ผมกลับเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างตัว คุณชายนอนแช่น้ำเหมือนคิดอะไรเพ้อฝันอยู่ ดูจากสายตาที่มองมาทางผมก็พอสัมผัสได้
“รีบๆขึ้นมาสิครับ จะแช่ให้ตัวเปื่อยหรือไงกัน”ผมเรียกขณะที่ถูสบู่เหลวให้ทั่วตัว เรื่องอายเพราะแก้ผ้ามันจางหายไปนานแล้วเพราะความชินล่ะมั้ง มาขนาดนี้แล้วผมหมดยางอายไปนานแล้วล่ะครับ
“หึๆ ดีใจนะที่กี้อยากจัดงานแต่ง งั้นผมรีบไปหาคุณทวดเลยดีไหม ไปบอกข่าวดีไง”คุณชายกระตือรือร้นลุกพรวดพลาดจากอ่างแล้วเดินมาใกล้ๆผม ก่อนจะเข้ามากอดผมแน่นเชียว
“อะไรเนี่ย”ผมย่นหน้า เพราะมันจักกะจี้แปลกๆ
“ก็ดีใจไง ผมจะรีบไปบอกที่บ้านใหญ่ คุณเองก็โทรหาคุณแม่ด้วยนะ เอ๊ะ ไม่สิ ผมต่างหากต้องเป็นฝ่ายโทรไปหา”คุณชายทำเสียงตื่นเต้นเกินเหตุ ก่อนจะรีบเปิดผักบัวล้างตัวเสร็จเร็วกว่าผมอีก จากนั้นก็วิ่งจู๊ดออกจากห้องน้ำไปใส่เสื้อผ้า นี่ถ้าแก้ผ้าไปได้คงวิ่งออกไปตั้งนานแล้ว
ผมออกมาจากห้องน้ำ แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย กลิ่นแป้งน้องไก๋หอมฟุ้ง ผมมองน้องไก๋ที่นอนคว่ำหน้า เพราะพลิกตัวได้เองแล้ว กำลังส่งเสียงอืออออยู่กับตุ๊กตาหมีพูห์ พอเห็นผมก็พยายามพลิกตัวหมุนไปมาในเปล ทำปากหง่ำๆเหมือนคันเหงือกอีกแล้ว เบะหน้าเหมือนจะแผดเสียงร้องไห้ออกมาให้ได้ ผมเลยต้องหยิบยางกัดตัวเป็นห่วงกลมๆเหมือนดอกไม้ให้น้องไก๋มากัดเล่นแทน
ผมโทรศัพท์ไปหาแม่ รอสายไม่นานมาก
“โทรมาหาอย่างกับว่านัดกันไว้งั้นแหละ ไอ้ชายเพิ่งวางสายไปเมื่อกี้นี้เอง”แม่หัวเราะมา
“อ้าว จริงดิ งั้นก็รู้แล้วนะเรื่องงานแต่งน่ะ”ผมถาม รู้สึกขัดเขินขึ้นมานิดหน่อยเมื่อต้องพูดกับแม่แบบนี้
“เออสิ นี่นะทำเสียงตื่นเต้น อย่างกับว่าจะมาสู่ขอแกพรุ่งนี้เลยงั้นแหละ”
“ถ้าวันพรุ่งนี้จริงๆล่ะแม่”
“โอ้ย ก็ตามสบาย ถึงขั้นนี้แล้วจะต้องรออะไร มีลูกชายยังจะได้ลูกเขยมาอีก แหมะ ดีจริงๆ สินสอดคงอลังการงานสร้างน่าดู”
“ไม่ต้องเรียกเยอะหรอก อายเขา”
“ต้องเอาให้คุ้มสิไอ้กี้ แล้วจะจัดงานวันไหน ใครเป็นคนหาฤกษ์หรือว่าตามใจฉัน อยากจะแต่งวันไหนก็แต่งหรือไง”
“ยังไม่รู้เลย ผมยังไม่ได้คุยกับคุณชายเลยแม่ แค่บอกให้รับรู้เท่านั้นก่อนไง”
“อือๆ แล้วนี่แกจะช่วยไอ้ต้อยมางานไหม”
“โห ผมไม่ทันได้คิดเลย...แต่มันก็เพื่อนสนิทผม ไม่เชิญมากก็น่าเกลียด”
“ตามใจแก แต่มันเป็นเพื่อนที่ดีไม่ใช่หรือไง”
“อื้อ ผมคงโทรไปบอกมันแล้วกันแม่ งั้นแค่นี้นะ คิดถึงนะ จุ๊บๆ”
“จ๊ะ พ่อคุณ”จากนั้นแม่ก็วางสายไป ผมเดินมานั่งที่เตียงแล้วนึกถึงไอ้ต้อย พักนี้ผมไม่ได้ไปเจอมันเลย มันคงสงสัยที่ผมหายหัวไปนาน แต่มันไม่เคยก้าวก่ายอย่างเช่นมาเซอร์ไพร์ผมที่บ้านคุณชาย ทั้งๆที่มันก็รู้ว่าผมอยู่ที่นี่
ผมได้ยินเสียงคุณชายเดินเข้ามาในบ้าน จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงวิ่งตึงตังเข้ามาในห้อง
“เย้ ทุกคนอนุญาตให้จัดงานที่บ้านได้ครับ”คุณชายเข้ามากอดผมแน่น
“ก็ดีเลยสิ ไม่ต้องวุ่นวายดี”ผมบอก ขณะที่ดันตัวออกห่างจากคุณชาย
“เราจะจัดงานวันไหนดีกี้ จะหาฤกษ์ดีๆ หรือว่า วันไหนก็ได้ดีล่ะครับ”
“อืม สำหรับผมนะ วันไหนก็ได้ ผมไม่ถือเรื่องฤกษ์ยามหรอก มันขึ้นอยู่กับว่าเราพอใจวันไหนต่างหาก”
“พูดแบบนี้ วันพรุ่งนี้เลยดีไหมล่ะครับ”คุณชายหัวเราะดีใจ
“บ้าหรอคุณ ไม่ทันได้เตรียมตัวเลย”
“อืม...แปบนะครับ”คุณชายหยิบโทรศัพท์มาเช็คดูปฏิทิน
“ผมว่า เอาวันครบรอบที่คุณรู้ว่าท้องดีไหม...อืม...อีกสองอาทิตย์หน้าเป็นไงครับ”คุณชายเงยหน้าจากจอโทรศัพท์มองผมด้วยสายตาสุกใส ไม่ยักรู้ว่าคุณชายมาร์กวันแบบนั้นไว้ด้วย เหลือเชื่อจริงๆ เขาใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ
“คุณบันทึกไว้ด้วยหรอ... ตกลงครับ เอาวันนั้นก็ได้”ผมยิ้ม ความรู้สึกของผมที่มีให้คุณชาย ในช่วงปีนั้นช่างต่างกันกับเวลานี้ราวฟ้ากับเหวจริงๆ
“แน่นอนสิ เรื่องของกี้ผมจดจำทุกอย่างแหละครับ”คุณชายดึงมือผมไปกุม
“อืม อยากได้อะไรเป็นของขวัญวันแต่งงานไหมครับ”ผมถามดู เผื่อมีอะไรอื่นอีกที่เขาอยากได้เป็นพิเศษ
“กี้จะให้ผมหรอ... ผมไม่ขออะไรหรอก ผมเต็มใจยินดีรับของขวัญจากกี้ทุกอย่างอยู่แล้วล่ะครับ”
“งั้นรอให้ผมคิดออกแล้วกันว่าอยากให้อะไรคุณ”ผมบอกยิ้มๆ คุณชายทำหน้าเหมือนกำลังขบคิดอะไรอยู่
“แล้วถ้าผมให้ของขวัญกี้ กี้จะยอมรับทุกอย่างไหมครับ”
“ได้สิครับ ถ้าคุณให้ผมจริงๆน่ะ”ใครจะปฏิเสธของขวัญกัน ผมมองคุณชายที่อมยิ้มเหมือนมีเลศนัยเปิดเผย ผมชะงักงันทำหน้าใคร่ครวญ คงไม่ใช่อะไรแปลกๆหรอกนะ
“พูดแล้วนะครับ”คุณชายหัวเราะก่อนจะดึงมือผมไปจุ๊บ ผมรีบดึงกลับมา ทำไมชอบทำอะไรเลี่ยนๆเน่าๆตลอดไม่เปลี่ยยนเลยนะ
“ครับ คำไหนคำนั้น”ผมบอก แล้วขยับตัวไปจัดเตียง ตบๆหมอนแรงแก้เก้อ ผมมองไปที่เปลน้องไก๋ซึ่งเคลิ้มหลับไปแล้ว มือยังกำยางกัดไว้อยู่ คุณชายเดินเข้าไปหาน้องไก๋ก่อนจะลูบๆแก้มเด็กน้อยคนนั้นอย่างรักใคร ก่อนจะค่อยๆแกะมือออกจากยางกัดอันนั้น
“เมื่อไหร่ลูกจะพูดได้นะกี้ ผมอยากเล่าเรื่องตลกให้ลูกฟังจะได้อารมณ์ดี”
“ยังหรอก นี่ยังไม่ได้ขวบเลยนะ เราพูดอะไรไปน้องก็ก็เข้าใจนั่นแหละครับ แค่พูดตอบโต้มาไม่ได้เท่านั้นเอง รอสักอีกสามสี่เดือน ก็คงพอพูดได้เป็นคำๆนะ”ผมบอก ก่อนจะเอนตัวลงนอน คุณชายมองน้องไก๋นอนหลับแล้วยิ้ม
“งั้นผมปิดไฟแล้วนะ”คุณชายบอกผมก่อนจะเดินไปไฟในห้อง ผมเปิดโคมไฟไว้ตามเดิม ถ้าน้องไก๋โตกว่านี้คงไม่ต้องเปิดไฟไว้อีกต่อไปแล้ว คุณชายเดินมานอนที่เตียง
“กี้ครับ ไม่ต้องกังวลสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รู้แค่ว่าวันนี้เรามีกันสามคน มีป๊า มีป๋า มีลูกก็พอแล้วครับ เรื่องของคนอื่นบางทีเราไม่ต้องเก็บมาจำใส่ใจให้รกสมอง เขาก็แค่คนนอกเท่านั้น”คุณชายหันหน้ามาพูดกับผม
“ครับ ผมเข้าใจดีครับ”ผมส่งยิ้มให้คุณชาย เดาได้เลยว่าเขาคงรู้ว่าพลอยโทรมาป่วน คุณชายยิ้มกลับมาให้ผม
“คงจะดีกว่านี้ ถ้าถึงวันแต่งงานเร็วๆ”
“เว่อร์นะคุณ ยังไงก็ได้แต่งแน่อยู่แล้วล่ะครับ”
ผมหลับตาลงทันที กลัวว่าคุณชายจะพูดอะไรที่เน่ากว่านี้ คุณชายหัวเราะเบาๆ
“กู๊ดไนท์ครับ ที่รัก”ผมเบ้ปากให้เขา ว่าแล้วเชียวต้องพูดจาแบบนี้ กลายเป็นสีสันในชีวิตของผมไปแล้วจริงๆ เพราะผมอกหักเมื่อสามสี่ปีก่อนแท้ๆ ถึงได้มีโอกาสมาเจอกับคุณชายได้ เรื่องไม่คาดคิดมักเกิดขึ้นกับผมบ่อยๆด้วยสิ ผมเองก็ไม่คิดว่าชาตินี้จะต้องแต่งเข้าบ้านผู้ชาย ไม่สิ อยู่ก่อนแต่งเลยด้วยซ้ำ แบบนี้เรียกว่าพรหมลิขิตได้ไหม หรือว่าเป็นแค่โชคชะตา
…………………………………………….TBC……………………………………….
ได้โอกาสมาอัพเสียที คิดถึงกันไหมเอ่ย ฮ่าๆ
ยังไงก็รอตอนต่อไปนะคะ คงเป็นงานแต่งของสองหนุ่มพวงด้วยน้องไก๋เป็นของขวัญ
ติดตามตอนต่อไปนะคะ
ขอบคุณทุกคนค่ะ