องค์กรลวงจิต Explicit Content [จบ] ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [7] 15/01/17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: องค์กรลวงจิต Explicit Content [จบ] ตอนพิเศษ เต้าหู้นมสด [7] 15/01/17  (อ่าน 193385 ครั้ง)

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ในที่สุดผมก็กุมอำนาจของชมรมกีฬามหาลัยไว้ได้ทั้งหมด ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่จริงๆ เหมาะผมเป็นผู้สนับสนุนพวกมันมากกว่า ทั้งต้องคอยไปเชียร์ ตั้งรางวัลเป็นกำลังใจ หาสปอนเซอร์ให้อีก เหนื่อยเหมือนกันนะ แต่ก็โอเค ได้เป็นที่รักของหนุ่มๆ นักกีฬาหลายร้อยคน ผมยอม ตอนนี้ถึงคงเวลาที่ผมจะได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายใหม่ที่ผมสร้างขึ้นเพื่อสืบเรื่องราวที่ยังคั่งค้างต่อ

ผมให้คนของชมรมกีฬาส่งตัวแทนชมรมละสี่ห้าคนมาคุยพร้อมกันเพื่อมอบหมายงานให้ไปทำ ช่วงที่ผ่านมาผมสืบเรื่องคนที่ทำโปรแกรมจิตแทกซี่ไปได้บ้างแต่ยังไม่ได้เบาะแสที่เป็นชิ้นเป็นอันนัก ที่แน่ใจก็มีอยู่สองสามข้อ ข้อแรกคนที่ทำเรื่องนี้จะชอบโปรแกรมบังคับจิตผู้ชายให้โชว์เรื่องทางเพศหรือโป๊ๆ เปลือยแบบน่าอาย ข้อสองเขามารถดักข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้จากทางอินเตอร์เน็ต ถ้าเอาขึ้นเน็ตเมื่อไหร่ข้อมูลจะถูกทำลายหมด ข้อเขาใช้รูปกราฟฟิคคล้ายๆ กับดวงตาสองดวงเป็นสัญญลักษ์ และเหมือนจะใช้เป็นตัวบ่งชี้ข้อมูลที่จะทำลายหากมีการเอาขึ้นเน็ตด้วย ผมจะใช้เบาะแสพวกนี้สืบต่อโดยเริ่มจากที่มหาลัยนี่แหล่ะ ผมขอเรียกในใจว่าภารกิจจับปีศาจบังคับจิตตามที่ผมแอบตั้งฉายาไว้แล้วกัน

“มากันครบทุกชมรมแล้วใช่ไหม วันนี้พี่มีเรื่องจะขอความช่วยเหลือพวกเราหน่อย คงไม่รบกวนเกินไปนะ”

ผมกวาดตามองบรรดาตัวแทนที่มา รู้สึกว่าจะไม่มีพวกปีสี่อยู่เลย รุ่นผมส่วนใหญ่น่าจะวางมือจากชมรมเพื่อเร่งโปรเจ็คหรือทีสิสจบกันหมดแล้ว ผมเลยถือโอกาสแทนตัวเองว่าพี่ซะเลย

“ได้เลยพี่เม มีอะไรจะให้ช่วยก็บอกพวกผมได้เลย ยิ่งกว่ารบกวนก็ไม่มีปัญหา หรือพี่เมอยากอัดคลิปพวกผมอีก”

เสียงตอบจากไอเด็กคิ้วเข้มหน้าทะเล้นชมรมฟันดาบพร้อมกับเสียงสนับสนุนจากชมรมอื่นๆ ผมไม่น่าไปขอถ่ายคลิปสยิวของมันเลย นี่ก็คงไปลือกันใหญ่ว่าผมถ่ายคลิปหนุ่มๆ ซึ่งก็จริง เอ๊ย มันใช่ไหมเนี่ย

“อย่าเพิ่งคิดไปไกล พี่แค่อยากจะถามอะไรบางอย่าง แล้วก็ให้พวกเราช่วยรวบรวมข้อมูลให้หน่อย เริ่มจากอันแรกนะ ใครเคยเห็นคนในมหาลัยเรา ผู้ชายนะ ที่มาโชว์ของดีให้คนอื่นดูในสถานการณ์แปลกๆ บ้าง เหมือนจะถูกบังคับแต่ก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าแบบที่คนทั่วไปคงไม่ทำ”

คนเกือบทั้งห้องยกมือกันพรึบ ผมตกใจ มันมีกรณีที่ว่าในมหาลัยผมเยอะอย่างนี้เชียวเหรอ แล้วผมไปอยู่ที่ไหนมาถึงไม่รู้เรื่อง ผมระงับความประหลาดใจแล้วซักต่อ

“เห็นที่ไหนแล้วใครเป็นคนโชว์ครับ เอ้า น้องชมรมแบดพูดก่อนแล้วกัน”

“ก็พี่เมไงครับ โชว์มันทุกชมรมแล้ว แต่ต่างคนก็เก็บเป็นความลับของชมรม ผมเลยไม่รู้ว่าที่ชมรมอื่นพี่เมโชว์เด็ดแค่ไหน อยากเห็นจัง”

ผมแทบหงายหลังด้วยความผิดคาด แต่จะว่าไปผมก็เคยเป็นเหยื่อของปีศาจบังคับจิตนี่เหมือนกันนะ

“เฮ้ยไม่ใช่ ไม่รวมพี่สิ เอาใหม่ ขอยกมืออีกครั้งนึง ไม่รวมพี่นะ”

จำนวนมือที่ยกเหลือแค่หรอมแหรม ผมไล่ถามก็เป็นเรื่องที่เคยได้ยินมาแล้วซึ่งก็ก้ำกึ่งว่าเป็นการบังคับจิตหรือสมัครใจทำจริงๆ มีเรื่องเด็กปีหนึ่งที่คณะศิลปกรรมชอบใช้เป็นแบบนู๊ดอยู่บ่อยๆ กับคณะแพทย์ที่มีการใช้ตัวอย่างเป็นคนจริงๆ มาเปลือยกายสาธิตเรื่องสรีระและเรื่องระบบสืบพันธ์เพศชาย ผมเลยขอให้ไปหาคนในชมรมที่พอจะเข้าถึงตัวสองคนนี้ช่วยไปสืบดูว่ามีที่มาที่ไปยังไงแล้วทำไมถึงยอมทำ นอกจากนั้นผมก็ให้น้องที่มาฟังไปกระจายข่าวในชมรมตัวเองเพื่อช่วยสืบเรื่องแทกซี่ โดยผมบอกรายละเอียดเกี่ยวกับสัญลักษณ์รูปดวงตาสองข้างไป ถ้าน้องเจอให้ช่วยสัมภาษณ์เรื่องบริการพิเศษมาให้ละเอียดมากที่สุด

หลังจากกระจายข่าวไป ก็มีน้องไปเจอแทกซี่แบบที่ว่าหลายคันแต่ก็ไม่ได้ข้อมูลมากไปกว่าเดิม หลังจากนั้นไม่นานก็โชคดีครับ คันล่าสุดที่เจอนี่พิเศษตรงที่พอเด็กผมสอบถามไป พี่แทกซี่ก็บอกมาว่าเกิดอาการอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว จากข้อมูลของผม นับว่าเป็นคันที่โดนมานานที่สุด แล้วก็ไม่ได้เกิดขึ้นหลังจากไปสอบต่อใบขับขี่เหมือนคนอื่น แต่เกิดหลังจากมีคนจ้างให้ไปทำแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการขับแทกซี่ซึ่งต้องมีดูวิดีโอด้วย ที่สำคัญเบอร์โทรที่ให้ส่งเอสเอ็มเอสไปรายงานยอดในตอนแรกๆ ไม่ได้เป็นเบอร์เดียวกับที่คนอื่นใช้อยู่ เพิ่งมาเปลี่ยนเป็นเบอร์เดียวกับคนอื่นหลังจากคนขับแทกซี่ได้ไปต่อสอบต่อใบขับขี่มา คนขับแทกซี่เล่าว่า พอเปลี่ยนเบอร์แล้วเขาก็ลืมเบอร์เก่าไปสนิท แต่ที่ยังเอาเบอร์มาได้ก็เพราะดูจากประวัติในโทรศัพท์ตัวเอง

ผมเอาเบอร์ที่ได้มาไปตรวจสอบชื่อเจ้าของเผื่อว่าจะมีเบาะแสเพิ่มเติม ปรากฎเป็นเบอร์ที่จดทะเบียนโดยบริษัททำระบบคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง เหมือนจะเป็นการเปิดใช้บริการทีเดียวหลายๆ เบอร์สำหรับไปใช้ในธุรกิจ เส้นสายของสมาพันธ์ช่วยสืบให้ว่า เจ้าของเป็นคนหนุ่มไฟแรง บริษัทเพิ่งเปิดมาได้ไม่กี่ปีแต่เริ่มมีชื่อเสียงว่าสามารถพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ได้อย่างยอดเยี่ยมและคุ้มค่า ผมนึกไปถึงระบบดักจับภาพที่มีลัญลักษณ์แปลกๆ พวกนั้นติดไปแล้วค่อนข้างมั่นใจว่าเรื่องทั้งหมดอาจเป็นฝีมือของบริษัทนี้

แต่พอให้เส้นสายเข้าไปสืบจากคนข้างใน เขาก็บอกว่าบริษัทนี้รับงานของลูกค้าทางธุรกิจหรือองค์กรทั่วไปตามปกติ ไม่ได้ทำอะไรพิศดารแต่อย่างใด จะมีแต่เจ้าของบริษัทที่ชอบมีโปรเจคส่วนตัวแปลกๆ มาให้ลูกน้องช่วยเขียนโปรแกรม แต่ได้กันคนละส่วนสองส่วนไม่ปะติดปะต่อกัน แล้วเจ้าของเป็นคนเอาไปเขียนต่อแล้วรวมเอง เลยไม่มีใครรู้ว่าเป็นโปรเจคอะไร ผมเลยกะจะมุ่งเป้าไปที่เจ้าของบริษัทนี้ จริงๆ เห็นว่ามีหุ้นส่วนด้วยอีกคน แต่คนในบริษัทที่เป็นคนให้ข้อมูลดูจะงงๆ พูดเหมือนจะรู้จักคุ้นเคยดี แต่พอถามชื่อถามหน้าตาก็ตอบไม่ถูก ถ้าสมมุติฐานของผมเป็นจริง เป็นไปได้ว่าจะโดนการโปรแกรมจิตดักป้องกันไว้ เพราะฉะนั้นนี่อาจเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุดก็ได้

ผมก็เลยให้นักสืบฝีมือดีที่สมาพันธ์ใช้งานอยู่บ่อยๆ ไปสะกดรอยตามเจ้าของบริษัทว่ามีการติดต่อกับใครหรือมีอะไรแปลกๆ หรือไม่ เจ้าของบริษัทไม่ค่อยมีรูปหรือข้อมูลส่วนตัวเผยออกมามากนักผิดวิสัยของคนทำธุรกิจ ขนาดเสิร์ชหาในเน็ตยังแทบจะไม่เจออะไรเลย แต่พอผมเห็นรูปที่นักสืบหามาให้ก็อึ้งไป คือเป็นคนที่ดูดีมาก นึกว่าพวกทำงานไอทีจะโทรมๆ ตาคล้ำๆ ซะอีก แต่นี่หล่อ หุ่นดี แล้วก็คงเก่งและฉลาดมากแน่ๆ ถึงได้สร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมาได้ขนาดนี้ ผมอยากได้มาเป็นพวกจัง ถ้าเป็นคนนี้ผมอาจจะยกตำแหน่งนิ้วใดนิ้วให้ก็ได้ ที่แน่ๆ ผมว่าผมเคยเจอเขามาก่อน น่าจะเป็นงานกาล่าดินเนอร์เมื่อปลายปี ต้องขอบคุณความจำอันยอดเยี่ยมของตัวเอง

หลังจากนั้นอีกเกือบอาทิตย์ นักสืบก็โทรมารายงานที่เบอร์มือถือที่ผมเปิดขึ้นใหม่โดยเฉพาะเพื่อปกปิดตัวตน ผมรู้ว่ากำลังเล่นกับอะไรที่ไม่ธรรมดา ใช่ว่าผมจะใช้อิทธิพลหรือเส้นสายของสมาพันธ์มาจัดการได้ง่ายๆ เหมือนในงานของตระกูล เลยต้องป้องกันไว้ก่อน ตัวนักสืบเองก็ไม่รู้ว่าผมเป็นใคร

“คุณผู้ว่าจ้างครับ ผมกำลังจะได้ข้อมูลที่ต้องการมาแล้ว จริงๆ ก็ไม่ยากครับ ผมตามมาหลายวันแล้ว เขามาเจอกับคนๆ นี้ทุกวัน ผมคิดว่าน่าจะพักอยู่ด้วยกันด้วย ดูสนิทกันมากครับ”

“แล้วคนๆ นั้นรูปร่างหน้าตาเป็นยังไงครับ”

“ผมก็ยังไม่เห็นหน้าชัดๆ ครับ น่าจะรุ่นๆ เดียวกัน ผิวขาว รูปร่างสมส่วน ส่วนใหญ่จะใส่แว่นดำหรือไม่ก็ปัดผมมาปิดหน้าเวลาออกมาข้างนอก ผมเห็นแค่จากระยะไกลแต่คิดว่าหน้าตาดีมากเหมือนกันครับ ตอนนี้ทั้งคู่เข้าไปซื้อของในซุปเปอร์ครับ ผมตั้งกล้องซูมรอไว้แล้ว ยังไงก็ต้องผ่านมาขึ้นรถทางนี้ เดี๋ยวผมส่งภาพไปให้ทางไลน์นะครับคุณผู้ว่าจ้าง อ้อ แล้วไม่ต้องห่วงนะครับ ผมปกปิดตัวเองอย่างดี เป้าหมายไม่รู้ตัวแน่นอน”

“ขอบคุณคุณนักสืบมากเลยครับ ทำงานดีสมกับที่ผู้ใหญ่แนะนำมาเลยครับ”

ผมแกล้งพูดประหนึ่งว่าตัวเองไม่ใช่คนของสมาพันธ์ หลังจากนั้นผมก็นั่งทำงานรอไปเรื่อยๆ วันนี้ผมอาจจะได้รู้ซะทีว่าใครที่ควบคุมจิตผมให้ต้องถอดกางเกงเปลือยก้นฉี่อยู่ตั้งหลายเดือน ใครที่เป็นคนโปรแกรมให้แทกซี่เป็นหลายร้อยคนต้องคอยมาชักว่าวโชว์ผู้โดยสาร ใครที่เป็นคนทำให้นักศึกษาบางคนในมหาลัยผมลุกขึ้นมาทำอะไรแปลกๆ เฉียดอนาจารกันอยู่เนืองๆ เขาใช้วิธีการไหนกับเรื่องที่เหมือนจะเป็นไปไม่ได้เหล่านี้ แล้ววัตถุประสงค์ล่ะ ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะเป็นภัยคุกคามกับประเทศหรือเปล่า คนที่เหมือนกับปีศาจคนนี้ ถ้าถึงขนาดนั้น สมาพันธ์จะยื่นมือเข้าไปจัดการอย่างเต็มกำลัง จะต้องระดมคนทั้งหมดของตระกูลพันธมิตรมาก็คงต้องทำ

เสียงสัญญาณไลน์จากโทรศัพท์ที่ผมเปิดเพื่อการนี้โดยเฉพาะดังขึ้น มาจากนักสืบอย่างที่คาด หายไปนานจนนึกว่าคลาดกับเป้าหมายซะแล้ว ผมเปิดคลิปวิดีโอที่นักสืบหนุ่มส่งมา วันนี้จะได้เห็นซักทีว่าคนที่เหมือนกับปีศาจคนนั้นหน้าตาเป็นยังไง แต่พอเปิดดูผมถึงกับตะลึง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แทนที่จะเป็นภาพแอบถ่ายของเป้าหมาย คนในคลิปกลับกลายเป็นตัวนักสืบหนุ่มที่ผมจ้างเอง ผมจำหน้าได้จากแฟ้มประวัติของสมาพันธ์ นักสืบหนุ่มหน้าตาใช้ได้กำลังเหยียดแขนเพื่อส่องภาพตัวเองจากมุมสูงที่ถ่ายจากในรถเห็นชัดทั้งใบหน้าและลำตัวท่อนล่างที่ล่อนจ้อนหมด อาวุธประจำกายนักสืบลำยาวชูชันขึ้นมาท่ามกลางพงขนหยิกหยอยรกๆ สีดำ

“นี่ครับที่ผมสืบได้ ความลับ เอ๊ย ของลับของผมเอง วันๆ วุ่นวายกับเรื่องคนอื่นจนไม่ได้สนใจของตัวเอง คุณผู้ว่าจ้างว่ามันโอเคไหม สั้นไปยาวไปบอกได้นะ แต่ผมว่ามันใช้งานดีมาก ถึงผมไม่ค่อยจะได้ใช้ก็เถอะ ถ้าสนใจผมให้ยืมไปใช้ได้”

นักสืบหนุ่มเปิดประตูรถออก แล้วหันมาพูดกับกล้องต่อ

“เดี๋ยวผมขอลงจากรถแป๊บนะครับ จะไปรับคำสั่งจากสองคนนั้นต่อ อ้อ เขาฝากบอกมาว่า คุณผู้ว่าจ้าง คุณเป็นรายต่อไปครับ”

ผมหวาดเสียวแทนเลย จะเดินโทงเทงในลานจอดรถบิ๊กซีนี่นะ นักสืบผมโดนเข้าแล้วใช่ไหม คลิปวิดีโอหยุดลงแค่ตรงนี้ ผมเริ่มร้อนใจ รู้สึกผิดนิดๆ ที่ทำให้นักสืบต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ แต่คงต้องโทษฝ่ายตรงข้ามด้วยที่สามารถทำอะไรเหนือมนุษย์ได้ขนาดนี้ ผมพยายามติดต่อกลับนักสืบ ทั้งไลน์ ทั้งโทร แต่ไม่สำเร็จ จนมีเสียงเตือนว่ามีไลน์เข้า ปรากฎว่าไม่ใช่จากไลน์ของนักสืบหนุ่มซึ่งเป็นคอนแทคเพียงคนเดียวของเครื่องนี้ ไลน์แปลกปลอมที่ว่าส่งรูปมาสองรูป รูปแรกเป็นรูปนักสืบหนุ่มกำลังเดินโทงเทงกลางลานจอดเห็นหน้าเห็นตาและเครื่องเคราต่างๆ อย่างชัดเจน แต่รูปที่สองกลับทำให้ผมต้องขนลุกอย่างเสียวสันหลังเมื่อเห็นภาพกูเกิ้ลแมพที่ปักหมุดไว้ตรงตำแหน่งคอนโดที่ผมนั่งอยู่ ณ ตอนนี้

ผมกำลังถูกขู่

ผมรีบปิดโทรศัพท์แล้วแกะซิมไปทิ้งในชักโครกอย่างลนลาน ใจเย็น ผมบอกตัวเอง แค่ตามรอยสัญญานมือถือได้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรู้ตัวผม อย่างน้อยในคอนโดนี้ก็มีคนอยู่หลายร้อยคน คงไม่ได้ตามกันได้ง่ายๆ มั๊ง ซิมนี้ผมก็ได้มาหลายทอดรับรองสาวมาถึงตัวโดยการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนไม่ถูกแน่ แต่ผมคงต้องระวังเรื่องการรับส่งข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ตให้มากๆ เคราะห์ดีที่การติดต่อประสานงานของสมาพันธ์จะใช้การสื่อสารแบบเก่าที่เข้ารหัสด้วยกาพย์กลอนต่างๆ ที่คนนอกไม่มีทางเข้าใจ

ตอนนี้ผมแน่ใจแล้วว่าอำนาจบังคับจิตเป็นของจริง รับมือยากแน่ๆ แถมฝ่ายนั้นยังได้เปรียบเรื่องการแกะข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วอีกอีก แต่ที่เขาทำอย่างนี้ก็ถือว่าพลาดเหมือนกัน มันทำให้รู้ว่าคนๆ นั้นกับเจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์รูปหล่อเป็นพวกเดียวกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น ผมคนนี้จะล่าปีศาจให้ดู

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

หลังจากนั้นผมก็สืบเรื่องนี้อย่างระวังมากขึ้น ใจจริงผมอยากจะใช้ฟีฟ่าหรือน้องแดนไปสืบต่อแต่มันอันตรายเกินไป ฟีฟ่าถึงส่วนตัวมันจะไม่อายกับเรื่องกามๆ แบบนี้ แต่พ่อแม่มันก็เป็นนักธุรกิจที่มีหน้ามีตาในสังคม ถ้าพลาดขึ้นมามีภาพอนาจารของลูกตัวเองออกมาคงไม่ดีแน่ ส่วนแดนถึงจะเป็นเด็กโนเนม แต่ก็ซื่อเกินแถม ยังเป็นว่าที่นิ้วก้อยของผม ผมจะใช้ให้ไปทำอะไรเสี่ยงๆ ได้ยังไง ผมเลยจ้างนักสืบคนใหม่ แต่คราวนี้ไม่ส่งไปประกบตัวใครเพื่อติดตามสะกดรอยแล้ว ไม่มีประโยชน์ ถูกจับได้เปล่าๆ ผมแค่ให้เขารวบรวมข้อมูลในอดีตของเจ้าของบริษัทหนุ่มหล่อมาให้ได้มากที่สุด และทำทุกอย่างโดยไม่ผ่านอินเตอร์เน็ต อีกทางหนึ่งผมก็ให้น้องๆ ในชมรมกีฬาผลัดเปลี่ยนกันไปหาเรื่องคุยกับพนักงานในบริษัทโดยไม่ให้ผิดสังเกต เป้าหมายคือข้อมูลของหุ้นส่วนลึกลับคนที่นักสืบคนที่แล้วทิ้งเบาะแสไว้ให้นั่นเอง

แผนการสืบโดยไม่เข้าถึงตัวและพยายามหลีกเลี่ยงอินเตอร์เน็ตเป็นไปได้ด้วยดี ถึงจะจำหน้าหรือชื่อของหุ้นส่วนบริษัทคอมพิวเตอร์ที่ตัวเองทำงานอยู่ไม่ได้ แต่ก็มีพนักงานคนหนึ่งคลับคล้ายคลับคลาว่าหุ้นส่วนคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของเจ้าของบริษัท น่าจะสนิทกันมาตั้งแต่เด็กด้วยซ้ำ คนให้ข้อมูลก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่จำอะไรเกี่ยวกับคนๆ นี้มากกว่านั้นไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่รู้สึกว่ามาหาเจ้านายที่บริษัทเป็นประจำ แถมมาทักทายคุยเล่นกับตัวเองก็บ่อย

พอได้เบาะแสอย่างนี้การสืบสวนก็พุ่งเป้าไปที่เรื่องราวสมัยเด็กของหนุ่มหล่อเจ้าของบริษัท พอผมได้อ่านข้อมูลต่างๆ จำนวนมหาศาลที่นักสืบและน้องๆ ชมรมกีฬาได้ไปรวบรวมมา ชื่อของคนๆ หนึ่งที่เป็นเพื่อนห้องเดียวกันสมัยมอต้นก็เด่นขึ้นมาในความทรงจำอันแม่นยำของผม แปลกที่คนๆ นี้เหมือนมีชื่อปรากฏแค่ช่วงเวลานั้น หลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏที่ไหนอีกเลย ต่อให้คนๆ นี้เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ช่วงนั้น ก็คงต้องมีร่องรอยมากว่านี้

แค่การขยายผลจากชื่อๆ เดียวที่น่าสงสัย ผมก็พบงานวิจัยหลายชิ้นจากศาสตราจารย์แพทย์ที่ใช้นามสกุลเดียวกัน งานวิจัยทั้งหมดเกี่ยวกับการนำเอาการสะกดจิตมาใช้ในทางการแพทย์ บิงโก ผมว่าผมเจอตัวปีศาจที่ว่าแล้ว แต่ผมก็ดีใจได้อยู่ไม่นาน เพราะการสืบข้อมูลต่อจากนั้นไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์มากนัก ผมรู้เพิ่มเติมแค่ว่า คนๆ นั้นเป็นลูกชายของนายแพทย์เจ้าของงานวิจัย เคยอยู่ห้องเดียวกับเจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์ตอนมอต้น แต่ไม่มีข้อมูลอะไรเลยทั้งก่อนและหลังจากนั้น รูปถ่าย การศึกษาหลังจากนั้น ที่อยู่ ที่ทำงาน เป็นไปได้อย่างไรที่ข้อมูลของคนๆ หนึ่งจะหายไปเฉยๆ อย่างนี้ การสัมภาษณ์คนที่น่าจะเคยเป็นเพื่อนก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ไม่มีใครจำอะไรเกี่ยวกับเพื่อนคนนี้ได้ บางคนเหมือนจะนึกออกลางๆ แค่เรื่องบางเรื่อง ไม่ต่างอะไรกับพนักงานบริษัท แต่นี่ก็ยืนยันให้เห็นว่าปิศาจสามารถแม้กระทั่งลบความทรงจำของคนได้ ผมไม่กล้ารุกคืบมากกว่านี้เพราะกลัวเป้าหมายจะรู้ตัวอีก ปล่อยให้เขาเข้าใจว่าผมกลัวคำขู่จนถอดใจไปแล้ว

ถ้าปีศาจไล่ลบความทรงจำของคนที่เกี่ยวข้องในอดีตทั้งหมด มันจะมีใครเหลือรอดบ้างไหมนะ ผมเริ่มการวิเคราะห์ ถ้าเราลองหาจากคนที่ไกลตัวออกไปอีกอาจจะมีใครที่ยังไม่ถูกลบความทรงจำไปก็เป็นได้ ผมกลับไปดูข้อมูลของเจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์ที่ได้มาช่วงแรกๆ แล้วตัดสินใจลองสืบจากพวกโรงเรียนสอนพิเศษหรือพวกกิจกรรมต่างๆ หนุ่มหล่อเจ้าของบริษัทเคยเรียนตอนมอต้น เคราะห์ดีที่มีเด็กชมรมเทควนโด้มหาลัยผมเป็นลูกศิษย์ที่เดียวกับโรงเรียนสอนเทควนโด้ที่เพื่อนของปีศาจเคยเรียนเลยได้ข้อมูลมาค่อนข้างง่าย และที่โชคดีไปกว่านั้นเมื่อผมพบว่ามีรุ่นพี่โรงเรียนเทควนโด้คนหนึ่งที่น่าจะเรียนอยู่พร้อมๆ กับเจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์ ตอนนี้ทำงานอยู่ที่บริษัทลูกของตระกูลในเครือข่ายของสมาพันธ์เอง ผมไม่รอช้าที่จะใช้เส้นสายของสมาพันธ์ในการนัดเข้าไปพบรุ่นพี่คนนี้ถึงบ้าน

ผมมากดกริ่งที่หน้าบ้านขนาดกลางในหมู่บ้านจัดสรรที่ดูน่าอยู่ไม่น้อย เงินเดือนระดับผู้จัดการของบริษัทหนึ่งในเครือข่ายของสมาพันธ์ก็น่าจะมากอยู่พอสมควร ชายหนุ่มผิวขาวร่างสูงล่ำสันในวัยใกล้สามสิบเดินออกมารับที่หน้าประตู เขาทำหน้าประหลาดใจที่เห็นผมยืนรออยู่ คงไม่คิดว่าคนที่บริษัทแม่แจ้งให้มาพบจะเป็นเด็กมหาลัยอย่างผม ผมยกมือไหว้ในฐานะที่อายุน้อยกว่าแม้ว่าบทบาทอื่นผมจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าเขาอย่างเทียบไม่ได้

“สวัสดีครับ ผมมาจากที่บริษัทแม่ประสานงานไว้”

ผู้จัดการหนุ่มยังทำหน้าแปลกใจอยู่ แต่ก็เชิญผมให้เข้าไปในบ้านซึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงามถึงจะเห็นว่ามีข้าวของเด็กเล็กวางเกลื่อนกลาดอยู่

“รกหน่อยนะครับ พอดีภรรยาผมพาลูกไปเยี่ยมที่บ้านแม่เขา เดี๋ยวผมจะตามไปตอนบ่ายเพราะต้องอยู่รอพบคุณก่อน ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรเหรอครับ เห็นเจ้านายผมบอกว่ามีคนขอมาพบเพื่อสอบถามข้อมูลบางอย่าง”

“ขอบคุณที่อยู่รอครับ ผมคงใช้เวลาไม่นาน ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานเลยครับ ผมแค่อยากจะถามว่า พี่รู้จักคนๆ นี้หรือเปล่า”

ผมส่งรูปเจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์ส่งให้ คนตรงหน้ารับไปดูแล้วขมวดคิ้ว

“คลับคล้ายคลับคลาอยู่นะครับ แต่นึกไม่ออกจริงๆ”

“แล้วถ้ารูปนี้ล่ะครับ” ผมส่งรูปในวัยมอต้นของคนคนเดิมให้

ผู้จัดการหนุ่มสีหน้าแววตาเปลี่ยนไปแว้บนึง แต่ก็ไม่เร็วเกินกว่าที่ผมจะสังเกตเห็น เขาผลักรูปทั้งสองใบกลับ

“ไม่รู้จักครับ ถ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องงานผมคงช่วยอะไรน้องไม่ได้”

“ไม่รู้จักจริงๆ หรือครับ ลองนึกทบทวนอีกทีว่าใช่คนที่เคยฝึกเทควนโด้ร่วมกับพี่หรือเปล่า”

“ไม่รู้จักครับ ไม่ทราบว่ามีอะไรอีกไหมครับ ผมจะรีบไปหาภรรยากับลูกแล้ว” พี่เขาตัดบทหน้าตึง คงเห็นว่าผมเป็นเด็กเลยไม่ค่อยเกรงใจเท่าไหร่

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายอย่างใจเย็น หลังจากคุยกับปลายสายสั้นๆ ไม่กี่ประโยค ผมก็ส่งโทรศัพท์ให้กับคนที่มองมาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

“พี่ลองคุยกับสายนี้ดูก่อนครับ แล้วค่อยว่ากัน”

“ครับ .... ใช่ครับผมธนชัยแผนกการตลาดต่างประเทศครับ .... หา ท่านประธานเหรอครับ ...... ครับ ท่านรองแจ้งมาก่อนแล้ว แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะถามถึงเรื่องส่วนตัว ........ ให้บอกทุกอย่างเลยเหรอครับ แต่ ..... แต่ ....... ครับ ผมทำงานก็หวังความก้าวหน้า เรื่องงานผมทำเต็มที่อยู่แล้ว ........ ให้ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องงานด้วยเหรอครับ .......... ครับผม ผมจะไม่ทำให้เขาไม่พอใจเด็ดขาด ...... ไม่ทำให้ท่านผิดหวังอยู่แล้ว ...... สวัสดีครับ”

พี่ธนชัยปาดเหงื่อหลังจากส่งโทรศัพท์คืนให้ผมด้วยสีหน้าเจี๋ยมเจี้ยม

“เดี๋ยวผมจะเล่าให้ท่านฟังหมดเลยครับ จริงๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังหรอก มันเป็นเรื่องน่าอายในอดีตของผมกับเพื่อน”

ผมหัวเราะ

“โอ๊ย พี่ไม่ต้องเรียกผมว่าท่านหรอกครับ ผมก็คนธรรมดานี่แหละ เรียกผมว่าน้องเหมือนเดิมดีแล้ว แล้วก็การพบกันครั้งนี้เป็นความลับนะครับ ผมไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อน”

“แต่คนที่น้องถามถึงนี่แหละตัวเดือดร้อนเลย แต่ถ้าน้องบอกว่าทั้งหมดเป็นความลับพี่ก็สบายใจขึ้น คนในรูปที่น้องเอามาให้ดูมันชื่อไอโป๊ป เป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนเทควนโด้พี่เอง แต่ไม่ได้เรียนมัธยมที่เดียวกันนะ”

ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นข้อมูลที่ผมรู้มาก่อนหน้านั้น พี่เค้าเล่าต่อ

“สมัยเด็กพี่ก็เกเรนิดหน่อย ไอนี่มันเข้ามาเรียนทีหลัง แถมเด็กกว่าอีก แต่ฝีมือมันก้าวหน้าเอาก้าวหน้าเอาจนพวกพี่หมั่นไส้ พี่กับเพื่อนๆ อีกหลายคนเลยชอบหาเรื่องแกล้งมัน ก็ตามประสาเด็กวัยรุ่นแหละ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงมากนะ”

“แล้วพี่โป๊ปอะไรนี่เขามีเพื่อนสนิทไหมครับ”

“พี่กำลังจะเล่าต่อพอดี รู้สึกว่ามันมีเพื่อนซี้ที่โรงเรียนอยู่คนนึง ชื่อโบ๊ทหรือบอสอะไรนี่แหละ แต่น้องคนนั้นไม่ได้เรียนเทควนโด้ด้วย พี่ได้เจอแค่ครั้งเดียว ตอนนั้น พอพี่แกล้งไอโป๊ปมากๆ เข้า มันเลยนัดพวกพี่ไปเคลียร์ที่บ้านมันหรือบ้านเพื่อนมันก็ไม่รู้ พี่ไปกันห้าคนกะว่ายังไงมันก็สู้ไม่ได้ ตอนนั้นพี่มอหกกันแล้ว พวกมันเพิ่งมอสาม แต่ไปถึงบ้านมันแล้วพวกพี่จำได้คร่าวๆ ว่ามันมาอธิบายว่ามันไม่ได้ตั้งใจปีนเกลียวอะไรเลย แต่เรื่องอื่นจำแทบไม่ได้ว่าทำอะไรไปบ้าง หลังจากนั้นพวกพี่ก็ซาๆ เรื่องแกล้งมันไปบ้าง จนไม่กี่เดือนหลังจากนั้นที่อาจารย์ของพวกพี่ดันเลือกมันเป็นตัวแทนไปแข่งระดับจังหวัด ทั้งๆ ที่มันอาวุโสน้อยกว่า พวกพี่หมั่นไส้มันมากเลยหาเรื่องแกล้งมันหนักกว่าเก่าอีก”

“แล้วเกิดอะไรขึ้นครับ”

ที่เล่ามายังไม่เห็นมีอะไรน่าอาย แต่ผมเดาว่าจุดไคล์แมกซ์มันน่าจะหลังจากนี้

“อยู่ก็มีรูปส่งมาที่พวกพี่ทั้งห้าคน อัดมาใบใหญ่เชียว ที่น่าตกใจมันคือใบหนึ่งเป็นรูปพวกพี่ห้าคนเปลือยกายหมดถ่ายกับไอโป๊ปที่ใส่เสื้อผ้าปกติ อีกรูปหนึ่งก็เหมือนเหมือนกันแต่ถ่ายกับเพื่อนมันที่ชื่อโบ๊ทมั๊ง แถมรูปนี้น่าเกลียดกว่าเก่าเพราะพวกพี่ไอนั่นแข็งกันทุกคน มีข้อความติดมาด้วยว่าถ้ายังไม่หยุด รูปพวกนี้จะเผยแพร่ออกไป พวกพี่เลยยอม ไม่งั้นคนคงคิดว่าพี่โรคจิตแน่ๆ ไปแก้ผ้าถ่ายรูปกันเองกับเด็กผู้ชาย แต่ที่น่าแปลกคือไม่มีใครจำได้เลยว่าไปถ่ายกันตอนไหน ทำไมถึงยอมทำอย่างนี้”

“แล้วรูปพวกนั้นยังอยู่ไหมครับ”

พี่เข้าหน้าขึ้นสีเลยครับ ทั้งๆ ที่เป็นผู้ชายแต่งงานมีครอบครัวแล้วไม่น่าจะอายกับเรื่องแบบนี้

“ของคนอื่นพี่ไม่รู้เหมือนกัน เห็นบางคนมันก็ฉีกหรือเผาไปตั้งแต่ตอนที่ได้มา ของพี่ยังเก็บไว้ ไม่รู้สิ พี่ว่ามันอาจมีประโยชน์ในอนาคต แต่พี่ขอไม่ให้ดูได้ไหม”

“สิ้นปีนี้โบนัสสิบสองเดือนพร้อมขึ้นเงินเดือนพิเศษพอจะช่วยได้ไหมครับ ผมพูดจริงๆ นะ”

พี่เขาสบตาผมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ถอนใจ

“พี่เชื่อว่าเราทำได้ โอเค พี่ก็อยากได้เงินอยู่เหมือนกัน แฟนพี่เขาอยากมีลูกอีกคนเร็วๆ ถึงพี่ไม่ยอมเราก็คงบังคับเอาจนได้ งั้นรอเดี๋ยว พี่ไปเอารูปจากที่ซ่อนไว้ก่อน”

ผมรอด้วยความครึ้มใจที่มาเจอข้อมูลชั้นเยี่ยมอย่างไม่คาดฝันหลังจากคว้าน้ำเหลวมาหลายรอบแล้ว เงินโบนัสหรืออะไรที่ต้องให้ก็ไม่ได้มากเทียบกับการได้ครอบครองรูปถ่ายปีศาจ แถมผมไม่ต้องเสียเงินเองด้วยเพราะผมแค่ไปขอกับตระกูลที่เป็นเจ้าของบริษัทที่พี่เขาทำอยู่ ผมตรวจสอบมาพี่เขาก็ทำงานงานดีอยู่แล้วถือเป็นกำลังใจให้พนักงานให้พนักงานไปก็แล้วกัน ระบบเส้นสายในสังคมไทยนี่มันเวิร์คจริงๆ

“เอานี่รูปทั้งสองใบที่พี่เก็บไว้”

แค่รูปใบแรกผมก็เลือดกำเดาแทบกระฉูด พี่โป๊ปในวัยมอต้นหน้าตาฉายแววหล่อแมนแต่เด็กสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยยืนกอดคอกับรุ่นพี่มอหกหน้าตาดีตัวใหญ่ๆ เปลือยๆ ห้าคนซึ่งยิ้มร่าเหมือนไม่ใส่ใจกับความโป๊ของตัวเองเลย เด็กมัธยมหุ่นดีมีกล้ามไม่หนาเกินตามแบบนักกีฬาเทควนโด้ยืนโชว์ท่อนลำอวบๆ ที่สงบนิ่งในพงหญ้าดกดำ ถึงเป็นเด็กมัธยมแต่ก็อยู่ในวัยที่เกือบจะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว รูปใบที่สองนี่ยิ่งกว่ารูปแรก นอกจากแท่งทวนทั้งห้าแท่งที่สงบนิ่งในรูปแรกจะมาโชว์ความแข็งขันใหญ่ยาวอย่างเต็มที่ในรูปนี้แล้ว เด็กมอสามตรงกลางที่ควรจะเป็นปีศาจที่ผมตามหา กลับมาในคราบของเทพบุตรน้อย ความหล่อสูสีกับพี่โป๊ปในวัยเด็กแต่เสริมด้วยความน่ารักชวนหลงใหล

“น่ารักมากใช่ไหมล่ะ น้องอีกคนตรงกลาง นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่ตัดใจทิ้งภาพนี้ไม่ลงก็ได้ แต่ตอนนี้พี่ก็มีครอบครัวที่ดีแล้ว น้องเอาภาพพวกนี้ไปก็ดีเหมือนกัน มันเป็นอดีตที่พี่ไม่ควรจะเก็บไว้ ถึงไงบทเรียนจากครั้งนั้นก็ทำให้พี่ทิ้งนิสัยไม่ค่อยดีไปได้เยอะเหมือนกัน”

“ในรูปพี่ก็หล่อนะครับ ใหญ่ด้วย” ผมแซวเล่น

“ตอนนี้ใหญ่กว่านั้นอีก” พี่เขาตบมุกกลับมาขำๆ

“ไม่เชื่อครับ พิสูจน์หน่อย” ผมนึกอะไรไม่รู้ โพล่งกลับไป

“เฮ้ย จะดีเหรอ พี่มีลูกมีเมียแล้วนะครับ” พี่เขาหน้าตาตื่น

“ผมก็ขอดูเฉยๆ เอง แต่ถ้าพี่ให้ถ่ายรูปด้วย พักร้อนพิเศษยี่สิบวันครับ” ผมยื่นข้อเสนอ

พี่เขาชะงักทันที ผมรู้ว่าชีวิตมนุษย์เงินเดือนจะหาเวลาไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวแสนจะยากเย็น แล้วก็ได้ผลครับ

“เอาก็เอา อย่าให้หลุดเชียวนะน้อง ถ้าเมียพี่เห็นเข้าบ้านแตกแน่ แม่จ๋า พ่อทำเพื่อทริปญี่ปุ่นของเรานะ”

พี่เขาพึมพำขณะถอดเสื้อผ้าไปด้วย หุ่นอดีตนักกีฬาที่กลายมาเป็นคุณพ่อยังหนุ่มนี่มันก็เร้าใจไปอีกแบบ ผมคิดขณะเก็บภาพเปลือยพี่เขาไปตามมุมต่างๆ ของบ้าน ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ที่ถ่ายคลิปน้องๆ ในชมรมบ้างพวกนั้นมันก็เต็มใจเอง แต่พอมาทำแบบบังคับนิดๆ นี่มันช่างตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ผมว่าผมเข้าใจความรู้สึกของปีศาจขึ้นมาบ้างแล้วสิ

ผมเชียร์ให้พี่เขาปั่นให้แข็งเพื่อเปรียบเทียบกับในภาพสมัยมัธยม ใหญ่ขึ้นจริงๆ ด้วย สงสารแฟนพี่เขาเหมือนกัน คงรับศึกหนักตลอด ผมยอมรามือแค่นี้เพราะยังไงพี่เขาก็เป็นพ่อคนแล้ว ไม่อยากทำอะไรที่ดูจะเป็นการผิดศีลข้อสามไปมากกว่านี้ พอเก็บภาพแท่งไอติมบิ๊กเบิ้มสีชมพูคล้ำเรียบร้อยแล้ว ผมก็เตรียมตัวกลับ พี่เขาแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เอารูปประวัติศาตร์มายัดใส่มือผม

“พี่ไม่ถามนะว่าเราคิดจะทำอะไร แค่อยากเตือนว่าสองคนนี้ไม่ธรรมดา ยังไงก็อย่าให้เพื่อนพี่ในภาพนี้เดือดร้อนไปด้วยแล้วกัน พูดไปก็รู้สึกผิดนะที่เอาภาพพวกมันไปให้คนอื่น สงสัยต้องนัดมาเลี้ยงข้าวเลี้ยงซะแล้ว”

“งั้นพี่ไปที่ร้านนี้ได้เลยครับ ผมให้พี่เลี้ยงเพื่อนฟรีได้เลยหนึ่งมื้อใหญ่ ไปกี่คนก็ได้แค่บอกชื่อพี่กับผู้จัดการ”

ผมส่งชื่อร้านอาหารสุดหรูในเครือข่ายไปให้

“โอ้ ขอบคุณมาก ถ้าเรียบร้อยแล้วพี่ขอปิดบ้านไปหาภรรยาที่รักเลยนะ ขอไปทำน้องให้ลูกชายพี่หน่อย เงี่ยนตั้งแต่ตอนถ่ายรูปแล้ว”

พี่เขาพูดขำๆ แต่รีบปิดบ้านแล้วบึ่งรถอย่างเร็วออกไปก่อนผมซะอีก

……………………………………………….

TBC

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
บอสกับโป๊ปจะเป็นไรไหมเนี่ย คนเขียนดูแลนายเอกให้ด้วย อย่าให้มีดราม่า หรือปัญหาแรงๆ ใส่นะ ยังไงน่าจะตกลงคุยกันได้ ใช่ไหม  :ling3:

ออฟไลน์ PPink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ไม่ใช่ว่าน้องเมจะมาติดใจบอสหรือโป๊ปนะนั่น

จริงๆ นางเก่งอะ ตามสืบจนได้ ถ้าได้มาเป็นนิ้วทั้งห้าแล้วร่วมมือกันก็น่าจะเริ่ด

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เบอร์ศูนย์กับเบอร์หนึ่งคงไม่ยอมเป็นลูกน้องใคร  เมเตรียมตัวเตรียมใจนะจ๊ะ ศึกครั้งนี้คงยืดเยื้อน่าดู ใครจะอยู่ใครจะไป  มาลุ้นกัน

ออฟไลน์ san

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
มาต่อเร็วๆ นะครับ

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ตอนนี้ไม่หื่น ไม่หวาน วิชาการล้วนๆ 555
................................................................

องค์กรลวงจิต Explicit Content
 
บทที่ 31 ความเพลี่ยงพล้ำ

น้องมิลค์เด็กปีหนึ่งวิศวะเป็นเบาะแสอีกคนหนึ่งของผม เขาเป็นเด็กที่อาจารย์คณะแพทย์ท่านหนึ่งชอบเอาไปใช้เป็นแบบเปลือยเพื่อการศึกษาอยู่เป็นประจำ การสืบจากคณะแพทย์โดยตรงไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวเท่าไหร่เพราะพวกรุ่นพี่นักศึกษาแพทย์เอ็นดูน้องมิลค์มาก ไม่ยอมแพร่งพรายข้อมูลอะไรที่อาจจะทำให้น้องมิลค์เสื่อมเสียออกมาเลย ปกป้องกันประหนึ่งแม่ยก ไม่รู้กลัวน้องจะเสียหายหรือกลัวน้องไม่ยอมมาเป็นแบบต่อกันแน่ นักศึกษาแพทย์ไม่ค่อยอยู่ชมรมกีฬาด้วยสิ อย่างมากก็อยู่แค่ปีหนึ่งปีสอง พอปีหลังๆ ก็ออกกันหมดเพราะเรียนหนัก

ที่ได้รู้ว่าคนในข่าวลือคือน้องมิลค์นี่ผมก็ต้องเอาฟีฟ่าไปเซ่นเพื่อนของเพื่อนที่เป็นเกย์อยู่หมอปีสี่ซะหนึ่งยก อย่าเพิ่งตกใจครับ ผมไม่ใจร้ายขนาดส่งน้องรักอันดับสองไปให้เพื่อนเกย์หน้าใสกินตับเอาหรอก ก็แค่ใช้ให้ไปเดทด้วยหนึ่งวันแค่นั้น แต่ก็ทำให้ฟีฟ่างอนผมไปหลายวันจนผมแทบจะต้องเอาตับตัวเองใส่พานให้ฟีฟ่าเป็นการแลกเปลี่ยน สุดท้ายก็เจรจาตกลงกันได้ที่กิจกรรมกรุบกริบแบบโบรมานซ์ที่แดนเป็นกรรมการให้ เปลืองตัวชะมัด

ผมมั่นใจว่าน้องเขาก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของปิศาจเหมือนกัน ใครมันจะไปอยากแก้ผ้าแหกโน่นแหกนี่ให้คนทั้งห้องดู แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงเข้าหาน้องมิลค์โดยตรงเพราะไม่รู้ว่าปิศาจเฝ้าดูน้องเขาใกล้ชิดขนาดไหน ผมใช้วิธีที่เนียนกว่านั้นโดยการส่งน้องชมรมแบดวิศวะปีหนึ่งที่เรียนเซ็คเดียวกับน้องมิลค์เข้าไปตีสนิท ตอนแรกมันก็ไม่กล้าบอกว่าน้องมิลค์หน้าตาดีเกินไป แถมยังเก็บตัวแปลกๆ ไม่แน่ใจว่าหยิ่งหรือเก็บกด แต่เห็นตอนหลังก็มาบอกว่าตีซี้ได้แล้วเพราะน้องมิลค์แทบไม่มีเพื่อนเลย มีที่คุยกันอยู่บ้างชื่อมุก ปีหนึ่งเหมือนกันเรียนอยู่คณะมนุษยศาสตร์ภาคพิเศษ แต่เด็กชมรมแบดบอกว่าเหมือนคู่กัดกันมากกว่าไม่เชิงเป็นเพื่อนสนิทกันจริงๆ

เรื่องมันชักเข้าเค้า เพราะน้องมุกนี้ก็เป็นอีกคนที่คาดว่าถูกปิศาจบังคับให้ทำเรื่องอับอายขายหน้าอยู่เรื่อยๆ เหมือนกัน ผมเคยเห็นน้องมุกต้องมาเป็นแบบนู๊ดกลางแจ้งให้พวกภาคโฟโต้ถ่ายรูปกับตาอยู่ทีนึง เสียดายตอนนั้นผมไม่ทันได้สังเกตว่ามีรอยสักหรือสัญลักษณ์ดวงตาสองข้างหรือเปล่า คงต้องสืบต่อไป แต่ตอนนี้เรื่องทางฝั่งมิลค์ค่อนข้างคืบหน้าไปมากกว่า

ความคืบหน้าที่ว่ามาในรูปของภาพแอบถ่ายจากสมุดไดอารี่ของมิลค์ที่น้องชมรมแบดก็อปใส่แฟลชไดรว์มาให้โดยที่ไม่ผ่านอินเตอร์เน็ตอย่างที่ผมห้ามไว้ น้องชมรมแบดมองหน้าผมอย่างชั่งใจก่อนจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้

“ผมเอามาให้พี่ตามที่รับปากไว้แล้วนะครับ บอกตามตรงผมไม่ค่อยอยากทำอย่างนี้เลย ถึงผมจะไปตีสนิทกับมันตามที่พี่สั่ง แต่ตอนนี้ผมก็ถือว่ามันเป็นเพื่อนคนนึงของผมเหมือนกัน ชีวิตมันน่าสงสารมากนะครับ ผมไม่รู้ว่าเรื่องพิสดารที่มันเขียนไว้เป็นเรื่องจริงหรอเปล่าแต่ผมก็เชื่อมัน ในอดีตมันทำเรื่องร้ายแรงมาแต่ตอนนี้มันก็กำลังใช้กรรมของมัน คงไม่มีใครอยากเกิดมาเป็นคนโรคจิตหรอกครับ ไหนจะเรื่องพ่อของมันอีก ถ้าพี่เมช่วยมันไม่ได้ก็อย่าทำอะไรให้มันเดือดร้อนไปมากกว่านี้เลยนะครับ ถือว่าผมขอร้อง”

ไดอารี่นี้เป็นไอเดียของผมเอง ผมหาไดอารี่อย่างดีที่มีกุญแจล็อคได้มาให้น้องชมรมแบดเอาไปให้น้องมิลค์ โดยให้บอกว่า ถ้ามีเรื่องอะไรเก็บกดที่บอกใครไม่ได้ก็ให้เขียนระบายใส่ไดอารี่เล่มนี้แทน น้องมิลค์รับไปโดยไม่รู้ว่ายังมีกุญแจอีกชุดเก็บไว้ที่น้องชมรมแบด ผมสั่งให้แอบถ่ายรูปสิ่งที่น้องมิลค์บันทึกไว้มาให้ผม แรกๆ ก็นึกว่าจะคว้าน้ำเหลวเพราะไม่เห็นว่ามิลค์จะเขียนอะไรลงไป แต่วันหนึ่งหลังจากที่พ่อของมิลค์มาเยี่ยม น้องชมรมแบดก็บอกว่ามิลค์กลับไปเขียนบันทึกมากมายจนมันหาโอกาสแอบถ่ายมาส่งผมได้ในวันนี้

“อีกอย่างผมว่าองค์กรที่ไอมิลค์มันพูดถึงมันดูน่ากลัวมากนะครับ ผมเป็นห่วงพี่เมเหมือนกัน พี่เมช่วยสนับสนุนชมรมแบดมาก็มาก เอาเป็นว่าช่วยดูแลตัวเองแล้วก็ดูแลเพื่อนผมด้วยนะครับ ผมขอไปเรียนก่อน ไว้เจอกันวันหลังนะพี่”

“ขอบใจมากนะ แล้วพี่จะบอกให้กัปตันเลือกเราเป็นตัวจริงในงานกีฬามหาลัยที่จะถึงนี้ เราจะได้เก็บประสบการณ์เยอะๆ”

ผมเสนอด้วยความหวังดี ไม่ได้คิดอะไรมากนัก แต่น้องมันกลับหน้าเสียนิดนึง

“อย่าเลยพี่ มันไม่ดีหรอก ว่ากันตามฝีมือดีกว่า ผมอยากให้วงการกีฬาบ้านเรามันสะอาดใสซะที แค่นี้ระดับประเทศก็เล่นเส้นกันจนเละเทะแล้ว อย่าให้มันลามลงมาถึงระดับมหาลัยเลย”

ผมสะอึกกับคำโต้แย้งอย่างตรงไปตรงมาของน้อง แต่ก็เห็นจริงตามนั้น ผมคงติดนิสัยระบบเส้นสายของสมาพันธ์มากเกินไป คงต้องระวังตัวและคิดอะไรให้รอบคอบมากกว่านี้  เด็กคนนี้เป็นเด็กดีจริงๆ รวมถึงความรักเพื่อนของมันด้วย

ผมรีบอ่านข้อมูลใหม่ที่ได้รับด้วยความตื่นเต้น หลังจากอ่านจบผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องของ ‘องค์กร’ เนื้อหาที่บันทึกไว้ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ผมอยากรู้ตรงๆ นัก เป็นการระบายความรู้สึกกับตัวเองมากกว่า บางอย่างที่เป็นข้อสงสัยของผมก็ถูกพูดข้ามไป บางอย่างก็ดูว่าเจ้าตัวจะไม่ทราบรายละเอียดเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คนที่ครอบครัวอบอุ่นอย่างผมก็สะเทือนใจไปกับเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่แอบไปรู้ว่าพ่อตัวเองมีรสนิยมวิปริต แถมยังซึมซับรสนิยมแบบเดียวกันมาจากพ่อ

พอเข้าสู่วัยรุ่น ความรู้สึกอันนี้มันก็พลุ่งพล่านรุนแรงขึ้นจนต้องไประบายกับน้องชายบุญธรรมที่ตกเป็นเหยื่อของพ่อตัวเองไปก่อนแล้ว เท่าที่อ่านดูมิลค์ก็รู้สึกผิดและสงสารน้องแต่ห้ามใจตัวเองไม่ได้ จนเรื่องบานปลายเมื่อองค์กรของปีศาจยื่นมือเข้ามา พ่อเขาถูกจับและส่งขายเป็นทาส ตัวมิลค์เองก็ถูกกลั่นแกล้งสารพัดจากคนที่ชื่อบอสก่อนจะถูกประมูลขายให้กับอาจารย์หมอที่เอาเขามาใช้งานในเรื่องต่างๆ ตามแต่จะสั่ง ทุกวันนี้นานๆ ถึงจะได้เจอพ่อที ถึงพ่อจะวิปริตและอาจมีส่วนที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพนี้แต่เขาก็ยังรักและเป็นห่วงพ่อ

เรื่องราวขององค์กรมีสอดแทรกอยู่อย่างประปราย ผมพอประติดประต่อเรื่องได้ว่า องค์กรลึกลับที่น่ากลัวแห่งนี้ ใช้ความสามารถในการสะกดจิตของคนที่ชื่อบอสมากักขังหน่วงเหนี่ยว ทำสื่อลามกอนาจาร บังคับขู่เข็ญ ไปจนถึงการค้ามนุษย์ องค์กรนี้แทรกซึมอิทธิพลไปในหลากหลายวงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกตำรวจ นี่ยังไม่นับความน่ากลัวทางการแฮ็คข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีเจ้าชองบริษัทคอมพิวเตอร์ที่ชื่อโป๊ปอยู่เบื้องหลัง ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าบอสเป็นคนเดียวกับปีศาจที่ผมสืบอยู่ ผมไม่เชื่อว่าองค์กรจะทำเรื่องนี้เพื่อความยุติธรรมอย่างที่แอบอ้าง เป้าหมายของพวกเขาน่าจะเป็นไม่เรื่องเงินก็อำนาจ ผมเห็นประวัติศาสตร์มานักต่อนัก ยิ่งพวกมีอิทธิพลแบบตระกูลใหญ่ๆ ในสมาพันธ์นี่แหละตัวดี ถ้าไม่มีตระกูลผมคอยคุมอยู่ ป่านนี้คงแย่งชิงอำนาจกันจนประเทศชาติล่มจมไปหมดแล้ว

แต่ความคิดอีกมุมก็สะกิดใจผมบ้างเหมือนกัน จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม แต่เหยื่อขององค์กรเท่าที่รู้ก็ล้วนแต่เป็นคนที่ทำเรื่องไม่ดีมา จะเรื่องเล็กอย่างแทกซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร หรือเรื่องใหญ่อย่างการทำร้ายร่างกายเด็กที่มิลค์ทำ ถึงจะดูค่อนข้างเกินกว่าเหตุ แต่องค์กรใต้ดินนี้อาจทำเพื่อตั้งใจลงโทษคนผิดจริงๆ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นเงินมหาศาลที่หาประโยชน์เอาจากร่างกายและอิสรภาพของนักโทษมันหายไปไหน เรื่องนี้มิลค์ไม่ได้พูดถึงไว้ เขาอาจไม่ทราบหรือไม่มันก็เข้ากระเป๋าบอสและเพื่อนไปจนหมด

........................................................................


ผมเอารูปที่ได้มาอย่างยากลำบากขึ้นมาเทียบดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ตอนนี้เป้าหมายของผมนั่งอยู่ในร้านกาแฟที่มีธีมป่าดงดิบคนเดียวชิลล์ๆ ซึ่งเป็นโอกาสอันหาได้ยาก ช่วงกลางวันของวันทำงานแบบนี้คนน้อยมาก ถึงคนๆ นี้ดูต่างออกไปบ้างจากรูปสมัยมอสามเมื่อประมาณสิบปีก่อนที่ผมถืออยู่ในมือ แต่ผมก็มั่นใจว่าต้องใช่บอสอย่างแน่นอน

พอได้เห็นตัวจริงชัดๆ ก็ต้องยอมรับเลยว่าบอสเป็นคนที่หล่อมาก ขนาดผมชินตากับคนหล่อๆ ที่รายรอบตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในกระจกที่ผมเห็นอยู่ทุกวัน ยังต้องอึ้งกับความหล่อดูดีของคนที่ผมลอบติดตามอยู่ รูปสมัยเป็นเด็กมัธยมต้นที่ผมได้มาก็ว่าหน้าตาดีมากแล้ว แต่พอโตขึ้นเป็นหนุ่มเต็มตัวยิ่งเพอร์เฟ็คท์ งดงามหล่อเหลาราวกับรูปลักษณ์ในฐานะเทวดาของลูซิเฟอร์ก่อนที่จะกลายเป็นปีศาจไปตลอดกาล  ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าคนที่เคยเห็นหน้าตาแบบนี้แล้วจะลืมไปจนหมดได้ยังไง เอาเป็นว่าถ้ามีคนหน้าตาแบบนี้แล้วนิสัยไปด้วยกันได้ ผมยอมเป็นเกย์แล้วยกตำแหน่งนิ้วนางให้เลย

ผมต้องหยุดความฟุ้งซ่านไว้ก่อน ถึงจะดูดียังไง แต่คนที่เหมือนกับปีศาจคนนี้ก็เป็นผู้ก่อตั้งองค์การร้ายที่หวาดหวั่น องค์กรที่เอาการสะกดจิตลึกลับมาใช้งานอย่างน่ากลัว ผมยังไม่ปักใจเชื่อว่าการสะกดจิตจะให้ผลได้ขนาดนั้น อาจจะใช้ยากล่อมประสาทร่วมด้วย ก่อนที่องค์กรลึกลับนี้จะเป็นภัยคุกคามระดับประเทศ ผมคงต้องใช้อำนาจของสมาพันธ์มาจัดการก่อน ครั้งนี้เป็นโอกาสดีนี้เข้าไปหยั่งเชิงที่ตัวหัวหน้าโดยตรง

ผมตัดสินใจแล้ว ถึงจะเสี่ยงแค่ไหน แต่ถ้าผมไม่รุกวันนี้ วันหน้าองค์กรก็คงรู้ตัวในที่สุด ผมถือแก้วกาแฟเย็นที่เพิ่งได้มาหมาดๆ ไปนั่งที่เก้าอี้ว่างตรงข้ามกับบอสที่เลือกนั่งในมุมที่อับสายตาผู้คน แล้วจู่โจมแบบไม่ให้ตั้งตัวทันที

“ขอโทษครับ จำผมได้หรือเปล่า”

หนุ่มหล่อตรงหน้ามีท่าทีประหลาดใจเล็กน้อย เขามองหน้าผมซักครู่แล้วคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย อ่า มันช่างสว่างไสวจนเหมือนตาจะพร่า ไม่ได้สิ คนที่เคยแต่หว่านเสน่ห์ใส่คนอื่นอย่างผมจะมาพ่ายแพ้อะไรกับออร่าของฝ่ายตรงข้ามซะแบบนี้ ผมยิ้มกว้างแบบที่ฝึกมาแล้วว่าดูจริงใจที่สุดกลับไปจนคนตรงหน้าหน้าแดงเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรไปมากกว่านั้น เพียงแค่ตอบกลับมาอย่างสุภาพ

“ทักคนผิดหรือเปล่าครับ ผมน่ะ ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนักหรอก”

มีกระแสความเหงาเจืออยู่ในคำพูดที่เขาตอบกลับผม แต่ผมจะไขว้เขวไม่ได้ ผมตั้งสมาธิและดำเนินการเจรจาตามที่ได้วางแผนไว้

“คือว่าอย่างนี้นะครับ.......”
.
.
.
.
.
.
.
.
.

ผมจำเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่ได้เลย ใบหน้าของคนที่ผมมาเฝ้าติดตามอยู่หลายวันก็จำไม่ได้ รู้สึกตัวอีกทีผมก็นั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะตัวเดิม อีกฝ่ายหายไปตอนไหนไม่รู้ แต่ดูจากแก้วกาแฟที่น้ำแข็งละลายไปแยะแล้ว ผมว่าเวลาน่าจะผ่านมาเกินชั่วโมงแล้ว ผมเสียท่าเขาใช่ไหม ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้กินหรือสูดดมอะไรที่น่าจะเป็นยากล่อมประสาทได้ ตกลงอำนาจสะกดจิตเพื่อลบความทรงจำคงมีอยู่จริง รูปสมัยมอต้นของบอสที่ผมพกมาหายไปแล้ว แต่อย่างอื่นปลอดภัยเพราะผมตั้งใจไม่เอาโทรศัพท์หรือกระเป๋าเงินติดตัวมาด้วย การจะสาวถึงตัวผมโดยอาศัยของเหล่านั้นคงทำไม่ได้

แต่ผมก็รู้ดีเกินกว่าที่จะหลอกตัวเอง ป่านนี้ทางโน้นอาจจะรู้แล้วว่าผมเป็นใคร ส่วนผมล่ะ หน้าตาของปีศาจเป็นอย่างไรผมนึกไม่ออกเลยแม้แต่น้อย ความจำที่เข้าขั้นอัจริยะของผมไม่ได้ช่วยอะไรอย่างที่เคยแอบหวังไว้ ผมยังพอจำได้ว่าตัวเองตั้งใจมาทำอะไรแต่เรื่องหลังจากนั้นมันหายไปเฉยๆ เลย ผมคลำกระดุมเม็ดที่สองของเสื้อเชิร์ตที่ใส่อยู่อย่างใจลอยแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

เมื่อกลับไปถึงห้องผมก็เอาเมมโมรี่การ์ดเล็กๆ ออกมาเปิดดูกับคอมพิวเตอร์ทันที ใบหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังเล่าเรื่องอยู่ปรากฏให้เห็นบนจอมอนิเตอร์อย่างชัดเจน ไม่น่าเชื่อว่ากล้องสปายรูปกระดุมราคาไม่แพงจากเมืองจีนจะบันทึกภาพและเสียงไว้ได้คมชัดขนาดนี้ ผมฟังเรื่องขององค์กรที่ออกจากปากบางสีชมพูอมส้มที่กำลังเล่าเรื่องอย่างออกรสโดยไม่รู้สึกเบื่อ ท่าทางบอสอัดอั้นอยากจะเล่าเรื่ององค์กรที่เขาภูมิใจให้ใครก็ได้ที่ผ่านเขามา ถึงแม้คนๆ นั้นจะเป็นศัตรูอย่างผมก็ตาม

จากที่ฟังมา ถึงจะไม่ได้รู้วิธีการทำงานขององค์กรแต่ผมได้คำตอบเรื่องเป้าหมายและคำตอบว่าเงินจำนวนมหาศาลนั้นไปอยู่ที่ไหน ได้เอาไปช่วยคนที่เดือดร้อนจากการกระทำของเหล่านักโทษอย่างไร

ผมไม่อยากคิดว่าบอสจะโกหก ทั้งจากแววตามุ่งมั่นที่ผมสังเกตเห็น และจากข้อเท็จจริงที่ว่าบอสจะโกหกไปทำไมในเมื่ออีกไม่นานหลังจากนั้นเขาตั้งใจจะลบความทรงจำทั้งหมดของผมไปอยู่แล้ว แต่มันก็เชื่อได้ยากว่าจะมีคนที่ตั้งใจเสียสละแรงกายแรงใจและความสุขในชีวิตส่วนตัวมาทำตามอุดมการณ์ได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่จะเอาความสามารถพิเศษที่มีไปใช้หาความสุขใส่ตัวอย่างไรก็ได้ ถ้าเรื่องทั้งหมดที่ออกจากปากบอสเป็นเรื่องจริง ผมอาจจะพบนิ้วกลางของผมเข้าให้แล้วล่ะ คนที่ผมจะยึดเอาเป็นเป้าหมายเพื่อทำตัวให้ดีให้เก่งได้เท่าเทียมกัน

พอบอสเล่าเรื่ององค์กรเสร็จก็หันมาซักถามต่อว่าผมเป็นใคร มีวัตถุประสงค์อะไร ด้วยบรรยากาศที่ไม่รู้สึกถึงความคุกคามแต่อย่างใด ตัวผมในคลิปวิดีโอก็ตอบไปว่า เริ่มจากสงสัยเรื่องบริการเสริมแทกซี่จนทำให้อยากรู้ว่าใครเป็นคนทำเรื่องพวกนี้ แล้วไปเชื่องโยงกับเรื่องที่ผมเคยต้องถอดกางเกงฉี่อยู่เป็นหลายๆ เดือน บอสหัวเราะอย่างน่ามองแล้วเฉลยว่าเป็นฝีมือของเขาจริงๆ เป็นการลงโทษที่ผมไปจอดรถทับที่คนพิการ บอสบอกว่าทีแรกก็จำผมไม่ได้หรอกแต่พอผมพูดขึ้นมาก็เลยนึกออกว่าเคยทำเรื่องแบบนี้ไว้ ผมว่าเขาไม่ได้เชื่อผมทั้งหมดหรอก อย่างน้อยก็คงสงสัยว่าเด็กมหาลัยธรรมดา ต่อให้บ้านรวย จะมีปัญหาควานหาตัวเขาเจอได้ยังไง แต่เขาก็ไม่ได้ซักไซร้อะไรต่อ ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องสมาพันธ์ออกไปเลย แสดงว่าอำนาจควบคุมจิตของบอสไม่ได้มากขนาดทำให้ต้องสารภาพเรื่องที่เราไม่อยากพูดออกไป

ตลอดเวลาที่พูดคุยกัน บอสแทนตัวเองว่าพี่กับผมตลอด ทำให้รู้สึกดีๆ เพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง ผมดูมาจนถึงตอนท้ายๆ ของคลิป ก็ต้องหักคะแนนความชื่นชมในตัวพี่บอสออกไปเมื่อเห็นพี่บอสสั่งตัวผมในคลิปว่า

“เอ้า พี่จะต้องไปแล้ว เก็บค่าฟังเรื่องทั้งหมดแล้วกัน หันมาทางนี้หลบมุมหน่อย ชักว่าวให้พี่ดูรอบนึงสิ ไม่ต้องถอดหมดนะ เดี๋ยวคนแตกตื่น ปลดแค่ซิปลงมาแล้วกัน ดีครับ ควักออกมาเลย เดี๋ยวพี่ขออัดคลิปชัดๆ หน่อย ยิ้มให้กล้องด้วยครับ สาวช้าๆ ก่อน อย่างนั้น นี่นายแข็งสุดแล้วเหรอ ไม่รู้สิ สงสัยหลังๆ พี่เห็นแต่ของใหญ่ๆ มั๊ง เอาเถอะ ก็น่าเอ็นดูสมกันคนหล่อน่ารักอย่างนายดี”

ผมตาค้างมองตัวเองในคลิปที่ชักว่าวตามเสียงพากย์ของพี่บอสอย่างเชื่อฟัง อำนาจการสะกดจิตของพี่บอสมันช่างน่ากลัว ถึงผมจะชอบโชว์แต่ก็ไม่เคยทำขนาดนี้ ในร้านกาแฟกลางวันแสกๆ ดีที่เป็นที่นั่งหลบมุม มองออกไปก็เป็นสวนที่ไม่มีใครเดินมา ผมรู้สึกทั้งอายทั้งตื่นเต้นเมื่อเห็นตัวเองสาวท่อนลำสีสวยขนาดมาตรฐานชายไทยตามเสียงเชียร์เบาๆ ของบอสจนกระทั่งกระฉูดน้ำขาวข้นออกมาจนหมดก๊อก พี่บอสส่งกระดาษทิชชู่ให้ผมใช้เช็ดผลงานตัวเองจนแห้ง พี่บอสหยิบกระดาษจากมือผมไปดมพิสูจน์กลิ่น ยิ้มเขินๆ แบบโคตรน่ารัก แล้วก็ยัดเก็บไว้ที่กระเป๋ากางเกงของผมเอง จากนั้นก็เก็บของเตรียมตัวกลับ

พี่บอสหันมาพูดกับผมเป็นเชิงร่ำลา

“ไปล่ะ นายน่ารักมาก ถึงนายจะจำพี่ไม่ได้ แต่พี่จำหน้านายได้แม่นแล้ว เจอกันครั้งหน้าไม่รู้เราจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกันนะ”

พูดจบพี่บอสก็ดีดนิ้วดังเป๊าะแล้วเดินจากไป ทิ้งผมที่รูดซิปกางเกงเรียบร้อยแล้วนั่งนิ่งเหมือนตกอยู่ในภวังค์อยู่ที่โต๊ะคนเดียว

ผมหยุดคลิปไว้ตรงนี้ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ไอพี่บอส ไอหื่น นึกว่าจะเป็นคนดี ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองทำอะไรอย่างนั้นลงไป ผมล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเองไปก็พอกับทิชชู่ยังเปียกชื้นไปด้วยน้ำเหนียวเหนอะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริง

ผมไม่รอช้ารีบประเมินสถานการณ์ความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผมกับพี่บอสทันที ผมเห็นหน้าพี่บอส พี่บอสก็เห็นหน้าผม ได้หนึ่งแต้มเท่ากัน แต่พี่บอสยังไม่รู้ตัวว่าผมจำหน้าหล่อๆ ของพี่บอสได้แล้วจากคลิป แถมยังไม่รู้เรื่องสมาพันธ์อีก ผมได้อีกสองแต้มรวด รวมนำเป็นสามต่อหนึ่ง แต่ดันมาเสียท่าตอนจบที่พี่บอสได้เห็นของของผมแบบเต็มๆ มีคลิปอีกต่างหาก คะแนนกลายเป็นสามต่อสอง

สรุปนัดแรกผมนำครับท่านผู้ชม แต่ทำไมรู้สึกเปลืองตัวแปลกๆ ที่สำคัญผู้สนับสนุนหลักของพี่บอสอย่างพี่โป๊ปยังไม่ออกโรงเลย


ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ยิ่งได้รับรู้ความน่ากลัวของอำนาจสะกดจิตของไอพี่บอสด้วยตัวเองผมยิ่งต้องเร่งสร้างขุมกำลังของตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผมไม่สามารถจะเอาอำนาจของสมาพันธ์มาใช้ในเรื่องส่วนตัวอย่างนี้ได้มากนักเดี๋ยวจะผิดสังเกต ถ้าพี่ก้อนดินหรือคุณพ่อสงสัยขึ้นมา ผมคงจำเป็นต้องเปิดเผยเรื่องขององค์กรออกมาซึ่งผมยังไม่อยากทำในตอนนี้ จริงอยู่ที่ผมรู้สึกว่าองค์กรอาจเป็นภัยคุกคามกับประเทศได้ในอนาคตและควรรีบแจ้งให้ตระกูลทราบเพื่อหาทางกำจัดโดยเร็ว แต่ผมยังอยากเชื่อว่าไอพี่บอสอาจจะทำไปด้วยเจตนาที่ไม่แย่นัก ผมหลงใหลไปกับความคิดที่มีอุดมการณ์ รูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาชวนให้ใจเต้น และความสามารถพิเศษที่น่าอัศจรรย์ของพี่บอส จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมสามารถกล่อมให้เขามาร่วมมือกับผมได้ อำนาจในการควบคุมจิตและความสามารถด้านไอทีที่องค์กรมีอยู่คงทำให้ผมปรับเปลี่ยนสมาพันธ์ให้เป็นไปอย่างที่ผมต้องการได้

ผมเร่งขยายเครือข่ายตัวเองจากชมรมกีฬาไปสู่ชมรมอื่นๆ ชมรมนักศึกษาของภาคต่างๆ ก็เป็นที่ถูกใจผมไม่น้อย จะชมรมเด็กใต้ก็หน้าตาคมเข้ม ชมรมเด็กอีสานก็ล่ำได้ใจ หรือชมรมเด็กเหนือที่ขาวน่ารัก พวกชมรมค่ายอาสาพัฒนาต่างๆ ก็เข้ามาเสริมให้เครือข่ายผมได้ภาพลักษณ์ที่ดี แถมมีโอกาสทำกิจกรรมสนุกๆ ตอนออกค่ายด้วย พวกชมรมดนตรีกับชมรมการแสดงก็พลาดไม่ได้ เพราะรวมคนเท่ๆ เป็นศูนย์กลางดึงดูดใจคนให้ติดตามกิจกรรมต่างๆ ที่ผมจัดขึ้นได้ แม้แต่พวกชมรมวิชาการผมก็กวาดหมด สรุปว่าผมเหมาหมดทั้งมหาลัย ผมมีเวลาถึงแค่จบปีสี่ จะต้องฝังรากเพื่อสร้างฐานกำลังให้ได้เร็วที่สุด

ผมไม่จบแค่การทำตัวเป็นขวัญใจหรือหาสปอนเซอร์ให้ชมรมต่างๆ แต่ผมใช้วิธีต่อยอดให้คนต่างชมรมกันหันมามีกิจกรรมร่วมกันเอง ชมรมวิชาการมาติวหนังสือให้ชมรมกีฬา ชมรมกีฬาคอยช่วยสอดส่องพวกเด็กเกเรหรือแก็งค์อันธพาลต่างๆ ในมหาลัย ชมรมดนตรีเปิดคอนเสิร์ตหาเงินสนับสนุนให้ชมรมค่ายอาสา ชมรมคหกรรมทำอาหารที่อร่อยและมีประโยชน์ในงานกิจกรรมต่างๆ ชมรมกีฬามาสอนการออกกำลังง่ายๆ ให้ชมรมที่ใช้แต่สมอง และกิจกรรมต่างๆ อีกมากมายที่ผมคิดขึ้น

ผมใช้วิธีการเช่นเดียวกับการบริหารความสัมพันธ์ของตระกูลต่างๆ ในสมาพันธ์มาใช้อย่างได้ผล ประโยชน์ในการเข้าสังกัดผมมีหลากหลาย สาวกของผมทั้งทางตรงและทางอ้อมเพิ่มขึ้นมากทุกที ที่สำคัญในระยะยาว เด็กๆ พวกนี้จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นทั้งด้านการเรียน สุขภาพ  ทักษะในการทำงาน และคอนเน็กชั่นระหว่างกันเอง ในอนาคตเมื่อจบออกไปก็น่าที่จะเจริญก้าวหน้าในวงการต่างๆ และกลับมาส่งเสริมน้องๆ ที่เข้ามาใหม่ เท่ากับว่าเครือข่ายของผมจะค่อยๆ เข้มแข็งและมีอิทธิพลขึ้นเรื่อยๆ จนผมสามารถต่อกรกับองค์กรได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสมาพันธ์ในที่สุด

นั่นคือสิ่งที่ผมเล็งผลเลิศสำหรับอนาคต ผมจัดตั้งแฟนเพจขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการสื่อสารกับเด็กในสังกัดและคนทั่วไป ในมุมหนึ่งผมอาจจะดูเหมือนเน็ตไอดอลที่มีคนติดตามมากมายทั้งจากเด็กในสังกัดและคนนอกที่ไม่รู้เรื่องข้างใน แต่เชื่อเถอะว่าผมชักใยคนเหล่านั้นได้มากกว่าที่คุณคิด พลังของมวลชนนี่มันช่างน่ามหัศจรรย์ กิจกรรมต่างๆ ที่ผมสร้างสรรค์ขึ้นถูกเอามาโปรโมทในแฟนเพจและช่องทางต่างๆ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของผม ผมทำตามคำสอนที่ซึมซับมาจากคุณปู่ว่าการสร้างภาพที่ดีที่สุดคือการทำตัวเองให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจและมุ่งหวังให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้ประโยชน์ ถึงจะเหนื่อยหน่อยกับสารพัดเรื่องที่เข้ามา แต่ก็คุ้มเมื่อคิดถึงเครือข่ายขนาดใหญ่ที่ผมสั่งการได้ตามใจ จริงๆ เรื่องแบบนี้มันคือหลักการทำธุรกิจสมัยใหม่ การสร้างประโยชน์ร่วมกับสังคมและชุมชนจะทำให้ธุรกิจเติมโตได้อย่างยั่งยืน

เด็กในสังกัดของผมเกือบร้อยคนผลัดเปลี่ยนกันไปประกบไอพี่บอสอย่างห่างๆ ผมอยากรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด อยากรู้ว่าวิธีการทำงานขององค์กรเป็นอย่างไร องค์กรร่วมมือกับหน่วยงานรัฐบ้างหรือไม่ ผู้นำขององค์กรอย่างพี่บอสมีจุดอ่อนตรงไหน พี่บอสมีคนใกล้ชิดคนอื่นหรือเปล่า หนักๆ เข้าผมอยากรู้แม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวประเภทพี่บอสชอบกินอะไร ดูหนังแบบไหน มีแฟนหรือยัง จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรที่คืบหน้ามากนัก น้องๆ ของผมบางคนที่สืบได้ก้าวหน้ามากอยู่ดีๆ ก็หายไปเฉยๆ เปล่าครับ ไม่ได้ถูกเก็บหรือโดนเอาไปถ่วงอ่าวไทย โดนข่มขู่ด้วยคลิปโป๊ตัวเองซึ่งไม่รู้ว่าไปถ่ายเมื่อตอนไหน

กำลังที่ร่อยเหรอไปบ้างไม่กี่คนไม่ได้กระทบอะไรผมเลย ผมยังมีน้องที่พร้อมทำตามคำสั่งของผมอีกมาก ผมจับทางองค์กรได้ว่า เขาไม่ได้อยากทำร้ายน้องๆ พวกนั้นเท่าไหร่ อย่างเก่งก็ทำให้อายนิดๆ หน่อยๆ อัดคลิปโป๊ไว้ขู่แล้วก็ปล่อยไป คลิปที่ว่าก็ไม่เคยหลุดออกมาอย่างที่ขู่ แต่ผมก็ไม่เสี่ยงส่งคนเดิมไปอีกถ้าถูกจับได้แล้ว เพราะไม่รู้ว่าองค์กรจะทำยิ่งกว่านั้นหรือเปล่า ผมยังมีเด็กในสังกัดอีกเยอะที่จะเปลี่ยนหน้าไป

“พี่เมครับ เด็กที่ให้ไปสะกดรอยตามเป้าหมาย ตอนนี้เงียบหายไปสามคน แล้วมีมาขอถอนตัวไปอีกสองคนครับ สองคนหลังนี่น่าเสียดายมาก เห็นว่าได้ข้อมูลเกี่ยวกับทางฝั่งตำรวจที่คาดว่าร่วมมือกับทางเป้าหมายอยู่มาพอสมควรแล้ว อยู่ๆ ก็หน้าตาตื่นมากบอกว่าไม่กล้าทำงานนี้ต่อแล้ว แถมลบข้อมูลไปหมดด้วย ทางโน้นคงรู้ตัวแล้วถูกขู่อะไรมาอีกแน่เลย”

ฟีฟ่าที่มาช่วยงานผมอย่างขยันขันแข็งประหนึ่งมือขวาของผมรายงาน คิดจะเปิดศึกกับองค์กรผมต้องหาคนช่วยเยอะๆ อย่างไอจั๊มพ์เพื่อนสนิทแต่เด็ก ผมก็จับมันมาช่วยงานพวกกิจกรรมต่างๆ ในการขยายเครือข่ายของผม แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับองค์กรที่ผมยังไม่อยากให้ใครรู้ ก็มีแต่ฟีฟ่ากับแดนที่รู้รายละเอียดทั้งหมด

“งั้นก็ช่วยไม่ได้ เอาสองคนนั้นออกไปทำงานอื่นแล้วหาคนใหม่ไปแทน ถ้าเป็นคนนอกมหาลัยเราได้ยิ่งดี องค์กรคงเริ่มจับทางเราได้แล้ว”

“ส่วนทีมที่พยายามแทรกซึมเข้าไปในร้านล้างรถก็ยังไม่สำเร็จครับ พื้นที่ของพนักงานมันใช้การสแกนใบหน้าเป็นการควบคุมความปลอดภัย ตอนนี้เลยพยายามเข้าไปตีสนิทกับเจ้าของร้านกาแฟที่อยู่ในนั้นแทน คาดว่าจะมีความสัมพันธ์กับองค์กรถึงเข้าไปตั้งร้านข้างในได้ แต่พอเปลี่ยนคนที่ส่งไปทีไรโดนหลอกให้ซื้อหนังสือโป๊ของเจ้าของร้านกลับมาทุกที เจ้าของร้านทั้งหล่อ ทั้งใหญ่ มีรอยสักมังกรด้วย ภาพที่ถ่ายก็สวยอยู่หรอกครับ แต่หนังสือแพงบรรลัยเลย”

“เอาตังค์ที่พี่ไปใช้คืนแล้วกัน คราวหน้าเอามาให้พี่เล่มนึงนะ ขอเอามาศึกษาเป็นข้อมูล” แม้แต่ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ก็พลาดไม่ได้นะ ต้องเก็บให้หมด

“แต่ทีมที่ไปเฝ้าเรื่องค้าบริการเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดนี่คืบหน้าไปได้ด้วยดีครับ ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเขาน่าจะเอาตัวเด็กไปขังรวมกันที่คอมเพล็กสุขภาพระดับไฮโซแห่งหนึ่ง อันที่มีหมอพฤกษ์ หมอนักธุรกิจไฮโซที่ดังๆ เป็นเจ้าของอ่ะครับ เข้าใจว่าพอมีลูกค้าออร์เดอร์มาก็จะเอาเด็กๆ พวกนั้นออกไปส่งให้ถึงที่ น่าสงสาร เด็กๆ หล่อๆ ทั้งนั้นเลย มอต้นก็มี แต่เขาก็พยายามไม่ให้ผิดสังเกตนะครับ เด็กพวกนั้นยังไปโรงเรียนตามปกติทุกคน แต่ไม่รู้ทำไมตอนอยู่ที่โรงเรียนถึงไม่หนีกัน”

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งได้เบาะแสมาไม่นาน มันดูขัดๆ กับอุดมการณ์ที่ผมได้ยินมาจากพี่บอส ผมเลยอยากสืบเพิ่มให้รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงขององค์กรเป็นอย่างไร

“คงสะกดจิตสั่งไว้แหละ แล้วได้เบาะแสบ้างยัง ว่าลูกค้าใช้ช่องทางไหนในการซื้อบริการ” ผมให้ความเห็นแล้วก็ถามต่อ

“เท่าที่มีข่าวแว่วมา น่าจะเปิดเป็นร้านดอกไม้หรือร้านไวน์บังหน้าครับพี่เม แต่ยังระบุชัดๆ ไม่ได้ว่าร้านอยู่ตรงไหน”

“งั้นทุ่มกำลังเข้าไปอีก คนเรามีเยอะ ใช้ๆ ไปเถอะ จะได้ช่วยกันหา ฝั่งนี้ดูท่าจะไม่ค่อยอันตรายเท่าไหร่ เห็นว่าพี่บอสไม่ค่อยได้เข้ามาดูใช่ไหม”

“ครับ งั้นผมให้ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้าไปเป็นทีมเสริมแล้วกัน เพิ่งเสร็จงานอีเว้นท์เทรนดี้สีเขียวไป เริ่มว่างกันแล้ว”

“ดีๆ งานเทรนดี้สีเขียวจัดได้ดีเลย ยิ่งมีปั่นจักรยานด้วย คนนอกมหาลัยสนใจกันใหญ่ เอาไปโพสต์ให้หลายๆ ที่เลยนะ แอบแปะลิงค์มาที่เพจของพี่ด้วย อย่าลืมจัดพวกเราเข้าไปอวยให้เนียนๆ หน่อย เราต้องสร้างกระแสให้ต่อเนื่อง แล้วภาพที่ให้ชมรมถ่ายภาพแอบถ่ายพี่ตอนเก็บขยะ กับตอนช่วยเด็กที่พลัดหลงผู้ปกครอง เลือกมุมสวยๆ ตอนพี่ไม่มองกล้อง ให้คนเอาไปแปะหน้าเพจด้วยทำเหมือนเป็นคนนอกแอบถ่ายไว้แล้วมาเขียนชื่นชม”

“เดี๋ยวรีบไปทำให้เลยพี่ คืนนี้ผมไปค้างห้องพี่นะ โหลดหนังโป๊มาใหม่จะเอาไปดูกับไอแดน ให้มันทำอาหารเย็นอร่อยๆ ให้ผมด้วย ไปล่ะ งุงิ งุงิ”

โอ๊ย ไม่รู้จะเงี่ยนหรือจะหิวกันแน่ ไอฟีฟ่านี่พลังมันเหลือเพือ ขนาดผมใช้งานมันเยอะแล้วนะ ไหนจะเรียน ไหนจะต้องซ้อมบาสอีก ผมเคยคิดว่าตำแหน่งนิ้วโป้งซึ่งจะเป็นกำลังสนับสนุนหลักในชีวิตของผม จะต้องเป็นคนเก่งมีอิทธิพล อำนาจ ความสามารถต่างๆ มากมาย แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเรื่องบางเรื่องผมคงต้องทำด้วยตัวเอง ตำแหน่งนิ้วป้องควรจะเป็นใครที่พร้อมจะสนับสนุนผมในทุกเรื่องอย่างเต็มใจ ความสัมพันธ์และความไว้วางใจที่มีต่อกันน่าจะสำคัญกว่า ผมตัดสินใจแล้วว่าจะให้น้องฟีฟ่าเป็นนิ้วโป้งของผม เดี๋ยวผมคงพามันไปเปิดตัวพร้อมกับน้องแดนในตำแหน่งนิ้วก้อยให้ตระกูลผมทราบเร็วๆ นี้

แต่เย็นนี้ผมคงกลับไปกินข้าวกับพวกมันไม่ได้หรอก ผมนัดกับตัวแทนของตระกูลหนึ่งในสมาพันธ์ไว้ มีเรื่องต้องเจรจานิดหน่อย หลังๆ สายของตระกูลนี้ชอบทำอะไรเกินเลยคำสั่ง ถ้าตั้งใจดีจะไม่ว่าเลย แต่นี่ดูแล้วเจตนาจะหาประโยชน์เข้าตัวเอง จริงๆ ทีแรกผมก็ไม่รู้หรอก ปกติงานของสมาพันธ์จะอาศัยความไว้ใจกัน แต่ดันทำซะเอิกเกริกจนตระกูลอื่นแอบฟ้องมา

ผมมาถึงที่ร้านอาหารสุดหรูตามเวลานัด บริกรนำผมไปนั่งที่โต๊ะในมุมส่วนตัวที่จองไว้ล่วงหน้า เขาแจ้งว่าแขกของผมมาถึงแล้วแต่ไปเข้าห้องน้ำอีกสักครู่กลับมาที่โต๊ะ ผมเงยหน้าขึ้นมองจะกล่าวคำทักทายเมื่อรู้สึกว่ามีคนเดินมาที่โต๊ะ ไม่ใช่ใบหน้าขาวผอมมีเคราเล็กน้อยอย่างที่ผมคาดไว้ แต่กลับเป็นใบหน้าหล่อคมสันติดจะเย็นชาของอีกคนที่ผมจำได้ดีถึงแม้จะไม่เคยคุยกันมาก่อน พี่โป๊ป เจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์ดาวรุ่งมาแรงผู้มีบทบาทสำคัญอีกคนหนึ่งในองค์กร ถ้าเป็นในตระกูลผม พี่โป๊ปคงเป็นนิ้วโป้งของพี่บอสแน่ๆ พี่เขามาทำอะไรที่นี่ เรื่องไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นทำให้ผมถึงกับนั่งตัวเกร็ง

พี่โป๊ปถือวิสาสะนั่งลงตรงข้ามผมแล้วยกยิ้มมุมปากอย่างที่ชวนให้เสียวสันหลังมากกว่าจะเป็นการทักทาย

“น้องเม เน็ตไอดอลคนดีศรีสังคม ทายาทโฮโซตระกูลดัง ผู้บัญชาการลับๆ ของชมรมทั้งมหาวิทยาลัย ตัวจริงหล่อจังนะครับ สมกับที่ชาวเน็ตคลั่งไคล้”

เรื่องเน็ตไอดอลนี่ผมจำเป็นต้องทำเพื่อดึงดูดคนให้เข้ามาสนใจเครือข่ายผมเยอะๆ จากคำพูดของพี่โป๊ป แสดงว่าการที่เขามาที่นี่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เป้าหมายของเขาคือผม ในหัวผมหมุนติ้วเพื่อประเมินความเป็นไปได้ว่าทำไมถึงรู้ว่าผมมีนัดที่นี่เวลานี้ หรือตระกูลที่ผมนัดมาวันนี้จะแอบไปร่วมมือกับองค์กร หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือองค์กรสามารถถอดรหัสที่ใช้ในการติดต่อสั่งการสมาพันธ์ได้ ไม่น่าเป็นไปได้ทั้งคู่ ต่อให้เป็นองค์กรปีศาจนี้ ก็ไม่น่าจะทำเรื่องที่ว่าได้ พอตั้งสติได้ ผมก็โต้ตอบกลับไปโดยท่าทางสงบนิ่งที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

“เป็นเกียรติมากครับที่นักธุรกิจคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ชื่อดังอย่างคุณโป๊ปจะรู้จักเด็กๆนักศึกษาปีสี่ อย่างผมด้วย ถ้าคุณโป๊ปอยากนั่งตรงนี้ผมก็ไม่รังเกียจหรอกครับ แต่เกรงว่าเพื่อนร่วมโต๊ะของผมที่กำลังมาถึงจะไม่มีที่นั่ง ถ้ายังไงเราย้ายไปโต๊ะที่ใหญ่กว่านี้ดีไหมครับ”

“ถ้าหมายถึงนายหน้าแหลมมีเคราคนนั้นละก็ ป่านนี้คงไปยืนชักว่าวถ่ายคลิปตัวเองอยู่ตามที่สาธารณะที่ใดที่หนึ่งในละแวกนี้แล้วมั๊ง”

พี่โป๊ปตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉย เรียกซะเสียหายเลยว่าไอ้หน้าแหลม จริงๆ คนนั้นเขาก็หล่อใช้ได้นะครับถึงหน้าจะยาวนิดนึง แต่คงไปเทียบกับหนังหน้าที่โคตรหล่อของพี่โป๊ปไม่ได้หรอก เห็นอย่างนั้นก็เจ้าของธุรกิจนำเข้ารถยนต์รายใหญ่เลยนะนั่น ชอบทำตัวเป็นเซเลบ ออกสื่อบ่อยๆ ถ้าให้ไปยืนชักว่าวจริงนี่อย่างโหดอะครับ ชื่อเสียงป่นปี้หมด

“งั้นคุณคงมีธุระสำคัญกับผมถึงขนาดช่วยเคลียร์แขกที่นัดไว้ก่อนออกให้ จะคุยกันเลยหรือจะสั่งอาหารก่อนดีครับ”

ผมทำใจดีสู้เสือ ทั้งๆ ที่ผมถูกที่บ้านฝึกฝนให้อ่านอารมณ์ความรู้สึกคนมาเป็นอย่างดี แต่ผมกลับอ่านคนๆ นี้ไม่ออก

“หึ จริงๆ ชั้นก็ไม่อยากจะวุ่นวาย แต่นายมันล้ำเส้นไปมากแล้ว แบบไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ด้วย ก่อนหน้านี้ชั้นยังรู้สึกว่าเก่งที่สืบหาตัวบอสผ่านทางชั้นจนเจอ แถมหลอกล่อจนรู้ใบหน้าจริงของมันได้ แต่หลังจากนั้นก็เลิกตามชั้น ส่งคนเยอะแยะไปตามไอบอส รู้เปล่าว่าใครเป็นใคร ชั้นนี่แหละเบอร์หนึ่งขององค์กรตัวจริง”

“พี่บอสไม่ใช่เหรอที่เป็นผู้นำองค์กร ส่วนคุณเป็นผู้ช่วยด้านไอที”

ผมแย้งตามความเข้าใจที่ประติดประต่อเรื่องมา

“คิดได้แค่นี้แล้วยังมีหน้ามาตั้งตัวเป็นคู่แข่งองค์กร ไปตามบอสน่ะไม่มีประโยชน์หรอก คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือชั้นเอง นายทำอะไรชั้นรู้หมด ไอเครือข่ายงี่เง่าเด็กอมมือที่นายพยายามจะตั้งขึ้นน่ะ ทำอะไรองค์กรไม่ได้หรอก แต่ชั้นยังปราณีเด็กที่ถูกนายหลอกใช้ ถ้าจะให้สนุก นายเอาสมาพันธ์ออกโรงมาเป็นคู่มือยังจะให้ชั้นมีอะไรแก้เบื่อได้ซะกว่า คุณผู้สั่งการของตระกูลหลัก น้องมอมแมม”

พี่โป๊ปพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาดำสนิทแฝงไปด้วยความเย็นชาและเล่ห์เหลี่ยม คนๆ นี้น่ากลัว ว่าแต่ท่าทางอบอุ่นอ่อนโยนเวลาอยู่กับพี่บอสในรูปที่เด็กๆ ในสังกัดผมเคยแอบถ่ายมาได้มันคืออะไร แบบไหนคือตัวจริงของคนตรงหน้าผมกันแน่

ที่สำคัญ ถ้าเรียกชื่อผมว่ามอมแมมซึ่งมีแต่คนในตระกูลเท่านั้นที่เรียก แสดงว่าเรื่องต่างๆ ของผม รวมถึงความลับที่ผมเป็นผู้นำของสมาพันธ์ คงถูกคนๆ นี้เชื่อมโยงข้อมูลได้แล้ว ความได้เปรียบที่ผมมีต่อองค์กรกำลังหมดไป

“กรุณาอย่าเรียกผมด้วยชื่อนั้น นั่นสำหรับคนในครอบครัว คุณอาจจะรู้อะไรมาบ้าง แต่ผมว่าคุณประมาทกำลังของสมาพันธ์ไป ถ้าคุณรู้ฐานอำนาจทั้งหมดของสมาพันธ์จริง คุณจะไม่พูดแบบนี้”

ผมสวนกลับ ถึงแม้ว่าในยุคสังคมข่าวสารแบบนี้ อำนาจของสมาพันธ์จะเริ่มถดถอยลงไปไม่น้อย แต่ของแบบนี้ มันต้องบลัพกันไว้ก่อน

“เอาเถอะ องค์กรก็ยังไม่ได้คิดจะกำจัดนายหรือสมาพันธ์ตอนนี้หรอก นายอาจมีประโยชน์อะไรบางอย่าง ถ้านายยอมเชื่อฟัง เราก็อาจอยู่ร่วมกันได้ มอมแมม”

“ผมบอกแล้วว่าอย่าเรียกผมชื่อนั้น แล้วทำไมผมต้องทำตามคุณด้วย”

ไอพี่โป๊ปนี่มันกวนประสาทน่าดู ผมค่อนข้างแน่ใจว่า คนตรงหน้าคงจะเอาคลิปที่ผมถูกพี่บอสสะกดจิตให้ชักว่าวในร้านกาแฟมาเป็นตัวต่อรองบังคับให้ผมทำตาม แต่ผิดคาดเมื่อเขายกเงื่อนไขอื่นขึ้นมาพูดแทน

“อดีตกัปตันชมรมบาสที่ชื่อจั๊มพ์ คนนี้เป็นเพื่อนสนิทของนายสินะ ไม่เลว รูปร่างหน้าตาดี พื้นฐานทางบ้านก็ไฮโซไม่ต่างจากนาย ถ้ามีรูปอนาจารเผยแพร่ออกไปคงจะน่าอับอายมากทีเดียว”

ผมกัดฟันกรอด ทำไมต้องทำกับเพื่อนผมที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย ผมไม่ได้ให้จั๊มพ์มันมารู้เรื่องแผนการต่างๆ ของผมเลยเพราะกลัวมันไปบอกที่บ้านผม แต่มันก็คอยช่วยเรื่องกิจกรรมต่างๆ ที่ผมจัดขึ้นโดยนึกว่าผมทำไปเพราะเป็นคนดี ผมคิดว่าผมจับทางองค์กรได้แล้วนะว่าถ้าไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องจริงๆ องค์กรก็จะไม่ทำอะไรรุนแรงเท่าไหร่

“อย่ายุ่งกับเพื่อนผม เขาไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย ผมคิดว่าองค์กรจะหลักการมากกว่านี้ซะอีก เห็นคนอื่นๆ ที่ผมส่งไปคุณยังไม่ทำอะไรมากเลย”

“พวกนั้นมันแค่แมงหวี่แมงวัน ชั้นเลยไม่ได้สนใจ แต่ถ้าจะทำให้ได้สิ่งที่ต้องการ ชั้นก็ไม่ได้สนวิธีการหรอกนะ พอดีไม่ใช่พวกสร้างภาพซะด้วย ส่วนที่บอกว่าอย่ายุ่งกับเพื่อนนาย เสียใจด้วย ชั้นจัดการไปแล้ว เอ้า ลองดูที่ชั้นส่งเข้าเครื่องนายไปสิ รูปนี้ของเพื่อนนายดูดีพอหรือยัง เพื่อนนายนี่สะกดจิตง่ายดีนะ”

ผมรีบเปิดมือถือขึ้นมาดู ไอ้จั๊มพ์จริงๆ ด้วย ถ่ายรูปตัวเองเปลือยทั้งร่างในกระจกเห็นหน้าตาชัดเจน สีหน้าไม่ได้บ่งบอกว่าถูกบังคับแสดงว่ามันคงอยู่ภายใต้อำนาจสะกดเหมือนผมเคยโดน ในรูปจั๊มพ์แอ่นท่อนล่างที่แข็งตัวให้เห็นอย่างเต็มตา พอโตมามันไม่เคยแก้ผ้าให้ผมดูเลย ไม่คิดว่ามันจะใหญ่อย่างนี้ ตอนเด็กๆ ก็มุ๊งมิ๊งน่าเอ็นดูเหมือนของผมแท้ๆ

“คุณสะกดจิตได้ด้วยเหรอ ผมนึกว่าพี่บอสสะกดจิตได้คนเดียวอีก”

“หึ ชั้นคือเบอร์หนึ่งของเชียวองค์กรนะ”

ก็รู้แล้ว ย้ำอยู่ได้น่ารำคาญ ตกลงหมายถึงพี่โป๊ปก็สะกดจิตได้ด้วยใช่ไหม น่ากลัวเข้าไปอีก วันนี้ผมไม่ได้เตรียมตัวซ่อนกล้องมาด้วย ถ้าโดนสะกดจริงๆ คงไม่รู้ตัวแน่ ผมจะป้องกันยังไงดีนะ ต้องไม่สบตากับพี่เขาหรือเปล่า

“ต้องการอะไรกันแน่”

ผมถามออกไปตรงๆ ยังไงผมก็ปล่อยให้ภาพแบบนั้นหลุดไปไม่ได้

“หยุดส่งคนตามไอบอสซะ นั่นมันแค่หุ่นเชิด ชั้นคือเบอร์หนึ่งขององค์กรตัวจริง อีกอย่างนายไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ หรอก ความลับของนายมันไม่ใช่ความลับอีกแล้ว ต่อไปชั้นจะสั่งงานนายโดยตรง อย่ามายุ่งกับคนของชั้นอีก”

คนของเขา คำๆ นี้สำหรับพี่โป๊ปมันหมายถึงอะไรกันแน่นะ

“อย่าฝันเลยว่าจะเอาอำนาจของสมาพันธ์ไปใช้ทำเรื่องไม่ดี ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงต้องขอให้เพื่อนผมเป็นผู้เสียสละ”

ผมพูดจริงๆ นะ ถ้าผมยอมทำตาม องค์กรคงเหมือนเสือติดปีก ไม่รู้จะไปสร้างความวุ่นวายให้สังคมขนาดไหน ไอจั๊มพ์ มึงคงต้องยอมให้ชาวบ้านเห็นเรือนร่างกับเครื่องเคราอันเร้าใจของมึงแล้ว ขอโทษจริงๆ ว่ะเพื่อน งานนี้ส่วนรวมต้องมาก่อน

“องค์กรไม่เคยทำเรื่องไม่ดี อย่างน้อยก็ตามมาตรฐานของเราเอง สมาพันธ์ต่างหาก อาศัยพวกพ้องเส้นสายไปเอาเปรียบคนอื่น แม้แต่งานที่อ้างว่าเป็นภารกิจทำเพื่อปกป้องประเทศชาติ เคยลงไปดูไหมว่าหน้างานเละเทะแหลกเหลวแค่ไหน มีพวกเข้าไปเพื่อหาประโยชน์ให้ตัวเองอีกตั้งเท่าไหร่”

ผมหน้าชา จะเถียงออกไปก็พูดได้ไม่เต็มปาก การทำงานของสมาพันธ์จะใช้การถ่ายทอดคำสั่งลงไปเป็นชั้นๆ แล้วรายงานผลกลับขึ้นมา เป็นวิธีดั้งเดิมที่อาศัยความเชื่อใจกันเป็นหลัก แต่พอยุคสมัยเปลี่ยนไป ข้อร้องเรียนระยะหลังบ่งบอกว่าเรื่องที่โดนพี่โป๊ปกล่าวหาน่าจะมีมูล

แต่การตั้งรับที่ดีคือการรุกกลับ

“แล้วองค์กรนี่ดีนักเหรอ ทั้งกักขังหน่วงเหนี่ยว ทำสื่อลามกอนาจาร บังคับขู่เข็ญ จารกรรมข้อมูล ค้าประเวณีเด็ก ค้าทาสอีกต่างหาก”

ผมใส่เป็นชุด เรื่องพวกนี้คือสิ่งที่ผมติดใจอยู่ อุดมการณ์ที่ผมเคยได้ฟังจากพี่บอสมันก็ดูดีอยู่หรอก แต่เวลาทำงานจริงมันต้องมีหลุดมีรั่วบ้าง คนทำงานให้องค์กรคงมีเป็นร้อยเป็นพัน จะควบคุมได้ยังไงไหว ก็คงเหมือนๆ กับสมาพันธ์นั่นแหละ แต่ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยไม่ใช่เหรอ

“นายเข้าใจไปขนาดนั้นเลยเหรอ ช่วยไม่ได้สินะ แต่ยังไงชั้นก็เป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง คงไม่ยอมกลับไปมือเปล่าแน่ ลองแลกเปลี่ยนข้อมูลกันดูไหม อยากรู้เรื่องขององค์กรนักไม่ใช่เหรอ นายก็เอาข้อมูลหลักฐานเคสต่างๆ ของสมาพันธ์มาแลกเปลี่ยนกับเคสขององค์กรสิ ค่อยๆ แลกไปทีละเคสสองเคส คิดว่ามีประโยชน์ค่อยทำต่อ ถ้าตกลงเรื่องนี้กับเรื่องที่ไม่ไปรบกวนไอบอส ชั้นสัญญาว่าจะไม่ไปยุ่งกับเพื่อนนาย”

ผมประเมินข้อเสนอของคนตรงหน้า มันอาจจะเป็นแผนเพื่อล้วงข้อมูลสมาพันธ์ก็ได้ แต่ความคิดที่ว่าผมจะได้เห็นข้อมูลและเคสต่างๆ ขององค์กรมันช่างเย้ายวนใจ ลองดูก่อนก็ได้ ถ้าไม่ดีก็ไม่ต้องทำต่อ

“ตกลงตามนั้น”

ผมตอบออกไป รู้สึกเหมือนทำสัญญากับปีศาจ ผมคงไม่ทำให้สมาพันธ์ต้องล่มสลายลงในรุ่นผมหรอกนะ

“ดี งั้นชั้นจะลบรูปและคลิปของเพื่อนนายทิ้งให้หมดเดี๋ยวนี้”

 คลิปงั้นเหรอ ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม คลิปของไอจั๊มพ์

“อย่าเพิ่งครับ มีคลิปด้วยเหรอ ช่วยส่งทั้งหมดให้ผมก่อนลบได้ไหม”

ผมรีบร้องออกไป ตั้งแต่ที่ผมได้ถ่ายคลิปแดน คลิปฟีฟ่า แล้วก็น้องๆ บางคนในชมรมเป็นต้นมา ผมก็รู้สึกหลงใหลเรื่องพวกนี้ ใช่ว่าผมจะคิดอกุศลกับพวกมัน แต่เหมือนเป็นความอยากเก็บสะสมซะมากกว่า แบบสะสมแสตมป์อะไรทำนองนั้น ยิ่งเป็นของคนที่ผมรู้จักยิ่งรู้สึกมีคุณค่า เหมือนเป็นตัวแทนความรู้สึกดีๆ ที่ผมมีต่อสรีระที่งดงามของพวกเขา

พี่โป๊ปมองหน้าผมอย่างคาดไม่ถึง แล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเป็นครั้งแรก ขอบอกว่าหล่อโฮกคูณสามครับ

“ฮ่าๆ ก็เอาสิ เพื่อนนายนี่นะ”

พี่โป๊ปพยายามกลับไปตีสีหน้าเรียบเฉย แต่มุมปากยังกระตุกนิดๆ เหมือนกลั้นไม่ไหว นี่คือบุคลิกแท้จริงของพี่เขาหรือเปล่านะ เหมือนเวลาที่อยู่กับพี่บอส หรือผมแค่คิดไปเอง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

หลังจากวันนั้นผมก็ถอนทีมทั้งหมดออกจากการติดตามพี่บอสและกิจการต่างๆ ขององค์กร พี่โป๊ปไม่ได้มาหาผมอีกเลยแต่ก็มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างระมัดระวังกันมาเรื่อยๆ ผมได้รู้เรื่องขององค์กรผ่านเคสต่างๆ ที่เอาข้อมูลของสมาพันธ์ไปแลกมา หลักฐานที่มีมาด้วยทำให้ผมค่อนข้างแน่ใจว่านักโทษทั้งหลายขององค์กรคือคนที่ทำผิดจริงๆ ทั้งนั้น องค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อตรวจสอบความผิดได้อย่างถูกต้องและง่ายดายโดยผ่านระบบไอทีและการเจาะข้อมูล นี่คือสิ่งที่สมาพันธ์ขาดไป แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเลียนแบบกันได้ง่ายๆ

ประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนที่ผมได้ดูจะมีเพียงแค่นี้ แต่ฝั่งองค์กรกลับใช้ประโยชน์จากผมได้มากมาย พี่โป๊ปเป็นคนที่ฉลาดเจ้าเล่ห์อย่างขาดไม่ถึง เรียกว่าผมโดนหลอกล่อปั่นหัวอยู่ตลอดเวลา

จะว่าไปผมก็โดนหลอกตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอพี่โป๊ปเลย เรื่องนี้ผมมารู้ตอนที่ผมตัดสินใจลองคุยกับไอจั๊มพ์เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปเกือบเดือนแล้ว

“จั๊มพ์ มึงจำอะไรตอนที่โดนสั่งให้แก้ผ้าถ่ายรูปได้บ้างเปล่า”

ไอ้จั๊มพ์สะดุ้งโหยง

“อะไรของมึงวะ จะอำอะไรกูอีก”

“ก็รูปนี้ไง ตอนถ่ายมึงจำอะไรได้บ้างเปล่า ว่าใครสั่ง”

ผมเปิดรูปที่น่าจะอับอายขายหน้าน้อยที่สุดให้มันดู คือเห็นแค่จั๊มพ์น้อยที่ยังไม่แข็งตัวลางๆ ในเงามืด

“เฮ้ย ไปเอามาได้ยังไง กูไม่เคยส่งให้ใครเลยนะรูปนี้” ไอจั๊มพ์ตกใจโวยวายทันทีที่เห็น

“มึงจำได้เหรอ” ผมแปลกใจเล็กน้อย ตอนที่ผมโดน ผมจำอะไรไม่ได้เลย

“จำได้สิวะ ก็กูถ่ายเองจากในกระจก ตอนนั้นเพิ่งซื้อโทรศัพท์ใหม่มา ลองถ่ายรูปตัวเองไปมาเลยเงี่ยนแก้ผ้าถ่ายซะเลย มันหลุดไปได้ไงวะ กูไม่เคยส่งไปไหนถ่ายเสร็จก็อยู่ในโทรศัพท์ตลอด โทรศัพท์ก็ยังอยู่กับกูไม่เคยหาย กูตายแน่ ดังแน่นอนกูหล่อซะขนาดนี้ มึงได้มาจากไหนวะ”

“เดี๋ยวก่อน รูปนี้มึงถ่ายไว้นานยังวะ” ชักมีอะไรแปลกๆ แล้ว ตกลงรูปพวกนี้มันถ่ายตัวเองไม่ได้ถูกสะกดจิตหรือนี่

“ก็ตั้งแต่ตอนมึงชอบแก้ผ้าในห้องน้ำใหม่ๆ กูนึกยังไงไม่รู้ เลยลองทำมั่ง”

นั่นมันเกิดตั้งหลายเดือนแล้ว ตอนนั้นผมยังไม่เริ่มตามเรื่ององค์กรเลย สรุปว่าพี่โป๊ปแค่เจาะข้อมูลจากโทรศัพท์เพื่อนผมไป ไม่ได้สะกดจิตถ่ายรูปจริงๆ

ผมเลยพูดปัดๆ ไอจั๊มพ์ไปให้มันสบายใจว่าอยู่ๆ ก็ได้เมลจากมันรูปนี้รูปเดียว มันคงเผลอกดส่งมั๊ง เดี๋ยวจะลบให้ แต่จริงๆ ผมมีครบคอลแลคชั่นเลย ไม่ลบด้วย ฮ่าๆ

ผมคาดโทษพี่โป๊ปอยู่ในใจฐานที่หลอกลวงให้ผมหลวมตัวร่วมมือด้วย ไม่กี่วันพี่โป๊ปก็โทรมาเพื่อใช้งานผมตามปกติ รู้สึกไม่ดีเลยแฮะปกติผมเป็นคนใช้งานบงการคนอื่นตลอด แต่ทำไมถึงยอมน่ะหรือครับ ก็ดูเอาสิ

“ชั้นมีงานใหม่ อยากได้ข้อมูลที่เกี่ยวกับคดีเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว”

ผมไม่ทันจะปฏิเสธ พี่โป๊ปก็ร่ายยาวถึงข้อมูลที่เขาต้องการซึ่งอยู่ในหน่วยราชการแห่งหนึ่งที่เครือข่ายสมาพันธ์มีเส้นสายอยู่

“ทำไมไม่เจาะข้อมูลไปเองเล่า เก่งนักไม่ใช่เหรอ ทีโทรศัพท์เพื่อนผมคุณยังเจาะเข้าไปเอารูปมันมาได้เลย มีหน้ามาบอกว่าสะกดจิตเอง”

“นี่รู้แล้วเหรอ แล้วไง  จะถ่ายเองหรือโดนองค์กรบังคับถ่าย ถ้าหลุดไปเพื่อนนายก็เดือดร้อนอยู่ดี ตอนนั้นนายก็แลกเปลี่ยนได้คุ้มค่าแล้วนี่ ส่วนงานคราวนี้ ถ้ามันอยู่ในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ ชั้นก็เอาออกมาเองได้สบายอยู่แล้ว แต่หน่วยงานนั้นคร่ำครึจะตาย คงเก็บเป็นแฟ้มๆ หรือใส่ลังไว้จนกระดาษเหลือง ให้คนในสมาพันธ์นายเอามาให้หน่อย ถ่ายรูปมาก็ได้ มันคงไม่กี่หน้าหรอก”

“ผมไม่ทำ สมาพันธ์เสียเปรียบตลอด คุณใช้ๆ แต่ทางผม” ผมโวยวายใส่ให้เห็นว่าผมจะไม่พี่โป๊ปอีกต่อไป

“อ้าวไอเด็กนี่ แล้วข้อมูลพฤติกรรมฉ้อโกงของคนในสมาพันธ์ ที่ชั้นรวบรวมให้คราวก่อนล่ะ นายจะบอกว่าไม่เป็นประโยชน์เลยงั้นสิ”

“อันนั้นคุณก็ได้ข้อแลกเปลี่ยนไปเกินคุ้มแล้วนะ ผมต้องส่งน้องๆ ชมรมกีฬาเป็นร้อยคนไปช่วยงานคุณเป็นเดือน เปลืองจะแย่ ไม่รู้แหละ ครั้งนี้ถ้าอยากให้ผมช่วย ผมขอเจอพี่บอส ไม่อยากคุยกับคุณแล้ว”

“ชั้นไม่ตกลง อย่างนายน่ะจะเจอคนของชั้นอีกต้องพิสูจน์ตัวเองมากกว่านี้ เอาเป็นว่าครั้งนี้ฉันมีข้อเสนอดีๆ มาให้ นายจะปฏิเสธก็แล้วแต่”

“อะไรอีก คราวนี้ผมไม่หลงกลหรอกนะ”

“คลิปพร้อมภาพชุดพิเศษของอดีตประธานนักเรียนสุดหล่อ ที่นายชื่นชมสมัยมัธยมไง”

“พี่เซจิ คุณหมายถึงพี่เซจิใช่ไหม ไม่จริง พี่เขาเป็นคนดีมาก ไม่มีทางทำอะไรให้องค์กรจับมาลงโทษได้หรอก”

“คนเราก็มีหลงผิดชั่ววูบกันได้ โทษเขาไม่เยอะหรอก แค่สามคลิปก็ใช้หนี้มูลความผิดหมดแล้ว น่าเสียดายนะที่นายจะไม่ได้เห็น ประธานนักเรียนของนายถ่ายไว้ตั้งแต่สมัยเพิ่งขึ้นปีหนึ่ง ลูกครึ่งญี่ปุ่นหน้าใสกิ๊ก ผิวงี้ขาวเนียนไปทั้งตัว น้องเขาคงแช่ออนเซ็นบ่อยแน่ๆ จุดไหนที่ควรจะเป็นสีชมพูก็เป็นสีชมพูสดใสราวกับเด็กห้าขวบ แล้วตรงท่อนลำนะ อย่านึกว่าหน้าตาน่ารักยังกะเด็กผู้ชายอย่างนี้จะ...”

“ยะ หยุดได้แล้ว อย่าพูดถึงรุ่นพี่ที่ผมเคารพด้วยน้ำเสียงแบบนั้นนะ ผมตกลงแล้ว งานที่คุณสั่งจะรีบทำให้ แล้วส่งมาให้ครบเลยนะ ทั้งรูปทั้งคลิปของพี่เซจิ”

แล้วดูไอพี่โป๊ปทำสุ่มทำเสียงสิ เคยขายแผ่นโป๊มาก่อนเปล่าวะ ถามจริง

“ชั้นเปลี่ยนใจแล้ว นายทำชั้นเสียเวลามามาก ถ้ายังอยากได้คลิปประธานนักเรียนของนายอยู่ นายต้องเอารูปคู่อริเก่าของชั้นมาแลกด้วย”

“คู่อริเก่าของคุณ หมายถึงพี่ธนชัย พนักงานบริษัทที่เคยเรียนเทควนโด้โรงเรียนเดียวกับคุณสมัยเด็กใช่ไหม คุณรู้ได้ไงว่าผมถ่ายเก็บไว้ เขามีลูกมีเมียไปแล้วนะ จะอาลัยอาวรณ์อะไรอีก”

“จะอ๊วก คิดว่าชั้นคิดอะไรกับมันหรือไง นี่ถ้าไอบอสไม่อยากรู้ว่าโตขึ้นมามันเป็นยังไง ยังหุ่นดีหรือเปล่า ชั้นก็ไม่อยากจะได้หรอก อย่าพูดมาก จะเอาไม่เอา ถ้าไม่ตกลงก็บอกลาพี่เซจิของน้องมอมแมมได้เลย”

แล้วผมจะต้านทานได้เหรอครับ เป็นการแลกเปลี่ยนที่โคตรจะไม่เป็นธรรม แต่ก็คุ้มค่า พี่เซจิครับ พี่จะได้เข้ามาอยู่ในคอลเล็คชั่นของผมแล้วนะ คนอะไรทั้งเท่ ทั้งเก่ง ทั้งน่ารัก ไอดอลสมัยมอปลายของผมเลยนั่น

……………………………………………….

TBC

ออฟไลน์ Snimsoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
โอ๊ย น้องเม เพลี้ยงพล้ำอย่างแรงเลย  :m20: โดนหลอกใช้แบบ รู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก ถถถถ น้องเมฉลาดแล้วก็ยังตามพี่โป๊บไม่ทันจริงๆ อิพี่โป๊บนี้ก็นะ ย้ำอยู่ได้ว่าตนเองเป็นเบอร์หนึ่งๆ แต่ที่ไม่บอกคือบอสเป็นเบอร์ศูนย์ ฮ่าๆ แน่ะ มีหวงบอสอีกไม่ยอมให้มาเจอน้องเม แต่โป๊บคงเอ็นดูมอมแมมไม่น้อยแหละ เมื่อรู้ว่ารสนิยมหื่นน่ารักเหมือนบอสรุย ความจริงระดับเมน่าจะได้เป็นสมาชิกองค์กรนะ

ออฟไลน์ PPink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
ทำไมรู้สึกถึงความสามพีที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้55555555
บอสคะ เบอร์หนึ่งมันร้าย
เมก็ตกหลุมรักบอสไปเต็มๆ แล้วสินะ
ไม่รู้ตอนนี้บอสจะคิดอะไรอยู่กันแน่น้า

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ดูรูปการณ์แล้วน่าจะเป็นความร่วมมือกันที่ดี ไม่มีดราม่า :laugh:

ออฟไลน์ temaripik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โป๊ปนี่ก็ห้วงหวงเนอะ 555

ออฟไลน์ pakawatkheeta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอย.. เริ่มสนุกแล้วสินะ

แต่ขออย่างได้มั้ยครับ

ช่วยเปลี่ยนสรรพนามพี่โป๊ปที ... แทนตัวว่า "ชั้น" ตลอดเลย ... เลือกเป็น "ผม" หรือ "พี่" น่าจะเข้ากับเรื่องดีนะครับ

 :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ meanmena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
โอ้ล่ะพ่อคร้าา

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ้ยชอบสนุกมากฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  มันระดับอาทิมิสฟาวล์เลยหล่ะครับ

สรรพนาม ชั้น ถูกแล้วแหละครับ เพราะแสดงถึงความไม่เป็นกันเอง เพราะแน่นอนว่าไม่ถูกกันแอบมาชอบบอสได้ยังไงฮิอิ


ออฟไลน์ shokung

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
อ่านรวดเดียวจนจบ สนุกมากๆครับ

บอสกับเมนี่คล้ายกันจริงๆ แทบจะถอดแบบกันเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GGamy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แมะ เป็นข้อแรกเปลี่ยนที่คุ้มค่าจริงๆ
ขนาดบอสไม่แสดงตัวนะเนี้ย ยังส่งพลังหื่นได้ขนาดนี้  :hao6:

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
องค์กรลวงจิต Explicit Content

บทที่ 32 ครั้งที่สามของการพบกันครั้งแรก

[เมธัส]

แม้ผมจะค่อนข้างเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ แต่การร่วมมือกับไอพี่โป๊ปที่ผ่านมาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก ถึงจะดูโหดและเด็ดขาดแต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เป็นคนเจ้าอารมณ์หรือไม่มีเหตุผล ที่ผมต้องระวังก็แค่ไม่ไปถามถึงพี่บอสให้พี่แกอารมณ์เสียเท่านั้นเอง สิ่งแลกเปลี่ยนที่พี่โป๊ปขอมันก็ไม่ใช่ว่าจะเหลือบ่ากว่าแรงอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นการขอแรงงานน้องๆ ในสังกัดผมไปช่วยงานที่ต้องอาศัยคนเยอะๆ อย่างพวกการทำสำรวจความเห็นหรือเก็บข้อมูลอะไรบางอย่าง อีกส่วนก็เป็นการขอให้เส้นสายในสมาพันธ์ของผมทำเรื่องบางอย่างให้ ซึ่งโชคดีที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่จนเป็นที่ผิดสังเกตว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับงานของสมาพันธ์ จริงๆ หลายๆ ครั้งผมก็อยากปฏิเสธไปเหมือนกัน แต่ไอพี่โป๊ปก็จับจุดผมได้ทุกครั้ง จนผมอดเอ่ยปากถามไม่ได้

“ครั้งที่แล้วผมมก็ยอมพี่ไปแล้วนะ ถามจริงๆ เถอะ พี่ก็เพิ่งรู้จักผมได้ไม่ถึงสองเดือน ทำไมถึงจับทางผมได้ตลอด เดาใจได้ยังกะรู้จักกันมานาน”

ผมถามขึ้นตอนที่กำลังเจรจางานล่าสุดกับไอพี่โป๊ป ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ที่จริงเรื่องการอ่านใจคนหรือชั้นเชิงด้านการเจรจา คนที่ได้รับการฝึกจากตระกูลมาตั้งแต่เด็กอย่างผมก็ไม่น่าจะแพ้นะ แต่พอพี่แกเอาเรื่องอย่างว่ามาล่อ ทำไมผมเสร็จทุกที

พี่โป๊ปเหยียดยิ้มแบบที่ทำให้ใบหน้าหล่อดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมานิดๆ

“เด็กหื่นๆ อย่างมึงจะไปมีอะไร กูรู้จักคนๆ นึงที่หื่นกว่านี้อีก แล้วกูก็รู้ใจมันทุกอย่างด้วย ในเรื่องแบบนี้ มึงมันก็ไม่ต่างอะไรกับคนๆ นั้นของกูเท่าไหร่ แถมสกิลยังต่ำกว่าด้วย เพราะงั้นเรื่องเดาใจมึงว่าจะเอาอะไรมาล่อ มันหมูๆ”

โอเค ผมเก็ทล่ะ คนๆ นั้นของไอพี่โป๊ปคงไม่พ้นพี่บอส ถึงพี่โป๊ปจะไม่ชอบให้ผมพูดหรือถามถึงพี่บอส แต่ตัวแกเองนั่นแหละ คุยๆ ไปก็ชอบหลุดอะไรที่เกี่ยวกับพี่บอสออกมาเองตลอด ผมเป็นคนความจำดีซะด้วย มีอะไรนิดอะไรหน่อยผมสามารถจับมาเชื่อมโยงกันได้หมด ที่จริงคนที่เก่งและฉลาดอย่างพี่โป๊ป ถ้าไม่อยากให้ผมรู้เรื่องพี่บอสก็ไม่น่าจะหลุดออกมาเยอะขนาดนี้ แต่พอวิเคราะห์ตามทักษะการอ่านใจคนที่ผมฝึกฝนมา ผมคาดว่าความคิดและการกระทำของพี่แกเกินครึ่งมันเกี่ยวข้องกับพี่บอสอยู่แล้ว เลยพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว

แต่ที่ยอมไม่ได้คือมาหาว่าผมหื่นนี่แหละ แถมเอาไปเทียบกับพี่บอสที่โคตรหื่นอีกอีก ถึงผมจะยังไม่รู้จักกับพี่บอสเป็นการส่วนตัว แต่ก็พอจะวิเคราะห์ได้คร่าวๆ จากสิ่งที่องค์การทำและสิ่งที่พี่โป๊ปหลุดปากพูดถึงออกมาบ่อยๆ ว่าพี่บอสน่าจะหื่นตัวพ่อ พี่โป๊ปซะอีกที่เป็นถึงเบอร์หนึ่งขององค์กรใต้ดินสุดหื่นแต่กลับดูท่าทางไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ผมเคยแอบคิดว่าพี่โป๊ปอาจจะไม่ได้เป็นเกย์ด้วยซ้ำ

ผมเลยตอบกลับไปอย่างสุภาพอย่างทุกที ถึงหลังๆ พี่โป๊ปจะขึ้นมึงกูกับผมตลอด ผมจะถือว่านั่นเป็นการแสดงความสนิทสนมในแบบของแกแล้วกัน

“ผมไม่ได้หื่นนะ ที่ผมยอมทำงานแลกคลิปพวกนั้นเพราะแค่อยากสะสมเท่านั้นเอง มันก็อารมณ์เหมือนสะสมนาฬิกา รองเท้า หรือโมเดลกันดั้ม อะไรเทือกๆ นั้นแหละ”

ผมโต้กลับเพื่อให้พี่โป๊ปเข้าใจว่าผมไม่ได้เป็นเกย์ แล้วก็ไม่ได้หื่นแบบพี่บอสด้วย แค่ชื่นชมในสรีระของผู้ชายอยู่บ้าง พอเจอที่ชอบก็อยากสะสม ยิ่งเป็นของคนที่ผมรู้จักก็ยิ่งอยากเก็บให้ได้มากที่สุด พอสะสมมากๆ เข้า มันก็หยุดไม่ได้เท่านั้นเอง เข้าใจผมนะครับ

“ยังจะมาปากแข็งอีก หื่นก็บอกว่าหื่นสิว้า ทีคนรู้จักของกูนะ มันยอมรับว่าตัวเองหื่นตั้งแต่มอต้นเลยมั๊ง ไม่เห็นเป็นไร ถึงยังไงเรื่องแบบนี้มันก็เป็นสันดานผู้ชายอยู่แล้ว ถึงหื่นก็ยังน่ารักได้”

ชัวร์ครับ หลุดพูดถึงพี่บอสอีกตามเคย ผมน่ะเก็บข้อมูลไว้ได้เพียบเลยนะครับ ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองรู้จักคุ้นเคยกับพี่บอสเข้าไปทุกทีทั้งๆ ที่หลังจากครั้งนั้นแล้วก็ไม่ได้เจออีกเลย ไม่รู้สิ ผมว่าทั้งพี่บอสและพี่โป๊ปเป็นคนที่น่าสนใจ อย่างพี่โป๊ปนี่ คนอะไรจะทั้งเก่งทั้งฉลาดขนาดนี้ อ่านความคิดก็ยาก เป็นคนที่ผมไม่รู้จะทำยังไงถึงจะบงการหรือใช้ประโยชน์ได้เหมือนที่ผมใช้งานคนอื่น ผมเคยพยายามลองๆ ดูแต่ก็รู้ว่ายากที่จะสำเร็จ สุดท้ายผมก็เลยต้องปลงว่า คนอย่างพี่โป๊ป คงคบได้แบบเพื่อน แบบพี่ อย่าไปหวังประโยชน์อะไรให้ยาก

พอรู้จักพี่โป๊ปก็ทำให้ยิ่งอยากรู้จักพี่บอส หมายถึงแบบรู้จักกันจริงๆ ที่ไม่ใช่ผ่านสิ่งที่พี่โป๊ปหลุดปากออกมา ผมว่าถ้าไม่นับเรื่องหื่น พี่เขาเป็นคนมีอุดมการณ์และเป็นคนจิตใจดีมากนะครับ ดูจากสิ่งที่เขาทำ แต่ผมไม่กล้าไปแอบตามพี่เขาแบบครั้งก่อนหรอก พี่โป๊ปขู่ไว้ แถมผมยังเสียวๆ ด้วยว่าเจอจริงๆ จะถูกสะกดจิตเอาอีก

นั่นก็เลยทำให้ผมตกใจปนสมหวัง เมื่อพี่บอสเป็นฝ่ายเข้ามาหาผมเองถึงห้องสมุดที่มหาลัยหลังจากนั้นไม่กี่วัน

“พี่บอส....” ผมเรียกชื่อพี่เขาออกมาโดยไม่ตั้งใจ หลังจากเงยหน้าจากหนังสือขึ้นมามองเมื่อรู้สึกว่ามีคนมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

“จำพี่ได้จริงๆ ด้วย น้องมอมแมม พี่เรียกชื่อนี้นะ น่ารักดี”

พี่บอสยิ้มให้อย่างคนอัธยาศัยดี ตัวเป็นๆ นี่โคตรของโคตรหล่อ เอาจริงๆ ถึงผมจะเคยเจอพี่บอสมาก่อนหน้านี้มาแล้วถึงสองครั้งแต่ก็ถูกลบความทรงจำไปหมด เพราะงั้นใบหน้าของพี่บอสในหัวของผมถึงเป็นแค่ภาพจากคลิปวิดีโอที่ผมแอบถ่ายไว้

ผมไม่รู้ว่าพี่บอสมีวัตถุประสงค์อะไร พี่เขาจะมาทำอะไรผมหรือเปล่าฐานที่รู้ความลับของเขา ถึงผมจะติดต่อกับพี่โป๊ปแต่ทางโน้นก็ไม่เคยบอกว่าพี่บอสคิดยังไงกับสิ่งที่ผมทำ ผมเริ่มคิดหาทางออก ถ้าหลับตาคุยผมจะรอดจากการสะกดจิตไหม หรือผมควรจะวิ่งหนีไปเลย แต่ก็เสียดายโอกาสที่จะได้คุยกับพี่บอสอีกครั้งอยู่มาก ผมเลยตัดสินใจหยั่งเชิงตอบพี่บอสไปโดยสายตายังทำเป็นมองหนังสือเรียนอยู่

“ถ้าอยากเรียกชื่อนั้นจริงๆ ก็เรียกผมว่ามอมเฉยๆ แล้วกันครับ พี่มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”

ถ้ารู้ชื่อเล่นจริงๆ ของผม พี่บอสคงรู้เรื่องอื่นๆ ของผมมาพอสมควรแล้ว

“มีอะไรอยากคุยกับเรานิดหน่อย ว่าแต่วันนี้แอบอัดคลิปอีกหรือเปล่า”

ผมรีบส่ายหน้า ก็ไม่มีจริงๆ นั่นแหละ ใครจะไปรู้ว่าอยู่ๆ พี่แกจะมาหาถึงถิ่นแบบนี้

“ดี คราวนั้นแสบมากเลยนะ นึกไม่ถึงว่าจะซ่อนกล้องไว้ พี่ไม่เคยพลาดขนาดนั้นมาก่อน แต่ไม่ต้องกลัว คราวนี้พี่ไม่ลบความจำเราแล้วล่ะ เราก็รู้เรื่ององค์กรเยอะแล้วนี่”

ผมค่อยโล่ง คนที่สะกดจิตคนได้เป็นว่าเล่นอย่างพี่บอสไม่มีความจำเป็นจะต้องมาหลอกให้ผมตายใจ ผมว่างั้นนะ ตอนนี้ผมเลยรีบเงยหน้ามองหน้าหล่อๆ ของพี่บอสแบบเต็มๆ โดยไม่กลัวว่าจะถูกสะกดจิตอีก ฟินมากครับ ดีกว่าภาพในวิดีโอเป็นร้อยเท่า พี่เขาหล่อมากนะครับ จริงๆ พี่โป๊ปก็หล่อสูสี แต่พี่บอสถึงจะหล่อแบบผู้ชายแต่ก็ดูน่ารักไปในคราวเดียวกัน ไม่รู้บุพการีพี่เขาปั้นมายังไง คุณพ่อครับ คุณแม่ครับ พี่ก้อนดิน พี่รากแก้ว น้องมอมแมมจะเอาคนนี้

“พี่รู้เรื่องทั้งหมดจากพี่โป๊ปแล้วใช่ไหม ผมไม่ได้คิดไม่ดีกับพวกพี่นะครับ แล้วตอนนี้ผมก็ช่วยงานองค์กรอยู่ด้วย”

ผมรีบรายงานเพื่อทำคะแนน

“พี่รู้แล้ว แต่ไม่ได้รู้จากไอโป๊ปหรอกนะ มันปิดเงียบเลย เล่นมาคุยกับน้องน่ารักๆ แบบนี้คนเดียว”

เอิ่ม พี่ครับ อย่างผมนี่ ผู้ชายแท้ๆ แมนๆ ไม่น่าจะเรียกว่าน่ารักได้ แต่ก็เอาเถอะ ผมยังคิดว่าพี่บอสน่ารักเลย

“พี่โป๊ปเขาก็ไม่ได้อะไรกับผมหรอก เรื่องงานล้วนๆ ผมอยากเจอพี่บอสจะตาย แต่พี่โป๊ปน่ะกันท่า ไม่ยอมให้ผมเข้าไปเกี่ยวข้องกับพี่เลย”

พี่บอสตบโต๊ะดังปัง จนเด็กที่นั่งอ่านหนังสือห่างออกไปหลายโต๊ะหันมาทำท่าตำหนิใส่ผม เปล่านะเพื่อน กูไม่ได้ทำ

“ว่าแล้วเชียว นี่พี่เลยจะมาถามว่า พวกนักศึกษาจากมอนี้ที่ไปสะกดรอยตามพี่เมื่อสองสามเดือนก่อนนี่ ฝีมือเราใช่ไหม”

“ใช่ครับ” ผมตอบเสียงอ่อยๆ พี่บอสคงมาต่อว่าที่ผมส่งคนไปรบกวนแน่เลย

“แล้วจู่ๆ หยุดไปทำไม” พี่แกเล่นถามด้วยเสียงเคืองๆ ครับ ทำเอาผมงงไปเลย

“อะ อ้าว ก็พี่รำคาญเลยให้พี่โป๊ปมาขู่ผมให้เลิกยุ่งกับพี่ไม่ใช่เหรอ”

ผมบอกไปตามที่เข้าใจ

“แม่ง ว่าแล้ว ฝีมือไอโป๊ป มารความสุขจริงๆ”

พี่บอสบ่นพึมพำ แล้วหันมาคุยกับผมต่อ

“หนุ่มๆ หุ่นดีๆ ทั้งนั้น มาแทบไม่ซ้ำหน้า เราไปหามาจากไหนวะ พี่โคตรชอบเลย พอคนไหนเริ่มได้ข้อมูลพี่ไปเยอะแล้ว พี่ก็จับมาเล่นสนุกนิดหน่อยแล้วก็ขู่ไปเล่นๆ แค่นี้ก็เผ่นแนบกลับไปแล้ว นึกถึงหน้าอ่อนๆ ที่เหรอหราเวลาพี่ให้ดูคลิปเสียวของตัวเอง แต่ละคนคิดเกือบตายว่าไปถ่ายคลิปน่าอายแบบนั้นเมื่อไหร่ ฮ่าๆ สนุกจัง”

เอิ่ม แค่คุยกันไม่กี่ประโยค พี่บอสก็เผยความหื่นชนิดจัดเต็มมาแล้วครับ สงสารน้องๆ ที่ผมส่งไปจัง

“เอ่อ พี่ไม่ได้ทำรุนแรงกับน้องๆ เขาใช่ไหมครับ แล้วพวกคลิปพวกนั้นคงไม่ได้เผยแพร่ออกไปใช่ไหม”

“ใครจะไปทำลง เด็กดีๆ น่ารักๆ ทั้งนั้น ไม่ได้ไปทำผิดอะไร พี่ไม่ทำอะไรหรอกน่า พอเลิกตามพี่ ไม่กี่วันน้องๆ ก็ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นกันหมด ที่จริงเด็กพวกนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นน้องพี่นะ พี่ก็จบจากที่นี่เหมือนกัน”

อันนี้เป็นความรู้ใหม่เลยครับ ถึงก่อนหน้านี้ผมจะสืบหาเจอแต่ว่าพี่โป๊ปจบที่นี่แล้วไม่เจออะไรเกี่ยวกับพี่บอสเลยก็เถอะ แต่ผมก็ไม่แปลกใจหรอก

“งั้นผมก็รุ่นน้องพี่เหมือนกัน”

ผมรีบเก็บแต้มต่อครับ เน้นให้พี่เขารู้สึกเอ็นดูผมบ้าง

“ถึงรุ่นน้องแต่ถ้าทำอะไรไม่ดีพี่ก็ไม่ละเว้นนะ ยิ่งหล่อๆ ด้วยยิ่งต้องสั่งสอน อย่างเรานี่ก็ร้ายไม่เบานะ ผู้บัญชาการตระกูลหลัก”

ผมหัวเราะแหะๆ หวังว่าสมาพันธ์คงไม่ได้ไปทำอะไรที่พี่เขาคิดว่าไม่ดีนะ ไม่งั้นผมคงรอดยาก

“ผมไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีนะครับ ทำตามที่พี่โป๊ปบอกทุกอย่างเลย”

“นั่นไงที่พี่ไม่ปลื้มเท่าไหร่ ไปฟังมันมากทำไม พอหยุดส่งน้องๆ มา พี่เลยไม่ค่อยมีที่ระบาย ต้องกลับไปสะกิดไอโป๊ปเหมือนเดิม มันทำงานก็เหนื่อยแล้ว พี่ไม่อยากกวนมันมาก”

ดูเค้าแคร์กันแปลกๆ นะ ผมไม่แน่ใจว่าเดาเรื่อง ‘สะกิด’ อะไรนี่ถูกไหม ถ้าเป็นอย่างที่คิด ผมก็อยากจะอาสาแทนจัง แต่สังหรณ์ใจว่าอายุอาจจะไม่ยืน เลยไม่ได้พูดออกไป

“ก็แค่นี้แหละที่อยากจะมาถาม ว่าแต่พี่ทึ่งมากนะที่เราเอาพวกชมรมต่างๆ เข้ามาอยู่ในสังกัดได้ เผลอๆ เจ๋งกว่าพลังสะกดจิตของพี่อีก ว่าแต่ถ้าไม่ติดอะไร ก็ส่งคนมาสะกดรอยตามพี่ได้ใหม่นะ”

“แล้วพี่โป๊ปเขาจะไม่ว่าเอาเหรอครับ เขาเป็นเบอร์หนึ่งขององค์กรสั่งไว้ ถึงพี่บอสจะใหญ่รองลงมาก็ไม่ควรขัดคำสั่งไม่ใช่เหรอ”

ผมก็ว่าไปตามอำนาจการสั่งการครับ คิดว่าขององค์กรก็คงเหมือนที่สมาพันธ์ ผู้มีอำนาจสูงสุดสามารถสั่งได้ทุกคนโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ไม่งั้นจะบริหารองค์กรใต้ดินแบบนี้ได้ยังไง

“ไอโป๊ป กล้ามาก หลอกเด็กแบบหน้าด้านๆ จะเล่ายังไงดี เออ มันก็เบอร์หนึ่งจริงๆ นั่นแหละ แต่พี่เป็นเบอร์ศูนย์ไง”

แล้วพี่โป๊ปก็เล่าถึงเรื่องเบอร์ศูนย์กับเบอร์หนึ่งกับอำนาจการบริหารองค์กรจนผมเข้าใจ เฮ้อ โดนสับขาหลอกอีกแล้ว ไอพี่โป๊ปมันก็ทำให้ผมเข้าใจผิดได้โดยไม่ต้องพูดโกหกซักนิด งั้นผมควรจะมาเกาะกับคนที่ใหญ่ที่สุดดีกว่า #ทีมพี่บอส ดีที่สุด

ผมได้ทีที่จะหาโอกาสสนิทสนมกับพี่บอสให้มากขึ้น ถึงจะคุยกันได้ไม่นาน ผมว่าพี่บอสใจดีกว่าเห็นๆ อำนาจก็เยอะกว่า แถมไม่ค่อยเจ้าเล่ห์ด้วย พี่บอสจะได้กันไม่ให้พี่โป๊ปมาใช้งานผมเยอะๆ ด้วย แต่ผมคงต้องแน่ใจอีกเรื่องหนึ่งก่อน

“เรื่องที่จะให้ผมส่งคนไปให้พี่เล่นสนุกอีกจะเอาจริงเหรอครับ ถึงพี่จะเป็นผู้นำองค์กรตัวจริง พี่โป๊ปเขาจะไม่ว่าเอาเหรอ ถึงยังไงเขาก็เป็นแฟนพี่”

ผมกลั้นใจโยนหินถามทางเรื่องที่สองคนนี่เป็นแฟนกันออกไป จริงๆ ผมอยากถามประเด็นนี้กับพี่โป๊ปตั้งนานแล้ว แต่คาดว่าแค่อ้าปากคงถูกกินหัวแน่ๆ พอเป็นพี่บอส คิดว่าน่าจะปลอดภัยพอที่จะถามได้

“ฮ่า ฮ่า เอาอะไรมาคิดวะ เพื่อนกันเฉยๆ จริงๆ สมัยก่อนพี่คุ้นๆ ว่า เคยเผลอไผลถามมันไปเหมือนกันว่าเป็นแฟนกันไหม มันก็หาว่าล้อเล่นแล้วเปลี่ยนเรื่องเฉยเลย พี่ว่ามันคงไม่อยากปฏิเสธออกมาตรงๆ”

อันนี้ผิดคาดไปมาก ผมว่าทางฝั่งพี่โป๊ป ถึงจะอ่านยากยังไง แต่เรื่องนี้ผมว่าผมดูไม่ผิด ยิ่งเห็นการกระทำยิ่งชัด แต่พี่บอสก็ยืนยันขันแข็งว่าไม่ใช่ หรือจะเป็นแค่อาการหวงเพื่อน ส่วนฝั่งพี่บอสล่ะ คิดยังไง ผมอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

“แล้วพี่บอสล่ะ รักพี่โป๊ปหรือเปล่า”

“อยากรู้อะไรมากมายฮะเรา ตอนนี้พี่ไม่ได้รักมันแบบนั้นแล้ว”

ผมจับจ้องไปที่ใบหน้าของพี่บอสตอนที่ตอบคำถามนั้นออกมา ไม่มีวี่แววของการโกหก อย่างน้อยผมก็อ่านไม่ออก หรือว่าจะเป็นอย่างที่พี่บอสว่าจริงๆ แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามีอะไรไม่ถูกต้องอยู่ดีในความรู้สึกของคนทั้งคู่ เอาเถอะ ตอนนี้ผมคงพักเรื่องนี้ไว้ก่อน

“ถ้าไม่มีเรื่องนั้นก็แล้วไปครับ คืองี้ครับ ผมว่าพี่บอสไม่ต้องเหนื่อยสะกดจิตพวกเด็กๆ เองหรอก พวกชมรมกีฬาน่ะเด็กผมทั้งนั้น ผมพาพี่ไปทัวร์ทีละชมรมดีกว่า ยังไงผมก็ต้องไปทักทายให้กำลังใจพวกมันบ่อยๆ อยู่แล้ว เวลามีซ้อมหรือมีแข่งผมพาพี่เข้าไปดูที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านักกีฬาได้เลย เด็กๆ พวกนี้เวลาเปลี่ยนชุดหรืออาบน้ำมันไม่อายกันหรอก”

“จริงๆ เหรอ” พี่บอสทำท่าสนใจ ผมคิดไม่ผิดเลยจริงๆ

“ผมรู้ว่าพี่สะกดจิตคนให้ทำอะไรๆ ได้หื่น ได้พิศดารกว่านี้ แต่นี่หนุ่มๆ อยู่กันแบบธรรมชาติเลยนะครับ เปลือยกันแบบแมนๆ บางทีก็หยอกกันแกล้งกันเอง ไม่ได้ถูกบังคับ ผมว่ามันคงให้อารมณ์แปลกใหม่ไปอีกแบบ พี่ว่าน่าสนใจไหม ถ้าพี่ไม่บอกพี่โป๊ป เดี๋ยวผมพาไปดู”

จริงอยู่ที่ผมอ่านความคิดของคนฉลาดเจ้าเล่ห์อย่างพี่โป๊ปแทบไม่ออก แต่พอเป็นพี่บอส ผมกลับเข้าใจความคิดพี่เขาได้อย่างง่ายดาย อย่างน้อยก็ตรงส่วนความหื่นนี่แหละ ไม่รู้เพราะผมฟังเรื่องพี่บอสจากพี่โป๊ปมาเยอะ หรือเพราะพี่บอสกับผมมีความคิดที่ตรงกันในเรื่องนี้ ไม่สิ คงไม่ใช่อย่างหลัง เพราะผมไม่ใช่คนที่หื่นเหมือนพี่บอสนี่นะ จะอะไรก็แล้วแต่ เอาเป็นว่าข้อเสนอของผมน่าจะเป็นที่ถูกใจพี่บอสไม่น้อย ก็ฉากในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านักกีฬานี่ มันน่าจะติดหนึ่งในสิบของเรื่องที่เกย์หนุ่มๆ ฝันถึงมากที่สุด

“ถ้าพี่จำไม่ผิด ที่มหาลัยเรานี่ มีเป็นยี่สิบสามสิบชมรมกีฬาเลยใช่ไหม”

มหาลัยผม เรียนดี กิจกรรมเด่น สนับสนุนมันทุกอย่าง ชมรมกีฬาเลยมีเกือบตั้งสามสิบชมรม สมาชิกก็มีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย

“ใช่พี่ แล้วมันน่าดูตรงไหนรู้ไหมครับ จริงๆ พี่คงพอทราบอยู่แล้วว่า หุ่นนักกีฬาแต่ละประเภทมันจะมีเอกลักษณ์เฉพาะ อย่างนักว่ายน้ำ ช่วงบนกล้ามอกกล้ามไหล่จะใหญ่ส่วนเอวจะค่อนข้างกิ่ว นักวิ่งจะหุ่นเพียวๆ นักบอลช่วงขาจะล่ำๆ นักแบดจะมีกล้ามเนื้อแน่นพองามแบบปราดเปรียว ขนาดนักยกน้ำหนักกับนักเพาะกายก็ยังมีกล้ามใหญ่ไปคนละแบบ พวกนี้มันเป็นเสน่ห์ของหนุ่มๆ แต่ละชมรม รับรองไม่มีเบื่อเลยครับ”

พี่บอสกลืนน้ำลายแล้วร้องออกมา

“โอ๊ย ใครจะไปเบื่อกัน กล้ามชัดๆ แกร่งๆ แบบนักมวยก็ดีนะ พี่ว่า”

“ใช่พี่ วันนี้เราลองไปเซิร์ฟๆ ชมรมเล็กๆ ก่อนดีไหมครับ ผแนะนำเป็นชมรมฟันดาบก่อน อาจจะจำนวนคนไม่เยอะไม่ละลานตา แต่ก็อบอุ่นเป็นกันเอง ทีเด็ดคือมีเดือนนิติปีสองอยู่ด้วย ผมใบ้ให้ว่าดาบส่วนตัวของน้องเขา ทั้งขนาดทั้งสีสันไม่ธรรมดาเลย”

“ไปเว้ย น้องมอม ห้าโมงแล้ว ไปเปิดห้องซ้อมกันเลย”

พี่บอสเข้ามาลากคอผมเหมือนจะไปให้ได้เดี๋ยวนั้นจนผมเก็บของแทบไม่ทัน จะว่าไปผมก็รู้สึกดีนะที่พี่เขาให้ความสนิทสนม พี่บอสมีโอกาสจะเป็นอะไรหลายๆ อย่างสำหรับผมได้ เป็นไอดอล เป็นพี่ชาย เป็นนิ้วกลาง หรืออาจจะเป็นได้แม้แต่นิ้วนาง

..............................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2016 21:56:44 โดย barataku »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ตอนที่ผมพาพี่บอสเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของชมรมต่างๆ ผมแนะนำว่าพี่บอสเรียนที่มหาลัยนี่แหละ มาช่วยงานและเป็นที่ปรึกษาด้านกิจกรรมต่างๆ ให้ผม น้องๆ ก็ซุบซิบคุยกันจนผมจับใจความได้ว่า น้องๆ เข้าใจว่าพี่บอสเป็นเพื่อนผม คงเพราะหน้าตาพี่เขาดูเด็ก ทั้งที่ถ้านับตามรุ่นจริงๆ พี่บอสน่าจะแก่กว่าผมซักสี่ห้าปีได้ แต่ที่น้องๆ สงสัยคือทำไมไม่เคยเห็นหน้าพี่บอสในมหาลัยเลย ทั้งๆ ที่หล่อสะดุดตาขนาดนี้ ขอโทษเถอะนะ ถึงตอนนี้เห็นแล้ว เดี๋ยวพวกเอ็งก็ลืม บางคนก็เป็นคนที่ผมเคยให้ไปสะกดรอยพี่บอสด้วยซ้ำ ก็ยังจำไม่ได้

แล้วก็ตามคาดละครับ พอน้องเห็นว่าพี่บอสเป็นเพื่อนผม เป็นคนที่ผมไว้ใจ พวกมันก็ทำตัวกันตามสบายเหมือนเดิม จะใส่จะถอด ล้วงแคะแกะเกา ก็ทำกันเต็มที่ ไอเด็กพวกนี้ไม่รู้เป็นอะไร ชอบเข้ามาคุยกับผมทั้งเปลือยๆ กับพี่บอส พวกมันก็ไม่อาย อาบน้ำเสร็จ

บางชมรมที่ผมสนิทด้วยหน่อย ขนาดผมไม่ได้ซ้อมกีฬาอะไรด้วยซักนิด พวกมันยังมาชวนผมไปอาบน้ำหมู่ด้วยกันเลย กับเด็กพวกนี้ผมไม่ค่อยอายหรอกครับ เพราะทุกชมรมผมก็เคยไปโชว์มาหมดแล้ว มากบ้างน้อยบ้าง แต่ผมเขินพี่บอสที่ตามมาดูอย่างสนใจนี่สิ เคยไหมครับที่ถ้าเป็นคนที่เราปลื้ม เราจะอยากให้เขาเห็นแต่แง่มุมดีๆ ของเรา แล้วถ้าผมไปแก้ผ้าอาบน้ำกับไอพวกลิงนั่น พี่บอสจะยังมองผมเป็นคนเท่ๆ อยู่หรือเปล่า แต่คิดอีกที ผมเคยโชว์อะไรที่น่าอายกว่านั้นให้พี่บอสเห็นจะๆ ตามาแล้วนี่น่า ถึงจะถูกสะกดจิตก็เถอะ งั้นผมคงไม่ต้องอายอะไรแล้วใช่ไหม

ถึงไอจั๊มพ์เพื่อนผมจะวางมือจากการเป็นกัปตันชมรมไปแล้ว แต่ชมรมบาสก็ยังเป็นชมรมที่ผมสนิทด้วยที่สุด อาจเพราะเป็นชมรมแรกที่ผมมาโชว์ หรือเพราะกัปตันคนปัจจุบันก็คือไอฟีฟ่าน้องรักนิ้วโป้งของผมนี่เอง ชมรมนี้เลยเป็นชมรมแรกที่ผมไปอาบน้ำร่วมกับเด็กๆ ให้พี่บอสดู แต่ผมไม่ได้แก้ผ้าหมดหรอกครับ ของแบบนั้นเก็บไว้เป็นแรงจูงใจสำหรับโอกาสพิเศษจริงๆ อย่างได้แชมป์รายการใหญ่ๆ ผมนุ่งบ๊อกเซอร์สีขาวตัวเดียว ส่วนไอพวกเด็กๆ นะเหรอ พอผมรับคำ ก็ถอดผ้าถอดผ่อนวิ่งโทงๆ ไปรอที่ฝักบัวรวมแล้ว นำโดยไอฟีฟ่านี่เลย

ผมลอบมองพี่บอสซึ่งก็เห็นมองไปที่พวกเด็กๆ อย่างไม่วางตา ผมกะแล้วว่าถึงพี่บอสจะผ่านเรื่องหื่นๆ มาเยอะจากงานขององค์กร แต่พื้นฐานแกเป็นคนจิตใจดี ย่อมน่าจะชอบคนที่เป็นคนดีด้วย พวกนักโทษขององค์กร ถึงจะหล่อเหลาแซ่บเวอร์ขนาดไหน แต่ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นคนเลวหรือไม่ใช่คนจิตใจดีเท่าไหร่ พอมาเจอเด็กนักกีฬามหาลัยที่สดใสสมวัย ศึกษาดี พื้นฐานครอบครัวก็อบอุ่น น่าจะทำให้พี่บอสชื่นชมได้ไม่ยาก เหมือนที่ผมรักเด็กๆ พวกนี้เหมือนน้องเหมือนนุ่งมาแล้ว นี่ยังไม่พูดถึงว่ารูปร่างหน้าตาของเด็กๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ธรรมดา ผมกวาดตามองเรือนร่างเปล่าเปลือยของน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวอาบน้ำกันอยู่แล้วก็ต้องชมในใจ พวกเด็กปีหนึ่งสมาชิกใหม่ที่ก่อนหน้านี้ ยังตัวแห้งๆ บางๆ อยู่เลย ตอนนี้มีกล้ามเนื้อขึ้นมาเห็นได้ชัด สมกับที่ฝึกซ้อมอย่างตั้งใจมาโดยตลอด ไม่ต้องพูดถึงพี่ปีสูงๆ ที่ตอนนี้หุ่นดียิ่งกว่านายแบบ เป็นกล้ามเนื้อแบบนักกีฬาจริงๆ ไม่ใช่แบบเน้นปั๊มกล้ามเป็นส่วนๆ

พวกนักบาสนี่หุ่นจะมีกล้ามอกกล้ามแขนจะเยอะหน่อย กล้ามส่วนอื่นๆ ก็จะมีแบบสมส่วน ความสูงเฉลี่ยที่มากกว่านักกีฬาประเภทอื่นทำให้พวกนักบาสดูเท่สาวกรี๊ดได้จริงๆ ส่วนขนาดท่อนลำนี่ผมไม่รู้ว่ามันสัมพันธ์กับส่วนสูงหรือเปล่า แต่จากที่ตระเวณดูมาทุกชมรมแล้วบอกได้คำเดียวว่าอลังการ

“พี่เม เข้ามาอาบน้ำได้แล้ว ยืนเหม่ออะไรอยู่ได้ มาๆ มาเล่นน้ำกัน” ไอฟีฟ่าส่งเสียงเรียกครับ เห็นมันเปลือยๆ เทียบกับคนอื่นแบบนี้แล้วก็ดูเป็นหนุ่มหล่อมีเซ็กส์แอพพีลอยู่มากเหมือนกัน ปกติมันชอบไปแก้ผ้าเล่นที่คอนโดผมก็ไม่ได้นึกอะไรเท่าไหร่

อาบๆ ไป พวกน้องๆ ก็เริ่มมานัวเนียผมมากขึ้น บางคนมาช่วยถูหลังให้ บางคนก็มานวดบ่าให้ อีกส่วนมาอ้อนขอให้ผมถูสบู่ให้ มาถามว่าหุ่นดีหรือยังควรปรับปรุงส่วนไหน โอ๊ย จะเป็นลม เด็กๆ ใสๆ ทั้งนั้น ท่อนลำของหลายคนก็เริ่มคึกคักกึ่งแข็งตัวขึ้นมา ยิ่งนัวเนียของก็ยิ่งขึ้น ผมว่ามันเริ่มจะเยอะไปเดี๋ยวกลายเป็นหนังเกย์ขึ้นมาพี่บอสจะคิดยังไง

“เฮ้ย วันนี้น้องๆ เป็นอะไรวะ มานัวมาอ้อนกันจัง”

ผมคว้าคอไอฟีฟ่าเข้ามากระซิบถาม โดยต้องระวังไม่ให้ท่อนลำอันเขื่องแข็งโป๊กของมันมาเบียดเข้ากับเป้าผม

“มันคิดถึงพี่กัน พี่ไม่ได้มาจอยกับพวกมันแบบนี้นานแล้ว แล้วก็วันนี้พี่มีแขกมาด้วย มันเลยอยากอวดกันให้เพื่อนพี่เห็นว่าพวกมันสนิทกับคนดังอย่างพี่มาก เด็กๆ มันก็ขี้อวดอย่างนี้แหละ มันคงไม่ทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้หรอก”

อ๋อ อย่างนี้นี่เอง แต่พอฟีฟ่าพูดยังไม่ทันขาดคำ น้องปีสองตัวสูงใหญ่ที่ฝีมือดีจนได้เป็นเซนเตอร์ก็เริ่มสาวท่อนลำสีเข้มของตัวเองอย่างจริงจัง นอกจากขนาดจะใหญ่น่าเกรงขามแล้วความยาวยังเกินมาตรฐานไปมากโข เสียงน้ำเฉอะแฉะดังตามจังหวะของหัวบานใหญ่สีชมพูคล้ำผลุบโผล่อยู่ในอุ้งมือหนา น้องหน้าตาหล่อเข้มแบบไทยๆ คิ้วหนา ริมฝีปากหยักสวยอ้าออกเพื่อส่งเสียงครางเบาๆ น้องหันมาสบตากับผมเมื่อเห็นว่าผมจ้องมองการแสดงสดของตัวเองอยู่

“อ่าส์ พี่เม ผมไม่ไหวแล้ว ไม่ได้ว่าวมาตั้งหลายวัน โทษทีนะครับ อ่าส์ เสียวชิป พี่เมมองมา”

“เฮ้ยกูชักมั่ง”

“ได้ไงวะ กูจะโชว์พี่เมด้วยเหมือนกัน”

การอาบน้ำหลังซ้อมกำลังจะกลายเป็นมหกรรมชักว่าวหมู่ไปแล้ว ผมทำอะไรไม่ถูก หรือจะสั่งให้พวกมันหยุด ผมเชื่อว่าถึงอยู่ในอารมณ์เงี่ยน แต่เด็กๆ พวกนี้คงยังฟังที่ผมบอกอยู่ ก่อนที่จะเอ่ยปากห้ามออกไป ผมก็นึกถึงความเป็นไปได้อีกอย่างนึง ทำไมอยู่ๆ เด็กๆ พวกนี้ถึงเงี่ยนขึ้นมาได้ หรือว่าจริงๆ จะเป็นการสะกดจิตของพี่บอส ผมหันไปมองหน้าพี่บอสที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ไม่ห่าง พี่บอสยิ้มให้แต่ดูหน้าแดงๆ อย่างน่ารัก ใช่แน่ๆ พี่บอสคงอยากดูอะไรที่มันถึงใจขึ้น ถ้าผมไปสั่งห้ามตอนนี้พี่บอสจะโกรธเอาได้ เดี๋ยวพอจบเรื่องพี่บอสคงลบความทรงจำพวกนี้เอง ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่มีอะไรต้องกังวล สนุกไปกับพวกน้องๆ ดีกว่า

“เอ้า เต็มที่เลยครับ ใครไม่แข็งเดี๋ยวพี่ช่วยชักให้”

ผมตะโกนอย่างคะนองปาก แต่น้องฟังแล้วกลับคิดเป็นจริงเป็นจังแ กรูกันเข้ามาทั้งที่แข็งและไม่แข็งเต็มไปหมดจนไอฟีฟ่าต้องสั่งเสียงกร้าว

“เข้าแถวสิวะ พวกมึงจะรุมโทรมพี่เมหรือไง กูเป็นกัปตันกูเป็นหัวแถวให้ มาเข้าแถวต่อกูกัน”

เสียงโวยวายดังขึ้นแต่ฟีฟ่าไม่สนใจ มันแอ่นน้องชายใหญ่ยาวอย่างภูมิใจมาที่มือผม

“รบกวนพี่เมด้วยนะครับ”

ทำเสียงเล็กเสียงน้อยออดอ้อนจนน่าหมั่นไส้

ผมมองแถวที่ต่อกันยาวเป็นสิบกว่าคนแล้วก็ถอนใจ พลั้งปากไปแล้วทำไงได้ อีกอย่างพี่บอสดูอยู่ผมไม่อยากเป็นคนที่เสียคำพูดหรือปฏิบัติกับน้องๆ อย่างไม่เป็นธรรม

“เอ้า มา พี่ชักให้คนละสิบครั้งเท่านั้นนะ ที่เหลือไปชักต่อเอง”

จริงผมก็เคยชักของคนอื่นมาแล้ว ก็พวกแทกซี่ที่ถูกพี่บอสโปรแกรมจิตมาไง แต่นั่นผมถือว่าเป็นการทดลอง เอาเถอะ ยังไงพวกนี้ก็เป็นน้องๆ ที่ผมสนิทสนมด้วย อีกอย่างเดี๋ยวมันก็ลืม จริงๆ อยากชวนพี่บอสมาจอยกัน แต่พอนึกไปถึงใครอีกคน ผมว่าผมศพไม่สวยแน่ถ้าเอาพี่บอสเข้ามาเกี่ยว

พอลงมือทำจริงๆ ผมก็มันมือไม่น้อย คิดดูนะครับ ดุ้นใหญ่ๆ อุ่นๆ อัดแน่นไปด้วยความเป็นหนุ่มนักกีฬาสุชภาพดี เต็มไม้เต็มมือที่สุด จากที่เคยกะๆ ด้วยสายตา คราวนี้ผมรู้เลยด้วยมือตัวเองว่าใครอวบใหญ่กว่าใคร กว่าจะเสร็จทั้งแถวก็เล่นเอาผมเลือดสูบฉีดตามไปด้วย จนชักให้น้องคนสุดท้ายเสร็จผมก็รู้สึกเสียดายขึ้นมาหน่อยๆ ไอ้ความรู้สึกที่มีเอ็นใหญ่ๆ อุ่นๆ เต้นตุบๆ อยู่ในกำมือนี่มันจั๊กกะจี้หัวใจอยู่ไม่น้อย ไหนจะใบหน้าหล่อที่มาทำท่าเสียวซ่านเหยเกอยู่ตรงหน้าอีกละ มีบางคนถึงกับแตกในมือผมจนโดนเพื่อนๆ ล้อว่านกกระจอกไม่ทันกินน้ำ จนเกิดการไล่เตะกันขึ้น

ในที่สุดน้องๆ ก็ทยอยแตกกันจนครบมหกรรมชักว่าวหมู่ กลุ่มสุดท้ายนี่มีการแข่งระยะทางกันด้วยตามประสานักกีฬา น้องเซ็นเตอร์หน้าเข้มที่เป็นผู้จุดชนวนเรื่องทั้งหมดเป็นผู้ชนะไป คนตัวสูงใหญ่นี่ได้เปรียบตลอดไม่ว่าจะระยะช่วงแขนในการเล่นบาสหรือระยะฐานปล่อยจรวดที่ล้ำหน้ากว่าคนอื่นๆ พอน้ำแตกจนหายเงี่ยนแล้วก็ทำท่าเหนียมอายกันใหญ่ ผมก็รีบล้างตัวแล้วแต่งตัวจนเรียบร้อยเพื่อจะชวนพี่บอสกลับ น้องๆ กรูกันมาส่งที่นอกประตูทั้งๆ ที่ยังไม่ได้นุ่งผ้าจนผมต้องไล่กลับไป

“เป็นไงบ้างครับพี่บอส ชมรมบาสนี่ก็ไม่เลวใช่ไหมครับ ผมนี่สนิทกับชมรมนี้ที่สุด”

“เป็นอะไรที่เด็ดมากๆ ทั้งจำนวน ขนาด และคุณภาพ ยังกะยกฉากในหนังเกย์มาเลย เด็ในทีมก็ดูนิสัยดี น่ารักมาก หรือพี่จะเลิกทำองค์กร มาช่วยงานของมอมดี”

พี่บอสเอ่ยปากชมน้องๆ ขนาดนี้ ผมก็พลอยได้หน้าไปด้วย

“โอ๊ย พี่ก็ว่าไป งานของพี่มันสำคัญขนาดนั้นจะเลิกได้ยังไง เอ่อ ว่าแต่พี่ลบความทรงจำของน้องๆ เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”

อันนี้เรื่องสำคัญครับ ผมกลัวว่าพี่บอสจะลืมเหมือนกัน ไม่งั้นเจอน้องๆ คราวหน้า ผมมองหน้าไม่ติดแน่

“เรียบร้อย พี่ทำจนเป็นนิสัยอัตโนมัติอยู่แล้ว น้องๆ เขาจำหน้าพี่ไม่ได้หรอก เขาจะจำได้แค่มีเพื่อนของน้องมอมเข้ามาดูเขาอาบน้ำชักว่าวด้วย แต่จะนึกไม่ออกว่าเป็นใคร หน้าตาเป็นยังไง จนกว่าจะเจอกันครั้งหน้าแล้วพี่ปลดล็อคจิตให้”

เอ๋ หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป

“แล้วพี่ไม่ต้องลบเรื่องที่พี่สั่งจิตให้พวกมันเกิดอารมณ์จนอยากชักว่าวเหรอครับ”

พี่บอสขมวดคิ้ว

“ฝีมือพี่ที่ไหนเล่า พี่ไม่เที่ยวลบความทรงจำของใครซี้ซั้วหรอกนะ น้องๆ เขาเงี่ยนเอง แต่จะว่าเค้าก็ไม่ถูกนะ ก็เราน่ะใส่แค่บอกเซอร์ผ้าบางๆ สีขาวตัวเดียวไปอาบน้ำด้วย พอเปียกก็เหมือนไม่ได้ใส่แหละ เบียดไปเบียดมา ไม่ยั่วก็เหมือนยั่ว น้องๆ จะเกิดอารมณ์ก็ไม่แปลก ใครใช้ให้เราหล่อน่ารักผิวดีขนาดนี้ล่ะ”

ชิปหายแล้ว ผมรีบต่อโทรศัพท์ไปหาฟีฟ่าทันที

“ฟีฟ่า นายได้บอกคนทีมไหม ว่าเรื่องเมื่อกี๊ให้เก็บเป็นความลับ”

“เปล่าครับพี่ ก็ทุกทีถ้าเรื่องไหนที่ไม่อยากให้คนนอกชมรมรู้ พี่เมก็กำชับไว้ก่อนทุกที”

“งั้นนายรีบไปบอกทุกคนเลยนะว่า พี่ขอให้เก็บเป็นความลับระหว่างเรา”

“ไม่ทันแล้วพี่ บางคนก็กลับไปแล้ว ที่เหลือผมก็เห็นแช้ตกันกระจาย นี่ผมยังไลน์ไปอวดชมรมรักบี้อยู่เลยว่าชมรมบาสได้สิทธิพิเศษเหนือชมรมอื่นอีกแล้ว”

ไอฟีฟ่า ไอปากมอม เอ่อ ไม่ดีๆ นั่นชื่อตูเอง ไอปากน้องหมา แล้วอย่างนี้ผมไม่แคล้วคงต้องถูกชมรมอื่นขอให้ทำอะไรแบบเดียวกับจนปฏิเสธไม่ไหวแน่

จากเหตุการณ์วันนั้นก็ถือว่าพี่บอสทำให้ผมต้องเปลืองตัวไปอีกนาน ถึงพี่เขาจะไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยก็ตาม เอาเถอะ ยังไงซะ การที่ผมพาพี่บอสไปทัวร์ตามชมรมต่างๆ ก็เกิดผลดีไม่น้อย ทั้งทำให้ผมสนิทกับพี่บอสได้ตามที่ตั้งใจ คนอะไร ทั้งความคิดความอ่าน ทั้งรูปร่างหน้าตา ล้วนแต่มีเสน่ห์ชวนหลงใหล ตอนนี้พี่บอสกลายเป็นเหมือนโค้ชที่ปรึกษาของชมรมกีฬามหาลัยผมไปแล้วครับ ให้คำปรึกษาด้านไหนนะเหรอ ก็พวกปัญหาชีวิตอะไรเทือกๆ นั้น ใครที่มีปัญหาจนขาดสมาธิในการซ้อมหรือการแข่ง พี่บอสจะเข้าไปคุยด้วย แป๊ปเดียวเท่านั้นก็กลับมาตั้งใจซ้อมเหมือนเดิม แล้วปัญหาชีวิตของเด็กวัยรุ่นจะไปมีอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องแฟน เคสที่พี่บอสเข้าไปช่วยเป็นครั้งแรกนี่มันช่างน่าทึ่ง

เด็กคณะเกษตรปีสามนักกีฬาเทควนโด ความหวังของมหาลัยที่จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปลงแข่งกีฬามหาลัยโลกที่ประเทศไต้หวัน ดันมาถูกแฟนที่คบกันมาตั้งแต่มอปลายขอเลิกแค่สองอาทิตย์ก่อนหน้าที่จะลงแข่งคัดตัวรอบสุดท้าย อย่าว่าแต่จะไปซ้อมหรือลงแข่งเลย แค่กินข้าวยังไม่มีปัญญา

พี่บอสรู้เรื่องนี้เข้าตอนผมพาไปทัวร์ที่ชมรมเทควนโดเป็นครั้งที่สอง พี่บอสสลัดความหื่นทิ้งไปทันทีแล้วเข้าไปคุยกับน้องคนที่ถูกแฟนทิ้งแค่ครู่เดียว คนที่ซึมกระทือเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง ก็กลับมาซ้อมอย่างปกติจนกัปตันและเพื่อนในชมรมงงไปตามๆ กัน

“มึงไม่เศร้าแล้วเหรอ”

“ก็เศร้าอยู่ แต่ได้มาเล่นเทควนโด้แล้วรู้สึกดีขึ้น”

เพื่อนๆ ก็ไม่ได้ติดใจอะไร ต่างก็ยินดีที่เพื่อนตัวเองกลับมาฮึดสู้เพื่อเป็นความหวังของประเทศได้อีก มีแต่ผมที่รู้ว่ามันไม่มีคำปรึกษาอะไรที่จะทำให้คนดีขึ้นมาได้อย่างทันตาเห็นขนาดนั้นหรอก

“พี่บอส พี่ทำอะไรเขาอ่ะ สะกดจิตให้ลืมเรื่องที่ถูกทิ้งเหรอ”

ผมถามทันทีที่ดึงพี่บอสปลีกตัวออกมาได้

“เปล่า พี่แค่สะกดจิตให้เขาลืมความรู้สึกรักที่มีต่อแฟนเก่า แต่ก็เฉพาะเวลาที่เขาคิดถึงเทควันโด้เท่านั้นนะ จะซ้อมจะแข่งหรือแค่วางแผนก็ใช้ได้หมด แต่เวลาอื่นเขาจะกลับไปเหมือนเดิมจนกว่าอาการอกหักจะหายไปเอง”

“โห พี่ทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ งั้นทำไมพี่ไม่สั่งให้น้องเขาลืมไปให้หมดเลยล่ะ สงสารน้องมัน”

“ไม่ดีหรอก การอกหัก เจ็บปวด หรือผิดหวัง เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่สำคัญของคนเรา การทำใจและเรียนรู้ที่จะเริ่มต้นใหม่มันต้องทำด้วยตัวเอง น้องเขาจะโตขึ้นเป็นคนที่เข้าใจตัวเองและผู้อื่นได้ดีแค่ไหน ประสบการณ์เหล่านี้แหละที่จะหล่อหลอมขึ้นมา อีกอย่างหนึ่ง ถึงพี่จะทำให้ลืมได้ แต่มันก็แค่จิตสำนึกในระดับที่เรารู้ตัวปกติ แต่ลึกๆ ลงไปความเศร้ามันก็ยังอยู่ เหมือนเราเป็นแผลมีหนอง วิธีการรักษาคือต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อแล้วดูแลให้แผลค่อยๆ ตื้นขึ้นทีละน้อย ถ้าไปเย็บปิดแผลเลย หนองที่อยู่ข้างในก็จะกลายเป็นฝีที่คอยจะสร้างความเจ็บปวดและรอวันที่จะปะทุมาเมื่อไหร่ไม่รู้ นั่นมันจะยิ่งทำให้เกิดเป็นแผลเรื้อรังที่ยากจะรักษาได้ วิธีที่ดีที่สุดคือต้องให้เจ้าตัวทำใจให้ได้เอง เพื่อนหรือคนรอบตัวทำได้แค่คอยดูแลให้กำลังใจ”

“พี่บอสเจ๋งสุดๆ ไปเลย ไม่นึกว่าการสะกดจิตของพี่มันจะลึกซึ้งอย่างนี้”

ประทับใจจังครับ พี่บอสของผม

“เดิมทีการสะกดจิตที่คุณพ่อพี่พัฒนาขึ้น มันก็เพื่อการรักษาคนไข้ในด้านต่างๆ อยู่แล้ว พี่จะเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษก็ไม่แปลกหรอก”

แต่ก่อนผมเคยคิดว่าพี่โป๊ปดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดความอ่านมากกว่าพี่บอส แต่พอฟังอย่างนี้พี่บอสก็มีความเป็นผู้ใหญ่ไม่แพ้กันเลย ปลื้มสุดๆ คิดถูกแล้วที่เลือกอยู่ทีมพี่บอส

ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีนะครับ เอาเรื่องเล็กๆ ก่อน ตอนนี้ทุกชมรมก็ผ่านการเยี่ยมเยียนของพี่บอสหมดแล้ว และนี่ก็เป็นที่มาของข่าวลือแปลกๆ แหม ก็ทุกคนจำได้แต่ว่าผมมีเพื่อนหน้าตาดีๆ ตามไปทักทายพวกเขาถึงในห้องแต่งตัวกัน แต่พอคุยกันไปกันมาก็ไม่มีใครจำหน้ากันได้ซักคน มันแปลกไหมล่ะครับ เลยลือกันว่าผมมีองค์ หรือไม่ก็เป็นวิญญาณอารักษ์ หรือเทพพิทักษ์ไปโน่น ดีนะว่าพี่บอสหน้าตาดีไม่งั้นคงลือกันไปว่าผมมีวิญญาญพยาบาทตามวนเวียนอยู่ บรื่ย

เรื่องที่ไม่เชิงเป็นข้อดีอีกอันก็คือตัวพี่บอสเอง เห็นเวลาปกตินี่ก็แสนจะเป็นคนดี แต่อย่าให้อะไรไปกระตุ้นด้านมืดของพี่เขาขึ้นมานะ โคตรน่ากลัว แล้วคนที่น่ากลัวมาบวกกับพลังขนาดนี้ ผมเข้าใจแล้วว่าพวกนักโทษขององค์กรจะรู้สึกอย่างไร ที่บอกว่าน่ากลัวมันก็ไม่เชิงว่าเหมือนกับพี่โป๊ปหรอกครับ แต่มันดาร์คๆ ยังไงชอบกล

...............................................................

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
!!!Warning!!! เนื้อหาใน Reply นี้อาจจะแรงนิดหน่อย ไม่แน่ใจก็อ่านข้ามไป Reply ถัดไปได้เลย ไม่มีผลต่อเนื้อเรื่องโดยรวม แค่ทำให้เข้าใจด้านมืดของพีเบอร์ศูนย์นิดหน่อย พอดีมีเพื่อนใน fb เขาอยากให้ลองแต่งแนวนี้ดูอ่ะครับ

...............................................................

ผมประสบเข้ากับมุมนี้ของพี่บอสครั้งแรกก็ตอนชวนพี่บอสไปเชียร์ชมรมฟุตบอลแข่งรอบตัดเชือกกับทีมมหาลัยเอกชนชื่อดังคู่ปรับเก่า หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่หนึ่งหนึ่งแต่ทางฝั่งผมครองบอลและมีโอกาสทำประตูได้มากกว่า พอเริ่มครึ่งหลังได้แค่สิบนาที ศูนย์หน้าตัวยิงของมหาลัยผมที่โดนกองหลังฝ่ายตรงข้ามประกบอยู่ ก็ลงไปนอนหน้าเขียวอยู่กลางสนาม ตอนเกิดเหตุมันชุลมุนจนไม่มีใครเหตุการณ์ชัดๆ แต่ผู้เล่นของอีกฝ่ายก็ออกมาทำท่าว่าเป็นอุบัติเหตุแล้วยกมือขอโทษ กรรมการให้ใบเหลือง แต่ตัวยิงของเรายังนอนจุกอยู่ โค้ชเลยต้องเปลี่ยนตัวสำรองลงไปเล่นแทน เกมส์ที่กำลังได้เปรียบก็กลับไปเสีบเปรียบนิดๆ ดีว่าโกลฝั่งเราเหนียวสกอร์จึงไปจบที่เสมอหนึ่งหนึ่งจนต้องไปต่อกันที่ลูกโทษ ซึ่งนายประตูมือกาวของมหาลับผมก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เซฟลูกได้มากกว่าเลยได้เข้ารอบไป แต่กระนั้นกองเชียร์ก็บ่นกันอุบว่าถ้าศูนย์หน้าไม่เจ็บ ป่านนี้คงชนะสามหนึ่งเป็นอย่างน้อย

ผมพาพี่บอสไปเยี่ยมน้องๆ นักฟุตบอลในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า โค้ชแกมีธุระเลยกลับไปก่อนแล้ว ตอนนี้กัปตันชมรมฟุตบอลก็เปลี่ยนจากปีสี่ที่เกลียดเกย์เข้าไส้มาเป็นเด็กปีสามที่อัธยาศัยดี ทำให้คนในทีมที่เป็นเกย์แสดงออกมากขึ้น หรือแม้แต่เพื่อนในทีมที่เป็นเกย์หรือเปล่าไม่รู้แต่กินกันเองก็ไม่อึดอัดใจเหมือนแต่ก่อน ถึงจะทำให้ในชมรมเกิดบรรยากาศอมม่วงมากกว่าแต่ก่อนแต่เพื่อนที่เป็นผู้ชายแท้ๆ ก็ไม่ได้มีใครรังเกียจ ซึ่งก็เป็นทัศนคติที่ดีเพราะเดี๋ยวนี้นักฟุตบอลเก่งๆ ก็มีที่เป็นเกย์เยอะขึ้น*

ศูนย์หน้าที่ค่อยยังชั่วจากอาการจุกแล้วก็เล่าให้เพื่อนที่เพิ่งแข่งเสร็จฟัง

“แม่ม ไอเบอร์สิบเอ็ดนั่นมันประกบกูอยู่ดีๆ พอได้มุมลับตากรรมการมันก็เอามือมาโดนเป้ากูเฉยเลย แต่ดีว่าของกูแกร่งพอเลยยังครองบอลได้ กูนึกว่ามันอาจจะไม่ได้ตั้งใจ อยู่ๆ มันก็สไลด๋ตัวล้มลงแล้วเข่าหรือศอกมันไม่รู้กระแทกไข่ก็เต็มๆ เชี่ยกูทั้งเจ็บทั้งจุกที่สุดในชีวิต น้ำตาเล็ดนึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วเลย ลงไปนอนแผ่ จุกจนพูดไม่ออก จะฟ้องกรรมการก็ไม่ได้ จนโดนหามเข้ามาในนี้ พักตั้งนานกว่าจะค่อยยังชั่ว ตอนนี้ก็ยังร้าวๆ อยู่เลย ต้องเอาน้ำแข็งประคบ”

“ไหน เป็นไงบ้าง เจ็บมากเปล่า”

ผมเอ่ยทัก สงสารมันเหมือนกัน อุตส่าห์ฝึกซ้อมมาอย่างดี แต่ไม่ได้แสดงฝีเท้าเต็มที่

“อ๊ะพี่เม พี่บอสด้วย”

น้องพวกนี้จะจำพี่บอสได้เฉพาะเวลาที่เจอหน้าเพราะพี่บอสจะปลดล็อคจิตให้

“เจ็บจังเลยครับ พี่ดูสิ เขียวขึ้นเป็นแนวเลย”

ไม่พูดเปล่า แต่คนเจ็บกลับถอดกางเกงบอลออกอย่างกระท่อนกระแท่นแล้วโกยท่อนลำให้พาดขึ้นเพื่อโชว์ไข่ขาวจั๊วแต่เหี่ยวเล็กน้อยให้ผมกับพี่บอสเห็นรอยกระแทกที่บริเวณขาอ่อนเฉียดไข่ลูกเขื่องด้านซ้ายไปนิดเดียว

พี่บอสดูแล้วไม่พูดอะไร สั่งให้ใส่กางเกงให้เรียบร้อยแล้วจูงมือผมกับน้องคนเจ็บออกไปข้างนอกท่ามกลางสายตาที่ไม่เข้าใจของคนในห้อง

ทีแรกผมนึกว่าพี่บอสจะพาน้องไปโรงพยาบาล แต่จุดหมายของพี่บอสก็คือห้องพักนักกีฬาของทีมตรงข้าม พอเดินตามกันไปข้างในคนของอีกทีมก็หันมามองอย่างสงสัยแต่พอสบตาพี่บอสก็ไม่มีใครพูดอะไร

ไอนักบอลเบอร์สิบเอ็ดของฝั่งตรงข้าม นั่งคุยฟุ้งอยู่กับเพื่อนๆ ซึ่งไม่มีใครสังเกตเห็นการมาของพวกเราอย่างน่าแปลกใจ

“เห็นไหม ถ้ากูไม่ตัดสินใจเอาไอศูนย์หน้านั่นออก ป่านนี้พวกเราพรุนไปแล้ว แพ้ลูกโทษแบบนี้ก็ยังไม่น่าเกลียด ทีแรกตอนประกบมัน กูแค่หมั่นไส้เฉยๆ พลิ้วดีนัก กูจกไข่แม่งเลย เป้าใหญ่ชิบหาย บอลมันก็ยังไม่หลุดมาอีก คราวนี้กูเลยแกล้งล้มใส่ แล้วให้ศอกกูไปโดนเต็มๆ ไข่มัน ไม่ตายก็คงเลี้ยงไม่โต กูละแช่งให้มันเป็นหมัน ฮ่าๆ”

ไม่มีใครหัวเราะร่วมด้วย แต่ละคนทำท่าเอือมระอากับเพื่อนร่วมทีมอันธพาลคนนี้แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร น้องคนเจ็บได้ยินเรื่องทั้งหมดก็ปรี่เข้าไปเหมือนจะไปซัดอีกฝ่ายอย่างเหลืออด แต่พี่บอสดึงไว้แล้วพูดขึ้นมาว่า

“การแก้แค้น มันต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน”

ไอเบอร์สิบเอ็ดหันมาตามเสียงพูด คนในห้องเหมือนจะได้สติชี้มือมาทางที่พวกผมยืนเหมือนจะสับสนว่าเข้ามาได้ยังไง พี่บอสดีดนิ้วขึ้นแค่หนึ่งครั้ง สถานการณ์ที่เหมือนจะสับสนวุ่นวายก็สงบลง

“ทุกคนยืนอยู่กับที่ อยากทำอะไรก็ทำไปแต่ห้ามก้าวออกจากที่ตัวเองอยู่ เบอร์สิบเอ็ด ถอดกางเกงออกซะ แล้วมายืนถ่างขาตรงนี้”

ทุกคนทำตามที่สั่งอย่างน่าทึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพลังของพี่บอสอย่างใกล้ชิด ไม่นับครั้งที่โดนด้วยตัวเองแต่จำไม่ได้นะ เบอร์สิบเอ็ดถอดกางเกงบอลและกางเกงในออกจนหมดเผยให้เห็นช่วงล่างที่มีไรขนทั้งดกทั้งหยิกปกคลุมไปทั่วตั้งแต่สะดือไปจนถึงหน้าแข้ง เป็นคนที่ขนดกไม่ใช่เล่น ดีว่าผิวขาวเลยไม่ดูเถื่อนมากนัก

ท่อนลำที่ยังเหี่ยวอยู่ห้อยตัวลงมาจากพงขนหยิกหยอยที่รกทึบเหมือนผลไม้รูปร่างแปลกตา ยิ่งมายืนถ่างขาตามคำสั่งของพี่บอสยิ่งทำให้พวงไข่ทั้งสองใบห้อยยานโทงเทงอยู่ในถุงอัณทะที่หย่อนคล้อยลงมากว่าคนปกติ ไข่แฝดดูเหมือนเงาะผลใหญ่ที่มีขนสีดำ

น้องศูนย์หน้าทีมผมทำหน้าตื่นๆ เหมือนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง คงกำลังหวั่นใจอยู่ว่าฝ่ายตรงข้ามทั้งทีมจะเข้ามารุมสกรัมตัวเองเมื่อไหร่ แต่ทางฝั่งโน้นก็ไม่มีใครขยับซักแอะ ถึงแม้จะมีกระสับกระส่ายอยู่บ้าง

“เอ้า ไอน้อง แก้แค้นเลยสิ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน แตะผ่าหมากมันคืนเลย มันตั้งท่ารอให้เราเอาคืนแล้ว”

น้องศูนย์หน้าทำท่าเหมือนจะวิ่งหนีกลับไปหาเพื่อน ดีที่ผมยึดแขนไว้ก่อน ผมส่งสัญญาณทางสายตาให้น้องเขาทำตามที่พี่บอสบอก ใครจะไปกล้าขัดใจพี่บอสในอารมณ์นี้ล่ะ โคตรน่ากลัว

น้องมันทำท่าอิดออดแล้วก็หันไปต่อรองกับพี่บอส ช่างกล้ามาก อยากรู้ถ้าน้องมันรู้อะไรเหมือนที่ผมรู้ มันจะกล้าอย่างนี้ไหม

“พี่บอสครับ ผมไม่กล้าเตะไข่มันหรอก ผมนักฟุตบอลนะพี่ ของแบบนี้ผมกะแรงไม่ถูกหรอก ถ้าแรงไปไข่แตกตายขึ้นมา หรือเป็นหมันไร้คนสืบตระกูลไปทั้งชีวิต ผมรับผิดชอบไม่ไหวหรอกครับ”

พูดได้ดีมาก สมกับเป็นเด็กในสังกัดผม ผมได้แต่เชียร์อยู่ในใจ ไม่กล้าออกหน้า จะว่าปอดแหกก็ได้ แต่ตูกลัวพี่บอสในโหมดนี้จัง

พี่บอสดูจะเอ็นดูในความคิดของน้องมันเหมือนกัน เลยหันมายิ้มให้นิดนึง ความตึงเครียดในห้องเลยลดลงไปสี่ส่วน

“เอางั้นก็ได้ ไอเบอร์สิบเอ็ด นอนลงไปซิ นอนหงายลงไปกับพื้นเลย แหกขากว้างๆ ด้วย มอม เราเอามือถือมาถ่ายคลิปไว้นะ ให้เห็นแต่หน้าของอีกฝั่ง อย่าถ่ายให้ติดฝั่งเรา เอออย่างนั้นแหละ คราวนี้ตาเรามาล้างแค้นแล้ว จับถุงไข่มันขึ้นมาเลยนะ หนังเยอะชิบ บีบให้ไข่มันมาอยู่รวมกันตรงด้านล่าง รีดให้หนังไข่มันตึงๆ นะ”

พี่บอสพากย์ไป น้องนักบอลผมก็ทำตามอย่างมึนๆ ตอนนี้ไข่สองใบถูกรีดตึงจนหนังหุ้มเป็นมันวาวสีชมพูเข้มอยู่ในมือซ้ายของน้องผม เจ้าของพวงไข่ผงกหัวขึ้นมามองชะตากรรมตัวเองด้วยสีหน้าแหยแกน่าสงสาร ตอนนี้มันคงยังไม่เจ็บแค่ตึงๆ แต่ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ผมนี่เสียวท้องน้อยวาบแทนมันจริงๆ

พี่บอสสั่งการต่อ

“เอามืออีกข้าง ดีดมะกอกไปที่ไข่มันเลย กะให้สมน้ำสมเนื้อกับที่เราโดน”

เจ้าของไข่หลับตาปี๋ด้วยความหวาดเสียว น่าแปลกที่มันไม่พยายามจะต่อต้านเลย แต่คนที่มีอาการคือพรรคพวกในทีมที่ทำท่าเหมือนจะขัดคำสั่งพี่บอสโดยการพุ่งเข้ามาช่วยเพื่อน

พี่บอสกวาดสายตามองคนทั้งห้องอีกครั้ง ทุกคนกลับไปอยู่ในความสงบแต่ไม่ปกติ ที่ว่าไม่ปกติเพราะตอนนี้ทุกคนเริ่มลูบคลำล้วงควักน้องชายตัวเองเป็นว่าเล่น บางคนถึงกับเอาออกมาชักข้างนอกโดยไม่อายสายตาคนอื่น แต่ก็นั่นแหละ ตอนนี้ไม่มีใครสนใจใครอยู่ดี

“เร็วเข้า พี่อยากให้เราลงโทษให้เสร็จก่อนพวกนั้นจะแตก เราท่าทางไม่ใช่เกย์หนิ คงไม่อยากรอดูหรอกมั้ง”

น้องศูนย์หน้ารีบส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วก็ก้มหน้าก้มตาหามุมเหมาะๆ เพื่อดีดไข่ของคนทำความผิดที่นอนหลับตาปี๋รอรับบทลงโทษแต่โดยดี น้องผมก็เป็นคนดีนะ อุตส่าห์มีแจ้งเตือน แต่ผมว่ามันทำให้ยิ่งน่ากลัวเข้าไปอีกนะ

“ผมจะดีดไข่คุณแล้วนะ เม็ดทางซ้าย เตรียมรับแรงปะทะในอีก 5.. 4.. 3.. 2.. 1..เพี๊ยะ”

จัดไปเน้นๆ ตรงๆ ไม่แรงแต่ก็ไม่เบา แต่แค่นั้นก็ทำให้ไอหนุ่มดวงซวยถึงกับดิ้นพล่านใบหน้าบูดเบี้ยวจนหมดท่า ใบหน้าขึ้นสีแบบที่ผมก็บอกไม่ถูกว่ามันเขียวอย่างที่เขาว่าๆ กันหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ คือคงจุกจนร้องไม่ออก

“พี่ว่าเบาไปนะ ครั้งต่อไปเอาให้แรงกว่านี้อีก”

น้องผมท่าทางลังเลแต่ก็รับคำ

“คุณครับ เที่ยวนี้เม็ดทางขวา จะแรงกว่าครั้งที่แล้วนะครับ เตรียมตัวรับแรงปะทะในอีก 5.. 4.. 3.. 2.. 1..เพี๊ยะ”

เนื้อๆ เน้นๆ แบบไม่มีอะไรป้องกันเหมือนเดิมครับ คราวนี้ตัวงอ ตาเหลือก ปากจู๋แบบโคตรตลก น้ำลายแตกฟองตรงมุมปาก แต่ผมขำไม่ออกหรอกนะ จะต้องจุกขนาดไหนกันถึงทำหน้าแบบนั้นออกมาได้ น้ำตาลูกผู้ชายซึมออกมาพร้อมกับศักดิ์ศรีของหนุ่มนักฟุตบอลขนดก สักครู่ใหญ่ถึงจะเริ่มส่งเสียงออกมาได้

“พอเถอะครับ ผมไหว้แล้ว ให้กราบก็ได้ ผมผิดไปแล้ว จะไม่ทำอย่างนี้กับใครอีกแล้ว”

ไม่พูดเปล่า แต่ยกมือพนมท่วมหัวไปด้วย พูดขอร้องไปก็สะอื้นไป

“พอเถอะพี่ ผมไม่อยากจับไข่มันแล้ว ขนโคตรเยอะ มันหยึยมือยังไงไม่รู้”

“เอางั้นเหรอ ไม่ลองถอนขนเงาะมันเล่นดูก่อนล่ะ”

น้องผมรีบส่ายหน้า ท่าทางอี๋ขนเงาะที่ว่ามาก

“ก็ได้ งั้นก็พอแค่นี้ คนที่ชักว่าวอยู่ก็เลิกได้ ใครควรจะต้องจำอะไรก็จำไปนะ ใครไม่เกี่ยวข้องก็ลืมๆ มันไป กลับกันซะทีก็ดี ไอน้องคงอยากล้างมือเต็มทน”

แล้วคนในห้องก็กลับไปทำสิ่งที่ตัวเองทำค้างอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีแค่บางคนที่ร้องทักอย่างแปลกใจที่เห็นเพื่อนร่วมทีมตัวเองลงไปนอนแก้ผ้าแหกแข้งแหกขาอยู่บนพื้นสกปรก โชว์อัณทะที่เริ่มแดงบวมอย่างไม่มีแรงจะปกปิด

ผมพาน้องกลับไปส่งที่ห้อง น้องท่าทางงงๆ แต่ก็เหมือนจะไม่ได้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นซะทีเดียว พอร่ำลาคนในชมรมเสร็จ ผมก็ถามพี่บอสอย่างอดใจไม่อยู่เมื่อลอบสังเกตดูจนมั่นใจว่าพี่แกกลับมาอารมณ์ดีแล้ว

“เวลาพี่ทำงานขององค์กร ก็คล้ายๆ อย่างนี้เหรอครับ”

“ก็ประมาณนี้แหละ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ลงโทษเลยนะ ยกเว้นหมั่นไส้จริงๆ”

พี่บอสตอบแบบสบายๆ

“แล้วทำไมตอนนั้น พี่ต้องให้คนในห้องชักว่าวด้วยครับ”

“อำนาจสะกดของพี่ ถ้าเป็นเรื่องทั่วๆ ไป ก็จะมีแค่ประมาณหนึ่ง ทีแรกพี่สะกดให้ทุกคนอยู่เฉยๆ รอดูสิ่งที่เกิด แต่พอเห็นเพื่อนกำลังจะถูกทำร้าย แต่ละคนก็จะอยากจะเข้าไปช่วยเพื่อน ถ้าคนไหนมีความตั้งใจที่แรงกล้าจริงๆ อาจหลุดจากอำนาจพี่ได้ พี่เลยสั่งให้แต่ละคนสนใจกับเครื่องเพศของตัวเอง เพราะถ้าเป็นเรื่องเซ็กซ์ เรื่องลามก หรือเรื่องหื่นๆ พี่จะสั่งได้แทบไม่มีข้อจำกัดเลย

คะโคตรน่ากลัว พี่โป๊ปตกอันดับไปเลยถ้าเทียบกับอำนาจของพี่บอส

.............................................................

ออฟไลน์ barataku

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

 “ไอมอม กล้ามากนะมึง”

พี่โป๊ปตะโกนใส่หูโทรศัพท์ทันทีที่ผมรับสาย มาอย่างงี้ ไม่แคล้วคงรู้เรื่องที่ผมชวนพี่บอสไปทำอะไรๆ ตามพวกชมรมกีฬาแล้ว แต่เสียใจ ผมไม่กลัวหรอก ผมมีพี่บอสเป็นพวกทั้งคน พี่บอสเป็นทั้งผู้นำองค์กร มีทั้งพลังสะกดจิต พี่โป๊ปสู้ไม่ได้แน่นอน

“ว่าไงพี่ ผมก็แค่พาพี่บอสไปเปิดหูเปิดตา จะให้ทำแต่งานองค์กรงกๆ เหรอ น่าสงสาร เพื่อนก็ไม่มี หรือมีก็จำพี่เขาไม่ได้ เป็นอย่างงี้ต่อไป พี่เขาจะไม่มีสังคมเอานะ”

“มันเรื่องของกูกับไอบอส กูเป็นทุกอย่างให้มันได้อยู่แล้ว”

คำพูดแปลกๆ ที่หลุดมานี่ ผมบันทึกลงสมองเป็นข้อมูลไว้เรียบร้อย

“ไม่รู้แหละ ผมทำตามความต้องการของพี่บอส ถ้าพี่จะให้เลิก ก็ต้องไปเคลียร์กับพี่บอสเอาเอง”

“จะเอางั้นใช่ไหม ได้ ตอนนี้มึงทำอะไรอยู่”

ทำท่าขึงขังอยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนเรื่องเฉยเลย นี่แหละที่ผมถึงบอกว่าเดาทางอะไรพี่โป๊ปมันไม่เคยได้

“ผมนั่งทำรายงานอยู่ที่คอนโด ปีนี้ผมจะจบแล้ว แถมงานสมาพันธ์ งานกิจกรรมชมรมต่างๆ ก็เยอะ ผมไม่มีเวลามาโวยวายใส่ใครด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องหรอก”

ผมได้ทีจิกกัดพี่โป๊ปกลับไปบ้าง ผมมีพี่บอสเป็นพวกแล้ว หมดเวลาหงอซะที ระดับผู้บัญชาการมาพันธ์ ระดับผู้นำความคิดนักศึกษาอย่างผม ไม่ควรต้องเป็นเบี้ยล่างใคร

“ถึงยุ่งแค่ไหน ก็น่าจะเจียดเวลามาทำงานที่กูสั่งไว้ด้วยสิ ช้ามากนะไอมอม ไม่เอาแล้วเหรอคลิปดาราขวัญใจของมึงอ่ะ”

“ไม่ต้องมาล่อลวงผมแล้วครับ คลิปพวกนั้น ไว้ผมไปขอเอาจากเบอร์ศูนย์องค์กรก็ได้ ไม่ต้องมาขอจากเบอร์หนึ่งอย่างพี่หรอก คนเราก็แปลก เป็นรองเขาแท้ๆ กลับมาโม้อย่างงั้นอย่างนี้”

ผมตอกหน้าพี่โป๊ปไปด้วยความสะใจครับ

“หึ มึงนี่น้า คิดว่าไอบอสเอ็นดูเข้าหน่อยแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ ทำรายงานค้างอยู่ไม่ใช่เหรอ รายงานใหญ่เลยนี่ เหมือนพวกธีสิสเลยใช่ไหม ไม่ผ่านคงไม่จบงั้นสิ”

ผมขมวดคิ้ว ไอพี่โป๊ปรู้ได้ยังไง นี่เป็นโปรเจ็คจบที่ผมทุ่มเททำมาตั้งแต่เทอมที่แล้ว ต้องรวบรวมข้อมูลมากมาย มีการทำเซอร์เวย์แบบสอบถามเป็นร้อยๆ ชุด เอาผลมานั่งวิเคราะห์เพื่อทำแผนธุรกิจอีก นี่ก็ทำมาได้ค่อนทางแล้ว ผมกะจะทำให้เสร็จเร็วหน่อย ช่วงหลังจะได้สบาย ว่าแต่รายงานที่ผมพิมพ์ค้างไว้มันไม่ตอบสนองขึ้นมาซะงั้น ผมเลยปิดไปแล้วเปิดขึ้นมาใหม่ แต่ไฟล์กลับติดพาสเวิร์ดซะงั้น ทั้งๆ ที่ไม่เคยใส่

“พี่โป๊ป รอเดี๋ยวนะ พอดีไฟล์รายงานมันมีปัญหานิดหน่อย พี่ไปเคลียร์กับพี่บอสก่อนไป ตกลงกันได้ยังไงค่อยมาบอกผม”

“จะรีบไปแก้ไฟล์ติดพาสเวิร์ดล่ะสิ เสียใจด้วยนะ มึงคงต้องทำใหม่ทั้งหมด ข้อมูลที่เกี่ยวข้องก็๔กเข้ารหัสเหมือนกันนะ ฮ่าๆ”

เสียงไอพี่โป๊ปพูดผ่านโทรศัพท์มาด้วยความสะใจ เลวมาก มาทำอย่างนี้กับนักศึกษาอนาคตของชาติได้ยังไง ผมก็ลืมไปว่ากำลังเล่นอยู่กับพ่อมดคอมพิวเตอร์ จากข้อมูลที่เคยรวบรวมมา บริษัทของพี่โป๊ปมันไม่ธรรมดา แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือความสามารถในการเจาะข้อมูลองค์กรนี่แหละ ผมยังไม่เคยได้ยินว่าจะมีใครทำได้ขนาดนั้น ต่อให้เป็นแฮ็คเกอร์ชื่อดังหรือองค์กรก่อการร้ายข้ามชาติก็เถอะ

“อย่ามาขู่ให้ยากเลย ผมสำรองไฟล์ไว้บนอินเตอร์เน็ทตั้งหลายที่ เดี๋ยวก็เอามาแทนได้”

“คิดว่ากูจะปล่อยให้รอดเหรอ มีกี่ที่กูก็จัดการไปหมดแล้ว”

งื้อ ผมเชื่อแบบไม่สงสัยเลยครับ

“แต่ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะครับ องค์กรจะจัดการเฉพาะคนไม่ดีไม่ใช่เหรอ ต้องยึดมั่นในหลักการสิ”

“หรา พอดีว่านี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวว่ะ กูทำเอง ไม่เกี่ยวกับองค์กร ว่าไง จะเอาหรือเปล่าพาสเวิร์ด บอกไว้ก่อนนะ ถ้านานไป กูอาจจะลืมได้ว่า ตั้งเป็นอะไรไว้ หรือว่าถ้ายังไม่เข็ด กูจะเข้าไปแก้เกรดมึงที่สำนักทะเบียนให้แม่งเป็นบ๊วยคณะไปเลย”

การข่มขู่แบล็คเมลเป็นหนึ่งในเรื่องที่ผมเกลียดมาก ตระกูลผมเป็นตระกูลขุนนางที่สืบทอดกันมายาวนานทำให้ผมมีความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีอย่างที่สุด การที่จะยอมก้มหัวให้ใครเพราะถูกข่มขู่มันไม่ใช่เรื่องที่คนระดับผู้นำอย่างผมจะทำได้ ผมเลยตอบกลับไปทันที

“น้องมอมไม่ได้ตั้งใจท้าทายพี่โป๊ปเลยครับ พอดีพอสนิทกับพี่บอส ก็ชอบล้อกันเล่นแบบนี้ เลยเผลอมาล้อเล่นกับพี่โป๊ปด้วย นี่งานที่พี่โป๊ปให้มา น้องมอมก็ทำอยู่จะเสร็จแล้ว อย่าให้รายงานของน้องมอมต้องมาติดขัดเลยครับ เดี๋ยวงานสำคัญของพี่โป๊ปจะล่าช้าไปด้วย

แต่การยืดหยุ่นพลิกแพลงต่อสถานการณ์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้นำพึงมีเช่นกัน ถ้าต้องให้ไปทำรายงานโหดหินอันนั้นใหม่ ผมขอยอมตกเป็นเบี้ยล่างพี่โป๊ปไปก่อน นับว่าเป็นการเสียสละศักดิ์ศรีส่วนตนเพื่อความก้าวหน้าทางการศึกษา ช่างน่าชื่นชมเป็นที่สุด

“งานที่มึงติดกูอยู่ ส่งพรุ่งนี้ เรื่องวันนี้มึงห้ามไปบอกไอบอสเด็ดขาด ถ้ามันชวนไปดูชมรมต่างๆ อีก ก็ไปได้ จะไปเชียร์ข้างสนามหรือลงไปซ้อมด้วยก็ตามใจ มันจะได้พบปะผู้คนบ้าง แต่ให้เข้าไปดูในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ไม่เกินสิบห้านาที แล้วมึงต้องหาข้ออ้างอะไรก็ได้ พามันมาส่งที่คอนโดกูให้เร็วที่สุด อย่าให้มันแวะไปที่อื่น ไลน์บอกกูล่วงหน้าด้วย”

“ถ้าดูแค่นั้นแล้วกลับ พี่บอสเขาจะไม่เก็บกดเหรอครับ”

เป็นห่วงครับ คนหื่นๆ แบบพี่บอส ดูแค่นั้นมันจะไปพออะไร

“กูจัดการเอง”

โอเคครับ  พี่จะจัดการพี่บอสเอง พี่จะเป็นทุกอย่างของพี่บอส มีอะไรอีกไหม

คำพูดแปลกๆ ที่หลุดมาเป็นครั้งที่สองของวัน ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะโพล่งถามขึ้นมาทั้งๆ ที่ก่อนนี้ยังไม่กล้า

“พี่โป๊ป ผมถามจริงๆ อย่าโกรธผมนะ พี่กับพี่บอสเป็นแฟนกันหรือเปล่า”

เสียงปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งจนผมต้องแอบกลั้นหายใจ

“เป็นไม่ได้”

เสียงที่ตอบกลับฟังดูสั่นพร่า จนผมไม่แน่ใจว่าคนพูด พูดสลับกับคำว่า ‘ไม่ได้เป็น’ หรือเปล่า แต่เมื่อปลายสายกดวางโทรศัพท์ไปแล้ว ผมก็ไม่กล้าพอที่จะโทรกลับไปเซ้าซี้ต่อ

……………………………………………….
 
TBC

ออฟไลน์ buzeative

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
"เป็นไม่ได้"

แอบเศ้ราอะ

แต่ตอนบนๆบอกได้เลยครับว่า "โคตรพื่นนนนนนนนนเลยยยยยยยยยยยยยเพ่!!!!!!!!!!" :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ PPink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
พี่บอสกับน้องมอมมมมม มีความมุ้งมิ้งไปอีก
ลุ้น คสพ. ของคู่นี้ว่าจะเป็นยังไง เชื่อว่านางต้องได้เป็นซักนิ้วของน้องเมแน่ๆ
สงสารพี่โป๊ปตอนจบ ต้องเศร้าอยู่แน่ๆ ยิ่งบอสบอกว่าตอนนี้ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นด้วยแล้ว
โอ้ย เจ็บแทนเลย...

ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
บอสสะกดจิตให้ตัวเองลืมเรื่องความรักไปหรือเปล่า ว่าแต่สะกดจิตตัวเองได้ไหม?อ่านตอนก่อนๆไปก็ลืม  o22
#ทีมบอส

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
 o13
แต่รู้สึกตอนต้นๆ เรื่องกับตอนหลังมันดูเหมือนเปลี่ยนแนวอ่ะครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด