[Yละมุน] หนุ่มวายยกกำลังสอง แจ้งข่าว P13 [Up 12/9/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Yละมุน] หนุ่มวายยกกำลังสอง แจ้งข่าว P13 [Up 12/9/60]  (อ่าน 176538 ครั้ง)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
น้องปอนด์ในชุดนักเรียนชัวร์ค่ะ555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :เฮ้อ: ค้าง  :ling1:
อยากอ่านต่อ  :hao7:
รอตอนต่อไป  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ถ้าให้เดาแผนของโฟมนะ มันจับพี่สะไภ้แต่งชุดนักเรียนแน่นอน

ขนาดแม่สามียังคิดว่ารุ่นเดียวกันเลยนิ

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ fannaio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอฉันรอเธออยู่♫ อิ อิ จับใส่ชุดนักเรียนเลยยยยยย  :hao7:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
พิเศษ สงกรานต์หรรษา (รวมคู่)

   เฟย์xปอนด์

   สงกรานต์ สงกรานต์ สนุกสนานประเพณีไทย เหนือจรดใต้ ได้พบกันในวันสงกรานต์

   เย้ วันสงกรานต์ วันที่จะได้เล่นน้ำ แลกกับความร้อนระอุแทบขาดใจตาย ไม่อยากบอกเลยว่าขนาดห้องพี่เฟย์อยู่สูงขนาดนี้ ลองอยู่ในห้องจุดที่ลมเข้ามาไม่ถึง มีโอกาสเป็นแมวอบบนคอนโดสูงได้ง่ายๆ ด้วยเหตุนี้พอซันชวนไปเล่นน้ำที่บ้าน ผมถึงไม่ปฏิเสธพร้อมลากพี่เฟย์เป็นพี่เลี้ยงส่วนตัว

   เรานัดกันตอนเช้าก่อนวันสงกรานต์หนึ่งวัน ซัน โป้ ริว และรุ่นพี่ที่คณะเจ้าตัวไปด้วยกัน วาเล่ไปเจอกันที่นู่น มิทยังไม่ทราบข่าว ส่วนผมไปกับพี่เฟย์ จากกรุงเทพไปกาญจน์ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงเพราะซันพาลัดเลาะหลีกเลี่ยงเส้นทางที่รถติด

   ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าบ้านซันมันเป็นรีสอร์ทใหญ่เวอร์ กินพื้นที่กว้างมากจนไม่เห็นว่ามันสุดตรงไหน มีแต่สวน ต้นไม้ และบ้านพักกระจายตัวเป็นสัดส่วน ผมยืนมองอ้าปากค้างอยู่นอกรถโดยมีพี่ชายแบกกระเป๋าอยู่ด้านข้าง ตัวผมอยากจะหอบของมาแค่เป้ใบเดียว แต่เฮียไม่ยอมขนของจำเป็นในความคิดเจ้าตัวมาจนกลายเป็นกระเป๋าใบโต
   
   “ปิดปากด้วยลูกแมว เดี๋ยวแมลงวันบินเข้าคอ” พี่เฟย์แซว ผมหุบปากฉับ เดินจ้ำตามหลังร่างสูงเข้าสู่ตัวรีสอร์ท เรือนใหญ่สำหรับรับประทานอาหาร จุดนัดพบ ติดต่อกับทางรีสอร์ท ที่นั่นมีพวกซันยืนรออยู่ก่อนแล้ว โป้กับวาดูจะคุ้นชินกับที่นี่ นอกนั่นมองรอบข้างสลับมองหน้าซันแบบตื่นตาตื่นใจ

   “กูไม่คิดเลยว่ามึงจะรวยขนาดนี้” หนุ่มญี่ปุ่นพูดแบบเหวอๆ พลางมองหน้าเพื่อน ก็ปกติซันมันทำตัวชิวจะตาย อย่างเดียวที่ดูแพงมีแต่ห้องที่มันอยู่กับโป้นั่นแหละ

   “มันเป็นคุณชายที่ชอบทำตัวยาจก” โป้พูดเอือมๆ ทุกคนพยักหน้าแบบเห็นด้วย

   “ช่างเหอะ ทุกคนอยากพักแบบไหน มีแบบเรือนริมน้ำ ห้องพักบนบก ห้องพักกลางน้ำ แบบแพก็มี จะเอาเป็นเรือนใหญ่อยู่เป็นสิบคนก็ไม่มีปัญหา”

   พวกเราต่างมองตากันปริบๆ มาเที่ยวด้วยกันทั้งทีก็อยากอยู่ด้วยกันหน่อย แต่จะให้นอนรวมปานเข้าค่ายก็กะไรอยู่ เพราะงานนี้มันเหมือนเดทหมู่เล่นพกกันมาเป็นคู่ๆ

   “แบบริมน้ำติดกันเป็นไง” พี่เฟย์เสนอ

   “งั้นสองหลังสินะ ผมกับโป้ต้องกลับไปอยู่บ้าน เดี๋ยวจะเดินไปหาเอง” ลูกชายเจ้าของรีสอร์ทรับคำ เดินไปติดต่อกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ก่อนจะกลับมาพร้อมกุญแจสองดอก นำทางพวกเราไปเก็บกระเป๋าที่ห้อง ระหว่างพี่ชายเก็บของ ผมถือโอกาสที่อยู่ด้านนอกแวบมาคุยกับโป้ ริว ทางซันกำลังไปสั่งอาหารให้พวกเราอยู่

   “โป้ดูจะชิน เคยมาบ่อยแล้วดิ” ผมออกปากแซว โป้เลิกคิ้วมองยิ้มๆ

   “มาบ่อยจนเป็นพนักงานอีกคนของรีสอร์ทแล้วเนี่ย ทำแทบทุกตำแหน่ง”

   มีช่องริวเสริมทันที

   “โห มีคนกล้าใช้งานเมียว่าที่เจ้าของรีสอร์ทด้วยเรอะ”

   “ใช้งานเหี้ยไรล่ะ มันเสนอหน้าทำของมันเอง” นายซันโผล่มาจังหวะเหมาะ “อีกสักพักเดี๋ยวอาหารมา นั่งทานกันที่นี่แล้วกัน ตอนนี้คนเพียบ แห่กันมาช่วงสงกรานต์” ทุกคนไม่มีปัญหา ทานที่ไหนก็เหมือนกันหมด ตรงนี้เองก็มีโต๊ะไม้ยาวให้นั่งอยู่แล้วด้วย แถมซันยังให้พนักงานช่วยยกโต๊ะมาเสริมอีก

   จุดสนใจของผมไม่ใช่ซัน แต่เป็นคนที่เดินมาพร้อมกับซันต่างหาก

   “มิทมาเมื่อไหร่เนี่ย”

   “มาเมื่อเห็น” คำตอบกวนทีนให้ผมเบ้ปากใส่ คนกวนหัวเราะเดินมากอดคออย่างอารมณ์ดี

   “อย่าเพิ่งงอนกันสิ ฉันมากับป๋า ถึงก่อนพวกนายไม่ถึงชั่วโมงมั้ง” มิทตอบแล้วเบนเป้าหมายไปที่ริวแทน “แล้วไหนว่าที่แฟนมึงวะริว”

   “อะไรๆ ว่าที่แฟนเหรอ ไหนอะ ใช่รุ่นพี่ที่มาด้วยป่าว” ไม่รู้ว่าผมระริกระรี้เกินไปรึเปล่านะ ทุกคนถึงได้มองขำๆ โธ่ ถ้าเป็นเรื่องชายหญิงผมจะไม่สนใจ ผมเป็นหนุ่มวายนะเจอเรื่องแบบนี้ต้องหูผึ่งเป็นธรรมดา แล้วยิ่งทุกคนในกลุ่มหน้าตาดีแบบคัดมาอาหารตาชั้นยอด

   ริวทำหน้าปุเลี่ยนๆ ดูจะเกรงรุ่นพี่คนนี้พอสมควร เจ้าตัวไม่ตอบหันไปด่ามิทแทนอย่าว่าปากมาก พอดีกับที่เจ้าของหัวข้อสนทนาโผล่ออกมาจากบ้านพักเรียกให้ริวเข้าไปช่วยอะไรสักอย่าง ผมนี่เห็นริวหูตั้งหางกระดิกรีบวิ่งไปแทบไม่ทัน

   เอาเป็นว่า พวกเรามากันครบทีม ไม่ขาดใครแม้แต่คนเดียว นั่งเรียงกันทานมื้อเที่ยง พออิ่มก็แยกย้ายกันไปคู่ใครคู่มัน ผมกับเฮียออกมาเดินดื่มด่ำชมบรรยากาศรีสอร์ทริมเขื่อน ลมเย็นพัดจนผมยุ่งเป็นรักนก แต่อากาศแบบไร้สิ่งเจือปนชวนให้รู้สึกสดชื่นจนต้องสูดลมหายใจลึกๆ

   พี่เฟย์ไม่ทำอะไรนอกจากยืนหล่อให้สาวหลง ถือกล้องถ่ายภาพวิวไปตามเรื่อง ตกเย็นกลับมาที่ห้องพักเตรียมทานของปิ้งย่างริมเขื่อน งานนี้ไร้แอลกอฮอล์เพราะทุกคนเก็บแรงไปลุยเล่นน้ำวันพรุ่งนี้

   ความจริงจุดเล่นน้ำไม่ต้องไปไกล ซันบอกออกจากรีสอร์ทนิดหน่อยก็มีกลุ่มคนเล่นน้ำริมเขื่อนแล้ว แต่ไหนๆ พวกเรามาถึงที่นี่ทั้งที ซันเลยบอกจะเอารถกระบะออก ใส่ถังน้ำสักสองถังพาเลาะเล่นไปตามจุดก่อนกลับมาปิดท้ายแถวรีสอร์ท

   วันรุ่งขึ้นทุกคนพร้อมรบ ถึงไม่อยากจะพูดแต่เหล่าเคะทุกคนสวมเสื้อสีเข้ม กางเกงสี่ส่วนแบบรัดกุมไม่เว้นกระทั่งเล่ ส่วนฝ่ายรุกทั้งหลายเหมือนหยิบเจออะไรก็ใส่อันนั้น ไม่คำนึงถึงหุ่นอันเซ็กซี่ทรมานใจสาว บอกเลยว่าโคตรลำเอียง ผมตวัดตามองพี่เฟย์ที่ใส่เสื้อยืดสีอ่อน

   “แน่ใจนะใส่ตัวนี้”

   “อื้ม พี่ใส่อะไรก็ได้ แต่เราต้องแต่งมิดชิดเข้าไว้” น้ำเสียงหนักแน่นจนน่าหมั่นไส้

   “พี่อยากโดนสาวรุมทึ้งรึไง ไปเปลี่ยนเสื้อเลยนะ ไม่งั้นผมจะใส่เหมือนพี่”

   “หวงเหรอลูกแมว”

   ไม่ต้องมายิ้มใส่ตา ผมอยากระโดดจิ้มตาให้บอด นึกชอกช้ำกับความสูงตัวเองจริงๆ ในเมื่อมันไม่เอื้ออำนวยก็ขอใช้เท้ากระทืบเต็มแรง ตามด้วยหมัดชกพุงแล้วเอาหัวโหม่ง พี่เฟย์ร้องโอดโอย ผมอาศัยจังหวะเฮียแกยังไม่ทันตั้งตัว ลากแขนเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดใหม่

   คนโดนหวงอารมณ์ดีเหลือเกิน จัดการหยิกกล้ามพุงแถมแม่ง สุดท้ายก็โดนพี่เฟย์รวบตัวหิ้วออกจากห้องส่ายหน้าอย่างขำๆ ปนระอา

   “หึงรุนแรงจริงเรา! ทำร้ายร่างกายจนพี่น่วมไปหมดแล้วเนี่ย”

   ปากพ่อคุณบ่นนะแต่ฟัดผมรัวๆ คืออะไรฟะ เกรงใจสายตาประชาชีที่มองมาทางนี้บ้าง เจ้าพวกนี้ก็อีก ไม่ต้องมาทำอมยิ้มเลยดูตัวเองกันบ้างเถอะ ซันแทบจะล่ามโป้ติดกับตัว วาจับเล่หิ้วเป็นหมากระเป๋า คนที่ชิวสุดคงมีแต่มิท ริว พี่ธันที่ผมทำความรู้จักไปเมื่อคืน

   ส่วนหน้าที่อันทรงเกรียติอย่างการขับรถ ถูกมอบให้คุณอาคมบอดี้การ์ดของมิทไปตามระเบียบ มีสมาชิกเพิ่มมาอีกสองคนเป็นพี่ชายของซัน พี่มูนมากับแฟนรับหน้าที่ขับรถอีกคันให้เพราะพวกเรามีกันเยอะเกินไปยัดอยู่ในกระบะคันเดียวไม่หมด

   แน่นอนว่าก่อนออกลุยต้องทำตามประเพณีไทย สรงน้ำพระตรงจุดที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้ ยกมือพนมไหว้ ใช้ขันใบน้อยตักน้ำโรยกลีบดาวเรืองแต่พอดี ค่อยๆ รดลงบนพระพุทธรูปด้วยใจสงบ กลิ่นหอมจากน้ำอบที่ผสมอยู่ในน้ำอบอวลไปทั่วอากาศ ทางรีสอร์ทเลือกทำเลดีมาก จุดนี้เห็นได้ชัดแถมมีต้นคูนเรียงรายออกดอกสีเหลืองสดใส นี่แหละเทศกาลสงกรานต์

   สรงน้ำพระเสร็จแล้ว ที่ลืมไม่ได้คือการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ในที่นี่เป็นพ่อแม่ของซันมารับการรดน้ำจากเด็กๆ ซันกับพี่มูนคลานเข่าบนเสือเข้าไปรดน้ำด้วยกิริยาเรียบร้อยจนไม่น่าเชื่อว่าซันมันจะทำได้ ตามด้วยคนรักของเหล่าลูกชาย สองผู้ใหญ่ยิ้มแย้มใจดี

   “ขอให้พวกลูกรักกันดีๆ คนรักกันก็เหมือนลิ้นกับฟัน มีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่อะไรที่ยอมกันได้ก็ยอมนะ”

   คำอวยพรจากแม่ทำเอาพวกผมพากันกลั้นขำจนไหล่สั่นอมยิ้มจนปวดแก้ม ยิ่งเห็นหน้าเงิบของซันกับโป้แล้วยิ่งฮา ฝั่งพี่ชายซันกับแฟนแค่ยิ้มรับสมเป็นผู้ใหญ่หรือชินแล้วก็ไม่อาจทราบได้

   “แม่! พวกผมยังไม่แต่งงาน” ซันออกอาการประท้วง ปากพูดแบบนี้ระวังเท้าคนข้างๆ ด้วยนะเพื่อน

   “บ๊ะ! เอ็งบอกไม่แต่ง แต่ตั้งเป้าหมายว่าเรียนจบจับแต่งเลยไม่ใช่เหรอวะ”

   “เฮ้ยยย พ่อรู้ได้ไง” ซันหน้าเหวอ คนเป็นพ่อหัวเราะลั่น ลูกชายเพิ่งจะรู้ตัวว่าเสียรู้พ่อตัวเองซะแล้ว แต่พอหันไปเห็นหน้าขึ้นสีของคนข้างตัว อาการเขินกลายเป็นฟินแทน ยังมีหน้ามาจับมือถือแขนหวานแหววกันต่อหน้าผู้ใหญ่ให้ชาวบ้านหมั่นไส้เล่นอีก

   กระทั่งโดนเจ้าของรีสอร์ทไล่นั่นแหละ ถึงคราวเพื่อนลูกเข้าไปรดน้ำกับบ้าง หลังเสร็จสิ้นภารกิจแบบไทยๆ เราก็เตรียมไปออกลุยให้สมกับเป็นวันสงกรานต์ รถที่ผมอยู่คุณอาคมเป็นคนขับ สหายร่วมรบคือพี่เฟย์ มิท ริว พี่ธัน อีกคันพี่จินแฟนพี่มูนรับหน้าที่นี้ไปพวกซันก็อยู่คันนี้แหละ

   รถเพิ่งขับออกจากรีสอร์ทไม่ถึงห้าเมตร สงครามน้ำก็เริ่มต้นขึ้น ไม่รู้สาดมาจากทางไหนบ้าง พริบตาเดียวเปียกเป็นลูกหมาลูกแมวกันยกคัน ช่วงแรกยังขับตีคู่กันไปอยู่หรอก ผ่านไปสักพัก คนเยอะรถเยอะ จากค่อยๆ ขับแทบจะจอดนิ่ง ปล่อยให้พวกที่เล่นกันอยู่หลังกระบะกระโดดลงรถไล่สาดน้ำคนอื่นต่อ

   เฮียเฟย์ประจำการด้วยถังแบบกะสาดทีเดียวเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า ของผมมันแค่ขันใบย่อมที่หวิดจะลอยหลุดมือไปโดนหัวชาวบ้านอยู่บ่อยครั้ง

   “พี่ๆ ลงไปเล่นข้างล่างมะ น่าสนุกดี”

   ผมออกปากชวนพี่เฟย์ หลังเห็นโป้กับซันลุยเล่นน้ำกับคนอื่นอยู่ตรงนู้น

   “คนเยอะนะ จะไปเหรอ” น้ำเสียงแบบไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ โหย ขุ่นพรี่เค๊อะ สงกรานต์มาเล่นถึงแหล่งขนาดนี้ จะตรงไหนก็คนเยอะทั้งนั้นแหละ

   “นะนะ อยากลงอะ”

   โดนตื๊อมากๆ เข้าพี่เฟย์ผู้สปอยแมวเป็นทุนเดิม มีหรือจะใจร้ายห้ามกันได้ลง ร่างสูงหุ่นนายแบบวางถังกระโดดลงกระบะพร้อมกางแขนรอรับผมเสร็จสรรพ โอ้แม่เจ้า ขนาดแค่ท่ากระโดดลงจากกระบะยังหล่อ สาวคันข้างๆ นี่มองตามกันน้ำลายหก เสื้อผ้าเปียกชุ่มแนบเนื้อเห็นกล้ามพุงลางๆ เรือนผมปรกหน้าจนต้องเสยขึ้นมีสองสามปอยตกลงมาให้ใจระทวย ใบหน้าหล่อเหลาหยดน้ำเกาะพราว

   บ้าเอ๊ย อยากเอาเท้ายันขอบกระบะ ถือโทรโข่งมาเปิดเสียงสุดแล้วประกาศบอกว่า

   ผู้ชายที่ดูดีกระชากตับตรงนี้แฟนผมเองคร้าบบบ!!

   โลกความจริงได้แต่ลอบปาดน้ำลาย กระโดดลงสู่อ้อมแขนแบบโคตรเต็มใจ พี่เฟย์รู้ว่าผมคิดอะไรถึงได้หัวเราะจนตัวสั่น ปลื้มอกปลื้มใจจนน่าหมั่นไส้ ก้มลงงับกล้ามพุงแม่ง พี่ชายสะดุ้งโหยง ส่วนหนึ่งเพราะเจ็บอีกส่วนเพราะตกใจเสียงกรี๊ดกระหึ่มจากรถด้านหลัง จากมุมนั้นมองมาทางพวกเรามันชวนเข้าใจผิดไปถึงดาวอังคารจริงๆ

   ถามว่าอายมั้ย? อายสิครับจะเหลือเหรอ ใช้พี่ชายเป็นเกราะกำบังคว้าเอาปืนฉีดน้ำมา แบ่งคนละอันออกลุยฉีดน้ำใส่คนอื่น น้ำหมดตอนไหนก็กระโดดขึ้นไปขอเติมคันนั่น

   สาวๆ มีอายุดูจะชอบผมมากเป็นพิเศษ ทั้งหยิกแก้ม ปะแป้งจนตัวขาว ปากบอกน่ารักน่าเอ็นดูอยากเอากลับบ้าน พอเงยหน้าไปเจอพี่เฟย์ยืนหล่อสะท้านทรวงอยู่ด้านหลัง ตัวผมถูกปล่อยทิ้งขว้างทันที ใช่ซรี้ เรามันไม่หล่อ หุ่นไม่ดี แต่ผมไม่น้อยใจในโชคชะตา ในเมื่อคนเพอร์เฟคคนนั้นเป็นคนของผม วะฮ่าๆ

   พี่เฟย์เองก็ไม่น้อยหน้า โดนสาวน้อยใหญ่ปะแป้ง เจ้าตัวไม่มีทีท่าว่าจะสน ทุ่มเทให้กับการคุ้มกันผมเต็มที่ ตีหน้ายักษ์ใส่ผู้ชายทุกคนที่คิดจะมาปะแป้ง คือพวกเขาเหล่านั้นก็แค่ปะไปตามเรื่อง เห็นผมเหมือนเด็กพกพี่ชายมาเล่นน้ำเลยเกิดความเอ็นดู ไม่ได้มีจิตพิศสวาสใดๆ พี่ชายขี้หวงไปเอง

   ผมต่างหากที่ต้องหึงน่ะ! สาวแต่ละคนอือหือ มาเต็ม ที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือมีเด็กหนุ่มรุ่นๆ มาหาพี่ชายด้วยนี่สิ ยังมีหน้ายิ้มรับยอมให้ปะแป้งอีกนะ ตาแก่ตัณหากลับเอ๊ย! ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้

   “ขอแป้งบ้างนะ” ผมยิ้มด้วยไมตรี วักแป้งของเด็กที่คิดมาหาพี่เฟย์ซะเกลี้ยง พร้อมป้ายใส่หน้าคนข้างๆ กะให้สำลักแป้งตาย คนไหนแป้งเลอะแค่มือหมายเข้าหา ผมก็ฉีดน้ำใสจนมือสะอาดเอี่ยมอ่อง ยกแขกแทงศอกใส่พุงพี่เฟย์จนร้องอุก

   “ให้มันน้อยๆ หน่อยตาเฒ่า งูบนหัวโผล่แล้ว เห็นเด็กหนุ่มเป็นไม่ได้” ปกติผมเนียนทำตัวเด็ก ณ เวลานี้ขอทำตัวสมวัยหน่อย เจ้าเด็กพวกนั้นจ้องอย่างกับจะวิ่งมาทึ้งหัวผม เหอะ! ไอ้น้องเอ๊ย มีความพยายามแต่ก็ยังอ่อนหัด!

   “อะไรกัน พี่แค่...”

   “แค่อะไร จะบอกว่าเห็นเหมือนน้องชายใช่มะ มุกนี้เคยใช้กับผมแล้วไม่ต้องมาใช้อีก เดี๋ยวผมเห็นคนอื่นเป็นพี่ชายแสนดีบ้างดีมั้ย” จะว่าไปหนุ่มวัยทำงานหน้าตาหล่อหุ่นดีก็เยอะนะ บางคนอย่างกับดาราอาหารตาเพียบ พอผมทำท่าจะเดินไปพี่เฟย์รีบคว้าแขนทำหน้าทะมึน จังหวะเดียวกับมีหนุ่มน้อยอีกคนเดินมาหมายจะปะแป้งพี่เฟย์

   “พี่ครับ ผมขอปะแป้งหน่อยนะ” ทำมาบิดเขิน ความน่ารักไม่ได้ครึ่งแมวอย่ามาสู้

   “ไม่ได้ครับ พอดีแฟนพี่ไม่ชอบ” พี่ชายหันไปยิ้มตอบแบบสุภาพ พร้อมลากผมออกจากจุดนั้นเหมือนจงใจให้ห่างกลุ่มเหล่าคนหน้าตาดีวัยทำงานเป็นพิเศษ ในใจรู้กันดีอยู่ว่าเราแสดงอาการหึงหวงเพื่อบอกว่าอีกฝ่ายนั่นสำคัญ ไม่มีความคิดแม้เศษเสี้ยวกลัวว่าอีกฝ่ายจะนอกใจด้วยซ้ำ เลยเล่นน้ำกันต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   แต่ผู้หญิงคนที่สามสิบเอ็ดที่มาปะแป้งพี่เฟย์ อันนี้ผมหึงจริงนะ!


   ซันxโป้

   ไม่รู้น้ำมาจากทิศทางไหนบ้าง รู้แต่ผมสาดกลับไม่มีอ่อนข้อให้ พลันสายตาเหลือบเห็นเฮียเฟย์กับเพื่อนตัวเล็กถ่ายเอ็มวีง้องอนกันอยู่กลางถนนและฝูงชน ทำให้หยุดมือไปโดยปริยาย

   “เป็นไรวะมึง”

   ซันเหลือบมองถามอย่างสงสัย

   “ไม่มีอะไร... เฮ้ย! คันไหนมันสาดน้ำเย็นวะ!!”

   ผมสะดุ้งเฮือกหลังเจอน้ำเย็นเจี๊ยบจนตัวชา ไอ้ซันหันขวับหาเป้าหมายที่บังอาจรังแกผมทันที สองเท้าก้าวอาดๆ คว้าแขนผมไปทางรถคันนั้น ไม่จำเป็นต้องส่งสัญญาณบอก ผมกระโดดขึ้นรถพร้อมซันตักเอาน้ำในถังนั้นแหละราดพวกมันซะเอง ให้มันรู้บ้างเล่นน้ำเย็นแบบนี้มันทรมานคนอื่นนะเฮ้ย ดีไม่ดีตักเพลินเจอก้อนน้ำแข็งลอยได้มีหัวร้างข้างแตกกันบ้าง

   พอผลาญน้ำพวกมันจนเกือบหมด เราสองคนเผ่นออกจากบริเวณนั้นไปเล่นกันแถวอื่นต่อ ผู้ชายมันไม่ปะแป้งใส่กันหรอก ช่วงเวลานาทีทองแบบนี้เล็งหาแต่สาวทั้งนั้น ตัวผมกับซันเลยโดนแป้งจากมือนุ่มๆ อย่างเดียว ไม่มีมือหยาบกร้านมาเฉียดใกล้

   นึกสนุกหน่อยก็วักแป้งปะสาวแข่งกันซันบ้าง กระทั่งเดินไปถึงจุดล่อแหลม ผมชะงักเท้าหมายจะเรียกซันถอย ด้วยช่วงขายาวๆ ของมันผมเลยเรียกไม่ทัน ซันมันเดินบื้อเข้าไปดงสาวประเภทสอง พอมันไม่เห็นผมตามไปเลยมองหา ผมพยายามกวักมือเรียกมันสุดชีวิต

   พ่อคุณชายบื้อยังควายอย่างคงเส้นคงวา กว่ามันจะรู้ตัวว่าหายนะมาเยือนก็ถูกสาว(มี)น้อยทั้งหลายรุมทึ้ง เน้นปะแป้งไม่มีน้ำเจือปน ลำบากผมต้องฝ่าฝูงชนเข้าไปช่วยมันออกจากดงกระเทย คนพวกนี้มือยิ่งกว่าปลาหมึก ต้องมีความเชี่ยวชาญมากพอจะหลุดออกมาได้

   ผมมีประสบการโชกโชนจากการเล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนทุกปี ลงมือช่วยชีวิตแฟนตัวเองก่อนจะได้เมียเพิ่มอีกห้า มือจับก้นกระเทยใกล้ตัว พอคุณเขาหันมาผมก็ชี้ขวับไปทางผู้ชายที่เพิ่งเดินผ่านไป เหยื่อรายที่หนึ่งหลงกลทันทีรีบแจ้นตามผู้ชายดวงซวย

   ต่อไปอีกสี่ เนียนวักแป้งในถังคนแถวนั้น สะกิดเทยสาวสองคนให้หันมอง แล้วปะแป้งให้อย่างอ่อนโยน

   “ขอโทษนะครับ ผมขอปะแป้งหน่อย ความจริงผมไม่ใช่คนอยากปะหรอก แต่เพื่อนผมตรงนั้นสองคนมันอยากทำแต่ไม่กล้า ผมเลยแกล้งพวกมัน หวังว่าพี่สาวคนสวยสองคนจะไม่ถือสานะครับ” จบวาจาด้วยรอยยิ้มตาพราว เห็นแบบนี้ผมมั่นใจในหน้าตาตัวเองพอสมควร แถมคนที่ผมเลือกชี้ไปเป็นแพะหน้าตาดีสเปคเทยไทยทั้งคู่ สองสาวนอกจากจะไม่ถือสายังหยิกแก้มผมคนละที ก่อนเดินไปทางที่ผมชี้

   เอาล่ะเหลืออีกสอง ไอ้ซันเริ่มหงุดหงิดฟาดงวงฟาดงาแล้ว กลัวมีแสดงโชว์ต่อยกระเทยจริงๆ พับผ่า

   “น้องๆ โทษนะ พอดีรถพี่จะออกแล้วขอตัวเพื่อนพี่ไปก่อน”

   “อ๊ายย น้องเหรอ”

   อาศัยช่วงที่เขากำลังเคลิ้มกับคำว่าน้องและเสียงนุ่มๆ ของผมในการเปิดช่องทางคว้าแขนซันหนีไปจากตรงนั้นเท่าที่ความสามารถในการแหวกฝูงชนจะอำนวย หลุดพ้นมาได้ค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก อาศัยรถกับฝูงชนเป็นที่กำบัง

   “เกือบเสียตัวแล้วมั้ยล่ะมึง กูเตือนไม่ฟัง” ผมพูดกับมันขำๆ ไอ้ซันดูไม่ขำด้วยสีหน้าเหมือนโดนทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง

   “เหี้ยเอ๊ย”

   “เอาน่า ใจร่มๆ ก่อนมึง โดนลูบโดนคลำนิดหน่อยไม่สึกหรอก” พูดพลางลูบหลังปลอบใจ ไอ้ซันหันมาจ้องเขม็งใส่คว้ามือผมไปจับของตัวเองหมับ อะจ๊ะ เต็มไม้เต็มมือ

   “มึงต้องช่วยล้างมลทินให้กู” หนุ่มผิวเข้มยื่นหน้าเข้ามาชิดกระซิบเสียงรอดไรฟันเหมือนอยากกลับไปกระทืบกระเทย เมื่อกี้ถ้าผมช้าอีกนิดคงลงมือจริงๆ

   “ล้างก็ล้างแต่ไม่ใช่ที่นี่โว้ย” โขกหัวใส่ดังโป๊ก มันร้องโอ๊ยไม่ยอมผละออกรวบกอดผมทั้งตัว พยายามถูไปมาสุดฤทธิ์ ไอ้ซัน ไอ้หมาหื่น ผมยื่นแขนไปกอดคอมัน มันคิดว่าผมจะเอาด้วย ฝันเถอะ รั้งคอจัดการแทงเข่าเข้าพุงจนมันทรุดไปกุมท้องอยู่กับพื้น ชูนิ้วกลางแถมท้ายให้ ถึงผมจะไม่ใช่พวกใสๆ แต่ไม่ปลื้มกับสถานที่เปิดโล่งโจ้งแบบนี้เว้ย

   “มึงถนอมกูบ้างเหอะ ผัวนะไม่ใช่กระสอบทราย”

   “ยังมีหน้าประท้วง อยากโดนอีกมั้ย มึงนั่งแบบนี้พอดีแข้งกูเลยก้านคอสักทีสติจะได้กลับมา”

   “กลับห้องไปกูเอาคืนมึงแน่” ชี้นิ้วคาดโทษ ผมไม่แคร์ ใช้เท้าเตะสะกิดให้มันลุกขึ้นมาเร็วๆ ตะกี้หางตาเห็นพวกมิทแวบๆ ไปเล่นกับพวกนั้นดีกว่า

   ไอ้ซันไม่อิดออด พอหายจุกก็ลุกขึ้นเดินตามผมไปสมทบกับพวกมิท เพื่อนคนนี้มันสายปะแป้งชัดๆ ถือถังแป้งหน้าขาววอกแสดงว่าโดนมาไม่ใช่น้อย ริวกับพี่ธันดูสบายๆ แบกปืนฉีดน้ำคนละกระบอก ผิดกับพวกผม พกขันคนละใบจิ๊กน้ำชาวบ้านเล่น

   “เฮ้ย มึงกะปะแป้งให้ครบทุกคนเลยเหรอวะ” ซันออกปากทักมิทเป็นคนแรก เพื่อนตัวดีขึ้นมายิ้มแป้งเยิ้ม

   “ไม่ว่ะ กูเล็งแต่สาวสวยอึ๋มๆ เท่านั้น” ไม่พูดเปล่าทำมือเหมือนขยำอะไรสักอย่างกลางอากาศ สีหน้าท่าทางเจ้าเล่ห์โคตร

   “มิทมันบ้า หวิดจะโดนผัวชาวบ้านกระทืบไส้แตกหลายทีแล้ว” ริวบ่นอุบ ทำมาเป็นพูด ถ้ามันมาคู่กับมิทสองคนมีแต่จะช่วยกันสร้างเรื่อง พอมีรุ่นพี่ธันมาสงบเสงี่ยมยิ่งกว่าผ้าพับไว้ ตอแหลชิบ มิทมันรู้ดีเลยป้ายแป้งเข้าปากเป็นการตอบแทน พี่ธันนึกสงสารฉีดน้ำให้ริวล้าง

   “กูขอบ้าง อยากไปปะตรงนู่น” ผมคว้าแขนก่อนมิทมันจะไหลไปกับกลุ่มสาว มันหันไปมองตามสายตาผมแล้วผงะรีบส่ายหัววิ่งหนีผมไปทันที ผมมองตามอย่างไม่เข้าใจ

   “ตรงนู่น ตรงไหนของมึง... กับผู้หญิงกูไม่ว่า แต่ผู้ชายห้าม!!”

   เสียงประกาศกร้าวพร้อมแรงบีบที่แขน ฉิบหาย ลืมไปว่าไม่ได้มาตัวคนเดียว

   “เดี๋ยวซัน ฟังกูก่อน”

   “กูไม่ฟัง! ไม่ต้องลงต้องเล่นมันแล้ว มึงมานี่กลับไปที่รถกับกู” อารมณ์หึงขึ้นหน้า ซันลากผมกลับไปที่รถ โธ่ชีวิต ไม่น่าเลยกู ไม่น่าลืมว่าผัวดุ...


   ริวxธัน (สมัยคบกันแล้ว)
   
    มิทไปอีกทาง ซันโป้ไม่รู้ลากแขนกันหายไปไหน มาเร็วเคลมเร็วจนผมแปลกใจ เหลือแค่ผมกับเจ้ารุ่นน้องที่สู้อุตส่าห์ลากผมจากกลุ่มเพื่อนมาเล่นน้ำกับตัวเอง

   “พี่ธันหนาวยัง”

   “ฮึ ยังต่อได้อีกสบาย ทั้งวันทั้งคืนก็ไม่มีปัญหา” ใช่ว่าไม่เคย เล่นสงกรานต์กับเพื่อนแล้วดื่มกันต่อชุดไม่เปลี่ยน แช่จนตัวคันยันเช้า

   ผ่านไปอีกสิบนาที…

   “หนาวมั้ยพี่”

   คำถามเดิมแต่เปลี่ยนรูปประโยค ผมหรี่ตามองหลานรหัส สีหน้าเหมือนหมารออาหารจากเจ้าของ

   “ยัง ถ้าถามอีกกูจะเอาน้ำแข็งรถคันนั้นยัดปากมึง” แกล้งขู่มันเล่นๆ ริวมันหูลู่หางตกซะจนน่าสงสารชวนให้ใจอ่อน เขามีทาสแมวผมนี่แหละทาสหมาตัวจริง ที่บ้านมีอยู่สามตัว ทุกตัวเก็บมาจากข้างถนนทั้งนั้น แล้วไอ้หลานรหัสคนนี้มันเหมือนหมาพันธุ์โกลเด้น ตัวโตขนนุ่มสีน้ำตาลสวย ท่าทางอะเลิทปัญญาอ่อนอารมณ์ดีขนาดชวนโจรเล่น

   ผมเผลอยื่นไปลูบหัวหมา เจ้าริวมันก็เฉยยอมให้ลูบทำหน้าเคลิ้มอีก

   “ทำไมถึงถามบ่อย” ละมือออก เจ้าหมามองตามอย่างเสียดาย

   “ผมเป็นห่วง...” ผมมองนิ่งบ่งบอกว่าไม่เชื่อ มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ ริวหลุกหลิกสุดท้ายต้องยอมบอก “ผมอยากแสดงความแมนบ้างอะ พี่ธันแกร่งเกินไปแล้ว”

   “หา?” เวลานี้พูดออกคำเดียวก่อนจะหลุดหัวเราะดังลั่น “ฮ่าๆ! ไอ้ลูกหมา จะมาโชว์แมนเหนือพี่มันยังเร็วไปสิบปีไอ้น้อง” ตบหลังมันป้าบๆ หน้าหล่อใสกิ๊งตามสไตล์ลูกครึ่งญี่ปุ่นเหมือนจะร้องไห้

   ผมกอดคอรั้งลงมาขยี้หัวแม่งสูงจนน่าโมโห พาไปเล่นน้ำกับคนอื่นล้างความคิดปัญญาอ่อนออกไปบ้าง ผมไม่เคยมาเล่นน้ำที่กาญจน์ ได้มาคราวนี้นับว่าเปิดหูเปิดตาพอสมควร ที่เบิกเนตรสุดคงเป็นเรื่องของซัน เห็นมันอยู่แบบนั้นใครจะไม่คิดล่ะว่ามันเป็นถึงลูกชายเจ้าของรีสอร์ทใหญ่โต คนเรานี่ดูภายนอกไม่ได้เลย

   ฉีดน้ำไปสักพัก น้ำหมดสต๊อกจนผมต้องไปขอเติมจากรถข้างๆ ทำให้ห่างจากริวชั่วขณะ หันมาอีกทีเจ้าหมาอารมณ์ดียิ้มหัวเราะร่าอยู่กลางดงผู้หญิง กลุ่มริวมันหน้าตาดีกันยกกลุ่มแต่ทุกคนเข้าถึงยาก ไม่นับมิทที่มันลื่นยิ่งกว่าปลาไหลก็มีริวที่ดูจะเข้าถึงง่ายที่สุด

   ใช่ว่าผมไม่รู้นะเวลาผมไม่อยู่ริวมันขนาดไหน แค่ผมไม่สน พอใจในสิ่งที่ริวแสดงออกกับผมมากกว่า แต่คงต้องยกเว้นเวลานี้ไว้สักหน่อย เผลอแปบเดียวไปส่ายหางดิกๆ กลางสวนนม น่ากระทืบชิบ

   แรงฉีดน้ำเย็นเจี๊ยบแบบเน้นกลางหัวทุกดอกเริ่มสร้างความรำคาญให้เจ้าหมามากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาตวัดมองหมายเอาเรื่องคนกวนส้น พอเห็นว่าเป็นใครทำเท่านั้นแหละ ไอ้ท่าทางกางเล็บแยกเขี้ยวหายกลายเป็นลูกหมาเดินออกจากกลุ่มสาวมายืนหงอยอยู่ข้างๆ

   “สนุกมะ” น้ำเสียงเรียบเฉยไม่ต่างจากศรแทงใจ

   “แค่คุยกันธรรมดา พี่ธันอย่าโกรธผมนะ”

   “...” มีเพียงความเงียบแทนคำตอบ คนแถวนั้นถอยห่างพวกเราสองคนนับว่ามีมารยาท

   “ผมยอมแล้วครับ... พวกเขามาจีบ แต่ผมไม่สนหรอก ผมมีพี่ธันอยู่แล้วทั้งคน พี่อย่ามองผมแบบนั้นสิ จะทุบจะตียังไงก็ได้ คุยกับผมหน่อย”

   เสียงงุ้งงิ้งดังอยู่ข้างหู อยากโกรธต่ออีกสักหน่อย แต่กลัวจะหมดสนุกกับการเล่นน้ำ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ใช้ปืนฉีดน้ำโขกหัวไปหนึ่งทีแบบออมแรง

   “รู้อยู่ว่ากูไม่ชอบ คบกันแล้วทำตัวดีๆ กูยังไม่อยากเปลี่ยนแฟนเร็ว” ปากพูดไปงั้น ความจริงทำไม่ได้หรอก ผมเป็นคนรักใครรักจริงคบทีละคนไม่เผื่อสายตาให้ใคร

   “พี่ธัน...” เจ้าหมาครางหงิง

   “ไป เล่นน้ำต่อ อย่ามัวแต่ซึม”

   หลังจากนั้น ไม่ว่าจะโดนสาดแค่ไหน เจ้าริวก็เอาแต่ตามต้อยๆ มือจับชายเสื้อผมอย่างกับเด็กกลัวโดนทิ้ง พอสาวไหนจะปะแป้งมันก็ปฏิเสธเบี่ยงตัวหลบ ผมหันไปทีก็ทำหน้าออดอ้อนใส่ทีหนึ่ง

   ระหว่างที่กำลังตัดสินใจว่าจะกลับรถดีมั้ย เพราะเล่นต่อไปก็หมดสนุก จู่ๆ ริวคว้าแขนผมรวบตัวเข้าไปกอด กำลังอ้าปากด่า น้ำสายหนึ่งสาดโครมที่ตัวพวกเรา น้ำเย็นเจี๊ยบจากการแช่น้ำแข็งก้อนไม่เท่าไหร่ ปัญหาคือก้อนน้ำแข็งที่กระแทกหลังริวดังปึก ผมตาโตรีบผละออกจากแขนมาดูอาการ หันไปจ้องพวกนั้นแบบโกรธๆ

   “เล่นกันระวังหน่อยสิวะ เกิดน้ำแข็งกระแทกหัวแฟนกูแตกจะว่าไง”

   เสียงผมกดต่ำ เตะก้อนน้ำแข็งไปทางนั้นอย่างเอาเรื่อง ขนาดไม่ใช่น้อยๆ มันเป็นน้ำแข็งตัดที่ละลายน้ำจนเหลือขนาดเท่ากำปั้น ถังในมือคนหนึ่งเป็นหลักฐานชั้นดีว่ามันมัวแต่ตักสาดจนไม่สนความปลอดภัย ริวไม่อยากมีเรื่องเลยคว้าแขนผมไว้

   “อย่ามีเรื่องเลยพี่ มันไม่คุ้ม” คำเตือนทำให้ผมได้สติเห็นบนรถพวกนั้นมีขวดเหล้ากับกระป๋องเบียร์ คนสาดเองก็หน้าเสียยกมือไหว้ขอโทษขอโพย

   “ถ้าไม่อยากโดนคนอื่นกระทืบ เล่นให้มันดีๆ หน่อย” ผมพูดทิ้งท้ายยอมเดินไปตามแรงดึงของหลานรหัส พอพ้นคนพวกนั้นริวหมุนตัวผมไปสำรวจ

   “พี่ธันไม่เป็นไรนะ”

   “กูไม่เป็นไร มึงต่างหากที่เป็น ไหนมาดูหลังดิ้” จับมันหันหลังถลกเสื้อขึ้นโชว์ผิวขาวแบบลูกครึ่งอย่างไม่เกรงใจ เจ้าริวหน้าหนาพอที่จะไม่อาย ผมสำรวจดูแผ่นหลังมีแค่รอยช้ำ ปล่อยไว้สักสองสามวันก็หาย

   “มึงอย่าโชว์แมนด้วยวิธีนี้อีกนะ เกิดมึงเป็นอะไรขึ้นมากูจะไปบอกแม่มึงยังไง”

   “ผมไม่ได้โชว์แมน! แต่ผมเป็นห่วงพี่จริงๆ อยากดูแล อยากปกป้อง ทำไมพี่มองผมแบบนั้น”

   ได้ยินน้ำเสียงเหมือนเสียใจ ทำให้ผมร้อนรนคว้ามันมากอดกลางถนนแบบลืมตัว มือลูบหลังปลอบ

   “ขอโทษ อย่าโกรธพี่เลยนะ พี่เองก็เป็นห่วงเราเหมือนกัน” คำแทนตัวที่นานทีจะหลุดจากปากเรียกสายตาจากคนน้อยใจ

   “ทั้งที่ผมทุ่มเทให้พี่ทุกอย่าง แต่พี่กลับคิดว่าผมทำไปเพราะสร้างภาพ...”

   “พอ! เลิกดราม่า วันนี้กูยอมมึงหนึ่งอย่างเลยเอ้า!”

   คนฟังหูตั้งหางกระดิก อย่าคิดนะว่าผมไม่รู้ทันแผนร้ายของมัน เห็นกับที่ผมพูดไม่ดีไป จะยอมให้สักครั้งก็ได้

   “พี่จะกลับรถใช่ปะ ไปๆ กลับกันเถอะพวกนั้นคงไปรอแล้ว” อย่างกับสับสวิทช์อารมณ์ดีจนน่าถีบ หวังว่ากลับไปผมจะไม่เสียใจกับการกระทำของตัวเองนะ เฮ้อ!

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2016 14:17:00 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
พิเศษสงกรานต์ (รวมคู่) ต่อ

   วาxเล่

   บนรถกระบะเหลือคนเล่นเพียงแค่สองคนร่วมมือกันตักน้ำสาดใส่คนอื่น มีหลายคนกระโดดขึ้นรถมาเล่นด้วยแต่ไม่นานก็ต้องลงไปเพราะทนแรงกดดันจากคนบนรถไม่ไหว

   “วาอย่าทำหน้าดุแบบนั้นสิ คนหนีหมดแล้ว”

   มือเรียวจับแขนคนยืนข้างๆ ที่ทำหน้าบูดตั้งแต่เมื่อกี้

   “ถ้าพวกนั้นมาเฉยๆ กูไม่มีปัญหา แต่พวกมันมาแบบหวังผล”

   “หวังผลอะไรเหรอ” ความจริงรู้อยู่เต็มอกว่าคนพวกนั้นมีเป้าหมายจะเล่นกับผมเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิง ไม่ได้สนเลยว่าคนข้างตัวยืนเป็นยักษ์วัดแจ้งนั่นแฟนตัวเป็นๆ ถึงงั้นก็อยากถามให้ตัวเองดีใจบ้าง

   “พูดมาก เล่นไป ระวังอย่าให้แป้งเข้าตาเข้าปาก สกปรกเชื้อโรค”

   น้ำเสียงห้วนๆ แบบนี้ทั้งปี หากเป็นคนอื่นคงน้อยใจไปสิบตลบกับความเฉยชาไม่แยแสของวา พอดีคนที่อยู่ตรงนี้เป็นผมผู้ถือคติตื้อเท่านั้นที่ครองโลก ความจริงใจชนะทุกสิ่งและผลที่ได้รับนับว่าคุ้มค่า

   วาเป็นคนนิ่งๆ แต่ไม่เย็นชา หากเพื่อนเล่นสนุกเจ้าตัวก็เล่นด้วย จะเห็นได้ชัดเวลาอยู่กับซัน กับคนไม่รู้จักหรือไม่สนิทเจ้าตัวจะเฉยมาก ที่สำคัญวาเป็นคนปากไม่ตรงกับใจสุดๆ ภายนอกแสดงว่ารำคาญผมนักหนาแท้จริงแล้วคอยเป็นห่วงดูแลไม่ขาด รู้เรื่องว่าอะไรที่ผมชอบหรือไม่ชอบ รู้ยันไซส์กางเกงในอะ คนอื่นจะว่าวายังไงผมไม่สน สำหรับผมวาน่ารักที่สุด

   “เป็นบ้าอะไร ยืนบิดไปบิดมา ถ้าหนาวแล้วก็เข้ารถไปซะ”

   นั่นไง ตัวอย่างปากว่าแต่ไล่ด้วยความเป็นห่วง ผมส่ายหัวยิ้มอย่างเดียวเกาะแขนวาหนึบอย่างออดอ้อน ได้ยินเสียงถอนหายใจจากร่างสูง แต่ไม่ยักจะแกะผมออกจากตัว

   ตราบใดที่วายังเล่นน้ำอยู่ผมไม่มีทางยอมไปนั่งในรถแน่ แม้ในรถจะมีเสื้อผ้ากับผ้าขนหนูเตรียมพร้อมไว้ให้ก็ตาม อย่าถามว่าฝีมือใคร คนข้างๆ นี่แหละ

   มีผู้หญิงวัยรุ่นสองคนเดินมาที่รถ คนแรกมีเป้าหมายที่วาจ้องเหมือนจะกินเข้าไปทั้งตัว ส่วนอีกคนสงสัยคงมาเป็นเพื่อนเฉยๆ ผู้หญิงสมัยนี้ใจกล้าไม่รอให้ผู้ชายเข้าหาแล้ว คุณผู้ชายหัวอ่อนทุกท่านโปรดระวัง หากไม่อยากโดนจับทำสามีโดยไม่รู้ตัว เล่ขอเตือนเลย

   “นายชื่ออะไรเหรอ เราชื่อเปิ้ลนะ” แนะนำตัวด้วยเสียงหวานๆ มองแบบทอดสะพานประกอบกับท่าเขินอายนิดหน่อยพอเป็นจริตของผู้หญิง เรือนผมยาวเปียกลู่แบบจงใจปล่อยสยายให้ปลกหน้าสงสัยคิดว่าดูเซ็กซี่ ชุดที่ใส่เป็นเสื้อสีขาวด้านในเป็นชั้นในสีเข้ม กางเกงยีนขาสั้นกุด ผมยอมรับนะเธอสวยหุ่นดี แต่ทำตัวแบบนี้หมดราคาของผู้หญิงเลย น่าเสียดาย

   “วา”

   พ่อหนุ่มข้างกายตอนได้สั้นห้วนจนสาวแอบชะงัก หากวาหล่อน้อยกว่านี้อีกนิด หุ่นดีน้อยกว่านี้อีกหน่อย ท่าทางแบดบอยลดลงอีกเล็กน้อยสาวคงถอยไม่เดินหน้าสู้ต่อ

   “พอดีว่าเปิ้ลอยากชวนไปเล่นที่รถ ไปด้วยกันหน่อยนะ” ช้อนสายตาขึ้นมองแอบก้มหน้าเล็กน้อยจนเห็นผ่านคอเสื้อ ผมกำลังจะอ้าปากพูดเพราะทนมารยาหญิงไม่ไหว เพื่อนที่มาด้วยกันดันดึงตัวผมจากการเกาะแขนวา ผมยังไม่ทันตั้งตัวเลยเซไปตามแรง วาไม่ได้หันมามองกำลังคุยกับผู้หญิงคนนั้นอยู่

   “ปล่อย” ผมพูดอย่างหงุดหงิด จะไปขัดขวางชะนีอย่ามารั้งตัวกันได้มั้ย เดี๋ยวปั๊ดเอาขันโบกหัวทิ่ม

   “คนนอกอย่าไปยุ่ง ปล่อยให้คนที่เหมาะสมกันเขาคุยกันดีกว่า ถ้าเธออยากได้ผู้ชายเดี๋ยวฉันแนะนำให้ รถคันนั้นเป็นไง น่าจะเหมาะกับเธอดี”

   ยัยผู้หญิงนิสัยสุนัขไม่รับประทานชี้ไปทางรถที่มีผู้ชายหน้าตาเหมือนโจรถือหัวเหล้าส่งเสียงดังจนน่ารำคาญ ผมแกะแขนเธอออก

   “ถ้าต้องการขนาดนั้นไปเองสิ น่าสงสารชะนีไม่มีผู้ชายเอาต้องวิ่งเอานมมาหาชาวบ้านถึงที่ พ่อแม่ให้มาสงวนตัวหน่อยก็ดี เอามาเร่ขายแบบนี้ผู้ชายเขาไม่เห็นคุณค่าหรอก ไร้ราคายัยดอกบัวผุด!”

   ผมกระแทกประโยคสุดท้ายหนักๆ พูดดังกะให้กระทบไปถึงยัยโคนมที่กำลังล่อลวงแฟนชาวบ้าน วาก็เหลือเกิน ไม่ช่วยกันเลยเอาแต่คุยกับผู้หญิงอยู่ได้ รู้ว่าอดีตเป็นคาสโนว่า แต่ตอนนี้เป็นแฟนผมแล้วนะ!

   “ปากดีจริงอีกระเทย พวกจิตวิปริตผิดเพศ!!”

   คำสุดท้ายแทงใจผมจนต้องเม้มปาก มือยกขันหมายจะตบชะนีล้างน้ำ ยัยโคนมนั่นมีหน้ามามองผมสะใจ พอเห็นว่าวายังนิ่งเลยยิ่งได้ใจส่งซิกให้เพื่อนสาวจัดการผม แขนถูกรวบดึงด้วยแรงผู้หญิงหมายจะกระชากให้ตกจากกระบะรถ ผมยื้อตัวไว้สุดฤทธิ์

   พอหันไปมองเห็นวาถูกผู้หญิงคนนั้นรั้งคอกอดอยู่ทำให้ผมเผลอผ่อนแรงรู้สึกใจหายวูบเพราะตัวปลิวไปตามแรงดึง จังหวะที่ตัวเอนไปด้านหน้ามีแขนข้างถึงตวัดโอบเอวผมรั้งเข้าหาตัว สัมผัสอุ่นที่คุ้นเคยทำให้รู้ทันทีว่าเป็นใคร ผมซบหน้ากับอกวาตัวสั่นด้วยความตกใจ

   “ไสหัวไปซะ ก่อนที่กูจะเอาเท้าฟาดหน้า”

   วาตวาดจนผู้หญิงสองคนสะดุ้งเฮือก ผมมองดูเลยเห็นว่าคนที่กอดคอวาเมื่อกี้ถูกปัดจนหงายหลังลงไปนั่งกับพื้นถนน แสดงว่าเมื่อกี้ถือวิสาสะกอดโดยที่วาไม่เต็มใจสินะ

   “เป็นอะไรรึเปล่า” น้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง หัวใจผมพองโตถูหน้ากับอกวา เสื้อเปียกๆ แนบเนื้อยิ่งทำให้เราใกล้แนบชิดกันมากขึ้น

   “เล่เจ็บ ผู้หญิงคนนั้นจิกแขนเล่ด้วย ท้องก็กระแทกขอบกระบะพรุ่งนี้ต้องช้ำแน่เลย” ผมตอบเสียงอ่อย มือหนาจับสำรวจดูตามที่บอก แขนขาวๆ ของผมมีรอยเล็บจิกอยู่จริง ปกติไม่ควรแดงจนน่ากลัวแบบนี้หรอก พอดีว่าผมผิวขาวเกินไปแถมยังเล่นน้ำจนตัวเปื่อยเลยดูหนักหนาไปหน่อย ตรงท้องวาไม่เปิดดูเพราะอยู่กลางแจ้ง แต่แค่นั้นเจ้าตัวก็เดือดดาลคว้าขันใกล้มือขว้างใส่พื้น

   “กรี๊ดด!” เสียงหวีดร้องสองเสียงทำให้ผมสะใจ มารยาสาวหลายร้อยเล่มเกวียน เจอมารยาเล่หน่อยเป็นไง ขนมาทั้งรถพ่วง เชอะ

   “ยังไม่ไปอีก!! อย่าคิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วกูไม่กล้า เพราะความใจดีของกูหมดไปตั้งแต่มึงคิดทำร้ายเมียกูแล้ว!”

   วาตวาดไล่อีกรอบ แบบไม่สนว่าใครจะมองมาที่พวกเราบ้าง สองคนนั้นคงอยากจะด่าทิ้งท้าย บังเอิญว่าวาตีหน้าโฉดใส่ รีบวิ่งหน้าตั้งกลับรถแทบไม่ทัน ผมที่กำลังอารมณ์ดีกอดวาอยู่นั่น จู่ๆ ตัวลอยวูบเพราะถูกอุ้มไปหย่อนอยู่ในถังน้ำที่เหลือน้ำแค่ก้นพลางมองคนจับยัดลงถังตาปริบๆ

   “อยู่ในนั้นไป จะได้ไม่มีปัญหา”
   
   “เอ๋ แต่เล่ยังอยากเล่นน้ำอยู่นะ” ผมทำปากยู่

   จุ๊บ!

   เสียงดังฟังชัด ใครจะไปคิดละว่า วาจะก้มลงมาจูบเร็วๆ แล้วใช้ขันตักน้ำสาดใส่รถที่ขับผ่านเพื่อเอาคืน ปล่อยให้ผมยืนม้วนได้ความฟินอยู่ในถังคนเดียว

   วานะวาใจดีกับผู้หญิงถึงได้ไม่ไล่ไปตั้งแต่แรก ดีนะที่ผมไม่เป็นอะไร ไม่งั้นก่อนที่วาจะได้อาละวาดคงถูกโป้กระทืบหลายเท้า เสี่ยงกลับไปเจอลูกซองป๊าที่บ้านอีก รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะดูแลให้ดี แต่เอาเถอะ ผมชอบที่วาเป็นแบบนี้ แข็งนอกอ่อนใน ใจดี แต่พอถึงคราวจำเป็นก็ไม่ไว้หน้า ผู้ชายแบบนี้พึ่งได้ออกจะน่าปลื้มจะตายไป

   หลังจากนั้นผมเลยได้เล่นน้ำอยู่ในถัง โดยมีวาคุมเข้มอยู่ด้านข้าง ไม่รู้เวลาผ่านไปเท่าไหร่ ในที่สุดพวกโป้ที่หายไปนานก็กลับมาที่สักที พร้อมรถที่เริ่มเคลื่อนตัวไปบนถนนช้าๆ


   ป๋าxมิท

   ชีวิตผมช่างน่าสงสาร อุตส่าห์ขอป๋าจนได้มาเล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนทั้งที เพื่อนดันมาเป็นคู่ปล่อยให้ผมโดดเดี่ยวเดียวดายเลยต้องเยียวยาจิตใจด้วยการไล่ลวนลามสาวแบบมีชั้นเชิง ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินคอเสื้อถูกคว้าจากด้านหลังด้วยฝีมือซัน ลากกลับไปที่รถเพราะมันเริ่มเคลื่อนตัวเดี๋ยวจะหากันลำบาก

   ขามาคันเดียวกับปอนด์ ขากลับต้องไปกับซัน กระโดดขึ้นกระบะเห็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเล่นั่งขดอยู่ในถัง

   “เล่ลงไปทำอะไรในนั้น” ปากถามตามองคนทำ วาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หันไปคุยกับซันเฉย

   “พอดีวาหวงเลยให้เล่อยู่ในนี้จะได้ปลอดภัย” หนุ่มผู้เหมือนสาวยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนตอบเสียงเพ้อ เอาเป็นว่าผมเลิกยุ่งแล้วกัน ดูท่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง โป้เองก็เงียบเชียวโดนซันจับมือไว้ไม่ปล่อย

   ช่วงที่ผมไม่อยู่คงจะเกิดเรื่องกันไม่น้อย รู้สึกพลาดแฮะ เอาไว้ไปหลอกถามเอาหลังจากกลับรีสอร์ทดีกว่า หึหึ

   จากที่วางแผนไว้กะว่าจะขับรถเล่นน้ำก่อนค่อยวนกลับมามันต่อแถวรีสอร์ท ด้วยความเหนื่อยของทุกคนทำให้แผนการหลังจากนั้นเป็นต้องยกเลิกไป

   ทุกคู่แยกย้ายกลับรังรักของตัวเอง เฮียเฟย์จูงปอนด์ที่สะลึมสะลือ วาโชว์พาวด้วยความอุ้มเล่ท่าเจ้าสาวกลับห้องพัก ริวกับพี่ธันเดินคุยกันไปอีกทาง ซันโป้คุยกับพี่ชายหน้าสวยเรื่องอะไรไม่รู้ ทิ้งผมโดดเดี่ยวอีกแล้ว!

   “กลับไปหาบอสไหมนายน้อย”

   พี่อาคมเสนอความคิดเห็นเพราะคาดว่าหลังจากนี้คงแยกกันทานมื้อเย็นแบบตัวใครตัวมันและไม่แน่ว่าพรุ่งนี้จะได้เจอกันกี่โมง แต่ละคู่ดูมีลับลมคมในกันเหลือเกิน...

   หากใครได้รู้ความคิดมิทตอนนี้คงอยากจะสวนกลับว่าเจ้าคนที่มีความลับเยอะสุดคือนายนั้นแหละ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พกบอดี้การ์ดมาด้วยอีกต่างหาก

   “คงต้องงั้นแหละ”

   พยักหน้ารับ ลากสังขารตัวเปียกโชกกลับบ้านพักกลางน้ำแบบส่วนตัวที่ป๋าจองไว้ ตลอดทางเจอเหล่าชายตัวถึกสลัดชุดสูทสวมเสื้อลายคอยส่งเสียงทักทายเป็นระยะ คนพวกนี้ลูกน้องลูเซียสทั้งหมด ครองพื้นที่บริเวณนี้แบบที่หนูสักตัวยังไม่ปล่อยให้ผ่านไปถึงตัวบอสผู้ยิ่งใหญ่ทั้งตำแหน่งและตรงนั้น

   “พี่อาคมไปพักเถอะ ขับรถมาทั้งวันคงเหนื่อยน่าดู”

   “ครับนายน้อย”

   คล้อยหลังบอดี้การ์ดประจำตัวที่ป๋ายกให้ ผมเดินเข้าไปในบ้านเปิดประตูปุ๊บได้กลิ่นเหล้ากับบุหรี่ราคาแพงเป็นอันดับแรก ยังดีที่ไม่เจอแอร์เย็นฉ่ำเหมือนเลี้ยงเพนกวิ้นเหมือนตอนที่อยู่ตึก

   ภายในบ้านพักไม่ต่างจากบ้านชั้นเดียวสุดหรู เฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้จัดเข้ากับบรรยากาศแบบสบายๆ มีห้องนอนใหญ่เตียงเดี่ยวกับห้องนอนเล็กสองเตียงพร้อมห้องน้ำในตัว ถ้าผมจะอาบน้ำต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่นที่ใครบางคนกำลังพักผ่อนอยู่

   เหนือเก้าอี้เอนหลังมีร่างสูงใหญ่สวมชุดคลุมอาบน้ำคีบบุหรี่สูบ โต๊ะใกล้กันมีขวดบรั่นดีคุ้นตากับแก้วเหล้าคุ้นตา ไม่น่าเชื่อว่าพกมาที่รีสอร์ทด้วย

   “เล่นน้ำสนุกมั้ย”

   คำทักทายแรกหลังจากอีหนูทิ้งป๋าไปแรดทั้งวัน

   “สนุกดี นั่นอย่าบอกนะว่านั่งดื่มเหล้าทั้งวัน”

   “เดาเก่งนี่ ไปอาบน้ำซะแล้วมาหาฉัน” เจ้าของใบหน้าคมคายสั่งทั้งที่ไม่หันมามองด้วยซ้ำ คาดว่าวีรกรรมของผมทั้งหมดคงถูกพี่อาคมเล่าให้ฟังแบบครบถ้วนทุกรายละเอียดแหง

   “คร้าบป๋า” รับเสียงกวนๆ หมุนตัวเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดออกมาพร้อมขันเงินใบใหญ่ใส่น้ำกับขันเล็กลอยตุบป่องที่ฝากให้พี่อาคมเตรียมไว้ตั้งแต่แรก พี่ท่านก็ช่างเอาใจใส่ โรยกลีบดอกกุหลาบซะเรียบร้อย นี่พี่เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าเนี่ย ถ้ามีโอกาสผมต้องถามสักที

   “เอาขวดเหล้าออกหน่อย จะได้วางของ”

   คนที่กล้าออกคำสั่งกับป๋านอกจากพี่ไนท์ก็มีแค่ผมนี่แหละ แต่ผมรู้ว่าตอนไหนควรไม่ควร ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าป๋าจะโกรธ เจ้าตัวเป็นคนพูดเอง ถ้าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดก็อย่ากลัว

   “จะทำอะไร”

   ผมมองมือหนาเลื่อนทุกอย่างไปกองอยู่แถวขอบโต๊ะให้มีพื้นที่ว่างสำหรับขันของผม

   “รู้แล้วยังจะถามอีก อยู่เมืองไทยมานานจนพูดไทยชัดขนาดคำแสลงยังรู้เรื่อง มาเนียนเป็นฝรั่งขี้นกไม่ได้นะป๋า”

   “หึหึ งั้นเปลี่ยนคำถามใหม่ คิดยังไงถึงทำแบบนี้ฮึ?”

   เงยหน้ามองคนถามที่ดูอารมณ์ดีกว่าปกติ ผมเลือกที่จะคุกเข่าลง จับมือหนายื่นมาด้านหน้าแล้วบรรจงใช้ขันเล็กตักน้ำค่อยๆ รดไปพร้อมกลีบกุหลาบสีแดงสด

   “เพราะลูเป็นผู้มีพระคุณของผมเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง วันนี้เป็นวันสงกรานต์มีประเพณีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ผมเลยทำแบบนี้ไง” พูดพลางวางขันลงที่เดิมแล้วพนมมือวางบนฝ่ามือที่ชุ่มไปด้วยน้ำเจือกลิ่นหอมของน้ำอบ ก้มหน้าให้หน้าผากแนบกับมือ

   “ขอบคุณสำหรับทุกๆ เรื่องที่ทำให้ผมครับ ขอให้ป๋าสุขภาพแข็งแรงอยู่กับผมไปนานๆ”

   มือข้างหนึ่งกุมมือผมไว้ อีกข้างลูบหัวแผ่วเบาคล้ายปลอบโยนเด็กน้อยที่หลงทาง

   “อย่าคิดว่าเป็นบุญคุณ ฉันช่วยเธอเพราะหวังผล”

   ลูเซียสดึงให้ผมลุกขึ้นมานั่งบนตัก สำหรับผม การกระทำของลูเซียสไม่ว่าจะทำไปด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม คนที่ได้ผลประโยชน์คือตัวผมเอง ผมเป็นพวกรู้คุณคนตั้งมั่นไว้แล้วว่าจะตอบแทนให้อย่างแน่นอน ด้วยการเริ่มจากความภักดีอย่างบริสุทธิ์ใจ

   “เลิกคิดเรื่องไร้สาระซะ และฉันก็ไม่อยากเป็นแค่ญาติผู้ใหญ่ของเธอด้วย รู้ใช่ไหมว่าฉันหมายความว่าอะไร” นิ้วสากเชยคางผมขึ้นแนบริมฝีปาก กลิ่นเหล้าคละเคล้ากลิ่นบุหรี่ชวนให้ตื่นตัวไปกับความอันตรายที่ผมหลงใหล

   “อืมม... แต่หลังอาหารเย็นนะ” ป๋าชะงักบทหวาน ส่วนผมหันไปตรงประตูเรียกคนที่ยืนรอเข้ามา ”เดฟอยู่ด้านนอกใช่มั้ย เข็นรถเข้ามาเลยบอสจะทานมื้อเย็นแล้ว”

   สิ้นคำ เชฟหนุ่มประจำตัวบอสใหญ่เข็นรถอาหารที่ยืมครัวของรีสอร์ททำเข้ามาจัดโต๊ะให้ภายในห้อง เพราะลูเซียสเรื่องมากเลยต้องพกเชฟมาไม่งั้นได้ทานอาหารแบบส่งๆ แทนที่จะกินให้เป็นกิจจะลักษณะพอดี

   “รู้ด้วยเหรอครับว่าผมรออยู่” เชฟหนุ่มยิ้มแย้มขัดกับบรรยากาศอึมครึมที่เจ้านายแผ่ออกมา

   “ตอนออกจากห้องนอนฉันเห็นชายเสื้อแวบๆ น่ะ คนที่จะเข้าใกล้บ้านพักเวลานี้คงมีแค่เดฟ”

   “สมกับเป็นคุณหนู ตาไวมากครับ ดีนะที่คุณหนูกลับมาเร็วไม่งั้นบอสคงแขวนท้องรอ ไม่ยอมทานข้าวจนกว่าคุณจะกลับมาแน่”

   “ไม่พูดสักเรื่องก็ไม่ตายหรอกเดฟ จัดโต๊ะเสร็จแล้วออกไปซะ ไว้ฉันเรียกค่อยเข้ามาเก็บ”

   เชฟหนุ่มยอมถอยออกไปตามคำสั่ง อย่าว่าแต่ลูเซียสเลย ถ้าผมโดนสายตาล้อเลียนแบบนุ่มๆ จากเดฟผมคงไล่เขาออกไปเหมือนกัน ผมลุกจากตักเดินนำคนหน้าบึ้งไปที่โต๊ะ อาหารไทยหน้าตาน่าทานถูกจัดอย่างสวยงามตามเคย คุณป๋ายอมรอทานข้าวกับอีหนูแบบนี้ เห็นทีต้องเอาใจกันหน่อย

สุขสันต์วันสงกรานต์นะครับทุกคน~!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2016 14:17:49 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L2:    ฟินทุกคู่
สุดยอดเลย
ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ monday012

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
อยากรู้เรื่องก่อนจะคบกันของทุกคู่เลยค่า แต่ตอนนี้สงกรานต์พาฟิน

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
น่ารักทุกคู่เลย แต่แอบติดใจคู่ป๋ากับอิหนูมิท อยากอ่านคู่นี้อีกจัง

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
วายที่28 โรงเรียน

   ผมมาถึงสถานที่แห่งนี้จนได้ พร้อมคำถามในหัว...

   ตูมาทำบ้าอะไรที่นี่ ตอบ!!

   ยืนเคว้งคว้างเป็นแมวโดนทิ้งท่ามกลางเด็กวัยละอ่อนที่เดินไปเดินมาจนตาลาย มันไม่ใช่การทำงานกลุ่มอย่างที่ผมเข้าใจ มันเป็นการเตรียมงานสำหรับวันวิชาการของโรงเรียนที่จะเปิดให้เด็กนอกโรงเรียนและผู้ปกครองเข้ามาชมผลงานต่างหาก

   อารมณ์คงคล้ายกับงานวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่ปรากฏให้เห็นบ่อยๆ ในมังงะ ปิดห้องเรียนจัดโชว์โครงการที่เร่งทำเอากันโค้งสุดท้าย แบ่งสมาชิกในห้องไปเฝ้าบูธสำหรับกิจกรรมเล่นสนุก บางโรงเรียนอาจเปิดให้คนนอกเข้ามาขายของได้ แตกต่างกันตรงที่ของไทยจะงบน้อยกว่า(มาก) และเน้นการสร้างหน้าตาให้โรงเรียนมากกว่า รวมถึงมีเวทีการแสดงตลอดทั้งวันและปิดท้ายงานด้วยคอนเสิร์ตสไตล์วัยว้าวุ่น

   ซึ่งผมคาดว่าโรงเรียนของโฟมน่าจะจัดแบบที่ผมกล่าวไปข้างต้น หลังจากเห็นสภาพการเตรียมงานตามจุดต่างๆ ของโรงเรียน

   หลังจากผมถูกโฟมขอร้องแกมบังคับให้เปลี่ยนชุดเพื่อปลอมตัวมา ก้าวข้ามเขตรั้วไม่ทันจะครบสองข้างดี เจ้าโฟมก็ถูกเพื่อนสาววิ่งพุ่งเข้ามาลากแขนไปอย่างรวดเร็ว ลำบากผมต้องวิ่งตามไปจนถึงห้องเรียน ม.4/3 สภาพในห้องก็อย่างที่ผมบอกไปตอนแรกสุด

   “เฮ้ย ปอนด์ ไหนๆ ก็มาแล้วช่วยกันหน่อยดิ”

   สาวที่แมนเกินชายถลกแขนเสื้อจับบ่าผม เจ้าโฟมบอกทุกคนไปแล้วว่าผมเป็นเพื่อนต่างโรงเรียนอยากมาเปิดหูเปิดตา ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาที่จะมาเนียน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เด็กในโรงเรียนแอบพาเพื่อนข้างนอกเข้ามา แต่ผมว่าโฟมพลาดแล้วล่ะ เพื่อนสาวคนนี้ไร้ซึ่งความเกรงใจ จิกหัวใช้โฟมนั่งทาสีป้ายสำหรับบูธขายอาหารประจำห้องไม่พอยังถึงกับออกปากให้ผมช่วยอีก

   เอาวะ ถือว่าระลึกความหลังเมื่อวันวาน

   “ได้ ขอรู้แผนงานทั้งหมดหน่อยได้มั้ย”

   ถามพลางกวาดตามอง ทุกคนแบ่งหน้าที่กันดีก็จริง แต่ค่อนข้างจะสะเปะสะปะ เพราะไม่มีหัวแรงคอยประสานงานกับทุกฝ่ายทำให้งานเสร็จล่าช้า พิมพ์มองหน้าผมคล้ายกับเห็นพระมาโปรด รีบลากไปหลบมุมคุยอธิบายคอนเซปทั้งหมดเหมือนว่าต้องการคนช่วยมานานแล้ว

   คอนเซปของเด็กมัธยมก็ไม่มีอะไรมาก ในห้องจะจัดเป็นโซนแสดงโครงงานและมีกิจกรรมเล็กๆ สำหรับคนที่เข้ามาเยี่ยมชม ที่เป็นปัญหาตอนนี้คือการแสดงประจำห้องและบูธร้านอาหารยังวาดป้าย ละเลงสีฉากกันไม่ถึงไหน

   พอผมถามรายละเอียดทั้งหมด เป็นอย่างที่คิดไม่มีผิด ระบบการแบ่งงานยังไม่ดีพอ แต่ก็ถือว่าโอเคแล้วสำหรับเด็กมัธยม ถือว่าช่วยเด็กมันหน่อยแล้วกัน แม้ว่าเด็กบางคนแม่งจะตัวสูงกว่าผมก็เถอะ ไม่เข้าใจ พ่อแม่เด็กสมัยนี้ให้ลูกกินอะไรเป็นอาหาร มันถึงได้โตเอาๆ

   ผมขอให้พิมพ์เป็นผู้ช่วยส่วนตัวระหว่างเรียกทุกคนมารวมและแจกแจงงานใหม่ งานทาสีเอามารวมที่เดียวกัน ให้คนคิดคอนเซปคอยคุม และให้คนที่มีฝีมือด้านงานศิลปะจัดการ นอกนั้นแบ่งส่วน กลุ่มการแสดง กลุ่มบูธอาหาร กลุ่มเฝ้าห้อง โดยให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมาหนึ่งคน คอยคุมเพื่อนอีกที ขาดเหลืออะไรให้มาบอกพิมพ์

   พวกเศษเหลือไม่มีอะไรทำผมก็สั่งให้เป็นพวกใช้แรงงานช่วยยกของ ทำความสะอาด และวิ่งออกไปซื้อของที่ขาด โดยแต่ละรายการต้องเก็บใบเสร็จเอาไว้มาส่งให้เหรัญญิกประจำห้อง หลังสั่งทุกอย่างเสร็จปล่อยพิมพ์คุมต่อ ผมถลกแขนเสื้อช่วยเด็กลุยงาน

   ด้านโฟม กำลังทึ่งจัดกับความสามารถของพี่สะใภ้ร่างเล็กหน้าละอ่อนที่แผ่ออร่าความเป็นผู้นำออกมาเต็มเปี่ยม การทำงานทุกอย่างดูง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่สับสนมึนงงอย่างตอนแรก ที่สำคัญพี่ท่านเล่นควบทุกตำแหน่ง ตอนแรกเห็นวาดฉากเวที สักพักมาช่วยลงสีป้ายพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการลงสี

   เผลอแปบเดียวหายตัวแบกของ หนักหน่อยนี่หายจากโรงเรียนไปช่วยอีกกลุ่มซื้อของ ยังไม่พอ! ของที่ซื้อมาครบถ้วนสมบูรณ์ในราคาย่อมเยาประหยัดงบประมาณ จนกลายเป็นว่าใครมีปัญหาอะไรวิ่งมาถามผู้ชายคนนี้หมด เห็นพิมพ์แทบปาดน้ำตาด้วยความซาบซึ้งพลางตบหลังโฟม

   “ขอบคุณมึงที่พาปอนด์มา เขาอยู่โรงเรียนไหนวะ ทำงานโคตรเก่ง”

   โฟมเกิดอาการน้ำท่วมปาก จะบอกอย่างไรดีว่าคนที่กำลังนั่งตัด นั่งเอากระดาษทรายถูก้อนโฟมจนกลายเป็นตุ๊กตาหมีประกอบฉากคนนั้นเป็นเด็กมหาลัยที่พวกเขาแสนจะนับถือ ในสายตาของเด็กวัยนี้แล้ว คำว่ารุ่นพี่นักศึกษาช่างดูดีเป็นผู้ใหญ่วาดฝันว่าสักวันจะได้เป็นแบบนั้นบ้าง ตัวโฟมเองก็เหมือนกัน ผิดที่ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าพี่สะใภ้จะน่าปลื้มขนาดนี้ สมกับที่พี่ชายเลือกจริงๆ ดูแค่ภายนอกไม่ได้เลย

   “จะเก่งก็ไม่แปลกล่ะนะ” คนตอบยักไหล่ พิมพ์เองก็ไม่ใส่ใจ หันไปตามเสียงเรียกของเพื่อนเปิดช่องให้โฟมเนียนอู้อยู่ข้างพี่สะใภ้

   “เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่ปอนด์ทำงานเก่งขนาดนี้ เด็กกิจกรรมเหรอพี่”

   เจ้าของชื่อมองคนที่เอาไหล่มาชน ใบหน้ามีเค้าพี่ชายอยู่นิดหน่อยฉายแววหยอกล้อ ผมยิ้มๆ แล้วเริ่มลงสีเจ้าตุ๊กตาหมีปลอมตรงหน้า

   “อยู่มหาลัยต่อให้ไม่เป็นเด็กกิจกรรมก็ต้องทำ ที่นั่นมีงานแนวนี้เหมือนกัน แต่จริงจังเป็นทางการกว่าเพราะต้องทำให้พวกผู้ใหญ่ดู เป็นการเรียกคนให้เข้ามาเรียนในมหาลัยด้วย ทีแรกก็ยังงงๆ กันไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี จะไม่ทำก็ไม่ได้ สุดท้ายต้องมีกลุ่มคนเป็นหัวแรงใหญ่เพื่อให้งานเดิน บังเอิญว่ามีอยู่ไม่กี่คนยอมรับหน้าที่ ฉันที่คุยง่ายเลยซวยไป”

   ผมพักช่วงหายใจ หันมามองโฟมที่กำลังนั่งมองตาแป๋ว แววตาดูนั้นมีความตื่นเต้นลึกๆ อยู่ภายใน คงจะฝันหวานถึงโลกมหาลัยอยู่ล่ะสิ ผมเองก็เคยเป็นแบบโฟม ก่อนจะมาพบว่ามันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด ใช่ว่าไม่ดี มันมีทั้งดีและแย่ อยู่ที่คนจะเลือกเป็นหรือเลือกมอง แต่ผมไม่อยากทำลายความฝันเด็ก ปล่อยให้ไปเจอเองกับตัวแล้วกัน

   “แล้วพี่ปอนด์เรียนคณะอะไร แลดูชินกับงานวาดลงสีจัง”

   “คณะไอที สาขาคอมกราฟ” ผมตอบสั้นๆ ผิวปากนั่งลงสี

   เจ้าโฟมทำหน้ากระจ่างเพราะสายนี้ก็บอกชัดเจนอยู่ว่ามันเกี่ยวกับอะไร ให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็พวกงานโฆษณาทั้งหลาย ทั้งในทีวีและตามป้ายทั่วไป เรามีหน้าที่จัดวางองค์ประกอบ เลือกสี ออกแบบให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ความจริงสายนี้มันมีอะไรมากกว่าที่ทุกคนคิด พวกโมเดลสามมิติอย่างโมเดลบ้าน คอนโด รถเองก็อยู่ในสายนี้เช่นกัน

   พูดไปก็เกี่ยวกับเรื่องเรียนอีก ทำลืมไปดีกว่า ผมหันไปจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ผมอยู่ช่วยกระทั่งจัดทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เงยหน้าขึ้นมองอีกที่ท้องฟ้าถูกย้อมไปด้วยสีดำซะแล้ว

   “เสร็จสักทีโว้ยยย!”

   โฟมชูมือโห่ร้องเหมือนเป็นสัญญาณผ่อนคลาย แต่ละคนลงไปนั่งพิงหลังกองกันบนพื้น ผมทิ้งตัวลงนั่งบ้างพลางรับน้ำเย็นจากพิมพ์มาดื่ม เปิดมือถือดูหลังจากปล่อยมันทิ้งไว้โดยไม่สนใจมาทั้งวัน สิ่งที่เห็นเล่นเอาหน้าซีด มิสคอลเกือบยี่สิบสายมาจากพี่เฟย์ล้วนๆ แถมข้อความอีกเป็นตับ เปิดอ่านดูข้อความประมาณว่าผมอยู่กับโฟมรึเปล่า อยู่ที่ไหน จะกลับเมื่อไหร่

   ผมรีบโทรกลับ เดินไปเขย่าตัวโฟมระหว่างรอสาย

   “โฟมดูมือถือ” เจ้าตัวเลิกคิ้วแปลกใจ เห็นหน้าผมซีเรียสเลยยอมก้มดูมือถือตัวเองแล้วผงะ คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ รอสายไม่ถึงสองตื้ดพี่เฟย์ก็กดรับ

   /อยู่ไหนกัน ทำไมไม่รับสาย โฟมอยู่ด้วยรึเปล่า/

   น้ำเสียงเจือดุเล่นเอาคอหด ม้วนตัวไปซุกมุมคุยตรงเสาโรงอาหารสำหรับจัดบูธขายของกิน ปลายนิ้วเขี่ยๆ ปูนตอบเสียงอ่อย

   “อยู่ที่โรงเรียนกับโฟมครับ มัวแต่ช่วยงานเลยไม่รู้ว่าพี่โทรมา”

   คนฟังผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก ผมยิ่งรู้สึกผิดทำให้พี่ชายเป็นห่วง
 
   /ปลอดภัยก็ดี วันหลังอย่าทำแบบนี้นะพี่เป็นห่วง/

   “ครับ เดี๋ยวผมจะรีบกลับ” ปากบอกเสียงอ่อยเป็นแมวหงอย แต่เท้าสะกิดโฟมบอกว่าพี่เฟย์จะมารับ โฟมพยักหน้าหงึกหงัก

   /ไม่ต้อง เดี๋ยวพี่ไปรับเอง รออยู่นั่น/

   ว่าจบก็วางสาย เห็นทีหลังจากนี้ต้องอ้อนให้มากๆ หน่อย

   “เป็นไรปอนด์ทำหน้าเศร้าเชียว โดนที่บ้านดุเหรอ” พิมพ์ที่ดูจะชอบเข้ามาคุยกับผมเป็นพิเศษ ออกปากถามอย่างเป็นห่วง เจ้าโฟมหรี่ตามองเพื่อนตัวเองสลับผม ทำหน้างั้นคิดอะไรแปลกๆ อยู่แหง

   “ไม่มีไร พอดีลืมบอกที่บ้านว่าจะมาโรงเรียนน่ะ เขาเลยเป็นห่วง”

   “โหย! เรื่องแค่นี้เอง เดี๋ยวเราช่วยคุยให้ จะให้พาไปส่งบ้านเลยก็ยังได้” เข้าใจอยู่ว่าอยากช่วย แต่ไม่ต้องทำหน้าระยิบระยับแบบนั้นก็ได้มั้ง แล้วอะไรคือพาไปส่งบ้าน ผมเป็นผู้ชายนะ! อายุมากกว่าด้วยจะปล่อยให้ผู้หญิงพาไปส่งได้ยังไง

   “คิดไรยัยพิมพ์ ปอนด์มีแฟนแล้ว ห้ามยุ่งเด็ดขาด” เจ้าโฟมโผล่หัวแทรกกลางวง แหวกผมออกห่างจากพิมพ์ที่ทำหน้าไม่พอใจ อุบ๊ะ พี่เฟย์ติดสนบนอะไรไว้รึเปล่าเนี่ยถึงมีอารมณ์มาหวงพี่สะใภ้อย่างผม

   “มีแล้วก็เลิกได้ ผู้ชายเก่งต้องคู่กับผู้หญิงเก่งสิ แถมปอนด์ยังน่ารักด้วย ไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนน่ารักขนาดนี้มาก่อน” พูดแบบไม่มีเขิน น้ำเสียงหนักแน่นมองผมตาวาวจนขนลุกซู่ ผมรีบส่ายหัวโบกมือสองข้าง

   “ไม่ได้ ฉันมีแฟนแล้วจริงๆ” โดยเฉพาะคำว่าน่ารัก! ผมได้ยินมาทั้งชีวิตจนเบื่อแล้ว ยิ่งออกมาจากปากผู้หญิงที่อายุน้อยกว่ามันชวนให้น้ำตาตกใน โธ่! ผมเองก็ไม่อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ อยากหล่อมาดแมนแบบพี่เฟย์บ้าง หรือออกเถื่อนอย่างซันเลยก็ยังดี ความจริงมันช่างโหดร้าย

   “ใช่! ที่สำคัญ แฟนปอนด์เก่งกว่าเธออีก” โฟมสนับสนุนคำพูดของผม พิมพ์ดูไม่เชื่อถือเท่าไหร่จนโฟมต้องบอกว่าให้รอดูได้เลยเพราะแฟนผมจะมารับ ส่วนผมน่ะเรอะ ได้แต่ยิ้มแห้งอย่างเดียวหวังว่าพิมพ์จะไมตกใจจนเป็นลมหงายท้องตึงนะ

   หรือบางทีอาจจะหงายเงิบทั้งหมด ทุกคนที่ได้ยินบทสนทนาระหว่างเราสามคนต่างเปลี่ยนใจ แทนที่จะกลับบ้านมานั่งตบยุงเพื่อรอแฟนของผม ไอ้ตัวผมไม่เท่าไหร่หรอก มาแค่ครั้งเดียวเดี๋ยวก็จากไป โฟมน่ะสิ ถ้าเกิดคนอื่นรู้ว่าเจ้าตัวมีพี่ชายเป็นเกย์คบกับผมนี่เพื่อนๆ จะมองหน้าโฟมยังไง

   ผมยืนหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่โฟมพูด เลยดึงแขนให้ก้มลงมากระซิบคุยกันแบบได้ยินกันสองคน

   “พูดไปแบบนั้นได้ยังไง ฉันไม่เท่าไหร่ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่โฟมต้องเรียนอีกสองปีนะ ถ้าเกิดถูกแกล้ง ถูกรังเกียจเรื่องฉันกับพี่เฟย์...”

   “พอเลยพี่ปอนด์ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วให้รู้ไปเลยสิดี พิมพ์มันเป็นพวกยึดติดเอาแต่ใจ แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก เจ้าพวกนี้รู้มาตั้งนานแล้วว่าฉันเป็นเกย์”

   “ถึงงั้นก็เถอะ”

   “มันก็มีทั้งคนที่รับได้และไม่ได้แหละ แรกๆ ก็มีปัญหานิดหน่อย พักหลังต่างคนต่างอยู่พี่ไม่ต้องสนใจหรอก”

   โฟมดูไม่ซีเรียสจริงๆ เอาเถอะ ในเมื่อเจ้าตัวยังไม่คิดมาก ผมขอปล่อยเลยตามเลยแล้วกัน

   ในที่สุดพี่เฟย์ก็มา รถจอดเทียบอยู่หน้าโรงเรียน ร่างสูงโปร่งในชุดสบายแต่ไม่อาจกลบความดูดีออร่าแผ่ซ่านได้ พี่ชายหันไปยิ้มทักทายยามเล็กน้อยก่อนเดินตรงดิ่งมาหากลุ่มพวกเรา ที่หาเจอได้ทันทีก็ไม่แปลก ในเมืองทั้งโรงเรียนปิดไฟมืด จุดที่เปิดไฟสว่างมีอยู่ไม่กี่จุด หนึ่งในนั้นคือโรงอาหารที่ยังมีเด็กอยู่ประปราย

   พอเจ้าโฟมเห็นพี่ชายก็โบกไม้โบกมือให้ ไม่ต้องเสียเวลาหาเลยแม้แต่น้อย สองขายาวเลยเดินตรงดิ่งมาหาผม หลายคนจำได้ว่านี่คือพี่ชายสุดหล่อของโฟมพร้อมระลึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่กี่นาทีที่ผ่านมา

   พี่ชายโฟม... แฟนของปอนด์...

   “กรี๊ดดด! / เฮ้ยย! / เป็นไปได้ไง” และอื่นๆ อีกสารพัด พี่เฟย์มองงงๆ ก่อนยิ้มเข้ามาหาผม

   “โดนโฟมหลอกมาใช้งานรึไงเรา” วาจาอ่อนโยน ดวงตาทอดอ่อนอารมณ์ขุ่นมัวก่อนเจอหน้าผมดูจะหายไปอย่างลึกลับ แต่ผมรู้นะเฟ้ยว่ามองอะไร ทำไม ใส่ชุดพละแล้วมันผิดรึไงฮะ

   “พี่เฟย์ปะ... เป็น... แฟนปอนด์จริงรึเปล่าคะ!”

   พิมพ์สาวมั่นถึงกับติดอ่าง สุดหล่อมองตาปริบๆ แล้วพยักหน้าแบบไม่คิดอะไร ผมรู้สึกปวดหัวกับพี่น้องคู่นี้เหลือเกิน ไม่น่าหลงเป็นห่วงเลยให้ตายเถอะ

   “ใช่ มีอะไรรึเปล่า”

   คุณพี่ถามด้วยรอยยิ้ม แต่ตาไม่ยิ้มด้วยมีการรั้งตัวผมไปโอบบ่าท่ามกลางสายตาเด็กนับสิบ ให้ตายเถอะ! ขนาดเด็กผู้หญิงอายุน้อยกว่าพี่เฟย์ยังไม่อ่อนข้อ เชื่อเถอะว่าจอมมารคนนี้ดูออกถึงท่าทางของพิมพ์ มันออกจะชัดเจนขนาดนั้น ผิดหวังขั้นรุนแรง เสียดาย และอื่นๆ อีกสารพัด เพราะหากเป็นผู้ชายคนนี้พิมพ์ไม่สามารถสู้ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

   “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เอ๊ะ แต่พี่เฟย์ทำงานอยู่ที่กรุงเทพไม่ใช่เหรอคะ โฟมบอกว่าปอนด์เป็นเพื่อนต่างโรงเรียนถ้างั้น...”

   “โฟมพูดไม่ผิด แค่ไม่ใช่ต่างโรงเรียนแต่เป็นต่างมหาลัย พอดีพี่อยู่กับปอนด์ที่กรุงเทพ ช่วงนี้ว่างเลยกลับมาเยี่ยมบ้าน”

   บอกอย่างเดียวไม่พอทำไมต้องเน้นคำว่าเราอยู่ด้วยกันหา เจ้าพี่ชายขี้หวงคนนี้ ทางพิมพ์เองโดนคำว่ามหาลัยกระแทกสติเลยไม่ทันสนใจในสิ่งที่พี่เฟย์พยายามสื่อ

   “มหาลัย! ปอนด์ เอ๊ย พี่ปอนด์เป็นนักศึกษาเหรอ!!”

   เสียงพิมพ์ช่างสมกับเป็นหัวหน้าห้อง เพื่อนหลายคนที่กำลังกลับหลังรู้ความจริงเป็นต้องหยุดชะงักมองทางพวกเราเป็นตาเดียว

   “อ่า... ใช่ อยู่ปีหนึ่ง”
   
   เสียงฮือฮาเกิดขึ้นอีกครั้ง ได้ยินแว่วๆ ทำนองว่า มิน่าล่ะถึงทำงานเก่งดูพึ่งพาได้ กูตายแน่เผลอเล่นหัวไปซะเยอะ รุ่นพี่มหาลัยเลยนะนั่น อยากเรียนมหาลัยบ้างจัง คนฟังอย่างผมแทบจะบินออกนอกโลก ติดที่มีมือกาวจับยึดไว้กับพื้นโดยคนข้างตัว

   ในกลุ่มเด็กมหาลัยผมอาจจะดูเด็กน้อยด้วยขนาดตัวและหน้าตา แต่สมองผมไม่เด็กนะเว้ย พอมาอยู่ท่ามกลางเด็กแบบนี้มันช่างน่าภาคภูมิใจเราเป็นพี่ใหญ่ ขอฟินแปบ

   คราวนี้พิมพ์ดูจะตัดใจแล้วจริงๆ ยิ้มคุยกับผมโดยมีคำว่าพี่นำหน้า ปากบอกว่าพรุ่งนี้ถ้าว่างให้มางานด้วยเพราะผมลงทุนลงแรงไปเยอะ ผมเองไม่รู้จะว่างรึเปล่าเลยไม่รับปากแค่บอกว่าถ้ามาได้จะมา ทางพี่เฟย์เห็นว่าตอนนี้ค่ำมากแล้ว ไล่เด็กๆ กลับบ้านไว้มาเก็บกวาดต่อกันพรุ่งนี้ เป็นจังหวะเดียวกับที่ยามมาบอกพอดีว่าจะปิดประตูโรงเรียน พร้อมครูกะดึกสั่งเด็กกลุ่มอื่นให้เก็บของแยกย้ายกลับ

   จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมว่ามีหลายคนแหละที่ผิดหวังไม่ใช่พิมพ์คนเดียว ในเมื่อเด็กผู้หญิงแสดงออกชัดเจนว่าแสนเสียดายพี่ชายเพื่อนสุดหล่อคนนี้แค่ไหน

   ผมนั่งประจำที่ข้างคนขับ โฟมโดนไล่ไปนั่งด้านหลัง พี่เฟย์เอี่ยวตัวมารัดเข็มขัดให้แถมจังฉวยหอมแก้มดังฟอด เอาปลายจมูกโด่งมาไถแถวแก้ม

   “เสน่ห์แรงจริงนะเจ้าลูกแมว พี่ควรจะทำยังไงกับเราดี จับใส่ปลอกคอติดป้ายชื่อเจ้าของ หรือว่าขังลืมที่ห้องดี หืม...”

   “จะบ้าเรอะ! ผมเสน่ห์แรงที่ไหน นี่ครั้งแรกเหอะ พี่ต่างหากที่เสน่ห์แรงตั้งแต่เด็กยันคนแก่ อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะที่ทำงานมีแต่สาวออฟฟิศจ้องจับพี่ตาเป็นมัน”

   พี่เฟย์หันขวับ

   “รู้ได้ยังไง หรือตามไปสตอล์กเกอร์พี่ที่บริษัท” ไอ้ดวงตาพราวระยับนี่มันอะไร ผมอยากให้ลูกน้องที่บริษัทพี่เฟย์เห็นเหลือเกิน คงจะช็อคตาตั้งเป็นแถวเพราะปกติเห็นแต่พี่เฟย์โหมดหัวหน้าสุดเนี้ยบที่โคตรเคี่ยว ข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้ต้องขอบคุณคุณยุพิณเลขาพี่เฟย์ที่แสนจะเอ็นดูผม

   “ไม่บอกหรอก” บอกไปเดี๋ยวคุณยุพิณก็ไม่มาเล่าอะไรให้ผมฟังพอดี “พี่ต่างหากที่ตามสตอล์กเกอร์” คำนี้ทำเอาพี่เฟย์ชะงักกึก แม้จะแค่ไม่กี่วิแต่ผมที่อยู่ใกล้คลอเคลียกันแบบนี้ไม่พลาดแน่ อย่าบอกนะว่าทำจริงน่ะ! ผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว ถ้าผมคิดจะจ้างจับทาสแมว ต้องไปจ้างศาลแมวที่ไหนครับโปรดตอบ!

   เจอสายตาระแวงระวังภัยจากผมเข้าไป พี่เฟย์ฉีกยิ้มตาหยีเนียนหอมแก้มอีกฟอดทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

   “อะแฮ่ม! ก็ไม่ได้อยากจะขัดหรอกนะ แต่พี่จะจอดรถที่หน้าโรงเรียนอีกนานเปล่า”

   ผมสะดุ้งผลักพี่เฟย์กลับไปนั่งประจำคนขับตามเดิม เห็นพี่ชายจ้องคาดโทษใส่น้องตัวเองก่อนจะยอมออกรถในที่สุด แว่วเสียงโฟมหัวเราะชั่วร้ายอยู่ด้านหลัง เกิดความรู้สึกคันเท้าอยากถีบคนลงรถแก้เขิน

   กลับบ้านมาถึงเวลาอาหารเย็นพอดี อาหารบ้านพี่เฟย์มาซะฟูลคอร์สกลัวลูกๆ ไม่อิ่ม แม่พี่เฟย์ทำกับข้าวอร่อยมาก รสชาติจะออกจืดๆ แบบสไตล์คนจีนมากกว่าบ้านผมที่รสเผ็ดเค็มแบบคนเหนือ ผมรับหน้าที่ล้างจานกับโฟมหลังทานเสร็จให้ผู้ใหญ่พักเหนื่อยดูทีวี

   ผลัดเปลี่ยนกันอาบน้ำใส่ชุดนอนมานั่งรับลมเย็นจากด้านนอก บ้านที่เฟย์ติดแม่น้ำ พอลมพัดมาเลยเย็นเป็นพิเศษ รอบบ้านเองก็ปลูกต้นไม้เต็มไปหมด จะว่าไปผมยังไม่ได้เดินสำรวจเลยแฮะ เอาไว้พรุ่งนี้ลองเดินสำรวจดูดีกว่า

   เจ้าโฟมใส่เสื้อยืดกางเกงบอลนอนกระโดดมาเกาะผมหัวแทบทิ่มตกระเบียง

   “เข้าหาแบบปกติหน่อยก็ได้ อย่างงี้เกิดร่วงลงไปหน้าแหกพอดี” ผมบ่นอุบ คนผิดไม่นำพา

   “เห็นยืนถ่ายเอ็มวีอยู่ หมั่นไส้ ทำไม เหม่อหาหนุ่มที่ไหนรึเปล่าพี่ปอนด์ ไม่ดีน้า มีพี่ชายผมอยู่แล้วทั้งคน”

   เด็กบ้า พูดจาหาเรื่องให้ครอบครัวคนอื่นร้าวฉาน ผมถลึงตาใส่ โฟมมันเกาะกอดไม่ปล่อยอย่างกับไม้เลื้อย ดูๆ ไปโฟมก็ขี้อ้อนตามประสาลูกคนเล็กนะ มิน่าอยู่กับพี่กบทางนั้นถึงยอมตามใจตลอด อะไร มองผมแบบนั้นหมายความว่ายังไง จะบอกว่าตัวผมหนักกว่าโฟมเรอะ ผมไม่ได้ขี้อ้อนเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ นะ เชื่อกันหน่อยเถอะ

   “ปากเสีย มาเกาะนี่อยากได้อะไรอีกฮะ หาเรื่องใส่ตัวนี่ไม่เอานะไม่อยากซวยด้วย ขอสละสิทธิ์เลย”

   “เห็นฉันเป็นคนยังไงเนี่ย ไม่เอาน่าแค่จะชวนไปนอนที่ห้องเท่านั้นเอง”

   “ไม่ได้!”

   เสียงนี้ไม่ใช่ของผมนะ เราสองคนหันขวับไปมองบุคคลที่สาม พี่เฟย์ยืนกอดอกจ้องโฟมเขม็ง

   “วันนี้โฟมพาปอนด์ไปซนทั้งวันแล้ว ให้ปอนด์พักบ้าง”

   “พัก? พูดเป็นเล่น อยู่กับพี่เนี่ยนะพัก ผมว่าอยู่กับผมปอนด์ในนอนอย่างสงบไม่โดนผีผ้าห่มได้พักมากกว่าอีก”

   “เหวย พูดอะไรออกมาเจ้าโฟม!” ผมเสียงดังสวนหน้าแดง

   “พูดเรื่องจริงไง พี่ปอนด์มานอนกับฉันรับรองปลอดภัย”

   “ปอนด์ อย่าไปฟัง ถ้านอนกับโฟมได้พากันเล่นจนไม่หลับไม่นอนแน่ มานอนกับพี่เหมือนเดิมแหละดีแล้ว”

   ผมมองซ้ายขวาสลับกัน มั่นใจได้เลยเจ้าโฟมไม่ได้นึกพิศสวาสอะไรผมขึ้นมาหรอก แค่จงใจแกล้งพี่ชายตัวเองมากกว่า ผมหรี่ตามองเห็นสิ่งที่แฝงอยู่ในแววตาพี่เฟย์ บางทีสิ่งที่โฟมพูดอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้นะ อีกอย่างเปลี่ยนบรรยากาศหน่อยก็ดี คงเหมือนเวลานอนกับเพื่อน

   “ผมนอนขอนอนกับโฟม อยากชวนโฟมเล่นเกมด้วย” เสริมประโยคท้ายอีกหน่อยให้ดูเหมือนไม่หนีพี่ชายตัวเองเกินไป พี่เฟย์หน้าทะมึนเป็นก้นหม้อ โฟมเท้าเอวหัวเราะชอบใจกระแซะๆ ไหล่ใส่พี่ชาย ประเดี๋ยวโดนจับโยนลงชั้นสองหรอก เจ้าเด็กแสบ

    สุดท้าย พี่เฟย์ก็ผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่คล้ายคนปลงตก

   “ตามใจ งั้นพี่ไปนอนก่อนล่ะ พวกเราเองก็อย่านอนดึกให้มากนักมันไม่ดีต่อสุขภาพ”

   “คร้าบ ผมจะดูแลพี่สะใภ้อย่างดีพี่เฟย์ไม่ต้องเป็นห่วง” โฟมรับคำเสียงยาวโคตรยียวน พี่เฟย์ส่ายหน้าระอายื่นมือมาขยี้หัวโฟมจนยุ่ง ก่อนก้มลงมาจูบหน้าผากปมราตรีสวัสดิ์ ขนาดพี่ชายกลับเข้าห้องไปแล้ว สัมผัสนุ่มร้อนยังอยู่ที่หน้าผากอยู่เลย

   “หน้าแดงม้วนเข้าไป ชิ! หมั่นไส้ ถ้าพี่กบอยู่นะจะไม่ยอมน้อยหน้าเลยคอยดู”

   “เออน่ะ จะอะไรก็ช่าง ไปๆ เล่นเกมกัน”
   
   ผมดันหลังโฟมเข้าห้อง ก้มหน้าที่เห่อร้อน รู้เลยมันต้องแดงก่ำแน่ๆ หัวใจเต้นตึกตัก ยิ่งสีหน้าอาลัยอาวรณ์ของพี่เฟย์อีก ชักลังเลแล้วสิ กลับไปห้องนู้นดีมั้ย เด็กแสบไม่ปล่อยให้ผมคิดนาน เสียบเครื่องเล่นเปิดเกมผีมันดื้อๆ ไม่สนเสียงโวยวายของผมเลยแม้แต่น้อย

   ผลเป็นไง ก็ซุกกันหลับใต้ผ้าห่มไม่มีใครกล้าเก็บเครื่องเล่นน่ะสิ แถมยังเปิดไฟหัวเตียงซะสว่าง ยัดเยียดให้ผมนอนด้านนอกเพราะเตียงมันมีช่องด้านล่าง โธ่เว้ย ฉากผีออกจากใต้เตียงยังติดตาอยู่เลย แอร์เย็นฉ่ำ ดวงตากวาดมองรอบข้างอย่างหวาดระแวง หัวซุกหมอน เอาผ้าห่มคลุมมิดทั้งตัวเลยแค่ส่วนหัว

   นึกโมโหโฟมที่ชิ่งหลับทอดทิ้งให้ถ่างตากลัวอยู่คนเดียว ทั้งที่คิดว่าคงหลับยากแท้ๆ ผ่านไปสักพักหนังตาเริ่มหนักจากความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวัน ไม่นานทุกอย่างก็ว่างเปล่า...

   ดึกดื่นค่อนคืน ประตูถูกเปิดออกช้าๆ พร้อมกับเงาร่างสูงใหญ่ย่องเข้ามาถึงเตียงนอน มือหนาเอื้อมปิดไฟเสียงแผ่ว ก่อนจะค่อยๆ ช้อนตัวร่างที่ขดหลับอยู่ริมเตียงอย่างน่าสงสารเข้าสู่อ้อมแขน ฝ่ายคนโดนอุ้มพอได้รับสัมผัสอุ่นคุ้นเคยค่อยคลายอาการเกร็งดูหลับสบายขึ้น

   ดวงตาคมเหลือบเห็นแผ่นซีดีเกมจากแสงที่ลอดมาผ่านประตูเข้ามา ถึงกับเกือบหลุดขำแกมเอ็นดู มิน่าล่ะถึงได้นอนขดเป็นลูกแมวขี้กลัวแบบนี้

   “บอกให้นอนกับพี่แต่แรกก็ไม่เชื่อ ยังไงผีผ้าห่มก็ไม่น่ากลัวเหมือนผีใต้เตียงหรอก”

   น้ำเสียงทุ้มนุ่มเจือกระแสขบขันพึมพำพลางอุ้มหมอนข้างประจำตัวกลับห้องอย่างอารมณ์ดี ปล่อยน้องชายนอนแผ่เต็มเตียงเพียงลำพัง


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น่ารักมากๆ ได้เวลามอบรางวัลให้แมวดีเด่นแล้วพี่เฟย์
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่เฟย์หวงลูกแมวมากกกกกก :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :katai2-1: ชอบพี่เฟย์ ปอนด์
พี่เฟย์อบอุ่น รักใคร่หวงแหนปอนด์สุดๆ :กอด1:
อยากเห็น ฉากมุ้งมิ้ง ของพี่กบ กับโฟมบ้าง :hao3:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ idoloveyou555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อิอิ พี่เฟย์กะจะผีผ้าห่มตั้งแรกอะดิ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
น้องปอนด์ไปผจญผีผ้าห่มต่อนะจ๊ะ

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
วายที่29 กันและกัน
 
ร่างเล็กลุกขึ้นโงนเงน ยกมือขยี้ตางัวเงีย หาวปากกว้าง เส้นผมอย่าถามถึง ถ้ามันไม่ยุ่งเหมือนระเบิดลงสิแปลก ดวงตามองรอบตัว มือปัดป่ายหาหมอนข้างมากอดให้ได้อารมณ์คนขี้เซา จนปัดไปโดนเนื้ออุ่นๆ พอก้มลงมองเห็นคนหล่อหุ่นนายแบบนอนตะแคงข้างด้วยรอยยิ้มเจิดจ้าจนต้องหยีตา แสงแดดจากภายนอกส่องเข้ามายิ่งทำให้ภาพนั้นน่ามองขึ้นอีกเท่าตัว
 
ประเด็นคือ ภายในแค่คืนเดียวทำไมโฟมถึงโตไวจัง แถมยังหน้าตาเหมือนพี่เฟย์อีกต่างหาก
 
“ทำหน้าเหมือนลูกแมวโดนเหยียบ ตื่นรึยังฮึ”
 
เสียงทุ้มนุ่มพร้อมสัมผัสอ่อนโยนจากฝ่ามือหนาที่ยกลูบหัวยุ่งอย่างน่าเอ็นดู ผมสะบัดหัวให้มือร่วงแล้วอ้าปากงับอย่างหมั่นเขี้ยว มาว่าใครเป็นแมวโดนเหยียบฮะ
 
“โอ๊ย! อย่ากัดสิ ตื่นแล้วก็ลุกไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้กินข้าว คิดจะไปเที่ยวงานโรงเรียนกับโฟมไม่ใช่รึไง”
 
ปากเล็กยอมปล่อยของลับฟัน
 
“พี่รู้ได้ไงว่าผมจะไป” ขมวดคิ้วถามแบบสงสัยจริงๆ ก่อนจะย่นคิ้วเพราะถูกผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาจนสะอาดเอี่ยมอ่อง
 
“พี่รู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเรานั้นแหละ ไปเร็ว พี่จะได้ปลุกโฟมต่อ”
 
ผมผงกหัวรับลุกขึ้นบิดขี้เกียจยืดแขนก้นโด่ง คนมองเห็นแมวบิดขี้เกียจนึกหมั่นไส้ตีก้นไปสักทีแล้วหัวเราะเผ่นหนีความผิดออกจากห้อง ไม่สนลูกแมวที่ขู่ขนพองอยู่ด้านใน
 
แยกเขี้ยวไล่หลังตาแก่ชอบเนียนลวนลามก่อนย้ายสารร่างตัวเองเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวในชุดธรรมดา มองอะไรกัน ผมไม่บ้าจี้ใส่ชุดนักเรียนแน่แค่เมื่อวานชุดพละก็มากพอแล้ว วันนี้ขอไปในฐานะคนนอกดีกว่า
 
แต่งตัวออกมาจากห้องได้ยินเสียงโวยวายของโฟมกับเสียงพี่เฟย์ดุดังลอดออกมา คาดว่าน้องชายตัวแสบกำลังถูกพี่ชายลากลงจากเตียงเป็นแน่แท้ ว่าแต่เมื่อคืนผมนอนห้องโฟมนี่หว่า ไหงตื่นมานอนห้องพี่ชายฟะ จะว่าละเมอเดินก็ไม่ใช่มั้ง ช่างมัน คิดมากปวดหัว
 
พอลงมาชั้นล่างไร้วี่แววของพ่อแม่พี่เฟย์ คงจะออกไปขายของกันหมดแล้ว นั่งดูทีวีรอสักพักสองพี่น้องก็ลงมาจากชั้นสอง อาหารเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มปลากลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ผมเทพริกไทยลงไปเต็มเหนี่ยวตามความชอบ โฟมมองพลางเบ้ปาก
 
“ใส่ไปขนาดนั้นเดี๋ยวได้ขมพริกไทยพอดี... พี่ปอนด์จะไปงานโรงเรียนพร้อมกับโฟมด้วยใช่ปะ”
 
“อ่าฮะ ทำไม ไปไม่ได้เหรอ” ผมเอียงคอมองโฟมในชุดนักเรียน งานวิชาการเด็กทุกคนต้องใส่ชุดนักเรียน ที่จะใส่ชุดพละได้ต้องเป็นงานกีฬาสีนู่น
 
“ไปได้อยู่แล้ว แต่มันน่าน้อยใจชะมัด เชื่อมะถ้าพี่ปอนด์ไม่ไป อย่างพี่เฟย์ไม่เคยคิดจะไปเหยียบงานโรงเรียนน้องชายตัวเองหรอก”
 
“น้อยๆ หน่อยเจ้าแสบ โรงเรียนเรามันก็โรงเรียนเก่าพี่ ไอ้งานทั้งหลายพี่ก็เคยไปเคยทำมาหมดแล้วจะยังอยากไปอีกทำไม”
 
คนเป็นพี่ชายแก้ตัว ผมมองสองคนสลับไปมาเลยไปถึงใครบางคนที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านแล้วทำเป็นเงียบไม่รู้ไม่ชี้รอดูปฏิกิริยาของเจ้าโฟม พี่เฟย์สังเกตเห็นท่าทีของผมมองผ่านหลังโฟมบ้าง พอเห็นว่าใครก็อุบเงียบอีกคน โฟมมัวแต่บ่นไม่ได้ดูท่าทีของคนร่วมโต๊ะเลยสักนิด กระทั่งมีคนมายืนด้านหลังกระซิบอยู่ข้างหูนั่นแหละ
 
“ขี้บ่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันโฟม”
 
ช้อนร่วงจากมือโฟม เจ้าตัวหันขวับไปมองพอเห็นว่าใครก็อ้าปากค้าง คนทักหัวเราะขำกับอาการตกใจจนโอเวอร์แล้วเป็นฝ่ายเงิบซะเองเมื่อเด็กตัวดีดันดึงคอเสื้อให้ก้มลงแนบปากจูบดังจ๊วฟ ขนาดพี่เฟย์ยังอึ้งค้างไม่คาดคิดว่าน้องชายจะกล้ากระทำการอุกอาจต่อหน้าพี่ชายเยี่ยงนี้
 
ผมเข้าใจอารมณ์พี่เฟย์นะ ถ้าคนเริ่มเป็นพี่กบยังพอจะโวยวายได้ในฐานะพี่ชาย แต่นี่น้องชายดันทำซะเอง ไม่รู้จะพูดอะไรเลยทีเดียว
 
พี่กบหายช็อคดันโฟมออกโหนกเก้มขึ้นสีเรื่อ พี่ใหญ่หรี่ตามอง
 
“ข้าวต้มอยู่ในครัวไปตักเอากบ” เมื่อโดนไล่เพื่อนอย่างกบจำต้องละจากไป โฟมทำท่าจะเดินตามแต่โดนพี่ชายบอกดักซะก่อน “รีบกินซะ เดี๋ยวต้องไปช่วยงานที่โรงเรียนอีก”
 
“โห พี่! แฟนผมอุตส่าห์ออกจากป่ามาหาทั้งที ไอ้งานพวกนั้นช่างหัวมันเถอะ ผมอยากอยู่กับพี่กบทีพี่ยังอยู่กับพี่ปอนด์ตลอดเวลาเลย”
 
โฟมโวยวาย ผมทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาทานเรื่องนี้ปอนด์จะไม่ยุ่ง จนพี่กบกลับมาพร้อมถ้วยข้าวต้มหอมกรุ่น ใช้มือข้างที่ว่างขยี้หัวโฟมนั่นแหละถึงยอมสงบลงนั่งทานต่ออย่างว่าง่าย พี่เฟย์คงแทบอยากแหกอกน้อง ไม่ฟังพี่ชายเลยสักนิด แต่กลับเชื่องกับพี่กบแบบสุดๆ
 
คนหล่อกลอกตาเอือมชวนถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเพื่อน หลังทานเสร็จได้ฤกษ์ออกเดินทางไปโรงเรียนเสียที รอบนี้ไม่ต้องนั่งรถเมล์ไป พี่เฟย์รับหน้าที่เป็นสารถีขับรถไปถึงที่หมาย
 
บรรยากาศภายในโรงเรียนต่างจากเมื่อวานลิบลับ ประตูใหญ่ถูกเปิดออกกว้าง มีเด็กต่างโรงเรียนเดินเข้าออกพร้อมกลุ่มเพื่อน ผู้ปกครองมาชมลูกหลานแสดง เสียงดนตรีดังผสมกับเสียงจอแจแทบจะแยกไม่ออก บูธขายของเด็กนักเรียนคึกคัก ตามตึกกลับเงียบเหงามีเพียงผู้ใหญ่กับอาจารย์ซะส่วนใหญ่
 
อย่างว่า เปิดโรงเรียนทั้งที่จะไปจับเจ่าอยู่กับพวกโครงงานทำไม สู้เล่นสนุกอยู่ด้านล่างซะยังจะดีกว่า นี่ยังไม่นับพวกเครื่องเล่นง่ายๆ ที่ทางโรงเรียนให้คนนอกเข้ามาเปิดอีก
 
โฟมเกาะพี่กบหนึบกระตือรือร้นพาไปชมโรงเรียนทั้งที่พี่กบเองก็จบจากโรงเรียนนี้พร้อมกับพี่เฟย์ ทิ้งผมกับเฮียยืนอยู่หน้าประตู
 
“โฟมมันลืมพวกเราไปแล้ว ปอนด์จะไปหาพวกเพื่อนโฟมเลยมั้ย”
 
พี่เฟย์คงหมายถึงพิมพ์เจอกันเมื่อวาน ผมชอบพี่ชายก็ตรงนี้แหละ ต่อให้หวงแต่มีเหตุผลไม่เคยทำให้ผมลำบากใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว พูดไปก็ชักแปลกๆ พี่เฟย์ต่างหากที่ควรจะปวดหัวเรื่องของผม
 
“เอางั้นก็ได้ เสร็จแล้วลงมาข้างล่างนะพี่ อยากซื้อของกิน”
 
“เพิ่งกินข้าวมาไม่ใช่เหรอ กินจุแบบนี้เอาไปเก็บไว้ตรงไหนทำไมตัวเท่าเมี่ยงเหมือนเดิม”
 
มือหนายื่นมือคีบพุงน้อยๆ ผมถลึงตาใส่ตีมือดังเพียะ
 
“อันนั้นมื้อหลัก ผมแบ่งกระเพาะไว้สำหรับกินของจุกจิกแล้ว”
 
พูดพลางมองบรรดาของกินตามบูธตาวาว ของมันก็ธรรมดา น้ำอัดลมเอย ไอติมทอดเอย ลูกชิ้นไส้กรอก ยำทั้งหลาย พวกขนมขบเคี้ยวที่หาซื้อได้ทั่วไป อาจจะมีพิเศษบ้างบางบูธที่คนนอกเข้ามาขาย ถึงงั้นอารมณ์มันแตกต่างจากซื้อที่ตลาดนัดลิบลับ เด็กๆ เอามาขายกันน่าอุดหนุนดีออก
 
“ตามใจ”
 
ทาสแมวผู้ไม่เคยขัดใจนายท่าน แน่นอนทุกรายการพี่ชายเป็นคนจ่ายผมไม่ต้องเสียสักแดง ตอนนี้แค่เล็งไว้ก่อน เจอเพื่อนโฟมแล้วค่อยลงมาชิมให้ครบทุกบูธไปเลย ระหว่างเดินผ่านหมายจะขึ้นบันไดไปชั้นบน เสียงตะโกนเรียกชื่อดังขึ้นเสียก่อน ผมหันหน้าไปตามเสียเจอบูธที่พวกผมช่วยกันจัดเมื่อวาน
 
พวกนี้ขายเต้าหู้นมสดที่รับมาอีกที คนที่เรียกผมไม่ใช่ใครอื่น พิมพ์ที่ผมว่าจะไปหานั้นแหละ พอดีเลยไม่ต้องขึ้นชั้นบน ผมเดินนำพี่เฟย์เข้าไปทักทาย ทุกคนยกมือไหว้พี่เฟย์กันเป็นแถว บางคนยังเผื่อแผ่มาทางผมด้วย รู้สึกแปลกๆ วุ้ย
 
“สวัสดีค่ะพี่เฟย์ ไงพี่ปอนด์ เจ้าโฟมล่ะไปไหนทำไมมันไม่โผล่หัวมาช่วยงานบ้าง”
 
ยกมือไหว้สวยงาม ตามด้วยทักทายแบบแมนๆ ปิดท้ายคือการบ่นด่าคนที่ไม่อยู่ สมกับเป็นพิมพ์สาวแกร่ง ผมยิ้มแห้งเกาแก้ม พี่ชายยืนเงียบแจกจ่ายรอยยิ้มอย่างเดียวไม่คิดช่วยหาทางออกให้น้องชายแท้ๆ ของตัวเองเลย ลำบากพี่สะใภ้อีก
 
“ไม่รู้เหมือนกัน มาพร้อมกันนะแต่พอถึงโรงเรียนปุ๊บโฟมแยกไปไหนไม่รู้ สงสัยขึ้นไปช่วยชั้นบนมั้ง”
 
พิมพ์มองผมแบบไม่เชื่อถือเลยสักนิด
 
“มันโดดสินะ ช่างเถอะเอาไว้ขาดคนจริงๆ ค่อยโทรตามก็ได้ พี่เฟย์ไม่ว่าอะไรกันใช่มั้ยคะ” ก็ยังดีที่ยังมีแก่ใจนึกถึงพี่ชายของผู้ถูกพาดพิง พี่เฟย์ยิ้มตอบแบบพี่ชายแสนดีตามเคย
 
“ตามสบายเลย”
 
ไม่เข้าข้างน้องชายเลยสักนิด...
 
“พิมพ์ เดี๋ยวขอเต้าหู้นมสดสองแก้วนะ” ไหนๆ ก็ไหนๆ อุดหนุนเลยแล้วกัน ผมชอบกินนะ เต้าหู้นุ่มๆ ทานพร้อมกับนมสดหอมกรุ่นมีรสหวานนิดๆ กำลังดี พิมพ์จัดมาให้สองแก้วตามที่ขอ แต่ไม่ยอมรับเงินจากพี่เฟย์ซะงั้น
 
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถือว่าตอบแทนที่พี่ปอนด์ช่วยเหลือเมื่อวาน”
 
“ของซื้อของขาย ไม่ได้หรอก รับไปเถอะ” พี่ชายเป็นฝ่ายตอบแทน ผู้ใหญ่ยืนยันแบบนี้พิมพ์เลยต้องรับเงินไป คุณพี่ใจกว้างไม่รับเงินทอนบอกว่าเป็นทิป จังหวะเดียวกับที่มีลูกค้าคนอื่นมา พวกผมเลยขอตัวไปเดินเล่นในงานก่อน
 
พิมพ์มองผมสลับกับพี่เฟย์ แววตานั้นยังฉายความเสียดายอย่างเห็นได้ชัด ดูท่าจะยังตัดใจไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมไม่คิดมากหรอกเดี๋ยวก็กลับกรุงเทพแล้ว ที่สำคัญความรู้สึกของพิมพ์มันเหมือนกับเจอคนถูกใจเฉยๆ อายุแค่นี้ไม่นานก็เจอคนที่ใช่เอง
 
เมื่อไม่มีอะไรต้องไปต่อ ผมกับพี่เฟย์เลยเดินทัวร์กันเต็มที่ โดยมีพี่เฟย์เล่าเรื่องความแตกต่างระหว่างโรงเรียนสมัยก่อนกับตอนนี้ อาคารหลักยังคงเป็นหลักเก่าแต่ปรับปรุงทาสีใหม่ติดแอร์แทบทุกห้อง มีอาคารใหม่เสริมเข้ามาบ้าง บางที่ก็เหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน
 
ผมฟังไปเพลินๆ หยิบขนมทานจนหางตาเห็นพี่กบกับโฟมเดินผ่านไปแวบๆ ทั้งคู่ดูมีความสุขดี จะว่าไปเท่าที่ผมรู้มาคือพี่กบเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมของพี่เฟย์ เจอโฟมมาตั้งแต่เล็กๆ ใครจะไปคิดล่ะว่าตอนนี้ทั้งคู่กลายเป็นแฟนกันไปแล้ว
 
“พี่ๆ ขอถามหน่อยได้มั้ย พี่กบกับโฟมนี่เจอกันมาตั้งแต่เด็กใช่ปะ”
 
พี่เฟย์เนียนเอาแขนพาดพนักเก้าอี้ยาวที่เรานั่งกันอยู่ พลางลูบคางครุ่นคิด
 
“จะว่างั้นก็ได้ ความจริงกบมันรักเด็กชอบสัตว์ตัวเล็ก ด้วยความที่มันตัวใหญ่หน้าติดดุไม่ว่าเด็กหรือสัตว์พากันหนีมันหมด คงมีแค่โฟมนี่แหละที่ไม่กลัวแถมยังติดเจ้ากบแจ จะบอกว่ากบมีส่วนช่วยเลี้ยงจนโฟมโตก็ไม่ผิดนัก”
 
“อือหือ ความรักยืนยาว” ทึ่งเลยนะเนี่ย
 
“ฮ่าๆ ไม่ขนาดนั้นหรอก พี่คิดว่าตอนแรกกบมันก็มองโฟมเหมือนน้องชายคนหนึ่ง ความรู้สึกชอบน่าจะเกิดเอาช่วงโฟมโตแล้วมากกว่า ส่วนเจ้าโฟม พี่รู้ดีมันมองแค่กบมาแต่ไหนแต่ไร ใช่ว่าไม่เคยคบผู้หญิง สุดท้ายต้องเลิกกันไปเพราะในใจของโฟมมีเพียงกบคนเดียว”
 
“ฟังดูโรแมนติกเนอะ” แบบนี้อย่างกับในนิยายรักเลย พี่เฟย์ยิ้มบางให้กับผม มือหนายกลูบหัว
 
“ในสายตาคนนอกอาจจะใช่ แต่ในมุมของพวกเขามันไม่สวยงามอย่างนั้นหรอก พวกเราทั้งคู่นับว่าโชคดีนะ ดังนั้นต้องรักกันให้มากๆ” มือใหญ่จับมือผมไปจูบ ผมดึงออกมาทำอะไรในที่แบบนี้ เดี๋ยวใครเห็นได้ซวยพอดี
 
“ประโยคสุดท้ายมันใช่เหรอพี่”
 
ผมพูดแซว พี่เฟย์ขำดึงผมเข้าไปกอดฟัด ผมได้ยินเสียงเพลง PONPONPON ของ Kyary Pamyu ดังขึ้นแว่วๆ ทีแรกคิดว่าใครเปิดซะอีก นึกขึ้นได้นี่มันเสียงริงโทนผมเองนี่หว่า พี่เฟย์ผละออกให้ผมรับโทรศัพท์ สิ่งที่แสดงบนหน้าจอทำให้ผมนิ่งค้าง
 
พ่อ...
 
ผมมองพี่ชาย พี่เฟย์รู้สึกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป พยักหน้าให้ผมรับโทรศัพท์
 
“ครับป๊ะป๋า”
 
/ปอนปอนอยู่ที่ไหน/
 
“เอ่อ... ผมอยู่ข้างนอกกับเพื่อนครับ”
 
/ใช่คนที่พ่อเคยเจอที่ห้างรึเปล่า/
 
ได้ยินแบบนั้นผมตัวแข็งทื่อ หรือว่า... แม่ผมจะบอกเรื่องพวกเรากับพ่อแล้ว
 
“ครับ” ตอบคำอื่นไม่ได้จริงๆ นอกจากคำนี้ น้ำเสียงพ่อไม่ดูสนุกสนานอย่างทุกที มันแฝงไปด้วยความเคร่งเครียดจนผมต้องกำมือแน่น
 
/แม่เล่าให้พ่อฟังหมดแล้ว/ มือผมเย็นเฉียบทั้งที่อากาศร้อน ต่อให้ไม่บอกก็รู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ผมต้องหน้าซีดมากแน่ มันรู้สึกชาๆ
 
พ่อเว้นจังหวะไปช่วงหนึ่งก่อนถามต่อ
 
/ปอนปอนคบกับผู้ชายคนนั้นรึเปล่า/
 
จากที่ได้ยินแสดงว่าพ่อฟังเรื่องผมจากแม่แต่ยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เลยโทรมาถามเอาจากผม กลั้นใจมองหน้าที่เฟย์ที่กำลังดูผมอย่างเป็นห่วง อะไรจะเกิดมันต้องเกิด เรื่องมาถึงแล้วต้องปล่อยให้มันดำเนินต่อไป ผมหลับตาสูดลมหายใจลึกแล้วค่อยๆ ผ่อนออกมาเพื่อสงบสติ
 
“ครับ”
 
สิ้นการรับคำเพียงสั้นๆ ความเงียบเข้าปกคลุมทันที มีคนบอกว่าความเงียบนั่นคือความสงบ แต่สำหรับผมในเวลานี้มันช่างอึดอัดกว่าสถานที่มีเสียงอึกทึกซะอีก ราวกับถูกตัดขาดจากเรื่องราวภายนอกเหลือเพียงผมและพ่อ
 
ในที่สุดความเงียบถูกทำลายลงด้วยการถอนหายใจเสียงหนักจากปลายสาย
 
/เลิกซะ/ คำพูดพ่อไม่ต่างจากฟ้าผ่าเปรี้ยงเข้ากลางหัว ผมอ้าปากไม่ทันจะอธิบายพ่อพูดต่อทันทีราวกับรู้ว่าผมจะพูดอะไร
 
/ลูกเป็นผู้ชาย เขาคนนั้นก็เป็นผู้ชาย มันเป็นไปไม่ได้ ธรรมชาติสร้างมาให้ผู้ชายคู่กับผู้หญิง ลูกยังเด็กแค่ถูกล่อลวงไปเพียงชั่ววูบ เลิก แล้วห้ามติดต่อ/
 
“แต่ผม...” โต้ได้แค่สามคำพ่อพูดสวนกลับมาเป็นชุด ผมเม้มปากคิ้วขมวดแน่น พ่อผมเป็นคนอารมณ์ดีร่าเริงก็จริง ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่หัวแข็งมาก ดื้ออย่างที่สุดตามประสาผู้นำครอบครัวที่ยึดความคิดตัวเองเป็นหลัก ใช่ว่าไม่ดี ผมเข้าใจเสมอ สิ่งที่พ่อสอน พ่อบอกทั้งหมดเกิดจากความหวังดีด้วยความที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ยิ่งพ่อผมเป็นคนจีนแท้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องแบบนี้ ผมควรจะทำยังไงดี...
 
ช่วงที่ผมกำลังพยายามดิ้นรนหาทางออก สัมผัสอุ่นร้อนจากมือหนาวางไว้หลังมือ
 
“ปอนด์ พี่ขอคุยกับพ่อปอนด์หน่อย”
 
น้ำเสียงจริงจังไม่มีแววล้อเล่น ผมชั่งใจ พี่เฟย์กระชับมือผมแน่นราวกับจะบอกว่าให้เชื่อใจพี่ผมถึงยอมบอกพ่อและยื่นโทรศัพท์ให้อย่างว่าง่าย
 
พี่เฟย์ทักทายเป็นภาษาอังกฤษ ขนาดนั่งข้างๆ ไม่ได้เปิดลำโพงผมยังได้ยินพ่อพ่นภาษาเดียวกันออกมาเป็นชุด แม้จะฟังไม่ออกแต่เนื้อหาคงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน คิ้วเข้มถึงขมวดแน่นแบบนั้น พี่เฟย์โต้กลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สุภาพแต่ไม่โอนอ่อน
 
ดูท่ามันจะไม่เป็นผลเท่าที่ควร สีหน้าพี่เฟย์ความตึงเครียดถึงได้ไม่คลายลงแม้แต่น้อย สุดท้ายพี่เฟย์จำต้องยื่นมือถือคืนให้ ผมรับมาแนบหูส่งเสียงแค่คำเดียวพ่อก็ตอบกลับมา
 
/ปอนปอนเชื่อฟังพ่อเพื่ออนาคตของลูกเอง แค่นี้ก่อนนะพ่อต้องไปทำงานต่อ ไว้วันหลังจะโทรไปใหม่/
 
น้ำเสียงเจือความเข้มงวดอยู่หลายส่วน เวลานี้พ่อกำลังร้อนผมพูดมากไม่ได้เลยได้แต่รับคำอย่างเดียวจนกระทั่งพ่อวางสายไป ขอบตาผมร้อนผ่าว น้ำตามาคลอจนมองทุกอย่างพร่าเลือน พี่เฟย์กระซิบปลอบ จูบหน้าผากผมแผ่วเบา
 
“ไม่เป็นไร พี่อยู่ตรงนี้เดี๋ยวเราค่อยคุย กลับบ้านกันนะ” ผมผงกหัวรับอย่างเดียว ยกมือปาดน้ำตาลวกๆ ให้พี่เฟย์จูงมือผมกลับไปที่รถ เวลานี้ไม่มีอารมณ์อยากสนุกกับงานโรงเรียนแล้ว พี่ชายโทรไปหาพี่กบบอกว่าจะกลับกันก่อนให้สองคนนั้นกลับเอง
 
ผมเดินก้มหน้าพยายามไม่สนสายตาของคนที่มองมา มีพี่เฟย์คอยเปิดทางให้ เสียงอึกทึกห่างไกลออกไปเรื่อยๆ กระทั่งเราขึ้นมานั่งกันอยู่ในรถ พอประตูปิดเสียงทุกอย่างจึงหายไปเหลือเพียงเสียงสะอื้นของผม
 
ร่างสูงโอบบ่าแล้วกดหัวคนเสียใจให้มาซุกอก
 
“ร้องไห้ออกมาเถอะ อย่าฝืนเลย”
 
สิ่งที่พี่เฟย์พูดไม่ต่างจากการปลดปล่อยผมออกจากความอัดอั้น ผมปล่อยโฮแบบไม่อาย แม้จะเป็นเพียงแค่การคุยผ่านทางโทรศัพท์แต่มันสร้างความเจ็บร้าวให้ผมมาก ผมอยู่กับแม่มาตั้งแต่จำความได้ พ่อมีครอบครัวอยู่แล้วที่นั่นทำให้ต้องเลิกกับแม่คอยส่งเงินมาให้ทุกเดือน นานๆ ทีจะมาหาผมสักครั้ง
 
พ่อเคยเลี้ยงผมตอนเด็กอยู่ช่วงหนึ่ง พาไปเที่ยว สอนสั่งทุกอย่าง แสดงให้ผมรู้ว่าทั้งพ่อและแม่รักผมมาก แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์อย่างคนอื่นก็ตาม ผมเลยผูกพันกับพ่อมาก
 
ผมเป็นลูกคนเดียว ได้แต่รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับพี่น้องพ่อเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ เคยวาดฝันวันที่ตัวเองมีพี่น้องอย่างคนอื่นเขา นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมหลงใหลไปกับความอบอุ่นของพี่เฟย์ตั้งแต่แรกพบ
 
พอโตขึ้นผมคิดไว้ว่าผมจะตอบแทนพ่อที่ทำงานหนัก จะเป็นเด็กดีไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวังเด็ดขาด แล้วตอนนี้ผมได้ทำสิ่งเหล่านั้นไปแล้ว น้ำเสียงผิดหวังของพ่อทำร้ายผมมากกว่าการดูถูกของคนนับร้อยเสียอีก ที่เจ็บกว่านั้นคือ ผมปล่อยพี่เฟย์ไปไม่ได้ ผมคิดไม่ออกด้วยซ้ำถ้าไม่มีพี่เฟย์ชีวิตผมจะเป็นยังไง
 
มือหนาลูบแผ่นหลังสั่นเทาเพื่อปลอบโยน
 
“พี่ขอโทษที่ทำให้เราต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แต่พี่ก็ปล่อยเราไปไม่ได้เหมือนกัน” คนในอ้อมแขนยอมเงยหน้ามองคนพูดทั้งที่ดวงตาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา “เกลียดพี่รึเปล่าที่ทำให้เราต้องเจอเรื่องแย่ๆ”
 
ผมส่ายหัว ซุกหน้ากับอกกว้าง
 
“ไม่ ฮึก... ไม่เกลียด ผมต้องขอบคุณ... พี่ ที่คอยอยู่ข้างผม... เสมอมากกว่า” คำพูดเจือเสียงสะอื้นนั่นขาดหาย แต่คนฟังได้ยินชัดเจนทุกคำ วงแขนกอดกระชับมากขึ้น ริมฝีปากจูบหน้าผากมนหลายที ก่อนจะไล่จูบบนเปลือกตา ช่วยซับน้ำตาให้อย่างนุ่มนวล
 
“เงียบซะนะแมวน้อยของพี่ จุ๊ๆ ไม่เป็นไรนะ ตอนนี้พ่อเขาอาจจะยังไม่ยอมรับ แต่พี่เชื่อว่าในอนาคตข้างหน้าพ่อต้องยอมรับได้แน่นอน...”
 
มือกำเสื้อพี่เฟย์แน่นเพื่อเป็นที่พึ่ง หูฟังเสียงทุ้มนุ่มที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ทำให้ผมสบายใจเสมอ อย่างในตอนนี้ ความรู้สึกปั่นป่วนเริ่มกลับมาสงบลงอย่างช้าๆ
 
”ปอนด์จำได้มั้ย ก่อนพวกเราจะมาที่นี่แม่บอกว่าปอนด์ยังมีแม่อยู่เสมอ พี่เองก็ด้วยปอนด์ไม่ได้อยู่คนเดียว พ่อเองก็รักปอนด์มาก ที่พูดแบบนั้นออกมาเพราะเป็นห่วง”
 
“ผมเข้าใจ”
 
“ดีแล้ว... เรากลับไปตั้งหลักที่บ้านกันก่อน เดี๋ยวโทรหาแม่ด้วยจะได้สบายใจมากขึ้น”
 
อ้อมกอดถูกคลายออกให้ผมกลับไปนั่งที่ข้างคนขับพร้อมรัดเข็มขัดให้ ระหว่างทางเราไม่ได้พูดอะไรกัน ต่างคนต่างจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง มีเพียงฝ่ามืออุ่นที่กุมมือผมไว้ไม่ปล่อย
 
ที่บ้านยังไม่มีใครกลับมาเลยเงียบสงบมาก พี่ชายปลีกตัวไปชงอะไรหวานๆ มาให้ผมดื่มปลอบใจ ส่วนผมตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ปลายสายคือแม่ของผม รอเพียงไม่นานแม่ก็รับสาย
 
/ว่าไงน้องปอนด์ ป๊ะป๋าโทรไปหาแล้วรึเปล่า/
 
คนสวยของผมยังคงรู้ใจลูกชายเหมือนเคย
 
“ครับ โทรมาเมื่อกี้ พ่อไม่ยอมรับเรื่องผมกับพี่เฟย์”
 
/แม่ก็คิดไว้อยู่แล้วแหละ ตาแก่หัวแข็งนั่น... ลูกไม่ต้องสนใจหรอก ยังไงก็ยังมีแม่อยู่ แม่เลี้ยงลูกมาแม่รู้ดีว่าลูกเป็นยังไง ป๊ะป๋าของลูกไม่ได้อยู่ด้วยตลอดสักหน่อย จะรู้ดีไปกว่าแม่ได้ไง/
 
เจอคำพูดเหน็บแนมแฝงความไม่พอใจทำให้ผมหลุดขำ
 
/เจ้าลูกคนนี้ ชอบให้แม่ว่าป๊ะป๋าเรารึไง/
 
ผมรีบปฎิเสธ “เปล่านะ! ผมแค่ขำเวลาแม่กับพ่อพูดแบบนี้ใส่กันแล้วดูน่ารักดี”
 
/ทางนั้นคงบอกว่าแม่ขี้บ่นล่ะสิท่า เอาเถอะ อารมณ์ดีขึ้นแล้วสินะ/ ผมยิ้มออกมา รู้สึกอุ่นวาบไปทั้งใจ ความรักใดไม่ยิ่งใหญ่เท่าแม่จริงๆ
 
“ครับ ผมรักแม่นะ เดี๋ยวกลับจะเอาของกินไปฝาก แม่อยากได้อะไรเป็นพิเศษมั้ย”
 
/โอ๊ยย ไม่เอาหรอก แค่ลูกๆ กลับมาอย่างปลอดภัยก็พอ แต่ถ้าจะเอามาแม่ขอเป็นของกินหรือของที่ใช้ได้นะ พวกตั้งโชว์เฉยๆ ให้ฝุ่นเกาะไม่เอาไร้ประโยชน์/
 
นี่ขนาดไม่อยากได้ของฝากนะเนี่ย รีเควสเสร็จสรรพ 
 
“คร้าบๆ ลูกชายคนนี้จะเลือกของให้อย่างดี”
 
/แม่เกรงใจ ปล่อยให้เฟย์เลือกให้แม่เถอะ ขืนเราเลือกไม่รู้จะได้ของอะไรมา/ น้ำเสียงแบบเหนื่อยหน่ายระอาใจมาก ผมไม่น้อยใจสักนิด ขำมากกว่า
 
“แม่อะ เบื่อจริงคนรู้ทัน”
 
/อย่าลืมสิฉันเป็นใคร ถ้าไม่รู้ใจลูกชายตัวเองจะไปรู้ใจหมาที่ไหน เอ๊ะ ก็ไม่แน่นะ ยกเว้นเจ้าหมาน้อยที่บ้านไว้ตัว/
 
ดู๊ดูคุณหญิงแม่ ปลอบใจลูกชายด้วยการรังแก สรุปแม่ลูกเลยหยอกกันไปแหย่กันมาคุยออกนอกทะเลนู่น ในใจต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าแบบนี้แหละ ทำให้สบายใจที่สุด
 
/อย่าคิดมากนะน้องปอนด์ แม่วางก่อนนะน้าหน่อยชวนแม่ไปตลาดแล้ว/
 
“ครับ ดูแลตัวเองด้วย ผมกลับไปจะนอนกอดแม่ให้ชื่นใจ”
 
/ฮ่าๆ โตเป็นควายแล้วแม่ไม่เอาหรอก ลูกเองก็ระวังตัวด้วยนะ/
 
ผมวางสายแม่รู้สึกดีขึ้น ถึงจะมีความกังวลใจอยู่ก็ตาม สิ่งนี้คงขจัดออกไปไม่ได้ง่ายๆ คงต้องอาศัยเวลาจนกว่าพ่อผมจะยอมรับ
 
“คุยกับแม่แล้วเป็นยังไงบ้าง”
 
พี่เฟย์เดินมาหาผมพร้อมนมเย็นในมือ ดูท่าพี่เฟย์จะมาก่อนถึงได้ยืนรอให้ผมคุยจนน้ำแข็งละลาย แต่นั่นมันไม่สำคัญเท่าใจคนทำให้หรอก ผมดูดนมเย็นรสหวานหอมละมุนก่อนตอบ
 
“ดีขึ้นแล้วฮะ ขอบคุณครับพี่”
 
พี่เฟย์ยิ้มรับจูงผมไปนั่งเล่นกันบนโซฟา ผมอยากรู้ว่าพี่ชายคุยอะไรกับพ่อเลยถามออกไป เจ้าตัวเองก็ยอมบอกโดยไม่ปิดบัง
 
เฮียบอกพ่อผมว่า...
 
‘ผมไม่ได้คาดหวังว่าคุณจะยอมรับได้ตอนนี้ แต่ผมแค่หวังว่าคุณจะยอมรับความรับทางเลือกของลูกชายคุณ ถึงแม้มันจะดูแปลก มันดูผิดในสายตาคนอื่น แต่คุณอย่าลืมนะครับว่าลูก... ยังไงย่อมคาดหวังว่าพ่อแม่จะเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น ถ้าคุณจะโทษก็โทษผมเถอะครับ อย่าโทษปอนด์เลย ลูกคุณเป็นเด็กดี อย่าทำให้ปอนด์ต้องเสียใจเลย’
 
ผมฟังเงียบๆ ด้วยหัวใจเต็มตื้อ ผมเดาได้ว่าพ่อต้องคุยกับพี่ชายไม่ดีแน่ ถึงอย่างงั้นพี่เฟย์ดูไม่โกรธเลยแม้แต่น้อยและไม่คิดจะปล่อยมือจากผม เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน
 
ร่างเล็กเอนกายพิงไหล่คนตัวสูง หลับตาพริ้มถ่ายทอดความรู้สึกเชื่อใจให้แก่กันโดยไม่ต้องใช้คำพูด
 
ผมจะรอฟ้าหลังฝนของพวกเรา...

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
วายที่30 วันของเรา
 
ผมอยู่บ้านพี่เฟย์ต่ออีกหนึ่งวันก่อนจะกลับกรุงเทพ ช่วงนั้นโฟมหายตัวไปขลุกอยู่กับพี่กบหลังจากพาลูกเขยมาให้พ่อแม่เชยชมทำให้ผมไม่ได้คุยกับโฟมเลย แต่เห็นเจ้าตัวมีความสุขดีผมก็โอเคด้วย พี่เฟย์เองก็เช่นกัน
 
พอกลับมากรุงเทพพี่ชายไปค้างบ้านผมคืนหนึ่งแล้วปล่อยผมให้ผมอยู่กับแม่สองคน เราคุยกันหลายอย่างทั้งเรื่องของพ่อและเรื่องของผมสมัยเด็ก หลังจากอยู่กับแม่จนเต็มอิ่ม ถึงเวลาที่ผมจะกลับไปเป็นแมวบนคอนโดสูงสักที
 
ที่มหาลัยเองก็มีงานทับถมให้สมกับช่วงหยุดยาวของลูกศิษย์ ถึงอย่างนั้นด้วยความเป็นหนุ่มวายมาตลอดสี่ปีเต็ม งานเยอะแค่ไหนไม่อาจขัดขวางพลังมโนของผมได้ ที่ผ่านมาผมเคยแต่แต่งฟิคนิยายเรื่องที่ชอบ มาตอนนี้ผมเกิดความคิดอย่างหนึ่ง อยากจะสร้างสรรค์นิยายวายแบบออริจินอลของตัวเองขึ้นมา
 
ช่วงแรกยังมีปัญหาอยู่บ้าง ล้มลุกคลุกคลานกันไป มีพี่เฟย์เป็นผู้ตรวจ ที่ปรึกษา พี่เลี้ยง เหมาทุกตำแหน่งยิ่งกว่าพ่อบ้านเซบาสเตียน ทำยันเกินหน้าที่ช่วยสาธิตแบบของจริงให้ผมเพื่อการแต่งนิยายที่ลื่นไหล ซึ่งผมไม่ได้ต้องการเลยแม้แต่น้อย เพราะมันตามมาด้วยอาการปวดสะโพกตรงกันข้ามกับพี่เฟย์ที่หน้าใสกิ๊ง
 
พอเข้าช่วงสอบ ผมจำต้องวางมือจากนิยายที่เพิ่งแต่งได้ไม่กี่ตอนไปชั่วคราว ทุ่มเทให้กับการเรียนผสมอู้ แถมยังต้องโต้รุ่งทำงานชิ้นใหญ่พรีเซนท์อาจารย์และส่งก่อนสอบ เจอไปสามวิชา วิชาละหนึ่งงาน กลุ่มบ้างเดี่ยวบ้าง แล้วยังต้องถ่างตาอ่านสอบอีกสูบพลังงานซะผมกลายเป็นแมวแห้งตาโหล สร้างความกลัดกลุ้มให้พี่เฟย์ที่พยายามขุนผมมาโดยตลอด
 
แต่ผลการเรียนออกมาเป็นที่น่าพอใจ ในฐานะนักศึกษาปีหนึ่ง ผมขอแนะนำทุกคนให้เร่งทำเกรดตอนปีหนึ่งให้ดีที่สุด เพราะส่วนใหญ่ปีนี้จะเริ่มด้วยวิชาพื้นฐานที่เนื้อหาไม่ยากนัก บางวิชามีพื้นจากตอนเรียนมัธยมด้วยซ้ำ ถามว่าเพื่ออะไรน่ะหรือ? ก็เพื่อให้วิชาเอกในอนาคตดึงเกรดลงแล้วไม่น่าเกลียดเกินไปยังไงล่ะ!
 
สอบเสร็จเหมือนการปล่อยผี ผมตามกลุ่มซันไปกินหมูกะทะฉลอง(อีกแล้ว) จะถามถึงความเป็นไปของแต่ละคู่น่ะเหรอ มาๆ เดี๋ยวผมแจกแจงให้ฟัง
 
คู่แรกป๊าม้าของผมเอง ซันโป้ยังคงรักกันดีเป็นสามีรองเท้าภรรยา เห็นว่าปิดเทอมซันจะขึ้นเหนือตามโป้อยู่สักครึ่งเดือน ส่วนวันหยุดที่เหลือจะมาสิงสถิตที่รีสอร์ทของซัน สองคนนี้ผมเห็นช่วงสอบครั้งแรกแทบหัวใจวายตาย ซันหน้าเยี่ยงโจรป่าเพราะมัวทำงานไม่มีเวลาดูแลเช่นเดียวกับโป้เกือบทำผมกรี๊ดสลบ
 
พวกคุณลองคิดดูสิ หน้าหล่อปนสวยอย่างโป้ แต่กลับมีหนวดขึ้นครึ้ม ผมรากไทรยุ่งเหยิงขอบตาเป็นหมีแพนด้า ขนาดซันยังเล่าให้ฟังว่าเห็นหน้ากันตอนแรกแหกปากกันลั่นห้อง ผมคิดภาพตามแล้วขำกลิ้ง
 
ริวคงไม่ต้องพูดถึง ยิ่งช่วงใกล้สอบผมว่าริวหาตัวยากยิ่งกว่ามิทซะอีก โป้แอบกระซิบบอกว่าริวกำลังตามจีบรุ่นพี่คนหนึ่ง อาศัยอีกฝ่ายช่วยติวให้สร้างความสัมพันธ์ ซึ่งรุ่นพี่คนนั้นเรียนสาขาเดียวกับริวด้วย เพื่อนตัวโย่งเลยขนทั้งข้อสอบและงานก่อนปิดเทอมไปถมรุ่นพี่คนนั้นไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ก็หวังว่าเพื่อนริวจะสำเร็จในเร็ววัน ผมเอาใจช่วย สนับสนุนให้ผู้ชายกินกันเองคือคติของชาววาย
 
ทั้งหมดทั้งสิ้นคงมีมิทคนเดียวที่ยังหน้าเป๊ะแบบเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง แม้ว่าประชากรเกือบครึ่งมหาลัยจะเปลี่ยนสปีชี่ไปเป็นหมีแพนด้ากันหมด ที่พิเศษหน่อยคงเป็นทุกวันมีรถสีดำฟิล์มหนาคอยรับส่งปานลูกคุณหนูผู้ร่ำรวย เวลาไปเที่ยวไหนไกลก็จะมีบอดี้การ์ดตามมาด้วยหนึ่งคนเสมอจากคำให้การของซัน
 
ปล่อยพวกนั้นไปตามทาง กลับมาเรื่องของผมดีกว่า ปิดเทอมผมถูกปล่อยกลับสู่อ้อมอกแม่เป็นแรงงานประจำบ้าน โดยมีหมาเป็นตัวเยาะเย้ย บางครั้งก็แวบไปนอนกับพี่เฟย์บ้าง สลับไปมาอย่างกับคนดังมีแต่คนต้องการ
 
ผมตัดสินใจไม่เรียนซัมเมอร์ ใช้เวลาว่างแต่งนิยายเต็มที่ หมายมั่นปั้นมือว่าจะเสร็จให้ได้ก่อนเปิดเทอม แต่ความจริงการแต่งนิยายเรื่องหนึ่งมันไม่ง่ายขนาดนั้น กระทั่งเปิดเทอมแล้วผมยังแต่งได้เพียงแค่ครึ่งเรื่องแล้วต้องพักช่วงอีกเพื่อนลุยกิจกรรมรับน้อง
 
ปีก่อนผมน้องผู้ถูกรุ่นพี่เอ็นดู ปีนี้ผมกลายเป็นรุ่นพี่คุมน้อง ด้วยความที่ผมตัวใหญ่สมชายมากเกินไป เพื่อนจึงไล่ให้ผมเป็นรุ่นพี่คอยดูแลน้องอยู่เบื้องหลัง เพราะคาดว่าไม่มีรุ่นน้องคนไหนเกรงกลัวหรือเชื่อฟังผมแน่นอน ขนาดไปนั่งแขวนป้ายชื่อเนียนกับเด็ก รุ่นน้องยังไม่รู้เล้ย!
 
ที่มหาลัยผมมีกิจกรรมอย่างหนึ่งด้วย รุ่นน้องทุกคนต้องพกสมุดสำหรับขอลายเซ็นต์รุ่นพี่และเพื่อนให้ได้มากที่สุด โดยแบ่งคะแนนมากขึ้นตามชั้นปี ตอนผมปีหนึ่งผ่านพ้นไปได้ด้วยดีอาศัยความน่ารักในการทำมาหากิน ปีนี้ต้องเป็นฝ่ายรังแกน้อง ไหงผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายถูกรังแกมากกว่า น้ำตาจะไหล
 
“พี่ปอนด์ ขอลายเซ็นกับเบอร์โทรหน่อยสิครับ”
 
ขอเบอร์ไปทำแมวอะไรหา? ผมไม่ยอมให้เขียนแค่เมลล์กับเฟสรองอย่างเดียว เฟสหลักไม่ได้ อัพรูปวายไม่เว้นวัน ขนาดเพื่อนผมยังรับแค่บางคน ความชอบแบบนี้มันเผยแพร่มากไม่ได้หรอก เกรงใจคนอื่นเขา
 
“อย่าเรื่องมากนะ พี่อุตส่าห์ให้แบบไม่สั่งให้ทำอะไรแล้วเชียว”
 
“ก็พี่ปอนด์น่ารัก ขอเบอร์หน่อยนะครับ ผมจะได้เอาไว้ปรึกษาไง”
 
ได้ข่าวว่าไม่ใช่น้องรหัสผมนะ น้องรหัสผมเป็นสาวน้อยน่ารักเรียบร้อยที่เป็นสาววายเช่นกัน ฟ้าช่างมีตาส่งให้เราพี่น้องมาพบเจอ
 
“ปรึกษาไรไอ้บาส พี่ปอนด์มีแฟนแล้วไม่ต้องมาจีบเลย”
 
นี่ไงน้องรหัสของผม สาวมินท์ผู้คุ้ยเฟสจนรู้ว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชายสุดหล่อ น้ำตานองคูณสอง หนุ่มวายว่าน่ากลัวแล้วยังมีพลังไม่เทียบเท่าสาววายเลยจริงๆ
 
ผมมองเด็กปีหนึ่งสองคนทะเลาะกัน ได้โปรด ปล่อยผมกลับบ้านเถิด อยากกลับไปกินเค้กจะแย่อยู่แล้ว ช่วงนี้มีกิจกรรมกว่าจะเลิกตั้งสองสามทุ่ม เพราะต้องเก็บกวาดหลังน้องกลับ อีกอย่างใครบางคนกำลังจะมา ผมยังไม่อยากงานเข้า!
 
“พี่ว่าน้องๆ รีบกลับบ้านดีกว่านะ เดี๋ยวที่บ้านเป็นห่วง”
 
“ไม่เป็นไรครับพี่ปอนด์ ผมอยู่หอมหาลัย” น้องบาสตาวาว เค้าไม่ชอบเด็กอ่า เค้าชอบคนแก่...
 
“หน้ามึน! หอปิดห้าทุ่มยังไงก็ต้องรีบกลับ มาเลยมาด้วยกันอย่าให้ฉันองค์ลงนะ พี่ปอนด์หนูกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
 
น้องมินท์บอกลาด้วยรอยยิ้มน่ารัก ลากแขนเพื่อนวัยเด็กจากไปโดยไม่สนเสียงโวยวาย ผมพอเดาอนาคตได้ สองคนนี้คู่กันชัวร์!
 
ผมหันหลังกลับคว้ากระเป๋าหยิบมือถือว่าจะโทรหาคนมารับ พอเงยหน้าเห็นร่างสูงกำลังเดินมาทางนี้ ผมเลยเก็บมือถือเข้ากระเป๋าไปตามเดิม
 
ใบหน้ายิ้มแย้มเริงร่า วิ่งไปทางพี่ชายหมายจะกระโดดกอดเนียนลูบกล้ามท้องฟื้นพลังงานที่เสียไปทั้งวัน เป็นต้องชะงักกับคำถาม
 
“ปอนด์ เด็กผู้ชายนั่นรุ่นน้องเหรอ”
 
“ใช่แล้ว”
 
“อืม ปะ กลับบ้านกัน”
 
ยอมรับง่ายทั้งที่เห็นต่อหน้าต่อตา ผมมัวระวังเกือบตามไม่ทัน ปล่อยให้พี่ชายกอดฟัดพาขึ้นรถกลับคอนโด มารู้เอาตอนหลังแหละว่าตอนนี้พี่เฟย์มีสปายมือฉมังคนใหม่แล้ว แทนโป้ที่อยู่ต่างคณะ เดาไม่ยากหรอกครับว่าใคร... ก็มินท์น้องรหัสของผมไง
 
มิน่าล่ะพี่เฟย์ถึงได้วางใจนัก ผมได้แต่อมยิ้มปริ่มกับมุมน่ารักเล็กๆ ของพี่เฟย์
 
หลังพ้นกิจกรรมการรับน้อง เหลือเพียงการเรียนปกติที่ผมมีเวลาว่างกลับมาปั่นนิยายอีกครั้งหนึ่ง ผ่านไปได้สองเดือน และแล้ว... นิยายวายเรื่องแรกของผมก็เสร็จสมบูรณ์จนได้ ผลการตอบรับแม้จะไม่เยอะเหมือนนักเขียนดังๆ แต่เวลาได้อ่านคอมเมนท์คำชมแต่ละครั้งทำให้ผมมุ่งหน้าสู่ฟินแลนด์ได้ทุกรอบ
 
จนกระทั่งมีนักอ่านต้องการซื้อแบบเป็นรูปเล่ม ประจวบเหมาะกับใกล้งานอีเวนท์รวมของวาย ผมเองอยากหาประสบการณ์ทำเล่มของตัวเองดูสักครั้ง เลยตกปากรับคำติดต่อกับโรงพิมพ์ พิมพ์หนังสือจำนวนน้อยเพื่อเอาไปขายในงานและถือโอกาสซื้อของงานของคนอื่นด้วย
 
คนออกบูธมีสิทธิ์เดินช้อปก่อนไม่ต้องกลัวว่าของจะหมด ส่วนผู้ช่วยของผมจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากน้องมิ้นหนึ่งในแฟนคลับของผมเอง
 
ถึงวันงานผมต้องไปก่อนงานเปิดหนึ่งชั่วโมงเพื่อเตรียมของและจัดบูธรอ ได้รับอภินันทนาการจากพี่เฟย์ สละผ้าปูลายเท้าแมวกับที่ตั้งหนังสือโชว์ปกมาให้ หนังสือของผมมีแค่นิยายออริกับฟิคที่แต่งจนจบ รวมแล้วแค่สองเล่มทำให้ไม่วุ่นวายในการจัด
 
แอบเขินนิดหน่อย เพราะผมเป็นหนุ่มวายที่มีอยู่น้อยนิดในงาน เลยโดนโต๊ะอื่นอมยิ้มมองเป็นระยะ โชคดีที่มินท์มาเร็วไม่ปล่อยให้ผมนั่งเกร็งอยู่คนเดียว น้องมินท์มาในมาดของนัตสึเมะอุ้มตุ๊กตาเหมียวหง่าวมาด้วย เพราะงานนี้คอสเพลย์ได้ ผมล่ะอยากจะรีบขายของให้หมดแล้วไปดูคนอื่นคอสเพลย์จริง นึกถึงสมัยคอสครั้งแรกที่มาพร้อมกับพี่เฟย์เลย
 
“พี่ปอนด์รอนานมั้ย ว้าว! พี่คอสเรื่องนี้เหรอเนี่ย ถ้างั้นแฟนพี่ก็...”
 
มินท์ระริกระรี้ดูตื่นเต้นกว่าผมอีก
 
“อย่าเสียงดังสิ เกรงใจคนอื่นเค้า มินท์มาก็ดีแล้วเรามาสลับกันไปซื้อของก่อนงานเปิดดีกว่า”
 
“ค่าๆ งั้นมินท์จะรีบไปซื้อรีบกลับนะ” สาวน้อยร่าเริงยิ้มร่าอุ้มตุ๊กตาไปซื้อของด้วย ชุดกับกางเกงผมว่ามินท์บังคับเอามาจากบาสแหง
 
ผมขายหนังสือแนะนำให้กับคนที่แวะเวียนมาที่บูธระหว่างรอมินท์ สาวหลายคนดูปลื้มอกปลื้มใจ พอรู้ว่าผมเป็นคนแต่งเองพากันมองตาโต แทบเก็บเสียงกรี๊ดกันไม่ไหว ส่วนสาเหตุเอาไว้ผมจะบอกหลังจากนี้แล้วกัน
 
เวลาในงานปล่อยซื้อของแค่ยี่สิบนาทีก่อนกลับมาประจำที่บูธของตัวเอง ผมยิ้มหน้าชื่นได้ของตามที่ต้องการ นั่งรอคอยงานเปิด สตาฟประกาศไม่ทันไร เปิดประตูปุ๊บสาววายทั้งหลายแห่กันเข้ามาเหมือนฝูงมด ทุกคนตรงดิ่งไปยังบูธเป้าหมายของตัวเอง นักเขียนนักวาดคนไหนดังก็มีคิวต่อแถวยาวเป็นหางงู
 
ก็มีบ้างที่ตรงมายังบูธผม ผมยิ้มรับคุยเล็กน้อย บางคนขอถ่ายรูป บางคนขอลายเซ็นต์ หูได้ยินเสียงกรี๊ดเป็นระยะเพราะบนเวทีสตาฟเปิดภาพวายเรื่องดัง มีกิจกรรมให้เล่นลุ้นรับของด้วย กระทั่งมีเสียงกรี๊ดเป็นระลอกเหมือนคลื่นเวฟ ไล่ตั้งแต่นอกงาน ประตู เข้ามาในงาน และเสียงจากสาวข้างตัว
 
“กรี๊ดดดด พี่ปอนด์!”
 
มินท์เขย่าตัวผมอย่างบ้าคลั่ง
 
“ห๊ะ อะไร เกิดอะไรขึ้น” ผมเงยหน้าจากหนังสือที่กำลังเซ็นเป็นชื่อพร้อมหน้าแมว พอเห็นต้นตอของเสียงกรี๊ดนั่นแหละ ผมอ้าปากค้าง
 
ชายร่างสูงปานนายแบบสวมชุดกึ่งสูทคุ้นตา ใบหน้าหล่อเหลาอย่างร้ายกาจ ผมไม่ได้สวมวิก ดวงตาคมฉายความอบอุ่นไม่มีคอนแทคเลนส์ ที่โดดเด่นไม่ใช่เพียงรอยยิ้มอ่อนโยน แต่มันคือสิ่งที่ชายคนนี้กำลังอุ้มอยู่ต่างหาก!
 
ตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวโตผูกโบว์อันใหญ่ลายจุดสีชมพู ถูกยื่นมาตรงหน้าผม
 
“นายลืมเอาซูซูกิซังมานะมิซากิ”
 
เสียงทุ้มนุ่มไม่ดังและไม่เบา แต่คนรอบข้างที่อยู่ใกล้เคียงได้ยินชัดทุกถ้อยคำ ดวงตาหลายคู่มองสลับระหว่างผมกับชายตรงหน้า ผมในชุดธรรมดาแต่สวมวิกสีน้ำตาลใส่คอนแทคสีเขียว ถึงขนาดนี้ถ้าคนมองไม่ออกก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
 
“กรี๊ดดดดดดดดด!! Junjou Romantica!!!”
 
“อ๊าย! ท่านอุซามิในโลกแห่งความจริง”
 
“มิซากิน่ารักเกินไปแล้ว”
 
แสงแฟลชเกิดขึ้นรัวๆ ผมหน้าแดงก่ำรับตุ๊กตาหมีตัวโตมาพลางก้มหน้างุดๆ ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจเป็นบ้า! ผมที่ดูเมะเรื่องนี้เมื่อสามวันก่อน นึกอยากได้ตุ๊กตาหมีขึ้นมา ออดอ้อนเท่าไหร่พี่ชายก็ไม่ยอมซื้อให้ ใครจะไปคิดล่ะว่าพี่ท่านเล่นเซอร์ไพรส์แบบนี้
 
“โอ้! ตรงนั้นดูเหมือนจะมีตัวละครจากอนิเมะวายชื่อดังออกมาในโลกแห่งความจริงนะเนี่ย ใช่เรื่องนี้รึเปล่าเอ่ย?”
 
สตาฟสาวบนเวทีช่างตาไว หันไปส่งซิกให้คนคุมเครื่องฉาย เปลี่ยนเป็นภาพอนิเมะเรื่องนี้แบบเต็มจอ เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มยิ่งกว่าเดิม
 
“ได้รับเสียงตอบรับดีขนาดนี้ อุซามิซัง มิซากิคุงช่วยขึ้นมาร่วมกิจกรรมบนเวทีหน่อยนะคะ”
 
ขึ้นเลย ขึ้นเลย!
 
เสียงเชียร์จากรอบด้านช่างกดดัน น้องมินท์แทบจะลงไปดิ้นกับพื้น ยกมือทุบอกบอกจะดูแลบูธให้เองแล้วดันหลังผมกับพี่เฟย์ให้เดินไปขึ้นเวทีตามคำเรียกร้อง ผมกอดตุ๊กตาหมีเดินตามการจูงจากมือหนาต้อยๆ พอถึงเวทีกิจกรรมที่ว่านั้นแทบไม่มีอะไรเลยนอกจากมายืนร่วมกับนักคอสคู่อื่นให้เหล่าสาววายถ่ายรูปจนหนำใจ นานซะจนเริ่มเมื่อย
 
“ขอโทษนะครับ มิซากิเหนื่อยแล้ว พวกผมขอกลับบูธก่อน ถ้าใครอยากคุย เจอกันได้ที่บูธ Y18 นะครับ”
 
คำพูดปิดท้ายก่อนลงเวทีเซอร์วิสไม่พอยังเนียนโฆษณาอีก ดีนะที่คู่ผมไม่ใช่คู่เดียว ไม่งั้นคงเขินหนักมากกว่านี้ พอลงเวทีกลับบูธได้พี่เฟย์มาช่วยขาย น้องมินท์ก็สลัดฐานวิ่งไปหาเพื่อนถ่ายรูปคนคอสที่รวมตัวกันอยู่ลานกว้างด้านนอก
 
พี่เฟย์เป็นคนขาย ผมเป็นคนเซ็นต์ บางเล่มมีคนรีเควสขอลายเซ็นต์พวกเราทั้งคู่ นั่นก็เพราะ...
 
“น้องใช่ปอนด์ที่แต่งนิยายเรื่อง ‘หนุ่มวายยกกำลังสอง’ ใช่รึเปล่าคะ?” พี่สาววัยทำงานถามตาวาว
 
“ใช่ครับ” ผมตอบสุภาพ
 
“ถ้างั้น พี่ชายคนนี้คือพี่เฟย์ พระเอกของเรื่องคู่กับน้องถูกต้องมั้ยคะ”
 
คราวนี้พี่เฟย์เป็นคนตอบแทน
 
“ใช่แล้ว ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะครับ ผมเองก็คอยเป็นผู้ช่วยน้องตลอดเห็นนั่งแต่งหามรุ่งหามค่ำก็เป็นห่วง แต่ผลตอบรับออกมาเป็นที่น่าพอใจแบบนี้ผมก็ดีใจ”
 
เซอร์วิสอีกแล้ว! พี่สาวที่มาซื้อแทบจะล้มตายอยู่หน้าโต๊ะ เธอขอให้พวกเราช่วยเซ็นต์ทั้งคู่ พอเห็นแบบนั้นคนอื่นที่อยู่ใกล้เคียงเลยเอาบ้าง ยิ่งรู้ว่าผมแต่งโดยใช้อิมเมจจากตัวเองและพี่ชาย คนซื้อเยอะมากกว่าเดิม ผลสุดท้ายหนังสือก็ขายหมดเกลี้ยงทั้งที่งานยังไม่จบ ต้องให้แต่ละคนลงชื่อสำหรับติดต่อกลับรอบรีปริ้นท์
 
เพราะไม่รู้จะทำอะไรต่อ แถมผมเริ่มเหนื่อยอยากกลับไปอ่านหนังสือที่ซื้อมาไวๆ สุดท้ายผมกับพี่เฟย์เลยชักชวนกันกลับก่อน ไปบอกน้องมินท์ที่อยู่ด้านนอก ถูกรุมขอถ่ายรูปคู่จนตาลายกับแฟลช กว่าจะปลีกตัวออกมาได้ผมนอนสลบอยู่ในรถพี่เฟย์
 
พี่ชายทำธุระให้ เปิดพรีรอบรีปริ้นท์ในเพจของพวกเราพร้อมกับแอบถ่ายรูปผมตอนหลับโพสลงเฟสอีก ผมเห็นตอนหลังแทบอยากกระโดดขบหัวพี่เฟย์ เอาคืนด้วยการแอบถ่ายภาพพี่ชายใส่ผ้ากันเปื้อนลายแมวทำอาหารเย็นโพสลงไปบ้าง เพจแทบจะแตก มีซันกับโป้โผล่เข้ามาร่วมแจม สองคนนี้เองก็เป็นไอดอลประจำเพจพวกผมเหมือนกัน
 
อยากมีส่วนร่วมดีนัก ผมเลยมัดมือชกให้ทั้งคู่มาช่วยห่อหนังสือให้ลูกค้าซะเลย สองคนนั้นแม้จะพิมพ์บ่นเป็นที่เฮฮาของลูกเพจและสาววาย พอถึงเวลาหนังสือมาส่งจริงๆ ก็ย้ายตัวเองมาช่วยถึงที่ พี่เฟย์เลยตอบแทนด้วยมื้อเย็นแสนอร่อยพร้อมของหวานสูตรพิเศษสำหรับทั้งคู่
 
แม้ตอนนี้จะไม่ได้ดั่งใจไปซะทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องพ่อของผมที่ยังคงโทรมากล่อมเป็นระยะ ถึงแบบนั้นผมก็มีความสุขมากที่ได้อยู่กับพี่เฟย์
 
ลูกแมวผุดลุกจากมุมโปรดปล่อยตุ๊กตาหมีตัวโตขยับไปกอดพี่เฟย์ที่กำลังเอนกายอ่านหนังสือในวันหยุด ถูหน้ากับแผงอกกว้าง
 
“อยู่กับผมไปตลอดเลยนะพี่”
 
คนถูกแมวอ้อนใจอ่อนระทวย วางหนังสือรวบคนตัวเล็กเข้ามากอด
 
“แน่นอน เจ้าลูกแมวของพี่” คำเรียกด้วยความเอ็นดูชวนให้จั๊กจี้แต่รู้สึกดีเป็นที่สุด
 
 
2 ปีต่อมา...
 
ผมกลายเป็นรุ่นพี่ปีสี่ที่ใกล้จะเรียนจบอย่างเต็มตัว ปีสี่ไม่ต้องทำกิจกรรมเหมือนปีหนึ่งถึงปีสามก็จริง แต่ลำพังงานและธีสิสก็ฉกฉวยเอาเวลาไปจนหมดสิ้น
 
แม้จะเหนื่อยสักแค่ไหน อาจจะเครียดหรือท้อบ้างในบางครั้ง แต่ผมยังมีพี่ชายอยู่ข้างกายทำให้ผ่านพ้นเรื่องราวพวกนั้นไปได้อย่างงดงาม
 
การสอบสุดท้ายก่อนเรียนจบ ผมตั้งใจอ่านเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ การสอบทุกอย่างก็จบลงพร้อมกับความรู้สึกตัวเบาราวกับยกภูเขาออกจากอก ผมใช้เวลาว่างช่วงนี้ก่อนอาจารย์เรียกไปคุยเรื่องธีสิสรอบสุดท้ายอยู่กับพี่ชายเต็มที่ ทดช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่มัวแต่วุ่นเรื่องการเรียน
 
ดีนะ มหาลัยผมให้ฝึกงานช่วงปิดเทอมตอนปีสาม ถ้าเกิดมารุมปีสี่หมดผมคงแย่หนัก พวกซันเองก็ไม่ต่างจากผมเท่าไหร่นัก อย่างผมยังได้ฝึกงานในกรุงเทพ ซัน โป้ ริว ถูกส่งไปต่างจังหวัดทุกคน จะเหลือก็แค่มิทที่ยังอยู่ในกรุงเทพเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเจ้าตัวไปทำอิท่าไหนถึงรอดอยู่คนเดียว
 
เจ้าโฟมอยู่มหาลัยปีหนึ่งแถวบ้าน มุ่งมั่นจะเรียนสายที่สามารถไปทำงานคู่กับพี่กบได้ ทำเอาพี่เฟย์กับครอบครัวเครียดกันไปช่วงหนึ่งด้วยความเป็นห่วง ขนาดพี่กบออกจากป่ามากล่อมเองถึงที่ยังไม่ได้ผล โฟมยืนยันหนักแน่นว่าจะเลือกทางนี้
 
ในเมื่อพี่กบไม่สามารถทิ้งหน้าที่มาหาโฟมได้ เจ้าตัวเลยเอาตัวเองไปหาแทน ปากก็พร่ำพูดว่าไม่ใช่อาชีพที่ต้องออกลุยอย่างพี่กบรับรองปลอดภัย
 
ลูกใคร ใครก็รัก ช่วงที่ทุกคนกำลังกลุ้มหนัก พี่เฟย์ตัดสินใจส่งเสริมโฟมช่วยพูดกับพ่อแม่ตลอด เพิ่งจะยอมรับก็ตอนที่โฟมสอบตรงเข้าสาขาที่ต้องการได้นั้นแหละ ผมนับถือในความรักของโฟมจริงๆ คนที่มีความอดทนตั้งมั่นในรักได้ขนาดนั้นเกิดมาผมยังไม่เคยเจอ
 
ไม่ต้องหาตัวอย่างที่ไหนไกล ขนาดผมกับพี่เฟย์ห่างกันไม่กี่วันก็คิดถึงกันจะแย่ ให้เป็นแบบคู่พี่กบกับโฟมไม่ได้แน่นอน
 
ทางครอบครัวของผมกับพี่เฟย์ไปกันได้ด้วยดี ผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านได้เจอกันแล้วตามแผนการพาเที่ยวยกครัวของพี่เฟย์ สนิทกันกระทั่งฝากของให้กันไปมาโดยมีพี่เฟย์เป็นพนักงานขนส่งจำเป็น
 
ส่วนพ่อของผม... ทุกวันนี้ท่านก็ยังไม่ยอมรับ แต่ก็ยอมอ่อนลงมากแล้ว ไม่พูดบอกให้ผมเลิกเหมือนสมัยก่อน เปลี่ยนเป็นหลีกเลี่ยงไม่กล่าวถึงแทน ผมเชื่อว่าสักวันพ่อผมต้องยอมรับได้แน่ เพียงแค่ในเวลานี้เราต้องอดทนจับมือกันให้ดีๆ และฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายไปด้วยกันเป็นเครื่องพิสูจน์ความรัก
 
ผมนั่งครุ่นคิดเรื่องราวที่ผ่านมา พลางซึมซับภาพบรรยากาศคุ้นเคยที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ก็ยังคงเดิม บนคอนโดสูงภายในห้องอันแสนอบอุ่นปรากฏร่างชายคนหนึ่งกำลังง่วนกับการจัดโต๊ะอาหารอย่างสุดความสามารถ อาหารสุดหรูมักเคียงคู่กับแอลกอฮอล์แต่เพราะอีกคนดื่มไม่ได้ เลยเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้สีสวย
 
“หอมจัง พี่ทำซะขนาดนี้จะฉลองเนื่องในโอกาศอะไรเนี่ย”
 
“ไม่มีอะไรหรอก มานั่งเร็วก่อนอาหารเย็นหมด”
 
พี่ชายเรียกพร้อมเลื่อนเก้าอี้ให้อย่างสุภาพบุรุษ เล่นมาก็เล่นไปยอมหย่อนก้นนั่งลงอย่างว่าง่าย อาหารฝีมือพี่เฟย์ยังอร่อยเหมือนเคย กินมาหลายปีก็ยังไม่เบื่อ ผมจัดการทุกอย่างจนเรียบแบบไม่กลัวว่าจะกินของหวานไม่ไหว ในเมื่อผมมีกระเพาะสำหรับของหวานโดยเฉพาะ หึหึ
 
“ปอนด์... เรารู้จักกันมากี่ปีแล้ว?”
 
เชฟสุดหล่อออกปากถามพลางตัดเค้กผลไม้เป็นชิ้นอย่างสวยงามส่งให้ผม ผมรับมาเอ่ยปากขอบคุณพลางคิดคำนวณเวลาในใจ
 
“ประมาณเจ็ดปี”
 
“แล้วเราเป็นแฟนกันมากี่ปี จำได้มั้ย”
 
ผมเอียงคอมองพี่ชายอย่างสงสัย มือจับส้อมจิ้มเค้กหม่ำ
 
“จำได้สิ เราคบกันตอนผมอยู่ปีหนึ่ง ตอนนี้ปีสี่ก็... สี่ปีไม่ขาดไม่เกิน”
 
“พี่ยังจำวันที่เราเจอกันครั้งแรกได้เลยนะ” พอพูดถึงตรงนี้ พี่เฟย์เหม่อมองหน้าผมระลึกความหลัง
 
“เด็กน้อยน่ารักที่ชนพี่จนล้ม แถมพอยกถุงผ้าให้ก็ทำหน้าดีใจซะ... ปอนด์รู้มั้ย วันนั้นที่เรายิ้มให้พี่ทำเอาพี่เกือบเสียศูนย์” อยากจะสวนกลับไปบ้าง ว่าพี่เองก็ทำให้ผมใจเต้นรัวเหมือนกันนั้นแหละ แต่อยากฟังต่อเลยได้แต่ปิดปากเงียบกัดส้อม
 
“พอเราได้คุยกันมากขึ้น พี่ก็ยิ่งเอ็นดูเรา จนวันที่เราใจตรงกัน แต่ตอนนั้นเรายังเด็กเกินไป พี่ก็บอกกับตัวเองให้อดทนเฝ้ารอวันที่เราจะเป็นผู้ใหญ่ พอเราขึ้นมหาลัยก็ดันเนื้อหอมจนพี่อยู่ไม่ติด สุดท้ายเลยประกาศความเป็นเจ้าของมันซะเลย ฝากซันกับโป้ช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลเราด้วย”
 
“ฮ่าๆ เรื่องนี้ผมรู้อยู่ พอผมมีน้องรหัสพี่ก็เอาไปเป็นพวกเลย” คนหัวเราะใบหน้าร้อนผ่าวไม่เป็นอันกินแล้วเค้ก ในเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ยิ้มและพูดเรื่องเก่าๆ ด้วยน้ำเสียงชวนเคลิ้มอย่างนี้
 
“ปอนด์... เราผ่านเรื่องดีๆ มาด้วยกันก็เยอะ เรื่องแย่ๆ ก็มีไม่น้อย จนถึงวันนี้ไม่มีวันไหนที่พี่ไม่มีความสุขเวลามีเราอยู่เคียงข้างเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต พี่ยังยืนยันนะว่าพี่รักเราและพร้อมจะดูแลเราไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่”
 
ผมมองสบดวงตาหวานซึ้ง ยอมให้มือหนากุมมือผมเอาไว้
 
“พี่อาจไม่ใช่ผู้ชายเพอร์เฟค ไม่ใช่ผู้ชายแสนดี ทำเรื่องผิดพลาดบ้างในบางครั้ง... ถึงอย่างนั้นปอนด์จะใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายธรรมดาๆ คนนี้ได้มั้ย?”
 
“พี่...” คนฟังเรียกเสียงเบาหวิว พอเดาได้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ร่างสูงขยับตัวลุกจากเก้าอี้มาคุกเข่าอยู่ข้างคนรัก มือหนาหยิบเอาแหวนวงน้อยสลักชื่อของทั้งคู่ออกมาจากกล่องอย่างบรรจง
 
“แต่งงานกับพี่นะครับคนดี...”
 
เพียงประโยคเดียวเหมือนดังซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัว ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำลามไปถึงหู ดวงตาทอดมองชายที่กำลังคุกเข่าขอแต่งงานให้ความรู้สึกหลากหลาย ทั้งตื่นเต้น ดีใจและทึ่งจัด ในเมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะถูกเตรียมการเอาไว้นานแล้วโดยเฉพาะแหวนวงนี้ ภายนอกดูธรรมดาแต่ความจริงกลับตรงกันข้าม
 
“นะครับ... ปอนด์”
 
เสียงนุ่มออดอ้อนให้ใจละลาย คนโดนโจมตีด้วยความรักยื่นมือสั่นๆ ให้อีกฝ่าย อีกข้างยกมือปิดบังใบหน้าที่เขินจนแทบระเบิด มือหนารีบฉวยมือนั้นอย่างยินดี พร้อมสวมแหวนให้นิ้วนางข้างซ้ายก่อนจะยกมือข้างนั้นจรดริมฝีปาก ทั้งที่ดวงตายังมองหวานฉ่ำ
 
พอจะดึงมือกลับ ร่างสูงกลับไม่ยอมซะงั้น
 
“ปล่อยมือผมสิพี่” รู้ตัวดีเลยว่าเสียงตอนนี้แผ่วระโหยมากแค่ไหน ใจจะขาดรอนๆ กับดาเมจที่โหมใส่รอบแล้วรอบเล่า
 
“ตอบพี่มาก่อนสิ เรียนจบแล้วแต่งงานกับพี่นะ”
 
คนหน้าบางดื้อดึง
 
“สวมแหวนแล้ว ยังต้องบอกอีกเหรอ”
 
“ต้องพูดสิ มันสำคัญนะ ไม่งั้นเหมือนพี่คิดไปเองฝ่ายเดียว” สีหน้าจริงจังจนคนฟังสะอึก ไหลลงเก้าอี้คุกเข่าอยู่บนพื้นซุกหน้ากับคนขี้แกล้ง
 
“ตกลง...”
 
“พูดอะไร พี่ไม่เห็นได้ยินเลย”
 
“อื้อ!... ผมจะแต่งงานกับพี่!! พอใจยัง ให้ถือโทรโข่งมาพูดเลยมะ” ลูกแมวสะบัดเสียงเหวี่ยงใส่แก้เขิน คนรับฟังการตอบรับอันแสนจะได้อารมณ์หัวเราะร่า โอบกอดร่างเล็กเข้าสู่อ้อมแขน
 
“พี่รักปอนด์นะ”
 
ดวงตาสองคู่มองสบกันนิ่ง สื่อความรู้สึกมากมายที่อัดแน่นภายในผ่านหน้าต่างของหัวใจ
 
“ครับ... ผมรักพี่เฟย์เหมือนกัน”
 
ตอบแทนคำบอกรักหวานๆ ด้วยจูบที่หวานยิ่งกว่า ริมฝีปากแนบจุมพิตแผ่วเบา
 
ไม่จำเป็นต้องมีรักที่หวือหวาหรือมอบแต่ของราคาแพง ขอเพียงแค่ความจริงใจก็มากพอแล้วสำหรับความรักของคนสองคน สำหรับผมพี่เฟย์คือที่สุด คือคนที่ผมเลือก ผู้ชายดีๆ จะหาแบบนี้ได้อีกที่ไหนล่ะจริงมั้ย
 
END

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้  :-[

และแล้วหนุ่มวายของเราก็จบลงอย่างสวยงาม

ไว้พบกันต่อใน 'เป็นเกย์กันมั้ย?' และ เรื่องราวของมิทเร็วๆ นี้นะครับ  :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2016 16:35:46 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ขอแต่งงานแล้ววว :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
ของชำร่วยงานแต่งเอาเป็นหนังสือนิยาย หนุ่มวายยกกำลังสอง จะดีไม่ใช่น้อย :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :katai2-1:จบแล้ว  ชอบมากมาย 
ลูกแมวน่ารัก พี่เฟย์แสนอบอุ่น :mew1: :mew1: :mew1:
อยากอ่านเรื่องของมิท เพื่อนลึกลับของซัน 
:L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
T T แมวน้อยของเราเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว

ฮืออออ พี่เฟย์ต่อไปจะงาบน้อง คิดถึงร่างกายน้องบ้างน้าาาาาา :laugh:

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
 o13อิ่มใจ :katai2-1:คู่นี้อ่านแล้วยิ้มตามความน่ารักของทั้งคู่

จะรอติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปนะคะ  :call: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด