[Yละมุน] หนุ่มวายยกกำลังสอง แจ้งข่าว P13 [Up 12/9/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Yละมุน] หนุ่มวายยกกำลังสอง แจ้งข่าว P13 [Up 12/9/60]  (อ่าน 176755 ครั้ง)

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ตายแระ เจอคู่ข้างใหม่ปลามันในระยะประชิด
หนุ่มวายทั้งสองของเรา ก้อฟินกันไปซิคะ 555555
รอความคืบหน้าของคู่ซันโป้ต่อปาย~~~~!! ^^

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
แน่ๆเลยอะ อย่างที่ปอนด์คิดแน่เลย

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ซัน :hao3: ปากแข็งนะ ใช้ของเป็นคู่

ไม่ยอมให้ปอนด์ปลุกโป้ แล้วยังอุ้มกันขึ้นห้องอีก :katai2-1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ซันคนซึน 55555 โป้น่ารักจะตายไม่หลงได้ไง~

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
น่ารักดีอะ เพิ่งตามอ่าน 555+

ตอนล่าสุด ซันเขินน่ารักดีอะ ทำโมโหกลบเกลื่อน 5555+



ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
วายที่ 17 เดอะแก๊งค์

   โลกแห่งนี้มีกฎอย่างหนึ่งที่ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็หนีไม่พ้น ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าย่อมเป็นผู้ชนะเสมอ เช่นตัวอย่างที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ร่างเล็กวิ่งหนีไปทั่วห้อง พร้อมปาหมอนตุ๊กตาทุกอย่างที่เบาและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายใส่เจ้าของห้องที่วิ่งไล่ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แต่แววตาวาววับเหมือนสัตว์ป่ากำลังสนุกกับการไล่กวดเหยื่ออันโอชะ

   “พี่ผมเหนื่อยเลิกตามสักทีสิ!”

   ผมตะโกนไปพลางกระโดดหลบหมอนอิงที่ตัวเองขว้างใส่ตอนแรก นี่ผมวิ่งวนอยู่ในห้องนั่งเล่นมากี่รอบแล้วเนี่ย

   “เราก็เลิกวิ่งสิ พี่จะได้หยุด” เสียงทุ้มติดขำตอบกลับ

   แมร่ง! พี่ชายใจดีของผมหายไปไหน แล้วไอ้ตาแก่หื่นกามนี่คร๊ายย

   “ปอนด์ระวัง”

   เหอะ ผมไม่เชื่อพี่หรอก มันต้องเป็นแผนล่อลวงผู้ชายสุดเมะอย่างผมแน่นอน เท้าทั้งสองข้างยังคงทำหน้าที่ มีการหันไปแลบลิ้นใส่ร่างสูงที่วิ่งตามหลัง พอหันกลับมาอีกที

   โป๊ก!!
   
   เจ็บหนักมาก ผมหงายหลังก้นจ้ำเบ้า มือยกลูบหน้าผากปอยๆ น้ำตาเล็ด ตะกี้วิ่งชนประตูไปเต็มๆ ที่น่าโมโหคือ ไอ้ประตูห้องนอนถูกเปิดด้วยฝีมือของผมเอง พี่เฟย์ลดฝีเท้าเดินเข้ามาใช้มืออุ่นหนาคลึงๆ หัวปูดโนเป็นลูกมะนาว

   “บอกอยู่ให้ระวัง ทำตัวเองแท้ๆ ยอมง่ายๆ ก็ไม่เจ็บตัวแล้ว”

   ผมถลึงตาใส่ผู้ชายที่หัวเราะขบขันเต็มกำลัง รื่นเริงเสียเหลือเกินนะ พี่ชายส่ายหัวกับท่าทางขู่พองขนของลูกแมว แล้วเดินหายไปหาผ้าใส่น้ำแข็งมาประคบไว้ให้

   “ไม่เจ็บตัวบ้าอะไร ก้นก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายนะ” เรื่องอะไรจะยอม สวนกลับดิ ผมเสียเปรียบเต็มประตู ท่านศาสดาไม่เห็นใจ พี่ชายมองผมตาปริบๆ ผมเอียงคอไม่เข้าใจว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปรึเปล่า พอมานึกดูอีกที ความร้อนจากทั่วร่างพุ่งขึ้นหน้าลามยันหู

   “เอ้า พูดเองเขินเอง หน้าบางจริงไอ้ลูกแมว”

   ผมคว้าเสื้ออีกคนเอาหน้าที่เลอะน้ำจากการประคบเช็ดแม่ม มันแค่เข้าตา ไม่ได้เขินจนหาเรื่องกลบเกลื่อนจริงๆ นะ มือหนายกลูบหัวผมเบาๆ จุ๊บตรงหน้าผากบวมปูด เกือบโรแมนติคระถ้าไม่หลุดปากถามอะไรออกมา

   “นี่... เจ็บขนาดนั้นเลยเหรอ”

   ปรี๊ดดดดดดด ผมนี่ลุกขึ้นยืนเลยครับ แทบใส่เข่าท่าบัวขาว หรือจัดท่าลูกแมวถวายยันต์ห้าแถวดี กล้าถามมาได้ พอจะสวนกลับแบบคำยอดฮิตในนิยายวาย มาลองเองมั้ยล่ะ ก็สำนึกได้ว่าสรีระผมกับพี่ชายมันแตกต่างกันราวกับผลส้มกับเม็ดถั่วเขียว

   “พี่สูงเท่าไหร่” ผมยืนกอดอกจ้องเขม็ง

   “187”

   “หนักล่ะ”

   “74”

   “แล้วดูผม!” นิ้วโป้งชี้เข้าหาตัว รูปร่างสูงโปร่งแต่ยังนับว่าเตี้ยกว่าอีกฝ่ายมาก แถมยังตัวผอมกว่า ที่สำคัญอายุห่างกันเกือบสิบปี คอยดูเถอะรอผมยี่สิบบ้างจะสูงเป็นนายแบบให้ดู

   “ตัวเล็ก เตี้ย ไม่รู้ว่าที่กินมันหายไปไหนหมด”

   เหมือนโดนศรแทงกลางอกสามดอกรวด พี่เฟย์รับรู้ถึงบรรยากาศมาคุ ดึงแขนผมไปนั่งตักแล้วกอดปลอบ

   “ตัวเล็กน่ารักแบบนี้แหละดีแล้ว พกพาสะดวก” บอกทีมันคือคำชม ผมหน้าหงิก พี่ชายไม่นำพา หัวเราะขำในคอใช้จมูกเป็นสันสูดกลิ่นหอมจากผมนุ่ม มือสอดเข้าใต้เสื้อ ผมสะดุ้งลืมไปว่าก่อนหน้านี้กำลังหนีการถูกรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัว ดิ้นสิครับ รอแมวมาตัดริบบิ้นเหรอ

   “อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นอย่าหาว่าพี่ไม่เตือน”

   พอจะประท้วง ปากถูกประกบปิดมอบจูบแบบผู้ใหญ่ที่ให้ตายยังไงก็ไม่ชินเสียที เรี่ยวแรงในตัวไม่รู้บินหายไปไหนหมด ร่างเล็กตัวอ่อนอยู่บนตักหนา นิ้วสากล้วงคลึงอก อีกมือวกลงล่าง จวนจะถึงจุดยุทศาสตร์มารผจญโผล่ทันที ดวงตาคมตวัดจ้องประตูห้องอย่างน่ากลัว

   เผลอคลายมือนิดเดียว เจ้าตัวเล็กได้สติจากเสียงออดสะบัดตัวออกจากตักวิ่งเข้าห้องนอนไปคว้าผ้าห่มคลุมโปงอย่างกับจะรอด เฟย์ส่ายหัวระอา แม้จะหงุดหงิดแต่ต้องไปเปิดเผื่อมีเรื่องสำคัญจนต้องมากดออดถึงประตู

   บานประตูเปิดออก เผยให้เห็นชายสองคนที่ไม่คิดว่าจะเจอ ผมชะโงกหัวจากประตูห้องนอนมีผ้าห่มคลุมทั้วตัวเว้นแค่ส่วนหน้า พี่ชายดูอึ้งๆ แล้วหัวเราะปล่อยให้คนทั้งคู่เข้ามาภายในห้อง คนแรกตัวพอๆ กับผม แต่ดูอายุน้อยกว่าสองสามปี ใบหน้ามีมีเค้าพี่เฟย์ลางๆ ออกไปทางน่ารักมากกว่าคงเป็นเพราะวัย ส่วนอีกคนเป็นชายผมรองทรง รูปร่างสูงใหญ่ตัวหนา ดูตัวโตกว่าพี่เฟย์ซะอีก ทั้งสองคนคุยทักทายกันอย่างกับคนสนิทที่ไม่เจอกันนาน

   ผมมองภาพเหล่านั้น ขณะเดียวกันเด็กผู้ชายหันมาสบตาผมเข้าพอดี เจ้าตัวฉีกยิ้มกว้าง ผมเสียวสันหลังวาบ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนพี่เฟย์แบบนี้ ชัดเลย โฟมชัวร์ป้าบ!

   ร่างเพรียวจ้ำพรวดๆ มาทางผม ผมมองซ้ายมองขวาไม่รู้จะเอาไงดี จะไปหาพี่ชายก็อยู่กับคนท่าทางน่ากลัว จะหลบเข้าห้องเป็นทางตัน มัวแต่คิดหาทางหนีทีไล่ โฟมกระโจนรวบตัวผมจนล้มกลิ้งไปบนพื้นทั้งคู่ เสียงโป๊กดังเป็นรอบที่สองของวันกับประตูบานเดิม

   “ปอนด์ใช่มั้ย ไม่สิ คนหวงห้องอย่างพี่ไม่ปล่อยให้ใครมาอยู่นอกจากคนสำคัญแน่ แล้วนี่เล่นอะไรกันเหรอ ผีผ้าห่มเหรอ? เล่นด้วยคนสิ”

   ไม่พูดเปล่ายังมุดตัวเข้าผ้าห่มของคนที่ตัวเองกำลังนอนทับ ผมตาโตอ้าปากค้าง โฟมมือไวมากแปบเดียวคว้าหมับ สะดุ้งโหยงทั้งตัว

   “เฮ้ยย!! อย่าจับ” ปัดมือซุกซนก็ยังวกกลับมาอีก พี่เฟย์ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายหันมาเห็นภาพน้องชายตัวเองกำลังลวนลามเด็กในคอนโทรล สองหนุ่มใหญ่รีบมาคว้าคนของตัวเองออกไปทันที

   ผมถูกพี่เฟย์อุ้มไปกอดไว้ หลังผู้ชายตัวโตคว้าคอเสื้อเด็กแสบแยกจากกัน

   “อย่ามารังแกเจ้าลูกแมวสิไอ้น้องแสบ!” เฟย์ดุน้องชายแบบเอือมๆ เผลอแปบเดียวมือไวเหมือนใครก็ไม่รู้ ขณะเดียวกันนั้นชายอีกคนส่ายหน้าปรามเด็กแก่แดด

   “โฟม... อย่าไปแกล้งคนอื่นสิ เห็นมั้ยว่าน้องตกใจแล้ว”

   สายตาทั้งสามคู่หันไปมองคนพูดทันที คนโดนมองยังไม่รู้ตัว ผมเบ้ปากถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายตัวใหญ่จนน่ากลัวคงแง่งใส่ไปแล้ว ส่วนพี่เฟย์กลั้นขำ โฟมยิ่งหนัก หัวเราะก๊ากๆ แบบไม่เกรงใจ

   “ไอ้กบ น้องที่มึงบอกอยู่ปีหนึ่งเป็นพี่ไอ้โฟมสองปี”

   “มึงอำกู?”

   “เรื่องจริงพี่กบ ปอนด์อายุมากกว่าผม” โฟมช่วยพี่ชายยืนยันอีกแรง ระหว่างพี่เฟย์เลิกอุ้มเปลี่ยนมาจัดเสื้อผ้าผมให้เข้าที่เข้าทางหลังโดนพี่น้องชั่วร้ายรังแก คนที่ชื่อกบยกนิ้วเกาแก้มมองมาทางผม

   “โทษทีนะ”

   “ไม่เป็นไรครับ ผมชินแล้ว เกิดมาหน้าเด็กชีวิตลำบาก” โบกมือปัดๆ แบบไม่ใส่ใจ ผมเป็นพวกโกรธง่ายหายเร็ว ปรี๊ดแค่นิดเดียว ผ่านไปไม่กี่นาทีหายหมด

   “มึงมาหากูถึงห้องมีไรวะกบ” เฟย์ถามด้วยความสงสัย เพราะเพื่อนเขาทุกคนชอบนัดเจอกันข้างนอกมากกว่ามาถึงห้องถึง ส่วนโฟมคงตามกบมาแหงๆ ไม่รู้มันน้องใครกันแน่

   “ช่วงนี้มีช่วงหยุดยาวใช่มั้ยล่ะ มันเลยนัดกันว่าจะไปเที่ยวกันยกแก๊งค์”

   “ดีเหมือนกัน ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานแล้วตั้งแต่ทำงาน คราวนี้ไปที่ไหนวะ” พี่เฟย์หันมาถามเพื่อนตัวเองที่นั่งอยู่บนโซฟากับโฟม ส่วนผมช่วยพี่ชายยกน้ำกับขนมไปเสิร์ฟ เพื่อนั่งกินเอง อร่อย

   “กาญจน์ ไอ้ฝนมันจองบังกะโลไว้หมดแล้ว พวกมันบอกให้มึงพาเด็กไปด้วย ไอ้อิงค์จะพาบอสมันมาเหมือนกัน”

   “เมื่อไหร่” ปากถามสั้นๆ แต่ในใจนึกด่าเพื่อนไปล้านแปด มิน่ากบถึงพาโฟมมาด้วย พวกมันเอาเรื่องไม่ได้เจอกันนานเป็นข้ออ้างให้เฟย์พาเด็กไปเปิดตัว นี่มันงานอวดแฟนชัดๆ

   “พรุ่งนี้”

   คำตอบขนาดที่ผมยังอึ้ง โห ปุบปับมาก พี่เฟย์กลอกตามองเพดาน

   “กูไปไม่ได้ว่ะ พรุ่งนี้กูจะพาปอนด์กลับบ้าน พวกมึงเล่นปุบปับเองช่วยไม่ได้” พี่ชายยักไหล่แบบหล่อๆ ผมหันขวับ ไม่เห็นรู้มาก่อนเลยว่าจะพากลับบ้าน ได้ข่าวกว่าก่อนหน้าที่โฟมจะบุกมา มีพี่ชายหื่นกามบางคนคิดจะเคลมเด็กอยู่เลยนะ ฮึ่มๆ เอาคนอื่นเป็นหนังหน้าไฟได้ไง!

   พี่กบส่งเสียงจิ๊จ๊ะ

   “ถ้ามึงจะเบี้ยว มึงโทรไปเคลียร์กะไอ้อิงค์เองนะ งานนี้กูจะไม่ยุ่ง” โดนเพื่อนบอกปัด พี่เฟย์ถลึงตาใส่ ก๊าก น้อยนักจะได้เห็น

   “โทรไปหาเชี่ยอิงค์ให้กูโทรหาไอ้ฝนง่ายกว่ามั้ย? แม่งงง อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่าพวกมึงรวมหัวให้กูพาเด็กกูไปเปิดตัว ไอ้ห่า”

   ผมตาโต พี่ชายด่าคำหยาบ เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาครับๆ ตลอด งานนี้เบิกเนตร ทีแรกแค่อยากเที่ยว เพิ่มเหตุผลมาอีกข้อ อยากเห็นพี่ชายเวลาอยู่กับพวกเพื่อนว่าจะฮาร์ดคอร์ขนาดไหน จะเหมือนกับพวกซันรึเปล่า

   “ผมอยากไปเที่ยว” งานนี้พลาดไม่ได้! ต้องงัดสกิลการอ้อนมาใช้ เกาะแขนมองตาใส พูดเสียงอ่อนๆ อีกสองคนมองอย่างลุ้นระทึก พี่เฟย์เงียบไปพักหนึ่ง สุดท้ายถอนหายใจเฮือก พูดกับผมเสียงนุ่มเหมือนทุกที แต่โคตรต่างเวลาคุยกับพี่กบ
 
   “อยากไปเหรอ”

   พยักหน้าหัวแทบหลุดแล้วเนี่ย ไม่อยากไปมั้ง ดูหาง ถ้าเป็นหมาคงส่ายหางหลุดไประ อ้าว ผมเป็นแมวนี่หว่า ช่างมัน มีหางให้ส่ายเหมือนกัน แผ่รังสีโมเอะใส่แม่ง ผมกับพี่เฟย์เล่นเกมจ้องตา ดวงตาคมคู่นั้นอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ได้ไปแล้วโหวย

   “รีสอร์ทที่ไหน ออกกันกี่โมง ไปรถใครหรือต่างคนต่างขับไปเจอกันที่นั่น?”

   ได้ยินคำพี่เฟย์พร้อมเสียงที่อ่อนลงสิบระดับ โฟมลงไปขำกลิ้งอยู่บนพื้น ส่วนพี่กบมองผมสลับกับพี่เฟย์ดูสนอกสนใจ

   “กูไม่แปลกใจระ ทำไมมึงถึงไม่อยากไป ทั้งที่ปกติไม่เคยปฏิเสธ เรื่องรายละเอียดที่พักเห็นไอ้ฝนจะมาบอกอีกทีหลังมึงตกลง ส่วนเรื่องขับรถ เดี๋ยวกูติดรถไปกับมึงแล้วกันจะได้ช่วยกันขับ เจอกันตรงปั๊ม ขับตามกันไป”

   “โอเค พรุ่งนี้ตื่นเช้ามืด มึงนอนนี่เลย” คุณพี่ชายช่างรู้ใจน้องชาย โฟมยกนิ้วให้ เพราะเจ้าตัวอยากเล่นกับพี่สะใภ้ ส่วนผมขยาดนิดๆ คุยในเอ็มโฟมน่ารักดี พอเจอตัวจริง ความน่ารักยังอยู่ แต่มันมีความมือไวเข้ามาแถม สงสัยโฟมจะเห็นอาการผมเลยโถมตัวมากอด แอ๊กกกก!!

   “ผมไม่ทำแบบนั้นแล้วไม่ต้องห่วง”

   “ฮะ ฮะ” ทำไมเสียงหัวเราะของผมถึงได้แห้งแล้งขนาดนี้ ผมย้ายข้าวของตัวเองมาถมห้องพี่เฟย์ แม้จะนอนกับพี่ชายทุกคืน ห้องผมก็ยังรกไปด้วยตุ๊กตากับหนังสืออยู่ดี ต้องโยกย้ายให้แขกนอนหน่อย

   พี่เฟย์กับพี่กบคุยกันหลายเรื่อง ถึงจะไม่แสดงออกเท่าไหร่ ผมพอเดาได้ว่าพี่เฟย์เองก็มีความสุขเหมือนกัน ที่จะได้ไปเที่ยวกับพวกเพื่อนบ้าง ไม่งั้นคงไม่คุยวางแผนกันซะสนุกสนาน

   หลังจากเพื่อนพี่เฟย์โทรมาบอกรายละเอียด กินข้าวเสร็จเรียบร้อย พี่เฟย์ไล่ให้ผมกับโฟมไปนอน แต่เราดันเล่นเกมติดพัน ตั้งแต่ผมเข้าม.ต้นยันมหาลัย ไม่มีเพื่อนมาเล่นที่บ้านแบบสมัยเด็ก ทุกคนต่างโตเดินไปตามเส้นทางของตัวเอง พบปะเพื่อนใหม่ เข้าสู่สังคมใหม่ ผมลูกชายคนเดียวรู้สึกเหงาบ้างเลยติดพี่เฟย์แจ

   ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มีเพื่อนวัยไล่ๆ กันมาแบบนี้ โฟมเองไม่แกล้งผมเหมือนตอนเจอแล้วด้วย เล่นกันมันเลยล่ะ ขุดสารพัดเกมมาเล่นไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน พี่เฟย์ไล่เป็นรอบที่ N ก็ไม่ฟัง ส่วนพี่กบไม่คิดจะช่วยอะไรเลยสักนิด กระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงตีสอง พี่เฟย์องค์ลงจับโฟมโยนให้พี่กบและหิ้วผมเข้าไปนอน ผมกับโฟมจึงหยุดเล่นเกมด้วยประการฉะนี้

   นาฬิกาบอกเวลาตีสี่ ผู้ใหญ่ทั้งสองลุกขึ้นจากเตียงปิดนาฬิกาปลุก จัดการตัวเอง พร้อมกาแฟคนละถ้วย กบไม่ต้องทำอะไรมากมาย เพราะของทุกอย่างจัดเสร็จแล้ว เหลือแค่ไปขุดเจ้าเด็กแสบออกจากเตียง ต่างกับเฟย์ต้องหัวหมุนเก็บของอีกหลายอย่าง แม้เมื่อคืนจะเก็บไปแล้วส่วนหนึ่งก็ตาม

   กบมองข้าวของที่เฟย์เตรียมอย่างไม่เข้าใจ

   “กูรู้ว่ามึงเป็นคนรอบคอบ แต่ไม่ต้องขนของไปขนาดนี้ก็ได้มั้ง มึงจะย้ายบ้านเหรอเฟย์”

   คนถูกถามตอบทั้งที่ตายังเช็คของ ครุ่นคิดว่าขาดอะไรรึเปล่า พอทุกอย่างครบถึงยิ้มอย่างพอใจ

   “ของกูแค่นี้” นิ้วยาวชี้ไปที่กระเป๋าเป้หนึ่งใบ

   “นอกนั้นของลูกแมวกับโฟม ที่นั่นอยู่ริมน้ำ ตอนกลางคืนกับตอนเช้าท่าจะหนาว กูกลัวผ้าห่มจะหนาไม่พอ ยังต้องเตรียมเสื้อผ้าเผื่อลูกแมวเล่นน้ำ ผ้าขนหนูแยกกับผ้าเช็ดผม พวกครีมทาผิว แป้ง สบู่แชมพู ยาทากันยุง พวกยาสามัญประจำบ้าน...”

   “พอ!! ขืนปล่อยมึงร่ายวันนี้คงไม่ต้องไป น้องมันเป็นผู้ชายไม่ต้องเตรียมขนาดนั้นมั้ง ดูๆ ไปแล้วไม่ใช่เด็กขี้โรคด้วย”

   พอเพื่อนพูดแบบนี้เฟย์ขมวดคิ้วกอดอก เลือดแห่งความเป็นพี่ชายแสนดีมันรุ่มร้อน จ้องเพื่อนตัวเองด้วยแววตาจริงจัง

   “มึงไม่รู้อะไร กูดูแลของกูมาอย่างดี ประคบประหงมทั้งคู่ ดังนั้นอะไรเตรียมไว้ได้ก็ควรจะเตรียมไป โฟมแข็งแรงก็จริง แต่ถ้าลองได้ป่วยทีจะป่วยหนักมาก ส่วนลูกแมวเห็นอย่างงั้นซุ่มซ่ามอย่างกับอะไรดี ขี้เกรงใจเป็นที่หนึ่ง ต่อให้หนาวจะตายถ้าไม่สนิทก็ไม่กล้าพูด มึงก็เถอะ กูยกน้องกูให้ดูแลดีๆ ถ้าน้องกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะไปเผามึงไปพร้อมกับป่า!!”
   
   “เชี่ย ป่ากูผิดอะไร เดี๋ยวพวกสัตว์ป่าไม่มีที่อยู่กันพอดี เออๆ กูเข้าใจแล้ว เฮ้ย! เดี๋ยว... มึงยกน้องให้กูทำไม น้องมึงนะไม่ใช่น้องกู”

   คนโดนยัดเยียดร้อนตัว ครั้งนี้เฟย์มองแรงกว่าเดิม น้องมันชอบกบมาตั้งแต่เด็กตามติดยันโต เจอหน้าพี่ชายถามหาแต่กบ พอๆ กับไอ้เพื่อนซึน ปากบอกน้องชายๆ เจอหน้าเฟย์ถามหาน้องตลอด แวะไปหาบ่อยยิ่งกว่าเฟย์ที่เป็นพี่ชายแท้ๆ เวลามีใครมาเกาะแกะโฟม ถ้าเป็นผู้หญิงเจ้าตัวเฉย พอเป็นผู้ชายเริ่มเต้น บอกว่ามันไม่น่าไว้ใจอย่างงั้นอย่างงี้

   เฟย์นึกปลง ก็พอเข้าใจกบมัน เห็นกันมาตั้งแต่เล็กๆ ไม่ได้แอบแฝงสอดไส้แบบเขา ความรู้สึกตอนแรกคือพี่ชายกับน้องชายจริงๆ ที่สำคัญยังเป็นน้องเพื่อน พ่อแม่เฟย์เห็นกบเป็นลูกชายอีกคนหนึ่ง ต่างกับโฟม มันไม่เคยคิดว่ากบเป็นพี่ชายเลยสักครั้ง ยิ่งโตความรู้สึกยิ่งชัดเจน มีครั้งนึงน้องมันมาร้องไห้กับเฟย์ แทบอยากจะถลาไปต่อยหน้าเพื่อนตัวเอง หรือจะวางยาเพื่อนแล้วมัดผูกโบว์โยนให้น้องชายดี

   ไม่ใช่ว่าเฟย์อยากให้น้องเป็นเกย์ หรือรักกับเพื่อนหรอก ในฐานะพี่ชาย อยากเห็นน้องมีความสุข กบเองก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร คอยดูแลโฟมปกป้องมาโดยตลอด เอาเถอะ แล้วแต่ท่านศาสดาจะประทานพร สักวันมันคงได้กัน

   เห็นเพื่อนเงียบ กบเป็นฝ่ายถอนหายใจบ้าง ดวงตามองไปยังประตูห้องนอนที่มีเจ้าตัวแสบนอนอยู่   

   “กูรู้เฟย์ อาชีพกูมันอันตราย จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ ป่าไม่เคยสงบเงียบเลยสักครั้ง มีแต่เสียงปืนยิงกันสนั่น พวกลักลอบนับวันยิ่งเหิมเกริมหนัก”

   “อย่าคิดมากเลยมึง ในเมื่อไม่รู้จะตายเมื่อไหร่ ทำไมไม่ตักตวงความสุขเอาไว้วะ กูไม่บังคับให้มึงเลิกทำงานที่มึงรักเพื่อโฟมหรอก โฟมเองคงคิดแบบเดียวกันถึงได้รอ”

   “มึงยอมเหรอวะ ถ้าเกิดวันหนึ่งกูตายไป น้องมึงต้องอยู่คนเดียวนะเว้ย แค่กูคิดว่าตอนนั้นโฟมจะเสียใจแค่ไหน กูก็เจ็บไปทั้งใจ”

   มือหนาตบหัวเพื่อนไปที บรรยาการเคร่งเครียดรอบตัวลดลงไปหน่อย

   “มึงอะคิดมาก น้องกูอาจต้องเสียใจก็จริง มึงก็รักษาชีวิตดีๆ สิวะ อีกอย่าง โฟมไม่ได้มีแค่มึงโว้ย กูหนิ พี่ชายแท้ๆ มัน ยังมีพ่อแม่อีก เพื่อนมันเป็นโขยง อย่าสำคัญตัวผิดไปมึง”

   สมองพลันกระจ่าง กบคิดตาม จริงอย่างที่เฟย์พูด เจ้าตัวลุกขึ้นมาตบบ่าเพื่อน สีหน้าดีขึ้นเยอะ

   “จริงของมึง ขอบใจว่ะ กูไปปลุกโฟมแปบ มึงขนของย้ายบ้านต่อไปตามสบาย”

   เฟย์ส่ายหัว เดินไปปลุกลูกแมวบ้าง เจ้าเด็กสองคนไม่ต่างกันเลย โฟมโดนงัดจากเตียงงอแงร่วมสิบนาที กว่าจะยอมลุกขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟันมานอนหลับคอพับบนโซฟาต่อ ส่วนลูกแมวหนักกว่า แม้จะยอมลุกโดยดี แต่สติไม่รู้บินหายไปไหน แค่ลงจากเตียงยังเกือบสะดุดผ้าห่ม เดินสะโหลสะเหลเหมือนคนเมาค้างหัวจะโขกประตู ดีที่เฟย์คว้าไว้ทัน กิจวัตรยามเช้าของลูกแมวจึงถูกเฟย์คุมทุกขั้นตอน

   เพื่อไม่ให้เสียเวลา เฟย์ปล่อยเด็กขี้เซาไว้ในห้อง ตัวเองกับกบขนของทั้งหมดไปยัดใส่รถ กลับขึ้นมาอีกที โฟมนอนเหยียดยาวบนโซฟา ลูกแมวขดตัวเป็นก้อนกลมอยู่ใต้ผ้าห่ม ผู้ใหญ่สองคนมองหน้ากันพลางส่ายหัว อุ้มเด็กของตัวเองขึ้นรถไปยังที่หมาย

   จุดนัดพบเป็นปั๊ม ฝนจอดรถรออยู่ เฟย์ลงไปคุย ปล่อยให้กบเฝ้าเด็กไป

   “ไงเพื่อน มาสายนะมึง” ฝนทักเพื่อนขณะที่น้ำคนรักแค่ยิ้มให้แบบงัวเงีย คงโดนลากลงจากเตียงพอกัน

   “โทษทีว่ะ เด็กมันงอแง ไอ้อิงค์ล่ะ” ตาคมมองหาคนที่คาดว่าเป็นตัวต้นคิดในครั้งนี้

   “มันกับแฟนไปรออยู่ที่รีสอร์ทแล้ว เดี๋ยวขับๆ ตามกันไป จะแวะไหนบอกด้วยนะไม่งั้นกูทิ้ง”

   เฟย์พยักหน้าเดินกลับรถของตัวเอง ระยะทางระหว่างกรุงเทพกับกาญจน์ไม่ไกลเท่าไหร่ รถทั้งสองคันจึงไม่แวะระหว่างทาง เอาไว้แวะซื้อของตอนกลับรวดเดียว กระทั่งถึงที่หมาย

    รีสอร์ทขนาดใหญ่ มีบริการครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการล่องแพ บ้านแพ บังกะโล สปา สระว่ายน้ำ ร้านอาหารและอื่นๆ งานนี้พวกเขามาเที่ยวกันสามคืนสี่วัน กะพักผ่อนให้เต็มที่ คุยกับเพื่อนจนเบื่อหน้าตายกันไปข้าง รถสองคันจอดหน้ารีสอร์ท เพราะต้องติดต่อให้เรียบร้อยก่อน รวมถึงทานอาหารเช้า ค่อยเข้าบังกะโล ข้าวของทุกอย่างจึงทิ้งไว้ที่รถ

   ฝนกับน้ำลงจากรถยืดเส้นยืดสายเดินไปหาอิงค์ที่มาล่วงหน้าเพื่อนทุกคน เฟย์ปลุกโฟมก่อนเป็นอันดับแรก เจ้าตัวยืดแขนบิดขี้เกียจอ้าปากหาวกว้างยอมลงจากรถตามกบไปโดยดี จะเหลือก็แต่แมวขี้เซา ขนาดปลุกตื่นมาแล้ว ยังมีหน้ายิ้มหวานตาปรือใส่ก่อนหลับต่อ

   “ปอนด์ ถึงรีสอร์ทแล้ว ตื่นเร็ว ทุกคนรออยู่”

   “ขออีกห้านาที” คำขอจากดักแด้ตัวโต ที่ถูกห่อด้วยผ้าห่ม ฝีมือพี่ชายนี่แหละ ตอนขึ้นรถเล่นอุ้มมันมาทั้งผ้าห่มเลย

   “ถ้าไม่ตื่นพี่จะอุ้มไปทั้งแบบนี้นะ”

   ไม่อ่อนไม่ได้ผล ต้องไม้แข็ง ไอ้ลูกแมวหน้าบาง การโดนอุ้มในสภาพนี้ไปสู่สายตาประชาชีคงไม่ยอมแน่ แต่เฟย์คิดผิด ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เกิดขึ้น พี่ชายพูดจริงทำจริง จัดการอุ้มดักแด้ขึ้น ไอ้ลูกแมวตื่นเต็มตาโวยวาย

   “เฮ้ยพี่! ปล่อยผมลง”

   “อยากนอนดีนัก นอนต่อไปสิ”

   “ไม่นอนแล้ว ปล่อยเถอะ นะๆ แบบนี้มันน่าอาย”

   ไม่เพียงคำพูด ตอนนี้ใบหน้าเริ่มแดงก่ำ ขอบคุณสวรรค์ เวลาเช้าคนยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ พอเห็นลูกแมวตื่นเต็มตาเฟย์ถึงยอมปล่อย แงะแมวออกจากดักแด้ผ้า เดินไปสมทบกับพวกเพื่อนที่กำลังคุยกันออกรสออกชาติ แต่ตางี้ หูงี้ ผึ่งฟังชัดเจนจนน่าถีบ

   “ว้า นึกว่าจะอุ้มออกมาทั้งงั้นซะอีก” อิงค์เริ่มกวน แสร้งทำเสียดายหนักหนา

   “ติดต่อรีเซฟชั่นยังฝน” เฟย์เมินหันไปถามเพื่อนที่ได้เรื่องกว่า

   “เรียบร้อย กูคิดเหมือนกันนะ น่าจะอุ้มออกมาเลย จะได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก”

   คนโดนแซวใช้แขนพี่ชายมาบังหน้า มิดมาก เฟย์ส่งเสียงเหอะในคอใส่เพื่อน เขาลืมไปได้ยังไง ไอ้สองตัวนี้มันลูกคู่จอมกวนประสาท ดีที่โฟมยังไม่หายเมาขี้ตา ไม่งั้นปวดหัวยกกำลังสามแน่

   “แฟนมึงล่ะอิงค์ ไหนบอกพามา” พอโดนสวนกลับมั่ง มีหรืออิงค์ผู้หน้าหนายิ่งกว่าพื้นถนนคอนกรีดเสริมเหล็กราดยางมะตอยซ้ำจะสะท้าน เจ้าตัวยกไหล่ชิวๆ

   “นั่นไง” พูดพลางบุ้ยปากไปยังโต๊ะแถวนั้น มีชาวต่างชาติคนหนึ่งกำลังนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ เรือนผมสีบลอนยาวหยักศก เพื่อนทุกคนหันมองอิงค์ทันใด

   “เอ๊ะ พี่อิงค์บอกว่าเป็นบอสไม่ใช่เหรอครับ” น้ำถามอย่างสงสัย อิงค์หัวเราะ

   “ก็นั่นแหละ ผู้ชายแถมยังเป็นบอสพี่ด้วย เห็นสวยๆ แบบนั้นโหดนะ ไม่งั้นคุมพวกคนงานเถื่อนๆ ไม่อยู่หรอก”

   คนสอยของสูงยืดอกพูดภูมิใจเต็มกำลัง ทุกคนหันหน้าหนีไปคนละทาง มีแต่น้ำที่ยังรักษาหน้าให้อีกฝ่าย ยิ้มขำ

   “ไปๆ กินข้าว หิวจนจะกินแมวได้ทั้งตัวแล้ว” เฟย์ตัดบทสนทนา ไม่งั้นคงคุยกันยาว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2015 13:23:02 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ไปเที่ยวๆๆ
แถมยังเปิดตัวแมวน้อยอีกตังหาก!!!
รอตอนหน้าจร้า ^0^

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ไม่ต้องหิวข้าวเฟย์ก็จ้องจะกินแมวอยู่แล้ว

มาหลายคู่แบบนี้จะได้กินแมวไหมหนอพี่เฟย์

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
น่ารักอะ ครบแกงค์เลย

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
 :hao7:รวมพลครบแก๊ง

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
รวมตัวกันทีนี่เฮฮาแน่

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
พิเศษ ดูหนัง ซัน-โป้

   คุณคิดว่าชีวิตของวัยรุ่น วันๆ ทำอะไรกันครับ เรียน เล่น เที่ยว แดกเหล้า นั่นแหละคือความจริง แล้วถ้าไม่นับเรื่องพวกนี้ คุณคิดว่าจะทำอะไร แฟนไง! วัยรุ่นวัยว้าวุ่นต้องมีแฟน เคยได้ยินมั้ยครับ

   ‘รักวัยเรียนเหมือนจุดเทียนกลางสายฝน แต่กูไม่สน จะกางร่มแล้วจุดเทียน’

   ตามนั้นแหละครับ ทีนี้ผมถามใหม่ กิจกรรมเวลาทำกับแฟนมีอะไรมั่ง หยุด อย่าเพิ่งคิดลึก ตอนพิเศษตอนนี้ไม่มีเนื้อหา18+ เอาใสๆ เบาๆ พอครับ

   กับแฟนก็ ไปรับไปส่ง น่าเสียดาย คู่ผมมันไม่ได้รับส่ง เพราะอยู่หอเดียวกัน

   คุยโทรศัพท์ ตามข้างบนครับ อยู่ห่างกันแค่คีบ จะโทรศัพท์ทำเพื่อ

   ซื้อของขวัญให้กัน พวกผมฮาร์ดคอร์ ไอ้ของขวัญมุ้งมิ้งอะไรนั่นไม่มีหรอก

   มุ้งมิ้งกันวันเทศกาล ช่วงนี้ไม่มีเทศกาลอะไร ที่สำคัญ ผมเห็นหน้ามันแล้วมุ้งมิ้งไม่ค่อยออก เถื่อนสัส

   ช้อปปิ้ง ตัดทิ้งได้เลย เที่ยวเล่น กินเหล้าเหรอครับ เอาล่ะเหลืออย่างสุดท้าย

   ดูหนัง!

   ชายสองคนอยู่ถ้ำเดียวกัน ผมนั่งกระดิกตีนเล่นโทรศัพท์ คุยไลน์กับเพื่อนตัวเล็ก ส่วนซันมันนั่งบนพื้นดูทีวี จู่ๆ มันก็จับขาผม ผมสะบัดตีนใส่มันที ไอ้เถื่อนหันมาจ้องตาเขียว พอผมยักคิ้วถามแนวว่ามีปัญหาไร มันกลับถอนหายใจเอาขาผมไปกอดซะงั้น

   “โป้กูกับมึงไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันเลยเนอะ”

   ผมหรี่ตามอง มันจะมาไม้ไหน

   “รอบก่อนก็ไปกับพวกมิทไง”

   “ไม่ใช่ดิ แบบไปเที่ยวกันสองคน”

   “ตอนกลับรีสอร์ทมึง นับว่าเที่ยวป่าว”

   “เชี่ย นั่นเค้าเรียกกลับบ้าน มึงแม่งไม่โรแมนเลย”

   “อะจ๊ะ จะไปเดทใช่มะ เอาที่ไหน”

   ลีลานัก ผมวกเข้าประเด็นเลย มันหันขวับกัดขาผม เหี้ย น้ำลาย

   “เขินอย่ามาลงกับขากูดิ๊ ดูหนังเป็นไง เห็นว่าช่วงนี้หนังใหม่ๆ มาเพียบ”

   เหมือนมันจะหมดอารมณ์แล้ว ตอบส่งๆ น้ำเสียงแห้งแล้งสิ้นดี

   “เออ! มึงเลือกหนังเลยแล้วกัน”

   ผมหัวเราะ ลุกขึ้นนั่ง ใช้ขาเกี่ยวตัวมัน ไม่ให้ลุกหนี ซันมันจะฝืนลุกก็ได้แหละ แต่มันไม่ทำ ยอมนั่งนิ่งรอฟังผม หูงี้ผึ่งเชียว รอกูง้ออยู่ดิ ไหนๆ นานๆ ที คนอย่างไอ้ซันมันจะมีอารมณ์มาหวานสักที ผมเล่นกับมันหน่อยก็ได้

   “หนังเดท ดูด้วยกัน ต้องเลือกด้วยกันสิวะ มึงอยากดูไร กูอยากดูพวกหนังบู๊มันๆ”

   ดีที่ผมกับซันรสนิยมเดียวกัน ผมย้ายตัวเองไปนั่งด้านล่างกับมัน เปิดโน๊ตบุ้คเลือกหนังว่าจะดูเรื่องไหน ได้มีเรื่องหนึ่ง สู้กันมันๆ ผสมตลกคลายเคลียดดี แต่ไอ้ซันเสือกใจร้อน มันจองรอบดึก เราเลยต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงดิ่งไปยังห้างที่ใกล้ที่สุด ยังมีเวลาเหลือกินข้าวก่อนเข้าโรง ผมกับมันนั่งกินที่โซนอาหารให้แลกคูปอง

   ซันมันกินไปบ่นไปว่าไม่อร่อยอย่างงั้นอย่างงี้ วิจารณ์จู้จี้ยิ่งกว่าผู้หญิง ผมตบหัวให้มันเลิกบ่นมาก เขามองมันหมดแล้ว เสียวอีโต้คนขายข้าวมันไก่ร้านแถวนั้น

   ปากบ่น แต่กินหมดเกลี้ยง ซันมันเคยบอกผม แม้อาหารจะรสชาติห่วยแตกแค่ไหน ซื้อมาแล้วต้องกิน ไม่ควรกินทิ้งขว้าง เว้นกรณีมันห่วยเกินเยียวยา อันนั้นทิ้งสถานเดียว ผมเลยไม่ต้องกังวลว่ามันจะติดรสมือผม จนไม่ยอมไปกินข้างนอก ถือว่าเลี้ยงง่าย

   ถึงเวลาหนังฉายผมกับมันเลือกชั้นบนสุด นั่งดูหนังสบายอารมณ์ หนังบู๊มันดี พอถึงฉากฮาไอ้ซันทำหน้าเฉย เข้าฉากเลิฟซีนพระนาง มันนั่งหาว ผมหมั่นไส้โบกมันไปที

   “มึงช่วยอินกับหนังหน่อยได้มั้ยวะ มึงเป็นคนอยากมาเดทเองนะ”

   ผมท้วง แสงวูบวาบจากจอในโรงกับไฟตามเก้าอี้ ทำให้เราเห็นหน้ากันชัดเจน ซันยักคิ้วกวนตีน

   “ก็หนังมันทำกูอินไม่ได้เองนี่หว่า”

   นั่นปากเหรอ ดีนะ รอบที่พวกผมอยู่ไม่มีคนนั่ง ไม่งั้นคงมีรายการป๊อปคอร์นบินกันบ้าง

   “หนังอะไรที่ทำให้มึงอิน” หมดอารมณ์ดูหนังโดยสิ้นเชิง ดูซิ มันจะชอบหนังอะไร

   “มันต้องเป็นหน้า 4 Dเว้ย แบบสี่มิติ รู้สึกถึงรูขุนขน” ผมว่ามันไม่ใช่ระ

   “เดี๋ยวดูสาธิตให้ดู มึงดูนั่น พระเอกแม่งดูดปากนางเอกอีกระ” ผมพยักหน้า จริงของมัน หนังฝรั่งไม่ว่าจะแนวไหน เอะอะจับดูดปาก

   ไม่ทันระวังตัว ไอ้ซันมันคว้าหน้าผมไปประกบปาก ดูดแบบ อร่อยมาก แม่งดูดของจริง หนักกว่าในหนังอีก ผมชกท้องมัน มันถึงยอมปล่อยผม

   “ไงมึง 4D” หน้าตากวนตีนมาก ไม่ติดว่าอยู่ในโรงหนัง ผมจะกระโดดก้านคอมันไปแล้ว

   เห็นมันทำหน้าระรื่น ดีใจ คิดว่าผมเขินมันสิ ฝันวะครับ ผมกระชากคอเสื้อมันมาบดปากบ้าง งานนี้กูปากเจ่อ มึงต้องเจ่อเป็นเพื่อนกู ไอ้ซันอึ้ง พอมันจะได้สติสวนกลับผมผละออกก่อน ยกยิ้มแบบเหนือกว่า

   “เด็กๆ ว่ะ ดูหนังต่อ”

   ซันมันทำปากบ่นขมุบขมิบ ยอมดูหนังต่อโดยดี ไม่งั้นเดทมันจะกลายเป็นวิวาทแทน หนังเรื่องนี้สนุกสมคำเล่าลือ แม้ผมจะพลาดบางช่วงเพราะมัวแต่จัดการคนข้างตัว ซันเองช่วงท้ายเรื่องจับมือผมลุ้นใหญ่ ถือว่าเดทครั้งนี้ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี

   ออกจากโรง ต่างคนต่างบิดขี้เกียจ เรากินข้าวอิ่มเลยไปซื้อป๊อปคอร์นเข้าไปกิน แต่น้ำหนิหมดไปคนละแก้ว ผมเดินนำเข้าห้องน้ำ ซันเดินตามบอกให้ผมเลือกซะในสุด ส่วนมันใช้อันถัดมา เข้าใจแหละว่าหวง แต่ผู้ชายทุกคนใช่เป็นเกย์หมดมั้ง ไม่งั้นผู้หญิงเฉาตายกันหมดพอดี

   “ไม่ต้องมองกูงั้นเลย มึงอะไม่รู้อะไร มีเชี่ยตัวหนึ่ง มองมึงตั้งแต่ก่อนเข้าโรงยันออกโรง”

   ผมเลิกคิ้ว แสร้งทำเป็นมองนู่นมองนี่ในห้องน้ำไปเรื่อย เสร็จล้างมือเดินออกมาพร้อมซัน เห็นคนหนึ่งมองตาม ชัดเลย มิน่าในโรงไปซันถึงทำงั้น ผมส่ายหัว

   “ว่าแต่กู มึงผู้หญิงมองเพียบพอกันแหละ”

   คนฟังยืดอก

   “แน่นอน กูหล่อ” เออ ผมยอมรับ มันหล่อจริง ไม่งั้นผมคงไม่สนใจมันตอนแรก แต่อย่าให้มันไว้หนวดเชียวนะ หน้าเถื่อนๆ ยิ่งมีหนวด โคตรโฉด

   “ปะ กลับบ้านกันเถอะเมีย” มือหนาโอบไหล่ผม ผมเลยกอดคอมันกลับ มันหัวเราะ คู่ผมดูเผินๆ เหมือนเพื่อนกันมากกว่าแฟน ใช่ว่ามันไม่ดี แบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว จะได้อยู่กันไปนานๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2015 18:33:44 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
โถ่โป้ สุดท้ายก็เป็นเพื่อนสุดสนิดของซัน :laugh:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น่ารัก. ไม่เถียงคือยอมรับสถานะเมียใช่ป่าว

 :katai2-1:

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
อั๊ยย่ะ!!! ซันโป้เขาสาธิตหนัง 4D กันด้วยยยยยย

ซันจูบมาก็จูบกลับไม่มีอาย ยอมให้เรียกว่าเมียได้ด้วยความเต็มใจ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คู่นี้หวานในแบบของเค้าดีนะ :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ซันโป้ น่ารักมากกกกก 555+

สรุปยอมเป็นเมียใช่ไหม ไม่เถียงเนี้ย อิอิ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
แหมซันคะแล้วทำปากแข็ง

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
วายที่18 ท่องเที่ยว
   
   ทุกคนมานั่งรวมกันที่โต๊ะยาว ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ ถึงได้คุยแนะนำตัวกัน ทางบอสคนสวยอิงค์เป็นคนช่วยแนะนำให้ คนอื่นทักทายเป็นภาษาอังกฤษ เพราะเจ้าตัวไม่เคยมาเมืองไทยมาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องพูดภาษาไทย

   คนรักของอิงค์ชื่อบอริส ถูกอิงค์ล่อลวงมาเที่ยวเมืองไทย ก่อนจะมาเจอพวกเฟย์ เขาพาคนรักไปแนะนำตัวกับที่บ้าน ด้วยเหตุนี้เลยล่วงหน้ามารอที่รีสอร์ทก่อน

   ดวงตาสีสวยของพี่ชายคนงาม มองผมสลับกับโฟมไปมา เขาพูดอะไรบางอย่างกับพวกพี่ เล่นเอาฮาทั้งโต๊ะ

   “Why two kids to the little? You didn’t allow him to eat? (ทำไมเด็กสองคนนี้ถึงตัวเล็ก พวกนายไม่ยอมให้เขากินเหรอ)”

   “Thai kids are a little more than a foreigner like you. (เด็กไทยแบบนี้แหละครับ พวกเขาตัวเล็กกว่าชาวต่างชาติอย่างคุณ)” ผู้ปกครองเฟย์ แก้ต่างให้กับเด็กทั้งสอง

   “I hope they grew up not like you. (หวังว่าโตมาคงไม่เท่ากับนายนะ)” คราวนี้บอริสเหล่มองคนรักตัวเอง พอลองนึกภาพตาม ตอนเด็กน่ารักขนาดนี้ ถ้าโตมาเหมือนกับอิงค์ บอริสก็รู้สึกปวดหัวแล้ว หากเขาเป็นผู้ปกครอง คงถีบส่งให้ไปอยู่ไกลๆ

   “I think they’re similar to Nam. (ถ้าพวกเขาโต คงตัวเท่าน้ำมากกว่า)” ฝนชี้มาที่คนข้างตัว เจ้าของชื่อยิ้มรับ ในความคิดของบอริส คนไทยน่าอัศจรรย์ใจจริงๆ หรือเจ้าพวกสูงแข่งชาวต่างชาติพวกนี้ จะเป็นพวกแปลกประหลาด

   ผมได้แต่มองพวกผู้ใหญ่คุยกัน และหันไปคุยกับโฟมแทน ตอนคุยเอ็มโฟมดูมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ผสมเด็กเอาแต่ใจ พอมาเจอตัวจริง มีแต่คำว่าเด็กเท่านั้น เขาชี้ชวนให้ผมดูนู่นนี่ คล้ายกับเห็นผมเป็นเพื่อนวัยเดียวกัน แต่ไม่เป็นไร ผมสนุก ทุกคนมีความสุขก็โอเค

   มื้ออาหารผมพบความหวานแหววจนแทบเบาหวานกิน บอกทีนี่เป็นการนัดเที่ยวในกลุ่มเพื่อน หรือพาแฟนมาสวีท เหล่าพี่ชายทั้งหลายตักนั่นนี่ให้คนรักตัวเอง พี่ฝนตักหมูให้พี่น้ำ บอกว่ากินเยอะๆ ผอมจะแย่อยู่แล้ว ทางพี่อิงค์ถือช้อนยัดเยียดป้อนพี่บอริส ดูยังไงก็รู้ว่าจงใจแหย่ ขนาดถูกตาสวยจ้องเขม็งใส่ยังไม่ลดละ ฝั่งพี่กบคอยตักของโปรดให้โฟมตลอดจนเต็มจาน

   “มัวดูอะไรไอ้ตัวยุ่ง”

   เสียงทุ้มนุ่มจากคนข้างกาย ผมหันไปมองสลับมองจานตัวเอง อุตะ มัวแต่มองคู่อื่นเพลินตัวเองก็ไม่ต่างเลยนี่หว่า พอพี่เฟย์จิ้มกุ้งชุบแป้งทอดมาให้ อ้าปากกินด้วยความเคยชิน ผมชักเขิน

   ถึงจะเป็นตอนเช้าลูกค้าในร้านไม่เยอะ แต่โต๊ะที่มีส่วนใหญ่หันมามองที่โต๊ะเรา ผมแทบเอาหน้ามุดใส่จาน มีผู้หญิงหลายคนมองด้วยความเสียดาย แน่ล่ะ หนุ่มหล่อยกโต๊ะ พี่เฟย์หล่อแบบเพอร์เฟคแมน ผู้ชายอบอุ่นใจดี ยิ้มทีหัวใจพองฟู พี่กบแม้ตัวใหญ่หน้าดุหักล้างกับการดูแลเอาใจใส่โฟม กลายเป็นผู้ชายน่าพึ่งพาไปโดยปริยาย พี่อิงค์หล่อแบบกวนๆ พูดภาษาอังกฤษกับพี่บอริสคล่องปรื๋อ พี่ฝนถึงจะเงียบกว่าคนอื่น แต่ดวงตาหวานเชื่อมยามมองคนรักตัวเอง ทำให้สาวหลายคนอิจฉาตาร้อน

   อ่า แก๊งค์อาเฮียเลือกคบกันที่หน้าตารึเปล่า แต่ละคนคัดมาอย่างดี ที่สำคัญชอบผู้ชายยกกลุ่ม โอเค ผมเข้าใจคุณผู้หญิงทุกคนคงเจ็บปวดกันน่าดู แต่สำหรับสาววาย หนุ่มวาย ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

   หลังจากมื้ออาหารผ่านไป พี่อิงค์พาพี่บอริสไปสปา เห็นว่าเจ้าตัวติดใจหลังจากลองนวดน้ำมันไปเมื่อวาน พี่ฝนกับพี่น้ำไปเดินเล่นรอบๆ ผมกับโฟมกลับห้องมานั่งเล่นเกมพักท้อง พี่เฟย์กับพี่กบเลยต้องตามกลับมาด้วย วันนี้ยังไม่มีกำหนดการไปไหนเป็นพิเศษ เพิ่งมาถึงกัน กว่าจะเที่ยวคงช่วงบ่าย

   บังกะโลที่พี่ฝนของไว้สองหลัง เป็นแบบหลังละสองห้องนอน มีสวนเล็กรอบล้อม หน้าบังกะโลมีโต๊ะนั่งรวม เหมาะสำหรับกลุ่มที่มาเที่ยวแบบหมู่คณะอย่างพวกผม หลังแรกเป็นของผม โฟม พี่เฟย์ พี่กบ ส่วนหลังที่สองเป็นของพี่อิงค์ พี่บอริส พี่ฝนและพี่น้ำ

   พอช่วงบ่าย พากันออกไปหาของกินข้างนอก ขับรถตามกันไป เที่ยวสถานที่ขึ้นชื่อเมืองกาญจน์ อย่างสะพานข้ามแม่น้ำแคว วัดถ้ำเสือ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ และที่อื่นๆ ทั้งที่คนต่างชาติอย่างพี่บอริสจะถ่ายรูปรัวๆ กลับเป็นพี่อิงค์ครองตำแหน่งช่างกล้อง ถ่ายภาพทุกคนแทบทุกอริยาบท พอกลับถึงบังกะโลเสียบกับทีวีเปิดดูกัน ภาพไหนของใครก็บอกให้พี่อิงค์ส่งให้ตอนหลัง แต่ละภาพไม่ค่อยบอกความลำเอียง จากทั้งหมดรูปพี่บอริสครองไปเกินครึ่ง

   วันต่อมาเป็นแม่น้ำ ส่วนพรุ่งนี้ไปน้ำตก งานนี้พวกพี่ๆ เที่ยวกันแบบจัดเต็มจริงๆ

   โฟมเกาะกระจกมองภาพคนเล่นน้ำ ตรงจุดที่สามารถเล่นได้ เจ้าตัวหันไปบอกให้พี่กบ ผู้รับหน้าที่ขับรถในครั้งนี้จอดรถเพื่อจะไปเล่นน้ำ พี่กบส่ายหัวบอกว่า

   “เราจะไปที่สนุกกว่านั้นอีก”

   “ที่ไหน” โฟมถามอย่างสนใจ ส่วนผมหูผึ่งฟัง

   “ล่องแก่งไง อยากเล่นไม่ใช่เหรอ”

   ได้ยินคำว่าล่องแก่ง ผมกับโฟมตาโต แทบอยากจะเหาะไปให้ถึงไวๆ ประสบการณ์ที่หาได้ยากเลยนะ ผมไม่เคยเล่นล่องแก่งมาก่อนเลย ตอนเด็กเคยมาเล่นน้ำก็จริง แต่เพราะยังเล็กเกินไป พวกผู้ใหญ่เลยให้เล่นแต่แถวด้านล่างที่น้ำนิ่งแทน

   “ไม่ค่อยเลยนะพวกนาย”

   พี่เฟย์ส่ายหัวกับอาการของพวกผม กระทั่งถึงที่หมาย ก่อนมาพวกเราทุกคนใส่เสื้อพร้อมลุย กางเกงขาสามส่วนกับเสื้อยืดสีเข้ม หนีบรองเท้าแตะคนละคู่ ขนาดใส่เสื้อผ้าแสนธรรมดาแบบนี้ยังดูดี พวกพี่มีความหล่อแบบไม่น่าให้อภัยจริงๆ

   ตลอดทางที่ผมเดินผ่าน คนมองแต่กลุ่มพวกเรา ผมพยายามชมนกชมไม้ไปเรื่อยเปื่อย จุดที่พวกเราจะเล่นล่องแก่ง มีอุปกรณ์กับเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ ช่วงนี้เป็นช่วงหยุดยาว นักท่องเที่ยวเลยเยอะ โชคดีหน่อย มีบางกลุ่มต้องทำเวลาเลยกลับก่อนทั้งที่ยังไม่ได้เล่น กลุ่มผมเลยรอไม่นานเท่าไหร่ ซึ่งอุปกรณ์ในการเล่นมีดังนี้

   แพยาง เสื้อชูชีพ ไม้พาย หมวกนิรภัย ถุงเชือกช่วยชีวิต และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งระดับล่องแก่งที่เราเล่นกันเป็นแบบระดับสอง แบบธรรมดา

   ทุกคนสวมเสื้อชูชีพใส่หมวก พวกพี่เฟย์ใส่คล่องแคล่ว ก่อนบรรดาเมะจะหันมาเช็คปรับเสื้อชูชีพกับหมวกให้เหล่าเคะเหมือนนัดกันมา ให้ตายพวกพี่จะเซอร์วิสกันไปไหน

   มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินมาถามพวกเรา

   “จะให้เจ้าหน้าที่ไปด้วยมั้ยครับ”

   ผมเข้าใจที่เขามาถาม การเล่นล่องแก่งบางคนไม่มีประสบการณ์เลย ก็อยากได้เจ้าหน้าที่ไปช่วยให้อุ่นใจ ส่วนตัวผมคิดว่าพวกเราคงไม่ต้อง

   “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก”

   พี่ฝนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เจ้าหน้าที่จึงแนะนำพวกเราอีกนิดหน่อย เห็นว่ามีประสบการณ์แล้วจึงหันไปดูแลกลุ่มอื่นต่อ

   “เจ้าหน้าที่จะเก่งไปกว่าเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้อย่างพี่กบได้ไง” โฟมพูดขึ้นหลังเช็คชุดเรียบร้อย

   “เดี๋ยวเถอะโฟม พวกเขาต้องเก่งกว่าพี่สิ พี่ดูป่า เขาดูคนเล่นล่องแก่งโดยเฉพาะ แค่ประสบการณ์ก็ต่างกันแล้ว”

   พี่กบเขกหัวโฟมเบาๆ ผมมองตาปริบๆ โอ้ พี่กบเป็นเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เหรอเนี่ย ว่าแต่ ในป่ามีให้เล่นล่องแก่งด้วยเหรอ...

   “คิดอะไรแปลกๆ อยู่ล่ะสิเจ้าลูกแมว ที่ไม่เอาเจ้าหน้าที่ เป็นเพราะพวกพี่มีประสบการณ์อยู่บ้าง แถมระดับสองไม่ได้ยากอะไร ไม่จำเป็นต้องถึงมือเจ้าหน้าที่เขาหรอก”

   พี่เฟย์อธิบายให้ผมรวมถึงโฟมฟัง คนอายุน้อยที่สุดในกลุ่มแลบลิ้นทะเล้นไม่สำนึก ก่อนโดนลากไปนั่งบนแพยางแจกไม้พายคนละอัน ผมกับโฟมตัวเล็กสุดถูกจับให้อยู่แถวกลางๆ มีพวกพี่คอยประกบ พอปล่อยแพไหลไปตามน้ำ ความสนุกมาเยือนทันที

   ตำแหน่งสำคัญอย่างด้านหลังสุดมีพี่กบคอยคุม พี่บอริสเห็นเหมือนจะตัวบางแต่แรงเยอะน่าดู เวลาหลบหินหรือคลื่น จะมีน้ำกระเซ็นขึ้นมา พอเป็นทางลงเสียวท้องวูบ ผมหัวเราะฮาชอบใจ เจ้าโฟมคึกคักมาก ขนาดเล่นจนสุดสายแล้วบอกจะขึ้นไปเล่นอีก

   เล่นเสร็จ คิดว่านั่งกินแรงเฉยๆ แทบไม่ได้พายคงไม่เหนื่อย แต่เอาเข้าจริงใช้แรงกันไม่น้อย พี่อิงค์บ่นอุบอิบระหว่างเดินกลับรถ

   “สมัยเรียนให้เล่นสามรอบติด ระดับโหดกว่านี้ยังไหว เดี๋ยวนี้แค่ระดับสองรอบเดียว รู้สึกล้านิดๆ สงสัยพวกเราคงแก่แล้วจริงๆ”

   “ทำไงได้ พวกนายไม่ได้ไปลุยเหมือนฉัน ถ้าออกกำลังกายสม่ำเสมอ เดี๋ยวก็กลับมาฟิตตามเดิมนั่นแหละ” พี่กบตอบ พี่บอริสสงสัยว่าพวกเขาคุยอะไรกัน เลยสะกิดพี่อิงค์ เจ้าตัวร้องอ้อ เล่าเป็นภาษาอังกฤษ ดวงตาสีอ่อนมองคล้ายดูถูก

   “I’m 32 years, don’t grumble. (ฉันอายุ 32 ยังไม่เท่าไหร่ อย่าสำออย)”

   ห๊ะ! ผมฟังคำอื่นไม่ออกก็จริง แต่คำง่ายๆ อย่างบอกอายุหนิชัดเจนมาก พระเจ้า 32 ผมคิดว่าอายุพอๆ กับพวกพี่เฟย์ซะอีก ขนาดพวกพี่ชายยังอึ้ง ความหน้าเด็กไม่ได้มีแค่ในเมืองไทยสินะ ฮ่าๆ

   ถึงรถแต่ละคนเตรียมผ้าขนหนูของตัวเองมา เช็ดตัวพอเป็นพิธีแล้วกลับไปอาบน้ำที่บังกะโล เห็นว่ามื้อดึกมีสารพัดของย่างที่หน้าบังกะโลนี่แหละ ให้ทางรีสอร์ทเตรียมของไว้

   บนโต๊ะไม้มีจานเป็นชุดจัดไว้พร้อม หน้าเตาพี่เฟย์กับพี่อิงค์รับหน้าที่เป็นคนย่าง ส่วนคนอื่นนั่งรออย่างสงบ ส่งสเปรย์ฉีดกันยุงเวียนกันครบทุกคน เพราะบังกะโลอยู่ริมน้ำยุงเยอะ แถมยังเป็นยุงป่า มีจุดยากันยุงไว้บนพื้นสองอันเพื่อความชัวร์

   ข้าวสวยร้อนๆ ในโถถูกตักแจกจ่ายให้ทุกคน มีหม้อต้มยำเสริม กับข้าวอีกสองสามอย่าง กุ้งแม่น้ำตัวโตหัวมันน่ากิน หมึกสดตัวขาว หอย ปูเนื้อ วางเต็มโต๊ะ จิ้มกับน้ำจิ้มสามรส รสแซ่บ ทีแรกคิดว่าเยอะขนาดนี้น่าจะกินกันไม่หมด ที่ไหนได้ จากความเหนื่อยทำให้หิว เพียงไม่ถึงยี่สิบนาทีอาหารชุดแรกบนโต๊ะหมดเกลี้ยง เปลือกกุ้ง ซากหอยปูเต็มถังขยะขนาดพกพา

    ถึงเวลาของเครื่องดื่มยามค่ำคืน พี่เฟย์งัดผลไม้หมักของตัวเองออกมา ผมเห็นแขยงทันที ให้ตายยังไงไม่กินเด็ดขาด พี่ฝนยกบลู เลเบิ้ลมาสองขวด พี่อิงค์แยกเขี้ยวใส่

   “อะไรวะ เป็นเจ้าของบาร์ซะเปล่า เอาบลูมาแค่สองขวด”

   “สองขวดก็เยอะแล้วเฟ้ย คิดว่าพรุ่งนี้จะไม่ไปเที่ยวน้ำตกหรือไง” พี่ฝนเถียงกลับ แทบจับขวดฟาดหัวเพื่อน

   วงอาหารเปลี่ยนเป็นวงเหล้า เตาย่างกับข้าวกลายร่างเป็นเตาย่างกับแกล้ม ประเด็นคือ วงเหล้าวงนี้ดันกินของแพง ผมอ่านเจอในนิยายวายบ่อยๆ เห็นว่าเจ้าบลูเนี่ยราคาไม่ใช่เล่น

   พวกผู้ใหญ่มีแก้วเหล้าคนละแก้ว โฟมยื่นมือไปจะจิ๊กเหล้าพี่กบกิน โดนตีมือยัดแก้วโค้กใส่แทน

   “เด็กกินน้ำโค้กไป ดูอย่างปอนด์ อายุเยอะกว่ายังไม่แตะเหล้าเลย”

   ผมยิ้มแห้ง แบบว่า ไม่กล้าพูดเลยอะ ผมคออ่อนระยะสุดท้าย แถมประสบการณ์การเมาล่าสุดไม่ค่อยโสภาเท่าไหร่นัก แม้จะได้แฟนหนุ่มสุดเพอร์เฟคมาหนึ่งคนก็ตาม พรุ่งนี้ผมยังอยากเล่นน้ำตกนะ ยังไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว มือจับแก้วกระดกน้ำดำแทะกุ้งที่พี่เฟย์แกะให้อย่างสงบ

   สุดท้ายผมเห็นโฟมแอบกินอยู่ดี ก่อนมาชวนผมที่นั่งอืดพุงกลมเพราะกินเกินจำกัดไปเดินเล่น

   “ปอนด์ ไปเดินเล่นกัน”

   ผมแหงนคอมอง สลับมองพวกพี่ชายกำลังคุยกันออกรสออกชาติ ดีเหมือนกัน ไปเดินย่อยดีกว่า

   “เอาสิ พี่เฟย์ ผมไปเดินเล่นกับโฟมนะ”

   พี่ชายหยักหน้าให้ กำชับนิดหน่อย

   “ห้ามลงน้ำ ห้ามไปเดินใกล้น้ำ อยู่แถวที่มีแสงสว่างกับคนเยอะๆ เข้าไว้ อย่าไปไกลล่ะ”

   ผมหัวเราะกับความขี้เป็นห่วงของพี่ชาย รับคำเสร็จเดินย่อยไปกับโฟม

   “คิดไงถึงชวนมาเดินเล่น” ผมถามอย่างสงสัย

   “ไม่มีอะไรพิเศษหรอก แค่อยากมาเดินเล่นด้วยกันเฉยๆ ปอนด์เป็นถึงพี่สะใภ้นี่”

   เจอประโยคนี้เข้าไปผมหน้าแดงฉ่า แบบไม่ต้องมีแอลกอฮอล์มาช่วย พูดเสียงติดๆ ขัดๆ เขินเว้ย

   “ยะ อย่าพูดแบบนั้นสิ” ทำไมผมรู้สึกเหมือนโฟมยิ้มไม่น่าไว้ใจยังไงชอบกล เราสองคนเดินไปตามทาง มีโคมไฟให้ความสว่างอยู่เป็นระยะ ผ่านบังกะโลหลายหลัง บางหลังมีคนนั่งกินอาหารด้านนอกแบบเรา บางหลังปิดไฟเงียบเข้านอนกันไปเรียบร้อย

   “โฟม เรากลับกันดีกว่า อย่าเดินไปไกลกว่านี้เลย”

   แม้บังกะโลของเราจะไม่ได้อยู่สุดของเขตรีสอร์ท แต่ระยะห่างที่เราเดินมาเริ่มไกลเกินไป มันอยู่ก่ำกึ่งระหว่างบังกะโลกับอาคารหลักของรีสอร์ท ผมยอมรับว่าแอบหวั่นพวกสิ่งลี้ลับ นั่นไม่ใช่เหตุผลส่วนใหญ่ที่ผมอยากลากโฟมกลับ ตรงหน้ามีกลุ่มชายหญิงกลุ่มหนึ่งกำลังดื่มเหล้าเมาเต็มที่

   คนดื่มเหล้าเมาไม่แปลก บังกะโลหลายหลังที่ผมเดินผ่านมามีคนดื่มเหมือนกัน บางหลังเฮฮาพูดคุยกันสนุกสนานดูมีความสุขกับวันพักผ่อน แต่หลังนี้มันไม่ใช่ สนุกปนความคะนอง คนที่ดูมีอายุควรห้ามกลับส่งเสียงหัวเราะสนับสนุน ผมรู้สึกไม่ดีสุดๆ ดึงแขนให้โฟมกลับ

   “กลัวอะไรปอนด์ แค่พวกคนเมาเอง เหมือนกับที่เราเดินผ่านมานั่นแหละ ไปต่อกันเถอะ ตรงนู้นมีน้ำพุด้วย”

   “ถ้าอยากดูไว้มาดูพรุ่งนี้ หรือไม่พาพวกพี่มาเป็นเพื่อนสักคน กลับได้แล้วโฟม” เสียงผมเริ่มเข้ม ดึงตัวโฟมไว้ ตีให้ตายยังไงผมก็อายุมากกว่าโฟม เพื่อความปลอดภัยของคนอายุน้อยกว่า น้องแฟน หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมต้องลากตัวโฟมกลับให้ได้

   “อย่าปอดแหกดิปอนด์ คิดมาก”

   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-11-2015 21:48:53 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
   เด็กวัยรุ่น ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ผมกับโฟมตัวพอๆ กัน เรื่องแรงไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่ โฟมดื้อเดินหน้าต่อไม่สนผมเลยสักนิด ยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งรู้สึกไม่ดีสุดๆ ลางสังหรณ์บางอย่างมันร้องเตือน

   ถ้าผมตัวใหญ่แรงเยอะ จะแบกโฟมขึ้นบ่าแล้ววิ่งกลับแม่ง บอกตามตรง ไม่ใช่ว่าผมปอดแหกหรอกนะ เค้าเรียกการระวังตัวและไม่ประมาท โฟมเป็นน้องชายคนที่ผมรัก และเป็นเหมือนน้องชายของผมอีกคนปล่อยให้เป็นอันตรายไม่ได้เหมือนกัน โฟมดันไม่ให้ความร่วมมือไง เจ้าเด็กดื้อโฟมเอ๊ย! ดื้อแบบที่พี่เฟย์บ่นจริงๆ ด้วย

   “กลับได้แล้ว! คนพวกนั้นไม่น่าไว้ใจ ไม่รู้กินยาด้วยรึเปล่า ถ้ายังดื้ออีกจะทิ้งไว้ที่นี่แล้วนะ”

   ผมขึ้นเสียงอย่างมีอารมณ์ คนใจเย็นก็มีขีดจำกัด นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเสียงดังใส่โฟม เจ้าตัวมองผมอย่างแปลกใจ เดินเข้ามากอดคอ

   “อย่าเพิ่งโกรธสิ แค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง ปะ กลับก็กลับ”

   “เล่นอะไรบ้าๆ” ผมถอนหายใจ เอาเถอะ ผมคงคิดมากไปเอง โฟมแค่แหย่เล่น

   “ก็ว่า ใครมาทะเลาะกันตอนกูกำลังเยี่ยว” เสียงดังมาจากหลังพุ่มไม้ดังพอที่จะดึงความสนใจพวกที่อยู่ในวงเหล้า

   “โทษทีพี่ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

   ไม่ทันจะหันหลังเดินหนี มีมือข้างหนึ่งคว้าไหล่ผมไว้ อือหือ กลิ่นเหล้าหึ่งเลยสลัด งานเข้าแล้วมั้ยล่ะ ไอ้พวกนี้มันแดกจนเมาเป็นหมาไม่มีสติแล้ว คนที่น่ากลัวรองจากคนบ้า ก็คือคนเมานี่แหละ! เพราะคนพวกนี้จะไม่มีสติยั้งคิด ไร้มโนสำนึกใดๆ ทั้งสิ้น

   “ไหนๆ มาแล้ว ดื่มด้วยกันก่อนดิ”

   ผมจับมืออีกฝ่ายออก แล้วส่ายหัวปฏิเสธ

   “ไม่ล่ะ พวกเราต้องรีบกลับ เชิญพวกพี่ตามสบาย”

   เรียกพี่ช่างกระดากปาก พวกที่มาล้อมผมมองสามคนเนี่ย มีคนหนึ่งอายุมากกว่า ส่วนอีกสอง ไม่ห่างจากผมสักเท่าไหร่ เอาวะ เรียกไปส่งๆ จะได้พ้นๆ

   “อะไรวะ ไม่กล้าแดกเหล้า ตัวบางเล็กๆ บางๆ อ่อ พวกมึงเป็นแต๋วสินะ กูจำได้ๆ มากับไอ้พวกสูงๆ นี่หว่า คงเป็นเด็กไอ้พวกนั้นอะดิ”

   โว๊ะ ถ้าผมไม่มัวมายืนทะเลาะตรงนี้กับโฟมนานสองนานจนพวกมันเริ่มสนใจ เรื่องมันคงจบไปแล้ว โฟมนะโฟม จำไว้เลย ผมกำลังจะอ้าปากพูดขอตัวเตรียมชิ่ง ปากโฟมดันไวกว่า

   “แต๋วบ้านพ่อง เมาอย่างกับหมา ไสหัวกลับรูไปเลยไป๊ อย่ามายุ่งกับพวกกู กาก!”

   เชี่ยยยยย ผมลืมว่าโฟมมันก็แอบดื่มมาเหมือนกัน คงกำลังกรึ่มๆ ท่าทางของพวกมันเปลี่ยนไปทันที ผมคว้าแขนโฟมแน่น มองหาช่องเผ่นสุดชีวิต งานงอกของจริง พวกที่โต๊ะเริ่มลุก

   “เด็กเวร พวกกูชวนดีๆ มาทำปากดีใส่”

   “ใจเย็นพี่ ผมขอโทษแทนน้องมันด้วย มันเมาเหมือนกัน”

   “ไหนบอกพวกมึงไม่แดกเหล้าไงวะ เมามางี้หมายความว่าไง แล้วก็อย่าคิดนะว่ากูไม่ได้ยินเรื่องที่มึงคุยกัน กลัวพวกเรามากงั้นดิ แดกเหล้าแล้วหนักหัวใครวะ หาว่าพวกกูเสพยาอีกสัส!!”

   ไปกันใหญ่ มีพี่ผู้หญิงสองคนมาดึงแขนคนที่เจอพวกเราตอนแรกไว้

   “ใจเย็นก่อน เด็กมันคงไม่ตั้งใจ”

   “จริงด้วยพี่ ผมขอโทษที่พูดไม่ดี แค่เข้าใจผิดกัน ปล่อยพวกผมไปเถอะ” ผมรีบเสริม มันตาแดงก่ำโคตรน่ากลัว

   “จัดมันเลย สอนให้เด็กมันรู้สึกบ้าง” เวร พวกขี้เมายุอีก

   “ปอนด์จะไปขอโทษมันไมวะ! มาดิ กูไม่กลัวหรอก เก่งแต่ปาก ดีแต่เห่า” ไอ้นี่ก็ฟิวขาด โอ๊ย ปวดหัว!

   แสงกระทบบางอย่างส่องเข้าตา เฮ้ย! มีดพก ผมผลักโฟมไปด้านหลัง มันตวัดมีดลงมา ผมยกแขนกันตามสัญชาตญาณแล้วคว้ามือโฟมวิ่งแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม เพราะมันกระทันหัน พวกนั้นเลยไม่ทันคว้าตัวเราไว้ ผมไม่สนเสียงโวยวายจากโฟม รีบเผ่นสุดชีวิต มีบางกลุ่มมองพวกเราที่วิ่งอย่างกับหนีผีอย่างสงสัย

   บ้าบอที่สุด พวกขี้เมาที่เราไปเจอดันอยู่บังกะโลแยก ตอนเกิดเรื่องเลยไม่มีใครเห็นเลยสักคน ไม่งั้นคงไม่ต้องกลัวพวกมันรุมตื้บแล้ว

   ผมคอยหันมองไปด้านหลังเป็นระยะ ใกล้ถึงบังกะโลของตัวเองพอดี ถึงได้ชะลอฝีเท้าหายใจเป็นหมาหอบแดด ยกแขนปาดเหงื่อ ใจเต้นรัวเหมือนจะทะลุออกมาจากอก เกิดมาไม่เคยเจอเหตุการณ์เลย

   “สร่างรึยังล่ะ หาเรื่อง! ถ้าเกิดโดนรุมตื้บไปใครจะมาช่วยฮะ! วันหลังอย่าดื้อ หันฟังคนอื่นเค้าบ้าง ถ้ามากันเป็นกลุ่ม หรือมีแรงเยอะเหมือนเดอะ ฮัค อยากเข้าไปซัดกับเขาจะไม่ว่าเลย นี่อะไร มากันแค่สองคนตัวเท่าเมี่ยงทั้งคู่ จะเอาอะไรไปสู้มันได้วะ”

   ผมโมโห ว่าโฟมเป็นชุด ไอ้คนก่อเรื่องดูไม่สำนึก ยกมือเกาแก้ม

   “โทษที ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ โดนว่างั้นมันเลยฉุน”

   อย่างที่เคยบอก ผมเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว สูดลมหายใจลึกๆ ปรับความอารมณ์ตัวเองสักแปบค่อยดีขึ้น ถอนหายใจเฮือกใหญ่

   “ช่างเหอะ วันหลังอย่าก่อเรื่องงี้อีก กลับได้แล้ว”

   โฟมยิ้มขยับเข้ามากระแซะใกล้ผม

   “สารภาพความจริง เห็นพี่ตัวเล็ก ดูท่าทางไม่ได้เรื่อง แถมชอบมางอแงให้ฟังบ่อยๆ เลยกะจะแกล้งกับทดสอบคนที่จะมาเป็นแฟนพี่ชายดูนิดหน่อย เมื่อกี้พี่โคตรเท่ห์อะ ปกป้องผมด้วย”

   ครั้งแรกที่โฟมเรียกผมว่าพี่ ปกติเรียกแต่ชื่อห้วนๆ ผมควรดีใจมั้ยที่มันยอมรับ ถึงจะหายโกรธแต่ยังเคืองๆ อยู่บ้าง
   
   “จะไม่ให้ปกป้องได้ไง พี่เฟย์รักโฟมมากนะ ฉันเองก็เห็นโฟมเป็นน้องชายอีกคน ต้องปกป้องอยู่แล้ว”

   ผมตอบเสียงเนือย สารภาพว่าก่อนหน้านี้ลูกบ้าล้วนๆ ไม่มีสิ่งอื่นมาเจือปน ร่างกายมันไปเอง โฟมมองผมอึ้งๆ ดูท่าคงเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับผมใหม่หมด

   “พอเข้าใจแล้วล่ะ ว่าทำไมเฮียถึงรักพี่”

   “เหอะ! มาพูดยอตอนนี้ไม่มีอารมณ์เขินหรอกเฟ้ย นี่ยังตื่นเต้นไม่หาย ครั้งแรกในชีวิตที่เคยเจอเหตุการณ์งี้”

   “เอาน่าประสบการณ์” โฟมตบบ่า ผมหันไปถลึงตาใส่ เราเดินกลับมาที่โต๊ะ พี่เฟย์กับพี่กบกำลังเดินมาพอดี

   “ไปไหนมานานจริง พี่กำลังจะไปตามพอดี” พี่เฟย์ยิ้ม ก่อนรอยยิ้มนั้นจะหายไปเป็นสายตาน่ากลัว ผมสะดุ้งโหยง ไม่เคยเห็นพี่ชายทำสีหน้าน่ากลัวเท่านี้มาก่อน วันนี้จะได้ประสบการณ์เยอะไปแล้วมั้ง

   แขนขวาถูกยกขึ้นดู ได้ยินพี่เฟย์สุดลมหายใจเฮือกใหญ่ หันไปสั่งเพื่อนตัวเอง

   “กบไปเอากล่อมปฐมพยาบาลมา” ผมเพิ่งจะเห็นตอนพี่เฟย์ยกแขนนี่แหละ อือหือ เลือดแดงเป็นทางยาวถึงศอก คงเป็นมีดพกนั่นสินะ มิน่าล่ะแสบๆ คันๆ มาตลอดทาง ยกมือตบคิดว่ายุง พอแบมืออีกข้างเลือดแดงฉาน มือหนาคว้ามือซ้ายผมไปดูทันที พอเห็นว่าแค่เปื้อนเลือดเฉยๆ แถมที่ตัวผมกับโฟมไม่มีบาดแผลตรงไหนเพิ่มเติม ค่อยคลายความกดดันลงบ้าง

   ทุกคนดูจะสร่างแอลกอฮอล์กันหมด ไม่มีใครแตะแก้วอีก เอาแต่มองมาทางพวกเรา โฟมตัวต้นเหตุ พี่ๆ ยังไม่รู้ แต่เจ้าตัวรู้ดีที่สุด ผมเห็นแววตาของโฟมฉายความรู้สึกผิดออกมา ริมฝีปากบางนั่นเม้มแน่นจนน่ากลัวว่าจะได้เลือด ผมยกมือไปป้ายปากยิ้มให้ เป็นเชิงบอกว่าอย่ากังวล แค่แผลเล็กน้อย เจ็บกว่านี้ผมยังเคยมาแล้วเลย จากความซุ่มซ่ามของตัวเองนี่แหละ

   “โชคดีที่แผลไม่ลึก ปอนด์ไปอาบน้ำ อย่าให้แผลโดนน้ำล่ะ คิดอีกทีพี่อาบให้ดีกว่า โฟมไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย เรามีเรื่องต้องคุยกัน”

   โฟมก้มหน้านิ่ง ผมเป็นห่วงโฟมจริงๆ แต่ถูกพี่เฟย์ลากเข้าห้องพักที่มีห้องอาบน้ำในตัว คิดว่าคนอื่นๆ คงยังนั่งรอฟังข่าวอยู่ด้านนอก

   พอเข้าห้องเหลือกันแค่สองคน พี่ชายคว้าผมมากอดแน่น มือหนายกแขนดูแผลผมเบาๆ ราวกับว่าหากใช้แรงมากกว่านี้อีกนิด แขนผมจะเป็นแผลลึกกว่าเก่า

   “พี่ผม...”

   “ไม่ต้องพูด พี่อยากฟังจากปากของโฟมเอง เจ้าเด็กแสบนั่นคงก่อเรื่องอีกล่ะสิท่า” โคตรแม่น ถูกเผงเลย ผมพอจะจับอารมณ์พี่ชายได้มาก ในเมื่อไม่อยากให้พูดแก้ต่างให้โฟม ผมก็จะไม่พูด ท่าทางแบบนี้ของพี่เฟย์ ยิ่งผมช่วยพูด โฟมจะโดนหนักกว่าเก่า

   “พี่ไม่น่าปล่อยให้ไปเดินเล่นเลย คลาดสายตานิดเดียวเกิดเรื่องจนได้ ทั้งที่พี่ดูแลของพี่มาอย่างดีแท้ๆ”

   จริงอย่างที่พี่เฟย์บอก พี่ดูแลผมอย่างดี ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม แผลเท่าแมวข่วนยังไม่มี เว้นแต่ผมจะหาเรื่องเอง อันนั้นมันนอกเหนือการควบคุม ซึ่งทุกครั้งจะถูกพี่ชายบ่นระหว่างทำแผลให้อยู่เรื่อย ผมยกแขนกอดพี่เฟย์กลับ

   “ไม่เป็นไรพี่ แผลตื้นๆ ไม่นานก็หาย ถือว่าฟาดเคราะห์ไป”

   “ฟาดเคราะห์ก็ไม่ได้ ถึงกับมีรอยโดนของมีคมมา พี่... มาเดี๋ยวพี่ช่วยอาบน้ำให้ เราจะได้กินยานอน”

   ผมกำลังเห็นแววตาเต็มปวดของผู้ชายตัวโต คำพูดที่ถูกหยุดไปกระทันหัน เราต่างรู้ว่ามันหมายถึงอะไร คนที่พี่ชายรักถึงสองคนตกอยู่ในอันตรายโดยที่พี่ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย ถ้าเกิดมันไม่จบที่บาดแผลเล็กๆ ถ้ามันหนักกว่านี้จนต้องเข้าโรงพยาบาล ที่สำคัญ พี่ชายเป็นคนอนุญาตให้พวกเราไปเอง ถึงเวลานั้น พี่เฟย์คงไม่ยอมให้อภัยตัวเองแน่ เฮ้อ ยิ่งคิดยิ่งเครียด จากเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ซะเปล่า

   ผมยื้อตัวไว้ไม่ยอมเดินตามพี่เฟย์เขาห้องน้ำ ก่อนจะดึงอีกฝ่ายให้ก้มลงมา พี่ชายยอมทำตาม คงเพราะคิดว่าผมจะบอกอะไร เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด ผมจูบที่หน้าผากพี่เฟย์ เหมือนเวลาที่พี่ชอบทำเพื่อปลอบผม มือเล็กของผมกำมือใหญ่ที่คอยปกป้องผมมาตลอด คงถึงคราวที่ผมจะช่วยพี่บ้าง

   “พี่เป็นคนบอกให้ผมอย่ามองโลกในแง่ร้ายเองไม่ใช่เหรอ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ผมกับโฟมยังปลอดภัยอยู่กับพี่ อย่าเครียดไปเลย... นะ”

   ลงท้ายประโยคด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ พี่เฟย์ถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ คว้าผมไปกอดแน่นก่อนคลายออก

   “ผมอาบน้ำเองได้ พี่ไปดูโฟมเถอะ ป่านนี้ใจเสียแย่แล้วมั้ง”

   “แน่ใจนะว่าโอเค” ดวงตาอบอุ่นมองด้วยความเป็นห่วง ผมยกมือโชว์ให้ดู

   “แผลเท่าแมวข่วนสบายมาก”

   “งั้น เดี๋ยวพี่เอายามาให้”

   “คร้าบๆ” ผมรับคำดันหลังพี่ชายออกไปจากห้อง เห็นโฟมอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั่งอยู่บนโซฟาซบหน้ากับอกของพี่กบ ผมพยักหน้าให้ยิ้มๆ หายกลับไปอาบน้ำ

   หลังประตูห้องปิดลง เฟย์มองกบ คนถูกมองตบบ่าเด็กในความดูแลแล้วออกจากบ้านไปนั่งเล่นกับพวกข้างนอกแทน ปล่อยให้พี่น้องคุยกันเอง

   “เล่ามาให้หมด...”

   น้ำเสียงคนเป็นพี่ชายช่างห้วนน่ากลัวสิ้นดี โฟมรู้ดีว่าตอนนี้พี่ชายกำลังโกรธมาก รวมกับความรู้สึกผิด โฟมไม่คิดเล่าเรื่องโกหกแน่ เขาไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้น

   เหตุการณ์ทุกอย่างถูกเราให้พี่ชายฟังโดยละเอียด รวมถึงเรื่องการแกล้งเล็กๆ น้อยๆ ที่ตัวเองคิดไว้ตอนแรกด้วย เฟย์ฟังอย่างสงบ ไม่แทรกแม้แต่คำเดียว กระทั่งโฟมเล่าจบ

   “คิดยังไงถึงทำแบบนั้น รู้มั้ยว่ามันอันตรายแค่ไหน แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นมาพี่จะบอกแม่ยังไง?” โฟมเม้มปากแน่น นั่งมองหน้าพี่ด้วยรู้ดีกว่า หากยิ่งก้มหน้าตัวเองจะโดนหนักกว่าเก่า อีกอย่าง กล้าทำต้องกล้ารับ นั่นคือสิ่งที่พี่ชายเคยสอนมาตั้งแต่เด็ก

   “พี่เป็นห่วงแค่ไหนรู้มั้ย!? ห้ามกินเหล้าอีกเด็ดขาด!! นี่เป็นคำสั่ง พี่จะตัดเงินค่าขนมเราสามเดือนเป็นการลงโทษ ไม่สิ สี่เดือนโทษฐานพาปอนด์ไปที่แบบนั้น ห้ามก็ไม่ฟัง”

   “ครับ…” โฟมสะดุ้งตอนช่วงที่พี่ชายขึ้นเสียง ถึงอย่างนั้นยังไม่มีน้ำตาสักหยด เจ้าตัวเข้าใจดี ดันพาคนที่พี่รักไปเสี่ยงแบบนั้น จะถูกโกรธมากก็ไม่แปลก

   เฟย์จ้องมองน้องชายนิ่งๆ เห็นมือกำกางเกงแน่นชวนใจอ่อน คว้าโฟมเข้ามากอดพลางลูบหลัง

   “พี่เป็นห่วงเรามากนะ ดีแค่ไหนที่ไม่ได้แผลกลับมา อย่าลืมไปขอบคุณปอนด์ด้วยล่ะที่ช่วยปกป้องเราไว้ วันหลังอย่าทำแบบนี้อีกเด็ดขาด พี่ขอสั่งห้ามเลย”
   
   น้ำเสียงห่วงใยและความรักที่มอบให้คือความจริง คราวนี้โฟมร้องไห้ กอดพี่ชายแน่น ปากพร่ำพูดขอโทษไม่หยุด โดยมีอีกเสียงคอยปลอบอยู่ในอ้อมแขน ผมที่อาบน้ำเสร็จแล้วยืนพิงประตูด้วยรอยยิ้ม

   ระหว่างกำลังคิดอะไรเพลินๆ ประตูถูกเปิดออก ผมเกือบหงายหลัง ดันทิ้งน้ำหนักตัวจากการพิงเต็มที่ จนปะทะเข้ากับแผ่นอกกว้าง เงยหน้ามองเห็นพี่ชายยืนมองด้วยสายตาระอา มือถือยากับแก้วน้ำมาให้

   “เด็กไม่ดี แอบฟังคนอื่นได้ยังไง”

   ผมตาโต ส่ายหัวขวับๆ

   “ป๊าว ใครแอบฟัง เพิ่งอาบน้ำเสร็จออกมาเนี่ย อ๊ะ กินยาๆ” ไม่ต้องบอก ผมหยิบยามาโยนใส่ปากตามด้วยน้ำ ส่งแก้วคืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เลยถูกขยี้หัวจนผมยุ่ง

   “ไม่เนียนเล้ย” ผมยิ้มแห้ง พี่เฟย์รับแก้วไปถือ จะเดินออกจากห้อง ผมดึงชายเสื้อพี่ไว้ก่อน

   “โฟมเป็นไงมั่งอะ”

   “ร้องไห้จนตาแดง กบพาเข้าไปนอนแล้ว มีเจ้ากบในดวงใจปลอบทั้งคืนเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ซ่าเหมือนเดิม เราเองเถอะ ไปนอนซะ อยากเล่นนักไม่ใช่เหรอ น้ำตกน่ะ”

   “แล้วพี่จะไปไหน ไม่นอนเหรอ หรือไปดื่มต่อ?”

   รอบนี้เป็นก้นแก้ววางปุบนหัว

   “ดูเวลาซะเจ้าตัวยุ่ง พี่จะไปช่วยพวกนั้นเก็บซากค่อยเข้ามาอาบน้ำนอน”

   ผมพยักหน้ารับ ปล่อยเสื้อพี่ชายให้ไปทำงานพ่อบ้าน ส่วนตัวเองคลานขึ้นเตียงนอน ผมเป็นแฟนที่ดีครับ ไม่รอพี่ชายกลับมา หัวถึงหมอนเฝ้าพระอินทร์ก่อนเลย ไปเจอกันที่ทางช้างเผือกนะพี่เฟย์ คร่อก

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :man1:  โอ๋เอ๋นะเด็กๆ

พี่เฟย์เท่ห์มากมาย
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พวกขี้เมาพวกนั้นถ้าบังเอิญมาป๊ะหน้ากันกับพวกพี่เฟย์

แล้วไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บกับน้องโฟมก็ดีไป

แต่ถ้าไม่จบเราก็อยากรู้ว่าพี่เฟย์จะทำไง

จากที่ดูอบอุ่นใจดีอ่อนโยนสำหรับน้องปอนด์จะเปลี่ยนไปไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
โล่งอก ที่ไม่เป็นอะไรทั้ง2 คนอะ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
เกือบไปแล้ว

ออฟไลน์ DKTime

  • ขอบเขตความรู้สึกยิ่งใหญ่ ความเสียใจอาจแฝงไว้ในความเฉยชา....
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-2
    • https://twitter.com/UKnowJJTime_DK
อยากเห็นพี่เฟย์มุมร้ายๆชะมัด

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
เกือบไปแล้วนะปอนด์ เก็บไว้เป็นบทเรียนนะโฟม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด