- - - ใจแตก (Broken man) - - - [THE END]=เปิดพรีออเดอร์= (Up!ตอนพิเศษ Men Talks)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [THE END]=เปิดพรีออเดอร์= (Up!ตอนพิเศษ Men Talks)  (อ่าน 165744 ครั้ง)

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #18][060259]
«ตอบ #180 เมื่อ06-02-2016 20:53:21 »

 :ruready
เริ่มจะได้ทานมาม่าแล้วหรือ
ขอให้อย่าได้แรงมากนะจ๊ะ
ตะเตือนไต

ออฟไลน์ lolata

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #18][060259]
«ตอบ #181 เมื่อ06-02-2016 21:22:55 »

เมษานี้อะไรอ่ะ
กลัวใจคณิตจริงๆ อย่าทำปูนเสียใจเชียว

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #18][060259]
«ตอบ #182 เมื่อ07-02-2016 09:47:19 »

สำคัญในแง่ไหนน่ะ เพื่อนใช่ไหม

ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #18][060259]
«ตอบ #183 เมื่อ07-02-2016 15:42:05 »

กะแล้วว่าเมษาต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ :katai1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #18][060259]
«ตอบ #184 เมื่อ07-02-2016 19:21:58 »

พ่อกับลูก นิสัยแบบนี้มาม่าท่าจะจบยากอยู่นะ

ออฟไลน์ Toho48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #18][060259]
«ตอบ #185 เมื่อ08-02-2016 19:19:41 »

กรี๊ดดดดดดด คุณเมษมีบทแล้ว :impress2:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #18][060259]
«ตอบ #186 เมื่อ10-02-2016 20:45:50 »

เรื่องของเมษาน่าสงสัย

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #19][120259]
«ตอบ #187 เมื่อ12-02-2016 20:24:11 »

 

แตกที่ 19

…เค้กสตรอเบอร์รี่ ไอติมรสมะนาว และMint Julep...

 

 

 

 

เสียงเนื้อกระทบกันดังคลอไปกับเสียงเรียกชื่อของคณิตที่ฟังดูเสน่หาเสียจนเจ้าของชื่ออดใจไม่ไหวต้องก้มลงไปจดจูบตรงแผ่นอกขาวที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีกุหลาบจนปูนในตอนนี้มีสภาพไม่ต่างจากเค้กสตรอเบอร์รี่ที่ว่างอยู่บนโต๊ะใกล้ๆกันมากนัก สายฝนที่ตกอยู่ด้านนอกไม่ได้ส่งผลต่อทั้งสองคนที่เกี่ยวรัดกันอยู่เลยสักนิด ปูนที่กำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์ลูบไล้ไปตามท่อนแขนกำยำของอีกฝ่ายก่อนจะพลิกตัวขึ้นไปด้านบนแล้วเปลี่ยนเป็นคนคุมจังหวะทั้งหมดด้วยร่างกายของตัวเองจนเสียงทุ้มของคณิตดังขึ้นไม่ขาดสายเช่นเดียวกับเม็ดฝน

 

 

“กินดีๆสิ เดี๋ยวก็เลอะเตียงหมดหรอก”

 

 

คณิตที่เพิ่งจัดการตัวเองในห้องน้ำเสร็จพูดเตือนร่างเล็กที่นอนกินเค้กสตรอเบอร์รี่ที่เขานำมาฝากอยู่บนเตียงทั้งๆที่เนื้อตัวยังเปลือยเปล่า ปูนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วกินต่อไปจนกลายเป็นฝ่ายคณิตเองนั่นแหละที่ระอาจนไม่สนใจมันอีก เขาถอนหายใจหนักๆขณะที่นั่งลงแล้วใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดไปตามเส้นผมของตัวเอง แต่ไม่ทันไรมือเล็กๆที่เคยจับช้อนอยู่ก็คว้าผ้าไปแล้วค่อยๆใช้มันบรรจงซับน้ำออกจากผมของคณิตให้แทน

 

 

“ผมแค่หิว ไม่เห็นต้องดุกันเลย”

 

 

“ถ้าอย่างนั้นเรียกดุ โลกนี้คงไม่มีใครเคยพูดดีๆกับเธอเลยมั้ง”

 

 

ปูนส่ายหัวก่อนจะเปลี่ยนมานั่งลงตรงตักของคณิตเมื่อตัวเล็กเช็ดผมด้านหน้าให้ร่างสูงไม่ถนัด โดยมีคนอายุมากกว่าคอยช่วยอำนวยความสะดวกด้วยการประคองสะโพกกลมๆของปูนเอาไว้ให้

 

 

“ช่วงนี้ป๋าดูเครียดๆนะ มีอะไรรึเปล่า”

 

 

“งานยุ่งนิดหน่อยน่ะ มีประชุมแทบทุกวัน”

 

 

“อ่าฮะ ถึงไม่ค่อยได้กลับบ้านสินะ”

 

 

“อืม...ขอโทษนะที่ทิ้งให้เธอต้องอยู่คนเดียว”

 

 

มือที่กำลังนวดเบาๆไปตามขมับนิ่งไปก่อนปูนจะพิจารณาไปตามใบหน้าที่แสดงความเหนื่อยล้าออกมาอย่างปิดไม่มิด หลังจากคณิตกลับบ้านครั้งนั้น ชายหนุ่มก็แทบจะไม่โผล่หน้ามาให้เขาเห็นเลย นอกเสียจากตอนที่ปูนถูกวานให้เอาเสื้อผ้าและของบางอย่างไปส่งให้ที่โรงแรม หรือวันไหนที่เขานึกครึ้มไปเที่ยวหาพี่ๆพนักงานที่นั่นเลยพอจะมีโอกาสได้เห็นคณิตทำงาน คนที่เคยทำตัวสบายๆกลายเป็นเหมือนคนที่ต้องคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา แม้แต่อิงอรและทีมบริหารคนอื่นๆก็พลอยมีบรรยากาศที่เปลี่ยนไปด้วย

 

 

ปูนอยากถาม...แต่ก็รู้ว่าเขาไม่สมควรทำมัน คนตัวเล็กที่ห่วงใยชายตรงหน้าจากใจจริงจึงทำได้แค่โน้มตัวลงไปจูบเบาๆบนหน้าผากกว้างของคณิตก่อนจะโอบกอดร่างสูงไว้ด้วยกำลังที่ตนมี

 

“ไม่เป็นไร ผมอยู่ได้”

 

“แล้วใครไปบ่นในไลน์ว่าเหงาอยากเห็นหน้า”

 

“...”

 

“ไม่ต้องทำตัวเข้มแข็งหรอกน่า เอาแต่ใจตัวเองเหมือนเดิมเถอะ ถึงฉันจะตามใจเธอไม่ได้แต่ก็ชอบแบบนั้นมากกว่า”

 

คณิตยกยิ้มแล้วจูบหน้าผากของปูนกลับไปเบาๆ การได้เห็นความอ่อนไหวของปูนทำให้เขาสบายใจขึ้นจริงๆนั่นแหละ มันเหมือนกับว่าโลกที่หมุนรอบตัวเขาอยู่มันหมุนช้าลง...อย่างน้อยการเอาใจเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่งมันก็ยังน่าสนุกกว่าการคอยเทคแคร์นายทหารชั้นผู้ใหญ่ตัวโตพวกนั้น

 

“ให้เอาแต่ใจได้จริงอ่ะ”

 

“อืม”

 

“งั้นขออีกรอบได้ป่ะ”

 

“...”

 

“นั่นไง เหนื่อยจนทำไม่...อุ๊บ!”

 

ริมฝีปากช่างเจรจาของปูนถูกปิดลงจนรสหวานของเนื้อเค้กละมุนไปทั่วโพรงปากของคนทั้งสอง ร่างเล็กยังคงจับจ้องคณิตอยู่แม้ในยามนี้อีกฝ่ายจะกำลังบรรจงมอบสัมผัสบทใหม่ให้กับเขาตามความเอาแต่ใจที่เรียกร้องไปก็เพื่อคณิตทั้งนั้น...คนตัวเล็กได้โอกาสหันไปมองท้องฟากตรงนอกหน้าต่างในจังหวะที่ชายที่กำลังครอบครองเขาไว้ค่อยๆเคลื่อนตัวไปยังเบื้องล่าง

 

เขาไม่ชอบฝนเพราะมันทั้งหนาวและนำพาความทรงจำร้ายๆกลับมาให้

 

แต่ถ้าหากมันทำให้พวกเขาอยู่ด้วยกันนานขึ้นกว่านี้อีกสักนิด

 

ปูนก็จะขอบคุณมัน...

 

 

 

 

 

 

 

แม้จะผ่านค่ำคืนที่แสนหนักหน่วงมาแต่ปูนก็ฝืนสังขารพาตัวเองลงมาทำอาหารให้คณิตตั้งแต่เช้า ตู้เย็นที่เคยมีเพียงน้ำเปล่าถูกเติมเต็มไปด้วยของสดที่ปูนค่อยๆนำมาใส่ในทุกๆวันเช่นเดียวกับทุกมุมของบ้านที่มีของของร่างเล็กว่างอยู่ทั่วไปหมด ปูนหยิบแก้วมัคสองใบลงมาจากตู้ รินกาแฟรสเข้มใส่แก้วของคณิตและรินโกโก้หวานๆลงในแก้วของเขา มื้อเช้าง่ายๆอย่างโจ้กและไข่ลวกถูกจัดวางไว้พร้อมสรรพจนกระทั่งร่างในชุทสูทพร้อมทำงานของคณิตก้าวลงมาจากชั้นสอง

 

ชายหนุ่มที่เดินตามกลิ่นอาหารมาเข้าไปลูบหัวของปูนเบาๆแทนคำขอบคุณก่อนจะนั่งลงตรงที่ของตัวเองโดยมีปูนนั่งมองหน้าเขาจากฝั่งตรงกันข้าม กาแฟทำให้คณิตตื่นเต็มตาแต่เสียงฮัมเพลงของปูนกลับทำให้คณิตอยากจะกลับขึ้นไปนอนต่อซะอย่างนั้น บวกกับกลิ่นฝนอ่อนๆที่โชยมาทำให้เขาไม่อยากจากบ้านนี้ไปทำงานจริงๆ

 

“เดี๋ยววันนี้นั่งรถไปกับฉันหน่อยนะ”

 

“หื้ม? ทำไมหรอ?”

 

“มีของจะให้...แล้วก็อาทิตย์นี้ฉันต้องไปดูงานที่สัตหีบนะ”

 

แม้คำพูดที่บอกกลายๆว่าพวกเขาจะไม่เจอหน้ากันไปสักระยะหนึ่งจะทำให้ปูนรู้สึกวูบโหวงในอกแต่ร่างเล็กก็ยังรักษาอาการด้วยการยิ้มให้คณิตเหมือนกับที่เคยทำ ปูนตักหมูสับในชามของตัวเองใส่ไปในชามของคณิตแล้วก้มหน้าก้มตากินเงียบๆต่อไปปล่อยให้ร่างสูงหันไปดูข่าวจากทีวีโดยไม่คิดจะกวนอีก จนกระทั้งพวกเขาจัดการยัดทุกอย่างลงท้องเรียบร้อย ปูนกับคณิตก็ช่วยกันลำเลียงจานชามที่ใช้แล้วไปใส่ไว้ในอ่างล้างโดยที่ปูนจะกลับมาทำความสะอาดมันในภายหลัง

 

“ว่าจะถามตั้งแต่เมื่อคืน ช่วงนี้งานของเธอเป็นยังไงบ้าง”

 

คณิตพูดขึ้นหลังจากพวกเขาขับรถออกมาจากบ้านได้ไม่นาน ถนนที่ว่าใหญ่แล้วกลับคลาคล่ำไปด้วยรถส่วนตัวและรถโดยสารสาธารณะจนมันดูแคบไปทันตา ปูนที่กำลังอ่านอะไรบางอย่างจากมือถือของตัวเองเงยหน้าขึ้นแล้วตอบไป

 

“ก็เรื่อยๆเหมือนเดิม ผลัดวันธรรมดาก็น่าเบื่ออย่างนี้แหละ”

 

“ถ้าเบื่อทำไมไม่ขอกลับไปทำเสาร์อาทิตย์เหมือนเดิมล่ะ”

 

“ก็อยากกลับไปทำนะ...แต่เบื่อขี้หน้าคนบางคน”

 

ใบหน้าน่ารักง่ำงอก่อนจะเปลี่ยนเป็นยกยิ้มสะใจเล็กๆแบบที่คณิตไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่

 

“ใคร? อย่าบอกนะว่าเจอลูกค้าเก่า”

 

คำว่าลูกค้าเก่าที่คณิตใช้ทำเอาปูนใจกระตุกไปบ้างแต่เขาก็สะบัดมันทิ้งไปเพราะรู้ดีว่าคนตัวสูงไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น

 

“เปล่าหรอก แต่ก็...อาจจะคล้ายกันบางส่วน”

 

“คล้ายกัน?”

 

“อื้ม ส่วนที่ว่ามันอยากได้ผมไง”

 

ปูนลังเลว่าจะพูดถึงพลัสดีไหมเพราะภาพในงานเลี้ยงคืนนั้นก็ยังคงย้ำเตือนถึงไมตรีจิตที่คณิตมีต่อมันไม่มากก็น้อย แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจพูดถึงมันไม่ใช่แค่อยากระบายความรำคาญให้ร่างสูงได้ฟัง หากแต่หวังว่าคณิตจะเข้าใจถึงคำเตือนที่แฝงอยู่ในนั้น...ว่าอย่าได้กลับไปข้องเกี่ยวกับพลัสอีก

 

“ก็เด็กที่ป๋าปกป้องอยู่วันนั้นไง...คนที่ชื่อพลัสน่ะ”

 

“อ่อ แล้ว?”

 

“มันอยากได้ผม”

 

“...”

 

“ถึงขนาดตามคอยสืบเรื่องของผมด้วย หึ โรคจิตชัดๆ”

 

คณิตมองใบหน้าที่บ่งบอกความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบังแล้วเลือกจะเงียบไว้มียุยงหรือขัดคอจนอาจทำให้ความรู้สึกของปูนรุนแรงกว่านี้ ใบหน้าเรียบๆของเด็กผู้ชายคนนั้นที่ถึงต่อให้ปูนจะไม่บอกเขาก็พอเดาได้ว่าอีกฝ่ายคงสนใจร่างเล็กอยู่ไม่น้อยแต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะสนใจไปในทางนั้น ไม่ได้ผิดหวังอะไรหรอก แค่ผิดคาดและเขาก็เป็นผู้ใหญ่พอที่จะฟังหูไว้หู

 

“เพราะแบบนี้ใช่ไหมวันนั้นเธอเลยไม่พอใจ”

 

“ก็...นะ”

 

“เอาเถอะ ถ้าไม่ชอบก็อย่าไปยุ่งกันก็พอ”

 

“หึ ป๋าคิดว่าผมจะไปทำอะไรมันรึไง”

 

“จะบอกว่าเปล่าก็คงโกหก ฉันรู้จักนิสัยร้ายๆของเธอดีพอๆกับที่รู้จักร่างกายของเธอนั่นแหละ”

 

ชายหนุ่มพยายามเบี่ยงประเด็นออกไปให้พ้นเรื่องของพลัสซึ่งมันก็ได้ผล แก้มของปูนขึ้นสีเลือกฝาดโดยที่เจ้าตัวก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่ถูกคณิตเทะโลมทางคำพูดจนไม่นานพวกเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทาง คือโรงแรมที่คณิตทำงานอยู่ซึ่งมันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นไม่ต่างจากคนที่คอยควบคุมดูแล

 

“ช่วงไหนฉันติดประชุมจะไม่เปิดเครื่องนะ ถ้ามีอะไรด่วนก็ส่งข้อความมาแล้วกัน สัญญาว่าจะเปิดอ่านตลอด”

 

“ครับๆ แล้วของที่บอกว่าจะให้ผมล่ะ”

 

ปูนแบมือออกไปแต่แทนที่คณิตจะยื่นของมาให้ชายหนุ่มกลับแบมือมาทางเขาแทน

 

“ขอดูกระเป๋าสตางค์หน่อย”

 

“ห๊ะ?”

 

“เออน่า ขอดูหน่อย”

 

ร่างเล็กหยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกไปให้อย่างงงๆ  โดยทันทีที่คณิตได้รับมาก็เปิดดูของข้างในนั้นเหมือนกับจะตามหาอะไรบางอย่าง และเมื่อคณิตได้พบมันชายหนุ่มก็ยกยิ้มแล้วเปิดประตูออกจากรถไป

 

“เดี๋ยวสิป๋า อธิบายหน่อยได้ไหม!”

 

“ได้ นี่ไงคำอธิบาย”

 

ปูนยืนอึ้งเมื่อคำอธิบายของคณิตคือรถยนต์คันเล็กคันหนึ่งที่ถึงแม้จะไม่ใช่รุ่นใหม่แต่สภาพภายนอกกลับยังดูดีอยู่แทบจะไม่มีที่ติ ในขณะที่ปูนยังคงสำรวจรถตรงหน้าทางสายตาอยู่นั่นเองกุญแจดอกหนึ่งก็ถูกคณิตยื่นมาให้พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่ทำเอาคนมองใจสั่น

 

“ไม่ใช่รถใหม่หรอกนะ แต่มันก็ยังดีกว่าให้เธอนั่งวินมอเตอร์ไซด์”

 

“เอาจริงดิ...”

 

“จริง รถเก่าฉันเองจอดไว้ที่บ้านไม่มีคนใช้...ว่าไงจะเอาหรือไม่เอา”

 

ร่างเล็กตะครุบกุญแจตรงหน้าเหมือนแมวตะครุบปลาทู ถ้าหากปูนมีหางคณิตคิดว่ามันคงจะกวัดแกว่งไปมาอย่างร่าเริงไม่ต่างจากสีหน้าของผู้เป็นเจ้าของ ปูนยิ้มกว้าง...ไม่ใช่แค่สิ่งของเท่านั้นที่ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกปลื้มใจหากแต่ยังรวมถึงความเอาใจใส่ของคณิตที่มอบมันให้กับเขานับครั้งไม่ถ้วน อยากจะเข้าไปกระโดดจูบเพื่อแสดงคำขอบคุณอยู่หรอก แต่มาทำตรงนี้คงไม่เหมาะ

 

“ป๋า”

 

“หื้ม?”

 

“ขอบคุณนะ”

 

ปูนว่ายิ้มๆก่อนจะจูบนิ้วของตัวเองแล้วเอามันไปแตะตรงริมฝีปากของคณิตอย่างจงใจ คนที่ถูกจู่โจมเบิกตาขึ้นเล็กๆแล้วหัวเราะออกมาดังลั่นกับการกระทำไร้เดียงสาไม่เข้ากับนิสัยของปูนเลยสักนิด

 

“น้ำมันเติมเองนะ ถ้าขับไปชนก็ซ่อมเอง”

 

“รู้หรอกน่า”

 

ร่างเล็กว่าเสียอ่อนพร้อมกับรับกระเป๋าสตางค์ของตัวเองคืนมาแล้วคิดไปว่าที่คณิตของมันไปคงเพราะอยากจะดูว่าเขามีใบขับขี่รึเปล่านั่นแหละ

 

“ขับระวังๆล่ะ ให้รถไปใช้ไม่ใช่ว่าจะเอาไปตะลอนเที่ยวที่ไหน บ้านก็ดูแลดีๆด้วย อย่าลืมตรวจประตูก่อนจะนอน น้ำไฟก็ต้องเช็คทุกครั้ง”

 

“ครับๆ ไปอาทิตย์เดียวหรือไปเป็นเดือนเนี่ย”

 

“อาทิตย์เดียว...แต่มันเป็นหนึ่งอาทิตย์ที่เธอจะไม่ได้เจอฉันนะ”

 

“...”

 

“ดูแลตัวเองดีๆรู้ไหม ฉันเป็นห่วง”

 

ให้ตายสิ...ปูนไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายคนนี้บทจะพูดตรงขึ้นมาก็ทำเอาหัวใจอ่อนๆของเขาเต้นรัวจนกลัวว่ามันจะวายไปเสียก่อน คนตัวเล็กพยักหน้าให้ก่อนจะรับปากทุกคำเตือนที่คณิตมอบให้มา เขาอวยพรให้งานของร่างสูงผ่านไปได้ด้วยดีและสัญญาว่าหากกลับมาเมื่อไหร่เขาจะทำของอร่อยๆให้ทาน

 

รถคันเก่าของคณิตค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปโดยที่สายตาของปูนยังคงจับจ้องร่างสูงผ่านทางกระจกมองหลัง มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งปวดหนวงและสุขสมในคราวเดียวกัน...การรอคอยที่มีความเชื่อหล่อเลี้ยงมันเป็นแบบนี้เองสินะ

 

ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนตอนที่เขารอคอยให้รัตติกาลกลับมา

 

เพราะครั้งนี้เขารู้ว่าคณิตเอง...ก็จะคิดถึงเขาเหมือนกัน

 

:-[(มีต่อเม้นต์ล่าง) :-[

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #19][120259]
«ตอบ #188 เมื่อ12-02-2016 20:25:43 »


 

เอมมิกาที่นั่งถอนหายใจอยู่หลังห้องเหลือบมองเพื่อนชายข้างกายที่ดูเงียบขรึมจนเธอเหนื่อยใจจะชวนคุย พลัสที่พยายามรวบรวมสติไว้กับบทเรียนหน้าห้องจดเนื้อหาทั้งหมดลงสมุดเล่มเล็กที่ปกติมันไม่เคยถูกใช้งานมากขนาดนี้ จนกระทั่งเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อนหลังจากที่เขาเข้าห้องเรียนมาด้วยดวงตาดวงช้ำแบบที่เอมมิกาไม่เชื่อว่ามันเป็นเพราะเขานอนดึก...พลัสก็เปลี่ยนไป

 

“จะเรียนเอาโล่รึไงแก ขยันเป็นบ้าอะไรเนี่ย”

 

หญิงสาวแกล้งพูดเหน็บหลังจากอาจารย์เดินออกไปจากห้องแล้ว นิสิตทุกครั้งทยอยเก็บของและเศษซากขนมที่เอามากินรวมถึงพลัสที่หย่อนสมุดและปากกาลงไปในกระเป๋าสะพายใบเล็กด้วยใบหน้านิ่งเฉย

 

“แค่เบื่อๆน่ะ”

 

“เบื่อแล้วยิ่งเรียนเนี่ยนะ แอบไปล้มหัวฟาดพื้นมาป่ะถามจริง”

 

พลัสส่ายหัวถ้าเขาล้มอย่างที่เพื่อนว่าก็คงดี เอาให้ความจำเสื่อมไปเลย เรื่องร้ายๆที่เขาต้องเผชิญมันจะได้หายไปจากหัวสักที...

 

“ว่าแต่เลิกเรียนแล้วจะไปไหนกันดีวะ อยากกินไอติมอ่ะ ไปด้วยกันป่ะ”

 

“เอา...”

 

ยังไม่ทันที่พลัสจะได้ตอบ เสียงล้อรถบดสีกับถนนก็ดังไปทั่วจนนิสิตที่อยู่แถวนั้นหันไปมองกันเป็นแถบรวมถึงเอมมิกากับพลัสด้วย ร่างบางเม้มริมฝีปากของตัวเองแน่นเมื่อเห็นรถบิ๊กไบค์สีดำคันคุ้นตาเข้ามาจอดเทียบฟุตบาทโดยมีร่างของคนขับที่สวมชุดป้องกันสีดำทั้งตัวไว้เช่นเดียวกับหมวกกันน็อคที่ต่อให้ปกปิดใบหน้าเด็กหนุ่มก็จำได้ทันทีว่าเป็นใคร

 

“ใครวะแก ทั้งรถทั้งคนเท่โคตรอ่ะ”

 

“ไปกินข้าวกันเถอะ”

 

“เดี๋ยวสิ แกจะรีบไปไหนเนี่ยพลัส!”

 

หญิงสาวร้องถามเมื่อจู่ๆเพื่อนที่ยืนเงียบมานานก็ออกแรงลากเธอเดินไปยังโรงอาหารของตึกที่มีคนนั่งกินข้าวอยู่จนแทบไม่มีที่ว่าง เด็กหนุ่มพยายามมองไปรอบๆเพื่อหาที่ที่เขากับเพื่อนสามารถนั่งลงได้แต่ยังไม่ทันจะได้ทำแบบนั้นแขนของพลัสก็ถูกกระชากอย่างแรงจากทางด้านหลังจนทำให้มืออีกข้างที่จับมือของเอมมิกาไว้หลุดออก

 

“อะ เอ่อ...นี่มันอะไรกันคะ คุณเป็นใคร”

 

คนที่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้ามากที่สุดกลั้นใจถามโดยที่สายตาก็ไม่ได้ละไปจากชายหนุ่มปริศนาและเพื่อนของเธอที่ดูไม่ตกใจอะไรเลยสักนิด พลัสพยายามบิดแขนของตัวเองออกแต่ยิ่งทำอีกฝ่ายก็ยิ่งบีบมันให้แน่นขึ้นจนความเจ็บปวดถูกแสดงออกทางสีหน้า คนที่ยังสวมหมวกกันน็อคอยู่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาปล่อยให้ความเงียบกดดันร่างบางที่แข็งข้อจนพลัสต้องยอมแพ้ หันกลับไปคุยกับเพื่อนสาวที่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง

 

“เขาเป็นคนรู้จักของเราเอง เอมกลับบ้านไปก่อนนะ...เรามีธุระต้องไปทำ”

 

“คนรู้จักของแก ใครวะ”

 

เอมมิกาไม่เชื่อคำอธิบายนั้น เพราะเพื่อนของพลัสต่างก็เป็นเพื่อนของเธอด้วยทั้งนั้น จากสายตาที่เคยชื่นชมเปลี่ยนเป็นไม่ไว้ใจ จนพลัสที่ไม่พร้อมจะบอกเรื่องนี้กับใครทั้งนั้นต้องหาข้อแก้ต่างให้ร่างใหญ่แทนทั้งที่ไม่เต็มใจ

 

“คนจากที่ทำงานน่ะ ขอโทษทีนะเอมเอารถเราไปใช้ก่อนก็ได้”

 

พลัสหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซด์ของตัวเองออกมาให้เพื่อนก่อนจะบอกขอโทษเธออีกครั้งแล้วเดินออกมาจากจุดนั้นแทบจะทันที แขนของเขายังคงเจ็บเพราะคนที่เดินตามมายังไม่ปล่อยมัน...แม้ว่าคนรอบข้างจะมองมาแค่ไหน คนคนนี้ก็ไม่เคยคิดจะปล่อยเขาไป...ไม่แม้แต่จะสนใจว่าเขารู้สึกยังไง

 

“ขึ้นมา อย่าให้กูต้องพูดมาก”

 

บอยที่เปิดปากพูดเป็นครั้งแรกบอกกับพลัสหลังจากพาตัวเองขึ้นมานั่งบนรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หมวกกันน็อคอีกใบถูกส่งให้ พลัสก็รับมันมาใส่อย่างไม่เต็มใจแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ทันทีที่ร่างบางขึ้นมาซ้อนบอยก็บิดรถออกไปแทบจะทันทีจนคนที่ยังตั้งตัวไม่ทันต้องผวาคว้าเอวของร่างใหญ่มากอดไว้แน่น

 

เมฆฝนที่ลอยอยู่บนฟ้าไม่ได้ทำให้พลัสอึดอัดไปกว่าบรรยากาศระหว่างเขาและอดีตเจ้านายที่เข้ามาเกี่ยวข้องกันอย่างไม่เต็มใจ...ใช่...บอยเป็นเพียงอดีตเจ้านายเพราะหลังจากเรื่องคืนนั้นเด็กหนุ่มก็โทรไปหาผู้จัดการทีมคนอื่นเพื่อขอโทษและบอกว่าเขาจะไม่กลับไปทำงานที่นั่นอีกแล้ว ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าหนีไม่พ้นแต่พลัสก็ยืนยันจะทำอย่างนั้นหากมันทำให้เขาอยู่ห่างจากบอยได้แม้แค่นิดเดียวก็ยังดี

 

“กินข้าวรึยัง”

 

แม้ว่าเสียงสายลมที่พัดผ่านจะทำให้เขาได้ยินเสียงของบอยไม่ชัดแต่ก็พอเดาได้ พลัสส่ายหน้าน้อยๆแทนคำตอบโดยไม่สนว่าบอยจะเห็นมันไหม ร่างใหญ่ไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีกจนกระทั่งรถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ค่อยๆจอดลงตรงหน้าร้านอาหารตามสั่งเล็กๆร้านหนึ่งที่แทบจะไม่มีลูกค้า

 

“กูหิว กินร้านนี้ก็แล้วกัน”

 

ทำอย่างกับจะปฏิเสธได้...พลัสไม่ได้พูดออกไปแล้วยอมเดินไปนั่งในร้านแต่โดยดี ไม่ใช่ว่าไม่อยากขัดขืนแต่มันไร้ประโยชน์ จากการกระทำในโรงอาหารต่อหน้าผู้คนมากมายนั่นก็เป็นบทพิสูจน์ชั้นดีแล้วว่าชายคนนี้จะทำทุกอย่างหากมันจะสนองความต้องการของตัวเองได้ บอยไม่แม้แต่จะถามเขาว่าอยากกินอะไร ชายหนุ่มเดินไปสั่งอาหารกับแม่ค้าแล้วปล่อยให้พลัสหยิบน้ำมาวางไว้บนโต๊ะคนเดียว

 

“ทำไมเมื่อกี้ถึงเดินหนีกู”

 

ทันทีที่บอยนั่งลงหัวข้อสนทนาที่จะทำลายบรรยากาศดีๆแม้จะมีเพียงน้อยนิดก็ถูกหยิบมาพูดโดยคนที่พลัสไม่แม้แต่จะมองหน้า เขามองฝ่ามือของบอยที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วคิดก่อนจะตอบไป

 

“ผมไม่เห็นพี่”

 

“โกหก...กูก็บอกแล้วว่าจะมารับ”

 

“...”

 

“อย่าทำให้กูโมโหนักได้ไหมพลัส”

 

“ต่อให้ผมไม่ทำ พี่ก็โมโหอยู่แล้ว”

 

พลัสพูดไปตามความจริง เพราะมือที่จากแรกคลายกันออกตอนนี้เริ่มบีบเข้าหากันจนเห็นเส้นเลือดบวมปูด เด็กหนุ่มเผลอคิดไปว่าหากบอยทนไม่ไหวลุกขึ้นมาต่อยเขาข้อหากวนตีนตอนนี้เลยก็ดี...มันจะได้จบๆไป แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวังเพราะจู่ๆมือนั้นก็ค่อยๆคลายกันลงก่อนจะเอื้อมมาคว้ามือของพลัสมาจับไว้

 

“อยากไปไหนไหม กูมีเวลาอีกสองชั่วโมงกว่าจะเข้างาน”

 

“...”

 

“ว่าไง”

 

“ผมอยากนอน”

 

“...”

 

“อยากนอน...เงียบๆคนเดียว”

 

บอยไม่ตอบจนกระทั่งผัดกะเพราะใส่เต้าหู้ไข่สองจานจะถูกวางลงบนโต๊ะ พลัสลงมือกินอาหารตรงหน้าแล้วนึกกับตัวเองว่าโชคดีเหลือเกินที่อาหารที่บอยสั่งมาเป็นของโปรดของเขาพอดี ไม่อยากนั้นเขาก็คงต้องฝืนกินมันเหมือนกับที่กล้ำกลืนอยู่กับบอยอย่างทุกวันนี้

 

บอยไม่ได้บังคับทางวาจาหากแต่การกระทำที่เป็นดั่งเงาตามไปทุกฝีเก้าทำให้พลัสคิดไปเองว่าตัวเองไม่ต่างจากนักโทษเท่าไหร่ แต่ทางนั้นคงดีกว่าตรงที่อย่างน้อยนักโทษก็รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไรถึงถูกจองจำแบบนั้น

 

ไม่เหมือนเขา...ที่ไม่เคยรับรู้ความผิดของตัวเองเลย

 

ความเป็นคนของเขาถูกชายคนนี้พรากไปโดยไร้ซึ่งคำอธิบายมีเพียงอารมณ์โกรธเกรี้ยวเท่านั้นที่ทำให้พลัสรู้ว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความเสน่หา เขาถามแต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบ มีเพียงแค่คำพูดซ้ำๆที่บอกว่าเขาเป็นคนผิดเท่านั้นที่ดังก้องอยู่ในหัว มันทั้งอึดอัดและเจ็บช้ำจนวันนี้มันแปรเปลี่ยนเป็นความด้านชา...

 

ไม่ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้บอยทำร้ายเขา...พลัสก็เกลียดมันจับใจ

 

 

 

หลังจากอาหารทั้งสองจานหมดลง บอยก็เป็นคนจ่ายเงินแล้วพาพลัสกลับมาที่ห้องของตนแทนที่จะเป็นบ้านของร่างบางที่อยู่ห่างออกไปแค่เพียงนิดเดียว มันเป็นความเคยชินที่พลัสไม่ต้องขออนุญาตก่อน เด็กหนุ่มวางกระเป๋าสะพายของตัวเองลงตรงโต๊ะก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่เขาเคยทำอะไรต่อมิอะไรมานับครั้งไม่ถ้วนในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา

 

“กูได้ไอติมมา อยากกินไหม”

 

พลัสไม่ตอบแต่ในหัวก็นึกถึงคำพูดของเพื่อนสาวที่ชวนเขาไปกินด้วยกันก่อนที่จะถูกนำตัวมาที่นี่ ร่างบางหลับตาลงแล้วแสร้งเป็นไม่รับรู้การมีตัวตนของบอยแม้ว่าเสียงฝีเท้าหนักๆนั้นยังคงดังอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งไอเย็นบางอย่างแผ่ซ่านออกมาสัมผัสตรงใบหน้าของเขา

 

“กินซะ”

 

“...”

 

“รสมะนาว ชอบไม่ใช่หรอ”

 

ไอศกรีมสีเขียวรสเปรี้ยวถูกยื่นมาพร้อมกับช้อนพลาสติกและดวงตาคมๆของคนที่ไร้ซึ่งหัวใจ พลัสรับมันมาก่อนจะเปลี่ยนเป็นนอนคว่ำ เขาค่อยๆเปิดฝามันออกแล้วตักกินโดยไม่สนใจว่าความซุ่มซ่ามของตัวเองจะทำให้ผ้าปูที่นอนสีขาวนี้เลอะเปรอะเปื้อนแค่ไหน...บอยก็ไม่ว่า เขาปล่อยให้คนที่ไม่ยิ้มเลยนับตั้งแต่วันนั้นทำตามใจอยาก ส่วนตัวเขาเองก็คอยเฝ้าดูและเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้

 

“คุกกี้”

 

“...?”

 

“ผม...อยากได้คุกกี้”

 

พลัสทำเหมือนว่ากำลังพูดกับตัวเองเพราะไม่ได้มองตาคนที่ร้องขอเลยสักนิดแต่มันก็ได้ผล บอยลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินออกไปเพื่อตามหาของที่ว่า ร่างใหญ่เดินผ่านชั้นหนังสือ ตู้ใบใหญ่ที่มีกุญแจล็อคไว้ และประตูห้องออกไป ทิ้งให้พลัสที่แววตาเซืองซึมเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวไว้เพียงลำพัง

 

“ถ้าหนีไม่ได้...ผมก็จะไม่หนี”

 

“...”

 

“ผมไม่ใช่เหยื่อของพี่หรอกนะ”

 

 

.

.

.

.

.

.

 

 

“Velvet Falernum ได้แล้วครับ”

 

ปูนวางเครื่องดื่มสีใสลงบนเคาน์เตอร์ตรงหน้านักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่กลายมาเป็นเพื่อนคุยในคืนที่เงียบเหงานี้ให้กับเขา แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรมากไปกว่าการพูดคุยเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวและเรื่องตลกๆที่ร่างเล็กสรรหามาเล่าให้ลูกค้าฟังเป็นความบันเทิงเล็กๆที่เขามอบให้อีกฝ่ายได้ซึ่งมันก็ได้ผลดี แบงก์สีม่วงหนึ่งใบถูกวางลงบนโต๊ะแยกกับค่าเครื่องดื่มก่อนที่ชายคนนั้นจะจากไป ปูนเก็บมันใส่กระเป๋าเสื้อแล้วนำแก้วที่ว่างเปล่าไปบางไว้บนที่ใส่แก้วใช้แล้วใกล้ๆ

 

“คนน้อยชะมัด ฝนแม่งก็จะตกอะไรนักหนา”

 

เป็นอย่างที่ว่าบาร์ในวันทำงานที่ว่าเงียบเหงาอยู่แล้วยิ่งเงียบเข้าไปอีกเมื่อฝนเปลี่ยนฤดูถาโถมลงมาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ไม่ใช่แค่โรงแรมนี้หรอกที่ได้รับผลกระทบอีกหลายๆที่รวมถึงโรงแรมของคณิตก็คงจะเหมือนกัน ปูนได้แต่ขำ ใครบอกว่าทำงานโรงแรมสบายนอกจากต้องคอยรับมือกับลูกค้าแล้ว ทั้งสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมอื่นๆยังส่งผลต่อธุรกิจให้ปวดหัวกันเล่นตลอดทั้งปีนั่นแหละ

 

“ฟ้าฝนมันก็ห้ามไม่ได้แบบนี้แหละ ทำใจเถอะ”

 

เหมือนกับมองเห็นความคิดเขาได้ คำพูดของคนมาใหม่ทำให้ปูนที่กำลังยืนบ่นอุบรีบหันกลับไปมองจนปะทะเข้ากับร่างของเมษาที่โผล่มาจากด้านหลังโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

 

“ขอโทษครับ”

 

ปูนรีบบอกก่อนจะถอยออกมา เจ้านายแสนใจดีอย่างเมษาก็ไม่ได้ว่าอะไรหนำซ้ำยังมีน้ำใจปัดรอยเปื้อนเล็กๆตรงปกเสื้อให้เด็กหนุ่มอีก

 

“ไม่เป็นไร ทั้งที่เธอชนชั้นแล้วก็ที่แอบมายืนบ่นอยู่ตรงนี้ด้วย”

 

“เอ่อ...”

 

“ล้อเล่นน่า ฮ่าๆ ขอเหล้าดีๆให้ฉันสักแก้วสิ ไม่ต้องหนักมากนะ”

 

เมษายิ้มแล้วนั่งลงตรงนั้นเลยแทนที่จะออกไปนั่งทางด้านนอก ปูนเองก็ไม่กล้าขัดเลยหันไปทำตามที่ชายหนุ่มว่า เขาหยิบใบสะระแหน่ใส่ลงในน้ำเชื่อม บดมันให้ละเอียดเล็กน้อยก่อนจะเติมน้ำแข็งและวิสกี้ลงไปโดยมีสายตาของเมษาจ้องมองอยู่ทุกท้วงท่า จนกระทั่งเครื่องดื่มสีอำพันอ่อนๆถูกแต่งประดับมาพร้อมกับใบสะระแหน่ที่ช่วยทำให้จมูกของเขาโล่งมากขึ้นโดยเฉพาะกับวันที่ฝนตกหนักแบบนี้

 

“Mint Julep งั้นหรอ”

 

“ครับ แก้หวัดได้ดี ผมว่าเสียงคุณแหบหน่อยๆแล้ว”

 

ปูนว่าก่อนจะเก็บเครื่องมือที่ใช้แล้วให้เข้าที่ทำเป็นไม่เห็นรอยยิ้มแปลกๆที่เมษาส่งมาให้ ชายหนุ่มที่รับมันไปค่อยๆยกความห่วงใยของปูนขึ้นดื่ม แม้ว่าความเย็นจากน้ำแข็งและใบมิ้นท์จะทำให้ช่วงคอของเขาเย็นไปบ้างแต่ความโล่งที่ตามมาก็ทำให้เมษาพอใจมันไม่น้อย

 

“เยี่ยมมาก แต่บอกไว้ก่อนนะว่าแก้วนี้ไม่รวมกับสัญญาที่เธอให้ไว้”

 

“ครับๆ จะให้ทำให้เท่าไหร่ผมก็ไม่มีปัญหา เงินคุณทั้งนั้นนี่นะ”

 

ร่างเล็กยักไหล่แล้วหันไปให้ความสนใจกับสายฟ้าที่ผ่าลงมาจนเกิดเสียงดังก้องไปทั่ว ผิดกับเมษาที่ไม่มีทีท่าสะดุ้งสะเทือนอะไร

 

“ฉันนึกว่าเธอจะไปกับไอ้คณิตมันด้วยซะอีก”

 

“ครับ?”

 

“สัตหีบน่ะ มันไปคุยงานที่นั่นไม่ใช่หรอ”

 

“อ่อ...ใช่ครับ ไปอาทิตย์นึง”

 

แทนที่เมษาจะพยักหน้ารับเขากลับหันมาสบตากับปูนที่ไม่อาจอ่านอารมณ์ของคนคนนี้ออกได้เลยสักครั้ง

 

“เธอคงเหงาแย่”

 

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ ผมเองก็มีงานต้องทำ”

 

“อ่าฮะ งานในบาร์ที่แทบไม่มีคนแบบนี้ไง”

 

“ก็ฟ้าฝนมันห้ามกันไม่ได้ไม่ใช่หรอครับ”

 

ปูนย้อนกลับไปแต่ก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีและคนฟังก็เหมือนกับว่าพอใจวาจายอกย้อนของร่างเล็กอยู่ไม่น้อย

 

“ฮ่าๆนั่นแหละนะ ขนาดฉันยังเบื่อเลยเธอก็คงเหมือนกัน”

 

“คุณพูดเองนะครับ ผมไม่ได้พูด”

 

“เธอจะพูดก็ได้ฉันไม่ว่าหรอก...แต่ต้องหลังจากที่ฟังข้อเสนอของฉันนะ”

 

ร่างเล็กเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะโน้มใบหน้าไปหาเมษาที่กระดิกนิ้วเรียกราวกับบอกให้เขาเข้าไปฟังมันใกล้ๆ

 

“เธอรู้ไหมว่าคณิตมันเป็นคนไม่ชอบเรื่องเซอร์ไพรส์”

 

“ก็เคยคิดอยู่เหมือนกันครับ”

 

เมษายิ้มกริ่มก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปกระซิบให้ใกล้กว่าเดิม

 

 

 

 

“งั้นเรามาแกล้งมันเล่นหน่อยดีกว่า”

 

 

“...?”

 

 

 

 

“ไปสัตหีบกัน...ในฐานะผู้ช่วยของฉัน”

 

 

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกับเช่!

ก่อนอื่น เป็นชื่อตอนที่ยาวและน่ากินมาก (สิ้นคิดด้วย)  :hao3: รอบนี้หายไปเป็นอาทิตย์เลยคับ ทำงานตลอดเลย และอาทิตย์หน้าก็อาจจะเป็นแบบนี้อีก เช่ต้องเอาวิจัยไป Try out เวลาแต่งอาจจะไม่มีหรืออาจจะมาเป็นเปอร์เซ็นต์ แต่จะพยายามไม่หายนะคับ  :impress3:

อ่าน feedback ตอนที่แล้วสนุกดี วันนี้เลยเอาระเบิดมาปล่อยอีกรอบ (ลูกเล็กๆน่ารัก o22) ส่วนคู่รองตอนแรกว่าจะเขียนเป็นตอนแยกแต่เอาจริงๆมันก็แยกไม่ขาดอ่ะคับ มันมีความสัมพันธ์กับเรื่องของคู่หลักอยู่ ถึงจะไม่ชอบก็อ่านๆไปเถอะนะคับ  :hao4: แฮ่ ทำใจคับ ตัวละครที่เช่สร้างไม่มีตัวไหนไม่โดนเกลียด บอกน้องพลัสไปปรึกษาพี่กาลได้ โดยด่าหนักแค่ไหนก็เซียน (ปัจจุบันก็ยังโดนอยู่) :katai3:

หนังสือพี่กาล ตอนนี้รอเล่มตัวอย่างเพื่อยืนยันการพิมพ์ล็อตจริงกับโรงพิมพ์ จะรายงานความคืบหน้าเรื่อยๆนะคับ ใครที่โอนเงินมาแล้วก็รบกวนเช็คชื่อของตัวเองด้วย เพราะมีบางคนที่ยังไม่ยืนยันการโอนเงินกับเช่เลย ไม่อยากให้ตกหล่นนะคับ ที่ทำระบบให้จองก่อนโอนเพราะกลัวเรื่องนี้เนี่ยแหละ แต่ก็เจอจนได้ ส่วนหนังสือป๋าปูนเริ่มมีคนถามบ้างแล้ว ยังคับ เหลือเวลาเก็บเงินกันอีกนานๆ เรื่องยังมาได้ไม่ถึงครึ่งเลยไม่ต้องรีบเนอะ  :กอด1:

ป.ล.ขอบคุณทุกเม้นต์ทุกโหวตนะคับ ช่วงนี้ยุ่งมากจริงๆไม่มีเวลาตอบแต่อ่านทุกเม้นต์เลย มีชอบบ้างไม่ชอบบ้างเช่ก็น้อมรับแล้วเอาไปปรับปรุงนะคับ^^ เจอกันใหม่ตอนหน้า!  :z2:

 

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #19][120259]
«ตอบ #189 เมื่อ12-02-2016 20:58:47 »

นี่จะถือว่าค้างนะ อยากรู้ เมษไม่ได้มาไม่ดีใช่เปล่า รออ่านตอนต่อไปน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #19][120259]
« ตอบ #189 เมื่อ: 12-02-2016 20:58:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Toho48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #19][120259]
«ตอบ #190 เมื่อ13-02-2016 07:19:57 »

เดาเมษาไม่ออปว่าจะมาดีหรือมาร้่าย

ส่วนป๋าก็คือป๋าอะ ให้รถด้วย :hao7:

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #19][120259]
«ตอบ #191 เมื่อ13-02-2016 16:30:19 »

จะไปเซอร์ไพรซ์ หรือจะก่อศึกกันแน่ เมษา

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #19][120259]
«ตอบ #192 เมื่อ13-02-2016 20:03:48 »

เราก็เป็นคนหนึ่งที่เกลียดการเซอร์ไพรซ์ที่สุด
งานนี้ คงมีอะไร ไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ เลย
 :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #19][120259]
«ตอบ #193 เมื่อ13-02-2016 20:26:03 »

 :pig4:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #19][120259]
«ตอบ #194 เมื่อ13-02-2016 20:43:34 »

เมษาคิดอะไรอยู่ เราระแรง ระแวงจริงๆนะ รักปูนอีกคนไม่กลัว กลัวรักคณิตนี่สิ สะเทือนจายยยย~~ :z3: :katai1:   แฮ่~~ จะรอนะคะ สู้ๆค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #19][120259]
«ตอบ #195 เมื่อ13-02-2016 21:24:49 »

เมษานี่มาดีมาร้ายยย  :katai1:

ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #19][120259]
«ตอบ #196 เมื่อ14-02-2016 18:09:51 »

กลัวใจเช่มากกว่าเมษาอีก มันแฮ๊ปปี้เกินไปจนมีกฃิ่นตุๆ

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
 

แตกพิเศษ

…Be my Valentine...

 

 

 


สิ่งแรกที่ผมเห็นในเช้าวันวาเลนไทน์ปีนี้

 

คือหน้าหวานๆ...ของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง

 

 

 

“ขึ้นมาบนนี้ได้ไงเนี่ย”

 

คณิตบ่นเบาๆด้วยน้ำเสียงที่แสดงความอึดอัดเพราะร่างของคนที่ถึงแม้จะตัวเล็กแต่น้ำหนักไม่ได้เล็กไปด้วยเลย ชายหนุ่มถอนหายใจพยายามยกท่อนแขนที่พาดผ่านคอของเขาออกไปแต่มันก็ไม่ได้ผล คนที่ไม่รู้ว่าไปง่วงนอนมาจากไหนกลับเกี่ยวรัดคอคณิตแน่นขึ้นอีกไม่สนใจแม้แต่เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังลอยมา เมื่อคืนปูนมีงานดึกคณิตเลยไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มกลับมานอนตอนไหน เขาเองก็อยากจะปล่อยให้อีกฝ่ายนอนสบายๆอยู่หรอกนะ...แต่ถ้าไม่ปลุกแผนของเขาก็ล่มหมดน่ะสิ

 

“ปูนตื่นได้แล้ว”

 

“...”

 

“ปูน”

 

“อื้อ”

 

คนตัวเล็กส่ายหัวไปมาหลบนิ้วเย็นๆที่เกลี่ยอยู่บนผิวแก้มของตน คณิตมองการกระทำไร้สติของปูนอย่างนึกเอ็นดู แต่ก็ต้องสวมบทคนใจร้ายต่อด้วยการบีบจมูกรั้นนั้นเบาๆ จนคนที่ตกอยู่ในนิทราแสนหวานเริ่มหายใจติดขัด

 

“อื้อ ปล่อย...”

 

“ตื่นสิ แล้วพี่จะปล่อย”

 

“พี่นิด ปูนหายใจไม่ออก”

 

เท่านั้นแหละหยุดเลย ปูนค่อยๆปรือตามองเมื่อมือที่รบกวนการนอนหายไปเหลือแค่เพียงดวงตาตี่ๆที่มองถอดมายังเขาด้วยความเอ็นดูเท่านั้น  ปูนทำหน้ายู่แล้วถูหัวของตนไปบนอกของคณิตไปมาแทนการบอกว่าไม่พอใจแค่ไหนที่ถูกบังคับให้ตื่น ใช่...มันก็แค่นิดเดียวเท่านั้น

 

“ยังง่วงอยู่เลย”

 

“เมื่อคืนกลับมาดึกหรอ”

 

“อือ ตีสามได้มั้ง มีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ต่ออ่ะ”

 

“ดื่มเยอะเลยสิ”

 

“ไม่ได้ดื่ม...ก็สัญญาไว้แล้วไง”

 

ปูนเงยหน้ามาส่งยิ้มและดวงตาแวววับให้เหมือนกับเด็กๆที่ชอบมาอวดว่าตัวเองทำการบ้านเก่งแค่ไหน แต่แทนที่จะรำคาญคณิตกลับชอบมัน โดยเฉพาะความจริงที่ว่าปูนยอมทำตามที่สัญญากันไว้ว่าหากต้องไปทำงานโดยที่ไม่มีเขาไปด้วยคนตัวเล็กจะไม่ดื่มเหล้าและปูนก็ทำมันได้

 

“เก่งมาก งั้นวันนี้จะพาไปเที่ยว”

 

“จริงอ่ะ จะพาไปที่ไหนหรอ”

 

“โรงแรม”

 

รอยยิ้มบานๆของปูนหุบลงทันที ถ้าเป็นคู่อื่นหากบอกว่าจะพาไปฉลองกันที่โรงแรมมันคงฟังดูน่าตื่นเต้น แต่สำหรับคู่ที่อยู่โรงแรมเยอะกว่าอยู่บ้านการไม่ออกไปไหนเลยอาจจะฟังดูตื่นเต้นมากกว่า ร่างสูงหัวเราะขำเพราะกะไว้อยู่แล้วว่าคนตัวเล็กต้องมีปฏิกิริยาแบบนี้

 

“วันนี้แขกเยอะจะตาย ต่อให้อยากหยุดก็หยุดไม่ได้หรอก”

 

“แต่ไหนบอกว่าจะฉลองด้วยกันไง”

 

“ก็ฉลองไง แต่ไปฉลองที่นั่น”

 

“...แบบนั้นมันเรียกว่าฉลองตรงไหน”

 

ถึงจะเป็นเพียงเสียงบ่นๆเบาๆแต่คณิตก็ได้ยินมันอยู่ดี เขาผงกหัวขึ้นมาหอยแก้มฝาดของปูนแทนการเอาใจจนคนที่นอยไปแล้วยอมพยักหน้าให้อย่างเสียไม่ได้ ร่างเล็กกลิ้งลงจากตัวของคณิตแล้วพาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำหวังให้ความเย็นสงบจิตใจที่ผิดหวังลงได้บ้าง ส่วนคณิตก็ได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆแล้วลงไปทำบางสิ่งบางอย่างที่ชั้นล่างของบ้าน

 

ปูนเลือกใส่เสื้อแขนยาวสีฟ้าอ่อน เข้าชุดกันกับเสื้อแขนยาวสีกรมท่าอีกตัวที่เขาหยิบมันออกมาแขวนเผื่อให้คณิตใส่เหมือนกันในวันนี้ มันอาจจะเป็นความพิเศษเล็กๆเพียงไม่กี่อย่างที่พวกเขาสามารถทำในวันนี้ได้ เพราะถ้าคณิตต้องไปทำงานในวันนี้จริงก็เดาได้เลยว่าต่อให้นาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนงานของร่างสูงก็คงยังไม่หมดเลยไปซึ่งนั่นก็หมายความว่า...วันวาเลนไทน์ปีนี้ก็คงจะเหงียบเหงาอีกครั้ง

 

“เอาน่า มันก็แค่วันวันหนึ่ง”

 

“...”

 

“ก็แค่วันเดียวเอง...ทำไมถึงหยุดให้ไม่ได้นะ”

 

ปูนคงไม่รู้ตัวว่าเสียงที่เปล่งออกมานั้นอ่อนแรงแค่ไหนแต่คนที่กำลังยืนฟังมันจากด้านหลังนั้นรู้ดี อ้อมแขนที่แข็งแกร่งไม่แพ้หัวใจค่อยๆโอบรัดร่างของปูนไว้ก่อนจะโยกตัวไปมาจนคนที่ถูกจู่โจมตกใจ

 

“ยืนบ่นอะไรอยู่”

 

“ก็ได้ยินแล้วนี่...”

 

“อืม ได้ยินแล้ว”

 

“แล้ว?”

 

“...ไปรอพี่ข้างล่ะนะ ขออาบน้ำก่อนเดี๋ยวจะตามไปกินข้าวด้วย”

 

คณิตจูบบนขมับของปูนเบาๆก่อนจะคลายอ้อมแขนออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทิ้งไว้เพียงความหวังที่เหือดแห้งของคนตัวเล็กเท่านั้น ปูนมองตามแผ่นหลังนั้นแต่ก็รู้ตัวว่าทำอะไรไม่ได้ เด็กหนุ่มจึงได้แต่ทำใจและเดินออกไปจากห้องนอนเพื่อลงไปรอข้างล่างตามที่คณิตสั่ง แต่ทันทีที่เขาเปิดประตูออกมา รอยยิ้มที่หายไปของปูนก็ค่อยๆผลิบานออกมาอีกครั้ง

 

“นี่มัน...”

 

ดอกกุหลาบสีแดงถูกวางอยู่บนบันไดทุกๆขั้นโดยที่ข้างๆกันนั้นก็มีช็อคโกแลตราคาแพงที่ปูนชอบกินวางอยู่ด้วย ร่างเล็กรีบปรี่ไปที่บันไดขั้นแรกหยิบทั้งขนมรสหวานขึ้นมาพร้อมกับเจ้าดอกกุหลาบที่ยังคงความสดไว้เหมือนกับเพิ่งถูกเด็ดออกจากต้น

 

“แอบไปเตรียมไว้ตอนไหนเนี่ย”

 

ปูนว่ายิ้มๆแล้วแกะช็อคโกแลตชิ้นแรกเข้าปากไปปล่อยให้ความหอมหวานของมันอบอวลและท่วมท้นอยู่ในตัวเขาอย่างไม่อาจหาคำใดมาเทียบได้ ร่างเล็กค่อยๆหยิบเอาดอกกุหลาบทีละดอกขึ้นมาพร้อมกับนึกถึงความรู้สึกมากมายของคณิตที่ถูกบอกผ่านสิ่งนั้น จากหนึ่งเป็นสอง...จากสองเป็นสาม จนกระทั่งปูนเดินมาถึงโต๊ะกลมตัวหนึ่งกลางห้องนั่งเล่น อ้อมแขนเล็กๆของเขาก็แทบจะกักเก็บความรักที่คณิตมอบให้ไว้ได้ไม่หมด

 

ปูนเคยถามตัวเองนะ ว่าเขากำลังคาดหวังของขวัญแบบไหนจากผู้ชายอย่างคณิตอยู่ แต่เชื่อเถอะไม่ว่าเขาจะคิดถึงมันมากแค่ไหนสิ่งที่เขาคาดเดามันก็ไม่ใกล้กับความเป็นจริงเลยสักนิดเดียว

 

ไข่ดาวเกรียมๆสองใบถูกวางอยู่บนขนมปังปิ้งที่มีสภาพไม่ต่างกันจนปูนนึกสงสัยว่าทั้งๆที่ใช้เครื่องปิ้งขนมปังอัตโนมัติคณิตยังทำมันไหม้ได้ยังไง แต่ยังโชคดีที่ไส้กรอกและแฮมไม่ได้ไหมไปด้วย...เพราะว่ามันไม่สุก

 

“ห้ามขำนะ ถ้าขำพี่จะให้เรากินขนมปังไหม้ๆไปตลอดชีวิตเลย”

 

ปูนไม่ขำหรอกเพราะกำลังน้ำตาคลออยู่ต่างหาก ร่างเล็กหันหน้าไปหาคณิตที่เพิ่งลงมาจากบันไดพร้อมกับสวมเสื้อผ้าชุดที่เขาจัดไว้ให้ เด็กหนุ่มมองมือที่เต็มไปด้วยรอยแผลของคนที่พยายามเกินตัวแล้วก็ยิ้มอ่อน  อาจจะฟังดูแปลกๆไปบ้างแต่พอเห็นแบบนี้แล้วปูนกลับรู้สึกดีใจชะมัด

 

“พยายามสุดๆเลยนะครับ”

 

“ก็นะ อย่าเพิ่งเข้าไปในครัวตอนนี้แล้วกัน”

 

คณิตเดินมารับดอกไม้ที่ปูนอุ้มไว้อยู่มาถือให้แทนเพื่อให้คนที่เขาตั้งใจทำอาหารให้นั่งลงแล้วตั้งใจทานมันพร้อมๆกับเขาที่อยากจะทำของกินดีๆให้แต่ฝีมือก็มีเท่านี้ คนตัวเล็กหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเก็บภาพของขวัญของคณิตไว้โดยไม่ลืมที่จะเขยิบเข้าไปนั่งใกล้ร่างสูงมากขึ้นจนใบหน้าเปื้อนยิ้มของทั้งคู่ถูกบันทึกไว้ด้วยฝีมือของคณิตที่ช่วงแขนยาวกว่า

 

“วางโทรศัพท์ก่อน กินเสร็จแล้วค่อยเล่น”

 

“ครับๆ ขอลงรูปนี้ก่อนนะ”

 

ปูนทำเป็นรับคำของคณิตแต่มือก็ยังคงจิ้มโทรศัพท์เพื่ออัพโหลดรูปคู่ของพวกเขาทั้งสองคนแถมด้วยอาหารเช้าและกุหลาบช่อใหญ่ขึ้นไปในไอจีที่แทบจะไม่อนุญาตให้ใครติดตาม เพราะจริงๆปูนแค่มีมันไว้เหมือนเป็นไดอารี่ส่วนตัวเท่านั้น พอทำเสร็จร่างเล็กจึงหันกลับมาให้ความสนใจกับอาหารรสชาติแปลกๆตรงหน้า แต่เชื่อเถอะว่าถึงมันจะไม่อร่อยแต่เขากับคณิตก็กินกันไปหัวเราะไป เหมือนกับว่าสิ่งที่พวกเขากำลังลิ้มรสอยู่นั้นเลิศรสนักหนา

 

หน้าที่เก็บล้างตกเป็นของปูนที่อาสาทำเองเพราะอยากเห็นว่าผลจากความพยายามของคณิตมันรุนแรงขนาดไหน แล้วเขาก็ต้องยอมแพ้ เมื่อคราบน้ำมันที่กระเด็นไปทั่วไม่ใช่อะไรที่จะสามารถจัดการให้เสร็จได้โดยไม่กระทบต่อเวลาไปทำงานของร่างสูง ปูนจึงจัดการแช่ทุกอย่างเอาไว้ก่อนแล้วพาร่างของตัวเองไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถของคณิตโดยไม่ลืมที่จะหยิบกุหลาบที่คนข้างๆมอบให้ติดตัวมาด้วยจำนวนหนึ่ง

 

“แล้วนี่ต้องทำถึงกี่โมง ปูนจะได้กะเวลารอ”

 

“ก็น่าจะนานอยู่ ทำไม? อย่าบอกนะว่ายังไม่ถอดใจเรื่องไปฉลองด้วยกัน”

 

“แน่ล่ะ ดอกกุหลาบของพี่ไม่ได้ทำให้ผมพอใจหรอกนะ รู้ใช่ไหม”

 

เด็กหนุ่มแกล้งพูดยั่วพร้อมกับส่งสายตาที่สื่อความตั้งใจของตัวเองออกไปได้อย่างดี คณิตได้เห็นดังนั้นก็หลุดยิ้ม เขาลูบหัวของปูนเบาๆทั้งๆที่มืออีกข้างยังต้องประคองพวกมาลัย

 

“ไม่รับปากแต่จะรีบเคลียร์งานแล้วกัน”

 

“มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะถ้าไม่...ของขวัญที่ปูนเตรียมมาให้พี่นิดก็อด”

 

“ฮ่าๆขนาดนั้นเลยหรอ บอกได้ไหมว่าเตรียมอะไรมา”

 

“ไม่บอกหรอก ถ้าบอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ”

 

“พี่ไม่ชอบเซอร์ไพรส์”

 

“แต่ปูนชอบ”

 

ปูนลอยหน้าลอยตาเถียงจนกระทั่งพวกเขาเดินทางมาถึงโรงแรมที่ถูกตกแต่งด้วยบรรยากาศที่อบอวนไปด้วยความรัก ทันทีที่มาถึงคณิตก็ขอตัวไปประชุมงานด้านใน ในขณะที่ปูนก็หลบมาทักทายและช่วยงานพนักงานบางส่วนที่คุ้นหน้ากันดี จนกระทั่งสายๆอิงอรที่เข้ามาทำงานวันนี้เหมือนกันก็ตรงปรี่ข้ามาหาปูนพร้อมกับบราว์นี่ก้อนเล็กๆ

 

“สุขสันต์วันแห่งความรักนะจ๊ะน้องชาย”

 

“ขอบคุณนะครับ แต่ของพี่อิงปูนไม่มีให้นะ ไว้จะหาเบอร์หนุ่มหล่อๆมาเส้นให้ที่หลังแล้วกัน”

 

ร่างเล็กแสร้งพูดทีเล่นทีจริง แต่เขารู้หรอกว่าหญิงแกร่งคนนี้แทบจะไม่สนเรื่องคู่ครองของตัวเองเลยด้วยซ้ำ

 

“ไม่ต้องเลยนะเรา ว่าแต่วันนี้พี่นึกว่าปูนกับคุณคณิตจะไปเดทกันซะอีก”

 

“บ้างานตามเคยน่ะพี่ ปูนกะจะงอนแล้วแต่ดีนะที่เมื่อเช้าทำเซอร์ไพรส์ให้ก่อนจะมาทำงาน ไม่งั้นจะให้ง้อซะให้เข็ด”

 

“เห็นแล้วล่ะจ้า มดขึ้นไอจีพี่ตั้งแต่เช้า ว่าแต่ปูนจะเซอร์ไพรส์อะไรเจ้านายพี่ล่ะ แอบบอกหน่อยได้ไหมพี่อยากรู้”

 

อิงอรแกล้งพูดหยอกแต่ปูนกลับพยักหน้ากลับมาให้จนเธอแปลกใจในการตัดสินใจนั้น ใบหน้าที่ดูน่ารักใสซื่อเปลี่ยนมาเป็นเจ้าเล่ห์จนสาวเจ้าปรับอารมณ์ตามไม่ทัน

 

 

 

 

“บอกได้ครับ เพราะว่าพี่อิงต้องช่วยผมเหมือนกัน”

 

 

 

.

.

.

.

.

.

 

 

นาฬิกาเดินมาจนเกือบสามทุ่ม คณิตที่วุ่นวายเรื่องการรับรองลูกค้ามาตลอดทั้งวันจึงพอมีเวลาพักหายใจหายคอได้บ้าง ชายหนุ่มปลดเสื้อสูทตัวนอกของตัวเองออกปล่อยให้ลมเย็นๆที่พัดผ่านเข้ามาทางสระว่ายน้ำของโรงแรมปลอบประโลมความร้อนในตัวเขา ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาหวังจะใช้มันโทรหาคนตัวเล็กที่ป่านนี้คงไลน์มาบ่นเขาไม่หยุดแต่ก็ต้องแปลกใจที่การแจ้งเตือนต่างๆกลับว่างเปล่า

 

“แปลกแฮะ นึกว่าจะโดนถล่มแล้วซะอีก”

 

ชายหนุ่มกดโทรออกแทนที่จะส่งข้อความหากันแต่ไม่น่าเชื่อว่าปูนนั้นกลับไม่รับโทรศัพท์เขาเลยสักครั้งจนคณิตเริ่มใจกระตุกกับสิ่งผิดปกตินี้ ไม่ใช่ว่างอนเขาเรื่องวันนี้จะแอบหนีไปเที่ยวที่อื่นคนเดียแล้วหรอกนะ...

 

“อ้าวคุณคณิต มาทำอะไรอยู่ที่นี่คนเดียวล่ะคะ”

 

“อิง เธอเห็นปูนไหม”

 

แทนที่จะตอบคำถามคณิตกลับถามหญิงสาวกลับไปแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงทักนั้น อิงอรอึ้งไปนิดก่อนจะยิ้มเขาแล้วบอกร่างสูงตามที่ถูกบอกมา

 

“น้องบอกว่าง่วงเลยแอบหนีกลับไปนอนก่อนน่ะคะ ฝากอิงมาบอกด้วยว่าถ้าคุณทำงานเสร็จแล้ววให้ตามกลับไปที่บ้าน”

 

ร่างสูงหน้าเสีย แต่ลึกๆก็รู้สึกแปลกๆกับการตัดสินใจของปูนครั้งนี้ ชายหนุ่มถอนหายใจแล้วมองดูรูปคู่ของเขากับปูนที่ถูกถ่ายเมื่อเช้าอีกครั้ง

 

“ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ...”

 

“ใครช่วยใครไม่ได้หรอ”

 

“เปล่า...ไม่มีอะไรหรอก แล้วอิงมีอะไรรึเปล่า”

 

คณิตบอกปัดก่อนจะถามถึงวัตถุประสงค์ที่อิงอรเดินมาหาเขาถึงที่นี่

 

“จะชวนไปนั่งดื่มด้วยกันน่ะ พอดีได้แชมเปญมาขวดหนึ่ง”

 

“ไม่เป็นไรอิงไปสนุกเถอะ ฉันว่าจะกลับบ้าน”

 

“จะรีบกลับทำไมล่ะ เมื่อเช้าก็ฉลองกับน้องไปแล้วไม่ใช่หรอ ก็พอแล้วนี่”

 

“...”

 

พอโดนคนนอกมาพูดใส่แบบนี้คณิตก็ชักจะคิดมุมกลับบ้างเหมือนกันว่าสิ่งที่เขามองว่ามันเพียงพอแล้วอาจจะน้อยเกินไปสำหรับปูนรึเปล่า มันคงเป็นความผิดของเขาที่พูดให้ความหวังกับร่างเล็กไปก่อนว่าวันนี้พวกเขาจะได้ฉลองกันแต่พอต้องมาทำงานในวันนี้นั้นอะไรหลายอย่างที่คณิตคิดว่าจะทำก็ถูกตัดไปเหลือแค่การมอบความรักเล็กๆน้อยๆแบบเมื่อเช้าเท่านั้น

 

“เอาน่า ดื่มสักแก้วก็ได้ หัวหน้าแผนกคนอื่นก็อยู่”

 

“แต่...”

 

“นะๆ แก้วเดียวแล้วจะยอมให้กลับเลย ตกลงไหม”

 

พอถูกเสนอมาอย่างนั้นมันก็ยากที่คณิตจะปฏิเสธเขายอมเดินตามอิงอรไปยังโต๊ะที่มีเพื่อนร่วมงานหลายคนทั้งที่ยังโสดแล้วมากันเป็นคู่ ทันทีที่คณิตมาถึงทั้งเบียร์ แชมเปญ และแม้แต่วิสกี้รสร้อนแรงก็ถูกยื่นมาให้จนเขารับแทบไม่ทัน ชายหนุ่มหันไปหาอิงอรเพื่อจะขอคำอธิบายแต่สาวเจ้าก็กลับหันไปคุยกับคนอื่นไม่ได้ให้ความสนใจกับคณิตอีก

 

“กินเลยนิด หมดแก้วๆ”

 

“เออ ผมจะกลับแล้วน่ะครับ ขับรถมาด้วย”

 

“จะรีบกลับไปไหนล่ะ นอนที่นี่แหละ จะได้เมาไม่ขับ”

 

“แต่...”

 

“ไม่มีแต่ ยกเลยๆ”

 

ชายหนุ่มไม่อาจปฏิเสธเพื่อนร่วมงานที่มีอายุมากกว่าคนนี้ได้เลยต้องรับเอาวิสกี้แก้วใหญ่มาดื่มไปอย่างไม่เต็มใจนัก คณิตรู้สึกพะวงถึงคนที่น่าจะกำลังรอเขาอยู่ที่บ้านแต่เครื่องดื่มและอาหารมากมายก็ถูกยื่นมาให้ยาวๆจนคณิตเสียเวลาไปในวงเหล้าเล็กๆนี่ร่วมชั่วโมงได้แล้ว

 

ผิวกายขาวตามเชื้อสายขึ้นสีแดงก่ำเล็กๆ ลำพังเครื่องดื่มแค่นี้เขาไม่เมาหรอก แต่เป็นเพราะกินกันมั่วไปหมดแบบนี้นี่แหละเขาจึงรู้สึกมึนหัวแบบช่วยไม่ได้ ร่างสูงพยายามกดโทรศัพท์หาปูนแต่ร่างเล็กก็ยังไม่รับสาย จนความเมามายเริ่มปะปนกับความหงุดหงิดคณิตจึงเป็นฝ่ายเรียกหาเครื่องดื่มแก้วใหม่เสียเองโดยไม่ต้องให้คนคอยคะยั้นคะยอ

 

“เมาแล้วหรอวะ”

 

“เปล่าครับ แค่หน้าแดงเฉยๆ”

 

“หรอ งั้นลองนี่หน่อยไหม รับรองว่าเด็ด”

 

ชายคนข้างๆคณิตยิ้มมุมปากอย่างน่าสงสัยก่อนจะส่งเครื่องดื่มสีแดงสดที่ลุกเป็นไฟมาให้ คณิตมองมันอย่างแปลกใจแต่กลับได้รอยยิ้มมีเล่ห์นัยของคนรอบข้างมาแทนโดยเฉพาะอิงอรที่เป็นคนจุดไฟบนเครื่องดื่มแก้วนี้ให้กับเขา

 

“ถ้าดื่มหมด คราวนี้ยอมปล่อยให้กลับแน่ๆค่ะ”

 

“จะเชื่อได้หรอ”

 

“ไม่เกี่ยวว่าเชื่อไม่เชื่อ แค่คนที่ทำเครื่องดื่มแก้วนี้เขาแถมรางวัลมาด้วย”

 

กุญแจดอกหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้าคณิตพร้อมกับชูไปมาเหมือนเวลาที่ต้องการหยอกล้อกับแมว เพียงแต่คณิตไม่ใช่แมวและต่อให้ใช่อิงอรก็ไม่ใช่เจ้าของ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเดาให้ยาก...โดนปูนเล่นเข้าให้แล้ว

 

“เขาไม่ได้บอกว่าจะยกเครื่องดื่มแก้วนี้ให้กับใคร ขอแค่ใครก็ได้ที่ดื่มมันหมดในคราวเดียวก็รับกุญแจนี้ไปได้เลย”

 

ไม่ต้องรอให้พูดซ้ำคณิตรีบหยิบรัมดีกรีแรงที่มีไฟลุกท่วมมาดื่มจนลำคอตลอดจนช่องท้องของเขาอุ่นวาบ ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ของมันหรือเครื่องดื่มอื่นๆที่คณิตกินไปก่อนหน้านี้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสนุกขึ้น แม้ว่าความจริงที่ว่าเขาถูกคนตัวเล็กหลอกมอมจะน่าเจ็บใจไม่น้อยก็ตาม

 

คณิตรับรางวัลของตัวเองมาแล้วบอกลาทุกคนบนโต๊ะซึ่งดูเหมือนว่าจะรู้ล่วงรู้แผนการของปูนหมดและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ชายหนุ่มมองหมายเลขห้องที่ถูกสลักอยู่บนกุญแจนั้น ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้ปูนกำลังรอคอยเขาอยู่ในโรงแรมของคณิตเองไม่ได้กลับไปไหน หนำซ้ำคนตัวดีคงจะเตรียมเรื่องเซอร์ไพรส์ไว้หวังทำให้เขาแปลกใจ

 

แค่นี้ก็ตื่นเต้นจะแย่แล้ว...

 

ตื่นเต้นจนคณิตอยากให้ปูนเห็นมันด้วยตัวเอง...

 

 

 

ชายหนุ่มที่มีฤทธิ์แอลกอฮอลล์และความรักเป็นตัวขับเคลื่อนเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวจนกระทั่งเขามาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องสวีทที่ไร้ซึ่งสิ่งรบกวน คณิตใช้ของรางวัลที่ได้มาไขพาเขาเข้าไปข้างในห้องที่ไฟทั้งหมดถูกปิดแต่กลับมีแสงสว่างจากดวงจันทร์เข้ามาแทนที่

 

คณิตรู้สึกว่าตัวเองกำลังตาพร่า...

 

ผิวเนื้ออ่อนที่โผล่พ้นเสื้อคลุมสีแดงสดของปูนทำให้เขาใจสั่น คณิตไม่รู้ว่าคนที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงรับรู้การมาถึงของเขาไหมแต่ท่าทางยั่วยวนที่ถูกจัดไว้อย่างจงใจทำให้คณิตกล้าพนันกับทุกคนว่าปูนจงใจทำมันให้เป็นอย่างนั้น ทั้งกลิ่นน้ำหอมที่เขาชอบ เส้นผมที่เปียกน้อยๆแบบที่เขาหลงใหล…

 

 

 

ให้ตายสิ...ไม่ว่าเมื่อไหร่ปูนก็รู้ใจเขาเสมอ

 

 

 

“จะมองอีกนานไหม ปูนรอพี่ตั้งนานแล้วนะ”

 

เสียงเล็กๆหวานหูของปูนดังขึ้นก่อนดวงตากลมจะจ้องมองมาทางคณิตอย่างสื่อความหมาย คนที่โดนเซอร์ไพรส์ยิ้มอย่างอ่อนใจ เขาทรุดตัวนั่งลงข้างกายปูนที่เปลี่ยนจากนอนหงายเป็นตะแคงเข้าหาแล้ววางหัวกลมลงบนตักแกร่งของคณิตแทบจะทันที

 

“ไหนว่ากลับไปแล้ว”

 

“จะกลับได้ไง พี่ก็รู้ว่าปูนมักมาก”

 

ร่างสูงส่ายหัวแล้วลูบไหปลาร้าขาวที่ไร้อาภรณ์ปกคลุมไปมา

 

“รู้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาทำที่นี่ ไหนบอกว่าอยากอยู่บ้าน”

 

“นี่วาเลนไทน์นะ จะธรรมดาได้ไง มันต้องพิเศษหน่อยสิ”

 

“เลยเลือกห้องที่พี่กอดปูนครั้งแรกน่ะหรอ”

 

มันเป็นคำถามที่คณิตตั้งใจเซ้าให้ปูนอายแต่กลับกัน ร่างเล็กยิ้มกว้างแล้วยันตัวขึ้นนั่งพิงอกของคณิตไว้เพื่อที่ดวงตาออดอ้อนของเขาจะจังจ้องไปยังคณิตได้ถนัดกว่าเดิม

 

“จำได้ด้วยหรอ”

 

“จำได้สิ ก็พี่เป็นคนพาปูนขึ้นมา”

 

“วันนั้นปูนเมา”

 

“พูดให้ถูกคือแกล้งเมา ไม่งั้นปูนคงปล้ำพี่ไม่ได้”

 

“ไม่ปฏิเสธนะว่าปล้ำ...แต่พี่นิดจะปฏิเสธไหมว่าไม่ชอบ”

 

“...”

 

“...”

 

 

 

“ไม่มีทางอยู่แล้วไม่ใช่หรอ”

 

 

สาบานเลยว่ารอยยิ้มที่ปูนเห็นมันช่างทรงเสน่ห์และร้ายกาจแบบที่คนอื่นคงไม่คิดว่าคนแบบคณิตจะมีทำสีหน้าแบบนี้ได้ เสื้อคลุมสีแดงสดของปูนถูกร่างสูงสัมผัสเบาๆจนผิวใต้ร่มผ้าของเด็กหนุ่มร้อนไปหมด คณิตบรรจงปลดมันออกจนร่างกายของปูนถูกเขาสัมผัสและเห็นมันได้ถนัดตา

 

ปูนบิดเร้าน้อยๆเมื่อริมฝีปากของคณิตไล่สำรวจตัวเขาแทบจะทุกที่ ทั้งเส้นผม ผิวแก้ม ซอกคอ เนินอก หน้าท้อง ไล่ไปจนถึงข้อเท้า...ไม่มีส่วนใดของปูนที่คณิตไม่รู้จักมันเช่นเดียวกับร่างกายกำยำของคณิตนั้นซึ่งปูนจดจำมันได้อย่างดีว่าจุดใดที่คณิตชอบ...และส่วนใดที่จะทำให้คณิตมีความสุขมากที่สุด

 

“อ่า อย่างนั้นแหละ...”

กลุ่มผมชื้นของปูนขยับขึ้นลงตามจังหวะที่ร่างสูงคอยกำกับให้ผ่านการส่งสะโพกสวนไปทุกครั้งที่ตัวตนแข็งขืนของคณิตถูกปูนครอบครองไปจนหมด ร่างเล็กที่อีกมือหนึ่งกำลังเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองใช้ดวงตากลมมนมองไปยังคณิตที่ไม่ปกปิดสัญชาตญาณและความต้องการต่อหน้าเขาเลยสักครั้ง ร่างกายที่เล็กกว่ามากของปูนถูกฉุดให้ยืนขึ้นในขณะที่คณิตขยับไปนั่งพิงหัวเตียงทั้งๆที่เบื้องล่างมันต้องการจนปวดร้าว แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็บรรจงสอดนิ้วของตัวเองเข้าไปผ่านก้อนเนื้อนุ่มก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียวลิ้นจนปูนแทบจะล้มทั้งยืน

 

“อ๊ะ พอแล้ว ฮึก พอแล้วพี่นิด”

 

ปูนแทบจะทรุดเพราะขาที่สั่นมันทนไม่ไหวแล้วคณิตก็คอยประคองเข้าไว้ทำให้การหนีสัมผัสที่วาบหวิวเกินไปนั้นทำได้ยาก กว่าร่างสูงจะยอมปล่อยให้เด็กหนุ่มเป็นอิสระดวงตาของปูนก็ปรือปรอยอย่างคนที่ตกอยู่ในห้วงความฝัน คณิตยิ้มร้ายแล้วสอดตัวตนของตัวเองเข้าไปข้างในในจังหวะที่ร่างเล็กยังเหนื่อยอ่อน

 

“อ๊าาาาาา”

 

คณิตรู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบรัดกลางกายของเขาไว้จนหมด เขาปลอบโยนปูนผ่านจุมพิตบนหน้าผากแต่เบื้องล่างนั้นก็ยังคงขยับรัวไม่หยุดยั้งจนปูนสับสนเหลือเกินว่าชายคนนี้แท้จริงแล้วเป็นคนอบอุ่นหรือร้ายกาจกันแน่

 

ปูนร้องหาความต้องการของคณิตไม่หยุดแม้ว่าอารมณ์ด้านล่างของเขาจะเข้าใกล้ฝั่งฝันมากขึ้นทุกที ร่างเล็กฝังหน้าของตนลงกับหมอนแล้วรับรู้เพียงแค่การขบกันเบาๆบนแผ่นหลังและแรงที่ถาโถมเข้าใส่เท่านั้นจนกระทั่งหยาดน้ำสีขาวขุ่นจะไหลทะลักเปรอะเปื้อนไปทุกพื้นที่

 

“พี่นิด อึก...พี่นิด”

 

“เก่งมาก เหนื่อยไหมครับ”

 

ร่างเล็กส่ายหน้าแล้วพลิกกายหันเข้าหาคนตัวโตที่กำลังมองเขาอยู่จากเบื้องบน ริมฝีปากของทั้งคู่โผ่เข้าหากัน ไม่ต้องใช้คำพูดใดๆอธิบายความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอก ทั้งความสุขสม ห่วงหาและต้องการ...ทั้งคู่ถ่ายทอดมันถึงกันและกันด้วยภาษาที่มีเพียงพวกเขาเท่านั้นเข้าใจ

 

คณิตลูบแผ่นหลังของปูนอย่างปลอบโยนจนคนที่ยินดีรับความต้องการของเขาไว้เริ่มหายใจเป็นจังหวะ ร่างสูงคอยถามคนในอ้อมแขนเรื่อยๆว่าไหวไหม อีกฝ่ายก็พยักหน้าให้ไปก่อนจะยันร่างกายที่บอบช้ำนั้นขึ้นนั่งจนคณิตต้องทำตาม

 

“พี่นิด...ปูนมีของขวัญจะให้”

 

“ของขวัญ? ตัวของปูนนี่ไม่ใช่ของขวัญสำหรับพี่หรอ”

 

ปูนเบ้หน้าทั้งๆที่ผิวแก้มขึ้นสีแดง เขาสะบัดหัวไปมาแรงๆจนคณิตกลัวว่ามันจะหลุดออกมาจากบ่าเสียก่อน

 

“ตัวปูนน่ะให้พี่ไปนานแล้ว...แต่นี่เป็นสิ่งที่จะให้วันนี้”

 

“อะไรล่ะครับ”

 

รอยยิ้มเล็กๆของปูนถูกจุดขึ้นก่อนของบางอย่างจะถูกยื่นออกไปพร้อมกับความแปลกใจที่คณิตเผยออกมาทางสีหน้า

 

 

 

 

 

“หนังสือสอนทำอาหาร...”

 

 

 

“อื้อ!”

 

 

 

“ของขวัญวันวาเลนไทน์”

 

 

 

“อ่าฮะ!”

 

 

 

“ให้พี่?”

 

 

 

“ใช่เลย!!”

 

 

 

ถ้าจะมีอะไรที่มึนกว่าคณิตก็หน้าของปูนแล้วตอนนี้ที่ทำเป็นยิ้มซื่อตีเนียนอย่างน่ารัก ร่างเล็กยื่นมันไปจนชิดใบหน้าของคณิตที่ยังคงไม่รับมันไป คะยันคะยอจนคนที่อธิบายความคิดของตัวเองไม่ออกต้องรับของขวัญชิ้นนั้นมาอย่างเสียไม่ได้

 

“เอ่อคือ...พี่ก็ดีใจนะ แต่ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม”

 

“อธิบาย? อธิบายอะไร?”

 

“อธิบายว่าทำไมถึงซื้อหนังสือนี่ให้พี่”

 

ปูนร้องอ่อเมื่อเห็นคณิตโบกของขวัญของตนไปมาอย่างต้องการคำตอบ

 

“ก็ปูนอยากกินอาหารฝีมือพี่อีกไงเลยซื้อให้”

 

“...!!”

 

“เมื่อเช้าก็ใช่ว่าจะกินไม่ได้หรอกนะ แต่ปูนอยากกินอย่างอื่นบ้างนี่นา”

 

คำตอบที่พูดถึงก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ถูกส่งมาให้พร้อมกับรอยยิ้มที่อธิบายความเป็นปูนได้อย่างดี...เขาลืมไปได้ยังไงนะว่าปูนเป็นคนแบบนี้

 

 

น่ารัก ขี้อ้อน...และเอาแต่ใจที่สุด

 

 

“ไม่ได้หรอ...”

 

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”

 

 

คณิตถอนหายใจก่อนจะตอบไปพร้อมกับกางแขนเพื่อรับร่างของปูนที่กระโจนเข้าหาเขาพร้อมกับริมฝีปากนุ่มๆที่มอบจุมพิตมาให้

 

 

 

 

“ขอบคุณนะครับ ปูนรักพี่นิดที่สุดเลย”

 

 

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกับเช่!

ไม่มีอะไรมากคับสำหรับตอนนี้ ครึ่งแรกเป็นความป๋า ครึ่งหลังเป็นความปูน  :z1: ยังไงปูนก็เป็นแบบนี้ล่ะน้าาาา

ป.ล. ไปทำการบ้านต่อล่ะคับ

ป.ล.ล. ขอบคุณทุกเม้นทุกโหวตเลย

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :o8: :o8:
เขินเลยตอนนี้

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ปูนนี่แสบใช้ได้เลย
ฮ่าๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เขินกว่านี้มีอีกไหม อยากได้ผู้ชายแบบคณิตสักคน :L1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
น้องปูนน่ารักจังเลย หลงน้องมากค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
เซอร์ไพรส์กับของขวัญของปูนด้วยย :hao7:

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
เซอร์ไพรส์กับของขวัญของปูนในวันวาเลนไทด์  ด้วยการฟิน  คึคึ

 :z1:    :z1:

ออฟไลน์ Toho48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ยฟินแรงมาก ปูนมันลูกแมวตัวน้อยๆชัดๆ :impress2:

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่20][200259]
«ตอบ #205 เมื่อ20-02-2016 21:49:59 »






แตกที่ 20
…ทะเล...





ถึงจะเป็นทะเลผืนเดียวกันแต่กลับให้ความรู้สึกต่างกันชะมัด...


ปูนยืนมองผืนน้ำกว้างใหญ่เบื้องหน้าพลางจับผมของตัวเองที่ถูกลมทะเลพัดไปให้เข้าที่ มันคงดีกว่านี้ถ้าชุดที่เขาสวมอยู่ไม่ใช่เสื้อสูทหนาๆและรองเท้าหนังแบบที่ใส่กี่ครั้งก็ยังไม่ชิน แต่ในฐานะผู้ช่วยจำเป็นของเมษาเขาจะเรื่องมากไม่ได้ ให้ตายสิ...จะทำเซอร์ไพรส์ทั้งทีลำบากชะมัด


“ผมต้องทำอะไรบ้างครับ”


เด็กหนุ่มหันมาถามเจ้านายที่อยู่ในชุดเป็นทางการไม่ต่างกัน เพียงแต่บรรยากาศรอบๆตัวเมษานั้นรุนแรงกว่าเขามาก ชนิดที่ว่าต่อให้ไม่รู้ว่าคนคนนี้มีเงินและอำนาจมากแค่ไหนก็คงไม่มีใครกล้าเข้ามาแหย่หนวดเสือ


“อยู่ข้างๆฉัน และคอยสังเกตการณ์”


“สังเกตการณ์?”


ปูนทวนคำพูดนั้นอย่างไม่เข้าใจ มือก็รับกระเป๋าเอกสารของเมษามือไว้แทนขณะที่พวกเขากำลังเดินเข้าไปในบ้านพักหลังหนึ่งของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของการทำงานครั้งนี้ ร่างเล็กขมวดคิ้วมุ่ยอย่างต้องการคำตอบ แต่เมษาก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากกว่านั้น


“สวัสดีครับคุณเมษา”


ทันทีที่เดินเข้ามาในบริเวณบ้านก็มีนายทหารในเครื่องแบบคนหนึ่งเดินเข้ามาทักเมษาถึงที่ ถึงปูนจะไม่รู้เรื่องในวงสีกากีมากนักแต่จากแทบเครื่องหมายบนอกเขาก็ขอเดาไว้ก่อนว่าชายคนนี้คงยศสูงไม่ใช่น้อย


“สวัสดีครับพี่จเร เรียกผมว่าเมษก็พอครับ”


เมษายิ้มรับแล้วทักกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความนอบน้อมและเป็นกันเอง ทั้งคู่ยืนคุยกันอยู่ครู่ใหญ่ปูนที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาพอจับใจความได้แค่นายทหารคนนี้เป็นคนของคนที่เมษาตั้งใจมาพบ เด็กหนุ่มยืนฟังอยู่ครู่ใหญ่จนรู้สึกเมื่อยขาแอบคิดในใจว่าจะชวนกันเข้าไปนั่งคุยดีๆไม่ได้หรือไง เขาเริ่มแสดงอาการหยุกหยิกมองไปรอบๆเพื่อหาสิ่งที่น่าสนใจกว่า แต่สุดท้ายสายตาของปูนก็ไปหยุดอยู่ที่เจ้ายักษ์ใหญ่สีฟ้านั่นอีกครั้งจนกระทั่งถูกเมษาสะกิดเบาๆที่สีข้าง


“ฉันบอกให้เธอคอยสังเกตการณ์ไม่ใช่รึไง”


“ครับ?”


ปูนทำหน้างง ก่อนจะเพิ่งเห็นว่านายทหารคนนั้นหายไปแล้ว เด็กหนุ่มมองหน้าเมษาถึงปากจะว่าแต่เจ้านายของเขาก็ไม่ได้มีทีท่าว่าโกรธเคืองอะไร


“ถึงความจริงฉันจะแค่กะให้เธอมาเซอร์ไพรส์ไอ้คณิต แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะให้มายืนเหม่อหรอกนะ”


“ขอโทษครับ”


ถึงจะพูดออกไปแบบนั้นแต่ปูนก็ไม่ได้รู้สึกผิดจริงๆหรอก เอาเข้าจริงเขาไม่เข้าใจเมษาด้วยซ้ำว่าคิดยังไงถึงให้เด็กที่เรียนไม่จบแบบเขามาเป็นผู้ช่วยถึงจะบอกว่าทำไปเพื่อแกล้งเพื่อนก็ลงทุนไปหน่อยรึเปล่า แต่เอาเถอะ...ที่ปูนยอมมาตากแดดตากลมที่นี่ก็เพราะอยากเจอคณิตหรอก ไม่เกี่ยวกับงานของใคร


“เอาเถอะ ฉันจะพยายามไม่คาดหวังอะไรมากแล้วกันนะ”


เมษายิ้มจนตาหยี่หลังจากพูดเหน็บแนมปูนกลายๆ คนตัวโตกว่าเดินนำเขากลับไปที่รถส่วนตัวซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นของเมษา ร่างเล็กมองเจ้านายของตนอย่างไม่เข้าใจ นี่พวกเขาเพิ่งจะมาถึงไม่ใช่หรอ


“นี่เรากำลังจะไปไหนครับ แล้วงานล่ะ”


“ฮ่าๆ เมื่อกี้เธอไม่ได้ฟังเลยสินะ เมื่อกี้ที่เราคุยด้วยน่ะคือคุณจเร เป็นลูกน้องของคุณพิเชษฐ์คนที่ฉันตั้งใจจะมาพบ”


ปูนรีบยัดตัวเองกลับเข้าไปในรถพร้อมกับโยนกระเป๋าเอกสารที่ไม่รู้ว่าจะแบกลงไปทำซากอะไรไว้ตรงเบาะหลัง


“คุณพิเชษฐ์ที่ว่า เป็นนายพลปลดเกษียณที่ครอบครองที่ดินแถวนี้ไว้หลายแห่ง รวมถึงที่ที่ฉันหมายตาเอาไว้”


“แล้ว?”


“ท่านไม่อยู่น่ะ เห็นว่าลงเรือไปพาไอ้คณิตไปดูปะการังให้ตายสิ ผู้ชายของเธอนี่เห็นนิ่งๆเผลอแปปเดียวนำหน้าฉันไปมากโข”


เมษาพูดหยอกด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนัก ไม่สิ...ดูไม่ร้อนใจด้วยซ้ำทั้งๆที่เพิ่งโดนคู่แข่งอย่างคณิตตัดหน้าไป ปูนไม่รู้จะพูดอะไรเลยได้แต่นั่งเงียบกริบ อันที่จริงเขาไม่อยากรับรู้เรื่องพวกนี้สักจะมีแปลกใจบ้างนิดหน่อยก็ตรงที่ตำแหน่งผู้จัดการของคณิตมี
อำนาจในการตัดสินใจมากขนานนั้นเลยหรอ...


“เดี๋ยวเราจะเข้าไปพักที่โรงแรมกันก่อน ไว้เย็นนี้ค่อยว่ากันอีกที”


“ที่เดียวกับเพื่อนคุณใช่ไหม”


“ฮ่าๆ แน่นอนสิ ตามที่ตกลงกันไว้”


ปูนส่ายหน้าขณะที่เมษาขยิบตาให้ ก่อนจะหลับตาลงเพื่อตัดบทสนทนา
 

.
.
.
.
.
.
.
.



ถึงจะเป็นทะเลผืนเดียวกันแต่กลับให้ความรู้สึกต่างกันชะมัด...



คณิตยืนมองผืนน้ำกว้างใหญ่เบื้องหน้าพลางถอนลมหายใจออกอย่างเหนื่อยอ่อน ตั้งแต่เดินมาทางมาถึงสัตหีบได้สี่วันเขาก็ถูกท่านพิเชษฐ์ลากไปดูนั่นดูนี่ไม่หยุดจนนึกสงสัยจริงๆว่าชายแก่คนนี้ตั้งใจชวนเขามาดูที่ดินที่จะนำไปสร้างโรงแรมจริงไหม ว่าแล้วร่างสูงก็หันไปส่งยิ้มให้ชายสูงวัยที่กำลังคุยโวเรื่องชีวิตวัยหนุ่มที่ทิ้งมันไปกับเรือรบและท้องน้ำกว้างๆ ถึงหูจะฟัง ถึงปากจะยิ้มแต่หัวของคณิตกลับขบคิดอยู่เพียงเรื่องเดียว


จะบอกปูนยังไงว่าต่อให้พ้นอาทิตย์นี้ไปงานของเขาก็อาจจะยังไม่เสร็จ...



คณิตใช้เวลาที่เหลือตลอดทั้งบ่ายไปกับการชมธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่แถบนี้ มันเป็นทั้งข้อดีและข้อด้อยของสัตหีบที่ที่ดินส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดยทหาร ในขณะที่ธรรมชาติถูกดำรงไว้ความเจริญใหม่ๆกลับถูกนำเข้ามาได้อย่างมีข้อจำกัด แค่จะสร้างตึกให้สูงกว่าห้าชั้นยังเป็นเรื่องยากจึงไม่แปลกอะไรที่ธุรกิจโรงแรมของที่นี่ไม่ได้ใหญ่โออ่าเหมือนกับเมืองท่องเที่ยวอื่น



“ถ้าคณิตอยากไปเที่ยวที่ไหนอีกบอกลุงนะ พรุ่งนี้ลุงว่าง”



ท่านพิเชษฐ์ที่ยังคงร่างกายแข็งแรงไม่ต่างจากคนหนุ่มหันมาบอกร่างสูงที่อายุห่างกันหลายรอบอย่างใจดี คณิตก็ยิ้มตอบไปแม้ในใจอยากจะตอบกลับไปว่า ‘ถ้าว่างนักก็ช่วยคุยงานกับผมสักทีเถอะครับ’ ใจจะขาด


“เรื่องเที่ยวเอาไว้ก่อนแล้วกันนะครับ พรุ่งนี้ผมอยากจะลงไปสำรวจพื้นที่ริมทะเลแถวนี้สักหน่อย”


“ฮ่าๆ ไฟแรงจริงนะ เป็นอย่างที่บรรพตบอกจริงๆ”



คณิตยิ้มสู้อีกครั้งแม้จะรู้สึกอึดอัดที่ชื่อของบิดาถูกอ้างขึ้น แต่ก็พอดีกับจังหวะที่เรือลำนี้จอดเทียบท่า บทสนทนาเมื่อครู่จึงถูกพับเก็บไปตามที่สถานการณ์ยังคับ ชายหนุ่มบอกลาอดีตนายทหารยศใหญ่ที่มีรถส่วนตัวมารอรับตั้งแต่ก่อนที่พวกเขาจะกลับมาถึงฝั่ง พิเชษฐ์รับไหว้แล้วบอกย้ำคณิตเรื่องเที่ยวอีกครั้งจนทำให้ชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าถ้ายังเที่ยวอยู่แบบนี้อีกเดือนหนึ่งเขาก็คงยังไม่ได้กลับ


“จะกลับไปที่โรงแรมเลยไหมครับคุณคณิต ผมเอารถมารอแล้ว”



คนขับรถของโรงแรมเดินมาถามร่างสูงทันทีที่รถของท่านพิเชษฐ์จากไป คณิตก็หันมาตอบรับด้วยใบหน้าที่บ่งบอกความเหนื่อยล้าชนิดที่คนมองยังรู้สึกได้ ชายหนุ่มรีบเดินขึ้นไปในรถแล้วตั้งหน้าตั้งตาหลับโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะมือถือที่ไฟแจ้งเตือนกำลังกะพริบอยู่หรือคำบอกเล่าของคนขับรถที่ค่อยๆเบาลงจนกลายเป็นความเงียบ





“ป..ด้ยิน...ไหม”




“อือ...”




“ป๋า ตื่นสักทีสิ”



“ขออีกห้านาทีนะปูน ฉันง่วง”



“...”



“เดี๋ยวนะ”



คนที่เพิ่งระลึกได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปขมวดคิ้วทั้งที่ยังหลังตา เขาพยายามนึกถึงเสียงแว่วๆที่ได้ยิน มันช่างคับคล้ายคับคาเสียจนคณิตรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ไม่น่า...มันจะเป็นไปได้ยังไง



“ถ้าป๋าไม่ตื่นผมปล้ำแล้วนะ”



“เฮ้ย!”



ชัดเลย เสียงเล็กที่ติดจะงอนๆแบบนี้มันจะเป็นใครได้ คณิตเบิกตาโพลงแล้วร้องเสียงหลงทันทีที่เห็นใบหน้าบึ้งตึงของปูนลอยอยู่ใกล้กับเขาชนิดที่เห็นแพขนตายาวได้อย่างชัดเจน ร่างสูงอ้าปากพะงาบๆทั้งความตกใจ สับสนและอะไรหลายๆอย่างทำให้คณิตพูดไม่ออก ในขณะที่ใบหน้าบูดบึ้งของปูนเปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มอย่างถูกใจก่อนจะหัวเราะออกมา



“ฮ่าๆ ตลกชะมัดทำหน้าอะไรเนี่ย”



“ธะ เธอ ทำไมมาอยู่ที่นี่!”



แทนที่จะตอบคนตัวเล็กกลับก้มลงจูบปากของคณิตเบาๆเกิดเป็นเสียงจุ๊บดังไปทั่วตัวรถที่มีเพียงพวกเขาสองคนอยู่ในนี้ สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ร่างสูงคลายอาการตกใจลงยิ่งได้มองเงาตัวเองผ่านนัยน์ตาของปูนคณิตยิ่งรู้สึกเหมือนสติที่หายไปค่อยๆลอยกลับมา



“ให้ตายสิ โกหกใช่ไหมเนี่ย”



“ฮ่าๆ เซอร์ไพรส์ครับ”



“เออดี เซอร์ไพรส์มาก! ถ้าฉันหัวใจวายตายขึ้นมาจะทำยังไง”



"ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมผายปอดให้เอง”



ว่าแล้วก็สาธิตเป็นตัวอย่าง จากที่เพียงแค่ฉาบฉวยคราวนี้ปูนกลับสอดลิ้นเข้าไปกระตุ้นจนคณิตตื่นเต็มตา ร่างสูงพยายามขัดขืนแต่ก็เพียงไม่นานมือที่เคยผลักออกก็เปลี่ยนเป็นลูบท้ายทอยของคนตัวเล็กเบาๆจนปูนรู้สึกเสียวซ่าน คณิตมองตาปูน...แล้วรับรู้ความคิดถึงที่เด็กหนุ่มถ่ายทอดมา



“เฮ้อ...จะมาเสียคนตอนแก่หรอเนี่ยเรา”



“หื้ม??”



“เปล่าๆ ว่าแต่เธอมาที่นี่ได้ยังไง ไม่สิ รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”



คณิตถามด้วยความสงสัย เพราะถ้าจำไม่ผิดเขาไม่เคยบอกเด็กหนุ่มที่นั่งคร่อมตักของเขาอยู่ว่าตัวเองมาพักที่โรงแรมนี้



“อ่อ ผมมาทำงานน่ะ”



“ทำงาน? บาร์เทนเดอร์น่ะหรอ?”


“เปล่า...ผู้ช่วยน่ะ”



“ผู้ช่วย??”





“ใช่ เขาเป็นผู้ช่วยของฉันเอง”




ประโยคสุดท้ายนั้นปูนไม่ได้พูด...คณิตรีบยกคนตัวเล็กลงจากตักของตัวเองตามสัญชาตญาณเมื่อรู้ว่าบริเวณนี้ไม่ได้มีเพียงพวกเขาสองคนอีกแล้ว แต่ยังไม่ทันจะได้หันไปมองเสียงหัวเราะที่แสนคุ้นเคยก็ดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงสบถอย่างขัดใจของปูนที่ดังอยู่ข้างหู



“เฮ้ย ใจเย็นๆ นี่กูเอง”



“ไอ้เมษ!?”


เมษายักคิ้วให้เพื่อนที่ทำหน้าไก่ตื่นอยู่ในรถ ส่วนผู้ช่วยร่างเล็กก็กำลังมองมาที่เขาอย่างจิกๆแบบที่เพิ่มอรรถรสในการแกล้งคนของเมษาได้เป็นอย่างดี



“เออกูเอง ว่าแต่มึงออกมาก่อนดีไหมวะ ดูท่าในรถจะร้อนว่ะ หน้ามึงถึงได้แดงขนาดนี้”



ไม่ต้องให้พูดซ้ำคณิตรีบพาร่างของตัวเองออกมา จนทำให้เห็นว่ารถของโรงแรมที่ไปรับเขานั้นกำลังจอดอยู่ในบริเวณที่จอดรถโดยไร้เงาของคนขับ แบบนี้ไม่ต้องสืบเลยว่าเป็นแผนของใคร



“แกล้งกูจังเลยนะแม่ง โรคจิตรึไงวะ”


“นิดหน่อยเองน่า แต่เรื่องที่เด็กนี่มาเป็นผู้ช่วยของกูน่ะพูดจริงนะ จริงไหมปูน”


เมษาว่าก่อนจะเดินมากอดไหล่ปูนอย่างคนสนิทสนมกันทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่ ปูนชักสีหน้าขึ้นมาทันทีแต่พอสบตาเข้ากับเมษาที่ดูน่าเกรงขามเกินไปเขาจึงไม่กล้าสะบัดแขนหนักๆนี่ออกอย่างที่ใจคิด ส่วนคณิตก็ได้แต่มองมาที่ทั้งคู่อย่างไม่เข้าใจโดยเฉพาะท่าทางที่ใกล้ชิดเกินความจำเป็นนี่...มันอะไรกัน



“ไม่ยักกะรู้ว่าเดี๋ยวนี้มึงต้องใช้ผู้ช่วย”



“ก็ลองเปลี่ยนๆดูบ้าง เพราะถ้างานนี้กูไม่เปลี่ยน...กูอาจจะแพ้มึงก็ได้เรื่องที่ดินของท่านพิเชษฐ์”



“คงไม่มั้ง เท่าที่ท่านเล่ายังไงที่ดินที่มึงขอไว้นั่นก็กะจะอนุญาตอยู่แล้ว”



“อันนั้นกูรู้ แต่ที่กูสนใจคือท่านจะเซ็นที่ดินผืนไหนให้มึงมากกว่า”



“...”



“แค่พูดก็ชักจะตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว”



บรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนไปทันทีที่เมษาเอ่ยถึงจุดประสงค์ที่ตนเดินทางมาที่นี่ ปูนมองเพื่อนทั้งสองคนที่กำลังมองหน้ากันอย่างไม่ไว้ใจเท่าไหร่ ไม่รู้สิ เห็นคณิตนิ่งๆฮาๆแบบนี้จะลุกขึ้นมาต่อยเมษาบ้างเขาก็ไม่แปลกใจ เพราะถ้าเป็นปูนก็อยากจะฟาดปากคนข้างๆนี่บ้างเหมือนกัน




“มึงจะรู้หรือไม่รู้ก็เรื่องของมึงเถอะ เพราะกูก็ไม่ได้คิดจะแข่งกับมึงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”



“กะแล้วว่ามึงต้องพูดแบบนี้ ว่าแต่ช่างเรื่องน่าปวดหัวนั่นก่อนเถอะ คืนนี้กูต้องออกไปดื่มกับท่านพิเชษฐ์ขอฝากผู้ช่วยตัวน้อยนี่ไว้ก่อนแล้วกันนะ”



ไม่พูดเปล่า เมษาผลักไหล่ปูนส่งไปทางคณิตที่รับไว้ได้อย่างพอดีก่อนจะเดินจากไปโดยไม่มีคำบอกลาหรือคำอธิบายใดๆ คณิตและปูนมองหน้ากันแต่พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่มีใครเข้าใจการกระทำของเมษาสักคน



“ฉันว่าฉันมีเรื่องต้องถามเธอนะ”



“รู้น่า แต่ว่ากลับขึ้นห้องก่อนได้ไหม ยุงกัดผมจนขาลายแล้ว”



ปูนยกขาของตัวเองให้คณิตดู เขาตั้งใจโชว์เรียวขาที่มีตุ่มแดงๆประดับอยู่สองสามจุดอย่างที่ว่า ชายหนุ่มส่ายหัวแต่ก็ยอมจูงมือพาคนที่ถูกจับมาเกี่ยวข้องกับเรื่องวุ่นวายโดยไม่รู้ตัวเข้าไปด้านใน เขาเลือกที่จะกลับไปยังห้องพักก่อนเพราะลมทะเลที่ตากมาทั้งวันเริ่มทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัวเอาซะเลย



“อธิบายให้ฟังหน่อยได้ไหม ขอสั้นๆนะ ว่าทำไมไอ้เมษมันถึงดึงเธอมาเป็นผู้ช่วยได้”



คณิตว่าขณะถอดเสื้อโปโล่สีอ่อนออกทางหัว ปูนที่ขึ้นมานั่งบนเตียงของร่างสูงอย่างถือวิสาสะมองแผงอกที่ไม่ได้ซบมานานอย่างคิดถึง ก่อนจะตอบไป



“วันก่อนเขามาชวน ว่าอยากทำเซอร์ไพรส์ป๋า”



“กูกะแล้วแม่ง...แล้วเธอก็บ้าจี้ตามมันว่างั้น”



ร่างสูงบ่นกับตัวเองก่อนจะหันไปถามปูน เด็กหนุ่มมองแผงอกที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนกระทั่งคณิตเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ปูนยันตัวขึ้นไปกอดคณิตไว้วางหัวกลมๆไว้ตรงตำแหน่งของหัวใจที่ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นได้เสมอ



“ก็คิดถึง ไม่ได้กอดป๋าหลายวันแล้ว”



“เฮ้อ แต่ฉันบอกให้เธอเฝ้าบ้าน”



“ผมไม่ใช่หมา จะเฝ้าบ้านได้ไง”



“ปูน...”



“แค่อยากอยู่ด้วยแค่นั้นเอง ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่ต้องห่วงหรอก...ถึงจะถูกเรียกว่าผู้ช่วยแต่เรื่องงานผมไม่ยุ่งอยู่แล้ว”



ทำไมปูนจะไม่รู้ว่าคณิตกังวลเรื่องอะไร แค่เห็นสีหน้าร่างสูงเมื่อครู่ปูนก็ดูออกทั้งหมดนั่นแหละ และดูเหมือนว่าคำพูดของร่างเล็กจะทำให้คณิตสบายใจไปเปราะหนึ่ง ฝ่ามืออุ่นหนาที่คุ้นเคยจึงลูบไปตามเส้นผมของปูนเบาๆ



“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ไว้ใจเธอนะ”



“ผมรู้ ป๋าไม่ต้องห่วงหรอก...ผมไม่ให้คนคนนั้นหลอกใช้ผมแน่ๆ”



“เมษาไม่ใช่คนไม่ดี”



“แต่ก็เป็นคู่แข่งใช่ไหมล่ะ”



ปูนเงยหน้าขึ้นจากอกของคณิตแล้วสบตากับร่างสูงตรงๆ ซึ่งเขาก็เห็นความไม่สบายใจและลำบากใจอยู่นั้น



“ฉันไม่เคย...อยากเป็นคู่แข่งกับใคร”



“ป๋า...”



“ช่างเถอะ รอฉันอาบน้ำเดี๋ยวนะแล้วเราค่อยลงไปทานข้าวกัน”



ร่างเล็กมองรอยยิ้มที่ถูกปั้นขึ้นและแผ่นหลังของคณิตที่หายลับไปหลังประตูห้องน้ำ เขาเริ่มถามตัวเองว่าคิดผิดหรือคิดถูกที่ยอมรับข้อเสนอของเมษาแล้วเดินทางมาที่นี่...


“ระหว่างคุณกับเขา...มันยังไงกันแน่นะ”



:katai5:(มีต่อเม้นต์ล่าง) :katai5:

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่20][200259]
«ตอบ #206 เมื่อ20-02-2016 21:50:29 »





หลังจากอาบน้ำชำระล้างความเหนื่อยล้าออกไปคณิตก็ใช้รถของตัวเองขับตระเวนพาปูนไปกินร้านอร่อยต่างๆที่เขาเคยลิ้มรสมาก่อนแล้ว ชายหนุ่มยิ้มให้กับภาพที่คนตัวเล็กเกาะกระจกมองวิวข้างทางเหมือนกับเด็กๆ ทั้งๆที่อยู่ถัดไปจากพัทยาแต่สัตหีบกลับเป็นเมืองที่เงียบสงบอย่างไม่น่าเชื่อ ทันทีที่ท้องฟ้ามืดลงชีวิตย่ามค่ำคืนของคนที่นี่ก็เริ่มต้นขึ้น มันเป็นบรรยากาศสบายๆไม่น่าอึดอัด แต่ก็ไม่บ้านนอกจนถึงขั้นไม่มีอะไรให้เดินดู


คณิตเลือกร้านอาหารริมทะเลที่มีกองทัพเรือเป็นผู้ควบคุมดูแล และแม้จะเป็นร้านอาหารแบบเดียวกันกับที่บางแสนมีให้เห็นหนาตาแต่ร้านที่นี่กลับสงบกว่าอาจจะด้วยเพราะเป็นพื้นที่ทหารทำให้การใช้เสียงถูกจำกัดไปด้วย



“ที่นี่เงียบดีแฮะ เล่นเอาง่วงขึ้นมาเลย”


ปูนแกล้งพูดติดตลกจนคณิตอดไม่ได้ที่จะแกล้งกลับไป


“ง่วงก็ไม่บอก ฉันจะได้ทิ้งไว้ที่โรงแรมไม่พามาด้วย”


“โห้ย พูดเล่นเหอะน่า เอ้าสั่งๆ คนเยอะเดี๋ยวไม่ได้กิน”



คนตัวเล็กรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะหันไปสั่งเมนูที่ตัวเองอยากกินกับเด็กเสิร์ฟด้วยจำนวนที่จดตามแทบไม่ทัน คณิตมองยิ้มๆแล้วก็ส่ายหัว รู้หรอกว่าปูนไม่ได้หิวขนาดนั้นเพียงแค่อยากแกล้งเขาเล่นเท่านั้นแหละ ชายหนุ่มจึงไม่คิดจะสั่งอาหารเพิ่มมากไปกว่านี้ เขาทำเพียงเลือกเบียร์ดีๆจากรายการเครื่องดื่มแต่ในส่วนของปูนเขาเลือกน้ำมะพร้าวปั่นให้เพราะคิดว่าร่างเล็กคงชอบ



“ป๋าดูเหนื่อยๆนะ งานหนักมากเลยหรอ”



ปูนเอ่ยถามเพราะเห็นว่านอกจากที่เขาตักให้แล้ว คณิตก็แทบจะไม่กินอะไร รวมถึงแก้มที่ตอบลงเล็กน้อยนั่นอีก ว่าแล้วปูนก็ตักห่อหมกทะเลใส่จานของคณิตเพิ่มอีกแล้วแถมข้าวให้อีกทัพพีใหญ่ๆ



“จะว่าหนักก็ไม่หนักหรอก...แค่ไม่ค่อยถนัดน่ะ”



“ไม่ถนัด? ไม่ถนัดอะไร?”



คณิตมองใบหน้าขี้สงสัยของปูนก่อนจะหันไปมองทะเลเบื้องหน้า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องที่เมษาพูดเมื่อบ่ายหรือเบียร์เย็นๆที่เริ่มพรากสติเขาไปทีละน้อยนี่กันแน่ที่ทำให้คณิตเริ่มคิดถึงสิ่งที่เหนี่ยวรั้งตัวเขาไว้ตลอดเวลา



“ปูน...ตอนเด็กๆเธอเคยคิดไหมว่าอยากเป็นอะไร”



ปูนงงหนักเมื่อคณิตตอบคำถามของเขาด้วยการมอบคำถามใหม่มาให้เขาคิดแทน อยากจะแกล้งไม่ตอบอยู่หรอก...แต่ดูจากท่าทางไม่ทำแบบนั้นจะดีกว่า



“ก็มีแต่คิดเล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไรหรอก...”



“อะไรล่ะ ความคิดที่ว่า”



“...คนทำขนม”


“...?”



“แม่ผมเคยทำขนมขายน่ะ เลยเห็นแม่ทำมาตั้งแต่เด็กๆ”


ร่างเล็กยกยิ้ม แต่ภายใต้ความร่าเริงนั้นคณิตกลับสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ถูกเก็บซ่อนอยู่ด้วย


“แม่ทำขนมเก่งมาก ทั้งทองหยิบ ทองหยอด แล้วก็ขนมไทยอีกตั้งหลายอย่าง วันๆหนึ่งแม่ต้องทำขนมเยอะมาก ทั้งเอาไปขายที่ตลาดแล้วก็ส่งตามโรงเรียน เพื่อนๆนี่อิจฉาผมกันใหญ่ที่ได้กินขนมอร่อยๆทุกวัน ป๋ารู้ไหมว่าตอนเด็กๆผมอ้วนมากเลยนะ จนแม่เคยแซวว่าหน้าผมกลมกว่าไข่ที่แม่เอามาทำขนมซะอีก”


ปูนถึงเรื่องราววัยเด็กด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข คณิตก็รับฟังมันด้วยความรู้สึกเดียวกัน เขาพยายามนึกภาพของเด็กชายปูนที่คงตัวเล็กกว่าเพื่อนแต่ใบหน้าตอนนั้นคงกลมดิ๊กไม่เรียวเล็กเหมือนอย่างตอนนี้


“เพราะแบบนี้สินะถึงได้อยากเป็นคนทำขนม”


“อื้อ ตอนนั้นคิดแบบเด็กๆน่ะว่าถ้าทำขนมขายก็คงได้กินทุกวัน”


“แล้วทำไมถึงไม่อยากเป็นแล้วล่ะ เป็นความฝันที่ดีออก”


“อ่อ...พอดีแม่เขาเลิกขายไปแล้วน่ะ แล้วป๋าล่ะตอนเด็กๆอยากเป็นอะไร”



คณิตเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบนั้นแต่ก็ไม่มีเวลาให้คิดมาก เพราะคำถามที่ปูนถามเขากลับมามันเหมือนมีมือมาบีบหัวใจเขาเบาๆ


“ไม่มีเลย ฉันไม่เคยอยากเป็นอะไรสักอย่าง”


น้ำเสียงที่คณิตใช้มันไม่ได้ฟังดูเศร้าแต่กลับหยุดทุกอย่างรอบตัวเองไว้ได้ ชายหนุ่มหยิบเบียร์ที่น้ำแข็งละลายไปเกือบหมดขึ้นมาจิบแล้วนึกถึงชีวิตวัยเด็กแสนจะเรียบง่ายของตัวเขา เช้าไปโรงเรียน เย็นกลับมาบ้าน...แต่เป็นบ้านที่แสนอึดอัด



“พ่อกับแม่ของฉันใจดีมาก ไม่ว่าฉันกับหน่อยอยากทำอะไร อยากเรียนอะไรเพิ่มก็ไม่เคยว่า ท่านสนับสนุนเราทุกอย่าง แม้ว่าพ่อจะเข้มงวดกับฉันไปสักหน่อยเพราะว่าเป็นลูกชายคนโต มันก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร”



“...”



“ฉันทำทุกอย่างได้ดี ถึงแม้จะไม่ดีที่สุดแต่ฉันก็ไม่เคยผิดหวังกับอะไรสักอย่าง เรียนโอเค เพื่อนโอเค ส่วนความรักก็โอเคมั้ง ฮ่าๆ...จนกระทั่งตอนนั้น”



ปูนเผลอกลั้นหายใจเมื่อคณิตหยุดพูดไป เขารู้สึกถึงบรรยากาศบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกตื้อไปหมด






“ตอนที่ฉัน...รู้สึกถึงคำว่าแพ้เป็นครั้งแรก”



.
.
.
.
.


 
“คะแนนออกแล้วเว้ย มาดูเร็วๆๆๆ”



คณิตที่เพิ่งปั่นการบ้านเสร็จมาดๆหันไปกลุ่มเพื่อนทั้งชายและหญิงที่กรูกันเข้าไปดูคะแนนวิชาอังกฤษที่พวกเขาเพิ่งสอบกลางภาคกันไปเมื่ออาทิตย์ก่อน



“ไม่เข้าไปดูด้วยกันหรอคณิต ทุกคนไปดูกันหมดแล้วนะ”



เสียงหวานๆของหญิงสาวข้างกายเอ่ยกับเขาจนคณิตต้องหันเหความสนใจกลับมายัง ‘แก้ม’ แฟนสาวที่คบกันมาได้สองเดือนกว่าๆ



“ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจเบียดกับพวกมัน ยังไงก็ได้ดูอยู่ดี”



“แหม มั่นใจล่ะสิว่ายังไงตัวเองก็ได้ท็อปชั้นเหมือนเดิม”



คณิตหันมายิ้มขำให้หญิงสาว ก่อนจะเอื้อมมือไปหวังคว้ามือของเธอมาจับกันไว้ใต้โต๊ะเหมือนกับที่ทำประจำ แต่ก่อนที่จะได้ทำอย่างนั้นเสียงของเพื่อนคนหนึ่งก็ร้องดังขึ้นจนคณิตต้องหันไปมอง



“เฮ้ย เอาจริงหรอวะ ไอ้นิดโว้ย ไอ้นิด!!”



“เชี้ยแม่ง...เอออะไรวะ! ขัดจังหวะกูจริง”



“มาดูนี่เร็วสัด! คราวนี้มึงสอบได้ที่สอง!!”



“อะไรนะ”



ไม่ใช่เขาที่พูดแต่เป็นแก้มที่อุทานด้วยความตกใจ เขาและเธอเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนที่จับกลุ่มคุยกันว่าไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น เพราะในทุกๆครั้งที่สอบมาไม่เคยมีใครเลยสามารถเอาชนะคณิตในวิชาเลขได้




แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ...



“เมษา ใครกันน่ะไม่เห็นคุ้นชื่อเลย”



คณิตไม่ได้สนใจเสียงของแฟนสาวเพราะในสายตาของเขามีเพียงชื่อของใครก็ไม่รู้ที่จู่ๆก็โผล่มาสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเขา และไม่ใช่แค่การขึ้นเป็นอันดับหนึ่งเท่านั้น แต่นี่มัน...ทำได้เต็ม



“เมษาก็นักเรียนใหม่คนนั้นไง ที่ย้ายมาเมื่อเดือนที่แล้วน่ะ อยู่ห้องเก้า”



“ห้องเก้า? ห้องเด็กอ่อนนั่นน่ะนะ”



“เออ มันดันเข้ามากลางเทอมไงเลยโดนให้อยู่ห้องนั้น ใครจะคิดว่าแม่งจะเก่งขนาดนี้วะ ไอ้คณิตเทียบไม่ อื้อ!”



คนที่กำลังพูดอยู่ถูกปิดปากไปโดยเพื่อนอีกคนที่สังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคณิต มันไม่ได้แย่จนถึงขั้นที่ทุกคนต้องเป็นห่วงแต่ใครจะกล้าพูดว่าการถูกแย่งสิ่งที่ครอบครองมาตลอดไปจะไม่ส่งผลต่อจิตใจ



“คณิตไม่เป็นอะไรนะ”



แก้มถามแฟนหนุ่มของเธอที่ยังไม่พูดอะไรเลยด้วยความเป็นห่วง



“อ่อ เออไม่เป็นไรๆ ว่าแต่ท่าทางจะเก่งมากเลยนะเนี่ย ทำข้อสอบอาจารย์เอมอรได้เต็มแบบนี้แกคงปลื้มไปอีกหลายวัน”



“ไม่เป็นอะไรจริงๆนะ...คณิตคุยกับแก้มได้รู้ใช่ไหม”



คณิตยิ้มให้แก้ม ที่แสดงความเป็นห่วงออกมาอย่างเกินความจำเป็นด้วยการวางกระดาษที่หนักอึ้งแผ่นนั้นลงแล้วจับมือของเธอไว้
“ไม่เป็นไร เราไม่ท้อกับเรื่องแค่นี้หรอก






และหลังจากการสอบครั้งถัดไป...








“มึงชื่อคณิตใช่ไหม”



คณิตเงยหน้าจากจานข้าวของตัวเองแล้วหันไปมองคนที่เรียกชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงร่าเริงและใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม




เมษา...ในที่สุดก็มาหาเขาจนได้



“เออ กูเองแล้วมึงล่ะเป็นใคร”



ถึงแม้จะรู้จักหน้าตาของคนที่แย่งที่หนึ่งจากเขาไปเมื่อครั้งก่อนแล้ว คณิตก็วางฟอร์มด้วยการแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเมษารวมถึงสาเหตุที่มันมายืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วย



“กูเมษา เรียกเมษก็ได้ อยู่ห้องเก้า”



“อ่าฮะ แล้ว?”



“กูแค่อยากมาเห็นหน้าคนที่ทำคะแนนสอบได้เท่ากูน่ะ”



แก้มที่นั่งอยู่ข้างๆมองมือที่กำกันแน่นของคณิตแล้วนึกไม่ชอบหน้าคนคนนี้สักเท่าไหร่เพราะคะแนนที่ว่านั่น...คือคะแนนเต็ม





“แล้วยังไงวะ จะมาหาเรื่องกูรึไง”



“เฮ้ยเปล่าๆ กูแค่อยากมาทำความรู้จักกับมึงเฉยๆ ไม่คิดเลยว่าโรงเรียนที่นี่จะยังมีคนเก่งๆแบบมึงอยู่ด้วย”



คณิตและนักเรียนคนอื่นในโต๊ะขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจนัก เพราะถึงแม้จะเป็นโรงเรียนในต่างจังหวัดแต่โรงเรียนของพวกเขาก็ถือเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดและยังสามารถส่งนักเรียนเข้าไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศได้ไม่ต่างจากโรงเรียนในกรุงเทพเลย



“จะว่าไปแล้วกูคุ้นๆหน้ามึงอยู่เหมือนกันนะ เคยเจอกันมาก่อนป่ะ?”



เมษาถามขึ้นพร้อมกับพยายามนึกไปด้วย ส่วนคณิตกลับพยายามตัดบทเพราะไม่อยากจะเสวนากับคนคนนี้ต่อ



“เรียนโรงเรียนเดียวกันก็ต้องเคยเห็นหน้ากันบ้างแหละ นี่ก็จะหมดพักเที่ยงแล้วถ้ามึงไม่มีอะไรสำคัญกูว่ามึงกลับไป...”



“อ่อ! นึกออกแล้ว!”



“...?”


“คณิตลูกเจ้าของโรงแรม The Next ใช่ไหม กูจำได้แล้วว่าเห็นหน้ามึงตอนงานเลี้ยงที่โรงแรมกูครั้งก่อน”



“โรงแรมมึง? นี่มันเรื่องอะไรกันวะ?”





เมษายกยิ้มผิดกับคณิตที่สัมผัสได้ถึงเรื่องวุ่นวายกำลังจะเกิดขึ้นหลังจากได้ยินคำตอบนี้





“กูเมษา เป็นลูกเจ้าของโรงแรม The Pilot โรงแรมคู่แข่งของบ้านมึงไง”



----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุยกับเช่!!

มาแล้วคับ หลังจากวาเลนไทน์ก็ทิ้งช่วงไปพักนึงเลย พอดีเดินทางเยอะไปๆกลับๆบ้านแล้วก็มหาลัยนี่แหละ นั่งรถจนเมื่อยตุ้ม TT เนื้อเรื่องเริ่มเจ้มจ้นขึ้นแล้ว กำลังจะเข้าจุดหักจุดที่หนึ่ง ไม่ดราม่ามากหรอก แม้จะเปิดเรื่องเมษากับป๋าไว้ชอกช้ำนิดหน่อยก็ตาม5555555 (ส่วนเรื่องที่ว่าป๋าเป็นคนพิเศษสำหรับเมษาในแง่ไหน ยังไม่เฉลยนะเบบี๋)

งานของเช่เคลียร์ไปได้เปาะหนึ่งแต่ก็ยังไม่หมดนะคับ เรื่องหนังสือพี่กาลเล่มตัวอย่างก็มาแล้ว สามารถดูของจริงได้ทางเพจเลย ช่วงนี้จะรีบๆอัพป๋าปูนให้บ่อยหน่อยเพราะถ้าหนังสือมาเช่คงต้องใช้เวลาส่งหนังสือก่อนจะอัพทางนี้ต่อได้ บวกกับงาน งาน งาน และงาน เฮ้ออออออออ ชีวิตเทอมนี้มันโหดสัดรัสเซียจริงๆ TT

ป.ล. ขอบคุณทุกเม้นต์ทุกโหวตเลยนะคับ ยังไม่มีเวลามาตอบเช่นเคยแต่อ่านทุกเม้นต์แน่นอน รักนะเบบี๋  :L1:

 

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่20][200259]
«ตอบ #207 เมื่อ20-02-2016 23:07:08 »

สงสารพี่นิด นี่กดดันมาแต่เด็กเลยไหมมม

ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่20][200259]
«ตอบ #208 เมื่อ21-02-2016 10:24:40 »

เข้าใจหัวอกพี่คนโตเลย รู้สึกเหมือนพายุกำลังจะมา

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่20][200259]
«ตอบ #209 เมื่อ21-02-2016 18:02:25 »

เมษาบทเยอะขึ้นนะเนี่ย
จับคู่ให้เฮียทีจะได้ไม่มาป่วนพี่นิด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด