*~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:  (อ่าน 279006 ครั้ง)

ออฟไลน์ phunpk

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แอบสงสารแจเร็ดอะ เรียวจันทร์นี่มีแต่ผชแซ่บๆมาติด งุ้ยยยยยยย

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8



คาถาที่ 27 :: Fragile time. (ช่วงเวลาที่แสนเปราะบาง) [ครึ่งแรก]



หลังจากผ่าเอากระสุนออกและทำแผลเรียบร้อย จอมทัพก็กลับมาบ้านพร้อมกับเรียวจันทร์ที่ยังคงเงียบมาตลอดทาง น้ำตาแห้งเหือดไปจากดวงตาคู่สวย ริมฝีปากด้านล่างมุมซ้ายแตกจนได้แผล มีเลือดแห้งกรังติดอยู่ตรงบริเวณนั้น รถตู้คันใหญ่จอดเทียบท่าหน้าบ้านเสี่ยจอมทัพ แต่เรียวจันทร์ยังคงนั่งนิ่ง

           

 

“ลงไป” จอมทัพสั่งเสียงทุ้ม เรียวจันทร์แค่หันไปมองนิ่ง ก่อนจะหันหน้าหนีและก้าวเท้าเดินลงไปจากรถ ตอนที่เท้ายืนบนพื้น โทรศัพท์มือถือของเรียวจันทร์ก็ดังขึ้น นางแหวกกระเป๋าและหยิบออกมาดู พอเห็นหน้าจอว่าเป็นเบอร์คมเขี้ยวโทรมาก็ดีใจรีบกดรับ

           

 

“ฮัลโหลเขี้ยวกุด!”

           

 

“คุณเรียว ดินเองครับ เป็นยังไงบ้าง” แว้บแรกเรียวจันทร์ใจแป้วที่ไม่ใช่เสียงของคนที่อยากได้ยิน แต่สักพักนางก็ปัดทิ้งเพราะน้ำเสียงของปฐพีที่ดังมาตามสายแสดงออกถึงความห่วงใย

           

 

“ฉันยังโอเค พี่ชายของดินเป็นยังไงบ้าง”

           

 

“อยู่โรงพยาบาลครับ กำลังทำแผล คุณเรียวแน่ใจนะครับว่าโอเค” พอดินถามจี้แบบนั้น เรียวจันทร์ก็น้ำตาเอ่อ กำลังจะอ้าปากพูดต่อแต่โทรศัพท์ก็หลุดจากมือ เรียวจันทร์หันไปมองอย่างตกใจ

           

 

“เอามือถือฉันคืนมา!!” เรียวจันทร์แผดเสียง เป็นเสียงสุดท้ายที่ดินได้ยินก่อนที่สายจะตัดไป

           

 

“ระริกระรี้เหลือเกินนะ” จอมทัพว่าอย่างหมั่นไส้

           

 

“ก็แล้วจะทำไม ฉันก็แรดของฉันอย่างเนี้ย รับไม่ได้ก็ปล่อยฉันไป ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่กับคุณ!”

           

 

“ผมปล่อยคุณแน่ แต่ต้องเป็นตอนที่ผมเบื่อคุณแล้ว” จอมทัพว่าหน้าตาย พูดอย่างไม่สะท้าน เรียวจันทร์กัดฟันแน่นจ้องจอมทัพอย่างโมโห

           

 

“บ้านฉัน คุณเอาไปจริงๆ รึเปล่า” นางกัดฟันถาม ก่อนหน้านี้สติแตกเลยไม่ทันฉุกคิดว่าจอมทัพอาจจะแค่ขู่ เพราะระหว่างทางมานางคิดได้ว่า โฉนดที่ดินนางเก็บไว้คนเดียวไม่ได้บอกใคร

           

 

“ถึงไม่ได้เอามาตอนนี้ แต่ถ้าผมอยากได้ คุณก็ต้องเอามาให้ผม” เรียวจันทร์เหยียดยิ้ม ในใจโล่งอกที่บ้านตัวเองยังปลอดภัย

           

 

“ฉันไม่ให้ ก็เหมือนที่ฉันจะไม่ให้ที่ดินตรงนั้นกับคุณ” จอมทัพเบะปากเบาๆ ยักคิ้วเหมือนไม่คิดไรมาก

           

 

“งั้นก็อย่าเผลอใจอ่อนยกให้แม่คุณก็แล้วกัน” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว สีหน้ามีความไม่เข้าใจ

           

 

“แม่ฉันเกี่ยวอะไร นางอยากได้ที่ดินตรงนั้นด้วยรึไง” จอมทัพยื่นมือขวาไปดึงข้อมือเรียวจันทร์แล้วลากเข้าไปในบ้าน พาเข้าไปในห้องนั่งเล่นมุมโปรดของตัวเอง

           

 

“พวกมึงเข้ามาให้หมด” จอมทัพบอกเสียงกังวานหลังจากยืนอยู่กลางห้อง เรียวจันทร์ยืนหน้างงๆ สลับมองจอมทัพกับลูกน้องของอีกฝ่ายที่เดินเข้ามาในห้องเกือบสิบคน

           

 

“ไอ้แม็คมานี่” ลูกน้องที่เรียวจันทร์คุ้นตาที่สุดก้าวเท้าเดินออกมา สีหน้าและแววตาแสดงออกถึงความไม่มั่นคงทางอารมณ์ จอมทัพเดินเข้าไปใกล้ลูกน้องและยกมือข้างที่ไม่เจ็บขึ้นชกหน้าอีกฝ่ายเต็มแรง ลูกน้องคนอื่นที่ตอนแรกว่านิ่งๆ ถึงกับตกใจไปตามๆ กัน เรียวจันทร์ยกสองมือป้องปาก ตกใจหน้าเหวอยิ่งกว่าใคร

           

 

“เสี่ย…” ผลั่ว!!

           

 

จอมทัพซัดเข้าที่จุดเดิมด้วยแรงอัดเท่าเดิมที่เพิ่มเติมคือเลือดตรงปากของไอ้แม็ค เจ้าตัวมีสีหน้างง แต่ในขณะเดียวกันก็ผสมความหวาดกลัว จอมทัพยิ้มอ่อน แววตาวาววับ พอลูกน้องตัวเองตั้งหลักได้ จอมทัพก็ใช้หลังมือขวาซัดเข้าที่แก้มขวาของอีกฝ่ายเต็มหลังมือจนไอ้แม็คหน้าหันราวกับที่แขนไม่ได้มีแผลถูกยิงเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว

           

 

“มึงว่ากูโง่มั้ย” ไอ้แม็คที่ตอนนี้เลือดเลอะปากเป็นหย่อมๆ ค่อยๆ ตั้งตัวตรงๆ มองเสี่ยอย่างนอบน้อม

           

 

“มะ… ไม่ครับเสี่ย…” เพี๊ยะ!!

           

 

จอมทัพตบเข้าที่แก้มลูกน้องเต็มแรงจนอีกฝ่ายเกือบล้มลง แต่เพื่อนด้านหลังเข้ามาประคองไว้ทันเลยยังยืนอยู่ได้ ไอ้แม็คไอค่อกแค่กเล็กน้อย เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอสีหน้าตื่นตะลึงมองเหตุการณ์ตรงหน้า

           

 

“มึงพูดซิว่าอะไรที่ทำให้มึงกล้าทำในสิ่งที่ทำให้กูดูโง่” ลูกน้องจอมทัพมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่ก ไอ้แม็คกลืนน้ำลายผสมเลือดลงคอ มองเสี่ยอย่างหวาดกลัว

           

 

“ผม… ผมทำอะไรเหรอครับ…” เพี๊ยะ!!!

           

 

เรียวจันทร์สะดุ้งโหยงกับแรงตบรอบใหม่ที่มากกว่าเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัด เลือดสีแดงกระจายออกจากปากลูกน้องจอมทัพ พวกเพื่อนๆ ของฝ่ายนั้นช่วยกันจับร่างใหญ่หนาของแม็คไว้

           

 

“มึงพูดมา มึงรู้อยู่แล้วว่าคืออะไร” จอมทัพว่าเสียงเข้ม หน้าตาดุดันที่ทำเอาพวกลูกน้องไม่กล้าสบตา ไอ้แม็คตัวปัญหายืนหน้าเหยเกเล็กๆ เพราะเจ็บแผล ก้มหน้ามองพื้นสักแปบก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วพูดเสียงสั่น

           

 

“ผม… ผมหักหลังเสี่ยครับ” เร็วเกินใครจะห้าม จอมทัพยกเท้าถีบลูกน้องกระเด็นทะลุกำแพงคนด้านหลังไปกองเกือบหน้าประตู เรียวจันทร์เบิกตากว้างกับภาพที่เห็น ตาเสี่ยไม่ได้มาเล่นๆ จริงๆ

           

 

“ไปแบกมันกลับมานี่” จอมทัพไม่ตวาด ไม่เสียงดัง แต่สั่งอย่างน่าเกรงขาม ซึ่งพวกลูกน้องทำตามอย่างรวดเร็วไม่อิดออด ทุกคนเดินไปหิ้วปีกไอ้แม็คที่หน้าช้ำเลือด และคงช้ำตรงท้องไปด้วยแล้วขึ้นมา ลากมันให้กลับมายืนตรงหน้าเสี่ย

           

 

“มึงบอกเรียวจันทร์ไปว่าเขาเข้าใจอะไรผิดอยู่” เรียวจันทร์หันหน้างงปนตื่นกลัวไปมองจอมทัพที่ยืนหน้านิ่งเหี้ยม และหันกลับไปมองหน้าเละเลือดของลูกน้องจอมทัพ

           

 

“ฉันเข้าใจอะไรผิด” เรียวจันทร์ถามเสียงแผ่ว ไอ้แม็คหน้าแหยเพราะเจ็บแผล พยายามรวบรวมแรงพูดออกไป

           

 

“เสี่ยไม่ได้เป็นคนทำอะไรฟาร์มไอ้คมเขี้ยวครับ” สีหน้าเรียวจันทร์ยังเหมือนเดิม นางสะบัดหน้าไปมองจอมทัพที่มองกลับมาอย่างเฉยเมย

           

 

“แล้วใครทำ ก็ผู้หญิงคนนั้นบอกเจ้านายเธอจ้างเขา”

           

 

“ผมให้น้อยหน่าอ้างชื่อเสี่ยเองครับ” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ คิ้วขมวดฉับ งงเกือบจะเป็นไก่ตาแตก

           

 

“เอ้า แล้วทำไมต้องอ้าง อ้างชื่อตาเสี่ยเพื่อไร ก็ตาเสี่ยเป็นคนบงการไม่ใช่เหรอ”

           

 

“เปล่าครับ มีคนจ้างผมอีกทีและผมก็ไปจ้างน้อยหน่าต่อ…” เรียวจันทร์สตาฟหน้างงหน้านั้นไว้อย่างเดิม จอมทัพมองนางอย่างไม่ไหวติง

           

 

“…คนที่จ้างผมคือแม่คุณเรียวจันทร์ครับ” ใบหน้าของนางคลายความสงสัย กลายเป็นอึ้งในสิ่งที่ได้ยิน ลำตัวเย็นวาบอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นตัวชา ริมฝีปากล่างสั่นเพราะพยายามกลั้นน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อขึ้นที่ขอบตา

           

 

“แม่…” นางพูดได้เพียงเท่านั้น หน้าผู้หญิงคนนั้นวนเวียนอยู่ในหัว ความรู้สึกโกรธและขยะแขยงตีกันในอกจนว้าวุ่นใจ

           

 

“…ทำไมแม่อยากได้ที่ดินนั้น แม่จะเอาไปทำอะไร” นางหันไปถามลูกน้องจอมทัพเสียงเบา หน้าตาล่องลอย

           

 

“คงมีใครสักคนมีข้อแลกเปลี่ยนที่ล่อใจมาขอความร่วมมือ แล้วแม่คุณก็ตอบตกลง” หัวคิ้วของเรียวจันทร์ขยับเข้าหากันเล็กน้อยแล้วก็คลายออก

           

 

“แล้วใครล่ะ” สีหน้าของเรียวจันทร์ทั้งสับสนและโกรธเคือง นางกำลังพยายามเรียบเรียงว่าใครเป็นใคร อะไรเป็นอะไร สิ่งไหนส่งผลต่อคนไหนบ้าง

           

 

“ไว้ถ้าคำตอบมันชัดเจน ผมจะบอกให้รู้ก็แล้วกัน” เรียวจันทร์หันมองจอมทัพอย่างมึนงง รู้สึกเหนื่อยที่หัวใจ

           

 

“ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง ว่าแม่…” นางเม้มปาก พ่นลมหายใจสั้นๆ ความรู้สึกผิดหวังกับผู้หญิงคนนั้นโถมเข้าหานางจนปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกแย่

           

 

“ถ้าคุณรู้เรื่อง แผนเขาก็จะไม่ง่ายและโง่แบบที่เขาต้องการสิ” เรียวจันทร์มองจอมทัพตาลอยน้อยๆ

           

 

“แม่คุณน่ะเห็นแก่ตัวกว่าที่คุณคิด แต่ขนาดว่าเขาเห็นแก่ตัวกับคุณ คุณก็ยังใจดีเลี้ยงงูเห่าไว้ใกล้ตัว” ยิ่งคิดได้ว่าแม่ตัวเองมีเพียงสรรพนามนี้แทนชื่อเท่านั้น นอกนั้นคือผู้หญิงชั้นเลวคนหนึ่งเท่านั้น ใบหน้าสวยก็หมองลงถนัดตา

           

 

“แล้วทำไมคุณถึงไม่บอกฉันว่ารู้เรื่องที่ดินอยู่แล้ว” เรียวจันทร์เปลี่ยนเรื่อง เพราะเกรงว่าพูดถึงแม่ตัวเองตอนนี้จะยิ่งอยากบุกไปด่าทอแม่แรงๆ ให้หายแค้นใจ

           

 

จอมทัพหันไปหาลูกน้อง “พวกมึงเอาไอ้แม็คไปขังไว้ก่อน ไม่ต้องให้มันแดกข้าวแดกน้ำ”

           

 

พวกลูกน้องรับคำสั่งเจ้านายและพากันหิ้วปีกไอ้แม็คออกไปจากห้องนั่งเล่นของเสี่ย จอมทัพหันกลับไปหาเรียวจันทร์ที่สีหน้าเหนื่อยๆ

           

 

“ผมไม่ไว้ใจ…” เรียวจันทร์ทำหน้าไม่เข้าใจ จอมทัพเดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาว เรียวจันทร์ยังคงยืนมองเจ้าของบ้านตามเดิม

 

 

“…คุณเลี้ยงงูเห่าอย่างแม่คุณไว้ ถึงคุณจะทำท่าต่อต้านเขา แต่คุณก็ใจดีเกินไป”

 

 

“ฉันใจดีแล้วเกี่ยวอะไร ก็ฉันสวยอะ” จอมทัพกระตุกยิ้มมุมปาก แม้จะบอกว่าตัวเองสวยแต่หน้าตาของคนพูดช่างเหนื่อยล้าและระทม

 

 

“หนี้ตั้งกี่สิบล้านบาทคุณก็ตามเช็ดตามล้างให้แม่ เกิดคุณได้ที่ดินคืน คุณยกให้แม่ง่ายๆ ผมก็แห้ว…” เรียวจันทร์ย่นคิ้ว กลอกตาไปซ้ายทีขวาที

 

 

“…คุณไม่ได้รัก ไม่มีความผูกพันกับที่นั่น ผมไม่รู้ว่าคุณจะโยนมันทิ้งรึเปล่า”

 

 

“ถ้างั้นฉันก็ขอขอบคุณที่ส่งฉันเข้าไปที่นั่น เพราะตอนนี้ฉันรักและผูกพันกับที่นั่นมาก” อันนี้นางกึ่งประชดและขอบคุณจริงๆ ถ้าจอมทัพไม่ได้อยากได้ที่ดินตรงนั้น และไม่คิดแผนอันไร้ตรรกะที่จะให้นางจับคมเขี้ยว (ซึ่งนางก็เห็นดีเห็นงามด้วย) นางก็คงไม่อินกับฟาร์มนั้น และไม่ได้คมเขี้ยวเป็นผัวกวนตัวกวนใจแบบนี้

 

 

“นี่คือข้อผิดพลาดของผม…” จอมทัพกระตุกยิ้ม สักพักก็ยักไหล่ขวา “…แต่คนเราก็มีข้อผิดพลาดกันทุกคนแหละนะ”

 

 

เรียวจันทร์พ่นลมหายใจ หน้าตาเหนื่อยล้า เป็นห่วงคมเขี้ยวก็ห่วง อยากจะคุยกับแม่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนให้กำเนิดนางมาให้รู้เรื่องก็อยากทำ แต่ตอนนี้นางกำลังจะถูกจองจำ ซึ่งไม่รู้ว่าต้องอีกนานแค่ไหนอีตาเสี่ยถึงจะเบื่อนาง ไม่เคยอยากให้ใครเบื่อนางมากขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ

 

 

“ฉันจะกลับบ้าน” นางบอกเสียงระโหยโรยแรง

 

 

“ผมว่าผมชัดเจนแล้วนะว่าคุณต้องอยู่ที่ไหน” จอมทัพพูดเหมือนพูดเรื่องทั่วไป เรียวจันทร์เหลือบมองอย่างขุ่นเคือง

 

 

“ฉันจะกลับ แล้วฉันจะเอาเงินมาให้ จะได้จบๆ กันไป พูดให้มันรู้เรื่องบ้างตาเสี่ย” จอมทัพยิ้มเยาะมุมปาก เอนหลังกับพนักโซฟาด้วยท่าทีสบายๆ

 

 

“คุณไปก็ได้ คุณจะไม่มีอันตรายใดๆ แต่ผมไม่รับประกันว่าบ้านผัวคุณที่คุณรักนักหนาจะปลอดภัยมั้ย” เรียวจันทร์เพ่งมองจอมทัพตาขวาง ในอกรู้สึกคับแค้นเหลือเกินกับวิธีการนี้ของอีกฝ่าย

 

 

“ทุเรศ ไหนว่ายิ่งใหญ่นักหนาทำไมใช้มุกหมาฝังกระดูกใต้ดินแบบนี้” จอมทัพทำสีหน้าว่าไม่แคร์

 

 

“บางครั้งมุกง่ายๆ โง่ๆ แบบที่แม่คุณทำมันก็สนุกดีนะ” เสี่ยยักคิ้วกวนตีน เรียวจันทร์นึกอยากเอาตีนเหยียบคิ้วเข้มๆ นั่นสักที

 

 

“แต่ฉันไม่สนุกด้วย!” เรียวจันทร์บิดปากหน้าเอือม มุกเมิกหมาแมวอะไรล่ะ โดนตบจนเลือดเกรอะกรังอยู่ที่ปากแบบนี้คงมีใจอยากอยู่ใกล้อีตาเสี่ยหรอกนะ

 

 

“ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าคุณต้องสนุก…” จอมทัพลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองเรียวจันทร์ด้วยสายตาคล้ายว่าจะเอ็นดู แต่เรียวจันทร์รู้ว่ามันไม่ใช่ มันเป็นสายตาจ้องจะตัดเอ็นนางขาดมากกว่า

 

 

“…แต่ถ้าคุณอยากสนุกก็ลองกลับไปหาไอ้คมเขี้ยวดูสิ” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแน่นและจ้องจอมทัพตาแข็ง คนตัวสูงโยนโทรศัพท์คืนให้เรียวจันทร์ คุณนายรีบยกสองมือไปคว้าตามสัญชาตญาณ ถลึงตามองตามไอ้คนที่เดินตัวปลิวชิลๆ ออกไปจากห้องนั่งเล่นก่อนจะตะโกนลั่นบ้าน

 

 

“ห้องคุณก็ห้องผม คุณคุ้นอยู่แล้วนะ”

 

 

“ฉันจะนอนข้างล่าง!”

 

 

“งั้นเดี๋ยวผมอยู่ข้างบนให้” ตอนแรกเรียวจันทร์ทำหน้างง แต่ครู่สั้นๆ ก็เก็ทว่าไอ้เสี่ยมันสื่อถึงอะไร นางกัดฟันเข่นเขี้ยวมองไอ้เสี่ยบ้าอำนาจเดินหายลับไปจากห้องนั่งเล่น

 

 

เรียวจันทร์พ่นลมหายใจแผ่วเบา นั่งเหม่อมองพื้นสักแปบเพื่อเรียกสติให้กลับมา นางหลับตาลง พ่นลมหายใจยาวๆ เพื่อระบายความรู้สึกหนักอึ้งทั้งหลายให้ออกไปจากอกจากสมอง แต่ก็ดูไม่ค่อยจะได้ผลดีสักเท่าไหร่ มือบางหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาเป็ดก่อนเป็นอันดับแรก รอสายอยู่พักใหญ่เป็ดถึงกดรับ

 

 

[ว่ายังไงคะ] เรียวจันทร์มึนไปสักแปบว่าจะเริ่มอะไรตรงไหนดี สุดท้ายตัดสิ่งที่จะเล่าออกและพูดถึงสิ่งที่อยากให้เป็ดทำให้ก่อน

 

 

“เป็ด เรื่องที่เกิดขึ้นมันยาวมาก ไว้ฉันจะเล่าให้ฟัง แต่พรุ่งนี้ ถ้าแกว่างงานตอนไหนหรือลาได้ ฉันวานแกไปรับพวกป้าอุ่นไปบ้านเขี้ยวหน่อยได้มั้ย” เรียวจันทร์พูดอย่างอ่อนแรง หน้ากระตุกเหยเกเป็นระยะเพราะเจ็บแผลที่มุมปาก

 

 

[ทำไมวะแก รับไปที่นั่นทำไมอะ] เป็ดถามด้วยความสงสัย แน่ล่ะถ้าไม่สงสัยก็คงแปลกที่จู่ๆ เพื่อนก็โทรมาบอกแบบนี้

 

 

“ตอนนี้มันก็สะดวกเล่านั่นแหละ แต่สติฉันยังไม่พร้อม ที่ฉันอยากขอแกคือ ไปรับพวกป้าอุ่นออกมาจากบ้าน พาไปฝากไว้ที่บ้านเขี้ยว บอกคุณป๋ากับคุณแม่ว่าฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกป้าอุ่น อยู่ที่ฟาร์มจะดีที่สุด”

 

 

[อ้าว แล้วแกอะ แกไม่ไปเหรอ แกอยู่ไหนเนี่ย]

 

 

“อยู่กับเสี่ยจอมทัพ มันยังคับให้ฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่กล้าออกไปไหน เพราะตาเสี่ยขู่จะทำร้ายฟาร์ม” เป็ดที่อยู่อีกฟากอ้าปากหวอด้วยอวามตะลึง

 

 

[มายพระเจ้า เสี่ยจะทำร้ายฟาร์ม อะไรยังไงเนี่ย เสี่ยแผลงฤทธิ์เหรอ] เรียวจันทร์ถอนหายใจหน้าเซ็ง

 

 

“อือ เขาไม่ได้นุ่งขาวห่มขาวแบบที่แกว่าจริงๆ นั่นแหละ” อันนี้เป็ดพอจะเดาได้แล้วว่าเพื่อนคงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

 

 

[โอเคแก เดี๋ยวฉันจัดการให้ แกต้องการให้ใครไปช่วยแกออกมามั้ย]

 

 

“อย่าเป็ด จอมทัพใจร้ายกว่าที่คิด รอเวลาอีกสักแปบ ฉันจะออกไปเองให้ได้”

 

 

[แกมีหนทางออกมาแล้วเหรอ] เจอคำถามนี้เข้าไปเรียวจันทร์ก็หน้าเครียดเบาๆ

 

 

“ยังหรอก แต่ตอนนี้เสี่ยมันอยากเอาชนะฉัน ต้องยอมแพ้มันไปก่อน” ได้ยินเสียงหายของเพื่อนดังมาตามสาย

 

 

[ลำบากใจยังไงให้บอก บางทีทางออกของแกอาจจะผิดอยู่ได้] เรียวจันทร์รับคำเพื่อน ก่อนจะฝากให้ช่วยดูแลพวกป้าอุ่นและช่วยไปดูคมเขี้ยวแทนนางด้วย คุณนายวางสายจากเป็ดและรีบกดโทรหาคนที่นางเพิ่งฝากเป็ดดูแลไปเมื่อกี้นี้ทันที รอสัญญาณอยู่นานมากก็ไม่รับสาย นางเลยกดโทรไปใหม่อีกครั้งก็ยังไม่รับสายจนเรียวจันทร์ใจไม่ดี แต่รอบที่สามที่โทรไปก็ได้ยินเสียงคนที่นางเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้

 

 

[โทรมาทำไม] นางจะถือว่าคมเขี้ยวประชดเพราะโกรธนางอยู่

 

 

“โทรมาก็เพราะเป็นห่วงไง ไอ้เขี้ยวหัก” น้ำตานางเอ่อคลอ ดีใจที่ได้ยินเสียงของคนที่ตนรัก น้ำเสียงแดกดันแบบนี้แสดงว่าเป็นปกติดีแล้ว

 

 

[ห่วงแล้วไปทำไม] เรียวจันทร์หน้าหม่นน้ำตาร่วงหยดลงบนแก้มหนึ่งเม็ด

 

 

“ก็เพราะห่วงไง”

 

 

[ห่วงใคร ห่วงผมหรือห่วงตัวเอง] คราวนี้น้ำตาไหลอาบแก้มนวลด้วยความรู้สึกที่โดนจี้ใจดำ

 

 

ยอมรับเถอะว่าคุณรักตัวเองมากกว่ารักมัน

 

 

“พี่เขี้ยว หนูห่วงพี่ ห่วงทุกคนที่ฟาร์ม แต่หนู…”

 

 

[…แต่ก็ห่วงความเป็นอยู่ของตัวเองมากกว่า] เรียวจันทร์เม้มปาก ไม่กล้าเถียงคอเป็นเอ็นตามนิสัย ก็ที่พูดมามันก็มีส่วนจริงเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์น่ะสิ

 

 

[ไม่ต้องห่วง ยังไม่ตาย สบายใจแล้วก็แค่นี้] คมเขี้ยวตัดสายเรียวจันทร์ ทิ้งให้คุณนายนั่งหน้าเศร้าเคล้าน้ำตา แต่ก็ไม่ได้ไหลพรากอาบแก้ม แค่เอ่อคลอและหยดแหมะ เรียวจันทร์ยกสองมือขึ้นปาดหยดน้ำตาออกจากแก้ม นางหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความหาคมเขี้ยว

 

 

‘รอก่อนนะ หนูจะกลับไปง้อพี่เขี้ยว’

 

 

ส่งเสร็จก็พ่นลมหายใจ หน้าตาเหนื่อยล้า นางค่อยๆ เอนตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาว เอาหัวหนุนหมอนโซฟาไว้ งอขาเล็กน้อย วางมือถือลงบนโซฟาเดี่ยวสำหรับวางขา จังหวะที่กำลังจะหลับตาลง โทรศัพท์มือถือก็สั่นครืด นางหยิบขึ้นมากดเปิดดูก็เห็นข้อความจากคมเขี้ยว

 

 

‘ไม่ต้อง’ หัวใจของเรียวจันทร์กระตุกวาบ นางหลับตาลง ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจระบายความใจไม่ดีออกไป นางจะถือว่าคมเขี้ยวประชดเพราะกำลังงอนอยู่ก็แล้วกัน เพราะอย่างน้อยฝ่ายนั้นก็ยังตอบข้อความนางกลับมา แม้จะเป็นข้อความแหกหน้าก็เถอะ

 

 

 “คุณเรียวครับ เสี่ยเรียกขึ้นไปบนห้อง” เรียวจันทร์ที่กำลังจะเอนตัวนอนลงบนโซฟาถึงกับค้างกลางอากาศ นางบิดปากเซ็ง

 

 

“เรียกไปทำไม ฉันจะนอนนี่”

 

 

“เสี่ยบอกว่าให้ไปช่วยเสี่ยอาบน้ำครับ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้ว มองหน้าลูกน้องจอมทัพที่พยักหน้ายืนยันคำพูดนั้นอีกที

 

 

“แขนเขาคงไม่ถึงขั้นพิการหรอกมั้ง อาบเองไม่เป็นรึไง” นางถามกระแทกเสียงด้วยความหงุดหงิด

 

 

“ผมรับคำสั่งมาแค่นี้ เชิญคุณเรียวจันทร์เถอะครับ” คุณนายนางถอนหายใจยาวๆ แล้วลุกขึ้นยืน เดินก้าวเท้าสับๆ ออกไปด้านนอกห้อง

 

 

ไอ้เสี่ยสำออย ผัวก็ไม่ใช่แค่คนได้กัน ผัวตัวจริง ฉันยังไม่ได้ดูแลเขาเลย โอ๊ย!

 





เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้



TT___TT

ต่างคนต่างมีเหตุผลเป็นของตนเอง เพียงแต่เหตุผลของแต่ละคนยังใช้กับอีกคนในช่วงเวลานี้ไม่ได้เท่านั้นเอง ทุกอย่างดูพร้อมจะแตกง่ายเหลือเกิน

พ่อเขี้ยวก็รักแม่เรียว แต่ก็น้อยใจที่เอาหัวใจตัวเองไปล้อเล่น แม่เรียวก็ทั้งห่วงบ้านตัวเองและห่วงคมเขี้ยว จะตัดใจอย่างใดอย่างนึงก็ไม่ใช่เรื่องง่าย บ้านก็เป็นความทรงจำที่มีค่าของแม่ พี่เขี้ยวก็เป็นความรักที่มีค่าของแม่เช่นกัน

ช่วงเวลายากลำบากนี้ต้องผ่านไปได้นะเจ้าค่ะเจ้านางเรียว อดทนเวลาที่ฝนพรำ เมื่อวันเวลาที่ฝนจางงง ฟ้าก็คงสว่างงงและทำให้เราได้เข้าใจจจจ

เรื่องโรสิตา สำหรับตอมเป็นประเด็นที่อ่อนไหวในสังคมบ้านเราเนอะ ด้วยความเป็นแม่อะ แต่ชีวิตจริงที่เคยเห็นจากข่าว มีแม่ที่โหดร้ายกว่าแม่อย่างโรสิตานัก ขอให้แม่เรียวพ้นทุกข์จากผู้หญิงคนนี้เร็วๆ นะคะ



ตอนนี้ขุ่นแม่เรียวกับขุ่นพ่อเขี้ยวกำลังเปิดพรีออเดอร์ตัวเองในรูปแบบหนังสือนะคะ ตอนพิเศษในเล่มแน่นมากกกก ผู้ใดสนใจ เข้าไปอ่านรายละเอียดของทั้งสองคนได้ที่ > พรีขุ่นแม่ขุ่นพ่อ

ออฟไลน์ poommy_TY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารขุ่นแม่เรียวไม่ไหงแล้วค่ะ หมั่นไส้อีเสี่ยมาก เกลียดด้วย คือบังคับอะไรเบอร์นี้ อิบ้าาาาาาาาา

เกลียดแม่ของขุ่นแม่เรียวด้วย เห็นแก่ตัวระดับเยียวยาไม่ได้ ฮือออออออ

ตอนนี้เหมือนทุกสิ่งรุมเร้าขุ่นแม่
แม่ตัวเองก็งูพิษ อีเสี่ยก็บังคับกักขัง
หนี้ก็มี บ้านก็ต้องระวัง ผัวก็งอน
เหมือนทุกสิ่งโหมกระหน่ำใส่ขุ่นแม่
สงสาร อึมครึมเหลือเกิน คลี่คลายเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
สงสารขุ่นแม่เรียวมากกก เจอมรสุมตลอดเลย นะมีความสุขก็ไม่เต็มที่ อยากจะยุให้นางตัดแม่ตัดลูกไป แม่อะไรเลวขนาด แล้วนางจะมีโอก่สกลับไปหาพี่เขี้ยวมั้ยเนี่ย ท่าทางอิเสี้ยก็บ้าๆบอๆ ไม่ได้รักแต่หวงไว้เพื่ออะไร หรืออยากจะได้ที่ดินผืนนั้นมากจ๊น! เกลียดอิเสี่ย

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
คนที่อยากได้ที่ คือคนที่มาบอกว่าเป็นพ่อจริงๆของเรียวรึเปล่า ??

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
พี่เขี้ยวเข้าใจคุณนายหน่อย  :ling3:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
งานของคุณตอมมีความจริงสอดแทรกอยู่ในเรื่องอยู่มากมาย เราเข้าใจในการกระทำของแม่เรียวน่ะ แม่ยืนยัดด้วยตัวเองมาโดยตลอดบ้านก้อเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างเป็นตัวแทนหลาย ๆ อย่างในความคิดของนาง เมื่อเสียไปทุกอย่างที่เฝ้าทำเฝ้าเหนื่อยมาตลอดก้อเหมือนจะสูญสลายไป กับความรักที่พึ่งจะเข้ามาจริงจังในชีวิตได้ไม่เท่าไหร่ เรียกได้ว่าเพียงแค่อึดใจเดียวในชีวิตก้อว่าได้ นางเหมือนคนที่อยู่ในโลกของความจริง นางจึงเลือกที่จะทำเช่นนี้ในเวลาที่จำกัด คนเราก้อมักจะเลือกในสิ่งที่ตัวเองผูกพันมาตลอดชีวิตก่อนเป็นอันดับแรก และเราก้อเข้าใจคมเขี้ยวด้วยน่ะตลอดชีวิตไม่เคยรักใครจริงจังแถมยังไม่เคยคิดจะรักผู้ชายด้วยกันอีกพอมาเปลี่ยนขั้วคิดจริงจังกับความรักก้อเจอทีเด็ดแบบนี้อีก ทุกอย่างเหมือนล่มสลายภายในพริบตาไม่แปลกที่จะแสดงออกแบบนี้ เราคนอ่านเองยังรู้สึกว่ารับไม่ได้กับทางเลือกของแม่เรียว ยอมรับมาก ๆ ว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่ไปลำบากมาก ๆ สำหรับเราน่ะ มันเหมือนหาความหวานไม่เจอ ความแรงของนางก้อไม่เข้าตาเราเท่าไหร่ เราชอบแบบเคะราชินีที่กำทุกอย่างไว้ในมือได้ แต่แม่เรียวเหมือนโดนกระทำตลอดแม้นางจะแรงแต่ก้อดูเหมือนน่าสงสารมากกว่าน่ะ เราอ่านแล้วเกือบจะทิ้งหลายรอบแหละ แล้วยิ่งมาเจอกับการเลือกครั้งนี้ของแม่เรียวก้อเลยเข้าใจความรู้สึกของคมเขี้ยวมาก ๆ อยากให้เสี่ยเป็นพระเอกไปเลยน่ะ รู้สึกเสี่ยแรงมาก ๆ พี่เขี้ยวกลายเป็นแมวน้อยไปเลยอ่ะ  :เฮ้อ: ระบายมาซะเยอะ แค่จะบอกว่า.... :mew2:

ออฟไลน์ Lunar_lustre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มีความเข้าใจแม่เรียวนะ สิ่งที่นางเลือกไม่ใช่บ้านนะ แต่คือความทรงจำที่มีค่าระหว่างนางกับพ่อต่างหาก ในทางกลับกัน ถ้าลองให้เขี้ยวทิ้งไร่ทั้งหมด ทิ้งคนงาน ทิ้งสิ่งที่พ่อสร้างมาแล้วเข้ากรุงมาอยู่กะเรียวนางจะเอามั้ยล่ะ ด้วยนิสัยแบบเขี้ยว ไม่มีทาง! ยิ่งอ่านยิ่งคิดว่าเขี้ยวกุดไม่เหมาะกับเรียวเลย เสี่ยเองอย่างน้อยก็มีความเข้าใจให้นางในระดับนึงถึงจะบังคับก็เถอะ แต่เขี้ยวมีความเอาแต่ใจ ไม่คิดถึงคนอื่นมากๆ  ถ้าเขียวหักยังไม่ปรับปรุงเราจะเทละนะ สนับสนุนให้แม่เรียวเคี้ยวเล่นๆแล้วทิ้งไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเอามันละ ผู้ชายพวกนี้ดีแต่เห็นแก่ตัวทั้งนั้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
กรรม ทำไมเรารู้สึกเสี่ยกับเรียวเคมีเข้ากัน แต่คือเรียวรักเขี้ยวไง=_=  แล้วอันที่จริงเสี่ยก็ไม่ได้ได้เสียอะไรก็แลไม่เลวร้ายมากยกเว้นที่ตบแม่เรียวในตอนที่ผ่านมา   คนที่อยากได้ที่ดินที่เสนอให้แม่ของเรียวก็อาจจะเป็นเจ้าสัววิโรจน์ที่จู่ๆก็โผล่มานั่นรึเปล่า  ไม่มีใครน่าไว้ใจสักคน   คือถ้าเรื่องนี้นางเอกไม่ใช่แม่เรียวคงดราม่าเลยแหละชีปมเยอะเกิน555 รอติดตามต่อไปนะ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8



คาถาที่ 27 [ครึ่งหลัง]



เช้าวันถัดมา เรียวจันทร์ยังคงอยู่ในชุดเดิม และแผลก็ยังคงเดิม นางไม่ยอมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ได้ทำเพราะทระนงแต่อย่างใด แต่ทำไปเพราะอยากประชดล้วนๆ จอมทัพก็หน้ามึนพอที่จะทำเฉยขอนอนกอดนางตอนนอน แต่เรียวจันทร์ไม่ยอม นางแสดงอารยะขัดขืนด้วยการนอนโซฟาในห้องนอนของเสี่ย



“ฉันจะกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า”



“อาบที่นี่ เปลี่ยนที่นี่ก็ได้ ทำอย่างกับไม่เคย” จอมทัพบอกพลางตักข้าวต้มเข้าปากอย่างสบายๆ เรียวจันทร์ย่นคิ้วมองอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ



“ฉันไม่มีเสื้อผ้า พวกออพชั่นเสริมอาบน้ำฉันอีก”



“อยากได้อะไรไปซื้อเอา” เรียวจันทร์ชักสีหน้าไม่พอใจ



“เสี่ย อย่าเยอะ อย่ามาทำเป็นหวงฉันจะเป็นจะตายได้มั้ย น่ารำคาญ” จอมทัพเหลือบมอง วางช้อนลงอย่างเบามือ เรียวจันทร์จ้องเขม็งอย่างไม่ยอม



“ก็ได้…” เรียวจันทร์ทำหน้าเอือม ยกสองแขนกอดอกออกอาการเอาแต่ใจ



“…เอากุญแจรถให้เรียวจันทร์” เสี่ยหันไปสั่งลูกน้องเรียบๆ ลูกน้องคนนั้นผงกหัวลงหนึ่งทีและเดินเข้ามาหาเรียวจันทร์พร้อมกับยื่นกุญแจรถให้นาง



“ขอบใจที่ยังมีเมตตา” นางว่าอย่างประชด ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนหัวเข่ากระแทกกับขอบโต๊ะ หน้าที่เก๊กสวยเชิดทระนงเมื่อครู่ถึงกับทลายลงเพราะความเจ็บจี๊ด จอมทัพหัวเราะหึ เรียวจันทร์พยายามกอบกู้หน้ากลับมา นางค่อยๆ พาร่างตัวเองออกจากเก้าอี้



“ผมจะออกไปข้างนอก กลับมาผมควรจะได้เห็นหน้าคุณ”



“แล้วคุณกลับมากี่โมงล่ะคะ” นางถามเสียงประชด หน้าตาจิกกัดจอมทัพเต็มที่



“ตอบไม่ได้…” จอมทัพมองนิ่งแล้วว่าต่อ “…คุณควรรู้ตัวว่าควรอยู่หรือไม่ควรอยู่ที่ไหน ถ้าคิดจะไปหาไอ้คม…”



“ฉันไม่ได้คิดจะไปย่ะ!” นางแหว ถลึงตามองอย่างหงุดหงิด จอมทัพบึนปากน้อยๆ เลิกคิ้วขึ้นเร็วๆ หนึ่งที



“คุณไม่ใช่คนโง่ คงรู้นะ” คุณนายมองเสี่ยตาขวาง มือขวาที่ไม่ได้ถือกุญแจกำๆ คลายๆ อยู่หลายรอบก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากห้องกินข้าว จอมทัพมองตามด้วยแววตาที่ไม่อาจคาดเดาความคิด



“ให้ผมตามไปมั้ยครับ” จอมทัพสั่นหัวให้ลูกน้องน้อยๆ



“ไม่ต้อง” ว่าจบก็ตักข้าวต้มกินต่อได้อย่างต่อเนื่องราวกับเมื่อกี้ไม่ได้มีอะไรมาขัด



เรียวจันทร์เดินกระแทกเท้าออกมาจากบ้านจอมทัพด้วยอาการหงุดหงิดที่อยากจะกรี๊ดและกระทืบเท้าเร่าๆ ให้พื้นบ้านไอ้เสี่ยพัง แต่ที่ทำได้คือยืนนิ่งสงบสติอารมณ์ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและผ่อนออกมาช้าๆ ก่อนจะเปิดประตูรถและเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ สตาร์ทรถปิดประตูได้ก็ขับออกไป เป้าหมายของนางคือฟาร์มอรุณพยัคฆ์



ฉันไม่ได้คิด แต่ฉันไปจริงๆ ย่ะไอ้เสี่ย!







เรียวจันทร์เหยียบเท่าที่จะทำให้ใจที่ร้อนนั้นเย็นลงได้ นางขับแหกการจราจรของไทยมาตั้งแต่กรุงเทพฯ จนกระทั่งเข้าเขตเขาใหญ่ ป่านนี้ตำรวจไม่รู้กี่ด่านคงเข้าแถวเรียงคิวรอพบนางกันยาวเหยียด นางขับมาถึงบริเวณฟาร์มก็รีบเลี้ยวเข้าประตูอย่างรวดเร็ว เพิ่งจากไปเมื่อวานแต่พอกลับมาอีกทีทำไมถึงรู้สึกเหมือนจากที่นี่ไปนานมากก็ไม่รู้



เรียวจันทร์จอดรถที่หน้าบ้านใหญ่ พอลงมาจากรถก็ยืนงงสักแปบว่าจะต้องไปทางไหนเพราะไม่แน่ใจว่าคมเขี้ยวจะอยู่ส่วนไหนของฟาร์ม เรียวจันทร์หันไปมองรอบตัวแบบงงๆ แล้วก็ตัดสินใจเดินเข้าไปดูในบ้านก่อนเป็นที่แรก นางก้าวเท้าขึ้นบันไดอย่างเร็ว พอขึ้นมาบนบ้านก็เจอแต่ความโล่งและความเงียบ ร่างเล็กมองซ้ายมองขวาสักพักแล้วค่อยก้าวเดินไปทางห้องนอนของคมเขี้ยว เปิดประตูเข้าไปก็เจอเจ้าของห้องกำลังพยายามถอดเสื้อยืดที่ไว้ใส่นอนออกจากตัวอย่างทุลักทุเล นางปิดประตูเบาๆ เดินเข้าไปหาร่างสูง และช่วยดึงเสื้อยืดจนหลุดออกจากหัวคมเขี้ยว



วินาทีที่เสื้อหลุดไปอยู่ในมือเรียวจันทร์ ทั้งสองก็มองตากัน เรียวจันทร์มองด้วยสายตาหวาดหวั่น คมเขี้ยวก้มมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้มีแผลตรงมุมปากนิ่ง



“เพิ่งตื่นเหรอ” เรียวจันทร์เป็นคนทำลายความเงียบชวนอึดอัดนั้นลง นางเลื่อนสายตาไปมองต้นแขนขวาที่มีผ้าพันแผลสีขาวที่มีเลือดซึมหน่อยๆ แล้วก็กลับมามองหน้าอิดโรยของคมเขี้ยวตามเดิม มือบางยกขึ้นแตะหน้าผากและจับกรอบหน้าคม



“ตัวร้อน นายไม่สบายเหรอ” คมเขี้ยวไม่ตอบ แต่เบี่ยงหน้าหลบมือนุ่มนิ่ม เจ้าของมือใจกระตุกวูบ ลดมือลงไว้ข้างตัวและพยายามประคองสติตัวเองให้อยู่กับร่องกับรอย



“ออกไป” นั่นคือคำแรกที่คมเขี้ยวเอ่ยบอกอย่างเย็นชา เรียวจันทร์เชิดหน้าขึ้นนิดหนึ่งแม้จะรู้สึกร้าวเล็กๆ



“ไม่ จะอาบน้ำใช่มั้ย  ฉันจะช่วยอาบ”



“อย่ายุ่ง” ถ้าความหน้าด้านในตัวนางไม่มีมากพอ นางคงต้องน้ำตาคลอกับประโยคเน้นชัดเจนแบบนี้จากผู้ชายที่ตัวเองรักแล้วแน่ๆ แต่แม้จะหน้าด้าน ก็แอบรู้สึกใจสั่นกับอาการเหินห่างแบบนี้อยู่เหมือนกันนะ



“ฉันจะยุ่ง นายห้ามไม่ได้หรอก ฉันมันตัวยุ่ง ตัวขี้เสือกอยู่แล้ว” เรียวจันทร์ว่าอย่างดื้อดึง มองหน้าตายไร้อารมณ์ของคมเขี้ยวและแววตาที่ไม่ตอบสนองใดๆ



“รำคาญ ไปไหนก็ไป” คมเขี้ยวเริ่มหน้าดุเสียงดุขึ้น มองเรียวจันทร์อย่างอดทนอดกลั้น เรียวจันทร์เองก็พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา



“เขี้ยวกุด ฉันเป็นห่วงนายนะ…”



“…ผมขอให้คุณอยู่แล้ว แต่คุณก็ไป แล้วจะกลับมาทำไม ไปก็ไปให้ไกล” คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์อย่างไร้ความรู้สึกเกินไปจนเรียวจันทร์ทั้งใจไม่ดีและหงุดหงิดกับท่าทีนี้



“ฉันเป็นห่วง ที่ไปก็เพราะห่วง ที่กลับมาก็เพราะห่วง อย่ามาทำซื่อบื้อจะได้มั้ยเล่า!” นางว่าอย่างโมโหแต่ก็พยายามไม่วีนใส่คนตรงหน้า น้ำตาที่ไม่ทันห้าม หยดแหมะลงบนแก้ม เรียวจันทร์รีบยกมือขึ้นเช็ดออกไป



“ห่วงผมหรือห่วงตัวเอง”



“มันก็ทั้งสองนั่นแหละ! ทำไมถึงพูดจาแบบนี้นะ!”



“ถ้างั้นคงห่วงตัวเองมากกว่า” เรียวจันทร์กัดฟันน้ำตาคลอ มองคมเขี้ยวด้วยความโกรธ หงุดหงิดและน้อยใจที่อีกฝ่ายมีแต่ท่าทีเฉยเมยแบบนี้ให้



“นายจะไม่ให้ฉันห่วงบ้านนั้นเลยเหรอ ฉันสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง… ฮึก… ฉันสร้างให้พ่อ สร้างตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่… ฮึก… มันคือความภาคภูมิใจ พ่อดีใจแค่ไหนที่ฉันทำได้ รู้บ้างมั้ย…” เสียงเรียวจันทร์กลืนหายไปในลำคอกับก้อนสะอื้นก้อนใหญ่ น้ำตาไหลพรากอย่างไม่มีแอ๊บ มองหน้าคมเขี้ยวด้วยสายตาน้อยอกน้อยใจ คนตัวใหญ่ยืนมองด้วยความนิ่งเหมือนเคย



“แล้วที่นี่ไม่ใช่บ้านคุณรึไง”



“มันไม่เหมือนกัน!...” นางว่าเสียงเหวี่ยง “…บ้านนั้นมันคือความฝัน ระหว่างทาง ฉันมีพ่ออยู่ในความฝันนั้นด้วย เขาเห็นตั้งแต่เริ่มยันจบ มันคือสถานที่สุดท้ายที่ฉันได้อยู่กับพ่อนะ ไอ้เขี้ยว… ฮือ!”



เรียวจันทร์สะอื้นไห้ร้องไห้หนักไม่มีกั๊ก แต่คมเขี้ยวก็ยังมีท่าทีนิ่งเฉย เขาพ่นลมหายใจ ยื่นมือซ้ายไปดึงเสื้อมาจากมือเรียวจันทร์และหมุนตัวเดินออกไปจากห้อง เรียวจันทร์มองอย่างขุ่นเคืองและก้าวเดินตาม



“แล้วทำไมจะต้องเดินหนีแบบนี้ ทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่อง!” เรียวจันทร์ตะโกนลั่นบ้าน เท้าก็ก้าวตามร่างสูงไปเร็วๆ



“จะคุยอะไร หมดเรื่องจะคุย  กลับไปคุยกับไอ้จอมทัพเถอะ” เรียวจันทร์กัดฟันด้วยความหงุดหงิด



“หยุดแดกดันฉันสักทีเถอะ ฉันอยากคุยกับนาย ไม่ใช่เจ้าทัพ!”



“ทำไม? เบื่อแล้วเหรอ เมื่อคืนคุยกันจนหมดประเด็นเลยสิ”



“ไอ้เขี้ยวกุด!” เรียวจันทร์ว่าอย่างโมโห วิ่งเข้าไปทุบตีแผ่นหลังของคมเขี้ยวเต็มมือจนเจ้าตัวร้องด้วยความเจ็บและความตกใจ



“เฮ้ย! อะไรเนี่ย พอไม่ได้ดั่งใจก็ใช้กำลัง!” คมเขี้ยวใช้แขนซ้ายตัวเองดันร่างเรียวจันทร์ออกห่างตัวเอง ร่างเล็กหยุดทุบตีเขา



“เออ! นายมันไม่ได้ดั่งใจฉันเลย งี่เง่าเต่าตุ่น รู้บ้างมั้ยเนี่ยว่าฉันรักฉันห่วง ฮะ!!”



“ไม่รู้! ได้ผมไปแล้ว ก็น่าจะพอใจแล้วนี่ ที่ดินก็เป็นของตัวเอง ไม่ต้องมาใช้ผมเป็นตัวล่อ เป็นไอ้โง่ของคุณอีก” คมเขี้ยวพูดด้วยน้ำเสียงกระแทก เรียวจันทร์กัดฟันแน่น มองคมเขี้ยวด้วยความผิดหวังและเสียใจ



“เออ! นายนี่มันโง่จริงๆ โดนฉันหลอกให้รัก…”



“…แต่ผมไม่รัก” คมเขี้ยวสวนทันควัน เรียวจันทร์สะอื้นไห้ น้ำตาร่วงเผาะรัวลงบนแก้ม



“ไม่รักฉันเลยจริงๆ ใช่รึเปล่า” นางถามปนสะอื้น คมเขี้ยวมองนิ่ง เรียวจันทร์มองหน้าหนวดเคราทั้งคราบน้ำตาที่เปรอะเต็มหน้า และแผลเลือดแห้งกรังที่มุมปาก



“…” คมเขี้ยวขมวดคิ้วนิดหนึ่ง



“ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายไม่รักฉัน” เรียวจันทร์เบ้ปาก หน้าตาร้องไห้ตลอดเวลา มองคมเขี้ยวเหมือนเด็กกำลังดื้อ คมเขี้ยวพ่นลมหายใจ นึกโล่งอกที่ได้ยินเรียวจันทร์พูดแบบนี้ แต่ก็เขาก็ยังมีท่าทีไม่หือไม่อือใดๆ ทั้งสิ้น จนความรู้สึกของเรียวจันทร์แอบระส่ำระส่ายเล็กๆ



“แล้วช่วงเวลาที่เรามีความสุขด้วยกันล่ะ นายทิ้งมันไปรึยัง” นางถามด้วยความไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจใดๆ ทั้งสิ้น ช่วงเวลานี้นางอ่อนกำลังเกินกว่าจะเข้มแข็ง



“จะให้ทิ้งยังไง มันก็ไม่ไปไหน ก็จำได้เหมือนเหตุการณ์ทั่วไปในชีวิต”



“แล้วเหตุการณ์ระหว่างเราสองคนมันสำคัญสำหรับนายมั้ย” คมเขี้ยวนิ่ง ยกเสื้อพาดบ่า มองหน้าสวยที่มีรอยแผลของเรียวจันทร์ด้วยใบหน้าเดิม



“ตอนแรกก็คิดว่ามันสำคัญ แต่ตอนนี้คิดว่ามันก็แค่เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็จบไป” เรียวจันทร์น้ำตาคลอเต็มหน่วย มองหน้าคมเขี้ยวด้วยความน้อยใจ พยายามแล้ว นางพยายามแล้วที่จะหน้าด้าน หน้าทน แต่ความเฉยชาของผู้ชายคนนี้ก็ติดลบเหลือเกินแล้ว



เรียวจันทร์เม้มปาก ตอนนี้นางอ่อนแอเกินไปจริงๆ ที่จะตั้งสติให้อยู่กับร่องกับรอย นางเจ็บตัว หัวใจก็เจอเรื่องโหมกระหน่ำเข้าอย่างคลื่นซัดหาดช่วงหน้าฝน นางมาที่นี่เพราะเป็นห่วงคมเขี้ยว แต่นางคงลืมนึกไปว่าควรห่วงสภาพตัวเองก่อน แถมมาแล้วเขายังไม่ได้มีทีท่าเป็นห่วงนางเลยสักนิด



ใช่… เรียวจันทร์ผิดหวังเพราะคิดว่าถ้าคมเขี้ยวเห็นว่านางโดนทำร้ายจะโอบกอดปลอบใจนางบ้าง นางหวังมาเพิ่มแรงกายแรงใจจากคมเขี้ยว แต่เปล่าเลย นางไม่ได้สิ่งที่หวัง กลับได้สิ่งที่พาให้หมดหวังกำลังใจไปอีก



“เราจะเลิกกันใช่มั้ย” คมเขี้ยวส่ายหน้า ริมฝีปากเรียวจันทร์กำลังจะขยับยิ้มแต่ก็ค้างเติ่ง



“จะเลิกได้ไง ยังไม่ได้ทันได้คบกันเลย” เรียวจันทร์อึ้ง มองคมเขี้ยวอย่างเจ็บปวด แล้วสักพักอารมณ์ปรี๊ดก็พุ่งขึ้นมาที่อก และเกินจะห้ามความเคืองของตัวเอง เรียวจันทร์เดินเข้าไปหาคมเขี้ยว ยกมือขวาตบแก้มซ้ายคมเขี้ยวเต็มแรง



“เว้ย!! ตบอีกแล้ว คนนะ ไม่ใช่เป้าล่อ แม่ง!!!” คมเขี้ยวสบถลั่นบ้าน สบถด้วยความหงุดหงิดและโมโห เรียวจันทร์กัดฟันแน่น มองหน้าคมเขี้ยวอย่างผิดหวังและน้อยใจ



“งั้นก็จูบฉันคืนสิ!” นางท้าทั้งน้ำตา ตอนนี้น้ำตาไหลมั่วซั่วไปหมด ไม่รู้ว่าไหลออกมาเพราะอารมณ์ไหน



“จูบไม่ลง!”



“เออ! จูบไม่ลงก็ตบฉันคืนเลย เอาให้มันซ้ำแผลเดิมนี่แหละ ตบสิ!” เรียวจันทร์หายใจแรงจนอกกระเพื่อมเบาๆ ดวงตากวางน้อยจ้องดวงตาละมุนของคมเขี้ยวที่ยามนี้ตาแข็งเหลือเกิน จนนึกว่ากินกาแฟเกินขนาด



แต่สุดท้ายคมเขี้ยวก็ไม่ตบ เขาเบือนหน้าหนีเรียวจันทร์ไปมองทางอื่น คุณนายแกไม่ปิดบัง ไม่อ้อมค้อมเลยว่าอยากให้คมเขี้ยวง้อ แม้จะรู้ว่านั่นไม่มีทางเกิดขึ้น แต่อย่างน้อยโอ๋นางบ้างก็ยังดี



“ถ้ามาแล้วเสียความรู้สึกก็กลับไปเถอะ อย่าอยู่ให้ตัวเองมีแผลในใจแบบผมเลย” เรียวจันทร์มุ่นคิ้วมองใบหน้าด้านข้างของคมเขี้ยวอย่างไม่เข้าใจ



“อะไร” นางถามเสียงแผ่ว คมเขี้ยวหันกลับมาสบตากับนาง



“ถึงคุณบอกเรื่องนี้ด้วยปากตัวเองก่อนแม่คุณบอก ผมก็แน่ใจว่าความรู้สึกผมมันก็ยังคงเสียอยู่ ผมไม่รู้ว่าคุณรู้รึเปล่าว่าเรื่องแบบนี้ทำไปยังไงมันก็ต้องทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก…” คมเขี้ยวมองนิ่ง แต่ไม่ได้มีท่าทีแข็งกระด้างแล้ว



“…ผมมีความสุขที่ได้ใช้เวลาอยู่กับคุณ แต่ความเห็นแก่ตัวของคุณทำลายความสุขนั้นไปแล้ว” เรียวจันทร์ยืนฟังนิ่ง ยกมือเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม



“ผมมั่นใจว่าผมรักคุณมาก คุณทำทุกอย่างเพื่อให้ผมให้ใจคุณ แล้วผมก็ให้ไป แต่ดูคุณทำ”



“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าตอนหลังมันไม่ใช่เพราะแผนอะไรแล้ว แต่ฉันรักนายจริงๆ ฉันอยากได้นายเพราะตัวฉันเองไม่ใช่เพราะคนอื่น” เรียวจันทร์บอกปนเสียงสะอื้นน้อยๆ



“ผมรู้ว่าคุณคงรักผมจริงบ้างอย่างที่บอก แต่ความรู้สึกผมมันเสียไปแล้ว” นี่ต่างหากคือประเด็นที่คมเขี้ยวอยากจะบอก



“ผมหนีกลับมา ไม่ใช่ว่าขี้ขลาด แต่ผมฝืนตัวเองไม่ได้ที่จะอยู่ใกล้คนที่ทำร้ายใจผม…” ภาพของน้อยหน่าที่ถูกส่งเข้าคุกไปอย่างง่ายดายทั้งที่ทำงานกับคมเขี้ยวมานานลอยเข้ามาในหัวของเรียวจันทร์ ภาพนั้นและเหตุการณ์นั้นเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้นางไม่กล้าปริปากบอก เพราะมันคือสิ่งที่บอกว่าผู้ชายคนนี้ตัดคือตัด ไม่สนใจว่าใครคนนั้นจะมีความดีแค่ไหน แต่ถ้าเลวครั้งเดียวเขาก็ไม่เลี้ยงไว้เช่นกัน



“…ผมเลยกลับมาคิด และคิดว่าจะลองดูอีกครั้ง ถ้าคุณตามมา ผมจะให้โอกาส แต่คุณก็หนีผมไป”



“ฉันไปเพราะ…” คมเขี้ยวส่ายหัวหน้าตาเรียบเฉย



“…คุณดูถูกความรักผม คิดว่าผมจะปล่อยให้ใครมาทำร้ายคุณกับสิ่งที่คุณรักได้งั้นเหรอ คิดว่าผมอ่อนแอปกป้องคนที่ผมรักเลยไม่ได้รึไง”



“ไม่ใช่! ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ ฉันแค่อยากให้ทุกคนปลอดภัย ฉันไม่รู้ว่าจอมทัพจะใจร้ายได้ขนาดไหน”



“แต่คงไม่ใจร้ายเท่าคุณหรอก…” เรียวจันทร์สะอึก มองหน้าคมเขี้ยวด้วยสายตาตะลึงเบาๆ



“…คุณคงกะว่าถ้าได้ผมแล้ว ได้ที่ดิน ได้สิ่งที่ต้องการ คุณก็เฉดหัวไอ้โง่คมเขี้ยวคนนี้ไปไกลๆ หรืออย่างดีก็อาจจะเก็บไว้เป็นผู้ชายในคอลเลคชั่นของคุณอีกคน” เรียวจันทร์เม้มปาก อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็อึกอักพูดออกมาไม่ได้



เพราะที่คมเขี้ยวพูดมาน่ะ มันคือความคิดในขั้นแรกของนางจริงๆ



“เขี้ยว ฉัน… ฉันอาจจะเคยคิด แต่ตอนนี้ฉันไม่เหลือความคิดนั้นเลยนะ ฉันมีนายคนเดียว รักแค่นายคนเดียวจริงๆ” คมเขี้ยวถอนหายใจแผ่วเบา



“ที่ผ่านมา คุณอาจจะเล่นกับความรู้สึกใครต่อใครมากมาย แต่กับผู้ชายคนนี้ เรื่องความรู้สึกไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ผมชัดเจนพอหรือยัง” น้ำตาเรียวจันทร์ร่วงหล่นลงบนแก้มอีกครั้ง มองคมเขี้ยวด้วยความรู้สึกเสียใจ ด้วยความรู้สึกผิด



“ฉันขอโทษ”



“ผมรับไว้ แล้วตอนนี้คุณก็ไปได้แล้ว เพราะคุณคงไม่กล้าพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อหรอก” เรียวจันทร์เบะปากน้ำตาคลอ ขยับเดินเข้าไปหาคมเขี้ยว ร่างสูงมองร่างเล็กนิ่ง คนหน้าสวยเขย่งตัวยื่นหน้าไปจูบแก้มซ้ายของคมเขี้ยวแผ่วเบา



“โอกาสที่นายเคยคิดจะให้ ให้ฉันอีกครั้งได้มั้ย” คมเขี้ยวไม่ตอบ ทำเพียงหันหน้าหนีไปมองทางอื่นไม่สบตาไม่มองหน้าเรียวจันทร์จนเจ้าตัวใจแป้ว รู้สึกหัวใจห่อเหี่ยวถึงขั้นพิกลพิการ



“อ้าว คุณเรียว” เรียวจันทร์หันไปมองดินที่มีผ้าพันแผลตรงต้นแขนเช่นกัน นางกระตุกยิ้มให้ดินน้อยๆ ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหาหนุ่มร่างยักษ์ผู้ใสซื่อ



“เป็นยังไงบ้างดิน” คนถูกถามยิ้มแฉ่งก่อนตอบเสียงใส



“สบายมากครับ ดินยังแข็งแรงเหมือนเดิม” ดินยกแขนขึ้นเบ่งกล้ามโชว์เรียวจันทร์ แต่สักพักก็ร้องโอ๊ย หน้าตาเหยเกเพราะเจ็บแผล เรียวจันทร์หัวเราะทั้งที่น้ำตาคลอ



“คุณเรียวจะกลับมาอยู่ที่นี่แล้วใช่มั้ย ไม่กลับไปอยู่กับไอ้จอมทัพนั่นอีกใช่รึเปล่า” เรียวจันทร์ยิ้มเศร้า ดินเห็นรอยยิ้มนั้นก็หน้าเจื่อนไปนิด



“ดูแลตัวเองนะดิน ฝากดูแลพี่ชายดินด้วย ตอนนี้ฉันอาจจะยังอยู่ไม่ได้ แต่ฉันจะกลับมาแน่นอน รอฉันนะ” ปฐพีทำหน้าครุ่นคิดพักหนึ่งก่อนที่จะคลี่ยิ้มอ่อนและพยักหน้าลงหนึ่งที



“ครับ ดินจะรอ พี่เขี้ยวและทุกคนที่นี่ก็จะรอคุณเรียวกลับมา” เรียวจันทร์ยิ้มดีใจที่อย่างน้อยดินก็ไม่ได้โกรธนางจนไม่คิดเผาผีต่อกัน



“แล้วคุณป๋ากับคุณแม่ไปไหน”



“ไปดูไร่องุ่นครับ ให้ดินไปตามมั้ย” เรียวจันทร์ส่ายหัว สภาพของนางตอนนี้ห่อเหี่ยวเกินไป



“อ้าว ดินเพิ่งเห็น คุณเรียวไปโดนอะไรมา” ดินชี้มุมปากเรียวจันทร์ที่โดนตบจนเลือดออก เรียวจันทร์ยิ้มนิดหน่อยและส่ายหัวน้อยๆ



“อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ” เรียวจันทร์หันไปมองคมเขี้ยวที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ มองนางยืนคุยกับดินอย่างเฉยชา เรียวจันทร์หันกลับมาหาดิน



“กลับก่อนนะดิน แล้วเจอกันเร็วๆ นี้”



“รีบกลับมานะครับ” แค่ประโยคสั้นๆ จากดิน แต่กลายเป็นว่านางรู้สึกมีแรงใจเพิ่มขึ้นมากเหลือเกิน เรียวจันทร์พยักหน้า กอดดินไปหนึ่งทีแล้วเดินออกไปจากบ้าน



คมเขี้ยวมองตามนิ่ง สักพักแววตาชายหนุ่มก็สลดลง ใบหน้ามีความสับสนและความหนักใจ



ดินยืนมองพี่ชายบุญธรรมตัวเองอย่างครุ่นคิด ไอ้ดินรู้ว่ากว่าพี่เขี้ยวจะตกลงปลงใจให้คุณเรียวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพี่แกโสดมานาน มีสาวๆ (และหนุ่มบางคน) คอยมาขายขนมจีบให้พี่ชายไอ้ดินก็บ่อยครั้ง แต่พี่เขี้ยวก็ไม่ได้มีท่าทีสนใจใคร ขนาดคุณเอื้องที่ว่าคุยกันมานาน ก็นานซะจนสุดท้ายก็หายไป แล้วคุณเรียวจันทร์ก็แหกโค้งปาดหน้าทุกคนไปแบบม้ามืด พอเจอคุณเรียวทำแบบนี้ พี่แกก็คงเสียใจ เสียความรู้สึกมากโข



อีกอย่างพี่เขี้ยวรักใครรักจริง ไม่ใช่ผู้ชายใช้ใจเปลือง ก็ไม่แปลกถ้าพี่แกจะเคือง แต่อีกใจไอ้ดินก็คิดว่า ถ้าเป็นมัน แม้จะโกรธ จะเคืองยังไง แต่ถ้ารักก็คงโกรธแปบเดียว ไม่อยากยืดเยื้อนาน แต่ก็อย่างว่า นี่มัน นั่นพี่เขี้ยว คนละคนกัน 




 :mew2:

พี่เขี้ยวก็มีบาดแผลในใจ ขุ่นแม่เองก็ปวดใจที่เรื่องราวออกมาเป็นแบบนี้

พี่เขี้ยวไม่ได้คิดเป็นเชิงว่าตัวเองเสียเหลี่ยมหรอกค่ะ คำตอบและความรู้สึกของพี่เขี้ยว เขาก็ได้ตอบไปแล้วว่าเพราะอะไร ใจน่ะรัก แต่ใจก็เจ็บ และประโยคท้ายจากดินก็น่าจะเป็นคำตอบของความรู้สึกพี่เขี้ยวด้วย

งานนี้ขุ่นแม่อย่าเพิ่งท้อถอดใจไปก่อน ต้องรีบตามมาง้อสามีในเร็ววัน แต่วันนี้ขุ่นแม่อ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ สตรองดั่งตั่งทองเมืองทิพย์ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ ขอเวลาตั้งพระสติแปบ

ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ อดทนเวลาที่ฝนนนนนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง...

จากที่ดูในประเด็นของเสี่ย แอบเห็นมีคนอยากได้เสี่ยเป็นสามี 55555 เอ๊ะ ยังไง

ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ

ตอนนี้ขุ่นแม่เรียวกับขุ่นพ่อเขี้ยวกำลังเปิดพรีออเดอร์ตัวเองในรูปแบบหนังสือนะคะ เปิดพรีฯ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม ตอนพิเศษในเล่มแน่นมาก ผู้ใดสนใจ เข้าไปอ่านรายละเอียดของทั้งสองคนพร้อมรายละเอียดของแถมได้ที่ > พรีออเดอร์ขุ่นพ่อขุ่นแม่


Tag #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สงสารคุณแม่มากๆเลย  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
โกรธพี่เขี้ยวแล้ว ขับไล่กันงี้ เป็นเรา จะไม่กลับมาแล้ว ไปก็ไปดิ โอ้ยยยย โมโห ทั้งอิเสี่ย ทั้ง อิพี่เขี้ยว

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
น่าสงสารขุ่นแม่จริงๆๆ  ขุ่นแม่สตรองนะคะ เดี๋ยวก็ผ่านไปปปปปปปปป




ออฟไลน์ Lunar_lustre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เค้าขอรออีกสักตอนแล้วกันนะ ถ้าเขี้ยวกุดยังงี่เง่า เราคงเทเรื่องนี้อ่ะ รับไม่ได้จริงๆ :sad4:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ขุ่นแม่รีบเคลียร์ปัญหาเลยค่ะ แล้วกลับมาใหม่ พี่เขี้ยวไม่เอาก็ยัดเยียดไปเลย !!  :katai2-1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8


คาถาที่ ๒๘ :: Enough! (พอกันที!) [ครึ่งแรก]





   เรียวจันทร์นั่งหน้าหม่นกับความรู้สึกอึนๆ ในอกตรงเก้าอี้ของร้านเบเกอร์รี่แอนด์คอฟฟี่ช้อปแห่งหนึ่งในโซนใจกลางเมืองกรุง นางถอนใจเป็นรอบที่สี่ตั้งแต่มานั่งอยู่ตรงนี้เพื่อรอเป็ด ไม่เคยคาดคิดว่าวันนึงชีวิตตัวเองต้องมานั่งคิดวิเคราะห์อะไรให้มันซับซ้อนปวดหัวสมองและเหนื่อยใจแบบนี้
   

เมื่อวานหลังจากกลับหาคมเขี้ยวนางก็ไปขลุกตัวอยู่ที่คอนโดแจเร็ดที่ทิ้งห้องไว้ให้นางพัก จนเสี่ยจอมทัพโทรมาตามนั่นแหละถึงได้ออกจากห้องนั้น และวันนี้เรียวจันทร์ก็นัดเป็ดให้ออกมาเจอกัน นางนั่งรอมาสิบห้านาทีแล้ว ตอนมาถึงโทรหาเป็ด นังศศิประภาบอกว่ากำลังเดินมา แถวนี้ใกล้ออฟฟิศนังดำ หล่อนเลยเลือกจะเดินมาแทน
   

“ฮายๆ ค่ะเพื่อน” คนที่กำลังนึกถึงปรากฏกายในชุดเสื้อเชิ้ตดำเข้ารูปกับกระโปงหนังทรงเอรัดรูปสีดำมันเลื่อมผายสะโพกมนของอีเป็ดให้เด่นชัด
   

“ตั้งแต่มีผัวสวยขึ้น เอิบอิ่มขึ้นนะคะ ไม่ต้องบอกว่าเพราะอะไร” เป็ดจิกตากลับมา และหันไปตะโกนสั่งเครื่องดื่มตรงบาร์กับเจ้าของร้านก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับเรียวจันทร์
   

“เมื่อวานฉันพาพวกป้าอุ่นมาอยู่บ้านฉันก่อน เมื่อเช้าพี่ไม้มารับไปส่งที่ฟาร์มคุณเขี้ยวละ ป้าอุ่นขนของแกออกมาด้วย…” เป็ดดึงซองเอกสารสีน้ำตาลออกมาจากกระเป๋าถือของตัวเองแล้วส่งให้เรียวจันทร์
   

“…โฉนดที่ดินตามที่แกต้องการ รูปพ่อแก เถ้ากระดูกของพ่อ ป้าอุ่นเอาไปด้วยแล้ว ตอนนี้ที่บ้านไม่นับของประดับในบ้านก็เหลือแต่แม่แก” เรียวจันทร์พยักหน้าพร้อมกับรับซองเอกสารมายัดไว้ในกระเป๋าของตัวเอง หน้าตาไร้ซึ่งความสุขสดใสแบบที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวนาง
   

“ฉันบล็อกเบอร์เขาไปละ ไม่อยากพูดไม่อยากคุยกับผู้หญิงคนนี้อีก…” สีหน้าและแววตาของเรียวจันทร์แสดงออกถึงความผิดหวัง แต่นางก็ปัดทิ้งอย่างรวดเร็ว
   

“…แต่ฉันก็ยังไม่อยากปักใจเชื่อว่าเขาจะทำจริงๆ ไม่ใช่ว่าฉันรักและเชื่อใจนะ แต่แค่มันยังไม่มีหลักฐานมาชี้ว่าเป็นเขาชัวร์ๆ”
   

“อันนี้แกหมายถึง…” เป็ดย่นคิ้วนิดหน่อยเพราะยังตามประเด็นนี้ไม่ทัน
   

“เรื่องแย่ๆ ในฟาร์มของเขี้ยว จอมทัพบอกว่าแม่ฉันเป็นคนทำ” เป็ดเบิกตากว้าง ยกมือขวาป้องปากด้วยความตกใจ ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อพนักงานเดินเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ
   

“ขอบคุณค่า…” เป็ดวางแก้วน้ำที่มีน้ำแดงโซดาไว้ตรงหน้าตัวเอง “…ถ้าเป็นอย่างที่เสี่ยว่าจริงๆ แม่แกคือแบบ เอ่อ ฉันไม่รู้จะหาคำไหนมานิยามเขาว่ะ ขอโทษนะ”
   

“ฉันเองยังเลือกไม่ถูกเลยว่าเลวกับชั่วอันไหนแรงกว่ากัน” ศศิประภามองเพื่อนด้วยความเห็นใจ ไม่รู้ว่าเวรกรรมอันใดของมันที่มีแม่แบบนี้
   

“แล้วกับคุณเขี้ยวล่ะ” เป็ดเปลี่ยนประเด็นเพื่อไม่ให้เพื่อนรู้สึกแย่ไปมากกว่าที่มันเป็นอยู่ เรียวจันทร์พ่นลมหายใจ หยิบชามะนาวขึ้นมาดูดไปสองอึกใหญ่ก่อนตอบ
   

“ก็ตามสูตรดราม่า รู้เรื่องที่ฉันหลอกเขา โกรธ ไม่พูดไม่จา รับฟัง แต่ไม่คิดตาม” เป็ดเก็ทว่าเพื่อนสื่อสารอะไรอยู่ ไม่ต้องขยายให้มากความก็รู้ว่าสิ่งที่หล่อนคิดและบอกเพื่อนมาตลอดมันเกิดขึ้นจริงอย่างที่คิดไว้
   

ทำไมเวลาคิดหวยไม่ออกมาตามสูตรแบบนี้บ้างนะ
   

“ฉันไม่แปลกใจ จะให้เขาคิดอะไรวะ มันคือการหมดความไว้เนื้อเชื่อใจกันไปแล้วอะ แกนึกออกมะ” เป็ดพูดตรงๆ แต่ก็คิดว่าพยายามซอฟต์กับเพื่อนที่สุด เรียวจันทร์หน้างอเล็กน้อย
   

“ฉันกลัวอะ ฉันรักเขาจริงๆ นะเป็ด” ศศิประภาดูดน้ำแดงโซดาเข้าปากไปสองอึก
   

“รักเขา แล้วยังไงต่อ ฉันหมายถึง แกจะเอายังไงต่อ” เรียวจันทร์ถอนหายใจอีกที สีหน้าบอกความรู้สึกว่ากำลังจนปัญญา
   

“เมื่อวานฉันไปหาเขี้ยวมา เขาไม่มีรีแอคอะไรกับฉันมากไปกว่านิ่ง เงียบ เรียบ เฉย” นางทำหน้าราวกับจะร้องไห้ แต่ก็ไม่ได้คิดจะร้องออกมาตามหน้าหรอก
   

“โอ๊ย ถ้าเขามีรีแอคโอบกอด จูบหอมแกสิแปลก แกทำหัวใจเขาแหลกนะ ใช้คำนี้ได้เลย ไม่ต้องหาว่าฉันเว่อร์”
   

“ก็ไม่เว่อร์ แต่มันขนาดนั้นเลยเหรอเป็ด โกรธอะเข้าใจนะ แต่ถึงขั้นหัวใจแตก แหลกลาญเลยเหรอ” เป็ดมองหน้าเพื่อนสนิทแบบเอือมๆ
   

“คือฉันอยากให้แกลองคิดเหมือนกันนะว่าถ้าแกโดนแบบนั้น เหมือนโดนคนอื่นหลอกใช้ แกจะรู้สึกยังไง แต่ฉันก็รู้ว่าคนอย่างแกมันถือเรื่องความจริงใจเป็นจริงเป็นจังซะที่ไหน” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ มองเพื่อนด้วยความตระหนกตกใจเบาๆ เป็ดพยักหน้าจริงจังกับสิ่งที่พูด
   

“เป็ด แรงไปเปล่าอะ”
   

“ไม่แรงค่ะ พูดแบบนี้ฉันไม่ได้หมายความว่าแกเป็นคนไม่ดี เออ แกก็ไม่ใช่คนดีเท่าไหร่อะแหละ…” เรียวจันทร์ถลึงตาใส่เป็ดแต่เป็ดไม่สนใจ รีบพูดต่อทันที


“…แกเป็นคนที่ใช้ชีวิตไม่คิดเยอะ ใช้ชีวิตแบบไม่คิดถึงอนาคต แกมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน มันเป็นเรื่องที่ดี แต่แกไม่สนใจบริบทรอบข้างเลยว่ามันเป็นยังไง สิ่งที่แกมองคือสิ่งที่แกต้องการ แต่กว่าแกจะไปถึงสิ่งที่แกต้องการ แกทำลายอะไรระหว่างทางไปเยอะมาก” เป็ดพูดตรงๆ เพื่อจะได้สื่อสารให้เพื่อนเข้าใจชัดเจน อีนี่ต้องพูดอะไรให้ชัดถ้อยชัดคำเพราะเดี๋ยวมันแปลงสารเป็นอย่างอื่น


“ทำไมฉันดูแย่จังวะ” เรียวจันทร์หน้านิ่วคิ้วขมวด


“ให้ฉันเสริมเพิ่มเติมอีกมั้ยล่ะว่าแกเป็นยังไง” นางคลายหน้าคลายคิ้วที่นิ่วไว้อยู่ออกทันที


“ไม่ต้องอะ…” เรียวจันทร์ยกน้ำขึ้นมาดูดเข้าปากอีกสองอึก เหลือบมองเป็ดอย่างเกรงๆ เกรงว่าอีเป็ดมันจะพ่นอะไรออกมาอีก


“…แต่เรื่องความรู้สึกฉันที่ว่ารักเขาอะ มันมีจริงๆ นะ”


“มาบอกฉัน แล้วแกจะคืนดีกับเขาได้เหรอ”


“ฉันก็แค่บอกอีเป็ด…” เรียวจันทร์ว่าอย่างหงุดหงิดนิดหน่อยที่เพื่อนประชด แต่ก็ข่มใจบอกตัวเอไม่ให้วี๊ดใส่เพื่อน เป็ดเองก็มองออกว่าเพื่อนมีความเดือดอยู่ในห้วงอารมณ์เล็กๆ แต่หนนี้ศศิประภาจะแข็งใจพูดให้เพื่อนฉลาดให้ได้


“…แล้วฉันก็บอกเจ้าตัวไปแล้วด้วย แต่เขาไม่เชื่อ” เรียวจันทร์ว่าด้วยความหงุดหงิดเล็กๆ เป็ดมองเพื่อนอย่างระอาเบาๆ


“แกก็ทำให้เขาเชื่อสิ” เรียวจันทร์ที่กำลังมีสีหน้าหงุดหงิดขมวดคิ้วงง มองเป็ดอย่างไม่เข้าใจ 


“ทำให้เชื่อ? ก็ฉันบอกไปแล้ว แต่หมอนั่นมันไม่เชื่อฉัน”


“เอ๊า ก็ฉันพูดอยู่นี่ไงว่า ‘ทำ’ ให้เขาเชื่อ ไม่ใช่ ‘พูด’…” เรียวจันทร์ยังขมวดคิ้วน้อยๆ เป็ดทำหน้าเอือมไม่เสื่อมคลาย


“…ตอนที่แกได้เขามาครั้งแรก แกทำทุกวิถีทางจนได้เขามา แกไม่ใช่แค่พูด” เรียวจันทร์คลายคิ้วตัวเองออก พยายามจับเรียงความคิดความทรงจำของตัวเองให้นิ่ง และเอาคำพูดของเป็ดไปลิงค์กับคำพูดของคมเขี้ยวที่ฝ่ายนั้นพูดกับนาง เค้นความทรงจำว่าประโยคไหนใกล้เคียงกับความหมายในประโยคของเป็ดมากที่สุด


“…ทำให้เห็นหน่อยว่าจริงใจกับผมจริงๆ ไม่ใช่แค่พูดเอาตัวรอด”



“แกหมายถึงให้ง้อเขาเงี้ยเหรอ” เป็ดตาโตมองเพื่อนเหมือนกำลังเห็นของแปลก


“เอ๊า อีนี่ เขาโกรธ ก็ต้องง้อสิวะ ถ้ารักเขาจริง ก็ต้องง้อจนเขาหาย ไม่ใช่โดนเขาเมินใส่ก็ถอดใจ ทีก่อนนี้เขาด่า เขาไล่สารพัด แกยังหน้าด้านหน้าทนจนได้เสียตัวให้เขาตามปรารถนา” ง้องั้นเหรอ? ไม่ใช่นางไม่รู้ว่าต้องเป็นคำนี้ แต่นางแค่คิดว่าจะง้อยังไงล่ะ ก็ท่าทีไอ้เขี้ยวกุดดูมึนตึงเฉยชาจนไม่รู้ว่าอยากให้นางง้อจริงๆ รึเปล่า


“…อยู่กับพี่… อยู่ง้อพี่… พี่โกรธอยู่นะ”


“ก็รู้ว่าต้องง้อนั่นแหละ แต่ตอนนี้กำแพงที่หมอนั่นเคยมีมันกลับมาอีกแล้ว” เป็ดสูดลมหายใจเบาๆ


“ถ้ามี ก็ทำลายมัน” เรียวจันทร์มีสีหน้าท้อใจขึ้นมาทันที


“ครั้งนี้มันต้องยากกว่าเดิมแน่เลยอะ”


“เรียว แกรักเขาจริงมั้ยเนี่ย” เรียวจันทร์ย่นคิ้วตาโต


“จริงสิ! ทำไมไม่ค่อยจะเชื่อฉันเลยวะ”


“งั้นถ้ามันจะยากแค่ไหน แกจะกลัวอะไรล่ะ รักเขาก็เอาเขากลับมา” เรียวจันทร์มองเป็ดอย่างไม่ค่อยจะมั่นใจ คราวนี้ความมั่นหน้ามั่นใจในตัวนางหดลงไปเยอะเลย ศศิประภามองหน้าเพื่อนและพ่นลมหายใจเสียงเบา


“แต่ฉันว่านั่นอาจไม่ใช่กำแพงก็ได้ แต่เป็นเกราะป้องกันความเจ็บของคุณเขี้ยว คำพูดฉันมันน้ำเน่านะ แต่แกเชื่อสิ ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แกล้อเล่นกับความรู้สึกเขา ทำร้ายใจเขา…” เรียวจันทร์หลบสายตาจริงจังของเป็ดไปมองด้านนอกร้าน


“…ถ้าแกกำลังคิดว่าเป็นผู้ชายทำไมคิดเล็กคิดน้อย แล้วผู้ชายมีความรู้สึกไม่ได้เหรอ แกเองก็มีเพศชายอยู่ในตัว แกน่าจะตอบได้ดีกว่าฉันนะ” คุณนายสลดลงนิดหนึ่ง นึกถึงหน้าคมเขี้ยวก็ใจแป้วแปลกๆ


“มันต่างกันอะเป็ด ตอนนั้นฉันทำแบบไม่คิดอะไร…” เป็ดเบ้ปากทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เรียวจันทร์จิ๊ปากนิดหนึ่ง


“…แต่ตอนเนี้ย ความรู้สึกของฉันกับคมเขี้ยวมันเยอะกว่าเดิม มันมีรายละเอียดกว่าเดิมอะเป็ด” เรียวจันทร์พยายามนึกถึงคำพูดของคมเขี้ยวทั้งหลายที่พูดกับนางหลังจากรู้เรื่องราว และที่พูดกับนางในวันที่กลับไปหาที่ฟาร์ม


“ผมมั่นใจว่าผมรักคุณมาก…”


นางยิ้มด้วยความใจชื้นขึ้นมาเมื่อประโยคนี้ผุดขึ้นมาในหัว “เขี้ยวบอกว่ารักฉันอยู่นะ”


“ฉันไม่ได้จะตัดกำลังใจ แต่เพราะเขารักนั่นแหละ เขาถึงเจ็บมากกับสิ่งที่แกทำ” จากที่ใจชื้นขึ้นมาเมื่อกี้มีอันต้องเหี่ยวฟีบแฟบลงไปทันตา ยังไม่ทันได้ชุ่มฉ่ำทั่วทั้งใจเลย


“ผมเลยกลับมาคิด… และคิดว่าจะลองดูอีกครั้ง… แต่คุณก็หนีผมไป”


“ฉันถามนะว่าจะให้โอกาสฉันอีกได้มั้ย แต่เขาไม่ตอบ”


“เขาไม่ตอบ แล้วเขาปฏิเสธรึเปล่า” เรียวจันทร์มีสีหน้าไม่มั่นใจ นางส่ายหัวเบาๆ คมเขี้ยวเงียบตอนที่นางขอโอกาส ตอนนั้นนางรู้สึกสิ้นหวังไปเยอะเลย


“ก็เปล่า เขาไม่ได้พูดอะไร”


“งั้นจะรออะไร ไปง้อเขา รักเขาจริงก็พิสูจน์ให้เขาเห็น จริงใจอะเป็นมั้ย” เรียวจันทร์เบิกตากว้างมองเพื่อน บิดปากนิดหนึ่ง ยกมือขวาตบอกตัวเองสองสามที และพูดด้วยน้ำเสียงสั้นคล้ายคนจะร้องไห้


“คนอย่างฉัน ทำอะไร จริงใจล้วนๆ” เป็ดเบ้ปากจนปากเบี้ยวผิดรูป


“เออ เอาความจริงใจล้วนๆ ของแกไปแสดงให้เขาเห็นจนเขายอมคืนดีด้วยให้ได้แล้วกัน” เรียวจันทร์มองค้อนเพื่อนไปนิดหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาวกว่าทุกครั้งที่ตั้งแต่นั่งอยู่ในร้านนี้


“อีตาเสี่ยเนี่ยสิ…”


“แกจะกลัวอะไร บ้านแกก็ปลอดภัยแล้ว ถ้ากลัวว่าเสี่ยจะทำอะไรพวกคุณเขี้ยว ฉันว่าคุณเขี้ยวเขาคงไม่งอมืองอเท้าให้เสี่ยทำง่ายๆ หรอก แกอย่ามานางเอกได้มะ ไม่เข้ากับแกเลยค่ะ” เรียวจันทร์จิกตาใส่เป็ดพร้อมจิ๊ปากเสียงดัง เป็ดลอยหน้าลอยตาเป็นการบอกว่าก็กูพูดจริง


เสียงโทรศัพท์มือถือของเรียวจันทร์ดังขึ้น นางวางแก้วน้ำในมือซ้ายลงบนโต๊ะ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์ที่หน้าจอก็เห็นเป็นเบอร์ของแก๊ป


“ว่าไงแก๊ป เป็นไงบ้าง…” เป็ดยกน้ำขึ้นดูดด้วยความชื่นใจ แต่พอเห็นสีหน้าของเรียวจันทร์ที่เปลี่ยนจากขมวดคิ้ว เป็นเบิกตากว้าง หน้าซีดและตกใจในเวลาเดียวกัน ก่อนที่จะมีความกังวลให้เห็น ศศิประภาก็หยุดดูดน้ำด้วยความใจไม่ดี


พฤหัสบดี พระศุกร์ หรือพระเสาร์อีกล่ะที่เข้ามาแทรกเนี่ย










คมเขี้ยวกำลังยืนมองสภาพบ้านไม้หลายหลังที่ไหม้เกรียมไปคนละหย่อมสองหย่อม มีอยู่สี่หลังที่ไหม้วอดจนเหลือแต่ซากไม้ดำๆ กับควันจางๆ ทิ้งไว้ให้เจ็บช้ำใจ ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วแน่น ยืนมองด้วยความโกรธแค้น แต่ก็ไม่คิดอาละวาดโวยวาย แค่นึกเจ็บใจแทนชาวบ้านกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาหันไปมองชาวบ้านหลายสิบชีวิตที่นั่งสีหน้าไร้อารมณ์ แต่เขารู้ว่าทุกคนก็มีความรู้สึกไร้ความหวังด้วยเช่นกัน 


“ไม่โดนไฟไหม้เกือบสิบหลังครับพี่เขี้ยว ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่ทรัพย์สินเสียหายกันไปเยอะ” คมเขี้ยวพยักหน้าลงหนึ่งครั้ง พ่นลมหายใจยาวๆ เพื่อผ่อนคลายความรู้สึกของตัวเอง เขาหันไปมองดินที่มองซากบ้านไม้ด้วยสายตาเศร้าเล็กๆ แล้วยกมือตบบ่าดินเบาๆ ดินหันกลับไปมองพี่ชายต่างสายเลือดด้วยความเหลอหลา แต่พอเห็นสายตาเข้าใจของคมเขี้ยวก็ยิ้มน้อยๆ และพยักหน้าเบาๆ


“พี่ว่ามีคนตั้งใจให้เกิดขึ้นมั้ย” คมเขี้ยวขบกรามแน่น ในอกร้อนรุมๆ เหมือนมีไฟสุม


“มึงคิดว่าพวกชาวบ้านเขาจะจุดไฟบ้านตัวเองรึไง” เขาลองสอบถามพวกลุงป้าน้าอาทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ทุกคนดูงงๆ มึนๆ กับเหตุไฟไหม้ ไม่มีใครตอบได้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง


“ไอ้จอมทัพเหรอพี่” ได้ยินชื่อนี้แล้วยิ่งเดือด ทั้งเพราะเขาปักใจเชื่อว่ามันต้องมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน และเพราะตอนนี้มันเอาตัวใครบางคนไปเก็บไว้กับมัน


นึกแล้วก็พาลมาหงุดหงิดตัวเองที่ท่ามาก เมื่อวานหลังจากเรียวจันทร์กลับไปเขาก็เอาแต่นอน เก็บตัวเงียบ ไม่กินข้าวกินน้ำจนพระอาทิตย์ตกดิน ไข้เลยขึ้นสูงกว่าเดิม พอแม่รู้ก็ดุเขา จัดอาหารและให้กินยา ตอนนี้อาการก็ยังทรงๆ ตัว หนักหัว ปวดหัว ตัวร้อน แต่ก็ไม่ถึงขั้นทรมาน


“คุณเขี้ยวครับ…” เสียงของเจ้าหน้าที่ดึงห้วงความคิดของคมเขี้ยวกลับมาปัจจุบัน เขาหันไปมองเจ้าหน้าที่คนเดิมที่ตอนนี้เป็นธุระให้เขาเรื่องคุมขังมือระเบิดฟาร์มเขาอยู่


“…จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่มีเรื่องของไฟฟ้าลัดวงจร แต่เจอคราบน้ำมัน ผมว่าเป็นการวางเพลิงอย่างที่คุณคิดแหละครับ” คมเขี้ยวไม่รู้ว่าจะต้องเครียดอีกระดับไหน เขาเลยทำหน้าเนือยแทน ยิ่งตอนนี้ไม่สบายด้วยเลยดูห่อเหี่ยวหม่นหมองมากกว่าปกติ


“ขอบคุณครับ”


“คิดว่าเป็นคนเดียวกันกับพวกมือระเบิดมั้ยครับ” คนถูกถามนิ่งไปสักนิดก่อนจะพยักหน้า


“ก็เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แหละครับที่คิดแบบนั้น”


“เรื่องที่มีคนขอประกันตัวพวกมัน ผมจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นนะครับ” คมเขี้ยวพยักหน้าสองสามที


“ก็ขอให้ไม่แพ้อำนาจเงินหรืออำนาจเส้นสายของใครแล้วกันนะครับ” คมเขี้ยวบอกเสียงเรียบ เจ้าหน้าที่พยักหน้านิดหนึ่งแต่ใบหน้าก็เครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เจ้าของฟาร์มอรุณพยัคฆ์ไม่สนใจ เพราะถือว่านั่นคือหน้าที่ของตำรวจที่ต้องช่วยเหลือประชาชนให้ได้ตามสโลแกนที่ว่าตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน


ทำไมเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังเอานิสัยเรียวจันทร์มาใช้นะ


“ไอ้ดิน เดี๋ยวเอาพวกอาหาร ของใช้บางส่วนมาให้พวกชาวบ้านนะ พาพวกคนงานมาสร้างที่นอนชั่วคราวให้ไปก่อน” ดินพยักหน้าระหว่างเดินกลับไปที่รถพร้อมพี่ชายตัวเอง ดินหันไปตะโกนบอกพวกชาวบ้านให้รอสักพักแล้วเดี๋ยวจะกลับมาอีกรอบ


ชาวบ้านที่โดนไฟไหม้คือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับฟาร์มของคมเขี้ยว เรียกได้ว่าอยู่ใกล้ชิดติดกับพื้นที่ของบ้านคมเขี้ยวมาก เขาไม่จำเป็นต้องมาดูก็ได้ถ้าก่อนหน้านี้มันไม่มีเหตุการณ์มีคนมาขอซื้อที่ดินบริเวณโดยรอบนั้น แต่พวกชาวบ้านไม่ขาย


“พี่ไหวมั้ยเนี่ย” ดินถามในขณะที่กำลังขับรถกลับฟาร์ม อาจเพราะตัวใหญ่เนื้อหา กระสุนที่ไอ้ดินโดนเลยแค่ถาก มีแผลและพันผ้าปิดไว้เท่านั้น ไม่เหมือนพี่ชายมันที่โดนกระสุนฝังเข้าต้นแขนเต็มๆ คมเขี้ยวนั่งนิ่ง อาการพี่ชายดินไม่ได้แย่จนถึงขั้นจะเป็นลมล้มพับ แต่ใบหน้าก็ซีดเซียวไม่น้อย


“กูดูอ่อนแอมากเลยรึไง”


“ใจพี่ไง ไม่มีคุณเรียวอยู่ อาจจะอ่อนแอ” คมเขี้ยวแทบไปไม่เป็น ไอ้ดินมันก็พูดหน้าซื่อตาใสเหมือนเดิมตามนิสัยมัน ไม่ได้พูดประชด ไม่ได้พูดเพื่อสะกิด แต่มันพูดอย่างที่มันคิดเท่านั้นแหละ


“ไม่เกี่ยวกับขวัญใจมึง”


“เขามาง้อก็ทำเป็นเล่นตัว” ดินว่าหน้าซื่อ เหลือบมองพี่ชายตัวเองอย่างไม่เข้าใจ คนโดนว่าว่าเล่นตัวยิ้มเยาะมุมปาก


“ง้อห่าไร ทำแค่นั้นอย่าเรียกว่าง้อเลย แค่จะกลับมาอยู่กับกูยังไม่กล้า”


“แล้วถ้าคุณเรียวกลับมาอยู่กับพี่ พี่จะดีกับเขาเปล่า” คมเขี้ยวเงียบ หันไปมองไอ้น้องชาย ไอ้ดินมองอย่างไม่มีเลศนัยแล้วหันกลับไปมองถนนต่อ คนเป็นพี่ชายหันไปมองข้างถนน คิดสักพักหนึ่งก่อนตอบ


“ให้กลับมาจริงก่อน”


“นี่พี่โกรธคุณเรียวหรือน้อยใจเขากันแน่” ดินถามด้วยความสงสัยจริงๆ


“ทั้งสองอย่าง” คมเขี้ยวตอบตามความเป็นจริง เขาไม่ใช่คนไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังรู้สึกแบบไหน อาจจะต้องใช้เวลาในการจัดเรียงลำดับความรู้สึกบ้างหากเวลาไหนที่ความรู้สึกมันตีกันพัลวันจนมั่วไปหมด


“โห ทั้งโกรธ ทั้งงอนขนาดนี้ แสดงว่าพี่ก็รักเขามากอะดิ” คมเขี้ยวย่นคิ้วจิ๊ปาก รู้สึกอารมณ์เสียกับไอ้น้องชายบุญธรรมของตัวเอง


“เออ!” เขาตอบห้วนสั้น นึกอยากโบกกะโหลกไอ้ดินสักทีให้หายหมั่นไส้ในความซื่อ (บื้อ) ของมัน


แต่เอาจริงๆ ถึงไอ้ดินไม่พูด ไม่จี้ถาม มันก็เป็นความรู้สึกของเขาอยู่แล้ว แค่ตอนนี้ความรู้สึกมันเสียไป รอการเยียวยาอยู่ แล้วดูนังคุณนายตัวแสบที่ควรจะต้องเป็นคนมารักษาสิ ไปมุดนออยู่ไหนก็ไม่รู้


คมเขี้ยวเอนหัวพิงกับเบาะ นั่งมองข้างทางระหว่างกลับไปบ้านตัวเองไปเรื่อยด้วยความคุ้นตา ข้างในหัวเต้นตุบๆ ตัวร้อนรุมๆ กลับไปก็ต้องรีบกินข้าวกินยามื้อเที่ยงที่เลยเที่ยงมานานแล้ว เขาก็ไม่ได้กะว่าจะต้องมีเหตุให้ออกจากฟาร์มแบบนี้เหมือนกัน ชาวบ้านพวกนั้นก็ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ใครที่มาเคารพนับถือบ้านเขานักหรอก แค่ช่วงนี้เรื่องที่ดินมันเป็นเรื่องหน้าสิ่วหน้าขวาน อะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วยไปก่อน ถึงขั้นเผาก็ใจหยาบมากแล้ว







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:



พี่เขี้ยวเขาก็รักกก เขาแค่น้อยใจขุ่นแม่ เขาแค่อยากให้ขุ่นแม่ง้อเยอะๆ ล่ะม้างงงง แหมมมม เอาแต่ใจใช่ย่อยนะพ่อเขี้ยว

ปกติเป็ดไม่กล้ากับเพื่อนขนาดนี้นะคะ สิ่งหนึ่งที่เป็นถือเป็นคติประจำใจคือห้ามเป็นศัตรูกับนังเรียวจันทร์ (เคยเขียนไปแล้วในตอนหนึ่ง) แต่ครั้งนี้ ศศิต้องพูดค่ะ !

ใกล้เดินทางมาถึงตอนจบแล้วแน้ ครุคริๆ / คนอ่านบอก ฮะ อะไรนะ 55555



ขอขอบคุณคนอ่านที่ติดตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่มากๆ นะคะ  ขอบคุณที่รักและสนุกไปกับเรื่องราวในแบบที่เป็น คอมเม้นคือแรงกำลังใจของคนเขียน แม้อาจจะไม่มากแต่ก็ดีใจที่ยังมีคนคอยเม้นเป็นแรงขับเคลื่อนดีๆ ให้อยู่เสมอ

ตอนนี้ขุ่นแม่เรียวกับขุ่นพ่อเขี้ยวกำลังเปิดพรีออเดอร์ตัวเองในรูปแบบหนังสือนะคะ เปิดพรีฯ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม ตอนพิเศษในเล่มแน่นมาก ประเด็นในตอนพิเศษจะเชื่อมต่อจากตอนหลักที่ลงเว็บเลยค่ะ ไม่ได้เขียนสตอรี่ขึ้นมาใหม่ ผู้ใดสนใจ เข้าไปอ่านรายละเอียดของทั้งสองคนพร้อมรายละเอียดของแถมได้ที่ > พรีขุ่นพ่อขุ่นแม่

               



สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                                 
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ

เม้าท์มอยหอยกาบนอกรอบแบบเวิ่นเว้อเยอะๆ ได้ที่

FACEBOOK > ขุ่นเจ้

TWITTER > tomisagiftofgod



ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เค้ามาง้อก็เล่นตัวนิ โอ้ยยย พ่อคมเขี้ยว เขี้ยวกุด

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ mayongc.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบที่เป็ดเป็นคนที่รู้จักเรียวจันทร์ดีและคอยพูดฉุดให้เรียวจันทร์รู้ตัว
ขุ่นแม่ตั้งสติให้ได้เร็วๆนะคะ เขี้ยวกุดเขารอให้ไปง้ออยู่ :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด