[Yละมุน] หนุ่มวายยกกำลังสอง แจ้งข่าว P13 [Up 12/9/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Yละมุน] หนุ่มวายยกกำลังสอง แจ้งข่าว P13 [Up 12/9/60]  (อ่าน 176559 ครั้ง)

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************

พรีตั้งแต่วันที่ 1ก.พ.60 - 31มี.ค.60



รายละเอียด
เรื่อง : หนุ่มวายยกกำลังสอง (เล่มเดียวจบ)
คู่ : เฟย์-ปอนด์
แนวเรื่อง : คอมเมดี้
ขนาด : A5
จำนวนหน้า : 300+ หน้า
กระดาษ : ถนอมสายตา 75 แกรม
ราคา : 380 บาท
แถมที่คั่นทุกเล่ม

ตอนนี้มีขาย e-book แล้วน้า

จิ้ม e-book
สอบถามรายละเอียดได้ที่เพจ Silver Fish


สารบัญ

วายที่1 พี่ชายในฝัน
วายที่2 เด็กขี้อาย
วายที่3 งานคอสเพลย์
วายที่4 ความรู้สึก
วายที่5 สิ่งที่เจอ
วายที่6 มัดจำ



ซีรีย์มหาลัย
เป็นเกย์กันมั้ย? (ซันxโป้) [จบแล้ว]
ผมยอมเป็นหมาถ้าพี่รัก (ริวxธัน) [coming soon]

ผลงานอีกเรื่อง
Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์ แฟนตาซีแวมไพร์หมาป่า แนวเกมเข้าใจง่าย [จบแล้ว]
มิติมายา ผมกลายเป็นเงือก แฟนตาซีโลกเวทมนต์สลับโลกไฮเทค


สัญลักษณ์สี

เป็นสีสำหรับบอกว่าตอนนั้นใครเป็นคนบรรยายครับ

สีดำ = ปอนด์
สีน้ำตาล = เฟย์

ติดต่อตบตีได้ที่
https://www.facebook.com/pages/Silver-Fish/1539533922963776
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2017 22:50:12 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Re: หนุ่มวายยกกำลังสอง บทนำ [19/6/58]
«ตอบ #1 เมื่อ19-06-2015 23:48:55 »

บทนำ

   นิยามของ ‘หนุ่มวาย’ ในพจนานุกรมของผม

   หนุ่มวายคือมนุษย์ผู้มีพลังเทียบเท่าสาววาย แต่เป็นเพศชาย เสพติดความวายทุกประเภท สามารถเก็บความลับเรื่องความชอบของตัวเองได้มิดชิด ไม่สามารถตัดสินจากภายนอกไม่ได้ มีสกิลการเนียนสูง แบ่งเป็นหกประเภท สายวายเคะ สายวายเมะ สายวายบอธ สายไบ และสายวายแต่นอมอล คือเป็นหนุ่มวายแต่ยังชอบเพศตรงข้ามอยู่

   ผมอยู่ในประเภทที่เจ็ด สายพิเศษที่สุดในโลกนี้ นั่นก็คือ!

   ผมยังไม่รู้ตัวเองเลยครับ... ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบแบบไหน อยากกรีดร้องให้ลั่นโลก!! หรือผมจะเป็นสายไส้เดือนอย่างที่เพื่อนมันพูดกัน โธ่ ชีวิต ชอบเสพความวาย รักความรักอันสวยงาม ตัวเองกลับไร้รัก

   สงสัยผมต้องกอดจูบลูบคลำ ขลุกอยู่กับโลก 2D ซะแล้ว

   ในช่วงที่ผมกำลังปลงกับชีวิต ทุ่มเทความรักทั้งหมดให้นิยาย มังงะ เมะ และอื่นๆ ท่านศาสดาก็ได้ประทานพรมาให้ผม ส่งบุคคลที่แสนเพอร์เฟคมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า ผมกับพี่ชายพบกันในงานหนังสือด้วยเหตุการณ์แสนจะสาวน้อย ที่แน่ๆ คือดวงความรักของผมกำลังจะเปลี่ยนไป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2015 14:21:33 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ holyhilly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: หนุ่มวายยกกำลังสอง บทนำ [19/6/58]
«ตอบ #2 เมื่อ20-06-2015 01:27:25 »

รอๆ น่าจะตลก ขำๆ ฮาๆ เป็นกำลังใจให้จ้า o13

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
วายที่1 พี่ชายในฝัน

   ที่แห่งนี้...คือสถานที่เปิดสงครามอันยิ่งใหญ่ มีผู้คนมากมายมารวมตัวกันด้วยใบหน้าเคร่งขรึมจริงจัง ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมสงคราม ผมกำสายสะพายของกระเป๋าเป้สุดที่รัก รุ่นถึกทนเยี่ยงซัมซุงฮีโร่ ที่อยู่คู่กับตัวผมมาตั้งแต่สมัยเรียนมอต้น ยิงยาวจนถึงปัจจุบัน มันไม่เคยงอแง และต่อสู้ไปพร้อมกับผมเสมอมา

   ผมยกอาวุธอีกชิ้นขึ้นมาดู ใบหน้าฉายความจริงจังระดับขั้นปลดปล่อยบังไค มันเป็นวัตถุทรงสี่เหลี่ยม หน้าจอมีตัวเลขเหมือนรหัสอะไรสักอย่าง เช่น C12 Y6

   สู้ตายโว้ย!

   “น้องปอนด์ แม่รอตรงนี้นะ รีบๆซื้อแล้วรีบๆออกมาล่ะ”

   ผมหันไปมองผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกสำหรับผม หญิงร่างเล็กทำหน้าเอือมมองลูกชายที่กำลังจะไปออกรบ ผมมุ่งมั่น รับรองจะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง

   “แม่ แน่ใจนะไม่เข้าไปด้วยอะ” ขยับๆเข้าไปหา เลียบๆเคียงๆถามด้วยรอยยิ้มสุดแสนจะใสซื่อน่าร้ากกก งุงิๆ จนได้คำตอบเป็นมะเขกหนึ่งโป๊กเข้ากลางหัว ร้าวไปทั้งสมองเลยท่านผู้ชม

   “ไม่เข้า คนเยอะ ไม่อยากเข้าไปเบียด ไปได้แล้วไป”

   แถมส่งลูกชายผู้หล่อเหล่า เฉดหัวด้วยฝ่ามือ และถ้าผมยังโอ้เอ้อีก ฝ่าพระบาทอาจจะตามมาก็ได้ ผมจึงตัดสินใจไม่อ้อนหน่วยซัพพอต สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วมุ่งหน้าเข้าสู่ประตูสวรรค์ ภาพแรกที่เห็นทำให้ผมอุทานออกมาทันที

   “คนเยอะโคตรรรรรรรรรรรรร”

   นี่แหละงานหนังสือ หรือชื่อเต็ม งานสัปดาห์หนังสือหนังสือแห่งชาติ จัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต แหล่งรวมหนังสือครั้งยิ่งใหญ่ที่มีทั้งเล่มเก่าเล่มใหม่ โปรโมชั่นลดราคา ของแถม สารพัด เดินทางมาง่ายๆ เพียงแค่นั่ง MRT รถไฟใต้ดินมาถึงหน้างานได้เลย หรือใครจะมาทางไหนก็สุดแล้วแต่จะสามารถ เหิดฟ้า ดำดิน วาป จั๊มเปอร์ ว่ากันไป

   ผมเบ้ปาก เดินเข้าไปด้านใน ผ่านแถวโซนอาหาร ทะลุไปยังสถานที่เปิดสงครามอย่างแท้จริง คนเยอะอย่างกับมด เดินเบียดกันไปมา ที่มือของแต่ละคนมีถุงใส่หนังสืออยู่ บางคนสะพายเป้แบบผม บางคนล่อเป็นรถเข็นมาเลย มีทุกเพศทุกวัย เด็กผู้ใหญ่ หญิงชาย มนุษย์ป้า มนุษย์ลุง

   เห็นแล้วได้แต่ถอนหายใจ มองไล่ไปตามป้ายที่อยู่ประจำแต่ละบูธที่ถูกแบ่งเป็นโซนไว้อย่างเป็นระเบียบ ทุกบูธมีแต่หนังสือวางเรียงราย ลูกค้าที่ยืนออกันหน้าบูธ คนที่เดินผ่านไปหาบูธอื่น ผมไม่สนใจพวกบูธทั่วไป สิ่งที่ผมสนใจคือสำนักพิมพ์ที่ผลิตวรรณกรรมเยาวชน หรือแหล่งรวมความวายและหนังสือการ์ตูนเท่านั้น

   ผมเดินไปตามลิสรายชื่อที่จดไว้ ไล่ซื้อหนังสือที่ต้องการจนกระเป๋าเป้เริ่มตุง สองมือเต็มไปด้วยถุงใส่หนังสือ ฟาดฟัดกับคนอื่น พยายามเสนอหน้าตัวเองซื้อหนังสือสุดชีวิต บางบูธเห็นหนังสือน่าสนใจ ผมต้องกระโดด เขย่งดูเอา ลำบากเอาเรื่อง ไม่ใช่ว่าผมเตี้ยนะ แต่คนยืนกันเยอะเกินไปต่างหากผมเลยไม่เห็น จริงจริ๊งงง

   ใช่เวลาร่วมสองชั่วโมงในการต่อสู้ครั้งนี้ บูธที่ผมยืนรอคนคิดเงินอยู่ เป็นที่สุดท้าย หมดนี้จะได้ออกจากสงครามสักที แออัดเหลือเกิน ร้อนมากด้วย เหงื่อแตกผลั่กๆแล้วเนี่ย

   “สีเหลืองหมายเลข3ค่ะ”

   “ผมครับๆ” ผมยกไม้ยกมือบอกพนักงาน พี่สาวหันมายิ้มให้ พอเห็นว่าผมเป็นผู้ชาย รอยยิ้มยิ่งกว้างขึ้นพร้อมส่งถุงหนังสือให้ถึงมือ ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่อะไรหรอก ผมเป็นผู้ชายกำลังซื้อหนังสือวายครับ ถูก ผมคือหนุ่มวาย วะฮ่าๆๆ ไม่ติดว่าของหนังจะเท้าเอวเงยหน้าหัวเราะสักที

   “ไม่สนใจอีกภาคเหรอคะ เล่มที่น้องซื้อไปมันเป็นภาคต้นเองนะ นี้ๆ เรื่องนี้ก็สนุก พี่อ่านมาแล้วเด็ดมาก แนวโชตะคอน เหมาะกับน้องมากเลย”

   ตุบ!

   ได้ยินเสียงหนังสือร่วง ผมมัวแต่เพ่งนิยายที่พี่พนักงานแนะนำเลยไม่ได้หันไปดู คิดคำนวณเงินในกระเป๋าอยู่ว่าจะพอซื้อแบบครบเซตรึเปล่า

   “ขอโทษครับ”

   เสียงทุ้มนุ่มดังอยู่ไม่ไกล อยากจะหันไปมองอยู่ ยังไงก็หนุ่มวายด้วยกัน ติดแต่ผมสนใจนิยายวายโชตะที่พี่สาวยื่นมาให้มากกว่า กำลังอ่านเนื้อหาด้านหลังพอดี น่าสนใจพอสมควร ผมเลยหยิบเอาเล่มนี้กับไอภาคต่อส่งให้พี่พนักงานคิดเงินอีกรอบ หลังได้รับหนังสือ กำลังจะเดินไป ประจวบเหมาะกับผู้ชายที่อยู่ข้างๆจ่ายเงินเสร็จพอดี ทีนี้เป็นไงครับ

   ประสานงากันอะดิ! ต่างคนต่างชน แต่คนที่ปลิวน่ะ มันผมคนเดียว อีกฝ่ายขนาดเซไปซักมิลยังไม่มี ใช่ซี้ ผมถือของหนังเลยรากฐานไม่มั่นคงต่างหาก พอผมเงยหน้ามอง ผ่ามือใหญ่ที่ถือถุงสารพัด เอิ่ม... เยอะกว่าผมอีกสักสองเท่าได้ เฮอะ เพราะผมยังเด็กหรอก จิ๊ๆ รอโตก่อน ถือของคนชนไม่ปลิวเหมือนกันนั้นแหละ

   “น้องครับ.. เป็นอะไรมากมั้ย? ขอโทษทีนะพี่ไม่ทันเห็น”

   เสียงเดียวกับคนที่ทำหนังสือตกหลังได้ยินคำว่าโชตะคอน คราวนี้ผมเงยหน้ามองชัดๆ

   อือหือ โอ้แม่เจ้า แม่! ผมอยากได้แบบเน้ อยากโตไปเป็นแบบนี้ อุทรณ์หนักหน่วงและรุนแรง ชายตรงหน้าสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงสแลคสีดำ รองเท้าหนังเงาวับเหมือนพนักงานบริษัทแอบหนีเที่ยวมาช้อปวาย ด้านหลังสะพายกระเป๋าเป้ไว้ใส่หนังสือแบบเดียวกับหลายๆคนและตัวผมที่อยู่ในงาน จุดดึงดูดโฟกัสจากสายตาผมมากที่สุดคือใบหน้า หล่อมาก หล่อแบบมาดผู้ใหญ่ ดวงตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากได้รูป เสียงนุ่มๆกับความเป็นห่วงที่แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

   ผมติดสตั๊นไปชั่วขณะ มองลำคอแกร่งกับไหล่กว้าง หุ่นใต้ผ้านั้นต้องดีมากแน่ๆ อยากได้ อยากได้ เค้าอยากหล่อหุ่นดีแบบนี้อะ

   “ไม่เจ็บตรงไหนใช่มั้ย? ข้อเท้าเจ็บรึเปล่า?”

   สายตาห่วงใยเพิ่มอีกสิบระดับ ชายหนุ่มร่างสูงวัยทำงาน ย่อตัวลงมาช่วยเก็บหนังสือของผมที่กระจายออกจากถุงเพราะล้มก้นจ้ำเบ้า สติเอ๋ยจงกลับมา ผมรีบช่วยเก็บทันที กลัวเหลือเกินว่าจะมีใครเดินมาเหยียบเหล่าหนังสือสุดที่รักที่ผมยังไม่ได้แม้แต่เปิดอ่าน เพราะมัวแต่สนใจหนังสือ

   คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อเห็นว่า ถุงที่ใส่หนังสือตอนแรก หูหิ้วมันขาดไปซะแล้ว สงสัยคงเป็นเพราะตอนชนตะกี้ มันไปเกี่ยวกับอะไรเข้า ผสมกับความหนังเลยทำให้ขาด

   เขาหยิบถุงผ้าสำรองจากถุงตัวเองมาเปลี่ยนใส่หนังสือให้ผม ก่อนจะช่วยดึงผมขึ้นเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้เจ็บอะไรนัก นอกจากความตกใจ

   “มะ ไม่เจ็บครับ ผมซุ่มซ่ามไม่ดูทางเอง ขอโทษด้วยนะฮะ” ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายถาม เลยตอบกลับไป เงยหน้ายิ้มให้แบบ ผมไม่เจ็บจริงๆเน้อ เห็นอีกฝ่ายชะงักไปชั่วครู่ พริบตาเดียวกลับเป็นปกติถามผมต่อ

   “หลงทางรึเปล่าครับ? ทำไมมาเดินคนเดียวล่ะ? แล้วคุณแม่ไปไหน?”

   โอ๊ะ อีกฝ่ายเก่งแฮะที่รู้ว่าผมมากับแม่ ผมเลยตอบไป มองถุงผ้าที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ เฮ้ยนี้มัน ถุงผ้าที่ต้องซื้อหนังสือครบพันถึงจะได้ แถมมีจำนวนจำกัด ให้กันง่ายๆแบบนี้จะดีเรอะ

   “แม่ผมรออยู่ข้างนอกครับ พี่ชายให้ถุงผ้าผมจริงอะ”

   คือมัน เอาไปขายต่อยังได้เลยนะนี้ มีหลายคนที่อยากได้ถุงผ้านี้แต่มาซื้อไม่ทัน ถูกพวกมาตั้งแต่วันแรกๆเหมาไปหมด ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

   “อืมมม พี่ให้เอาไปเถอะ ไม่งั้นเราจะถือหนังสือยังไงล่ะ?” พี่ชายสุดหล่อแถมใจดี พยักหน้ารับน้อยๆ ด้วยรอยยิ้มบางแล้วถามผมต่อ เอาใจผมไปเลยพี่ หล่อมาก นี้แหละ ไอดอล!

   “แล้วนี่ซื้อเสร็จรึยัง? หาทางออกเจอมั้ย?”

   “ซื้อเสร็จแล้ว ผมกำลังจะออกไปหาแม่พอดีเลยครับ” ผมตอบไปตามจริง ของที่อยากได้สอยหมดครบเรียบร้อย ส่วนเรื่องทางออก เหอะๆ เอาหน่า เดินมั่วๆ เดี๋ยวคงเจอทางออกเองแหละ ใช้เวลาเท่าไหร่ไม่รู้นะ ว่าแต่...หนังสือพวกนี้หนักชิบ

   “มา... เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่า นัดเอาไว้ตรงไหนล่ะ? หน้าฮอลล์หรือตรงรถไฟใต้ดิน?”

   “ผมนัดไว้แถวด้านหน้าก่อนถึงรถไฟใต้ดินฮะ” พี่ชายใจดีเหมือนเห็นผมแบกหนัก เลยช่วยถือจนหมด เหลือแค่เป้ที่ผมสะพายอยู่  ผมทึ่งจริงๆ ไม่ใช่จำนวนน้อยๆนะ แถมไอที่พี่เขามีอยู่แล้วก็เยอะ แบกไปได้แบบสบายๆ เหมือนถือถุงมันฝรั่งทอดกรอบที่ขายแต่ลมยี่ห้อหนึ่ง

   “โอเค” เขารับคำ ใช้มือข้างที่วางจูงมือผม ในช่วงนี้เองที่ได้ยินเสียงกรี๊ดเบาๆ ผมหันไปมองรอบตัวถึงกับชะงัก เหล่าสาววายและพนักงานประจำบูธหนังสือนิยายวาย มองพวกเราตาเป็นประกาย สายตาทุกคนจ้องไปยังมือหนาที่กอบกุมมือผมอยู่เหมือนผู้ใหญ่ดูแลเด็กน้อย ผมอึ้งอ้าปากค้าง

   กลายเป็นหนุ่มวายสองคนสร้างความฟิน กระตุ้นต่อมจิ้นสาววายซะแล้ว ยิ่งส่วนสูงห่างกันร่วมยี่สิบเซน และอายุที่แตกต่าง พนักงานขายไซโคนิยายวายโชตะคอนให้เหล่าสาววายรัวๆ บอกคนจูงให้หยุดได้มั้ยหนิ รู้สึกอยากเดินกลับไปทวนค่าพรีเซนเตอร์จากบูธนั้นยังไงชอบกล

   แต่ดูอีกคนไม่ได้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลย จูงมือผมเดินลัดเลาะคนไปตามทาง แถมใช้รูปร่างตัวเองเป็นใบเบิกทางเบียดชาวบ้านให้ผมที่เดินตามต้อยๆ ไม่โดนเบียดอีกต่างหาก ผมมองแผ่นหลังกว้างที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยดีจัง ผมเป็นลูกคนเดียว ฝันอยากมีพี่ชายสักคนมานานแล้ว ล่อลวงให้มาเป็นพี่เลยดีมั้ยนะ อืมๆ เข้าท่าๆ

   ใช้เวลาไม่นาน เราสองคนก็มาถึงประตูทางออก ตรงจุดนี้คนโล่งขึ้น พี่ชายใจดีเลยปล่อยมือผม

   “พี่ชายใจดีจัง ผมชื่อปอนด์ พี่ชายชื่ออะไรเหรอครับ” ปกติผมไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้านะ ออกจะเกร็งๆ อายๆด้วยซ้ำ แต่กลับคนนี้ รู้สึกต่างไปจากคนอื่นๆ ไม่อยากเจอแล้วก็จากไป อยากทำความรู้จัก ผมเลยแนะนำตัวถามชื่ออีกฝ่ายไว้ด้วยรอยยิ้ม

   “พี่ชื่อเฟย์ ปอนด์อายุเท่าไหร่เหรอ?” พี่ชายใจดี ไม่สิ พี่เฟย์ถามกลับเสียงนุ่ม

   “15ครับ ผมขอเอ็มพี่ชายได้มั้ย” ผมงัดเอาลูกอ้อนที่ชอบใช้กับแม่มาเลยเอ้า หวังว่าพี่ชายใจดีจะไม่ใช้เท้ายันผมเหมือนแม่นะ

   “หาา!! เด็กม.ต้น? พี่นึกว่าเราอยู่ประถมซะอีก”

   ผมชะงัก ยิ้มค้าง นึกอยากคว้าเป้ที่สะพายอยู่ฟาดใส่คนตรงหน้าจริงๆ ผมหล่อขนาดนี้ดูยังไงเป็นเด็กประถมฟะ! ระหว่างที่กำลังคิดเถียงอยู่ พี่เฟย์ ขอเรียกแบบนี้เลยแล้วกัน หยิบกระดาษจดใบเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เขียนเมล์มาให้ผม แถมหยิบอีกใบมาให้ผมเขียนด้วย ผมเลยต้องพับโครงการเอาคืนไปก่อน คิดซะว่าพี่ชายใจดีช่วยตั้งเยอะ เรื่องแค่นี้จะหยวนๆไปแล้วกัน พร้อมจดอีเมล์ตัวเองยื่นส่งให้

   แม่ผมที่นั่งรออยู่ เห็นผมแล้วกำลังเดินมาหา ผมเลยต้องบอกลาพี่เฟย์

   “ผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณพี่เฟย์มากเลย แม่ผมมาแล้ว แล้วก็...ผมอยู่ม.4ต่างหากฮะ”

   ผมรับหนังสือมาถือไว้เอง ก้มหัวให้เพราะไม่มีมือยกโบกลา แล้ววิ่งทั่กๆไปหาแม่ที่เดินล่วงหน้าไปตรงทางลงรถไฟใต้ดิน แอบหัวเราะกับอาการอึ้งของคนตัวโตที่ยืนนิ่ง

   พอผมกลับถึงบ้าน รีบกองๆหนังสือตัวเองไว้บนเตียง แล้วเปิดคอมหยิบกระดาษขึ้นมาแอดเอ็มไปหาทันที ตามประสาเด็กวัยรุ่นใจร้อนและหล่อมาก ระหว่างนั้น เปิดคอมทิ้งไว้ หยิบหนังสือมานอนกลิ้งอ่านเล่นบนเตียงรอ พอได้ยินเสียงแจ้งเตือนมีคนออนที ค่อยเงยหน้าขึ้นไปดูทีหนึ่ง กระทั่งมีคนทักมา เป็นเมล์ที่ผมเพิ่งแอดออนนั้นแหละ ถึงวางหนังสือในมือ พุ่งไปรัวแป้นพิมพ์

   เห็นงี้ผมพิมพ์ไวนะ ตามประสาพวกเล่นเกมออนไลน์ เวลาคุยต้องพิมพ์ไวๆ ไม่งั้นโดนมอนในเกมตบตายก่อน

   fay_ie : สวัสดีครับ... ใครเอ่ย?

   Ponda : ปอนด์เองฮะ นึกว่าพี่จะไม่รับซะแล้ว

   fay_ie : อ่ออออ ถึงบ้านแล้วสินะ อ่านหนังสือเพลินเลยสิ ซื้อไปตั้งเยอะนี่นา

   Ponda : 5555+ เพลินจนพี่ออนนี้แหละฮะ

   พวกเราคุยกันยาว ลืมหนังสือไปชั่วคราว แถมคุยกันถูกคอสุดๆ ด้วยความที่เป็นหนุ่มวายเหมือนกัน ผมเองไม่มีเพื่อนคุยเรื่องแบบนี้ด้วย เลยชอบมาก หลังจากนั้นพอออนทีไรก็คุยกันตลอด พอผมกลับจากโรงเรียน หรือมีช่วงที่ครูปล่อยตอนเรียนคาบคอม จะต้องคุยกับพี่ชายคนนี้เสมอ พวกเราเริ่มสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแลกเบอร์โทร ที่ไม่ค่อยได้ใช้ ส่วนใหญ่ยังคุยเอ็มกันเหมือนเดิม

   fay_ie : เรื่องนี้สนุกนะ พี่รับรองเลย

   Ponda : จริงเหรอพี่! อยากซื้อนะ แต่ค่าขนมหมดแล้ว กว่าจะได้ซื้อคงต้องเก็บเงินอีกสักระยะ T^T

   fay_ie : ฮ่าๆ เอาแบบนี้มั้ย มายืมของพี่ไปอ่านก่อน ถ้าถูกใจจริงๆค่อยซื้อเก็บ

   Ponda : ฮุเร่ ได้อ่านหนังสือฟรีแล้ว ว่าแต่ จะให้ผมไปเอามาจากพี่ยังไงอะ หรือพี่จะส่งไปรษณีย์

   fay_ie : ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั้นหรอก อยู่กรุงเทพเหมือนกัน ถึงจะไกลกันหน่อย เอางี้ พวกเราไปเจอกันที่ห้าง ค      นละครึ่งทางดีมั้ย

   Ponda : ได้ฮะ วันไหนดี เสาร์มะ พรุ่งนี้เลย ผมใจร้อนอย่างอ่านไวๆ

   fay_ie : วันเสาร์ก็ได้ เจอกัน11โมง พี่ไม่คิดว่าเราจะตื่นไวหรอกวันหยุด ขนาดวันธรรมดายังสายเลย

   Ponda : โหยยย ดูถูก ดูถูกแล้วล่ะพี่ ผมไม่ตื่นเช้าหรอก ก๊ากกก ไว้เจอกันวันเสาร์ฮะ

   fay_ie : หึหึ ไว้เจอกัน ถึงแล้วโทรหาพี่ด้วย

   Ponda : คร้าบบบบ

   ถึงเวลาออฟไลน์พอดี ต่างคนต่างล่ำลากันแยกย้ายไปนอน ผมเองถูกแม่ดุไปหลายรอบแล้วเหมือนกัน หลังจากเจอกันวันงานหนังสือ พรุ่งนี้จะเป็นครั้งที่สองที่ได้เจอกัน รู้สึกตื่นเต้นชะมัด


Fay Talk

   ณ บริษัทใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มร่างสูงกำลังง่วนกับการเก็บข้าวของบนโต๊ะทำงานตัวเอง หลังจากเคลียงานส่งให้พนักงานในแผนกเสร็จเรียบร้อยแล้ว วันนี้เป็นวันหยุดของเขา แต่ต้องมาทำงานครึ่งวัน เพราะต้องเคลียงานด่วนที่คั่งค้างจากเมื่อวาน

   คำนวณเอาไว้แล้วว่า ช่วงบ่ายจะไปงานหนังสือสักหน่อย มีหนังสือหลายเล่มที่อยากได้ ซื้อเหมารวดที่เดียวงานหนังสือเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องคอยตามเก็บจากร้านหนังสือต่างหาก แถมได้ส่วนลดกับพวกของแถมด้วย

   พอมาถึงงาน ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ วันหยุดคนเยอะอย่างที่คิด จะให้มาวันธรรมดาคงไม่ได้ เพราะเขาต้องทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น บางวันมีประชุมจนถึงค่ำอีก

   เขาเบียดตัวเองฝ่าฝูงชน อาศัยความที่ตัวเองเป็นคนตัวสูง(มาก) เป็นข้อได้เปรียบในการซื้อหนังสือที่ต้องการ ผ่านไปไม่กี่นาที หนังสือเริ่มเต็มมือ โชคดีที่เขาพกพวกถุงผ้ามาจากบ้านด้วย รวมกับของแถมที่ได้มาไม่ต้องห่วงเลยว่าถุงจะขาดก่อนถึงบ้าน

   เฟย์มีรถ แต่ไม่คิดจะขับ ยกเว้นจำเป็นจริงๆถึงจะใช้ ปกติจะอาศัยรถขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงานทุกวัน จะได้ไม่ต้องไปทนรถติดบนท้องถนน คิดแล้วก็ขำ ถึงเขาจะหลีกเลี่ยงยังไง ตอนนี้คงต้องทนกับการจารจรติดขัดของคนที่แห่กันมาซื้อหนังสืออยู่ดี

   ระหว่างซื้อหนังสือ มีหลายคนมองเขา เพราะแต่ละบูธ นอกจากพวกหนังสือต่างประเทศที่ต้องการ ยังมีพวกหนังสือความชอบส่วนตัวอีกต่างหาก ชายหนุ่มวัยทำงาน มาสภาพเหมือนเพิ่งออกจากบริษัท กำลังเลือกหยิบนิยายวายขึ้นมาดูอย่างเพลิดเพลิน

   ใช่แล้ว เขาเป็นหนุ่มวายเต็มตัว หนังสือวายที่ว่าหายากหลายเล่มเขามีหมด พวกเล่มเก่าๆ ของแรร์เขาก็มี พวกใหม่ๆดังๆที่สนุกน่าสนใจก็ครบ และอีกเซตใหญ่ๆ ที่กำลังจะซื้อไปถมห้อง ระหว่างที่กำลังเลือกนิยายวายในบูธหนึ่งอยู่ มีเสียงเล็กขานรับพนักงานดังขึ้นข้างๆ

   “ผมครับๆ” เขาหันไปมองไม่เห็นตัว ต้องก้มถึงจะเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กหน้าตาน่ารักคนหนึ่งยืนคุยกับพนักงานอยู่ คิ้วเข้มเลิกขึ้นแปลกใจ มุมปากยกยิ้มเอ็นดูหนุ่มวายตัวน้อย

   เฟย์เป็นพี่ชายคนโต มีน้องชายหนึ่งคน เลยทำให้เป็นคนช่างดูแล และเอ็นดูพวกเด็กๆที่มีอายุน้อยกว่าตามประสาคนที่มีจิตวิญญาณของความเป็นพี่อยู่เต็มเปี่ยม ที่สำคัญนอกเหนือจากความชอบเรื่องวายแล้ว เขายังชื่นชอบพวกของน่ารักมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่พวกสีชมพู ของกุ๊กกิ๊ก มีระบายอะไรแบบนั้น แต่เป็นพวกตุ๊กตาสัตว์ อะไรที่กลมๆ  น่ารักๆ ถ้ายิ่งเป็นแมวเขาจะยิ่งชอบมาก ก็เขาเป็นทาสแมวหนิ

   ดวงตาคมก้มมองนิยายวายที่อยู่ในมือ หน้าปกเป็นรูปผู้ชายวัยทำงาน กับเด็กน้อยน่ารัก แนวโชตะคอน.... แอบหลุดหัวเราะเบาๆ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น มีโชตะตัวจริงอยู่ข้างๆซะด้วย

   “ไม่สนใจอีกภาคเหรอคะ เล่มที่น้องซื้อไปมันเป็นภาคต้นเองนะ นี้ๆ เรื่องนี้ก็สนุก พี่อ่านมาแล้วเด็ดมาก แนวโชตะคอน เหมาะกับน้องมากเลย”

   ตุบ!

   หนังสือในมือร่วงทันที เฟย์ยิ้มบาง เอ่ยขอโทษพนักงานกับลูกค้าคนอื่นที่หันมามอง นึกปลอบตัวเองให้ใจเย็น อย่าเพิ่งร้อนตัว

   “ขอโทษครับ”

   เขายื่นหนังสือที่ทำหลุดมือยื่นให้พนักงานคิดเงินรวมกับเล่มอื่น ยังไงก็สนใจอยู่แล้ว ซื้อไปสักหน่อยแล้วกัน พอได้ของ กำลังจะหมุนตัวเดินออกจากบูธไปดูที่อื่นต่อ รู้สึกเหมือนมีอะไรมาชน พอก้มลงไปมอง เวรล่ะสิ... ทำไมไม่เห็นวะ? อ่อ เด็กคนนี้ตัวเล็กเกิน ผมเลยมองไม่เห็น

   “น้องครับ.. เป็นอะไรมากมั้ย? ขอโทษทีนะพี่ไม่ทันเห็น ไม่เจ็บตรงไหนใช่มั้ย? ข้อเท้าเจ็บรึเปล่า?”

   เฟย์รีบถามทันทีด้วยความเป็นห่วง เด็กตัวเล็กนิดเดียว เขาตัวใหญ่กว่าเยอะ โดนชนไปปลิวไปนั่งแปะกับพื้นอย่างนั้น น่าสงสาร เขาก้มลงไป รีบช่วยเก็บหนังสือขึ้นมาใส่ถุง ก่อนขมวดคิ้ว อ่า... บางใบก็ขาดซะด้วย เลยจัดการหยิบถุงผ้าที่พับใส่ในช่องข้างกระเป๋าออกมาใส่หนังสือซะเลย ก่อนจะส่งคืนให้

   “มะ ไม่เจ็บครับ ผมซุ่มซ่ามไม่ดูทางเอง ขอโทษด้วยนะฮะ”

   เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ ใบหน้าน่ารักยังคงความอ่อนเยาว์แบบที่น่าแปลกมาเดินงานหนังสือหอบข้าวของเยอะแยะคนเดียวโดยไม่มีผู้ปกครอง เขามองซ้ายมองขวา ไม่เห็นผู้ใหญ่ที่คาดว่าจะเป็นผู้ปกครองได้ ทำไมปล่อยให้มาเดินคนเดียวนะ เดี๋ยวก็โดนใครอุ้มไปหรอก งานหนังสือยิ่งคนมากหน้าหลายตาอยู่ด้วย

   “หลงทางรึเปล่าครับ? ทำไมมาเดินคนเดียวล่ะ? แล้วคุณแม่ไปไหน?”

   “แม่ผมรออยู่ข้างนอกครับ พี่ชายให้ถุงผ้าผมจริงอะ” แปลกจริง ทำไมถึงปล่อยลูกเข้ามาเดินคนเดียวนะ ช่างเถอะ

   “อืมมม พี่ให้เอาไปเถอะ ไม่งั้นเราจะถือหนังสือยังไงล่ะ?” พยักหน้ารับน้อยๆ ด้วยรอยยิ้มบางๆ เจ้าตัวเล็กนี่น่ารักวุ้ย เหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ยังไงชอบกล คิดพลางช่วยดึงให้ลุกขึ้นยืนดีๆ ปากเจ้าหนูนี่บอกเหมือนไม่อยากได้ แต่ตากลมโตนั้นไม่ได้ปิดบังความดีใจเอาไว้เล้ย เด็กหนอเด็ก

   “แล้วนี่ซื้อเสร็จรึยัง? หาทางออกเจอมั้ย?”

   “ซื้อเสร็จแล้ว ผมกำลังจะออกไปหาแม่พอดีเลยครับ” เขานิ่งคิดไปสักแปบ ไปส่งหน่อยดีกว่า ตัวเล็กแบบนี้ปล่อยเดินคนเดียวไม่รู้จะหลงไปทางไหนรึเปล่า

   “มา... เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่า นัดเอาไว้ตรงไหนล่ะ? หน้าฮอลล์หรือตรงรถไฟใต้ดิน?”

   “ผมนัดไว้แถวด้านหน้าก่อนถึงรถไฟใต้ดินฮะ”

   “โอเค”

   เขาฉวยเอาถุงหนังสือที่อีกฝ่ายถือเอาไว้ซะจนมือแดงน่าสงสารมาถือซะเอง แล้วจูงมือข้างที่ว่างเดินลัดเลาะคนไปตามทาง ใช้รูปร่างตัวเองกันคนจากเจ้าตัวเล็กที่เดินตามหลัง พอถึงหน้าประตู คนบางตาผมถึงปล่อยมือ

   “พี่ชายใจดีจัง ผมชื่อปอนด์ พี่ชายชื่ออะไรเหรอครับ”

   เสียงเล็กๆไม่ทำดาเมจเท่ารอยยิ้ม คนเดินนำเกือบทำหนังสือหลุดมือกับความน่ารัก อูยยยย เด็กนะเด็ก คุกนะมึงไอ้เฟย์ นี่มันเด็กประถม!! เขารีบเตือนสติตัวเอง...

   “พี่ชื่อเฟย์ ปอนด์อายุเท่าไหร่เหรอ?”

   “15ครับ ผมขอเอ็มพี่ชายได้มั้ย”

   “หาา!! เด็กม.ต้น? พี่นึกว่าเราอยู่ประถมซะอีก”

   แทบสะดุดล้มหัวทิ่ม หันขวับไปมองเจ้าตัวเล็กที่ยิ้มตาใสมาให้แล้วก็ใจอ่อน แลกก็แลก... น่ารักขนาดนี้ยอมให้ก็ได้!! ปกติผมไม่ยอมแจกเมล์ให้ใครง่ายๆนอกจากเรื่องงานนะเนี่ย เขาหยิบกระดาษสำหรับจดเล็กๆน้อยๆของตัวเองออกมาเขียนเมล์ยื่นให้เด็กน้อยตรงหน้า พร้อมกับให้เจ้าหนูเขียนแลกมาด้วย

   “ผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณพี่เฟย์มากเลย แม่ผมมาแล้ว แล้วก็...ผมอยู่ม.4ต่างหากฮะ”

   ลับหลังเด็กน้อยที่เดินตามหลังแม่ไป ผมยืนอึ้งอยู่กับที่

   “หาาา! เด็กม.ปลายเรอะ? ทำไมหน้ามันเด็กจังวะ” พึมพำแล้วก็ส่ายหัวน้อยๆ แล้วกลับบ้าง เพราะนั่ง MRT ต่อด้วย BTS ใช้เวลาไม่ถึงเท่าไหร่ เขาก็กลับมาถึงบ้านที่เป็นคอนโดห้องชุดติดรถไฟฟ้า

   มือวางข้าวของแล้วจัดเก็บเข้าตู้ ไว้ว่างๆค่อยมานั่งไล่อ่าน ก่อนไปล้างไม้ล้างมือให้เรียบร้อย มาเปิดคอมเปิด msn ขึ้นมาคุยกับเพื่อนๆ ที่กำลังออนไลน์อยู่ สายตาสะดุดเข้ากับชื่อไม่คุ้นที่แอดเข้ามา

   “ใครหว่า?? อาจจะเป็นน้องคนเมื่อกลางวันก็ได้ล่ะมั้ง” เขากดรับแล้วทักไป รอจนอีกฝ่ายตอบกลับมา เป็นเด็กที่เจอวันนี้จริงๆซะด้วย ไปๆมาๆพวกเราเลยคุยกันยาวตั้งแต่วันนั้น

   ผ่านไปหลายเดือนก็ยังคุยกันอยู่ ผมเริ่มที่จำทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือการรอให้เด็กน้อยออนมาคุยกันในช่วงเวลาว่างจากงานของผม เราคุยกันสารพัดเรื่อง แลกเปลี่ยนความคิดกันบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะคุยเรื่องหนังสือวายกับนั่งอ่านเด็กน้อยบ่นซะมากกว่า เพลินดีไม่ใช่น้อย อย่างกับได้น้องชายเพิ่มอีกคน น่ารัก ขี้อ้อนอีกต่างหาก ไม่เหมือนน้องชายผม มันไม่ใสน่ารักแบบนี้ เจ้าเล่ห์เหมือนใครก็ไม่รู้

   จนกระทั่งพวกเราได้นัดเจอกันครั้งที่สอง ในตอนนั้นผมยังมองน้องเขาเป็นเพียงน้องชายคนหนึ่ง ส่วนเรื่องราวหลังจากนี้ คงต้องรอดูกันไป


ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
น่ารักเกินทั้งพี่ชายน้องชายเลย

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
น้องปอนด์น่ารักกกกกกก

ออฟไลน์ fay_13

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชูป้ายโชตะค่อนรัวๆๆๆ โอยยยยยยยยยยยยยยยยยย สาวกโชตะจะละลายแล้วจ้าาาา น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :haun4:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
วายที่2 เด็กขี้อาย
   
   สาย บอกได้เลยว่าสาย! ผมตื่นสาย!! ทั้งที่นัดกับพี่ชายในดวงใจไว้ เมื่อคืนผมดันตื่นเต้นจนนอนไม่ค่อยหลับ กว่าจะหลับเล่นเอาเกือบสว่าง และคนที่โทรมาปลุกไม่ใช่ใครเลย คนที่ผมนัดไปนี้แหละ

   ผมนอนอืดใต้กองผ้า ข้างเตียงมีมือถือวางสงบนิ่งอยู่ จนมันเริ่มแผดเสียงร้องปลุกคนขี้เซา แขนเล็กเอื้อมไปคว้ามาปิดเสียงปลุก แล้วกอดโทรศัพท์นอนอย่างสงบสุข เสียงโทรศัพท์ร้องอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เสียงที่ผมตั้งปลุกเอาไว้ ไม่รู้เทพอะไรดลใจ ผมคว้ามากดรับแบบเมาขี้ตาสุดๆ

   “ฮัลโหลครับ...”

   น้ำเสียงงัวเงียระยะสุดท้ายดังลอดไปตามสาย คนโทรมาชะงักไปเล็กน้อย เอามือถือมาดูหน้าจอชัดๆอีกครั้ง เสียงอู้อี้แหบพร่าเล็กน้อย ประเด็นคือมันปลุกสัญชาตญาณบางอย่างในตัวออกมา เฟย์ลูบหน้าพรืด กรอกเสียงไปตามสาย

   “นั่นปอนด์รึเปล่าครับ”

   ถามด้วยความไม่มั่นใจ ถึงเจ้าตัวยุ่งจะบอกว่าอยู่กับแม่แค่สองคน แถมหมาหนึ่งตัว กับปลาอีกฝูง ไม่แน่ว่าอาจจะมีใครคนอื่นมารับโทรศัพท์แทนก็ได้ เพราะไอเสียงที่ได้ยินมันช่างเชิญชวนผิดกับเสียงเล็กๆฟังเพลินอย่างทุกทีราวฟ้ากับเหวนรก

   “ผมเอง นั่นใครฮะ”

   อีกคนยังเมาขี้ตาไม่เลิก เฟย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เดาได้แล้วไม่พลาดแน่ ไอตัวเล็กมันยังไม่ตื่น เขาหันไปสั่งกาแฟกับพนักงานเพิ่มอีกแก้ว งานนี้รอนานชัวร์

   “พี่เอง ยังไม่ตื่นสินะ ลุกได้แล้ว เรานัดพี่ไว้ตอน 11 โมงไม่ใช่เหรอ”

   เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดึงสติคนขี้เซาให้ลุกพรึบจากหมอน ดวงตาเบิกกว้างอ้าปากค้าง ก้มลงมองเวลาบนมือถือ เฟย์เหมือนรู้ทัน ยกโทรศัพท์ออกห่างจากหูเกือบสุดแขน

   “อ๊ากกกกกกกกก! สายแล้ว ว๊ากๆๆๆๆ พี่ขอโทษฮะผมนอนเพลิน อย่าบอกนะว่าพี่ถึงแล้ว โธ่ ทำไงดีๆ โดราเอมอนนนนช่วยปอนด้าด้วยยยย” เสียงโวยวายทำให้เฟย์ส่ายหัวเอือม หันไปก้มหัวให้โต๊ะข้างๆเล็กน้อยเป็นเชิงขอโทษ เพราะเจ้าตัวเล็กดันส่งเสียงแปดหลอดทะลุผ่านโทรศัพท์ไปรบกวนชาวบ้านเขา

   “ใจเย็นๆ โดเรมอนก็ไม่ช่วยหรอก อย่าเอาแต่วิ่งไปวิ่งมา ไปอาบน้ำได้แล้ว!”

   พี่ชายจำเป็นเอ่ยเตือนสติ ร่างเล็กที่วิ่งไปมาในชุดนอนลายอุ้งเท้าแมวหยุดชะงักอยู่กับที่

   “พี่รู้ได้ไงว่าผมวิ่งอยู่ ช่างเถอะ สายแล้วๆ ผมอาบน้ำแปบจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

   ติ๊ด

   ผมรีบกดวางสาย ถอดเสื้อผ้าพุ่งเข้าห้องน้ำ วิ่งผ่านน้ำแค่ห้านาที แต่งตัวอีกห้านาที แล้วคว้าของที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ถลาออกจากบ้านด้วยความไวแสง ขนาดแม่ยังส่ายหัวระอา บอกไล่หลังว่าเดินทางดีๆ ผมขานรับคำ วิ่งทั่กๆออกจากบ้าน คว้าจักรยานปั่นไปหน้าปากซอย โบกแท็กซี่ไปส่งBTS นั่งยาวไปลงที่ห้าง

   ใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าในการเดินทาง เพราะเป็นวันหยุด อยู่ในช่วงเที่ยงคนกำลังออกมาหาอะไรทานกัน ถ้ามาแบบถนนโล่ง ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว มือเล็กหยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาอีกคนที่รออยู่

   “ฮัลโหล พี่อยู่ตรงไหนเหรอ แฮ่ก ฮะ ผมถึงแล้ว เหนื่อย”

   พูดไปหอบไป ดวงตากลมโตมองซ้ายมองขวา มือถือถุงกระดาษแบบหนาใส่หนังสือมาหลายเล่ม เพื่อเอามาแลกกันในวันนี้

   “อยู่ร้านกาแฟ พี่เห็นเราแล้ว เดี๋ยวออกไปหาเอง ยืนรอตรงนั้น”

   ผมพยักหน้ารับหงึกหงัก กดวางสายเก็บโทรศัพท์ใส่กางเกงสี่ส่วนหลายกระเป๋า กับเสื้อยืดสบายๆ ดวงตามองนู่นมองนี้ไปเรื่อย ห้างนี้ใหญ่เอาเรื่อง ผมไม่เคยมา ทุกคนแต่งตัวดูมีฐานะกันหมดแอบเกร็งๆ ก้มดูเสื้อผ้าตัวเองกับรองเท้าแตะหนีบ ถ้ารู้ว่ามาห้างใหญ่แบบนี้ใส่เสื้อผ้าดีๆมาก็ดีหรอก

   จู่ๆ มีสัมผัสอุ่นจากมือหนาวางลงบนหัว ผมเงยหน้าขึ้นมอง เหมือนความหล่อทิ่มแทงจนต้องหรี่ตา ให้ตาย! ผู้ชายที่เข้ามาหาผมคนนี้ใส่เพียงแค่เสื้อยืดกางเกงยีนธรรมดา ดูๆแล้วเหมือนแบรนด์ตลาดไม่มีราคาค่างวดอะไรมากมาย แต่พอมาอยู่บนตัวคนๆนี้ กลายเป็นชุดมียี่ห้ออย่างกับนายแบบใส่ออกมาเดินเอง โลกมันไม่ยุติธรรมกับผมจริงๆ ผมเบ้ปากเซ็งๆ

   “เป็นอะไรเรา ดูซิ รีบมาใช่มั้ย วันหลังไม่ต้องรีบก็ได้ มันอันตราย”

   ผมส่ายหัวขวับๆ ไอเหนื่อยเพราะรีบอะหายแล้ว ตอนนี้กำลังช้ำใจกับความมินิไซส์ของตัวเอง ชิ สักวัน พอโตขึ้น จะสูงหล่อมาดแมนให้ดู ผมกำหมัดชูแบบมุ่งมั่นเต็มที่ พี่เฟย์มองอาการผมอย่างสงสัย ก่อนจะหัวเราะในคอเบาๆ

   “ทำอะไรน่ะเรา ไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า อยากกินอะไร”

   พี่ชายใจดีลูบๆหัวผมเพลินมือไม่น้อย ได้ยินเจ้าตัวพึมพำว่าเหมือนกำลังลูบหัวลูกแมวอยู่ ผมขมวดคิ้ว ไอหัวยุ่งๆของผมมันเหมือนหัวลูกแมวตัวจิ๊ดตรงไหน

   “ผมอยากกินอาหารญี่ปุ่น อยากกินไอติม อยากไปดูหนังสือด้วย”

   “มาเป็นชุดเชียวนะ งั้นไปร้านนู่นแล้วกัน คนไม่เยอะ รสชาติโอเค จะได้ไม่ต้องรอนาน”

   ของในมือผมถูกอีกคนเอาไปถือไว้เองจนหมด ผมเลยเดินตัวปลิวปล่อยให้พี่เฟย์จูงมือไปที่ร้าน พนักงานสาวยิ้มรับ เชิญพวกเราเข้าไปด้านใน พอเมนูอาหารมาอยู่ในมือเท่านั้นแหละ ผมแทบวางอยากออกจะร้าน อ๊ากกก แพงไปแล้ว เงินที่แม่ผมให้มาไม่พอจ่ายแหงๆ

   คนตรงหน้าดูไม่สะท้าน สั่งนู่นสั่งนี้สบายใจ ผมหลุกหลิกอยู่กับที่ ดวงตาคมเลิกคิ้วมองอย่างสงสัยที่เห็นผมไม่ยอมสั่งอาหารอะไรสักที พอเห็นผมเพ่งมองราคาในเมนู เจ้าตัวหัวเราะทำเอาพนักงานเคลิ้ม ก้มลงมากระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน

   “สั่งเลย เดี๋ยวพี่จ่ายเอง”

   “แต่ แม่ผมบอกว่าต้องหาร” แม่ผมสั่งมาครั้ง ไม่ว่าจะกินอะไรต้องหารตลอด เงินทองหายาก ไม่ควรรบกวนมาก

   “ถ้างั้นเดี๋ยวเราเลี้ยงไอติมพี่แทนแล้วกัน สั่งสิ พนักงานรอนานแล้วนะ”

   คิ้วเล็กขมวดมุ่น ลังเลนิดหน่อย พนักงานเริ่มจ้อง ผมเลยต้องอ้ำอึ้งชี้จิ้มเมนูที่อยากกินไป ระหว่างพนักงานทวนเมนู มีรอยยิ้มใจดีของพี่ชายตัวโตตรงหน้า ยิ่งเห็นยิ่งหลง ผมเลยหันหนีไปทางอื่นแม่ง นึกโวยวายในใจ อย่าหว่านเสน่ห์แบบนี้ได้มั้ย มันไม่ปลอดภัยต่อตัวผมจริงๆ เดี๋ยวฉุดทำพี่ชายซะเลยหนิ

   ผมอยู่กับแม่สองคนมาตั้งแต่เกิด แม่ผมเป็นทั้งพ่อ แม่ และเพื่อนในเวลาเดียวกัน รักเอาใจใส่ ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกโดดเดี่ยวเลยสักครั้ง แต่ถึงอย่างนั้น ในใจลึกๆผมก็ยังอยากมีพี่ชาย หรือใครสักคนอยู่ดี ผมเฝ้ามองเพื่อนคนอื่นมีพี่น้องมาโดยตลอด ผมเริ่มหาทางออกให้กับตัวเองด้วยการจมอยู่ในโลกจินตนาการ วาดฝันความคิดมากมาย

   แรกเริ่มเดิมที่ผมก็ดูการ์ตูนเหมือนเด็กทั่วไปนั้นแหละ กระทั่งขึ้นม.ต้น เพื่อนเริ่มชวนอ่านหนังสือการ์ตูนชายหญิงปกติ ผมก็อ่านไปเรื่อย มีแบบแนวต่อสู้ด้วย สไตล์นักเลงก็อ่าน ฮาเร็มไม่พลาด เรียกได้ว่าอ่านมันหมดทุกแนว จนเริ่มขยับมาเป็นนิยายแฟนซี ที่นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชาย สักพัก เริ่มเลื่อนระดับมาเป็นแบบไม่มีนางเอก มีแต่ตัวละครชายล้วนๆ ขยับมาเป็นสายโชเน็นไอ จิ้นมิตรภาพระหว่างเพื่อน กระทั่งเริ่มมาเป็นสายไอส่อวาย

   ผมมาจอดเอากับโดจินการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่กำลังฮิตอยู่ในช่วงนั้น ลองหาฟิคอ่านเล่นๆ จนเริ่มกลายมาเป็นผู้ผลิตซะอีก ผมเริ่มแต่งฟิค คุยกับเพื่อนคอเดียวกันในโลกออนไลน์ ซื้อการ์ตูนวาย นิยายวาย จนกลายมาเป็นติดงอมแงมในปัจจุบัน

   ล่าสุด ผมเปลี่ยนแนวไปเรื่อยจนมาจอดเข้ากับอินเมจเมะสไตล์ผู้ชาย แบบพี่ชายจ๋า และไออินเมจที่ว่า กำลังนั่งยิ้มให้ผมอยู่ตรงหน้า ของคุณศาสดาที่ทำให้ผมได้เจอกับคนในฝัน แต่ผมยังไม่มีความคิดอะไรเกินเลยนอกจากอยากฉุดอีกฝ่ายมาเป็นพี่ชายนะ เพราะผมไม่ค่อยสนใจเรื่องความรักเท่าไหร่

   “นั่งเหม่ออะไรน่ะเรา อาหารมาแล้วนะ อยากไปกินไอติมต่อไม่ใช่เหรอ”

   มโนเอ๋ยจงหยุด ผมออกจากภวังค์กลับเข้าโลกแห่งความเป็นจริง ก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้า ฮือออ อร่อยอะ ถึงไม่เท่าฝีมือแม่ทำ แต่ก็อร่อย

   “กินดีๆ ระวังด้วย เดี๋ยวก้างติดคอ เอามานี้ก่อนดีกว่า พี่เอาก้างออกให้”

   พอเห็นเด็กน้อยตรงหน้าเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ นั่งเขี่ย นั่งเล็งปลาซาปะตรงหน้า ความรู้สึกอยากดูแลไม่รู้โผล่มาจากไหน ในใจคิดคงจะเป็นเพราะอีกฝ่ายอายุใกล้เคียงกับน้องชายล่ะมั้ง เฟย์ส่ายหัว หยิบจานปลาของคนตรงหน้ามาจัดการเขี่ยก้างออก แยกไว้แต่เนื้อก่อนส่งคืน

   อีกคนรับรู้ถึงการดูแลเอาใจใส่ ในใจอุ่นวาบ อมยิ้มแก้มตุ้ย นั่งทานข้าวที่รู้สึกว่าอร่อยมากกว่าเดิมสามเท่า ผมบอกขอบคุยเสียงเบาหวิว รู้สึกเขินๆ ปกตินอกจากแม่กับญาติพี่น้องไม่เคยถูกใครดูแลดีขนาดนี้

   ผมเป็นเด็กขี้อายด้วย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก เลยไม่ค่อยได้รับความสนใจจากคนอื่นนัก ขนาดตอนนี้ผมยังเกร็งเลย พยายามยิ้มไม่แสดงอาการจนเกินไป ในโลกออนไลน์ หรือในโทรศัพท์ แค่พิมพ์ คุยกันไม่เห็นหน้า จะพูดคุยอะไรก็ได้ พอมาเจอหน้าตรงๆ ทำตัวไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่ ถ้าอยู่กับแม่ ผมคงเงียบพูดคำตอบคำแล้วเกาะแม่หนึบเป็นลูกลิง

   คนตรงหน้าเหมือนดูออก ไม่ว่าหรือแซวให้ผมอาการหนักกว่าเดิม พูดคุยเป็นธรรมชาติ หลังกินข้าวชวนไปเดินย่อยอาหารในร้านหนังสือ ขอบอกเลย ปกติถ้าไม่ใช่อะไรที่ผมสนใจ แปบๆผมก็เบื่อแล้ว อันนี้ร้านหนังสือนิยาย ใกล้ๆมีหนังสือการ์ตูน ขลุกอยู่เป็นชั่วโมงก็ไม่มีปัญหา

   จากเกร็งๆ พอผ่านโซนวาย พลังม่วงเข้าแทรก จ้อคุยกับคนข้างตัวไม่หยุด ชวนให้ดูเล่มนู่น อ่านเล่มนี้  ลืมตัวไปชั่วขณะ อีกคนก็ไหลไปตามน้ำ กว่าจะออกมาจากร้านหนังสือได้ ผมได้เพิ่มมาอีกหลายเล่ม พี่เฟย์เองก็ไม่ต่าง หลายเล่มพอกันเผลอๆจะเยอะกว่า ด้วยความกระเป๋าหนัก

   “เรื่องนั้นก็น่าอ่าน เสียดาย ผมเงินไม่พอจะได้ซื้อ”

   “ไอที่ซื้อไปตอนงานหนังสืออ่านจบแล้วหรือไง ยังมีของวันนี้ยืมพี่ไปอีก รวมกับของที่ซื้อเพิ่ม เยอะอยู่นะ”

   ผมหันขวับไปมอง กอดถุงหนังสือการ์ตูนในมือแน่น ส่วนพวกหนักๆ นู่น อีกคนถือให้หมด ไม่มีทีท่าว่าจะเมื่อยเลยสักนิด เกือบสิบเล่ม น้ำหนักไม่ใช่น้อยๆ

   “งานหนังสืออ่านจบแล้ว ของวันนี้เชื่อมือผมได้เลย ไม่กี่วันก็หมด”

   ยืดอกมั่นใจเต็มที่ เพราะมัวแต่คุย เกือบชนคนอื่น ดีที่คนข้างตัวดึงหลบซะก่อน ไม่งั้นมีรายการลงไปนั่งแบบในงานหนังสือแน่นอน

   “อย่าเอาแต่อ่านจนลืมเวลาล่ะ จะกินไอติมเลยมั้ย หรือจะเดินไปนั่งเล่นที่ไหนก่อน”

   “กินเลยฮะ ผมอยากกินแล้ว”

   พวกเราสั่งไอติมมาคนละสองลูก ของผมมีกล้วยด้วย พอไอติมมาเสิร์ฟสิ่งแรกที่ผมกินคือเจ้าเชอรี่สีสวยที่อยู่ด้านบน แล้วค่อยตักกินอย่างอื่น ผมหันไปมองคนที่เดินผ่านไปผ่านมา หันมาดูไอติมตัวเองอีกที มีเชอรี่ผุดเพิ่มขึ้นมาอีกลูก นึกในใจ หรือไอที่ผมกินไปก่อนหน้านี้จะละเมอ ความจริงแล้วยังไม่ได้กินหว่า พอเกลือบไปมองบนโต๊ะ มีก้านเชอรี่อยู่

   ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม พอจะอ้าปากถามเรื่องเชอรี่ ไอติมถูกป้อนเข้าปาก เผลอกินแบบลืมตัว เพราะผมชอบอ้อนให้แม่ป้อนนู่นป้อนนี้บ่อยๆ ตามประสาคนไม่อยากมือเปื้อน นิสัยมากอะผม

   “รสนี้อร่อยดีนะพี่ชอบกิน เป็นไงมั้ง”

   “อร่อยดีฮะ พี่ให้เชอรี่ผมเหรอ” ผมถาม ไม่ได้สนใจคนรอบข้างที่มองมาทางโต๊ะพวกเราด้วยสายตาแปลกๆ ได้ยินแว่วๆว่าพี่น้องน่ารักอะไรสักอย่าง

   “อืม พี่ไม่ชอบกินน่ะ มันเหมือนยาแก้ไอเด็ก” คนหล่อตอบด้วยสายตาว่างเปล่า ผมหัวเราะขำ

   “แม่ผมก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผมชอบกินนะ อร่อยดี”

   “งั้น หลังจากนี้ถ้าเรามากินกันอีก เดี๋ยวพี่ยกให้เราแล้วกันดีมั้ย”

   ยิ้มรับหน้าบานสิครับจะพลาดหรือ ลูกเชอรี่ให้ถ้วยละลูกเองนะ ได้เพิ่มมาอีกลูกอร่อยผมเลย พอกินไอติมเสร็จ คนตัวสูงหยิบบิลไปจ่ายที่แคชเชียร์ ผมทักท้วงเรื่องที่บอกว่าจะเลี้ยง เจ้าตัวบอกไว้เดี๋ยวค่อยให้ผมออก ตอนนี้จ่ายไปก่อน ผมพยักหน้ารับ

   พี่เฟย์ชวนผมไปหาที่นั่งเล่นอ่านหนังสือตากแอร์ในห้าง เพลินจนลืมดูเวลา กระทั่งแม่ผมโทรมาตามนั้นแหละ ถึงรู้ตัวว่า ตอนนี้มันจวนจะหกโมงเย็นแล้ว เวลาคนกลับบ้านเชียวล่ะ

   “จะกลับแล้วสินะ”

   ผมพยักหน้ารับ “ฮะ แม่โทรมาตามแล้ว ตอนนี้คนแน่นสุดๆด้วย สงสัยผมต้องไปเป็นปลากระป๋องในรถไฟฟ้าแหงๆ”

   แค่คิดก็ท้อ ยิ่งพอมองไปทางถุงหนังสือที่ผมต้องหอบกลับบ้าน เยอะจนอยากไหลไปกองกับพื้น ตลอดทั้งวัน มีคนถือให้ตลอดเลยลืมนึก พอจะกลับ ผมต้องขนเองทั้งหมด แค่ปกติตัวเพียวๆ ไม่รู้จะรอดในรถไฟฟ้ากระป๋องรึเปล่า มารอบนี้มีของถือเพียบ

   สุดท้าย ได้แต่ปลงและรับชะตากรรม มันไม่มีประตูมิติส่งผมกลับถึงบ้านโดยไม่ต้องนั่งรถนี่นา

   “เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่า ของเราเยอะ ถือกลับเองไม่ไหวแน่”

   “ไม่เป็นไรพี่ เห็นงี้ผมถึกนะ เคยขนมากกว่านี้มาแล้ว บ้านผมกับพี่อยู่คนละฟาก ต้องวกไปวกกลับ เสียเวลาแย่”

   ส่ายหัวปฏิเสธทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด พี่เฟย์ใจดีกับผมมากก็จริง แต่จะให้ไปลำบากขนาดนั้นไม่ไหว ผมเกรงใจแบบมากๆด้วย

   คนตรงหน้านิ่งคิดไปชั่วครู่ แล้วหันมายิ้มให้ผมเหมือนตัดสินใจได้แล้วว่าจะเอายังไงต่อไป

   “เอาแบบนี้แล้วกัน พี่ไปส่งเราขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน ที่พี่อยู่ BTS ผ่าน ค่อยนั่งกลับเอาก็ได้สบายๆ”

   ผมกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ โดนลูบหัวพูดดักซะอย่างนั้น

   “ไม่ต้องเกรงใจ พี่เต็มใจไปเอง” ได้ยินคำยืนยันแบบนี้ ผมเลยอือออไปตามเรื่อง หลังตัดสินใจกันได้ พี่เฟย์ยังคงเป็นคนถือถุงหนังสือส่วนใหญ่เหมือนเดิม ให้ผมถือแค่หนังสือการ์ตูนเบาๆแทน พาไปขึ้นรถไฟฟ้า

   เป็นอย่างที่คิด คนเยอะมาก ขนาดแค่ช่องแลกตัง ตู้ขายบัตรยังเยอะเลย แถวยาวขดไปขดมาเป็นหางงู พี่ชายใจดีเป็นคนจัดการซื้อบัตรให้ เราไปยืนรอขึ้นรถ ดวงอาทิตย์เริ่มตกดิน แสงไฟถูกเปิดสว่างไสว พอรถไฟฟ้าจอดสนิท คนทยอยเข้าไปเหมือนมด ผมเดินเข้าไปตามแรงจูงจากคนด้านหน้าที่ใช้ตัวเองเป็นตัวเบิกทาง

   มือใหญ่จับผมให้ไปอยู่ในซอก แล้วเอาตัวเองยืนขวางแทน ผมไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาเบียด ไม่ต้องกลัวว่าพอออกตัวแล้วจะเซไปชนชาวบ้าน หรือโดนคนอื่นทับแบนเป็นกล้วยตาก จุดที่ยืนช่างแสนสบาย ทั้งที่ควรจะเป็นแบบนั้น ในใจผมไม่คิดงั้นเลย

   กลิ่นน้ำหอมจางๆแบบผู้ใหญ่ อีกคนที่อยู่ใกล้ๆ ปกป้องคนตัวเล็กกว่าในอ้อมแขน ลมหายใจร้อนเป่ารดใกล้ชิด รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า จนต้องก้มหน้ากอดถุงหนังสือการ์ตูนแก้เขิน หัวใจเต้นรัว ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย หรือจะเป็นเพราะตื่นเต้นกันแน่นะ ขอบคุณคนอื่นๆที่มัวแต่จดจ่อกับเรื่องของตัวเอง เลยไม่สนใจจุดเล็กๆ ของคนสองคนว่ามีบรรยากาศบางอย่างแผ่ออกมา

   “อึดอัดรึเปล่า”

   เสียงทุ้มนุ่มดังใกล้ๆ ผมส่ายหัวขวับๆ พอเงยหน้าขึ้นมอง สบกับแววตาฉายความเอ็นดู คนตัวเล็กกว่าเหมือนจะซุกไปอยู่ในซอกมากกว่าเดิม ตัวต้นเหตุไม่รู้เรื่อง หัวเราะในลำคอเบาๆ

   รถไฟหยุดตรงป้ายที่จะลง ร่างสูงผละออกเปลี่ยนมาจูงมือผมเดินออกไปแทน พามาส่งถึงรถแท็กซี่ เจ้าตัวเท้าแขนตรงขอบประตู คุยกับเด็กน้อยที่หอบของนั่งอยู่ในรถพะรุงพะรัง

   “ถึงแล้ว โทรหาพี่ ไม่ก็ทักบอกในเอ็มด้วยนะ บายๆครับปอนด์ ไว้เจอกัน”

   คนใจเต้นยังหาเสียงตัวเองไม่เจอ ได้แต่พยักหน้ารับหงึกๆ โบกมือลา รถออกตัวถึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึก...เสียดายยังไงก็ไม่รู้แฮะ...

   อีกด้าน คนยืนมองส่งเด็กน้อย ยิ้มขำกับตัวเอง ระหว่างเดินกลับขึ้นไปนั่งรถกลับบ้านตัวเองบ้าง นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ตัวเล็กๆเหมือนจะหายไปเวลากอด ซุกอยู่ในซอกก้มหน้าเห็นแค่ผมนุ่มยุ่งๆตามประสาเด็กซน แต่ดันขี้อายอย่างไม่น่าเชื่อ น่าเอ็นดู น่ารัก น่าจับฟัดเบาๆ

   ทางคนนั่งม้วนในรถแท็กซี่ จู่ๆนึกอะไรบางอย่างออก

   “อ๊ะ เรายังไม่ได้จ่ายค่าไอติมเลยนี่หว่า ถูกล่อจนลืมซะแล้ว!”

   ผมไม่รู้เลยว่าไอการโดนล่อลวงครั้งนี้มันแค่การเริ่มต้น หลังจากนี้ไม่ต้องพูดถึง ฮือ

ออฟไลน์ fay_13

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณพี่ชาย.... หวังอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่าเจ้าคะ?  :hao6:

เด็กน้อยช่างน่ารัก โอยยยยยยยยยยยยยยยย จับกินอย่างดุร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
วายที่3 งานคอสเพลย์

   นอกจากงานหนังสือแล้ว ยังมีอีกงานหนึ่งที่เหล่าโอตาคุชายหญิง และบรรดาสาวกวายทั้งหลายสนใจมาก นั่นก็คือ.... งานคอสเพลย์!

   แล้วยิ่งงานคอสไหนผสมกับพวกคอมมิก ขายพวกนิยาย การ์ตูน โดจิน งานเกี่ยวกับการ์ตูนเข้าไปด้วย ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่ ตอนนี้ผมมีเป้าหมายใหม่ครับ นั่นก็คืองานนี้แหละ ผมอยากไปดูคนอื่นคอสเพลย์ อยากแต่งตัวเล่นๆ ไปซื้อของด้วย รายการที่อยากพิมพ์ไว้ในมือถือครบ วิธีการไป กฎการเข้างาน ศึกษามาพร้อมสรรพ

   ขาดอยู่อย่างหนึ่ง ผมไม่มีเพื่อนไปอะ กระซิกๆ เพื่อนผมไปก็จริง แต่ขานั้นต้องเฝ้าบูธขายของ ของตัวเอง ออกมาป้วนเปี้ยนเล่นกับผมไม่ได้ เพื่อนคนอื่นที่ไปทางนั้นก็คอสเหมือนกัน ไปกับเพื่อนอีกกลุ่ม ผมไปแจมก็ใช่ที่ ไม่รู้จัดด้วย
   
   เหลือตัวช่วยคนสุดท้าย... ถ้าคนนี้ไม่ไป ผมคงได้ลุยเดี่ยวของจริง ผมนั่งลังเลอยู่หน้าจอคอม ที่เปิดเอ็มค้างไว้ ชื่อคนนั้นกำลังออนอยู่ ผมยังไม่กล้าทักไป

   นับตั้งแต่วันที่ไปเจอกันรอบสอง แลกหนังสือกัน หลังจากนั้นก็มีนัดเจอกันบ้างตามประสา แต่ไม่บ่อย นานๆทีจะนัดสักทีเพราะพี่เขาไม่ค่อยว่าง ผมเองก็ติดเรียน ดีหน่อยตอนนี้ผมปิดเทอมอยู่ เหลือแค่ทางนั้นต้องทำงานตามปกติ ผมกำลังจะขึ้นม.5แล้วครับ

   ผมจะชวนพี่เขาไปงานคอสอาทิตย์หน้า เจ้าตัวจะว่างไหมหว่า มันตรงกับวันหยุดอยู่นะ แต่กลัวว่าจะติดพวกงานด่วนจัง เอาวะ สู้ๆ ลองถามไปก่อนแล้วกัน ลุย!

   Ponda : ดีฮะพี่

   fay_ie : ไงเรา ทักช้ากว่าปกติ ติดเกมล่ะสิ

   Ponda : ไม่ใช่สักหน่อย! เอ่อ...วันอาทิตย์นี้พี่ว่างป่าว

   fay_ie : ว่างนะ จะนัดเจอรึไงเรา

   Ponda : ก็ไม่เชิง แบบ มันมีงานคอสอะ ขายพวกของการ์ตูนในงานด้วย ผมว่าจะไปอยู่

   พี่เขานิ่งไป ผมนั่งลุ้นอยู่หน้าจอ สักพักถึงถามกลับมา

   fay_ie : เราไปกับใคร นัดเพื่อนไว้รึเปล่า?

   Ponda : เจอเพื่อนที่นู่นอะ แต่เพื่อนเฝ้าบูธ ผมว่าจะไปเดินซื้อของแล้วก็กลับ แต่งเล่นๆแค่นั้น

   fay_ie : หืม? อยากให้พี่ไปด้วยเหรอ?

   เจอคำถามงี้เข้าไป ผมนั่งตัวแข็งทื่อ เหมือน คือจริงๆแล้วก็อยากให้ไปแหละ แต่แบบ จะให้พูดมันก็... ใครจะไปยอมรับง่ายๆกัน!

   Ponda : เผื่อพี่มีของอะไรอยากซื้อไงฮะ งานนี้ของน่ารักๆเยอะนะ มีพวกวายด้วย

   fay_ie : หึหึ

   อ๊ากกก พิมพ์กลับมาแบบนี้ อย่างกับมีภาพฉายขึ้นมาเลย อีกด้านพี่ชายสุดหล่อคงกำลังขำผมอยู่แน่ๆ โดนรู้ทัน ฮึ่ย เขินหนักกว่าเก่าอีก ใครก็ได้ เอาปูนมาฉาบหน้าให้ผมที

   Ponda : ขำอะไรพี่

   fay_ie : อยากให้พี่ไปด้วยก็บอกมาสิ...

   ฉ่า...ความร้อนพุ่งขึ้นหน้า แทบอยากเอาหัวโขกคีย์บอร์ด

   Ponda : ป่าวสักหน่อย ก็แค่ถามดู

   fay_ie : อ่าฮะ... แล้วจะให้พี่ไปด้วยมั้ย?

   ผมนั่งนิ่งอยู่หน้าคอม มองข้อความที่พี่เขาตอบกลับมาแบบเหม่อๆ อยากให้ไปด้วยมั้ย...อยาก อยากสุดๆเลย ไม่งั้นคงไม่ชวนหรอก แต่...  ริมฝีปากเล็กเม้มสนิท กลั้นใจพิมพ์ทั้งที่แอบสั่นๆ

   Ponda : พี่จะไปด้วยป่าวล่ะ

   fay_ie : อืมมม ไปก็ได้... ไม่งั้นเดี๋ยวเด็กน้อยแถวนี้จะงอนพี่ที่ไม่ยอมไปด้วย

   ต่อจากนี้ไม่ต้องพงต้องพิมพ์มันแล้วครับ ผมละจากจอคอม กระโดดขึ้นเตียง คว้าผ้าห่มมากอด กลิ้งไปกลิ้งมาทึ่งหัวตัวเองเหมือนคนบ้า เห็นแม่ยืนทำหน้าเหมือน เด็กนี้ไม่ใช่ลูกฉัน อยู่หน้าประตูผมถึงได้สติ ยิ้มให้แม่ เดินเข้าไปกอดเอวออดอ้อนจนโดนดันหัวออก

   “เมาอากาศรึไงน้องปอนด์ แม่ทำกับข้าวเสร็จแล้ว ลงไปช่วยจัดโต๊ะกินข้าวเร็ว”

   “คร้าบ”

   ผมรับคำว่าง่าย ไหลไปบอกพี่เฟย์ว่าขอตัวไปกินข้าว แล้ววิ่งทั่กๆ ลงไปชั้นล่าง กินเสร็จผมเป็นคนเก็บโต๊ะล้างจาน เอาขยะไปทิ้ง หยอกเล่นกับเจ้าหมาที่บ้านสักหน่อย ค่อยขึ้นมานั่งเล่นคอมต่อ พวกเราคุยกันจนดึก สุดท้ายพี่เขาก็ไล่ผมไปนอน ผมเลยต้องหอบสังขารตัวเองไปอาบน้ำมานอนกลิ้งเฝ้ารอวันที่จะได้ไปงานคอสเพลย์ ดูท่าผมชักจะเริ่มอาการหนักแฮะ

   และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง ผมเตรียมชุดใส่กระเป๋า ไม่คิดเปลี่ยนจากบ้าน ถึงมันไม่ได้ชุดหรูหราอะไร แต่ถ้าให้ใส่ไปคงไม่ไหว เด่นตายชัก

   โชคดีที่งานจัดขึ้นไม่ไกลจาก BTS แค่นั่งยาวไปลงเดินต่ออีกหน่อยก็ถึง ผมนัดกับพี่เฟย์ไว้ที่สถานีนั้นแหละ พอลงจากรถเดินลงมาประตูทางออกตามนัด ร่างสูงเด่นเข้าตาเป็นคนแรก หนุ่มวัยทำงาน สลัดมาดพนักงานบริษัท ใส่เสื้อยืดสีดำคอวีพอดีตัวทำให้เห็นสัดส่วนปานนายแบบรางๆ กางเกงยีนเซอร์ๆ กับรองเท้าสุดเท่ ยืนหล่อเช็คกล้องถ่ายรูปที่คล้องอยู่ตรงคอ มือข้างถึงถือถุงกระดาษ

   นึกอยากหมุนตัวกลับ หลายคนที่มางานเดียวกัน บางคนแต่งชุดคอสเพลย์แล้ว พากันมองแบบเหลียวหลัง งานนี้ยิ่งเป็นงานเกี่ยวกับพวกของวายซะด้วยสิ อินเมจเมะสุดเพอร์เฟคกระตุ้นต่อมจิ้นเหล่าบรรดาสาววายดีนักแล รวมถึงผมด้วย ถ้าผมไม่ได้เป็นคนที่นัดมาอะนะ

   ใบหน้าหล่อเหล่าเงยขึ้นมอง เห็นเด็กน้อยที่รอยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่ได้คิดอะไรมาก เลยเดินเข้าไปหาเองซะเลย

   “ปอนด์ ทำไมยืนนิ่งงั้นล่ะ จะแต่งคอสเพลย์ด้วยไม่ใช่เหรอ ไปเปลี่ยนชุดสิ พี่รอถ่ายรูปอยู่”

   พี่รอถ่ายรูปอยู่…

   พี่รอถ่ายรูปอยู่...

   คำนี้วนเวียนอยู่ในหัว มือกำสายเป้แน่น เดินเหมือนหุ่นยนต์ เรียกเสียงหัวเราะจากคนข้างๆ พอเห็นแววว่าจะชนชาวบ้าน ต้องคอยคว้าจับ สุดท้ายจูงพาไปที่ห้องน้ำให้เปลี่ยนเสื้อผ้า

   นักคอสเพลย์ชายดูจะน้อยกว่าผู้หญิง ส่วนใหญ่มักจะแต่งมาจากที่บ้านมากกว่า เพราะชุดตัวละครชายไม่ค่อยมีอะไรมากนัก เฉพาะบางตัวนะ ผมยิ่งง่ายใหญ่ ถอดเสื้อเปลี่ยนชุดแปบเดียวเสร็จ ไม่ต้องแต่งหน้าเซตผมอะไร สไตล์หัวยุ่งๆผมนี้แหละแจ่มระ

   ผมออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดปกกะลาสีเด็กผู้ชาย เสื้อสีขาว ปกสีน้ำเงินกับผ้าสีเดียวกัน กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ถุงเท้าสีขาว ปิดท้ายด้วยรองเท้านักเรียนแบบญี่ปุ่นที่ลงทุนซื้อมาใหม่ เท่านี้ก็เรียบร้อย ตัวนี้ผมสั่งซื้อทางเน็ต ซักรีดแล้วหอมฟุ้งด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่ม รับประกันด้วยแม่ผมเลย

   “พี่เฟย์ ผมมาแล้ว”

   ผมดึงๆชายเสื้อเรียกคนตัวโตที่ยืนรออยู่ พอพี่เฟย์หันมาเห็นผม ติดสตั๊นไปชั่ววูบ ผมเอียงคอมองงงๆ

   “อะแฮ่ม น่ารักมากเลย ปะ เราเข้าไปในงานดีกว่า”

   คนตัวโต รับเป้ใส่เสื้อผ้ามาสะพายไว้แทน แล้วจูงมือเด็กน้อยเข้าไปในงานท่ามกลางสายตาทุกคนที่มองเห็น ในใจเฟย์ตอนนี้ช่างแตกต่างกับสีหน้าปกติ แวบแรกที่เห็นเด็กน้อยน่ารักในชุดปกกะลาสี ผมนุ่มอย่างกับขนแมวดูยุ่งๆ ให้อารมณ์เหมือนลูกแมวซุกซน ดวงตากลมโตสีดำ ปากนิดจมูกหน่อย ทั้งที่อยู่ม.ปลาย หน้าตากลับเด็กมากจนน่าตกใจ

   อยากอุ้มกลับบ้านว้อย!!!

   “พี่เฟย์ๆ เป็นอะไรไปเหรอฮะ”

   “ป่าวๆ พี่แค่คิดอะไรเพลินๆน่ะ ตรงนั้นมีของคอสเพลย์ด้วยไปดูหน่อยมั้ย”

   “ไปๆ ผมอยากได้หูแมวพอดีเลย”

   ร่างเล็กเป็นฝ่ายลากพี่ชายไปแทน หยุดยืนดูอยู่ตรงร้านขายพวกของคอสเพลย์ มีพวกหูหางแมว ปลอกคอ ชุดคอสเพลย์แบบเป็นเซต หูกระต่าย และอีกสารพัด

   ดวงตาคมไปสะดุดเข้าไปหูแมวดำขนนุ่ม ด้านในเป็นผ้าสีชมพูอ่อน ใกล้ๆกันมีหางแมวยาวแบบดัดได้ใช้ขนแบบเดียวกัน ถัดไปอีกหน่อยเป็นถุงมืออุ้งเท้าแมวมีปุ้มเท้านุ่มๆสีชมพู ไม่รู้อะไรดลใจ เฟย์เลือกหยิบเซตนี้ให้พนักงาน แถมเลือกปลอกคอแบบเป็นริบบิ้นสีดำติดกระพรวน กับริบบิ้นสีแดงเส้นเล็กอีกสองสามเส้น

   อาศัยช่วงที่เด็กน้อยกำลังสนใจดูของอย่างอื่น ยืนถักปลอกคอด้วยริบบิ้นขึ้นมาใหม่ เป็นเส้นสีดำสลับแดง แล้วจัดการใส่ให้คนข้างตัวซะเลย แถมที่คาดผมหูแมวดำ ติดหางพร้อม ปิดท้ายด้วยถุงมือแมวใส่มือเล็ก คนโดนจับแต่งตัวก้มมองตัวเอง พอจะอ้าปากทักเรื่องคนจ่ายเงิน กลับถูกขัดซะนี้

   “เหมาะมากเลย เดี๋ยวเดินดูของ ซื้อจนครบแล้วไปถ่ายรูปด้านนอกกันดีกว่า”

   ผู้ใหญ่มีสกิลหลอกล่อสูงลิบ จูงมือลูกแมวให้เดินตามต้อยๆ ได้ยินเสียงกระพรวนใสๆดังอยู่ข้างๆ หลายคนที่เห็นต่างมองตามกันจนแทบเหลียวหลัง เสียงซุบซิบมีให้ได้ยินไม่ได้ขาด

   “น่ารักจังเลย พี่ชายกับน้องชายรึป่าว”

   “ไม่หรอก ต้องคบกันแน่ๆ”

   “บ้าหน่า แบบนี้ก็เข้าข่ายกินเด็กสิ กรี๊ด กินเด็กเป็นอมตะ”

   เห็นพี่เฟย์สะดุดเข้ากับประโยคสุดท้าย ผมเองได้ยินเต็มสองหู ทั้งขำทั้งเขินในเวลาเดียวกัน เอาเป็นว่าถ้าแต่งออกมาแล้วไม่ดูแย่ก็โอเคล่ะนะ ผมเลยไม่คิดถอดพร็อพพวกนี้ออก ยกเว้นถุงมือ เพราะต้องหยิบจับซื้อของที่อยากได้ ผมวนเวียนไปทุกร้าน บางร้านเดินผ่านแล้วผ่านอีกถึงตัดสินใจซื้อได้ บางอย่างสนใจ แต่กลับไม่ซื้อก็มี

   ของที่ซื้อมาก็มีพวก โดจิน หนังสือการ์ตูนออริ ยัดใส่เป้ที่พี่ชายสะพายไว้ น่าเสียดายนิดหน่อย เพื่อนผมเพิ่งโทรมาบอกว่า ติดธุระกะทันหันเลยไม่ได้มาที่บูธ แต่ฝากคนอื่นมาแทน ผมไม่รู้จักเลยไม่เข้าไปหา หลังซื้อของเสร็จ ตัดสินใจออกจากฮอลล์เลย

   ด้านนอกมีลานโล่ง กับโซนพื้นหญ้า ต้นไม้บ้าง คนแต่งชุดคอสเพลย์กับตากล้องอยู่กันแบบระรานตา แต่ละคนแต่งชุดมาจัดเต็มมาก ผมมองด้วยความตื่นเต้น กลุ่มไหนกำลังยืนให้ถ่ายรูป ผมก็ลากพี่ชายเข้าไปถ่ายเก็บภาพให้ด้วย คนตัวโตส่ายหัวกับลูกแมวตัวน้อยแสดงอาการดีใจแบบไม่ปิดบัง หารู้ไม่ ตากล้องที่มาด้วยนี้แหละ แอบถ่ายรูปไปเป็นโหลๆ และคอยกันท่าพวกท่าทางไม่น่าไว้ใจ ที่คิดจะเข้ามาใกล้ลูกแมวที่กำลังเริงร่า

   “พี่ๆ ตรงนั้นมันเมะวายที่กำลังดังตอนนี้นี่นา สุดยอดเลยอะ เหมือนมาก ทั้งชุด ทั้งทรงผม คนถ่ายรูปเต็มเลย”

   “ใจเย็นๆ เขาไปวิ่งหนีไปไหนหรอกหน่า วิ่งมากระวังสะดุดล้มนะ”

    “ผมไม่ได้ซุ่มซ่ามขนาดนั้นสักหน่อย”

   ผมหันไปบ่นอุบอิบใส่ พอดักับมีผู้หญิงในชุดโลลิต้ากับชุดเมดสองคนเดินมาทางพวกเรา

   “เอ่อ...ขอโทษนะคะ ขอถ่ายรูปหน่อยคะ” สาวชุดเมดถาม ผมพยักหน้ารับหงึกหงัก ตั้งแต่ออกมาจากฮอลล์มีคนอื่นมาขอถ่ายรูปผมบ้างเหมือนกัน ทุกคนสุภาพใจดี แรกๆก็เขิน เกร็งๆอยู่บ้าง ช่วงหลังคงเริ่มชิน

   “ได้ครับ ถ่ายตรงไหนดี?”

   ผมถามแบบนี้เพราะบางคนเขาขอให้ไปถ่ายคู่กับคนอื่นด้วย ว่าตามจริง ถ้าไม่มีพี่เฟย์อยู่ ผมคงโดนฟัดจนขนยับแหงๆ

   “ตรงนี้ก็ได้ค่ะ แต่... คุณพี่ชายช่วยอุ้มคุณน้องชายหน่อยได้รึเปล่าคะ เอ่อ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร...”

   “ได้สิ”

   เสียงทุ้มตอบรับ พร้อมกับตัวผมที่ถูกอุ้มจนตัวลอยจากพื้น พี่ชายแข็งแรงมาก อุ้มผมด้วยแขนข้างเดียวสบายๆเลย เหมือนเวลาพ่อบ้านปีศาจอุ้มนายน้อย ผมได้ยินเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ คนแถวนั้นหลายคนแห่กันมาถ่ายรูปพวกเราสองคน

   “กรี๊ดดด น่ารัก โชตะๆ”

   “พี่ชายกับน้องชาย ฟินพะยะคะ ตายไปไม่เสียดายแล้ว”

   “ขอบคุณตัวเองที่เลือกมางานนี้!”

   เจอแบบนี้เข้าไป ผมเริ่มทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยิ้มให้คนอื่นถ่ายรูป พี่เฟย์ดูไม่สะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกินขึ้นเลยแม้แต่น้อย ไม่สิ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนงานหนังสือแล้ว ถ่ายรูปไปถ่ายรูปมาจนผมเริ่มจะเหนื่อยกับการแอ๊กท่าแบบที่คนนั่นคนนี้บอก

   พี่ชายสังเกตเห็นเลยกระทำการอุอาจแทบฆาตกรรมหมู่ในงาน ริมฝีปากได้รูปหอมแก้มนุ่มคนที่อุ้มอยู่เร็วๆ เสียงกรี๊ด เสียงรัวชัตเตอร์หนักขึ้นกว่าเก่า ส่วนผมอึ้งอ้าปากค้าง พอได้สติต้องยกมือที่สวมถุงมือแมวมาปิดหน้าแดงๆของตัวเอง จำต้องซุกหน้ากับบ่ากว้าง

   “น้องของผมเหนื่อยแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ”

   คำพูดแสนสุภาพ น้ำเสียงชวนฟัง ทำให้ทุกคนเคลิ้มไปชั่วขณะ ยอมเปิดทางปล่อยให้คนตัวโตอุ้มลูกแมวน้อยออกไปโดยดี เด็กน้อยบางคนดูท่าคงไม่อยากดูคนอื่นคอสเพลย์ต่อแล้ว เฟย์เลยอุ้มพาออกมาซะเลย

   “พี่ เดี๋ยวๆ ผมยังไม่เปลี่ยนชุดเลยนะ”

   ผมทักท้วงเมื่อเห็นว่าอีกคนจะพาเดินออกไปทั้งแบบนี้จริงๆ

   “ไม่เป็นไรหรอก ถอดแค่พวกพร็อพออกก็พอ เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้าน มีขนมเอาไปฝากแม่ด้วย ขืนให้เราถือไป คงเละหมดก่อนถึงมือแม่พอดี”

   “ไม่ใช่แบบนั้นสิ ถึงจะเอาพวกนี้ออก แต่ชุดมันก็ยังเด่นอยู่นะ อีกอย่าง มันไม่เกี่ยวกับเรื่องพี่ไปส่งเลยนี่นา”

   “เหมือนชุดไปเที่ยวแหละ เอ้า เรียบร้อย ไปกันเถอะ”

   หูหางถุงมือ พร้อมปลอกคอริบบิ้น ถูกถอดไปเก็บในกระเป๋าเป้ของผมจนหมด นึกอยากประท้วงใจจะขาด แค่ตัวโดนลากขึ้นรถไฟฟ้าไปเรียบร้อย คนมองกันให้พรึบ น่าอาบจริงๆ คนข้างๆไม่สำนึก หัวเราะเบิกบานจนผมหมั่นไส้ใส่ศอกไปทีนึง เลยโดนหยิกแก้มกลับเบาๆ

   วันนี้ ผมกลับมาบ้านด้วยชุดปกกะลาสี ผมคว้ากระเป๋าขึ้น รีบขึ้นไปเปรียบที่ห้องตัวเอง ระหว่างเดินลงมาชั้นล่าง ได้ยินเสียงแม่ผมกับพี่เฟย์คุยกันถูกคอ แม่ชมว่าขนมที่พี่ชายทำอร่อยไม่ขาดปาก ชวนมากินข้าวเย็นด้วยกัน ไปๆมาๆ แขกดันเข้าครัวไปช่วยแม่ผมทำกับข้าวซะงั้น

   ส่วนผมน่ะเหรอ แค่เดินเฉียดครัวก็โดนสองคนนั้นไล่ออกมา ให้นั่งดูการ์ตูนรอข้างนอกแล้ว ชิ ผมแค่ทำอาหารไม่เป็น ทำหม้อไหม้ไปหลายใบ ถ้วยชามแตกไปไม่กี่อย่างแค่นั้นเอง

   จะถามว่าทำไมพี่ชายถึงดูสนิทกับแม่ผม มันเป็นเรื่องก่อนหน้านี้ครับ ทุกครั้งที่นัดเจอกัน พี่จะมาส่งผมขึ้นแท๊กซี่ตามปกติ วันหนึ่งแม่ผมบอกว่าให้พาพี่ชายมาเที่ยวบ้านด้วย คงอยากจะเห็นคนที่ผมคุยด้วยบ่อยๆตามประสาแม่เป็นห่วงลูกนั้นแหละครับ

   ผมเล่าให้พี่เฟย์ฟัง พี่เขาเข้าใจ เลยยอมตามผมกลับมาบ้าน แถมขนมติดไม้ติดมือมานิดหน่อย เจ้าตัวนอกจากจะทำงานบริษัทแล้ว เวลาว่างๆพี่เขาจะรับออเดอร์ทำขนมขาย พวกเค้กอะไรแบบนั้น ซึ่งผมมารู้เอาวันที่พี่ทำมาฝากแม่ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของสองพ่อครัวแม่ครัวที่คุยกันถูกคอเรื่องทำอาหาร ปล่อยให้ลูกชายตาดำๆเป็นแมวหัวเน่าไป

   แต่ไม่เป็นไร เพราะผมได้กินของอร่อยทุกที ไม่ว่าจะของคาวของหวาน ลาบปากผมล่ะ

   “น้องปอนด์ เลิกดูการ์ตูนมาช่วยยกออกไปเร็ว พี่เขาจะไม่ต้องกลับดึก”

   “คร้าบ”

   ผมขานรับเสียงที่ดังมาจากในห้องครัว ลุกจากโซฟา รับจานกุ้งทอดที่พี่ชายยื่นส่งมาให้อีกต่อด้วยรอยยิ้ม รู้สึกตาพร่ากับความหล่อ แถมยังเป็นพ่อศรีเรือนสุดๆ บอกแม่ให้สู่ขอเลยได้มั้ยเนี่ย นับวันยิ่งแทรกซึมเป็นสมาชิกอีกคนของบ้านมากขึ้นทุกที ขนาดเจ้าหมาตัวดีของผมยังแปรพักตร์

   แต่ก็อีกนั้นแหละ ในสายตาพี่ชายมองผมเป็นแค่น้องชายคนหนึ่งเท่านั้น เรื่องมันเศร้า จิ๊กกุ้งทอดกินแปบ

   “น้องปอนด์! แม่เคยบอกว่าห้ามแอบกินก่อนไง แล้วมือล้างรึยัง ไปล้างมือก่อนกินข้าวไป”

   “แม่อะ” ผมงุ้งงิ้งๆแม่ไม่สนใจ หันหลังให้ไปตักผัดผักรวมมิตรใส่จาน จู่ๆมีกุ้งทอดยื่นมาตรงหน้า

   “แค่ชิ้นเดียวนะ”

   วะฮ่าๆ ลูกมือแม่แปรพักตร์บ้างแล้ว ผมอ้าปากงับกุ้งทอดอย่างเป็นสุข
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2015 15:43:33 โดย Silver Fish »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
55555555+

น้องปอนด์ขุดรองเท้าสมัยประถมมาใส่ได้เหรอคะเนี่ย แสดงว่าไม่โตขึ้นเลยดิ

คุณแม่เจอว่าที่ลูกเขยแล้วเนอะ ให้ผ่านไหมคะ


(ตอนแรกบอกงานคอสสามอาติ๊ดหน้า แต่ตอนปอนด์ชวนบอกอาติ๊ดนี้อ่ะค่ะ)

ออฟไลน์ Hang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
....../กุมจมูก

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
แนวโชตะ   แอร๊ยยยฟินจ้า :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :z1:   โอ๊ย คือมันฟินพะยะค่ะ

พี่เฟย์ใจเย็นนะ ต้องค่อยๆเข้าทางคุณแม่ เดี๋ยวอีกสามปีก็18แล้ว  :m20: 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2015 10:19:51 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
บอกแม่ไปขอเลยจ่ะ อย่าช้า

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
ฟินนนนน น้องปอนด์น่าร๊ากกกก

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ฟินน้องปอนด์ สรุปแล้วน่าจะรู้แล้วนะลูกว่าหนูอยู่ประเภทไหน พี่ดูแล้วเคะชัดๆเลยคะ

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
นุ้งปอนด์น่ารักมากๆ ระวังโดนพี่ชายในฝันกดเอาไม่รู้ด้วยนะ -.,- ดันชอบยั่วแบบไม่รู้ตัวให้พี่แกตบะแตกซะด้วย หึหึ

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
แจ้งครับ

หลังจากอ่านคอมเม้น รู้สึกเนื้อเรื่องยังไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ ผมขอปรับเนื้อหาเกี่ยวกับช่วงเวลานิดหน่อย

ตอนที่1 ปอนด์อยู่ในช่วง ม.4 ครับ
ตอนที่2 เจอกันครั้งที่สอง อยู่ในช่วง ม.4 เทอม 2
ตอนที่3 งานคอสเพลย์ กำลังปิดเทอมขึ้น ม.5
ตอนที่4 เจ้าตัวเล็กขึ้น ม.5 แล้วเรียบร้อย

ผมจะไล่ช่วงเวลาไปเรื่อยๆ เพราะเนื้อเรื่องมันยาวไปถึงช่วงมหาลัย ช่วงเวลาที่ข้ามไปไม่มีอะไรมาก แค่นัดเจอพูดคุยกันปกติ ดังนั้นผมจะดึงเฉพาะเหตุการณ์หลักๆมา เรื่องจะได้ไม่อืดจนเกินไปนัก

อาจจะอัพช้าสักหน่อย เพราะผมแต่งงานอื่นด้วย สามารถติดตามผลงานได้ที่เพจของผมเลยครับ
https://www.facebook.com/SilverFsih?ref=bookmarks

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2015 15:55:22 โดย Silver Fish »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
วายที่4 ความรู้สึก
   
Fay Talk

   ถนนหนทางในตอนกลางคืน ยังคงสว่างไสวจากหลอดไฟตามร้านอาหาร ที่เปิดหลังหกโมงเป็นต้นไป จุดรวมของคนมากหน้าหลายตา ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยว เสียงคนจอแจดังอยู่รอบตัว จนกระทั่งเปิดประตูเข้าไปในบาร์เหล้าแห่งหนึ่ง

   กริ้ง

   เสียงกระดิ่งดังขึ้น พร้อมประตูที่ปิดลง เสียงผู้คนหายไปเหลือเพียงเพลงคลอเบาๆ กับบรรยากาศภายในร้านที่ดูเงียบสงบ ร่างสูงเดินเข้าไปนั่งตรงบาร์ ยกมือทักทายกลุ่มคนที่มาก่อนหน้า ส่วนที่ไม่ได้ใช้งานถูกปิดไฟจนหมด เหลือเพียงแค่แถวบาร์ที่พวกเขาอยู่เท่านั้น

   แก้วเหล้าถูกยื่นมาหยุดตรงหน้า คนรับยิ้มให้เป็นเชิงขอบคุณ กับหนุ่มร่างเพรียวผู้มีใบหน้าสวยหวาน

   “มาช้านะเพื่อน มัวแต่หลงลูกแมวที่ไหน ฉันอุตส่าห์ปิดบาร์เพื่อการประชุมลับของเหล่าผู้ถือหุ้นทั้งที”

   หนุ่มสมาทโอบเอวหนุ่มหน้าสวยแซวเพื่อนที่มาคนสุดท้ายอย่างอารมณ์ดี เขาเป็นเจ้าของบาร์แห่งนี้ รวมกับผับ และบาร์อีกหนึ่งแห่ง ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด ที่เหลืออีก 50 เปอร์เซ็นต์ให้เพื่อนในกลุ่มสามคนแบ่งกันไป เฟย์คือหนึ่งในสามคนนั้น

   “ฉันว่าเหมือนงานเลี้ยงรุ่นมากกว่า เฮ้ยไอกบ มึงออกจากป่ามาได้แล้วเรอะ” คนที่นั่งอยู่ด้านในสุดถามเพื่อนตัวโตที่นั่งอยู่ตรงกลาง

   “ว่าแต่มัน ไออิงค์ มึงเองก็เถอะ กูนึกว่าถูกหัวหน้างานจับโบกปูนที่ไหนแล้วซะอีก ชอบกวนประสาทชาวบ้านเขาดีนัก”

   ฝนหรือเรน เจ้าของบาร์บ่นใส่คนทำหน้าทะเล้น โดยมีน้ำคนรักหัวเราะอยู่ข้างๆ ผมส่ายหัวกับพวกมัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน นิสัยพวกมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริงๆ

    พวกเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยม กลุ่มผมมีอยู่สี่คน สี่หนุ่มสี่สไตล์ ผม ฝน กบ อิงค์ ส่วนน้ำเป็นน้องรหัสไอฝนอีกที เจอกันตอนเรียนมหาลัย วันนี้วันดี นานทีปีหนพวกเราจะได้หยุดตรงกันพร้อมหน้า เลยนัดรวมตัวกันสักหน่อย

   อย่างที่รู้กัน ผมทำงานเป็นพนักงานบริษัท อยู่ตำแหน่งหัวหน้าแผนก บ้านผมอยู่ต่างจังหวัด ตัวผมเลยต้องมาอยู่คอนโด ซื้อห้องชุดตั้งแต่สมัยมันเพิ่งสร้างใหม่ๆ ถ้าลองขายตอนนี้ราคาคงพุ่งสูงลิบ แต่ผมไม่คิดขายแน่ ไม่งั้นจะเอาที่ไหนซุกหัวนอน

   ฝนเปิดบาร์สองแห่ง ผับอีกหนึ่ง มีพวกผมเป็นหุ่นส่วน ธุรกิจในกลุ่มเพื่อน ซึ่งอันที่จริง พวกผมไม่ได้สนใจมาดูหรอก มีแต่มันกับน้องน้ำคอยบริหารโอนเงินเข้าบัญชีพวกผมทุกเดือน ไม่รู้ป่านี้เท่าไหร่แล้ว ไม่เคยเข้าไปดูจริงๆ ส่วนเรื่องโกง ไม่ต้องห่วงเลย ฝนมันเป็นพวกจริงจัง รักเพื่อนมาก ไม่มีทางโกงพวกผมแน่

   ไออิงค์มันทำงานเป็นวิศวะ ปกติไม่เคยอยู่ติดที่ เดี๋ยวต้องบินไปทำงานที่นู่นบ้าง ที่นี้บ้าง บางครั้งหายหัวไปเป็นเดือนๆติดต่อไม่ได้ เพราะที่มันทำอยู่ไม่มีสัญญาณ นิสัยมันก็พวกกวนประสาท จอมทะเล้น แต่พอเวลาทำงานจะจริงจังราวกับเป็นคนละคน ล่าสุด ผมได้ยินแว่วๆว่ามันไปกวนประสาทหัวหน้ามันอยู่ พวกผมทุกคนก็ลุ้นอยู่ มันจะโดนโบกปูนสักวันไหม ถ้าโดนมา คงต้องปล่อยเลยตามเลย ตามซากลำบาก

   สุดท้าย กบผู้ได้รับฉายาว่าฤาษี เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ยากนักที่มันจะโผล่หัวออกมาจากป่าได้ เพื่อนคนนี้ของผมมันไม่สนใจเรื่องความรักเลยตั้งแต่สมัยเรียน มุ่งมั่นไปตามฝันของตัวเองลูกเดียว มันใจดีรักเด็ก ด้วยความที่มันตัวสูงใหญ่หน้าตาขึงขังตามอาชีพ เด็กๆเลยพากันหนีมันหมด ที่เห็นจะวิ่งเข้าใส่แบบดับเครื่องชน คงมีแต่น้องชายของผม

   “เฟย์ น้องมันเป็นไงมั้ง”

   ผมเลิกคิ้วมองคนถาม กบมันปล่อยให้ฝนกับอิงค์ตีกันเป็นฉากหลัง สีหน้ามันดูเป็นกังวล หรือสาเหตุที่มันยอมเสนอหน้ากลับจากป่า น้องผมจะมีส่วนหว่า

   “ไม่รู้ดิ ปกติมั้ง พวกมึงโทรคุยกันบ่อยกว่ากูที่เป็นพี่อีกนะ ทำไม เกิดอะไรขึ้น?”

   “อะไรวะ มึงเป็นพี่นะเฮ้ย”

   “มึงบอกกูมาดีกว่า ว่ามีอะไร” ผมถามกลับ ดูเหมือนผมจะไม่ทุกข์ร้อนเรื่องน้องชาย เป็นเพราะผมเพิ่งโทรคุยกับมันเมื่อไม่กี่วันก่อนเอง ตอนโทรไปทักทายคนที่บ้านตามปกติ

   เพื่อนผมมันปากแข็งไม่ชอบพูด ผมเลยเลิกสนใจมันกระดกเหล้าในมือ หันไปคุยแจมกับพวกอิงค์เป็นระยะ จนได้ยินเสียงถอนหายใจหนักๆข้างตัวนี้แหละ

   “เฮ้อ กูยอมแล้วเฟย์ คืออาทิตย์ก่อน น้องมันโทรมา กูออกลาดตระเวนเลยไม่รู้ เพื่อนที่ทำงานกูรับแทน เพื่อนมันนึกว่าเด็กเกรียนโทรมากวนเหมือนทุกทีเลยด่าแล้ววางสายใส่ กว่ากูจะรู้เรื่องผ่านไปแล้วหลายวัน...”

   “แล้วมึงไม่โทรกลับ?”

   ผมถามด้วยรอยยิ้ม แต่มือกำแก้วแน่น มิน่าเสียงโฟมมันดูไม่ค่อยร่าเริงเหมือนทุกที เห็นผมไม่ค่อยสนน้องจริง แต่ผมรักน้องมากนะ ใครมาทำอะไร ผมพร้อมลุยไม่หวั่น ไอเบื้อกตรงหน้าทำน้องผมเสียใจ ต่อให้เป็นเพื่อนก็พร้อมวางมวยล่ะ ติดแต่ไอกบมันคงนิ่งและยอมให้ผมตืบแต่โดยดี นิสัยมันก็แบบนี้

   “โทรแล้ว แต่น้องไม่รับ พอรับก็วางสายใส่หูกูอีก กูยังไม่ได้อ้าปากพูดอะไรสักคำ”

   เพื่อนผมมันหงอยๆเหมือนกบอดแมลง ผมหัวเราะถูกใจ สมแล้วที่เป็นน้องชายผม คงเอาคืนไอกบแน่ๆ โฟมมันเป็นเด็กมีเหตุผล มันคงเข้าใจ แต่คงเคืองไม่น้อย อย่างว่า น้องผมเพิ่งจะอายุ 13 เองนะ อายุน้อยกว่าเด็กผมอีก เดี๋ยว ไม่สิ ลูกแมวนั่นไม่ใช่เด็กผม ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย

   “เฮ้ย กูกำลังเครียด ปรึกษามึงอยู่นะโว้ย อย่าเงียบดิวะ” โดยมันโวยผมถึงหลุดจากภวังค์

   “เออน่ะ มันยังอยู่ดี แต่ซึมๆ แม่บอกมันไม่ค่อยกิน น้ำหนักลดไปหลายโล หลังจากนี้มึงยังไม่รีบกลับเข้าป่าใช่มั้ยล่ะ แวะไปหามันหน่อยสิ ถือว่าแวะไปหาครอบครัวมึงด้วยเลยก็ได้”

   เรื่องอยู่ดีไม่ผิดครับ ส่วนนอกนั้นผมโกหกล้วนๆ ถือว่าช่วยน้องมันหน่อย ผมเป็นพี่ที่แสนดีนี่

   “เหรอวะ...ขอบใจนะมึง”

   “เออๆ มึงก็เพื่อน นั่นก็น้อง กูจะไม่สนได้ไง” ผมตบบ่าปลอบใจมัน เชื่อเลยว่า พรุ่งนี้มันตีรถกลับไปหาน้องผมแน่นอน ถือว่าเป็นของขวัญสุดพิเศษจากพี่ชายคนนี้ ที่ไม่ค่อยได้ไปหาแล้วกันนะโฟม

   “มึงกินเด็ก กูนี้สิ กินคนแก่ จีบยากสลัด” อิงค์ไม่รู้เสนอหน้ามายังไง เข้ามาแจงกลางวง หันไปดู ฝนไปช่วยน้ำยกของหลังร้าน มิน่า มันถึงได้หลุดมากวนพวกผมได้

   “คนแก่? ไม่ใช่พวกเราแก่เหรอ” กบถามแบบซื่อๆ เทียบแล้วมันอายุห่างจากน้องผม 12 ปี พวกเราอายุ 25 กันครับ

   “กูไม่ใช่มึงนะจะได้แดกเด็ก หัวหน้าที่กูกำลังทำงานอยู่ เขาอายุ 32 แต่สวยเด็ด” ท่าจะยาว มันลากเก้าอี้มานั่งพร้อมแก้วเหล้าในมือ ลำบากนัก ย้ายโต๊ะไปนั่งตั้งวงเลยไหมเพื่อน

   “ผู้หญิง? เป็นหัวหน้า? สุดยอดเลยแฮะ” กบมันยังซื่อต่อไป คิดว่างานแบบนี้ผู้หญิงเขาจะทำกันเรอะ ต้องอยู่กับผู้ชายเป็นฝูง คุมคนงานอีกตั้งเท่าไหร่ มีแต่เรื่องเครียด อยู่ห่างไกลความเจริญ ถ้ามี ผมถือว่าเป็นยอดหญิง

   “จุ๊ๆ ผู้ชายๆ กูแอบถ่ายรูปเขาต้องหลับมาด้วย”

   อิงค์หยิบกระเป๋าใส่กล้องมาเปิดรูปให้ผมกับกบดู มันเป็นวิศวะก็จริง แต่ชอบถ่ายรูปครับ เลยมีกล้องติดตัวตลอด เวลาไปไหนมาไหนถ่ายเก็บบรรยากาศไม่มีพลาด

   รูปที่มันเปิดให้ดูเป็นผู้ชายหน้าสวยจมูกโด่งปากบาง นอนฟุบหลับบนโต๊ะ มีเอกสารกองเกลื่อน คงเป็นแบบแปลน น่าจะหลับทั้งที่ยังทำงานอยู่ แว่นตายังไม่ได้ถอด ผมสีน้ำตาลทองยาวหยักศก ถูกมัดรวบง่ายๆไว้ด้านหลัง ดูแล้วที่ผมยาวคงขี้เกียจตัดมากกว่าจะไว้

   จะว่าสวยก็สวย ดูไม่น่าจะอายุขึ้นเลขสาม ไม่แปลกที่อิงค์มันจะชอบ แต่ไม่ใช่สไตล์ผม สเปคผมเป็นพวกสวยคมท่าทางฉลาด

   “สวยมาก มึงแน่ใจนะว่าผู้ชาย” กบถามแบบไม่อยากเชื่อ ผมถอนหายใจ เขาว่าคนร้ายๆมักจะชอบกับพวกซื่อๆท่าจะจริง น้องชายผมเหมือนปีศาจตัวน้อย ต่างกับกบ ให้อารมณ์ผู้กล้าจอมซื่อบื้อ

   “จริง เอามาแล้วจะไม่ชัวร์ได้ไง”

   มันตอบหน้าตายมาก ผมหัวเราะ ไอกบแทบพ่นเหล้า ฝนมันเดินมาคว้ากล้องไปดู ผมพยักหน้าขอบคุณน้ำที่ช่วยรินเหล้าเพิ่มให้ สังเกตเห็นว่าปากน้องเขาบวมๆ ฝนเอ๋ยไอฝน เพื่อนสามตัวนั่งหัวโด่อยู่ในร้าน มันยังมีอารมณ์หื่นได้ ก็ว่า แม่งหายไปนานจริงอะไรจริง

   “กูขออวยพรให้มึงไม่โดนบดทำวัสดุก่อสร้างเข้าสักวันนะ”

   ฝนปรายตามอง อิงค์หัวเราะแบบตูไม่แคร์ แย่งกล้องกลับไปเก็บใส่กระเป๋า ผมมองพวกมันเถียงกันเพลินๆ หันไปมองนาฬิกาแทบสะดุ้ง สามทุ่ม ผมลืมบอกเด็กว่าจะไม่ออน! ป่านี้ไม่รอแย่แล้วหรือนั่น ไม่รอช้า ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเบอร์ล่าสุดทันที หลังๆเริ่มคุยกันทุกวัน ไม่เอ็มก็โทรศัพท์จนกลายเป็นเรื่องปกติ

   ไอสามตัวที่เหลือ เห็นผมเปลี่ยนท่าทีกะทันหันเลยเลิกตีกัน มายืนขวางไม่ให้ผมหลบไปคุยโทรศัพท์ พร้อมใจกับเงียบรอฟังแบบหน้าด้านๆ หึ ด้านฟัง ผมก็ด้านคุย!

   /ฮัลโหลฮะ/

   “ปอนด์ พี่เองนะ ทำอะไรอยู่”

   /ห๊ะ พี่เฟย์เหรอ เดี๋ยวนะ โอ๊ยอย่าเพิ่งสิ แปบๆ กระดาษๆ/

   เสียงกุกกักดังลอดมาตามสาย เสียงเอฟเฟคเกมดังระงม ผมเข้าใจแล้วว่าเจ้าตัวทำอะไรอยู่ คงกำลังเล่นเกมออนไลน์อย่างทุกที รู้สึกพลาด ไม่น่ากังวลเรื่องรอคุยเอ็มเลยวุ้ย

   /มาแล้วฮะ พี่อะ ผมรอพี่ออนตั้งนาน ไม่เห็นออนสักที/

   เสียงงุ้งงิ้งเหมือนแมวบ่นทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา ส่ายหัวกับเจ้าเด็กน้อย รออิท่าไหนเล่นเกมเมามันขนาดนั้น

   “โทษที พอดีพี่มาเจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานานน่ะ ว่าแต่ แน่ใจนะว่ารอ เล่นเกมมันขนาดนั้น ดูท่าจะติดพันให้พี่วางก่อนมั้ย?” แหย่เด็กวันละนิดจิตแจ่มใสครับ

   /ไม่ๆ ไม่ติด ไม่เลยสักกะติ๊ด คุยได้พี่สบายมาก ผมใช้กระดาษยัดใส่เม้าส์แล้ว ปล่อยมันฮิวเพิ่มเลือดไป แค่นิ้วจิ้มกดบัพให้เพื่อนก็พอ/

   “สักวันเม้าส์พัง พี่จะหัวเราะให้ แล้วนี้กินข้าวรึยัง”

   /โหยพี่ อย่าแช่งสิ มันยิ่งต๊องๆอยู่ช่วงนี้ ผมกินข้าวแล้วล่ะ วันนี้แม่บ่นถึงพี่อยู่ เห็นว่าอยากคุยเรื่องสูตรทำอาหาร/

   “หืม ฝากบอกแม่ด้วยว่า ไว้อาทิตย์หน้าพี่จะเข้าไปหา มีของที่จะให้พอดีเลย”

   /ไม่มีให้ผมมั้งเหรอ/ เด็กน้อยถามอย่างมีความหวัง แล้วผมจะไปดับความหวังเด็กได้ยังไงกัน

   “มีอยู่แล้ว เค้กผลไม้ของโปรดเราไง”

   /เย้! แม่ อาทิตย์หน้าพี่เฟย์จะมา บอกว่าจะเอาขนมมาให้ด้วย/ เจ้าตัวเล็กคงตะโกนบอกแม่ที่อยู่ชั้นล่างเสียงเลยเบาๆ ผมส่ายหัวกับเด็กต๊อง คิดแต่เรื่องขนม ลืมเรื่องที่ผมฝากบอกเรื่องของไปสนิท

   /โหลพี่ ผมบอกแม่ให้แล้ว พี่กลับไปอยู่กับเพื่อนต่อดีกว่า อุตส่าห์เจอเพื่อนเก่าทั้งที/

   ผมหมุนเก้าอี้หันหน้าเข้าบาร์แทน ทนมองหน้าเพื่อนตัวเองไม่ไหว

   “จ้าๆ พรุ่งนี้พี่ออนปกตินะ เราเองก็อย่านอนดึกนักล่ะ ฝันดีครับลูกแมว”

   /คร้าบบ ฝันดีฮะพี่หมาป่า/

   ผมกดวางสาย ยิ้มมองโทรศัพท์ หน้าจอเป็นรูปลูกแมวตอนคอสเพลย์ที่ผมแอบเอามาตั้งเป็นภาพหน้าจอเอง ก่อนจะโดนมือดีคว้าโทรศัพท์ไปจากมือ ผมหันขวับไปมอง ไออิงค์

   “ฝันดีครับลูกแมว โอ๊ยย อะไรมันจะเสียงอ่อนเสียงหวานขนาดน้านนน” ประโยคแรกอิงค์แสร้งดัดเสียง ผมเลยยกขายันมันแบบไม่เกรงใจ ดันเสือกหนีไวรอดเท้าผมไปซะได้

   “อือหือ เฟย์ กูรู้เรื่องมึงชอบพวกการ์ตูนนิยายอะไรของมึง แต่ไม่คิดเลยว่าจะทำตัวเป็นตาแก่หื่นกามให้เด็กประถมใส่ชุดปกกะลาสีหูแมวแบบนี้” ฝนเป็นลูกคู่ได้ดีจนผมเอือม อยากให้มันกลับไปตีกันเหลือเกิน

   “ความชอบส่วนบุคคล พวกมึงอย่าก้าวก่ายสิ แต่...เด็กจริงๆนะ ไม่นึกเลยว่าจะมีรสนิยมแบบนี้”

   ผมแย่งโทรศัพท์คืนมาจากกบ เวียนซะครบทีมเชียวนะ ตะกี้เห็นฝนมันเอายื่นให้น้ำดูด้วย นิสัยมาก

   “พวกมึงเข้าใจผิดแล้ว แค่น้องชาย! ที่สำคัญ เด็กมันอยู่ม.ปลาย อายุมากกว่าไอโฟมอีก แล้วที่เห็นๆเนี่ย มันชุดคอสเพลย์ที่น้องเขาใส่ในงานคอส”

   “ฮี่ๆ เล่ามาให้หมดเลยครับเพื่อนเฟย์ ไหนเสือร้ายอย่างมึงถึงพลาดท่าเสียดีกับเด็กน่อยตาดำๆได้ล่ะ แต่ก่อนหักอกสาวเป็นว่าเล่น แถมสเปคมึงคือสาวสวยแสนฉลาดไม่ใช่เรอะ” ผมใช้มือยันหน้าอิงค์ไปไกลๆ

   สรุป ไม่รอด โดนพวกมันรุม เซ้าซี้จนผมต้องยอมเล่าให้ฟัง ผมบอกแบบรวบรัดแค่ว่าเจอเด็กในงานหนังสือ บังเอิญชนเลยช่วยหลังจากนั้นเลยคุยกันมาเรื่อยๆ แค่นั้น จบ พวกมันที่ตั้งใจฟังทำหน้าเซ็งกันใหญ่

   “อย่าว่างั้นงี้เลยนะเฟย์ กูว่าถึงน้องเขาจะไม่สเปค แต่รวมๆแล้วตรงกับของที่มึงชอบหมดเลยนี้หว่า”

   ฝนทักผมถึงเพิ่งฉุกใจคิด เออวะ จริงอย่างที่มันบอก

   ผมชอบของน่ารัก น้องเขาก็น่ารัก

   ผมชอบอะไรที่ชิ้นเล็กๆ น้องตัวนิดเดียว ถ้าผมกอดทีคงหาย

   ผมชอบเด็กช่างอ้อน น้องเขาก็ขี้อ้อนเหลือเกิน

   ผมชอบแมว อารมณ์เด็กน้อยเหมือนลูกแมวสุดๆ

   ที่สำคัญ ผมชอบทำขนม ก็ได้น้องเขาช่วยชิม เพราะคนรอบตัวผมไม่มีใครชอบของหวานเลย ไม่เว้นแม้กระทั่งน้องชายแท้ๆของผมเอง

   ยกมือปิดปาก ความรู้สึกบางอย่างมันเผยตัวออกมา มันคงมีมานานแล้ว แต่ผมไม่เคยสนใจมันเลย... ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนผมแต่ละคนยืนอึ้งแทน ขนาดน้ำยังตาโต

   “เฟย์ มึง...มึงหน้าแดง?” ผมไม่เคยเกลียดความซื่อของไอกบเลยจนกระทั่งวันนี้ เวลานี้ มึงจะพูดทำพ่อง

   “ชิบหายระเพื่อนกู สัตว์ร้ายมักแพ้ทางสัตว์อ่อนแอ พลังโมเอะช่างน่ากลัวนัก” อิงค์พึมพำ

   “ยินดีด้วยเพื่อน มึงโคตรโชคดี ได้ทุกอย่างที่ชอบในตัวคนเดียว all in one เลยไหมล่ะมึง” ผมปัดมือฝนที่วางบนบ่าออก ลูบหน้าตัวเองพรืด กระดกเหล้าทีเดียวหมดแก้ว ยื่นไปให้น้ำช่วยรินให้ใหม่

   “พวกมึงอย่าเพิ่งตีโพยตีพายไป เรื่องมันยังไม่ชัวร์ บางทีกูแค่อาจจะเอ็นดูน้องเขาเหมือนน้องชายคนหนึ่งก็ได้”

   “แล้วทำไงมึงถึงจะชัวร์ล่ะไอเสือ”

   ผมหันไปมองหน้าอิงค์

   “กูว่า กูคงต้องลองอะไรบางอย่างก่อน”

   “เอาที่มึงสบายใจเลยเพื่อน มาๆ เลิกคิดเรื่องรักๆใคร่ๆ ดื่มๆ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไม่เมาหัวทิ่ม กูไม่ให้ออกจากร้าน!”

   ฝนประกาศกร้าว กบตบบ่าผมเบาๆด้วยรอยยิ้ม อย่า มึงอย่าทำมาเป็นเข้าใจอารมณ์รักเด็ก ผมส่ายหัว สลัดเรื่องชวนคิดออกจากหัวทิ้ง เฮโลกับเพื่อนเต็มที่ และคืนนั้น พวกเราก็นอนกันที่บาร์นั่นแหละครับ ยังดี บาร์มันมีห้องพักสำหรับตัวเองกับคนรักอยู่ พวกผมเลยไออาศัยอาบน้ำให้สดชื่นหลังตื่น หาอะไรง่ายๆทำกินกัน เรียกได้ว่าอยู่กับเพื่อนเต็มที่

   ตอนบ่ายค่อยแยกย้าย กบมันดิ่งกลับบ้านไปหาเด็ก อิงค์โดนโทรเรียกตัวกลับกะทันหัน ปากบ่นโวยวายไม่พอใจ ที่วันหยุดถูกลิดรอน มันวางแผนจะเที่ยวเต็มที่เสียหน่อย กลับต้องพับเก็บหมด แต่ปากมันยิ้มดูอารมณ์ดีถึงขั้นฮัมเพลง ผมเองก็แยกตัวกลับมานอนยกแขนก่ายหน้าผากที่คอนโด

   แขนเอื้อมหยิบโน๊ตบุ้คใกล้มือมาเปิด เห็นตัวเล็กออนอยู่เลยทักไป เราคุยกันปกติ ผมเหม่อมองรายชื่อคนที่แอดเข้ามา ปกติเมลล์ผมไม่ให้ใครสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ก็มีบางทีที่หลุดไปบ้างเหมือนกัน นอกจากผมทำงาน เล่นหุ้น อ่านหนังสือ ทำงานอดิเรกแล้ว ผมยังเล่นพวกบอร์ดวายต่างๆด้วย

   มีเด็กอายุประมาณปอนด์หลายคนเหมือนกันที่คุยในบอร์ด หรือตามบล็อก ทุกทีผมจะลบพวกรายชื่อขอแอดทิ้ง บางคนตื้อมากๆก็บล็อกเลย แต่ตอนนี้...

   ลูกศรถูกเลื่อนไปที่ปุ่มรับแอด จะให้รู้ว่าผมรู้สึกพิเศษกับปอนด์รึเปล่า ผมคงต้องลองคุยกับคนอื่นๆดู

   ทันทีที่ผมรับแอด หน้าต่างเอ็มเด้งขึ้นมาพร้อมคำทักทาย ผมคุยกลับไป สลับคุยกับลูกแมวไปด้วย

   Ponda : พี่ฮะ

   Ponda : ฮัลโหล พี่คร้าบบบ พี่หมาป่า ตอบช้าจัง ติดงานอยู่ป่าวฮะ

   fay_ie : ป่าวๆ พอดีพี่คิดอะไรเพลินๆน่ะ

   ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทำตัวออกนอกลู่นอกทาง นอกใจคนรักยังไงชอบกลหว่า เอาเถอะ ผมไม่คิดแจกเบอร์อยู่แล้ว แค่คุยผิวเผินเพื่อให้รู้ หลังจากนี้ค่อยดูกันว่าจะเอายังไงต่อไป

   Ponda : อ่อ พี่ ผมอยากอ่านนิยายอะ

   fay_ie : ของเดิมกับที่ยืมพี่ไออ่านจบหมดแล้วเหรอ?

   Ponda : จบแล้วครับ พี่มีเรื่องอื่นน่าสนใจอีกมั้ยอะ

   ผมขมวดคิ้ว นึกถึงกองนิยายที่วางเรียงรายกันในตู้หนังสือสองตู้ใหญ่ๆ มีทั้งพวกหนังสือวิชาการ ตำนาน ประวัติศาสตร์ หนังสือนิยายภาษาต่างประเทศ พวกนิยายแปล แนวสืบส่วน และอีกสารพัด กับแนววายกินพื้นที่ไปโซนหนึ่ง ไม่นับรวมกับพวกที่เก็บเรียงไว้ในชิ้นเปิดปิดอีกส่วนหนึ่งด้วย เยอะจนเลือกไม่ถูก

   fay_ie : ไอมีมันก็มีอยู่ แต่มันเยอะมาก ให้เรามาดูเองแล้วกัน อยากอ่านเรื่องไหนค่อยหยิบไป

   Ponda : พี่จะให้ผมไปที่ห้องเหรอ!?

   เจ้าตัวเว้นช่วงไปก่อนจะตอบ ผมสงสัย อะไรจะตกใจขนาดนั้น ก่อนจะนึกขึ้นได้ ผมเคยเล่าให้น้องฟังนี่นะ ว่าผมรักความเป็นส่วนตัวมาก ห้องผมคนที่มีคีย์การ์ดมีแค่โฟมคนเดียว นอกนั้นจะมายังต้องขอผมแล้วขอผมอีก อย่างก๊วนเพื่อนผม มันเคยขึ้นมากันครั้งเดียวเองมั้ง ตอนซื้อใหม่ๆด้วยเงินเก็บของตัวเอง เลยฉลองสักหน่อย ดังนั้นกับคนที่ไม่ใช่ครอบครัว อย่าหวังจะได้ขึ้นมา มีแฟนผมยังไม่พาขึ้นเลย

   เอาเถอะ ปอนด์ก็เหมือนน้องชายผมอีกคน คงอารมณ์ประมาณเดียวกับโฟม พอคิดตก ก็ปล่อยมันทิ้งไป

   fay_ie : อ่าฮะ หรือเราไม่อยากมา?

   Ponda : อยากสิ! ผมจะไปยกเค้า ขนนิยาย การ์ตูนจากห้องพี่ให้หมด รู้มั้ยแต่ละเรื่องที่พี่หยิบมาให้ ของแรร์ทั้งนั้น หาซื้อไม่ได้แล้ว บางเล่มเพิ่งออกใหม่สดๆร้อนๆก็มี

   เด็กน้อยร่ายยาวเหยียด อย่างกับห้องผมมันคือกรุสมบัติสำหรับสาวกวายอย่างนั้นแหละ

   fay_ie : โอเคๆ เอาเป็นว่า พี่ว่างวันไหนจะบอกอีกที จะปล่อยให้มายกเค้าตามใจชอบเลย ถ้าขนกลับไหวล่ะก็นะ หึหึ

   Ponda : แง่ง! ให้พี่ช่วยขนไง ฮ่าๆๆๆ

   fay_ie : แล้วกัน ให้พี่ช่วยเรายกเค้าห้องตัวเองเนี่ยนะ

   Ponda : ช่าย

   เจ้าของห้อง นั่งเอนหลังหัวเราะอยู่คนเดียวหน้าคอม คิดไปได้นะ เด็กน้อยเอ๊ย... เอาล่ะ ผมคงต้องเตรียมตัวรอโดนยกเค้าซะแล้ว


ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ชอบตอนที่เฟย์หน้าแดงอ่ะ น่ารักดี ><//
งานนี้มีตั้งหลายคู่แน่ะ หึๆๆ :hao6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2015 22:11:19 โดย boboman »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :man1:    :impress2:   ฮื้อออ อยากฟัดลูกแมวเนอะ. ใช่ไหมๆคุณพี่เฟย์

ค่อยๆคืบหน้าเนาะคิดจะเลี้ยงต้อยก็แบบนี้
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น่ารักมากกกกกกกกกกก
ชอบมาก! !
ฟินมาก! !
น้องน่าฟัดอ่ะ
เพิ่งเข้ามาอ่าน สมัครเป็นFCคู่นี้เลย  :katai2-1:

ปล.สมัครเป็น FC คุณ Silver Fish ด้วย  :L2:

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ๊าาาโชตะ :ling1:

ออฟไลน์ tsubasa_6927

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เฮียเฟย์กินเด็ก!!!!!!!!!!!
ชอบอะ มาต่อไวๆนะคะ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
วายที่5 สิ่งที่เจอ

   วันที่รอคอยมาถึงแล้ว! ผมกำลังจะไปยกเค้าห้องพี่เฟย์ หลังจากนัดแนะวันเวลากันในเอ็ม แม่ผมสั่งกำชับแล้วกำชับอีกอย่าไปซนทำข้าวของพี่เขาพัง ผมพยักหน้ารับแก้มป่อง ถึงผมจะซุ่มซ่าม แต่ไม่มากขนาดนั้นสักหน่อย

   ผมสะพายเป้อันเก่งใบเดิม ด้านในเบาหวิว ใส่แค่มือถือ กุญแจบ้านกับเงิน พื้นที่ที่เหลือเตรียมไปหอบหนังสือเต็มกำลัง  เวลานัดคือ 11 โมงที่ BTS สถานีนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านคอนโดห้องพักระดับหรู ระหว่างรอพี่ชายมาหิ้วกลับห้อง ผมมองนู่นมองนี้ไปเรื่อยเปื่อย

   แถวนี้คนอยู่เยอะก็จริง แต่เงียบสงบมาก ส่วนใหญ่คนคงไปกองกันอยู่แถวสยามหมด นอกจากตึกสูงๆแล้ว ยังมีพวกสวนสาธารณะ ต้นไม้ต้นโตๆ ลมพัดเย็นสบาย ถือว่าบรรยากาศดีไม่น้อยเลย

   “ถ้ามีสระว่ายน้ำด้วยคงฟินน่าดู”

   “คอนโดพี่มีนะ ถ้าเราอยากเล่น วันหลังเอาชุดว่ายน้ำมาด้วยสิ” เสียงทุ้มตอบกลับ ผมหันขวับเห็นพี่ชายในชุดโคตรสบาย เสื้อยืด รองเท้าแตะ กับกางเกงสี่ส่วน เฮียชิวมากเลยครับ

   “พี่ จู่ๆโผล่มางี้ตกใจนะ” ตกใจในความหล่อ ปาดน้ำหมาก เอ๊ยน้ำลาย ไม่ว่าจะอยู่ในชุดไหน คุณพี่ชายยังคงออร่าความหล่อทิ่มแทงตาเช่นเดิม

   “เรามัวแต่เหม่อน่ะสิ ป่ะ กลับห้อง จะเที่ยงพอดี เดี๋ยวพี่ทำข้าวเที่ยงให้กิน”

   ผมนี่ตาวาวเลยครับ ฝีมือการทำอาหารของเฮียแกอร่อยไม่แพ้เชฟในโรงแรมเลย เผลอๆบางทีอร่อยกว่าด้วยซ้ำ

   “ผมขอขนมด้วยน้า” ได้ของคาวต้องตามด้วยของหวาน ผมเกาะแขนมองด้วยสายตาที่คิดว่าออดอ้อนสุดชีวิต เหมือนพี่ชายจะเซไปวูบหนึ่ง มือหนาขยี้หัวผมจนยุ่งหนักกว่าเก่า ปกติมันก็ชี้ไปชี้มาเหมือนเส้นผมทะเลาะกับหวีอยู่แล้ว ไม่ต้องให้พี่มาช่วยยีเพิ่มหรอก

   “ฮึ กินให้หมดแล้วกัน” นิ้วยาวดึงจมูกเล็กเบาๆ ผมหันหน้าหนี ร้องเย้ด้วยความเบิกบาน ขนม ขนม ผมไม่ได้ใจง่ายถูกล่อด้วยขนมกับหนังสือวายนะบอกเลย ไม่ได้ร้อนตัวด้วย จริงจริ๊ง

   พี่ชายตัวโตเอาเป้เบาหวิวของผมไปสะพายเอง แล้วจูงมือพาผมไปที่คอนโดเจ้าตัว แค่หน้าคอนโดก็หรูแล้ว คอนโดสูงสีขาวสลับเทาเข้ม พื้นสะอาดสะอ้านไร้ขยะ ต้นไม้ร่มรื่นมีแปลงดอกไม้ขนาดเล็กกระจายไปจุดๆให้ความสวยงาม และมีที่นั่งสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ถ้าไม่ใช่เวลาใกล้เที่ยง ผมคิดว่าคงมีคนมานั่งเล่น ออกกำลังกายแถวนี้แน่นอน อย่างน้อยๆก็คนที่เดินนำหน้าผมนี่แหละ หุ่นดีขนาดนี้ เวลาว่างต้องออกกำลังกายแหง เพราะผมไม่เคยเห็นใครที่อยู่เฉยๆแล้วหุ่นดีได้ ถ้ามีผมจะไปฝากฝังตัวเป็นลูกศิษย์

   ประตูกระจกมีคนคอยเปิดปิดประตูให้ พอเข้าไปแอร์เย็นปะทะร่าง รู้สึกเหมือนอยู่คนละโลกกับด้านนอก ตรงหน้าเป็นส่วนรับรอง มีโซฟานุ่มให้นั่งพัก ไม่ไกลนักมีรีเซฟชั่นคอยให้ความสะดวก พนักงานสวมชุดเรียบร้อยยิ้มทักทายพี่เฟย์ เผื่อแผ่มาทางผมด้วย

   “น้องคุณเฟย์น่ารักจัง”

   “ฮ่าๆ ขอบคุณครับ คุณหนิงอย่าลืมทานข้าวนะครับจะเที่ยงแล้ว”

   “ค่า หนิงไม่ลืมหรอกค่ะ จริงด้วย ลูกสาวฝากมาบอก ขนมที่คุณเฟย์ทำอร่อยมากเลย หนิงขอสั่งเพิ่มนะคะ”

   “ดีจริง ผมก็กังวลอยู่ว่าน้องจะทานได้มั้ยถ้างั้น เดี๋ยวผมทำมาส่งให้พรุ่งนี้นะครับ”

   พี่เฟย์ตอบพนักงานที่ยิ้มรับ ผมเลยก้มหัวให้แล้วตามพี่ชายไป เห็นลิฟท์อยู่สี่ตัวกำลังจะเดินไปทางนั้น กลับโดนมือหนาหิ้วคอซะก่อน แถมยกมาวางข้างตัว พี่ทำเหมือนผมเป็นลูกแมวซนเลยนะแง่ง!

   “จะไปไหนน่ะ ลิฟท์ขึ้นอยู่ทางนี้”

   “อ้าว... แล้วนั่น ไว้ส่งของเรอะ” ผมชี้ไปทางลิฟท์มีคนกำลังเดินออกมาพอดี

   “ลิฟท์ทั่วไปนี้แหละ แต่สำหรับชั้นปกติ ของพี่ต้องไปทางนี้ 5 ชั้นบนเป็นของ VIP”

   พี่เฟย์พูดพลางใช้คีย์กาดร์รูดเปิดประตูกระจก ด้านในเจอลิฟท์สองตัว เหมือนกับลิฟท์ปกติด้านนอกทุกอย่างติดแค่มีช่องเสียบการ์ดเพิ่มขึ้นมา และปุ่นกดมีถึงแค่ชั้น 27 เท่านั้น ระหว่างลิฟท์ขึ้นผมเลยถาม

   “พี่... เท่าที่ผมจำได้ พี่บอกว่าคอนโดพี่มีทั้งหมด 32 ชั้นใช่ป่ะ แล้วไอ้ 5 ชั้น VIP เนี่ย มันไม่มีปุ่มกดเหรอ?ใช้การ์ดเอา?”

   “อ่าฮะ ต้องใช้คีย์การ์ดเท่านั้นถึงจะขึ้นไปได้ แน่นอน หากเหตุฉุกเฉิน จะมีลิฟท์ของพนักงานขึ้นไปถึงชั้น 32 ได้เลยโดยไม่ต้องวุ่นวายกับขั้นตอนพวกนี้”

   ผมพยักหน้ารับหงึกหงัก ระบบความปลอดภัยที่นี่สุดยอดจริงๆ คาดว่าราคาคงสุดยอดไม่ต่างกัน ผมขอไม่ถามถึงแล้วกัน ไม่อยากรู้สึกทึ่งไปมากกว่านี้ กระทั่งถึงชั้นบน ออกจากลิฟท์มีเรื่องให้แปลกใจอีกรอบ มองซ้ายมองขวา มีเพียงสองประตู?

   พี่ชายเดินไปทางประตูด้านขวา ใช้คีย์การ์ดเปิด กวักมือเรียกผมเข้าไป เป็นทางเล็กมีชั้นวางรองเท้า กับสลิปเปอร์สีขาว พี่ชายใส่สีขาว ส่วนผมเหรอ เหอะๆ สลิปเปอร์อันเล็กลายอุลตร้าแมน เดี๋ยวพี่... พี่เข้าใจผิดอะไรรึเปล่า

   “พี่ฮะ ทำไมของผมมันลายเด็กน้อยงี้อะ ไม่มีพวกเรียบๆเหรอ”

   ดวงตาคมแต่อบอุ่นก้มลงมองเท้าผมสลับกับเท้าตัวเองแล้วหยิบสลิปเปอร์อีกอันมาให้ผมลองใส่เงียบๆ พอผมลองใส่ดู ชัดเลย นี้มันลูกแอบเอาของพ่อมาใส่เล่นชัดๆ เดินไปถ้าไม่สะดุดหัวทิ่มตายก็ปรมาจารย์สลิปเปอร์แล้ว

   “เท้าเราเล็กนิดเดียว อันนี้พี่ซื้อมาใหม่ เพิ่งแกะเมื่อเช้า ลายแมวมันหมด พี่เลยเอาลายนี้มาแทน ไม่ดีเหรอ”

   ยังมีการมาถามเสียงนุ่มด้วยรอยยิ้มพี่ชายใจดีชวนละลาย โอเค ยอมก็ได้ ต่อให้เป็นลายสัตว์ประหลาดผมก็ยอม ซึ่งหลังจากนี้ หลังไปห้างกับแม่ ผมจะเลือกซื้อสลิปเปอร์ของตัวเองมาทิ้งไว้ห้องพี่ชายสักคู่...

   “พี่ทำอาหารแปบ ตู้หนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่น อยากเดินดูตรงไหนก็ได้ตามใจ แค่อย่าโดดลงไปจากระเบียงเป็นพอสงสารคนด้านล่างต้องเก็บกวาด”

   “บ้า พูดจาโหดร้าย!” ผมโวยวายใส่ มีเสียงหัวเราะตอบกลับ พร้อมร่างสูงที่เดินเข้าไปในห้องครัว ต้องบอกว่าห้องกว้างมาก เหมือนบ้านขนาดย่อมเลย ผมเดินสำรวจซะทั่ว มีสายตาพี่ชายคอยมองผ่านทางเคาน์เตอร์ที่คั่นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัวเป็นระยะ

   เห็นแบบนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมมีสองประตู เพราะทั้งชั้นมันมีแค่สองห้องถึงได้กว้างขนาดนี้ มีทุกอย่างครบหมด ห้องนอนสองห้อง ห้องหนึ่งดูเป็นห้องพี่ชายผมไม่กล้าเข้าไปเลยส่องดูแค่ด้านนอก อีกห้องเป็นห้องนอนแขก มีห้องน้ำในตัวทั้งสอง ห้องนั่งเล่นอยู่ตรงกลาง มีชุดโซฟา โต๊ะกระจกหน้าทีวี พื้นปูด้วยพรมนุ่ม ไม่ไกลมีชั้นหนังสือสองตู้ จัดแบ่งประเภทเป็นระเบียบ มีมุมสำหรับนั่งอ่านด้วย

    พอเปิดประตูกระจกที่ติดกับห้องนั่งเล่นออกไปจะเจอระเบียงกว้าง มีเก้าอี้เอนหลังกับโต๊ะนั่งรับลมเย็นบนตึกสูง ผมได้ยินเสียงน้ำไหล พอหันไปเจอสวนขนาดเล็ก มองดีๆส่วนใหญ่เป็นพวกผักปลูกไว้กินได้กับน้ำพุเล็กๆ มีรูปปั้นแมวหลายอิริยาบถวางประดับอยู่

   ผมตื่นตาตื่นใจสุดๆ และไม่กล้ารื้อกล้าแตะอะไรมาก เพราะพี่เขาจัดทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ได้กลิ่นหอมของขนมอบอวลในห้อง คงเพิ่งทำขนมไปเมื่อเช้า ดูแล้วสมกับเป็นห้องส่วนตัวของผู้ชายที่มีบุคลิคแบบพี่เฟย์จริงๆ

   สักพักอาหารก็ทำเสร็จ เป็นกับข้าวแบบง่ายๆแต่หน้าตาหน้ากินสุดๆ พวกเรานั่งทานกันในห้องทานข้าวอยู่ถัดจากห้องครัว ตะกี้ผมมัวแต่สำรวจด้านนอกเลยไม่ได้เข้ามาดูตรงนี้ หลังทานเสร็จผมช่วยพี่ยกจานไปเก็บ ได้เห็นห้องครัวใหญ่ อุปกรณ์ครบครัน มีกระทั่งเตาอบขนม ผมคิดว่าถ้าลดขนาดห้องครัวเท่ากับปกติ คงจะเพิ่มพื้นที่ในห้องไม่น้อยที่สำคัญ สะอาด ไร้คราบน้ำมัน ไม่มีกลิ่นอาหารเพราะมีเครื่องดูดกลิ่นออกไปด้านนอก

   แต่พี่เฟย์เป็นคนชอบทำอาหารกับขนม ดังนั้นส่วนนี้จึงเปรียบเสมือนอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าตัว ที่แมวตัวป่วนอย่างผมควรอยู่ให้ห่าง หากไม่อยากทำข้าวของ อุปกรณ์ทำครัวบางตัวที่ราคาเหยียบหมื่นจนถึงหลักแสนพังโดยไม่ตั้งใจ

   “เดี๋ยวพี่ล้างเอง ไปรอที่โซฟา เดี๋ยวยกขนมไปให้”

   ผมพยักหน้ารับ ล้างมือแล้วย้ายตัวเองไปขลุกอยู่ตรงชั้นหนังสือ ช่วงชั้นบนๆที่ผมเอื้อมไม่ถึง มีแต่พวกหนังสือต่างประเทศกับหนังสือวิชาการ ไอ้พวกที่ผมต้องการน่ะ หึหึ มันอยู่แถวล่างๆ ผมฮัมเพลงหยิบนิยายมาดู พร้อมการ์ตูนมากมาย คงมีแค่ส่วนนี้แหละที่ผมกล้ารื้อ

   นิยายกับการ์ตูนหลายเล่มผมอ่านไปแล้ว บางเรื่องเป็นแนวที่พี่ชายชอบแต่ผมไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ สุดท้ายจากนั่งๆเปลี่ยนเป็นนอนอ่านในกองหนังสือ สรวงสวรรค์จริงๆ

   “อือหือ รื้อมันเลยนะ เอ้า... ขนม ได้เรื่องที่ถูกใจบ้างรึยัง”

   เค้กผลไม้ถูกวางบนโต๊ะหน้าทีวี ผมคั่นหนังสือแล้ววิ่งไปจิ้มเค้กหม่ำทันที

   “อร่อยที่สุด หนังสือเจอที่ถูกใจแล้ว แต่ยังไม่พอ ผมต้องรื้ออีก”

   “เอาเลยตามสบาย รื้อไปอย่าลืมเก็บเข้าที่ด้วยล่ะ พี่ไปทำเค้กก่อน มีลูกค้าสั่งมา”

   “คร้าบ” ผมรับแก้วนมใส่น้ำผึ้งจากพี่ชายมานั่งจิบกินกับเค้ก แสนมีความสุข พี่ชายส่ายหัวด้วยรอยยิ้มเอ็นดู ก่อนกลับไปขลุกในห้องครัวอีกรอบ คิดว่าวันนี้ทั้งวันคงอยู่แต่ในนั้นแหละ ส่วนผม หลังหม่ำเค้กเสร็จ ตามไปป่วนในครัวจนได้สตรอเบอรี่มากินลูกนึง สุขกว่านี้มีอีกไหม ระหว่างนั่นก็อ่านการ์ตูนไป แน่นอนว่าวาย! วายยกเซ็ต พี่เฟย์มีเยอะมาก เยอะกว่าร้านขายบางร้านอีก เก่าใหม่มีหมด อยากยกเค้าไปจริงๆนะเนี่ย

   อ่านการ์ตูนจบไปสามเล่ม พอเพิ่งนึกขึ้นได้ ก่อนมาแวะโอนเงินซื้อหนังสือนิยายผ่านตู้ ATM แต่ดันลืมกรอกแบบฟอร์มส่งข้อมูล!

   “พี่ฮะๆ มีคอมป่าว ผมขอยืมหน่อย สั่งหนังสือแล้วลืมแจ้งอะ จะหมดเขตแล้วด้วย”

   พี่ชายละสายตาจากหน้าเค้กที่กำลังแต่ง มองลูกแมวมาเต้นเร่าๆอยู่ข้างตัว

   “พี่มีแต่โน้ตบุ้ค อยู่ในห้องนอนพี่ ไปหยิบมาใช้แล้วกัน สายชาร์จก็อยู่ด้วยกันนั้นแหละ”

   ผมวิ่งเปิดประตูเข้าห้องพี่ชาย ดวงตาสอดส่องหาโน๊ตบุ้ค วางเก็บเรียบร้อยอยู่บนโต๊ะ ถ้าเป็นผม คงไม่เรียบร้อยงี้หรอก เครื่องกับสายกองด้วยกันนั่นแหละ ผมยกโน๊ตบุ้คออกมา หนักเหมือนกันแฮะ สายตาดันเหลือบเห็นการ์ตูนอันคัทอยู่ตรงหัวเตียง ปากเล็กยิ้มมีเลศนัย ฮั่นแน่ มีเอามาอ่านเล่นในห้องนอนด้วย ผมเลยแฮ้บไปอ่านซะเลย

   จัดแจงเปิดโน้ตบุ้คเสียบสายชาร์จในห้องนั่งเล่น แล้วเข้าไปกรอกแบบฟอร์มจากเว็บที่ตัวเองจดเอาไว้ หลังกดส่งเรียบร้อยค่อยโล่งใจ ที่เหลือก็รอรับหนังสือ ระหว่างนั้นแอบไหลไปเล่นอย่างอื่นต่อ เสิร์ชหาอะไรดูไปเรื่องเปื่อย เช็คนิยายในเน็ตว่าอัพตอนต่อแล้วหรือยัง เรื่องไหนอัพก็หยุดอ่าน จบค่อยไปดูเรื่องอื่นต่อ

   เผลอยาวไปอ่านพวกการ์ตูนตามเว็บด้วย จะว่าไป ผมมีอนิเมะที่ดูค้างไว้ มานั่งดูต่อเลยแล้วกัน ระหว่างดูเพลินๆใช้หูฟังโทรศัพท์ตัวเองมาเสียบ จู่ๆ เสียงเอ็มก็เด้งขึ้น ผมชะงักนึกเซ็งเพราะดูแล้วมันติดขัด ลืมไปว่าเอ็มถ้าตั้งค่าไว้เวลาเปิดเครื่องมันจะออนไลน์ให้ทันที

   ผมกดดูว่าใครทักมา จะได้บอกพี่ชายถูก เผื่อเป็นเรื่องงานอะไรงี้ พอเห็นชื่อยาวเหยียดใส่อิโมชั่นเยอะแยะจนดูไม่ออกมันจะสื่ออะไร คิ้วผมขมวดมุ่น คงไม่ใช่เรื่องงานแล้วล่ะ ยิ่งไอคอนเคลื่อนไหวโผล่มา ส่งรูปหัวใจเต็มจอแถมเสียงจูบที่เอ็มเพิ่งอัพระบบนี้มาไม่นาน ทำเอาผมสะดุ้ง คุ้นๆว่าผมเคยใช้ไอคอนนี้ปาลูกโป่งน้ำใส่เอ็มเพื่อนนะ

   ในใจผมคิด อาจจะเป็นน้องชายของพี่เฟย์ที่เล่าให้ฟังก็ได้ กำลังจะอ้าปากเรียกเจ้าของเครื่อง ข้อความเด้งรัวขึ้นมา ทำให้ผมชะงักอยู่กับที่

   ☆+o(> ∪<)◇น้องZAZA◇(>∪ <)☆+o : ดีฮะพี่ชาย>3<
   ☆+o(> ∪<)◇น้องZAZA◇(>∪ <)☆+o : เห็นออนน้องชายคนนี้เลยรีบทักมานะเนี่ย ////
   ☆+o(> ∪<)◇น้องZAZA◇(>∪ <)☆+o : พี่ฮะ ทำไมเงียบล่ะ T^T
   ☆+o(> ∪<)◇น้องZAZA◇(>∪ <)☆+o : พี่ตอบหน่อยสิ TT^TT ไม่ตอบน้องชาจะงอนแล้วน้า
   ☆+o(> ∪<)◇น้องZAZA◇(>∪ <)☆+o : อะลืมไปพี่ไม่ชอบ O_o ไม่งอนก็ได้ ตอบหน่อยสิฮะพี่ชาย Q^Q

   น้องชา เหอะๆ ผมจำได้ว่าน้องพี่เฟย์ชื่อโฟมนะ แถมยังเคยคุยด้วยกันบ่อยๆ บางทีประชุมสาย รวมเอ็ม จริงๆผมมีเอ็มโฟมด้วยล่ะ คุยกันถูกคออยู่ หา? อยากเปรียบสีหน้าผมเป็นอิโมชั่นตอนนี้มั้ยครับ ถ้าอยากผมจัดให้

   =_=|||…

   อะไรของมันวะคร้าบบบบบ นั่นๆ ยังไม่หยุด เด้งรัวๆ ผมอยากถามเหลือเกินว่าต้องการอะไรจากสังคม ใครบอกผมหึง ป๊าว! ไม่มี หึงอะไร ผมกับพี่ชายไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ด้วยความลืมตัว ผมเลยเลื่อนขึ้นไปดูข้อความก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่ มีแต่น้องชานี้แหละที่พิมพ์อยู่ฝ่ายเดียว

   ผมส่ายหัว คงจะเป็นพวกเด็กที่มาป่วนพี่เฟย์มั้ง มือกำลังจะคลิกออฟไลน์เอ็ม เสียงเด้งดังขึ้นมาอีก คราวนี้ไม่ใช่แถบของเจ้าน้องชากระพริบสีส้ม

   เชรดแม่ม! มันงอกได้ โผล่ออกมาอีกเกือบสิบหน้าต่าง ไล่แต่ละอันเด็กน้อยทั้งนั้นเลย อายุน่าจะพอๆกับผมหมด หรือบางทีมากกว่าน้อยกว่าลดหลั่นกันไป ที่ผมอึ้งไม่ใช่อะไร เปิดหน้าต่างเอ็มที่ชื่อผมโชว์ออฟไลน์อยู่ขึ้นมาเทียบ ข้อความที่พี่เฟย์ตอบแทบไม่ต่างจากเด็กทุกคนเลย รู้สึกตัวเองหน้าชามือเย็นเฉียบ

   หนึ่งในจำนวนคนที่ออนไลน์ ผมเห็นโฟมออนอยู่ แต่ไม่ได้ทักมาเหมือนคนอื่นๆ ผมเลยทักไป ลืมไปด้วยซ้ำว่านี้เอ็มของพี่เฟย์

   fay_ie : โฟม แง้
   F_OA_M สุดหล่อ:หะ! อ่อ ตกใจแทบช็อก ทีแท้ปอนด์นี้เอง เป็นไร วันนี้ไปเที่ยวห้องเฮียไม่ใช่เหรอ หรือโดนแกล้ง
   fay_ie :จะบอกว่าโดนก็ใช่ จะไม่โดนก็ถูก ฮือ
   F_OA_M สุดหล่อ: ตกลงยังไงแน่ ฮ่าๆ ปอนด์ตลกดี
   fay_ie : ไม่ขำนะ อยากกลับบ้านแล้วอะ
   F_OA_M สุดหล่อ: เพิ่งบ่ายสามเอง จะกลับแล้วเหรอ ไหนเมื่อวานบอกจะอยู่ถึงห้าโมง
   fay_ie : อืม
   F_OA_M สุดหล่อ:เอาจริงๆ เป็นอะไร

   ผมเงียบมองหน้าจอ ส่วนอันอื่นเหรอ ผมตั้งไม่ว่างเอาไว้ พอใครทักมาจะไม่มีเสีย ลังเลอยู่ว่าจะเล่าให้ฟังดีมั้ยนะ รู้สึกยังไงก็ไม่รู้ อีกฝ่ายเป็นน้องของจำเลยด้วย โจทก์อย่างผมอุทรณ์ได้เหรอ

   F_OA_M สุดหล่อ:จะบอกไม่บอก ไม่บอกโทรหาเฮียแล้วนะ

   แหงะ เลิกลังเลเลยผม ถ้าไปถามเจ้าตัวแบบนั้น ผมก็แย่น่ะสิ

   fay_ie :ยอมบอกแล้วๆ

   ผมเล่าทุกอย่างให้โฟมฟัง ลุ้นไปด้วยว่าโฟมจะบอกยังไง ปกติน้องชายทั่วไปต้องพูดเข้าข้างพี่ชายตัวเองอยู่แล้ว แต่นั่นคงใช้ไม่ได้กับพี่น้องบ้านนี้

   F_OA_M สุดหล่อ:ปกติเฮียไม่ใช่คนแบบนี้ คงคิดทำอะไรบ้าๆล่ะมั้ง ยิ่งคิดไม่ปกติเหมือนชาวบ้านสักเท่าไหร่ เอางี้สิ ในห้องนั้นเห็นพวกเครื่องครัวใช่มะ หยิบๆเลือกๆมาสักอันแล้วทุ่มลงจากชั้น 28 เลย แถมมีดแถวนั้นปาเข้าหน้าเฮียด้วยก็ได้ ฝากแทงก่อนสักสามแผลนะ บังอาจลากกบของโฟมไปเที่ยวไม่เจอน้องนุ่ง คนเขาอุตส่าห์รอเจอ
   fay_ie : เอ่อ... โฟม ใจเย็น
   F_OA_M สุดหล่อ: เรื่องนี้เย็นไม่ได้หรอก! มันคือความแค้นของลูกผู้ชาย แฟนนอกใจแบบนี้ยอมให้ไม่ได้เด็ดขาด หรือถ้าไม่หนำใจ ตอนให้เป็ดกินโลด
   fay_ie : เอ๊ะ แถวนี้ไม่มีเป็ดอะ นกแทนได้มะ จะบ้าเรอะ! ฉันไม่ได้คบกับพี่เขาสักหน่อย แค่พี่ชายน้องชายเท่านั้น
   F_OA_M สุดหล่อ: ฮ่าๆๆ ก็ยังจะเล่นกลับนะ แต่ตอบได้ดารามาก เอาน่า อย่าคิดมาก คงไม่มีอะไรหรอก ถามไปตรงๆ ดีกว่ามาคิดอะไรคนเดียวนะ

   พอได้คุยกับโฟม ได้ระบายออกไป อารมณ์แปลกๆตอนแรกเริ่มเบาบางลง ผมถอนหายใจ พิมพ์ขอบคุณโฟมแล้วล้างข้อความที่คุยทั้งหมดทิ้งก่อนปิดเครื่อง ผมยังไม่กลับบ้านทันที ยังอยู่เล่นต่ออีกสักพัก นอนกลิ้งอ่านหนังสือที่ไม่รู้เรื่องเลยสักนิด วนซ้ำแถวเดิมเป็นรอบที่สิบสรุป ถือไว้เฉยๆไม่ได้อ่าน

   ผมหลับตา นึกถึงความจริง พี่เฟย์เป็นคนใจดีกับทุกคน ไม่แปลกที่ผมจะได้เทียบเท่ากับคนอื่น ผมหวังอะไรอยู่ อยากให้พี่คุยกับผมแบบพิเศษกว่าคนอื่นเหรอ นั่นมันเห็นแก่ตัวเกินไป ความรู้สึกคนเรามันบังคับไม่ได้ แถมผมเป็นแค่น้องชาย ไม่มีความสำคัญขนาดนั้น ต่อให้เป็นโฟม น้องชายแท้ๆ ยังไม่สามารถบังคับให้พี่ชายตัวเองทำอะไรตามใจชอบได้เลย ไอ้เรื่องที่ผมไม่ชอบใจ ไม่อยากให้พี่คุยกับคนอื่นๆยิ่งไม่ต้องพูดถึง

   ทั้งที่ไม่ควรคิดไปในแง่ลบ สมองผมดันไม่ฟัง นึกไปถึงเรื่องที่ยังไม่เกิด ถ้าหากวันหนึ่งพี่ชายมีคนที่รักขึ้นมาล่ะ ผมคงไม่ได้คุยกับพี่แบบนี้อีก คนเราย่อมให้ความสำคัญกับคนที่รักอยู่แล้ว รู้สึกเจ็บชะมัด เหมือนมีก้อนจุกอยู่ตรงคอ ดวงตาร้อนผ่าว ไม่นานน้ำตาก็ไหลออกมา ไอ้บ้าเอ๊ย ผมดันชอบพี่เขาไปซะแล้ว

   หนังสือถูกดึงออกจากมือ คนที่ทำให้ผมร้องไห้ก้มลงมามองด้วยความเป็นห่วงโดยไร้การเสแสร้งใดๆทั้งสิ้น

   “ปอนด์ เป็นอะไรไป ทำไมร้องไห้ล่ะหืม?”

   เสียงนุ่มกับฝ่ามืออุ่นช่วยซับน้ำตาเบาๆ ผมส่ายหัวแล้วยิ้มให้

   “แค่อ่านนิยายอินไปหน่อยอะพี่ เรื่องนี้ดราม่าชะมัด ผมยิ่งอ่อนไหวง่ายกับเรื่องดราม่าด้วย”

   คนตัวโตเลิกคิ้วมองหนังสือในมือตัวเอง โกหกชัดๆ หนังสือเรื่องนี้มีแต่เรื่องชวนขำ ไม่มีอะไรส่อไปทางดราม่าแม้แต่นิดเดียว แต่ถ้าเด็กไม่อยากบอก พี่ชายไม่คิดจะเซ้าซี้ให้งอแงหนัก มือหนาดึงรั้งร่างเล็กเข้ามาในอ้อมแขนอุ่น ลูบหลังปลอบเด็กน้อย

   “ถ้ามันเศร้าขนาดนั้นก็เลิกอ่านเถอะ ไปกินขนมกับพี่ดีกว่า ไอ้ที่กินเข้าไปเริ่มย่อยแล้วใช่มั้ย มีไอติมด้วยนะ”

   “ดีเลย ผมไปล้างหน้าแปบ พี่ห้ามกินของผมหมดนะ”

   ร่างเล็กผุดลุกขึ้นวิ่งเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านนอก พี่ชายมองตาม ไปเตรียมขนมมาให้อย่างที่บอก เด็กน้อยเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่า ใบหน้าเปื้อนน้ำตาแบบนั้นไม่อยากเห็นเลย มันทำให้คนที่ใจแข็งมาตลอด รู้สึกใจอ่อนยวบ ได้แต่เอาของที่อีกฝ่ายชอบมาให้กิน อย่างน้อยๆ สีหน้าตอนได้ทานของอร่อย ย่อมดีกว่าตอนเสียใจแน่ๆ

   แต่เขาเป็นผู้ใหญ่ และใจเย็นพอที่จะรอ รอเวลาที่เด็กน้อยถามออกมาเอง...

   “มาแล้วววว” เสียงเล็กลากเสียงยาวถลามากินขนมที่วางไว้บนโต๊ะ เฟย์มองภาพนั้นพลางลูบหัวเล็กแบบที่ชอบทำ

   ผมคิดในใจระหว่างกินขนม สัมผัสอ่อนโยนนี้ไม่ได้โกหก สีหน้าห่วงใยมาจากใจจริง เท่านี้เพียงพอแล้วรึเปล่านะสำหรับผม คำตอบคือใช่ แต่ลึกๆในใจกลับคัดค้าน ตอนนี้ผมไม่กล้าพอที่จะถามไปตรงๆ นึกขำตัวเองหน่อยๆ กับเรื่องเล็กๆไหงมาดราม่าเป็นตุเป็นตะ ความรักทำให้คนเปลี่ยนไปจริงๆ เป็นสมัยก่อนผมคงไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก

   ผมกลับบ้านมาเวลาเดิมที่คิดไว้ พี่ชายจะมาส่ง แต่ผมบอกว่าไม่เป็นไร อ้างว่าเย็นแล้ว ถ้าพี่ชายเสียเวลาไปกลับจะมืดค่ำซะเปล่าๆ เวลานี้รถยิ่งติดๆอยู่ ยื้อสักพักพี่เฟย์ถึงยอม ปล่อยให้ผมกลับเอง แล้วสั่งกำชับว่า มีอะไรให้โทรหาทันที ผมรับคำขึ้นรถกลับบ้าน

   ตอนใกล้ถึง แม่โทรมาให้ซื้อของให้พอดี ผมเลยได้เดินตลาดหน้าหมู่บ้านปลดปล่อยอารมณ์ พอแม่เห็นหน้าผมไม่พูดอะไร แต่รับของไปเคาะมะเหงกเข้าหัวผมทีนึง พูดลอยๆคล้ายบ่นใส่ผม

   “ทำหน้าเป็นแมวอดปลาทูไปได้ เป็นเด็กเป็นเล็ก คิดอะไรมาก เรื่องวุ่นวายปล่อยให้ผู้ใหญ่เข้าคิดไป เราน่ะแค่ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี กินเยอะๆโตไวๆก็พอแล้ว เอ้า... ยืนเอ๋อทำไม มาช่วยแม่ล้างผักสิ จะกินมั้ยข้าวเย็นเนี่ย”

   ผมยืนอึ้ง ก่อนจะหัวเราะแล้วเข้าไปกอดอ้อนหอมแก้มแม่ คนสวยคนนี้ต่อให้ผมไม่พูดอะไร แค่เห็นสีหน้าท่าทางก็เดาออกหมด แม่นยำยิ่งกว่าหมอดูที่ไหน พอผมกวนมากๆเข้า เลยโดนมะเหงกไปอีกที เล่นเอาล้างผักสงบเสงี่ยมเลย

   นั่นสินะ เป็นเด็กเป็นเล็กจะคิดมากทำไม ผมไม่ใช่พระเอกหนังซะหน่อย เอาล่ะ หลังกินข้าวฝีมือแม่เพิ่มพลัง ค่อยไปถามให้เคลียร์ ฮุเร่!!

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ขออภัยที่หายไปนาน ผมติดภารกิจปั่นฟิค บันทึกจอมโจรแห่งสุสานขายในงานต้ามู่เดือนสิงหา ถ้าสนใจรายละเอียดสอบถามได้ที่เพจของผมเลยครับ https://www.facebook.com/SilverFsih?ref=bookmarks
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2015 21:14:34 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้มมม
เฟย์รีบเคลียร์กะน้องและคนในเอ็มด่วนๆ เลย ลบเมลล์ทิ้งให้หมดจะดีมาก -_-+
รอตอนต่อไปน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-07-2015 21:56:25 โดย boboman »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:     ดีมากค่ะน้องปอนด์. เอว่าแต่ไปสนิทกับน้องโฟมตั้งแต่เมื่อไหร่กันน้อ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :really2:

คุณพี่คะ มีเด็กในสต็อคเป็นโหลเลยนะคะเนี่ย

 :ling2: ระวัง คุก คุก ไว้บ้างนะค้าาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด