The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 446198 ครั้ง)

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
ไฟนี่มันจะไปช่วยสมุทรหรือจะไปก่อกวนกันแน่เนี่ย :z3:

ออฟไลน์ luvY

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-0
 :pig2: แวะมาเจิม ก่อนอ่านค่า
ดีใจที่เบบี้มาลงนิยายในบอร์ดอีกครั้ง
หลังจากหายไปนาน แต่ก็ยังคิดถึงเสมอนะจ๊ะ
ชอบสไตล์การเขียนแบบที่น้องเป็นจ้า

 :L2: :L1: :pig4:
จากคนอ่านเก่ามาก (แต่ยังไม่แก่เท่าไรนะจ๊ะ) 5555

................................................................

อ่านทันแล้วววว
เอิ่มม แต่ละคนแมนมากกกก
ไม่รู้จะให้ใครเมะใครเคะ
ได้หมดค่ะ แมนๆแบบนี้ชอบมาก

รอตอนต่อไปจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2015 16:31:07 โดย luvY »

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
เริ่มหมั่นใส้ไอ้คุณไฟเล็กๆละแกล้งสมุทรไม่ว่าทำลายข้าวของอีกเดี๋ยวเหอะ
สมุทรยังไงมีจังหวะจัดไฟซักดอกซิเอาให้ไปไม่เป็นยืนกระทืบเท้าเลยนะ o18

 :pig4:  ค่ะ

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
โหหหหห มันก็ดูเหมือนทำเพราะหน้าที่อ่ะ
ตัวไฟเองยังไม่ชัดเจนเลย

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ

ออฟไลน์ kothan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ถามก่อนนะ ในเรื่องนี้ไฟเป็นนายเอกหรือป่าว ถ้าใช่เราจะแช่งให้ไฟโดนสมุทรจัดหนักๆเน้นๆไปเลย  :m16:

ออฟไลน์ Madness69

  • Love@Sickness
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-0
    • Madness69 Fanpage
กระโดดงับหูเบบี้ โทษฐานที่เขียนให้พี่ไฟนิสัยเสียแกล้งสมุทรแบบนี้ได้ไง ฮะ?????
อ่านมาถึงตอนนี้ เห็นเค้ารางๆ เป็น เน-โปรด อีกแล้ว วู้ว ไรแว๊ ไม่เดาๆ ดีก่า
มาต่ออีกเร็วๆ ให้ไวเลยนะ ขอซัก 3 ตอนรวดเลยนะ
วัยรุ่นคอยยยยยยยยยยยยยยยยยอยู่
 :mew1:

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
ตอนที่ 8
..ไฟ..




ก๊อก  ๆ ๆ
"คุณไฟครับ"


ก๊อก  ๆ ๆ 
"คุณไฟ" ผมหรี่ตามองนาฬิกาหัวเตียง  เพิ่งจะหกโมงครึ่งแต่พี่ธานมาเรียกแต่เช้าอย่างนี้คงมีอะไรแน่  ปกติให้ตายก็ไม่กล้าปลุกผมด้วยซ้ำ  ผมงัวเงียลุกไปเปิดประตู

"ขอโทษครับ" พี่ธานพูดก่อน

"มีอะไร" ผมขมวดคิ้ว

"คุณดิน เพิ่งกลับบ้านครับ" พี่ธานก้มหน้าพูดด้วยท่าทางเกร็ง ๆ 

"ก็เมื่อวานมันกลับมาแล้วนี่" ผมขึ้นเสียงเล็กน้อย  ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดไม่เข้าใจ

"........." พี่ธานก้มหน้าและเหสายตาลงเหมือนต้องการหลบเลี่ยงที่จะให้คำตอบตรง ๆ กับผม  ผมถอนหายใจแรง  รับรู้ได้ทันทีว่าไอ้ดินจะต้องมีเรื่องมาให้ปวดหัวอีกแล้ว

"มันอยู่ไหน"

"ข้างล่างครับ" พี่ธานตอบ  ผมเดินออกมา  พี่ธานรีบปิดประตูห้องนอนให้  เมื่อผมเดินไปที่ชั้นล่างก็ได้ยินเสียงคนคุยกันซุบซิบมาจากในห้องนั่งเล่น 

"มึงหลบไปก็เท่านั้นแหละ ดูสภาพมึงซิ..ช้าเร็วเฮียก็ต้องเห็นอยู่ดี" เสียงพายุว่าเบา ๆ ผมเดินเข้าไปในห้อง  ลุงทองกับไอ้เข้มยืนอยู่มุมหนึ่งของห้อง  พายุยืนอยู่กับไอ้ดิน  ส่วนไอ้ตัวดีนั้นใส่ชุดคนละชุดกับที่ผมเห็นเมื่อวาน  เสื้อผ้ามอมแมม  หน้ามีแต่รอยฟกช้ำเต็มไปหมด  พอพวกมันเห็นผมก็พากันเงียบลง  ลูกน้องผมพากันถอยหลังออกไปมุมห้องเล็กน้อย  ไอ้ดินก้มหน้าก้มตาด้วยท่าทางกลัวความผิดอย่างเห็นได้ชัด 

"เมื่อคืนไม่ได้นอนบ้าน.." ผมพูดขึ้น  เปิดประเด็นถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ พูดถามเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองนั้นจะเข้าใจไม่ผิด  ไอ้ดินไม่ตอบ  มันเพียงผงกศีรษะน้อย ๆ



เพี้ย!  ...ผมเข้าไปตบหน้าไอ้ดินอย่างแรงอย่างไม่ซักถามถึงเหตุผล  ความแรงทำให้มันหน้าหันไปจนเกือบล้ม  ทุกคนเพียงยืนมองสงบนิ่ง  ผมเหลือบมองไปที่ลุงทองและไอ้เข้ม  มันสองคนหลบสายตาผมทันควัน

"ใครพามึงออกไป" ผมถามเสียงเย็น  ไอ้ดินเอาแต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งเงียบ  ทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แล้วว่าผมเข้มงวดเรื่องการออกนอกบ้านของไอ้ดินมาก  ไม่ใช่ว่าผมไม่ปล่อยมันเลยแต่เพราะทุกครั้งที่ปล่อยเลยตามเลย  มันมักจะมีเรื่องนำกลับมาให้ที่บ้านเดือดร้อนเสมอ  ผมเคยออกปากสั่งไอ้ดินต่อหน้าลูกน้องทุกคนแล้วว่า  ต่อจากนี้ไป  ห้ามไอ้ดินออกจากบ้านในยามวิกาลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผมก่อน

"กูถามว่าใครพามึงออกไป!" ผมกดน้ำเสียงต่ำลงแต่ก็อดไม่ได้ที่จะกระแทกกระทั้นใส่อย่างอารมณ์เสีย  ไอ้ดินชักเท้าถอยหลังไปเล็กน้อย

"ดินออกไปเอง" มันตอบ  ผมยืนนิ่งมอง  ไอ้ดินเหลือบตาขึ้นมองหน้าผมที่เห็นว่าผมเงียบ  พอสบสายตากันมันก็หลบตาลงอีกครั้ง  ผมเข้าไปคว้าจับหน้ามันขึ้นมา  ออกแรงมือบีบคางเพื่อให้มันเงยขึ้นมองมาที่ผมตรง ๆ 

"ใคร..พามึงออกไป" ผมย้ำถามอีกครั้ง  มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่ไอ้ดินจะหลบออกไปโดยคลาดสายตาพวกคนในบ้านอย่างนี้  และถ้ามันไม่เก่งขนาดนั้น  แสดงว่าลูกน้องเลือกที่จะไม่ทำตามคำสั่งจากผม

"ดิน..แอบออกไปเองครับ" ไอ้ดินย้ำพูดคำเดิม  น้ำเสียงของมันเริ่มไม่คงที่  ผมบีบแก้มมันหนักขึ้นกว่าเก่า  อีกฝ่ายพยายามดิ้นคงเพราะทรมาน  มันนำมือมาจับข้อมือผมเหมือนเป็นการบอกว่ามันเจ็บจนจะทนไม่ได้แล้ว

"อึก" ไอ้ดินสะอึกในลำคอ  เราต่างสู้แรงกันด้วยความเงียบ  ไร้เสียงร้องขอจากไอ้ดิน  มันมองผมด้วยสายตายอมรับผิด  เมื่อผมเห็นความกลัวสื่อชัดออกมาทางสายตา  ผมจึงคลายแรงมือลง

"ดี" ผมอมยิ้มพร้อมสะบัดปล่อยมือออก

"หึ..ปิดบังได้มึงปิดบังไป ปกป้องกันแบบนี้..เอาให้ตลอดนะ" ผมพูดพร้อมจ้องไปที่ลุงทองและไอ้เข้มอย่างคาดโทษ  สองคนนี้รักไอ้ดินอย่างกับญาติในไส้  การรักกันมันดีอยู่แล้วแต่บางกรณีนั้นห้ามใช้  ซึ่งผมคิดว่าพวกมันจะต้องรู้เห็นเป็นใจกันแน่  ทั้งสองคนพากันก้มหน้าก้มตาไม่แม้แต่จะเงยขึ้นสักเสี้ยวนาที

"เพราะถ้ามึงทำไม่ได้ตลอด.." ผมกดน้ำเสียงเย็นลง  สายตาจับจ้องไปที่ไอ้ดินอย่างคาดโทษ

"ขอให้มึงรู้ตัวไว้ซะ ว่ามึงจะเป็นสาเหตุ..ทำให้คนที่ช่วยมึงฉิบหาย" ผมชี้หน้าไอ้ดินพร้อมกับฟันแน่น  สายตาที่มองไปไม่มีแม้แต่การมองอย่างคนในครอบครัวควรมีให้กัน  บางครั้งไอ้ดินไม่ควรได้รับ  ไอ้ดินน้ำตาคลอ  มันหลบตาลง  ทุกครั้งที่เกิดเรื่องอะไรก็ตามและถ้าลูกน้องผมเป็นคนคอยช่วยไอ้ดิน  ผมไม่เคยลงโทษลูกน้องของผมได้อย่างสุดเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย  เพราะผมรู้ดีว่าความผิดทั้งหมดมันอยู่ที่น้องชายของผม  อย่างไรก็แล้วแต่  คนที่ผิดมากที่สุดคือต้นตอนั่นละ 

เมื่อผมเงียบ  ทุกคนก็พากันนิ่งไปพักใหญ่  ในห้องเงียบสนิท  ผมยืนนิ่งอยู่นานมากเพราะต้องการใช้สติให้มากในการสอบถาม  มองสำรวจไอ้ดินตั้งแต่หัวจรดเท้า  มันยืนนิ่งแทบไม่กระดิกตัวเลยแม้แต่นิดเดียว

"ไปทำอะไรมา" ผมถามด้วยน้ำเสียงปกติลง

".........." ไอ้ดินไม่ยอมตอบ

"อย่าให้กูต้องพูดซ้ำนะดิน" ผมเตือน  แม้แต่ชื่อของมันที่พ่อของผมก็ได้ตั้งให้อย่างตั้งใจเพื่อให้เราได้สอดคล้องกัน  ให้รู้สึกเหมือนลูกแท้ ๆ เหมือนน้องแท้ ๆ ซึ่งดูเหมือนจะได้ใจไปหน่อยแล้วละมัง

"ไปคอนโดเพื่อนครับ" มันตอบ

"ผู้หญิงหรือผู้ชาย"

"ผู้หญิง" ไอ้ดินตอบทันที  เสียงเริ่มเบาลงเรื่อย ๆ ผมสูดหายใจแรงอย่างแทบหมดความอดทน  ก่อนจะหลับตาลงช้า ๆ

"แล้วทำไมสารรูปมึงถึงได้เป็นแบบนี้!" ผมว่าแทบตะคอก  ไอ้ดินกลืนน้ำลายลงคอจนผมทันสังเกตเห็น

"กูถาม!!" ผมตะคอกใส่พร้อมกับจ้ำอ้าวเข้าไปหา  ไอ้ดินถอยหลังทันควัน

"..ผู้หญิงของ ไอ้กี" ไอ้ดินขยายความ  ผมถึงกับชะงักโดยที่ผมไม่ต้องถามรายละเอียดให้มากกว่านี้เลยว่าทำไมสภาพถึงได้เละขนาดนี้  ชื่อนี้ที่ทำเอาผมตบะแตก  "ไอ้กี"..คือน้องชายของไอ้เหี้ยกริด  ซึ่งความหรรษามันอยู่ตรงที่  ทั้งไอ้ดินและไอ้กีดันเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกัน  เพียงแค่ไอ้กีแก่กว่าไอ้ดินก็เท่านั้น  ที่สำคัญพวกมันไม่เคยถูกชะตากันเลย

"ไอ้เวรเอ๊ย!" ผมสบถ  เงื้อมหลังมือฟาดเข้าที่หน้าไอ้ดิน  ความแรงที่ปล่อยไปเต็มที่ทำให้ไอ้ดินล้มฟุบลงกับพื้น   

"ผู้หญิงหมดโลกแล้วรึไง!!" ผมตวาดดังลั่น  ก้าวขาเข้าไปจะไปซ้ำมันอย่างอดไม่ได้

"เฮีย.." พายุเข้ามาแทรกไว้หน้าเสีย  ผมจ้องหน้าพายุเขม็งเพื่อบอกให้มันหลบไป  ไอ้ดินขยับตัวคลานไปหลบหลังพายุแทนเกราะกำบัง

"ดิน อึก..ขอโทษเฮีย" ไอ้ดินร้องบอก

"เฮียอย่าทำมันเลยนะ" พายุพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ  ผมยืนนิ่งก่อนหันหน้าหนี

"ดิน ขอโทษ" ไอ้คนข้างหลังพูดเสียงเครือ
 
"มึงจะแกล้งตีหน้าซื่อบอกกูว่าที่จริงมึงไม่รู้รึไงว่าอีนั่นเป็นผู้หญิงของไอ้กีงั้นซิ..ฮึ!" ผมถลึงตาใส่  พอทำท่าจะเข้าไปใกล้ไอ้ดิน  พายุก็กั้นไว้อีก

"ในสายตามึงน่ะ..กูคงเป็นพี่ที่โง่มากสินะ ขนาดลูกน้องกูน่ะ มึงก็คงบังคับขี่คอไปไหนก็ได้" ผมก้มหน้าลงไปยิ้มให้โดยสายตาไม่ได้ยิ้มด้วย  ไอ้ดินขยับตัวเองไปทางด้านหลังมากกว่าเดิม

"นายครับ ..คือ" ไอ้เข้มเงยหน้าขึ้นหน้าเจื่อน

"มึงหุบปาก" ผมชี้หน้าห้ามมันอย่างเหลืออด  ในเมื่อผมไม่เอาเรื่องมันแล้ว  มันไม่ควรเสือกอะไรทั้งนั้น

"หะ! กูถามมมม..ตอบกูมา!!" ผมลากเสียงตะคอกดังลั่น  ไอ้ดินหลุดร้องไห้หนักกว่าเดิม  พายุพยายามรั้งตัวผมไว้ตลอดเวลาจนผมรำคาญจึงสะบัดออก  พายุหน้าสลดยืนนิ่งไป 

"มึงจงใจทำเหี้ยอะไร มึงไม่เคยนึกถึงผลที่จะตามมาเลยใช่ไหม" ผมว่า  ที่ผมโมโหมากเพราะผมรู้จักไอ้ดินดีว่ามันเป็นคนยังไง  มันเองก็รู้ความเป็นไปภายในบ้านเช่นกัน  เรื่องบางเรื่องอย่างเช่นว่าศัตรูมีใครบ้าง  ไอ้ดินควรรู้ไว้เพื่อความปลอดภัยของชีวิตมันเอง  เรื่องไอ้กีและเรื่องของไอ้กริดเอง  ผมเคยเตือนมันแล้วว่าถ้าเป็นไปได้ก็อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกัน  เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงเพราะผมไม่อยากมีปัญหา  แล้วดูที่มันทำ..

"เอาแต่เรื่องระยำตำบอนมาให้กูตลอด!" ผมตะคอก  ไอ้ดินสะดุ้งตาแดง  มันนั่งปาดน้ำตาตัวเองลวก ๆ ผมถอนหายใจทิ้ง  ยืนเท้าเอวจ้องไอ้ดินอยู่พักหนึ่ง  มันไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผมเลย   

"ถ้าพวกมึงเชื่อฟังไอ้ดินกันนักละก็.. ต่อไปพวกมึงก็ไม่ต้องมาฟังคำสั่งจากกู" ผมพูดขึ้นลอย ๆ ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดทั้งยังไม่หายโมโหดี  พวกมันคงรู้ดีว่าผมตั้งใจจะบอกใคร  นี่ไม่ใช่เพียงแค่การขู่เพื่อลูกน้องเท่านั้น  ไอ้ดินควรสำนึกให้มากว่ามันทำให้ลูกน้องของผมเดือดร้อนไปด้วย  และผมพอจะเข้าใจดีว่าถึงแม้พวกมันจะไม่อยากขัดคำสั่ง  คนอย่างไอ้ดินก็คงจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ออกไปอยู่ดี

"เพื่อความยุติธรรม ให้กูดูกล้องวงจรปิดดีไหม ถ้าพวกมันช่วยมึงจริง ๆ กูจะได้ไล่พวกมันออก หือ..เอาไหม" ผมพูดเรียบ ๆ กวนไอ้ดินแต่เหลือบมองไปที่ไอ้เข้มตลอดเวลา  ไอ้เข้มหลบสายตาก้มหน้าก้มตาทันที  มันเป็นคนฉลาด  และรู้ดีด้วยว่าส่วนไหนของบ้านที่ไม่มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ 

"ดินขอโทษ ดิน..ขอร้องทุกคน เอง อึก" ไอ้ดินรีบพูดทั้งที่สะอึกสะอื้นอยู่

"หึ" ผมแสยะหัวเราะออกมา   

"วันนี้มึงไม่ต้องไปเรียน" ผมก้มหน้าลงบอกตัวการ  ไอ้ดินเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมทั้งน้ำตา

"มึงโตแล้ว" ผมพูดแกมยิ้ม ๆ

"ไม่ต้องเชื่อฟังกูก็ได้.."

"..และต่อไปมึงก็ไม่ต้องไป!" ผมกดน้ำเสียงลงจนฟังดูแข็งกระด้าง

"เฮีย ฮึก" ไอ้ดินทำท่าจะคลานเข้ามาหา  ผมชักขาถอยกลับ

"ถ้ามึงไม่รักเรียนนักมึงก็ไม่ต้องไป อยากทำอะไรก็เชิญ" ผมชี้หน้าบอกอย่างเหลืออดแล้วเดินหนีออกมา  ผมโกรธมันมากกับเรื่องนี้  ผมคิดว่าไอ้ดินก็รู้ดีว่าผมจริงจังมากกับเรื่องการเรียนและความประพฤติ  ส่วนตัวผมคิดว่าผมอดทนที่จะไม่เหวี่ยงออกมา ๆ นานพอแล้ว  มันน่าโมโหตรงที่คนของเรามีเงินส่งเสียให้เรียนแต่กลับไม่ใฝ่ดี  มันทำให้ผมเห็นว่า  มันไม่เคยมองถึงคนที่เขาอดอยากแทบตายเพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียนเลย  คนที่มีทุกอย่างแต่ไม่เคยเห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองมี  คนแบบนี้สำหรับผมคือคนระยำ   

ผมจัดการอาบน้ำเพื่อให้หัวตัวเองเย็นลง  ให้นอนต่อด้วยอารมณ์แบบนี้คงไม่ไหว  พออาบน้ำเสร็จเลยแต่งตัวไว้เรียบร้อยจะได้ออกไปทำงานทีเดียว  ผมลงไปที่ห้องอาหาร  โต๊ะอาหารตั้งเรียบร้อยแล้ว  พายุนั่งอยู่ในนั้นพร้อมกับป้าอิ่มที่กำลังวางจานอาหารส่วนของผมพอดี  ผมเดินไปที่ประจำของผมแล้วเลื่อนเก้าอี้นั่งลงเงียบ ๆ พายุเหลือบมองมา

"มันไปไหน" ผมถามเพราะจานส่วนของไอ้ดินเพิ่งเก็บไปต่อหน้า
 
"ไปเรียนฮะ" พายุตอบ  ผมหยิบผลไม้ขึ้นกินนำไปก่อน

"เฮียเอาจริงเหรอ" พายุถามเสียงเบาอย่างเกร็ง ๆ

"อะไร" ผมย้อนเสียงห้วนไม่มองหน้ามัน

"ให้มันหยุดเรียนไง" พายุตอบ

"หึ อย่าซื่อบื้อน่า" ผมหัวเราะตอบเท่านั้น  บางทีน้องชายผมคนนี้ก็ซื่อบื้อ  ไม่สิ..ความจริงแล้วมันมีมุมที่ซื่อบื้อกว่าที่ใครหลายคนคิด

"ช่วงนี้มึงก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน" ผมเปลี่ยนเรื่องพูดเตือนไปกินไป  พายุเพียงผงกหัวรับทราบ

"..พวกมันไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่"


- - - - - - - - - - - - - - -


16:05 น. ไซต์งานก่อสร้าง T

ขณะนี้ผมกำลังเป็นไอ้ถ้ำมองอยู่ในรถยนต์ของตัวเองกับแอร์เย็น ๆ คนเดียว  ผมขับรถมาที่ไซต์ก่อสร้างที่สมุทรทำงานอยู่  ตามตารางแล้วเขาน่าจะเลิกงานเวลานี้  ไม่เชิงว่ามาแอบดู..แต่ก็นั่นละ  ผมกำลังแอบดู



ตืด  ๆ  ๆ ๆ ...ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู  เห็นเป็นสายโทรเข้ามาจากป๋าจงจึงรีบกดรับสาย
"ครับป๋า" ผมทัก  ตั้งแต่วันนั้นที่เจอป๋าและไอ้กริดที่ร้านของป๋าในวันนั้น  ผมก็ไม่ได้ติดต่อไป  ส่วนป๋าเองก็ไม่ได้ติดต่อมาหาผมเช่นกัน

"ไง..เงียบหายไปเลยนะ" ป๋าทักด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอย่างเคย  ผมอมยิ้มที่ป๋ายังคงเหมือนเดิม

"เปล่าหรอกครับ ป๋าเป็นไง"   

"ที่จริงว่าจะโทรหาแกตั้งแต่วันนั้นแล้วล่ะ แต่วุ่น ๆ หลายอย่าง" ป๋าตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อย ๆ
 
"ป๋าปฏิเสธไอ้กริดไปแล้วนะ" ป๋าพูดเข้าประเด็น  ผมเงียบฟัง 

"ป๋าไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้นะครับ ตามตรงแล้วไฟไม่มีอะไรหรอก..ไม่เคยคิดจะโกรธป๋าด้วย" ผมพูดตามตรง  ป๋าหัวเราะในลำคอ  ระหว่างที่คุยอยู่นั้นเองผมก็เห็นสมุทรเดินออกมาจากไซต์งานพอดี  ดูท่าเขากำลังจะเดินทางกลับบ้านแล้ว  ผมไม่ได้ออกรถทันทีเพราะอย่างไรรถก็ติดเครื่องรอไว้อยู่แล้ว  และผมอยากพูดกับป๋าให้เป็นกิจจะลักษณะจบเรื่องไปก่อนด้วย 

"เอาน่า..เราก็มาสานต่อในสิ่งที่เราเริ่มกันไว้แล้วดีกว่า" ป๋าพูดปัดประเด็นเหมือนไม่อยากให้ผมถามถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่าป๋าได้จัดการตกลงกับไอ้กริดไปเป็นอย่างไรบ้าง 

"แล้วที่ดินที่ป๋าจะขอซื้อกับพ่อไอ้กริดล่ะ" ผมถามอย่างเป็นห่วง

"เรื่องมันเยอะอยู่แล้วล่ะ เยอะอีกหน่อยคงไม่เป็นไร..แกไม่ต้องคิดมาก" ป๋าพูด  ผมได้แต่เงียบ 

"เอาไว้เราค่อยมาคุยงานกันต่อนะ ป๋าอยากให้แกเป็นคนเลือกแบบโซนวีไอพี..ให้วัยรุ่นเลือก คงจะดีกว่า" ป๋าบอก  ผมว่าตอนนี้ป๋าคงพูดไปยิ้มไปด้วยแน่ ๆ แค่ฟังน้ำเสียงก็รู้แล้ว

"เลยวัยรุ่นมาได้พักนึงแล้วครับ" ผมพูดติดตลก  ป๋าจงหัวเราะ

"ยังไงก็..ขอบคุณครับป๋า ไว้ผมจะเข้าไปหา" ผมบอก

"อืม..เท่านี้ล่ะกันนะ" ป๋าพูด

"ครับ" ผมตอบรับก่อนที่จะรอให้ป๋าเป็นฝ่ายตัดสายไปก่อน 

"ฟู่" ผมถอนหายใจแรง  จะว่าสบายใจที่ป๋าจงจะสานงานต่อกับผมก็คงไม่เชิง  กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ผมชักเริ่มระแวง  ถ้าต้องให้มองอีกมุมหนึ่งแล้ว  ถ้าไอ้กริดจะคิดแค้นก็คงจะเป็นไปได้มากทีเดียว  และปัญหาล้านแปดระหว่างผมกับมันคงมีมาให้ผมปวดหัวเรื่อย ๆ อีกแน่ 

ผมวางโทรศัพท์มือถือลงตรงที่วาง  ชะโงกหน้าไปที่ถนนก็เห็นว่าสมุทรเดินไปไกลแล้ว  ผมยังไม่ขับรถตามไปในทันทีเพราะต้องการจะรอดูว่าเขาจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปที่หน้าปากซอยรึเปล่า  ระยะทางจากตรงนี้ไปถึงหน้าปากซอยค่อนข้างไกลพอสมควรซึ่งผมไม่คิดว่าสมุทรจะไม่เรียกมอเตอร์ไซค์ 

"หึ..แค่หน้าปากซอย จะประหยัดซะกี่บาทเชียว" ผมบ่นอย่างไม่เข้าใจเมื่อเห็นว่าสุดท้ายแล้วสมุทรก็เดินผ่านวินมอเตอร์ไซค์ไปเสียเฉย ๆ ผมหยุดชั่งใจคิดว่าควรจะขับไปรับอีกฝ่ายดีไหม  หรือว่าควรจะขับไปรอที่บ้านเขาเลยดี  เมื่อเคลื่อนตัวรถออกไปได้สักระยะและยังไม่ทันได้ตัดสินใจว่าควรจะเอาข้อที่หนึ่ง  หรือข้อที่สอง  ปลายเท้าของผมมันกลับเหยียบเบรกไปซะก่อนแล้ว  รถของผมหยุดตรงหน้าสมุทรพอดิบพอดี  ผมมองเขาผ่านกระจกมองหลัง  อีกฝ่ายชะงักด้วยสีหน้างุนงงและทำท่าจะเดินอ้อมเพื่อแซงรถของผมไป  ผมรีบลงจากรถก่อน  สมุทรที่เห็นว่าผมคือเจ้าของรถถึงกับชะงัก  ครู่เดียวสายตาเขาก็เปลี่ยนเป็นจ้องมองผมนิ่ง ๆ ตามเคย

"คุณนี่หน้าทนดีนะ" สมุทรพูดเสียงเรียบ

"ภาษาทั่วไปแปลว่าหน้าด้านรึเปล่า" ผมทำหน้าซื่อ ๆ กวนตอบอย่างไม่รู้สึกอะไร  สมุทรจ้องกลับเอาเรื่อง

"หึหึ..ใช้คำตรง ๆ ก็ได้ ปกติฉันก็ไม่ซีเรียสอะไรหรอก" ผมยักคิ้วพร้อมอมยิ้มมุมปากเล็ก ๆ อย่างกวนให้ไม่หยุด  ปกติในสายตาของคนอื่น  ผมเป็นคนที่ดูกวนส้นตีนรึเปล่านะ  ผมไม่เคยสงสัยในตัวเองจนมาเจอกับเขาคนนี้  ดันมาสังเกตรับรู้ได้ถึงต่อมอยากกวนอารมณ์ฝ่ายตรงข้ามนี้ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าเขาน่ะนะ

"พ่อฉันเคยบอกแล้วน่ะ พูดเหมือนนายเป๊ะ" เมื่อผมเห็นว่าสมุทรยังคงนิ่ง  ผมจึงพูดต่อ  แม้จะรู้สึกจุกนิด ๆ เพราะเป็นการต่อว่าจากใบหน้านิ่ง ๆ นั่นของเขาแต่ก็ให้อารมณ์แปลก ๆ ดี
 
"ขึ้นรถสิ เดี๋ยวไปส่ง" ผมบอก  ครั้งนี้น้ำเสียงและสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย

".........." สมุทรยังคงนิ่งเงียบ  เขาเหลือบมองไปที่รถของผมก่อนเหสายตามองไปทางอื่น
 
"คุณตามผมมาเหรอ" สมุทรถาม  น้ำเสียงและสีหน้าเปลี่ยนจากเมื่อครู่กลับมาเป็นปกติ  สงบศึกตามผมเช่นกัน

"ใช่" ผมตอบห้วน ๆ

"จะยังไงคำตอบก็เหมือนเดิม" เขาว่า

"เรื่องนั้นช่างมันเถอะ..ขึ้นรถ" ผมสั่งอีกครั้ง  สมุทรหันกลับมามองหน้าผมแต่ก็ไม่มีท่าทางว่าจะยอมขึ้นง่าย ๆ อยู่ดี

"ฉันไม่เอานายไปฆ่าหรอกน่า" ผมพูดพร้อมถอนหายใจ

"ผมมีธุระน่ะ"

"ก็เดี๋ยวไปส่งนี่ไง" ผมย้ำเสียงหนักขึ้น  สมุทรถอนหายใจเบา ๆ

"..หรือต้องให้เปิดประตูให้ด้วย" ผมแสยะยิ้มน้อย ๆ อีกฝ่ายจ้องผมเขม็ง  เขาเมินหน้าหนีคล้ายกับตัดใจที่จะต่อปากต่อคำกับผมแล้ว  สมุทรเดินไปอีกฝั่งหนึ่งของรถแล้วเข้าไปนั่งหน้าตาเฉย  ผมหัวเราะรีบขึ้นรถทันที 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2015 22:38:01 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
"ไปไหนล่ะ" ผมถามก่อน

"ไปรับน้อง" สมุทรตอบ  อดนึกในใจไม่ได้ว่า.."นี่น่ะนะธุระที่ว่าของนาย" แต่ก็ไม่ได้พูดออกไปเพราะคิดว่าเมื่อกี้เขาคงตั้งใจหาทางจะปฏิเสธผมนั่นแหละ

"น้องคนไหน"

"น้องชาย เมฆ" เขาตอบสั้น ๆ เท่านั้นแล้วเงียบไป  ผมขับรถออกโดยไม่ได้ถามต่อว่าโรงเรียนอะไรหรือไปทางไหนแต่ก็ขับไปก่อน  เพราะอันที่จริงผมรู้ดีอยู่แล้วว่าน้องชายของเขาเรียนที่โรงเรียนไหน

"นี่คุณอย่าบอกนะครับว่าคุณรู้ว่าน้องชายผมเรียนที่ไหน" สมุทรพูดขึ้นเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้  สีหน้าของเขาดูระแวง  อีกฝ่ายทำท่าไม่ไว้ใจและดูเหมือนจะเริ่มจับผิดผมแล้ว

"ฉันก็ขับไปเรื่อย ก็นายไม่พูด.." ผมทำน้ำเสียงกวนและปัดไปให้เป็นความผิดของเขา

"ตกลงไปทางไหนล่ะ" ผมถามหน้าซื่อ

"ไปทางบ้านผมนั่นแหละครับ เดี๋ยวผมบอก" สมุทรตอบ  ผมพยักหน้า  เลื่อนมือเปิดวิทยุฟัง  ปกติผมไม่ค่อยฟังเพลงและไม่ค่อยสนใจฟังอะไรเป็นพิเศษนัก  ส่วนใหญ่จะฟังข่าวกีฬาบ้าง  ระหว่างทางที่รถติดผมก็ไม่รู้จะชวนคุยอะไร  ส่วนสมุทรก็เอาแต่เงียบเช่นกัน  แอบเหลือบมองเขาบ้างเป็นครั้งคราว


ตืด  ๆ ๆ  ...ผมหยิบโทรศัพท์มาดู  สายโทรเข้าจากไอ้เข้ม 
"ว่าไง" ผมทัก

"นายครับ" ไอ้เข้มทักกลับ  น้ำเสียงแบบนี้เป็นเรื่องไม่ดีแน่เพราะเวลานี้น่าจะเป็นเวลาที่ไอ้เข้มกำลังทำหน้าที่คอยตามน้องสาวของสมุทรอยู่

"เหมือนจะมีคนตามคุณดาวนะครับ" ไอ้เข้มรายงาน

"รู้ไหมว่าใคร" ผมถามเสียงเรียบเพื่อไม่ให้ฝ่ายที่นั่งอยู่ในรถนั้นผิดสังเกต

"ไม่แน่ใจครับ แต่ไม่น่าจะใช่นักสืบหรือนักฆ่า" ไอ้เข้มวิเคราะห์

"เหมือนมันมาแอบดูอะไรสักอย่าง"

"เหรอ..งั้นมึงก็คอยดูไว้แล้วกัน" ผมสั่งโดยละคำว่า.."เกิดอะไรขึ้นก็จัดการตามสมควร"  "เพราะไม่อยากทำให้ภาพลักษณ์เสียไปอีก

"ได้ครับ" ไอ้เข้มรับปาก  ผมตัดสายแล้วตั้งใจขับรถต่อไปเรื่อย ๆ คาดคะเนว่าวันนี้ดาวคงไม่ได้ไปรับเมฆด้วยตัวเอง  ดังนั้น..สมุทรเลยต้องไปรับแทน 

".........." ระหว่างที่ผมขับรถเงียบ ๆ อยู่นั้นผมก็สังเกตเห็นว่าสมุทรหันหน้ามามองผมบ้าง  ผมไม่ได้หันกลับไปมองตอบ  คล้ายกับต่างฝ่ายต่างก็มีฟอร์มของตัวเอง  ดูเหมือนเขาเริ่มจะผ่อนคลายลงบ้างแล้ว  เมื่อเห็นอย่างนั้นผมก็เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตัวเองก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกไม่ต่างกันนัก

ผมอมยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อได้สติรู้ตัวอย่างนั้น  เท้าแขนอีกข้างกับประตูรถอย่างสบายใจและขับไปทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็นอะไร  ผมเอื้อมมือกดปิดวิทยุอย่างตัดรำคาญ  สมุทรมองตามมือของผมจนสังเกตเห็นได้  รถที่แทบไม่ขยับไปไหน  จอดนิ่งค้างเติ่งคันต่อคันทำให้คนในรถรับรู้ได้ถึงความเรียบนิ่งและการเคลื่อนไหวร่างกายเล็กน้อยแผ่วเบาของคนที่นั่งอยู่ด้วยมากกว่าเดิม  ผมเหลือบสายตาไปมองสมุทรบ้าง  เห็นเขากำโทรศัพท์มือถือไว้ในมืออยู่นานแล้วเหมือนกับรอกลัวว่าใครจะโทรมา  ผมอดแปลกใจไม่ได้ที่ไม่เห็นว่าเขาจะหาอะไรทำเพื่อฆ่าเวลาขณะรถติด  ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นและทำท่านั่งเป็นคุณชายหน้าตาเฉยไปแล้ว  แต่เขาเปล่าทำ 

"แล้ว.. ที่บ้านคุณเป็นยังไงบ้าง" อยู่ ๆ สมุทรก็ถามขึ้นโต้ง ๆ ผมหันไปมองเขาเต็มตาแทบจะทันที  สมุทรสบตาผมเพียงนิดเดียวก็หันหน้ากลับ  เหมือนกับนั่นเป็นการเริ่มบทสนทนาเพื่อชวนพูดคุยทั่ว ๆ ไป

"ก็เรื่อย ๆ..เหลือแค่ฉันกับน้องชายน่ะ นอกนั้น..ลูกน้อง" ผมตอบ  สมุทรพยักหน้าเล็กน้อย  หลังจากนั้นเราก็เงียบไปอีกประมาณสิบวิ  คล้ายกับว่าได้จบบทสนทนาลงดื้อ ๆ ซะแล้ว  ผมพยายามมองดูว่าเขาจะมีท่าทีที่จะพูดอะไรต่ออีกไหม  ซึ่งดูเหมือนจะไม่มี 

"มาเป็นนักมวยค่ายฉันไหม" ผมพูดขึ้น  สมุทรหยุดนิ่ง  เขาหันมามองผมด้วยสายตาว่างเปล่า  ถ้าผมวิเคราะห์ไม่ผิด  เขาคงจะตีความผิดเกี่ยวกับการที่ผมต้องการให้เขามาทำงานด้วยกันมากทีเดียว

"ฉันหมายถึง ฉันจะซื้อตัวนายมาเป็นนักมวยค่ายฉัน" ผมขยายความ  เสียงแตรรถดังมาจากคันข้างหลัง  เนื่องจากผมเอาแต่หันไปจ้องสมุทรจนไม่ยอมเคลื่อนรถไปข้างหน้า  สมุทรนั่งเงียบด้วยสายตาลังเลอย่างเห็นได้ชัด  เสียงแตรรถบีบดังไล่อีกครั้งทำให้ผมต้องละสายตาจากเขาแล้วหันกลับมาขับรถต่อ  หลังจากนั้นเราสองคนไม่พูดอะไรกันอีกเลยจนเกือบถึงโรงเรียนของเมฆ  สมุทรเอ่ยปากบอกทาง  ทำพฤติกรรมคล้ายกับว่าไม่เคยเกิดบทสนทนาระหว่างเราก่อนหน้านั้นมาก่อนเลยอย่างนั้น

"ฉันรออยู่นี่แล้วกัน" ผมพูดเมื่อจอดรถสนิทที่หน้าโรงเรียน

"คุณกลับเลยก็ได้ เดี๋ยวผมกับน้องไปเองได้ครับ" สมุทรหันมาบอก  ผมจ้องหน้าเขานิ่ง  อีกฝ่ายก็จ้องตอบไม่ได้ว่าอะไร  เขาหลบสายตาผมเหมือนกับต้องการบอกให้ผมหยุดที่จะพูดเรื่องที่เขาไม่อยากรับฟัง  สายตาและสีหน้าที่เหมือนกับคนที่ไม่ค่อยอยากมีปากมีเสียงอะไรกับใครนัก  ผมเหลือบมองไปที่ประตูโรงเรียน
 
"..ฉันรออยู่นี่แล้วกัน" ผมย้ำพูดคำเดิมเป๊ะไม่ขาดและไม่เกิน  ก่อนจะหันหน้าไปมองทางด้านนอกเหมือนตัดบทสนทนาเพื่อให้เขาตีความเอาเอง  สมุทรไม่ได้ว่าอะไร  เขาลงจากรถเดินเข้าไปในโรงเรียน  ผมมองตาม  เพียงห้านาทีสมุทรก็เดินกลับออกมาพร้อมกับเมฆน้องชายของเขา  ทั้งสองเดินจูงมือกันมา  ดูเมฆจะงุนงงไม่น้อยเมื่อเห็นว่าสมุทรพาเขามาหยุดอยู่ที่รถของผม  สมุทรเดินมาเปิดประตูรถ  ผมหันไปมอง  เมฆสบตากับผมพอดี  เมฆชะงักแล้วเข้าไปกอดแขนพี่ชายตัวเองในทันทีที่เห็นว่าคนขับคือบุคคลแปลกหน้า  ผมแสยะปากยิ้ม ๆ ไม่ได้ว่าอะไร  อีกฝ่ายดูท่าจะไม่ยอมขึ้นรถง่าย ๆ ซะแล้ว 

"สวัสดีพี่เค้าสิ" สมุทรพูดบอก  ผมนั่งมองนิ่ง  เมฆเหลือบสายตามองผมด้วยสายตาเหมือนคนที่ไม่ไว้ใจใครหน้าไหน  แต่สุดท้ายเขาก็ยกมือไหว้ผมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ 

"น้องชายผม ชื่อเมฆ" สมุทรก้มตัวลงมาบอก

"รู้แล้วล่ะ" ผมบอก  ขยายความซะซื่อตรงเชียว  สมุทรนิ่งไป  เขาคงนึกไม่ถึงว่าที่จริงผมรู้แทบทุกเรื่องของเขานั่นละนะ  สมุทรขึ้นมานั่งในรถก่อน  แล้วเอื้อมแขนไปกอดน้องชายตัวเองให้เข้ามานั่งด้านหน้าด้วยกัน  โดยให้นั่งอยู่ระหว่างตักของเขาก่อนจะปิดประตูรถ  เมฆที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาแอบเหลือบมองผมเล็กน้อย  ผมเหล่สายตามองกลับทำเอาอีกฝ่ายก้มหน้างุดกว่าเดิม  นี่กำลังสงสัยว่ากูทำอะไรผิดไปรึเปล่า   

"ต้องไปที่ไหนก่อนไหม" ผมถามก่อนที่จะออกรถ

"ไม่ครับ" สมุทรหันมาตอบ  ผมพยักหน้ารับแล้วขับรถออก  สมุทรนั่งกอดน้องชายตัวเองที่เอาแต่ก้มหน้าอยู่นั้นไว้หลวม ๆ ผมไม่ได้ทักอะไรเพราะดูเหมือนว่าไอ้เด็กนี่คงจะเข้ากับคนแปลกหน้ายาก  เห็นเมฆแล้วเหมือนเห็นพายุตอนเป็นเด็กยังไงชอบกล  อีกอย่างหน้าผมก็คงไม่ได้เป็นมิตรอะไรเท่าไหร่ด้วย  ผมไม่ค่อยรู้จักการเข้าหาเด็ก  สมัยที่เลี้ยงพายุก็เช่นกัน  พายุมักเป็นฝ่ายพุ่งเข้าหาผมและคงติดที่ผมมักจะตามใจมันเสมอ  มากไปกว่านั้นบางครั้งผมก็ไม่รู้ว่าการพูดกับเด็กจะต้องพูดทักด้วยภาษาอย่างไร  ควรหยอกล้อกันแบบไหนที่จะทำให้เด็กรู้สึกสนิทใจและสนุกไปกับเรา  ซึ่งผมไม่คิดจะพยายามเป็นด้วยนะครับเพราะผมคิดว่า..การประดิษฐ์สิ่งใดก็ตามมันมักจะไม่ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ

"วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง" สมุทรก้มหน้าไปหาน้องตัวเองแล้วกระซิบถามเสียงเบาคล้ายกับเกรงใจที่จะพูดคุยต่อหน้าผม 

"การบ้านเมื่อวานคุณครูว่ายังไง" สมุทรยิงคำถามต่อไปทั้งที่ผมเองก็ยังไม่เห็นว่าเมฆจะตอบคำตอบก่อนหน้า

"..ครูชมรึเปล่า" เขายิ้มถาม

"อื้อ!" เมฆพยักหน้าตอบแล้วเงยหน้าอมยิ้มมองพี่ชาย

"หึ ดีแล้ว" สมุทรลูบหัวน้องชายตัวเองยิ้ม ๆ

"ดูข้างนอกสิ" สมุทรบอกแล้วชี้มือออกไปทางกระจกรถ  เมฆเงยหน้าขึ้นช้า ๆ แล้วมองออกไปนอกรถ  อยู่ ๆ เมฆก็ขยับตัวเองไปเกาะกับกระจกรถในทันทีอย่างกับสนอกสนใจอะไรสักอย่าง  สมุทรหันมามองผม  ใบหน้าของเขาเปื้อนยิ้มน้อย ๆ ทางระหว่างโรงเรียนถึงบ้านสมุทรไม่ไกลเท่าไหร่นัก  เมื่อมาถึงหน้าปากซอยบ้านสมุทรผมก็จอดรถไว้เพราะขับเข้าไปไม่ได้เนื่องจากมีรถขายอาหารมาจอดปิดทางไว้อยู่  คนแถว ๆ นั้นหันมามอง 

"ขอบคุณครับ" สมุทรพูดขึ้น
 
"เอาเป็นว่า ..ฉันจะให้เงินก้อนนาย" ผมพยักหน้าก่อนพูดขึ้นคนละประเด็น  สมุทรเงียบไปชั่วครู่  ตาของเขาไม่ได้มองมาทางผม

"ทำไมคุณถึงพูดเรื่องนี้ตลอด" สมุทรย้อนด้วยน้ำเสียงเรียบนุ่มอย่างเคย  น้ำเสียงที่ไม่ตะคอก  ไม่ได้ฟังดูโกรธหรือไม่พอใจอะไร

"หึ..เพราะฉันมาเพื่อสิ่งนี้" ผมย้อนตอบแกมหัวเราะ  เราหันมาจ้องหน้ากัน 

"นายคิดว่าฉันเล่นอะไรอยู่งั้นเหรอ" ผมพูดขึ้น  น้ำเสียงยังคงราบเรียบคงเดิม

"..มาหานายเพื่อมิตรภาพสานฝัน ดูเหมือนฉันจีบสาวอยู่งั้นรึไง" ผมว่าพลางถอนหายใจเบา ๆ เมฆนั่งก้มหน้านิ่งไม่พูดไม่จา  ผมนึกขำในใจที่ตัวเองย้อนอะไรไปแบบนี้  จีบสาวงั้นเหรอครับ  ตามความจริงแล้วผมไม่เคยตื๊อตามจีบใครแบบนี้มาก่อนด้วยซ้ำ  ซึ่งนอกจากจะไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะทำแล้ว  กลับรู้สึกชอบใจอย่างไรบอกไม่ถูกด้วยซ้ำ

"ฉันจะให้เงินก้อนนาย มากพอที่จะปรับปรุงค่ายมวยใกล้ตายของเพื่อนพ่อนาย น้องนายจะได้คุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้..แล้วก็ นาย..จะได้เรียนต่อ" ผมพูดไม่ได้มองหน้าเขา  สมุทรนั่งเงียบ  ผมคิดว่าเขาก็คงลังเลอยู่เช่นกัน 

"ก็แค่นายมาทำงานกับฉัน มันจะยุ่งยากอะไรนักหนา" ผมว่าด้วยรู้สึกหงุดหงิดในใจไม่น้อย  ไม่รู้ทำไมกลับรู้สึกหงุดหงิดลึก ๆ ในใจที่ถ้าอีกฝ่ายจะปฏิเสธไม่ยอมมาทำงานด้วยกัน 

"สุดท้ายบุญคุณก็จะไม่จบไม่สิ้น" สมุทรที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้นคนละเรื่อง  ผมหันไปจ้องหน้าเขา

"ให้มันจบที่พ่อผมก็ดีแล้ว" เขาว่า

"ขอโทษด้วย ถ้าต้องบอกว่าที่จริงมันยังไม่จบ" ผมตอบกลับชัดถ้อยชัดคำ 

"รู้ไว้ซะ..ว่าถึงลุงยอดยังมีชีวิตอยู่ สุดท้ายนายก็ต้องทำงานให้ครอบครัวฉันอยู่ดี" ผมย้ำถึงความจริงที่ไม่อยากจะพูดถึง  ถ้าเขาไม่กวนจนผมนึกหมันไส้ผมก็จะไม่ตอกย้ำให้มีอารมณ์กันแบบนี้  ที่จริงการทำงานมันก็วนอยู่เท่านี้มาตลอดยาวนานอยู่แล้ว

"เป็นเบ๊ฉัน..แบบไม่มีข้อแม้ด้วยซ้ำ" ผมแสยะยิ้มเยาะถึงความจริงที่เจ้าตัวก็ควรจะรู้อยู่  สายตาที่สมุทรมองมาที่ผมเหมือนกับคนที่พยายามกักเก็บอารมณ์เอาไว้และดูเหมือนจะเอาได้อยู่หมัดอีกแล้ว  สายตาแบบที่ทำให้ใจผมเต้นเร่า ๆ อย่างพยายามสะกิดให้อะไรต่อมิอะไรที่ผมพยายามเก็บไว้อยู่นั้นปะทุออกมา

"ขอบคุณพี่เค้าสิ" สมุทรหันหน้ากลับไปพูดบอกเมฆ  เหมือนกับตัดบทสนทนาลงห้วน ๆ เมฆหันมาทางผมแต่ไม่ยอมเงยหน้าเลยแต่ก็ยกมือไหว้ผมตามที่พี่ชายตนสั่งอย่างว่าง่าย  สมุทรเปิดประตูรถแล้วทำท่าจะลงไป

"ฉันจะมาอีก" ผมพูดขึ้นลอย ๆ บอกอีกฝ่ายให้รับรู้ไว้ก่อน  สมุทรหยุดอยู่กับที่ก่อนถอนหายใจให้ได้ยิน

"หึ..อดทนได้ขนาดนั้นก็ตามสบาย" สมุทรย้อนยิ้มกวน  ผมแสยะปากยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ทันทีเพราะรู้สึกชอบใจคำพูดและรอยยิ้มแบบนั้น 

"รู้สึกเหมือนถูกเชื้อเชิญยังไงบอกไม่ถูก" ผมส่งสายตากะล่อนไปอย่างอดไม่ได้  ทำเอาสมุทรถึงกับนิ่งไป  ดูเหมือนว่าเขากำลังใช้ความคิดตีความหมายของสายตาของผมอยู่ละมัง

"คุณน่ะ.." สมุทรเอ่ย  น้ำเสียงและสายตาดูเป็นจริงเป็นจัง

"วันหลัง ถ้าอยากมาขอร้องอะไรใครละก็" เขาพูด  ผมมองหน้าเขาไม่วางตาเพราะสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังจะบอกอะไร

"คุณควรเลือกใช้คำพูด ให้มันเพราะหูกว่านี้" สมุทรบอก

"เพราะยังไง..." ผมเบะปาก  เลิกคิ้วเชิงถาม  นี่ยังไพเราะไม่พออีกงั้นเหรอครับ 

"ครับ" ผมต่อหางเสียงที่ทิ้งไปเมื่อกี้ด้วยท่าทางกวน ๆ ต่อให้

"ส่วนนี่ แถวบ้านผมเรียกประชด" สมุทรพูดแล้วลงจากรถไปทันที  ผมมองตามยิ้ม ๆ

"ดื้อด้าน" ผมว่าไล่หลัง  ตามองตามหลังสมุทรที่เดินจูงมือน้องชายตัวเองเข้าซอยไปแล้ว  ยิ่งเห็นก็ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

"แม่งเอ๊ย!" ผมกัดฟันสบถอย่างอารมณ์เสีย  ทุบมือเข้าที่พวงมาลัยอย่างระบายอารมณ์  ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองกำลังหงุดหงิดอึดอัดอะไรด้วยซ้ำ


- - - - - - - - - - - - - - -


วันศุกร์ 16:30 น. ค่ายมวยชัยโรจน์  สาขาใหญ่

"เอ้า! เร็ว ๆ ๆ ๆ ๆ!!" พี่ธานตะโกนเสียงดังลั่นค่าย  ทุกวันศุกร์ตอนเย็นลูกน้องคนสนิทของผมจะมีฝึกหนักเป็นประจำ  ซึ่งจะเป็นการฝึกโหดพิเศษกว่าวันอื่น ๆ และแม้จะฝึกหนักจนร่างกายพวกมันแย่แค่ไหน  ในทุกเช้าของวันเสาร์ทุก ๆ คนจะต้องตื่นมาซ้อมตั้งแต่เช้ามืดเหมือนเดิม  ซึ่งการฝึกในช่วงเช้าวันเสาร์ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ศาสตร์และศิลปะป้องกันตัวด้านอื่น ๆ เช่น กังฟู  เทควันโด  โดยมีคู่ซ้อมเป็นพายุหรือผมเป็นต้น  ส่วนใหญ่เช้าวันเสาร์  ผม พี่ธานและพายุจะเน้นเป็นพิเศษเพราะปกตินั้นวันอื่น ๆ ลูกน้องผมจะซ้อมด้วยตัวเองและเน้นไปที่มวยเป็นหลักเสียมาก  วันเสาร์ก็เสมือนวันครอบครัว  อันที่จริงพวกเราชอบการรวมตัวกันในเช้าวันเสาร์ที่โรงฝึกในบ้านมากทีเดียว

"ไอ้เด่น!" พี่ธานตะคอกใส่ไอ้เด่นที่ดูจะซิตอัพพร้อมชกได้ยืดยาดช้ากว่าชาวบ้านเขา  หลังจากที่ผมลงนวมเสร็จ  ผมเดินแอบมาหยุดยืนยิ้มมองพวกมันอยู่ทางด้านหลัง  วันนี้ผมลงนวมซ้อมกับลุงลอย  ซ้อมทุกอย่างเป็นปกติ  ชั่งน้ำหนัก  ตรวจเช็คร่างกายเพื่อดูความพร้อมของร่างกาย  วันนี้ยังคงจัดหนักตามเคย  อีกทั้งอากาศก็ค่อนข้างร้อนเป็นพิเศษทีเดียว 

"เอาให้มันเร็ว ๆ เหมือนตอนที่มึงหางกระดิก ระริกระรี้เห็นสาวหน่อย" พี่ธานกัดฟันบ่นพร้อมกับเดินเข้าไปตบหัวไอ้เด่นเต็มแรง  นักมวยที่อยู่รอบ ๆ ได้ยินพากันหัวเราะ

"โอ๊ย" ไอ้เด่นร้องแต่ก็ยังไม่หยุดซิตอัพพร้อมชกไปด้วย  มันคงรู้ว่าถ้ามันหยุดมันจะโดนหนักกว่านั่นเป็นแน่  ผมถอดผ้าพันมือออกอย่างใจเย็น 

"คุณไฟครับ" นพเดินเข้ามาหา  "นพ"..นักมวยฝีมือดีในค่ายของผมอีกคน  มันทำชื่อเสียงไว้ให้มากมายทีเดียว  ผมเหลือบมอง  มือก็ไม่หยุดทำงาน

"ลูกค้าผู้หญิงพวกนั้นเค้าอยากซ้อมกับคุณน่ะครับ" นพยิ้มแหยพูดบอกอย่างเกรงใจ  มันรู้ว่าปกติผมจะไม่ค่อยเป็นเทรนเนอร์ให้ลูกค้า  หรือพูดได้ว่าปกติไม่เคยเป็นเลยมากกว่า  ยิ่งมาแบบที่ไม่ค่อยเป็นมวยด้วยแล้วยิ่งไม่อยากซ้อมให้  ผมเป็นคนที่ค่อนข้างขี้หงุดหงิดในบางโอกาส  เมื่อใจไม่อยากอดทนต่ออะไรก็มักจะไม่ทนทำสิ่งนั้น ๆ ต่อ  และแอบมีส่วนชอบความรุนแรงในศิลปะของมวยอยู่นิด ๆ เวลาที่คู่ซ้อมไม่เต็มเหนี่ยวด้วยแล้วมักจะรู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองปล่อยไปไม่สุดและเมื่อไหร่ที่ไม่สุด  ผมมักจะหงุดหงิด 

"มึงปฏิเสธไปไม่เป็นรึไง" ผมกระซิบพูดกลับด้วยน้ำเสียงโทนเดียวและขยับปากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  ไม่คิดจะหันไปมองผู้หญิงกลุ่มดังกล่าวที่ไอ้นพบอกด้วย  เพราะเกรงว่าลูกค้าจะรู้ได้ว่าผมปฏิเสธโต้ง ๆ แบบนี้ 

"แต่ว่า.." ไอ้นพทำสีหน้าลำบากใจ

"นั่นนางเอกดังเลยนะครับ เค้าบอกว่า..มาเพราะ เอ่อ" ไอ้นพพูดตะกุกตะกักเมื่อผมเริ่มจ้องมันนิ่งอย่างเอาเรื่อง  ผมถอนหายใจเพราะไม่อยากหงุดหงิดใส่มัน  ไอ้นพยิ้มเจื่อนหน้าเสีย

"บอกว่ากูมีฝึกลูกน้องแล้วกัน" ผมพูดแกมสั่ง 

"ครับ" ไอ้นพพยักหน้ารับก่อนเดินไป  ผมเดินตรงไปหาพี่ธาน  พี่ธานมองมาที่ผมก่อนส่ายหัวเซ็ง ๆ ให้ถึงพฤติกรรมลูกน้องที่ไม่เอาไหนในการควบคุมของตัวเอง  ผมหัวเราะ

"สมควรแล้วที่พายุบอกว่าพวกมึงมันห่วยแตก" ผมอดบ่นไม่ได้  พวกมันคงได้ยินชัด  พากันอมยิ้มน้อย ๆ ทั้งที่ยังไม่หยุดซ้อม

"กูให้มึงหยุดไปทำงานที่มึงชอบ" ผมเดินไปหาไอ้เด่น  มันเหลือบมองผมอย่างระแวงแต่ก็ยิ้มเหมือนรู้ว่าตัวเองมีความผิดอะไร

"แต่มึงก็คงเอาเวลาแปดสิบเปอร์เซ็นต์ แอบไปบริหารบั้นเอวมึงมาสินะ" ผมยืนเท้าเอวมองมันอย่างรู้ไส้รู้พุง  ไอ้เข้ม  ไอ้รุ่งและไอ้หินพากันหัวเราะ  พี่ธานที่ยืนอยู่ด้านหลังพวกมันยืนเท้าเอวยิ้มกว้าง

"เปล่าครับ!" ไอ้เด่นตะโกนปฏิเสธเสียงดังฟังชัด 

"เปล่าเหรอ" ผมมองต่ำลงไปที่ไอ้เด่น  มันอมยิ้มหลบสายตาผม

"ลุกนั่ง สลับซิตอัพห้าสิบครั้ง" ผมสั่งเสียงเบา

"เร็ว ๆ!" ผมตะโกนย้ำใส่พร้อมนำเท้าเขี่ยขาไอ้เด่นด้วย

"ครับ!" ไอ้เด่นรับสั่ง  มันกระโดนลุกขึ้นยืนแล้วลงนั่งทันที  พอเสร็จจากนั้นมันก็กลับมาซิตอัพ

"ชกด้วย" ผมว่าอีก  ไอ้นี่มันฉลาดแกมโกง  ที่แบบนี้พอสั่งอะไรมันก็ทำตามแบบนั้น  พอไม่สั่งก็เสือกไม่ทำ  สั่งให้ซิตอัพก็ซิตอัพอย่างเดียวเลย 

ไอ้เด่นซิตอัพสลับชกลมพร้อมกับลุกนั่งอยู่อย่างนั้นไปได้ครู่ใหญ่ ๆ มันถูกจัดหนักกว่าใครเพื่อน  ผมกับพี่ธานยืนมอง  ครูมวยคนอื่น ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ว่าไอ้เด่นได้ชุดพิเศษก็พากันแซว  ไอ้เด่นยิ้มเขินใหญ่

"ขาอ่อนเหรอ หือ..ขาอ่อน" พี่ธานกัดฟันยิ้ม ๆ ด้วยความหมันไส้ที่เห็นไอ้เด่นทำท่าจะไม่ไหวแล้ว  พี่เขาเดินไปเตะเข้าที่ขาไอ้เด่นไปด้วยเป็นระยะแต่ไอ้เด่นก็ยังทำหน้าที่ไปไม่หยุด

"เหนื่อยไหม" ผมถาม

"ไม่เหนื่อยครับ!" ไอ้เด่นตะโกนตอบ

"เหนื่อยไหม!" ผมย้ำถามอีกครั้ง

"ไม่..เหนื่อย ครับ" ไอ้เด่นตอบเสียงหอบ
 
"ดี..ไม่เหนื่อยก็ทำไป!! ทำจนกว่ากูจะเหนื่อย" ผมบอก

"หึ" พี่ธานหัวเราะ  ผมเดินไปหาลุงลอยที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของค่าย  ลุงแกมองตรวจตราไปรอบ ๆ ค่ายมวย  ผมเดินไปนั่งลงข้าง ๆ ลุงลอยหันมามอง 

"ลุงรู้จักค่ายศรไกรไหม" ผมถามตรงประเด็น  ไม่ได้มีเวลานั่งคุยกับลุงเป็นเรื่องเป็นราวสักที

"ศรไกร" ลุงขมวดคิ้วทำหน้านึกไปครู่หนึ่ง

"อ๋อ..ค่ายของศรไกรสมัยก่อน" ลุงพูด  ผมพยักหน้าตอบประมาณว่า..นั่นแหละ

"เคยดังนี่ ตอนนี้เงียบหายไปแล้ว" ลุงว่า

"ลุงเคยรู้จักเหรอ"

"ก็ไม่สนิทหรอกนะ แต่ก็พอเคยเห็นหน้ากันบ้างในสนาม..เจ้าของค่ายแกก็เป็นคนดีนะ รุ่นก่อนน่ะ..รุ่นบุกเบิก รุ่นหลังนี้ลุงก็ไม่ค่อนแน่ใจว่าเป็นยังไง" ลุงขมวดคิ้วพูด

"ทำไมรึ" ลุงถามกลับ

"ไฟว่า..จะซื้อตัวนักมวยคนนึงมาน่ะ" ผมตอบ  เป็นคำตอบที่พูดให้ฟังเท่านั้นเพราะทุกการตัดสินใจในค่ายนี้ขึ้นอยู่ที่ผมคนเดียว  ลุงลอยมองหน้าผมเหมือนอยากได้คำอธิบาย

"แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะยอมมารึเปล่า" ผมพูดแกมหัวเราะ

"เล่นตัวเหรอ..ฝีมือดีรึไง" ลุงถามด้วยสีหน้าสนใจขึ้นมา  ผมหัวเราะเพราะชอบคำพูดของลุงแก

"ก็พอได้อยู่นะ เผิน ๆ ดูเป็นคนขยันดีน่ะ" ผมหันไปอมยิ้มให้ลุง

"หึ" ลุงลอยหัวเราะ  ลุงลอยเป็นคนที่เอ็นดูคนขยันและแกเองก็รู้ว่าผมเป็นคนชอบคนขยันมาก  ผมคิดว่าคนเราต้องขยันทำมาหากิน  ขยันเรียน  ชีวิตต้องใฝ่ดี  การใฝ่ดีอย่างแรกที่ต้องนำพามาก่อนนั่นก็คือ..ความขยัน  หลังจากนั้นสิ่งที่จะตามมาเองคือ..ความมีวินัย  ถ้าขาดความขยันไปผมไม่คิดว่าการวินัยมันจะตามมาได้อย่างสมบูรณ์แบบน่ะนะ 

"เล่นตัวพอดู รักค่ายอย่างกับจ่าฝูง" ผมบ่นลอย ๆ ไปอย่างนั้น  ลุงลอยหัวเราะอีกครั้ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2022 10:45:46 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
"ลุงว่าไง" ผมถามความคิดเห็นลุงบ้าง  ถึงแม้ว่าลุงจะค้านอะไรผมไม่ได้ที่ผมจะซื้อตัวใครหรือไล่ใครออกก็ตาม  แต่ผมไม่เคยทำอะไรข้ามหัวลุง  ให้สิทธิ์ลุงลอยในการแสดงความคิดความเห็นเสมอ  ลุงแกเป็นคนที่ตาถึง  มีสายตาที่เฉียบแหลม  ถ้าแกบอกว่านักมวยคนใดคนหนึ่งในค่ายของเราที่กำลังจะขึ้นชกว่า.."ไอ้นี่ไม่น่ารอด"  สุดท้ายก็คือพ่ายแพ้กลับมาตามปากแกจริง ๆ
 
"แล้วแต่คุณเถอะ มีคนขยันมาก็ดี..ไอ้พวกที่คิดว่าตัวเองขยันจะได้รู้ว่าคนขยันจริง ๆ เค้าเป็นยังไง" ลุงตอบแกมหัวเราะ  ผมส่ายหัวขำ ๆ

"ไอ้นพ ไอ้เป้า ไอ้รุ่ง แล้วก็เก๋..จะขึ้นชกอีกสามอาทิตย์ คุณจะไปดูไหมล่ะ" ลุงลอยถาม  ผมรู้อยู่แล้วว่าอีกไม่กี่อาทิตย์นี้จะมีแข่งนัดสำคัญ 

"น่าจะไปได้นะครับ แต่..อาจจะไม่ไป" ผมตอบ  ที่จริงผมยังไม่อยากไปแต่ผมคิดว่าถ้าผมไม่ไปดูไอ้รุ่ง  มันน่าจะคว้าชัยชนะกลับมาเพื่อเข้าสู่รอบต่อไปได้ง่ายกว่า  ผมคิดว่าไอ้รุ่งรู้ดีว่าผมมักจะไม่ไปดูมันชกนอกจากมันจะได้เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเท่านั้น

"หึ เอาเหมือนเดิม" ลุงลอยยิ้มอย่างรู้ทัน

"ก็ไอ้นี่มันขี้น้อยใจ" ผมเดานิสัยส่วนตัวของลูกน้องออกหมดและไอ้รุ่งก็เป็นอย่างนี้จริง ๆ

"ให้มันฝึกอารมณ์ตัวเองบ้าง" ผมว่า 

"เดี๋ยวผมจะให้มันหยุดงานกับผม..มันจะได้โฟกัสได้เต็มที่หน่อย ฝากลุงด้วยแล้วกันนะครับ" ผมอนุญาต  ลุงลอยพยักหน้ารับทราบ  พี่ธานฝึกพวกลูกทีมของพี่แกต่อไป  ส่วนผมขอตัวกลับบ้านมาก่อนเพราะอยากอาบน้ำและพักผ่อน  วันนี้ผมไม่ได้ไปหาสมุทรเลย  เว้นไว้สักวันก็คงจะดีเหมือนกัน  เพื่อให้เวลาอีกฝ่ายได้คิดตริตรองเรื่องต่าง ๆ ได้มากขึ้น

"โฮ่ง! โฮ่ง ๆ ๆ!!" เมื่อผมเดินเข้ามาในเขตบ้าน  เสียงเห่าคำรามก็ดังลั่น  สงสัยวันนี้พายุคงปล่อยให้กังฟูได้วิ่งเล่นในบริเวณบ้านอย่างตามใจชอบในขณะที่ลูกน้องของผมทั้งหมดไปรวมตัวกันอยู่ที่ค่ายมวย  ซึ่งก็แน่นอนว่าคนสวนและแม่บ้านก็คงอยู่แต่ในบริเวณของตนโดยปิดบ้านมิดชิดแน่ ๆ 

"ไง..หึหึ" ผมยิ้มทักกังฟูที่วิ่งกระโจนเข้าหาผม  มันตัวใหญ่มากจนผมแทบจะยืนรับน้ำหนักมันไว้ไม่อยู่  ตัวกังฟูใหญ่จนแทบจะถึงอกของพายุอยู่แล้ว 

"โอเค รู้แล้ว" ผมพยายามลูบหัวมันที่กระโดดไปมาไม่หยุดนิ่ง  พายุเดินตามออกมาจากทางโรงฝึก  ในมือถือลูกบอลของเล่นของกังฟูมาด้วย 

"ฝึกเสร็จแล้วเหรอ" พายุถาม  ผมพยักหน้าตอบ 

"อ่าว วันนี้ไม่มีสอนเหรอ" ผมสงสัย

"เดี๋ยวไปแล้ว ยุจะกลับดึกหน่อยนะ" พายุพลิกข้อมือดูนาฬิกา  ผมพยักหน้า 

"ให้ลุงทองไปไหม" ผมถามเพราะไม่อยากให้มันไปคนเดียว

"ไม่ต้อง วันนี้เอากังฟูไปด้วย" พายุตอบปัดส่ง ๆ

"หมามึงคงยิงปืนเป็นสินะ" ผมว่าประชดอย่างเหนื่อยหน่ายใจแล้วเดินหนีออกมา

"เฮียเวลาที่มือเปล่านี่ก็ดีนะ" พายุยอกย้อนด้วยน้ำเสียงท้าทาย  ด้วยคำพูดนี้ทำให้ผมหยุดเดินแล้วเหล่ตาไปมองน้องชายปากดีในทันที  กังฟูยืนมองมาที่ผมเหมือนยังอยากเล่นด้วย  ผมดุนลิ้นเข้าที่กระพุ้งแก้มอย่างเคยชิน  พายุทำหน้าเจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากผมนัก  ผมรู้ดีว่าที่น้องชายผมพูดกำลังหมายถึงอะไร 

"กูไม่กลัวมันเหมือนกับที่มันกลัวมึงหรอกนะ" ผมแสยะปาก  พายุกัดฟันคงหมันไส้ท่าทีของผมที่เป็นตามที่ปากบอก  ผมไม่เคยกลัวหมาหรือสัตว์ใหญ่อื่น ๆ ผมเคยถูกหมาใหญ่กัดมาก่อน  กัดก็กัด  ยืนนิ่งให้มันกัดให้สมใจ  เหมือนกับแข่งกันไปเลยว่ามันจะยืนกัดผมได้นานสักแค่ไหนเชียว   

ผมเหเป้าหมาย  เหลือบสายตาไปจ้องไอ้กังฟู  กังฟูมองตามสายตาของผม  คอมันเริ่มเอียงเล็กน้อยเหมือนไม่แน่ใจว่าผมมองมันด้วยความรู้สึกแบบไหน  ชวนเล่น  เจ้านาย  เพื่อนหรือศัตรู  เท้าของมันจิกลงพื้นมากขึ้นด้วยท่าเริ่มตั้งกาด  พายุผิวปากสั่งอย่างเคยชินทำให้กังฟูเริ่มสับสนความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพายุมากขึ้น 

มันเริ่มแยกเขี้ยวด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรต่อผมตามที่พ่อของมันส่งเสียงสั่ง  นักล่าจำเป็นเริ่มก่อตัวขึ้นในตัวของกังฟู  ผมยืนจ้องมองมันแบบคู่ต่อสู้ไม่กะพริบตา  ถึงแม้ว่าผมจะรู้ดีว่าถ้ามันจะขย้ำผมจริง ๆ ผมก็คงจะสู้มันไม่ไหวแน่  ความกลัวที่ไม่มีแม้สักนิดในใจผมเป็นการ์ดอย่างดีทำให้กังฟูเริ่มเผยอปากขู่ฟ่อ  มันจ้องผมไม่กะพริบตาเช่นกัน  กังฟูคำรามในลำคอตามสัญชาตญาณของสัตว์นักล่า  ถ้าเป็นคนอื่นมันคงแดกไปเรียบร้อยแล้ว  ไม่มายืนตั้งการ์ดลังเลอยู่อย่างนี้  แต่เพราะเป็นผมกังฟูถึงได้ลังเลใจ  ผมเดินเข้าไปหามันช้า ๆ โดยไม่ละสายตาที่กำลังสื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นใหญ่ในบ้านนี้ที่สุด  ไม่ใช่ตัวมันที่ทำให้คนทั้งบ้านกลัวได้  และที่สำคัญก็ไม่ใช่พายุเจ้านายของมันอีกด้วย  กังฟูเริ่มชักเท้ากลับไปทีละนิดแม้ในคอยังคงคำรามอย่างไม่ยอมแพ้ก็ตาม

"โฮ่ง!" กังฟูเห่าใส่เสียงดัง  ปากอ้าปากกว้างจนเห็นเขี้ยวสวย ๆ ของมันที่กัดกันอยู่ครบทุกซี่

"เอาซี่..เอาเลย" ผมกระซิบท้าทายและเดินเนิบเข้าหาไม่หยุด  กังฟูชักเท้าถอยกลับไปด้านหลังอย่างลังเล  เสียงคำรามในคอเริ่มเบาลงลงทีละนิด 

"หึ ..หึหึหึ" ผมหัวเราะ  เงยหน้ามองน้องชายตัวดีพร้อมแสยะยิ้มกัดลิ้นกวนตีนมัน  พายุมองผมอย่างอึ้ง ๆ หูมันแดงไปหมด  ดูท่าจะเคืองผมไม่เบา 

"แน่ใจนะว่าเจ้านายมันคือมึงน่ะ..พายุ" ผมยักคิ้ว  ยิ้มบอกอย่างเหนือกว่า  สุดท้ายกังฟูก็ยอมหลบสายตาผมในที่สุด  เป็นสัญญาณที่บอกอย่างชัดเจนว่า..มันยอมแพ้แล้ว

"ไอ้..ไอ้ ไอ้เฮีย!" พายุตะคอกหน้าเสียพร้อมกับเข้ามาผลักผมอย่างแรง  ผมยิ้มกว้างตัวเซไปตามแรง

"โห นี่มึงกล้าเรียกกูแบบนี้เหรอ" ผมมองมันตาโตแต่ยังไม่หยุดขำหน้ามันอยู่ดี  พายุหน้างอหงิกเลย

"ไม่แซวละ..กูขอโทษ" ผมเดินเข้าไปหามัน

"ไม่ต้องมายุ่ง" พายุปัดแขนผมออกอย่างหงุดหงิด

"อะ งั้นกูไม่ยุ่ง" ผมไม่หยุดกวน  ทำท่าอ้าแขนออกแกล้งหยอกมันด้วย

"ดีนะที่ไอ้พวกนั้นไม่อยู่ ไม่งั้นใครแถวนี้ได้ขายขี้หน้าแน่ ๆ" ผมยักคิ้วให้  พายุหน้าเสีย  มันอ้าปากทำท่าจะด่าแต่ดูเหมือนมันจะลมออกหูจนนึกคำด่าไม่ออกเสียแล้ว  ผมทำเสียงล้อว่า "ขี้แพ้" ส่ายหัวยึกยักยิ้มร่าเป็นทำนองเพลงแล้วเดินกลับเข้าบ้านด้วยความสบายใจสุด ๆ

"กังฟู!!!" พายุตะโกนเสียงดังลั่นอยู่ที่หน้าบ้านเหมือนกับรับความจริงไม่ได้  ผมหัวเราะอย่างพอใจ  นี่ไม่รู้ว่าป่านนี้กังฟูจะโดนอะไรจากพายุบ้างนะ  หมาเองก็คงจะโดนงอนไม่น้อยเป็นแน่




........ไฟ........

ตอนที่ 8 นี้ความยาวของเนื้อหายังมากเช่นเดียวกับตอนอื่น ๆ ที่ผ่านมา //ตอนต่อไปไม่สามารถรับปากได้ว่าอีกประมาณกี่วัน  เพราะมีหลายอย่างต้องรับผิดชอบ..แอมซอด้วง ~  :z10:

..เพิ่มเติม..
แจ้งข่าว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2015 23:32:59 โดย เบบี้ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
ตอนนี้ไฟโหดมาก โหดโพดๆ โหดสลัด   
 
ปล. บางทีเราก็แอบสงสารสมุทรที่โดนคนนิสัยกวนตีนอย่างไฟไปป่วน 
 
นิสัยนะนิสัยยยย 555555
 
 :laugh: :laugh: :laugh:


ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
ทั้งๆที่พึ่งอ่านตอนที่8จบไปแท้ๆ t____t นี้อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว(_ _ )"  รอตอนต่อไปนะ^^

ออฟไลน์ ดวงตะวัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เมื่อไหร่สมุทรจะยอมมาทำงานกับไฟนะ  จะได้มาดับไฟร้อนๆซะที

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
รอดูว่าสมุทรจะยอมใจอ่อนให้ไฟตอนไหน  o18 นาน ๆ มาที แต่มาแบบยาวจัดเต็มอย่างนี้ก็โอแล้วล่ะค่ะ รอได้สบาย (เหรอ  :a5:)


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ KaniSui

  • ♪(*^ ・^)ノ⌒☆
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
โง้ยยยยยย คืนก่อนวันหยุดดดดดดด

อินกับตอนดินมาก โมโหแทนพี่ไฟก็ด้วย สงสารดินด้วย แต่แม่ง ทำตัวเองอ่า
น้ำตาคลอไปอ่านไปเลยเนี่ย ไม่รู้อารมณ์ไหน พีคสุดๆ ขอให้น้องดินมันเข็ด อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ
ชอบตอนแอบกัดลูกน้อง ดูโกรธเคืองปนน้อยใจเบาๆ คำสั่งไม่เป็นคำสั่ง


กับสมุทรนี่ค่อยๆใกล้เข้าไปละ อย่างน้อยวันนี้ก็ยิ้มเล็กๆให้กันบ้าง 5555
ไม่ชอบคำพูดพี่ไฟเหมือนกัน ที่บอกเป็นเบ๊ ปากไม่ดีเลยพี่ไฟ มาจีบเขาต้องพูดดีๆสิ บ้าป่าว
สมุทรจะไม่ไปด้วยก็ไม่แปลกใจละ พี่ไฟดิบขนาดนี้ โง้ยยยยย

ลูกน้องแต่ละคน แบบ ตัวฮาทั้งนั้น ชอบๆๆๆ
กังฟูก็ลูกน้อง พี่ไฟแบบ ฟีลลิ่งจ่าฝูงมาก ชนะได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งหมา
ยกเว้นชนะใจสมุทร อ่านะ ยังต้องสู้อีกยาวแน่ๆ กร๊ากกก



ยาวมากจริงๆ อ่านเพลินลืมนอน 55555
 :กอด1: เลิฟๆๆ

ออฟไลน์ Youch06

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ตอน 7

สมุทรลองเอาหม้อบัวลอยครอบหัวพี่ไฟหน่อยไหม ลองดูนะ ลองดู

ตอน 8

กังฟูวววว หงอเลยยย
พี่ไฟดุเนอะ น่าหาคนมาปราบได้แล้วเนอะ
5555

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
ไฟสุดยอด  อึ้งทั้งคนทั้งหมา  o13 o13 o13

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
พี่ไฟสุดยอดจริงๆขนาดหมายังกลัว 55555555555

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ไฟโหดดดด
สงสารดิน โดนดุซะร้องเลย
โหดไปมั้ยคะคุณไฟฟฟ
โหดกะน้องไม่พอไปโหดกะหมาอีก
สมุทรมาปรามความโหดของไฟที

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
กลัวว่ากว่าจะตัดสินใจมาทำงานกับไฟสมุทรต้องเจออะไรที่ทำให้รู้ว่าบางที่สิ่งที่ตัวเองมีไม่สามารถปกป้องคนที่เรารักได้
ซึ่งไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย แต่นะคนเราถ้าไม่มีไฟเข้ามาไม่ว่าจะเกิดไรขึ้นก็ต้องรับมือด้วยตัวเองอยู่ดี :เฮ้อ:

 :pig4:  ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ชอบเวลาไฟอยู่กับสมุทรอ่ะนี่ขนาดว่ายังไม่ทำงานหรือรักกันนะ รู้สึกถึงเสน่ห์มันน่าสนใจเป็นคู่ที่น่าค้นหาและติดตามมากๆอยากรับรู้การแสดงออกความรักของทั้งสองคนเร็วๆจัง

ออฟไลน์ my.atty

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบน้องเมฆจังน้าาา ดุน่ารักอ่ะ   :-[

เอาสมุทรออกเยอะๆๆ หน่อย กะพี่ไฟ ด้วย 5555    o18

รอตอนต่อไปค่ะ   :pig4:

ออฟไลน์ Madness69

  • Love@Sickness
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-0
    • Madness69 Fanpage
จุ๊บ จุ๊บ เบบี้
ตอนที่ 8 นี้ พี่ไฟดุโค-ตะ -ระ แม้แต่หมายังยอมแพ้ แต่ก็เท่ฝุดๆ เลยว่ะน้องบี้ คนแบบนี้นะเวลาตกหลุมรักคงหวานน่าดู
ชักอยากเปลี่ยนใจเชียร์ให้พี่ไฟเลี้ยงต้อยโชตะกับน้องเมฆ แล้วให้พี่สมุทรมาปราบพายุแทน เอิ๊กๆๆ ((อิป้าหลายใจ))
แต่จริงๆ แล้วยังคงคาดเดาไม่ได้ต่อไป ต้องรอยาวๆ ซักอีกหลายตอน ฮ่า ฮ่า

 :mew1:
ขอบคุณเบบี้จ้า

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
กรี๊ดดด มาแล้ว อ่านเรื่อง  Limited Lovers ตั้งแต่เรียน จนตอนนี้เรียนจบแล้ว 5555555555555 ได้อ่านเรื่องใหม่ซักที ถถถถถถถถถ  คิดถึงมากกกกก

ออฟไลน์ pornvrin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
นอกจากจะมีเรื่องกับคนแล้ว ยังจะกัดกะหมาได้อีก นี่คนแน่รึ XD

ออฟไลน์ น้ำแข็งใส

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
ไฟกวนได้ใจจริงๆ แหมกระทั่งกับหมายังไม่เว้น  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
คุณไฟบ่นตลอดว่าตัวเองงานยุ่ง






แต่คุณไฟก็มีเวลาไปกวนประสาทชาวบ้านแบบสมุทร







กวนประสาทยันหมาแบบกังฟู โถ๋กังฟู เจอคนนิสัยเสียแบบคุณไฟ






กังฟูถึงกับเสียศักดิ์ศรีหมานักล่ากันเลยทีเดียว






พอมาถึงตอนนี้ เริ่มมองออกล่ะว่าคุณไฟนะเป็น "เจ้าโลก" เอ๊ะป้าใช้คำพูดถูกใหม






คือเป็นพระเอกนะ สมุทรน่าจะเป็นนายเอก เพราะสมุทรมีความเป็นคนมากกว่าคุณไฟเยอะ






ส่วนคุณไฟนี่เหมือนเสือ ที่สามารถกินเนื้อพวกเดียวกันได้แบบสบายๆ






แต่ป้าชอบที่คุณไฟ ตามความคิดตัวเองทันตลอด แม้ว่าบางที อารมณ์ร้ายๆจะพุ่งขึ้นมาขีดสุด






แต่ก็สามารถหยุดและสงบได้ภายในพริบตาเช่นกัน






พายุหนูน่ารักทุกตอนเลย กอดดดดดดดดด แต่ป้าขอรักน้องเมฆเพิ่มด้วยอีกคนนะ






อยากให้สมุทรใจอ่อนยอมมาอยู่กับไฟใวๆจัง เผื่อน้องเมฆจะได้เจอพี่พายุและได้เล่นกับเจ้ากังฟู






น้องเมฆน่าจะชอบเล่นกับกังฟูมากกว่าเล่นกับคน เราะน้องเมฆคือเด็กพิเศษ ที่น่ารัก เป็นพิเศษ







ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
ไฟโหดไม่โหดขนาดหมายังกลัว5555แล้วก็นะเมื่อไหร่จะพูดจาดีๆกับสมุทรซักที

แต่ละคำนี่กวนสุดๆเหมือนจะไปหาเรื่องมากกว่าจะช่วย :angry2:

ส่วนดินก็สมควรแล้วโดนด่าซะบ้างเวลาทำอะไรไม่คิด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด