คาถาที่ ๓๐ :: Please go away. (ไปตามทางของคุณเถอะ) [ครึ่งแรก]“มานี่! อย่าดื้อ” เรียวจันทร์ส่ายหัวหน้าตั้ง กอดเสาคอกม้าไว้แน่นไม่ยอมปล่อยตัวและใจไปกับแรงดึงของคมเขี้ยวที่พยายามลากนางให้ออกไปขี่ไอ้เดือนหงาย
“ไม่ไป! หัวเด็ดฮีขาดยังไงหนูก็ไม่ไป พี่ไม่เห็นรึไงว่าเมื่อวานมันไล่ขวิดหนูอย่างกับควาย!” เมื่อวานนางวิ่งวนในคอกม้าอยู่เป็นนาทีๆ พอตั้งสติได้ก็วิ่งออกจากคอกม้า รีบไปซุกตัวอยู่ในห้องนอนออฟฟิศที่นางคุ้นเคย คมเขี้ยวตามมาต่อว่าหาว่านางขี้ขลาด ทะเลาะกันจนนางงอนไม่ขอขึ้นไปนอนบนห้องด้วย ไอ้เขี้ยวกุดก็ตามมาด่าตอนดึกและก็เนียนนอนกอดนางทั้งคืน
แต่เช้าวันถัดมาดูท่าความตั้งใจพี่แกไม่ลดละ พยายามจะจับนางขึ้นหลังไอ้เดือนหงายให้ได้ ตัวเองอุ้มนางไม่ได้ ก็ใช้วิธีถูลู่ถูกังกันมาจนมายืนอยู่ตรงหน้าม้าตัวใหญ่
“เดี๋ยวพี่ขึ้นไปด้วย”
“ไม่ขึ้น! ไม่ไปไหนทั้งนั้น” นางเสียงแข็งและกอดเสาต้นเดิมแน่นไม่ยอมปล่อย เกาะแน่นยิ่งกว่าปลวกอีก
“เรียว! บอกอะไรให้ฟังมั่ง” คมเขี้ยวเริ่มดุ (อีกละ)
“อันนี้หนูไม่ฟัง ไม่อยากฟัง พี่นั่นแหละต้องฟังหนู…” นางเบะปากหน้างอ หันไปมองคมเขี้ยวน้ำตาคลอ แล้วนางก็…
“...♪~ถึงเวลาาา~ เธอจะฟังชั้ลได้ลึยังงงง…. ถึงเวลาเสียงของชั้นควรมีความหมายยย… เลิกพูดคำที่เธอต้องการ… หยุดฟังซักทีดั้ยมั้ยยย~♫!!!!” …แหกปากร้องเพลงพี่ดา เอ็นโดรฟินตั้งแต่สมัยเมื่อนางยังไม่แตกเนื้อสาวทั้งน้ำตา คมเขี้ยวที่กำลังเข้มๆ อยู่ถึงกับหลุดขำนิดๆ แต่พวกคนงานที่ยืนมองทั้งสองคนฉุดกระชากกันไปมาหัวเราะกันดังลั่น เรียวจันทร์สะอื้นน้อยๆ หันไปมองรอบๆ ด้วยสายตาน่าสงสร
“แค่ขี่ม้า จะกลัวอะไรนักหนา”
“ก็หนูกลัวอะ พี่เขี้ยวไม่เข้าใจความกลัวรึไง หนูเคยทำร้ายมันนะ” นางเบะปาก น้ำตานองสองแก้ม
“อ้าว จำได้นี่ว่าเคยทำอะไรมันไว้ คิดจะไถ่โทษพี่ ก็ต้องไถ่โทษไอ้หงายด้วย” คมเขี้ยวพยายามดึงตัวนางออกจากเสาไม้ แต่นางรัดแขนตัวเองแน่นเสา
“ไม๊!” เรียวจันทร์งอแง ส่ายหัวไม่เอา คมเขี้ยวเริ่มหงุดหงิด แค่ไอ้กางเกงขาสั้นแบบเดิมก็ทำหงุดหงิดมากพอละ ยังจะมาทำนิสัยอย่างนี้อีก
“เรียว ไหนว่าจะง้อพี่ไง” คมเขี้ยวถามเสียงกดต่ำ ราวกับกำลังข่มขู่ เรียวจันทร์สะอื้นเป็นพักๆ
“ง้อพี่ ไม่ใช่ง้อม้า หนูไม่ง้อมันหรอก” นางบอกอย่างดื้อดึง คมเขี้ยวมองหน้าสวยๆ ที่น้ำตาอาบเต็มแก้มแล้วถอนหายใจใบหน้าเสียอารมณ์
“งั้นก็ขึ้นบ้านไปเลยไป ไม่ต้องลงมาอีกนะ อยู่แต่บนนั้นแหละ ลงมาเมื่อไหร่จะให้ไอ้หงายไล่ควบให้” เรียวจันทร์มองหน้าไม่สบอารมณ์ของคมเขี้ยวด้วยความน้อยใจ ปล่อยสองแขนออกจากเสาไม้อย่างช้าๆ
แค่ไม่ทำดีกับม้าตัวนึง พี่เขี้ยวต้องโกรธขนาดนี้เลยเหรอ
“ไปสิ” คมเขี้ยวกระแทกเสียง พวกคนงานยืนมองกันตาปริบแบบงงๆ ไม่เข้าใจว่าเจ้านายตัวเองเป็นอะไรขึ้นมา เรียวจันทร์เดินออกไปจากบริเวณนั้นและยกสองมือปาดน้ำตาออกจากแก้มเหมือนเด็กน้อย คมเขี้ยวมองตามตาดุและหันกลับไปสั่งงานลูกน้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วันนั้นทั้งวันเรียวจันทร์เก็บตัวอยู่แต่บนบ้านไม่กล้าลงไปข้างล่าง นางนั่งเหงาหงอยเหมือนเจ้าหญิงบนหอคอยสูง พอเจ้าชายกลับขึ้นมาบนบ้านในช่วงเย็น ก็ยังทำท่าปั้นปึ่งไม่ยอมคุยกับนาง ไม่ใช่ว่าจนปัญญา แต่นางเองก็มองว่ามันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง จะเคืองนางเพราะไม่ยอมดีกับม้าตัวเองเนี่ยเหรอ
“พี่เขี้ยวจะโกรธหนูเพราะไอ้ม้าตัวนี้เนี่ยนะ” คมเขี้ยวหันไปมองเรียวจันทร์ในขณะที่กำลังถอดเสื้อเตรียมอาบน้ำ
“ใช่” ร่างสูงตอบสั้นห้วนและหน้าตาย ถอดกางเกงยีนออกจากขา โยนไว้บนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ
“กระสุนตัดเส้นสติขาดไปด้วยเหรอ ถึงได้มีชีวิตเพี้ยนแบบนี้ ไอ้เขี้ยวกุด!” เรียวจันทร์แหวอย่างหงุดหงิด มองหน้าคมเขี้ยวด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“แล้วมันจะยากอะไร กับอีแค่ขี่ม้า พี่ก็ขึ้นไปด้วย กลัวไรนักหนา ดีดดิ้นดัดจริตอยู่ได้” เรียวจันทร์ตาแข็งเบาๆ ใส่คมเขี้ยว แต่อีกฝ่ายดูไม่ได้จะใส่ใจอารมณ์ของนางสักเท่าไหร่
“เออ ฉันมันดัดจริต แต่นายมันอำมหิต คนกลัว ก็ยังบังคับกันอยู่ได้ ถ้าฉันอยากจะดีกับมัน เดี๋ยวฉันซื้อลูกอมโอเล่ย์ไปง้อมันเองแหละ!”
“บอกให้แทนตัวว่าไร?!”
“ไอ้เขี้ยว!!” เรียวจันทร์เปล่งเสียงดังลั่นห้อง คมเขี้ยวเบิกตากว้างมองด้วยสายตาดุ คุณนายก็ไม่ยอม จ้องตาแข็งที่เพิ่มดีกรีขึ้นกว่าเดิมกลับไป
“กลับไปนอนออฟฟิศเลยไป คืนนี้ไม่ต้องนอนนี่!” เรียวจันทร์ชะงักกึก แววตาแข็งเมื่อกี้เปลี่ยนเป็นวูบไหวทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น นางพยายามข่มความน้อยใจที่ตีตื้นขึ้นมาเป็นน้ำตาตรงขอบตา หันตัวไปกวาดเสื้อผ้าของตัวเองออกจากตู้ของคมเขี้ยว และเดินเท้ากระแทกพื้นออกจากห้องไปโดยที่เจ้าของห้องไม่ได้มีทีท่าจะรั้งไว้เลยสักนิด
สรุปคืนนั้นนางต้องนอนที่ออฟฟิศจริงๆ นอนร้องไห้เกือบทั้งคืนจนหลับไปคมเขี้ยวก็ไม่มาง้อ คนอื่นๆ ก็คงคิดว่านางหลับอยู่ในห้องคมเขี้ยว เย็นนั้นนางไม่กินข้าว ไม่อาบน้ำ แต่นอนร้องไห้ด้วยความน้อยใจจนหลับไป
เช้าวันถัดมา เรียวจันทร์ก็ไม่ออกไปพบใคร ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องนอนออฟฟิศ อาบน้ำแต่งตัวใหม่ก็นอนซึมมันทั้งวัน มือถือก็ไม่ได้หยิบลงมาจากห้องนอนคมเขี้ยวเลยยิ่งเปลี่ยวไปอีก
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้น เรียวจันทร์พ่นลมหายใจ ลุกขึ้นไปเปิดอย่างเชื่องช้า พอเปิดก็เจอกับหน้านิ่งเคร่งเครียดของคนที่ทำให้นางนอนซึมอยู่แบบนี้ เรียวจันทร์นึกลุ้นในใจว่าคมเขี้ยวจะง้ออะไรนางมั้ย
“เมื่อกี้ไอ้ฝรั่งที่ชื่อแจเร็ดสไกป์มาหา กดรับกดคุยให้ละ…” พูดเสร็จก็ยื่นโทรศัพท์ให้เจ้าตัว เรียวจันทร์รับมาไว้ในมือ หน้าตาไม่ได้สะทกสะท้าน
“…ไหนบอกว่าเคลียร์กับมันเข้าใจแล้ว ทำไมมันยังคิดจะมาหา” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว
“แล้วเพื่อนกันมาหากันไม่ได้รึไง?” คมเขี้ยวยิ้มหึ แววตาดุจนเรียวจันทร์แอบกลัว
“เพื่อนกัน ส่งรูปหากันน่ารักดีเนอะ” น้ำเสียงประชดประชันอย่างจับได้ชัดเจน เรียวจันทร์เรียกสติกลับมาได้ก็ปล็ดล็อคโทรศัพท์ กดเข้าไปในสไกป์ก่อนแต่ก็ไม่เจอรูปอะไร เลยเข้าไปดูในวอทสแอพ พอเห็นรูปที่แจเร็ดส่งมาก็ตัวร้อนวูบ รู้สึกเกิดอารมณ์ทางเพศ เอ่อ ไม่สิ ต้องบอกว่านางอยากจะเป็นลมถึงจะเหมาะสมกับคาแร็คเตอร์หญิงใหญ่ในวังหลวง
แต่แหม รูปแจเร็ดใส่กางเกงในตัวเดียวมันเสียวจริงๆ นะ
“บางทีอีเป็ดก็ส่งรูปตัวเองในชุดชั้นในลายคิตตี้มาให้ดูเหมือนกัน” คุณนายนางว่าหน้าตาย น้ำเสียงออกจะสบายๆ ด้วยซ้ำ คมเขี้ยวนิ่งขึ้น สายตาเนี้ยบกว่าเดิม จนเรียวจันทร์ต้องหลบสายตาและสีหน้านั้น
“กลับขึ้นไปนอนข้างบน” หน้าสวยมุ่ยทันทีไม่มีรีรอ
“อะไรอะ เมื่อวานไล่ลงมานอนข้างล่าง วันนี้ให้ขึ้นไปนอนข้างบน คือจะจับจะเหวี่ยงไปไหนยังไงก็ได้เหรอ?!”
“บอกให้ทำอะไรก็ทำ ทีไอ้จอมทัพสั่งให้ทำ ยังยอมทำ พี่สั่งแค่นี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย ไม่ต้องไปหลอกอะไรใครด้วย” เรียวจันทร์มองคมเขี้ยวอย่างเหลืออดเหลือทน
“นี่พี่จะแค้นฝังหุ่นตุ๊กตาวูดูแล้วเอาเข็มมาจิ้มกันเลยมะ?!”
“ไป เร็วๆ” คมเขี้ยวกระแทกเสียง หน้าตาจริงจัง เรียวจันทร์จ้องมองใบหน้าหล่อที่ช่วงนี้แลจะตีหน้าโหดและเสริมความเหี้ยมเข้าไปมากกว่าปกติ นางกัดริมฝีปากล่าง เดินกระแทกไหล่ซ้ายใส่คมเขี้ยว ไม่สนเสื้อผ้าห่าเหวอะไรอีก ดีไม่ดีคืนนี้นางโดนไล่ตะเพิดกลับมานอนนอกห้องอีกด้วยมั้ง
ช่วงเวลาบ่ายถึงเย็นของวัน เรียวจันทร์ก็ไปช่วยงานป้าอุ่น ล้างชาม ล้างจาน ล้างถ้วย ล้างหม้อ ล้างไห ล้างหีบจนสะอาดและช่วยทำกับข้าวให้คนงาน พอทำเสร็จก็โดนคมเขี้ยวที่ยังปั้นปึ่งใส่ลากกลับขึ้นไปกินข้าวบนบ้านใหญ่ บนโต๊ะอาหารนางเงียบ คุยบ้างนิดหน่อยจนป๋ากับแม่และดินจับสังเกตได้ แต่ไม่มีใครถาม เห็นเพียงสายตาข่มของคมเขี้ยวที่ทำใส่เรียวจันทร์แทบจะตลอดเวลาก็พอจะรู้
“พรุ่งนี้มีงานกี่โมงถึงกี่โมง” คมเขี้ยวถามหลังจากกลับเข้ามาอยู่ในห้องนอนกันแค่สองคนแล้ว
“บ่ายงานนึง เย็นงานนึง” เรียวจันทร์ตอบเสียงสะบัด
“พี่ติดงาน ไปด้วยไม่ได้ เดี๋ยวให้ไอดินไป”
“ไม่ต้อง ไปเองเป็น” คุณนายตอบเสียงห้วนหน้าบิดปากเบี้ยว
“ไม่ต้องขับเอง ให้ไอ้ดินไปส่ง จะได้ไม่ต้องไปแจกจริตที่ไหนอีก” เรียวจันทร์ย่นคิ้วก่อนจะตามด้วยเบะปากน้อยๆ
“เดี๋ยวจะโดนตบปากเบี้ยวจริงๆ” ร่างเล็กชักสีหน้าไม่พอใจ
“โอ๊ย! ถ้าจะพูดจาแย่ๆ แบบนี้ใส่นะ ไม่ต้องพูดกันหรอก หนูผิด หนูรู้ แต่พี่จำเป็นต้องทำท่าทางเหมือนหมาพร้อมกัดตลอดเวลาขนาดนี้ด้วยเหรอ?!” เหลืออดแล้วนะโว้ยยย! เดี๋ยวอีแม่ก็แมนต่อยหน้าซะหรอก!
“ถ้าไม่รักกันแล้วก็ไป ไม่ได้สำนึกผิดอย่างที่ปากว่าก็ไปดิ” เรียวจันทร์เม้มปากแน่น มองคมเขี้ยวด้วยความรู้สึกที่ทั้งหงุดหงิด โมโห หมั่นไส้ อยากตบ แต่ย้อนมาแบบนี้นางก็ทำได้แค่กรี๊ดอยู่ในอกคนเดียว
“เออ!!”
“พูดเพราะๆ”
“ค่า!!”
และแม้ว่าแทบจะตบกันสนั่นห้องนอน แต่พอถึงเวลาเข้านอนแล้ว คมเขี้ยวก็นอนกอดคุณนายไว้ทั้งคืน ไม่ยอมให้แม่ตัวแสบดีดดิ้นออกจากอ้อมกอดได้เลย
“ทำงานเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้าน ไม่ใช่ไปแรดต่อล่ะ” คมเขี้ยวที่อยู่ในสภาพใส่กางเกงชั้นในสีน้ำเงินเข้มตัวเดียวหันมาบอกเรียวจันทร์ที่แต่งตัวเสร็จแล้ว และกำลังใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กค่อยๆ เช็ดผมที่เปียกหมาดๆ อย่างใจเย็น
“รู้แล้วค่า ส่งดินไปคุมขนาดนั้น ไม่กล้าแรดหรอก” คุณนายว่าสีหน้าประชดเล็กๆ
“ถ้าไอ้ดินไม่ไปคือจะแรดใช่มั้ย” คมเขี้ยวถามเสียงเข้ม หยิบกางเกงขาสั้นมาเตรียมใส่ เรียวจันทร์ทำปากยื่นและค่อยคลี่ยิ้ม
“แหม ดุง่ายจริงเชียวเดี๋ยวเนี้ย” ปากว่าแต่มือยื่นไปจับลำยาวๆ ของคมเขี้ยวที่ตอนนี้นอนสงบอยู่ในกางเกงชั้นใน คุณนายดึงร่างสูงให้เข้ามาใกล้และเงยหน้ามอง อมยิ้มกรุ้มกริ่มให้กับใบหน้าเคร่งขรึมที่แสนจะหล่อมาดแมน มือซ้ายที่จับเป้าสามีอยู่ขยำเรื่อยๆ จนกระทั่งบ้องคาวบ่อยโป่งพองคับกางเกง คมเขี้ยวระบายลมหายใจแผ่วๆ สันกรามชัดแน่นเพราะความเสียว คิ้วเข้มขมวดนิดๆ
“จะแรดไหนได้อีก สยบให้กับลูกชายพ่อเขี้ยวแล้ว” คมเขี้ยวหายใจหนักขึ้น มือขวาแปะลงบนผนังห้องแต่งตัวที่ติดกับห้องน้ำ มือซ้ายยกขึ้นจับกรอบหน้าสวยของเรียวจันทร์ สีหน้าบ่งบอกถึงความอดทนอดกลั้น
“อยากเดินแบบขาเป๋เหรอ” เรียวจันทร์หัวเราะเสียงใส มือซ้ายลูบความตุงแน่นของคมเขี้ยว และลากมือผ่านความยาวที่พาดเอียงตัวอยู่ในกางเกงใน พอก้มลงมอง นางก็ต้องตาเป็นประกายเพราะส่วนหัวโผล่ออกมาทักทายตรงขอบกางเกง เรียวจันทร์เงยหน้ามองคมเขี้ยวที่ตาปรือ มือซ้ายลูบแก้มนวลของนางอย่างเบามือ
“หนูอยากช่วยนะคะพี่เขี้ยว แต่หนูต้องไปทำงาน” เรียวจันทร์บอกเสียงกระเส่า ดึงมือซ้ายออกจากเป้าคมเขี้ยว ยกขึ้นลูบเคราบนแก้ม มือขวาลงน้ำหนักบนอกเปลือยเปล่าและลากไปมา
“งานเสร็จให้กลับเลย อย่าช้านะรู้มั้ย” คมเขี้ยวว่าเสียงดุเบาๆ หน้าอยากตาเยิ้ม เรียวจันทร์คลี่ยิ้มทะเล้น
“นี่พี่เขี้ยวโกรธหนูจริงๆ เหรอเนี่ย”
“ใช่ ยังไม่ยกโทษให้ง่ายๆ หรอก…” เรียวจันทร์เบะปาก คมเขี้ยวยืดตัวเต็มความสูงดันเป้าตุงของตัวเองแนบชิดกับหน้าท้องเรียวจันทร์ สองมือจับกรอบหน้าสวยไว้เบาๆ
“…แต่ห้ามไปจากพี่ ห้ามหนีพี่ไปไหน ต้องอยู่ง้อพี่” เรียวจันทร์อมยิ้มและพยักหน้าน้อยๆ คมเขี้ยวก้มลงจูบกลีบปากสีชมพูสดอย่างมูมมาม เรียวจันทร์ตอบรับอย่างคุ้นเคย สองแขนโอบรอบคอคมเขี้ยว ริมฝีปากบดขยี้กันและกัน ก่อนที่จะใช้ลิ้นตอบโต้กันสักพัก ก่อนที่คมเขี้ยวจะผละออกจากปากเรียวจันทร์และก้มลงซุกไซ้ซอกคอขาวหอมๆ อย่างละเมียดละไมราวกับจะสูดดมทุกอณูของผิวเรียวจันทร์ไว้ให้เต็มปอดยามห่างกัน
“พี่เขี้ยว… อึ…” เรียวจันทร์ครางเสียงสั่น สองมือขยุ้มเส้นผมสีดำคมเขี้ยวเต็มสองมือ ตัวร้อนวูบวาบ ยิ่งความตุงที่ดันท้องนางอยู่ยิ่งทำให้วูบวาบเข้าไปอีก
“…พี่เขี้ยว หนูจะไปทำงานสายนะ” เรียวจันทร์ร้องบอกในขณะที่ตาปรือ ริมฝีปากเผยอ คมเขี้ยวหยุดไซ้ซอกคอ และสูดลมหายใจเข้าปอดเยอะๆ ก่อนจะผละออก เรียวจันทร์หอบน้อยๆ มองหน้าคมเข้มของคมเขี้ยวด้วยสายแพรวพราว
“แต่งตัวสิ จะได้ออกไปส่งหนู” คมเขี้ยวพยักหน้า หยิบกางเกงที่ตกลงบนพื้นขึ้นมาใส่ปิดความตุงตัวเอง หยิบเสื้อยืดสีขาวจากตู้เสื้อผ้ามาใส่ ก่อนจะพาเรียวจันทร์เดินออกไปจากห้องนอนพร้อมกับกระเป๋าสะพายข้างแบรนดังที่ใส่ของไว้เต็ม
ตอนที่เดินมาถึงครัว ดินกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับบัวบูชา แต่บัวบูชากำลังนั่งอ่านนิตยสารแทนการกินข้าว เรียวจันทร์วุ่นวายกับการหาโทรศัพท์ในกระเป๋า
“ไอ้ดิน กินอิ่มยัง” คมเขี้ยวถามพลางนั่งลงข้างมารดา เรียวจันทร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กการแจ้งเตือนต่างๆ
“อีกคำนึงก็หมดแล้วพี่ แล้วคุณเรียวไม่กินเหรอ” เรียวจันทร์เงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์
“กินจ้ะ แต่ว่าเอาไปกินบนรถได้” พูดเสร็จก็เดินไปเปิดตู้เย็นในครัว หยิบกล่องสี่เหลี่ยมใสๆ ออกมาใส่กระเป๋า
“แค่นั้นอิ่มเหรอหนูเรียว”
“หูย สบายค่ะคุณแม่ เดินแบบกินมากไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวพุงป่อง” บัวบูชายิ้มน้อยๆ หันไปมองคมเขี้ยวที่กำลังนั่งตักอาหารใส่จานข้าว
“พ่อบอกว่าเขี้ยวไม่ต้องเข้าไปในไร่องุ่นหรอก อยู่เคลียร์เอกสารในออฟฟิศนั่นแหละ”
“ไม่เป็นไร แวะเข้าไปดูหน่อยก็ได้ครับ” บัวบูชาพยักหน้าแบบไม่คิดห้าม เพราะสามีหล่อนก็ไม่ได้คิดห้ามจริงจัง
“หนูเรียว แล้วที่ว่ากองถ่ายหนังเขาจะมาถ่ายที่ฟาร์ม เขายกเลิกไปแล้วเหรอลูก”
“อ๋อ ยังค่ะ คือตอนนี้มันมีปัญหาภายในด้วย บวกกับช่วงหน้าฝน มาถ่ายตอนนี้คงลำบาก เขาเลยกะว่าจะมาช่วงฤดูหนาวแทน แต่ไม่รู้ว่าจะเคลียร์ปัญหากันเสร็จรึเปล่านะคะ คืบหน้ายังไงเรียวจะอัพเดตอีกทีค่ะ”
“บอกล่วงหน้าหน่อยเนาะ จะได้เตรียมตัวกันทัน” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่มและพยักหน้าหงึกๆ
“เอ้า สายแล้วเนี่ย จะไปก็ไป” คมเขี้ยวบอกเสียงดุหน้านิ่ง เรียวจันทร์เบ้ปากหน้างอหน่อยๆ
“โห่ ดุจังพี่เขี้ยว สักวันคุณเรียวจะหนีไปเพราะความเข้มความดุของพี่นี่แหละ” คมเขี้ยวชะงักไปนิด เลื่อนสายตาไปมองเรียวจันทร์ที่ก้มลงสนใจหน้าจอมือถืออีกครั้ง
“เออน่า ไปๆ มึงพาเขาไปได้ละ ถ้ากูไม่ติดงานกูไปเองแล้วเนี่ย”
“ดินจะแอบเป็นชู้กับคุณเรียว” ไอ้ดินมันว่าหน้ามึน มีการยักคิ้วสมทบอีกด้วย
“เดี๋ยวเถอะมึงไอ้ดิน” คมเขี้ยวมองอย่างคาดโทษ บัวบูชานั่งหัวเราะ ส่วนคนถูกพูดถึงกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดกับโทรศัพท์
“คุณเรียว ไปกันครับ” เรียวจันทร์เงยหน้าขึ้นและยิ้มให้ดิน นางเดินตามร่างหมีใหญ่ไป สักพักนึกขึ้นได้ก็หันกลับไปหาคมเขี้ยวกับบัวบูชา
“สวัสดีค่ะแม่ จุ๊บๆ ค่ะพี่เขี้ยว” นางส่งจุ๊บให้พ่อคาวบอยที่แกล้งย่นคิ้วใส่ ยกมือขวาไล่ปัดๆ ให้เดินตามไอดินไป เรียวจันทร์ย่นจมูก สะบัดตัวรีบเดินตามดินออกไปจากบ้าน
“ทำท่าทำทางไล่เขา หนูเรียวไปจริงๆ ขึ้นมา เขี้ยวจะมาโอดครวญนะ”
“หนูเรียวของแม่ไม่ไปไหนง่ายๆ หรอก”
“อย่ามั่นใจอะไรเกิน เลิกทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เลิกดุเขาได้แล้ว ตั้งแต่เขากลับมาเนี่ย เขี้ยวดุน้องบ่อยมาก ไหนจะชอบตะคอกน้องอีก เกิดน้องน้อยใจหนีกลับบ้านล่ะ” คมเขี้ยวนิ่ง เหลือบมองแม่น้อยๆ นึกถึงช่วงเวลาที่เรียวจันทร์กลับมาอยู่กับตัวเองแล้วก็แอบกังวล ทั้งบ่น ทั้งด่า ทั้งว่า ล่าสุดก็ไล่ออกจากห้องนอน เมื่อคืนนอนกอดกันทั้งคืน เช้ามาแม่คุณนายก็เหมือนทิ้งทุกอย่างที่ผ่านมาไปหมด นอนคลอเคลียเขาแต่เช้า โดนเขารวนใส่เยอะ แต่แม่คุณนายก็ยังอยู่ไม่ไปไหน มีวันนี้แหละที่ต้องออกไปทำงาน
“ถ้าหนีกลับจริง เดี๋ยวผมไปตามกลับมาเอง” บัวบูชามองลูกชายเอือมๆ พ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดน้อยๆ ส่ายหัวเพราะความที่ลูกไม่ได้ดั่งใจ
วันนี้ไม่ขอเม้าท์อะไรมากค่ะ ไปผ่าฟันคุดมาแล้วไข้ขึ้น ตอนนี้ระบมมาก แก้มบวมตุ่ย หมอบอกวันที่สามจะบวมเป็นพิเศษ ตอนนี้ที่บวมอยู่ยังไม่พิเศษอีกเหรอหมอออ ไข้ก็ขึ้นตาม ฮือออ ชีวิต
ตบตีด่าทออีพี่เขี้ยวแทนขุ่นแม่ได้เลยนะคะ ปากคอเราะร้ายกับคุณแม่นัก ช่วงเวลานี้ขุ่นแม่ยังด่ากลับมากไม่ได้ จะดื้อมากไม่ได้ กำลังอยู่ในช่วงควบคุมความประพฤติ ใครอึดอัดแทนแม่เรียว ด่าเลยค่ะ ด่าอีพี่เขี้ยวเลยค่ะ คิๆ
ตอนนี้พรีออเดอร์หนังสือพ่อเขี้ยวแม่เรียวใกล้หมดเวลาโอนเงินแล้ว ปิดโอนเงิน 16 พฤษภาคมค่ะ
ตอนพิเศษในเล่มแน่นมาก ประเด็นในตอนพิเศษจะเชื่อมต่อจากตอนหลักที่ลงเว็บเลยค่ะ ไม่ได้เขียนสตอรี่ขึ้นมาใหม่ ผู้ใดสนใจ เข้าไปอ่านรายละเอียดของทั้งสองคนพร้อมรายละเอียดของแถมได้ที่ >
พรีพ่อเขี้ยวแม่เรียว