องค์กรลวงจิต Explicit Content [จบ] ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [7] 15/01/17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: องค์กรลวงจิต Explicit Content [จบ] ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [7] 15/01/17  (อ่าน 193340 ครั้ง)

ออฟไลน์ PPink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ว้ายยย พอชยะคัมแบค
เอ้อ นางน่ารักอะ อยากเห็นว่าจะทำอะไรก็พ่อหนุ่มนี่ได้บ้าง
เชื่อว่าต้องแซ่บ ต้องได้โดนกันบ้างหละ

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
บทลงโทษของนักบัญชีแรงมากจริงๆ อ่านแล้วสะดุ้งแวบเลย

เจอสาววายตัวจริงเสียงจริงเบอร์ศูนย์เบอร์หนึ่งคงใกล้เข้าไปทุกที่ละ

นายน้อยกับทาสหนุ่ม อร๊างฟินไป

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ขอบคุณครับ แต่อ่านแพร๊บเดียวจบยังไม่ค่อยสะใจเลย
ตอนหน้านี่ของใครครับ หนูพิชก็อยากอ่านต่อ แต่คู่ศูนย์หนึ่งกับสาววายก็กิ๊วก๊าวดี หมอพฤกษ์เองก็ยังไม่เคยได้อ่านแบบเต็มๆ

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ในองค์กรนอกจากเบอร์ศูนย์ (บอส) กับเบอร์หนึ่ง (โป๊ป) แล้วมีคนอื่นไหมคะ เบอร์ 3,4 ... น่าจะมีตอนเจ้าหน้าที่คนอื่นทำงานบ้างเน๊าะ แบบคนอื่นไม่มีอำนาจสะกดจิตแบบบอสจะจัดการกับนักโทษองค์กรได้อย่างไร

ออฟไลน์ lovely tham

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven พิชยะ เคะน้อยผู้อ่อนต่อโลก (sex) อ่ะนะ นางน่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ว๊าวๆๆๆๆ มาแล้วรออยู่นะ เคะน้อยกับเมะซื่อๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ถ้าไม่ใช่คู่หลักก็อยากให้จบในตอนหรือสองสามหรือสิบตอนก็ว่าไปนะคะ เพราะแอบค้าง อยากอ่านต่อ
แบบที่เขียนอยู่ก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไรนะคะ พอเริ่มมีคู่ใหม่ๆเข้ามาก็จะเริ่มสนใจอีก สุดท้ายก็ต้องรอทุกคู่(เข้าใจว่าคนเขียนต้องการให้เรื่องดำเนินไปพร้อมๆกัน) แต่รู้สึกว่าตัวละครจะเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ เกรงว่าสุดท้ายจะเยอะเกินไป
แต่ยังไงก็ต้องแล้วแต่การตัดสินใจของคนเขียนนะคะ เราคนอ่านน่ะไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แค่เสนอแนวทาง(ที่แอบแฝงความต้องการของตัวเอง ฮา)เล็กน้อยเท่านั้น ว่าจะดีกว่ามั้ยถ้าให้เบอร์ศูนย์และเบอร์หนึ่งเป็นตัวเดินเรื่องไปเรื่อยๆ เจอกับคนทำผิดเป็นรายๆไป แล้วก็มีเรื่องราวเล็กๆว่าหลังจากนั้นถูกลงโทษยังไงบ้าง บทสรุปเป็นอย่างไร แล้วก็ผ่านไปเจอกับคนทำผิดรายอื่นต่อไป โดยที่ตอนถัดไปก็อาจจะมีตัวละครที่เรื่องราวมีบทสรุปไปแล้วมาแจมบ้างเป็นสีสัน อะไรประมาณนี้

ปล. อยากอ่านเรื่องของหมอพฤกษ์กับธนัทค่ะ อยากรู้ว่าธนัทอยู่กับหมอแล้วเป็นยังไงบ้าง
เรื่องของพิชยะก็อยากอ่านเช่นกัน :D

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
องค์กรลวงจิต Explicit Content

บทที่ 23 รีวิวจากผู้ใช้งานจริง

[พิชยะ]

นายทศมาเป็นทาสผมได้หลายเดือนแล้ว หลายคนคงอยากรู้ว่าประมูลทาสมาใช้งานนี่คุ้มไหม ผมว่าผมมารีวิวทาสให้ฟังเลยดีกว่า เห็นเดี๋ยวนี้เขานิยมออกมารีวิวโน่นนี่นั่นกันเต็มไปหมด ตั้งแต่เครื่องสำอาง ร้านอาหาร โทรศัพท์มือถือ ไปจนถึงรถยนต์ ใครๆ ก็อยากฟังจากผู้ใช้จริงที่ไม่ใช่คำโฆษณาจากคนขาย  เผื่อใครโชคดีได้เป็นสมาชิกองค์กรบ้างจะได้เป็นข้อมูลประกอบว่าควรจะกัดฟันประมูลมาใช้งานไว้ซักคนสองคนบ้างหรือเปล่า แต่ขอออกตัวก่อนนะครับ ทาสของผมนี่ถ้าดูจากราคาก็น่าจะถือว่าเป็นเกรดล่างๆ เลย ยิ่งเป็นทาสระดับหนึ่งด้วย ข้อจำกัดในการใช้งานก็ยิ่งมาก คงไปเทียบกับพวกตัวท็อปๆ ที่ประมูลกันเป็นหลักสิบล้านไม่ได้ แต่ก็อย่างว่าละครับ ทาสก็เป็นคน แต่ละคนก็มีความหลากหลายมีข้อดีข้อเสียในตัวเอง รสนิยมความชอบของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน คงจะเปรียบเทียบกันตรงๆ ไม่ได้

เกริ่นมาเยอะแล้ว ถ้าเข้าใจตรงกันก็ตามมาดูเลยครับ รีวิวจากผู้ใช้งานจริง ในระหว่างการรีวิว ถ้าผมมีคำถามคำตอบที่ผมถามผ่านแอพไปที่องค์กร ผมจะเอามาใส่ไว้ให้ด้วยครับ จะได้เข้าใจรายละเอียดของระบบทาสมากขึ้น

มาเริ่มที่การทำงานทั่วไปตามสั่งก่อนนะครับ ผมเอาอันนี้มาเล่าเป็นอันแรกเพราะคิดว่าเป็นเหตุผลหลักๆ เลยของคนที่คิดจะมีทาสเป็นของตัวเอง อุตส่าห์เสียเงินเสียทองมากมายประมูลมาก็คงหวังว่าจะใช้งานได้อย่างเต็มที่ ในเรื่องงานทั่วไป ทศเป็นคนขยันหัวไวแล้วก็ตั้งใจทำงานตามคำสั่งผมมาก ผมไม่รู้ว่านี่เป็นนิสัยของเขาตั้งแต่แรกหรือเป็นเพราะการโปรแกรมจิตขององค์กร มาลองดูแต่ละวันกันครับเขาทำงานอะไรให้ผมบ้าง

เริ่มจากตอนเช้าครับ ทศจะเข้ามาปลุกผมขึ้นมาอาบน้ำตามเวลาที่ผมบอกไว้ ผมเป็นคนตื่นยากครับ ตอนเด็กๆ นี่แทบจะรุมปลุกกันทั้งบ้าน พอโตเป็นหนุ่มขึ้นมา ผมก็ให้แต่ไอพี่ชายสองคนเท่านั้นเป็นคนปลุก ก็ผมเป็นวัยรุ่นชายสุขภาพดีนี่ครับ ตอนเช้าๆ ก็ต้องมีปึ๋งปั๋งกันบ้างไม่ควรที่จะให้ป้าๆ แม่บ้านมาเห็นอะไรที่ผงาดง้ำค้ำโลกตั้งแต่เช้าเดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไป พอมาอยู่คอนโดคนเดียวเลยลำบาก ตื่นบ้างไม่ตื่นบ้าง แต่ให้ทศเป็นคนปลุกนี่ทีแรกก็ไม่ค่อยเวิร์คครับ เขาไม่กล้าปลุกแบบรุนแรง ไม่เหมือนพี่ชายผม สองคนนั้นทำมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกระโดดทับ จั้กกะจี้เอว เอาผ้าห่มมาพันทั้งตัวเป็นมัมมี่ ถีบตกเตียงก็มี ชั่วสุดก็เอาน้ำหยอดจมูก ผมโดนมาขนาดนั้นภูมิต้านทานการปลุกนี่อยู่ระดับเซียนเหยียบเมฆ มาปลุกค่อยๆ แบบทศนี่กว่าจะตื่นก็สายเหมือนเดิม ตอนหลังผมอนุญาตไว้เลยว่าถ้าผมไม่ยอมตื่น ให้ทศจับผมถอดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำให้ ถามว่าผมอายไหม ตอบเลยว่าอายครับ ทั้งๆ ที่นายกับทาสไม่ควรจะต้องมาอายอะไรกันให้มากความใช่ไหม แต่นั่นช่วยทำให้ผมตาสว่างและยอมตื่นจริงๆ ก่อนที่จะถูกถอดชุดนอนจนล่อนจ้อนทั้งตัว

พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมก็จะมาทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ ที่ทศเตรียมไว้ให้ พวกสลัด ขนมปัง โยเกิร์ตใส่ผลไม้ ไข่ดาว ไข่ลวก เขาก็พอทำได้ครับ จริงๆ ทศก็ไม่ได้บ้านนอกคอกนาอะไรขนาดนั้น หรือด้วยความที่เป็นช่างด้วยมั๊งครับ พวกอุปกรณ์เครื่องครัวอะไรนี่สอนครั้งเดียวเขาก็ใช้เป็น ถ้าไม่ทำเอง ทศก็ลงไปซื้อพวกน้ำเต้าหู้หรือโจ๊กมาให้ตามแต่ผมจะอยากกิน มีความสุขครับ กลับไปอยู่บ้านใหญ่ยังไม่มีคนเอาใจเท่านี้ เรื่องซักผ้ารีดผ้าก็ทำได้ดีไม่มีปัญหาอะไร สรุปเรื่องงานบ้านนี่เอาสี่ดาวไปเลยครับ ทำไมไม่ได้ห้าดาวนะเหรอ แหม ก็ถ้าเทียบความเนี้ยบของผลงานโดยรวมแล้ว ยังสู้ทีมป้าๆ แม่บ้านที่บ้านใหญ่ไม่ได้ ก็ผู้ชายทำนี่ครับ แล้วมาตรฐานผมก็สูงซะด้วย พอดีคุ้นชินกับความประณีตบรรจงตั้งแต่เด็ก (แต่อย่าให้ผมทำเองนะ ที่ทศทำดีกว่าเป็นล้านเท่า แหะๆ)

ทานเสร็จแล้วก็พร้อมออกไปทำงาน จะใครล่ะครับถ้าไม่ใช่ทศที่ขับน้องเต้าหู้คันเก่าแต่หรูคลาสสิคไปส่งผมถึงที่ทำงาน ทศดูแลรถผมอย่างดีเลยครับ ผมว่าเขาเก่งจริง ขนาดจบแค่ ปวช. นะครับ แต่ประสบการณ์ทำงานซ่อมรถเยอะมาก แถมลูกค้าประจำของเขาที่ต่างจังหวัดคนนึงก็ใช้รถรุ่นเดียวกับผม เขาเลยชำนาญ หาอะไหล่จุกจิกมาเปลี่ยนเองได้ ถ้าไม่มีของก็ดัดแปลงเอา ผมลดค่าซ่อมลงไปได้ครึ่งค่อนเลย ไม่ซ่อมเปล่านะครับ ดูแลล้างขัดเงาให้ด้วยแทบจะวันเว้นวันเลย เรื่องรถนี่ให้ห้าดาวเต็มเลยครับ ไม่ผิดหวัง

กลายเป็นเดี๋ยวนี้ถ้าขาดทศไปเหมือนผมจะทำอะไรไม่เป็น ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าอุตส่าห์ออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียว พ่อแม่พี่ๆ จะได้เห็นว่าผมเป็นผู้ใหญ่แล้วดูแลตัวเองได้กลับกลายเป็นช่วยตัวเองไม่ได้หนักกว่าเก่า มีอะไรก็ต้องเรียกใช้แต่ทศ ขนาดกลับไปนอนที่บ้านใหญ่ ยังต้องเอาทศตามไปดูแลด้วย ผมบอกกับที่บ้านว่า ทศเป็นพี่ชายของลูกพี่ลูกน้องของแฟนของน้องรหัสที่เข้ามาทำงานที่กรุงเทพแล้วยังไม่ลงตัวเรื่องที่อยู่ น้องรหัสเลยขอร้องให้มาพักอยู่กับผมก่อนโดยให้ช่วยดูแลห้องให้เป็นการตอบแทน ทีแรกแม่ผมก็ไม่สบายใจนักเพราะไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่พอได้คุยกับทศคงพอมองออกว่าเป็นคนซื่อๆ จริงใจเลยวางใจให้พักอยู่กับผมได้ แถมยังบอกว่าดีแล้วที่มีคนช่วยดูแลงานบ้านให้ ไม่งั้นคอนโดหรูที่ตัดใจให้ผมไปอยู่คงเละจนราคาตกแน่

ส่วนตัวทศเองก็ไม่ธรรมดาครับ ตอนมาบ้านผม พอหายตกใจกับความใหญ่โตหรูหราแล้ว ก็แอบไปตีซี้กับป้าๆ แม่บ้านที่ดูแลผมมาตั้งแต่เด็กๆ เห็นว่าได้เคล็ดลับงานบ้านไปเพียบ แถมยังไปสอดแนมความลับต่างๆ นาๆ ของผมด้วย อย่างพวกชอบกินอะไร ชอบสีอะไร นิสัยตอนเด็กๆ เป็นยังไง เกลียดอะไร เทือกๆ นั้นบอกว่าจะได้ดูแลน้องพิชคุณหนูของป้าให้เต็มที่ พวกป้าๆ ก็ชอบใจไปสิ ตั้งวงเล่าเรื่องผมซะยืดยาว เอาน้ำเอาขนมมาให้ทศกินเต็มที่ ตกลงทศมันซื่อหรือมันฉลาดกันแน่

โดยรวมหมวดประสิทธิภาพการทำงานนี่เอาไปห้าดาวเต็มครับ คุ้มค่าจริงๆ เอ๋ ถามว่าทำไมถึงได้ห้าดาวเต็มนะเหรอ ไหนว่าถูกหักคะแนนความเนี้ยบของงานบ้านออก ก็มันมีคะแนนพิเศษบวกให้ เห็นแก่ที่เวลาทศทำงานบ้านที่คอนโดนี่ เขาต้องเปลือยตลอดเลยครับถ้าผมอยู่ด้วย ลืมกันไปแล้วใช่ไหม คำสั่งอันนี้ยังอยู่นะครับ แต่เดี๋ยวผมเก็บรายละเอียดเรื่องนี้ให้อีกทีในรีวิวหมวดถัดๆ ไป

คะแนนประสิทธิภาพในการทำงาน *****

ถัดจากเรื่องการทำงานก็มาว่ากันเรื่องความอดทนแล้วก็พละกำลังครับ อันนี้น่าจะพอเดากันได้ หนุ่มบ้านๆ วัยฉกรรจ์ ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ กล้ามเนื้อเป็นมัด อาชีพหลักเป็นช่างซ่อมรถ ทำไร่ทำสวนเป็นอาชีพเสริม ทนถึกสุดๆ ไปเลย มาดูกันสิว่าวันๆ ทศทำอะไรบ้าง เริ่มจากตอนเช้ามืด ก่อนที่จะได้เวลาปลุกผม ทศจะลงไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะใกล้ๆ คอนโดเอาเหงื่อก่อน พอขับรถไปส่งผมเสร็จ ก็จะรีบทำงานบ้านทั้งหลายให้เรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเช้า ถึงจะเป็นแค่คอนโด แต่ห้องผมก็กว้างไม่น้อยนะครับ แถมทศยังกวาดถูล้างห้องน้ำทุกวัน ไหนจะซักผ้ารีดผ้าอีก เรียกว่าถ้าเป็นผมทำเอง คงหมดแรงตั้งแต่สิบโมงแล้ว

ช่วงบ่ายก็ดูแลซ่อมแซมน้องเต้าหู้ไป ไม่รู้ทศไปตีสนิทกับอู่ใกล้ๆ คอนโดไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อู่ใหญ่เหมือนกันครับ เห็นว่าได้อาศัยไปยืมเครื่องไม้เครื่องมือไว้ซ่อมน้องเต้าหู้ ประหยัดเข้าไปอีก ล้างรถลงแว๊กซ์ก็ไปทำที่อู่เหมือนกัน ผมรู้ทีหลังก็บอกว่าน่าจะให้เงินเขาบ้าง ถึงผมจะงกนิดหน่อยแต่ก็ไม่ชอบเอาเปรียบใคร ทศบอกว่าเจ้าของอู่เขาไม่คิด เพราะเวลาไปที่อู่ทศก็ช่วยงานเขาตลอด หนักๆ เข้าเจ้าของอู่ถูกใจฝีมือถึงกับจ้างให้ไปทำเป็นงานพิเศษ ทศก็มาขออนุญาตผมก่อน ผมก็ตอบตกลงไปแต่มีข้อแม้ว่าทศต้องจัดสรรเวลาอย่าให้กระทบงานที่ต้องทำให้ผม จริงๆ ผมก็เห็นใจทศเหมือนกัน ถึงช่วงที่มาเป็นทาสทศจะกินอยู่กับผมไม่ต้องใช้เงินอะไรมาก แต่เขาอาจมีภาระที่ต้องดูแลพ่อแม่พี่น้องที่ต่างจังหวัด ผมยังไม่เคยถามเรื่องนี้ตรงๆ ซักที เคยแต่ถามว่ามาอยู่กับผมมีปัญหาติดขัดภาระอะไรบ้างซึ่งทศก็ยืนยันขันแข็งว่าไม่มี

ยังไม่หมดครับ ช่วงเย็นทศก็ไปจ่ายกับข้าวมาเตรียมไว้แล้วค่อยไปรับผมที่ทำงาน วันไหนผมมีเรียนเลิกสามสี่ทุ่ม ทศจะไป เตะตะกร้อที่ลานแถวๆ นั้น ไม่แน่ใจว่ากับพวกช่างที่อู่หรือพวกตำรวจชั้นประทวนหนุ่มๆ ที่อยู่ตรงแฟล็ตตำรวจเลยไปไม่ไกล พอรับผมกลับมาถึงคอนโดก็ยังไม่ได้พักครับ ผมนั่งทำงานนั่งเรียนมาทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำ ทศก็อาสามานวดให้อีก นวดผู้ชายนี่ใช้แรงเยอะนะครับ เดี๋ยวเรื่องการนวดนี่เอาไว้รีวิวช่วงหน้า

ที่พูดมาว่ากันด้วยวันธรรมดา ถ้าเป็นวันหยุดนอกจะจะทำคล้ายๆ ไอที่ว่ามาแล้ว ยังเพิ่มเรื่องการไปฟิตเนสกับผมด้วย วันธรรมดาถ้าพอมีเวลาผมก็เล่นฟิสเนสของคอนโดบ้าง แต่วันเสาร์อาทิตย์นี่ต้องจัดเต็มครับ กินดีอยู่ดีขนาดนี้ไม่ระวังตัวเดี๋ยวพุงออก ผมให้ทศไปเป็นเพื่อนเพราะติดการดูแลของทศไปแล้ว แต่ปรากฏว่าที่ฟิตเนส กล้ามของทศนี่ขโมยซีนมาก ขนาดพวกเทรนเนอร์ที่นั่นยังอิจฉา จริงๆ ทศไม่ได้กล้ามใหญ่โตแบบพวกเพาะกายมืออาชีพหรอกครับ เทียบกับพวกเทรนเนอร์ก็อาจจะย่อมกว่าด้วยซ้ำ แต่ที่ดูดีกว่าเพราะทศมีกล้ามที่ชัดและสมดุลสม่ำเสมอทั้งตัว ก็กล้ามเนื้อของทศได้มาจากการเล่นกีฬาแล้วก็ทำงานหนักมาตลอดนี่ครับ มันเลยดูต่างจากกล้ามที่ปั้นมาจากการเร่งรัดออกกำลังเฉพาะส่วนและพวกอาหารเสริมต่างๆ ผมเห็นคนที่เริ่มเล่นใหม่ๆ ชี้ไปที่ทศแล้วบอกเทรนเนอร์ว่าขอโปรแกรมที่ทำให้ได้กล้ามแบบนี้ แอบภูมิใจเหมือนกันแฮะ ถึงไม่ใช่กล้ามตัวเองแต่ก็ถือว่าผมเป็นเจ้าของกล้ามนี้เหมือนกัน แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าพวกเทรนเนอร์จะหมั่นไส้ทศนะ เท่าที่ผมสังเกตดู ช่วงแรกๆ อาจจะมีเขม่นบ้าง แต่พอเจอทศชวนคุยตามสไตล์จริงใจของเขาแหละ รับเป็นพวกเฉยเลย พวกกล้ามเหมือนกันคงคุยกันถูกคอ เห็นมีพาไปโชว์ตัวให้ลูกค้าคนอื่นดูประหนึ่งเป็นผลงานของฟิตเนสนี้ยังไงอย่างนั้น อีตาทศก็ยิ่งชอบใส่กางเกงสั้นๆ บางๆ ด้วยสิ สงสัยต่อมอายจะถูกผมทำให้ด้านไปซะแล้ว

มาสรุปคะแนนกัน เรื่องพละกำลังและความอึด ได้สี่ดาวครับ อย่าเพิ่งประท้วงสิครับ ดีงามขนาดนี้ทำไมได้แค่สี่ดาว ขอบอกว่าโดนหักคะแนนความอดทนครับ มีอย่างที่ไหน ผมอุตส่าห์จะช่วยแก้อาการเซ็กส์จัดของทศที่ทำให้เขามีปัญหามากมายโดยสั่งเรื่องห้ามไม่ให้มีอะไรกับผู้หญิงไม่ให้ช่วยตัวเองด้วย ผ่านไปแค่อาทิตย์นึง แทนที่จะดีขึ้น หมอนี่กลับกลายเป็นคนที่เงี่ยนอยู่ตลอดเวลา ถามว่าทำไมผมถึงรู้นะเหรอ ก็จากคำสั่งข้อที่ให้ทศต้องแก้ผ้าตลอดเวลาที่อยู่ตามลำพังกับผม อันนี้เลยทำให้ผมเห็นตัวชี้วัดได้ชัดเจน คนบ้าอะไรจะแข็งตัวอยู่ได้ตลอด ตอนดูดฝุ่น ถูบ้าน ล้างจานทำกับข้าว อ้อ ตอนทำกับข้าวผมจะให้ใส่ผ้ากันเปื้อนนะครับ เพื่อสุขอนามัยที่ดี กันเส้นขนหรือสารคัดหลั่งต่างๆ ปนเปื้อนลงไปในอาหาร

ผมคิดมากไปเหรอ ไม่นะ ถ้าได้มาเห็นทศตอนทำงานบ้านแบบเปลือยๆ จะเข้าใจ ตรงส่วนปลายนี่มีน้ำเยิ้มตลอด บางทีก็ยืดเป็นสายยังกะใยแมงมุม นี่ถ้าผมเรียกเขาว่าปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ทศจะเข้าใจไหม ยิ่งของเขาความยาวไม่ธรรมดาอยู่ด้วย เหวี่ยงทีรัศมีทำการครอบคลุมกว้างไกลเลยครับ ใส่ผ้ากันเปื้อนแหละดีแล้ว เมื่อรวมกับที่ผมเคยตื่นมาเห็นเขาแอบซักผ้าห่มตอนเช้ามืดซึ่งบ่งบอกว่าเก็บกดจนเอาไปฝันเปียก สรุปว่าความอดทนอดกลั้นยังไม่ผ่าน เพราะฉะนั้นหมวดนี้หักหนึ่งดาวครับ

คะแนนความอดทนและพละกำลัง ****

อ้างถึง
Q. เราสามารถสั่งห้ามทาสได้ในเรื่องที่เป็นความต้องการตามธรรมชาติได้หรือไม่

A. เจ้านายสามารถสั่งทาสได้เกือบจะทุกเรื่องตามเงื่อนไขซึ่งขึ้นกับระดับของทาส แต่เรื่องที่เป็นความต้องการตามธรรมชาติของมนุษย์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ เจ้านายจะไม่สามารถห้ามได้ เช่นการห้ามไม่ให้ทาสไปปัสสาวะ สามารถห้ามได้แค่ช่วงเวลาหนึ่ง พอถึงจุดที่ทาสปวดจนต้องปล่อยออกมาจริงๆ คำสั่งเจ้านายจะไม่มีผล /0

เล่ามาถึงตรงนี้น่าจะพอเห็นแล้วว่าถ้าคิดในเชิงธุรกิจแล้ว การที่ผมประมูลทศมาออกจะคุ้มค่าไม่น้อย รีวิวหมวดนี้จะว่าถึงความสามารถอื่นๆ ซึ่งหนุ่มบ้านๆ คนนี้ยังมีเป็นออฟชั่นเสริมอีกสองสามอย่าง เริ่มจากเรื่องหลักที่ผมปลื้มที่สุดคือการนวดแผนไทย มันเริ่มมาจากวันหนึ่ง เขาเห็นผมกลับมาจากเรียนภาคค่ำมาเหนื่อยๆ ก็เอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาบริการให้ ตอนนั้นผมเหนื่อยจนใช้ให้ทศเช็ดหน้าเช็ดคอให้เลย ทศเช็ดไปแล้วก็บีบๆ ตรงต้นคอผมแล้วก็บอกว่าเส้นผมตึงมากน่าจะนวดคลายเส้นซะหน่อย จริงๆ ผมชอบนวดมากแต่เดี๋ยวนี่ไม่ค่อยมีเวลาไป กว่าจะเลิกเรียนก็สามสี่ทุ่ม ร้านก็ปิดหมดแล้ว ร้านที่ยังเปิดอยู่ก็ไม่ได้ให้บริการนวดไทยอย่างเดียวออกจะเน้นบริการอย่างอื่นมากกว่า จริงๆ ถ้าเป็นพนักงานนวดหนุ่มๆ ผมก็สนเหมือนกันนะครับถ้าไม่ติดเรื่องว่าต้องรักษาความลับไว้ไม่ให้วงศ์ตระกูลเสื่อมเสีย ที่เคยไปนวดมาเลยจะเป็นหมอผู้หญิงมากกว่า ไม่งั้นความแตก

พอทศลองจับๆ เส้นผมดูแล้วอาสาว่าถ้าไม่รังเกียจจะให้เขานวดให้ก็ได้ ผมก็ตารุกวาวเลยสิครับ แถมทศบอกกว่าเขาพอมีวิชาอยู่บ้างเพราะหมอนวดที่มานวดยายเขาเป็นประจำสอนให้ตั้งแต่เด็ก จริงๆ เอาแค่บีบๆ ขยำๆ ผมก็พอใจแล้ว นั่งจนเมื่อยมาทั้งวัน พอนวดจริงนี่ฟินครับ ปกติผมนวดกับหมอนวดผู้หญิง แรงกดมันจะไม่หนักแน่นสะใจแบบนี้ ที่ทศบอกว่ามีวิชาอยู่บ้างก็ไม่ได้โม้เกินจริง รีดเส้นทีนี่เจ็บจนแทบร้องแต่พอเสร็จนี่โล่งมาก นวดไปทศก็เปรยว่าเส้นตึงแข็งมากเหมือนยายเขาเลย เอิ่ม สงสัยเรียนมายังไม่จบหลักสูตร ถึงแยกอาการเส้นยึดเพราะแก่กับอาการออฟฟิซซินโดรมไม่ออก ทศแนะนำว่าถ้าได้นวดน้ำมันจะแก้อาการได้ดีกว่านี้ ผมตกลงทันทีครับ เพราะไม่ได้ไปนวดมานานแล้ว และจากที่ลองนวดเมื่อกี๊ น้ำหนักมือของทศดีมากจนติดใจ

ทศบอกว่าขอให้ผมไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุดเป็นบ๊อกเซอร์หรือผ้าขาวม้าจะได้ไม่เปื้อนน้ำมัน คงคิดว่าผมจะอายละซิ เห็นผมไม่เคยอาบน้ำกับเพื่อนผู้ชาย คิดผิดแล้วครับ ผมมั่นใจเรื่องรูปร่างหน้าตาของตัวเองมากอยู่ ถึงจะไม่มีกล้ามเป็นมัดๆ เหมือนทศ แต่ก็รูปร่างดีขาวใสแบบคนหนุ่มสุขภาพดีละครับ ที่ผมไม่อาบน้ำกับเพื่อนผู้ชายเพราะกลัวความสุขภาพดีของตัวเองนี่แหละว่าจะไปตื่นตัวใส่เพื่อนๆ จนความแตกเอา เวลาไปนวดกับหมอนวดผู้หญิงนี่ผมใส่แค่กางเกงในกระดาษของทางร้านกับผ้าผืนเล็กไว้ปิดๆ บังๆ ผมยังไม่อายเลย เพราะงั้นกับทศที่เป็นทาสผมแท้ๆ ผมจะอายทำไมละครับ แต่จะแก้หมดก็กระไรอยู่ผมเลยนุ่งผ้าขาวม้าไว้ กางเกงในไม่ต้องเดี๋ยวเปื้อน อาจจะดูไม่เหมาะกับหนุ่มสมัยใหม่แบบผมเท่าไหร่ แต่ผมก็ชอบนะ เป็นไทยดี

ทศมีน้ำมันนวดมาจากบ้านด้วย เขาบอกว่าเป็นสูตรที่คลายปวดเมื่อย ผมดมแล้วกลิ่นมันหอมเย็นๆ ดี ทศให้ผมนอนคว่ำก่อนซึ่งก็ดีเพราะผมจะได้ไม่ต้องเห็นทศที่เปลือยทั้งตัวในระยะประชิด มันรู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้ เขาเริ่มนวดจากฝ่าเท้าอย่างไม่รังเกียจทั้งๆ ที่ผมไม่ได้สั่ง คงเต็มใจทำให้จริงๆ สัมผัสลื่นๆ และกลิ่นหอมๆ ของน้ำมันนวดสบายจนผมเคลิ้ม พอนวดฝ่าเท้าเสร็จ ทศขอไปล้างมือแล้วมานวดตัวต่อ เขาชโลมน้ำมันแล้วไล่นวดตั้งแต่น่องขึ้นไปต้นขา นวดสะโพกนิดหน่อย แล้วถึงไปที่แผ่นหลังและช่วงไหล่ ลงน้ำหนักมือกำลังดี ผมที่เหนื่อยมาทั้งวันก็เริ่มง่วง นวดด้านหลังไปพักใหญ่จนผมสลึมสลือ ได้ยินเสียงแว่วๆ ถามว่าจะให้นวดก้นด้วยหรือเปล่าเขาต้องขอเอาผ้าขาวม้าขึ้นนิดนึง ผมที่ง่วงเต็มทนไม่อยากให้ทศหยุดก็เหมือนจะตอบไปว่าอยากนวดอะไรก็นวดไป แล้วผมก็เคลิบเคลิ้มไปกับความสบายจนหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้

อ้างถึง
Q. ทำไมบางครั้งทาสถึงทำตามคำสั่งที่สั่งไปคร่าวๆ ได้ดีถูกใจโดยไม่ต้องบอกละเอียดว่าต้องทำอย่างไร แต่บางเรื่องสั่งไป กลับไปทำอีกในแบบที่ไม่ได้คาดไว้ 

A. ทาสยังมีความรู้สึกนึกคิดที่เป็นอิสระอยู่ เพียงแต่จะถูกโปรแกรมจิตให้รู้สึกว่าเป็นความรับผิดชอบที่จะต้องทำตามคำสั่งของเจ้านายอย่างเต็มความสามารถ แต่ถ้าคำสั่งกว้างไปหรือไม่ละเอียดเพียงพอ ทาสอาจจะปฏิบัติไม่ถูกต้อง หรือตีความไปในทางที่ตัวทาสอยากให้เป็นได้ แนะนำว่าในการสั่งงานประเด็นสำคัญๆ เจ้านายควรจะสั่งให้ละเอียดที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อไม่ให้เกิดการเบี่ยงเบนไปจากความต้องการจริงของเจ้านาย /1

ผมมาตื่นอีกทีก็ตอนที่รู้สึกตึงๆ ไหล่เหมือนถูกดึง ปรากฏว่าผมอยู่ในท่านอนหงายแล้ว ผ้าขาวม้าที่เคยพันอยู่ที่เอวตอนนี้ทำหน้าที่เป็นผ้าปูรองก้นอย่างเดียวด้านบนผมเลยเปลือยหมด ผมงงๆ ว่าไปอนุญาตทศตอนไหน ทศนั่งทับอยู่ที่ช่วงต้นขาของผม แล้วประคองตัวผมก้มมาทางด้านหน้าคล้ายๆ ท่าซิทอัพ เขานวดแล้วกดไหล่ผมบริเวณด้านหลังโน้มมาทางด้านหน้าจนหน้าของผมไปจ่ออยู่กับท่อนล่างของเขาที่นั่งทับต้นขาผมอยู่อย่างช่วยไม่ได้ จากที่เคยคิดว่าจะไม่อายก็อายขึ้นมาหน่อยๆ ก็เนื้อแนบเนื้อขนาดนี้นี่ครับ 

ตอนนี้สายตาผมจับจ้องอยู่ตรงท่อนลำสีน้ำตาลที่เห็นจนคุ้นแต่ยังไม่ชิน ถึงปกติของทศจะแข็งตัวอยู่ตลอดเวลาที่แก้ผ้าอยู่กับผม แต่ไม่มีครั้งไหนที่มันจะบวมเป่งและดูแกร่งเหมือนหินผาเท่ากับครั้งนี้ น้ำใสเหนียวที่เยิ้มตรงส่วนปลายอยู่เป็นประจำคราวนี้มีมากกว่าทุกทีจนเคลือบส่วนหัวสีชมพูคล้ำมันวาวสะดุดตา ผมรู้สึกคอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายเอื้อก ทศเห็นผมตื่นแล้วเลยอธิบายว่าท่านี้เป็นการรีดเส้นบริเวณหลัง ไหล่ และต้นคอของผมซึ่งตึงมากเลยต้องค้างไว้ซักพัก ไม่รู้ทำไมผมถึงละสายตาจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ พอมองใกล้ขนาดนี้ผมต้องยอมรับของๆ ทศทั้งใหญ่ทั้งสวยจริงๆ แท่งสีเข้มที่มีรอยเส้นเลือดปูดชัดตามลำกล้องทำให้ดูกร้านแกร่งแต่ก็มีเสน่ห์ที่ผมนึกไม่ถึงมาก่อน พอคิดมาถึงตอนนี้ของๆ ผมก็เริ่มขยายตัวขึ้นมาเหมือนกัน ถึงขนาดจะสู้ไม่ได้ แต่ของผมน่าจะได้เปรียบที่ความขาวใสใหม่เอี่ยมที่ถนอมเก็บมายี่สิบกว่าปี ทศดูเหมือนจะสังเกตเห็นแต่เขาไม่ได้พูดอะไร

ปกติถ้าเกิดอารมณ์ขึ้น ผมก็จะใช้พวกคลิปหมวดเอ็มในการปลุกเร้าจินตนาการขณะที่ปลดปล่อยมันออก ผมนึกสงสัยว่าถ้าทศเป็นนักโทษหมวดเอ็มคลิปของเขาจะออกมาแบบไหน เลยสั่งให้ทศช่วยตัวเองให้ดูตรงนั้นเลย ทศมีสีหน้าประหลาดใจแต่ไม่มีท่าทีต่อต้าน เขาบอกแค่ว่าถ้าผมไม่รีบจะขอไปล้างมือที่เปื้อนน้ำมันก่อน อารมณ์ผมตอนนั้นมันพลุ่งพล่านจนไม่อยากรอแล้วผมเลยสั่งไปว่ามือผมยังไม่เปื้อนผมจะทำให้เองถ้ากลัวแสบ ทศท่าทางตกใจมากแต่ผมรู้ว่าเขาก็อยากปลดปล่อยเต็มแก่แล้วเหมือนกัน ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาผมไม่ได้อนุญาตให้เขาปลดปล่อยเลยนอกจากจะฝันเปียกตามธรรมชาติ

ผมคว้าหมับไปที่ท่อนลำตรงหน้า มันใหญ่มากจริงๆ จนกำไม่รอบ ความอุ่นร้อนและจังหวะการสูบฉีดเลือดที่เต้นตุบๆ อยู่ในกำมือผมให้ความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ผมเริ่มสาวไปตามความยาวเบาๆ ทศทำหน้าเสียวเหมือนแทบจะขาดใจ ผมก้มลงไปดูใกล้ๆ จนได้ยินเสียงเฉอะแฉะตามจังหวะ ของจริงนี่มันดีกว่าคลิปหมวดเอ็มตรงที่รูปรสกลิ่นเสียงมันมาเต็มๆ นี่เอง เดี๋ยวครับ เผลอพูดคล้องจองไปเฉยๆ เรื่องรสนี่ไม่ทราบนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมชิมไปแล้ว ใครจะไปทำไหว คงได้มีปากฉีกกันบ้าง เพื่อไม่ให้เสียเวลามืออีกข้างผมก็สาวของตัวเองไปด้วย

เสียงหอบหายใจของทศดังขึ้นเรื่อยๆ ซักพักตัวเขาก็กระตุกสั่นๆ แล้วน้ำจำนวนมหาศาลก็พุ่งออกมาเกือบสิบระลอก พูดไปก็เหมือนผมโม้ แต่มันเยอะมากจริงๆ ขนาดที่ผมไม่เคยเห็นในหมวดเอ็มมาก่อน เอาเป็นว่ากระฉอกแรกๆ นี่พุ่งไปเลอะหน้าเลอะตาของทศเอง แล้วไล่มาตรงหน้าอกและหน้าท้องแกร่ง ส่วนหลังๆ ก็อาบชุ่มอยู่ตรงมือผมนี่แหละ ทศหอบเหมือนคนวิ่งมาราธอนแต่ของของทศในมือผมยังแทบไม่อ่อนตัวลงเลย ผมเร่งมืออีกข้างที่ชักของตัวเองอยู่จนแตกตามไปในเวลาอันรวดเร็ว เสียวสุดๆ เลยเหมือนกัน ทศยกมือไหว้ผมขอบคุณผมแต่ไม่ยอมสบตา ผมไม่รู้ว่าเขาอายหรือโกรธผมกันแน่

อ้างถึง
Q. ทาสสามารถโกรธเจ้านายได้หรือไม่

A. ไม่ได้ ทาสจะโดนโปรแกรมจิตไม่ให้เกิดความรู้สึกทางลบ เช่น โกรธ หรือเกลียด กับเจ้านาย แต่อารมณ์อื่นๆ เช่น ดีใจ กลัว เขินอาย จะยังมีอยู่ตามปกติ /0

ท่าทางผมจะเผลอเล่าละเอียดไปทั้งๆ ที่ตอนหลังๆ ไม่ได้เกี่ยวกับหมวดความสามารถเสริมนี้เลย เอาเป็นว่าทศนวดเก่งมาก ต้นไม้ตรงระเบียงก็ได้ฝีมือเขาทั้งดูแลบำรุงทั้งไปหามาเพิ่มจนกลายเป็นสวนน่ารักขนาดย่อม เล่นตะกร้อเก่งมาก ชกมวยก็ได้เห็นว่าตอนมอต้นเคยเป็นนักมวยไทยรุ่นเด็ก ส่วนเรื่องที่เพิ่งเล่าไปเมื่อกี๊ไม่รู้ว่าจะจัดเป็นความสามารถเสริมได้หรือเปล่าเพราะทศก็ไม่ได้ทำอะไรแค่นอนให้ยืมของที่พ่อให้มาเฉยๆ ที่เหลือผมเป็นคนทำทั้งนั้น แต่หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้ทำมันอีก มันรู้สึกดีเกินไปจนผมกลัวตัวเอง ต้องขอเวลาทบกวนอะไรซักพักก่อน เอาเป็นว่าจะนับหรือไม่นับ หมวดนี้ผมขอให้ห้าดาวเต็มไปเลยแล้วกัน

คะแนนความสามารถเสริม *****

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
รีวิวถัดมาคือเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก หมวดนี้เป็นหมวดที่ให้คะแนนยากมากเพราะความเห็นไม่สอดคล้องกัน ว่าไงนะครับ ให้ยึดความเห็นผมเป็นหลัก นั่นละครับที่ไม่ตรงกัน คือตอนเจอทศตัวจริงครั้งแรกผมบอกได้เลยว่าหน้าตาเถื่อนๆ ดำๆ อย่างนี้ไม่ใช่สเป็ค ถ้าจะมีอะไรที่พอจะโอเคบ้างก็คงเป็นแค่เรื่องหุ่นดีกล้ามแน่นแค่นั้น ถึงไงคนก็คงดูที่หน้าตาก่อนอยู่ดี พอมาเป็นทาสผมเต็มตัว ก็เห็นข้อดีเพิ่มอีกอย่าง ก็เรื่องของใหญ่สวยนั่นไง แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะเอาไปอวดใครได้ อันนี้ว่ากันด้วยรูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียวนะครับ เรื่องนิสัยขยันขี้เกียจหรืออะไรไม่เกี่ยว อันนั้นยังไงเป็นทาสผมสั่งได้อยู่แล้ว แต่มาหน้าตาบ้านๆ นี่ จะให้สั่งให้หล่อขาวใสขึ้นมามันเป็นไปไม่ได้

อันนั้นความรู้สึกช่วงแรกนะครับ พออยู่ๆ ด้วยกันไป เห็นหน้ากันทุกวัน ผมก็เริ่มรู้สึกว่าหน้าตาของทศก็ไม่ได้แย่อะไร อันนี้เข้าใจว่าเป็นเพราะความชินตามั๊งครับ ทศคงไม่ได้หล่อขึ้นมาจริงๆ ในสองสามเดือนหรอก เห็นทุกวันมันคงคุ้นจนไม่ได้รู้สึกว่าหล่อหรือไม่หล่อ เหมือนเพื่อนสมัยเรียนที่มันเป็นเดือน ตอนปีหนึ่งรู้สึกว่ามันหล่อมากจนเขินๆ เวลาคุยด้วย แต่พอคบๆ ไปก็รู้สึกว่ามันหน้าตาธรรมดาเรือหาย ทศก็คงเหมือนกัน พอชินตามากๆ เข้าจากหน้าตาเถื่อนๆ บ้านๆ ก็กลายเป็นหน้าตาปกติไป

อันนี้ที่ผมคิดนะครับ แต่ก็มีคนเห็นแตกต่างไป อย่างยายดีนี่เพื่อนตั้งแต่ปอตรีแล้วยังมาเรียนปอโทด้วยกัน ตั้งแต่ที่นางเจอทศตอนไปรับผมกลับบ้านก็เอาแต่พร่ำเพ้อเซ้าซี้ถามผมว่าทศเป็นใครจนเพื่อนๆ คนอื่นก็พลอยอยากรู้ไปด้วย ผมเลยแกล้งบอกไปว่าทศเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวที่ทางตระกูลใหญ่ส่งมาอารักษณ์ขา เว่อร์มากใช่ไหมครับ แต่ไอพวกเพื่อนๆ ยิ่งเว่อร์กว่า นอกจากจะเชื่อเป็นตุเป็นตะ แต่ละคนยังแสดงภูมิกันใหญ่ว่านึกแล้วว่าผมไม่ใช่คนธรรมดา นอกจากจะหน้าตาดูเป็นคุณหนูคุณชาย เป็นหลานของอธิการบดีมหาลัยที่เรียนอยู่ นั่งรถหน้าตาแปลกๆ ที่น่าจะสั่งประกอบเป็นพิเศษ (ก็น้องเต้าหู้แหละครับ แต่รุ่นมันเก่าจนไม่มีใครรู้จัก) ยังมีบอดี้การ์ดประจำตัวที่เรียกนายน้อยทุกคำ สรุปว่าผมน่าจะเป็นทายาทของกลุ่มอิทธิพลที่ซ่อนเร้นตัวเพื่อควบคุมประเทศนี้อยู่ ว่าเข้าไปโน่น

พูดถึงกลุ่มอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังประเทศนี้อยู่ พ่อผมเคยบอกว่ามันมีจริงๆ นะ เห็นว่าสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ ไม่เชิงว่าควบคุมแต่เป็นการประคับประคองมากกว่า หากเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองจนมีท่าทีว่าจะเสียสมดุลย์ถึงจะยื่นมือเข้าคลี่คลาย จะมีจริงหรือไม่ยังไงก็ไม่ใช่บ้านผมหรอก ถ้าพวกมันเอานามสกุลผมไปกูเกิ้ลดูสักนิดก็คงรู้แล้วว่าบ้านผมก็นักธุรกิจธรรมดานี่แหละ แค่มีญาติบางคนรับราชการตำแหน่งใหญ่บ้าง แต่เรื่องธรรมดาๆ แบบนี้พวกมันมักจะไม่เชื่อกัน ต้องเป็นอะไรที่พิสดารพันลึกถึงจะถูกจริต จริงๆ ไม่น่ามาเรียนโทบริหารกันเลย ไปเรียนนิเทศซะก็หมดเรื่อง

ที่จริงผมไม่อยากไปต่อความยาวสาวความยืดอะไรกับพวกมันหรอก อยากเข้าใจว่าอะไรก็เข้าใจไป แต่ยายดีนี่ซึ่งตอนนั้นเป็นคนเดียวที่เคยเห็นหน้าทศชัดๆ นี่สิ นางเอาไปเล่าใส่ไข่อะไรซะมากมายว่าบอดี้การ์ดผมหล่อล่ำอย่างนั้นอย่างนี้ จนชะนีเก้งกวางในรุ่นต่างพากันเรียกร้องให้ผมเอาทศมาโชว์ตัวชัดๆ พอดีกับที่ผมเริ่มกังขาแล้วว่า ตกลงอย่างหน้าทศนี่เรียกว่าหล่อตามมาตรฐานคนกรุงด้วยเหรอ ผมไม่อยากจะเชื่อสายตาดีนี่เท่าไหร่ ก็หล่อนเป็นสาวลูกครึ่งนี่ครับ ผมรู้มาเหมือนกันว่าสาวฝรั่งจะชอบหนุ่มไทยตัวดำๆ บ้านๆ อะไรทำนองนี้ รสนิยมนางคงเอามาเป็นเกณฑ์ไม่ได้ ผมเอาทศไปโชว์ตัวกับเพื่อนทั้งกลุ่มเลยดีกว่า คนอื่นน่าจะเห็นเหมือนผมว่าทศนี่มันบ้านๆ เกินกว่าจะเรียกว่าหล่อ แต่ไหนๆ ดันบอกไปแล้วว่าทศเป็นบอดี้การ์ดก็ต้องทำให้สมจริงหน่อย

ผมเอาชุดสูทสีดำตัวเก่าให้ทศลองใส่ ทศสูงกว่าผมนิดหน่อยแต่สวมแล้วก็ไม่ได้ดูเต่อไป แต่ความหนานี่สิ สูทและกางเกงของผมเป็นทรงเข้ารูปอยู่แล้วพอทศใส่ยิ่งฟิตกับตัวจนเห็นสัดส่วนมัดกล้ามได้ลางๆ เห็นทศในชุดแบบนี้ดูแปลกตาจริงๆ จนผมนึกอิจฉาว่าหุ่นแบบนี้ใส่อะไรก็ดูดี แต่พอมองหน้าทศผมก็กระหยิ่มใจเล็กน้อย ตอนนี้ทศมีไรหนวดเคราสั้นๆ ขึ้นจนดูถ่อยเถื่อนขึ้นอีกหลายช่วงตัว ผมสั่งให้ทศหยุดโกนหนวดมาได้อาทิตย์กว่าแล้วตั้งแต่ที่คิดไว้ว่าจะพาทศไปทดสอบเรตติ้งกับเพื่อน ผมไม่ได้โกงนะ ถ้าทศหล่อจริง แค่มีหนวดมีเครานิดหน่อยคงซ่อนจากสายตาสอดรู้สอดเห็นของพวกเพื่อนผมไม่ได้

ดูรวมๆ น่าจะอุปโลกน์เป็นบอดี้การ์ดได้แล้ว ยังขาดพร้อพอีกนิดหน่อย ผมหยิบแว่นดำให้เขาใส่ ตามด้วยหูฟังบลูทูธหน้าตาไฮเทคอีกอัน ใช้ได้ ให้ความรู้สึกเหมือนบอดี้การ์ดของผู้นำกลุ่มผู้ก่อการร้ายระดับโลกอะไรเทือกนั้น ผมนึกขำในใจ แทบจะอดใจรอไม่ไหวว่าพวกเพื่อนที่เรียกร้องว่าเจอหน้าบอดี้การ์ดส่วนตัวผมว่าจะตะลึงขนาดไหน ที่นี่ล่ะคงไม่มีใครกล้ามากวนทีนใส่ผมอีกแน่ ผมนัดแนะให้ทศแต่งชุดนี้ไปรับผมหลังจากเลิกเรียนภาคค่ำเสร็จ ผมเลิกเรียนตอนสามทุ่ม บางวันก็อาจต้องทำงานกลุ่มกับเพื่อนต่อในห้องที่ทางหลักสูตรจัดไว้ให้ถึงสี่ห้าทุ่ม ปกติพอเสร็จผมจะเดินออกมาเองให้ทศรออยู่ที่รถ แต่คราวนี้ผมให้ทศเดินเข้าไปรอผมที่ห้องทำเคสเลยก่อนเวลาที่น่าจะเลิกสิบห้านาที

ผลนะหรือครับ ตาค้างทั้งห้องน่ะใช่ แต่ไม่ใช่ในแบบที่ผมเดา ทีแรกพอทศเดินเข้ามา คนในห้องดูงงๆ คงไม่รู้ว่าเป็นใคร มีแต่สะกิดกันจนทั้งห้องจ้องมาที่ทศเป็นตาเดียว ทศกวาดตามองหาผมอยู่ซักพักแล้วเดินเข้ามาหาถามเสียงดังว่า นายน้อยจะให้ผมรอที่ไหน เท่านั้นแหละครับ เสียงเซ็งแซ่เลย ลุกขึ้นมารุมล้อมผมกับทศถามโน้นถามนี่กันใหญ่ ผมเล่าเองคงจะบรรยายความวุ่นวายที่เกิดขึ้นไม่ได้ ขอตัดเอาบรรยากาศตอนนั้นมาแล้วกันครับ

“หนูพิช นี่บอดี้การ์ดคนที่ว่าเหรอ หล่อเร้าใจเจ้มาก” คนนี้เป็นเพื่อนรุ่นพี่ครับ น่าจะสามสิบแล้ว อย่างว่าเรียนโท MBA เพื่อนร่วมชั้นก็หลากหลายอย่างนี้แหละ มีทั้งมีประสบการณ์ทำงานมาเป็นสิบปี มีทั้งหน้าอ่อนๆ จบมาไม่นาน แต่ที่เคืองอยู่ก็ตรงชอบเรียกผมว่าหนูนี่สิ ที่ผมยังไม่เรียกเจ้ว่าป้าเลย

“ไม่ได้นะคะเจ้ หนูเจอก่อน พี่ชื่ออะไรคะ หนูเป็นเพื่อนสนิทของพิช ดีนี่ค่ะ พี่อายุเท่าไหร่คะ ปีนี้ดีนี่ยี่สิบสี่ น่าจะห่างกันกำลังดี” แล้วเธอจะเทียบไปทำไมละจ๊ะ ดีออก เอ้ย ดีนี่

“ผมชื่อทศครับ เป็นบอดี้การ์ดของนายน้อย เอ่อ อายุยี่สิบเจ็ดปีครับ” ทศตอบตามที่เตี้ยมกันมา แต่ไออายุนี่ไม่ต้องบอกก็ได้มั๊ง

“อร๊าย วัยฉกรรจ์ หล่อคมเข้มครบสูตร ละลายเลยฮ่า ใครว่าหล่อยกมือขึ้น” เสียงดังมาจากคนหลังๆ คลาสผมไม่น่ามีกระเทยควายแบบนี้ คงเป็นไอเพื่อนที่มันทะลึ่งๆ ดัดเสียงมาแซว

แต่ที่งงคือมือที่ชูขึ้นสลอนเต็มไปหมด ไม่รู้มันเตี้ยมกันมาดีหรือพวกนี้เห็นพ้องกันว่าทศหล่อจริงๆ สงสัยเพราะแว่นดำที่ใส่อยู่แน่เลย แว่นดำทำให้หล่อขึ้นสามสิบเปอร์เซ็นซ์ ข้อมูลจากจากสำนักวิจัยพิชยะเองครับ

“ทศ ถอดแว่นออกสิ มืดแล้ว” ถ้าเห็นหน้าตาชัดๆ บวกกับสายตาซื่อๆ บื้อๆ ของทศคงจะตาสว่างกันบ้าง

เสียงฮือฮาดังขึ้นเมื่อทศถอดแว่นออก

“คิ้วหนา ตาคม ใส่แว่นก็หล่อ ถอดแว่นมายิ่งเห็นแววตาจริงใจ แบบนี้ต้องทำหน้าที่บอดี้การ์ดปกป้องน้องพิชอย่างไม่มีที่ติแน่”

เหล่าเพื่อนร่วมคลาสที่เป็นรุ่นใหญ่หน่อยชมกันเปาะ เออ ลืมไป ทศมันมีไม้ตายใช้สายตาซื่อๆ เรียกความเอ็นดูจากบรรดาป้าๆ ได้

“แบบพิชผมก็ชอบนะฮะ แต่เพื่อนกันมันไม่ดี จริงๆ ผมชอบแบบพี่มากกว่า อยากสร้างสัมพันธ์กับผมแทนนายน้อยของพี่ไหมฮะ มากิ๊กกันๆ ฮ่าๆๆ”

ไอเพื่อนตัวเล็กน่าตาน่ารักเข้าไปประกบ นี่มันคิดอะไรกับผมมาก่อนหรือนี่ แล้วที่ชวนทศมาเป็นกิ๊กนี่ พูดจริงหรือพูดเล่นวะ
 
“ขอจับหน่อยค่า อุ้ย กล้ามแขนแข็งดีจัง ดีนี่ว่าพี่ทศฟิตขนาดนี้ น่าจะซิกแพ็คสวยมากๆ แน่เลย”

ยายดีนี่ครับ นางยังไม่หยุด กระแซะอยู่นั่น ผมว่าจริงๆ แล้วพวกมันแกล้งผมกับทศเล่นซะมากกว่า ปัญญาชนกันทั้งนั้น แต่ก็ว่าไม่ได้ กลัวเป็นแบบทีเล่นทีจริง แต่ถ้าเผลอก็เอา

“ไม่เชิงนะครับ ผมว่ากล้ามท้องผมนี่ขึ้นแปดลูกเลย ที่เพิ่มมาสองลูกนี่อาจไม่ชัดมาก แต่ก็มีคนชมเรื่อยๆ ครับ”

“ถ้าจะตอบละเอียดขนาดนั้น ก็แหวกเสื้อโชว์เลยสิ” ผมบ่นอุบอิบ แต่ทศดันหูดีได้ยิน

“ได้ครับนายน้อย” ทศบอกแล้วก็ปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตตัวในออกจนหมด พอแหวกเสื้อออกจนเห็นหน้าท้องแกร่งสีน้ำตาลเข้มด้วยท่วงท่ายังกะซุปเปอร์แมน เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นห้อง

ไม่นะ ผมไม่ได้สั่งซะหน่อย ไม่เข้าใจเหรอว่าพูดประชด

“กล้ามท้องอย่างกะพี่บัวขาว แต่หล่อโฮกกว่าเยอะ” มีเสียงซุบซิบกันเองดังระงม พูดแบบนี้ พี่บัวขาวรู้เข้าจะไม่เสียใจแย่เหรอ

“ผมว่าพี่ถอดเสื้อออกมาเลยดีกว่า มาประชันกับผมเลยว่าใครเจ๋งกว่ากัน พี่ก็แค่น่ากิน เอ้ย ได้เปรียบตรงที่ผิวเข้มแหละ กล้ามเนื้อมันเลยดูชัด ถอดมาประกบตัวต่อตัวกับของผมดู ผมว่าผมไม่แพ้ ถ้าผมแพ้ ผมยอมพี่เลยเอ้า” 

เอาแล้วไง ไอเด็กขาวตี๋ตัวล่ำที่ชอบนั่งหน้าห้อง ผมว่าแล้วว่าชอบทำตัวแมนๆ แต่จริงๆ เป็นใช่ไหม ตกลงไม่ได้แอบสินะ ดูออกจะเปิดเผย

ทศเริ่มหน้าเครียด มือทำท่าจะถอดเสื้อออก แต่หันมาสบตาผมก่อน ผมรีบสั่นหน้าให้รู้ว่าอย่าทำ ของๆ ผมนะ จะยอมให้คนอื่นมาแทะโลมได้ไง

“ทศ นายไปรอที่รถก่อน เสร็จแล้วชั้นจะตามไป” ผมตัดบทก่อนที่มันจะวุ่นวายไปมากกว่านี้

ผมรู้ดีว่าทศขีดความอดทนในบางเรื่องต่ำแค่ไหน ยายดีนี่ก็กระแซะอยู่ได้ ทำอย่างนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเอานมไปถูแหละ แล้วไม่ใช่ไม่สวยนะ สาวลูกครึ่งสวีเดนนี่ไม่ต้องพูดเลย คุณพ่อฝรั่งให้มาซะล้นทะลัก แล้วยังมีมือใครต่อใครที่ไปลูบกล้ามท้องอีก ถ้าอะไรๆ มันผงาดขึ้นมาหนาวกันทั้งห้องแน่ จริงๆ มันเริ่มแล้วด้วยซ้ำ แต่ท่าทางจะยังไม่มีใครสังเกต หรือเห็นแต่ไม่พูดก็ไม่รู้ ให้ทศออกไปก่อนแหละดีแล้ว นี่ไม่ใช่ว่าผมหวงทศหรอกนะ

เพื่อนๆ บ่นเสียดายกันใหญ่ แถมยังบอกว่าวันหลังให้พามาอีก เชอะ ใครจะพามา แค่นี้ของๆ ผมก็เสียราคาไปไหนต่อไหนแล้ว เจอมนุษย์หื่นพวกนี้

“โอ้ย น้องพิช บอดี้การ์ดน้องนี่แซบหลาย ทั้งหล่อ ทั้งล่ำ”

“อย่างนี้เรียกว่าหล่อเหรอพี่ ดำเถื่อนจะตายไป หล่อๆ มันต้องแบบผม ไม่เห็นพวกดารานายแบบจะมีหน้าตาแบบนี้ซักคน มีแต่หล่อขาวใส” ผมอธิบาย

“ไปอยู่ที่ไหนมาจ๊า นี่เขาเรียกว่าสายหล่อเซอร์ มาดเข้ม แมนๆ แกร่งๆ แบบผู้ชายแท้ๆ พวกหล่อใสเขาไว้ดูเล่นๆ สบายตา แต่หล่อเข้มมีแต่คนจะเอาในชีวิตจริงย่ะ”

“จริงที่สุด ไม่งั้นนักบอล นักมวย หรือพวกนักกีฬาตากแดดตัวดำๆ จะมีสาวๆ ตามกรี๊ดขนาดนี้เหรอ”

“เห ทศมันก็ไม่ได้หล่อขนาดนั้นมั๊ง” ผมก็ยังเชื่อในสเป็คตัวเองว่าคงไม่ตกเทรนด์ขนาดนั้น

“หล่อย่ะ ยังจะมาเถียง หล่อกว่าพวกนักกีฬาดังๆ อีก แล้วนี่พิช ชั้นสังเกตหลายทีแล้ว พี่ทศเขาก็อายุมากกว่าเราตั้งหลายปี ทำไมแกถึงไม่เรียกเขาว่าพี่วะ ถึงเป็นคนของทางบ้านแกก็น่าจะให้เกียรติกันบ้าง เขาอุตส่าห์มาช่วยดูแลถึงจะเป็นงานก็เถอะ ปกติแกไม่ใช่คนอย่างนี้นี่หว่า”

ดีนี่พูดตรงๆ ถึงจะชอบจิกกัดผมมาตั้งแต่ตอนเรียนปอตรี แต่ดีนี่ก็เป็นห่วงผมอยู่นะ มีอะไรนางก็พูดก็เตือนกับผมตรงๆ เรียกว่าสนิทในระดับที่ไม่โกรธกันด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้หรอก แต่ถ้าจะมาคิดเคลมทาสผมนี่ก็ต้องฉะกันซักตั้งนะ

แต่เรื่องที่เจ้าตัวออกความเห็นมา ผมก็ยังไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นะ ก็นางไม่รู้ความจริงเรื่องผมกับทศนี่

“แต่..”

“เจ้ก็ว่าอย่างนั้นนะหนูพิช เรายังเด็ก ต้องเจอคนอีกเยอะ การผูกมิตรไว้กับคนทุกระดับเป็นสิ่งดี การนับพี่นับน้องเป็นธรรมเนียมที่เป็นเอกลักษณ์ของสังคมไทย อย่างเจ้านายที่บริษัทเจ้ ใครอายุมากกว่าเขาก็เรียกพี่ ไม่เห็นจะมาถือศักดิ์ศรียศอย่างอะไร การบริหารงานก็ราบรื่นดี ใครจะสั่งงานใครมันก็เป็นบทบาทหน้าที่ของแต่ละคน ไม่เกี่ยวว่าเรียกพี่แล้วจะปกครองกันไม่ได้” เจ้รุ่นใหญ่ในกลุ่มผมเข้ามาสนับสนุน

คิดไปคิดมาก็จริงของดีนี่กับเจ้นะ ผมว่าที่ผมยึดติดกับกรอบว่าผมเป็นเจ้านายต้องอย่างนั้น ทศเป็นทาสต้องอย่างนี้ มันก็คิดมากจุกจิกเกินไป ผมว่าทศเขาก็เชื่อฟังผมดีอยู่แล้ว น่าจะไม่ใช่เพราะโปรแกรมจิตขององค์กรอย่างเดียวด้วย บางอย่างถึงผมไม่สั่งแต่ถ้าทศเดาได้ว่าน่าจะดีกับผมเขาก็จะทำให้อย่างเต็มที่ ผมว่าความสัมพันธ์ของเรามันน่าจะเป็นเหมือนนายกับบัตเลอร์หรือพ่อบ้านประจำตัวซะมากกว่า ทุกวันนี้ทศ เอ่อ พี่ทศก็ทำให้ผมทุกอย่างแล้ว นึกถึงวันที่หมดสัญญากันในอีกปีครึ่งแล้วก็ใจหาย ก็รู้ตัวนะว่าเป็นคนคิดมาก เงื่อนไขเยอะ แต่จากนี้ไปคงต้องปรับปรุงตัวเองในจุดนี้ให้ดีขึ้น อยากทำอะไรผมก็จะไม่คิดมาก เริ่มจากเรื่องของผมกับพี่ทศก่อนเลย

พอเคลียร์เรื่องงานกลุ่มเสร็จ ผมก็ไปขึ้นรถตรงที่พี่ทศจอดรอประจำ เขายิ้มทักทายเห็นฟันขาวตัดกับสีผิด ยิ่งตรงนั้นยิ่งมืดๆ อยู่ด้วย หน้าตาอย่างนี้เหรอที่พวกเพื่อนๆ ผมลงความเห็นว่าหล่อแมนเซอร์ อย่างที่บอกแหละครับ ผมชินตาจนไม่รู้สึกว่าหล่อหรือไม่หล่อแล้ว ผมมองเป้าที่นูนเด่นของพี่ทศแล้วตัดสินใจย้ายไปนั่งด้านหน้าคนขับ

“วันนี้อยากนั่งหน้า พี่ทศขับกลับคอนโดได้เลย”

อืม เรียกแบบนี้แล้วมันถนัดปากกว่าจริงๆ พี่ทศท่าทางแปลกใจ แต่ไม่ได้ว่าอะไร ผมมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของพี่ทศที่กำลังขับรถอย่างตั้งใจแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปไว้ มันไม่ถึงกับชัดมากเพราะเป็นตอนกลางคืนดีที่มีแฟลชทูโทนช่วยไว้ จากด้านข้างเห็นความเหลี่ยมคมโครงหน้าและไรหนวดเคราของพี่ทศได้ชัดเจน ผมโพสต์รูปที่เพิ่งถ่ายลงไปในเฟสบุคส่วนตัวที่นานๆ จะลงอะไรซักทีด้วยคำบรรยายสั้นๆ ว่า ‘สารถีรถฟักทอง’ แล้วอมยิ้มเล็กน้อย

ไม่รู้ด้วยอารมณ์เปลี่ยวยามใกล้เที่ยงคืน หรือความค้างคาใจตั้งแต่ตอนที่ช่วยกันหลังนวดเสร็จในคืนนั้น ผมถึงได้มีความคิดแปลกๆ อย่างนี้

“พี่ขับไปเฉยๆ นะ พิชอยากเล่นอะไรหน่อย”

ผมบอกพี่ทศแล้วก็เอื้อมมือไปปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงพี่ทศลง

“ยังแข็งอยู่เลย เจอหน้าอกเพื่อนผมเข้าไปเหรอครับ”

“นะ นายน้อย”

“เรียกน้องพิชสิครับ พี่ๆ ป้าๆ แม่บ้านที่บ้านใหญ่ก็เรียกกัน อย่างนี้ พี่ทศก็ได้ยินแล้วนี่นา”

ผมควักท่อนลำขนาดใหญ่ขึ้นมา น้ำเหนียวๆ ที่ส่วนปลายยังเยอะเหมือนเดิม ผมกำแท่งร้อนด้วยความรู้สึกคุ้นมือชวนให้โหยหา พอเริ่มรูดขึ้นรูดลงอย่างช้าๆ พี่ทศก็ครางออกมาเสียงแหบพร่าจนผมรู้สึกเสียวไปด้วย

“ดูทางดีๆ นะ ยังไม่อยากเป็นอะไรไปก่อนถึงคอนโด หรือจะให้พิชหยุดมือก่อน”

พี่ทศส่ายหน้าเร็วรัวจนผมอดขำไม่ได้ ผมไม่ได้ตั้งใจจะชักให้แตกหรอกครับ ไม่อยากให้เลอะน้องเต้าหู้ ไหนจะเรื่องกลิ่นอีก พี่ทศก็เป็นคนรักรถแถมเป็นผู้ดูแลน้องเต้าหู้ด้วยคงจะคิดเหมือนกัน (แต่ถ้าถามตอนนั้นก็ไม่แน่) ผมแค่มากำๆ เล่น แล้วรูดให้แข็ง ผมล้วงลงไปคลึงพวงสวรรค์ยานใหญ่แล้วรู้สึกนุ่มๆ อุ่นๆ สบายมือดี ฝ่ามือผมก็ทับอยู่บนลำที่แข็งโป๊ก ส่วนข้อมือก็เสียดสีกับกลุ่มขนหนาให้ความรู้สึกทั้งนุ่มทั้งหยาบ เป็นเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันแต่ผสมผสานลงตัวอยู่ในการล้วงแค่ครั้งเดียว

“พี่ อดทนไว้อย่าแตกนะ”

พี่ทศท่าทางเต็มกลั้นกัดฟันแน่นเชียวจนผมต้องผ่อนมือ งั้นถือว่านี่เป็นการลงโทษตามที่องค์กรขอความร่วมมือมาแล้วกัน ผมควักท่อนลำให้ออกมาตั้งโด่อยู่นอกกางเกงเพื่อมาเล่นกับแสงไฟที่วูบวาบเดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่างจากเสาไฟและรถที่สวนผ่าน มันดูน่าเกรงขามแต่ก็ลึกลับไปในตัว พี่ทศท่าทางอึดอัดมากคงเพราะของเขาใหญ่แต่ต้องมาถูกกางเกงคับๆ รั้งอยู่ตรงส่วนล่าง ผมเอามือคลึงไปเรื่อยตลอดทางกลับบ้าน น่าแปลกที่มันทำให้ความเครียดจากการทำงานและเรียนที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่เช้าหายไปได้ นี่มันได้ผลยิ่งกว่าลูกบอลฟองน้ำเนื้อแน่นๆ ที่เอาไว้บีบคลายเครียดซะอีก หรือเพราะความเครียดมันย้ายไปอยู่ที่พี่ทศกันแน่เห็นนั่งตัวเกร็งไปตลอดทาง แต่ผมรู้ว่าจะช่วยพี่เขาปลดปล่อยความเครียดได้ยังไง รอให้กลับถึงห้องก่อนเถอะ

ในที่สุดก็มาถึงคอนโดอย่างปลอดภัย ผมหยิบโทรศัพท์ที่ปิดเสียงไว้ขึ้นมาดู มีแจ้งเตือนจากเฟสบุคเต็มไปหมด ทุกอันเป็นคอมเม้นท์รูปพี่ทศที่ผมโพสต์ไปตอนนั่งรถกลับ เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทำไมทั้งเม้นท์ทั้งไลค์ถึงได้เยอะขนาดนี้

อ้างถึง
Pichaya T.
27 mins

‘สารถีรถฟักทอง’

Baew P., ดีนี่ Chalita Johnsson, Nana KittyCat and 86 others like this.

Comments
4 of 31

ย้งยี้ Piyada : ใครคะพิช คนขับแทกซี่เหรอ หล่อจัง ว่าแต่กลับบ้านดึกจังน้า เรียนหนักชิมิ ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว รถฟักทองเลยต้องรีบพากลับก่อนเวทย์มนต์เสื่อม อิอิ

Nana KittyCat : งานดีคร่า มดลูกเจ๊สั่นไปหมด #แพ้เครา

ดีนี่ Chalita Johnsson : เห็นแค่เสี้ยวหน้า ยังแซ่บขนาดนี้ อิจฉาแกว่ะ

Darawadee Na Penang : คนที่เข้ามาในห้องเมื่อกี๊นี่ เราขอเบอร์หน่อยได้ไหม ไม่ว่ากันนะ หล่อ หุ่นดี น่าจะไปเคสติ้งที่บริษัทเราดู

ผมดูคอมเม้นท์อื่นๆ ก็เห็นมีแต่ชมพี่ทศว่าหล่อเข้มอย่างนั้นอย่างนี้ โลกมันเปลี่ยนไปแล้วใช่ไหม งั้นคนหล่อแบบขาวใสอย่างผมคงอยู่ยากแล้วสิ ไปตากแดดให้ดำบ้างดีกว่า

ผมเลยสรุปคะแนนรูปลักษณ์ไม่ถูกครับ ไม่รู้ว่าจะให้คะแนนเท่าไหร่ ถ้าเป็นความรู้สึกแรกของผม คงให้หนึ่งหรือสองดาว เพราะไม่ใช่สเป็คผมเลย ดีหน่อยก็ตรงกล้าม ถ้าปัจจุบันนี้ผมคงให้กลางๆ เพราะไม่ได้มองว่าพี่ทศหล่อหรือไม่หล่ออีกแล้ว รู้สึกแค่ว่าเป็นใบหน้าที่คุ้นชินที่มองแล้วก็สบายใจดี แต่ถ้าเอามาตรฐานของเพื่อนๆ ผม คงหล่อระดับสี่ห้าดาวไปเลยมั๊ง

คะแนนรูปลักษณ์ภายนอก ***??

ก็ขอจบการรีวิวไว้เท่านี้ก่อนนะครับ สรุปว่าคุ้มค่าน่าดู ผมสังหรณ์ใจว่ายิ่งผมเปิดใจมากขึ้นเท่าไหร่ สิ่งที่ได้รับมันน่าจะยิ่งใหญ่กว่าเงินทองใดๆ

คะแนนประสิทธิภาพในการทำงาน *****
คะแนนความอดทนและพละกำลัง ****
คะแนนความสามารถเสริม *****
คะแนนรูปลักษณ์ภายนอก ***??
คะแนนเฉลี่ย 4.25+



อ้างถึง
Q. เจ้านายกับทาสสามารถรักกันได้หรือไม่

A. ความรักเป็นเรื่องของแต่ละคน ไม่มีใครสามารถสั่งใครได้ ตัวเราเองยังห้ามหัวใจไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับโปรแกรมควบคุมจิต องค์กรไม่ได้มีข้อห้ามใดๆ ในการที่เจ้านายและทาสจะรักกัน ทั้งในระหว่างที่เป็นทาสและหลังจากนั้น รักที่สมหวังเป็นเรื่องของคนสองคนที่คิดตรงกัน ขอให้โชคดีในความรัก ^^ /01

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อั๊ยยะ พิชยะปรับตัวเข้าหาพี่ทศด้วย ไปๆมาๆอย่างกับสามีภรรยา อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Fujoshi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
ต๊ายยยยยย อยากอ่านต่อจังค่ะ
สุดท้ายนี่คงตะได้อีกคู่ใช่มั้ยคะ

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
มารีวิวซะงั้น แต่ใช้งารไม่ค่อยคุ้มเลยน้าาาหนูพิช อิอิ

ออฟไลน์ numin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านรวดเดียวจนมาถึงตอนปัจจุบัน เอิ่ม รู้สึกฟินแบบแปลกๆ เอิ๊กๆๆๆๆ

รออ่านคู่หมายเลขหนึ่งกะศูนย์อยู่ รอวันที่ศูนย์โดนจับกิน 5555+

 :oo1: :oo1: :oo1:

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :katai2-1: อ๊ากชอบอ่าๆๆๆๆ ตกหลุมรักซะแล้วหรอหนูพิช อิอิอิ หวงซะด้วย

เอาอีกครับๆๆๆๆๆ รวมเล่มเลยนะผมรอซื้อ :hao6:

ออฟไลน์ cookie_

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 พี่ทศคนซื่อ น่ารักจัง :hao7:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ lovely tham

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
พิชยะ เอาอีกๆ  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: นางน่ารักเอานางมาอีก :o8: :o8:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Review ซะอยากซื้อเลย
เสาร์อาทิตย์นี้จะมาต่อเปล่าครับ

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอๆเมื่อไรท่านจะมาต่อ :mew2:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
 อิจฉาคุณพิช คนอื่นตาไม่ถึงเลยไม่ได้ประมูลพี่ทศไปสินะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2015 13:25:04 โดย 2pmui »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
มาต่อเห้ออออ รออยู่น่าา  :ling1: :katai5:

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ขอโทษด้วยครับที่มาต่อช้าไปมากๆ อาทิตย์ที่แล้วเป็นหวัดนอนซม แถมตอนนี้ยังเขียนยากอีก เพราะเป็นบทส่งท้ายที่ผมอยากจะเคลียร์ประเด็นที่ค้างอยู่ออกไป ลองไปติดตามกันดูครับ

-------------------------------------------------------------------------------

องค์กรลวงจิต Explicit Content

บทที่ 24 วันสบาย (?) กับนายบอส

[บอส]

หลายคงคงคิดว่าชีวิตผมนี่แสนจะสบาย มีทั้งพลังสะกดจิต มีเพื่อนซี้เข้าขั้นอัจฉริยะที่คอยช่วยเหลือดูแลทุกอย่าง มีองค์กรยิ่งใหญ่พร้อมเครือข่ายที่ทรงอำนาจ ทำร้านไวน์ก็ประสบความสำเร็จ งานก็แสนจะง่ายดายแถมสนุก แค่ใช้อำนาจสะกดจิตไปเอาตัวหนุ่มหล่อๆ ที่ทำผิดมาลงโทษ ใครที่คิดอย่างนั้นผมอยากให้มาเห็นจังว่าวันๆ ผมทำอะไรบ้าง เหนื่อยแค่ไหน การรันองค์กรใต้ดินอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมต้องทุ่มเทความพยายามมากมายในการดูแลให้มันเดินไปด้วยดีถูกทิศทางที่ควรจะเป็น บางครั้งก็เหนื่อยจนท้อใจ ไอที่จะลาพักร้อนห้าวันสิบวันเพื่อไปเที่ยวต่างประเทศเหมือนมนุษย์เงินเดือนนี่ไม่มีทางเลยจริงๆ

การเป็นองค์ใต้ดินมีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องยึดติดกับกรอบของกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม หรือกฎเกณฑ์ใดๆ ของสังคม นั่นทำให้เราสามารถเอาตัวคนผิดมารับโทษเพื่อชดใช้ให้กับผู้เสียหายได้รวดเร็วและตรงตัว แต่ความอิสระนี้ก็เป็นข้อเสียเช่นกัน เราต้องระมัดระวังตัวอย่างมากที่จะไม่ให้อำนาจที่เรามีไปสร้างความเดือนร้อนให้คนบริสุทธิ์หรือทำให้เกิดความอยุติธรรมขึ้นมาซะเอง ผมกลัวจะเป็นอย่างคำกล่าวที่ว่า พลังอำนาจที่สมบูรณ์เบ็ดเสร็จเกินไป จะนำมาซึ่งความล่มสลายในที่สุด

องค์กรใต้ดินไม่มีใครคอยมาตรวจสอบ ชี้แนะ หรือตัดสินให้ เอาแค่เรื่องการตัดสินความผิด มันเป็นเรื่องที่ยากเย็นจริงๆ ในบริบทของสังคมที่ซับซ้อนวุ่นวายนี้ มันไม่มีสีขาวหรือดำที่แยกกันชัดเจนอีกต่อไป ในกระบวนการยุติธรรมบนดินยังมีความเห็นจากหลายด้านมาถ่วงดุลย์กัน มีระบบศาลอุธรณ์ ศาลฎีกา ให้ทวนสอบคำตัดสิน บางประเทศก็ใช้ระบบลูกขุนเพื่อความเป็นกลาง แต่ที่องค์กร เราต้องหาข้อมูลมากมาย ทวนสอบ วิเคราะห์แล้ววิเคราะห์อีก แล้วจึงตัดสินด้วยตัวเองทั้งหมด

ในส่วนการปฏิบัติงานก็เช่นกัน เราต้องหาคนมาช่วยงานเพื่อให้สามารถขยายการดำเนินงานให้กว้างและเร็วยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ต้องระวังไม่ให้มีการใช้อำนาจขององค์กรไปในทางที่ผิดซะเอง ระบบของโป๊ปช่วยได้มากที่ทำให้งานหลายอย่างเดินไปได้แบบอัตโนมัติ แต่ถึงยังไงก็ยังเหลือเรื่องที่ผมต้องลงมือเองอยู่ดี

ถ้าเหนื่อยขนาดนั้น ทำไมไม่หยุดพักทำเท่าที่ทำได้แค่นั้นพอ อาจมีคนถาม ผมบอกเลยว่าผมคงไปเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีคนมากมายกำลังเดือดร้อนไม่ได้ คนชั่วคนทำผิดที่ลอยนวลได้รับความนับหน้าถือตาก็ยังมีเต็มไปหมด บางครั้งกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายก็ดูจะช้าเกินไป ระบบอุปถัมถ์แบบไทยๆ ก็มีจุดอ่อนที่ทำให้เกิดการปกป้องพวกพ้องโอบอุ้มคนผิด ผมมีแต่จะต้องเร่งขยายงานขององค์กรให้ช่วยคนได้เร็วและมากที่สุด ผมอยากจะใช้อำนาจสะกดจิตที่ได้รับจากพ่อให้ท่านภูมิใจ

ที่ว่ามาดูซีเรียสผิดนิสัยผมใช่ไหมครับ จริงๆ ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ นานๆ จะมีโอกาสได้บ่นซะที ผมบ่นแต่กับไอโป๊ปจนมันรำคาญ บางทีแค่พูดว่าอยากหยุดยาวไปเที่ยวญี่ปุ่นหรือนิวซีแลนด์บ้าง โป๊ปก็หันมามองหน้าแล้วถามว่าช่วงที่ไปผมจะปล่อยวางได้เหรอ แค่นี้ผมก็ต้องหยุดกึกแล้ว มันรู้ทั้งรู้ยังจะมาจี้ใจดำผมอีก

เกริ่นมาซะยาวก็แค่จะชวนว่าลองตามไปดูผมทำงานซักวันกันไหม เผื่อจะมีคนเห็นใจผมขึ้นมาบ้าง ก็ทำงานองค์กรนี่มันเหมือนปิดทองใต้ฐานพระยังไงยังงั้น ต้องปกปิดตัวเองให้ใครมารู้ไม่ได้ นี่ถ้าส่วนหนึ่งของงานไม่ใช่เป็นการทำหื่นใส่หนุ่มๆ หล่อเลวนะ ผมคงท้อไปนานแล้ว เรียกว่ามีความหื่นเป็นพลังขับเคลื่อนหลัก ฮ่าๆ แล้วก็เพราะเบอร์หนึ่งนี่แหละที่คอยสนับสนุนทุกอย่างโดยไม่บ่น ทั้งๆ ที่มันมีภาระหลายด้านมากกว่าผมซะอีก

วันนี้ผมต้องออกแต่เช้าครับ ภารกิจเต็มเอี้ยดทั้งวัน งานแรกผมต้องไปตามล่าตัวคนทำผิดที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง แค่คิดก็แซ่บแล้วใช่ไหมเด็กหนุ่มขาสั้น อย่าเพิ่งหวังมากครับ รายนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร จากเบาะแสก็น่าจะหุ่นดีอยู่ แต่จะหน้าตาดีด้วยหรือเปล่าต้องไปลุ้นเอา

เคสนี้ไม่ง่ายครับ องค์กรพยายามสืบมาสองสามสัปดาห์แล้วยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่ล่าสุดก็ตีกรอบเข้ามาได้จนถึงจุดที่ผมต้องออกโรงเองในวันนี้ เหยื่อเป็นสาวน้อยวัยมัธยมโดนหนักถึงขั้นถูกวางยาแล้วข่มขืนเลยครับ น้องเขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น จำได้แค่ว่าวันนั้นเป็นช่วงเช้าวันเสาร์ เธอกำลังขับรถกลับจากการวิ่งออกกำลังที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ซึ่งไปเป็นประจำ ไม่ได้ออกถนนใหญ่ด้วยเพราะยังไม่มีใบขับขี่ พอถึงช่วงในซอยที่ห่างจากบ้านเธอไม่ถึงกิโล ก็มีคนขี่จักรยานมาชนแล้วทั้งคนทั้งจักรยานก็ล้มลงไปนอนนิ่งท่าทางเหมือนสลบ น้องเขาด้วยความที่ตกใจก็รีบหยุดรถลงไปดูอาการคนเจ็บ พอไปถึงตัว ผู้ชายคนที่นอนสลบอยู่ก็เอาผ้าโปะมาที่หน้าแล้วเธอก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย

ตอนที่เด็กสาวโชคร้ายรู้สึกตัวอีกทีก็บ่ายโมงกว่า เธอนั่งอยู่ในรถตัวเองซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุเมื่อเช้า พอได้สติน้องเขาสำรวจตัวเองก็รู้ว่าถูกข่มขืน ที่เบาะข้างมียูเอสบีไดรฟ์วางอยู่บนกระดาษเอสี่ที่มีข้อความพิมพ์ว่าให้เปิดดูซะถ้าไม่อยากเดือดร้อน ในนั้นมีไฟล์วิดีโอคลิปที่บันทึกภาพเธอถูกข่มขืนแบบไม่ได้สติอยู่พร้อมข้อความขู่ว่าให้เลิกยุ่งกับแฟนหนุ่มของเธอซะ ไม่งั้นคลิปจะถูกเผยแพร่

เหยื่อถึงขั้นสติแตก โชคดีที่เธอไม่คิดสั้นในทันทีแต่เลือกที่จะไปโพสต์ระบายความสับสนสิ้นหวังในเฟสบุคส่วนตัวว่าอยากตาย นั่นทำให้เครือข่ายขององค์กรไปเจอเข้าและเปิดเคสเพื่อสืบสวนให้ความช่วยเหลือ ยูเอสบีไดรฟ์และคลิปวิดีโอในนั้นเป็นเบาะแสเพียงอย่างเดียวที่มี คนร้ายฉลาดพอที่จะไม่ทิ้งหลักฐานอะไรที่จะมัดตัวเองได้ คลิปเห็นหน้าผู้หญิงอย่างชัดเจนแต่ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าผู้ชายเป็นใครเพราะเห็นแค่ช่วงล่างเท่านั้น ถ้าคลิปนี้ถูกส่งไปข่มขู่เหยื่อทางอีเมลหรือโซเชียลเน็ตเวิร์คเหมือนทุกทีเรื่องจะง่ายกว่านี้มาก แค่ไม่ถึงชั่วโมง เบอร์หนึ่งขององค์กรก็สามารถระบุตัวคนทำหรืออย่างน้อยก็เครื่องต้นทางได้แล้ว แต่นี่มาเป็นยูเอสบีไดรฟ์ธรรมดาๆ โป๊ปเลยหมดปัญญาที่จะสืบต่อว่ามาจากไหน

จากเงื่อนไขที่สั่งให้เลิกกับแฟน ก็พอจะเดาได้ว่าเหตุจูงใจอาจจะเป็นเรื่องชู้สาวทั่วไป เจ้าหน้าที่องค์กรได้พยายามสืบจากคนใกล้ตัวของเหยื่อ แต่ก็ยังไม่พบความเชื่อมโยงว่าใครที่น่าจะเป็นคนร้าย แฟนหนุ่มของเหยื่อเป็นคนเจ้าชู้และควงสาวๆ อยู่หลายคนแต่เหยื่อเป็นคนที่คบออกหน้าออกตามากที่สุดเพราะทางบ้านมีธุรกิจร่วมกัน ถ้าดูจากแรงจูงใจ คนที่บงการอาจเป็นหนึ่งในสาวๆ เหล่านี้ก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นผู้ต้องสงสัยจะยิ่งกว้างเพราะเธอเหล่านั้นอาจจะไปขอหรือจ้างให้ใครมาทำก็ได้ คลิปวิดีโอให้เบาะแสว่าคนร้ายน่าจะเป็นเด็กหนุ่มผิวขาวหุ่นดีมีกล้ามเนื้อแต่ส่วนสูงยากจะบอกได้เพราะเห็นแต่ช่วงล่าง เคราะห์ดีของเหยื่อที่เขาใส่ถุงยางด้วยจึงตัดปัญหาท้องหรือติดโรคไปได้ อวัยวะเพศคนร้ายค่อนข้างใหญ่แต่เอียงมาทางซ้ายมาก จากคลิปที่เห็น คนร้ายไม่มีรอยสักหรือตำหนิที่ชัดเจนใดๆ พอจะต่อยอดการสืบสวนได้

พอการหาเบาะแสเริ่มตัน โป๊ปก็เอาเอสบีไดรฟ์มาตรวจสอบอีกที โชคดีที่พอใช้การกู้ข้อมูลกลับในระดับสูงก็เจอว่าไดรฟ์อันนี้เคยบันทึกไฟล์มาก่อนหน้านี้แต่ถูกลบและฟอร์แมตก่อนก็อปปี้วิดีโอใส่ โป๊ปพยายามอย่างมากจนดึงไฟล์เล็กๆ ที่ว่ามาได้สำเร็จ มันเป็นแค่ไฟล์เวิร์ดของรายงานฉบับหนึ่งซึ่งยังทำไม่เสร็จ ตรงหน้าปกไม่มีชื่อผู้ที่ทำรายงานอย่างที่หวัง แต่เคราะห์ดีที่ได้มีการพิมพ์ชื่อวิชา ชื่ออาจารย์ และโรงเรียนที่สังกัดลงไปแล้ว ผมให้เครือข่ายขององค์กรไปสืบก็พบว่าอาจารย์ท่านนั้นสอนวิชานี้เมื่อเทอมที่แล้วให้กับนักเรียนชั้นมอห้าสายวิทย์ทั้งหมดแปดห้อง ถึงจะไม่สามารถระบุตัวคนได้ชัดเจน แต่ถ้าคนร้ายเป็นเจ้าของรายงานฉบับนั้นจริงก็นับว่าเราเข้าใกล้มามากแล้ว

โป๊ปเอารายชื่อนักเรียนชายของทั้งแปดห้องที่ว่าป้อนเข้าไปในระบบฐานข้อมูลขององค์กรเพื่อสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์มาทำการวิเคราะห์ว่าใครน่าจะเป็นคนร้ายตัวจริง ผลออกมาว่าไม่เจออะไรที่ผิดปกติ คนร้ายดูจะระวังตัวหรือไม่ก็ไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ทเป็นประจำ

นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องมาล่าตัวคนร้ายเองที่โรงเรียนในวันนี้พร้อมกับโป๊ปซึ่งบ่นไม่หายว่างานนี้ยากกว่าทุกที ผมไปพบกับ ผอ. โรงเรียนแต่เช้าเพื่อขอความร่วมมือ

“สวัสดีครับท่าน ผอ. ผมมาจากวิทยาลัยพาณิชย์นาวีที่จะมาแนะนำหลักสูตรพิเศษให้กับนักเรียนตามที่ติดต่อไว้ครับ”

“หือ ยังไงนะ ผมไม่เห็นทราบเรื่องเลย” ผอ. ตอบแบบงงๆ แต่พอสบตาผมก็พูดต่อทันที

“อ๋อ จำได้แล้วครับ ผมต้องทำอะไรบ้าง” ผอ. ให้ความร่วมมืออย่างดี ขอโทษนะครับที่ต้องใช้พลังสะกดจิตนิดนึง

“ผมจะขอรบกวน ผอ. ช่วยเตรียมห้องประชุมที่พอจะจุเด็กได้ซักสองร้อยคน ขอเป็นห้องที่มิดชิดหน่อยนะครับ แล้วช่วยประกาศเรียกนักเรียนชายมอห้าสายวิทย์ทั้งหมดมาเข้าฟังหลังจากเคารพธงชาติด้วย ไม่ต้องเชิญอาจารย์ท่านอื่นมาด้วยครับ ขอให้แจ้งไปว่า ผอ.จะเป็นคนดูแลเอง คงใช้เวลาไม่นานนักหรอกครับ”

“งั้นคงต้องเป็นที่ห้องโสตทัศนศึกษา เดี๋ยวผมจะให้คนพาไปนะครับ”

จากนั้น ผอ. ก็ขอตัวไปประสานงานและสั่งการตามที่ผมมอบหมาย ส่วนผมกับโป๊ปก็ไปสำรวจสถานที่ เป็นห้องประชุมติดแอร์มิดชิด มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพวกไมโครโฟนและเครื่องฉายแอลซีดีให้พร้อม เหมาะดีจริงๆ แต่ไม่ได้จัดที่นั่งไว้นะครับ คงให้นั่งกับพื้นซึ่งก็ดูสะอาดดี

พอได้เวลา นักเรียนชายที่เป็นกลุ่มเป้าหมายก็ทะยอยเดินเข้ามาในห้องอย่างงงๆ บางคนก็ดีใจที่ไม่ต้องเข้าเรียน พอเข้ามากันหมดแล้วผมก็ปิดประตูห้องโดยขอให้ ผอ. เฝ้าอยู่ด้านนอก รู้สึกเกรงใจท่านอยู่เหมือนกัน พอจบเรื่องคงต้องขอให้โป๊ปบริจาคเงินให้ ผอ. ใช้สนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนบ้างแล้วกัน

ในห้องเด็กๆ พูดคุยกันเจี๊ยวจ๊าว ผมเดินไปยืนด้านหน้าแล้วกวาดสายตามองไปทั่วๆ ไม่เลวแฮะ เด็กสมัยนี้เป็นหนุ่มกันไวจัง หน้าตาดีๆ ทั้งนั้น เด็กกางเกงดำนี่ไม่ได้แพ้กางเกงน้ำเงินเลย ผมเริ่มงานโดยการส่งเสียงเรียกความสนใจ

“น้องๆ ครับฟังทางนี้หน่อย”

เกือบทั้งหมดหันมาตามเสียงเรียก ผมเริ่มทำการสะกดจิตหมู่โดยใช้เทคนิคที่ฝึกมาเป็นอย่างดี ซักครู่เดียวเด็กส่วนใหญ่ในห้องก็เชื่อมต่อกับอำนาจสะกดของผม ยังมีเด็กบางคนที่ยังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์หรือคุยกับเพื่อนโดยไม่สนใจ ผมจึงเริ่มทำการตรวจสอบตามเทคนิคที่โป๊ปช่วยคิดให้ ผมนึกภาพให้เด็กจับหูซ้ายตัวเองแล้วกระจายคำสั่งนี่ไปทั่วห้องผ่านทางสายตา โป๊ปซึ่งดูอยู่หลังห้องก็จะรู้ได้ว่าเด็กที่ไม่ได้เอามือจับหูคือคนที่ยังไม่อยู่ในอำนาจสะกด โป๊ปไล่สะกิดเด็กพวกนั้นให้เงยหน้าขึ้นมาสบตาผมทีละคน เพียงครู่เดียวผมก็ควบคุมเด็กทั้งห้องสองร้อยกว่าคนได้ทั้งหมด

ถึงตอนนี้ผมสามารถเปลี่ยนมาใช้วิธีสั่งการด้วยเสียงเพราะสะดวกกว่าและสั่งให้ทำเรื่องที่ซับซ้อนได้

“ขอให้น้องๆ ทุกคนลุกขึ้นยืนแล้วถอดกางเกงออกให้หมด กางเกงในด้วยครับ ไม่ต้องอาย เราจะมาหาตัวคนที่ไปทำความผิดไว้มาลงโทษครับ ขอความร่วมมือด้วย”

อย่างที่ผมเคยเล่าไป พลังสะกดผมไม่ใช่จะทำได้ทุกอย่าง อยู่ๆ จะมาสะกดให้รับสารภาพเรื่องที่ปกปิดออกมานี่ทำไม่ได้ ผมเลยต้องมาสืบหาตัวคนร้ายจากเบาะแสชิ้นสุดท้ายที่ได้จากคลิปวิดีโอ

เด็กๆ เริ่มทำตามที่ผมสั่ง บางคนก็ทำเลยทันที แต่คนที่จิตแข็งหน่อยก็ทำท่าอิดออดแต่ก็ยอมถอดในที่สุด คำสั่งนี้มันคงขัดกับจิตสำนึกของน้องๆ ไปหน่อย แต่ก็ไม่เกินกำลังที่ผมจะควบคุมได้ อยากให้ได้มาเห็นภาพในตอนนี้จัง เด็กมอห้าวัยใสสองร้อยกว่าคนยืนเปลือยท่อนล่างท่าทางเขินอาย บางคนก็ยังเป็นหนุ่มไม่เต็มที่ดูน่ารักแบบเด็กๆ แต่บางคนนี่ทั้งหุ่นทั้งขนาดผู้ใหญ่ยังต้องอาย น้ำลายจะหก ผมท่องในใจว่านี่เป็นงาน พยายามรวบรวมสติ ไม่อยากคิดไม่ดีกับน้องโดยไม่จำเป็น อารมณ์หื่นที่เกิดขึ้นผมขอสะสมไปลงกับคนร้ายทีเดียวแล้วกัน เพี้ยง ขอให้หน้าตาพอใช้ได้ด้วยเหอะ

ผมเตรียมจะมองหาว่าใครมีลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายมากที่สุด แต่ท่าทางจะทำได้ยาก เด็กโรงเรียนนี้ก็ขาวๆ หุ่นดีๆ กันกว่าครึ่ง จะไล่เทียบดูทีละคนก็คงเสียเวลาไม่ใช่น้อย ผมถอนหายใจ คงต้องรบกวนให้น้องๆ เปลืองตัวอีกนิด

“น้องๆ ครับ ให้ทุกคนนอนราบไปกับพื้น แล้วค่อยๆ ชักให้น้องชายแข็งตัวนะครับรบกวนหน่อย เดี๋ยวหาคนร้ายเจอแล้วพี่มีรางวัลให้”

คราวนี้มีคนอิดออดมากกว่าคราวแรก ก็แหงล่ะ อยู่ๆ ให้มาทำอะไรคล้ายๆ กับการชักว่าวหมู่ น้องคนโน้นตัวแดงแจ๋เลยแฮะ ท่าทางจะขี้อาย ผมคงต้องให้เวลาอีกหน่อย น้องๆ นอนหงายบนพื้นแล้วค่อยๆ ใช้มือช่วยปลุกอารมณ์ตัวเอง ในที่สุดอาวุธแรกรุ่นของทุกคนก็ตั้งตระหง่านใหญ่บ้างเล็กบ้างแต่ก็แข็งขันสมวัย มองไปก็ละลานตาเหมือนทุ่งดอกกระเจียว หรือไม่ก็ลานเห็ดโคน ประทับใจจังแฮะ อยากถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกจัง แต่ไม่ดีหรอก สงสารน้องๆ ถึงสุดท้ายจะลืมหมดก็ตาม แล้วอีกอย่างนึง ถ้าทำจริงๆ ไอโป๊ปต้องว่าแหงๆ ขี้เกียจทะเลาะกับมันเรื่องแบบนี้

ผมเดินไล่ดูทีละแถว แท่งงอๆ เอียงซ้ายอยู่ไหนนะ ต้องยอมรับไว้ตรงนี้ว่า สติสตังไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวจริงๆ เดินไป แต่ละดุ้นแต่ละท่อนนี่มันชวนให้หัวใจวายดีจริงๆ บางคนก็หล่อน่ารักจนผมอยากทาบทามไปเป็นไวน์บอยซะเลย เดินซ้ำไปวนมาแถวเดิมก็ยังไม่รู้ตัว จนโป๊ปต้องตะโกนใส่

“บอส เร็วๆ หน่อยสิ น้องๆ จะได้ไม่เสียเวลามาก” เตือนดีๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องทำเสียงดุเลย

ในที่สุดผมก็เจอแท่งใหญ่ๆ ที่งอไปทางซ้ายจนแปลกตาตรงแถวสุดท้าย ดูจากรูปร่างสีผิวแล้วน่าจะใช่ตัวคนร้ายแน่ๆ มองหน้าตาแล้วก็ต้องถอนใจ เข้าตำราหล่อเลวอีกแล้วสิเด็กคนนี้ แต่ก็ดี จะได้ทำโทษสนุกหน่อย ผมขอให้โป๊ปมาพาตัวแยกออกจากแถวไป คงต้องสอบสวนกันทีหลัง ตอนนี้ต้องรีบเคลียร์ตรงนี้ก่อน

พอผมหันกลับไปที่แถวก็ต้องกลืนน้ำลายเอือก เด็กส่วนหนึ่งเริ่มชักว่าวแบบเป็นจริงเป็นจังแล้ว บางคนนี่ถึงกับผลัดกันชักกับเพื่อน นี่แหละที่ผมไม่ค่อยอยากสะกดจิตหมู่นักถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ผลของมันบางทีคาดเดาได้ลำบากเพราะแต่ละคนจะตอบสนองต่อการสะกดไม่เหมือนกันซะทีเดียว ผมเร่งพลังสั่งให้ทุกคนยกเลิกสิ่งที่กำลังทำอยู่แล้วแต่งตัวให้เรียบร้อย ถึงจะอยากเห็นแค่ไหนแต่ถ้าปล่อยให้เด็กครึ่งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นอย่างว่าตอนกลับไปเช้าชั้นเรียนคงไม่ดีแน่

ผมกลับมาสู่ขั้นตอนสุดท้ายตามที่ตั้งใจไว้

“มอห้านี่วิชาอะไรยากสุดครับ” ผมยิงคำถาม

เสียงส่วนใหญ่ตอบว่าเลข

“แล้ววิชาเลขนี่บทไหนเข้าใจยากสุดครับ”

น้องๆ ค่อนข้างจะเห็นพ้องกันว่าเรื่องฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึมนี่หินสุดๆ

“น้องคนไหนที่คิดว่าตัวเองเข้าใจเรื่องนี้ดีที่สุด พี่ขอสามคนครับ ช่วยติวให้เพื่อนๆ หน่อย”

มีเด็กคนนึงลุกออกมาอย่างมั่นใจ แล้วตามมาอีกสองคน ท่าทางก็สมกับเป็นเด็กเรียนเก่งจริงๆ แต่คนแรกสุดนี่ผมจำได้ เห็นใส่แว่นท่าทางเนิร์ดๆ อย่างงี้แต่ของใหญ่สวยอมชมพูมาก ซิกแพ็คก็มาเต็ม ซ่อนรูปชะมัด

ผมให้น้องทั้งสามคนแบ่งกันว่าใครจะติวให้เพื่อนช่วงไหนในเรื่องฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม คนที่ไม่ได้พูดก็ต้องตั้งใจฟังเพื่อตรวจสอบว่าสอนถูกหรือไม่ และสามารถเสริมเทคนิคต่างๆ ได้ จากนั้นผมก็สะกดจิตให้กระตุ้นการรับรู้และความจำของคนฟัง ผมคาดว่าให้ติวกันไปซักชั่วโมงกว่าน่าจะเข้าใจและจำได้แม่นกว่าไปเรียนหรืออ่านหนังสือเองเป็นเดือนอีก นี้เป็นของรางวัลที่มอบให้ทุกคนเพื่อชดเชยที่ต้องมาเปลืองเนื้อเปลืองตัวกับการตามล่าตัวผู้ร้ายของผม

ระหว่างที่รอน้องๆ ติวกันให้เสร็จ ผมก็โทรเรียกจอมให้ช่วยบิดมอเตอร์ไซค์มารับตัวนักโทษไปดูแลก่อน เดี๋ยวผมจะต้องมีไปทำภารกิจอื่นต่อ ตอนนี้จอมมาเป็นอาสาสมัครช่วยงานองค์กรแบบเต็มที่แล้ว หน้าที่หลักคือการดูแลร้านล้างรถ แต่ก็ทำงานพวกสืบข้อมูล

ผมกำลังคิดว่าจะรับจอมให้มาเป็นเจ้าหน้าที่หมายเลขขององค์กรซะที เด็กคนนี้เก่งหลายด้านถ้ามีคนให้โอกาส ผมว่าเขาจะเป็นกำลังสำคัญให้กับองค์กร จอมมีภาวะผู้นำบริหารจัดการคนได้ดี ไม่รู้เพราะเคยเป็นหัวหน้าแก๊งค์มาก่อนหรือเปล่า ขนาดตอนนี้จอมทั้งเรียน ปวช. ทั้งดูแลร้านกาแฟของตัวเอง แล้วก็ทำงานให้องค์กรไปด้วย ทุกอย่างยังราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร เด็กๆ ที่มาทำงานล้างรถกับเด็กๆ ที่ร้านกาแฟก็รักและนับถือจอมมาก

ผมรอซักพักจอมก็มาถึง

“หวัดดีครับพี่บอส รอนานไหมครับ นี้ผมรีบที่สุดแล้ว ฝากน้องดูร้านได้ก็รีบบึ่งมาเลย”

จอมเอ่ยปากทักทาย เห็นท่าทางดุๆ นักเลงๆ แบบนี้แต่จริงๆ เป็นน้องชายที่นิสัยดีมาก ผมไม่ได้เจอกับจอมซักพักนึงแล้ว เห็นใบหน้าหล่อคมคายกับสายตาดุๆ แต่เจือแววตารักและนับถือของมันแล้วหมั่นเขี้ยวจะเอามือไปโอบไหล่จอมมาตบเป็นการทักทาย

“ทะ ทำอะไรครับพี่” จอมเด้งตัวหนีทำหน้าตาตื่น

“อะไรวะ ก็แค่จะกอดคอพาเข้าไปข้างใน โป๊ปเฝ้านักโทษที่จะให้เราดูแลรออยู่แล้ว คดีคลิปวางยาข่มขืนที่เคยให้เราช่วยสืบไงล่ะ”

“แว๊ก เบอร์หนึ่งมาด้วยยิ่งไม่ได้ใหญ่ พี่ก็นำไปสิครับ ผมจะเดินตามไปห่างๆ” จอมท่าทางหวาดๆ

ผมทำหน้าขัดใจใส่ อะไรนักหนา ก็แค่เห็นเป็นน้องนุ่งจะแสดงความสนิทสนมซะหน่อย แล้วเมื่อไหร่จะเลิกกลัวโป๊ปซะที พอเจอโป๊ปนี่หลุดมาดนักเลงทุกที โป๊ปมันไม่เห็นมีอะไรเลย

พอเข้าไปถึงในห้อง น้องๆ ยังตั้งใจฟังเพื่อนติวเลขกันอยู่ โป๊ปนั่งเล่นมือถือเฝ้าเด็กนักโทษที่ยังยืนเปลือยอยู่หลังห้อง

“ไอจอมมาแล้ว” ผมส่งเสียงเรียก โป๊ปละความสนใจจากมือถือหันไปมองหน้าจอมเขม็ง จอมรีบยกมือไหว้แล้วยกมือท่วมหัวบุ้ยปากมาทางผมพร้อมส่ายหน้าไปด้วย โป๊ปพยักหน้านิดนึงจอมถึงได้มีท่าทีผ่อนคลายลง เล่นอะไรกันวะสองคนนี้ เหมือนมีโค้ดลับกัน นึกว่าไม่สนิทซะอีก

“จอม เราเอาตัวเด็กนี่ไปก่อน พี่มีธุระต่อ ระหว่างนี้เราก็สอบสวนมันไปด้วยเหตุจูงใจคืออะไร มีใครเป็นคนบงการหรือมีคนอื่นร่วมมือด้วยหรือเปล่า จะปลอบจะขู่อะไรก็ขึ้นอยู่กับฝีมือเราเองนะตอนนี้พี่แค่สะกดจิตไม่ให้คิดหนีเฉยๆ แล้วก็เล่าเรื่ององค์กรเรื่องวิธีลงโทษไปด้วยเลย เดี๋ยวค่ำๆ พี่จะมารับตัวไปจัดการต่อจะได้ไม่เสียเวลา”

“ไอนี่เหรอครับคนร้ายข่มขืนในคลิป หน้าตาก็ดี ไม่น่าคิดสั้นเลย”

จอมผิวปากวือ พลางสำรวจรอบๆ ตัวของนักโทษคนใหม่ที่ยืนเปลือยก้มหน้าข่มความอายอยู่

“ว่าแต่พี่มั่นใจได้ไงว่าเป็นมัน หลักฐานพยานอะไรก็แทบไม่มีเลยไม่ใช่หรอครับ ผมเสียวจะผิดตัว” จอมซัก ซึ่งถือเป็นสัญญานที่ดีว่าจอมให้ความสำคัญกับหลักการพื้นฐานของกระบวนการยุติธรรมจนกล้าที่จะตั้งประเด็นนี้กับผม ยิ่งตอกย้ำว่าจอมเหมาะที่จะได้เป็นเจ้าหน้าที่ประจำขององค์กรจริงๆ

“เราก็เห็นคลิปนั้นแล้ว น่าจะจำได้ว่าอาวุธประจำตัวของคนร้ายมันงอซ้ายขนาดไหน พอโป๊ปช่วยหาหลักฐานตีกรอบได้แคบเข้า พี่ก็ชี้ตัวมันได้จากเรื่องนี้แหละ ของแปลกๆ แบบนี้คงไม่บังเอิญผิดคนหรอก แต่ตอนนี้ของมันอ่อนตัวลงแล้วมองไม่ค่อยออก ให้มันโชว์หลักฐานชัดๆ เลยดีกว่า” ว่าแล้วผมก็สั่งให้ไอคนร้ายหน้าหล่อสาวของตัวเองอีกรอบจนอวัยวะเพศขนาดเขื่องของมันค่อยๆ แข็งตัวขึ้นมาเอียงทำมุมไปทางซ้ายเกือบเก้าสิบองศาโดดเด่นจนเป็นหลักฐานมัดตัวเทียบกับในคลิปได้

“จริงด้วยพี่ แท่งนี้แหละ แปลกจังเลยนะ ทำไมถึงงอเอียงได้ขนาดนั้น แต่ก็ดูจะใช้งานได้ดี”

“เดี๋ยวเรารับตัวไปเลย เอาไปสอบปากคำเท่าทีทำได้ เอาพวกเรื่องเหตุจูงใจ มีคนร่วมมือด้วยเปล่า หรือมีใครบงการ เดี๋ยวเย็นๆ ค่ำๆ พี่จะเข้าไปเอาตัวมาจัดการต่อ”

ผมส่งข้อมูลของคนร้ายที่โป๊ปเพิ่งรวบรวมมาแบบสดๆ ร้อนๆ ให้จอม พร้อมกับคุยสัพเพเหระไปด้วย

“แล้วเรื่องงานขององค์กรที่ให้ทำร่วมกับสารวัตรเสือเป็นไงบ้าง อ้อ คงต้องเรียกว่าท่านรองผู้กำกับเสือแล้วสินะ อย่าไปทำท่ากลัวเขามากนะ ถึงเราจะเด็กกว่าเยอะ แต่ก็แบกศักดิ์ศรีขององค์กรอยู่”

“โอ๊ย ไม่แล้วพี่ ผมหงอแค่ตอนแรกๆ ก็แกเป็นคนที่เคยจับผมเลยนะ แต่ตอนนี้ซี้กันแล้ว เพื่อนแกที่เป็นทหารเรือผมก็สนิท ลูกค้าประจำร้านผมเลย ที่สำคัญเด็กแกก็เคยอยู่แก๊งค์ผม แถมสนิทกันกับเด็กผมด้วย จากเด็กน่าสงสารถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายกลายมาเป็นคุณนายรองผู้กำกับ ไปๆ มาๆ ก็ดองกันหมด รองฯ เสือแกยังขำๆ เลยว่าเจอผมตอนแรกเป็นเด็กแว๊น มาเจออีกทีกลายเป็นนายแบบนู้ดกับเจ้าของร้านกาแฟ พอตอนนี้กลายเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรไปแล้ว ก็เฮฮากันไป เรื่องตีซี้คนขอให้บอก”

“เก่งจังนะ แล้วทำไมกับคนนั้นถึงตีซี้ไม่ได้ซะทีละวะ” ผมบุ้ยปากไปทางไอโป๊ปที่หลบไปโทรศัพท์เรื่องงานตรงมุมห้อง

“เบอร์หนึ่งอะนะ ตายๆ ผมน่ะอยากจะซูฮกเฮียเขาจะตาย คนอะไรทั้งเท่ทั้งเก่ง แต่เพราะพี่บอสนั่นแหละ ชอบเล่นถึงเนื้อถึงตัวผม มาจับถอดเสื้อขอดูรอยสักมังกรบ้าง เอารูปโป้ผมในโฟโต้บุคมาเปิดล้อผมบ้าง เฮียเขาก็เหม็นหน้าผมเอาสิ ยังจะไม่รู้ตัวอีก”

อะไรของไอจอมมันวะ ผมต่างหากควรเป็นไอดอลของมัน ทั้งหล่อทั้งเก่งกว่าเบอร์หนึ่งอีก แล้วเรื่องที่จอมว่ามันไปเกี่ยวกับเรื่องโดนเขม่นตรงไหน ถ้าผมกับโป๊ปเป็นแฟนกันก็ว่าไปอย่าง แต่นี่แค่สนิทกันยิ่งกว่าแฟน หรืออาการหวงเพื่อนของไอโป๊ปจะกำเริบหว่า

“ไม่เห็นจะเกี่ยว” ผมยังยืนยันความคิดเดิม

“หึ เรื่องของเฮียผมจะไม่ยุ่ง ผมจะรอวันที่พี่บอสได้ ‘รับ’ รู้เอง แล้ววันนั้นผมจะมาแสดงความยินดีให้สาแก่ใจเลย ใช้งานผมเยอะดีนัก”

ทำไมต้องเน้นเสียงแปลกๆ แล้วแสดงความยินดีนี่เขาทำด้วยความสาแก่ใจด้วยเหรอ

พอโป๊ปกลับมาจอมก็หยุดจ้อทันที เมื่อกี๊ยังแทบจะเล่นหัวผมอยู่เลย ลิงหลอกเจ้าชัดๆ ผมเลยให้จอมพาตัวนักโทษไป รอจนน้องๆ ติวกันเสร็จผมก็คลายสะกดให้พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนความทรงจำนิดหน่อยแล้วบอกให้แยกย้ายกันไปเรียนตามปกติ หวังว่าตอนสอบอาจารย์คงไม่ตกใจนะที่เห็นนักเรียนทำเลขเรื่องนี้ได้คะแนนดีกันหมด ตอนที่นักเรียนกระจายตัวกันออกไป ผมสังเกตเห็นว่าบางคนทำท่าหยอกล้อกันถึงเนื้อถึงตัวกว่าตอนที่เข้ามา โดยเฉพาะพวกเล่นจับไข่กัน ผมกังวลนิดๆ ว่ามันเป็นผลข้างเคียงจากการสะกดจิตหมู่หรือเปล่า อย่างที่บอก การสะกดจิตหมู่บางทีก็เกิดเรื่องที่เราคาดไม่ถึงขึ้นได้ ปัจจัยตัวแปรมันเยอะ ผมถึงไม่ค่อยอยากทำถ้าไม่จำเป็น หวังว่าถ้านี่เป็นผลข้างเคียงจริงๆ มันจะไม่ตกค้างอยู่นาน

พอเคลียร์เรื่องที่โรงเรียนเสร็จแล้วผมก็แยกกับโป๊ปเพื่อมาทำภารกิจถัดไป ปล่อยมันไปทำงานทำการบ้าง เดี๋ยวบริษัทจะเจ๊งซะก่อน อู่ข้าวอู่น้ำของผมเลยนะนั่น

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
งานต่อไปนอกจากจะต้องลุยเดี่ยวแล้วยังไม่มีอะไรสยิวๆ ให้ชื่นใจแบบตอนเช้า แต่ถึงยังไงก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการตอนนี้องค์กรกำลังเกาะติดกับธุรกิจแชร์ลูกโซ่แอบแฝงธุรกิจหนึ่งอยู่ ปกติองค์กรจะไม่ค่อยยุ่งกับเรื่องที่จัดว่าเป็นคดีเศรษฐกิจใหญ่ๆ อย่างนี้เพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่หน่วยงานภาครัฐต้องเข้ามาดูแลเอง อีกอย่างองค์กรก็ไม่มีมีคนหรือความชำนาญมากพอที่จะจัดการกับเรื่องใหญ่และซับซ้อนอย่างนี้ แต่เนื่องจากแชร์ลูกโซ่ตัวนี้เน้นเอาหนุ่มหล่อบุคลิคดีมีมาดนักธุรกิจหลายคนเข้ามาเป็นแม่ข่ายเพื่อใช้เสน่ห์ในการหลอกล่อลูกข่ายให้เข้าเป็นสมาชิก แน่นอนว่านี่คือการหลอกลวงโดยใช้ทั้งความโลภและความหื่นเป็นเครื่องมือซึ่งเป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้อย่างที่สุด ทรัพยากรหนุ่มหล่อของชาติควรใช้เพื่อสร้างความสุขในทางสันติให้กับสังคมเท่านั้น

ที่จริงแชร์ลูกโซ่กับธุรกิจขายตรงจริงๆ ก็แยกกันไม่ยาก แชร์ลูกโซ่จะมีการเก็บค่าสมัครสมาชิกและบังคับให้ซื้อสินค้าคุณภาพต่ำ ราคาสูง ไม่มุ่งเน้นการขายสินค้า แต่เน้นให้หาสมาชิกใหม่เพื่อรับผลตอบแทนจากการหาสมาชิกเพิ่ม แต่ธุรกิจขายตรงเน้นการขายสินค้าและสร้างองค์กรเพื่อสร้างรายได้จากยอดขายสินค้า ถึงจะสังเกตไม่ยากแต่พอถึงเวลาจริงก็มักถูกความโลภบังตาจนคิดตรึกตรองไม่ถี่ถ้วน ยิ่งกรณีนี้มีการเอาหนุ่มหล่อๆ มาพูดให้เคลิบเคลิ้มอีกด้วย

ตอนนี้องค์กรได้สืบขบวนการนี้จนได้ข้อมูลเกือบหมดแล้ว หนุ่มหล่อๆ ที่เกี่ยวข้องก็ถูกหมายหัวไว้เรียบร้อย เหลือแค่พิสูจน์ว่าตั้งใจหลอกคนอื่นทั้งๆ ที่รู้ หรือเจ้าตัวไม่รู้เรื่องแต่ถูกหลอกมาเหมือนกัน แล้วค่อยจัดการลงโทษตามมูลความผิด แต่ไหนๆ ทำมาขนาดนี้แล้ว ผมเลยอยากถอนลากถอนโคนไปเลย จะได้ไม่ต้องมีคนหลงผิดเสียเงินเสียงทองมาเป็นเหยื่ออีก แต่ติดที่ยังสาวไม่ถึงตัวผู้ก่อการที่อยู่เบื้องหลัง เข้าใจว่าคงใช้การสั่งการโดยวาจา เงินทุนเริ่มต้นก็คงจะถ่ายโอนกันด้วยเงินสด ทำให้ไม่มีร่องรอยที่ระบบของเบอร์หนึ่งใช้แกะรอยได้ วันนี้ผมเลยจะเข้าไปหาข้อมูลเองที่สำนักงานใหญ่ของธุรกิจฉ้อฉลแห่งนี้ ถึงการสะกดจิตจะไม่สามารถสั่งให้เปิดเผยความคิดที่เจ้าตัวตั้งใจปกปิดได้โดยตรง แต่ถ้าแค่สะกดจิตให้ผ่อนคลายแล้วใช้การหลอกล่อถามข้อมูลเอา ก็น่าจะได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมมาไม่น้อย นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำในวันนี้

เมื่อผมไปถึงสำนักงานใหญ่ที่ตั้งอยู่ในอาคารหรูก็ต้องประหลาดใจที่พบว่ามันร้างผู้คน จริงอยู่ว่าบริษัทพวกนี้จะใช้การเช่าออฟฟิซในระยะสั้นเพื่อสร้างภาพพอเรื่องแดงถึงค่อยปิดหนีหายไป แต่ล่าสุดแชร์ลูกโซ่เจ้านี้ยังหลอกลวงคนได้ดีอยู่ไม่น่าจะรีบปิดขนาดนี้ ผมถาม รปภ. ประจำชั้นเขาก็บอกว่าไม่ทราบเรื่องเหมือนกัน เมื่อวานยังเห็นมีคนมาทำงานคึกคัก

ผมลองเข้าไปก็ติดอยู่แค่โซนที่รับแขกเพราะประตูที่จะเข้าไปสำนักงานล็อคอยู่ ผมไม่คิดจะบุกเข้าไปเพราะไม่น่าจะได้อะไรมากกว่าที่โป๊ปได้เจาะระบบดูดข้อมูลไปหมดแล้ว ที่ผมต้องการคือตัวคนที่เกี่ยวข้องเพื่อจะเอามาสอบถามข้อมูลต่างหาก พอมองกลับมาที่เค้าเต้อร์ต้อนรับก็เห็นกระดาษปึกนึงวางไว้อยู่เหมือนพวกใบปลิวแจก ผมหยิบมาดูแผ่นหนึ่งก็พบข้อความว่า

อ้างถึง
บริษัท เอ็กซ์ฟันด์ จำกัด กำลังอยู่ระหว่างการถูกประเมินจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ หากท่านเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทนี้ กรุณารวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องส่งไปที่ ตู้ ปณ. 842 ปณจ.ตลาดรถไฟ กรุงเทพฯ  11123 เพื่อรับการเยียวยาในเบื้องต้น

มีอะไรแปลกๆ หลายอย่างในเรื่องนี้ ที่แน่ๆ ไม่ใช่การกระทำของหน่วยงานราชการ มันดูไม่โปร่งใสอย่างที่ควรจะเป็น ถ้าให้ผมเดา น่าจะเกิดการหักหลังกันเองแล้วฝ่ายหนึ่งต้องการรวบรวมหลักฐานเอาไปเล่นงานหรือแบล็คเมลอีกฝ่าย ผมคงต้องกลับไปหาข้อมูลเพิ่มแล้วก็ปรึกษาโป๊ปก่อน ที่แน่ๆ ต้องเอาใบปลิวที่ว่านี้ติดไปด้วยซักสองแผ่นเพื่อใช้เป็นเบาะแส

โอเค งานที่สองคว้าน้ำเหลว แต่ก็ถือว่าทำให้ผมได้มีเวลาพักกินข้าวเที่ยงแบบสบายๆ ไม่ต้องเร่งมาก โชคดีที่ตึกนี้มีฟู๊ดคอร์ทขนาดใหญ่ใช้รวมกันทุกบริษัทที่เช่าพื้นที่ในตึก ผมเลยได้นั่งกินชิลล์ๆ เหล่หนุ่มออฟฟิซในเสื้อเชิร์ตทรงสลิมพอดีตัวกับกางเกงสแล็คฟิตๆ เป้าตุงๆ ไปด้วย หนุ่มวัยทำงานมีเสน่ห์คนละแบบกับเด็กมอปลายที่เจอเมื่อเช้า ถามว่าผมชอบแบบไหนนะเหรอครับ ผมเหมาหมด ฮ่าๆ นั่งๆ ไปก็มีคนเหล่ผมตลอดเหมือนกัน แต่เสียใจด้วย พอเดินผ่านไปพวกนายก็ลืมหน้าผมอยู่ดี ไม่มีโอกาสได้สานต่อหรอก ยกเว้นไปทำชั่วมาจนเป็นนักโทษขององค์กรนะ แต่พวกนายคงไม่ชอบเท่าไหร่

ผมกินข้าวเสร็จก็เดินไปที่ลานจอดรถเพื่อจะไปทำภารกิจต่อไป ยังพอมีเวลาแต่ไปถึงเร็วหน่อยก็ดี พอไปถึงก็เห็นรถคันนึงจอดขนานขวางอยู่ ที่จริงที่จอดรถก็ไม่ได้เต็มขนาดนั้น แต่ช่องจอดที่ว่างๆ มันต้องเดินไกลหน่อย ส่วนของผมโชคดีได้จอดตรงกับทางเข้าตึกเลย สงสัยต้องออกแรงเข็นหน่อย รปภ. ก็ดีครับกุลีกุจอมาช่วยเข็นให้

กึก เข็นไม่ไปครับ ผมส่องไปในรถที่ติดฟิล์มแบบใสไว้ เห็นชัดเลยครับใส่ทั้งเกียร์พีทั้งเบรคมือ ทำไมทำอย่างนี้นะ ลืมหรือว่าอะไร ผมจับที่ฝากระโปงรถก็ค่อนข้างเย็น แสดงว่ามาจอดได้พักใหญ่แล้ว รปภ. ก็ทำหน้าเลิ่กลั่ก เห็นพยายามวิทยุติดต่อแก้ปัญหา ซักพักใหญ่ รปภ. อีกคนก็เอาแม่แรงเคลื่อนที่ที่มีล้อไว้เคลื่อนย้ายรถได้มาสมทบ ทั้งคู่ช่วยกันเอาแม่แรงสอดไว้ใต้ท้องรถเตรียมจะ

“เฮ้ย จะทำอะไรวะ ห้ามเข็นเว้ย ใครอนุญาต เดี๋ยวรถกูเป็นรอย ยามอย่างพวกมึงเจอดีแน่”

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ บุคลิคเหมือนผู้บริหาร ตะโกนมาแต่ไกล ท่าทางจะเป็นเจ้าของรถ มาก็ดีแล้ว ว่าแต่ทำไมพูดจาไม่ดีเลย หน้าตาท่าทางออกจะดูดี คนเราเดี๋ยวนี้เน้นแต่ปรุงแต่งรูปลักษณ์ภายนอกแต่ไม่รู้จักขัดเกลากิริยาความคิดความอ่านภายในเลย

“นี่คุณไม่เห็นเหรอว่าจอดขวางรถผมอยู่ ผมออกไม่ได้ รปภ. เขามาช่วยเคลียร์ให้ตามหน้าที่ ไปว่าเขาทำไม มาแล้วก็ช่วยเลื่อนรถให้หน่อยครับ ทีหลังอย่าลืมปลดเกียร์ว่างอีกแล้วกัน นี่ถ้าเจอคนที่เขามีธุระด่วนหรือมีเรื่องคอขาดบาดตายจะทำยังไง”

ผมจัดชุดย่อมๆ ให้หนุ่มออฟฟิซเจ้าของรถ เบื่อพวกหลงๆ ลืมๆ ไม่ระวัง ทำให้คนอื่นเดือดร้อน

“อะไรนักหนาวะ จอดลงไปทำธุระแป๊บเดียวรอหน่อยไม่ได้เหรอ เกียร์ว่างปลดได้ไง เดี๋ยวมีคนเข็นมั่วไปชนโน่นชนนี่รถเป็นรอยใครจะรับผิดชอบ คนเดี๋ยวนี้ไม่ระวังของคนอื่นแถมยังไม่มีความอดทนเลย” หนุ่มตี๋ร่างใหญ่โพล่งมาอย่างไม่สำนึก

เฮ้ย หมอนี่มาจากต่างดาวเหรอวะ ทำไมตรรกะความคิดถึงได้ป่วยไปหมดแบบนี้ หลังๆ ไม่ค่อยอยากจะใช้พลังไปกับเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ แต่คนแบบนี้คงปล่อยไปไม่ได้

ผมเดินไปเคาะกระจกก่อนที่ หนุ่มอารณ์ร้อนทำท่าจะไม่เปิดแต่พอสบตาผมผ่านกระจกใสๆ ก็ชะงักไปแล้วก็กดปุ่มเลื่อนกระจกลง ผมโปรแกรมจิตตามที่ต้องการลงไปใส่สมองหมอนี่จนเรียบร้อยแล้วก็ถามว่า

“นายจะไปไหนต่อ”

“กลับบ้านที่แถวเยาวราช วันนี้ไปพบลูกค้าข้างนอกช่วงเช้าเลยแวะเข้ามาเคลียร์งานที่ออฟฟิซต่อ ช่วงบ่ายลา”

“งั้นไปเถอะ แล้วก็อย่าลืมล่ะว่าสิ่งที่จะเกิดกับนายไปอีกหนึ่งเดือนนี้ เป็นผลมาจากความเห็นแก่ตัวในวันนี้ ถ้าเข็ด ทีหลังก็อย่าทำนิสัยแบบนี้อีก”

หน่มออฟฟิซตรรกะป่วยก็ขับรถออกไปทันทีท่ามกลางความโล่งใจของ รปภ. ผมทิปปลอบขวัญให้ทั้งคู่ในฐานะที่ทำหน้าที่ได้ดี ระหว่างที่ออกรถเพื่อขับไปยังจุดหมายถัดไปผมก็นึกเล่นๆ ว่าจากอาคารนี้ไปถึงเยาวราชจะผ่านกี่ไฟแดงกันหนอ เปล่าครับผมไม่ได้จะไปเยาวราช หมอนั่นต่างหาก บทลงโทษเล็กๆ น้อยของผมไม่รุนแรงอะไรออก ก็แค่โปรแกรมจิตให้ต้องถอดเสื้อผ้าออกชิ้นนึงทุกครั้งที่รถติดไฟแดง ผมว่าคงล่อนจ้อนตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งทาง นี่ต้องขับไปกลับทุกวันสินะ ถือว่าเป็นอาหารตาให้รถติดไฟแดงคันข้างๆ หรือมอเตอร์ไซค์ที่ซอกแซกไปมาดูแก้เบื่อแล้วกัน

ขับไปไม่นานก็มาถึงสำนักงานขนส่งทางบกเพื่อทำภารกิจที่สามของวัน เปล่าครับผมไม่ได้มาทำใบขับขี่ ต่อทะเบียนรถ หรืออะไรทำนองนั้น ผมมาทำภารกิจเล็กๆ อย่างพวกการสับเปลี่ยนข้อมูลนิดหน่อย ที่นี่เป็นสาขาสุดท้ายแล้วที่ไม่ได้เชื่อมข้อมูลที่ผมต้องการสับเปลี่ยนแบบออนไลน์ แต่ใช้การเล่นจากแผ่นแทน ลำบากผมต้องเอาแผ่นมาเปลี่ยนด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เผลอๆ ไม่ต้องมีพลังสะกดจิตยังทำได้เลย แค่เดินเข้าไปในห้องอบรม เปลี่ยนแผ่น แล้วก็เดินออกมา งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหญ่ที่องค์กรกำลังทำอยู่ ไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังครับ

เสร็จแล้วก็ต่อด้วยภารกิจที่สี่ซึ่งไม่ใช่ที่อื่นไกลแต่เป็นมหาลัยที่ผมคุ้นเคยนั่นเอง วันนี้ผมไปที่คณะแพทย์ครับ งานนี้ไม่มีอะไรยากเป็นแค่การสังเกตการณ์เฉยๆ แค่ต้องอาศัยการพรางตัวนิดหน่อย ปกติถึงจะไม่มีเรื่องอะไรที่ผิดสังเกต ผมก็มักจะวางแผนไปแอบดูพฤติกรรมระหว่างเจ้านายกับทาสอยู่เสมอ คนเราพอได้มีอำนาจเหนือผู้อื่นอย่างสมบูรณ์ก็มีแนวโน้มที่จะใช้มันจนเกินเลยไป จริงอยู่ที่องค์กรมีกฎในการใช้งานทาสอย่างเคร่งครัดรัดกุม แต่บางครั้งก็ยังมีช่องโหว่ที่ยังไม่รู้หรือยังไม่เจอ การไปสังเกตการณ์วิธีใช้งานทาสนอกจากจะเป็นการช่วยปกป้องไม่ให้ทาสถูกละเมิดจนเกินความตั้งใจขององค์กรไปโดยเอาช่องโหว่มาปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว ในบางครั้งผมยังได้ไอเดียใหม่ๆ ในการใช้งานหรือลงโทษนักโทษขององค์กรไปด้วย เช่นร้านล้างรถซึ่งเป็นงานบริการสังคมที่ผมใช้ลงโทษนักโทษหมวดซี ผมก็ได้ไอเดียมาจากการสังเกตการใช้งานทาสของเศรษฐีหนุ่มนักสะสมรถยนต์ตัวยง

ผมได้ข้อมูลมาว่าวันนี้สมาชิกขององค์กรซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์ที่มหาลัยแห่งนี้จะนำทาสมาใช้งานนอกสถานที่เป็นครั้งแรก อาจารย์ได้ประมูลนักโทษที่ผมตั้งชื่อให้ว่ามิลค์เมื่อสองเดือนก่อน จะว่าไปมิลค์มันก็คือพี่ชายบุญธรรมของเด็กที่ตอนนี้คือว่าที่แฟนสุดที่รักของรองผู้กำกับเสือนั่นเอง พ่อของมิลค์อดีตซีเอฟโอบริษัทใหญ่ก็ถูกขายเป็นทาสเช่นเดียวกัน เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ ก็ไปผลัดกันทำร้ายแบบวิปริตใส่ลูกเลี้ยงตัวเองนี่นะ

ตอนนี้มิลค์เป็นเรียนปีหนึ่งวิศวะอยู่ที่มหาลัยเดียวกันนี้แหละ ความที่เป็นเด็กยังเรียนหนังสืออยู่ ผมก็ไม่อยากให้กระทบการเรียนมากนัก ตอนประมูลก็เลยกำหนดเป็นเงื่อนไขพิเศษว่าการใช้งานทาสจะต้องไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับการเรียน คนประมูลเลยหายไปเยอะ แต่เอาเข้าจริงก็ประมูลได้ราคาดีทีเดียว ไม่เสียแรงที่ผมอุตส่าห์ส่งไปอัพเกรดความหล่อที่คอมเพล็กซ์สุขภาพของหมอพฤกษ์มาชุดใหญ่ คนชนะก็อาจารย์หมอยังหนุ่มคนนี้นี่แหละ คงเห็นว่าอยู่มหาลัยเดียวกัน ถึงต้องปล่อยให้ไปเข้าเรียนตามปกติแต่เวลาว่างก็คงเรียกมาใช้ได้สะดวก

ผมเปลี่ยนชุดเป็นชุดนักศึกษาแล้วแอบตามเด็กปีสามเข้าคลาสของอาจารย์ไป คราวนี้นอกจากจะพลางใบหน้าไม่ให้คนจำได้แล้วผมยังต้องเพิ่มความรู้สึกคุ้นเคยว่าเป็นรุ่นเดียวกันเข้าไปด้วย ไม่ใช่ว่าหน้าแก่จนไม่เนียนหรอกนะ ผมว่าหน้าผมยังเด็กกว่าบางคนอีก แต่พวกนักศึกษาแพทย์นี่เขาเหนียวแน่นกันมาก ก็เรียนด้วยกัน ทำแลปด้วยกัน ท่องตำราด้วยกันตลอด ถ้ามีคนแปลกหน้าเข้าไปเขาคงจับได้ทันที

พลังลวงจิตผมใช้งานได้ดีเสมอ ตอนนี้ผมเนียนไปนั่งในห้องเล็คเชอร์ขนาดใหญ่รวมกับนักเรียนแพทย์ปีสามตรงด้านหน้าสุดด้วยซ้ำ ด้านข้างที่นั่งติดกันเป็นสาวแว่นผมเปียท่าทางคงแก่เรียนส่วนอีกด้านเป็นช่องทางเดิน สาวแว่นหันมามองหน้าผมพยักหน้าให้นิดนึงแล้วหันกลับไปทันทีทำท่าเหมือนจะเตรียมตัวเรียน คงจะเป็นพวกหัวกระทิสินะ หรือไม่ก็เขินความหล่อผม ที่แน่ๆ คงแอบไปคิดว่าผมชื่ออะไร ทำไมจำไม่ได้ ฮ่าๆ

อาจารย์หมอเข้ามาในห้องแล้ว มิลค์ในชุดนักศึกษาเดินก้มหน้างุดๆ ตามเข้ามาด้วย พอเอาเอกสารของอาจารย์ที่ถือมาไปวางบนโต๊ะด้านหน้าแล้ว ก็เข้าไปนั่งสงบเสงี่ยมอยู่ตรงมุมห้อง อาจารย์หมอก็เริ่มบรรยายเนื้อหาในวิชาไป แกเป็นสมาชิกองค์กรมาได้สองสามปีแล้ว จากประวัติเรียกได้ว่าเป็นคุณหมอคนดังเลย ทั้งฝีมือในการรักษา ผลงานวิจัยที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงชื่อเสียงในฐานะผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ออกทีวีอยู่บ่อยๆ ทั้งที่ยังอายุไม่มากนัก คุณสมบัติยอดเยี่ยมสมเป็นสมาชิกองค์กรผมเลย จริงๆ มีชื่อเสียงขนาดนี้เป็นคนอื่นคงไม่มานั่งสอนเด็กปีสองปีสามแบบนี้แล้ว นี่แกคงรักในความเป็นอาจารย์จริงๆ

“ถึงวิชาบทนำเวชศาสตร์คลินิกนี้จะดูไม่มีอะไรมาก แต่มันเป็นพื้นฐานที่จะใช้ในการวินิจฉัยโรคต่างๆ ให้กับคนไข้ต่อไป เล็คเช่อร์ก่อนหน้านี้จะเน้นไปที่อาการของโรคต่างๆ แต่หลังจากนี้ เราจะไปเน้นที่การซักประวัติอาการ การเข้าถึงคนไข้ และการตรวจร่างกายตามระบบ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องง่าย........”

อาจารย์หมอบรรยายไปเรื่อยๆ ผมมองไปรอบๆ ห้องเห็นมีคนแอบหลับบ้าง ผมว่าอาจารย์เขาไม่ได้สอนน่าเบื่อนะ น้ำเสียงท่าทางการพูดสมชวนติดตามกับเป็นคนที่ออกทีวีบ่อยๆ ขนาดผมเป็นคนนอกแฝงตัวเข้ามายังรู้สึกสนใจเลย แต่ก็อย่างว่าแหละ เรียนหมอมันหนักจะตาย คงมีคนท่องหนังสือดึกจนมาสลบในห้องเรียน

“.......การตรวจร่างกายคนไข้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ คนไข้มาหาหมอด้วยสภาวะทางร่างกายและอารมณ์ที่แตกต่างกัน บางคนหงุดหงิดมาจากความเจ็บป่วย บางคนกลัวว่าจะตรวจเจออะไรร้ายแรง บางคนอายไม่กล้าบอกอาการหรือสาเหตุจริงๆ เพื่อให้พวกคุณเห็นภาพมากขึ้น ผมจะขอให้ผู้ช่วยสอนของผมมาร่วมทำการสาธิตให้ทั้งคลาสดูเรื่องการตรวจร่างกายว่าคนไข้จะมีความกังวลอะไรบ้าง”

มิลค์ลุกขึ้นเดินมาที่หน้าห้อง เขาเงยหน้าขึ้นมากวาดสายตาไปทั้งห้องแล้วมีท่าทางประหม่า มีช่วงที่เขามองมาทางผมที่นั่งอยู่ด้านหน้า พอสบตากันผมก็รีบปลดล็อคจิตให้เขาจำผมได้ มิลค์ลืมตาโพลงด้วยความตกใจ ผมทำท่าจุ๊ปากไม่ให้เขาพูดอะไรออกมาแล้วก็ยกนิ้วให้กำลังใจ ถึงเป็นนักโทษแต่ผมก็ให้โอกาสทุกคนเสมอ ไปอยู่กับอาจารย์หมอเฮี๊ยบๆ ที่ทุ่มเทน่าจะได้ซึมซับอะไรดีๆ มาบ้าง

“อาสาสมัครช่วยสอนของผมชื่อมิลค์ เป็นนักศึกษามหาลัยเรานี่แหละ คงจะเจอกับพวกคุณไปเรื่อยๆ ทั้งเทอม ผมอยากให้พวกคุณให้เกียรติเขาเสมือนเป็นผู้ให้ความรู้กับพวกคุณในทางหนึ่งด้วย อ่อ แต่ไม่ต้องขนาดให้เป็นอาจารย์ใหญ่นะ”

ผมได้ยินเด็กในห้องพึมพำกันพอได้เห็นหน้ามิลค์ชัดๆ

“หล่อว่ะ นี่มันน้องปีหนึ่งวิศวะที่เห็นมีรูปโดนแอบถ่ายลงเพจคิ้วท์บอยอยู่บ้างนี่”

“ใช่ๆ ได้ยินว่ารุ่นพี่เล็งจะให้ประกวดเดือนด้วยซ้ำ แต่น้องมันไม่เข้าร่วมกิจกรรมอะไรเลย เลยโดนตัดออก”

“ชั้นว่าน้องเขาหล่อกว่าตอนเทอมหนึ่งอีกนะ ขาวใสปากชมพู ดูหุ่นก็แน่นขึ้นด้วย เจาะหูอีก สเป็คเลย”

“ได้ยินข่าวว่าพ่อเขาถูกคดีอะไรไม่รู้ น่าสงสารอ่ะ”

เดี๋ยวๆ ไหนว่านักศึกษาแพทย์เรียนหนักจนไม่มีเวลารับรู้ความเป็นไปนอกคณะไง แต่นี่มันอะไร

คราวนี้บรรยากาศในห้องเรียนดูคึกคักขึ้น ทุกคนตั้งใจดูการสาธิตที่อาจารย์หมอพูดถึง

“วันนี้ผมจะยกตัวอย่างการตรวจร่างกายที่ทำให้คนไข้กระอักกระอ่วนใจค่อนข้างมาก นั่นคือการตรวจทางทวารหนักด้วยนิ้วมือ หรือพีอาร์ ที่เราใช้ตรวจหาความผิดปกติระบบทางเดินอาหาร ตรวจอาการต่อมลูกหมากโต และอาการอื่นๆ อีกหลายอย่าง ก่อนเริ่มการตรวจเราต้องอธิบายให้คนไข้ทราบว่าขั้นตอนเป็นอย่างไรซึ่งพวกคุณจะได้เรียนในครั้งต่อๆ ไป แต่ตอนนี้ผมอยากเน้นไปที่ความรู้สึกของคนไข้ก่อน”

ว่าแล้วอาจารย์ก็หันไปถามมิลค์ที่ยืนรออยู่ใกล้ๆ

“มิลค์ คุณรู้สึกยังไงพอรู้ว่าต้องโดนตรวจตรงนั้น”

“กลัวครับ ผมว่ามันน่าจะเจ็บ แล้วก็คงจะอายหมอด้วย มันน่าจะมีวิธีตรวจแบบอื่น”

ยังจะอายเรื่องแบบนี้อีกเหรอ ก็โดนผมเทรนซะอ่วมมาแล้ว ทั้งโดนถ่ายนู๊ดคู่กับไอมุกนักโทษอีกคน ทั้งส่งไปให้เจ๊ๆ ร้านซาลอนลวนลาม ทั้งพาไปวิ่งแบบแทบไม่นุ่งผ้าที่สวนรถไฟอีก

“นี่ไงครับ เราต้องอธิบายให้เข้าใจว่ามีความจำเป็น รวมถึงต้องบอกขั้นตอนต่างๆ ให้ครบ คนไข้จะได้ไม่ตกใจตอนตรวจจริง พออธิบายครบถ้วนแล้ว เราก็จะขอให้คนไข้ถอดเครื่องแต่งกายช่วงล่างที่สวมอยู่ออกให้หมด แล้วไปนอนตรงเตียงตรวจ โดยทั่วไปการตรวจพีอาร์จะให้คนไข้นอนตะแคงเอาเข่าแนบหน้าอกเพราะคนไข้จะรู้สึกสะดวกใจกว่า แต่วันนี้เพื่อให้เห็นกันชัดๆ จะให้คนไข้สาธิตขึ้นเก้าอี้แบบตรวจภายใน”

อาจารย์หมอดึงผ้าคลุมออกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่หน้าห้องออก เผยให้เห็นเก้าอี้ปรับเอนได้ที่มีขาหยั่งสองข้าง มิลค์ซึ่งได้รับคำสั่งให้ถอดกางเกงออกก็เริ่มถอดการเกงสแล็คที่สวมอยู่ออกเหลือแต่กางเกงในโชว์ท่อนขาขาวที่มีกล้ามเนื้อแบบนักวิ่ง จากนั้นมิลค์ก็ล้วงมือเข้าไปกุมของตัวเองในกางเกงในแล้วใช้มืออีกข้างดึงกางเกงในลงเพื่อถอดออกอย่างทุลักทุเล ทุกคนในห้องต่างก็ลุ้นไปตามๆ กัน แต่มิลค์ก็ทำสำเร็จที่สามารถกุมเครื่องเคราทั้งพวงของตัวเองไว้ได้ โผล่แค่เส้นขนและถุงไข่นิดหน่อย จากนั้นเขาก็ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ขาหยั่งแล้วฉีกขาออกเป็นรูปตัวเอ็ม ช่องทางด้านหลังที่ปิดแน่นพร้อมไรขนนิดๆ เผยให้เห็นต่อหน้าคนทั้งห้อง ขนาดผมเห็นของมิลค์มาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้วยังรู้สึกตื่นเต้นเลยแล้วคนอื่นในคลาสจะไปเหลือหรอครับ

อาจารย์เริ่มปรามเมื่อเห็นหลายคนยืนขึ้นชะโงกเพื่อ “พวกคุณต้องเริ่มฝึกตัวเองตั้งแต่ตอนนี้นะ ตามจรรยาแพทย์เราต้องไม่รู้สึกไปในทางอกุศลกับคนไข้ แต่ครั้งนี้เป็นอาสาสมัครช่วยสอน ยังไม่ใช่คนไข้จริง จะอนุโลมให้แล้วกัน ลุกขึ้นมามุงกันใกล้ๆ ได้”

เด็กทั้งห้องกรูกันไปรุมทันที แน่นอนครับ ผมได้อยู่หน้าสุดเหมือนเดิม แม่สาวแว่นเปียก็ด้วย บางคนนี่ถึงกับลงไปนั่งแล้วมองเสยขึ้นมา ไม่รู้มุมนั้นมีดีอะไร

อาจารย์หมอก็เริ่มบรรยายต่อ

“เมื่อคนไข้จัดท่าทางเสร็จเราก็ควรจะเอาผ้าคลุมบริเวณที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจไว้ อันนี้จะช่วยคนไข้ให้สบายใจมากขึ้นและก็จะได้ไม่หนาวด้วย”

อาจารย์หมอเอาผ้ามาคลุมของสงวนของมิลค์ไว้ทำให้มิลค์สามารถเอามือออกได้หลังจากที่กุมไว้อย่างเหนียวแน่นมาตลอด จากนั้นอาจารย์ก็หยิบถุงมือยางขึ้นมาสวมแล้วบีบเจลหล่อลื่นลงไปที่นิ้วชี้

“เมื่อพร้อมเราต้องขออนุญาตคนไข้ที่จะสอดนิ้วเข้าไป แต่อย่าเพิ่งสอดทันที ให้วางนิ้วไปตรงบริเวณขอบของช่องทางก่อนให้คนไข้รู้ตัวแล้วถึงค่อยสอดนิ้วจริง”

อาจารย์บรรยายไปด้วยพร้อมกับแหวกแก้มก้นของมิลค์เพื่อสอดนิ้วไปอย่างชำนาญ ช่องทางสีชมพูปิดสนิทที่ได้รับการแต่งเติมสีสรรมาเป็นพิเศษจากทีมงานของหมอพฤกษ์กำลังถูกทะลุทะลวงต่อหน้าคนนับร้อย มิลค์บิดตัวไปมาส่งเสียงอี๊อ๊าเบาๆ ใบหน้าหล่อเหยเก ไม่รู้ว่าเจ็บหรือเสียว

“ขั้นตอนนี้ต้องระวังไม่ให้คนไข้เจ็บถึงบางครั้งจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ตาม ยังไงก็ใส่เจลหล่อลื่นให้เยอะหน่อยแล้วกัน เมื่อใส่ไปจนสุดแล้วเราจะขอให้คนไข้ขมิบกล้ามเนื้อหูรูดเพื่อดูจังหวะการตอดรัด จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วสัมผัสความผิดปกติต่างๆ เช่น พวกติ่งเนื้อ ควงนิ้วสามร้อยหกสิบองศาด้วยเพื่อตรวจดูให้ครบ”

อาจารย์หมอพูดไปควงนิ้วไปจนผมเสียวแทน

“การตรวจที่สำคัญอีกอันสำหรับคนไข้ชายคือการตรวจต่อมลูกหมาก เราจะใช้ปลายนิ้วคลำเพื่อดูขนาด ความสมดุลระหว่างด้านซ้ายกับด้านขวา ผิวสัมผัสว่าเรียบหรือขรุขระ แล้วก็ความยืดหยุ่นซึ่งต้องใช้การกดทดสอบ”

มิลค์ครางเสียงดังแบบกลั้นไม่อยู่ตามจังหวะการกดของผู้สาธิต ท่อนลำของเขาเริ่มขยายตัวขึ้นจนดันผ้าที่คลุมอยู่โป่งขึ้นเห็นได้ชัด ใบหน้าที่แดงก่ำและไรเหงื่อเม็ดเล็กๆ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากจริงๆ

อาจารย์หมอก็สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเลยอธิบายว่า

“อาการนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่แสดงว่าอาสาสมัครช่วยสอนของผมมีสุขภาพทางเพศที่สมบูรณ์อย่างที่วัยรุ่นควรจะเป็น ต่อมลูกหมากเป็นจุดเร้าที่ทำให้เกิดการกระตุ้นได้ง่าย เอาแบบชาวบ้านก็คงเรียกว่าจุดกระสันมั๊ง ถ้าคนไข้กังวลอย่างเห็นได้ชัดเราอาจจะพูดให้สบายใจได้ว่ามันเป็นปฏิกิริยาปกติที่เจอได้ในการตรวจแบบนี้ มิลค์ พอเกิดอาการนี้ เธอกังวลอะไรไหม”

“ผมกลัวหมอจะว่าผมเป็นเกย์ครับ”

“นั่นไง เรียกว่าเป็นความเข้าใจผิดที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ จะเป็นชายแท้ เกย์ หรือไบ ก็เกิดอาการนี้ได้เหมือนกัน”

“พอเสร็จทั้งหมดก็ค่อยๆ ดึงนิ้วออก ถ้าเป็นคนไข้จริง อาจมีสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ติดมาด้วย ต้องระวัง เตรียมทิชชู่รอไว้แล้วก็ต้องไปหัดวิธีถอดถุงมือแบบไม่ให้เปื้อน แต่อาสาสมัครของเรารักษาความสะอาดเป็นพิเศษก่อนมาสอนพวกคุณ ไม่ต้องกังวล”

อาจารย์หมอสรุปจบ พร้อมทั้งถอนนิ้วออกมาแล้วถอดถุงมือทิ้งอย่างรวดเร็วเรียบร้อย ส่วนมิลค์ก็ยังนั่งรูโบ๋นิดๆ เพราะอารมณ์ค้าง พอสงบใจได้จึงเอาทิชชู่ที่อาจารย์หมอส่งให้เช็ดทำความสะอาดคราบเจลหล่อลื่นที่เหลืออยู่แล้วไปหลบมุมใส่กางเกงอยู่เงียบๆ

“หวังว่าการสาธิตวันนี้จะทำให้พวกคุณเข้าใจความรู้สึกคนไข้มากขึ้น ควิซใหญ่ครั้งหน้า คนที่ได้คะแนนสูงสุดห้าอันดับแรก ผมจะให้สิทธิ์มาเข้าแลบฝึกตรวจร่างกายมิลค์เป็นกลุ่มพิเศษ และแน่นอน ที่หนึ่งจะได้รางวัลเพิ่มเติมด้วย วันนี้เลิกคลาสได้”

สาวแว่นข้างๆ ผมกดโทรศัพท์ออกทันที

“คุณพ่อเหรอคะ ช่วยหาอาจารย์พิเศษให้หนูหน่อยได้ไหม เอาอาจารย์หมอเก่งๆ เลย............. มีเวลาแค่อาทิตย์เดียวค่ะ เนื้อหาตั้งเยอะ................ ค่ะ...... เนื้อหาเกี่ยวกับอาการของโรค แต่มันรวมที่เรียนมาตั้งแต่ต้นเทอม อายุรกรรม ศัลยกรรม สูติ-นรีเวช กุมารเวชกรรม จักษุ และโสต ศอ นาสิก.............  อาจารย์ท่านนั้นเก่งที่สุดในกระทรวงเลยเหรอคะ............ ก็ได้ค่ะ............ ยังไงหนูต้องท๊อปวิชานี้ให้ได้............... ขอบคุณค่ะ รักพ่อนะคะ”

พอวางหูไปเจ้าหล่อนก็หันมามองผมด้วยสายตาคมปลาบ

“นายก็คงอยากเข้าแลบพิเศษเหมือนกันสินะ แต่เสียใจด้วย อย่างมากนายก็ได้ที่สอง เอาเถอะ ถ้านายติดเข้ามาเป็นหนึ่งในห้าจริง ชั้นจะให้นายเป็นคนสอดนิ้วก็ได้ นายหน้าตาไม่เลว เหมาะจะมาประดับบารมีน้องมิลค์”

โอ๊ว ช่างมีพลังมุ่งมั่นที่น่ากลัวจริงๆ เห็นแล้วนึกถึงเจ๊ศศิกานต์เลยแฮะ ผมไม่สู้อยู่แล้วครับ ใครจะไปจำอาการโรคสารพัดสารเพได้ขนาดนั้น

พอผมมองไปอีกทีมิลค์ที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็กำลังถูกรุมล้อมด้วยเหล่าบรรดารุ่นพี่หมอปีสามที่เพิ่งเลิกคลาส

“น้องมิลค์หล่อที่สุดเลย ขอบคุณนะคะที่อาสามาช่วยสอนพวกพี่”

“เฮ้ย อาจารย์บอกอยู่ว่าต้องให้เกียรติ เรียกอาจารย์มิลค์สิวะ”

“อาจารย์มิลค์มีไลน์ไหมคะ พี่ขอหน่อย เผื่อจะได้ปรึกษาเรื่องเรียน”

“’จารย์มิลค์จะกลับคณะวิศวะอีกหรือเปล่า เฮียไปส่งเอาไหม ยังไงเฮียจะไปหาเพื่อนที่นั่นอยู่แล้ว เอาเบอร์หรือไลน์มาก็ได้ จะไปไหนมาไหนเฮียไปส่งได้”

“มึงมีเวลาเหรอ แค่อ่านหนังสือยังไม่ทันเลย อาจารย์มิลค์ให้พี่ดูแลดีกว่า พี่เทพเรื่องเรียนอยู่แล้ว มีเวลาเทคแคร์ได้เต็มที่”

เสียงเช็งแซ่จนอาจารย์หมอต้องเดินมาดู

“เลิกเรียนแล้วก็ไปกันได้แล้ว หนังสืออ่านกันหมดหรือยัง แล้วเรื่องไลน์เรื่องเบอร์โทรนี่ไม่ต้องขอเลยนะ มิลค์เขาต้องเจียดเวลาเรียนไปช่วยผมสอนรุ่นพี่ปีสีห้าหกของพวกคุณอีก เขาไม่มีเวลาให้พวกคุณหรอก เอาเป็นว่าผมจะตั้งเป็นรางวัลให้คนที่เรียนวิชาผมได้ดีในครั้งต่อๆ ไปแล้วกัน ทีนี้ก็แยกย้ายกันไปได้แล้ว”

อาจารย์หมอพูดแล้วก็พามิลค์ออกจากห้องไปท่ามกลางความเสียดายของทุกๆ คน ผมสบตาแล้วยกนิ้วให้กำลังใจมิลค์อีกครั้งก่อนจะปิดล็อคความทรงจำเรื่องหน้าตาของผมออกไป

เป็นอันว่าภารกิจที่สี่ของวันก็จบลงไปได้ด้วยดี อาจารย์หมอเอาทาสมาใช้ได้ดีกว่าที่คิดเยอะ เป็นการลงโทษที่รุนแรงไม่น้อยแต่ก็เป็นประโยชน์กับส่วนรวมด้วย กว่าจะหมดสัญญา มิลค์คงเข็ดไปจนตาย ฉลาดเว่อร์สมเป็นหมอคนดังจริงๆ ว่าแต่แนวทางของอาจารย์หมอนี่ทำให้ผมเกิดไอเดียอะไรต่อมิอะไรขึ้นมาเยอะเหมือนกัน เดี๋ยวจะลองเอาไปต่อยอดดู

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ผมดูเวลาแล้วก็เห็นว่ายังน่าจะเก็บภารกิจได้อีกอันก่อนจะไปรับตัวนักโทษใหม่ที่ฝากไว้กับจอม แต่เรื่องไปเยี่ยมน้องๆ ไวน์บอยนี่คงไม่ทัน ยังไงหมอพฤกษ์ก็ดูแลดีอยู่แล้ว เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน

ผมเช็ครายละเอียดของงานสุดท้ายในโทรศัพท์ โชคดีที่ไม่ต้องไปไหนไกล เป้าหมายกำลังมาถึงที่ ผมแค่ย้ายไปรอที่คณะบริหาร งานนี้ก็เป็นการสังเกตการณ์อีกเหมือนเคย พิชยะเป็นสมาชิกองค์กรหน้าใหม่ที่ได้รับสืบทอดมาจากคุณอาซึ่งเป็นอธิการบดีของมหาลัยแห่งนี้เอง คุณอาเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งที่ให้ความช่วยเหลือในหลายๆ เรื่องจนผมได้ใช้ที่นี่เป็นฐานปฏิบัติการในบางงาน ที่มหาลัยนี้มีนโยบายที่ก้าวหน้ารวมถึงมีระเบียบปฏิบัติที่ยืดหยุ่นเปิดกว้างก็เพราะได้แนวทางส่วนหนึ่งมาจากองค์กรนี่เองโดยมีผมหนุนหลังที่ช่วยให้อิทธิพลต่างๆ ภายนอกไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้ ตัวอย่างก็เช่นคลาสของอาจารย์หมอเมื่อกี๊ ถ้าเป็นในต่างประเทศอาจเป็นเรื่องปกติที่จะมีการสาธิตแบบนี้ในชั้นเรียน แต่สำหรับเมืองไทยนี่คงกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วถ้าไม่เกิดขึ้นในมหาลัยนี้ ถึงคุณอาของพิชยะจะไม่ได้เป็นสมาชิกและลืมเรื่องขององค์กรในระดับสมาชิกไปแล้ว แต่คุณอาและทีมผู้บริหารมหาลัยก็ยังรับรู้และมีความร่วมมือแบบเดียวกันกับที่องค์กรมีกับสำนักงานตำรวจ

พิชยะเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกันที่ผมถูกชะตาด้วย นอกจากเขาจะเป็นหลานชายสุดรักของคนที่สนับสนุนองค์กรมาโดยตลอดแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งคงเพราะผมรู้มาว่าเขาเป็นเกย์ที่ยังเป็นหนุ่มซิงอยู่จนอายุยี่สิบกว่าแล้ว เรียกว่าอยู่ในสถานการณ์เดียวกับผมเลย ผมไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงของเขาแต่คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องการรักษาหน้าตาให้วงศ์ตระกูลอะไรทำนองนั้น ไม่เหมือนผมที่ดูจะเป็นปัญหาที่ลึกกว่าจากนิสัยรักความเป็นส่วนตัวที่เกินปกติของผม ผมไม่สนิทใจที่จะให้ใครมาถูกตัวอย่างใกล้ชิด บ้าบอจริงๆ แล้วจะไปหาประสบการณ์ทางเพศจากที่ไหนได้

ผมเป็นกังวลกับเขานิดหน่อยที่เขาได้ประมูลทาสคนแรกไปได้ไม่กี่เดือนก่อน ทศเป็นทาสที่ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกประมูลไปในราคาที่ต่ำขนาดนั้น ระบบไม่ได้มีอะไรผิดพลาดแต่อาจเป็นความผิดของผมเองที่หยิบเอารูปที่มุมกล้องและแสงไม่ค่อยดีไปใส่เป็นรูปโพรไฟล์ของทศ พอดีกับตอนนั้นมีรายการประมูลทาสที่เด่นๆ หลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอดีตดาราวัยรุ่นที่โด่งดังมากเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ปัจจุบันยังคงรักษาความหล่อและฐานแฟนคลับไว้ได้อย่างเหนียวแน่นแม้จะมีชื่อเสียงบางเรื่องที่ไม่ค่อยดีก็ตาม พอไม่มีคู่แข่ง พิชยะก็ได้ตัวทศไปในราคาขั้นต่ำซึ่งตั้งไว้ตามมูลความผิด กรณีนี้ทำให้ผมสนใจ ความที่พิชยะยังอายุน้อย ไม่มีประสบการณ์ทางเพศ เป็นคนประหยัดซะด้วยซ้ำทั้งๆ ที่บ้านก็มีฐานะ คนแบบนี้จะเอาทาสไปใช้ยังไงผมยังนึกไม่ออก ไม่ได้กลัวว่าจะเกิดอะไรไม่ดีหรอกครับเพราะยังไงแล้วพิชยะก็เป็นคนจิตใจดี แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ นี่ก็ผ่านไปหลายเดือน อะไรๆ น่าจะลงตัวแล้ว

แอพพิเศษในมือถือของผมที่โป๊ปทำให้บอกกว่าคนที่ผมรอกำลังมาถึงแล้ว รถจากัวร์รุ่นเก่าสีขาวคลาสิกวิ่งเข้ามาจอดในลานจอดของคณะ ดูจากเวลาแล้ว พิชยะมาถึงก่อนเวลาเริ่มเรียนโทค่อนข้างมาก วันนี้อาจจะเลิกงานเร็วหรือตั้งใจมาหาอะไรกินก่อนเข้าเรียนก็ได้

พิชยะลงมาก่อน ยังหล่อขาวใสเหมือนเดิม ตามด้วยทศหนุ่มเข้มล่ำที่ดับเครื่องยนต์แล้วกุลีกุจอมารีบถือของ ผมรีบเดินตามไปประกบพร้อมพลางใบหน้าไม่ให้เกิดความรู้สึกสนใจจากสองคนนั้น มันไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ขนาดเหมือนผมหายตัวได้ แต่ก็ช่วยให้เข้าใกล้เป้าหมายได้มากขึ้นโดยไม่ดึงความสนใจจนเกินไป

สองคนเดินเถียงกันไปขณะมุ่งตรงไปทางโรงอาหาร ไม่ได้สนใจผมเลยแม้แต่น้อยทั้งที่เดินตามหลังอยู่ไม่ห่าง ปกติพลังของผมในเรื่องนี้มันไม่ได้ผลขนาดนี้ สงสัยมัวแต่ใจจดใจจ่อกันเอง

“พิชบอกพี่ทศแล้วว่าให้ศึกษามาสอนพิชบ้าง ไม่ใช่แค่สาธิตอย่างเดียว”

“ก็พี่ทำตามในแผ่นที่ไปศึกษามานั่นแหละ ทำไปเรื่อยๆ พิชไม่เห็นว่าอะไร พิชก็รู้ว่าแค่สั่งคำเดียวพี่ก็ต้องหยุดถึงจะต้องอดกลั้นขนาดไหนก็ตาม”

“ไม่รู้แหละ บางทีพิชก็เผลอไปบ้าง ใครใช้ให้พี่เชี่ยวนักล่ะ พิชไม่เคย พิชก็ต้องลองดูให้รู้ทุกๆ แบบก่อน แต่พิชก็อยากเป็นคนทำเหมือนกันนะ”

“ตามใจพิชเลย พิชอยากได้อะไรไม่ต้องสั่งพี่ก็ทำให้ แต่ของแบบนี้มันต้องค่อยๆ ศึกษาไป ไม่งั้นทำไม่ระวังมันหักได้เลยนะ ที่พี่เป็นเร็วเพราะพี่ทำกับผู้หญิงมาเยอะแล้ว แต่พิชยังไม่เคย”

“หญิงเยอะนักเหรอ นี่พิชยังไม่หายโกรธเลยนะ ดีล่ะ วันนี้พี่ต้องโดนทำโทษ ที่พิชสั่งไม่ให้พี่ใส่กางเกงในมาทำตามหรือเปล่า”

“ทำสิ พี่ขัดคำสั่งพิชได้ที่ไหน พิชจะแกล้งอะไรพี่อีก อย่าแรงมากนะ พี่พร้อมทำตามที่พิชสั่งทุกอย่างแหละ แต่ไม่หวงพี่บ้างเหรอ ชอบเอาพี่ไปโชว์คนอื่นอยู่ได้ พี่เป็นทาสของพิชคนเดียวนะ”

“ก็พิชภูมิใจนี่ กล้ามแน่นๆ บนตัวพี่มันเป็นของพิชทั้งนั้น แต่คราวนี้ไม่หรอก พิชแค่จะฝึกความอดทนพี่เท่านั้น เดี๋ยวตอนที่พิชเข้าไปเรียน พี่ทศไปยืนเฝ้าตรงระเบียงเลยนะ ห้ามนั่ง ช่วงนี้มีน้องปอตรีสาวๆ สวยๆ น่ารักทั้งนั้นเลยเรียนอยู่ห้องข้างๆ ถ้าเขาเดินไปมาหรือเข้ามาคุยแล้วพี่แข็ง ก็อับอายขายหน้าไปนะ”

“งั้นไม่มีปัญหา เดี๋ยวนี้ดูนางแบบในหนังเอ็กซ์หนังอาร์พี่ยังเฉยๆ อย่างว่าพี่เคยได้ชื่นชมอะไรที่มันสุดๆ มาแล้ว อย่างอื่นมันก็ธรรมดาไปหมด”

“ให้มันจริงแล้วกัน เฮ้อ วันนี้เลยปวดตัวไปหมด นั่งทำงานทั้งวัน เดี๋ยวก็ต้องเรียนต่ออีกสามชั่วโมง คืนนี้พี่ต้องนวดชุดใหญ่ให้พิชด้วยนะ”

“เดี๋ยวพี่จัดชุดใหญ่ให้แน่ๆ ไม่ต้องห่วง”

ฟังได้แค่นี้คงไม่ต้องสืบต่อ ถึงมันจะไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับทาสที่เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ก็ยินดีด้วยแล้วกันนะพิชยะ เท่ากับผมหมดเพื่อนซิงไปอีกคน ก็ต้องดูกันต่อไปว่าพอหมดสัญญาทาสแล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า ถึงตอนนั้นคงขึ้นกับคนสองคน ไม่ใช่เรื่องที่องค์กรจะเข้าไปยุ่งได้อีก แต่ผมว่าสิ่งที่พูกพันทั้งสองคนไว้ในตอนนี้ มันก็เกินกว่าพันธะสัญญานายทาสไปไหนๆ แล้ว ทศที่ดูจะมีลูกล่อลูกชนขึ้นแต่ผมคิดว่ามันเกิดจากความรักความเอ็นดูที่มีให้กับพิชมากกว่า ในเนื้อแท้แล้วเขาก็เป็นคนซื่อและจริงใจเหมือนเดิม ส่วนพิชยะเองก็เหมือนจะเอาแต่ใจมากขึ้น แต่ถ้าผมเดาไม่ผิด นั่นคือการอ้อนในแบบของเขา

ผมโทรไปหาจอมว่ากำลังจะไปรับตัวเด็กนักโทษเอาไปจัดการต่อ จอมก็บอกว่าเด็กคนนั้นหลับไปแล้ว เพราะถูกเขาสอบสวนอย่างหนัก แล้วก็ช่วงบ่ายให้ไปช่วยงานที่ร้านกาแฟเพราะคนขาด ผมก็ดุจอมไปว่าห้ามใช้งานคนที่ยังไม่ถูกตัดสินโทษ จอมขอโทษแล้วบอกว่าท่าทางเรื่องมันจะซับซ้อนกว่าที่คิด เด็กคนนั้นเหมือนถูกบังคับมาอีกที น่าจะถูกวางยาด้วยตอนมีอะไรกับเหยื่อ แต่ไม่ยอมซัดทอดใคร จอมขอเวลาให้เขาได้ตะล่อมถามอีกวันเพราะตอนนี้เด็กเริ่มจะไว้ใจเขาแล้ว

ผมวางหูจากจอมแล้วก็ถอนใจ คนเลวๆ หลายคนก็ไม่ได้อยากทำเรื่องที่ไม่ดีถ้ายังเหลือทางเลือกอื่นบ้าง งั้นวันนี้ก็เลิกงานเร็วหน่อยแล้วกัน ผมตั้งใจจะกลับไปนอนบ้านบ้างหลังจากโดนไอโป๊ปอ้างโน่นอ้างนี่จนต้องค้างกับมันลากยาวไปเกือบอาทิตย์ พอคิดได้แล้วผมก็โทรไปหามันทันที

“โป๊ป วันนี้กูกลับไปนอนบ้านนะ ไม่ได้ไปนานแล้ว”

“กลับไปทำไม บ้านมึงไม่ได้หนีไปไหนซะหน่อย”

“เอ๊ะ ก็กูกลับไปดูบ้านบางไม่ได้เหรอ บ้านไม่มีคนอยู่เดี๋ยวมันโทรมนะ”

“ถ้ามึงอยากไปค่อยไปพรุ่งนี้ก็ได้ เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อนด้วย คืนนี้มานอนนี่ก่อน กูมีอะไรอยากให้ดู”

“อะไรวะ ถ้าไม่น่าสนใจกูไม่ไปนะ”

“รูปถ่ายมึง.........กับลานเห็ดโคนเมื่อเช้า” โป๊ปมันรู้ครับว่าผมเรียกอย่างนี้เพราะผมกระซิบบอกมันเอง

“มึงแอบถ่ายเหรอ เลวว่ะ สงสารน้องๆ”

“ก็ไม่ได้ทำให้เค้าเดือดร้อนนี่ มึงดูคนเดียว ระดับกูแล้วไม่มีทางหลุดออกไปไหนแน่ แค่ถ้าไม่เอาก็จะลบแล้วนะ”

ผมสองจิตสองใจ ส่วนหนึ่งก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ แต่อีกใจหนึ่งก็บอกว่ามันไม่ได้มีใครเสียหายอย่างโป๊ปว่า ว่าแต่เที่ยวนี้มาแปลก ปกติโป๊ปไม่ค่อยได้มาเสนอเรื่องแบบนี้ให้กับผม เพราะลำพังเรื่องหื่นที่ผมสร้างสรรขึ้นเองก็มากมายจนมันตามไม่ทันแล้ว

“โอเคงั้นลบเลย”

“เดี๋ยวๆ ของแบบนี้จะไปหาจากที่ไหนได้อีก ให้กูไปทำใหม่โดยไม่มีเหตุจำเป็นกูก็ทำไม่ลงว่ะ ไหนๆ มึงก็ถ่ายมาแล้วกูก็ขอเก็บเป็นที่ระลึกแล้วกัน”

“งั้นกูมีเงื่อนไข มึงต้องอยู่กับกูตลอดสองเดือน จะที่คอนโดกูหรือบ้านมึงก็ได้ แล้วแต่วันไหนสะดวกที่ไหน แล้วมึงต้องทำอาหารให้กูกินอาทิตย์ละสามครั้ง”

“อะไรของมึงวะ ทำไมต้องมากะเกณฑ์อะไรเอากับกูด้วย วันไหนกูสะดวกก็เข้าไปอยู่แล้ว”

ใช่ครับ อย่าว่าแต่มันติดผมเลย ผมก็ติดมันเหมือนกัน ถึงชอบบ่น แต่มันก็ตามใจผมตลอด นี่ถ้ามันไม่เคยปฏิเสธผมแข็งขันว่าไม่ได้คิดอะไรในเชิงชู้สาวกับผมคงจีบมันเป็นแฟนไปแล้ว เพราะถึงไงมันก็เป็นคนสำคัญที่สุดที่ยังเหลืออยู่ในชีวิตผม

“ช่วงนี้กูกำลังทำงานใหญ่ กูต้องการกำลังใจ มึงต้องมาดูแลกู ฝึกไว้จะได้ชิน อีกไม่นานแล้ว”

“งานใหญ่งานช้างอะไรวะ มึงเก่งจะตาย ทำแป๊บเดียวก็เสร็จ” หลังๆ โป๊ปชอบพูดอะไรแปลกๆ แบบนี้ แต่ผมติดใจเรื่องงานของมันมากกว่า

“งานนี้ระดับปลาวาฬสีน้ำเงินเลย ถึงเป็นกูก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ ว่าแต่มึงจะเอาไม่เอา กูมีถ่ายเจาะน้องน่ารักแบบเหี้ยๆ เมื่อเช้านี้อีกหลายคนแถมให้ด้วย สเป็คมึงทั้งนั้น ถ้าไม่เอาก็ตามใจ จะลบแล้ว”

โอ้วว์ มีถ่ายเจาะด้วย คอลเลคชั่นผมจะได้มีเด็กดีๆ เก็บไว้บ้าง ตอนนี้มีแต่พวกหล่อเลวทั้งนั้น

“เดี๋ยวๆ กูตกลง เดี๋ยวกูเข้าไปหามึงเลย”

ผมรีบรับปากเบอร์หนึ่งก่อนจะขับรถไปทางคอนโดมัน ใจก็นึกสงสัยว่างานใหญ่อะไร ในเมื่อผมไม่รู้ ก็คงไม่ใช่งานองค์กร หรือจะเป็นโปรเจ็คที่บริษัทมันไปรับมา แต่ไม่ว่าโปรเจ็คจะยากหรือใหญ่แค่ไหนก็ไม่เห็นมันเคยบ่นมาก่อน เอาเถอะ เดี๋ยวมันอยากบอกมันก็บอกเอง ตอนนี้วางแผนสำคัญดีกว่าว่าสัปดาห์ละสามมื้อจะทำอะไรกินดี เอาที่บำรุงสมอง เสริมสร้างกำลัง โป๊ปจะได้ทำงานอึดๆ และแน่นอนว่าต้องอร่อยด้วย ก็ฝีมือผมนี่นะ

---------------------------------------------------

ผมว่าเคลียร์ประเด็นเก่าไปได้น้อยกว่าประเด็นใหม่ที่เพิ่มมาอีกนะครับ 555

เอาเป็นว่าเป็นบทส่งท้ายเพื่อเริ่มภาคใหม่ของเรื่องนี้ คราวหน้าตัวร้ายจะออกโรงบ้างแล้วครับ จริงๆ ก็ออกมานานแล้วแต่ยังไม่เด่น รูปแบบการเขียนอาจเปลี่ยนไปบ้างเพื่อจะสอดรับกับการเดินเรื่องที่จะเข้มข้นขึ้น ยังไงก็ติดตามอ่านกันต่อไปนะครับ

ขอขอบคุณทุกคน  :pig4:

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ขอบคุณที่มาต่อจ้า เป็นกำลังใจให้
และจะรอติดตามเหมือนเดิมไม่หนีไปไหน อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-11-2015 00:59:37 โดย kawoat »

ออฟไลน์ cookie_

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งานใหญ่ของเบอร์หนึ่งคือการจีบเบอร์ศูนย์รีป่าว :hao3:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ :L2: :L2:

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ้ มาต่อแล้วเพิ่งเห็น รอๆอีกครับ สนุกมากอะผมชอบสุดๆ

มันแปลกแหวกแนวดีจัง

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
แนวเขียนแปลกดี ชอบอ่ะ
อยากให้มีโมเมนต์ มุ้งมิ้ง ของบอสโป๊ปเยอะๆๆ
ว่าแต่โป๊ปมีเซอร์ไพรส์ อะไรหว่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด