องค์กรลวงจิต Explicit Content [จบ] ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [7] 15/01/17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: องค์กรลวงจิต Explicit Content [จบ] ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [7] 15/01/17  (อ่าน 192884 ครั้ง)

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สนุกมากๆอยากอ่านอีก เอาอีกๆ :haun4:

ออฟไลน์ Rhythm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เพื่อนทหารเรือของสารวัตรแอบถ่ายคลิปจริงๆ ด้วยอ่ะ งั้นจอมไม่มีสติ๊กเกอร์แทตทูติดจะไม่โดนแอบถ่ายเหรอ หรือว่าเต็มใจ เพราะเดี๋ยวนี้ดูจอมจะใจกล้าขึ้นเยอะนะ  :hao3:

ออฟไลน์ MinorMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
อยากอ่านเรื่องของหมอพฤษต่อจังเลยค่า ชอบคู่นี้

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
จอมร้ายกาจมาก อ่านแล้วอยากได้โฟโต้บุคเลย

ออฟไลน์ lovely tham

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
[พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ] :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
อยากอ่านขอลงคึนนี้อีก

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ขอบคุณทุกๆ คนมากครับที่ยังติดตามกันอยู่และมาช่วยเม้นท์เป็นกำลังใจกัน ขนาดคราวก่อนโน้นหายไปตั้งเดือนกว่า

ช่วงนี้ชีวิตกลับมาปกติแล้ว จะพยายามมาต่อให้ได้อาทิตย์ละครั้งนะครับ ตอนนี้เขียนตุนอยู่
แล้วก็เพิ่งได้เข้าไปเห็นว่าในกระทู้นิยายแนะนำ มีเพื่อนๆ ช่วยเข้าไปแนะนำเรื่องนี้กันอยู่ เรื่องเฉพาะทางที่แต่งตามใจคนเขียนยังมีคนเห็นคุณค่า ขอบคุณมากครับ j123 lovely tham buzeative

มาต่อกันเลยครับจากตอนที่แล้ว อ่านตอนนี้เสร็จมีเรื่องปรึกษาหน่อยครับ
สำหรับแฟน 0-1 คราวหน้ามาแน่ครับ ส่วนแฟนพิชยะ แฮ่ะๆ ยังไม่ได้แต่งเลย มีพล๊อตในหัวอยู่บ้างแต่ยังไม่ลงตัว จะพยายามนะครับ

-------------------------------------------

องค์กรลวงจิต Explicit Content

บทที่ 20

“โทษครับ สารวัตรพยัคฆ์ จำผมได้ไหม”

สารวัตรหันไปมอง พบว่าคนที่เข้ามาทักเป็นหนุ่มหน้าตี๋ใส่แว่นวัยไล่เลี่ยกันกับเขา

“จำได้สิครับ ที่มาช่วยสอบบัญชีคดีผู้บริหารฉ้อโกง สบายดีไหมครับ ตั้งแต่จบงานนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย วันนี้มาเที่ยวเหรอครับ ยังไงเรียกผมว่าเสือแล้วกัน มาที่อย่างนี้ ไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ว่าเป็นตำรวจเท่าไหร่”

สารวัตรทักทายกลับอย่างเป็นกันเอง ผู้ตรวจสอบบัญชีคนนี้ทำงานให้กับองค์กรจึงจัดว่าเป็นคนที่ไว้ใจได้ และที่ผ่านมาก็ช่วยเขาไว้เยอะในการทำคดีพ่อเลี้ยงวิปริตของน้องคุน

“ได้ครับคุณเสือ งั้นก็เรียกผมอาร์ตละกัน วันนี้แต่งตัวอย่างนี้ดูวัยรุ่นไม่เบานะครับ มากับเพื่อนเหรอครับ ได้โต๊ะหรือยัง”

“อ๋อ มาทานข้าวกับเพื่อนที่อีกโซนนึงนะครับ แต่ตอนนี้กลับกันไปหมดแล้ว ผมว่าจะมานั่งจิบอะไรที่เคาเต้อร์บาร์ซักหน่อยก่อนกลับ”

“งั้นถ้าไม่รังเกียจ มานั่งกับพวกผมไหมครับ มากันไม่กี่คนเอง ตอนนี้ก็เมากันไปพอสมควรแล้ว”

“ก็ดีครับ ไปนั่งที่บาร์คนเดียวก็คงเหงาๆ แนะนำผมว่าเป็นเพื่อนที่เคยร่วมงานกันก็แล้วกัน”

สารวัตรเดินตามหนุ่มตี๋อาร์ตไปที่โต๊ะและได้รับการแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม ได้ความว่าเป็นเพื่อนสมัยเรียนที่คณะบัญชี แต่ละคนออกอาการกรึ่มๆ อยู่ไม่น้อย แต่ก็ทักทายต้อนรับเสืออย่างเป็นมิตร จากนั้นวงเหล้านี้ก็คุยกันเสียงดังต่ออย่างไม่ต้องเกรงใจใครเพราะโต๊ะที่นั่งค่อนข้างอยู่แอบเข้าไปหลืบอย่างเป็นส่วนตัวมากกว่าโต๊ะอื่นๆ จนอาจเรียกได้ว่าเป็นโต๊ะวีไอพี สารวัตรนั่งจิบเหล้าไปเรื่อยๆ เขาฟังเรื่องที่คุยกันในวงรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่ก็สนุกดี ถึงเป็นบรรดาหนุ่มนักบัญชีที่ดูเนี๊ยบๆ แต่พออยู่ในวงเหล้าก็เฮฮาไม่ต่างจากเพื่อนๆ ตำรวจทหารของเขาเหมือนกัน ฟังไปเพลินๆ ก็มีเรื่องที่สะดุดหูขึ้นมา

“แล้วตกลงตอนนี้นายไปรับตรวจบัญชีเอง เป็นไงบ้างวะ” เพื่อนคนหนึ่งในวงถามอาร์ตขึ้นมา

“นั่นสิ อยู่บริษัทผู้สอบบัญชียักษ์ใหญ่อย่างนั้น แถมจะได้เป็นพาร์ทเนอร์อยู่แล้ว ดันลาออกซะได้ กิจการตอนนี้เป็นไงแล้ว” อีกคนก็ถามต่อ ท่าทางเป็นห่วง

“ก็ดีนะ มาทำของตัวเองก็เป็นอิสระดี มีเวลาไปทำเรื่องที่อยากทำ ลูกค้าเก่าๆ ที่เชื่อมือกัน เขาก็เอาพวกบริษัทเล็กๆ หรือบริษัทส่วนตัวมาให้ทำบัญชีบ้างสอบบัญชีบ้าง ลูกค้าใหม่ๆ ก็เริ่มเข้ามาเยอะ ตอนนี้เลยต้องรับน้องๆ มาเสริมทีมอีกสองสามคน พอดีของเราไม่ได้รับทำบัญชีอย่างเดียว แต่ทำเป็นคล้ายๆ ที่ปรึกษาการเงินไปด้วยในตัว เวลาเราตรวจบัญชีแล้วเจอบริษัทไหนมีจุดที่น่าปรับปรุงได้ในแง่การเงิน เราก็ส่งต่อให้พี่ที่ทำอยู่ด้วยกันเอาไปวิเคราะห์ด้านการเงินต่อ ถ้ามีอะไรแนะนำได้ก็จะไปเสนอลูกค้าเป็นบริการเพิ่มเติม พักหลังลูกค้าเริ่มติดใจ เพราะได้กลยุทธ์ดีๆ ไปใช้ที่บริษัท แถมค่าที่ปรึกษาก็ไม่แพงมากเหมือนไปใช้พวกที่ปรึกษาการเงินจริงๆ”

“แล้วไปได้คนที่มาช่วยงานด้านนี้จากไหนนะ คงต้องเก่งมากๆ เลยถึงจะไปทำแข่งกับพวกบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินใหญ่ๆ ไหว”

“พี่เขาเป็นอดีตซีเอฟโอบริษัทมหาชนเลยนะ เรื่องการเงินนี่เก่งจริง พอออกมาแล้วก็วางมือชั่วคราว ตอนนี้มาช่วยงานเราแบบไม่ออกหน้า นี่เรานัดพี่เขาไว้ให้มาที่นี่ด้วย พวกนายจะได้รู้จัก จริงๆ พี่เขาก็อยู่กับเราที่โฮมออฟฟิซแหละ แต่พอดีตอนเย็นพี่เขาขอไปเยี่ยมลูกเลยจะตามมาทีหลัง”

สารวัตรนั่งฟังไปก็ตงิดใจ โปรไฟล์แบบนี้มันไอพ่อเลี้ยงของน้องคุนชัดๆ แต่ทำไมถึงมาทำงานกับอาร์ตที่เป็นคนเอาตัวมันเองเข้าคุกได้ ถ้าคนที่พูดถึงเป็นไอชั่วนั่นจริงก็คงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

“พูดถึงก็มาพอดีเลย พี่เอ็กซ์ ทางนี้ครับ”

นักบัญชีหนุ่มรีบลุกออกจากโต๊ะไปส่งเสียงเรียกคนที่นัดไว้ เสือมองตามก็พบกับพ่อเลี้ยงวิปริตของน้องคุนจริงตามที่คาดไว้ เพิ่งรู้ว่าชื่อเล่นชื่อเอ็กซ์ อดีตผู้บริหารหนุ่มใหญ่มาในชุดสูทครบชุดเหมือนจะไปทำงานมากกว่าจะมาในสถานที่บันเทิงยามค่ำคืนแบบนี้ ถึงจะขยะแขยงคนที่มาใหม่แค่ไหน แต่สารวัตรก็อดยอมรับไม่ได้ว่าอดีตนักโทษที่ถูกให้รอลงอาญาไว้คนนี้มีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาภูมิฐานเหมาะกับชุดสูทที่ใส่มามาก

เสือนึกถึงเรื่องที่อาร์ตเล่าแล้วก็ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ นี่แสดงว่าพอดำเนินคดีเสร็จแล้วองค์กรรับไปจัดการต่อ ตัวพ่อเลี้ยงก็ถูกส่งมาอยู่กับหนุ่มนักบัญชีคนนี้ จะให้มาโดยตรงหรือผ่านการประมูลอะไรยังไงเขาไม่ค่อยรู้รายละเอียดเท่าไหร่ แต่ฟังๆ ดูก็ไม่ได้ลำบากตรงไหน แค่มาช่วยทำงานการเงินให้ ตัวหนุ่มนักบัญชีเองก็ดูสุภาพเรียบร้อยไม่น่าจะสร้างความลำบากอะไรให้ไอชั่วที่กำลังเดินมาได้ องค์กรน่าจะมีวิธีทำโทษที่สาสมความผิดมากกว่านี้ เขารู้สึกผิดหวังมากที่อุตส่าห์ช่วยปรับสำนวนคดีไม่ให้ตัวพ่อเลี้ยงไปติดคุกจริงๆ เพราะหวังจะให้มารับโทษกับองค์กรอย่างเต็มที่

พอถึงโต๊ะ เอ็กซ์หันมาเห็นสารวัตรเสือแล้วชะงักเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรเพิ่มเติม นักบัญชีหนุ่มแนะนำเพื่อนๆ ในโต๊ะให้รู้จัก มีบางคนจ้องมองหน้าคนที่เพื่อนพามาแนะนำอย่างข้องใจ แต่ก่อนที่จะมีใครได้ถามอะไร เอ็กซ์ก็พูดกับอาร์ตว่า

“เดี๋ยวผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”

หนุ่มนักบัญชีพยักหน้าแล้วตอบกลับเบาๆ ว่า

“กลับมาเร็วๆ นะครับ เสร็จแล้วไม่ต้องรูดซิปขึ้น”

สารวัตรหันหน้าไปมองอาร์ตทันที เขาสงสัยว่าหูฝาดไปหรือเปล่า มองไปที่คนในโต๊ะก็ไม่เห็นมีใครสะกิดใจอะไร ไม่รู้ว่าไม่ได้ยินหรือเขาฟังผิดคนเดียวกันแน่ แต่แล้วความสนใจของเขาก็ถูกดึงไปที่บทสนทนาในวง

“เฮ้ย นั่นมันซีเอฟโอคนที่เป็นข่าวโกงแล้วตกแต่งบัญชีบริษัทไม่ใช่เหรอ” เพื่อนคนหนึ่งในวงตั้งประเด็นขึ้นทันที

“นั่นสิ กูว่าใช่นะ หล่อๆ อย่างนี้ไม่น่าเป็นคนอื่น ไปไงมาไงวะ หรือศาลเขาตัดสินแล้วว่าไม่มีความผิด แต่ไม่น่าจบเร็วอย่างนี้นะ ปกติพวกตำรวจชอบดองคดีจะตาย” อีกคนตอบรับแถมวิจารณ์การทำงานของตำรวจจนเสืออดรนทนไม่ได้ต้องแทรกขึ้นมา

“เรื่องจบแล้วครับ ศาลตัดสินจำคุกสองปีแต่ให้รอลงอาญาไว้ เห็นตำรวจเขาก็ทำคดีนี้เต็มที่เหมือนกัน”

“คุณเสือก็ทราบเหรอครับ นึกว่าคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการการเงินจะไม่สนใจคดีพวกนี้ซะอีก”

“พอดีผมอ่านเจอในหนังสือพิมพ์น่ะครับ” เสืออ้อมแอ้มตอบ

“งั้นก็ผิดจริงสินะ เสียดายแทน อุตส่าห์เป็นถึงผู้บริหารรุ่นใหม่อนาคตไกล หน้าตาก็ดีมากๆ ด้วย ว่าไงอาร์ต นายเอามาทำงานด้วยอย่างนี้จะไม่เสียชื่อเสียงเหรอ” เพื่อนคนเดิมออกปากถาม

“ก็ไม่เกี่ยวนี่ เรื่องความผิดก็ว่ากันไป มันก็มีบทลงโทษของมันอยู่ แต่เรื่องงานเขาก็เก่งจริง แล้วเราก็ไม่ได้ให้เขาออกหน้าด้วย ไม่มีปัญหาหรอก เดี๋ยวพี่เขากลับมาร่วมวงด้วยพวกนายก็อย่าพูดเรื่องนี้แล้วกัน อ้อ แล้วก็มีอีกอย่างที่ต้องเตือนไว้ พี่เอ็กซ์แกเป็นพวกชอบทำอะไรแปลกๆ น่ะ ยิ่งถ้าดื่มพอกรึ่มๆ อาจจะเผลอแก้ผ้าแก้ผ่อนหรือทำอะไรแปลกๆ ออกมาบ้าง ก็อย่าถือสาอะไรนะ”

“เฮ้ย จริงดิ กูชอบๆ จะเป็นไรไป พวกเราทั้งแก๊งค์ไม่เกย์ก็ไบอยู่แล้วนี่ ให้แก้จริงเถอะ หล่อๆ อย่างนี้ ถึงเป็นแก่กว่าพวกเรา แต่ทั้งหน้าทั้งหุ่นนี่เป๊ะกว่าพวกหนุ่มๆ อีก เอ่อ คุณเสือคงไม่ถือใช่ไหมครับ”

ประโยคหลังหันมาถามสารวัตรซึ่งเขาก็งึมงำตอบไปว่าไม่เป็นไร ใช่ เขาไม่ถือ แต่จากข้อมูลที่ทราบ พ่อเลี้ยงน้องคุนถึงจะชอบมีเซ็กซ์แบบซาดิสท์แต่ก็ไม่ใช่พวกชอบโชว์ของแน่ๆ ยิ่งตอนที่เขาไปรับตัวมาดำเนินคดีแล้วถูกเบอร์ศูนย์แกล้งให้สวมกางเกงในโชว์ก้นแค่ตัวเดียวเดินออกมานั้น อดีตซีเอฟโอก็มีท่าทางอายจนแทบจะแทรกแผ่นดิน เพราะฉะนั้นนิสัยชอบโชว์ที่ว่าคงเป็นนิสัยที่อุปโลกน์ขึ้นมาใหม่แน่ แต่จะโดยใครหรือเป็นมากน้อยแค่ไหนคงต้องรอดูกันไป

“ถ้าไม่มีใครรังเกียจก็ดีแล้ว เรื่องบางเรื่องมันห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้น พวกนายก็ทำเฉยๆ ไว้แล้วกัน ไม่อยากให้พี่เขารู้สึกไม่ดี”

คนในโต๊ะพยักหน้ารับคำ ก็พอดีกับที่อดีตผู้บริหารหนุ่มใหญ่เดินกลับมาจากห้องน้ำด้วยท่าทางปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือซิปกางเกงที่ยังรูดลงจนสุดเห็นชายเสื้อเชิร์ตขาวโผล่มาจากด้านในอย่างชัดเจน สายตาคนในโต๊ะจับจ้องไปที่จุดเดียวแต่ไม่มีใครพูดอะไร เสือคิดในใจว่ากว่าจะเดินจากห้องน้ำมาถึงนี่ไม่รู้ว่าผ่านสายตาคนมากี่สิบคนแล้ว ถึงในผับจะค่อนข้างมืด แต่ชายเสื้อขาวตัดกับกางเกงดำนี่มันเห็นได้ชัดตั้งแต่ระยะไกล

“มาๆ นั่งเลยครับพี่เอ็กซ์ ผสมอะไรดี โซดาน้ำเหมือนเดิมนะครับ”

หนุ่มนักบัญชีจัดแจงให้เอ็กซ์เข้ามานั่งที่โซฟาตัวยาวแทรกระหว่างตัวเองกับนายตำรวจหนุ่ม เสือขยับตัวออกเล็กน้อยไม่ให้เบียดเกินไป พออยู่ในท่านั่งรอยแยกของซิปที่ไม่ได้รูดยิ่งอ้าออกจนเห็นได้ชัด

“ว่าแต่ใส่มาเต็มยศอย่างนี้ หล่อก็จริง แต่มันดูเยอะไปไหมครับ ถอดสูทกับเน็คไทออกก่อนสิ จะได้ไม่อึดอัด” อาร์ตพูดด้วยโทนเสียงเรียบๆ ซึ่งเสือไม่แน่ใจว่าเป็นคำแนะนำหรือเป็นคำสั่ง

เอ็กซ์ทำตามอย่างว่าง่าย เขาถอดสูทออกมาพาดไว้กับโซฟาแล้วปลดกระดุมคอเสื้อเชิร์ตแบะออกหลังถอดเน็คไท คนในโต๊ะต่างก็อึ้งอีกครั้งเมื่อเห็นปลอกคอหนังที่ตอกหมุดสีเงินสวมอยู่ที่รอบคอของหนุ่มใหญ่

“เอ่อ พี่เอ็กซ์ใส่ปลอกคอด้วยเหรอครับ แปลกดี” มีคนในโต๊ะอดรนทนไม่ไหวโพล่งถามขึ้นมา

“นี่เหรอ เอ่อ.. คือ.. อ๋อ มันเป็นคล้ายๆ สร้อยคอที่ทำจากหนังน่ะครับ ลูกชายผมบอกว่ากำลังนิยม ผมเลยลองใส่เล่นๆ ดูวัยรุ่นดี” เอ็กซ์ตอบติดๆ ขัดๆ

คนถามนึกในใจว่าสร้อยคออะไรทำไมถึงเส้นใหญ่อย่างนี้ นี่มันเหมือนปลอกคอหมาชัดๆ แต่ก็ไม่อยากทำให้คนที่เพิ่งรู้จักอึดอัด เลยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“พี่เอ็กซ์ลูกโตยังครับ เรียนอยู่โรงเรียนไหน”

“โตแล้วครับ เรียนอยู่ปีหนึ่งแล้ว”

เสียงฮือฮาดังมาจากรอบโต๊ะ

“ลูกเข้ามหาลัยแล้ว พี่เอ็กซ์อายุเท่าไหร่กันแน่ครับ ตอนแรกผมว่าไม่น่าจะแก่กว่าพวกผมเท่าไหร่ ซักสามสิบห้าสามสิบหก”

“อย่าเพิ่งตอบครับพี่ พวกนายลองทายดูสิ” อาร์ตตั้งเป็นคำถามขึ้นอย่างนึกสนุก

“เฮ่อะ เดี๋ยวนี้ดูกันยาก ตัวช่วยมันเยอะ เลเซอร์ โบทอกซ์ ร้อยไหม คลินิกเกลื่อนเมือง เคยเห็นในฟิตเนส บางคนหน้าตึงใสเลย แต่ขอโทษครับ พอถอดเสื้อออกมาข้างในเหี่ยวหมดแล้ว คงไม่มีงบทำทั้งตัว” คนนึงในโต๊ะพูดออกมาแบบไม่เกรงใจ

“งั้นแฟร์ๆ พี่เอ็กซ์ถอดเสื้อเลยดีกว่าครับ” อาร์ตบอก

เอ็กซ์ถอดเสื้อเชิร์ตที่สวมออกทันที เขามีกล้ามเนื้อที่แน่นตึงผิดคนวัยเดียวกัน กล้ามแขน กล้ามหน้าอก และกล้ามหน้าท้องก็ชัดได้รูปราวกับนายแบบ หน้าอกและหน้าท้องมีขนขึ้นเป็นไรสีดำตัดกับสีผิวขาวๆ อย่างน่าดู หัวนมสีชมพูเข้มก็ดึงดูดสายตาไม่น้อย แต่ท่ามกลางความขาวเนียนก็ยังมีคนตาดีบางคนเห็นรอยแดงๆ เหมือนถูกหนีบอยู่หลายแห่งตามแผงลำตัวล่ำ แต่ก็เลือกที่จะไม่เอ่ยอะไรออกมา

“เอ้าว่าไงครับ เห็นแบบนี้แล้วทายว่าอายุเท่าไหร่กัน” อาร์ตไล่ถามคนในโต๊ะ

“โหย ซ่อนรูปมากเลย กล้ามงี้อย่างฟิต ผมว่าพี่เพิ่งสามสิบห้าอ่ะ น่าจะมีลูกตั้งแต่ยังวัยรุ่น” คนในโต๊ะประเมินเอาจากรูปร่างหน้าตา

“ผมสี่สิบสองแล้วครับ มีลูกตอนอายุยี่สิบสาม” เอ็กซ์ตอบพร้อมขยายความเรื่องลูก

เสียงฮือฮาดังขึ้นอย่างไม่เชื่อว่าหุ่นดีขนาดนี้จะเข้าวัยสี่สิบแล้ว

“พี่เอ็กซ์ยังมีอะไรเด็ดๆ ที่เราคาดไม่ถึงอีกเยอะ มาๆ ลองมาเดาเรื่องนี้กัน เห็นเป็นผู้ใหญ่ชอบแต่งตัวเป็นทางการอย่างนี้ ลองทายซิว่า วันนี้พี่เอ็กซ์ใส่กางเกงในสีอะไร” อาร์ตมีคำถามใหม่มาให้เล่น

“สีขาว” คนที่เมาๆ หน่อยเริ่มทายกันอย่างนึกสนุก

“สีดำ”

“ไม่น่าใช่ ไม่งั้นมันธรรมดาไป ไออาร์ตคงไม่เอามาทาย สีแดงแรงฤทธิ์ใช่เปล่า”

จริงๆ เสือรู้คำตอบแล้วตั้งแต่ตอนเอ็กซ์ถอดเสื้อออก เขานั่งอยู่ใกล้สุดจึงมองเห็นทะลุเข้าไปในช่องซิปที่เปิดอ้าออกโดยไม่มีชายเสื้อมาบัง แต่เขาคงไม่ตอบออกไปเพราะอยากรู้ว่าเรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างที่เขาคิดไว้หรือไม่

“ใครจะทายอีกไหม.... โอเค งั้นให้พี่เอ็กซ์เฉลยเลย โชว์หลักฐานด้วยนะพี่” อาร์ตหันหน้าไปบอกเอ็กซ์

เอ็กซ์ลุกขึ้นยืน ปลดตะขอกางเกงออก แล้วอ้าสาบกางเกงแอ่นโชว์ให้คนในโต๊ะเห็นชัดๆ ทุกคนมองตาแทบถลนเมื่อเห็นเส้นไหมรกทึบปกคลุมฐานอวัยวะเพศอยู่ลางๆ

“สรุปว่าไม่ได้ใส่นะครับ ไม่มีใครทายถูก” อาร์ตประกาศเสียงดังอย่างชอบใจ

เอ็กซ์รีบนั่งลงทันที ท่าทางดูอับอาย แต่ก็ไม่ได้ใส่เสื้อหรือติดตะขอกางเกงและรูดซิปกลับ จากนั้นวงเหล้าก็ดำเนินต่อ แต่รู้สึกว่าโชว์ของเอ็กซ์เมื่อสักครู่จะทำให้บทสนทนาลามไปที่เรื่องใต้สะดือมากขึ้น เฟรนช์ฟรายที่สั่งไปเพิ่มเติมเพื่อเป็นกับแกล้มถูกยกมาเสิร์พพร้อมกับเครื่องจิ้มเป็นซอสมะเขือเทศและมายองเนส หนุ่มนักบัญชีเอานิ้วจิ้มไปที่ถ้วยมายองเนสเข้ามาดูใกล้ๆ แล้วบ่นว่า

“อยากจิ้มมายองเนสกินกับเฟรนช์ฟรายจัง แต่กลัวเลี่ยน เดี๋ยวนี้ชอบทำมายองเนสมาซะหวานเลย งั้นพี่เอ็กซ์ช่วยชิมให้หน่อย ดูดให้เหมือนอย่างว่าเลยนะ เสร็จแล้วเลียให้สะอาดด้วย”

เอ็กซ์คว้านิ้วเปื้อนมายองเนสของหนุ่มบัญชีไปอมทันที เขาเม้มปากแล้วรูดเข้ารูดออก บางจังหวะก็วนปากไปรอบๆ นิ้ว  แลบลิ้นออกมาแล้วลากไปตามความยาวของนิ้ว ท่าทางและน้ำลายปนมายองเนสที่ไหลยืดออกมาทำให้เหมือนเอ็กซ์กำลังทำสิ่งนั้นจริงๆ ยิ่งพออาร์ตเอามือข้างที่ว่างมาจับหัวเอ็กซ์โยกเข้าโยกออก ก็ทำให้ทุกคนในโต๊ะอ้าปากหวอตามไปด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่สารวัตรรู้สึกว่าอาร์ตน่าจะไม่ใช่นักบัญชีเนิร์ดๆ ธรรมดาๆ อย่างที่เข้าใจ

“โอ๊ย ทำอะไรกันวะ เสียวไปไหม พี่เอ็กซ์ก็ไปตามใจแม่ง” หนึ่งในสมาชิกร่วมโต๊ะโพล่งขึ้นมา ยิ่งดึกก็ยิ่งเมา ทำให้ภาษาที่ใช้ในวงนี้ดูรุนแรงขึ้นจากตอนแรก

“ต่อให้ยิ่งกว่านี้ พี่เอ็กซ์ก็ไม่ขัดใจเรา มามะพี่ มาดูดนมที”

อาร์ตว่าแล้วก็คว้าตัวเอ็กซ์ที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อเข้ามา อีกมือหนึ่งก็ควานหยิบน้ำแข็งในแก้วขึ้นมาแล้วเอาไปวนๆ ที่หัวนมสีชมพูเข้มของเอ็กซ์จนตั้ง จากนั้นอาร์ตก็ก้มหน้าไปดูดเลียอย่างเมามัน เท่านั้นยังไม่หนำใจ อาร์ตเริ่มกัดไปรอบๆ หัวนมจนเริ่มมีรอยฟันแดงๆ เห็นได้ชัด

“อาร์ต เมาแล้วเปล่าวะ พอเหอะ” เพื่อนในวงถาม ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เริ่มครองสติไว้ไม่อยู่เหมือนกัน

“มันส์ชิบ ดูดนิดเดียวของขึ้นเลยเหรอพี่” อาร์ตแซวหนุ่มรุ่นพี่เมื่อเห็นของๆ เอ็กซ์เริ่มพองตัวดันกางเกงที่รูดซิปอ้าไว้จนโป่งขึ้นมา คราวนี้เห็นโคนของท่อนลำขาวอวบได้อย่างชัดเจนท่ามกลางพงหญ้าที่รกทึบ เหลือส่วนปลายที่ยังซ่อนตัวอยู่ภายในเป้ากางเกงสแล็คเนื้อดี

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
“ทำไมปล่อยให้ขนรกชะมัด มาๆ ผมช่วย” นักบัญชีหน้าตี๋บ่นพึมพำ แล้วก็เอื้อมมือควานลงไปในถังน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลเพื่อหยิบที่คีบน้ำแข็งขึ้นมา สารวัตรมองตามด้วยความหวาดเสียวเมื่อเห็นอาร์ตจ่อฟันปลาแหลมคมของที่คีบน้ำแข็งไปที่เป้าของเอ็กซ์ คนในโต๊ะที่นั่งห่างๆ ออกไปต่างลุกขึ้นยืนมามุงดูราวกับจะเป็นสักขีพยานกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

“ผมช่วยถอนให้นะครับ เผื่อตรงนั้นจะได้ดูเด็กลงอีก”

ว่าแล้วอาร์ตก็คีบฟันปลาไปบนกลุ่มเส้นขนที่ปกคลุมหัวหน่าวของเอ็กซ์แล้วออกแรงดึงจนเส้นขนที่ถูกขบอยู่ระหว่างซี่หลุดออกมาทีเดียวเป็นสิบๆ เส้น คนที่มุงดูทั้งโต๊ะสะดุ้งโหยงไปกับจังหวะการกระตุกที่รุนแรงจนเสียวท้องน้อยแทน ไม่ต้องพูดถึงคนที่ถูกถอนขนตัวจริงที่ตอนนี้เกร็งไปทั้งตัวใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด ท่อนลำอวบหดตัวลงทันที หนุ่มนักบัญชีหน้าตี๋ที่ตอนนี้เริ่มเผยพฤติกรรมด้านมืดไม่สมกับใบหน้าใสๆ เนิร์ดๆ ออกมาไม่ได้แสดงอาการเห็นใจอะไร แถมยังเอาขนที่ถอนออกมาได้ไปทิ้งไว้ในแก้วเหล้าของเจ้าของเส้นขนจนลอยฟูฟ่องเต็มไปหมด

“แบบนี้ก็สะดวกดีนะครับ ง่ายกว่าไปซอยออกอีก เดี๋ยวผมทำให้ทั่วๆ เลย”

“เห้ย พอแล้วมั๊ง พี่เขาเจ็บไปหมดแล้ว อาร์ตนายชักดูน่ากลัวแล้วว่ะ” เพื่อนบางคนในกลุ่มที่ยังพอมีสติอยู่ร้องเตือนออกมา

“ก็ไม่ได้บังคับอะไรนี่ พี่เอ็กซ์ครับ ผมว่าน่าจะทำต่อจนหายรก พี่ว่ายังไง”

“ถ้าคุณอาร์ตว่าอย่างนั้นผมก็ว่าดีครับ เชิญต่อเลย” เอ็กซ์อนุญาตท่ามกลางความไม่เข้าใจของคนที่มุงดูอยู่ ก็เห็นอยู่ว่าเจ็บจนแทบน้ำตาร่วง ทำไมถึงไม่ขัดขืนอะไรเลย

“งั้นต่อเลยนะครับ” ไม่ทันขาดคำอาร์ตก็ใช้ที่คีบน้ำแข็งอันเดิมถอนขนลับของหนุ่มใหญ่อย่างเมามันอยู่หลายครั้ง จนแก้วเหล้าของเอ็กซ์เต็มไปด้วยเส้นขนจนเกือบเต็ม เอ็กซ์หน้าซีดแต่ดวงตาแดงก่ำ เขาเจ็บจนน้ำตาไหลพรากออกมาโดยไม่รู้ตัว แถมยังกัดปากตัวเองจนห้อเลือด

“ผมว่ามันดูบางลงแล้วนะ เอ้าพี่เอ็กซ์ ลุกขึ้นยืนให้เพื่อนผมดูหน่อย” อาร์ตบอก อดีตผู้บริหารระดับสูงทำตามอย่างเชื่อฟัง เขายืนขึ้นแล้วแอ่นเป้าไปให้ผู้ร่วมโต๊ะดูทีละคนเพื่อฟังความเห็น

“ดูบางแล้วนะ”

“ใช่ๆ พอดีแล้ว ไม่ต้องทำต่อแล้ว”

“บางไปมันจะดูไม่เป็นธรรมชาตินะ พอแค่นี้แหละ”

แต่ละคนรีบตอบด้วยความสงสาร แต่พอวนมาถึงสารวัตรเสือซึ่งเป็นคนสุดท้าย นายตำรวจหนุ่มนึกไปถึงสิ่งที่เอ็กซ์ทำกับน้องคุนลูกเลี้ยงที่อายุแค่สิบห้าปี ทั้งหยดน้ำตาเทียน มัดแขนมัดขา เฆี่ยนตี ช้อตไฟฟ้า เอาบุหรี่จี้หัวนม และอีกสารพัด เขาก็แค่นยิ้มแล้วตอบว่า

“ผมว่ายังดูรกอยู่เลย ถอนอีกซักสิบทีเถอะครับ”

เอ็กซ์มองหน้าเสือทันที เขาจำได้ว่าคนๆ นี้คือนายตำรวจที่ทำคดีฉ้อโกงและตกแต่งบัญชีของเขา แต่เรื่องนั้นมันก็จบไปแล้วนี่ ไม่น่าจะแค้นอะไรเป็นการส่วนตัว แต่ทาสอย่างเขาก็ขัดขืนไม่ได้ ทำได้แค่กัดฟันตอนที่คนที่ขาขัดขืนไม่ได้เริ่มถอนขนลับเขาไปเรื่อยๆ ครั้งแรกๆ ว่าเจ็บจนทนไม่ได้แล้ว แต่ครั้งหลังๆ กลับยิ่งทรมานมากขึ้นไปอีก ทั้งเจ็บทั้งแสบร้อน ท่าทางผิวหนังบริเวณนั้นของเขาคงจะบอบช้ำเต็มทน

เอ็กซ์พยายามคิดไปถึงเรื่องอื่นเพื่อให้ลืมความเจ็บขณะถูกถอนขน แต่สมองเจ้ากรรมดันนึกไปถึงสารคดีที่เขาดูเมื่อหลายเดือนก่อน รายการพูดถึงที่มาของขนเป็ดที่ใช้ใน เสื้อกันหนาว "Down Jacket" หรือที่เรียกกันว่า "เสื้อขนเป็ด" เสื้อหนาวประเภทนี้เป็นทรงพองตัว มีขนเป็ดยัดอยู่ข้างใน ถือเป็นเสื้อกันความหนาวในระดับสูง เป็นที่นิยมในประเทศเขตหนาว ยุโรป และอเมริกา ขนเป็ดที่เรียกกัน จริงๆ แล้ว ในการใช้งานจริงจะใช้ขนห่าน และเกรดที่ดีที่สุดต้องเป็นขนห่าน จากฮังการี่ที่ถือว่ามีคุณภาพดีที่สุดในโลกเพราะขนมีน้ำหนักเบา ทน ฟู และเก็บความร้อนไว้ได้ดีที่สุด เอ็กซ์มีเสื้อกันหนาวแบบที่ว่าอยู่ตัวสองตัว แต่ที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนคือ เสื้อหนาวแบรนด์ดังที่เป็นที่นิยมส่วนใหญ่จะใช้ขนที่ถอนจากห่านที่ยังมีชีวิตอยู่ ห่านตัวหนึ่งจะถูกถอนขนแล้วรอให้งอกเพื่อถอนใหม่ประมาณห้าถึงหกครั้งในช่วงชีวิต ตอนที่ดูสารคดี เขาก็ไม่ได้รู้สึกเห็นใจสัตว์โลกน่าสมเพชนี้เท่าไหร่ ออกจะขำด้วยซ้ำเมื่อเห็นภาพห่านที่เพิ่งถูกถอนขนมาสดๆ เดินโซซัดโซเซเหลือขนหรอมแหรมเหมือนเป็นขี้เรื้อน แต่วันนี้เขารู้ซึ้งแล้วว่าการถูกถอนขนสดๆ มันทรมานเพียงใด

เมื่อเอ็กซ์ถอนใจอย่างสุดกลั้นเมื่อการถอนขนอีกสิบครั้งในชุดที่สองจบลง ขนที่ถูกเอามาทิ้งไว้ในแก้วของเขาล้นจนกระจายออกมาที่จานอาหาร เพื่อนร่วมโต๊ะที่นั่งข้างๆ เขาขยับจานและแก้วหนีไปด้วยความรังเกียจ เสียงสั่งให้เขายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มทำให้ต้องทำตามด้วยความพะอืดพะอม เขาพยายามเม้มปากขณะดื่มเพื่อไม่ให้เส้นขนของตัวที่ลอยฟูฟ่องอยู่ในแก้วหลุดเข้าปากไป สัมผัสสากๆ ของเส้นขนที่จ่ออยู่ที่ริมผีปากทำให้เกิดอาการอยากอาเจียน ตอนนี้บริเวณช่วงล่างของเขาไม่รู้สึกอะไรนอกจากความปวดแสบปวดร้อน พอก้มมองลงไปที่ซิปกางเกงที่เปิดอ้าอยู่ก็ต้องสมเพชตัวเองที่เหลือแค่ขนลับเป็นกระหย่อมๆ ผิวตรงบริเวณนั้นแดงเข้มจากรูขุมขนที่บอบช้ำตัดกับผิวขาวๆ ส่วนที่เหลือ ทั้งโต๊ะเงียบกริบไม่มีใครกล้าวิพากษ์วิจารณ์อะไร ต่างมองไปที่เอ็กซ์ด้วยความสงสาร แต่นั่นคงไม่รวมถึงสารวัตรเสือ

ในตอนนั้นเอง เด็กเสิร์ฟก็นำเหล้าที่นายตำรวจสั่งไว้ก่อนหน้านี้มาส่ง

“นี่ครับ วอดก้าแก้วใหญ่ที่สั่ง” เหล้าดีกรีแรงถูกเสิร์ฟพร้อมกับมะนาวผ่าซีกและเกลือ

“โห เล่นวอดก้าเลยเหรอครับคุณเสือ กลัวเมาไม่ทันพวกผมหรือไง” คนหนึ่งในโต๊ะแซวขึ้นทั้งที่ไม่อยู่ในอารมณ์นั้นเท่าไร่ แต่ด้วยอยากเปลี่ยนจุดสนใจออกจากเอ็กซ์ไปเรื่องอื่นบ้าง

สารวัตรเสือยิ้มๆ ไม่ตอบอะไร รับวอดก้ามาจากเด็กเสิร์ฟแล้วก็จิบนิดหน่อย

“แรงดีจริงๆ ครับ” พอพูดจบเสือก็เอาเกลือและบีบมะนาวผสมลงไปในวอดก้าแก้วใหญ่ ทั้งโต๊ะมองตามด้วยความแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นใครดื่มวอดก้ากับเกลือและมะนาวด้วยวิธีนี้

สารวัตรถือแก้วขึ้นมาวนๆ ในระดับสายตาเหมือนตั้งใจจะทำให้ส่วนผสมเข้ากัน ทันใดนั้นเองมือของเขาก็เอียงลงสาดของเหลวระดับสี่สิบดีกรีลงไปบนพื้นที่สามเหลี่ยมตรงเป้าที่เปิดอ้าซ่าของคนที่นั่งข้างๆ จนหมดแก้ว เอ็กซ์สะดุ้งสุดตัว ส่งเสียงร้องโหยหวน เดิมว่าปวดแสบปวดร้อนแล้วแต่พอโดนของเหลวที่เป็นส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เกลือ และน้ำมะนาวราดสดๆ ลงบนเนื้อที่บอบช้ำจากการถูกถอนขนนี่ความแสบเหมือนจะคูณสิบ เขาตะคอกใส่คนข้างๆ ทันที

“เหี้ย ทำอะไรวะ ไอสัตว์ มึงตาย” เอ็กซ์ตะคอกแล้วกำหมัดแน่นเพื่อเตรียมจะชกหน้า ไม่สนแล้วว่าจะเป็นตำรวจหรือใคร

“พี่เอ็กซ์ ไม่เอาครับ คุณเสือเขาไม่ได้ตั้งใจ มาๆ ผมจุ๊บปลอบใจให้” เอ็กซ์หยุดท่าทีที่เหมือนจะฆ่ากันทันทีราวกับถูกติดเบรก อาร์ตประคองหน้าของหนุ่มใหญ่มาประกบปากอย่างนุ่มนวล ถึงจะบอกว่าจุ๊บ แต่ที่จริงมันเป็นดีพคิสที่รุนแรงเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมากันหมดแล้วหรือเพราะเจอเรื่องแปลกๆ มาตลอด คนในวงเลยไม่มีท่าทางแตกตื่นอะไรอีก บางทีการดูดปากกันอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นตอนนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจน้อยที่สุดที่อาร์ตทำกับเอ็กซ์ในคืนนี้ก็เป็นได้

กินเวลาอยู่หลายอึดใจกว่าที่นักบัญชีหนุ่มจะถอนปากออก สารวัตรถือโอกาสนี้พูดขึ้นอย่างเสแสร้ง

“ขอโทษจริงๆ ครับ ไม่รู้เป็นอะไรอยู่ๆ ก็มืออ่อนขึ้นมา งั้นขออนุญาตชนแก้วกับคุณเอ็กซ์เป็นการขอขมาแล้วกัน”

อาร์ตปรายตามองมาแล้วพยักหน้า ทำให้อดีตซีเอฟโอจำใจต้องยกแก้วที่เต็มไปด้วยเส้นขนหยิกหยอยขึ้นชนกับสารวัตรแล้วกลั้นใจจิบลงคอไปอีกรอบท่ามกลางความสยองของคนในโต๊ะ

หลังจากนั้นซักพักหนุ่มตี๋นักบัญชีก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับเอ่ยปากชวนเอ็กซ์ไปด้วย หนุ่มใหญ่ลุกขึ้นทั้งๆ ที่ยังเปลือยท่อนบนอยู่มือรวบตะขอกางเกงที่เปิดอ้าอยู่เข้าด้วยกันเพื่อลดความอุจาดแล้วเดินกระย่องกระแย่งตามออกไปโดยไม่คิดที่จะแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน ท่าทางจะเป็นเป้าสายตาคนในผับไปตลอดทาง สารวัตรรออยู่สักครู่กะว่าน่าจะทำธุระใกล้เสร็จแล้วก็เดินตามไปตั้งใจจะไปดักถามเรื่องที่ข้องใจกับอาร์ต พอเดินไปถึงหน้าห้องน้ำก็พบว่าคนที่ตามหายืนสูบบุหรี่อยู่ก่อนแล้ว

“ผมก็คิดๆ ไว้แล้วว่าคุณเสืออาจจะตามมา มีอะไรจะคุยกับผมเปล่าครับ” อาร์ตถามด้วยท่าทีสุภาพเรียบร้อยผิดกับการกระทำก่อนหน้านี้

“คุณอาร์ตสูบบุหรี่ด้วยเหรอ” สารวัตรชวนคุยเรื่องอื่นก่อนที่จะเข้าประเด็น

“ปกติไม่สูบหรอกครับ แต่เวลามาเที่ยวอย่างนี้ก็อยากสูบบ้าง”

“แล้วไอเอ็กซ์มันยังไม่ออกมาเหรอ” สารวัตรเรียกอย่างไม่เคารพ

“พอดีผมให้ทำอะไรอยู่ข้างในนิดหน่อยนะครับ ท่าทางคุณยังแค้นพี่เอ็กซ์อยู่จริงๆ ด้วย”

“ก็แค้นแทนลูกเลี้ยงเขาน่ะครับ คุณอาร์ตก็ทราบอยู่แล้วตอนที่ไปทำคดีด้วย ว่าแต่ดูเหมือนคุณอาร์ตจะสั่งมันได้ทุกเรื่องเลยนะครับ” ตำรวจหนุ่มเริ่มเข้าประเด็นที่อยากรู้

“หึๆ ก็ไม่ทุกเรื่องหรอก แต่ก็มีข้อยกเว้นไม่เยอะ สารวัตรก็รู้ไม่ใช่เหรอ เรื่องทาสน่ะ ยังไงก็ทำงานให้องค์กรเหมือนกัน”

“ก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดเท่าไหร่หรอก เพิ่งเห็นของจริงวันนี้ มันทำตามทุกอย่างที่สั่งไม่มีบิดพลิ้วเลยจริงๆ น่าทึ่งมาก แต่ก็น่ากลัวด้วย” เสือเลยสรุปได้ว่าตัวเองเดาถูก เอ็กซ์กลายมาเป็นทาสภายใต้การจัดการขององค์กร นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นของจริงว่าทาสต้องปฏิบัติตามเจ้านายโดยไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้เลย

“ถึงยังไงก็ต้องอยู่ในขอบเขตที่องค์กรกำหนด คุณก็น่าจะรู้ดีกว่าผมอีกว่าองค์กรมีระบบที่ดีแค่ไหน ไม่มีใครกล้าละเมิดหรอก แล้วองค์กรก็ไม่มีทางทำอะไรไม่ดีให้ผู้พิทักษ์กฎหมายอย่างสารวัตรไม่สบายใจอยู่แล้ว”

“ถึงทำจริง ผมก็จะไปห้ามอะไรได้ อำนาจเขามีมากมายหลายรูปแบบซะขนาดนั้น แต่ก็คงไม่มีอะไรไม่ดีอย่างที่คุณอาร์ตว่านั่นแหละ ผมสังเกตสิ่งที่องค์กรทำมาเป็นปีแล้ว ผมว่าอุดมการณ์เขาหนักแน่นจริงๆ ว่าแต่คุณอาร์ตเป็นสมาชิกองค์กรมานานยัง ทีแรกผมนึกว่าเป็นพวกมาช่วยงานเฉยๆ”

“ผมก็เป็นแค่คนช่วยงานแหละครับ ยังไม่มีวาสนาเป็นสมาชิกองค์กร”

“แล้วทำไมถึงประมูลทาสมาได้ล่ะ ผมนึกว่าต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น หรือผมเข้าใจผิด”

“ถูกแล้วครับ พอดีผมได้รับยกเว้นเป็นพิเศษ ผมไปขอมาจากเบอร์ศูนย์น่ะครับ ว่าจะไม่เอาค่าตอบแทนในการช่วยงานองค์กรอีกเลย แลกกับสิทธิเข้าร่วมประมูลตัวพี่เอ็กซ์ครั้งนี้”

“แล้วเวลาประมูลนี่แพงไหมครับ ถึงจะร่วมงานกับองค์กรอยู่เรื่อยๆ แต่เรื่องนี้ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเลย”

“เท่าที่ทราบก็มีหลายระดับนะครับ แล้วแต่คุณภาพของนักโทษที่เอามาประมูล แต่ของพี่เอ็กซ์นี่ เรียกว่ากรณีหายากของจริง อดีตผู้บริหารระดับสูงมันสมองเป็นเลิศ รูปร่างหน้าตาก็ยังกับดารา แล้ววัยนี้หลายคนก็ชอบนะครับ ผมทุ่มสุดตัวเลยกว่าจะชนะมาได้ เสียวๆ อยู่เหมือนกันว่ายอดจะพุ่งถึงเลขแปดหลัก โชคดีที่คู่แข่งถอดใจไปก่อน”

“โห ทำไมรวยจังครับ ไม่นึกว่าอาชีพนักบัญชีจะมีเงินขนาดนี้ หรือว่าทางบ้านมีฐานะอยู่แล้ว” เสือถามอย่างนึกไม่ถึง

“เงินเก็บจากการทำงานล้วนๆ ครับ เป็นผลพลอยได้จากการทำงานสอบบัญชีอย่างเต็มที่ตั้งแต่เริ่มงานกับบริษัท ผมตั้งใจอยู่แล้วครับว่าจะออกมาทำของตัวเองเลยพยายามหาประสบการณ์ให้เยอะที่สุดระหว่างที่ทำกับบริษัทใหญ่ งานอะไรผมไม่เคยเกี่ยง ไปเร่ของานเขามาทำด้วยซ้ำ เลยได้ค่าตอบแทนเยอะหน่อย”

“ทำไมถึงต้องทุ่มขนาดนี้ด้วยครับ หรือมีความแค้นอะไรกับมันมาก่อน”

อาร์ตนิ่งคิดว่าจะถ่ายทอดสิ่งที่เขารู้สึกออกมาให้สารวัตรฟังอย่างไร แค้นหรือ นั่นคือสิ่งที่คนที่รู้เรื่องทั้งหมดอย่างเบอร์ศูนย์หรือแม้แต่ตัวเอ็กซ์เองด้วยเข้าใจว่าเขาอยากแก้แค้นเรื่องเมื่อสองปีก่อน ตอนนั้นเอ็กซ์ใช้อำนาจในฐานะซีเอฟโอกลั่นแกล้งเขาที่เป็นหัวหน้าทีมผู้สอบบัญชีแล้วไม่ยอมช่วยปกปิดความผิดปกติที่เอ็กซ์ทำไว้ บริษัทเขาถูกเลิกสัญญาแถมเอ็กซ์ยังพาลหาเรื่องใส่ความไปแจ้งกับหัวหน้าเขาด้วย โชคดีที่บริษัทเขายึดมั่นในหลักการและตรวจสอบความข้อเท็จจริงทั้งหมดและเห็นด้วยว่าเขาทำถูกแล้ว

อาร์ตนึกขำในใจ เรื่องแค่นั้นเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายหรอก ถ้าอยากจะแค่แก้แค้นจริงๆ เขาก็มีวิธีอื่นที่ไม่ต้องทุ่มแรงทุ่มเงินขนาดนี้ สิ่งที่ผลักดันเขาไม่ใช่ความแค้นแต่มันเป็นความหลงใหล หรือถ้าคนที่มีความซับซ้อนทางความคิดอย่างเขาจะมีได้เขาก็อยากจะเรียกมันว่าความรัก

ตั้งแต่แรกพบ เขาก็หลงใหลไปกับความเฉลียวฉลาดเฉียบขาดผสมผสานกับความเจ้าเล่ห์เลือดเย็นที่ซ่อนเร้นไว้อย่างแนบเนียนภายใต้หน้ากากหล่อเหลาที่อบอุ่นและเป็นมิตรพร้อมที่จะจู่โจมหรือแว้งกัด เหมือนงูพิษหายากที่มีสีสันสดใสลวดลายงดงาม ถึงคนทั่วไปจะกลัวหรือรังเกียจแต่ก็ยังมีคนที่ยินดีจะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อหามาเป็นสัตว์เลี้ยง การได้ครอบครองเป็นเจ้าของชีวิตของอสรพิษร้ายที่สวยงามมันคงเป็นความรู้สึกเดียวกับที่เขามีในตอนนี้

หนุ่มตี๋สบตาสารวัตรขณะตอบคำถามด้วยแววตาประหลาด

“แค้นหรือครับ ไม่เลย ถ้าบอกว่ารักอาจจะใกล้เคียงกว่า ผมชื่นชมพี่เอ็กซ์ตั้งแต่ที่เจอครั้งแรก  ผมแค่อยากมีส่วนร่วมในทุกๆ อย่างของพี่เอ็กซ์ อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทุกความรู้สึกของพี่เขา ทั้งดีใจ ตื่นเต้น เสียใจ หวาดกลัว เจ็บปวด อับอาย อดสู สิ้นหวัง ยิ่งเขาทำตัวไม่ดีก็ยิ่งอยากกำราบให้สยบลงไปด้วยมือผมเอง”

“งั้นคุณก็ไม่ได้ตั้งใจจะลงโทษเขาจริงๆ สิ” เสือค่อนข้างผิดหวัง

“การลงโทษไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในความตั้งใจของผม ผมแค่ทำในสิ่งที่อยากทำ ซึ่งพี่เอ็กซ์ก็คงไม่ได้ชอบมันเท่าไหร่นักหรอก แล้วนี่ก็แค่เริ่มต้น ในสามปีที่เขาตกเป็นทาสผม ผมมีเรื่องที่อยากทำกับเขามากมายเต็มไปหมด” นักบัญชีหนุ่มแสยะยิ้มอย่างมีความสุข แล้วก็ตบไหล่สารวัตรเบาๆ อย่างถือวิสาสะ

“แต่ก็เอาเถอะ ผมเข้าใจว่าคุณเสืออยากเอาคืนให้คนของคุณ ผมรับรองได้ว่าสิ่งที่ผมเตรียมไว้ให้พี่เอ็กซ์ มันไม่ยิ่งหย่อนกว่าการติดคุกจริงๆ หรอกนะ ไว้ถ้าสะดวกวันไหนก็มาเยี่ยมสังเกตการณ์ที่บ้านผมเลยก็ได้ ถ้าพอใจเมื่อไหร่ก็ขอให้คุณเสือช่วยบอกอดีตภรรยาและลูกเลี้ยงอโหสิกรรมให้พี่เอ็กซ์ด้วยละกัน ผมไม่อยากให้คนของผมมีอะไรติดค้าง”

สารวัตรเริ่มคิดว่า การที่เขาหย่อนบทลงโทษทางกฎหมายลงให้มารับจากองค์กรแทน น่าจะเป็นทางเลือกที่ถูกแล้ว ยังไงซะตอนนี้คงต้องถอยห่างออกมาเป็นผู้ชมรอดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเอ็กซ์ต่อไป

“ผมขอตัวเข้าไปดูพี่เอ็กซ์ในห้องน้ำก่อนนะครับ สั่งไว้ให้ถ่ายคลิปชักว่าวใส่โถฉี่ทีละโถจนครบ ไม่รู้ป่านนี้เสร็จหรือยัง ตอนแรกจะให้ทำอย่างอื่นแต่เห็นว่าช่องด้านหลังยังช้ำจากหางแมวที่ใส่ให้เข้าชุดกับปลอกคอหนัง ถ้ายังไงเจอกันที่โต๊ะเลยนะครับ”

หนุ่มหน้าตี๋ทิ้งท้ายแล้วเดินกลับไปที่ห้องน้ำ สารวัตรมองตามอย่างอึ้งๆ หางแมวนี่มันคืออะไร เกือบจะรู้สึกเห็นใจพ่อเลี้ยงชั่ววัยสี่สิบขึ้นมา ถ้าห้องน้ำโซนผับเป็นเหมือนที่โซนร้านอาหารที่เขาไปเข้ามาแล้วรอบนึง มันน่าจะมีเกือบๆ สิบโถเลยนะ

TBC

-------------------------------------------------------------

มีเรื่องปรึกษาก็คือ ตอนนี้มันแรงไปไหม หมายถึงในเชิงความโรคจิตของตัวละคร ถ้าพอรับได้จะขีดเส้นไว้ว่าไม่เกินนี้ แต่ถ้ารู้สึกกันว่ามันเกินเลยไปจะพยายามลดลงครับ

ออฟไลน์ lovely tham

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
แรงนะสำหรับเรา เพราะเราไม่ได้สายซาดิส แต่ถ้าเป็นพวกสายซาดิสยังเบาไปมั้ง  :mew1: :mew1:รอพิชยะยุนะ :mew2: :mew4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2015 00:46:55 โดย lovely tham »

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กำลังดีครับ ผมคิดว่ามาแนว ทำอาย ทะลึ่งๆ หื่นๆ ไม่เน้นเลือดสาดซาดิสมากนักจะดีกว่าครับ ยกเว้นว่าตัวละครนั้นมันจะเหี้ยจริงๆ เอาให้เละ ฮ่าๆๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
้่่คิดว่าหลายคนแอบเข้ามาอ่าน แต่ไม่กล้าเม้น ฮ่าๆ
อยากแต่ง อยากเขียนแบบไหนก็เต็มที่ไปเลยจ้า
แรงมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์คนอ่านแต่ละคนแล้วแหละ

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
องค์กรลวงจิต Explicit Content [บทที่ 21] 16/10/15
«ตอบ #161 เมื่อ16-10-2015 20:38:23 »

ตอนที่แล้วจัดหนักไปหน่อยครับ ตอนนี้เลยเบาๆ ใสๆ กรุบกริบ

เขียนมายี่สิบกว่าตอนแล้ว รู้สึกเหมือนยังอยู่แค่ช่วงปูเรื่อง แถมมีตัวละครใหม่เพิ่มเรื่อยๆ อ่านแล้วงงกันบ้างไหม ว่าใครเป็นใคร จริงๆ ถ้าไม่ใช่ตัวละครหลัก ไม่ค่อยอยากตั้งชื่อให้เท่าไหร่ แต่พอไม่มีชื่อ เขียนบรรยายยากมากเลยต้องตั้งชื่อให้ พอมีชื่อ ก็รู้สึกว่าต้องมีบทบาทอะไรบ้างต้องแต่งเพิ่มให้อีก เรื่องเลยวนไปมาไม่ไปไหน ขออภัยครับ

-------------------------------------------------

องค์กรลวงจิต Explicit Content

บทที่ 21

“ไอบอส ทำอะไรอยู่วะ ยังไม่รีบไปอาบน้ำแต่งตัวอีก เดี๋ยวก็สายหรอก มึงยิ่งอาบน้ำแต่งตัวนานเป็นชาติอยู่ด้วย” คนตัวสูงกว่าถาม จริงๆ ก็ยังมีเวลาอีกเยอะก่อนจะถึงเวลาที่ต้องออกเดินทางไปงานเลี้ยงคืนนี้ แต่ต้องเร่งกดดันไอคนชอบอู้ตั้งแต่เนิ่นๆ

“ใครจะไปเหมือนมึงล่ะ ไอ้พวกอาบน้ำห้านาที แล้วอย่างนี้จะมีใครมาสนมึงไหม ถึงไม่มีแฟนอยู่นี่ไง”

โป๊ปฟังที่บอสสวนกลับมาแล้วก็ขำในใจ นี่มันไม่รู้เลยหรือว่ามีสาวๆ หนุ่มๆ อยากเป็นแฟนกับเขาตั้งเยอะแยะ แต่ที่เขาไม่เอาด้วย มันเพราะใครกันล่ะ ขอเวลาอีกไม่นานนะ อิสระของคุณมึงใกล้จะหมดลงแล้วเบอร์ศูนย์

เมื่อเพื่อนไม่ได้ตอบอะไรมา คนที่ยังไม่รู้ตัวก็พูดต่อโดยไม่เงยหน้ามองอีกฝั่ง

“อีกแป๊บนึง กูทำนี่เกือบเสร็จแล้ว เดี๋ยวกูส่งเมลให้ มึงก็เอาไปเข้าระบบต่อ”

“ทำอะไรวะ” โป๊บเดินเข้าไปดูบอสที่กำลังทำอะไรยิกๆ อยู่หน้าคอมด้วยความสงสัย ปกติมักจะเป็นฝ่ายเขาที่นั่งทำงานอยู่หน้าคอมแล้วมีไอเบอร์ศูนย์เป็นตัวป่วนชวนไปทำโน่นทำนี่

พอเห็นหน้าโปรแกรมออกแบบกราฟฟิคที่หน้าจอของบอส หนุ่มเจ้าของธุรกิจระบบคอมพิวเตอร์ก็เข้าใจทันที เพื่อนรักของเขากำลังออกแบบลายกราฟฟิคที่จะเอาไปทำสติ๊กเกอร์แทตทูหรือบางครั้งก็เอาไปใช้สักจริงให้นักโทษอยู่นี่เอง

“ลายเก่าก็มีตั้งเยอะแยะไม่เห็นต้องรีบทำเพิ่มเลยนี่”

“พอดีกูดูสารคดีศิลปะของชาวเผ่ามายามาได้ไอเดียปิ๊งๆ เลยรีบมาทำไว้ก่อนเดี๋ยวลืม อีกอย่างเบื่อจะตายลายเดิมๆ เดี๋ยวมีนักโทษเข้ามาเพิ่ม จะได้ให้สักลายใหม่สวยๆ ไม่จำเจ”

“ไม่เห็นจะต้องมาเสียเวลามากเลย มึงก็รู้ว่ามันไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงาม”

โป๊ปบ่น ลายพวกนี้มีไว้เพื่อเป็น “มาร์คเกอร์” หรือการทำตำหนิว่าคนที่สักหรือติดสติ๊กเกอร์ลายเล็กๆ แปลกๆ เหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับองค์กร จุดประสงค์ไม่ได้เพื่อให้คนเหล่านั้นจำกันได้ แต่มีไว้ให้ระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรใช้ตรวจสอบ เบอร์หนึ่งได้แอบวางเครือข่ายแฝงไปทั่วทั้งอินเตอร์เนท หลักๆ จะฝังตัวลงไปในเซิร์ฟเวอร์ของของผู้ให้บริการใหญ่ๆ เหมือนเป็นกาฝาก ไล่ตั้งแต่โซเชียลเนทเวิร์คทุกเจ้าที่เป็นที่นิยมไม่ว่าจะเป็นเฟซบุค ทวิตเตอร์ ไอจี ไลน์ และอื่นๆ ไปจนถึงระบบอีเมล เวปไซท์ บริการฝากรูปฝากไฟล์ และระบบเก็บข้อมูลกลุ่มเมฆเจ้าต่างๆ แล้วยังดักอีกชั้นตรงที่ผู้ให้บริการอินเตอร์เนทรายต่างๆ เครือข่ายแอบแฝงเหล่านี้จะทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลโดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปภาพและวิดีโอที่มีการแชร์หรือส่งถึงกันผ่านอินเตอร์เนทเพื่อดูว่ามีข้อมูลใดที่อยู่ในลิสที่องค์กรไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ออกไปหรือไม่ แน่นอนว่าเจ้าของระบบหรือบริการเหล่านั้นไม่ได้รู้เห็นเป็นใจให้มีการตรวจสอบกลั่นกรองที่ว่า แต่ด้วยฝีมือการแฮ๊คระดับโป๊ปแล้วทุกอย่างก็แนบเนียนอย่างที่ตั้งใจไว้

ลายสักหรือมาร์คเกอร์พวกนี้จะต้องมีรูปร่างที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์จากสัญลักษณ์ที่มีใช้กันอยู่ เพื่อจะทำให้ระบบตรวจเจอได้อย่างรวดเร็วเวลาติดอยู่ในรูปถ่ายหรือวีดิโอ จริงๆ โป๊ปสามารถให้ระบบตรวจสอบจากใบหน้าที่ปรากฏอยู่ในรูปก็ได้ แต่นั่นต้องใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์และแยกแยะใบหน้าซึ่งอาศัยพลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์มากเกินไป แถมยังไม่สะดวกเวลาใช้กับคนเยอะๆ ที่มีการหมุนเวียนอย่างเด็กที่มาทำงานร้านล้างรถ

เครือข่ายแฝงเหล่านี้สามารถทำงานได้อย่างอื่นเช่นการรวบรวมหลักฐานข้อมูลสำหรับการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่หลักๆ ก็ใช้เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ที่เข้ามามีส่วนร่วมกับองค์กร และก็เพื่อไม่ให้กิจการบางอย่างขององค์กรเผยแพร่ไปจนเป็นที่สนใจของสังคมหมู่มาก อย่างที่ร้านล้างรถ ถ้าเครือข่ายแฝงตรวจพบว่ามีการนำรูปแอบถ่ายน้องๆ พนักงานส่งขึ้นไปบนอินเตอร์เน็ท ไม่ว่าจะเป็นการส่งไลน์หรืออีเมลให้เพื่อน โพสต์ลงเฟซบุค หรือแม้แต่การเก็บสำรองรูปถ่ายแบบอัตโนมัติซึ่งโทรศัพท์ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ก็มีกัน ระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรจะดักข้อมูลไว้ไม่ให้ไปถึงปลายทางแล้วส่งไวรัสไปที่เครื่องต้นทางเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมและทำลายข้อมูลที่เป็นปัญหาในเครื่องทิ้ง จากนั้นจะวิเคราะห์ว่าบุคคลต้นทางจะเป็นภัยคุกคามองค์กรหรือไม่เพื่อแจ้งเตือนต่อผู้ดูแลระบบซึ่งก็คือโป๊ปต่อไป

ตั้งแต่เบอร์หนึ่งติดตั้งเครือข่ายแฝงตัวนี้ได้สำเร็จ องค์กรก็สามารถขยายขอบข่ายการดำเนินงานไปได้กว้างขึ้นไม่จำกัดอยู่กับเฉพาะกับสมาชิกที่ใช้การฝังโปรแกรมจิตซึ่งยุ่งยากกว่า ตอนนี้แค่ให้ติดหรือสักลายแทตทูที่กำหนดลงไปแถวๆ บริเวณพื้นที่สงวนซึ่งเป็นจุดที่คนจ้องจะแอบถ่ายก็สามารถป้องกันการเผยแพร่จากคนนอกได้แล้ว นี่คือความลับที่ทั้งเบอร์ศูนย์และเบอร์หนึ่งไม่ได้บอกใคร ถ้ามีคนรู้เรื่องนี้ในวงกว้าง ก็จะแก้ได้ง่ายๆ โดยการลบหรือปิดทับรอยสักก่อนที่จะส่งรูปขึ้นอินเตอร์เนต

“เออหน่า อย่างน้อยเวลาไปอยู่บนตัวคน มันจะได้ดูเท่ๆ หน่อย ตั้งแต่มึงทำระบบนี้ขึ้นมา กูสบายขึ้นเยอะ ไม่ต้องคอยระวังว่าจะมีอะไรหลุดจนเป็นข่าวใหญ่ให้ตามล้างตามเช็ด” บอสเอ่ยปากชม

“ระบบกูเจ๋งใช่ไหมล่ะ ถ้ากูแอบเอาระบบไปขาย คงจะเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว คิดไปมันน่าจะยิ่งใหญ่กว่าพลังสะกดจิตของมึงซะอีก” โป๊ปโม้ด้วยความภูมิใจ

บอสก็แค่ยักไหล่ตอบว่า “แล้วไง สุดท้ายมึงก็เอาใช้งานเพื่อกูอยู่ดี”

เบอร์หนึ่งขององค์กรถึงกับไปไม่เป็นเมื่อถูกแทงใจดำ เขาวางฟอร์มแล้วแอบเปลี่ยนเรื่องแบบเนียนๆ

“เสร็จยังวะ เออ คราวนี้สวยดี เดี๋ยวกูเอาเข้าฐานข้อมูลให้ มึงก็ไปอาบน้ำได้แล้ว”

โป๊บที่ไล่บอสไปอาบน้ำได้สำเร็จก็เอาลายแทตทูอันใหม่เข้าระบบไปสมทบกับลายเดิมจำนวนหลายสิบรูปที่บอสได้ออกแบบไว้ ถึงดูเผินๆ จะเห็นว่าแต่ละลายมันไม่เหมือนกันเลย แต่จริงๆ แล้วมันจะมีส่วนที่คล้ายกันอยู่ ทุกรูปจะมีทรงสองอันแบบเดียวกันวางข้างๆ กัน จะมองว่าเป็นดวงตาคู่หนึ่งก็ได้ถ้าทิศทางมันจะไม่ผิดปกติอย่างที่เป็นอยู่ บอสเคยอธิบายว่าจริงๆ แล้วก็เป็นรูปดวงตานั่นแหละ เพียงแต่ไม่ใช่ตาซ้ายกับตาขวา มันเป็นรูปตาขวาสองข้างเพื่อแสดงหลักการขององค์กรที่อิงหลักกฎหมายโบราณ “An Eye For An Eye” หรือตาต่อตา ที่ให้คนที่ทำร้ายผู้อื่นต้องถูกลงโทษด้วยการถูกทำร้ายในลักษณะเดียวกัน ถ้าผู้ใดควักนัยน์ตาขวาของผู้อื่นออก ผู้นั้นต้องโดนควักนัยน์ตาขวาของตนออกเช่นกัน เหมือนกับที่องค์กรจะพยายามหาวิธีการลงโทษที่สาสมกับความผิดที่นักโทษได้ทำโดยไม่ยึดติดกับกรอบของกฎหมายปัจจุบัน

เบอร์หนึ่งถือโอกาสเข้าไปตรวจสอบความเรียบร้อยระบบขององค์กรอยู่พักใหญ่แล้วจึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดออกงาน คืนนี้มีกาล่าดินเนอร์การกุศลรายการใหญ่ที่บรรดาแขกล้วนแต่เป็นไฮโซหรือผู้มีอิทธิพลในวงสังคมและธุรกิจ จริงๆ ประธานบริษัทคอมพิวเตอร์ขนาดกลางแถมยังหน้าใหม่อย่างเขาคงยังไม่ถึงขั้นจะได้รับเชิญให้ไปงานนี้หรอก แต่ด้วยความที่ที่ผ่านมาเขาบริจาคเงินเพื่อการกุศลค่อนข้างมากทั้งในนามบริษัทและในนามส่วนตัว ทำให้ได้รับเชิญมางานนี้เป็นกรณีพิเศษ จริงๆ เงินที่บริจาคส่วนตัวก็เงินขององค์กรนั่นแหละ เขาชวนเบอร์ศูนย์ไปงานด้วยกันโดยให้เหตุผลว่าไปในฐานะเจ้าของเงินตัวจริง แต่ที่บอสไม่รู้ก็คือ ธรรมเนียมปฏิบัติของงานนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะมากับคู่สมรสหรือคู่ชีวิต หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องเป็นคู่เดทที่ค่อนข้างจริงจัง

รออยู่อีกครู่ใหญ่บอสถึงเดินออกมาจากห้องแต่งตัว วันนี้เพื่อนรักของเขาหล่อเนี้ยบมากในชุดสูทเข้ารูปแบบเป็นทางการ โบว์ไทที่ผูกแทนเน็คไททำให้ดูน่ารักแบบแปลกๆ จนโป๊ปต้องออกปาก

“มึงผูกหูกระต่ายแล้วน่ารักดีว่ะ”

“น่ารักพ่องสิ หล่อโว้ย ไปๆ เดี๋ยวสายจะมาโทษกูอีก”

หนุ่มตัวสูงกว่าเดินตามพร้อมกับนึกเถียงในใจ ก็น่ารักจริงๆ นี่หว่า คืนนี้คงมีคนที่ดูดีมีชาติตระกูลมากมายทั้งชายและหญิง แต่เขาตัดความกังวลเรื่องที่จะมีใครมาจีบคนของเขาออกไปได้เลย ตั้งแต่ก่อตั้งองค์กรขึ้น บอสจะใช้พลังจิตอำพรางใบหน้าตัวเองตลอด ต่อให้ไปคุยกับใครนานแค่ไหนพอคล้อยหลังไม่นาน คนๆ นั้นจะยังจำเรื่องที่พูดคุยได้แต่จะจำหน้าบอสไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่ใครจะมาสานต่อกับเบอร์ศูนย์ของเขาได้ทีหลังแน่ ถึงจะแอบถ่ายรูปเก็บไว้ได้ พอละสายตาจากรูปก็ลืมอยู่ดี แต่เพื่อความไม่ประมาท ระบบเครือข่ายแฝงของเขาจะทำการลบหรือเซ็นเซอร์รูปบอสอย่างอัตโนมัติเมื่อมีใครส่งขึ้นมา กรณีนี้เขาเลือกใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์และแยกแยะใบหน้าจึงไม่ต้องใช้แทตทูแต่อย่างใด วิธีการแบบเดียวกันนี้ถูกใช้กับไวน์บอยซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัวของบอสด้วย เพราะบอสไม่ต้องการให้สินค้าชั้นสูงต้องมีตำหนิจากการติดลวดลายอะไรลงไป

.........................................

บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความหรูหราดังคาด เหล่าเซเลปและดารานักแสดงก็มากันไม่น้อย แต่ที่ทางผู้จัดเน้นจริงๆ คือนักธุรกิจและบรรดาไฮโซกระเป๋าหนักทั้งหลายเพราะหวังให้ยอดบริจาคในคืนนี้สามารถไปจัดซื้อเครื่องมือแพทย์สำหรับโรงพยาบาลที่ห่างไกลได้อย่างเพียงพอ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการสร้างสัมพันธ์ทางธุรกิจไปด้วย งานคืนนี้จึงมีกิมมิคในการจัดที่นั่งแบบสุ่มเพื่อให้เหล่านักธุรกิจมีโอกาสพบปะผู้คนใหม่ๆ ไปด้วย

สองหนุ่มเพื่อนซี้ไปลงทะเบียนเพื่อดูโต๊ะที่จัดไว้ให้ เบอร์ศูนย์กวาดสายตามองรายชื่อแขกในโต๊ะแล้วอดใจไม่ไหวต้องสะกิดบอกคนข้างๆ

“มึงๆ บังเอิญชะมัด แขกที่นั่งโต๊ะเรามีแต่คนที่เกี่ยวพันกับองค์กรเกือบทั้งนั้นเลย”

อันที่จริงก็ไม่แปลก เพราะสมาชิกขององค์กรในช่วงแรกๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นบุคคลระดับนี้ทั้งนั้น ที่บอสเห็นผ่านๆ ตาในงานก็น่าจะมีเป็นสิบคนเลยทีเดียว

“ไหนวะ กูรู้จักแค่หมอพฤกษ์คนเดียว คนอื่นนี่ก็เป็นสมาชิกของเราด้วยเหรอ”

โป๊ปถาม เขาไม่ค่อยรู้จักสมาชิกองค์กรเท่าไหร่ถึงจะสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ทั้งหมดเพราะเน้นดูแลระบบมากกว่า บอสซึ่งเป็นคนลงหน้างานและดูแลสมาชิกด้วยจึงรู้จักมากกว่าเขาเยอะ

“ก็มีที่เป็นสมาชิกบ้าง แล้วก็มีที่เกี่ยวข้องทางอื่น เหลือแค่คู่เดียวที่ไม่เกี่ยวเลย กูค่อยกระซิบบอกตอนนั่งโต๊ะจะได้เห็นตัวจริงด้วย” บอสขยายความ ตามรายชื่อที่เขาดู มีแค่สองสามีภรรยาที่มีนามสกุลเป็นที่คุ้นหูในวงสังคมเท่านั้นที่ไม่ได้เกี่ยวพันอะไรกับองค์กร

บริกรพาทั้งคู่ไปนั่งที่โต๊ะที่จัดเตรียมไว้ให้  แต่ละโต๊ะมีสิบที่นั่งหรือจริงๆ ต้องบอกว่าห้าคู่เพราะงานนี้จะต้องมาเป็นคู่อยู่แล้ว มีแขกที่มาถึงก่อนแล้วสามคู่ หนึ่งในนั้นคือหมอพฤกษ์ซึ่งกล่าวทักทายอย่างยินดีเมื่อสองเพื่อนรักยกมือไหว้

หมอพฤกษ์ซึ่งจัดว่าเป็นผู้กว้างขวางในวงสังคมเลยทำหน้าที่เปิดวงสนทนาและแนะนำเพื่อนร่วมโต๊ะให้รู้จักกัน

“ผม หมอพฤกษ์ครับน่าจะพอรู้จักกันอยู่แล้ว ขออนุญาตแทนตัวว่าหมอนะครับ ส่วนนี่ก็ธนัท ผู้ช่วยของหมอเอง” ทุกคนมองตามหมอนักธุรกิจหนุ่มหล่อไปยังผู้ช่วยที่นั่งอยู่ข้างๆ ตอนแรกก็คิดว่าผู้ช่วยของหมอเป็นดาราดังที่ไหน เพราะดูดีมีออร่าราวกับนักร้องนักแสดงที่มีทีมงานดูแลเสื้อผ้าหน้าผมให้ในแบบมืออาชีพ โป๊ปคับคล้ายคับคลาว่าเคยเห็นหน้าคนๆ นี้มาก่อน ยังไม่ทันที่จะสะกิดถามบอส เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่า ธนัทคือเซลขายเครื่องกรองน้ำลวงโลกที่บอสกับเขาไปล่าตัวมาเมื่อปีที่แล้วถึงเชียงใหม่ ถึงจะไม่ค่อยชอบหน้าเท่าไหร่เพราะบอสรู้จักมาก่อนแล้วดูเหมือนจะห่วงธนัทอยู่หน่อยๆ แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าธนัทดูดีขึ้นมากทั้งๆ ที่เดิมก็หล่ออยู่แล้ว ดีที่ว่าหลังจากส่งตัวไปเป็นทาสให้หมอพฤกษ์แล้วเบอร์ศูนย์ของเขาก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรอีก ธนัทไม่มีท่าทีว่าจะจำหน้าบอสได้ แสดงว่าบอสเองก็ไม่ได้คิดจะไปรื้อฟื้นว่าเคยรู้จักกันในวัยเด็ก

“ธนัทเขาเป็นคนดูแลงานที่คลินิกและคอมเพล็กซ์สุขภาพของหมอเองครับ ได้เข้าโปรแกรมดูแลผิวพรรณมาแล้วทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย ถ้าสนใจอะไรก็พูดคุยสอบถามได้ครับ” หมอพฤกษ์ไม่วายถือโอกาสขายของ

“ทุกท่านครับ เดี๋ยวหมอขอแนะนำคนในวงทั้งหมดนะครับเผื่อว่าใครยังไม่รู้จักกัน นี่คุณโป๊ป เจ้าของบริษัทวางระบบคอมพิวเตอร์ที่กำลังมาแรงครับ มากับคุณบอสหุ้นส่วน แล้วก็เพื่อนรักตัวติดกัน” โป๊ปเผลออมยิ้มมุมปากเมื่อหมอพูดจบ ทำเป็นรู้ดีนะหมอ

“ส่วนทางนี้ คุณอรรถ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หนุ่มที่ประสบความสำเร็จเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ หลังๆ นี่ได้ข่าวว่ามือขึ้นมากเลย คอนโดหรูโครงการต่อไปจะเปิดตัวเมื่อไหร่นะครับ เห็นว่ามียอดจองเข้ามาตั้งแต่ยังไม่ตั้งชื่อโครงการ”

คนที่ถูกแนะนำยิ้มๆ พลางก้มศีรษะให้เป็นการทักทายคนในโต๊ะ เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาคมคายผิวเข้มหุ่นนักกีฬา ถ้าไม่บอกก็คงนึกว่าอรรถเป็นบีชบอยหรือนักเล่นเซิร์ฟบอร์ดมากกว่านักธุรกิจใหญ่ เขามากับเด็กหนุ่มวัยมัธยมผิวขาวจัดที่นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ คุณหมอก็พูดเกินไป นี่...น้องซูกัส เอ่อหลานชายของผมครับ พอดีใกล้สอบแล้วเอาแต่อ่านหนังสือ ผมเลยพามาเปิดหูเปิดตาซะหน่อย เอ้า ไหว้พี่ๆ รอบโต๊ะเลยนะ” หนุ่มน้อยยกมือไหว้ทุกคนด้วยกิริยางดงามอย่างคนที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีเป็นที่ประทับใจของหลายคนในโต๊ะ พอเงยหน้ามาก็เห็นหน้าตาที่หล่อใสกิ๊กแก้มแดงระเรื่อเป็นธรรมชาติแบบคนสุขภาพดี  ธนัทที่นั่งอยู่ติดกันยิ้มให้แล้วเอามือยีหัวเหมือนรู้จักกันมาก่อน อรรถที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งหน้าตึงแล้วโอบตัวเด็กหนุ่มให้เอียงไปฝั่งตัวเองทันที

“ต๊าย หน้าตาดีจังเลยนะคะ อย่างกับเทวดาเลย โตอีกนิดหล่อแน่” หญิงสาวคนเดียวในโต๊ะอุทานขึ้น

“อย่าแซวเด็กสิครับ คุณศิ” หมอพฤกษ์ปรามแบบทีเล่นทีจริง เจ้าตัวน่าจะอยู่ในวัยยี่สิบปลาย รูปร่างหน้าตาการแต่งตัวเรียกได้ว่าสวยเฉี่ยวแฝงไว้ด้วยท่าทางที่สง่าและมั่นใจ

“สำหรับท่านนี้คงไม่ต้องแนะนำมาก คุณศศิกานต์ ทายาทกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย อ้อ ไม่สิ ตอนนี้คุณศิรับช่วงธุรกิจบางส่วนจากคุณพ่อแล้ว ต้องเรียกว่าผู้บริหารหญิงกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ถึงจะถูก”

“แหม แนะนำซะเขินเลยนะคะ ศิยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ นี่แฟนศิเองค่ะ ปกติไม่ค่อยมางานสังคมเท่าไหร่ พอดีนี่เป็นงานการกุศล เลยยอมมาด้วย”

แฟนของศศิกานต์ซึ่งเป็นหนุ่มแว่นหน้าตาดีแบบซื่อๆ ติดขี้อายหน่อยๆ ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ก้มศีรษะทักทายคนในโต๊ะอย่างสุภาพ ถ้าไม่บอกคงไม่มีใครคิดว่าคนที่ดูไม่ค่อยโดดเด่นคนนี้จะเป็นคนรักของผู้บริหารหญิงทายาทธุรกิจหมื่นล้านเป็นแน่

“โชคดีจัง โต๊ะนี้มีแต่ผู้ชายหล่อๆ ทั้งนั้นเลย แถมมากันเป็นคู่ๆ อีก ที่รักคะ ศิปลื้มมาก”

“ไม่เอาหน่าคุณศิ เดี๋ยวเขาอึดอัดกัน” แฟนหนุ่มปรามแต่หญิงสาวทำท่าไม่สนใจ

ตอนนี้แขกในโต๊ะนั่งประจำที่กันเรียบร้อยแล้วยกเว้นอีกสองที่ที่ติดกับโป๊ปยังว่างอยู่ บริกรเริ่มเสิร์ฟจานเรียกน้ำย่อยที่เล็กๆ ซึ่งเป็นฟัวกราส์ย่างกระทะราดซอสเบอร์รี่ คนในโต๊ะที่กำลังหิวก็เริ่มรับประทานอาหารพร้อมจิบไวน์อย่างเอร็ดอร่อย ไม่นานนักจานที่สองก็ตามมาเป็นสลัดปูอลาสก้าเรดคิงกับก้านเซเลอรี่ ซึ่งก็อร่อยสมกับเป็นงานใหญ่ที่เชิญเชฟอาหารตะวันตกชื่อดังหลายคนมาปรุงให้เป็นการเฉพาะ

แขกคู่สุดท้ายมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกับอาหารจานที่สอง แทนที่จะเป็นคู่สามีภรรยานามสกุลเก่าแก่ที่บอสเห็นรายชื่อตอนลงทะเบียน กลับกลายเป็นหนุ่มวัยมหาลัยสองคนมาด้วยกัน คนหนึ่งหน้าตาคมเข้ม ส่วนอีกคนก็หล่อใสไฮโซ เนื่องจากขณะนั้น คนในโต๊ะอยู่ระหว่างการรับประทานอาหาร ทำให้ไม่ได้มีการแนะนำตัวอย่างละเอียดเหมือนตอนแรก หนุ่มที่ท่าทางดูไฮโซบอกแค่ว่าคุณลุงคุณป้าติดธุระด่วน จึงให้เขามาแทนเพื่อนำเช็คเงินบริจาคมามอบให้ เขาเลยถือโอกาสพาเพื่อนมารับประทานอาหารด้วย แต่อาจจะอยู่ได้ไม่ดึกนักเพราะพรุ่งนี้ต้องไปออกค่ายกันตั้งแต่เช้ามืด

ขณะที่ทุกคนเพลิดเพลินกับการทานอาหารอยู่นั้น นักธุรกิจหญิงก็ตั้งข้อสังเกตขึ้น

“น้องซูกัสไม่เห็นค่อยทานเลยนะคะ ไวน์ก็ไม่ดื่ม”

“พอดีผมทานพวกอาหารสุขภาพอยู่น่ะครับ ของบางอย่างก็ทานไม่ได้ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมทานอะไรลองท้องมาแล้ว เมื่อกี๊ก็เพิ่งทานขนมปังธัญพืชของเขาไป อร่อยมากครับ” หนุ่มมัธยมคนเดียวในโต๊ะอธิบายพร้อมกับยิ้มจนตาหยีให้

“แล้วสลัดเซเลอรี่นี่ก็ไม่ทานเหรอคะ พี่ศิว่ามันน่าจะเป็นอาหารสุขภาพได้อยู่”

“ทานไม่ได้ครับ พอดีเป็นผักที่ค่อนข้างมีกลิ่นแรง”

“แปลกจังเลยนะคะ ผักมีกลิ่นก็ไม่ได้ สงสัยผสมผสานหลักการทานเจเข้าไปด้วย” ศศิกานต์สรุปเอาเอง

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
อาหารจานที่สามมาเสิร์ฟอย่างต่อเนื่อง หน้าตาดูสวยงามจนบอสต้องหยิบรายการอาหารขึ้นมาดูด้วยความสนใจ อาหารจานนี้คือแคนาเดียนล็อบสเตอร์สอดไส้ฮาลาพินโญ่  ดูแล้วน่าจะปรุงโดยการลวกล็อบสเตอร์จนสุกพอดีแกะเอาแต่เนื้อมาสอดไส้ด้วยฮาลาพินโญ่ซึ่งเป็นพริกหยวกสีเขียวของทางเม็กซิโก คลุกเคล้ากับซอสให้ทั่วแล้วนำไปจัดวางลงในเปลือกของล็อบสเตอร์สีแดงส้มอีกครั้งหนึ่ง ดูแล้วทั้งหรูหราและน่าอร่อยสมกับเป็นงานกาล่าดินเนอร์ใหญ่ของปี ชิ้นล็อบสเตอร์ ที่จัดเรียงมาค่อนข้างใหญ่ บอสจึงตัดครึ่งให้พอดีคำแล้วใช้ส้อมจิ้มเข้าปาก เนื้อล็อบสเตอร์ปรุงสุกกำลังดีได้ความหวานตามธรรมชาติ ไส้ที่ทำจากฮาลาพินโญ่ก็เผ็ดกำลังดีสำหรับปากคนไทย น้ำซอสรสเลิศที่คลุกเคล้ามาก็เข้ากันดีและช่วยลดทอนความเผ็ดให้กลมกล่อมขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังเพลิดเพลินกับอาหารจานหรู  หนุ่มน้อยหลานชายนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หนุ่มก็ร้องอุทานออกมา

“เผ็ดๆ” ซูกัสสูดปากแล้วแลบลิ้นเล็กๆ สีแดงอมชมพูน่ารักออกมาผึ่งข้างนอกสลับกับการจิบน้ำ ท่าทางน่าเอ็นดูชวนให้คิดถึงกระต่ายตัวน้อย

“เป็นอะไรคะ เผ็ดมากขนาดนั้นเลยหรอ พี่ว่ามันเผ็ดกำลังดีเลยนะคะ” หญิงสาวคนเดียวในโต๊ะถาม

“คืออาหารสุขภาพ สูตรที่ผมทานอยู่ จะห้ามไม่ให้ทานอาหารที่มีกลิ่นรสรุนแรงเลยครับ ผมทานแบบรสอ่อนๆ ต่อเนื่องมาหลายเดือนเลยไม่ชินกับรสเผ็ดเท่าไหร่ แล้วฮาลาพินโญ่นี่มันคืออะไรกันครับ เห็นเขียวๆ นึกว่าเป็นผักซะอีก ผมเคี้ยวทีเดียวทั้งชิ้นใหญ่เลยครับ เผ็ดจัง ตอนนี้ร้อนไปหมดแล้ว”

เด็กหนุ่มตอบด้วยปากแดงที่เจ่อนิดๆ ขณะที่เอาผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่ผุดไปทั่วบนใบหน้าขาวใส จากนั้นเด็กหนุ่มก็ขออนุญาตถอดเสื้อนอกและกระพือเสื้อเชิ้ตตัวบางที่สวมอยู่เพื่อไล่ความร้อนและเหงื่อ กลิ่นหอมหวานกระจายออกมาทันที คนในโต๊ะต่างสูดจมูกด้วยความแปลกใจ

“กลิ่นอะไรเนี่ยหอมๆ น่ากินเหมือนขนมเลย” หนุ่มไฮโซที่มาทีหลังทักขึ้น คนในโต๊ะที่ไม่รู้ที่มาของกลิ่นจึงร่วมวิพากษ์วิจารณ์ทันที

“นั่นสิ คล้ายๆ กลิ่นน้ำผึ้งผสมกับสตอเบอรี่ หรือว่าเป็นกลิ่นของหวานที่เราจะทานกันครับ”

“ไม่น่าจะใช่นะคะ ยังเหลืออาหารคาวอีกตั้งสองจาน หรือว่ากลิ่นจะมาจากห้องครัว”

“โรงแรมระดับนี้แล้ว เขาคงไม่ปล่อยให้กลิ่นจากห้องครัวลอยมาถึงห้องจัดเลี้ยงหรอกครับ”

“แต่ว่ามันหอมจริงๆ นะ ได้กลิ่นแล้วอยากทานอะไรสักอย่าง”

“ผมว่ากลิ่นมาจากทางน้องซูกัสนะ ตอนกระพือเสื้อยิ่งได้กลิ่นชัดเลย”

“จริงด้วยค่ะ หรือว่าจะเป็นกลิ่นน้ำหอมที่น้องใส่มา ใช้ตัวไหนอยู่หรือจ๊ะ ของดีมากเลยใช่ไหม ยิ่งเหงื่อออกยิ่งหอม”

เด็กหนุ่มตอบไม่ถูก เขากับเจ้าของไวน์ที่นั่งอยู่ข้างๆ อาจจะชินกับกลิ่นนี้เกินไป เลยไม่รู้สึกว่ามันจะหอมแรงขนาดนั้น ถ้ารู้อย่างนี้ เขาคงไม่ถอดเสื้อนอกออกมาผึ่งให้เหงื่อแห้งเป็นแน่ ไม่รู้จะตอบอย่างไร เลยต้องโบ้ยให้คนข้างๆ

“จำชื่อไม่ได้เหมือนกันครับ คุณอาซื้อมาฝาก”

“ผมสั่งมาจากทางออนไลน์นะครับ เป็นน้ำหอมสั่งทำพิเศษ คงไม่มีชื่อ” อรรถตอบ เขาไม่ได้โกหกทั้งหมดนะ เพราะทีแรกก็ซื้อทางออนไลน์จริงๆ นี่นา

“โห เอ็กคลูซีฟมากเลยนะคะ ท่าทางจะแพง”

“จะว่าแพงก็แพงมากนะครับ แต่ผมว่ากลิ่นนี้คุ้มจริงๆ” ชายหนุ่มอมยิ้ม

“ว่าแต่น้องซูกัสนี่ พอถอดเสื้อนอกแล้วถึงเห็นชัดๆ ผิวดีมากจริงๆ นะคะ สงสัยเพราะทานอาหารสุขภาพอย่างเคร่งครัด ศิก็อยากลองทานบ้างจัง แต่ถ้าจะให้ทานแต่จืดๆ ก็คงไม่ไหว” หญิงสาวยังให้ความสนใจต่อ

“จริงๆ ถ้าคุณศิเป็นผู้ชาย ก็อยากชวนให้ไปลองคอร์สดูแลผิวพรรณของหมออยู่เหมือนกัน รับรองผิวดี ไม่แพ้ทานอาหารสุขภาพเลยล่ะครับ แต่พอดีศูนย์สุขภาพของหมอ ให้บริการเฉพาะผู้ชายเท่านั้น” หมอพฤกษ์เสริมขึ้น

“น่าเสียดายจังเลยค่ะ ถ้าเปลี่ยนใจให้บริการผู้หญิงเมื่อไหร่ก็บอกนะคะ เอ หรือว่าจะให้สามีศิไปลองก่อนดี ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวจะหน้าเด็กกว่าศิมากเกินไป”

“จริงๆ ผมก็สนใจนะครับ อยากขาวกว่านี้หน่อย” อรรถพูดขึ้น เขามีผิวออกแทนๆ ดูดีที่เสริมบุคลิกให้มีเสน่ห์แปลกไปจากสไตล์หล่อขาวใสที่เป็นที่นิยมกัน แต่หนุ่มใต้แบบเขาก็อยากลองมีผิวขาวๆ ดูบ้าง

“หมอไม่ค่อยแนะนำให้เปลี่ยนสีผิวเท่าไหร่ครับ หมอเชื่อว่าผู้ชายสามารถดูดีได้ด้วยสีผิวตามธรรมชาติของตัวเอง ที่คลีนิคเลยเน้นความเนียนใสของสีผิวเดิมๆ ครับ ยังไงลองถามน้องซูกัสก็ได้ ว่าอยากให้คุณอาขาวกว่านี้ หรือว่าแบบนี้ดีแล้ว”

“แบบนี้ดีแล้วครับ ผมชอบแบบนี้” ซูกัสตอบซื่อๆ แต่ก็ทำให้คนผิวเข้มหน้าแดงเรื่อๆ ได้

โทรศัพท์ของโป๊ปส่งเสียงเตือนขึ้น เจ้าตัวหยิบขึ้นมาไล่เปิดข้อมูลดูแล้วขมวดคิ้ว เขาลุกขึ้นสะกิดบอสให้เดินตามออกมาด้านนอก โดยบอกทุกคนว่าจะมาเข้าห้องน้ำ

“เกิดเรื่องว่ะ มีคนเอารูปมึงขึ้นอินเตอร์เน็ท ระบบของกูตรวจสอบเจอเลยดักไว้แล้วแจ้งเตือนมา”

“รูปกูตอนไหนวะ”

“ตอนนี้เลย ที่โต๊ะอาหาร ถ่ายติดกูไปด้วย มึงดูเอาเองแล้วกัน”

โป๊ปยื่นโทรศัพท์ที่กำลังเปิดรูปที่ว่าให้ บอสรับมาดูพบว่าเป็นรูปเขากับเพื่อนขณะที่เอียงหน้ามาคุยกันตอนทานอาหารเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ มุมของรูปเหมือนถูกแอบถ่ายจากคนในโต๊ะที่นั่งอยู่ถัดออกไปซักสองสามคน

“มึงว่าใครวะ ดูจากตำแหน่งแล้ว ไม่คุณศิก็น้องหล่อๆ ลูกคุณหนูที่มากับเพื่อน”

“ตอนนี้ระบบกูกำลังเจาะเข้าไปดูข้อมูลแวดล้อมอื่นๆ อยู่ ส่วนรูปมึงในเครื่องของคนที่ทำ เดี๋ยวระบบจะเข้าไปค้นหาแล้วลบทั้งหมดโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ระหว่างนี้มึงเล่ามาดีกว่าว่ารู้จักใครในโต๊ะนั้นบ้าง เผื่อกูจะได้ดูว่าจะมีใครคิดร้ายกับมึงบ้างหรือเปล่า”

“หมอพฤกษ์ตัดออกไปได้ ส่วนพี่ธนัทมึงน่าจะจำได้ คนนั้นอยู่ระหว่างเป็นทาส ทาสไม่สามารถคิดไม่ดีกับองค์กรได้อยู่แล้วต่อให้เป็นคำสั่งของเจ้านายก็ตาม อีกอย่างกูยังไม่ได้ปลดล็อคให้เขาจำกูได้ด้วย” บอสเริ่มไล่ไปทีละคู่

“คู่คุณอรรถเจ้าชายแห่งวงการอสังหาก็ไม่น่าเกี่ยวอะไร คุณอรรถเป็นลูกค้าร้านไวน์กูเองแต่ก็ไม่เคยพบกัน ส่วนน้องซูกัสเป็นไวน์บอยที่ร้าน เคยเจอกูมาสองสามครั้งตอนกูไปทาบทามมาแล้วก็ตอนปฐมนิเทศ แต่กูไม่ได้ให้เขาจำกูได้เหมือนกัน น้องเขาเป็นเด็กดีมากด้วย หมอพฤกษ์ที่เป็นคนดูแลอยู่คงยืนยันได้”

“กูเดาแล้วว่าน้องเขาเป็นไวน์บอย กลิ่นหอมซะขนาดนั้น ว่าแต่ทำไมอาเขาถึงปล่อยให้หลานมาเป็นไวน์บอยวะ เป็นตั้งนักธุรกิจใหญ่”

“อาจริงๆ ที่ไหนล่ะมึง น่าจะเรียกว่าป๋ามากกว่า จริงๆ น้องเขาจะเลิกเป็นไวน์บอยแล้ว แต่คุณอรรถซึ่งเป็นลูกค้าคนสุดท้ายติดต่อมาที่ร้านไวน์กู บอกว่าอยากให้เพิ่มบริการรับฝากไวน์ส่วนตัว แล้วก็ส่งน้องซูกัสมาให้หมอพฤกษ์ดูแลต่อ ก็คือกินอยู่เหมือนไวน์บอยคนอื่น แต่ถือเป็นไวน์ส่วนตัวของคุณอรรถคนเดียว คุณอรรถก็จ่ายเป็นค่าบริการแทน เดือนๆ นึงหลายตังค์นะมึง กูเลยเปิดบริการนี้ขึ้นเป็นทางการ ก็มีคนสนใจจริงๆ บางคนเอาแฟนเด็กมาฝาก บอกว่าอยากให้ช่วยดูแลให้หุ่นดีสุขภาพดี ส่วนน้ำหวานๆ ก็เป็นผลพลอยได้ ฮิตขึ้นมาอีก”

“พอก่อนๆ ค่อยโม้ทีหลัง เรื่องเฉพาะหน้าสำคัญกว่า” โป๊ปตัดบทขี้เกียจฟังเพื่อนคุยฟุ้งเรื่องร้านขายไวน์ที่ประสบความสำเสร็จอย่างงาม ก็น่าสนใจนะถ้าเขาไม่ได้ฟังมันมาเป็นสิบรอบแล้ว

“เออ กูก็เพลินไป ส่วนคุณศศิกานต์นี่เป็นเคสแปลก จริงๆ แกเป็นสมาชิกองค์กรด้วยล่ะ”

“กูนึกว่ามึงรับแต่ผู้ชายซะอีก”

“ก็ใช่ แต่อันนี้เป็นกรณียกเว้น เธอเป็นสมาชิกโดยการสืบทอดจากคุณพ่อ เจ้าสัวคุณพ่อของคุณศิมึงคงจำได้ ที่ช่วยเหลือเราไว้มากตอนก่อตั้งองค์กร กูเลยให้เป็นสมาชิกกิตติมาศักดิ์ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเกย์ก็ตาม แกก็สมกับเป็นนักธุรกิจนะ ถ้ามีนักโทษที่มีความรู้ด้านธุรกิจหรือเป็นตำรวจทหารที่มีฝีมือในการต่อสู้ เจ้าสัวมักจะประมูลไปช่วยงานหรือไปเป็นบอดี้การ์ด เพราะคนที่เป็นทาสจะไม่มีทางหักหลังเจ้านายได้ เห็นบอกว่าไว้ใจได้ดีกว่าไปจ้างใครที่ไหนก็ไม่รู้ พวกนั้นเลยสบายไป ไม่ต้องถูกทำอะไรเสียวๆ ที่นี้เมื่อปีก่อน คุณศิกลับจากเมืองนอกเพื่อเตรียมรับมอบธุรกิจ เจ้าสัวอยากให้คุณศิมีลูกน้องที่ไว้ใจได้เลยมาขอให้องค์กรโอนความเป็นสมาชิกของแกไปให้คุณศิ คุณศิจะได้มีสิทธิประมูลทาสมาใช้ในการทำงานได้ จริงๆ เรื่องโอนความเป็นสมาชิกให้ทายาทนี่ทำได้นะ กูก็ทำให้ไปสองสามรายแล้ว แต่กรณีนี้กูต้องปฏิเสธไปเพราะผิดกฎตรงที่คุณศิเป็นผู้หญิง แต่เจ้าสัวขอร้องมาอีกหลายครั้งกูเกรงใจเลยยอม หรือจริงๆ กูควรลบความจำแกไปเลยวะ”

“ไม่หรอก อย่างนี้ดีแล้ว เจ้าสัวก็มีบุญคุณกับองค์กรจริงๆ คุณศิคงไม่สร้างปัญหาอะไร...มั๊ง”

“ส่วนแฟนคุณศิ กูไม่รู้จักเลย แต่ดูหน้าตาท่าทางแล้วไม่น่าจะมีอะไร” บอสบอก

“งั้นก็เหลือคู่สุดท้าย”

“หล่อทั้งคู่ เสียดายที่กูก็ไม่รู้จัก เขาไม่ได้แนะนำตัวกับคนในโต๊ะด้วย แต่ว่าคนที่ดูเป็นลูกคุณหนูไฮโซอ่ะ กูคุ้นหน้ามากๆ น่าจะเคยเจอมาก่อนแต่นึกไม่ออก แต่ไม่ใช่สมาชิกหรือนักโทษหมวดเอสแน่ๆ หมวดเอ็มก็ไม่น่าจะใช่ เดี๋ยวลองไปถามหมอพฤกษ์ดู แกเป็นแฟนพันธ์แท้หมวดเอ็ม ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือพวกหมวดซี เพราะเจอแป๊บๆ เดี๋ยวก็กระจายไปทำงานบริการสังคมแล้วพ้นโทษไป” บอสพยายามนึกกรณีที่เป็นไปได้

โป๊ปที่คุยไปด้วยดูข้อมูลในมือถือไปด้วยแทรกขึ้นมาว่า

“ไม่ต้องเดาแล้ว เจอตัวคนทำซะที ระบบกูแกะรอยไปที่ปลายทางที่เขาตั้งใจจะส่งรูปขึ้นไป มันเป็นกลุ่มลับในเฟสบุ๊ค”

“ใครวะ แล้วเขาทำไปทำไม

“มึงอ่านเฟสเองดีกว่า แล้วค่อยดูว่าเข้าใจเหมือนกูหรือเปล่า”

-----------------------------------------------------------
เม้าท์วายสไตล์คุณเจ๊
Closed Group . 1784 Members

เรียกเจ้ว่าเจ้สิ added 4 new photos to the album: คู่หนุ่มหล่อร่วมโต๊ะ
4 mins
ค่ำคืนนี้เจ๊มาดินเนอร์การกุศลกับคุณแฟน ไม่นึกไม่ฝันว่าคนร่วมโต๊ะจะเป็นหนุ่มหล่อมากันเป็นคู่ๆ ตั้งสี่คู่แบบไม่ต้องจิ้น เจ๊ว่าแต่ละคู่โอกาสเรียลเกินแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ช่วงนี้เอาโมเม้นท์ดีงามมาแชร์คู่ละหนึ่งรูปก่อนนะจ๊ะ เจ๊กำลังแอบถ่ายเพิ่มอยู่ อิอิ ละลานตาไปหมดไม่รู้จะมองตรงไหน แฟนเจ๊ตกกระป๋องไปเลยเจอหนุ่มๆ เซ็ทนี้
17 Likes     6 Comments

Marasri Chan : ว๊ายเจ๊ ทำไมเจ๊เจอแต่โมเม้นท์ดีๆ แบบนี้ตลอดเลย เมื่อเช้าตักบาตรด้วยอะไรคะ ปอลิง มาต่อนิยายด้วยนะ
    เรียกเจ๊ว่าเจ๊สิ : เจ๊บอกตามตรง ที่ผ่านมาอาจจะมีจัดฉากบ้าง แต่นี่ของจริง 100% เลยนะจ๊ะ

เจนหนี้ เรียนโทสุพรรณ : นี่คนหรือ Angel คะ ทำไมหล่อใสกันได้ขนาดนี้ หัวใจจะ Y แต่แค่คู่ละรูปมันไม่พอยาไส้เลยค่ะเจ๊ขา จัดเพิ่มมาหน่อย #เจนหนี้ขอร้อง

ย้งยี้ Piyada : น้องเด็กๆ ที่นั่งคู่พี่หล่อๆ ผิวเข้มนี่ชื่ออะไรคะ ถ้าคู่นี้ไม่ real นู๋จะไปสู่ขอมาเป็นพ่อของลูก
    เรียกเจ๊ว่าเจ๊สิ : จุ๊ๆ บอกไม่ได้จ้า เดี๋ยวกระเทือนอนาคตของชาติ นี่ลูกชายเจ๊เลยนะ แต่เรียกนามแฝงว่าน้องท็อฟฟี่ก็ได้

เลขาสมาพันธ์วายแห่งช่องนนทรี : เป็นอะไรที่เลอค่ามากอ่า มีทั้งคู่วัยทำงาน คู่วัยเรียน แถมยังมีคู่ผสมวัยทำงานกับวัยเรียนอีก แล้วหน้าตาแบบนี้ ปกติเค้านั่ง ฮ. ไปไหนมาไหนกันหรอค้า ถึงไม่เคยพบเห็นตามรถไฟฟ้า งานจัดที่ไหนคะ เค้าตามไปดูจะทันมั้ยหนอ อยากเห็นเป็นบุญตา

Premmika Sukkhosamosorn : พี่สองคนรูปสามอยู่มหาลัยเราเอง ตัวจริงล้อหล่อ ทั้งคู่เลย เค้าลือกันว่าจริงค่ะ พี่คนที่นามสกุลดังๆ เป็นเคะ

Niña Pavarotti : ขุ่นพี่คะ ทำไมรูปที่สี่ไม่ขึ้นคะ น้องรีเฟรชแล้วรีเฟรชอีกก็ไม่ขึ้น
    เรียกเจ๊ว่าเจ๊สิ : ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน สงสัยรูปเสีย ในเครื่องเจ๊ก็พลอยหายไปด้วย เสียดายมาก ขอบอกว่าคู่นี้หล่อที่สุด แถมเรียล 100% เจ๊ดูแววตาก็รู้แล้ว คนนึงหล่อแมนๆ ยิ่งกว่านายแบบ อีกคนก็ ว๊าย ทำไมเจ๊ลืมหน้าซะได้ เดี๋ยวสองคนนี้กลับจากห้องน้ำเมื่อไหร่เจ๊จะแอบถ่ายใหม่ ว่าแต่เขาไปกันนานจัง หรือว่า…อร้าย ฟิน

-----------------------------------------------------------

“สาววาย?” บอสมองหน้าโป๊ปเป็นเชิงถามเมื่ออ่านหมด เขาไม่เข้าใจบางอย่างที่เขียนกันในนั้นแต่ก็พอเดาเรื่องรวมๆ ได้

“น่าจะอย่างนั้น”

“ตกลงชื่อเฟสบุ๊ค ‘เรียกเจ๊ว่าเจ๊สิ’ นี่คือคุณศิเหรอ” บอสยังไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงแถวหน้าผู้ทรงอิทธิพลในโลกธุรกิจเมืองไทย จะเจียดเวลามาทำเรื่องอะไรแบบนี้

“น่าจะอย่างนั้น แล้วมึงจะเอายังไงต่อ”

“รูปลบไปแล้วคงไม่มีอะไรแล้วมั๊ง ท่าทางก็ไม่ได้คิดร้ายอะไรนี่ เดี๋ยวกลับไปค่อยเช็คดูอีกที ตอนนี้กลับไปกินข้าวต่อดีกว่า คุณศิเขายิ่งคิดว่าเราสองคนไปทำอะไรๆ กันในห้องน้ำอยู่ด้วย” บอสสรุป

“ป่ะ” โป๊ปพูดพร้อมเนียนเอามือเกาะไหล่บอสไว้แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะพร้อมกัน ในใจนึกเตือนตัวเองว่ากลับไปจะต้องตรวจสอบให้ละเอียดเพราะรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ

TBC

ออฟไลน์ lovely tham

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
[พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ][พิชยะ]
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :m16: :m16: :m16: :m31: :m31: :m31: :fire: :fire: :fire:

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เจอสาววายในเล้าซะแล้ว.

ออฟไลน์ cookie_

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :L2: :L2:

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
มาต่อแล้ววววว ดีดดิ้นดีใจ งื้อออออ
คู่น้องไวน์บอยน่ารัก แอบสงสารคุณเอ็กแสบแย่  :hao5:

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มาต่อแล้วหรอ ยังไม่ได้อ่านเลย มาๆๆๆๆ ช่วงนี้งานเยอะ

อ่านเรื่องนี้ทีไลหายเครียดทุกที

ออฟไลน์ PPink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ว้าย คุณศินี่แซ่บไม่เบา เห็นเงียบๆ นี่เวลาเล่นเฟสนี่จัดเต็มนะ 5555

เห้ยยย จะบอกว่าเพิ่งมีโอกาสได้อ่าน
ชอบคอนเสปที่ตาต่อตาฟันต่อฟันมาก ไม่ค่อยเจอๆ
ภาษาดี ความหื่นก็มาเต็ม

ที่สำคัญ คู่รัก 01 น่าลุ้นมากกกกกกก

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
0101 น่ารักมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: องค์กรลวงจิต Explicit Content [บทที่ 21] 16/10/15
« ตอบ #169 เมื่อ: 19-10-2015 09:51:09 »





ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :m20:  บอสกับโป๊ป รู้จักสาววายน้อยไปซะแล้ววว

ออฟไลน์ Rhythm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
แอบมโนกลิ่นน้องซูกัสเบาๆ  o18  งานนี่คุณศิฟินไปเต็มๆ  :hao7: 
สำหรับตอนที่ 20 ถ้ามองว่าเป็นการลงโทษนายเอ็กซ์พ่อเลี้ยงน้องคุน ก็ถือว่าไม่แรงนะ จะได้เข้าใจความรู้สึกของผู้ถูกกระทำซะบ้าง  o12

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ้ย น่ารักอะชอบ มาต่ออีกเร็วๆนะ นี่กลิ่นผลไม้กับน้ำผึ่งลอยมาเลย :mew2:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ยังไม่มาต่ออีกเหรอ
รออยู่ครับ

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
มาต่อเถอะน้าาาาาา  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ขออภัยจริงๆ ครับที่ไม่ได้มาต่อหลายอาทิตย์ คราวนี้มาต่อเรื่องของพิชยะซึ่งหายไปนาน ถ้าใครอยากรื้อฟื้นก็อยู่บทที่ 9, 10, 11 หน้า 2 ครับ เพราะกว่าจะเขียนตอนนี้จบ คนแต่งก็ต้องไปรื้อฟื้นมาเหมือนกัน 55

……………………………………………….

องค์กรลวงจิต Explicit Content
 
บทที่ 22 เจ้านายมือใหม่

[พิชยะ]

ผมตื่นนอนตอนเช้าตามเสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ หลังจากมึนๆ อยู่ซักพักว่าวันนี้เป็นวันอะไรทำไมถึงได้ตั้งปลุกตั้งแต่เช้า แล้วก็นึกได้ว่าเป็นวันเสาร์แต่นัดไว้ให้องค์กรเอาทาสที่ประมูลได้มาส่ง ช่วงนี้ผมทั้งทำงานที่บริษัทของครอบครัวแล้วก็เรียนโทภาคนอกเวลาไปด้วย แต่ยังดีที่เวลาเรียนเป็นเฉพาะช่วงเย็นวันธรรมดาเท่านั้น เสาร์อาทิตย์เลยยังได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง พูดถึงเรื่องทาสนี่ผมก็ยังกังวลอยู่ว่าจะใช้งานได้แค่ไหน กลัวจะเสียเงินไปเปล่าๆ อยู่เหมือนกัน ตั้งหกแสนแหนะ ผมเหลือบดูนาฬิกา เหลือไม่ถึงชั่วโมงจะถึงเวลานัด ดีที่องค์กรจะเอาทาสมาส่งให้ที่คอนโดเลยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ผมรีบเข้าไปอาบน้ำ คอนโดที่ผมอยู่นี้ค่อนข้างใหญ่และหรูหราไม่น้อย ไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของผมหรอก แต่เป็นของที่บ้านที่มีอยู่หลายที่ ห้องนี้ผมยืมมาอยู่ช่วงที่เรียนโทจะได้ไม่ต้องเดินทางไกล พอผมมาอยู่มันรกจนไม่สมราคา ทำไงได้ล่ะ ก็ผมงกค่าจ้างแม่บ้านนี่ ทำเองก็ได้นิดๆ หน่อยๆ ไม่มีเวลา

พอได้เวลานัด ผมก็ลงมารอที่ล็อบบี้ของคอนโดซึ่งเป็นจุดที่นัดไว้ ผมมองไปรอบๆ ไม่แน่ใจว่าคนขององค์กรจะรู้จักหน้าค่าตาผมหรือเปล่า ที่ล็อบบี้ ช่วงเช้าวันเสาร์อย่างนี้มีคนไม่น้อยที่เดียว กลัวเขาเอาไปส่งผิดคนอยู่เหมือนกัน

“สวัสดีครับ คุณพิชยะนะครับ ผมเอาสินค้าที่ประมูลได้มาส่ง”

ผมหันไปตามเสียงทักแล้วก็ตะลึงเล็กน้อย นี่คงเป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กร ว่าแต่ทำไมเขาถึงเอาคนที่หล่อขนาดนี้มาทำงานส่งของนะ ผมนึกในใจขณะที่กวาดตาเก็บรายละเอียดของชายหนุ่มตรงหน้าแบบไม่ให้เสียมารยาทด้วยเทคนิคเหล่หนุ่มที่ผมแสนจะชำนาญ ท่าทางน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับผม รูปร่างดีมากแต่ไม่หนาล่ำ ปากบางสีชมพูอมส้ม ที่เป็นจุดเด่นที่สุดคงเป็นดวงตาโตสวยแต่มีประกายคมกล้าแผงอยู่ มองดูดีๆ รู้สึกเป็นสายตาที่มีอำนาจทำให้ร้อนๆ หนาวๆ ได้เหมือนกัน แต่พอผมพยักหน้าเป็นการตอบรับว่า ตัวเองคือคนที่ตามหา เจ้าหน้าที่องค์กรก็ยิ้มให้อย่างสดใสจนผมตาพร่าไปหมด

“ผมขออนุญาตถามคำถามยืนยันตัวข้อนึงนะครับ”

ผมพยักหน้าให้อย่างมึนงงในออร่าความดูดีของคนตรงหน้า ถ้ามีแบบนี้มาประมูลเป็นทาส ผมจะไปขอมรดกล่วงหน้าจากพ่อมาประมูลแข่งเลยสิเอ้า แต่พอเจอคำถามยืนยันตัวผมก็ต้องตาลุกโพลงจนหายมึน

“คลิปหมวดเอ็มที่คุณดูบ่อยที่สุดคือคลิปอะไร” เจ้าหน้าที่องค์กรถามด้วยสีหน้าจริงจัง ว๊าก นึกว่าจะถามยืนยันตัวด้วยเลขบัตรประชาชนหรือวันเดือนปีเกิดอะไรทำนองนั้น จะให้ผมตอบเรื่องแบบนี้ต่อหน้าคนที่หล่อขนาดนี้เหรอ แล้วภาพลักษณ์ผมจะเหลืออะไรล่ะ

“เอ่อ ผมจำไม่ค่อยได้น่ะครับ มีคำถามอื่นให้ตอบแทนไหมครับ” คงต้องปัดๆ ไปก่อน

“ถ้าเป็นคำถามสำรองเกรงว่าท่านสมาชิกจะอายนะครับ น่าจะตอบคำถามธรรมดาๆ แบบนี้ดีกว่า ผมใบ้ให้ว่าเป็นคลิปที่คุณดูไป 246 ครั้งในช่วงเวลาหกเดือนที่เป็นสมาชิก ดูบ่อยจังเลยนะครับ เอ หรือจะลองเปลี่ยนไปเป็นคำถามสำรองดี”

“มะ ไม่ต้องครับ คำถามนี้ก็ได้ ผมนึกออกแล้ว เอ่อ คลิป ชิน เดือนบริหาร ถูกรุมล้างแค้นโดยเด็กมอต้นกางเกงน้ำเงินครับ” ผมหน้าร้อนผ่าว ทำไมถึงได้เป็นคำถามที่เจาะลึกขนาดนี้นะ ถ้านี่ถือว่าธรรมดา แล้วคำถามสำรองที่บอกว่าน่าอายมันจะขนาดไหน

“ถูกต้องครับ ตกลงว่าเป็นคุณพิชยะตัวจริง ไม่ต้องเขินอะไรผมหรอกครับ สมาชิกองค์กรนี้ก็หื่นกันประมาณนี้แหละ เพียงแต่คุณออกจะหักโหมไปนิด ก่อนจะเริ่มขั้นตอนการส่งมอบทาส ผมขอแนะนำตัวเองนิดนึงนะครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กร เรียกผมง่ายๆ ตามรหัสว่าเบอร์ศูนย์แล้วกัน ปกติผมก็ไม่ค่อยได้มาเจอกับสมาชิกหรอก ก็อย่างที่ทราบว่าองค์กรเราจะบริหารจัดการเรื่องต่างๆ ผ่านแอพเป็นหลัก ยกเว้นจะเป็นการเอาทาสมาส่งมอบอย่างนี้ แล้วหลังๆ เราจะทำผ่านระบบวิดีโอคอลล์เป็นส่วนใหญ่เพราะสะดวกกว่า แต่ครั้งนี้เป็นการประมูลทาสครั้งแรกของคุณ ผมเลยมาส่งให้กับตัวจะได้พูดคุยอะไรบ้างนิดหน่อย”

“ดีเลยครับ ผมยังงงๆ อาจจะทำอะไรไม่ค่อยถูก มานึกๆ ดูแล้วผมคงไม่ค่อยได้ใช้งานทาสทำอะไรซักเท่าไหร่ อย่างเก่งก็ให้ช่วยทำความสะอาดห้องกับซ่อมรถถ้าเขาพอทำได้ ท่าทางคงจะไม่คุ้ม ว่าแต่ประมูลแล้วคืนไม่ได้ใช่ไหมครับ”

“คืนได้ครับ” หนุ่มหล่อตอบอย่างผิดความคาดหมาย ผมกำลังจะอ้าปากขอคืนตัวทาสแต่ก็ต้องหุบปากแทบไม่ทันพอได้ยินประโยคที่ตามมา

“แต่ไม่คืนเงิน” ผมคงเผลอทำหน้าตาประหลาดออกไปจนคนตรงหน้ายิ้มขำ อ๊าก ความหล่อเพิ่มขึ้นอีกยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์

“ผมล้อเล่นนะครับ คุณพิชนี่ตลกดี คืองี้ครับ พอทาสถูกประมูลได้ ทางเราจะเอาเงินที่ได้ไปชดเชยให้กับผู้เสียหายที่ถูกทาสกระทำ ในกรณีของทศที่คุณพิชประมูลได้นี่ เราได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้วครับ เพราะฉะนั้นคิดเรื่องจะหาทางใช้ทาสให้คุ้มค่าดีกว่าครับ” หนุ่มที่มีรหัสหมายเลขศูนย์แนะนำ

“เราใช้งานทาสในเรื่องอื่นๆ ก็ได้ใช่ไหมครับ คือผมคงไม่ได้ใช้งานใน เอ่อ เรื่องเซ็กส์หรืออะไรทำนองนั้น บอกตรงๆ ว่าทาสคนที่ผมประมูลได้นี่ไม่ใช่สเป็คผมเลยครับ แต่งบผมมีแค่นี้” ผมถามออกไปตรงๆ ถึงจะอายนิดหน่อย

“เรื่องสเป็คของคนเรานี่มันเปลี่ยนกันได้ ทาสที่คุณประมูลได้ก็ไม่เลวนะครับ แถมได้มาในราคาที่คุ้มค่ามาก คุณพิชใช้งานได้ทุกเรื่องครับขอให้อยู่ในกฎสามข้อของทาส เดี๋ยวผมทวนให้ฟังอีกทีนะครับ ข้อแรก ทาสจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้านายอย่างเคร่งคัด ตราบเท่าที่ไม่ขัดต่อกฎข้อสองและข้อสาม ข้อสอง ทาสจะต้องไม่กระทำการที่ขัดต่อหลักกฎหมายในสาระสำคัญ และข้อสุดท้าย ทาสมีสิทธิที่จะปฏิเสธและสามารถปกป้องตนเองจากการกระทำหรืออันตรายที่อาจทำให้ตัวเองถึงแก่ชีวิต หรือเกิดการบาดเจ็บที่มากกว่าบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ”

ผมมองหน้าเบอร์ศูนย์ไปขณะที่เจ้าตัวทบทวนกฎของทาสให้ฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม คนหล่อๆ นี่ แค่พูดเฉยๆ ก็ยังดูดี มีแฟนหรือยังนะ ผมลองจีบดูดีไหม ถ้าได้คนในองค์กรเป็นแฟน ผมคงไม่ต้องกังวลเรื่องที่ตัวเองเป็นเกย์จะรั่วไหลออกไปจนทำให้ชื่อเสียงครอบครัวเสียหาย แต่องค์กรนี้ก็แอบน่ากลัวนิดๆ นะ พอลองคิดดูว่าองค์กรทำโน่นทำนี่ได้สารพัด ถ้าเป็นแฟนแล้วเกิดทะเลาะกันนี่ผมไม่ต้องโดนไปถ่ายคลิปขายในหมวดเอ็มหรือโดนเลหลังเป็นทาสในหมวดเอสเหรอ อยากก็อยาก กลัวก็กลัว แต่เบอร์ศูนย์นี่ยังเด็กอยู่เลย คงไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงหรอกมั๊ง ถ้าทะเลาะกันคงจะเอาอำนาจขององค์กรมาแกล้งผมไม่ได้

หนุ่มที่ผมแอบหมายปองแบบกะทันหันยังอธิบายต่อ

“ห้ามเจ้านายใช้งานทาสไปทำสิ่งที่ก่อให้เกิดภาระผูกพันกับตัวทาสในระยะที่ยาวเกินอายุสัญญา เช่น ใช้ให้ไปทำผู้หญิงท้อง ถึงฝ่ายหญิงจะเต็มใจก็ตาม อย่างนี้ไม่ได้ เพราะมันทำให้เกิดภาระความเป็นพ่อลูกซึ่งผูกพันเกินอายุสัญญา อ้อ เกือบลืมเรื่องสำคัญ นายทศ เป็นทาสระดับหนึ่ง จะมีข้อจำกัดในการใช้งานมากหน่อย คือห้ามใช้งานที่ทำให้เกิดความอับอายขายหน้าต่อสาธารณชนยกเว้นในกลุ่มคนจำกัดที่เจ้านายควบคุมได้ ห้ามมี Hard Sex หากทาสไม่เต็มใจ และห้ามใช้งานทาสในเชิงพาณิชย์ใดๆ”

ไม่รู้เพราะผมทำหน้างงๆ ออกไปหรือเปล่า เบอร์ศูนย์ถึงรีบพูดต่อ

“อาจจะดูเงื่อนไขเยอะหน่อยนะครับ คุณพิชจำไม่ได้หรือไม่แน่ใจก็ลองสั่งให้ทำดูเลยก็ได้ ถ้ามันผิดเงื่อนไข ทาสจะปฏิเสธออกมาเอง แต่ที่ต้องระวัง ถ้าทาสปฏิเสธที่จะไม่ทำเพราะผิดเงื่อนไข แล้วเจ้านายยังดึงดันจะให้ทำโดยบีบบังคับทางอ้อม เช่น ขู่ว่าถ้าไม่ทำจะสั่งให้ทำเรื่องอื่นที่แย่กว่าแต่อยู่ในอำนาจ อย่างนี้ก็ไม่ได้นะครับ องค์กรสามารถตรวจเจอแล้วเจ้านายจะโดนลงโทษ เชื่อผม คุณไม่อยากโดนองค์กรลงโทษหรอก”

“ไม่ต้องขู่หรอกครับ องค์กรมีเพาเวอร์ขนาดนี้ ผมสงสัยว่ามีสมาชิกคนไหนกล้าฝ่าฝืนด้วยเหรอ” ผมตอบตามที่นึก

เบอร์ศูนย์ยิ้มๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องไปที่การส่งมอบทาส

“เงื่อนไขทั้งหมดก็มีเท่านี้ครับ เดี๋ยวผมจะทำการส่งมอบนายทศให้เลย รอตรงนี้สักครู่นะครับ”

ผมนั่งรอที่โซฟาของล็อบบี้คอนโดในคณะที่เบอร์ศูนย์เดินออกไปด้านนอก เพียงอึดใจเดียวก็กลับมาโดยมีหนุ่มหน้าตาซื่อๆ เดินตามมาด้วย เบอร์ศูนย์ไม่รอช้ารีบแนะนำทันที

“คุณพิช นี่ทศครับ ทาสที่คุณประมูลได้ ทศ นี่คุณพิชยะ เจ้านายของเรา”

ทศยกมือไหว้ผมทั้งๆ ที่เขาอายุมากกว่า ผมรับไหว้พยายามวางท่าทางให้ดูภูมิฐานสมกับเป็นเจ้านาย  ทศตัวจริงรูปร่างหน้าตาไม่เลว ดูดีกว่าในรูปและคลิปที่เห็นก่อนหน้านี้ ผิวออกจะคล้ำไปซักหน่อย แต่ท่าทางกล้ามจะแน่นมาก หน้าตาแมนๆ คมเข้ม ตาสีสนิมเหล็ก ริมฝีปากหนานิดหน่อยแต่ก็ดูไม่น่าเกลียด ก็หล่อแบบบ้านๆ ต่างจังหวัดล่ะนะ คงพอกล้อมแกล้มเป็นพวกเดือนวิทยาลัยช่างได้ เอ.. วิทยาลัยช่างมีเดือนหรือเปล่าผมไม่รู้แฮะ เอาเป็นว่าตัวจริงหล่อกว่าที่คาด แต่ถ้าเทียบกับเบอร์ศูนย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ถือว่าห่างชั้น

“สวัสดีครับ โห เจ้านายหล่อจัง คนกรุงเทพนี่หน้าตาดีกันจริงๆ” ทศฉีกยิ้มแบบจริงใจเห็นฟันขาวตัดกับสีผิว ไม่น่าเชื่อว่านี่จะเป็นคำทักทายคำแรกจากทาสของผม มันควรต้องหงอกว่านี้สิ ผมคือเจ้านายเชียวนะ แต่ก็เอาเถอะนะ ก็ทศเล่นพูดความจริงที่ผมเถียงไม่ออกนี่ แต่เอาผมกับคุณเบอร์ศูนย์เป็นตัวแทนคนกรุงเทพนี่อาจจะไม่แฟร์กับคนต่างจังหวัดเท่าไหร่นะ

“หวัดดีทศ ผม เอ้ย ชั้นเป็นคนไม่เรื่องมากแต่ก็เข้มงวดอยู่บ้าง ถ้าคุณ เอ่อ ถ้านายทำตัวดี ชั้นก็ไม่ได้โหดอะไรหรอกนะ” ผมปั้นหน้าขรึมแต่ดันพูดตะกุกตะกัก ก็ผมไม่ชินนี่ครับ เบอร์ศูนย์หลุดหัวเราะมานิดนึงจนผมต้องปรายตาไปมอง เชอะ หล่อแต่มาทำอย่างงี้ใส่ผมก็หักคะแนนความปลื้มได้นะ

เอาจริงๆ นะครับ ผมวางท่าเป็นเจ้านายไม่ค่อยเป็นหรอก เห็นที่บ้านผมมีฐานะอย่างนี้ แต่พ่อแม่เลี้ยงมาแบบให้เกียรติบริวาร แม่บ้านและคนทำงานที่บ้านผมก็มีแต่รุ่นใหญ่ ผมเรียกป้าเรียกพี่มาตั้งแต่เด็ก ก็อยู่กันเป็นแบบครอบครัว ไอที่เรียกจิกหัวใช้แบบในละครผมก็ไม่รู้เขาไปเอามาจากที่ไหน งานที่บริษัท พ่อก็ให้ผมเริ่มจากระดับพนักงานธรรมดา ลูกโน้งลูกน้องก็ไม่มี พ่อบอกเพิ่งจบมาจะเอาอะไรไปบริหารเขา ต้องค่อยๆ เรียนรู้ไปก่อน

“ผมยินดีทำงานรับใช้เจ้านายอย่างเต็มที่ครับ เจ้านายถือว่ามีบุญคุณที่ประมูลผมมา องค์กรแจ้งผมมาแล้วว่าไม่มีใครประมูลผมเลยมีแต่เจ้านายคนเดียว ไม่งั้นผมอาจถูกลดระดับลงเป็นทาสระดับสองระดับสามจะนิ่งลำบากกว่านี้ เจ้านายใช้งานผมได้ทุกอย่างเลยครับ ถึงไม่อยู่ในเงื่อนไข ถ้าผมทำได้ผมก็จะทำให้ แต่ผมก็แค่คนบ้านนอกนะครับไม่ได้เรียนสูง ถ้าผมทำไม่เป็นผมก็พยายามไปเรียนรู้ศึกษามา”

ทศพูดพร้อมกับสบตาผมไปด้วย ประกายตาเขาดูซื่อแต่มุ่งมั่นทำให้ผมค่อนข้างแน่ใจว่าเขาหมายความอย่างที่พูดจริงๆ ผมเริ่มรู้สึกว่าการได้ทศมาเป็นทาสอาจจะไม่ใช่เรื่องผิดพลาดอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะสบอารมณ์กับทุกอย่างที่เขาพูดหรอกนะ

“ก็ดูกันไปแล้วกัน แต่เรียกชั้นว่าเจ้านายนี่มันฟังดูแก่ๆ ยังไงก็ไม่รู้ เบอร์ศูนย์ครับ ปกติทาสเค้าเรียกว่าเจ้านายตรงๆ อย่างนี้เลยเหรอ” ผมหันไปปรึกษาคนขององค์กรที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ

“ก็ประมาณนั้นแหละครับ บางคนให้เรียกนายท่านด้วยซ้ำ สมาชิกองค์กรก็จะไม่ค่อยมีอายุน้อยๆ ซักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เจ้านายก็จะอายุมากกว่าทาสอยู่แล้ว ไม่เห็นจะมีใครห่วงแก่ ก็มีคุณพิชนี่ล่ะที่อายุน้อยหน่อย ผมว่าให้นายทศเรียกคุณพิชว่านายน้อยสิครับ ฟังดูก็รู้ว่าเป็นเจ้านายแต่ดูเด็กกว่าจมเลย” เบอร์ศูนย์แนะนำยิ้มๆ เรียกนายน้อยนี่มันไม่ดูแบ๊วไปเหรอ ฟังไปฟังมาก็เหมือนหนังจีน

“นายน้อย นายน้อย ผมชอบครับ เหมาะมาก ผมทาสทศขอฝากตัวกับนายน้อยด้วยครับ”

เอิ่ม ดันมีคนเห็นด้วยแฮะ ผมยังไม่ได้ตกลงเลยนะ แต่ก็เอาเถอะใช้ไปก่อนอย่างน้อยก็ดูไม่แก่ ไว้นึกอะไรที่ดีกว่านี้ได้ค่อยเปลี่ยนแล้วกัน

“ถ้าตกลงว่าจะเรียกกันยังไงได้แล้ว มาส่งมอบทาสกันเลยครับ จะได้ไม่เสียเวลา” เบอร์ศูนย์บอกแล้วก็ดีดนิ้วที่ข้างหูทศซึ่งชะงักนิ่งไป

“ทศครับ คุณพิชยะหรือนายน้อยคือเจ้านายของคุณครับ ส่วนคุณเป็นทาสที่ต้องทำตามคำสั่งทุกอย่างของเจ้านายตามเงื่อนไขที่กำหนด”

เบอร์ศูนย์เอนตัวไปกระซิบที่ข้างหูทศอีกสองสามนาทีแต่ผมได้ยินไม่ชัด เสร็จแล้วก็ดีดนิ้วอีกครั้ง ทศสะดุ้งเล็กน้อยเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว

 “การโปรแกรมเพื่อส่งมอบเรียบร้อยครับ ช่วยดูแลทศทาสของคุณไปอีกสองปีด้วยครับ”

เบอร์ศูนย์กล่าว แล้วก็บอกเรื่องสำคัญที่องค์กรขอความร่วมมือให้เจ้าของทาสช่วยปฏิบัติถึงจะไม่ได้ระบุไว้ในกฎก็ตาม ผมฟังแล้วก็หนักใจนิดๆ คงต้องดูกันต่อไปว่าพอจะทำได้มากน้อยแค่ไหน

พอแจ้งเรื่องดังกล่าวจบ ชายหนุ่มที่หล่อยิ่งกว่าดารานายแบบก็ขอตัวกลับทันที 

“ถ้ามีปัญหาอะไร ผมจะติดต่อคุณได้ยังไงครับ” ผมเสี่ยงถามออกไป โอกาสสุดท้ายแล้ว ถึงไม่ได้เป็นแฟน แต่ได้เป็นเพื่อนไว้ปรึกษาเรื่องอะไรที่บอกคนอื่นไม่ได้ก็ยังดี ไหนๆ เขาเป็นคนขององค์กรที่รู้ความลับของผมอยู่แล้ว

“ไม่ต้องหรอกครับ ถ้าเกิดปัญหาที่ใหญ่ๆ ขึ้นมาจริงๆ องค์กรจะทราบเอง ส่วนคำถามเล็กๆ น้อยๆ คุณพิชสามารถถามได้ผ่านทางแอพ “The Firm” ขององค์กร ถ้าไม่มีอะไรปกติเราจะเจอกันอีกทีก็ตอนส่งมอบทาสคืนเลยครับ ตอนนั้นผมจะมาให้เลือกว่าจะยังให้ทาสจำเรื่องราวของคุณระหว่างเป็นทาสได้หรือเปล่า บางคนเขาก็ยังอยากรักษาความเป็นส่วนตัวไว้น่ะครับ ถ้ายังไงผมลาตรงนี้เลยแล้วกัน ฝากความระลึกถึงคุณอาของคุณพิชด้วยนะครับ ถึงท่านจะจำผมไม่ได้ก็เถอะ สวัสดีครับ”

ผมมองเจ้าหน้าที่ขององค์กรที่ตัดบทแล้วเดินจากไปด้วยความเสียดาย หล่อใสจริงๆ นานๆ ทีจะเจอคนที่ถูกใจแบบนี้ แต่ดูท่าแล้วคงอดสานต่อความสัมพันธ์แน่ๆ ผมหันกลับมาดูสิ่งที่มี ทศยังยืนรออยู่ที่เดิม อืม พอไม่มีคนเปรียบเทียบแล้วหมอนี่ก็ดูดีใช้ได้ รูปร่างหน้าตาให้อารมณ์ประมาณพวกนักมวย ที่จริงมันคงไม่แฟร์นักถ้าจะเอาไปเปรียบเทียบกับเบอร์ศูนย์ขององค์กรที่หน้าตาขนาดนั้น เอ หน้าตาขนาดไหนหว่า ทำไมนึกไม่ออก รู้สึกว่าจะเป็นหนุ่มหน้าตาดี ดูมีอำนาจแต่แอบกวนๆ ถ้าเจอหน้าอีกทีผมจะนึกออกไหมนะ มันตะหงิดใจแปลกๆ แต่ก็ช่างมันเถอะ ผมเบนความสนใจไปยังทศที่ยืนรออยู่

“ทศ ไปคุยกันต่อที่ห้องชั้นแล้วกัน เรามีข้าวของมาด้วยใช่ไหม ขนไปพร้อมกันเลย”

จริงๆ ทศอายุมากกว่าผมสี่ปี ปกติผมคงเรียกพี่ไปแล้ว แต่นี่มาเป็นทาสผม จะเรียกพี่ก็คงแปลกๆ ไอแทนตัวเองว่าชั้นเหมือนกัน ไม่คุ้นปากเลยแฮะ ถ้ากับครอบครัวผมแทนตัวเองว่าพิชตลอด กับเพื่อนหรือคนรู้จักก็แทนว่าผมหรือไม่ก็กูมึงไปเลยถ้าสนิท

ทศชี้ไปที่กระเป๋าใบไม่ใหญ่มากที่วางแอบๆ อยู่ข้างโซฟา

“ของผมมีแค่นี้ครับนายน้อย เสื้อผ้าผมเอามาแค่ไม่กี่ชุด ผมมีแต่ชุดช่างกับชุดทำไร่ทำสวน เกรงว่าจะไม่เหมาะถ้าเอามาใส่ที่กรุงเทพ”

แล้วเสื้อตัดอ้อยลายสก๊อตที่ใส่มานี่เหมาะกับกรุงเทพตรงไหนฟ่ะ แต่จะว่าไปพอหรี่ตามองก็คล้ายๆ หนุ่มคาวบอยอยู่เหมือนกันนะ ผมก็เดินนำทาสคนแรกในชีวิตขึ้นลิฟท์กลับไปที่ห้อง พอเข้ามาในห้อง ทศก็มีท่าทางตื่นเต้นกับห้องชุดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แถมตกแต่งไว้หรูใช้ได้ ผมก็แนะนำคร่าวๆ ว่าอะไรอยู่ตรงไหน แล้วก็มานั่งคุยถึงงานที่จะให้เขาทำ

“นายทำอะไรเป็นบ้าง ชั้นว่าจะให้นายช่วยทำความสะอาดห้องนี้ ซักรีดผ้า ทำอาหารถ้าทำได้ แล้วก็ดูแลน้องเต้าหู้ หมายถึงรถของชั้นน่ะ” ผมรีบบอกเมื่อเห็นทศทำท่างงๆ ตอนผมพูดถึงรถแสนรัก

“ผมว่าผมน่าจะทำได้ครับ แต่อาจไม่ค่อยคุ้นกับที่หรูๆ แบบนี้ ปกติผมก็เช่าหออยู่ในตัวเมืองใกล้ๆ อู่รถที่ผมทำอยู่ นายน้อยรู้อยู่แล้วใช่ไหมครับว่าผมเป็นช่างซ่อมรถ ตอนอยู่หอผมก็ต้องทำงานบ้านเองอยู่แล้ว วันหยุดถึงจะกลับไปบ้านพ่อแม่ที่อำเภอใกล้ๆ ไปช่วยเขาดูไร่ดูสวนอีกแรง”

“ก็ดี เดี๋ยวเก็บของเสร็จแล้วชั้นจะพาไปดูน้องเต้าหู้ ว่านายพอจะซ่อมมันได้ไหม เดี๋ยวนี้เริ่มจุกจิก ถ้าเป็นคนก็คงแก่มากแล้ว แต่ชั้นรักมันมาก นั่งมาตั้งแต่เด็กๆ”

“ถ้าเป็นไม่ใช่รถแบบทันสมัยจ๋าผมน่าจะซ่อมได้บ้างครับ หรือถึงไม่ได้ผมก็จะไปศึกษาเพิ่มเติม ส่วนอาหารผมก็ทำได้นะครับ แต่ไม่รู้จะถูกปากนายน้อยหรือเปล่า”

“ไว้ค่อยดูไปแล้วกัน อ้อ อีกอย่างชั้นคงต้องให้นายขับรถให้บ้างบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่ชั้นจะใช้รถไฟฟ้าซะมากกว่า คงเท่านี้แหละ หน้าที่ของนาย”

“อ้าว แล้วเรื่องนั้นล่ะครับนายน้อย” ทศถามเสียงดัง ท่าทางตกใจมาก

“เรื่องอะไร”

“ก็ ก็เรื่องเป็นทาสบำเรอหรืออะไรทำนองนั้น องค์กรบอกผมว่า ส่วนใหญ่ทาสที่โดนประมูลไป มักต้องไปทำหน้าที่อย่างว่าให้เจ้านาย”

“เอ่อ เรื่องนั้นชั้นยังไม่คิด ระหว่างนี้นายไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก” ผมยังคิดไม่ตกครับ ถ้าไม่ใช้เรื่องอย่างว่าก็ดูจะไม่คุ้มเท่าไหร่ แต่จะให้ทำอะไรกับนายทศ มันก็ยังไม่ใช่สเป็ก ถึงตัวจริงจะดูไปวัดไปวาได้กว่าที่คิด แต่ล่ำเถื่อนขนาดนั้นนี่มันไม่น่ากินเอาซะเลย

“ผมตั้งใจสนองให้นายน้อยทุกอย่างเลยนะครับ แล้วแต่นายน้อยจะสั่ง”

“วะ ไว้ค่อยว่ากันแล้วกันเรื่องนั้น ไหนลองเล่าซิว่าไปทำผิดอะไรมาถึงต้องมาเป็นนักโทษขององค์กร” ผมเปลี่ยนเรื่องทันที ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าแค่ทศบอกจะทำทุกอย่างตามที่สั่ง ทำไมผมต้องอายขนาดนี้ นี่ทาสผมเองแท้ๆ สเป็กก็ไม่ใช่

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
“ผมไม่ได้ตั้งใจครับ คือผมมีเพื่อนคนนึง มันหน้าตาหล่อคารมดี สาวติดกันตรึมเลย มันติดเงินผมอยู่หมื่นนึง ทวงแล้วทวงอีกมันก็ผัดผ่อนมาเรื่อยๆ จนอยู่ๆ มันก็บอกผมว่ามันจะพาเด็กมันหรือไม่ก็สาวไซด์ไลน์ให้มานอนกับผมแทนเป็นการใช้หนี้ ให้ห้าคนเลยแต่มันจะทยอยพามาทีละคนแล้วแต่วันที่ผมสะดวก ผมงี้ทีแรกก็ว่าจะไม่เอาแต่ก็อดอยากมานาน ทำแต่งานไม่ได้มีเวลาไปจีบสาวเลย อีกอย่างถ้าไม่รับเงื่อนไขนี้ ท่าทางเงินต้นก็คงไม่ได้คืนแน่ ผมเลยตกลง”

“หนี้หมื่นนึงนี่ตกครั้งละสองพันเลยนะ มันไม่แพงไปหน่อยเหรอ” ผมไม่รู้ราคาเรื่องพวกนี้หรอก แต่คิดเอาเอาว่าเป็นช่างซ่อมรถอย่างทศนี่ จะเที่ยวผู้หญิงทีเสียเงินเป็นพัน มันน่าจะเกินฐานะไปหรือเปล่า

“ก็แพงครับ แต่เพื่อนมันรับประกันว่ามีแต่สวยๆ  ทำไงได้ล่ะครับ ถึงไม่เอาท่าทางเงินก็ไม่ได้คืนอยู่ดี ก็เลยต้องยอม แต่ผมก็กะว่าจะเอาให้คุ้มที่สุด” ทศบอก ว่าแต่เอาให้คุ้มนี่มันต้องเอาขนาดไหนฟะ ยังไม่ทันได้ถาม ทศก็เล่าต่อ

“หลังจากที่ตกลงกันได้ เพื่อนก็พาผู้หญิงมาหาผมที่ละคน คนแรกก็ไม่มีอะไรครับ หน้าตาโอเค ทีแรกเห็นมาทะเลาะกันหน้าห้องผม เหมือนผู้หญิงจะด่าเพื่อนผมว่าไอ้แมงดา เกาะเค้ากินแล้วยังจะให้มานอนกับคนอื่นอีก แต่พอผมเปิดประตูออกไปจะไปเคลียร์ ผู้หญิงหันมามองหน้าผมแล้วก็บอกว่า ถ้าเป็นคนนี้ก็โอเค ก็นัวกันทั้งคืนล่ะครับ คนนี้ผมเฉยๆ เชี่ยวเกินไปหน่อยแต่ก็แก้ขัดได้ คนที่สองก็ไม่ต่างกันคนแรก เห็นหน้าผมปุ๊บก็จัดกันเลย พอคนที่สามนี่ผมต้องไปเอาที่ห้องเพื่อน มันให้ผมรอในห้องน้ำก่อน มันถึงไปพาผู้หญิงเข้ามาพอมันเล้าโลมได้ที่มันถึงให้ส่งสัญญาณให้ผมมาเปลี่ยนตัว ทีแรกผู้หญิงก็ตกใจนะครับ แต่ลีลาผมก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ลงลิ้นซักพักก็ระทวยเป็นตุ๊กตาให้ผมจับพลิกคว่ำพลิกหงายได้ทุกท่า มีคนที่สี่นี่แหละที่พอเปลี่ยนตัวปั๊บ ดิ้นไม่ยอมท่าเดียว จนผมต้องใช้กำลังเล็กน้อย”

“เฮ้ย นั่นมันเข้าข่ายข่มขืนแล้วนะ ตกลงนี่ผู้หญิงเขาไม่เต็มใจใช่ไหม” ผมว่าผมไม่ชอบการกระทำของทศกับเพื่อนเอาซะเลย ถ้าพวกผู้ชายแท้ๆ จะเห็นผู้หญิงเป็นเหมือนสิ่งของที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายแบบนี้ ผมว่าเป็นเกย์แอบๆ แบบผมยังจะดีซะกว่า

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่อนผมไปคุยยังไงไว้ถึงพาผู้หญิงพวกนั้นมาให้ผมเอาได้ ตอนนั้นผมคิดแต่ว่าไม่ใช่ความรับผิดชอบผม มันก็เหมือนผมจ่ายตังให้เพื่อนผมหาผู้หญิงมาให้ เพื่อนผมมันคงไม่เลวขนาดไปหลอกเอาคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่มามั๊ง อีกอย่างนึง พอเอากันเสร็จ ก็ไม่มีคนไหนจะโวยวายอะไรแม้แต่คนที่สี่ที่ตอนแรกไม่ยอม พอจบมีแต่จะขอเบอร์โทรผมกันทั้งนั้น แต่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่สานต่ออะไรกับใคร ไม่อยากให้เหมือนแต่ก่อนที่มีผู้หญิงที่ผมควงๆ อยู่สองคนมาตบแย่งผมกันที่อู่ เสียลูกค้าหมด”

ผมฟังอย่างทึ่งๆ ว่าหนุ่มบ้านนอกตรงหน้านี้มีเสน่ห์ขนาดนั้นเชียวเหรอ สงสัยรสนิยมของผู้หญิงแถวโน้นอาจไม่เหมือนกับในกรุงเทพ แต่ผมก็ไม่ได้คิดดูถูกอะไรหรอกนะ

“ถ้าสุดท้ายทุกคนสมยอมหมด ก็ไม่น่าจะโดนโทษหนักขนาดต้องมาเป็นทาสอย่างนี้สิ”

ผมก็ไม่รู้เกณฑ์ในการลงโทษอะไรขององค์กรหรอก แต่พอเปรียบเทียบกับพวกที่มาชดใช้ความผิดในหมวดเอ็มที่ผมมีสะสมคลิปไว้เยอะแยะ บางคลิปก็มีเล่าความผิดที่ทำให้ต้องถูกลงโทษด้วย ผมก็เห็นความผิดพอๆ กับที่ทศเท่าให้ฟัง เผลอๆ ของทศยังเบากว่าด้วยเพราะสุดท้ายทุกคนก็สมยอม

“ตอนนี้ผมรู้ตัวแล้วครับว่าที่ทำไปมันก็เหมือนส่งเสริมให้เพื่อนผมไปหลอกหรือไปบังคับผู้หญิงมา ผมที่เป็นคนสนองก็ผิดไม่ต่างกัน ยังดีที่สุดท้ายก็รู้สึกดีกับเซ็กซ์ของผมทุกคน แต่เรื่องมันมาหนักตรงคนสุดท้ายคนที่ห้านี่ล่ะครับ ตอนนั้นเพื่อนผมมันก็พาผู้หญิงมาเคาะห้องผมตอนกลางคืน ท่าทางเมามาทั้งคู่ ผู้หญิงแทบไม่มีสติแล้ว เห็นว่าไปดื่มกันมาก่อนที่จะมาหาผม เพื่อนมันบอกว่าคนสุดท้ายแล้ว มันเลยอ๊อฟไซด์ไลน์เกรดเอมาให้เป็นพิเศษ แต่ขอมันเอาก่อน ผมก็ไม่ยอมเพราะถือว่ามันเอามาแลกกับหนี้ผมต้องได้เอาก่อน สุดท้ายมันก็ตกลงนอนรออยู่ด้านนอก ให้ผมเข้าไปเอาในห้องให้เสร็จแล้วค่อยมาตามมันไปเอาต่อ”

“แล้วยังไงต่อ” ผมเร่ง ถ้าให้พูดตรงๆ ก็ต้องบอกว่าผมมีอารมณ์นิดหน่อย ก็ฟังทศเล่าถึงลีลาเซ็กซ์ของตัวเองซะขนาดนี้ ถึงเป็นเรื่องชายหญิงก็เถอะ แต่ท่าทางทศจะลีลาดีไม่น้อย ผมอาจให้ทศสอนเทคนิคเบสิคๆ ให้บ้าง น่าจะเอามาใช้กับกรณีชายชายได้เหมือนกัน

“จริงๆ ผมก็ตะหงิดใจนิดๆ เพราะผู้หญิงขาวสวยมาก อายุก็ยังงน้อยไม่น่ามาทำอาชีพอย่างนี้ แถมดูมึนๆ ไม่ค่อยรู้ตัวจนผิดปกติ แต่ผมก็พยายามบอกตัวเองว่าไม่มีอะไรคิดมากไปเอง ตอนนั้นความเงี่ยนมันบังตาจริงๆ ครับ ผมจับแก้ผ้าเองเลยเพราะน้องเขาไม่ค่อยรู้สึกตัว พอลงลิ้นตรงนั้นจนแฉะแล้วผมก็ใส่ไม่ยั้ง นายน้อยครับ มันฟิตที่สุดเท่าที่ผมเคยเอามาเลย นมก็ยังนุ่มแน่นไม่เหลวเป๋ว ในตอนนั้นก็คิดแต่ว่านี่มันสมกับเป็นของเกรดเอเลยนี่หว่า รอบแรกอั้นไม่อยู่แป็บเดียวเสร็จ ฟิตมากจนตอนถอนยวงออกมาเปลี่ยนถุงยางนี่เสียงดังป๊อกเลยครับ ผมไม่รอช้าจัดต่ออีกสองรอบแบบช้าๆ เน้นๆ แต่หนักหน่วง น้ำแตกไปสามรอบค่อยหายเงี่ยนหน่อย ผมออกไปตามเพื่อนมาเอาต่อตามสัญญาแต่มันหลับไม่ตื่น ผมเลยเข้าไปต่ออีกไม่รู้กี่รอบจนเกือบเช้า รอบหลังๆ เหมือนน้องเขาจะรู้สึกตัวแล้วดิ้นหนีแล้ว แต่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอย่างนั้นจะให้หยุดก็ไม่ได้ ทำได้แค่กระแทกให้ลึกๆ จนน้องเขาร้องหมดแรงดิ้นไปเอง”

ทศเล่าไปในขณะที่ตรงเป้ากางเกงลายทหารที่เขาสวมอยู่ก็ค่อยๆ นูนขึ้น ท่าทางจะเกิดอารมณ์ขึ้นมาซะแล้ว

“สรุปผู้หญิงเขาไม่ได้เป็นเด็กไซด์ไลน์ใช่ไหม”

ผมพอจะเดาเรื่องได้แล้ว ถ้าเป็นเด็กขายจริงๆ ทศคงไม่ได้กลายมาเป็นทาสอย่างนี้ อย่างมากก็คงจ่ายเงินชดเชยค่าใช้บริการหนักเกินกว่าเหตุ

“ก็ตามนั้นล่ะครับ ไอเพื่อนเลวของผมไม่รู้ไปหลอกมาจากไหน พอเช้าขึ้นมาก็เป็นเรื่อง น้องเขาโวยวายทั้งๆ ที่ยังระบมอยู่ ว่าถูกมอมมาให้ผมข่มขืน เขาจะแจ้งข้อหาเพื่อนผมฐานล่อลวง ส่วนผมนี่จะโดนเล่นข้อหาข่มขืนเลย ขนาดผมอธิบายไปแล้วว่าผมถูกหลอกเหมือนกัน ไอคนที่หลอกน้องมากระทำชำเราจริงๆ คือเพื่อนผมต่างหาก แต่น้องกลับแค้นผมมากกว่าซะอีก หาว่าผมไปฉีดมาแล้วยังเอาทนเอานานจนของเขากลวงโบ๋ไปหมดปิดไม่สนิทเหมือนเดิมแล้ว ผมเสนอจะจ่ายค่าทำขวัญให้ก็ไม่ยอม บอกว่าจะแจ้งตำรวจเท่านั้น ผ่านไปสองวันไม่รู้ยังไง แทนที่จะเป็นตำรวจกลับเป็นคนขององค์กรมาเอาตัวผมไปลงโทษแทน มูลค่าความผิดก็อย่างที่เห็นล่ะครับ เกือบเป็นล้าน ทั้งค่าทำขวัญ ค่าศัลยกรรมซ่อมแซมช่วงล่างของน้องเขา ไหนจะต้องเสียเงินปิดข่าวอีก”

เฮ้อ ทศมันก็ผิดจริงๆ ล่ะนะ แต่พอมาฟังความจากปากแล้ว ก็พอจะเข้าใจ ส่วนหนึ่งก็มาจากความซื่อคิดน้อยของเขา อีกส่วนก็มาจากความเงี่ยนแท้ๆ

“แล้วเพื่อนนายไม่โดนอะไรเลยเหรอ” จะว่าไปคนที่เป็นต้นเรื่องน่าจะเป็นเพื่อนของนายทศซะมากกว่า

“จะเหลือเหรอครับ น่าจะถูกองค์กรมาเอาตัวไปไล่ๆ กับผม วันก่อนที่มันโทรมาถามสารทุกข์สุขดิบแล้วขอโทษผมใหญ่ ยังไม่ชัวร์ว่ามันจะต้องโดนขายเป็นทาสด้วยหรือเปล่า มันเล่าว่าตอนนี้ถ่ายคลิปขายไปสองรอบแล้วยังได้เงินไม่พอ นายน้อยช่วยอุดหนุนมันบ้างได้ไหม ยังไงก็เพื่อนกัน แล้วขอผมดูด้วยนะครับ”

“อ้าว แล้วจะอยากดูทำไม เพื่อนกันไม่ใช่เหรอ” ตรรกะของทศก็แปลกๆ นะครับ ให้ผมช่วยซื้อคลิปเพื่อช่วยเพื่อนมันให้ได้เงินถึงเป้าชดเชยความผิดเร็ว แต่ตัวทศเองจะขอดูด้วยทำไม

“คือจริงๆ ผมอยากดูว่ามันโดนทำอะไรบ้าง ทุเรศแค่ไหน อยากสมน้ำหน้ามันครับ ผมอยู่ดีๆ มันก็เอาความซวยมาให้ซะงั้น นะๆ นายน้อย ช่วยซื้อคลิปมันให้ผมดูหน่อย มันหน้าตาดี นายน้อยคงไม่ถึงกับเสียเงินเปล่าหรอกครับ”

ตกลงยังแค้นอยู่ว่างั้นเถอะ ผมเลยตอบปัดๆ ไปว่าไว้ว่ากันอีกที แล้วจึงวกกลับไปเรื่องที่ทศยังเล่าค้างอยู่

“ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นเขายังไม่เคยเลยเหรอ โดนของนายเข้าไปถึงกับหุบไม่ลง กล้ามากับผู้ชายสองต่อสอง ไม่น่าจะซิงเท่าไหร่นะ”

“พอดีของผมมันอวบหน่อยครับ เด็กบางคนยังว่าผมไปฉีดมาเหมือนกัน น้องเขาไม่น่าจะซิงหรอกแต่ก็ฟิต เพิ่งอยู่มหาลัยปีสองคงผ่านมาไม่เท่าไหร่ เจอของจริงไปเลยปลิ้น”

“อะไรจะขนาดนั้น สงสัยต้องพิสูจน์” ผมพูดขำๆ

ทศยืนขึ้นถอดกางเกงนอกกางเกงในพรวดเดียวก็เปลือยท่อนล่างล่อนจ้อนอล่างฉ่าง ไม่แค่นั้น เขาเอาลำกล้องที่แข็งตัวเต็มที่ส่ายไปมาอยู่ในระดับสายตาผมที่ยังนั่งอยู่ ท่อนลำของนายทศนี่ดูเถื่อนกว่าหน้าตาเป็นไหนๆ นอกจากจะมีขนาดอวบใหญ่สมกับที่ทำให้น้องผู้หญิงคนนั้นถึงกับหุบไม่ลง เส้นเลือดปูดโปนมีอยู่ทั่วยิ่งทำให้ดูน่าเกรงขาม น้ำที่เยิ้มอยู่ตรงส่วนปลายทำให้ดูลามกอย่างน่าประหลาด จากที่เคยเห็นใจทศอยู่บ้าง ตอนนี้ผมกลับไปเห็นใจน้องผู้หญิงคนนั้นเหมือนเดิมแล้ว มิน่า น้องเขาถึงหาว่าทศไปฉีดมา แต่ถ้าฉีดมาจริง ทรงมันไม่น่าจะสวยได้รูปแบบนี้

“ตามคำสั่งครับ ขอเชิญนายน้อยพิสูจน์ดูให้เต็มที่” ทศนำเสนอเหมือนเป็นเรื่องปกติ

“เฮ้ย ชะ ชั้นไม่ได้ตั้งใจสั่ง พูดเล่นเฉยๆ” ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ครับ หลุดปากไปเหมือนพูดเล่นกับเพื่อน ประมาณว่าแน่จริงก็เอามาโชว์สิอะไรทำนองนั้น ลืมไปเลยว่าทาสต้องทำตามคำสั่งเราทุกอย่าง แต่ที่พูดไปเมื่อกี๊ไม่ได้คิดจะพิสูจน์กันขนาดนี้ซะหน่อย น่าจะมีวิจารณญาณกันบ้าง ต่อไปคงต้องคิดดีๆ ก่อนจะพูดอะไรออกไป

จะว่าไปผมก็ยังไม่เคยเห็นของคนอื่นในระยะประชิดอย่างนี้เลยนะ ตั้งแต่รู้ตัวว่าเป็นเกย์ ผมก็พยายามไม่พาตัวเองเขาไปอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมจะทำให้ความแตกขึ้นมา อย่างที่เคยเล่านั่นแหละ ผมแคร์สายตาคนอื่นมาก ไม่อยากทำให้ครอบครัววงศ์ตระกูลเสียชื่อเสียง พวกการอาบน้ำรวมกับเพื่อนตอนเล่นกีฬาอะไรเทือกๆ นั้นผมจะเลี่ยงตลอด แม้แต่ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นผมยังไม่ยอมไปแช่ออนเซ็นกับเพื่อนเลย กลัวพวกมันรู้ ตอนหลังยิ่งเจ็บใจเพราะเห็นคนมาเล่าว่ามีนักกีฬาเบสบอลที่พักโรงแรมเดียวกันลงไปแช่ยกทีม หนุ่มๆ นักกีฬาญี่ปุ่นนี่อย่าให้พูดเลย เจอที่ล๊อบบี้นี่ขาวใสหล่อทั้งทีม ถ้าผมไปคนเดียวละก็จะไปแช่ออนเซ็นเก็บรายละเอียดที่ละคนให้ตัวเปื่อยเลย เสียดายไม่หาย

นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมที่ดูเหมือนจะเป็นคนลามกสะสมหนังสะสมคลิปไว้ตั้งเยอะ ถึงได้มีประสบการณ์เป็นศูนย์ พอเห็นของจริงแบบแข็งตัวเต็มที่อยู่ตรงหน้าก็อดที่จะมองไม่ได้ แถมไม่มองเปล่า ยังไปวิจารณ์ของเขาอีก

“เส้นเลือดปูดเยอะจัง อย่างนี้เวลาจับรูดมันไม่ฝืดมือแย่เหรอ”

ผมพูดกับตัวเองเบาๆ นึกเทียบกับของผมเองที่ท่อนลำก็เรียบๆ ไม่ได้มีเส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโปนแบบนี้ เวลาชักของตัวเอง (เป็นประสบการณ์ทางเพศอย่างเดียวที่ผมมีโดยตรง) ยังรู้สึกฝืดนิดๆ จนบางครั้งต้องใช้เจลหล่อลื่นช่วย แล้วของทศที่มีเส้นเลือดปูดโปนตรงโน้นตรงนี้จะฝืดขนาดไหน

ทศเข้ามาประชิดตัวผมจนบ้องข้าวหลามแทบชนหน้าแล้วจับมือผมมากุมท่อนลำอวบใหญ่ของเขาไว้

“ฝืดไม่ฝืด นายน้อยทดลองได้ตามใจเลยครับ”

นั่นไง ผมพลาดอีกแล้ว เพิ่งจะเตือนตัวเองอยู่แหม็บๆ ว่าต่อไปต้องคิดให้ดีก่อนจะพูดอะไรออกไป เดี๋ยวจะกลายเป็นคำสั่งทาสโดยไม่ตั้งใจ แล้วนี่ทศจะคิดยังไงว่าผมเป็นคนยังไง เป็นเกย์หื่นแตกที่น่ารังเกียจใช่ไหม

“ลองรูดดูได้เลยครับ นายน้อยจะได้หายสงสัย”

ทศสบตาผมด้วยแววตาซื่อและจริงใจเหมือนครั้งแรกที่เจอ ไม่ได้มีความรังเกียจหรือดูถูกปนอยู่ในนั้นแม้แต่น้อย ผมค่อยๆ คลายความกังวลลง จริงสิ ทศเป็นทาสของผม เขามีหน้าที่ต้องทำตามความต้องการของผม ผมไม่จำเป็นต้องแคร์ว่าเขาจะรู้สึกยังไงให้มากเกินไป

ผมใจเต้นเมื่อรู้สึกถึงท่อนลำร้อนผ่าวที่เต้นตุบๆ จริงอยู่ที่ทศอาจจะไม่ใช่สเป็คผมอย่างหนุ่มขาวหล่อพิมพ์นิยมอย่างในคลิปหมวดเอ็มที่ผมซื้อสะสมไว้เต็มไปหมด แต่ผมเริ่มคิดว่าระหว่างหนุ่มหล่อใสแต่เห็นได้จากแค่ในจอ กับหนุ่มเถื่อนๆ แบบผู้ชายแท้ๆ แต่มายืนตัวเป็นๆ ให้สัมผัสลูบคลำได้เต็มที่ตรงหน้า อย่างหลังอาจจะดีกว่าก็เป็นได้ ตอนนี้ทศยังสวมเสื้ออยู่ แต่ท่อนล่างเปลือยเปล่าหมดแล้ว ของจริงนี้มันดีกว่าจริงๆ และที่สำคัญ นี่คือทาสของผม ผมไม่ต้องอายอะไรเขา ผมสามารถทำอะไรกับเขาก็ได้ตามที่ใจต้องการ

ผมนึกไปถึงเรื่องที่เบอร์ศูนย์บอกว่าองค์กรขอความร่วมมือขอให้เจ้านายมีการใช้งานทาสให้เกิดความอับอายหรือลำบากใจหรือฝึกความอดทนหนักๆ บ้าง อย่างน้อยก็อาทิตย์ละครั้ง ไม่งั้นถ้าทาสเจอเจ้านายที่ใจดีขึ้นมาระบบการลงโทษผ่านการเป็นทาสจะไม่ได้ผล พอพ้นโทษไปทาสอาจจะไม่หลาบจำอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผมที่เป็นเจ้านายมือใหม่แถมท่าทางใจดี เบอร์ศูนย์เลยต้องย้ำเป็นพิเศษเพราะไม่อยากให้หลุดเรื่องนี้ไป

ตอนนี้ผมคงต้องออกกฎอะไรบางอย่างให้ทศไปก่อนแล้วล่ะ ส่วนเรื่องการลงโทษอย่างจริงจังไว้ค่อยคิดอีกที ผมนึกทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็กลั้นความอายสั่งออกไป

“เอาล่ะ นอกจากเรื่องงานบ้านหรืองานอื่นๆ ที่จะให้ทำแล้ว ชั้นยังมีกฎสองข้อที่นายต้องปฏิบัติ ข้อแรกห้ามนายไปมีอะไรกับผู้หญิงรวมทั้งห้ามช่วยตัวเองด้วยถ้าชั้นไม่อนุญาต”

“รับทราบครับ” ถึงจะรับคำโดยดี แต่ผมก็แอบเห็นแววตาทศไหววูบขึ้นมา ท่าทางคงจะตกใจที่ถูกสั่งห้ามแม้กระทั่งการช่วยตัวเอง

ผมตั้งกฎข้อนี้เพราะอยากจะแก้อาการเซ็กส์จัดของทศ เท่าที่ฟังมาความผิดเขาก็มาจากเรื่องนี้เป็นหลัก พื้นฐานจริงๆ ก็ดูเป็นคนซื่อๆ ไม่ได้เลวร้ายอะไร อาจจะคิดน้อยไปหน่อย แต่ที่ไปยอมให้เพื่อนเอาผู้หญิงมาใช้หนี้แทนเงินกับการไม่แยกแยะให้ดีว่าผู้หญิงเต็มใจมาหรือถูกหลอกมาคงเพราะความเงี่ยนมันบังตาเป็นหลัก การที่ฝึกให้เขาอดกลั้นในเรื่องเซ็กส์เป็นเวลานานๆ น่าจะทำให้เขาลดความต้องการตรงนี้ลงไปได้ แล้วก็เป็นการลงโทษตามที่องค์กรขอความร่วมมือไปในตัว

ผมตั้งสติอีกเล็กน้อยก่อนจะพูดคำสั่งข้อสองออกไป พยายามบอกตัวเองว่าไม่มีอะไรน่าอาย ก็แค่เจ้านายสั่งงานทาสธรรมดา

“ข้อสอง ต่อไปเวลาที่นายอยู่กับชั้นตามลำพัง นายต้องถอดเสื้อผ้าออกให้หมด” ทศพยักหน้ารับคำแล้วถอดเสื้อเชิร์ตลายสก๊อตที่สวมอยู่ออกจนเปลือยเปล่าทั้งตัว จริงสิ ก็ตอนนี้อยู่กันสองคนตามลำพังเข้าเงื่อนไขที่เพิ่งตั้งไปพอดี

ช้าก่อนครับ อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าผมกลืนน้ำลายตัวเองที่ปากบอกว่านายทศนี่ไม่ใช่สเป็กแต่ดันไปอยากดูเขาแก้ผ้า มันมีเหตุผลอยู่ ผมขอเท้าความปัญหาของผมอีกทีครับ ผมเป็นเกย์แอบๆ มีแต่อาที่รู้ ส่วนคนอื่นๆ ในครอบครัว ผมยังไม่พร้อมที่จะบอก กับเพื่อนๆ ผมยิ่งเก็บเป็นความลับเพราะไม่อยากให้เรื่องนี้รั่วออกไปจนทำให้วงศ์ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียง พอไม่เปิดตัวว่าเป็นเกย์แถมยังต้องระวังตัวเรื่องหน้าตาของครอบครัว ก็เลยไม่มีแฟนหรือกิ๊กหรือแม้แต่วันไนท์สแตนด์ให้ปลดปล่อยจนเป็นหนุ่มซิงถึงทุกวันนี้ อุตส่าห์โชคดีได้เข้ามาเป็นสมาชิกองค์กรก็หวังว่าจะได้ทาสหล่อน่ารักใสๆ มาคบกันแบบเก็บความลับได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ดันมีตังค์น้อยได้มาแค่บ้านๆ เถื่อนๆ โอเคเรื่องนี้ตัดใจได้ แต่ความที่เป็นหนุ่มซิงไร้ประสบการณ์ทำให้ผมต้องระวังตัวเองไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่ล่อแหลมจะทำให้ความแตกขึ้นมา ซึ่งก็ทำให้ผมเสียโอกาสเยอะแยะ เช่นอดแช่ออนเซ็นที่ญี่ปุ่นอย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ถ้าผมมีภูมิต้านทานหนุ่มหุ่นดีแบบเปลือยๆ มากกว่านี้ ผมจะได้ไม่ต้องระวังตัวมากเกินไป

ทศก็เลยเป็นอะไรที่ผมสามารถใช้ฝึกสายตาให้ชินกับหนุ่มๆ ได้เหมาะที่สุด ถึงหน้าตาจะไม่ใช่สเป็ก แต่หุ่นนี่แป๊ะมาก กล้ามเนื้อชัดแน่น ถ้าไม่ดูหน้านี่น้ำลายจะไหลเอา แถมเครื่องเคราก็อลังการงานสร้าง ถ้าผมชินตากับท่อนลำของทศได้ เวลามองของคนอื่นคงเหมือนดูจู๋เด็กหมดความตื่นเต้นแน่ๆ

วิธีที่จะให้ชินตาเร็วที่สุดก็อย่างที่สั่งไปละครับ ให้ทศแก้ผ้าให้ดูทุกครั้งที่มีโอกาส ผมว่าดูบ่อยๆ ดูย้ำๆ ซ้ำๆ ทุกวันจนเคยชินก็คงหายตื่นเต้นไปเอง ทำไปเดือนสองเดือนพอสำเร็จก็ค่อยสั่งเลิก โดนสั่งให้แก้ผ้าทศก็ต้องอายแน่ๆ เป็นการลงโทษตามที่องค์กรขอไปในตัว ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย ผมนี่ฉลาดจริงๆ ขนาดทาสเกรดไม่ค่อยดีผมยังเอามาใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่าที่สุด ผมว่าเดี๋ยวผมต้องมีไอเดียบรรเจิดในการใช้งานทศออกมาเรื่อยๆ แน่ รอติดตามกันนะครับ

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2015 21:10:37 โดย barataku »

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
อร๊าาาา กลับมาแล้วว  :pig4:

นู๋พิช นู๋จีบเบอร์ศูนย์เนี่ย ความผิดร้ายแรงเลยนะ

เบอร์ศูนย์นั้นเป็นสมบัติของบอสแต่เพียงผู้เดียว  :z2:

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
เจ้านายมือใหม่น่ารักดี รออ่านว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป :laugh:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด