะอยู่กับร่างหอมกรุ่นตรงหน้า แล้วถ้าจากกันเขาคงคิดถึงเรียวจันทร์ตายเลย
   

แต่หนุ่มอิตาลีไม่รู้หรอกว่าหนุ่มไทยที่เขาเครซี่มากมายนั้น จะทำให้เขาเครซี่เออร์ (ขั้นกว่าของความเครซี่) เพราะความแรดของเจ้าตัว


   


V
v
v


   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 23:07:07 โดย ขุ่นเจ้ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

V
v
v


   เรียวจันทร์ถอนหายใจ กำลังนั่งทำใจอยู่บนรถสักพัก ตอนนี้จอดรถอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่โตที่แสนจะโอ่อ่า หรูหรา ใครผ่านไปมาก็เหลียวมองทั้งนั้น และคงมีหลายคนโหวตให้บ้านหลังนี้เป็นบ้านในฝันกันเยอะ มันไม่ใช่บ้านสีขาวมีนกอินทรีย์ประดับบนหลังคาเหมือนในละคร ก็แค่บ้านสไตล์โมเดิร์นที่รูปส่งเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมสี่ห้ากล่องมาวางต่อกัน สีขาวสีน้ำตาลสลับกันไป ตัวบ้านโปร่งใสด้วยกระจก มีความเก๋ด้วยการออกแบบที่ทำให้ดูทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เชื่อว่าบ้านหลังนี้จะยังคงไม่ดูล้าหลัง
   

ใช่ มันเป็นบ้านในฝัน นางฝันมาตั้งแต่เด็กว่าอยากมีบ้านหลังใหญ่ๆ สไตล์แบบนี้ พอโตขึ้นพอที่จะทำงานได้ จึงมุ่งมานะทำงานเก็บเงินแล้วซื้อบ้านหลังนี้ เงินทุกบาทที่ทำงานเดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา หรือว่าออกอีเว้นท์ใดๆ ก็เก็บหอมรอมริบเพื่อบ้านหลังนี้ เพื่อความสุขสบายในชีวิต นางยกเงินให้พ่อทุกบาททุกสตางค์ เอาไปรวมกับเงินเก็บของพ่อและเงินที่พ่อทำงานมาได้ แต่ความสุขสบายในชีวิตมักจะถูกแม่ทำลายอยู่บ่อยครั้ง จากบ้านในฝันสวยหรู ก็กลายเป็นฝันร้ายเมื่อผู้หญิงคนนั้นกลับเข้ามา
   

“คุณเรียว หายไปไหนมาคะ ป้าเป็นห่วงแทบแย่” เรียวจันทร์ยิ้มให้ป้าอุ่นหลังจากก้าวลงจากรถ แม่นมที่เลี้ยงนางมาตั้งแต่เด็กๆ ชื่อป้าอุ่น อบอุ่นสมชื่อ ในยามที่เหนื่อยล้า ท้อถอย ก็จะมีพ่อกับป้าอุ่นที่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอ อ้อ ยังมีนังเป็ดอีกคน ถึงจะให้กำลังใจแว้ดๆ ไปหน่อย แต่ก็ทำให้ยิ้มได้
   

“เรียวนอนบ้านเป็ดอะป้าอุ่น เมื่อวานทำงานเหนื่อยมาก เลยไม่อยากกลับบ้านมาเจอกับเขา” ป้าอุ่นรับรู้ว่าคุณหนูของเธอหมายถึงใคร หญิงสูงวัยร่างอวบถอนหายใจด้วยความเห็นใจเรียวจันทร์
   

“เมื่อคืนเธอก็กินเหล้าเมา บ่นทั้งคืนแล้วถึงหลับไป ป้ากับลุงแล้วก็เจ้าแก๊ป ช่วยกันพาไปนอนที่ห้อง” เธอเองก็ไม่ได้ชอบคุณนายโรสิตานั่นเท่าไหร่หรอก
   

“เมื่อวานได้เข้าไปจัดการในห้องคุณพ่อรึเปล่าคะป้า”
   

“เรียบร้อยค่ะ ไม่ต้องห่วง” เรียวจันทร์มองรอยยิ้มอบอุ่นของแม่นมแล้วก็ระบายยิ้มอ่อนๆ บนใบหน้า ก่อนที่จะน้ำตาคลอ
   

“โธ่ คุณหนู อย่าร้องไห้สิคะ คุณพ่อไม่ชอบให้คุณหนูร้องไห้นะคะ” ยิ่งพูดก็ยิ่งน้ำตาไหลออกมา นางไม่อยากกลับบ้านมาเจอปัญหาซ้ำๆ เดิมๆ ของแม่ ใครจะว่าเนรคุณยังไง นางไม่สนใจหรอก ลองให้คนพวกที่ว่านางต้องมาดูแลแม่ที่ไม่เคยดูแลนางเลยบ้างสิ
   

“ถ้าไม่มีป้าอุ่น เรียวคงแย่กว่านี้อีก…” ร่างบางเช็ดน้ำตาจนเหือดแห้ง คลี่ยิ้มให้กับแม่นมตนเอง
   

“…ขอบคุณนะคะป้าที่ไม่ทิ้งเรียวไป ทั้งๆ ที่เงินเดือนที่เรียวให้ก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย”
   

“คุณหนูให้มากกว่าเงินเดือนอีกค่ะ ค่ารักษาตาอ๊อด ค่าเรียนเจ้าแก๊ป คุณหนูก็จ่ายให้หมด”
   

“โอยป้า อย่ามาพูดรำลึกความดีกันเลย ไม่ใช่เรื่องน่าชื่นชมขนาดนั้นหรอก” จะว่าโรคจิตก็ได้ แต่นางไม่ค่อยชินกับการที่มีคนมาเอ่ยชมในเรื่องพฤติกรรมความดี ส่วนใหญ่มีแต่คนรุมจิกกัดถึงขั้นด่ากันแบบสาดเสียเทเสียทั้งนั้น 
   

“มันเป็นเรื่องดีค่ะ คุณชายเรียว…” หนุ่มนายแบบเบ้ปากใส่คำเรียกนั้นทันที
   

“…บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกแบบนั้น เรียวไม่ได้อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเขาสักหน่อย” ป้าอุ่นยิ้มแซว เรียวจันทร์แสร้งทำหน้างอแล้วก็เดินเข้าบ้านทางประตูที่อยู่ติดกับโรงรถ เมื่อเข้าไปในบ้านเรียวจันทร์ก็เดินไปตรงห้องรับแขกสีขาวสะอาดตา พื้นพรมหนังสัตว์ขนนุ่มสีดำผืนใหญ่ปูตัดกระเบื้องสีขาวอยู่บนพื้น
   

“แกมาแล้วเหรอ?!” ยังไม่ทันจะได้วางกระเป๋าลงบนโซฟา เสียงวินาศสันตะโรก็ดังมาจากชั้นสอง ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใครตะโกนลงมาจากด้านบน เรียวจันทร์นั่งลงบนโซฟาตัวยาว หันไปพยักหน้าให้ป้าอุ่นเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร หญิงร่างอวบผิวขาวจำใจเดินออกจากห้องรับแขกไปทางครัว ตอนนั้นเองที่ร่างระหงในชุดนอนกรุยกรายราวกับคุณนายใหญ่ในแก๊งค์มาเฟียเกาะฮ่องกง ใบหน้าที่แม้ว่าจะอายุมากแล้วก็ยังคงมีเค้าความสวยให้ได้เห็นก็เดินดุ่มๆ ตรงมาหาเรียวจันทร์ด้วยใบหน้าถมึงทึง
   

“แกหายไปไหนมา?! ฉันโทรตามแกจนนิ้วจะหักอยู่แล้ว!!” โรสิตาแว้ดเสียงใส่ลูกทันทีที่มายืนอยู่ตรงหน้า เรียวจันทร์มองผู้เป็นแม่กลับไปอย่างไร้อารมณ์ ใช้สายตาสำรวจมือทั้งสองข้างของสาวในชุดคลุมผ้ามันสีแดง แล้วเลื่อนสายตาไปมองใบหน้าสวยผ่องอีกครั้ง
   

“ก็ยังไม่หักไม่ใช่เหรอ ถ้าหัก แม่ก็คงต้องเข้าเฝือกไปแล้ว” โรสิตาถลึงตามองลูกชายที่หล่อนรู้ว่ามันไม่ใช่ชายแท้ แต่หล่อนก็ไม่สนหรอก
   

“แกอย่ากวนฉันนะไอ้เรียว!” หล่อนแผดเสียงไม่ยอมแพ้กลับมา คนเป็นลูกกลอกตาเซ็งๆ
   

“แม่เลือกเอาว่าแม่จะทะเลาะกับเรียวต่อ หรือแม่จะเลือกพูดปัญหาที่แม่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ให้เรียวฟัง…” เรียวจันทร์พยายามเอ่ยอย่างใจเย็น ไม่วีน ไม่เหวี่ยงกลับใดๆ
   

“…แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ เรียวไม่รับปากว่าจะจัดการให้แม่ได้มากน้อยแค่ไหน” สองแม่ลูกจ้องตากันนิ่ง โรสิตาจ้องมองดวงตาที่ได้อย่างเธอไปด้วยความขุ่นเคือง ก่อนที่จะเลือกสงบศึกเอาไว้ก่อน
   

“ฉันมีหนี้” หล่อนพูดเสียงห้วนพลางกอดอกแล้วเชิดคางขึ้น เรียวจันทร์ไม่ได้มีสีหน้ากังวลใจใดๆ ถามมารดากลับด้วยน้ำเสียงทื่อๆ
   

“แม่ก็มีหนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
   

“ก็คราวนี้มันหนี้ใหม่” ใบหน้าสวยหวานของเรียวจันทร์แสดงออกชัดเจนว่าเบื่อหน่าย แววตาที่มองมารดาบอกชัดเจนว่าสุดแสนจะรำคาญ
   

“ที่มีทุกวันนี้มันยังไม่พออีกเหรอแม่ ของเก่าๆ ยังใช้ไม่หมด ดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้นตลอด แล้วแม่ยังจะไปมีหนี้ที่ไหนอีก!?” อยากจะเข้าไปบีบคอแม่แรงๆ จริงเชียว นางทำได้และกล้าที่จะทำด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพ่อขอไว้ละก็ นางไม่ไว้หน้าผู้หญิงคนนี้หรอก ก็แค่คลอดนางออกมา แค่นั้นจริงๆ
   

“แกก็บ่นอยู่นั่นแหละ” แม้ว่าตัวจะผิด แต่ก็ไม่อยากยอมรับผิดเต็มๆ คนเดียว โรสิตาเลยเลือกที่จะทำท่าว่าอารมณ์เสียใส่ไว้ก่อน เรียกได้ว่าเป็นการกลบเกลื่อนความผิดของตัวเองแบบไม่เนียนอย่างแรง
   

“หรือจะให้ด่า แม่ก็รู้ว่าเรียวด่าได้” คนเป็นลูกพูดเสียงเย็นอย่างไม่เกรงกลัว และไม่คิดเกรงใจใดๆ จนคนเป็นแม่มองอย่างโกรธจัดกลับมา แต่เรียวจันทร์ยกมือขึ้นเบรกเอาไว้ ตอนนี้ต้องการเคลียร์ปัญหาที่แม่พยายามโทรจิกเหลือเกิน
   

“แม่รีบๆ พูดมาว่าแม่เป็นหนี้ มีหนี้เท่าไหร่ มีหนี้ที่ไหน” ตัดบทเสียงเรียบ โรสิตาสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ ปล่อยแขนลงข้างตัว แล้วพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ
   

“สิบล้าน หนี้ที่บ่อน” เรียวจันทร์รับรู้ได้ถึงความเดือดที่พุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย จ้องมองมารดาด้วยสายตากระด้างจนคนเป็นแม่แอบผงะ เรียวจันทร์กำสองมือแน่น บอกตัวเองให้ใจเย็นไว้แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย
   

“เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเล่นการพนัน ไอ้หนี้ที่มีทุกวันนี้มันไม่ทุเรศพอรึไง??!!” แทบอยากจะขว้างอะไรสักอย่างใส่คนตรงหน้า แต่ก็ยังพอจะมีจิตสำนึกอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่จิตสำนึกของความเป็นลูกที่ดีหรอก
   

“ก็ฉันคิดว่ามันจะได้นี่!!” เมื่อเสียงดังมา หล่อนก็เสียงดังกลับ แล้วตามนิสัยโรสิตา หล่อนไม่ยอมรับง่ายๆ หรอกนะว่าตัวเองผิด ถ้าไม่งั้นหล่อนก็รับความผิดอื่นๆ ไปแล้วสิ
   

“เป็นประโยคที่พวกสิ้นคิดพูดออกมาเวลาเล่นของอุบาทว์พวกนั้น แม่อยู่ในช่วงตกต่ำก็จริง แต่ไม่จำเป็นต้องทำตัวต่ำไปอยู่ในที่ต่ำๆ แบบนั้นก็ได้!”
   

“นี่! มันชักจะแข็งข้อขึ้นทุกวันแล้วนะ จะเกลียดฉันยังไง แต่ฉันก็อุ้มท้องแกตั้งเก้าเดือน แล้วก็เป็นคนคลอดแกออกมานะ!!” เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืนทันที จ้องแม่กลับไปอย่างแข็งกร้าว
   

“งั้นบอกสิว่าตัวเองเป็นแม่ที่ดี เป็นแม่ที่ควรได้รับการยกย่อง เป็นแม่ที่ไม่ได้หนีตามผัวใหม่ไป แล้วก็โดนผัวใหม่ทิ้ง!” โรสิตาเลือดขึ้นหน้าเมื่อเจอย้อนแย้งเข้าให้ ชี้หน้าลูกชายด้วยมืออันสั่นเทา
   

“แก! ระวังนรกจะกินกบาลเถอะ!” เรียวจันทร์เชิดคางขึ้นอย่างไม่ยี่หระ แล้วพูดด้วยเสียงเยือกเย็น
   

“มันอาจจะบาป ถ้าแม่เป็นแม่ที่ดีกว่านี้” หญิงวัยกลางคนง้างมือทำท่าจะเข้ามาตบหน้าเรียวจันทร์ แต่ฝ่ายคนเป็นลูกรีบยกมือชี้หน้าดักทันที
   

“อย่าเชียวนะ พ่อเลี้ยงเรียวมาอย่างดี ไม่เคยใช้กำลังตบตี อย่าบังอาจมาแตะต้องตัวเรียว!” แม้ว่าจะโกรธจนแทบระเบิดยังไง แต่เมื่อพูดถึงพ่อ และนึกถึงปัญหาของแม่ที่เพิ่งบอกตน ก็ทำให้ให้คนที่เข้มแข็งอย่างเรียวจันทร์ถึงกับน้ำตาร่วงแหมะ แต่กระนั้นก็ยังคงจ้องหน้าแม่แทบไม่กระพริบตาจนอีกฝ่ายต้องสะบัดมือลงด้วยความโมโห
   

“ฉันเป็นแม่แก ต่อให้แกเกลียดฉันยังไง แกก็หนีความจริงไม่พ้นว่าฉันเป็นแม่!”
   

“ถ้าเรียวคิดจะหนีจริงๆ แม่ไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นมาแบบนี้หรอก ป่านนี้คงหนีหนี้หัวซุกหัวซุนไปแล้ว!” โรสิตาขมวดคิ้วฉับ รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมากับท่าทีถือดีของลูกตัวเอง
   

“แกไม่ต้องมาทวงบุญคุณฉัน ถ้าไม่มีฉัน แกก็ไม่ได้เกิดมาเหมือนกัน” เรียวจันทร์แสยะยิ้มแล้วว่าด้วยน้ำเสียงขมขื่น
   

“ถ้าตอนที่เป็นตัวอ่อนอสุจิมีสมองสักหน่อย เรียวคงยอมตายกลางทาง ไม่รีบวิ่งเข้าไปในท้องแม่หรอก”
   

“แกนี่มันปากดีจังนะ!” โรสิตาว่าเสียงสั่น
   

“แล้วไอ้คนที่แม่ยืนด่าอยู่ตอนเนี้ย เป็นคนเดียวกับที่ทำงานงกๆ เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ให้แม่รึเปล่า” เมื่อเจอตอกกลับด้วยความจริงข้อนี้ คุณนายโรสก็เงียบใส่แล้วลอยหน้าลอยตาทำเนียนไม่รู้เรื่อง
   

“เรียวไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น หรือถึงมีเรียวก็ไม่ให้ เพราะเงินที่มีก็ต้องเอามาล้างหนี้ของแม่ในที่อื่นๆ แล้วไหนจะค่าใช้จ่ายต่างๆ อีก ถ้าเป็นไปได้ แม่ก็เลิกทำตัวไฮโซโก้หรู มีสติสักทีว่านั่นมันอดีตไม่ใช่ปัจจุบัน” โรสิตาทำหน้าขัดใจ หล่อนก็พอจะรู้อยู่แล้วแหละว่านังลูกชายตัวดีของหล่อนไม่ยอมแน่ๆ แต่หล่อนก็ยังอยากจะพูดเผื่อมันจะยอมช่วย
   

“ก็ฉันบอกแล้วว่าให้เอาบ้านหลังนี้ไปจำนอง” เรียวจันทร์ตาวาวทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น
   

“อย่ายุ่งกับบ้านหลังนี้” ว่าเสียงกระซิบเยือกเย็น จะให้ทำงานหนักขนาดไหน ให้ขายสมบัติชิ้นไหนในบ้าน ทำให้ได้ แต่ถ้าจะเอาบ้านหลังนี้ไปขาย ไม่ยอมแน่ๆ
   

“เออๆ ไม่ขายก็ไม่ขาย แต่คนที่บ่อนเขามีข้อเสนอ” หล่อนตัดบท ขี้เกียจจะทะเลาะกันเรื่องบ้านอีก
   

“ข้อเสนออะไร” เรียวจันทร์ถามอย่างไม่แคร์ ตอนนี้อยากขึ้นไปนอนพักเหลือเกิน รู้สึกปวดหัวกับแม่ตัวเอง
   

เสี่ยจอมทัพเขาชอบแก เขาอยากพบแล้วก็คุยกับแก” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว มองมารดาด้วยความไม่ไว้ใจ อีกฝ่ายทำหน้าเซ็งที่ถูกจับไต๋ได้
   

“ฉันก็เลยรับปากว่าแกจะไปพบเขา”
   

“แม่” เรียวจันทร์เอ่ยสั้นๆ น้ำเสียงไม่พอใจพอๆ กับสีหน้า
   

“แกก็ไปเจอเขา คุยกับเขา แล้วก็ลองดูว่าข้อเสนอที่เขาให้มามันน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน แล้วก็ค่อยตัดสินใจก็ได้” คนเป็นแม่แผดเสียงแหลมออกมาท่าทางไม่ได้ใส่ใจหรือห่วงความรู้สึกของคนเป็นลูก
   

“แล้วถ้าเรียวไม่ไปพบเขาล่ะ” โรสิตาเม้มปาก เธอไม่กล้าสบสายตาของลูกชายตรงๆ เพราะสิ่งที่กำลังจะพูดต่อไปนี้ เชื่อว่าถ้าเรียวจันทร์ไม่อาละวาด ก็จะโกรธจนพูดไม่ออก
   

“เขาจะยึดบ้าน ตีราคาได้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น หนี้ที่เหลือก็ให้เวลาแค่สามเดือนในการจ่าย” เรียวจันทร์ตัวชาวาบเมื่อได้ยินว่าบ้านนี้จะถูกยึด ทั้งๆ ที่เพิ่งบอกไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาว่าอย่ายุ่งกับบ้านหลังนี้ แต่แม่ก็ทำไปแล้ว
   

“แม่ทำอย่างนี้ได้ยังไง เรียวขอไว้ตั้งกี่ครั้งแล้ว?!” นางถามเสียงเข้ม ใบหน้าโกรธจัด
   

“เดี๋ยวก่อนสิ ฉันยังไม่ได้เอาโฉนดไปให้เขานะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแกเก็บโฉนดไว้ที่ไหน” หล่อนว่าหน้านิ่วคิ้วขมวด พยายามหาจนแทบจะพลิกบ้านก็หาไม่เจอ
   

เรียวจันทร์รู้สึกโล่งอกมากขึ้น รู้สึกดีเหลือเกินที่เก็บโฉนดที่ดินบ้านเอาไว้อย่างมิดชิด “แต่แม่ก็ไม่ควรไปพูดกับเขาแบบนั้น”
   

“แต่ฉันพูดไปแล้วนี่” เรียวจันทร์ถอนหายใจเบื่อหน่าย ก็ไม่ได้อยากจะไปพบกับคนๆ นี้นักหรอก คงเป็นพวกเฒ่าหัวงู ชอบเด็กหนุ่มเอ๊าะๆ นั่นแหละ แต่ถ้าการไปพูดคุยให้เข้าใจกันว่าไม่ให้ยุ่งกับบ้านหลังนี้ และแสดงเจตนาชัดเจนว่าขอปกป้องรักษาบ้านหลังนี้ไว้ อันนั้นแหละที่นางจะทำ
   

“งั้นเดี๋ยวเรียวไปคุยกับเขาเอง” โรสิตายิ้มกว้างด้วยความดีใจ
   

“จริงเหรอ แกจะไปคุยกับเขาจริงๆ เหรอ”
   

“จริง แต่ที่ไป ไม่ได้ไปเพราะแม่ เรียวจะไปบอกเขาว่าห้ามแตะต้องบ้านหลังนี้ และคุยกับเขาเรื่องระยะเวลาในการจ่ายหนี้” โรสิตาไม่ได้สนใจประโยคนี้นักหรอก แค่เรียวจันทร์บอกว่าจะไปพบกับเสี่ยจอมทัพ แค่นี้หล่อนก็โล่งใจแล้ว
   

“ดีเลย ท่าทางเขาจะชอบแกมากนะ ดีไม่ดี เขาอาจจะยกหนี้ให้เลยด้วยซ้ำ ถ้าไปหาเขาน่ะ” เรียวจันทร์มองแม่ราวกับเห็นคนแปลกหน้า
   

“เรียวไม่เอาตัวเข้าแลกหรอกนะ”
   

“ฉันก็ไม่พูดอย่างนั้นสักหน่อย…” ถึงใจจริงจะหมายความตามนั้นก็เถอะ
   

“…แต่เสี่ยจอมทัพยังหล่อ ยังแน่นอยู่เลย ถึงอายุจะเยอะไปหน่อย แต่ฉันว่าถ้าแกคิดจะ…” เรียวจันทร์ยกมือเบรกความคิดเพ้อฝันทั้งหลายของแม่เอาไว้เท่านั้น
   

“เรียวมีคนคุยแล้ว ซึ่งไม่ต้องถามว่าใคร เพราะเราไม่ได้สนใจชีวิตกันและกันอยู่แล้ว…” มือบางเอื้อมไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไว้บนไหล่ขวา
   

“…แล้วช่วงระยะเวลานี้ อย่าไปสร้างหนี้ที่ไหนอีก กับหนี้ที่บ่อน เรียวจะคุยให้ แต่แม่ต้องหามาใช้เอง” โรสิตาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
   

“ฉันจะหาเงินจากที่ไหนไปใช้เขาล่ะ” เรียวจันทร์ทำหน้าว่าไม่แคร์พร้อมยักไหล่ขวาหนึ่งที
   

“เครื่องเพชรแม่ไง คิดว่าเรียวไม่รู้เหรอ…” สีหน้าของคุณนายโรสชะงักกึกทันที “…ถ้าเป็นหนี้ธนาคาร เงินนอกระบบ เรียวช่วยได้ แต่หนี้พนัน เรียวไม่ช่วย อย่างที่บอก เรียวไปคุยกับเขาเพราะบ้านหลังนี้”
   

พูดจบ เรียวจันทร์ก็เดินผ่านมารดาไปทันที ทิ้งให้โรสิตายืนอ้าปากพะงาบๆ แต่สักพักคนเป็นลูกก็หยุดเดินตรงตีนบันไดที่นำขึ้นไปสู่ชั้นสองของบ้าน หันกลับไปมองหน้ามารดาอีกรอบ
   

“นัดเขาให้ด้วยแล้วกัน เรียวว่างวันอาทิตย์ ถ้าเขาไม่ว่าง บอกเขาว่าต้องว่าง เพราะเรียวจะสละเวลาทำงานไปหาเขาแค่วันนั้นวันเดียว”


   




TBC.

แซ่บแค่ไหน ชีวิตก็ยังมีมุมดราม่าอยู่เนาะ 55555 อาจจะดูรุนแรงในประเด็นเรื่องแม่กับลูก แต่เดี๋ยวอ่านไปเรื่อยๆ จะค่อยๆ ทราบว่าทำไมเรียวจันทร์กับแม่ถึงเป็นแบบนี้ค่ะ

ได้หนุ่มอิตาลีไปกี่ยกละค่ะคุณแม่เรียว เปรี้ยวมากเลยอะ กว่าจะถึงมือพี่พระเอก ยังฟิตอยู่ใช่มั้ย 55555 บอกเลยว่าไม่ต้องห่วงนางนะ ตัวแม่อย่างนาง ไม่มีพลาด

ขอบคุณคนอ่านหลายๆ คนที่ตามอ่านกันนะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะที่แวะเวียนกันเข้ามาอ่านกัน ดีใจที่อ่านแล้วชอบ ดีใจที่อ่านกันแล้วรู้สึกว่ามันสนุก ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ยังไงฝากติดตามต่อไปเรื่อยๆ เลยนะคะ

ขอบคุณที่รักเรียวจันทร์ในแบบที่เขาเป็นค่ะ ถึงจะเป็นชายสาวแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีสิทธิ์รักเนอะ  :mew1:


 
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 23:10:43 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เสี่ยขาเป็นพระเอกช่ายม้ายยยย :call:


มาต่อด่วนเลยค่าาาาา

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เรียวจันทร์จะโดนยึดบ้านมั้ยเนี่ยยย

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เจอมุมดราม่าแล้วสงสานาง เอาน๊านะเรื่องแรดๆของนางก็ถือซะว่าคลายเครียด 555  ยุให้นางกิหนุ่มอิตาลี่แล้วหนีแม่ไปเลยได้ไหม ไม่ชอบแม่นางเลยอะ

ปล.พระเอกใกล้อดกยังนี้ก่อกบฏรอแล้วนะ 555

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แม่ก็นะ...ไม่รู้จะว่ายังไงเลย ว่าแต่คุณพ่อที่รักของเรียวจันทร์ไปไหนล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ Hang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
เลวมากกกดดกดดดดด :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1600
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
พระเอกจะซื่อๆมั้ยนะ เรียวจันทร์แซบขนาดนี้ รอพระเอกกก

ออฟไลน์ thevicious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มีแม่แบบนี้ เอาไปปล่อยวัดเถอะเรียว

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8


คาถาที่ ๒ [100%]





   เรียวจันทร์นั่งหน้าอึนให้ช่างทำผมจัดการหัวตัวเอง ใบหน้าขาวผ่องมีแววอิดโรยโปรยปรายบางๆ ไปทั่ว ขอบตาคล้ำน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดมาก เมื่อวานหลังจากทะเลาะกับแม่เสร็จก็ไม่ยอมออกมาจากห้องอีกเลย จนป้าอุ่นต้องยกอาหารเย็นเข้าไปเสิร์ฟถึงในห้อง ทานข้าวไปคุยกับแจเร็ดไป อีกฝ่ายกำลังเก็บของเตรียมตัวบินกลับบ้านเกิดในอีกไม่กี่วันนี้
   

“น้องเรียว เป็นอะไรเหรอคะ หน้าเหงาหงอย เหม็นหอยใครรึเปล่า” พี่ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองร่างใหญ่เอ่ยถามพลางเตรียมอุปกรณ์การแต่งหน้าให้พร้อม
   

“มีเรื่องที่บ้านนิดหน่อยน่ะพี่ทิฟฟี่” เรียวจันทร์ถอนหายใจแรงๆ หนึ่งที แล้วสลัดเรื่องแม่ออกจากหัวไป อีกหนึ่งชั่วโมงจะต้องเริ่มงานแล้ว ไม่อยากเก็บเอาอะไรมาใส่หัวให้ปวดสมอง
   

“อ๋อ พี่ก็คิดว่าเหม็นหอยนังโบว์ซะอีก” จากที่กำลังเครียดๆ นอยด์ๆ เรื่องที่บ้าน เรียวจันทร์ก็ปรับสีหน้าเหมือนคนเหม็นขยะจนช่างแต่งหน้าร่างใหญ่ผิวคล้ำหัวเราะกิ๊กกั๊ก
   

“นี่มันมาเดินด้วยเหรอเนี่ย”
   

“ตอนแรกก็ไม่มาหรอกค่ะ แต่ว่าน้องอีกคนเขาแอคซิเด้นท์มาไม่ได้ ก็เลยต้องอัญเชิญน้องโบว์มาช่วย” ว่าไปก็เริ่มเอาแปรงปัดแก้มขาวใสของหนุ่มนายแบบหน้าสวยไปด้วย เรียวจันทร์เบะปากแล้วกลอกตาเซ็ง
   

“นางแบบมีเป็นร้อย ทำไมไม่เลือกคนอื่น” นางว่าด้วยใบหน้าไม่พึงพอใจสักเท่าไหร่ ก่อนจะทำหน้านิ่งๆ ให้ช่างแต่งหน้าจัดการทารองพื้นให้
   

“ก็ต้องยอมรับนะคะว่า น้องโบว์นางแซ่บจริง เอามาแก้ขัดกับอีกคนก็ไม่เสียหายอะไร” เรียวจันทร์เบ้ปากเร็วๆ หนึ่งที ก่อนจะว่าด้วยน้ำเสียงดูแคลน
   

“นมปลอม ดั้งปลอม คิ้วปลอม ปลอมทั้งนั้น ในตัวมันมีอะไรเป็นของแท้บ้าง…”
   

“…ก็เพศหญิงที่แท้จริงยังไงล่ะจ๊ะ เรียวจันทร์” เสียงแหลมแต่ไม่ถึงขั้นแหลมเล็กดังลอยมาจากด้านหลัง ช่างแต่งหน้าผมยาวถึงกับอ้าปากหวอ แต่ในใจของนางนั้นรอรับชมความแซ่บของทั้งสองคนอย่างระทึกเลยละ เรียวจันทร์ทำหน้าเอือม ไม่ได้หันไปมองอีกฝ่ายหรอก เพราะรู้ว่าเดี๋ยวมันก็เดินมาตรงนี้ เลยเลือกรอให้มันเดินมาหาเองมากกว่าที่จะหันไปมองมัน อยากหาเรื่องก็ต้องเดินเข้ามาเองสิ
   

“นินทาฉันสนุกเลยนะ นิสัยลอบกัดเนี่ย เมื่อไหร่จะเลิกล่ะจ๊ะ” เรียวจันทร์ตวัดสายตาขึ้นไปมองหญิงสาวร่างสูง หน้าเรียว แหลมเล็ก ตาโต จมูกโด่ง ผิวขาวอมชมพู ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมของหญิงไทยในสมัยนี้ เรียวจันทร์ยืดตัวขึ้นให้นั่งตรงๆ แล้วไล่สายตามองศัตรูของตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็เท้าจรดหัว จนอีกฝ่ายหน้าตึงนิดๆ
   

“ด่าฉันเนี่ย ดูตัวเองบ้างหรือยัง ต้องให้บอกมะ ว่าผู้หญิงอย่างเธอทำอะไรไว้ ลอบกัดลับหลังฉันไว้ยังไงบ้าง หื้ม?” เรียวจันทร์แสร้งทำหน้าใสซื่อว่าหนูไม่รู้อะไรเลย เหล่านางแบบ นายแบบ สไตล์ลิส ช่างแต่งหน้าทั้งหลายในห้องแต่งตัวเริ่มหันมามองด้วยความสนใจ
   

“แหม ก็ได้รับความร่วมมือดีจากอีกฝ่ายนี่คะ” โบว์ยิ้มเหนือกว่ากลับมา เรียวจันทร์ฉีกยิ้มกว้างแกนๆ แล้วหัวเราะในลำคอแผ่วๆ
   

“เธอคิดว่าฉันยังมีความรู้สึกกับผู้ชายคนนั้นอยู่อีกเหรอ…” จากที่กำลังยิ้มเหนือกว่า สีหน้าของหญิงสาวก็สะดุดกึกไปนิดหนึ่ง แต่ก็ยังปั้นหน้าเชิด
   

“…นี่ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว ถ้าคิดว่า คำพูดแนวๆ นี้จะทำให้ฉันรู้สึกเสียอกเสียใจ เธอพลาดแล้วละ ไม่เข้าใจเลยอะ ไปยกเครื่องถึงเกาหลี ทำไมไม่บอกให้หมอยกเครื่องสมองด้วย” น้ำเสียงที่ใช้นั้นหนักแน่นและมั่นคงพอๆ กับแววตาคู่สวยที่มองหน้าหญิงสาวไม่วางตา หนุ่มนายแบบนั่งหน้าเชิด หลังตรงอกแอ่นราวกับราชินีนั่งบนบัลลังก์ทั้งที่จริงมันก็แค่เก้าอี้โครงเหล็กเก่าๆ ตัวหนึ่งเท่านั้นเอง
   

“อูยยย” ทิฟฟี่ที่นั่งฟังด้วยความลุ้นระทึกถึงกับอุทานเสียงมาดแมน ดวงตาเบิกกว้างด้วยความขบขันที่แม่สาวนมโตโดนแขวะเข้าให้ แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าหล่อนก็ยังคงทระนงเชิดหน้าสู้ต่อ
   

“อยากด่าอะไรก็ด่าไป แต่ทุกวันนี้เขาอยู่กับฉัน!” แถมยังมีการใช้น้ำเสียงประหนึ่งว่าตัวเองนั้นคือผู้กุมชัยชนะ แต่มีหรือที่เรียวจันทร์จะยอมให้แม่นั่นกุมชัยชนะนั้นไว้ หน้าสวยๆ ทำหน้าเหมือนกำลังเห็นอกเห็นใจอีกฝ่ายเหลือเกิน แต่จริงๆ นางก็แค่รู้สึกเวทนากับความคิดความอ่านของแม่นี่ต่างหาก
   

“จ้า รู้แล้ว ไม่ใช่ไม่รู้ ก็ยินดีด้วย แล้วก็ขอให้เขาอยู่กับเธอนานๆ นะ ผู้ชายโลเลแบบนั้น มันจะมั่นคงได้อีกนานเท่าไหร่ ขนาดรสนิยมตัวเองยังไม่ชัดเจนเลย” เรียวจันทร์พูดด้วยน้ำเสียงไหลลื่น แอบมีจิกเบาๆ ลอยหน้าลอยตานิดๆ เพื่อสร้างความกระอักเลือดในอกโตๆ ของนังศัตรู ฝ่ายหญิงสาวก็นึกหมั่นไส้อยู่นะ แต่ต้องเก็บอาการให้มิด สติแตกก่อนจะพ่ายมันเอาได้ โบว์มองหน้าเรียวจันทร์แล้วแสยะยิ้ม ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงกับความคิดที่ว่าตัวเองนั้นมีดีกว่ามาก
   

“ยังไงเขาก็ต้องเลือกผู้หญิงป้ะ ก็เขาเป็นผู้ชายอะ ยังไงผู้หญิงก็วินอยู่แล้ว”
   

“วินมอเตอร์ไซด์อะเหรอ?” เรียวจันทร์ถามกลับด้วยน้ำเสียงกับใบหน้ากวนส้นเท้า เล่นเอาทิฟฟี่หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว โต๊ะใกล้เคียงที่ได้ยินก็ยังแอบหัวเราะเบาๆ โบว์ถลึงตามองศัตรูตัวเองด้วยความหงุดหงิดกับความกวนประสาทของมัน
   

“อ้าว นี่ๆ เสียเวลายืนคุยกันทำไมเนี่ย ไม่ไปเตรียมตัวทำงานกันล่ะ จ้างมาทำงานนะ ไม่ได้จ้างมาตบกัน” เรียวจันทร์เบนหน้าเชิดของตนไปมองคนพูด ก็เห็นว่าเป็นสาวห้าวนางหนึ่งหน้าตาถมึงทึงยืนทำท่าทางคุมเชิงประหนึ่งว่าเป็นผู้มีอิทธิพลซะเต็มประดา แต่เรียวจันทร์ไม่ค่อยชอบรับสายซ้อนเท่าไหร่ เลยหันมาจัดการสายแรกให้เรียบร้อยซะก่อน
   

“รีบไปแต่งหน้าเถอะ หน้าเธอแย่มากเลยอะ มองหน้าเธอแล้วนึกว่ามองหน้าแดร็คคิวล่าตอนโดนแดดอยู่” พูดจบก็หันกลับมาหาช่างแต่งหน้าตัวเอง ทิฟฟี่พยายามหยุดขำแล้วตั้งสมาธิกับการแต่งหน้า นางแบบสาวยืนกำหมัดแน่น กัดฟันกรอด แต่หล่อนก็ยังฉลาดพอที่จะไม่ยืดเรื่องให้มันยืดเยื้อไปมากกว่านี้ เพราะไม่งั้นหล่อนเองนั่นแหละที่จะกลายเป็นหมาเห่าใบตองแห้ง โบว์พยายามสงบความเดือดของตัวเองไว้แล้วหมุนตัวเดินกระแทกเท้าอย่างหงุดหงิดไปตรงโต๊ะแต่งหน้าของตัวเองบ้าง
   

“แล้วไม่ได้เจอกันอีกเลยเหรอ กับแฟนเก่าที่นางแย่งไปน่ะ” เรียวจันทร์สั่นหน้าน้อยๆ กับคำถามของทิฟฟี่ที่กำลังใช้บลัชออนปัดเศษแป้งบนหน้านางออกเบาๆ 
   

“อย่าเรียกว่าแย่งเลย มันเต็มใจไปกับนังโบว์เองต่างหาก ถ้าศีลธรรมมันสูงสักหน่อยมันจะไม่พ่ายให้กับแรงอ่อยของโบว์มันหรอก” ถึงแม้จะโกรธและไม่ชอบยัยนางแบบนมใหญ่นั่นอยู่มาก แต่เรียวจันทร์ก็ไม่คิดโยนความผิดให้กับผู้หญิงฝ่ายเดียว จริงอยู่ว่าแม่นางแบบทอดสะพานมาให้จนไหม้เกรียม แต่ถ้าคนของนางไม่เดินข้ามไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น แต่นี่ไอ้ตัวดีดันเดินข้ามไปหาเจ้าหล่อนเช้าเย็น ทั้งที่ตัวเองก็มีแฟนเป็นผู้ชายอยู่แล้ว ยังจะมาทำตัวเป็นไส้เดือนสวมบทบาทสองเพศอยู่ได้ แถมยังสวมเขาให้นางได้ตั้งเป็นเดือน ดีนะที่เรียวจันทร์มีสายสืบเยอะ
   

“แล้วถ้าเจอกันนี่จะคุยกันมั้ยคะเนี่ย” เรียวจันทร์เบ้ปากเบาๆ แล้วตอบเสียงชิล
   

“คุยได้สิ เรียวไม่คิดอะไรหรือติดใจอะไรกับเขาแล้ว”
   

“เรียกว่าสวยเลือกได้สินะคะ” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองหัวเราะเสียงเล็กเสียงน้อย เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ
   

“แน่สิ ชีวิตดีๆ อย่างเราจะเอาตัวเองไปจมปลักกับพวกโคลนตมทำไม” โบว์ที่นั่งอยู่ห่างออกไปจากโต๊ะเรียวจันทร์หันไปมองตาขวาง เรียวจันทร์เบะปากแล้วไหวไหล่ไม่แคร์ไปให้หนึ่งที ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นให้ช่างแต่งหน้าได้จัดการกับตัวเอง




   แสงสีภายในงานเดินแบบของแบรนด์เสื้อผ้าดังสำหรับฤดูร้อนสาดส่องไปทั่วห้องจัดงานภายในโรงแรมหรู เสียงเพลงสากลจังหวะป๊อบดังขับกล่อมผู้มาร่วมงาน เหล่าดารา นักแสดง นักร้อง และเซเลบริตี้ที่ถูกเชิญมานั่งเรียงรายเต็มสองข้างเวทีรวมกับผู้ร่วมงานทั่วไป เสียงพูดคุยดังหึ่งๆ แข่งกับเสียงเพลง ทุกคนต่างรอเวลาเริ่มงาน ไม่มีพิธีกร ไม่มีใครมาบอกว่างานจะเริ่มตอนไหน แต่เมื่อมีนายแบบหรือนางแบบสักคนเดินออกมา นั่นก็คือช่วงเวลาที่ทุกคนรู้กันว่าเป็นการเริ่มงาน และคนที่เดินเปิดงานนี้ก็คือนายแบบหน้าสวยหวานสุดฮ็อตที่ไปโด่งดังถึงต่างประเทศ แต่ก็ยังแวะเวียนมาทำงานที่ไทยบ้างหากมีเวลา
   

เสียงปรบมือดังขึ้นต้อนรับนายแบบผู้ที่กำลังเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ในประเทศไทยเรียวจันทร์อาจไม่ได้มีงานจ้างมากมาย แต่ถ้าเป็นต่างประเทศละก็ คิวนางถูกจองเต็มแทบทุกเดือน เรียวจันทร์ไปทำงานที่นิวยอร์กตั้งแต่อายุสิบเจ็ด ฉะนั้นดีกรีของนางไม่ธรรมดา เมื่อสร้างฐานที่ดีให้กับตัวเองได้ เรียวจันทร์จึงบินกลับมาไทยและรับงานในประเทศใกล้เคียงไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ทิ้งเมืองแห่งแฟชั่นตัวจริงอย่างมหานครนิวยอร์ก นางไปล่าฝันที่นั่นมาตั้งนาน กว่าจะผ่านมาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย
   

ในไทยอาจจะยังไม่เปิดรับนายแบบอย่างนางมากนัก เนื่องด้วยสังคมของเมืองไทยปากว่าตาขยิบ บอกว่ารับได้ แต่ถามว่าจะให้โอกาสนายแบบที่ไม่ใช่ชายจริงหญิงแท้หรือไม่นั่น ตอบได้เลยว่าให้ แต่ก็น้อยมาก เทียบกับเมืองนอกที่ไปอยู่มา ถือว่าโอกาสของนางมีมากกว่าทีนี่เยอะมาก แต่ที่กลับมาไทยเพราะมีพ่อต้องดูแล แล้วตอนนี้ก็มีแม่ที่ต้องมาดูแลด้วยนี่ไง
   

ร่างสูงโปร่งในชุดกางเกงขายาวสีดำ เสื้อโค้ตไหมพรมสีดำทรงเก๋ เดินอย่างมีพลังในทุกย่างก้าว ใบหน้าขาวผ่องเชิดขึ้นเล็กน้อยเป็นการสร้างคาแร็คเตอร์ให้กับตัวเอง ดวงตาสุกใสเหมือนกวางน้อยมองตรงไปด้านหน้าไม่มีวอกแวก เมื่อมาหยุดอยู่ตรงปลายทางของรันเวย์ก็โพสน้อยแต่พองามแล้วหมุนตัวเดินกลับไปด้านหลังเวที โดยมีนายแบบคนอื่นๆ เดินตามมาติดๆ
   

“เปลี่ยนชุดเลยนะคะ เร็วเลยค่ะ เร็วเลย!” เสียงทีมงานตะโกนบอกเหล่านายแบบนางแบบเซ็ทแรกที่เข้ามาด้านหลังเวที เรียวจันทร์เดินไปหยิบชุดมาจากราวเปลี่ยนเสื้อผ้า พอหันกลับมาก็เห็นโบว์กำลังจะเดินผ่านไป สาวอกโตเหลือบมองแล้วทำเป็นเชิดใส่ เรียวจันทร์มองอีกฝ่ายเหมือนเห็นของประหลาดตกลงมาจากท้องฟ้าก็ไม่ปาน ทำเอาโบว์ต้องถลึงตามองกลับมาน้อยๆ แต่นางไม่สนใจ หมุนตัวเดินหนีไปเปลี่ยนชุดเพื่อเดินรอบต่อไปท่ามกลางเสียงห้าวๆ ของนังสตาฟคนนั้น ซึ่งเสียงของมันกวนใจมากเหลือเกิน
   

“อ้าว เร็วหน่อย ช้าอยู่นั่นอะ มืออาชีพหน่อยได้มั้ย?!”
   

วันนี้ไม่มีเป็ดมาเป็นเพื่อน เพราะเป็ดก็มีงานประจำของตัวเอง เรียวจันทร์เลยต้องบุกเดี่ยว แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับนางเลย ช่วงที่เดินแบบในต่างประเทศก็ต้องดูแลตัวเองแบบนี้ ทีมงานต่างประเทศมืออาชีพก็จริง แต่เราก็ต้องไม่ง่อย ไม่งอมืองอเท้าให้เขามาช่วยใดๆ อะไรที่ทำเองได้ก็ทำไปก่อน คิดแล้วก็อยากจะกลับไปอเมริกาซะจริงๆ อยู่ไทยมาได้แค่สองปียังรู้สึกเบื่อประเทศนี้แล้ว แม้จะมีงานให้ทำเรื่อยๆ ก็เถอะ ถ้าในไทยนางจะรับงานเอง มีเอเจนซี่ขอนางไปดูแลมากมาย แต่นางไม่เอา เพราะยังคงรักเอเจนซี่หลักในนิวยอร์กที่หมดสัญญาแล้ว ทุกวันนี้อยู่ด้วยสัญญาใจ แล้วอีกอย่างหนึ่งเรียวจันทร์รู้ดีว่ากระแสของนางจะบูมอยู่พักหนึ่งเท่านั้นแหละ แรกๆ เอเจนซี่คงป้อนงานให้ แต่พอผ่านไปจะเริ่มถูกดอง เพราะมันต้องโยนงานให้นางแบบนายแบบชายจริงหญิงแท้ไว้ก่อน
   

“ชุดสุดท้ายแล้ว ออกมาคงไม่เจอกันแล้วนะคะน้องเรียว พี่กลับก่อนนะ” ทิฟฟี่บอกพลางเก็บของใส่กระเป๋าเก็บอุปกรณ์แต่งหน้า
   

“แล้วเจอกันค่ะพี่ทิฟ” เรียวจันทร์ยิ้มให้แล้วรีบเดินไปเตรียมตัวด้านหลังเพื่อเดินแบบในชุดสุดท้าย พอคนสุดท้ายของเซ็ทก่อนหน้าเดินกลับเข้ามา เรียวจันทร์ก็เดินออกไปในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลแก่ มีผ้าพันคอลายดอกไม้ พื้นสีน้ำตาลสลับเหลืองผืนบางคล้องคอ ใบหน้าแต่งบางเบา ทำให้เรียวจันทร์ดูอย่างกับตุ๊กตาผู้ชาย หนุ่มๆ ที่มีรสนิยมชื่นชอบหนุ่มๆ ด้วยกันจ้องมองเรียวจันทร์ที่เดินอยู่บนเวทีด้วยความสนใจกันเพียบ เรียวจันทร์หมุนตัวเดินกลับ จังหวะนั้นเองที่โบว์เดินสวนมาอีกทาง ทั้งสองคนปรายตามองกัน โบว์ยื่นเท้ามาหมายจะขัดขาให้เรียวจันทร์ล้ม แต่สกิลของหนุ่มหน้าหวานนั้นมีมากกว่า


นางเกร็งข้อเท้าแล้วออกแรงเตะข้อเท้าของอีกฝ่ายเน้นๆ หนึ่งที โบว์เสียหลักล้มคะมำเข่ากระแทกพื้นบนเวที สองมือค้ำร่างตัวเองเอาไว้ท่ามกลางเสียงฮือตกใจของผู้ชม ตอนนั้นเองที่เรียวจันทร์เดินเชิดกลับเข้าไปด้านหลังเวที ทิ้งให้โบว์ค่อยๆ ยันตัวเองลุกขึ้นด้วยความเจ็บใจ แสงแฟลชสาดวูบวาบจนหล่อนใจเสีย แต่ก็ปั้นหน้ายิ้มแล้วลุกขึ้นมาเดินต่อด้วยอาการขาสั่น ผู้ชมในห้องจัดงานปรบมือเป็นกำลังใจให้ หล่อนโพสตรงปลายรันเวย์ ปั้นยิ้มให้ดูเป็นโปรเฟสชั่นนอลสุดพลัง แม้ในใจอยากจะเข้าไปตะบันหน้านังเรียวจันทร์ตัวแสบแล้วก็ตาม
   

ฝ่ายที่เดินเชิดกลับเข้ามาหลังเวทีก็ยืนรออยู่ตรงทางออกเพื่อเดินออกไปปิดงานพร้อมกับคนอื่นๆ อีกครั้ง เรียวจันทร์เองก็อยู่ในอารมณ์หงุดหงิดเช่นกัน หงุดหงิดทั้งนังโบว์ ทั้งนังสตาฟเสียงห้าวนั่น นางยืนรอนัวโบว์เดินกลับเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัว พออีกฝ่ายเดินดุ่มเข้ามาพร้อมสีหน้าเอาเรื่องก็ยืดตัวให้ยืนขึ้นตรงกว่าเดิม
   

“แก…”
   

“…ถ้าคิดจะมาแว้ดๆ บอกว่า ฉันทำเธอขายหน้าบนเวที ขอบอกเลยว่าไม่ต้องเสียเวลาพูด เธอเริ่มก่อนนะ” เรียวจันทร์ยิ้มอ่อน หญิงสาวกำสองหมัดแน่น เรียวจันทร์เดินกระแทกไหล่อีกฝ่ายออกไปบนรันเวย์อีกครั้ง ไม่สนสีหน้าฟึดฟัดของศัตรู พอออกมาด้านหน้าก็ปั้นหน้ายิ้มแล้วเดินอย่างแข็งแรงเป็นการปิดท้าย นายแบบ นางแบบทุกคนยืนแถวคู่ ปล่อยให้เจ้าของงาน และนักแสดงตัวแม่ของเมืองไทยยืนเด่นอยู่ตรงกลาง เสียงปรบมือดังคลอกับเสียงเพลง แถวของเรียวจันทร์เดินกลับเข้าไปก่อน เมื่อมาถึงด้านหลังเวที เรียวจันทร์ก็เดินไปที่โต๊ะแต่งหน้าของตัวเอง เตรียมจะลอกคราบ แต่สักพักก็โดนกระชากไหล่ให้หันไปเผชิญหน้ากับนังนางแบบคางแหลม
   

“แกเดินชนไหล่ฉัน” เรียวจันทร์จ้องโบว์กลับตาไม่กะพริบ ตอนนี้อารมณ์นางกำลังเดือดได้ที่ นางยื่นสองมือไปผลักอกคนที่ยืนตรงข้ามกันจนอีกฝ่ายล้มลงไปกองกับพื้น ทุกคนในห้องแต่งตัวส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ
   

“แกเล่นสกปรกกับฉันก่อนแล้วยังมีหน้ามาเอาเรื่องฉันอีกเหรอ?!” เรียวจันทร์ชี้หน้าโบว์แล้วตวาดเสียงใส่ อีกฝ่ายไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่พอๆ กับเรียวจันทร์ตามเดิม
   

“แกสะอาดนักรึไง?!” เรียวจันทร์ยิ้มเหี้ยม ถลึงตามองนังหน้าแหลม
   

“ก็ไม่เคยแย่งแฟนใครอะ ด่าเขาว่าตุ๊ดอย่างนั้นอย่างนี้ แต่อยากได้แฟนเขาจนกลีบอวัยวะเพศสั่น” เสียงหัวเราะจางๆ ดังขึ้นในห้องแต่งตัว โบว์กัดฟันกรอด เงื้อมือขึ้นจะตบเรียวจันทร์
   

“นี่! อย่าบังคับให้ฉันตบเธอกลับ ฉันยังมีร่างเป็นผู้ชายอยู่ ยังไม่อยากตบผู้หญิง…” เรียวจันทร์ยื่นมือซ้ายไปดันแขนของโบกี้ลง อีกฝ่ายเอาลงตามอย่างงงๆ
   

“…แต่ถ้าฉันแต่งหญิงเมื่อไหร่ ฉันจะตบด้วย” หนุ่มหน้าหวานยักคิ้วทั้งสองข้างให้ศัตรูคู่แค้น หญิงสาวมองอย่างแค้นเคืองกลับมา
   

“อ้าวๆ ทะเลาะอะไรกัน แยกๆ งานจบแล้ว” เรียวจันทร์ทำหน้าเซ็งผสมกับเบื่อหน่าย เอี้ยวหน้าพร้อมกับเบนสายตาไปมองนังทีมงานที่ทำท่าวางมาด หงุดหงิดนังนี่มาหลายชั่วโมงละ ดี เสนอหน้าเข้ามาเองแบบนี้แหละดี
   

“นี่ก็เหมือนกัน ทำตัวเป็นตำรวจไทยในละคร เขาทะเลาะกันเสร็จไปแล้ว มีลูกตาก็ใช้มองให้มันดีๆ หน่อย” ทีมงานสาวห้าวผงะไปเมื่อเจอนายแบบหนุ่มชื่อดังเหวี่ยงกลับมา เธอทำท่าจะเถียงกลับ แต่โดนเรียวจันทร์ดักเอาไว้ก่อน
   

“จะเอาใช่มะ อยากเถียงอีกคนใช่มั้ย” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นมองแม่สาวทีมงานผมสั้นที่ทำท่าไร้มารยาทตั้งแต่เริ่มงาน สั่งงานไม่ว่า แต่ไม่มีน้ำใจในการสั่งงานเลยสักนิด
   

“ทำมาเป็นวางอำนาจ แกใหญ่โตมาจากไหนนักหนา?!” โบว์ถามเสียงแหว เรียวจันทร์เริ่มรู้สึกเบื่อแล้วก็รำคาญสถานการณ์นี้มาก นางอยู่ตรงนี้นานเกินไปแล้ว
   

“น่ารำคาญ ไม่เคยมีเรื่องเหรอ ถึงได้อยากมีจัง” สะบัดสายตามองหน้าโบว์หนึ่งทีแล้วหันไปเก็บกระเป๋าขึ้นมาเพื่อจะเดินไปเปลี่ยนชุดลำลองกลับบ้าน ไม่ใช่บ้านตัวเองนะ บ้านหนุ่มอิตาลีต่างหาก
   

“เชิดหน้าเข้าไปเถอะ วันไหนที่โดนหนี้ที่บ้านทับตายคงเชิดไม่ได้อีก” เรียวจันทร์ถอนหายใจ หมุนตัวกลับไปมองโบว์ด้วยสีหน้าเซ็งๆ เวลานี้ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง มันไม่ใช่เวลามายืนทะเลาะกัน นางจะรีบไปหาแจเร็ด นี่ก็จะเกินเวลานัดแล้วด้วย พอหันกลับไปได้เรียวจันทร์ก็ชูนิ้วกลางใส่หน้านังโบว์ด้วยใบหน้าเอือมระอา เป็นการบอกว่า กูเบื่อมึงแล้ว
   

“แล้วมันไปทับหัวเธอด้วยเหรอ” หญิงสาวแอบสะอึกไปนิด เรียวจันทร์หมุนตัวไปทางห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมกับส่ายหัวเซ็งๆ กับการที่เสียเวลาไปกับคนประเภทนั้น
   

“นังเรียวจันทร์ นังตุ๊ด!” หล่อนได้แต่สบถด้วยความโมโหตามหลัง กำลังจะหมุนตัวกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ก็เห็นหน้าทีมงานที่เข้ามาห้ามเธอพอดี เลยชักสีหน้าใส่ไปหนึ่งทีก่อนที่จะเดินกลับไปโต๊ะแต่งหน้าตัวเอง ทิ้งให้ทีมงานยืนมึนอยู่คนเดียว
   






TBC.  :katai5:


ตัวละโบว์เป็นนางร้ายที่อย่าคิดอะไรกับนางมาก คือฉันอยากจะร้าย ฉันก็ร้ายย่ะ 55555 แต่เมื่อเจอเรียวจันทร์เข้าไป นางเหมือนจะกลายเป็นนางเอกไปเลยนะ -.,-

ไม่รู้ว่ามีใครเคยอ่านนายเอกที่สาวขนาดนี้มั้ย แต่บอกตรงๆ ตอมรักเรียวจันทร์มากเลย 55555 เวลาเขียนเรื่องนางมันสุดดีอะ คืออยากใส่อะไรใส่ แต่ก็ต้องระวังพฤติกรรมบางอย่างให้นางด้วย อย่างการต่อว่าผู้หญิง ตอมก็เกรงใจคนอ่านผู้หญิงนะ กลัวว่ามันจะแรงไปมั้ย ยังไงแยกแยะนิดนึงน้อว่ามันคือนิยาย ไม่ได้มีเจตนาเหยียดเพศนะค้าาา

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ตามอ่านนิยายเรื่องนี้อยู่นะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ ดีใจที่มีคนอ่านแล้วชอบ ขอบคุณที่รักขุ่นแม่เรียวจันทร์ในแบบที่นางเป็นนะคะ

พระเอกอาจแวบมาตอนหน้า เรื่องเรียวจันทร์ไม่ซิง อยากให้มองว่า นางเป็นคนมีประสบการณ์ 555555 เจอกันตอนหน้านะคะ  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 23:11:51 โดย ขุ่นเจ้ »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด